Professional Documents
Culture Documents
คู่มือการปรับแต่งหัวเผา
คู่มือการปรับแต่งหัวเผา
คู่มือการปรับแต่งหัวเผา
คํานํา
กรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึง่ มีอาํ นาจหนาทีก่ าํ กับดูแลการประกอบกิจการโรงงานใหเกิดความ
ปลอดภัยตอคน ทรัพยสนิ ชุมชน สิง่ แวดลอม และสงเสริมการประหยัดพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมได
ดําเนินโครงการอนุรกั ษพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมทีน่ อกเหนือจากโรงงานควบคุมตามพระราชบัญญัติ
การสงเสริมการอนุรักษพลังงาน พ.ศ. 2535 (งบประมาณป 2547) โดยมีวัตถุประสงคเพื่อใหผูประกอบ
กิจการอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดเล็กมีความเขาใจการปฏิบตั ิ วิเคราะหประเมินการอนุรกั ษพลังงาน
ในโรงงานของตัวเอง สรางแนวทางมาตรการ และยกระดับการปฏิบัติงานใหเกิดการอนุรักษพลังงานใน
โรงงานอยางแทจริง รวมทั้งการลดการใชพลังงานในภาคอุตสาหกรรมและในระดับประเทศ
คูม อื การปรับแตงหัวเผาฉบับนีเ้ ปนหนึง่ ในผลการดําเนินงานดังกลาว โดยคูม อื ฉบับนีไ้ ดเสนอแนะ
แนวทางหลั ก การและเทคนิ ค การปรับ แตง หัว เผาน้ํามั น ในหม อ ไอน้ํา สําหรับ ใชเ ปน แนวทางใหผู
ประกอบการนําไปปฏิบัติ เพื่อลดปริมาณและคาใชจายดานน้ํามันเชื้อเพลิงอยางยั่งยืน ภายในคูมือการ
ปรับแตงหัวเผาแบงออกเปน 6 บท ไดแก
บทที่ 1 ความรูพื้นฐานของหัวเผาที่ใชน้ํามันเชื้อเพลิง กลาวถึงความรูเบื้องตนสําหรับการสันดาป
การแบงเกรดน้ํามันเชื้อเพลิง คุณสมบัติของน้ํามันเชื้อเพลิง และชนิดของหัวเผาน้ํามัน
บทที่ 2 ขั้นตอนการดําเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพหมอไอน้ําโดยการปรับแตงหัวเผา เปนการ
ปูพื้นฐานใหเห็นถึงภาพรวมของขั้นตอนการดําเนินการปรับแตงหัวเผา โดยรายละเอียดของแตละขั้นตอน
ดําเนินงานกลาวไวในบทที่ 3 ถึง บทที่ 6
บทที่ 3 การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ําและการทํางานของหัวเผา กลาวถึงวิธีการ
ตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ําและการทํางานของหัวเผา อุปกรณที่ใชในการตรวจวัดวิเคราะห
และเกณฑการพิจารณาผลการตรวจวัด
บทที่ 4 หลักการและเทคนิคการปรับแตงหัวเผา กลาวถึงหลักการและเกณฑการปรับแตงหัวเผา
น้ํามันใหประหยัดพลังงาน การตรวจสอบสภาพ การบํารุงรักษา และการปรับปรุงหัวเผา รวมถึงเทคนิค
การปรับแตงหัวเผาชนิดตางๆ
บทที่ 5 การประหยัดพลังงานในหมอน้ําอยางยั่งยืน กลาวถึงหลักการบริหารจัดการดานพลังงาน
ดัชนีการใชพลังงาน และการบํารุงรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
บทที่ 6 กรณีศึกษา แสดงตัวอยางการปรับแตงหัวเผาในหมอไอน้ํา เพื่อใหผูประกอบการไดเห็น
ตัวอยางของการนําหลักการและแนวทางในบทที่ 1 ถึงบทที่ 5 ไปปฏิบัติ เพื่อที่ผูประกอบการสามารถนํา
หลักการและแนวทางดังกลาว ไปประยุกตเพื่อปฎิบัติกับโรงงานของตนเองไดดียิ่งขึ้น
สํานักเทคโนโลยีความปลอดภัย
กรมโรงงานอุตสาหกรรม
มกราคม 2548
สารบัญ
คูมือการปรับแตงหัวเผา
หนา
คํานํา
สารบัญ (ตอ)
คูมือการปรับแตงหัวเผา
หนา
บทที่ 4 : หลักการและเทคนิคการปรับแตงหัวเผา
4.1 หลักการและเกณฑการปรับแตงหัวเผาน้ํามันใหประหยัดพลังงาน.........................................4-1
4.2 การตรวจสอบสภาพ การบํารุงรักษา และการปรับปรุงหัวเผา.................................................4-5
4.3 เทคนิคการปรับแตงหัวเผาน้าํ มัน...........................................................................................4-12
บทที่ 5 : การประหยัดพลังงานในหมอไอน้ําอยางยั่งยืน
5.1 หลักการบริหารจัดการดานพลังงาน........................................................................................5-1
5.2 ดัชนีการใชพลังงาน ................................................................................................................5-2
5.3 การบํารุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพหมอไอน้ํา .....................................................................5-3
บทที่ 6 : กรณีศึกษา
6.1 กรณีศึกษาที่ 1 การปรับแตงหัวเผาชนิดพนฝอยดวยความดันน้ํามัน........................................6-1
และควบคุมแบบตอ-ตัด
6.2 กรณีศึกษาที่ 2 การปรับแตงหัวเผาชนิดพนฝอยดวยอากาศ...................................................6-14
และควบคุมแบบไฟนอย-ไฟมาก
สารบัญตาราง
หนา
สารบัญรูป
หนา
สารบัญรูป (ตอ)
หนา
สารบัญรูป (ตอ)
หนา
บทที่ 1
ความรูพื้นฐานของหัวเผาที่ใชน้ํามันเชื้อเพลิง
1.1 การสันดาปเบื้องตน
การสันดาป หรือที่เรียกกันทั่วไปวาการเผาไหมนั้น เปนปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ที่เกิดขึ้น
จากการผสมระหวางเชื้อเพลิงกับอากาศ โดยมีความรอนเปนตัวเรงใหเกิดการเผาไหม ซึ่งผลที่ไดจากการ
เผาไหม คือ พลังงานความรอน และกาซไอเสียที่เกิดขึน้ เราจึงใชประโยชนจากพลังงานความรอนไปใชงาน
เชน ใชผลิตไอน้ําในหมอไอน้ํา เปนตน สําหรับหมอไอน้ําการสันดาปสามารถแสดงเปนไดอะแกรมอยางงาย
ได ดังรูปที่ 1.1
ไอเสียออกบรรยากาศ
ประกอบดวย
- ความรอนบางสวน
- CO2 - CO
- H2O - SO2
ความรอนนําไปใชงาน
อากาศ
ประกอบดวย
- ออกซิเจน (O2)
- ไนโตรเจน (N2)
หองเผาไหม
น้ํามันเชื้อเพลิง C + O2 = CO2
ประกอบดวย C + 1/2O2 = CO
- คารบอน (C) H2 + 1/2O2 = H2O
- ไฮโดรเจน (H) S + O2 = SO2
- กํามะถัน (S)
ไอเสียออกบรรยากาศ
ประกอบดวย
- ความรอนบางสวน
- CO2 - CO
ความรอนนําไปใชงาน
- H2O - SO2
อากาศ
ประกอบดวย
- ออกซิเจน (O2)
- ไนโตรเจน (N2)
หองเผาไหม
น้ํามันเชื้อเพลิง C + O2 = CO2
ประกอบดวย C + 1/2O2 = CO
- คารบอน (C) H2 + 1/2O2 = H2O
- ไฮโดรเจน (H) S + O2 = SO2
- กํามะถัน (S)
การเผาไหมทใี่ ชอากาศสวนเกินนอยทําใหไมเพียงพอสําหรับการเผาไหมเชื้อเพลิงใหหมดสมบูรณ
จะทําใหเกิดควันดําออกที่ปลองไอเสีย โดยไอเสียสีดาํ ที่เกิดขึ้นประกอบไปดวย เขมาดําที่เกิดจากน้าํ มัน
เชื้อเพลิงทีเ่ ผาไหมไมหมด กาซคารบอนไดออกไซด และกาซคารบอนมอนออกไซดในปริมาณรวม รวมทั้งน้าํ
และออกซิเจนที่เหลือ การเผาไหมไมหมดเปนการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และทําใหเกิดมลภาวะในบริเวณ
โรงงาน
ไอเสียออกบรรยากาศ
ประกอบดวย
- ความรอนบางสวน
- CO2 - SO2
- H2O
ความรอนนําไปใชงาน
อากาศ
ประกอบดวย
- ออกซิเจน (O2)
- ไนโตรเจน (N2)
หองเผาไหม
น้ํามันเชื้อเพลิง C + O2 = CO2
ประกอบดวย H2 + 1/2O2 = H2O
- คารบอน (C) S + O2 = SO2
- ไฮโดรเจน (H)
- กํามะถัน (S)
ไอเสียออกบรรยากาศ
ประกอบดวย
- ความรอนสูญเสียมาก
- CO2 - SO2
ความรอนนําไปใชงาน
- H2O
อากาศ
ประกอบดวย
- ออกซิเจน (O2)
- ไนโตรเจน (N2)
หองเผาไหม
น้ํามันเชื้อเพลิง C + O2 = CO2
ประกอบดวย H2 + 1/2O2 = H2O
- คารบอน (C) S + O2 = SO2
- ไฮโดรเจน (H)
- กํามะถัน (S)
1.2 น้ํามันเชื้อเพลิง
เชื้อเพลิงเหลว หรือน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชกบั หมอไอน้ําในอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดยอม
สวนใหญใชนา้ํ มันเตาทั้งสิ้น มีบางสวนทีใ่ ชน้ํามันดีเซล ซึ่งในคูมือเลมนี้จึงขอนําเสนอคุณสมบัติและการ
แบงเกรดเฉพาะน้ํามันเตาและน้ํามันดีเซลเทานั้น
1.2.1 น้ํามันดีเซล
น้ํามันดีเซลแบงออกใหเปน 2 ชนิด คือ ดีเซลหมุนเร็ว และดีเซลหมุนชา
1) น้ํามันดีเซลหมุนเร็ว
น้ํามันดีเซลหมุนเร็ว หรือน้าํ มันโซลา เปนน้ํามันที่ไดจากการกลั่นน้ํามันดิบเปนเชื้อเพลิงที่เผาไหม
สะอาด ใชเปนเชื้อเพลิงเครือ่ งยนตดีเซลหมุนเร็ว เครื่องกังหันกาซ มีนอยที่ใชเปนเชื้อเพลิงใหกับหมอไอน้ํา
ขนาดเล็กๆ สามารถใชไดโดยไมตองอุน เพราะน้ํามันใสพนฝอยไดละเอียด จุดติดไฟไดงาย ใชกบั หมอน้ําที่
เดินๆ หยุดๆ บอย เชนหมอไอน้ําทอน้าํ แบบแนวตั้ง สามารถใชในชุมชนแออัดได เพราะเผาไหมสะอาด
เกือบไมมีเขมาควัน แตเปนเชื้อเพลิงที่มีราคาแพง
2) น้ํามันดีเซลหมุนชา
น้ํามันดีเซลหมุนชา หรือน้ํามันขี้โล เปนน้ํามันที่ไดจากการผสมของน้ํามันดีเซล 80% และน้ํามันเตา
20% ใชเปนเชือ้ เพลิงเครื่องยนตดีเซลหมุนปานกลาง 600-700 รอบ/นาที เตาเผาหรือเตาอบในอุตสาหกรรม
ที่ตองการความสะอาดของการเผาไหม และไมตองมีการอุนน้ํามัน
1.2.2 น้ํามันเตาหนัก
น้ํามันเตาหนัก (Heavy Fuel Oil) เปนสวนที่เหลือจากการกลั่น หรือเรียกวากากกลั่น (Residual
Fuel) มีสวนเบาๆ ของน้ํามันดีเซลปนอยูเล็กนอย และมีสิ่งสกปรกเจือปนอยู แตมีราคาถูก มีการใชใน
อุตสาหกรรมมากไดแก
- ใชเปนเชื้อเพลิงของหมอไอน้ํา ผลิตไอน้ํา
- ใชเปนเชื้อเพลิงในการ ถลุงแร เผาเตาหรือเบาหลอมโลหะ เตาหลอมแกว ใชเผาโลหะ เพื่อรีดเปน
เสน ตีขึ้นรูป หรือการชุบผิวแข็ง ใชในการเผาเซรามิค เผาอิฐ เผาปูนซีเมนต ปูนขาว ฯลฯ
- ใชเปนเชื้อเพลิงเครื่องยนตดีเซลหมุนปานกลางผลิตกระแสไฟฟา เครื่องยนตดีเซลหมุนชา
ขนาดใหญใช ขับเรือเดินสมุทร เรียกน้ํามันเชื้อเพลิงนี้วา Bunker Fuels.
1) การจัดแบงเกรดน้ํามันเตาตามมาตรฐานอเมริกัน
การจัดแบงเกรดน้ํามันเตาตามมาตรฐานอเมริกัน ASTM D-396 (American Society for Testing and
Materials) มี 6 เกรด คือ (ดู ตารางที่ 1.1)
Fuel Oil No.1 เทียบไดกับ น้ํามันกาด
Fuel Oil No.2 เทียบไดกับ น้ํามันดีเซลหมุนเร็ว หรือโซลา
Fuel Oil No.4 (Light) เทียบไดกับ น้ํามันแกสออยล
Fuel Oil No.4 เทียบไดกับ น้ํามันขี้โล (Industrial Diesel Oil)
Fuel Oil No.5 (Light) เทียบไดกับ IFO (Intermediat Fuel Oil)
Fuel Oil No.5 (Heavy) เทียบไดกับ น้ํามันเตาชนิดที่ 1 หรือ เตาเอ
Fuel Oil No.6 เทียบไดกับ น้ํามันเตาชนิดที่ 2, 3, 4 หรือ เตาซี เตาดี
2) คุณภาพน้ํามันเตากําหนดโดยกระทรวงพาณิชย
3) คุณสมบัติที่สําคัญของน้ํามันเตา
3.1) ความถวงจําเพาะ (Specific Gravity) ที่ 15.6/15.6 °C แสดงความหนัก-เบา เมื่อเทียบกับน้ํา
3.2) ความถวง เอพีไอ (API Gravity) ที่ 60°F เปนกราวิตี้ทบี่ ริษัทน้ํามันนิยมใชกนั มาก โดยมีความ
สัมพันธกับความถวงจําเพาะ ดังนี้
API Gravity @ 60°F = 141.5 − 131.5
Sp.Gr.@60/60°F
1.3.1 ชนิดหัวเผาน้ํามันที่ใชกับหมอไอน้ําในโรงงานอุตสาหกรรม
หัวเผาน้ํามันแบงออกตามลักษณะการพนฝอยไดเปน 3 ชนิด ดังนี้
1. ชนิดพนฝอยดวยความดันน้ํามัน (pressure Atomized)
2. ชนิดพนฝอยดวยอากาศหรือไอน้ํา (Air Atomized/(Steam Atomized)
3. ชนิดถวยสลัดน้ํามัน (Rotary Cup Atomized)
1) หัวเผาชนิดพนฝอยดวยความดันน้ํามัน
ชนิดที่ใชแรงดันของน้ํามันเองดันผานหัวฉีดขนาดเล็ก (nozzle) (mechanical atomizers หรือ
pressure jet burners)
หลักการทํางานคือ น้ํามันถูกปมดวยความดันสูง ผานเขาไปยังปลายหัวฉีดที่มีรูเล็กๆ รูเดียว หรือ
หลายรู ที่ถูกออกแบบใหน้ํามันฝอยละเอียดที่ผานออกจากหัวฉีดเปนรูปกรวยและเหวี่ยงเปนเกลียว (Swirling
motion) ซึ่งจะสวนทางกับการหมุนเหวี่ยงของอากาศที่ปอนเขาเผาไหม เพื่อใหไดการคลุกเคลา (Mixing) ที่
ดี และฝอยละเอียดของน้ํามันจะระเหยเปนไอไดรวดเร็ว ทําใหไดการเผาไหมสมบูรณและสะอาด
หัวฉีดทีใ่ ชในหัวเผาชนิดพนฝอยดวยความดันน้ํามัน สามารถแบงตามลักษณะการไหลของน้ํามัน
ผานหัวฉีดไดเปน 2 แบบ คือ
1. หัวฉีดแบบไมมีน้ํามันไหลกลับ (Non-Oil Return or Non-recirculation Nozzle)
2. หัวฉีดแบบมีนา้ํ มันไหลกลับ (Oil Return or Recirculation Nozzle)
OIL
AIR
AIR
2) หัวเผาชนิดพนฝอยดวยอากาศหรือไอน้ํา
ชนิดที่ใชไอน้าํ หรืออากาศภายใตความดัน ดันน้ํามันใหแตกออกเปนหยดเล็กๆ (Steam or air
atomizers)
หลักการทํางานคือ น้ํามันภายใตความดันไหลผานในทอขนาดเล็ก ซึง่ วางอยูใ นทอใหญ ไอน้ําหรือ
อากาศไหลผานทอใหญ เมื่อน้ํามันพุงออกมาจากปลายทอเล็กจะกระทบกับกระแสของไอน้ําหรืออากาศที่
ออกมาจากทอใหญ แลวถูกดันออกสูปลายหัวเผา ทําใหนา้ํ มันแตกออกเปนฝอย
หัวเผาชนิดนี้อาจแบงออกไปตามระดับความดันของไอน้าํ หรืออากาศทีใ่ ชคือ
แบบความดันต่ํา (Low air pressure) ใชอากาศความดันประมาณ 24 นิ้วน้ํา และปริมาณอากาศสวนนี้
ประมาณ 20-25% ที่ตองการตามทฤษฎี เหมาะสําหรับหมอไอน้ําขนาดเล็กและกลาง
แบบความดันปานกลาง (Medium air pressure) ใชอากาศความดันประมาณ 3-15 PSIG และ
ปริมาณอากาศ 3-10% ที่ตองการตามทฤษฎีสวนใหญใชกบั เตาถลุงโลหะ
แบบความดันสูง (High air pressure) ใชอากาศความดันประมาณ 15 PSIG และปริมาณอากาศ
2-3% ที่ตองการตามทฤษฎี
OIL
STEAM OR AIR
3) หัวเผาชนิดถวยสลัดน้ํามัน
ชนิดที่ใชแรงเหวีย่ งหนีศนู ยกลาง ปนใหฟลมของน้ํามันฉีกขาดออกเปนหยดเล็กๆ (rotary cup
atomizers) หลักการทํางานคือ น้ํามันถูกปอนเขาแกนถวยเขาสูดานในของถวยที่กําลังหมุนดวยความเร็ว
3,500-4,000 รอบตอนาที น้ํามันจะถูกเหวี่ยงไปแนบกับผนังดานในถวยแผออกเปนแผนบางและถูกสะบัด
ออกจากปากถวยดวยแรงหนีศูนยกลางมาพบกับอากาศสวนแรก (primary air) ที่หมุนเหวี่ยงออกมาจาก air
nozzle ที่อยูรอบถวยในทิศตรงกันขามกับการหมุนเหวีย่ งของน้ํามันทําใหฟลมน้ํามันถูกตีแผออกเปนฝอย
ละเอียดระเหยเปนไอ และติดไฟทันที อากาศสวนแรกประมาณ 15-20% ของอากาศทั้งหมด อากาศสวนที่
สอง (secondary air) ไหลทางดานขางของหัวเผา หัวเผาชนิดนี้เหมาะสําหรับน้ํามันความหนืดสูงโดยไมตอง
อุนกอน ให Turn Down Ratio สูงถึง 10:1 โดยใหละอองน้ํามันละเอียดสม่ําเสมอกันทุกชวงการปอนน้ํามัน
ขอเสียคือการสึกหรอมักเกิดที่ขอบถวย ทําใหน้ํามันแตกเปนฝอยละเอียดไมสม่ําเสมอ และอาจเกิดตะกอน
น้ํามันสะสมภายในถวยมาก จึงจําเปนตองถอดออกทําความสะอาดบอยๆ
AIR
OIL SWIRLS
COUNTER CLOCKWISE
CUP
CUP OIL
AIR NOZZLE
AIR SWIRLS CLOCKWISE
AIR
1.3.2 การควบคุมการทํางานของหัวเผา
การควบคุมการทํางานของหัวเผา มี 4 แบบ คือ
1) แบบตอ – ตัด (ON – OFF) หรือแบบขั้นเดียว (Single Stage Regulation)
แบบตัด – ตอ มีหัวฉีดหัวเดียว เมื่อหมอน้ําจุดสตารท หัวเผาจะตอ (ON) โซลินอยลวาลวเปด น้ํามัน
ถูกฉีดออกดวยอัตราสูงสุด เมื่อความดันไอน้ําสูงเกินจุดที่ตั้งไว (ใชไอน้ํานอยลง) จะมีสัญญาณมาตัด (OFF)
คือปดโซลินอยลวาลว และเมื่อความดันไอน้ําลดต่ําลงถึงจุดที่ตั้งไวก็จะมีสัญญาณมาตอ (ON) อีก มักใชกับ
หมอน้ําเล็กๆ ที่ใชน้ํามันดีเซล (โซลา) เปนเชื้อเพลิง หัวเผาแบบพนฝอยดวยความดันน้ํามัน และไมมี Turn
Down Ratio
การทํางาน
ตอ
ตัด
เวลา
รูปที่ 1.8 การทํางานของหัวเผาที่ควบคุมแบบตัด-ตอ
การทํางาน
ตัด
เวลา
การทํางาน
ตัด
เวลา
การทํางาน
ตอ
ตัด
เวลา
การทํางาน
High Fire (ไฟมาก)
เวลา
1.3.3 ยี่หอหัวเผาที่ใชในประเทศไทย
หัวเผาน้ํามันทีใ่ ชในประเทศไทยโดยสวนใหญนําเขาจากประเทศตางๆ หลายประเทศ และมี
หลากหลายยีห่ อ ซึ่งพอจะสรุปตามชนิดไดดังนี้
บทที่ 2
ขั้นตอนการดําเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพหมอไอน้ําโดยการปรับแตงหัวเผา
การปรับปรุงประสิทธิภาพหมอไอน้ําโดยการปรับแตงหัวเผานั้น ผูดําเนินการตองเขาใจและมี
ความรูพื้นฐานเกี่ยวกับหัวเผา และน้ํามันเชื้อเพลิง ซึ่งไดอธิบายไวในบทที่ 1 เมื่อเขาใจพื้นฐานเกี่ยวกับ
หัวเผาแลว ผูดาํ เนินการปรับแตงหัวเผาตองทราบถึงขั้นตอนในการดําเนินการเพื่อใหการปฏิบัติทําไดถูกตอง
รวดเร็ว และใหเกิดผลอยางดียิ่งขึ้น จึงขอเสนอแนะแนวทางการดําเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
โดยการปรับแตงหัวเผาตามขั้นตอนดังตอไปนี้
1. การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ําและการทํางานของหัวเผา
2. การตรวจสอบสภาพหัวเผา
3. การบํารุงรักษาและการปรับปรุงหัวเผา
4. การปรับแตงหัวเผา
5. การประเมินผลการปรับแตง
6. การปรับปรุงประสิทธิภาพหัวเผาอยางยั่งยืน
2.1 การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ําและการทํางานของหัวเผา
ขั้นตอนแรกสุดของการดําเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพของหมอไอน้ําโดยการปรับแตงหัวเผา
ไดแก การตรวจวัดวิเคราะหการทํางานของหัวเผา ซึ่งดําเนินการโดยการตรวจวัดปริมาณกาซ CO2, O2 และ
CO ในกาซไอเสีย เพื่อใหทราบสภาพการทํางานของหัวเผาในปจจุบัน และใชเปนขอมูลสําหรับการ
ปรับแตงหัวเผา อยางไรก็ตาม เพื่อเปนการหาโอกาสอื่นๆที่นอกเหนือจากการปรับแตงหัวเผาในการ
ปรับปรุงประสิทธิภาพของหมอไอน้ํา การตรวจวัดวิเคราะหการทํางานของหัวเผาควรทําควบคูกับการ
ตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ํา ซึ่งไดแก การตรวจวัดการสูญเสียความรอนผานผนัง การตรวจวัด
คุณภาพน้ําในหมอไอน้ําและการโบลวดาวน การตรวจวัดปริมาณและคุณภาพน้ําปอน การตรวจวัดเชื้อเพลิง
และอากาศ และการตรวจวัดความดันและอุณหภูมิไอน้าํ รายละเอียดการตรวจวัดวิเคราะหเหลานีก้ ลาวไวใน
บทที่ 3 การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ํา และการทํางานของหัวเผา
การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
และการทํางานของหัวเผา
การตรวจสอบสภาพหัวเผา
การบํารุงรักษาและปรับปรุงหัวเผา
การปรับแตงหัวเผา
การประเมินผลการปรับแตง
การปรับปรุงประสิทธิภาพหัวเผา
อยางยัง่ ยืน
2.3 การปรับแตงหัวเผา
การปรับแตงหัวเผาคือการปรับอากาศสวนเกินเพื่อใหเกิดการเผาไหมทมี่ ีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด หัว
เผาที่ตางชนิดกัน และ วิธีการควบคุมทีแ่ ตกตางกันมีเทคนิคการปรับแตงหัวเผาทีแ่ ตกตางกัน หัวขอที่ 4.3
กลาวถึงเทคนิคการปรับแตงหัวเผาตามชนิดของหัวเผาและชนิดของการควบคุมการทํางาน
2.4 การประเมินผลการปรับแตง
วั ต ถุ ป ระสงค ข องการปรั บ แต ง หั ว เผาคื อ การปรั บ อากาศส ว นเกิ น เพื่ อ ให เ กิ ด การเผาไหม ที่ มี
ประสิทธิภาพสูงที่สุดและบํารุงรักษาหัวเผาใหอยูใ นสภาพดี ทํางานไดตามปกติ เพื่อใหเกิดการประหยัด
น้ํามันเชื้อเพลิง อยางไรก็ตาม การปรับแตงหัวเผามีคาใชจายสําหรับการปรับแตง อาทิเชน เครื่องตรวจวัด
วิเคราะหไอเสียในกรณีที่สถานประกอบการมีบุคลากรที่สามารถปรับแตงหัวเผาไดดว ยตนเอง หรือการจาง
บริษัทภายนอกเขามาทําการตรวจวัดสภาพการเผาไหมและทําการปรับแตงหัวเผา โดยคาใชจายสําหรับการ
ปรับแตงหัวเผานั้นขึ้นอยูก ับปจจัยดังนี้
• สถานประกอบการดําเนินการปรับแตงหัวเผาดวยตนเอง หรือ จางบริษัทภายนอกเขามาทํา
การปรับแตง
• ความถี่ของการปรับแตง ซึ่งอาจจะมีตั้งแตทุก 2 เดือนจนถึงทุก 1 ป
หนึ่งในตัวชีว้ ดั ที่เหมาะสมสําหรับการประเมินผลการปรับแตง ไดแกผลตอบแทนที่ไดจากการ
ประหยัดน้ํามันเชื้อเพลิง และคาใชจายในการปรับแตงหัวเผา ซึ้งสามารถแสดงไดในรูปแบบของระยะเวลา
คืนทุนเบื้องตนดังนี้
ระยะเวลาคืนทุนเบื้องตน = คาใชจายในการปรับแตง
ผลตอบแทนที่ไดจากการประหยัด
บทที่ 3
การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
และการทํางานของหัวเผา
1. การตรวจวัดวิเคราะหไอเสีย
2. การตรวจวัดการสูญเสียความรอนผานผนัง
3. การตรวจวัดคุณภาพน้ําในหมอไอน้ํา และการโบลวดาวน (Blow Down)
4. การตรวจวัดปริมาณและคุณภาพน้ําปอน
5. การตรวจวัดเชือ้ เพลิงและอากาศ
6. การตรวจวัดความดันและอุณหภูมิไอน้ํา
การตรวจวัดวิเคราะหประสิทธิภาพหมอไอน้ําและการทํางานของหัวเผานั้น ตองวัดคาพารามิเตอรที่
ตําแหนงตางๆ ของหมอไอน้าํ แสดงดังรูปที่ 3.1
ปลองไอเสีย
: ตรวจวัดวิเคราะหไอเสีย
เกจวัดความดันและอุณหภูมิ
-วัดปริมาณออกซิเจน คารบอนมอนออกไซด
: ตรวจวัดความดันและอุณหภูมิใชงาน
ของไอเสีย
-วัดความดันและอุณหภูมไิ อน้ํา
-วัดอุณหภูมไิ อเสีย
ทอน้ําปอน
: ตรวจวัดปริมาณและคุณภาพปอนน้ํา
-วัดอัตราการไหลน้ําปอน
ผนังหมอไอน้ํา -วัดอุณหภูมิน้ําปอน
:ตรวจวัดการสูญเสียความรอน -วัดปริมาณสารละลายในน้ํา คา pH และ
-วัดอุณหภูมทิ ี่ผนังหมอไอน้ํา ความกระดาง (Hardness)
หัวเผา
: ตรวจวัดปริมาณเชื้อเพลิงและอากาศ
-วัดอัตราการไหลเชื้อเพลิง ทอน้ําระบาย (Blow Down)
-วัดอุณหภูมิเชือ้ เพลิง :ตรวจวัดคุณภาพของน้ําในหมอไอน้ํา
-วัดอุณหภูมอิ ากาศ -วัดปริมาณสารละลายในน้ําและคา PH
-วัดปริมาณอากาศ -วัดความสูญเสียจากการ Blow Down
: ปรับแตงหัวเผา
3.1 การตรวจวัดวิเคราะหไอเสีย
การตรวจวัดวิเคราะหไอเสียของหมอไอน้าํ มีวัตถุประสงค 2 ประการหลัก คือ
1. เพื่อหาอัตราสวนอากาศตอเชื้อเพลิง (Air-to-Fuel Ratio)
2. เพื่อหาประสิทธิภาพการเผาไหม
การตรวจวัดจําเปนจะตองใชอุปกรณหรือเครื่องมือวัด เพื่อวัดคาปริมาณกาซออกซิเจน คาปริมาณ
กาซคารบอนไดออกไซด และคาปริมาณกาซคารบอนมอนออกไซด ซึ่งปริมาณกาซทั้ง 3 ชนิด ในกาซไอเสีย
จะบงบอกถึงประสิทธิภาพการเผาไหม และปริมาณอากาศสวนเกิน (Excess Air) ในคูมือเลมนี้จะขอกลาวถึง
เครื่องมือที่ใชวัดคาปริมาณกาซในกาซไอเสีย 2 แบบ คือ
1. เครื่องวิเคราะหกาซไอเสียแบบอิเล็คทรอนิคสที่เปนชนิดเคลื่อนยายได (Portable)
2. แบบออรเซท (Orsat)
3.1.1 การตรวจวัดดวยเครื่องวัดวิเคราะหไอเสียแบบอิเล็คทรอนิคส
เครื่องวัดวิเคราะหไอเสียแบบอิเล็คทรอนิคสเปนที่นิยมใชกันมากในปจจุบัน เนือ่ งจากใชงานงาย
ไดผลรวดเร็ว สามารถวัดอุณหภูมไิ ดในตัว และมีฟงกชนั่ ในการคํานวณหาประสิทธิภาพการเผาไหมรุนใหมๆ
นั้น สามารถวัดคาไดตอเนื่อง และมีหนวยความจําในตัว โดยมีขอเสีย คือ ราคาแพง
1.) โครงสรางของเครื่องวิเคราะหกาซแบบอิเล็คทรอนิคส
เครื่องวิเคราะหกาซแบบอิเล็คทรอนิคสมีโครงสรางดังแสดงในรูปที่ 3.2 ซึ่งประกอบ 2 สวน
คือ สวนหัววัด (Probe) และสวนเครื่องวิเคราะหกาซ
1 หัววัด(Probe)
4. สายสงกาซ
3. สายสัญญาณ
2 เครื่องวิเคราะห
2.) การเตรียมและการวัด
กอนทําการวัดคาตองทําการเตรียมเครื่องกอนวัดดังนี้
1. ประกอบสวนหัววัด และตัวเครื่องวิเคราะหเขาดวยกัน
2. เปดเครื่องวัด
3. ตรวจสอบโดยการวัดคาเปอรเซ็นตออกซิเจนในอากาศวาได 21% หรือไม
4. เซทคาพารามิเตอรตางๆ ที่ใชคํานวณตามที่เครื่องตองการ (ขึ้นอยูกับยีห่ อและรุนของ
เครื่อง) เชน ชนิดเชื้อเพลิง อุณหภูมิเชื้อเพลิง
5. ทําการติดตั้งหัววัดเขากับปลองไอเสีย โดยเสียบใหปลายหัววัด อยูบ ริเวณกึ่งกลางของ
ปลองไอเสีย
การวัดคา
1. เปดสวิตชใหปมดูดสารตัวอยางทํางานปริมาณ 30-60 วินาที หรือพิจารณาจากคาที่แสดงที่
หนาจอนิ่งแลวใหปด สวิตชหยุดปม
2. บันทึกคาที่เครือ่ งแสดงผลบนหนาจอ ในปจจุบันเครื่องแบบอิเล็คทรอนิคสสามารถพิมพ
ผลการวัดออกทางเครื่องพิมพไดเลย
3. คาที่วัดได ไดแก
- เปอรเซ็นตออกซิเจนในกาซไอเสีย
- เปอรเซ็นตคารบอนไดออกไซดในกาซไอเสีย
- ปริมาณคารบอนมอนออกไซด เปน ppm
- ประสิทธิภาพการเผาไหม เปน เปอรเซ็นต
- ฯลฯ
2.) ขอควรระวังในการใช
ก. สารละลายดูดซึมที่เย็นใหทําการอุนเวลาใช (การดูดซึมขณะอุณหภูมิ 10°C และ 5°C
จะตองใชเวลามากขึ้นกวาขณะอุณหภูมิ 25°C 150% และ 200% ตามลําดับ)
ข. ลําดับการดูดซึมกาซตองถูกตอง คือทําการดูดซึมจาก CO2, O และ CO ตามลําดับเสมอ
ค. คาที่ต่ํากวา 0.1% จะไมสามารถอานไดถูกตอง
ง. ใหอานคาหลังจากหยดน้ําทีเ่ กาะที่ผนังดานในของ burtette หลนลงมาหมดเสียกอน
(จาระบีทใี่ ชทาปองกันการรัว่ จะไมใชกับสวนทางกาซผาน)
จ. คา O2 ที่วัดจากเครื่องวัดนี้เปนคาที่ใชกาซแหงที่เปนฐานคิด
ขั้นตอน
จุดมุงหมาย f B
ลําดับ อื่นๆ
(ตําแหนง กอก) (ขวดสารละลายปดกั้น)
การเตรียมตัว ¦ ยกขึ้นสูง - ยกลงต่ํา ปรับระดับสารละลายใน C. D. E ใหไดระดับ
ตรงขีดที่กํากับไว
§ ยกขึ้นสูง ปรับระดับสารละลายปดกั้นใน A ใหไดระดับ
100 ml ตรงขีดที่กํากับไว
การแทนที่ดวยกาซ ¨ วางไวดานบนเครื่อง ผานกาซตัวอยางในสเปรยลูกกลมคูเขาสูหลอด
ตัวอยาง รูปตัว U
ผานกาซตัวอยาง ©* ยกลงชา ใสเขาที่ A มากกวา 100 ml
เขาสู A
ปรับกาซที่ A ใหเทากับ ª* ปรับระดับสูงต่ํา 1. ปรับระดับของของเหลวของ B ใหตรงกับ
100 ml อยางเที่ยงตรง หมุนกลับอยาง สเกล 0 ของ A
รวดเร็ว 2. บีบทอยางไลกาซที่คางใน f ออก
3. ปรับระดับสารละลายใน A, B ใหตรงกับ
สเกลของ A…. แลวทําซ้ํา
ผานกาซให C ดูดซึม «* ยกขึ้น - ยกลง เปดจุด C ใหกาซผานเขาขวด C (ทําซ้ํา)
มากกวา 10 ครั้ง
อานคาการดูดซึมของ C * ยกลงต่ํา 1. ปรับระดับสารละลายในขวด C ใหตรงกับขีด
ที่กํากับไวที่ขวด C
2. ปรับระดับของ A และ B ใหตรงกันแลวอาน
ปริมาตรของ [a]
อานคาการดูดซึมของ D * ยกขึ้น - ยกลง เปด d แลวอานคาปริมาตรของ A [b] โดย
ทําเหมือน «
4.) คาที่วัดได
คา [a] ที่วัดไดในขัน้ ตอน ในตารางจะแสดงอัตราสวนรอยละเชิงปริมาตรของ CO2 และ
ผลตางของคาที่วัดไดจากขั้นตอน และ คือ [b] – [a] จะแสดงอัตราสวนรอยละเชิงปริมาตรของ O2
3.1.3 หลักเกณฑการตรวจวัดและขอควรระวัง
หลักเกณฑการตรวจวัด
หลักเกณฑที่ควรพิจารณายึดถือในการตรวจวัดวิเคราะหไอเสีย มีดังตอไปนี้
1. ตําแหนงการวัดตองหางจากหมอไอน้ําไมเกิน 50 cm.
2. ปลายหัววัดควรอยูที่บริเวณกึง่ กลางของปลองไอเสีย
3. ควรตรวจวัดทุกสภาวะการทํางาน ดังแสดงในตาราง
การควบคุม การวัด
ON - OFF วัดที่ตําแหนง ON
Low Fire – High Fire วัดทั้งตําแหนง Low Fire และ High Fire
Modulating (2 Stage) วัดที่ตําแหนง Stage ที่ 1 (Low Fire) และ Stage ที่ 2 (High
Fire) ชวงระหวางที่มีการเปลี่ยน และควรพิจารณาตําแหนง
จุดติดไฟวามีควันหรือไม
Modulating วัดตลอดชวงการทํางานโดยแบงออกเปน 5 ชวง ตั้งแต 0%
(Low Fire), 25%, 50%, 75% และ 100% (High Fire)
ขอควรระวังในการตรวจวัดวิเคราะหไอเสีย
1. การตรวจหารอยรั่วของหองเผาไหม หรือทอไอเสียวามีการรั่วหรือไม เนื่องจากขณะเดิน Low
Fire อาจทําใหหองเผาไหมมีความดันต่ํากวาความดันบรรยากาศ จะทําใหมีอากาศไหลเขาหองเผาไหม หรือ
ทอไอเสียตามรอยรั่วตางๆ เปนเหตุใหคาที่วัดไดมีเปอรเซ็นตออกซิเจนสูงกวาความเปนจริง การตรวจสอบ
อาจทําไดโดยใชควันธูป
2. รูปที่ใชเสียบหัววัดไอเสียไมควรใหญมาก และขณะเสียบหัววัดควรมีการซีลไมใหอากาศไหล
เขาไปได
3.2 การตรวจวัดการสูญเสียความรอนผานผนัง
การตรวจวัดการสูญเสียความรอนผานผนัง มีพารามิเตอรที่ตองทําการวัดคือ
1. อุณหภูมิผิวนอกดานตางๆ ของหมอไอน้ํา
2. ขนาดพื้นผิวทีท่ ําการวัด
3. ลักษณะสีผิวของหมอไอน้ํา เพื่อใชหาคาสัมประสิทธิ์การแผรังสีของหมอไอน้ํา
การตรวจวัดอุณหภูมิผิวหมอไอน้ํา
การตรวจวัดอุณหภูมิจะใชเครื่องวัดอุณหภูมิแบบสัมผัส โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. แบงพื้นที่ตรวจวัดออกเปนสวนๆ ในแตละดาน เชน ดานขางหมอไอน้ําแบงออกเปน 9 สวน
2. วัดอุณหภูมิบนพื้นที่ของแตละสวน และวัดขนาดพืน้ ที่ของแตละสวนดวยตลับเมตร
3. หาคาอุณหภูมิเฉลี่ยของแตละดาน
4. หาพื้นที่รวมของแตละดาน
5. ระบุสีผิวของหมอไอน้ํา
การตรวจวัดสามารถปฏิบตั ิไดดังขั้นตอนตอไปนี้
1. บันทึกจํานวนครั้งที่ทําการโบลวดาวนใน 1 ชั่วโมง
2. รอถึงเวลาหรือรอบที่จะตองทําการโบลวดาวนตามปกติ แลวทําการโบลวดาวน โดยใชภาชนะ
รองน้ําโบลวดาวนไว พรอมกับจับเวลาทีโ่ บลวดาวน แลวทําการบันทึกเวลาที่ใชในการโบลว
ดาวน
3. นําน้ําโบลวดาวนมาทิ้งไวใหอุณหภูมิลดลง (เหลือต่ํากวา 45°C)
4. ทําการวัดคา TDS ของน้ําโบลวดาวน ดวยเครื่องวัดคา TDS และทําการบันทึกคา
5. ทําการวัดคา pH ของน้ําโบลวดาวน ดวยเครื่องวัดคา pH หรือใชกระดาษวัดคา pH แบบยูนิเวอร
เซลอินดิเคเตอร และทําการบันทึกคา
หัววัด TDS
หัววัดคา pH
รูปที่ 3.7 แสดงเครื่องวัดคา TDS และเครื่องวัดคา pH
มาตรวัดปริมาณน้ําปอน
การที่จะวัดหาปริมาณน้ําปอนเขาหมอไอน้าํ จําเปนจะตองติดตั้งเครื่องวัดหรือมาตรวัดเขากับ
ทอจายน้ําปอนระหวางถังน้าํ ปอนกับหมอไอน้ํา ซึ่งผูประกอบการสวนใหญไมนิยมติดตั้งมาตรวัดไว ทําให
ไมทราบถึงอัตราการผลิตไอน้ําที่แทจริงของหมอไอน้ํา จึงขอแนะนําใหติดตั้งเพื่อใหงา ยตอการวัดและทราบ
ขอมูลไดอยางรวดเร็วและตอเนื่อง การตรวจวัดสามารถทําไดตามลําดับขั้นตอนดังนี้
1. เวลาทําการโบลวดาวนตามเวลาปกติ ใหอา นคาเลขมิเตอรบนมาตรวัด และจดบันทึกคามิเตอร
และเวลาที่อาน
2. ปลอยใหหมอไอน้ําทํางานตามปกติ 1 ชั่วโมง
3. ทําการอานคาเลขมิเตอรบนมาตรวัดอีกครัง้ แลวบันทึกคาและเวลาที่อาน
4. หาปริมาณน้ําปอนโดยนําเลขมิเตอรหลังลบออกดวยเลขมิเตอรกอนจะไดปริมาณน้ําปอนเขา
หมอไอน้ําใน 1 ชั่วโมง
การติดตั้งมาตรวัดควรติดตั้งในตําแหนงที่เปนการวัดน้ํามันที่จายเขาหมอไอน้ําจริง ซึ่งหมอไอน้ําที่
มีวงจรน้ํามันเปนแบบวนกลับใหติดตั้งกอนเขาวงจรวนกลับ
สําหรับการวัดคาความดันและอุณหภูมิของน้ํามันเชื้อเพลิงนั้น โดยปกติหัวเผาจะมีเกจบอกความดัน
และอุณหภูมิของน้ํามันเชื้อเพลิงติดตั้งอยูแลว สามารถอานคาความดันและอุณหภูมิของน้ํามันเชื้อเพลิงไดจาก
เกจวัดแลวทําการจดบันทึก ในกรณีที่หวั เผาไมมีเกจวัดติดตั้งไว ขอแนะนําใหทําการติดตั้งเพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อ
ประโยชนในการปรับแตง และการวิเคราะหสาเหตุในกรณีที่เกิดปญหากับการเผาไหม
เกจวัดความดันน้ํามัน เกจวัดอุณหภูมิน้ํามัน
การตรวจวัดอุณหภูมิอากาศสามารถทําไดโดยการใชเทอรโมมิเตอร หรือเทอรโมคัปเปลวัดอุณหภูมิ
อากาศที่ปอนเขาหมอไอน้ํา ซึ่งปกติคืออุณหภูมิของบรรยากาศนั่นเอง เนื่องจากหมอไอน้ําขนาดกลางและ
เล็กไมนิยมใชเครื่องอุนอากาศ
3.6 การตรวจวัดความดันและอุณหภูมิไอน้ํา
การตรวจวัดความดันและอุณหภูมิไอน้ํา มีวัตถุประสงคเพื่อใหทราบความดันและอุณหภูมใิ ชงาน
รวมทั้งใชเปนขอมูลในการประเมินประสิทธิภาพหมอไอน้ํา พารามิเตอรที่ตองทําการวัด คือ ความดันของ
ไอน้ํา สวนอุณหภูมิไอน้ําสามารถหาไดจากตารางไอน้ํา ซึ่งจะแปรผันตามความดัน
การวัดความดันของไอน้ําในหมอไอน้ํา สามารถอานที่เกจวัดความดันที่ติดตั้งบนหมอไอน้ําไดทันที
โดยการวัดความดันควรวัดทุกๆ 5 นาที ตลอดชวง 1 ชั่วโมงที่ทําการวัด เพื่อนําคาความดันที่ไดมาเฉลี่ยเปน
ความดันใชงานของหมอไอน้ํา ซึ่งในการวัดความดันควรทําพรอมๆ กับการตรวจวัดในสวนอืน่ ๆ ของหมอ
ไอน้ําที่ไดกลาวมาแลว
เกจวัดความดัน
3.7 เกณฑการพิจารณาผลการตรวจวัด
คาพารามิเตอรตางๆ ที่ไดจากการตรวจวัดสามารถสรุปไดดังตารางที่ 3.1 ซึ่งการพิจารณาวาผลการ
วัดที่ไดนั้นบงบอกวาหมอไอน้ําทํางานดีอยูหรือไม มีสวนไหนมีปญ
หาหรือมีขอบกพรองในสวนไหนตอง
อาศัยเกณฑที่เหมาะสมของคาพารามิเตอรตางๆ เพื่อเปรียบเทียบ ซึ่งไดสรุปไวในตารางที่ 3.1
บทที่ 4
หลักการและเทคนิคการปรับแตงหัวเผา
การปรับแตงหัวเผานั้นจําเปนตองเขาใจถึงหลักการทํางานของหัวเผาวาทํางานอยางไร ควบคุมการ
เผาไหมอยางไร ซึ่งไดกลาวมาแลวในบทที่ 2 ในบทนีจ้ ะกลาวถึงหลักการตางๆ ที่ใชพิจารณาปรับแตงหัวเผา
และเทคนิคการปรับแตงหัวเผาชนิดตางๆ ตามลักษณะการควบคุมการทํางานของหัวเผา
4.1 หลักการและเกณฑการปรับแตงหัวเผาน้ํามันใหประหยัดพลังงาน
นอกจากการมีอากาศสวนเกินที่เหมาะสมแลว การสันดาปที่มีประสิทธิภาพจะตองมีองคประกอบที่
ดี 3 องคประกอบ ซึ่งสามารถจดจําไดงายๆวา องคประกอบ 3T ซึ่งไดแก การผสมกันระหวางอากาศกับ
เชื้อเพลิง (Turbulence) อุณหภูมิ (Temperature) และเวลา (Time)
1. การผสมกันระหวางอากาศกับเชื้อเพลิง (Turbulence)
หัวเผาทําหนาที่ฉีดพนน้ํามันใหเปนฝอยละเอียดเพื่อใหนา้ํ มันระเหยเปนไออยางรวดเร็ว และปอน
อากาศเขาผสมกับไอน้ํามันเพื่อกอใหเกิดปฏิกิริยาสันดาป ดังนั้นการสันดาปที่มีประสิทธิภาพจะตองมีการ
ผสมกันระหวางอากาศและเชื้อเพลิงอยางทั่วถึง การผสมกันที่ไมทั่วถึงทําใหเกิดอากาศที่มากเกินความ
จําเปนในบางจุดของหองเผาไหม ในขณะเดียวกันเกิดการขาดแคลนอากาศสําหรับการสันดาปทีส่ มบูรณใน
จุดอื่นๆ ซึ่งเปนการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หัวเผาที่ชํารุด หัวเผาที่อุดตัน น้ํามันที่มีความหนืดมากเกินไป หรือ
แรงดันน้ํามันที่นอยเกินไป เปนหนึ่งในสาเหตุของการผสมกันระหวางอากาศกับเชื้อเพลิงที่ไมเพียงพอ
2. อุณหภูมิ (Temperature)
การสันดาปเกิดขึ้นไดก็ตอเมือ่ อุณหภูมิของเชื้อเพลิงสูงจนถึงอุณหภูมิตดิ ไฟ (Fire Point) ดังนั้นการ
สันดาปที่สมบูรณเกิดขึน้ เมื่ออุณหภูมิภายในหองเผาไหมถูกรักษาใหสูงเพียงพออยูตลอดเวลา เชื้อเพลิงที่ตดิ
ไฟอยางตอเนือ่ งจึงมีประสิทธิภาพการเผาไหมดีกวาเชือ้ เพลิงที่มีการติดๆ ดับๆ คราบเขมาที่เกาะบนพืน้ ผิว
เกิดขึ้นจากเปลวที่สัมผัสกับพื้นผิวที่มีอณ
ุ หภูมิต่ํากวา และเมื่อหมอไอน้ําผลิตไอน้ํานอยกวาพิกดั มาก
อุณหภูมิของหองเผาไหมจะไมสูงตามที่ออกแบบเอาไว จึงเกิดการสันดาปที่ไมสมบูรณและเกิดเขมาในกาซ
ไอเสีย
3. เวลา (Time)
ปริมาณอากาศ การผสมกันระหวางอากาศและเชื้อเพลิง และ อุณหภูมิเปนตัวกําหนดอัตราการ
สันดาป อยางไรก็ตาม การสันดาปที่สมบูรณตองการระยะเวลาที่เพียงพอ ปริมาตรหองเผาไหมตอ งมีขนาด
สํานักเทคโนโลยีความปลอดภัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม 4-1
โครงการอนุรักษพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่นอกเหนือจากโรงงานควบคุม
ตามพระราชบัญญัติการสงเสริมการอนุรักษพลังงาน พ.ศ. 2535
คูมือการปรับแตงหัวเผา
4.1.1 ปริมาณไอน้ําที่ตองการ
หมอไอน้ําที่ใชในโรงงานทัว่ ไปจะถูกปรับตั้งใหมกี ารปอนปริมาณน้าํ มันมากเพียงพอตอการผลิตอยู
แลว ยกเวนกรณีที่มีการขยายขบวนการผลิตทําใหมีความตองการใชไอน้ําเพิ่มขึ้น และเปนผลใหปริมาณไอ
น้ําที่ผลิตจากหมอไอน้ําไมเพียงพอตอการใชงาน แนวทางการพิจารณาปริมาณไอน้ําเพื่อการปรับแตง หัว
เผาแสดงดังตารางที่ 4.1
4.1.3 ชนิดของหัวเผา
หัวเผาแตละชนิดมีกลไกการพนน้ํามันใหเปนฝอยตางกัน ดังนั้นการปรับตั้งอุณหภูมิน้ํามันเชื้อเพลิง
ปอนเขาหัวฉีดจึงตองตางกันตามชนิดของการพนฝอย และชนิดของน้ํามัน การปรับแตงจึงแนะนําให
ปรับตั้งคาอุณหภูมิของน้ํามันเชื้อเพลิงตามตารางที่ 4.4
4.1.4 การพิจารณาผลการตรวจวัดกาซไอเสีย
การตรวจวัดวิเคราะหไอเสียจะทําใหทราบคา เปอรเซ็นตออกซิเจน(%O2) เปอรเซ็นต
คารบอนไดออกไซด (%CO2) ปริมาณคารบอนมอนออกไซด (CO เปน ppm) และคาอุณหภูมิของไอเสีย ซึ่ง
สามารถวิเคราะหและพิจารณาคาตางๆ เพือ่ การปรับแตงหัวเผาไดดังตารางตอไปนี้
ตัวอยางการตรวจสอบหัวเผา
กรวยไฟสึกหรอ
ปริมาณน้ํามันที่ปอนเขาจะถูกกําหนดดวยขนาดของหัวฉีดและความดันน้ํามันใชงาน ซึ่งจะอยูในชวง
20-25 บาร
2) ลักษณะการควบคุมอากาศของหัวเผาชนิดพนฝอยดวยแรงดันน้ํามันควบคุมแบบตอ - ตัด
หัวเผาแบบนี้จะไมมีการควบคุมอากาศขณะทํางาน เนื่องจาก มีสภาพการเผาไหมเพียงสภาวะ
เดียวแตสามารถปรับตั้งปริมาณอากาศใหเหมาะสมกับการเผาไหมไดโดยการปรับแคมเปอรที่ทอปอน
อากาศเขา
แดมเปอรควบคุมอากาศ
ตําแหนงสําหรับปรับแดมเปอร
ควบคุมอากาศ
3) การปรับแตงหัวเผาชนิดพนฝอยดวยแรงดันน้ํามันควบคุมแบบตอ - ตัด
ขั้นตอนการปรับแตงสามารถปฏิบัติไดดังนี้
1. ปดสวิตชการทํางานและเปดหัวเผาตรวจสอบหัวฉีด กระจังลม เขี้ยวสปารค และกรวยไฟ
การตรวจสอบและการปรับตัง้ ใหปฏิบัติตามหัวขอ 4.2
2. ปดหัวเผาเขากับหมอไอน้ําแลวเปดสวิตชใหหวั เผาทํางานเพื่อตรวจสอบความดันและ
อุณหภูมิของน้าํ มันเชื้อเพลิง การตรวจสอบและปรับตั้งใหปฏิบัติตามตาราง 4.4
3. ทําการวัดคาเปอรเซ็นตออกซิเจน (% O2) คาเปอรเซ็นตคารบอนไดออกไซด (% CO2) และ
ปริมาณคารบอนมอนออกไซด (CO เปน ppm) ในกาซไอเสีย
4. พิจารณาผลการวัดกาซไอเสียและกําหนดแนวทางการปรับแคมเปอรตามกรณีและเกณฑ
ในตารางที่ 4.5
5. คลายนอตลอคตําแหนงแดมเปอรแลวปรับแดมเปอรไปในทิศทางที่ไดกําหนดใชในขอ 4
จนกวาคา % O2, % CO2, และ CO จะอยูในเกณฑที่กําหนด
6. ทําการลอคนอตที่ยึดแดมเปอร
1
2 Stopper ตําแหนงที่ 1
Stopper ตําแหนงที่ 2
3) การปรับแตงหัวเผาชนิดพนฝอยดวยแรงดันน้ํามันควบคุมแบบไฟนอย – ไฟมาก
3.1) กรณีควบคุมอากาศแบบสวิตชลูกเบี้ยว
การปรับแตงสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนดังตอไปนี้
1. ปดสวิตชการทํางาน และเปดหัวเผาเพื่อตรวจสอบหัวฉีด กระจังลม เขี้ยวสปารค และ
กรวยไฟ การตรวจสอบและการปรับตั้งใหปฏิบัติตามหัวขอ 4.2
2. ปดหัวเผาเขากับหมอไอน้ําแลวเปดสวิตชใหหวั เผาทํางาน เพื่อตรวจสอบความดันและ
อุณหภูมิของน้าํ มันเชื้อเพลิง การตรวจสอบและปรับตัวใหปฏิบัติตามตารางที่ 4.4
3. เปดสวิตชลอคตําแหนงใหหวั เผาทํางานทีต่ ําแหนงไฟนอย (Low Fire)
4. ทําการวัดคาเปอรเซนตออกซิเจน (%O2) คาเปอรเซนตคารบอนไดออกไซด (%CO2)
และปริมาณคารบอนมอนออกไซด (CO เปน ppm) ในกาซไอเสีย
5. พิจารณาผลการวัดกาซไอเสียและกําหนดแนวทางการปรับปริมาณอากาศตามกรณี
และเกณฑในตารางที่ 4.5
6. เปดฝากลองชุดสวิตชลูกเบีย้ ว (Limit Switch) และตรวจสอบหาตําแหนงลูกเบี้ยวที่
ควบคุมแดมเปอรในภาวะไฟนอย (Low Fire) จากรูปที่ 4.16 คือตําแหนงที่ III
ขั้นตอนที่ 9 6 10
การปรับแตงสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนดังตอไปนี้
1. การดําเนินการปฏิบัติตามหัวขอ 3.1 หัวขอยอย ขอ 1 ถึง ขอ 5
2. ปรับระยะนอต ปรับระยะการเปดของแคมเปอรตําแหนงไฟนอย (Low Fire) ใหมโดย
การขันนอตในทิศทางใหแคมเปอรเปดมากขึ้น ถาตองการปริมาณอากาศเพิ่มขึ้น หรือ
ในทิศทางใหแคมเปอรปดลงมากขึ้น ในกรณีที่ตองการลดปริมาณอากาศ พรอมกับ
ตรวจวัดคา %O2, %CO2 และ CO ปรับปริมาณอากาศจนกวาคาทั้ง 3 จะอยูในเกณฑ
3. ปรับสวิตชใหหัวเผาทํางานที่ตําแหนงไฟมาก (High Fire)
4. ดําเนินการตามหัวขอ 3.1 หัวขอยอย 4 และ 5
5. จากนั้นดําเนินการขันนอตปรับระยะการเปดของแคมเปอรตําแหนงไฟมาก (High
Fire) ใหแคมเปอรเปดมากขึ้น หรือนอยลงตามปริมาณอากาศที่ตองการโดยให
พิจารณาผลการวัด %O2, CO2 และปริมาณ CO พรอมการปรับไปดวย ปรับระยะนอต
ทีละนอยจนกวา คาตรวจวัดทั้ง 3 อยูในเกณฑที่กําหนด
ไฟนอย
ไฟกลาง
ไฟมาก
1) การควบคุมปริมาณน้ํามัน
การควบคุมน้ํามันของหัวเผาแบบนี้ใชเซอรโวมอเตอรขับวาลวควบคุมปริมาณน้ํามัน (Fuel
Regulating Value) ใหจายน้าํ มันใหหัวฉีดเพียงหัวเดียว ปริมาณน้ํามันที่ฉีดจะมากหรือนอยตามการเปดของ
วาลวควบคุม ซึ่งเซอรโวมอเตอรถูกควบคุมโดยสวิตชลูกเบี้ยวใหหยุดที่ตําแหนงจุดเตา ตําแหนงไฟนอย
และตําแหนงไฟมาก แตละตําแหนงวาลวควบคุมน้ํามันจะเปดใหน้ํามันผานในปริมาณที่มากนอยตางกัน
ตามที่ปรับตั้งไว
2) การควบคุมปริมาณอากาศ
การควบคุมปริมาณอากาศใชการควบคุมเปด-ปดของแดมเปอรบริเวณทางเขาอากาศ แดมเปอร
มีกลไกเชื่อมโยงกับลูกเบีย้ วควบคุมอากาศ (Adjustable Cam) ที่อยูบนแกนเพลาเดียวกันกับเซอรโวมอเตอร
ที่ขับวาลวควบคุมน้ํามัน ดังนั้นเมื่อเซอรโวมอเตอรทํางาน เชน เปลี่ยนสภาวะจากไฟนอยเปนไฟมากเซอร
โวมอเตอรจะขับวาลวน้ํามันใหเปดพรอมกันกับขับลูกเบี้ยวควบคุมอากาศใหหมุนไปพรอมกัน ลูกเบี้ยวที่
หมุนไปจะไปดันใหแขนกลไกทํางาน โดยจะทําใหแดมเปอรเปดมากขึ้น เพื่อปอนอากาศเขาเผาไหมใหมาก
ขึ้นตามปริมาณน้ํามัน สวิตชลูกเบี้ยวทีใ่ ชควบคุมเซอรโวมอเตอรถูกกําหนดเปนมาตรฐานดังนี้
I - แดมเปอรเปด 130 องศา
II - แดมเปอรปด 0 องศา
III - โหลดจุดติดไฟ (Ignition Load) ที่ 30 องศา
IV - สวิตชตอที่จังหวะ 2 เพิ่มน้ํามันที่ 100 องศา
V และ VI - ไมใช
VII - โหลดไฟนอย (Partial Load) 50 องศา
ลูกเบี้ยวควบคุมอากาศ
แขนกลไกปรับแดมเปอร
สวิตชลูกเบี้ยว
0% 25%
50%
สกรูปรับแตง
75%
100%
1) การควบคุมปริมาณน้ํามัน
มีจํานวนหัวฉีดมีเพียงหัวเดียว การควบคุมน้ํามันเปนแบบใชเซอรโวมอเตอรขับลูกเบี้ยวไปกด
วาลวควบคุมน้ํามัน (Metering Cam) ใหเปดมากนอยตามที่ปรับตั้งไว
วาลวควบคุมน้ํามัน(Metering Cam)
2) การควบคุมปริมาณอากาศ
การควบคุมอากาศไดโดยกลไกที่เชื่อมโยงกับเพลาของเซอรโวมอเตอร มีแขนกลไกที่เชื่อม
ตอมาหมุนลูกเบี้ยวและเปด-ปดแดมเปอรลม (Rotary Damper) ใหเปด-ปดสอดคลองกับวาลวน้ํามัน
แขนปด-เปด แดมเปอร
ชุดเซอรโวมอเตอร
สกรูลอค
สกรูปรับน้ํามัน
ถวยสลัดน้ํามัน
7. ปรับแตงในตําแหนง
1). ตําแหนง 25 % ของชวงการควบคุม
2). ตําแหนง 50 % ของชวงการควบคุม
3). ตําแหนง 75 % ของชวงการควบคุม
4). ตําแหนง 100 % ของชวงการควบคุม (ตําแหนงไฟมาก)
โดยปฏิบัติเหมือนกับขอ 4 ถึงขอ 6
บทที่ 5
การประหยัดพลังงานในหมอไอน้ําอยางยั่งยืน
5.1 หลักการบริหารจัดการดานพลังงาน
5.2 ดัชนีการใชพลังงาน
การเปรียบเทียบปริมาณการใชพลังงานโดยตรงนั้นไมใชวิธีท่ีถูกตองที่จะสามารถชี้วัดไดชัดเจนวา
โรงงานมีประสิทธิภาพการใชพลังงานดีขนึ้ หรือแยลงมากนอยเพียงใด ยกตัวอยางเชน โรงงานที่มีการผลิต
มากขึ้น เนือ่ งจากมีคําสั่งซื้อเขามามากขึ้นยอมจะมีการใชพลังงานเปนปริมาณสูงขึ้นอยางแนนอน หรือ
ในทางกลับกันโรงงานที่มีการใชพลังงานนอยลง เนื่องจากมียอดการผลิตลดลงก็ไมไดหมายความวาโรงงาน
แหงนัน้ มีประสิทธิภาพการใชพลังงานที่ดขี ึ้น
ดวยเหตุนี้ ตัวชี้วดั ประสิทธิภาพการใชพลังงานจึงควรจะสื่อถึงผลระหวางปริมาณการใชพลังงาน
และปริมาณการผลิตของโรงงานไปพรอมกัน ดังนั้น ดัชนีการใชพลังงานจึงกําหนดใหหมายถึงสัดสวนของ
ปริมาณพลังงานที่ใชตอปริมาณการผลิต
5.3 การบํารุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
การบํารุงรักษาหมอไอน้ํามีความสําคัญมาก จุดประสงคไมเพียงแตการยืดอายุการใชงาน หรือการ
คงสภาพและประสิทธิภาพเทานั้น แตยังมีความหมายรวมไปถึงความปลอดภัยและปองกันอันตรายอัน
อาจจะเกิดขึ้นในการใชหมอไอน้ํา
5.3.1 การบํารุงรักษาหมอไอน้ํา
การบํารุงรักษาหมอไอน้ําอยางถูกตอง ยอมจะทําใหการใชงานหมอไอน้ําอยางมีประสิทธิภาพ ทนทาน
และปลอดภัย การบํารุงรักษาที่ดี และถูกตองตามหลักการ ควรจะตองประกอบดวยดังนี้
1. การจดบันทึกขอมูลประจําวัน
2. การวางแผนการบํารุงรักษาหมอไอน้ํา
1. การจดบันทึกขอมูลประจําวัน
จะไดรับประโยชน ดังนี้
1. เพื่อเปนรายงานการทํางานของเครื่องและผูดูแลเครื่อง
2. เปนสถิติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางานของเครื่องใหเพิ่มขึน้
3. ตัวเลขจากขอมูลที่บันทึก สามารถบอกถึงขอบกพรองของเครื่องทําใหแกไขไดทันกอนที่
เครื่องจะเสียหายมาก
4. ขอมูลที่บันทึก สามารถนํามาใชสอบหาสาเหตุการเสียหรือการเกิดอุบัติเหตุของเครื่องได
1. จากปริมาณเชื้อเพลิงที่ใชกับปริมาณไอน้ําที่ผลิตได สามารถนํามาเปรียบเทียบอัตราสวนเชื้อเพลิง
ตอไอน้ําได ตามปกติสําหรับเชื้อเพลิงแตละชนิดไมควรจะไดต่ํากวาที่กําหนดไวดงั นี้
เชื้อเพลิง ไอน้ํา
น้ํามัน 1 ปอนด 15 ปอนด
1 ลิตร 14 กิโลกรัม
สาเหตุของอุณหภูมิไอเสียสูงมากกวาปกติ เพราะ :-
5.1) เขมาจับที่ผิวมากความรอนจากแกสรอนถายเทใหน้ําไดไมเต็มที่ เพราะเขมาเปนฉนวนความรอน
5.2) ตะกรันมาก ตะกรันเปนฉนวนความรอนเชนเดียวกับเขมา
5.3) ผนังกั้นชั้นไฟสึก ทําใหเกิดการรั่วระหวางชั้นไฟ
5.4) ลมชวยในการเผาไหมมากเกินไป แกสรอนจะถูกพาออกเร็วเกินไป ทําใหถายเทความรอนได
ไมหมด
6. ความดันไอน้ํา การบันทึกความดันไอน้ําจะชวยเปนประโยชนในการควบคุมคุณภาพของผลผลิต
7. สําหรับหัวเผาชนิดพนฝอยดวยแรงดันน้ํามัน ความดันน้ํามันที่เขาหัวฉีดสูงมากกวาปกติ แสดงวา
หัวฉีดตัน
8. ความดันน้ําที่ปอนเขาหมอไอน้ําตามปกติจะสูงกวาความดันของไอน้ําในหมอไอน้ําประมาณ
20-50 psi ถาความดันสูงกวานี้มากๆ แสดงวาทอทางเขาของน้ําปอนเขาหมอไอน้ําเริ่มตีบตัน
เนื่องจากตะกรันจับในทอ
9. ความกระดางของน้ําปอนเขาหมอไอน้าํ ตามปกติจะตองควบคุมใหต่ําทีส่ ุดเทาทีจ่ ะทําได ถาเกิน
มาตรฐาน โอกาสที่ตะกรันจะจับตัวกันมีมากขึ้น เมื่อพบน้ํากระดางเกินกําหนด ควรดําเนินการ
Regenerate เครื่องทําน้ําออน (Softener)
10. ปริมาณสารละลายในหมอไอน้ําที่ใชความดันไมเกิน 10 bar ตามปกติไมควรเกิน 3,500 สวนใน
ลานสวน ถาเกินจากนี้จะเกิดการเดือดปะทุ ทําใหไอน้ํามีน้ําปนมาก มีโอกาสเกิด Water Hammer
ที่ระบบการใชไอน้ําได
11. คา pH ของน้ําในหมอไอน้ําควรมีคาระหวาง 9.0 – 11.5 หากคา pH ต่ําเกินไปจะเกิดการกัดกรอน
เนื่องจากสภาพกรด แตถาสูงเกินไป จะเกิดฟอง และโครงสรางแตกราวไดงาย
5.3.2 การวางแผนการบํารุงรักษา
การจัดแผนการบํารุงรักษาที่ดีควรจะจัดชวงจังหวะการบํารุงรักษาออกเปนชวงๆ และใหสัมพันธกับ
การผลิตของโรงงาน เพื่อจะไดไมกระทบกระเทือนการผลิตของโรงงาน ชวงเวลาการบํารุงรักษาควรแบงดังนี้ :-
1. การบํารุงรักษารายวัน
2. การบํารุงรักษารายสัปดาห
3. การบํารุงรักษารายเดือน
4. การบํารุงรักษาตอนสิ้นป
การบํารุงรักษารายวัน
เปนการกําหนดงานที่จะตองปฏิบัติในแตละวัน ซึ่งมีดังนี้
1. ระบายน้ําในหลอดแกวดูระดับน้ํา
2. ระบายน้ําในลูกลอยควบคุมระดับน้ํา
3. ระบายน้ําจากใตหมอไอน้ํา (Blowdown)
4. ตรวจระดับน้ํามันเครื่องของปมลม (ถามี)
5. บันทึกประจําวัน
6. สังเกตดูพวกเกจตางๆ วาวัดคาตางๆ อยูในเกณฑปกติหรือไม
การบํารุงรักษารายสัปดาห
งานที่จะตองปฏิบัติ มีดังนี้
1. ทําความสะอาดหัวฉีด
2. ทําความสะอาดเตาไฟ
3. ทําความสะอาดไสกรองน้ํามัน
4. ตรวจดูปะเก็นฝาหมอไอน้ําวามีรอยรั่วของไอเสียหรือไม
5. ตรวจดูปะเก็นฝาหอยวามีรอยรั่วซึมหรือไม ถามีจะเห็นเปนเกลือเกาะที่ฝาหอยเปนกอน ควรขูด
ออกใหหมดอยาใหสะสม
6. ทําความสะอาดกระจกมองไฟ
7. ทําความสะอาด และตรวจสอบระยะเขี้ยวหัวเทียน
8. ทดสอบระบบควบคุมความปลอดภัย
- ลูกลอยควบคุมระดับน้ํา
- สวิตซควบคุมความดัน
9. เปลี่ยนน้ําในหมอไอน้ํา (ถามีเวลามากพอทีจ่ ะทําได)
10. วัดประสิทธิภาพการเผาไหม ปรับแตงใหไดคาสูงสุด
การบํารุงรักษารายเดือน
1. ลางถังเก็บน้ํากอนเขาปมน้ํา
2. ลางไสกรองน้ํากอนเขาปมน้าํ
3. ทําความสะอาดทอไฟ (ลางเขมาออกโดยใชแปรง)
4. ตรวจสภาพอิฐทนไฟ วัสดุทนไฟ ปะเก็นฝาหมอไอน้ํา
5. ลางทําความสะอาดภายในหมอไอน้ํา (ดานสัมผัสน้ํา) โดยใชน้ําความดันสูงฉีดเอาตะกรันและ
ตะกอนออก
6. ลางลูกลอยควบคุมระดับน้ําลาง เอาตะกอนที่ตกในหองลูกลอยและตามขอตออก
7. ตรวจสอบระบบกลไกของลูกลอยวาทํางานไดโดยไมตดิ ขัด
8. ทดสอบระบบกลไกของลูกลอยวาทํางานไดโดยไมตดิ ขัด
9. ทําความสะอาดพวกเครื่องควบคุมไฟฟา อยาใหมีฝนุ เกาะมากโดยใชลมแหงเปา
10. ทดสอบลิ้นนิรภัยวาทํางานดีอยูหรือไม
การบํารุงรักษาตอนสิ้นป
งานที่จะตองปฏิบัติมีดังนี้
1. ตรวจสภาพลิ้นนิรภัยวารั่วหรือไมทํางานตรงตามคาความดันที่กําหนดหรือถาไมดีจะตองเปลี่ยน
หรือซอม
2. ตรวจสภาพวาลวทุกตัววายังทํางานไดดหี รือไม ปดไดสนิทหรือเปลา
3. ตรวจสภาพลูกปนมอเตอรทั้งหมด ลูกปนปมน้ํา ถาเสียหายหรือสึกหรอมากควรเปลี่ยนใหม
4. ทําความสะอาดภายในหมอไอน้ํา (ดานสัมผัสน้ํา) โดยการกําจัดตะกรันที่เกาะแข็งตัวอยูออก
ใหหมด
5. ทดสอบความแข็งแรงของหมอไอน้ําโดยการอัดความดันดวยน้ํา ตามกําหนดของกรมโรงงาน
อุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้หลังจากการอัดทดสอบจะตองสงผลการทดสอบ
พรอมการเซ็นตรับรองวิศวกรเครื่องกล ซึ่งมีใบ ก.ว.
บทที่ 6
กรณีศึกษา
2. ตรวจสอบสภาพหัวเผา
3. บํารุงรักษาและปรับปรุงหัวเผา
4. ปรับแตงหัวเผา
5. ประเมินผลการปรับแตง
อัตราการใชเชื้อเพลิง l/h
o
อุณหภูมิเชื้อเพลิง C
o
อุณหภูมิแวดลอม C
อากาศ
o
อุณหภูมิอากาศปอน C
ปริมาณอากาศ m3/h
ปริมาณน้ําปอน m3/h
o
อุณหภูมิน้ําปอน C
น้ําปอน
สารละลายของน้ําปอน ppm
คา pH
อัตราการระเหย ton/h
ไอน้ํา
ความดันไอน้ํา kg/cm2(g)
ความดันไอน้ําสูงสุด kg/cm2(g)
ปริมาณ CO ในกาซไอเสีย ppm
กาซไอเสีย
คา pH
ดาน m2 หนา ขาง หลัง
ผิวหมอไอน้ํา
o
อุณหภูมิผิวหมอไอน้ํา(เฉลี่ย) C
คา Emissivity
หมายเหตุ ใชกบั หมอไอน้ําแบบทอไฟที่ใชหัวเผาน้ํามัน หรือทอน้ําแบบทิ้งที่ใชหวั เผาน้ํามัน
อัตราการใชเชื้อเพลิง l/h 30 30
o
อุณหภูมิเชื้อเพลิง C 150 150
o
อุณหภูมิแวดลอม C 31.3 31.3
อากาศ
o
อุณหภูมิอากาศปอน C 31.3 31.3
ปริมาณอากาศ m3/h - -
ปริมาณน้ําปอน m3/h - -
o
อุณหภูมิน้ําปอน C 36.1 36.1
น้ําปอน
ความดันไอน้ํา kg/cm2(g) 4 4
ความดันไอน้ําสูงสุด kg/cm2(g) 5.5 5.5
ปริมาณ CO ในกาซไอเสีย ppm 157 159 158 158
กาซไอเสีย
o
อุณหภูมิผิวหมอไอน้ํา(เฉลี่ย) C 85 50 75 56.9
คา Emissivity 0.6 0.6 0.6 0.6
ถูกตองใชอากาศเขาเผาไหมมากทําใหอากาศสวนที่เหลือจากการเผาไหมรับความรอนที่ไดจากการเผาไหม
เชื้อเพลิงแลวทิ้งออกที่ปลอง ซึ่งเปนการสูญเสียอยางมาก การวิเคราะหในสวนอื่นแสดงดังตารางที่ 6.5
รายละเอียดและวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
1. ตรวจสอบเชื้อเพลิงและอากาศปอน
พบวา อุณหภูมิเชื้อเพลิงที่ใชในการเผาไหมสูงถึง 150 °C อุณหภูมิเชื้อเพลิงที่เหมาะสมในการเผาไหมของน้ํามันเตา
เกรด A และหัวฉีดชนิดพนฝอยดวยแรงดันน้ํามัน จะอยูระหวาง 85-105 °C ควรปรับลดอุณหภูมิที่ฮีตเตอรน้ํามัน ทําให
ประหยัดพลังงานได
2. ตรวจสอบน้ําปอนหมอไอน้ํา
พบวา อุณหภูมิน้ําปอนต่ํา 36.1 °C ควรนําน้ําคอนเดนเสทจากกระบวนการผลิตกลับมาผสมใชเปนน้ําปอน
หมอไอน้ํา และปริมาณสารละลายในน้ําปอน 147 ppm อยูในเกณฑปกติ (ไมเกิน 200 ppm)
3. ตรวจสอบน้ําโบลวดาวน
พบวา ปริมาณสารละลายน้ําโบลวดาวน 3,400 ppm อยูในเกณฑ (ไมเกิน 3,500 ppm สําหรับหมอไอน้ําทอไฟ
แนวนอน)
4. ตรวจสอบการใชไอน้ํา
พบวา ความดันไอน้ํา 4 bar เหมาะสมกับอุปกรณใชไอน้ําในกระบวนการผลิต และไมมีการรั่วของไอน้ําวาลวและ
หนาแปลนยังไมไดหุมฉนวน การดําเนินการจะลดการสูญเสียความรอนได
5. ตรวจสอบผิวหมอไอน้ํา
พบวา ฉนวนหมอไอน้ําปกติ อุณหภูมิผิวหมอไอน้ําเฉลี่ย 56.9°C อยูในเกณฑดี ไมตองปรับปรุง
6. ตรวจสอบกาซไอเสีย
พบวา อุณหภูมิของกาซไอเสีย 300°C คอนขางสูง (อุณหภูมิแตกตางระหวางกาซไอเสีย และไอน้ําที่เหมาะสม
ไมควรสูงเกิน 60°C) สาเหตุอาจมาจากมีเขมาจับทอไฟมาก ทําใหการถายเทความรอนใหกับน้ําในหมอไอน้ําต่ําลง
ควรตรวจสอบทําความสะอาดทอไฟ
ปริมาณ O2 ในไอเสียสูง ควรทําการปรับลดปริมาณอากาศที่ใชในการเผาไหม และปรับแตงหมอไอน้ํา
(ปริมาณ O2 ในกาซไอเสีย ควรอยูระหวาง 3.5-4%)
แนวทางการแกไขปรับปรุง
ในสวนของอากาศที่เขาเผาไหมมากเกินตองทําการปรับแตงหัวเผาเพื่อลดอากาศเขาเผาไหมใหมีคา
ออกซิเจนในกาซไอเสียอยูในชวง 3.4% - 4%
สําหรับกรณีอณ
ุ หภูมิไอเสียสูง ตองทําการตรวจสอบความสะอาดของทอทั้งดานน้ําและดานไฟ ถา
พบวาสกปรกใหทําความสะอาด และทําการตรวจสอบผนังกั้นทางไฟวาชํารุดทําใหเกิดการลัดทางไฟหรือไม
6.1.2 การตรวจสภาพและการบํารุงรักษาหัวเผา
หลังจากการพิจารณาแลววาตองทําการปรับแตงหัวเผาตองทําการตรวจสภาพหัวเผากอนการปรับแตง
การตรวจสอบหัวเผาจะตรวจสอบจุดสําคัญๆ ของหัวเผาเพื่อดูวาอยูในสภาพใชงานไดดีหรือไม สกปรก
หรือไม ตองทําการบํารุงรักษาในสวนใดบาง โดยใชแบบฟอรมตามตารางที่ 6.6 เปนแนวทาง
จากการตรวจสภาพหัวเผาไดผลแสดงดังตารางที่ 6.7
รายละเอียดและวิธีการปรับแตงหัวเผา
1. ตรวจสอบหัวฉีดน้ํามัน
พบวา หัวฉีดมีคราบน้ํามันติดอยูมาก มีน้ํามันไหล
ตลอดเวลา ในชวงเดินหมอไอน้ํา มีน้ํามันรั่วไหลหยด
ออกมาจากชุดหัวฉีด
จึงเสนอให เปลี่ยนชุดหัวฉีดใหม โดยในชวงการ
ปรับแตงยังไมมีการเปลี่ยนหัวฉีด
2. ตรวจสอบระบบ และลําดับการทํางาน
พบวา ลําดับการทํางานถูกตองดังนี้
(1) ไลอากาศ 30 วินาที
(2) เริ่มจุดไฟ
(3) ทํางาน
รายละเอียดและวิธีการปรับแตงหัวเผา
3. ตรวจสอบกระจังลม
พบวา กระจังลมอยูในสภาพชํารุด ขายึดหลัก มีกอน
น้ํามันแข็งจับดานหลังในปริมาณมาก กระจังลมเบี้ยว มีรอย
คราบน้ํามันชนปะทะ และ Flame Tube มีกอนน้ํามันแข็ง
เกาะในปริมาณมาก
หมายเหตุ ไมสามารถซอมแซม และทําความสะอาดได
ใชชวงการปรับแตง จึงใหผูควบคุมดูแลหมอไอน้ําทําความ
สะอาดในชวงของการหยุดการทํางานของหมอไอน้ํา เพื่อ
การบํารุงรักษา
เสนอใหติดตอทีมบํารุงรักษาจากบริษัทภายนอกใหมา
ดูแลให เนื่องจากชางในโรงงานไมมีความเชี่ยวชาญเพียงพอ
4. ตรวจสอบการหมุนเวียนของไอเสีย และเปลวไฟ
พบวาการหมุนเวียนของไอเสียดี ไมมี Fire Back แตมี
การรั่วที่ประเคนฝาหนา และหลัง
5. ตรวจสอบเขี้ยวสปารค
พบวาเขี้ยวสปารค มีคราบน้ํามันเลอะอยูเล็กนอย แสดง
วามีระยะที่เหมาะสมแลว สําหรับคาที่แนนอนโรงงานไมมี
Spec. ของหัวเผาเปรียบเทียบ
สรุปปญหาและอุปสรรค แนวทางการแกไขปรับปรุง
1. หัวฉีดสึก 1. เปลี่ยนอุปกรณที่ชํารุด
2. ชุดรองรับหัวฉีดชํารุดรั่ว 2. ทําความสะอาดชุดหัวเผาสัปดาหละครั้ง
3. กระจังลมชํารุด หัก เบี้ยว ระยะหางแตไมตรงแนว 3. เปลี่ยนหัวฉีดน้ํามัน
4. กรวยไฟสกปรก มีกอนน้ํามันเกาะติดในปริมาณมาก 4. หา Spec. หัวเผา เพื่อตรวจสอบระยะตาง ๆ สําหรับปรับตั้ง
6.1.3 การปรับแตงหัวเผา
จากการวิเคราะหพบวา ตองทําการลดปริมาณอากาศเขาเผาไหมโดยใชเกณฑการปรับแตง คือ ปรับ
ใหเปอรเซ็นตออกซิเจนในกาซไอเสียอยูในชวง 3.4% - 4% โดยที่คาคารบอนมอนออกไซด ไมควรเกิน 50
ppm การปรับแตงไดดําเนินการตามขั้นตอนที่ไดกลาวไวในบทที่ 4 ซึ่งไดผลดังแสดงในตารางที่ 6.8
6.1.4 ประเมินผลการปรับแตง
การประเมินผลการปรับแตงแสดงรายละเอียดดังนี้
ชนิดเชื้อเพลิง = น้ํามันเตา
ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช = 30 ลิตร/ชั่วโมง
ราคาเชื้อเพลิง = 10.0 บาท/ลิตร
เวลาการใชงาน = 4,800 ชั่วโมง/ป
ผลการตรวจวัดแกสไอเสีย
อุณหภูมิแกสไอเสีย = 300 °C
เปอรเซ็นตออกซิเจน = 10.10 %
กอนปรับ หลังปรับ
กอนปรับปรุง
จากกราฟที่เปอรเซ็นตออกซิเจน 10.1% อุณหภูมิแกสไอเสีย 300 °C จะได
เปอรเซ็นตการสูญเสียไปกับแกสไอเสียเมื่อเทียบกับเชือ้ เพลิงที่ใชประมาณ = 24 %
หลังปรับปรุง
ปรับแตงหัวเผาเพื่อลดเปอรเซ็นตออกซิเจนลงเหลือประมาณ 3.49%
จากกราฟที่เปอรเซ็นตออกซิเจน 3.49% อุณหภูมิแกสไอเสีย 293.6 °C จะได
เปอรเซ็นตการสูญเสียไปกับแกสไอเสียเมื่อเทียบกับเชือ้ เพลิงที่ใชประมาณ = 17 %
ผลประหยัด
เปอรเซ็นตการสูญเสียไปกับแกสไอเสียเมื่อเทียบกับเชือ้ เพลิงที่ใชลดลง = 7.0 %
เทียบเปนปริมาณเชื้อเพลิงทีใ่ ชลดลง = 30.0x4,800.0x7.0/100
= 10,080.0 ลิตร/ป
= 10,080.0x10.00
= 100,800 บาท/ป
การลงทุนและผลตอบแทน
จางบริษัทมาทําการตรวจวัดสภาพการเผาไหมพรอมกับทําการปรับแตงหัวเผา
เงินลงทุนคาปรับแตง = 7,000 บาท/ครั้ง
จํานวนครั้งในการปรับแตงประมาณ = 1 ครั้ง/ป
รวม = 7,000 บาท/ป
คาภาษีมูลคาเพิ่ม 7 % = 490 บาท/ป
รวมเงินลงทุน = 7,490 บาท/ป
ระยะเวลาคืนทุนเบื้องตน = 0.074 ป
= 0.89 เดือน
หรือ 27 วัน
o
อุณหภูมิอากาศปอน C 39.4 39.4
ปริมาณอากาศ m3/h - -
ปริมาณน้ําปอน m3/h - -
o
อุณหภูมิน้ําปอน C 96 96
น้ําปอน
คา pH 10.0
ดาน m2 หนา ขาง หลัง
ผิวหมอไอน้ํา
o
อุณหภูมิผิวหมอไอน้ํา(เฉลี่ย) C 98 57 73
คา Emissivity 0.89 0.89 0.89
รายละเอียดและวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพหมอไอน้ํา
1. ตรวจสอบเชื้อเพลิงและอากาศปอน
พบวา อุณหภูมิเชื้อเพลิง 108 °C อยูในเกณฑ 90 – 105 °C ซึ่งเปนอุณหภูมิเชื้อเพลิงที่เหมาะสมสําหรับน้ํามันเตา A
ที่จายใหหัวเผาชนิดพนฝอยดวยอากาศ
2. ตรวจสอบน้ําปอนหมอไอน้ํา
พบวา มีการใชน้ําคอนเดนเสทจากกระบวนการผลิตกลับมาผสมใชเปนน้ําปอนซึ่งเหมาะสมดีแลว อยางไรก็ตาม
ปริมาณสารละลายของน้ําปอนสูงถึง 389 ppm ซึ่งมากกวาเกณฑ 200 ppm จึงควรพิจารณาบําบัดน้ําปอน
3. ตรวจสอบน้ําโบลวดาวน
พบวา น้ําโบลวดาวนมีปริมาณสารละลายสูงถึง 6,280 ppm ซึ่งสูงกวาเกณฑ 3,500 ppm มาก ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก
คุณภาพน้ําปอนที่สูงเกินมาตรฐาน (ขอ 2) ควรพิจารณาบําบัดน้ําปอนควบคูกับการเพิ่มปริมาณการโบลวดาวน เพื่อควบคุม
ปริมาณสารละลายในน้ําโบลวดาวนใหอยูในเกณฑ
4. ตรวจสอบการใชไอน้ํา
พบวา ความดันไอน้ํา 6.5 บารเหมาะสมกับความตองการของอุปกรณในกระบวนการผลิตดีแลว อยางไรก็ตามมี Globe
Valve หลายตัวที่ยังไมไดหุมฉนวน ควรดําเนินการหุมฉนวนวาลวดังกลาวเพื่อลดการสูญเสีย
5. ตรวจสอบผิวหมอไอน้ํา
พบวา อุณหภูมิผิวหมอไอน้ําสูงเกิน 60 °C ควรพิจารณาปรับปรุงฉนวนหมอไอน้ํา
6. ตรวจสอบกาซไอเสีย
พบวา อุณหภูมิเฉลี่ยของกาซไอเสีย 232.5 °C สูงกวาเกณฑเล็กนอย (อุณหภูมิไอน้ําอิ่มตัว 168 °C + 60 °C = 228 °C )
ที่ Low Fire ปริมาณออกซิเจนและ CO อยูในเกณฑ แตที่ High Fire ปริมาณออกซิเจน 14.4 % สูงกวาเกณฑ 4 % และปริมาณ
CO 459 ppm สูงกวาเกณฑ 50 ppm ทั้งนี้เนื่องจาก การจายอากาศมากเกินไปทําใหมีปริมาณออกซิเจนในกาซไอเสียสูงเกิน
เกณฑ นอกจากนี้ การจายอากาศที่มากเกินทําใหความเร็วของกาซไอเสียสูงเกินไป ทําใหมีระยะเวลาที่จะเผาไหม CO ลดลง
CO .ในกาซไอเสียจึงสูงเกิน ดังนั้นจึงควรพิจารณาปรับแตงหัวเผาที่ High Fire เพื่อลดปริมาณอากาศที่จายใหกับหัวเผา
แนวทางการแกไขปรับปรุง
อากาศเขาเผาไหมที่ High Fire มากเกินไป ตองทําการปรับแตงหัวเผาเพื่อลดอากาศที่ใชเผาไหมให
มีคาออกซิเจนในกาซไอเสียอยูในเกณฑ 3.4%-4.0% หลังจากทําการปรับแตงหัวเผาแลว ปริมาณ CO ใน
กาซไอเสียควรลดลง เพราะความเร็วของกาซไอเสียลดลง จึงมีเวลาสําหรับเผาไหม CO ใหสมบูรณมากขึน้
6.2.2 การตรวจสภาพและการบํารุงรักษาหัวเผา
จากการตรวจสภาพหัวเผาไดผลแสดงดังตารางที่ 6.12
รายละเอียดและวิธีการปรับแตงหัวพนไฟ
1. ตรวจสอบหัวฉีดน้ํามัน
พบวา หัวฉีดสกปรก มีคราบน้ํามันเกาะ จึงถอดหัวฉีด
ออกมาลางทําความสะอาด
2. ตรวจสอบระบบ และลําดับการทํางาน
พบวา ลําดับการทํางานถูกตองดังนี้
(1)ไลอากาศ 90 วินาที
(2) เริ่มจุดไฟ
(3) ทํางาน
รายละเอียดและวิธีการปรับแตงหัวเผา
3. ตรวจสอบกระจังลม
พบวา เกิดการชนของน้ํามัน จึงถอดมาทําความสะอาด
และตั้งระยะใหม
4. ตรวจสอบการหมุนเวียนของไอเสีย และเปลวไฟ
พบวา การหมุนเวียนของไอเสียดี ไมมี Fire Back
5. ตรวจสอบเขี้ยวสปารคและชุดหัวจุดแกส
ไมพบปญหาที่เขี้ยวสปารคและชุดหัวจุดแกส สามารถ
จุดติดไดตามปรกติ
สรุปปญหาและอุปสรรค แนวทางการแกไขปรับปรุง
1. หัวฉีดสกปรก 1. ถอดออกมาทําความสะอาด
2. น้ํามันชนกระจังลม 2. ถอดออกมาทําความสะอาดและปรับตั้งระยะใหม
6.2.3 การปรับแตงหัวเผา
จากการวิเคราะหพบวา ตองทําการลดปริมาณอากาศเขาเผาไหมในภาวะ High Fire โดยใชเกณฑ
การปรับแตง คือ ปรับใหเปอรเซ็นตออกซิเจนในกาซไอเสียอยูในชวง 3.4% - 4% โดยที่คา
6.2.4 ประเมินผลการปรับแตง
การปรับแตงหัวเผาที่ High Fire ลดปริมาณออกซิเจนในกาซไอเสียจาก 14.40% เปน 4.17%
สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได 20,973 ลิตรตอป คิดเปนมูลคา 209,730 บาทตอป (คิดที่ราคาน้ํามันเตา 10
บาทตอลิตร) การลงทุนและผลตอบแทนของการปรับแตงสามารถสรุปไดดังนี้
การลงทุนและผลตอบแทน
จางบริษัทมาทําการตรวจวัดสภาพการเผาไหมพรอมกับทําการปรับแตงหัวเผา
เงินลงทุนคาปรับแตง = 7,000 บาท/ครั้ง
จํานวนครั้งในการปรับแตงประมาณ = 1 ครั้ง/ป
รวม = 7,000 บาท/ป
คาภาษีมูลคาเพิ่ม 7 % = 490 บาท/ป