ข้อสอบ 

 
1. ใครเปนผู้ประพันธ์เรืองโคลนติดล้อ 
ก. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 
ข. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ค. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ง. พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 
 
2. อะไรคือความหมายของบทประพันธ์ในข้างต้น 
ก. อาชีพชาวไร่ไม่มีฐานะ 
ข. อาชีพราชการคืออาชีพทีมีเกียรติกว่าอาชีพอืน 
ค. อาชีพบางอาชีพลําบากกว่าอาชีพอืน 
ง. ต้องการให้อาชีพชาวนา เกษตรกร มีเกียรติเหมือนค่าราชการ 
 
3. จุดมุ่งหมายของบทประพันธ์นีคืออะไร 
ก. กล่าวถึงปญหาและอุปสรรคทีขัดขวางความเจริญของชาติ 
ข. กล่าวถึงปญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ 
ค. กล่าวถึงปญหาด้านมลพิษทางอากาศ 
ง. กล่าวถึงปญหาด้านการประท้วงทีทําให้เกิดความเปลียนแปลง 
 
4. รูปแบบของบทประพันธ์นีคือ 
ก. ร้อยกรอง 
ข. ร้อยแก้ว 
ค. กลอน 
ง. กาพย์ 
 
5. เหตุใดผู้ทีสําเร็จการศึกษาหวังจะได้ทํางานเปนเสมียน 
ก. รายได้สูงกว่าคนอืน 
ข. ได้ประโยชน์มากกว่า 
ค. ได้รับตําแหน่ งง่าย 
ง. เห็นว่างานอืนไม่สมเกียรติ 
 
 6. คําว่า  “ ซุนฮูหยิน “ หมายถึงใคร 
ก. แม่อุไร 
ข. แม่ของนายประพันธ์ 
ค. แม่ศรีสมาน 
ง. แม่กิมเน้ย 
7. นามแฝงของพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวในการประพันธ์เรืองนี คืออะไร 
ก. ประเสริฐ 
ข. จุลสมิต 
ค. อัศวพาหุ 
ง. รามจิตติ 
 
8. ค่านิ ยมเกียวกับข้าราชการในปจจุบันแตกต่างกับในอดีตอย่างไร? 
ก. ยกย่องผู้มีฐานะ 
ข. เหยียดหยามอาชีพเกษตรกร 
ค. นิ ยมทํางานทีมีเกียรติ 
ง. ยกย่องผู้ได้รับการศึกษา 
 
9. ทําไมถึงเปรียบเทียบโคลนติดล้อกับค่านิ ยมของสังคมไทย 
ก. เพราะต้องการเปรียบเทียบเพือให้เกิดการพัฒนาในสังคม 
ข. เพราะผู้แต่งมีแนวคิดว่าแนวคิดเดิมสามารถถ่วงความเจริญของประเทศ เนื องจาก
ประชาชนยึดติดกับสิงเดิมๆ 
ค. เพราะสังคมยังมีอุดมการณ์ทียึดติดค่านิ ยมมากเกินไป 
ง. เพราะค่านิ ยมไทยเปนสิงทีอยู่ใกล้ตัวกับประชาชน 
 
10. สังคมไทยในอดีตเปนสังคมทีประชาชนนิ ยมประกอบอาชีพด้านอะไร 
ก. อุตสาหกรรม 
ข. วรรณกรรม 
ค. คหกรรม 
ง. เกษตรกรรม 
 
11. วรรณกรรมเรืองโคลนติดล้อ แบ่งออกเปนกีบท 
ก. 22 บท 
ข. 24 บท 
ค. 28 บท 
ง. 30 บท 
 
12. คําถามอะไรทีรัชกาลที 6 ต้องการจะถามกับผู้อ่าน จากเรืองโคลนติดล้อ ตอนความ
นิ ยมเปนเสมียน 
ก. ค่านิ ยมไทยถูกให้ค่ามากเกินไปหรือไม่ 
ข. ประเทศไทยถูกให้ค่าเรืองการรับราชการมากเกินไปหรือไม่ 
ค. เราควรจะเปลียนค่านิ ยมเกียวกับอาชีพหรือไม่ 
ง. คนไทยควรจะปรับเปลียนพฤติกรรมให้มีความทันสมัยมากขึนหรือไม่ 
 
13. ทําไมผู้หญิงไทยถึงโดนนายประพันธ์เปรียบเทียบเหมือน “หอยจุ๊บแจง” 
ก. เพราะเปนคนชอบเก็บความลับ หากไม่ได้รับการยินยอมจากผู้อืน 
ข. เพราะมักเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ขีอาย ไม่รู้จักเข้าสังคม 
ค. เพราะเปนคนชอบอยู่แต่ในกรอบความคิดของผู้ใหญ่ 
ง. เพราะไม่ชอบออกมาเผชิญกับโลกภายนอกหรือความเปนจริง 
 
14. คําว่า “ เรียม ” มีความหมายว่าอะไร 
ก. เหลียม 
ข. หรูหรา 
ค. สะอาดหมดจด  
ง. เมือง 
 
15. จากจดหมายทัง 18 ฉบับ นายประพันธ์ได้เริมเขียนจดหมายทีแรกทีไหน 
ก. หัวหิน 
ข. บ้านเลขที ๐๐ ถนนสีพระยา 
ค. ถนนหัวลําโพง 
ง. เรือโอยามะมะรู 
 
16. ทําไมค่านิ ยมการเปนข้าราชการถึงทําให้ประเทศเจริญได้ช้า 
ก. เพราะรัฐบาลไม่ได้แก้ไขปญหาสําคัญในประเทศชาติ 
ข. เพราะคนทีมีความรู้อยากจะประกอบอาชีพแต่ข้าราชการ  
ค. เพราะบางคนเชือว่าการทํางานทีองค์กรเอกชนมีสวัสดิการน้อยกว่า 
ง.เพราะทุกคนทีประกอบอาชีพข้าราชการมักจะมีปจจัยทีเอือต่อการพัฒนาน้อยกว่าทีควร
ได้รับ 
 
17. คําว่า  “อึง” มีความหมายว่าอะไร 
ก. เสียงดังเอะอะ 
ข. อึงอ่าง 
ค. ผู้ชายโสด 
ง. มาก 
 
18. การให้ค่าอาชีพอย่างเท่าเทียมจะนํ าไปสู่ความเจริญได้อย่างไร 
ก. ทุกๆอาชีพในสังคมช่วยเหลือเกือกูลกันเมือเกิดปญหาต่างๆ 
ข. ประชาชนทุกคนจะให้ความสําคัญกับทุกๆอาชีพ 
ค. ประชาชนหันมาใส่ใจเกียวกับการทํางานมากขึน 
ง. ประชาชนทีมีความรู้ได้ลงมือเปนส่วนหนึ งในการพัฒนาประเทศชาติ 
 
19. อาชีพใดทีมักถูกมองข้ามแต่มีความสําคัญ 
ก. เกษตรกร 
ข. นักบิน 
ค. ตํารวจ 
ง. ทหาร 
 
20. วิธีแก้ปญหาความนิ ยมเปนเสมียนจากบทความเรืองโคลนติดล้อ คือ 
ก. ประชาชนทีอยู่แต่ในเมืองควรย้ายทํางานทีต่างจังหวัด 
ข. ใช้การศึกษาและเทคโนโลยีเข้าช่วยเพือให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสิงใหม่ๆ 
ค. ให้คนไทยตระหนักถึงความสําคัญของทุกอาชีพมากกว่านี  
ง. สร้างค่านิ ยมว่าอาชีพทุกอาชีพมีเกียรติเท่าเทียมกัน