"ชีวิตคิดบวก" รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต PDF

“ชีวติ คิดบวก”
รวมข้ อคิดดีๆในการใช้ ชีวติ
1 ประโยคสั้นๆอาจเปลีย่ นความคิดคุณตลอดไป
เขียนโดย : รักษ์ ธรรม แสงจันดา
Klakid Blog
ชีวติ คิดบวก
“ชีวติ คิดบวก” รวมข้ อคิดดีๆในการใช้ ชีวติ
เขียน :รักษ์ธรรม แสงจันดา
จัดทําเมื่อ : พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 โดย Klakid Blog ชีวิต

คิดบวก ห้ามนําส่วนใดส่วนหนึ่งของ E-Book เล่มนี้ไปลอกเลียนแบบนอกจากจะได้รับ
อนุญาต
รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 3
คานา
ช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 ผมเริ่ มเขียนบล็อกในชื่อว่า “Klakid Blog ชีวิตคิดบวก”
ด้วยความตั้งใจและมีความฝันเล็กๆว่า อยากมีบล็อกเป็ นของตัวเองเพื่อเขียนเรื่ องราวที่ชอบ
เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง การวางแผนชีวิต ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต หนังสือน่าอ่าน และการ
ใช้ชีวิตคิดบวก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีจุดเริ่ มต้นมาจากการที่ผมได้รับความผิดหวังในชีวิต
แล้วพยายามหาทางออกให้กบั ปัญหาที่คอยทําให้ผมจมปลักอยูก่ บั อดีตและทนอยูก่ บั ความ
ทุกข์ใจในตอนนั้นเองผมจึงอยากทําอะไรสักอย่างหนึ่งที่คอยให้กาํ ลังใจตัวเองแล้วก็หวังว่าสิ่ง
ที่ตวั เองทําจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและให้กาํ ลังใจคนอื่นๆไปด้วย
ผมก็เลยสร้างแฟนเพจขึ้นมาชื่อว่า “ชีวิตคิดบวก”โดยมีสโลแกนเพจว่า “ชีวิตคิดบวก

ไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็ นการให้กาํ ลังใจตัวเองแม้ในวันที่แย่ที่สุด”เพื่อใช้เป็ นสื่อกลางใน
การโพสต์บทความที่ผมเขียนใน Klakid Blog หรื อใช้โพสต์ขอ้ คิดดีๆในการใช้ชีวิตสู่โลก
ออนไลน์ดว้ ยความเชื่อที่ว่า “1 ประโยคสั้นๆสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจและสามารถให้
กําลังใจใครอีกหลายๆคนได้” จากจุดเริ่ มต้นในวันนั้นจนถึงวันนี้ดว้ ยกระแสตอบรับจากแฟน
เพจทุกคนทั้งคนที่มาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ ทั้งคนที่มากดถูกใจ ทั้งคนที่กดแชร์ ทั้งคนที่
แอดไลน์มาขอคําปรึ กษา หรื อแม้กระทัง่ คนที่แสดงความคิดเห็นในบล็อก สิ่งเหล่านั้นมันทํา
ให้ผมได้รับรู้ว่า สิ่งที่ตวั เองกําลังทําอยูเ่ ป็ นไปตามความคาดหวังที่ต้งั ไว้ต้งั แต่แรก ไม่เพียง
เท่านั้นยังคอยเป็ นแรงผลักดันและกําลังใจให้ผมยังทําสิ่งเหล่านี้ต่อไปเรื่ อยๆ
เมื่อเวลาผ่านไปข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตก็เพิ่มมากขึ้นเรื่ อยๆตามกาลเวลา ผมจึงมีความคิด

ที่อยากจะนําข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตเหล่านั้นและบทความบางส่วนมารวบรวมไว้ใน E-Book
เล่มนี้ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถโหลดเก็บเอาไว้ในมือถือหรื อไอแพด
แล้วเปิ ดขึ้นมาอ่านเมื่อไรก็ได้ ซึ่ง E-Book เล่มนี้ผมทําขึ้นมาเพื่อแจกฟรี แต่ไม่อนุญาตให้
ลอกเลียนแบบเนื้อหาทั้งหมดใน E-Book เล่มนี้ไปใช้ที่อื่น ถ้าหากอ่านแล้วรู้สึกว่า E-Book
เล่มนี้มีประโยชน์อย่าลืมแชร์เพื่อบอกต่อกับเพื่อนๆนะครับ และสามารถเข้าไปติดตามการ
อัพเดทข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตได้ตามช่องทางต่อไปนี้
Facebook Fanpage :https://www.facebook.com/Klakidblog/
Instagram :https://www.instagram.com/klakidblog/
Website :http://klakid.com/life-quotes/
สุดท้ายก็ได้แต่หวังว่า เมื่อได้อ่าน E-Book เล่มนี้แล้วจะสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจ

และให้กาํ ลังใจแก่ผอู้ ่านได้“1 ประโยคสั้นๆอาจเปลี่ยนความคิดคุณตลอดไป”(อ่านเพิ่มเติม :
เกี่ยวกับ Klakid Blog ชีวิตคิดบวก)
รักษ์ธรรม แสงจันดา
1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
Website : http://klakid.com
Email : Rakthum@klakid.com
หมายเหตุ :ตัวหนังสื อสี น้ าํ เงินทั้งหมดในเล่มเป็ น Link เมื่อคลิกแล้วจะเข้าไปสู่ เว็บไซต์ตาม Link นั้น
สารบัญ
เนื้อหา
คํานํา ....................................................................................................................................................... 4
สารบัญ .................................................................................................................................................... 6
รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต ...................................................................................................................... 7
บทความจาก “Klakid Blog ชีวิตคิดบวก” ............................................................................................. 201
“ชีวิตคิดบวก” สิ่ งสําคัญที่สุดที่คุณควรมีในช่วงเวลาจิตใจตกตํ่า ....................................................... 202
3 สิ่ งนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอยูก่ บั “ปัจจุบนั ” .................................................................................... 204
“อ่านหนังสื อ” วิธีสร้างกําลังใจได้ดว้ ยตัวเอง ................................................................................... 207
การใช้ชีวิตไม่ใช่เรื่ องยาก ถ้าเรี ยนรู ้ที่จะเข้าใจ .................................................................................. 209
“เวลา” ทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด ..................................................................................................... 211
จุดเริ่ มต้นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิต คือ “ตัวเราเอง” ..................................................................... 213
“อกหัก” บทเรี ยนชีวิตจากความรัก................................................................................................... 215
วิธีลืมคนรักให้เร็ วที่สุด คือ การไม่พยายามจะลืม ............................................................................. 220
เกี่ยวกับผูเ้ ขียน ..................................................................................................................................... 222
รวมข้ อคิดดีๆในการใช้ ชีวติ
จาก
“เพจชีวติ คิดบวก”
บทความจาก “Klakid Blog ชีวติ คิดบวก”

“ชีวิตคิดบวก” สิ่ งสาคัญที่สุดที่คุณควรมีในช่ วงเวลาจิตใจตกต่า
ชีวิตของคนเรามีปัญหามีอุปสรรคมากมายรอให้เราเผชิญหน้าอยูต่ ลอดเวลาไม่เว้นแต่ละ
วัน ไม่มีชีวิตไหนที่ไม่มีปัญหาเข้ามาเพื่อให้ทดสอบจิตใจ จะมากน้อยเท่าไรนั้นก็ข้ ึนอยูก่ บั วิถี
ชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันไป สิ่งที่ผมจะกล่าวถึงในตอนนี้ คือ ในช่วงเวลาที่จิตใจของ
คนเราตกตํ่า ไม่ว่าจะเกิดจากเรื่ องอะไรก็ตาม คนเรามีการตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นและมี
วิธีหาทางออกให้กบั ปัญหาเหล่านั้นอย่างไร
เรื่ องราวเหล่านี้เป็ นเรื่ องที่น่าจับตามองและควรให้ความสําคัญมากครับ เรามักจะเห็นการ

ตอบสนองต่อปัญหาเมื่อสภาวะจิตใจตกตํ่าของหลายชีวิตผ่านทางสื่อหน้าหนังสือพิมพ์ ทาง
โทรทัศน์ และทางโซเชี่ยลอยูบ่ ่อย ๆ นัน่ ไม่ใช่เรื่ องที่น่ายินดีเท่าไรนักใช่ไหมครับแล้วปัญหา
เหล่านี้เกิดจากอะไร
สิ่งที่สาํ คัญที่สุดของปัญหานี้คือการขาดภูมิคุม้ กันทางจิตใจ วิธีการแก้ปัญหาก็ง่ายนิดเดียว

คือ “ชีวิตคิดบวก”สี่คาํ นี้ส้ นั ก็จริ งแต่ปฏิบตั ิยาก แล้วมันยากอย่างไร ตอนที่ผมเรี ยนอยู่

มหาวิทยาลัยได้รู้จกั กับเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็ นคนที่คิดในแง่ลบอยูต่ ลอดเวลา เป็ นคนที่ยอมรับ
ความผิดหวังไม่ได้ และดูไม่ค่อยมีความสุข
สิ่งที่ผมช่วยเพื่อนคนนั้นคือ การให้หนังสือ “จูบกบตัวนั้นซะ”ของไบรอัน เทรซี่ ซึ่งเป็ น

หนังสือที่เกี่ยวกับการพลิกความคิดด้านลบให้เป็ นบวกในทุกสถานการณ์ ผลที่ตามมาหลังจาก
ที่เพื่อนได้อ่านหนังสือ ผมรู้สึกได้ชดั เจนว่า เขามีความคิดในแง่บวกมากขึ้นและดูมีความสุข
มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบความคิดของ
เขาก็กลับมาเป็ นแบบเดิม
เห็นไหมครับว่า ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ คนที่คิดลบมากๆเมื่อได้อ่านหนังสือดีๆสัก

เล่มก็ยงั ค่อยๆพัฒนาให้ชีวิตคิดบวกขึ้นมาได้ การฝึ กฝนให้มีชีวิตคิดบวกก็เหมือนการพัฒนา
ตัวเองที่ไม่มีที่สิ้นสุด เราไม่สามารถจะเป็ นคนที่คิดบวกได้เพียงแค่เราคิดว่าเราเป็ น แต่ควร
หมัน่ ฝึ กฝนบํารุ งความคิดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ผมยืนยันได้เลยไม่ว่า คุณจะเผชิญกับความเครี ยดในที่ทาํ งานกับหัวหน้าหรื อเพื่อน

ร่ วมงาน อาจจะเผชิญกับปัญหาในครอบครัว หรื ออาจจะเป็ นน้องๆในวัยเรี ยนที่เครี ยดกับการ
สอบหรื อบางคนอาจจะอยูใ่ นช่วงภาวะเสี่ยงรี ไทร์หรื อไม่รีไทร์ แม้กระทัง่ คนท้อแท้กบั ชีวิต
ทุกคนชีวิตคิดบวกจะคอยเป็ นภูมิคุม้ กันให้กบั จิตใจของเรา
แม้ว่าจะเจอเรื่ องที่เลวร้ายมากแค่ไหนก็ตาม อย่ายอมแพ้และท้อแท้ง่ายๆ ถ้าเหนื่อยก็พกั

แล้วลุกขึ้นมาสูใ้ หม่ แล้วชีวิตคิดบวกจะนําทางคุณไปสู่ชีวิตที่มีความสุข และจงจําไว้ว่า “คุณ
เกิดมามีชีวิตเดียว จงก้าวไปข้างหน้าเสมอ เมื่อคุณเริ่ มย่างเท้าออกไปแล้ว จงเดินไปเรื่ อยๆอย่า
หยุด”

3 สิ่ งนี้จะช่ วยให้ คุณใช้ ชีวิตอยู่กับ “ปัจจุบัน”
ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆ คุณใช้ชีวิตอยูก่ บั ปัจจุบนั หรื อเปล่า? คุณเคยลองนัง่ เงียบๆคน

เดียวแล้วสังเกตความคิดและความรู้สึกของตัวเองไหม สิ่งหนึ่งที่ผมมัน่ ใจว่าเราคงจะรู้สึก
เหมือนๆกัน ซึ่งเป็ นสิ่งที่ทาํ ให้เราไม่มีความสุขเอาซะเลย ก็คือ “ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆ
จิตใจของเราไม่อยูก่ บั ปัจจุบนั เลย”
เรามักจะนึกถึงความรู้สึกในอดีตของเรื่ องที่ทาํ ให้เราชํ้าใจ อาจจะนึกถึงความรู้สึกดีๆใน

อดีตที่ทาํ ให้เรามีความสุขซึ่งมักจะทําให้เราโหยหาความสุขในอดีตที่เคยมี นัน่ ก็ยงิ่ จะทําให้เรา
ไม่มีความสุขเข้าไปอีก และเรามักจะคาดหวังถึงอนาคตที่ยงั มาไม่ถึงก่อให้ความคิดและจิตใจ
ของเราจินตนาการไปเรื่ อยเปื่ อยต่างๆนานา ถ้าหากเราคิดในแง่บวกมันก็สร้างความสุขให้เรา
ได้
แต่ในทางตรงกันข้ามกัน ถ้าเราคิดในแง่ลบก็จะเป็ นการสร้างความกลัวให้จิตใจของตัวเรา

เองขึ้นมาหรื อความคาดหวังอาจทําให้เราอยากนัน่ อยากนี่จนมองข้ามสิ่งที่ตนมีพลอยทําให้ตวั

เราไม่มีความสุขอีก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ก็เพราะว่า “ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆ เรา
ไม่เรี ยนรู้ที่จะใช้ชีวิตให้อยูก่ บั ปัจจุบนั ” และนี่คือ 3 สิ่งที่ผมอยากแนะนํา
สิ่ งแรก : ควบคุม “ความคิด” ของตัวเอง ชีวิตประจําวันของเราทุกคนดําเนินไปด้วย

การใช้ความคิดกันทั้งนั้น แต่ความคิดไม่เคยอยูก่ บั ปัจจุบนั เลย (ลองนึกดู) เราลองมาฝึ ก
ความคิดของเราให้คิดถึงแต่เรื่ องในปัจจุบนั กัน ลองคิดถึงแต่เรื่ องที่เรากําลังทําอยูต่ อนนี้ อย่า
ให้จิตใจพะวงไปเรื่ องอื่น (ฝึ กสติ) เพราะถ้าเราสามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้ ก็
เหมือนกับเราสามารถควบคุมหัวใจ และการกระทําของตัวเราเองได้
วิธีฝึกก็เริ่ มง่ายๆเลยครับ ลองฝึ กให้ตวั เองทําทีละสิ่งให้สาํ เร็ จ เช่น กินข้าวก็กินให้เสร็ จ อย่า

ทั้งกินและเล่นโทรศัพท์ไปพร้อมกัน เป็ นต้น หรื อถ้าจะให้ดีก็นงั่ สมาธิลองดู ถ้าไม่มีเวลาก็ลอง
นัง่ สัก 5-10 นาทีก่อนนอนก็ยงั ดี ชีวิตที่ดาํ เนินไปด้วยสติยอ่ มดีกว่าปล่อยให้ชีวิตคิดไปเรื่ อยๆ
นะมันอาจจะดูสบายๆแต่ทา้ ยที่สุดแล้วมันจะวุ่นวาย
สิ่ งที่สอง : ทาอย่ างมีเป้าหมาย การทําอะไรอย่างมีเป้ าหมาย คือ การที่เรารู้ตวั ว่าเรา

กําลังทําอะไรอยู่ ทําให้เรารู้ว่าเราต้องก้าวไปทิศทางไหน เราไม่มีเวลาที่จะสามารถทําทุกสิ่ง
ทุกอย่างได้ แต่การทําอะไรอย่างมีเป้ าหมายจะทําให้เรารู้ว่าอะไรที่เราควรให้ความสําคัญหรื อ
อะไรที่มนั สําคัญกับเราจริ งๆ เพราะการมีแผนการและเป้ าหมายอย่างชัดเจนจะเป็ นตัวกําหนด
สิ่งที่เราทําอยูใ่ นปัจจุบนั
หากสนใจเกี่ยวกับเรื่ องการตั้งเป้ าหมายสามารถอ่านบทความเรื่ อง “จงคิดบนกระดาษ กฎข้ อ

สาคัญสู่ความสาเร็ จ”ซึ่งเป็ นบทความที่ผมได้เขียนคําแนะนําในเรื่ องการตั้งเป้ าหมายของไบร
อัน เทรซี่ นักเขียนและนักพูดในเรื่ องความสําเร็ จการบริ หารจัดการ และภาวะผูน้ าํ ที่มีชื่อเสียง
มากที่สุดคนหนึ่งของโลก

สิ่ งสุ ดท้ าย : ลงมือทาเดี๋ยวนี้ ฝึ กให้ตวั เองเป็ นคนที่มีนิสยั ชอบ “ลงมือทําเดี๋ยวนี้” จะ
ทําให้เราตระหนักถึงความสําคัญของปัจจุบนั ตระหนักถึงความสําคัญของ
เวลา เพราะ บ่อยครั้งที่เราก็มวั แต่เสียเวลากับการตัดสินใจจะทําอะไรต่างๆในอนาคต แต่สิ่งที่
แย่ไปกว่านั้น คือ มันเป็ นเพียงแค่การตัดสินใจที่ขาดการลงมือทํา เนื่องจากคนเรามักทําก่อน
แล้วค่อยมีความรู้สึก
ดังนั้นการฝึ กตัวเองให้เป็ นคนที่มีนิสยั ลงมือทําเดี๋ยวนี้ จะทําให้เราอยูห่ ่างจากคําว่ารอคอยแล้ว

มองเห็นสิ่งที่ตนมีอยูใ่ นปัจจุบนั และยังเป็ นอีกหนึ่งวิธีที่กาํ จัดความขี้เกียจได้ดีอีกวิธีหนึ่งเลย
ทีเดียว
สรุป :อดีต ปัจจุบนั และอนาคต เป็ นมิติของเวลาที่มีความเชื่อมโยงกันกับการดําเนิน

ชีวิตของคนเรา ความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าจะทุกข์ หรื อจะมีความสุข ก็ดาํ เนินไปตามมิติของเวลานี้
อดีตที่ผา่ นมาแล้วก็เก็บเอาไว้เป็ นบทเรี ยนเตือนใจ อนาคตที่ยงั มาไม่ถึงก็อย่าเพิ่งไปคาดหวัง
ให้มากมาย การไม่คาดหวังก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีความฝัน ฝึ กควบคุมความคิดตัวเอง
ใช้ชีวิตอย่างมีเป้ าหมาย และลงมือทําในปัจจุบนั ให้ดีที่สุด ชีวิตที่มีความสุขไม่ได้อยูท่ ี่ความสุข
ในอดีตหรื ออนาคต แต่อยูท่ ี่ความสุขของปัจจุบนั แล้ว “ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆ คุณใช้
ชีวิตอยูก่ บั ปัจจุบนั หรื อเปล่า?”

“อ่ านหนังสื อ” วิธีสร้ างกาลังใจได้ ด้วยตัวเอง
ในชีวิตประจําวันของเรามีเรื่ องราวปัญหาต่างๆให้เผชิญหน้าอยูเ่ สมอจนบางครั้งเรารู้สึก

ท้อ เราคิดอะไรไม่ออก เรารู้สึกหมดแรง และอยากล้มตัวนอนอยูเ่ ฉยๆไม่อยากรับรู้อะไร
ทั้งนั้น แต่สิ่งสําคัญที่กระตุน้ ให้เราลุกขึ้นแล้วก้าวเดินต่อไปคือ “กําลังใจ”
อาจจะถือได้ว่ากําลังใจเป็ นอีกสิ่งหนึ่งที่สาํ คัญของการดําเนินชีวิตของคนเราเลยก็ว่าได้

แน่นอนที่สุดว่าที่มาของกําลังใจของแต่ละคนก็แตกต่างกัน และนี่ก็เป็ นอีกหนึ่งมุมมองของ
การสร้างกําลังใจให้ตวั เองของผมด้วยวิธีง่ายๆเพียงแค่ “อ่านหนังสือ”
ใช่แล้วครับผมกําลังจะบอกว่า “การอ่านหนังสือ”นี่แหละช่วยสร้างกําลังใจให้เราได้และ
ผมก็เชื่อว่าหลายๆคนเองก็คงสร้างกําลังใจให้ตวั เองด้วยการอ่านหนังสืออยูเ่ หมือนกัน
หนังสือมีอยูม่ ากมายหลายประเภทแล้วหนังสือประเภทไหนล่ะที่จะสร้างกําลังใจให้เราได้
อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ในการแนะนําตัวเองว่าผมชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง
ผมจึงมัน่ ใจได้ว่าการอ่านหนังสือประเภทนี้แหละที่ช่วยสร้างกําลังใจให้เราได้ดว้ ยตัวเอง

ในช่วงเวลาที่เรากําลังหมดกําลังใจกับเรื่ องอะไรก็ตามจะจริ งอย่างที่ผมแนะนําหรื อไม่คุณต้อง

เป็ นคนที่ทดลองด้วยตัวเอง สําหรับตัวผมถ้าช่วงเวลาที่รู้สึกว่าชีวิตมันดูเรื่ อยๆแลดูน่าเบื่อขาด
แรงบันดาลใจก็มกั จะหยิบ “หนังสือ 15 กฎทองแห่งการพัฒนาตนเองล้มเหลวแล้วต้องเรี ยนรู้”
ของ John C. Maxwell มาอ่านเสมอเพื่อสร้างแรงบันดาลใจหรื อกระตุน้ ให้ตวั เองมีกาํ ลังใจ
การอ่านหนังสือเพื่อสร้างกําลังใจให้ตวั เองก็เหมือนเป็ นวิชาแนะแนววิชาหนึ่งที่ตอ้ งให้

คําแนะนําที่เหมาะสมกับแต่ละคน เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มที่ตรงกับสถานการณ์ของชีวิตของ
คุณหนังสือนั้นจะช่วยกระตุน้ กําลังใจให้ขอ้ คิดดีๆในการใช้ชีวิตแก่คุณได้มากเลยทีเดียว
เวลาที่เรามีปัญหาหรื อเจอเรื่ องอะไรที่ลาํ บากใจในชีวิตผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ตอ้ งหา

กําลังใจให้ตวั เองด้วยการไปทานข้าวสังสรรค์กบั เพื่อนๆ โทรขอกําลังใจจากแฟน อาจจะไป
หาพ่อแม่ หรื อขอคําปรึ กษาจากผูท้ ี่ให้ความนับถือ ลองเปลี่ยนจากการทําอย่างที่กล่าวมาทําใจ
ให้สบายแล้วเข้าไปเดินเล่นพักผ่อนในร้านหนังสือดูบา้ งแล้วหาหนังสือดีๆสักเล่มที่เหมาะกับ
คุณมานัง่ อ่านลองดู
การที่เราสร้างกําลังใจได้ดว้ ยตัวเองเป็ นอันดับแรกก่อนที่เราจะไปหากําลังใจจากคนอื่นๆ

ผมเชื่อว่าเป็ นการลงทุนสร้างภูมิคุม้ กันให้จิตใจของตัวเองแบบหนึ่ง บางทีการที่เราได้พดู คุย
กับคนอื่นแล้วทําให้ตวั เราเองมีกาํ ลังใจขึ้นมาแต่ผมกลับรู้สึกมันเป็ นเพียงกําลังใจแค่ชวั่ คราว
เท่านั้น กําลังใจที่ได้จากคนอื่นเป็ นเพียงปัจจัยภายนอกเท่านั้นแต่ก็เป็ นปัจจัยภายนอกที่เราขาด
ไม่ได้ กําลังใจที่ยงั่ ยืนคือกําลังใจที่เกิดจากตัวเราเอง “ตนย่อมเป็ นที่พ่งึ ของตน อย่ากลัวถ้าหาก
คุณต้องเดินทางคนเดียว”

การใช้ ชีวิตไม่ ใช่ เรื่องยาก ถ้ าเรียนรู้ ที่จะเข้ าใจ
วันนี้จะมาเล่าถึงเรื่ องอดีตกัน เมื่อช่วง 1 เดือนที่ผา่ นมา (มิ.ย.-ก.ค. 2558) ผมได้มีโอกาส

ไปบวชตอบแทนพระคุณมารดาที่วดั ป่ าคลองมะลิ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็ นความตั้งใจหลังจาก
เรี ยนจบว่าจะต้องบวชให้แม่ก่อนไปทําอย่างอื่น บริ เวณรอบวัดที่ผมไปบวชนั้นเต็มไปด้วยป่ า
เนื่องจากอยูบ่ นเขา คลื่นโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยมี กุฎิก็ไม่มีไฟฟ้ าใช้ นอนกลางป่ าคนเดียว และนัน่
ก็เป็ นเหตุผลให้ตลอดช่วงที่บวชอยูไ่ ม่ได้รับรู้เรื่ องราวภายนอกเลย
การตัดขาดจากโลกภายนอกทําให้ผมได้ปฏิบตั ิธรรม ฝึ กสมาธิภาวนาอย่างเต็มที่ การได้

อยูก่ บั ธรรมชาติและความสงบทําให้ผมได้ทบทวนและเข้าใจชีวิตในช่วงเวลาที่ผา่ นมามากขึ้น
คงมีใครหลายคนที่คงรู้สึกเหมือนกันกับผมว่า ทําไมชีวิตเรามันดูยงุ่ ยากจัง ต้องเจอเรื่ องแบบ
นั้นเรื่ องแบบนี้ให้เรายอมรับตลอด แต่หลังจากที่ผมได้ฝึกสมาธิทาํ ใจให้สงบตอนนี้ผมหา
คําตอบให้ตวั เองได้แล้ว “การใช้ชีวิตไม่ใช่เรื่ องยาก ถ้าเราเรี ยนรู้ที่จะเข้าใจ”
ทําไมผมถึงต้องบอกว่า “เราต้องเรี ยนรู้ที่จะเข้าใจ” เพราะว่า ชีวิตของเราทุกคนไม่มีความ

แน่นอน เราไม่มีทางรู้ได้ว่าพรุ่ งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเจอกับคนนิสยั ใจ

คอแบบไหนบ้าง มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทาํ ให้เราต้องยอมรับทั้งที่เราไม่เข้าใจอะไรเลย ก็
เหมือนกับที่ผมได้เขียนบทความเรื่ อง “อกหักบทเรียนชีวติ จากความรัก”ซึ่งการไม่เข้าใจอะไร
เลยแต่ตอ้ งยอมรับนี่แหละเป็ นเส้นทางของความสงสัยและความทุกข์เลยทีเดียว
แล้วเราต้องเข้าใจอะไรบ้าง สิ่งสําคัญที่สุด คือ เราต้องเข้าใจตัวเองนี่แหละ ไม่มีใครเข้าใจ

เราได้เท่ากับเราเข้าใจตัวเองหรอกครับ เมื่อเราเข้าใจตัวเองเราก็จะเข้าใจคนอื่นไปด้วย (ใจเขา
ใจเรา) ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม ขอให้ทุกๆวันของเราเรี ยนรู้ที่จะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้า
เราทําความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้ แค่น้ ีการใช้ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่ องยากแล้วครับ
สรุป:คุณต้องเรี ยนรู้และเข้าใจไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในโลกนี้ ก็ไม่สามารถสรุ ปได้

อย่างแน่นอนว่า อะไรดีหรื อไม่ดี บางครั้งเรื่ องที่ดีอาจจะกลายเป็ นเรื่ องที่เลวร้าย ในขณะเรื่ อง
ที่เลวร้ายอาจกลายเป็ นดีได้ และ “บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิต ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อให้เรา
ยอมรับมัน แต่เกิดขึ้นเพื่อให้เราเรี ยนรู้ที่จะเข้าใจ”

“เวลา” ทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด
ถ้าให้พดู ถึงเรื่ อง “เวลา”มันทําให้ผมนึกถึงตอนเรี ยนวิศวะลาดกระบังชั้นปี ที่ 1 ทุกๆช่วง

บ่ายของวันพฤหัสบดีนกั ศึกษาปี 1 ทุกคนจะต้องเข้าร่ วมกิจกรรม Activity day ซึ่งทางคณะจะ
เชิญวิทยากรที่ประสบความสําเร็ จมาพูดแชร์ประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจ เช่น ศิษย์
เก่าที่ประสบความสําเร็ จ อดีตคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคุณตัน อิชิตนั เป็ นต้น
ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีวนั หนึ่ง วิทยกรซึ่งเป็ นคณบดีคนแรกของวิศวะลาดกระบังก็

ได้เข้ามาบรรยายเกี่ยวกับความเป็ นมาของคณะ ในช่วงถาม-ตอบ ท่านตั้งคําถามที่ทาํ ให้
นักศึกษา 1,500 กว่าคนที่นงั่ อยูใ่ นหอประชุมหลายคนคงแปลกใจเหมือนๆกันว่า "นิยามของ
เวลาคืออะไร ถ้าสามารถให้นิยามได้ ผมจะเขียนเช็คให้ทนั ที 1 ล้านบาท" ก็มีนกั ศึกษาหลาย
คน (ซึ่งไม่ใช่ผมนะ 555) ออกไปตอบคําถาม แต่ก็ไม่มีใครตอบได้ถกู ท่านจึงอธิบายว่าแท้จริ ง
แล้วยังไม่มีใครรู้จริ งๆว่า นิยามของเวลาคืออะไร รู้เพียงแค่ว่าเป็ นหน่วยที่ใช้วดั เป็ น ชัว่ โมง
นาที และวินาทีเท่านั้นแต่สาํ หรับผมแล้ว “เวลา คือทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด” เพราะ ชีวิตของ
เราทุกคนขึ้นอยูก่ บั เวลา เราทุกคนมีอายุขยั มีจุดสิ้นสุดของชีวิต เพราะฉะนั้น เวลาจึงเป็ น
ทรัพยากรที่มีอยูอ่ ย่างจํากัดสําหรับชีวิตคนๆหนึ่งและเรื่ องการบริ หารจัดการเวลาจึงเป็ นสิ่งที่

สําคัญ ซึ่งมันแตกต่างจากการใช้เงินจะมีมากหรื อมีนอ้ ยก็เชื่อว่าเราสามารถหามันใหม่ได้
เรื่ อยๆ แต่กลับกันกับเวลาแค่ผา่ นไปเพียง 1 นาทีนนั่ ก็หมายความว่าเราอายุมากขึ้นเรื่ อยๆ ผ่าน
ไปแล้วผ่านไปเลยจะย้อนกลับแม้สกั วินาทีเดียวก็ยงั ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ถ้าเป็ นแบบนี้
แล้วเรายังจะอยากปล่อยให้วนั ๆหนึ่งผ่านไปโดยที่เราไม่ทาํ อะไรเลยอยูห่ รื อเปล่า?
ชีวิตคนเราไม่มีปุ่ม Replay จึงเป็ นเรื่ องธรรมดาที่เราทุกคนจะสามารถทําผิดพลาดได้ แต่

ชีวิตเราทุกคนมีปุ่ม Refresh ที่เราสามารถเริ่ มต้นใหม่ได้เสมอเท่าที่เราต้องการ รู้ไหม? ทําไม
คนเราต้องล้ม เพราะจะได้เรี ยนรู้ที่จะลุกขึ้นมาใหม่ยงั ไงล่ะ อย่าเอาตัวเองไปจมปลักกับความ
ผิดพลาดและความเสียใจ เสียใจได้แต่อย่าให้นานจนเป็ นโรคเรื้ อรั้งที่ไม่หายสักที มันคงไม่
คุม้ ค่าหรอกกับเวลาที่ผา่ นไป ทุกคนล้วนมีอดีตที่ไม่ดีกนั ทั้งนั้น
อย่าเพิง่ บอกว่าไม่มีเวลา แม้ผมจะบอกว่ามันเป็ นทรัพยากรที่มีอยูอ่ ย่างจํากัดในชีวิตคนๆ

หนึ่ง แต่เราก็มีเวลาเหลือเฟื อถ้าเราบริ หารจัดการมันให้ดี 1 นาทีก็มีความหมายสําหรับการโทร
หาพ่อแม่ 30 นาทีก็มีความหมายสําหรับการได้ไปวิ่งออกกําลังกาย ลดสิ่งที่ไม่จาํ เป็ นให้
ความสําคัญกับสิ่งที่ควรทําและหาจุดสมดุลของชีวิตของตัวเองให้เจอ
ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆเราใช้ชีวิตอยูก่ บั ปัจจุบนั หรื อเปล่า? โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะ

ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยการคิด นอนคิด นัง่ คิดทั้งวันยังได้ แต่ถามว่าคิดแล้วมันดีข้ ึนหรื อ
เปล่า? น้อยมากที่มนั จะดีจะทําให้เครี ยดซะมากกว่าเพราะคิดวนไปวนมา จงทําในสิ่งที่ทาํ ได้
ในปัจจุบนั เรี ยนรู้จากอดีต เรื่ องของอนาคตให้วางแผนไว้อย่าไปคิดไกลว่ามันจะดีหรื อไม่ดี
เพราะยังไงผลลัพธ์มนั ขึ้นอยูก่ บั การกระทําของปัจจุบนั และมีคนเคยบอกว่า “ให้ใช้ชีวิตแต่ละ
วันให้เหมือนเป็ นวันสุดท้ายของชีวิต” เพราะฉะนั้นจึงต้องบริ หารการใช้เวลาในแต่ละวันให้
ดีๆ นัน่ เพราะว่า ทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดคือ “เวลา”

จุดเริ่มต้ นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิต คือ “ตัวเราเอง”
เหนื่อยบ้างไหม? กับการต้องวิ่งตามอะไรสักอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ ผมได้

เรี ยนรู้กบั เหตุการณ์น้ ีเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว นัน่ คือ “การอกหักจากใครสักคน” ซึ่งเหตุการณ์ในครั้ง
นั้นเป็ นจุดเริ่ มต้นที่ทาํ ให้ผมเข้าใจกับชีวิตของตัวเองมากขึ้น เกือบ 2 ปี ที่เคยจมอยูก่ บั ความ
ทุกข์จนวันนี้ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เหตุการณ์ในวันนั้นทําให้ผมได้เรี ยนรู้ว่า “การ
เปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต เริ่ มต้นที่ตวั เราเอง ใช่ว่าเกิดขึ้นเพราะคนอื่นทําให้
เปลี่ยนแปลง”
การจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็ นในเรื่ องของการเงิน ในเรื่ องของ

สุขภาพ หรื อในเรื่ องอะไรก็ตาม จุดเริ่ มต้นของการเปลี่ยนแปลงมันขึ้นอยูก่ บั “ตัวเราเอง” แต่
ก่อนอื่นเราต้องทําให้ตวั เองเข้าใจก่อนว่า “เราต้องเป็ นคนที่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง 100% อะไร
ที่มนั เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ย่อมมีเหตุและมีผลที่ทาํ ให้มนั เป็ นแบบนั้น เหตุและผลนั้นมันเกิด
จากการกระทําของเราเอง ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนอื่นหรื อโชคชะตาฟ้ าดินลิขิตให้เป็ นแบบนั้น
เพราะฉะนั้น จงเลิกบ่น เลิกตําหนิ และเลิกหาข้อแก้ตวั ให้กบั ตัวเอง”ผมเชื่อว่า ทุกคนเคยตกอยู่
กับสถานการณ์ที่สบั สนในตัวเอง มันรู้สึกแย่มากเลยนะครับกับอารมณ์ที่ไม่รู้จะเดินไปทาง

ไหนดี แต่เมื่อเราสามารถตัดเรื่ องที่เป็ นปัจจัยภายนอกออกไป แล้วมองเข้าไปลึกๆในหัวใจ
ตัวเองและบอกกับตัวเองว่า “เราต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองนะ”ความสับสนที่เคยมีจะคอยๆ
หายไปแล้วแรงผลักดันจะเข้ามาแทนที่มนั เอง
ไม่มีใครจะมาลดนํ้าหนักแทนเราได้ ถ้าเราไม่มีความพยายามที่จะควบคุมการกินและออก
กําลังกาย ไม่มีใครจะมาช่วยปรับเปลี่ยนการเงินที่ติดลบของเราได้ ถ้าเราไม่รู้จกั บริ หารการเงิน
จัดจ่ายใช้สอยให้เป็ นระบบและใช้จ่ายเกินตัว ไม่มีใครมาเดินตามหาความฝันแทนเราได้ ถ้าเรา
ไม่กล้าที่จะออกไปเดินตามหามันเอง และ “ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงชีวิตแทนเราได้ ถ้าเราไม่
ยอมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง”

“อกหัก” บทเรียนชีวิตจากความรัก
ความรักคืออะไรจะให้นิยามแบบตายตัวนั้นไม่สามารถตอบได้ เพราะต่างคนต่างมี
“นิยามความรัก” ที่แตกต่างกันออกไปตามความรู้สึกของแต่ละบุคคลแต่ละคู่รัก สําหรับนิยาม
ความรักของผมนั้น คือ “สิ่งที่ทาํ ให้ผมมีความสุข” การได้พบกับใครสักคนที่ทาํ ให้รู้สึกดี
ได้มารู้จกั กัน ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และมีความรักให้แก่กนั ถือว่าเป็ นช่วงเวลาที่สวยงาม
และดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต “ความรัก”มักมาพร้อมกับความคาดหวัง ความคาดหวังนําพาผม
ไปสู่การยึดติดทางความรู้สึกกับใครคนหนึ่ง และสิ่งที่คาดหวังเหล่านั้นทําให้ผมไม่เคยเตรี ยม
ใจเมื่อถึงวันที่ตอ้ งเอ่ยคําลา
“อกหัก”คํา ๆ นี้ได้ยนิ บ่อยแต่ไม่เคยได้สมั ผัส บ่อยครั้งที่ผมเห็นข่าวได้ฟังจากเพื่อน

เกี่ยวกับคนที่อกหักแล้วทําร้ายตัวเองก็เอาแต่คิดสงสัยว่ามันอะไรมากมายขนาดนั้นเลยหรอ
แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับผมเป็ นครั้งแรกวันนี้จึงทําให้ผมเข้าใจทุกสิ่งและรู้ซ้ ึงถึงคําว่า “อก
หัก” จากวันนั้นถึงวันนี้ (09/06/2558) ก็เกือบ 1 ปี แล้ว ผมจะไม่พดู ถึงรายละเอียดลึกจนเกินไป

เพราะผมไม่สามารถจะไปคาดเดา ไม่สามารถอธิบายความคิด และความรู้สึกของอีกหนึ่งคนที่
เดินจากไปได้
ความตั้งใจของผมที่เขียนบทความนี้ข้ ึนมาเพื่อจะเล่าประสบการณ์ดี ๆ ที่ความรักสอน

บทเรี ยนชีวิตให้กบั ผม และผมได้เรี ยนรู้กบั บทเรี ยนครั้งนี้อย่างไรบ้าง ผมเชื่อว่า คงมีใครหลาย
คนที่กาํ ลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ หลาย ๆ คนอาจจะเป็ นเหมือนผมที่ไม่ค่อยกล้าปรึ กษาปัญหา
เรื่ องส่วนตัวกับใครต้องมาขอคําปรึ กษาจาก Google อยูบ่ ่อย ๆ เมื่อคุณเปิ ดอ่านมาเจอบทความ
นี้ผมอยากให้คุณรู้ว่า “คุณไม่ใช่คนแรกที่เผชิญกับเรื่ องราวแบบนี้ แต่มีอีกหลายล้านคนบน
โลกนี้รวมทั้งตัวผมเองก็ผา่ นมันมาแล้ว”เหตุการณ์ครั้งนั้นทําให้ผมเสียใจและได้รับความ
ทรมานทางจิตใจเป็ นอย่างมาก นี่คือ 3 ขั้นตอนของความรู้สึกที่ผมผ่านมาตั้งแต่เริ่ มแรกทีอ่ ก
หัก
ขั้นแรก คือ คุณจะปฏิเสธที่โดนทิง้ ไปและจะไม่ ยอมรับความจริง ในตอนเริ่ มแรก

ผมไม่สามารถยอมรับความจริ งได้และไม่เชื่อว่าเขาได้เดินจากไปแล้ว ช่วงเวลานั้นมีท้งั
ความรู้สึกทั้งโกรธและเกลียดกับสิ่งที่เขาทําเพราะการทิ้งของเขาเป็ นวิธีที่หกั ดิบจิตใจของผม
มาก ผมได้แต่เฝ้ าถามตัวเองซํ้า ๆ ด้วยคําถามเดิม ๆ มาตลอด 6 เดือน คือ “ทําไม เพราะอะไร
เขาถึงจากเราไป” เพราะเราเลิกกันโดยที่ผมไม่เข้าใจ ไม่มีโอกาสได้เตรี ยมตัว
ผมจําได้แค่ว่าคืนก่อนนั้นเขายังบอกว่ารักกัน แต่อีกวันต่อมาเหมือนเป็ นหนังคนละม้วน ผม

ไม่รู้เหตุผลเลยจริ ง ๆ ว่าทําไมคนที่คบกันมาเกือบ 4 ปี คนที่เคยคุยกันทุกวันอยู่ ๆ ก็หายไป
และไม่สามารถติดต่อกันได้กลับกลายเป็ นคนที่แปลกหน้าต่อกัน หลังจากวันนั้นจนถึงตอนนี้

เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ในช่วง 3 เดือนแรกผมโทรไปหาแทบทุกวันแต่ก็ไม่เคยรับสายหลัง
จากนั้นก็ค่อย ๆ หักห้ามใจตัวเองไม่ให้โทรไป
แต่สิ่งที่ผมเป็ นมาตลอด 6 เดือน ก็คือ ผมไม่สามารถยอมรับความจริ งได้เลย ทุก ๆ วันของผม

ผ่านไปด้วยใจที่เจ็บปวดทรมานด้วยความเชื่อที่ว่า “เขายังรักผมอยู”่ เพราะประโยคนี้ทาํ ให้ผม
ยอมที่จะเฝ้ ารอตกอยูใ่ นภวังค์ของความคิดที่ไม่สามารถหาทางออกให้กบั ตัวเองได้ จากวันที่
ผมอกหักทําให้ผมเริ่ มมีอาการนอนไม่หลับมาตลอด 8 เดือน ไม่สามารถที่จะฟังเพลงไทยที่มี
คําร้องได้เพราะทําให้ผมเครี ยด
ผมไม่สามารถจะอธิบายด้วยคําพูดได้ว่ามันทรมานมากแค่ไหน ความรักที่เต็มไปด้วยความ
คาดหวังของผมที่พงั ทลายลงเหมือนความฝันที่ไม่มีวนั เกิดขึ้นจริ ง เมื่อมองย้อนกลับไปผม
รู้สึกว่า “ความรัก” มันทําให้เรายอมทําได้ทุกอย่างจริ ง ๆ แม้จะเจ็บจะทรมานก็ยงั ดื้อรั้นทําร้าย
จิตใจตัวเองต่อไป
แต่เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งเราจะรู้ตวั เองว่าควรจะหยุดทุกอย่างไว้ตรงนี้ บางครั้งผมรู้สึกเหมือนเป็ น

คนโง่ในสายตาคนอื่นที่ลืมอดีตไม่ได้ความเจ็บมันไม่จางหายไปสักที เหตุการณ์น้ ีเหมือนเป็ น
เรื่ องราวใหม่ในชีวิตที่ผมต้องผ่านไปด้วยตัวเองให้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปเชื่อเถอะครับว่า เราจะ
มองสิ่งที่เราเคยเป็ นตอนนั้นเป็ นเพียงแค่เรื่ องตลก ๆ เรื่ องหนึ่งที่เราเคยเป็ นอะไรมากมายขนาด
นั้นเลยหรอ
ขั้นสอง คือ คุณจะยอมรับความจริงและก้ าวเดินต่อไป ในตอนเริ่ มแรกผมก็แทบ

จะกลายเป็ นนักดื่มไปเลย ก็ลองหาคนคุยด้วย แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ทางออกของ
ปัญหา แม้จะผ่านมาเนิ่นนานเกือบครึ่ งปี ได้แล้วผมก็ยงั ไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกนั้นได้

ตลอดช่วงเวลาที่ผา่ นมาเมื่อไรที่ผมรู้สึกปวดใจทางออกของผมก็คือ “การนัง่ สมาธิ”อ่าน
หนังสือธรรมะ และอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง
หนังสือเหล่านี้จะมีแง่คิดดี ๆ มากมายให้ผมได้คิด สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อคือ ทําให้ผมเริ่ ม

ปล่อยวาง ช่วงเวลาที่ผา่ นมาแม้ผมจะยังโทรไปหาเขาบ้าง ยังส่งข้อความไปบ้าง แต่ตอนนี้ถึง
เวลาที่ผมต้องตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า ผมต้องยอมรับความจริ งให้ได้จึงตัดสินใจส่งข้อความ
ไปหาเขาครั้งสุดท้ายว่า “ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอให้มีความสุข และจะไม่มารบกวนอีก
สัญญา”
การทําแบบนี้ทาํ ให้จิตใจของผมเริ่ มก้าวห่างจากความเจ็บปวดในใจที่สะสมเหมือนเป็ นโรค

เรื้ อรัง แม้ว่าจะยังแอบเจ็บ แอบคิดถึงบ้าง แต่ผมเชื่อเสมอว่าสักวันมันก็จะหายไป บางทีก็แอบ
ไปดูเฟสเขานะ ดูแล้วเห็นรู ปเขาก็มีสะเทือนใจบ้าง ยิง่ เห็นเขามีแฟนใหม่ อ้าว...แอบเจ็บนิด
หน่อย แต่มนั ก็สามารถทําให้ผมทําใจได้ง่ายขึ้น เพราะเขาก็มีคนใหม่แล้ว ก็ได้แต่อวยพรให้
เขามีความสุข ส่วนอดีตก็เก็บไว้ให้เป็ นความทรงจําดี ๆ
การที่ผมค่อย ๆ ก้าวข้ามผ่านจิตใจของตัวเองไปได้ก็เพราะมีครอบครัวและมีเพื่อนดี ๆ ที่คอย

ให้กาํ ลังใจอยูเ่ สมอ มันเป็ นเรื่ องจริ งมากครับถ้าตัวเราเองยังรักตัวเองไม่ได้เลยจะไปดูแลใคร
ได้จริ งไหม การปรึ กษากับคนอื่นอาจทําให้เรารู้สึกดีข้ ึน แต่การเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างอยูท่ ี่
ตัวเราครับ ผมบอกตัวเองไว้เสมอว่า “จงเรี ยนรู้จากความเจ็บปวดแล้วก้าวเดินต่อไป”
ขั้นสุ ดท้ าย คือ การให้ อภัย การที่ผมฝึ กสมาธิมาตลอดและเสพติดสิ่งดี ๆ เช่น หนังสืง

ที่อ่านแล้วเรามีแรงบันดาลใจที่อยากจะใช้ชีวิตไปในทางที่ดีและทําให้ผมใช้ชีวิตคิดบวก ผม
แทบจะไม่นึกถึงเขาแล้วความรู้สึกที่ไม่ดีต่าง ๆ ผมทิ้งมันไว้กบั อดีต ให้มนั เป็ นบทเรี ยนราคา

แพงของชีวิตผม ความเจ็บปวดที่มีค่อย ๆ จางหายไปและความสุขจากการได้ทาํ สิ่งที่เรารักก็
เข้ามาแทนที่
สิ่งที่สาํ คัญที่สุด คือ การปล่อยวางซึ่งเป็ นสิ่งที่นาํ พาผมไปสู่การให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างโดย

เฉพาะตัวผมเอง การที่ผมเจ็บอย่างยาวนานมาหลายเดือนเกิดจากความคิดของผมเองที่ย้าํ คิดยํ้า
ทําเอาแต่สงสัยว่า ทําไม ทําไม และทําไม แต่ตอนนี้ความคิดผมได้เปลี่ยนแปลงไป ผมใช้ความ
เจ็บปวดที่ผมได้รับจากความผิดหวังเป็ นบทเรี ยนให้ชีวิตของผมได้เรี ยนรู้ ผมกลับอยาก
ขอบคุณเขาที่ผา่ นเข้ามาในชีวิตผมและมอบบทเรี ยนชีวิตดี ๆ ให้
ความผิดหวังครั้งนี้เป็ นครั้งแรกที่ทาํ ให้ผมเป็ นทุกข์มากที่สุดในชีวิต แต่อย่างไรก็ตามมันก็ทาํ

ให้ผมมีจิตใจที่เข้มแข็งมากขึ้น ทําให้ผมมีภูมิคุม้ กันทางจิตใจที่ดีเนื่องจากการฝึ กจิดใจตัวเอง
ให้คิดในแง่บวกเสมอ ประสบการณ์ครั้งนี้ไม่ได้แค่เพียงให้ผมได้เรี ยนรู้ความผิดหวังจากความ
รักเท่านั้น แต่ความผิดหวังครั้งนี้ให้บทเรี ยนชีวิตกับผมเพื่อนําไปใช้กบั ทุกๆสิ่งที่ผมจะต้อง
เผชิญกับความผิดหวังที่จะผ่านเข้ามาในอนาคตจงจําไว้เสมอครับว่า “จงเรี ยนรู้จากความ
เจ็บปวดแล้วก้าวเดินต่อไป”
สรุป :ไม่ว่าคุณจะผิดหวังจากความรักรู ปแบบไหน ขอให้คุณคิดว่ามันเป็ นบทเรี ยนดี ๆ

ที่ผา่ นเข้ามาให้คุณได้ทดสอบจิตใจ อาจจะทําให้คุณไม่มีความสุขจากความทุกข์ ความเสียใจ
และความเจ็บปวดใจจากความผิดหวัง ขอให้คุณได้เรี ยนรู้ว่า คนอื่นเป็ นปัจจัยภายนอกที่คุณไม่
สามารถที่จะควบคุมได้ แต่ตวั คุณเองสามารถควบคุมตัวเองได้ จงเรี ยนรู้จากความเจ็บปวด
เหล่านั้นแล้วก้าวเดินต่อไป เชื่อเถอะว่า “ความเจ็บปวด ความเสียใจ จะค่อย ๆ จางหายไปตาม
กาลเวลา”

วิธีลืมคนรักให้ เร็วที่สุด คือ การไม่ พยายามจะลืม
สืบเนื่องจากตั้งแต่ได้อพั บทความ “อกหัก” บทเรียนชีวติ จากความรัก ไปตั้งแต่เริ่ มเขียน

บล็อกใหม่ๆ ก็มีนอ้ งๆและพี่ๆหลายคนเมื่อได้อ่านบทความแล้ว ก็ได้เข้ามาทักทายและปรึ กษา
เกี่ยวกับเรื่ องความรักหลายต่อหลายคน ซึ่งก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันไปเยอะพอสมควร แต่
เมื่อผมนํามาคิดไตร่ ตรองดูแล้วคําถามที่โดนถามบ่อยมากที่สุดคือ “วิธีลืมคนรักให้เร็ วที่สุด”
ก็อยากบอกตรงๆว่า “วิธีลืมคนรักให้เร็ วที่สุด คือ การไม่พยายามจะลืม”มันเป็ นเรื่ อง

ธรรมชาติครับที่เราไม่สามารถจะลืมอะไรสักอย่างหนึ่งที่เราเคยผูกพันมานานเพียงชัว่ ข้ามคืน
ต่อให้คุณหรื อเขาเป็ นฝ่ ายที่ทิ้งไปเชื่อเถอะครับว่า ไม่ลืมได้ง่ายๆแน่นอน เพียงแต่ว่า “คนที่ทิ้ง
กับคนที่ถกู ทิ้งความรู้สึกที่ได้รับมันต่างกันเท่านั้นเอง”
แล้วถ้าอย่างนั้นควรทําอย่างไรล่ะ? คําถามนี้เป็ นคําถามที่ใช้เวลาคิดค่อนข้างนาน เพราะ

ในตอนนั้นเองกว่าผมจะทําใจได้ก็ใช้เวลาเกือบจะ 2 ปี แต่ก็นนั่ แหละมันทําให้ผมได้เรี ยนรู้ว่า
“การทําใจและการลืมเป็ นสิ่งที่มาควบคู่กนั ”ถ้าอยากจะลืมอะไรสักอย่างหนึ่งก็ทาํ ใจยอมรับ

กับสิ่งที่มนั เกิดขึ้นให้ได้ซะก่อน แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วมันอาจจะลืมไม่ได้แต่มนั สามารถทําให้
เรากลับมาใช้ชีวิตแบบที่เราเคยเป็ นได้
สิ่งที่ควรทําที่สุดก็คือ “การไม่พยายามจะลืมและยอมรับความจริ ง”มันจะเป็ นกุญแจสําคัญ

ที่จะช่วยให้เราทําใจได้ง่ายและเร็ วมากขึ้น (แม้ว่ามันจะทํายากมากในการปฏิบตั ิ) สําหรับคน
ถูกทิ้งแล้วก็อาจจะมีคาํ ถามที่ยงั ค้างคาในหัวใจว่า ทําไม เพราะอะไร เราทําอะไรผิด ซึ่งอยาก
บอกว่า อย่าพยายามที่จะไปหาเหตุผลเลย ก็คิดง่ายๆแล้วกันว่า “คนรักกันจะทิ้งกันง่ายๆแบบนี้
หรอ”ก็เพียงพอแล้วสําหรับเหตุผล
ถ้าหากรู้ตวั เองดีว่า การที่ยงั ติดต่อกับเขาหรื อเห็นข่าวคราวของเขาบน Facebook ยังทําให้

เราต้องทุกข์ใจ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ เลิกติดต่อกันไปเลยดีกว่า ไม่รับรู้ไม่ตอ้ งเห็นอะไรทั้งนั้น
และก็ใช้ชีวิตตัวเองให้ดี การจะลืมใครสักคนไม่มีทางที่เร็ วที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่ อยๆจะ
ทําให้ได้รู้ว่า “อะไรที่เคยลืมไม่ได้ แต่เมื่อใส่ใจมันน้อยลง คิดถึงมันน้อยลง มันก็ลืมไปเอง แต่
ต้องใช้เวลาหน่อย อย่าใจร้อน”
สามารถติดตามการอัพเดทบทความใหม่ ได้ ที่ >>>Klakid.com

เกีย่ วกับผู้เขียน
ชื่อ รักษ์ธรรม แสงจันดา ชื่อเล่น “ต้าร์ ”

เกิด 10 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ภูมิลาํ เนา : อําเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
การศึกษา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
อาชีพ : วิศวกร
คติประจําใจ: จุดเริ่ มต้นของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในชีวิต ขึ้นอยูก่ บั “ตัวเราเอง”
เว็บไซต์ : http://klakid.com
อีเมล์ : Rakthum@klakid.com

Thank
You


"ชีวิตคิดบวก" รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต PDF

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

You might also like

"ชีวิตคิดบวก" รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต PDF

Uploaded by

Document Information

Original Title

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

"ชีวิตคิดบวก" รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต PDF

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

“ชีวติ คิดบวก”

รวมข้ อคิดดีๆในการใช้ ชีวติ

จัดทําเมื่อ : พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 โดย Klakid Blog ชีวิต

ผมก็เลยสร้างแฟนเพจขึ้นมาชื่อว่า “ชีวิตคิดบวก”โดยมีสโลแกนเพจว่า “ชีวิตคิดบวก

เมื่อเวลาผ่านไปข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตก็เพิ่มมากขึ้นเรื่ อยๆตามกาลเวลา ผมจึงมีความคิด

สุดท้ายก็ได้แต่หวังว่า เมื่อได้อ่าน E-Book เล่มนี้แล้วจะสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจ

หมายเหตุ :ตัวหนังสื อสี น้ าํ เงินทั้งหมดในเล่มเป็ น Link เมื่อคลิกแล้วจะเข้าไปสู่ เว็บไซต์ตาม Link นั้น

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 201

เรื่ องราวเหล่านี้เป็ นเรื่ องที่น่าจับตามองและควรให้ความสําคัญมากครับ เรามักจะเห็นการ

สิ่งที่สาํ คัญที่สุดของปัญหานี้คือการขาดภูมิคุม้ กันทางจิตใจ วิธีการแก้ปัญหาก็ง่ายนิดเดียว

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 202

สิ่งที่ผมช่วยเพื่อนคนนั้นคือ การให้หนังสือ “จูบกบตัวนั้นซะ”ของไบรอัน เทรซี่ ซึ่งเป็ น

เห็นไหมครับว่า ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ คนที่คิดลบมากๆเมื่อได้อ่านหนังสือดีๆสัก

ผมยืนยันได้เลยไม่ว่า คุณจะเผชิญกับความเครี ยดในที่ทาํ งานกับหัวหน้าหรื อเพื่อน

แม้ว่าจะเจอเรื่ องที่เลวร้ายมากแค่ไหนก็ตาม อย่ายอมแพ้และท้อแท้ง่ายๆ ถ้าเหนื่อยก็พกั

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 203

ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆ คุณใช้ชีวิตอยูก่ บั ปัจจุบนั หรื อเปล่า? คุณเคยลองนัง่ เงียบๆคน

เรามักจะนึกถึงความรู้สึกในอดีตของเรื่ องที่ทาํ ให้เราชํ้าใจ อาจจะนึกถึงความรู้สึกดีๆใน

แต่ในทางตรงกันข้ามกัน ถ้าเราคิดในแง่ลบก็จะเป็ นการสร้างความกลัวให้จิตใจของตัวเรา

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 204

สิ่ งแรก : ควบคุม “ความคิด” ของตัวเอง ชีวิตประจําวันของเราทุกคนดําเนินไปด้วย

วิธีฝึกก็เริ่ มง่ายๆเลยครับ ลองฝึ กให้ตวั เองทําทีละสิ่งให้สาํ เร็ จ เช่น กินข้าวก็กินให้เสร็ จ อย่า

สิ่ งที่สอง : ทาอย่ างมีเป้าหมาย การทําอะไรอย่างมีเป้ าหมาย คือ การที่เรารู้ตวั ว่าเรา

หากสนใจเกี่ยวกับเรื่ องการตั้งเป้ าหมายสามารถอ่านบทความเรื่ อง “จงคิดบนกระดาษ กฎข้ อ

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 205

ดังนั้นการฝึ กตัวเองให้เป็ นคนที่มีนิสยั ลงมือทําเดี๋ยวนี้ จะทําให้เราอยูห่ ่างจากคําว่ารอคอยแล้ว

สรุป :อดีต ปัจจุบนั และอนาคต เป็ นมิติของเวลาที่มีความเชื่อมโยงกันกับการดําเนิน

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 206

ในชีวิตประจําวันของเรามีเรื่ องราวปัญหาต่างๆให้เผชิญหน้าอยูเ่ สมอจนบางครั้งเรารู้สึก

อาจจะถือได้ว่ากําลังใจเป็ นอีกสิ่งหนึ่งที่สาํ คัญของการดําเนินชีวิตของคนเราเลยก็ว่าได้

ผมจึงมัน่ ใจได้ว่าการอ่านหนังสือประเภทนี้แหละที่ช่วยสร้างกําลังใจให้เราได้ดว้ ยตัวเอง

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 207

การอ่านหนังสือเพื่อสร้างกําลังใจให้ตวั เองก็เหมือนเป็ นวิชาแนะแนววิชาหนึ่งที่ตอ้ งให้

เวลาที่เรามีปัญหาหรื อเจอเรื่ องอะไรที่ลาํ บากใจในชีวิตผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ตอ้ งหา

การที่เราสร้างกําลังใจได้ดว้ ยตัวเองเป็ นอันดับแรกก่อนที่เราจะไปหากําลังใจจากคนอื่นๆ

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 208

วันนี้จะมาเล่าถึงเรื่ องอดีตกัน เมื่อช่วง 1 เดือนที่ผา่ นมา (มิ.ย.-ก.ค. 2558) ผมได้มีโอกาส

การตัดขาดจากโลกภายนอกทําให้ผมได้ปฏิบตั ิธรรม ฝึ กสมาธิภาวนาอย่างเต็มที่ การได้

ทําไมผมถึงต้องบอกว่า “เราต้องเรี ยนรู้ที่จะเข้าใจ” เพราะว่า ชีวิตของเราทุกคนไม่มีความ

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 209

แล้วเราต้องเข้าใจอะไรบ้าง สิ่งสําคัญที่สุด คือ เราต้องเข้าใจตัวเองนี่แหละ ไม่มีใครเข้าใจ

สรุป:คุณต้องเรี ยนรู้และเข้าใจไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในโลกนี้ ก็ไม่สามารถสรุ ปได้

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 210

ถ้าให้พดู ถึงเรื่ อง “เวลา”มันทําให้ผมนึกถึงตอนเรี ยนวิศวะลาดกระบังชั้นปี ที่ 1 ทุกๆช่วง

ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีวนั หนึ่ง วิทยกรซึ่งเป็ นคณบดีคนแรกของวิศวะลาดกระบังก็

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 211

ชีวิตคนเราไม่มีปุ่ม Replay จึงเป็ นเรื่ องธรรมดาที่เราทุกคนจะสามารถทําผิดพลาดได้ แต่

อย่าเพิง่ บอกว่าไม่มีเวลา แม้ผมจะบอกว่ามันเป็ นทรัพยากรที่มีอยูอ่ ย่างจํากัดในชีวิตคนๆ

ในขณะที่เวลาผ่านไปเรื่ อยๆเราใช้ชีวิตอยูก่ บั ปัจจุบนั หรื อเปล่า? โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะ

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 212

เหนื่อยบ้างไหม? กับการต้องวิ่งตามอะไรสักอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ ผมได้

การจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็ นในเรื่ องของการเงิน ในเรื่ องของ

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 213

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 214

“อกหัก”คํา ๆ นี้ได้ยนิ บ่อยแต่ไม่เคยได้สมั ผัส บ่อยครั้งที่ผมเห็นข่าวได้ฟังจากเพื่อน

รวมข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต (Klakid.com) 215

ความตั้งใจของผมที่เขียนบทความนี้ข้ ึนมาเพื่อจะเล่าประสบการณ์ดี ๆ ที่ความรักสอน