Professional Documents
Culture Documents
36 กลยุทธ์
36 กลยุทธ์
กลยุทธ์ที่ 1 ปิ ดฟ้าข้ามทะเล
กวนอูตด
ิ อยูใ่ นวงล้อม
กลยุทธ์ที่ 2 ล้อมเว่ยช่วยจ้าว
เล่าปี่ ล ้อมซุนหวน
่ ยจ้าว กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 2 ล้อมเว่ยชว ี้ ค ่ ข ้าศึกรวมศูนย์กําลังพลไว ้ ควรจะใช ้กลอุบายดึงแยก
ี วามหมายว่า เมือ
ข ้าศึกออกไป ทําให ้กําลังพลกระจัดกระจาย ห่วงหน ้าพะวงหลัง ครัน
้ แล ้วจึงเข ้าโจมตี นีก ื “ศัตรูรวมมิสู ้ศัตรูแยก”
้ ็คอ
ั สงครามในสมัยโบราณ ขนานนามยุทธศาสตร์การส่งทหารเข ้าบุกข ้าศึกก่อนเป็ น “ศัตรูแจ ้ง” ส่วน
และตําราพิชย
ยุทธศาสตร์กําราบข ้าศึกทีหลังเป็ น “ศัตรูมด
ื ” ภายในสภาพการณ์ทแ
ี่ น่นอน การบุกข ้าศึกทีหลังได ้เปรียบกว่าการส่ง
ี้ มายถึงการใช ้ศิลปะการต่อสู ้ทางการทหารทีเ่ รียกว่า “ถ ้ามาหลายก็ให ้แยก” “ถ ้าบุกก็
ทหารเข ้าบุกก่อน กลยุทธ์นห
ให ้ถอย” “การส่งทหารเข ้าบุกก่อนมิสู ้ตีโต ้ตอบทีหลัง” นีเ้ ป็ นกลยุทธ์ท ี่ “เลีย
่ งแน่นตีกลวง เลีย
่ งแข็งตีออ
่ น เลืย
่ งที่
สงบตีทป
ี่ ั่ นป่ วน เลีย
่ งทีฮ ึ เหิมตีทย
่ ก ี่ อ
่ ท ้อ” เพือ ้ ้าศึกในภายหลังอย่างหนึง่ ในตําราพิสงั
่ ขับข ้าศึกและเข ้าบดขยีข
สงครามซุนวู บทว่าด ้วย “จริงลวง” ได ้เขียนไว ้ว่า “เรารวมเป็ นหนึง่ ข ้าศึกแยกเป็ นสิบ เราก็มากข ้าศึกก็น ้อย”
ี้ งึ สรุปว่า “อย่าปะทะกับข ้าศึกซึง่ หน ้า ควรใช ้ยุทธวิธวี กวนทีเ่ ป็ นประโยชน์แก่ฝ่ายตน แบ่งแยกกําลังของ
กลยุทธ์นจ
ิ เสีย”
ข ้าศึกให ้กระจายเป็ นหลายส่วน แล ้วจึงพิชต
กลยุทธ์ที่ 3 ยืมดาบฆ่าคน
ม ้าเท ้งแห่งเสเหลียง
อ ้วนเสีย้ วแตกทัพ
กลยุทธ์ที่ 5 ตีชิงตายไฟ
ปล่อยนํ้ าท่วมค่ายอิกม
๋ิ
่ เสย
กลยุทธ์ท ี่ 6 สง ี งบุรพาฝ่าตีประจิม กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า ตามคําอธิบายของ “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ปั่ นป่ วน” คําว่า
“ดุจจมในปลัก” ก็คอ
ื ตกอยูใ่ นภาวะทีร่ วมตัวอยูใ่ นทีเ่ ดียวกัน แต่ขยับตัวหรือกระจายแนวออกต่อตีมไิ ด ้ มีอน
ั ตรายที่
จะพังพินาศได ้ทุกเวลา ประดุจฝูงสัตว์ทข
ี่ าดหัวหน ้า มิมก
ี ารบัญชาทีถ ู ต ้อง ก็จักต ้องพ่ายแพ ้ไม่ช ้าก็เร็ว หรืออีกใน
่ ก
หนึง่ ในระหว่างสงครามาหรือการสัประยุทธ์ใดๆ ก็ด ี เมือ
่ การบัญชาการของข ้าศึกสับสนอลหม่าน มิอาจวินจ
ิ ฉั ยหรือ
ป้ องกันได ้อย่างถูกต ้องทันท่วงที จนเกิดเหตุอน
ั ไม่คาดฝั นขึน
้ พึงฉวยโอกาสทีข
่ ้าศึกวุน
่ วายไร ้การควบคุม ทําลาย
เสีย ทีว่ า่ “ส่งเสียงบูรพาฝ่ าตีประจิม” ยังหมายถึงกลอุบายทีเ่ ห็นอยูท
่ างตะวันออกหยกๆ แต่กลับวกไปอยูท
่ าง
ตะวันตก ส่งเสียงทางนีแ
้ ต่ตท
ี างโน ้น ทําทีถอยแต่กลับรุก ทําทีรก
ุ แต่กลับถอย ลวงล่อข ้าศึกอย่างแนบเนียน ทําให ้
ิ เอาชัยแก่ข ้าศึกอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ข ้าศึกเกิดความเข ้าใจผิด แล ้วฉวยโอกาสเข ้าพิชต ี้ อ ั สงคราม
ี ยูใ่ นตําราพิชย
หลายเล่มด ้วยกัน เช่น “ซุนจือ ว่าด ้วยภูมป
ิ ระเทศ” “ยุทธ์วธิ รี ้อยแปด ว่าด ้วยสงครามเสียง” “ไหวหนานจือ
่ การฝึ ก
ยุทธวิธ”ี เป็ นต ้น ในเล่มหลังนีก
้ ล่าวว่า “ดังนัน ี ห่งการใช ้ทหาร แสดงให ้เห็นว่าอ่อนแต่ปะทะด ้วยแข็ง
้ มรรควิธแ
แสดงให ้เห็นว่าเปราะแต่ปะทะด ้วยแกร่ง เมือ
่ จะรวบ พึงกระจาย เมือ
่ จักไปประจิม ควรทําทีไปบูรพา” หรือ “คัมภีร ์
ทั่วไป ว่าด ้วยการศึกหลายเลขหก” ของตู ้อิว้ ก็กล่าวไว ้ว่า “ส่งเสียงว่าตีทางบูรพา แต่ทแ
ี่ ท ้ตีทางประจิม”
ี้ รุปว่า “ทีว่ า่ ส่งเสียงบูรพาฝ่ าตีประจิม ก็คอ
กลยุทธ์นส ื โดยภายนอก โดยผิวเผิน ทําให ้ดูเสมือนหนึง่ ว่าจะบุกทางนี้
อย่างจริงจัง แต่ทแ ิ เอาชัยบนความหลงผิดนัน
ี่ ท ้แล ้วกลับบุกอีกด ้านหนึง่ ทําให ้ข ้าศึกหลงผิด แล ้วพิชต ้ ”
กลยุทธ์ที่ 7 มีในไม่มี
อุบายเมืองร ้าง
จิวยีแ
่ กล ้งยกทัพบุกเสฉวน
กลยุทธ์ที่ 9 ดูไฟชายฝั่ง
ประหารซัวมอเตียวอุน
๋
กลยุทธ์ที่ 10 ซ่อนดาบบนรอยยิม้
เผาทัพแฮหัวตุ ้น
่ นดาบบนรอยยิม
กลยุทธ์ท ี่ 10 ซอ ้ กลยุทธ์นม
ี้ ค ่ ว่าเรามิได ้เคลือ
ี วามหมายว่า จะต ้องทําให ้ข ้าศึกเชือ ่ นไหวอะไร
เลย จึงสงบไม่เคลือ
่ นเช่นกัน ทัง้ เกิดความคิดมึนชาขึน
้ แต่เรากลับดําเนินการตระเตรียมเป็ นการลับ รอคอยโอกาส
เพือ
่ ทีจ
่ ะออกปฏิบต
ั ก
ิ าร โดยฉับพลันทันที แต่ต ้องระวังมิให ้ข ้าศึกล่วงรู ้ก่อน อันจะทําให ้สภาพการณ์เกิด
เปลีย
่ นแปลงไป
“แข็งในอ่อนนอก” คือภายนอกนัน
้ ดูละมุนละไม แต่ภายในนัน
้ เต็มไปด ้วยความแข็งแกร่ง “ซ่อนดาบในรอยยิม
้ ”
ความเดิมหมายถึงโดยผิวเผินก็ออ
่ นโยน แต่ภายในนัน ่ นํ ามาใช ้ ก็คอ
้ มากด ้วยเล่ห ์ เมือ ื กลยุทธ์ท ี่ นอกอย่างในอย่าง
แจ ้งอย่างลับอย่าง ภายนอกแสดงความอ่อนละมุน แต่ภายในแฝงไว ้ด ้วยการเอาเป็ นเอาตายอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ี้ ี
อยูใ่ น “จดหมายเหตุราชวงศ์ถงั เก่า ประวัตห
ิ ลีอ ี้ ”ู่ ซึง่ กล่าวว่า “ภายนอกของอีฝ
่ ฝ ้ นอบน
ู่ ้อยถ่อมตน พบใครใบหน ้าก็
ยิม
้ ย่องผ่องใส แต่เป็ นคนทีเ่ ห็นแก่ตวั เชือดคอคนได ้ในทางลับ ต ้องการได ้อํานาจ จัดให ้ผู ้อืน
่ ศิโรราบด ้วยตน หาก
ไม่พงึ พอใจใคร ก็จักทําลายเสียโดยพลัน ดังนัน
้ คนจึงโจษจันกันว่า อีฝ
้ มี
ู่ ดาบเป็ นรอยยิม
้ ”
ี้ รุปว่า “พยายามทําให ้ฝ่ ายข ้าศึกเข ้าใจว่าฝ่ ายเรา มิได ้มีการตระเตรียมแต่อย่างใดเลย จึงสูญเสียความ
กลยุทธ์นส
ระมัดระวัง แต่ฝ่ายเรากลับวางแผนอย่างลับๆ เมือ ิ เอาชัยในทันที แต่
่ ตระเตรียมพร ้อมแล ้วก็ให ้รวบหัวรวบหางพิชต
ไม่ควรจะให ้ข ้าศึกรู ้ตัวก่อนเป็ นอันขาด อันอาจจะก่อให ้เกิดอุปสรรค์ทไี่ ม่จําเป็ นขึน
้ ทีว่ า่ “ซ่อนดาบในยิม
้ ” ก็คอ
ื
“ปากหวานใจคด” ใบหน ้านัน
้ ยิม
้ แย ้มแจ่มใส แต่ในใจแฝงไว ้ด ้วยความเหีย
้ มเกรียมทีจ
่ ะเอาชีวต
ิ กัน”
กลยุทธ์ที่ 11 หลี่ตายแทนถาว
ออกรบตีเมือง
กลยุทธ์ท ี่ 11 หลีต
่ ายแทนถาว กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ การพัฒนาของสถานการณ์มเิ ป็ นผลดีแก่ตน จัก
ต ้องเกิดความเสียหายอย่างหลียกเลีย
่ งไม่พน
ั เพือ
่ ทีจ
่ ะแปรความเสียเปรียบเป็ นความได ้เปรียบ ก็จะต ้องยอมเสีย
่ ประโยชน์แก่ “สว่าง” ซึง่ ก็หมายความว่าจําต ้องเสียสละส่วนหนึง่ เสียค่าตอบแทนน ้อย เพือ
“มืด” เพือ ่ แลกกับชัย
่ ายแทนถาว” ความหมายเดิมเป็ นการเปรียบเทียบความรักใคร่ชว่ ยเลือกกับระหว่างพีน
ชนะทั่วทุกด ้าน “หลีต ่ ้อง แต่
่ ใช ้ในการทหารหรือในกรณีอน
เพือ ื่ ๆ ก็เปรียบเทียบเป็ นการทดแทนซึง่ กันและกัน อันเป็ นกลอุบายทีใ่ ห ้ ก. เข ้า
แทนที่ ข. หรือให ้ ข. แทนที่ ก. อย่างหนึง่ ทีว่ า่ “เสียกําเอากอบ” หรือ “เสียบ่าวเอานาย” ก็เป็ นกลอุบายในทํานอง
นี้ คําๆ นีเ้ ดิมมาจากกวีนพ ่ “ไก่ขน
ิ นธ์บนหนึง่ ชือ ั ” ใน “ชุมนุมกวีน
่ พ
ิ นธ์กเู่ ล่อฝู่ ” ความหมายว่า “ต ้นถาวเกิดทีป
่ ากบ่อ
ต ้นหลีโ่ ตเคียงมาก หนอนบ่อนไชต ้นถาวหลีต ่ ้อยไฉนไยจึงลืม?”
่ ายแทนถาว ต ้นไม ้ยังตายแทนกัน พีน
ี้ รุปว่า “ในขณะที่ 2 ฝ่ ายประจันหน ้ากันอยู่ ไม่ฝ่ายใดฝ่ ายหนึง่ จะต ้องประสบความสูญเสีย จักไม่
กลยุทธ์นส
บาดเจ็บล ้มตายเลยหาได ้ไม่ ในขณะทีก
่ ําลังของทัง้ สองฝ่ ายทัดเทียมกัน ใครจะอยูใ่ ครจะไปยังมิอาจรู ้ได ้ ก็ควรจัก
่ แลกมาซึง่ ผลประโยชน์ใหญ่ทส
ยอมเสียคาตอบแทนไปบ ้างแต่น ้อย เพือ ี่ ด
ุ จึงถูก”
กลยุทธ์ที่ 12 จูงแพะติดมือ
โจโฉโจมตีเมืองลําหยง
กลยุทธ์ที่ 13 ตีหญ้าให้งูตื่น
ขงเบ ้งวางแผน
กลยุทธ์ท ี่ 13 ตีหญ้าให้งต
ู น
ื่ กลยุทธ์นม
ี้ ค ่ มีสงิ่ ใดพึงสงสัย ควรจังส่งคนสอดแนมให ้รู ้ชัด กุม
ี วามหมายว่า เมือ
สภาพข ้าศึกได ้แล ้ว จึงเคลือ
่ น นีเ้ รียกว่า “สงสัยพึงแจ ้ง สังเกตจึงเคลือ
่ น” ใน “คัมภีรอ ี้ งิ ซํ้า” ได ้อธิบายไว ้ว่า “ใช ้
์ จ
่ ละเอียดแล ้ว จึงเข ้าใจสิง่ นัน
มรรควิธเี ดิมกลับไปมา 7 วัน เมือ ้ ได ้” ความหมายของคํานีก ื ต่อสิง่ ใดก็ตามจังต ้อง
้ ็คอ
สังเกตซํ้าแล ้วซํ้าอีก จึงจะสามารถจําแนกแยกแยะมันได ้ถูก ทีว่ า่ “ซํา้ ซาก คืออุบายรู ้มืด” นัน ่ นํ ามาใช ้ใน
้ เมือ
การทหาร หมายถึงใช ้วิธก ี ําคัญในการเข ้าใจสภาพข ้าศึก ค ้นพบศัตรูท ี่
ี ารสอดแนมหลายครัง้ หลายหน อันเป็ นวิธส
แฝงเร ้นอยู่ ความหมายของ “ตีหญ ้าให ้งูตน
ื้ ” ก็คอ
ื แม ้เราจะตีหญ ้า แต่งท
ู ซ ่ นอยูใ่ นหญ ้าก็ตน
ี่ อ ื่ ตกใจ นีเ้ ป็ นกลอุบายที่
ใช ้การสอดแนม แจ ้งชัดในสภาพข ้าศึกทีเ่ ราโอบล ้อมอยู่ แล ้วตียังจุดหนึง่ ซึง่ จะกระเทือนไปทัง้ แนว หลักจากนัน
้ จึง
ทําลายข ้าศึกให ้แหลกลาญไปทีละส่วนอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ ั แจ ้งแก่เรา เราไม่ควรจะปฏิตก
่ สภาพของข ้าศึกยังไม่ชด ิ ารอย่างลวกๆ จะต ้องหาทางสืบ
ทราบสภาพของข ้าศึกให ้ถ่องแท ้ ครัง้ เมือ
่ ทราบเจตนาของฝ่ ายตรงข ้ามแล ้ว จึงออกโจมตี เยีย
่ งเดียวกับงูทซ ่ นอยู่
ี่ อ
ในหญ ้า ควรจะใช ้ไม่ตพ
ี งหญ ้าไปรอบๆ เพือ
่ ให ้งูปรากฏให ้เห็น แล ้วจึงจับเอาในภายหลัง ไม่จําเป็ นต ้องบุกเข ้าไปจับ
จนถึงรังงูให ้เปลืองแรง
กลยุทธ์ที่ 14 ยืมซากคืนชีพ
มหาอุปราชโจโฉ
ี กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 14 ยืมซากคืนชพ ี้ ค
ี วามหมายว่า ผู ้ทีม
่ ค ้ จะใช ้อย่างผลีผลาม
ี วามสามารถและมีบทบาทนัน
มิได ้ ส่วนผู ้ทีไ่ ร ้ความสามารถ ก็มักจะมาของความช่วยเหลือจากเรา การใช ้ผู ้ทีไ่ ร ้ความสามารถ มิใช ้เพราะว่าเรา
ต ้องการจะใช ้เขา หากแต่เพราะเขาต ้องการพึง่ เรา คําว่า “เด็กไร ้เดียงสา” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ไร ้เดียงสา” “ยืม
ซากศพคืนชีพ” ความหมายเดิมเปรียบกับของทีต ้ มาใหม่โดยใช ้อีกรูปแบบหนึง่ แต่เมือ
่ ายแล ้ว แต่ได ้ปรากฏตัวขึน ่
ใช ้ในสงครามหรือในการต่อสู ้อืน
่ ใด ก็หมายถึงกลยุทธ์การใช ้พลังทีสามารถจะใช ้ได ้ทัง้ ปวงมาบรรลุซงึ่ เจตนารมณ์
ของ เราอย่างหนึง่ ในประวัตศ
ิ าสตร์แต่กาลก่อน ในระหว่างการผลัดเปลีย
่ นแผ่นดิน จักมีผู ้แกล ้วกล ้าตัง้ ตัวเป็ นใหญ่
้ มามากมาย ซึง่ มักจะแอบอ ้างพระนามของกษั ตริยแ
ขึน ์ ละราชทายาทีส
่ ญ
ู ชาติเป็ นเครือ
่ งมือ ป่ าวร ้องชักชวนให ้กู ้ชาติ
แล ้วได ้ชาติไปครองในภายหลัง นีก ื การใช ้กลยุทธ์ข ้างต ้น การใช ้กําลังสนับสนุนผู ้อืน
้ ็คอ ่ เข ้าโจมตีหรือป้ องกันแทน
เขาโดยทีม
่ เี จตนาจะเข ้า ควบคุมผู ้นัน
้ ก็นับอยูใ่ นกลยุทธ์นเี้ ช่นเดียวกัน
กลยุทธ์นส ่ “ยืมซากคืนชีพ หมายถึงใช ้สิง่ ทีใ่ ช ้ไม่ได ้แล ้วในทางเป็ นจริง หรือฉวยโอกาสทุกอย่างเท่าทีจ
ี้ รุปได้วา ่ ะ
สามารถจักหยิบฉวยได ้ ให ้เป็ นประโยชน์ เพือ
่ บรรลุจด
ุ มุง่ หมายบางประการของตน ให ้รอดพ ้นจากความหายนะ
เพือ
่ ทีจ
่ ะได ้ยืนผงาดขึน
้ มาใหม่ในวันหน ้า หรือไม่วน
ั ใดก็วน
ั หนึง่
กลยุทธ์ที่ 15 ล่อเสื อออกจากถํ้า
สุมาอี้
ื ออกจากถํา้ กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 15 ล่อเสอ ี้ ค
ี วามหมายว่า จะต ้องอาศัยการเปลีย
่ นแปลงของฤดูกาลอันเป็ น
เงือนไขตามธรรมชาติ เช่น หนาว ร ้อน ฝน แจ ้ง เป็ นต ้น ให ้เป็ นประโยชน์อย่างเต็มที่ เพือ
่ สร ้างและเพิม
่ ความ
ยากลําบากให ้กับข ้าศึก ในขณะเดียวกัน ก็ใช ้ภาพลวงทีเ่ ราจงใจสร ้างขึน
้ ล่อให ้ข ้าศึกออกจากแนวป้ องกัน หลังจาก
นัน
้ ก็โจมตีหรือทําลายเสีย “ไปยากก็ลวงให ้มา” คํานีม
่ าจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ยาก” ความว่า “ยาก คือยากลําบาก
อันตรายอยู่ ณ เบือ
้ งหน ้า เห็นภัยก็หยุด นับได ้ว่ารู ้” “มา” มีความหมายว่าเคลือ
่ นย ้ายข ้าศึกหรือให ้ข ้าศึกเคลือ
่ นที่
ในขณะทีส
่ องทัพประจันหน ้ากัน จักรุกเข ้าตีข ้าศึกทีม
่ ก
ี ารเตรียมพร ้อมก็ให ้ลําบากนัก การทีจ
่ ะเข ้าตีจด
ุ แข็งของ
ข ้าศึก มิใช ้แต่จะชนะได ้โดยยาก ซํ้ายังจะเป็ นอันตรายแก่ตนอีกด ้วย “ล่าเสือออกจากถํ้า” ก็คอ
ื กลอุบายทีล
่ อ
่ หลอก
ข ้าศึกให ้ออกมาจากทีต
่ งั ้ อันแข็งแกร่ง แล ้วโจมตีทําลายเสียอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เมือ
่ ใคร่ทําลายหรือได ้ตัวข ้าศึกจึงต ้องรอโอกาสทีเ่ หมาะสม ประกอบด ้วยเงือ
่ นไขทาง
ธรรมชาติบวกด ้วยมาตรการทีค
่ นเราสร ้างขึน
้ ถ ้าแม ้นบุม
่ บ่ามเข ้าไปในอาณาเขตของข ้าศึกอย่างพลีพลาม ก็มอ
ิ าจ
เห็นตัวข ้าศึก ซํา้ ยังอาจจะถูกลอบตีในทีล
่ บ ้ การใช ้อุบายล่อให ้ข ้าศึกออกมาจากเขต
ั อีกด ้วย ได ้ไม่เท่าเสีย ดังนัน
ของตนแล ้วบทขยีเ้ สีย จึงควร”
กลยุทธ์ที่ 16 แสร้งปล่อยเพื่อจับ
โจโฉถูกจับ
กลยุทธ์ท ี่ 16 แสร้งปล่อยเพือ
่ จ ับ กลยุทธ์นห ้ จนเกินไปนัก สุนัขก็จักสู ้อย่างจนตรอก
ี้ มายความว่า ถ ้าบีบคัน
ปล่ายข ้าศึกหนี ก็จักทําลายความเหิมเกริมของข ้าศึกได ้ ทว่าต ้องไล่ตามอย่าละ เพือ
่ บัน
่ ทอนกําลังของข ้าศึกให ้กระ
ปลกกะเปลีย
้ ครัน
้ เมือ ้ เรีย
่ สิน ่ วแรงใจก็มค ิ ต่อสู ้ด ้วยแล ้ว จึงจับ อันเป็ นการรบทีไ่ ม่เสียเลือดเนือ
ิ ด ้ อีกทัง้ ทําให ้ข ้าศึก
แตกสลายไปเอง “รอ ฟั งตัว สว่าง” มีอยูใ่ น “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ รอ” “รอ” หมายถึงการรอคอยอย่างอดทน “ฟั งตัว” ก็คอ
ื ไก่
ฟั กไข่จนเป็ นลูกไก่ หมายถึง “ได ้” ส่วน “สว่าง” ก็คอ
ื แสดงสว่าง หมายถึง “ชัยชนะ” ความหมายของกลยุทธ์นท
ี้ งั ้
คําก็คอ ่ สองทัพประจันหน ้ากัน จักต ้องใช ้ความอดทนรอคอย ให ้ใช ้วิธก
ื เมือ ี ารอันแยบยล ให ้ข ้าศึกมาสวามิภก
ั ดิด
์ ้วย
ใจ นีก
้ ็คอ
ื กลอุบายปล่อยป่ านยาวตกปลาตัวโตอย่างหนึง่ กลยุทธ์นม
ี้ อ
ี ยูใ่ น “คัมภีรเ์ หลาจือ
่ บทต ้น” บรรยายไว ้ว่า
“เมือ
่ จักเอา จะต ้องให ้” ในบันทึก “ไท่ผงิ เทียนว๋อ อักษรศาสตร์” ก็มอ
ี ธิบายไว ้ว่า “เมือ
่ จักจับให ้ปล่อย เมือ
่ จักเร็วให ้
ช ้า รอเมือ
่ หย่อนยานจึงตี มิมท
ี ไี่ ม่ชนะ”
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “แสร ้งปล่อยเพือ
่ จับ จุดประสงค์อยูท
่ ี่ “จับ” “ปล่อย” เป็ นวิธก
ี าร “จับ” คือจับทาง “ใจ” ให ้
ยินยอมอ่อนน ้อมทัง้ กายและใจ ผู ้ถูกจับ “ใจ” จักกลายเป็ นข ้าทาสบริวารของอีกฝ่ ายหนึง่ อย่างไม่ลม
ื หูลม
ื ตา จนกว่า
จะเกิดความสํานึกใน “ศักดิศ
์ รี” ของตนเอง กลยุทธ์นี้ จึงเป็ นกลยุทธ์อน ่ ทอนจิตใจสู ้รบและ
ั ชาญฉลาด ในการบัน
ขวัญของข ้าศึก ด ้วยวิธก
ี ารทัง้ แจ ้งและลับอย่างหนึง่ อันได ้ผลเกิดความคาดหมาย นัน
้ แล”
กลยุทธ์ที่ 17 โยนกระเบื้องล่อหยก
สุมาอีเ้ ห็นโคยนต์
้ งล่อหยก กลยุทธ์นม
กลยุทธ์ท ี่ 17 โยนกระเบือ ี วามหมายว่า ใช ้สิง่ ทีค
ี้ ค ่ ล ้ายคลึงกันไปล่อข ้าศึก ให ้ข ้าศึกต ้อง
อุบายพ่ายแพ ้ไป การใช ้กลยุทธ์นี้ กําหนดขึน ั สงครามชือ
้ ตามสภาพรูปธรรมของข ้าศึก ในตําราพิชย ่ “ร ้อยยุทธการ
พิสดาร การรบทีไ่ ด ้ประโยชน์” กล่าวไว ้ว่า “เมือ
่ ประมือกับข ้าศึก ขุนพลฝ่ ายตราข ้ามโง่เง่ามิรู ้พลิกแพลง จักล่อด ้วย
ุ่ ทหารลอบตีได ้ ข ้าศึกจักพ่ายนีค
ประโยชน์ เขาละโมบในประโยชน์ มิรู ้ผลร ้าย ก็ซม ้ อ
ื “ล่อด ้วยประโยชน์” “โยน
กระเบือ
้ งล่อหยก” คํานี้ เดิมมาจากเรือ ่ ฉางเจีย
่ งราวของกวีสมัยราชวงศ์ถัง 2 คน ชือ ้ น และ จ ้าวกู่ กล่าวคือ ฉาง
เจีย ่ าช ้านาน ครัน
้ นนิยชมชอบและยกย่องบทกวีของจ ้างกูม ้ เมือ
่ ทราบว่าจ ้าวกูเ่ ดินทางมาเมืองซูโจว ก็คาดคะเนว่า
คงจะไปเทีย
่ ว ณ วัดหลิงเอีย ้ ฉางเจีย
๋ นสือ ๋ นจึงเขียนบทกวีไว ้ 2 คําบนผนังวัด เมือ
่ จ ้าวกูม
่ าเห็นเข ้า ก็ตอ
่ บทกวีนอ
ี้ ก
ี
2 คํา จึงกลายเป็ นกวีทค
ี่ รบถ ้วนสมบูรณ์และสวยงาม ไพเราะจับใจยิง่ นัก แต่เนือ
่ งจากบทกวีของฉางเจีย
้ นด ้อยกว่า
ของจ ้าวกู่ คนทัง้ หลายจึงเรียกบกวีของฉางเจีย
้ นเป็ นเสมือนหนึง่ “กระเบือ
้ ง” แต่หากแม ้นมิม ี “กระเบือ
้ ง” ทีฉ
่ าง
้ นเอาไปล่อไว ้ ไฉนเลยจะมาซึง่ “หยก” ของจ ้าวกู่ ทีต
เจีย ่ อ
่ “กระเบือ
้ ง” ชของฉางเจี้ ยนจนกลายเป็ นบทกวีม
่ ค
ี า่ ลํ้า
ทีท
่ ก
ุ คนยกให ้”
้ี รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “วิธห
ี ลอกลวงข ้าศึกมีมากมาย ทีแ
่ ยบค่ายทีส
่ ด
ุ มิมใี ดเกิน ความละม ้ายแม ้น” หรือ “ความ
้ ง” หมายถึงสิง่ ทีไ่ ม่มค
เหมือน” ทีเ่ รียกว่า “กระเบือ ี า่ งวด ส่วน “หยก” นัน
้ เป็ นจิดาสูงค่าอันพึงปรารถนาของผู ้คน
ทัง้ หลาย ทีว่ า่ “โยนกระเบือ ื ใช ้สิง่ ของทีม
้ งล่อหยก” ก็คอ ี า่ น ้อยไปล่อสิง่ ของทีม
่ ค ่ ค
ี า่ สูง กระเบือ
้ งกับหยกนัน
้ มอง
ี ว่ นทีค
ผ่านๆก็มส ่ ล ้ายคลึงกันอยู่ นักการทหารผู ้มีความชํานาญในกลศึก ก็สามารถจะใช ้ความ “ละม ้ายแม ้น” ความ
“เหมือน” ความ “คล ้ายคลึง” ของทัง้ สองสิง่ สร ้างความสับสนฉงนใจให ้แก่ข ้าศึก ฉวยโอกาสทีข
่ ้าศึกกําลังวุน
่ วาย
หรือหลงกลจูโ่ จมเอาชัยโดยพลัน”
กลยุทธ์ที่ 18 จับโจรเอาหัวโจก
ลิโป้ ถก
ู จับ
กลยุทธ์ที่ 19 ถอนฟื นใต้กระทะ
กลยุทธ์ที่ 20 กวนนํ้าจับปลา
ขงเบ ้งปลอมหลอกสุมาอี้
กลยุทธ์ที่ 21 จักจัน่ ลอกคราบ
เล่าปี่ ปลูกผักตบตาโจโฉ
กลยุทธ์ท ี่ 21 จ ักจน
่ ั ลอกคราบ กลยุทธ์นม ี วามหวายว่า รักษาไว ้ซึง่ แนวรบเยีย
ี้ ค ่ งเดิม ให ้ดูน่าเกรงขามเหมือนเก่า
ฝ่ ายมิตรก็มส
ิ งสัย ฝ่ ายข ้าศึกมิกล ้าผลีผลาม ครัน
้ แล ้ว จึงถอนตัวอย่างปกปิ ด เคลือ
่ นกําลังหลักให ้หลบเลีย
่ งไป
“เลีย
่ งเพือ
่ สลาย ลวง” คํานีม
้ าจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ลวง” “เลีย
่ ง” ก็คอ
ื หลบหลีก “ลวง” ก็คอ
ื ทําให ้งงงวย นีน
้ ับเป็ นกล
ยุทธ์ถอยทัพอย่างไม่กระโตกกระตาก เพือ
่ เป้ าประสงค์ทก
ี่ ําหนดไว ้ หรือหลีกเลีย
่ งความสูญเสียอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “จักจั่นรอกคราบ เป็ นวิธส
ี ะบัดให ้หลุดพ ้นจากการเผชิญหน ้ากันข ้าศึก ด ้วยการเคลือ
่ นย ้ายหรือ
ถอยทัพ ทีว่ า่ “ลอก” มิใช ้อย่างตืน ี ่ อ แต่ยังคงไว ้ซึง่ รูปโฉมภายนอก ทว่าได ้ถอดเนือ
่ ตระหนก อย่างขวัญหนีดฝ ้ หา
้ แล ้ว หนีแสดงว่าไม่หนี ปกปิ ดข ้าศึก เพือ
ออกไปหมดสิน ่ ให ้หลุดพ ้นจากห ้วงอันตราย วิธก
ี าร “ลอกคราบ” มีหลาย
แบบหลายอย่าง เนือ ื การใช ้เล่หก
้ แท ้ก็คอ ์ ลหลอกลวงข ้าศึก เป็ นพฤติการณ์ทใี่ ช ้การพรางตา ปลอมปนความจริงเอา
ตัวรอดนัน
้ เอง”
กลยุทธ์ที่ 22 ปิ ดประตูจบั โจร
กวนอูตด
ิ อยูใ่ นวงล ้อม
กลยุทธ์ที่ 23 คบไกลตีใกล้
กองทัพ18หัวเมือง
กลยุทธ์ที่ 24 ยืมทางพรางกล
บังทองเข ้าเนินหงส์รว่ ง
กลยุทธ์ที่ 25 ลักขื่อเปลี่ยนเสา
กวนอูรับราชการกับโจโฉ
กลยุทธ์ท ี่ 25 ล ักขือ
่ เปลีย
่ นเสา กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า ต่อกําลังทีร่ ว่ มรบด ้วยข ้าศึกกับเราหรือต่อข ้าศึกจักต ้อง
หาทางเปลีย
่ นแปลงแนว รบฝ่ ายนัน
้ อยูเ่ สมอ ถอดถอนเคลือ
่ ย ้ายกําลังสําคัญของฝ่ ายนัน
้ ไป รอให ้ฝ่ ายนัน
้ อ่อนแอ
ต ้องประสบกับความพ่ายแพ ้จึงฉวยโอกาสแปรกําลังฝ่ ายนัน
้ ให ้กลายมาเป็ นของเรา แล ้วควบคุมกําลังของฝ่ ายนัน
้
ไว ้ใต ้การบัญชา “หยุดซึง่ กงล ้อ” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี่ งิ มิทัน” อันหมายความว่ารถคันหนึง่ นัน
้ สําคัญทีล
่ ้อ ถ ้าหยุดล ้อ
ได ้ก็สามารถบังคับให ้เคลือ
่ นทีไ่ ปตามความประสงค์ของเรา อันเป็ นกลยุทธ์กลืนกําลังของพันธมิตรหรืสลายกําลัง
ของข ้าศึกอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “กลยุทธ์นม ี วามหมาย 2 นัย หนึง่ หมายถึงการหาทางสับเปลีย
ี้ ค ่ นกําลังหลักของพันธมิตร
ชัว่ คราวทีเ่ ป็ นศัตรู โดยเนือ
้ แท ้ เพือ
่ บรรลุวต ้ เสีย ซึง่ ในสมัยศักดินา
ั ถุประสงค์ในการทําลายหรือกลืนกินพันธมิตรนัน
โบราณ มักจะชอบกระทํากันเป็ นนิจ โดยมิได ้คํานึงสัจวาจาหรือศิลธรรมแต่ประการใด อีกนัยหนึง่ หมายถึงเป็ นกล
ยุทธ์ในการโยกย ้ายกําลังหลักของฝ่ ายข ้าศึก โดยใช ้กลลวงต่างๆนานา ทําให ้ข ้าศึกต ้องเปลีย
่ นแนวรบหรือ
เคลือ
่ นย ้ายกําลังไปตามความประสงค์ของเรา ครัง้ แล ้วจึงเข ้าตีจด
ุ อ่อนข ้าศึก เพือ
่ ให ้ได ้รับชัยชนะ ดังนัน
้ ผู ้
บัญชาการทีชาญฉลาดจึงมิใช ้แต่จะสันทัดในการใช ้กําลังพลของฝ่ ายตนเท่านัน
้ หากยังต ้องสันทัดในการ
เคลือ
่ นย ้ายหรือกระจายกําลังของฝ่ ายข ้าศึกด ้วยกลยุทธ์ ให ้เกิดประโยชน์แก่ตนอีกด ้วย”
กลยุทธ์ที่ 26 ชี้ตน้ หม่อนด่าต้นไหว
โจโฉแย่งธนูจากฮ่องเต ้
ี้ น
กลยุทธ์ท ี่ 26 ชต ้ หม่อนด่าต้นไหว กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ ผู ้ทีเ่ ข ้มแข็งกว่าหรือรัฐใหญ่รังแกผู ้ทีอ
่ อ
่ นแอ
หรือรัฐเล็กแล ้ว ก็ควรจะใช ้วิธก
ี ารตักเตือนให ้เกรงกลัว ถ ้าแม ้นเราแสดงความเข ้มแข็งให ้ประจักษ์ ก็จักได ้รับการ
สนับสนุนจากผู ้อ่อนแอ ถ ้าเรากล ้าใช ้ความรุนแรง ก็จักเป็ นทีย ่ งจึง
่ อมรับนับถือแก่ผู ้อ่อนแอ “แกร่งจึงต ้อนรับ เสีย
ยอมสยบ” เดิมาจาก “คัมภีรอ
์ จ ่ งจึงยอมสยบ นีค
ี้ งิ แม ้ทัพ” ความเต็มว่า “แกร่งจึงต ้อนรับ เสีย ้ อ
ื หนทางปกครอง
แผ่นดินราษฎรจึงขึน ้ ้นหม่อนด่าต ้นไหว” ตรงกับสุภาษิตไทยเราคําว่า “ตีววั กระทบคราด”
้ ต่อ” ความหมายของ “ชีต
่ ใช ้ในการสัประยุทธ์ ไม่วา่ จะเป็ นทางการทหารหรืออืน
แต่เมือ ่ ๆ ก็เป็ นกลยุทธ์ทม
ี่ ค
ี วามหมายในทํานองสร ้าง
เกียรติภม
ู ข
ิ องตนขึน
้ ด ้วยวิธ ี “ฆ่าไก่สอนลิง” เพือ
่ ให ้ฝ่ ายอืน
่ ทีอ
่ อ
่ นแอกว่าหรือผู ้อยูใ่ ต ้การบังคับบัญชายอมสยบด ้วย
อย่าง หนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “เพือ ่ ะดําเนินตามแผนการทีไ่ ด ้วางไว ้ จักต ้องใช ้มาตรการเด็ดขาด จึงจะสามารถได ้รับผล
่ ทีจ
้ ใช ้ว่าจะต ้องอาศัยกําลังความรุนแรงเสมอไป อาจดําเนินด ้วยวิธก
ตามทีไ่ ด ้กําหนด แต่ความเด็ดขาดนัน ี ารหนึง่ ใด ที่
ทําให ้ฝ่ ายตรงข ้างตระหนักในเจตนา ยอมสยบแต่โดยดี เพราะจนปั ญญาทีจ
่ ะต่อตีด ้วยเรา นัน
้ เอง”
กลยุทธ์ที่ 27 แสร้าทําบอแต่ไม่บา้
กลยุทธ์ที่ 28 ขึ้นบ้านชักบันได
เผาทัพสุมาอี้
ั ันได กลยุทธ์นม
้ บ้านชกบ
กลยุทธ์ท ี่ 28 ขึน ี้ ค
ี วามหมายว่า จงใจเปิ ดจุดอ่อนให ้ข ้าศึกเห็น สร ้างเงือ
่ นไขและ
ล่อหลอกให ้ข ้าศึกเข ้าตี ครัน
้ แล ้วตัดขาดส่วนหน ้าทีค
่ อยสมทบ และส่วนหลังทีเ่ ป็ นกําลังหนุน บีบให ้ข ้าศึกเข ้าไปใน
ปากถุงทีเ่ ปิ ดอ ้าไว ้รับหรือในวงล ้อมหลุมพรางทีว่ างดัก ไว ้ “เจอพิษ มิควรที”่ มีใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ขบ” เปรียบประดุจ
เคีย
้ วกระดูกหรือเนือ ่ ว รังแต่จะทําให ้ฟั นชํารุดเสียหาย หรือเหมือนดัง่ มักได ้ในสิง่ ทีม
้ เหนีย ิ วรได ้ ย่อมจักนํ ามาซึง่
่ ค
ความวิบต
ั ฉ
ิ ะนัน
้ “ขึน
้ บ ้านชักบันได” มีความหมายอย่างเดียวกันกับ “ข ้ามคลองรือ
้ สะพาน” นีค ื กลยุทธ์ทใี่ ช ้
้ อ
ผลประโยชน์เล็กๆ น ้อยๆ ล่อลอกให ้ข ้าศึกพินาศไปทัง้ กองทัพอย่างหนึง่
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ “ขึน
้ บ ้านชัดบันได” มีความหมายค่อยข ้างกว ้าง หนึง่ ในนัน ื ใช ้ผลประโยชน์เล็กน ้อย ล่อให ้
้ ก็คอ
้ ซึง่ ก็หมายความว่าเมือ
ข ้าศึกเข ้าปิ้ ง แล ้วทําลายเสียให ้สิน ่ ข ้าศึกบุกเข ้าในอาณาเขตของเรา เราจงใจจะเปิ ดทางตัน
ให ้กับเขา เมือ
่ ข ้าศึกหลงกลตกอยูใ่ นวงล ้อม ก็จะตืน
่ ตระหนกเดินไปตามหนทางทีเ่ ราเปิ ดไว ้ให ้ เมือ
่ เราตัดทางรุก
และทางถอย ข ้าศึกก็จนด ้วยเกล ้า ถ ้าไม่ยอมจํานน ก็เหลืออยูแ ่ ําคัญคือ “บัน
่ ต่ทางตายถ่ายเดียว ในกลยุทธ์นี้ ทีส
ได ้” จงใจให ้ข ้าศึกเห็นจุดอ่อนและมุง่ มั่นจะใช ้จุดอ่อนให ้เป็ นประโยชน์แต่ตน นีก
้ ็คอ
ื “บันได” ถ ้าไม่ม ี “บันได ้”
ดังกล่าว กลยุทธ์นก
ี้ ็ยากทีจ
่ ะได ้รับผล”
กลยุทธ์ที่ 29 ต้นไม้ผลิดอก
อ ้องอุน
๋ ยืมมือลิโป้ ฆา่ ตัง๋ โต๊ะ
กลยุทธ์ที่ 30 สลับแขกเป็ นเจ้าบ้าน
กลยุทธ์ที่ 31 กลสาวงาม
กลสาวงาม
กลยุทธ์ที่ 32 กลปิ ดเมือง
กลปิ ดเมือง
กลยุทธ์ที่ 33 กลไส้ศึก
ซัวต๋งซัวโฮสองไส ้ศึกจากวุยก๊ก
้ ก
กลยุทธ์ท ี่ 33 กลไสศ ึ กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ ่ ให ้ฝ่ ายเราเกิดแตกแยก เราก็พงึ ซ ้อน
่ ข ้าศึกสร ้างอุบายเพือ
กลสร ้างแผนลวงให ้ข ้าศึกเกิดร ้าวฉาน ให ้ข ้าศึกระแวงสงสัยซึง่ กันและกัน ทีเ่ ราสามารถใช ้เป็ นประโยชน์ได ้ “มีผู ้
แฝงอยูภ
่ ายใน ไม่เสียหายแก่เรา” มาจาก “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ ช่วย” หมายความว่า เนือ
่ งจากมีการช่วยเหลือมาจากภายใน
ของข ้าศึก จึงเป็ นประโยชน์แก่ฝ่ายเรา เราจึงมีความมั่นใจทีจ ี โบราณซึง่ เคยทํา
่ ะตีข ้าศึกให ้ย่อยยับไป ตู ้มู่ กวีจน
ั สงความซุนจือ” ในสมัยราชวงศ์ถังกล่าวไว ้ว่า “ข ้าศึกส่งไส ้ศึกมาดูเรา เราพึงล่วงรู ้ก่อน
คําอธิบายแก่ “ตําราพิชย
หรือติดสนบนด ้วยเงินหนา กลับมาให ้เราใช ้ หรือแสร ้งทําไม่รู ้ ปล่อยข่าวลวงให ้ตายใจ ดังนี้ ไส ้ศึกของข ้าศึก ก็จงึ
ถูกเราใช ้”
้ี งึ สรุปได้วา
กลยุทธ์นจ ่ “เมือ
่ ฝ่ ายตรงข ้ามีความระแวงสงสัย พึงทําให ้เกิดความระแวงสงสัยเพิม
่ ขึน
้ เป็ นทวีคณ ้
ู ซือ
คนขายตัว หรือใช ้ไส ้ศึกให ้เป็ นประโยชน์แก่เรา ซุนจือ
่ เคยแนะนํ าว่า พึงเอาชนะโดยไม่ต ้องรบ ทีสําคัญคือใช ้
ี างการทูต การใช ้อุบายบวกกับกลยุทธ์ไส ้ศึก ให ้ข ้าศึกแตกร ้าววุน
วิถท ่ วายปั่ นป่ วนภายนีเ้ อง จึงจะชนะได ้โดยง่าย”
กลยุทธ์ที่ 34 กลทุกข์กาย
เฆีย
่ นอุยกาย
กลยุทธ์ที่ 35 กลลูกโซ่
ศึกผาแดง
กลยุทธ์ที่ 36 หนีคือยอดกลยุทธ์
อ ้วนเสีย้ วถอยทัพกลับกิจว๋ิ
กลยุทธ์ท ี่ 36 หนีคอ
ื ยอดกลยุทธ์ กลยุทธ์นม
ี้ ค
ี วามหมายว่า เมือ
่ รบกับข ้าศึก หากข ้าศึกแข็งเราอ่อน อาจจะถอย
ร่นอย่างรวดเร็ว เพือ
่ หลบเลีย
่ งการปะทะเสียก่อน ดังทีม
่ ค
ี ํากล่าวไว ้ใน “คัมภีรอ
์ จ
ี้ งิ แม่ทัพ” ว่า “ถอยหนีมผ
ิ ด
ิ เป็ น
ั แห่งสงคราม” ซึง่ ชีช
วิสย ้ ด
ั ว่า การถอยหนีใ่ นการทําสงครามนัน
้ มิใช ้ความผิดพลาด หากแต่เป็ นเรืองธรรมดาเสีย
สามัญในการบทีม
่ ักจะพบเห็นเสมอ การถอนเช่นนี้ เพือ
่ หลีกเลีย
่ งความเสียหายในยามทีเ่ ราเป็ นฝ่ ายเสียเปรียบ และ
เพือ ั ้ สงครามชือ “ไหว
่ ชิงโอกาสตอบโตภายหลังมิใช่ถอยหนีอย่างพ่ายแพ ้หมดรูป ตีโต ้กลับมิได ้อีก ในตําราพิชย
่ ฝึ กการยุทธทหาร” เคยกล่าวไว ้ว่า “แข็งจึงสู ้ อ่อนก็หนี” ในตําราพิชย
หนานจือ ั สงครามอีกเล่มหนึง่ ชือ
่ “ปิ งฝ่ าหยวน
จีได ้” ก็กล่าวไว ้ว่า “แม ้นหลบแล ้วรักษาไว ้ได ้ ก็พงึ หลบ” ใน “ซุนจือ
่ บทกลยุทธ์” ก็กล่าวไว ้เช่นกันว่า “แข็งพึง
เลีย
่ งเสีย”
ี้ รุปได้วา
กลยุทธ์นส ่ งกับการสู ้รบขัน
่ “ภายใต ้สภาพการณ์ทไี่ ม่เป็ นผลดี จะต ้องหลีกเลีย ้ แตกหักกับข ้าศึก ทางออก
จึงมีอยู่ 3 ทาง ยอมจํานน เจตจาสงบศึก ถอยหนี เมือ
่ เปรียบเทียบกันแล ้ว การยอมจํานนคือการพ่ายแพ ้อย่างถึง
ทีส
่ ด
ุ การขอเจรจาสงบศึกคือการพ่ายแพ ้ครึง่ หนึง่ ถอยหนีกลับอาจจะแปรเปลีย
่ นมาเป็ นชัยชนะได ้ ดัง้ นัน
้ จึงได ้
่ กลยุทธ์นเี้ ป็ น “หนีคอ
เรียกชือ ่ งอย่างมีแผนเป็ นฝ่ ายกระทํา ซึง่ มีเนือ
ื ยอดกลยุทธ์” ถอยหนีพงึ ถอยเลีย ้ หาทีเ่ ป็ นคุณ
มิใช ้แต่หนีอย่างไม่ลม
ื หูลม ่ ทัพอ่อนเผชิญทัพแข็ง มักจะใช ้วิธห
ื ตา เมือ ี นี เพือ
่ กระจายกําลังข ้าศึก เพือ
่ สร ้างโอกาส
่ ย
กลับมาสูช ั ชนะนัน
้ เอง”