Professional Documents
Culture Documents
File 1489471270201703147440
File 1489471270201703147440
จิระนิล แจ่มเกิด1 วิรัตน์ ปราบทุกข์1 อัจฉรา ภาวศุทธิ์1 ณิชากร จันเสวี1 คมสันต์ อุตมา1 และ ชยาณ์ ไชยประสพ2
Jaemkerd, J.1, Praptook, W.1, Pawasut, A.1, Chansewee, N.1, Outama, K.1 and Chaiprasop, C.2
1
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) 65 หมู่ 1 ถ.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
1
Highland Research and Development Institute (Public Organization) 65 M.1 Suthep Rd. Muang, Chiang Mai, 50200
2
มูลนิธิโครงการหลวง 65 หมู่ 1 ถ.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200
2
Royal Project Foundation 65 M.1 Suthep Rd. Muang, Chiang Mai, 50200
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกพันธุ์องุ่นรับประทานสดภายใต้ระบบการปลูกแบบโครงการหลวงที่สามารถให้ผลผลิตคุณภาพดี
บนพื้นที่สูงโดยเฉพาะในฤดูหนาวซึ่งมีการแข่งขันจากต่างประเทศน้อย โดยทดสอบองุ่นจานวน 20 พันธุ์คือ Beauty Seedless (ชุดควบคุม),
Marroo Seedless, Black Queen, Autumn Royal, Black Corinth, P1, Flame Seedless, Ruby Seedless, JR01, White Malaga,
Thompson Seedless, Dawn Seedless, Perlette, JG01, JB01, JG02, JR02, JB02, JG03 และ JB03 ระยะปลูก 1.5 x 8.0 เมตร จัดทรง
ต้นแบบตัวที ณ สถานีเกษตรหลวงปางดะ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ (680 เมตรจากระดับน้าทะเล) ระหว่างเดือนกันยายน 2558–กุมภาพันธ์ 2559
พบว่าพันธุ์องุ่นที่ออกดอกและติดผลได้ดี โดยมีเปอร์เซ็นต์กิ่งใหม่ที่ออกดอกตั้งแต่ 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปจานวน 5 พันธุ์ คือ P1, JG01, Marroo
Seedless, Perlette และ Black Corinth (100.0 85.0 77.0 66.0 และ 64.0 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ) ซึ่งไม่แตกต่างกันทางสถิติกับองุ่นพันธุ์
Beauty Seedless (72 เปอร์เซ็นต์) และในจานวนนี้มีพันธุ์ที่มีคุณภาพผลผลิตสูงกว่าองุ่นพันธุ์ Beauty Seedless (น้าหนักผล 2.09 กรัม และมี
สัดส่วน TSS/TA เท่ากับ 21.31) จานวน 2 พันธุ์คือ JG01 (น้าหนักผล 5.66 กรัม และมีสัดส่วนTSS/TA เท่ากับ 24.98) และ Perlette (น้าหนัก
ผลผล 2.67 กรัม และมีสัดส่วนTSS/TA เท่ากับ 34.69)
คาสาคัญ: องุ่น การออกดอก พันธุ์
Abstract
This research aims to select table grape varieties in viticulture model of Royal Project Foundation, with high
flowering and fruit quality (crispy, big berry and good taste) in winter which less competition from import. There were 20
grape varieties, named; Beauty Seedless (Control), Marroo Seedless, Black Queen, Autumn Royal, Black Corinth, P1, Flame
Seedless, Ruby Seedless, JR01, White Malaga, Thompson Seedless, Dawn Seedless, Perlette, JG01, JB01, JG02, JR02, JB02,
JG03 and JB03. A T-trellis with spacing 1.5 x 8.0 meters was during September 2015 to February 2016 at The Royal
Agricultural Station Pang Da, Chiang Mai (680 meters above sea level). The results showed that 5 grape varieties had more
than 60% of flowering from new cane, i.e. P1, JG01, Marroo Seedless, Perlette and Black Corinth (100.0, 85.0, 77.0, 66.0
and 64.0%, respectively) and non-significantly with Beauty Seedless (72.0%). In addition, 2 grape varieties had higher fruit
qualities than Beauty Seedless (berry weight 2.09 g and TSS/TA ratio 21.31) i.e. JG01 (berry weight 5.66 g and TSS/TA ratio
24.98) and Perlette (berry weight 2.67 g and TSS/TA ratio 34.69).
Keywords: grape, flowering, varieties
บทนา
องุ่นเป็นไม้ผลที่โครงการหลวงส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นอาชีพโดยเน้นพันธุ์องุ่นรับประทานสดชนิดไม่มีเมล็ด คือ พันธุ์ Beauty
Seedless เนื่องจากผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาสูง สามารถสร้างรายได้ต่อพื้นที่ได้ดี ซึ่งเหมาะสาหรับพื้นที่สูงที่มีพื้นที่อย่างจากัดและ
ต้องใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันมูลนิธิโครงการหลวงได้พัฒนาการปลูกองุ่นระบบใหม่ คือ ระบบการจัดทรงต้น ขององุ่นไม่มีเมล็ดพันธุ์
71 ว. พืชศาสตร์สงขลานครินทร์ 3 (ฉบับพิเศษ I): M04/71-75
Songklanakarin J. Pl. Sci., 3 (Suppl. I): M04/71-75
Jaemkerd et al. (2016)
Beauty Seedless แบบตัว T โดยเลี้ยงให้มีกิ่งสาขาจัดกิ่งอย่างเป็นระเบียบและมีระยะปลูก 6x3 เมตร ซึ่งสามารถให้ผลผลิตเฉลี่ย จานวน
100.72 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี (เมื่อต้นอายุ 5 ปี) คิดเป็นรายได้เฉลี่ย 12,926.64 บาทต่อต้นต่อปี (88 ต้นต่อไร่) (วิรัตน์, 2552) โดยเป็นระบบที่มี
วิธีการผลิตที่มีความสะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษา ให้ผลผลิต ต่อต้นสูง ผลผลิตมีคุณภาพดี สม่าเสมอ และต้นมีอายุการให้ผลผลิตยาวนาน ซึ่ง
เหมาะสมกว่าระบบเดิมที่ไม่มีการจัดทรงต้นและใช้อยู่ทั่วไปในการปลูกองุ่นของไทย โครงการหลวงได้นาการปลูกองุ่นระบบใหม่นี้ไปส่งเสริมแก่
เกษตรกรและประสบผลสาเร็จเป็นอย่างดี โดยในปี พ.ศ. 2558 มีพื้นที่ส่งเสริม 18 ศูนย์ฯ เกษตรกร 92 ราย พื้นที่ปลูก 72.48 ไร่ ผลผลิตจาหน่าย
ผ่านมูลนิธิโครงการหลวง 12.69 ตัน มูลค่า 2,078,784 บาท จาหน่ายเอง 32.35 ตัน มูลค่า 5,277,435 บาท (งานพัฒนาและส่งเสริมการปลูกไม้
ผลมูลนิธิโครงการหลวง, 2558) และได้ประเมินว่าในอนาคตองุ่นจะมีความต้องการทางการตลาดมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตของโครงการหลวงมีช่วง
เก็บเกี่ยวไม่ตรงกับผลผลิตทีน่ าเข้าจากต่างประเทศและผลผลิตเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
องุ่นมีจุดเด่นทางการตลาดคือ มีหลายพันธุ์ ทาให้มีความหลากหลายของลักษณะสีผล ขนาดผล และรสชาติ ประกอบกับปัจจุบันมีพันธุ์
ใหม่ ๆ ที่ผลผลิตมีคุณภาพดีและเป็นพันธุ์การค้าของโลกที่น่าสนใจ เช่น Flame S Seedless, Pione, Dawn Seedless, Thompson Seedless,
Perlette และ Marroo Seedless เป็นต้น อย่างไรก็ตาม พันธุ์องุ่นที่ส่งเสริมของโครงการหลวงในปัจจุบันมีเพียงพันธุ์เดียวคือ พันธุ์ Beauty
Seedless ซึ่งมีช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเพียง 2 ครั้งในรอบ 1 ปี และแม้จะมีการนาองุ่นพันธุ์ต่างประเทศหลายพันธุ์มาทดลองปลูกในโครงการหลวง
รวมถึงพื้นที่อื่นของไทย แต่ยังไม่ประสบผลสาเร็จในการปลูกเพราะมีปัญหาการออกดอกและให้ผลผลิตต่า ทั้งนี้เนื่องจากพันธุต์ ่างประเทศส่วนใหญ่
เป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตเร็วมากเมื่อนามาปลูกในเขตร้อน จึงมีการเจริญเติบโตทางลาต้นมากแต่มีการสร้างตาดอกน้อย ประกอบกับระบบปลูกและ
วิธีการปฏิบัติดูแลรักษาที่ใช้ตามระบบเดิมที่มีระยะปลูกที่ชิดเกินไป การจัดวางกิ่งอย่างไม่เป็นระเบียบ ซึ่งยากต่อการปฏิบัติดูแลรักษาและการ
ป้องกันกาจัดโรคและแมลง ทาให้ผลผลิตต่า ไม่สม่าเสมอ และต้นองุ่นมีอายุการให้ผลผลิตสั้น
ดังนั้น จึงควรมีการศึกษาทดสอบพันธุ์องุ่นที่นาเข้าจากต่างประเทศเพื่อเพิ่มพันธุ์ส่งเสริมของโครงการหลวงให้มีความหลากหลายและมี
ผลผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงการปลูกโดยใช้ระบบปลูกใหม่ โดยจัดทรงต้นแบบตัว T มีกิ่งสาขาระยะปลูก 8 x 1.5 เมตร เพื่อเป็นทางเลือก
ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกองุ่นและผู้บริโภค
อุปกรณ์และวิธีการ
ทาการทดลองที่สถานีเกษตรหลวงปางดะ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีความสูงของพื้นที่จากระดับน้าทะเล 680 เมตร โดยจัดทรงต้นแบบ
ตัว T ระยะปลูก 1.5x8 เมตร วางแผนการทดลองแบบ Completely Randomized Design (CRD) มี 20 กรรมวิธี ๆ ละ 5 ต้น ประกอบด้วย
องุ่นพันธุ์ Beauty Seedless (ชุดควบคุม) Marroo Seedless, Black Queen, Autumn Royal, Black Corinth, P1, Flame Seedless, Ruby
Seedless, JR01, White Malaga, Thompson Seedless, Dawn Seedless, Perlette, JG01, JB01, JG02, JR02, JB02, JG03 และ JB03
โดย เลือกกิ่งที่มีขนาดเท่า ๆ กัน พันธุ์ละ 10 กิ่งต่อต้น ตัดแต่งกิ่งในเดือนกันยายน 2558 เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตของกิ่งใหม่หลังตัด
แต่ง เปอร์เซ็นต์กิ่งใหม่ที่ออกดอกขององุ่นแต่ละพันธุ์ บันทึกระยะเวลาตั้งแต่ตัดแต่งกิ่งจนถึงวันเก็บเกี่ยวผลผลิตขององุ่นแต่ละพัน ธุ์ หลังเก็บเกี่ยว
บันทึกขนาด น้าหนัก และจานวนผลต่อช่อ บันทึกขนาดและน้าหนักของผล ปริมาณของแข็งที่ละลายน้าได้ (TSS) และปริมาณกรดที่ไทเทรตได้
(TA) จากนั้นประเมินพันธุ์องุ่นแต่ละพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์องุ่นที่มีลักษณะตรงตามเป้าหมายสาคัญที่ผลผลิตมีคุณภาพดี (ผลขนาดใหญ่ มีสัด ส่วน
TSS ต่อ TA มากกว่า 20 และกรอบ) และให้ผลผลิตสูงในช่วงฤดูหนาว (มีเปอร์เซ็นต์ออกดอกมากว่า 60 เปอร์เซ็นต์)
ผลการทดลอง
จากการทดสอบพันธุ์องุ่นรับประทานสดจานวน 20พันธุ์ ระหว่างเดือนกันยายน2558 - กุมภาพันธ์ 2559 พบว่าองุ่นทั้ง 20 พันธุ์มี
เปอร์เซ็นต์กิ่งใหม่ที่ออกดอก เส้นผ่าศูนย์กลางกิ่ง ความยาวกิ่ง น้าหนักช่อ น้าหนักผล จานวนผลต่อช่อ ปริมาณของแข็งที่ละลายน้าได้ (TSS)
ปริมาณกรดที่ไทเทรตได้ (TA) และTSS/TA แตกต่างกันทางสถิติ (Table 1, 2 และ Figure 1) โดยองุ่นพันธุ์ P1มีเปอร์เซ็นต์กิ่งใหม่ที่ออกดอกมาก
ที่สุดคือ 100 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือองุ่นพันธุ์ JG01, Marroo Seedless, Beauty Seedless, Perlette และ Black Corinth (Table 1) ด้าน
การเจริญเติบโตทางกิ่งพบว่าองุ่นพันธุ์ Beauty Seedless มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของกิ่งอายุ 5 เดือนมากที่สุดคือ 9.45 มิลลิเมตร
และ125.14 เซนติเมตรตามลาดับ รองลงมาคือองุ่นพันธุ์ JG03, JB01, JB02 และ Flame Seedless (Table 1) ด้านดัชนีเก็บเกี่ยวพบว่าองุ่นพันธุ์
Perlette และ JG02 มีจานวนวันที่ตัดแต่ง-เก็บเกี่ยวน้อยที่สุดคือ 105 วัน รองลงมาคือ JB03, JB01, JB02, JR02 และ JR01 (Table 1) ด้าน
ขนาดของช่อผลพบว่าองุ่นพันธุ์ Beauty Seedless มีน้าหนักของช่อผลมากที่สุดคือ 255.97 กรัม รองลงมาคือองุ่นพันธุ์ Thompson Seedless,
JG03, JR02, Ruby Seedless, JB01, JR01, JG01, และ Perlette (Table 2) และด้านคุณภาพของน้าองุ่นพบว่าองุ่นพั นธุ์ P1 มี TSS/TA มาก
ที่สุดคือ 55.06 รองลงมาคือองุ่นพันธุ์ Flame Seedless, JR02, JB02, Perlette JR01, JG01, JB03 และThompson Seedless (Table 2)
วิจารณ์ผล
จากผลการทดสอบองุ่นจานวน 20 พันธุ์ พบว่า องุ่นทั้ง 20 พันธุ์มีเปอร์เซ็นต์กิ่งใหม่ที่ออกดอก เส้นผ่าศูนย์กลางกิ่ง ความยาวกิ่ง น้าหนัก
ช่อ น้าหนักผล จานวนผลต่อช่อ ปริมาณของแข็งที่ละลายน้าได้ (TSS) ปริมาณกรดที่ไทเทรตได้ (TA) และTSS/TA แตกต่างกันทางสถิติ เนื่องจาก
องุ่นแต่ละพันธุ์มีการเจริญเติบโต ระยะเวลาตั้งแต่ตัดแต่งกิ่งจนถึงเก็บเกี่ยว คุณภาพ กลิ่น รส และความต้านทานศัตรูพืชที่แตกต่างกั น (รัฐพล,
2551) ซึ่งองุ่นพันธุ์ JG01 และ Perlette มีเปอร์เซ็นต์การออกดอกของกิ่งใหม่ ขนาดของผล และสัดส่วนของ TSS/TA ใกล้เคียงกับองุ่นพันธุ์
Beauty Seedless ซึ่งสามารถนาไปส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ดาเนินงานของโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การ
มหาชน) หรือเกษตรกรพื้นที่อื่น ๆ ปลูกองุ่นพันธุ์ใหม่ภายใต้ระบบการปลูกแบบโครงการหลวง เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางการตลาด ผู้บริโภคมี
ผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกองุ่น ส่วนองุ่นพันธุ์ P1 ที่มีเปอร์เซ็นต์การออกดอกของกิ่งใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์ มีรสชาติ
หวานคือมีสัดส่วน TSS/TA 55.06 มีเมล็ด มีกลิ่นหอมเฉพาะ เปลือกหนา แต่ผลไม่มีความกรอบและเป็นองุ่นที่มีเปลือกแบบไม่ติดกับเนื้อ (Slip
Skin) ซึ่งเริงชัยและคณะ (2557) รายงานว่าตลาดองุ่นในประเทศไทยมีความต้องการองุ่นที่มีรสชาติหวาน ผลมีความกรอบ จะมีเมล็ดหรือไม่มีก็ได้
และให้ผลผลิตสูงในช่วงฤดูหนาวที่มีการแข่งขันของผลผลิตจากต่างประเทศน้อย ดังนั้นองุ่นพันธุ์ P1 จึงไม่เป็นที่ต้องการของตลาดองุ่นรับประทาน
สดในประเทศไทยแต่เหมาะสาหรับนามาทาน้าองุ่น
คาขอบคุณ
ขอขอบคุณสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ที่สนับสนุนทุนวิจัย และขอขอบคุณมูลนิธิโครงการหลวง สถานีเกษตร
หลวงปางดะ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการทางานวิจัย
เอกสารอ้างอิง
งานพัฒนาและส่งเสริมการปลูกไม้ผลมูลนิธิโครงการหลวง. 2558. รายงานสรุปผลการดาเนินงานพัฒนาและส่งเสริมไม้ผลมูลนิธิโครงการหลวง
ปีงบประมาณ 2558. เชียงใหม่: มูลนิธิโครงการหลวง.
เริงชัย ตันสุชาติ, ชนิตา พันธุ์มณี, อารีย์ เชื้อเมืองพาน, มนตรี สิงหะวาระ และนิศาชล ลีรัตนากร. 2557. การศึกษาและวิเคราะห์การผลิตและ
การตลาดขององุ่นภายในประเทศและต่างประเทศ. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รัฐพล ฉัตรบรรยงค์. 2551. เทคนิคการปลูกองุ่นในเมืองไทย. กรุงเทพฯ: ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิ ทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต
บางเขน.
วิรัตน์ ปราบทุกข์. 2552. การปลูกองุ่นระบบปลูกใหม่ของโครงการหลวง. เชียงใหม่: สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน).
NHC2016