Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 4

ชื่อ จิรภิญญา นามสกุล ภิญโญชั้น ม 4.

14 เลขที่ 21

มาตฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์


ตัวชี้วัด พ1.1 ม.4-6/1 อธิบายกระบวนการสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพการทางานของระบบอวัยวะต่างๆ

ระบบกระดูก
คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปนี้

1. โครงกระดูกมีความสาคัญอย่างไรต่อร่างกาย
1.ประกอบเป็นโครงร่างส่วนที่แข็งของร่างกาย
2.เป็นที่รองรับอวัยวะต่างๆของร่างกาย
3.เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อทาให้มีการเคลื่อนไหวได้
4.เป็นที่สร้างเม็ดเลือด
5.เป็นที่เก็บและจ่ายแคลเซียม ฟอสเฟต และแมกนีเซียม
6.ป้องกันอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ปอด หัวใจ ตับ สมอง และประสาท

2. โครงกระดูกของร่างกายแบ่งเป็นกี่กลุ่ม อะไรบ้าง
โครงกระดูกในมนุษย์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ คือโครงกระดูกแกน (axial skeleton) และโครงกระดูก
รยางค์ (appendicular skeleton)

3. นักเรียนมีวิธีในการดูแลและสร้างเสริมประสิทธิภาพการทางานของระบบโครงกระดูกอย่างไร
1. ออกไปรับแสงแดดในช่วงเช้าก่อน 9 นาฬิกาเพื่อให้ร่างกายสร้างวิตามินดี ที่จะช่วยในการดูดซึมแคลเซียม แต่
อย่าให้โดนแดดจัดในช่วงกลางวัน เพราะแสงแดดจัดคือสาเหตุสาคัญของมะเร็ง การสร้างวิตามินดี เริ่มในชั้นผิวหนัง
ซึ่งจะสร้างได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการสัมผัสกับแสงอาทิตย์ของคนเรา ดังนั้นอย่างลืมไปออกกาลังกายในตอน
เช้า เพื่อรับแสงอาทิตย์อ่อนๆด้วย
2. ดื่มนมเป็นประจาและบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และครบถ้วนทุกหมู่ นมและผลิตภัณฑ์ต่างจากนมนั้น อุดมไป
ด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ซึ่งนมแคลเซียมสูงที่มี่ส่วนผสมของวิตามินเคที่ช่วยลดการเสื่อมสลาย
ของแคลเซียมนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสาหรับสุขภาพรกระดูก
3. ออกกาลังกายเป็นประจา และสม่าเสมอการออกกาลังกายเป็นประจา ทาให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
นอกจากนั้นการออกกาลังกายยังส่งผลให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้นด้วย
ระบบกล้ามเนื้อ
คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปนี้

1. กล้ามเนื้อมีความสาคัญอย่างไร
มีหน้าที่ช่วยพยุงโครงสร้างทั้งหมดของร่างกาย กล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ช่วยควบคุมน้าหนัก
ทาให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ลดอาการปวดข้อ ลดการหักของกระดูก ช่วยในการควบคุม
น้าตาลได้ดียิ่งขึ้นสาหรับคนที่ป่วยเป็นเบาหวาน ที่สาคัญคือ สารเคมีที่ทาให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อนั้นจะช่วยในการ
สลายไขมัน และเพิ่ม growth hormone ให้กับร่างกาย ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น ทาให้หัวใจทางาน
ดีขึ้น

2. นักเรียนมีวิธีการสร้างเสริมประสิทธิภาพการทางานของกล้ามเนื้ออย่างไร
1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และมีปริมาณที่เพียงพอต่อต่อความต้องการของร่างกาย
2.ออกกาลังสม่าเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละอย่างน้อย 30 นาที โดยเน้นรูปแบบการบริหาร
กล้ามเนื้อส่วนต่างๆเป็นต้น
3.ทาจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้ดี
4.ควรมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทางานหนักหรือหักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะลักษณะงานที่ต้องทางานอยู่ท่า
เดิมนานๆจะทาให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนล้าและเกิดความไม่แข็งแรงได้
5.เมื่อเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ เช่น มีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์

3. ให้นักเรียนยกตัวอย่างท่าการบริหารกล้ามเนื้อในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมา 1 ส่วน เช่น กล้ามเนื้อขา


กล้ามเนือ้ แขน เป็นต้น พร้อมอธิบายขั้นตอนในการบริหารกล้ามเนื้อส่วนนั้น
ท่ายืดกล้ามเนื้อ : ท่าผีเสื้อ (Butterfly Stretch)
กล้ามเนื้อส่วนที่ได้รับการยืด : กล้ามเนื้อสะโพกด้านใน (Adductors Muscle)
วิธีฝึก
1. เริ่มต้นด้วยท่านั่งขัดสมาธิ
2. ประกบฝ่าเท้าทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน นั่งหลังตรง วางมือที่เข่าทั้ง 2 ข้าง
3. ออกแรงกดเข่าลง ในขณะเดียวกันก็พยายามยกเข่าขึ้นเพื่อต้านแรงกดด้วย
4. ค้างไว้สักครู่แล้วคลายท่า
ระบบผิวหนัง
คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปนี้

1. เคอราทินมีความสาคัญอย่างไร
ทาหน้าที่เป็นโครงสร้างสาคัญของผิวหนัง, เล็บ, ขน, และเส้นผมของมนุษย์ (และในเขา, นอ, ขน, เกล็ด, และกรง
เล็บของสัตว์ชนิดอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งในใยแมงมุม)เคราตินมีบทบาทเกี่ยวกับการเสริมสร้างความแข็งแรงของ
อวัยวะและปกป้องเซลล์เยื่อบุผิวจากการถูกทาร้ายจากสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

2. ผิวหนังมีองค์ประกอบกี่ส่วน อะไรบ้าง
ประกอบด้วย 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกาพร้า (Epidermis), ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Subcutis)

3. ผิวหนังมีความสาคัญอย่างไร
1. เป็นส่วนที่ห่อหุ้มร่างกาย สาหรับป้องกันอันตรายต่างๆ หรืออาจเกิดขึ้นกับอวัยวะใต้ผิวหนัง
2. เป็นอวัยวะรับสัมผัสความรู้สึกต่างๆ เช่น ร้อน หนาว
3. เป็นอวัยวะขับถ่ายของเสีย เช่น เหงื่อ
4. เป็นอวัยวะที่ช่วยขับสิ่งต่างๆที่อยู่ใต้ต่อมผิวหนังให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ขับไขมันไปหล่อเลี้ยงเส้น
ขนหรือผมให้เงางาม
5. ช่วยเป็นส่วนป้องกันรังสีต่างๆไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย
6. ช่วยควบคุมความร้อนในร่างกายให้อยู่คงที่อยู่เสมอ ร่างกายคนเราขณะปกติมีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส
หรือถ้าอากาศอบอ้าวร้อนเกินไปก็จะระบายความร้อนออกทางรูขุมขน
4. นักเรียนมีวิธีดูแลรักษาผิวหนังอย่างไรบอกมา 4 วิธี
1.อาบน้าชาระร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ
2. กินอาหารให้ถูกต้องและครบถ้วนตามหลัก โภชนาการ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินเอ เช่น พวก น้ามันตับ
ปลา ตับสัตว์ เนย นม ไข่แดง เครื่องในสัตว์ มะเขือเทศ มะละกอ รวมทั้งพืชใบเขียวและใบเหลือง วิตามินเอ
จะช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ไม่เป็นสะเก็ด แห้ง ทาให้เล็บไม่เปราะ และยังทาให้เส้นผมไม่ร่วงง่ายอีกด้วย
3. ดื่มน้ามากๆ เพื่อทาให้ผิวหนังเปล่งปลั่ง
4. ออกกาลังกายสม่าเสมอ เพื่อช่วยให้การ หมุนเวียนของเลือดดีขึ้u
5. ควรให้ผิวหนังได้รับแสงแดดสม่าเสมอ โดย เฉพาะเวลาเช้าซึ่งแดดไม่จัดเกินไป และพยายามหลีก เลี่ยงการ
ถูกแสงแดดจ้า เพราะจะทาให้ผิวหนังเกรียม และกร้านดา
6.ระมัดระวังโนการใช้เครื่องสาอาง เพราะ อาจเกิดอาการแพ้ หรือทาให้ผิวหนังอักเสบ เป็น อันตรายต่อ
ผิวหนังได้ หากเกิดอาการแพ้ต้องเลิกใช้ เครื่องสาอางชนิดนั้นทันที
7. เมื่อมีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์

You might also like