Professional Documents
Culture Documents
ภาพถ่ายหน้าจอ 2564-07-05 เวลา 20.25.18
ภาพถ่ายหน้าจอ 2564-07-05 เวลา 20.25.18
ภาพถ่ายหน้าจอ 2564-07-05 เวลา 20.25.18
กรมการ ัต ์ท ารบก
นัง ือ คู่มือการเรียน ลัก ูตรผู้ช่ ยเจ้า น้าที่ ัตรัก ์ ( ุนัข) เล่มนี้ โรงเรียน ุนัขท าร
ูนย์การ ุนัขท าร กรมการ ัต ์ท ารบก ได้ร บร มเพื่อใช้เป็น ลักฐานประกอบการเรียน
ตาม ลัก ูตรผู้ช่ ยเจ้า น้าที่ ัต รัก ์ ( ุนัข) ตามขอบเขตและ ิชาที่ได้รับอนุมัติจากกองทัพบก
ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้ารับการ ึก าและผู้ นใจที่จะ ึก าเกี่ย กับ ิชาแขนงนี้เป็นอย่างยิ่ง
นัง ือเล่มนี้อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ผู้พบเ ็นข้อบกพร่อง มค รแก้ไขใ ้ดีขึ้น
โปรดแจ้งการแก้ไขได้ที่ ผู้อาน ยการโรงเรียน ุนัขท าร ูนย์การ ุนัขท าร กรมการ ัต ์ท ารบก
ตาบล นอง า ร่าย อาเภอปากช่อง จัง ัดนครราช ีมา ร ั ไปร ณีย์ ๓๐๑๓๐ โทร ัพท์
044 – 311990 ต่อ 9028, 9030 จักขอบคุณอย่างยิ่ง
ข. การแบ่งชนิดของกระดูกตามลักษณะ
(1) กระดูกยา เช่น กระดูกขา น้าตอนบน กระดูกขา น้าตอนล่าง กระดูกขา ลังตอนบน และกระดูก
ขา ลังตอนล่าง เป็นต้น
(2) กระดูก ั้น เช่น กระดูกนิ้ เป็นต้น
(3) กระดูกแบนเช่น กระดูก ะบัก และกระดูกเชิงกราน เป็นต้น
(4) กระดูกเป็นโพรง เช่น กะโ ลก ีร ะ เป็นต้น
(5) กระดูกเป็นก้อน เช่น กระดูก ะบ้า
(6) กระดูกลัก ณะอื่น ๆ เช่น กระดูก ัน ลัง เป็นต้น
ค. การแบ่งชนิดของกระดูกตามหน้าที่ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
(1) กระดูกแกนกลางของร่างกาย (AXIAL SKELETON) ได้แก่กระดูกต่างๆ ที่อยู่ตรงกึ่งกลางลาตั ได้แก่
(ก) กะโ ลก (SKULL) คือกระดูกที่ ่อ ุ้ม มองเพื่อป้องกันการถูกกระแทก ประกอบด้ ย ่ นที่เป็น
ีร ะ (CRANIAL PORTION) กับ ่ นที่เป็นใบ น้า (FACIAL PORTION)
(ข) กระดูก ัน ลัง (VERTEBRAL COLUMN) คือกระดูกที่เป็นแกนกลางของลาตั ได้แก่กระดูกที่ต่อ
จากกะโ ลกออกมา แบ่งตามตาแ น่งที่อยู่ได้เป็นกระดูกบริเ ณคอ, กระดูกบริเ ณอก, กระดูกบริเ ณ ลั ง
และเอ , กระดูกบริเ ณก้น และกระดูก าง
กระดูก ัน ลังใน ุนัขมีทั้ง มด 50 - 52 ชิ้น แบ่งออกเป็น
- กระดูกบริเ ณคอ (CERVICAL VERTEBRAE) จาน น 7 ชิ้น
- กระดูกบริเ ณอก (THORACIC VERTEBRAE) จาน น 13 ชิ้น
- กระดูบริเ ณ ลังและเอ (LUMBAR VERTEBRAE) จาน น 7 ชิ้น
- กระดูกบริเ ณก้น (SACRAL VERTEBRAE) จาน น 3 ชิ้น
- กระดูก าง (COCCYGEAL VERTEBRAE) จาน น 20 - 22 ชิ้น
ดังนั้น เขียนเป็น ูตรกระดูก ัน ลังของ ุนัขได้คือ C7T13L7S3Cy20-22
(ค) กระดูกซี่โครง (RIBS) เป็นกระดูกแบน เล็กและยา ประกอบด้ ย 2 ่ น คือ ่ นที่เป็นกระดูก
แข็งซึ่งเกาะติดกับกระดูก ัน ลังบริเ ณอก (THORACIC VERTEBRAE) ทั้ง องด้าน กับ ่ นที่เป็นกระดูกอ่อน
ซึ่งเกาะติดกับกระดูกอก (STERNUM) ดังนั้น ุนัขจะมีกระดูกซี่โครงร ม 13 คู่ รือ 26 อัน ทา น้าที่ป้องกัน
อ ัย ะในช่องอก
ก. หน้าที่ของระบบทางเดินอาหาร
(1) ่งอา ารเข้า ู่ร่างกาย
(2) บดและย่อยอา าร
(3) ขับถ่ายกากอา ารออกจากร่างกาย
ข. อวัยวะในระบบทางเดินอาหารได้แก่
- ปาก เป็น ่ นต้นของระบบทางเดินอา าร ประกอบด้ ย
- ลิน้ เป็นกล้ามเนื้อแผ่น นา ๆ ทา น้าที่ในการต ัดและคลุกเคล้าอา ารภายในปาก และทา น้าที่ใน
การรับร อา ารโดยอา ัยอ ัย ะลัก ณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ บนลิ้น ที่เรียก ่า “ต่อมรับร ” (TASTE BUD) ซึ่งต่อม
รับร ชนิด นึ่งจะรับร อา ารได้ร นึ่ง ร อา ารที่รับได้คือ ร เปรี้ย าน เค็ ม และขม ่ นร อื่น ๆ ที่รู้ ึก
ได้นั้น เป็นค ามรู้ ึกที่ผ มผ านกันระ ่างร ทั้ง 4 นี้
นอกจากนี้ลิ้นยังทา น้าที่อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ย ข้องกับระบบทางเดินอา าร คือช่ ยทาใ ้เกิดเ ียงต่าง ๆ
- ต่อมน้าลาย มี 3 คู่ ทุกคู่จะมีช่องเปิดภายในปากทา น้าที่ ร้างน้าลาย เพื่ อทาใ ้อา ารเปียกและ
ร มเป็นก้อน นอกจากนี้น้าย่อยในน้าลายยังทา น้าที่ย่อยอา ารประเภทแป้งใ ้เป็นน้าตาล
- ฟัน เป็นอ ัย ะที่ทา น้าที่ในการตัด ฉีก และบดอา ารในช่องปากเพื่อใ ้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อน ่ง
อา ารลงไปทาการย่อยต่อที่กระเพาะอา าร
ฟันแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ตามลัก ณะและ น้าที่ ดังนี้.-
ฟันตัด (INCISOR = I)
ฟันฉีก (CANINE = C)
ฟันกรามเล็ก (PREMOLAR = P)
ฟันกรามใ ญ่ (MOLAR = M)
ลัก ตู ร ผู้ช่ ยเจ้า น้าที่ ัต รัก (์ ุนัข) รร. ุนัขท ารฯ
-9-
ฟัน ุนัขมี 2 ชุด คือ
1. ฟันน้านม ใน ุนัขมี ๒๘ ซี่ ได้แก่
2 ( I 3/3 , C 1/1 , P 3/3 )
2. ฟันแท้ ใน ุนัขมี 40 – 42ซี่ ได้แก่
2 ( I 3/3 , C 1/1 , P 4/4 , M 2/2-3 )
(4) กล่องเ ียง (LARYNX) เป็น ่ นที่อยู่ระ ่างคอ อยกับ ลอดลม มี น้าที่ดังนี้.-
- ค บคุมการ ายใจเข้า - ออก
- ทาใ ้เกิดเ ียง
- ป้องกันการ ายใจเอา ิ่งแปลกปลอมเข้าไป
กล่องเ ียงของ ุนัข จะประกอบด้ ยกระดูกอ่อน ๆ 7 ชิ้น ภายในจะมี ่ นยื่นของกระดูกอ่อน
ซึ่งจะเป็นตั พยุงเยื่อบาง ๆ (VOCAL CORD) ซึ่งเมื่อมีการ ั่น ะเทือนจะทาใ ้เกิดเ ียง
(5) ลอดลมใ ญ่ (TRACHEA) เป็นอ ัย ะที่เชื่อมระ ่างกล่องเ ียงกับปอด ลัก ณะเป็นท่อกล งยา
ท่อเดีย ่ นประกอบของท่อคือกระดูกอ่อนเป็น ง ๆ ตามค ามยา ของท่อ ลอดลม
(6) ลอดลมเล็ก (BRONCHUS) คือท่อ ลอดลมที่ต่อจาก ลอดลมใ ญ่ แต่มีขนาดเล็กก ่า และแยก
ออกเป็น 2 ข้าง
(7) ลอดลมฝอย (BRONCHIOLE) คือท่อ ลอดลมที่แตก าขาออกมาจาก ลอดลมเล็ก แต่มีขนาดเล็ก
ก ่า และจะแยกจนกลายเป็น ลอดลมที่เล็กที่ ุด
ค. การทางานของระบบสืบพันธุ์
น้าเชื้ออ ุจิ (SEMEN) จะถูก ลั่งออกมาจากอ ัย ะ ืบพันธุ์เพ ผู้ โดยการผ มพันธุ์ตามธรรมชาติ รือ
โดยการรีดน้าเชื้อ (MASTURBATION) เข้า ู่อ ัย ะ ืบพันธุ์เพ เมีย เชื้อ ืบพันธุ์เพ ผู้ (SPERM) จะเคลื่อนจาก
อ ัย ะ ืบพันธุ์เพ เมียไปตามคอมดลูก ตั มดลูก ปีกมดลูก และเข้า ู่ท่อนาไข่ เพื่อไปปฏิ นธิกับไข่ที่ตกออกมา
จากรังไข่ จากนั้นไข่ที่ได้รับการปฏิ นธิแล้ จะเคลื่อนจากท่อนาไข่ไปฝังตั ที่ปีกมดลูกแต่ละข้าง จนกระทั่งไข่
เจริญเติบโตเป็นตั อ่อนที่ มบูรณ์ และเมื่อครบกา นดตั อ่อนจะคลอดออกมาทางช่องคลอด
ลักการศัลยกรรมทั่วไป
เป้า มายของการทาศัลยกรรม
1. เพื่อเป็นการบาบัดรัก าโรคใ ้ ุขภาพ ัต ์ป่ ยฟื้นคืน ู่ ภาพปกติ เช่น การเย็บแผลบาดเจ็บ การผ่าตัด
เนื้องอก เป็นต้น
2. เป้า มายอื่นๆที่มนุ ย์จะได้ประโยชน์จาก ัต ์ เช่น การผ่าตัดทา มัน การตัดเขา ก่อนนามาใช้งานเพื่ อทา
ใ ้มันเชื่องค บคุมได้ง่ายขึ้น ลดอันตรายระ ่างการทางาน
ศัลยกรรม า รับ ัตว์แบ่งเป็น
1. ลั ยกรรมขนาดใ ญ่ เป็นการผ่าตัดที่เกี่ย กับอ ัย ะ าคัญๆ เช่น การผ่าตัดช่องอก การผ่าตัดช่อง
ท้องซึ่งจาเป็นจะต้องมีการ างยา ลบ
2. ัลยกรรมขนาดย่อย เป็นการผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งอาจไม่จาเป็นต้องมีการใช้ยา ลบ อาจเพียงใช้ยาชา
ช่ ยระงับค ามรู้ ึก เช่น การเย็บแผลที่ฉีกขาด การตัดนิ้ ติ่ง เป็นต้น
ลักการพิจารณาก่อนการทาศัลยกรรม
1. ผู้ดูแล ัต ์ต้องมีค ามเข้าใจถึง าเ ตุที่จะต้องผ่าตัด ิธกี ารดูแลรัก า ัต ์ ลังผ่าตัด ร มทั้งอันตรายและผลดี
ผลเ ียจากการผ่าตัด เพื่อจะได้มี ่ นร่ มในการดูแล ัต ์ใ ้ดี
2. ใน ่ นของ ัต ์ป่ ย
2.1 การระบุตั ัต ์ป่ ยได้ถูกต้องในกรณีที่ ัต ์เลี้ยงร มกัน
2.2 การเตรียมตั ัต ์ตามปกติตามข้อแนะนาต่างๆ ได้แก่ แนะนาใ ้มีการอดอา าร และน้าอย่างน้อย 8-12
ชั่ โมง มีการขับถ่ายอุจจาระและปั า ะ การเตรียมบริเ ณที่จะผ่าตัด การ างตั ัต ์ในท่าที่พร้อมที่จะผ่าตัด
2.3 การเตรียมตั ัต ์กรณีพิเ บางกรณีจะต้องมีการเตรียมตั เฉพาะ า รับการผ่าตัดบางอย่าง เช่น
ัต ์บางตั อยู่ในภา ะขาดน้าก็ค รจะต้องเตรียมตั ใ ้มีการใ ้ ารน้าบาบัด รือน้าเกลือก่อน
3. ใน ่ นผู้ทาการผ่าตัด
3.1 ผู้ผ่าตัดและผู้ร่ มงาน ค รมีการเตรียมตั ก่อนการผ่าตัดที่ดีทั้งด้านค ามรู้ ทางด้านเรื่องที่จะผ่าตัด
ด้านกาย ิภาค รีระ ิทยาต่างๆ เพื่อช่ ยลดเ ลาในการทางาน ลดการเกิดบาดแผล และ ค าม ะอาด ่ นตั
เช่น การล้างมือ ิธีการทาใ ้ปรา จากเชื้อต่างๆ
การเตรียมตัวทาความ ะอาดของผู้ผ่าตัดและผู้ช่วยผ่าตัด
1. มรองเท้าที่ ะอาด และเป็นรองเท้าที่ใช้ า รับเ ลาทาการผ่าตัดเท่านั้น
2. ตัดเล็บใ ้ ั้น ถอดเครื่องประดับจากมือและแขนออก ล้างมือฟอก บู่และเช็ดใ ้แ ้ง
เครื่องมือและอุปกรณ์ทางศัลยกรรม
การเย็บและการผูกเงื่อนเป็นพื้นฐานของการทาการ ัลยกรรมทุกชนิดซึ่งมีรูปแบบของการเย็บและการ
ผูกมัด ลาย ิธี ในที่นี้จะกล่า ถึงเฉพาะ ิธีที่มีการใช้มากที่ ุดในปัจจุบัน ซึ่งผู้ทาการผ่าตัดไม่ค รปิดกั้นตั เองที่
จะเลือกใช้ ิธีเดีย เฉพาะ แต่ค รใช้ตามค ามเ มาะ มกับแผลมากก ่า
วัสดุและเครื่องมือ
1. ั ดุเย็บแผล
2. คีมจับเข็มเย็บแผล
3. คีมคีบ
4. คีม นีบ ลอดเลือด
5. เข็มเย็บแผล
6. เครื่องมือเฉพาะต่างๆ
วัสดุเย็บแผล
คุณสมบัติ
ั ดุเย็บแผล ่ นใ ญ่จะต้องมีคุณ มบัติที่ดีคือ มีค ามอ่อนตั นามาฆ่าเชื้อโรคได้ง่าย แข็งแรงไม่ขาด
ง่าย เมื่อผูกปมก็ไม่เลื่อน ลุดง่ายเมื่ออยู่ในแผลต้องไม่ทาใ ้บ ม รือเกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อ
ั ดุเย็บแผลแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ั ดุเย็บแผลที่ละลายได้ (absorbable suture)
2. ั ดุเย็บแผลที่ไม่ละลาย (Non-absorbable suture)
วัสดุเย็บแผลที่ละลายได้
จะใช้เย็บแผล รือผูกอ ัย ะภายใน ตั้งแต่ชั้นผิ นังเข้าไป เป็น ั ดุเย็บที่ละลายโดยอ ัย ะ เซลล์
และน้า รือของเ ล ในร่างกาย ระ ่างที่แผล าย ในปัจจุบันมี ลาก ลายชนิด ซึ่ง ่ นใ ญ่เป็น ั ดุที่มา
จากการ ังเคราะ ์ ารธรรมชาติ รือ ั ดุ ังเคราะ ์ที่คล้ายโปรตีน เช่น
- ไ มละลาย catgut ทาจาก elastic submucosa ของลาไ ้แกะ นิยมใช้กันมาก
- อื่นๆ เช่น Vicryl , Dexon , Safril
ปัจจัยที่มีผลต่อการสลายตัวของวัสดุเย็บ
1. ขนาดของเ ้นไ ม
2. อายุการใช้งานของ ั ดุ
3. ชนิดของเนื้อเยื่อที่ได้รับการเย็บ
4. ลัก ณะเฉพาะตั ของ ัต ์นั้นๆ
วัสดุเย็บแผลที่ไม่ละลาย
ใช้ผูก รือเย็บอ ัย ะภายนอกซึ่งได้แก่ ผิ นัง จะไม่ละลาย รือถูกดูดซึมโดยเนื้อเยื่อของร่างกาย
ตั อย่างเช่น ไ ม (Silk) ฝ้าย (Cotton) ไนล่อน (Nylon) ล ด เป็นต้น เมื่อไปอยู่ภายในผิ นังร่างกายจะ
พยายามขจัดออกไปเพราะเป็น ิ่งแปลกปลอม เมื่อแผลติด นิทกันดีแล้ จึงตัดไ มออกประมาณ 7-14 ัน ลัง
เย็บแผล รือแล้ แต่ ภาพของแผล ถ้าเกิดแผลเป็น นอง รือไ มรั้งขอบแผลจนอักเ บติดเชื้อก็ต้องรีบตัดไ ม
ออกแล้ รัก าแบบแผลเปิด
เครื่องมือเย็บแผล
เข็มเย็บแผล แบ่งเป็น 2 ชนิด
1. เข็มปลายกลม ใช้เย็บอวัยวะที่อ่อนโดยเฉพาะอวัยวะภายใน เช่น เยื่อบุช่องท้อง พังพืดกล้ามเนื้อ ชั้นใต้
ผิว นัง ลาไ ้ เป็นต้น
2. เข็มปลายเ ลี่ยม ลัก ณะปลายเข็มจะเป็นเ ลี่ยมและแบน คม ใช้ า รับผิว นังที่มีความเ นียวมาก
รูปร่างของเข็ม เข็มเย็บแผลจะมีรูปร่างต่างๆ ตามการใช้งาน ได้แก่ ครึ่งโค้งครึ่งตรง, 3/8 วงกลม
และครึ่งวงกลม
คีมจับเข็ม
- แบบ แมทธิว( Mathieu ) ใช้มากที่ ุด ใช้จับเข็มได้ทุกชนิด
- อื่นๆ เช่น Ermoldใช้จับเข็มเล็กๆ , Metzenbaumใช้จับเข็มเย็บลาไ ้
การผูกเงื่อนปมทางศัลยกรรม
การผูกเงื่อนปมที่ดีเป็น ิ่ง าคัญ า รับการผ่าตัด เพราะถ้าผูกปมไม่ถูกต้อง รือไม่แน่น จะทาใ ้ปม
คลายในภาย ลัง ซึ่งจะมีผลเ ียตามมา เช่น วั ดุเลื่อน ลุดจนแผลแตก, ปมคลายตัวในจุดที่ผูก ้ามเลือด
ทาใ ้เลือดไ ลไม่ ยุด
รูปแบบของการผูกเงื่อน
มีอยู่ 3 แบบ คือ
1. การผูกแบบเงื่อนพิรอด รือ เงื่อนแน่น (Square knot)
วิธีนี้จะมัด 2 ครั้งทับกัน ครั้งที่ 1 ปลายซ้ายทับปลายขวา ใช้ปลายข้างใดข้าง นึ่ง มุนเข้าวง
ครั้งที่ 2 ปลายขวาทับปลายซ้าย ปลายข้างใดข้าง นึ่ง มุนเข้าวง
2. เงื่อน ัก รือเงื่อนยายแก่ (Granny knot)
3. การผูกแบบการผ่าตัด (Surgeon knot)
มีลัก ณะการเย็บคล้ายเงื่อนพิรอด ต่างกันตรงที่ครั้งที่ 1 ประกอบด้วยเกลียว องเกลียวและจะมีการ
ผูกครั้งที่ 3 ซ้าอีก นึ่งครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ปลายซ้ายทับปลายขวา แล้วเอาปลายด้านใดด้าน นึ่งเข้าวงอีกครั้งเป็นซ้า องเกลียว
ครั้งที่ 2 ปลายขวาทับปลายซ้าย มุนปลายข้างใดข้าง นึ่งเข้าวง
ครั้งที่ 3 ปลายซ้ายทับปลายขวา มุนปลายข้างใดข้าง นึ่งเข้าวง
ในกรณีที่ผูกปม ้ามเลือดควรใช้วั ดุผูกที่มีขนาดเ มาะ มและผูกเนื้อเยื่อใ ้น้อยที่ ุดเท่าที่จะทาได้
เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมและขับ ิ่งแปลกปลอมเ ล่านี้ออก
รูปแบบของการเย็บแผล (Suture patterns)
แบ่งตามลัก ณะการเย็บมาตรฐานเป็น 2 รูปแบบ คือ
1. การเย็บแบบเป็นเปลาะ (Interrupted suture)
2. การเย็บแบบต่อเนื่อง (Continuous suture)
่วนรูปแบบอื่นๆอาจใช้ตามลัก ณะของวั ดุเย็บแผลและวัตถุประ งค์ในการเย็บแผลแต่ละอย่าง
เช่น การเย็บด้วยลวด การ นีบแผล
- เป็นแบบเก่าแก่และนิยมใช้กันมากที่ ุด
- ไม่มีแรงดึงมากเกินไป
- เป็นการเย็บแยกกันของไ มแต่ละเ ้น ิธีการเย็บทาโดยแทงเข็มเย็บจากด้านนอกของขอบแผลผิ นังด้าน
นึ่งผ่ านแผลผ่าตัดใ ้ทะลุ ออกไปยังขอบแผลอีกด้าน นึ่ง ระยะ ่ างระ ่างจุดที่แทงเข็มกับขอบแผล
ประมาณ 0.3-0.5 เซนติเมตร ผูกปมใ ้แน่นพอ มค ร แต่ไม่ค รดึงรั้งจนขอบแผลย่นเพราะจะทาใ ้บาด
ขอบแผลและเกิด นองตามมาได้ ่ นระยะ ่างของแต่ละเปลาะประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ขอบ
แผลจะต้องมาชิดกันพอดีเ มอกันไม่เกยกัน และไม่มีรูแยกระ ่างแผล
2. แบบ Horizontal mattress sutures
- ใช้เย็บเฉพาะชั้นใต้ผิว นัง
แบบการเย็บอื่นๆ
1. การเย็บแบบหูรูด (Purstring suture)
- ใช้เย็บแก้ไขกรณีมดลูกทะลัก รือ ลาไ ้ใ ญ่ทะลัก
2. การเย็บ stent
- เป็นการเย็บผ้าก๊อ ตรึงกับบาดแผลผิว นังเพื่อช่วยป้องกันบาดแผล กด ้ามเลือดที่ออกจากขอบแผลโดย
การเย็บคล่อมผ้าก๊อ ด้วย แบบ simple interrupted suture รือ แบบ cross mattress suture ก็ได้
การผ่าตัดทา มัน ัต ์
ประโยชน์ของการตอน ัต ์
1. เพื่อป้องกัน ัต ์ที่มีลัก ณะไม่ดีทาการแพร่พันธุ์
2. เพื่อกาจัดกลิ่นของพ่อพันธุ์ที่ปลดชราแล้
3. เพื่อขายใ ้ได้ราคา ูงเพราะ ัต ์ตอนมีร ดี
4. เพื่อเลี้ยงใ ้โตเร็ เพราะ ัต ์ต้องกินอา ารเพื่อไปทาเนื้อโดยตรง
5. เพื่อลดอาการดุร้ายของ ัต ์ รือลดค ามตื่นตั ทางเพ ามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น
การตอนสุนัขเพศเมีย
การเตรียมตัวสัตว์เพื่อทาการผ่าตัด
จับ ุนัขนอน งายใ ้ลาตั ตั้งตรง ตรึงขาทั้ง ี่กับโต๊ะ จากนั้นโกนขนบริเ ณที่จะผ่าตัด คือบริเ ณ
caudal midline รือบริเ ณตั้งแต่ ะดือลงมาจะเป็นรอยผ่าตัด ฉะนั้นต้องโกนขน ูงขึ้นไปเ นือ ะดือ
ประมาณ 3 นิ้ ยา ลงมาถึงขา นีบ เป็นบริเ ณก ้างประมาณ 3 นิ้ แล้ ทาค าม ะอาดตาม
ขั้นตอนการทาใ ้ปรา จากเชื้อ
ขั้นตอนการผ่าตัด
1. คลุมผ้า น้าต่าง โดยพยายามอย่าใ ้บริเ ณที่ไม่ได้โกนขนลอดออกมาทางช่อง น้าต่างขอบบนอยู่เ นือ
ะดือประมาณ 1.5 นิ้ ขอบล่างอยู ่างจากขอบบนประมาณ 5-6 นิ้
2. กรีดชั้นผิ นังบริเ ณแน กลางตั รือเบี่ยงไปทางด้านข้างเล็กน้อย โดยเริ่มจากเ นือ ะดือ 1-2
ซม. ยา ลงมา 3-4 นิ้ แล้ ทาการแยกผิ นังออก พยายามกรีดใ ้ขาดในมีดเดีย อย่าซ้า
ลาย น และต้องไม่แรงเกินไปจนทะลุชั้นอื่นๆ
3. ถ้ามีเลือดออกใ ้ทาการ ้ามเลือดโดยใช้ผ้าซับเลือด แล้ ใช้คีม นีบ ้ามเลือด นีบ ผูกด้ ย catgut
เบอร์ 2-0ใต้ปลาย artery forceps เมื่อผูกปมแรกใ ้ปลดออกแล้ ดู ่าเลือด ยุดไ ลแล้ รือยังแล้
จึงผูกปมที่ อง และ ามจนเกิด square knot
4. ใช้กรรไกร รือนิ้ เลาะชั้นใต้ผิ นังและไขมันจนพบพังผืดยึดกล้ามเนื้อของ rectus abdominis
การระงับความรู้ ึก
เป็นการทาใ ้ ัต ์อยู่ในภา ะที่ปรา จากค ามรู้ ึกของร่างกายชั่ ระยะเ ลา นึ่ง อาจเกิดทั่ ร่างกายที่
เรียก ่า การ ลบ (General anesthesia) รือเกิดเฉพาะแ ่งของร่างกาย (Local anesthesia) ซึ่งเป็นผลของ
ยาระงับค ามรู้ ึก รือเป็นผลของกรรม ิธีใดๆที่ขัดข างการทางานของระบบประ าท ทาใ ้ปรา จากค าม
เจ็บป ด และ ัต ์ ามารถฟื้นกลับคืนเป็นปกติได้ภาย ลัง มดฤทธิ์ของยา
คา าคัญที่เกี่ยวข้องกับการวางยา ลบ
Analegsia มายถึง ภา ะปรา จากค ามรู้ ึกเจ็บป ด
Tranquilization มายถึ ง ภา ะที่ ั ต ์ งบผ่ อนคลาย แต่ยั ง รู้ ึ ก ตั และ นใจ ิ่ งแ ดล้ อ มเรีย ก ่ ากล่ อ ม
ประ าท ยาที่ใช้เรียก ่า Tranquilizer รือ ยากล่อมประ าท
Sedation มายถึง ภา ะที่ ัต ์ง่ งซึมยังรู้ ึกตั แต่ไม่ นใจ ิ่งแ ดล้อมเรียก ่าถูกระงับประ าท และเรียกยาที่
ใช้ ่ายาระงับประ าท
Local anesthesia มายถึง ภา ะที่ ัต ์ปรา จากค ามรู้ ึกเฉพาะแ ่งของร่างกาย ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ รือ
รู้ ึกเจ็บป ดในขณะที่ยังรู้ ึกตั มีการะ ังและยืนอยู่ได้
Regional anesthesia มายถึง ภา ะที่ ัต ์ปรา จากค ามรู้ ึกเฉพาะบริเ ณ รื อเฉพาะ ่ นของร่างกายที่
ก ้างก ่า Local anesthesia
General anesthesia มายถึง ภา ะที่ ัต ์ ลบจากการได้รับยาระงับค ามรู้ ึก ัต ์จะไม่รู้ ึก ปรา จากการ
ตอบโต้การกระตุ้น เนื่องจากระบบประ าท ่ นกลางถูกกดอย่าง มบูรณ์ ไม่ ามารถปลุกใ ้ตื่นชั่ ครา แต่
ามารถฟื้นกลับมาได้ภาย ลังที่ยา มดฤทธิ์
จุดประ งค์ของการทาใ ้ปราศจากความรู้ ึก
1. เพื่อไม่ใ ้ ัต ์มีค ามรู้ ึกเจ็บป ด และมีปฏิกิริยาตอบโต้ขณะผ่าตัด ทาใ ้ทางานได้ ะด กขึ้น
2. เพื่อบังคับ ัต ์ใ ้ งบ รืออยู่นิ่งเพื่อตร จรัก าได้
3. การใช้ยาชา เพื่อช่ ย ินิฉัยโรค
4. การใ ้ยา ลบเพื่อทาใ ้ ัต ์พ้นค ามทรมาณ(Euthanasia)
ลัก ตู ร ผู้ช่ ยเจ้า น้าที่ ัต รัก (์ ุนัข) รร. ุนัขท ารฯ
- 42 -
ประเภทของการวางยาสลบ
1. การดมยา ลบ เป็นการทาใ ้ ัต ์ ลบโดยการใ ้ดมยา ลบที่เป็นก๊าซ รือไอระเ ย
2. การใ ้ยา ลบชนิดฉีด เป็นการทาใ ้ ัต ์ ลบด้ ยการใช้ยา ลบชนิดฉีดเข้าเ ้นเลือดเข้ากล้ามเนื้อ รือเข้าใต้ผิ นัง
3. การใ ้ยา ลบโดยการกิน ิธีนี้ได้ผลไม่แน่นอน
4. การใช้ไฟฟ้า เป็นการทาใ ้ ลบโดยการปล่อยกระแ ไฟฟ้าผ่าน มอง
5. การใช้ค ามเย็น เป็นการทาใ ้ ลบ โดยลดอุณ ภูมิของร่างกายจนถึงระดับที่ ามารถคง ภา ะการ ลบ
อาจใช้ร่ มกับยา ลบเพื่อลดขนาดของยา ่ นใ ญ่ใช้ในการ างยา ลบ ัต ์อายุ น้อย รือ ั ต ์ป่ ยที่
จาเป็นต้องทา ัลยกรรม ั ใจและ ลอดเลือด
ปัจจัยที่มีผลต่อการวางยาสลบ
ัต แพทย์ผู้ทาการ างยา ลบค รพิจารณาเลือกชนิดของยาระงับค ามรู้ ึก รือยา ลบ และ ิธีการ
างยา ลบที่เ มาะ มที่ ุด า รับ ัต ์แต่ละตั และ า รับแต่ละจุดประ งค์เพื่อใ ้เกิดค ามปลอดภัยต่อ ัต ์
และผู้ทาการผ่าตัด ขณะเดีย กันจะต้องเป็น ิธีที่ทาใ ้ ัต ์ มดค ามรู้ ึกถึงระดับที่เพียงพอที่จะ ามารถทางาน
บนตั ัต ์ได้ตามจุดประ งค์ ซึ่งจะต้องนาปั จจัยต่างๆที่จะกล่า ต่อไปนี้มาประกอบการพิจารณาเลือกยาและ
ิธีการ างยา ลบแต่ละราย ดังนี้
1. ระยะเ ลาของการ ลบ
การผ่าตัดง่ายๆมักใช้ยา ลบที่มีฤทธิ์อยู่ไม่นาน มักใช้ชนิดฉีดที่มีฤทธิ์อยู่ไม่นาน แต่ า รับการผ่าตัดที่
าคัญ รือกรณีที่ต้องใช้เ ลานานก็ต้องใช้ยา ลบชนิดฉีดที่มีฤทธิ์อยู่ได้นาน รือใช้ยา ลายชนิดร่ มกัน รือใช้
ิธีดมยา ลบ
2. ุขภาพ
- ัต ์ที่อ้ นมีไขมันมาก จะมีเมตาบอลิซึมต่า จึงต้องการยา ลบน้อยก ่า ัต ์ปกติที่มีรูปร่างเพรีย บาง
รือมีแต่กล้ามเนื้อ
- ใน ัต ์ที่เป็นโรค ั ใจ ตับ ไต ซึ่งเป็นอ ัย ะ าคัญในการขจัดยา ลบ ไม่ค รใช้ยาลบที่มีผลต่ออ ัย ะ
ดังกล่า ค รเลือกใช้ยา ลบชนิดที่ถูกทาลาย รือขจัดทิ้งออกจากร่างกายได้ง่าย รือใช้การระงับ
ค ามรู้ ึกเฉพาะที่จะปลอดภัยก ่า
3. ประ ัติการรัก า
ยาบางชนิดที่ ัต ์ได้รับก่อนการ างยา ลบมี ่ นเ ริมฤทธิ์ยา ลบบางชนิดใ ้รุนแรงมากขึ้น
เช่น ยากลุ่ม Tetracycline, Chloramphinical ขัดข างการทางานของเอนไซม์ในตับ ร่างกายจึงทาลายยา
กลุ่ม Barbiturate และ Local anesthetics ได้ช้า จึงไม่ค รใช้ยากลุ่มเ ล่านี้เป็นยา ลบใน ัต ์ที่รับยา
ดังกล่า เป็นต้น
4. ชนิด
- ยา ลบ ่ นใ ญ่ใช้ได้กับ ัต ์ทุกชนิด แต่ก็มียาบางอย่างที่ไม่ ามารถใช้ได้กับ ัต ์บางชนิด
- การ างยา ลบ ัต ์ใ ญ่ เช่น ม้าและ ั ค รเลือกใช้ยา รือ ิธีการที่ทาใ ้ ัต ์ ฟื้นตั ได้เร็ และนิ่มน ล
ที่ ุด รือใน ัต ์เคี้ย เอื้องค รใช้ยาชาเฉพาะที่เพราะถ้า ากใช้การทาใ ้ ลบทั้งตั จะทาใ ้ท้องอืด
ขย้อน าลักอา าร แต่ถ้า ากใช้ยาชา ัต ์ยัง ามารถยืนอยู่ได้ ช่ ยใ ้อ ัย ะภายในช่องท้องไม่กดการ
ทางานของ ั ใจ
5. พันธุ์
ค ามแตกต่างทาง ายพันธุ์แ ดงลัก ณะที่แตกต่างทางโครง ร้างของร่างกาย เช่น ุนัขพันธุ์ที่มี น้า ั้น
เช่น บูลด็อก มีโครง ร้างทางเดิน ายใจที่ทาใ ้ ายใจไม่ ะด ก ค รใช้ยา ลบที่ทาใ ้ ัต ์ฟื้นตั ได้เร็ และ
ามารถค บคุมการ ายใจได้เองอย่างร ดเร็
ระดับที่ 2
- เริ่มตั้งแต่ ัตว์ไม่รู้ ึกตัว จนกระ ัตว์ ายใจอย่าง ม่าเ มอก่อนเข้าระดับที่ 3
- ยา ลบกดการทางานของระบบประ าท ่วนกลาง ทาใ ้ ัตว์เ ียการควบคุมตัวเอง ดังนั้น จึงมีรีเฟล็
กซ์รุนแรงต่อการกระตุ้นจากภายนอก อาจดิ้นรน รือเตะขารุนแรง อาจมีการอาเจียนใน ระยะนี้ การ
ายใจตอนต้นยังไม่ ม่าเ มอ ยังมีการกระพริบตาเมื่อถูกกระตุ้นที่เปลือกตา รือ นังตา แต่ในระยะ
ท้ายก่อนเข้าระยะที่3 ัตว์จะ ายใจ ม่าเ มอ ไม่มีรีเฟล็กซ์ของการกลืนและ การอาเจียน ในระดับที่ 2
นี้ ัตว์จะมีปฏิกิริยารุนแรง การทาใ ้ ลบจึงต้องเลือกยาและวิธีที่ทา ใ ้ ัตว์ผ่านระยะนี้ไปเร็วที่ ุด
ระดับที่ 3
- การ ลบระดับนี้ ามารถทาการผ่าตัดได้
- การ ายใจช้าลงแต่ ม่าเ มอ
- ไม่มีรีเฟล็กของการอาเจียน
การ ลบระยะนี้แบ่งเป็นระดับย่อยได้เป็น 3 เพลน คือ
เพลนที่ 1
- ัตว์ไม่รู้ ึกเจ็บ ายใจ ม่าเ มอ
- มี corneal reflex คือเมื่อ ัมผั ที่ ัวตายังมีการกระพริบตา รือกรอกตาไปมาอยู่บ้าง และ palpebral
reflex การดึงขากลับเมื่อถูกบีบนิ้ว รือง่ามนิ้วเท้ายังคงมีอยู่
- แต่ไม่มีรีเฟล็กของการไอและการกลืน
- ทาการผ่าตัดง่ายๆได้ เช่น กรีดฝี ตัดเนื้อตายที่แผล
เพลนที่ 2
- ยุดกรอกตาไปมา
- ายใจลึก ม่าเ มอ ม่านตาไม่ตอบ นองต่อแ ง
- ถ้าเป็น ุนัข ลูกตาดาจะตกลงซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาล่าง
- ไม่มีปฏิกิริยาการดึงขา นี
- ามารถผ่าตัด ่วนใ ญ่ได้ เช่นการเย็บแผล แต่ไม่ ามารถผ่าตัดช่องท้องได้
เพลนที่ 3
- ายใจเร็วขึ้นแต่ตื้นและ ม่าเ มอ
- ายใจโดยใช้ช่องท้องและกระบังลมมาตั้งแต่ปลายระยะที่ 2
- ไม่มี pedal reflex คือ ไม่มีปฏิกิริยาดึงขากลับเมื่อถูกบีบง่ามนิ้ว
- กล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ย่อนมาก
- ามารถผ่าตัดอวัยวะภายในช่องท้องได้
ระดับที่ 4
- ระบบประ าทถูกกดอย่างมาก รวมทั้งระบบ ายใจ
- เป็นระยะของการได้รับยาเกินขนาด
- อาจ ยุด ายใจ เยื่อเมือกที่บุช่องปากซีด รูม่านตาขยาย อุจจาระและปั าวะไ ล ัตว์จะตายในที่ ุด
ถ้าไม่ได้รับการช่วยเ ลือ
ดังนั้นในการวางยา ลบ จึงควรควบคุมใ ้ ัตว์ ลบอยู่ในเพลนที่ 2 รือ 3ของระดับที่ 3 เพื่อป้องกันการ
พลาดเข้า ู่ระดับที่ 4
การเฝ้าระวังการ ลบ
1. การจัดท่านอนโดยเฉพาะ ัตว์ใ ญ่ไม่ใ ้เกิดการกดทับ
2. การ ังเกตดูความลึกของการ ลบ จดบันทึกการ ายใจ การเต้นของ ัวใจ อุณ ภูมิของร่างกาย ัตว์
การฟื้นจาก ลบ
การฟื้น จาก ลบจะเกิ ดขึ้ น เมื่อ ยุด ใ ้ ย า ลบและยาถูก ขับออกจาก มอง ซึ่ ง ั ต ว์จ ะแ ดงอาการ
ย้อนกลับของระดับต่างๆของการ ลบ จะต้องมีการดูแล ัตว์ตั้งแต่มีการฟื้นตัวมาจนถึงระดับที่ 2 ของการ ลบ
โดยเฉพาะ ัตว์ใ ญ่ คือ ม้า เพราะมักจะแ ดงอาการดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นขณะที่ยังทรงตัวไม่ได้ซึ่งอันตราย
มาก ้องพักฟื้นควรเงียบ งบมีวั ดุ นานุ่มรองรับอยู่
ยาเตรียมการ ลบ
ยาเตรียมการ ลบ (Preanesthetics) เป็นยาที่ใ ้ ัตว์ในระยะก่อนชักนาใ ้ ลบแบ่งออกเป็น
1. Anticholinergics
2. Tranquilizers รือ sedative
วัตถุประ งค์ของการใ ้ยาเตรียมก่อนใ ้ยา ลบ
1. เ ริมฤทธิ์ของยา ลบ ทาใ ้ ามารถลดขนาดการใช้ยา ลบลง ช่วยใ ้ ัตว์ที่ ลบฟื้นตัวเร็ว
2. ทาใ ้ ัตว์ งบไม่ดิ้นรน ไม่ตื่นเต้นจนเกินไป ก่อนที่จะใ ้ยา ลบจริง
3. ช่วยทาใ ้ทางเดิน ายใจโล่ง ลดการ ลั่งของน้าลาย
4. ป้องกัน รือ ลดการอาเจียน และการขย้อนอา าร
5. ลดอาการการเต้นผิดปกติของ ัวใจ
6. ช่วยใ ้กล้ามเนื้อ ย่อนตัว ามารถทาการผ่าตัดได้ง่าย
อาโทรปีน (Atropine)
- ฉีดเข้าใต้ผิว นัง กล้ามเนื้อ รือเ ้นเลือดดา ฉีดก่อนวางยา ลบ 15-20 นาที
- ขนาดการใช้ ุนัข แมว 0.04 มก./กก, ม้า 0.04 มก./กก.
- การออกฤทธิ์
1. ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของ ัวใจ
2. ช่วยขยาย ลอดลม
3. ลดการ ลั่งของน้าลายที่เนื่องจากฤทธิ์ของยา ลบ
ยากลุ่ม Tranquilizer และ Sedative
จุดประสงค์การใช้
1. เพื่อทาใ ้ ัตว์ งบและควบคุมได้ง่าย
2. ช่วยเ ริมฤทธิ์ของยา ลบทาใ ้ลดขนาดการใช้ยา ลบลงได้
3. ทาใ ้ ัตว์ฟื้นจากการ ลบได้ดีขึ้น
4. ระงับปวดจะฉีดก่อนวางยา ลบอย่างน้อย 15-30นาที และใ ้ ัตว์อยู่ในที่ งบเพื่อใ ้ยาออกฤทธิ์ได้
เต็มที่ ได้แก่
1. กลุ่ม Phenothiazine
Acepromazine
- ขนาดการใช้ 0.025-0.1 มก./กก. ไม่เกิน 3 มก.ต่อตัว
- ฉีดเข้าใต้ผิว นัง เข้าเ ้นเลือด กล้ามเนื้อ
- การออกฤทธิ์ จะกดการทางานของระบบประ าท ่วนกลาง จึงทาใ ้ง่วงซึมไม่ นใจ ิ่งแวดล้อม
- ผ่านรกมีผลต่อลูก
2. กลุ่ม Alpha adrenocopter agonist
โรค การป้องกันโรค
(2) พยาธิตัวกลม
(3) พยาธิปากขอ
(4) พยาธิแซ่ม้า
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
4. ประเมิน ารน้าทั้ง มดที่ ุนัขต้องได้รับเพื่อชดเชย ารน้าที่ ุนัขต้องการในแต่ละ ัน และ ารน้าทดแทนที่
ต้องการในภา ะแ ้งน้า
1) นาปริมาณ ารน้าทดแทนที่ ุนัขต้องการใน ันแรก ( 24 ชั่ โมงแรกของการรัก าด้ ยการใ ้ ารน้า )
5. ใช้เข็มแทงเ ้นเลือดแทงเ ้นเลือดที่ขา ุนัข โดยเข็มแทงเ ้นเลือดที่ใช้มีขนาดเ ้นผ่าน ูนย์กลางอย่างน้อยที่ ุด
เบอร์ 18 และยา 11/2 นิ้ ( ดูภารกิจ 081 - 891 - 1038 )
6. เริ่มใ ้ ารน้าทดแทนประเภท Crystalloid ทาง ลอดเลือดดา (เช่น Lactate Ringer’s solution,
Plasmalyte-R®)
กา นดอัตราการปล่อย ารน้าโดย ัต แพทย์ รือเจ้า น้าที่ การ ัต รัก ์อา ุโ (ดูภารกิจ 081 – 891 – 1038
และ 081 – 891 – 1018)
7. บันทึกการตร จ และการรัก าในบันทึก ุขภาพ ุนัข
การ ัดผลการปฏิบัติงาน ผ่าน ไม่ผ่าน
1. ระบุ ่า ุนัขมีภา ะแ ้งน้าจากการ ังเกตร่ มกับการตร จจาเพาะ
ทาง ้องปฏิบัติการได้
2. คาน ณ ารน้าทดแทนจากภา ะแ ้งน้า
3. คาน ณค ามต้องการ ารน้าของ ุนัขในแต่ละ ัน
4. คาน ณปริมาณ ารน้าทดแทนที่ ุนัขต้องการทั้ง มดใน 24ชั่ โมงแรก
5. ใช้เข็มแทงเ ้นเลือดที่มีขนาดและค ามยา เ มาะ ม
6. ใ ้ ารน้าทางเ ้นเลือดดาที่กา นดใ ้โดย ัต แพทย์
7. บันทึกการรัก าในบันทึก ุขภาพ ุนัข
คาแนะนาการประเมิน ลงบันทึกในช่อง “ ผ่าน ” าก ามารถปฏิบัติตามขั้นตอนขั้นตอนได้ บันทึกใน
ช่อง “ ไม่ผ่าน ” ากตกขั้นตอนขึ้นไ นไป ถ้าท ารตกขั้นตอนไ นไป ใ ้แ ดง ่าท ารปฏิบัติอะไรผิ ดพลาด
และแ ดงแบบที่ถูกต้องใ ้ดู
อ้างอิง : ไม่มี
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นใน ุนัขท ารที่มีภาวะแพ้อย่างรุนแรง(Anaphylaxis)
เงื่อนไข : นา ่ง ุนัขท ารที่มีภา ะช๊อคไปยังโรงพยาบาล ัต ์ รือที่ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบถ้ น แจ้ง ัต
แพทย์ทันที าก ัต แพทย์อยู่ระ ่างทางยังมาไม่ถึง ใ ้ ัต รัก ์อา ุโ ูง ุดดูแล ัต ์ในภา ะฉุกเฉินภายใต้
คาแนะนาของ ัต ์แพทย์จนก ่า ัต แพทย์จะมาถึงผู้บังคับ ุนัขพร้อมที่จะช่ ยเ ลือ ุนัข อุปกรณ์ และเครื่องมือ
ที่จาเป็นได้แก่ เข็มฉีดยา และกระบอกฉีดยาที่มีขนาดเ มาะ ม, ารน้าทดแทนประเภท Crystalloid, เข็มแทง
เ ้ น เลื อดพร้อมปลอก,epinephrine hydrochloride, ท่อ ายใจ และเครื่องมือช่ ย อดท่อ ายใจ ุ นัข,
ลัก ตู ร ผู้ช่ ยเจ้า น้าที่ ัต รัก (์ ุนัข) รร. ุนัขท ารฯ
- 62 -
เครื่องมือช่วย ายใจ (ถุงช่วย ายใจ) , ตารางขนาดยาที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน , เครื่องฟังปอด และ ัวใจแขวนคอ
(Stetchoscope) และบันทึก ุขภาพ ุนัข
ข้อกา นด : ปฐมพยาบาลเบื้องต้นใน ุนัขท ารที่มีภาวะแพ้อย่างรุนแรง
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
1. จดจาอาการทางคลินิกของ ุนัขที่มีภาวะอาการแพ้อย่างรุนแรง
1) ุนัขทรุด รือ มด ติทันที ลังจาก ัมผั กับ ารที่เป็น าเ ตุของการแพ้ (เช่น วัคซีนพิ จาก
แมลงกัดกัดต่อย, ยาฆ่าตัวเบียน, ารเคมีล้างภาพถ่ายรัง ี , ยาเ พย์ติด, ารน้าแมนนิทอล,
ารน้าพวกเด็กซ์แทรน)
2) ุนัข ายใจผิดปกติ
3) เยื่อเมือกซีด รือมี ีม่วงคล้า
4) ไม่มีแรง รือจับชีพจรไม่พบ
5) เวลาการไ ลย้อนกลับของเลือดเข้า ู่เ ้นเลือดฝอยยาวนานขึ้น(CRT)
2. ขอความช่วยเ ลือและ าที่ตั้งอุปกรณ์ช่วยเ ลือฉุกเฉิน
มายเ ตุ : ถานพยาบาล ัตว์ทุกแ ่งควรมีตู้ ่วนกลาง า รับเก็บยาที่ใช้ในภาวะฉุกเฉิน,
อุปกรณ์และเครื่องมือช่วยชีวิต นอกจากนี้ โดยทั่วไป ควรมีรถเข็นเคลื่อนที่ได้ โดยมีทุกอย่างที่
จาเป็น า รับ ัตว์
ป่วยที่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ิ่งที่ควรมีอยู่ในรถเข็น ได้แก่ ยา, อุปกรณ์และเครื่องมือที่มีบันทึกไว้ใน
นัง ือคู่มือการดูแลและการจัดการ ุนัขท ารทาง ัตวแพทย์ ตู้เก็บอุปกรณ์และยาควรมีป้าย
กากับไว้ที่ น้าตู้ บริเวณที่เก็บยาและอุปกรณ์ควรมีป้ายระบุชนิดของยาและอุปกรณ์เครื่องมือ เพื่อ
ความ ะดวกรวดเร็ว
ในช่วงภาวะฉุกเฉิน และควรมีการตรวจเป็นประจาเพื่ อใ ้แน่ใจว่ายาไม่ มดอายุ และอุปกรณ์
เครื่องที่ปลอดเชื้อไม่มี
การปนเปื้อน เจ้า น้าที่ของ ถานพยาบาล ัตว์ทุกคนควรรู้ว่าตู้เก็บของในกรณีฉุกเฉินนี้อยู่ที่ไ น
3. ทาการ ารวจ ุนัขป่วยขั้นต้น
1) อดท่อช่วย ายใจเข้า ลอดลม ถ้าพบว่ามีการอุดตันที่ทางเดิน ายใจ (เช่น จากภาวะตั วบวม
รือใน ุนัขที่ไม่มี ติ)
2) เริ่มใ ้ ารน้าทดแทนประเภท Crytalloid
3) รัก าภาวะช๊อค
4. จัดการเริ่มใ ้ ารน้าทดแทนทาง ลอดเลือด า รับ ุนัขที่อยู่ในภาวะช๊อค
1) ใช้เข็มแทงเ ้นเลือดแทงเ ้นเลือด า รับใ ้ ารน้าอย่างน้อย องตาแ น่ง
2) เริ่มใ ้ ารน้าแทนประเภท Crystalloid ทาง ลอดเลือดดา
3) รัก าภาวะช๊อค
5. ใ ้อ๊อกซิเจนแก่ ุนัข
1) ถ้า อดท่อช่วย ายใจแล้ว ใ ้ต่อท่อช่วย ายใจเข้ากับเครื่องดมยา ลบแล้วทาการใ ้ออกซิเจน
และปรับอัตราการใ ้ออกซิเจนอยู่ที่ค่ามาตรฐาน (30 มล./กก.)
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
2) ถ้ายังไม่ได้ทาการ อดท่อช่วย ายใจ ใ ้ใช้ น้ากากต่อเข้ากับเครื่องดมยา ลบ และปรับอัตรา
การใ ้ออกซิเจนอยู่ที่ระดับ ูง (10 ลิตร/นาที) ถ้า ัตว์ยังมี ติ และไม่ยอมใช้ น้ากากใ ้ถือท่อออกซิเจนไว้ใกล้
จมูก และปากของ ุนัข โดยใช้อัตราการไ ลของออกซิเจน ูง ( 10 - 15 ลิตร/นาที)
เอกสารอ้างอิง
มาริ ักดิ์ กัลล์ประ ิทย์. 2544. การ ลบ , การเตรียมตั ัต ์ก่ น างยา ลบ, การเฝ้าระ ังการ ลบ,
ยาเตรียมการ ลบ, ยา ลบชนิดฉีด, การ างยา ลบ ัต ์เล็ก และ การ างยา ลบ ัต ์ใ ญ่ .
การ างยา ลบ ัต ์. ภาค ิชา ัลย า ตร์ คณะ ัต แพทย า ตร์ จุ าลงกรณ์ ม า ิทยาลัย.
มพง ์ ัฒถนารา. 2543. ลักการ ัลยกรรมทั่ ไป, การ ายข งแผลและการ ร้างซ่ มเนื้ เยื่ , เทคนิคการเย็บ
แผลผ่าตัด, เทคนิคการระงับค ามรู้ ึก และ การจัดการภาย ลังการทา ัลยกรรม. การตร จรัก าโรค
โคด้าน ัลย า ตร์. านักพิมพ์ ม า ิทยาลัยเก ตร า ตร์.
ติชาต พร มา า. 2544. การจัดการก่ นและ ลัง ัลยกรรม, การระงับค ามรู้ ึก. ัลย า ตร์ ัต ์ใ ญ่.
ภาค ิชา ัลย า ตร์ คณะ ัต แพทย า ตร์ จุ าลงกรณ์ม า ิทยาลัย
เ ก ารประก บคา น ิชา ัลย า ตร์ . 2541. ภาค ิชา ัลย า ตร์ คณะ ัต แพทย า ตร์ จุ าลงกรณ์
ม า ิทยาลัย.
Jennings, P.B. JR. 1984. The practice of Large Animal Surgery. W.B. Sunders Company.
Philadelphia London.