Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 98

วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.

) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

สภาวิศวกร | Council of engineers


ข้อสอบทดสอบความรูร้ ะด ับภาคี

วิชา : Heat Transfer


วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

engineersสภาวิศวกร | Counnginees
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
เนือ้ หาวิชา : 402 : 1.การนาความร้อนในหนึง่ มิตส ิ ภาวะคงต ัว
ข ้อที่ 1 :จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของผนังแผ่นอิฐทีม ่ ค
ี วามหนา 15
เซนติเมตร กว ้าง 2 เมตรและสูง 3 เมตร กาหนดให ้ค่าสัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (Thermal Conductivity) ของ
อิฐมีคา่ เท่ากับ 0.72 W/m.K
 1 : 28.0 K/W
 2 : 55.56 K/W
 3 : 0.0347 K/W
 4 : 0.0180 K/W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 2 :จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของฉนวนหุ ้มท่อไฟเบอร์กลาส ทีม ่ ค
ี า่
สัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (Thermal Conductivity) ค่าเท่ากับ 0.038 W/m.K โดยทีฉ ่ นวนหนา 2.5 เซนติเมตร
ถูกนาไปหุ ้มท่อขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 38 เซนติเมตร ยาว 1.5 เมตร
 1 : 0.3452 K/W
 2 : 0.1500 K/W
 3 : 0.3939K/W
 4 : 0.5072 K/W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 3 :จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของทรงกลมกลวงรัศมีภายใน 3 เมตร ทา
จากเหล็กกล ้า หนา 5 เซนติเมตร กาหนดให ้ค่าสัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (Thermal Conductivity) ของ
เหล็กกล ้ามีคา่ เท่ากับ 58.7 W/m.K
 1:
 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 4 :จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของผนังแผ่นไม ้ทีม
่ ค
ี วามหนา 7.5
เซนติเมตร กว ้าง 10 เมตรและสูง 3 เมตร กาหนดให ้ค่าสัมประสิทธิก
์ ารนาความร ้อน (Thermal Conductivity) ของ
แผ่นไม ้มีคา่ เท่ากับ 0.16 W/m.K
 1 : 25.0 K/W
 2 : 0.0004 K/W
 3 : 64 K/W
 4 : 0.0156 K/W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 5 :จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของฉนวนหุ ้มโพลีไวนีล ทีม่ ค
ี า่ สัมประสิทธิ์
การนาความร ้อน (Thermal Conductivity) เท่ากับ 0.01 W/m.K โดยทีฉ ่ นวนทีห
่ นา 3 เซนติเมตร ถูกนาไปหุ ้มท่อ
ขนาดรัศมี 12 เซนติเมตร ยาว 15 เมตร
 1 : 0.237 K/W
 2 : 0.547 K/W
 3 : 0.103 K/W
 4 : 0.178 K/W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 6 :จงหาความต ้านทานเชิงความร ้อน (Conductive Resistance) ของทรงกลมกลวงเส ้นผ่านศูนย์กลาง
ภายใน 3เมตร ทาจากอลูมเิ นียมหนา 3 เซนติเมตร กาหนดให ้ค่าสัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (Thermal
Conductivity) ของอลูมเิ นียมมีคา่ เท่ากับ 240 W/m.K
 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 7 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 8 :

 1:

 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 9 :

 1 : 1.67 W
 2 : 6.03 W
 3 : 1.81 W
 4 : 18.1 W

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 10 :

 1 : 46 W
 2 : 0.046 W
 3 : 0.46 W
 4 : 4.6 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 11 :จงหาอัตราความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทผ่านผนังแผ่นอิฐในสภาวะคงตัว สาหรับอิฐทีม ่ ค
ี วามหนา 15 เซนติเมตร
กว ้าง 2 เมตรและสูง 3 เมตร กาหนดให ้ค่าสัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อนของอิฐมีคา่ เท่ากับ 0.72 W/m.K และความ
แตกต่างอุณหภูมข ิ องผนังทัง้ สองด ้านมีคา่ เป็ น 10 K
 1 : 0.3571 W
 2 : 0.17998 W
 3 : 288.2 W
 4 : 555.5 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 12 :จงหาอัตราความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทผ่านฉนวนหุ ้มท่อไฟเบอร์กลาสในสภาวะคงตัว ฉนวนหุ ้มท่อไฟเบอร์กลาส
(k มีคา่ เท่ากับ 0.038 W/m.K) มีความหนา 2.5 เซนติเมตร ถูกนาไปหุ ้มท่อขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 38 เซนติเมตร
ยาว 1.5 เมตรและความแตกต่างอุณหภูมข ิ องผนังทัง้ สองด ้านมีคา่ เป็ น 10 K
 1 : 28.968 W
 2 : 66.667 W
 3 : 25.387 W
 4 : 19.716 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 13 :จงหาอัตราความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทผ่านผนังแผ่นไม ้ทีม ่ ค
ี วามหนา 7.5 เซนติเมตร กว ้าง 10 เมตรและสูง 3
เมตรในสภาวะคงตัว กาหนดให ้ค่าสัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อนของแผ่นไม ้มีคา่ เท่ากับ 0.16 W/m.Kและความ
แตกต่างอุณหภูมข ิ องผนังทัง้ สองด ้านมีคา่ เป็ น 5 K
 1 : 0.2 W
 2 : 515.2 W
 3 : 0.0781 W
 4 : 320.512 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 14 :

 1 : 23.6 เซนติเมตร
 2 : 15.5 เซนติเมตร
 3 : 5.16 เซนติเมตร
 4 : 2.00 เซนติเมตร

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 15 :

 1 : 177 W
 2 : 44.3 W
 3 : 118 W
 4 : 56.2 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 16 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 17 :

 1 : 10.10 W
 2 : 69.73 W
 3 : 13.81 W
 4 : 17.00 W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 18 :ณ ทีอ ่ ณ
ุ หภูมหิ ้อง วัตถุประเภทใดมีคา่ สัมประสิทธิก
์ ารนาความร ้อน (Thermal Conductivity) ดีทส
ี่ ด

 1 : เหล็ก
 2 : อลูมเิ นียม
 3 : เงิน
 4 : ทองแดง

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 19 : สาหรับการนาความร ้อนในกรณีผนังราบหลายชัน ้ เรามักพบว่าการกระจายของอุณหภูมผ ิ า่ นผิวรอยต่อ
ของวัตถุสองชิน ้ ทีม ่ าประกอบกัน จะมีการตกของอุณหภูม ิ (Temperature Drop) ขึน ้ การสูญเสียนีเ้ ป็ นผลมาจาก
Thermal contact resistance ข ้อใดกล่าวผิดเกีย ่ วกับ Thermal contact resistance
 1 : Thermal contact resistance ทีผ ่ วิ รอยต่อขึน้ อยู่กบ ั ความดัน และอุณหภูมท ิ ผี่ วิ รอยต่อ
 2 : การทาผิวให ้เรียบไม่มผ ี ลต่อการลดค่า Thermal contact resistance เนือ ่ งจากผิวทีข ่ รุขะส่งผลต่อการนา
ความร ้อนทีด ่ ก
ี ว่า
 3 : Thermal contact resistance ทีผ ่ วิ รอยต่อสามารถลดได ้ด ้วยการใช ้สารเพิม ่ การนาความร ้อนทาทีผ ่ วิ รอยต่อ
 4 : การถ่ายเทความร ้อนทีผ ่ วิ รอยต่อจะเกิดเฉพาะการนาความร ้อนเป็ นส่วนใหญ่

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 20 :ผนังเตาในงานอุตสาหกรรมแห่งหนึง่ ทาด ้วยอิฐทีม ่ ค
ี า่ สัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (k) = 1.7 W/m.K
โดยทีอ ่ ฐิ หนา 0.15 เมตร อยูภ ่ ายใต ้สภาวะคงตัว อุณหภูมภ ิ ายนอกและภายในของผนังสามารถวัดได ้เป็ น 1400 K
และ 1150 K จงคานวณหาอัตราการสูญเสียความร ้อนทีผ ่ ่านผนัง ซึง่ มีพน ื้ ทีห
่ น ้าตัด 1.5 ตารางเมตร
 1 : 2,833 W
 2 : 3,755 W
 3 : 4,250 W
 4 : 5,125 W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 21 :

 1 : 190.18 W
 2 : 74.38 W
 3 : 254.78 W
 4 : 126.18 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 22 :

 1 : 5.45 เซนติเมตร
 2 : 2.42 เซนติเมตร
 3 : 3.63 เซนติเมตร
 4 : 4.88 เซนติเมตร

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 23 :ทีส
่ ภาวะคงตัว มีความร ้อนไหลผ่านผนังบ ้านด ้านหนึง่ ขนาด 100 วัตต์ตอ ่ ตารางเมตร และอากาศในห ้องมี
อุณหภูม ิ 25 องศาเซลเซียส ทาการวัดอุณหภูมท ิ ผ
ี่ นังห ้องฝั่ งในบ ้านพบว่ามีอณ
ุ หภูม ิ 29 องศาเซลเซียส จงหาค่า
สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน (h) ของฝั่ งผนังห ้อง
 1:

 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 24 :

 1:
 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 25 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 26 :

 1 : 32.5 องศาเซลเซียส
 2 : 37.5 องศาเซลเซียส
 3 : 39.5 องศาเซลเซียส
 4 : 42.5 องศาเซลเซียส

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 27 :

 1 : 46.4 องศาเซลเซียส
 2 : 42.4 องศาเซลเซียส
 3 : 40.4 องศาเซลเซียส
 4 : 38.4 องศาเซลเซียส

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 28 :

 1 : 40.50 องศาเซลเซียส
 2 : 50.89 องศาเซลเซียส
 3 : 62 องศาเซลเซียส
 4 : 105.35 องศาเซลเซียส

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

ข ้อที่ 29 :

 1 : 38.82 W/m
 2 : 52.66 W/m
 3 : 77.77 W/m
 4 : 106.93 W/m

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 30 :

 1 : 70.77 W/m
 2 : 72.66 W/m
 3 : 87.77 W/m
 4 : 106.93 W/m

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 31 :

 1 : 2.23 W
 2 : 22.3 W
 3 : 87.77 W
 4 : 0.11 W

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 32 :

 1 : 0.34
 2 : 0.54
 3 : 3.44
 4 : 5.40

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 33 :

 1 : 34.39 J
 2 : 275.1 kJ
 3 : 34.39 kJ
 4 : 24.35 J

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 34 :

 1 : 34.39 W
 2 : 275.1 kW
 3 : 34.39 kW
 4 : 24.35 W

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 35 :

 1 : 465.9 kJ
 2 : 116.5 kJ
 3 : 465.9 J
 4 : 687.2 J

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 36 :

 1 : 687.2 W
 2 : 465.9 kW
 3 : 4116.5 kW
 4 : 1374 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 37 :

 1 : 0.0009 K/W.m
 2 : 5.73 K/W.m
 3 : 175 K/W.m
 4 : 0.000141 K/W.m

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 38 :

 1 : 2.7 W
 2 : 26.6 W
 3 : 265.8 W
 4 : 2658 W

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 39 :

 1 : ลดลงร ้อยละ 98.3


 2 : ลดลงร ้อยละ 50
 3 : ลดลงร ้อยละ 2.6
 4 : ลดลงร ้อยละ 1.3

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง :4
ข ้อที่ 40 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 41 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 42 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 43 :การถ่ายเทความร ้อนผ่านกาแพงทีก ่ น ั ้ ระหว่างแหล่งความร ้อนทีม ่ อี ณุ หภูมแ ิ ตกต่างกันสองแหล่งในข ้อใด
ทีส่ ามารถสมมุตใิ ห ้เป็ นการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการนาในมิตเิ ดียวได ้อย่างเหมาะสมมากทีส ่ ดุ
 1 : กาแพง ทีม ่ ห ี นามากเมือ ่ เทียบกับความสูงและความกว ้าง
 2 : กาแพง ทีส ่ งู มากเมือ ่ เทียบกับความกว ้างและความหนา
 3 : กาแพง ทีก ่ ว ้างมากเมือ ่ เทียบกับความกว ้างและความหนา
 4 : กาแพงทีห ่ นาน ้อยเมือ ่ เทียบกับความสูงและความกว ้าง

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 44 :การถ่ายเทความร ้อนจากของไหลภายในท่อไปสูบ ่ รรยากาศนอกท่อทีม ่ อ
ี ณ
ุ หภูมต ิ า่ กว่าในข ้อใด ทีม
่ คี วาม
เหมาะสมในการสมมุตใิ ห ้เป็ นการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการนาในหนึง่ มิตม ิ ากทีส ่ ด

 1 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 10 เมตร บรรจุน้ าร ้อนไหลภายใน
 2 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 10 เมตร บรรจุน้ าเย็นไหลภายใน
 3 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 10 เมตร บรรจุไอน้ าอิม ่ ตัวไหลภายใน
 4 : ท่อเส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.2 เมตร ยาว 1 เมตร บรรจุไอน้ าอิม ่ ตัวไหลภายใน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 45 :การถ่ายเทความร ้อนจากของไหลทีม ่ อ ี ณ
ุ หภูมสิ งู ภายในภาชนะทรงกลมไปสูบ ่ รรยากาศภายนอกทีม ่ ี
อุณหภูมต ิ า่ กว่าในข ้อใด ทีม ่ ค ี วามเหมาะสมในการสมมุตใิ ห ้เป็ นการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการนาในหนึง่ มิตม ิ ากทีส ่ ด

 1 : ทรงกลมทีห ่ นาน ้อยๆ เมือ ่ เทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน โดยมีลมธรรมชาติพัดความเร็วตา่ ระบายความ
ร ้อนอยูภ ่ ายนอก
 2 : ทรงกลมทีห ่ นาน ้อยๆ เมือ ่ เทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน โดยมีพัดลมเป่ าประทะทรงกลมระบายความ
ร ้อนอยูภ ่ ายนอก
 3 : ทรงกลมทีห ่ นาน ้อยๆ เมือ ่ เทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน โดยทรงกลมถูกจุม ่ มิดอยูใ่ นน้ ามัน
 4 : ทรงกลมทีห ่ นามากๆ เมือ ่ เทียบกับ เส ้นผ่านศูนย์กลางภายใน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 46 :คาตอบในข ้อใดเรียงลาดับตามค่าสัมประสทธิก ์ ารนาความร ้อนของวัสดุจากน ้อยไปหามาก ณ
อุณหภูมห ิ ้อง ได ้อย่างถูกต ้อง
 1 : ตะกั่ว เหล็ก อลูมเิ นียม เงิน
 2 : เงิน อลูมเิ นียม เหล็ก ตะกั่ว
 3 : เงิน เหล็ก อลูมเิ นียม ตะกั่ว
 4 : ตะกั่ว อลูมเิ นียม เหล็ก เงิน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 47 :

 1 : 108 W
 2 : 4.32 W
 3 : 108,000 W
 4 : 4,320 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 48 :

 1 : 3.888 W
 2 : 38.88 kW
 3 : 3.888 kW
 4 : 3,888 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 49 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 50 :

 1:
 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 51 :






 1:

 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 52 :

 1:

 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 53 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 54 :

 1:
 2:
 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 55 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 56 :

 1:
 2:
 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 57 :

 1 : 8,143 kW
 2 : 81.43 W
 3 : 8.143 kW
 4 : 8.143 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 58 :

 1:

 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 59 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 60 :

 1 : 115.2 kW
 2 : 7,152 kW
 3 : 1.152 kW
 4 : 7.125 kW

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 61 :

 1:

 2:
 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 62 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 63 :

 1 : 31.5 kW
 2 : 36.5 kW
 3 : 38.5 kW
 4 : 115.5 kW

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 64 :

 1 : 121 W/m
 2 : 603 W/m
 3 : 757 W/m
 4 : 6022 W/m

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 65 :

 1 : 559.5 kW
 2 : 144.1kW
 3 : 14.4 kW
 4 : 138.5 kW

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 66 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 67 :

 1 : 489 W
 2 : 516 W
 3 : 849 W
 4 : 960 W

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 68 :

 1 : 40 W
 2 : 46.2 W
 3 : 80 W
 4 : 92.3 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 69 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 70 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 71 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 72 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 73 :

 1 : 1.86 W/m.K
 2 : 0.019 W/m.K
 3 : 16.08 W/m.K
 4 : 0.062 W/m.K

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 74 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 75 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 76 :

 1 : 25 mm.
 2 : 22.5 mm.
 3 : 17.5 mm.
 4 : 12.5 mm.

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 77 :

 1:

 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 78 :

 1:
 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 79 :ข ้อใดเป็ นสมการการนาความร ้อนของฟูเรียร์ (Fourier equation) ทีถ
่ ก
ู ต ้องทีส
่ ด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 80 :การถ่ายเทความร ้อนแบบนาความร ้อน เป็ นการศึกษาถึงการเปลีย ่ นแปลงอุณหภูมภ ิ ายในตัวกลาง
(medium) ดังนัน ้ ตัวกลางใดทีเ่ กิดการนาความร ้อนได ้ค่อนข ้างยาก
 1 : อิฐบล๊อก
 2 : ผนังไม ้
 3 : ผนังเหล็ก
 4 : ช่องว่างอากาศ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 81 :การกระจายตัวของอุณหภูมภ ิ ายในตัวกลาง (medium) สาหรับการนาความร ้อนสามารถ ศึกษาถึงชัน ้
ความหนาของตัวกลางเพือ ่ หาความต ้านทานทางความร ้อนรวม โดยใช ้หลักการเหมือนกับการศึกษาในเรือ ่ งใด
 1 : ปั๊ มสูบน้ า
 2 : การสูญเสีย (Flow loss in pipe)
 3 : ความต ้านทานทางไฟฟ้ า
 4 : ฉนวนของวัสดุ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 82 :ความร ้อนทีจ ่ ่ายให ้กับท่อเหล็กจนมีอณุ หภูมส
ิ ม่าเสมอตลอดพืน
้ ทีผ
่ วิ เรียกว่า Heat Flux หรือ ฟลั๊กความ
ร ้อน มีหน่วยตามข ้อใด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 83 :วัตต์/เมตร.เคลวิน เป็ นหน่วยของค่าคุณสมบัตห ื่
ิ นึง่ ในการศึกษาการนาความร ้อน หน่วยดังกล่าวมีชอ
เรียกว่าอย่างไร
 1 : Thermal diffusivity
 2 : Thermal conductivity
 3 : Thermal expansive
 4 : Thermal heat flux

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 84 :

 1 : อุณหภูมด ิ ้านหลังสูงกว่าอุณหภูมด ิ ้านหน ้าของผนังไม ้


 2 : อุณหภูมด ิ ้านหน ้าสูงกว่าอุณหภูมด ิ ้านหลังของผนังไม ้
 3 : อุณหภูมด ิ ้านหน ้าเท่ากับอุณหภูมด ิ ้านหลังของผนังไม ้
 4 : อุณหภูมด ิ ้านหน ้าเท่ากับอุณหภูมข ิ องอากาศ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 85 :ข ้อใดต่อไปนีไ้ ม่ใช่คณ ุ สมบัตท
ิ าง Thermophysical Property
 1 : Thermal conductivity
 2 : Specific heat
 3 : Kinematics viscosity
 4 : Thermal diffusivity

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 86 :ตามหลักโดยทั่วไปแล ้ววัสดุชนิดใดมีคา่ สัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อนสูงทีส
่ ด

 1 : ไม ้
 2 : พลาสติก
 3 : นิเกิล
 4 : เงิน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 87 :

 1 : One – dimensional conduction


 2 : One – dimensional transport heat conduction
 3 : Steady – state conditions, with volumetric energy – generation
 4 : One-dimensional steady – state conditions, without volumetric energy – generation

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 88 :

 1 : Thermal diffusivity
 2 : Thermal expansion
 3 : Thermal generation
 4 : Thermal conductivity

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 89 :การศึกษาการกระจายตัวอุณหภูมภิ ายในวัสดุจาเป็ นต ้องทราบเงือ่ นไขขอบเขต และเงือนไขเริม
่ ต ้น
(Boundary and Initial Condition ) ข ้อใดไม่ใช่คณ
ุ สมบัตขิ องเงือ่ นไขดังกล่าว
 1 : Constant surface temperature
 2 : Constant surface heat flux
 3 : Radiation surface condition
 4 : Convection surface condition

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 90 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 91 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 92 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 93 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 94 :

1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 95 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 96 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 97 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 98 :

 1:

 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 99 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 100 :

 1 : -9.36 kW
 2 : -8.36 kW
 3 : -9.46 kW
 4 : -8.46 kW

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 101 :จากภาพ

่ La = 2 m, ka = 0.2 W/m.k, A = 4 m2, Lb = 1 m, kb = 0.3 W/m.k


จงหาความต ้านทานความร ้อนรวม เมือ

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 102 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

ข ้อที่ 103 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 104 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 105 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 106 :สมการการนาความร ้อนของทรงกลมในหนึง่ มิตค
ิ อ
ื ข ้อใด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 107 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 108 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 109 :สาหรับการนาความร ้อนแบบสภาวะคงตัวในหนึง่ มิต ิ ผ่านผนังแผ่นราบ ข ้อใดต่อไปนีท ้ ม ี่ ค
ี า่ สัมประสิทธิ์
การนาความร ้อน (k) ทีด ่ ที สี่ ด ุ
 1 : ผนังทีท ่ าจากอลูมเิ นียมทีอ ่ ณ ุ หภูม ิ 10 องศาเซลเซียส
 2 : ผนังทีท ่ าจากอลูมเิ นียมทีอ ่ ณ ุ หภูม ิ 100 องศาเซลเซียส
 3 : ผนังทีท ่ าจากอลูมเิ นียมทีอ ่ ณ ุ หภูม ิ -100 องศาเซลเซียส
 4 : ผนังทีท ่ าจากอลูมเิ นียมทีอ ่ ณ ุ หภูม ิ 300 องศาเซลเซียส

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 110 :ประตูบ ้านทาจากไม ้หนา 3 เซนติเมตร กว ้าง 1.2 เมตรและสูง 2 เมตร ถ ้าไม ้มีคา่ สัมประสิทธิก ์ ารนา
ความร ้อน (Thermal conductivity) เท่ากับ 0.15 W/m.K จงคานวณหาค่าความต ้านทานเชิงความร ้อน
(Conduction resistance)
 1 : 0.05 K/W
 2 : 0.0833 K/W
 3 : 2.7777 K/W
 4 : 8.333 K/W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 111 :ประตูบ ้านทาจากไม ้หนา 3 เซนติเมตร กว ้าง 1.2 เมตรและสูง 2 เมตร ถ ้าไม ้มีคา่ สัมประสิทธิก ์ ารนา
ความร ้อน (Thermal conductivity) เท่ากับ 0.15 W/m.K ถ ้าความแตกต่างของอุณหภูมริ ะหว่างผนั งทัง้ สองด ้านมี
ค่าเป็ น 15 องศาเซลเซียส จงคานวณหาค่าความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทผ่านประตูทท ี่ าจากไม ้นี้
 1 : 180 W.
 2 : 120 W.
 3 : 75 W.
 4 : 1 W.

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 112 :ข ้อใดน่าจะกล่าวผิดสาหรับการใช ้ประโยชน์ของฉนวน
 1 : ฉนวนมีสว่ นช่วยในการควบคุมอุณหภูมภ ิ ายในอุปกรณ์หรือห ้องทีต ่ ้องการรักษาระดับอุณหภูม ิ
 2 : ฉนวนมีสว่ นช่วยในการประหยัดพลังงาน
 3 : ฉนวนสามารถใช ้งานได ้ในห ้วงอุณหภูมริ ้อนเท่านัน ้
 4 : ฉนวนบางประเภทสามารถใช ้ในการลดเสียงและการสัน ่ สะเทือนได ้ด ้วย

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 113 :ข ้อใดไม่ใช่การนาความร ้อน
 1 : การจับด ้ามช ้อนทีจ ่ ม ุ่ อยูน
่ ้ าร ้อน เราจะรู ้สึกร ้อนทีม ่ อ ื
 2 : แผ่นโลหะพืน ้ เตารีดถ่ายโอนความร ้อนจากเตารีดสูเ่ นื้อผ ้า
 3 : น้ าทีอ ่ ณ ุ หภูมส ิ งู ไหลผ่านท่อ ซึง่ น้ าทาหน ้าทีเ่ ป็ นตัวกลางทีใ่ ห ้ความร ้อนและน้ าเคลือ ่ นทีไ่ ปพร ้อมกัน
 4 : แผ่นหลังคาสังกะสีกลางแดดร ้อนทัง้ ด ้านนอกและด ้านใน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 114 :ข ้อใดกล่าวผิดเกีย ่ วกับ ค่าความต ้านทานความร ้อนทีผ ่ วิ รอยต่อ (thermal contact resistance)
 1 : ส่วนมากจะเกิดทีผ ่ วิ รอยต่อของวัสดุทแ ี่ นบติดกัน
 2 : การถ่ายเทความร ้อนผ่านผิวรอยต่อ ส่วนมากเป็ นการนาความร ้อน
 3 : ค่าความต ้านทานความร ้อนทีผ ่ วิ รอยต่อ มีคา่ เพิม
่ ขึน
้ ถ ้าผิวรอยต่อทีส ั ผัสกันมีความขรุขระมาก
่ ม
 4 : ค่าความต ้านทานความร ้อนทีผ ่ วิ รอยต่อ มีคา่ ลดลงเมือ ่ เพิม
่ ความดันทีผ ่ วิ รอยต่อ (interface pressure)

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 115 :ข ้อใดจัดได ้ว่าเป็ นการถ่ายเทความร ้อนแบบการนาความร ้อน
 1 : ความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทจากช่องระบายความร ้อนของเครือ ่ งคอมพิวเตอร์
 2 : ความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทสูอ ่ ากาศจากแก ้วกาแฟร ้อนทีว่ างไว ้
 3 : ความร ้อนทีถ ่ า่ ยเทจากหม ้อน้ าโดยพัดลมหม ้อน้ า
 4 : ความร ้อนจากแสงแดดทีถ ่ ่ายเทผ่านกระจกรถยนต์

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 116 :ฉนวนประเภทใดทีม ่ ค
ี า่ ความหนาแน่นตา่ และมีคา่ ความเป็ นฉนวนสูง
 1 : ไม ้สน
 2 : อิฐทนไฟ
 3 : โฟม ประเภท Polyurethane
 4 : ผ ้าฝ้ าย

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 117 :ข ้อใดไม่ใช่คณ ุ สมบัตข ิ องฉนวนทีด ่ ี
 1 : ใช ้ได ้เฉพาะอุณหภูมเิ ฉพาะช่วง ไม่กว ้างเกินไป
 2 : สัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน(k) มีคา่ ตา่
 3 : น้ าหนักเบา และมีความหนาแน่นน ้อย
 4 : มีความคงตัวสูง เปลีย ่ นรูปได ้ยาก

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

้ หาวิชา : 403 : 2.การนาความร้อนในหนึง่ มิตส


เนือ ิ ภาวะไม่คงต ัว
ข ้อที่ 118 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 119 :

 1:
 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 120 :

 1 : น ้อยกว่า 8 เซนติเมตร
 2 : น ้อยกว่า 5.8 เซนติเมตร
 3 : น ้อยกว่า 17 เซนติเมตร
 4 : น ้อยกว่า 34 เซนติเมตร

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 121 :ด ้วยเงือ่ นไขของวัสดุทกี่ าหนด เมือ่ เทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนาความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัว
สาหรับวัตถุทรงกลมในข ้อใด ทีน ่ ่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีส ่ ด

 1:
 2:
 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 122 :ด ้วยเงือ
่ นไขของวัสดุทก ี่ าหนด เมือ
่ เทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนาความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัว
สาหรับวัตถุในข ้อใด ทีน ่ ่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีส ่ ด

 1:

 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 123 :

 1 : ประมาณ 404 นาที


 2 : ประมาณ 307 นาที
 3 : ประมาณ 30.75 นาที
 4 : ประมาณ 6.75 นาที

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 124 :ด ้วยเงือ่ นไขของวัสดุทก ี่ าหนด เมือ
่ เทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนาความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัว
สาหรับวัตถุในข ้อใด ทีน ่ ่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีส ่ ด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 125 :ด ้วยเงือ่ นไขของวัสดุทก ี่ าหนด เมือ
่ เทียบเคียงกันแล ้วการศึกษาการนาความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัว
สาหรับวัตถุในข ้อใด ทีน ่ ่าจะใช ้การวิเคราะห์แบบลัมพ์มากทีส ่ ด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 126 :

 1 : ประมาณ 1.99 นาที


 2 : ประมาณ 19.85 นาที
 3 : ประมาณ 190.85 นาที
 4 : ประมาณ 1,191 นาที

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 127 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกีย ่ วกับ การวิเคราะห์ด ้วยวิธก
ี ารลัมพ์ (Lumped system analysis)
 1 : อุณหภูมท ิ พี่ จ ิ ารณาแปรผันตามเวลาและตาแหน่ง
 2 : อุณหภูมท ิ พ ี่ จิ ารณาแปรผันตามเวลาเท่านัน ้
 3 : ใช ้ได ้สาหรับการวิเคราะห์การนาความร ้อนแบบคงตัวและไม่คงตัว
 4 : ใช ้ได ้สาหรับเงือ ่ นไขขอบเขตแบบการพาความร ้อนเท่านั น ้

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 128 :ค่าตัวเลขใดทีใ่ ช ้เป็ นตัวกาหนดว่าการคานวณการนาความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวในหนึง่ มิต ิ สามารถใช ้
วิธกี ารวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารลัมพ์ (Lumped system analysis) ได ้
 1 : Bi (Biot number) มีคา่ น ้อยกว่า 0.1
 2 : Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 0.1
 3 : Nu (Nusselt number) มีคา่ น ้อยกว่า 0.1
 4 : Nu (Nusselt number) มีคา่ มากกว่า 0.1

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 129 :

 1 : 0.3
 2 : 0.01
 3 : 0.03
 4 : 0.003

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 130 :

 1 : ประมาณ 1 นาที
 2 : ประมาณ 2 นาที
 3 : ประมาณ 3 นาที
 4 : ประมาณ 4 นาที

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 131 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 132 :

 1 : ได ้ โดยที่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139


 2 : ไม่ได ้ โดยที่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139
 3 : ได ้ โดยที่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417
 4 : ไม่ได ้ โดยที่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 133 :

 1 : ได ้ โดยทีค
่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139
 2 : ไม่ได ้ โดยทีค ่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0208
 3 : ได ้ โดยทีค่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0208
 4 : ไม่ได ้ โดยทีค ่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0139

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 134 :

 1 : ไม่ได ้ โดยทีค ่ า่ Bi (Biot number) ค่า0.0208


 2 : ได ้ โดยทีค ่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0208
 3 : ได ้ โดยทีค ่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417
 4 : ไม่ได ้ โดยทีค ่ า่ Bi (Biot number) มีคา่ 0.0417

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 135 :หากลูกบอลทรงกลมถูกทาให ้เย็นตัวลงจากอุณหภูมเิ ท่าเทียมกัน โดยการจุม ่ ในน้ าเย็นทีใ่ ห ้สัมประสิทธิ์
การพาความร ้อนระหว่างผิวเท่าๆ กัน ลูกบอลทรงกลมทาจากวัสดุชนิดใดเย็นตัวเร็วทีส ่ ด ุ
 1 : เหล็ก
 2 : ตะกั่ว
 3 : อลูมเิ นียมบริสท ุ ธิ์
 4 : ไม่สามารถบอกได ้

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 136 :หากลูกบอลทรงกลมถูกทาให ้เย็นตัวลงจากอุณหภูมเิ ท่าเทียมกัน โดยการจุม ่ ในน้ าเย็นทีใ่ ห ้สัมประสิทธิ์
การพาความร ้อนระหว่างผิวเท่าๆ กัน ลูกบอลทรงกลมทาจากวัสดุชนิดใดเย็นตัวช ้าทีส่ ดุ
 1 : เหล็ก
 2 : ตะกั่ว
 3 : อลูมเิ นียมบริสท ุ ธิ์
 4 : ไม่สามารถบอกได ้

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 137 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 138 :ณ อุณหภูมห ิ ้อง เมือ
่ พิจารณาวัสดุทใี่ ห ้มา วัสดุใดสามารถนาความร ้อนได ้ดีทส
ี่ ด

 1 : Carbon Steel
 2 : Iron
 3 : Aluminium
 4 : Lead

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 139 :สาหรับการนาความร ้อนในวัตถุ ค่า Bi (Biot Number)แสดงถึง
 1 : สัดส่วนของการกระจายความหนืดและความร ้อนในเนือ ้ วัตถุทก
ี่ าลังไหล
 2 : สัดส่วนของโมเมนตัมในการเคลือ ่ นทีข ่ องการไหล ต่อความหนืดในการไหลนัน ้
 3 : สัดส่วนของการนาความร ้อนผ่านวัตถุและสัดส่วนของความร ้อนทีว่ ัตถุสะสมไว ้
 4 : สัดส่วนของการพาความร ้อนมาสูว่ ัตถุและการนาความร ้อนในวัตถุ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 140 :การใช ้วิธก ี ารวิเคราะห์อณ ุ หภูมข ิ องวัตถุแบบลัมพ์นัน ้ จะให ้การคานวณทีใ่ กล ้เคียงทีส ่ ด
ุ เมือ
่ ค่า Bi (Biot
number) ทีเ่ กีย ่ วข ้องมีคา่ เป็ นอย่างไร
 1 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 0.1
 2 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ มากกว่า 1
 3 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ น ้อยกว่า 0.1
 4 : ค่า Bi (Biot number) มีคา่ น ้อยกว่า 1

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 141 :เมือ ่ ของไหลทีม ่ อี ณุ หภูมส ิ งู ไหลผ่านวัตถุลม ั พ์ (Lumped system analysis) ทาให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุ
ลัมพ์มค ี า่ สูงขึน ้ กรณีใดในข ้อต่อไปนีท ้ าให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุลัมพ์ มีคา่ เข ้าใกล ้อุณหภูมข ิ องของไหลช ้าลง
 1 : สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนให ้แก่วต ั ถุลม ั พ์มค ี า่ สูง
 2 : วัตถุลม ั พ์มค ี วามหนาแน่นตา่
 3 : วัตถุลม ั พ์มค ี วามจุความร ้อนจาเพาะตา่
 4 : สัดส่วนระหว่างปริมาตร / พืน ้ ทีผ ่ วิ ของวัตถุมค ี า่ สูง

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 142 :เมือ ่ ของไหลทีม ่ อี ณุ หภูมส ิ งู ชนิด ไหลผ่านวัตถุลัมพ์ (Lumped system analysis) ทาให ้อุณหภูมข ิ อง
วัตถุลม ั พ์มค ี า่ สูงขึน ้ กรณีใดในข ้อต่อไปนีท ้ าให ้อุณหภูมข ิ องวัตถุลม
ั พ์ มีคา่ เข ้าใกล ้อุณหภูมข ิ องของไหลเร็วขึน ้
 1 : วัตถุลม ั พ์มค ี วามหนาแน่นตา่
 2 : สัดส่วนระหว่างปริมาตร / พืน ้ ทีผ ่ วิ ของวัตถุมค ี า่ สูง
 3 : ความจุความร ้อนจาเพาะของวัตถุลม ั พ์มค ี า่ สูง
 4 : สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนให ้แก่วต ั ถุลม ั พ์มค ี า่ ตา่

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 143 :สาหรับการคานวณปั ญหาการนาความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวในหนึง่ มิต ิ ตัวแปรใดทีไ่ ม่มผ ี ลโดยตรงต่อ
การกระจายของอุณหภูมภ ิ ายในวัตถุ
 1 : ความหนาแน่นของวัตถุ
 2 : สัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (k)
 3 : สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน (h)
 4 : อุณหภูมเิ ริม ่ ต ้น

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 144 :

 1 : ตัวแปร m เป็ นตัวแปรไร ้หน่วย


 2 : ตัวแปร m ทีเ่ พิม
่ ขึน
้ ส่งผลให ้วัตถุมก ี ารตอบสนองกับการเปลีย ่ นของอุณหภูมเิ ร็วขึน

 3 : ตัวแปร m แปรผันโดยตรงกับค่าสัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (k)
 4 : ตัวแปร m แปรผกผันกับค่าพืน ้ ทีผ
่ วิ (A)

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 145 :ข ้อใดกล่าวผิด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 146 :

 1 : 125
 2 : 12.5
 3 : 1.25
 4 : 0.125

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 147 :

 1 : 0.88
 2 : -0.88
 3 : 1.14
 4 : -1.14

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 148 :ข ้อใดถูกต ้องทีส
่ ด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 149 :จากเงือ ่ นไขทีก ่ าหนด สภาวะใดทีไ่ ม่เหมาะสมต่อการคานวณการนาความร ้อนในสภาวะไม่คงตัวด ้วย
วิธกี ารลัมพ์ (Lump analysis)
 1 : วัตถุทม ี่ ค ี า่ สัมประสิทธิก ์ ารนาความร ้อน (k) ทีส ่ งู
 2 : วัตถุทม ี่ ข ี นาดเล็ก
 3 : วัตถุอยูใ่ นสภาวะทีม ่ ค
ี า่ สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน (h) ทีส
่ งู
 4 : วัตถุทพ ี่ น ื้ ทีผ่ วิ สัมผัสทีก ่ ว ้างและปริมาตรน ้อย

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 150 :

 1 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก
ี ารลัมพ์ (Lump analysis)
 2 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธกี ารลัมพ์ (Lump analysis) ด ้วยเงือ
่ นไขขอบเขตผสม
 3 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารคานวณการนาความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวในวัตถุกงึ่ อนันต์ (Semi-infinite
medium)
 4 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารเปิ ดตาราง Transient-temperature charts

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 151 :

 1 : 0.021
 2 : 0.042
 3 : 0.21
 4 : 0.42

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 152 :

 1 : 0.0125 m.
 2 : 0.0625 m.
 3 : 0.0042 m.
 4 : 0.0021 m.

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 153 :

 1 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก
ี ารลัมพ์ (Lump analysis)
 2 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธกี ารลัมพ์ (Lump analysis) ด ้วยเงือ
่ นไขขอบเขตผสม
 3 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารคานวณการนาความร ้อนแบบสภาวะไม่คงตัวในวัตถุกงึ่ อนันต์ (Semi-infinite
medium)
 4 : การวิเคราะห์ด ้วยวิธก ี ารเปิ ดตาราง Transient-temperature charts

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 154 :

 1 : 0.011
 2 : 0.089
 3 : 0.267
 4 : 0.535

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 155 :

 1 : 0.011
 2 : 0.053
 3 : 0.089
 4 : 0.267

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 156 :

 1 : วัตถุทรงกลมทีท ่ าจากอลูมเิ นียมบริสท ุ ธิ์


 2 : วัตถุทรงกลมทีท ่ าจากเหล็กบริสท ุ ธิ์
 3 : วัตถุทรงกลมทีท ่ าจากทองแดงบริสท ุ ธิ์
 4 : วัตถุทรงกลมทีท ่ าจากเงินบริสท
ุ ธิ์

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 157 :

 1:
 2:
 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 158 :

 1 : 4.65 นาที
 2 : 5.36 นาที
 3 : 6.53 นาที
 4 : 7.63 นาที

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 159 :

 1:

 2:
 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 160 :

 1 : 1.75 m.
 2 : 2 m.
 3 : 2.25 m.
 4 : 2.5 m.

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

้ หาวิชา : 404 : 3.การพาความร้อนแบบบ ังค ับ


เนือ
ข ้อที่ 161 :การพาความร ้อนแบบบังคับสาหรับการไหลภายในท่อ ปั จจัยทีไ่ ม่มผ ี ลต่อค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt
number) ได ้แก่
 1 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number)
 2 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number)
 3 : ค่าแฟกเตอร์ความเสียดทาน (Friction factor)
 4 : ค่าตัวเลขกราชอฟ (Grashof number)

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 162 :สาหรับการไหลผ่านชัน ้ ชิดผิว (Boundary layer flow) ทีค ่ า่ ตัวเลขพล ้าน (Prandtl number) มีคา่ น ้อย
น ้อยกว่า 1 ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง
 1 : ความหนาของชัน ้ ชิดผิวของอุณหภูมห ิ นากว่าความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความเร็ว
 2 : ความหนาของชัน ้ ชิดผิวของอุณหภูมต ิ า่ กว่าความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความเร็ว
 3 : ความหนาของชัน ้ ชิดผิวของอุณหภูมเิ ท่ากับความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความเร็ว
 4 : ค่าตัวเลขพล ้านไม่มผ ี ลต่อความหนาของชัน ้ ชิดผิว

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 163 :ค่าตัวเลขนัทเซล(Nusselt number) เป็ นค่าตัวเลขไร ้หน่วยทีใ่ ช ้ในการบอกถึงปริมาณการถ่ายเทความ
ร ้อนแบบการพา อยากทราบว่าค่าตัวเลขนั ทเซลนีเ้ ป็ นการเปรียบเทียบกันระหว่างการถ่ายเทความร ้อนแบบใดต่อ
แบบใด
 1 : การนาความร ้อน / การพาความร ้อน
 2 : การนาความร ้อน / การแผ่รังสีความร ้อน
 3 : การพาความร ้อน / การนาความร ้อน
 4 : การพาความร ้อน / การแผ่รังสีความร ้อน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 164 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสาหรับของไหลทีม ่ ค
ี า่ ตัวเลขพล ้าน (Prandtl number) โดยทัว่ ไปมีคา่ น ้อยน ้อยกว่า
1
 1 : เป็ นของไหลประเภทน้ ามัน (oils)
 2 : ความหนาของชัน ้ ชิดผิวของอุณหภูมต ิ า่ กว่าความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความเร็ว
 3 : เป็ นของไหลประเภทแก๊ส (gas)
 4 : เป็ นของไหลประเภท Liquid metal

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 165 :จงคานวณหาค่า Hydraulic diameter ของท่อรูปทรงสีเ่ หลีย ่ มพืน
้ ผ ้าทีม
่ ค
ี วามกว ้างเป็ น 2a และสูง a
 1:a
 2 : 1.25a
 3 : 1.33a
 4 : 1.5a

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 166 :ข ้อใดกล่าวผิดเกีย ่ วกับการพาความร ้อนแบบบังคับ
 1 : การพาความร ้อนแบบบังคับขึน ้ อยู่กบ ั ประเภทของการไหล
 2 : การพาความร ้อนแบบบังคับขึน ้ อยู่กบ ั คุณสมบัตข ิ องของไหล
 3 : การพาความร ้อนแบบบังคับเกีย ่ วข ้องกับการเคลือ ่ นทีข
่ องของไหล
 4 : การพาความร ้อนแบบบังคับส่วนมากเกิดได ้ดีในของแข็งมากกว่าน้ า

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 167 :ข ้อใดกล่าวผิดเกีย ่ วกับการพาความร ้อนแบบบังคับ
 1 : ค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt number) มีคา่ สูงในการไหลแบบราบเรียบ เมือ ่ เทียบกับการไหลแบบปั่ นป่ วน
สาหรับการไหลทีม ่ รี ูปทรงและสภาวะเหมือนกัน
 2 : การพาความร ้อนแบบบังคับเกิดขึน ้ ได ้ดีในของไหลประเภท แก๊ส มากกว่า ของแข็ง
 3 : การพาความร ้อนมีอยู่ 2 ประเภทคือ แบบบังคับและแบบอิสระ
 4 : ค่าตัวเลขนัทเซล (Nusselt number) สาหรับการพาความร ้อนแบบบังคับขึน ้ อยูก
่ ับรูปทรงทีข
่ องไหลไหล
ผ่าน

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 168 :

 1:

 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 169 :การถ่ายเทความร ้อนแบบการพาความร ้อนแบบบังคับ (Force convection) ใช ้กฎอะไรในการอธิบาย
 1 : Fourier’s Law
 2 : Poisson’s Law
 3 : Stefan-Boltzmann’s Law
 4 : Newton’s Law

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 170 :ข ้อใดกล่าวผิดเกีย
่ วกับค่าสัมประสิทธิข
์ องการถ่ายเทความร ้อน(Heat transfer coefficient; h)

 1:
 2 : ไม่เป็ นคุณสมบัตข ิ องของไหล
 3 : มีทงั ้ การพาความร ้อนแบบบังคับและแบบอิสระ
 4 : มีคา่ สูงสาหรับของไหลทีม ่ สี ถานะแก๊สเมือ่ เทียบกับสถานะของเหลว

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 171 :สาหรับการไหลภายในท่อ เรานิยมใช ้ ค่า Logarithmic mean temperature difference เป็ นค่า
อุณหภูมอ ิ ้างอิงสาหรับการคานวณหาค่าอัตราการถ่ายเทความร ้อน ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสาหรับค่า Logarithmic
mean temperature difference นี้
 1 : การกระจายของอุณหภูมต ิ อ่ ความยาวท่อเป็ นเส ้นตรง
 2 : มีคา่ เท่ากับค่าเฉลีย ่ ทางคณิตศาสตร์ (Averaged mean temperature difference)
 3 : นิยมใช ้กับเงือ ่ นไขทีอ ่ ณ
ุ หภูมข ิ องผนังมีคา่ คงที่ (Constant wall temperature)
 4 : ใช ้ได ้เฉพาะกรณีการถ่ายเทความร ้อนออกจากท่อเท่านัน ้ (Cooling case)

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 172 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสาหรับการพาความร ้อนแบบบังคับสาหรับการไหลภายในท่อ
 1 : สาหรับเงือ ่ นไขอุณหภูมท ิ ผี่ วิ คงที่ (Constant surface temperature) การกระจายของอุณหภูมภ ิ ายในท่อ
เป็ นเส ้นตรง
 2 : สาหรับเงือ ่ นไขอุณหภูมท ิ ผ ี่ วิ คงที่ (Constant surface temperature) ค่าฟลั๊กความร ้อนทีผ ่ วิ คงทีเ่ นือ
่ งจาก
อุณหภูมท ิ ผี่ วิ คงที่
 3 : สาหรับเงือ ่ นไขฟลั๊กความร ้อนทีผ ่ วิ คงที่ (Constant surface heat flux) ค่าอุณหภูมท
ิ ผ
ี่ นั งท่อมีคา่ เพิม ่ ขึน

อย่างเรือ ่ ย ๆ ตามความยาวของท่อถ ้าสัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนมีคา่ คงที่
 4 : สาหรับเงือ ่ นไขฟลั๊กความร ้อนทีผ ่ วิ คงที่ (Constant surface heat flux) การกระจายของอุณหภูมภ ิ ายในท่อ
เป็ นเส ้นโค ้งแบบ logarithmic

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 173 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 174 :

 1 : 210 kJ/kg
 2 : 230 kJ/kg
 3 : 250 kJ/kg
 4 : 300kJ/kg

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 175 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสาหรับท่อรูปทรงสีเ่ หลีย ่ มพืน้ ผ ้าทีม่ คี วามกว ้างเป็ น a และสูง b
 1 : ถ ้า a/b มีคา่ เพิม ่ ขึน ้ ค่าตัวเลขนัทเซลมีคา่ ลดลง
 2 : ถ ้า a/b มีคา่ เพิม ่ ขึน ้ ค่าแฟคเตอร์ของการเสียดทาน(Friction factor) มีคา่ เพิม ่ ขึน

 3 : ถ ้า a/b มีคา่ เพิม ่ ขึน ้ ค่าตัวเลขเรย์โนลมีคา่ ลดลง
 4 : ค่า Hydraulic diameter = 4ab / 2ab

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 176 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องสาหรับท่อรูปทรงสีเ่ หลีย ่ มพืน้ ผ ้าทีม่ คี วามกว ้างเป็ น a และสูง b
 1 : ค่า Hydraulic diameter = ab / (8a+8b)
 2 : ค่า Hydraulic diameter = 2ab / (a+b)
 3 : ค่า Hydraulic diameter = (8a+ 8b) / ab
 4 : ค่า Hydraulic diameter = 4ab / 2ab

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 177 :

 1 : 29 W.
 2 : 35.7 W
 3 : 58.1 W
 4 : 71.4 W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 178 :ข ้อใดกล่าวผิด
 1 : การพาความร ้อนแบบบังคับในท่อ ปั จจัยหลักทีเ่ ราต ้องการทราบคือค่า สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนและ
ค่าความดันตกคร่อม
 2 : สาหรับการไหลแบบราบเรียบแบบ fully developed ค่าตัวเลขนัสเซล (Nu) ของเงือ ่ นไขอุณหภูมค
ิ งทีม
่ ค
ี า่
สูงกว่ากรณีเงือ ่ นไข Constant heat flux
 3 : วิธก ี ารหนึง่ ในการเพิม่ ประสิทธิภาพการถ่ายเทความร ้อนด ้วยการพาความร ้อนแบบบังคับ สาหรับการไหล
ภายในท่อคือการทาให ้ท่อมีผวิ ขุรขะ หรือมีครีบ
 4 : สาหรับการไหลแบบราบเรียบแบบ fully developed ภายในท่อ ค่าตัวเลขนัสเซล (Local Nu) มีคา่ คงที่

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 179 :

 1:
 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 180 :

 1 : 18 kW
 2 : 21 kW
 3 : 25 kW
 4 : 27 kW

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 181 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 182 :ของเหลวซึง่ ไหลในท่อกลมทรงกระบอก จะเป็ นการไหลแบบปั่ นป่ วน (Turbulent flow) เมือ
่ ลักษณะ
การไหลเป็ นไปตามข ้อใดต่อไปนี้
 1 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds Number) > 2100
 2 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds Number) < 11000
 3 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl Number) > 0.7
 4 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl Number) < 0.7

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 183 :

 1:
 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 184 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 185 :ของเหลวซึง่ ไหลในท่อกลมทรงกระบอก จะมีคา่ ตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) ลดลงเสมอเมือ ่
ลักษณะการไหลเป็ นไปตามข ้อใดต่อไปนี้
 1 : ของเหลวนัน ้ มีความหนืดเพิม ่ ขึน
้ และไหลด ้วยความเร็วลดลง ในขนาดหน ้าตัดท่อทีเ่ ท่าเดิม
 2 : ของเหลวนัน ้ ไหลด ้วยความเร็วสูงขึน้ ในขนาดหน ้าตัดท่อทีเ่ พิม ่ ขึน
้ โดยทีม่ อ ี ณุ หภูมสิ งู ขึน

 3 : ของเหลวนัน ้ ไหลด ้วยความเร็วสูงขึน้ ในขนาดหน ้าตัดท่อทีล ่ ดลง โดยทีม ่ ค ี วามหนืดลดลง
 4 : ของเหลวนัน ้ ไหลด ้วยความเร็วคงที่ ในขนาดหน ้าตัดท่อทีเ่ พิม
่ ขึน
้ โดยทีม่ อ ี ณุ หภูมลิ ดลง

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 186 :ของเหลวซึง่ ไหลบนผนังเรียบ (Flow over a flat surface) จะมี Thermal Boundary Layer หนากว่า
Momentum Boundary Layer ในกรณีใดต่อไปนี้
 1 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number), Pr > 1
 2 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Prandtl number), Pr < 1
 3 : ลักษณะการไหลเป็ นแบบราบเรียบ (Laminar flow)
 4 : ลักษณะการไหลเป็ นแบบปั่ นป่ วน (Turbulent flow)

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 187 :

 1 : 317.6
 2 : 1,836.84
 3 : 46.15
 4 : 12.10

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 188 :

 1 : 396.9
 2 : 315.3
 3 : 1,255.3
 4 : 1,290.9

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 189 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 190 :

 1 : 83 W/m
 2 : 2.5 W/m
 3 : 519 W/m
 4 : 95 W/m

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 191 :การถ่ายเทความร ้อนระหว่างผนังกับของไหลจะมีคา่ ตัวเลขนั ทเซล (Nusselt number ) เท่ากับ 3.66
เมือ่ ลักษณะการไหลตรงตามข ้อใดต่อไปนี้
 1 : ของไหลนัน ้ ไหลในท่อกลมซึง่ มีอณ ุ หภูมขิ องผนังท่อคงทีแ ่ ละการไหลนัน้ เป็ นแบบ Laminar และ Fully
Developed
 2 : ของไหลนัน ้ ไหลในท่อกลม ซึง่ มีคา่ Heat Flux ของผนังคงที่ และการไหลนัน ้ เป็ นแบบ Laminar แต่ไม่
Fully Developed
 3 : ของไหลนัน ้ ไหลขนานกับผนังผิวเรียบซึง่ มีอณ ุ หภูมค
ิ งที่ และการไหลเป็ นแบบ Laminar
 4 : ของไหลนัน ้ ไหลในท่อกลมซึง่ มีอณุ หภูมขิ องผนังท่อคงทีแ ่ ละการไหลนัน้ เป็ นแบบ Turbulent

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 192 :

 1 : เมือ ่ การไหลเป็ น Turbulent และของไหลนัน ้ ได ้รับความร ้อนจากผนัง


 2 : เมือ ่ การไหลเป็ น Laminar และของไหลนัน ้ สูญเสียความร ้อนให ้ผนัง
 3 : เมือ ่ การไหลเป็ น Turbulent และของไหลนัน ้ สูญเสียความร ้อนให ้ผนัง
 4 : เมือ ่ การไหลเป็ น Laminar และของไหลนัน
้ ไหลแบบ Fully developed

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 193 :ในทางทฤษฎีสาหรับการไหลภายนอก เมือ ่ ของไหลไหลขนานกับผนังเรียบ ชัน ้ ชิดผิว (Boundary
layer) จะเปลีย ่ นจากการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) เป็ นแบบปั่ นป่ วน (Turbulent flow) เมือ

 1 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) = 500,000
 2 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) = 21,000
 3 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) = 300,000
 4 : ค่าตัวเลขเรย์โนล (Reynolds number) = 50,000

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 194 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 195 :ของไหลในข ้อใดทีม ่ ค
ี า่ ตัวเลขพล ้าน (Prandtl number) เรียงจากน ้อยไปหามาก
 1 : อากาศ, น้ า, ปรอท, น้ ามันเครือ ่ ง
 2 : ปรอท, อากาศ, น้ า, น้ ามันเครือ ่ ง
 3 : ปรอท, อากาศ, น้ ามันเครือ ่ ง, น้ า
 4 : น้ า, น้ ามันเครือ ่ ง, อากาศ, ปรอท

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 196 :ท่อวงแหวนดังรูป ซึง่ เกิดจากการเอาท่อกลอม 2 ขนาด มาสวมร่วมศูนย์กน ั เช่นในกรณีของ
Double pipe heat exchanger จะมีคา่ Hydraulic diameter เท่าใด

 1:D-d
 2:D+d
 3 : (D + d)/ 2
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 197 :

 1 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 21,258


 2 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 23,916
 3 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 47,832
 4 : ค่าตัวเลขของเรย์โนล (Reynolds Number) = 15,944

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 198 :

 1 : 1.67
 2 : 5.00
 3 : 0.555
 4 : 0.599

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 199 :

 1 : 4.35
 2 : 0.00438
 3 : 0.23
 4 : 228.3

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 200 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 201 :

 1 : 3,183 W
 2 : 3,545 W
 3 : 2,350 W
 4 : 2,760 W

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 202 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 203 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกีย ่ วกับ Thermal boundary layer thickness สาหรับการไหลผ่านบนแผ่นราบ
 1 : มีคา่ คงทีส ่ าหรับการไหลแบบราบเรียบ
 2 : มีคา่ เพิม ่ ขึน
้ สาหรับการไหลบนแผ่นราบ
 3 : มีคา่ เท่ากับ Hydrodynamic boundary layer thickness
 4 : เป็ นบริเวณทีค ่ า่ ความเร็วมีคา่ ประมาณ 0.999 ของความเร็วทีม
่ าตกกระทบ

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 204 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 5:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 205 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 206 :

 1 : 0.99
 2 : 0.10
 3 : 9.99
 4 : 0.50

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 207 :

 1 : Stefan-Boltzmann constant
 2 : Local Nusselt number
 3 : Local conduction coefficient
 4 : Local heat transfer coefficient

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 208 :

 1 : อุณหภูมม ิ ค ี า่ เพิม
่ ขึน ่ ง และเป็ นเส ้นตรง
้ อย่างต่อเนือ
 2 : อุณหภูมม ิ ค ี า่ แปรผันตามค่าระยะทาง x
 3 : อุณหภูมม ิ ค ี า่ คงทีต ่ ามแกน x
 4 : อุณหภูมม ิ ค ี า่ ไม่คงทีต ่ ามแกน x

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 209 :ค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน (h) สามารถหาค่าได ้จาก Universal functions ในรูปตัวแปรไร ้หน่วย
ตัวแปรไร ้หน่วยดังกล่าวคือข ้อใด
 1 : Pr (Prandtl number)
 2 : Re (Reynolds number)
 3 : Nu (Nusselt number)
 4 : Ra (Rayleigh number)

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 210 :การพาความร ้อนแบบบังคับ มีตวั แปรไร ้หน่วยทีแ
่ สดงถึงคุณสมบัตข
ิ องการถ่ายเทโมเมนตัมและพลังงาน
ไปกับของไหลโดยการถ่ายเทเกิดขึน ้ ภายใน Hydrodynamic และ Thermal boundary layer ตามลาดับ ตัวแปรไร ้
หน่วยดังกล่าวคือข ้อใด
 1 : Pr (Prandtl number)
 2 : Re (Reynolds number)
 3 : Nu (Nusselt number)
 4 : Ra (Rayleigh number)

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 211 :

 1 : 2,350 W/m
 2 : 2,400 W/m
 3 : 2,338 W/m
 4 : 2,348 W/m

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 212 :พิจารณารูปในข ้อใดทีแ
่ สดง Temperature profile สาหรับการไหลแบบ Fully developed สาหรับการ
ไหลภายในท่อ

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 213 :Thermal entrance region คือ ปรากฎการณ์ทอ ี่ ณุ หภูมขิ องไหลตามแนวแกนกลางของท่อไม่เกิดการ
เปลีย่ นแปลงเพราะอยูน ่ อก Thermal boundary layer แต่อณ ุ หภูมทิ อี่ ยูต
่ ด
ิ กับผนังท่อกลับสูงขึน
้ อย่างรวดเร็ว จาก
คากล่าวข ้างต ้นนีต
้ รงกับรูปในข ้อใด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 214 :การพาความร ้อนแบบบังคับ(Forced convection) เกิดขึน
้ เนือ
่ งจากแรงขับเคลือ
่ นของไหลให ้มีความเร็ว
และมีความสามารถในการถ่ายเทความร ้อนได ้มากกว่าการพาความร ้อนแบบธรรมชาติ แรงขับเคลือ ่ นดังกล่าว คือข ้อ
ใด
 1 : Buoyancy forces
 2 : Viscous forces
 3 : Pump forces
 4 : Wind energy

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 215 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 216 :ตัวกลางในการส่งถ่ายความร ้อนข ้อใดทีพ
่ จ
ิ ารณาได ้ยากในการเกิดการพาความร ้อนแบบบังคับ
 1 : น้ า
 2 : อากาศ
 3 : น้ ามัน
 4 : ทราย

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 217 :

 1:

 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 218 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 219 :

 1:
 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 220 :

 1 : 35,478
 2 : 35,784
 3 : 35,847
 4 : 35,748

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 221 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 222 :

 1 : การไหลแบบราบเรียบ
 2 : การไหลแบบช่วงเปลีย ่ นแปลง
 3 : การไหลแบบปั่ นป่ วน
 4 : การไหลแบบวิกฤต

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 223 :

 1 : 12.34
 2 : 13.24
 3 : 14.23
 4 : 13.42

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 224 :

 1 : 29.62
 2 : 30.62
 3 : 31.62
 4 : 32.62

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 225 :

 1 : 0.12 m.
 2 : 1.2 m.
 3 : 10.2 m.
 4 : 11.2 m.

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 226 :

 1 : 8,810
 2 : 8,705
 3 : 8,690
 4 : 8,658

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 227 :

 1 : ตรงมีคา่ เท่ากับ 0.768


 2 : ตรงมีคา่ เท่ากับ 0.880
 3 : ตรงมีคา่ เท่ากับ 0.728
 4 : ไม่ตรงมีคา่ เท่ากับ 0.678

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 228 :

 1 :
 2 :
 3 :
 4 :

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

ข ้อที่ 229 :

 1:

 2:

 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 230 :ข ้อใดถูกต ้องมากทีส ่ ด
ุ เกีย
่ วกับการพาความร ้อนแบบบังคับ
 1 : สาหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) ภายในท่อค่า Nusselt number มีคา่ คงที่
 2 : เงือ ่ นไข Constant wall heat flux สาหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) ภายในท่อ คือ dT/dR =
0 ถ ้า R เป็ นรัศมีทอ ่
 3 : ค่า Nusselt number สาหรับการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow)ภายในท่อสาหรับเงือ ่ นไข Constant
wall temperature มีคา่ น ้อยกว่ากรณี Constant wall heat flux
 4 : ค่าอุณหภูมเิ ฉลีย ่ Bulk mean temperature หาได ้จากค่าเฉลีย ่ ของอุณหภูมผ
ิ นังกับอุณหภูมอิ ากาศ

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 231 :

 1 : ใช ้สาหรับกรณีทม ี่ ก
ี ารแปรผันของคุณสมบัตข
ิ องของไหล
 2 : ใช ้กับการไหลแบบปั่ นป่ วนเท่านัน ้
 3 : ใช ้สาหรับการไหลภายนอกเท่านัน ้
 4 : ใช ้ได ้เฉพาะกรณีผนังเรียบ (Smooth pipe) เท่านัน ้

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 232 :

 1 : ทรงกระบอก
 2 : สีเ่ หลีย
่ ม
 3 : ทรงกลม
 4 : สามเหลีย ่ ม

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 233 :

 1 : 1,595.28
 2 : 1,495.28
 3 : 1,395.28
 4 : 1,295.28

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 234 :

 1:

 2:
 3:
 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 235 :การพาความร ้อนแบบบังคับผ่านวัตถุทรงกลม ตัวแปรไร ้หน่วย (Nu) ได ้มาจากสมการความสัมพันธ์ของ
ั ของตัวแปรไร ้หน่วย Nu
Whitaker correlation จากสมการความสัมพันธ์ดงั กล่าว ข ้อใดไม่เป็ นฟั งก์ชน

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 236 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 237 :

 1 : Logarithmic mean temperature difference


 2 : Bulk mean temperature difference
 3 : Film temperature difference
 4 : Semi logarithmic temperature difference

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 238 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 239 :

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 240 :

 1 : 0.0237 m.
 2 : 0.0173 m.
 3 : 0.0273 m.
 4 : 0.0183 m.

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

้ หาวิชา : 405 : 4.การพาความร้อนแบบอิสระ


เนือ
ข ้อที่ 241 :ในการพาแบบอิสระค่าตัวเลขนั สเซิลท์ (Nu) ขึน ้ อยูก่ บ
ั ค่าใด
 1 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Pr) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)
 2 : ค่าตัวเลขแกรชอฟ (Gr) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)
 3 : ค่าตัวเลขพล ้าน (Pr) และค่าตัวเลขแกรชอฟ (Gr)
 4 : ค่าตัวเลขเรย์เลย์ (Ra) และค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Re)

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 242 :แผ่นสีเ่ หลีย ่ มจัตรุ ัสบางขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณ ุ หภูมค ิ งที่ 40 ºC แขวนในแนวดิง่ ในบรรยากาศนิง่
อุณหภูม ิ 15oC จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนจากแผ่น เมือ ่ ค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนเฉลีย ่ (h) = 2.25
W/m2.K
 1:9W
 2 : 18 W
 3 : 26 W
 4 : 29 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 243 :ทรงกลมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 4 cm อุณหภูม ิ 150 องศาเซลเซียส แขวนในบรรยากาศนิง่ ที่ 27 องศา
เซลเซียส จงหาค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน ถ ้าทรงกลมมีการพาความร ้อนทีผ ่ วิ 7.419 W
 1 : 10W/sq.m.K
 2 : 12 W/sq.m.K
 3 : 15 W/sq.m.K
 4 : 19 W/sq.m.K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 244 :ขนมเค ้กรูปทรงกระบอกสูง 8 cm เส ้นผ่าศูนย์กลาง 20 cm มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ ทุกด ้านเท่ากับ 100 องศา
เซลเซียส วางไว ้ในห ้องอุณหภูม ิ 27 องศาเซลเซียส จงหาอัตราการสูญเสียการพาความร ้อน โดยมีคา่ สัมประสิทธิ์
การพาเท่ากับ 15 W/sq.m.K สมมุตวิ า่ ไม่มก ี ารสูญเสียความร ้อนทีผ ่ วิ ด ้านล่างของขนมเค ้ก
 1 : 71.35 W
 2 : 89.45 W
 3 : 98.75 W
 4 : 101.55 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 245 :แท่งโลหะสีเ่ หลีย ่ มขนาด 10 cm x 12 cm x 20 cm อันหนึง่ มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ สม่าเสมอ 120 องศา
เซลเซียส แขวนอยูใ่ นสภาพแวดล ้อมที่ 20 องศาเซลเซียส จงหาการพาความร ้อนออกจากแท่ง ถ ้าค่าสัมประสิทธิ์
การพาความร ้อนมีคา่ 10 W/sq.m.K
 1 : 88 W
 2 : 104 W
 3 : 112 W
 4 : 128 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 246 :chip สีเ่ หลีย ่ มมีผวิ ระบายความร ้อนขนาด 4 x 4 mm ขณะทางานมีคา่ อุณหภูม ิ 85 องศาเซลเซียส โดย
วางในของไหลหล่อเย็นทีม ่ อ
ี ณุ หภูม1ิ 5 องศาเซลเซียส ถ ้าค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนของไหล 3000
W/sq.m.K จงหาอัตราการพาความร ้อนทีร่ ะบายออกจาก chip
 1 : 2.46 W
 2 : 3.36 W
 3 : 4.56. W
 4 : 5.64 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 247 :เมือ ่ พิจารณาในการเคลือ ่ นทีแ่ บบคงตัวของการพาอิสระ(free convection)ในช่องแผ่นขนานแนวตัง้
ข ้อความใดถูกต ้อง
 1 : แรงตึงผิวเท่ากับแรงเฉือ ่ ย
 2 : แรงตึงผิวเท่ากับแรงลอยตัว
 3 : แรงจากน้ าหนักเท่ากับแรงลอยตัว
 4 : แรงจากน้ าหนักเท่ากับแรงเฉือ ่ ย

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 248 :อากาศบรรยากาศบรรจุในช่องสีเ่ หลีย ่ มวางในแนวตัง้ ซึง่ ประกอบด ้วยแผ่นขนานจัตรุ ัส 2 แผ่น ขนาด
0.5 m x 0.5 m มีระยะห่างระหว่างแผ่น L = 0.1 m โดยทีแ ่ ผ่นขนานมีอณุ หภูมข ิ องแผ่นร ้อนและแผ่นเย็นเป็ น T1
= 380 K และ T2 = 320 K ตามลาดับ จงหาอัตราการพาความร ้อนอิสระ ระหว่างแผ่นขนาน เมือ ่ Nu = 7.12
กาหนดให ้คุณสมบัตอ ิ ากาศที่ Tf = 350 K มีคา่ k=0.03 W/m.K
 1 : 32 W
 2 : 46 W
 3 : 55 W
 4 : 60 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 249 :แผ่นจัตรุ ัสขนาด 0.5 x 0.5 m หุ ้มฉนวนด ้านหนึง่ ไว ้ และด ้านทีไ่ ม่หุ ้มถือว่าเป็ นผิวดาได ้รับรังสีจากดวง
อาทิตย์ด ้วยฟลักซ์ความร ้อนคงที่ 750 W/sq.m ผิวร ้อนได ้ถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระแก่บรรยากาศรอบๆ ซึง่
มีอณุ หภูม ิ 300 K จงหาอุณหภูมท ิ ผ
ี่ วิ เมือ่ ค่าสัมประสิทธิก
์ ารพาความร ้อน (h) = 6 W/sq.m.K
 1 : 325 K
 2 : 375 K
 3 : 425 K
 4 : 475 K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 250 :การเคลือ ่ นทีข่ องการพาอิสระ(free convection) มีอท ิ ธิพลหลักมาจากแรงอะไร
 1 : แรงเฉือ ่ ย
 2 : แรงตึงผิว
 3 : แรงลอยตัว
 4 : ถูกทุกข ้อ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 251 :ในพิจารณาการพาความร ้อนอิสระบนแผ่นร ้อนวางในแนวดิง่ พบว่าของไหลบริเวณใกล ้แผ่นร ้อนจะมี
อุณหภูมส ิ งู เป็ นผลให ้มีความหนาแน่นตา่ ซึง่ ความแตกต่างของความหนาแน่นนีจ ้ ะก่อให ้เกิดแรงอะไร
 1 : แรงตึงผิว
 2 : แรงลอยตัว
 3 : แรงเฉือ ่ ย
 4 : ถูกทุกข ้อ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 252 :ทรงกลมอันหนึง่ มีอณ ุ หภูม ิ 142 องศาเซลเซียส วางอยูใ่ นบรรยากาศนิง่ ที่ 31 องศาเซลเซียส และมีคา่
สัมประสิทธิก ์ ารพา 17.5 W/sq.m.K จงหาเส ้นผ่านศูนย์กลางของทรงกลม ถ ้ามีการพาความร ้อนออกจากผิว 45 W
 1 : 63.27 mm
 2 : 74.31 mm
 3 : 85.88 mm
 4 : 92.45 mm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 253 :พิจารณาการพาความร ้อนอิสระของการไหลแบบลามินาร์บนแผ่นร ้อนอุณหภูมค ิ งทีว่ างในแนวดิง่
(Vertical hot plate) จงหาว่าฟลักซ์ความร ้อน (local heat flux) สูงสุดจะอยูบ ่ ริเวณด ้านไหนของแผ่น
 1 : ด ้านบน
 2 : ด ้านกลาง
 3 : ด ้านล่าง
 4 : เท่ากันทัง้ แผ่น

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 254 :จงหาค่าการถ่ายเทความร ้อนสูส ่ งิ่ แวดล ้อมโดยการพาอิสระ ของวัตถุทรงกระบอกสูง 10 cm เส ้นผ่าน
ศูนย์กลาง 8 cm มีอณ ุ หภูมผิ วิ เท่ากับ 100 องศาเซลเซียส และสัมประสิทธิก ์ ารพาเท่ากับ 37 W/sq.m.K โดย
สิง่ แวดล ้อมอยู่ท ี่ 20 องศาเซลเซียส
 1 : 92.25 W
 2 : 98.05 W
 3 : 104.15 W
 4 : 108.25 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 255 :พิจารณาการพาความร ้อนอิสระของการไหลแบบลามินาร์บนแผ่นเย็นอุณหภูมค ิ งทีว่ างในบรรยากาศ
แนวดิง่ (Vertical cold plate) จงหาว่าฟลักซ์ความร ้อน (local heat flux) สูงสุดจะอยู่บริเวณด ้านไหนของแผ่น
 1 : ด ้านบน
 2 : ด ้านกลาง
 3 : ด ้านล่าง
 4 : เท่ากันทัง้ แผ่น

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 256 :อากาศร ้อนไหลผ่านท่อสีเ่ หลีย ่ มทีม ่ ข
ี นาดหน ้าตัดกว ้าง 0.8 m และสูง 0.35 m เพือ ่ ทาให ้ผิวท่อ
ภายนอกมีอณ ุ หภูมค ิ งที่ 45 องศาเซลเซียส ถ ้าท่อนี้ไม่หุ ้มฉนวนและสัมผัสอากาศที่ 15 องศาเซลเซียส และวางใน
เพดานใต ้บ ้าน จงหาค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนเฉพาะทีด ่ ้านข ้างท่อ (แผ่นเรียบวางในแนวดิง่ )

 1 : 3.62 W/sq.m.K
 2 : 4.23 W/sq.m.K
 3 : 5.47 W/sq.m.K
 4 : 6.28 W/sq.m.K

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 257 :ผนังเตาผิงกว ้าง 80 cm สูง 50 cm มีอณ
ุ หภูมผ
ิ นั ง 50 องศาเซลเซียส อากาศบรรยากาศรอบผนังมี
อุณหภูม ิ 24 องศาเซลเซียส จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนของผนัง ถ ้าค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนมีคา่
4.358 W/sq.m.K
 1 : 25.42 W
 2 : 32.54 W
 3 : 45.32 W
 4 : 52.34 W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 258 :แผ่นสีเ่ หลีย
่ มขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณ
ุ หภูมค
ิ งที่ 400 K วางในแนวดิง่ ในบรรยากาศนิง่ อุณหภูม ิ 300
K จงหาค่า Gr

 1 : 2.25E+8
 2 : 4.17E+8
 3 : 6.36E+8
 4 : 8.24E+8

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 259 :แผ่นเรียบบางสูง 4 เมตร และกว ้าง 1 เมตร ผิวด ้านหนึง่ หุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไ่ ม่ได ้หุ ้มฉนวนมีอณ ุ หภูมคิ งที่
400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนจากแผ่น เมือ ่ ค่าสัมประสิทธิก
์ ารพา(h) =
5.5 W/sq.m.K
 1 : 1600 W
 2 : 1800 W
 3 : 2000 W
 4 : 2200 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 260 :แผ่นสีเ่ หลีย ่ มจัตรุ ัสขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณ ุ หภูมคิ งที่ 400 K วางในแนวดิง่ ในบรรยากาศนิง่
อุณหภูม ิ 300 K จงหาค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน เมือ ่ Nu = 40
โดยอากาศที่ Tf = 350 K มีคา่ k = 0.03 W/m.K
 1 : 2 W/sq.m.K
 2 : 3 W/sq.m.K
 3 : 6 W/sq.m.K
 4 : 8 W/sq.m.K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 261 :
ท่อน้ าร ้อนมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 7 cm ยาว 3 m โดยทีอ ่ ณ
ุ หภูมทิ อ
่ และอุณหภูมบ ิ รรยากาศเท่ากับ 343 K และ 293
K ตามลาดับ จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการพาแบบธรรมชาติ เมือ ่ Nu = 17.40, k= 0.02699 W/m.K
 1 : 159.3 W
 2 : 174.9 W
 3 : 196.3 W
 4 : 221.2 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 262 :โลหะแท่งสีเ่ หลีย ่ มขนาด 20 mm x 25 mm x 10 mm อุณหภูมผ ิ วิ 125 องศาC อยูใ่ นสภาวะ
สิง่ แวดล ้อมบรรยากาศทีม ่ ค
ี า่ สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน 3000 W/(sq.m K) จงหาค่าอุณหภูมข ิ องสิง่ แวดล ้อม ถ ้า
มีการถ่ายเทความร ้อนจากแท่งโลหะนีส ู่ งิ่ แวดล ้อม 0.57 kW
้ ส

 1 : 25 องศาC
 2 : 30 องศาC
 3 : 35 องศาC
 4 : 40 องศาC

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 263 :วัตถุทรงกลมอุณหภูม ิ 135 องศาC อยูใ่ นอุณหภูมส ิ งิ่ แวดล ้อมที่ 30 องศาC มีคา่ สัมประสิทธิก์ ารพา
ความร ้อน 15 W/(sq.m K) จงคานวณหาเส ้นผ่าศูนย์กลางของวัตถุนี้ ถ ้าการพาความร ้อนมีคา่ 45 W
 1 : 67.1 mm
 2 : 95.4 mm
 3 : 108.2 mm
 4 : 114.6 mm

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 264 :วัตถุทรงกระบอกดังรูป มีการพาความร ้อนสูส ่ งิ่ แวดล ้อม 34.3 W และสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน 15
W/(sq.m K) ถ ้าอุณหภูมผ ิ วิ ของวัตถุเท่ากับ 85 องศาC จงคานวณหาค่าอุณหภูมส ิ งิ่ แวดล ้อม

 1 : 15 องศาC
 2 : 20 องศาC
 3 : 25 องศาC
 4 : 30 องศาC

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 265 :วัตถุแบนรูปสามเหลีย ่ มดังภาพมีฐานกว ้าง 25 mm สูง 30 mm มีอณ
ุ หภูมผ ิ วิ 150 องศาC แขวนไว ้ใน
สิง่ แวดล ้อมทีม่ อี ณ
ุ หภูม ิ 32 องศาC จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนของวัตถุ ถ ้าค่าสัมประสิทธิก์ ารพาความร ้อนมีคา่
1500 W/(sq.m K)

 1 : 114.50 W
 2 : 132.75 W
 3 : 151.25 W
 4 : 168.45 W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 266 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้อง เมือ ่ เปรียบเทียบพฤติกรรมการพาความร ้อนระหว่างแบบอิสระและแบบบังคับสาหรับ
การไหลโดยทัว่ ไป
 1 : สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนแบบอิสระมีคา่ น ้อยกว่าสัมประสิทธิก ์ ารพาแบบบังคับ
 2 : ของไหลทีไ่ หลในระบบการพาแบบอิสระจะไหลช ้ากว่าในระบบการพาแบบบังคับ
 3 : การถ่ายเทความร ้อนในระบบการพาแบบอิสระมีคา่ น ้อยกว่าในการพาแบบบังคับ
 4 : ถูกทุกข ้อ

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 267 :แผ่นสีเ่ หลีย ่ มจัตรุ ัสขนาด 0.4 m x 0.4 m มีอณุ หภูมค
ิ งที่ 400 K วางในแนวดิง่ ในบรรยากาศนิง่
อุณหภูม ิ 300 K จงหาค่า Rayleigh number (Ra) ถ ้า Pr = 0.697

 1 : 2.2E+8
 2 : 2.9E+8
 3 : 3.4E+8
 4 : 3.9E+8

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 268 :จงเรียงลาดับจากค่ามากไปหาน ้อย สาหรับแรงลอยตัวทีเ่ กิดขึน ้ เมือ
่ วัตถุอยูใ่ นของไหลทีเ่ ป็ น อากาศ,
น้ าและปรอท
 1 : อากาศ, น้ า, ปรอท
 2 : ปรอท, อากาศ, น้ า
 3 : น้ า, ปรอท, อากาศ
 4 : ปรอท, น้ า, อากาศ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 269 :เงือ ่ นไขใดทีถ ่ อ
ื ได ้ว่าเป็ นการพาความร ้อนตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว
 1 : เมือ ่ Gr/(Re.Re) << 1.0
 2 : เมือ ่ Gr/(Re.Re) >> 1.0
 3 : เมือ ่ Gr/(Re.Re) = 1.0
 4 : ไม่มข ี ้อใดถูก

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 270 :ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกีย ่ วกับค่า Nu (Nusselt Number)
 1 : Nu เป็ นอัตราส่วนของการพาความร ้อนต่อการนาความร ้อน
 2 : ถ ้า Nu = 1 จัดเป็ น Pure Conduction
 3 : Nu เป็ น สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนไร ้มิต ิ
 4 : ถูกทุกข ้อ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 271 :แผ่นเรียบแนวดิง่ สูง L = 0.4 m และกว ้าง 0.5 m ผิวด ้านหนึง่ หุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไ่ ม่ได ้หุ ้มฉนวนมี
อุณหภูมค ิ งที่ 400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาค่าเฉลีย ่ ตัวเลขนั สเซิล (Nu)

 1 : 72.16
 2 : 75.24
 3 : 77.25
 4 : 80.36

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 272 :แผ่นเรียบแนวดิง่ สูง 5 เมตร กว ้าง 1.5 เมตร ผิวด ้านหนึง่ หุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไ่ ม่ได ้หุ ้มฉนวนมีออุณหภูม ิ
คงที่ 400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนเฉลีย ่ (h) เมือ ่ กาหนดให ้

 1 : 2.7 W/sq.m K
 2 : 2.8 W/sq.m K
 3 : 2.9 W/sq.m K
 4 : 3.0 W/sq.m K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 273 :แผ่นเรียบแนวดิง่ สูง 5 เมตร กว ้าง 1.5 เมตร ผิวด ้านหนึง่ หุ ้มฉนวนไว ้ ผิวทีไ่ ม่ได ้หุ ้มฉนวนมีออุณหภูม ิ
คงที่ 400 K วางในบรรยากาศอุณหภูม ิ 300 K จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนจากแผ่น เมือ ่ ค่าสัมประสิทธิก์ ารพา
ความร ้อนเฉลีย ่ เท่ากับ 5.51 W/m^2.K
 1 : 4111 W
 2 : 4122 W
 3 : 4133 W
 4 : 4144 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 274 :อากาศไหลผ่านท่อความร ้อนสีเ่ หลีย
่ มผืนผ ้ายาว มีขนาดหน ้าตัดกว ้าง 0.75 m และสูง 0.3 m เพือ ่ ทา
ให ้ผิวท่อภายนอกมีอณุ หภูม ิ 45 องศาเซลเซียส ถ ้าท่อนีไ้ ม่หุ ้มฉนวนและสัมผัสอากาศที่ 15 องศาเซลเซียสใน
เพดานใต ้บ ้าน จงหาค่าสัมประสิทธิก์ ารพาความร ้อนทีด่ ้านข ้างท่อ (แผ่นเรียบวางในแนวดิง่ ) เมือ
่ กาหนดให ้

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 275 :อากาศไหลผ่านท่อความร ้อนสีเ่ หลีย ่ มผืนผ ้ายาว มีขนาดหน ้าตัดกว ้าง 0.75 m และสูง 0.3 m เพือ่ ทา
ให ้ผิวท่อภายนอกมีอณ ุ หภูม ิ 45 องศาเซลเซียส ถ ้าท่อนีไ้ ม่หุ ้มฉนวนและสัมผัสอากาศที่ 15 องศาเซลเซียส ใน
เพดานใต ้บ ้าน จงหาค่าสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนทีผ
่ วิ ด ้านบนท่อ สาหรับผิวด ้านบนท่อความยาวเฉพาะ L =
(As/P)

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 276 :ถ ้านาไข่ต ้มร ้อน (boiling egg) ไปวางใว ้ในยานอวกาศทีอ ่ ยูน
่ อกโลกหรือนาไปวางใว ้บนพืน ้ โลก อยาก
ทราบว่า ณ ทีใ่ ดไข่ต ้มร ้อนนี้จะเย็นตัวได ้เร็วกว่า
 1 : บนพืน ้ โลก
 2 : ในยานอวกาศนอกโลก
 3 : เย็นตัวได ้เท่ากันทัง้ สองที่
 4 : ไม่สามารถสรุปได ้

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 277 :แผ่นจตุรัสขนาด 0.5 m x 0.5 m หุ ้มฉนวนด ้านหนึง่ ไว ้และด ้านทีไ่ ม่หุ ้มถือว่าเป็ นผิวดาได ้รับรังสีจาก
ดวงอาทิตย์ด ้วยฟลักซ์ 600 W/m^2 แผ่นเรียบนี้ทามุม 60 องศากับแนวดิง่ ดังนัน ้ หน ้าร ้อนจึงหงายขึน ้ ผิวร ้อนได ้
ถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระแก่บรรยากาศรอบ ๆ ซึง่ มีอณ ุ หภูม ิ 300 K จงหาค่าตัวเลขนัสเซลท์เฉลีย ่ โดย
กาหนดให ้

 1 : 93.2
 2 : 95.4
 3 : 97.1
 4 : 99.3

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 278 :แผ่นจัตรุ ัสขนาด 0.5 m x 0.5 m หุ ้มฉนวนด ้านหนึง่ ไว ้ และด ้านทีไ่ ม่หุ ้มถือว่าเป็ นผิวดาได ้รับรังสีจาก
ดวงอาทิตย์ด ้วยฟลักซ์เท่ากับ 600 W/m^2 แผ่นเรียบนี้ทามุม 60 องศากับแนวดิง่ ดังนัน ้ หน ้าร ้อนจึงหงายขึน ้ ผิว
ร ้อนได ้ถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระแก่บรรยากาศรอบ ๆ ซึง่ มีอณ ุ หภูม ิ 300 K จงหาค่าอุณหภูมท ิ ผ
ี่ วิ เมือ
่ ค่า
สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนเฉลีย ่ เท่ากับ 3.16 W/m^2.K
 1 : 487.9 K
 2 : 489.9 K
 3 : 491.9 K
 4 : 493.9 K

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 279 :อากาศทีค ่ วามดันบรรยากาศบรรจุในช่องสีเ่ หลีย
่ มวางในแนวดิง่ ซึง่ ประกอบด ้วยแผ่นขนานจัตรุ ัส 2 แผ่น
ขนาด 0.4 m x 0.4 m โดยมีระยะห่างของแผ่น L = 0.05 m อุณหภูมข ิ องแผ่นร ้อนและแผ่นเย็นเป็ น T1 = 380 K
และ T2 = 320 K ตามลาดับ จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการพาอิสระระหว่างช่องว่าง เมือ ่ Nu = 7.12

 1 : 41 W
 2 : 44 W
 3 : 47 W
 4 : 49 W

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 280 :ข ้อใดกล่าวถึงนิยามของ Gr (Grashof number) ได ้ถูกต ้อง
 1 : คืออัตราส่วนของแรงเสียดทานต่อแรงลอยตัว
 2 : คืออัตราส่วนของแรงเสียดทานต่อแรงเฉื่อย
 3 : คืออัตราส่วนของแรงลอยตัวต่อแรงเสียดทาน
 4 : คืออัตราส่วนของแรงเฉื่อยต่อแรงเสียดทาน

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

ี วามร้อน
้ หาวิชา : 406 : 5.การแผ่ร ังสค
เนือ
ข ้อที่ 281 :ผิวอันหนึง่ มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ 5,500 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.9 จงหาอัตราการแผ่รังสี
ความร ้อนต่อหน่วยพืน ้ ผิว
 1 : 56.68 MW/m2
 2 : 54.82 MW/m2
 3 : 52.73 MW/m2
 4 : 50.50 MW/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 282 :วัตถุดาขนาด 0.43 m2 มีอต ั ราการแผ่รังสีความร ้อนทีป
่ ล่อยออกจากพืน ้ ผิว 780.57 W จงหาค่าอุณหภูม ิ
ของพืน ้ ผิว
 1 : 130 °C
 2 : 138 °C
 3 : 142 °C
 4 : 150 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 283 :แท่งโลหะร ้อน (heater) ยาว 0.5 m และมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 cm มีคา่ สภาพการแผ่รังสี
(emissivity) 0.9 โดยมีรังสีความร ้อนออกจากพืน ้ ผิว 350 W จงหาอุณหภูมผ ิ วิ ของแท่งโลหะนี้
 1 : 369.5 °C
 2 : 351.6 °C
 3 : 335.7 °C
 4 : 315.8 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 284 :วัตถุทรงกระบอกแท่งหนึง่ มีขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 0.4 m อุณหภูมผ ิ วิ 300 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี
(emissivity) เป็ น 0.24 มีคา่ การแผ่รังสีความร ้อนทีป ่ ล่อยออกจากพืน ้ ผิว 1,935.58 W จงหาความยาวของวัตถุแท่ง
นี้
 1 : 0.055 m
 2 : 0.065 m
 3 : 0.075 m
 4 : 0.085 m

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 285 :วัตถุทรงกลมขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 0.3 m มีอณ ุ หภูมผิ วิ 200 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity)
เป็ น 0.81 จงหาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนทีป ่ ล่อยออกจากวัตถุทรงกลมนี้
 1 : 629 W
 2 : 637 W
 3 : 642 W
 4 : 650 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 286 :
 อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมอันหนึง่ เป็ น 1,900 K สมมติให ้เปลวไฟในเตาหลอมนั น ้ เป็ นวัตถุดา จงหา
ความยาวคลืน ่ ทีใ่ ห ้การแผ่รังสีสงู สุด
 1 : 1.53 µm
 2 : 1.63 µm
 3 : 2.53 µm
 4 : 2.63 µm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 287 :วัตถุทรงกลมมีพน ื้ ผิว 0.332 m2 มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 154 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.75
วางไว ้ในบริเวณปริมาตรปิ ด (enclosure) ทีม ่ อ
ี ณ
ุ หภูม ิ 58 °C จงหาอัตราการแผ่ความร ้อนสุทธิทป ี่ ล่อยออกจาก
พืน้ ผิววัตถุ
 1 : 280 W
 2 : 290 W
 3 : 300 W
 4 : 310 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 288 :อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมแห่งหนึง่ เป็ น 1,500 K สมมติให ้เปลวไฟในเตาหลอมนัน ้ เป็ นวัตถุ
ดา จงหากาลังการแผ่รังสี (Emissive power, Eb) ของเปลวไฟ
 1 : 287.04 kW/m2
 2 : 312.63 kW/m2
 3 : 331.97 kW/m2
 4 : 347.28 kW/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 289 :ท่อลมร ้อนไม่หุ ้มฉนวนมีพน ่ วิ เท่ากับ 0.43 m2 ท่อวางผ่านห ้องซึง่ อากาศและผนังห ้องมีอณ
ื้ ทีผ ุ หภูม ิ
เท่ากัน คือ 25 °C ถ ้า อุณหภูมผ ิ วิ ท่อเป็ น 110 °C มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.86 และสัมประสิทธิ์
การพาความร ้อนทีผ ่ วิ ท่อเท่ากับ 34 W/m2.K จงหาอัตราความร ้อนสูญเสียทัง้ หมดของท่อ
 1 : 1,528.52 W
 2 : 1,601.78 W
 3 : 1,672.23 W
 4 : 1,712.55 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 290 :ผิวหนึง่ มีอณ ุ หภูม ิ T1 = 400 K และ มีพน ื้ ที่ A1 เป็ น 4 เท่าของผิว A2 ซึง่ มีอณ
ุ หภูม ิ T2 = 800 K โดยผิว
ทัง้ สองกาลังแลกเปลีย ่ นรังสีความร ้อนซึง่ กันและกัน โดยมีคา่ วิวแฟคเตอร์ F12 = 0.15 จงหาค่าวิวแฟคเตอร์ F21
 1 : 0.4
 2 : 0.5
 3 : 0.6
 4 : 0.7

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 291 :โลหะแผ่นหนึง่ มีพน ื้ ทีผ ่ วิ 0.6 m2 อุณหภูม ิ 220 °C ทาการแผ่รังสีความร ้อนให ้กับวัสดุอก ี ชนิดหนึง่ ทีม่ ี
อุณหภูม ิ 65 °C และมีพน ื้ ทีผ
่ วิ เป็ น 1.5 เท่าของโลหะแผ่น ให ้หาอัตราการแลกเปลีย ่ นรังสีความร ้อนสุทธิ สมมุตวิ า่
ทัง้ คูเ่ ป็ นวัตถุดา
 1 : 1,501.93 W
 2 : 1,532.28 W
 3 : 1,565.64 W
 4 : 1,576.03 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 292 :แท่งวัสดุขนาด 10 x 12 x 20 cm อันหนึง่ มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ สม่าเสมอ 120 °C จงหาค่าการถ่ายเทความร ้อน
โดยการแผ่รังสี ถ ้าค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของผิวเป็ น 0.76
 1 : 110.58 W
 2 : 112.43 W
 3 : 113.80 W
 4 : 115.13 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 293 :ขนมเค๊กนาออกจากเตาอบเพือ ่ ทาให ้เย็นตัวลง โดยทีข ่ นมเค๊กถือว่าเป็ นทรงกระบอกสูง 8 cm และมี
เส ้นผ่านศูนย์กลาง 20 cm ถ ้าอุณหภูมผ ิ วิ ของขนมเค๊กทุกด ้านเท่ากับ 90 °C จงหาอัตราการสูญเสียความร ้อนโดย
การแผ่รังสีของขนมเค๊ก โดยทีค ่ า่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของเค๊กทุกผิวเป็ น 0.4
 1 : 44.54 W
 2 : 53.12 W
 3 : 68.32 W
 4 : 71.85 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 294 :วัตถุทรงกลมขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 50 mm มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 145 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการ
แผ่รังสีมคี า่ 6.8 W จงหาค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของวัตถุนี้
 1 : 0.3
 2 : 0.4
 3 : 0.5
 4 : 0.6

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 295 :วัตถุทรงกระบอกขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลาง 20 mm ยาว 80 mm ค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) เป็ น
0.6 ถ ้าวัตถุนม ี้ ก ี ารแผ่รังสีความร ้อนเท่ากับ 6.81 W จงหาอุณหภูมผ ิ วิ ของวัตถุ
 1 : 93 °C
 2 : 110 °C
 3 : 146 °C
 4 : 161 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 296 :จงหาค่าฟลักซ์ความร ้อนสุทธิ (net heat flux) ของผิวทึบอันหนึง่ ทีม ่ อ
ี ณ
ุ หภูม ิ 500 K และค่าสภาพการ
แผ่รังสี (emissivity) เป็ น 0.8 ถ ้าผิวนีม ้ คี า่ อัตรารังสีตกกระทบ (irradiation, G) = 5,000 W/m2 และ มีคา่ อัตรา
การดูดกลืนรังสีทผ ี่ วิ , Gabs = 3,800 W/m2
 1 : 824 W/m2
 2 : 965 W/m2
 3 : 1,025 W/m2
 4 : 1,164 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 297 :วัตถุหนึง่ มีรังสีตกกระทบ (irradiation) = 370 W/m2 วัตถุนม ี้ ค
ี า่ การดูดกลืนของผิว (absorptivity) =
0.3 และ ค่าการผ่านทะลุของผิว (transmissivity) = 0.12 จงหาค่ารังสีความร ้อนทีส ่ ะท ้อนออกจากผิววัตถุ
 1 : 124.6 W/m2
 2 : 165.6 W/m2
 3 : 194.8 W/m2
 4 : 214.6 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 298 :วัตถุอน ั หนึง่ ได ้รับอัตรารังสีตกกระทบ (irradiation) เท่ากับ 500 W/m2 ซึง่ วัตถุนี้มอ ี ต
ั ราการดูดกลืนรังสี
เท่ากับ 150 W/m2 และค่าอัตราการผ่านทะลุของรังสีมค ี า่ 25 W/m2 จงหาค่าสภาพการสะท ้อนรังสี (reflectivity)
ของผิว
 1 : 0.32
 2 : 0.48
 3 : 0.65
 4 : 0.83

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 299 :จงหาค่ารังสีตกกระทบ (irradiation) บนวัตถุอน ั หนึง่ ถ ้าค่าการผ่านทะลุของผิว (transmissivity) มีคา่
0.03 และค่าการสะท ้อนของผิว (reflectivity) มีคา่ 0.5 ในขณะทีว่ ด ั ค่ารังสีทถ ู ดูดกลืนได ้โดยตรงซึง่ เท่ากับ 94
ี่ ก
W/m2
 1 : 200 W/m2
 2 : 225 W/m2
 3 : 250 W/m2
 4 : 285 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 300 :ถ ้าค่าอัตรารังสีความร ้อนทัง้ หมดทีต ่ กกระทบบนพืน้ ผิววัตถุเท่ากับ 2,200 W/m2 ซึง่ มีคา่ อัตราการ
สะท ้อนรังสีความร ้อน 450 W/m และ มีคา่ อัตราการดูดกลืนรังสีความร ้อน 900 W/m2 จงคานวณค่าการผ่านทะลุ
2

ของผิว (transmissivity)
 1 : 0.175
 2 : 0.243
 3 : 0.327
 4 : 0.386

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 301 :วัตถุดามีอณ ุ หภูมท ิ ผ ี่ วิ 390 K จงคานวณค่า Total emissive power
 1 : 977 W/m2
 2 : 1,042 W/m2
 3 : 1,311 W/m2
 4 : 1,573 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 302 :วัตถุดามีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 450 K จงหาค่าความยาวคลืน ่ ทีใ่ ห ้ค่า Emissive power มีคา่ สูงสุด
 1 : 6.44 ไมครอน
 2 : 6.81 ไมครอน
 3 : 7.17 ไมครอน
 4 : 7.63 ไมครอน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 303 :วัตถุดามีคา่ Emissive power เท่ากับ 2,540 W/m2 จงคานวณอุณหภูมผ ิ วิ วัตถุนี้
 1 : 150 °C
 2 : 163 °C
 3 : 187 °C
 4 : 191 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 304 :จงหาค่าการปล่อยออกของรังสี (emissive power) ของวัตถุ ที่ 1,145 K และมีคา่ สภาพการแผ่รังสี
(emissivity) เป็ น 0.85
 1 : 53.26 kW/m2
 2 : 67.94 kW/m2
 3 : 75.27 kW/m2
 4 : 82.84 kW/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 305 :แผ่นเรียบมีพน ่ วิ 2.5 cm2 อุณหภูม ิ 1,000 K มีการแผ่รังสีความร ้อนออกที่ 3.5 W จงหาค่าสภาพการ
ื้ ทีผ
แผ่รังสี (emissivity) ของผิวทีอ ่ ณ ุ หภูมดิ งั กล่าว
 1 : 0.18
 2 : 0.25
 3 : 0.84
 4 : 0.83

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 306 :จงหาค่าอัตราการแลกเปลีย ่ นรังสีความร ้อนสุทธิของวัตถุผวิ เรียบ 1 ซึง่ มีพน ื้ ที่ 0.75 m2 อุณหภูมผ ิ วิ
2
700 K กับวัตถุผวิ เรียบ 2 ซึง่ มีพน ื้ ที่ 2 m อุณหภูมผ ิ วิ 250 K โดยทีค ่ า่ view factor, F12 = 0.13 สมมติวา่ เป็ นวัตถุ
ดาทัง้ สองผิว
 1 : 1.31 kW
 2 : 2.28 kW
 3 : 3.06 kW
 4 : 3.55 kW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 307 :วัตถุทรงกลมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 18 cm อุณหภูมผ ิ วิ 150 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการแผ่รังสี
จากผิวมีคา่ 80.5 W จงหาค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) ของวัตถุนี้
 1 : 0.37
 2 : 0.44
 3 : 0.54
 4 : 0.61

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 308 :วัตถุทรงกลมมีอณ ุ หภูมผิ วิ 125 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการแผ่รังสีทผ ี่ วิ มีคา่ 65 W ค่าสภาพ
การแผ่รังสี (emissivity) ของผิวมีคา่ 0.66 จงหาขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุนี้
 1 : 3.65 cm
 2 : 5.75 cm
 3 : 7.42 cm
 4 : 8.23 cm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 309 :เตาเผารูปทรงกระบอกตัง้ อันหนึง่ ฝาด ้านบนรูปจานกลมมีพน ื้ ที่ A1 เท่ากับ 0.1 m2, T1 = 300 K
2
ในขณะทีฝ ่ าล่างมีพน ื้ ที่ A2 = 0.1 m , T2 = 600 K และผนังเตาภายในด ้านข ้างมีพน ื้ ที่ A3 = 0.2 m2, T3 = 800 K
ถ ้าถือว่าผิวภายในเตานีเ้ ป็ นปริมาตรปิ ด (enclosure) และกาหนดให ้วิวแฟคเตอร์ F12 = 0.2 จงหาค่าวิวแฟคเตอร์
F31
 1 : 0.2
 2 : 0.3
 3 : 0.4
 4 : 0.5

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 310 :เตาเผารูปทรงกระบอกตัง้ อันหนึง่ ฝาบนรูปจานกลมมีพน ื้ ที่ A1 เท่ากับ 0.1 m2, T1 = 300 K ในขณะที่
2
ฝาล่างมีพน ื้ ที่ A2 = 0.1 m , T2 = 600 K และผนังข ้างภายในเตามีพน ื้ ที่ A3 = 0.2 m2, T3 = 800 K ถ ้าถือว่า
ภายในเตานีเ้ ป็ นปริมาตรปิ ด (enclosure) และผิวดา จงหาค่าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิสผ ู่ วิ A1 กาหนดให ้วิว
แฟคเตอร์ F12 = 0.2
 1 : 1.67 kW
 2 : 1.74 kW
 3 : 1.83 kW
 4 : 1.96 kW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 311 :วัตถุดามีอณ
ุ หภูม ิ 500 K จงหากาลังแผ่ออกของรังสีความร ้อนทีค
่ วามยาวคลืน
่ ทีใ่ ห ้ค่าสูงสุด
(maximum monochromatic emissive power)
[ค่าคงทีข ่ อง Wien displacement law เท่ากับ 2,898 µm.K]

 1 : 347.05 W/m2.µm
 2 : 366.19 W/m2.µm
 3 : 380.52 W/m2.µm
 4 : 400.56 W/m2.µm

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 312 :วัตถุดามีอณ ุ หภูม ิ 1,640 K จงหาค่ากาลังแผ่ออกของรังสีความร ้อนของวัตถุ (monochromatic
emissive power, Eb) ทีค ่ วามยาวคลืน ่ 2.30 µm

 1 : 0.1187 MW/m2.µm
 2 : 0.1311 MW/m2.µm
 3 : 0.1562 MW/m2.µm
 4 : 0.1996 MW/m2.µm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 313 :แผ่นโลหะมีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 205 °C และค่า emissivity เท่ากับ 0.8 วางไว ้ในบริเวณปิ ด (enclosure)
ขนาดใหญ่มอ ี ณ ุ หภูม ิ 24 °C ถ ้าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิจากผิวเป็ น 378 W จงหาพืน ้ ทีผ
่ วิ ของแผ่น
 1 : 0.188 m2
 2 : 0.388 m2
 3 : 0.588 m2
 4 : 0.788 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 314 :แผ่นเรียบมีพน ่ วิ 2.5 cm2 มีอต
ื้ ทีผ ั ราการแผ่รังสีความร ้อนที่ 5.5 W และมีคา่ สภาพการแผ่รังสี
(emissivity) เท่ากับ 0.25 จงหาอุณหภูมผ ิ วิ ของแผ่น
 1 : 1,016.61 K
 2 : 1,116.16 K
 3 : 1,126.61 K
 4 : 1,216.16 K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 315 :กล่องปิ ดถือเป็ นวัตถุดาดังรูป มีอณ ุ หภูมพ
ิ นื้ ผิว 1 (ผิวล่างของกล่อง) เท่ากับ 550 K, พืน ้ ผิว 2 (ผิวบน)
เท่ากับ 400 K และพืน ้ ผิว 3 (ผิวข ้างทัง้ 4 ด ้าน) มีอณ ุ หภูม ิ 500 K จงหาการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิระหว่างผิวที่ 1
ไปยังผิวที่ 2

 1 : 28.88 kW
 2 : 41.21 kW
 3 : 52.73 kW
 4 : 63.77 kW

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 316 :กล่องปริมาตรปิ ดถือเป็ นวัตถุดาดังรูป มีอณ
ุ หภูมท ิ พี่ น
ื้ ผิว 1 (ผิวข ้างด ้านขวาของกล่อง) เท่ากับ 500 K,
พืน้ ผิวที่ 2 (ผิวกลางทัง้ 4 ด ้าน) เท่ากับ 400 K และพืน้ ผิวที่ 3 (ผิวข ้างด ้านซ ้าย) มีอณุ หภูม ิ 350 K จงหาการแผ่
รังสีความร ้อนสุทธิระหว่างผิวที่ 1 ไปยังผิวที่ 3

 1 : 38.35 kW
 2 : 47.63 kW
 3 : 53.11 kW
 4 : 61.29 kW

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 317 :จงหาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิจากผิวที่ 1 ไปยังผิวที่ 2 ของแผ่นเรียบทีจ
่ ัดวางดังรูป โดยมีคา่
view factor, F1-2 ≈ 0.1

 1 : 7.15 kW
 2 : 10.67 kW
 3 : 14.32 kW
 4 : 17.09 kW

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 318 :วัตถุทรงสีเ่ หลีย
่ มมีขนาด 10 cm x 15 cm x 18 cm อันหนึง่ มีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ สมาเสมอ 180 ºC อยูใ่ น
สภาวะสิง่ แวดล ้อมที่ 25 ºC จงหาค่าการแผ่รังสีความร ้อนของวัตถุนี้ ถ ้าค่าสภาพการแผ่รังสี (emissivity) มีคา่
0.48

 1 : 112.5 W
 2 : 126.1 W
 3 : 137.5 W
 4 : 143.3 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 319 :วัตถุทรงกลมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 18 cm อุณหภูมผ ิ วิ 310 K โดยมีคา่ emissivity เท่ากับ 0.37 จงหา
อัตราการแผ่รังสีความร ้อนของวัตถุ
 1 : 15.6 W
 2 : 17.9 W
 3 : 19.7 W
 4 : 21.6 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 320 :วัตถุทรงกลมพืน ่ วิ เท่ากับ 0.07 m2 มีอต
้ ทีผ ั ราการแผ่รังสีความร ้อน 75 W และค่า emissivity เท่ากับ
0.65 สมมติไม่คด ิ ผลการพาความร ้อน จงประมาณค่าอุณหภูมท ิ ผี่ วิ ของวัตถุ
 1 : 140 ºC
 2 : 230 ºC
 3 : 320 ºC
 4 : 410 ºC

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 321 :วัตถุทรงกระบอกเส ้นผ่านศูนย์กลาง 50 mm ยาว 200 mm อยูใ่ นสภาวะสิง่ แวดล ้อมที่ 22 ºC มีคา่
สภาพการแผ่รังสี (emissivity) ทุกผิวเท่ากับ 0.8 จงหาอุณหภูมผ ิ วิ ของวัตถุ ถ ้าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนของวัตถุ
มีคา่ เท่ากับ 55 W สมมติไม่คด ิ การพาความร ้อน
 1 : 130.7 ºC
 2 : 157.4 ºC
 3 : 186.2 ºC
 4 : 198.1 ºC

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 322 :วัตถุทรงกระบอกเส ้นผ่านศูนย์กลาง 35 mm ยาว 80 mm มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 135 ºC วางอยูใ่ นสภาวะ
สิง่ แวดล ้อมที่ 20 ºC และมีอต ั ราการแผ่รังสีความร ้อนออกเท่ากับ 10 W จงหาค่าสภาพการแผ่รังสี(emissivity)ของ
วัตถุ
 1 : 0.2
 2 : 0.4
 3 : 0.6
 4 : 0.8

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 323 :วัตถุทรงกระบอกมีความยาว (L) เท่ากับรัศมี (r) อุณหภูมผ ิ วิ เท่ากับ 128 ºC ค่า emissivity เท่ากับ 0.6
และมีอต ั ราการแผ่รังสีความร ้อนออกเท่ากับ 25 W จงหาเส ้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุนี้
 1 : 4.3 cm
 2 : 7.1 cm
 3 : 9.5 cm
 4 : 12.6 cm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 324 :วัตถุทรงสีเ่ หลีย ่ มมีมต ิ ิ 12 cm x 18 cm x L cm ชิน ้ หนึง่ มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 150 ºC มีคา่ การแผ่รังสีความร ้อน
จากผิวทัง้ หมดเป็ น 140 W ถ ้าค่า emissivity ของผิวเท่ากับ 0.55 จงหาค่า L ของวัตถุนี้
 1 : 6.5 cm
 2 : 9.7 cm
 3 : 14.6 cm
 4 : 16.1 cm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 325 :วัตถุทรงสีเ่ หลีย ่ มมีมต ิ ิ 6 cm x 8 cm x 10 cm ถ ้าค่าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนจากผิวทัง้ หมดเป็ น 55
W และค่า emissivity ของผิวมีคา่ เท่ากับ 0.66 จงหาค่าอุณหภูมผ ิ วิ ของวัตถุ
 1 : 105.3 ºC
 2 : 122.5 ºC
 3 : 159.9 ºC
 4 : 171.6 ºC

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 326 :วัตถุทรงสีเ่ หลีย ่ มมีมต ิ ิ 5 cm x 10 cm x 8 cm อันหนึง่ มีอณ ุ หภูมผ ิ วิ 120 °C และค่าอัตราการแผ่รังสี
ความร ้อนจากผิวทัง้ หมดเป็ น 35 W จงหาค่า emissivity ของวัตถุ
 1 : 0.45
 2 : 0.62
 3 : 0.76
 4 : 0.88

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ึ ตามรูป ถ ้าค่า irradiation, G = 4,500 W/m2, ค่า surface
ข ้อที่ 327 :จงหาค่า net heat flux ของวัตถุทบ
2
absorption = 3,200 W/m [แนะนา: ใช ้สมดุลย์ความร ้อนทีผ ่ วิ ]

 1 : 976 W/m2
 2 : 1,178 W/m2
 3 : 1,252 W/m2
 4 : 1,371 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 328 :จงหาอุณหภูมผ ี า่ 1,300 W/m2, ค่า irradiation, G =
ิ วิ ของวัตถุดงั รูป ถ ้า net heat flux ของวัตถุมค
2 2
5,000 W/m และค่า surface absorption = 3,600 W/m
[แนะนา: ใช ้สมดุลย์ความร ้อนทีผ ่ วิ ]

 1 : 201.5 ºC
 2 : 237.4 ºC
 3 : 245.4 ºC
 4 : 266.3 ºC

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 329 :จงหาค่า absorptivity ของผิวอันหนึง่ ซึง่ มี net heat flux = 2,300 W/m 2 และมีคา่ irradiation G =
4,800 W/m2, ค่า surface absorption = 2,800 W/m 2
 1 : 0.45
 2 : 0.58
 3 : 0.63
 4 : 0.68

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 330 :จงหาค่า reflectivity ของผิววัตถุหนึง่ ซึง่ มีคา่ heat flux = 1,500 W/m2 และค่า irradiation = 6,200
W/m2, ค่า surface absorption = 3,400 W/m2 และค่า surface transmission = 1,900 W/m2
 1 : 0.145
 2 : 0.193
 3 : 0.225
 4 : 0.264

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 331 :จงหาค่า irradiation ทีต ่ กบนผิวหนึง่ ซึง่ มีคา่ absorptivity = 0.42 และ reflectivity = 0.37 โดย
สามารถวัดค่า transmitted flux ได ้โดยตรงบนผิวซึง่ เท่ากับ 38 W/m2
 1 : 152 W/m2
 2 : 164 W/m2
 3 : 177 W/m2
 4 : 181 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 332 :วัตถุดาอุณหภูมท ิ ผ
ี่ วิ 180 °C จงหาค่า total emissive power ของวัตถุ
 1 : 1,786 W/m2
 2 : 2,049 W/m2
 3 : 2,387 W/m2
 4 : 2,506 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 333 :จงหาอัตรารังสีความร ้อนสุทธิทผ
ี่ วิ 2 ได ้รับ เมือ
่ แลกเปลีย
่ นรังสีความร ้อนกับผิว 1 ดังรูป ถ ้าวิวแฟคเตอร์
F2-(1,3) = 0.2 และ F2-3 = 0.16

 1 : 2,259 W
 2 : 2,397 W
 3 : 2,468 W
 4 : 2,545 W

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 334 :จงหาค่าฟลักความร ้อนสุทธิ (net heat flux) ของวัตถุอณ
ุ หภูมผ
ิ วิ 500K, emissivity = 0.8 ตามรูป ถ ้า
ค่า irradiation, G = 5,000 W/m2, ค่า surface absorption = 3,800 W/m 2
[แนะนา: ใช ้สมดุลย์ความร ้อนทีผ่ วิ ]

 1 : 765 W/m2
 2 : 865 W/m2
 3 : 965 W/m2
 4 : 1,065 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 335 :วัตถุดามีพน ่ วิ 0.05 m2 อุณหภูม ิ 180 °C มีการแผ่รังสีความร ้อนกับวัตถุดาอีกอันหนึง่ ทีม
ื้ ทีผ ่ พ
ี นื้ ทีผ
่ วิ
เท่ากันและมีอณ ุ หภูม ิ 50 °C ให ้หาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิ
 1 : 88.5 W
 2 : 105.3 W
 3 : 126.8 W
 4 : 141.1 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 336 :วัตถุ A พืน ้ ทีผ่ วิ 0.55 m2 มีการแผ่รังสีความร ้อนให ้กับวัตถุ B ทีม
่ พ
ี นื้ ทีผ่ วิ เท่ากันมีอณ
ุ หภูม ิ 65 °C จงหา
อุณหภูมข ิ องวัตถุ A ถ ้าอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิของวัตถุ A มีคา่ 1,100 W สมมุตวิ า่ เป็ นวัตถุดาทัง้ คู่
 1 : 133.4 °C
 2 : 149.5 °C
 3 : 174.3 °C
 4 : 195.8 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 337 :วัตถุทรงกลมเส ้นผ่านศูนย์กลาง 9.6 cm อุณหภูมผ ิ วิ 205 °C อยูใ่ นสิง่ แวดล ้อมที่ 30 °C มีอต ั ราการแผ่
รังสีความร ้อน 48 W จงหาค่า emissivity ของวัตถุ
 1 : 0.36
 2 : 0.49
 3 : 0.56
 4 : 0.66

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 338 :วัตถุทรงกลมรัศมี 120 mm อุณหภูมผ ิ วิ 200 °C วางอยูใ่ นสภาวะแวดล ้อมที่ 25 °C จงหาอัตราการแผ่
รังสีความร ้อนของวัตถุนี้ โดยทีค ่ า่ emissivity ของผิวมีคา่ 0.8
 1 : 410.8 W
 2 : 432.4 W
 3 : 458.2 W
 4 : 465.5 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 339 :สเปกตรัมของการแผ่รังสีความร ้อนซึง่ ถือเป็ นคลืน
่ แม่เหล็กไฟฟ้ า ช่วงทีม
่ องเห็นได ้มีคา่ เท่ากับข ้อใด

 1:

 2:

 3:

 4:

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 340 :อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมแห่งหนึง่ เป็ น 2,400 K จงหากาลังการแผ่ออกรังสีของเปลวไฟ
ถ ้า emissivity = 0.95
 1 : 1.235 MW/m2
 2 : 1.523 MW/m2
 3 : 1.787 MW/m2
 4 : 1.925 MW/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 341 :จงเรียงลาดับความยาวคลืน ่ (wave length) จากค่ามากไปหาน ้อย ระหว่าง คลืน ่ วิทยุ, รังสีอน
ิ ฟราเรด
และรังสีแกมมา
 1 : คลืน ่ วิทยุ, รังสีอน ิ ฟราเรด ,รังสีแกมมา
 2 : รังสีแกมมา, คลืน ่ วิทยุ, รังสีอน ิ ฟราเรด
 3 : รังสีอน ิ ฟราเรด, รังสีแกมมา, คลืน ่ วิทยุ
 4 : รังสีอน ิ ฟราเรด, คลืน ่ วิทยุ, รังสีแกมมา

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 342 :อุณหภูมข ิ องเปลวไฟภายในเตาหลอมแห่งหนึง่ เป็ น 2,300 K สมมุตใิ ห ้เปลวไฟเป็ นวัตถุดา จงหาค่า
ความยาวคลืน ่ (wave length) ทีท ่ าให ้ค่ากาลังการแผ่รังสีคลืน
่ เดีย
่ วมีคา่ สูงสุด (maximum monochromatic
emissive power)
 1 : 0.96 µm
 2 : 1.26 µm
 3 : 1.53 µm
 4 : 1.84 µm

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 343 :ดวงอาทิตย์มอ ี ณ
ุ หภูม ิ 5,800 K ถือว่าเป็ นวัตถุดา จงหากาลังการแผ่รังสี (emissive power)
 1 : 6.416 x 106 W/m2
 2 : 6.416 x 107 W/m2
 3 : 6.416 x 108 W/m2
 4 : 6.416 x 109 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 344 :วัตถุร ้อนมีอณ ุ หภูม ิ 2,800 K ถ ้าสมมุตใิ ห ้เป็ นวัตถุดา จงหากาลังการแผ่รังสีทงั ้ หมด
 1 : 3.485 x 106 W/m2
 2 : 3.485 x 107W/m2
 3 : 3.485 x 108 W/m2
 4 : 3.485 x 109 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 345 :ท่อส่งไอน้ าไม่มฉ ี นวนหุ ้ม เดินแนวท่อผ่านห ้องซึง่ อากาศและผนังห ้องมีอณ ุ หภูมเิ ดียวกัน คือ 25 °C ท่อ
มีเส ้นผ่านศูนย์กลาง 70 mm อุณหภูมผ ิ วิ ท่อ 180 °C ค่า emissivity ทีผ ่ วิ เท่ากับ 0.8 และ สัมประสิทธิก ์ ารพาความ
ร ้อนทีผ ่ วิ ท่อกับอากาศเท่ากับ 20 W/m2.K จงหาอัตราการสูญเสียความร ้อนทัง้ หมดจากผิวท่อต่อหน่วยความยาว
 1 : 953 W/m
 2 : 973 W/m
 3 : 1023 W/m
 4 : 1053 W/m

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 346 :แผ่นบางขนาด 0.1 m x 0.1 m วางไว ้ภายในพืน ่ ิ ด (enclosure) ขนาดใหญ่ซงึ่ มีอณ
้ ทีป ุ หภูม ิ 300 K ผิว
ล่างแผ่นหุ ้มฉนวนและทีผ ่ วิ บนควบคุมอุณหภูมค ิ งทีเ่ ท่ากับ 500 K โดยอาศัยฮีตเตอร์ไฟฟ้ า ถ ้าสภาพการแผ่รังสี
(emissivity) ของแผ่นเท่ากับ 0.8 จงคานวณอัตราการแผ่รังสีความร ้อนสุทธิของแผ่น
 1 : 13.98 W
 2 : 24.67 W
 3 : 27.52 W
 4 : 30.01 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 347 :แผ่นบางขนาด 50 cm x 50 cm ผิวล่างของแผ่นหุ ้มฉนวนไว ้และมีความร ้อนสูญเสียออกจากผิวบนที่
อัตรา 400 W สูอ ่ ากาศโดยรอบซึง่ มีอณ ุ หภูม ิ 290 K ถ ้าให ้ผิวแผ่นมีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) 0.9 และ
สัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อนทีผ ่ วิ แผ่นเท่ากับ 15 W/m2.K จงหาอุณหภูมข ิ องแผ่น
 1 : 342 K
 2 : 362 K
 3 : 382 K
 4 : 402 K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 348 :พืน ้ ผิวขนาด 0.5 m2 มีคา่ สภาพการแผ่รังสี (emissivity) 0.8 และอุณหภูม ิ 200 °C วางไว ้ภายในบริเวณ
พืน ้ ผิวปิ ดขนาดใหญ่ (enclosure) ซึง่ มีอณ ุ หภูม ิ 30 °C จงหาอัตราการแผ่รังสีความร ้อนทีอ ่ อกจากผิว
 1 : 1,046 W
 2 : 1,135 W
 3 : 1,195 W
 4 : 1,214 W

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 349 :ผนังเตาหนา 0.05 m มีคา่ การนาความร ้อน (k) 1.2 W/m.K ทีผ ่ วิ ด ้านนอกของผนังเตาอุณหภูม ิ 500K
มีสภาพการแผ่รังสี (emissivity) = 0.8 มีการถ่ายเทความร ้อนในรูปของการแผ่รังสีความร ้อนสูบ ่ รรยากาศและใน
รูปการพาความร ้อน กาหนดให ้บรรยากาศมีอณ ุ หภูม ิ 300 K และสัมประสิทธิก ์ ารพาความร ้อน 25 W/m2.K จงหา
อุณหภูมผ ิ วิ ด ้านในของผนังเตา
 1 : 742 K
 2 : 811 K
 3 : 852 K
 4 : 804 K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 350 :ค่า spectral distribution ของการแผ่รังสีของผิวหนึง่ มีการกระจายรังสีดงั รูป จงหาค่ากาลังปล่อยออก
ทัง้ หมดของผิวนี้ (total emissive power, E)

 1 : 1,500 W/m2
 2 : 2,000 W/m2
 3 : 2,500 W/m2
 4 : 3,000 W/m2

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 351 :ทรงกลมอลูมเิ นียมมีเส ้นผ่านศูนย์กลาง D = 2 m ดังรูป โดยการทาเป็ นสูญญากาศภายในและใช ้เป็ น
ห ้องทดสอบการแผ่รังสี ถ ้าผิวภายในเคลือบด ้วยผงถ่านดาที่ 327 °C จงหาค่า irradiation (G) บนผิวทดสอบเล็กๆ
(A1) ทีว่ างในห ้องทดสอบนี้

 1 : 7,348.3 W/m2
 2 : 7,438.3 W/m2
 3 : 7,514.9 W/m2
 4 : 7,648.3 W/m2

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 352 :ถ ้าพลังงานรังสีความร ้อนตกกระทบบนวัตถุ คือ G = 2,200 W/m2 มีปริมาณรังสีทส ี่ ะท ้อนกลับ 450
W/m2 และมีการดูดกลืนรังสี 900 W/m2 จงหาค่าการผ่านทะลุ (transmissivity) ของวัตถุ
 1 : 0.38
 2 : 0.44
 3 : 0.48
 4 : 0.52

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 353 :ผิวอันหนึง่ มีคา่ spectral irradiation ดังรูป จงหาค่า total irradiation (G) ของผิวนี้

 1 : 10,000 W/m2
 2 : 15,000 W/m2
 3 : 20,000 W/m2
 4 : 25,000 W/m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 354 :ข ้อใดคือคุณสมบัตข ิ องวัตถุดา (blackbody)
 1 : ดูดรังสีตกกระทบทัง้ หมดไว ้ ไม่มก ี ารสะท ้อนกลับ
 2 : แผ่รังสีได ้มากกว่าวัตถุอน ื่ ๆ ทุกชนิดทีอ
่ ณ
ุ หภูมแ
ิ ละความยาวคลืน ่ เดียวกัน
 3 : แผ่รังสีออกโดยไม่ขน ึ้ กับทิศทาง
 4 : ถูกทุกข ้อ

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 355 :พืน้ ผิว A1 มีเส ้นผ่านศูนย์กลาง d และวางในพืน ้ ผิวปิ ดรูปครึง่ ทรงกลม A3 ดังรูป ถ ้า d = 0.1D จงหาค่า
วิวแฟคเตอร์ F1-3

 1 : 0.1
 2 : 0.4
 3 : 0.7
 4 : 1.0

 คาตอบทีถ
่ ก
ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 356 :พืน
้ ผิวของทรงกลมร่วมศูนย์กลาง (concentric sphere) แสดงดังรูป โดยกาหนดให ้ R1 = (2/3)R2 จง
หาค่าวิวแฟคเตอร์ F2-1

 1 : 0.333
 2 : 0.444
 3 : 0.545
 4 : 1.000

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 357 :ผิวอันหนึง่ มีอณุ หภูม ิ 500 K และค่า spectral emissive power ดังรูป จงหาค่า emissivity ของผิวนี้

 1 : 0.46
 2 : 0.56
 3 : 0.66
 4 : 0.76

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 2
้ ผิวปิ ด A1, A2 และ A3 ดังรูป ซึง่ เป็ นวัตถุดา ให ้ A1 เป็ นพืน
ข ้อที่ 358 :พิจารณาการแผ่รังสีของพืน ้ ผิวเล็กมีคา่ เท่ากับ
2
0.05 m อุณหภูม ิ 1,200 K จงหาค่าอัตราการแผ่รังสีสท ุ ธิของผิว A1 กับ A3 ซึง่ มีอณุ หภูม ิ 800 K ถ ้ากาหนดให ้
F13 = 0.877

 1 : 4.14 kW
 2 : 4.42 kW
 3 : 4.68 kW
 4 : 4.85 kW

 คาตอบทีถ ่ ก
ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 359 :เตาเผาทรงกระบอกตัง้ มีผวิ ภายในกาหนดดังรูปคือ A1 และ A2 คือผิวล่างและผิวบน ส่วน A3 คือผิวข ้าง
ถ ้าให ้ H = D/2 และค่าวิวแฟคเตอร์ F12 = 0.38 จงหาค่าวิวแฟคเตอร์ F31

 1 : 0.31
 2 : 0.38
 3 : 0.62
 4 : 1.00

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 360 :วัตถุทรงกลมมีอณ ุ หภูมผ
ิ วิ 125 °C อัตราการถ่ายเทความร ้อนโดยการแผ่รังสีทผ
ี่ วิ มีคา่ 65 W ค่าสภาพ
การแผ่รังสี (emissivity) ของผิวมีคา่ 0.66 จงหาขนาดเส ้นผ่านศูนย์กลางของวัตถุนี้
 1 : 9.58 cm
 2 : 12.25 cm
 3 : 14.84 cm
 4 : 15.07 cm

 คาตอบทีถ ่ กู ต ้อง : 3
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

้ หาวิชา : 407 : 6.Application หรือ Practical Used


เนือ
ข ้อที่ 361 :น้ าถูกใช ้เป็ นของไหลทางานทัง้ คูใ่ นเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนกัน (double pipe heat
exchanger) โดยน้ าร ้อนไหลเข ้าที่ 90 °C และ 10,000 kg/hr ในขณะน้ าเย็นไหลเข ้าที่ 10 °C และ 20,000 kg/hr
ถ ้าค่า effectiveness ของเครือ ่ งนีเ้ ป็ น 60% จงหาอัตราความร ้อนทีน ่ ้ าเย็นได ้รับ ถ ้าสมมติวา่ ค่าความร ้อนจาเพาะ
(Cp) ของน้ าคงทีแ ่ ละเท่ากับ 4.18 kJ/kg.K
 1 : 518.4 kW
 2 : 534.5 kW
 3 : 557.3 kW
 4 : 572.4 kW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 362 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนอันหนึง่ ใช ้น้ ามันเครือ ่ งร ้อนเพือ ่ การอุน่ น้ า น้ ามันเครือ
่ งไหลเข ้าที่ 140 °C
และออกที่ 62 °C ส่วนน้ าไหลเข ้าที่ 30 °C และออกที่ 70 °C โดยของไหลทัง้ คูม ่ อี ต
ั ราการไหลเท่ากัน อยากทราบ
ว่าเครือ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหนสามารถทางานได ้ภายใต ้เงือ ่ นไขนี้
 1 : แบบไหลสวนทางกัน (counterflow)
 2 : แบบไหลตามกัน (parallel flow)
 3 : ได ้ทัง้ แบบไหลสวนทางกันและแบบไหลตามกัน
 4 : ไม่สามารถเป็ นไปได ้ทัง้ แบบไหลสวนทางกันและแบบไหลตามกัน

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 363 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนกัน ใช ้เพือ ่ หล่อเย็นน้ ามันเครือ ่ งจากอุณหภูม ิ 160 °C ให ้เหลือ
60 °C โดยใช ้น้ าเย็นทีอ ่ ณ
ุ หภูม ิ 25 °C เป็ นตัวหล่อเย็นอัตราการไหลของของไหลทัง้ คูเ่ ป็ น 2 kg/s เท่ากัน จงหา
อุณหภูมท ิ ท
ี่ างออกของน้ าเย็น กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของน้ ามันและน้ าเท่ากับ 2,263 J/kg.K และ 4,180
J/kg.K ตามลาดับ
 1 : 74.19 °C
 2 : 79.14 °C
 3 : 84.19 °C
 4 : 89.14 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 364 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนชนิดไหลสวนทางกันใช ้เพือ ่ ให ้ความร ้อนแก่น้ าที่ 0.8 kg/s
จากอุณหภูมเิ ข ้า Tc,i = 30 °C เป็ น Tc,o = 80 °C โดยใช ้น้ ามันร ้อนไหลเข ้าที่ Th,i = 120 °C และไหลออกที่
Th,o = 85 °C โดยเครือ ่ งนีม
้ ค ี า่ สัมประสิทธิก์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม (U) = 125 W/m2.K จงหาพืน ้ ทีก
่ ารถ่ายเท
ความร ้อนของเครือ ่ ง กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของน้ าเท่ากับ 4,180 J/kg.K
 1 : 21.6 m2
 2 : 24.3 m2
 3 : 28.4 m2
 4 : 31.6 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 365 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลสวนทางกันของของไหล 2 ชนิด ซึง่ ของไหลร ้อนมีอณ ุ หภูมเิ ข ้า
และออกเป็ น 65 และ 40 °C ส่วนของไหลเย็นมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออกเป็ น 15 และ 30 °C จงหาค่า effectiveness
ของเครือ ่ งนี้ ถ ้าของไหลเย็นมีคา่ ความจุน ้อยทีส ่ ด

 1 : 0.25
 2 : 0.3
 3 : 0.35
 4 : 0.4

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 366 :ในเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตามกัน (parallel-flow, pf) และแบบไหลสวนทางกัน
(counterflow, cf) ถ ้าให ้อุณหภูมท ิ างเข ้าและทางออกของเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นทัง้ คูม
่ ค ี า่ เหมือนกัน ค่าการถ่ายเท
ความร ้อน (Q) เหมือนกัน และค่าสัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม (U) เหมือนกัน ข ้อใดกล่าวถูกต ้องเกีย ่ วกับ
พืน้ ทีถ่ า่ ยเทความร ้อน (A) ของเครือ ่ งทัง้ สองแบบ
 1 : A,cf > A,pf
 2 : A,cf < A,pf
 3 : A,cf = A,pf
 4 : ไม่มค ี าตอบใดถูก

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 367 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนอันหนึง่ ใช ้น้ ามันเครือ ่ งร ้อนเพือ ่ น้ าซึง่ น้ ามันเครือ
่ การอุน ่ งไหลเข ้าที่ 110 ºC
และออกที่ 60 ºC น้ าไหลเข ้าที่ 40 ºC และออกที่ 70 ºC จงหาอัตราการไหลของน้ ามันเครือ ่ งถ ้าน้ ามีอต
ั ราการไหล
เท่ากับ 4 kg/s กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของน้ ามันและน้ าเท่ากับ 2,263 J/kg.K และ 4,180 J/kg.K
ตามลาดับ
 1 : 4.03 kg/s
 2 : 4.23 kg/s
 3 : 4.43 kg/s
 4 : 4.63 kg/s

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 368 :น้ าถูกใช ้เป็ นของไหลทางานทัง้ คูใ่ นเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow heat
exchanger) โดยน้ าร ้อนไหลเข ้าที่ 90 °C และ 10,000 kg/hr ในขณะน้ าเย็นไหลเข ้าที่ 10 °C และ 20,000 kg/hr
ถ ้าค่า effectiveness ของเครือ ่ งนีเ้ ป็ น 60% จงหาอุณหภูมท ิ างออกของน้ าเย็น ถ ้าสมมติวา่ ค่าความร ้อนจาเพาะ
(Cp) ของน้ าคงทีแ ่ ละเท่ากับ 4.18 kJ/kg.K
 1 : 33.8 °C
 2 : 34.1 °C
 3 : 36.5 °C
 4 : 37.4 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 369 :ในการแลกเปลีย ่ นความร ้อนของหน่วยปรับคืนความร ้อน (gas-to-gas heat recovery unit) อากาศมี
อุณหภูมไิ หลเข ้าและออกที่ 30 °C และ 260 °C ตามลาดับ โดยแก๊สไอเสียร ้อนมีอณ ุ หภูมไิ หลเข ้าและออกที่ 400
°C และ 150 °C ตามลาดับ ค่าความแตกต่างของอุณหภูมเิ ฉลีย ่ เชิงล็อค(LMTD)ทีเ่ หมาะสมผ่านเครือ ่ งแลกเปลีย ่ น
ความร ้อนนี้ มีคา่ ประมาณเท่าไร
 1 : 150 °C
 2 : 140 °C
 3 : 130 °C
 4 : 120 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 370 :น้ าเย็นไหลเข ้าเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนไหลสวนทางกันที่ 10 °C และ 8 kg/s โดยทีม ่ ี
น้ าร ้อนไหลเข ้าเครือ ่ งนี้ท ี่ 70 °C และ 2 kg/s ถ ้าสมมติวา่ ค่าความร ้อนจาเพาะ (Cp) ของน้ าคงทีแ ่ ละเท่ากับ 4.18
kJ/kg.K จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อนสูงสุดทีจ ่ ะทาได ้
 1 : 491.6 kW
 2 : 501.6 kW
 3 : 511.6 kW
 4 : 522.6 kW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 371 :ถ ้าให ้ของไหล 3 ชนิด คือ อากาศ ปรอทและน้ ามันเครือ ่ ง ซึง่ มีคา่ พลานท์นัมเบอร์ (Pr) = 0.7, 0.025
และ 1,500 ตามลาดับ แต่ละอย่างให ้ไหลผ่านแผ่นผิวเรียบร ้อน (hot flat plate) อยากทราบว่าของไหลชนิดไหน
จะให ้ค่าความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความเร็ว (velocity boundary layer thickness) โตกว่าความหนาของชัน ้ ชิด
ผิวของความร ้อน (thermal boundary layer thickness)
 1 : อากาศ
 2 : ปรอท
 3 : น้ ามันเครือ ่ ง
 4 : เท่ากันทัง้ สามของไหล

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 372 :ในการไหลผ่านแผ่นเรียบ ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความเร็ว (velocity
boundary layer thickness) และ ความหนาของชัน ้ ชิดผิวของความร ้อน (thermal boundary layer thickness)
ขึน้ อยู่กบ
ั ค่าของตัวแปรใด
 1 : เรย์โนลด์นัมเบอร์ (Re)
 2 : นัสเซิลท์นัมเบอร์ (Nu)
 3 : สัมประสิทธิค ์ วามเสียดทาน (Cf)
 4 : พลานท์นัมเบอร์ (Pr)

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 373 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนไหลสวนทางกัน (counter flow) มีอณ ุ หภูมข ิ องไหลร ้อนที่
ทางเข ้าและออกเท่ากับ 65 และ 40 °C ตามลาดับ และอุณหภูมข ิ องไหลเย็นทีท ่ างเข ้า 15 และทางออก 30 °C จง
หาค่า Effectiveness ของเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนนี้ ถ ้าของไหลเย็นมีคา่ อัตราความจุความร ้อน (heat
capacity) น ้อยทีส ่ ด

 1 : 0.3
 2 : 0.4
 3 : 0.5
 4 : 0.6

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 374 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนท่อซ ้อนแบบไหลสวนทางกัน (counter flow) มีน้ าร ้อนไหลเข ้าที่ 2.5 kg/s
และอุณหภูม ิ 100 °C ส่วนน้ าเย็นไหลเข ้าที่ 5.0 kg/s และอุณหภูม ิ 20 °C มีคา่ ประสิทธิผล (effectiveness) = 0.8
อัตราการถ่ายเทความร ้อนทัง้ หมดเท่ากับ 670 kW จงหาอุณหภูมท ิ างออกของน้ าร ้อนและน้ าเย็น โดยทีค ่ า่ ความ
ร ้อนจาเพาะ (Cp) ของน้ าเย็น = 4,178 J/kg.K และ น้ าร ้อน = 4,188 J/kg.K
 1 : Tc,o = 42 °C, Th,o = 36 °C
 2 : Tc,o = 52 °C, Th,o = 36 °C
 3 : Tc,o = 42 °C, Th,o = 23 °C
 4 : Tc,o = 52 °C, Th,o = 23 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 375 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) น้ าร ้อนไหลเข ้าทีอ ่ ณ
ุ หภูม ิ 90 °C อัตราการ
ไหล 10,000 kg/h ในขณะทีน ่ ้ าเย็นไหลเข ้าทีอ
่ ณ
ุ หภูม ิ 10 °C อัตราการไหล 20,000 kg/h ถ ้าค่า effectiveness
ของเครือ ่ งเป็ น 60% จงหาอุณหภูมท ิ างออกน้ าร ้อน โดยทีค ่ า่ ความร ้อนจาเพาะของ น้ าเย็น, Cp,c = 4,179 J/kg.K
และ น้ าร ้อน, Cp,h = 4,195 J/kg.K
 1 : 30 °C
 2 : 42 °C
 3 : 49 °C
 4 : 51 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 376 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนไหลตัดกัน (cross-flow) มีพน ื้ ทีผ่ วิ 10 m2 โดยใช ้แก๊สไอเสียซึง่ ไหลเข ้าที่
2 kg/s และ 325 °C แลกเปลีย ่ นความร ้อนกับน้ าเย็นที่ 0.5 kg/s อุณหภูมท ิ างเข ้าและออกเท่ากับ 25 และ 150 °C
ตามลาดับ จงหาค่าสัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม (U) ถ ้าค่าตัวประกอบแก ้ไข (LMTD) F = 0.94 โดยทีค ่ า่
Cp ของน้ าและอากาศ เท่ากับ 4,203 J/kg.K และ 1,040 J/kg.K ตามลาดับ
 1 : 145.89 W/m2.K
 2 : 150.36 W/m2.K
 3 : 155.45 W/m2.K
 4 : 160.28 W/m2.K

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 377 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนถูกออกแบบเพือ ่ หล่อเย็นสารละลายเอททิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol
solution) ซึง่ เอททิลแอลกอฮอล์ ไหลเข ้าที่ 8.7 kg/s มีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออกเป็ น 75 และ 45 °C ตามลาดับ โดย
ใช ้น้ าเป็ นสารหล่อเย็นไหลเข ้าที่ 9.6 kg/s และ 20 °C จงหาอุณหภูมท ิ างออกของน้ า
กาหนดให ้ Cp,h = 3,840 J/kg.°C, Cp,c = 4,180 J/kg.°C
 1 : 43 °C
 2 : 45 °C
 3 : 47 °C
 4 : 49 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 378 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนโดยของไหลร ้อน ไหลเข ้าที่ 10.0 kg/s มีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออก เป็ น 70
และ 40 °C ตามลาดับ โดยใช ้น้ าเป็ นสารหล่อเย็นไหลเข ้าที่ 10.5 kg/s และ 20 °C จงหาอัตราการถ่ายเทความ
ร ้อนทีใ่ ห ้แก่น้ าเย็น กาหนดให ้ Cp,h = 3,840 J/kg.°C, Cp,c = 4,180 J/kg.°C
 1 : 1,002 kW
 2 : 1,052 kW
 3 : 1,152 kW
 4 : 1,252 kW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 379 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนชนิดไหลสวนทางกัน ใช ้เพือ ่ ถ่ายเทความร ้อนจากน้ าร ้อนให ้แก่
น้ าเย็น โดยน้ าร ้อนมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออกเท่ากับ 260 °C และ 140 °C ตามลาดับ และน้ าเย็นมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและ
ออกเท่ากับ 70 °C และ 125 °C จงหาความแตกต่างของอุณหภูมเิ ชิงล็อค (Logarithmic mean temperature
difference, LMTD)
 1 : 84 °C
 2 : 89 °C
 3 : 94 °C
 4 : 99 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 380 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบท่อซ ้อนชนิดไหลตามกัน ใช ้เพือ ่ ถ่ายเทความร ้อนจากน้ าร ้อนให ้แก่น้ า
เย็น โดยน้ าร ้อนมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออกเท่ากับ 260 °C และ 140 °C ตามลาดับ และน้ าเย็นมีอณ ุ หภูมเิ ข ้าและออก
เท่ากับ 70 °C และ 125 °C จงหาความแตกต่างของอุณหภูมเิ ชิงล็อค (Logarithmic mean temperature
difference, LMTD)
 1 : 64.5 °C
 2 : 68.9 °C
 3 : 72.3 °C
 4 : 76.7 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 381 :ก๊าซไอเสียร ้อนไหลเข ้าท่อมีครีบของเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ที่
300 °C และออกที่ 100 °C เพือ ่ ใช ้ให ้ความร ้อนแก่น้ าอัดตัวที่ 1 kg/s จาก 35 °C เป็ น 125 °C จงหาอัตราการ
ถ่ายเทความร ้อนสูงสุด (maximum heat transfer rate)
กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของก๊าซไอเสียและน้ าเท่ากับ 1,000 J/kg.°C และ 4,197 J/kg.°C ตามลาดับ
 1 : 0.33 MW
 2 : 0.48 MW
 3 : 0.50 MW
 4 : 0.63 MW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 382 :ก๊าซไอเสียร ้อนไหลเข ้าท่อมีครีบของเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ที่ 300
°C และออกที่ 100 °C เพือ ่ ใช ้ให ้ความร ้อนแก่น้ าอัดตัวที่ 1 kg/s จาก 35 °C เป็ น 125 °C ค่า U ถือตามพืน ้ ทีผ
่ วิ
ด ้านก๊าซเป็ น 100 W/m2.°C และ NTU = 2.1 จงหาพืน ้ ทีผ
่ วิ ถ่ายเทความร ้อนด ้านก๊าซ(Ah)
กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของก๊าซไอเสียและน้ าเท่ากับ 1000 J/kg.°C และ 4197 J/kg.°C ตามลาดับ
 1 : 33.8 m2
 2 : 35.9 m2
 3 : 39.7 m2
 4 : 41.4 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 383 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน โดยมีคา่ U และพืน ่ ามด ้านก๊าซเป็ น 100 W/m2.°C และ
้ ทีต
2
40 m ตามลาดับ โดยมีน้ าเย็นไหลเข ้าที่ 1 kg/s และ 35 °C แลกเปลีย ่ นกับก๊าซร ้อนซึง่ ไหลเข ้าที่ 1.5 kg/s และ
250 °C จงหาค่า NTU
กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของก๊าซร ้อนและน้ าเท่ากับ 1,000 J/kg.°C และ 4,197 J/kg.°C ตามลาดับ (NTU
= UA/Cmin)
 1 : 1.52
 2 : 2.67
 3 : 3.42
 4 : 4.35

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 384 :ก๊าซไอเสียร ้อนไหลเข ้าท่อของเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ที่ 1.5 kg/s
และ 250 °C เพือ ่ ใช ้ให ้ความร ้อนแก่น้ าอัดตัวทีอ ่ ต
ั ราการไหล 1 kg/s และ 35 °C จงหาอัตราการถ่ายเทความร ้อน
ของเครือ ่ งนี้ โดยทีค ่ า่ effectiveness = 0.82 และกาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของก๊าซร ้อนและน้ าเท่ากับ
1,000 J/kg.°C และ 4,197 J/kg.°C ตามลาดับ
 1 : 0.185 MW
 2 : 0.225 MW
 3 : 0.265 MW
 4 : 0.295 MW

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 385 :น้ ามันร ้อน (hot oil) ที่ 100 °C ใช ้ทาให ้อากาศร ้อนในเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อน shell-and-tube
และอากาศไหลใน shell ที่ 2.0 kg/s ค่าความร ้อนจาเพาะของอากาศเป็ น 1,009 J/kg.°C ถูกทาให ้ร ้อนจาก 20
เป็ น 80 °C ค่าความร ้อนจาเพาะของน้ ามันเป็ น 2,100 J/kg.°C และอัตราการไหลของน้ ามันเป็ น 3 kg/s จงหา
Effectiveness
 1 : 0.67
 2 : 0.70
 3 : 0.72
 4 : 0.75

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 386 :น้ ามันร ้อน (hot oil) ใช ้ทาให ้อากาศร ้อนในเครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อน shell-and-tube โดยน้ ามันไหล
ในท่อ 6 กลับ ไหลเข ้าที่ 100 °C และออกที่ 80 °C อากาศไหลเข ้าใน shell เทีย ่ วเดียวที่ 2.0 kg/s และ 20 °C
ถูกทาให ้ร ้อนเป็ น 80 °C จงหาอัตราการไหลของน้ ามัน
กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของอากาศและน้ ามันเท่ากับ 1,009 J/kg.°C และ 2,018 J/kg.°C ตามลาดับ
 1 : 2.25 kg/s
 2 : 2.5 kg/s
 3 : 2.75 kg/s
 4 : 3.0 kg/s

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 387 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ถูกออกแบบเพือ ่ ทาการหล่อเย็นน้ าร ้อน
[Cp = 4,180 J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 0.25 kg/s และ 90 °C โดยใช ้อากาศเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 1,005 J/kg.°C]
อากาศไหลเข ้าที่ 15 °C และ 2.0 kg/s โดยทีค ่ า่ สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม (overall heat transfer
coefficient) = 250 W/m2.°C จงหาพืน ้ ทีถ
่ า่ ยเทความร ้อน โดยให ้ค่า NTU = 2.0
 1 : 6.54 m2
 2 : 8.36 m2
 3 : 10.37 m2
 4 : 12.25 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 388 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ าร ้อน [Cp = 4,180
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 0.25 kg/s และ 90 °C โดยใช ้อากาศเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 1,005 J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่
15 °C และ 2.0 kg/s จงคานวณหาอุณหภูมน ิ ้ าทีท ่ างออก ถ ้าค่า effectiveness = 0.72
 1 : 36 °C
 2 : 38 °C
 3 : 40 °C
 4 : 42 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 389 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน (cross-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ าร ้อน [Cp = 4,180
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 0.25 kg/s และ 90 °C โดยใช ้อากาศเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 1,005 J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่
15 °C และ 2.0 kg/s จงคานวณหาอุณหภูมอ ิ ากาศทีท ่ างออก ถ ้าค่า effectiveness = 0.72
 1 : 34.6 °C
 2 : 37.5 °C
 3 : 40.2 °C
 4 : 43.1 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 390 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน (counter-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ ามัน [Cp =
2,000 J/kg.K] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 2 kg/s และ 100 °C โดยใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 4,170 J/kg.K] ซึง่ ไหลเข ้าที่
20 °C และ 0.48 kg/s จงคานวณหาอุณหภูมน ิ ้ าทีท ่ างออก ถ ้าค่า effectiveness = 0.82
 1 : 81.3 °C
 2 : 83.5 °C
 3 : 85.6 °C
 4 : 87.5 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 391 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน (counter-flow) ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ ามัน [Cp =
2,000 J/kg.K] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 2 kg/s และ 100 °C โดยใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp = 4,170 J/kg.K] ซึง่ ไหลเข ้าที่
20 °C และ 0.48 kg/s สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม (overall heat transfer coefficient) U = 400
W/m2.°C จงคานวณหาพืน ้ ทีผ ่ วิ ทีม
่ กี ารถ่ายเทความร ้อน โดยทีค ่ า่ NTU = 2.5
 1 : 10.23 m2
 2 : 12.51 m2
 3 : 14.36 m2
 4 : 16.56 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 392 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อน shell-and-tube ได ้ออกแบบเพือ ่ ให ้ความร ้อนแก่น้ าซึง่ ไหลเข ้าท่อที่ 1
kg/s และ 19 °C โดยการผ่านน้ ามันเครือ ่ งร ้อนทีอ่ ณุ หภูม ิ 90 °C ใน shell ของเครือ ่ ง ถ ้าค่า effectiveness = 0.7
จงหาอุณหภูมน ิ ้ ามันทีอ ่ อกจากเครือ ่ ง กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของน้ ามันและน้ าเท่ากับ 2,100 J/kg.C และ
4,180 J/kg.°C ตามลาดับ
 1 : 34.5 °C
 2 : 36.8 °C
 3 : 38.6 °C
 4 : 40.3 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 393 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อน shell-and-tube ได ้ออกแบบเพือ ่ ให ้ความร ้อนแก่น้ าซึง่ ไหลเข ้าท่อที่ 1
kg/s และ 19 °C โดยการผ่านน้ ามันเครือ ่ งร ้อนทีอ่ ณุ หภูม ิ 90 °C ใน shell โดยพืน ้ ทีผ่ วิ การถ่ายเทความร ้อน(A) =
25.2 m2 และสัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม (overall heat transfer coefficient) U = 250 W/m 2.°C จงหา
ค่า NTU กาหนดให ้ค่าความร ้อนจาเพาะของน้ ามันและน้ าเท่ากับ 2,100 J/kg.°C และ 4,180 J/kg.°C ตามลาดับ
 1 : 1.8
 2:2
 3 : 2.2
 4 : 2.4

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 394 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ ามันเครือ ่ งร ้อน [Cp,h = 2,300
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 3.5 kg/s และ 85 °C และใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ไหลเข ้าที่ 4.9
kg/s และ 20 °C สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 300 W/m2.°C จงหาพืน ้ ทีก
่ ารถ่ายเทความร ้อนของ
เครือ่ ง ซึง่ มีคา่ NTU = 2.3
 1 : 58.1 m2
 2 : 61.7 m2
 3 : 63.9 m2
 4 : 65.4 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 395 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ ามันเครือ ่ งร ้อน [Cp,h = 2,300
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 3.5 kg/s และ 85 °C และใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ไหลเข ้าที่ 4.9
kg/s และ 20 °C สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 300 W/m2.°C จงหาอุณหภูมน ิ ้ ามันเครือ
่ งทีท
่ างออก
ถ ้าค่า Effectiveness = 0.68
 1 : 36.9 °C
 2 : 38.3 °C
 3 : 40.8 °C
 4 : 42.6 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 3
ข ้อที่ 396 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตัดกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นน้ ามันเครือ ่ งร ้อน [Cp,h = 2,300
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 3.5 kg/s และ 85 °C และใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ไหลเข ้าที่ 4.9
kg/s และ 20 °C สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 300 W/m2.°C จงหาอุณหภูมน ิ ้ าทีท
่ างออก ถ ้าค่า
Effectiveness = 0.68
 1 : 35.1 °C
 2 : 37.4 °C
 3 : 39.6 °C
 4 : 41.3 °C

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ข ้อที่ 397 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลตามกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นของไหลร ้อน [Cp,h = 3,840
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 8.7 kg/s และ 75 °C ออกที่ 45 °C โดยใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ซึง่
ไหลเข ้าที่ 9.6 kg/s และ 15 °C ออกที่ 40 °C สัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 500 W/m2.°C จงหา
พืน้ ทีถ่ า่ ยเทความร ้อน
 1 : 75.17 m2
 2 : 80.28 m2
 3 : 85.56 m2
 4 : 90.68 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 4
ข ้อที่ 398 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน ถูกออกแบบให ้หล่อเย็นของไหลร ้อน [Cp,h = 3,840
J/kg.°C] ซึง่ ไหลเข ้าที่ 8.7 kg/s และ 75 °C ออกที่ 45 °C โดยใช ้น้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ซึง่
ไหลเข ้าที่ 9.6 kg/s และ 15 °C ออกที่ 40 °C ค่าสัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวมเท่ากับ 500 W/m2.°C จงหา
พืน ้ ทีถ่ า่ ยเทความร ้อน
 1 : 60.02 m2
 2 : 61.85 m2
 3 : 62.26 m2
 4 : 63.14 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
ข ้อที่ 399 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อนแบบไหลสวนทางกัน ใช ้เพือ ่ หล่อเย็นน้ ามันร ้อนซึง่ ไหลเข ้าที่ 120 °C ออก
้น ่
ที่ 85 °C โดยใช ้ าเป็ นตัวหล่อเย็น [Cp,c = 4,180 J/kg.°C] ซึงไหลเข ้าที่ 0.8 kg/s และ 30 °C ไหลออกที่ 80
°C ถ ้าสัมประสิทธิก ์ ารถ่ายเทความร ้อนรวม 125 W/m2.°C จงคานวณพืน ้ ทีผ่ วิ ถ่ายเทความร ้อน
2
 1 : 28.4 m
 2 : 30.5 m2
 3 : 32.1 m2
 4 : 34.3 m2

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 1
ข ้อที่ 400 :เครือ ่ งแลกเปลีย ่ นความร ้อน shell-and-tube ใช ้เพือ ่ ให ้ความร ้อนแก่น้ าซึง่ ไหลเข ้าที่ 0.7 kg/s และ 20
°C ไหลออกที่ 65 °C โดยใน shell มีน้ ามันเครือ ่ งร ้อนไหลเข ้าที่ 120 °C และออกที่ 60 °C น้ านัน ้ จะไหลในท่อ
ผนังบางจานวน 10 ท่อทีม ่ เี ส ้นผ่านศูนย์กลาง 25 mm ถ ้าค่า U = 400 W/m2.°C จงหาความยาวของท่อ โดยค่า
ความร ้อนจาเพาะของน้ ามันและน้ าเท่ากับ 2,100 และ 4,197 J/kg.°C ตามลาดับ ค่าตัวประกอบแก ้ไข(LMTD),
F=0.9
 1 : 9.26 m
 2 : 9.93 m
 3 : 10.35 m
 4 : 10.94 m

 คาตอบทีถ ่ ก ู ต ้อง : 2
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วศ.ม.) สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่ องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

กติกาการสอบ/การเตรียมต ัวไปสอบ
ในแต่ละหมวดวิชา มีจานวนข ้อสอบวิชาละ 25 ข ้อ จานวน 4 วิชาหรือกลุม ่ วิชา (ตามทีส ่ าขากาหนด) รวมทัง้ หมด 100 ข ้อ คะแนน
แต่ละข ้อเท่ากับ 1 คะแนน ข ้อทีไ่ ม่ตอบหรือตอบผิดได ้คะแนนเท่ากับศูนย์ เวลาสอบ 3 ชัว่ โมง และผู ้เข ้าสอบจะต ้องได ้คะแนนในแต่ละหมวด
วิชาไม่น ้อยกว่าร ้อยละหกสิบ (60%) จึงจะถือว่าเป็ นผู ้สอบผ่าน
โปรดเตรียม
1. บัตรสมาชิกสภาวิศวกร ปากกา ดินสอ ไม ้บรรทัดยาว ยางลบ วงเวียน (กระดาษทดมีแจกในห ้องสอบ)
2. เครือ ่ งคานวณธรรมดาทีม ่ ฟ
ี ั งก์ชน ั เสริมทางเรขาคณิตเท่านัน ้ สาหรับเครือ่ งคานวณทีส ่ ามารถ บรรจุโปรแกรมตัวอักษร (สือ ่ สารได ้)
ไม่อนุญาตให ้นาเข ้าห ้องสอบ
3. สภาวิศวกรสงวนสิทธิใ์ นการขอเลือ ่ นสอบและการคืนค่าสมัครสอบในทุกกรณี
4. หากวิชาใดจาเป็ นต ้องใช ้ตารางมาตรฐานประกอบการสอบ ผู ้จัดจะเตรียมไว ้ให ้ในห ้องสอบและห ้าม ขีดเขียนข ้อความใด ๆ ลงใน
เล่มตารางมาตรฐานโดยเด็ดขาด
5. ผู ้จัดขอสงวนสิทธิใ์ นการเปลีย ่ นแปลงกาหนดการตามทีเ่ ห็นสมควรโดยไม่ต ้องแจ ้งให ้ทราบล่วงหน ้า
หมายเหตุ
1. ชายแต่งกายเสือ ้ เชิต ้ -กางเกงแสล็ค สีและแบบสุภาพ หญิงเสือ ้ -กระโปรงแบบสุภาพ ห ้ามสวมรองเท ้าแตะ,เสือ ้ ยืดทุกประเภท,
กางเกงยีนส์
2. สภาวิศวกรสงวนสิทธิใ์ นการขอเลือ ่ นสอบและการคืนค่าสมัครสอบในทุกกรณี
3. หากวิชาใดจาเป็ นต ้องใช ้ตารางมาตรฐานประกอบการสอบ ผู ้จัดจะเตรียมไว ้ให ้ในห ้องสอบและห ้าม ขีดเขียนข ้อความใด ๆ ลงใน
เล่มตารางมาตรฐานโดยเด็ดขาด
4. ผู ้จัดขอสงวนสิทธิใ์ นการเปลีย ่ นแปลงกาหนดการตามทีเ่ ห็นสมควรโดยไม่ต ้องแจ ้งให ้ทราบล่วงหน ้า
หมายเหตุ
1. ชายแต่งกายเสือ ้ เชิต ้ -กางเกงแสล็ค สีและแบบสุภาพ หญิงเสือ ้ -กระโปรงแบบสุภาพ ห ้ามสวมรองเท ้าแตะ,เสือ ้ ยืดทุกประเภท,
กางเกงยีนส์
2. สภาวิศวกรสงวนสิทธิใ์ นการขอเลือ ่ นสอบและการคืนค่าสมัครสอบในทุกกรณี
3. หากวิชาใดจาเป็ นต ้องใช ้ตารางมาตรฐานประกอบการสอบ ผู ้จัดจะเตรียมไว ้ให ้ในห ้องสอบและห ้าม ขีดเขียนข ้อความใด ๆ ลงใน
เล่มตารางมาตรฐานโดยเด็ดขาด
4. ผู ้จัดขอสงวนสิทธิใ์ นการเปลีย ่ นแปลงกาหนดการตามทีเ่ ห็นสมควรโดยไม่ต ้องแจ ้งให ้ทราบล่วงหน ้า
ข้อพึงระว ัง
โปรดอ่าน
- ผู ้สมัครต ้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็ นผู ้มีคณ ุ สมบัตต ิ รงตามข ้อบังคับสภาวิศวกรว่าด ้วยการรับสมัครเป็ น
สมาชิกสามัญของสภาวิศวกร พ.ศ. 2543 และต ้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให ้ถูกต ้องครบถ ้วนตรงความเป็ นจริง ในกรณีทม ี่ ค ี วามผิดพลาดอัน
เกิดจากผู ้สมัคร หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานซึง่ ผู ้สมัครนามายืน ่ ไม่ตรง หรือ ไม่เป็ นไปตามทีก ่ ฎหมายกาหนด จะถือว่าผู ้สมัครเป็ นผู ้ขาด
คุณสมบัตใิ นการเป็ นสมาชิกสามัญของสภาวิศวกร และขาดคุณสมบัตใิ นการสมัครสอบมาตัง้ แต่ต ้น
- การสมัค รสอบตามขัน ้ ตอนข ้างต ้น ถือ ว่า ผู ้สมัค รสอบเป็ นผู ้ลงลายมือ ชือ ่ และรั บ รองความถูก ต ้องของข ้อมูลดัง กล่าว ตาม
พระราชบัญ ญัตวิ า่ ด ้วยธุร กรรมทางอิเล็ก ทรอนิก ส์ พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2551 ดังนั น ้ หากผู ้สมัครสอบจงใจกรอกข ้อมูลอันเป็ นเท็จ อาจมี
ความผิดทางอาญาและต ้องได ้รับโทษตามทีก ่ ฎหมายบัญญัตไิ ว ้
- ผู ้ทีส ่ มัครสอบหลายรอบพร ้อมกัน หากผ่านการทดสอบความรู ้ในรอบใดแล ้ว ไม่สามารถขอคืนเงินค่าธรรมเนียมในรอบอืน ่ ๆ ทีเ่ หลือ
ได ้
- ผู ้สมัครสอบ ต ้องมีคณ ุ สมบัตค ิ รบถ ้วนตามทีส ่ ภาวิศวกร กาหนด และบันทึกข ้อมูลให ้ถูกต ้อง ครบถ ้วนสมบูรณ์
- หากตรวจสอบในภายหลังว่าผู ้สมัครไม่มค ี ณ
ุ สมบัตต ิ ามทีก ่ าหนด หรือ บันทึกข ้อมูลไม่ถก ู ตอ ้ งตามความเป็ นจริง ผลการสอบและ
การทารายการทัง้ หมดจะถูกยกเลิก โดยไม่คน ื ค่าธรรมเนียม
- กรณีไม่มข ี ้อมูลตรงกับขอมูลการศึกษาของท่าน โปรดตรวจสอบการรับรองปริญญา
- สาหรับผู ้ทีส ่ าเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ โปรดติดต่อสภาวิศวกร
- เอกสารประกอบการสมัครฯ ให ้ส่งมาทางไปรษณีย ์ ถึงสานักงานสภาวิศวกรล่วงหน ้า ก่อนถึงวันกาหนดทดสอบความรู ้ โดยระบุหน ้า
ซองว่า "ขอรับใบอนุญาตภาคีวศ ิ วกร" ทัง้ นี้ กรณีนาส่งเอกสารด ้วยตนเอง ณ สานักงานสภาวิศวกร หรือสถานทีจ ่ ัดสอบ ให ้ยืน ่ เอกสารได ้ช ้าสุด
ก่อนเข ้าห ้องสอบ
- อนึง่ เมือ ่ ถึงวันสอบหากไม่มเี อกสารมายืน ่ การสมัครสอบของบุคคลจะถูกยกเลิก (ไม่สามารถเข ้าสอบได ้)
- กรณีสอบทีส ่ ภาวิศวกร ให ้ยืน ่ เอกสารทีเ่ คาน์เตอร์ ชัน ้ 2 ก่อนเวลา 8.45 น.
- รายการเอกสารและคุณสมบัตข ิ องผู ้สมัครสอบ
- เมือ ่ ผู ้สมัครสอบ สอบผ่าน 1 หมวดวิชา หมวดทีส ่ อบผ่านสามารถเก็บผลทีส ่ อบผ่า นไว ้ได ้ 2 ปี นับตัง้ แต่วันทีส ่ อบผ่าน เมือ ่ ครบ
กาหนด 2 ปี ยังสอบไม่ผา่ นให ้สอบทัง้ 2 หมวดใหม่
- เมือ ่ สอบผ่านทัง้ 2 หมวดวิชา ท่านสามารถชาระค่าอบรมทดสอบความพร ้อม จานวน 1,500 บาท ได ้ในวันสอบ พร ้อมกับรับหนังสือ
อบรม
- หากชาระภายหลังสภาวิศวกรจะจัดส่งหนังสือไปตามทีอ ่ ยูใ่ นฐานข ้อมูล
- เมือ ่ อบรมทดสอบความพร ้อมผ่าน จึงมีสท ิ ธิได ้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ระดับภาคีวศ ิ วกร

ติดต่อสอบถามข ้อมูลที่ Call Center โทร. 1303

You might also like