Professional Documents
Culture Documents
TX-SR508 Thai Manual
TX-SR508 Thai Manual
TX-SR508 Thai Manual
TX-SR508 Connections.................................11
คู่มือแนะนำการใช้งาน
Advanced Operations .................34
Instruction Manual
Controlling iPod & Other
Components............................49
Others...........................................56
* กรุณาเก็บรักษาคู่มือนี้ไว้สำหรับอ้างอิงในอนาคต *
En
เตือนภัย: WARNING AVIS
เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ หรือ RISK OF ELECTRIC SHOCK
DO NOT OPEN
RISQUE DE CHOC ELECTRIQUE
NE PAS OUVRIR
ไฟฟ้าช็อต ห้ามนำอุปกรณ์นี้ไปใช้งานในที่ที่ฝนสาดถึง The lightning flash with arrowhead symbol, within an
หรือในที่ที่มีปริมาณความชื้นสูง equilateral triangle, is intended to alert the user to the
presence of uninsulated “dangerous voltage” within
ข้อควรระวัง: the product’s enclosure that may be of sufficient
เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าช็อต ห้ามเปิดฝาด้านบน magnitude to constitute a risk of electric shock to
persons.
หรือฝาด้านล่างของตัวเครื่องออก เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วน The exclamation point within an equilateral triangle is
ภายในใดๆ ให้ผู้ใช้ทำการซ่อมแซมเอง ถ้าเครื่องมีปัญหา intended to alert the user to the presence of important
operating and maintenance (servicing) instructions in
ให้ส่งให้กับฝ่ายบริการที่ผ่านการอบรมเท่านั้น the literature accompanying the appliance.
คำแนะนำที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย
1. อ่านคู่มือเล่มนี้อย่างละเอียด 15. เครื่องที่ประสบปัญหาเหล่านี้ อาทิ สายไฟเอซีของตัวเครื่อง
2. เก็บรักษาคู่มือนี้ไว้ให้ดี เสียหาย, มีของเหลวหรือวัตถุโลหะไหลหรือตกหล่นเข้าสู่
3. เอาใจใส่กับทุกคำเตือนในคู่มือนี้อย่างเคร่งครัด ตัวเครื่อง, ตัวเครื่องถูกฝนหรือถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางความชื้น,
4. ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือนี้อย่างเคร่งครัด ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือตัวเครื่องตกหล่นจากที่สูง
5. อย่านำเครื่องนี้ไปใช้งานใกล้กับน้ำ ฯลฯ
6. ทำความสะอาดเครื่องด้วยผ้าแห้งเท่านั้น 16. กรณีมีของเหลวไหลเข้าตัวเครื่อง: ห้ามใช้วัตถุโลหะสอดเข้าไป
7. อย่าปิดกั้นช่องระบายอากาศช่องใดของตัวเครื่อง ให้ติดตั้งใช้งาน ในตัวเครื่องโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะเข้าไปสัมผัสเข้ากับจุด
ตัวเครื่องตามคำแนะนำของผู้ผลิตที่ปรากฏในคู่มือ ที่มีไฟฟ้าแรงสูงจนทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตเอาได้ ห้ามวางภาชนะ
8. อย่านำเครื่องไปติดตั้งใช้งานใกล้กับแหล่งความร้อนใดๆ อาทิ ฮีทเตอร์, ที่บรรจุของเหลวไว้บนตัวเครื่อง ห้ามจุดเทียนหรือวางวัตถุ
เตาไฟ รวมถึงอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดความร้อนทุกชนิด ติดไฟบนตัวเครื่อง
9. อย่าหักขากราวนด์ของปลั๊กไฟเอซีออก ขากราวนด์ของปลั๊กไฟแบบสองขา 17. แบตเตอรี่: ให้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมเสมอ และให้ปฏิบัติตาม
ก็คือขาที่มีมีลักษณะกว้างกว่าออีกขาหนึ่ง ส่วนปลั๊กแบบสามขาจะประกอบ ระเบียบข้อกำหนดของท้องถิ่นเมื่อต้องทำลายแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว
ด้วยขาไฟบวกกับไฟลบที่มีลักษณะแบน ส่วนขากราวนด์จะมีลักษณะกลม 18. เมื่อต้องทำการติดตั้งตัวเครื่องเข้ากับเฟอร์นิเจอร์แบบติดตั้งตายตัว
ซึ่งทั้งขากราวนด์แบบแบนหรือขากราวนด์แบบกลมมีไว้เพื่อความปลอดภัย อาทิ ในตู้ใส่หนังสือ หรือในชั้นวางของ ต้องมั่นใจว่า ภายในชั้นที่ใช้
ของคุณ ถ้าไม่สามารถเสียบปลั๊กไฟเอซีตัวผู้ของเครื่องนี้เข้ากับปลั๊กไฟ วางเครื่องนั้นมีช่องระบายอากาศมากพอ คือต้องมีระยะของช่องว่าง
ตัวเมียบนผนังบ้านของคุณได้ ให้ปรึกษาช่างไฟฟ้าเพื่อทำการเปลี่ยน เหนือตัวเครื่องไม่น้อยกว่า 8 นิ้ว (20 ซ.ม.) และไม่น้อยกว่า 4 นิ้ว
ปลั๊กตัวเมียบนผนังห้องให้เป็นแบบที่สามารถใช้งานกับปลั๊กไฟตัวผู้ (10 ซ.ม.) บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง และขอบด้านหลังของชั้นวาง
ของเครื่องได้ จะต้องมีช่องห่างจากผนังไม่ต่ำกว่า 10 ซ.ม. เพื่อให้อากาศร้อนจาก
10. ปกป้องสายไฟเอซีของตัวเครื่องโดยไม่เดินเหยียบย่ำ ภายในตัวเครื่องสามารถไหลผ่านขึ้นไปได้
11. ให้ใช้อุปกรณ์เสริมที่ผู้ผลิตเครื่องตัวนี้ PORTABLE CART WARNIN G
จัดมาให้เท่านั้น
12. กรณีที่ต้องติดตั้งใช้งานบนโต๊ะที่เข็นได้
หรือบนโต๊ะสามขา แขวนผนัง หรือ
บนโต๊ะที่จัดทำพิเศษ ให้ใช้เฉพาะ
อุปกรณ์เสริมที่ผู้ผลิตเครื่องจัดหามาให้ S3125A
หรือออกแบบมาสำหรับขายพร้อมกับ
ตัวเครื่องเท่านั้น
13. ดึงปลั๊กไฟเครื่องออกจากปลั๊กตัวเมียบนผนังบ้านเสมอเวลาเกิด
ฝนฟ้าคะนอง หรือในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานเครื่องเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ
14. ส่งเครื่องที่มีปัญหาเข้ารับบริการซ่อมกับช่างที่ผ่านการอบรมเท่านั้น
2
ป้องกันไว้ก่อน
3
สำหรับรุ่นที่ใช้ในสหราชอาณาจักร อุปกรณ์ที่ให้มา
การเปลี่ยนและประกอบปลั๊กสายไฟของตัวเครื่อง ต้องกระทำโดยพนักงาน
ให้แน่ใจว่า มีสิ่งของเหล่านี้บรรจุมาในกล่องครบถ้วน:
ซึ่งผ่านการอบรมเท่านั้น
K. MIYAGI
ONKYO EUROPE ELECTRONICS GmbH
Approx. 16 ft. (5 m)
4
สารบัญ (Contents)
แนะนำเบื้องต้น การปรับตั้งชั้นสูง
คำแนะนำที่สำคัญสำหรับความปลอดภัย....................................... 2 การปรับตั้งชั้นสูง ............................................................. 34
คำเตือน .............................................................................. 3 เมนูปรับตั้งที่แสดงขึ้นบนจอ .......................................... 34
อุปกรณ์ที่ให้มา ...................................................................... 4 ขั้นตอนปรกติสำหรับเมนูการปรับตั้ง ................................. 34
การใช้งานรีโมท คอนโทรล .................................................. 4 อินพุต HDMI ............................................................. 35
ฟังท์ชั่นการใช้งาน ................................................................. 6 การปรับตั้งแหล่งอินพุต Component Video Input ........ 35
แผงด้านหน้าและแผงด้านหลังของตัวเครื่อง .................................. 7 การปรับตั้งแหล่งอินพุต Digital Audio Input ................. 35
แผงด้านหน้า .............................................................. 7 การปรับตั้งลำโพง Sp Config ....................................... 36
จอแสดงผล .............................................................. 8 การปรับตั้งระยะห่างของลำโพง Sp Distance .................. 37
แผงด้านหลัง .............................................................. 8 การปรับตั้งระดับเสียงของลำโพง Level Cal ..................... 37
รีโมท คอนโทรล ................................................................ 9 การปรับตั้งเสียง .......................................................... 37
การควบคุมเอวี รีซีฟเวอร์ ................................................ 9 การตั้งชื่ออุปกรณ์ ......................................................... 40
เกี่ยวกับโฮมเธียเตอร์ ............................................................ 10 การปรับตั้งฮาร์ดแวร์ ....................................................... 40
เพลิดเพลินกับระบบโฮม เธียเตอร์ ....................................... 10 การปรับตั้ง HDMI ......................................................... 41
การใช้ การปรับตั้งเสียง ................................................... 43
การเชื่อมต่อ รูปแบบของสัญญาณดิจิตัล อินพุต ..................................... 45
การเชื่อมต่อตัว เอวี รีซีฟเวอร์ ................................................... 11 การปรับตั้งทุ้ม & แหลม ................................................... 45
การเชื่อมต่อลำโพง .............................................................. 11 โซนสอง ............................................................................ 46
เกี่ยวกับ การเชื่อมต่อ เอวี ..................................................... 14 การเชื่อมต่อโซนสอง ....................................................... 46
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วย HDMI .......................................... 15 การตั้งค่าจ่ายกำลังขับของแอมป์ไปยังโซนสอง ..................... 47
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกต่างๆ ........................................ 16 การใช้งานโซนสอง ......................................................... 47
การใช้งานช่อง AUX INPUT บนหน้าปัดเครื่อง ....................... 17
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ RI ของออนเกียว ................................... 17 การควบคุมสั่งงาน iPod และอุปกรณ์ตัวอื่นในระบบ
การเชื่อมต่อเสาอากาศวิทยุ .................................................. 18 การควบคุมสั่งงาน iPod .........................................................49
ฉันต้องใช้การเชื่อมต่อแบบใด?.............................................. 19 การเชื่อมต่อตัวฐานแยก (Dock) ของ Onkyo ...................... 49
การใช้งานตัวฐานแยก (Dock) ของ Onkyo ......................... 50
เปิดเครื่องใช้งาน & การปรับตั้งเบื้องต้น การควบคุมสั่งงานตัว iPod ................................................. 51
เปิด/ปิดเครื่องเอวี รีซีฟเวอร์ ....................................................... 20 การควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นในระบบ .............................................. 53
เปิดใช้งานตัว เอวี รีซีฟเวอร์ .................................................. 20 การตั้งโปรแกรมรหัสรีโมทคอนโทรล .................................... 53
ปิดใช้งานตัว เอวี รีซีฟเวอร์.................................................... 20 การใส่รหัสรีโมทคอนโทรล ................................................. 53
การปรับตั้งเบื้องต้น ................................................................... 21 การใส่รหัสรีโมทคอนโทรลสำหรับอุปกรณ์ของ Onkyo
การใช้งานอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมอยู่กับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ..................... 21 ที่ต่อเชื่อมผ่านระบบ RI ............................................... 53
แสดงข้อมูลของแหล่งต้นทางขึ้นบนจอ ..................................... 21 การเปลี่ยนค่าปรับตั้งบนรีโมทคอนโทรล ................................ 54
ใช้ฟังท์ชั่น Music Optimizer .............................................. 21 การเปลี่ยนค่าปรับตั้งบนรีโมทไปที่ค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ............ 54
ปรับความสว่างของจอแสดงผล ................................................ 21 การควบคุมสั่งงานอุปกรณ์อื่นๆ ............................................. 54
ใช้ฟังท์ชั่นหยุดเสียงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ชั่วคราว (Muting) ......... 22 อื่นๆ
ใช้ฟังท์ชั่นตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ ......................................... 22
ใช้งานหูฟัง .......................................................................... 22 ปัญหาการใช้งาน .................................................................. 56
การเปลี่ยนจอแสดงช่องอินพุต .................................................. 22 สเปคซิฟิเคชั่น ...................................................................... 60
เลือกรูปแบบการติดตั้งลำโพง ................................................... 22 เกี่ยวกับ HDMI ..................................................................... 61
ใช้ฟังท์ชั่น Audyssey 2EQ� แก้ไขสภาพห้อง และ ใช้งานอุปกรณ์ที่เข้ากันกับ RIHD อาทิ ทีวี, เครื่องเล่น
การปรับตั้งลำโพง ............................................................. 23 หรือเครื่องบันทึก ............................................................... 62
การฟังวิทยุ ................................................................................ 25
การฟังจากสถานี AM/FM ........................................................ 25 * ถ้าต้องการปรับตั้งให้ค่าต่างๆ ของเครื่องตัวนี้กลับไปสู่ค่าที่ถูกตั้งมาจาก
การบันทึกสถานี AM/FM ล่วงหน้า.............................................. 26 โรงงาน เริ่มด้วยการเปิดเครื่อง (On) กดปุ่ม VCR/DVR ค้างไว้ จากนั้นให้
การใช้ RDS (ยกเว้นรุ่นที่ใช้ในอเมริกาเหนือ) ............................... 26 กดปุ่ม ON/STANDBY ( 56)
การบันทึก .................................................................................. 28
วิธีการเลือกใช้โหมดเสียงสำหรับการฟัง ............................................ 29
เลือกโหมดการฟัง ................................................................... 29
เกี่ยวกับโหมดการรับฟัง ............................................................ 30
5
คุณสมบัติ (Features)
แอมปลิไฟล์ *1
6
แผงด้านหน้า กับแผงด้านหลังของตัวเครื่อง (Front & Rear panels)
แผงหน้าปัด
รุ่นอเมริกาเหนือ
รุ่นประเทศแถบยุโรปและเอเซีย
7
จอแสดงผล
สำหรับข้อมูลโดยละเอียด, ให้ดูจากคู่มือตามหมายเลขหน้าที่ระบุต่อท้าย
ไฟแสดงรูปแบบของสัญญาณออดิโอ อินพุต ไฟแสดงสถานะสัญญาณ RDS (ยกเว้นรุ่นในอเมริกาเหนือ)
โชว์สัญญาลักษณ์โหมดเสียงที่ถูกเลือกใช้ และโชว์ฟอร์แม็ตของ ( 26)
สัญญาณเสียงที่ถูกส่งเข้ามา ( 21, 29) ไฟแสดงสถานะการตั้งเวลาปิดเครื่องล่วงหน้า ( 22)
ไฟแสดงสถานะของ Audyssey ( 23, 38) ไฟแสดงสถานะการปิดเสียง ( 22)
ไฟแสดงการปรับจูนหาคลื่นสถานีวิทยุ ( 25) พื้นที่แสดงผลข้อมูลต่างๆ
ขั้วต่อ DIGITAL IN แบบ COAXIAL กับ OPTICAL ขั้วต่อสัญญาณภาพ Composite Video กับขั้วต่อสัญญาณเสียง
ขั้วต่อ HDMI IN และ HDMI OUT สำหรับแหล่งต้นทาง BD/DVD IN, VCR/DVR IN และ OUT,
ขั้วต่อ COMPONENT VIDEO IN 1 กับ COMPONENT CBL/SAT IN, GAME IN, TV/CD IN)
VIDEO OUT ขั้วต่อ LINE OUT สำหรับสัญญาณเสียงของ ZONE 2
ที่ต่อเชื่อมสายอากาศของสถานีวิทยุ FM และสถานีวิทยุ AM ขั้วต่อสัญญาณปรี-เอ๊าต์ของลำโพงซับวูฟเฟอร์
ช่องต่อสัญญาณภาพมอนิเตอร์ เอ๊าต์พุต ขั้วต่อลำโพงสำหรับแชนเนล FRONT HIGH หรือแชนเนล ZONE 2
ช่องต่อสัญญาณ Universal
ช่องต่อลำโพงเซอร์ราวด์ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการต่อเชื่อมได้ในหัวข้อ “Connecting the AV Receiver”
สายไฟเอซี ที่หน้า ( 11 ถึง 19)
ขั้วต่อสัญญาณคอนโทรลสำหรับ RI REMOTE CONTROL
ขั้วต่อสายอากาศสำหรับสถานีวิทยุ SIRIUS (สำหรับรุ่นใน
อเมริกาเหนือ)
8
รีโมท คอนโทรล (Remote Control)
สำหรับข้อมูลโดยละเอียด ให้พลิกไปดูในสมุดคู่มือตามเลขหน้าที่กำกับไว้ตอนท้าย
*1
การควบคุมภาคจูนเนอร์
เมื่อต้องการควบคุมการทำงานของภาคจูนเนอร์ (ภาครับวิทยุ) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
ให้กดปุ่ม TUNER (หรือปุ่ม RECEIVER) บนตัวรีโมท
ใช้ปุ่มลูกศรสี่ทิศ / ( 25)
ปุ่ม D.TUN ( 25)
ปุ่ม DISPLAY
ปุ่ม CH +/– ( 26)
ปุ่ม Number ( 25)
9
เกี่ยวกับระบบโฮม เธียเตอร์
ลำโพงหน้าซ้าย และขวา
เป็นองค์หลักของเสียงโดยรวม ซึ่งลำโพงคู่หน้าจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักสำหรับภาพ
ลักษณ์ของสนามเสียง ต้องตั้งอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าระดับเดียวกับหูของผู้ฟัง และ
มีระยะห่างพอสมควรจากทีวี เอียงทำมุมเข้ากันเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยยึดจุดนั่งฟังของ
ผู้ฟังเป็นจุดปลายแหลมของสามเหลี่ยม
ลำโพงเซ็นเตอร์
ลำโพงนี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับลำโพงคู่หน้าซ้ายและขวา ทำให้การเคลื่อนไหว
ของเสียงมีความต่อเชื่อมกัน ช่วยเติมเต็มรูปลักษณ์ของสนามเสียงโดยรวมทั้งหมด
ในภาพยนตร์นั้น โดยส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเสียงพูดของตัวละคร กำหนดวางตำแหน่ง
ไว้ใกล้กับโทรทัศน์ของคุณ หันลำโพงไปข้างหน้าที่ระดับหู หรือที่ความสูงเดียวกันกับ
ลำโพงคู่หน้าซ้ายและขวา
ลำโพงเซอร์ราวด์ซ้าย และขวา
ลำโพงนี้ใช้สำหรับเพิ่มความแม่นยำของตำแหน่งเสียง และการเพิ่มความสมจริงของ
บรรยากาศ วางตำแหน่งไว้ที่ด้านข้างของผู้ฟัง หรือเยื้องไปด้านหลังเล็กน้อย โดยอยู่
สูงประมาณ 2–3 ฟุต (60–100 เซ็นติเมตร) เหนือระดับหู ระยะห่างจากผู้ฟังควร
เท่ากันทั้งสองด้าน
ลำโพงเซอร์ราวด์หลังซ้าย และขวา
ลำโพงเหล่านี้มีความจำเป็นหากต้องการเพลิดเพลินกับระบบ Dolby Digital EX,
DTS-ES Matrix, DTS-ES Discrete, และอื่นๆ มันช่วยเพิ่มความสมจริงของระบบ
เสียงเซอร์ราวด์ และปรับปรุงตำแหน่งเสียงทางด้านหลังของผู้ฟัง ตำแหน่งติดตั้งควร
อยู่ด้านหลังของผู้ฟังและอยู่สูงประมาณ 2-3 ฟุต (60 – 100 เซ็นติเมตร) เหนือ
Corner ระดับหู
position ลำโพงหน้าด้านบนซ้าย และขวา
ลำโพงนี้มีความจำเป็นหากต้องการเพลิดเพลินกับระบบ Dolby PLIIz Height,
1/3 of wall และอื่นๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติในการรับฟัง โดยตำแหน่งต้องอยู่สูงอย่างน้อย 3.3 ฟุต
position (100 เซ็นติเมตร) เหนือลำโพงคู่หน้า (และสูงที่สุดเท่าที่สามารถเป็นไปได้) และ
การติดตั้งสามารถวางให้เยื้องกับลำโพงคู่หน้าเป็นมุมกว้างขึ้นเล็กน้อยได้ แต่จุดที่ดี
เคล็ดลับ: ที่สุดควรติดตั้งตรงกับตำแหน่งบนของลำโพงหน้าซ้าย และขวา
ในการหาตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับซัพวูฟเฟอร์ของคุณ ขณะ
ลำโพงซับวูฟเฟอร์
เล่นภาพยนต์หรือเล่นเพลงที่มีเสียงเบสที่ดี ให้ลองขยับซับ
ซับวูฟเฟอร์ เป็นตัวจัดการกับเสียงเบส LFE (Low-Frequency Effects) ระดับเสียง
วูฟเฟอร์ไปยังจุดต่างๆ ภายในห้องของคุณ จากนั้นให้เลือก
และคุณภาพของเบสจากซับวูฟเฟอร์ของคุณ จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งติดตั้ง สัดส่วนของ
จุดที่ได้ผลลัพธ์น่าพอใจมากที่สุด
ห้องฟังของคุณ และตำแหน่งนั่งฟังของคุณ โดยทั่วไป เสียงเบสจะดีขึ้นถ้าติดตั้งซับวูฟเฟอร์
ไว้ที่มุมด้านหน้าของห้อง หรือที่ตำแหน่งหนึ่งส่วนสามของความกว้างของผนังห้อง
ดังที่แสดงในภาพ
10
การต่อเชื่อมตัว เอวี รีซีฟเวอร์ (Connecting the AV receiver)
การต่อเชื่อมลำโพงของคุณ ข้อควรระวังในการต่อเชื่อมลำโพง
อ่านข้อมูลต่อไปนี้ให้ละเอียด ก่อนทำการต่อเชื่อมลำโพงของคุณ:
การตั้งค่าลำโพง
• สำหรับรุ่นในอเมริกาเหนือ: คุณสามารถต่อเชื่อมลำโพงที่มีความต้านทาน
ตารางต่อไปนี้จะแสดงถึงจำนวนแชนเนลที่ขึ้นอยู่กับจำนวนลำโพงที่คุณมี ระหว่าง 6 ถึง 16 โอห์ม ถ้าคุณใช้ลำโพงที่มีความต้านทานต่ำกว่า และเร่ง
สำหรับการเล่นระบบเสียงเซอร์ราวด์แบบ 7.1 คุณต้องการลำโพงจำนวน 7 ตัว เสียงของแอมป์ไปที่ระดับวอลลุ่มสูงๆ เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน อาจจะทำ
กับลำโพงแอ๊คทีฟซับวูฟเฟอร์อีกหนึ่งตัว ให้วงจรป้องกันความเสียหายภายในตัวแอมป์ทำงาน (ตัดการทำงานของแอมป์
ไม่ให้มีเสียงออกลำโพง)
• สำหรับรุ่นในยุโรปและเอเซีย: คุณสามารถต่อเชื่อมลำโพงที่มีความต้านทาน
จำนวนแชนเนล 2 3 4 5 6 7 7 8 9 ระหว่าง 4 ถึง 16 โอห์ม ถ้าความต้านทานของลำโพงที่ต่อเชื่อมทั้งหมดคือ
คู่หน้า 4 โอห์มหรือมากกว่า แต่น้อยกว่า 6 โอห์ม ให้แน่ใจว่าตั้งค่าความต้านทานของ
เซ็นเตอร์ ลำโพงที่ “4 โอห์ม” ( 40) ถ้าคุณใช้ลำโพงที่มีความต้านทานต่ำกว่า และเร่ง
เซอร์ราวด์ด้านข้าง เสียงของแอมป์ไปที่ระดับวอลลุ่มสูงๆ เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน อาจจะทำ
เซอร์ราวด์ด้านหลัง*1*2 ให้วงจรป้องกันความเสียหายภายในตัวแอมป์ตัดการทำงานของแอมป์ได้
เซอร์ราวด์ด้านหลัง*2 • อย่าเพิ่งเสียบสายไฟเอซีของแอมป์เข้ากับเต้ารับบนผนังก่อนทำการต่อเชื่อมใดๆ
แชนเนลหน้าด้านบน*2 • อ่านข้อมูลการใช้งานที่มากับลำโพงให้ละเอียด
*1 ถ้าคุณใช้ลำโพงเซอร์ราวด์หลังแค่ตัวเดียว ให้เชื่อมต่อมันเข้าไปที่ขั้วต่อ • ให้ใช้ความระมัดระวังในการต่อเชื่อมขั้วเฟสของสัญญาณ หรือพูดอีกอย่างก็คือ
SURR BACK หรือขั้วต่อ FRONT HIGH L (ด้านซ้าย) ให้ต่อเชื่อมขั้วบวก (+) เข้ากับขั้วบวก (+) เท่านั้น และต่อเชื่อมขั้วลบ (-) เข้ากับ
*2 แชนเนลเซอร์ราวนด์ด้านหลัง กับแชนเนลหน้าด้านบน ไม่สามารถใช้งาน ขั้วลบ (-) เท่านั้น ถ้าคุณต่อเชื่อมผิดขั้วเสียงที่ได้จะสลับเฟส ให้เสียงที่ผิดธรรมชาติ
พร้อมกันได้ • สายลำโพงที่ยาวเกินจำเป็น หรือสายลำโพงที่ใช้ขนาดเส้นลวดตัวนำที่เล็กมากๆ
จะส่งผลเสียต่อคุณภาพของเสียงซึ่งควรจะหลีกเลี่ยง
ถ้าคุณใช้ลำโพงจำนวน 4 หรือ 5 ตัว ให้ต่อเชื่อมลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านข้างเข้า • ระวังอย่าให้สายลำโพงขั้วบวกกับขั้วลบแตะกัน จะทำให้เอวี รีซีฟเวอร์เกิดความ
ที่ขั้วต่อ SURR L/R ห้ามต่อเชื่อมเข้ากับขั้วต่อ SURR BACK หรือขั้วต่อ เสียหายได้
FRONT HIGH L/R หรือขั้วต่อ FRONT HIGH OR ZONE 2 L/R • ให้แน่ใจว่า ส่วนที่เป็นโลหะของสายลำโพงไม่ไปแตะโดนแผงหลังของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
ไม่สำคัญว่าคุณจะใช้กี่ลำโพง แต่แนะนำให้ใช้ลำโพงแอ๊คทีฟซับวูฟเฟอร์เพื่อให้ได้ มิฉนั้น อาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้
เสียงเบสที่ทรงพลัง
เพื่อให้ได้เสียงรอบทิศทางที่ดี คุณต้องจัดตั้งลำโพง โดยคุณสามารถปรับตั้งแบบ
อัตโนมัติได้ ( 23) หรือแบบแมนน่วลก็ได้ ( 36)
การติดโค๊ดสีเข้ากับสายลำโพง
ตรงขั้วบวก (+) ของขั้วต่อสายลำโพงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะถูกย้อมสีต่างๆ
เอาไว้โดยแยกตามลักษณะตำแหน่งของแชนเนลเสียงเพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต
แยกแยะ ส่วนขั้วต่อที่เป็นขั้วลบ (-) นั้นจะใช้สีดำทั้งหมด
ลำโพง สี
หน้าซ้าย, โซนสองซ้าย, หน้าบนซ้าย ขาว
หน้าขวา, โซนสองขวา, หน้าบนขวา แดง
เซ็นเตอร์ เขียว
เซอร์ราวนด์ ซ้าย ฟ้า
เซอร์ราวนด์ ขวา เทา
เซอร์ราวนด์หลัง ซ้าย น้ำตาล
เซอร์ราวนด์หลัง ขวา แทน
ป้ายกำกับสีต่างๆ ที่มีมาให้คุณควรจะนำไปติดยังขั้วบวกของสายลำโพงแต่ละเส้น
ตามตารางด้านบน โดยสิ่งที่คุณต้องทำคือเทียบสีของป้ายกำกับสีแต่ละป้ายให้ตรง
กับสีที่ขั้วต่อสายลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์
11
• อย่าต่อสายลำโพงมากกว่าหนึ่งเส้นเข้าไปที่ขั้วต่อลำโพงของแอมป์ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้
• อย่าต่อเชื่อมลำโพงจากหลายๆ ขั้วต่อของแอมป์พร้อมๆ กัน
การต่อสายลำโพง
ขั้วต่อสายลำโพงแบบสกรูขันยึด
ปอกพลาสติกหุ้มสายลำโพงตรงส่วนปลายสาย 1/2" to 5/8" (12 to 15 mm)
ออกประมาณ 1/2 ถึง 5/8 นิ้ว (12-15 มิลลิเมตร)
แล้วจับเส้นตัวนำบิดให้แน่นเป็นเกลียว เหมือนในภาพ
L NE PUT
LINE INPUT
Powered subwoofer
ต่อเชื่อมลำโพงคู่หน้าแบบไบแอมป์
ขั้วต่อ FRONT L/R และ SURR BACK OR FRONT HIGH L/R สามารถใช้ร่วม
กับลำโพงหน้า หรือเซอราวด์หลังได้ หรือจะเพิ่มเป็นไบแอมป์โดยแยกขับทวีตเตอร์
และวูฟเฟอร์สำหรับลำโพงคู่หน้า เพื่อเพิ่มเสียงแหลมและทุ้มให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ข้อสำคัญ:
� เมื่อมีการต่อเชื่อมลำโพงแบบไบ-แอมป์ ต้องแน่ใจว่าได้ทำการถอดตัวจั๊มเปอร์ที่เชื่อมต่อระหว่างตัวทวีตเตอร์กับวูฟเฟอร์ที่ตัวลำโพงออกแล้ว
� ระบบไบ-แอมป์จะใช้ได้กับลำโพงที่รองรับระบบนี้เท่านั้น ให้ตรวจสอบจากคู่มือลำโพงของคุณ
13
เกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ AV
การเชื่อมต่อสัญญาณภาพเข้ากับอุปกรณ์เอวี
AV receiver AV receiver
Note
14
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ AV ด้วย HDMI
Note
• ในการรับฟังเสียงจากอุปกรณ์ใดๆ ด้วยการเชื่อมต่อ HDMI ผ่านทางเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ ให้เข้าไปปรับตั้งที่ตัวอุปกรณ์นั้นๆ ให้สัญญาณภาพจากอุปกรณ์ตัวนั้น
สามารถขึ้นไปแสดงผลบนจอทีวีให้ได้ (ที่ตัวทีวี ต้องเลือกอินพุตที่ตรงกับช่อง HDMI ที่ต่อเชื่อมอยู่กับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ด้วย) ถ้าสวิทช์ power ของทีวีตั้งอยู่ที่
ตำแหน่ง off หรืออินพุต ซีเล็กเตอร์ของตัวทีวีถูกปรับเลือกไว้ที่อินพุตอื่น จะมีผลทำให้ไม่มีเสียงของทีวีไปออกที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ หรือเสียงจะถูกตัดออกไป
• เมื่อฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 41) เมื่อทำการเร่งวอลลุ่มที่เอวี รีซีฟเวอร์เพื่อฟังเสียงของทีวี เสียงของทีวีก็จะไปดังออก
ทางลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์ด้วย แต่ถ้าฟังท์ชั่น “TV Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ( 42) เมื่อต้องการเร่งเสียงจากทีวีที่ตอบรับกับการทำงานของ
ฟังท์ชั่น RIHD ด้วยการเร่งวอลลุ่มของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ เสียงของทีวีก็จะไปดังเฉพาะที่ลำโพงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ส่วนลำโพงของทีวีจะไม่มีเสียงออก (muted)
ถ้าไม่ต้องการให้มีเสียงจากทีวีไปออกทางลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์ก็ให้เข้าไปเปลี่ยนแปลงการปรับตั้งในเอวี รีซีฟเวอร์ และเข้าไปเปลี่ยนการปรับตั้งที่ทีวี หรือ
ลดวอลลุ่มของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ลง
ฟังท์ชั่น Audio Return Channel (ARC)
ฟังท์ชั่น Audio Return Channel นี้ ทำให้ HDMI สามารถดึงสัญญาณเสียงจากทีวีออกมาทางช่อง HDMI OUT ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ในการใช้งานฟังท์ชั่นนี้
คุณจะต้องทำการปรับตั้งอินพุต ซีเล็กเตอร์ไปที่ตำแหน่งอินพุต TV/CD
* ในการใช้งานฟังท์ชั่น ARC คุณจะต้องทำการปรับตั้งอินพุต ซีเล็กเตอร์ไปที่ตำแหน่งอินพุต TV/CD และตัวทีวีของคุณจะต้องรองรับการใช้งานฟังท์ชั่น ARC
ด้วย ในขณะเดียวกัน ที่หัวข้อเมนู “HDMI Control” จะต้องถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ด้วย ( 42)
15
การเชื่อมต่ออุปกรณ์จากภายนอก
รายละเอียดเซ็ตอัพเมนูจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีได้เฉพาะเมื่อทำการเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น ถ้าทีวีของคุณ
เชื่อมต่อสัญญาณภาพจากเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง MONITOR OUT V หรือทางช่อง COMPONENT VIDEO OUT ให้ใช้จอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์เมื่อต้อง
การเปลี่ยนแปลงการปรับตั้งค่า
เชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกให้ตรงกับขั้วต่ออินพุตที่ถูกต้อง ซึ่งรายชื่อของอุปกรณ์ภายนอกที่กำหนดมาจากโรงงานที่ตรงกันกับแต่ละขั้วต่ออินพุตจะปรากฏอยู่ใน
ตารางด้านล่าง
: รายชื่อที่กำหนดมานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ( 35)
No. J ack S ign a l C o m p o n e n ts A s s i g n a bl e
COMPONENT IN 1 (BD/DVD) Component Blu-ray Disc/DVD player
VIDEO I N 2 ( C B L /S AT ) video S atel l i te, cabl e, set-top box , etc.
OU T T V , proj ector, etc.
DIGITAL IN OPTICAL IN 1 (GAME) Digital audio Game console
IN 2 (TV/CD) TV, CD player
COAXIAL IN 1 (BD/DVD) Blu-ray Disc/DVD player
IN 2 (CBL/SAT) Satellite, cable, set-top box, etc.
M ON I T OR OU T C omposi te TV, projector, etc.
video
B D /DV D I N A nal og audi o Blu-ray Disc/DVD player
V C R /DV R I N and composite V C R or DV D recorder/D i gi tal
video Video Recorder
C B L /S AT I N S atel l i te, cabl e, set-top box , etc.
GA ME IN G ame consol e
T V /C D I N A nal og audi o TV, CD player, Turntable *1
Cassette tape deck, MD, CD-R
U N I V E R S A L PO R T A nal og audi o/ Universal port optional dock
Video (UP-A1 etc.)
*1 ต่อเชื่อมเข้ากับเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ใช้หัวเข็ม MM และมีภาคขยายหัวเข็มในตัว ถ้าไม่มีต้องหาซื้อภาคขยายหัวเข็มที่มีขายในท้องตลาดมาเพิ่มเติม
ถ้าหัวเข็มของเครื่องเล่นแผ่นเสียงของคุณเป็นแบบ moving coil (MC) คุณต้องใช้ MC headamp หรือ MC transformer มาช่วยในการขยายสัญญาณอีกขั้นหนึ่ง
ให้ครวจเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมจากคู่มือของเครื่องเล่นแผ่นเสียง
คุณสามารถใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า phono equalizer มาต่อเชื่อมเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ากับหัวเข็ม MC ก็ได้ ให้ดูข้อมูลในคู่มือของตัว phono equalizer เพิ่มเติม
• ด้วยวิธีการเชื่อมต่อแบบที่ คุณจะสามารถรับฟังและบันทึกเสียงของอุปกรณ์ภายนอกในขณะที่อยู่ในโซน ได้ และในขณะที่คุณกำลังทำการรับฟังและบันทึกเสียง
ของอุปกรณ์ภายนอกอยู่ในห้องหลัก คุณก็สามารถรับฟังเสียงในห้องโซน ได้เช่นกัน
• ด้วยวิธีการเชื่อมต่อแบบที่ คุณจะสามารถรับฟังระบบเสียง Dolby Digital และ DTS ได้ (ถ้าต้องการรับฟังเสียง หรือบันทึกเสียงในโซน ไปในขณะกัน ให้ใช้การ
เชื่อมต่อแบบที่ และแบบที่ )
• ถ้าเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ หรือเครื่องเล่นดีวีดีของคุณมีทั้งขั้วต่อสัญญาณเสียงขาออกแบบเมน สเตริโอและมัลติแชนเนล ให้มั่นใจว่าได้ทำการเชื่อมต่อสัญญาณขาออกจาก
ช่องเมน สเตริโอสำหรับการเชื่อมต่อใช้งานแบบที่ ตามตาราง
จะบันทึกสัญญาณภาพวิดีโอได้อย่างไร.?
ด้วยการเชื่อมต่อระหว่างเอวี รีซีฟเวอร์กับทีวีลักษณะตามตารางนี้จะไม่สามารถบันทึกสัญญาณภาพวิดีโอผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ให้ไปดูการต่อเชื่อมระบบเพื่อ
บันทึกภาพวิดีโอได้ที่หน้า ( 28)
16
การใช้งานรูเสียบช่องอินพุต AUX ที่อยู่บนแผงหน้าปัดเครื่อง
หมายเหตุ:
� เมื่อคุณทำการต่อเชื่อมทั้งขั้วต่อ AUX INPUT AUDIO และขั้วต่อ AUX INPUT LINE IN พร้อมกัน ที่ขั้วต่อ AUX INPUT LINE IN จะถูกตั้งให้ได้รับเลือก
ใช้งานก่อน
� ตัวเอวี รีซีฟเวอร์สามารถส่งสัญญาณเสียงและสัญญาณวิดีโอจากช่อง AUX INPUT ออกไปทางช่อง VCR/DVR OUT ได้
จะเลือกอุปกรณ์ตัวนั้นสำหรับช่องอินพุตของมันทันที R
เลือกอุปกรณ์ตัวนั้นเข้ามาอยู่ในโหมดอินพุต ซีแลคเตอร์โดยอัตโนมัติทันที L
คุณสามารถใช้รีโมทไร้สายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ควบคุมการทำงานของ
BD/DVD
R L
ANALOG
e.g., DVD player AUDIO OUT
17
การเชื่อมต่อสายอากศวิทยุ
เนื้อหาส่วนนี้จะอธิบายวิธีการต่อเชื่อมสายอากาศในบ้านสำหรับรับสัญญาณวิทยุ FM และ AM
ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะไม่สามารถรับสัญญาณวิทยุใดๆ ได้หากไม่ได้ทำการต่อเชื่อมสายอากาศวิทยุ ฉนั้น คุณจะ “ต้อง” ทำการต่อสายอากาศวิทยุซะก่อนหากต้องการ
รับฟังเสียงจากสถานีวิทยุ
Thumbtacks, etc.
Caution
� ใช้ความระวังในการติดตั้งเป็กติดกระดาษ
Note
18
ควรเลือกใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบใด
เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้รองรับรูปแบบการต่อเชื่อมที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ AV ได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบที่คุณเลือกนั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะการรองรับของ
อุปกรณ์ AV ที่คุณจะนำมาใช้กับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ ให้ใช้ข้อมูลในส่วนที่ต่อจากนี้เป็นแนวทาง
รายละเอียดเซ็ตอัพเมนูจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีได้เฉพาะเมื่อทำการเชื่อมต่อทีวีเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น ถ้าคุณเชื่อมต่อ
สัญญาณภาพจากเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง MONITOR OUT V หรือทางช่อง COMPONENT VIDEO OUT ให้ใช้จอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์เมื่อต้องการ
เปลี่ยนแปลงการปรับตั้งค่า
Note
ข้อมูลเมนูเซ็ตอัพจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีก็ต่อเมื่อ:
� ไม่มีสัญญาณวิดีโออินพุต หรือ
� สัญญาณวิดีโออินพุตเป็นสัญญาณ 480p, 576p, 720p, 1080i หรือ 1080p
รูปแบบการเชื่อมต่อสัญญาณวิดีโอ
AV receiver
MONITOR OUT
Composite Component HDMI
รูปแบบการเชื่อมต่อสัญญาณออดิโอ
19
เปิดและปิดการใช้งานตัว เอวี รีซีฟเวอร์
ON/STANDBY
STANDBY indicator
ON/STANDBY
RECEIVER
20
การใช้งานเบื้องต้น
21
ปรับลดเสียงชั่วคราว เปลี่ยนชื่ออินพุตบนจอแสดงผล
คุณสามารถปิดเสียงของตัวเอวี รีซีฟเวอร์แบบชั่วคราวได้ ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ของ Onkyo ที่รองรับฟังท์ชั่น RI คุณต้องทำการปรับตั้ง
“Input Display” เพื่อให้ RI ทำงานอย่างถูกต้อง การปรับตั้งตรงจุดนี้ต้องทำ
กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม MUTING บนตัวรีโมท
ที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น
สัญญาณเสียงทางด้านเอ๊าต์พุตถูกปิดในขณะที่ฟังท์ชั่น mute ถูกใช้งาน
และจะปรากฏคำว่า “MUTING” กระพริบอยู่บนหน้าจอแสดงผล
เคล็ดลับ 1 กดปุ่ม TV/CD, GAME หรือปุ่ม VCR/DVR ที่อยู่บนหน้าปัด
เอวี รีซีฟเวอร์ ซึ่งหลังจากกดปุ่มลงไปแล้ว ตัวอักษรซึ่งเป็นชื่อย่อของ
* เมื่อต้องการยกเลิกฟังท์ชั่น Mute: กดปุ่ม MUTING บนตัวรีโมทอีกครั้ง
ช่องอินพุตที่คุณกดลงไปจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล
หรือทำการปรับระดับความดังที่ปุ่มวอลลุ่ม
* ฟังท์ชั่น Mute จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์เข้าสู่โหมด
เตรียมพร้อม (standby)
ใช้งานฟังก์ชั่นตั้งเวลาปิด
คุณสามารถปรับตั้งเวลาให้ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ปิดตัวเองลงตามเวลาที่กำหนดได้
โดยใช้ฟังท์ชั่น Sleep Timer
กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยกดปุ่ม SLEEP บนตัวรีโมทซ้ำๆ เพื่อ
วนหาระยะเวลาตั้งปิดที่ต้องการ คุณสามารถเลือกตั้งเวลาปิดเครื่อง 2 กดปุ่ม TV/CD, GAME หรือปุ่ม VCR/DVR ค้างไว้ 3 วินาที เพื่อ
อัตโนมัติได้ตั้งแต่ 10 นาทีขึ้นไปจนถึง 90 นาที โดยมีระดับขั้นให้ทบ เปลี่ยนชื่อของอินพุต ทำซ้ำขั้นตอนนี้ในการเลือกชื่ออินพุตสำหรับ
เวลาขั้นละ 10 นาที ตัวอักษรคำว่า “SLEEP” ตัวเล็กๆ จะปรากฏขึ้น “MD”, “CDR”, “DOCK” หรือ “TAPE” เมื่อกดปุ่มอินพุต
บนจอแสดงผลเมื่อเวลาตั้งปิดอัตโนมัติถูกเลือกใช้ ส่วนตัวเลขที่แสดง ซีเล็กเตอร์ TV/CD จะแสดงชื่ออินพุตวนไปดังนี้
เวลาตั้งปิดอัตโนมัติจะปรากฏบนจอแสดงผลเป็นเวลาประมาณ 5 วินาที
ก่อนที่หน้าจอจะเปลี่ยนกลับไปแสดงผลเหมือนก่อนหน้าที่คุณจะทำการ TV/CD MD CDR
ปรับตั้งเวลาปิดอัตโนมัตินี้ TAPE DOCK
เคล็ดลับ เมื่อกดปุ่มอินพุต ซีเล็กเตอร์ GAME จะแสดงชื่ออินพุตวนไปดังนี้
* เมื่อต้องการยกเลิกฟังท์ชั่น Sleep Timer ให้กดปุ่ม SLEEP บนตัวรีโมทซ้ำๆ
จนกว่าตัวอักษรคำว่า “SLEEP” บนจอแสดงผลจะหายไป GAME DOCK
* เมื่อต้องการตรวจสอบเวลาที่เหลืออยู่หลังจากทำการปรับตั้งไปแล้ว ให้กดปุ่ม
SLEEP หนึ่งครั้ง ตัวเลขเวลาที่เหลือจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล เมื่อกดปุ่มอินพุต ซีเล็กเตอร์ VCR/DVR จะแสดงชื่ออินพุตวนไปดังนี้
หมายเหตุ: ถ้าคุณกดปุ่ม SLEEP ในขณะที่เวลาที่ตั้งปิดปรากฏอยู่บนจอ เวลาที่ VCR/DVR DOCK
ตั้งปิดจะถูกตัดให้เร็วขึ้น 10 นาทีต่อทุกครั้งที่คุณกด
การใช้งานหูฟัง
Note
ต่อเชื่อมหูฟังสเตริโอเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้โดยใช้แจ๊คหูฟัง
• อินพุต Dock สามารถเลือกใช้สำหรับอินพุต TV/CD, GAME หรือ
มาตรฐานขนาด 1/4 นิ้ว (หรือ 6.3 ม.ม.) เสียบเข้าที่รูเสียบ PHONES
VCR/DVR แต่ไม่สามารถเลือกใช้ทั้งสามช่องนั้นในเวลาเดียวกัน
ของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้
• ใส่โค๊ดรหัสรีโมทที่ถูกต้อง ก่อนที่จะเริ่มต้นใช้งานรีโมท คอนโทรล ( 53)
Note
เลือกรูปแบบกรติดตั้งลำโพง
• ให้ปรับวอลลุ่มลดระดับความดังของเสียงลงให้สุดก่อนที่จะทำการต่อเชื่อม
หูฟังเสมอ คุณสามารถเลือกสลับใช้งานได้ระหว่าง front high กับ surround back
• ในขณะที่แจ๊คเสียบของหูฟังถูกเสียบใช้งานอยู่ในรูเสียบ PHONES เอ๊าต์พุต
ของลำโพงจะถูกปิดการใช้งาน (แต่ภาคขยายของโซน 2 ไม่ได้ถูกปิด)
• เมื่อคุณเสียบใช้หูฟัง โหมดการรับฟัง (Listening Mode) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยปุ่ม SP LAYOUT ซ้ำๆ
จะถูกปรับไปอยู่ที่ระบบ Stereo โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ว่า คุณได้ปรับตั้งไว้ที่โหมด
FrontHigh :
โมโน (Mono), สเตริโอ (Stereo) ไดเร็กต์ (Direct) หรือโหมด Pure Audio
(สำหรับรุ่นในยุโรปและเอเซีย) อยู่ก่อนแล้ว เสียงจากลำโพงแชนเนล front high จะถูกเลือกใช้
• เฉพาะโหมดการรับฟังแบบ สเตริโอ, ไดเร็กต์, Pure Audio (สำหรับรุ่นในยุโรป SurroundBack :
และเอเซีย) และโหมดโมโนเท่านั้นที่สามารถเลือกใช้ได้กับหูฟัง
เสียงจากลำโพงแชนเนล surround back จะถูกเลือกใช้
Note
Note
• ทำให้ห้องมีความเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงรบกวนรอบข้างรวมถึง
การรบกวนจากคลื่นวิทยุ (RFI) ก็สามารถรบกวนการตรวจวัดได้ ให้ปิด
หน้าต่าง, ปิดโทรทัศน์, ปิดวิทยุ, ปิดแอร์, ปิดหลอดไฟนีออน, ปิดเครื่อง
ใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน, ปิดตัวหรี่ไฟ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ลงให้หมด โทรศัพท์
มือถือก็ปรับใช้โหมดสั่นด้วย และวางไว้ให้ไกลจากอุปกรณ์ออดิโอ อิเล็กทรอนิค
ทั้งหมด 23
• ไมโครโฟนจะตรวจจับสัญญาณ Test Tones ที่เล่นผ่านลำโพงแต่ละตัวเมื่อโปรแกรม
Audyssey 2EQ เริ่มต้นทำงาน
• โปรแกรม Audyssey 2EQ จะไม่สามารถทำงานได้ถ้ามีหูฟังเสียบใช้งานอยู่บนตัว
เอวี รีซีฟเวอร์
ข้อความหากเกิดข้อผิดพลาด
5 ย้ายไมโครโฟนสำหรับปรับตั้งไปยังตำแหน่งหมายเลขสอง จากนั้นกด
ปุ่ม ENTER โปรแกรม Audyssey 2EQ จะทำการตรวจวัดเพิ่มเติม ในขณะที่ทำการแก้ไขสภาพห้องและปรับตั้งลำโพง อาจมีข้อผิดพลาดอย่างหนึ่ง
ซึ่งใช้เวลาสอง-สามนาที อย่างใดดังต่อไปนี้เกิดขึ้นได้:
6 เมื่อขั้นตอนการดำเนินการขั้นต่อไปแสดงขึ้นมา ให้ย้ายไมโครโฟน
สำหรับปรับตั้งไปยังตำแหน่งหมายเลขสาม แล้วซ้ำตามขั้นตอนข้อ 5 2EQ: Auto Setup Audyssey
24
ฟังรายการวิทยุ
ระบบกวาดหาคลื่นแบบแมนน่วล
คู่มือส่วนนี้จะแสดงขั้นตอนการใช้ผ่านทางปุ่มกดบนหน้าปัดเครื่องเอวี
รีซีฟเวอร์เป็นหลัก นอกจากที่มีการแจ้งไว้เฉพาะ
1 กดปุ่ม TUNING MODE คำว่า AUTO จะหายไปจากจอแสดงผล
การใช้งานภาครับสัญญาณวิทยุ
2 กดปุ่ม TUNING / ค้างไว้
ด้วยภาครับวิทยุที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง จะทำให้คุณรับฟังรายการจากสถานีวิทยุ ตัวเลขคลื่นความถี่ของสถานีจะหยุดเปลี่ยนเมื่อคุณหยุดกดลงไปบนปุ่ม
AM และ FM ได้ และคุณยังสามารถบันทึกคลื่นสถานีที่ชื่นชอบไว้เป็น presets TUNING การกดปุ่ม TUNING ซ้ำๆ แบบกดๆ ปล่อยๆ จะทำให้คลื่น
สำหรับการเลือกใช้อย่างเร่งด่วนได้ด้วย ความถี่เปลี่ยนๆ หยุดๆ ไปทีละขั้น
รุ่นนี้ใช้วิธีเปลี่ยนคลื่น FM/AM ด้วยช่วงความถี่ 200/10kHz (หรือ 50/9kHz)
ต่อขั้น การค้นหาคลื่นในโหมดแมนน่วล, สัญญาณเสียงของสถานี FM จะถูกปรับเป็น
ระบบโมโน
ฟังรายการวิทยุ การปรับจูนหาคลื่นสถานี FM ที่มีสัญญาณอ่อน:
ถ้าสัญญาณจากสถานี FM ที่เป็นสเตริโอออกมาอ่อนมาก อาจจะเป็นไปไม่ได้
ที่จะทำให้รับสัญญาณได้ดี กรณีนี้ ให้ปรับเปลี่ยนโหมดการค้นหาเป็นวิธีแมนน่วล
กดปุ่ม TUNER เพื่อเลือก AM หรือ FM
และฟังในโหมดเสียงโมโนแทน
ในตัวอย่างนี้เลือกไปที่สถานี FM แต่ละครั้งที่คุณกดปุ่ม TUNER ลงไป
คลื่นความถี่จะสลับเปลี่ยนไปมาระหว่าง AM กับ FM จูนหาคลื่นสถานีโดยตรง
คุณสามารถจูนหาคลื่นวิทยุของสถานี AM หรือ FM ได้โดยตรง ด้วยการพิมพ์
Band Frequency ตัวเลขความถี่ของสถานีที่ต้องการลงไป
กวาดหาคลื่นของสถานีวิทยุ
(ในตัวอย่างนี้จะทำการค้นหาสถานี FM ซึ่งรูปแบบรายละเอียดที่ปรากฏ
บนหน้าจอจะแตกต่างกันไปตามแต่พื้นที่)
ระบบกวาดหาคลื่นอัตโนมัติ
1 2 ในช่วงเวลาประมาณ 8 วินาทีที่สัญญาณลักษณ์บนหน้าจอกำลังกระพริบ
กดปุ่ม TUNING MODE จะมีคำว่า AUTO สว่างขึ้นบนจอ ให้กดปุ่มตัวเลขตามตัวเลขคลื่นของสถานีที่ต้องการค้นหาตัวอย่าง
สมมุติว่าจะค้นหาสถานี FM ที่คลื่น “87.50” ก็กดเลข 8, 7, 5, 0
2 กดปุ่ม TUNING / ถ้าคุณใส่ตัวเลขผิด คุณมีเวลาใส่ตัวเลขใหม่หลังจาก 8 วินาทีไปแล้ว
การค้นหาจะสิ้นสุดลงเมื่อสถานีถูกค้นพบ
AUTO
TUNED
25
การตั้งเมมโมรี่ Preset สำหรับสถานีวิทยุ AM/FM การใช้ RDS ยกเว้นรุ่นในอเมริกา
คุณสามารถเก็บคลื่นวิทยุ AM/FM ที่คุณชอบรวมกันไว้ใน presets ได้มากถึง
40 สถานี
RDS จะทำงานเฉพาะในพื้นที่ที่มีการออกอากาศสัญญาณ RDS เท่านั้น
1 ทำการจูนหาคลื่นสถานีที่ต้องการทำการจัดเก็บไว้ในเมมโมรี่ preset เมื่อกวาดหาคลื่นสถานี RDS สัญญาลักษณ์ RDS บนจอแสดงผลจะสว่างขึ้น
ดูวิธีการในหัวข้อก่อนหน้านี้
RDS คืออะไร.?
2 กดปุ่ม MEMORY RDS มาจากคำว่า Radio Data System ซึ่งหมายถึงกรรมวิธีในการฝังข้อมูล
ตัวเลขที่แสดงลำดับของการจัดเก็บจะกระพริบขึ้นที่จอแสดงผล ลงไปบนสัญญาณ FM เพื่อส่งผ่านไปทางอากาศ พัฒนาขึ้นมาโดยสมาพันธ์
การกระจายสัญญาณวิทยุของยุโรป (EBU) ซึ่งมีให้บริการอยู่ในประเทศทาง
ฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ ปัจจุบันมีสถานีวิทยุ FM จำนวนมากที่ใช้เทคโนโลยี่นี้ ด้วย
ความสามารถของระบบ RDS ในการแสดงข้อมูลตัวหนังสือออกมาบนจอทำ
3 ในขณะที่ตัวเลขลำดับการจัดเก็บกำลังกระพริบอยู่บนจอแสดงผลนั้น
ให้คุณสามารถจัดเก็บสถานีวิทยุที่คุณเลือกไว้ทั้งหมดด้วยวิธีแยกเป็นกลุ่มๆ ได้
(จะกระพริบอยู่ประมาณ 8 วินาที) ให้ใช้ปุ่ม PRESET / ทำการ
อาทิ news, sport, rock ฯลฯ แล้วใช้วิธีค้นหาสถานีวิทยุเหล่านั้นด้วยการพิมพ์
เลื่อนหาลำดับที่ต้องการจัดเก็บสถานีดังกล่าว ซึ่งสามารถเลือกได้
กลุ่มประเภทของสถานีเข้าไป
ระหว่างลำดับที่ 1 ถึงลำดับที่ 40
เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้สามารถตอบรับกับระบบ RDS ได้ 4 ประเภท:
4 กดปุ่ม MEMORY อีกครั้งเพื่อยืนยันการบันทึกสถานีนั้นลงไปใน
PS (Program Service)
เมมโมรี่ของเครื่อง สถานีที่คุณเลือกไว้ได้ถูกบันทึกลงบนเมมโมรี่ของ
เครื่องตามลำดับที่คุณเลือก จากนั้น ตัวเลขลำดับที่คุณใช้บันทึกสถานี เมื่อหมุนเลือกไปที่สถานี RDS ที่ออกอากาศโดยมีข้อมูล PS มาด้วย จะปรากฏ
นั้นจะหยุดกระพริบ ทวนขั้นตอนทั้ง 4 ขั้นตอนนี้สำหรับการบันทึกคลื่น ชื่อของสถานีนั้นขึ้นแสดงบนจอ เมื่อกดปุ่ม DISPLAY บนจอจะแสดงตัวเลข
ความถี่ของสถานีอื่นๆ ต่อไป คลื่นความถี่ของสถานีนั้นขึ้นมาประมาณ 3 วินาที
RT (Radio Text)
การเลือกคลื่นวิทยุที่บันทึกไว้ในเมมโมรี่ Presets เมื่อหมุนเลือกไปที่สถานี RDS ที่ออกอากาศโดยมีข้อมูลตัวหนังสือมาด้วย
จะปรากฏตัวหนังสือกับตัวเลขเหล่านั้นขึ้นบนจอ ซึ่งจะแจกแจงรายละเอียด
เพิ่มเติมในบทถัดไป
ในการเลือกสถานีที่ตั้งไว้ใน Preset ให้ใช้ปุ่ม PRESET /
บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์หรือปุ่ม CH +/- บนรีโมท PTY (Program Type)
จะทำให้คุณสามารถค้นหาสถานี RDS ด้วยวิธีจัดกลุ่มประเภทได้ ( 27)
เคล็ดลับ
TP (Traffic Program)
คุณสามารถใช้ปุ่มตัวเลขบนตัวรีโมทในการเจาะเลือกไปที่สถานีนั้นโดยตรงก็ได้
จะทำให้คุณสามารถค้นหาสถานี RDS ที่ออกอากาศข้อมูลจราจรได้ ( 27)
การลบคลื่นวิทยุที่บันทึกไว้ในเมมโมรี่ Presets Note
การแสดงข้อมูลตัวอักษร (RT)
26
การค้นหาสถานีด้วยวิธีระบุประเภท (PTY) ตารางรายชื่อรายการวิทยุ RDS ที่แบ่งเป็นประเภท (PTY)
คุณสามารถค้นหาสถานีด้วยวิธีระบุประเภทของสถานีได้โดย T y pe D is pla y
N one N one
1 กดปุ่ม RT/PTY/TP สองครั้ง News reports News
ประเภทของสถานีที่กำลังออกอากาศจะปรากฏขึ้นบนจอ Current affairs Affairs
27
การบันทึก
ส่วนนี้จะอธิบายวิธีการบันทึกสัญญาณจากแหล่งต้นทางอินพุตใดอินพุตหนึ่งไปสู่อุปกรณ์ที่สามารถบันทึกได้ และวิธีการบันทึกสัญญาณออดิโอ (เสียง) และสัญญาณ
วิดีโอ (ภาพเคลื่อนไหว) จากแหล่งต้นทางที่อยู่ต่างอินพุตกัน
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึก
3 กดปุ่ม “Play” บนอุปกรณ์ต้นทางที่คุณเลือกไว้
ถ้าคุณเลือกอินพุตอื่นจากฟังท์ชั่น input selector ขึ้นมา อินพุตใหม่นั้น
จะถูกบันทึกแทนอินพุตเดิม
การบันทึกจากแหล่งต้นทางที่อยู่ต่างอินพุตกัน
คุณสามารถบันทึกสัญญาณออดิโอ “ควบทับ” (Overdub) ลงไปบนสัญญาณ
วิดีโอได้ ด้วยการบันทึกทั้งสัญญาณออดิโอและสัญญาณวิดีโอจากแหล่งต้นทาง
2 แหล่งอินพุตพร้อมๆ กัน เหตุที่คุณสามารถทำอย่างนี้ได้ก็เพราะว่า มีเพียง
แหล่งต้นทางออดิโอเท่านั้นที่ถูกสวิทช์เปลี่ยน เพราะอินพุตนั้นมีเฉพาะสัญญาณ
L R
ออดิโออย่างเดียว อย่างเช่น ช่อง TV/CD ในขณะที่แหล่งต้นทางที่เป็นสัญญาณ
AUDIO VIDEO
IN IN วิดีโอยังคงถูกบันทึกเหมือนเดิม
ในภาพตัวอย่างด้านล่าง, สัญญาณเสียง (ออดิโอ) จากเครื่องเล่นซีดีต่อผ่านเข้า
มาทางช่อง TV/CD IN ส่วนสัญญาณวิดีโอ (ภาพ) จากกล้องแคมคอร์ดเดอร์ต่อ
VCR, Cassette, CDR, ผ่านเข้ามาทางช่อง AUX INPUT VIDEO และถูกส่งไปบันทึกลงบน VCR
DVD recorder MD, etc. (วิดีโอ คาสเส็ท เร็คคอร์ดเดอร์) ซึ่งต่อรอรับสัญญาณอยู่ที่ช่อง VCR/DVR OUT
Note Camcorder
• ต้องทำการเปิดเครื่องเอวี รีซีฟเวอร์ขึ้นมาก่อน เนื่องจากตัวเอวี รีซีฟเวอร์
จะไม่สามารถทำการบันทึกได้ถ้าอยู่ในโหมดสแตนด์บาย
• ถ้าต้องการบันทึกตรงจากทีวีหรือจากเครื่องเล่นวิดีโอเทปไปยังเครื่องบันทึก
วิดีโอเทปโดยไม่ผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ให้ต่อเชื่อมสัญญาณภาพและเสียงจากช่อง
TV/VCR ตรงไปเข้าที่ช่องออดิโอ/วิดีโอ อินพุตของอุปกรณ์ที่ใช้บันทึก โดยดูวิธี
การต่อเชื่อมจากคู่มือของตัวทีวีและตัววิดีโอเทปนั้น
• สัญญาณวิดีโอที่ต่อเชื่อมทางช่องคอมโพสิต วิดีโอจะสามารถส่งออกไปบันทึกบน
อุปกรณ์บันทึกทางช่องคอมโพสิต วิดีโอเท่านั้น เช่น ถ้าคุณเชื่อมต่อ TV/VCR
เข้าทางช่องคอมโพสิต วิดีโออินพุต คุณก็ต้องต่อเชื่อมตัว VCR ที่ใช้บันทึกเข้าที่
ช่องคอมโพสิต วิดีโอ เอ๊าต์พุต
• ระบบเสียงเซอร์ราวนด์ต่างๆ กับระบบเสียงที่อยู่ในโหมดการฟังที่ผ่านการทำงาน
ของวงจร DSP จะไม่สามารถบันทึกได้
• แผ่นดีวีดีกับแผ่นบลู-เรย์ฯ ที่มีระบบป้องกันการบันทึก (มีสัญญาณ
Copy-protection) จะไม่สามารถบันทึกได้
• แหล่งต้นทางที่ต่อเชื่อมอยู่ที่ช่องอินพุต digital ทั้งหมดไม่สามารถบันทึกได้ จะ
บันทึกได้เฉพาะแหล่งต้นทางที่ต่อเชื่อมอยู่ที่ช่องอินพุตแบบอะนาลอกเท่านั้น
• แม้ว่าจะต่อเชื่อมสัญญาณทางช่องอะนาลอกเอาไว้ด้วย แต่สัญญาณ DTS ที่อยู่
บนแผ่น DTS CD และแผ่น LD (เลเซอร์ดิสก์) ที่บันทึกมาได้จะมีแต่สัญญาณ CD player VCR
รบกวนเท่านั้น
• ขณะที่โหมดการรับฟังถูกเลือกอยู่ที่โหมด Pure Audio จะไม่มีสัญญาณภาพ : Video signal
: Audio signal
เนื่องจากวงจรเกี่ยวกับสัญญาณภาพถูกปิด ถ้าคุณต้องการทำการบันทึก
สัญญาณภาพ ให้เลือกโหมดการรับฟังแบบอื่น (รุ่นในยุโรปและเอเซีย)
บันทึกสัญญาณออดิโอและวิดีโอ 1 เตรียมกล้องแคมคอร์ดเดอร์และเครื่องเล่นซีดีให้พร้อมสำหรับเพลย์แบ็ค
28
การใช้โหมดการฟัง
ปรับเลือกโหมดการฟัง
สำหรับข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโหมดการรับฟังนั้น ให้ดูที่หัวข้อ “About Listening Modes” ที่หน้า ( 30)
ปุ่มเลือกโหมดการฟัง
MUSIC GAME
MOVIE/TV STEREO
ปุ่ม GAME
ปุ่มนี้ใช้เลือกโหมดการฟังที่เหมาะใช้คู่กับการเล่นวิดีโอ เกมส์
ปุ่ม STEREO
ปุ่มนี้ใช้เลือกโหมดการฟังด้วยระบบเสียงสเตริโอ ซึ่งลำโพงทั้งหมดจะให้เสียง
ออกมาเป็นระบบสเตริโอ
29
เกี่ยวกับโหมดการฟัง
โหมดการฟัง (Listening Modes) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเปลี่ยนแปลงห้องฟังของคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์หรือคอนเสิร์ต ฮอลล์ ที่มีคุณภาพเสียงเยี่ยมยอด
กับสนามเสียงเซอร์ราวนด์ที่น่าตื่นเต้น
ความหมายของระบบเสียงแบบต่างๆ
SP LAYOUT
Front speakers
Center speaker
LISTENING MODE
Surround speakers
Subwoofer
แหล่งต้นทาง
โหมดการรับฟังของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้รองรับระบบเสียงต่างๆ ที่ปรากฏด้านล่างนี้ได้
ระบบเสียงโมโน ระบบนี้ให้เสียงออกมาแค่แชนเนลเดียว
ระบบเสียงสเตริโอ เป็นระบบที่ให้เสียงออกมา 2 แชนเนลที่แตกต่างกันผ่านทางลำโพง 2 ตัว
ระบบเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนล ซึ่งระบบนี้จะให้เสียงที่ต่างกันออกมา 5 แชนเนลหลัก บวกกับแชนเนลที่ 6 สำหรับซับวูฟเฟอร์ ซึ่งก็คือแชนเนล .1
ในระบบ 5.1ch นั่นเอง
ระบบเซอร์ราวนด์ 7.1 แชนเนล ซึ่งเป็นระบบที่ขยายความสามารถของระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 ch ออกไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มลำโพงด้านหลัง
เข้ามาอีก 2 แชนเนล ซึ่งทำให้ได้บรรยากาศของเสียงที่โอบล้อมดีขึ้น กับทำให้รับรู้ถึงตำแหน่งของเสียงที่เด่นชัดมากขึ้นด้วย
เป็นระบบเสียงเซอร์ราวนด์ DTS-ES เป็นระบบที่สร้างสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์ 6 แชนเนลจากแหล่งต้นทางทั้งที่เข้ารหัสมาด้วยระบบ matrix
และที่เข้ารหัสมาด้วยระบบเสียง DTS 5.1
เป็นระบบเสียงเซอร์ราวนด์ Dolby Digital EX ซึ่งเป็นระบบเสียงที่สร้างสัญญาณเสียงแชนเนล center back surround ขึ้นมาจากแหล่งต้นทางที่
เป็นระบบเสียง 5.1 แชนเนล
รูปแบบการจัดวางลำโพง
ภาพประกอบด้านล่างจะแสดงให้เห็นว่ามีลำโพงตัวใดบ้างที่ถูกใช้งานสำหรับระบบเสียงต่างๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการปรับตั้งลำโพงจากหัวข้อ “Sp Config
(Speaker Configuration)” ที่หน้า ( 36)
30
โหมดการรับฟัง
DTS
31
ชื่อโหมดการรับฟัง ความหมาย แหล่งอินพุต รูปแบบวางลำโพง
DTS-HD High (ต่อจากหน้า 31)
Resolution Audio *2
D T S – HD HR
DTS-HD Master
Audio
*2
D T S – HD MS T R
DTS Express
DTS Exp r ess
DSD *7
DSD
DTS Neo:6
โหมดนี้เป็นการขยายแหล่งต้นทางที่เป็นระบบเสียง 2ch ให้ออกมาเป็น 7.1 ch โดยใช้ระบบ *5
matrix แบบฟูลเร้นจ์จำนวน 7 แชนเนลในการเข้ารหัส ให้เสียงเซอร์ราวนด์ที่เป็นธรรมชาติ
Ne o : 6 มาก โอบล้อมผู้ฟังอย่างเต็มที่
• Neo:6 Cinema
Ne o : 6 C i n ema
ใช้โหมดนี้กับทุกแหล่งต้นทางภาพยนตร์ที่เป็นระบบสเตริโอ (อาทิ ทีวี, ดีวีดี, วิดีโอเทป)
N e o : 6 M u s i c • Neo:6 Music
ใช้โหมดนี้กับทุกแหล่งต้นทางดนตรีที่เป็นระบบสเตริโอ (อาทิ ซีดี, วิทยุ, เทปคาสเส็ท, ทีวี,
วิดีโอเทป และดีวีดี)
*5
โหมดนี้ใช้ระบบเสียง Neo:6 ในการขยายระบบเสียง 5.1ch ให้ออกมาเป็น 6.1/7.1ch
32
โหมดเสียง DSP ของ Onkyo เอง
All Ch Stereo
เป็นโหมดที่เหมาะมากสำหรับเปิดดนตรีคลอเบาๆ เป็นแบ็คกราวนด์ มิวสิค ซึ่งโหมดนี้จะทำ *10
การกระจายเสียงดนตรีออกไปรอบๆ บริเวณด้วยระบบเสียงสเตริโอ จากแชนเนลหน้าและ
A l l Ch S t แชนเนลที่เป็นเซอร์ราวนด์
Full Mono ในโหมดนี้ ทุกแชนเนลจะกระจายเสียงออกมาด้วยสัญญาณเสียงโมโนแบบเดียวกัน ดังนั้น
Fu l l Mo n o เสียงที่คุณได้ยินจึงเป็นเสียงเดียวกันทุกๆ พื้นที่ในบริเวณที่เสียงจากลำโพงที่ติดตั้งไว้สามารถ
กระจายไปถึง
T-D (Theater- ด้วยโหมดนี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 แชนเนลเทียมที่เกิดขึ้น
Dimensional) แม้จะใช้ลำโพงเพียงแค่ 2 หรือ 3 ตัว (ไม่ถึง 6 ตัว) ซึ่งวิธีการทำงานของโหมดนี้ก็คือ จะ
T–D
อาศัยวิธีการควบคุมวิธีที่สัญญาณเสียงเดินทางมาถึงหูข้างซ้ายและข้างขวาของผู้ฟัง ซึ่งผลลัพธ์
อาจจะออกมาไม่ดีนักถ้าสภาพแวดล้อมมีลักษณะการก้องสะท้อนของเสียงมากเกินไป เราจึง
ขอแนะนำให้เลือกใช้โหมดเสียงนี้ในสภาพห้องที่มีเสียงสะท้อนค่อนข้างน้อย หรือไม่มีเลยก็จะ
ยิ่งดี (ในห้องที่มีสภาพอะคูสติกที่ดูดซับพลังงานของเสียงมากๆ จะออกมาดี)
Note
*1 (เฉพาะรุ่นในอเมริกาเหนือ) ไม่มีโหมดการรับฟังนี้
*2 เมื่อแหล่งต้นทางอินพุตมีการเข้ารหัสมาด้วยสัญญาณแชนเนล Front High ลำโพงที่ติดตั้งอยู่ในตำแหน่ง Front High จะให้เสียงออกมา
*3 ถ้าไม่มีลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านหลังติดตั้งไว้ หรือในกรณีที่ฟังท์ชั่น PoweredZone 2 ถูกใช้งาน ระบบเสียง Dolby Pro Logic II จะถูกเลือกใช้
*4 ลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านหลังไม่รองรับ
*5 ลำโพงหน้าด้านบนไม่รองรับ
*6 เมื่อเล่นแผ่นบลู-เรย์ฯ ระบบเสียง Dolby Digital จะถูกเลือกใช้ด้วยลักษณะของระบบเสียง 3.1/5.1 แชนเนล
*7 เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้สามารถรับสัญญาณ DSD จากช่อง HDMI IN ถ้าปรับตั้งสัญญาณเอ๊าต์พุตของตัวเพลเยอร์ไว้ที่ตำแหน่ง PCM อาจจะทำให้ได้คุณภาพ
เสียงที่ดีกว่า ขึ้นอยู่กับตัวเครื่องเล่น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ให้ปรับตั้งสัญญาณเอ๊าต์พุตของตัวเครื่องเล่นไว้ที่ PCM
*8 ขึ้นอยู่กับสัญญาณอินพุตจากอุปกรณ์ต้นทาง ซึ่งระบบเสียง DTS จะถูกเลือกใช้
*9 ถ้าไม่มีลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านหลังติดตั้งไว้ ระบบเสียง DTS จะถูกเลือกใช้
*10สัญญาณเสียงทางเอ๊าต์พุตสามารถสลับไป-มาได้ระหว่างแชนเนล front high กับแชนเนล surround back ด้วยการกดปุ่ม SP LAYOUT [ขึ้นอยู่กับการปรับตั้ง
ในหัวข้อ “Sp Config” (�36)
* โหมดการรับฟังจะไม่สามารถเลือกได้กับรูปแบบของสัญญาณต้นทางบางประเภท
33
การปรับตั้งระดับสูง
Note
ENTER
เมนูเซ็ตอัพที่แสดงขึ้นจอจะปรากฏให้เห็นต่อเมื่อ: / / /
* ไม่มีสัญญาณวิดีโอ อินพุต หรือ
* สัญญาณวิดีโอ อินพุต เป็น 480p, 576p, 720p, 1080i หรือ 1080p
SETUP RETURN
Setup Menu
1. HDMI Input BD/DVD
2. Component VCR/DVR
เมนูเซ็ตอัพจะปรากฏขึ้นบนจอทีวีที่ต่อเชื่อมเอาไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก
3. Digital Audio CBL/SAT ให้กับการปรับตั้งต่างๆ ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ การปรับตั้งทั้งหมดได้ถูกจัดแยก
4. Sp Config GAME ไว้เป็น 10 กลุ่ม ทั้งหมดนั้นถูกบรรจุอยู่ใน main menu ซึ่งคุณสามารถเข้าไปใช้
5. Sp Distance AUX งานผ่านทางเมนูเซ็ตอัพที่ปรากฏบนจอ
6. Level Cal TV/CD
7. Audio Adjust PORT
8. Name Edit 1 กดปุ่ม RECEIVER แล้วตามด้วยปุ่ม SETUP
9. Hardware จะปรากฏหน้าเมนูหลักบนจอดังนี้
10. HDMI Setup
Setup Menu
1. HDMI Input BD/DVD HDMI IN1
HDMI Input ( 35) Level Cal ( 37) 2. Component VCR/DVR HDMI IN2
3. Digital Audio CBL/SAT HDMI IN3
Left 4. Sp Config GAME HDMI IN4
BD/DVD
FrontHigh Left 5. Sp Distance AUX -----
VCR/DVR
Center 6. Level Cal TV/CD -----
CBL/SAT
FrontHigh Right 7. Audio Adjust PORT
GAME -----
Right 8. Name Edit
AUX
Surround Right 9. Hardware
TV/CD
SurrBack Right 10. HDMI Setup
PORT
SurrBack Left
Surround Left
Subwoofer เคล็ดลับ
Component ( 35) Audio Adjust ( 37) * ถ้าหน้าเมนูหลักไม่ปรากฏขึ้นบนจอ ให้แน่ใจว่าที่ทีวีได้กดเลือกช่อง
BD/DVD Input Ch(Mux) อินพุตที่ต่ออยู่กับเอ๊าต์พุตของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกต้องแล้ว
VCR/DVR Input Ch(Mono)
2
CBL/SAT Panorama
GAME Dimension ใช้ปุ่มลูกศรขึ้น-ลง / ในการเลือกหัวข้อเมนู เมื่อได้แล้วก็กดปุ่ม
AUX Center Width
TV/CD
PORT
Height Gain
Dolby EX
ENTER
Center Image
Digital Audio ( 35) Audyssey
3 ใช้ปุ่มลูกศรขึ้น-ลง / ในการเลือกหัวข้อฟังท์ชั่น เมื่อได้แล้วก็ใช้ปุ่ม
Dynamic EQ
Reference Leve
Dynamic Volume
/ ในการปรับตั้งหัวข้อนั้น
BD/DVD
VCR/DVR Listening Angle กดปุ่ม SETUP เพื่อปิดเมนู
CBL/SAT
GAME
AUX
Name Edit ( 40) กดปุ่ม RETURN เพื่อกลับไปที่หน้าเมนูหลัก
TV/CD
PORT Name Note
Sp Config ( 36) Hardware ( 40) * ขั้นตอนเหล่านี้สามารถปรับตั้งผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ก็ได้ โดยอาศัยปุ่ม SETUP,
Subwoofer
ปุ่มลูกศรสี่ทิศ ร่วมกับปุ่ม ENTER
Sp Impedance
Front
Center
Speakers Type
Front High/Zone2
* ในขณะที่โปรแกรม Audyssey 2EQ กำลังทำงาน ข้อความที่เกี่ยวข้องกับการ
Surround
Front High
SurrBk/FrontHigh
Remote ID
ปรับตั้งโปรแกรมนี้จะปรากฏขึ้นบนจอ
SurrBack FM/AM Freq Step
SurrBack Ch SAT Radio
Crossover Antenna Aiming
Double Bass Parental Lock
หมายเหตุ
* สำหรับการปรับตั้งที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ให้ดูค่าตอบสนองความถี่ของลำโพง
ในสมุดคู่มือของลำโพงนั้นๆ แล้วทำการเลือกค่าจุดตัดที่เหมาะสมกัน
* เลือกความถี่ของจุดตัดที่สูงขึ้น ถ้าคุณต้องการปริมาณเสียงทุ้มจากลำโพง
ซับวูฟเฟอร์มากขึ้น
36
ฟังท์ชั่นดับเบิ้ล เบส
ปรับตั้งระดับความดัง
การปรับตั้งนี้จะ “ไม่” ถูกปรับตั้งโดยอัตโนมัติด้วยโปรแกรม Audyssey
Menu Level Cal
2EQ ( 23)
การปรับตั้งนี้จะถูกปรับตั้งโดยอัตโนมัติด้วยโปรแกรม Audyssey 2EQ
Note
( 23)
* ฟังท์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ก็เฉพาะเมื่อหัวข้อ “Subwoofer” ถูกปรับตั้งไว้
ที่ตำแหน่ง “Yes” และลำโพงคู่หน้าหรือ “Front” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง คุณสามารถปรับตั้งระดับความดังของลำโพงแต่ละตัวได้ด้วยเมนูนี้ โดยอาศัย
“Large” ( 36) สัญญาณเทสต์ โทนที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ซึ่งจะทำให้เสียงของ
ลำโพงแต่ละตัวที่มาถึงจุดนั่งฟังมีความดังที่เท่าเทียมกัน
ฟังท์ชั่น Double Bass จะทำให้คุณสามารถเพิ่มปริมาณเสียงทุ้มออกมาจาก
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้มากขึ้น ด้วยการย้ายเสียงทุ้มที่ตัดจากลำโพงคู่หน้าซ้าย-ขวา ลำโพงคู่หน้าข้างซ้าย, ลำโพงคู่หน้าด้านบนข้างซ้าย, เซ็นเตอร์*1, ลำโพงคู่
และจากลำโพงเซ็นเตอร์ไปออกทางลำโพงซับวูฟเฟอร์ หน้าด้านบนข้างขวา, ลำโพงคู่หน้าข้างขวา, เซอร์ราวนด์ ขวา, เซอร์ราวนด์
ด้านหลังข้างขวา, เซอร์ราวนด์ด้านหลังข้างซ้าย, เซอร์ราวนด์ ซ้าย
On: ฟังท์ชั่น Double Bass อยู่ในสถานะภาพ “On” –12 dB to 0 dB to +12 dB in 1 dB step.
ลำโพงซับวูฟเฟอร์*1
Off : ฟังท์ชั่น Double Bass อยู่ในสถานะภาพ “Off”
–15 dB to 0 dB to +12 dB in 1 dB step.
Note
ปรับตั้งระยะห่างของลำโพง
* ลำโพงตัวที่คุณปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “No” หรือ “None” ในเมนู “Sp Config”
Menu Sp Distance ( 36) จะไม่สามารถปรับเลือกฟังท์ชั่นนี้ได้
* จะไม่สามารถปรับระดับความดังของลำโพงได้ในขณะที่มีหูฟังเสียบใช้งานอยู่
การปรับตั้งนี้จะถูกปรับตั้งโดยอัตโนมัติด้วยโปรแกรม Audyssey 2EQ บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ หรือในกรณีที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์อยู่ในสถานะหยุดเสียง
( 23) ชั่วคราว (mute) หรือถ้าฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง
“On” ( 41)
คุณสามารถระบุระยะห่างระหว่างลำโพงแต่ละตัวกับจุดนั่งฟังได้ที่ฟังท์ชั่นนี้
เพื่อทำให้เสียงจากลำโพงแต่ละตัวเดินทางไปถึงหูของผู้ฟังที่ตำแหน่งนั่งฟัง *1 สำหรับลำโพงเซ็นเตอร์และซับวูฟเฟอร์ ระดับความดังที่ปรับตั้งไว้ในเมนู
ด้วยระยะเวลาที่ตรงกับที่ผู้สร้างโปรแกรมนั้นตั้งใจสร้างสรรมันขึ้นมา AUDIO จะถูกเก็บบันทึกไว้
หน่วยวัด เคล็ดลับ
feet: * ถ้าคุณใช้อุปกรณ์วัดความดังของเสียง (SPL meter) ในการตรวจวัดระดับ
วัดระยะเป็นฟุต ด้วยช่วงความกว้างทั้งหมดตั้งแต่ 1 ฟุต ถึง 30 ฟุต ความดังของลำโพงแต่ละตัว ให้ตั้งค่าวัดบนอุปกรณ์ไว้ที่ 75 dB SPL ณ ตำแหน่ง
ด้วยความละเอียดในการปรับตั้ง 1 ฟุตต่อขั้น นั่งฟัง และให้ตั้งวิธีวัดมาตรฐานแบบ C-weighting และ slow reading
meters:
วัดระยะเป็นเมตร ด้วยช่วงความกว้างทั้งหมดตั้งแต่ 0.3 เมตร ถึง
9.0 เมตร ด้วยความละเอียดในการปรับตั้ง 0.3 เมตรต่อขั้น
(ค่าที่กำหนดมาจากโรงงานจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่) ปรับตั้งค่าออดโอ
ลำโพงคู่หน้าข้างซ้าย, ลำโพงคู่หน้าด้านบนข้างซ้าย, เซ็นเตอร์, ลำโพงคู่ Menu Audio Adjust
หน้าด้านบนข้างขวา, ลำโพงคู่หน้าข้างขวา, เซอร์ราวนด์ ขวา, เซอร์ราวนด์
ด้านหลังข้างขวา, เซอร์ราวนด์ด้านหลังข้างซ้าย, เซอร์ราวนด์ ซ้าย, ด้วยฟังท์ชั่นปรับตั้งค่าออดิโอนี้ จะทำให้คุณสามารถปรับตั้งเสียงและโหมดการ
ซับวูฟเฟอร์ รับฟังได้ตามใจชอบ
กำหนดระยะห่างจากลำโพงแต่ละตัวไปถึงตำแหน่งนั่งฟัง Multiplex/Mono Settings
Note
Multiplex
* การปรับตั้งนี้จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถ้า: การปรับตั้งนี้เป็นการกำหนดว่าแชนเนลไหนบ้างของแหล่งสัญญาณสเตริโอ
- มีหูฟังเสียบคาอยู่ที่รูเสียบหูฟังของเอวี รีซีฟเวอร์ หรือ มัลติเพล็กต์ที่จะถูกส่งออกไป ใช้ฟังท์ชั่นนี้ในการระบุช่องสัญญาณเสียง หรือ
- เมนู “Audio TV OUT” ถูกปรับตั้งอยู่ที่ตำแหน่ง “On” ( 41) ช่องภาษาไหนของแหล่งต้นทางที่เป็นระบบเสียงหลายภาษา ที่จะส่งออกทาง
และฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ถูกเลือกไว้ที่ตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ HDMI ช่องเอ๊าต์พุต
* ลำโพงตัวที่คุณปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “No” หรือ “None” ในเมนู
Input Ch(Mux)
“Sp Config” ( 36) จะไม่สามารถปรับเลือกได้
Main :
* ลำโพงเซ็นเตอร์, คู่หน้าด้านขวา รวมถึงลำโพงซับวูฟเฟอร์ และแชนเนลหน้า
ด้านบน สามารถปรับตั้งระยะห่างได้มากกว่าระยะห่างของลำโพงคู่หน้าด้าน ช่องเอ๊าต์พุตของแชนเนลหลักจะมีสัญญาณเสียงออก
Sub:
ซ้ายถึง 5 ฟุต (1.5 เมตร) ตัวอย่าง สมมุติวัดระยะห่างจากลำโพงคู่หน้าด้าน
ซ้ายไปถึงจุดนั่งฟังออกมาได้ 20 ฟุต (6 เมตร) คุณจะสามารถปรับตั้งระยะ ช่องเอ๊าต์พุตของแชนเนลรอง จะมีสัญญาณเสียงออก
ห่างของลำโพงเซ็นเตอร์, คู่หน้าด้านขวา และลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้ตั้งแต่ 15 M/S :
ถึง 25 ฟุต (4.5 ถึง 7.5 เมตร) ทั้งช่องเอ๊าต์พุตของแชนเนลหลักและแชนเนลรอง จะมีสัญญาณเสียงออก
* ระยะห่างของลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านข้าง กับลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านหลังสามารถ Mono
ปรับตั้งได้มากกว่า 5 ฟุต (1.5 เมตร) หรือน้อยกว่าระยะห่างของลำโพงคู่หน้า การปรับตั้งนี้เป็นการกำหนดว่าแชนเนลไหนจะถูกใช้สำหรับเล่นเสียงดิจิตัลสเตริโอ
ด้านซ้ายได้ถึง 15 ฟุต (4.5 เมตร) ตัวอย่าง สมมุติว่าคุณวัดระยะห่างระหว่าง 2ch อาทิ Dolby Digital, หรือแหล่งต้นทาง 2 แชนเนล อะนาลอก/PCM ในโหมด
ลำโพงคู่หน้าด้านซ้ายกับจุดนั่งฟังได้เท่ากับ 20 ฟุต (6 เมตร) คุณสามารถปรับ การรับฟังแบบโมโน
ตั้งระยะห่างของลำโพงเซ็นเตอร์, คู่หน้าด้านขวา และลำโพงซับวูฟเฟอร์ได้ตั้งแต่
5 ถึง 25 ฟุต (1.5 ถึง 7.5 เมตร) 37
Input Ch(Mono) Height Gain
L+R : Low :
มีสัญญาณเสียงออกทั้งช่องซ้ายและขวา เกนขยายระดับต่ำจะถูกใช้งาน
Left : Mid :
จะมีสัญญาณเสียงออกเฉพาะทางช่องซ้าย เกนขยายระดับปานกลางจะถูกใช้งาน
Right : High :
จะมีสัญญาณเสียงออกเฉพาะทางช่องขวา เกนขยายระดับสูงจะถูกใช้งาน
Note
Dolby Settings
* ถ้าหัวข้อ “Front High” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “None” ( 36) หรือ
PLIIx Music (2ch Input)
“FrontHigh/Zone2” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Zone2” ( 40) การปรับ
การปรับตั้งนี้จะใช้งานได้เฉพาะกับต้นทางที่เข้ามาเป็นสัญญาณสเตริโอ 2ch ตั้งนี้จะถูกเลือกตายตัวไว้ที่ตำแหน่ง “Mid” และไม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น
ถ้าคุณไม่ได้ติดตั้งลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านหลังเอาไว้เลย การปรับตั้งนี้จะถูก
ดัดแปลงไปใช้กับระบบเสียง Dolby Pro Logic II แต่จะใช้ไม่ได้กับระบบเสียง การปรับตั้งนี้จะทำการตรวจวัดว่าแหล่งต้นทางมีการเข้ารหัส Dolby EX มาเช่นไร
Dolby Pro Logic IIx และจะทำอย่างไรกับสัญญาณนั้น การปรับตั้งนี้จะไม่สามารถใช้งานได้ถ้าไม่มีการ
Panorama
ติดตั้งลำโพงเซอร์ราวนด์ด้านหลังต่อเชื่อมไว้ การปรับตั้งนี้จะส่งผลกับระบบเสียง
Dolby Digital, Dolby Digital Plus และ Dolby True HD เท่านั้น
On: ฟังท์ชั่น “พาโนราม่า” ถูกเปิดใช้งาน
Dolby EX
Off : ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น “พาโนราม่า”
Auto:
ด้วยการปรับตั้งนี้, คุณจะสามารถกำหนดขอบเขตความกว้างของสนามเสียงของ ถ้าแหล่งต้นทางมีสัญญาณ Dolby EX เข้ารหัสมา โหมดการรับฟังแบบ
ระบบเสียงสเตริโอที่เกิดจากการกระจายเสียงของลำโพงคู่หน้าเมื่อเลือกใช้โหมด Dolby EX ก็จะถูกเรียกขึ้นมาใช้โดยอัตโนมัติ
การรับฟังแบบ Dolby Pro Logic IIx Music ได้ Manual :
Dimension คุณสามารถปรับเลือกโหมดการรับฟังที่มีมาให้ได้เอง
–3 to 0 to +3 Note
ด้วยการปรับตั้งนี้, เมื่อเลือกโหมดการฟังแบบ Dolby Pro-Logic IIx * ถ้าหัวข้อ “SurrBack” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “None” ( 36) การปรับตั้งนี้
Music จะทำให้คุณสามารถ “เคลื่อนย้าย” สนามเสียงให้เดินหน้าขึ้นมา จะไม่สามารถเลือกได้
หรือถอยลงไปข้างหลังได้ตามใจชอบ การปรับตั้งค่าให้ “สูงขึ้น” จะเป็น * ถ้าหัวข้อ “Front High” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ “None” การปรับตั้งนี้
การผลักสนามเสียงให้ถอยร่นลงไปด้านหลัง และในทางกลับกัน ถ้าปรับ จะถูกปรับตั้งตายตัวไว้ที่ตำแหน่ง “Manual” ( 36)
ตั้งค่าให้ “ต่ำลง” จะเป็นการดึงสนามเสียงให้เขยิืบขึ้นมาทางด้านหน้า * ถ้าหัวข้อ “FrontHigh/Zone2” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Zone2” ( 40) การ
ถ้ารู้สึกว่า ภาพของสนามเสียงในระบบสเตริโอกว้างเกินไป หรือมีเสียง ปรับตั้งนี้จะถูกเลือกตายตัวไว้ที่ตำแหน่ง “Manual” และไม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น
เซอร์ราวนด์มากเกินไป ให้ปรับดึงเสียงขึ้นมาทางด้านหน้าเพื่อทำให้รูป
วงของสนามเสียงมีความสมดุลมากขึ้น และในทางตรงข้าม ถ้ารู้สึกว่า DTS Setting
ภาพของสนามเสียงออกมาแคบเบียดกันอยู่บริเวณตรงกลางจนคล้าย
Neo:6 Music
ระบบเสียงโมโน หรือรู้สึกเสียงเซอร์ราวนด์น้อยเกินไป ให้ปรับดันเสียง
ไปทางด้านหลัง Center Image
Center Width 0 to 2 to 5
0 to 3 to 7 โหมดการรับฟังแบบ DTS Neo:6 Music จะสร้างสัญญาณเสียงเซอร์ราวนด์ 6
ด้วยการปรับตั้งนี้, เมื่อเลือกโหมดการฟังแบบ Dolby Pro-Logic IIx Music แชนเนลขึ้นมาจากแหล่งต้นทางที่เป็นแบบ 2 แชนเนลสเตริโอ ด้วยการปรับตั้งนี้
จะทำให้คุณสามารถ “ปรับขยาย” ความกว้างของเวทีเสียงของแชนเนล คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะให้มีสัญญาณเสียงของแชนเนลกลางไปออกที่ลำโพง
เซ็นเตอร์ได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าในซิสเต็มของคุณติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์ไว้ คู่หน้าซ้าย-ขวามาก-น้อยแค่ไหนเพื่อสร้างแชนเนลเซ็นเตอร์เทียมขึ้นมา
สัญญาณเสียงของแชนเนลเซ็นเตอร์ก็จะถูกส่งออกมาทางลำโพงเซ็นเตอร์ ถ้ากำหนดค่าไว้ที่ตำแหน่ง “0” เฉพาะลำโพงเซ็นเตอร์เท่านั้นที่จะได้ยินเสียง
เท่านั้น แต่ถ้าในซิสเต็มของคุณไม่ได้ติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์เอาไว้ สัญญาน ที่มาจากแชนเนลเซ็นเตอร์ และเสียงของสัญญาณจากแชนเนลเซ็นเตอร์จะแยก
เสียงจากแชนเนลเซ็นเตอร์ก็จะถูกจ่ายไปให้กับลำโพงคู่หน้าทั้งสองข้าง ออกไปที่ลำโพงหน้าซ้ายและหน้าขวาในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อทำการปรับตั้งไปที่
(ซ้ายกับขวา) เพื่อสร้างเป็นเสียงเซ็นเตอร์แบบเทียมๆ (phantom center) ค่าสูงขึ้น คุณสามารถเลือกปรับได้ตามใจชอบ
ขึ้นมาให้ ซึ่งฟังท์ชั่นการปรับตั้งนี้จะเข้าไปควบคุมลักษณะการมิกซ์ของ Audyssey Settings
สัญญาณเสียงระหว่างแชนเนลเซ็นเตอร์ กับแชนเนลหน้าซ้ายและหน้าขวา
เพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งน้ำหนักเสียงของแชนเนลเซ็นเตอร์ได้ โทนเสียงของลำโพงแต่ละตัวจะถูกปรับแต่งโดยอัตโนมัติด้วยฟังท์ชั่นต่างๆ
PLIIz Height Gain ของโปรแกรม Audyssey 2EQ ให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานฟังท์ชั่นนี้หลังจาก
ระดับเกนขยายเสียงของแชนเนล Front High ถูกควบคุมโดยระบบเสียง ทำการปรับตั้งด้วยโปรแกรม Audyssey 2EQ แล้ว ( 23)
Dolby Pro Logic IIz ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ฟังสามารถเลือกได้ว่าจะให้เสียง
จากแชนเนลคู่หน้าด้านบนมีความดังมาก-น้อยแค่ไหน ด้วยการจัดเกนขยาย
Audyssey
ส่งไปให้กับลำโพง Front High โดยเลือกจากระดับเกนจำนวน 3 ระดับที่มีนั่น
Off :
คือ “Low”, “Mid” และ “High” ซึ่งลำโพงคู่หน้าด้านบนก็จะถูกปรับเปลี่ยน
ปรับแต่ง EQ ของฟังท์ชั่น Audyssey 2EQ ไม่ได้ถูกเรียกขึ้นมาใช้
ระดับความดังไปตามค่าที่ปรับเลือกเหล่านี้ โดยที่ค่า “Mid” เป็นค่ามาตรฐาน On:
ที่กำหนดจากโรงงาน ผู้ฟังสามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามใจชอบ ฟังท์ชั่น “Dynamic EQ” กับฟังท์ชั่น “Dynamic Volume” ถูกเรียกใช้
ไฟแสดงสถานะ Audyssey สว่างขึ้น ( 8)
38
Note Note
* ฟังท์ชั่น Audyssey EQ จะใช้ไม่ได้กับสัญญาณ DSD * ถ้าหัวข้อ “Dynamic EQ” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off” การปรับตั้งนี้
Dynamic EQ จะไม่สามารถเลือกใช้ได้
Off : ฟังท์ชั่น Audyssey Dynamic EQ อยู่ในสถานะ “Off” * การปรับตั้งนี้จะถูกบันทึกเก็บแยกไว้สำหรับแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์
On: ฟังท์ชั่น Audyssey Dynamic EQ อยู่ในสถานะ “On” Dynamic Volume
ไฟแสดงสถานะ Dynamic EQ สว่างขึ้น ( 8)
Off : ฟังท์ชั่น Audyssey Dynamic Volume ปิดการทำงาน
ด้วยฟังท์ชั่น Audyssey Dynamic EQTM จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับคุณภาพ
เสียงแม้จะรับฟังด้วยระดับเสียงที่เบาก็ตาม Light : โหมดการบีบอัดระดับบางเบาถูกเลือกใช้งาน
Audyssey Dynamic EQ ช่วยแก้ปัญหาการลดทอนของคุณภาพเสียงไปตาม Medium : โหมดการบีบอัดระดับปานกลางถูกเลือกใช้งาน
ระดับวอลลุ่มที่ลดลง อันเนื่องมาจากความสามารถในการรับฟังของมนุษย ์และ
Heavy : โหมดการบีบอัดแบบรุนแรงถูกเลือกใช้งาน ซึ่งการปรับ
ที่สูญเสียไปกับสภาพอะคูสติกภายในห้องนั้นๆ ด้วยการเลือกกราฟตอบสนอง
ความถี่ที่ถูกต้องเข้ามาชดเชย และปรับระดับวอลลุ่มของสัญญาณเซอร์ราวนด์ ตั้งนี้จะส่งผลต่อระดับวอลลุ่มมากที่สุด ทำให้เสียง
แบบต่อเนื่องไปตลอดวินาทีต่อวินาที ทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพและสมดุลตลอด ทั้งหมดมีระดับความดังใกล้เคียงกัน
Note
เวลาทุกระดับความดังของเสียง ไม่ใช่ดีเฉพาะช่วงความดังที่เป็นระดับอ้างอิงที่ใช้
ในการตรวจวัดเท่านั้น * ถ้าคุณเลือกให้ฟังท์ชั่น Dynamic Volume ทำงาน หัวข้อ “Audyssey” กับ
Note “Dynamic EQ” จะถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” และไฟแสดงสถานะของ
* การปรับตั้งจะถูกเก็บบันทึกแยกไว้สำหรับแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์ Dynamic Vol จะสว่างขึ้น ( 8)
* ถ้าโหมดการรับฟังแบบ Pure Audio (สำหรับรุ่นในยุโรปและเอเซีย) หรือ * การปรับตั้งนี้จะถูกบันทึกเก็บแยกไว้สำหรับแต่ละอินพุต ซีเล็กเตอร์
โหมดการรับฟังแบบ Direct ถูกเลือกใช้ การปรับตั้งนี้จะไม่สามารถเลือกใช้ได้ * ถ้าโหมดการรับฟังแบบ Pure Audio (สำหรับรุ่นในยุโรปและเอเซีย) หรือโหมด
การรับฟังแบบ Direct ถูกเลือกใช้ การปรับตั้งนี้จะไม่สามารถเลือกใช้ได้
Reference Level
Dynamic EQ Reference Level Offset
0 dB : Audyssey Dynamic EQ จะช่วยขจัดปัญหาอะคูสติกที่ทำให้เกิดความเสียหาย
ควรใช้สำหรับรับฟังเสียงจากภาพยนตร์ ต่อคุณภาพของเสียงออกไปในขณะที่วอลลุ่มถูกลดระดับความดังลง ด้วยวิธี
5 dB : การปรับเลือกรูปแบบการตอบสนองความถี่ที่ถูกต้องไปตามลักษณะของเสียง
เลือกใช้สำหรับแหล่งต้นทางที่มีไดนามิกเร้นจ์กว้างมากๆ อย่างเช่น ที่ป้อนเข้ามาทางอินพุตตลอดเวลาในทุกระดับวอลลุ่มที่ผู้ใช้ปรับไป ผลที่เกิด
ดนตรีคลาสสิก ขึ้นก็คือการตอบสนองต่อเสียงทุ้มและโทนัลบาลานซ์ของเสียงจะคงที่ตลอด
10 dB: เวลา ไม่ว่าระดับเสียงของวอลลุ่มจะถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม หลักการ
เลือกใช้สำหรับดนตรีแจ๊ส หรือดนตรีอื่นที่มีไดนามิกเร้นจ์กว้างๆ ทำงานของฟังท์ชั่น Dynamic EQ ก็คือทำการนำเอาสัญญาณเสียงจากช่อง
และยังเหมาะใช้กับสัญญาณเสียงของทีวี ซึ่งมักจะทำการมิกซ์มาด้วย สัญญาณอินพุตเข้ามาผสมกับสัญญาณ loudness ที่ปรับตั้งด้วยวงจรอีคิวฯ ที่
ระดับเสียงที่ต่ำกว่าสัญญาณเสียงมาตรฐานอ้างอิงของภาพยนตร์ถึง ใช้ชดเชยกับสภาพอะคูสติกในห้องนั้นๆ เข้าไปรวมกันก่อนที่จะปล่อยกลับ
10dB ออกมาทางลำโพง โดยที่วงจร Audyssey Dynamic EQ กับวงจร Audyssey
15 dB: EQ จะทำงานประสานกันเพื่อทำให้สัญญาณเอ๊าต์พุตมีความสมดุลไปตลอด
เลือกตำแหน่งนี้สำหรับดนตรีพ๊อพ/ร็อค หรือแหล่งต้นทางที่เป็น เวลา ไม่ว่าผู้ใช้จะทำการปรับตั้งระดับความดังของเสียง (ระดับวอลลุ่ม) ไป
เสียงแบบอื่นที่มิกซ์มาด้วยระดับความดังที่สูงมากๆ และมีการบีบ แค่ไหนก็ตาม
อัดไดนามิกมาด้วย
เสียงของภาพยนตร์จะถูกมิกซ์ในห้องที่มีการปรับแต่งสภาพเสียงในระดับ
อ้างอิงสำหรับภาพยนตร์โดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ระดับเสียงออกมาในระดับ Audyssey Dynamic Volume จะช่วยขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำกันอย่างมาก
อ้างอิงสำหรับโฮมเธียเตอร์ ระดับเสียงของลำโพงแต่ละตัวจะต้องถูกปรับ ของระดับความดังของเสียงระหว่างแหล่งอินพุตที่ต่างกัน อาทิ สัญญาณเสียง
แต่งได้ระดับความดังอยู่ที่ 75dB ณ ตำแหน่งนั่งฟัง สำหรับย่านความถี่ จากสถานีโทรทัศน์, จากสถานีวิทยุ หรือแม้แต่ความดังของเสียงจากภาพยนตร์
เสียงตั้งแต่ 500Hz ขึ้นไปจนถึง 2000Hz ที่สร้างขึ้นมาด้วยสัญญาณพิ้งค์ ระหว่างช่วงแอ๊คชั่นตูมตามกับช่วงที่เป็นดราม่า หรือเลิฟซีน ฯ ซึ่งวงจร
น๊อยเป็นตัวอ้างอิง ซึ่งระบบโฮมเธียเตอร์จะได้รับการปรับตั้งด้วยโปรแกรม Audyssey Dynamic Volume จะมองไปที่ระดับความดังที่ถูกปรับตั้งไว้โดยผู้
Audyssey 2EQ โดยอัตโนมัติ ให้เล่นด้วยระดับความดังที่อ้างอิงนั้นในขณะ ใช้เป็นเกณฑ์ จากนั้น ตัววงจรก็จะทำการตรวจสอบ (monitor) ลักษณะของ
ที่ปุ่มมาสเตอร์วอลลุ่มถูกตั้งไว้ที่ระดับ 0dB ซึ่งจุดนี้จะทำให้คุณได้ยินเสียง สัญญาณอินพุตที่ผู้ฟังได้รับแบบ real time เพื่อดูความจำเป็นว่าจะต้องทำการ
อย่างที่มิกซ์ดาวน์ ซาวนด์เอ็นจิเนียร์ได้ยิน ปรับแต่งเสียงอย่างไรบ้าง เมื่อถึงช่วงที่พบว่ามีความจำเป็นต้องทำการปรับ
โปรแกรม Audyssey Dynamic EQ ใช้อ้างอิงเดียวกันกับระดับเสียงที่วงการ แต่งเสียง วงจร Dynamic Volume ก็จะทำการปรับแต่งอย่างรวดเร็วหรือ
ภาพยนตร์ใช้ในการมิกซ์เสียง ซึ่งโปรแกรมนี้จะพยายามรักษาระดับการ ค่อยๆ ปรับเพื่อที่จะรักษาระดับวอลลุ่มที่ผู้ใช้ปรับตั้งเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็
ตอบสนองของเสียงและสภาพของความโอบล้อมให้อยู่ในระดับจุดอ้างอิง พยายามรักษาระดับไดนามิกเร้นจ์ของเสียงเอาไว้ด้วย วงจร Audyssey
เสมอเมื่อวอลลุ่มถูกลดความดังลงไปจากระดับ 0dB ที่ใช้อ้างอิง อย่างไร Dynamic EQ จะถูกผสานเข้ากับการทำงานของวงจร Dynamic Volume
ก็ตาม มาตรฐานอ้างอิงการมิกซ์เสียงที่ใช้ในวงการภาพยนตร์ก็ไม่เคยถูก ทำให้ระดับของวอลลุ่มในขณะเล่น (playback) สามารถปรับเปลี่ยนขึ้น-ลงได้
นำมาใช้ในวงการดนตรี หรือวงการอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากวงการภาพยนตร์ อย่างอัตโนมัติ ส่งผลให้ผู้ฟังสามารถซึมซับคุณภาพของเสียงที่ดีไปโดยตลอด
ฟังท์ชั่น Dynamic EQ Reference Level Offset จึงได้จัดทำระดับ offset ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเสียงทุ้ม (ความสามารถในการตอบสนองความถี่ย่านต่ำ),
มาให้ 3 ค่าที่อ้างอิงจากมาตรฐานของวงการภาพยนตร์คือ 5dB, 10dB และ ทางด้านโทนัล บาลานซ์, เสียงเซอร์ราวนด์ที่แผ่กระจายอยู่รายรอบ รวมถึงบท
15dB ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ในกรณีที่แหล่งต้นทางไม่ได้ถูกมิกซ์เสียงมาตรง สนทนาที่ชัดเจน และคุณภาพเสียงในประเด็นเหล่านี้จะคงที่ไปตลอดแม้ใน
กับระดับมาตรฐานที่วงการภาพยนตร์ใช้ ขณะที่ผู้ใช้เปลี่ยนอินพุตจากการรับชมทีวีจากช่องหนึ่งไปอีกช่องหนึ่ง หรือแม้
แต่การเปลี่ยนจากระบบเสียงสเตริโอไปสู่แหล่งอินพุตที่เป็นระบบเสียง
เซอร์ราวนด์เช่นกัน
39
Theater-Dimensional Setting Note
• เมื่อฟังท์ชั่นไบ-แอมป์ถูกใช้งาน ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะสามารถขับลำโพง
Listening Angle
ได้เท่ากับ 5.1 แชนเนลสำหรับในห้องหลัก
Wide : ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าลำโพงตั้งทำมุมอยู่กับตำแหน่งนั่งฟัง
• ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงค่าการปรับตั้งนี้ ให้ลดวอลลุ่มลงก่อน
เท่ากับ 40 องศา
Sp Impedance
Narrow : ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าลำโพงตั้งทำมุมอยู่กับตำแหน่งนั่ง
ฟังเท่ากับ 20 องศา 4ohms:
ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้ามีอิมพีแดนซ์ของลำโพงตัวใดตัวหนึ่งเท่ากับ
ด้วยฟังท์ชั่นการปรับตั้งนี้, ทำให้คุณสามารถปรับจูนการฟังในโหมด Theater- 4 โอห์ม หรือมากกว่าแต่ไม่เกิน 6 โอห์ม
Dimension ให้ได้คุณภาพสูงสุด ด้วยการกำหนดมุมของลำโพงคู่หน้าซ้าย-ขวา 6ohms:
ที่อ้างอิงกับตำแหน่งนั่งฟังลงไป ซึ่งในอุดมคติแล้ว ลำโพงหน้าซ้าย-ขวาควรจะ ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าอิมพีแดนซ์ของลำโพงทั้งหมดมีค่าอยู่ระหว่าง
ตั้งอยู่ในระยะห่างจากตำแหน่งนั่งฟังที่เท่ากัน และเอียงทำมุมใกล้เคียงกับองศา 6 โอห์มถึง 16 โอห์ม
ทั้งสองค่าที่ตัวฟังท์ชั่นกำหนดไว้ (คือใกล้เคียงกับ 20 องศา หรือ 40 องศา) Note
• (สำหรับรุ่นในอเมริกาเหนือ) ไม่รองรับลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ต่ำกว่า 6 โอห์ม
Front left speaker Front right speaker
Speakers Type
20°/40° Normal :
ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าคุณต่อเชื่อมลำโพงคู่หน้าแบบปกติ
Bi-AMP :
ให้เลือกที่ตำแหน่งนี้ ถ้าคุณต่อเชื่อมลำโพงคู่หน้าแบบไบ-แอมป์
40
Remote Control Settings HDMI Setup
Remote ID
1, 2, or 3 Menu HDMI Setup
เมื่อมีอุปกรณ์เครื่องเสียงของ Onkyo จำนวนหลายเครื่องถูกใช้งานอยู่ภายใน
Audio TV OUT
ห้องเดียวกัน โค๊ดของรีโมทของเครื่องเหล่านั้นอาจจะเกิดการกวนกันได้ เพื่อ
แยกตัวเอวี รีซีฟเวอร์ออกมาจากกลุ่มของเครื่องเหล่านั้น สามารถทำได้ด้วยการ Off : จะไม่มีสัญญาณออดิโอถูกส่งออกจากช่อง HDMI
เปลี่ยนโค๊ดประจำตัว (ID) ของรีโมทตัวนั้นจาก 1, เป็น 2 หรือเป็น 3 On: มีสัญญาณออดิโอออกจากช่อง HDMI
Note
การปรับตั้งนี้เป็นตัวกำหนดว่าเมื่อไรจะยอมให้สัญญาณออดิโอที่รับมาจากช่อง
• ถ้าคุณทำการเปลี่ยนแปลงโค๊ด ID ที่ใช้รับสัญญาณรีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ HDMI IN ถูกส่งออกไปทางช่อง HDMI OUT คุณอาจจะต้องการปรับตั้งให้เมนู
ให้แน่ใจว่า คุณได้ทำการเปลี่ยนโค๊ด ID ของตัวรีโมทเองให้มีโค๊ด ID เดียวกันด้วย นี้อยู่ในตำแหน่ง “On” ถ้าทีวีของคุณต่อเชื่อมอยู่กับช่อง HDMI OUT และคุณต้อง
มิฉนั้น คุณจะไม่สามารถใช้รีโมทตัวนั้นควบคุมสั่งงานตัวเอวี รีัซีฟเวอร์ได้ การรับฟังเสียงจากอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมทางช่อง HDMI IN ผ่านทางลำโพงของทีวี
วิธีเปลี่ยนโค๊ดรีโมท ID ของตัวรีโมท แต่โดยปกติแล้ว เมนูนี้จะถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off”
1 ขณะกำลังกดปุ่ม RECEIVER ค้างไว้นั้น ให้กดปุ่ม SETUP ค้างไว้ จน Note
กระทั่งสัญญาลักษณ์คำว่า “Remote” สว่างขึ้นบนหน้าจอ
(ประมาณ 3 วินาที)( 34) • ถ้าอ๊อปชั่นตำแหน่ง “On” ถูกเลือก และสัญญาณเสียงไปออกทางลำโพง
ของทีวี ที่ชุดลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์จะไม่มีเสียงออก
2 ใส่โค๊ด ID ลงไปด้วยการกดปุ่มตัวเลข 1, 2 หรือ 3
• ถ้าปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เมื่อกดปุ่ม DISPLAY จะมีสัญญาลักษณ์
สัญญาลักษณ์ของรีโมทบนหน้าจอจะกระพริบสองครั้ง
คำว่า “TV Sp On” ปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
FM/AM Frequency Setup Settings • เมื่อเมนู “TV Control” ถูกตั้งไว้ที่ “On” เมนูนี้จะถูกปรับไปอยู่ที่
เพื่อให้การจูนหาคลื่น FM/AM ทำงานอย่างถูกต้อง คุณต้องทำการปรับตั้งช่วง ตำแหน่ง “Auto” ตายตัวและเปลี่ยนแปลงไม่ได้
การแบ่งคลื่นความถี่ของภาครับสัญญาณวิทยุในตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้ตรงกับ • กับทีวีบางตัว รวมถึงสัญญาณอินพุตบางชนิด บางทีอาจจะไม่มีเสียงออก
จำนวนช่วงการแบ่งคลื่นวิทยุในประเทศของคุณซะก่อน และเมื่อฟังท์ชั่นนี้ถูก ทางเอ๊าต์พุตก็ได้ แม้ว่าเมนูนี้จะถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” แล้วก็ตาม
ปรับตั้งใหม่ทุกครั้ง สถานีที่ตั้งไว้ในเมมโมรี่จะถูกลบทิ้งไป • เมื่อฟังท์ชั่น “Audio TV OUT” ถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” หรือฟังท์ชั่น
FM/AM Freq Step (เฉพาะรุ่นในอเมริกาเหนือ) “TV Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” และคุณกำลังฟังเสียงจาก
ลำโพงของทีวี (�15) ถ้าคุณเร่งวอลลุ่มที่เอวี รีซีฟเวอร์จะมีเสียงออกทาง
200k/10kHz : เลือกที่นี่ ถ้า 200k/10kHz ต่อขั้นเป็นลักษณะการแบ่ง
ความถี่วิทยุที่ใช้ในประเทศของคุณ ลำโพงคู่หน้าของชุดเอวี รีซีฟเวอร์ ถ้าไม่ต้องการให้ลำโพงของเอวี รีซีฟเวอร์
มีเสียงออก ให้เปลี่ยนการปรับตั้งที่เมนูนี้ หรือเปลี่ยนการปรับตั้งที่ทีวี หรือ
50k/9kHz: เลือกที่นี่ ถ้า 50k/9kHz ต่อขั้นเป็นลักษณะการแบ่งความถี่
ลดเสียงของเอวี รีซีฟเวอร์ลง
วิทยุที่ใช้ในประเทศของคุณ
LipSync
AM Freq Step (เฉพาะรุ่นในยุโรปและเอเซีย)
Disable: ฟังท์ชั่น lip sync จะไม่ทำงาน
10kHz: เลือกที่นี่ ถ้า 10kHz ต่อขั้นเป็นลักษณะการแบ่งความถี่วิทยุที่ใช้
ในประเทศของคุณ Enable : เปิดการทำงานของฟังท์ชั่น HDMI lip sync
9kHz : เลือกที่นี่ ถ้า 9kHz ต่อขั้นเป็นลักษณะการแบ่งความถี่วิทยุที่ใช้ใน
เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้สามารถปรับแก้ปัญหาหน่วงเวลาระหว่างสัญญาณภาพและ
ประเทศของคุณ
เสียงอัตโนมัติ โดยอาศัยข้อมูลจากการเชื่อมต่อทางช่องมอนิเตอร์
SIRIUS Settings (รุ่นในอเมริกาเหนือ)
ให้ดูคำแนะนำในคู่มือการใช้ของ Satellite Radio สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม Note
41
HDMI Control (RIHD) การเชื่อมโยงฟังท์ชั่น Power Control ของอุปกรณ์ที่รองรับการทำงาน
Off : ระบบ RIHD ผ่านทางช่อง HDMI ให้ปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “On”
ฟังท์ชั่น RIHD ไม่ทำงาน ฟังท์ชั่นนี้จะถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” โดยอัตโนมัติเมื่อฟังท์ชั่น
On: “HDMI Control” ถูกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ตั้งแต่ต้น
RIHD ทำงาน
ฟังท์ชั่นนี้อนุญาติให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน RIHD Note
ที่ต่อเชื่อมผ่านช่อง HDMI ของเอวี รีซีฟเวอร์ได้ ( 15)
• การปรับตั้งฟังท์ชั่น Power Control ทำได้เฉพาะเมื่อฟังท์ชั่น “HDMI Control”
Note ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เท่านั้น
• เมื่อปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “On” แล้วปิดเมนู ชื่อของอุปกรณ์ที่ • ฟั งท์ชั่น HDMI Power Control นี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่รองรับ RIHD
รองรับฟังท์ชั่น RIHD กับตัวอักษรคำว่า “RIHD On” จะปรากฏสว่างขึ้น เท่ านั้น และอาจจะทำงานได้ไม่ราบรื่นกับอุปกรณ์บางชิ้นอันเนื่องมาจากการปรับตั้ง
บนจอแสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์ลักษณะนี้: และความเข้ ากันได้ของอุปกรณ์ตัวนั้น
“Search...” “(ชื่ออุปกรณ์)” “RIHD On” ถ้าเอวี รีซีฟเวอร์ไม่พบ • เมื อ
่ ปรั บ ตั ง
้ การทำงานของฟั งท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “On” อัตราบริโภคไฟฟ้าของ
ชื่อของอุปกรณ์ตัวนั้น มันจะแสดงคำว่า “Player*” หรือ “Recorder*” ตั ว เครื อ
่ งจะเพิ ม
่ ขึ น
้
(ซึ่ง “*” หมายถึงตัวเลขสองหรือมากกว่าสองชิ้น) เมื่อปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ • เมื่อปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” โดยไม่สนใจว่าตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะอยู่ในสถานะ On
ตำแหน่ง “Off” แล้วปิดเมนู จะมีตัวอักษรคำว่า “RIHD Off” ปรากฏขึ้น หรือสแตนด์บาย ทั้งสัญญาณออดิโอและสัญญาณวิดีโอจากช่องอินพุต HDMI จะถูก
บนจอแสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์ลักษณะนี้: ส่งออกไปให้ทีวี หรืออุปกรณ์ตัวอื่นทางช่อง HDMI (ด้วยฟังท์ชั่น HDMI pass through)
“Disconnect” “RIHD Off” และเมื่อฟังท์ชั่น HDMI pass through ถูกกระตุ้นขึ้นมาทำงานในโหมดสแตนด์บาย
• เมื่ออุปกรณ์ที่รองรับฟังท์ชั่น RIHD ต่อเชื่อมเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ผ่านทางสาย ตัวอักษร HDMI THRU จะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล
HDMI ชื่อของอุปกรณ์ตัวนั้นจะปรากฏขึ้นบนจอแสดงผลของเอวี รีซีฟเวอร์ • อั ตราบริโภคไฟฟ้าของตัวเครื่องจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่างที่อยู่ในโหมดสแตนด์บายเมื่อฟังท์ชั่น
ตัวอย่าง ในขณะที่คุณกำลังรับชมรายการจากทีวี ถ้าคุณสั่งงานเครื่องเล่น HDMI pass through ถูกใช้งาน อย่างไรก็ตาม ในกรณีต่อไปนี้อาจจะช่วยประหยัดปริมาณ
บลู-เรย์ฯ หรือเครื่องเล่นดีวีดีด้วยรีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ซึ่ง ไฟฟ้าลงได้:
ทำให้อุปกรณ์ตัวนั้นถูกกระตุ้นให้เปิดทำงาน ชื่อของเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ 1. ตัวทีวีอยู่ที่สแตนด์บายโหมด
หรือเครื่องเล่นดีวีดีตัวนั้นจะปรากฏขึ้นบนจอของเอวี รีซีฟเวอร์ 2. คุณรับชมทีวีไปด้วย
• ให้ปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้ไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ถ้าอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ • ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือของอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อมด้วย
ไม่รองรับฟังท์ชั่น RIHD หรือไม่แน่ใจว่าจะรองรับหรือไม่ TV Control
• ถ้าลักษณะการเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติเมื่อปรับตั้งฟังท์ชั่น RIHD ไว้ที่ Off :
ตำแหน่ง “On” ให้เปลี่ยนเป็นปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น TV Control
• ให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากคู่มือของอุปกรณ์ที่นำมาต่อเชื่อม On:
Audio Return Ch (ARC) เปิดใช้งานฟังท์ชั่น TV Control
Off : ปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เมื่อคุณต้องการควบคุมการทำงานของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
ให้ปรับ “Off” ถ้าคุณไม่ต้องการใช้ฟังท์ชั่นนี้ จากทีวีที่รองรับระบบ RIHD ซึ่งต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI
Auto:
Note
สัญญาณออดิโอจากทีวีของคุณจะถูกส่งไปที่ช่อง HDMI OUT
ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ • เมื่อคุณปรับตั้งฟังท์ชั่น “TV Control” ไว้ที่ตำแหน่ง “On” ห้ามกำหนดอุปกรณ์
ที่ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI ไว้ที่ TV/CD ของฟังท์ชั่นอินพุต
ฟังท์ชั่นออดิโอ รีเทิร์น แชนเนล (ARC) นี้จะทำให้ทีวีที่ติดตั้งช่องต่อ HDMI ซีเล็กเตอร์ มิฉนั้น การทำงานของฟังท์ชั่น CEC (Consumer Electronic Control)
เวอร์ชั่น 1.4 ส่งสัญญาณเสียงไปที่ช่อง HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์ จะไม่รับรองว่าใช้งานได้ราบรื่น
ต้องการใช้งานฟังท์ชั่นนี้ คุณต้องปรับเลือกฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ไปที่ • ให้ปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Off” ถ้าทีวีไม่รองรับระบบ RIHD หรือไม่มั่นใจว่าจะ
ตำแหน่ง TV/CD และทีวีของคุณต้องรองรับฟังท์ชั่น ARC ด้วย รองรับหรือไม่
Note • ฟังท์ชั่น “TV Control” จะสามารถปรับตั้งได้ก็ต่อเมื่อ ฟังท์ชั่น “HDMI Control”
กับฟังท์ชั่น “Power Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ทั้งสองฟังท์ชั่น
• การปรับตั้งฟังท์ชั่น ARC ทำได้เฉพาะเมื่อฟังท์ชั่น “HDMI Control” • ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือของอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อมด้วย
ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” เท่านั้น
• สถานะของฟังท์ชั่นนี้จะถูกเลือกตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “Auto” โดยอัตโนมัติเมื่อ หลังจากเปลี่ยนการปรับตั้งในฟังท์ชั่น “HDMI Control”, “Audio Return
ฟังท์ชั่น “HDMI Control” ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On” ตั้งแต่แรก Ch”, “Power Control” หรือฟังท์ชั่น “TV Control” เสร็จแล้ว ให้ทำการปิด
Power Control เครื่องทุกตัวที่เชื่อมโยงอยู่ในกลุ่มเดียวกันให้หมด จากนั้น ค่อยเปิดเครื่อง
Off : ปิดการใช้งานฟังท์ชั่น Power Control เหล่านั้นขึ้นมาใหม่ ให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคู่มือของอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อม
ด้วย
On: เปิดใช้งานฟังท์ชั่น Power Control
42
ใช้งานเมนู ออดิโอเซ็ตติ้ง Audyssey Settings
43
CinemaFILTER Audio Selector
ด้วยฟังท์ชั่น CinemaFILTER นี้, คุณจะัสามารถปรับโทนเสียงที่จ้าจัดของ คุณสามารถปรับตั้งลำดับความสำคัญของสัญญาณออดิโอ เอ๊าต์พุตได้ เมื่อมี
เสียงซาวนด์แทรคของหนังให้นุ่มนวลลงได้ ให้คล้ายกับลักษณะของเสียง อินพุตเข้ามาพร้อมกันทั้งดิจิตัลและอะนาลอก
ซาวนด์แทรคที่ได้ยินในโรงภาพยนตร์ AudioSel
ฟังท์ชั่น CinemaFILTER สามารถใช้ได้กับโหมดฟังเสียงเหล่านี้: Dolby Digital, ARC :
Dolby Digital EX, Dolby Digital Plus, Dolby TrueHD, Dolby Pro Logic สัญญาณเสียงจากภาครับสัญญาณทีวีของคุณสามารถส่งไปที่ช่อง
IIx Movie, Dolby Pro Logic II Movie, Dolby Pro Logic IIz Height, HDMI OUT ของเอวี รีซีฟเวอร์*1
Multichannel, DTS, DTS-ES, DTS Neo:6 Cinema, DTS 96/24, ด้วยการปรับตั้งแบบนี้ สัญญาณเสียงของทีวีจะถูกตั้งความสำคัญ
DTS-HD High Resolution, DTS-HD Master Audio และ DTS Express เป็นอันดับแรกโดยอัตโนมัติเหนือการปรับตั้งอื่นๆ
HDMI :
Cinema Fltr คุณสามารถเลือกตั้งไว้แบบนี้ได้เมื่อมีอินพุต HDMI ถูกกำหนดไว้ที่
Off : ฟังท์ชั่น CinemaFILTER อยู่ในสถานะ “ปิด” การใช้งาน อินพุต ซีเล็กเตอร์ ถ้ามีทั้ง HDMI (HDMI IN) และดิจิตัล ออดิโอ
อินพุตอื่นๆ (COAXIAL IN หรือ OPTICAL IN) ถูกกำหนดไว้ใน
On: ฟังท์ชั่น CinemaFILTER อยู่ในสถานะ “เปิด” ใช้งาน อินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วยกัน อินพุต HDMI จะถูกเลือกเป็นลำดับแรก
โดยอัตโนมัติ
COAX :
Note
คณสามารถเลือกตั้งไว้แบบนี้ได้เมื่อมีอินพุต COAXIAL IN ถูกกำหนด
• ฟังท์ชั่น CinemaFILTER อาจจะใช้ไม่ได้กับแหล่งต้นทางบางชนิด ไว้ที่อินพุต ซีเล็กเตอร์ แต่ถ้ามีทั้ง coaxial และ optical ในอินพุต
ซีเล็กเตอร์ด้วยกัน coaxial input จะถูกเลือกเป็นอันดับแรก
OPT :
คณสามารถเลือกตั้งไว้แบบนี้ได้เมื่อมีอินพุต OPTICAL IN ถูกกำหนด
ไว้ที่อินพุต ซีเล็กเตอร์
Analog:
เอวี รีซีฟเวอร์จะปล่อยสัญญาณอะนาลอก ออดิโอออกทางเอ๊าต์พุตเสมอ
Note
• การปรับตั้งนี้สามารถบันทึกเก็บแยกอิสระแต่ละอินพุตได้
• การปรับตั้งนี้สามารถทำได้เฉพาะเมื่ออุปกรณ์ต้นทางถูกกำหนดระบุไว้ในฟังท์ชั่น
อินพุต ซีเล็กเตอร์ดังนี้ HDMI IN, COAXIAL IN หรือ OPTICAL IN แต่ถ้ามีทั้ง
HDMI (HDMI IN) และดิจิตัล ออดิโอ อินพุตอื่นๆ (COAXIAL IN หรือ
OPTICAL IN) ถูกกำหนดไว้ในอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วยกัน อินพุต HDMI จะถูก
เลือกเป็นลำดับแรกด้วยการปรับตั้งค่าในหัวข้อ “ARC” ( 42) ถ้าต้องการเลือก
อินพุตดิจิตัล ออดิโอให้ดูที่หัวข้อ “Digital Audio (Digital Audio Input)”( 35)
*1 คุณสามารถเลือก “ARC” ได้ถ้าคุณกำหนด TV/CD ไว้ในอินพุต ซีเล็กเตอร์
แต่คุณไม่สามารถเลือกได้ถ้าคุณปรับตั้งค่าในหัวข้อ “Audio Return Ch” ไว้ที่
ตำแหน่ง “Off” ( 42)
A/V Sync
เมื่อปรับใช้โปรเกรสซีฟ สแกนบนเครื่องเล่นดีวีดี คุณอาจจะพบว่าภาพกับเสียง
ออกมาไม่พร้อมกัน ด้วยการปรับตั้งนี้ คุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการ
หน่วงเวลาของเสียงไว้
A/V Sync
0 ms ถึง 100ms ด้วยอัตรา 10ms ต่อขั้น
Note
44
Digital Input Signal Formats Adjusting the Bass & Treble
รูปแบบของสัญญาณดิจิตัล ออดิโอจะใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์อินพุตที่ถูกระบุ คุณสามารถปรับแต่งเสียงทุ้มและเสียงแหลมของลำโพงคู่หน้าได้ ยกเว้น
กำหนดไว้ที่ช่องดิจิตัล อินพุตเท่านั้น ( 35) กรณีที่คุณเลือกโหมดการฟังเป็นแบบ Direct Listening Mode หรือโหมด
โดยปกติแล้ว ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะตรวจจับสัญญาณรูปแบบของสัญญาณอินพุต Pure Audio
โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณพบว่ามีปัญหาในการเล่นกับสัญญาณ PCM
หรือ DTS คุณสามารถปรับตั้งรูปแบบของสัญญาณด้วยวิธีแมนน่วลให้เป็น 1 กดปุ่ม TONE บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์ซ้ำๆ เพื่อเลือกหาเมนู “Bass” หรือ
PCM หรือ DTS “Treble”
Note 2 ใช้ปุ่ม TONE -/+ บนเอวี รีซีฟเวอร์ในการปรับแต่ง
• ถ้าตอนขึ้นต้นแทรคของแหล่งต้นทางที่เป็น PCM ถูกตัดหายไป ให้ปรับตั้ง
รูปแบบของสัญญาณไว้ที่ PCM Bass
• ถ้ามีเสียงรบกวนเกิดขึ้นเมื่อทำการเดินหน้า-ถอยหลังแผ่น CD ที่บันทึก Treble
สัญญาณ DTS เร็วๆ ให้ปรับตั้งรูปแบบของสัญญาณไว้ที่ DTS
ดูที่หัวข้อ “Bass” กับ “Treble” ของเมนู “Tone Control Settings” ( 43)
• การปรับตั้งนี้สามารถบันทึกเก็บแยกอิสระแต่ละอินพุตได้
• การปรับตั้งฟังท์ชั่นนี้จะถูกเปลี่ยนไปอยู่ที่ตำแหน่ง “Auto” เมื่อคุณเปลี่ยน
Note
การปรับตั้งในหัวข้อ “Audio Selector” ( 44)
• ต้องการบายพาสฟังท์ชั่นปรับแต่งทุ้ม-แหลมนี้ให้เลือกโหมดการฟังแบบ
1 กดปุ่ม RECEIVER จากนั้นกดปุ่ม AUDIO ค้างไว้ประมาณ 8 วินาที Direct Listening Mode หรือโหมด Pure Audio
• ขั้นตอนการปรับแต่งนี้สามารถกระทำได้ด้วยรีโมทคอน โทรลโดยอาศัยปุ่ม
2 ขณะที่มีสัญญาณลักษณ์ “Auto” สว่างขึ้นบนจอ (ประมาณ 3 วินาที) Audio ( 43)
ให้กดปุ่มลูกศรซ้าย-ขวา / เพื่อเลือก:
Auto:
รูปแบบของสัญญาณจะถูกตรวจจับอัตโนมัติ ถ้าไม่มีสัญญาณดิจิตัล
อินพุตเข้ามา สัญญาณอะนาลอกที่เกี่ยวข้องกับอินพุตเดียวกันก็จะ
ถูกเลือกใช้แทน
PCM :
เฉพาะสัญญาณอินพุต PCM สองแชนเนลเท่านั้นที่จะมีเสียงออกมา
ให้ได้ยิน ถ้าสัญญาณอินพุตไม่ใช่รูปแบบ PCM สัญญาลักษณ์ PCM
บนหน้าปัดจะกระพริบ และอาจจะได้ยินเสียงรบกวนดังออกทางลำโพง
DTS :
เฉพาะสัญญาณอินพุต DTS (แต่ไม่ใช่ DTS-HD) เท่านั้นที่จะมีเสียง
ออกมาให้ได้ยิน ถ้าสัญญาณอินพุตไม่ใช่รูปแบบ DTS สัญญาลักษณ์
DTS บนหน้าปัดจะกระพริบ และอาจจะไม่มีเสียงใดๆ ดังออกมา
45
Zone 2
นอกเหนือจากการฟังให้ห้องหลักของคุณ, คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นในห้องอื่น หรือ ตามที่เราเรียกว่า Zone 2 จากนั้น คุณสามารถเลือกแหล่งอินพุต
ที่แตกต่างกันสำหรับ แต่ละห้อง
การเชื่อมต่อ Zone 2
การต่อลำโพง Zone 2 ของคุณเข้าแอมป์ใน Zone 2
มี 2 แนวทางสำหรับการเชื่อมต่อลำโพง Zone 2 การตั้งค่านี้ ช่วยให้สามารถเล่นระบบเสียง 7.1 แชนแนลในห้องหลักของคุณ
1. ต่อเข้าโดยตรงกับเอวี รีซีฟเวอร์ และ เล่นระบบเสียงสเตอริโอ 2 แชนแนลใน Zone 2 กับแหล่งอินพุตที่แตกต่าง
2. ต่อเข้ากับแอมป์ใน Zone 2 กันในแต่ละห้องได้
การต่อสาย
การต่อลำโพง Zone 2 ของคุณเข้าเอวี รีซีฟเวอร์โดยตรง • ใช้สายสัญญานเสียงแบบ RCA ต่อเข้ากับช่อง ZONE 2 LINE OUT L/R
ของเอวี รีซีฟเวอร์ ไปยังขั้วต่ออนาลอกอินพุตของแอมป์ใน Zone 2 ของคุณ
การตั้งค่านี้ ช่วยให้สามารถเล่นระบบเสียง 5.1 แชนแนลในห้องหลักของคุณ • ต่อลำโพง Zone 2 ของคุณ เข้ากับขั้วต่อลำโพงของแอมป์ใน Zone 2 ของคุณ
และ สัญญาณสเตอริโอ 2 แชนแนลใน Zone 2 กับแหล่งอินพุตที่แตกต่างกัน
ในแต่ละห้องได้ ระบบนี้เรียกว่า Powered Zone 2 ซึ่งลำโพงใน Zone 2 จะถูก
ขับโดยเพาเวอร์แอมป์ของเอวี รีซีฟเวอร์ หมายเหตุว่า เมื่อระบบ Powered
Zone 2 ถูกปิดลง คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับระบบ 7.1 แชนแนลในห้อง Main room
หลักของคุณได้
การต่อสาย AV receiver
* ต่อลำโพง Zone 2 ของคุณเข้ากับขั้วต่อ FRONT HIGH OR ZONE2 L/R
ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
Main room
TV
Zone 2
AV receiver
IN
R L
Receiver/
integrated amp
Note
• ระบบเสียงของ Zone 2 จะถูกปรับตั้งโดยแอมป์ใน Zone 2
Zone 2 R L
Note
46
การตั้งค่า Powered Zone 2 การใช้งาน Zone 2
ถ้าคุณได้ทำการต่อลำโพง Zone 2 ของคุณเข้ากับเครื่องเอวี รีซีฟเวอร์แล้ว ในส่วนนี้จะอธิบายวิธีการเปิด หรือปิดการใช้งาน Zone 2, วิธีเลือกแหล่งอินพุต
ตามที่ได้อธิบายใน “Connecting Your Zone 2 Speakers Directly to the สำหรับ Zone 2, และวิธีปรับระดับเสียงสำหรับ Zone 2
AV receiver” ( 46), คุณต้องตั้งค่า “Front High/Zone2” ไว้ที่ “Zone2”
การควบคุม Zone 2 จากเอวี รีซีฟเวอร์
Menu Hardware
Note
Note
• ขณะกำลังใช้งาน Powered Zone 2, โหมดการฟังที่ต้องการใช้ลำโพงเซอร์ราวนด์
หลังและคู่หน้าด้านบน (6.1/7.1), เช่น Dolby Pro Logic IIz Height,
Dolby Digital EX และ DTS-ES จะไม่สามารถใช้งานได้
• เมื่อหัวข้อ “Front High/Zone2” ถูกตั้งเป็น “Zone2” และฟังท์ชั่นอินพุต
ซีเล็กเตอร์ถูกเลือกไว้ที่ Zone 2 การใช้พลังงานเมื่ออยู่ในโหมดเตรียมพร้อม
(Standby) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
47
การปรับระดับเสียงของ Zone 2
การควบคุม Zone 2 ด้วยรีโมท คอนโทรล
สั่งงานด้วยรีโมท คอนโทรล
ON/STANDBY
ZONE2 1 กดปุ่ม ZONE2
48
การควบคุมใช้งานตัว iPod
*1
Composite video
cable
*1
* รุ่นที่จำหน่ายในแต่ละพื้นที่อาจจะแตกต่างกัน
49
การใช้งานฟังท์ชั่น iPod Models Alarm Clock
ใช้งานตัวฐานแยก Onkyo Dock คุณสามารถอาศัยฟังท์ชั่น Alarm Clock หรือนาฬิกาปลุกของตัว iPod ใ
นการเปิดใช้งานตัว iPod อัตโนมัติ และเปิดใช้งานตัวเอวี รีซีฟเวอร์อัตโนมัติ
ตัวฐานแยก หรือ Dock ขายแยกต่างหาก ตามเวลาที่ปรับตั้งไว้ได้ และฟังท์ชั่นอินพุต ซีเล็กเตอร์ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตัวฐานแยกของออนเกียวนี้ให้ดูได้จากเว็บไซต์ จะปรับเลือกไปที่อินพุต PORT โดยอัตโนมัติ
www.onkyo.com
Note
ก่อนจะเริ่มต้นใช้งานตัวฐานแยกของออนเกียว ให้ทำการอัพเดต iPod
* เพื่อใช้งานฟังท์ชั่นนี้ ตัว iPod ของคุณจะต้องถูกเสียบอยู่บนตัวฐานแยก UP-A1
ของคุณให้เป็นซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดซะก่อน ซึ่งมีให้อัพเดตได้ที่เว็บไซต์
และตัวฐานแยก UP-A1 ก็จะต้องต่อเชื่อมเข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์เท่านั้น
ของบริษัท Apple Inc.
* ฟังท์ชั่นนี้จะทำงานเฉพาะเมื่อโหมดสแตนดาร์ดถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On”
สำหรับรุ่นของ iPod ที่สามารถใช้งานด้วยกันได้ ให้ตรวจสอบจากสมุดคู่มือ
เท่านั้น
ของตัวฐานแยกนั้นๆ
* เมื่อใช้งานฟังท์ชั่นนี้ ให้แน่ใจว่าได้ทำการปรับตั้งความดังของเสียงไว้ใน
ระดับที่เหมาะสมแล้ว
UP-A1 Dock * ในขณะที่ฟังท์ชั่น Zone 2 เปิดใช้งาน คุณจะไม่สามารถใช้งานฟังท์ชั่นนี้ได้
ด้วยความสามารถของตัวฐานแยกรุ่น UP-A1 ของออนเกียวตัวนี้ ทำให้คุณ * คุณจะไม่สามารถใช้งานฟังท์ชั่นนี้ร่วมกับซาวนด์เอ็ฟเฟ็กต์บนตัว iPod ของคุณ
สามารถเล่นไฟล์เพลง, ไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์วิดีโอ ที่เก็บอยู่บนตัว iPod ได้ ชาร์จแบตเตอรี่ของตัว iPod
อย่างง่ายดาย โดยส่งผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์เพื่ออัพเกรดให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น ตัวฐานแยก UP-A1 จะสามารถชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ของ iPod ได้ในขณะที่
คุณสามารถใช้รีโมทคอนโทรลของเอวีรีซีฟเวอร์ในการควบคุมสั่งงานตัว iPodได้ iPod เสียบอยู่บนฐานแยก UP-A1 ซึ่งต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง UNIVERSAL PORT
การสั่งงานเบื้องต้น ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ขณะเสียบอยู่บนฐานแยก UP-A1 แบตเตอรี่ที่ตัว iPod
ของคุณจะถูกชาร์จเมื่อตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกปรับตั้งไว้ในสถานะเปิดใช้งาน (“On”)
หรือในโหมดสแตนด์บาย
ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะใช้เวลาชั่วครู่ในการเริ่มต้น ซึ่งทำให้อาจจะไม่ได้ยินเสียง
Note
ของเพลงแรกประมาณสอง-สามวินาที
* เมื่อฐานแยก UP-A1 ซึ่งมี iPod ติดตั้งอยู่ถูกต่อเชื่อมเข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์
Auto Power On อัตราบริโภคไฟฟ้าในโหมดสแตนด์บายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย
ถ้าคุณเริ่มต้นเล่น iPod ในขณะที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์อยู่ในโหมดสแตนด์บาย ข้อความแจงสถานะ
ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเปิด “On” โดยอัตโนมัติ และปรับเลือก iPod เป็นอินพุต
ทันที • PORT Reading
Direct Change ตัวเอวี รีซีฟเวอร์กำลังตรวจเช็คสถานะการเชื่อมต่อกับตัวฐานแยก
ถ้าคุณเริ่มต้นเล่น iPod ในขณะกำลังฟังเสียงของอินพุตอื่นอยู่ ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ • PORT Not Support
จะปรับเลือก iPod ขึ้นมาเป็นอินพุตใหม่ทันที ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับตัวฐานแยก
Using the AV receiver’s Remote Controller • PORT UP-A1
คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมฟังท์ชั่น ตัวฐานแยก UP-A1 ถูกเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว
พื้นฐาน iPod ได้ ( 51) Note
50
ตัวฐานแยกรีโมท RI Dock
หมายเหตุในการใช้งาน
ด้วยความสามารถของตัวฐานแยกสำหรับตัวรีโมท อินเตอร์แอ๊คทีฟ หรือ RI * ใช้วอลลุ่ม คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมระดับความดังของ
Dock จะทำให้คุณสามารถเล่นไฟล์เพลงที่เก็บอยู่บน iPod ผ่านตัวเอวี รีซีฟเวอร์ การเล่น
เพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงได้ ทำให้คุณสามารถชมภาพนิ่งในรูปแบบของสไลด์ * ขณะที่ตัว iPod ถูกเสียบอยู่บนฐานแยก ND-S1 หรือ RI Dock ฟังท์ชั่น
โชว์ได้ และทำให้คุณสามารถรับชมภาพวิดีโอบน iPod ผ่านขึ้นบนทีวีได้ นอก วอลลุ่ม คอนโทรลของมันจะไม่ทำงาน
เหนือไปกว่านั้น ฟังท์ชั่น OSD (On Screen Display) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ยัง * ถ้าคุณทำการปรับระดับความดังของตัว iPod ในขณะที่มันถูกเสียบอยู่บน
ทำให้คุณสามารถตรวจดู สั่งงาน และปรับตั้งคอนเท็นต์ต่างๆ ในตัว iPod ผ่าน ตัวฐานแยก ND-S1 หรือ RI Dock ให้ระวังว่ามันจะไม่เป็นระดับความดัง
ทางจอทีวีได้ด้วย และด้วยรีโมท ไร้สายของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ทำให้คุณสามารถ ที่สูงเกินไปเวลาที่คุณถอด iPod ออกจากตัวฐานแยกไปฟังกับหูฟัง
ควบคุมการทำงานของตัว iPod ของคุณได้อย่างสะดวกสบายบนโซฟาของคุณ
คุณยังสามารถอาศัยรีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการเปิด/ปิดการ Note
ทำงานของตัว iPod ได้ด้วย * สำหรับ iPod เจนเนอเรชั่นที่ 5 กับ iPod Nano ตัววงแหวนสั่งงาน (click wheel)
Note จะไม่สามารถใช้งานได้ขณะกำลังเล่น สำหรับตัวฐานแยก ND-S1 ใช้ตัว iPod
* ให้ใส่โค๊ดของรีโมทก่อนที่จะเริ่มใช้งานรีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ สำหรับเริ่มและหยุดการเล่น และสามารถใช้ตัวรีโมทของ ND-S1 ควบคุมฟังท์ชั่น
( 53) อื่นๆ ของ iPod ได้
* ทำการต่อเชื่อมตัวฐานแยกรีโมท RI Dock เข้ากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ด้วยสาย Controlling Your iPod
RI ( 49)
* ปรับตั้ง RI MODE ของตัวฐานแยก RI ไปที่ตำแหน่ง “HDD” หรือ ด้วยการกดปุ่ม REMOTE MODE ที่ถูกใส่โค๊ดโปรแกรมของตัวฐานแยกเอาไว้
“HDD/DOCK” ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุมสั่งงานตัว iPod ที่อยู่บนฐานแยกนั้นได้ด้วยปุ่ม
* ปรับตั้งจออินพุตของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไปที่ “DOCK” ( 22) ที่แจ้งไว้ สำหรับรายละเอียดในการใส่โค๊ดรีโมทให้ดูข้อมูลได้จากหัวข้อ
“Entering Remote Control Codes” ในหน้า ( 53)
System Function สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมให้ดูได้จากคู่มือของตัวฐานแยก
* System On
เมื่อคุณเปิด “On” ที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ตัวฐานแยก RI กับตัวฐานแยก ND-S1 UP-A1 Dock
และตัว iPod จะถูกกระตุ้นให้เปิด “On” ตามโดยอัตโนมัติ นอกเหนือไปจากนี้ ช่องอินพุตที่ชื่อว่า PORT ของเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้ถูกใส่โปรแกรมที่ใช้ในการ
ในขณะที่ตัวฐานแยก RI กับตัวฐานแยก ND-S1 RI และตัว iPod เปิด “On” ควบคุมตัวฐานแยกด้วยการต่อเชื่อมผ่านขั้วต่อ Universal Port
คุณสามารถเปิด “On” ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ได้โดยการกดปุ่ม ON/STANDBY คุณสามารถควบคุมสั่งงานตัว iPod ของคุณได้เมื่ออินพุต “PORT” ถูกเลือก
* Auto Power On ขึ้นมาเป็นแหล่งอินพุต
ถ้าคุณกดปุ่มลูกศรขวา ( ) บนรีโมท คอนโทรลในขณะที่เอวี รีซีฟเวอร์อยู่ใน
สถานะสแตนด์บาย ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเปิด “On” โดยอัตโนมัติ เมื่อปรับเลือก โดยไม่ใช้ฐานแยก RI Control
iPod เป็นแหล่งอินพุต ตัว iPod ของคุณจะเริ่มเล่นทันที ก่อนอื่นคุณต้องทำการใส่โค๊ดของรีโมทคือ 82990 ลงไปก่อน ( 53)
* Direct Change
เมื่อคุณกด Play บน iPod ในขณะที่กำลังฟังอินพุตอื่นอยู่ ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะ ND-S1
สวิทช์ไปตรงอินพุตที่ตัวฐานแยก RI กับตัว ND-S1 ต่อเชื่อมอยู่โดยอัตโนมัติ ปรับสวิทช์ iPod/PC ของตัว ND-S1 ไปที่ตำแหน่ง “iPod”
* Other Remote Controllers RI Dock
คุณสามารถใช้รีโมท คอนโทรลที่มากับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในการควบคุมสั่งงาน * ปรับสวิทช์ RI MODE ของตัวฐานแยก RI Dock ไปที่ตำแหน่ง “HDD”
ฟังท์ชั่นอื่นๆ ของตัว iPod ได้ ซึ่งจำนวนและรูปแบบของฟังท์ชั่นที่สามารถใช้ หรือ “HDD/DOCK”
งานได้นั้นจะขึ้นอยู่ที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ * ฟังท์ชั่น ON/STANDBY อาจจะใช้งานไม่ได้ด้วยการใช้โค๊ดรีโมทอย่างเดียว
* iPod Alarm (โดยไม่มีตัวฐานแยก RI) ในกรณีนี้ ให้ต่อเชื่อมตัวฐานแยก RI แล้วใส่โค๊ด
ถ้าคุณใช้ฟังท์ชั่นส่งเสียงเตือน (alarm) ของตัว iPod ในการเริ่มเล่น ตัวเอวี รีโมทสำหรับ RI คือ 81993 ลงไป
รีซีฟเวอร์ก็จะเริ่มต้น “On” ตามเวลาที่คุณปรับตั้งไว้ที่ตัว iPod แล้วจัดการเลือก
iPod ขึ้นมาเป็นอินพุตโดยอัตโนมัติ ใช้ RI Control
Note
ในกรณีนี้ ให้ทำการต่อเชื่อมตัวฐานแยกรีโมท RI เข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ แล้วใส่
* การทำงานแบบสอดประสาน (Linked Operations) อาจไม่สัมฤทธิ์ผลกับ
โค๊ดรหัสของ RI คือ 81993 ลงไป
สัญญาณวิดีโอ หรือเมื่อปรับตั้งให้ฟังท์ชั่นส่งเสียงเตือนของ iPod ทำงานกับ
* ปรับตั้งจออินพุตของเอวี รีซีฟเวอร์ไว้ที่ “DOCK” ( 22)
สัญญาณเสียงอื่นๆ
* ถ้าคุณใช้งานตัว iPod กับอุปกรณ์เสริมใดๆ การตรวจจับสัญญาณการสั่งงาน
ด้วยการเล่น (playback) ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ที่มีต่อ iPod อาจจะไม่ได้ผล
* ฟังท์ชั่นนี้จะทำงานได้ผลก็ต่อเมื่อโหมดสแตนดาร์ดถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “On”
51
Press the appropriate REMOTE
: Available buttons
MODE first. Models sold are different depending on the region.
Onkyo Dock
UP-A1 Dock
Dock
ND-S1
Buttons
ON/STANDBY *1
TOP MENU *5 *6
/ / / ENTER *5
PLAYLIST / *3
, , , , ,
,
REPEAT
RANDOM
PLAY MODE *4 *5 *4
DISPLAY *7 *2 *5
MUTING *5
ALBUM +/–
VOL / *5
MENU *5
RETURN
Note
* สำหรับ iPod บางรุ่นและบางเจนเนอเรชั่น บางปุ่มอาจจะไม่สามารถใช้งานได้ตามคาด
* สำหรับรายละเอียดในการสั่งงานตัว iPod กรุณาตรวจสอบจากคู่มือของตัวฐานแยก RI Dock
*1 ปุ่มนี้ไม่ได้ใช้ในการควบคุมการเิปิด (On) หรือปิด (Off) ตัว DS-A2 หรือตัว DS-A2X RI Dock และตัว iPod อาจจะไม่ตอบสนองกับการสั่งงานด้วยปุ่มนี้ในครั้งแรก
ที่คุณกด ในกรณีนี้ให้กดซ้ำอีกครั้งเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ตัวรีโมทจะทำการส่งคำสั่ง On กับ Standby สลับกันไป ดังนั้น ถ้าตัว iPod ของคุณอยู่ในสถานะ “On” อยู่แล้ว
มันก็จะยังคง “On” เมื่อตัวรีโมท คอนโทรลส่งคำสั่ง “On” ไปให้เช่นเดียวกัน ในกรณีที่ตัว “IPod” อยู่ในสถานะ “Off” มันก็จะยังคงอยู่สถานะ “Off” เช่นเดิม ถ้า
ตัวรีโมท คอนโทรลส่งคำสั่ง “Off” ไปให้
*2 กดปุ่ม DISPLAY เพื่อเปลี่ยนแปลงโหมดต่างๆ ต่อไปนี้:
Standard Mode
จะไม่มีอะไรปรากฏออกไปที่จอทีวีของคุณ ซึ่งคุณต้องใช้จอแสดงผลของตัว iPod ในการค้นเข้าไปในรายละเอียดของเมนูสั่งงาน ซึ่งโหมดนี้จะสามารถใช้เล่นสัญญาณวิดีโอ
จากตัว iPod ของคุณได้
Extended Mode
รายชื่อของฟังท์ชั่นเพลย์แบ็ค อาทิ รายชื่อศิลปิน, ชื่ออัลบั้ม, ชื่อเพลง และ .. จะปรากฏขึ้นบนจอทีวี และคุณก็สามารถเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของเมนูและเลือกเพลง
ได้ด้วยการใช้ทีวีเป็นจอแสดงผล
*3 ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) ปุ่ม PLAYLIST จะถูกกำหนดให้ใช้สำหรับการข้ามไปสู่หน้าเมนูหน้าถัดไป และด้วยคุณสมบัตินี้จะทำให้คุณเข้าถึงเพลงที่ต้องการ
ได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยได้มากในกรณีที่รายชื่อเพลง หรือรายชื่อศิลปินที่คุณมีอยู่นั้นยาวมาก
*4 Resume Mode ด้วยฟังท์ชั่นของโหมด resume ทำให้คุณสามารถกำหนดให้เครื่องจดจำเพลงสุดท้ายที่เล่นก่อนที่คุณจะดึง iPod ออกไปจากตัวฐานแยก RI Dock
หรือก่อนที่คุณจะทำการปิด OSD mode
*5 การสั่งงานจะสามารถทำได้ถ้าคุณต่อเชื่อมอุปกรณ์ ND-S1 ผ่านอินพุต RI ด้วยสายต่อเชื่อม RI
*6 ปุ่ม Top Menu จะทำงานเหมือนปุ่ม Mode เมื่อใช้กับตัวฐานแยกรุ่น DS-A2 RI Dock
*7 ปุ่ม Display จะทำการเปิดไฟแบ็คไล้ท์ของจอขึ้นมาประมาณ 30 วินาที
Note
* ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) การเล่นจะยังคงต่อเนื่องแม้ว่าตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะถูกปิดลง (Off)
* ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) คุณจะไม่สามารถควบคุมสั่งงานตัว iPod ได้โดยตรง
* ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) อาจจะต้องใช้เวลาชั่วครู่ในการดึงข้อมูลจากตัว iPod
* ในโหมด Extended Mode (ดูที่ *2) ข้อมูลที่เป็นวิดีโอจะไม่สามารถแสดงขึ้นบนจอทีวีของคุณ
52
การควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นๆ
53
ถ้าคุณต้องการควบคุมอุปกรณ์ของ Onkyo ด้วยการชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวอุปกรณ์ ควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่น
โดยตรง ให้ใช้โค๊ดรหัสอุปกรณ์ตามนี้:
32900: ด้วยการกดปุ่ม REMOTE MODE ที่ได้ถูกโปรแกรมใหม่ด้วยโค๊ดรีโมท
ควบคุมเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ ของ Onkyo คอนโทรลสำหรับอุปกรณ์ของคุณ จะทำให้สามารถควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ของ
32901: Onkyo ตามที่ปรากฏด้านล่างนี้
ควบคุมเครื่อง HD-DVD ของ Onkyo สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโค๊ดรีโมท คอนโทรล สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ
70868: สามารถดูได้ที่หน้า ( 53)
ควบคุมเครื่องบันทึก MiniDisc ของ Onkyo ควบคุมทีวี
71323:
ควบคุมเครื่องบันทึก CD Recorder ของ Onkyo ที่ปุ่ม TV ของตัวรีโมทได้ถูกใส่โปรแกรมสำหรับควบคุมสั่งงานทีวีที่รองรับ
82990: ระบบ RIHD*1 ซึ่งตัวทีวีจะต้องสามารถรับคำสั่งจากรีโมทผ่านระบบ RIHD
ควบคุมอุปกรณ์ฐานแยก (Dock) ของ Onkyo ได้ และทีวีตัวนั้นจะต้องต่อเชื่อมกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ผ่านทางการเชื่อมต่อ
Note HDMI
* ถ้าคุณต่อเชื่อมเครื่องเล่นเทปคาสเส็ทเข้าที่ช่อง TV/CD IN หรือต่อเชื่อม ถ้าการสั่งงานทีวีผ่านระบบ RIHD ไม่เป็นผล ให้ใส่โค๊ดสั่งงานจากปุ่ม TV
อุปกรณ์ฐานแยก RI เข้าที่ช่อง TV/CD IN หรือช่อง VCR/DVR IN หรือ ลงไปบนรีโมทของทีวีแล้วนำไปสั่งงานตัวทีวีอีกที
ช่อง GAME IN เพื่อให้ฟังท์ชั่น RI ทำงานอย่างถูกต้อง คุณต้องทำการปรับ
ตั้งจออินพุต (Input Display) ที่เกี่ยวเนื่องกัน ( 22) ควบคุมสั่งงานเครื่องเล่น Blu-ray/เครื่องเล่น DVD และเครื่องเล่น
HD-DVD Player หรือเครื่องบันทึก DVD Recorder
เปลี่ยนโค๊ตของผุ่มรีโมทคอนโทรล
BD/DVD ได้ถูกลงโปรแกรมมาด้วยโค๊ดรีโมท คอนโทรลสำหรับควบคุมอุปกรณ์
คุณสามารถปรับตั้งโค๊ดของรีโมท คอนโทรที่ฟังท์ชั่น REMOTE MODE ให้ ที่รองรับระบบ RIHD ซึ่งอุปกรณ์ตัวนั้นจะต้องสามารถตอบรับสัญญาณ
กลับไปสู่ค่าที่โปรแกรมมาจากโรงงานได้ รีโมทคอนโทรลผ่านระบบ RIHD และต้องต่อเชื่อมอยู่กับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ผ่าน
ขณะกดปุ่ม REMOTE MODE ที่คุณต้องการปรับตั้งใหม่เอาไว้ ให้กด ทางการเชื่อมต่อ HDMI เท่านั้น
1 ปุ่ม AUDIO ค้างไว้ด้วยจนกระทั่งสัญญาลักษณ์รีโมทสว่างขึ้นประมาณ
3 วินาที
2 ในช่วงเวลา 30 วินาที ให้กดปุ่ม REMOTE MODE ซ้ำอีกครั้ง
สัญญาลักษณ์รีโมทจะกระพริบสองครั้ง แสดงให้ทราบว่าปุ่ม REMOTE
MODE ได้ถูกปรับตั้งใหม่แล้ว
แต่ละครั้งที่ REMOTE MODE ถูกใส่โปรแกรมรีโมท คอนโทรลลงไป
เมื่อปุ่มถูกปรับตั้งใหม่ โปรแกรมที่เคยมีอยู่ที่ปุ่มนั้นจะถูกโค๊ดใหม่บันทึก
ทับลงไป
การปรับตั้งตวรีโมทคอนโทรลให้กลับไปเปป็นค่าที่มาจากโรงงาน
คุณสามารถปรับตั้งตัวรีโมท คอนโทรลให้กลับไปสู่โค๊ดเดิมที่มาจากโรงงานได้
54
: Available buttons
Press the appropriate REMOTE
MODE first. Components
CD player/CD recorder
Satellite receiver
HD DVD player
Cable receiver
MD recorder
VCR/PVR
Buttons
TV
ON/STANDBY
, INPUT ,
TV VOL /
GUIDE
TOP MENU
/ / /
ENTER
SETUP
, , , , *1 *3
, ,
SEARCH *1*2 *1 *2 *2
REPEAT *1*2 *2 *2
RANDOM *1*2 *1 *2 *2
Number: 1 to 9, 0
Number: +10 *1 *1
DISPLAY
MUTING
CH +/–
DISC +/–
PREV CH
MENU
RETURN
AUDIO *1 *1
CLR
55
ปัญหาติดขัดในการใช้งาน
56
มีเสียงออกเฉพาะลำโพงเซ็นเตอร์อย่างเดียว ไม่สามารถปรับตั้งระดับวอลลุ่มไปถึง 79 ได้
• ถ้าคุณเลือกโหมดการฟังแบบ Dolby Pro Logic IIx Movie, Dolby Pro Logic IIx • ให้ตรวจสอบดูว่าระดับความดังของเสียงสูงสุด (maximum volume) ได้ถูกปรับตั้ง
Music หรือ Dolby Pro Logic IIx Game กับสัญญาณอินพุตที่เข้ามาเป็นสัญญาณ ใหม่รึเปล่า? (ดูที่หน้า 21)
โมโน อย่างเช่น สัญญาณเสียงจากสถานีวิทยุ AM หรือเสียงจากสถานีโทรทัศน์ที่เป็น • ถ้าระดับวอลลุ่มของลำโพงแต่ละแชนเนลถูกปรับตั้งไว้ด้วยค่า + จะทำให้ขีดสูงสุด
ระบบเสียงโมโน เสียงที่ออกมาจะเน้นหนักไปอยู่ที่ลำโพงเซ็นเตอร์เป็นหลัก ของการปรับระดับเสียงโดยรวมอาจจะถูกลดต่ำลง หมายเหตุ: ระดับเสียงของลำโพง
• ให้แน่ใจว่า ได้กำหนดค่าการปรับตั้งลำโพงไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 36) แต่ละแชนเนลจะถูกปรับตั้งอัตโนมัติหลังจากสิ้นสุดการทำงานของโปรแกรม
Audyssey 2EQ (ดูที่หน้า 23, 37)
ไม่มีเสียงออกที่แชนเนลเซอร์ราวนด์ มีเสียงรบกวน (noise) เกิดขึ้น
57
• ถ้าแหล่งต้นทางวิดีโอถูกต่อเชื่อมไว้ที่ช่องคอมโพสิต วิดีโอ อินพุต ทีวีของคุณก็จะ • ให้แน่ใจว่าคุณบันทึกตัวเลขโค๊ดรหัสของเครื่องอย่างถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 53)
ต้องต่อเชื่อมอยู่ที่ช่องคอมโพสิต วิดีโออินพุต เอ๊าต์พุตด้วย (ดูที่หน้า 16) • ให้แน่ใจว่าได้ทำการปรับตั้ง ID ของทั้งตัวรีโมทกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์เป็น ID
• ถ้าแหล่งต้นทางวิดีโอถูกต่อเชื่อมไว้ที่ช่อง HDMI อินพุต คุณต้องทำการกำหนด เดียวกันแล้ว (ดูที่หน้า 41)
อินพุตนั้นให้กับอินพุต ซีเล็กเตอร์ด้วย และทีวีของคุณจะต้องต่อเชื่อมอยู่ที่ช่อง
HDMI Out ด้วย (ดูที่หน้า 15, 35)
• ในขณะที่โหมดการรับฟังแบบ Pure Audio ถูกเลือกใช้ วงจรอิเล็กทรอนิคที่เกี่ยว ไม่สามารถควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นได้
กับระบบภาพวิดีโอจะถูกปิด ซึ่งจะมีแต่สัญญาณวิดีโอทางช่อง HDMI IN เท่านั้น
• ถ้าอุปกรณ์ตัวอื่นเป็นของยี่ห้อ Onkyo ให้แน่ใจว่า ระหว่างอุปกรณ์ตัวนั้นกับเอวี
ที่จะถูกส่งออกไปทางเอ๊าต์พุต
รีซีฟเวอร์ตัวนี้ได้ต่อเชื่อมสายต่อของระบบ RI กับสายสัญญาณเสียงอะนาลอก
• ที่ทีวีของคุณ, ให้แน่ใจว่า คุณได้เลือกอินพุตตรงกับช่องที่ได้ต่อสัญญาณภาพที่ส่งมา
ระหว่างกันไว้แล้ว เนื่องจากต่อเชื่อมเฉพาะสาย RI อย่างเดียวจะไม่ทำงาน
จากเอวี รีซีฟเวอร์ไว้
(ดูที่หน้า 17)
• ให้แน่ใจว่าคุณได้ปรับเลือกใช้โหมดของตัวรีโมทที่ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 9, 54)
มีสัญญาณภาพจากแหล่งต้นทางที่ต่อเข้ากับเอวี รีซีฟเวอร์ทางช่อง HDMI IN • ในกรณีที่คุณทำการต่อเชื่อมเครื่องเล่น/บันทึกเทปคาสเส็ท เข้ากับช่อง TV/CD IN
การถ่ายทอดสัญญาณภาพผ่านอะแด๊ปเตอร์ HDMI-to-DVI อาจจะไม่สมบูรณ์ นอก หรือต่อเชื่อมตัว RI Dock เข้ากับช่อง TV/CD IN หรือช่อง GAME IN หรือช่อง
เหนือจากนั้น สัญญาณวิดีโอที่ต่อเชื่อมมาจาก PC ก็อาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์เช่นกัน VCR/DVR IN ถ้าต้องการให้รีโมททำงานอย่างถูกต้อง คุณต้องทำการปรับตั้ง
(ดูหน้า 62) “Input Display” ให้ถูกต้องด้วย (ดูที่หน้า 22)
• ถ้าไม่สามารถควบคุมสั่งงานได้ คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสโค๊ดของรีโมท
คอนโทรลใหม่ (ดูที่หน้า 53)
ฟังท์ชั่น on-screen menus ไม่แสดงขึ้นบนจอ
• การควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นที่เป็นของผู้ผลิตยี่ห้ออื่น ให้ชี้ตัวรีโมทไปที่
• ที่ทีวีของคุณ, ให้แน่ใจว่า คุณได้เลือกอินพุตตรงกับช่องที่ได้ต่อสัญญาณภาพที่ส่ง เซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ตัวนั้น (ดูที่หน้า 53)
มาจากเอวี รีซีฟเวอร์ไว้แล้ว • การควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นของ Onkyo ที่ต่อเชื่อมด้วยระบบ RI ให้ชี้ตัว
• ถ้าทีวีกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่ได้ต่อเชื่อมกันทาง HDMI ฟังท์ชั่น OSD จะไม่แสดง รีโมทไปที่เซ็นเซอร์ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ แต่ต้องแน่ใจว่า ได้ทำการบันทึกโค๊ด
ขึ้นบนจอ รหัสที่ใช้ควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวนั้นเข้าไปที่เซ็นเซอร์ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์แล้ว
(ดูที่หน้า 53)
จูนเนอร์ (ภาครับสัญญาณวิทยุ) • การควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวอื่นของ Onkyo ที่ไม่ได้ต่อเชื่อมด้วยระบบ RI ให้ชี้
ตัวรีโมทไปที่เซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ตัวนั้นโดยตรง แต่ต้องแน่ใจว่า ได้ทำการบันทึก
สัญญาณวิทยุมีเสียงรบกวนมาก, สัญญาณเสียง FM สเตริโอถูกรบกวนจาก โค๊ดรหัสที่ใช้ควบคุม-สั่งงานอุปกรณ์ตัวนั้นเข้าไปที่ตัวรีโมทแล้ว (ดูที่หน้า 53)
เสียงฮีส หรือสัญญาลักษณ์ที่แสดงความเข้มของสัญญาณ FM สเตริโอไม่ • โค๊ดรีโมท คอนโทรลที่ลงไว้อาจจะไม่ถูกต้อง ถ้ามีมากกว่าหนึ่งโค๊ด ให้ลองลงโค๊ด
สว่างขึ้น ตัวอื่นดู
• ลองย้ายตำแหน่งที่ติดตั้งสายอากาศ
• ย้ายตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้ห่างออกจากทีวี หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวฐานแยก IP-A1 Dock สำหรับ iPod
• เปลี่ยนมารับฟังเสียงของสถานีนั้นด้วยระบบเสียงโมโนแทน (ดูที่หน้า 25)
ไม่มีเสียง
• เมื่อรับฟังเสียงของสถานี AM, การทำงานของตัวรีโมทอาจจะทำให้เกิด
สัญญาณรบกวนแทรกเข้าไปในระบบได้ • ให้แน่ใจว่า iPod ของคุณกำลังอยู่ในโหมดเพลย์แบ็คจริงๆ
• รถยนต์ที่วิ่งผ่าน หรือเครื่องบินที่บินผ่านเข้ามาในบริเวณใกล้ๆ อาจจะทำให้ • ให้แน่ใจว่า iPod ของคุณได้ติดตั้งอยู่บนฐานแยก UP-A1 อย่างถูกต้องแนบแน่น
เกิดสัญญาณรบกวนขึ้นมาได้ ดีแล้ว
• ความหนาของผนังคอนกรีตมีส่วนกั้นสัญญาณ ทำให้สัญญาณอ่อน • ให้แน่ใจว่า ตัวฐานแยก UP-A1 ถูกติดตั้งเข้ากับช่องต่อ UNIVERSAL PORT
• ถ้าสายอากาศภายในบ้านที่ให้มาไม่ได้ช่วยเพิ่มคุณภาพการรับสัญญาณ ให้เปลี่ยนไป ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์อย่างถูกต้องแล้ว
ใช้เสาอากาศนอกบ้านแทน • ให้แน่ใจว่า ได้ทำการเปิด “On” ตัวเอวี รีซีฟเวอร์แล้ว แหล่งอินพุตจากฟังท์ชั่น
อินพุต ซีเล็กเตอร์ได้ถูกเลือกไว้ถูกต้องแล้ว และได้ทำการเร่งวอลลุ่มขึ้นมาแล้ว
รีโมทคอนโทรล • ให้แน่ใจว่า ขั้วต่อต่างๆ ได้ถูกกดเข้ากับตัวรับจนแน่นหนาดีแล้ว
• ให้ลองปรับตั้งตัว iPod ซะใหม่
ตัวรีโมท คอนโทรลไม่ทำงาน
• ก่อนเริ่มต้นใช้งานรีโมทตัวนี้ ให้แน่ใจว่าได้กดปุ่ม RECEIVER (บนตัวรีโมท) แล้ว ไม่มีภาพ
• ให้แน่ใจว่า ขั้ว +/- ของแบตเตอรี่ในตัวรีโมทถูกติดตั้งไว้อย่างถูกต้องดีแล้ว
(ดูที่หน้า 4) • ให้แน่ใจว่า ช่อง TV OUT ของตัว iPod ของคุณ ถูกปรับตั้งไว้ที่ตำแหน่ง “ON”
• ให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ทั้งหมด ห้ามเอาแบตเตอรี่ต่างชนิดมาผสมกัน • ให้แน่ใจว่า ที่ตัวทีวีกับตัวเอวี รีซีฟเวอร์ของคุณ ได้ปรับเลือกอินพุตไว้ถูกต้องแล้ว
และห้ามใช้แบตเตอรี่ก้อนใหม่กับก้อนเก่าที่ใช้แล้วผสมกัน (ดูที่หน้า 4) • บางเวอร์ชั่นของ iPod ไม่มีสัญญาณวิดีโอปล่อยออกมา
• ให้แน่ใจว่า ตัวรีโมท คอนโทรลไม่ได้อยู่ห่างจากตัวเอวี รีซีฟเวอร์มากเกินไป และให้ รีโมท คอนโทรลของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ไม่สามารถควบคุมสั่งงานตัว iPod ได้
แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางระัหว่างลำแสงของตัวรีโมทกับเซ็นเซอร์รับแสงของตัวเอวี
รีซีฟเวอร์ (ดูที่หน้า 4) • ให้แน่ใจว่า ตัว iPod ของคุณได้ติดตั้งอยู่บนฐานแยก UP-A1 อย่างถูกต้องแนบ
• ให้แน่ใจว่า ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ไม่ได้ถูกแสงแดดส่อง หรือถูกแสงไฟจากหลอด แน่นดีแล้ว ถ้าตัว iPod ของคุณสวมอยู่ในปลอก อาจทำให้การเสียบใช้งานกับฐาน
ฟลูออเรสเซ็นต์ส่อง ถ้าจำเป็น ให้ลองย้ายตำแหน่งของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ให้ตำแหน่ง แยกได้ไม่แนบสนิท ให้ถอดปลอกออกก่อนทำการเสียบตัว iPod เข้ากับจุดเชื่อมต่อ
เซ็นเซอร์รับแสงรีโมทหลบห่างออกไปจากแสงเหล่านั้น บนตัวฐานแยกเสมอ
• ถ้าตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกติดตั้งอยู่ในชั้นวางเครื่องที่มีฝาปิดทำด้วยกระจกสี แสงจากตัว • ตัว iPod จะไม่สามารถใช้งานได้ในขณะที่มีภาพโลโก้รูปแอ๊ปเปิ้ลปรากฏอยู่บนจอ
รีโมทอาจจะส่องเข้าไปไม่ถึงตัวเอวี รีซีฟเวอร์ในกรณีที่ฝาปิดอยู่ • ให้แน่ใจว่า คุณได้ทำการปรับเลือกโหมดใช้งานของตัวรีโมทไว้ถูกต้องแล้ว
• ให้แน่ใจว่า คุณได้ปรับเลือกโหมดของรีโมทไว้ถูกต้องแล้ว (ดูที่หน้า 9, 54) • เมื่อใช้งานรีโมทของตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ให้ชี้ตัวรีโมทไปที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์
• เมื่อใช้รีโมท คอนโทรลในการสั่งงานอุปกรณ์ของผู้ผลิตอื่น บางปุ่มอาจจะใช้งานไม่ได้
อย่างที่คาด
58
ฟังท์ชั่น Direct Change ไม่ทำงานกับอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมผ่านระบบ RI
• เมื่อทำการต่อเชื่อมตัวฐานแยก UP-A1 เข้ากับตัวฐานแยกจูนเนอร์ UP-HT1
(รุ่นในอเมริกาเหนือ)/UP-DT1 (รุ่นในยุโรปและเอเซีย) และทำการสับสวิทช์ ฟังท์ชั่นทั้งหมดเหล่านี้จะไม่ทำงานเมื่อฟังท์ชั่น Zone 2 อยู่ในสถานะถูกเปิดใช้
ของตัวฐานแยกจูนเนอร์ไปที๋ตำแหน่ง AUTO จะทำให้คุณสามารถสวิทช์เลือกได้ (ดูที่หน้า 17)
ระหว่างตัวฐานแยก UP-A1 กับจูนเนอร์ ด้วยการกดปุ่ม PORT บนหน้าปัดเอวี
รีซีฟเวอร์ซ้ำๆ เมื่อใช้งานโปรแกรม Audyssey 2EQ การตรวจวัดล้มเหลว โดยมีข้อ
• ถ้าคุณยังคงไม่สามารถควบคุมใช้งานตัว iPod ของคุณได้ ให้ลองกดปุ่ม Play ความว่า “Ambient noise is too high” ปรากฏขึ้นบนจอ
ของตัว iPod เพื่อให้ Ipod เริ่มเล่น อาจทำให้รีโมทใช้งานได้
• ให้ทดลองปรับตั้งรีเซ็ตตัว iPod ใหม่ •ปรากฏการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากความผิดปกติในการทำงานของลำโพง ให้
• ขึ้นอยู่กับตัว iPod ของคุณซึ่งปุ่มบางปุ่มอาจจะไม่ทำงานอย่างที่คาด ตรวจเช็คดูว่าลำโพงปล่อยเสียงออกมาเป็นปกติ
59
สเปคฯ ทางเทคนิค
ภาคขยาย ทั่วไป
อัตรากำลังขับทางด้านเอ๊าต์พุต * ไฟเอซี: (รุ่นในอเมริกาเหนือ) AC 120 V, 60Hz
* ทุกแชนเนลพร้อมกัน: (รุ่นในอเมริกาเหนือ) (รุ่นในยุโรป) AC 230 V, 50Hz
ต่ำสุด 80 วัตต์ต่อหนึ่งแชนเนล ที่ 8 โอห์มแบบต่อเนื่อง, (รุ่นอื่น) AC 220-240 V, 50/60Hz
ขับพร้อมกัน 2 แชนเนลจากความถี่ตั้งแต่ 20Hz ถึง 20kHz, * อัตราบริโภคไฟฟ้า: (รุ่นในอเมริกาเหนือ) 4.9 แอมป์
ด้วยอัตราความเพี้ยนฮาร์มอนิกต่ำสุดที่ระดับ 0.08% (FTC) (รุ่นในยุโรป) 450 วัตต์
ต่ำสุด 90 วัตต์ต่อหนึ่งแชนเนล ที่ 8 โอห์มแบบต่อเนื่อง, (รุ่นอื่น) 500 วัตต์
ขับพร้อมกัน 2 แชนเนลจากความถี่ 1kHz, ด้วยอัตราความ * อัตราบริโภคไฟฟ้าในโหมดสแตนด์บาย:
เพี้ยนฮาร์มอนิกต่ำสุดที่ระดับ 0.7% (FTC) (รุ่นในอเมริกาเหนือ) 0.2 วัตต์
ต่ำสุด 100 วัตต์ต่อหนึ่งแชนเนล ที่ 6 โอห์มแบบต่อเนื่อง, (รุ่นอื่น) 0.3 วัตต์
ขับพร้อมกัน 2 แชนเนลจากความถี่ 1kHz, ด้วยอัตราความ * ขนาดสัดส่วนของตัวเครื่อง (W x H x D):
เพี้ยนฮาร์มอนิกต่ำสุดที่ระดับ 0.1% (FTC) (วัดแบบอื่น) 435 x 151.5 x 328.5 mm
7 แชนเนล x 130 วัตต์ที่ 6 โอห์ม, 1khz, 1 แชนเนล (IEC) 17-1/8” x 5-15/16” x 12-15/16”
* กำลังขับสูงสุด: (รุ่นในเอเซีย) * น้ำหนัก: (รุ่นในอเมริกาเหนือ) 8.6 kg (19.0 Ibs.)
7 แชนเนล x 160 วัตต์ที่ 6 โอห์ม,1khz, 1 แชนเนล(JEITA) (รุ่นอื่น) 9.4 kg (20.7 Ibs.)
* กำลังขับที่สวิงไปตามอิมพีแดนซ์ของโหลด:
180 วัตต์ (3โอล์ม, คู่หน้า) HDMI
160 วัตต์ (4โอล์ม, คู่หน้า) * Input: IN 1, IN 2, IN 3, IN 4
100 วัตต์ (8โอล์ม, คู่หน้า) * Output: OUT
* ความเพี้ยนฮาร์มอนิกรวม (THD): * Video Resolution: 1080p
(รุ่นในอเมริกาเหนือ) * Audio Format: Dolby TruHD, DTS-HD Master Audio, DVD-Audio,
0.08% (ตามกำลังขับ) DSD
(รุ่นอื่น) 0.08% (1 kHz, 1 W) * รองรับฟังท์ชั่น: 3D, Audio Reture Channel, Deep Color, x.v.Color,
* แด๊มปิ้ง แพ็คเตอร์: 60 (คู่หน้า, 1kHz, 8โอล์ม) LipSync, CEC
๕ ความไวของช่องอินพุต และความต้านทานของช่องอินพุต:
Video Inputs
200 mV/47kโอล์ม (LINE)
* ระดับความแรงของสัญญาณเอ๊าต์พุต และความต้านทานของช่องเอ๊าต์พุต: * Component: IN 1, IN 2
200 mV/2.2kโอล์ม (ช่อง REC OUT) * Composite: BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME, AUX
* ความถี่ตอบสนอง: 5Hz-100kHz/+1 dB, -3 dB (DSP bypass)
* ปรับทุ้ม-แหลม: +/-10 dB, 50Hz (BASS) Video Outputs
+/-10 dB, 20kHz (TREBLE) * Component: OUT
* อัตราส่วนของสัญญาณเสียงต่อสัญญาณรบกวน (S/N Ratio): * Composite: MONITOR OUT, VCR/DVR OUT
106 dB (LINE, IHF-A)
* โหลดความต้านทานของลำโพง: Audio Inputs
(รุ่นในอเมริกาเหนือ) 6โอล์ม–16โอล์ม
* Digital: Optical:2
(รุ่นอื่น) 4โอล์ม–16โอล์ม
Coaxial:2
* Analog: BD/DVD, VCR/DVR, CBL/SAT, GAME, TV/CD, AUX
ภาคสัญญาณวิดีโอ
* ความไวของช่องอินพุต/ความแรงของสัญญาณทางช่องเอ๊าต์พุต และความต้านทาน Audio Outputs
ของช่องเอ๊าต์พุต: 1 Vp-p/75โอล์ม (Component Y)
* Analog: VCR/DVR, ZONE2 Line Out
0.7 Vp-p/75โอล์ม (Component Pb/Cb, Pr/Cr)
* Subwoofer Pre Output:
1 Vp-p/75โอล์ม(Composite)
1
* การตอบสนองความถี่ของสัญญาณคอมโพเน้นต์ วิดีโอ:
* Speaker outputs: Main (L, R, C, SL, SR, SBL, SBR) + ZONE2/Front High (L, R)
5Hz-100MHz/+0 dB, -3 dB
* Phones: 1 (6.3 )
ภาครับสัญญาณวิทยุ Others
* ช่วงปรับคลื่นวิทยุ FM: (รุ่นในอเมริกาเหนือ) 87.5MHz-107.9MHz Mic: 1
(รุ่นในยุโรป) 87.5MHz-108.0MHz, RDS Universal Port: 1
(รุ่นอื่น) 87.5MHz-108.0MHz, RDS RI: 1
* ช่วงปรับคลื่นวิทยุ AM: (รุ่นในอเมริกาเหนือ) 530 kHz –1710 kHz
(รุ่นอื่น) 522/530 kHz –1611/1710 kHz รายละเอียดในสเปคฯ เหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
* บันทึกสถานีล่วงหน้า: 40
* ดิจิตัล จูนเนอร์ (รุ่นในอเมริกาเหนือ): SIRIUS
60
เกี่ยวกับ HDMI
ออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับปริมาณความต้องการดิจิตัล ทีวีที่พุ่งขึ้นอย่างล้นหลาม HDMI (High Definition Multimedia Interface) คือระบบการเชื่อมต่อ
สัญญาณดิจิตัลมาตรฐานใหม่สำหรับใช้เชื่อมต่อทีวี, โปรเจ็กเตอร์, เครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/ดีวีดี, กล่องรับสัญญาณ (set-top box) รวมถึงอุปกรณ์ AV อื่นๆ สมัยก่อน
จำเป็นต้องใช้สายสัญญาณจำนวนหลายเส้นในการต่อเชื่อมทั้งสัญญาณภาพและสัญญาณเสียงเข้ากับทีวี จนมาถึง HDMI ซึ่งเป็นสายต่อเชื่อมสัญญาณที่ใช้สายเพียง
แค่เส้นเดียวในการถ่ายทอดทั้งสัญญาณภาพดิจิตัล วิดีโอ, สัญญาณเสียงดิจิตัล ออดิโอได้มากถึง 8 แชนเนลพร้อมกัน (2-แชนเนล พีซีเอ็ม, มัลติืแชนเนล ดิจิตัล
ออดิโอ หรือมัลติแชนเนล PCM) รวมถึงสัญญาณอื่นที่อยู่ในรูปของสัญญาณข้อมูลต่างๆ ด้วย
กระแสข้อมูลสัญญาณดิจิตัล วิดีโอที่วิ่งผ่าน HDMI จะสามารถใช้งานร่วมกับ DVI (Digital Visual Interface)*1 ด้วย ดังนั้น ทีวี หรือมอนิเตอร์ คอมพิวเตอร์บางรุ่น
ที่มีขั้วต่ออินพุต DVI ก็สามารถต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ AV ที่ใช้ขั้วต่อสัญญาณ HDMI ได้ผ่านทางอะแด๊ปเตอร์ HDMI-to-DVI แต่ก็เป็นไปได้ที่บางเครื่องอาจจะใช้
ไม่ได้ ซึ่งผลก็คือจะไม่มีภาพออกไปปรากฏที่จอ
เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้มีวงจร HDCP (High-banwidth Digital Content Protection)*2 ดังนั้น เฉพาะอุปกรณ์ AV ที่มาต่อเชื่อมที่มีวงจร HDCP เท่านั้นที่จะสามารถ
ถ่ายทอดสัญญาณภาพซึ่งกันและกันได้
รูปแบบของระบบเสียงที่รองรับ
* Linear PCM 2 ch. (32-192kHz, 16/20/24bit)
* Multichannel linear PCM (มากถึง 7.1 ch., 32-192kHz, 16/20/24 bit)
* Bitstream (DSD, Dolby Digital Plus, Dolby TrueHD, DTS, DTS-HD High Resolution Audio, DTS-HD Master Audio)
เกี่ยวกับการป้องกันการก๊อปปี้
เอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้รองรับมาตรฐานของเทคโนโลยี่การป้องกันการก๊อปปี้สัญญาณดิจิตัล วิดีโอที่ชื่อว่า HDCP (High-banwidth Digital Content Protection)*2 ซึ่ง
ก็หมายความว่า อุปกรณ์ AV ตัวอื่นที่จะนำมาใช้ต่อเชื่อมกับเอวี รีซีฟเวอร์ตัวนี้จะต้องรองรับ HDCP ด้วย
*1 DVI (Digital Visual Interface): มาตรฐานของระบบเชื่อมต่อของจอภาพดิจิตัลที่ตั้งขึ้นโดย DDWG*3
*2 HDCP (High-bandwith Digital Content Protection): เทคโนโลยี่การเข้ารหัสเพื่อป้องกันการก๊อปปี้สัญญาณภาพวิดีโอ สำหรับ HDMI/DVI พัฒนาโดยบริษัท
Intel ซึ่งอุปกรณ์ที่จะนำมาต่อเชื่อมเพื่อแสดงภาพวิดีโอผ่านระบบเชื่อมต่อ HDMI จะต้องมี HDCP ทุกตัว
*3 DDWG (Digital Display Working Group): นำโดย Intel, Compaq, Fujitsu, Hewlett Packard, IBM, NEC และ Silicon Image ช่วยกันระดมความต้องการ
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดสเปคฯ เพื่อออกแบบมาตรฐานการเชื่อมต่อสัญญาณดิจิตัลสำหรับ PC และจอภาพดิจิตัล
Note
* กระแสข้อมูลสัญญาณวิดีโอของ HDMI จะเข้ากันได้กับ DVI (Digital Visual Interface) ดังนั้น ทีวีกับจอภาพที่มีขั้วต่ออินพุต DVI สามารถต่อเชื่อมกันได้โดย
อาศัยสายอะแด๊ปเตอร์ HDMI-to-DVI เป็นตัวเชื่อม (หมายเหตุ: การเชื่อมต่อด้วย DVI จะส่งผ่านเฉพาะสัญญาณวิดีโอเท่านั้น ดังนั้น คุณต้องทำการต่อเชื่อม
สัญญาณออดิโอแยกออกมาอีกชุดหนึ่งด้วย) อย่างไรก็ดี ความเสถียรในการทำงานของการใช้ตัวอะแด๊ปเตอร์อาจจะไม่คงที่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาณวิดีโอ
จาก PC จะไม่สามารถส่งผ่านได้
* สัญญาณออดิโอทางช่อง HDMI (ค่าแซมปลิ้งเรต, อัตราบิตเล้นจ์, ฯลฯ) อาจถูกจำกัดโดยอุปกรณ์ที่มาต่อเชื่อมด้วย ถ้าคุณภาพของภาพออกมาไม่ดี หรือไม่มี
เสียงออกมาจากอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมผ่าน HDMI ให้ตรวจสอบการปรับตั้ง ตรวจสอบรายละเอียดการต่อเชื่อมอุปกรณ์จากคู่มือของอุปกรณ์นั้นๆ
61
Using an RIHD-compatible TV, Player, หรือ Recorder
RIHD ย่อมาจากคำว่า Remote Interactive over HDMI ซึ่งเป็นชื่อของระบบฟังท์ชั่นควบคุมการสั่งงานที่พบอยู่ในอุปกรณ์ของ Onkyo ตัวเอวี รีซีฟเวอร์สามารถ
รองรับการใช้งานกับฟังท์ชั่น CEC (Consumer Electronics Control) ได้ ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการสั่งงานระบบผ่านทางเครือข่าย HDMI ได้และถือว่าเป็นส่วน
หนึ่งของมาตรฐาน HDMI ด้วย CEC จะช่วยทำให้การควบคุมสั่งงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในซิสเต็มสามารถกระทำได้ อย่างไรก็ดี การสั่งงานอุปกรณ์อื่นที่ไม่รองรับ
RIHD อาจจะไม่สามารถทำได้
62
วิธีต่อเชื่อมและปรับตั้ง 3 ยืนยันการปรับตั้ง
1 ยืนยันการเชื่อมต่อและการปรับตั้ง 1. กดปุ่มเปิดเครื่องอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่อเชื่อมอยู่ด้วยกันทั้งหมด
1. ต่อเชื่อมช่อง HDMI OUT ของตัวเครื่องเล่น/บันทึกเข้ากับช่อง 2. กดปุ่มปิดทีวี เพื่อตรวจเช็คให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่อเชื่อมอยู่
อินพุต HDMI ของตัวทีวี กับทีวีในเครือข่ายเดียวกันถูกโยงเข้าสู่โหมด “Off” โดยอัตโนมัติ
3. กดปุ่มเปิดเครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/ดีวีดี
Blu-ray Disc/DVD player, etc.
4. เริ่มต้นเล่นเครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/ดีวีดี และยืนยันสิ่งที่
เกิดขึ้นต่อไปนี้:
HDMI * เอวี รีซีฟเวอร์ถูกเปิด “On” ขึ้นมาโดยอันโนมัติ และอินพุต
connection ที่ต่อเชื่อมอยู่กับเครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/ดีวีดีถูกเลือกขึ้นมา
* ทีวีถูกเปิด “On” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และอินพุตที่ต่อเชื่อมกับ
AV receiver เอวีรีซีฟเวอร์ถูกเลือกขึ้นมา
5. ปฏิบัติตามขั้นตอนการสั่งงานของทีวีโดยเลือกไปที่หัวข้อ
DIGITAL AUDIO HDMI “Use the TV speakers” จากหัวข้อเมนูของทีวี และยืนยันว่า
connection connection สัญญาณเสียงไปออกที่ลำโพงของทีวี ไม่ใช่ไปออกที่ชุดลำโพง
(OPTICAL) ที่ต่อเชื่อมอยู่กับเอวี รีซีฟเวอร์
6. เลือก “Use the speakers connected from the AV receiver”
TV, projector, etc. จากเมนูของทีวี และยืนยันว่าสัญญาณเสียงไปออกที่ชุดลำโพงที่ต่อ
เชื่อมอยู่กับเอวี รีซีฟเวอร์ ไม่ใช่ลำโพงของตัวทีวี
2. ต่อเชื่อมสัญญาณเสียงขาออกจากทีวีไปที่ช่อง OPTICAL IN 2 ของ
เอวี รีซีฟเวอร์โดยใช้สายอ๊อปติคัล ดิจิตัล
Note
Note
* ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนสั่งงานข้างต้นเมื่อคุณเริ่มใช้งานตัวเอวี รีซีฟเวอร์
ครั้งแรกในสถานะการณ์เหล่านี้ - เมื่อการปรับตั้งสำหรับอุปกรณ์แต่ละ
* เมื่อฟังท์ชั่น Audio Return Channel (ARC) ถูกใช้กับทีวีสำหรับ
ชิ้นถูกเปลี่ยนแปลงไป หรือเมื่อปุ่มเมนพาวเวอร์ของอุปกรณ์แต่ละชิ้น
HDMI เวอร์ชั่น 1.4 จะไม่สามารถต่อเชื่อมแบบนี้ได้ ( 42)
ถูกปิด (Off) หรือเมื่อสายไฟเอซีถูกถอดออก หรือเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ
3. ต่อเชื่อมช่องเอ๊าต์พุต HDMI ของเครื่องเล่นบลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่น
ดีวีดี ไปที่ช่อง HDMI IN 1 ของตัวเอวี รีซีฟเวอร์
Note 4 การสั่งงานด้วยรีโมท คอนโทรล
* เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องกำหนดช่องอินพุต HDMI เมื่อต่อเชื่อม สำหรับปุ่มที่สามารถสั่งงานได้ ( 54)
เครื่องเล่น/บันทึก บลู-เรย์ฯ/เครื่องเล่น/บันทึก ดีวีดี เข้ากับช่อง
อินพุตอื่น ( 35) ในขณะเดียวกันห้ามกำหนดอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อม Note
อยู่ที่ช่อง HDMI IN เข้ากับช่องอินพุต TV/CD และไม่รับรองผล * สัญญาณเสียงของ DVD-Audio หรือ Super Audio CD (SACD)
การทำงานของฟังท์ชั่น CEC (Consumer Electronic Control) อาจไม่ถูกส่งออกมาทางลำโพงของทีวี คุณจะสามารถส่งสัญญาณ
เสียงออกจากลำโพงของทีวีได้ด้วยการปรับตั้ง audio output ของ
2 หัวข้อเมนูย่อยแต่ละข้อในเมนู “HDMI Setup” จะถูกเปลี่ยนไปดังนี้: เครื่องเล่นดีวีดีไปที่ 2ch PCM (แต่ก็อาจจะทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับ
* HDMI Control (RIHD): On รุ่นของเครื่องเล่นด้วย)
* Audio Return Ch (ARC): Auto * แม้ว่าคุณจะปรับตั้งเอ๊าต์พุตของสัญญาณเสียงไปออกที่ลำโพงของ
* Power Control: On ทีวี แต่สัญญาณออดิโอก็อาจจะเล็ดลอดไปออกที่ลำโพงของเอวี
* TV Control: On รีซีฟเวอร์ได้เมื่อคุณปรับตั้งระดับเสียง หรือปรับเปลี่ยนอินพุตของ
ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ ถ้าต้องการให้สัญญาณเสียงไปออกที่ลำโพงของ
ดูรายละเอียดการปรับตั้งแต่ละแบบได้ที่หน้า ( 42) ทีวีอย่างเดียว ให้ทำการปรับตั้งที่ตัวทีวีใหม่
* อย่าต่อเชื่อมสาย RI เมื่อทำการเชื่อมต่อกับระบบ RI และอุปกรณ์ที่
รองรับการควบคุมสัญญาณออดิโอผ่าน RI
* เมื่อคุณทำการเลือกอินพุตใดๆ ที่นอกเหนือไปจาก HDMI ในขณะที่
ตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกต่อเชื่อมเป็นอินพุตของตัวทีวี อินพุต ซีเล็กเตอร์
บนตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะถูกสวิทช์ไปที่ตำแหน่ง “TV/CD”
* ตัวเอวี รีซีฟเวอร์จะเปิด “On” ตัวเองขึ้นมาอัตโนมัติร่วมไปกับการกำหนด
ที่จำเป็น แม้ว่าตัวเอวี รีซีฟเวอร์ถูกต่อเชื่อมอยู่กับทีวี หรือเครื่องเล่น/บันทึก
ที่รองรับระบบ RIHD มันก็จะไม่เปิด “On” ขึ้นมาถ้าไม่จำเป็น มันจะไม่เปิด
“On” ขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อทีวีถูกปรับตั้งให้ปล่อยสัญญาณเสียงจากทีวี
* ฟังท์ชั่นที่ลิ้งค์กับเอวี รีซีฟเวอร์อาจไม่ทำงาน ขึ้นอยู่กับรุ่น ในกรณีนี้ ให้ทำ
การควบคุมสั่งงานที่ตัวเอวี รีซีฟเวอร์โดยตรง
63
Sales & Product Planning Div. : 2-1, Nisshin-cho, Neyagawa-shi, OSAKA 572-8540, JAPAN
Tel: 072-831-8023 Fax: 072-831-8163
Y1002-1
SN 29400388
(C) Copyright 2010 ONKYO CORPORATION Japan. All rights reserved.
* 2 9 4 0 0 3 8 8 *