รวมข้อสอบอัตนัยนิติศาสตร์ มสธ. update 10-3-64

รวมข้อสอบอัตนัยนิติศาสตร์
ในกลุ่ม นิติศาสตร์-มสธ. 2560-2563
Update 10 มีนาคม 2564
1 - 73
สารบัญ
41201 กฎหมายมหาชน 3
41211 กฎหมายแพ่ง 1: บุคคล นิติกรรม สัญญา 6
41212 กฎหมายแพ่ง 2: หนี้ ละเมิด 12
41213 กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน 19
41231 กฎหมายอาญา 1: ภาคบทบัญญัติทั่วไป 21
41232 กฎหมายอาญา 2: ภาคความผิด 24
41311 กฎหมายแพ่ง 3: ครอบครัว มรดก 29
41321 กฎหมายพาณิชย์1: ซือ้ ขาย เช่าทรัพย์ เช่าซือ้ 38
41322 กฎหมายพาณิชย์2: ยืม ฝากทรัพย์ ตัวแทน ประกันภัย 41
41323 กฎหมายพาณิชย์3: ประกันด้วยบุคคลและทรัพย์ ตั๋วเงิน 44
41324 กฎหมายพาณิชย์4: หุ้นส่วน บริษัท 47
41341 กฎหมายวิธีสบัญญัติ1: หลักทั่วไปในวิธีพิจารณาความแพ่ง 50
41342 กฎหมายวิธีสบัญญัติ2: วิธีพิจารณาความแพ่งและกฎหมายล้มละลาย 56
41343 กฎหมายวิธีสบัญญัติ3: วิธีพิจารณาความอาญา 61
41451 กฎหมายระหว่างประเทศ 65
41421 กฏหมายภาษีอากร 1: ภาษีเงินได้ 73
2 - 73
41201 กฎหมายมหาชน
กลางภาค 1/62
1.หลักนิติรัฐ คืออะไร มีความสาคัญอย่างไรในการปกครองแบบประชาธิปไตย
เทอม 1/62
1.หลักการแบ่งแยกอานาจคืออะไร สาคัญอย่างไรกับหลักนิติรัฐ
2.อธิบายความแตกต่างระหว่างหลักการศูนย์รวมอานาจและหลักการกระจายอานาจปกครอง
Walk in 30-11-62-เช้า
1.จงอธิบายหลักการแบ่งแยกอานาจ และหลักการแบ่งแยกอานาจของประเทศอเมริกาและอังกฤษ
2.จงอธิบายหลักการการบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทย
Walk in 30-11-62-บ่าย/ 8-12-62-เช้า

1.ให้อธิบายความหมาย กฎหมายรัฐธรรมนูญสูงสุด เเละควบคุมมิให้กฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างไรบ้าง มีกี่
วิธีอย่างไรบ้าง
2.ให้อธิบายความหมายการกระจายอานาจการปกครองของประเทศไทย อย่างไรบ้าง เพราะเหตุใดจึงต้องมี
การกระจายอานาจการปกครองอย่างไรบ้าง
Walk in 1-12-62-เช้า/ 8-12-62-บ่าย

1.ความหมายของกฎหมายมหาชน หลักเกณฑ์ในการแบ่งแยกกฎหมายมหาชนกับเอกชน และบ่อเกิดกฎหมาย
มหาชน
2.การควบคุมอานาจรัฐโดยศาลปกครอง
Walk in 1-12-62-บ่าย/ 8-12-62-ค่า

1.หลัก Rule of Law คืออะไร มีความสาคัญกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างไร
2.หลักความชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหน้าที่ของรัฐคืออะไร หลักการนี้มีข้อยกเว้นอย่างไรบ้าง
3 - 73
1.หลักนิติรัฐคืออะไร และจงอธิบายสัญญาประชาคม
2.เพราะอะไรจึงต้องควบคุมอานาจรัฐ ระบบควบคุมอย่างไรดีที่สุด
Walk in 7-12-62-บ่าย
1.จงอธิบายหลักการแบ่งแยกอานาจ และหลักการแบ่งแยกอานาจของประเทศอเมริกาและอังกฤษ
2.จงอธิบายหลักการการบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทย
ซ่อม 1/62
1.รัฐธรรมนูญคืออะไร มีความสาคัญอย่างไรต่อระบอบการปกครอง
2.ทาไมต้องมี พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ที่ทาละเมิดจะต้องรับผิดในกรณีใดบ้าง
เทอม 2/62
1.จงอธิบายอานาจยามฉุกเฉินขององค์กรบริหาร
2.จงอธิบายระบบควบคุมฝ่ายปกครอง มีระบบอะไรบ้าง และแต่ละระบบมีการควบคุมอย่างไร
ซ่อม 2/62
1.ให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิมนุษยชนกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
2.ความจาเป็นในการจัดตั้งศาลปกครอง และศาลปกครองมีอานาจหน้าที่พิจารณาคดีใดบ้าง ให้ยกตัวอย่างมา
5 คดี
1.จงอธิบายทฤษฎีการกาเนิดของรัฐของอริสโตเติล และองค์ประกอบของรัฐในทางกฎหมายมหาชน
4 - 73
เทอม 1/63
1.อธิบายทฤษฎีกาเนิดรัฐของอริสโตเติล คืออะไร ให้อธิบาย และองค์ประกอบของรัฐมีอะไรบ้าง
2.ศาลปกครองมีอานาจในการพิจารณาพิพากาคดีใดบ้าง
Walk in-1/63
1.จงอธิบายลักษณะอานาจอธิปไตย
2.จงอธิบายการควบคุมฝ่ายปกครอง
Walk in 5-12-63/ 6-12-63

1.องค์ประกอบของรัฐมีอะไรบ้าง
2.ศาลปกครองมีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีใดบ้าง
Walk in 5-12-63
1.จงอธิบายลักษณะของประเทศที่เป็นนิติรัฐ
2.อธิบายการใช้อานาจดุลพินิจ และจะตรวจสอบควบคุมอานาจการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร
5 - 73
41211 กฎหมายแพ่ง 1: บุคคล นิติกรรม สัญญา
เทอม 2/61
1.ก เป็นคนไร้ความสามารถ ภายหลังรักษาหลายปีจนแพทย์ว่าหายดี ได้ขออนุญาตผู้อนุบาลซื้อมอเตอร์ไซค์
ถามว่าสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะอะไร
2.ก เสนอขายเพชรให้ ข แต่ ข ไม่อยากได้ ต้องการแค่ยืม จึงรับเพชรไปเที่ยวญี่ปุ่น พอกลับมา ก ทวงค่าเพชร
แต่ ข บอกว่าไม่ได้อยากซื้อแค่ยืม ถามว่าสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะอะไร
3.ม่วงขายไม้ให้ชมพู ชมพูตีตราไม้และจ่ายเงินเรียบร้อย คืนนั้นโดนวางเพลิง ซึ่งไม่ใช่ความผิดของม่วง ถามว่า
นิติกรรมเป็นเช่นไร ชมพูเรียกร้องได้ไหม
ซ่อม 2/61
1.บุคคลไร้ความศาลสั่ง แต่งตั้งผู้อนุบาลสามารถต้องการซื้อโทรศัพท์ และผู้อนุบาลอนุญาต ผลการซื้อขายเป็น
อย่างไร
2.เขียวต้องการยืมนาฬิกาขาวใส่ไปดูงานที่เกาหลีใต้ แต่กลัวขาวไม่ให้ยืม จึงขอซื้อ แต่ขาวทราบโดยตลอดว่า
เขียวไม่ต้องการซื้อนาฬิกา
3. ฟ้าตกลงซื้อน้าตาลทรายแดง 300 กก กับเหลือง โดยเหลืองกรอกใส่กระสอบเรียบร้อย และฟ้าชาระค่า
น้าตาลแล้ว ฝากไว้กับเหลือง ต่อมาเกิดน้าท่วมน้าตาลเสียหายหมด ฟ้าจะเรียกเงินคืนจากเหลืองได้ไหม
1.นายใหญ่บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เเละมีนางเล็กภรรยาเป็นผู้อนุบาล ได้มคี วามต้องการซื้อ
เครื่องเล่นเกมส์ในราคา 3,000 บาท จึงไปขอเงินจากนางเล็ก เเละนางเล็กเป็นผู้ไปซื้อเครื่องเล่นเกมส์ให้นาย
ใหญ่ ต่อมานางเล็กไม่พอใจในเครื่องเล่นเกมส์ เพราะว่ามีราคาเเพงเกินไป นางเล็กบอกเลิกนิติกรรมได้หรือไม่
2.นายเเดงทาสัญญาซื้อรถยนต์กับนายดา นายเเดงผิดพลาดในการเขียนราคาซื้อรถยนต์ โดยในสัญญานายเเดง
เขียนในราคา 200,000 บาท ต่อมานายดาได้รับจดหมาย จากนายเเดงโดยไม่รู้ว่านายเเดงเขียนราคาซื้อขาย
รถยนต์ผิดไป นายดาเห็นสมควรเลยตอบตกลงซื้อรถยนต์คันดังกล่าว ในราคา 200,000 บาท ต่อมานายเเดง
ปฏิเสธว่าตนไม่ได้เขียนราคา 200,000 บาท ตนเขียนผิดพลาดไป จริง ๆ เเล้วนายเเดงจะเขียน ราคา 300,000
บาท ถามว่า นิติกรรมสูญเปล่าหรือไม่ ข้ออ้างนายเเดงมีผลทางกฎหมายอย่างไร
6 - 73
3.นายยุทธบอกขายบ้านพักให้นายสนธิผ่านนางสาวฝ้าย โดยบอกให้นางสาวฝ้ายบอกนายสนธิว่าถ้าต้องการจะ
ซื้อบ้านพักในราคา...ให้ตอบตกลงมาภายในเวลา 16.00 น. นางสาวฝ้ายบอกนายยุทธิว่านายสนธิตอบตกลง
ภายในเวลา 15.30 น. โดยให้นางสาวฝ้ายโทรกลับไปบอกนายยุทธ เเต่นางสาวฝ้าย อ้างว่าตนงานยุ่ง จึงยัง
ไม่ได้โทรบอกนายยุทธ สัญญาเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
1.ด.ช. แดง อายุ 14 ปี เป็นคนวิกลจริตที่ศาลยังมิได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ต้องการซื้อรถบังคับ 1 คัน
ราคา 1,000 บาท และนางขาวผู้เป็นมารดายินยอมเพราะเห็นว่าไม่แพง ในขณะที่ ด.ช. แดง ซื้อรถบังคับมี
อาการวิกลจริตและ คนขายรู้ถึงอาการวิกลจริต นิติกรรมการซื้อรถบังคับของ ด.ช. แดง. มีผลเป็นอย่างไร
2.จงอธิบายหลักเกณฑ์ทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งละพาณิชย์มาตรา 154
3.จงอธิบายหลักเกณฑ์ทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งละพาณิชย์มาตรา 359
1.นาย ก เป็นบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ มีผู้อนุบาลคือ ข ต่อมานาย ก ไปทานิติกรรมซื้อทีวี
มา 1 เครื่องราคา 20,000 บาท จากนาย ค โดยผู้อนุบาลคือ ข อนุญาติ ผลนิติกรรมซื้อขายทีวีระหว่างนาย ก
กับ นาย ค มีผลอย่างไร
เทอม 1/62
1.นายเอกอายุ 18 ปี ต้องการเปิดร้านอาหาร จึงไปขออนุญาตจากนางสวยมารดา และนางสวยไม่ได้ว่าอะไร
จนนายเอกขายได้กาไร 50,000 บาท จึงนาไปซื้อตู้เย็น เมื่อนางสวยทราบและเห็นว่าแพงเกินไปจึงขอยกเลิก
สัญญาการซื้อขายตู้เย็นดังกล่าว โดยอ้างว่าตนไม่ได้ยินยอม ข้ออ้างดังกล่าวฟังขึ้นหรือไม่
2.นายดาเห็นแหวนที่นายแดงขาย นายดาอยากซื้อจึงถามนายแดงว่าเป็นแหวนพลอยแท้หรือไม่ นายแดงนิ่ง
แล้วตอบว่าไม่รู้ให้ดูเอาเอง นายดาจึงตัดสินใจซื้อเพราะคิดว่าแท้ ในราคา 30,000 บาท สามวันต่อมาจึงรู้ว่า
เป็นแหวนพลอยเทียม จึงเอาแหวนมาคืนพร้อมขอเงินคืน แต่นายแดงปฏิเสธการรับคืนและคืนเงิน
3.นางเขียวต้องการซื้อรถจักรยานยนต์จากนางขาว จึงเขียนจดหมายไปถามนางขาว พอนางขาวทราบจึง
โทรศัพท์หานางเขียวพร้อมแจ้งราคา 40,000 บาท นางเขียวปฏิเสธการซื้อ ต่อมาโบนัสนางเขียวออกจึงโทรหา
นางขาวเพื่อขอซื้อรถจักรยานยนต์ในราคา 40,000 บาท แต่นางขาวตอบว่าได้ขายไปให้นางส้มแล้ว นางเขียว
กล่าวหานางขาวว่าผิดสัญญา
7 - 73
1.นาย ก อายุ 18 ปี ขออนุญาตนาย ข ผู้เป็นบิดาเปิดร้านชานมไข่มุก เวลาผ่านไป 6 เดือนไม่มีอะไรดี เลยไป
ซื้อเครื่องชงชา 1 เครื่อง ราคา 50,000 บาท จงวินิจฉัยกรณีทั้งสองมีผลอย่างไร
2.นางสาว ก ไปโรงสีต้องการขายข้าวให้แก่นาย ข 200 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท และบอกกับนาย ข ว่า
ถ้าตกลงจะซื้อข้าวให้โทรมาบอกก่อนเที่ยงพรุ่งนี้ แต่นาย ข ก็ไม่ตกลงจะซื้อ ในคืนนั้นฝนตกหนักผลิตข้าวไม่ทัน
รัฐบาลประกาศขึ้นราคาข้าวกิโลกรัมละ 150 บาท นาย ข ตื่นตอนเช้า 9 โมงรีบโทรหานางสาว ก ตอบตกลง
ซื้อข้าวในทันที นักศึกษาคิดว่าเป็นสัญญาหรือไม่
3.นาย ก ได้ทานิติกรรมซื้อตู้ไม้สัก แต่นาย ข เข้าใจผิดคิดว่าซื้อโต๊ะไม่สัก เลยขนโต๊ะไม้สักไปให้นาย ก จง
วินิจฉัยว่าเข้ามาตราใด
Walk in 30-11-62
1.จงอธิบายเรื่องบุคคลสาบสูญ
2.นาย ก นานาฬิกาไปจานากับเจ้าของโรงรับจานา โดยอ้างว่าเป็นนาฬิกาเพชรแท้ แต่เจ้าของโรงรับจานามอง
ออกว่าเป็นนาฬิกาปลอม แต่ก็ยังรับจานาไว้เพราะเห็นว่าเป็นนาฬิกาโบราณและมีค่า จงอธิบายผลของนิติ
กรรมระหว่างนาย ก และเจ้าของโรงรับจานา
3.นายดาทาสัญญาซื้อยาบ้ากับนายแดง ต่อมานายแดง ผิดสัญญาโดยการไปขายยาบ้าให้นายขาว เพราะได้
ราคาดีกว่า นายดาสามารถฟ้องร้องนายแดงได้หรือไม่
Walk in 1-12-62-เช้า/ 8-12-62-บ่าย

1.เด็กชายบอลต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือจากนายบาส โดยโทรศัพท์เครื่องนั้นราคา 25,000 บาท ด้วยความ
ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและความเร่งรีบของนายบาสเลยบอกราคาผิดเป็น 15,000 บาท เด็กชายบอลตก
ลงซื้อโทรศัพท์จากนายบาสซึ่งมารดาของเด็กชายบอลไม่ทราบเรื่อง ต่อมาเด็กชายบอลบอกมารดาให้ทราบ
มารดาทราบแล้วมารดาบอกดีแล้วเพราะเด็กชายบอลต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือมานานแล้ว ต่อมานายบา
สต้องการยกเลิกสัญญาซื้อขาย นายบาสจะสามารถทาได้อย่างไร เพราะเหตุใด
2.นายแดงเห็นเสื้อยี่ห้อดัง รูปทรงสวย เลยถามคนขายว่าของแท้หรือของเทียม ราคาเท่าไร คนขายบอกว่าของ
แท้ ราคา 3,200 บาท นายแดงตกลงซื้อ แล้วภายหลังนายแดงมาทราบว่าเสื้อเป็นของเทียม ราคา 200 บาท
นายแดงต้องการยกเลกสัญญาซื้อขายโดยนาเสื้อไปคืน คนขายไม่รับคืน นายแดงมาปรึกษาท่าน ควรให้
คาแนะนานายแดงอย่างไร
8 - 73
3.เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายป้อมโทรศัพท์ว่าตนจะขายรถยนต์ให้นายปอย ราคา 500,000 บาท ให้นายปอย
ตอบกลับภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน วันที่ 3 พฤศจิกายน นายป้อมพบนายปอยในงานเลี้ยงรุ่น นายปอยบอก
นายป้อมว่ารถยนต์ยังไม่ซื้อ ไม่มีเงิน ต่อมานายปอยถูกล็อตเตอรี่ 2 ล้านบาท เปลี่ยนใจอยากซื้อรถยนต์ วันที่ 7
พฤศจิกายน นายปอยโทรศัพท์ขอซื้อรถยนต์ราคา 500,000 บาทจากนายป้อม นายป้อมบอกไม่ขายอยากเก็บ
ไว้ใช้เอง นายปอยจะบังคับให้นายป้อมขายรถยนต์ให้แก่ตนได้หรือไม่ อย่างไร
เทอม 2/62
1.นายหล่อคนวิกลจริต ซึ่งอยู่บ้านเดียวกับนางสวยผู้เป็นมารดา ต่อมานายหล่อได้ไปซื้อโทรศัพท์จากนายแดง
ซึ่งขณะทาสัญญาซื้อนายหล่อเกิดอาการวิกลจริตกาเริบ โดยนายแดงก็รู้ถึงอาการวิกลจริตของนายหล่อ ซึ่งอยู่
หมู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ยังทาสัญญาขายให้ ต่อมานายหล่อกลับบ้าน นางสวยมารดา ไม่พอใจที่นายหล่อไปซื้อ
โทรศัพท์ นางสวยจึงไปพบนายแดง เพื่อขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน ให้ท่านวินิจฉัยว่าสัญญาซื้อขาย
โทรศัพท์ระหว่างนายหล่อกับนายแดงผลเป็นอย่างไร นางสวยสามารถยกเลิกสัญญาดังกล่าวได้หรือไม่ อย่างไร
2.นายแดง มีฐานะยากจน กลัวว่านายเขียวซึ่งเป็นเจ้าหนี้จะมายึดรถตน จึงได้ทาการตกลงกับนายดา โดยแกล้ง
ทาสัญญาซื้อขายรถให้นายดา เพื่อไม่ให้นายเขียวมายึดรถของตนได้ ต่อมานายดาได้ยกรถให้กับนายม่วงโดยที่
นายม่วงไม่รู้เรื่องข้อตกลงระหว่างนายดากับนายแดง และเวลาต่อมานายแดงได้ไปทวงรถคืนจากนายม่วงโดย
ได้บอกว่า นิติกรรมขายรถของนายแดงกับนายดาทาไปเพื่อหลอกนายเขียวเจ้าหนี้ ให้ท่านวินิจฉัยว่า ข้ออ้าง
ของนายแดงฟังขึ้นหรือไม่ อย่างไร
3.นายป๋อมได้โทรศัพท์หานายแป๋ม เพื่อบอกขายโทรทัศน์สี ในราคา 7,000 บาท (เจ็ดพันบาทถ้วน) แต่นาย
แป๋มลังเลไม่ยอมตอบรับ หนึ่งเดือนต่อมานายป๋อมจึงได้ทาจดหมายบอกขายโทรทัศน์เครื่องดังกล่าวให้แก่นาย
ปลาโดยกาหนดว่าจะต้องตอบรับซื้อภายใน วันที่ 1 ธ.ค. 2562 ซึ่งเมื่อถึงกาหนดนายปลาก้ไม่ได้ตอบรับ มี
เพียงนายแป๋มที่ส่งจดหมายตอบรับขอซื้อโทรทัศน์เครื่องดังกล่าว ให้ท่านวินิจฉัยว่า นายป๋อมมีวิธีการไม่ขาย
โทรทัศน์เครื่องดังกล่าว ให้กับนายแป่มและนายปลาได้หรือไม่ อย่างไร
ซ่อม 2/62
1.คนวิกลไปซื้อจักรยาน โดยขณะซื้อวิกลจริตอยู่ ผู้ขายไม่ทราบ เพราะดูอาการเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ขณะ
ทาสัญญา ได้ออกอาการวิกลจริตสัญญามีผลอย่างไร
2.เพื่อนมีเจ้าหนี้เยอะ กลัวโดนยึดทรัพย์ เลยตกลงทาสัญญาขายรถกับเพื่อน เพื่อลวงเจ้าหนี้ที่จะมายึดรถ ให้
วินิจฉัย ผลของการทาสัญญา
3.ขายตู้เย็นทางโทรศัพท์ แต่ผู้ซื้อไม่ตอบรับทันที ผ่านไป 1 เดือน มาเขียนจดหมายขอซื้อ ซึ่งก่อนหน้าขายคน
อื่นไปแล้ว ก็เลยบอกปฏิเสธการขาย สามารถฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
9 - 73
1.นายใบอายุ 18 ปี ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถเนื่องจากพิการทางสมอง โดยมีนางกิ่งมารดาเป็นผู้
อนุบาล นายใบได้ดูโฆษณารถจักรยานในโบว์ชัวร์แล้วอยากได้ วันรุ่งขึ้นได้ไปขอนางกิ่งผู้เป็นแม่ 3,000 บาท
เพื่อซื้อรถจักรยาน นางกิ่งอนุญาตและให้เงินนายใบไปซื้อ นายใบไปซื้อรถจักรยานจากนายต้นที่ร้านปากซอย
โดยนายต้นไม่ทราบว่านายใบเป็นคนไร้ความสามารถ ให้ท่านวินิจฉัยว่า สัญญาซื้อขายรถจักรยานระหว่างนาย
ใบกับนายต้นมีผลอย่างไร เพราะเหตุใด
เทอม 1/63
1.นายมะลิ คนไร้ความสามารถ มีนางกุหลาบมารดาเป็นผู้อนุบาล นายมะลิต้องการซื้อกางเกงยินส์ตัวใหม่ จึง
ไปขออนุญาตนางกุหลาบ นางกุหลาบอนุญาตและให้เงินนายมะลิไปจานวน 1,000 บาท นายมะลิได้นาเงิน
ทั้งหมดที่ได้รับมาไปห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านเพื่อซื้อกางเกงยีนส์เช่นนี้ ให้วินิจฉัยว่าสัญญาซื้อขายกางเกงยีนส์
ดังกล่าว มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายมะม่วงต้องการซื้อพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์หนึ่งจากนายมะนาว ในราคา 40,000 (สี่
หมื่นบาทถ้วน) ก่อนทาการซื้อขายพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นนางพญาองค์ดังกล่าว นายมะม่วงได้ถามนาย
มะนาวว่าได้เคยผ่านการประกวดจากงานประกวดพระเครื่องแห่งใดหรือไม่ นายมะนาวได้ตอบนายมะม่วงไป
ว่าพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระนางพญาองค์ดังกล่าว ได้รางวัลที่ 1 ในงานประกวดพระเครื่องแห่งหนึ่งใน
จังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งที่พระเครื่ององค์ดังกล่าวได้รับเพียงรางวัลที่ 3 ในงานประกวดพระเครื่องที่จังหวัด
สุพรรณบุรี ตามที่นายมะนาวได้กล่าวอ้างให้นายมะม่วงหลงเชื่อ จึงทาการซื้อพระเครื่องซึ่งมีลักษระเป็นพระ
นางพญาดังกล่าวจากนายมะนาว เช่นนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่าสัญญาซื้อขายพระเครื่องซึ่งมีลักษณะเป็นพระ
นางพญาดังกล่าว ระหว่างนายมะม่วงและนายมะนาว มีผลเป็นเช่นไร อธิบาย
3.นายกล้าตกลงซื้อม้าโดยเลือกตัวที่แข่งชนะในงานแข่งมาจากนายเก่ง ในราคา 100,000 บาท เมื่อถึงวัน
กาหนดส่งมอบม้าตัวดังหล่าว นายเก่งจึงขับรถเพื่อนาม้าไปส่งมอบแก่นายกล้า นายเก่งขับรถด้วยความเร็วสูง
เกินกว่าที่กฎหมายกาหนดจนเกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุก ทาให้ม้าตาย นายเก่งจึงเรียกให้นายกล้าชาระราคา
ม้าโดยอ้างว่าความเสียหายตกเป็นพับแก่นายกล้าเจ้าหนี้ แต่นายกล้าอ้างว่าตนเองไม่ต้องชาระหนี้เพราะการที่
ม้าตายเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของนายเก่งเอง ให้วินิจฉัยว่า ข้ออ้างของนายเก่งรับฟังได้หรือไม่
เพราะเหตุใด จงอธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ
10 - 73
1.นายใหญ่อายุ 20 ปี สมรสกับนางเล็ก ผ่านไป 6 เดือนศาลสั่งให้นายใหญ่เป็นคนไร้ความสามารถโดยมีนาง
เล็กภรรยาเป็นผู้อนุบาล ต่อมานายใหญ่ได้นาเงินที่นางเล็กให้ไปซื้อเกมส์ โดยเกมส์นั้นนางเล็กเป็นคนไปซื้อให้
วันหนึ่งนางเล็กไม่พอใจบ่นว่าราคาเกมส์แพงเกินไป จะบอกเลิกการซื้อ ถามว่านิติกรรมดังกล่าวในทาง
กฎหมายเป็นอย่างไร และบอกล้างได้หรือไม่
2.นายดาต้องการซื้อรถยนต์จากนายแดงเป็นเงิน 500,000 บาท จึงส่งจดหมายไปขอซื้อรถยนต์จากนายแดง
เป็นเงิน 600,000 บาท นายแดงได้รับจดหมาย พอใจในราคาจึงตอบตกลง นายดาเมื่อเห็นตอบกลับในราคา
600,000 บาท จึงพบว่าตัวเองพิมพ์ผิด เจตนาจริง ๆ ต้องการซื้อในราคา 500,000 บาท จึงอ้างกับนายแดงว่า
นิติกรรมนี้ไม่มีผลทางกฎหมาย คากล่าวของนายดาถูกต้องตามหลักกฎหมายและอ้างได้หรือไม่
3.นายเอทราบว่านายบีต้องการซื้อคอนโด จึงแจ้งกับนางสาวซี ซึ่งเป็นเลขาของนายบี ว่าจะขายคอนโดในราคา
8 ล้านบาท หากนายบีสนใจ ให้นางสาวซีแจ้งแก่นายเอ ภายในเวลา 17.00 น. นางสาวซีจึงไปแจ้งแก่นายบี
เวลา 16.30 น. นายบีตอบตกลง นางสาวซีรับทราบแต่ติดประชุมจึงลืมแจ้งแก่นายเอตามเวลา มานึกได้
วันรุ่งขึ้น และแจ้งไปในวันรุ่งขึ้น กรณีดังกล่าวเป็นสัญญาแล้วหรือไม่ มีผลทางกฎหมายอย่างไร
11 - 73
41212 กฎหมายแพ่ง 2: หนี้ ละเมิด
เทอม 2/61
1.ต้อยจ้างบริษัทชวนชมการ์เม้นท์จากัด ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นตัวอย่าง 50 ชิ้น จะใช้ในงานแสดงสินค้าวันที่ 15
มีนาคม 2562 ตกลงกาหนดส่งมอบวันที่ 10 มีนาคม 2562 แต่ทางบริษัททาให้ไม่ทัน หลังจากนั้นบริษัทนา
ของมาส่งให้ต้อยวันที่ 30 มีนาคม 2562 ซึ่งต้อยกลับมาจากงานแสดงสินค้าแล้ว ต้อยไม่รับสินค้า ไม่จ่ายเงิน
พร้อมทั้งเรียกค่ามัดจาคืน ทางบริษัทไม่ยอม แต่ให้ต้อยคิดค่าเสียหายร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันที่ผิดนัด ถาม
ว่าใครถูก พร้อมเหตุผล
2.นายทนงโอนหนี้เงินกู้ 200,000 บาท ที่นายอานาจค้างไว้ให้แก่นางสุดา โดยทาเป็นหนังสือ ซึ่งนายทะนงกับ
นายอานาจทาข้อตกลงกันไว้ว่าจะไม่โอนหนี้ให้กับบุคคลอื่น และนางสุดาก็ทาหนังสือแจ้งไปที่นายอานาจ พอ
นายอานาจรู้ก็ทาหนังสืออธิบายพร้อมทั้งแสดงเจตนาไม่ยินยอมแก่นางสุดา นางสุดาก็เพิ่งรู้ข้อตกลงจากนาย
อานาจ แต่เมื่อถึงกาหนดชาระหนี้ นางสุดาก็เรียกให้นายอานาจชาระหนี้แก่ตน นายอานาจไม่ยอม และต่อสู้ว่า
การโอนหนี้นั้นไม่สุจริต ไม่สมบูรณ์ นางสุดาไม่มีสิทธิมาเรียกให้ชาระหนี้ คาถามคือการต่อสู้ของนายอานาจ
ถูกต้องหรือไม่
3.พิไลชวนเรณูมาเที่ยวที่บ้านซึ่งเช่าจากนายก้าน เรณูไปล้างมือที่ลานซักล้างซึ่งมีตะไครน้าเกาะเยอะมาก ซึ่ง
พิไลเห็นมาหลายวันแล้ว เรณูลื่นล้มแขนหัก เรณูเรียกค่าเสียหายจากพิไล แต่พิไลบอกว่าให้ไปเรียกกับนายก้าน
เพราะตนเพิ่งเข้ามาอยู่ได้แค่สองอาทิตย์ คาถามคือเรณูมาปรึกษาจะให้คาปรึกษาอย่างไร
ซ่อม 2/61
1.มหาวิทยาลัยอินเตอร์จ้างนายกมลพิมพ์หนังสือแจกในงานครบรอบ 20 ปี ให้แขกที่มาร่วมงาน กาหนดส่ง
วันที่ 10 เดือน ... เมื่อพ้นกาหนด มหาวิทยาลัยจึงได้รับหนังสือ จากนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้ส่งหนังสือและเรียก
เงินคืน มหาวิทยาลัยจะทาได้หรือไม่
2.นายสิทธิเป็นหนี้นายเอ 200,000 บาท นายเอทาหนังสือโอนหนี้ให้นายบีโดยได้รับค่าตอบแทนจากนายบี
หลังจากนั้นนายเอโอนหนี้จานวนดังกล่าวให้นายซีโดยเสน่หา ต่อมานายซีได้ทาหนังสือบอกหล่าวไปยังนาย
สิทธิ จากนั้นนายสิทธิทาหนังสือตอบรับการโอนหนี้ของนายเอและนายบี เมื่อหนี้ถึงกาหนดชาระ นายบีกับนาย
ซีใครมีสิทธิเรียกชาระหนี้มากกว่ากัน
3.ย้อยเช้าบ้านเพ็ญพัก แล้วย้อยนากระถางต้นไม้ไปเรียงไว้รมหน้าต่าง วรรณาเดินผ่านมา กระถางตกใส่วรรณา
บาดเจ็บ วรรณาเรียกค่ารักษาพยาบาลจากย้อย ย้อยอ้างตนเป็นผู้เช่า ต้องไปเรียกจากเพ็ญพักซึ่งเป็นเจ้าของ
ข้ออ้างของย้อยฟังขึ้นหรือไม่
12 - 73
1.นาย ก ขับรถชนนาย ค นาย ก จะต้องรับผิดชอบ เมื่อนาย ค เอารถไปซ่อมแล้ว จึงมาเก็บเงินจากนาย ก
20,000 บาท แต่นาย ก เพิกเฉย นาย ค จึงฟ้องร้องให้นาย ก ชาระค่าซ่อมรถ 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ร้อยละ15 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ทาละเมิด แต่นาย ก แย้งว่าต้องฟ้องตั้งแต่วันที่เตือน (วันที่ทวงเงิน) ไม่ใช่วันที่ทา
ละเมิด และดอกเบี้ยเรียกได้แค่ ร้อยละ 7.5 ต่อปี ไม่ใช่ ร้อยละ 15ต่ อปี ข้ออ้างของนาย ก ฟังขึ้นหรือไม่
2.ก ข ค เป็นลูกหนี้ร่วมของ ง จานวน 600,000 บาท มีกาหนดเวลาชาระ 3 ปี ก ได้เอาพระไปตีชาระหนี้แทน
เงินทั้งหมด ซึ่ง ง ก็ยินยอมรับไว้โดยไม่ได้อิดเอื้อน เมื่อครบกาหนด 3 ปี ง เรียกให้ข.ชาระหนี้อีก100,000 บาท
เนื่องจากพบว่าพระองค์นั้นมีมูลราคา 500,000 บาท ข สามารถที่จะไม่ชาระเงิน 100,000 บาท ได้หรือไม่
3.นายเลิศเป็นลูกจ้างของบริษัทตรงหนึ่ง โดยเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. ในระหว่างปฏิบัติงานนายเลิศเห็นเงาตะคุ่ม
ๆ บริเวณรั้วคิดว่าเป็นขโมย จึงใช้ตะบองตีหัวนายสมชายจนได้รับบัตรเจ็บ ซึ่งจริง ๆ แล้วนายสมชายมาตามหา
แมวของเขา ใครบ้านที่จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
1.นายไก่ยืมรถนายไข่ไปงานบวชเพื่อนที่เชียงใหม่ เมื่อเสร็จงานบวชนายไก่ยังไม่กลับอยู่เที่ยวต่อ เช้าวันหนึ่ง
ขณะนายไก่นั่งกินอาหารอยู่ที่โรงแรม ฝนตกหนักพายุเข้า ฟ้าได้ผ่านถของนายไข่ที่จอดอยู่เสียหายทั้งคัน นาย
ไข่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากนายไก่ แต่นายไก่ปฏิเสธไม่รับผิดชอบ ให้วินิจฉัยว่า นายไก่ต้องรับผิดชอบ
ค่าเสียหายหรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายเอก นายโท และนายตรี เป็นเจ้าหนี้ร่วมให้นางสาวสวยกู้ยืมเงิน 300,000 บาท โดยกาหนดเวลาชาระ
หนี้ 3 ปีนับจากทาสัญญา จากข้อเท็จจริง นางสาวสวยได้นาเงินไปจ่ายนายหนี้เอก 300,000 เมื่อครบกาหนด
ชาระหนี้ แต่นายเอกปฏิเสธ ไม่รับชาระหนี้ อีก 6 เดือนต่อมา นายโทได้ทวงถามไปยังนางสาวสวยให้ชาระหนี้
ทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย นางสาวสวยอ้างว่าตนไม่มีหน้าที่ต้องเสียดอกเบี้ย และจะชาระหนี้ให้นายโท 100,000
บาท ข้ออ้างของนางสาวสวยรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายชัยขับรถยนต์บนถนนที่มีน้าท่วมขังหลังฝนตก รถนายชัยเกิดตกหลุมที่มีน้าขัง ทาให้น้ากระเด็นถูกนาง
สมศรีที่ยืนรอรถโดยสารอยู่ริมถนนจนเสื้อผ้าเลอะเทอะ นางสมศรีจึงเรียกให้นายชัยชดใช้ค่าเสียหาย แต่นาย
ชัยยกข้อต่อสู้ว่าตนไม่ได้จงใจแกล้งนางสมศรี และไม่ได้ประมาทเลินเล่อ เพราะได้ระวังตามสมควรแล้ว จง
วินิจฉัยว่านายชัยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นางสมศรีหรือไม่ เพราะเหตุใด
13 - 73
1.นายช้างยืมร่มสนามไปจากนายไก่บอกว่าจะนาไปใช้ตลอดช่วงฤดูฝน แต่พอสิ้นฤดูฝนนายช้างก็ยังไม่นาร่ม
สนามไปคืน ต่อมานายไก่ได้เจอนายช้างที่ห้างสรรพสินค้าจึงทวงถามให้นาร่มมาคืน แต่นายไก่ก็ยังไม่นามาคืน
ต่อมาได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นที่ร้านอาหารของนายช้างทาให้ร่มสนามเกิดความเสียหายทั้งหมด นายไก่
เรียกร้องให้นายช้างใช้ค่าเสียหายแต่นายช้างอ้างว่าเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย จึงไม่ต้อวรับผิด ท่านว่าข้ออ้างของ
นายช้างฟังขึ้นหรือไม่
2.นายเอก โท ตรี เป็นลูกหนี้ร่วมของนางสาวสวย 3 แสนบาท จานวนชาระ 3 ปี ต่อมายังไม่ถึงกาหนดชาระ
หนี้ นางสาวสวยเห็นว่านายเอกเป็นลูกกตัญญูต่อบิดามารดาก็เลยปลดหนี้ให้แก่นายเอก ต่อมาหนี้ถึงกาหนด
ชาระ นายโทกับนายตรีหนีไปเมืองนอก นางสาวสวยจึงมาทวงให้นายเอกชารระหนี้ทั้งหมด แต่นายเอดอ้างว่า
ตนได้รับการปลดหนี้แล้ว หนี้ทั้งหมดเป็นอันระงับไปแล้ว ตนไม่ต้องชาระหนี้นั้น ท่านเห็นว่านายเอกจะต้อง
ชาระหนี้หรือไม่ เพียงใด อย่างไร
3.นางกบให้นายเขียดขับรถไปส่งตนและให้รอรับตนกลับ โดยสั่งว่าห้ามขับรถไปไหน แต่ในระหว่างที่รอนาย
เขียดหิวข้าวจึงขับรถออกไปซื้อข้าวกิน ระหว่างทางขับรถกลับมานายเขียดนายเขียดขับรถโดยประมาทเลินเล่อ
ไปขนนายเต่าซึ่งเดินอยู่ข้างทางจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถามว่า นายเต่าจะเรียกร้องค่าเสียหายจากใครได้บ้าง
1.เฟิร์นเป็นคู่อริกัยใบเตย เมื่อวันที่ .. เฟิร์นไปเที่ยวห้าง เจอรถใบเตยจอดอยู่จึงทุบรถของใบเตย ต่อมาวันที่...
ใบเตยรู้ว่าใครเป็นผู้กระทา ใบเตยจึงไปแจ้งความแก่ตารวจ เฟิร์นยอมรับว่าเป็นคนทา เมื่อวันที่ ... ใบเตยนารถ
ไปซ่อมมีค่าเสียหาย 25,000 บาท และเรียกให้เฟิร์นชดใช้ค่าเสียหาย แต่เฟิร์นไม่ชดใช้ ต่อใาเมื่อวันที่ ... ใบเตย
มาปรึกษาเพื่อเรียกดอกเบี้ยร้อยละ 15 ให้แนะนาว่าถ้าเป็นเราจะแนะนาใบเตยอย่างไร
2.เอก โท ตรี เป็นเจ้าหนี้ร่วมของนางสาวสุดสวย 300,000 บาท โดยมิได้กาหนดวันชาระหนี้ ผ่านมา 2 ปี นาย
เอกทวงหนี้กับนางสาวสุดสวย แต่นางสาวสุดสวยปฏิเสธ ไม่ชาระ หลังจากนั้นนางสาวสุดสวยจะต้องไปเมือง
นอก จึงนาเงิน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ไปชาระแกโททั้งหมด และนายตรีกับนายเอก มาทวงถามเรื่อง
เงินที่นางสาวสวยชาระ นายโทควรทาอย่างไรกับเงินที่นางสาวสวยนามาชาระแก่ตน
3.นางมณีเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วไว้ ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ที่ดุ นางมณีจึงเขียนป้ายติดไว้ที่หน้าบ้านว่า บ้านนี้สุนัขดุ
วันต่อมา นางจันทร์เดินผ่านหน้าบ้านนางมณี ซึ่งวันนั้นนางมณีปิดประตูบ้านไม่สนิท สุนัขจึงออกไปกัดนาง
จันทร์ได้รับบาดเจ็บ นางจันทร์เรียกค่าเสียหาย แต่นางมณีไม่จ่ายบอกว่า ผิดที่นางจันทร์ไม่เดินเลี่ยงไปทางอื่น
เพราะตนเขียนป้ายไว้แล้วว่าหมาดุ ถามว่านางจันทร์จะเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ และนางมณีต้องชดใช้
ค่าเสียหายแก่นางจันทร์หรือไม่
14 - 73
1.นายจิ้มเป็นหนี้นายแจ็ค50000 บาท ไม่ได้กาหนดระยะเวลา และดอกเบี้ยไว้ ต่อมานายแจ็คเรียกให้ชาระหนี้
ภายใน 15 วัน พอครบกาหนดนายจิ้มก็ยังไม่ใช้ หลังจากนั้น 6เดือน นายแจ็คฟ้องบังคับให้นายจิ้มชาระหนี้
พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15ต่อปี นายติ้มอ้างว่าหนี้ไม่มีระยะเวลาและดอกเบี้ยกาหนด ข้ออ้างของนายจิ้มฟังขึ้น
หรือไม่ อย่างไร
2.เอก โท ตรี เป็นเจ้าหนี้ร่วม นส สวย จานวน300,000บาท กาหนดระนะเวลา3ปี ต่อมานายเอกปลดหนี้
ให้นส.สวย พอครบกาหนด นส.สวยนาสร้อยทองฝังมุกไปชาระแทนหนี้ทั้งหมดให้นายโท นายโทรับไว้ หลังจาก
นั้นนายตรี ได้ไปแจ้งกับ นส.สวยว่าสร้อยเส้นนั้นมีมูลค่าแค่ 120000บาท จะขอให้ นส. สวยชาระส่วนต่าง
80000 บาท นส.สวยจะต้องชาระ 80000บาทนั้นหรือไม่ อย่างไร
3.นายชัยเลี้ยงสุนัขไว้ นายชัยเป็นอริกับนายชอบ นายชัยเห็นนายชอบเดินผ่านจึงปล่อยสุนัขให้ไปกัด นายชอบ
ตกใจ คว้าไม้ตีสุนัข สุนัขวิ่งหนีไปทางนายสมส่วน และกัดนายสมส่วน นายสมส่วนสามารถเรียกร้องได้จากใคร
1.นางสาวสุดสวยยืมเงิน นายสุดหล่อสามแสนบาท นายสุดหล่อไม่คิดดอกเบี้ยเพราะเป็นแฟนกันมีกาหนดคืน
เมื่อไทยทีวีสีช่อง 3 ครบรอบวันฉลองอายุ 45 ปี แต่ทั้งสองได้เลิกกันก่อนไทยทีวีสีช่อง 3 จะมีอายุครบ 45 ปี
ต่อมาอีก 2 เดือน นายสุดหล่อเรียกให้นางสาวสุดสวยชาระหนี้ พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดชาระร้อยละ 15 นางสุด
สวย โต้แย้งว่า ไม่ได้กาหนด ดอกเบี้ยเอาไว้จะคิดดอกเบี้ยไม่ได้ ให้ท่านวินิจฉัยนายสุดหล่อจะมีข้อต่อสู้อย่างไร
2.นายเอก นายโท นายตรี เป็นเจ้าหนี้ร่วมให้นางสาว ส้มจี๊ด กู้เงิน สามแสนบาท มีกาหนดชาระ 3 ปี ก่อนถึง
กาหนดชาระ นายเอก ได้ปลดหนี้ให้กับนางสาวส้มจี๊ด เมื่อถึงกาหนดชาระนางสาวส้มจี๊ดจึงนาเงินไปชาระหนี้
แก่นายโท สองแสน บาท นายเอกกับนายตรี จะขอส่วนแบ่งรับชาระหนี้ นายโทควรทาอย่างไร
3.นายสมชาติ เป็นเพื่อนกับนายประวิทย์ นายสมชาติไม่ว่าง จึงไหว้วานนายประวิทย์ไปรับลูกของนายสมชาติที่
โรงเรียน ระหว่างทางนายประวิทย์ขับรถเร็วด้วยความประมาททาให้ไปชนรถจักรยานยนต์ของนายสมคิดที่
จอดซื้อของอยู่ข้างทางได้รับความเสียหาย นายสมคิดเรียกร้องให้นายประวิทย์ ต้องรับผิดต่อความเสียหาย
นายประวิทย์อ้างว่า ต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายกับนายสมชาติ เพราะนายสมชาติเป็นคนสั่งตน ท่านจงวินิจฉัย
ข้อต่อสู้ของนายสมคิดว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายจากใครอย่างไร
15 - 73
Walk in 9-6-62-ค่า
1.นาย ก ยืมข้าวสารจากนาย ข จานวน 10 กระสอบ อีกสองเดือนต่อมา นาย ก กาลังจะนาข้าวสารมาคืนนาย
ข แต่เกิดไฟไหม้เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจรบ้านนาย ก ทาให้ข้าวสารเสียหายรวมไปด้วย ต่อมานาย ข เรียกร้องให้
นาย ก คืนข้าวสารที่ยืมมาจานวน 10 กระสอบ แต่นาย ก อ้างว่าตนได้ชาระหนี้ไปแล้ว แต่เนื่องจากเป็นหนี้ที่
พ้นวิสัยแล้ว และไฟฟ้าลัดวงจรที่บ้านตนนั้นไม่ใช่ความผิดของตน ข้ออ้างของนาย ก ฟังขึ้นหรือไม่
2.นายเอก โท ตรี กู้ยืมเงินจากนางสาวสวย จานวน 300,000 บาท โดยที่นางสาวสวยค้างชาระหนี้ค่าซ่อมรถ
กับนายเอกจานวน 100,000 บาท เมื่อถึงกาหนดชาระหนี้ นางสาวสวยได้เรียกร้องให้นายโทชาระหนี้ทั้ง
จานวนเพียงผู้เดียว ซึ่งนายโทไม่เห็นด้วย และเมื่อหักลบกลบกันกับหนี้ 100,000 บาท นายโทไม่ต้องชาระแล้ว
ข้ออ้างของนายโทฟังขึ้นหรือไม่
3.นายเต้ย อายุ 12 ปี อาศัยอยู่กับนางต้อย เตะบอลโดนกระจกบ้านนางชงแตกเสียหาย นางชงสามารถ
เรียกร้องใครได้บ้าง เพื่อรับผิดชอบความเสียหายนี้
เทอม 1/62
1.นายชัยกับนายขวัญเป็นเพื่อนกัน นายขวัญได้ยืมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จากนายชัยโดยไม่ได้
กาหนดวันคืน ต่อมาเกิดพายุโพดุลทาให้บ้านน้าท่วม หนังสือทั้งหมดรวมถึงหนังสือที่ยืมมาถูกน้าท่วมเสียหาย
ทั้งหมด ต่อมานายชัยทวงหนังสือคืนจากนายขวัญ นายขวัญอ้างว่าเกิดเหตุสุดวิสัย เนื่องจากน้าท่วมบ้าน
ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนั้นอยู่ที่บ้านนายชัยหนังสือเล่มนั้นก็จะยังเสียหายอยู่ดี นายขวัญจึงไม่ต้องคืนหนังสือให้
นายชัย คากล่าวอ้างของนายขวัญถูกต้องหรือไม่ อย่างไร
2.นายน้าเย็น นายน้าตาลและนายน้าใจ ได้เป็นผู้กู้ร่วมกันยืมเงินนายทะเลจานวน 3,000,000 บาท ต่อมาถึง
กาหนดชาระตามวันแห่งปฏิทิน แต่ไม่มีใครมาชาระ นายทะเลจึงทวงหนี้กับนายน้าเย็น นายน้าเย็นจึงชาระหนี้
1,000,000 บาท 1 ปีต่อมา นายทะเลทวงหนี้ที่เหลือ 2,000,000 บาท กับนายน้าตาล พร้อมทั้งดอกเบี้ยของ
เงิน 2,000,000 บาท นายน้าตาลอ้างว่าตนไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพราะไม่ได้รับหนังสือทวงหนี้จากนายทะเล คา
กล่าวอ้างของนายน้าตาลฟังขึ้นหรือไม่ จงยกหลักกฎหมายขึ้นมาแสดง
3.นายภัทรเป็นผู้เยาว์อายุ 16 ปี และไม่มีใบขับขี่ บุตรของนายสมานซึ่งนายสมานมักจะใช้ให้นายภัทรขับ
รถยนต์ของตนไปล้างที่หน้าปากซอยเป็นประจา วันหนึ่งนายภัทรได้แอบหยิบกุญแจรถที่แขวนไว้ริมประตู
ทางออกหน้าบ้านเอารถยนต์ไปขับออกถนนใหญ่ ขณะขับรถนายภัทรได้ก้มหน้ากดโทรศัพท์เป็นเหตุให้รถยนต์
ชนท้ายรถตู้ ผู้โดยสารในรถตู้ชื่อนายนัทได้รับบาดเจ็บสาหัส นายนัทเรียกค่าละเมิดกับนายภัทร นายภัทรอ้าง
ว่าตนยังเป็นผู้เยาว์ไม่ต้องรับผิดต่อการกระทาของตนเองที่เกิดขึ้น อีกทั้งนายนัทยังเรียกร้องค่าเสียหายจากนาย
สมานผู้เป็นบิดานายภัทร นายสมานอ้างว่าตนไม่ได้อนุญาตให้นายภัทรนารถไปขับ นายภัทรได้แอบนารถไปขับ
เองตนจึงไม่ต้องร่วมรับผิด คากล่าวอ้างของนายภัทรและนายสมานถูกต้องหรือไม่ เพราเหตุใด จงยกหลัก
กฎหมายมาอธิบาย
16 - 73
เทอม 2/62
1.นายสองยืมรถนายสามไปสัญญาส่งมอบรถวันสงกรานต์ปี 63 แต่ติดรัฐบาลประกาศวันที่ 1-30 เมษายน
ไม่ให้เดินทางเพราะมีไวรัส covid ระบาด ทาให้ไม่สามารถส่งมอบรถคืนได้ ต่อมาบ้านของนายสองถูกพายุฤดู
ร้อนพัดถล่มเสาไฟฟ้าล้มทับบ้านเรือนพร้อมรถที่ยืมมา ถามว่านายสองจะต้องชดใช้ค่าเสียหายคือรถที่ยืมมาแก่
นายสามหรือไม่
2.นายเก้าและนายแสบ ร่วมกันกู้เงินนางมะลิ 50,000 บาท โดยทาสัญญากู้เงินรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน โดย
ไม่ได้มีกาหนดชาระหนี้ ต่อมานายเก้าและนายแสบทะเลาะกัน นายเก้าจึงทาหนังสือแจ้งไปยังนายแสบว่าไม่
ประสงค์จะเป็นลูกหนี้ร่วมกันต่อไป หลังจากนั้นนางมะลิทาหนังสือปลดหนี้ให้นายแสบ เป็นเงินจานวน 20,000
บาท และนางมะลิได้ทวงให้นายเก้าชาระหนี้ทั้งหมดเป็นเงินจานวน 50,000 บาท นายเก้าต้องรับผิดชาระแก่
นางมะลิเป็นจานวนเงินเท่าใด
3.นายเอกกับนายวิทย์เป็นเพื่อนกัน ได้ไปพักที่รีสอร์ทของนายบูม ซึ่งเลี้ยงช้างไว้ร่วมกิจกรรมกับลูกค้าในรี
สอร์ท ขณะนั้นนายเอกยืนอยู่ใกล้ ๆ คอกช้างที่มีเพียงเชือกกั้นไว้ นายวิทย์โกรธนายเอกที่นานเอกได้เลื่อนขั้น
ก่อนตนเห็นดังนั้นจึงบีบแตรรถ เสียงแตรทาให้ช้างตกใจ วิ่งชนเชือกจนหลุดออกมา และช้างวิ่งพุ่งเข้าชนนาย
วิทย์และเหยียบขาของนายวิทย์เป็นเหตุให้นายวิทย์ขาหัก ใครต้องรับผิดในทางละเมิดแก่นายวิทย์บ้าง
ซ่อม 2/62
1.นายชัยยมรถนายสากลไปทาธุระต่างจังหวัด มีกาหนดคืนวันที่ 13 เมษายน แต่เมื่อถึงวันครบกาหนด นายชัย
ยังไม่นารถมาคืน เมื่อวันที่ 20 เมษายน เกิดพายุพัดเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์คันดังกล่าว นายชัยต้องชดใช้ให้
นายสากลหรือไม่
2.หกกับเจ็ดทาสัญญากู้ยืมมะนาวโดยทาสัญญากู้ร่วมกัน 50,000 บาท โดยไม่ได้มีกาหนดชาระหนี้ ต่อมาหก
กับเจ็ดทะเลาะกัน เจ็ดจึงทาหนังสือแจเงไปยังหกว่าไม่ประสงค์จะเป็นลูกหนี้ร่วมกันอีก หลังจากนั้น หกนาเงิน
มาชาระให้มะนาว 20,000 บาท ต่อมามะนาวได้ทวงเจ็ดให้ชาระหนี้ทั้งหมด 50,000 บาท ให้วินิจฉัยว่า เจ็ด
ต้องชาระหนี้แก่มะนาวเป็นจานวนเท่าใด
3.นายเอกกับนายวิทย์เป็นเพื่อนกัน ได้พักที่รีสอร์ทของนายบูม มีงูที่เลื้อยอยู่ในบริเวณนั้น นายเอกเปิดประตู
ห้องทิ้งไว้ งูจึงเลื้อยเข้าไปในห้องของนายเอก แล้วฉกนายเอกบาดเจ็บสาหัส ทาให้เข้าโรงพยาบาลรักษาตัว
เป็นเหตุให้หมอต้องตัดขานายเอก นายบูมจะต้องรับผิดในทางละเมิดต่อนายเอกหรือไม่ อธิบายหลักกฎหมาย
ประกอบ
17 - 73
1.นายธงขับรถด้วยความประมาทเลินเล่อชนท้ายรถของนายพลเสียหายคิดเป็นค่าซ่อม 15,000 บาท นายธง
ยอมรับผิด แต่เมื่อนายพลนารถไปซ่อมเสร็จแล้วนายธงกลับเพิกเฉย ไม่ชาระค่าเสียหาย ทนายความของนาย
พลจึงมีหนังสือทวงถามให้นายธงชาระค่าเสียหาย 15,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่
ได้รับหนังสือทวงถาม นายธงก็ยังคงเพิกเฉย ในที่สุดนายพลจึงฟ้องให้นายธงชาระหนี้ค่าเสียหาย 15,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีตั้งแต่วันที่รถชนกัน แต่นายธงเห็นว่าตนต้องรับผิดในดอกเบี้ยตั้งแต่ได้รับ
หนังสือเตือนและดอกเบี้ยก็คิดเป็นร้อยละ 7.5 เท่านั้น ท่านเห็นด้วยกับข้ออ้างของนายธงหรือไม่ เพราะเหตุใด
จงอธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ
เทอม 1/63
1.นายแดดกู้ยืมเงินนายร่มจานวน 90,000 บาท โดยมีข้อตกลงว่าจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี เมือ่ถึง
กาหนดชาระ นายร่มได้มีหนังสือแจ้งให้นายแดดชาระหนี้ โดยแจ้งว่าหากนายแดดไม่นาเงินมาชาระตนก็ไม่มี
เงินไปชาระค่าที่ดินที่ตนไปทาสัญญาจะซื้อไว้ และจะถูกริบมัดจา 90,000 บาท นายแดดตอบมาว่า ยังไม่มีเงิน
ขอผลัดไปอีก 2 เดือน นายร่มฟ้องเรียกเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 จากนายแดดจนกว่าจะชาระเสร็จ
นายแดดต่อสู้ว่า ตนได้ขอผลัดหนี้ไปแล้วจึงไม่ผิดนัด และแม้จะผิดนัดก็ต้องคิดดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดร้อยละ
7.5 เท่านั้น ท่านเห็นว่าข้องอ้างของนายแดดถูกต้องหรือไม่
2.นายพันธ์ไทยเป็นหนี้เงินกู้นายพันธ์ศักดิ์ จานวน 200,000 บาท กาหนดชาระหนี้วันที่ 12 ธันวาคม 2563
ขณะนี้นายพันธ์ศักดิ์มีความจาเป็นต้องใช่เงินเพื่อซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัย จึงทาหนังสือโอนขายหนี้เงินกู้
ดังกล่าวลงลายมือชื่อระหว่างนายพันธ์ศักดิ์และนางพันธ์ทิพย์ โดยนายพันธ์ไทยไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแต่
อย่างใด หลังจากที่นายพันธ์ไทยได้ชาระหนี้บางส่วนเป็นเงินจพนวน 50,000 บาทให้แก่นายพันธ์ศักดิ์ไปแล้วจึง
ทราบเรื่องการโอนหนี้นั้น นายพันธ์ไทยจึงรีบทาหนังสือลงลายมือชื่อตนเองไปถึงนางพันธ์ทิพย์แจ้งให้ทราบว่า
ตนเป็นหนี้นายพันธ์ศักดิ์ จานวน 200,000 บาท และยินดีจะชาระหนี้ให้แก่นางพันธ์ทิพย์เต็มจานวน ต่อมา
วันที่ 12 ธันวาคม 2563 นางพันธ์ทิพย์เรียกร้องให้นายพันธ์ไทยชาหระหนี้ทั้งหมดเป็นเงินจานวน 50,000
บาท แก่ตน ให้วินิจฉัยว่า การโอนหนี้ระหว่างนายพันธ์ศักดิ์และนางพันธ์ทิพย์ มีผลสมบูรณ์หรือไม่ และนาย
พันธ์ไทยต้องชาระหนี้ให้แก่นางพันธ์ทิพย์เป็นเงินจานวนเท่าใด เพราะเหตุใด
3.นางรัศมีเช่าบ้านนางดวงแขเป็นที่พักอาศัย ต่อมาบ้านหลังดังกล่าวเกิดไฟไหม้จากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าชารุด ประกายไฟได้กระเด็นไปถูกรถยนต์ของนายเมืองที่จอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านหลัง
ดังกล่าวได้รับความเสียหาย ดังนี้นายเมืองจะเรียกให้ใครรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายได้
บ้าง จงอธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ
18 - 73
41213 กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน
เทอม 2/61
1.นาย ก บุกรุกเข้าครอบครองที่ดินมือเปล่าซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นของนาย ข นาน 10 ปีเศษ นาย ข ทราบเรื่องจึง
มาขับไล่นาย ก โดยอ้างว่านาย ก รู้อยู่แล้วว่าเป็นที่ดินของตน นาย ก ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
2.นายไก่ครอบครองปรปักษ์ที่ดินของนายเป็ดจนได้กรรมสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน นายเป็ดตาย และนาย
ห่านได้จดทะเบียนรับมรดก ต่อมานายห่านจดทะเบียนขายที่ดินให้แก่นางหงส์ โดยนางหงส์ไม่รู้ว่านายไก่
ครอบครองปรปักษ์อยู่ สองปีต่อมานางหงส์ตาย นางกินรีเข้าจดทะเบียนรับมรดก นายไก่ไปแย้งว่าที่ดินนั้นเป็น
สิทธิของตน คาถามคือนายไก่กับนางกินรีใครมีสิทธิเหนือกว่ากัน
3.นาย ก และนาย ข เจ้าของร่วมในที่ดินที่ยังไม่ได้วัดแบ่งกัน นาย ก สร้างบ้านบนที่ดิน ต่อมาได้วัดที่ดินพบว่า
นาย ก สร้างบ้านบนที่ดินของนาย ข ทั้งหลัง นาย ข ให้นาย ก รื้อถอนออกไปและให้ทาให้ที่ดินเป็นดังเดิม
นาย ก อ้างว่าไม่ต้องรื้อถอนเพราะตนทาโดยสุจริต นาย ข ต้องจ่ายค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นแก่ตน คาถามคือ
ข้ออ้างของนาย ก ถูกหรือไม่
ซ่อม 2/61
1.นาย ก. ครอบครองที่ดินมีโฉนดผืนหนึ่ง โดยทราบมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นของ นาย ข. ต่อมาเป็นเวลา 10 ปี
เศษ นาย ข. ทราบเรื่อง จึงขับไล่ให้ นาย ก. ออกจากที่ดินผืนดังกล่าว โดยอ้างว่า นาย ก. ทราบมาตั้งแต่แรก
แล้วว่าเป็นที่ดินของนาย ข. แต่ก็ยังเข้าครอบครอง เป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต จะไม่ได้รับการคุ้มครองตาม
กฎหมาย นาย ก. จะสามารถยกข้อต่อสู้อะไร ต่อสู้กับ นาย ข. ได้บ้าง
2.นายโลมาครอบครองปรปักษ์ที่ดินผืนหนึ่งของนายมังกรจนได้กรรมสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้ไปจนทะเบียนต่อ
เจ้าหน้าที่ ต่อมานายมังกรโอนขายที่ดินดังกล่าวให้แก่นายม้าน้าไป แต่นายม้าน้าไม่ทราบว่าที่ดินผืนดังกล่าวมี
นายโลมาครอบครองปรปักษ์อยู่ ต่อมาอีก 2 ปี นายม้าน้าเสียชีวิต นายสวายรับมรดกที่ดินผืนดังกล่าวมาใน
ฐานะทายาท ต่อมาอีก 2 ปี นายสวาย โอนที่ดินให้นายดาว โดยเสน่หา เมื่อนานโลมาทราบ นายโลมาจึงอ้างว่า
ตนมีสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวดีกว่านายดาว เพราะตนครองครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว ให้ท่านวินิจฉัยว่าใคร
มีสิทธิ์ในที่ดินผืนดังกล่าวดีกว่ากัน เพราะเหตุใด
3.นาย ก. สร้างบ้านพักตากอากาศในที่ดินที่ตนซื้อไว้ ต่อมาได้ทาการต่อเติมทาเป็นโรงจอดรถยนต์ ไว้บริเวณ
ใกล้บ้านหลังนั้น โดยชายคาของโรงรถได้รุกล้าเข้าไปในที่ดินของนาย ข. แต่นาย ก. เข้าใจมาโดยตลอดโดย
สุจริตว่า ที่ดินที่ชายคารุกล้าเข้าไปเป็นที่ดินของตน นาย ข. ทราบเรื่องจึงบอกให้ นาย ก. รื้อถอนส่วนที่รุกล้า
ออกไป นาย ก. อ้างว่า ตนสร้างโรงเรือนรุกล้าที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต ตนจะจ่ายค่าใช้แห่งที่ดินให้แก่นาย ข.
และไม่ต้องรื้อถอนชายคาส่วนที่รุกล้าดังกล่าว คากล่าวอ้างของนาย ก. ฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
19 - 73
41213 กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน
เทอม 2/62
1.นางแดงตกลงขายที่ดิน นส 3 ด้วยวาจาให้แก่นางส้ม โดยส่งมอบที่ดินและชาระเงินเรียบร้อยแล้วต่อมา 3ปี
นางส้มเห็นว่าที่ดินมีราคาสูงขึ้น จึงเรียกให้นางส้มส่งมอบที่ดินคืนโดยอ้างว่าการซื้อขาย มิได้ทาเป็นหนังสือและ
จดทะเบียนพนักงานเจ้าหน้าที่เป็น โมฆะ นางส้มมีข้อต่อสู้อย่างไรได้บ้าง
2.นายสุชาติครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของนายสมชายมากว่า 10 ปี ต่อมานายสมชายจด
ทะเบียนโอนขายที่ดินนั้นให้แก่นายสมหมาย นายสมหมายไม่ทราบมาก่อนว่า นายสุชาติครอบครองอยู่อาศัยใน
ที่ดินนั้นมานานแล้ว หลังจากนั้นอีก 5 ปี นายสมหมายไม่อยากมีข้อพิพาทกับนายสุชาติจึงจดทะเบียนยกที่ดิน
ให้แก่นางสมจิตรโดยนางสมจิตรก็ไม่ทราบถึงการครอบครองปรปักษ์ของนายสุชาติเช่นกัน ให้วินิจฉัยว่า นายสุ
ชาติหรือนางสมจิตรเป็นผู้มีสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าว เพราะเหตุใด
3.นาย ก. มีที่ดินที่ต่างจังหวัดติดกับที่ดินของนาย ข. แต่นาย ข. ทางานอยู่กรุงเทพฯ จะกลับมาพักผ่อนที่บ้าน
หลังนี้ช่วงเทศกาลปีใหม่ นาย ก. ต้องการสร้างบ้านหลังใหญ่จึงสร้างใกล้แนวเขตที่ดินของนาย ข. ช่างก่อสร้าง
แจ้งให้ทราบว่ารางรับน้าฝนอาจล้าเข้าไปในที่ดินของนาย ข. แต่นาย ก. ไม่สนใจ เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ
ปรากฏว่ารางรับน้าฝนได้ยื่นล้าเข้าไปอยู่ในเขตที่ดินของนาย ข. เมื่อนาย ข. ทราบเรื่องดังกล่าวจะมีสิทธิตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อย่างไรบ้าง
20 - 73
41231 กฎหมายอาญา 1: ภาคบทบัญญัติทวั่ ไป
เทอม 2/61
1.นายเอกต้องการฆ่านายโท แต่นายโทกระโดดหลบทัน กระสุนจึงไปถูกนายตรี ซึ่งเดินผ่านมา นายตรีเสียชีวิต
นายเอกต้องรับผิดทางอาญาต่อนายโทและนายตรีหรือไม่ อย่างไร
2.นายหนุ่ยต้องการฆ่านายมนัสซึ่งขัดผลประโยชน์กันในเรื่องธุรกิจมานาน นายหนุ่ยกลับไปเอาปืนที่บ้าน ซึ่ง
นางรสรินภรรยานายหนุ่ยรู้เข้าและไม่อยากให้นายหนุ่ยฆ่าคน จึงเอากระสุนปืนออกก่อนนายหนุ่ยมาถึง เมื่อ
นายหนุ่ยมาถึงก็หยิบปืนออกไปทันทีโดยไม่รู้ว่ากระสุนถูกถอดออก เมื่อไปเจอนายมนัสจึงลั่นไกปืนยิงใส่นาย
มนัส แต่ปรากฎว่าปืนไม่มีกระสุน ดังนี้ นายหนุ่ยต้องรับผิดทางอาญาหรือไม่ อย่างไร
3.นายไก่และนายช้างทะเลาะวิวาทกับนายหมู ระหว่างที่นายไก่ยื้อแย่งปืนกับนายหมูอยู่ นายช้างได้ตะโกนว่า
“ไก่ยิง ไก่ยิง” นายไก่จึงใช้ปืนยิงนายหมูเสียชีวิต ดังนี้นายไก่และนายช้างต้องรับผิดทางอาญาต่อนายหมู
ซ่อม 2/61
1.นาย ก ตั้งใจจะยิงนาย ข แต่นาย ข หลบทัน กระสุนจึงไปโดนกระจกรถของนาย ค ที่จอดอยู่ข้างทาง ถามว่า
นาย ก มีความผิดหรือไม่
2.นาง ก เชื่อว่านาย ข เป็นภูติผีปีศาจ แม้นาย ข จะตายไปแล้วก็กลัวจะฟื้นคืนชีพมา จึงเอาตะปูไปตอกที่ศพ
และนายันต์ไปปิดที่ตัวนาย ข เพราะไม่อยากให้ฟื้นคืนชีพมา ถามว่านาง ก มีความผิดหรือไม่
3.นายแดงทะเลาะกับนายเหลือง นายแดงจึงยุยงให้นายเขียวทาร้ายนายเหลือง โดยการพูดว่า "ตีมันเลย"
ต่อมานายเขียวจึงทาร้ายนายเหลือง นายแดงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ไม่ได้ทาร้ายนายเหลืิอง มีเพียงนายเขียวที่
ทาร้ายนายเหลือง ถามว่านายแดงต้องรับผิดหรือไม่ อย่างไร
1.นายดาเดินเข้าซอยมืดเพื่อจะกลับบ้าน ในขณะเดินเห็นเงาตะคุ่มกาลังเข้ามาหาตน คิดว่าเป็นสุนัขเลยส่งเสียง
ขู่ไล่ แต่เงานั้นยังวิ่งเข้ามาหาตน นายดาเลยใช้มีดที่พกมาแทง ปรากฎว่าเป็น ด.ช.แดง ใด้รับบาดเจ็บ นายดา
ต้องรับผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร
21 - 73
เทอม 1/62
1.นายเอกโกรธนายโท จึงใช้แขนล็อกคอนายโทมาที่คูน้า แล้วจับตัวนายโทกดลงน้าจนมิดศีรษะ ทาให่นายโท
สาลักน้าและปอดทางานได้ไม่ปกติเป็นเวลา 4 สัปดาห์ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีก 1 สัปดาห์ การกระทา
ของนายเอกมีความผิดหรือไม่
2.นายหนึ่งและนางสองเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย นายหนึ่งต้องการเงินไปเที่ยวกับเพื่อน วันหนึ่งนางสอง
ไม่อยู่บ้านและลืมกระเป๋าเงินไว้บนโต๊ะ นายหนึ่งหยิบเงินไป นายหนึ่งมีความผิดหรือไม่
3.วัชระต้องการฆ่าเมธี ธนิตต้องการให้เมธีตายจึงตั้งใจเอาปืนไปให้วัชระแต่ไม่รู้ที่อยู่ อารีต้องการให้เมธีตายเลย
บอกที่อยู่ของวัชระให้กับธนิต หลังจากวัชระได้ปืนจากธนิตก็เอาไปยิงเมธีตาย ให้วินิจฉัยว่าธนิตกับอารีมี
ความผิดทางอาญาหรือไม่ อย่างไร
เทอม 2/62
1.นายหนึ่งมีรถเก่าระบบเบรกชารุดอยู่คันหนึ่งได้ขับออกจากบ้าน อย่างช้าๆไปบนถนนเพื่อจะไปร้านซ่อมรถที่
อยู่ใกล้ๆบ้านระหว่างทางนาย 2 ซึ่งขี่จักรยานอยู่ด้านหน้าระยะห่าง 5 เมตรได้หักหลบหลุมกะทันหัน ทาให้
นาย 1 เบรคแต่เบรคไม่ทางานทาให้รถทับ 2 ทับกะโหลกศีรษะใน 2 เสียชีวิตจงวินิจฉัยว่านาย 1 ต้องรับผิด
ทางอาญาหรือไม่อย่างไร
2.นางลิ้นจี่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมีความเครียดจากการประกอบอาชีพเปิดร้านค้าขายเสื้อผ้าที่ขายไม่ดี จึงมี
ความเครียดสะสม วันหนึ่งเจอนางนกยูงที่ขายเสื้อผ้าเหมือนกันจึงเกิดโมโหและมุ่งเข้าไปทาร้ายจนบาดเจ็บ
หลังจากนั้นจึงได้กลับไปบ้านและไม่ออกมาเนื่องจากเกรงกลัวว่านางนกยูงจะไปแจ้งความจับตน คาถามคือ
นางลิ้นจี่ต้องรับผิดและต้องรับโทษหรือไม่
3.นายไม้ไปลักโคบ้านนายต้นและระหว่างเดินจุงมาเจอในนายผลเลยร้องให้ช่วยต้อนโค นายผลก็ช่วยต้อนโคซึ่ง
ทราบอยู่แล้วว่านายไม้ลักโคมาจากบ้านนายต้น การกระทาของนายผลดังกล่าวจะทาให้นายผลต้องรับผิดทาง
อาญากับนายไม้ด้วยหรือไม่ เพราะเหตุใด
ซ่อม 2/62
1.นายนกมีอาชีพขับรถสองแถวรับผู้โดยสาร ระหว่างขับรถรับส่งอยู่นั้น นายนกเห็นายแมวผู้โดยสารคนหนึ่ง
กาลังโหนตัวอยู่ข้างนอกรถด้านขวา และกาลังมีรถสวนมาด้วยความเร็ว แต่นายนกก็ไม่ได้ชะลอความเร็วลง
หรือหยุดรถ แต่หักหลบรถที่สวนมาในระยะกระชั้นชิด นายแมวจึงถูกรถที่สวนมาเฉี่ยวทาให้ถึงแก่ความตาย
นายนกจะต้องรับผิดทางอาญาหรือไม่
22 - 73
2.นายประเทืองมีอาการผิดปกติทางจิตมานาน มีอาการกาเริบเป็นครั้งคราวและไม่อาจรู้ล่วงหน้า เมื่อมีอาการ
ทางจิตแล้วจะรู้สึกหวาดกลัวและจาอะไรไม่ได้ วันหนึ่งนายประเทืองขณะมีอาการกาเริบ พอเห็นนายดาเดิน
ผ่านมาจึงใช้มีดไล่ฟันนายดาจนได้รับบาดเจ็บ ทั้ง ๆ ที่นายประเทืองก็ไม่ได้มีเหตุบาดหมางหรือโกรธเคืองนาย
ดามาก่อนเลย นายประเทืองจะมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญาหรือไม่
3.นายกล้วยและนายส้มไปฉุดคร่านางสาวสวยพามาหานายอ้อยที่รออยู่เพื่อผลัดกันข่มขืน กระทาชาเรา นายก
ล้วยและนายส้มได้ผลัดกันข่มขืนกระทาชาเรานางสาวสวย เมื่อตารวจมาช่วยนางสาวสวยพบนายอ้อยใส่
กางเกงในนั่งคอยจะข่มขืนกระทาชาเราต่อจากนายกล้วยและนายส้ม นายอ้อยจะต้องร่วมรับผิดทางอาญากับ
นายกล้วยและนายส้มหรือไม่ เพราะเหตุใด
1.ต่อต้องการลักนาฬิกาข้อมือของเติม ต่อเห็นนาฬิกาข้อมือของเต็มวางอยู่ก็เข้าใจว่าเป็นนาฬิกาข้อมือของเติม
ต่อจึงเอานาฬิกาข้อมือของเต็มไปขาย เมื่อเต็มทราบเรื่องดังกล่าวจึงแจ้งความเอาผิดกับต่อฐานลักทรัพย์ แต่ต่อ
อ้างว่าตนต้องการจะลักนาฬิกาข้อมือของเติม จึงไม่ต้องรับผิดฐานลักทรัพย์ของเต็ม จงวินิจฉัยว่า ข้ออ้างของ
ต่อรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด (ข้อนี้นักศึกษาไม่ต้องบัญญัติบทกฎหมายและวินิจฉัยตามประมวลกฎหมาย
อาญามาตรา 334)
เทอม 1/63
1.นายพิชชี่ต้องการฆ่านายพอล ซึ่งเป็นคู่อริของตน นายพิชชี่เห็นนายเดชเจ้าพนักงานตารวจซึ่งกาลังปฏิบัติ
หน้าที่เดินมาในความมมืด นายพิชชี่ใช้ปืนยิงนายเดชโดยคิดว่าเป็นนายพอล นายเดชถูกยิงถึงแก่ความตาย
นายพิชชี่ต้องรับผิดทางอาญาจากการกระทาดังกล่าวอย่างไร จงอธิบาย
2.นายดาเมาสุราอย่างหนักเนื่องจากตกงาน ด้วยความเครียดและความเมามาก นายดาได้เดินเข้าไปในที่
ทางานเดิมและใช้มีดจ้วงแทงฆ่านายขาวเพื่อนร่วมงานถึงแก่ความตาย และขณะที่นายดากาลังจะแทงนายม่วง
นายฟ้าเห็นเหตุการณ์จึงใช้ปืนยิงนายดาที่ขาทาให้มีดหลุดจากมือ นายม่วงจึงปลอดภัยจากการช่วยเหลือของ
นายฟ้า กรากฎว่านายดาได้รับบาดเจ็บสาหัส นายดาและนายฟ้ามีความรับผิดทางอาญาหรือไม่ อย่างไร
3.นายเขียวต้องการฆ่านายดา นายเขียวจึงไปซื้อปืนเพื่อจะนาไปใช้ยิงนายดา นายแดงรู้ว่านายเขียวต้องการฆ่า
นายดาเพราะแอบได้ยินที่นายเขียวพูด นายแดงจึงแอบเอาปืนไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เพื่อให้นายเขียวเห็น
นายเขียวเข้ามาในบ้านเห็นปืนที่นายแดงวางไว้ ไม่รู้ว่าเป็นของใคร แต่ก็ได้หยิบปืนนั้นไปยิงนายดา นายดาตาย
ให้วินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของนายแดง
23 - 73
41232 กฎหมายอาญา 2: ภาคความผิด
เทอม 2/61
1.นายแดงขอให้นายน้าเงินกรรมการคุมสอบช่วยตนให้สอบเข้าราชการได้ แล้วจะยกน้องสาวให้ น้าเงินตกลง
ต่อมาน้าเงินบอกนายแดงว่าช่วยไม่ได้แล้ว และไม่ต้องนาน้องสาวมาให้ตน น้าเงินผิดกฎหมายอาญาหรือไม่
เพราะอะไร
2.ปกรณ์กับฉัตรชัยเป็นคู่แข่งลงสมัครรับเลือกตั้งกัน วันหนึ่งปกรณ์ไปบอกนางสาวเพชรา อายุ 18 ปี ลูกนาย
ฉัตรชัยว่า นายฉัตรชัยถูกจับให้ตนมารับนางสาวเพชราเพื่อไปประกันตัว ขณะปกรณ์พานางสาวเพชรานั่งรถ
ออกไปถูกตารวจจับข้อหาฝ่าไฟแดงก่อน ซึ่งยังไม่ได้โทรข่มขู่นายฉัตรชัย ให้ถอนตัวจากการสมัครรับเลือกตั้ง
ปกรณ์ผิดหรือไม่ เพราะอะไร
3.ส้มจุกต้องไปทางานต่างจังหวัด เอาสุนัขไปฝากนายนายชัยเลี้ยงไว้ ต่อมานายชมพู่เพื่อนสนิทนายส้มจุกมา
ขอรับสุนัขคืน อ้างว่าส้มจุกให้มารับซึ่งไม่จริง นายชัยมอบสุนัขให้ชมพู่ ชมพู่เอาสุนัขไปขายและนาเงินไปใช้คน
เดียว ชมพู่ผิดฐานใด เพราะอะไร
ซ่อม 2/61
1.นางอ้อยแต่งงานกับนายสมพงษ์พ่อหม้ายและมีลูกติดคือนางสาวเจน อายุ 16 ปี สุขภาพไม่ปกติแข็งแรง
เหมือนคนอื่นทั่วไป นางอ้อยเห็นนายสมพงษ์เอาใจใส่แต่นางสาวเจน โดยไม่สนใจตน นางอ้อยจึงหยิบเอายา
พิษไปใส่ในถ้วย นาไปให้นางสาวเจนกินเพื่อให้นางสาวเจนถึงแก่ความตาย โดยบอกกับนางสาวเจนว่าเป็น
ยาบารุ่งร่างกาย นางสาวเจนหลงเชื่อจึงยกยาในถ้วยขึ้นมากิน แต่ยังไม่ทันได้กิน นางสาวเจนเป็นลมล้ม ถ้วยยา
หลุดมือตกแตก ดังนี้ นางอ้อยมีความผิดทางกฎหมายอาญาในฐานใด เพราะอะไร
2.นายเอเป็นนายหน้าหาผู้ชายหน้าตาดีเพื่อส่งไปให้บริการทางเพศกับชาวต่างชาติ ต่อมานายเอได้พบกับนายบี
ซึ่งหน้าตาดี จึงบอกนายบีใหัไปทาางานดังกล่าว นายบีอยากมีรายได้พิเศษจึงตอบตกลง แต่ยังไม่ทันได้ไป ก็มี
ตารวจที่ดักฟังอยู่ได้เข้ามาจับนายเอ นายเอ บอกจะมาจับได้อย่างไร เพราะไม่ได้หลอกลวงหรือใช้กลอุบายนาย
บีสมัครใจและนายบีเองก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ดังนี้ นายเอมีความผิดทางกฎหมายอาญาในฐานใด เพราะอะไร
3.นายสุพรลักนาฬิกาเรือนทองมาจากนางนงลักษณ์ มาขายให้นางนารี นางนารีรับซื้อทั้งที่รู้ว่านายสุพรนั้นลัก
ของนางนงลักษณ์มา ต่อมานางนารีร้อนเงินจึงนานาฬิกาเรือนทองดังกล่าวมาขายให้กับนางปัทมา ในราคาถูก
เป็นพิเศษ นางปัทมาจึงคิดว่าเป็นของโจร แต่นางนารีบอกนางปัทมาว่าไม่ต้องกลัวเพราะไม่ได้เป็นคนลักนายสุ
พรเป็นคนลักมา ตนซื้อมาจากนายสุพรและจ่ายเงินถูกต้องแล้ว จึงหมดสภาพเป็นของโจร ดังนี้ หากนางปัทมา
รับซื้อนาฬิกาเรือนทองนี้ไป นางปัทมาจะมีความทางอาญาในฐานใด เพราะอะไร
24 - 73
เทอม 3/61
1.นางนงเยาว์อิจฉาลูกเลี้ยงนางสาวมะลิอายุ 16 เนื่องจากสามีซึ่งเป็นพ่อของนางสาวมะลิเอาอกเอาใจแต่ลูก
สาว และไม่สนใจตนเอง จึงเอายาพิษใส่ถ้วยและหลอกนางสาวมะลิว่าเป็นยาบารุง นางสาวมะลิสุขภาพไม่
แข็งแรงนัก กาลังจะยกถ้วยยากินก็เป็นลม ถ้าวยาตกแตก ถามว่านางนงเยาว์มีความผิดอาญาข้อใหน
2.นายสมพรได้ขโมยนาฬิกาทอง มาขายให้นางนงลักษณ์ นางนงละกษณ์เองรู้ว่านายสมพรขโมยนาฬิกามาแต่ก็
ยังรับซื้อ ต่อมานางนงลักษณ์ร้อนเงินจึงเอานาฬิกาทองไปขายต่อให้นางปัทมา นางปัทมาเห็นว่าราคาถูกจึง
สงสัยว่าเป็นของถูกขโมยมา นางนงลักจึงบอกว่าไม่ต้องกังวล ไม่ใช่ของโจรเพราะตนใช้เงินซื้อมาแล้ว
หากนางปัทมาซื้อนาฬิกาจะมีความผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายเอเห็นนายบีมีหน้าตาดี จึงชวนนายบีไปค้าบริการ นายบีตอบตกลง ขณะกาลังชักชวน ตารวจได้แอบฟัง
การสนทนาจึงเข้าจับกุมนายเอ นายเออ้างว่า นายบีบรรลุนิติภาวะแล้ว และตนก็ไม่ได้หลอกหลวงข่มขู่นายบี
แต่อย่างใดนายบีเพียงแค่ตกปากรับคาเท่านั้นและยังไม่ได้เริ่มทางานงานเลย เขาจึงไม่ต้องรับผิด ถามว่านายเอ
มีความผิดหรือไม่ อย่างไร
1.ร.ต.อ เสือ แอบชอบพอกับลูกสาวของ นายสักแต่นายสักไม่ชอบร.ต.อ เสือ แล้วร.ต.อเสือจึงแกล้งจับนายสัก
ข้อหาขายสลากกินรวบแต่ไม่เป็นความจริง นายสักไม่ได้ขายสลากกินรวบเลย แล้วร.ต.อเสือก็บอกกับนายสัก
ให้ลูกสาวนายสักมาแต่งงาน แล้ว ร.ต.อ. เสือจึงจะปล่อยตัว นายสัก วินิจฉัยว่าร.ต.อเสือมีความผิด ตาม
องค์ประกอบอะไร (ห้ามตอบ157คับ)
เทอม 1/62
1.A รับเลี้ยงเด็กอ่อนสองคน ต้มน้าร้อนด้วยหม้อต้มไฟฟ้าเพื่อจะชงนม แต่ลืมถอดปลั๊กจนน้าแห้ง ไฟช็อต ไฟ
ไหม้บ้านของ A ไฟลามไปเกือบถึงเด็กสองคน แต่ A อุ้มหนีทัน และชาวบ้านช่วยกันดับไฟ ไฟไม่ลามไปบ้านอื่น
A ต้องรับผิดในทางอาญาฐานใดหรือไม่
2.ซูซี่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ท้อง 7 เดือน แต่ชายไม่ยอมรับ เลยไปซื้อยามาฉีดเพื่อทา
แท้ง ต่อมาเด็กคลอดก่อนกาหนด อยู่ได้ 5 นาทีก็ตายสมใจซูซี่ ซูซี่ทาผิดอาญาฐานใดหรือไม่ และต้องรับโทษ
หรือไม่
3.นายทอมและนางดี้ไปเดินสวนสาธารณะ นายเก้งเห็นนายทอมเผลอจึงล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา นางดี้
เห็นเข้าจึงร้องว่าขโมย ๆ นายเก้งกลัวคนอื่นจะได้ยิน จึงเตะปากนางดี้ เพื่อปกปิดความผิด และหนีไปแต่ทา
กระเป๋าสตางค์นั้นตกไว้โดยนางเก้งไม่รู้ตัว นายเก้งต้องรับผิดในทางอาญาฐานใดหรือไม่
25 - 73
ซ่อม 1/62
1.นายดาและนายแดงได้ออกเงินกันซื้อรถตู้เพื่อนามาใช้เป็นรถทัศนาจร โดยทั้งสองคนได้ตกลงกันว่าให้นายดา
เป็นผู้ครอบครอง ส่วนนายแดงรอรับส่วนแบ่งค่าตอบแทน วันหนึ่งนายแดงได้แอบเข้าไปในบ้านนายดาและ
แอบเอารถตู้ออกมาเพื่อนาให้ภรรยาน้อย อยากทราบว่านายแดงต้องรับผิดในทางอาญาฐานใด เพราะอะไร
(ไม่ต้องยกข้อหาบุกรุกหรือ ลหุโทษ)
2.นายดาเห็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน 3 คน ตีกับอริจากโรงเรียนอื่นอีก 4 คน นายดาจึงเข้าไปช่วยเพื่อน โดย
ก่อนเข้าไปช่วยมีคนโดนชกจนตาบอดอยู่แล้ว โดยนายดาไม่รู้ นายดาผิดฐานอะไร
3.นายดาและนายแดงมีไร่ผลไม้อยู่ติดกัน ปลูกผลไม้ชนิดเดียวกันและมีปัญหาทะเลาะแย่งลูกค้ากัน วันหนึ่ง
นายดาพาพวกเข้าไปในไร่นายแดง ไปข่มขู่นายแดงให้ออกไปจากไร่ ไม่ออกจะยิงให้ตาย นายแดงกลัวเลยออก
จากไร่ไป (ไม่ต้องตอบเรื่องบุกรุก)
เทอม 2/62
1.นายชาญและนายศักดิ์เป็นเพื่อนร่วมงานกัน นายชาญไปรู้ว่านายศักดิ์มีกล้องราคาแพง นายชาญจึงต้องการ
ได้กล้องมาเพื่อนาไปขาย นายชาญจึงโทรศัพท์ติดต่อหานางสมรซึ่งเป็นภรรยาของนายศักดิ์ ว่านายศักดิ์
ต้องการใช้กล้องด่วน และนายชาญจะไปรับกล้องที่บ้านมาส่งให้นายศักดิ์ ขอให้นางสมรเตรียมกล้องไว้ให้ เมื่อ
วางสายนางสมรรู้สึกไม่สบายใจจึงโทรศัพท์ไปหานายศักดิ์ว่าต้องการใช้กล้องแล้วให้นายชาญมารับใช่หรือไม่
นายศักดิ์บอกปฏิเสธ ว่าไม่ได้ต้องการใช้กล้องและไม่ได้ให้นายชาญไปเอากล้องที่บ้าน เมื่อนายชาญมาถึงบ้าน
นางสมรจึงไม่ได้ส่งมอบกล้องให้ นายชาญต้องรับผิดทางอาญาหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญาเป็น
ความผิดฐานใด
2.นายเอแอบชอบนางสาวบีมานาน เมื่อนายเอไปแอบเห็นนางสาวบีกาลังลักทรัพย์ของนายซี นายเอจึงไปบอก
นางสาวบีว่า ถ้านางสาวบีไม่ยอมแต่งงานกับตน จะนาเรื่องนี้ไปแจ้งเจ้าพนักงานว่านางสาวบีลักทรัพย์ นางสาว
บีกลัวว่าจะถูกจับ จึงตกลงยอมแต่งงานกับนายเอ การกระทาของนายเอถือเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่ ตาม
ประมวลกฎหมายอาญาเป็นความผิดฐานใด
3.นาย ก เป็นข้าราชการที่มีหน้าที่จัดซื้อมุ้ง เพื่อนาไปแจกจ่ายแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน นาย ก ได้ไป
ติดต่อที่ร้านของนาย ข ซึ่งรู้ว่าราคามุ้งอยู่อยู่ที่ชิ้นละ 500 บาท โดยนาย ก แจ้งว่าต้องการซื้อมุ้ง 1,000 หลัง
นาย ข เจ้าของร้านเห็นว่านาย ก ซื้อมุ้งจานวนมาก จึงตกลงราคาให้เหลือที่หลังละ 400 บาท นาย ก ตกลงซื้อ
ในราคา 400 บาท แต่ขอให้นาย ข เขียนในใบเสร็จชาระเงินว่ามุ่งราคาชิ้นละ 500 บาท ดังเดิม เพื่อจะนาไป
เบิกกับทางต้นสังกัด การกระทาของนาย ก ถือเป็นความผิดในทางอาญาหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา
เป็นความปิดฐานใด
26 - 73
ซ่อม 2/62
1.นายก้อยและพรรคพวกรวม 6 คน ตกลงกัน จะใช้ไขควง ไขประตูรถยนต์ เพื่อขโมยรถยนต์ ที่มีราคาแพง ที่
จอดไว้ตามถนน หรือตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตารวจมาพบกลุ่มนาย ก้อย สังเกตเห็นพิรุธจึงจับกุมไว้ โดยที่นายก้อย
และพรรคพวก ไม่ได้ขโมยรถคันไหนเลย นายก้อย และพรรคพวก ทาผิดกฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่ เพราะ
อะไร
2.นางสาวนารี ได้รู้ว่านายชนก ชายที่คบกับตนอยู่กาลังจะแต่งงานกับ นางณิชา แม่ม้ายเศรษฐีนีคนหนึ่ง จึง
เดินทางไปพบ นางณิชา และพูดคุยกับนางนิชาเป็นการส่วนตัว ในห้องของนางณิชา โดยที่ไม่มีใครได้ยิน ว่า
นายชนกนั้น เป็นคนเลว ชอบหลอกเอาเงินจากผู้หญิง และมีสัมพันธ์กับตนแต่ไม่รับผิดชอบ ขอให้ นาง ณิชา
เลิกกับนายชนกเสีย นางนิชาได้ยินดังนั้น จึงโกรธมาก จึงไปถามนายชนก นายชนกบอกว่าเป็นความจริง แต่
ตนเองกลับใจแล้ว นางนิชาจึงให้อภัยและตกลงว่าจะแต่งงานกับนายชนก นางสาวนารี กระทาผิด กฎหมาย
อาญาฐานใดหรือไม่ เพราะอะไร
3.นายพราดและนายเปรียว ตกลงซื้อช้างเชือกหนึ่งด้วยกัน และตกลงกันว่า จะผลัดกันเลี้ยง และใช้ประโยชน์
จากช้างเชือกนี้กันคนละเดือน เมื่อนายพราดใช้ช้างครบ 1 เดือนแล้ว กลับไม่ส่งให้นายเปรียว แต่กลับขายช้าง
เชือกนั้นให้บุคคลภายนอก และเอาเงินมาใช้ในการส่วนตัว นายพราดทาผิดกฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่เพราะ
อะไร
1.นายแก้วมีอาชีพขับรถบรรทุกรับจ้าง วันหนึ่งในเวลากลางคืนขณะที่นายแก้วขับรถเพื่อไปส่งสินค้าที่
ต่างจังหวัด ปรากฎว่ายางรถบรรทุกของนายแก้วเกิดระเบิด ทาให้ลังสินค้าที่บรรทุกมาตกหล่นอยู่กลางถนน
นายแก้วขับรถบรรทุกชิดเข้าขอบทางด้านซ้าย และติดต่อให้นายขุนทองนายางอะไหล่มาเปลี่ยน และให้มา
ช่วยกันขนย้ายลังสินค้าออกจากถนน แต่นายแก้วไม่ได้ให้สัญญาณใด ๆ ว่ามีสิ่งของตกหล่นอยู่บนถนน ระหว่าง
ที่รอนายขุนทองอยู่นั้น ปรากฎว่านายอินทรีย์ขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูงกว่าที่กฎหมายกาหนด ได้
ชนเข้ากับลังสินค้าที่ตกหล่นอยู่กลางถนน จนทาให้นายอินทรีย์ถึงแก่ความตาย เช่นนี้ นายแก้วต้องรับผิดทาง
อาญาตามประมวลกฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใด
27 - 73
เทอม 1/63
1.นายสูง นายผอม นายอ้วน และนายเตี้ย เข้าชุลมุนต่อสู้กันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งหลังจากมีเหตุทะเลาะวิวาท
กันมาก่อน ระหว่างที่เกิดเหตุชุลมุนต่อสู้กันอยู่นั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลจับภาพได้ว่า นาย
อ้วนเสียหลักล้มลงกับพื้นและนายผอมเป็นคนที่ใช้มีดขนาดใหญ่ฟันเข้าที่ศีรษะนายอ้วนหลายครั้ง จนเป็น
สาเหตุให้นายอ้วนถึงแก่ความตาย ดังนี้ นายสูง นายเตี้ย และนายผอม ต้องรับผิดทางอาญา ตามประมวล
กฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใด
2.แพทย์หญิงริสาถูกคนร้ายข่มขืนกระทาชาเราและพบว่าตนเองตั้งครรภ์จากการกระทาความผิดดังกล่าว
แพทย์หญิงริสารู้สึกอับอาย จึงประสงค์จะทาแท้ง โดยแพทย์หญิงริสาได้กินยาขับประจาเดือนเพื่อให้ตนเอง
แท้งลูก ทาให้ทารกในครรภ์ตายก่อนคลอด ดังนี้ แพทย์หญิงริสาต้องรับผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมาย
อาญาฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายเนตรเป็นนักสะสมของเก่า วันหนึ่งนายเนตรเข้าไปดูของเก่าในร้านของนายอินทร์ เห็นแจกันใบหนึ่งปิด
ราคาไว้ 20,000 บาท และอีกใบหนึ่งปิดราคาไว้ 10,000 บาท นายเนตรอยากได้แจกันที่ปิดราคาไว้ 20,000
บาท นายเนตรจึงสลับป้ายที่ปิดราคาแจกันทั้งสองใบดังกล่าว แล้วนาแจกันที่ราคา 20,000 บาทไปให้นาย
อินทร์ห่อและชาระราคาเพียง 10,000 บาท นายอินทร์เห็นป้วยราคาที่ติดอยู่ 10,000 บาท จึงขายให้นายเนตร
ในราคา 10,000 บาท ดังนี้ นายเนตรต้องรับผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาในความผิดเกี่ยวกับ
ทรัพย์ฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใด
28 - 73
41311 กฎหมายแพ่ง 3: ครอบครัว มรดก
ซ่อม 2/61
1.นายเปลี่ยนหมั้นกับ น.ส.ใบปอ แต่นายเปลี่ยนคบหาอยู่กับ น.ส.ใกล้รุ่ง โดยนายเปลี่ยนตกลงให้เงิน 200,000
บาท กับ น.ส.ใบปอ เพื่อเป็นการหมั้นด้วยความสงสาร น.ส.ใบปอรับไว้เป็นของหมั้น ต่อมา น.ส.ใกล้รุ่งทราบ
จึงขอหมั้นนายเปลี่ยนด้วยเงิน 500,000 บาท ต่อมา น.ส. ใบปอตั้งครรภ์ นายเปลี่ยนจึงจดทะเบียนสมรสกับ
น.ส. ใบปอ ต่อมา น.ส.ใกล้รุ่งไปสมรสกับนายองุ่น และกลับมาทวงเงิน 500,000 บาท นายเปลี่ยนไม่ให้อ้างว่า
น.ส.ใกล้รุ่งผิดสัญญาการหมั้น ข้ออ้างขิงนายเปลี่ยนฟังได้หรือไม่ นายเปลี่ยนต้องคืนเงิน 500,000 บาทให้ น.ส.
ใกล้รุ่งหรือไม่
2.นายมาดแมนสมรสกับ ก.(จาชื่อไม่ได้ค่ะ) โดนการข่มขู่ หลังจากสมรสออกจากการข่มขู่แล้ว ก. ร้องขอให้เพิก

ถอนการสมรสนั้น ศาลพิจารณาเพิกถอนการสมรส ในวันที่ 25 ธ.ค 2561 ต่อมา ก สมรส กับนายหมาย และ
คลอดบุตรในวันที่ 29 มีนาคม 2562 เป็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก ทั่งนายมาดแมนและนายหมายต่างต้องการ
เป็นบิดาของเด็กหญิง ระหว่างนายมาดแมนกับนายหมายใครเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย
3.นางนงเยาว์หญิงหม้าย ไม่มีญาติเลย อยู่กับนางมีนาบุตรของสามีที่เกิดกับภรรยาน้อย นางนงเยาว์เขียน

พินัยกรรม ยกบ้านและที่ดินให้นาย ข (จาชื่อไม่ได้ค่ะ) สามีของมีนา พินัยกรรมได้ลง วันเดือนปีที่เขียนและนาง
นงเยาว์พิมพ์ลายมือ โดยมีนางมีนา และบุตรของนางมีนาลงลายมือชื่อเป็นพยาน 3 ปีต่อมานางนงเยาว์ตาย ยัง
มีมรดกเป็นเงิน 500,000 บาท มรดกของนางนงเยาว์ใครจะได้ เพราะเหตุใด
1.นางสาวกมลรักใคร่ชอบพอกับนายดาริ นายดาริจึงมอบประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้แก่นางสาวกมล
ทั้งสองตกลงกันว่าจะสมรสภายหลังเมื่อทั้งคู่เรียนจบ นางสาวกมลรัตน์ไว้ด้วยความยินดี นายดาริได้ตัดชุด
แต่งงานไว้ เมื่อทั้งคู่เรียนจบนายดาริจึงทาการบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา แต่นายดาริบวชแล้วไม่ยอมสึก
นางสาวกมลทนรอไม่ไหวจึงไปแต่งงานกับนายเอเพื่อนของนายดาริ ทาให้นายดาริไม่พอใจ ให้วินิจฉัยพระดาริ
จะเรียกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์คืนได้หรือไม่ และเรียกค่าทดแทนการตัดชุดแต่งงานได้หรือไม่
29 - 73
เทอม 1/62
1.นายแก้วกับนางสาวมะลิไม่ได้รักกัน โดยบิดามารดาทั้งสองฝ่ายต้องการให้ทั้งคู่สมรสกัน นายแก้วจึงมอบ
ทรัพย์สินให้นางสาวมะลิในวันหมั้น ต่อมาบิดามารดานางสาวมะลิเสียชีวิต นางสาวมะลิจึงได้หนีไปต่างจังหวัด
นายแก้วตามไปพบนางสาวมะลิ และได้เรียกคืนของหมั้นและเรียกค่าทดแทน ถามว่านางสาวมะลิต้องคืนของ
หมั้นและเสียค่าทดแทนหรือไม่
2.ส้มและหนึ่งอยู่กินกันฉันสามีภรรยา ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต่อมาส้มตั้งครรภ์ หนึ่งไม่อยากรับเด็กในครรภ์
เป็นบุตร ไม่อยากมีภาระเพิ่ม จึงย้ายออกไม่ปรากฎว่าไปอยู่ที่ใด ส้มคลอดบุตรคือ ด.ญ.เบอรี่ ส้มฟ้องศาลให้
หนึ่งรับ ด.ญ.เบอรี่เป็นบุตรได้หรือไม่ อย่างไร ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ซื่อสัตย์เป็นเพื่อส้ม ได้จดทะเบียนรับรอง
ด.ญ.เบอรี่เป็นบุตรเนื่องจากสงสาร ส้มก็ให้ความยินยอม หนึ่งก็ทราบที่ซื่อสัตย์จดทะเบียนรับรองบุตรตั้งแต่
ด.ญ.เบอรี่เกิด เวลาผ่านไป 1 ปี หนึ่งรู้สึกผิดและอยากจดทะเบียนรับรอง ด.ญ.เบอรี่เป็นบุตร แต่ต้องฟ้องร้อง
ให้ซื่อสัตย์เพิกถอนการจดทะเบียนรับรองบุตร หนึ่งฟ้องร้องต่อศาลให้เพิกถอนการรับรองบุตรของนายซื่อสัตย์
ได้หรือไม่ อย่างไร
3.นางบุญน้อยจดทะเบียนสมรสกับนายน้าข้าว มีบุตรร่วมกันคือ ด.ญ.น้าตาล ทุกคนอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว
กับมารดาของนางบุญน้อย บิดานางบุญน้อยตายนานแล้ว นางบุญน้อยได้ทาพินัยกรรมโดยพิมพ์ผ่านเครื่อง
คอมพิวเตอร์ด้วยมือตนเอง ลงวันเดือนปีที่ทา และลงลายมือชื่อตนเองในหนังสือพินัยกรรม ซึ่งไม่มีพยานลง
ลายมือชื่อไว้ พินัยกรรมระบุให้รถกระบะแก่นายน้าข้าว และเงินสด 400,000 บาท ให้ ด.ญ.น้าตาลและมารดา
นางบุญน้อยคนละครึ่ง ต่อมานางบุญน้อยถูกนายน้าร้อนกระทาโดยประมาทจนเสียชีวิต มรดกของนางบุญน้อย
มีรถกระบะ 1 คันและเงิดสดในธนาคาร 600,000 บาท มรดกทั้งหมดของนางบุญน้อยตกแก่ใคร อย่างไร
Walk in 30/11/62 (โจทย์คร่าว ๆ มาก)

1.นาย ก หมั้นกับนางสาว ข ส่งมอบแหวนเพชร 1 สร้อยคอทองคา 10 บาท และมอบเงิน 200,000 บาทให้
แม่นางสาว ข เป็นค่าเลี้ยงดูบุตรสาวที่ผ่านมา ต่อมานาย ก และนางสาว ข ไปเที่ยว รถชนต้นไม้ นาย ก เป็น
อัมพาธ มิอาจมีบุตรได้ นางสาว ข ได้ยินคาวินิจฉัยของแพทย์ จึงบอกเลิกหมั้น นาย ก ช้าใจมาก จึงฟ้องขอคืน
แหวนเพชร ทองคา และเงิน 200,000 บาท นาย ก สามารถทาได้หรือไม่
2.นายเอเป็นหมัน แต่งงานกับนางบี จดทะเบียนสมรส นางบีไปนอนกับนายซี มีบุตรชื่อ ด.ญ.1 ต่อมาได้อย่า
ขาด ผ่านมาสามเดือนแต่งงานกับนายซี มีบุตรชื่อ ด.ช.2 ให้วิเคราะห์ว่า ด.ญ.1 และ ด.ช.2 เป็นบุตรโดยชอบ
ด้วยกฎหมายของใคร
3.นาง 1 อยู่กินกับนาย 2 ฝ่ายชายหายไป ระหว่างนั้นนาง 1 ได้รับ น.ส.เอม เป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาได้สมรส
กับนายเจริญชัย ได้ทาพินัยกรรมที่พิมพ์มาส่วนหนึ่งแล้วเขียนเพิ่มลงไปว่า “มอบเงินสดให้นาย 2 จานวน
500,000 บาท” พร้อมลงวันที่และรายมือชื่อ แล้วเอาไปให้เพื่อสนิท นางกุ๊กและนางกิ๊ก ลงนามเป็นพยาน
ต่อมานาง 1 ตาย มีมรดกเป็นเงินสด 600,000 บาท ใครจะได้รับมรดกของนาง 1 บ้าง
30 - 73
Walk in 30-11-62-บ่าย/ 8-12-62-เช้า
1.นางสาวโฉมฉายอยู่กินกับนายโชคชัย ต่อมานายโชคชัยหนีไปอยู่กับหญิงอื่น นางสาวโฉมฉายได้จดทะเบียน
รับรองนายวรเทพเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมานางสาวโฉมฉายได้จดทะเบียนสมรสกับนาย a และมีลูกสาวชื่อ x
นางสาวโฉมฉายได้ทาพินัยกรรมที่มีการพิมพ์และเขียนด้วยลายมือตัวเอง ยกเงินสดให้นายโชคชัย 500,000
บาท และได้ลงลายมือชื่อ และได้นาไปให้นางส้มและนางนกเซนต์รับรองพยาน ต่อมานางสาวโฉมฉายตาย มี
มรดกจานวน 600,000 บาท ใครคือผู้มีสิทธิได้รับมรดกนางสาวโฉมฉาย
2.นางสาวมะเหมี่ยวจดทะเบียนสมรสกับนายมะเขือ นายมะเขือเป็นหมันแต่ไม่มีใครทราบ นางมะเหมี่ยว
ลักลอบได้เสียกับนายมะม่วงจนตั้งครรภ์และคลอดบุตรคือ เด็กชายมะตูม ต่อมานางสาวมะเหมี่ยวได้ทาการ
อย่ากับนายมะเขือ หลังจากหย่ากับนายมะเขือได้ 3 เดือนก็ไปจดทะเบียนสมรสกับนายมะม่วง ซึ่งขณะที่จด
ทะเบียนสมรสนางสาวมะเหมี่ยวได้ตั้งครรภ์แต่นายมะม่วงไม่ทราบ และต่อมาได้คลอดลูกคือเด็กหญิงมะไฟ จง
วินิจฉัยว่า ใครคือบิดาตามกฎหมายของเด็กชายมะตูมและเด็กหญิงมะไฟ
3.นายโชคและนางสาวดี รักกันและได้ตกลงกันว่าจะแต่งงานกันภายใน 1 ปี นายโชคได้ทาการหมั้นนางสาวดี
ไว้โดยให้แหวนเพชร 1 วง และสร้อยคอทองคาหนัก 10 บาท แก่นางสาวดี และได้มอบเงินสดจานวน
200,000 บาทแก่แม่ของนางสาวดี เพื่อเป็นการตอบแทนที่เลี้ยงดูนางสาวดีเป็นอย่างดี นายโชคและนางสาวดี
ได้ขับรถเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ ขณะนั้นนายโชคหลับในทาให้รถพุ่งชนต้นไม้ อันเป็นเหตุให้นายโชคได้รับ
บาดเจ็บอย่างหนัก ส่วนนางสาวดีบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ได้วินิจฉัยว่านายโชคเป็นอัมพาตตลอดชีวิต และไม่
สามรถมีบุตรได้ ซึ่งนางสาวดีได้ยินจึงบอกเลิกสัญญาหมั้นกับนายโชค นายโชคโกรธและจะทาการฟ้องเรียกคืน
แหวนเพชร 1 วง สร้องคอทองคาหนัก 10 บาท และเงินสด 200,000 บาท ที่ให้กับแม่นางสาวดีไว้ จงวินิจฉัย
ว่านายโชคสามารถที่จะฟ้องเรียกคืนได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
Walk in 1-12-62-เช้า/ 8-12-62-บ่าย

1.นายดาชอบนางสาวแดง เลยให้แหวนทองคาและเงิดสด 1 ล้านบาท โดยตกลงว่าจะสมรสด้วย และนายดาได้
ใช้จ่ายเพื่อเตรียมการสมรสไปตามสมควรเป็นเงิน 100,000 บาท ต่อมานางสาวแดงทราบว่าบิดาของนายดา
เป็นผู้ค้ายาเสพติด ด้วยความกลัวว่าตนเองจะเกิดอันตรายถ้าสมรสด้วย จึงบอกเลิกสัญญาหมั้น และรีบไป
สมรสกับนายเอคนรักเก่าของตน นายดารู้ดังนี้ก็โกรธมาก จึงเรียกค่าทดแทนจากนางสาวแดงและเรียกของ
หมั้นคืน ถามว่า นางสางแดงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาหมั้นครั้งนี้หรือไม่ และนายดามีสิทธิเรียกค่าทดแทนและของ
หมั้นคืนจากนางสาวแดงหรือไม่
2.นายตูนสมรสกับนางสร้อยมาเป็นเวลา 1 ปี ต่อมานายตูนเกิดไปหลงรักนางสาวจุน จึงขออย่ากับนางสร้อย
แล้วไปสมรสกับนางสาวจุน โดยขณะนั้นนางสร้อยตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ด้วยความน้อยเนื้อต่าใจที่นายตูนขออย่า
กับตน นางสร้อยจึงไม่บอกเรื่องนี้กับนายตูน หลังจากนั้น 6 เดือนนางสร้อยคลอดเด็กชายสมใจ เมื่อคลอด
เด็กชายสมใจแล้ว นางสร้อยก็เรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กชายสมใจจากนายตูน ดังนี้ เมื่อนางสร้อยมา
ปรึกษานักศึกษา นักศึกษาจะให้ยกหลักกฎหมายใดเพื่อให้คาแนะนาแก่นางสร้อย
31 - 73
3.นางเออยู่กินร่วมกันกับนายเต่า เกิดบุตรด้วยกันคือนายกระต่าย ต่อมานางเอสมรสกับนายชัย มีบุตรคือ
เด็กหญิงมะปราง วันหนึ่งนางเอทาพินัยกรรมฉบับหนึ่ง โดยเขียนข้อความลงในช่องว่างด้วยมือตนเองว่า ยกเงิน
สดจานวน 700,000 บาทให้นายกระต่าย นางเอลงลายมือชื่อตนเอง แล้วนาไปให้นางส้มเพื่อนสนิทลงลายมือ
ชื่อเป็นพยาน ต่อมาเมื่อนางเอถึงแก่ความตาย นางเอมีทรัพย์มรดกเป็นเงินสดจานวน 1 ล้านบาท ทรัพย์มรดก
ของนางเอจะตกแก่ผู้ใด เพราะเหตุใด
1.นายดาและนางสาวม่วงชอบคอกันเลยคบหาดูใจกัน โดยอยู่กินบ้านนางสาวม่วง นางสาวม่วงขอให้นายดาจด
ทะเบียนสมรสกันเพราะอายชาวบ้าน แต่นายดาอ้างว่าไม่มีเงิน นางสาวม่วงเลยมอบแหวนทอง 1 วง เงินสด
100,000 บาท เป็นของหมั้นและสัญญาว่าจะแต่งงานด้วย ต่อมานางสาวม่วงไปทางานต่างประเทศ นายดาไป
จดทะเบียนสมรสกับนางสาวเขียว นางสาวม่วงทราบข่าวเลยโกรธแค้นจะเรียกค่าทดแทนความเสียหายแก่กาย
และชื่อเสียงที่อยู่กินด้วยกัน และเรียกคืนของหมั้นด้วย นางสาวม่วงจะเรียกค่าทดแทนความเสียหายแก่
ร่างกายและชื่อเสียงของตนได้หรือไม่ และจะขอให้คืนของหมั้นได้หรือไม่
2.นางสาวน้าหวานจดทะเบียนสมรสกับนายใจ มีบุตรด้วยกันชื่อเด็กหญิงน้าตาล อีก 2 เดือนต่อมาจดทะเบียน
หย่า หลังจากนั้นนางสาวน้าหวานได้พบกับเพื่อนสมัยมัธยมชื่อนายไก่และได้จดทะเบียนสมรสกัน นายไก่จด
ทะเบียนสมรสโดยไม่รู้ว่านางสาวน้าหวานตั้งครรภ์อยู่ 7 เดือน ต่อมานางสาวน้าหวานคลอดบุตรชื่อนายเป็ด
นายไก่เห็นหน้าตานายเป็ดหน้าตาไม่เหมือนตนและจะฟ้องขอปฎิเสธรับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย วงวินิจฉัยว่า
เด็กหญิงน้าตาลเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของใคร นายเป็ดเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของใคร และนายไก่
จะทาตามความประสงค์ของตนได้หรือไม่
3.นายชัยมีบุตรกับภรรยา 2 คน คือนายฟ้ากับนายเขียว หลังจากที่ภรรยาตาย ก็ได้พานางน้ามาอยู่กินฉันสามี
ภรรยา และมีบุตรด้วยกัน 1 คนคือนายเหลือง โดยทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน นายชัยได้ให้นางน้าเขียน
พินัยกรรม ลงวัน เดือน ปี ขณะทาพินัยกรรม และนายชัยลงลายมือชื่อ หลังจากนั้นนายชัยได้นาพินัย กรรมให้
เพื่อนสนิทของนายชัยคือนายหนึ่งและนายสองลงลายมื่อชื่อเป็นพยานพร้อมกัน โดยในพินัยกรรมระบุให้ทรัพย์
มรดกของตนตกแก่นางน้าและนายเหลืองแบ่งส่วนเท่า ๆ กัน ก่อนนายชัยเสียชีวิตมีทรัพย์มรดกทั้งหมด
400,000 บาท จงวินิจฉัยการแบ่งทรัพย์มรดกของนายชัย
32 - 73
1.นายแดงมอบแหวนเพชรเพื่อที่จะสมรสกับนางสาวม่วง หลังการหมั้นก็อยู่กินกันตลอดมา นายแดงประสบ
อุบัติเหตุทาให้พิการและไม่สามารถร่วมประเวณีได้ตลอดกาล นางสาวม่วงยังยืนยันที่จะได้สมรสกับนายแดง
โดยมิได้นามาเป็นปัญหา นายแดงได้ไปซื้อเครื่องครัวและชุดนอนเพื่อเตรียมการสมรสตามสมควรจานวน
50,000 บาท ต่อมานางสาวม่วงได้พบกับนายดาซึ่งเป็นคนรักเก่าและได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว จงวินิจฉัยว่า
นายแดงสามารถเรียกของหมั้นและเงิน 50,000 บาทคืนจากนางสาวม่วงได้หรือไม่
2.นายดรุณมีบุตรตามกฎหมายคือนายตุ่นและนายต่าย แต่นางมะลิคู่สมรสได้หนีไปที่อื่น ต่อมานายดรุณได้นา
นางส้มมาอยู่กินฉันสามีภรรยาและมีบุตรด้วยกันคือ ด.ญ.มะปราง นายดรุรได้เขียนพินัยกรรมเอง และลงวัน
เดือน ปี พร้อมลงลายมือชื่อด้วยตนเอง และให้นายสนิทเพื่อนสนิทเป็นพยานรับรองให้ โดยให้นางส้มและ
ด.ญ.มะปรางคนละ 1 ล้านบาท ต่อมานายดรุณถึงแก่ความตาย มรดกของนายดรุณมีทั้งหมด 4 ล้านบาท จง
วินิจฉัยว่าใครจะได้รับมรดกของนายดรุณไปบ้าง และได้เท่าไร
3.นายสมชายอยู่กินฉันสามีภรรยานางสาวเอ โดยอยู่กันมา 5 ปียังไม่มีบุตรด้วยกัน นายสมชายจึงได้ไปจด
ทะเบียนรับ ด.ญ.น้าฝน อายุ 8 ปี มาเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมานายสมชายและนางสาวเอได้มีบุตรด้วยกันคือ
ด.ญ.น้าทิพย์ เมื่อน้าฝนโตเป็นสาวได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยและมีหน้าสวย ทาให้นายสมชายหลงรักและหึงหวง
เมื่อน้าฝนอายุได้ 20 ปี จึงได้จดทะเบียนสมรสกับนาวสาวน้าฝน จงวินิจฉัยว่าน้าฝนเป็นบุตรบุญธรรมของใคร
และสถานะบุตรบุญธรรมของน้าฝนเป็นอย่างไร
1.นายแดงรักกับนางโฉมจึงขอหมั้นด้วยการส่งมอบแหวนเพชร 1 วงให้กับนางสาวโฉม และนายแดงต้องการให้
เงิน 300,000 บาทกับนางสาวโฉมด้วยแต่ไม่มีเงินสด จึงทาสัญญากู้กับนางสาวโฉมและได้ลงชื่อผู้กู้และส่งมอบ
สัญญากู้ให้แก่นางสาวโฉม หลังจากการหมั้นนางสาวโฉมได้มัดจาค่าโรงแรม และค่าบัตรเชิญแขก เป็นเงิน
100,000 บาท ในระหว่างเตรียมการสมรส นางสาวโฉมก็มีเพื่อนชายเป็นจานวนมากและชอบไปเที่ยวกับเพื่อน
ชายบ่อย ๆ จนทาให้ชาวบ้านนินทา โดยพูดนินทาลับหลังว่านายแดงนั้นโง่ ถูกนางสาวโฉมสวมเขาอยู่ ทาให้
นายแดงอับอายและเสียศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก ต่อมานางสาวโฉมก็ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนชายอีกและเกิด
อุบัติเหตุ นายแดงรู้เข้าจึงโกรธและขอถอนหมั้นนางสาวโฉมและประกาศต่อญาติว่านางสาวโฉมเป็นผู้หญิงสา
ส่อน และนายแดงจะเรียกคืนแหวนเพชร นายแดงจะเรียกคืนแหวนเพชรได้หรือไม่ และนางสาวโฉมจะ
เรียกร้องเงินจากสัญญาเงินกู้ และเรียกร้องค่ามัดจาโรงแรมและค่าบัตรเชิญแขกได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นางสาวดีอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายมั่น โดยมิได้สมรสกัน มีบุตรด้วยกัน 1 คนคือ ด.ญ.เพลิดเพลิน โดยนาย
มั่นได้ไปแจ้งเกิดและให้ใช้นามสกุลของตน ต่อมานางสาวดีกับนายมั่นได้แยกกันอยู่ และให้ ด.ญ.เพลิดเพลินอยู่
กับยาย เนื่องจากนางสาวดีต้องไปทางานต่างจังหวัด นายมั่นเห็นว่ายายดูแล ด.ญ.เพลิดเพลินไม่ถูกหลักอนามัย
และยายนั้นก็ชราแล้ว จึงขอนา ด.ญ.เพลิดเพลินไปอยู่กับตน และเห็นว่าฐานะทางเศรษฐกิจดี แต่นางสาวดีไม่
ยินยอม นายมั่นจะมีสิทธิพา ด.ญ.เพลิดเพลินไปอยู่กับตนได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
33 - 73
3.นางช่อจดทะเบียนสมรสกับนายไก่ มีบุตรด้วยกัน 1 คนคือนายพงษ์ ต่อมาได้อย่ากัน และได้ยู่กินฉันสามี
ภรรยากับนายไข่ มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือนายหล่อ นางช่อได้พานางบีซึ่งเป็นป้าไปพบนายอาเภอ และแจ้ง
ข้อความตามความประสงค์ให้นายอาเภอจดลงในพินัยกรรม และนางช่อและนางบีได้ลงลายมือชื่อในขณะนั้น
นายอาเภอได้ลงวัน เดือน ปี ลงลายมือชื่อ และประทับตรา ในพินัยกรรมระบุว่า ให้เงินสดจานวน 2 ล้านบาท
แก่นายหล่อ ต่อมานางช่อตาย ทรัพย์มรดกของนางช่อมี 10 ล้านบาท จงแบ่งมรดกของนางช่อ
ซ่อม 1/62
1.นายอุ่นมอบสุนัขตัวหนึ่งเป็นของหมั้นให้กับนางสาวเบล โดยสัญญาว่าอีก 6 เดือนจะแต่งงานกัน ต่อมา 3
เดือน นายอุ่นได้ทะเลาะกับมารดาของนางสาวเบล และได้พูดจาเหยียดหยามมารดาของนางสาวเบล ทาให้
นางสาวเบลไม่พอใจและบอกเลิกสัญญาหมั้นไป โดยต่อมานางสาวเบลได้สมรสกับนายบัวทองนักเรียนนอก
นายอุ่นเห็นว่าการที่ตนพูดจาเหยียดหยามมารดาของนางสาวเบลไม่เป็นเหตุที่จะทาให้นางสาวเบลบอกเลิก
สัญญาหมั้นได้ นายอุ่นจึงได้ทวงถามเอาสุนัขคืน และเรียกค่าทดแทนที่นางสาวเบลผิดสัญญาหมั้น ให้วินิจฉัยว่า
นายอุ่นสามารถเรียกสุนัขคืนได้หรือไม่ และเรียกค่าทดแทนที่นางสาวเบลผิดสัญญาหมั้นได้หรือไม่ เพราะเหตุ
ใด
2.นางลิ้นจี่ได้สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายกับนายหมาย ต่อมานางลิ้นจี่ได้รักใคร่ชอบคอกับนายชัย และ
ประสงค์จะอย่ากับนายหมาย แต่นายหมายไม่ยอมอย่าให้ ต่อมานางลิ้นจี่จึงได้ไปอยู่กินฉันสามีภรรยากับนาย
ชัย เวลาล่วงเลยไป 6 เดือน นางลิ้นจี่ได้คลอดบุตรชาย ชื่อว่า ด.ช.บุญมา โดยมีนายชัยเป็นผู้ลงชื่อในสูติบัตรรับ
ว่าเป็นบุตร ต่อมาอีก 1 ปี นายหมายได้จดทะเบียนหย่ากับนางลิ้นจี่ แต่นางลิ้นจี่รู้ว่า ด.ช.บุญมา เป็นบุตรของ
นายหมาย อละอยากให้นายหมายรับ ด.ช.บุญมาเป็นบัตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้วินิจฉัยว่า นางลิ้นจี่จะฟ้อง
คดีบังคับให้นายหมายรับ ด.ช.บุญมาเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายได้หรือไม่
3.นางเต็มได้จดทะเบียนสมรสกับนายน้าใจ โดยมีบุตรด้วยกัน 1 คนคือ ด.ช.น้าเงิน โดยทั้งหมดอาศัยอยู่บ้าน
มารดาของนายน้าใจ ซึ่งบิดาของนายน้าใจได้เสียชีวิตไปแล้ว นายน้าใจได้ทาพินัยกรรมโดยพิมพ์ผ่าน
คอมพิวเตอร์ และได้ลงลายมือชื่อไว้ พร้อมทั้งลายมือชื่อพยานอีก 2 คน โดยระบุว่า รถบรรทุกยกให้นางเต็ม
ส่วนเงินสด 600,000 บาท ให้มารดาและ ด.ช.น้าเงินคนละครึ่ง ต่อมานายน้าร้อนได้กระทาละเมิดประมาท
เลินเล่อทาให้นายน้าใจถึงแก่ความตาย โดยนายน้าใจมีทรัพย์สินทั้งหมดคือ รถบรรทุก 1 คันและเงินสดใน
ธนาคาร 1,200,000 บาท ให้ท่านวินิจฉัยว่า ทรัพย์สินของนายน้าใจตกทอดแก่ใครบ้าง และแต่ละคนได้คนละ
เท่าไร
34 - 73
ซ่อม 2/62
1.นาย A เป็นเพื่อนกันกับนาย B ตกลงกันว่าจะให้นาย ปิยะ บุตรนาย A หมั้นกับ นางสาวปารี บุตรสาวนาย B
ซึ่งทั้งสองไม่ได้รักใคร่ชอบพอกัน วันหมั้น นาย A ส่งมอบ แหวนเพชร 1 วง ทองคา 5 บาท เงินสด 500000
บาท ให้แก่นางสาวปารี เพื่อเป็นของหมั้น ต่อมา นางสาวปารีสืบทราบมาว่า นายปิยะ เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้
สาวกับภรรยาผู้อื่นหลายครั้ง จึงเกิดความเสียใจ และได้ติดต่อคบหามีความสัมพันธ์หลับนอนกับนาย C เพื่อนที่
ได้มางานหมั้นของสองคน จงวินิจฉัย นางสาวปารี สามารถจะยกเลิกการหมั้นและฟ้องเรียกค่าทดแทนจากนาย
ปิยะ ได้หรือไม่
2.นางสาว A สมรสกับ นาย B ...โดยที่นาย B เป็นหมันไม่สามารถมีบุตรได้ ต่อมา นาง A ได้มีร่วมหลับนอนกับ
นาย C จนตั้งท้อง นาง A ได้สารภาพกับนาย B ว่าท้องกับนาย C แต่นาย A ไม่ว่าอะไรเพราะตัวเองก็อยากมี
บุตรอยู่แล้ว จนเมื่อคลอดบุตรสาวลิ้นจี่ ออกมา... 25 ปีต่อมา นางสาวลิ้นจี่ ทราบว่านาย B ไม่ได้เป็นบิดาที่
แท้จริงของตน จึงต้องการจะปฏิเสธความเป็นบุตร จงวินิจฉัย กรณีแรก นางสาวลิ้นจี่ สามารถปฏิเสธความเป็น
บุตรได้หรือไม่ ใช้ระยะเวลาเท่าใด กรณีที่สอง ถ้าหากนาย B จะปฏิเสธความเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย
สามารถทาได้หรือไม่อย่างไร
3.นาย กอ สมรสกับนางดวงใจ มีบุตร สองคน คือนาย ขอ และนางสาว คอ ได้ทาพินัยกรรมโดยนางดวงใจเป็น
ผู้เขียน ในพินัยกรรมลงวันเดือนปี ลงชื่อนาย กอ ผู้ทาพินัยกรรมและลงลายมือชื่อนางดวงใจและนาย งอ เป็น
พยาน ความว่า ยกเงินจานวน 4,000,000 บาท ให้กับบุตรทั้งสองคนๆละเท่าๆกัน...ต่อมานาย กอเสียชีวิตลง
ปรากฎว่า นายกอ มีมรดกเป็นเงินสด 10,000,000 บาท บุตรทั้งสองคนของนาย กอ แจ้งว่า นางดวงใจ ไม่มี
สิทธิได้รับมรดก เพราะเหตุถูกตัดมิให้รับมรดกโดยพินัยกรรมแล้ว จงวินิจฉัยว่า คาอ้างขอบุตรทั้งสองฟังได้
หรือไม่ และถ้า นางดวงใจ จะต้องได้รับมรดก จะได้รับเป็นจานวนเท่าไหร่
1.นายทศพรและนายดนัย รักและหมายปองนางสาวพรเพ็ญ อยากได้มาเป็นภรรยาด้วยกันทั้งคู่ นายทศพรได้
นาแหวนเพชรไปให้นางสาวพรเพ็ญและทั้งคู่ตกลงกันว่าจะสมรสกัน หลังจากนั้นนายดนัยนาทองคาแท่งไป
หมั้นหมายให้แก่นางสาวพรเพ็ญอีกเช่นกัน และนางสาวพรเพ็ญก็ตกลงว่าจะสมรสกับนายดนัยด้วย ระหว่างที่
นางสาวพรเพ็ญตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกชายคนใดเป็นสามีนั้น นางสาวพรเพ็ญมาทราบข้อเท็จจริงว่านายทศ
พรอยู่กินฉันสามีภรรยากับนางปรางค์แก้วแล้ว แต่นางสาวพรเพ็ญก็ได้ตัดสินใจไปจดทะเบียนสมรสกับนายทศ
พร เมื่อนายดนัยทราบเรื่องการสมรสระหว่างนางสาวพรเพ็ญกับนายทศพรแล้ว รู้สึกผิดหวังและเสียใอย่างมาก
จึงเรียกทองคาแท่งที่เคยให้นางสาวพรเพ็ญและเรียกค่าทดแทนอันเนื่องมาจากความผิดหวังและเสียใจเป็นเงิน
อีกจานวนหนึ่ง ให้วินิจฉัยว่า นางสาวพรเพ็ญต้องคืนทองคาแท่งที่เคยรับไว้ และต้องใช้ค่าทดแทนให้แก่นาย
ดนัยตามที่เรียกร้องหรือไม่ เพราะเหตุใด
35 - 73
เทอม 1/63
1.แคล้วคลาดหมั้นกับดวงเด่น เพื่อจะสมรสในอีก 6 เดือน ให้แหวนเพชร 1 วง และสร้อยคอทองคาหนัก 10
บาท เป็นค่าตอบแทนที่ฝ่ายหญิงจะสมรส และให้เงิน 200,000 บาท กับมารดาเพื่อตอบแทนการเลี้ยงดู
นางสาวดวงเด่นมาเป็นอย่างดี ต่อมานางสาวดวงเด่นไปทางานที่ประเทศจีน 2 ปี ไม่ได้ติดต่อกลับมา นาย
แคล้วคลาดจะฟ้องเอาแหวนเพชร สร้อยคอทองคาหนัก 10 บาท และเงิน 200,000 บาท ที่มอบให้มารดา ได้
หรือไม่ ทั้งจะฟ้องให้หญิงสมรสกับตนได้หรือไม่
2.นายแสนดีอยู่กินฉันสามีภรรยากับนางสาวแสนสวยอย่างเปิดเผยโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จนกระทั่ง
นางสาวแสนสวยคลอดบุตรชื่อเด็กหญิงแสนงาม ต่อมานายแสนดีเลิกรากับนางสาวแสนสวย แต่นายแสนดีก็ได้
ส่งเสียค่าอุปการะเลี้ยงดูและพบปะดูแลเด็กหญิงแสนงามตลอดมา หลังจากนั้น 10 ปี นายแสนดีประสงค์จะ
เป็นบิดาที่ถูกต้องตามกฎหมายของบุตรสาว จึงขอจดทะเบียนรับรองบุตร แต่นางสาวแสนสวยไม่ยินยอม แต่
เด็กเด็กหญิงแสนงามยินยอมเพราะรักและเคารพนายแสนดี อยากให้นายแสนดีมาเป็นบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ของตน ดังนี้ ให้ท่านแนะนานายแสนดีว่าจะต้องดาเนินการตามกฎหมายอย่างไร เพื่อให้นายแสนดีเป็นบิดาที่
ชอบด้วยกฎหมายของเด็กหญิงแสนงาม
3.นางพรเลิศเป็นหญิงหม้ายมีลูกติดคือเด็กชายแก้ว ต่อมาได้จดทะเบียนรับนางสาวทิพย์เป็นบุตรบุญธรรม หฃั
จากที่ได้จะทะเบียนสมรสกับนายอนันต์แล้ว นางพรเลิศได้ล้มป่วยอาการหนัก จึงเขียนพินัยกรรมลงวันเดือนปี
ต่อหน้านายอนันต์ ยกทรัพย์มรดกของตนทั้งหมดให้เด็กชายแก้วและนายอนันต์เป็นผู้รับพินัยกรรมคนละส่วน
เท่า ๆ กัน แล้วนางพรเลิศลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนเองในพินัยกรรมนั้น หลังจากนางพรเลิศถึงแก่กรรม มี
มรดกทั้งสิ้นเป็นเงินสด 6,000,000 บาท นางสาวทิพย์มาโต้แย้งว่าตนมีสิทธิได้รับมรดกของนางพรเลิศด้วยใน
ฐานะบุตรบุญธรรม แต่นายอนันต์ไม่เห็นด้วยเพราะพินัยกรรมไม่มีชื่อของนางสาวทิพย์เป็นผู้รับพินัยกรรม ให้
วินิจฉัยว่า
3.1ข้อโต้แย้งของนางสาวทิพย์ฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.2เด็กชายแก้ว และนายอนันต์มีสิทธิได้รับมรดกของนางพรเลิศคนละเท่าใด เพราะเหตุใด
Walk in 1/63
1.นาย ก ให้แหวนหมั้นนางสาว ข 1 วง และตกลงว่าจะสมรสกันต่อมานางสาวขอมาทราบภายหลังว่านายก็
เคยติดคุกคดีฆาตกรรมมาก่อนจึงเกิดความหวาดกลัวจึงบอกเลิกกับนาย ก และไปแต่งงานกับนาย ค นาย ก
จึงขอแหวนหมั้นคืนและเรียกให้นาย ค ชดใช้ค่าทดแทนได้หรือไม่
2.นายดนัยสมรสกับนางสาวดวงดี อยู่กันแล้วทะเลาะกันจึงแยกกันอยู่ นางสาวดวงดีจึงไปคบหาดูใจกับนายมั่ง
จนตั้งครรภ์ แล้วกลับมาคืนดีและอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายดนัย ต่อมานางสาวดวงดีจึงคอดบุตรชื่อเด็กหญิง
ดีใจ นายมั่งทราบเรื่องจึงมาขอเด็กหญิงดีใจไปเลี้ยง จงวินิจฉัยว่านายมั่งจะรับเด็กหญิงดีใจไปเลี้ยงได้หรือไม่
หากนายดนัยไม่ยินยอม
36 - 73
3.นางจอยแม่หม้าย มีลูกติดหนึ่งคนอายุ 22 ปีชื่อนางสาวน้อย อยู่กินกับนายโชคชัยจึงจึงเขียนพินัยกรรมด้วย
ลายมือตนเองทั้งฉบับ ลงวันเดือนปีพร้อมลงลายมือชื่อและให้นางสาวน้อยเป็นพยาน ยกทรัพย์สินทั้งหมด
ให้กับนายโชคชัย ต่อมานายโชคชัย ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต และต่อมานางจอยก็เสียชีวิต สอบถามว่า
มรดกหนึ่งล้านบาทตกแก่ใคร
Walk in 5-12-63
1.นางสาวม่วงอายุ 15 ปี บุตรสาวของนางขาว ได้หมั้นกับนายเหลือง โดยนายเหลืองได้มอบเงิน 500,000
บาทให้นางขาวเป็นค่าสินสอด และได้มอบบ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง รถยนต์ 1 คัน และเงินสด 1,000,000 บาท
เป็นของหมั้น โดยนายเหลืองให้เงินไว้ 600,000 บาท แก่นางสาวม่วงและได้บอกว่าเงินส่วนที่เหลือจะให้อีก
ครั้งในภายหลัง หลังจากนั้น นายเหลืองและนางม่วงได้อยู่กินกันโดยยังไม่ได้สมรส ต่อมา นายเหลืองเริ่มเบื่อ
นางสาวม่วง จึงลักลอบไปมีสัมพันธ์และได้เสียกันกับนางเขียว ต่อมานางสาวม่วงรู้ จึงขับรถตามนายเหลืองไป
และพบว่านายเหลืองมีสัมพันธ์กับนางเขียวจริง นายเหลืองจึงรีบขับรถหนีนางสาวม่วงด้วยความเร็ว เพราะกลัว
นางสาวม่วงจะจับได้ จนเกิดอุบัติเหตุ ทาให้นายเหลืองเสียชีวิต ต่อมานางสาวม่วงไปทวงเงินค่าของหมั้น
400,000 บาทที่เหลือ จากนายแดงผู้เป็นบิดาของนายเหลือง จงวินิจฉัยว่านางสาวม่วงมีสิทธิรับเงิน 400,000
บาทหรือไม่
2.นางสาวแสนดีกับนายสุขสันต์อยู่กินกันฉันสามีภรรยา โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส จนกระทั่งนางสาวแสนดี
ตั้งครรภ์ ต่อมานางสาวแสนดีได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงทาให้เลิกรากับนายสุขสันต์และแยกกันอยู่ จากนั้น
ไม่นานนางสาวแสนดีได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับนายมีนา และได้คลอดบุตรชื่อเด็กหญิงอิ่มเอม ซึ่ง
นายมีนาก็เข้าใจว่าเป็นบุตรของตนเอง จนกระทั่งนายสุขสันต์ทราบเรื่องการเกิดของเด็กหญิงอิ่มเอม จึงทาให้
นายสุขสันต์ทราบทันทีว่าเด็กหญิงอิ่มเอมเป็นบุตรของตนเป็นแน่แท้ ต่อมานายสุขสันต์จึงอ้างว่า เด็กหญิงอิ่ม
เอมเป็นบุตรผู้สืบสันดานในทางสืบสายโลหิตโดยแท้จริงของตน และต้องการนาเด็กหญิงอิ่มเอมไปอยู่ด้วย ให้
ท่านวินิจฉัยว่า นายสุขสันต์สามารถใช้ข้ออ้างดังกล่าวเพื่อนาเด็กหญิงอิ่มเอมไปอยู่ด้วย ได้หรือไม่
3.นางเอหญิงหม้ายมีลูกติด ได้อยู่กินกับนายโชคชัย และนายโชคชัยรักนางสาวบี ผู้เป็นลูกของนางสาวเอมาก
เสมือนบุตรแท้ ๆ ของตน ต่อมานางสาวบี ได้สมรสกับนายซี และจดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นนายโชคชัยได้
ทาพินัยกรรม โดยให้นายซีเป็นผู้เขียน นายโชคชัยให้เขียนพินัยกรรมว่า ขอยกมรดกทั้งหมดให้นางสาวบี โดย
ให้นายซีและนางเอ ลงลายมือชื่อเป็นพยานไว้ มรดกของนายโชคชัยที่มีคือ ที่นามีโฉนดจานวน 100 ไร่ ต่อมา
นายโชคชัยเสียชีวิต ให้ท่านวินิจฉัยว่า มรดกที่ดินมีโฉนด 100 ไร่ ของนายโชคชัย ใครเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกนี้
บ้าง
37 - 73
41321 กฎหมายพาณิชย์1: ซื้อขาย เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ
ซ่อม 2/61
1.แดงตกลงซื้อลูกวัว จากขาว 1 คู่ แดงชาระราคา และรับมอบวัวเรียบร้อย ต่อมาภรรยาของขาวรู้เข้า จึงบอก
ให้ขาวเลิกสัญญา ขาวจึงมาขอเลิกยกเลิกสัญญา โดยอ้างว่าการซื้อขายวัวด้วยวาจาเป็นโมฆะ ข้ออ้างของขาว
ฟังขึน้ หรือไม่
2.นายดีเช่าตึกแถวจากนางสวย เพื่อเปิดร้านอาหาร ทาสัญญาเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
เช่ากันเป็นระยะเวลา 30 ปี ต่อมาหกเดือน นายดีตาย นายเด่นบุตรชายซึ่งอาศัยอยู่กับนายดี ได้จ่ายค่าเช่า
ต่อมา หากนางสวยจะไม่ยอมรับค่าเช่า และไม่ต้องการทาสัญญาเช่ากับนายเด่น ทาได้หรือไม่
3.บริษัทบ้านดี รับเหมาก่อสร้างตึก 60 ชั้น ให้ บริษัทขายดี โดยมีกาหนดส่งมอบภายในเวลา 2 ปี ต่อมา
บริษัทบ้านดี ว่าจ้างให้ บริษัทไอรอน เป็นผู้ดูแลเรื่องสี ต่อมาบริษัทบ้านดีก่อสร้างตึกจนแล้วเสร็จ บริษัทไอรอน
จึงเขาไปทาสี ทาไปได้ 52 ชั้น จึงแจ้งแก่บริษัทบ้านดีว่ามีงานใหญ่ ไม่สามารถทาชั้นที่เหลือให้เสร็จได้ บริษัท
ขายดี จึงแจ้งให้บริษัทบ้านดีทาต่อให้เสร็จ บริษัทบ้านดีอ้างว่าตนไม่เกี่ยวของกับงานสีแล้วเพราะได้ว่าจ้าง
บริษัทไอรอนในการทาสี บริษัทขายดีต้องไปเรียกร้องกับกับบริษัทไอรอน ข้ออ้างนี้ฟังได้หรือไม่
เทอม 1/62
1.เอตกลงซื้อขายที่ดินด้วยวาจากับบี โดยบีชาระเงินค่าที่ดินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งจะชาระวันที่ไปจดทะเบียนที่ดิน
หลังจากนั้นบีก็ผลัดวันชาระเงินไปเรื่อยเป็นเวลา 3 ปี จนราคาที่ดินสูงขึ้น เอจึงจะฟ้องร้องเอาที่ดินคืน และคืน
เงินที่บีเคยจ่ายไว้ เพราะการซื้อขายที่ดินไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้ออ้างของเอฟังขึ้นหรือไม่
เพราะอะไร
2.นายเอ เจ้าของบ้าน ได้โอนสิทธิเก็บกินให้นายพัดเป็นผู้มีสิทธิเก็บกิน และนายพัดทาสัญญาเช่ากับนางกิม
เป็นเวลา 3 ปี โดยลงลายมือชื่อของ นายพัดและนางกิมไว้ในหนังสือ หลังจากนั้น 2 ปี นางกิมไม่มีเงินจ่ายค่า
เช่า โดยค้างค่าเช่าสองเดือน นายพัดเลยมาทวงถามค่าเช่า นางกิมบอกว่านายพัดไม่มีสิทธิ์ทวงถามเพราะไม่ใช่
เจ้าของบ้าน ข้ออ้างนางกิมฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.เนื่องจากน้าท่วม นายเอ จึงจ้างให้นายศักดิ์สร้างฝายกันน้า โดยนายเอจัดหาไม้ทาฝายมาให้ โดยนายศักดิ์ได้
ทักท้วงนายเอไป เนื่องจากไม้ทาฝายอยุ่ในสภาพที่ไม่ดี แต่นายเอยืนยันให้ทา ปรากฎว่าระหว่างที่ทาฝาย เกิด
พังขึ้นมา นายเอจึงเรียกร้องให้นายศักดิ์ชดใช้ค่าเสียหาย ข้ออ้างนายเอรับฟังได้ไหม เพราะอะไร
38 - 73
ซ่อม 1/62
1.นายเอกได้ตกลงซื้อขายโคลากรถ กับนายโท และได้ทาการส่งมอบและชาระราคากันเรียบร้อย แต่ไม่ได้
กล่าวถึงการจดทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ผ่านมาปีเศษ นายโทต้องการขายโค ดังกล่าวแก่นายตี แต่นายตรีต้องการ
ไปจดทะเบียน นายโทจึงไปขอให้นายเอกจดทะเบียนโคให้ตน แต่นายเอกอ้างว่าสัญญาที่ไม่ได้จดทะเบียนมีผล
เป็นโมฆะ ต้องการโคคืน และจะจ่ายเงินคืนให้แก่นายโท ข้ออ้างของนายเอกฟังขึ้นไหม
2.นายอาร์ทให้นายพอช เช่าบ้านที่นายอาร์ทมีกรรมสิทธิ์ ตกลงทาสัญญากัน 10 ปี มีนายพอชลงนามฝ่ายเดียว
แต่สัญญาไม่ได้ไปจดทะเบียน พอระยะเวลาผ่านไป6 เดือน นายพอชไม่มีเงินเพราะต้องไปรักษาแม่ และที่ผ่าน
มาจ่ายเงินค่าเช่าแก่นายอาร์ทได้เพียง 3 เดือน นายอาร์ทจึงทวงถามค่าเช่าจากนายพอช แต่นายพอชอ้างว่า
สัญญาเช่าดังกล่าวเป็นโมฆะ และฟ้องร้องไม่ได้ ข้ออ้างของนายพอชฟังขึ้นไหม
3.นายเดชว่าจ้าง นายคมให้สร้างเขื่อน มีกาหนดเวลา 4ปี ในระหว่าการก่อสร้างนายเดชต้องการลดต้นทุนโดย
ลดจานวนเหล็กเสริมคอนกรีตที่ใช้สร้างเขื่อน นายคมทราบดีว่าเขื่อนอาจมีความเสียหาย แต่กลัวว่านายเดชจะ
ไม่จ้างตนทางานต่อ จึงสร้างเขื่อนต่อโดยลดจานวนเหล็กตามที่นายเดชบอก หลังจากเขื่อนเสร็จเขื่อนได้รับ
ความเสียหายจริง นายเดชสามารถอ้างว่าเป็นความรับผิดชอบของนายคมและให้นายคมรับผิดชอบได้หรือไม่
ซ่อม 2/62
1.นายก ทาสัญญา จะซื้อจะขาย ที่ดิน ให้แก่นายข โดยได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายในสัญญาแล้ว พร้อมทั้งได้ส่งมอบ
ที่ดิน และชาระแก่กันเป็นที่เรียบร้อยต่อมาผ่านไป 6 ปีราคาที่ดินสูงขึ้นนายกจะขอคืนเงิน และขอที่ดินคืนโดย
อ้างว่าไม่ได้จดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ สัญญาซื้อขายใช้ไม่ได้ข้ออ้างของนายกฟังขึ้นหรือไม่
2.นายกเช่าบ้านจากนางค เป็นระยะเวลา 2 ปีโดยนายก อาศัยอยู่กับนางข ภรรยาวันหนึ่งด้วยความรีบร้อน
นางขลืมถอดปลั๊กเตารีดจนทาให้บ้านถูกไหม้ทั้งหลังนางค จึงมาปรึกษาท่าน ว่าจะเรียกร้องจากนายกได้หรือไม่
เนื่องจากนางขเป็นแค่แม่บ้านไม่มี งานทา
3.นายจันทร์จ้างนายอังคาร ผู้เชี่ยวชาญวาดภาพฝาผนัง ให้มาวาดภาพฝาผนังพิพิธภัณฑ์ หลังจากนั้น 2 เดือน
เมื่อนายอังคารวาดภาพไปได้ครึ่งนึงของฝาผนังนายอังคารเกิดอุบัติเหตุเสียแขนทั้งสองข้างจนไม่สามารถวาด
ภาพได้เมื่อนายอังคารมาเรียกร้องสินจ้างจากนายจันทร์นายจันทร์จะต้องจ่ายสินจ้างหรือไม่อย่างไร
39 - 73
เทอม 1/63
1.ส้มทาหนังสือสัญญาขายข้าวเปลือก 100 ถัง ให้แก่มะนาว โดยมีข้อตกลงว่าข้าวเปลือกนั้นยังเป็นของส้มอยู่
จนกว่ามะนาวจะชาระราคาครบถ้วนแล้ว ส้มได้ขนส่งข้าวเปลือกไปส่งให้มะนาวแล้วจานวน 80 ถัง ก็เกิดน้า
ท่วมใหญ่ ข้าวเปลือกในยุ้งข้าวเสียหายทั้งหมด ส้มเรียกให้มะนาวชาระราคาข้าวเปลือก 80 ถังนั้น มะนาวมีข้อ
ต่อสู้อย่างไร หรือไม่
2.นายเมฆเช่าตึกแถวห้องหนึ่งจากนางฝนเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยทาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ 3 ปีต่อมา นายเมฆโอนสิทธิการเช่าให้กับนายหมอกโดยไม่ได้รับความยินยอมจากนางฝนแต่อย่างใด
เมื่อนางฝนทราบเรื่องจึงต้องการบอกเลิกสัญญาเช่า แต่นายเมฆอ้างว่านางฝนไม่สามารถบอกเลิกสัญญาเช่า
ดังกล่าวได้ เพราะในสัญญาเช่าไม่ได้ระบุว่าห้ามโอนสิทธิการเช่าแต่อย่างใด ดังนี้ ข้ออ้างของนายเมฆรับฟังได้
3.นายจันทร์ทาสัญญาจ้างนายอังคารให้ก่อสร้างโบสถ์จานวน 1 หลัง ในราคา 1 ล้านบาท โดยตกลงให้นาย
อังคารเป็นผู้จัดหาปูนซีเมนต์ในการก่อสร้างโบสถ์ สัญยา 2 ปี ปรากฏว่าหลังจากก่อสร้างโบสถ์ได้ 6 เดือน เกิด
ฟ้าผ่าโบสถ์ที่กาลังก่อสร้าง ทาให้ไฟไหม้โบสถ์ได้รับความเสียหายทั้งหมด กรณีดังกล่าว นายจันทร์ต้องจ่าย
ค่าจ้างให้นายอังคาร หรือไม่ อย่างไร
40 - 73
41322 กฎหมายพาณิชย์2: ยืม ฝากทรัพย์ ตัวแทน ประกันภัย
ซ่อม 2/61
1.ดากู้เงินจากแดงเป็นเงิน 3,000 บาท โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ต่อมาแดงแอบแก้ไข โดยเพิ่มตัวเลขใน
สัญญาเงินกู้เป็น 13,000 บาท หลังถึงกาหนดชาระเงิน แดงเรียกให้ดาชาระเงินกู้เป็นจานวนเงิน 13,000 บาท
แต่ดาปฏิเสธอ้างว่าสัญญากู้เงินนั้นเป็นเอกสารปลอม ถามว่าแดงเรียกให้ชาระเงินกู้ตามสัญญาเงินกู้นั่นได้
หรือไม่ จานวนเท่าใด
2.ดามอบหมายแดงด้วยวาจาให้เป็นตัวแทนไปกู้เงินจากขาว 20,000 บาท แดงกู้เงินจากขาวมาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อดาเรียกให้แดงส่งเงิน แต่แดงปฏิเสธ โดยอ้างว่าดาแต่งตั้งตนเป็นตัวแทนนั้นไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
เนื่องจากในการกู้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย โดยตนจะชาระหนี้และดอกเบี้ย
ให้กับนายดาต่อไป ถามว่านายดาสามารถเรียกให้นายแดงส่งมอบเงินได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.ดาทาสัญญาประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิตบริษัทหนึ่ง เป็นจานวนเงิน 1,000,000 บาท โดยมีแดงเป็น
ผู้รับประโยชน์ ในระหว่างทาสัญญานั้น ดาสุขภาพแข็งแรงดี และตนเองก็ไม่มีประวัติเป็นโรคร้ายแรง บริษัทจึง
รับทาประกัน ต่อมา 2 เดือน ดาพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทาการรักษาแต่ก็เสียชีวิตในที่สุด แดงจึงเรียก
รับประโยชน์จากบริษัทประกัน แต่บริษัทปฏิเสธอ้างว่าสัญญาเป็นโมฆียะ เนื่องจากดาไม่แจ้งให้บริษัททราบว่า
ดาเป็นโรคมะเร็ง ถามว่าข้ออ้างของบริษัทฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
1.นายมานะทาสัญญากู้เงินนายอานวย 500000 บาท มีกาหนดชาระคืน 3ปีโดยทาสัญญาเงินกู้ถูกต้องตาม
กฎหมาย แต่ในวันทาสัญญา มีข้อสัญญา ระบุว่า “ ถ้าถึงกาหนดชาระ นายมานะ ไม่ชาระ เงินตามกาหนด ให้
นายมานะ โอนที่ดินที่ดินมีโฉนด แปลงใหญ่ ของนายมานะให้กับนาย อานวย” ดังนี้ เมื่อถึงกาหนดชาระนาย
มานะ ไม่ชาระหนี้ตามกาหนด นายอานวยจึงบอกให้นาย มานะโอนที่กินให้แก่ตน ตามข้อตกลง แต่นายมานะ
ไม่ยอมโอนที่ดินให้โดยอ้างว่า ราคาที่ดินสูงกว่า จานวนหนี้เงินกู้มาก ดังนี้ นายอานวยจะมีสิทธิ ฟ้องให้นาย
มานะโอนที่ดินให้ตนได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
41 - 73
เทอม 1/62
1.นายจักรกู้ยืมเงินนายเหลนจานวน 500,000 บาท ตกลงจะโอนที่ดินแทนการชาระหนี้ ซึ่งคิดคานวณราคา
ตามการประเมินของกรมที่ดินเพราะคิดว่าคงไม่ต่างจากราคาตลาด กรากฎว่าราคาตามท้องตลาดสูงกว่าราคา
ประเมินของกรมที่ดิน 200,000 บาท ถามว่า ที่ดินสามารถโอนแทนการชาระหนี้เงินกู้ให้นายเหลนได้หรือไม่
และหากไม่ได้ นายจักรต้องชาระหนี้เงินกู้หรือไม่
2.นายชาเย็นมอบหมายให้นายสาหร่ายไปเช่าซื้อรถยนต์จากนายเจริญในราคา 200,000 บาท นายสาหร่ายได้

รถมาแล้วก็ใช้เหมือนเป็นของตนเอง นายชาเย็นทวงถามก็ผัดผ่อนมาเรื่อย จนที่สุดก็ปฏิเสธไม่มอบรถยนต์ให้
นายชาเย็น โดยอ้างว่าการเช่าซื้อรถยนต์ต้องทาเป็นหนังสือ แต่นายชาเย็นไม่ได้ตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ นาย
สาหร่ายจึงไม่มีหน้าที่ต้องส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าวให้นายชาเย็น และยินดีจะคืนเงินให้ ข้ออ้างของนาย
สาหร่ายฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายปลื้มโอนขายรถยนต์ของตนให้บุคคลอื่น แต่ยังไม่ได้รับชาระราคา นายปลื้มทาประกันวินาศภัยรถยนต์
คันดังกล่าวกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ภายหลังรถยนต์คันดังกล่าวถูกชนเสียหายโดยละเมิด บริษัทประกัน
ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้นายปลื้มตามสัญญาประกันภัย บริษัทประกันภัยจะรับช่วงสิทธินายปลื้ม ฟ้องบุคคล
ผู้ทาละเมิดได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ซ่อม 2/62
1.ผู้กู้ตกลงกู้ยืมเงินจานวน 100,000 บาท แบะทาสัญญากู้ยืมโดยลงลายมือชื่อผู้กู้ยืม แต่ไม่ได้ระบุข้อความใด
ๆ และไม่ได้ระบุจานวนเงิน เพราะความเชื่อใจ ต่อมาผู้ให้กู้เขียนจานวนเงินลงไป 500,000 บาท ครบกาหนด
ชาระ ผู้กู้ไม่ชาระเงินตามสัญญา ผู้ให้กู้จะนาสัญญากู้ยืมเงินฉบับดังกล่าวมาฟ้องให้ผู้กู้ชาระเงินตามสัญญาได้
2.นายมนัสขับรถแท็กซี่ของนายอานวยไปด้วยความประมาทเลินเล่อ ไปชนนางสายบัว ได้รับบาดเจ็บและ
เสียหาย นางสายบัวโทรไปหานายอานวยตามชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ข้างรถ ให้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย
นายอานวยปฏิเสธว่านายมนัสไม่ใช่ลูกจ้าง นายอานวยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ข้ออ้างของนายอานวยฟังขึ้น
หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายเอกทาประกันชีวิต 1,000,000 บาท กับบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 โดยให้นางพลอย
ภรรยาเป็นผู้รับประโยชน์ และได้มอบกรมธรรมืไว้กับนางพลอย ระหว่างอายุสัญญา ต่อมา 13 เมษายน 2561
นายเอกทะเลาะกับนางพลอยรุนแรง นางพลอยเอาหม้อน้าเดือดสาดใส่นายเอกเป็นแผลเป็น เสียโฉม รักษาไม่
หาย นายเอกรับแผลเป็นนั้นไม่ได้ จึงฆ่าตนเองตาย ต่อมานางพลอยให้บริษัทประกันชดใช้ตามสัญญา แต่
บริษัทประกันไม่ยอมจ่าย โดยแจ้งว่าเป็นข้อยกเว้น ข้ออ้างของบริษัทประกันฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
42 - 73
1.นายตาลได้กู้ยืมเงินนายปองจานวน 300,000 บาท โดยได้ทาหลักฐานการกู้ยืมเงินไว้ให้แก่นายปอง โดยคิด
ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี และกาหนดชาระหนี้เงินกู้ภายใน 1 ปี เมื่อหนี้เงินกู้ถึงกาหนดชาระ นายตาลจึง
ใช้ให้หลานนาเช็คไปชาระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งสิ้นให้แก่นายปอง และนายปองได้รับเงินตามเช็ค
เรียบร้อยแล้ว หนึ่งเดือนต่อมา นายปองกลับนาหลักฐานการกู้ยืมเงินที่นายตาลเคยมอบให้ไว้มาฟ้องเรียกเงินกู้
คืนจากนายตาลอีก ดังนี้ นายตาลจะปฎิเสธไม่ชาระเงินตามที่นายปองเรียกร้องได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
เทอม 1/63
1.แจ่มทาสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารพาณิชย์วงเงิน 300,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 ปี อัตราดอกเบี้ย
ร้อยละ 10 ต่อปี โดยแจ่มได้ถอนเงินจากบัญชีเดินสะพัดไปทั้งหมด 300,000 บาท เมื่อได้ถอนเงินไปแล้วเวลา
ผ่านพ้นไป 1 ปี ปรากฎว่าแจ่มไม่เคยนาเงินเข้าบัญชีเพื่อชาระเงินต้น และดอกเบี้ยดังกล่าวเลย ดังนี้ ธนาคาร
จะคิดดอกเบี้ยทบต้นจากแจ่มได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายทศพรตกลงด้วยวาจาให้นายเดชาเป็นตัวแทนขายรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์คันหนึ่งของตนในราคา 500,000
บาท โดยนายทศพรส่งมอบรถยนต์คันนั้นไว้แก่นายเดชาเพื่อนายเดชาจะได้นาออกให้ผู้สนใจได้ทดลองขับ ใน
ระหว่างที่ยังไม่มีผู้ซื้อรถยนต์นั้น นายทศพรได้แสดงเจตนาเป็นหนังสือบอกเลิกการตั้งนายเดชาเป็นตัวแทนและ
ขอคืนรถยนต์นั้นจากนายเดชา ปรากฎว่า นายเดชาไม่ยอมคืนรถยนต์นั้น โดยอ้างว่าการตั้งตนเป็นตัวแทนนั้น
ไม่ได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อนายทศพรแต่อย่างใด ดังนั้นตนไม่มีหน้าที่ต้องคืนรถยนต์ยี่ห้อเบนส์นั้น
ให้แก่นายทศพร ให้วินิจฉัยว่า นายเดชาต้องคืนรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์นั้นให้แก่นายทศพรหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายเปรมเอาประกันชีวิตของตนเองไว้กับบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง จานวนเงินเอาประกันชีวิต 1,000,000
บาท สัญญาประกันชีวิตมีกาหนด 10 ปี โดยระบุ ให้นายกันต์บุตรชายเป็นผู้รับประโยชน์ ปรากฎว่าสองปี
ต่อมาในขณะที่นายกันต์ทาความสะอาดปืนปละได้ทาปืนลั่น เป็นเหตุให้กระสุนไปถูกนายเปรมถึงแก่ความตาย
หลังจากนั้นนายกันต์ได้ยื่นขอให้บริษัทประกันชีวิตใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต แต่บริษัทประกันชีวิตปฏิเสธ
ไม่ยอมจ่ายเงินตามสัญญาประกันชีวิตให้ โดยอ้างว่านายกันต์เป็นผู้ทาให้นายเปรมถึงแก่ความตาย จึงไม่มีสิทธิ
รับเงินตามสัญญาประกันชีวิต ดังนี้ ให้ท่านวินิจฉัยว่าข้ออ้างของบริษัทประกันชีวิตดังกล่าวฟังขึ้นหรือไม่ เพราะ
เหตุใด
43 - 73
41323 กฎหมายพาณิชย์3: ประกันด้วยบุคคลและทรัพย์ ตัว๋ เงิน
เทอม 2/61
1.ดากู้เงินแดง 100,000 บาท ดามอบสร้อยคอทองคามูลค่า 50,000 บาทให้แดง และเขียวมาทาสัญญาค้า
ประกันเป็นหนังสือ ก่อนถึงกาหนดชาระหนี้ ดาไปขอสร้อยคอทองคาคืนบอกจะเอาไปให้เป็นของขวัญเหลือง
ลูกสาวรับปริญญา แดงไม่ขัดข้อง เมื่อถึงกาหนดชาระหนี้ แดงเรียกให้เขียวชาระหนี้ตามสัญญาค้าประกัน เขียว
บอกแดงทาให้เสียสิทธิไปแล้ว เขียวจึงไม่ต้องรับผิด ข้ออ้างเขียวฟังขึ้นหรือไม่
2.กนกกู้เงินปิ่น 500,000 บาท กนกจดจานองช้างเป็นประกัน และตกลงที่จะรับผิดต่อหนี้หากบังคับจานอง
แล้วหนี้ยังเหลือ และทีปเอากระบือมาจดจานอง และตกลงรับผิดต่อหนี้หากบังคับจานองแล้วหนี้ยังเหลือ
เช่นกัน ต่อมากนกผิดนัดชาระหนี้ ปิ่นมีหนังสือแจ้งทั้ง 2 คน และฟ้องศาลบังคับจานองขายทอดตลาดช้างและ
กระบือ หลังขายทอดตลาดแล้ว ยังไม่พอหักหนี้ มีหนี้คงเหลืออีก 40,000 บาท ปิ่นเรียกร้องให้กนกและทีปรับ
ผิดต่อหนี้ 40,000 บาทนี้ จงวินิจฉัย กนกและทีปต้องรับผิดต่อหนี้ 40,000 บาทหรือไม่ อย่างไร
3.ลิ้มเขียนเช็คธนาคารสั่งจ่ายผู้ถือ 50,000 บาท แต่ยังไม่ได้ลงชื่อผู้จ่าย เกลี้ยงมาปลอมลายมือลิ้ม แล้วเอาเช็ค
ไปแลกเงินกับโอ โอสลักหลัง แล้วเอาไปชาระหนี้เงินกู้กับฉุน ฉุนเอาเช็คไปธนาคาร ธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงิน
เพราะลิ้มไปแจ้งว่าเช็คหาย ให้วินิจฉัยว่า ลิ้ม เกลี้ยง โอ ต้องรับผิดต่อฉุน อย่างไร
ซ่อม 2/61
1.ดากู้เงินแดง ... บาท มีม่วงค้าประกันเงินกู้ให้ ต่อมาเขียวเข้ามาค้าประกันหนี้รายหนี้อีก เมื่อถึงกาหนดชาระ
ดาผิดนัดชาระหนี้ แดงจึงเรียกให้เขียวชาระหนี้แทน เขียวปฏิเสธการจ่ายเงิน บอกให้ไปเรียกร้องเอาจากม่วง
ก่อนเพราะเป็นผู้ค้าประกันรายแรก ข้ออ้างของเขียวฟังขึ้นหรือไม่
2.นายวันชัยกู้เงินนายทศ จานวน 2,000,000 บาท นายวันชัยได้นาแพที่อยู่อาศัยจานองเป็นประกันหนี้รายนี้
ต่อมานายโตได้นาม้าแข่งของตนจานองเป็นประกันหนี้รายนี้ เมื่อถึงกาหนดชาระ นายวันชัยผิดนัดชาระหนี้
นายทศจึงได้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังนายวันชัยและนายโตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทั้งสองยังเพิกเฉย นายทศ
จึงบังคับจานองทรัพย์สินออกขายทอดตลาด ได้เงินสุทธิจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินทั้งสองแล้ว ยังขาดอีก
จานวน 100,000 บาท นายทศสามารถเรียกเอาหนี้ในส่วนที่ขาดนี้อีกจากนายวันชัยและนายโตได้หรือไม่
3.นายกรเขียนเช็คสั่งจ่ายธนาคารรุ่งเรือง ให้กับนายวิทยา โดยขีดฆ่าคาว่าหรือผู้ถือออก แต่ยังไม่ได้ลงลายมือ
ชื่อ นายพานจึงปลอมลายมือชื่อนายกรแล้วนาเช็คมอบให้นายวิทยา ต่อมานายวิทยาสลักหลังมอบให้นายดาบ
นายดาบนาเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะนายกรได้แจ้งธนาคารไว้ว่าเช็คถูกลัก
ให้วินิจฉัยว่า นายกร นายพาน นายวิทยา ต้องรับผิดต่อนายดาบอย่างไร เพราะอะไร
44 - 73
เทอม 2/62
1.นายเอกต้องการขยายกิจการของตน จึงกู้ยืมเงินนายโท จานวน 5 ล้านบาท โดยลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายใน
สัญญากู้ยืมเงิน ต่อมาเศรษฐกิจไม่ดี นายเอกจึงร้องขอให้นางตรีเพื่อนสนิทของตน ให้ทาสัญญากับตนฉบับหนึ่ง
นางตรีจึงได้ทาสัญญากับนายเอก โดยมีข้อความว่า “หากนายเอกไม่สามารถชาระหนี้ได้ นางตรีจะเป็นผู้ชาระ
หนี้แทนทั้งหมด” พร้อมลงลายมือชื่อนายเอกและนางตรีทั้งสองฝ่าย ต่อมาเมื่อถึงกาหนดชาระปรากฎว่านาย
เอกไม่สามารถชาระหนี้ได้ นางตรีจึงเข้าชาระหนี้แทนนายเอกต่อนายโทเจ้าหนี้ทั้งหมด 5 ล้านบาท ภายหลัง
จากการชาระหนี้ นางตรีต้องการรับช่วงสิทธิของนายโทเจ้าหนี้มาฟ้องไล่เบี้ยเอากับนายเอก ตามประมวล
กฎหมาสยแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะค้าประกัน ให้ท่านวินิจฉัยว่า นางตรีสามารถรับช่วงสิทธิของนายโทเจ้าหนี้
ไปฟ้องไล่เบี้ยเอากับนายเอก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะค้าประกันได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายสายใจจดทะเบียนจานองที่ดินมีโฉนดราคา 700,000 บาท ไว้กับนายอดุลเป็นประกันหนี้เงินกู้จานวน
800,000 บาท ที่นายมนัสเป็นลูกหนี้ ในหนังสือสัญญาจานองระบุว่าห้ามนายสายใจนาที่ดินแปลงดังกล่าวไป
จดทะเบียนจานองประกันหนี้รายอื่นอีก ในระหว่างสัญญาจานอง นายสายใจนาที่ดินแปลงดังกล่าวไปจด
ทะเบียนการเช่าโดยให้นายอรุณเช่าที่ดินนั้นเป็นเวลา 5 ปี โดยนายอดุลมิได้ยินยอมด้วย ให้วินิจฉัยว่า ข้อตกลง
ในสัญญาจานองที่ระบุว่าห้ามนายสายใจนาที่ดินแปลงดังกล่าวไปจดทะเบียนจานองประกันหนี้รายอื่นนั้น ใช้
บังคับได้หรือไม่ และนายอดุลจะลบสิทธิการเช่านั้นได้หรือไม่
3.หมูออกเช็คสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินให้แมว จานวน 300,000 บาท โดยไม่ได้ขีดฆ่าคาว่าผู้ถือออก แมวส่งมอบ
เช็คชาระหนี้ให้มน มนสลักหลังและส่งมอบเช็คให้มีน ต่อมามีนนาเช็คไปยื่นให้ธนาคารใช้เงินตามเช็ค ธนาคาร
ปฏิเสธการใช้เงิน ใครต้องรับผิดตามเช็คฉบับนี้บ้าง
45 - 73
ซ่อม 2/62
1.นายดากู้เงินนายแดง 100,000 บาท โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือตกลงว่านายดาจะชาระหนี้ให้แก่นายแดงใน
วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยการโอนเงินเข้าบัญชีของนายแดง เพื่อเป็นการประกันการชาระหนี้ตามสัญญากู้เงิน
นี้ นางสาวฟ้าได้ตกลงลงลายมือชื่อของตนเป็นผู้ค้าประกัน ในหนี้ดังกล่าวต่อมาหนี้ถึงกาหนดชาระปรากฏว่า
นายดาไม่ชาระหนี้ และในวันที่ 1 เมษายน 2563 นายแดงส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถามไปยังนายดาและ
นางสาวฟ้าให้ชาระหนี้แก่ตนโดยไม่ทราบว่า นางสาวฟ้าได้ชาระหนี้โดยการโอนเข้าบัญชีของนายแดงในวันที่ 1
มีนาคม 2563 แล้ว ให้ท่านวินิจฉัยว่าการชาระหนี้ตามสัญญาค้าประกันของนางสาวฟ้าก่อนได้รับหนังสือบอก
กล่าวทวงถามจากนายแดงชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายมนัสจดทะเบียนจานองที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งราคา 700,000 บาท ไว้กับนายดิเรกเพื่อประกันหนี้เงินกู้ที่
นายอาพรเป็นลูกหนี้จานวนเงิน 500,000 บาท ในระหว่างสัญญาจานองนายมนัสได้จดทะเบียนจานองที่ดิน
แปลงดังกล่าวไว้กับนายสมชัยเพื่อประกันหนี้เงินกู้ที่ นายสุชาติเป็นลูกหนี้จานวนเงิน 500,000 บาท อีกครั้ง
หนึ่ง โดยนายดิเรกไม่ได้ยินยอมด้วย นายดิเรกเห็นว่าการจานองครั้งหลังจะทาให้ตนเสียหายจึงมีความประสงค์
จะฟ้องศาลขอให้ เพิกถอนการจดทะเบียนจานองครั้งหลังนั้น ให้วินิจฉัยว่า นายดิเรกจะฟ้องศาลขอให้เพิกถอน
การจดทะเบียนจานองครั้งหลังนั้นได้ หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.ทิดออกตั๋วแลกเงินส่งให้จันจ่ายเงินให้ดวง 200,000 บาท โดยทิดได้ขีดฆ่าคาว่าผู้ถือออก ดวงได้สลักหลังและ
ส่งมอบตั๋วให้พร พรสลักหลังและส่งมอบตั๋วให้เมฆ พายเพื่อนของพร ลงลายมือชื่อด้านหน้าตั๋วแลกเงิน เมื่อตั๋ว
ถึงกาหนด เมฆนาตั๋วแลกเงินไปให้จันรับรอง จันไม่ยอมรับรองตั๋วฉบับนั้น ใครต้องรับผิดตามตั๋วแลกเงินฉบับนี้
บ้าง
46 - 73
41324 กฎหมายพาณิชย์4: หุน้ ส่วน บริ ษทั
เทอม 2/61
1.สว่าง สมศักดิ์ และสมศรี ร่วมกันตั้งห้างหุ่นส่วนสามัญนิติบุคคลสุขภาพดี ลงหุ้นคนละ 1 ล้านบาท ประกอบ
กิจการเกี่ยวกับอาหารเสริม โดยให้นายสว่างเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ 5 ปีต่อมานายสมศักดิ์ขอลาออกเนื่องจากจะ
ออกไปทาธุรกิจ ก่อนนายสมศักดิ์ลาออก ห้างได้สั่งซื้ออาหารเสริมจาก บจก.รุ่งเรือง เป็นเงิน 600,000 บาท
ผ่านไปได้ 1 ปี บจก.รุ่งเรืองเรียกให้ห้างหุ้นส่วนชาระหนี้ค่าอาหารเสริม ห้างจึงเรียกร้องให้นายสมศักดิ์ชาระหนี้
ด้วย แต่นายสมศักดิ์ไม่ยอมชาระ อ้างว่าตนไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้นแล้ว ข้ออ้างของนายสมศักดิ์ฟังขึ้นหรือไม่
2.นายสันชัยมีหุ้นชนิดระบุชื่อใน บจก.ร่ารวย จานวน 500 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ต้องการโอนหุ้นให้
บุตรชายจึงส่งมอบใบหุ้นให้บุตรเก็บไว้ในครอบครอง พร้อมแจ้งกรรมการผู้จัดการบริษัทเป็นหนังสือลายลักษณ์
อักษร การโอนหุ้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
3.ที่ประชุมใหญ่ บจก.กาแฟหวาน จัดตั้งบริษัทเป็นไปตามกฎหมาย มีผู้เข้าร่วมประชุมครบองค์ประชุม
ต้องการขยายสาขาเพิ่ม โดยมีนายหนึ่ง นายสอง นายสาม ถือหุ้นคนละ 1,000 หุ้น และนายสี่ นายห้า นายหก
ถือหุ้นคนละ 500 หุ้น ในที่ประชุมมีนายหนึ่งเป็นประธาน และตรวจการพบว่านายสามยังชาระค่าหุ้นไม่ครบ
โดยในที่ประชุม นายหนึ่ง นายสอง นายสาม เห็นว่าควรขยายสาขาเพิ่ม แต่นายสี่ นายห้า นายหกเห็นว่าไม่ควร
ขยายสาขาเพิ่ม ที่ประชุมลงมติโดยวิธีชูมือ ประธานในที่ประชุมขอมติ การประชุมดังกลาว มีผลตามกฎหมาย
ซ่อม 2/61
1.นายเฟื่อง นายชื่น และนายสมร ลงหุ้นคนละ 900,000 บาท โจทย์ไม่ได้ระบุว่าได้ไปจดทะเบียน 3 ปีต่อมา
นายสมร ขอลาออก และทุกคนเห็นด้วยที่จะเลิกห้าง และให้ผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้ชาระบัญชี มีเงินเหลือจากการ
เลิกห้าง 3,400,000 บาท นายชื่นสารองจ่ายค่าเช่าร้านไป 100,000 บาท ถ้าท่านเป็นที่ปรึกษากฎหมาย จะ
แนะนาอย่างไร และหุ้นส่วนแต่ละคน จะได้กาไรหรือขาดทุน คนละเท่าไหร่
2.นายวีระ ทาการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อให้นางเดือนเด่น โดยส่งมอบใบห้ินเป็นที่เรียบร้อย และโทรบอกกรรมการ
บริษัทให้ทราบว่าได้โอนหุ้นทั้งหมดให้นางเดือนเด่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ บริษัทได้จะลงในทะเบียนเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว ผลของกฎหมายเป็นเช่นไร
3.บริษัท อาหาร จากัด เรียกประชุมใหญ่ว่าจะมีมติเพิ่มราคาอาหารหรือไม่ โดยนาย1 นาย2 ถือห้ิน คนละ 100
หุ้น เห็นด้วยขึ้นราคา นาย 3 นาย 4 นาย5 ถือหุ้น คนละ 50 หุ้น ไม่เห็นด้วย ก่อนการลงมติที่ประชุม นาย1
และนาย2 ร้องขอให้ลงคะแนนลับ ผลตามกฎหมายเป็นเช่นไร
47 - 73
เทอม 2/62
1.นายหนึ่ง นายสอง นายสาม จัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ประกอบธุรกิจค้าขายอาหารทะเล ชื่อห้าง
หุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลทะเลไทย โดยแต่งตั้งให้นายหนึ่งเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วน กิจการดาเนินไปได้ด้วยดี
นายหนึ่งจึงไปกู้เงินธนาคารเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการของห้างหุ้นส่วน ต่อมาธุรกิจอาหารทะเลประสบ
ปัญหาทางด้านธุรกิจ ทาให้ประสบปัญหาการเงิน ทางเจ้าหนี้คือธนาคารเรียกให้ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
ทะเลไทยชาระหนี้ แต่ห้างไม่มีเงินชาระ ทางธนาคารจึงเรียกให้หุ้นส่วนทั้งหมดคือนายหนึ่ง นายสอง นายสาม
เป็นผู้ชาระหนี้ แต่หุ้นส่วนทั้งหมดปฏิเสธการชาระหนี้ จงวินิจฉัย นายหนึ่ง นายสอง นายสาม สามารถปฏิเสธ
การชาระหนี้ได้หรือไม่อย่างไร
2.นายกล้ามีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทจากัดจานวน 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นหุ้นละ 50 บาท ต้องการขายหุ้นของตนเอง
ทั้งหมดให้แก่นายสัญชัย จึงได้ทาสัญญาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนผู้รับโอนพร้อมทั้งแจ้งการซื้อขายหุ้น
ดังกล่าวไปยังบริษัทโดยทาหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร จงวินิจฉัยการโอนหุ้นดังกล่าวเป็นการกระทาที่ชอบ
ด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร
3.บริษัทนนทบุรีค้าเหล็กจากัด มีหุ้นจานวน 1,000 หุ้น มีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 8 คน โดยถือคนละ 125 หุ้นทาง
บริษัทนนทบุรีค้าเหล็กจากัดจึงเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลจากการประกอบธุรกิจ ทางบริษัทได้
ดาเนินการเรียกประชุมถูกต้องครบถ้วนทุกประการ พอถึงวันที่ทางบริษัทนัดเรียกประชุมใหญ่ มีผู้เข้าร่วม
ประชุมเพียง 3 คน คือนายเอนายบีและนางสาวซีมาประชุม นายเอมีความเห็นว่ามีผู้ถือหุ้นมาประชุมไม่ถึงกึ่ง
หนึ่ง ไม่สามารถประชุมได้ ให้ยกเลิกการประชุม จากความคิดเห็นของนายเอ จงวินิจฉัยการประชุมใหญ่
สามารถกระทาได้หรือไม่อย่างไร
48 - 73
ซ่อม 2/62
1.นางมุก นางแก้วตา นางไพลิน ได้รวมหุ้นกันจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ “มุกตาลิน” เพื่อประกอบกิจการซื้อขาย
ที่ดิน โดยลงทุนคนละ 5 ล้านบาท ผู้เป็นหุ้นส่วนได้ตกลงตั้งนางไพลินเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วน กิจการของห้าง
หุ้นส่วนดาเนินมามีผลกาไรมาอย่างต่อเนื่อง นางมุกจึงตกลงไปตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญมุกดา เพื่อประกอบกิจการ
ซื้อขายที่ดิน เช่นเดียวกับห้างหุ้นส่วนสามัญมุกตาลิน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้าง ห้างมุกดามีเงิน
กาไรจากการค้าขายแข่งขัน เป็นเงิน 2 ล้านบาท เมื่อนางไพลินทราบเรื่อง จึงแจ้งให้ นางมุกดานาผลกาไรที่ได้
จากการค้าขายที่ดินแข่งขันกับห้างมุกตาลิน เป็นเงิน 2 ล้านบาท มาให้กับห้างหุ้นส่วนมุกตาลิน นางมุกจะปฏิ
เสะและไม่ปฏิบัติตามที่นางไพลินแจ้งได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายมีชัยมีหุ้นระบุชื่ออยู่ในบริษัทยั่งยืนจากัด จานวน 3,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 80 บาท นายมีชัยต้องการโอน
หุ้นของตนให้กับบุตรชาย โดยได้ทาเป็นหนังสือและได้แจ้งหารโอนหุ้นให้กับกรรมการผู้จัดการบริษัททราบแล้ว
เป็นลายลักษณ์อักษร การโอนหุ้นของนายมีชัยไปให้บุตรชายชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
3.ในการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ปากเกร็ดค้าไม้ จากัด เพื่อพิจารณาเรื่องการขยายสาขา เมื่อมีการเรียก
ประชุมโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ในวันประชุมมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมครบองค์ประชุมทั้งสิ้น 5 คน หลังจาก
ที่ประชุมได้ปรึกษาหารือกันเรียบร้อยแล้ว นายสี่ร้องขอให้ลงมติโดยการลงคะแนนลับ แต่นายหนึ่งประธานในที่
ประชุมปฏิเสธและให้ลงมติโดยการชูมือ ต่อมานายสี่โต้แย้งว่ามติที่ได้มาจากการประชุมนั้นไม่ชอบด้วย
กฎหมาย เพราะตนได้ร้องขอให้ลงคะแนนลับโดยชอบแล้ว เช่นนี้ ข้อกล่าวอ้างของนายสี่ฟังขึ้นหรือไม่ เพราะ
เหตุใด
49 - 73
41341 กฎหมายวิธีสบัญญัติ1: หลักทัว่ ไปในวิธีพิจารณาความแพ่ง
เทอม 2/61
1.โจทก์ยื่นฟ้องจาเลยที่ได้มายื่นทาบัตรเครดิตของธนาคารของโจทก์ที่สาขาเพชรบุรี โดยให้สาขาเพชรบุรี นา
ใบสมัครส่งให้สานักงานใหญ่ที่กรุงเทพในเขตศาลแพ่ง สานักงานใหญ่ธนาคารโจทก์อนุมัติและได้ส่งบัตรเครดิต
ให้จาเลยไปรับที่สานักงานสาขาเพชรบุรี จาเลยได้รับบัตรเครดิตที่สานักงานสาขาเพชรบุรีและได้นาบัตรไปใช้
ทุกเดือนโจทก์ทาการแจ้งยอดการใช้บัตรให้จาเลยทราบ จาเลยนาเงินเข้าบัญชีเพื่อจ่ายเป็นครั้งคราว และไม่ได้
จ่ายในช่วงหลัง ๆ โจทก์จึงทาการยเลิกการใช้บัตร และฟ้องศาลเพชรบุรีเพื่อบังคับให้จาเลยชาระหนี้ ถามว่า
โจทก์สามารถฟ้องที่ศาลเพชรบุรีได้หรือไม่
2.โจทก์ฟ้องศาลชั้นต้นเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยการเข้ารัยช่วงสิทธิจากประกันภัยเพื่อเรียกค่าเสียหายจากจาเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิรับช่วงสิทธิดังกล่าว โจทก์อุทธรณ์ ศาลอทธรณ์พิจารณาแล้วยกคา
พิพากษาศาลชั้นต้นและให้โจทก์สามารถรับช่วงสิทธิจากประกันภัยเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากจาเลยได้ และ
ได้ส่งสานวนกลับมาศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาประเด็นอื่นต่อไป ศาลชั้นต้นพิจารณาให้โจทก์รับช่วงสิทธิจาก
ประกันได้ จาเลยขออุทธรณ์ ให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิรับช่วงสิทธิ ถามว่า การยื่นอุทธรณ์ของจาเลยถือ
ว่าเป็นการดาเนินกระบวนพิจารณาซ้าหรือไม่
3.
3.1. ข้อแตกต่างระหว่าง “ภาระการพิสูจน์” กับ “การนาพยานหลักฐานมาสืบในประเด็นข้อใดก่อนหลัง”
3.2. ศาลได้กาหนดประเด็นแห่งคดีไว้ว่า
1) โจทก์มีอานาจฟ้องคดีหรือไม่
2) ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่
3) ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ กรณียังโต้เถียงเรื่องวันนับอายุความอยู่
จากประเด็นแห่งคดี ใครมีภาระการพิสูจน์
ซ่อม 2/61
1.โจทก์ทาสัญญาซื้อขายเครื่องกรองน้ากับจาเลย ณ ที่ทาการบริษัทของจาเลย ตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรสงคราม โดย
วางเงินมัดจาไว้จานวนหนึ่ง ให้จาเลยนาไปติดตั้งที่บ้านโจทก์ ที่ จ.เพชรบุรี เมื่อจาเลยนาเครื่องไปติดตั้งให้
จาเลยจึงรู้ว่าไม่ตรงตามสเป็กที่ตกลงกันในสัญญา โจทก์จึงปฏิเสธและฟ้องเรียกเงินมัดจาคืน โจทก์สามารถฟ้อง
ได้ที่ศาลใด เพราะเหตุใด
2.ศาลพิพากษาให้จาเลยแพ้คดีในที่ดินพิพาท และสั่งให้จาเลยและบริวารย้ายออกจากที่ดิน แดงซึ่งเป็นบริวาร
ของจาเลยยื่นคาร้องว่าที่ดินเป็นของแดง ไม่ใช่จาเลยและไม่ออก ศาลชั้นต้นสั่งยกคาร้องเพราะเห็นว่าที่ดินเป็น
ของโจทก์ แดงอุทธรณ์คาสั่งยกคาร้อง คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แดงกลับมายื่นคาร้องขอให้ศาล
ชั้นต้นระงับคาสั่งบังคับ การยื่นคาร้องครั้งหลังของแดงเป็นการดาเนินกระบวนพิจารณาซ้าหรือไม่
50 - 73
3.
3.1. ถ้าคู่ความต่างอ้างการได้รับผลตามข้อสันนิษฐานของกฎหมาย ศาลมีหลักในการดาเนินกระบวนพิจารณา
และตัดสินอย่างไร
3.2. ถ้าคู่ความต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างข้อเท็จจริงของตนในหลายประเด็น ศาลมีหลักว่าจะให้ใครสืบก่อนหลัง
เทอม 1/62
1.โจทก์ทาประกันชีวิตกับบริษัทประกันภัยจากัด จาเลยที่ 1 มีภูมิลาเนาจังหวัดเพชรบุรี และจาเลยที่ 2 เป็น
ตัวแทนบริษัทซึ่งมีหน้าที่รับชาระเงิน จาเลยที่ 2 มีภูมิลาเนาจังหวัดราชบุรี ในการทาประกันปีละ 110,000
บาท แต่จาเลยที่ 2 บอกว่าถ้าทา 5 ปีจะลดให้จ่ายแค่ 500,000 บาท โจทก์ตกลงและจ่ายเงินให้แก่จาเลยที่ 2
จานวน 500,000 บาท แต่จาเลยที่ 1 ออกกรมธรรม์ระบุจานวนเงิน 110,000 บาท โจทก์ต้องการฟ้องจาเลย
ทั้งสองในเงินที่จ่ายเกินไป 390,000 บาท โจทก์ต้องการฟ้องจาเลยทั้งสองที่ศาลจังหวัดราชบุรีได้หรือไม่
2.ขาวฟ้องขับไล่นายเหลืองให้ออกจากที่ดินพิพาท ซึ่งนายขาวมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทนั้น นายเหลืองให้การ
ว่าตนมีสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ในที่ดินพิพาทมากว่า 30 ปี ขอให้ยกฟ้อง ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของ
นายขาว นายเหลืองอุทธรณ์ ระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ นายเหลืองยื่นคาร้องในคดีหลังว่าตนได้ครอบครอง
ปรปักษ์บางส่วนในที่ดินพิพาท มากว่า 20 ปี ขอให้ศาลพิพากษาให้ตนได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท คาร้องในคดี
หลังเป็นการดาเนินกระบวนพิจารณาซ้าหรือไม่
3.โจทก์ฟ้องจาเลยให้ชาระหนี้ตามสัญญากู้ จาเลยให้การว่า เป็นสัญญากู้ปลอม จาเลยไม่ได้ลงชื่อในช่องผู้กู้ วัน
นัดสืบพยาน โจทก์มีพยาน2 คนคือ นายหนึ่งเป็นคนเขียนสัญญา และเข้าสืบพยานเสร็จแล้ว นึกขึ้นได้ว่าลืม
สาบานตนจึงได้สาบานตนในเวลานั้น ต่อมาทนายโจทก์ก็นานายสองซึ่งลงชื่อเป็นพยานในสัญญากู้เข้าสืบพยาน
ต่อจนเสร็จและทนายจาเลยนาพยานฝ่ายจาเลยคือนายสามเข้าสืบซักถามเสร็จแล้ว เลื่อนไปนัดถามค้านในนัด
หน้า แต่ปรากฏว่าต่อมานายสามได้ถึงแก่กรรม ทนายจาเลยจึงไม่สามารถนาพยานมาสืบต่อได้ ทาให้ทนาย
โจทก์ไม่ได้ถามค้าน และทนายจาเลยอ้างว่านายสามได้ตายไปแล้ว ห้ามมิให้รับฟังพยานของโจทก์ ศาลจะรับ
ฟังคาเบิกความของนายหนึ่งและนายสอง คาเบิกความของนายสามได้หรือไม่
51 - 73
ซ่อม 1/62
1.ผู้ร้องเป็นบุตรของนาย ก และนาง ข ซึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ นาย ก มีบ้านที่พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
นาง ข มีบ้านที่พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดจันทรบุรี และยังมีที่ดินร่วมกันกับนาย ก อีกที่จังหวัดเพชรบุรี ผู้ร้อง
ต้องการจะแต่งตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกของนาย ก และนาง ข จึงได้ยื่นคาร้องขอแต่งตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดก
ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ศาลรับคาร้องของผู้ร้องไว้พิจารณา ดังนี้การที่ศาลเพชรบุรี รับคาร้องของผู้ร้องไว้
พิจารณานั้น ชอบหรือไม่
2.นายแดงฟ้องนายดาว่าที่พิพาทเป็นของนายแดง ขอให้ขับไล่นายดาออกจากที่พิพาท ศาลพิจารณาแล้ว เห็น
ว่าฟ้องของนายแดงทุจริต จึงพิจารณายกฟ้อง แต่นายแดงมิได้อุทธรณ์คดี ต่อมานายเขียวฟ้องนายดาว่าที่
พิพาทเป็นของนายเขียว นายดาให้การแย้งว่าที่พิพาทเป็นของตน นายแดงได้ร้องสอดเข้ามาในคดีที่นายเขียว
เป็นโจทก์ ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของนายแดง อยากทราบว่าการที่นายแดงร้องสอดเป็นการดาเนินกระบวนการ
พิจารณาซ้าหรือไม่
3.โจทก์ฟ้องคดีสัญญากู้ยืมเงิน จาเลยให้การว่าเอกสารนั้นไม่ถูกต้องเพราะที่ลงลายมือชื่อนั้นไม่ใช่ลายมือของ
จาเลย ในชั้นพิจารณา ทนายโจทก์ได้นาเอกสารสัญญากู้ยืมเงินมาแสดง และโจทก์ได้บรรยายแถลงประกอบว่า
ลายมือชื่อนั้นเป็นของจาเลยจริง จาเลยได้เบิกความไปจนจบ แต่ปรากฏว่า จาเลยไม่ได้ให้คาปฏิญาณก่อนเบิก
ความ ศาลอุทธรณ์จึงมีคาสั่งให้ศาลชั้นต้นดาเนินกระบวนการพิจารณาใหม่ จาเลยเบิกความแต่เพียงว่า
ข้อความที่กล่าวไปก่อนหน้านี้เป็นความจริง โดยไม่ได้แสดงรายละเอียดอะไรอีก อยากทราบว่า ศาลจะรับฟัง
สัญญากู้ยืมของโจทก์และคาเบิกความของจาเลย ได้หรือไม่
เทอม 2/62
1.เขียวจ้างแดงสร้างอาคารที่สมุทรสงคราม เขียวภูมิลาเนาอยู่ระนอง เขียวสั่งจ่ายเช็คให้แดงในค่าจ้าง แต่
ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเช็คให้ แดงเลยไปฟ้องที่ศาลจังหวัดสมุทรสงครามเพื่อเงินตามเช็คนั้น ถามว่าการฟ้องที่
จ.สมุทรสงคราม เป็นฟ้องโดยชอบหรือไม่
2. โจทก์จ้างจาเลยสร้างตึก โดยมีข้อกาหนดว่าล่าช้าปรับวันละ 1000 บาท ต่อมาสร้างล่าช้า 100 วัน และมี
การผุพังต้องจ้างคนอื่นมาซ่อมอีก 80,000 บาท โจทก์จึงฟ้องเรียกเบี้ยปรับจากจาเลย 100,000 บาท จาเลย
บอกว่าตนไม่ผิด ที่ล่าช้าเป็นความผิดของโจทก์ แต่ศาลกาหนดข้อพิพาทข้อเดียวว่า จาเลยผิดสัญญาหรือไม่
และพิพากษาว่าผิดสัญญา แต่เห็นเบี้ยปรับสูงไป เลยลดเบี้ยปรับลงมาเหลือ 50,000 บาท ถามว่าศาลพิพากษา
เรื่องเบี้ยปรับนอกประเด็นหรือไม่
52 - 73
3.
ก. โจทก์ทาหนังสือรับสภาพหนี้เงินกู้กับจาเลย 500,000 บาม เมื่อถึงครบกาหนดชาระ จาเลยไม่จ่าย โจทก์
ฟ้องให้จาเลยจ่าย จาเลยบอกว่าในหนังสือรับสภาพ ระบุหนี้ 300,000 และยังไม่ถึงกาหนดชาระ
ข. โจทก์ทาสัญญาเงินกู้กับจาเลย พร้อมระบุให้จ่ายดอกเบี้ยตามกฎหมาย โจทก์ฟ้องให้จาเลยจ่ายหนี้ จาเลย
บอกว่าจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีแล้ว
จากโจทย์ จาเลยจากข้อ ก สามารถนาพยานบุคคลมาอ้างว่าชาระหนี้แล้วได้หรือไม่ และโจทก์จากข้อ ข
สามารถนาพยานบุคคลมาเพื่อบอกว่าเคยตกลงด้วยวาจากับจาเลยว่าจะให้ชาระดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน ได้
ซ่อม 2/62 (ไม่รู้ทาไมมีสองชุด)

1.นายขาวมีภูมิลาเนาอยู่จังหวัดมุกดาหารได้ทาสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากบริษัทดา จากัด โดยนายขาวลง
ลายมือชื่อในสัญญาเช่าซื้อที่จังหวัดลพบุรี และผู้จัดการสาขาลพบุรีของบริษัทดา จากัด ส่งสัญญาดังกล่าวไปที่
สานักงานใหญ่ของบริษัทดา จากัด ซึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่อาเภอเมือง สมุทรสงคราม ให้ผู้มีอานาจลงลายมื อชื่อ
ในสัญญาเช่าซื้อแทนบริษัทดา จากัด ลงลายมือชื่อ ในนามผู้ให้เช่าซื้อ ต่อมา นายขาวผิดนัดชาระค่าเช่าซื้อ
สัญญาจึงเลิกกัน บริษัทดา จากัด จึงเป็น โจทก์ฟ้องบังคับให้นายขาวจาเลยชาระหนี้ค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ ต่อศาล
จังหวัดสมุทรสงคราม ให้วินิจฉัยว่า บริษัทดา จากัด มีอานาจฟ้องนายขาวที่ศาลจังหวัดสมุทรสงครามได้โดย
ชอบหรือไม่
2.โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท จาเลยบุกรุกเข้าไปครอบครองที่ดินพิพาทโดย ไม่มีสิทธิขอให้ขับไล่
จาเลยออกจากที่ดินพิพาท จาเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจาเลย โจทก์ไม่มีอานาจฟ้องขับไล่จาเลย
ขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นกาหนดประเด็นข้อพิพาทว่าที่ดินพิพาท เป็นของโจทก์หรือไม่แล้ววินิจฉัยว่าที่ดินพิพาท
เป็นหนองน้าสาธารณะสาหรับประชาชนใช้ร่วมกัน พิพากษายกฟ้อง ให้วินิจฉัยว่าคาพิพากษาของศาลชั้นต้น
นอกประเด็นหรือไม่
3.โจทก์ฟ้องบังคับจาเลยให้ชาระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินจานวน 500,000 บาท ถ้าจาเลยให้การว่า ก จาเลยได้
ลงชื่อไว้ในช่องผู้กู้ในสัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นามาฟ้อง แต่ขณะที่ลงชื่อยังไม่ได้มีการกรอกข้อความใด ๆ ลงไป
แล้วโจทก์ไปกรอกจานวนเงินเพิ่มภายหลังซึ่งสูงกว่าที่จาเลยกู้ยืมไป จากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง หรือ ข จาเลย
ไม่ได้กู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้อง โดยจาเลยเล่นแชร์กับโจทก์แล้วประมูลแชร์ได้ โจทก์ซึ่งเป็นนายวงแชร์จึงให้จาเลย
ทาสัญญากู้ยืมเงินเพื่อเป็นประกันว่าจาเลยจะส่งชาระค่าแชร์ในงวดที่เหลือต่อไป ต่อมาการเล่นแชร์สิ้นสุดลง
โดยจาเลยส่งชาระค่าแชร์ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว แต่โจทก์ไม่คืนสัญญากู้ยืมเงินให้แก่จาเลย ขอให้ยกฟ้อง ให้
วินิจฉัยว่า จาเลยจะนาพยานบุคคลมาสืบต่อศาลตามคาให้การในข้อ ก และข้อ ข ได้หรือไม่
53 - 73
ซ่อม 2/62 (ไม่รู้ทาไมมีสองชุด)
1.นายแถมและนางผวนเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ ก่อนเสียชีวิตนายแถมมีบ้านอยู่อาศัยที่จังหวัดเพชรบุรีและนาง
ผวนมีบ้านอยู่ที่จังหวัดราชบุรี บุตรชอบด้วยกฎหมายยื่นคาร้องขอให้ศาลมีคาสั่งแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก โดย
ยื่นคาร้องที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ศาลรับคาร้องไว้เพื่อไต่สวนต่อไป ศาลรับคาร้องไว้ไต่สวนต่อชอบด้วยกฎหมาย
2.นายแดงฟ้องขับไล่นายดาในที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าที่ดินเป็นของตน แต่นายแดงใช้สิทธิ์ในการฟ้องไม่สุจริต
ศาลจึงยกฟ้อง คดีอยู่ในระหว่างการยื่นอุทรณ์ แต่นายแดงยังไม่ได้ยื่น ต่อมานายเขียวฟ้องขับไล่นายดาออก
จากที่ดินพิพาทดังกล่าวโดยอ้างว่าเป็นที่ของตน นายดาต่อสู้ยื่นคาให้การว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของนายดา
ต่อมานายแดงจึงร้องสอดเข้ามาในคดีเพื่อให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทดังกล่าวเป็นของตน การกระทาของ
นายแดงถือว่าเป็นการทาให้ศาลดาเนินกระบวนการพิจารณาซ้าหรือไม่
3.โจทก์ฟ้องสัญญาเงินกู้ต่อจาเลยและได้ให้ทนายโจทก์ยื่นเอกสารเพื่อใช้เป็นพยานเอกสารคือสัญญาเงินกู้แก่
ศาล หลังจากนั้นโจทก์ได้แถลงประกอบสัญญาเงินกู้ ดังกล่าวว่ามีการกู้จริง ต่อมาจาเลยได้เบิกความต่อศาลแต่
ยังมิได้สาบานตนศาลอุธรณ์จึงสั่งให้ศาลชั้นต้นดาเนินการใหม่ให้ถูกต้อง และหลังจากดาเนินการใหม่ จาเลยได้
สาบานตนและเบิกความเพียงว่า การเบิกความในก่อนหน้านั้นถูกต้องครบถ้วนและเป็นความจริงแล้ว ศาล
สามารถรับฟังคาแถลงประกอบพยานเอกสารของโจทก์และการเบิกความของจาเลยในครั้งหลังได้หรือไม่
1.นายมานะมีภูมิลาเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย จดทะเบียนสมรสกับนางสาวมณี และได้ย้ายไปอยู่กินกันที่จังหวัด
แพร่อยู่ 20 ปี มีบุตรด้วยกัน 2 คน มีบ้านและที่ดินกับประกอบอาชีพที่จังหวัดแพร่ แต่นายมานะไม่ได้ย้ายที่อยู่
ตามสาเนาทะเบียนบ้านไปที่จังหวัดแพร่ด้วย ต่อมาในระหว่างทางที่นายมานะกาลังขับรถผ่านจังหวัดพะเยา
เพื่อกลับไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดเชียงราย นายปิติซึ่งมีภูมิลาเนาอยู่ที่จังหวัดลาปาง ได้ขับรถบรรทุกโดยประมาท
พุ่งชนรถที่นายมานะขับ ทาให้นายมานะถึงแก่ความตายที่จังหวัดพะเยา ก่อนตายนายมานะมีทรัพย์สินเพียง
ที่ดินอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น ให้วินิจฉัยว่า นางสาวมณีจะยื่นคาร้องขอให้ศาลมีคาสั่งแต่งตั้งนางสาวมณี
เป็นผู้จัดการมรดกของนายมานะเจ้ามรดที่ศาลจังหวัดแพร่ หรือศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
54 - 73
เทอม 1/63
1.โจทก์ฟ้องต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ดว่า จาเลยที่ 1 เป็นบริษัทจากัด มีภูมิลาเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร จาเลยที่ 2
เป็นตัวแทนของจาเลยที่ 1 ประจาสาขาร้อยเอ็ด และมีบ้านพักอาศัยอยู่ในอาเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
โจทก์สมัครทาประกันชีวิตกับจาเลยที่ 1 โดยผ่ายจาเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทน จาเลยที่ 2 อ้างว่าหากโจทก์ชาระ
เบี้ยประกันล่วงหน้า 5 ปีจะได้ส่วนลด โดยชาระเบี้ยประกันเพียง 500,000 บาท โจทก์ตกลงและชาระเบี้ย
ประกันภัย 500,000 บาท ให้แก่จาเลยที่ 2 ต่อมาจาเลยที่ 1 ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่โจทก์โดยระบุว่า
ได้รับเงินเพียง 110,000 บาท โจทก์ทวงถามค่าเบี้ยประกันภัยส่วนที่เกินคืน แต่จาเลยทั้งสองเพิกเฉย จึงขอ
บังคับให้จาเลยทั้งสองร่วมกันชาระค่าเบี้ยประกันภัยส่วนที่เกินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ให้วินิจฉัยว่า โจทก์มี
อานาจฟ้องจาเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ดได้หรือไม่
2.ในคดีก่อนโจทก์ฟ้องจาเลยว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทอันเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมีโฉนด มีชื่อ
จาเลยเป็นเจ้าของ จาเลยปลูกสร้างอาคารรุกล้าที่ดินพิพาท ขอให้ขับไล่จาเลยออกจากที่ดินพิพาท จาเลยให้
การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจาเลย ขอให้ยกฟ้อง ศาลนัดสืบพยานโจทก์ก่อน แต่โจทก์ขาดนัดพิจารณา
จาเลยแถลงขอให้ศาลดาเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลมีคาสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และมีคา
พิพากษายกฟ้องเพราะโจทก์มีภาระการพิสูจน์แต่โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมาสืบคดีถึงที่สุด คดีหลังโจทก์ฟ้อง
จาเลยว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท จาเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ ขอให้ขับไล่ออกไป ให้วินิจฉัยว่าฟ้อง
โจทก์คดีหลังชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
3.ภาระการพิสูจน์ต่างจากการนาพยานหลักฐานเข้าสืบในประเด็นข้อใดก่อนหรือหลังอย่างไร และคู่ความที่ไม่
มาศาลในวันชี้สองสถานมีสิทธิคัดค้านว่าภาระการพิสูจน์ที่ศาลกาหนดไว้นั้นไม่ถูกต้อง ได้หรือไม่
55 - 73
41342 กฎหมายวิธีสบัญญัติ2: วิธีพิจารณาความแพ่งและกฎหมายล้มละลาย
เทอม 2/61
1.ศาลนัดสืบพยานโดยให้โจทก์มีหน้าที่นาสืบก่อน โจทก์จาเลยมาศาล วันสืบพยานจาเลย จาเลยไม่มาศาล
ศาลให้เสร็จสิ้นการพิจารณาคดีและนัดวันพิพากษา ก่อนวันพิพากษาจาเลยยื่นขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยชี้แจง
ว่าป่วยพร้อมแนบใบรับรองแพทย์ ถามว่าจาเลยจะยื่นคาร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้หรือไม่
2.โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเรื่องการชาระหนี้มาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุน
ทรัพย์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นจะไม่รับฟ้อง โจทก์จะสามารถอุทธรณ์คาสั่งดังกล่าวได้ในทันทีหรือไม่ อย่างไร
3.เหนือชาระหนี้ให้ใต้ โดยรู้อยู่แล้วว่าทาให้เจ้าหนี้เสียเปรียบก่อนตนเองจะถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด 3 เดือน
แต่ใต้สุจริต เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะสามารถเพิกถอนการชาระหนี้ดังกล่าวได้หรือไม่
ซ่อม 2/61
1.นายเอฟ้องนายบีเรียกให้ชาระหนี้ตามสัญญากู้ แต่ไม่ได้เรียกดอกเบี้ย จึงทาคาร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมขอให้
ชาระดอกเบี้ยด้วย ศาลมีคาสั่งรับคาขอแก้ไข นายบีแย้งว่า ศาลมีคาสั่งรับนั้น ไม่ชอบ เพราะนายเอต้องยื่นคา
ร้องขอไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันชี้สองสถาน ถามว่านายบีจะขออุทธรณ์คาสั่งระหว่างพิจารณาได้หารือไม่
2.ให้อธิบายหลักเกณฑ์ของคาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ (คาร้องขัดทรัพย์)
2.1 ผู้มีสิทธิยื่นคาร้อง
2.2 ข้ออ้าง
2.3 เจ้าของรวมจะร้องขอขัดทรัพย์ได้หรือไม่
3.นาย ก.ถูกฟ้องล้มละลาย ขอประนอมหนี้ จ่ายแค่ 70% เป็นเงิน 4 ล้านบาท ขอจ่าย 4 งวด ๆ ละ 1 ล้าน
บาท และมีนาย ข เป็นผู้ค้าประกัน ศาลอนุญาต หลังจากนั้นชาระหนี้เพียง 1 งวด 1 ล้านบาท จ.พิทักษ์ทรัพย์
เห็นว่า ข เป็นผู้ค้าประกัน จะฟ้องขอให้ชาระหนี้ที่เหลือ 3 ล้านบาท ได้หรือไม่
1.นายเต็มฟ้องนายจันทร์ คดีแพ่งกู้ยืมเงิน 100,000 บาท จันทร์ให้การว่าตนใช้คืนหมดแล้ว ศาลจึงนัดให้
จาเลยนาสืบพยานก่อน ถึงวันจาเลยไม่มาตามนัด ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์ในนัดถัดไป เมื่อถึงวันนัดสืบพยาน
โจทก์จาเลยมาด้วย สุดท้ายศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จาเลยแพ้คดี เมื่อจาเลยได้รับคาบังคับคดีซึ่งอยู่ใน
ระยะเวลา 15 วัน จาเลยยื่นคาร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่
ก.จาเลยขาดนัดพิจารณาไหม
ข.ศาลสั่งอนุญาตให้นายจันทร์ฟ้องคดีใหม่ได้หรือไม่
56 - 73
เทอม 1/62
1.ยุทธ์และตู่เป็นลูกหนี้ร่วม มูลค่า 500,000 บาท โดยมีวสันต์เป็นเจ้าหนี้ วสันต์เห็นว่ายุทธ์มีฐานะดีกว่าตู่ จึงมี
คาฟ้องให้ยุทธ์เป็นจาเลย โดยมีวันนัดสืบพยานคือ 15 พ.ย. 2562 ก่อนวันสืบพยาน 7 พ.ย. 2562 วสันต์ยื่นคา
ร้องขอแก้ไขคาฟ้อง โดยขอเพิ่มตู่เป็นลูกหนี้ร่วม อ้างว่าเพื่อความบริบูรณ์ของคาฟ้องและเพื่อคุ้มครองสิทธิของ
ตน คาร้องขอแก้ไขคาฟ้องของวสันต์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
2.อุ้มฟ้องปานที่ศาลแขวงอุดร ผิดนัดสัญญากู้ 52,000 บาท โดยคดีอยู่ในระหว่างพิจารณา ปานยื่นคาร้องต่อ
ศาลขอให้เรียกชิดเข้ามาในคดี โดยอ้างว่าชิดเป็นผู้ค้าประกันและได้ชาระหนี้ครบถ้วนแล้ว ศาลเห็นว่าชิดไม่ใช่ผู้
ค้าประกันและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จึงมีคาสั่งยกคาร้องขอให้เรียกชิดเข้ามาในคดี ปานจึงยื่นอุทธรณ์คาสั่ง
นั้น อุทธรณ์ของปานชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
3.โชคฟ้องทิดล้มละลาย และศาลมีคาสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด โชคได้พาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปยึดทรัพย์ที่
ร้านขายโทรศัพท์ที่ทิดเป็นเจ้าของ ที่ร้านมีมือถือ 30 เครื่อง โย่งเป็นเจ้าของโทรศัพท์ 5 เครื่อง ซึ่งฝากขายไว้
และทิดมีอานาจขายได้ถ้ามีลูกค้ามาซื้อ โย่งทราบว่าโทรศัพท์ของตนถูกยึดเข้ากองทรัพย์สินล้มละลาย โย่ง
จะต้องดาเนินการอย่างไรหรือไม่ อย่างไร
ซ่อม 1/62
1.นายป้อมยื่นคาฟ้องนางสาวมณีกับนางสาวนุชลูกหนี้ร่วมในเงินกู้จานวน 1 ล้านบาท เป็นจาเลยร่วมกัน คดี
นัดสืบพยานวันที่ 14 พ.ย. 62 ต่อมานายป้อมยื่นคาร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคาฟ้องเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 62 ระบุในคา
ร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคาฟ้องว่า ไม่ประสงค์ฟ้อง น.ส. มณี เป็นจาเลยอีกต่อไป แต่คงคาฟ้อง น.ส.นุชเป็นจาเลย
เหมือนเดิม โดยอ้างว่าเป็นการสละข้อหาเดิมเสียบางข้อและเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้บริบูรณ์ ดังนี้ การยื่นคาร้องขอ
แก้ไขเพิ่มเติมคาฟ้องของนายป้อม ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
2.น.ส.อั้มเป็นโจทก์ฟ้องนายโบ้ทเป็นจาเลยข้อหาผิดสัญญาเงินกู้มูลหนี้ 5 หมื่น 5 พันบาท ที่ศาลแขวงเชียงใหม่
ต่อมานายโหน่งยื่นคาร้องสอดเข้ามาในคดีขอเป็นจาเลยร่วม อ้างว่าเป็นผู้ค้าประกันและได้ชาระหนี้ครบถ้วน
แล้ว ศาลแขวงเชียงใหม่เห็นว่านายโหน่งไม่ใช่ผู้ค้าประกัน และไม่มีส่วนได้เสียกับคดี จึงมีคาสั่งยกคาร้องสอด
ของนายโหน่ง นายโหน่งยื่นอุทธรณ์คาสั่งศาลแขวงเชียงใหม่ที่ไม่รับคาร้องสอดของตน ดังนี้ การอุทธรณ์ของ
นายโหน่งต้องห้ามหรือไม่ อย่างไร
3.นายพงษ์ฟ้องนายโจ้เป็นคดีล้มละลาย และศาลมีคาสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว นายพงษ์เจ้าหนี้ ผู้ฟ้องนา
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปยึดทรัพย์ที่ร้านขายคอมพิวเตอร์ของนายโจ้ลูกหนี้ พบเครื่องคอมพิวเตอร์วางขาย
ในร้านของนายโจ้ 20 ชุด ซึ่งนายโจ้มีอานาจจาหน่ายได้เมื่อมีลูกค้ามาซื้อ นายพงษ์จึงนาเจ้าพนักงานพิทักษ์
ทรัพย์ยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้ง 20 ชุด ต่อมานายอ้วนโต้แย้งว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ 3 ชุดเป็นของตนซึ่งนามา
ฝากขายที่ร้านของนายโจ้ ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คืนเครื่องคอมพิวเตอร์ 3 ชุดแก่ตน เจ้าพนักงาน
พิทักษ์ทรัพย์มีคาสั่งไม่คืนเครื่องคอมพิวเตอร์ 3 ชุดให้แก่นายอ้วน ดังนี้ คาสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่คืน
เครื่องคอมพิวเตอร์ 3 ชุดให้แก่นายอ้วนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
57 - 73
เทอม 2/62
1.นางสาวิตรีฟ้องนายไพฑูรย์ข้อหา ขออย่าและขอสินสมรสในที่ดิน ที่ศาลเยาวชนจังหวัดนนทบุรี ซึ่งคดีอยู่
ระหว่างนัดสืบพยาน ต่อมานางสาวิตรีฟ้องนายไพฑูรย์ข้อหา ขออย่า และขอสินสมรสเงินส่วนแบ่ง ที่ศาล
เยาวชนจังหวัดปทุมธานี ถามว่านางสาวิตรีฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
2.นายเอแบ่งมรดกให้ทายาท 3 คน คือ นายใจ นายปกรณ์ และนางสาวภาวนา โดยนายใจแอบยึดไว้คนเดียว
ต่อมานายปกรณ์ฟ้องนายใจ นายใจยอมความ ต่อมานายใจและนายปกรณ์ตกลงสละมรดกให้นางสาวภาวนา
โดยศาลพิพากษาว่าทั้งสองมีเจตนาสละมรดกทั้งหมดให้นางสาวภาวนา ต่อมานายปกรณ์ไม่ยอมให้มรดกแก่
นางสาวภาวนา นาวสาวภาวนาจึงฟ้องบังคับคดี ถามว่านางสาวภาวนาฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
3.นายเอ ซึ่งถูกฟ้องให้ล้มละลาย เป็นหนี้นางก้อย 2 ล้านบาท โดยมีนายขาวเป็นผู้ค้าประกันเต็มจานวน ต่อมา
มีการประนอมหนี้โดยให้จ่ายเพียงครึ่งเดียว นายเอ หลุดจากล้มละลายและหลุดจากหนี้ทั้งหลาย ถามว่านาง
ก้อยจะเรียกร้องเงินส่วนที่ขาดอีก 1 ล้านบาทจากนายขาวได้หรือไม่ อย่างไร
ซ่อม 2/62
1.นางสาวน้อยยื่นฟ้องนายโชคข้อหาละเมิดและเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 4 แสนบาทต่อศาลจังหวัดนครปฐม
จากมูลหนี้เหตุการณ์ที่นายโชคกับนายทวีร่วมกันชิงทรัพย์สร้อยคอทองคา นางสาวน้อยและเป็นเหตุให้นางสาว
น้อยได้รับอันตรายสาหัส คดีสืบพยานโจทก์เสร็จ และอยู่ระหว่างนัดสืบพยานจาเลย นางสาวน้อยก็ยื่นคาฟ้อง
นายทวีเป็นอีกคดีหนึ่งข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 4 แสนบาทต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จากมูล
หนี้เหตุการณ์ที่นายโชคกับนายทวีร่วมกันชิงทรัพย์สร้อยคอทองคานางสาวน้อยและเป็นเหตุให้นางสาวน้อย
ได้รับอันตรายสาหัสเช่นเดียวกัน ดังนี้ ให้วินิจฉัยคาฟ้องของนางสาวน้อยซึ่งยื่นฟ้องนายทวีเป็นคาฟ้องที่
ต้องห้ามตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
2.กองทรัพย์มรดกไม่มีพินัยกรรมซึ่งมีทายาทโดยธรรมสามคน คือนายใจ นายปกรณ์และนางสาวภาวนา ทรัพย์
มรดกอยู่ในความครอบครองของนายปกรณ์ และนายปกรณ์ไม่ยอมแบ่งทายาทคนอื่น นายใจจึงเป็นโจทก์ยื่น
ฟ้องนายปกรณ์เป็นจาเลย ขอแบ่งทรัพย์มรดกต่อมานายใจโจทก์กับนายปกรณ์จาเลยทาสัญญาประนีประนอม
ยอมความกันโดยทั้งนายใจโจทก์ กับนายปกรณ์จาเลยแสดงเจตนาสละทรัพย์มรดก และยกทรัพย์มรดกทั้งหมด
ให้นางสาวภาวนา น้องสาวของคู่ความ ศาลพิพากษาตามสัญญายอมความ ต่อมานายปกรณ์ไม่ยอมส่งมอบ
ทรัพย์มรดกให้นางสาวภาวนา นายใจจึงยื่นคาขอต่อศาลขอให้บังคับคดี ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่าการที่นายใจยื่นคา
ขอต่อศาลขอให้บังคับคดีนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
58 - 73
3.นายโจประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวซึ่งได้ลงทุนไปเป็นจานวนกว่า 20 ล้านบาท ต่อมาประสบปัญหา
เนื่องจากเกิดไวรัส Covid-19 ทาให้การท่องเที่ยวซบเซา ส่งผลให้ธุรกิจ ขาดทุนจนเป็นหนี้จานวน 40 ล้านบาท
เจ้าหนี้หลายรายทวงหนี้นายโจหลายครั้ง แต่นายโจไม่มีเงินชาระหนี้ นายนริศเจ้าหนี้คนหนึ่งได้ฟ้องนายโจเป็น
คดีล้มละลายศาลมีคาสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หลังจากนั้นเจ้าหนี้จานวน 10 คน ซึ่งรวมนายนริศเจ้าหนี้ผู้ฟ้อง
คดีด้วย ยื่นคาขอรับชาระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นจานวน 40 ล้านบาท นายโจจึงยื่นขอประนอม
หนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อขอมติเกี่ยวกับคาขอประนอมหนี้ของนายโจ โดย
เจ้าหนี้ 8 คน คิดเป็นจานวนหนี้ 10 ล้านบาทยอมรับคาขอประนอมหนี้ ส่วนเจ้าหนี้ที่เหลือไม่ยอมรับคาขอ
ประนอมหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงรายงานศาลว่า การประนอมหนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบ และศาล
พิพากษาให้นายโจล้มละลาย ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่าการที่ศาลพิพากษาให้นายโจล้มละลายชอบด้วยกฎหมาย
1.นายรักแท้ยื่นคาร้องสอดโดยอ้างว่า การที่นายรักแท้ร้องสอดเข้ามาในคดีนี้เนื่องจากคู่ความ คือนายหนึ่ง
โจทก์เดิมกับนายสองจาเลยเดิมขอให้ศาลไกล่เกลี่ยเพื่อประณีประนอมยอมความต่อกัน หากศาลมีคาพิพากษา
ตามยอมจะเป็นผลเสียหายแก่นายรักแท้ผู้ร้องสอด จึงเป็นกรณีจาเป็นเพื่อให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือ
บังคับตามสิทธิของนายรักแท้ผู้ร้องสอด ตามประมวลกฎหมาวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) จึงร้องสอด
เข้ามาขอให้ศาลอนุญาตให้นายรักแท้ผู้ร้องสอดเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่สาม โดยนายรักแท้เห็นว่าคาร้องสอดเป็น
เพียงขออนุญาตศาลเข้าเป็นคู่ความ ซึ่งศาลจะอนุญาตหรือไม่ ยังไม่ทราบ คาร้องสอดจึงไม่จาเป็นต้องมีคาขอ
บังคับ ส่วนนายหนึ่งโจทก์เดิมกับนายสองจาเลยเดิมโต้แย้งว่าคาร้องสอดที่ไม่มีคาขอบังคับเป็นคาร้องสอดที่ไม่
ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่า
ก.คาร้องสอดของนายรักแท้ท่าม่มีคาขอบังคับ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ข.ศาลจะสั่งคาร้องสอดของนายรักแท้ที่ไม่มีคาขอบังคับอย่างไร
59 - 73
เทอม 1/63
1.นายอ้นโจทก์ยื่นฟ้องนายชัยจาเลยที่ 1 และนายณัฐจาเลยที่ 2 เป็นคดีแพ่ง แต่นายอ้นโจทก์ยังส่งหมายเรียก
และสาเนาคาฟ้องให้นายณัฐจาเลยที่ 2 ไม่ได้ นายอ้นโจทก์จึงยื่นคาร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาในการร้อง
ขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ส่งหมายเรียกให้แก้คดีให้แก่จาเลย เพื่อสืบหาภูมิลาเนาของนายณัฐจาเลยที่ 2 ไป
ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ศาลมีคาสั่งอนุญาตขยายระยะเวลาถึง วันที่ 24 ตุลาคม 2563 นายอ้นโจทก์ยื่นคา
โต้แย้งคัดค้านคาสั่งศาล และไม่ได้ร้องขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้ส่งหมายเรียกให้แก้คดีแก่นายณัฐจาเลย
ที่ 2 ภายในวันที่ 24 ตุลาคม 2563 ต่อมานายณัฐจาเลยที่ 2 มาศาลและทราบว่านายอ้นโจทก์ ไม่ได้ร้องขอต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้ส่งหมายเรียกให้แก้คดีแก่ตน นายณัฐจาเลยที่ 2 จึงแถลงต่อศาลขอให้ศาลมีคาสั่งว่า
นายอ้นโจทก์ทิ้งฟ้องและจาหน่ายคดีของโจทก์ในส่วนของจาเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ ส่วนนายอ้นโจทก์
ได้โต้แย้งอ้างว่าคาสั่งศาลขยายระยะเวลาเพื่อสืบหาภูมิลาเนาของนายณัฐจาเลยที่ 2 นั้นเป็นคาสั่งระหว่าง
พิจารณาซึ่งตนโต้แย้งคัดค้านแล้ว กรณีไม่ใช่การทิ้งฟ้อง ดังนี้ ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่านายอ้นโจทก์ ทิ้งฟ้อง
2.นายสมานกับนายวิรุฬเป็นเจ้าของกรรมสิทธิร่วมในรถยนต์คันหนึ่งหมายเลขทะเบียน 789 ซึ่งอยู่ในความ
ครอบครองของนายวิรุฬ ต่อมานายวิรุฬถูกเจ้าหนี้ของตนฟ้องร้องและศาลพิพากษาให้นายวิรุฬแพ้คดีตกเป็น
ลูกหนี้ตามคาพิพากษา เจ้าหนี้ตามคาพิพากษาของนายวิรุฬนาเจ้าหนักงานบังคับคดียึดรถยนต์หมายเลข
ทะเบียน 789 คันดังกล่าวเพื่อขายทอดตลาด ดังนี้ ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า นายสมานในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ
ร่วมรถยนต์หมายเลขทะเบียน 789 มีสิทธิดาเนินการร้องขอต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
แพ่งอย่างไร หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.นายเอกเป็นหนี้นายโท 20 ล้านบาท เมื่อถึงกาหนดชาระหนี้ นายเอกไม่ชาระหนี้เนื่องจากนายเอกมีเจ้าหนี้
หลายรายที่เรียกร้องให้ชาระหนี้ นายโทจึงฟ้องนายเอกเป็นคดีล้มละลายและทาคาร้อง ขอให้ศาลมีคาสั่ง
พิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวนายเอก ศาลไต่สวนและเห็นว่าคดีมีมูล จึงมีคาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวนายเอก ต่อมา
นายตรีซึ่งเป็นเจ้าหนี้เงินกู้อีกรายหนึ่งของนายเอกได้ทราบเรื่องที่นายโทฟ้องนายเอกเป็นคดีล้มละลาย นายตรี
เกรงว่าตนเองจะไม่ได้รับชาระหนี้ ประกอบกับหนี้เงินกู้นั้น ถึงกาหนดชาระ และได้ทวงถามให้นายเอกชาระหนี้
แล้ว แต่นายเอกเพิกเฉย ไม่ตอบกลับแต่อย่างใด นายตรีจึงฟ้องร้องนายเอกเป็นคดีแพ่งเพื่อเรียกหนี้เงินกู้ นาย
เอกปฏิเสธโดยอ้างว่านายตรีไม่สามารถฟ้องร้องตนเองได้ เนื่องจากตนได้ถูกคาสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้ว
หากนายตรีประสงค์ที่จะเรียกหนี้เงินกู้คืน ต้องฟ้องร้องเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ดังนี้ ท่านเห็นด้วยกับข้ออ้าง
ของนายเอก หรือไม่ เพราะเหตุใด
60 - 73
41343 กฎหมายวิธีสบัญญัติ3: วิธีพิจารณาความอาญา
เทอม 2/61
1.นายชบาขโมยรถนายกุหลาบ ที่วัดในจังหวัดนครปฐมและได้นาไปขายให้นางมะลิที่จังหวัดราชบุรี และถูกจับ
พนักงานสอบสวนดาเนินการสอบสวนเสร็จส่งสานวนให้อัยการ และอัยการสั่งฟ้องที่ศาลจังหวัดนครปฐม นาย
ชบาได้แย้งว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องตนที่จังหวัดนครปฐมเพราะตนมีภูมิลาเนาอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม และนาง
มะลิก็แย้งโจทก์ว่าไม่มีสิทธิฟ้องตนที่ศาลจังหวัดนครปฐมเช่นกัน เหตุผลของทั้งสองคนฟังขึ้นหรือไม่ อย่างไร
2.ศาลพิพากษาคดีทาร้ายร่างกาย โดยก่อนพิจารณาได้ถามจาเลยว่ามีทนายหรือไม่ และต้องการทนายหรือไม่
แต่จาเลยให้การว่าจะจัดหาเอง วันนัดพิจารณา ก่อนศาลเริ่มพิพากษา จาเลยแถลงต่อศาลว่าไม่มีเงินจ้างทนาย
ขอให้ศาลช่วยจัดหา ศาลไม่อนุญาตและดาเนินการพิจารณาคดีต่อ ถามว่าศาลดาเนินการโดยชอบหรือไม่
3.นาย ก ขับรถโดยประมาทชนนาย ข เป็นเหตุให้นาย ข ได้รับบาดเจ็บสาหัส อัยการสั่งฟ้อง โดยคาฟ้องได้แจ้ง
ทะเบียนรถ 8ขข 8888 แต่จาเลยแย้งว่าตนขับรถชนนาย ข เลขทะเบียน 9ขข 9999 หากท่านเป็นผู้พิพากษา
จะพิจารณาคดีอย่างไร
ซ่อม 2/61
1.ก.ลักรถนาย ข. ที่จังหวัดนครปฐม ไปขายให้นาง ค.ที่จังหวัดราชบุรี อัยการฟ้อง ก และ นาง ค.จังหวัด
ราชบุรี นาย ก อ้างว่าตนที่จังหวัดราชบุรีไม่ได้เพราะตนลักรถมาจากนครปฐม ข้ออ้างของ ก ฟังได้หรือไม่
2.อัยการเป็นโจทก์ฟ้องจาเลย คดีอาญามีโทษให้จาคุก ก่อนพิจารณาศาลได้ถามจาเลยต้องการทนายหรือไม่
จาเลยแถลงว่าจะจัดหาเอง จาเลยให้การปฏิเสธ วันสืบพยานจาเลยมาและไม่มีทนาย มิได้แถลงต่อศาล ศาลจึง
พิจารณาต่อไปจนมีคาพิพากษา ถามว่าการดาเนินกระบวนการโดยที่ไม่มีทนายให้จาเลยเป็นการดาเนินการ
ชอบด้วยหรือไม่
3.โจทก์ฟ้องจาเลยฐานลักทรัพย์ แต่ความจริงยักยอก ศาลจะลงโทษจาเลยได้หรือไม่
1.พนักงานสอบสวนได้จับกุมนายดาในความผิดฐานฆ่าบุพการี ตามมาตรา 289(1) ต้องมีโทษถึงกับประหาร
ชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งแก่นายดาว่าต้องการทนายความหรือบุคคลที่ไว้วางใจหรือไม่ ซึ่งนายดาปฏิเสธ
ไม่ต้องการไม่ต้องการทนายความ หรือบุคคลที่ไว้วางใจมารับฟังการสอบสวน ต่อมาพนักงานสอบสวนได้
พิจารณาแล้วสรุปสานวน และมีคาสั่งฟ้องนายดา คาถามคือ พนักงานสอบสวนจะสรุปสานวนสั่งฟ้องนายดา
ต่ออัยการโดยปราศจากทนายความ และพนักงานอัยการจะสามารถสั่งฟ้องได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
61 - 73
เทอม 1/62
1.นายโชคเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษนายช่วยฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องไม่สมบูรณ์ เพราะ
มิได้กล่าวเวลา และสถานที่ซึ่งจาเลยกระทาความผิด ให้โจทก์แก้คาฟ้องให้ถูกต้อง แต่นายโชคยืนยันไม่แก้ ศาล
ขั้นต้นจึงสั่งยกฟ้อง ต่อมาอัยการส่งฟ้องนายช่วยด้วยการกระทาผิดเดียวกัน ศาลชั้นต้นประทับฟ้อง ท่านเห็น
ด้วยกับคาสั่งของศาลชั้นต้นในครั้งหลังนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด
2.นายเมฆเป็นโจทก์ฟ้องนายหมอกเป็นจาเลยข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันนัดนายหมอกไม่
มา ศาลจึงแต่งตั้งทนายซักค้านพยานโจทก์แทนจาเลย ทั้งเบิกความพยานและยังซักถามจนพาดพิงไปถึงสัญญา
กู้ยืมเงินที่นายเมฆได้ให้นายหมอกกู้ยืม นายเมฆขอดูเอกสารและยืนยันว่าเป็นเอกสารการกู้ยืมเงินที่ตนได้ทาไว้
กับนายหมอกจริง ศาลจึงเรียกดูและเก็บไว้เป็นหลักฐาน โจทก์ได้ทาการคัดค้านว่าศาลจะรับฟังไม่ได้เพราะ
จาเลยไม่สิทธินาพยานหลักฐานของฝ่ายจาเลยเข้าสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ดังนี้ให้วินิจฉัยว่าการคัดค้านของ
โจทก์รับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษนายน้าอบกับนายน้าอ้อยเป็นจาเลยฐานข่มขืนกระทาชาเรา ตาม
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจาเลยได้กระทาความผิดจริง ต่อมาโจทก์และนาย
น้าอบอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าจาเลยไม่มีความผิด จึงยกฟ้องและปล่อยจาเลยทั้งสอง โจทก์ฎีกาว่านาย
น้าอ้อยไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไม่มีอานาจพิพากษายกฟ้องนายน้าอ้อย ดังนี้ท่านเห็นด้วยกับฎีกาของโจทก์
เทอม 2/62
1.นายเหี้ยมกับนายห้าวเข้าไปเจราจาเรื่องเงินกู้กันในป่า ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อท้องที่อาเภอบัวลอยกับอาเภอ
แก้งสนิม แต่ทั้งสองคนตกลงกันไม่ได้ นายเหี้ยมจึงใช้อาวุธปืนยิงนายห้าวถึงแก่ความตาย แล้วขับรถหนีไป
ชาวบ้านซึ่งเข้าไปเก็บของป่าเห็นนายเหี้ยมยิงนายห้าวจึงได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตารวจภูธร
แก้งสนิม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตารวจสถานีตารวจภูธรบัวลอยจับกุมนายเหี้ยมได้ที่ห้างสรรพสินค้า แล้วนาตัวนาย
เหี้ยมส่งให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตารวจภูธรบัวลอย เมื่อพนักงานสอบสวนสถานีตารวจภูธรบัวลอยทาการ
สอบสวนและทาความเห็นว่าควรสั่งฟ้องนายเหี้ยมในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
288 จึงส่งสานวนเพื่อให้อัยการพิจารณาต่อไป ดังนี้ พนักงานอัยการมีอานาจสั่งฟ้องนายเหี้ยมหรือไม่ เพราะ
เหตุใด
62 - 73
2.พนง.สอบสวน สอบสวนนายหนึ่งผู้ต้องหา ในข้อหาทาร้ายร่างกายนายสอง จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่
กาย และพนักงานอัยการเป้นโจทก์ยื่นฟ้องนายหนึ่งเป็นจาเลยในความผิดฐานทาร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิด
อันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ในชั้นพิจารณา นายสองผู้เสียหายเบิกความต่อศาล
ว่าที่ถูกนายหนึ่งทาร้ายร่างกายนั้นทาให้ตนเองได้รับบาดเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ในระหว่าง
สืบพยานโจทก์ พนักงานอัยการยื่นคาร้องขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้อง ขอให้ลงโทษนายหนึ่งจาเลยในความผิดฐาน
ทาร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) ดังนี้ ถ้าท่านเป็นศาลจะ
อนุญาตให้พนักงานอัยการแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องหรือไม่ เพราะเหตุใด
3.โจทก์ฟ้องจาเลยกระทาความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ต้องระวางโทษ
จาคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจาคุก 2 ปี จาเลยอุทธรณ์ฝ่ายเดียว
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าศาลชั้นต้นลงโทษโดยไม่กาหนดโทษปรับด้วยนั้นไม่ถูกต้อง เพราะความผิด
ดังกล่าวมีโทษจาคุกและปรับ ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้เป็นรอการลงโทษจาคุก และปรับ 40,000 บาท
ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ซ่อม 2/62
1.โหด ปล้นร้านทอง ยิงเจ้าของร้านตายแล้วหนีไป เหตุเกิดที่อาเภอวานร ท้องที่ สภ.วานร ชาวบ้านโทรแจ้ง
ตารวจ ต่อมาโหดโดนจับที่ท้องที่ สภ.สระลอย สภ.สระลอยส่งตัวโหดให้ สภ.วานรสอบสวน พอสอบสวนเสร็จ
ทาความเห็นแล้วส่งฟ้องกับอัยการ ความผิด ป.อาญา ม.339 อัยการฟ้องโหดได้หรือไม่
2.โจทก์ฟ้องจาเลยพยายามฆ่า ศาลถามจาเลยว่าต้องการทนายหรือไม่ จาเลยไม่ต้องการ พอให้การ จาเลยให้
การสารภาพไม่ขอต่อสู้คดี พอสืบพยานโจทก์ประกอบคารับสารภาพ จาเลยแต่งตั้งทนายยื่นคาร้องขอแก้
คาให้การ จากรับสารภาพเป็นปฏิเสธ เหตุผลเข้าใจผิด ได้ปรึกษาทนายแล้วว่าที่ทาไปเป็นการป้องกันตัวสมควร
แก่เหตุ ศาลอนุญาตให้แก้คาให้การได้หรือไม่
3.จาเลยโดนฟ้องผิดฐานฆ่าคน โจทก์ขอให้ลงโทษฐานฆ่าคนและริบขอบกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาจาคุก 15 ปี
จาเลยขออุทธรณ์ฝ่ายเดียว ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นไม่ได้วินิจฉัยเรื่องของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาริบ
ของกลางได้หรือไม่
63 - 73
1.นางทรายกับนายดินอยู่กินกันโดยมิได้จดทะเบียนสมรส นายดินกับนายหินขับรถบรรทุก นายก้อยขับรถยนต์
ด้วยความเร็วชนท้ายรถบรรทุก เป็นเหตุให้นายดินกับนายหินเสียชีวิตทันที นางทรายเห็นว่าแจ้งดาเนินคดี
กล่าวร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนล่าช้า จึงดาเนินคดีกับนายก้อยข้อหาขับรถโดยประมาททาให้ผู้อื่นถึงแก่
ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 คาถาม นางทรายมีอานาจฟ้องดาเนินคดีนายก้อยได้
เทอม 1/63
1.นายกล้วยได้เช่าซื้อรถยนต์จากธนาคารมะละกอจากัด นายกล้วยได้ครอบครอง ใช้สอย และผ่อนชาระค่างวด
รถยนต์คันดังกล่าวมาโดยตลอด ต่อมานายกล้วยได้ขับรถยนต์แล้วจอดข้างทางเพื่อเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็ม โดย
จะนาไปชาระค่างวดที่เหลือ นายส้มได้ใช้อาวุธปืนจี้นายกล้วย บังคับให้ยอมส่งมอบรถยนต์ นายกล้วยกลัวว่า
จะได้รับอันตรายจึงมอบกุญแจให้ นายส้มได้ขับรถยนต์ดังกล่าวหลบหนีไป ดังนี้ นายกล้วยมีอานาจฟ้องนายส้ม
ในความผิดฐานชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี และความผิดฐานพกพา
อาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน
มาตรา 8 ทวิ หรือไม่ อย่างไร
2.นายเด่นเป็นโจทก์ฟ้องนายโด่งเป็นจาเลยในคดีแพ่ง หาว่านายโด่งผิดสัญญาซื้อขายและขอให้นายโด่งชดใช้
ค่าเสียหาย ในการพิจารณาคดีแพ่งนายเด่นเบิกความต่อศาลว่านายโด่งซื้อสินค้าจากตนแล้วไม่ยอมชาระราคา
ต่อมานายโด่งเป็นโจทก์ฟ้องนายเด่นเป็นจาเลยคดีอาญาความผิดฐานเบิกความเท็จในคดีแพ่งที่นายเด่นฟ้อง
นายโด่ง ศาลสั่งไต่สวนมูลฟ้อง ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องศาลสั่งให้เลื่อนคดีอาญาไปก่อน เพื่อรอฟังผลคดีแพ่ง
ต่อมาศาลนัดพร้อมในคดีอาญาเพื่อสอบถามผลของคดีแพ่ง ปรากฏว่าในวันที่ศาลนัดพร้อม นายโด่งโจทก์ทราบ
นัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่าศาลจะยกฟ้องเพราะนายโด่ง
โจทก์ไม่มาตามนัดได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
3.โจทก์บรรยายฟ้องว่าจาเลยทั้งสองร่วมกันกระทาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
83 และ 288 จาเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ในทางพิจารณาข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่า จาเลยที่ 2 เป็นผู้ใช้ให้
จาเลยที่ 1 กระทาความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 และ 288 ดังนี้ ศาลจะลงโทษ
จาเลยที่ 2 ได้หรือไม่ อย่างไร
64 - 73
41451 กฎหมายระหว่างประเทศ
เทอม 2/61
1.จงอธิบายบ่อเกิดของกฎหมายระหว่างประเทศ พอสังเขป
2.จงบอกลักษณะของสนธิสัญญาที่ขัด Jus Cogens มาตรา 53 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ค.ศ.1969 มีผล
อย่างไร พร้อมยกตัวอย่าง
3.นายฌอนอายุ 19 ปี มีสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งตามกฎหมายฝรั่งเศสบุคคลจะบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุ 18 ปี
นายฌอนได้มาอยู่ที่ประเทศไทย แล้วได้ทานิติกรรมซื้อทาวน์โมมที่กรุงเทพฯ กับบริษัทร่มรื่นจากัด ในราคา
7,000,000 บาท โดยมิได้รับอนุญาตจากบิดามารดา ต่อมาบิดามารดารู้เรื่องการซื้อทาวน์โมมจึงมาประเทศ
ไทยเพื่อบอกเลิกสัญญาการซื้อขายกับบริษัทร่มรื่นจากัด แต่บริษัทร่มรื่นจากัดบอกว่าจะบอกล้างนิติกรรมไม่ได้
เพราะนายฌอนบรรลุนิติภาวะแล้ว บิดามารดานายฌอนมาปรึกษาท่าน ท่านจะแนะนาว่าอย่างไร พร้อม
อธิบายหลักกฎหมาย
ซ่อม 2/61
1.จงบอกความแตกต่างของ ก.ม.ระหว่างประเทศ กับ ก.ม.ภายใน
2.จงบอกขั้นตอนของการทาสนธิสัญญามาโดยละเอียด
3.นายทอม คนอังกฤษ อายุ 19 ปี อาศัยในไทย ซื้อสินค้าจากประเทศฝรั่งเศส (และตาม ก.ม.ฝรั่งเศสและ
อังกฤษ บุคคลจะบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุ 18 ปี) อยากทราบว่า
3.1 นิติกรรมและการแสดงเจตนาของนายทอมมีผลทางกฎหมายหรือไม่อย่างไร
3.2 ถ้านาขึ้นสู่ศาลไทย จะวินิจฉัยอย่างไร ให้ยกหลักกฎหมายประกอบ
1.ทฤษฎีรับรองรัฐแบบใดไม่สอดคล้องกับสังคมระหว่างประเทศในปัจจุบัน
2.องค์การหรือหน่วยงานใดกระทาแล้วรัฐต้องรับผิดชอบตามก.มระหว่างประเทศ
3.คนลาวขับรถชนคนอังกฤษ ที่สิงคโปร์ มาเมืองไทย คนอังกฤษฟ้องศาลไทย ใช้ ก.ม ประเทศใด
65 - 73
1.การโอนกิจการของคนต่างด้าวเป็นของรัฐมีเหตุผลความจาเป็นและสิทธิหน้าที่ และพันธะกรณีของรัฐในการ
เชยความเสียหายแก่คนต่างด้าวอย่างไร
2.คนญี่ปุ่นทาสัญญาขายเครื่องจักรให้กับคนมาเลเซียมาทาโรงงานในประเทศไทยกิจการขาดทุนคนมาเลเซียไม่
มีเงินจ่ายค่าซื้อเครื่องจักรใช้กฎหมายขัดกันมาตราใดศาลไทยจะใช้บังคับกฎหมายของประเทศใดในการบังคับ
ขายทอดตลาดเครื่องจักรเพื่อใช้หนี้
3. การกระทาฝ่ายเดียวของรัฐหรือองค์กรระหว่างประเทศเป็นบรอเกิดของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างไรจง
อธิบาย
1.องค์ประกอบของกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
2.วิธีการนากฎหมายระหว่างประเทศมาปรับใช้เป็นกฎหมายภายในประเทศ
3. หญิงไทยแต่งกับชายฝรั่งเศสที่ฝรั่งเศส แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสที่สถานกงสุลไทย ต่อมาทั้งสองมาอาศัยอยู่
ในไทย ฝ่ายชายยกย่องหญิงอื่นเป็นภรรยา ถามว่าการสมรสนั้นชอบด้วกฎหมายหรือไม่ และศาลไทยจะ
พิจารณาคดีอย่างไร
1.องค์ประกอบของกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
2.การยินยอมเข้าผูกพันของรัฐในสนธิสัญญาได้กี่กรณี และมีผลอย่างไรจงอธิบาย
3. หญิงไทยแต่งกับชายฝรั่งเศสที่ฝรั่งเศส แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสที่สถานกงสุลไทย ต่อมาทั้งสองมาอาศัยอยู่
ในไทย ฝ่ายชายยกย่องหญิงอื่นเป็นภรรยา ถามว่าการสมรสนั้นชอบด้วกฎหมายหรือไม่ และศาลไทยจะ
พิจารณาคดีอย่างไร
66 - 73
1.จงอธิบายบ่อเกิดของกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งบ่อเกิดหลักและบ่อเกิดรองโดยนัยแห่งธรรมนูญศาล
ยุติธรรมระหว่างประเทศ มาตรา38 มาโดยละเอียด
2.อธิบายความแตกต่างของการแสดงเจตนายินยอมผูกพันตนของรัฐ ในการให้สัตยาบัน(Ratification) การ
ภาคยานุวัติ (Accession) และการลงนาม (Signature)
3.นางสมศรี สัญชาติไทย เดินทางไปทาการค้าที่ประเทศมาเลเซีย โดยได้ทาสัญญาซื้อขายกับนางซันนี่ สัญชาติ
มาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดนไม่ได้ระบุไว้ชัดแจ้งหรือโดยปริยายว่าด้วยให้ใช้กฎหมายประเทศใดในการ
บังคับสัญญา ทั้งคู่ได้เดินทางมาประเทศไทยและได้ผิดสัญญากันเกิดขึ้น โดยนางสมศรีไม่ยอมชาระหนี้ตาม
สัญญา นางซันนี่จึงฟ้องคดีบังคับให้นางสมศรีชาระหนี้ตามสัญญา ณ ศาลไทยที่มีเขตอานาจ
จงวินิจฉัยว่าศาลไทยจะใช้กฎหมายของประเทศใดบังคับคดีนี้ และให้ยกหลักกฎหมายขัดกันประกอบการ
อธิบาย
1.คาพิพากษาของศาลระหว่างประเทศ เป็นบ่อเกิดของกฎหมายรปท.ได้อย่างไร
2.จงอธิบายความเหมือนหรือความแตกต่างของ การให้สัตยาบันและการลงนาม
3.นิติสัมพันธ์ที่มีองค์ประกอบต่างชาติหมายความว่าอะไร
เทอม 1/62
1.ให้อธิบายความหมายและลักษณะของบ่อเกิดของกฎหมายระว่างประเทศ
2.ความสัมพันธ์ของผู้แทนทางการทูตได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันอย่างไร แตกต่างกับกงสุลอย่างไร จง
อธิบาย
3.สมพรทางานเป็นมัคคุเทศก์พานักท่องเที่ยวเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ได้เสียกับนางสาวมิโกะที่สถานทูตไทยใน
ญี่ปุ่น และหลังจากนั้นสมพรได้เดินทางกลับมาประเทศไทย ทราบว่านางสาวมิโกะคลอดบุตรคือเด็กชายชินุ ซึ่ง
เป็นบุตรของตน สมพรต้องการพามิโกะและเด็กชายชินุมาอยู่ประเทศไทย ต้องการให้บุคคลทั้งสองได้สัญชาติ
ไทย สมพรมาปรึกษาท่าน ท่านจะอธิบายให้สมพรเข้าใจอย่างไร
67 - 73
Walk in 30-11-62-เช้า/ 7-12-62-บ่าย
1.ให้บอกลักษระของกฎหมายระหว่างประเทศที่ท่านศึกษามา และข้อแตกต่างของกฎหมายระหว่างประเทศ
กับกฎหมายภายในต่างกันอย่างไร
2.บอกลักษณะของระบบเอกนิยม ระบบทวินิยม และท่านคิดว่าประเทศไทยใช้ระบบใด
3.นายปิแอร์สัญชาติฝรั่งเศส อายุ 19 ปี ตามกฎหมายฝรั่งเศสบุคคลบรรลุนิติภาวะที่อายุ 18 ปี ต่อมานาย
ปิแอร์ได้เข้ามาในไทยและซื้อตึกแถวเพื่ออยู่อาศัยกับบริษัทหนึ่ง เมื่อบิดามารดาของนายปิแอร์ทราบเรื่อง จึง
บอกล้างนิติกรรมการซื้อขายตึกแถว บริษัทหนึ่งอ้างว่าไม่สามารถบอกล้างได้เพราะนายปิแอร์บรรลุนิติภาวะ
ตามกฎหมายฝรั่งเศสแล้ว ถ้าบิดามารดาของนายปิแอร์มาปรึกษาท่าน ท่านจะให้คาปรึกษาอย่างไร พร้อมยก
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องประกอบ
Walk in 30-11-62-บ่าย/ 8-12-62-เช้า

1.จงอธิบายองค์ประกอบของกฎหมายจารีตประเพณี อย่างละเอียด
2.จงอธิบายองค์ประกอบของสนธิสัญญา ตามอนุสัญญากรุงเวียนนา อย่างละเอียด
3.นายเคน อายุ 18 ปี มีสัญชาติอังกฤษ อาศัยอยู่ในประเทศไทย ตามกฎหมายอังกฤษนายเคนบรรลุนิติภาวะ
แล้ว โดยนายเคนได้สั่งซื้อของจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตามกฎหมายฝรั่งเศส บุคคลจะบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุ
18 ปีบริบูรณ์ นิติกรรมที่นายเคนได้ทา มีผลตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร ในกรณีที่ได้นาขึ้นสู่ศาลไทยพิจารณา
จงวินิจฉัยพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ
Walk in 1-12-62
1.อธิบายที่มาและบ่อเกิดของกฎหมายระหว่างประเทศ
2.อธิบายการทาสนธิสัญญา
3.นายฌองเป้นคนฝรั่งเศส เป็นเจ้าของกิจการน้าหอม ทาสัญญาจ้างนายจอห์นสัญชาติอเมริกันที่ฝรั่งเศส และ
มาเปิดตลาดน้าหอมที่ไทย มาผิดสัญญาที่ไทย ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าจะใช้กฎหมายใดถ้ามีการผิดสัญญา แล้ว
นายฌองจะยื่นฟ้องจอห์นที่ศาลไทย
3.1 ศาลไทยจะใช้กฎหมายใดมาพิจารณาคดีนี้
3.2 กรณีนี้คู่สัญญาไม่สามารถนาสืบแก่ศาลได้ แล้วศาลไทยจะใช้กฎหมายใดมาพิจารณา
68 - 73
Walk in 1-12-62/ 8-12-62-บ่าย
1.การกระทาฝ่ายเดียว ที่หมายถึง การกระทาของรัฐ โดยการประกาศฝ่ายเดียวนั้น มีลักษณะอย่างไร
2.อธิบายหลักกฎหมายที่เป็น Jus cogens ตามมาตรา 53 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ค.ศ.1969
3.นางซิปปี้และนางเจนนี่สัญชาติอเมริกัน ทาสัญญาจ้างแรงงานที่ประเทศมาเลเซีย ต่อมาเดินทางมาทาธุรกิจที่
ประเทศไทย และผิดสัญญากันขึ้นที่ประเทศไทย และคู่กรณีมิได้มีเจตนาชัดแจ้งหรือโดยปริยายว่าจะใช้
กฎหมายใดบังคับ และมิได้นาสืบกฎหมายนั้นว่าเป็นอย่างไร ศาลจะใช้กฎหมายใดบังคับ
1.อธิบายบ่อเกิดลาดับรองอย่างละเอียด
2.รัฐถอนตัวหรือการยกเลิกสนธิสัญญา อธิบายอย่างละเอียด
3.นาย A และนาย B ทาธุรกิจด้วยกัน ทั้งคู่สัญชาติเดียวกันคือสิงคโปร์ โดยทาสัญญาที่มาเลเซีย มาทางานใน
ไทยและผิดสัญญาที่ไทย ศาลไทยจะใช้กฎหมายไหนพิจารณาคดี และถ้านาสืบไม่ได้ศาลไทยจะต้องทาอย่างไร
ซ่อม 1/62
1.บ่อเกิดของกฎหมายระหว่างประเทศ ทาไมถึงมีบ่อเกิดหลัก-รอง
2.อธิบายหลักว่าทาไมทูตถึงต้องมีเอกสิทธิความคุ้มครองทางการทูต
3.นางมีชาวต่างด้าวหลบหนีสงครามเข้ามาอยู่เมืองไทย ทางานร้านอาหาร ได้เสียกับนายไก่ที่ร้านอาหาร แต่
นายไก่มีภรรยาอยู่แล้ว ต่อมามีชื่อ ด.ช.สบเมย จะเข้าโรงเรียน นางมีและ ด.ช.สบเมยจะขอสัญชาติไทยได้ไหม
ให้อธิบายให้นางมีเข้าใจ
69 - 73
เทอม 2/62
1.จงอธิบายหลักความคุ้มครองทางการทูต Diplomatic protection
2.จงอธิบายหลักการผ่านโดยสุจริตในบริเวณทะเลอาณาเขต/อธิบายโดยสังเขป
2.1.สิทธิของรัฐชายฝั่งในการให้เรือผ่านโดยสุจริต
2.2.การกระทาของเรือต่างชาติที่กระทาขัดต่อหลักการผ่านโดยสุจริต
2.3.สิทธิและภาระของรัฐชายฝั่งที่ยอมให้เรือต่างชาติผ่านโดยสุจริต
3.จงอธิบายการเสียสัญชาติของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย พร้อมยกหลักกฎหมายอธิบายอย่างละเอียด
ซ่อม 2/62
1.รัฐสามารถอ้างความชอบธรรมในการแทรกแซงรัฐอื่นเพื่อพิทักษ์คนชาติของตนเองได้ในกรณีใดบ้าง และการ
แทรกแซงที่ชอบธรรมนั้นมีเงื่อนไขอย่างไร
2.จงตอบคาถาม
2.1.จงอธิบายความหมายและแนวคิดเกี่ยวกับทะเลหลวงตามกฎหมายทางทะเลให้เข้าใจพอสังเขป
2.2.ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่มีผู้กล่าวว่าหลักเสรีภาพในทะเลหลวงถูกลิดรอนลง หลังจากที่มีการจัดทาอนุสัญญา
เจนิวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1958 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982
3.ตาม พรบ.สัญชาติ พ.ศ.2508 ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน คนต่างด้าว อาจได้สัญชาติไทยในกรณีใดบ้าง
ให้อธิบายและยกหลักกฏหมายประกอบโดยละเอียด
1.สนธิสัญญาเป็นแหล่งที่มาสาคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐภาคีแห่งสนธิสัญญาจักต้องดาเนินการให้
เป็นไปตามพันธกรณี (Obligation) อย่างไรก็ตามรัฐภาคีแห่งสนธิสัญญาอาจมีเหตุต่าง ๆ ที่สามารถยกขึ้นกล่าว
อ้าง “อันชอบด้วยกฎหมายตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยสนธิสัญญา” เพื่อไม่ต้องปฎิบัติตามพันธกรณีตาม
สนธิสัญญาได้ ให้อธิบายเหตุที่รัฐสามารถยกขึ้นกล่าวอ้างเพื่อไม่ต้องปฎิบัติตามพันธกรณีตามสนธิสัญญา โดย
ละเอียด
70 - 73
เทอม 1/63 (โหดมาก)
1.ประเทศไลเดนได้ทาความตกลงกับประเทศซูวาว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันประเทศร่วมกัน โดยมี
สาระสาคัญคือ ประเทศไลเดนซื้ออุปกรณ์เพื่อการผลิตอาวุธนิวเคลียร์จากประเทศซูวา ทั้งสองประเทศต้องการ
ปิดบังไม่ให้นานาประเทศรู้จึงไม่ได้นาสนธิสัญญาจดทะเบียนกับสหประชาชาติ ต่อมาเมื่อถึงกาหนดการส่งมอบ
อุปกรณ์งวดแรก ประเทศไลเดนเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายรัฐบาลใหม่ของไลเดนไม่สนับสนุนการมีอาวุธนิวเคลียร์
จึงแจ้งไปยังประเทศซูวาว่าขอยกเลิกความตกลงการซื้อขาย โดยเหตุผลที่ประเทศไลเดนอ้างคือ
1.1ความตกลงดังกล่าวทาโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลชุดก่อน เมื่อต่อมารัฐสภาของประเทศไลเดนไม่อนุมัติ
โครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติตามความตกลงดังกล่าวได้
1.2สนธิสัญญาดังกล่าวยังไม่ได้จดทะเบียนต่อสหประชาชาติจึงยังไม่มีผลบังคับใช้
1.3สนธิสัญญาดังกล่าวขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่มีผลบังคับใช้
ส่วนประเทศซูวาเรียกร้องให้ประเทศไลเดนปฏิบัติตามสนธิสัญญาตามหลักกฎหมาย “pacta sunt
servanda” จากข้อเท็จจริงดังกล่าวขอให้ท่านให้ความเห็นทางกฎหมายต่อประเด็นที่ประเทศทั้งสองกล่าวอ้าง
2.กรณีที่มีผู้เสนอความเห็นว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice หรือ ICJ)

สามารถมีอานาจรับคาฟ้องจากปัจเจกบุคคลฟ้องร้องรัฐได้ ในกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยได้ยกความเห็น
ICJ ในกรณี “Difference Relating to Immunity from Legal Process of Special Rapporteur of the
Commission on Human Rights” (กรณี ดะโต๊ะพะราม กูมารัสวามี (Dato Param Cumaruswamy)) เป็น
ตัวอย่างประกอบ ท่านเห็นด้วยกับทัศนะดังกล่าวหรือไม่ โดยให้แสดงเหตุผลทางกฎหมายและข้อเท็จจริงของ
คดีประกอบ
3.นายไมค์คนสัญชาติอเมริกามีภูมิลาเนาในประเทศไทย ทาธุรกิจขายอัญมณี ซึ่งมีร้านผลิตในประเทศไทย นาย

ไมค์ตั้งตัวแทนการค้าอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และได้โฆษณาขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต นายทอมคนสัญชาติ
ออสเตรเลียมีภูมิลาเนาอยู่ในประเทศมาเลเซีย ได้ทาคาสั่งซื้ออนไลน์และชาระค่ามัดจาสินค้าไปแล้ว 30% ผ่าน
ตัวแทนที่ประเทศสิงคโปร์ ต่อมาเมื่อครบกาหนดชาระเงินนายทอมจะชาระเงินค่าสินค้าที่เหลือ แต่นายไมค์
แจ้งว่าต้องชาระค่าภาระภาษีและค่าขนส่งซึ่งตามกฎหมายแพ่งสิงคโปร์เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อต้องรับภาระ นาย
ทอมเห็นว่าค่าภาระตามกฎหมายสิงคโปร์มีอัตราสูงมาก กรณีนี้ควรต้องใช้กฎหมายไทยเพราะนายไมค์ทาธุรกิจ
ในประเทศไทย และสินค้าก็มาจากประเทศไทย อีกทั้งในตอนสั่งซื้อตนก็ได้ตรวจสอบแล้ว ก็ไม่ได้มีข้อตกลง
เรื่องกฎหมายที่ใช้บังคับตามสัญญา ดังนี้ ถ้านายทอมมาปรึกษาท่านว่า ถ้าฟ้องให้นายไมค์ที่ศาลแพ่งไทยให้
ปฏิบัติตามสัญญา กฎหมายไทยได้กาหนดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไร และศาลไทยจะใช้กฎหมายประเทศใดมา
ปรับใช้ในการพิจารณาคดี
71 - 73
1.อธิบายความหมายและประเด็นต่าง ๆ ในการทาสนธิสัญญาพหุภาคี ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วย
กฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ.1969
1)เจรจา (5 คะแนน)
2)ยอมรับ (5 คะแนน)
3)การให้สัตยาบัน (5 คะแนน)
4)จดทะเบียน (5 คะแนน)
2.อธิบาย “วิธีการลงมติ” และ “ผลของข้อมติ” ที่กระทาโดย “สมัชชาใหญ่” และ “คณะมนตรีความมั่นคง”
ของสหประชาชาติ (20 คะแนน)
3.นายหลุยส์ อายุ 19 ปี ชาวเบลเยี่ยม ซึ่งกฎหมายเบลเยี่ยมถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว ได้เดินทางเข้ามาใน
ประเทศไทยแล้วไปชอบพอกับสาวไทย จึงตกลงจะตั้งหลักปักฐานจึงทาสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดที่อาเภอ
จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ของนายสนอง โดยไม่ได้บอกกล่าวบิดามารดาที่อยู่ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อบิดา
มารดาทราบจึงเดินทางมาประเทศไทยเพื่อบอกล้างสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด แต่นายสนองมีข้อต่อสู้ว่านิติ
กรรมนั้นมีผลสมบูรณ์เพราะบุคคลบรรลุนิติภาวะตามกฎหมายเบลเยี่ยมเมื่ออายุ 18 ปี แต่บิดามารดากล่าวว่า
นายหลุยส์ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไทย ดังนั้น บิดามารดาจะยื่นฟ้องศาลไทยเพื่อบอกเลิกสัญญา ศาล
ไทยจะวินิจฉัยอย่างไร โดยให้นากฎหมายว่าด้วยขัดกันมาประกอบเหตุผล (20 คะแนน)
72 - 73
41421 กฏหมายภาษีอากร 1: ภาษีเงินได้
เทอม 1/62
1.ให้อธิบายการเสียภาษีจากแหล่งเงินได้ และถิ่นที่อยู่ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
2.นายอัมพุธประกอบอาชีพทนายความมีรายได้ทั้งปี 800,000 บาท และให้เช่าคอนโดมิเนียมที่สาธร 500,000
บาท นายอัมพุธทาสัญญาประกันชีวิต กรมธรรม์ 10 ปี 20,000 บาท และบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช
10,000 บาท นายอัมพุธสามารถหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนได้เท่าไร และมีเงินได้สุทธิเท่าไร (ไม่ต้องคานวณ
ภาษี)
3.ใครเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลมีอย่างไรบ้าง
1.ให้อธิบายค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน ตามภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
เทอม 1/63
1.ให้อธิบายความหมายของภาษีบุคคลธรรมดา และยกกฎหมายประกอบ พร้อมยกตัวอย่าง
2.นาย ก ประกอบอาชีพวิศวกรของบริษัทเงินเดือน 80,000 บาท ได้รับเงินจากการรับเหมา 200,000 บาท
ค่านายหน้าจากการขายที่ 50,000 บาท ทาสัญญาประกันชีวิต 20,000 บาท กรมธรรม์ 10 ปี บริจาคให้
รพ.ศิริราช 10,000 บาท นาย ก มีรายได้สุทธิเมื่อหักค่าลดหย่อนที่ต้องนาไปคานวณภาษี จานวนเท่าใด (ไม่
ต้องคานวณภาษี แต่ให้ยกข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาอธิบาย)
3.ให้อธิบายความหมายของรายได้นิติบุคคล และยกกฎหมายประกอบ พร้อมยกตัวอย่าง
73 - 73

รวมข้อสอบอัตนัยนิติศาสตร์ มสธ. update 10-3-64

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

รวมข้อสอบอัตนัยนิติศาสตร์ มสธ. update 10-3-64

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

รวมข้อสอบอัตนัยนิติศาสตร์

ในกลุ่ม นิติศาสตร์-มสธ. 2560-2563

Update 10 มีนาคม 2564

Walk in 30-11-62-บ่าย/ 8-12-62-เช้า

Walk in 1-12-62-เช้า/ 8-12-62-บ่าย

Walk in 1-12-62-บ่าย/ 8-12-62-ค่า

Walk in 5-12-63/ 6-12-63

Walk in 1-12-62-เช้า/ 8-12-62-บ่าย

2.นายมาดแมนสมรสกับ ก.(จาชื่อไม่ได้ค่ะ) โดนการข่มขู่ หลังจากสมรสออกจากการข่มขู่แล้ว ก. ร้องขอให้เพิก

3.นางนงเยาว์หญิงหม้าย ไม่มีญาติเลย อยู่กับนางมีนาบุตรของสามีที่เกิดกับภรรยาน้อย นางนงเยาว์เขียน

Walk in 30/11/62 (โจทย์คร่าว ๆ มาก)

Walk in 1-12-62-เช้า/ 8-12-62-บ่าย

2.นายชาเย็นมอบหมายให้นายสาหร่ายไปเช่าซื้อรถยนต์จากนายเจริญในราคา 200,000 บาท นายสาหร่ายได้

ซ่อม 2/62 (ไม่รู้ทาไมมีสองชุด)

Walk in 30-11-62-บ่าย/ 8-12-62-เช้า

2.กรณีที่มีผู้เสนอความเห็นว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice หรือ ICJ)

3.นายไมค์คนสัญชาติอเมริกามีภูมิลาเนาในประเทศไทย ทาธุรกิจขายอัญมณี ซึ่งมีร้านผลิตในประเทศไทย นาย

You might also like