แนวข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 4.

ผลไม้เป็ นส่วนของพืชที่เจริญ

เติบโตมาจากอะไร
เตรียมสอบเข้า มัธยม 1 พร้อม
1) ไข่อ่อน 
เฉลย
2) ไซโกต
3) รังไข่ 
1. พืชไร้ดอกชนิดใดที่สามารถ
4) เมล็ด
ปรุงอาหารเองได้ทงั ้ หมด
1) ตะไคร่น้ำ  มอส 
2) แบคทีเรีย  เฟิ น 5. สาเหตุที่เราเก็บอาหารไว้ในตู้
3) สาหร่าย  เห็ดรา  เย็น แล้วอาหารไม่เน่าเสียง่าย
4) เฟิ น  ยีสต์
เนื่องมาจาก

2. พืชชนิดใดที่มีใบใช้ดักจับ 1) เชื้อโรคถูกทำลาย
แมลง 2) เชื้อโรคหยุดการเจริญเติบโต
1) คว่ำตายหงายเป็ น กุหลาบหิน  3) เชื้อราถูกทำลายด้วยอุณหภูมิ
2) ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง หยาด ต่ำในตู้เย็น
น้ำค้าง 4) แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต
3) ตะบองเพชร ผักตบชวา 
4) ตำลึง ฟั กทอง 6. ข้อใดผิด
1) พู่ระหง มีดอกที่มีเกสรตัวผู้
3. มูลสัตว์สามารถนำมาทำปุ๋ย และเกสรตัวเมียอยู่ภายในดอก

ต่อไปนี ้ ยกเว้นข้อใด เดียวกัน

2) เมื่อเกิดการปฏิสนธิในพืชที่มีด
1) ปุ๋ยหมัก 
อก ออวุลจะเจริญไปเป็ นเมล็ด
2) ปุ๋ยคอก
3) ภายในรังไข่ของพืชดอกจะมี
3) ปุ๋ยเคมี 
ออวุล และภายในออวุลจะมีเซลล์
4) ปุ๋ยอินทรีย์
สืบพันธุ์เพศผู้
4) ข้าวโพดมีดอกไม่สมบูรณ์เพศ
7. ข้อใดที่เป็ นการขยายพันธุ์พืช
ที่สามารถทำให้พืชเกิดการกลาย
พันธุ์ หรือ เกิดการเปลี่ยนแปลง
ไปจากพันธุ์เดิมได้
1) การเพาะเมล็ด  10. ส่วนใดของกล้วยที่สามารถ
2) การตอน
3) การติดตา
4) การปั กชำ
8. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ในการ
ขยายพันธุ์โดยการเพาะเลีย
้ ง
เนื้อเยื่อ
1) ทำให้รากของพืชแข็งแรง  1) เป็ นเม็ดเล็กๆ
2) ได้พืชในลักษณะที่เหมือนเดิม
3) ได้พันธุ์พืชตามต้องการ  3) เป็ นละอองเล็กๆ คล้ายฝุ ่น
4) ได้พืชในจำนวนมาก โดยใช้
เวลาสัน
้ ๆ
9. ข้อใดผิด
1) รูเล็กๆ บนใบไม้ ที่มีหน้าที่รับ
อากาศและคายน้ำออก เรียกว่า
ปากใบ
2) หน้าที่สำคัญของลำต้นคือ
ลำเลียงอาหารและน้ำจากรากไป
สู่ใบเพื่อปรุงอาหาร
3) ประโยชน์ทางตรงของพืช คือ
การใช้เป็ นอาหาร
4) พืชปรุงอาหารในเวลากลางคืน
และคายน้ำในเวลากลางวัน
นำมาประกอบอาหารได้
1) ดอก  ใบ 
2) ดอก  ผล
3) ลำต้น  ใบ 
4) ผล  ราก
11. ข้อใดเป็ นลักษณะของสปอร์
 
2) เป็ นก้อนหลายก้อน
 
4) เป็ นน้ำเหลวๆ
12. ข้อใดไม่ถูกต้อง
1) ลำตัวของพยาธิตัวตืด พยาธิ
ใบไม้ มีลก
ั ษณะเป็ นตัวกลม
2) ปะการัง แมงกะพรุน ขยาย
พันธุ์โดยการแตกหน่อ
3) อะมีบา พารามีเซียม สืบพันธุ์
โดยใช้วิธีแบ่งตัว
4) พะยูน แมวลายหินอ่อน วัว
เป็ นสัตว์เลีย
้ งลูกด้วยนม  16. จงเติมคำในช่องว่างต่อไปนี ้

สัตว์ที่ออกไข่ในน้ำ คือ …………

……….
13. สัตว์ในข้อใดที่นิยมนำมาท ………………….. เป็ นสัตว์ที่หายใจ
ดลองทางวิทยาศาสตร์ ด้วยปอด
1) ช้าง  ………………….. เป็ นสัตว์ที่ยืดและ
2) กระต่าย หดลำตัวได้
3) สุนัข  1) เต่า  ไก่  หนอน 
4) แมว 2) เต่า  เป็ ด  ไส้เดือน
3) กบ  ปลา  หนอน 
4) กบ  ไก่  ไส้เดือน
14. ข้อใดถือได้ว่าเป็ นสัตว์เลือด

เย็นทัง้ หมด
17. ข้อใดเป็ นสัตว์ป่าคุ้มครอง
1) กบ  ปลา 
2) แมวน้ำ  สิงโตทะเล ทัง้ หมด

3) งู  พะยูน  1) กระทิง  กระซู่  ไก่ฟ้า  อีเก้ง 

4) ไก่  อึ่งอ่าง 2) เสือโคร่ง  ตะกวด  ผีเสื้อถุง
ทอง  หมาใน
3) กิง้ ก่า  ช้างป่ า  งูสงิ   พะยูน 
15. เราไม่สามารถมองเห็นสัตว์ 4) สมเสร็จ  กวางป่ า  วัวแดง 
ในข้อใดได้ด้วยตาเปล่า ตะโขง
1) พยาธิเส้นด้าย 
2) อะมีบา 18. ข้อใดเป็ นสัตว์ป่าคุ้มครอง
3) ดอกไม้ทะเล  จำพวกสะเทินน้ำสะเทินบก
4) กัลปั งหา
1) ปลาหมูอารีย์ 
2) จงโคร่ง
3) ตะกวด  4) ไทยไม่สามารถผลิตทรัพยากร
4) จระเข้ เหล่านีไ้ ด้เอง

19.(1) หินไนส์แปรสภาพมา 21. ข้อใดผิด

จากหินแกรนิต(2) หินพัมมิซ 1) ทองคำ เป็ นหินที่ใช้เป็ นหลัก

พบมากที่ชายทะเล(3)
หินตะกอน  เป็ นหินที่เกิดจาก
การเย็นตัวของแมกมา
(Magma)(4) ประโยชน์จากการ
ประกันเงินตราระหว่างประเทศ 
2) การตรึงระดับราคาแร่ เป็ นการ
อนุรักษ์แร่อย่างหนึ่ง
3) ถ่านหินเป็ นแร่เชื้อเพลิง 
4) แหล่งน้ำมันสิริกิติ ์ อยู่ท่จ
ี ังหวัด

ใช้แร่ยิปซัม คือ นำมาทำ กำแพงเพชร

ปูนซีเมนต์จงบอกข้อที่ถูก

ทัง้ หมด 22. ถนนที่ทำจากดินลูกรังสีแดง

1) (1), (2), (3)  เกิดจากการผุพังของหินในข้อใด 

2) (1), (2), (4) 1) หินดินดาน 
3) (3), (2), (4)  2) หินทราย 
4) (1), (3), (4) 3) หินศิลาแลง 
4) หินกรวด
20. การที่เราต้องมีมาตรการ

ประหยัดก๊าซธรรมชาติและ 23. ในระบบห่วงโซ่อาหารนัน

้

น้ำมัน เนื่องมาจากสาเหตุใด เห็ดรา มีหน้าที่อะไร

เป็ นสำคัญ 1) ผู้ล่า 

2) ผู้ย่อยสลาย
1) น้ำมันแพง 
3) ผู้บริโภค 
2) ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านีใ้ ช้
4) ผู้ผลิต
แล้วหมดไป
3) ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านีม
้ ี
ค่า 
24. การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต คาร์บอนไดออกไซด์
2) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซ
แบบใดเป็ นแบบฝ่ ายหนึ่งได้รับ
ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซ
ประโยชน์  อีกฝ่ ายหนึ่ง ไม่ได้รับ
ไนโตรเจนไดออกไซด์
และไม่ได้เสียประโยชน์ 3) ก๊าซมีเทน ก๊าซ
1) นกเอีย
้ งกับควาย  คาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซ
2) ปลาฉลามกับเหาฉลาม ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
3) แบคทีเรียกับปมรากถั่ว  4) ก๊าซมีเทน ก๊าซ
4) เห็บกับสุนัข คาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซ
ไนโตรเจนไดออกไซด์

25.  ………….…เป็ นสิ่งมีชีวิตที่

เกิดจากราและสาหร่าย มีความ
27. ปั ญหาน้ำเน่าเสียเกิดจาก
สัมพันธ์      แบบ…………..  จง
ปั จจัยหลายอย่าง ยกเว้นข้อใด
เติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง
1) มีก๊าซออกซิเจนมากเกินไป 
1) ไคเลน  การได้ประโยชน์ร่วม
2) มีเศษอาหารมากเกินไป
กัน
3) มีสารอินทรีย์มากเกินไป 
2) ไลเคน  การพึ่งพากันและกัน
4) มีขยะมากเกินไป
3) ไลเคน  การได้ประโยชน์ร่วม
กัน
4) ไคเลน  การพึ่งพากันและกัน 28. ในปี พ.ศ. 2548 เกิด

อุทกภัยอย่างร้ายแรงที่จังหวัด

26. ฝนกรด เป็ นผลมาจากการ
สะสมของก๊าซใดในอากาศ
1) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซ
ไนโตรเจนไดออกไซด์ และก๊าซ
เชียงใหม่ ซึ่งสาเหตุหนึ่ง
นอกจาก การเจอพายุที่รุนแรง
แล้ว ยังมีเหตุปัจจัยใดอีกที่ส่ง
เสริมให้เกิดน้ำท่วมในครัง้ นี ้
1) การบุกรุกเข้าไปตัดป่ า และ 3) (C) คู่กับ (4), (5), (6) 
การทำพื้นที่เกษตรกรรม 4) (B) คู่กับ (1), (2), (6)
2) ประชาชนไม่สนใจเกี่ยวกับ
สภาวะอากาศเลยตัง้ ตัวไม่ทัน
3) หน่วยงานราชการบกพร่องใน
31. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของ
การรายงานข่าว 
4) เขื่อนไม่มีประสิทธิภาพในการ แบคทีเรีย

รองรับน้ำ 1) น้ำส้มสายชู 
2) การบ่มใบยาสูบ
3) ขนมเค้ก 
 29. ออกไซด์จากตะกั่ว เป็ น
4) วัคซีน
อันตรายต่อส่วนใด
1) ระบบประสาท 
2) ระบบทางเดินอาหาร
32. ความสัมพันธ์ในข้อใดไม่ถูก
3) ระบบหายใจ 
4) ข้อ 1) และ ข้อ 2) ถูก ต้อง
1) แบคทีเรีย - เหล้า 
2) สาหร่าย - วุ้น
30. (A) รา   (B) แบคทีเรีย 
3) ยีสต์ - ไวน์ 
(C) ไวรัส 4) ไม่มีข้อถูก
(1)ไทฟอยด์ 
(2) วัณโรค 
33. ข้อความที่ว่า ดินดีเพราะป่ า
(3) กลาก 
(4) หวัด ปก หญ้ารกเพราะเสือยัง ดินเย็น

(5) คางทูม เพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดิน

(6) บาดทะยัก ดี กล่าวถึงความสัมพันธ์ตามข้อ
ข้อใดถูก
ใด
1) (A) คู่กับ (1), (2), (3) 
2) (B) คู่กับ (5), (6)
1) ต้นไม้ - พื้นดิน  1) การวางรางรถไฟ
2) ต้นไม้ - หญ้า 2) การสร้างถนนคอนกรีต
3) เสือ - ดิน  3) การขึงสายโทรเลข
4) หญ้า - ปุ๋ย 4) การหมกน้ำแข็งด้วยขีเ้ ลื่อย

34. โมเลกุลของสสารใด มีการ 37. สสารในข้อใดที่

เคลื่อนไหวน้อยที่สุด เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตาม
1) น้ำปลา  ภาชนะที่ใส่
2) ก๊าซมีเทน 1) ของแข็ง 
3) น้ำแข็ง  2) ของเหลว
4) น้ำมันเบนซิน 3) ก๊าซ 
4) ถูกทุกข้อ

35. สสารใดที่มีสถานะของเหลว

ทัง้ หมด 38. ทุกข้อเป็ นผลมาจากการพา

1) น้ำ น้ำแข็ง ไฮโดรเจน  ความร้อน ยกเว้นข้อใด
2) น้ำมันพืช น้ำเกลือ น้ำตาล 1) การเกิดลมบก
3) น้ำเชื่อม ปรอท ไนโตรเจน  2) การเกิดลมทะเล
4) ปรอท แอลกอฮอล์ น้ำ 3) การเกิดกระแสน้ำอุ่นใน
มหาสมุทร
4) แสงแดดในการสังเคราะห์แสง
ของพืช
36. ข้อใดไม่ใช่การนำความรู้

เรื่องการหดและการขยายของ

สสารไปใช้ประโยชน์ 39. การเปลี่ยนสถานะของน้ำ

จากของแข็ง
ของเหลว และก๊าซ ข้อใดถูก 1) น้ำจากการกรองจะได้ปริมาณ
มากกว่าน้ำที่ได้จากการกลั่น
ต้อง
2) น้ำที่ได้จากการกลั่นจะสะอาด
1) ไอน้ำ - น้ำร้อน - หยดน้ำ
มากกว่าน้ำที่ได้จากการกรอง
2) น้ำแข็ง - น้ำ - ไอน้ำ
3) น้ำที่ได้จากการกรองจะใสกว่า
3) น้ำ - น้ำแข็ง - ไอน้ำ 
น้ำที่ได้จากการกลั่น
4) น้ำ - ไอน้ำ - น้ำแข็ง
4) น้ำที่ได้จากการกลั่นไม่มีรสเค็ม
เหมือนน้ำที่ได้จากการกรอง
40. ในการแยกสารด้วยวิธีการ

ระเหิดของพิมเสน และเกลือแกง 43. วิธีใดที่เป็ นวิธีที่เหมาะสม

ที่ปนกันอยู่ อยากทราบว่า สาร ที่สุดในการใช้ยาปราบศัตรูพืช
ใดจะระเหิดกลายเป็ นไอ 1) กล้ายืนอยู่เหนือลมเวลาฉีดยา
1) พิมเสน  ปราบศัตรูพืช
2) เกลือแกง 2) เก่งยืนอยู่ใต้ลมเวลาฉีดยา
3) ระเหิดพร้อมกัน  ปราบศัตรูพืช
4) เลือกใช้วิธีแยกสารผิด 3) เกมยืนอยู่ในระดับเดียวกับแรง
ลมเวลาฉีดยาปราบศัตรูพืช
41. ยาสามัญประจำบ้านใดที่มี 4) ก้านยืนอยู่ตรงกลางสวนเวลา
ฉีดยาปราบศัตรูพืช
ไว้เพื่อบรรเทาอาการท้องอืด

ท้องเฟ้ อ
44. ทุกข้อเป็ นวิธีการป้ องกัน
1) ยาธาตุน้ำขาว 
และบำรุงรักษาอวัยวะในระบบ
2) ยาธาตุน้ำแดง
3) น้ำมันละหุ่ง  ย่อยอาหารทัง้ หมด ยกเว้น ข้อ

4) ยาแอสไพริน  ใด
1) ปูรับประทานอาหารรสไม่จัด
42. จงบอกความแตกต่างของ 2) เป้ เคีย
้ วอาหารไม่ละเอียด
น้ำที่ผ่านการกรอง และการกลั่น
3) จิตถ่ายอุจจาระเป็ นเวลา 48. สารเสพติดในข้อใดที่มีฤทธิ ์
4) กุง้ รับประทานอาหารตรงเวลา
รุนแรงมากที่สุด
1) เฮโรอีน 
45. ข้อใดกล่าวผิด
2) มอร์ฟีน
1) ลำไส้เล็ก มีความยาวประมาณ
3) ฝิ่ น 
6 - 8 เมตร
4) สารระเหย
2) ในลำไส้เล็ก มีน้ำย่อยอยู่ 3
ชนิดที่สำคัญ คือ น้ำดี น้ำย่อย
49. ผู้ที่ติดสิ่งเสพติดแล้วไม่ได้
จากตับอ่อน และน้ำย่อยจาก
เสพสิ่งเสพติด เมื่อถึงเวลาที่เขา
ลำไส้เล็ก
3) ในลำไส้ใหญ่จะไม่มีการย่อย ต้องการมากๆ มักเกิดอาการที่
อาหารอีก เรียกว่า
4) ระบบการย่อยอาหารเริ่มต้นที่ 1) ลงแดง 
กระเพาะอาหาร 2) อยากยา
3) บ้ายา 
46. ถ้าเราต้องการที่จะตรวจ 4) ลงยา
การเต้นของชีพจรจะสามารถ

ตรวจได้ในส่วนใดของร่างกาย 50. อวัยวะในข้อใดที่ไม่ใช่

1) นิว้ และข้อมือ  อวัยวะภายนอก

2) ข้อมือและข้างลำคอ 1) ตา 
3) ต้นแขนและต้นขา  2) ผิวหนัง
4) ข้างลำคอและต้นแขน 3) ไต 
4) ปาก
47. วัยรุ่นคือวัยที่อยูใ่ นช่วงใด
1) 9 - 18 ปี   51. สสารเปลี่ยนสถานะเนื่องมา
2) 10 - 19 ปี จากข้อใดมากที่สุด
3) 11 - 18 ปี  
4) 11 - 20 ปี  
1) แสงสว่าง  55. แคลอรี คือหน่วยวัดสิ่งใด
2) ความร้อน
1) ความดัน 
3) แรงลม 
2) ความชื้น
4) สารเคมี
3) ความหนาแน่น 
4) ความร้อน
52. ข้อใดคืออนุภาคที่เล็กที่สุด

ของสสาร 56. กระบวนการใดทำให้เสื้อผ้า

1) ธาตุ  ที่เราตากนัน
้ แห้ง
2) อะตอม
1) การควบแน่น 
3) โมเลกุล 
2) การระเหิด
4) สารประกอบ
3) การระเหย 
4) การหลอมเหลว
53. สารใดมีปริมาตรคงที่แต่รูป

ร่างไม่แน่นอน
57. สารในข้อใดไม่เกิดการ
1) ดินน้ำมัน 
2) น้ำผลไม้ ระเหิด

3) ไอน้ำ  1) ลูกเหม็น 
4) พิมเสน 2) สารส้ม
3) พิมเสน 
4) การบูร
54. การหล่อเทียนพรรษาแตก

ต่างจากการหล่อในข้อใด 58. ข้อใดมีการคายความร้อน

1) การหล่อเหล็ก  ออกจากสาร
2) การหล่อพระ
1) การหลอมเหลวของเทียน 
3) การหล่อปูนพลาสเตอร์ 
2) ลูกเหม็นมีขนาดเล็กลง
4) ถูกทุกข้อ
3) น้ำระเหยกลายเป็ นไอ 
4) การควบแน่นของไอน้ำเป็ น  62. เพราะเหตุใด ด้ามทัพพี
หยดน้ำ
โลหะจึงร้อนเมื่อเราใช้คนหม้อ

แกง
59. การเปลีย
่ นสถานะของสาร
1) การพาความร้อน 
ข้อใดมีอุณหภูมิเท่ากัน
2) การนำความร้อน
1) จุดเดือดกับจุดหลอมเหลว 
3) การแผ่รังสีความร้อน 
2) จุดเยือกแข็งกับจุดระเหิด
4) ถูกทุกข้อ
3) จุดระเหิดกับจุดระเหย 
4) จุดหลอมเหลวกับจุดเยือกแข็ง
 63. ข้อใดถูกต้องในการหล่อ

เทียน
60. ปริมาตรของน้ำเมื่อเปลี่ยน
  1) ของเหลว  ของแข็ง 
สถานะเป็ นน้ำแข็งจะเป็ น
ก๊าซ
อย่างไร
  2) ของแข็ง  ของเหลว 
1) ลดลง  ก๊าซ
2) เพิ่มขึน
้   3) ของแข็ง  ของเหลว 
3) คงที่  ของแข็ง
4) คงที่แล้วลดลง   4) ก๊าซ  ของเหลว 
ของแข็ง
 61. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
  1) โมเลกุลของของแข็งมีแรงยึด  64. การถ่ายเทความร้อนโดยไม่
เหนี่ยวน้อยกว่าของเหลว อาศัยตัวกลางเรียกว่า
  2) โมเลกุลของก๊าซมีแรงยึด
1) การทำความร้อน 
เหนี่ยวมากกว่าของเหลว
2) การพาความร้อน
  3) โมเลกุลของก๊าซมีแรงยึด
3) การแผ่รังสีความร้อน 
เหนี่ยวน้อยกว่าของแข็ง
4) ข้อ 1) และ ข้อ 2) ถูก
  4) ไม่มีข้อถูก

 65. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1) ของแข็งมีปริมาตรคงที่  รูป 1) 32 - 40 ํC 
ร่างเปลี่ยนไปไม่แน่นอน 2) 35 - 42 ํC
2) ของเหลวมีปริมาตรคงที่  รูป 3) 37 - 45 ํC 
ร่างเปลี่ยนไปตามภาชนะที่บรรจุ 4) 39 - 46 ํC
3) ก๊าซมีปริมาตรคงที่  ฟุ ง้
กระจายไปตามภาชนะที่บรรจุ
4) ไม่มีข้อถูก
69. การเปลี่ยนสถานะของสาร

ในข้อใดกลมกลืนเป็ นเนื้อ
66. แหล่งพลังงานความร้อนที่
เดียวกันได้ดีที่สุด
ใหญ่ที่สุด  คือข้อใด
1) น้ำกะทิ 
1) บ่อน้ำพุร้อน  2) น้ำเชื่อม
2) ดวงอาทิตย์ 3) น้ำอบไทย 
 3) โรงไฟฟ้ า 4) น้ำหอม
 4) โลก

70. ข้อใดเป็ นของเหลวทัง้ หมด

 67. สสารในข้อใดจะมีสถานะ
1) น้ำส้ม แอลกอฮอล์ ออกซิเจน 
คงที่ได้มากที่สุด 2) น้ำแข็ง น้ำผึง้ ไฮโดรเจน
1) ไอน้ำ  3) น้ำ น้ำมันมะกอก ปรอท 
2) น้ำร้อน 4) น้ำเกลือ น้ำมันพืช ไนโตรเจน
3) น้ำแข็ง 
4) น้ำพุ

71. ในขณะที่อุณหภูมิและความ

ดันปกติ  สสารมีกี่สถานะ
68. เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ มี
1) 2 สถานะ 
มาตราส่วนวัดอุณหภูมิเท่าใด 2) 3 สถานะ
3) 4 สถานะ 
4) 5 สถานะ

75. ข้อใดมีการเปลี่ยนแปลงทาง

เคมี
72. ข้อใดคืออุณหภูมิเฉลี่ยของ
1) การเกิดหิมะ 
น้ำเมื่อวัดอุณหภูมิ 3 ครัง้ ได้ค่า 2) น้ำเดือด
28 ํ C, 30 ํ C, 32 ํ C 3) การหลอมเหลวของเทียน 

1) 28 ํC  4) ต้มไข่

2) 30 ํC
3) 32 ํC 
4) ไม่มีข้อถูก
76. ก๊าซมีการส่งผ่านความร้อน

แบบใด
73. โลหะในข้อใดนำความร้อน
1) การนำความร้อน 
ได้ดีที่สุด
2) การพาความร้อน
1) เงิน
3) การแผ่รังสี 
2) ทองแดง
4) ข้อ 2) และ ข้อ 3) ถูก
3) เหล็ก 
4) อะลูมิเนียม

77. ถ้าเราเพิ่มความร้อนให้กับ
74. ข้อใดคือการเปลี่ยนแปลง
น้ำที่เดือด  อุณหภูมิของน้ำจะ
ทางกายภาพ
เป็ นอย่างไร
1) การกลืนอาหาร 
1) เพิ่มขึน
้ อย่างรวดเร็ว 
2) การย่อยอาหาร
2) ค่อยๆ เพิ่มขึน
้
3) การเกิดสนิมเหล็ก 
3) ลดลงจากเดิม 
4) การเผากระดาษ
4) คงที่ตลอดเวลา
 81. สารในข้อใดที่ทำให้น้ำ

ประปาลดความเป็ นด่าง
78. การสร้างเครื่องฟั กไข่ 1) สารส้ม 

เป็ นการส่งผ่านความร้อนแบบ 2) ปูนขาว

3) คลอรีน 
ใด
4) คอปเปอร์ซัลเฟต
1) การกระจายความร้อน 
2) การพาความร้อน
3) การแผ่รังสี 
4) การนำความร้อน 82. สารเคมีชนิดใดที่นิยมใส่ใน

ลูกชิน
้ เพื่อทำให้กรอบ
1) โซดาไฟ 

79. ข้อใดเป็ นสมบัติของเบส 2) โซเดียมไฮดรอกไซด์

3) บอแรกซ์ 
1) มีรสเปรีย
้ ว 
4) ไนตริก
2) สารละลายเบสนำไฟฟ้ าได้
3) เปลี่ยนกระดาษลิตมัสจาก
น้ำเงินเป็ นแดง
4) pH น้อยกว่า 7 83. ในน้ำอัดลมมีก๊าซใดบรรจุ

อยู่
1) ก๊าซไฮโดรเจน 
80. น้ำประกอบด้วยธาตุใด 2) ก๊าซออกซิเจน
1) ออกซิเจน ไนโตรเจน  3) ก๊าซไนโตรเจน 
2) คาร์บอน ออกซิเจน 4) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
3) ไฮโดรเจน ออกซิเจน 
4) ออกซิเจน คลอรีน
84. น้ำส้มสายชูเทียมทำมาจาก 1) ไฟฟ้ าสถิต 
2) ไฟฟ้ ากระแสสลับ
สารใด
3) ไฟฟ้ ากระแสตรง
1) กรดซิตริก 
 4) ไฟฟ้ าเหนี่ยวนำ
2) กรดฟอร์มิก
3) กรดแอซีติก 
4) กรดไฮโดรคลอริก
88. ข้อใดเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ า

เป็ นพลังงานกล

85. ผู้ที่ค้นพบประจุไฟฟ้ าใน 1) มอเตอร์ 

2) ไดนาโม
บรรยากาศคือใคร
3) หม้อแปลงไฟฟ้ า 
1) เบนจามิน แฟลงคลิน 
4) สายไฟฟ้ า
2) ทอมัส แอลวา เอดิสัน
3) ไมเคิล ฟาราเดย์ 
 89. ฟิ วส์ เป็ นส่วนผสมของ
4) แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์
โลหะชนิดใด
1) เงินกับทองแดง 
2) ทองแดงกับสังกะสี
86. ข้อใดทำให้เกิดไฟฟ้ าสถิตได้ 3) เหล็กกับทองแดง 
1) ปฏิกิริยาเคมี  4) ดีบุกกับตะกั่ว
2) การขัดสี
3) การเหนี่ยวนำ  90. ข้อใดเป็ นฉนวนไฟฟ้ า
4) ข้อ 2) และ ข้อ 3) ถูก
ทัง้ หมด
1) เชือกไนลอน ผ้า กระดาษ 
2) แท่งถ่าน พลาสติก ไม้
87. กระแสไฟฟ้ าที่ใช้ตามบ้าน 3) น้ำบริสุทธิ ์ แท่งถ่าน ใย
สังเคราะห์
เป็ นไฟฟ้ าชนิดใด
4) ตะปู ไม้ น้ำธรรมดา
91. ข้อใดคือลักษณะของดวง 94. ดาวประกายพรึกเป็ นชื่อ

อาทิตย์ เรียกของดาวดวงใด
1) ดาวเคราะห์  1) ดาวพุธ 
2) ดาวฤกษ์ 2) ดาวเสาร์
3) ดาวนพเคราะห์  3) ดาวศุกร์ 
4) ดาวบริวาร 4) ดาวพฤหัสบดี

92. ดาวเคราะห์น้อยอยู่ระหว่าง 95. การโคจรที่มีแนวตรงกันใน

ดาวเคราะห์ดวงใด ข้อใดทำให้เกิดจันทรุปราคา
1) ดาวพุธ  ดาวศุกร์  1) โลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ 
2) ดาวศุกร์  โลก 2) โลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
3) โลก  ดาวอังคาร  3) ดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ 
4) ดาวอังคาร  ดาวพฤหัสบดี 4) ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ โลก

93. วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับ 96. ดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่

จักรวาลและอวกาศ  คือข้อใด ที่สุดในระบบสุริยะคือดาวในข้อ

1) โหราศาสตร์  ใด
2) ดาราศาสตร์ 1) ดาวอังคาร 
3) ไสยศาสตร์  2) โลก
4) วิทยาศาสตร์ 3) ดาวเสาร์ 
4) ดาวพฤหัสบดี
97. ดวงจันทร์ทำให้เกิด 100. ไทรอส เป็ นดาวเทียมที่ใช้

ปรากฏการณ์ในข้อใด ในงานใด
1) จักรราศี  1) การทหาร 
2) น้ำขึน
้ น้ำลง 2) สื่อสาร
3) กลางวันกลางคืน  3) ทำแผนที่โลก 
4) คลื่นสึนามิ 4) อุตุนิยมวิทยา

98. ประเทศแรกที่ส่งมนุษย์ขน
ึ ้ สู่

อวกาศคือประเทศใด
1) รัสเซีย 
2) สหรัฐอเมริกา
3) จีน 
4) อังกฤษ

99. ดาวเทียมดวงแรกมีช่ อ
ื ว่า

อะไร
1) เอกซ์พลอเรอร์ 
2) เทลสตาร์
3) สปุตนิก 
4) ซีนคอม
เฉลย
1. 1)
2. 2)
3. 3)
4. 3)
5. 2)
6. 3)
7. 1)
8. 1)
9. 4)
10. 2)
11. 3)
12. 1)
13. 2)
14. 1)
15. 2)
16. 4)
17. 2)
18. 2)
19. 2)
20. 2)
21. 1) 50. 3)
22. 3) 51. 2)
23. 2) 52. 2)
24. 2) 53. 2)
25. 2) 54. 3)
26. 1) 55. 4)
27. 1) 56. 3)
28. 1) 57. 2)
29. 4) 58. 4)
30. 4) 59. 4)
31. 3) 60. 2)
32. 1) 61. 3)
33. 1) 62. 2)
34. 3) 63. 3)
35. 4) 64. 3)
36. 4) 65. 2)
37. 2) 66. 2)
38. 4) 67. 3)
39. 2) 68. 2)
40. 1) 69. 4)
41. 2) 70. 3)
42. 2) 71. 2)
43. 1) 72. 2)
44. 2) 73. 1)
45. 4) 74. 1)
46. 2) 75. 4)
47. 4) 76. 2)
48. 1) 77. 4)
49. 1) 78. 3)
79. 2)
80. 3)
81. 2)
82. 3)
83. 4)
84. 3)
85. 1)
86. 4)
87. 2)
88. 1)
89. 4)
90. 1)
91. 2)
92. 4)
93. 2)
94. 3)
95. 3)
96. 4)
97. 2)
98. 1)
99. 3)
100. 4)