Professional Documents
Culture Documents
แปรูบผะลิด
แปรูบผะลิด
บทที่ 1
บทนำ
1.1 หลักการและความสำคัญ
จังหวัดยะลาให้ความสำคัญในการแปรรูปและพัฒนา
พืชประจำถิ่น ซึ่งจะเห็นได้จากการที่เกษตรจังหวัดยะลา ได้
จัดประชุมให้ความรู้พัฒนาคุณภาพการผลิต การแปรรูป
ผลิตภัณฑ์และการตลาด จากพืชประจำถิ่นแก่เกษตรกรใน
พื้นที่ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 58 ณ ห้องประชุม 1 กองร้อย
บังคับการและบริการ (ท่าสาป) ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง
จังหวัดยะลา โดยนายสายัณห์ อินทรภักดิ ์ รองผู้ว่าราชการ
จังหวัดยะลา เป็ นประธานเปิ ดอบรมพัฒนาคุณภาพการผลิต
และการแปรรูปผลิตภัณฑ์และการตลาดจากพืชประจำถิ่น
ในโครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ ซึ่งสำนักงานเกษตร จังหวัดยะลา จัดขึน
้ เพื่อให้
เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดยะลา มีความรู้และทักษะด้านการ
ปลูกพืชเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ และสามารถ
พัฒนาคุณภาพและผลิตภัณฑ์พืชประจำถิ่นเช่น กล้วยหิน
ส้มแขก และผลไม้ต่างๆ ตามความต้องการของตลาดได้ โดย
มี นางปรารมณ์ ยานะวิมุติ เกษตรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่
สำนักงานเกษตร รวมทัง้ เกษตรกรจากอำเภอต่างๆ ใน
2
ในการนีท
้ ีมผู้วิจัยเล็งเห็นว่า แป้ งสุขภาพของแป้ งกล้วยหิน
น่าจะมีโอกาสในการพัฒนาเป็ นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ใน
รูปแบบต่างๆ และที่สำคัญเพื่อผลักดันพืชพื้นบ้านของ
ประชาชนในจังหวัดยะลาสู่พืชเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเกษตรกร
ไทยในพื้นที่สามารถสร้างโอกาสเชิงการตลาดอย่างกว้าง
ขวางและยั่งยืน อีกทัง้ เป็ นการส่งเสริมกล้วยหินของจังหวัด
ยะลาให้เป็ นที่ร้จ
ู ักอย่างแพร่หลาย ดังนัน
้ ทีมผู้วิจัยจึงสนใจ
ทำการศึกษาวิจัยเรื่องประสิทธิผลของการแปรรูปผลิตภัณฑ์
แป้ งกล้วยหิน และแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ขึน
้
1.2 วัตถุประสงคการวิจัยเพื่อ
1) ศึกษาคุณลักษณะทางกายภาพของแป้ งกล้วยหิน
2) พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน
3) ประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์
แปรรูปแป้ งกล้วยหิน
4) เสนอแนะแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
1.3 ขอบเขตการวิจย
ั /แนวทางการดำเนินงาน
7
4)ดำเนินกระบวนการแปรรูปในระดับห้องปฏิบัติการ
ในการผลิตผลิตภัณฑ์แปร
รูปแป้ งกล้วยหินสำเร็จรูป โดยที่สามารถรักษารสชาติให้คงอยู่
กับผลิตภัณฑ์
5)ทดลองผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหินสำเร็จรูป
และทำการประเมิน
ผลิตภัณฑ์กับกลุ่มตัวอย่าง
6)ศึกษาความเป็ นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ และพัฒนา
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
8
เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ประกอบการหรือชุมชนเกษตรกร
ชาวสวนที่ปลูกกล้วยหิน โดยการประชุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวน
และสอบถามความคิดเห็นตัวแทนระดับจังหวัด
1) ประชากร ประกอบด้วย
2) กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย
- มีเวลาว่างในการเข้าร่วมให้ข้อมูลวิจัยตาม
เวลานัดหมาย
ซึ่งมีเกษตรกรในแหล่งวัตถุดิบ ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา
จ.ยะลา ที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว จำนวน 6 คน
2.2.2) ขัน
้ แปรรูปวัตถุดิบกล้วยหินเป็ นแป้ ง
กล้วยหิน
- เป็ นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเชิง
วิชาการ และทักษะใน
การแปรรูปวัตถุดิบ
- ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่เป็ นโรค
ต้องห้าม
- สมัครใจในการเข้าร่วมการวิจัยทำการ
แปรรูปผลิตภัณฑ์
- มีเวลาว่างในการแปรรูปผลิตภัณฑ์
ตามเวลานัดหมาย
ซึ่งมีผู้แปรรูปวัตถุดิบกล้วยหินเป็ นแป้ งกล้วยหิน ที่ผ่าน
เกณฑ์ดังกล่าว จำนวน 2 คน
2.2.3) ผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแป้ งกล้วย
หิน (คุกกี)้
- เป็ นผู้ที่มีทักษะและประสบการณ์ใน
การผลิตผลิตภัณฑ์จาก
แป้ ง มีประสบการณ์การทำขนม หรือมีเกียรติบัตรที่ผ่าน
การเรียนด้านการทำขนมต่างๆ
12
- ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่เป็ นโรค
ต้องห้าม
- สมัครใจในการเข้าร่วมการวิจัยผลิต
ผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก
แป้ งกล้วยหิน (คุกกี)้
- มีเวลาว่างในการผลิตผลิตภัณฑ์
แปรรูปจากแป้ งกล้วยหิน
(คุกกี)้ ตามเวลานัดหมาย ซึ่งมีผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูป
จากแป้ งกล้วยหิน (คุกกี)้ ที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว จำนวน 1
คน
รวมกลุ่มผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ทงั ้ หมด
จำนวน 5 คน
2.3) ผู้บริหารระดับจังหวัด
ทำการเลือกแบบจำเพาะเจาะจง ในตำแหน่งผู้
บริหารที่ปฏิบัติงาน ณ หน่วยงาน ในอำเภอเมือง จังหวัด
ยะลา ดังนี ้ สำนักงานจังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลา
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ เกษตรจังหวัด
หอการค้าจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา
แห่งละ 1 คน รวม 6 คน
โดยใช้เกณฑ์ดังนี ้
- ตำแหน่งในระดับกลุ่มผู้บริหาร
13
- ประสบการณ์การปฏิบัติงานในพื้นที่ จังหวัด
ยะลา อย่างน้อย 1 ปี
- สมัครใจในการเข้าร่วมการวิจัยในการให้
ข้อมูล
- มีเวลาว่างในการเข้าร่วมให้ข้อมูลวิจัยตาม
เวลานัดหมาย
2.4) ผู้บริโภค
2.4.1) บุคลากรของวิทยาลัยการสาธารณสุขสิริน
ธร จังหวัดยะลา
ทำการศึกษากับบุคลากรทัง้ หมดของวิทยาลัย จำนวน 88
คน
2.4.2) บุคคลทั่วไป
กรณีไปทดลองผลิตภัณฑ์ภายนอกวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่าง
ได้มาโดยวิธก
ี ารบังเอิญ จำนวน 30 คน
1.4 กรอบแนวคิดในการวิจัย
ประสิทธิผลการแปรรูป
ข้อมูลเกี่ยวกับ
ผลิตภัณฑ์
วัตถุดิบ
แป้ งกล้วยหิน
(กล้วยหิน)
คุณลักษณะทาง
- ระยะเวลาเก็บเกี่ยว
กายภาพของแป้ งกล้วย
- ลักษณะวัตถุดิบ
หิน
ข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนา
15
1.5 นิยามศัพทเฉพาะ
1.5.2 การแปรรูป
หมายถึง การเปลี่ยนสภาพจากเดิมของวัตถุดิบ
ทางการเกษตรเป็ นสภาพ
ใหม่ ในรูปที่ไม่ใช่สภาพเดิมของพืชนัน
้ ๆ
1.5.4 ประสิทธิผลการแปรรูป
หมายถึง การศึกษาในองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ
คุณลักษณะทางกายภาพของแป้ งกล้วยหิน ผลิตภัณฑ์
แปรรูปแป้ งกล้วยหิน ความพึงพอใจของผู้บริโภค
ผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน และ ข้อเสนอแนะแนว
ทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
1.5.5 ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
17
1.6 ประโยชน์ที่คาดวาจะไดรับ
ทราบถึงประสิทธิผลของการแปรรูปผลิตภัณฑ์แป้ ง
กล้วยหินในประเด็น คุณลักษณะทางกายภาพของแป้ ง
กล้วยหิน กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วย
หิน บรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์แปรรูปกล้วยหินที่
เหมาะสม แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ นำไปสู่
การสร้างโอกาสเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็ นแนวทางในการเสนอ
แนะแก่ชุมชนในการพัฒนาการปลูกกล้วยหินและการ
พัฒนาการแปรรูปกล้วยหินในรูปแบบต่างๆ
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การศึกษาวิจัยเรื่องประสิทธิผลของการแปรรูป
ผลิตภัณฑ์แป้ งกล้วยหิน และแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อ
สุขภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะทางกายภาพ
ของแป้ งกล้วยหิน พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน
18
ประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ ง
กล้วยหิน และเพื่อเสนอแนะแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อ
สุขภาพ ซึ่งผู้วิจัยทำการศึกษาใน ประเด็นดังนี ้
2.1 ข้อมูลของกล้วย
2.2 แป้ งเพื่อสุขภาพ
2.3 กระบวนการแปรรูปแป้ งกล้วย
2.4 ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผงแป้ งกล้วย
ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี ้
2.1 ข้อมูลของกล้วย
2.1.1 ข้อมูลทั่วไป
การดูดซึมและการเปลี่ยนเป็ นพลังงานทำให้ร่างกายได้รับ
พลังงานที่ต่ำลง นอกจากนี ้ RS ของกล้วยยังมีสมบัติเป็ น
พรีไบโอติก (Prebiotic) ซึ่งเป็ นอาหารที่ดีสำหรับจุลินทรีย์
กลุ่มแล็กโตบาซิลลัส เป็ นผลให้การทำงานของระบบทาง
เดินอาหารเป็ นปกติดี จึงสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรค
อายุรกรรมต่างๆ ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหลอด
เลือดอุดตัน โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็ นต้น
ต า ร า ง ท ี่ 2.1 ก า ร ใ ห ้ค ะ แ น น ล ัก ษ ณ ะ ต ่า ง ๆ ข อ ง ก ล ว้ ย
22
ล ัก ษ ณ ะ M. acuminata (A M. balbisiana (B
ส ีข อ ง ก า บ ใ บม genome)
ีจ ุด ห ร ือ ปี น ส ีน ้ำ ต า ล genome )
มีจุดจางๆหรอไม่ มีเลย
ห
ร่อ งของกาบใบขอบของก้ ร าอนใบตัดำ ง้ หรอ ขอบของก้า นใบม้ว น
แ างออก มีครบหรอปี ก
กว้ ผ เ ัน ขจ น ชา้ ิด ไ มห่ม ีป่ ี กา
ก
ก ้า น ช ่อ ด อ กม ีข น เ ร ีย บ 'ไ ม ่ม ีข น
ก ้า น ด อ กส น
ั้ ย า ว
โ อ ว ุล (ไ ข ่) มีโ อวุล 2 แถวในแต่ล ะ มีโ อวุล 4 แถว แต่ไ ม่
ช
ร ่อ ัง ง ข ไ อ ขง ส ม่ ่าํ เ ส ม อ
ไหล่ของกาบปลี อ ัต ร า ส ่ว น <0.28 อ ัต ร า ส ่ว น <0.30
ก า ร ม ้ว น ข อ ง กาบปลีม ้ว นขึน ้ ไปทาง ก า บ ป ล ีช ูต งั ้ ข น
ึ้ เ ม ่ อ ื
ก า บ ป ล ห ี ล ัง จ า ก ลด อ ก บ า นัง ด
ไ มอ ่ม ก ้ว บน าข ึน ้
รูป ร่า งของกาบ lanceolate ห ร อ ovate ก ว ้า ง
ป
ปลายของกาบ ล ovate แคบๆี
แหลม (acute) ม น (obtuse)
ป
การซี ดของกาบ ล กาบปลีด ้า นในซ ี ีด เร ิ่ม ม ีส ี แ ด ง ต ล อ ด
ป ล จ า ก โ ค น ี ถ ึง ป ล า ย ส ม ่ำ เ ส ม อ
ร อ ย แ ผ ล ข อ ง มีล ัก ษณะโหนกเป็ นสัน โ ห น ก ไ ม ่เ ป ็ น ส ัน
ก
กลีบ า รวมเดี
บ ป ่ย ล เ ่ป
วที ี ลายมี
ห รอยย่็น นเห็ ช น ชััด ไ ม ่ม ีร อ ย ย ่น
สีข องดอกตัว ผูค ้ ร ีม ป น ข า ว ช ม พ ูอ ่อ น
ส ีข อ ง ด อ ก ต ัว ส ้ม ค ่อ น ข ้า ง เ ห ล ือ ง ครีม เหลือ งซีด หรอ
เ ีข อ ง ม
ส กาบปล ีย กี าบปลีด ้า นนอกสีแ ดง ช ้า นมน อพก สูอีม ว่ ่อง อ น
ด ม
ม
หรือเหลื่ว องง ส่เว นด้ขา นใน ้ม น
ด ้า น้ำใ น สต ีแ ดาง ส ด ล
ส
ม ่ว ง เ ขีช้ม แ ล ะมเ ห ล ือพง ู
ที่มา : เบญจมาศ, 2545
23
ก ล ุ่ม AA
1
ที่พบในประเทศไทยมีกล้วยบ่า สำหรับกล้วยกิน ได้
ในกลุ่มนีม ้ ีข นาดเล็ก รสหวาน กลิ่นหอม รับประทานสด
ได้แก่ กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง กล้วยหอมจันทร์ กล้วย
ไข่ทองร่วง กล้วยไข่จีน กล้วยน้ำนม กล้วยน้ำไท กล้วยสา
ก ล ว้ ย ห อ ม ก ล ว้ ย ห อ ม จำ ป า ก ล ว้ ย ท อ ง ก า บ ดำ
ก ล ม
ุ่ AAA
กล้ว ยกลุ่ม นีม
้ ีจำ นวนโครโมโซม 2n = 33 ผลจึง มี
ขนาดใหญ่กว่ากลุ่มแรก รูปร่างผลเรียวยาว มีเนื้อนุ่ม รส
หวาน กลิ่นหอม รับประทานสดเช่นกันได้แก่ กล้วยหอม
ทอง กล้วยนาก กล้วยครั่ง กล้วยหอมเขียว กล้วยกุ้งเขียว
กล้ว ยหอมแม้ว กล้ว ยไข่พ ระตะบอง กล้ว ยคลองจัง
ก ล ุ่ม BB
ในประเทศไทยจะมีแต่กล้วยตานีซึ่งเป็ นกล้วยปา
ชนิดหนึ่ง แต่ไม่ได้มี
ถิ่น
กำเนิดในประเทศไทย รับประทานผลอ่อนได้ โดยนำมาใส่
แกงเผ็ด ทำล้มตำ ไม่นิยมรับประทานผลแก่ เพราะมีเมล็ด
มาก แต่คนไทยและคนเอเชีย ส่วนใหญ่รับประทานปลีและ
หยวกไม่มีกล้วยกินได้ในกลุ่ม BB ในประเทศไทย แต่พบว่า
ม ีท ี่ป ร ะ เ ท ศ ฟ ิ ล ิป ป ิ น ส ์
24
ก ล ุ่ม BBB
ก ล ้ว ย ใ น ก ล ุ่ม น เี ้ ก ิด จ า ก ก ล ้ว ย ต า น ี (Musa
balbisiana) เนื้อไม่ค ่อยนุ่ม ประกอบด้ว ยแป้ ง มากเมื่อ
สุกก็ยังมีแป้ งมากอยู่ จึงไม่ค่อยหวานขนาดผลใหญ่ เมื่อ
นำมาทำให้สุก ด้ว ยความร้อ นจะทำ ให้ร สชาติดข ี น
ึ ้ เนื้อ
เ ห น ีย ว น ุ่ม เ ช ่น ก ล ้ว ย เ ล ็บ ช ้า ง ก ุด
ก ล ม
ุ่ AAB
กล้ว ยกลุ่ม นีเ้ กิด จากการผสมระหว่า งกล้ว ยปากับ
กล้วยตานี เมื่อผลสุกมีรสชาติดีกว่ากล้วยกลุ่ม ABB ได้แก่
กล้วยน้ำ กล้วยน้ำฝาด กล้วยนมสวรรค์ กล้วยนิว้ มือนาง
กล้ว ยไข่โ บราณ กล้ว ยทองเดช กล้ว ยศรนวล กล้ว ยขม
กล้ว ยนมสาว แต่ม ีก ล้ว ยกลุ่ม AAB บางชนิด ที่ม ีค วาม
คล้าย กับ ABB กล่าวคือ เนื้อจะค่อนข้างแข็ง มีแป้ งมาก
เมื่อสุกเนื้อไม่นุ่ม ทัง้ นีอ้ าจได้รับเชื้อพันธุกรรมของ กล้วย
ป่ าที่ตา่ ง sub species กัน จึงทำให้ลักษณะต่างกันกล้วย
ในกลุ่มนีเ้ รียกว่า plantain - subgroup ซึ่งจะต้องทำ ให้
สุกโดยการต้ม ปิง้ เผา เช่นเดียวกับกลุ่ม ABB ได้แก่ กล้วย
กล้าย กล้วยงาข้าง กล้วยนิว้ จระเข้ กล้วยหิน กล้วยพม่า
แ ห ก ค ุก
ก ล ม
ุ่ ABB
กล้ว ยกลุ่ม นีเ้ ป็ นลูก ผสมระหว่า งกล้ว ยป่ ากับ กล้ว ย
ตานี มีแ ป้ งมาก ขนาดผลใหญ่ ไม่น ิย มรับ ประทานสด
เพราะเมื่อสุกรสไม่หวานมาก บางครัง้ มีร สฝาด เมื่อนำมา
ต้ม ปิง้ ย่าง และ เชื่อมจะทำให้รสชาติดีขน ึ ้ ได้แก่ กล้วย
หักมุกเขียว กล้วยหักมุกนวล กล้วยเปลือกหนา กล้วยล้ม
กล้ว ยนางพญา กล้ว ยนมหมี กล้ว ยน้ำว้า สำหรับ กล้ว ย
น้ำว้าแบ่งออกเป็ น 3 ชนิด ตามสีของ เนื้อ คือ น้ำว้าแดง
น้ำว้าขาว และน้ำว้าเหลือง คนไทยรับประทานกล้วยน้ำว้า
ทัง้ ผลสด ต้ม ปง และนำมาประกอบอาหาร นอก'จาก'น ี้
ยังมีกล้วยน้ำว้าดำ ซึ่งเปลือกมีสีครั่งปนดำ แต่เนื้อมี สีขาว
รสชาติอร่อยคล้ายกล้วยน้ำว้าขาว สำหรับกล้วยตีบเหมาะ
25
ก ล ม
ุ่ ABBB
กล้วยในกลุ่มนีเ้ ป็ นลูกผสมเช่นกันจึงมีแป้ งมาก และ
มีอ ยู่พ ัน ธุเ ดียวคือ กล้ว ยเทพรส หรอ กล้ว ยทิพ รส ผลมี
ขนาดใหญ่มาก บางทีมีดอกเพศผู้หรอปลี บางทีไ ม่ม ี ถ้า
หากไม่มีดอกเพศผู้ จะไม่ เห็นปลี และมีผลขนาดใหญ่ ถ้า
มีดอกเพศผู้ ผลจะมีข นาดเล็ก กว่า มีหลายหวีและหลาย
ผล การมีปลี และไม่ม ีป ลี นีเ้ กิดจากการกลายพัน ธุแ บบ
กลับไปกลับมาได้ ดังนัน ้ จะเห็นว่าในกอเดียวกันอาจมี
ทัง้ กล้ว ยเทพรสมีป ลีแ ละไม่มีปลี หรอบางครัง้ มี 2-3 ปลี
ในสมัย โบราณเรีย กกล้ว ยเทพรสที่ม ีป ลีว ่า กล้ว ยทิพ รส
กล้ว ยเทพรสที่ส ุก งอมจะหวาน เมื่อ นำ ไปต้ม มีร สฝาด
ก ล ม
ุ่ AABB
เป็ นลูก ผสมมีเ ชื้อ พัน ธุก รรมของกล้ว ยปากับ กล้ว ย
ตานี กล้ว ยในกลุ่ม นีม ้ ีอ ยูช ่ นิด เดีย วในประเทศ ไทย คือ
กล้วยเงิน ผลขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายกล้วยไข่ เมื่อ สุกผิวลี
เหลือ งสดใส เนื้อ ผลลีล ้ม มีแ ป้ งมาก รับ ประทานผลสด
นอกจากกล้ว ยดัง ที่ไ ด้ก ล่า วแล้ว ยัง มีก ล้ว ยป่า ที่เกิด ใน
ธ ร ร ม ช า ต ิซ ึ่ง ม ีเ ม ล ็ด ม า ก ท งั ้ ก ล ้ว ย ใ น ส ก ุล M.
acuminata และ M. itinerans หรอที่เ รยก'ว่า กล้ว ย
หก หรอกล้ว ยอ่า งขาง และกล้ว ยป่ าที่เ ป็ น กล้ว ย
ป ร ะ ด ับ เช ่น ก ล ว้ ย บ ัว ล ีล ้ม แ ล ะ ก ล ้ว ย บ ัว ล ีช ม พ ู
2.1.2 กล้วยหิน
26
1) ประวัติความเป็ นมา
ข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ได้ให้
ข้อมูลเกี่ยวกับกล้วยหิน ไว้ดังนี ้ ชื่อสามัญ : Saba ชื่อ
วิทยาศาสตร์ :Musa sp แหล่งกำเนิด 2 ฝั่ งแม่น้ำปั ตตานี
เขตพื้นที่หมู่บ้านเรือขุด ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา
จังหวัดยะลา โดยทั่วไปแล้วการที่คนตัง้ ชื่ออะไรสักอย่าง
มักจะมีที่มา หรือมีความหมาย ทีซ
่ ้อนเร้นอยู่ หลายคน
วิเคราะห์ว่า เหตุที่ช่ อ
ื ว่า “กล้วยหิน”เพราะกล้วยหินมี
เนื้อแน่น เหนียวกว่ากล้วยอื่น ๆ แต่ผู้เฒ่าหลายคนบอก
ว่า กล้วยหินที่พบครัง้ แรก มักจะขึน
้ บริเวณกรวดหิน 2
ฝั่ งลำแม่น้ำปั ตตานี ซึ่งกล้วยอื่นไม่ชอบขึน
้ จึงเรียกกล้วย
ชนิดนีว้ ่า กล้วยหิน สอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ นาย
ประพาส เสริมคง อายุ 70 ปี อยู่บ้านบันนังบูโบ เลขที่ 8
หมู่ 3 ตำบลถ้ำทะลุ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็ น
เกษตรกรทำสวนผลไม้ ในเนื้อที่ปลูก 20 กว่าไร่ โดยปลูก
ทุเรียน ลองกอง มังคุด และแซมด้วยกล้วยหิน ได้เข้ามา
ตัง้ ถิ่นฐานในหมู่บ้านนีต
้ งั ้ แต่ปี พ.ศ. 2497 ท่านเล่าให้ฟัง
ว่า เคยเห็นกล้วยหินที่มีใบใหญ่ หนา และเขียว มาตัง้ แต่
สมัยสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ประมาณปี พ.ศ 2488 เจริญ
งอกงามดีในบริเวณหมู่บ้านเรือขุด อำเภอบันนังสตา
จังหวัดยะลา ทาง เขื่อนบางลางในปั จจุบัน ซึ่งแต่เดิม
บริเวณนีเ้ คยเป็ นเหมืองร้าง (เหมืองแร่ดีบุก) มีลำธารสาย
27
2) ลักษณะของกล้วยหิน
เหลี่ยมเปลือกหนาค่อนข้างสมบูรณ์ ขนาดเส้นผ่า
ศูนย์กลาง 3 – 5 เซนติเมตรยาว 8 – 12 เซนติเมตร ผล
ดิบเปลือกสีเขียว เนื้อแข็ง เมื่อสุกเปลือกสีเหลือง เนื้อสี
ขาวอมเหลืองถึงเหลือง แน่นแข็ง ไม่ยุ่ย ปลายจุกป้ าน
เมื่อผลแก่จัดตัดมาเก็บไว้ได้นาน 7 – 8 วัน การเรียง ตัว
ของผลเป็ นระเบียบ มีช่องว่างเล็กน้อยอยู่ระหว่างหวี
แต่ละหวี
3) ประโยชน์ของกล้วยหิน
กล้วยหิน เดิมเป็ นพืชเก่าแก่คู่ 2 ฝั่ งแม่น้ำปั ตตานี
โดยเฉพาะในเขตตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัด
ยะลา มีกล้วยหินขึน
้ หนาแน่นเป็ นดงกล้วยหินเลยที่เดียว
คนนอกพื้นที่จากถิ่นอื่นเมื่อได้พบเห็นมักจะเข้าใจว่าเป็ น
กล้วยป่ า ที่งอกเจริญเติบโตขึน
้ เองตามธรรมชาติ เข้าใจว่า
เป็ นกล้วยที่ไม่มีคุณค่าประโยชน์อันใด แท้ที่จริงแล้วกล้วย
หินเป็ นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นของอำเภอบันนังสตา
เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกกล้วยหินมาก ผลผลิตมีไม่
เพียงพอกับความต้องการของตลาด จนทำให้ราคา
ผลผลิตสูงขึน
้ อย่างรวดเร็ว จากหวีละ 2 – 3 บาท เมื่อ
20 ปี ที่แล้ว ปั จจุบันราคาสูงขึน
้ เป็ นหวีละ 10 – 25 บาท
ทัง้ นีเ้ พราะกล้วยหินใช้เป็ นทัง้ อาหารคนและอาหารนก
โดยเฉพาะนกปรอด หรือ นกกรงหัวจุก ซึ่งชาวไทยมุสลิม
29
4) การนำมาปรุงอาหาร
ในส่วนการนำกล้วยหินมาทำเป็ นอาหารนัน
้ ทำได้
หลากหลาย เช่นนำส่วนที่เป็ นแกนของลำต้น หลายคน
เรียกว่า “หยวกกล้วย”นำมาประกอบอาหารประเภทแกง
อาจจะเป็ นแกงไก่ แกงเนื้อ แกงหมู ผสมหยวกกล้วย หรือ
ใช้เป็ นผักจิม
้ น้ำพริก แต่ควรนำมาลวกเสียก่อนถึงจะ
อร่อยมากขึน
้ เช่นกับหัวปลี นอกจากใช้จม
ิ ้ น้ำพริกแทน
ผักได้แล้วยังนำมาทำเป็ นยำหัวปลีก็อร่อยดี ส่วนผลของ
กล้วยหินใช้รับประทานสดก็ได้ แต่ไม่ค่อยนิยมกัน คนมัก
จะนำมาต้มหรือปิ ้ งก่อนจะได้รดชาดหวานหอม กล้วยหิน
ทอด หรือกล้วยแขกเป็ นที่ช่ น
ื ชอบของผู้บริโภค ยิ่งเป็ น
ช่วงฤดูฝนจะขายดีมากเป็ นความรู้สึกว่า อร่อยกว่าช่วง
ไหน ๆ ทานแล้วลดความหนาวเย็นลงได้ นอกจากนีผ
้ ล
ของกล้วยหินยังนำมาฉาบนำมาเชื่อม โดยเฉพาะกล้วย
หินฉาบ กล้วยหินฉาบสมุนไพร เป็ นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่
รู้จก
ั กันโดยทัว่ ไป รสชาติร่อยกว่ากล้วยฉาบอื่น ๆ
5) ข้อดี /ลักษณะเด่นของกล้วยหิน
30
6) อายุการเก็บเกี่ยว
องค์ประกอบของแป้ ง
RS = TS - (RDS + SDS)
โดยที่ RS คือ แป้ งที่ทนต่อการย่อยด้วย เอนไซม์ในลำไล้
เล็ก (resistant starch)
TS คือ ปริมาณแป้ งทัง้ หมด (total starch)
RDS คือ แป้ งที่สามารถถูกย่อย ไปเป็ นนํา้ ตาลกลูโคส
โดยเอนไซม์ในร่างกายได้ อย่างรวดเร็ว (rapidly
digested starch)
SDS คือแป้ งที่สามารถถูกย่อยโดย เอนไซม์ใน
ร่างกายได้อย่างช้าๆ (slowly digested starch) และ
สามารถถูกย่อยไปเป็ นน้ำตาลกลูโคส ได้อย่างสมบูรณ์
สมบัติของแป้ งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์
สมบัติที่สำคัญของแป้ งชนิดนี ้ ได้แก่
1. อนุภาคมีขนาดเล็ก
2. ไม่มีรสชาติ
3. การอุ้มน้ำต่ำ
34
(physically
inaccessible)
2.ประเภทที่ 2 เม็ดแป้ งดิบที่ทนต่อ เม็ดแป้ งกล้วยดิบ เม็ด
(RS2) การทำงานของ แป้ งมันฝรั่งดิบและ
เอนไซม์ (raw or แป้ งที่มีอะไมเลสสูง
ungelatinized
starch) เป็ นแป้ งที่
ยังไม่ผ่าน
กระบวนการทำให้
สุก
36
แป้ งที่ยอ
่ ย Resistant
ตัวอย่างกล้วย แป้ งทัง้ หมด
ได้ starch
กล้วยที่นย
ิ มรับ
ประทาน
23.0 ±
กล้วยน้ำว้า 79.7 ± 1.1* 56.6 ± 5.8
4.8
33.3 ±
กล้วยไข่ 91.0 ± 3.1 57.7 ± 1.1
1.9
28.2 ±
กล้วยหอม 80.5 ± 0.3 52.2 ± 4.1
4.5
15.1 ±
กล้วยเล็บมือนาง 72.1 ± 3.4 57.0 ± 0.2
3.2
10.9 ±
กล้วยหักมุก 72.3 ± 1.8 61.4 ± 2.3
0.5
กล้วยพื้นบ้าน
กล้วยหิน 72.7 ± 1.4 4.6 ± 0.6 68.1 ± 2.0
กล้วยงาช้าง 75.5 ± 1.1 11.0 ± 64.5 ± 1.7
40
0.5
38.0 ±
กล้วยเล็บช้างกุด 88.7 ± 1.1 50.7 ± 0.3
0.7
24.1 ±
กล้วยนางพญา 91.0 ± 0.7 66.8 ± 4.6
3.9
31.3 ±
กล้วยพม่าแหกคุก 91.4 ± 0.0 60.1 ± 0.7
0.7
23.9 ±
กล้วยเทพรส 82.4 ± 0.7 58.5 ± 0.7
0.0
* ตัวเลข แสดงเป็ น ค่าเฉลี่ย ± ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ที่มา : เนตรนภิส วัฒนสุชาติ และคณะ, 2554. จาก
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์
เกิดขึน
้ ดังกล่าวสามารถถูกดูดซึมภายในลำไส้ใหญ่และ
ขนส่งไปยังตับ กรดไขมันจะไปยับยัง้ การเจริญของ
จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค เพิ่มปริมาณของเหลว และปรับ
สภาวะความเป็ นกรด-ด่างในลำไส้ใหญ่ให้ต่าํ ลง โดยมี
รายงานถึงบทบาทของกรดไขมัน butyrate ซึ่งช่วยปรับ
สภาวะลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (rectum) ให้ดีขน
ึ ้ ซึ่งจะ
ยับยัง้ การเจริญของ transformed cell ซึ่งมีบทบาทใน
การป้ องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ยับยัง้ การสะสมไขมัน โดย
มีการทดลองให้ผู้ทดสอบเพศชาย จำนวน 12 คน บริโภค
อาหารที่มีส่วนประกอบของ resistant starch พบว่ามี
อัตราการเกิดออกซิเดชันของลิปิด (lipid oxidation)
เพิ่มขึน
้ ส่งผลต่อการลดการสะสมไขมันใน ร่างกายได้
นอกจากนีก
้ ารบริโภคอาหารที่มี ส่วนประกอบของ
resistant starch อย่างต่อเนื่อง จะช่วยป้ องกัน หรือลด
สภาวะโรคอ้วน มีบทบาทในการลดคอเลสเตอรอลใน
เส้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไขมันอุดดันใน
เส้นเลือด โรคหัวใจ และโรคเบาหวานอีกด้วย
ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ กระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย
ป้ องกันการเกิดมะเร็ง ในลำไห้ใหญ่ กรดไขมัน บิวทิเรต
ยังช่วยปรับสภาวะตอนปลายของลำไส้ใหญ่ให้สมบูรณ
ด้วย (Alexander, 1995; Ferguson et al., 2000)
4. ย ับ ย งั ้ ก า ร ส ะ ส ม ไ ข ม ัน Higgins แ ล ะ ค ณ ะ
(2004) ทำการศึกษาโดยใช้ผู้ทดสอบเพศชาย จำนวน 12
คนให้บริโ ภคอาหารที่ม ีก ารเติม เส้น ใยจากแป้ งที่ท นต่อ
การย่อยด้ว ยเอนไซม์เป็ น ส่ว นผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร
พบว่าแป้ งที่ทนต่อการย่อยสลายด้วยเอนไซม์ช่วยลดการ
สะสมของ ไขมัน เนื่องจากภายหลังการบริโ ภคเกิดการ
อ อ ก ซ ิเ ด ช ัน ข อ ง ล ิพ ิด (lipid oxidation) เ พ ิ่ม ข นึ้
5. เกี่ยวข้องกับการดูดซึมแร่ธาตุที่ลำไล้ จากงาน
วิจัยของ Morais และ
คณะ (1996) ที่ได้ ทำการศึกษาเปรียบเทียบผลของแป้ ง
2 ชนิด ได้แก่ แป้ งที่มีส่วนผสมของ แป้ งที่ทนต่อการย่อย
ด้วยเอนไซม์ ร้อยละ 16.4 และแป้ งที่ไม่ได้ผสม โดยตรวจ
สอบผลต่อการดูดซับของแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก
และสังกะสี พบว่า แป้ งที่ทนต่อ การย่อยด้วยเอนไซม์ มี
ผลต่อการดูดซึมแคลเซียม และเหล็กของลำไส้
6. หน้าที่อ่ น ื ๆ ของแป้ งที่ทนต่อการย่อย ด้วย
เอนไซม์ หรือเส้นใยอาหาร
ช่วยป้ องกันหรือ ลดสภาวะโรคอ้วน มีบทบาทในการลด
คลอเรสเตอรอลในเน้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ และ โรคเบาหวาน
เป็ นต้น
45
สำหรับการประยุกต์ใช้แป้ งที่ทนต่อการย่อยด้วย
เอนไซม์ในอุตสาหกรรมอาหาร จะเห็นว่าในอุตสาหกรรม
อาหารใช้แป้ งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์เป็ นแหล่งของ
เส้นใยสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความชื้นหลายชนิด
เนื่องจาก มีอนุภาคขนาดเล็ก ไม่มีรสชาติ และการอุ้มน้ำ
่
ไม มาก เช่น ขนมปั ง มัฟฟิ นส์ (muffins) และอาหารเช้า
จากธัญพืช ปริมาณการใช้เป็ นส่วนผสมของ อาหารขึน ้ อยู่
กับชนิดผลิตภัณฑ์ หน้าทีข ่ องแป้ งที่ทนต่อการย่อยสลาย
ด้วยเอนไซม์ในผลิตภัณฑ์ อาหาร เช่น ช่วยปรับปรุง
ลักษณะเนื้อสัมผัสในผลิตภัณฑ์เค้ก (cake) และบราวนี
(brownie) นอกจากนีย ้ ังเป็ นสารให้ความกรอบในผลิต
ภัณฑ์วาฟเฟล (waffle) ขนมปั งปิ ้ ง และช่วยปรับปรุง
การพองตัวในขนม (Sajilata et al., 2006) ในการศึกษา
วิจัยของ Ranhotra และคณะ (1996b) พบว่าการใช้แป้ ง
ทีท
่ นต่อการย่อยสลายด้วยเอนไซม์ในอาหารไม่ทำให้เนื้อ
สัมผัสของอาหารมี ลักษณะหยาบเหมือนกรวดทราย
และไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลง ลักษณะเนื้อ
สัมผัสของอาหารเหมือนกับการใช้เส้นใยอาหาร จากแห
ล่งอื่นๆ
แปรรูปจากกล้วยเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ไว้ดังนี ้
แป้ งกล้วยเป็ นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการน่ากล้วยดิบมา
แปรรูปเป็ นแป้ ง เพื่อเป็ นการถนอมอาหารและ สามารถ
น่าไปเป็ นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ ได้แก่
ผลิตภัณฑ์ขนมอบ และผลิตภัณฑ์ขนมไทยกล้วยดิบมี
คุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วย นํา้ แป้ ง โปรตีน
ไขมัน เส้นใย วิตามิน เกลือ แร่ต่างๆ โดยมีปริมาณแป้ ง
แคลเซียม เหล็ก และโปแตสเชียม สูงกว่าแป้ งหลายชนิด
เซ่น แป้ งข้าวโพด แป้ งมันสำปะหลัง เป็ นต้น นอกจากนี ้
ยังมีสารอื่น ๆ ได้แก่ เอนไซม์ เพคติน แทนนิน ฯลฯ มี
การใช้กล้วยดิบเพื่อเป็ นยาโดยทำให้แห้ง แล้วบดผสมกับ
น้ำหรือน้ำผึง้ เพื่อป้ องกันและรักษาแผลในกระเพาะ
อาหาร แก้ทอ
้ งเสีย นอกจากนีก ์ ้ องกัน
้ ล้วยดิบยังมีฤทธิป
เชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วยแป้ งกล้วยจะมีกลิ่นเฉพาะตัว
มีคุณสมบัติทางกายภาพที่ดีรวมตัวกับน้ำได้ดี คือ เมื่อได้
รับความร้อนจะพองตัวใส เมื่อปล่อยให้เย็นจะเกิด
ลักษณะคล้ายวุ้น เนื่องจากเป็ นแป้ งที่มีอะไมโลสสูง จึง
ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะที่จะนำมาทดแทนแป้ งสาลี
ในผลิตภัณฑ์ขนมอบได้ดี บางชนิดของผลิตภัณฑ์สามารถ
ทดแทนได้สูงถึงร้อยละ 50 คุณภาพของแป้ งกล้วย จะขึน
้
อยูก
่ ับกรรมวิธก
ี ารผลิต ความสะอาด และความสุกของ
กล้วยเป็ นสำคัญ กล้วยดิบจะมีปริมาณแป้ งและแทนนิน
51
2.3.2 ระยะการเก็บเกีย
่ วกล้วยหรือวิธีสังเกตความสุก
ของกล้วย
2.3.4 ก า ร ทำ แ ป ้ ง ก ล ้ว ย ห ิน
อุปกรณ์
1. มีด ที่หั่นอาหารเป็ นชิน
้ บาง ๆ เครื่องหั่นอาหาร
2. กะละมังสแตนเลส หรือกะละมังเคลือบ
3. เขียง
4. ทัพพี, ทัพพีโปร่ง
5. เครื่องชั่ง
6. หม้อ
61
7. กระด้ง, ตะแกรง
8. ตู้อบแห้งโดยใช้ไฟฟ้ า
9. เครื่องบดของแห้ง เช่น เบรนเดอร์ (Blender)
10. เครื่องร่อนใช้ตะแกรงร่อนขนาด 100 เมซ.
11. ภ า ซ น ะ บ ร ร จ ุข อ ง แ ห ้ง สำ ห ร ับ บ ร ร จ ุแ ป้ ง ก ล ้ว ย
ขัน
้ ตอน
2.4 ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผงแป้ ง
ข้าวเกรียบแป้ งกล้วย
ส ่ว น ผ ส ม
รายการ นํา้ หนัก ปริมาตร ต้นทุนวัตถุดิบ
แป้ งมันสำปะหลัง (กรัม)
900 9 ถ้วย (บาท)
12.60
แป้ งกล้วย 100 1 ถ้วย 8.50
เกลือป่ น 30 2 ช้อน 0.50
พริกไทยป่ น 30 โต๊ช้ะอน
2 6.00
น้ำตาลทรายชาว 40 1/4 ถ้วย 0.75
กระเทียมปอกเปลือก 50 1/4 ถ้วย 2.50
น้ำร้อนจัด 600 2. 1/4
น้ำมันพืชสำหรับ 1000 ถ้
1วลิยตร 40.00
-
ทอด รวม 1,750 70.85
ขนมกงแป้ งกล้วย
ส่ วนผสมตัวขนม
รายการ นํา้ หนัก ปริมาตร ราคาด้นทุน
(กรัม) 1 ถ้วย 5.50
ถั่วเขียวคั่วป่ นละเอียด 100
ร่อนแล้ว
กะทิ 250 1 ถ้วย 12.00
นํา้ ตาลทราย 160 1 ถ้วย 2.55
65
ส่ วนผสมแป้ งสำหรับซุบ
รายการ นํา้ หนัก ปริมาตร ราคาด้นทุน
แป้ งสาลี (กรัม)
200 6.80
2 ถ้วย -
นํา้ ปูนใส 500 2 ถ้วย
นํา้ มันพืซ 22 2 ซ้อนโต๊ะ 1.00
จากการศึกษาข้อมูลข้างต้น สำหรับการศึกษาวิจัยใน
ครัง้ นี ้ ทีมผู้วิจัยได้ทำการผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผงแป้ ง
กล้วยหิน เนื่องจากเป็ นกล้วยพื้นบ้านที่สามารถเพาะปลูกได้
ดี และมีคุณภาพตามหลัก GI ในเขตพื้นที่อำเภอบันนังสตา
จังหวัดยะลา ราคากล้วยหินดิบประมาณ 25-45 บาท ต่อ 1
กิโลกรัม ทัง้ นีข
้ น
ึ ้ กับฤดูกาลของผลผลิตกล้วยในพื้นที่ และ
เป็ นราคาที่ทีมผู้วิจัยจัดซื้อในราคาปลีกจากพ่อค้าคนกลาง
70
โดยไม่ได้ซ้อ
ื จากเกษตรกรในสวนกล้วยหินโดยตรงที่ขาย
ราคาโดยประมาณ กิโลกรัมละ 9-10 บาท และกล้วยหินมี
ค่าความเป็ นแป้ งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในลำไส้เล็ก
( Resistant Starch: RS) สูงถึงร้อยละ 68.1 (เนตรนภิส
วัฒนสุชาติและคณะ, 2554) จึงให้คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
เช่นเดียวกับใยอาหาร (Dietary Fiber) ย่อยสลายเป็ น
น้ำตาลได้ช้าในระบบทางเดินอาหาร และ RS ยังช่วยให้
ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี เสริมสร้างร่างกายให้แข็ง
แรงและมีสุขภาพที่ดี อีกทัง้ คุณสมบัติของแป้ งกล้วยหิน ซึ่ง
เป็ นแป้ ง RS มีค่าการอุ้มน้ำตํ่า สามารถใช้เป็ นแหล่งใย
อาหารในผลิตภัณฑ์ที่มีความชื้นตํ่า เช่น คุกกี ้ ขนมปั งกรอบ
เป็ นต้น ทีมผู้วิจัย
พิจารณาแล้วจึงได้นำแป้ งกล้วยหินมาผลิตเป็ นผลิตภัณฑ์
คุกกี ้ ชื่อ “คุกกีจ
้ ากผงแป้ งกล้วยหินถิน
่ นังตา” นอกจากนี ้
คุกกีเ้ ป็ นขนมอบ เป็ นผลิตภัณฑ์ที่นิยม สามารถบริโภคได้กับ
ทุกวัย ขัน
้ ตอนกับผลิตไม่ยุ่งยาก ส่วนประกอบไม่มาก
สามารถเก็บรักษาได้นาน ตัวคุกกีส
้ ามารถรักษาความหอม
ของกลิ่นกล้วยได้ดี เหมาะกับการนำไปบริโภคในเทศกาล
ต่างๆ การบรรจุลงบรรจุภัณฑ์สะดวก รวมทัง้ การพกพาตาม
โอกาส สถานที่ต่างๆ วัตถุดิบ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ
นำเสนอไว้ดังนี ้
71
คุกกีจ
้ ากผงแป้ งกล้วยหินถิ่นนังตา
ส ่ว น ผ ส ม
นํา้ หนัก ปริมาต ต้นทุน ต้นทุนวัตถุดิบ
รายการ (กรัม) ร วัตถุดบ
ิ กรณีซ้อื กล้วย
(บาท) หินดิบ
แป้ งกล้วยหิน 500 157 57.5
เกลือป่ น 0.75 0.2 0.2
น้ำตาลทราย 275 ช้อนชา 4.5 4.5
ขาว
(สู ตรละลาย
เนยสด 350 118 118
ไข่ไก่ 2 ฟอง 6 6
ผงฟู 3 ช้อน 4 4
72
-
รวม 290 190
ราคาคุกกีต
้ ่อชิน
้ 2.2 บาท/ 1.5 บาท/ชิน
้
หมายเหตุ
1. ต้นทุนแป้ งกล้วยหิน (กรณีซ้อ
ื กล้วยหินดิบจากสวนกล้วยหิน
ทีข
่ ายประกันราคาเหมา ราคากิโลกรัมละ 10 บาท อ้างอิง
จาก การประชุมกลุ่มเกษตรกรเจ้าของสวนกล้วยหิน ต.ถ้ำ
ทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ 2 กันยายน 2558 ) ราคา
แป้ งกล้วยหิน โดยประมาณ 110-120 บาท/1 ก.ก.
2. 1 หน่วยผลิต สามารถทำคุกกี ้ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
ประมาณ 4 เซนติเมตร หนา 0.5 เซนติเมตร ได้ประมาณ
120-140 ชิน ้
วิธีการทำคุกกี ้
บทที่ 3
วิธีดําเนินการ
การศึกษาวิจัยเรื่องประสิทธิผลของการแปรรูป
ผลิตภัณฑ์แป้ งกล้วยหิน และแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์
สุขภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะทางกายภาพ
ของแป้ งกล้วยหิน พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน
ประเมินความพึงพอใจและความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อ
ผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน และเพื่อเสนอแนะแนวทาง
พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
75
มีวิธีการดำเนินงาน ดังนี ้
3.1 รูปแบบการวิจย
ั
กับกลุ่มตัวอย่าง
6)ศึกษาความเป็ นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ และพัฒนา
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อ
ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ประกอบการหรือชุมชน
เกษตรกรชาวสวนที่ปลูกกล้วยหิน โดยการประชุม
กลุ่มเกษตรกรชาวสวน และสอบถามความคิดเห็น
ตัวแทนระดับจังหวัด
1) ประชากร
2) กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย
- มีเวลาว่างในการเตรียมวัตถุดิบตามเวลา
นัดหมาย
ซึ่งมีผู้แปรรูปในขัน
้ เตรียมวัตถุดิบที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
จำนวน 2 คน
2.2.2) ขัน
้ แปรรูปวัตถุดิบกล้วยหินเป็ นแป้ งกล้วย
หิน
- เป็ นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเชิง
วิชาการ และทักษะในการ
แปรรูปวัตถุดิบ
- ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่เป็ นโรคต้อง
ห้าม
- สมัครใจในการเข้าร่วมการวิจัยทำการ
แปรรูปผลิตภัณฑ์
- มีเวลาว่างในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ตาม
เวลานัดหมาย
ซึ่งมีผู้แปรรูปวัตถุดิบกล้วยหินเป็ นแป้ งกล้วยหิน ที่ผ่าน
เกณฑ์ดังกล่าว
จำนวน 2 คน
80
2.3) ผู้บริหารระดับจังหวัด
ทำการเลือกแบบจำเพาะเจาะจง ในตำแหน่งผู้
บริหารที่ปฏิบัติงาน ณ หน่วยงาน ในอำเภอเมือง
81
2.4) ผู้บริโภค
2.4.1) บุคลากรของวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร
จังหวัดยะลา
ทำการศึกษากับบุคลากรทัง้ หมดของวิทยาลัย จำนวน
88 คน
2.4.2) บุคคลทั่วไป
กรณีไ ปทดลองผลิต ภัณ ฑ์ภ ายนอกวิท ยาลัย กลุ่ม
ตัวอย่างได้มาโดยวิธก
ี ารบังเอิญ จำนวน 30 คน
82
3.3.1 แบบบันทึกข้อมูลเกีย
่ วกับวัตถุดิบ แป้ งกล้วยหิน
และผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน
ผู้วิจย
ั เป็ นผู้สร้างเอง โดยแบ่งออกเป็ น 4 ส่วน
ส่วนที่ 1 ระยะเวลาเก็บเกี่ยว
ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งวัตถุดิบ
ส่วนที่ 3 ลักษณะวัตถุดิบ
ส่วนที่ 4 น้ำหนักกล้วยหินก่อนแปรรูป
ส่วนที่ 5 ราคากล้วยหิน
ส่วนที่ 6 น้ำหนักผงแป้ งหลังแปรรูป
ส่วนที่ 7 คุณลักษณะทางกายภาพของแป้ งกล้วยหิน
ผู้วิจย
ั เป็ นผู้สร้างเอง โดยแบ่งออกเป็ น 5 ส่วน
ส่วนที่ 1 ความคิดเห็นเกี่ยวกับกล้วยหินและการเพาะปลูก
ส่วนที่ 2 ความคิดเห็นเกี่ยวกับแป้ งกล้วยหิน
83
ส่วนที่ 3 ความคิดเห็นเกี่ยวกับการผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ ง
กล้วยหิน
ส่วนที่ 4 ความเป็ นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ และพัฒนา
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ส่วนที่ 5 ข้อเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
3.3.3 แบบประเมินความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์แปรรูป
แป้ งกล้วยหิน (คุกกี)้
ลักษณะแบบประเมินความพึงพอใจ ผู้วิจัยสร้างขึน
้ เองโดย
แบ่งออกเป็ น 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
ส่วนที่ 2 สอบถามความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ ง
กล้วยหิน
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
84
การแปลผลค่าคะแนนเฉลี่ย ใช้หลักเกณฑ์การแปลผลค่า
เฉลี่ย ดังนี ้
คะแนนเฉลี่ย 1.00-1.49 หมายถึงพึงพอใจน้อยที่สุด
คะแนนเฉลี่ย 1.50-2.49 หมายถึงพึงพอใจน้อย
คะแนนเฉลี่ย 2.50-3.49 หมายถึงพึงพอใจปานกลาง
คะแนนเฉลี่ย 3.50-4.49 หมายถึงพึงพอใจมาก
คะแนนเฉลี่ย 4.50-5.00 หมายถึงพึงพอใจมากที่สุด
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็น
85
3.3.4 การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือดังนี ้
1) เครื่องมือที่สร้างขึน
้ ผู้วิจัยได้พัฒนาขึน
้ เอง และได้ให้
ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านสมุนไพร ด้านการวัดประเมิน และ
ด้านการศึกษา โดยจำนวน 3 ท่านในการตรวจสอบความ
ตรงของเนื้อหา
2) ผู้วิจย
ั ปรับแก้ตามข้อเสนอแนะ
3) จัดเตรียมเครื่องมือวิจัยเพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
อนุเคราะห์ในการเข้าสัมภาษณ์ ทำการนัดหมายล่วงหน้า 1
สัปดาห์ และจัดทำตารางนัดหมายในการเข้าเก็บรวบรวม
ข้อมูล โดยทีมผู้วิจัยไปสัมภาษณ์ตัวแทนระดับจังหวัดด้วย
ตนเองที่ได้ทำการเลือกแบบเจาะจงไว้แล้ว ณ สถานที่ปฏิบัติ
งานของกลุ่มตัวอย่าง ก่อนการสัมภาษณ์ ขออนุญาตการ
บันทึกเทป บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และสรุปข้อมูล
ในภาพรวม
3.4.3 แบบสอบถามความพึงพอใจ เก็บรวบรวม
ข้อมูลจากผู้บริโภคผลิตภัณฑ์
แปรรูปแป้ งกล้วยหิน (คุกกี)้ ภายหลังที่ผู้บริโภคได้รับ
ประทานเป็ นอาหารว่าง ในกิจกรรมโครงการต่างๆ ของ
วิทยาลัย ซึ่งเป็ นบุคลากรภายในวิทยาลัยที่มาเข้าร่วม
กิจกรรม โครงการ รวมถึงกลุ่มตัวอย่างภายนอกทีท
่ ีมผู้วิจัก
ลุ่มตัวอย่างได้มาโดยวิธีการบังเอิญ
3.4.4 ข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือการวิจัยทุกฉบับนำ
มาตรวจสอบความถูกต้อง
สมบูรณ์ ครบถ้วน และทำการวิเคราะห์ในภาพรวม
3.5 การวิเคราะห์ขอ
้ มูล
88
บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัยพบว่า
1. คุณลักษณะทางกายภาพของแป้ งกล้วยหิน
ตารางที่ 4.1 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบ (กล้วยหิน)
เวลา ลักษณะกล้วยหิน น้ำหนัก น้ำหนัก *ร้อย น้ำ **ร้อย
ครั ้
เก็บ กล้วย กล้วย ละน้ำ หนัก ละน้ำ
ง
เกี่ยว ก่อน หลัง หนัก ผง หนัก
89
เขียว
4 ก.ค. ให เขียว มี เรียบ 51 25.5 51 7.5 29.4
58 ญ่ ออกเห เหลี่ย แข็ง
ลือง ม
นิดๆ ชัดเจ
น
มาก
รวม 321 123.7 161.4 29.4 94.9
เฉลี่ย 80.3 30.9 40.4 7.4 24.7
หมายเหตุ
* ร้อยละน้ำหนักกล้วยหลังปอก โดยคิดเทียบกับน้ำหนักกล้วย
ก่อนปอกเปลือก
** ร้อยละน้ำหนักผงแป้ งหลังแปรรูป โดยคิดเทียบกับน้ำหนัก
กล้วยหลังปอกเปลือก
จากตารางที่ 4.1 พบว่ากล้วยหินดิบที่นำมาแปรรูปเป็ นแป้ งกล้วย
หินจำนวน 4 ครัง้ น้ำหนักรวม 321 กิโลกรัม ภายหลังปอก
เปลือกมีน้ำหนักรวมเหลือเท่ากับ 161.4 กิโลกรัม คิดเป็ นร้อยละ
40.4 เทียบกับน้ำหนักกล้วยดิบก่อนปอกเปลือก ได้น้ำหนักผง
แป้ งกล้วยหิน รวมเท่ากับ 29.4 กิโลกรัม เมื่อพิจารณาการ
แปรรูปผงแป้ งกล้วยหินเป็ นรายครัง้ พบว่า การแปรรูปครัง้ ที่ 4
เดือน กรกฎาคม 2558 กล้วยหินดิบ มีผลขนาดใหญ่ เปลือกผิวสี
เขียวออกเหลืองนิดๆ มีเหลี่ยมชัดเจนมาก ได้น้ำหนักผงแป้ ง
91
58
3 พฤษภาคม 10.0 3,600.00 360.00
58
4 กรกฎาคม 7.5 1,275.00 170.00
58
เฉลี่ย 7.4 2,343.75 313.31
จากตารางที่ 4.3 พบว่าราคาผงแป้ งกล้วยหิน ค่าเฉลี่ยในช่วง
เดือนธันวาคม 2557 ถึงเดือนกรกฎาคม 2558 กิโลกรัมละ
313.3 บาท โดยราคาสูงสุดในเดือน ธันวาคม 57 กิโลกรัมละ
434.78 บาท ราคาต่ำสุด ในเดือนกรกฎาคม 2558 ราคา
กิโลกรัมละ 170 บาท
94
58 กล้วย
3 พฤษภาคม ละเอียด ครีม กลิ่นหอม
58 กล้วย
4 กรกฎาคม ละเอียด ขาว กลิ่นหอม
58 ครีม กล้วย
จากตารางที่ 4.4 พบว่า จากการแปรรูปกล้วยหินดิบทุกครัง้ ได้
ผงแป้ งละเอียด สีขาวครีม จนถึงครีมเข้ม มีกลิ่นหอมกล้วย
)
1 ธันวาคม 434.78 ครัง้ ที่ 1 200
57 1
ครัง้ ที่ 1 180
2
ครัง้ ที่ 0.5 90
3
2 - - -
3 - - -
4 กรกฎาคม 170.00 ครัง้ ที่ 1 180
58 1
ครัง้ ที่ 1 150
2
ครัง้ ที่ 0.28 40
3
ครัง้ ที่ 0.50 156
4
ครัง้ ที่ 0.22 64
5
ครัง้ ที่ 0.50 130
6
97
ประทาน
3. สีสันของคุกกีก
้ ล้วยหินมีความ 4.07 0.66 มาก
เหมาะสม ชวนรับประทาน
4. ความแข็งของคุกกีก
้ ล้วยหินมี 4.21 0.62 มาก
ความเหมาสมไม่ร่วนเกินไป
5. กลิ่นของคุกกีก
้ ล้วยหินมีความ 4.10 0.72 มาก
หอม ชวนรับประทาน
ด้านรสสัมผัส
6. เมื่อรับประทานคุกกีก
้ ล้วยหินท่าน 4.02 0.58 มาก
สัมผัสได้ถึงความกรอบของเนื้อ
คุกกี ้
7. เมื่อรับประทานคุกกีก
้ ล้วยหิน 3.97 0.71 มาก
ท่านรับรู้ถึงความหอม หวาน
ละมุนลิน
้
8. โดยภาพรวมแล้วท่านพึงพอใจต่อ 4.11 0.57 มาก
คุกกีก
้ ล้วยหินในระดับใด
ด้านอื่นๆ
9. ความแปลกใหม่ต่อคุกกีก
้ ล้วยหิน 4.27 0.69 มาก
10. การพัฒนาเชิงการค้าของคุกกี ้ 4.31 0.66 มาก
แป้ งกล้วยหิน
11. การพัฒนาเชิงต่อยอดผลิตภัณฑ์ 4.35 0.85 มาก
99
สุขภาพจากแป้ งกล้วยหิน
ค่าเฉลี่ย 4.13 0.68 มาก
ข้อเสนอแนะอื่นๆ (n=24 )
100
ข้อ ประเด็น
9 เพิ่มปริมาณในถุงเวลาให้ทดลองชิม
10 ใช้แป้ งกล้วยอย่างเดียวมันจะแพงไปหรือเปล่า
11 เพิ่มรส เช่น รสช็อกโกแลตชิพ
ตารางที่ 4.8 ข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อ
สุขภาพ (n=11)
1. ข้อมูลทั่วไปของผู้ปลูกกล้วยหิน
2. ผลการสนทานากลุ่ม
105
ส่วนที่ 1 : ข้อมูลเกี่ยวกับกล้วยหินและการเพาะปลูก
จากการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วย
หินในพื้นที่ หมู่ที่ 5 บ้านบาตูตาโมง ตำบลถ้ำทะลุ อำเภอ
บันนังสตา จังหวัดยะลา ผู้ให้ข้อมูลให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า
ลักษณะพื้นที่ที่เหมาะในการเพาะปลูกและส่งผลต่อการ
เจริญเติบโตที่ดีของกล้วยหินนัน
้ ควรเป็ นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
อากาศเย็น ไม่ร้อนหรือแห้งแล้งจนเกินไป โดยพื้นที่ตำบลถ้า
ทะลุนน
ั ้ มีลักษณะเป็ นที่ราบล้อมรอบด้วยภูเขา มีฝนตกชุก
และดินเกิดจากการสลายตัวของหิน รวมทัง้ ชัน
้ ดินที่ลึกลงไป
มีลักษณะเป็ นหิน ทำให้ดินด้านบนมีความชื้นสูง แต่ไม่อุ้มน้ำ
มาก ซึ่งเป็ นลักษณะที่กล้วยหินชอบและเจริญเติบโตได้ดี
นอกจากนีผ
้ ู้ให้ข้อมูลยังเล่าอีกว่า พื้นที่บริเวณอำเภอ
บันนังสตาไล่ไปถึงอำเภอธาร
โต จังหวัดยะลานัน
้ สามารถปลูกกล้วยหินได้ทุกหมู่บ้าน แต่
จะให้คุณภาพของกล้วยหินต่างกัน เนื่องจากบางพื้นที่โดย
106
อาชีพหลักแล่จะปลูกเสริมในสวนผลไม้ระหว่างสวนผลไม้ยัง
ไม่ให้ผลผลิต ก็สามารถเก็บ
เกี่ยวกล้วยจำหน่ายได้ก่อน แต่เมื่อไม้ผลโตขึน
้ ก็มักจะไม่ได้
ผลผลิตจากกล้วยหิน
1.2 ระยะเวลาในการเก็บเกีย
่ ว ในแต่ละเดือน มีผลต่อ
คุณภาพ/ขนาดของผลหรือไม่
ระยะเวลาในการเก็บเกีย
่ วผลผลิตกล้วยหินได้หากนับ
เวลาตัง้ แต่เริ่มลงหน่อ
พันธุ์จะใช้เวลาอยู่ที่ 12-13 เดือน ทัง้ นีข
้ น
ึ ้ อยูก
่ ับลักษณะ
และความสมบูรณ์ของหน่อพันธุ์ ถ้าหน่อพันธุ์สมบูรณ์ก็จะ
สามารถให้ผลผลิตได้เร็ว โดยหลังปลูก กล้วยหินจะเริ่มแทง
ช่อดอกเมื่ออายุประมาณ 10 เดือน และรอจนกว่าผลกล้วย
จะแก่จัดได้ที่อีกประมาณ 2-3 เดือน โดยกล้วยหินสามารถ
ให้ผลผลิตได้ทงั ้ ปี แต่คุณภาพที่ได้จะมีความแตกต่างกันขึน
้
อยู่กับปั จจัยต่อไปนี ้ 1) ขนาดของหน่อพันธุ์ ยิ่งหน่อพันธุ์มี
ขนาดใหญ่ก็จะสามารถให้กล้วยที่คุณภาพและผลโต ระยะ
เวลาในการเก็บเกี่ยวก็จะเร็วกว่าหน่อเล็ก 2) กล้วยใหม่ (กล้
วยที่ได้จากกอที่อายุน้อย) โดยกล้วยจากกอที่ปลูก 1-2 ปี
แรกจะมีคุณภาพดีที่สุด และยิ่งอายุมากขึน
้ (ชาวบ้านเรียก
108
1.3 ลักษณะกล้วยหินที่บ่งบอกว่ามีคุณภาพสังเกตจาก
ลักษณะกายภาพอะไรบ้าง ทัง้ ลักษณะผิวเปลือก
ภายนอกและปอกเปลือกแล้ว
109
กลุ่มผู้ให้ข้อมูลกล่าว่ากล้วยหินที่มีคุณภาพต้องมี
ลักษณะดังนี ้ 1) ไม่ติดเปลือก โดยกล้วยที่สุกประมาณ 80-
90% ผิวภายนอกจะเป็ นสีเขียวปนเหลือง กรณีนำไปทำ
กล้วยฉาบจะให้กล้วยสุกประมาณ 80% การปอกยังคงต้อง
ใช้มีดช่วยตัดปลาย และกรีดผล แต่ต้องปอกง่ายไม่ติด
เปลือก และเมื่อกล้วยหินมีความสุกมากขึน
้ จะทำให้ผิวตึง
เนียน และเหลี่ยมผลน้อยลง 2) กล้วยหินที่ดีต้องไม่มีเมล็ด
และ 3) ไส้กล้วยมีสีชมพู ซึ่งเป็ นกล้วยหินที่คุณภาพดีที่สุด
เนื้อกล้วยจะเหนียวมากกว่ากล้วยที่มีไส้สีเหลือง
ผู้ให้ข้อมูลให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า ปั จจุบันความ
ต้องการกล้วยหินยังไม่
เพียงพอกับความต้องการของท้องตลาด ทัง้ ภายในและ
ภายนอกประเทศ ซึ่งมีการนำ
กล้วยหินไปใช้ประโยชน์ในแง่ต่างๆ เช่น การเลีย
้ งนกกรงหัว
จุก ซึ่งเป็ นนกที่นิยมเลีย
้ ง
110
นัน
้ ถ้าพ่อค้าให้ราคาต่อหวีสูงกว่า 20 บาทจะขายแยกหวี
แทน และเมื่อสอบถามว่า ราคาขายส่งจากสวน แค่ไหนคือ
จุดที่ชาวบ้านไม่ขาดทุนและพึงพอใจ ผู้ที่ให้ข้อมูลกล่าวว่า
ถ้าได้ราคาอู่ในช่วง 9-10 บาท เป็ นช่วงที่พอเหมาะ รวมทัง้
สามารถจัดการบริหารหรือจัดตัง้ กลุ่มมารองรับการขยายตัว
ในอนาคต เพื่อจัดหากล้วยหินดิบส่งให้ทางวิทยาลัยได้
1.6 ปกติมาการนำกล้วยหินไปแปรรูปหรือใช้ประโยชน์
อย่างไรบ้าง
ผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่าปั จจุบันกล้วยหินส่วนใหญ่ในส่วน
ของเกษตรกรจะเป็ นการ
ขายกล้วยดิบเสียมากกว่า แต่ในพื้นที่อำเภอบันนังสตาเอง ก็
มีกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรที่ทำ
การแปรรูปกล้วยหินเป็ นกล้วยฉาบอยู่ บริเวณหมู่ 1 แต่ไม่ได้
ทำเป็ นหลัก จะทำตามใบสั่ง
ซื้อเท่านัน
้ นอกจากนัน
้ ก็อาจเป็ นการขายในลักษณะของ
อาหารเช่น กล้วยต้ม กล้วยทอด
กล้วยเชื่อม
113
2.1 มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการแปรรูปกล้วยหินเป็ น
แป้ งกล้วยหิน
ส่วนที่ 3 : ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การแปรรูป
แป้ งกล้วยหิน
ผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่าการแปรรูปผงแป้ งกล้วยหินมาเป็ น
ขนมคุกกี ้ เป็ นสิ่งที่ดี แปลกใหม่ และคิดว่าถ้ามีจำหน่าย
ตนเองพร้อมจะซื้อบริโภค
114
4.1 มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการพัฒนากล้วยหินในพื้นที่
โดยการสร้างมูลค่าเพิ่ม
ผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่าการพัฒนากล้วยหินในพื้นที่เป็ นการ
ช่วยในการรักษาสายพันธุ์กล้วยหิน เนื่องจากปั จจุบันกล้วย
ที่ปลูกส่วนใหญ่เป็ นเพียงพืชแซมในสวนผลไม้ ซึ่งเมื่อผลไม้
โตเต็มที่ก็จะทำให้กล้วยหินไม่สามารถให้ผลผลิตได้อีกต่อไป
และอนาคตอาจเกิดการขาดแคลน แต่ถา้ มีการพัฒนาอย่าง
จริงจัง สามารถทำให้เกษตรกรปลุกกล้วยหินกลายเป็ น
อาชีพหลักก็จะทำให้กล้วยหินคู่กับบันนังสตา ไม่สูญพันธุ์
เนื่องจากกล้วยหินเป็ นพืชบ่งชีท
้ างภูมิศาสตร์ของบันนังสตา
(GI) จึงอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาพัฒนา และพร้อม
ให้ความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกับทางราชการมากกว่า
ภาคเอกชน
4.2 มีความคิดเห็นว่ากล้วยหินในพื้นที่สามารถพัฒนาเป็ น
ผลิตภัณฑ์อะไรได้อีกบ้าง ทัง้ ประเภทอาหาร/ขนม
115
ผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่าถ้าอนาคตมีความต้องการสูง พร้อม
ทีจ
่ ะให้ความร่วมมือ และอาสาเป็ นแกนนำในการรวมกลุ่ม
เกษตรกร เพื่อทำการจัดหากล้วยดิบให้กับทางวิทยาลัย การ
จัดทำทะเบียน แต่อาจจะต้องมีการตกลงความเข้าใจหรือ
การประกันราคา และพร้อมรับการถ่ายทอดความรู้จากทาง
วิทยาลัย
116
4.4 ทราบหรือไม่ว่ากล้วยหินมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร
บ้าง และคิดว่าถ้าจะทำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพควรทำในรูป
แบบใด
ผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีการใช้และ
บริโภคกล้วยหินมานาน แต่ทราบเพียงว่ากล้วยหินเป็ นกล้วย
ที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ต้มไม่เละ โดยรู้ว่ามีคุณค่ามากกว่า
กล้วยอย่างอื่นแต่ไม่ทราบว่าดีอย่างไร ส่วนในแง่สมุนไพร มี
การใช้กล้วยหินต้มให้แม่หลังคลอดทาน เพื่อช่วยในการ
เรียกน้ำนม
ส่วนที่ 5 : ข้อเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ผู้ให้ข้อมูลผู้ให้ข้อมูลกล่าวว่า การพัฒนาด้านกล้วยหิน
ของวิทยาลัยเป็ นสิ่งที่ดี และขาวบ้านพร้อมให้ความร่วมมือ
เป็ นการทำงานให้ชาวบ้านมีทางออก กล้วยไม่ล้นตลาดใน
อนาคต และไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา ส่วนการต่อยอด
ทางการตลาดเป็ นสิ่งที่ถ้าสามารถทำได้ก็จะยิ่งดีโดยชาวบ้าน
ยินดีให้ความร่วมมือกับทางวิทยาลัย
นอกจากนีผ
้ ู้ให้ข้อมูลยังบอกอีกว่าในวันที่ 10 กันยายน
จะมีงานเทศกาลกล้วยหิน ซึ่งจะจัดขึน
้ บริเวณอำเภอ
117
รายงานสรุปผลการสนทนา และสอบถามความคิดเห็น
จากผู้บริหารระดับจังหวัด ที่ปฏิบัติงาน ณ หน่วยงาน
ในจังหวัดยะลา
118
ท่านที่ 1 ปฏิบต
ั ิงาน ณ สำนักงานจังหวัดยะลา
ได้ให้ข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปกล้วยหิน
สรุปได้ดังนี ้
กล้วยหิน เป็ นเอกลักษณ์ของพื้นที่อำเภอ
บันนังสตา จังหวัดยะลา โดยการนำพันธุ์มาปลูกต่าง
พื้นที่แม้ให้การดูแลบำรุงรักษาดีอย่างไรก็ไม่ได้
ผลผลิตที่มีคุณภาพดีเท่ากับผลผลิตจากพื้นที่ โดยตัว
ท่านเองได้นำหน่อพันธุ์มาปลูกไว้ที่บ้านพัก โดยทาง
เกษตรจังหวัดปลูกให้ และ อส ทำการรดน้ำใส่ปุ๋ย
อย่างดี เมื่อให้ผล กล้วยที่ได้ก็ไม่ได้ดีเท่ากล้วยหิน
จากบันนังสตา อีกทัง้ ได้นำไปปลูกที่บ้านเกิดที่จังหวัด
พัทลุง ก็พบว่าสามารถติดดอกออกผลได้ แต่ก็ไม่มี
คุณภาพเท่าที่บันนังสตาเช่นเดียวกัน
ต้องมีการทำให้กล้วยหินเป็ นพืชเศรษฐกิจของ
ยะลาให้ได้ โดยมีการใช้ประโยชน์จากทุกส่วน ซึ่ง
ปกติกล้วยหินก็มีคุณสมบัติเด่นอยู่แล้ว ทัง้ ในส่วนของ
ปลีก็หวานกรอบมากกว่ากล้วยชนิดอื่น กล้วยดิบ
119
กล้วยสุกก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หมด และเก็บ
ไว้ได้นานกว่ากล้วยอื่นๆ ลำต้นก็เป็ นปุ๋ย หยวกเป็ น
ปุ๋ย การปลูกจึงแทบไม่ต้องใช้ปุ๋ยจากข้างนอก แค่ใช้
แกลบกับมูลสัตว์ก็เขียว งามดีแล้วความต้องการการ
ดูแลรักษาน้อยมาก
กล้วยหินเป็ นกล้วยราคาดี และให้ผลผลิตได้ทงั ้ ปี
การนำกล้วยหินมาแปรรูป จึงเป็ นเรื่องที่ดี และควร
ส่งเสริม
ในกรณีที่ต้องการให้ช่วยประเด็นใดสามารถติดต่อ
ประสานมาได้ รวมทัง้ ในกรณีเก็บข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม
การทำประชุมกลุ่ม Focus group ก็พร้อมและยินดี
จะลงพื้นที่ด้วย รวมทัง้ การมาเยี่ยมชมการแปรรูป
โดยติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-9733-0119
ตลอดเวลา และติดต่อมาก่อน 1 วัน เพื่อสับเปลี่ยน
ตารางงานให้
ท่านที่ 2 ปฏิบต
ั ิงาน ณ หอการค้าจังหวัดยะลา
120
ได้ให้ข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปกล้วยหิน
สรุปได้ดังนี ้
ตัวท่านเองเคยเป็ นคณะกรรมการพิจารณาทุนวิจัย
เกี่ยวกับกล้วยหินในประมาณปี 2557 โดยทาง
เทศบาลนครยะลาจะมีงบประมาณสนับสนุนการ
วิจัย 5 ล้านบาท รู้สึกว่าจะให้ทาง มอ.หาดใหญ่เป็ น
ผู้รับทำโครงการวิจัยในลักษณะของการทำอาหาร
เสริมและยาสำหรับการรักษาโรคกรดไหลย้อน และ
มีการลงทะเบียนเกษตรกร เพื่อให้ทราบข้อมูล
ปริมาณของกล้วยหิน ไว้ที่พาณิชย์จังหวัด โดยคุณ
ฉัตรสุดา แต่ในระยะหลังเห็นเงียบหายไป และไม่ได้
นัดประชุมอีก
ไม่ทราบว่าทางอาจารย์ทำเรื่องนีอ
้ ยู่ แต่เป็ นสิ่งที่ดี
อยากให้ทำ โดยในเดือนพฤศจิกายนนี ้ มีการ
ประสานงานในการจัดงานออกร้านของสามจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ โดยประสานไปยัง central ภูเก็ต
ซึ่งถ้าสามารถนำสินค้าและการแสดงจากทางสาม
จังหวัดไปได้พร้อมให้การสนับสนุน และตัวท่านเอง
121
กำลังประสานงานในเรื่องของงบประมาณการเดิน
ทางให้กับผู้ประกอบการจากทาง ศอบต ซึ่งถ้าเรื่อง
นีเ้ ป็ นไปได้ อยากให้ทางวิทยาลัยไปร่วมออกร้าน
เพื่อนำเสนอสินค้า
ตอนนีย
้ ะลามีการจัดตัง้ ศูนย์กลางสินค้า otop ที่
สาย 15 สะเตงนอก ซึ่งกรณีที่สามารถผลักผลิต
ภัณฑืตัวนีเ้ ข้า otop ได้ก็สามารถนำไปวางขายได้
รสชาติอร่อย แต่หากพัฒนาโดยการเปลี่ยนจากเนย
เป็ นอย่างอื่นเพื่อให้ใช้ในช่วงเทศกลากินเจได้ จะดี
มาก โดยในเดือนหน้าจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ คน
กินเจจะทานของจุกจิก ทานบ่อย ถ้าทำได้กจ
็ ะ
สามารถเพิ่มช่องทางทางการตลาด
บรรจุภัณฑ์ควรมีการเสริมเรื่องคุณค่าทางอาหาร
สรรพคุณให้เด่นชัด เพื่อให้แตกต่างจากคุกกีท
้ วั่ ไป
พร้อมระบุเรื่องของหมายเลขสำหรับติดต่อในการสั่ง
ซื้อ และหากทำเป็ นภาษาไทย อังกฤษ และจีนได้จะ
ยิ่งดี เนื่องจากจีนเป็ นตลาดใหญ่ ต้องการสินค้าไทย
จำนวนมาก
122
อาหารต้องผ่านมาตรฐานฮาลาล
เรื่องนีค
้ ิดว่าน่าจะของงบประมาณสนับสนุนจากทาง
จังหวัด เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลต้องการส่ง
เสริมธุรกิจรายย่อย (SME) หรือการช่วยเหลือ
ประชาชน เกษตรกรอยู่แล้ว
พัฒนาชุมชนจังหวัดยะลา ได้ให้ข้อมูลในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปกล้วยหิน สรุปได้ดังนี ้
เห็นด้วยกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เนื่องจากสถาน
ศึกษาควรเป็ นคลังความรู้ของพื้นที่
พัฒนาชุมชนมีหน้าที่ส่งเสริม พัฒนา ขึน
้ ทะเบียน
เพื่อพัฒนาชุมชนอยู่แล้ว คุกกีท
้ ี่ทำคิดว่าสามารถขึน
้
ทะเบียนเป็ นสินค้า otop ได้เลย และเป็ นสินค้าใหม่
ไม่มีคนทำมาก่อน เป็ นนวัตกรรม อาจมีโอกาสได้ 5
ดาว การขึน
้ ทะเบียนสินค้า otop สามารถทำได้ที่
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมือง โดยติดต่อ คุณ
123
ท่านที่ 5 ปฏิบต
ั ิงาน ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
ยะลา
ได้ให้ข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปกล้วยหิน
สรุปได้ดังนี ้
รสชาติดี สามารถทำการตลาดได้เลย
คำนึงถึงต้นทุน โดยถ้าเป็ นระดับคนทั่วไปเน้นที่
ปริมาณมากแต่ราคาไม่แพง แต่ถา้ เป็ นสินค้าระดับ
premium อาจ up ราคาได้
คุณค่าของผงกล้วยอยู่ที่แป้ ง ควรนำเสนอให้ชัดเจน
อย่างถ้าสามารถใช้ได้โดยไม่เพิ่มระดับน้ำตาล อาจี
การเก็บข้อมูลการใช้ในผู้ป่วย หากน้ำตาลไม่เพิ่มจริง
ก็จะเพิ่มคุณค่าและช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนไข้
ใช้ในคนไข้เบาหวานได้ และอาจนำมาใช้ในการจัด
เป็ นอาหารว่างในโรงพยาบาล หรืองานของ สสจ
อาจพัฒนาในรูปแบบที่หลากหลาย หรือการใช้
น้ำตาลเทียม สารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือ
125
บทที่ 5
สรุปการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
วิจัยนีม
้ ีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะทาง
กายภาพของแป้ งกล้วยหิน พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ ง
กล้วยหิน ประเมินความพึงพอใจและความคิดเห็นของผู้
บริโภคต่อผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน และแนวทาง
พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง
4 กลุ่ม คือ กลุ่มเกษตรกรในแหล่งวัตถุดิบ ต.ถ้ำทะลุ
อ.บันนังสตา จังหวัดยะลา กลุ่มผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ กลุ่ม
ตัวแทนผู้บริหารจากหน่วยงานต่างๆ (สำนักงานจังหวัด
ยะลา เทศบาลนครยะลา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด
ชายแดนใต้ เกษตรจังหวัด หอการค้าจังหวัด และสำนักงาน
สาธารณสุขจังหวัดยะลา) และ กลุ่มผู้บริโภค รวมจำนวน
135 คน ดำเนินการโดย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบ
กล้วยหิน ศึกษากระบวนการแปรรูปวัตถุดิบเป็ นแป้ งกล้วย
หิน พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหินเพื่อให้ได้สูตร
ผลิตภัณฑ์เป็ นที่นิยมของผู้บริโภค ทดลองผลิตภัณฑ์ ทำการ
127
ประเมินความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน
เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแป้ งกล้วยหิน
ผลิตภัณฑ์แป้ งกล้วยหิน แบบประเด็นคำถามในการสนทนา
กลุ่มและสอบถามความคิดเห็น และแบบประเมินความพึง
พอใจต่อผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน ชนิดปลายปิ ดมาตร
ประมาณค่า 5 ระดับ และปลายเปิ ด วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้
สถิติ ร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
วิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจย
ั พบว่า
1) คุณลักษณะทางกายภาพของแป้ งกล้วยหิน ซึ่งได้
จากกล้วยหินเก็บในช่วงเดือน ธันวาคม 2557-กรกฎาคม
2558 และผ่านการแปรรูป จำนวน 4 ครัง้ น้ำหนักกล้วย
หลังปลอกเปลือกเมื่อเทียบกับน้ำหนักกล้วยก่อนปลอก
เปลือก คิดเป็ นร้อยละ 40.4 ได้น้ำหนักผงแป้ งกล้วยหิน
หลังแปรรูปเมื่อเทียบกับน้ำหนักกล้วยหินก่อนปลอกเปลือก
คิดเป็ นร้อยละ 10.6 และ 26.1 เมื่อเทียบกับน้ำหนักกล้วย
หินหลังปลอกเปลือก ลักษณะผงแป้ งละเอียด ขาวครีม ผง
แป้ งมีกลิ่นหอมกล้วย ราคาผงแป้ งต่อ 1 กิโลกรัมเฉลี่ย
313.31 บาท
128
2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปผงกล้วยหิน ได้มีการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปผงกล้วยหิน เพื่อให้ได้สูตร
ผลิตภัณฑ์เป็ นที่นิยมของผู้บริโภค ทำการแปรรูปในห้อง
ปฏิบัติการ จำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ คือคุกกีจ
้ ากผงแป้ งกล้วย
หิน ซึ่งใช้พิมพ์แบบหลากหลาย เช่นรูปวงกลม ดอกไม้ รูป
ดาว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร ความหนา
ประมาณ 0.5 เซนติเมตร จำนวนผงแป้ งกล้วยหิน 1
กิโลกรัมจะผลิตคุกกีไ้ ด้ประมาณ 233 ชิน
้ ราคาราคาคุกกี ้
ต่อชิน
้ กรณีคิดรวมค่าส่วนประกอบการปรุงอื่น เท่ากับ 2.2
บาท และ กรณี กล้วยหินวัตถุดิบที่นำมาแปรรูปเป็ นแป้ ง
กล้วยหิน ถ้ารับซื้อ ณ สวนกล้วยหินในราคากิโลกรัมละ 9-
10 จะนำมาผลิตคุกกีไ้ ด้ต้นทุนในราคาชิน
้ ละ 1.5 บาท
3) ความพึงพอใจและความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อ
ผลิตภัณฑ์แปรรูปกล้วยหิน (คุกกี)้ อยู่ในระดับมาก ( x
=4.13 S.D.=0.66) โดยหัวข้อการพัฒนาเชิงต่อยอด
ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแป้ งกล้วยหิน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x
=4.35 S.D.=0.68)
4) ข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ได้แก่ อาหารเสริมเด็ก เวชสำอาง ยาเคลือบกระเพาะ และ
ยาสำหรับการรักษาโรคกรดไหลย้อน และจากสรรพคุณที่
129
แป้ งกล้วยหินมีค่าความทนทานต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ใน
ลำไส้เล็ก (Resistance Starch : RS) สูง ทำให้ไม่ถูกดูดซึม
เป็ นการเพิ่มกากอาหารในลำไส้ ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย
จึงน่าจะลองพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเน้นประเด็น
ดังกล่าว และผลิตภัณฑ์ที่มีการแปรรูปจากแป้ งกล้วยหินควร
มีการจัดทำข้อมูลให้ความรู้ด้านสุขภาพทำติดไว้กับ
ผลิตภัณฑ์ดว้ ย สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ ควรให้ความรู้ถึง
ประโยชน์เชิงสุขภาพจากแป้ งกล้วยหิน สร้างความภาค
ภูมิใจถึงคุณค่าของกล้วยหินที่มีเฉพาะในพื้นที่ และช่อง
ทางการพัฒนากล้วยหินเป็ นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพรูปแบบ
ต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรอาจหันมาดูแลและทำการปลูก
กล้วยหินแบบจริงจังมากกว่าการปลูกตามวิถีชาวบ้านแบบ
ปลูกแซมในสวน
5.2 ข้อเสนอแนะ
5.2.1 การนำไปใช้ประโยชน์
1. พัฒนากระบวนการ และรสชาติของการทำ
ผลิตภัณฑ์แปรรูปแป้ งกล้วยหิน (คุกกี)้ เพื่อให้มีรสชาติที่
กลมกล่อม และสม่ำเสมอในทุกชิน
้
130
2. นำเสนอต่อผู้บริหารของวิทยาลัยเพื่อใช้เป็ น
ผลิตภัณฑ์สำหรับแจก หรือเป็ นอาหารว่างในกิจกรรม
โครงการต่างๆ ของวิทยาลัย ซึ่งจะเป็ นอีกช่องทางหนึ่งใน
การประชาสัมพันธ์องค์กร
1. วิจัยผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแป้ งกล้วยหินในรูปแบบ
อื่น เพื่อจัดเมนูสุขภาพ
สำหรับผู้ป่วยประเภทต่างๆ
2. วิจัยผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแป้ งกล้วยหินทดแทน
ขนมขบเคีย
้ ว ส่งเสริมการบริโภคที่เหมาะสมแก่เด็ก
131
132
บรรณานุกรม
133
บรรณานุกรม
186.
ภาคผนวก
139
140
ภาคผนวก ก
141
คำชีแ
้ จง:
1. แบบประเมินนีใ้ ช้ประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภคในด้านลักษณะทาง
กายภาพ และรสสัมผัส ของผลิตภัณฑ์ “คุกกีก
้ ล้วยหิน ถิ่นนังตา” ข้อมูลที่ได้
จะนำไปวิเคราะห์ และสรุปผลในภาพรวม เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป
2. ผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจ คือ ผู้บริโภคที่เต็มใจรับประทานขนมคุกกี ้
ที่ทางผู้วิจัยเตรียมไว้ให้
3. โปรดเติมข้อความ หรือทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของ
ท่าน
ส่วนที่ 1 : ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ประเมิน
1. เพศ 1.1 ชาย 1.2 หญิง
2. อายุ ………………… ปี (มากกว่า 6 เดือนนับเป็ น 1 ปี )
3. อาชีพ 3.1 รับราชการ 3.4 ลูกจ้าง
3.2 พนักงานราชการ 3.5 อื่นๆ (ระบุ)
……………………………………
3.3 พนักงานกระทรวง
4. รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4.1 น้อยกว่า 5,000 บาท 4.2
5,000-10,000 บาท 4.3 10,001-20,000 บาท
4.4 มากกว่า 20,000 บาท
144
ส่วนที่ 2 : แบบประเมินความพึงพอใจต่อลักษณะทางกายภาพและรสสัมผัสของ
ผลิตภัณฑ์
ระดับความพึงพอใจ
มา มา ปา น้อ น้อ
หัวข้อการประเมิน ก ก น ย ย
ที่สุ กล ที่สุ
ด าง ด
ด้านกายภาพ
1. ขนาดของคุกกีก
้ ล้วยหินต่อชิน
้ มีความเหมาะสมต่อ
การรับประทาน
2. รูปร่าง ลักษณะของคุกกีก
้ ล้วยหิน มีความสวยงาม
ชวนรับประทาน
3. สีสันของคุกกีก
้ ล้วยหิน มีความเหมาะสม ชวนรับ
ประทาน
4. ความแข็งของคุกกีก
้ ล้วยหินมีความเหมาะสม ไม่
ร่วนเกินไป
5. กลิ่นของคุกกีก
้ ล้วยหินมีความหอม ชวนรับประทาน
ด้านรสสัมผัส
6. เมื่อรับประทานคุกกีก
้ ล้วยหิน ท่านสัมผัสถึงความ
กรอบของเนื้อคุกกี ้
7. เมื่อรับประทานคุกกีก
้ ล้วยหิน ท่านรับรู้ถึงความ
หอม หวาน ละมุนลิน
้
8. โดยภาพรวมท่านพึงพอใจต่อคุกกีก
้ ล้วยหินในระดับ
ใด
ด้านอื่นๆ
145
9. ความแปลกใหม่ต่อคุกกีก้ ล้วยหิน
10. การพัฒนาเชิงการค้าของคุกกีแ้ ป้ งกล้วยหิน
11. การพัฒนาเชิงต่อยอดผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแป้ ง
กล้วยหิน
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น
3.1 การกำหนดราคา
1) ถ้าให้ท่านเสนอราคา ต่อคุกกีก
้ ล้วยหินที่บรรจุในถุงแก้วปิ ดผนึกธรรมดา
จำนวน 20 ชิน
้ และระบุข้อมูลทั่วไปแก่ผู้บริโภค ควรขายใน
ราคา..................บาท
2) ถ้าให้ท่านเสนอราคา ต่อคุกกีก
้ ล้วยหินที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์สวยงามเพื่อ
แสดงถึงสินค้าประชาสัมพันธ์ท้องถิ่น จำนวน 20 ชิน
้ และระบุข้อมูลเชิง
วิชาการเกี่ยวกับกล้วยหิน ควรขายในราคา..................บาท
3.2 ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น
………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………..………………
146
ส่วนที่ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับกล้วยหินและการเพาะปลูก
1.1 ลักษณะพื้นที่ในการเพาะปลูกความเป็ นเอกลักษณ์ของกล้วย
หินคืออะไร แหล่งอื่นสามารถนำไปเพาะปลูกได้หรือไม่
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
1.2 ระยะเวลาเก็บเกี่ยว ในแต่ละเดือน มีผลต่อคุณภาพ/ขนาดผล
หรือไม่
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
1.3 ลักษณะกล้วยหินที่บ่งบอกว่ามีคุณภาพสังเกตจากลักษณะ
กายภาพอะไรบ้างทัง้ เปลือกผิวภายนอก และหลังปลอกเปลือกแล้ว
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
148
4.4 ทราบหรือไม่ว่ากล้วยหินมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
และคิดว่าถ้าจะทำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพควรทำในรูปแบบใด
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
ส่วนที่ 5 ข้อเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
151
………………………………………………………………………………………………………
………………………….………………………
152
ภาคผนวก ข
153
กรกฎาคม 255 ๘
เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบเครื่องมือวิจัย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ด้วย และขอ
ขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี ้ หากขัดข้องประการใดโปรดแจ้งให้ทาง
วิทยาลัยทราบด้วย จักเป็ นพระคุณ
ขอแสดงความนับถือ
กลุ่มวิชาการ
โทร. ๐ ๗๓๒๑ ๒๘๖๓ ต่อ ๑๒๓
โทรสาร ๐ ๗๓๒๑ ๓๒๓๔
ผู้ประสานงาน: ภญ.ดร.ปาริฉัตร อุทัยพันธ์ โทร. ๐๘ ๑ 963 0129
155
กรกฎาคม 255 ๘
เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบเครื่องมือวิจัย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ด้วย และขอ
ขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี ้ หากขัดข้องประการใดโปรดแจ้งให้ทาง
วิทยาลัยทราบด้วย จักเป็ นพระคุณ
ขอแสดงความนับถือ
กลุ่มวิชาการ
โทร. ๐ ๗๓๒๑ ๒๘๖๓ ต่อ ๑๒๓
โทรสาร ๐ ๗๓๒๑ ๓๒๓๔
ผู้ประสานงาน: ภญ.ดร.ปาริฉัตร อุทัยพันธ์ โทร. ๐๘ ๑ 963 0129
บันทึกข้อความ
157
ส่วนราชการ กลุ่มวิชาการ
ที่ ๐๔/ วันที่ กรกฎาคม 2558
เรื่อง ขอเชิญเป็ นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบเครื่องมือวิจัย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความอนุเคราะห์ด้วย และขอ
ขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี ้ หากขัดข้องประการใดโปรดแจ้งให้ทาง
วิทยาลัยทราบด้วย จักเป็ นพระคุณ
158
159
ภาคผนวก ค
160
ใบยินยอมด้วยความสมัครใจของอาสาสมัคร
ก่อนที่จะลงนามในใบยินยอมให้ทำการศึกษาวิจัยนี ้ ข้าพเจ้าได้
รับคำอธิบายจากผู้วิจัยถึงวัตถุประสงค์ของการวิจัย วิธีการวิจัย ความ
เสี่ยง หรืออันตราย ทีอ
่ าจเกิดขึน
้ จากการวิจัยรวมทัง้ ประโยชน์ที่จะ
เกิดขึน
้ จากการวิจัยอย่างละเอียด และมีความเข้าใจดีแล้ว
ผู้วิจย
ั ได้ตอบคำถามต่างๆ ทีข
่ ้าพเจ้าสงสัย ด้วยความเต็มใจ ไม่
ปิ ดบัง ซ่อนเร้น จนข้าพเจ้าพอใจ
ข้าพเจ้าเข้าร่วมโครงการวิจัยนีโ้ ดยสมัครใจ และสามารถบอก
เลิก ยุติ หรือถอนตัวจากการศึกษานีเ้ มื่อใดก็ได้
ผู้วิจย
ั รับรองว่าจะเก็บข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับตัวข้าพเจ้าเป็ นความ
ลับ จะเปิ ดเผยข้อมูลได้เฉพาะในรูปที่เป็ นสรุปผลการวิจัย หรือ
161
ภาคผนวก ง
163
ภาพกิจกรรม
โครงการวิจัยประสิทธิผลการแปรรูปผลิตภัณฑ์แป้ งกล้วยหิน
และแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
164
ผู้กำกับและบุคลากร สถานีตรวจภูธรบาตูตาโมงให้ความอนุเคราะห์
พื้นที่ในการจัดกิจกรรมประชุมกลุ่มกับเกษตรกรในพื้นที่
166