Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 112

คำ�สอนของหลวงปู่

พระพิศาลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)


ที่ระลึกงานทอดกฐิน
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๓
ณ วัดใหม่ปลายห้วย
ตำ�บลเนินปอ อำ�เภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร
คำ�อนุญาต
หนังสือเล่มนี้หลวงปู่ท่านประสงค์แจกให้เป็นธรรมทานแก่พุทธ
บริษัท และผู้สนใจอย่างแท้จริงทุกท่าน ฉะนั้นหากท่านใดหรือคณะใด
มีความประสงค์จะน�ำไปพิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทาน โดยไม่มีการเรียก
ร้องหรือรับค่าตอบแทน ไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น จะกระท�ำได้ต้องได้
รับอนุญาตจากหลวงปู่ท่านก่อน เช่นเดียวกับหนังสือเล่มอื่นๆ ทุกๆ เล่ม
ที่ได้เคยพิมพ์แจกจ่ายไปแล้ว
แต่หากเป็นการพิมพ์เพื่อจ�ำหน่าย หรือมีค่าตอบแทนใดๆ หลวงปู่
ท่านขอสงวนสิทธิ์ทุกๆ เล่ม
คำ�นำ�
หนังสือ “๑๐๐ ค�ำสอนของหลวงปู่” เล่มนี้ ข้าพเจ้าได้รวบรวม
ค�ำสอนของพระพิศาลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ) ที่ได้เทศนาสอน
ลูกศิษย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงปัจจุบันนี้ เพื่อแจกเป็นธรรมทานใน
งานทอดกฐิน ณ วัดใหม่ปลายห้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้รับประโยชน์บ้าง
มากน้อยตามภูมิรู้ภูมิธรรมของแต่ละบุคคล และยังด�ำรงตนให้อยู่ด้วย
สติสัมปชัญญะ ละชั่วสร้างแต่กรรมดี
หากหนังสือเล่มนี้มีข้อผิดพลาดในการรวบรวมประการใด โปรด
อโหสิกรรมและขออย่าได้เป็นกรรมติดตัวข้าพเจ้าต่อไป
ความส�ำเร็จและคุณค่าของหนังสือเล่มนีม้ ขี นึ้ ได้ ด้วยการได้รบั ความ
เมตตาจากพระพิศาลญาณวงศ์ (หลวงปูท่ องดี อนีโฆ) พระครูววิ ฒ ั น์วรสถิตย์
(พระอุดร ฐานุตฺตโร) และญาติธรรมทุกท่านที่เป็นเจ้าภาพร่วมพิมพ์และ
ให้ความร่วมมือแบ่งเบาภาระในทุกๆ ด้าน

นางอัมพร ตระกูลทิวากร
๑๕ กันยายน ๒๕๖๓
คำ�อุทิศ
อานิสงส์ที่เกิดจากการสร้างและแจกหนังสือ “๑๐๐ ค�ำสอนของ
หลวงปู่” เป็นธรรมทานในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศถวายเป็นพุทธบูชาแด่
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ บูชา
คุณของพระธรรม บูชาคุณของพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย บูชาคุณของ
พระพิศาลญาณวงศ์ บูชาคุณบิดา-มารดา คุณครูบาอาจารย์ ผูม้ พี ระคุณ
ทุกท่านที่มีมาในทุกภพทุกชาติ และอุทิศให้กับสามี บุตรธิดา ญาติสนิท
มิตรสหาย เทพบุตร เทพธิดา ผูป้ กป้องคุม้ ครอง เปรต สัมภเวสี เจ้ากรรม
นายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งปวง จงอยู่เป็นสุข มีจิต
วิญญาณเป็นอิสระจากความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ข้าพเจ้าอธิษฐานเอาอานิสงส์จากทานนี้ เป็นพลวปัจจัยให้ข้าพเจ้า
มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงโลกุตตรธรรม ส�ำเร็จมรรค ผล นิพพานในชาติ
ปัจจุบนั หากยังต้องเวียนตาย - เกิดด้วยเหตุ-ปัจจัยยังไม่ถงึ พร้อม ขอให้
ข้าพเจ้าได้เกิดเฉพาะในสุคติภมู ิ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้พบกัลยาณมิตร
มีสัมมาทิฏฐิ มีดวงตาเห็นธรรมตราบจนเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

นางอัมพร ตระกูลทิวากร
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

ธรรมแท้นั้นมีไม่มาก แค่ “รู้” แล้วไม่ทุกข์ทางใจเท่านั้นเอง

จิตใดรู้ทันและบริสุทธิ์ จิตนั้นหลุดพ้น
จิตใดไม่ยึดติด จิตนั้นไม่ทุกข์
จิตใดยึด จิตนั้นทุกข์
1
คำสอนของหลวงปู่

การปฏิบัติธรรมนั้น คือเรามีสติ รู้อิริยาบถทุกการกระทำ�


ไม่ว่าเราจะพูดหรือจะคิดในขณะปัจจุบันที่ตัวเรารู้อยู่เสมอ

จงชนะความโกรธ ด้วยเมตตา
จงชนะความนินทา ด้วยความนิ่ง
จงชนะทุกสิ่ง ด้วยความอดทน
2
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

ธรรมะทั้งหลายไม่ใช่อยู่ที่ครูบาอาจารย์
ธรรมะทั้งหลายไม่ได้อยู่ที่ตัวหนังสือ
แต่ธรรมะทั้งหลายนั้นอยู่ที่ “ใจ” ของพวกเราทุกคน
ขอให้พวกเราทุกคนนั้น จงฝึกหาธรรมะด้วยตัวเอง

3
คำสอนของหลวงปู่

เราภาวนาไปเพื่ออะไรลูกเอ๊ยหลานเอย
เราภาวนาเพื่อให้รู้แจ้งในกองทุกข์ในสังขาร
ในสังสารวัฏนี้ เพื่อให้เห็น รู้แจ้ง เห็นจริงในสัจธรรม
ที่มันตั้งอยู่ในโลกนี้ ว่าแต่ละสิ่งแต่ละอย่าง
ที่อุบัติบังเกิดขึ้นมาแล้ว มันมีความเสื่อมเป็นธรรมดา
มันมีเกิด แล้วมันก็มีดับในขณะเดียวกัน
เพื่อให้เรารู้แจ้งเห็นจริงว่า รูป-นามทั้งหลายมันเกิดขึ้นมันก็ดับได้
4
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

เกิดมาเป็นคน จะจนหรือรวยไม่สำ�คัญ
จะเรียนมากเรียนน้อย เป็นผู้ศึกษามากผู้ศึกษาน้อย
แต่เป็นผู้ไม่ปฏิบัติ เป็นผู้ไม่เชื่อเรื่องกรรม
ชื่อว่าเสียเวลาเปล่าในการเกิดเป็นคน
เมื่อเรามาพบรอยของพระพุทธเจ้าเราแล้ว
เราอย่ามาเหยียบย�่ำรอยกันนะลูก
เราต้องพยายามเดินเก็บรอยนั้น เพื่อเข้าถึงพบองค์พระบรมครู
ของเรา หยุดการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะนี้
5
คำสอนของหลวงปู่

ใจคือเรา เราคือใจ แล้วก็ให้เราพยายามชำ�ระใจ


เอาอะไรล่ะมาชำ�ระ ให้เอาสติกับปัญญานะลูกมาชำ�ระ
ชำ�ระไม่ให้ใจนั้นประมาท ไม่ให้ใจนั้นยึดมั่นถือมั่น
จนเลยขอบเลยเขต ให้ยึดแต่เพียงว่ากายนี้นั้นเป็นสัมภาระ
เป็นปัจจัยเครื่องอาศัยชั่วคราว ไม่นานหนอเรากับกายนี้ต้องจาก
กันไป เพราะแก่ แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตาย
มันรอคอยสังหารเราอยู่ข้างหน้า
6
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

องค์สมเด็จพระบรมครูเจ้าพระองค์ให้เรามองดูในรูป
ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ
ว่าเป็นผู้เบียดเบียนเราที่แท้จริง เป็นตัวฆาตกร
เป็นพญามาร รับรู้แล้วตัดห่วงใยเสีย ถ้าเราไม่ยดึ มั่น
ไม่ถือมั่น ไม่ตดิ มั่น ว่าเป็นตัวตนของเรา

7
คำสอนของหลวงปู่

๑๐

คนเราทุกคนในโลกนี้ก็มีแต่ความทุกข์ด้วยกันหมดทุกคน
แม้แต่องค์สมเด็จพระบรมครูพระองค์ก็เป็นทุกข์
ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะไม่ทุกข์
แต่ใครเท่านั้นแหละที่จะหาหนทาง
ให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ได้

8
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๑๑

เราได้ฟังธรรม ขณะที่เราเปิดซีดีหรือเทปธรรมะ
ของหลวงปู่ก็ดี หรือหลวงพ่อองค์หนึ่งองค์ใดก็ดี
นั่นแหละลูกเอ๊ย เจ้าก็ได้ช่อื ว่าได้บุญแล้ว
เพราะเจ้าได้ฟัง บุญเกิดจากการฟังธรรมฟังเทศน์นะลูก
นั่นก็ชื่อว่าเราได้บุญแล้ว

9
คำสอนของหลวงปู่
๑๒

เรามาถามใจเราเองดูว่า...ก่อนที่ตัวเองจะเกิดมานั้น
ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นมาจากไหน...
เมื่อเกิดมาแล้วก็ไม่รู้อีกว่าตัวเองมาจากไหน...
และเป้าหมายสูงสุดของชีวิตคืออะไรก็ยังไม่รู้
และสิ่งดีๆ ที่สุดในชีวิตที่คนทุกคนควรจะได้รับนั้นคืออะไร
ก็ยังไม่รู้... และท้ายสุดเมื่อตัวเองต้องตายไปแล้ว...
ละภพละธรรมจากภพภูมินี้ไปแล้ว...
ก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะไปอยู่ที่ไหน...
10
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๑๓

เราจะมีปัญญาได้นนั้ ต้องเกิดจากการพิจารณา
พิจารณาถึงความคิด พิจารณาในกายของเรา
พิจารณาความทุกข์ พิจารณาความสุข
อะไรคือสุข อะไรคือทุกข์ อะไรท�ำให้จติ ใจเราหวั่นไหว
อะไรท�ำให้จติ ใจเราเศร้าหมอง
อะไรกันเล่าเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ทั้งหลายเหล่านัน้
11
คำสอนของหลวงปู่

๑๔

ขณะใดที่เราเพลิดเพลินในสุข
ขณะนั้นเราถูกราคะกิเลสชกเอาเสียแล้ว
ขณะใดเรารู้สึกรำ�คาญในทุกข์
นั่นเราก็ถูกโทสะกิเลสต่อยเอาอีกแล้ว
และขณะใดไม่สุขไม่ทุกข์
ก็ยังไม่พ้นถูกโมหะกิเลสไล่ทุบเอาอีก

12
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๑๕

ถ้าเราไม่คิดที่จะสร้างความดีให้กับตัวเราเอง
ไม่คิดที่จะสร้างความดีให้กับคนอื่น
...นั่นชื่อว่า...
เราเสียชาติเกิดในการเกิดมาเป็นคนนะลูก

13
คำสอนของหลวงปู่

๑๖

บุญใดดีขอให้ทำ�
ความชั่วหรือสิ่งที่ชั่วเป็นเครื่องเศร้าหมอง
ถ้าเรายังละไม่ได้ ก็ขอให้ค่อยๆ ละ ค่อยๆ ลด
แล้วมันก็เลิกไปเอง
ดีกว่าเราไม่ละ ไม่ลด ไม่เลิกเอาเสียเลย
แล้วเรานี่แหละจะเป็นตัวชนวนก่อให้เกิดทุกข์
ไม่มีวันสิ้นสุดทุกภพทุกชาติ
14
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๑๗

ไปก็ได้กลับ ถ้าเรายังมีกิเลส
เรายังมีอาสวะกิเลสพันสิงสู่อยู่ในจิตอยู่ในใจ
ยังอยู่กับความชั่ว มันไปแดนไหน ไปเกิด ไปโน่น ไปนี่
พอมันถึงวาระของมัน มันก็ได้กลับมาเกิด
มามีทุกข์อยู่อย่างนี้กันอีก
คือไปก็ได้กลับคือพวกมีกิเลส
15
คำสอนของหลวงปู่

๑๘

หลับก็มีตื่น
นี่เหมือนพวกเราจมอยู่ในความชั่ว ในอกุศลกรรมทั้งหลาย
แล้วเราก็ใช้ปัญญาไม่ให้หลับข้างใน
เราจะตื่นข้างในไม่ยอมหลับตลอดชั่วมีอายุของพวกเรา
เราจะหลับก็ตื่นได้
เพราะถ้าเรามีปัญญาสอดส่องพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่าง
ให้เห็นสัจธรรมที่แท้จริง
16
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๑๙

ฟื้นก็มี
ความหมายของคนที่เข้าใจว่า ฟื้นไม่มนี ั้นไม่ถูก
เมื่อเราท�ำชั่วไปแล้ว เราก็กลับมาท�ำดีได้
เมื่อเรารู้ว่าเราท�ำชั่วแล้วกลับกลายมาท�ำดี
เหมือนพลิกเหมือนฟื้นชีวิตให้มันดีขึ้น
ไม่หลงผิดไปในสิ่งที่ชั่ว เปรียบเราฟื้นก็มี
17
คำสอนของหลวงปู่

๒๐

หนีก็พ้น ถ้าเราตั้งใจปฏิบัติตั้งใจภาวนา
พิจารณาให้แจ่มแจ้งถึงความไม่เที่ยง
ความเป็นทุกข์ ความไม่ใช่ตัวตนแล้ว
เราก็ไม่ต้องกลับ เราก็หนีพ้น
คือพระนิพพาน แต่เราหนีไม่พ้น
ก็เพราะเรายังจมอยู่กับกิเลสทั้งหลายนั่นเอง
18
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๒๑

ระลึกถึงบุญกันทุกวันนะลูก
เชื่อในค�ำสอนของพระพุทธเจ้า
เดี๋ยวจิตของเราก็จะเกิดมรรคเกิดผล
อย่าทิ้งดี ยึดมั่น อย่าทิ้งสติกันนะลูก
เกิดมาทุกข์พอกันได้แล้ว หนีกันให้พ้นและทนกันให้ได้

19
คำสอนของหลวงปู่

๒๒

ชีวิตของคนเรานะลูกจะอยู่ได้ในโลกนี้ จะอยู่อย่างไรได้อย่างสงบสุข
มีความระงับไม่วุ่นวาย
อย่าไปคิดว่าหมดลมก็หมดเรื่อง นั่นคือความคิดของคนโง่ๆ นะลูก
คือคนที่คิดที่จะไม่สร้างความดีอีก จะสร้างแต่ความชั่ว
ชีวิตเรานั้นน้อยนักนะลูกสำ�หรับคนที่คิดจะทำ�ดี
แต่ชีวิตมันแสนยาวนานสำ�หรับคนที่มีความทุกข์
ชีวิตมันช่างสนุกคือความคิดของคนชั่ว
20
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๒๓

ถึงอย่างไรความตายย่อมมาเยือนเราแน่
เราไปหลบลี้หนีไปอยู่ ณ สถานที่แห่งใด
เราหนีความตายไปไม่พ้น เมื่อเราตายไปแล้ว
เราก็หนีกรรมกันไปไม่พ้นเหมือนกัน คือกรรมดีและกรรมชั่ว
ที่เราได้สร้างสะสมไว้ในจิตในใจของตัวเราเอง
เขาถึงบอกว่า คิดอย่างไร เราก็ได้อย่างนัน้ คิดชั่วๆ เราก็ได้ชั่วๆ
คิดในสิ่งที่ดีเราก็ได้ในสิ่งที่ดี
21
คำสอนของหลวงปู่

๒๔

เวลาเราตายไปแล้ว จิตของเรานี่แหละจะพาไปสู่อบายภูมิ
หรือจะพาไปสู่สวรรค์ พาไปสู่พรหม พาไปสู่นิพพาน
ก็สุดแท้แต่กำ�ลังใจและทศบารมีี
ที่เราได้สะสมสร้างความดีเอาไว้ในจิตในใจ
ของพวกเราทั้งหลาย เราสะสมไว้มาก
เราทำ�ไว้มากก็ชื่อว่าเราได้มีเงินฝากธนาคารไว้มาก
เราก็พร้อมจะเบิกใช้จ่ายได้ตลอดเวลา
22
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๒๕

ทุกคนต้องการความสุขทัง้ หมด
ไม่มีใครต้องการความทุกข์ แต่เราจะละ ลุ ล่วง
ความทุกข์ทั้งหลายเหล่านัน้ ได้ด้วยความเพียร
ถ้าเราไม่มีความเพียรแล้ว
ไม่มีขันติ ไม่มีความอดทน อดกลัน้
เราก็ไม่สามารถที่จะไปบรรลุ
หรือมีดวงตาเห็นธรรมอันวิเศษ
23
คำสอนของหลวงปู่

๒๖

อวิชฺชา ปจฺจยา สํขารา ปจฺจยา


ความโง่นี่แหละเป็นปัจจัย เพราะความไม่รู้เท่าทัน
เพราะเราไม่ได้ฝึกฝนจิตใจของเราให้มันว่าง
แล้วเราก็ไม่ได้ปล่อยวางในอารมณ์ต่างๆ เรายึด
เราน้อมเอาอารมณ์เหล่านั้นมาเป็นความสุขบ้าง
มาเป็นความทุกข์บ้าง สุดแท้แต่จริตของเรา

24
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๒๗

การที่เรามีสติ เราได้พิจารณาอย่างต่อเนื่องนัน้
มันก็จะค่อยๆ สะสมจิต ค่อยๆ สะสมความรู้
ค่อยๆ สะสมความดีเอาไว้ในจิตในใจของเรา
อารมณ์ทั้งหลายมันก็จะเยือกเย็น มันก็จะสงบ
เราก็จะเป็นผู้ไม่หวั่นไหวไปกับกิเลสทั้งหลายได้ง่าย
เพราะเรามีสติ มีสัมปชัญญะเป็นตัวก�ำหนดรู้
เป็นตัวก�ำหนดดูอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา
25
คำสอนของหลวงปู่

๒๘

เรามานั่งสวดมนต์ เรามานั่งภาวนาเพื่ออะไร
เพื่อให้เกิดเป็นปัญญา เกิดเป็นความรู้ขึ้นมา
และเกิดเป็นพลัง เพื่อให้เกิดเป็นกำ�ลัง
เพื่อจะเอาพละและกำ�ลังตรงนี้เข้าไปเป็นเหตุแห่งปัญญา
เพื่อจะตัดอารมณ์ที่มันอยู่ฝ่ายชั่วหรือกิเลสทั้งหลาย
ที่มันร้อยรัดเอาดวงจิตดวงใจของเราเอาไว้
ให้ตกเป็นขี้ข้าของกิเลสทั้งหลาย
26
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)
๒๙

เพราะกิเลสทั้งหลายนี่แหละคนเราจึงต้องมา
เวียนว่ายตาย-เกิด พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
ตัวที่เป็นเหตุให้เวียนว่ายตาย-เกิด
ในวัฏสงสาร คือตัวกิเลสนี่เอง
โทษในการเวียนว่ายตาย-เกิดในวัฏสงสารนี้
ทุกข์ยากล�ำบาก ท่องเที่ยวอยู่ในโลกนี้เพราะอะไร
เพราะใจมันยึดมั่นถือมั่น...ตัวยึดมั่นถือมั่นคืออะไร...
ก็คือตัวกิเลสนี่แหละ กิเลสตัณหา ความรักความใคร่
ความยินดี มันเป็นเหตุให้ยดึ มั่นถือมั่น
27
คำสอนของหลวงปู่

๓๐

ถ้าลูกไม่อยากตกเป็นทาสของมาร
ขอให้ลูกเจริญพละทั้ง ๕ ให้ยิ่งใหญ่
คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา
โดยขอให้ลูกใช้ตัวสติสำ�คัญที่สุด
ทำ�ให้มันมากๆ ถ้าไม่เจริญพละทั้ง ๕
อยู่เนืองนิตย์แล้ว จะถึงความเสื่อมได้นะลูก
28
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๓๑

กิเลสตัวเดียวแท้ๆ
ที่เป็นเหตุให้เวียนว่ายตาย-เกิดในวัฏสงสาร
ถ้าเราบ�ำเพ็ญเพียรภาวนา
ท�ำความจริงให้มันเกิดขึ้นกับจิตกับใจของเราตลอดไป
เราก็จะสามารถค่อยๆ ท�ำลายตัวกิเลสทั้งหลายที่มันเกิดขึ้น
คนเราส่วนมากมีความอยาก
เมื่อมีความอยากแล้วจึงท�ำให้คนเราเป็นผู้ประมาท
29
คำสอนของหลวงปู่

๓๒

เมื่อเราเกิดมาจากความโง่
ความทะยานอยาก จากตัณหาทั้งหลายแล้ว
เราเกิดมาทำ�ไม ต้องถามใจตัวเราเองดู
เราอยู่ไปวันหนึ่ง ๆ มีแต่ความเศร้าหมอง
มีแต่ความทุกข์ เราจะได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งเหล่านี้

30
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๓๓

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ลูกเอ๊ยหลานเอย ที่เกิดขึ้นมาแล้ว
อุบัติบังเกิดขึ้นมาแล้วในโลกนี้ ล้วนแต่มเี หตุ มีปัจจัย
ให้มันเกิดขึ้นมาทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มใี ครสร้าง
ไม่มีใครดลบันดาลขึ้นมา ชีวิตมนุษย์ ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน
ที่มันเกิดขึ้นมานัน้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องมีเหตุ มีผล มีปัจจัย
ให้มันเกิดทัง้ หมดทั้งสิ้น สิ่งที่เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้เกิดมีชีวิต
มีรปู มีนาม มีสงั ขารต่างๆ ขึน้ มานัน้ เพราะอวิชชา คือความไม่รู้
31
คำสอนของหลวงปู่

๓๔

ชีวิตคนเรามีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
มันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปไม่ขาดสายตลอดเวลา
มันไม่มีความคงที่ จึงเป็นภาวะที่ไม่เที่ยง ก่อให้เกิดความทุกข์ ไม่
สามารถตั้งอยู่ในสภาวะเดิมได้ มันเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
เมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้ว เราก็น้อมเข้ามา น้อมเข้ามา น้อมเข้ามา
พิจารณาว่า มันก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา ไม่เป็นตัวของตัวเอง
32
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๓๕

ทางชีวิตที่ดตี ้องใช้ปัญญาดูให้มันรู้เห็นแจ้งน�ำทาง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นก็แล้วแต่ ให้เราดูอยู่สองทาง
ทางหนึ่งแก้แล้วไม่ส้นิ สุด
อีกทางหนึ่งแก้แล้วดีที่สุด ปัญหาจบสิ้น
เราจะเลือกทางที่ดีที่สุด เมื่อมองอะไรก็มองแบบผู้ดู
อย่าไปปรุงแต่งให้ตกเป็นทาสของอารมณ์ของกิเลส
33
คำสอนของหลวงปู่

๓๖

ความตาย หากเรามาพิจารณาจากกฎของพระไตรลักษณ์
ก็คือรูปแบบหนึ่งของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เพราะชีวิตคนเรานั้นตั้งอยู่บนความไม่เที่ยง
มันคงสภาพชีวิตอยู่อย่างเดิมไม่ได้
มันต้องแตกสลายหรือตายเป็นธรรมดาในโลกนี้

34
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๓๗

เมื่อชีวิตหนึ่งจบลงในภพหนึ่งชาติหนึ่งจบลง
เราก็ต้องไปเกิดใหม่ในภพภูมิใหม่อกี ต่อไปอย่างไม่ขาดสาย
หากเรามาพิจารณาหรือมามองดูในแง่แห่งความตาย
ก็จะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงในชีวติ อย่างหนึ่งเท่านั้น
มันยังไม่ใช่วาระสุดท้ายของทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่ได้เป็นการสิ้นสุดกระบวนการของชีวิต
แต่เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีอยู่คู่กับการเกิด
35
คำสอนของหลวงปู่
๓๘

การตายเป็นผลที่นำ�ไปสู่การเกิดใหม่อีก
ตราบเท่าที่เรายังมีกิเลสอยู่
เราสามารถหลุดออกจากวงจรนี้ได้ หากเรารู้จักพัฒนา
รู้จักการปฏิบัติทำ�ให้จิตใจของเราใส สะอาด บริสุทธิ์
ปราศจากกิเลสตัณหา ความโลภ ความโกรธ
ความหลงทั้งหลายทั้งปวง
สิ่งที่เป็นกิเลส เราพยายามชำ�ระล้างให้มันใสสะอาด
แล้วก็สามารถทำ�ให้เราบรรลุซึ่งอรหันต์
36
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๓๙

“พระมาโปรด” ถ้าเราเข้าใจแบบผู้มปี ัญญาว่า


พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ นี่และท่านมาดึงเราแล้ว
แล้วเราล่ะจะยอมออกจากขุมทุกข์ ขุมนรกตรงนี้รเึ ปล่า
หรือเราอยากจะจมอยู่กับความฟุ้งซ่านร�ำคาญใจ
ความเบื่อหน่ายทัง้ ตัวเองและคนรอบข้าง เบื่อไปหมด
เราอยากจะอยู่ตรงนี้เท่านั้นหรือ...แล้วสิ่งที่เราต้องการคืออะไร?
37
คำสอนของหลวงปู่

๔๐
ความหลงนี่แหละ เป็นตัวบ่อเกิด เป็นตัวกิเลส เป็นตัวตัณหา
เป็นอุปาทานอย่างสูง ทำ�ให้เราหลงติดอยู่ในวัฏสงสารนี้
ลูกเอ๊ยหลานเอย เราจะหนีออกจากความหลงได้อย่างไร
การจะหนีออกจากความหลงในโลกสมมตินี้
เราต้องมานั่งพิจารณา โดยใช้ปัญญาไตร่ตรอง
มองให้เห็นหลักแห่งความเป็นจริง
เมื่อเรายังหลงอยู่ เราจึงจำ�เป็นจะต้องมีศีล เพื่อให้ศีลเป็นตัวกำ�กับ เป็น
ตัวดูแลให้เรานั้นไม่เลยเถิด หรือเลยเกินไปกับความหลงทั้งหลาย
ที่มันจะเกิดขึ้นในจิตในใจของพวกเราทั้งหลาย
38
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๔๑

คนเราที่มีโลภ มีโกรธ มีหลง


มันตกอยู่เป็นขี้ข้า
ตกอยู่ใต้อ�ำนาจของกิเลสร้ายทัง้ หลายเหล่านั้น
ก็เพราะอะไร ก็เพราะใจตัวเดียวเท่านัน้
ที่ท�ำให้เราหลงเพลิดเพลินไปกับกามคุณทั้งหลาย

39
คำสอนของหลวงปู่

๔๒

ขันธ์ทั้ง ๕ นี้ เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ


ไม่มีใครสร้างขึ้นมา
มันเป็นอยู่อย่างนั้นของมันเอง
เป็นกฎเกณฑ์ของธรรมชาติที่ทำ�ให้เกิดมีขึ้นมา

40
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๔๓

ท�ำความดีนั้น ความดีไม่ไปไหน
เราท�ำความชั่ว ความชั่วมันก็ไม่ไปไหน
มันอยู่ที่ใจของเรานี่แหละ
มนุษย์ทุกคนต้องตกอยู่ในโลกธรรมทัง้ ๘ ทัง้ หมด
ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะไม่ตกอยู่ใต้โลกธรรมทัง้ ๘
ชีวิตคือการต่อสู้...สู้อะไรสู้ได้หมด...แต่สู้กับกิเลส
สู้กับความคิด สู้กับความอยาก สู้กับตัณหาเราแพ้ทุกครัง้
41
คำสอนของหลวงปู่
๔๔

เรามีทุกข์ก็เป็นของธรรมดา
เมื่อเรามีสุขเราก็อย่าไปหลงระเริงกับความสุขจนเกินเหตุ
เพราะพอทุกข์มาถึงเราก็ไม่สามารถที่จะเอาจิตใจของเรา
ไปรับความทุกข์ได้ ก็จะทำ�ให้เรามีแต่ความเศร้าหมอง
มีแต่ความตรอมใจ ไม่มีปัญญาคิด ไม่มีสติ
ไม่มีความรู้ ที่จะแก้ไขในความทุกข์เหล่านั้นได้
แต่ถ้าเราเคยมีความทุกข์แล้ว พอทุกข์มาอีกมันก็สบายมาก
สามารถเอาความรู้ เอาสติ ไปพิจารณาในสิ่งเหล่านั้น
ละออกจากสิ่งเหล่านั้นได้โดยง่าย
42
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๔๕

ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันสักแต่ว่าเป็นธาตุตามธรรมชาติ
ไม่มีความหมาย เป็นคุณค่า เป็นสุข เป็นทุกข์
เป็นบุญ เป็นบาป มันมีความหมายแต่เพียงว่า
มันจะต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยของมัน
มันมีหน้าที่เพียงเท่านี้ ส่วนที่จะว่าดี ชั่ว สุข ทุกข์ ชอบใจ
ไม่ชอบใจนัน้ คนเราเองต่างหากที่ไปรู้สึกเอาเอง คิดเอาเอง
ว่าเอาเอง เพราะไม่แทงตลอดในหลักธรรม
43
คำสอนของหลวงปู่

๔๖

ทั้งๆ ที่เราบอกว่าสุขไม่มี มีแต่ทุกข์


ทำ�ไมกิเลสมันไม่เชื่อฟังเรา
ก็เพราะเราถูกกิเลสมันหลอกตลอด
สำ�คัญว่าจะหาสุขในสังขารทั้งหลายได้
จึงไม่ได้กำ�หนดรู้ทุกข์ในสังขารตามความเป็นจริง
อวิชชา ตัณหาจึงเกิดขึ้น
44
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๔๗

เพราะความไม่รู้ว่านี่ทุกข์ มันจึงเข้าไปยึด
ทุกข์ก็เกิดขึ้น ผู้ใดไม่ก�ำหนดรู้ทุกข์ ก็ต้องแบกทุกข์เรื่อยไป
พระพุทธเจ้าทรงสอนเราให้ก�ำหนดรู้ทุกข์ ไม่ใช่เป็นผู้ทุกข์
ผู้ปราศจากราคะ ท่านก�ำหนดรู้อฏิ ฐารมณ์
(อารมณ์ที่น่ายินดีพอใจ)
ผู้ปราศจากโทสะ ท่านก�ำหนดรู้อนิฏฐารมณ์
(อารมณ์ที่ไม่น่ายินดีไม่พอใจ)
ผู้ปราศจากโมหะ ท่านก�ำหนดรู้มัชฌัตตารมณ์
(อารมณ์ที่เป็นกลางๆ ไม่ยนิ ดียินร้าย)
45
คำสอนของหลวงปู่

๔๘

จิตมนุษย์มีพลังมหาศาลจะทำ�อะไรก็สำ�เร็จ
ก็เพราะมีดวงจิตที่เป็นกำ�ลังสำ�คัญ
จิตดวงเดียวสำ�คัญที่สุด...จิตมันบอกลักษณะไม่ได้
แต่มันก็มีความรู้สึกอยู่ภายใน
เว้นแต่ว่ามนุษย์เกิดมาแล้ว จะเอาดีหรือชั่วเท่านั้น
มันเป็นขั้นตอนอยู่ตรงนี้
ถ้าเอาดีก็ย่อมได้ของดีมาประดับตัวแน่นอน
46
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๔๙

เพียรดูจิตเรื่อยๆ... มีสติเมื่อใดดูเมื่อนั้น...
ขาดสติแล้วก็แล้วกันไป...นึกขึ้นได้ก็ดูใหม่...
เวลาท�ำงานก็ท�ำไป...พอเหนื่อยหรือเครียดก็ย้อนดูจิต...
เลิกงานแล้วแม้มเี วลาเล็กน้อยก็ดูจติ ...

47
คำสอนของหลวงปู่

๕๐

ผู้ที่ประมาทนั้นย่อมเป็นผู้ผลัดวันประกันพรุ่ง
ที่จะสร้างความดีให้แก่จิต ให้แก่ใจ ให้แก่กายของตัวเอง
เพราะคนเหล่านี้ยังคิดว่าเวลามันยังอีกยาวนาน
จะทำ�เมื่อไหร่ก็ได้ คนเหล่านี้ยังตั้งอยู่ในความประมาท
ถ้าตายแล้วไม่ได้อะไรเลย
เพราะคนเรานั้นไม่รู้ว่าตัวจะตายเวลาไหน
แล้วก็แถมยังไปประมาทว่าเวลายังมีให้ตัวเองทำ�ดีอีก
นั่นเป็นความคิดที่ผิด ไม่ใช่ความคิดที่ถูก
48
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๕๑

ถ้าคนที่มีความคิดที่ถูกต้องนั้น
ต้องเร่งสร้างความดีทุกวินาที ทุกนาที ลูกเอ๊ยหลานเอย
เวลาไม่ใช่มากและไม่ใช่น้อย เวลามันพอดีกับลูกหลานทุกคนที่
คิดว่าตัวเองเป็นผู้ไม่ประมาท แต่เวลามันน้อยหรือเวลามันมาก
ส�ำหรับคนที่ประมาทเท่านั้นนะลูก
ทุกสิ่งทุกอย่างได้มาเท่ากัน คือความเกิดและความตาย
จงเอาเวลาที่มีอยู่น้ที �ำประโยชน์ให้แก่จติ แก่ใจของตัวเองนะลูก
49
คำสอนของหลวงปู่

๕๒

บางคนก็พยายามขวนขวายสิ่งที่ไม่มีประโยชน์สำ�หรับตัวเองเลย
มีแต่ความทุกข์ให้แก่ตัวเอง มีแต่ความทะยานอยากให้แก่ตัวเอง
โดยไม่ได้ยึดถือถึงหลักความสันโดษขององค์พระบรมครู
คนเราบางคนรู้ว่าทุกข์ แต่ไม่ได้ละออกจากทุกข์นั้นเสีย
ยังพยายามที่จะจมอยู่กับกองทุกข์ทั้งหลาย โดยไม่ได้พิจารณาเลย
ว่าสิ่งที่ตัวเองจมอยู่นั้นมันมีทุกข์หรือสุข บางคนก็พยายาม
ขวนขวายให้ตัวเองมีข้าวมีของ มีเงินมีทอง
มีทรัพย์สินศฤงคารให้มากๆ
ผลสุดท้ายคนเหล่านี้ได้อะไรไปรึเปล่าลูก
50
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๕๓

ถ้าเรามีปัญญาเห็นแจ้ง คอยถามดู คอยตามดู


เรารู้ทันทุกสิ่งทุกอย่าง เรารู้ส่งิ ที่มากระทบ
แล้วเราก็มานั่งพิจารณาเหตุ และดับเหตุได้ ทุกอย่างจะราบรื่น
ถ้าเราท�ำได้ กรรมด�ำทัง้ หลายคือกรรมชั่วทัง้ หลาย
ก็จะหยุดไปเลย ถ้าหยุดไม่ได้ ก็ให้นานๆ เกิดขึ้นสักครัง้ หนึ่ง
นอกนัน้ ก็เป็นกรรมดีที่มันเกิดขึ้นกับเราเรื่อยๆ

51
คำสอนของหลวงปู่

๕๔

เราทำ�ทานเพื่ออะไร เพื่อตัดจากความโลภ
เมื่อเราตัดจากความโลภนั้น เราจึงให้ทานทั้งหลายเกิดขึ้น
ไม่ใช่เราทำ�ทานแล้วอธิษฐานว่าให้รวย ให้ถูกหวย
ให้กิจการของตัวหรือให้ค้าขายดีมีกำ�ไร
อย่างนั้นให้เพื่อหวัง แล้วก็เป็นตัวเพิ่มกิเลส
และความทะยานอยากให้กับจิตให้กับใจของตัวเราเองนะลูก
เราให้ทานไปแล้ว ส่วนผลของทานจะตอบแทนที่เราเรียกว่า “บุญ”
52
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๕๕

ทุกสิ่งทุกอย่างที่อุบัตบิ ังเกิดมาแล้ว
ล้วนแล้วต้องตกอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติทั้งสิ้น
ที่องค์สมเด็จพระจอมไตรของเราตรัสว่า
กฎของพระไตรลักษณ์
คือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความเป็นอนัตตา
คือความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของพวกเราท่านทัง้ หลาย
53
คำสอนของหลวงปู่

๕๖

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยง
ไม่มีอะไรแน่นอน
ไม่มีอะไรเป็นของตัวเราเอง
ให้เราพิจารณาดูว่า...อะไรเกิดก็ต้องมีเสื่อมเป็นของธรรมดา
เหมือนโลกธรรมทั้ง ๘ มีคนนินทาก็ต้องมีคนสรรเสริญ
มีสุขก็ต้องมีทุกข์ มีลาภย่อมเสื่อมลาภ มียศย่อมเสื่อมยศ

54
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๕๗

ชีวิตผู้ปรารถนาทางธรรมนัน้ ก็พยายามจะเผาผลาญ
ช�ำระล้างกิเลสทั้งหลาย ที่มันเกิดทางอายตนะทัง้ หลาย
ให้มันมลายสิ้นสูญไป เมื่อรู้แล้วก็พยายามละ
พยายามวาง ในสิ่งเหล่านั้น
เพราะผู้มีธรรมย่อมประพฤติ
ย่อมคิดอยู่เสมอและย่อมยินดีในสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มันตัง้ ไว้แล้วโดยความไม่ประมาท
โดยความไม่แน่นอน
55
คำสอนของหลวงปู่
๕๘

อามิสสุขนั้นก็คือยินดีในการอยู่บ้านใหญ่โต
ยินดีขวนขวายเงินทองมาในทางชอบบ้างไม่ชอบบ้าง
ยินดีในอำ�นาจวาสนา ยินดีในคำ�เยินยอสรรเสริญต่างๆ นานา
ยินดีเมื่อมีคนเอาของมาให้ เอาของมากำ�นัล
ผู้ปรารถนาดีทางโลกนั้น พวกนี้ก็จะพยายาม
ขวนขวายหาทุกวิถีทาง ที่จะให้มีความสุขจากทางโลก
โดยไม่ได้พยายามเพียรละบาป ที่เผาผลาญกิเลสใจ
เพียงแต่เพิ่มกิเลสให้ใจตัวเอง
56
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๕๙

กามตัณหาที่ไม่พอดี ภวตัณหา วิภวตัณหา


เป็นแหล่งก่อทุกข์ ก่อความเดือดร้อนไม่มที ี่สิ้นสุดนะลูก
ทั้งหมดนี่มันอยู่ท่ใี จ สุขก็อยู่ท่ใี จ ทุกข์ก็อยู่ที่ใจ
“ใจ” นี่แหละลูกเอ๊ย มันเป็นตัวเหตุ
ท�ำความพอใจให้อยู่ท่ใี จ

57
คำสอนของหลวงปู่
๖๐

เราทำ�ชั่วก็มีอบายภูมิเป็นที่ไป
เรารักษาศีล ๕ ก็มีมนุษย์เป็นแดนเกิด
เราระลึกถึงทานทั้งหลายก็ดี ระลึกถึงคุณงามความดีที่เราได้
กระทำ�ขึ้น โดยเรามีความละอาย ความเกรงกลัวต่อบาป
ก็มีสวรรค์เป็นแดนเกิด
เราปฏิบัติจนจิตจนใจของเรามีความสุขสบาย ว่าง
มันก็เข้าสู่พรหมทั้งหลาย
ถ้าเราวางได้ทั้งหมดทุกสรรพสิ่ง เราก็เข้าสู่พระนิพพาน
58
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๖๑

ขอให้เราตัง้ มั่นอยู่ในศีล ในทาน


ตั้งอยู่ในธรรม ตัง้ อยู่ในสมาธิให้ดีนะลูก
ทุกอย่างเราท�ำด้วยความพอดี
ความพอใจก็น�ำออกเสีย
ความเสียใจก็น�ำออกเสีย

59
คำสอนของหลวงปู่
๖๒

เราจงตัดอดีต อนาคตลงให้หมด ให้จิตรู้เท่าทันอยู่ในปัจจุบัน


รู้ในปัจจุบัน แล้วก็ละในปัจจุบัน
เราจะพิจารณาว่าสามในสามนอกในปัจจุบันนั้น
ทำ�จิตทำ�ใจของเราให้สว่าง ให้รู้แจ้งในมรรค ในผล ในศีล
ในสมาธิ ในปัญญา เอาที่ใจเรานี่แหละ
ให้มันสำ�เร็จเกิดขึ้นที่ใจ
เวลาปฏิบัติจริงกิเลสมันมาได้ทุกทิศทุกทางนะลูก
“ใจ” นี่มันสำ�คัญนัก
60
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๖๓

เราอยากได้ความสบายกาย เราอยากได้ความสบายใจ
เราต้องรู้จักการละ รู้จักการวางนะลูก
เราจึงจะพบความสุขที่แท้จริง
จงอย่าจมดิ่งอยู่กับกิเลสทั้งหลาย ค่อยๆ ละ ค่อยๆ ถอน
สักวันหนึ่งกิเลสมันต้องล่อน มันต้องหลุด
ถ้าเราหมั่นกะเทาะเรื่อยๆ
มันย่อมออกจากจิตออกจากใจของเราเป็นแน่แท้
61
คำสอนของหลวงปู่

๖๔

การเกิดมามีชีวิต การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นนะลูก
เราจะมอง เราจะพิจารณา ให้เรานั่งดูกายของเราเอง
ให้พิจารณากายของเราเองตลอดเวลา
ว่ามันมีทุกข์อะไรบ้างในกายและในใจ
ถ้าเราไม่พิจารณา ไม่ดูให้เห็นกายเห็นใจอย่างถ่องแท้แล้ว
เราก็ยังต้องก่อภพก่อชาติ เวียนว่ายตาย-เกิด
ไม่มีที่สิ้นสุดนะลูกเอ๊ยหลานเอ๋ย
62
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๖๕

เมื่อเกิดเป็นคนแล้ว
คนเราส่วนมากมักจะห่วงกิเลสมากกว่าห่วงบุญ
เพราะกิเลสคือมารทัง้ หลายนี่มันร้อยรัดดวงจิตดวงใจไม่พอ
มันยังร้อยรัดเอากายนี้ไว้ด้วย เราจึงห่วงกิเลสมากกว่าห่วงบุญ
กิเลสคือความชั่วทัง้ หลาย
บุญคือความดี
ถ้าเรารู้จักความดีแล้วไซร้ กิเลสทั้งหลายก็พึงไม่ปรากฏขึ้น
เพราะเราไม่ห่วงกิเลส แต่เราห่วงความดี คือบุญกุศล
63
คำสอนของหลวงปู่

๖๖

ถ้าเราไม่มาสู้กับทุกข์มันจะอยู่เหนือทุกข์ได้อย่างไร
ถ้าเราสู้กับทุกข์เดี๋ยวเราก็อยู่เหนือทุกข์
จิตใจของเราที่มันอ่อนแอ เรายอมให้กเิ ลสมันมาย�่ำยี
เรายอมเป็นทาสของมันอยู่
ท�ำไมเราไม่พยายามประคับประคองจิตใจให้อยู่เหนือกิเลส
ใช้ความอดทน ใช้ความเพียร แล้วก็ใช้ความศรัทธา
64
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๖๗

จงเลือกเอานะลูก คิดให้เป็น อย่าเป็นแต่คดิ


ว่าเราจะห่วงทุกข์ หรือเราจะหาสุข หรือเราจะหวงกิเลส
แล้วเราก็ไม่ละเลิกจากกิเลส
เพื่อน้อมน�ำเอาบุญกุศลทัง้ หลายเข้าหาจิตเข้าหาใจ
เพื่อจะไม่ได้มาเวียนว่ายตาย-เกิดในวัฏสงสารนี้
หรือเราต้องการที่จะอยู่ในวัฏสงสารนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
จงเลือกเอานะลูก
65
คำสอนของหลวงปู่

๖๘

ในทางโลกนั้นคนเราทั่วไปมักพูดกันว่า
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่นักปราชญ์ทั้งหลาย
หรือผู้รู้จริงทั้งหลายนี่จะพูดหรือบอกว่า
คนเราเลือกเกิดได้ ทำ�ไมจึงพูดว่าคนเราเลือกเกิดได้
มันอยู่ที่ว่าเราจะสะสมบุญบารมีความดีไว้ได้มาก
ไว้ได้น้อยแค่ไหน ถ้าเราสร้างบุญบารมีสร้างดีไว้มากๆ
เราก็สามารถเลือกเกิดได้
66
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๖๙

เมื่อตัวเองเป็นใหญ่แล้วใครเล่าจะเตือนตน
ก็ต้องตนนั่นแหละเตือนตัวเอง
เพราะหากคนอื่นเตือนรับรองได้ลูกเอ๋ย
ร้อยทั้งร้อยต้องโมโห ต้องโกรธ นึกฉิวขึ้นมาในอารมณ์ทันที
ความโมโหหรือความฉิวที่เกิดขึ้นมาในอารมณ์นั้น
ก็เพราะเห็นว่าตัวกูน่ถี ูกต้อง ตัวกูคอื ความเที่ยงธรรม
ตัวกูคือผู้เป็นใหญ่ แล้วก็ใครล่ะจะมาอยู่เหนือกว่าตัวกู
67
คำสอนของหลวงปู่

๗๐

เกิดมาเป็นคนหนีตายไม่พ้นสักคนเดียวนะลูก
เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะไปทุกข์ในเมืองผี
ถ้าเราไม่ได้สร้างดีเอาไว้ตอนเป็นคน
ทุกข์เป็นคนก็พออยู่แล้วนะลูก
อย่าไปทุกข์ในเมืองผีกันอีกเลย

68
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๗๑

ส�ำหรับคนที่ไม่รู้จริงนั้นมักยึดติดโน่นติดนี่
ถ้าคนที่รู้จริงแล้วจะไม่ยึดติดในสิ่งเหล่านั้น
แต่จะมายึดติดในคุณงามความดี
เพราะองค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า
“การสั่งสมบุญย่อมน�ำสุขมาให้
บุญก็คือความดี
69
คำสอนของหลวงปู่

๗๒

เราเกิดมาเพื่ออะไรลูก...เกิดมาเพื่อขวนขวายหาทุกข์เข้าใส่ตัวกัน
หรือเราเกิดมาเพื่อกระทำ�ที่สุดแห่งกองทุกข์ให้มันสิ้นไป
เมื่อเรารู้ว่าทุกข์ จงหาวิถีทางละออกจากทุกข์กันให้ได้นะลูก
“ทุกข์” เรารู้จักทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์คืออะไร
เมื่อเรารู้จักเหตุที่ทำ�ให้เกิดทุกข์แล้ว เราต้องหาทางดับทุกข์
เมื่อเราหาทางดับทุกข์ได้แล้ว เราก็พยายามดับจริงๆนะลูก

70
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๗๓

ให้เราหายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ ยืน เดิน นั่ง นอน


ให้เรารู้อยู่เสมอ อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็นการฝึกจิตให้มีสติ
ให้มีปัญญา ให้จติ ฉลาดอยู่กับธรรมอันเอก
คือคุณพระพุทโธ คุณพระธัมโม คุณพระสังโฆ
ให้จิตมันฉลาด ให้จติ มันอาจหาญร่าเริงบันเทิง
แล้วเราก็น้อมเอาธรรมของปราชญ์ผู้ดเี ลิศทั้งหลาย
มาเป็นเครื่องช�ำระล้างจิตใจ คือศีล สมาธิ ปัญญา
แล้วเราก็เจริญในพระกรรมฐาน
รู้อยู่ที่เดิน ยืน นั่ง นอนตลอดเวลา
71
คำสอนของหลวงปู่

๗๔

โลกเปรียบเหมือนเรือนจำ�ใหญ่ เป็นที่คุมขังของโลก
คือหมู่สัตว์ไว้ด้วยเครื่องผูกพันร้อยรัด
คือตัณหาและอวิชชา
อวิชชาแปลว่าความมืด ความโง่ ความหลงภพหลงชาติ
สังขาร...ไม่รู้จักรูป นาม สังขาร...ก่อให้เกิดภพเกิดชาติ
ไม่รู้เท่าทันต่อกุศล อกุศล ให้ผลเป็นสุขเป็นทุกข์อย่างไรไม่รู้
เพราะมันมืดอยู่อย่างนั้น เพราะความโง่ทั้งหลาย
72
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๗๕

ลูกเอ๊ยหลานเอย จงพยายามท�ำความเพียร
ให้มันเกิดขึ้นกับจิตกับใจของเราให้ได้นะลูก
แล้วอย่าลืมท�ำบารมีมรรคให้เกิดขึ้นกับเราทุกวันทุกคืนนะลูก
เพื่อเราจะได้เห็นสัจธรรมที่แท้จริง
ที่องค์พระบรมครูของพวกเราที่พระองค์ทรงเทศน์โปรด
ทรงสอนสรรพสัตว์ทงั้ หลาย เพื่อจะให้พ้นจากกองทุกข์
คืออาสวะกิเลสทัง้ หลายเหล่านั้น
73
คำสอนของหลวงปู่

๗๖

ลูกเอ๊ยหลานเอย บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งปวงนั้น
ควรจะน้อมการปฏิบัติอันมีศีล สมาธิ ปัญญา
มาตรวจสอบมาพิจารณาดูตัวเอง
ว่าตัวเองนั้นทุกข์รึเปล่า
เมื่อทุกข์แล้ว จงละออกจากทุกข์เสีย อย่าไปคบค้า
อย่าเอากิเลสมาเป็นเพื่อน
จงกำ�จัดเพื่อนที่มันเป็นกิเลสให้มันสูญสิ้นไป
74
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๗๗

กรรมอันใดก็แล้วแต่เมื่อกระท�ำลงไปแล้วจะด้วยกาย วาจา
หรือใจก็ตาม จะต้องไม่เป็นไปเพื่อความเดือดร้อน
เป็นทุกข์แก่ทงั้ ตนและคนอื่นอีกด้วย จึงจะเรียกว่า กรรมดี
ตรงกันข้ามกรรมใดเมื่อกระท�ำลงไปแล้ว
จะด้วยกาย วาจาหรือใจก็ตาม
หากเป็นไปเพื่อความเดือดร้อนเป็นทุกข์แก่ตนและคนอื่นแล้ว
กรรมนั้นเรียกว่า กรรมไม่ดหี รือกรรมชั่ว
75
คำสอนของหลวงปู่

๗๘

ยิ่งความรู้ความฉลาดนั้นน้อย แต่ตั้งใจปฏิบัติ
ทำ�ตนให้พ้นจากทุกข์ได้ อย่างนี้ต้องนับว่าดีกว่าที่รู้มาก
แต่ไม่ปฏิบัติตาม
เพราะผู้รู้มากแต่ไม่ปฏิบัติตาม
ก็จะไม่สามารถที่จะได้รับความสุขหรือบรรลุมรรคผลได้

76
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๗๙

ศีล คือก�ำแพงกัน้ ความชั่ว


สมาธิ ก่อให้เกิดความสงบและปัญญา
หากศีลไม่แน่นหนา ปัญญาไม่เกิด
มีสมาธิหากไม่พจิ ารณา ปัญญาก็ไม่เกิดเหมือนกัน

77
คำสอนของหลวงปู่

๘๐

พลังแห่งวิริยะบารมีนี้ ขอให้ลูกใช้สติและสัมปชัญญะพิจารณาไปให้ดี
เพราะสติความระลึกได้ นึกได้ คอยควบคุมจิตไว้ได้กับสิ่งที่เกี่ยวข้องอยู่
แต่สัมปชัญญะนั้นลูกเอ๊ย เป็นตัวปัญญา เป็นความรู้ตระหนักเข้าใจชัด
ในสิ่งนึกได้ ไม่หลงไปตามกิเลส คือรู้เท่าทัน
เมื่อมีอารมณ์หนึ่งอารมณ์ใดมากระทบกระทั่ง เป็นภาวะที่เมื่อจิตนิ่ง
แล้วรับสิ่งกระทบ สามารถรู้เท่าทันได้
เห็นความเป็นไปของทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง
ถ้าฝึกมากๆ สติเข้มๆ แม้ขณิกสมาธิก็สัมผัสความรู้ได้ตลอดแล้วนะลูกเอ๊ย
78
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๘๑

เราเกิดมาหนึ่งชีวิต จะท�ำอะไรก็แล้วแต่
ต้องรู้จักกาลเวลา รู้จักโอกาส รู้จักหน้าที่
เพราะถ้าคนไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รู้จักกาลเวลา ไม่รู้จักกาลเทศะ
ไม่รู้จักโอกาส ชื่อว่าคนนัน้ มีความประมาทตั้งอยู่ในใจ
เพราะไม่ได้เคารพในสถานที่ ไม่ได้เคารพในพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ คนเช่นนี้เสียชาติเกิดมากนะลูก
79
คำสอนของหลวงปู่
๘๒

เราท่านทั้งหลายได้เกิดเป็นมนุษย์ นับว่ามีวาสนาดีแล้ว
เมื่อเรามีวาสนาดีแล้ว ขอให้เราฝึกประพฤติปฏิบัติ
เพื่อให้ละออกจากธรรมธาตุ หรือขันธ์ทั้ง ๕ นี้ให้ได้

๘๓

ความดีไม่เคยหนีเราไปไหน มีแต่เรานี่แหละเป็นคนหนีความดี
80
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๘๔

ขอให้เราจงประพฤติ ขอให้เราจงปฏิบัติในหลักธรรม
เราอย่าทิ้งธรรมะ เพราะธรรมะไม่เคยทิ้งพวกเราไปไหน
ธรรมะนัน้ อยู่กับเราตลอดเวลา
เพียงแต่ว่าพวกเราทัง้ หลายนั้น
จะหยิบเอาธรรมะขึ้นมาประพฤติปฏิบัตหิ รือเปล่าเท่านั้นเอง
ถ้าเราเอาขึ้นมา ธรรมะก็จะขึ้นมาทันที
จงชนะกิเลสด้วยการสร้างกุศลผลบุญ
ให้เกิดขึ้นภายในจิตใจของพวกเราทุกคน
81
คำสอนของหลวงปู่

๘๕

ตะวันขึ้นก็มีลงเป็นเช่นนี้เสมอ
อารมณ์ก็เหมือนกันเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง
เป็นธรรมดาของมันอยู่อย่างนั้น
อย่าไปจริงจังอะไรกับมันมากเลย
เห็นเป็นธรรมดาแล้วก็วางเสีย มันก็เบาสบาย

82
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๘๖

จงผูกมิตรอย่าผูกเวร...
การก่อเวรเป็นเหตุให้เราต้องกลับมาใช้กรรมกับเขา
การจองเวรเป็นเหตุให้เราไม่สบายกาย
เดือดร้อนวุ่นวายใจ นอนก็เป็นทุกข์
เพราะอาฆาตคนอื่นเขา...ต้องรู้จักวางใจให้เป็นกลาง
น�ำโลกธรรม ๘ มาพิจารณา
เพื่อให้เกิดปัญญา รู้ตามความเป็นจริงของโลก
83
คำสอนของหลวงปู่

๘๗

อนาคตจะดีหรือเลวนั้น
อยู่ที่กรรมที่เรากระทำ�ในปัจจุบันนี้ต่างหาก
เพราะอนาคตของเมื่อวานก็คือวันนี้
อนาคตเป็นเรื่องของผลแห่งกรรมที่เรากำ�ลังกระทำ�อยู่
มันจะส่งผลไปตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง

84
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๘๘

ถามว่าเรายึดมั่นถือมั่นเพื่ออะไร
เรายึดมั่นถือมั่นก็เพื่อท�ำให้เกิดทุกข์ เกิดสุข
ไม่เกิดทุกข์ ไม่เกิดสุข
ถ้าเราไม่ยึดมั่นถือมั่นรู้จักปล่อยวางเสียบ้าง
เราก็จะเป็นคนอารมณ์เย็น เป็นคนใจเย็น
เป็นคนมีแต่ความสุข
เพราะเราละเราขาดจากสิ่งเหล่านั้นได้
85
คำสอนของหลวงปู่

๘๙

ยิ่งท�ำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี จงรู้จักการให้และเป็นผู้มนี �้ำใจ


ค�ำว่า “น�ำ้ ใจ” ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทติ า
คือให้เรามีความรัก ความสงสาร
และมีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน

86
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๙๐

เราไม่สามารถท�ำให้คนเลวหมดไปจากโลกนี้ได้ เราท�ำได้เพียงว่า
ท�ำอย่างไรความเลวจะหมดไปจากใจเราให้ได้เท่านัน้

๙๑

ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์ยดึ เพราะอยาก ทุกข์มากเพราะคอย


ทุกข์คลายเพราะพิจารณา ทุกข์หยุดเพราะปล่อยวาง
87
คำสอนของหลวงปู่

๙๒

เพราะทุกสิ่งทุกอย่างใจเราเป็นผู้กำ�หนด
ใจเราจะรับสุข ใจเราจะรับทุกข์ เราต้องโทษใจตัวเราเอง
ไม่ใช่ไปโทษบุญกุศลหรือไม่ใช่ไปโทษสิ่งที่ตัวเองทำ�ไปแล้ว
ว่าทำ�ไมไม่ตอบแทนตัวเองสักทีหนึ่ง
พวกเราส่วนมากมีความประมาทตั้งอยู่ในจิตในใจ
ยังอยู่หรือยังหลงอยู่ในโลกโลกีย์หรืออยู่ในโลก
ก็เพราะความอยากเป็นเหตุ
88
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๙๓

ทานคือการให้ เปรียบเหมือนต้นไม้ท่เี ราปลูกไว้


ต้องรอวันผลิดอกออกผล
ฉะนั้นการท�ำทานก็อย่าหวังว่าจะได้รับผลในทันที ต้องรอเวลา
หรือเปรียบเหมือนว่าถ้าเราไม่ได้ฝากเงินไว้ในธนาคาร
การที่เราจะไปถอนเงินนั้นย่อมไม่ได้แน่

89
คำสอนของหลวงปู่
๙๔

อาการป่วยจะรักษาให้หายได้ในทันทีไม่ได้ฉันใด
จิตที่ป่วยก็เหมือนกัน ต้องค่อยๆ รักษา สักวันหนึ่งต้องหายฉันนั้น
๙๕

ให้สิ่งใดได้สิ่งนั้น ให้ความโลภก็จะได้รับความโลภ
ให้ความโกรธก็จะได้รับความโกรธ
ให้ความหลงก็จะได้รับความหลง
90
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๙๖

จงอย่าทิ้งธรรมนะลูก จงท�ำกิเลสทิ้งเสียให้หมด
จงเอาความดีตงั้ ไว้ ท�ำชั่วให้มันสิ้นสูญ ท�ำดีละชั่ว
เกิดดับโดยธรรมชาติ
ทุกข์มีมาจงใช้ปัญญาเข้าไปแก้ทุกข์นะลูก

91
คำสอนของหลวงปู่

๙๗

เราเกิดมาเพื่อตายไม่ใช่อยู่
พวกเราทุกคนจะต้องสู่ความเป็นผี
เมื่อเราเกิดมาเป็นคนได้ทั้งที ก็ควรสร้างบารมีติดตัวไป
เพื่อจะได้เป็นสุขไม่ทุกข์ยาก ไม่คับแค้นลำ�บากเมื่อเกิดใหม่
ถ้าเราทำ�ดีย่อมสุขแท้แน่แก่ใจ
ทำ�ชั่วอย่างไรทุกข์นั้นย่อมถึงตัว
92
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๙๘

ก�ำลังแห่งการปฏิบัติธรรม
แม้เทวดายังร้อนรนทนอยู่ไม่ได้
ไม่มอี ะไรในโลกนีอ้ กี แล้วทีจ่ ะประเสริฐเท่าธรรมะของพระพุทธเจ้า
ใครปฏิบัติเองรู้เอง เห็นเอง เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะกิจ
อกาลิโกไม่จ�ำกัดกาลในการปฏิบัตธิ รรมะ
นี่แหละหนอธรรมะของพระพุทธเจ้า
93
คำสอนของหลวงปู่

๙๙

ถ้าเราไม่ขาดความเพียร
เราไม่ทิ้ง ไม่ละ ไม่เลย ไม่ปล่อยซึ่งความดีทั้งหลาย
บารมีของเราก็จะต้องสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
มันก็จะต่อเติมไปเรื่อยๆ

94
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

๑๐๐

ผู้ท�ำกรรมฐานภาวนาไม่เป็น เมื่อเกิดทุกข์ขึ้นมา
จิตจะพยายามผลักใสความทุกข์ออกไป หรือความสุขออกไป
เราก็ย่อมรู้ว่าสุขหรือทุกข์กันแน่ ถ้าเป็นสุขจิตของเราจะเคลิบเคลิ้ม
ลืมเนื้อลืมตัว อาการทัง้ สองนี้เป็นจิตที่เราเรียกว่า กิเลส
คือราคะ โทสะ โมหะ เมื่อมีกิเลสแล้ว จิตก็ออกไปท�ำกรรม
ตามอ�ำนาจของกิเลสต่อไป แล้วเกิดเป็นวิบาก
เป็นสิ่งที่ไม่ดี หรือเป็นสิ่งที่ดีสะสมเอาไว้ในจิตดี
สัตว์ทั้งหลายจึงพกพาเอาความไม่รู้ คืออวิชชาไปเกิดใหม่
ตายใหม่ หมุนเวียนนานสุดนานอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
95
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)

รายชื่อเจ้าภาพร่วมพิมพ์หนังสือ
1. คุณนริศรา-เอกรินทร์ อินก�ำแหง 12. พระบวร ฐิตเมโธ (ดิษฐ์บ�ำรุง)-
และครอบครัว ๙,๙๐๐ แม่ชีพรทิพย์ ชมชื่น -ลีน่า เจียรธนะกานนท -
2. คุณเพ็ญพร พงษ์พรรณเจริญ นิรมล เกียรติสมทรัพย์ ๒,๐๐๐
และครอบครัวคุณติณณ์ อินทพิเชฎฐ์ ๕,๐๐๐ 13. คุณอรรถพล ฉัตรตระการ ๒,๐๐๐
3. คุณสุนัย-สุจรรยา สานตะพงษ์ 14. คุณกัญชริญา เนียมประเสริฐพร ๑,๒๐๐
และครอบครัว ๔,๐๐๐ 15. คุณธนู เนียมประเสริฐพร ๑,๒๐๐
4. คณะผู้ถือศีลอุโบสถวัดใหม่ปลายห้วย ๓,๔๔๐ 16. คุณธนวัฒน์ ฉันทจิตปรีชา ๑,๒๐๐
5. คุณมิญช์ อินทพิเชฎฐ์ ๓,๐๐๐ 17. ด.ช.ธนากฤต ฉันทจิตปรีชา ๑,๒๐๐
6. คุณเทพชัย สนธยานนท์ ๓,๐๐๐ 18. คุณนันทรัตน์ เนียมประเสริฐพร ๑,๒๐๐
7. คุณรัศมี-นรุตม์ ธันยธร ๓,๐๐๐ 19. คุณโอภาส-สุกัญรัตน์ น่วมบาง
8. คุณแม่เหนียม หรุ่นโพธิ์ พร้อมลูกหลาน ๒,๕๐๐ และครอบครัว ๑,๒๐๐
9. คุณปรีชา ศรีอัศวกุล ๒,๐๐๐ 20. คุณสุรพงษ์-มาลี-ยุพา-ธนัชชา บูรณะบุญวงศ์
10. คุณอรุณวดี ธนวลีกุล และครอบครัว ๒,๐๐๐ และครอบครัวลูกหลาน ๑,๑๐๐
11. คุณเพ็ชรรัตน์ พงษ์สุรพิพัฒน์ 21. พระครูวิวัฒน์วรสถิตย์ ๑,๐๐๐
และครอบครัว ๒,๐๐๐ 22. เด็กท้ายกุฏิ ๑,๐๐๐
97
คำสอนของหลวงปู่
23. คุณสุรศักดิ์–บุญ ผ่อง–กนกกร ทิมะณี ๑,๐๐๐ 39. คุณแม่ไน้-สุภัค และครอบครัวศรีสง่ากุล ๑,๐๐๐
24. คุณรุ่งพันธุ์–พรรณทิพา กลมดวง ๑,๐๐๐ 40. คุณจิรายุฑธ มหวานิช–ณิชาภา ศิวะมนตรี ๑,๐๐๐
25. คุณเอกประภู ศรีม่วง และครอบครัว ๑,๐๐๐ 41. ผอ.อดิศร–นภากร-ภูวดล ทิพย์ท�ำ ๑,๐๐๐
26. คุณวิทยา-พิชฎา และครอบครัว ๑,๐๐๐ 42. คุณภิเษก โพพิศ และครอบครัว ๑,๐๐๐
27. คุณธีษิณ-เขมปภาสร ทรงอุดมวัฒนา 43. คุณจอม และครอบครัว ๑,๐๐๐
และครอบครัว ๑,๐๐๐ 44. คุณนงลักษณ์ จารุณัฐเกียรติ พร้อมบุตร ๑,๐๐๐
28. คุณศราวุธ-รุ่งทิพย์ โภชนะสมบัติ ๑,๐๐๐ 45. คุณเพ็ญบุญ-วิชาญ ศิริวัฒนาสุนทร ๑,๐๐๐
29. คุณโกเมศ -ธนาภรณ์ แก้วผลึก ๑,๐๐๐ 46. คุณปริชาติ ฟิชเชอร์ และครอบครัว ๑,๐๐๐
30. นายแพทย์ศราวุธ ศรีดี ๑,๐๐๐ 47. คุณวราภรณ์ เข็มทอง ๑,๐๐๐
31. คุณศิวัช เหมือนฤทธิ์ ๑,๐๐๐ 48. คุณวิฑูรย์ พวงจันทร์ และครอบครัว ๑,๐๐๐
32. คุณพัฒนา-ชูใจ พิศกนก ๑,๐๐๐ 49. คุณอุดมจิต ลิ้มปิติ ๑,๐๐๐
33. คุณติณณารัตน์ ชลสุข ๑,๐๐๐ 50. คุณสิภาลักษณ์ ธรรมพีรสิงห์ ๑,๐๐๐
34. คุณจิโรตต์ บูรณะบุญวงศ์ 51. ป๋าจือ-แม่สิวกี้ แซ่หลี-อ้ามฮั่น-
และครอบครัว ๑,๐๐๐ แม่ลัดดา ก่อผล-แม่เนย ๑,๐๐๐
35. คุณนพดล เลื่อมนรินทร์ และครอบครัว ๑,๐๐๐ 52. คุณพีรพงศ์ เพชรจิราวุฒิ และครอบครัว ๑,๐๐๐
36. คุณบัญชา ใช่ยั่งยืน และครอบครัว ๑,๐๐๐ 53. คุณทวีชัย โชติชินศรี ๑,๐๐๐
37. คุณปนัดดา จันทร์ศรี และครอบครัว ๑,๐๐๐ 54. นพ.พีรพงศ์ เจียมจิรชาติ-
38. คุณสรวัชร์ ยืนยงค์ และครอบครัว ๑,๐๐๐ คุณแม่อชิรญา ประภากรทธา ๑,๐๐๐
98
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)
55. คุณมัทฑนา กันน�้ำอ่าง ๑,๐๐๐ 70. คุณอรพินท์-อรมาศ-อภิชญา ประภาพัน์ ๘๐๐
56. คุณการะเกต ดาราเรือง และครอบครัว ๑,๐๐๐ 71. คุณทวี-มะปราง-กนกวรรณ อ�ำนวยศิลป์ ๖๐๐
57. คุณรัชกฤช สุทธาชีพ ๑,๐๐๐ 72. พระธนากร จิรวฑฺฒโน ๕๐๐
58. คุณกันต์กนิษฐ์ สิริวรเกษม และเพื่อนๆ ๑,๐๐๐ 73. คุณสุวรรณี ทวีเพิ่มทรัพย์ ๕๐๐
59. คุณอ�ำนวย-ประภาพรรณ ตัณฑ์ศุภศิริ ๑,๐๐๐ 74. คุณสุรางค์ ลิมป์ปีตวิ รกุล และครอบครัว ๕๐๐
60. ดร.เกศศิณี ตระกูลทิวากร ๑,๐๐๐ 75. คุณณัฐฐารักษ์ เจริญจิตเกษม ๕๐๐
61. คุณแม่กิ้มจันทร์ ทองสงค์ ๑,๐๐๐ 76. แม่ชีธนัท กฤษกรธนา ๕๐๐
62. คุณแถม ข�ำชัย ๑,๐๐๐ 77. พ.ญ.สุทธาทิพย์ สระพรม และครอบครัว ๕๐๐
63. คุณพงษ์พิสุทธิ์-รมณียา ศิริแตง ๑,๐๐๐ 78. คุณณัฐธิดา อุ่นแก้ว ๕๐๐
64. คุณประภาพร จันท�ำ ๑,๐๐๐ 79. คุณฉันท์ชนก ดุรงค์ฤทธิ์ชัย ๕๐๐
65. คุณพรหมสร-พชร อมรสิทธิพิพัฒน์- 80. คุณสุพรรณี คล�้ำมณี และครอบครัว ๕๐๐
วรนุช เล้าอรุณ ๑,๐๐๐ 81. คุณวรรณาพร หวานล�ำ ้ และครอบครัว ๕๐๐
66. คุณสุนทรี-ญาณิศา-ภัทรภร จิรภาวสุทธิ์ ๑,๐๐๐ 82. คุณนิรันดร์ เพชรพงษ์- เนตรนภา แพทอง ๕๐๐
67. คุณพนิดา อินจันทร์ ๑,๐๐๐ 83. คุณจุฑาพร ทรัพย์ส�ำราญ ๕๐๐
68. คุณกฤษฎา-กนกวรรณ- 84. คุณวณิชย์ หลายประสิทธิ์ และครอบครัว ๕๐๐
กรพัฒน์ อินจันทร์ ๑,๐๐๐ 85. คุณผกาภรณ์ พลายสังข์ และครอบครัว ๕๐๐
69. คุณภูมินทร์-อัมพร-กัญจน์ฉัตร- 86. คุณชิต-คุณนายแดง ห่านพงษ์ศักดิ์ ๕๐๐
ปวริศา ตระกูลทิวากร ๑,๐๐๐ 87. คุณสิรินรินทร์ สุขหร่อง และครอบครัว ๕๐๐
99
คำสอนของหลวงปู่
88. คุณวิสุทธิ์ แสงดอกไม้ ๕๐๐ 104. คุณอนันต์-รัตนา ครองสกุล บาท ๕๐๐
89. คุณเตียง แซ่ตงั้ ๕๐๐ 105. คุณเดชณรงค์ ครองสกุล ๕๐๐
90. คุณประไพ ทิพย์โกศัย ๕๐๐ 106. คุณวิชุตา-ภาณุ สุวเิ ชียร และครอบครัว ๕๐๐
91. แม่ชีสาธิตา รัศมีข่วงโชติ ๕๐๐ 107. คุณเสริม-สมหวัง กองเต๊ก และครอบครัว ๕๐๐
92. คุณสุณีย์ เจิดเมธาวุฒ ิ ๕๐๐ 108. คุณฐิติศักดิ์ วงศ์สว่างและครอบครัว ๕๐๐
93. คุณอรวรรณ โอสถานนท์-คุณมนัส-ปรมะ- 109. คุณแมนฤทธิ์-แป้งร�่ำ ยงเจริญ ๔๐๐
วัชรวิชย์ คุณธนังกุล ๕๐๐ 110. คุณกชกร-หิรัณยา-ภัคพร แสงอุ่น ๔๐๐
94. คุณนพวีท์ สุพรรณสมบูรณ์ และครอบครัว ๕๐๐ 111. คุณศรัญญา พวงจ�ำปี และครอบครัว ๔๐๐
95. คุณธงชัย-สมหมาย เทียนหล�ำ ๕๐๐ 112. คุณเรณู-ปณิธิ-ปิยณัฐ องคนิกูล ๔๐๐
96. คุณสหวัฒน์ วรวุฒจิ งสถิต และครอบครัว ๕๐๐ 113. คุณเอก-ปุ้ม-ปุ้ย-เป้ ๔๐๐
97. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ๕๐๐ 114. คุณหมอแจง และญาติธรรม ๔๐๐
98. คุณสุนันทา อัมพรพฤติ และลูกหลาน ๕๐๐ 115. พระวณัฐพงศ์ จารุณัฐเกียรติ ๓๐๐
99. ดร.จงดี ว่องพินัยรัตน์ ๕๐๐ 116. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ๓๐๐
100. คุณบุญเรือน-วัชระ นาควิโรจน์ ๕๐๐ 117. คุณศุภมาศ ลีลือสาย ๓๐๐
101. คุณนิกร-จ�ำเรียง อินจันทร์ ๕๐๐ 118. ครอบครัววงศ์เกียรติ์ขจร-แซ่หลิม
102. คุณกิตติพงศ์ อินจันทร์ ๕๐๐ และครอบครัวรอดเสถียร ๓๐๐
103. คุณณรินทร์-นพรัตน์ เพชรพงษ์ 119. คุณศิริวรรณ-หนูส้ม
และครอบครัว ๕๐๐ และครอบครัวลิขิตวรวรรณ ๓๐๐
100
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)
120. คุณนรภร กิตติจิระกุล ๓๐๐ อาทิมา อภัยเทศพานิช ๒๐๐
121. คุณอ�ำไพ ทองตัน ๓๐๐ 136. คุณชุลีพร มากกุญชร และครอบครัว ๒๐๐
122. คุณเฉิดโฉม ชัยอาภา ๓๐๐ 137. คุณดาราวรรณ อาษารบ และครอบครัว ๒๐๐
123. คุณอมรรัตน์ อินทรวัลทิพย์ ๓๐๐ 138. คุณวราภรณ์ วรางกูร ๒๐๐
124. คุณวิภาภรณ์ อมรฉัตร ๓๐๐ 139. คุณพวงทิพย์ พงศิษย์ ๒๐๐
125. คุณสุดใจ ป้านพลู และครอบครัว ๓๐๐ 140. คุณพนัญญา บวรนันทกุล และครอบครัว ๒๐๐
126. คุณวันเพ็ญ-ประภาพร บ�ำรุงเดช- 141. คุณฐิติรัตน์ สิริวรโชติโภคิน ๒๐๐
พิมพ์พิกา ผิวพรรณ ๓๐๐ 142. คุณกมลทิพย์ สหัสรังสินี และครอบครัว ๒๐๐
127. คุณสุรชาติ-ช่อฟ้า ฉัตรสุทธิพงษ์ ๓๐๐ 143. คุณธีรนันท์ เทพมาศ พร้อมบุตร ๒๐๐
128. รท.นราธิป-ขนิษฐา อินจันทร์ 144. คุณแม่บุญชู เทพมาศ ๒๐๐
และครอบครัว ๓๐๐ 145. คุณพัชรี ลู่วิโรจน์ ๒๐๐
129. คุณปานรัตน อินทริต ๓๐๐ 146. คุณป้าสมพงค์ บัวดี ๒๐๐
130. คุณธิดาวรรณ วงศ์สว่าง ๓๐๐ 147. คุณกนกพร อยู่บ้านคลอง และครอบครัว ๒๐๐
131. คุณธนภูมิ มูลสัน ๒๐๐ 148. คุณประวิน แก้งโผงเผง และครอบครัว ๒๐๐
132. คุณส�ำเนียง บุญตา ๒๐๐ 149. คุณยายบุญเนือง เบี้ยจั่น ๒๐๐
133. ด.ญ.สุภาวิตา ปะสุตะ และบิดามารดา ๒๐๐ 150. คุณภัทรภร ซื่อตรง ๒๐๐
134. ครอบครัวเอี่ยมศิริธ�ำรง ๒๐๐ 151. คุณเอื้องฟ้า ปิ่นทอง ๒๐๐
135. คุณอมรรัตน์-ธนกฤต- 152. แม่ชีเจียน มณีโชติ ๒๐๐
101
คำสอนของหลวงปู่
153. คุณธวัฒน์-บุญรอด-เจนจิรา พวงทอง ๒๐๐ 171. คุณนุกูล อินจันทร์ ๒๐๐
154. คุณสมควร เชิงห้วย ๒๐๐ 172. คุณมนัสวี เนียมประเสริฐพร ๒๐๐
155. ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ๒๐๐ 173. คุณสุวรรณา แซ่ล้(ี เล้า) ๒๐๐
156. คุณแม่สะอาด กัวหา ๒๐๐ 174. คุณโศภิษฐ์ ทวิวรดิลก ๒๐๐
157. คุณอภิชิต เข็มทอง ๒๐๐ 175. คุณสุธิดา ประศาสตรานุวัตร
158. คุณจิตรลัดดา สุทธินันท์ ๒๐๐ และครอบครัว ๒๐๐
159. คุณเจนวิทย์ อภิชัยนันท์ ๒๐๐ 176. คุณไพลิน แจ้งโม้ ๑๙๙
160. คุณพรทิพย์ พงษ์พรรณเจริญ ๒๐๐ 177. คุณสุพัตรา ชื่นวิทยา ๑๙๙
161. คุณสมพงษ์ พงษ์พรรณเจริญ ๒๐๐ 178. คุณศักรพล ทองอร่าม และครอบครัว ๑๕๐
162. คุณกอบกุล นิมิตรบรรณสาร ๒๐๐ 179. คุณชญาณัศฐ์ เหลืองพิทักษ์
163. คุณผ่องศรี เอี่ยมสุวรรณ ๒๐๐ และครอบครัว ๑๕๐
164. คุณจีรุส อินทิศ ๒๐๐ 180. คุณจิรภัทร์ เหมือนแก้ว ๑๐๙
165. คุณสมใจ ศิรแิ ตง ๒๐๐ 181. คุณนงเยาว์-สมพงษ์-รัตนาภรณ์ ปานพิม ๑๐๐
166. คุณพัชรีภรณ์ ไชยสงค์ ๒๐๐ 182. คุณนิชาภา จูเจี่ย ๑๐๐
167. คุณจิรัชยา ยอดนิล ๒๐๐ 183. คุณวรพจน์ สินทิพย์เทวัญ ๑๐๐
168. คุณสุนันทา คุ้มจุ้ย ๒๐๐ 184. คุณตุ๊กตา มณียา ๑๐๐
169. คุณสุนีย์ วรทรัพย์ไพศาล ๒๐๐ 185. คุณกิรณาพร อัคคไพบูลย์ ๑๐๐
170. คุณทัศนีย์ กุดาสา ๒๐๐ 186. คุณธรรมรัตน์ วนะโพธิ์ ๑๐๐
102
พระพิศ่าลญาณวงศ์ (หลวงปู่ทองดี อนีโฆ)
187. คุณชฎิล เอมซ์บุตร ๑๐๐ 205. คุณบุญเกิด ศิริ ๑๐๐
188. คุณปาริชาต ประฉิมมะ และครอบครัว ๑๐๐ 206. คุณญาณี รอดเกิด ๑๐๐
189. คุณธีรพงษ์ แพทอง และครอบครัว ๑๐๐ 207. คุณทิม-แจ๋ว ฉิมสุด ๑๐๐
190. คุณทนง-เลื่อน แพทอง ๑๐๐ 208. คุณประจวบ ม่วงอยู่ ๑๐๐
191. คุณบันเทิง เหล่าภักดี ๑๐๐ 209. คุณบุญรอด โตทุ้ย ๑๐๐
192. มล.จีรวัฒน์ เกษมสันต์ ๑๐๐ 210. คุณศิริเนช ม่วงอยู่ ๑๐๐
193. คุณเลไล โสฬสรัตนพร ๑๐๐ 211. คุณละออง สงค์ประเสริฐ ๑๐๐
194. ดร.ปนัดดา ชิลวา ๑๐๐ 212. คุณสงบและครอบครัว ๑๐๐
195. คุณเพ็ญจันทร์ แซ่เตีย ๑๐๐ 213. ป้าเยาว์และครอบครัว ๑๐๐
196. คุณพรเทพ ศันสนียานนท์ ๑๐๐ 214. คุณล�ำยองและครอบครัว ๑๐๐
197. คุณนันทิชา พัฒนานุสรณ์ ๑๐๐ 215. คุณรัตนาภรณ์ เดชฟุ้ง ๑๐๐
198. คุณวรากร เหล่าภักดี ๑๐๐ 216. คุณพ่อนัย-แม่บุญเรือน เพ็งลาภ ๑๐๐
199. คุณคมข�ำ ฉัตราคม ๑๐๐ 217. คุณอัครวงค์ ยอดทอง ๑๐๐
200. คุณอดิศยา ใจกล้า ๑๐๐ 218. คุณสุวิทย์ นาควิโรจน์ ๑๐๐
201. คุณล�ำพึง-ดา สงค์ประเสริฐ ๑๐๐ 219. คุณจิ๋มและครอบครัว ๕๐
202. คุณทอง-ล�ำเจียก บุญเหลือ ๑๐๐ 220. คุณหนิงและครอบครัว ๕๐
203. คุณสมชาย-ประนอม กลิ่นแก้ว ๑๐๐
204. คุณตี๋ -ถุงเงิน สงค์ประเสริฐ ๑๐๐
103
คำสอนของหลวงปู่

อนุโมทนาบุญ
ขอบุญบารมีกุศลความดี
และความเป็นมหามงคลอันสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรม
จงบังเกิดมีแก่ผู้บริจาคทรัพย์ เพื่อจัดพิมพ์หนังสือ
“๑๐๐ ค�ำสอนของหลวงปู่”
และผู้ที่ก�ำลังเดินทางไปสู่ความพ้นทุกข์ทุกๆ ท่าน

ออกแบบและจัดพิมพ์ที่ : บริษัท โฟกัส พริ้นติ้ง จ�ำกัด จ.พิษณุโลก โทร. 055-225037, 081-6742377

104

You might also like