อสมการม 3

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 48

1

แบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์
สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3
เรื่อง อสมการ
เล่ม 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว

จุดประสงค์ การเรียนรู้

1. เขียนประโยคภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิ ตศาสตร์ ได้


2. บอกได้ว่าประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
3. หาคาตอบและเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการที่กาหนดให้ได้
2

คาแนะนาการใช้ แบบฝึ กทักษะ


เล่ ม 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว

แบบฝึ กทักษะเล่มนี้ใช้ประกอบการเรี ยนการสอนวิชาคณิ ตศาสตร์ รหัส ค 33101


ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่ อง อสมการ ประกอบด้วย 2 ตอน ตอนที่ 1 เวลา 2 ชัว่ โมง และ
ตอนที่ 2 เวลา 2 ชัว่ โมง ให้นกั เรี ยนดาเนินการตามคาแนะนา ดังนี้
1. ทาแบบทดสอบก่อนเรี ยน จานวน 20 ข้อ ลงในกระดาษคาตอบ
2. ทาแบบฝึ กทักษะ ตอนที่ 1-2 โดยเริ่ มจากการศึกษาเนื้อหาและตัวอย่าง
ก่อนทาแบบฝึ กทักษะแต่ละตอน
3. ตรวจแนวตอบจากเฉลยท้ายเล่ม แล้วบันทึกคะแนนลงในตารางบันทึก
คะแนนทาแบบฝึ กทักษะ
4. เมื่อทาแบบฝึ กทักษะครบแล้วให้ทาแบบทดสอบหลังเรี ยนลงใน
กระดาษคาตอบ
5. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรี ยนและหลังเรี ยนจากเฉลยท้ายเล่ม และบันทึก
คะแนนในตารางบันทึกคะแนน เพื่อทราบผลการเรี ยนและการพัฒนา
6. เวลา 4 ชัว่ โมง
3

แบบทดสอบก่ อนเรียน

วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่อง อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว เวลา 30 นาที


คาสั่ง ข้อสอบฉบับนี้เป็ นข้อสอบปรนัยมีท้งั หมด 20 ข้อ ให้นกั เรี ยนเลือกคาตอบที่ถกู เพียงข้อเดียว

จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 1. เขียนประโยค 4. 3(x  4)  8 เขียนเป็ นประโยคภาษา


ภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ได้ในข้อใด
ทางคณิ ตศาสตร์ ได้ ก. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่า จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ไม่เกิน 9 เขียนเป็ นประโยคสัญลักษณ์ ข. สามเท่าของผลต่างของจานวน
ได้ในข้อใด จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ก. 3x  9 ค. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
ข. 3x  9 จานวนหนึ่งกับ 4 น้อยกว่า 8
ค. 3x  9 ง. สามเท่าของผลต่างของจานวน
ง. 3x  9 จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่นอ้ ยกว่า 8
2. ห้าเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่ง 5. 2(x  5)  9  7 เขียนเป็ นประโยคภาษา
กับ 8 ไม่นอ้ ยกว่า 35 เขียนเป็ นประโยค ได้ในข้อใด
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ก. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
ก. 5x  8  35 จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9
ข. 5x  8  35 มากกว่า 7
ค. 5(x  8)  35 ข. สองเท่าของผลต่างของจานวน
ง. 5(x  8)  35 จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
3. ผลบวกของสามเท่าของจานวน อยูไ่ ม่มากกว่า 7
จานวนหนึ่งกับ 8 มีค่าไม่เกิน 20 เขียนเป็ น ค. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
ประโยคสัญลักษณ์ได้ในข้อใด จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า
ก. 3(x  8)  20 หรื อเท่ากับ 7
ข. 3(x  8)  20 ง. สองเท่าของผลต่างของจานวน
ค. 3x  8  20 จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
ง. 3x  8  20 อยูไ่ ม่นอ้ ยกว่า 7
4

6. สองเท่าของจานวนนับจานวนหนึ่ง จุดประสงค์การเรี ยนรู้ที่ : 3. หาคาตอบ


มากกว่า 15 อยูไ่ ม่เกิน 8 เขียนเป็ นอสมการได้ และเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ
ในข้อใด ที่กาหนดให้ได้
ก. 2x  8  15
ข. 2x 15  8 10. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
ค. 2x 15  8
ง. 2x 15  8 -2 -1 0 1 2 3 4
7. สี่เท่าของผลต่างจานวนจานวนหนึ่งกับหก ก. x 1  0
มากกว่า 15 อยูไ่ ม่เกิน 7 เขียนเป็ นประโยค ข. x 2 0
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ค. x2 0
ก. 4(x  6) 15  7 ง. x 1  0
ข. 4(x  6) 15  7
ค. 4(x  6)  7  15 11. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
ง. 15  4x  6  7
จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 2. บอกได้ว่า -4 -3 -2 -1 0 1 2
ประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ก. x 1  0
ตัวแปรเดียว ข. x 1  0
8. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ค. x 1  0
ตัวแปรเดียว ง. x 1  0
ก. 3  8  10
ข. 3x 2  9 12. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
ค. 5x  y  6
ง. 9x 15  85 -1 0 1 2 3 4 5
9. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ก. x4
ตัวแปรเดียว ข. x  4
ก. 4  9  10 ค. x4
ข. 3x 2  27 ง. x  4
ค. 5x  y  6
x
ง. x  5  85
5

13. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 16. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด


x 3  0
ก. -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 ก. 2  x  4
ข. ข. 2  x  4
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 ค. 2  x  4
ค. ง. 2  x  4
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
ง. 17. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 3  x  5
ก.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
14. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด ข.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-2 -1 0 1 2 3 4 ค.
ก. x2 0 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ข. x2 0 ง.
ค. x 2 0 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ง. x 2 0
18. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ
4  x  2
15. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด ก.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
-1 0 1 2 3 4 5 ข.
ก. x 2 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ข. x  2  5 ค.
ค. x 2 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ง. x 2 5 ง.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
6

19. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 20. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ


x  ( 3)( 2) 3  3x
ก. ก.
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ข. ก.
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ค. ก.
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ง. ก.
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6

ทาแบบฝึ กต่อไปเลยนะ
7

อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ตอนที่ 1

จุดประสงค์การเรียนรู้
เขียนประโยคภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ได้
บอกได้ ว่าประโยคสัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว

นักเรี ยนเคยเขียนประโยคเกี่ยวกับจานวนให้เป็ นประโยคที่ใช้สญ ั ลักษณ์ทางคณิ ตศาสตร์


เช่น แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งเท่ากับยีส่ ิบสี่ เขียนได้เป็ น 8x  24 หรื อประโยค ห้าเท่าของ
จานวนจานวนหนึ่งมากกว่าเจ็ดอยูส่ าม เขียนได้เป็ น 5x  7  3 ซึ่งเป็ นประโยคที่ใช้สญ ั ลักษณ์
ทางคณิ ตศาสตร์ดงั กล่าว เรี ยกว่า สมการ นอกจากนี้นกั เรี ยนยังเคยรู้จกั สัญลักษณ์ต่อไปนี้
 แทนความสัมพันธ์ น้อยกว่า หรื อไม่ถึง
 แทนความสัมพันธ์ มากกว่า หรื อเกิน
 แทนความสัมพันธ์ ไม่เท่ากับ หรื อไม่เท่ากัน
 แทนความสัมพันธ์ น้อยกว่า หรื อเท่ากับ
 แทนความสัมพันธ์ มากกว่า หรื อเท่ากับ
เช่น y  2 อ่านว่า y มากกว่าหรื อเท่ากับ 2
หมายถึง y  2 หรื อ y  2
และ x  5 อ่านว่า x น้อยกว่าหรื อเท่ากับ 5
หมายถึง x  5 หรื อ x  5
8

พิจารณาการเปลีย่ นประโยคภาษาให้ เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ต่อไปนี้


ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์
1. ยีส่ ิบบวกแปดน้อยกว่าสามสิบหก 20  8  36
2. เจ็ดสิบสี่มากกว่าเศษหนึ่งส่วนสามคูณด้วยสามสิบเก้า 74  1 (39)
3
3. สองเท่าของจานวนหนึ่งน้อยกว่าหรื อเท่ากับ 10 2x  10
4. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกกับสามมีค่าไม่เท่ากับ 6 4x  3  6
5. เจ็ดเท่าของจานวนหนึ่งมากกว่าผลบวกของสามเท่า 7x  3x 16
ของจานวนนั้นกับ 16

ประโยคสัญลักษณ์ในข้อ 1 – 5 เรี ยกว่า อสมการ

ประโยคที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของจานวนโดยมีสญ
ั ลักษณ์
 ,  ,  ,  หรื อ  เรี ยกว่า อสมการ

1
อสมการ 20  8  36 และ 74  3 (39) เป็ นอสมการที่ไม่มีตวั แปร
ส่วนอสมการ 2x  10 , 4x  3  6 และ 7x  3x 16 เป็ นอสมการที่มีตวั แปร และ
มีตวั แปรเดียวที่มดี ีกรี ของตัวแปรเท่ากับ 1 เรี ยกว่า อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว

ตัวอย่าง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
(1) 2x  3  7 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1
(2) 4y  5  8 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ y ดีกรี ของ y
เท่ากับ 1
(3) 7a  3  9 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ a ดีกรี ของ a เท่ากับ 1
x
(4) 5  4  12 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1
9

(5) 4m  7  10 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว


เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ m ดีกรี ของ m
เท่ากับ 1
(6) 3(4z  8)  15 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ z ดีกรี ของ z เท่ากับ 1
(7) 12n  9  4x  3 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ n ดีกรี ของ n
เท่ากับ 1
(8) 7(x  4)  2(3x  5) เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ x ดีกรี ของ x เท่ากับ 1
3
(9) 2 (b  7)  16 เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ b ดีกรี ของ b เท่ากับ 1
4 5
(10) 5 (c  3)  4 (c  2) เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีเครื่ องหมาย  มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ c ดีกรี ของ c
เท่ากับ 1
ตัวอย่าง อสมการที่ไม่ใช่อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เช่น (1) 3x  2y  4 ไม่เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีตวั แปรไม่เท่ากับหนึ่งตัวคือ x และ y
(2) 3x 2  5  14 ไม่เป็ นอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เพราะเป็ นประโยคสัญลักษณ์ที่มีตวั แปรหนึ่งตัวคือ x แต่มีดีกรี ของ x ไม่เท่ากับ 1

ทาแบบฝึ กทักษะ
ต่อไปเลยนะครับ
10

แบบฝึ กทักษะตอนที่ 1

1. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีใ้ ห้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์


ให้ ถกู ต้อง (ข้อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ x แทนตัวแปรในแต่ละข้อ

ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์

1. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับห้าคูณสองมีค่ามากกว่าสิบสอง ……………………………………..
2. จานวนจานวนหนึ่งหารด้วยห้ามีค่ามากกว่าหรื อเท่ากับ ……………………………………..
สิบสอง

3. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งบวกเจ็ดมีค่าไม่มากกว่า ……………………………………..
ยีส่ ิบเอ็ด

4. สองเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด ……………………………………..

น้อยกว่าห้า

5. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกด้วยเจ็ดมีค่าไม่นอ้ ยกว่าเก้า ……………………………………..

6. สี่เท่าของจานวนจานวนหนึ่งหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อ ……………………………………..

เท่ากับยีส่ ิบ

7. ผลคูณของห้ากับจานวนหนึ่งบวกด้วยสองมีค่า ……………………………………..
มากกว่าสิบห้า

8. จานวนจานวนหนึ่งลบด้วยสิบสองหารด้วยห้ามีค่า ……………………………………..
ไม่มากกว่าสิบแปด
11

ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์

9. ผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ด เมื่อหารด้วยสาม ……………………………………


มีค่าไม่เท่ากับสิบสอง

10. ครึ่ งหนึ่งของผลบวกของสิบกับจานวนหนึ่งมีค่า ……………………………………


ไม่นอ้ ยกว่าสิบ

11. จานวนจานวนหนึ่งเมื่อหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อเท่ากับ ……………………………………


ยีส่ ิบ

12. เศษสามส่วนสี่ของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสอง ……………………………………


ไม่ถึงสี่สิบ

13. สองเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสี่นอ้ ยกว่า ……………………………………


ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนนั้นกับแปด

14. ผลบวกของสามในสี่ของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด ……………………………………


ไม่เกินสิบห้า

15. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับแปดหารด้วยสองมีค่าไม่เท่ากับ ……………………………………


สิบสอง
12

2. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีใ้ ห้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ให้ถูกต้อง


(ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ y แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ

ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์
1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่าไม่มากกว่าผลบวก
ของสองเท่าของจานวนนั้นกับสาม
2. สี่เท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับ 15 ไม่เกิน 25
3. ผลบวกของสี่ส่วนห้าของจานวนจานวนหนึ่งกับ 10
ไม่นอ้ ยกว่า 9
4. แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมากกว่าสามเท่าของ
จานวนนั้นไม่นอ้ ยกว่า 16
5. ผลบวกของสามในสิบของจานวนจานวนหนึ่งกับ
สองในห้าของจานวนนั้นมีค่ามากกว่า 42
6. จานวนจานวนหนึ่งรวมกับสี่ในห้าของจานวนนั้น
ยังน้อยกว่า 15
7. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งน้อยกว่าแปดเท่าของ
จานวนนั้นอยูไ่ ม่เกิน 35
8. ผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ดในเก้าของ
จานวนนั้นมีค่าน้อยกว่า 4
9. ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับ
สี่มีค่ามากกว่า 20
10. เจ็ดในสิบห้าของสองเท่าของจานวนจานวนหนึ่ง
มีค่ามากกว่า 15
13

3. ให้ นักเรียนใส่ เครื่องหมาย (  ) ลงในช่ องของตารางให้ ถูกต้อง (ข้ อละ 1 คะแนน)

อสมการ อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว


ข้ อ ประโยคสัญลักษณ์
ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่
1 8x  16
2 2x  5  13
3 3x  5y  10
4 3
2 x  20
5 y  9  16
6 2x  x  x  9
7 y2 5  0
8 5
6 (x  3)  10
9 x  8  26
10 3x  9  x 12
11 3  7  15
12 9 7
8  8 3
13 3x  9  x 12
14 2
5 x  9  20  y
15 3y  9  16x  8

รวมคะแนน
14

อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ตอนที่ 2

จุดประสงค์การเรียนรู้
หาคาตอบและเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการที่กาหนดให้ได้

คาตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว คือ จานวนจริ งใดๆ ที่นาไปแทนค่าตัวแปร


ในอสมการแล้ว จะได้อสมการที่เป็ นจริ ง
เช่น x  3  12
ถ้าแทน x ด้วย 16 จะได้อสมการ 16  3  12
13  12 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 15 จะได้อสมการ 15  3  12
12  12 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 14 จะได้อสมการ 14  3  12
11  12 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 14 เป็ นคาตอบของอสมการ
ถ้าแทน x ด้วย 13 จะได้อสมการ 13  3  12
10  12 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 13 เป็ นคาตอบของอสมการ
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ จะพบว่าอสมการเป็ นจริ งได้เมือ่ x  15
ดังนั้น คาตอบของอสมการ x  3  12 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า 15
15

ตัวอย่างที่ 1 จงหาจานวนที่แทนตัวแปร x แล้วทาให้ประโยคเป็ นจริ ง


1) 5x 1  26
2) 3x  21
3) 2  x  5
วิธีทา
1) 5x 1  26
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้ 5(5) 1  26
26  26 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 5 แล้วจะทาให้ 5x 1  26 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 5 เป็ นคาตอบของอสมการ 5x 1  26
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวน
1 1
ที่ทาให้อสมการ 5x 1  26 เป็ นจริ ง เช่น 4.9 , 4 2 , 3 .2 , 2 2 , 2 , 1 , 0 , 1 , ...
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 5x 1  26 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 5x 1  26 ได้ดงั นี้

-2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่าหรื อเท่ากับ 5


16

2) 3x  21
ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ว่า 3(0)  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า 3(1)  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ว่า 3( 6)  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 7 จะได้ว่า 3(7)  21 ไม่เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
จะพบว่า 3x  21 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 7
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 3x  21 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 7
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 3x  21 ได้ดงั นี้

3 4 5 6 7 8 9

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 7

3) 2  x  5
ถ้าแทน x ด้วย 1 จะได้ว่า 2  1  5 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ว่า 2  0  5 เป็ นจริ ง
เมือ่ แทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกหลายจานวนที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
เช่น 1 , 2 , 3 , 4 , 5 ซึ่งเป็ นจานวนที่มากกว่า 2 แต่นอ้ ยกว่าหรื อเท่ากับ 5
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 2  x  5 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 2
แต่นอ้ ยกว่าหรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2  x  5 ได้ดงั นี้

-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 2 แต่นอ้ ยกว่าหรื อเท่ากับ 5
17

ตัวอย่างที่ 2 จงหาจานวนที่แทนตัวแปร x แล้วทาให้ x  3  8 เป็ นจริ ง

วิธีทา จาก x 3  8
ถ้าแทน x ด้วย 11 จะได้ 11  3  8 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 10 จะได้ 10  3  8 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 9 จะได้ 9  3  8 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 8 จะได้ 8  3  8 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
1 1
เช่น 10.9 , 10 , 9.9 , 9.8 , 9 2 , 8 , 7 2 , 7 , 6 , 5 , ...
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ x  3  8 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า 11
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการได้ดงั นี้

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า 11

สู ้ ๆ ทาแบบฝึ กต่อไป
ได้เลย….
18

แบบฝึ กทักษะตอนที่ 2

คาชี้แจง ให้นักเรียนหาคาตอบของอสมการในข้ อต่อไปนี้ โดยทดลองแทนค่าและเขียนกราฟแสดง


คาตอบ (ข้ อละ 2 คะแนน)
1. x  7  3
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……….. .……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……….. .……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……….. .……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
19

2. 2x  6  4
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….…………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….…………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….…………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
20

3. 4x  5  15
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
21

4. x  5  4
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
22

5. 7x  35
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………….
23

x
6. 2  4
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
24

7. 2x  8  2
………………………………………………………………………………………………………
………..……………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
25

8. 7x  6  20
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
26

9. 3x  5  14
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
27

10. 12  x  21
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………

รวมคะแนน ...............
28

แบบทดสอบหลังเรียน

วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เรื่อง อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว เวลา 30 นาที


คาสั่ง ข้อสอบฉบับนี้เป็ นข้อสอบปรนัยมีท้งั หมด 20 ข้อ ให้นกั เรี ยนเลือกคาตอบที่ถกู เพียงข้อเดียว

จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 1. เขียนประโยค 4. 2(x  5)  9  7 เขียนเป็ นประโยคภาษา


ภาษาให้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทาง ได้ในข้อใด
คณิ ตศาสตร์ ได้ ก. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
1. ผลบวกของสามเท่าของจานวน จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9
จานวนหนึ่งกับ 8 มีค่าไม่เกิน 20 เขียนเป็ น มากกว่า 7
ประโยคสัญลักษณ์ได้ในข้อใด ข. สองเท่าของผลต่างของจานวน
ก. 3(x  8)  20 จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
ข. 3(x  8)  20 อยูไ่ ม่มากกว่า 7
ค. 3x  8  20 ค. ผลต่างของสองเท่าของจานวน
ง. 3x  8  20 จานวนหนึ่งกับ 5 ลบด้วย 9 มากกว่า
2. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่า หรื อเท่ากับ 7
ไม่เกิน 9 เขียนเป็ นประโยคสัญลักษณ์ ง. สองเท่าของผลต่างของจานวน
ได้ในข้อใด จานวนหนึ่งกับ 5 มีค่ามากกว่า 9
ก. 3x  9 อยูไ่ ม่นอ้ ยกว่า 7
ข. 3x  9 5. 3(x  4)  8 เขียนเป็ นประโยคภาษา
ค. 3x  9 ได้ในข้อใด
ง. 3x  9 ก. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
3. ห้าเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่ง จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
กับ 8 ไม่นอ้ ยกว่า 35 เขียนเป็ นประโยค ข. สามเท่าของผลต่างของจานวน
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่มากกว่า 8
ก. 5x  8  35 ค. ผลต่างของสามเท่าของจานวน
ข. 5x  8  35 จานวนหนึ่งกับ 4 น้อยกว่า 8
ค. 5(x  8)  35 ง. สามเท่าของผลต่างของจานวน
ง. 5(x  8)  35 จานวนหนึ่งกับ 4 ไม่นอ้ ยกว่า 8
29

6. สี่เท่าของผลต่างจานวนจานวนหนึ่งกับหก จุดประสงค์การเรี ยนรู้ที่ : 3. หาคาตอบ


มากกว่า 15 อยูไ่ ม่เกิน 7 เขียนเป็ นประโยค และเขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ
สัญลักษณ์ได้ในข้อใด ที่กาหนดให้ได้
ก. 4(x  6) 15  7
ข. 4(x  6) 15  7 10. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
ค. 4(x  6)  7  15
ง. 15  4x  6  7 -1 0 1 2 3 4 5
7. สองเท่าของจานวนนับจานวนหนึ่ง ก. x4
มากกว่า 15 อยูไ่ ม่เกิน 8 เขียนเป็ นอสมการ ข. x  4
ได้ในข้อใด ค. x4
ก. 2x  8  15 ง. x  4
ข. 2x 15  8
ค. 2x 15  8 11. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
ง. 2x 15  8
จุดประสงค์การเรี ยนรู้ : 2. บอกได้ว่าประโยค -2 -1 0 1 2 3 4
สัญลักษณ์ใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ก. x 1  0
ตัวแปรเดียว ข. x 2 0
8. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น ค. x2 0
ตัวแปรเดียว ง. x 1  0
ก. 4  9  10
ข. 3x 2  27 12. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด
ค. 5x  y  6
x -4 -3 -2 -1 0 1 2
ง. x  5  85
ก. x 1  0
9. อสมการในข้อใดเป็ นอสมการเชิงเส้น
ข. x 1  0
ตัวแปรเดียว
ค. x 1  0
ก. 3  8  10
ง. x 1  0
ข. 3x 2  9
ค. 5x  y  6
ง. 9x 15  85
30

13. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด 16. เส้นกราฟข้างล่างนี้ แทนอสมการใด

-1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ก. x 2 5 ก. 2  x  4
ข. x  2  5 ข. 2  x  4
ค. x 2 5 ค. 2  x  4
ง. x 2 5 ง. 2  x  4

14. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 17. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ


x 3  0 3  x  5
ก. ก.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ข. ข.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ค. ค.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ง. ง.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6

18. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ


15. เส้นกราฟข้างล่างนี้แทนอสมการใด 4  x  2
ก.
-2 -1 0 1 2 3 4 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ก. x2 0 ข.
ข. x2 0 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ค. x 2 0 ค.
ง. x 2 0 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ง.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
31

19. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ 20. กราฟข้อใดเป็ นคาตอบของอสมการ


3  3x x  ( 3)( 2)
ก. ก.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
ข. ข.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
ค. ค.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
ง. ง.
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7

เก่งจริ งนะเธอ
ทาได้ทุกข้อเลย
32

เฉลยแบบฝึ กทักษะตอนที่ 1

1. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีใ้ ห้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ ให้ถูกต้อง


(ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ x แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ

ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์

1. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับห้าคูณสองมีค่ามากกว่าสิบสอง 2(5  x)  12
x
2. จานวนจานวนหนึ่งหารด้วยห้ามีค่ามากกว่าหรื อเท่ากับ 5  12
สิบสอง

3. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งบวกเจ็ดมีค่าไม่มากกว่า 3x  7  21
ยีส่ ิบเอ็ด

4. สองเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด 2(x  8)  5
น้อยกว่าห้า

5. สี่เท่าของจานวนหนึ่งบวกด้วยเจ็ดมีค่าไม่นอ้ ยกว่าเก้า 4x  7  9

6. สี่เท่าของจานวนจานวนหนึ่งหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อ 4x
9  20
เท่ากับยีส่ ิบ

7. ผลคูณของห้ากับจานวนหนึ่งบวกด้วยสองมีค่ามากกว่า 5x  2  15
สิบห้า

8. จานวนจานวนหนึ่งลบด้วยสิบสองหารด้วยห้ามีค่า x  12
5  18
ไม่มากกว่าสิบแปด
33

ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์
x 7
9. ผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ด เมื่อหารด้วยสาม 3  12
มีค่าไม่เท่ากับสิบสอง
10  x
2  10
10. ครึ่ งหนึ่งของผลบวกของสิบกับจานวนหนึ่งมีค่า

ไม่นอ้ ยกว่าสิบ

11. จานวนจานวนหนึ่งเมื่อหารด้วยเก้ามากกว่าหรื อเท่ากับ x


9  20
ยีส่ ิบ
3
4 (x  2)  40
12. เศษสามส่วนสี่ของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสอง

ไม่ถึงสี่สิบ

13. สองเท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับสี่นอ้ ยกว่า 2(x  4)  5(x  8)


ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนนั้นกับแปด
3
4 x  8  15
14. ผลบวกของสามในสี่ของจานวนจานวนหนึ่งกับแปด

ไม่เกินสิบห้า
x 8
15. ผลบวกของจานวนหนึ่งกับแปดหารด้วยสองมีค่า 2  12
ไม่เท่ากับสิบสอง
34

2. จงเขียนประโยคภาษาต่อไปนีใ้ ห้เป็ นประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ ให้ ถูกต้อง


(ข้ อละ 1 คะแนน) โดยมีข้อตกลงให้ y แทนตัวแปรในแต่ละข้ อ

ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์
1. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมีค่าไม่มากกว่าผลบวก 3y  2y  3
ของสองเท่าของจานวนนั้นกับสาม
2. สี่เท่าของผลต่างของจานวนจานวนหนึ่งกับ 15 ไม่เกิน 25 4(y 15)  25
3. ผลบวกของสี่ส่วนห้าของจานวนจานวนหนึ่งกับ 10 4
5 y  10  9
ไม่นอ้ ยกว่า 9
4. แปดเท่าของจานวนจานวนหนึ่งมากกว่าสามเท่าของ 8y  3y  16
จานวนนั้นไม่นอ้ ยกว่า 16
5. ผลบวกของสามในสิบของจานวนจานวนหนึ่งกับ 3 2
10 5 y  42
y 
สองในห้าของจานวนนั้นมีค่ามากกว่า 42
6. จานวนจานวนหนึ่งรวมกับสี่ในห้าของจานวนนั้น 4
y  5 y  15
ยังน้อยกว่า 15
7. สามเท่าของจานวนจานวนหนึ่งน้อยกว่าแปดเท่าของ 8y  3y  35
จานวนนั้นอยูไ่ ม่เกิน 35
8. ผลบวกของจานวนจานวนหนึ่งกับเจ็ดในเก้าของ 7
y 9y4
จานวนนั้นมีค่าน้อยกว่า 4
9. ห้าเท่าของผลบวกของจานวนจานวนหนึ่ งกับ 5(y  4)  20
สี่มีค่ามากกว่า 20
10. เจ็ดในสิบห้าของสองเท่าของจานวนจานวนหนึ่ง 7
15 (2y)  15
มีค่ามากกว่า 15
35

3. ให้ นกั เรียนใส่ เครื่องหมาย (  ) ลงในช่ องของตารางให้ ถูกต้อง


อสมการ อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
ข้ อ ประโยคสัญลักษณ์
ใช่ ไม่ใช่ ใช่ ไม่ใช่
1 8x  16  
2 2x  5  13  
3 3x  5y  10  
4 3 x  20  
2
5 y  9  16  
6 2x  x  x  9  
7 y2 5  0  
8 5 (x  3)  10  
6
9 x  8  26  
10 3x  9  x 12  
11 3  7  15  
12 9  7  3  
8 8
13 3x  9  x 12  
14 2 x  9  20  y  
5
15 3y  9  16x  8  

รวมคะแนน ...............
36

เฉลยแบบฝึ กทักษะตอนที่ 2
และเกณฑ์การให้ คะแนน

คาชี้แจง ให้นักเรียนหาคาตอบของอสมการในข้ อต่อไปนี้ โดยทดลองแทนค่าและเขียนกราฟแสดง


คาตอบ (ข้ อละ 2 คะแนน)

1. x 7 3
วิธีทา จาก x 7 3
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้ว่า 4  7  3
3  3 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 3
จะได้ว่า 3  7  3
4  3 เป็ นจริ ง
ดังนั้น 3 แทนลงใน x แล้วจะทาให้ x  7  3 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 3 เป็ นคาตอบของอสมการ x  7  3
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ x  7  3 เป็ นจริ ง เช่น 2 , 1 , 0 , 1, 2, …
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ x  7  3 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 4
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ x  7  3 ได้ดงั นี้

-5 -4 -3 -2 -1 0 1

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า 4

เกณฑ์การให้ คะแนน (ข้ อ 1  10)


ส่วนที่เป็ นสีฟ้าได้ 1 คะแนน
ส่วนที่เป็ นสีเหลืองได้ 1 คะแนน
37

2. 2x  6  4
วิธีทา จาก 2x  6  4
ถ้าแทน x ด้วย 6
จะได้ 2(6)  6  4
6  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้ 2(5)  6  4
4  4 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้ 2(4)  6  4
2  4 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 5 และ 4 แล้วจะทาให้ 2x  6  4 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 5 , 4 เป็ นคาตอบของอสมการ 2x  6  4
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 2x  6  4 เป็ นจริ ง เช่น 4, 3, 2, 1, 0, …
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 2x  6  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2x  6  4 ได้ดงั นี้

0 1 2 3 4 5 6

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่าหรื อเท่ากับ 5


38

3. 4x  5  15
วิธีทา จาก 4x  5  15
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้ 4(4)  5  15
11  15 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้ 4(5)  5  15
15  15 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6
จะได้ 4(6)  5  15
19  15 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 5 แล้วจะทาให้ 4x  5  15 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 5 เป็ นคาตอบของอสมการ 4x  5  15
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 4x  5  15 เป็ นจริ ง เช่น 7, 8, 9, …
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 4x  5  15 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 4x  5  15 ได้ดงั นี้

2 3 4 5 6 7 8

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 5


39

4. x  5  4
วิธีทา จาก x  5  4
ถ้าแทน x ด้วย 1
จะได้ 1  5  4
6  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 0
จะได้ 0  5  4
5  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 1
จะได้ 1  5  4
4  4 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2
จะได้ 2  5  4
3  4 เป็ นจริ ง
ดังนั้น แทน x ด้วย 1 , 2 แล้วจะทาให้ x  5  4 เป็ นจริ ง
แสดงว่า 1 , 2 เป็ นคาตอบของอสมการ x  5  4
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ x  5  4 เป็ นจริ ง เช่น 3, 4, 5, …
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ x  5  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
หรื อเท่ากับ 1
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ x  5  4 ได้ดงั นี้

-2 -1 0 1 2 3 4

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 1


40

5. 7x  35
วิธีทา จาก 7x  35
ถ้าแทน x ด้วย 0 จะได้ 7(0)  35 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 7(2)  35 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5 จะได้ 7( 5)  35 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6 จะได้ 7( 6)  35 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า
7x  35 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 5
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 7x  35 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 7x  35 ได้ดงั นี้

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 5


41

x
6. 2  4
x
วิธีทา จาก 2 4
ถ้าแทน x ด้วย 10
10
จะได้ 2 4
5  4 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 8
8
จะได้ 2 4
44 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6
6
จะได้ 2 4
34 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
x
อสมการ 2  4 เป็ นจริ ง เช่น 4, 2, 0 , …
x
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 2  4 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า
หรื อเท่ากับ 8
x
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2  4 ได้ดงั นี้

-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่าหรื อเท่ากับ 8


42

7. 2x  8  2
วิธีทา จาก 2x  8  2
ถ้าแทน x ด้วย 4
จะได้ 2(4)  8  2
8 8  2
02 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 5
จะได้ 2(5)  8  2
10  8  2
22 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 6
จะได้ 2(6)  8  2
12  8  2 เป็ นจริ ง
42 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 2x  8  2 เป็ นจริ ง เช่น 7, 8, 9, …
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 2x  8  2 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
หรื อเท่ากับ 5
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 2x  8  2 ได้ดงั นี้

-2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 5


43

8. 7x  6  20
วิธีทา จาก 7x  6  20
ถ้าแทน x ด้วย 3
จะได้ 7(3)  6  20
21  6  20
27  20 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2
จะได้ 7(2)  6  20
14  6  20
20  20 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 1
จะได้ว่า 7(1)  6  20
7  6  20
13  20 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 0
จะได้ 7(0)  6  20
0  6  20
6  20 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีก จะพบว่ามีจานวนอีกหลายจานวนที่ทาให้
อสมการ 7x  6  20 เป็ นจริ ง เช่น 1 , 2 , 3 …
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 7x  6  20 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า 2
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 7x  6  20 ได้ดงั นี้

-2 -1 0 1 2 3 4

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่นอ้ ยกว่า 2


44

9. 3x  5  14
วิธีทา จาก 3x  5  14
ถ้าแทน x ด้วย 4 จะได้ 3(4)  5  14 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 3 จะได้ 3(3)  5  14 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 2 จะได้ 3(2)  5  14 เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกมากมายที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง จะพบว่า
3x  5  14 เป็ นจริ ง เมื่อแทน x ได้ทุกจานวนยกเว้น 3
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 3x  5  14 คือ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 3
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 3x  5  14 ได้ดงั นี้

0 1 2 3 4 5 6
ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนยกเว้น 3

10. 12  x  21
วิธีทา ถ้าแทน x ด้วย 11 จะได้ 12  11  21 ไม่เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 12 จะได้ 12  12  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 13 จะได้ 12  13  21 เป็ นจริ ง
ถ้าแทน x ด้วย 21 จะได้ 12  21  21 ไม่เป็ นจริ ง
เมื่อแทน x ด้วยจานวนจริ งอื่นๆ อีกหลายจานวนที่ทาให้อสมการเป็ นจริ ง
เช่น 14, 1 5 , 16 ซึ่งเป็ นจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 12 แต่นอ้ ยกว่า 21
นัน่ คือ คาตอบของอสมการ 12  x  21 คือ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่า
หรื อเท่ากับ 12 แต่นอ้ ยกว่า 21
เขียนกราฟแสดงคาตอบของอสมการ 12  x  21 ได้ดงั นี้

11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

ตอบ จานวนจริ งทุกจานวนที่มากกว่าหรื อเท่ากับ 12 แต่นอ้ ยกว่า 21


45

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

ข้ อที่ คาตอบ ข้ อที่ คาตอบ


1. ง 11. ก
2. ค 12. ค
3. ง 13. ข
4. ข 14. ง
5. ง 15. ก
6. ค 16. ค
7. ข 17. ก
8. ง 18. ค
9. ง 19. ข
10. ข 20. ง
46

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน

ข้ อที่ คาตอบ ข้ อที่ คาตอบ


1. ง 11. ข
2. ง 12. ก
3. ค 13. ก
4. ง 14. ข
5. ข 15. ง
6. ข 16. ค
7. ค 17. ก
8. ง 18. ค
9. ง 19. ง
10. ค 20. ข

ทาคะแนนได้ดีมากเลย…
ไปศึกษาแบบฝึ กทักษะเล่มที่ 2
ต่อไปครับ
47

ตารางบันทึกคะแนนการทาแบบฝึ กทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง อสมการ เล่มที่ 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
แบบฝึ กทักษะ แบบฝึ กทักษะ
รวม
เลขที่ ชื่อ  สกุล ตอนที่ 1 ตอนที่ 2
(40 คะแนน) (20 คะแนน)
(60 คะแนน)

ตารางบันทึกคะแนนการทาแบบทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน
เรื่อง อสมการ เล่มที่ 1 อสมการเชิงเส้ นตัวแปรเดียว
แบบทดสอบก่ อนเรี ยน แบบทดสอบหลังเรียน
เลขที่ ชื่อ  สกุล
(20 คะแนน) (20 คะแนน)

คะแนนหลังเรี ยน  คะแนนก่อนเรี ยน
ร้อยละความก้าวหน้าในการเรี ยนรู้ =  100
คะแนนเต็ม

=   100
20

=
48

บรรณานุกรม

กนกวลี อุษณกรกุล. (2545). คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสู ตรการศึกษา


ขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุ งเทพมหานคร, อักษรเจริ ญทัศน์.
ฉวีวรรณ เศวตมาลย์. (2545). กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่ วงชั้นที่ 3 (ม.1-3)
กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์ประสานมิตร.
ชนันทิตา ฉัตรทอง และ อัศนีย ์ สว่างศิลป์ . (2544). คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: อักษรเจริ ญทัศน์.
นพพร แหยมแสง. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ พนื้ ฐาน ช่ วงชั้นที่ 3
ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ภาคเรียนที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสู ตร
การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544. กรุ งเทพมหานคร: เซเว่น พริ้ นติ้งกรุ๊ ป.
เลิศ เกษรคา. (2545). คู่สร้ างคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสู ตรการศึกษา
ขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: ไทยร่ มเกล้า.
วิชาการ, กรม. (2540). คู่มอื ครูวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 2).
กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ส่งเสริ มการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2537). หนังสือเรียนรายวิชา ค 204
คณิตศาสตร์ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ตามหลักสู ตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2533). (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
_______. (2548). คู่มอื ครูสาระการเรียนรู้พนื้ ฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ตามหลักสู ตรการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544.
(พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
_______. (2548). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้ พนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ตามหลักสู ตรการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544.
(พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุ งเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

You might also like