Professional Documents
Culture Documents
การเตรียมดิน1
การเตรียมดิน1
�.� คํานํา / �.� วัตถุประสงค์ในการเตรียมดิน / �.� ประโยชน์ในการเตรียมดิน / �.� แนวทางในการปรับปรุงดิน / �.�.� ลักษณะข้อจํากัดของดินเหนียวกับการปลูกพืช / �.�.�
ลักษณะข้อจํากัดของดินทรายกับการปลูกพืช / �.�.� วัสดุปรับปรุงดิน / �.� ขัน� ตอนในการเตรียมดิน / �.�.� การไถครัง� แรก (primary tillage) / �.�.� การไถครัง� ที�สอง
(secondary tillage) / �.� วิธีการและเครือ� งมือในการเตรียมดิน / �.�.� การเตรียมดินครัง� แรกโดยการไถ / �.�.� การเตรียมดินครัง� ที� � โดยการพรวน / �.� บรรณานุกรม
การเตรียมดิน
�.� คํานํา
ดินทีเ� หมาะต่อการเจริญเติบโตของพืชควรจะต้องมีองค์ประกอบของดิน � ส่วน คือ ส่วนทีเ� ป็ นหินแร่หรือ อนินทรียว์ ัตถุอยู่
ประมาณ �� เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ส่วนทีเ� ป็ นอินทรียว์ ัตถุ ซึง� เกิดจากการเน่าเปื� อยผุพงั หรือการสลายตัวของซากพืชและ
สัตว์ ประ มาณ � เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ส่วนทีเ� ป็ นช่องว่างขนาดใหญ่ในดิน ซึง� มีอากาศอยู่ประมาณ �� เปอร์เซ็นต์โดย
ปริมาตร และส่วนทีเ� ป็ นช่องว่างขนาดเล็กในดินซึง� ช่วยเก็บรักษานํา� ประมาณ �� เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ตามทีก� ล่าวไว้แล้ว
ในบทที� � อย่างไรก็ตามดินโดยสภาพธรรมชาติท�ัวๆ ไปจะมีความแตกต่างกันในสัดส่วนขององค์ประกอบข้างต้นทําให้ดนิ แต่
ละแห่งมีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ไม่เท่ากัน ทัง� นีอ� ยู่กับวัตถุตน้ กําเนิดและพัฒนาการของดิน แต่อย่างไรก็
ตามสามารถแบ่งสภาพดินทีเ� กีย� วข้องกับการเตรียมดินให้กับพืช � ด้านด้วยกัน คือ สภาพทางเคมี สภาพทางฟิ สิกส์ และสภาพ
ทางชีวของดิน ดังนั�นโดยความหมายของหลักการเตรียมดิน จึงหมายถึงการปรับปรุ งดินให้สภาพทางฟิ สิกส์ สภาพทางเคมี
และสภาพทางชีวภาพของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเจริญเติบโตของพืชนั� นเอง
�.� วัตถุประสงค์ในการเตรียมดิน
จากข้างต้นดังทีก� ล่าวไว้ว่าการเตรียมดินเป็ นการปรับปรุ งสภาพทางฟิ สิกส์ สภาพทางเคมี และสภาพทางชีวภาพของดินให้
เหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืชนั�น โดยแนวทางของวิธีการปฏิบตั ใิ นการเตรียมแปลงปลูกพืชโดยทั�วไปนั�น ผู้ปฏิบตั คิ วร
กําหนดวัตถุประสงค์ในการดําเนินการแต่ละครั�งไว้ดงั นี�
�) เพือ� กําจัดวัชพืชให้หมดไปจากพืน� ทีป� ลูก ทัง� นีเ� พือ� ลดการแก่งแย่งแข่งขันปั จจัยการผลิตพืชต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ น แสง นํา�
และแร่ธาตุอาหารต่างๆ ระหว่างวัชพืชกับพืชปลูก ทําให้พชื ปลูกสามารถเจริญเติบโตงอกงามได้รวดเร็วขึน� โดยไม่มคี ู่แข่ง
�) เพือ� ปรับปรุ งโครงสร้าง สมบัตทิ างฟิ สิกส์ของดินในทุกๆ ด้านให้ดขี ึน� สมบัตดิ งั กล่าวได้แก่ การมีช่องว่างอากาศในเม็ด
ดินเพิม� ขึน� การเพิม� ความสามารถการเก็บรักษาความชืน� ของดินและการระบายนํา� ของดิน ตลอดถึงการย่อยดินให้แตกมีขนาด
เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ดและการเจริญเติบโตของรากต้นกล้า
�.� ประโยชน์ในการเตรียมดิน
�) ทําให้อนิ ทรียว์ ัตถุเกิดประโยชน์แก่ดนิ ในดินทีเ� ตรียมไว้อย่างดีนั�น พวกอินทรียว์ ัตถุซึง� ไถกลบหรือเพิม� ให้แก่ดนิ หรือให้
ทัง� � อย่างนั�นจะถูกกลบอยู่ภายใต้ผิวดิน วัตถุตา่ งๆ เหล่านั�นรวมกับแร่ธาตุอาหารพืชทีใ� ห้ ทําให้เกิดการเพิม� จุลินทรียใ์ นดิน
ทําให้ดนิ มีความสามารถในการอุ้มนํา� ไว้ดขี นึ� และยังปรับปรุ งคุณภาพของดินให้ดอี กี ด้วย
ในดินบางชนิดทีร� ่วนซุยมาก การปลูกพืชทีม� ลี าํ ต้นสูงบางชนิด ตัวอย่างเช่น ข้าวโพด ต้นกล้า จะตัง� ตัวได้ไม่ดี โดยเฉพาะ
หากมีลมจัดหรือฝนตกหนักมาก ลําต้นจะหักล้มได้งา่ ย การเตรียมดินประเภทนี ค� วรทําให้แน่นตัวมากพอสมควร
�.�.� ลักษณะข้อจํากัดของดินเหนียวกับการปลูกพืช
อนุภาคโครงสร้างของดินเหนียวมีลักษณะเป็ นแผ่นแบน (plate-like particles) และมีขนาดเล็กมาก คือมีขนาดไม่เกิน
�/��,��� นิว� ดินพวกนีโ� ดยทั�วไปหากไม่มอี นิ ทรียว์ ัตถุ (organic matter) ปะปนอยู่เลย ตัวอนุภาคก็จะจับตัวกันแน่นจนแทบไม่มี
ช่องอากาศเหลืออยู่เลย และเมือ� ดินได้รับนํา� หรือฝนตก การระบายนํา� ออกจากตัวจะทําได้ยาก ช่องว่างระหว่างอนุภาคดินมี
น้อยและเล็กมาก จึงมีอากาศโดยเฉพาะออกซิเจนอยู่น้อยตามไปด้วย สภาพเช่นนีม� ผี ลทําให้รากพืชเจริญเติบโตไม่ได้หรือโต
ได้จาํ กัด รากทีเ� จริญเติบโตในดินเหนียว จะมีลักษณะกุดสั�น หรือเจริญเติบโตอยู่ได้เฉพาะชัน� ผิวดินบนเท่านั�น อย่างไรก็ตาม
ในส่วนดีของดินเหนียวก็คอื สภาพทางเคมีของดินทีม� คี วามสามารถดูดยึดประจุแร่ธาตุอาหารต่างๆ ไว้ได้สูง จึงมีความอุดม
สมบูรณ์ในตัวเองทีเ� ป็ นแหล่งให้แร่ธาตุตา่ งๆ กับพืชได้อย่างดี
�.�.� ลักษณะข้อจํากัดของดินทรายกับการปลูกพืช
อย่างไรก็ตามการใส่อนิ ทรียว์ ัตถุประเภทปุ๋ยคอก (manure) ชนิดทีม� คี วามเข้มข้นของเกลือสูง (โดยเฉพาะ ขีไ� ก่ ขีห� มู ทีย� ัง
ใหม่อยู่) ต้องระมัดระวังอาจทําอันตรายแก่ระบบรากพืชได้ หากใส่มากจนเกินไป ดังนั�นการใส่ป๋ ุยคอกพวกนีค� วรใส่แต่เพียง
น้อย คือ โดยประมาณ �-� ลูกบาศก์ฟุต ในดิน ��� ลูกบาศก์ฟุตเท่านั�น
ข้อควรระมัดระวังในการใส่อนิ ทรียว์ ัตถุทีม� ปี ริมาณไนโตรเจนอยู่ต�าํ กว่า �.� เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่น ขีก� บ ขีเ� ลื�อย แกลบสด
และอินทรียว์ ัตถุอืน� ๆ จากพืชทีย� ังสดใหม่อยู่กค็ อื อินทรียว์ ัตถุพวกนีเ� มือ� ใส่ในดินจะถูกจุลินทรียด์ นิ ย่อยสลาย โดยขบวนการ
ย่อยสลายนีจ� ะต้องใช้แหล่งไนโตรเจนทีเ� พียงพอซึง� สมดุลกับธาตุคาร์บอน ทีเ� ป็ นองค์ประกอบของอินทรียว์ ัตถุนั�น คือมี
คาร์บอนต่อไนโตรเจนประมาณ ��:� หากธาตุไนโตรเจนในอินทรียว์ ัตถุนั�นไม่เพียงพอ จุลินทรียก์ จ็ ะดึงไนโตรเจนจากดินมาใช้
ทําให้พชื ทีป� ลูกขาดไนโตรเจน พืชก็จะแสดงอาการใบเหลือง แคระแกรน หรืออาจตายในทีส� ุดหากเราไม่ใส่ไนโตรเจนในรู ปปุ๋ย
ไปทดแทนให้
�.� วิธีการและเครื�องมือในการเตรียมดิน
วิธีการทีม� นุษย์ใช้ในการเตรียมดินตัง� แต่อดีตจนถึงปั จจุบันมี � ชนิดใหญ่ๆ คือ
�) การใช้แรงคนเป็ นหลัก เป็ นวิธีการทีใ� ช้มาตัง� แต่โบราณ และใช้มาจนถึงปั จจุบนั เครื�องมือทีใ� ช้ได้แก่ จอบขุด จอบถาก
จอบซี� ราด เสียม เป็ นต้น เครื�องมือเหล่านีม� ักจะใช้ในการเตรียมพืน� ทีด� นิ ขนาดเล็ก เช่น สวนครัวหลังบ้าน หรือไร่สวนทีป� ลูก
พืชเป็ นหลุม มีขนาดพืน� ทีไ� ม่เกิน � ไร่ตอ่ ครอบครัว เป็ นต้น
�.�.� การเตรียมดินครั�งแรกโดยการไถ
ในยุคแรกของการปลูกพืชมนุษย์ใช้แรงตัวเองและครอบครัวและกลุ่มชน ในการเตรียมดินโดยใช้เครื�องมือง่ายๆ โดยเฉพาะ
�) ไถชนิดลากตาม (trailed plow) เป็ นไถทีเ� หมาะสมกับพืน� ทีก� ว้างใหญ่ เนื�องจากการเลีย� วกลับทีห� วั งานทําได้ไม่คล่องตัวดี
นัก ดังนั�นจึงควรจัดพืน� ทีท� าํ งานให้ดแี นวทางตรงยาวทีส� ุดทีส� ภาพพืน� ทีจ� ะอํานวยให้ ยกเว้นการไถตามแนวความ
แบบไถทีท� าํ งานได้คล่องตัวมากทีส� ุดคือ ไถแบบทีม� จี านไถ � ชุด สามารถพลิกกลับทางได้ เรียกว่า Reversible plow ถ้า
พลิกกลับ ��� องศาเรียกว่า half-turn plow ถ้าพลิกกลับ �� องศา เรียกว่า quarter-turn plow ถ้าเป็ นไถชุดใหญ่ๆ ทีล� ากตามรถ
แทรกเตอร์ในการพลิกใบจานเพือ� เปลี�ยนทิศทางการเหวีย� งขีไ� ถ ตัวกระทําเป็ นระบบไฮดรอลิก ซึง� ต่อระบบออกมาจากตัวรถ
แทรกเตอร์เรียกว่า romote control การใช้ไถชนิด reversible plow ทุกแบบมีความคล่องตัวและประหยัดเวลากว่าเนื �องจาก
สามารถเลีย� วกลับรถและเข้างานต่อจากรอยไถ หรือร่องไถทีแ� ล้วได้ทนั ทีโดยไม่ตอ้ งวิง� รถเปล่าอ้อมไปเข้างานอีกด้านหนึ�งให้
เสียเวลา อันนีจ� งึ ช่วยลดเทีย� ววิง� ทับหัวงานของรถแทรกเตอร์ ทําให้ดนิ ไม่อัดแน่นตัวจนเกินไปอีกด้วย เทคนิคในการไถนี � ใช้ได้
ทัง� กับไถหัวหมูและไถจาน
�) จานพรวน (รู ปที� �.�ก) เป็ นอุปกรณ์เตรียมดินทีน� ิยมใช้มากทีส� ุดชนิดหนึ�ง ชุดของจานพรวน จะมีจานหลาย ลูกบนเพลา
เดียวกัน การหมุน ความคม และนํา� หนักของจาน จะเป็ นตัวสับดินหรือขีไ� ถ แล้วเหวีย� งดินทีถ� กู ย่อยแล้วให้ออกเฉียงไปข้างหลัง
เพือ� ให้ดนิ เกิดการคลุกเคล้ากัน จานพรวนบางชนิดจะมีขอบหนา ความคมของหยักบริเวณขอบนี จ� ะสับหญ้าหรือเศษรากพืชให้
ขาดและย่อยให้เกิดการคลุกเคล้าได้ดขี ึน�
การย่อยดินให้เล็กลงมากหรือน้อยโดยใช้พรวนจอบหมุนสามารถควบคุมได้โดยการปรับความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วของ
แทรกเตอร์กับความเร็วของระบบหมุน
ใบมีดหรือจอบทีต� ดิ ตัง� กับจานหมุน มีหลายประเภท เช่น ใบมีดปลายแหลม ใบมีดโค้ง ใบมีดรู ปตัวแอล ใบมีดรู ปดอกไม้
และ ไถเกลียว เป็ นต้น
สําหรับเครื�องมือเตรียมดินอืน� ๆ เช่น
�) ไถย่อยดิน (cultivator หรือ ransome) ไถย่อยดิน (รู ปที� �.�ก) จะทํางานคล้ายกับไถพรวน แต่ทาํ งานเบากว่า โดยปกติตวั
ไถพรวนจะทําให้ดนิ แตกและปรับระดับไปพร้อมกัน แต่ไถย่อยดินจะตีดนิ ให้เล็กลงไปอีกเล็กน้อย อย่างไรก็ดกี ารทํางานก็ไม่
แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดนัก
�) ไถยกร่อง (ridgers หรือ tisters) ไถยกร่อง (รู ปที� �.�ข) เป็ นเครื�องมือทีใ� ช้ยกร่องในแปลงทีไ� ถแล้ว หรือสําหรับเกลี�ยคัน
ร่องเดิมให้เรียบอาจใช้อุปกรณ์เดียวกับไถย่อยดิน แต่เปลี�ยนใบมีดของไถก็ทาํ ยกร่องได้ การยกร่องอาจจะยกเป็ นร่องเล็กๆ
หลายๆ ร่อง หรือร่องใหญ่ �-� ร่อง ก็ได้ และไถยกร่อง อาจจะติดตัง� หลังจอบหมุนเพือ� ให้มกี ารยกร่องขณะไถได้เลย
ลูกกลิง� ทีน� าํ� หนักมาก และเส้นผ่าศูนย์กลางสั�นๆ จะมีประสิทธิภาพในการบดดินและปรับระดับดีกว่า แต่มขี ้อเสียทีใ� ช้กาํ ลัง
ลากสูงกว่า
ไถลูกกลิง� ทีเ� รียกว่าไถอัดดิน ชนิดมีร่องตามขวางลูกกลิง� จะมีประสิทธิภาพในการบดดินสูงกว่าลูกกลิง� ทีผ� ิวเรียบ (รู ปที� �.�
ก) เมือ� ก้อนดินชุ่มเกินไป หรือแห้งเกินไป การใช้ไถลูกกลิง� จะไม่ได้ผลเท่าทีค� วร
ไถสิ�ว (รู ปที� �.�) เป็ นไถทีใ� ช้กับงานเตรียมดินเฉพาะชนิด คือใช้ในการไถหน้าดินทีแ� ข็งและเก็บเศษวัชพืชประเภทซากไม้ยนื ต้น
ต่างๆ มักใช้กันมากในทีแ� ห้งทีไ� ม่ตอ้ งการพลิกดิน หรือไถลึกมาก เพราะจะทําให้เสียความชืน� ในดิน
�) ไถดินดาน (subsoiler)
�.� บรรณานุกรม
จักร จักกะพาล และ ยาซุมะสะ โคจะ. ����. เครื�องจักรกลเกษตร. โรงพิมพ์คุรุสภา กรุ งเทพ
มหานคร.
วิรัตน์ ชวาลกุล และ เกศิณี ระมิงศ์วงศ์. ����. คู่มอื ปฏิบตั กิ ารหลักการพืชสวน. ภาควิชาพืช
สวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
FAO. 1982. Organic materials and soil productivity in the near east. FAO Soil Bulletin.