บิ๊กตู่ นายกฯ โหด มัน ฮา

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 200

“บิ๊กตู่”

นายกฯ โหด มัน ฮา

วาสนา  นาน่วม

กรุงเทพมหานคร   ส�ำนักพิมพ์มติชน  ๒๕๕๘
“บิก๊ ตู”่  นำยกฯ โหด มัน ฮำ • วำสนำ นำน่วม
พิมพ์ครั้งแรก : ส�านักพิมพ์มติชน, ตุลาคม ๒๕๕๘
รำคำ  ๑๗๐  บำท

ข้อมูลทำงบรรณำนุกรม
วาสนา นาน่วม. “บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา.
กรุงเทพฯ : มติชน, ๒๕๕๘. ๒๐๐ หน้า. ภาพประกอบ.
๑. ประยุทธ์  จันทร์โอชา, พลเอก, ๒๔๙๗  I. ชื่อเรื่อง.
๙๒๓.๒๕๙๓
ISBN  978 - 974 - 02 - 1447 - 2

ที่ปรึกษาส�านักพิมพ์  : อารักษ์   คคะนาท, สุพจน์  แจ้งเร็ว, สุชาติ  ศรีสุวรรณ,


ปิยชนน์  สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์  พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ

ผู้จัดการส�านักพิมพ์  : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�านักพิมพ์  : รุจิรัตน์  ทิมวัฒน์, อพิสิทธิ์  ธีระจารุวรรณ
บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์  บุนปาน • บรรณาธิการส�านักพิมพ์  : พัลลภ สามสี
หัวหน้ากองบรรณาธิการ : สอง แสงรัสมี  • บรรณาธิการเล่ม : โมน สวัสดิ์ศรี
นักศึกษาฝึกงาน : อริยา ธรานุกูล • พิสูจน์อักษร : ชัยรัตน์  เลิศรัตนาพร
กราฟิกเลย์เอาต์  : อรอนงค์  อินทรอุดม • ออกแบบปก : สุลักษณ์  บุนปาน
ศิลปกรรม : ณัฐชญาภรณ์  บุญมี  • ประชาสัมพันธ์  : สุภชัย สุชาติสุธาธรรม

หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�านวนมากในราคาพิเศษ 
เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ
โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ากัด โทรศัพท์ ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๓๓๕๓ โทรสาร ๐-๒๕๙๑-๙๐๑๒

www.matichonbook.com
บริษัทมติชน จ�ำกัด (มหำชน) : ๑๒ ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  ๑ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐
โทรศัพท์  ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๑๒๓๕  โทรสาร ๐-๒๕๘๙-๕๘๑๘
แม่พิมพ์สี-ขำวด�ำ : กองการเตรียมพิมพ์  บริษัทมติชน จ�ากัด (มหาชน) ๑๒ ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  ๑ 
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐  โทรศัพท์  ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๒๔๐๐-๒๔๐๒
พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด ๒๗/๑ หมู่  ๕ ถนนสุขาประชาสรรค์  ๒ ต�าบลบางพูด
อ�าเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  ๑๑๑๒๐  โทรศัพท์  ๐-๒๕๘๔-๒๑๓๓, ๐-๒๕๘๒-๐๕๙๖  โทรสาร ๐-๒๕๘๒-๐๕๙๗
จัดจ�ำหน่ำยโดย : บริษัทงานดี  จ�ากัด (ในเครือมติชน) ๑๒ ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  ๑ 
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐  โทรศัพท์  ๐-๒๕๘๐-๐๐๒๑ ต่อ ๓๓๕๐-๓๓๕๓ โทรสาร ๐-๒๕๙๑-๙๐๑๒
Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd.
12 Tethsabannarueman Rd., Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand

หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพื่อปกป้องธรรมชาติ  ลดภาวะโลกร้อน  และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
สารบัญ

ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ๗
เมื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชำ นิยำมตัวเอง ๙
จำกผู้เขียน ๑๓
เกริ่นน�ำ ๑๘
บทน�ำ ๒๔

ภาค ๑  โหด มัน ฮา นายกฯ ของเรา
   ๑. นายกฯ ตบจูบ  ๓๓
   ๒. นายกฯ คนกล้า (ด่า) นักข่าว  ๔๐
   ๓. อินเทรนด์ตลอด  ๔๖
   ๔. นายกฯ ทหารเสือฯ  ๕๑
   ๕. ผู้พันประยู้ดดดด  ๕๗
   ๖. ป๋าเปรม ๒??  ๖๐
   ๗. เมดอินไทยแลนด์  ๖๘
   ๘. จอมพลประยุทธ์  ม.๔๔  ๗๓
   ๙. อินทรีบ้านสวน  ๗๗
๑๐. แต่ปางก่อน  ๘๐
๑๑. เฟอร์นิเจอร์    ๘๓
๑๒. นายกฯ เป็นคนตลก  ๘๗
๑๓. นายกฯ ฟรุ้งฟริ้ง  ๙๐
๑๔. ลิ้นกับฟัน คู่กัด “บิ๊กตู่”  ๙๔
๑๕. ของโปรดนายกฯ  ๑๐๑
ภาค ๒ ตำาราปฏิวั ติ
๑๖.  บทเรียนนักปฏิวัติรุ่นพี่  ๑๐๙
๑๗.  ลับ ลวง พราง ตัวพ่อ  ๑๑๓
๑๘.  Chinese’s Model และ “ลีกวนยู” เมืองไทย  ๑๑๙
๑๙.  คสช. “คุณสมชาย”  ๑๒๔
๒๐. ข้างหลัง “เพลง”  ๑๒๙
๒๑. ร้องไห้กันทั้งบ้าน  ๑๓๓
๒๒. อัศวินม้าขาเป๋  ๑๓๘
๒๓. ปฏิวัติครั้งสุดท้าย  ๑๔๑

ภาค ๓ ยุคทองของกองทัพ
๒๔. ยุคทองของทหาร  ๑๔๙
๒๕. โปลิตบูโร  ๑๕๑
๒๖. มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน  ๑๕๗
๒๗. “วงษ์สุวรรณ-จันทร์โอชา”  ๑๖๐
๒๘. “จักรทิพย์” ผบ.ตร.ลายพราง  ๑๖๓
๒๙. “บิ๊กหมู” ผบ.ทบ.คนที่  ๓๙  ๑๖๖
๓๐. แพ็กเกจ ๔ ผบ.ทบ.  ๑๗๑
๓๑. “อภิรัชต์” กับ Club 11 Connection  ๑๗๕
๓๒. น้องชายนายกฯ  ๑๗๘
๓๓. ทะเลไม่เคยหลับ  ๑๘๑
๓๔. ศึกเตรียมทหารรุ่น ๑๖  ๑๘๕

เก็บตกนำยกฯ บิ๊กตู่ ๑๘๘


รู้จักผู้เขียน ๑๙๔
คำานำาสำานักพิมพ์

ภำยหลังเมืองไทยต้องผจญมรสุมทำงกำรเมืองไม่เว้นแต่ละวัน
ทั้งความขัดแย้งของผู้มีทัศนคติที่แตกต่างกัน การบาดเจ็บล้มตายระหว่าง 
การชุมนุมทางการเมือง รวมถึงสภาวะสุญญากาศเนื่องจากไม่อาจระบุได้ 
ว่ารัฐบาลไทยมีตัวตนจริงๆ หรือไม่
  สุดท้าย “พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา” ก็ตัดสินใจยึดอ�านาจการ 
ปกครองเพื่อยุติความขัดแย้งจากกลุ่มการเมืองทุกฝ่ าย อันเป็นหนึ่งใน 
หมุดหมายของการสร้างความปรองดองของคนในชาติ
  การเข้ามามีบทบาททางการเมืองของกองทัพโดยมี  “บิ๊กตู่” พล.อ. 
ประยุทธ์  จันทร์โอชาเป็นผู้ก่อการเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ 
จึงเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ที่ประชาชนคนไทยต้องตระหนักรู้  ทว่าปรากฏ 
การณ์ครั้งส�าคัญของชาติบ้านเมืองในครั้งนี้มิได้ซ�้ารอยการยึดอ�านาจ 
รูปแบบเก่าไปเสียทุกกระเบียดนิ้ว นับแต่การตัดสินใจก้าวขึ้นสู่ต�าแหน่ง 
ผู้บริหารประเทศด้วยการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่เคยรับใช้ฝ่ายการ 
เมือง การสร้างกลไกเพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้  ทั้งการจัดตั้ง 
สภาปฏิรูปแห่งชาติ  การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  เพื่อมุ่งหวังให้ประเทศ 
ไทยหวนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
  นอกจากการเข้ามามีอ�านาจของกองทัพที่แปลกต่างกว่าหลายๆ 
ครั้งที่ผ่านมาแล้ว บุคลิกของ “บิ๊กตู่” ก็มีลักษณะเฉพาะตัว  ยิ่งเมื่อต้อง 
ใกล้ชิดประชาชน ใกล้ชิดสื่อมวลชน ภาพลักษณ์ของผู้น�ายิ่งสร้างความ 
สนใจไม่น้อย

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   7
  “วำสนำ นำน่วม” นักข่าวสายทหารที่คลุกคลีอยู่กับหน่วยงาน 
ซึ่งเปรียบได้กับรั้วของชาติ  จึงถ่ายทอดปรากฏการณ์ทางการเมืองผ่าน 
ตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชาอีกครั้ง ผ่านหนังสือ “บิ๊กตู่” นำยกฯ
โหด มัน ฮำ 
  หนังสือเล่มนีไ้ ด้อพั เดตข้อมูลใหม่ๆ นับแต่  พล.อ.ประยุทธ์ตดั สินใจ 
ด�ารงต�าแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเป็นระยะเวลาปีกว่า ต้องผจญกับหน้าที่ 
การงานซึ่งเต็มไปด้วยคลื่นใต้น�้าและบนฟ้า ท่ามกลางวงล้อมของสื่อมวล 
ชนที่ให้ความสนใจผู้น�าคนใหม่ตลอดเวลา  ในขณะเดียวกัน ภาวะการน�า 
ของกองทัพยังมีปัจจัยบางอย่างส่งผลให้รัฐบาลประยุทธ์ต้องน�ารัฐนาวา 
ฝ่ าคลื่นความไม่สงบอยู่เป็นระยะ ทั้งเหตุการณ์วางระเบิดที่สี่แยกราช 
ประสงค์  การโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ  การต่อ 
ต้านรัฐบาลจากฝ่ายผู้เห็นต่าง ขณะที่รัฐนาวาล�านี้ก็ได้ส่งสัญญาณมาบ้าง 
แล้วว่าอาจต้องลอยล�าอยู่กลางทะเลใหญ่ไปอีกนานพอสมควร
  หนังสือการเมืองแนวทหารของ “วาสนา นาน่วม” เล่มนี้จึงควบ 
รวมไว้ทุกรสชาติ  ทั้งเรื่องเล่าน่าสรวลเส ประเด็นทางการเมือง-การทหาร 
ที่เข้มข้น
  จนถึ ง ควำมเป็ น ไปได้ ที่ อ ำจเกิ ด ขึ้ น ในระหว่ ำ งกำรประคั บ
ประคองเพื่อน�ำไปสู่ควำมปรองดองดังเช่นเวลำนี้

ส�ำนักพิมพ์มติชน

8   วาสนา  นาน่วม
เมื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นิยามตัวเอง

ผมเป็นนักกำรทหำรที่จ�ำเป็นต้องเข้ำมำท�ำหน้ำที่แทนนักกำร
เมือง  แม้ผมจะไม่ได้มาจากประชาธิปไตย แต่ผมก็คิดแบบประชาธิปไตย 
ผมไม่ได้ฝืนประชาธิปไตย และต้องการที่จะน�าประเทศกลับคืนสู่ประชา 
ธิปไตยที่เข้มแข็ง ในรูปแบบที่เหมาะสมกับสังคมไทยเรา
  ผมเป็นทหารมาทั้งชีวิต ผมเกิดมาเป็นทหาร ถึงตายไปก็เป็นทหาร 
ถึงเป็นผีก็ยังเป็นผีทหาร ชาติหน้าเกิดใหม่ก็คงจะเป็นทหารอีก เพราะ 
ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่น  ผมเข้ามาด้วยชีวิต เสี่ยงทุกอย่าง เพราะไม่อาจ 
ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปแบบก่อนวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ 
เพราะถ้าผมไม่เข้ามา ประเทศไทยเราจะกลายเป็น Failed State กลาย 
เป็น “รัฐล้มเหลว” ไปแล้ว
  ผมคิดว่าผมอาจเป็นนายกฯ ที่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ก็ได้ 
เพราะผมเป็นคนใจร้อนที่ต้องมาเร่งการแก้ปัญหาประเทศและการปฏิรูป 
ต่างๆ เมือ่ ท�าหน้าทีต่ รงนีแ้ ล้วหมดเวลาของผมก็จะไป ผมอยากไปพักผ่อน 
แต่เพราะจ�าเป็นต้องมายืนตรงนี้   ผมรู้ว่าผมท�าได้แค่ไหน ควรอยู่แค่ไหน 
อย่ากลัว หรือคิดว่าผมจะสืบทอดอ�านาจ หรือจะกลับมาเป็นนายกฯ คน 
นอก ไม่มี  แล้วผมก็ไม่เคยคิดจะลงเลือกตั้ง เพราะตัวผมไม่เคยคิดอยาก 
อยูต่ อ่  หรืออยากสืบทอดอ�านาจ ไม่ได้อยากอยูเ่ กินโรดแมปแม้แต่วนั เดียว 
แต่ก็ต้องยึดตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   9
  มีคนบอกว่าผมจะกลายเป็น “อ�านาจใหม่” เป็นกลุ่มที่  ๓  ผมไม่ได้ 
อยากเป็น เพราะแค่  ๒ กลุ่มก็ตีกันตายอยู่แล้ว จะมามี  ๓ กลุ่มอะไร ไม่มี 
แต่ตอนนี้ผมก�าลังสืบทอดอ�านาจของประชาชนที่ให้มาตอนนี้  ถ้าเขาไม่ 
ไว้ใจผมคงอยู่ไม่ได้หรอกในวันนี้   เขาเชื่อมั่น เขาฝากความหวัง ต้องการ 
ให้ทุกอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ผมอาจจะเป็นคนใจร้อน โมโหง่าย แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนมีจติ ใจ 
ดี  มีความตั้งใจดีที่เข้ามาเพื่อที่จะแก้ปัญหา  ผมไม่ได้เก่งมาจากไหน ผม 
เป็นทหาร แต่ผมเข้ามาแล้วผมศึกษาเรียนรู้ 
ผมอาจจะพูดเยอะ เพราะบ้านเมืองเรามีส่ิงที่ต้องพูดต้องอธิบาย 
มาก แล้วผมก็อยากให้ประชาชนรู้ว่าผมคิดอะไร และผมจะท�าอะไร ถ้า 
ไม่ได้พูดผมคงอกแตกตาย เพราะคิดและท�าอะไรเยอะมันจะอัดอั้นอยู่ 
ในหัว จนกลัวว่าเส้นโลหิตในสมองจะแตกตายด้วยซ�้า ก็ไม่รู้ว่าจะมีใคร 
พูดอย่างผมได้บ้าง  ผมไม่ได้ว่าผมเก่งแต่พูดจากใจของผม ถึงมันจะผิด 
อยูบ่ า้ ง แต่ไม่ใช่ผดิ เพราะใช้อา� นาจ  ผมอาจจะท�าผิดแค่ครัง้ เดียวทีเ่ ข้ามา 
แบบนี้  แต่ที่ผมท�าดีเป็นพันอย่าง เห็นไหม...ขนาดองคุลิมาลที่ตัดนิ้วคน 
เป็นพันนิ้วยังได้รับการให้อภัย แต่ผมตัดนิ้วร้ายทิ้งแค่นิ้วเดียว จะไม่ให้ 
อภัยผมบ้างหรือ
ผมไม่ใช่นักการเมืองที่ต้องอยู่ให้นานเพื่ออ�านาจ เพราะผมไม่ได้ 
ต้องการอ�านาจ ผมชินกับการใช้อ�านาจมาเยอะแล้ว เป็นผู้บังคับบัญชา 
ทหาร ไม่อย่างนั้นสั่งคนไม่ได้  ต้องสั่งคนไปรบ ไปตาย ถ้าแพ้ก็ตาย นั่น 
แหละคือสิ่งที่เราต้องใคร่ครวญให้ดีก่อนที่จะสั่งและใช้อ�านาจ
ผมไม่ได้ต้องการอะไร ขอแค่ให้คนสามัคคีกัน เพื่อผ่านช่วงเปลี่ยน 
ผ่าน ผ่านเวลาที่ยากล�าบากนี้ไปให้ได้  ขอให้แยกคนดีกับคนไม่ดี  คนทุจริต 
กับสุจริต  ผมไม่ใช่นักการเมือง ไม่อยากจะท�าแบบนี้  คิดสิว่าท�าไมผมถึง 
ต้องท�า แล้วท�าเพื่อใคร ต่างกับที่ท�ามาก่อนสิบกว่าครั้งไหม ท�าไมผมต้อง 
มาบริหารเอง  วันนี้ผมไม่เคยได้เงินสักสลึง ยกเว้นเงินตามสิทธิ์พึงมีพึงได้ 
ของราชการ

10   วาสนา  นาน่วม
วันนี้ผมมาท�างานให้ประชาชน ผมไม่ได้ต้องการคะแนนเสียง เพราะ 
ผมไม่ใช่นักการเมือง ไม่ต้องท�าประชานิยม มีแต่  “ประชารัฐ” ที่ประชาชน 
จะได้ประโยชน์เท่าเทียมกัน ประชาชนจะก้าวไปด้วยกัน  ผมถือว่าประ 
ชาชนเป็นเจ้านายผมที่ผมจะต้องมาช่วยแก้ปัญหาโดยไม่เลือกว่าจะเป็น 
ประชาชนที่ชอบผมหรือไม่ชอบผม เพราะก่อนหน้านี้ผมก็เป็นข้าราชการ 
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงส่งให้มาดูแลทุกข์สุขของประชาชน 
แทนพระองค์ท่าน เพราะยังมีประชาชนที่ยากจนและล�าบากอีกเป็นจ�านวน 
มาก
ผมไม่ได้ท�าเพื่อเรา แต่ท�าเพื่อชาติ  เมื่อชาติมั่นคง มีภูมิคุ้มกันแล้ว 
ตอนนั้นจะมีประชาธิปไตยสุดขั้วโลกเลยก็ได้  คนมีการศึกษาเท่าเทียม คิด 
เป็น มีวินัย  ค�าว่ามีวินัย หมายถึงไม่ใช่ต้องใช้อ�านาจ กฎหมายมาบังคับ 
จึงจะปฏิบัติหรือร่วมมือ
ส่วนสื่อมวลชนนั้น ผมยืนยันว่าผมไม่ได้มองเป็นศัตรู  แต่สื่อจะ 
เป็นคนส�าคัญที่ชว่ ยท�าให้ประชาชนรับรู้วา่ ผมคิดอะไร ท�าอะไร  ผมไม่เคย 
เกลียดหรือโกรธสื่อ เพราะถ้าไม่ชอบ ผมก็ไม่พูดด้วยอยู่แล้ว คิดไปคิดมา 
ผมว่าผมกับสื่อเราขาดกันไม่ได้อยู่แล้ว สื่อก็ต้องการผม ผมก็ต้องการสื่อ 
ต่างคนต่างท�าหน้าที่  แต่มีเป้าหมายเดียวกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าและ 
สงบสุข ขออย่าเอาทุกคนมาโต้ตอบกัน เพราะมันจะท�าให้เราท�างานยาก 
ขึ้น เพราะรัฐบาลท�างานยากก็พอแล้ว ขอสื่อช่วยลดความขัดแย้ง คิดถึง 
ผลดีผลเสียของประเทศชาติ  ไม่ใช่ไม่รับผิดชอบ  ผมยังไม่รู้สึกเลยว่าสื่อ 
ก่อนวันที่  ๒๒ พฤษภาคม กับหลังวันที่  ๒๒ พฤษภาคม เสนอข่าวต่างกัน 
อย่างไร ขอให้เบาๆ กันเอาไว้บ้าง นักการเมืองเข้ามาค่อยไปจับผิดจับถูก 
ค่อยเกิดประโยชน์   คิดง่ายๆ ว่ารัฐบาลที่แล้วท�าเสียหายเป็นแสนล้าน 
จับต้องอะไรไม่ได้  กับรัฐบาลนี้ลงทุนให้เป็นสมบัติชาติ  มันต่างกันตรง 
ไหน ขอให้สื่อช่วยกันก้าวข้ามช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปให้ได้เสียก่อน
ผมไม่ได้ต้องการให้ทุกคนเชื่อผม หรือรักผม เพราะเข้ามาตรงนี้ 
ผมมีแต่ขาดทุน ทั้งเวลาในชีวิต เวลาในครอบครัว ความเสี่ยงต่างๆ อาจ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   11
มีคนรักคนชอบผม แต่ก็มีคนเกลียดผมไม่น้อย ผมก็ไม่รู้จะท�ายังไง แต่ 
ขอแค่ให้เชื่อมั่นและไว้วางใจผมในการท�างานและแก้ปัญหาประเทศ อีก 
ไม่นาน ผมมีเวลาจ�ากัด ผมรู้ดี
แต่ผมจะพยายามอย่างเต็มที่  ด้วยความมุ่งมั่น ไม่ท้อแท้  พลังใจ 
ผมจะไม่มีวันหมด เพราะรู้ว่ายังมีประชาชนที่ทุกข์ยากล�าบากรอผมช่วย 
เหลืออีกเป็นจ�านวนมาก ขอแค่ความเข้าใจและก�าลังใจให้ผมบ้างเท่านั้น 
ก็พอ
ขอบคุณในทุกก�าลังใจที่ให้ทั้งการสนับสนุนและไม่สนับสนุน เพราะ 
เราคือคนไทย ทุกคนหาค�าตอบตัวเองให้เจอว่าประเทศชาติอยู่ตรงไหน 
จะให้ใครมาบังคับหาได้ไม่  สุดแต่ใจตนเอง และคิดด้วยว่าลูกหลานจะอยู ่
อย่างมีความสุขในอนาคตได้อย่างไร ลองคิดเอาเอง
แต่ส�าหรับผมไม่เคยคิดหรืออยากจะเป็นวีรบุรุษ หรืออัศวินขี่ม้าขาว 
อะไร ไม่ได้อยากจะเข้ามาเลย แต่มันจ�าเป็น ผมปล่อยชาติบ้านเมืองไป 
แบบนั้นไม่ได้  ผมอยากให้เราทุกคนช่วยกัน ทุกคนเป็นวีรบุรุษ เป็นวีรสตรี 
ด้วยกันได้  ขอน�าชาติเราก้าวข้ามช่วงเปลี่ยนผ่านอันส�าคัญนี้ไปให้ได้
จำกนี้เรำจะก้ำวไปด้วยกัน ผมยืนยันว่ำผมจะไม่ทิ้งใครไว้ข้ำง
หลัง พวกเรำจะไม่ทิ้งใครไว้ข้ำงหลัง 

Leave no one behind.


 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชำ

12   วาสนา  นาน่วม
จากผู้เขียน

กล่ำวกันว่ำในบรรดำนักข่ำวนั้น ผู้เขียนนี่แหละที่เป็นคนหนึ่ง
ที่รู้จัก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ดีที่สุด เพราะติดตามท�าข่าว 
พล.อ.ประยุทธ์มาตั้งแต่ยังเป็นนายทหารยศพลตรีจนขึ้นเป็นผู้บัญชาการ 
ทหารบกนานถึง ๔ ปี  ก่อนจะจบลงด้วยการเป็นหัวหน้าคณะรักษาความ 
สงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีคนที่  ๒๙ ของประเทศไทย
  แต่ส�าหรับผู้เขียนแล้วมองว่า ผู้เขียนน่าจะเป็นนักข่าวที่  พล.อ. 
ประยุทธ์ต�าหนิ  ก่นด่า พาดพิง เอ่ยชื่อ เอ่ยถึงมากที่สุด
อาจเป็นนักข่าวที่  พล.อ.ประยุทธ์ไม่ชอบขี้หน้ามากที่สุดด้วยซ�้า 
จนถูกจับให้เป็น “คู่ปรับ” ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ.จอมปรี๊ด ขี้โมโห จน 
กระทั่งมาเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งผู้เขียนก็ยังติดตามมาท�าข่าวนายกรัฐมนตรี 
ทหาร และคณะรัฐมนตรีทหารที่ท�าเนียบรัฐบาลต่ออีกด้วย
บ้างก็เข้าใจว่าผู้เขียนเป็นนักข่าวที่ชอบถามให้  พล.อ.ประยุทธ์ 
อารมณ์เสียเสมอๆ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด  เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ว่านักข่าว 
คนไหนถาม บิ๊กตู่ก็ปรี๊ดได้เสมอ แม้จะยังไม่ทันอ้าปากถามก็ตาม แค่ท�า 
หน้าสงสัยก็โดนแล้ว
  บ้างก็ว่าผู้เขียนเป็นนักข่าวที่ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์  จนถูกเรียกว่า 
เป็น “ติ่งประยุทธ์” บ้าง เป็นพวก “อวยประยุทธ์” บ้าง ทั้งๆ ทีผ่ ู้เขียนรู้ดีว่า 
ท่านผู้น�าหาได้แฮปปี้กับผู้เขียนไม่  เพราะมักไม่พอใจกับค�าถามหรือข้อ 
เขียนของผู้เขียนอยู่เนืองๆ

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   13
  อีกทั้งยังคงเดาใจเดาทางผู้เขียนไม่ถูก เพราะผู้เขียนก็ยังคงเป็น 
ตัวของตัวเอง ไม่ได้เขียนข่าวเข้าข้างหรือสนับสนุนไปซะทุกเรื่อง เพราะ 
เรื่องที่ถามหรือเขียนให้ร�าคาญใจก็มีออกบ่อย เพราะเรื่องไหนดีก็ว่าดี  เรื่อง 
ไหนควรติติง วิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่ละเว้น แต่จะกระท�าอย่างมีเหตุผล
“ไอ้เล็ก” คือค�าที่  พล.อ.ประยุทธ์เรียกผู้เขียนจนติดปาก ไม่ว่าจะ 
ในยามด่ากราด โมโห อารมณ์เสีย หรือแม้แต่ในยามอารมณ์ดีก็ตาม อาจ 
เพราะความที่เห็นผู้เขียนเป็นหญิงห้าวและเห็นหน้าคุ้นเคย ตามท�าข่าว 
กันมาหลายปี
“เธอ” กับ “ฉัน” เป็นสรรพนามแทนตัวที่  พล.อ.ประยุทธ์มักใช้ 
เสมอๆ ในเวลาพูดคุยหรือสัมภาษณ์ 
บางทีก็ใช้  “เรา” เมื่ออารมณ์ปกติ
แต่ถ้าอารมณ์บ่จอยก็จะกลายเป็น “ผม” กับ “คุณ” ในทันใด แล้ว 
ที่ขาดไม่ได้ก็คือ การชี้หน้า ที่พบเห็นได้บ่อยจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของ 
“บิ๊กตู่” ไปแล้ว จนเจ้าตัวบ่นว่าท�าไมช่างภาพชอบถ่ายภาพนี้แล้วเอาไป 
ลงกันจัง ทั้งๆ ที่เห็นถ่ายภาพไปเป็นร้อยเป็นพันภาพ แต่ดันเลือกภาพที ่
แย่ที่สุด
มาวันนี้ไม่ใช่แค่  “ผู้เขียน” หรือ “ไอ้เล็ก” คนนี้เท่านั้นที่เจอปฏิกิริยา 
เหล่านี้จาก พล.อ.ประยุทธ์  แต่นักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลก็โดนกันถ้วน 
หน้า ซึ่งทุกคนก็ท�าใจกันมาก่อนแล้วจากชื่อเสียงกิตติศัพท์ตั้งแต่เป็น 
ผบ.ทบ.จอมปรี๊ด ทว่าที่แตกต่างคือ เราจะไม่ได้เห็นแต่มุมมืด ขี้โมโหของ 
พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น  เพราะเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว พล.อ.ประ 
ยุทธ์มีหลากหลายแง่มุม หลากหลายอารมณ์ให้น่าติดตามศึกษาและ 
ค้นหาความเป็นตัวตนของนายทหารผู้มาจาก บก.ทบ.สู่ตึกไทยคู่ฟ้า นาย 
ทหารผู้ก้าวจากเก้าอี้  ผบ.ทบ.สู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกคนในประวัติศาสตร์
แต่ทว่ำเต็มไปด้วยควำมแตกต่ำงที่น่ำศึกษำยิ่ง...
มีทั้งเรื่องหนักๆ เครียดๆ และเรื่องเบาๆ มันๆ ฮาๆ กับหลากหลาย 
อารมณ์  สไตล์  และลีลาของผู้น�าประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ ทหารที ่

14   วาสนา  นาน่วม
สวมหมวกหัวหน้าคณะรัฐประหารอยู่ด้วย อันเป็นมุมที่ไม่ค่อยได้เห็นเมื่อ 
ครั้งเป็น ผบ.ทบ. จึงเป็นที่มาของ “บิ๊กตู่” นำยกฯ โหด มัน ฮำ เล่มนี ้
ที่ผู้เขียนพยายามพลิกแนวเขียนมาเป็นเรื่องเบาๆ สบายๆ เพื่อหลบหลีก 
ความเครียดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และในยามที่ประเทศ 
ไทยยังอยู่ในการปกครองของรัฐบาลทหารและกฎหมายพิเศษต่างๆ โดย 
เฉพาะมาตรา ๔๔ ที่ให้อ�านาจหัวหน้า คสช.จนกลายเป็นโลโก้ประจ�าตัว 
ของนายกฯ บิ๊กตู่คนนี้ไปแล้วก็ได้ 
  แม้จะใช้ในทางสร้างสรรค์มากว่า ๓๐ ครั้ง เพื่อปลดล็อกในการ 
แก้ปัญหาต่างๆ แต่ก็ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์สามารถเล่นบทโหดในการจัด 
การขั้นเด็ดขาดในทุกเรื่อง โดยเฉพาะการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่ใช่แค่ 
เชือดไก่ให้ลิงดู  แต่เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ
แต่ในความโหด ดุดัน เด็ดขาด แรง ด้วยค�าพูดห้าวเป้งนั้น ก็มี 
ความมัน ความฮา แบบข�ากลิ้ง คละเคล้าอยู่ด้วยเสมอ แบบที่เรียกว่า 
ก�าลังปรี๊ด โกรธ เส้นเลือดในสมองแทบแตก “บิ๊กตู่” ก็สามารถเปลี่ยน 
อารมณ์ตัวเองมาข�า ฮาได้เสมอ เพราะรู้ตัวดีว่า...ถ้าปล่อยให้ปรี๊ดถึงขีดสุด 
เส้นเลือดในสมองอาจแตกตายได้นั่นเอง
พล.อ.ประยุทธ์จึงกลายเป็นนายกฯ หลากอารมณ์  บทดีก็ดีใจหาย 
ยิ้ม อ้อน งอน ง้อ ขอโทษ ข�า แต่บทร้าย โหด ก็แสนจะน่ากลัว แบบที่เรียก 
ว่า “นายกฯ ตบจูบ” ได้เลยนั่นเอง
  หนังสือเล่มนี้จึงมีทั้งมุมหนักๆ เบาๆ มันๆ ฮาๆ เคล้ากันไป ตาม 
ตัวตนของ “ท่านผู้น�า” ที่ผู้เขียนเชื่อว่ามีส่วนท�าให้คนไทยเปิดใจที่จะรู้จัก 
และเข้าใจ พล.อ.ประยุทธ์มากขึ้น เพราะบางกรณีการศึกษาผู้น�าก็ต้อง 
ศึกษาที่ตัวตนและจิตวิทยาด้วย
  เพราะเขามีทั้งความเป็น “นักรบ” เพราะเป็นทหารที่ผ่านมาหลาย 
สมรภูมิ
  เป็นทั้ง “นักเลง” ที่ใจไม่เคยกลัวใคร แถมท่าเดินกางแขนเกือบจะ 
๑๘๐ องศา และค�าพูดที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา ถึงขั้นลั่นจะชกปากนัก 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   15
การเมืองมาแล้วหลายหน
  เป็น “นักการทหาร” ที่ศึกษาประวัติศาสตร์  น�าบทเรียนจากผู้น�า 
ประเทศและผู้น�าการทหารทั่วโลกมาปรับใช้ในการรัฐประหาร และการ 
บริหารราชการแผ่นดิน
  เป็นทั้ง “นักอ่าน” ที่เสพติดหนังสือทุกประเภทตั้งแต่เด็กๆ จนทุก 
วันนี้  ท�าให้สามารถเพิ่มเติมความรู้ให้ตนเองได้อย่างรวดเร็ว จากทหาร 
ที่เจ้าตัวบอกว่ามีความรู้หลายเรื่อง แต่อันที่จริงก็เหมือนเป็ด ไม่ได้เก่งกาจ 
ทุกเรื่อง แต่ขยันอ่าน ศึกษา และตั้งใจเรียนรู้
  เป็นทั้ง “นักเรียน” เพราะมีภริยาเป็นคุณครูเจ้าระเบียบ ซึ่งเจ้าตัว 
ยอมรับว่าทั้งกลัวและเกรงใจ ยกให้ใหญ่ที่สุดในบ้าน
  เป็นทั้ง “นักร้อง” ที่ชื่นชอบการร้องเพลง แต่งเพลงปลุกใจแบบ 
ทหาร เทิดทูนสถาบันฯ และใช้เพลงสื่อความนัยด้วยเพลง จนเป็นที่มาของ 
เพลงปฏิวัติสุดฮิต เพลงแรกในประวัติศาสตร์แห่งยุค
  เป็นทั้ง “นักพูด” ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น ผบ.ทบ.และเป็นนายกรัฐ 
มนตรีที่พูดเยอะ พูดมากที่สุด แถมมีลีลา ชั้นเชิง ไม่ธรรมดา แม้ไม่อาจ 
เทียบชั้นนักการเมือง แต่ก็ไม่แพ้ใคร จนคิดที่จะจัด “เดี่ยวไมโครโฟน” 
บ้างสักครั้ง
  เป็นทั้ง “นักสู้” ที่ไม่ยอมแพ้ ขนาดถูกก่นด่า ดูถูก ก็ยังรัฐประหาร 
เพื่อลบค�าครหาต่างๆ เรียกศักดิ์ศรีที่ถูกปรามาสกลับคืนมา และแม้จะถูก 
โจมตี  ถูกเกลียดชังมากแค่ไหน เพราะเหตุที่ไม่ได้เข้ามาอย่างถูกต้องตาม 
ระบอบประชาธิปไตยจนยอมรับว่ารู้สึกอาย แต่ก็ยังใจชื้น มีแรงสู้  เพราะรู ้
ว่ายังมีคนที่รักและให้ก�าลังใจเขาอยู่
  โดยเขาก็หวังว่า คนไทยที่เคยเกลียดเขาจะกลับมารู้สึกเฉยๆ ไม่ 
เกลียดเขา และเปิดใจให้เขามากขึ้น 
  แล้วก็หวังให้คนที่เคยรู้สึกเฉยๆ หันมารู้สึกดีๆ หรืออย่างน้อยก็ย้ิม 
หั ว เราะ  หรื อ ฮาไปกั บ มุ ข ที่ เ ขาปล่ อ ยออกมาในทุ ก เวที   หรื อ ทุ ก การให้ 
สัมภาษณ์

16   วาสนา  นาน่วม
  และหวังให้คนที่รักและชอบเขาอยู่แล้ว ให้รักเขามากยิ่งขึ้น แบบ
ที่ย�้าเสมอว่า “รักน้อยๆ แต่ขอให้รักนานๆ” เพราะอย่างน้อยเขาต้องอยู่ไป
จนถึงกลางปี  พ.ศ.๒๕๖๐ ซึ่งไม่รู้ว่าจะนานกว่านั้นหรือไม่
  ด้วยเพราะนายทหารเสือฯ คนนี้ก�าลังควบขี่หลังพยัค ์ผยองที่แสน
พยศราวกับอาชาย่อมยากจะครองหลังมันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย
เพื่อรอวันที่จะลงจากหลังเสือได้อย่างสวยและสง่างามที่สุด เพื่อให้ชื่อของ
เขาจารึกไว้ในความทรงจ�าด้านดีของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกพวกฝ่าย
ทุกสีได้ในอนาคตอันใกล้
  ทว่ำหำมีใครหยั่งรู้ได้ว่ำเขำจะลงหลังเสือเมื่อใด ท่ำไหน และ
อย่ำงไรในที่สุด...

วำสนำ  นำน่วม

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   17
เกริ่นนำา

ไม่ใช่เรื่องเกินคำดที่  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชำจะ


กล้าน�าก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ เพราะ
เขาก็ฮึ่มๆ มาตลอด แถมยิ่งเมื่อโดนฝ่ายคนเสื้อแดงท้าทายว่า “ไม่กล้า”
เพราะจะเจอกับการต่อต้านอย่างรุนแรง ด้วยม็อบมหาศาลและการฝึก
ความพร้อมในการต้านรัฐประหาร 
  แถมทั้ ง คนเสื้ อ เหลื อ งเองก็ ค ่ อ นแคะว่ า   ไม่ ก ล้ า รั ฐ ประหารล้ ม
“ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีหญิงที่ถูกจับเป็นคู่พระคู่นางกับเขามา
โดยตลอด จนใครๆ คิดว่านายกฯ หญิงจะเอาอยู่  สามารถสยบกองทัพ
ปิดประตูการรัฐประหารได้
  แล้วก็ไม่ใช่เรื่องเกินคาดที่  พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นผู้น�ารัฐประหาร
ในนามหัวหน้า คสช.จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังการรัฐประหารเสียเอง
ทั้งๆ ที่เป็นกฎต้องห้ามของผู้น�าการรัฐประหารในระยะหลังๆ มานี้  เพราะ
พล.อ.ประยุทธ์เห็นบทเรียนจากการรัฐประหารครั้งก่อนๆ โดยเฉพาะการ
รัฐประหารเมื่อวันที่  ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ ที่  พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน
ผบ.ทบ.ผู้น�าการรัฐประหารไม่กล้าเป็นนายกรัฐมนตรีเอง  แถมยังมีอีก
หลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร จึงต้องไปเชิญ “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.
สุรยุทธ์  จุลานนท์  จนต้องกราบบังคมทูลลาออกจากองคมนตรีมาเป็น
นายกรัฐมนตรี  แต่ท้ายที่สุดก็  “เสียของ” เพราะเร่งรีบให้มีการเลือกตั้ง
อันเนื่องมาจากบทเรียนเลือดจากการรัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๓ กุมภาพันธ์
พ.ศ.๒๕๓๔ ซึ่งจบลงด้วยเหตุการณ์พฤษภาทมิ  พ.ศ.๒๕๓๕ และเป็น
ต้นเหตุท�าให้ทหารใส่เครื่องแบบเดินถนนไม่ได้ในช่วงเวลานั้น

18   วาสนา  นาน่วม
  แต่สุดท้าย การรัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗
กลับกลายเป็นการรัฐประหารที่ส�าเร็จราบรื่นอย่างง่ายๆ ทั้งๆ ที่ฝ่ายมวลชน
คนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในเวลานั้นขู่จะต่อต้านอย่าง
รุนแรง กลับไม่ต้องใช้รถถังออกมายึดอ�านาจเช่นการรัฐประหารครั้งที่ผ่านๆ
มาแม้แต่คันเดียว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ได้วางแผนน�าก�าลังทหารพร้อม
รถถัง รถเกราะ มาคุมเชิงทุกพื้นที่ไว้แล้ว ภายใต้เหตุผลเพื่อดูแลความ
สงบเรียบร้อยให้แก่มวลชน กปปส.ซึ่งถูกลอบยิงระเบิดเข้าท�าร้ายอยู่เนืองๆ
ในเวลานั้น
  เพียงแค่ถามฝ่ ายรัฐบาลว่าจะลาออกหรือไม่  เมื่อได้รับค�าตอบ
ปฏิเสธ จึงได้บอกแต่เพียงว่า  งันนำทีนี ผมขอยึดอ�ำนำจ  ทุกอย่างก็
ส�าเร็จ
  ทั้งๆ ที่ฝ่ายรัฐบาลในเวลานั้นก็รู้ว่าทหารจะรัฐประหาร ทั้งจากการ
น�าอาวุธยุทโธปกรณ์มาสวนสนามยานยนต์เป็นครั้งแรกในวันกองทัพไทย
๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที่กรมทหารราบที่  ๑๑ รักษาพระองค์  ทว่า
ไม่น�าก�าลังทหารกลับที่ตั้ง ทั้งจากการน�าทหารออกมายึดเมืองภายใต้
ข้ออ้างการดูแลความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมของกลุ่ม  กปปส. จน
นายกรัฐมนตรีหญิงต้องออกมาเตือนเรื่องการวางก�าลังทหารและการตั้ง
บังเกอร์ทหารเต็มเมืองจนส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ท�าให้ทหาร
ต้องปรับให้ซอฟต์ตามบัญชานายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
หญิง ด้วยการน�าดอกไม้ต้นไม้มาประดับประดา ทาสี  และตกแต่งน�้าตก
เพื่อลดกระแสตื่นกลัว ขณะที่ฝ่ายคนเสื้อแดงและนักการเมืองพรรคเพื่อ
ไทยเรียกร้องให้ถอนทหารออก แต่  พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยอม
  แม้จะระแคะระคายว่าทหารอาจรัฐประหาร ทว่ารัฐบาลนางสาว
ยิ่งลักษณ์ก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นช่วงไหน นั่นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์อดทน
รอจนเหตุการณ์สุกงอมเต็มที่  แบบที่มวลชน กปปส.ที่มานอนกลางถนน
แทบจะหมดแรงหมดหวังกันอยู่แล้ว ทั้งยังหมดเงินที่หลายฝ่ายช่วยกันไป
กว่าพันล้าน

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   19
  แต่ที่เป็นเรื่องเกินคาดแบบสุดๆ ก็คือ เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์กลับได้เสียงตอบรับที่ดี  แม้จะใช้  “อ�านาจพิเศษ” ทั้งกฎ
อัยการศึก จนถึงมาตรา ๔๔ แถมอยู่มาได้กว่า ๑ ปีแล้ว และส่อเค้าว่า
จะอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อย ๒ ปี  หรือประมาณเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๐
จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ท�าให้กฎต้องห้ามของการรัฐประหารต้องถูกบันทึก
ใหม่
  ทั้งนี้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์มีแนวร่วมส�าคัญอย่าง “คนเสื้อเหลือง”
โดยเฉพาะกลุ่ม กปปส.ภายใต้การน�าของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ
พรรคประชาธิปัตย์  เหตุเพราะการก่อม็อบของ กปปส.ครั้งนั้นถูกมองว่า
เป็นการปูทางให้  พล.อ.ประยุทธ์รัฐประหารนั่นเอง
  ท�าให้ภายหลังเกิดวาทะเหน็บแนมกันว่า พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.
มีวันนี้ได้เพราะ กปปส.และโดยเฉพาะนายสุเทพที่กลับมามีบทบาทตั้งแต่
เมื่อครั้งยังบวชพระ จนเมื่อลาสิกขามาเป็นผู้น�า “มูลนิธิมวลมหาประชาชน”
ก็ถูกจับตาว่าจะเป็น “กลุ่มกดดัน” ที่มีอิทธิพลต่อ คสช.และ พล.อ.ประ
ยุทธ์ไม่น้อย
  แถมเป็นโชคดีของ พล.อ.ประยุทธ์  เนื่องจากเป็นจังหวะที่คนไทย
เบื่อหน่ายกับการเมืองที่วุ่นวาย เบื่อนักการเมือง และเบื่อม็อบ ไม่ว่าจะ
ม็อบสีไหน เพราะบ้านเมืองวุ่นวายต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐประหารในปี  พ.ศ.
๒๕๔๙ จนถึงเหตุการณ์จลาจลของคนเสื้อแดงเมื่อปี  พ.ศ.๒๕๕๒ และ
พ.ศ.๒๕๕๓ ท�าให้ทหารต้องออกมากระชับพื้นที่  มีเจ็บมีตายเพียบ เรื่อย
มาจนถึงม็อบ กปปส.ตั้งแต่ปลายปี  พ.ศ.๒๕๕๖ และ พ.ศ.๒๕๕๗ ซึ่ง
ก่อนการรัฐประหารม็อบคนเสื้อแดงก็ออกมาเช่นกันจนท�าให้ผู้คนหวาด
กลัวเพราะมีการใช้อาวุธสงครามและใช้ความรุนแรง บ้านเมืองไร้ขื่อแป
เกิดปัญหาการจราจรและการปิดถนนอยู่เนืองๆ
  ส�าหรับฝ่ายแนวร่วมสนับสนุน คสช.และคนตรงกลางที่เบื่อการ
เมืองย่อมพอใจที่  พล.อ.ประยุทธ์น�าทหารออกมายึดอ�านาจ ไล่ม็อบทั้ง
แดงและเหลืองกลับบ้าน น�าความสงบสุขกลับคืนมา แม้จะต้องเว้นวรรค

20   วาสนา  นาน่วม
ประชาธิปไตยก็ตาม
  แต่ส�าหรับฝ่ายคนเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทยและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
ย่อมไม่ปลื้ม พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการ
รัฐประหาร แถมมีการใช้  “ยาแรง” ใช้อ�านาจจับกุม ตรวจสอบ เกาะติด
จัดการกับฝ่ายคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยเสียมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง
   โดยโจมตี  พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.ที่  “รู้กัน” กับ กปปส.และฝ่าย
แนวร่วม โดยจับจ้องไปที่ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของ พล.อ.ประยุทธ์  และ
“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์
เผ่าจินดา กับนายสุเทพ ตั้งแต่เมื่อครั้งร่วมกันแก้ปัญหาการชุมนุมของ
คนเสื้อแดงเมื่อปี  พ.ศ.๒๕๕๓ ตอนที่นายสุเทพเป็นรองนายกรัฐมนตรี
ฝ่ายความมั่นคง ท�างานประสานใกล้ชิดกับกองทัพ ถึงขั้นที่เชิญ พล.อ.
ประวิตรมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของพรรคประ
ชาธิปัตย์
  อี ก ทั้ ง รั ฐ บาล  คสช.ถู ก มองว่ า เลื อ กปฏิ บั ติ   หรื อ สองมาตรฐาน
ระหว่ า งคนเสื้ อ แดง  นปช.และพรรคเพื่ อ ไทย  กั บ สาย  กปปส.แถมทั้ ง
นางสาวยิ่ ง ลั ก ษณ์ ก็ ถู ก ตั ด สิ ท ธิ์ ท างการเมื อ ง  ตามมาด้ ว ยการถอดยศ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ด้วยการใช้อ�านาจมาตรา ๔๔
ของหัวหน้า คสช.แทนการทูลเกล้าฯ ให้ถอดยศเมื่อวันที่  ๕ กันยายน
พ.ศ.๒๕๕๘ เพื่อป้องกันฝ่ายการเมืองดึงสถาบันฯ มาโจมตี
  ไม่แค่นั้น อีกโชคดีของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ตรงที่ในเวลานี้คนไทย
ยังไม่มี  “ความหวังใหม่” กับนักการเมืองคนใดที่โดดเด่น ฉายแววจะเป็น
ผู้น�าเฉกเช่นที่คนไทยต้องการ
  อีกความโชคดีหนึ่งก็คือ ที่เคยหวาดกลัวกันว่าต่างชาติจะรุมคว�่า
บาตร บอยคอต ไม่ยอมรับประเทศไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
มหาอ�านาจพี่เบิ้มใหญ่ของโลกเสรีประชาธิปไตย แต่เมื่อเกิดรัฐประหารขึ้น
จริงๆ แม้จะถูกกดดันให้เร่งกลับสู่ประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือกตั้ง ให้มี
รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ผลพวงก็ไม่ได้รุนแรงแบบที่คิดว่า

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   21
เมืองไทยจะด�ารงอยู่ในสังคมโลกไม่ได้
  เพราะในที่สุด บทเรียนจาก “เมียนมา” เป็นตัวอย่างที่ท�าให้สหรัฐ
อเมริกาและยุโรปเห็นว่า การแซงก์ชั่นหรือการกดดันใดๆ ไม่อาจท�าให้
รัฐบาลทหารเร่งรัดการกลับสู่ประชาธิปไตย แต่จะกลับมาเมื่อเขามีความ
พร้อม โดยเมียนมาใช้เวลานับสิบปีจนเพิ่งมามีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่
๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๘
  ประกอบกับการเป็น “ศูนย์กลางของอาเซียน” ความส�าคัญของ
ไทยในภูมิภาคนี้จึงท�าให้สหรัฐอเมริกาไม่อาจตัดสัมพันธ์กับไทยได้  แม้
ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกาจะต้องมีการตัดความช่วยเหลือต่างๆ โดย
เฉพาะด้านการทหารอยู่บ้าง แต่หลักๆ เช่นการฝึกร่วมต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่
โดยเฉพาะการส่งเอกอัครราชทูตสหรัฐมาประจ�าประเทศไทยเมื่อกันยายน
พ.ศ.๒๕๕๘ หลังจากสภาคองเกรสอนุมัติเมื่อวันที่  ๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘
  รวมถึ ง การที่   พล.อ.ประยุ ท ธ์ ยั ง คงเดิ น สายเยื อ นประเทศทั้ ง ใน
อาเซียนและการไปประชุมในหลายประเทศรวมทั้งญี่ปุ่น โดยเฉพาะการ
ได้รับเชิญจากเลขาธิการองค์การสหประชาชาติให้ไปร่วมประชุมที่นคร
นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่  ๒๖-๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๘ แม้จะ
เป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐประหารก็ตาม
  ทั้งนี้คาดว่า สหรัฐอเมริกาก็คงเข้าใจวัฒนธรรมทางการเมืองและ
ประชาธิปไตยแบบไทยๆ มากขึ้น รวมถึงการท�างานของ พล.อ.ประยุทธ์
และรัฐบาลทหารของเขาก็ได้รับเสียงขานรับที่ดีด้วยนั่นเอง จนถึงขั้นที่
ประธานาธิบดีโอบามามาทักทาย
  ที่แปลกใหม่ที่สุดก็คือ เป็นการรัฐประหารที่ใช้  “บทเพลง” เป็นสื่อ
เพื่ออธิบายความจ�าเป็นในการรัฐประหารและความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหา
โดย พล.อ.ประยุทธ์แต่งเพลงด้วยการเขียนเนื้อร้องเองจนกลายเป็นเพลง
ที่ฮิตติดปาก แถมสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี   
  “คืนความสุขให้ประเทศไทย” คือเพลงที่  พล.อ.ประยุทธ์ร้องเอง
ยังน�้าตาคลอเสียเอง
   เหล่านี้กระมังจึงท�าให้ในภาพรวมแล้ว ยังถือว่า พล.อ.ประยุทธ์

22   วาสนา  นาน่วม
เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการยอมรับในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ใช่จากคนทั้ง
ประเทศก็ตาม
  ประกอบกับการใช้สไตล์การบริหารงานแบบ “นายกฯ ทหาร” และ
รัฐบาลทหารที่เด็ดขาด รวดเร็ว ทันใจ ตรงไปตรงมา ท�าให้ประชาชนยัง
คงพอใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์  และรัฐบาล คสช.อันสะท้อน
มาจากโพลส� า รวจความคิ ด เห็ น ที่ ผ ่ า นๆ  มา โดยเฉพาะเมื่ อ มี ก ารปรั บ
คณะรัฐมนตรี  “พล.อ.ประยุทธ์  ๓” เมื่อวันที่  ๒๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘
  เนื่องจากการปรับคณะรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องแหวกแนวของรัฐบาล
ทหารที่มาจากการรัฐประหารที่อยู่ยาวเกิน ๑ ปี  โดยมีการปรับคณะรัฐ
มนตรีมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งมีการปรับใหญ่ซึ่งคาดกันว่าจะอยู่ยาวไปอีก
อย่างน้อย ๒ ปี  กว่าที่จะร่างรัฐธรรมนูญได้ส�าเร็จ หลังจากร่างรัฐธรรมนูญ
ฉบับแรกถูก สปช.คว�่าไปแล้ว จนถูกมองว่าเป็นแผนยื้ออ�านาจของ คสช.
  นับได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ฉีกทุกกฎต้องห้าม ฉีกทุกต�าราการ
รัฐประหาร แล้วเขียนขึ้นใหม่ด้วยตัวเองในฐานะนายทหารที่โตมาจากการ
เป็นหนอนหนังสือ ขยันเรียน ชอบอ่าน ก่อนจะเติบโตมาเป็นนายทหาร
หน่วยรบที่แสนดุดัน  ดุเดือด และกล้าก่อการรัฐประหารในยุคดิจิตอล
ในยุค “โลกล้อมประเทศ” ด้วยการวางแผนอันแยบยลจนเป็นเรื่องที่น่า
ศึกษา ทั้งตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ที่ว่า
กันว่าเป็นทางลัดสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีจากการรัฐประหารที่ไม่ต้องใช้รถถัง
สักคันในวันยึดอ�านาจ แต่ใช้  “เสียงเพลง” รวมทั้งวาทกรรมต่างๆ แทน
  ในวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ได้เขียนต�าราการรัฐประหารรูปแบบใหม่
ด้วยการท�ารัฐประหารขึ้นมา ให้ทหารรุ่นน้องๆ ได้เรียนรู้ศึกษา ให้นักการ
เมืองได้รู้เท่าทันกลยุทธ์แบบ “ลับ ลวง พราง ตัวพ่อ”
  กระนั้นคงต้องรอดูตอนจบว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยอมลงจากหลังเสือ
เมื่อใด ในรูปแบบใด จะโดนเสือกัดหรือไม่  จะ “เสียของ” อีกหรือไม่  และ
จะสามารถล้างอาถรรพ์ผู้น�าการรัฐประหารที่มักจบไม่สวยได้หรือไม่
จะบันทึกประวัติ ำสตร์ที่มีตัวเขำเองเป็นตัวละครหลักนี้เช่น
ใด...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   23
บทนำา

ในอีกด้ำนหนึ่ง ตัวตนและบุคลิกภำพของ พล.อ.ประยุทธ์ก
เป็นปัจจัยที่ต้องน�ามาศึกษา เพื่อให้เข้าใจที่มาและที่ไป เข้าใจนายกฯ
ทหารคนนี้ให้มากขึ้น...
  จากภาพของผู้บัญชาการทหารบกผู้เปี ยมพลังอ�านาจ น�าก�าลัง
ทหารก่อการรัฐประหารกลางสมรภูมิการเมืองเลือดและมวลชนเหลือง-
แดงที่ฝังจมอยู่ในความเกลียดชัง ใช้อ�านาจกฎอัยการศึก ใช้ยาแรง พร้อม
ก�าลังทหารบุกถึงบ้าน จับกุม กวาดล้างอย่างเต็มรูปแบบ
  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบ
เรียบร้อยในเวลานั้น ดูแสนน่ากลัวและน่าเกรงขาม ถึงขั้นที่แกนน�ากลุ่ม
เห็นต่าง นักการเมืองคนส�าคัญ ถูกเรียกมารายงานตัวต่อ คสช.เลือกที่จะ
หนีออกนอกประเทศ เพราะไม่รู้ว่าคณะรัฐประหารจะเล่นกันถึงขั้นไหน
ถึงชีวิตหรือไม่
  ยิ่งประกอบกับบุคลิกและท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ก่อนการรัฐประ
หารเต็มไปด้วยอารมณ์โมโหโกรธา ฉุนเฉียว แถมถูกแกนน�ากลุ่มคนเห็น
ต่างและนักการเมืองพรรครัฐบาลในเวลานัน้ วิพากษ์วจิ ารณ์  โดยเฉพาะถูก
แนวร่วมมวลชน กปปส.ต�าหนิด้วยความผิดหวังที่เข้าข้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ด้วยการดูแคลนสารพัด จนเป็นสิ่งกระตุ้นหนึ่งที่ท�าให้ก่อการรัฐประหาร
  หลังการรัฐประหาร กองก�าลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) ของ
คสช.พร้อมอาวุธออกไปทุกที่  เพื่อกวาดล้างอาวุธสงคราม จับกุมยาเสพติด
สิ่งผิดกฎหมาย ตามหาตัวแกนน�าที่หลบหนี  จนภาพของ คสช.ดูน่ากลัว

24   วาสนา  นาน่วม
  โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์  ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช.ในเวลานั้น
ถือว่ามีภาพลักษณ์น่ากลัวแบบสุดๆ เพราะตอนเป็น ผบ.ทบ.ก่อนหน้านั้น
ก็ฮึ่มๆ มาตลอด เพราะมีกฎอัยการศึกอยู่ในมือ
  แต่เมื่อเปลี่ยนสถานะจาก ผบ.ทบ.มาเป็นนายกรัฐมนตรี  แม้จะ
ควบเก้ า อี้ หั ว หน้ า  คสช.ก่ อ นจะเกษี ย ณราชการจาก ผบ.ทบ.เมื่ อ  ๓๐
กั น ยายน  พ.ศ.๒๕๕๗  คนไทยก็ ไ ด้ รู ้ จั ก นายกรั ฐ มนตรี ค นที่   ๒๙ คนนี้
มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น...
  โดยสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังไม่สงบราบคาบ การเมืองที่ยังไม่นิ่ง
กลุ่มต่อต้านยังคงเคลื่อนไหว ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ต้องเล่นบทนายกฯ
ทหารสุดโหด ผ่านแววตา ท่าทาง และค�าพูดด้วยเสียงกัมปนาท เพื่อให้
“เป้าหมาย” ขนหัวลุก
  ด้วยบทบาทของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการแรงสนับสนุนจากประชา
ชนคนไทย พล.อ.ประยุทธ์กพ็ ยายามลดความแข็งกร้าวแบบนายกฯ ทหาร
ลง ทั้งด้วยการหลีกเลี่ยงการแต่งเครื่องแบบทหารไปร่วมงานกองทัพตอน
ที่ยังควบทั้ง ผบ.ทบ., หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรีอยู่กว่า ๑ เดือน
  แต่เมื่อเกษียณราชการแล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่ยอมแต่งเครื่องแบบทหาร แม้แต่การไปร่วมงานวัน
พระราชทานก�าเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเมื่อวันที่  ๖ สิงหาคม
พ.ศ.๒๕๕๘ ทั้งที่อดีตบิ๊กๆ ทหารคนอื่นๆ ล้วนแต่งเครื่องแบบทหารกัน
หมด แม้แต่  “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ใหญ่ของ คสช.ก็ยังแต่งเครื่อง
แบบทหาร
  สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีก็คือ ท่าที
ที่นุ่มนวลลงจากภาพลักษณ์เดิมเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ.ที่แข็งกร้าว ฉุนเฉียว
กลายเป็นมีรอยยิ้ม
  วันแรกที่  พล.อ.ประยุทธ์  นายกรัฐมนตรี  เข้าท�าเนียบรัฐบาลเพื่อ
เริ่ ม ท� า งานเมื่ อ  ๙ กั น ยายน  พ.ศ.๒๕๕๗ นั้ น  เขาหยอกทั ก นั ก ข่ า วว่ า

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   25
“สวัสดีจ้ะ” ก่อนจะหยอกว่า “นักข่าวน่ารักทุกคน” เพือ่ กรุยทางสร้างความ
สัมพันธ์กับนักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลที่เขายังไม่รู้จักมักคุ้นจนสร้างความ
ประทับใจให้นักข่าว เพราะเป็นการพลิกภาพจากนายกฯ ทหารมาดเข้ม
มาเป็นนายกฯ ที่จับต้องได้
  แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะย�้าเสมอว่า ตนเองไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่
ต้องการฐานเสียง ไม่ต้องการคะแนนนิยมจากประชาชน หรือสร้างประชา
นิยมก็ตาม  แต่ในความเป็นจริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์นั้นรู้ดีว่า ต่อให้เป็น
นายกรัฐมนตรีจากการรัฐประหาร ความนิยมศรัทธาจากประชาชนเป็นสิ่ง
ส�าคัญ เพราะถ้าประชาชนไม่ชอบ ไม่พอใจ ก็เตรียมนับถอยหลังได้เลย
  ยิ่งเมื่อโรดแมปของ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็นนายกฯ และเป็นรัฐบาล
ต่อไปให้นานที่สุดด้วยแล้ว การท�าให้ประชาชนพอใจหรือสร้างคะแนน
นิยมจากประชาชนกลายเป็นสิ่งจ�าเป็น
  แน่นอน “บิ๊กตู่” รู้ดีว่าเขาไม่อาจวางมาดนายกฯ ทหารที่น่าเกรง
ขาม ดุดัน อารมณ์เสียเช่นเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ.ได้
  “บิ๊กตู่” จึงผ่อนคลายตัวเองลง เปิดโอกาสให้แสดงตัวตนในอีกด้าน
หนึ่งออกมาด้วยการเป็นนายทหารอารมณ์ดี  มีอารมณ์ขัน
  นั่นจึงท�าให้สื่อมวลชนและประชาชนเริ่มได้เห็นอีกมุมหนึ่งของท่าน
ผู้น�า ท�าให้เวลานี้คนไทยรู้แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์  หรือที่เรียกติดปากกัน
ว่า “บิ๊กตู่” เป็นคนตลก
  จนอาจกล่าวได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีหลายภาพลักษณ์  หลากอารมณ์
อยู่ในตัว ทั้งบทโหด อารมณ์มัน หรือบทจะฮาก็มีครบ
  โดยเฉพาะการเป็นนายทหารอารมณ์ขันและปล่อยมุขตลกได้ตลอด
ก็ช่วยเบรกอารมณ์หรือภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามได้ไม่น้อย สามารถเรียก
คะแนนนิยมได้มากโข
  รวมถึงภาพลักษณ์ของการเป็นนายทหาร “แฟมิลี่แมน” ที่มักแสดง
ออกถึ ง การให้ เ กี ย รติ แ ละชื่ น ชมภริ ย าเสมอ ทั้ ง การพาไปต่ า งประเทศ
ออกงานคู่กันเสมอๆ อีกทั้งภริยานายกฯ ซึ่งเป็นอาจารย์ก็วางตัวได้ดี  โดย

26   วาสนา  นาน่วม
เฉพาะรสนิยมในการแต่งตัวด้วยชุดไทย
  การแสดงออกถึงการเป็นนายกฯ ทหารที่ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง หวานชื่น
กับภริยา ด้วยการเดินจูงมือไปในทุกงาน โดยเฉพาะการ “หอมแก้ม”
ภริยาเพื่อแสดงความรัก รวมถึงการพูดออกสื่อเสมอว่า “ผมเป็นคนรัก
ภรรยา” และสอนให้ผู้ชายรักเดียวใจเดียว
  ส่วนบทโหดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถาน
การณ์และเป้าหมาย ในยามที่ต้องค�าราม เตือน และลงดาบ เพื่อเป็นการ
เชือดไก่ให้ลิงดู  ทั้งการถอนพาสปอร์ตนายจาตุรนต์  ฉายแสง แกนน�าพรรค
เพื่อไทย และโดยเฉพาะการใช้อ�านาจมาตรา ๔๔ ของหัวหน้า คสช.ถอด
ยศพันต�ารวจโทของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีโดยไม่ใช้วิธี
การทูลเกล้าฯ พร้อมลั่นวาจา  ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว  อีกครั้ง
เพื่อไม่ให้การเมืองดึงสถาบันกษัตริย์มาโจมตี
  และบ่อยครั้งที่ประชาชนคนไทยเองก็สับสนว่า...จะกลัวเกรงท่าน
ผู้น�า หรือจะขอแอบหัวเราะก็ตามที
กระทั่งเป็นที่มำของ “นำยกฯ โหด มัน ฮำ”...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา   27
“บิ๊กตู่”
นายกฯ โหด มัน ฮา
“ ้ า เปนภา าละครหลั ง ข่ า วกต้ อ ง
เรียก  บิ๊กตู่  ว่าเปนนายกฯ ประเภท  ตบ
จูบ  คล้าย  พระเอกตบจูบ ที่ ม้จะดูโหด


ต่บทจะดี บทจะเลิ  กหวาน ะ...
ภาค ๑
โหด มัน ฮา นายกฯ ของเรา

นายกฯ ตบจูบ

“ นี่คือ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ ม่อาจเปลี่ยน ปลง


ตัวเองที่เปนคนขี โมโห โกรธง่าย  ต่กหายเรว

เป็ น นำยกรั มนตรี ม ำปกว่ ำ แล้ ว  และคงต้ อ งเป็ น ต่ อ ไปอี ก


สักพักหนึ่ง  ประชาชนคนไทยคงได้รู้จัก “นายกฯ บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ 
จันทร์โอชาคนนี้มาบ้างแล้ว และคงจะได้รู้จักมากขึ้นๆ
  ถ้าเป็นภาษาละครหลังข่าวก็ต้องเรียก “บิ๊กตู่” ว่าเป็นนายกฯ ประ 
เภท “ตบจูบ” คล้ายๆ พระเอกตบจูบ ที่แม้จะดูโหด แต่บทจะดี  บทจะ 
เลิฟ ก็หวานซะ...
  จะเรียกว่าเป็นนายกฯ ร้อยอารมณ์ก็ว่าได้  เพราะมีทั้งปรี๊ด ทั้งโกรธ 
โมโห ฉุนเฉียว ตวาดลั่น ขึ้นมึงขึ้นกู  เอ็ง ข้า สไตล์ทหาร หรือเปลี่ยน 
อารมณ์มายิ้มหวาน งอนง้อ ขอโทษ หยิกหยอก หัวเราะได้ในทันใด
  บทจะอ้อน งอน น้อยใจ ตัดพ้อ ก็มีเหมือนกัน แม้จะเป็นชายชาติ 
ทหารก็เถอะน่า...
  ถ้าเป็นอารมณ์ปกติ  “บิ๊กตู่” จะใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “ฉัน” 
และเรียกสื่อว่า “เธอ” แต่บางวันไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน เรียกตัวเองว่า “พี่” 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 33
แล้วเรียกนักข่าวว่า “น้องๆ” แถมปล่อยมุขจากเพลง... “เรียกพี่ได้ไหม”
  ถ้าวันไหนอารมณ์ดีมากๆ แบบที่เรียกว่าผิดปกติ  และนานๆ จะ 
เกิดขึ้นสักครั้ง “บิ๊กตู่” ก็จะเดินแจกยิ้ม พร้อมพูดว่า “สวัสดีจ้ะ” หรือพูด 
อะไรก็จะมีค�าว่า “นะจะ” ลงท้ายตลอด 

  เพราะฉายาของ “บิ๊กตู่” เมื่อครั้งเป็นแม่ทัพภาค ๑ ก็คือ  “บิ๊กตู่ 
นะจะ” เพราะชอบพูดค�าว่า “นะจะ” แบบติดปาก พร้อมรอยยิ้มเสมอๆ
  ด้วยเพราะเป็นนายทหารเสือราชินีท่ีติดตามเสด็จฯ และถวายงาน 
แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมาตั้งแต่เป็นนายทหารหนุ่มๆ 
เรื่อยมา จึงติดค�าว่า “นะจะ” มาจากพระองค์   ด้วยเหตุที่ว่าสมเด็จพระ 

34 วาสนา  นาน่วม
ราชินีจะตรัสค�าว่า “นะจะ” อยู่เสมอนั่นเอง
  แต่มาตอนเป็น ผบ.ทบ.นั้น ค�าว่า “นะจะ” เหือดหายไปจากปาก 
ของบิ๊กตู่เลยก็ว่าได้  เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานั้นตึงเครียด 
ไม่เอื้อให้มีอารมณ์หวาน
  เช่นเดียวกับเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีที่กลุ่มเห็นต่างยังคงเคลื่อนไหว 
ต่อต้าน คสช.  ส่วนนักการเมืองก็ยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์  ท�ำให้ พล.อ. 
ประยุทธ์กลำยเป็นนำยกฯ ที่มีควำมเดดขำด ดุดัน โผงผำงแบบทหำร 
แต่ก็ต้องพยายามปรับอารมณ์ตัวเองเพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์ผู้น�าอารมณ์ 
ปรี๊ด จนกลายเป็นนายกฯ สุดตลก
  อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์มักบอกให้สังคมยอมรับในตัวตนของ 
เขาเสมอ
  ผมเปนคนโมโหง่ำย แต่ก็หำยเร็ว มันมีหลำยเรื่องให้หงุดหงิด แต่
จริง แล้วผมเปนคนตลกนะ ไม่มีอะไรหรอก ผมเปนคนจิตใจดี ตังใจ
ท�ำงำน
  ยิ่งนักข่าวไม่ว่าสายทหารหรือสายท�าเนียบรัฐบาลนั้นรู้ดี  เมื่อครั้ง 
ที่เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ค่อยมีโอกาสได้ปล่อยมุขตลกเลยเพราะ 
สถานการณ์ไม่เอื้ออ�านวย แถมไม่เปิดโอกาสให้นักข่าวสายทหารได้เห็น 
ตัวตนของเขาในอีกด้าน
  ตลอด ๔ ปีที่  พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ.เขำไม่เคยร่วมโตะ 
ทำนข้ำวกับนักข่ำวสำยทหำรในเท กำลปใหม่เช่น ผบ.เหล่ำทัพอื่น 
ซึ่งเป็นประเพณีให้  ผบ.เหล่าทัพและผู้ใหญ่ในกองทัพได้พบปะสังสรรค์ 
พูดคุย สร้างความใกล้ชิดกัน เพื่อผลในการสร้างแหล่งข่าว อย่างน้อย 
ก็เอาไว้เช็กข่าว
  ทั้งนี้อาจเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ระวังตัวกับสื่อ เนื่องจากการเป็น 
ผบ.ทบ.นั้นย่อมเป็นที่สนใจ หากพูดอะไรผิดพลั้งไปจะเสียหาย ด้วยไม่ร ู้
ว่าสื่อจะเก็บไปเขียนแบบไหนหากไปนั่งคุยแบบเป็นกันเอง
  อีกทั้ง “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ก่อนหน้าเขา 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 35
ซึ่งเป็นพี่ชาย เป็นพี่รองแห่งบูรพาพยัค ์  เตือนให้เขาระวังเรื่องการพบปะ 
พูดคุยกับสื่อ เพรำะ พล.อ.อนุพงษ์กมีทั นคติที่ไม่ดีกับสื่อเท่ำใดนัก 
โดยเฉพาะเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ.อันเป็นเวลาเดียวกับที่ต้องผ่านเหตุการณ์ 
กระชั บ พื้ น ที่ ค นเสื้ อ แดง  ทั้ ง ที่ ส ามเหลี่ ย มดิ น แดงและพั ท ยาเมื่ อ เดื อ น 
เมษายน พ.ศ.๒๕๕๒ สี่แยกคอกวัวในเดือนเมษายน และราชประสงค์ใน 
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ จึงท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากคุยกับสื่อ
  ท�าให้นักข่าวสายทหารไม่ได้เห็นตัวตนอีกมุมของ พล.อ.ประยุทธ์ 
ที่เป็นนายกฯ ตลกโปกฮา
  แต่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี  นักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลกลับได้รับ 
โอกาสนั้น เพราะ พล.อ.ประยุทธ์อาจต้องอยู่ในต�าแหน่งไปอีกนานและรู้ดี 
ถึงความส�าคัญของสื่อเมื่อเขาต้องเป็นนายกฯ จึงต้องสร้างสัมพันธ์เอาไว้ 
และทุกครั้งที่อารมณ์เสียก็จะตวาดด่าใส่สื่อ แต่สุดท้ายก็มักจบลงที่รอยยิ้ม
  ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโห ไม่ได้อำรม ์เสีย แค่เสียง
ดังเท่ำนัน  บิ๊กตู่มักตบหัวแล้วลูบหลัง
  นั่นเป็นกลยุทธ์หนึ่งของบิ๊กตู่...
  นอกเหนือจากคนในครอบครัว คนใกล้ชิด และนายทหารติดตาม 
ที่จะรู้จัก “นายกฯ บิ๊กตู่” คนนี้มากกว่าคนอื่นๆ แล้ว นักข่ำวกได้รู้จัก 
ตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น้อยไปกว่ำคนอื่น บางครั้งอาจลึกซึ้ง 
และหลากหลายกว่าด้วยซ�้า
  เรียกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนที่ไวต่อสภาวะแวดล้อม อารมณ์ 
ผันเปลี่ยนไปตามสิ่งเร้าภายนอกในเวลานั้นๆ ไม่ใช่นายทหารมาดนุ่ม นิ่ง 
สุขุม แต่เป็นทหารที่มีจุดเดือดต�่า
  เป็นที่รู้กันในหมู่นักข่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปต่าง 
ประเทศหรือไปต่างจังหวัด ก็จะมีเวลาอ่านหนังสือพิมพ์นานเป็นชั่วโมง 
เมื่อลงเครื่องบินมำกจะอำรมณ์เสียเสมอ แล้วก็ลงมาบ่นด่านักข่าว 
ในการแถลงข่าวเกือบทุกครั้ง
อ่ำนแล้วอยำกจะกระโดดเครื่องบิน

36 วาสนา  นาน่วม
  อ่ำนแล้วไม่อยำกกลับมำเลย มันมีแต่ป หำ ควำมวุ่นวำย อยำก
จะเปดประตู กระโดดลงจำกเครื่อง  บิ๊กตู่บ่น
  แล้วที่บ่นเสมอเมื่อกลับจากต่างประเทศ เมื่อถึงสนามบินแล้วมา 
แถลงข่าวก็คือ  ไม่มีใคร ำมเลยหรือว่ำ ผมเหนื่อยไหม ท่ำนนำยกฯ เปน
ยังไงบ้ำง  เพราะเมื่อนักข่าวเริ่มยิงค�าถามแรกก็คือเรื่องงาน หรือประเด็น 
ปัญหาต่างๆ ในทันที
  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นักข่าวสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ 
ได้ด้วยการเปลี่ยนค�าถาม เปลี่ยนเรื่องเท่านั้น 
  จากที่ฉุนเฉียว ปรี๊ดแตก ก็กลับมายิ้มแย้ม เพราะค�าถามของนัก 
ข่าวเป็นการสะกิดเตือนสติให้  พล.อ.ประยุทธ์ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
  ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ต�าหนิสื่อว่าถามยั่วให้  พล.อ.ประยุทธ์ 
อารมณ์เสีย จึงมิใช่เช่นนั้น เพรำะนำยกฯ เป็นคนโมโหง่ำยอยู่แล้ว 
เนื่องจากไม่พอใจการน�าเสนอข่าวเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งต่างๆ 
ย่อมหงุดหงิด ไม่ว่านักข่าวถามอะไรจึงอารมณ์เสียง่าย และบ่อยครั้งที่สื่อ 
ต้องสะกิดเตือนให้นายกฯ ใจเย็นๆ ด้วยการเปลี่ยนประเด็น เปลี่ยนเรื่อง 
ถาม เพื่อเปลี่ยนอารมณ์นายกฯ นั่นเอง
  จะสังเกตได้ว่า แม้ในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ปรากฏว่านักข่าวรุมกันจี้ถาม 
นายกฯ ให้ปรี๊ดแตกแบบต่อเนื่อง แต่ช่วยกันท�าให้อารมณ์นายกฯ เย็นลง 
ทั้งสิ้น
  แต่บางครั้ง นักข่าวเองก็เป็นงงกับอารมณ์และบุคลิกของท่านผู้น�า 
เพราะบางทีด้วยความเป็นคนตลก พูดอะไรก็คิดว่าพูดเล่น ส่วนบางค�าพูด 
ในบางอารมณ์ก็คิดว่าพูดจริง เอาจริง
  โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่  พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะใช้อ�านาจมาตรา 
๔๔ ห้ามไม่ให้ใครในประเทศนี้ใช้ค�าว่า “รำกหญ้ำ” แต่ให้ใช้ค�าว่า “ผู้มี 
รำยได้นอ้ ย” เพราะไม่ตอ้ งการท�าให้เกิดการแบ่งชนชัน้ เช่นในยุคทีผ่ า่ นมา 
ซึ่งแยกระหว่าง “รำกหญ้ำ” กับ “อ�ำมำตย์” แล้วน�าไปใช้ปลุกระดมทาง 
การเมือง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 37
  แต่เมื่อตกเป็นข่าว พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องมาแก้ข่าวว่าเป็นการพูด 
เล่น ใครจะไปท�าแบบนั้น
  ผมเปนคนตลกหน้ำตำย พวกคุ ไม่รู้หรือ  พล.อ.ประยุทธ์บอก 
กับสื่อ
  บ่อยครั้งที่  พล.อ.ประยุทธ์เล่นแรงๆ กับสื่อ จนท�าให้ผู้คนสับสน 
ว่าเอาจริงหรือล้อเล่น เช่น  เดียวปดทุ่ม  พร้อมท�าท่ายกโพเดียมหยอก 
นักข่าว
  หรือการหลุดปากว่า  เดียวเอำไปประหำรชีวิตเลยนี่  คนที่ไม่ได้ 
อยู่ในวงสัมภาษณ์ย่อมไม่อาจรับรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดในอารมณ์ไหน
  นอกจากนักข่าวที่อยู่ในวงสัมภาษณ์จะรู้ว่าเป็นอารมณ์หยอกล้อ 
แต่เมื่อกลายเป็นข่าวออกไปก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์  โดยเ พำะจำกสื่อ 
ต่ำงประเท ึ่งมองว่ำเป็นกำรคุกคำมสื่อ
  เพราะเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์มักจะพูดเสมอว่า  ผม
ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดนักข่ำว เพรำะ ้ำเกลียด คงเอำไป ่ำทิงแล้ว
  การพูดครั้งแรกย่อมท�าให้เกิดความรู้สึกไม่ดีนัก แต่เมื่อพูดครั้ง 
ต่อๆ มาก็เลยกลายเป็นการหยอกล้อเล่นกันไป
  หรือแม้แต่เวลานายกฯ “บิ๊กตู่” พูดค�าว่า “ถุ...ย” ออกมาตอนเป็น 
นายกฯ นักข่าวที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอารมณ์ไหน
  แม้ไม่ใช่เรือ่ งเหมาะสมนักของผูน้ า� ประเทศ ทว่าก็ไม่มใี ครกล้าสะกิด 
เตือน พล.อ.ประยุทธ์  นอกจากปฏิกิริยาของสื่อเอง
  ด้วยรู้กันดีว่าไม่มีใครกล้าสะกิดเตือน พล.อ.ประยุทธ์ได้  นอกจาก 
ตัวท่านเอง
  ดังนั้น จึงปรากฏออกมาในรูปของการขอโทษจากปากท่านผู้น�า 
หลังจำกรู้ตัวว่ำพูดแรงไปกจะเอ่ยค�ำว่ำ “ขอโทษ”  บางครั้งก็เอ่ยทันที 
หลังให้สัมภาษณ์จบ หรือบางทีข้ามวันไปแล้วจึงมาขอโทษก็มี
  แม้เมื่อมีวาจากระทบกระทั่งกับนักข่าวอาวุโสอย่าง “เจยุ” นาง 
ยุวดี  ธัญญสิริในระหว่างการสัมภาษณ์  เมื่อเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ก็จะ 

38 วาสนา  นาน่วม
หันมายกมือไหว้แล้วกล่าวค�าว่า  ขอโทษด้วยนะพี่  ตรงข้ามกับตอนที ่
ไม่พอใจ โกรธเคืองจากค�าถามที่ไม่สบอารมณ์  บิ๊กตู่จะเรียกว่า “ป้า”
  บางครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะโกรธนักข่าวที่ถามจี้ใจด�าหรือไม่สบ 
อารมณ์นัก ถึงขั้นประกาศว่า  ไม่ต้องมำ ำมแล้ว ต่อไปนีผมจะไม่ตอบ
ค�ำ ำมคุ ก่อนจะเดินโวยวายอารมณ์บูดจากไป
  แต่พอวันรุ่งขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นฝ่ายง้อนักข่าวด้วยการเอ่ยค�า 
ทักทายแล้วให้สัมภาษณ์นักข่าวคนที่เคยประกาศไว้เมื่อวานว่า...จะไม่ 
ตอบค�าถามคุณอีกแล้ว
  นี่คือ พล.อ.ประยุทธ์  ผู้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงตัวเองที่เป็นคนขี้โมโห 
โกรธง่าย แต่ก็หายเร็ว
  บ่อยครั้งที่  พล.อ.ประยุทธ์จะให้สัญญากับตัวเองรวมถึงนักข่าวว่า 
ต่อไปผมจะพยำยำมยิมให้มำกขึน โมโหให้น้อยลง เพรำะไม่อย่ำงนัน
เส้นเลือดในสมองจะแตกได้
  แต่ยังไม่ทันข้ามวัน “บิ๊กตู่” ก็อารมณ์เสีย ปรี๊ดใส่นักข่าวอีกแล้ว 
ถึงจะมีการให้สัญญาแบบนี้มาหลายครั้ง แต่ไม่มีใครเชื่อว่าบิ๊กตู่จะท�าได้ 
กระนั้นประเด็นดังกล่าวก็ท�าให้นักข่าวได้พบว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นถึง 
จะโมโหง่ำย แต่กควบคุมอำรมณ์ตัวเองได้เรวขึ้น และเปลี่ยนอารมณ์ 
ตัวเองได้เร็วขึ้น
  ผมเปนคนแบบนีมำทังชีวิต จะให้ผมเปลี่ยนคงไม่ทันแล้ว  บิ๊กตู่ 
เปรย
  บุคลิกแบบนี้นี่เอง จึงท�ำให้กลำยเป็น “นำยกฯ ตบจูบ”...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 39

นายกฯ คนกล้า  ด่า  นักข่าว

“ พวกคุ ชอบสร้ า งความขั ด ย้ ง  ชอบ


ทำาให้คนทะเลาะกัน จะ ด้มีข่าวเขียนเยอะ  จะ ด้


ขายข่าว ด้ จะ ด้เงินเยอะ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่ใช่แค่เป็นนำยทหำรที่กล้ำก่อกำรรั ประหำรท่ำมกลำงควำม
เสี่ยงและความท้าทายเท่านั้น แต่ทหารหลายคนในกองทัพโดยเฉพาะ 
ในกองทัพบกยังพูดตรงกันว่า บุคลิกลักษณะหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ 
พวกเขาชื่นชมตั้งแต่เมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ.ก็คือ เป็น ผบ.ทบ.ที่กล้าด่านักข่าว 
กล้ามีเรื่องกับสื่อมวลชน เป็นบิ๊กทหารที่ไม่แคร์สื่อ
  เพราะโดยปกติแล้ว ไม่ว่าใครก็มักจะเกรงกลัว เกรงใจนักข่าว 
ไม่กล้าด่าต่อหน้า มีแต่เอาใจดูแล ต้องแคร์สื่อ
  เว้นแต่  พล.อ.ประยุทธ์นี่แหละที่กล้าด่าสื่อ กล้าด่านักข่าว กล้า 
ทะเลาะกับสื่อ กับหนังสือพิมพ์  คอลัมนิสต์  ที่มีปากกาเป็นอาวุธ
  ผมต้องปกครองทหำรกว่ำ ๒. แสนคน ผมก็ต้องเปนแบบนี
ไม่อย่ำงนันลูกน้องจะกลัวผมเหรอ ผมก็ไม่เคยกลัวนักข่ำวอยู่แล้ว  บิ๊กตู่ 
เปรย
  เรื่องด่านักข่าวที่รุมล้อมสัมภาษณ์  พบปะกันทุกวัน กลายเป็นเรื่อง 

40 วาสนา  นาน่วม
ธรรมดาที่ว่านักข่าวเป็นที่ระบายหรือรองรับอารมณ์ของบิ๊กตู่มาโดยตลอด 
ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. 
  ไม่เพียงเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังเปด ึกกับเจ้ำของหนังสือ 
พิมพ์คนส�ำคัญอย่ำง “สนธิ  ลิ้มทองกุล” แห่งเครือผู้จัดการ โดยเฉพาะ 
ช่วงก่อนการรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ เนื่องจากหนังสือ 
พิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดกำรมักจะเขียนวิจารณ์  พล.อ.ประยุทธ์อยู่เสมอ จน 
กลายเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่  พล.อ.ประยุทธ์ต้องอ่านทุกวัน และเป็น 
ฉบับที่ต้องวางไว้ในรถประจ�าต�าแหน่ง เพื่อจะเอาไว้โชว์นักข่าวประกอบ 
การต�าหนิก่นด่า
  โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ถูกเหน็บแนมเรื่องความสัมพันธ์ท ี่
ใกล้ชิดกับนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหมในเวลานั้น จนฝ่ายมวลชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณหมด 
หวังว่าทหารจะออกมากอบกู้สถานการณ์ด้วยการรัฐประหาร รวมถึงการ 
วิจารณ์บทบาทในเรื่องการแก้ปัญหาเขาพระวิหาร
  ถึงขั้นที่  พล.อ.ประยุทธ์ลั่นว่า  ...ผู้จัดกำรมันเขียนห่วย เอำศักดิศรี
อะไรมำด่ำผม
  จนในที่สุด เกิดปฏิบัติการทหารตบเท้าไปที่ส�านักงานของหนังสือ 
พิมพ์ผู้จัดกำรอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่  ๑๑-๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ 
เพื่อเรียกร้องให้ยุติกำรวิพำกษ์วิจำรณ์  พล.อ.ประยุทธ์  ผบ.ทบ.ของ 
พวกเขำ เพราะถือเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีกองทัพบก
  ทั้งนี้อาจเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่พอใจบทบาทของนายสนธิ  หลัง 
การรัฐประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ ที่ออกมาพูดพาดพิงสถาบันฯ 
หลายครั้ง ในท�านองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาต่างๆ
  จึงไม่แปลกเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังเอ่ยชื่อ 
นายสนธิและหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดกำรเสมอๆ จนถึงขั้นชี้หน้ำนัก 
ข่ำวและด่ำไปถึงคอลัมนิสต์  พร้อมเอ่ยชื่อแบบมีสรรพนามน�าหน้าด้วย
  ให้มันมำเปนนำยกฯ เองเลยมำ  บิ๊กตู่ยัวะ

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 41
  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็มีหลักจิตวิทยา เพราะจะพูดเสมอว่า  ผม
เข้ำใจ นักข่ำว ำคสนำมไม่เกี่ยว แค่ส่งข่ำวเข้ำไป  แต่คนข้ำงใน พวก
บรร ำธิกำร คอลัมนิสต์ เอำไปจัดกำร ไปเขียนวิเครำะห์ วิพำกษ์วิจำร ์
เอง  เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของเขากับนักข่าวภาคสนามที่ต้องพบเจอกัน 
ทุกวันได้รับผลกระทบ
  ท�าให้ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์  ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.จนเป็น 
นายกรัฐมนตรี  กลายเป็นนายทหารที่เกิดวิวาทะกับสื่อมากที่สุด อารมณ์ 
เสียกับสื่อมากที่สุด และอาจเรียกได้ว่ามีทัศนคติไม่สู้จะดีนักกับสื่อ
  พวกคุ ชอบสร้ำงควำมขัดแย้ง ชอบท�ำให้คนทะเลำะกัน จะได้
มีข่ำวเขียนเยอะ จะได้ขำยข่ำวได้ จะได้เงินเยอะ บิ๊กตู่กล่าวอย่างมี 
อคติ
  ทั้งๆ ที่นักข่าวนั้นล้วนท�างานแบบรับเงินเดือน ไม่ว่าจะมีข่าวมาก 
หรือข่าวน้อยก็ไม่มีผล เพรำะผลงำนของนักข่ำวอยู่ที่ข่ำวเอก ์คลู ี  
ไม่ใช่ปริมำณข่ำว อีกทั้งสื่อไม่ใช่ผู้สร้างความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้ง 
นั้นมีอยู่แล้ว แต่สื่อเป็นแค่ผู้เปิดเผยความขัดแย้งนั้นให้ปรากฏ ประชาชน 
และสังคมจะได้เห็นกันชัดๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเบื้องหน้า-เบื้องหลังความ 
เป็นไปต่างๆ เท่านั้น
  แม้สื่อจะชี้แจงแบบทันควัน แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็ดูเหมือนจะไม่ 
อยากฟังหรืออยากรับรู้ใดๆ เพราะปกติหาก พล.อ.ประยุทธ์จะต�าหนิสื่อ 
เพราะเรื่องค�าถาม หรือการเขียนข่าวใดๆ ต่างก็จะยอมรับค�าต�าหนิ  เนื่อง 
จากสื่อก็ต้องยอมรับเสียงวิจารณ์  ในเมื่อสื่อวิจารณ์  พล.อ.ประยุทธ์ได้ 
พล.อ.ประยุทธ์ก็ย่อมวิจารณ์สื่อได้  ยกเว้นในประเด็นที่ไม่เข้าใจในเรื่อง 
วิชาชีพ สื่อก็จะชี้แจงทันที 
  สาเหตุอีกประการที่ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์เสียกับสื่อเสมอๆ 
กเพรำะ พล.อ.ประยุทธ์มีทั นคติในแง่ลบต่อสื่อและกำรน�ำเสนอ 
ข่ำว โดยมองว่าบ้านเมืองวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้เพราะสื่อนั่นเอง ถ้าไม่มีสื่อ 
ไม่มีข่าว บ้านเมืองคงสงบ

42 วาสนา  นาน่วม
บระ...
  จึงไม่แปลกที่ครั้งหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์จะเคยเปรยๆ หยั่งเชิงว่า 
อยากจะตั้งบริษัทหนังสือพิมพ์แห่งชาติ  เพื่อท�าหนังสือพิมพ์ท่ีดี  เสนอข่าว 
ที่เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ไม่มีเรื่องความขัดแย้ง พร้อมชวนให้ 
นักข่าวไปสมัครท�างานกับตนเอง
  นั่นไม่ใช่การพูดเล่นๆ แต่มันแอบอยู่ใน อกควำมคิดของ พล.อ. 
ประยุทธ์อยู่จริง  เพราะ พล.อ.ประยุทธ์นั้นเบื่อหน่ายกับหนังสือพิมพ์ 
อย่างหนัก
  ถึงขั้นเคยด่ากราดคอลัมนิสต์ของสื่อบางฉบับที่วิจารณ์โจมตีตนเอง 
ได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะท�าอะไร จน “บิ๊กตู่” เอาค�าฮิตมาใช้  หำยใจยังผิดเลย
  ให้พวกคอลัมนิสต์นั่น...มำเปนนำยกฯ เองเลยมำ  บิ๊กตู่ลั่น
  พล.อ.ประยุทธ์เลยหันไปท�าหนังสือพิมพ์ของตนตั้งแต่เมื่อครั้งเป็น 
ผบ.ทบ.โดยได้ส่ังปรับปรุงปรับโฉมเอกสารข่าวทหารบกของ ทบ.ซึ่งเป็น 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 43
วารสารข่าวรายสัปดาห์ที่พิมพ์แจกจ่ายในหน่วยของ ทบ.ทั่วประเทศ เพื่อ 
เผยแพร่นโยบายค�าสั่งของ ผบ.ทบ.โดยมีภาพกิจกรรมของ ผบ.ทบ.ผู้บังคับ 
บัญชาและหน่วยต่างๆ
  จากเอกสารข่าวขนาดหน้า  4 พล.อ.ประยุทธ์สั่งปรับโฉมใหม่ให้ 
เป็นขนาดแทบลอยด์  ใช้กระดาษคุณภาพดี  พิมพ์สี่สี  โดยได้แนวคิดมา 
จากหนังสือพิมพ์ของกองทัพมิตรประเทศ
  จนมาเป็นนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์กสั่งปรับโ มจดหมำย 
ข่ำวรั บำลให้มีสีสันมำกขึ้น และเพิ่มคอลัมน์  “จากใจนายกรัฐมนตรี” 
ที่  พล.อ.ประยุทธ์เขียนเอง
แต่มันก็ไม่ใช่หนังสือพิมพ์ใน นของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ดี...
  เพราะถึงยังไง “บิ๊กตู่” ก็ยังคงชอบอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เช่นเดิม 
แถมเป็นคนที่อ่านทุกฉบับ ทุกคอลัมน์
  ผมเปนคนชอบอ่ำนหนังสือ อ่ำนหมด ทุกข่ำว ทุกคอลัมน์ แม้แต่
โ ษ ำเล็ก หรือโบรชัวร์ที่แจก ผมก็อ่ำน เวลำเข้ำห้องน�ำก็ต้องหำ
อะไรติดมือเข้ำไปอ่ำนด้วย  บิ๊กตู่เผย
  เพราะเป็นหนอนหนังสือ ชอบอ่าน และอ่านทุกอย่างนั่นเอง ท�าให้ 
เขากลายเป็นคนอารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย
  แต่ก็เพราะ “บิ๊กตู่” ท�าเป็นตัวอย่าง ดุด่านักข่าวได้  ราวกับเป็น 
ทหารผู้ใต้บังคับบัญชา จึงท�าให้  “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็เอาบ้าง ทุกคน 
จึงได้เห็นบิ๊กป้อมอารมณ์เสีย ตวาดด่านักข่าวเมื่อถามไม่สบอารมณ์
  แถมทั้งเย้ยว่า  ก็ ำมแบบนี นำยกฯ ึงด่ำให้...
  บ่อยครั้งที่สื่อต้องมานั่งหารือกันว่า ท�ำไม พล.อ.ประยุทธ์จะต้อง 
อำรมณ์เสียใส่สื่อ ประหนึ่งสื่อเป็นกระโถน เป็นที่ระบาย ด่าใครไม่ได้ 
ก็มาด่านักข่าว หรือเพื่อแสดงให้ผู้คนหวาดกลัว
  จนสื่อตกลงกันว่า ในเมื่อสื่อวิพากษ์วิจารณ์  พล.อ.ประยุทธ์ในสื่อ 
ของตนเองได้  ดังนั้นนายกรัฐมนตรีก็สามารถต�าหนิสื่อได้เช่นกัน แต่จะ 

44 วาสนา  นาน่วม
ต้องมีขอบเขต เช่นไม่ใช่การดูถูกในวิชาชีพ หรือการใช้ถ้อยค�ารุนแรง 
เกินไป ท�าให้เกิดความเสื่อมเสียและอับอาย
  แม้สื่อจะเข้าใจในบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์  ที่โกรธง่ายหายเร็ว 
ขี้โมโหก็ตาม แต่ก็ควรควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากขึ้น เพราะอาจกระทบ 
ต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี  และส่งผลต่อความสัมพันธ์กับสื่อด้วย 
เนื่องจากสื่อจ�านวนไม่น้อยรู้สึกว่าไม่ถูกต้องที่นายกรัฐมนตรีอารมณ์เสีย 
ใส่สื่อทุกวัน โดยบางครั้งยังไม่ทันได้เอ่ยถาม
  ขณะเดียวกัน สื่อจ�านวนไม่น้อยก็ต้องปรับตัวปรับใจให้รู้สึกว่าข�าๆ 
ไป โดยจะเห็นได้ว่าในระยะหลังๆ สื่อเลือกที่จะหัวเราะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ 
อารมณ์เสียหรือต�าหนิ  เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะคารม เพราะสังคมไทยจะ 
ต�าหนิคนที่อ่อนอาวุโสกว่าว่าก้าวร้าว หากต้องชี้แจงหรือตอบโต้กับผู้น�า 
ประเทศ
  สื่ อ จึ ง ต้ อ งอดทน  เพราะหากสื่ อ บอยคอต  หรื อ แสดงออก  หรื อ 
ตอบโต้  พล.อ.ประยุทธ์  อาจกลายเป็นประเด็นที่ฝ่ายการเมืองน�าไปใช้ 
ประโยชน์ได้  สื่อจึงกลายเป็นคนที่ต้องอดทนกว่าใครในสถานการณ์เช่นนี้ 
นั่นเอง
  “แต่ถึงยังไง ผมกับสื่อ เรำขำดกันไม่ได้หรอก สื่อกต้องกำร 
ข่ำวจำกผม ผมกต้องกำรสื่อ” บิ๊กตู่ลูบหลัง...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 45

อินเทรนด์ตลอด

“ พล.อ.ประยุ ท ธ์ เ ปนนั ก ท่ อ งโลกโ เชี ย ล


เนตเวิร์กด้วย โดยเ พาะเ บุก  บบที่เรียกว่า


อ่าน ม้ ต่คอมเมนต์

พล.อ.ประยุทธ์นั้นได้ชื่อว่ำเป็นหนอนหนังสือมำตั้งแต่เดก
ขยันเรียน ขยันอ่านหนังสือ อาจเพราะมีคุณแม่เป็นคุณครู  แถมคุณพ่อ 
เป็นนายทหารที่มีความเข้มงวดและมีระเบียบวินัย พล.อ.ประยุทธ์จึงโดน 
สองเด้ง ท�าให้ชีวิตเดินมาในกรอบ
  เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น ๑๒ คนหนึ่งเล่าว่า สมัยเรียนเตรียม 
ทหารหรือ จปร.ขนาดว่าออกไปเที่ยวกลับมาดึกๆ “บิ๊กตู่” ก็ยังคงอ่าน 
หนังสือก่อนนอน
  ทั้งนี้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมามายเวลาออก 
ไปเที่ยวหรือดริ๊งก์กับเพื่อนๆ เป็นคนที่มีสติอยู่ตลอด เมื่อกลับมาจึงยังคง 
ท�าตามระเบียบกฎเกณ ์ของตัวเอง คือต้องอ่านหนังสือก่อนนอน
สมัยเรียน ผมอ่ำนหนังสือเปนตู้ เลย ทังหนังสือเรียนและหนังสือ
นอกเวลำ
  ผมเปนคนชอบอ่ำนหนังสือ และเปนคนอ่ำนหนังสือเร็วด้วย บิ๊กตู่ 
คุย

46 วาสนา  นาน่วม
  นั่นจึงท�าให้นายทหารหลายคนที่เป็นลูกน้องพูดตรงกันว่า เวลา 
ส่งเอกสารให้  พล.อ.ประยุทธ์อ่าน ท่านจะอ่านทุกหน้า และมีการขีดเส้น 
ใต้หรือท�าสัญลักษณ์วงกลมมาเพื่อติติง เสนอแนะ อันเป็นการสะท้อนว่า 
อ่านจริง อ่านเร็ว และใส่ใจด้วยนั่นเอง
  ไม่ใช่แค่นั้น ด้ ว ยควำมเป็ น คนชอบอ่ ำ นนี่ เ อง ท� ำให้ เ ขำยิ่ ง 
อำรมณ์ เ สี ย ง่ ำ ย เพราะความที่อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทุกคอลัมน์ 
ย่อมเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์  หรือข่าวที่ไม่สบอารมณ์  บทวิเคราะห์ที่ไม่ 
ตรงใจ
  ยิ่งกว่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนักท่องโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอีก 
ด้วย โดยเฉพาะเฟซบุก แบบที่เรียกว่าอ่านแม้แต่คอมเมนต์
  ยิ่งในช่วงก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ 
เฟซบุกเป็นเสมือนสมรภูมิรบของคนเสื้อแดง ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลนางสาว 
ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร กับคนเสื้อเหลืองที่ต่อต้านระบอบทักษิณ และบรรดา 
แนวร่วมของกลุ่ม กปปส.ที่แสดงความคิดเห็นฟาดฟันกันเละ
  พล.อ.ประยุทธ์ในเวลานั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเชิง 
ดูแคลนว่า ไม่กล้ำรั ประหำร ทั้งยังถูกโยงความสัมพันธ์กับนายกรัฐ 
มนตรีหญิงและอดีตนายกรัฐมนตรี  “ทักษิณ ชินวัตร”
  หกเดือนสุดท้ำยก่อนเกษีย ผมเลยทนไม่ไหว เลยต้องออกมำ
เพรำะมันด่ำผมทังสอง ำยเลยไง  บิ๊กตู่พูดทีเล่นทีจริง
  พล.อ.ประยุทธ์ชอบเข้าไปอ่านคอมเมนต์ต่างๆ ในเฟซบุ ก  โดย 
เ พำะที่วิจำรณ์ตัวเอง เมื่อยิ่งอ่ำนกยิ่งโกรธ ยิ่งเกิดอำรมณ์ 
  ดูๆ ไปบางครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ก็แปลก เพราะชอบอ่านคอมเมนต์ 
ที่คนเขียนด่า เช่นเดียวกับเวลาอ่านหนังสือพิมพ์
  ผมชอบอ่ำนที่มันด่ำผม วิพำกษ์วิจำร ์ผมนั่นแหละ พวกเขียน
ชมให้ก�ำลังใจก็ขอบคุ นะ แต่ชอบอ่ำนที่ด่ำมำกกว่ำ แต่พออ่ำนแล้วก็
อำรม ์เสีย  บิ๊กตู่เปรย

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 47
  การเป็นทหารที่ชอบท่องโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กด้วยตนเองตั้งแต่เป็น 
ผบ.ทบ.จนมาเป็นนายกฯ ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์รอบรู้และไม่ตกกระแส 
เวลามีข่าวลือเกี่ยวกับตัวเอง หรือมีเรื่องส�าคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนเองก็จะ 
เอามาพูดเพื่อแก้ข่าวเสมอ

  หลายเรื่องนักข่าวก็ไม่เคยรู้  จนเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาชี้แจง 
นั่นเอง ทั้งเรื่องกำรมีบ้ำนที่อังก ษ กำรสร้ำงบ้ำน  ๐๐ ล้ำน ข่าวลือ 
ตอนเป็น ผบ.ทบ.ที่เขาออกมาปฏิเสธว่าเป็นความเข้าใจผิดที่เกิดจาก 
กองทัพบกทุบบ้านเกษะโกมลหลังเก่าซึ่งเชื่อว่าอาถรรพ์จนไม่มีใครกล้าอยู ่
แล้วสร้างใหม่ด้วยหินอ่อนอย่างหรูอยู่ริมถนน คนผ่านไปมาเข้าใจว่าเป็น 
บ้าน ผบ.ทบ.แต่มันคือบ้านรับรองของกองทัพบก

48 วาสนา  นาน่วม
   หรือแม้แต้ข่าวลือว่าเขาและภริยาโอนเงินหมื่นล้านไปประเทศ 
สิงคโปร์  ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งที่สื่อยังไม่เคย 
ได้ยินข่าว ซึ่งมุมหนึ่งเป็นการแก้ข่าว แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นการกระจายข่าว 
ลือไปด้วย
  ้ำผมมีเงินขนำดนัน ผมไม่มำอยู่อย่ำงนีหรอก  บิ๊กตู่กล่าวพร้อม 
เผยว่าคนปล่อยข่าวเป็นใคร จนเป็นที่มาของการจับกุมหญิงเสื้อแดงคน 
หนึ่งในเวลาต่อมา
  แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะท่องโลกโซเชียลด้วยการลงทะเบียนเฟซบุก 
แบบเอาไว้อ่านอย่างเดียว แต่ไม่ได้เล่นเฟซบุก แม้จะมีเฟซบุกชื่อ “พล.อ. 
ประยุทธ์” มากมายหลายเพจทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และเพจ 
“เรารักพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา” ที่มีคนแห่กันไปติดตาม พล.อ.ประ 
ยุทธ์ก็ยืนยันว่าไม่ใช่ของตัวเอง จนท�าให้มีการตรวจสอบว่าใครท�าเพจ 
เหล่านี้  เพราะบางเพจก็เป็นการโปรโมตภารกิจและค�าให้สัมภาษณ์ของ 
พล.อ.ประยุทธ์   แต่บางเพจไปโพสต์วิจารณ์ฝ่ายคนคิดต่างจนอาจท�าให้ 
เกิดความเข้าใจผิดว่านายกฯ สั่ง
ผมไม่เล่นเ บุก ไม่เล่นโ เชียล ไม่มีไลน์ ผมใช้กำรส่งข้อควำม
ผ่ำนเอสเอ็มเอสอย่ำงเดียว  พล.อ.ประยุทธ์แจง
กระนั้นก็มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่อาจหลีกหนีเทคโนโลยีสมัย 
ใหม่อย่างแอพพลิเคชั่นไลน์ได้  เพราะต้องเอาไว้อ่านข่าวและรายงานข่าว 
ต่างๆ แม้แรกๆ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ค่อยถนัดนักก็ตาม เนื่องจากชอบใช้ 
เอสเอ็มเอสมากกว่า ร�่ำลือกันว่ำไลน์ของ “บิ๊กตู่” ใช้รูปโปรไ ล์เป็นรูป 
เสือ เพรำะเป็นทหำรเสือฯ
  ในยุคปัจจุบันนั้น แทบจะยากที่  พล.อ.ประยุทธ์จะไม่มี  ไม่ใช้ไลน์ 
เพราะต้องเอาไว้อ่านรายงานต่างๆ แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็ปฏิเสธว่า ไม่เคย 
ใช้ไลน์
  ใช้เอสเอ็มเอส วันหนึ่ง มีคนส่งมำเปนร้อยข้อควำม ยิ่งเวลำมี
เรื่องอะไร บำงทีก็ส่งข่ำว ส่งเบำะแสต่ำง หรือร้องเรียนเรื่องต่ำง บ้ำง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 49
ให้กำ� ลังใจผมบ้ำง ก็ขอบคุ ผมพยำยำมเปดอ่ำนทุกข้อควำมเมื่อมีเวลำ
พล.อ.ประยุทธ์เผย
  พล.อ.ประยุทธ์เผยว่าจะใช้เวลาตอนกลางคืนมานั่งเปิดอ่านข้อ 
ความต่างๆ ที่ส่งมาในโทรศัพท์มือถือ เพราะเบอร์โทร.นี้เป็นเบอร์เปิดเผย 
ไปแล้ว เนื่องจากเป็นเบอร์ที่แจ้งไว้ในเอกสารของ ป.ป.ช. เพราะสื่อเคย 
น�าเอกสารเหล่านี้มาเปิดเผย คนก็จะรู้เบอร์มือถือ รวมถึงเบอร์บ้านด้วย
  เพราะมีแต่ข้อความมากมาย จึงไม่มีเวลาอ่านในทันใด บางข้อ 
ความที่ส่งมา บางครั้งก็ไม่ทันการณ์
  ยิ่ ง เมื่ อ ครั้ ง ก่ อ นการรั ฐ ประหารเมื่ อ วั น ที่   ๒๒  พฤษภาคม  พ.ศ. 
๒๕๕๗ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับข้อควำมมำกมำยที่เรียกร้องให้ทหำร 
ออกมำแก้ปญหำ ทั้งการต�าหนิ  ปรามาส และให้ก�าลังใจ รวมถึงการให้ 
ข้อมูลเรื่องอาวุธสงครามต่างๆ
  แต่ว่ากันว่ากระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์กที่คนเสื้อแดงข่มขู่ว่ามีแผน 
การต่อต้านรัฐประหาร มีการฝึกไว้พร้อมหมดแล้ว หรือการที่คนเสื้อเหลือง 
ดูแคลนว่าไม่กล้ารัฐประหาร หรือกลายเป็นพวกของ “ทักษิณ ชินวัตร” 
เพราะความสนิทสนมใกล้ชิดกับนางสาวยิ่งลักษณ์  นายกฯ หญิงในเวลา 
นั้นอย่างมาก
  เหล่านี้มีส่วนกระตุ้นให้  พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจในการรัฐประหาร 
เพื่อกอบกู้ศักดิศรีของกองทัพบก ที่ ูกดูหมิ่นดูแคลนในช่วงที่ผ่ำนมำ
  ทุกวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่สนใจติดตามโลก 
ออนไลน์  โลกไซเบอร์  และโซเชียลฯ ถึงขัน้ บอกว่าจะหาซือ้ เครือ่ งมือไฮเทค 
มาเพื่อตรวจสอบ ควบคุมโซเชียลมีเดีย เพราะมีการใช้ในทางที่ผิด
  กล่ำวได้ว่ำไม่มีวันไหนที่  พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เข้ำไปในโลก 
โ เชียลเนตเวิร์กหรือเ บุ ก ตำมประสำของนำยกฯ ที่ไม่เคยตก 
กระแส รู้ไปหมดทุกเรื่อง ทั้งข่ำวจริง ข่ำวลือ จนบำงครั้งกลำยเป็น 
คนน�ำกระแสเสียเอง

50 วาสนา  นาน่วม
นายกฯ ทหารเสือฯ

“ พล.อ.ประยุ ท ธ์ ก ลั บ มาอี ก ครั งเมื่ อ  ๒๑


สิงหาคม พ. .๒  ใน านะนายกรั มนตรี
เตมตั ว   ละยั ง ควบเก้ า อี หั ว หน้ า  คสช.อั น เปน
วันที่มีการรวมตัวของทหารเสือราชินีทังเก่า ละ


ปจจุบันมากที่สุด

แม้กรมทหำรรำบที่  ๑ รักษำพระองค์  (ร. ๑ รอ.) จะสร้ำง


ประวั ติ ศ าสตร์ ด ้ ว ยการเป็ น หน่ ว ยที่ ส ร้ า ง ผบ.ร.๒๑ รอ. จนขึ้ น มาเป็ น 
ผบ.ทบ.ต่อเนื่องกันมาถึง ๓ คนคือ “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา 
ผบ.ทบ.คนที่  ๓๖, “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผบ.ทบ.คนที่  ๓๗ 
และ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.คนที่  ๓๘ ที่ได้ชื่อว่าเป็น 
ผบ.ทบ.ทหารเสือนวมินทราชินีศรีสยาม หรือที่เรียกกันว่า “ทหารเสือราชินี”
  ที่ส�าคัญคือ ทั้ง ๓ คนเป็น ผบ.ร.๒๑ รอ. ต่อเนื่องกัน จากคนที่  ๑๖, 
๑๗ และ ๑๘ เรียกได้ว่าสร้างประวัติศาสตร์และเกียรติประวัติให้แก่หน่วย
  แต่ที่ต้องจารึกคือ ได้ มี น ำยกฯ ทหำรเสื อ รำชิ นี ค นแรกกคื อ 
พล.อ.ประยุทธ์  ผบ.ทบ.คนที่  ๓๗ ของกองทัพบก และนายกรัฐมนตรี 
คนที่  ๒๙ ของประเทศไทย แม้จะมาจากการรัฐประหารก็ตาม
  ด้วยเพราะเติบโตมาในหน่วยทหารเสือราชินีนี่เอง ท�าให้  พล.อ. 
ประยุ ท ธ์ ไ ด้ มี โ อกาสติ ด ตามเสด็ จ ฯ  และถวายงานทั้ ง พระบาทสมเด็ จ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 51
พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 
  โดยเฉพาะสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นองค์ 
ผู้บังคับการกรมพิเศษ ร.๒๑ รอ. ที่ทหารเสือราชินีทั้งหลายถวายพระนาม 
เรียกว่า “สมเด็จฯ” และติดตามเสด็จฯ พระองค์ไปทุกที่
  รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์  ที่นอกจากจะได้ติดตามเสด็จฯ และถวาย 
งานอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เป็นทหารเสือฯ เด็กๆ ภายใต้การน�าของนายทหาร 
เสือราชินีต้นแบบอย่าง พ.ท.ณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช ผู้คิดหลักสูตรการ 
ฝึกทหารเสือราชินี  จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเป็น ผบ.ร.๒๑ รอ.
  จึงไม่แปลกที่ว่า เพราะเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์จึงได้ชื่อว่าเป็นนาย 
ทหารที่มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างยิ่ง
  ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งเป็นที่รับรู้กันในกองทัพก็คือ 
การเป็นนายทหารที่มีแต่เรื่องกองทัพ ชาติบ้านเมือง และสถาบันกษัตริย ์
อยู่ในทุกห้วงส�านึก เขาจึงมีม็อตโต้ประจ�าตัวว่า “Countr  First” ประเทศ 
ชาติมาก่อน
  และเมื่อเป็น ผบ.ทบ.เขาก็ได้เลือกใช้ม็อตโต้  เพื่ อ ชำติ   ำสน์ 
กษัตริย์  และประชำชน อันเป็นม็อตโต้ของกองทัพบก แต่ให้เพิ่มการใช้ 
ภาษาอังกฤษด้วย
  ส่งผลให้  พล.อ.ประยุทธ์เกิดความรู้สึกอย่างมาก เมื่อมีการพาดพิง 
สถาบันกษัตริย์ในทางการเมือง หรือดึงสถาบันฯ มาเกี่ยวข้อง เขาจึงมัก 
ออกมาชี้แจงเรื่องสถาบันฯ เสมอๆ เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าใจทั้งสอง 
พระองค์  อีกทั้งสยบข่าวลือต่างๆ ว่าพระองค์ไม่ทรงเกี่ยวข้องกับการเมือง 
ใดๆ และมองคนไทยทุกคนเป็นลูกของพระองค์เท่าเทียมกัน
  นีเ่ ป็นเหตุผลส�าคัญทีท่ า� ให้การรัฐประหารเมือ่ วันที ่ ๒๒ พฤษภาคม 
พ.ศ.๒๕๕๗ พล.อ.ประยุทธ์  ในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหาร ไม่ได้น�ำ 
คณะ คสช.เข้ำเ ำเช่นกำรรั ประหำรเมื่อวันที่  ๑  กันยำยน พ. . 
 เพราะนั่นเป็นจุดที่ท�าให้มีการโยงสถาบันฯ กับการรัฐประหาร

52 วาสนา  นาน่วม
  เช่นเดียวกับการที่  พล.อ.ประยุทธ์เลือกใช้อ�านาจของหัวหน้า คสช. 
มาตรา ๔๔ ออกค�าสั่งถอดยศ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี  จน 
มีผลนับแต่วันที่  ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๘ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมือง 
ดึงสถาบันกษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการถอดยศเพื่อโจมตีสถาบันฯ อีกทั้ง 
เป็นการลดพระราชภาระอีกด้วย
  ท่ า มกลางเสี ย งวิ พ ากษ์ วิ จ ารณ์ จ ากฝ่ ายสนั บ สนุ น อดี ต นายกฯ 
ทักษิณที่เห็นว่า “ยศพันต�ารวจโท” เป็นยศพระราชทาน หากจะถอดก็ 
ควรเป็นการโปรดเกล้าฯ แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะ 
รับผิดชอบแต่ผู้เดียวในฐานะหัวหน้า คสช.
  พล.อ.ประยุทธ์นั้นผูกพันกับทหารเสือฯ กับ ร.๒๑ รอ. อย่างมาก 
ไม่ใช่แค่เป็นหน่วยต้นก�าเนิด แต่เป็นหน่วยที่ท�าให้ความสัมพันธ์ของ 
“๓ ป.” เกิดขึ้นอย่างแน่นแฟ้น
  เพราะทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, “บิ๊กปอก” พล.อ. 
อนุพงษ์  เผ่าจินดาและ พล.อ.ประยุทธ์เอง ล้วนได้รู้จักสนิทสนม รับ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 53
รำชกำรทหำร และใช้ชีวิตร่วมกัน ถึงขั้นนอนพักอาศัยอยู่ในบ้านไม้ 
หลังเดียวกัน อันเป็นบ้านของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นเพียง 
“ร้อยเอก” จนถูกเรียกว่าเป็นบ้านหนุ่มโสด กระทั่งต่อมาในทุกวันนี้เรียกว่า 
“บ้านเสือ” ก่อนที่  ร.๒๑ รอ. จะอนุรักษ์ซ่อมแซมให้เป็นที่ระลึกแด่ทั้ง ๓ ป. 
“ป้อม-ปอก-ประยุทธ์”
  โดยเฉพาะเมื่อวันนี้  คนหนึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซึ่งเปรียบเสมือนพี่ใหญ่  อีกคนหนึ่ง 
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นพี่รอง และอีกคนเป็นนายก 
รัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐประหารในนามหัวหน้า คสช.ซึ่งเป็นน้องเล็ก
  แน่นอนว่าเพราะความเป็นพี่เป็นน้อง อันก่อก�าเนิดและมัดเกลียว 
แน่นจาก ร.๒๑ รอ. นี่เองที่ท�าให้พวกเขาได้กลายเป็น “คสช.” น�าก�าลัง 
ทหารเข้ายึดอ�านาจการปกครองประเทศ
  ๓ ป.นี้ถูกขนานนามว่าเป็น “  ป.แห่งบูรพำพยัค ์” และเป็น 
“สำมทหำรเสือรำชินี” ที่มีส่วนส�าคัญในการก�าหนดชะตาชีวิตของชาติ 
บ้านเมืองมาหลายครั้ง
  โดยเฉพาะการมีบทบาทในสถานการณ์ทางการเมือง ตั้งแต่การ 
ล็อบบี้นักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อให้ย้ายข้างมาสนับสนุน 
พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จนเป็นที่มาของการจัดตั้งรัฐบาลในค่าย 
ทหาร
  ก่อนจะตามมาด้วยการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค 
ประชาธิปัตย์ในขณะนั้น ส่งเทียบเชิญให้  พล.อ.ประวิตรมำเป็นรั  
มนตรีว่ำกำรกระทรวงกลำโหม ท�าให้ต้องน�ามาสู่เหตุวุ่นวายทางการ 
เมือง จากคนเสื้อแดงตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๒ และการกระชับ 
พื้นที่คนเสื้อแดงที่สี่แยกคอกวัวในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ และที่ราช 
ประสงค์เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ท�าให้มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยศพ 
ซึ่งในเวลานั้น พล.อ.อนุพงษ์เป็น ผบ.ทบ. ส่วน พล.อ.ประยุทธ์เป็นรอง 
ผบ.ทบ. อันถือว่าพวกเขาได้ร่วมหัวจมท้ายสู้วิกฤตครั้งส�าคัญมาด้วยกัน

54 วาสนา  นาน่วม
  ทั้งยังเป็นจุดที่ยิ่งกระชับสัมพันธ์ระหว่าง ๓ ป.กับนายสุเทพ เทือก- 
สุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในเวลานั้นจนกลายเป็นที่จับตา 
มอง เมื่อนายสุเทพออกมาน�ามวลชน กปปส.ขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ 
ชินวัตรจนน�าไปสู่การรัฐประหารที่น�าโดย พล.อ.ประยุทธ์นั่นเอง ขณะที่ใน 
เวลานี้นายสุเทพก็ยังมีบทบาทในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน
  ไม่แค่นั้น ความผูกพันที่  พล.อ.ประยุทธ์มีต่อ ร.๒๑ รอ. มีต่อทหาร 
เสือราชินียังอาจส่งผลให้เขาเลือกวันที่  “๒๒ พฤษภาคม” เป็นวันดีเดย์ใน 
การรัฐประหาร เนื่องจำกเป็นวันเสียชีวิตของ พ.ท.ณรงค์เดช นันท- 
โพธิเดช นายทหารเสือราชินีรุ่นพี่  ซึ่งเป็นต้นแบบทหารเสือฯ และเป็น 
ผู้บังคับบัญชาที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา
  ทุกครั้งที่  พล.อ.ประยุทธ์กลับไปที่  ร.๒๑ รอ. ไม่ว่าในโอกาสใด 
หรือในวันทหารเสือราชิน ี วันสถาปนา ร.๒๑ รอ.วันที ่ ๒๑ สิงหาคม ตัง้ แต่ 
หลังรัฐประหารเป็นต้นมา พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าไปไหว้สกั การะทีอ่ นุสาวรีย์ 
ของ พ.ท.ณรงค์เดชในพิพิธภัณ ์ทหารเสือฯ ด้วยทุกครั้ง
  พ.ท.ณรงค์เดชเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวที่สหรัฐอเมริกา 
เมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ทั้งๆ ที่เขาแข็งแรงมาก จนเรียก 
กันว่าเป็นซูเปอร์แมน เป็นต้นแบบของทหารเสือราชินีในทุกด้าน เก่งทั้ง 
กี า การยิงปืน การขี่ม้า โดยเป็นนายทหารเสือฯ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ 
พระบรมราชินีนาถโปรดปราน ประกอบกับความสามารถและความเป็น 
ผู้น�า จนเชื่อกันว่ำหำกเขำไม่เสียชีวิต เขำจะเติบโตขึ้นเป็น ผบ.ทบ. 
อย่ำงแน่นอน
  นี่จึงเป็นบุคคลที่  พล.อ.ประยุทธ์มีความผูกพันทางจิตใจอย่างมาก...
  พล.อ.ประยุทธ์ไปงานวัน ร.๒๑ รอ.ทุกปีเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ.แต่ 
เขากลับมาอีกครั้งเมื่อ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ในสถานภาพที่เปลี่ยน 
ไป ไม่ใช่แค่เป็น ผบ.ทบ. แต่เป็นหัวหน้า คสช.เพราะในเวลานั้นเขาท�า 
การรัฐประหารไปตั้งแต่วันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 55
  ที่ส�าคัญ วันนั้นเป็นวันที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  (สนช.) 
ได้ลงมติโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยมติเอกฉันท์ 
๑๙๑ เสียง อันเป็นห้วงเวลาที่เขาอยู่ในวงล้อมของพี่น้องทหารเสือราชินี 
ในวันประวัติศาสตร์
  พล.อ.ประยุทธ์กลับมาอีกครั้งเมื่อ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ใน 
ฐานะนายกรัฐมนตรีเต็มตัว และยังควบเก้าอี้หัวหน้า คสช.อันเป็นวันที่ม ี
การรวมตัวของทหารเสือราชินีทั้งเก่าและปัจจุบันมากที่สุด 
ใน ำนะนำยกรั มนตรีทหำรเสือรำชินีคนแรก...
  อาจเพราะการเป็นทหารเสือฯ นี่เองท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ดูจะ 
มั่นใจในการขึ้นเป็นผู้น�าประเทศ มากุมบังเหียน คุมอ�านาจบริหารราชการ 
แผ่นดินด้วยตนเอง
  ผมรู้ว่ำจะขี่หลังเสือยังไง และจะลงจำกหลังเสือยังไงให้สง่ำงำม
และไม่โดนเสือกัด  บิ๊กตู่กล่าว
  พร้อมเปรยว่ำ “ต้อง ่ำเสือก่อน”...

56 วาสนา  นาน่วม
ผู้พันประยู้ดดดด

“ ท่ า น ม่ ท อดทิ งลู ก น้ อ ง ท่ า นเปน บบ ง


หน งกัน
ร.ต.ชนินทร์ สะพรั่ง

บรรดำทหำรเสือฯ ทีเ่ ป็นสหำยร่วมรบ หรือเคยเป็นผูใ้ ต้บงั คับ


บัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์  ต่างเล่าขานถึง “ผู้หมวดตู่” “ผู้กองตู่” “ผู้พัน 
ประยุทธ์” “ผู้การประยุทธ์” ในความทรงจ�าที่คล้ายๆ กัน
เมื่อก่อนดุกว่ำนีอีกนะ นี่ยังดีกว่ำสมัยก่อนนะ เดียวนีเปนนำยกฯ
แล้วใจเย็นขึนเยอะ  ร.ต.ชนินทร์  สะพรั่ง ที่ท�างานกับ พล.อ.ประยุทธ์มา 
ตั้งแต่เป็นร้อยตรี  จบจากโรงเรียนนายร้อย จปร.มาลงที่  ร.๒๑ รอ.
ท่ำนเปนคนพูดจำตรงไปตรงมำ มีลูกเล่นในกำรพูด เปนคนจริง
และจริงใจ พูดจริงท�ำจริง รักลูกน้อง และที่ส�ำคั มีควำมจงรัก ักดีมำก
ร.ต.ชนินทร์กล่าว
  เป็ น ธรรมดาของนายทหารที่ ต ้ อ งปกครองบั ง คั บ บั ญ ชาลู ก น้ อ ง 
มากมายก็ย่อมต้องดุ  เด็ดขาด พูดจาโฮกฮาก โผงผาง ใช้มึงกู  เป็นเรื่อง 
ธรรมดา จะให้มาแทนตัวว่า คุณกับผม เอ็งกับข้า มันก็ไม่ได้อารมณ์
  ที่เลื่องลือก็คือ วีรกรรมถีบ “อนุศาสน์ฯ” หรือทหารที่ท�าหน้าที่เกี่ยว 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 57
กับศาสนา พิธีกรรมของหน่วย หรือเรียกเต็มๆ ว่า “อนุศาสนาจารย์” ที่ 
ไม่มีใครจ�าได้ว่าไปพูดอะไรจนท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ยกเท้าถีบจนตกบันได 
แต่ว่ากันว่าเป็นการถีบแกมหยอกเท่านั้น
  แม้จะดุ  แต่ลูกน้องเล่าว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้บังคับบัญชาที่ใจดี 
ช่วยเหลือลูกน้องตลอด มีเงินเท่าไหร่ก็แจกลูกน้อง ช่วยเหลือลูกน้องหมด 
แบบที่เรียกว่าให้จนตัวเองหมดตัว ทั้งๆ ที่ไม่ได้ร�่ารวยอะไร
  มีเท่ำไหร่ให้ลูกน้องหมด จนบำงทียังหันมำยืมเงินลูกน้อง หรือ
ยืมผม เพื่อไปให้ลูกน้องคนอื่นก่อน  พ.อ.สุชาติ  เนียมแก้ว ลูกน้องเก่าเล่า
  แต่ ท หารลู ก น้ อ งก็ ต อบแทน  ให้ ด ้ ว ยความรั ก   และให้ ด ้ ว ยบุ ห รี่ 
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ตอนเป็นทหารหนุ่มๆ นั้นสูบบุหรี่จัด โดยเป็นคอ 
“มำร์ลโบโร องแดง” จ่าทหารลูกน้องจึงมักพกบุหรี่มาวันละ ๒ ซอง 
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์จะเอ่ยปากขอบุหรี่สูบเสมอ แต่เมื่อเวลา พล.อ. 
ประยุทธ์ได้บุหรี่มาเป็นคาร์ตันก็จะแบ่งให้ลูกน้องด้วยเช่นกัน
ท่ำนเปนคนปำกไว คิดเร็ว ท�ำเร็ว ลูกน้องจะคิดไม่ทันท่ำน พอท�ำ
ไม่ได้ คิดไม่ทัน ก็จะโดนด่ำ โดนดุ
แต่ที่ส�ำคั คือ ท่ำนเปนคนที่ไม่อำ ำต เมื่อจบแล้วจบเลย จบ
ตรงนัน ใจท่ำนไม่คิดอะไร ลูกน้องรักท่ำน แม้ว่ำจะโดนท่ำนดุด่ำก็ตำมที
ทหำรก็ต้องแบบนี  ร.ต.ชนินทร์กล่าว
แต่ท่ีโจทย์ขานกันไม่ลืมก็คือ การที่  พล.อ.ประยุทธ์เมื่อครั้งเป็น 
ผู้บังคับกองร้อยของ ร.๒๑ พัน ๒ รอ.ได้แอบเสี่ยง ำดงทหำรเวียดนำม 
ขึ้นไปนอนกับทหารลูกน้องบนเขาพนมปะชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะ 
ทหารเวียดนามบุกมายึดกัมพูชาและล�้าแดนมายึดชายแดนไทย 
   แม้ในเวลานั้นก�าลังทหารเวียดนามจะถอนหมดแล้ว หลังจากมี 
การต่อสู้ปะทะกันมา ๓ วันเต็มๆ แต่ก็ยังถือว่าอันตรายอยู่  เพราะฝ่ายเรา 
ก็ต้องวางก�าลังทหารเฝ้าเขาพนมปะไว้
ท่ำนไม่ทงลู
ิ กน้อง ท่ำนแอบขึนไปโดยไม่ให้ผบู้ งั คับบั ชำรู ้ เพรำะ
ตอนนันคนทีเ่ ปน ผบ.ร้อย นำยทหำร เขำไม่ให้ขนไปหรอก กลัึ วจะสู เสีย

58 วาสนา  นาน่วม
แต่ท่ำนไม่ทอดทิงลูกน้อง ท่ำนเปนคนแบบ ึงไหน ึงกัน  ร.ต.ชนินทร์เล่า
ขนาดว่าในการปะทะกับทหารเวียดนามเมื่อวันที่  ๒ ของสมรภูมิ 
เขาพนมปะที่อ�าเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เมื่อปี  พ.ศ.๒๕๒๔ ฝ่าย 
เราโดนยิงถล่มหนักหน่วง ในเวลานั้น พ.ท.ณรงค์เดชได้น�าทหารที่เป็น 
นักเรียนทหารเสือราชินีที่ยังไม่จบหลักสูตรไปร่วมรบด้วย แต่เมื่อพลาด 
พลั้งถูกล้อม พล.อ.ประยุทธ์ก็น�าก�าลังขึ้นไปช่วย จนเป็นฝ่ายตกอยู่ใน 
วงล้อมด้วยเช่นกัน
ตอนนันได้ข่ำวว่ำท่ำนโดนสะเก็ดปนให ่หรืออำร์พีจีเ ียดแ ว
ขมับ แต่ท่ำนไม่เปนไร  ร.ต.ชนินทร์เล่า
  ไม่นับรวมวีรกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ร่วมรบกับ “บิ๊กโด่ง” พล.อ. 
อุดมเดช สีตบุตร ซึ่งเป็นร้อยเอกระดับ ผบ.ร้อยเช่นกันที่ขึ้นไปช่วยต่อสู้กับ 
ทหารเวียดนาม ล้อมก�าลังของ พล.อ.ประยุทธ์ไว้  ด้วยกำรช่วยกันแก้ไข 
กอบกู้สถำนกำรณ์จนเป็น ำยมีชัยชนะ ก่อนที่ทั้งคู่จะได้รับพระราชทาน 
เข็มรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร หรือเหรียญรามานั่นเอง
  จึงไม่แปลกที่  พล.อ.ประยุทธ์จะตั้ง พล.อ.อุดมเดชเป็น ผบ.ทบ. 
ต่อจากตนเองเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ ก่อนจะให้เป็นรัฐมนตรีช่วย 
ว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของตนเองด้วย เพราะถือว่าได้เห็นฝีมือ 
และพิสูจน์หัวใจกันมาแล้ว
  ค�ำว่ำ พี่  เพื่อน น้อง และผู้ใต้บังคับบัญชำ จึงเป็นสิ่งส�ำคัญ 
ส�ำหรับทหำร โดยเ พำะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีทั้งพี่ดึง เพื่อนดัน และ 
รุ่นน้องสนับสนุน...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 59
ปาเปรม ๒

“ ผมยดท่ า น พล.อ.เปรมเปนตั ว อย่ า งใน


การทำางานเพื่อชาติ บ้านเมือง ด้วยความ ื่อสัตย์


สุจริต
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อครั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชำเป็น ผบ.ทบ. 
ปีนั้น นักข่าวสายทหารแทบไม่ค่อยได้ลิ้มรส หรือเห็นรอยยิ้ม การปล่อย 
มุขฮามุขตลกเลยก็ว่าได้  เพราะสถานการณ์การเมืองไม่เอื้ออ�านวย
มีแต่ตึงเครียด ขมึงเกลียว ให้สัมภาษณ์ทีไรเป็นต้องปรี๊ด อารมณ์ 
เสียตลอด ในภาพความทรงจ�าของนักข่าวแทบจะจ�าไม่ได้เลยว่ารอยยิ้ม 
ของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นยังไง
คงมีแต่วันท้ายๆ ก่อนเกษียณราชการ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ 
เท่านั้นที่  พล.อ.ประยุทธ์ถ่ายภาพหมู่กับนักข่าวสายทหาร อันเป็นการ 
อ�าลาด้วยรอยยิ้ม
ก่อนที่  พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าไปสู่เงื้อมมือ เอ้ย...อ้อมแขนของ 
นักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลที่ได้ชื่อว่าเป็นสายที่เคี่ยวกร�าที่สุด เพราะมี 
จ�านวนมากและหลากหลาย 
ตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์เริ่มปรากฏออกมาเรื่อยๆ ในหลายมุม 

60 วาสนา  นาน่วม
จาก ผบ.ทบ.และหัวหน้าคณะรัฐประหารที่ดูน่าเกรงขาม ก็มีมุมอื่นๆ ค่อยๆ 
หลุดออกมา
ที่รับรู้กันมาก่อนและกลายเป็นเรื่องชินตาก็คือ ภำพกำรชี้นิ้ว ชี ้
หน้ำ ตวำด เสียงดัง เพราะความโมโห ฉุนเฉียว ที่หาดูได้ในวงล้อมการ 
สัมภาษณ์ของนักข่าวนั่นเอง
แต่ในอีกมุมหนึ่งจะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีบุคลิกหลากหลาย 
แทบจะเรียกได้ว่านายกฯ ร้อยอารมณ์  ร้อยหน้า เพราะเปลี่ยนอารมณ์ 
ตัวเองได้ตลอดเวลา จากอารมณ์หนึ่งไปอีกอารมณ์หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว 
จากที่โกรธเกรี้ยว กลายเป็นยิ้มแฉ่ง แค่นักข่าวเปลี่ยนค�าถาม หรือสะกิด 
เตือนไม่ให้โมโห หรือโกรธ หรือเตือนให้ใจเย็นๆ
ปกติผมเปนคนอำรม ์ดีนะ ที่โกรธ เสียงดังนั่น ผมแกล้งท�ำ
ทังนัน  บิ๊กตู่เปรย
ผมจะพยำยำมปรั บ ปรุ ง ตั ว เองใหม่ น ะ ให้ อ ำรม ์ เ สี ย น้ อ ยลง 
เพรำะเปนนำยกฯ จะต้ อ งสุ ขุม เรี ย บร้ อ ย ใช่ มั ย พล.อ.ประยุ ท ธ์ เ คย 
เปรยๆ ไว้
อาจเพราะเขาก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง ทว่าไม่อาจเปลี่ยนตัวเองได้ 
เพรำะบำงทีกอยำกเป็นเหมือน “ปำเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลำนนท์ 
ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรี  ๘ ปี  ผู้สุขุม นุ่ม นิ่ง 
บ้างเหมือนกัน 
แม้บุคลิกจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็เผยว่า 
พยายามที่จะยึด “ป๋าเปรม” เป็นต้นแบบ
อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การใส่เสื้อพระราชทาน หรือเสื้อ 
ราชปะแตน ผ้าไหม ผ้าไทย เช่นที่ป๋าเปรมใส่ จนเป็นเอกลักษณ์  โดย 
พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งกำรให้คณะรั มนตรีแต่งแบบปำเปรมทุกวัน 
อังคำร ในการประชุมคณะรัฐมนตรีและในโอกาสพิเศษต่างๆ
ผมอยำกจะแต่งเสือผ้ำไทยแบบนีเวลำไปเยือนต่ำงประเทศนะ
ไม่อยำกใส่สูท เพรำะก็ ือเปนชุดประจ�ำชำติของไทย ต่ำงชำติเขำก็ชอบนะ

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 61
เสือแบบนีสวยดี  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมยกตัวอย่างเปรียบเทียบ 
เหมือนเมียนมาที่มีชุดประจ�าชาติ  และฟิลิปปินส์ที่มีเสื้อผ้าใยสับปะรด
แต่ เ สื้ อ พระราชทานที่   พล.อ.ประยุ ท ธ์ ใ ส่ นั้ น  แตกต่ า งจากของ 
พล.อ.เปรมตรงเรือ่ งสี  เพราะ พล.อ.เปรมมีสชี มพูเป็นสีสดุ โปรด นอกเหนือ 
จากสีส้มที่เป็นวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันเกิด  ส่วน พล.อ.ประยุทธ์มักชอบใส่ 
สีฟ้า เพราะเป็นสีประจ�าพระชนมวารของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม 
ราชินีนาถ ในฐานะที่  พล.อ.ประยุทธ์เป็นทหารเสือราชินี  ติดตามถวายงาน 
ใกล้ชิดมาโดยตลอด
พล.อ.ประยุทธ์จะตัดเสื้อพระราชทานแบบนี้ด้วยผ้าไหม ผ้าไทย 
ทั้งแขนยาวและแขนสั้นไว้มากกว่า ๒๐ ตัว เรียกว่ามีครบทุกโทนสี  แต่ 
ที่เน้นคือ สีฟ้า สีเหลือง สีทอง สีเขียว และต้องไม่ลืมสีสุดโปรดคือสีม่วง
ทั้งนี้เพราะสีม่วงเป็นสีของทหารเสือราชินี  และเป็นสีที่สมเด็จพระ 
นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงให้ค�ำนิยำมของสัญลักษณ์ทหำรเสือ 
รำชินี  “หัวใจสีม่วง” ไว้ว่ำเป็นสีหัวใจของคนใกล้ตำย ในเวลานั้นเป็น 
เวลาที่จะพูดแต่ความจริง กลับมาเป็นคนดีอีกครั้ง
อีกทั้งเพราะสีม่วงเป็นสีประจ�าวันเสาร์  อันถือเอาตามเวลาตกฟาก 
ของ พล.อ.ประยุทธ์  แต่หากนับจากวันเกิด ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๗ 
ของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น บางข้อมูลจะระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์เกิดในเวลา 
ที่ข้ามจากวันเสาร์มาวันอาทิตย์  แต่หากดูจากปฏิทินร้อยปีแล้วจะตรงกับ 
วันอาทิตย์  แรม ๒ ค�่า เดือน ๔ ปีมะเส็ง
พล.อ.ประยุทธ์มักปกปิดไม่ให้รู้เวลาตกฟากของตน แม้แต่ในเวลา 
ที่เขาไปท�าบุญตามวัดหรือศาสนสถานต่างๆ ที่มีการท�าบุญพระประจ�าวัน 
หรือตักบาตรน�้ามัน โดยเ พำะพระปำงประจ�ำวันเกิด ทีม รปภ.จะกัน 
ไม่ให้นักข่ำวเข้ำใกล้  ขณะที่  พล.อ.ประยุทธ์เองก็พยายามอ�าพรางไม่ให้ 
สื่อเห็นว่าเขาตักบาตรหรือใส่น�้ามันไปที่พระประจ�าวันใด
ผมไม่ให้พวกเธอรูเ้ วลำตก ำกผมหรอก เดียวพวกเธอเอำไปดูดวง
ว่ำผมจะอยู่นำนไม่นำน มีคนมำ ำมผมเยอะ ขอวันเวลำเกิด เวลำตก ำก

62 วาสนา  นาน่วม
• รำชปะแตน-เสื้อไหมพระราชทานกลายเป็นสัญลักษณ์ของนายกฯ “บิ๊กตู่” ไป 
อีกคนแล้ว

บอกจะไปดูดวงชะตำให้ ผมก็ไม่ให้ไปหรอก ของแบบนีแม้จะเปนควำมเชื่อ


แต่สิ่งส�ำคั ที่สุดคือกำรท�ำควำมดี จะเปนเกรำะคุ้มครองเรำไปตลอด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นอกจำกนี้ยังร�่ำลือกันว่ำ สีม่วงเป็นสีที่ถูกโ ลกของ พล.อ. 
ประยุทธ์จนถึงขั้นที่ต้องทำสีที่หน้ำมุข ตึกไทยคู่ ำ ท�ำเนียบรั บำล 
เป็นสีม่วง ในช่วงที่มีกำรปรับปรุงท�ำเนียบฯ ก่อนที่  พล.อ.ประยุทธ์ 
จะมำนั่งท�ำงำนในต�ำแหน่งนำยกรั มนตรีอีกด้วย 
แต่สิ่งหนึ่งที่  พล.อ.ประยุทธ์ไม่อาจเหมือน พล.อ.เปรมได้  แถม 
เรียกว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงก็คือ บุคลิกที่ใจร้อนและขี้โมโห
ในขณะที่  พล.อ.เปรมเป็นคนไม่ค่อยพูด ตอนเป็นนายกฯ ก็มีประ 
โยคประจ�าตัวว่า  กลับบ้ำนเ อะลูก  และ  ผมยังไม่ได้รับรำยงำน  หรือ 
ผมไม่มีควำมคิดเห็นในเรื่องนี  แต่  พล.อ.ประยุทธ์กลับเป็นนายกรัฐมนตรี 
ที่พูดเยอะที่สุด หรือมากที่สุดในบรรดานายกรัฐมนตรีไทยก็ว่าได้

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 63
ไม่ใช่แค่พูดเยอะ แต่ทว่ายังพูดเร็วอีกด้วย เคยมีสื่อบางฉบับจับ 
เวลาการพูดในสภาฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ว่ามีอัตราความเร็วที่  ๑๙๔ ค�า 
ต่อนาที  ท�าลายสถิติของทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บ�ารุง ดาวสภาฯ ที่พูดด้วย 
ความเร็ว ๑๘๔ ค�าต่อนาที  และนายสมัคร สุนทรเวช ๑๗๖ ค�าต่อนาที
ไม่แค่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ยงั เป็นนายกฯ ทีช่ อบพูด ชอบให้สมั ภาษณ์ 
ลองมีเวทีหรือมีไมโครโฟนให้พูดที่ไหนก็มักจะพูดไม่ต�่ากว่า ๑ ชั่วโมง แต่ 
ถ้ามีเวลาให้พูดมากกว่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็สามารถพูดได้หลายชั่วโมง
จริง แล้ว ้ำมีเวลำ ผมพูดได้ทังวัน เช้ำยันเย็นเลยก็ได้  บิ๊กตู่ 
ยอมรับในความสามารถพิเศษข้อนี้ บางทีพูดถึง ๒  ชั่วโมงเลยก็มี
โดยให้เหตุผลว่า  ทีต่ อ้ งพูดเยอะ ก็เพรำะในยุคทีผ่ ำ่ น มำ คนเปน
ผู้น�ำประเทศไม่ค่อยพูด ไม่อธิบำยไง ประชำชนก็เ ลยไม่เข้ำใจว่ำคิดอะไร
ท�ำอะไร เหมือนรั บำลที่แล้ว ไม่ค่อยพูด แล้วเปนยังไงล่ะ
  จึงไม่แปลกที่  พล.อ.ประยุทธ์จะเกิดอาการเจ็บคอบ่อยๆ เพราะพูด 
มาก  เวลำพูดมำก แล้วลมเข้ำท้อง มันจะไม่ค่อยดี บำงทีก็ปวดท้องได้
  การเป็นผู้น�าที่พูดเยอะก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย  แม้จะบอกเล่าแนว 
คิดและความตั้งใจต่างๆ ให้ประชาชน ให้สื่อมวลชนได้รับทราบ อันเป็น 
หนทางในการท�างานที่เปิดเผย โปร่งใส พร้อมที่จะตอบค�าถามสื่อทุกเรื่อง 
ทุกเวลา
แต่ว่ากันว่า ยิ่งพูดมากก็ยิ่งพลาดมาก ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นคน 
คิดเร็ว พูดเร็ว บ่อยครั้งกอำจใช้ค�ำที่ไม่เหมำะสม ท�าให้บางทีสื่อต้อง 
ช่วยกลั่นกรองให้หากเห็นว่าใช้ค�าไม่เหมาะสม หรือบางครั้ง พล.อ.ประ 
ยุทธ์ก็จะขอความร่วมมือกับสื่อให้ตัดค�าที่พลาดออกไปเพราะไม่ได้ตั้งใจ 
บางค�าถามและบางอารมณ์พาไป เช่นค�าว่า “ถุ...ย”
หรือค�าว่า “หมาลอบกัด” ซึ่งเป็นค�าที่  พล.อ.ประยุทธ์ต�าหนิกลุ่ม 
ก่อความไม่สงบในภาคใต้ที่ลอบท�าร้ายทหารอย่างรุนแรง พร้อมท้าว่า 
แน่จริงให้มาสู้กันซึ่งๆ หน้าเลย ซึ่งในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. 
โดยทางกองทัพบกขอความร่วมมือสื่อตัดค�าเหล่านี้ออกไป เพราะยิ่งจะ 

64 วาสนา  นาน่วม
เป็นการท้าทาย
เมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์เคยท�าสถิติให้สัมภาษณ์ยาว 
นานถึง ๑ ชั่วโมง ๔๕ นาที  พูดทุกเรื่อง ทั้งการเมือง กองทัพ และยำว 
ที่สุดคือ เมื่อพูดเรื่องกำรแก้ไขปญหำควำมสงบในภำคใต้  แถมยิ่ง 
เมื่อถูกซักเรื่องเรือเหาะ ทบ.ที่บินได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หรือเรื่อง  T200 ทีไร 
ก็จะอารมณ์เสียและชี้แจงยาวเหยียด
ตอนมาเป็นนายกรัฐมนตรีเคยให้สัมภาษณ์นานที่สุด ๑ ชั่วโมง 
๓๕ นาที  ด้วยการพูดในรายการ “คืนควำมสุขให้คนในชำติ” ทุกคืน 
วันศุกร์  นานสุด ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที  ก่อนจะค่อยๆ ลดเวลาลง เนื่องจาก 
ประชาชนเบื่อหน่าย และเป็นการขัดความสุขของประชาชนที่รอดูละคร 
หลังจากพยายามต่อสู้กับละครด้วยการเปลี่ยนฉากหลังก็แล้ว เปลี่ยน 
เพลงประกอบก็แล้ว แต่ก็ยังมีเสียงบ่นว่าเบื่อ จน พล.อ.ประยุทธ์ต้องยอม 
ลดเวลาลงเหลือไม่เกิน ๓๐ นาทีเท่านั้น
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ก็หันมาพูดกับสื่อมากขึ้นในเวลาให้ 
สัมภาษณ์หรือขึ้นเวที  หรือกล่าวในงานต่างๆ พูดจน พล.อ.ประยุทธ์ต้อง 
หามุขใหม่ๆ ลูกเล่นใหม่ๆ มาปล่อยเป็นระยะๆ ไม่อย่างนั้นนักข่าวสาย 
ท�าเนียบฯ ที่ติดตามท�าข่าวนายกฯ ก็เดามุขออกหมดเพราะฟังมาหลาย 
รอบ
บ่อยครั้งที่  พล.อ.ประยุทธ์ปักหลักให้สัมภาษณ์แบบไม่ยอมเลิกจน 
นักข่าวเมื่อย บางทีก็ร้อนเพราะสัมภาษณ์กลางแดด หรือเห็นว่าได้ครบทุก 
ประเด็นแล้วก็จะเป็นฝ่ายตัดบท จบสัมภาษณ์  ด้วยการตะโกนบอกพร้อม 
กันว่า “ขอบคุณค่ะ” แต่  พล.อ.ประยุทธ์จะแก้ขวยด้วยการให้สัมภาษณ์ต่อ
ยังไม่พอ ผมจะพูดต่ออีก มีเรื่องพูดเยอะ  บิ๊กตู่แก้เขินก่อนที่จะ 
พูดต่ออีกนิดหน่อยแล้วก็ปิดฉากการสัมภาษณ์
เมื่อแรกก่อนที่  พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าท�าเนียบรัฐบาลมาเป็นนายก 
รัฐมนตรี  นักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลเคยคาดเดากันไว้วา่  พล.อ.ประยุทธ์ 
อำจจะไม่ค่อยพูด เพราะตั้งแต่ก่อการรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 65
๒๕๕๗ ก็เก็บตัวเงียบแต่ใน บก.ทบ.ไม่ยอมพบสื่อ หรือเวลาที่มีงานก็ไม่ให้ 
สัมภาษณ์สื่อ แต่จะพูดออกรายการทีวี  คสช.เท่านั้น
ที่ไหนได้  สงสัย พล.อ.ประยุทธ์จะอัดอั้นที่ไม่ได้พูดมาเป็นแรม 
เดือนในช่วงเก็บตัวหลังรัฐประหาร จึงมาระบายด้วยการให้สัมภาษณ์ 
แบบไม่ถอย แถมให้สัมภาษณ์วันละหลายรอบตามโอกาสที่นักข่าวจะได้ 
เจอะเจอ
แม้บางครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะงอน ประกาศไม่ให้สัมภาษณ์  แต่ 
ปรากฏว่ า ในวั น รุ ่ ง ขึ้ น หรื อ วั น ต่ อ มา แค่   ๑-๒ วั น เท่ า นั้ น ก็ ต ้ อ งยอมให้ 
สัมภาษณ์อีกตามประสานายทหารที่ชอบพูด
จนเป็นที่วิจารณ์กันว่า สำเหตุหนึ่งที่  “บิ๊กตู่” ชอบพูดและพูด 
เยอะ เป็นเพรำะตอนเดก  ไม่ค่อยได้พูดหรือเปล่ำ เนื่องจากพ่อเป็น 
ทหาร แม่เป็นครู  ทุกอย่างเข้มงวด ต้องอยู่ในระเบียบวินัย
แล้วตอนเรียนเป็นทหารก็เป็นหนอนหนังสือ เป็นเด็กเรียน เด็กตู ้
ที่ไม่ใช่คนพูดเก่งนัก
ที่ส�าคัญ มาได้ภริยาเป็นคุณครูเสียอีก ยิ่งไม่ค่อยมีโอกาสจะได้พูด 
อะไร
จน “บิ๊กตู่” เอามาเล่นเป็นมุขตลกว่า  อยู่บ้ำนผมก็ต้องเรียบร้อย
ไม่ได้พูด เพรำะมีคุ ครูอยู่ เลยต้องออกมำพูดนอกบ้ำนเยอะ ไง
ก่อนที่จะสอนให้ชายไทยรักเดียวใจเดียว ซื่อสัตย์  และให้เกียรติ 
ภรรยา เพราะเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขมากับเรา
แม้จะเป็นนายกฯ มาดแบบป๋าเปรมไม่ได้  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก ็
บอกชัดว่า  ผมยึดท่ำน พล.อ.เปรมเปนตัวอย่ำงในกำรท�ำงำนเพื่อชำติ
บ้ำนเมือง ด้วยควำม ื่อสัตย์สุจริต
เขาพูดเช่นนี้ทุกครั้งต่อหน้า พล.อ.เปรม ปูชนียบุคคลของกองทัพ 
เมื่อครั้งน�าคณะรัฐมนตรีและ คสช.ผู้น�าเหล่าทัพไปพบในโอกาสต่างๆ ทั้ง 
อวยพรปีใหม่  วันสงกรานต์  และในวันเกิดป๋าเปรมคือวันที่  ๒๖ สิงหาคม 
ของทุกปี

66 วาสนา  นาน่วม
สิ่งหนึ่งซึ่งก�าลังเป็นที่จับตามองว่า ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์จะ 
เดินตำมรอยเท้ำปำเปรม เป็นนำยกรั มนตรีได้ยำวนำนแบบ พล.อ. 
เปรมหรือไม่  แม้จะขึ้นมาด�ารงต�าแหน่งไม่เหมือนกัน เพราะอย่างน้อย 
พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็นนายกฯ อีก ๓ ปี  คือตั้งแต่  ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. 
๒๕๕๗ จนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๐ หรือจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง 
และได้รัฐบาลใหม่ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  กระนั้นก็ต้องรอดูว่าหลัง 
การเลือกตั้งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่  หรือจะน�าไปสู่รัฐบาลแห่ง 
ชาติ  และมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากคนนอกตามที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้
เมื่อนั้น พล.อ.ประยุทธ์อาจเป็นนายกรัฐมนตรีรับเชิญของรัฐบาล 
ปรองดองแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญ และกลไกต่างๆ ที่  คสช.ได้วางรอเอา 
ไว้ก็เป็นได้  โดยไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้นานแค่ไหน
เนื่องจากตามแผนของ คสช.ก่อนการรัฐประหารนั้น ร�่าลือกันว่า 
พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นนายกฯ อย่างน้อย ๓-๕ ปี  หรือนานกว่านั้น 
เพื่อปฏิรูป แก้ไขสิ่งต่างๆ เพื่อไม่ให้การรัฐประหารครั้งนี้ “เสียของ” อีก
“ไม่ต้องกลัวว่ำผมจะกลับมำเป็นนำยกฯ อีกหรอก” บิ๊กตู่เปรย...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 67
เมดอิน ทย ลนด์

“ พล.อ.ประยุทธ์ดูจะภาคภูมิใจที่สุด กเมื่อ
เขาคิ ด ใช้ คำ า ว่ า  

     
 มาใช้ในการร รงค์ให้


คน ทยรักสามัคคีกันเพื่อก้าวข้ามปญหา ปให้ ด้

ว่ ำ ด้ ว ยเรื่ อ ง “กำรพู ด ” นำยกรั มนตรี ใ นยุ ค ใหม่ นี้   “มำร์ค ”


อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ถือว่าพูดดี  พูดเก่ง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 
เพราะเป็นนักการเมืองฝีปากกล้าและเรียนจบจากเมืองนอก แถมเป็น 
มหาวิทยาลัยดังอย่าง “ออกซ์ฟอร์ด” ด้วยแล้ว ภาษาอังกฤษฟุดฟิดฟอไฟ 
จึงเข้าขั้นเปะ
  มายุคนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก 
ประเด็นเรื่องค�าพูดกลายเป็นที่จับตามองจนเกือบจะกลายเป็นการจับผิด 
ไม่ว่าจะภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ จนเกิดการรอคอยกันว่าวันนี้นายกฯ 
พูดอะไรผิดบ้าง แม้นางสาวยิ่งลักษณ์จะจบจากมหาวิทยาลัย  entuck  
สหรัฐอเมริกา ก็ยังถูกติติง
  ต่อมายุค พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี  เป็นคนพูดเยอะ พูด 
มาก ก็ย่อมมีข้อผิดพลาดมาก แต่  พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ถูกจับผิดใดๆ จน 
ฝ่ายคิดต่างเปรียบเปรยกันว่า ถ้ำเป็นอดีตนำยกฯ ยิ่งลักษณ์คงจะโดน 

68 วาสนา  นาน่วม
โจมตีเละไปแล้ว
  อาจเพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายทหารที่จบการศึกษาจากโรง 
เรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อย จปร. เมดอินไทยแลนด์  ไม่ได้ไปเรียน 
ต่อต่างประเทศ 
  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นคนใฝ่รู้  ขยันเรียน ขยันอ่าน ขยันศึกษา 
จึงไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม จนเป็นเหตุให้พบรักกับ “อาจารย์น้อง” 
รศ.นราพร จันทร์โอชา ซึ่งเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่สถาบันภาษา 
จุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถูกแซวว่าเป็นการเรียนภาษาอังกฤษแบบลัด 
เพราะได้ภริยาเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ
  ผมไม่ได้รู้ทุกเรื่อง หรือเก่งทุกเรื่อง แต่ผมเปนคนอ่ำนมำก ศึกษำ
มำก เรื่องไหนที่เรำไม่รู้ เรำไม่เก่ง เรำก็ต้องยิ่งศึกษำให้มำก  พล.อ.ประ 
ยุทธ์กล่าว
  โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ พล.อ.ประยุทธ์พยายามที่จะเรียนเพิ่ม 
เติม เพราะในช่วงที่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนหรือไอโฟนนั้น หากต้องติดต่อกับ 
สื่อตอนที่เป็น ผบ.ทบ.ก็ใช้การสื่อสารผ่านเอสเอ็มเอสของโทรศัพท์มือถือ 
โดย พล.อ.ประยุทธ์จะตอบกลับและพูดคุยเป็นภำษำอังก ษ เพราะ 
เขียนง่ายกว่า ไม่มีกดปุ่มยกใส่สระต่างๆ ซึ่งถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้ภาษา 
อังกฤษได้ดีในระดับหนึ่ง แม้จะใช้ภาษาที่เป็นตัวย่อหรือภาษา Chat ก็ 
ตาม
  จนเมื่อมายุคสมาร์ตโฟน พล.อ.ประยุทธ์จึงหันมาใช้การตอบข้อ 
ความผ่านเอสเอ็มเอสด้วยภาษาไทย
  ตอนที่เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์มีโครงการพิเศษให้สอนภาษา 
อังกฤษแก่ก�าลังพลทหารและลูกหลานก�าลังพล เนื่องจากต้องเตรียม 
พร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมทั้งการให้คิดศัพท์ภาษาอังกฤษเป็น 
ม็อตโต้ต่างๆ เพื่อให้เป็นสากล
  เช่น ม็อตโต้ของกองทัพบกที่ว่า “เพื่อชำติ  ำสน์  กษัตริย์  และ 
ประชำชน” พล.อ.ประยุทธ์ก็ให้แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วน�าไปประดับ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 69
ตามจุดต่างๆ ของหน่วยทหารบกทั่วประเทศ นั่นคือค�าว่า “For Countr , 
Religions, Monarch  and Peo le”
  ส่วนม็อตโต้ประจ�าตัวนั้นคือ “Countr  First” ชาติต้องมาก่อน 
ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
  การสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นอยู่ในขั้นที ่
เรียกว่าสามารถพูดคุยสื่อสารได้  แต่ภาษามิได้สละสลวย ใช้ศัพท์ยาก 
เช่นนักเรียนนอก หรือคนที่เติบโตในต่างประเทศ อีกทั้งเมื่อไม่ค่อยได้พูด 
ไม่ค่อยได้ใช้  เมื่อจะพูดอะไรก็นึกค�าไม่ออกในทันที
  เช่นวันที่มีนักข่าวส�านักข่าวต่างประเทศมาฟังแถลงข่าวหลังการ 
ประชุม ครม.ที่ท�าเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์พยายามตอบค�าถามเป็น 
ภาษาอังกฤษในช่วงแรก แต่พอนึกค�าไม่ออกก็อธิบายด้วยภาษาไทยแล้ว 
ให้นักข่าวไทยช่วยแปล
  หรือเมื่ออธิบายการเมืองไทยว่าเหมือนการ “ติดกระดุมผิดเมด” 
พล.อ.ประยุทธ์นึกค�าไม่ออก ก็ท�าท่าภาษากายประกอบแทน

70 วาสนา  นาน่วม
  ทว่าประเด็นจากถ้อยค�าที่ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ถูกสื่อต่างประเทศ 
วิจารณ์ก็คือ ขู่ว่าจะประหารชีวิตนักข่าว การพูดถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 
ที่เสียชีวิตที่เกาะเต่า และประเด็นการใส่บิกินีที่ท�าให้ไม่ปลอดภัย
  แม้จะไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่เวลาเจอฝรั่ง พล.อ.ประยุทธ์จะไม่หนี 
แต่เดินเข้าใส่  ทักทายพูดคุย เพราะเขาต้องการท�าให้นกั ท่องเทีย่ วสบายใจ 
แม้จะเป็นรัฐบาลหรืออยู่ในช่วงการรัฐประหารก็ตาม ถึงจะพูดถูกบ้าง 
ผิดบ้าง แต่ก็สื่อสารได้  และพยายามเชิญชวนฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยกัน 
มากๆ
  แต่เวลาที่ต้องไปเยือนต่างประเทศ ในการเปิดโตะหารืออย่างเป็น 
ทางการนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะใช้ล่าม หากเป็นการพบปะส่วนตัวก็จะคุย 
เอง โดยมี  พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโ ษกรัฐบาลคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ
  ส�าคัญที่สุดก็คือ เมื่อต้องขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในเวทีองค์การสห 
ประชาชาติ  หรืองานที่มีชาวต่างประเทศในเมืองไทย หรือไปกล่าวสุนทร 
พจน์ในต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์จะกล่าวด้วยภาษาไทย ไม่ได้ใช้ภาษา 
อังกฤษ แม้จะมีโพยให้อ่านก็ตาม แต่  พล.อ.ประยุทธ์กเลือกจะสื่อสำร 
เป็นภำษำไทยมำกกว่ำ เพราะจะใช้คา� ได้ตรงใจ ตรงความรู้สึกกว่า เนื่อง 
จากในเวทีนานาชาติมีมืออาชีพคอยแปลให้อยู่แล้ว หรือมีเจ้าหน้าที่ของ 
กระทรวงการต่างประเทศของไทยแปลผ่านหูฟังให้ผู้เข้าร่วมประชุมชาว 
ต่างชาติได้เข้าใจ
  แม้แต่เวทีการประชุมองค์การสหประชาชาติ  ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐ 
อเมริกา เมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๘ อันเป็นเวทีส�าคัญ แม้จะ 
มีฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร แต่ก็ได้รับเกียรติจาก 
องค์การสหประชาชาติให้มายืนบนเวที  พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังกล่าวด้วยภาษา 
ไทย
  พล.อ.ประยุทธ์พยายามที่จะศึกษาและเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษ 
โดยเขาจะดูจากภาพยนตร์หรือหนังซีรีส์ต่างประเทศ อีกทั้งพยายามท�าให้ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 71
ภาพลักษณ์ดูดีด้วยการพูดทับศัพท์ภาษาอังกฤษหลายค�า โดยเฉพาะใน 
รายการคืนความสุขให้คนในชาติ
  ในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์มักจะใช้ค�าภาษาอังกฤษบ่อยๆ 
เช่ น ค� า ว่ า  Failed state, colla se และในทางเศรษฐกิ จ ก็ เ ช่ น ค� า ว่ า 
subsidi e, demand, su l ,  igital  conom , Social Business
  รวมถึงนโยบายรัฐบาล “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” (Stabilit , Pros e- 
rit , Sustainabilit )
  แต่ ที่   พล.อ.ประยุ ท ธ์ ดู จ ะภาคภู มิ ใ จที่ สุ ด ก็ เ มื่ อ เขาคิ ด ใช้ ค� า ว่ า 
“           ” มาใช้ในการรณรงค์ 
ให้คนไทยรักสามัคคีกันเพื่อก้าวข้ามปัญหาไปให้ได้  หลังเกิดเหตุการณ์ 
ระเบิ ด อย่ า งรุ น แรงที่ สี่ แ ยกราชประสงค์ เ มื่ อ วั น ที่   ๑๗  สิ ง หาคม  พ.ศ. 
๒๕๕๘ ภายใต้ค�าแปลที่ว่า  บ้ำนของเรำ ประเทศของเรำ เรำจะเติบโต
และแข็งแกร่งไปด้วยกัน
  พล.อ.ประยุทธ์อธิบายว่า จะหาค�าไหนมาใช้เพื่อสื่อความหมาย 
และความรู้สึกแบบสากล เพื่อการรณรงค์ในโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย
  “แม้ผมจะเป็นนำยกฯ จำกกำรรั ประหำร แต่วิธีคิดของผม 
กเป็นประชำธิปไตยนะ แล้วผมจะเป็นนำยกฯ คนที่ท�ำให้คนไทย 
กลับมำรักกัน รวมเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่ำว

72 วาสนา  นาน่วม
จอมพลประยุทธ์ ม.

“ ยังมีคนเปรียบเทียบ พล.อ.ประยุทธ์ตัง ต่
เมื่อครังเปน ผบ.ทบ. ล้วว่าเปน  ส ดิน้อย
เพราะความที่ดุ ละเข้มงวดสุด  ด้วยภาพลัก ์
ของนายทหารใหญ่ ละ ผบ.ทบ.ผู้นำาการปฏิวัติ


ที่มีท่าทีขงขัง เกรียวกราด

แม้ ใ นยุ ค นี้ จ ะไม่ มี   “จอมพล” เหมื อ นสมั ย ยุ ค    จอมพล


“สฤษดิ์-ถนอม-ประภาส” แต่ก็มีเสียงพูดกันในกองทัพว่า พล.อ.ประยุทธ์ 
นั้นคล้ายจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  ในแง่ของการเป็นผู้น�าที่เด็ดขาด เข้มงวด 
และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
  โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ลั่นวาจาก่อนการยึดอ�านาจที่ว่า 
ไม่ว่ำสิ่งที่ผมท�ำมันจะ ูกหรือผิด ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว  ซึ่ง 
คล้ายกับวาทะประวัติศาสตร์ของจอมพลสฤษดิ์ที่ว่า  ข้ำพเจ้ำขอรับผิดชอบ
แต่เพียงผู้เดียว
  แถมวาทะนี้ถูกใช้อีกเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ใช้มาตรา ๔๔ ถอดยศ 
พันต�ารวจโทของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี  เมื่อวันที่  ๕ กัน- 
ยายน พ.ศ.๒๕๕๘ แทนการทูลเกล้าฯ
  หลังการรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ พล.อ.ประยุทธ์ 
และคณะรัฐประหาร คสช.ใช้อ�านาจอย่างเต็มพิกัดในการกวาดล้างขบวน 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 73
การค้าอาวุธสงครามและพวกล้มล้างสถาบันฯ ด้วยการส่งทหารบุกไปตาม 
สถานที่ต่างๆ ทั้งยังไล่ตามจับคนที่ไม่ยอมมารายงานตัวกับ คสช.
  ยิ่งเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี  พ.ศ.๒๕๕๗ ให้อ�านาจหัวหน้า 
คสช.ด้วยมาตรา ๔๔ จนถูกมองว่าเป็นอ�านาจครอบจักรวาลยิ่งกว่ากฎ 
อัยการศึก ท�ำให้มีกำรน�ำไปเปรียบเทียบกับมำตรำ ๑๗ สมัยจอมพล 
ส ษดิ ธนะรัชต์  เพื่อท�าให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย
  ไม่เหมือน เพรำะผมยังไม่เคยใช้มำตรำ ๔๔ จับใครไปยิงเปำสักคน
มีแต่ใช้ในทำงสร้ำงสรรค์  พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
  ด้วยเพราะมีการใช้อ�านาจมาตรา ๔๔ ในการปลด ย้ายข้าราชการ 
แบบระนาว แบบไม่ต้องมีฤดูกาล หรือใช้มาตรา ๔๔ ในการออกค�าสั่ง 
ต่างๆ เพื่อปลดล็อกในเรื่องข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการปฏิรูปประเทศ 
หรือแก้ปัญหาต่างๆ ท�าให้เกิดอาการเสพติดมาตรา ๔๔ จนมีการเรียกร้อง 
ให้  พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ใช้มาตรา ๔๔ ออกค�าสั่งหัวหน้า 
คสช. ในเรื่องต่างๆ แม้แต่การแก้ปัญหาเด็กแว้น

74 วาสนา  นาน่วม
  ความจริงอ�านาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา ๔๔ นั้น ไม่ได้น้อย 
ไปกว่ำมำตรำ ๑๗ ของจอมพลส ษดิ เพียงแต่  พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ 
ใช้ลงโทษใครอย่างรุนแรง แม้แต่มือระเบิดสร้างสถานการณ์กลางกรุง 
หรือหน้าศาลอาญาที่จับกุมได้  พล.อ.ประยุทธ์ก็ให้ใช้กฎหมายปกติ 
  กระนั้นก็ยังมีคนเปรียบเทียบ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็น 
ผบ.ทบ.แล้วว่าเป็น “ส ษดิน้อย” เพราะความที่ดุและเข้มงวดสุดๆ ด้วย 
ภาพลักษณ์ของนายทหารใหญ่และ ผบ.ทบ.ผู้น�าการปฏิวัติที่มีท่าทีขึงขัง 
เกรี้ยวกราด
  พล.อ.ประยุทธ์น้ันรู้ดีว่าเขามีฉายานี้  แต่เขาไม่ชอบ โดยเขาบอก 
กับนายทหารที่ใกล้ชิด  ผมไม่เหมือนใคร
  เพราะการถูกเรียกเป็น “ส ษดิน้อย” จะมีกลิ่นอายของการเป็น 
ทหารหรือเผด็จการมากไปหน่อย
  อีกทั้งกลัวว่าจะไปโยงกับฉายา “จอมพลผ้าขาวม้าแดง” แต่  พล.อ. 
ประยุทธ์นั้นปรากฏความชัดเจนในเรื่องการรักลูกรักเมีย รักครอบครัว 
ไม่เคยเสื่อมเสียในเรื่องนี้เลย ตรงกันข้าม พล.อ.ประยุทธ์มักสนับสนุนให้ 
ผู้ชายให้เกียรติผู้หญิง ให้สามีรักและซื่อสัตย์ต่อภรรยา
  บ่อยครั้งที่นายกฯ บิ๊กตู่จะสอนผู้หญิงให้รักนวลสงวนตัว เพื่อป้อง 
กันปัญหา “คุณแม่วัยใส” เพิ่มมากขึ้น 
ผู้ชำยสมัยนีไม่เหมือนสมัยผม ผู้ชำยจะต้องเปนสุ ำพบุรุษ ดูแล
ผู้ห ิง ไม่ใช่ให้ผู้ห ิงเลียง ้ำไม่รักก็อย่ำไปหลอกเขำ ส่วนผู้ห ิงก็ต้อง
เลือกผู้ชำยที่ดี เอำคนที่ดูแลและเลียงเรำได้ แต่เพรำะผู้ห ิงสมัยนีเก่ง
ท�ำงำนหำเงินเอง เลียงครอบครัว
  โดยส่วนตัวแล้ว พล.อ.ประยุทธ์นั้นให้ควำมเคำรพจอมพล 
ส ษดิมำก อาจเพราะเขาเคยอาศัยอยู่ในค่ายธนะรัชต์  อ�าเภอปราณบุรี 
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เนื่องจาก พ.อ.ประพัฒน์  จันทร์โอชา บิดาของ 
เขาไปรับราชการที่นั่นเป็นหน่วยสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ท�าให้ 
พล.อ.ประยุทธ์ต้องไปใช้ชีวิตในค่ายธนะรัชต์แห่งนี้

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 75
  เมื่อใดที่มาเยือนค่ายแห่งนี้  พล.อ.ประยุทธ์จะต้องไปไหว้อนุสาวรีย ์
จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  ไปดูบ้านหลังที่เขาเคยอยู่สมัยเด็กๆ รวมถึงไป 
ไหว้สักการะรูปปั้นจอมพลสฤษดิ์ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ เพราะ 
จอมพลสฤษดิ์เป็นผู้ก่อตั้งสถานี  ททบ.๕
  อีกทั้งมาดของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นเป็นนายทหารใหญ่รุ่นเก่าที่มี 
แนวคิดแบบอนุรักษนิยม อนุรักษ์ความเป็นไทย มีการรื้อฟื้นความเป็นไทย 
ด้วยการจัดตลาดน�า้ ริมคลองผดุงกรุงเกษมข้างท�าเนียบรัฐบาลเหมือนย้อน 
ยุคโบราณ จนกลำยเป็นสถำนที่ท่องเที่ยวที่ส�ำคัญ ึ่งรู้จักกันในนำม 
“ตลำดนำยกฯ” โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้มาเปิดงานด้วยตนเอง พร้อมเดิน 
ชมงานและชิมอาหารต่างๆ แทบทุกร้าน
  อันเป็นสิ่งที่  พล.อ.ประยุทธ์ได้รับค�าชื่นชมในการเนรมิตความเป็น 
ไทยๆ ในยุคโบราณกลับมาให้คนรุ่นนี้ได้สัมผัส
  ในช่วงเวลาเดียวกัน  “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ 
แห่งบูรพาพยัค ์ก็หันมาสูบไปปเช่นกัน แต่จะหลบๆ ไม่ให้สื่อเห็น
  ไม่ต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ที่ในช่วงท้ายของการเป็น ผบ.ทบ. เขา 
ก็หันมาสูบไปปเพื่อผ่อนคลายกับกลิ่นหอมๆ และได้ใช้ความคิดไปกับ 
ควันที่ถูกพ่นฉุยออกมา ท�าให้มาดของเขากลายเป็น “จอมพลประยุทธ์” 
มากขึ้น
  พล.อ.ประยุทธ์สมัยเป็นทหารเสือฯ ตอนหนุ่มๆ นั้น ได้ชื่อว่าเป็น 
“สิงห์อมควัน” เป็นนักสูบบุหรี่ตัวยง ประเภทสูบหนัก สูบจัดเลยทีเดียว
  ก่อนจะมาเลิกบุหรี่ด้วยเหตุผลเดียวกับคนส่วนใหญ่ก็คือ เพื่อลูก 
เพื่อเมียนั่นเอง
  ยิ่งเมื่อเขำถูกมองว่ำเป็นเผดจกำร จนมีคนบำงกลุ่มมำชู   
นิ้วต่อต้ำน  นำยกฯ “บิ๊กตู่” กพลิกภำพตนเองด้วยกำรชู   นิ้ว “  
” แทนจนกลำยเป็นท่ำสัญลักษณ์ประจ�ำตัวไปแล้ว...

76 วาสนา  นาน่วม
อินทรีบ้านสวน

“ ภาพ พล.อ.ประยุ ท ธ์ ขี่ ม อเตอร์ ค์ ค รั ง


นัน ทำาให้หลาย  คนย้อนนก งภาพของ พล.อ.
ชาติชาย ชุ หะวั  อดีตนายกรั มนตรี  น้า


ชาติ มาดนัก ิ่ง  ขนมาทันใด

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จู่  นำยกฯ บิ๊กตู่จะพำดขำขึ้นคร่อมมอเตอร์
ไซค์แล้วบิดออกไปซิ่งในท�าเนียบรัฐบาล สร้างความฮือฮา ท�าเอาทหาร 
เสือราชินีทีม รปภ.นายกฯ วิ่งตามแทบไม่ทัน
  ด้วยเพราะ พล.อ.ประยุทธ์นั้นชอบขี่มอเตอร์ไซค์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 
อาจเรียกได้ว่าเป็นทหารเสือฯ นักซิ่งก็ว่าได้  โดยใช้ชื่อในนาม “อินทรีบ้าน 
สวน” อันเป็นชื่อฐานทหารที่บิ๊กตู่น�าก�าลังทหารขึ้นไปตั้งบนเขาพนมปะ 
ชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยนั่นเอง
  เนื่องจากการเป็นนายทหารเสือราชินีจะต้องมีการฝึกยิงปืนทั้งบน 
หลังม้าและขี่มอเตอร์ไซค์  พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่มาอยู่ 
ร.๒๑ รอ. และมักใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะขับขี่ในหน่วย ในค่าย 
นวมินทราชินี
  เรียกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นทหารนักซิ่งมาตั้งแต่เป็นร้อยตรี  แม้ 
เมื่อขยับมาเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่  ๒ รักษาพระองค์  (ผบ. 
พล.ร.๒ รอ.) เป็นนายพลแล้วก็ยังชอบขี่มอเตอร์ไซค์อยู่

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 77
  แม้แต่ตอนเป็น ผบ.ทบ. หรือเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม พล.อ. 
ประยุทธ์กยังโหยหำเวลำที่จะได้ขึ้นขี่มอเตอร์ไ ค์อยู่ตลอด
  เพราะที่บ้านมีมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์อยู่คันหนึ่ง ที่นานๆ ครั้ง พล.อ. 
ประยุทธ์จะคว้าออกมาขี่อุ่นเครื่องภายใน ร.๑ รอ.บ้าง ขับเล่นให้ลมปะทะ 
หน้าเย็นๆ ให้สมองปลอดโปร่งบ้าง
มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นมีอุปกรณ์ครบครันส�าหรับการขี ่
ช็อปเปอร์  ทั้งหมวก แจกเก็ตหนัง ถุงมือ และแว่นตา

ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งนั้นท�าให้หลายๆ คนย้อน 
นึกถึงภาพของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี  “น้ำชำติ 
มำดนัก ิ่ง” ขึ้นมาทันใด เพียงแต่สไตล์ของน้าชาติกับ พล.อ.ประยุทธ์นั้น 
แตกต่างกัน แม้แต่มอเตอร์ไซค์ก็เป็นคนละประเภท แต่ที่ฮือฮาก็คือการ 
น�าภาพ พล.อ.ประยุทธ์และมอเตอร์ไซค์ในท�าเนียบฯ ไปตัดต่อกันอย่าง 
แพร่หลาย ให้มีคนนั้นคนนี้ซ้อนท้ายบ้าง เปลี่ยนฉากหลังบ้าง ประหนึ่ง 
พระเอกหนังฮ่องกง สร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นได้

78 วาสนา  นาน่วม
  ผมเปนคนชอบขี่มอเตอร์ไ ค์ แต่ที่ผ่ำนมำไม่มีเวลำขี่เลย  พล.อ. 
ประยุทธ์ออกตัว
  เมื่อคราวนักเรียนอาชีวะมาตั้งบูธตัวอย่าง รับซ่อมมอเตอร์ไซค์ให้ 
ประชาชนฟรีใน ๕๐ เขตของ กทม.โดยมาตั้งโชว์ที่ท�าเนียบรัฐบาล พล.อ. 
ประยุทธ์เห็นมอเตอร์ไซค์ก็ปราดเข้าหา หลังลองแตะๆ แล้วก็ขึ้นคร่อม 
ทดลองเร่งเครื่องกลางวงล้อมของนักข่าวและช่างภาพ  ึ่งทุกคนไม่คำด 
คิดว่ำนำยกฯ จะขี่พรวดออกไปจน พล.อ.ประยุทธ์ต้องเตือนว่ำให้ 
หลบ เพรำะจะออกตัวแล้ว 
  ว่าแล้วก็ขี่ไปวนหน้าตึกไทยคู่ฟ้ารอบท�าเนียบฯ ๑ รอบ แล้วกลับ 
มาที่เดิม ก่อนจะขึ้นประชุมคณะรัฐมนตรี
  ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ก�าลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ 
Harle   avidson รถในฝันส�าหรับนักบิด แต่ไม่มีรายงานว่าได้หรือยัง 
เพราะหากดูในการแสดงบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์นั้นไม่ได้มีการ 
แจ้งเรื่องมอเตอร์ไซค์
  อีกทั้งความฝันในวัยเด็ก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายก็คงอยากจะเป็น 
เหมือนซูเปอร์ฮีโร่ในการ์ตูน หรือหนัง มดแดง มดเอ็กซ์  ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ 
สุดเท่ด้วยนั่นเอง
  เชื่อกันว่าหลังเสร็จสิ้นภารกิจเพื่อชาติแล้ว พล.อ.ประยุทธ์คงจะ 
มีเวลาท�าในสิ่งที่อยากท�า และสิ่งที่เคยตั้งใจจะท�าไว้หลังเกษียณแต่ก็ 
ไม่ได้ท�า ทั้งการไปเที่ยวเมืองนอก โดยเฉพาะประเทศที่ชื่นชอบอย่างญี่ปุ่น 
อย่างน้อยก็อยากจะไปเดินช้อปปิ้ง เพราะตอนเป็นนายกฯ จะไปเดินซื้อ 
ของก็คงไม่เหมาะ ไปญี่ปุ่นทีไรก็รีบไปรีบกลับ
  รวมถึงการออกไปบิดมอเตอร์ไซค์เหมือนสมัยหนุ่มๆ ที่เป็นนาย 
ทหารเสือราชินี  เพื่อท�าตามความฝันของตัวเองสักที
  เพียงแต่ไม่รู้ว่ำ เมื่อไหร่...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 79

ต่ปางก่อน

“ ผมเกิ ด มาเปนทหาร  งตาย ปกเปน


ทหาร  งเปนผีกยังเปนผีทหาร ชาติหน้าเกิด
ใหม่ ก คงจะเปนทหารอี ก  เพราะ ม่ เ คยคิ ด เปน


อย่างอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ควำมเชื่ออย่ำงหนึ่งของคนที่เป็นทหำรกคือ เมื่อชำติปำงก่อน
เขาย่อมเกิดมาเป็นขุนศึก ทหาร และนักรบของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์ 
หนึ่งในประวัติศาสตร์ 
  เฉกเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่เขาเชื่อว่าชาติที่แล้วเขาเกิดเป็นทหาร 
โดยเฉพาะเมื่อเขาคือศิษย์เอกของอาจารย์วารินทร์  บัววิรัตน์เลิศ เจ้าของ 
ฉายา “โหร คมช.” ซึ่งเป็นอาจารย์ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ 
บอกว่าชาติที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์เกิดเป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร 
มหาราช
  อำจำรย์วำรินทร์เคยบอกเหมือนกัน  พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับ แต่ 
ไม่ได้พูดตรงๆ ว่าเขาเชื่อตามนั้นหรือไม่
  ทว่าชาตินี้เขาได้มาท�าหน้าที่กอบกู้ชาติบ้านเมืองตามที่อาจารย์ 
วารินทร์เคยท�านายทายทักไว้จริงๆ
  ผมเชื่ออยู่อย่ำงหนึ่งคือ คนที่ได้เกิดมำในชำตินี แล้วมีชีวิตที่ดี 

80 วาสนา  นาน่วม
• ชำติปำงก่อน-มีความเชื่อกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ในชาติปางก่อนเป็นทหารเอก 
พระนเรศวรฯ หรือพระชัยบุรี

มีอ�ำนำจหน้ำที่ ก็เปนผลมำจำกกำรท�ำกรรมดีในชำติปำงก่อนนั่นเอง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
  เพียงแต่คราวนี้  พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เดินซ�้ารอย “บิ๊กบัง” พล.อ. 
สนธิ  บุญยรัตกลิน ที่ให้อาจารย์วารินทร์ดูฤกษ์ยามวันรัฐประหารให้
  ทว่าอาจารย์วารินทร์เป็นคนท�าพิธีเสริมดวงชะตา เพิ่ม ำนบุญ 
บำรมีให้  พล.อ.ประยุทธ์  ก่อนหน้าที่จะท�ารัฐประหารแบบข้ามปีในช่วง 
ที่บ้านเมืองเริ่มวุ่นวายจากการมีม็อบสีต่างๆ
  อาจารย์วารินทร์เคยบอกว่า พล.อ.สนธิในชาติปางก่อนนั้นก�าเนิด 
เป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสินมหาราช ในชาตินี้จึงต้องมากู้ชาติ  ด้วย 
การท�ารัฐประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙
  เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ท่ีเป็นทหารเอกของสมเด็จพระนเรศวร 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 81
มหาราชกลับชาติมาเกิด เพื่อดูแลชาติบ้านเมืองและสถาบันฯ
  เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็ไปร่วมพิธีของอาจารย์ 
วารินทร์อย่างเปิดเผย เพื่อความเป็นสิริมงคล
  ด้วยความเชื่อว่าเคยเป็นทหารเอกของพระนเรศวรฯ นี่เอง ท�ำให้ 
พล.อ.ประยุทธ์เป็นนำยทหำรที่มีควำมเคำรพนับถือในสมเดจพระ 
นเร วรฯ อย่ำงมำก  เพราะส�าหรับทหารทั่วไปแล้วยกย่องให้พระองค์ 
เป็นจอมทัพไทย อันเนื่องมาจากพระองค์ทรงท�ายุทธหัตถีจนชนะฝ่ายพม่า 
และเป็นที่มาของ “วันกองทัพไทย”
  ที่  ร.๒๑ รอ. จึงมีการสร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรฯ 
ขึ้น โดย พล.อ.ประยุทธ์จะต้องไปกราบสักการะทุกครั้งที่ไปเยือน ร.๒๑ รอ.
  รวมถึงการไปกราบสักการะสมเด็จพระนเรศวรฯ หลังกำรท�ำพิธี 
มหำมั ง คลำภิ เ ษก พระบู ร พมหำกษั ต ริ ย ์ ส ยำมทั้ ง  ๗ พระองค์   ที่ 
อุทยำนรำชภักดิ อ�าเภอหัวหิน ซึ่งมีสมเด็จพระนเรศวรฯ เป็น ๑ ใน ๗ 
พระองค์ด้วย
  จึงไม่แปลกที่  พล.อ.ประยุทธ์จะมีความรักในอาชีพทหารและอุดม 
การณ์ของความเป็นทหาร
  ถึงขั้นประกาศว่า  ผมเกิดมำเปนทหำร ึงตำยไปก็เปนทหำร ึง
เปนผีก็ยังเปนผีทหำร ชำติหน้ำเกิดใหม่ก็คงจะเปนทหำรอีก เพรำะไม่เคย
คิดเปนอย่ำงอื่น
  แน่วแน่ว่ำ...จะขอเป็นทหำรทุกชำติไป...

82 วาสนา  นาน่วม
๑๑
เ อร์นิเจอร์

“ เทคนิคในการสวม หวนของ พล.อ.ประ
ยุทธ์  จะสวมที่นิวนางทัง ้าย ละขวา นิวละ ๒
วง ส่ ว นที่ ข้ อ มื อ กจะเปลี่ ย น ปเรื่ อ ย  ทั งกำ า ล
หางช้าง กำา ลเมลด นำาตาพระ ิวะจากอินเดีย 


ละหินสี

เป็นเรื่องธรรมดำส�ำหรับทหำรไทยที่มักจะมีควำมเชื่อในสิ่ง
เหนือธรรมชาติ  โชคชะตา และเครื่องรางของขลัง ด้วยหากย้อนเวลากลับ 
ไปในยุคโบราณ ทหารก็คือนักรบที่ต้องถือฤกษ์ยามในการออกรบทัพจับศึก
  ในยุคนี้ไม่ค่อยมีการศึกษาสงคราม แต่ทหารก็ยังอาศัยพระเครื่อง 
และเครื่องรางของขลัง เพื่อสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ให้ 
ลุล่วง ส�าเร็จ และปลอดภัย ทั้งการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์  เครื่องบิน 
หรือการไปปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้  หรือชายแดนรอบ 
บ้าน
  ยิ่งส�าหรับนายทหารใหญ่ๆ ของบ้านเราด้วยแล้ว เรียกได้ว่าต้อง 
มี  “กรุพระ” กันไว้ที่บ้านเลยทีเดียว เพราะเมื่อมีอ�านาจบารมีก็ย่อมต้องมี 
ผู้คนที่เคารพนับถือ หรือต้องการพึ่งพิงขอความช่วยเหลือ หรือตอบแทน 
บุญคุณ ด้วยการน�าพระเครื่องชื่อดังหรือเครื่องรางดีๆ มามอบให้
  ยิ่งเป็นทหารที่ผ่านสนามรบในสมัยก่อนด้วยแล้วก็ย่อมมีพระดี 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 83
ไม่แตกต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ที่ผ่านสมรภูมิ  “เขาพนมปะ” ยิงปะทะแลก 
ชีวิตทหารเวียดนามที่บุกมาทางกัมพูชาจะมายึดดินแดนไทย แบบที่ม ี
ต�ำนำนเล่ำขำนกันว่ำ พล.อ.ประยุทธ์โดนสะเกดอำร์พีจีถำกขมับไป 
แต่ไม่เป็นอะไร
  หากดูจากกรุสมบัติที่  พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ไว้เมื่อรับ 
ต�าแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่  ๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ จ�านวน ๑๒๘ 
ล้านบาทนั้น มีการแจ้งว่า เครื่องประดับประจ�าตัว ๘ ชิ้น รวมราคาราว 
๖.๔ แสนบาท รวมทั้งแหวนและเครื่องประดับประจ�าตัว โดยเป็นแหวน 
ทับทิมเรือนทองราคา ๑.๒ แสนบาท แหวนหัวหยกเรือนทองขาวอีก ๑.๕ 
แสนบาท และแหวนหัวไพลินเรือนทองอีก ๑.๗ แสนบาท นา ิกาหรู  ๙ 
เรือน ทั้ง Panerai, Patek Philli s, Role  และ Breitling รวมราคาราว 
๓ ล้านบาท สร้อยคอทองค�าพร้อมพระเลี่ยมทอง ๑๑ องค์  ประเมินราคา 
๒ แสนบาท และสร้อยคอทองค�าพร้อมพระเลี่ยมทองอีก ๓ องค์  พร้อม 
เหรียญรัชกาลที่  ๕ ประเมินราคา ๑ แสนบาท 
  แม้จะเชื่อกันว่าพระเครื่องดังๆ ที่  พล.อ.ประยุทธ์มีอยู่นั้นน่าจะเป็น 
พระดัง ร�่าลือกันว่าเป็นพระยอดขุนพลและพระสมเด็จฯ รุ่นดังหลายองค์ 
ที่  พล.อ.ประยุทธ์ให้เซียนพระชื่อดังหลายคนช่วยหามาให้เพื่อที่จะเป็น 
พุทธคุณมาเสริมบารมี 
  ทว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ทหารที่มีความโดดเด่นในเรื่องการ 
ใส่เครื่องประดับ โดยเฉพาะแหวนที่มีการใส่ตามความเชื่อโชคลาง โดย 
จะสวมแหวนนิ้วละ ๒ วง โดยแหวนที่สวมเป็นประจ�าคือแหวนพระ หรือ 
แหวนนะโม
  แต่แหวนที่ใส่แทบทุกวันก็คือ แหวนสมเดจฯ ที่ได้รับพระรำช 
ทำนขณะติดตำมเสดจฯ ใน ำนะทหำรเสือรำชินี  และแหวนนพเก้ำ 
ซึ่งใส่มาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.ใส่ทั้ง พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.อนุพงษ์  จน 
ท�าให้บิ๊กทหารน้อยใหญ่ในกองทัพพากันสวมแหวนนพเก้ากันจนทุกวันนี้
  ส่วนใหญ่จะเพื่อเสริมอ�านาจบารมี  ป้องภัยภยันตราย แคล้วคลาด 

84 วาสนา  นาน่วม
และคุณไสยมนตร์ด�าต่างๆ  เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เคยพูดทีเล่นทีจริงเมื่อ 
มาเป็นนายกฯ แรกๆ ว่า ต้องไปวัดรดน�้ามนต์  เพราะอาจมีคนท�าของใส่
  ไม่แค่นั้น ข้อมือของบิ๊กทหารเหล่านี้มักจะมีเครื่องรางติดอยู่ตลอด 
ทั้ง พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะมีสายรัดข้อมือ สายลงคาถา 
ปลุกเสกจากวัดต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอินเดีย
  ด้วยรู้กันดีว่า ทั้ง ๓ ป. นั้นเป็นนายทหารที่ขึ้นกับรองเจ้าอาวาส 
วัดยานนาวา ซึ่งเป็นผู้ให้ค�าแนะน�า พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร 
มาโดยตลอด
  ในช่วงที่  พล.อ.ประยุทธ์ก่อการรัฐประหารแรกๆ นั้น แหวนวงหนึ่ง 
ที่ใส่ติดนิ้ว คือแหวนครุ  ซึ่งมีข่าวว่าได้รับค�าแนะน�าจากพระอาจารย์
วัดยานนาวาให้น�ามาใส่เพื่อเสริมอ�านาจและบารมี  จนบางเสียงร�่าลือว่า 
ใส่แล้วจะได้เป็นนายกฯ
  ที่น่าสังเกตก็คือ เทคนิคในการสวมแหวนของ พล.อ.ประยุทธ์  จะ 
สวมที่นิ้วนางทั้งซ้ายและขวา นิ้วละ ๒ วง ส่วนที่ข้อมือก็จะเปลี่ยนไป 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 85
เรื่อยๆ ทั้งก�าไลหางช้าง ก�าไลเมล็ด น�้าตาพระศิวะจากอินเดีย และหินสี
  ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ใส่ก�าไลหินสีที่ลูกสาวฝาแฝดซื้อมาฝาก 
โดยนายกฯ เผยว่าเพราะลูกสาวอยากให้อารมณ์เย็นๆ 
  นี่พอใส่ปุ บ ก็อำรม ์เสีย โมโหแต่เช้ำเลย บอกแล้ว อะไรก็เอำ
ผมไม่อยู่  บิ๊กตู่กล่าวเรียกอารมณ์ขัน ก่อนจะถอดก�าไลหินสีไปคืนลูกสาว 
หลังจากใส่ได้แค่ไม่กี่วัน
  แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนไม่เคยถอดเลยก็คือ สายรัดข้อมือ ริสต์แบนด์ 
สีเหลือง “เรารักในหลวง” และที่เพิ่มมาในภายหลังคือ สายรัดข้อมือสีฟ้า 
ของสมเด็จพระราชินี
  “บิ๊กตู่” รู้ดีว่าใส่อะไรมา นักข่าวจะคอยแอบมองตลอด จนบ่นว่ำ 
วันหลังจะไม่ใส่อะไรแล้ว เพรำะชอบถูกถำม
  ท�ำไมพวกเธอจะต้องมำคอยมองคอยสนใจว่ำ วันนี ันใส่ก�ำไล
อะไร แหวนอะไร มันก็เปนควำมเชื่อเหมือนสมัยโบรำ คนไทยส่วนให ่
ก็เชื่อเรื่องเครื่องรำงพวกนี  นายกฯ เปรย
  พร้อมเปรียบเทียบเหมือนพวกที่คอยรอดูว่าวันนี้นายกฯ ใส่เสื้อ 
สีอะไร ใส่สูท ผูกไทสีอะไร เบี้ยวหรือเปล่า คอไม่ตรง กางเกง รองเท้า 
ไม่เนี้ยบ
  ทว่ำสิ่งเหล่ำนี้เป็นกำรสะท้อนถึงควำมเชื่อแบบโบรำณของ 
พล.อ.ประยุทธ์ที่เรียกได้ว่ำไม่ธรรมดำ...

86 วาสนา  นาน่วม
๑๒
นายกฯ เปนคนตลก

“ ที่เหนผมโมโหน่ะ ผม กล้ง จริง   ล้วผม


เปนคนอารม ์ดี ผมเปนคนตลก เปนคนจิตใจ
ดี  ม่ ด้โกรธอะ ร  ค่เสียงดัง ปหน่อยเท่านันเอง


พอ ด้พูดกหาย กดีขน รู้ตัวกควบคุมตัวเอง ด้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กำรเป็ น นำยกรั มนตรี ท หำรที่ มี   “อ� ำ นำจพิ เ ษ” และใช้


“อ�านาจพิเศษ” อย่างมาตรา ๔๔ อ�านาจครอบจักรวาล ส่งผลให้ภาพ 
ลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์  แรงไป ดุดัน และเข้มจนดูน่ากลัว
  ประกอบกับการเป็นนายทหารขี้โมโห อารมณ์เสียง่าย ปรี๊ดง่าย 
จนกระทบต่อภาพลักษณ์ของการเป็นผู้น�านั่นเอง 
  จึงเป็นเหตุผลที่  พล.อ.ประยุทธ์ต้องเพิ่มมุมซอฟต์ของตัวเอง เพื่อ 
สยบและลดดีกรีของการเป็นนายกฯ จอมปรี๊ด ขี้โมโหลง ด้วยกำรปลด 
ปล่อยตัวเอง แสดงตัวตนของกำรเป็นนำยทหำรอำรมณ์ขัน มีมุข 
ตลกออกมา ไม่ใช่การเกกดุให้น่ากลัวน่าเกรงขามอย่างเดียว
  หลั ง เป็ น นายกรั ฐ มนตรี ไ ด้ สั ก ระยะหนึ่ ง ราว ๒-๓ เดื อ น พล.อ. 
ประยุทธ์ก็เริ่มปล่อยมุขตลก แจกรอยยิ้มและสร้างเสียงหัวเราะในหมู่ผู้ 
สื่อข่าวสายท�าเนียบรัฐบาล หลังจากเริ่มคุ้นเคยกับนักข่าวมากขึ้น เพราะ 
ที่ผ่านมาตอนเป็น ผบ.ทบ. ๔ ปีจะคุ้นเคยแต่กับนักข่าวสายทหาร

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 87
88 วาสนา  นาน่วม
  แต่  พล.อ.ประยุทธ์จะเริ่มพลิ้ว มุขตลกมากขึ้น ก็หลังเป็นนายก 
รัฐมนตรีได้สัก ๖ เดือนไปแล้ว เพราะสนิทสนมคุ้นเคยกับสื่อมากขึ้น จึง 
กล้าปล่อยทั้งมุขเครียดและมุขฮา
  ที่เห็นผมโมโหน่ะ ผมแกล้ง จริง แล้วผมเปนคนอำรม ์ดี ผม
เปนคนตลก เปนคนจิตใจดี ไม่ได้โกรธอะไร แค่เสียงดังไปหน่อยเท่ำนันเอง
พอได้พูดก็หำย ก็ดีขึน รู้ตัวก็ควบคุมตัวเองได้  บิ๊กตู่ระบุ
  แต่ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ก็เอาเรื่องอารมณ์ของตัวเองมาเล่นเป็น 
มุขตลก
  ที่เห็นว่ำผมโมโหน่ะ จริง แล้วข้ำงในโมโหยิ่งกว่ำนันอีก แต่มัน
แสดงออกมำมำกไม่ได้  บิ๊กตู่พูดทีเล่นทีจริง
  พอถูกมองว่าเป็นคนตลก จึงถูกน�ำภำพไปตัดต่อล้อเลียนกัน 
มำกขึ้น รำยกำรข่ำวทีวีมักจะตัดค�ำพูดตลก  ของ พล.อ.ประยุทธ์ 
ในแต่ละวันมำออกอำกำ  ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์เริ่มรู้สึกว่าการมีภาพ
ลักษณ์เป็นคนตลกท�าให้คนไม่กลัวเกรง
  ผมไม่ใช่คนตลก แต่ผมเปนคนมีอำรม ์ขัน อำรม ์ดี  บิ๊กตู่เปรย
  ฮือฮาที่สุดก็คือการบอกว่า  ผมเปนคนตลกหน้ำตำย  เพื่อจะชี้แจง 
ค�าพูดของตัวเองที่บอกว่าจะใช้มาตรา ๔๔ ห้ามไม่ให้คนในประเทศใช้ 
ค�าว่า “รากหญ้า” แต่ให้เรียก “ผู้มีรายได้น้อย” แทน เพราะไม่ต้องการ 
ให้ใช้ค�าว่า “รากหญ้า” เป็นเครื่องมือปลุกระดมทางการเมืองกับค�าว่า 
“อ�ามาตย์” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าไม่มีอ�ามาตย์  เพราะอ�ามาตย์หมาย 
ถึงข้าราชการที่พระเจ้าอยู่หัวทรงส่งมาดูแลประชาชนแทนพระองค์
  ท�าให้ถูกตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์จะใช้มาตรา ๔๔ ออกค�าสั่ง 
ยกเลิกค�าว่า “รากหญ้า” กันจริงๆ จน พล.อ.ประยุทธ์ต้องแก้ข่าวว่า  ผม
พูดเล่น ไม่รู้หรือว่ำผมเปนคนตลกหน้ำตำย
  บระ...ใครจะไปรู้ ว่ำตอนไหนตลกจริง  หรือตลกหน้ำตำย...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 89
๑๓
นายกฯ  รุ้ง ริง

“ พล.อ.ประยุ ท ธ์ มั ก จะ สดงออก งการ


เปนนายกฯ ทหารที่ รุ้ง ริง มุ้งมิง หวานชื่น


กับภริยา ด้วยการจูงมือ ปในทุกงาน

แม้ ภ ำพลั ก ษณ์ โ ดยรวมของ พล.อ.ประยุ ท ธ์ จ ะเป็ น หั ว หน้ ำ


คณะรัฐประหาร เป็นภาพของทหารเผด็จการที่มีอ�านาจเบ็ดสร็จ ทั้งการ 
คุมกองทัพได้ทุกกระเบียดนิ้ว และมีอา� นาจมาตรา ๔๔ ซึ่งถูกเปรียบเทียบ 
ให้เป็นเหมือนว่า “บิ๊กตู่” มีอิทธิฤทธิ์  อภินิหาร แถมมีการบริหารอ�านาจ 
ใช้อ�านาจทั้งแบบโหด เข้ม ดุดัน และทั้งแบบสร้างสรรค์
  แต่ อี ก ภาพลั ก ษณ์ ที่ เ ห็ น เด่ น ชั ด ก็ คื อ   การเป็ น นายทหารที่ เ ป็ น 
“แ มิลี่แมน” รักลูกรักเมีย รักครอบครัว โดยมักแสดงออกถึงการให้เกียรติ 
ชื่นชมภริยาเสมอ ทั้งการพาออกงานต่างๆ ในฐานะสตรีหมายเลข ๑ ทั้ง 
ในประเทศและต่างประเทศ 
อีกทั้ง “อาจารย์น้อง” รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี 
ซึ่งเคยเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษอยู่ที่สถาบันภาษา จุ าลงกรณ์ 
มหาวิทยาลัย แต่ลาออกมาตั้งแต่  พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. เพื่อรับ 
หน้าที่นายกสมาคมแม่บ้านทหารบก ดูแลขวัญก�าลังใจและสวัสดิการของ 

90 วาสนา  นาน่วม
ครอบครัวก�าลังพล ก็ได้รับค�าชมในการวางตัวได้ดี  ไม่ค่อยมีข่าวซุบซิบ 
เรื่องหลังบ้านแทรกแซงหน้าบ้านให้ได้ยิน
จะมีบ้างก็ตอน พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีข่าวว่า 
รศ.นราพรจะท�าหน้าที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสามีในด้านต่างๆ รวมถึง 
ด้านการศึกษาในฐานะที่เป็นคุณครู  และเป็นคนที่คอยสะกิดให้  พล.อ. 
ประยุทธ์ยิ้มและอารมณ์ดีเข้าไว้  อีกทั้งท�าหน้าที่เป็นก�าลังใจอันส�าคัญให้ 
ผู้น�าประเทศ
รวมถึงการเป็นคนติวภาษาอังกฤษให้  พล.อ.ประยุทธ์มาตั้งแต่ไหน 
แต่ไรแล้ว ในฐานะที่เป็นคุณครูภาษาอังกฤษที่  พล.อ.ประยุทธ์ไปเรียน 
จึงได้พบรักกันนั่นเอง
นอกจากนี้  รูปร่างลักษณะและรสนิยมในการแต่งตัวของอาจารย์ 
น้องก็ได้รับค�าชม แม้จะสูงชะลูด แต่เมื่อยืนเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 91
ซึ่งสูง ๑๗๗ เซนติเมตรอยู่แล้วจึงดูเหมาะสม 
พล.อ.ประยุทธ์มักจะแสดงออกถึงการเป็นนายกฯ ทหารที่ฟรุ้งฟริ้ง 
มุ้งมิ้ง หวานชื่นกับภริยา ด้วยการจูงมือไปในทุกงาน โดยเ พำะกำร 
“หอมแก้ม” ภริยำเพื่อแสดงควำมรัก รวมถึงการพูดออกสื่อเสมอว่า 
ผมเปนคนรัก รรยำ  และสอนให้ผู้ชายรักเดียวใจเดียว 
  โดยเฉพาะช็อตที่ลือลั่นก็คือ วันที่  พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายก 
รัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.บรรจงหอมแก้มภริยาในงานเลี้ยงอ�าลากองทัพ 
บกคืนวันที่  ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นไปร้องเพลง 
หมู่กับน้องๆ บิ๊กทหารและผองเพื่อนบนเวที  แล้วประกาศว่าจะลงมาหอม 
แก้มภริยา เมื่อลงมาเขาก็หอม ๒ ฟอดทั้งซ้ายและขวากลางเสียงเฮลั่น
  พล.อ.ประยุทธ์รักษาภาพลักษณ์นี้เรื่อยมา เพราะเวลาออกงาน 
คู่กันจะเดินจูงมือกันเสมอ แม้แต่ในต่างประเทศ
  ที่ส�าคัญ พล.อ.ประยุทธ์มักจะใช้โอกาสในทุกเวทีสอนเรื่องการ 
ครองชีวิตคู่ระหว่างชายหญิง
  ผู้ชำยสมัยนีไม่เหมือนสมัยลุงนะ ระวังเขำจะหลอก เพรำะเดียวนี
ผู้ห ิงเก่ง ท�ำงำนหำเงิน บำงทีมำเลียงผู้ชำยด้วย �ำ ผู้ชำยก็ต้องมีเกียรติ
มีศักดิศรี อย่ำไปหลอกผู้ห ิงเขำนะ ้ำไม่รัก ผู้ห ิงก็เหมือนกันควรจะ
เลือกผู้ชำยดี คนที่เลียงเรำได้ด้วยนะ แต่ผู้ห ิงก็ต้องรักนวลสงวนตัว
เปนกุลสตรี  บิ๊กตู่แนะ
  จะเห็นได้ว่าเมื่ออาจารย์น้องขึ้นมาเป็นสตรีหมายเลข ๑ ในฐานะ 
ภริยานายกรัฐมนตรีแล้ว กยังไม่ค่อยออกสื่อหรือให้สัมภำษณ์  นอก 
เหนื อ จำกกำรออกภำพข่ ำ วร่ ว มงำนกั บ นำยกรั มนตรี   และออก 
รายการของ คสช.ในเรื่องการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของโรงเรียน 
ไกลกังวลเท่านั้น
  โดยปกติแล้ว รศ.นราพรจะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ แม้จะมีสื่อหลาย 
รายขอสัมภาษณ์พิเศษ แต่ก็ถูกปฏิเสธทั้งหมด รวมถึงไม่พูดไม่คุยใดๆ 
กับสื่อ โดยจะมีทีม รปภ.และ ทส.หญิงมาคอยเดินกันไม่ให้นักข่าวเข้า 

92 วาสนา  นาน่วม
ใกล้ภริยานายกฯ เพราะเกรงว่าจะถามอะไรที่หากอาจารย์น้องตอบไป 
แล้วจะมีผลต่อ พล.อ.ประยุทธ์ได้
  รศ.นราพรจึงท�าหน้าที่ของนายกสมาคมภริยาคณะรัฐมนตรี โดย 
มักจะน�าภริยาคณะรัฐมนตรีไปท�ากิจกรรมต่างๆ ร่วมกันบ่อยขึ้นในระยะ 
หลังๆ อันถือเป็นการท�าหน้าที่เสริม พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นอย่างดี...
ใครไม่กลัว รรยำบ้ำง เกรงใจด้วย บิ๊กตู่ยอมรับก่อนเล่ามุขตลก 
ยอดนิยมว่า
เมียใช้ ักผ้ำ ผมก็ตวำดกับเลยว่ำแ บอยู่ไหน บิ๊กตู่พูดเอง ข�าเอง
  ก่อนยอมรับว่า เมื่อกลับถึงบ้านจะให้ภริยาใหญ่สุด จะไม่ค่อยพูด
ยิ่งเวลำเขำดุ  ผมก็ต้องเงียบ รรยำผมดุนะ ก็เขำเปนครูนี่
  “ผมบอกรักภรรยำผมทุกวันอยู่แล้ว ผมโรแมนติกนะ” นำยกฯ 
ทหำรเผยมุมหวำนมุ้งมิ้ง...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 93

ลินกับ น คู่กัด “บิ๊กตู่”

“ ั น ม่ เ กลี ย ดเธอ  ม่ ด้ เ กลี ย ดสื่ อ หรอก


ต่ ันเปนคน บบนี ทำายัง ง ด้  ันกพยายาม
ควบคุ ม อารม ์ ตั ว เองนะ  ต่ มั น กทำ า ม่ ด้   ้ า
ันเกลียดเธอ  ันก ม่พูดกับเธอหรอก  ม่ตอบ


คำา ามเธอหรอก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ตอนเป็ น  ผบ.ทบ.   ป พล.อ.ประยุ ท ธ์ ถู ก มองว่ ำ เป็ น นำย


ทหารที่ชอบทะเลาะกับสื่อ ด่าสื่อแทบไม่เว้นแต่ละวัน เพราะเป็นนาย 
ทหารจุดเดือดต�่า ขี้โมโห
  พอมาเป็นนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังคงอารมณ์เสีย ปรี๊ด 
แตกใส่นักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลเสมอๆ
  แต่เพราะรู้ดีว่าตัวเองจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่อีกนาน  แบบที ่
พล.อ.ประยุทธ์ใช้ค�าว่า  เรำยังต้องเจอกันอีกนำน นำนพอสมควรเลยละ
เขาจึงต้องท�าให้สื่อเป็นแนวร่วมสนับสนุนรัฐบาล
อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์นั้นแม้จะบ่นด่าสื่ออยู่ทุกวัน ทว่าเขารู้ดีถึง 
บทบาทและความส�าคัญของสื่อมวลชน โดยเฉพาะนักข่าวภาคสนามตัว 
เล็กๆ ที่ต้องวิ่งท�าข่าวนายกฯ อยู่ทุกวัน และยังต้องไปทุกที่
ผมเข้ำใจพวกเรำดีนะว่ำ ไม่มีอะไรหรอก แต่พวก บ.ก. หรือพวก

94 วาสนา  นาน่วม
ที่นั่งเขียนอยู่ข้ำงในส�ำนักพิมพ์โน่น ที่เขียนไม่เข้ำใจ โจมตีผมตลอด  บิ๊กตู่ 
เปรย
ใครว่ำผมเกลียดสื่อ ไม่มี สื่อเปนมหำมิตรของผม ผมจะอยู่ได้
นำนหรือไม่นำนก็อยู่ที่สื่อ ้ำสื่อเข้ำใจผม เห็น ึงควำมตังใจของผม แล้ว
ไปเขียน ไปอธิบำยให้ประชำชนรับทรำบอย่ำงที่ผมพูด ผมชีแจง  พล.อ. 
ประยุทธ์มาไม้นวม
อย่ำงมำกสื่อก็ยั่วอำรม ์ผม ำมให้ผมโกรธแค่นัน ผมจะพยำยำม
ไม่โกรธนะ จะอดทน  บิ๊กตู่เหน็บ
แต่ในบางครั้ง นายกฯ บิ๊กตู่คนนี้ก็พูดในสิ่งเดียวกัน แต่ในคนละ 
ด้ำนคนละมุมเลย
ชอบ ำมยั่วให้ผมโมโห ำมให้ขัดแย้ง บ้ำนเมืองจะได้ไม่สงบ
จะได้มีข่ำวเยอะ จะได้ขำยข่ำว ใช่มัยล่ะ  บิ๊กตู่ฟาดงวงฟาดงาเมื่อปรี๊ด
แล้วก็ตามเคย เมื่อตบหัวแล้วก็ต้องลูบหลัง  ไม่มีอะไรหรอกนะ
ไม่ได้โกรธ แค่เสียงดังเ ย อำรม ์ดีแล้ว
เมื่อต้องเจอหน้ากันทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์  บางทีก็วันเสาร์-อาทิตย์ 
ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ก็เริ่มคุ้นเคยและรู้จักนักข่าวสายท�าเนียบฯ มากขึ้น
โดยเริ่มจดจ�าใบหน้า จ�าชื่อเล่น และสังกัด  แม้บำงคนนำยกฯ 
จะรู้ชื่อ แต่กชอบตั้งชื่อให้ใหม่ ตั้ง ำยำให้
เช่น นักข่าวสาวเอเอสทีวีผู้จัดการ ที่แม้เจ้าของสื่อจะเป็นคู่ปรับกับ 
พล.อ.ประยุทธ์มานาน แต่ความสัมพันธ์กับนักข่าวภาคสนามก็เป็นไป 
ด้วยดี  จนตั้งชื่อ “ดัช” ด้วยการล้อเลียนว่าเป็น  ดัช ชริต  ในเบื้องแรก 
ที่รู้จัก แต่ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเรียก  ดัช เชอร์รี่
หรือนักข่าวคนไหนตัวอ้วนใหญ่  พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งยังจ�าชื่อไม่ได้ 
ก็จะมองหน้าแล้วเรียกว่า  อรชร
นักข่าวบางคนตัวอ้วนใหญ่มาก นายกฯ บิ๊กตู่ก็เรียกว่า  ไอ้ตัวเล็ก
หรือคนไหนที่หน้าขาว นายกฯ ก็จะเรียกว่า  ยัยหน้ำขำว
หรือคนไหนแต่งตัวสวย แต่งหน้าทาปากแดงมา นายกฯ ก็จะเรียก 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 95
ว่า  ยัยปำกแดง
และมักจะใช้มุขแซวว่า  สวยขึนนะ ไปท�ำอะไรมำ มีแ นล่ะสิ
ต่อมาเมื่อนักข่าวคนเดิมไม่แต่งหน้า นายกฯ ก็แซวว่า  อ้ำว...เปน
อะไร แ นทิงเหรอ
บระ...นำยกฯ แ วไปได้
หรือนักข่าวคนไหนถามค�าถามแบบเรียงประโยคสวยหรูและมอง 
โลกในแง่ดี  นายกฯ ก็จะเรียกว่า  ไอ้โลกสวย
  หรือในระหว่างนายกฯ แถลงข่าว เช่นหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี 
ทุกวันอังคารที่มักใช้เวลานานเป็นชั่วโมง อาจมีนักข่าวบางคนสลึมสลือ 
บิ๊กตู่ก็จะแซวทันใดเลยว่า  หลับ ันพูด เธอหลับนะ
  เมื่อคืนเที่ยวดึกหรือไง  นายกฯ แซว
  หรือบางคนนั่งฟังแล้วท�าปากกาตก หรือสมุดจดข่าวหล่น บิ๊กตู ่
ก็จะแซวว่า  หลับหรือไง
  ส่วนใครที่นั่งฟังแถลงข่าวอยู่แล้วเกิดอาการ “หาว” ขึ้นมาโดยลืม 
เอามือปิดปาก ก็จะโดนบิ๊กตู่แซวทันใดว่า  แต่งงำนหรือยังเนี่ย
  ก่อนจะเล่นมุขแรง  ้ำยังหำวแบบนีอยู่ คงไม่แต่งงำนนะ  นายกฯ 
เตือนให้ระวังกิริยาแบบผู้หญิง ต้องเรียบร้อย สวยงาม เป็นกุลสตรี
  โดยเฉพาะการไหว้ที่บิ๊กตู่บ่นนักข่าวเสมอว่า  ไหว้กันเปนมัยเนี่ย
  ไหว้เหมือนเอำมือทิ่มอะไรก็ไม่รู้  บิ๊กตู่บ่น พร้อมท�าท่าไหว้อย่าง 
สวยงามเป็นตัวอย่าง
  นักข่าวบางคนซึ่งเป็นที่รู้จัก บิ๊กตู่ก็จะเรียกชื่อจริง หรื อ แม้ แ ต่ 
“เจยุ” ยุวดี  ธัญญสิริ  นักข่ำวอำวุโสท�ำเนียบรั บำล เมื่อ พล.อ.ประ 
ยุทธ์ไม่พอใจค�าถามของเจยุ  ก็จะเรียกเจยุว่า “ป้า” แต่ถ้าอารมณ์ดีหรือ 
หายโกรธแล้วก็จะเรียกเจยุว่า “พี่”
  แต่เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ อารมณ์ดี  บิ๊กตู่ก็จะยกมือไหว้และกล่าว 
“ขอโทษ” ด้วยเสมอ พร้อมบอกว่า  เจยุนี่พี่สำวผม  ท�าให้เจยุใจอ่อนไป 
ได้โข เพรำะเจยุเป็นภริยำของ “บิ๊กยักษ์” พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ  อดีต 

96 วาสนา  นาน่วม
ปลัดกระทรวงกลาโหม นายทหารรุ่นพี่ของ พล.อ.ประยุทธ์
  แม้แต่ตัวผู้เขียนเองซึ่งเป็นนักข่าวสายทหารที่มาช่วยเสริมทีมนัก 
ข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลด้วย นายกฯ บิ๊กตู่ก็จะเรียกว่า “ไอ้เล็ก” ไม่ว่า 
เวลาอารมณ์เสียหรืออารมณ์ดี
  ันไม่เกลียดเธอ ไม่ได้เกลียดสื่อหรอก แต่ ันเปนคนแบบนี ท�ำ
ยังไงได้ ันก็พยำยำมควบคุมอำรม ์ตัวเองนะ แต่มันก็ท�ำไม่ได้ ้ำ ัน
เกลียดเธอ ันก็ไม่พูดกับเธอหรอก ไม่ตอบค�ำ ำมเธอหรอก  บิ๊กตู่แจง
  ันคิดเสมอว่ำ นักข่ำวเปนมหำมิตรของ ัน  บิ๊กตู่ออกตัว

  จึงไม่แปลกเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์จะลงมาทาน 
ข้าวกับนักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลหลายครั้ง โดยนายกฯ จะถอดสูทมานั่ง 
กินส้มต�าไก่ย่าง ข้าวเหนียว และกวยเตี๋ยวที่หน้ารังนกกระจอกหรือห้อง 
นักข่าว และใช้โอกาสนี้สร้างความสนิทสนมกับนักข่าวให้มากขึ้น โดย 
เฉพาะกับ “เจยุ” ที่  พล.อ.ประยุทธ์มักปะทะคารมกันในบางครั้ง เมื่อลง 
มาพบปะนักข่าว พล.อ.ประยุทธ์ก็จะเรียกหา “พี่ยุ” และพูดคุยคืนดีกัน

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 97
  ครั้งแรกที่  พล.อ.ประยุทธ์ลงมาทานข้าวเหนียวส้มต�ากับนักข่าว 
สายท�าเนียบฯ เมื่อ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ นั้น นอกจากมาปั้นข้าว 
เหนียวแบบคนอีสานให้ดูแล้ว ยังมายืนร้องเพลง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร.” 
ร่วมกับนักข่าว พร้อมโยกตัวเรียกเสียงเฮฮาอีกด้วย
  แต่เมื่อ “บิ๊กตู่” ลงมาทานข้าวกับนักข่าวทีไร นักข่าวไม่เป็นอันได้ 
ทานอะไรจริงๆ จังๆ เพราะจะต้องคอยจดคอยฟังว่านายกฯ จะพูดอะไร 
บ้าง จึงไม่แปลกที่บนโตะอาหารของบิ๊กตู่จะมีไมโครโฟนของทีวีวิทยุทุก 
ส�านัก รวมถึงเทปบันทึกเสียงวางอยู่ใกล้ๆ ตลอด โดยมีช่างภาพล้อมวง 
กันรอกดชัตเตอร์อิริยาบถแจวๆ ของบิ๊กตู่ตลอดเวลา
  เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็คงกินข้าวแบบไม่อร่อยนัก เพราะถูกรุม 
ถ่ายภาพและกล้องทีวีจับภาพตลอด จะทานไก่ย่างก็ต้องใช้ช้อนส้อม 
จะใช้มือหยิบแล้วใช้ปากกัดก็ไม่เหมาะ จึงท�าให้ไม่ได้อรรถรสในการ 
รับประทาน
  แม้แต่การกินทุเรียน ผลไม้สุดโปรด บิ๊กตู่ก็ต้องใช้ช้อนตักหั่นเข้า 
ปาก ไม่อาจใช้มือยกพูทุเรียนขึ้นมากัดกินได้เช่นปุถุชน
  แถมทั้งกินไป พูดไป เพราะนายกฯ บิ๊กตู่ชวนนักข่าวคุยและเปิด 
ให้ถามทุกเรื่อง ซึ่งนักข่าวก็ถามทุกเรื่องจริงๆ ทั้งเรื่องหนักและเรื่องเบาๆ
  ไม่แค่นั้น เป็นนักข่าวสายท�าเนียบฯ ในยุคนายกฯ บิ๊กตู่จะต้อง 
ท�าการบ้านเยอะๆ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ประเภทชอบถาม 
กลับนักข่าว ทั้งเพื่อลองภูมินักข่าว และเพื่อเปิดช่องให้ตัวเองได้เป็นผู้เฉลย 
ค�าตอบแสดงความเป็นคนมีความรู้ด้วยนั่นเอง ดังนั้น นักข่าวที่ถามค�าถาม 
นายกฯ ต้องพร้อมที่จะตอบค�าถามจากนายกฯ ด้วย
  ที่ส�าคัญก็คือ คนที่ถามต้องรอรับผลพวงเรื่องอารมณ์ที่เกิดจากการ 
ท�าให้นายกรัฐมนตรีอารมณ์เสียในแต่ละค�าถามเองด้วย รวมถึงการต้อง 
คอยเป็นผู้สบตารับฟังเวลานายกฯ “บิ๊กตู่” ตอบค�าถาม ไม่ใช่ว่าถามแล้ว 
ก้มหน้าก้มตาจดข่าว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ในเวลาพูดต้องการให้คนสบตา 
เพื่อแสดงการรับฟัง

98 วาสนา  นาน่วม
  อีกทั้งในขณะที่นายกฯ “บิ๊กตู่” แถลงข่าวหรือให้สัมภาษณ์  นักข่ำว 
คนไหนอย่ำเผลอ ุบ ิบนินทำท่ำนนำยกฯ เลยเชียว เพรำะ พล.อ. 
ประยุทธ์รู้เหนหมดทุกอย่ำง ถึงขั้นโพล่งกลางวงสัมภาษณ์เลยว่า  พวก
เธอนินทำอะไร ัน  หรือบางทีก็  มัวแต่คุย ันพูดเธอไม่ งนะ
  แต่ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังต้องอาศัยนักข่าวเรียกร้อง 
ความเห็นใจจากแม่ยก กองเชียร์อีกด้วย
  เพราะหลายครั้งที่นักข่าวฯ ติดตาม พล.อ.ประยุทธ์ไปตรวจพื้นที ่
พบปะประชาชนหรือ ครม.สัญจร เมื่อเวลานายกฯ “บิ๊กตู่” พบปะชาวบ้าน 
ที่เตรียมป้ายและตะโกนบอกให้นายกฯ อยู่นานๆ ๕ ปี  ๑๐ ปีนั้น
  นายกฯ ก็จะบอกกองเชียร์โดยชี้ไปที่นักข่าวพร้อมกล่าวว่า  พวกนี
เขำไม่อยำกให้ผมอยู่นำน เขำอยำกจะเลือกตังกันแล้ว  เป็นเหตุให้ชาว 
บ้านแม่ยกหันมาต�าหนินักข่าว
  โดยเฉพาะในเวลาที่ไปเดินตลาด นายกฯ ก็จะอ้อนแม่ค้าด้วยมุข 
เดิม ท�ำให้นักข่ำวหวิด วย เพรำะแม่ค้ำไม่พอใจว่ำท�ำไมสื่อชอบ 
วิจำรณ์นำยกฯ หรือไม่อยำกให้นำยกฯ อยู่ต่อ จนนักข่าวเกือบจะออก 
จากตลาดไม่ได้  เพราะแม่ค้าหรือชาวบ้านไม่รู้ว่านั่นเป็นมุขของนายกฯ 
เป็นลูกเล่นที่เอานักข่าวมาเป็นเครื่องมือ จนที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็น 
ฝ่ายเฉลยกับแม่ค้าและชาวบ้านเองว่า  ผมพูดเล่น สื่อพวกนีเขำไม่มีอะไร
หรอก
  ด้วยความเป็นคนมีอารมณ์ขัน บางครั้งการที่  พล.อ.ประยุทธ์หยอก 
ล้อนักข่าวก็ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมบ้าง แรงไปบ้าง เช่น เมื่อนายกฯ ไป 
เดินตลาด หรืองานนิทรรศการต่างๆ เมื่อต้องทานกล้วยที่มีช่างภาพสื่อ 
มวลชนรุมห้อมล้อมถ่ายภาพท�าข่าว นายกฯ ก็โยนเปลือกกล้วยใส่นักข่าว 
เสมือนเป็นการหยอกล้อจนถูกมองว่าไม่เหมาะสม เพราะบางครั้งนายกฯ 
เคยโยนปลากระป๋องหรือมาม่าใส่นักข่าวด้วยซ�้า แต่โชคดีที่รับไว้ได้
  สิ่งหนึ่งที่  พล.อ.ประยุทธ์ชอบคือ เวลาไปเดินงาน นิทรรศการ หรือ 
ดูงานใดๆ ชอบให้มีนักข่ำวเดินตำมเพื่อที่จะ งในสิ่งที่เขำพูดหรือ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 99
เสนอไอเดีย แต่ส่วนใหญ่ทีม รปภ.มักจะกันนักข่าวออกมาไกลตัวนายกฯ 
จนท� า ให้ น ายกฯ ไม่ ส บอารมณ์ ก็มี   และมี บางครั้ ง ที่ น ายกฯ ก็ เ รี ย กหา 
นักข่าวเมื่อต้องการให้เป็นข่าว
  เช่นเดียวกับเวลาไปต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เชิญนักข่าว 
ร่วมคณะ แต่จะมีแค่สื่อมวลชนในวงราชการ เช่น สถานีวิทยุกรมประชา 
สัมพันธ์, ส�านักข่าวไทย อสมท. และทีวีพูลที่เวียนกันไประหว่างช่อง ๕, 
๗, ๙ และ ๑๑ ไม่มีการให้นักข่าวหนังสือพิมพ์ไปด้วยแต่อย่างใด
  ส่วนเวลาไปต่างจังหวัดนั้น นำยกฯ บิ๊กตู่กต้องมองหำนักข่ำว 
สำยท�ำเนียบฯ ที่ตำมไปจำกกรุงเทพฯ เพราะคุ้นเคยกว่านักข่าวใน 
พื้นที่ของแต่ละจังหวัด
  บ่อยครั้งที่นายกฯ บิ๊กตู่เล่นมุขตลกกับนักข่าว โดยให้สัมภาษณ์ 
ไปก็เอามือตบเทปบ้าง ยึดเทปมาถือเองบ้าง หรือถือไมโครโฟนเองบ้าง 
หรือลูบหัวผู้ช่วยช่างภาพที่ถือไมโครโฟนล้อมวงสัมภาษณ์อยู่บ้าง เพราะ 
บางครั้งสื่อต้องนั่งคุกเข่าที่พื้นเพื่อไม่ให้บังกล้องทีวีด้านหลัง ระดับหัวจึง 
อยู่ระดับมือนายกฯ พอดี
  ยิ่งยุคนี้เป็นยุคทีวีดิจิตอล จึงท�าให้นักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาลมีเป็น 
ร้อยคน ทั้งทีวี  วิทยุ  หนังสือพิมพ์  และส�านักข่าว เนื่องจากเป็นสายงาน 
ส�าคัญและมีงานเยอะ  สื่อแต่ละฉบับจะส่งนักข่าวมาประจ�าท�าเนียบ 
รัฐบาลอย่างน้อย ๒ คน บางฉบับนักข่าวสายเศรษฐกิจมานั่งประจ�าเพิ่ม 
ต่างหาก ส่วนทีมโทรทัศน์จะมีอย่างน้อย ๒ ทีม ๖ คน ได้แก่  นักข่าว 
ช่างภาพ และผู้ช่วยช่างภาพที่ท�าหน้าที่เป็นพลขับด้วย
  ดังนั้น นักข่ำวสำยท�ำเนียบรั บำลที่ติดตำมท�ำข่ำว พล.อ. 
ประยุทธ์อยู่ทุกวันและทุกที่  ไม่ว่ำในท�ำเนียบฯ ในกรุงเทพฯ หรือ 
ต่ำงจังหวัด จึงเป็นคนอีกกลุ่มที่รู้จักผู้น�ำประเท อย่ำง พล.อ.ประ 
ยุทธ์ดีที่สุดเลยทีเดียว...

100 วาสนา  นาน่วม

ของโปรดนายกฯ

“ นอกจากอาหารโปรด ล้ว ยังมีภาพยนตร์
เรื่องโปรดของนายกฯ บิ๊กตู่ด้วย  เพราะ ม้จะ
ดู ยุ่ ง วุ่ น วาย งานเยอะทุ ก วั น   ม่ มี เ วลา ทบจะ
พักผ่อน  ต่ พล.อ.ประยุทธ์ก บ่งเวลาเพื่อผ่อน


คลายตัวเอง

คงมีคนอยำกรู้ว่ำเป็นนำยกรั มนตรีที่มีอ�ำนำจล้น ำเพรำะ


เป็นหัวหน้า คสช.ที่มีมาตรา ๔๔ อยู่ในมือแบบนี้   “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ 
ชอบทานอะไร
  ผมเปนคนอยู่ง่ำยกินง่ำย ทำนอะไรก็ได้  นายกฯ ให้ค�านิยาม 
ตัวเองตามสไตล์คนเป็นทหาร จะเลือกที่อยู่ที่กินคงไม่ได้
  จะเห็นได้ว่าเวลานายกฯ บิ๊กตู่ไปเดิน  ตลำดนำยกฯ  ข้างคลอง 
ผดุงกรุงเกษม ท�าเนียบรัฐบาล หรือไปเปิดงานต่างๆ ก็มักแวะชิมทุกร้าน
  เขำอุตส่ำห์มำ แล้วเตรียมให้ผม ผมก็ชิมไปทุกร้ำน จนท้องไม่
ค่อยดี แต่ก็อยำกให้พวกพ่อค้ำแม่ค้ำดีใจ  นายกฯ แจง
  บ่อยครั้งที่วันรุ่งขึ้น นายกฯ จะบ่นว่าท้องไม่ดี  ส่งผลให้ทีม รปภ. 
นายกฯ มาแจ้งร้านค้าต่างๆ ว่าไม่ต้องเตรียมอาหารให้นายกฯ ชิมหรือ 
รับประทานอีกแล้ว
  ทั้งนี้  นอกจากด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพแล้ว ยังหวั่นเกรงว่ำอำจ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 101
มีผู้ไม่หวังดีเจือปนสิ่งไม่ดีหรือยำพิษมำในน�้ำหรืออำหำร น�ามาให้ 
พล.อ.ประยุทธ์รับประทานก็เป็นได้
  ผมชิมทุกร้ำน นี่ ้ำมีใครใส่อะไรมำให้ผมกิน ผมก็คงจะไม่รอด
นายกฯ เคยเปรยหลายครั้ง
  ท�าให้บางครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องหลีกเลี่ยงการชิมอาหารตามร้าน 
ต่างๆ ที่น�ามาออกบูธ แม้แต่น�้าดื่ม น�้าผลไม้  กาแฟ ที่ร้านค้าน�ามาให้ชิม 
แก้กระหาย ซึ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากให้เสียน�้าใจก็เลยท�าท่าดูดเฉยๆ 
แล้วยื่นให้ทีม รปภ.
  ยกเว้นผลไม้ที่นายกฯ จะทานได้อย่างสบายใจ โดยเฉพาะกล้วย 
หอมซึ่งเป็นผลไม้ที่นายกฯ ถูกขอให้ทดลองชิม หรือบางครั้งก็ทานเองมาก 
ที่สุด และเป็นผลไม้ที่นายกฯ ชื่นชอบ 
  ไม่ว่ำจะกล้วยหอม หรือกล้วยน�ำว้ำ ก็มีประโยชน์ทังนัน  บิ๊กตู่ 
กล่าว

102 วาสนา  นาน่วม
  แต่ผลไม้ท่ี  “บิ๊กตู่” ชอบมากที่สุดกไม่แตกต่ำงจำกคนไทยส่วน 
ใหญ่นั่นคือ “ทุเรียน”
  ผมชอบมำกเลย ทุเรียน อยำกทำนเยอะ แต่ทำนมำก ก็ไม่ด ี
มันร้อน เขำเลยให้ทำนมังคุดแก้  บิ๊กตู่บอก
  แต่ถ้าเป็นอาหารและให้เลือกได้ก็ขอเป็นอาหารที่รสไม่จัดมาก 
ไม่เผ็ดจนเกินไป เพราะไม่อยากปวดท้อง
  ของโปรดก็คือ “กวยเตี๋ยวเนื้อ” เพรำะบิ๊ ก ตู ่ เ ป็ น คนชอบทำน 
เนื้อมำก เช่นเดียวกับ “บิ๊กปอม” พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่  โดยรู้กันดีว่า 
กวยเตี๋ยวเนื้อร้านอร่อยที่ทั้ง ป.ประวิตร ป.ประยุทธ์  ชอบสั่งไปทาน คือ 
กวยเตี๋ยวเนื้อไร้เทียมทาน ซึ่งเมื่อก่อนเปิดร้านอยู่แถวสะพานเหลือง แต่ 
ต่อมามีการแยกวงกันมาตั้งขายที่ราชวัตรจนเป็นร้านเจ้าประจ�า
  แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ข้าวเหนียวส้มต�าที่บิ๊กตู่มักจะน�ามาเป็นเหตุผล 
ประกอบ เมื่อบอกว่า  ผมก็เปนลูกอีสำน
  เพราะคุณแม่คือ คุณครูเข็มเพ็ชร มารดาผู้ล่วงลับไปหลายปีแล้ว 
นั้นเกิดที่จังหวัดชัยภูมิ
  ส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์เองนั้น เกิดในค่ายสุรนารี  จังหวัดนครราช 
สีมา เนื่องจาก พ.อ.ประพัฒน์ผู้เป็นบิดารับราชการที่กองทัพภาค ๒
  “บิ๊กตู่” จึงคุยว่าตนเองจกข้าวเหนียวปั้นข้าวเหนียวแบบคนอีสาน 
คือใช้แค่  ๓ นิ้ว แล้วเมื่อจับข้าวเหนียวร้อนๆ ก็เอามือจับติ่งหูเพื่อให้หาย 
ร้อน
  นอกจากอาหารโปรดแล้ว ยังมีภาพยนตร์เรื่องโปรดของนายกฯ
บิ๊กตู่ด้วย เพราะแม้จะดูยุ่งวุ่นวาย งานเยอะทุกวัน ไม่มีเวลาแทบจะ 
พักผ่อน แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็แบ่งเวลาเพื่อผ่อนคลายตัวเอง พร้อมๆ กับ 
การได้ความรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยการดูภาพยนตร์ช่อง HB  และละครซีรีส์
  พล.อ.ประยุ ท ธ์ เ คยเปิ ด เผยและน� า มาแนะน� า ให้ นั ก ข่ า วดู   เช่ น 
ame of Thrones, ลินคอล์น และ Blue Bloods

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 103
  โดยเ พำะ ีรีส์อเมริกัน     พล.อ.ประยุทธ์เอำมำ 
แนะน�ำให้  ผบ.ตร.และต�ำรวจไทยดู  หลังจำกเกิดเหตุวำงระเบิดที่ 
สี่แยกรำชประสงค์เมื่อวันที่  ๑๗ สิงหำคม พ. .  เพรำะเหนว่ำ 
ท�ำให้ได้มุมมองเรื่องแนวทำงกำรสืบสวนสอบสวนที่รอบด้ำน...

104 วาสนา  นาน่วม
“ การรั ประหารเสียของในครังก่อน
ทำ า ให้   พล.อ.ประยุ ท ธ์ นำ า มาเปนบทเรี ย น
ทังใน ง่กลยุทธ์  การยดอำานาจ  ละการ


บริหารราชการ ผ่นดิน
ภาค ๒
ตำาราปฏิวัติ

บทเรียนนักปฏิวัติรุ่นพี่

“ ตลอดเวลากว่ า  ๑ ปของการเปนนายก
รั มนตรีที่ดุดัน เดดขาด  ละคิดนอกกรอบ เขา
ี ก ทุ ก ก ข้ อ ห้ า มเดิ ม  ด้ ว ยการวาง ผน ละ


เขียน ผนต่าง  ด้วยตัวเองทังสิน

ด้วยควำมที่เป็นคนชอบอ่ำนหนังสือและชอบ ึกษำประวัติ
ศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก และได้ชื่อว่าเป็นหนอนหนังสือเรื่อยมาจนเรียนเตรียม 
ทหารและนายร้อย จปร. ไม่ว่าจะไปเที่ยวกลับมาดึกแค่ไหนก็จะต้องอ่าน 
หนังสือก่อนนอนเสมอ กระทั่งมาเป็นนายทหารนั่นเอง ท�าให้  พล.อ.ประ 
ยุทธ์  จันทร์โอชาใช้บทเรียนในอดีตจากการรัฐประหารที่เกิดขึ้นมาวางแผน 
และตัดสินใจท�ารัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ได้อย่าง 
ลงตัว
  โดยเฉพาะการรัฐประหารในนาม “คณะมนตรีควำมมั่นคงแห่ง
ชำติ” หรือ คมช. เมื่อวันที่  ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ ภายใต้การน�าของ 
นายทหารรุ่นพี่เตรียมทหารรุ่น ๖ อย่าง “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน 
อันถือเป็นบทเรียนใหม่หมาดเพราะผ่านมาแค่  ๘ ปีเท่านั้น
  ท�าให้การรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์เมื่อ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. 
๒๕๕๗ ถูกมองว่าเป็นภาค ๒ หรือ “ภาคต่อ” ของการรัฐประหารของ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 109
คมช.เพื่อแก้ไขในสิ่งที่เรียกว่า “เสียของ”
  ผมเปนคนที่ชอบอ่ำนหนังสือ และอ่ำนเร็วด้วย อ่ำนหมด ไม่ว่ำจะ
หนังสืออะไร แม้แต่เวลำเข้ำห้องน�ำก็ยังต้องหำอะไรติดมือไปอ่ำน โบรชัวร์
อะไรก็อ่ำนหมด  พล.อ.ประยุทธ์เผย

  เหตุเพราะรัฐประหารครั้งนี้ก่อการโดยสายอ�านาจเดิม เพราะครั้ง 
ก่อนรัฐประหารล้มรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร พอมาครั้งนี้ก็ล้มรัฐบาล 
ของนางสาวยิง่ ลักษณ์  ชินวัตร ทว่าเปลีย่ นตัวละครจาก พล.อ.สนธิ  บุญย- 
รัตกลิน ผบ.ทบ.ในเวลานั้น มาเป็น พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผบ.ทบ. 
ที่ตัดสินใจก่อการในเวลาแค่  ๔ เดือนก่อนจะเกษียณราชการทั้งๆ ที่เป็น 
ผบ.ทบ.มาถึง ๔ ปี

110 วาสนา  นาน่วม
  ครังนีต้องไม่ท�ำแบบที่เขำเรียกว่ำ เสียของ ใช่ไหม  พล.อ.ประ 
ยุทธ์เปรย
  แต่เขายืนยันว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ 
ไม่ใช่การรัฐประหาร เนื่องจำกในเวลำนั้นรั บำลไม่สำมำรถบริหำร
รำชกำรแผ่นดินได้  อีกทั้งมีข้อโต้แย้งเรื่องสถานภาพของนายกรัฐมนตรี 
และคณะรัฐมนตรี  รวมทั้งอ�านาจตามกฎหมายต่างๆ หลังจากนายกรัฐ 
มนตรีและคณะรัฐมนตรีถูกตัดสินว่ามีความผิดในหลายกระทงความ โดย 
เฉพาะการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีพ้นจากเก้าอี้เลขาธิการสภาความ 
มั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) เป็นตัวชี้ขาด
  ผมไม่ได้ป ิวัติรั ประหำรใครนะ แต่ผมเข้ำควบคุมอ�ำนำจในกำร
บริหำรรำชกำรแผ่นดินเท่ำนัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้ำได้ งบประมำ
เบิกจ่ำยได้ แก้ป หำโครงกำรจ�ำน�ำข้ำวให้ชำวนำ และน�ำควำมสงบสุข
กลับมำ  พล.อ.ประยุทธ์ให้ค�านิยาม
  การรัฐประหารเสียของในครั้งก่อน ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์น�ามาเป็น 
บทเรียนในการรัฐประหารครั้งนี้  ทั้งในแง่กลยุทธ์  การยึดอ�านาจ และการ 
บริหารราชการแผ่นดิน
  ทั้งการวางแผนยึดอ�านาจและจัดการกับพวกต่อต้านรัฐประหาร 
รวมถึงการนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลทหาร ซึ่งคณะรัฐประ 
หารนั่งเป็นรัฐมนตรีเองโดยไม่ก�าหนดกรอบเวลาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง 
เมื่อใด เพราะมีบทเรียนมาแล้วจากรัฐบาลของ “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.สุรยุทธ์ 
จุลานนท์  ที่ พล.อ.สนธิไม่กล้ำเป็นนำยกรั มนตรีเองเพรำะกลัวจะถูก
กล่ำวหำว่ำอยำกได้อ�ำนำจ อยากเป็นนายกฯ จึงเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์มา 
เป็นนายกรัฐมนตรี  เพราะเป็นนายทหารรุ่นพี่เตรียมทหารรุ่น ๑ เป็นนาย 
ทหารรบพิเศษด้วยกัน และเคยเป็นผู้บังคับบัญชา ที่ส�าคัญคือมีส่วนร่วม 
ในการวางแผนรัฐประหาร
  พล.อ.ประยุทธ์ท่องค�าว่า  อย่ำไปกลัว  ตลอดเวลาที่ตัดสินใจว่า 
จะก่อรัฐประหารเพื่อปลดล็อกตัวเองออกจากกรอบคิดแบบเดิมๆ ของการ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 111
รัฐประหาร
  ้ำกลัว ผมคงไม่มำยืนอยู่ตรงนี  พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเมื่อมาเป็น 
นายกรัฐมนตรีแล้ว
   ซึ่งก็ได้เห็นกันแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างที่เขาได้ประกาศไว้ 
จริงๆ เพราะตลอดเวลากว่า ๑ ปีของการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดุดัน เด็ด 
ขาด และคิดนอกกรอบ เขาฉีกทุกกฎข้อห้ามเดิมๆ ด้วยการวางแผนและ 
เขียนแผนต่างๆ ด้วยตัวเองทั้งสิ้น
  ขอให้เชื่อหัวผมเ อะ ผมวำงแผนเองทังหมด คนเปนทหำร เวลำ
จะท�ำอะไรต้องคิดให้สุด คิดให้จบ ไม่ใช่คิดแค่วันนี พรุ่งนี แต่คิดมำตังแต่
ก่อน ๒๒ พ ษ ำคมอีกว่ำ วันนีจะต้องท�ำอะไรบ้ำง เพื่อแก้ป หำชำติ
บ้ำนเมือง
  พล.อ.ประยุทธ์เผย...

112 วาสนา  นาน่วม

ลับ ลวง พราง ตัวพ่อ

“ การรั ประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ครังนี
ต้อง ือว่า  ลับ ลวง พราง  วาง ผนมา ด้ ม่เลว


เลยทีเดียวจริง
พล.อ.ธรรมรัก ์ อิ รางกูร   อยุธยา

ในด้ ำ นกลยุ ท ธ์ ก ำรเข้ ำ ยึ ด อ� ำ นำจนั้ น  “บิ๊ ก บั ง ” พล.อ.สนธิ


บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และหัวหน้า คมช.ได้ใช้กลยุทธ์  “ลับ ลวง พราง” 
ท�าให้  “ทักษิณ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นไม่แน่ใจว่าเขาจะกล้า 
รัฐประหารหรือไม่  เนื่องจาก พล.อ.สนธิเป็นคนที่เขาสนับสนุนให้เป็น 
ผบ.ทบ. เรียกได้ว่าเป็น ผบ.ทบ.ที่เป็นมุสลิมคนแรก เพื่อหวังผลในเรื่อง 
การแก้ปัญหาความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้  จึงเชื่อว่า พล.อ. 
สนธิไม่น่าจะก่อรัฐประหาร แม้บุคคลเบื้องหลังการรัฐประหารคนส�าคัญ 
ต่างๆ ต้องการให้ท�าก็ตาม
  ถึงขั้นที่  พล.อ.สนธิเคยเปิดเผยว่า “ทักษิณ” เคยถามว่า  จะมี
ป ิวัติหรือ  ซึ่ง พล.อ.สนธิได้แต่ยิ้มๆ ก่อนจะลับ ลวง พรางว่า  ครับ  
ให้ดูเหมือนทีเล่นทีจริง
  หากย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นหลายปี  “ทักษิณ” ก็เคยถามค�าถาม 
เดียวกันนี้กับ พล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนท์  ซึ่งในเวลานั้นเป็น ผบ.ทบ.ด้วยการ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 113
โทรศัพท์ไปหากลางดึก หลังจากมีการน�าก�าลังทหารหลายหมื่นคนไปฝึก 
แผนป้องกันประเทศที่ชายแดนภาคเหนือ โดยหน้าฉากคือการยกก�าลังไป 
ตีกองก�าลังว้าแดงซึ่งผลิตยาบ้าที่ชายแดน เรียกกันว่า “แผนสุรสีห์  ๑๔๓” 
แล้วร�่ำลือกันว่ำขำน�ำก�ำลังกลับจะก่อกำรรั ประหำร
  พล.อ.สุรยุทธ์ไม่เคยยอมเปิดเผยว่าได้ตอบ “ทักษิณ” ในเวลานั้น 
ว่าอย่างไร แต่มีรายงานว่าเขาปฏิเสธ และชี้แจงว่าเป็นแค่แผนการฝึก 
เท่านั้น
  อีกทั้ง “ทักษิณ” ก็มั่นใจในขุนพลที่วางตัวไว้ป้องกันการรัฐประหาร 
ทั้ง “บิ๊กแอด” พล.อ.ธรรมรักษ์  อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการ 
กระทรวงกลาโหม โดยมี  “บิ๊กโอ” พล.อ.พฤณ ์  สุวรรณทัต เพื่อนรัก 
เตรียมทหารรุ่น ๑๐ ในเวลานั้นเป็นผู้บัญชาการกองพลที่  ๑ รักษาพระ 
องค์  (ผบ.พล.๑ รอ.) ซึ่งถือเป็นหน่วยคุมก�าลังปฏิวัติส�าคัญของกองทัพ 
ภาค ๑ และกองทัพบก
  รวมถึงพลาดที่ไว้วางใจ “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา แม่ทัพ 
ภาค ๑ ในเวลานั้น เพรำะเหนว่ำเป็นเพื่อนเตรียมทหำรรุ่น ๑๐ เช่นกัน
ทั้งๆ ที่  พล.อ.อนุพงษ์ได้ส่งสัญญาณแล้วว่า  ต้องเลือกท�ำเพื่อชำติและ
แผ่นดินมำก่อนค�ำว่ำเพื่อน  ก่อนจะรัฐประหารพักใหญ่แล้วก็ตาม
  ที่ส�าคัญ พล.อ.อนุพงษ์นั้น ทั้งๆ ที่เติบโตมาจากกองพลทหารราบ 
ที่  ๒ รักษาพระองค์  (พล.ร.๒ รอ.) หรือที่เรียกกันว่า “บูรพาพยัค ์” จาก 
ผบ.พล.ร.๒ รอ. มาเป็นรองแม่ทัพภาค ๑ แล้ว “ทักษิณ” ก็ตั้งเป็นแม่ 
ทัพภาค ๑ ด้วยเห็นว่าเป็นเพื่อน แม้จะไม่ใช่กวนที่สนิทสนม แต่  พล.อ. 
อนุพงษ์ก็มาคุมหัวใจ ผบ.หน่วยคุมก�าลังปฏิวัติในกองทัพภาค ๑ เวลา 
นั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวงศ์เทวัญที่เติบโตมาจากกองพลที่  ๑ รักษาพระองค์ 
(พล.๑ รอ.) แบบที่ไม่มีใครปริปากแพร่งพรายความลับในการรัฐประหาร 
ให้  พล.อ.พฤณ ์รับรู้ก่อนเลย โดยเฉพาะในวันก่อการซึ่ง พล.อ.พฤณ  ์
โทร.หา ผบ.หน่วยคนไหนต่างก็ไม่รับสาย ตรงกันข้ามกลับถูกก�าลังทหาร 

114 วาสนา  นาน่วม
บูรพาพยัค ์มือขวาของ พล.อ.อนุพงษ์ในเวลานั้นเข้าควบคุมตัวและจ�ากัด 
บริเวณไว้ที่  พล.๑ รอ. เพื่อป้องกันการต่อต้านรัฐประหาร
  เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีความพยายามตั้งกองบัญชาการต่อต้านรัฐ 
ประหารขึ้นที่กองบัญชาการกองทัพไทย เขตแจ้งวัฒนะ ภำยใต้กำรน�ำ
ของ “บิ๊กตอย” พล.อ.เรืองโรจน์  มหำ รำนนท์  ผู้บัญชาการทหาร 
สูงสุดในเวลานั้น ที่เรียกระดมบิ๊กทหารและเช็กก�าลังว่าใครอยู่ฝังรัฐบาล 
บ้าง จนกลายเป็นที่รวมพลของรัฐมนตรีในรัฐบาล ถึงขั้นเตรียมออกค�าสั่ง 
ปลด พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในเวลานั้น
  แต่ในที่สุดก็ถูกก�าลังทหารฝ่ายรัฐประหารส่งก�าลังทหารเข้าปิด 
ล้อมเอาไว้  ในที่สุด พล.อ.เรืองโรจน์ก็เปลี่ยนใจไม่ต่อต้านรัฐประหาร 
โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียในหมู่ทหาร จึงรีบตามไป 
ร่วมเข้าเฝ้าฯ กับคณะ ผบ.เหล่าทัพที่น�าโดย พล.อ.สนธิ  แต่ทว่า พล.อ. 
เรืองโรจน์ไปช้าและถูกกักตัวไว้ด้านนอก
  บทเรียนจากการรัฐประหารรุ่นพี่ครั้งนั้น ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ใน 
ฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) ผู้น�าการรัฐประหาร 
รุ่นน้องเตรียมทหารรุ่น ๑๒ ต้องวางแผนป้องกันการต่อต้านรัฐประหาร 
ทว่าไม่ใช่จากทหารด้วยกันเอง เพรำะ พล.อ.ประยุทธ์มนั่ ใจในก�ำลังรบ
ขุมก�ำลังป ิวัติทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ โดยมี  “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาค- 
วานิช น้องรักในสายบูรพาพยัค ์  เป็นแม่ทัพภาค ๑ คุมก�าลังในเวลานั้น
  แต่การต่อต้านที่แท้จริงมาจากคนเสื้อแดง มวลชนของรัฐบาลพรรค 
เพื่อไทย ที่ประกาศหึ่มๆ มาตลอดว่าพร้อมที่จะออกมาต่อต้านรัฐประหาร 
ทันที  รวมทั้งสอนวิธีการใช้ขวดใส่น�้ามันท�าระเบิดเพลิงเพื่อหยอดในรถถัง 
รถเกราะถ้าหากทหารน�าออกมายึดอ�านาจ
  น�ามาซึ่งแผนการรัฐประหารที่เริ่มด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึก 
ก่อนเพื่อให้ทหารมีกฎหมายรองรับในเรื่องการใช้อ�านาจดูแลความสงบ 
โดยไม่ได้หารือฝ่ายรัฐบาล เพรำะในเวลำนั้นไม่มีสถำนภำพของรั บำล
แล้ว

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 115
  รั บำลอยู่ไหนล่ะ  พล.อ.ประยุทธ์ตอบค�าถามในวันที่น�า ผบ. 
เหล่าทัพแถลงชี้แจงการประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเช้าวันที่  ๒๐ พฤษ- 
ภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต จากค�าถามว่า 
ได้ปรึกษากับรัฐบาลก่อนหรือไม่
  ก่อนจะเชิญตัวแกนน�าทุกกลุ่มมาร่วมประชุมเพื่อหาทางออกอัน 
เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่สโมสรทหารบกแห่งนี้  ในวันที่  ๒๑ พฤษภาคม 
พ.ศ.๒๕๕๗ 

  เชื่อกันว่าในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้มีแผนเตรียมพร้อมที่จะ 
รัฐประหารไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะรู้ว่าแต่ละกลุ่มคงไม่สามารถตกลง 
กันได้  ท�าให้ที่จอดรถชั้นใต้ดินของสโมสร ทบ.และในกรมทหารราบที่  ๑ 
มหาดเล็กรักษาพระองค์  (ร.๑ รอ.) ที่อยู่รั้วติดกันเตมไปด้วยก�ำลังทหำร
เตรียมพร้อมอยู่เตมกรมพร้อมรถถ่ายทอดสดหลายคัน

116 วาสนา  นาน่วม
  เย็นวันเจรจาวันแรก พล.อ.ประยุทธ์ให้การบ้าน ๕ ข้อแก่แกนน�า 
ทุกกลุ่มกลับไปขบคิด แล้วนัดให้มาหารือกันอีกครั้งในวันที่  ๒๒ พฤษ- 
ภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ อันเป็นวันที่ไม่มีใครคาดคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะ 
ก่อการรัฐประหารและจับกุมแกนน�ากลุ่มต่างๆ ที่เป็นคู่ขัดแย้งทั้งหมด 
โดยเฉพาะฝ่ ายแกนน�าคนเสื้อแดง นปช.เพื่อป้องกันการไปน�าต่อต้าน 
รัฐประหาร พร้อมๆ กับน�าก�าลังทหารไปจับกุมแกนน�าม็อบซึ่งชุมนุมกัน 
อยู่ที่ถนนอักษะ พุทธมณ ล ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งทหารก็พามวลชน กปปส. 
กลับบ้าน ส่วนแกนน�าคู่ขัดแย้งต่างๆ ถูกน�าตัวไปคุมขังเพื่อปรับทัศนคติ 
ในค่ายทหารทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
  จนเกิดค�าถามภายหลังว่าหากในวันนั้นแกนน�ากลุ่มต่างๆ โดย 
เฉพาะกลุ่ม นปช.และ กปปส.สามารถตกลงกันได้จะเกิดการรัฐประหาร 
หรือไม่  ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์คงจะมีแผน ๑ แผน ๒ ส�ารองไว้แล้ว แต่หาก 
ประเมินสถานการณ์แล้วว่าตกลงกันไม่ได้  โดยเฉพาะเรื่อง “ป ิรูปก่อน
เลือกตั้ง” หรือ “เลือกตั้งแล้วค่อยป ิรูป”
  ยังไงก็ต้องจบลงด้วยการรัฐประหารนั่นเอง เมื่อฝ่ ายรัฐบาลยืน 
กรานที่ จ ะไม่ ล าออก ส่ ว น นปช.ก็ ต ้ อ งการเลื อ กตั้ ง ก่ อ นปฏิ รู ป  ขณะที่ 
กปปส.ยืนกรานให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง น�ามาสู่รัฐบาลทหารที่ยึดการปฏิรูป 
ก่อนเลือกตั้งเช่นกัน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ลั่นวาจา  ผมขอรับผิดชอบ
แต่เพียงผู้เดียว  และ  นับจำกนำทีนีผมขอยึดอ�ำนำจ
  เหล่านี้จึงถือเป็นแผนการอันแยบยลและ “ลับ ลวง พราง” แบบที ่
เรียกว่า “ตัวพ่อ” เลยทีเดียว...
  ถึงขั้นที่  “บิ๊กแอด” พล.อ.ธรรมรักษ์  อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลทักษิณต้องเอ่ยปากชมว่า กำร
วำงแผนยึดอ�ำนำจของ พล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้ท�ำได้ไม่เลว
  แตกต่างจากสมัยที่  “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน ก่อการรัฐ 
ประหารเมื่อวันที่  ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ อย่างมาก เพราะตอนนั้น 
พล.อ.ธรรมรักษ์ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขณะนั้นก็รู้แผน 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 117
การรัฐประหาร
  บังธิเขำมำเชิ ให้ผมร่วมค ะป ิวัติด้วย แต่ผมบอกว่ำไม่เอำ
เพรำะผมเปน ำยรั บำล ผมยังเตือนเขำว่ำ จะท�ำจริงหรือ เขำบอกว่ำ
ท�ำจริง  พล.อ.ธรรมรักษ์เล่า 
  พล.อ.ธรรมรักษ์สนิทสนมกับ พล.อ.สนธิมาก่อนอยู่แล้ว เรียกได้ 
ว่าเป็นครูด้านการข่าวของ พล.อ.สนธิด้วยซ�้า และเป็นเจ้าของกลยุทธ์ 
“ลับ ลวง พราง” ในทางทหาร
  แม้เขาจะไปเตือน “ทักษิณ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีในเวลานั้น 
แล้ว  แต่  “ทักษิณ” กลับไม่เชื่อ เพราะคิดว่า พล.อ.สนธิไม่กล้ารัฐประหาร 
แน่นอน จนในที่สุดก็ตั้งรับไม่ทัน
  ผมเตือนนำยกฯ ทักษิ แล้วไม่เชื่อ แต่ผมไม่คิดจะต่อต้ำนอะไร
ตอนนัน เพรำะผมเปนทหำร ผมยึดหลักไม่ขำยพี่ขำยน้อง ในเมื่อบังธิมำ
บอกกับผม ึงขนำดนีแล้ว ก็ให้เปนเรื่องกำรตัดสินใจของเขำ ผมก็อยู่เ ย
ผมไม่ได้ร่วมกับเขำแค่นัน  พล.อ.ธรรมรักษ์เล่า
  ครำวนันส�ำหรับเขำแล้ว ไม่ ือว่ำ ลับ ลวง พรำง แต่กำรรั ประ
หำรของ พล.อ.ประยุทธ์ครังนีต้อง ือว่ำ ลับ ลวง พรำง วำงแผนมำได้
ไม่เลวเลยทีเดียวจริง
  บิ๊กทหำรระดับเจ้ำของต�ำนำน “มือข่ำวชั้นยอดของกองทัพ”
ในยุคนี้ระบุ...

118 วาสนา  นาน่วม


ละ “ลีกวนยู” เมือง ทย

“ มีการพูดกันว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ก้ ข
ปญหาของประเท ละปฏิรูปประเท สำาเรจ เขา
กอาจเปนเสมือน  ลีกวนยู ห่งเมือง ทย  กว่า
ด้  ต่นั่นหมาย งเขาจะต้องมีเวลานานหลายป


ในการทำางานต่อเนื่อง

จำกสถำนภำพของผู้บัญชำกำรทหำรบก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชาได้ก้าวสู่การเป็น “หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ” หรือ 
หัวหน้า คสช. ซึ่งบรรดาบิ๊กๆ ทหารที่เป็น คสช.ต่างเรียกขาน พล.อ.ประ 
ยุทธ์ว่า “ท่านหัวหน้า” หาได้เรียก ผบ.ทบ. อีกแล้วในเวลานั้น
  หัวหน้ำ คสช.ให ่กว่ำ ผบ.ทบ. เพรำะ ือเปนผู้ควบคุมอ�ำนำจใน
กำรบริหำรประเทศ  บิ๊กตู่ระบุ
  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็ถูกเรียกว่าท่านหัวหน้าอยู่ราว ๓ เดือนเท่านั้น 
เพราะจากนั้นเขาก็เป็นนายกรัฐมนตรี  เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรด 
เกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่  ๒๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗ โดยใช้กองบัญชาการ 
กองทัพบกหรือกองบัญชาการ คสช.เป็นสถานที่รับสนองพระบรมราช 
โองการโปรดเกล้าฯ หาได้ใช้ท�าเนียบรัฐบาลเช่นสมัยของ พล.อ.สุรยุทธ์ 
จุลานนท์ที่ได้รับเชิญมาเป็นนายกรัฐมนตรีของคณะรัฐประหาร คมช.

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 119
  หลังการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์อยู่แต่ในกองบัญชาการกองทัพ 
บก ไม่ออกงานใดๆ ที่จะเจอสื่อมวลชนหรืองานภายนอก โดยเฉพาะใน 
ห้องท�างาน ผบ.ทบ.ชั้น ๖ เป็นเวลาหลายเดือน ทั้งนี้เหตุผลหนึ่งกคือ
เรื่ อ งควำมปลอดภั ย ของผู ้ น� ำ กำรรั ประหำร และเพื่อป้องกันการ 
ต่อต้านรัฐประหารที่อาจพุ่งเป้ามายังหัวหน้า คสช.นั่นเอง
จนเป็นที่สังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาวผ่องขึ้นเพราะไม่ได้ออกแดด 
แต่นั่งคิด วางแผน แก้ปัญหาต่างๆ รวมถึงออกค�าสั่งและประกาศ คสช. 
โดยช่วงแรกมีการโยกย้ายข้าราชการแบบระนาว
พล.อ.ประยุทธ์พร้อม ผบ.เหล่าทัพในนาม คสช.ได้ปรากฏตัวต่อ 
สื่อมวลชนจ�านวนมหาศาลครั้งแรกหลังรัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๕ พฤษภา- 
คม พ.ศ.๒๕๕๗ หลังจากมีโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้  พล.อ.ประยุทธ์เป็น 
หัวหน้า คสช. เมื่อวันที่  ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ได้ท�าหนังสือกราบบังคมทูลถวายรายงาน 

120 วาสนา  นาน่วม
เหตุผลที่ต้องเข้าควบคุมอ�านาจในการบริหารประเทศ แทนการเข้าเฝ้าฯ 
เช่นคณะรัฐประหารของ พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน เนื่องจำกท�ำให้มีกำร
ดึงสถำบันฯ มำเกี่ยวข้องกับกำรรั ประหำร พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ได้ 
น�าคณะรัฐประหารเข้าเฝ้าฯ
ผมไม่ต้องกำรให้มีกำรโยงไปว่ำส ำบันฯ มำเกี่ยวข้องกับกำร
รั ประหำรครังนี เพรำะพระองค์ท่ำนไม่เกี่ยวข้อง มันเปนกำรตัดสินใจ
ของผมเอง ผมจึงไม่ได้เข้ำเ ำฯ แต่ได้ท�ำหนังสือกรำบบังคมทูลขึนไป
พล.อ.ประยุทธ์แจง
ยิ่งเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ เช่นนี้แล้ว ในวันแถลงข่าววันแรกต่อ 
สื่อมวลชนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ไม่พูดอะไรที่เป็นการผูกมัดตัวเอง ทั้งการจะ 
เป็นนายกรัฐมนตรีเองหรือไม่  รวมถึงก�าหนดเวลาการเลือกตั้ง
ส่งผลให้นักข่าวที่ถาม พล.อ.ประยุทธ์ต้องถูก คสช.เชิญตัวไปท�า 
ความเข้าใจว่าต่อไปนี้ห้ามตั้งค�าถามที่เป็นการคาดคั้น พล.อ.ประยุทธ์อีก 
เพรำะวันนี้ท่ำนไม่ใช่  ผบ.ทบ.แต่เป็นผู้น�ำประเท  เนื่องจากหัวหน้า 
คสช.ท�าหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินแทนนายกรัฐมนตรี
การรัฐประหารครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ถูกจับตามองว่าได้ไอเดีย 
บางส่วนมาจากการปฏิวัติของประเทศจีน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ได้ศึกษา 
และใช้บทเรียนต่างๆ ไม่ใช่แค่การรัฐประหารในบ้านเราเท่านั้น แต่ของ 
หลายประเทศด้วย
ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยในภายหลังเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี 
ว่า เขำยึดแนวทำงของจีนในกำรแก้ป ญหำประเท ไทย โดยเฉพาะ 
เรื่องการปฏิรูปประเทศ
ผมได้ขอค�ำแนะน�ำค�ำปรึกษำจำกทังท่ำนประธำนำธิบดีและนำยก
รั มนตรีจีน ึงแนวทำงในกำรแก้ป หำประเทศและแนวทำงกำรป ิรูป
ด้วย  พล.อ.ประยุทธ์เผย
กว่ำที่ประเทศจีนจะเปนได้อย่ำงทุกวันนี ท่ำนบอกว่ำยังมีป หำ
อีกมำกมำยเปนร้อยเรื่องที่ต้องท�ำ จีนใช้เวลำ ๓ ป มีกว่ำ ๓ เรื่อง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 121
ดังนันประเทศไทยก็ไม่รู้ว่ำจะต้องใช้เวลำอีกกี่ป แล้วผมก็มีเวลำแค่นีด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จนเป็นที่วิจารณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้น แม้ปากจะบอกว่าไม่อยาก 
อยู่ต่อเกินกว่าโรดแมปแม้แต่วันเดียว แต่เมื่อถูกถามเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ 
ไม่ผ่าน ต้องยืดเวลาการเป็นนายกรัฐมนตรีออกไปอีก รวมถึงการปลุก 
กระแสปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ๒ ปีนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงยอมรับว่า ท�าใจไว้ 
ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องอยู่ไปอีกระยะหนึ่งหากประชาชนเรียกร้อง
้ำเปนเสียงประชำชน ผมจะขัดข้องได้อย่ำงไร ก็คนไทยหรือเปล่ำ
ผมเข้ำมำ ผมท�ำเพื่อคนไทยหรือไม่ ผมท�ำเพื่อคนอื่นเหรอ ้ำเขำอยำกให้
ผมท�ำก็ต้องไปสร้ำงควำมเข้ำใจให้ได้ ทังคนในประเทศ นักกำรเมืองอะไร
ต่ำง ว่ำผมไม่ต้องกำรอ�ำนำจ อยู่ที่ว่ำทุกคนจะให้ประเทศไทยมีอนำคต
อย่ำงไร ทุกคนมีส่วนร่วมกันตรงไหน  พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ไม่แค่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวย�้าเสมอว่าตนเองเข้ามาโดยมี 
เวลาจ�ากัด แต่ปัญหามากมายที่จะต้องแก้ไข จะต้องปฏิรูป ท�าให้ใครๆ 
ต่างคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์น่าจะพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีไปอีกอย่าง 
น้อย ๓-๕ ปีเช่นที่เคยร�่าลือกันก่อนรัฐประหารใหม่ๆ
ยิ่งต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ยกตัวอย่ำงของรั บุรุษอำวุโสแห่ง
สิงคโปร์อย่ำงนำยลีกวนยู  อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ ที่สามารถท�าให้ 
สิงคโปร์ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ มีศักยภาพในทุกๆ ด้านเช่นวันนี้  เพราะได้เป็น 
ผู้น�าประเทศที่ต่อเนื่องยาวนาน
คนท�ำงำนหนักมักจะอยู่ได้ไม่นำน ผมก็ไม่รู้จะอำยุยืนเหมือนท่ำน
หรือเปล่ำ ทุกวันนีปวดหัวตลอด  พล.อ.ประยุทธ์เปรย
พล.อ.ประยุ ท ธ์ ไ ปร่ ว มงาน  ๕๐  ปี   วั น ชาติ สิ ง คโปร์ เ มื่ อ วั น ที่   ๙ 
สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ พอกลับมำกชมเปำะถึงควำมก้ำวหน้ำและควำม
เจริญของสิงคโปร์  โดยเ พำะกำรแสดงแสนยำนุภำพทำงทหำร ทั้ง 
ก�าลังรบทางบก ทางน�้า และทางอากาศ ทั้งที่ประเทศเขามีอาณาเขตไม่ 
มากนัก สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องของศักยภาพด้านอาวุธที่หมายรวมถึงอ�านาจ 

122 วาสนา  นาน่วม
ก� า ลั ง รบที่ ไม่ มี ตั ว ตนและเป้ า หมาย ทั้ ง การรั ก ษาทรั พ ยากรและรั ก ษา 
ความเป็นผู้น�าทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาในการท�าให้บ้านเมือง 
ปลอดภัย ไม่ใช่การมีอาวุธเพื่อไปรบกับประเทศอื่น เพราะอาวุธไม่ได้มี 
เพื่อการรบแต่เพื่อสร้างสรรค์ความร่วมมือ
สิงคโปร์ใช้เวลำแค่ ป รวมชำติ กลำยเปนประเทศที่มีเศรษ
กิจดีเปนล�ำดับต้น ของโลก ส่วนประเทศไทยเลยจุดนันมำแล้ว ก็ยำก
ที่จะกลับมำเริ่มใหม่ ้ำคนไทยยังไม่ร่วมมือกัน ลองไปคิดย้อนดู ึงกรุง
รัตนโกสินทร์ว่ำเรำตังมำกว่ำ ๒ ปแล้ว เมื่อรวมกับระยะเวลำที่ก่อ
ก�ำเนิดประเทศไทยก็รวมเปน ๗ ๘ ป เรำยังทะเลำะกันอยู่ อย่ำงนี
คงเทียบกับเขำไม่ได้  พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ถูกมองว่าพยายามที่จะศึกษาแนวทางการ 
แก้ปัญหาหรือบริหารประเทศของบุคคลส�าคัญต่างๆ ทั่วโลกมาเป็นบท 
เรียน หรือข้อคิด จนมีการพูดกันว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์แก้ไขปัญหาของ 
ประเทศและปฏิรูปประเทศส�าเร็จ เขาก็อาจเป็นเสมือน “ลี ก วนยู แ ห่ ง
เมืองไทย” ก็ว่าได้  แต่นั่นหมายถึงเขาจะต้องมีเวลานานหลายปีในการ 
ท�างานต่อเนื่อง
เพรำะกล่ำวกันว่ำ หำก พล.อ.ประยุทธ์ท�ำได้ เขำกอำจได้เป็น
“รั บุรุษ” ในบั้นปลำยชีวิตกเป็นได้...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 123

คสช. “คุ สมชาย”

“ ม่ ปลกที่ ใ นวั น นี  พล.อ.ประยุ ท ธ์ จ ะมี


ความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากขนที่จะเปนนายก
รั มนตรีต่อ ป ม่ว่าจะในรูป บบ หน ทังการยืด
โรด มป คสช.เพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตัง หรือการ


คงอยู่ตามรั ธรรมนูญ

จริง  แล้ว “คสช.” มิได้เป็นแค่ชื่อย่อของ “คณะรักษำควำม
สงบแห่งชาติ” หรือการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” อันเป็นธีมของการ 
รัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ เท่านั้น
  แต่ส�าหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้ให้ก�าเนิดแล้ว 
คสช.ยังหมายถึง “คุณสมชาย” ที่หมายถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์  หัวหน้า 
คณะรัฐประหารอีกด้วย
คุ สมชำย จริง แล้วมันมำจำกชื่อย่อของ คสช.  พล.อ.ประยุทธ์ 
เฉลย
  โดยให้นิยามของ “คุณสมชาย” นั้น หมายถึงคนดี  ตื่นมาท�างาน 
แต่เช้า ขยันท�างาน มีความรับผิดชอบ คิดแต่สิ่งดีงาม
  โดยเฉพาะเป็นคนที่ตื่นแต่เช้า และทุกวันจะคิดก่อนผูกเชือกรอง 
เท้าก้าวออกจากบ้านว่า วันนี้ ันจะท�ำอะไรให้คนอื่น ให้ส่วนรวม ให้
ชำติบ้ำนเมืองบ้ำง

124 วาสนา  นาน่วม
  จนวันหนึ่ง คุณสมชายจ�าเป็นต้องเสียสละตัวเองเพื่อส่วนรวม เพื่อ 
“คืนความสุข” ให้ผู้คนในสังคม
  อันหมายถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์จ�าต้องก่อการรัฐประหาร เพื่อคืน 
ความสุขให้ประชาชนคนไทยที่ทุกข์ทรมานกับสถานการณ์บ้านเมืองและ 
การเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ใช้ความรุนแรง สูญเสียเลือดเนื้อและ 
ชีวิต บ้านเมืองไร้ขื่อแป ผู้คนหวาดกลัวม็อบ ติดอาวุธ ปิดถนน และนัก 
การเมืองที่ท�าเพื่อตนเองและพรรคเป็นที่ตั้ง
  ตอนนัน ผมคิดว่ำ ึงเวลำที่ต้องคืนควำมสุขให้ประชำชนแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวประโยคนี้หลังจากตัดสินใจก่อการรัฐประหาร
  ผมไม่ได้ท�ำรั ประหำร เพรำะตอนนันรั บำลไม่สำมำร บริหำร
ประเทศได้ เกือบจะเปน ไปแล้ว ผมแค่ยึดอ�ำนำจรั ำ
ธิปตย์มำเพื่อให้ชำติบ้ำนเมืองเดินหน้ำไปได้

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 125
ท�ำไมไม่ให้รั บำลที่แล้วท�ำบ้ำงล่ะ ท�ำไมไม่ว่ำรั บำลก่อนบ้ำงล่ะ
มำคอยแต่จับจ้องคุ สมชำยนี่แหละ  บิ๊กตู่สะกิดสื่อเมื่อถูกรุมถามการ 
แก้ปัญหาด้านต่างๆ
  ต่อไปคงไม่มีคุ สมชำยมำท�ำแบบนีให้อีกแล้ว คงไม่มีใครมำ
ป วิ ตั ใิ ห้อกี แล้ว ขอให้มนั เปนครังสุดท้ำย  พล.อ.ประยุทธ์วาดหวัง เพราะ 
มั่นใจในการเข้ามาปฏิรูปประเทศในทุกด้านของตนเอง
  โดยเฉพาะการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะมำเป็นนำยกรั มนตรีนำน
หลำยป เพื่อไม่ให้กำรรั ประหำรครั้งนี้ “เสียของ” เช่นครั้งที่ผ่านๆ มา
  ว่ า กั น ว่ า การรั ฐ ประหารของ คสช.ครั้ ง นี้ เ ป็ น  “ภาค ๒” ของรั ฐ 
ประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ ที่น�าโดย “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ  บุญย- 
รัตกลิน ผู้บอกว่าบางอย่างของเบื้องหลังรัฐประหารนั้นเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ 
ต้องให้มันตายไปกับตัว
  เพราะรัฐประหารครั้งนี้  พล.อ.ประยุทธ์น�าบทเรียน ข้อดีและข้อเสีย 
ข้อผิดพลาดจากการรัฐประหารครั้งก่อนๆ มาปรับ แล้วคิดใหม่ท�าใหม่ 
ทั้งการใช้  “ยาแรง” การใช้กฎอัยการศึก การควบคุมตัวฝ่ายต่อต้านทั้ง 
แบบเปิดเผยและแบบจู่โจม
  ที่ส�าคัญคือ กำรแหกก ข้อห้ำมของผู้น�ำกำรรั ประหำรด้วย
กำรเป็นนำยกรั มนตรีเสียเอง
  ตอนนันไม่มีใครยอมที่จะเปนนำยกรั มนตรี ผมจึงต้องเปนเอง  
นายกฯ “บิ๊กตู่” เผย
  แต่ ส� า หรั บ คี ย ์ แ มนที่ อ ยู ่ เ บื้ อ งหลั ง การรั ฐ ประหารครั้ ง นี้ รู ้ ดี ว ่ า รั ฐ 
ประหารครั้งนี้ไม่มีใครเป็นตัวเลือกส�าหรับเป็นนายกรัฐมนตรีเลย นอกจาก 
พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชาเท่านั้น
  แถมแผนคร่าวๆ ที่คิดกันไว้ก็คือ กำรที่  คสช.จะต้องอยู่บริหำร
ดู แ ลประเท  แก้ ป ญหำต่ ำ ง  นำน  -  ป เพราะหากตั้ ง รั ฐ บาล 
ชั่วคราวและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  แล้วให้เลือกตั้งภายใน ๑ ปีเช่น 
ที่ผ่านมานั้น ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

126 วาสนา  นาน่วม
  นั่นหมายถึงพรรคเพื่อไทยก็จะชนะการเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาล 
คุมอ�านาจรัฐอีก แล้วก็ต้องมีม็อบ มีการต่อต้าน เกิดความวุ่นวาย จลาจล 
ขึ้นมาอีก เช่นก่อนการรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ จนเกือบ 
จะเกิดสงครามกลางเมือง
  แต่โชคดีเป็นของนายกฯ “บิ๊กตู่” ทั้งการวางแผน จับกุมแกนน�า 
กลุ่มต่างๆ ไว้ได้หมด และใช้ยาแรงจัดการกลุ่มต่อต้าน ประกอบกับคน 
ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เบื่อหน่ายความวุ่นวายทางการเมือง 
เบื่อม็อบที่ก่อปัญหาการจราจร การปิดถนน การมีกองก�าลังติดอาวุธ 
บ้านเมืองที่ไม่มีใครกล้าออกมาใช้กฎหมายควบคุม จึงท�าให้รัฐประหาร 
ครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากคนตรงกลาง นอกเหนือจากการตอบรับจาก 
กลุ่มต่อต้าน “ทักษิณ” ที่ต้องการให้ทหารรัฐประหารอยู่แล้ว
  ทัง้ หมดนีจ้ งึ ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์นงั่ เป็นนายกรัฐมนตรีควบหัวหน้า 
คสช.ได้นานกว่า ๑ ปี  และส่อเค้ำว่ำจะอยู่ต่อไปอีกหลำยป ขึ้นอยู่กับ 
การปรับแผนของ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะแปลงร่าง คสช.ให้อยู่ต่อได้อย่าง 
ชอบธรรมและแนบเนียนได้อย่างไร
  แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยึดตามโรดแมปที่จะให้มีการเลือกตั้ง 
ในปลายปี  ๒๕๕๙ แต่ในที่สุดร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกก็ไม่ผ่านสภาปฏิรูป 
แห่งชาติ  (สปช.) ด้วยคะแนน ๑๓๕ เสียง โดยพบว่า สปช.ที่เป็นทหาร 
ทั้งในและนอกประจ�าการ และ สปช.สายพลเรือนที่สนิทสนมกับ คสช. 
ล้วนโหวตไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งสิ้น จนถูกวิจารณ์ว่า 
มีการล็อบบี้จาก คสช.เพื่อให้คว�่าร่างนี้  เพรำะก่อนหน้ำนี้มีกระแสข่ำว
พำดพิงว่ำเป็นใบสั่งจำก “บิ๊กปอม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ 
ใหญ่จนเจ้าตัวต้องออกมาปฏิเสธ
   ท่ามกลางการจับตามองว่าร่างรัฐธรรมนูญร่างที่  ๒ จะส�าเร็จหรือ 
ไม่  เพราะต้องท�าประชามติ  มุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง แต่เปิดช่องรัฐธรรมนูญ 
เพือ่ การท�าประชามติ  และถามความเห็นประชาชนเรือ่ ง “รัฐบาลปรองดอง 
แห่งชาติ” หรืออยู่ต่ออีก ๒ ปีเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 127
  เชื่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นร่างรัฐธรรมนูญร่างไหน หรือท้ายที่สุด พล.อ. 
ประยุทธ์จะหยิบฉบับใดมาปรับปรุงแก้ไข หรือเตรียมเขียนเองไว้ก็ตาม 
ย่อมเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไว้แน่นอน ท่าม 
กลางการจับตามองว่า นำยกฯ คนนอกอำจเพื่อเอำไว้รองรับ พล.อ.
ประยุทธ์ หรือบิ๊กคนใดใน คสช.หรือไม่
  ด้วยเพราะเวลานี้ยังไม่มีนักการเมืองหรือใครคนใดที่เป็น “ดาวรุ่ง” 
เป็นคนดีคนเก่งที่จะมาเป็นความหวัง เป็นอนาคตของคนไทย หรือเป็น 
นายกรัฐมนตรีมาเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ในเวลานี้
  อีกทั้งดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์เองก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้แสดง 
ความสามารถที่จะมาเป็นคู่แข่งตนเองด้วยเช่นกัน
  จึงไม่แปลกที่ในวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์จะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง 
สูงมากขึ้นที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่ว่าจะในรูปแบบไหน ทั้งการ 
ยืดโรดแมป คสช.เพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หรือการคงอยู่ตามรัฐธรรมนูญ 
ไม่ ว ่ า จะในฐานะนายกรั ฐ มนตรี ค นนอก คนกลาง นายกรั ฐ มนตรี ข อง 
รัฐบาลปรองดองแห่งชาติ  หรือการแปลงร่าง คสช.อวตารมาในรูปแบบ 
คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ  และสภา 
ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
  ยกเว้นการลงสมัครรับเลือกตั้ง แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศย�้า 
มาหลายครั้งเพราะไม่อยากเป็นนักการเมือง ไม่ต้องการประชานิยม ไม่ 
ต้องมีคะแนนเสียงมาสนับสนุน
Wait and see, please…

128 วาสนา  นาน่วม

ข้างหลัง “เพลง”

“ พล.อ.ประยุ ท ธ์ เ ขี ย นความในใจมาเยอะ
มาก จนทีมงานเรียบเรียงเพลงต้องมาสกรีน
ต่ ง ให้ เ ปนคำ า ที่ ส วยงาม ละเหมาะสมสำ า หรั บ


เปนเนือเพลง

แม้จะนำนเป็นปแล้ว แต่เมือ่ งเพลง “คืนควำมสุขให้ประเท
ไทย” อันเป็นเพลงที่ฮิตติดปากคนไทย และเป็นเพลงที่  พล.อ.ประยุทธ์ 
แต่งนั้น เขาก็ยังน�้าตาคลอ
พล.อ.ประยุทธ์เผยว่า เพลงนี้สื่อออกมาจากใจและความรู้สึกของ 
ตนเองที่อยากจะบอกกับประชาชนคนไทย เมื่อได้ยินทีไร ภาพเก่าๆ ใน 
อดีตก็จะหวนย้อนคืนมา
ต้ อ งยอมรั บ ว่ า เป็ น เพลงที่ ส ร้ า งปรากฏการณ์ ใ หม่ ใ ห้ กั บ การรั ฐ 
ประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ในการสื่อความรู้สึกจากหัวหน้า 
คณะรัฐประหารถึงประชาชน
อีกทั้งเป็นการใช้ดนตรีมาเป็นสื่อในรูปแบบของเพลง ท�าให้ภาพ 
ของการรัฐประหารซอฟต์ลง ในขณะที่มีการใช้อ�านาจพิเศษและยาขนาน 
แรงควบคู่กันไป
  พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกกับ พ.อ.กฤษฎา สาริกา ผบ.กองดุริยางค์ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 129
ทหารบกในเวลานั้นว่า อยำกจะใช้บทเพลงอธิบำยควำมจ�ำเป็นในกำร
รั ประหำร และบอกเล่าความรู้สึกของตนเอง 
  เนื่องจากเมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบก ๔ ปี  พล.อ.ประยุทธ์ 
ชอบเรื่องการแต่งเพลง จนริเริ่มโครงการ “เพลงรักแห่งแผ่นดิน” โดยให้มี 
การประกวดแต่งเพลงเทิดทูนสถาบันฯ ปลุกใจทหาร และแสดงถึงความ 
ส�าคัญของกองทัพ
  ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ได้เพลงโปรดจากการประกวดจนกลายเป็น 
เพลงฮิตประจ�าตัว ไม่ว่าไปงานไหนก็ต้องมีบรรเลงเพลงนี้  ได้แก่  “จะอยู ่
อย่างจงรัก จะตายอย่างภักดี” และเพลง “เพื่อผืนดินไทย” และ “คิดอะไร 
ไม่ออก ให้บอกทหาร”
  พล.อ.ประยุทธ์จึงเขียนบอกเล่าความในใจของตัวเองที่จ�าเป็นต้อง 
ท�ารัฐประหารครั้งนี้  รวมถึงแนวทางที่จะแก้ปัญหาประเทศเพื่อน�ามาเป็น 
เนื้อร้องของเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ด้วยลายมือตนเอง โดย
ใช้เวลำเขียนควำมในใจของตนเองรำว ๑ ชั่วโมงเท่ำนั้น ก่อนจะ 
ส่งให้กองดุริยางค์จัดการเรื่องแต่งท�านอง และเรียบเรียงให้เป็นค�าร้อง 
ที่สามารถเป็นเพลงสละสลวย

วันที่ชำติและองค์รำชำ มวลประชำอยู่มำพ้น ัย ขอดูแลคุ้มครอง


ด้วยใจ นี่คือค�ำสั ำ วันนีชำติเผชิ พำล ัย ไ ลุกโชนขึนมำทุกครำ
ขอเปนคนที่เดินเข้ำมำ ไม่อำจให้สำยไป เพื่อน�ำรักกลับมำ ต้องใช้เวลำ
เท่ำไร โปรดจงรอได้ไหม จะข้ำมผ่ำนควำมบำดหมำง
เรำจะท�ำตำมสั ำ ขอเวลำอีกไม่นำน แล้วแผ่นดินที่งดงำมจะ
คืนกลับมำ เรำจะท�ำอย่ำง ื่อตรง ขอแค่เธอจงไว้ใจและศรัทธำ แผ่นดิน
จะดีในไม่ช้ำ ขอคืนควำมสุขให้เธอ ประชำชน
วันนีต้องเหน็ดเหนื่อยก็รู้ จะขอสู้กับอันตรำย ชำติทหำรไม่ยอมแพ้
พ่ำย นี่คือค�ำสั ำ วันนีชำติเผชิ พำล ัย ไ ลุกโชนขึนมำทุกครำ ขอ
เปนคนที่เดินเข้ำมำ ไม่อำจให้สำยไป เพื่อน�ำรักกลับมำ ต้องใช้เวลำเท่ำไร

130 วาสนา  นาน่วม
โปรดจงรอได้ไหม จะข้ำมผ่ำนควำมบำดหมำง
เรำจะท�ำตำมสั ำ ขอเวลำอีกไม่นำน แล้วแผ่นดินที่งดงำมจะ
คืนกลับมำ เรำจะท�ำอย่ำง ื่อตรง ขอแค่เธอจงไว้ใจและศรัทธำ แผ่นดิน
จะดีในไม่ช้ำ ขอคืนควำมสุขให้เธอ ประชำชน
แผ่นดินจะดีในไม่ช้ำ ควำมสุขจะคืนมำ...ประเทศไทย

  มีเรื่องเล่ากันว่า เนื่องจากบางท่อนบางประโยคนั้น  ำยผู้เรียบ
เรียงเพลงอ่ำนลำยมือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ออก จนต้องไปถามนาย 
ทหารหญิงหน้าห้องที่ใกล้ชิดเพื่อให้ช่วยแกะลายมือ แต่บางค�าเธอก็แกะ 
ไม่ออกเหมือนกันเลยต้องช่วยแต่งเสริมในบางค�าที่อ่านไม่ออกนั้นเสียเอง
  เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เขียนความในใจมาเยอะมาก จนทีมงาน 
เรียบเรียงเพลงต้องมาสกรีนแต่งให้เป็นค�าที่สวยงามและเหมาะสมส�าหรับ 
เป็นเนื้อเพลง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 131
  น่าเสียดายที่เอกสารลายมือ พล.อ.ประยุทธ์ท่ีเป็นต้นฉบับได้ถูก 
น�าเข้าเครื่องท�าลายเอกสารไปเสียแล้ว จึงเป็นสาเหตุท�าให้กองดุริยางค์ 
ไม่มีต้นฉบับลายมือของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ควรจะเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ 
เพรำะถือเป็นเพลงที่คณะรั ประหำรใช้กล่อมใจประชำชนให้คล้อย 
ตามการรัฐประหารเป็นเพลงแรกก็ว่าได้
  เรำจะท� ำ ตำมสั ำ ขอเวลำอี ก ไม่ น ำน...   เนื้ อ เพลงท่ อ นนี ้
พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าท�าให้ฝ่ายตรงข้ามมักน�ามาร้องย�้า เพื่อทวงสัญญา 
ให้ตนเองไปเร็วๆ
  จึงไม่แปลกที่ต่อมา คสช.จะแต่งเพลงอื่นๆ ขึ้นมาอีก โดยน�ามา 
โปรโมตในรายการ “เดินหน้ำประเท ไทย” ทุกหกโมงเย็น และในราย 
การของสถานีวิทยุกองทัพบก แต่ก็ไม่มีเพลงไหนแซงหน้า ไม่ว่าจะเป็น 
เพลงใหม่หรือเพลงคืนความสุขฯ ที่มีการน�าไปร้องในหลายเวอร์ชั่นโดย 
นักร้องหลายคน แต่ก็ไม่ไพเราะเท่าต้นฉบับออริจินัล
  ไม่เพียงเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังชอบอีกเพลงก็คือ เพลง “วัน 
พรุ่งนี้” ...ที่ให้เด็กๆ มาร้องเตือนสติผู้ใหญ่  ไม่ให้ลืมว่าปู่ย่าตายาย หรือ 
แม้แต่ตัวผู้ใหญ่เองที่สอนเด็กว่าอย่าทะเลาะกัน แต่ผู้ใหญ่กลับมาทะเลาะ 
กันเสียเอง
  เพลงนี ผม งทีไรน�ำตำคลอทุกทีเหมือนกัน  บิ๊กตู่ระบุถึงเพลง 
“วันพรุ่งนี้”
  จะเห็นได้วา่ เมือ่ มีการรัฐประหารแรกๆ นัน้  ทีวจี อมืด แต่ทาง คสช. 
ให้มีการเปิดเพลงทหารและเพลงเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์  โดยเฉพาะเพลง 
ที่ชนะการประกวดโครงการ “เพลงเพื่อแผ่นดิน” ของ พล.อ.ประยุทธ์นั่นเอง
  ทั้งนี้  กองดุริยำงค์ทหำรบกได้แต่งเพลงในแนวนี้ออกมำอีก
หลำยเพลง แต่กไม่เป็นที่นิยมหรือติดหูประชำชนเท่ำเพลง “คืน
ควำมสุขฯ” ที่ พล.อ.ประยุทธ์แต่ง เพรำะถือได้ว่ำเป็นประวัติ ำสตร์
และเป็นกำรสะท้อนรูปแบบหนึ่งของกำรรั ประหำรด้วยเสียงเพลง...

132 วาสนา  นาน่วม
๒๑
ร้อง ห้กันทังบ้าน

“ ม่มีใครรู้หรอกว่าผมจะทำา ผม ม่ ด้บอก
ใคร  ม่ ด้บอกใครหรอก ที่บ้าน วันที่ ๒๒ พ
ภาคม ร้อง ห้กันทังบ้าน เพราะ ม่อยากให้ผม


เปน บบนี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นที่ฮือฮำและวิพำกษ์วิจำรณ์กันไปทั่ว เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์
เปิดเผยถึงการรัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ในวัน 
ครบรอบ ๑ ปีของการรัฐประหารที่สะท้อนว่าเขาปิดเป็นความลับ แต่เมื่อ 
ก่อการรัฐประหารก็ท�าให้ทั้งภริยาและลูกสาวฝาแฝดต้องร้องไห้
  ไม่มีใครรู้หรอกว่ำผมจะท�ำ ผมไม่ได้บอกใคร ไม่ได้บอกใครหรอก
ที่บ้ำน วันที่ ๒๒ พ ษ ำคม ร้องไห้กันทังบ้ำน เพรำะไม่อยำกให้ผมเปน
แบบนี  พล.อ.ประยุทธ์เผย
  พร้อมอธิบายว่า คนในครอบครัวกลัวว่า  พล.อ.ประยุทธ์จะเป็น 
อะไรไป เนื่องจากการท�ารัฐประหารคือการเสี่ยงชีวิต ถ้าท�าไม่ส�าเร็จก็ต้อง 
กลายเป็นกบฏ จึงไม่รู้ว่าตอนนั้นจะโดนอะไรบ้าง ถึงบอกว่าการท�ารัฐ 
ประหารคือการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
  แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะมั่นใจกับก�าลังทหารในมือที่  ผบ.หน่วยล้วน
เป็นนำยทหำรสำยตรงของเขำทั้งสิ้น ทั้งวง ์เทวัญ ทหำรเสือรำชินี

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 133
และบูรพำพยัค ์ที่มาฝังรากลึกคุมก�าลังในกองทัพบกต่อเนื่องยาวนาน 
หลายปี  แถมเขาเป็น ผบ.ทบ.มาถึง ๔ ปี  แต่เขาก็ต้องเผื่อใจไว้  หากเกิด 
ความผิดพลาดหรือมีการต่อต้านจากม็อบคนเสื้อแดงและทหารแตงโม
  พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าการรัฐประหารครั้งนี้มีโอกาสส�าเร็จในแง่ของ 
การยึดอ�านาจมากกว่า ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์  แต่อีก ๐.๑ เปอร์เซ็นต์เป็น 
เรื่องของการต่อต้านซึ่งอาจน�าไปสู่การใช้ก�าลังและความรุนแรงจนท�าให้ 
เกิดเลือดตกยางออก
  เพราะการวางแผนที่รอบคอบ ด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึก 
ตั้งแต่วันที่  ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ แล้วน�า ผบ.เหล่าทัพยืนแถว 
แถลง เพื่อเชิญแกนน�าทุกกลุ่มมาหาทางออกในการแก้ไขปัญหา ด้วยการ 
นัดหารือกันที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ในวันรุ่งขึ้น ๒๑ พฤษภา- 
คม โดยให้  “การบ้าน ๕ ข้อ” ที่  พล.อ.ประยุทธ์ให้ทุกฝ่ายไปหาค�าตอบ 
และทางออกมา
  น�ามาซึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที ่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า  ผมขอยึดอ�ำนำจตังแต่วินำทีนี  หลังจากแกนน�า 
ทุกกลุ่มตกลงกันไม่ได้  และฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมลาออก ก่อนจะใช้ก�ำลัง
ทหำรที่มีกำรวำงแผนกันไว้แล้วจับกุมทั้งหมด แล้วน�า ตัวเข้าไปยัง 
ร.๑ รอ.ที่อยู่ติดกับสโมสรทหารบกก่อนจะแยกย้ายไปคุมขังตามหน่วย 
ทหารในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
  แน่นอนว่าทั้งหมดนี้  พล.อ.ประยุทธ์ได้วางแผนไว้แล้วล่วงหน้า 
หาใช่เพิ่งตัดสินใจเอาวันนั้น ทว่าเขามีแพลนเอ แพลนบี  ที่จะหยิบมาใช้ 
ให้เข้ากับสถานการณ์
  คนหนึ่งที่ร่วมคิดและวางแผนตั้งแต่ต้นก็คือ “บิ๊ ก ปอม” พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่บูรพาพยัค ์ 
ผมสงสำรนำยกรั มนตรีที่ท�ำงำนวัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน  บิ๊ก 
ป้อมเปรย พร้อมย้อนอดีตที่มาของวันนี้ 
ตังแต่มีควำมขัดแย้ง ำยในประเทศรุนแรงท�ำให้เกิดกำรต่อสู ้

134 วาสนา  นาน่วม
มำกมำยจนมำ ึงป พ.ศ.๒ ๗ เปนเรื่องทำงกำรเมืองที่ท�ำให้เกิดควำม
ไม่เข้ำใจ นักกำรเมืองไปชักจูงคนให้ออกมำต่อสู้ ขนำดทหำรออกไปดูแล
ยังมีกำรใช้อำวุธสงครำมที่ท�ำให้เกิดกำรเสียชีวิตต่อเนื่อง
ตอนนันผมเรียนท่ำน พล.อ.ประยุทธ์ ตอนนันเปนผู้บั ชำกำร
ทหำรบกว่ำ ้ำปล่อยให้เหตุกำร ์เปนไปอย่ำงนี จะกลำยเปนเหมือน
ตะวันออกกลำง เหมือนประเทศ ีเรีย ใครจะไปห้ำมได้ เพรำะรั บำลก็
ไม่มีอ�ำนำจ มีแต่ทหำรที่ต้องดูแลควำมสงบเรียบร้อย ควำมมั่นคง จึง
ท�ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจเข้ำมำ
ผมคิดว่ำท่ำนไม่ได้รั ประหำร แต่ท่ำนมำหยุดควำมขัดแย้งที่
ค่อนข้ำงรุนแรง เปนบุ ของท่ำนที่หยุดไม่ให้คนเสียชีวิตได้ เปนบุ ของ
ประเทศชำติ เปนเรื่องพระสยำมเทวำธิรำชที่ดูแลประเทศไทย มันต้อง
เปนรั ำธิปตย์จึงจะด�ำเนินกำรแก้ไขป หำต่ำง ที่ค้ำงคำได้ ท�ำให้ไปสู ่
ควำมสงบและไม่มีกำรตำยเกิดขึน พล.อ.ประวิตรกล่าว
  แต่ที่แน่ๆ บรรดา ผบ.เหล่าทัพที่ร่วมออกแถลงการณ์คณะรักษา 
ความสงบแห่งชาติของเย็นวันนั้นใน ร.๑ รอ.ไม่มีใครรู้ตัวล่วงหน้าก่อนเลย 
เพราะงานนี้  พล.อ.ประยุทธ์วางแผนกับคีย์แมน คสช.สายทหารบกแค่ 
ไม่กี่คนเท่านั้น รวมทั้งพี่ใหญ่และพี่รองแห่งบูรพาพยัค ์อย่าง “บิ๊กป้อม” 
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณและ “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดาด้วย 
นั่นเอง
พี่ น้อง ผบ.เหล่ำทัพนี่ ผมก็บอกทีหลัง  พล.อ.ประยุทธ์เผย
“บิ๊กเข้” พล.ร.อ.ณรงค์  พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.ในเวลานั้น ซึ่งได้มา 
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาขยับเป็นรองนายกฯ นั้น 
พล.อ.ประยุทธ์กบอกว่ำท่ำนไม่ได้รู้เรื่อง ไม่รู้ตัวมำก่อน ท่านวางแผน 
จะไปเที่ยวกับครอบครัวหลังเกษียณ แต่ก็ไม่ได้ไป
ผมเข้ำมำด้วยชีวิต ๒๒ พ ษ ำฯ ้ำผมท�ำไม่ส�ำเร็จ ก็เปนกบ
แต่ผมปล่อยไม่ได้ สงสำรประเทศ สงสำรลูกหลำนจะอยู่ยังไง
ตอนเปน ผบ.ทบ.ดูมั่นคงอยู่ ผมสนับสนุนทุกรั บำล แต่เมื่อมัน

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 135
จ�ำเปน มันก็จ�ำเปน ผมไม่ขัดแย้งกับใคร แต่มีคนหำว่ำผมพูดจำเกินเลย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
  แม้เขาจะไม่ได้บอกตรงๆ กับภริยาและลูกสาวว่าจะต้องท�ารัฐ 
ประหาร  แต่  “อำจำรย์น้อง” ภริยำของเขำน่ำจะพอระแคะระคำย
อยู่บ้ำง ในฐานะที่ใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ที่สุด แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ 
พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับบอกว่า  ร้องไห้กันทังบ้ำน
  จนเป็นเหตุให้เกิดข่าวสะพัดในเวลานั้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ส่งลูก 
สาวฝาแฝดทั้ง “น้องพลอย-น้องเพลิน” นางสาวธัญญาและนางสาวนิฏฐา 
จันทร์โอชาไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะเกรงว่าหากพลาด 
ลูกเมียจะโดนหางเลขไปด้วย
  กระนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง ยืนยันว่าลูกสาวทั้งสองคน 
ยังอยู่ประเทศไทย ไม่ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย 
หรืออังกฤษตามที่เป็นข่าว
ลูกสำวผมไม่ได้ออกนอกบ้ำนมำหลำยเดือนแล้ว ไม่ได้ไปไหนเลย
ออสเตรเลียก็ไม่ได้ไป อยู่แต่บ้ำน วัน ไม่ได้ออกไปไหนเลยมำกี่เดือนแล้ว
ก็ไม่รู้ แล้วก็มีพวกที่ด่ำ ึงโคตรเหง้ำศักรำช ผมไม่ได้อยำกมำเปนนะ  บิ๊กตู่ 
เผย
  พร้อมให้เหตุผลว่า กลัวลูกสาวจะไม่ปลอดภัย เพราะรู้ว่าคนที่ไม่ 
ชอบตนเองมีอยู่ไม่น้อย อีกทั้งก่อนการรัฐประหาร กลุ่มคนเสื้อแดงเคย
ปลุกระดมให้จับตัวลูกสำว ำแ ดของตนเป็นตัวประกันหำก พล.อ.
ประยุทธ์ก่อกำรรั ประหำร โดยปลุกระดมด้วยการแพร่ภาพลูกสาวของ 
ตนเองในโซเชียลมีเดีย 
  มีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์  “ลับ ลวง พราง” เรื่องลูกสาว 
หรือไม่  เพราะตลอดเวลากว่า ๑ ปีตั้งแต่ก่อนและหลังรัฐประหารไม่มีใคร 
เคยเห็นน้องพลอยและน้องเพลินออกงานใดๆ หรือออกสื่อ หรือมีภาพ 
ในโซเชียลมีเดีย และในหมู่ผองเพื่อนหรือปาปารัซซีเลย เสมือนว่าน้องๆ 
ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย 

136 วาสนา  นาน่วม
  แต่จากการที่  พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงลูกสาวหลายครั้งตลอดเวลาที ่
เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น พอจะท�าให้เชื่อได้ว่ากล่องดวงใจของ “บิ๊กตู่” อยู่ 
ในเมืองไทย และอยู่ที่บ้านในกรมทหารราบที่  ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ 
(ร.๑ รอ.) หลังที่  พล.อ.ประยุทธ์และ “อาจารย์น้อง” รศ.นราพร จันทร์โอชา 
พ�านักอยู่ทุกวันนั่นเอง เพราะปลอดภัยที่สุด
  นายกฯ “บิ๊กตู่” เปรยเสมอๆ ว่าเคยถามความเห็นลูกสาวเรื่อง 
ระบบการศึกษา การเรียน การสอบ เพราะอยากรู้ความรู้สึกของเด็กๆ 
ที่มีต่อการเรียนการสอนในยุคนี้  หรือการที่เขาบ่นว่าเด็กสมัยนี้ไหว้ไม่สวย 
เหมือนเอามือทิ่มๆ ไปเหมือนลูกสาวของเขา
และที่ส�าคัญที่สุดก็คือ การที่ลูกสาวคอยเป็นห่วงเป็นใยคุณพ่อตู่ 
ที่อารมณ์เสีย ปรี๊ดแตกบ่อยๆ ด้วยการซื้อก�าไลหินสีซึ่งเป็นที่นิยมมาให้ใส่ 
หวังช่วยให้อารมณ์เย็นขึ้น
ลูกสำวผม ือมำให้ใส่ บอกว่ำพ่อจะได้อำรม ์เย็นขึน แต่ใส่วัน
แรกก็อำรม ์เสียแต่เช้ำเลย  บิ๊กตู่เผย
ก่อนจะใส่ต่อในอีกไม่ก่ีวัน แต่ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ก็ถอดก�าไล 
ข้อมือหินสีนี้ไปคืนลูกสาว
  “อะไรกเอำพ่อไม่อยู่ ลูกเอ้ย” บิ๊กตู่เปรย

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 137
๒๒
อั วินม้าขาเป

“ ผม ม่ ใ ช่ อั วิ น ม้ า ขาวอะ รหรอก  ต่ เ ปน
อั วินม้าขาเป เพราะโดนปญหาต่าง  ประดัง
ประเดเข้ามา จนกลายเปนม้าขาเป ขาเปอยหมด


ล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กำรน�ำรั ประหำรเมื่อวันที่   พ ษภำคม พ. . ๗ ท�ำให้


พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็น “อัศวินม้าขาว” ที่เข้ามายุติความวุ่นวายทางการ 
เมือง ซึ่งมีการใช้ก�าลังและอาวุธเข้าปะทะกันจนเป็นเหตุท�าให้ประชาชน 
ไม่ปลอดภัยจากม็อบและการยึดครองถนนแบบไม่มีใครกล้าแตะ
  แม้การยึดอ�านาจของ พล.อ.ประยุทธ์ในครั้งนี้จะท�าให้ถูกสงสัย 
ว่าเป็นการยึดอ�านาจโดยมีกลุ่ม กปปส.เปิดทางให้หรือไม่ เพราะความ 
สัมพันธ์ส่วนตัวที่  พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์มีต่อ 
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. มีมาตั้งแต่การร่วมฝ่าวิกฤต 
กระชับพื้นที่คนเสื้อแดงเมื่อปี  พ.ศ.๒๕๕๓ ด้วยกันในยุครัฐบาลพรรค 
ประชาธิปัตย์
  อย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์ก็มาไล่ทั้งม็อบเหลืองม็อบแดงกลับบ้าน 
แม้เป้าหมายของทหารจะเล็งไปที่แกนน�าพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง 
เป็นส่วนใหญ่

138 วาสนา  นาน่วม
  ด้วยถูกมองในแง่ดีว่าเป็นเสมือน “อั วินขี่ม้ำขำว” มำช่วยกู้
วิก ตชำติ  จึงท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งมั่นใจในตัวเองในการท�ารัฐประหาร 
ครั้งนี้
  แต่สิ่งหนึ่งที่  พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับก็คือ เมื่อแรกเข้ามาเป็นนายก 
รัฐมนตรี  เขาระบุว่า  กำรบริหำรประเทศ ไม่น่ำใช่เรื่องยำก  เพราะเป็น 
การใช้คน แต่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมาได้ไม่ถึงปี  พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับ 
เปรยว่า...ไม่คิดว่าจะเหนื่อยมากขนาดนี้
ยิ่งเอำทุกอย่ำงมำคลี่ มำรือดู จะเห็นว่ำนักกำรเมืองได้ท�ำอะไร
เอำไว้มำกมำยที่ผมต้องแก้ไข จนคิดว่ำระยะเวลำ ๑ ปกว่ำ ตำมโรดแมป
จะแก้ไขหมดได้อย่ำงไร
  แต่หากให้ย้อนเวลากลับไปได้  พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าจะต้องยึด 
อ�านาจในการบริหารประเทศ เพราะประเทศก�าลัง colla se ล้มพังครืน 
ลงมาเป็น Failed State อยู่แล้ว คสช.มาช่วยท�าให้ประเทศเดินหน้าไปได้

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 139
  ผมไม่เคยคิดอยำกย้อนเวลำ เพรำะเมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องมั่นใจ
ในสิ่งที่ท�ำไปแล้ว  นายกฯ บิ๊กตู่” ย�้า
  ผมไม่ใช่อัศวินม้ำขำวอะไรหรอก แต่เปนอัศวินม้ำขำเป เพรำะ
โดนป หำต่ำง ประดังประเดเข้ำมำ จนกลำยเปนม้ำขำเป ขำเปอยหมด
แล้ว  นายกฯ บิ๊กตู่” กล่าวอย่างมีอารมณ์ขัน
  ไม่แค่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังเปรียบเทียบตัวเองและรัฐบาล คสช. 
เป็นเสมือน “หนุมาน” ที่ต้องช่วยจองถนนสายประชาธิปไตยเพื่อต่อสู้กับ 
สัตว์ร้าย
วันนีเรำต้องกำรปรองดองสมำน ันท์ ในโขนมีหนุมำนเพียงตัว
เดียว ตอนนีรั บำลก็ก�ำลังจอง นนเพื่อไปสู่ประชำธิปไตยเช่นเดียวกัน จึง
ต้องกำรหนุมำนสัก ๒ ตัว เพรำะ นนของเรำค่อนข้ำงที่จะขรุขระ ข้ำม
น�ำข้ำมทะเลมำ และมีสัตว์ร้ำยหลำยตัวคอยจ้อง มีเสือร้ำย ก็ต้องระมัด
ระวัง เพรำะวันนีก�ำลังจอง นนอยู่ นนประชำธิปไตย ่ึงไม่ต้องเร่งรีบ
อะไรนัก เพรำะเปนไปตำมโรดแมปที่เรำวำงไว้ พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
  “ผมไม่ได้อยำกเป็นวีรบุรุษอะไรเลย ไม่อยำกเป็นวีรบุรุษคน
เดียว แต่ทุกคนต้องเป็นวีรบุรุษด้วยกัน” นำยกฯ บิ๊กตู่เปรย...

140 วาสนา  นาน่วม
๒๓
ปฏิวัติครังสุดท้าย

“ ลก   ล้ ว  พล.อ.ประยุ ท ธ์ นั นรู้ ดี ว่ า  การ


ทำาให้การรั ประหารสูญพันธุ์ ปจากการเมือง
ทยย่อมเปนสิ่งที่เปน ป ด้ยาก ตราบใดที่การ
เมื องยั ง เปนเช่ น นี   ละบทบาทของกองทั พ ใน


ทางการเมืองยังมีสูงเช่นนี

ไม่เชื่อกต้องเชื่อว่ำหัวหน้ำคณะรั ประหำรอย่ำง พล.อ.ประ
ยุทธ์จะประกาศออกมาว่าจะท�าให้การรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. 
๒๕๕๗ เป็นการรัฐประหารครั้งสุดท้ายของประเทศไทย
โดยครั้งนี้เขาไม่อยากเรียกว่า “ปฏิวัติ” หรือ “รัฐประหาร” แต่ให้ 
เรียกว่า “การยึดอ�านาจรัฏฐาธิปัตย์”
ด้วยเหตุที่เขาตั้งใจว่าจะสามารถปฏิรูปประเทศได้ส�าเร็จ การเมือง 
เป็นไปในแนวทางที่ประชาชนต้องการ ทหารก็ไม่จ�าเป็นต้องออกมารัฐ 
ประหารอีก
รวมถึงแนวคิดในการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและ 
ปรองดองแห่งชาติ  (คปป.) ตามมาตรา ๒๖๐ แห่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 
พ.ศ.๒๕๕๗ ที่ถูกคว�่าร่างตกไปแล้วนั้น แม้จะถูกมองว่าเป็น “รัฐซ้อนรัฐ” 
หรือเป็น คสช.แปลงร่างมาเป็นซูเปอร์พาวเวอร์  หรือถูกมองว่าเป็นรัฐ 
ประหารซ่อนรูป แต่เป็นแนวคิดที่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 141
ขานรับก็อาจปรากฏในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  หรือในท้ายที่สุดหาก 
พล.อ.ประยุทธ์เลือกรัฐธรรมนูญฉบับใดมาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม หรือ 
เตรียมร่างรัฐธรรมนูญไว้แล้ว
เป้าหมายคือ เพื่อหำทำงออกเมื่อกำรเมืองถึงทำงตันโดยไม่
ต้องจบด้วยกำรรั ประหำรอีก

• No Deal-นายกฯ “บิก๊ ตู”่  ยันไม่มดี ลี กับใคร “เพราะไม่มใี ครจ้างผมปฏิวตั  ิ ผมท�า 


ของผมเอง ดังนั้นอย่าเชื่อว่าใครจะดีลกับผมได้”

ด้วยเพราะมีผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมเป็นคณะกรรมการฯ จาก 
จ�านวนทั้งหมด ๒๓ คน โดยมีกรรมการโดยต�าแหน่ง เช่น ประธานรัฐสภา 
ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี  ประธานศาลฎีกา ผู้บัญชาการกองทัพ 
ไทย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ 
และผู้บัญชาการต�ารวจแห่งชาติ

142 วาสนา  นาน่วม
รวมทั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งตั้งจากผู้ซึ่งเคยด�ารงต�าแหน่ง 
ประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี  ประธานศาลฎีกา ซึ่งเลือกกันเองแต่ละ 
ประเภท ประเภทละหนึ่งคน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจ�านวนไม่เกิน 
๑๑ คน เป็นผู้เชี่ยวชาญการปฏิรูปด้านต่างๆ ในการสร้างความปรองดอง 
ซึ่งแต่งตั้งจากมติรัฐสภา
คณะกรรมการชุดนี้จะมีอายุ  ๕ ปี  เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 
หรืออาจขยายได้หากมีประชามติอนุมัติโดยมีอ�านาจหน้าที่พิเศษ เมื่อเกิด 
ปัญหาความขัดแย้งในประเทศโดยไม่สามารถควบคุมได้  คณะกรรมการ 
ยุทธศาสตร์นี้สำมำรถมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ำ   ใน   เพื่อ
ใช้มำตรกำรที่จ�ำเป็นส�ำหรับจัดกำรกับสถำนกำรณ์ดังกล่ำว เพื่อให้ 
สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เมื่อได้ด�าเนินการดังกล่าวแล้ว 
ให้ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติม ี
อ�านาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระท�าการใดๆ ไม่ว่าการกระท�านั้นจะมี 
ผลบังคับในทางนิติบัญญัติหรือในทางบริหาร และให้ถือว่าค�าสั่ง การ 
กระท�า และการปฏิบัติตามค�าสั่งดังกล่าว เป็นค�าสั่ง การกระท�า หรือการ 
ปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้  และเป็นที่สุด
ที่ถูกมองว่าเป็นการ “สืบทอดอ�านาจ” เพราะเชื่อกันว่าหาก พล.อ. 
ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลปรองดองแห่งชาติหลังการ 
เลือกตั้งที่มีปัญหา เขำกจะมำอยู่ใน คปป.นี้ใน ำนะอดีตนำยกรั
มนตรีกเป็นได้  แถมยังมีผู้น�าทหารรวมอยู่ด้วย จนอาจท�าให้เกิดการรัฐ 
ประหารซ่อนรูป หรือการรัฐประหารแบบถูกกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์จึงมักย�้าเสมอว่า ในอนาคตอาจไม่มีทหารคนไหน 
อยากจะท�ารัฐประหารอีก เมื่อเกิดทางตันทางการเมือง หาทางออกไม่ได้ 
เพราะคนที่ท�ารัฐประหารจะต้องเสี่ยงเป็นกบฏ เสี่ยงชีวิต
โดยย�้าเสมอด้วยว่าตนเองก็ไม่ได้อยากท�ารัฐประหาร แต่เพราะ 
ไม่มีทางออกอื่น ประเทศเดินหน้าไม่ได้  จึงจ�าเป็นต้องออกมา
ประเทศเดินหน้ำไม่ได้ งบประมำ เบิกจ่ำยไม่ได้ รั บำลไม่ม ี

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 143
อ�ำนำจเต็มในกำรสั่งกำร ให้ลำออก แต่ไม่ลำออก แล้วก็ทะเลำะกันเหลือ
เกิน ยิ่ง เดือนสุดท้ำยก่อนผมเกษีย นี่ด่ำผมทังสอง ำยเลย ผมก็เลย
จ�ำเปนต้องออกมำ  พล.อ.ประยุทธ์สรุปเหตุผลของการท�ารัฐประหาร
ดังนั้นในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วมีการปล่อยข่าวลือว่า 
จะมีรัฐประหารซ้อนนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงออกมาพูดอย่างมั่นใจว่า  ใคร
จะท�ำรั ประหำร ผม ำมหน่อย ใครอยำกจะท�ำ ไม่มีแล้ว
เพราะเขารู้ดีว่า เขำกับกองทัพมีควำมเป็นปกแผ่นแน่นหนำกัน
อย่ำงที่สุด แถมขุมก�าลังรบ ขุมก�าลังปฏิวัติ  ทั้งหมดเป็นนายทหารที่เขา 
ตั้งมากับมือ เป็นลูกน้องของทั้งเขาเองและ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ. 
อนุพงษ์ซึ่งวางตัวกันไว้ต่อเนื่องตั้งแต่รัฐประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙
แม้แต่ก่อนการแต่งตั้งโยกย้ายทหารในปี  พ.ศ.๒๕๕๘ ที่มีการ 
แต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่  จนหลายฝ่ายเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเลือก 
“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายขึ้นเป็น ผบ.ทบ.เพื่อป้องกันการ 
ถูกรัฐประหารซ้อนและล้มอ�านาจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 
เขาไม่ได้กลัวการรัฐประหารซ้อน 
ไม่ใช่แค่เพราะมัน่ ใจในตัว “บิก๊ หมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. 
คนใหม่  ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.๕๒ และเป็นน้องรักของทั้งเขาเองและ 
พล.อ.ประวิตร แต่ เ พรำะรู ้ ดี ว ่ ำ เขำยั ง คุ ม อ� ำ นำจในกองทั พ  คุ ม ขุ ม
ก�ำลังป ิวัติได้อย่ำงเบดเสรจ ไม่มีใครสามารถท�ารัฐประหารล้มรัฐบาล 
คสช.ของเขาได้
แต่ลึกๆ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าการท�าให้การรัฐประหารสูญ 
พันธุ์ไปจากการเมืองไทยย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากตราบใดที่การเมือง 
ยังเป็นเช่นนี้  และบทบาทของกองทัพในทางการเมืองยังมีสูงเช่นนี้
อีกทั้งสาเหตุของการรัฐประหารในอดีตของไทยไม่ได้เกิดจากนัก 
การเมืองหรือฝ่ายการเมืองเท่านั้น  แต่เป็นเพราะความขัดแย้ง แย่งชิง 
อ�านาจของทหารด้วยเช่นกัน เช่นที่มีค�ากล่าวว่า “กำรเมื อ งไทยที่ ยั ง
วุ่นวำยมำตลอดเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพรำะ ึกสำยเลือดทหำรนั่นเอง”

144 วาสนา  นาน่วม
เช่นเดียวกับในยุคทองของ ๓ ป. ในยุค คสช.หลังการรัฐประหาร 
เมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที่ถือว่าอ�านาจของ พล.อ.ประยุทธ์, 
พล.อ.ประวิตร เข้มแข็งสูงสุด ถือเป็นแผงอ�านาจที่แข็งแกร่ง เพราะคุม 
ทั้งอ�านาจรัฐและกองทัพ จนฝ่ายตรงข้ามไม่มีศักยภาพใดที่จะมาล้มล้าง 
อ�านาจได้  โดยเฉพาะทหารแตงโมที่ถูกท�าหมัน ถูกปิดโอกาสคุมก�าลัง 
และถูกจับตาทุกความเคลื่อนไหว
ดั งนั้ น จึ ง มี แ ค่ ค วำมขั ด แย้ ง ภำยใน หรื อ กำรแย่ ง ชิ ง อ� ำนำจ
ภำยในแผงอ�ำนำจขั้วกลุ่มอ�ำนำจเดียวกันเองเท่ำนั้นที่จะเป็นตัว
บั่นทอนควำมแขงแกร่งของ คสช. ภำยใต้กำรน�ำของ พล.อ.ประยุทธ์
และ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ “คสช.” นั่นเอง...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 145
“ ยุ ค นี ื อ เปนยุ ค ทองของกองทั พ
ยุคทองของทหาร ยุคที่ทหารกลับมาเปน
ใหญ่ อี ก ครา  มดู ท่ า ว่ า จะครอง ผง
อำานาจทังรั บาล ละกองทัพเช่นนีต่อ ป


อีกพักใหญ่
ภาค ๓
ยุคทองของกองทัพ

ยุคทองของทหาร

“ ในยุ ค นี ม่ ว่ า จะบู ร พาพยั ค ์   ทหารเสื อ ฯ


หรื อ วง ์ เ ทวั ญ  ก ม่ ดี เ ท่ า กั บ การเปน  วง ์
สุ ว รร  นั่ น หมาย งเปนนายทหารน้ อ งรั ก
ของ พล.อ.ประวิตร  จะให้ดก ี ว่านันกคือเปนสาย


จันทร์โอชา  จะ ือว่ารุ่งเรืองที่สุด

เกิดวำทกรรมอันเนื่องมำจำก “ติ่ง” พล.อ.ประยุทธ์  “ติ่ง” คสช.
ตั้งแต่หลังรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที่ว่า
  เหนือกว่า “จันทร์ส่องหล้า” ยังมี  “จันทร์โอชา” เพื่อเปรียบเทียบ 
อ�านาจและบารมีที่เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุดของบ้านจันทร์ส่องหล้าของอดีต 
นายกรัฐมนตรี  “ทักษิณ ชินวัตร” โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ลั่นประ 
โยคที่ว่า  ยังไงผมก็ชนะ
  ก่อนจะมาสู่การใช้อ�านาจมาตรา ๔๔ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 
ปี  พ.ศ.๒๕๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมปี  พ.ศ.๒๕๕๘ ของหัวหน้า คสช.ถอดยศ 
“พันต�ารวจโท” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ตามมติของ คสช.ที่เห็นชอบและ 
ตามที่ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติเสนอขึ้นมา ซึ่งมีผลเมื่อวันที่  ๖ กันยายน 
พ.ศ.๒๕๕๘
  หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า  ไม่อย่ำงนันก็ยังสู้อยู่อย่ำงนี
  “สู้” มานับตั้งแต่ถูกรัฐประหารภาคแรกเมื่อ ๑๙ กันยายน พ.ศ. 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 149
๒๕๔๙ แต่ก็ไม่แพ้พ่าย ท�าให้กลายเป็นรัฐประหารเสียของ น�ามาซึ่งรัฐ 
ประหารภาค ๒ ในครั้งนี้  ที่ยังผลให้อ�านาจและบารมีเปลี่ยนมือจากนัก 
การเมืองมาสู่เงื้อมมือทหารและข้าราชการ
  ภายใต้ร่มเงาใหญ่ของแผงอ�านาจที่ถูกเรียกว่า “  ป.แห่งบูรพำ 
พยัค ์” ป.ป้อม ประวิตร-ป.ปอก อนุพงษ์-ป.ประยุทธ์  ๓ พี่น้อง ๓ ทหาร 
เสือราชินีที่ฝังรากลึกสายอ�านาจรัฐบาล คสช.และนายกฯ ทหารอย่าง 
แน่นแฟ้น
  เรียกได้ว่ายุคนี้ถือเป็นยุคทองของกองทัพ ยุคทองของทหาร ยุค 
ที่ทหารกลับมาเป็นใหญ่อีกครา แถมดูท่าว่าจะครองแผงอ�านาจทั้งรัฐบาล 
และกองทัพเช่นนี้ต่อไปอีกพักใหญ่
  จนเกิดค�าพูดที่ว่า ในยุคนี้ไม่ว่าจะบูรพาพยัค ์  ทหารเสือฯ หรือ 
วงศ์เทวัญ ก็ไม่ดีเท่ากับการเป็น “วงษ์สุวรรณ” นั่นหมายถึงเป็นนายทหาร 
น้องรักของ พล.อ.ประวิตร
  จะให้ดีกว่านั้นก็คือเป็นสาย “จันทร์โอชา” จะถือว่ารุ่งเรืองที่สุด...
  แต่กนั่นแหละ...อ�ำนำจไม่เคยปรำนีใคร หำกว่ำผู้นั้นหลงระเริง 
หรือเสพติดมันเข้ำให้ละก...

150 วาสนา  นาน่วม

โปลิตบูโร

“ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเปนนายกรั มนตรี
อย่ า งน้ อ ยราว ๓ ป หรื อ จน งกลางป พ. .
๒  ค ะรั มนตรีชุดนีกอาจจะอยู่ยาว ป ง
ตอนนัน หรืออาจมีการปรับค ะรั มนตรีเกิด


ขนอีกกเปน ด้

ไม่ใช่แค่เป็นผู้น�ำรั ประหำรและเป็นนำยกรั มนตรี ึ่งควบ


ต�าแหน่งหัวหน้าคณะรัฐประหารไว้ด้วยเท่านั้น  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ยัง 
ตั้งรัฐบาลทหารมาบริหารประเทศ แม้จะท�าให้หลายๆ คนย้อนร�าลึกไปถึง 
รัฐบาลสลอร์กของเมียนมาก็ตาม
ทว่า “บิ๊กตู่” ก็หาได้แคร์ไม่  แต่กลับเลือกที่จะท�าทุกอย่างที่เหมาะสม 
กับสภาพปัญหาของไทย เขาจึงกล้าฉีกทุกกฎข้อห้าม เพราะมีบทเรียนมา 
จากการรัฐประหารในอดีตของไทยและในอีกหลายประเทศ
ไม่กลัวอะไรทังนัน ้ำกลัว ผมคงไม่มำยืนอยู่ตรงนีหรอก  พล.อ. 
ประยุทธ์ใช้ประโยคนี้ตอบทุกค�าถามเกี่ยวกับความหวาดระแวงต่างๆ
ดังนั้น คณะรัฐมนตรี  “ประยุทธ์  ๑” จึงเต็มไปด้วยทหารที่มีการ 
ควบ ๒ ต�าแหน่ง และบางคนก็ควบต�าแหน่งในกองทัพ เนื่องจากยังไม่ 
เกษียณอายุราชการและเป็นทหารรวม ๑๐ คน
จากนั้นเมื่อบริหารราชการได้ครึ่งทาง กได้มีกำรปรับคณะรั มนตรี 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 151
“ประยุทธ์  ” ด้วยการเพิ่มรัฐมนตรีพลเรือนมา ๒ คน  ต่อมาเมื่อครบ 
๑ ปี  พล.อ.ประยุทธ์ก็ปรับคณะรัฐ มนตรี  “ประยุทธ์  ๓” เมื่อ วันที่  ๒๐ 
สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกของรัฐบาลหลังการรัฐประหาร 
เพราะส่วนใหญ่รัฐบาลจากการยึดอ�านาจจะรีบจัดการเลือกตั้ง แต่รัฐบาล 
ของ พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่รีบ
โดยนายทหารที่เป็นแกนน�ารัฐประหาร เช่น “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประ 
วิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัค ์  ซึ่งมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี 
ดูแลฝ่ายความมั่นคง ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไปอย่าง 
เหนียวแน่น
“บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา พี่รองแห่งบูรพาพยัค ์  เป็น 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  “บิ๊กตอก” พล.อ.ไพบูลย์  คุ้มฉายา 
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพียงแต่เกษียณจากต�าแหน่งรอง 
ผบ.สส.
โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศเป็นนโยบายว่า หลังการปรับคณะ 
รัฐมนตรี  “ประยุทธ์  ๓” แล้ว จะไม่ให้มีรั มนตรีคนใดควบต�ำแหน่ง 
ข้ำรำชกำรประจ�ำอีก หากเป็นจะต้องลาออกจากข้าราชการประจ�าก่อน 
จะมารับต�าแหน่งเท่านั้น
และรัฐมนตรีที่เป็นเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่น ๑๒ ของ พล.อ.ประ 
ยุทธ์  ทั้ง “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะก็ได้ไปต่อ แต่ไปเสียหลัก 
เพราะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้วถูกวิจารณ์ไปตามกระแส 
ไม่พอใจทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์จึงขยับให้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระ 
ทรวงเกษตรและสหกรณ์เช่นเดียวกับ “บิ๊กเต่า” พล.อ.สุรศักดิ์  กาญจนรัตน์ 
จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ดาว์พงษ์ 
รัตนสุวรรณ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด 
ล้อมมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
คณะรัฐมนตรี  “ประยุทธ์  ๓” จึงได้ชื่อว่าเป็นคณะรัฐมนตรีทหาร 

152 วาสนา  นาน่วม
รัฐบาลทหารและคณะรัฐมนตรีลายพรางมากถึง ๑๒ คน มากกว่าเมื่อ 
ครั้งจัดตั้งรัฐบาลแรก  เพรำะครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไม่เอำนำยทหำรคนไหน 
ออกไปจำกคณะรั มนตรีเท่ำนั้น แต่ยังเพิ่มทหำรเข้ำมำอีก   คน  
คือ “บิ๊กบี้” พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ซึ่งก�าลังจะเกษียณจากปลัดกระทรวง 
กลาโหมในวันที่  ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๘ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระ 
ทรวงแรงงาน ในฐานะที่ท�างานจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวมาตลอด และ 
ในฐานะน้องรักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รวมถึง “บิ๊กโย่ง” พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์  ซึ่งเวลานั้นก�าลัง 
จะเกษียณจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. และเป็นประธานคณะกรรมการ 
ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) น้องรักนายกฯ มาเป็น 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
แม้จะท�าให้มีพลเอกนามสกุล “กำญจนรัตน์” ๒ คนในคณะรัฐ 
มนตรีชุดนี้  แต่  พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.อนันตพรก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็น 
ญาติกับ พล.อ.สุรศักดิ์  แค่สะกดเหมือนกันเท่านั้น จึงไม่ใช่คณะรัฐมนตรี 
เครือญาติ
ส�าหรับการปรับคณะรัฐมนตรี  “ประยุทธ์  ๓” พล.อ.ประยุทธ์ยังคง 
ไม่เอาทหารคนไหนออกนอกคณะรัฐมนตรี  เพราะยังไงๆ ก็รัฐประหารด้วย 
กันมา แม้จะเป็นแค่มารับทราบในภายหลัง ร่วมนั่งแถลงในวันรัฐประหาร 
เป็นพระอันดับเท่านั้น อีกทั้งเป็นเพื่อนพี่น้องกันด้วย เช่น “บิ๊กน้อย” พล.อ. 
สุรเชษฐ์  ชัยวงศ์  ก็เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
ท่ามกลางการจับตามองว่าจะมีการเกิดอาการน้อยใจใดๆ ตามมา
หรือไม่  หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เด้ง “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.ธนะศักดิ์  ปฏิมา- 
ประกรออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้เหลือรองนายก 
รัฐมนตรีแค่ต�าแหน่งเดียว  ไม่แค่นั้น ยังมอบหมายให้ดูแลแค่กระทรวง 
การท่องเที่ยวและกี าและกระทรวงวัฒนธรรม ไม่ให้คุมงานกระทรวงการ 
ต่างประเทศ เนื่องจากนายดอน ปรมัตวินัยที่ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ 
กระทรวงต่างประเทศแทนนั้นคงจะมองหน้ากันไม่สนิทใจ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 153
ไม่เพียงเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังมอบหมายให้นายสมคิด จาตุ- 
ศรีพิทักษ์  รองนายกรัฐมนตรีที่คุมเศรษฐกิจ มาคุมกระทรวงการต่างประ 
เทศแทน โดยให้เหตุผลว่ากระทรวงการต่างประเทศและเศรษฐกิจต้อง 
ท�างานด้วยกัน ท�ำให้นำยสมคิดกลำยเป็น “ควำมหวัง” ของคณะรั  
มนตรีชุดนี้  ซึ่งแม้แต่  พล.อ.ประยุทธ์เองก็ยังชื่นชมอยู่ไม่ขาดปาก โดย 
เฉพาะการที่ทีมเศรษฐกิจของนายสมคิดนัดกินโจกกันทุกเช้าวันจันทร์ท ี่
ห้องท�างานของนายสมคิด และนับวันยิ่งสนิทสนมกับนายกฯ จนกลาย 
เป็นคู่ซี้ท่ีคอยเตือนนายกฯ ว่าให้ใจเย็น อย่าเครียด โดย “บิ๊กตู่” เรียก 
“พี่” เพราะอายุมากกว่า ๒ ปี
อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ธนะศักดิ์นั้นเคยแข่งกันใน 
ทีมมำตั้งแต่เป็นนำยทหำรเดก  หรือเตรียมทหำรรุ่น ๑  แม้จะ 
ไม่เคยขัดแย้งกันแต่ก็แข่งๆ กันมาเพียงแต่เดินคนละทาง โดย พล.อ.ประ 
ยุทธ์เติบโตในสายก�าลังรบและเป็นทหารเสือราชินี  ส่วน พล.อ.ธนะศักดิ ์
ติดตามเสด็จฯ มาโดยตลอด
และที่ ข บเหลี่ ย มกั น มากที่ สุ ด ก็ คื อ   การชิ ง บทบาทน� า ในการแก้ 
ปัญหาวิกฤตการเมืองในช่วงก่อนรัฐประหาร โดย พล.อ.ธนะศักดิ์  ผบ.สส. 
มักจะตกขบวนเสมอ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์  ผบ.ทบ.ออกหน้าเล่นบทน�า 
ทั้งการเปิดโตะเจรจาในค่ายทหารและการรัฐประหารในวันที่  พล.อ.ธนะ- 
ศักดิ์อยู่ต่างประเทศ แม้จะรีบกลับมาร่วมด้วยในเวลาต่อมาก็ตาม
ในขณะเดียวกัน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง อดีต ผบ.ทอ.ก็ได้ถูก 
ขยับออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาเป็นรองนายกฯ คุม 
กระทรวงพลังงาน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ 
กระทรวงศึกษาธิการ จนเจ้าตัวเปรยๆ ว่าได้พักแล้ว อีกไม่นานคงจะหลุด 
หรือเป็นที่ปรึกษานายกฯ หรือหลุดไปเลย
เช่นเดียวกับ “บิ๊กเข้” พล.ร.อ.ณรงค์  พิพัฒนาศัย อดีต ผบ.ทร.นั้น 
ย่อมพูดไม่ออก เพราะหลุดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มา 
เป็นรองนายกฯ ซึ่งไม่ได้คุมกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไปดูกระทรวงพัฒนา 

154 วาสนา  นาน่วม
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงสาธารณสุข
การประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคารในรัฐบาลของ พล.อ.ประ 
ยุทธ์นั้นจะมีเอกลักษณ์ตรงที่จะต้องใส่เสื้อรำชปะแตน ผ้ำไหมไทย 
หรือผ้ำไทย โดยส่วนใหญ่รัฐมนตรีมักจะใส่สีฟ้าเพราะรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ 
ชอบใส่สีฟ้า แม้นายกฯ จะมีหลายสีมากกว่า ๒๐ ตัวก็ตาม
ส่วนทุกวันจันทร์  พล.อ.ประยุทธ์จะให้ข้าราชการแต่งชุดข้าราชการ 
สีกากีมาท�างานกันทัว่ ประเทศไม่เว้นทีท่ า� เนียบรัฐบาล หรือแม้แต่ตวั  พล.อ. 
ประยุทธ์เองก็สวมชุดข้าราชการ แม้อาจดูแปลกๆ ที่อดีต ผบ.ทบ.ซึ่งเป็น 
อดีตทหาร เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร จะต้องมาสวมชุดข้าราชการในฐานะ 
นายกรัฐมนตรี 
ส่วนใหญ่การประชุมคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์จะเริ่มใน 
เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่หน้าตึกบัญชาการ ๑ ท�าเนียบรัฐบาล ทุกวันอังคาร 
สถานที่ประชุมนั้นจะมีการจัดอีเวนต์โปรโมตกิจกรรมของกระทรวง ทบวง 
กรมต่างๆ ที่จะรอพบ พล.อ.ประยุทธ์  เพื่อให้ถ่ายภาพท�าข่าวก่อนจะขึ้น 
ประชุม
ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นรู้มุมกล้อง รู้ว่ำต้องท�ำท่ำ 
ไหน เกกท่ำยังไงถึงจะเป็นข่ำว หรือได้ขึ้นหน้า ๑ และถ้ามีเด็กๆ มา 
ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ก็จะเล่นกับเด็กบ้าง กอดบ้าง อุ้มบ้าง หอมแก้มบ้าง 
ร้องเพลงด้วยบ้าง 
เรียกได้ว่า นักข่าว ช่างภาพ จะรอจ้องจับภาพตั้งแต่  พล.อ.ประ 
ยุทธ์เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าพร้อมนายทหารติดตามเดินเป็นแผงมายังตึก 
บัญชาการเลยทีเดียว
พล.อ.ประยุทธ์จะใช้เวลาประชุมคณะรัฐมนตรีค่อนข้างนานกว่า 
จะเลิกประชุม ทานอาหารกลางวัน แล้วลงมาแถลงข่าวก็ไม่เคยต�่ากว่า 
๑๓.๐๐-๑๔.๐๐ น. ทั้งกว่าจะแถลงข่าวเสร็จก็เกือบบ่ายสามโมง เพรำะ 
พล.อ.ประยุทธ์จะให้เวลำแถลงและตอบข้อ ักถำมทุกเรื่อง 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 155
• คู่มิตร คู่แข่ง-พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ธนะศักดิ์  เมื่อสมัยเป็นนายทหารเด็กๆ 
ทั้งสองต่างเคยตามเสด็จฯ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

จากเดิ ม ที่ ก ารแถลงข่ า วจะตั้ ง โพเดี ย มหน้ า ตึ ก บั ญ ชาการ ส่ ว น 


นักข่าวก็นั่งบนพื้นถนนหน้าตึก ฟังแถลงข่าว แม้จะร้อนก้นเพราะถนนดูด 
ไอความร้อนจากแดดและภาพออกมาดูไม่ดีนัก นายกฯ จึงสั่งให้น�าเก้าอี ้
มาตั้งไว้ให้นักข่าวได้นั่งพร้อมกับล้อมรั้วกั้นเขตห่างจากโพเดียมของนายกฯ 
อย่างมาก
ทว่าเนื่องจากสภาพอากาศร้อน แดดสาดแรง และบางทีฝนตก 
พล.อ.ประยุทธ์จึงให้ย้ายไปแถลงข่าวที่ชั้นล่างตึกบัญชาการที่มีแอร์เย็น 
เฉียบจนหนาว
ต้องยอมรับว่าในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์นี้  วันประชุมคณะรัฐมนตรี 
เป็นวันที่มีสีสันไม่น้อย โดยเฉพาะจากตัวนายกฯ เอง
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นนำยกรั มนตรีอย่ำงน้อยรำว 
 ป หรือจนถึงกลำงป พ. . ๐ คณะรั มนตรีชุดนี้กอำจจะอยู่ยำว 
ไปถึงตอนนั้น หรืออำจมีกำรปรับคณะรั มนตรีเกิดขึ้นอีกกเป็นได้

156 วาสนา  นาน่วม

มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

“ พล.อ.ประยุทธ์มี นวคิดที่จะตัง  กระทรวง


ความมั่นคง  เพื่อรวมทุกหน่วยงานความมั่นคง


ทังหมดมาอยู่ด้วยกัน

กว่ำที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเบนเขมมำที่กำรใช้ยุทธ ำสตร์ “มั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน” นั้น พล.อ.ประยุทธ์ใช้ม็อตโต้ว่า “ท�าก่อน ท�าจริง ท�าทันที 
มีผลสัมฤทธิ์  และยั่งยืน” มาก่อน
  เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมากว่าปี  และเป็นรัฐบาลกว่า ๑ ปี  ซึ่งอาจ 
อยู่อย่างน้อย ๓-๕ ปี  พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ยกเรื่องการดูแลความสงบเรียบ 
ร้อยให้เป็นผลงานด้านความมั่นคง ท�าให้ไม่มีม็อบมายึดครองถนนได้อีก
  โดยมีกองทัพบกเป็นก�าลังหลักของกองก�าลังรักษาความสงบเรียบ 
ร้อย (กกล.รส.) มีก�าลังทหารทั่วประเทศมาขึ้นตรงทั้งหมด และมีแม่ทัพ 
ภาค ๑ เป็น ผบ.กกล.รส.โดยต�าแหน่ง  แต่เมื่อ  “บิ๊กหมู”  พล.อ.ธีรชัย 
นาควานิช ผบ.ทบ. เป็นเลขาธิการ คสช. ก็ส่อเค้าว่าจะมาคุม กกล.รส.เอง
  หากแต่สุดท้ายก็เกิดเหตุร้ายขึ้นอยู่เนืองๆ แม้จะไม่ได้มุ่งท�าร้ายใคร 
ทว่าเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ที่ท�าให้ฝ่ายรัฐบาลโยนให้กลุ่มคิดต่าง 
กลุ่มต่อต้าน คสช.รับผิดชอบ

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 157
  จนทีส่ ดุ ก็เกิดเหตุระเบิดสีแ่ ยกราชประสงค์และท่าเรือสาธรเมือ่ วันที ่
๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ มีผู้เสียชีวิต ๒๐ คน และบาดเจ็บกว่า ๑๐๐ 
คน ท�าให้ประเทศไทยถูกตั้งค�าถามในเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัย 
ซึ่งจ�าเป็นต้องสังคายนาระบบกันใหม่  ท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์มีแนวคิดที่จะ 
ตั้ง “กระทรวงความมั่นคง” เพื่อรวมทุกหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดมา 
อยู่ด้วยกัน ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ  ส�านักข่าวกรองแห่งชาติ  รวมถึง 
กอ.รมน. และ ศอ.บต.  ึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เคยใช้มำตรำ   เรียกมำ 
ดูแลเอง

  แต่นายกฯ ก็ยังห่วงว่ากระทรวงความมั่นคงจะกลายเป็น “อ�านาจ 
รัฐใหม่” ที่มาคานพลังอ�านาจของกระทรวงกลาโหมและกองทัพจึงอาจ 
ต้องคิดอย่างรอบคอบ
  ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการด�าเนินนโยบายที่ผิดพลาด จากการ 
ส่งชาวอุยกูร์  ๑๐๙ คนที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกลับไปประเทศ 
จีนเมื่อวันที่  ๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ซึ่งเชื่อมโยงถึงการก่อการร้าย 

158 วาสนา  นาน่วม
สากล เพราะจีนเองก็ระบุก่อนหน้านี้ว่ามีชาวอุยกูร์ไปร่วมกับกลุ่ม IS หรือ 
แม้แต่จะขมวดปมวกกลับเข้ามาเป็นการเมืองภายในด้วยก็ตาม
  ถือเป็นการท้าทาย คสช.และอ�านาจมาตรา ๔๔ ของหัวหน้า คสช. 
อย่างยิ่ง ทั้งในการคลี่คลายคดีและการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ไม่ว่า 
ด้วยสาเหตุใดก็ตาม
  สถานการณ์นี้ส่งผลให้  พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรเห็นพ้อง 
กันว่า ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้จึงสมควรเลือกเลขาธิการสภาความ 
มั่นคงแห่งชาติ  (เลขาฯ สมช.) ที่เป็นทหาร โดยให้  พล.อ.ทวีป เนตรนิยม 
มาเป็นเลขาฯ สมช.คนใหม่  ตัดหน้ำคนในอย่ำงนำงกนกทิพย์  รัชตะ- 
นันท์ รองเลขำธิกำร สมช.ที่อำวุโสสูงสุด จนส่งผลให้เธอต้องยื่นใบลา 
ออกแม้จะถูกระงับก็ตาม
  ทั้งๆ ที่  พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้อ�านาจมาตรา ๔๔ ในการย้าย พล.ท. 
พงศกร รอดชมพู  รองเลขาธิการ สมช.เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  เพื่อ 
เปิดทางให้นางกนกทิพย์เป็นรองเลขาฯ สมช.เพราะอาวุโสสูงสุด แต่ท้าย 
ที่สุด พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ก็เห็นพ้องกันว่าควรจะต้องเป็น 
ทหาร
  จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องใช้มาตรา ๔๔ เยียวยาด้วยการเปิด 
ต�าแหน่งซี ๑๑ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง ส�านัก 
นายกรัฐมนตรี  ให้นางกนกทิพย์โดยเฉพาะ
  ถือเป็นกำรปรับทีมงำนด้ำนควำมมัน่ คงเพือ่ รองรับสถำนกำรณ์ 
ที่ไม่ปกติ...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 159

“วง ์สุวรร จันทร์โอชา”

“ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเปนนายกรั
มนตรีต่อ ป งอย่างน้อยกลางป พ. .๒


หรือนานกว่านัน ยิ่งทำาให้ขัวอำานาจนีเบ่งบาน

ในยุค คสช.นี้นับได้ว่ำเป็นยุคเ อง ูเรืองรองที่สุดของแผง
อ�านาจบูรพาพยัค ์ที่ถูกเรียกว่า “๓ ป.” ได้แก่  ป.ป้อม ประวิตร-ป.ปอก 
อนุพงษ์-ป.ประยุทธ์  ๓ พี่น้อง ๓ ทหารเสือราชินีที่ผูกพันใกล้ชิดกันมานาน
  แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แต่ก ็
ให้เกียรติ  พล.อ.ประวิตรในฐานะพี่ใหญ่ของทั้งบูรพาพยัค ์  พี่ใหญ่  คสช. 
และในรัฐบาลมาตลอด เสมือนเป็นนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง
  ซึง่ ส่งผลให้อา� นาจและบารมีของ พล.อ.ประวิตรทีเ่ คยมีมากอยูแ่ ล้ว 
ทั้งในฐานะประธานเตรียมทหารรุ่น ๖ ทั้งในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการ 
กระทรวงกลาโหม อดีต ผบ.ทบ. ยิ่งเปียมอ�านาจมากขึ้น ในฐานะพี่ชาย 
ของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา
  อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์น้ันยกให้  พล.อ.ประวิตรเป็น “พี่ชายที่ 
แสนดี” ที่คอยดูแลน้องๆ มาโดยตลอด
  แม้วันนี้เขาจะเป็นนายกรัฐมนตรี  แต่ก็ให้เกียรติหรือยอม พล.อ. 

160 วาสนา  นาน่วม
ประวิตรอยู่คนเดียว โดยเฉพาะการจัดแถวทหารและต�ารวจ โดยมอบ 
หมายให้  พล.อ.ประวิตรดูแลด้านความมั่นคง 
  ถึงขั้นที่  พล.อ.ประวิตรเชื่อมั่นว่าตราบใดที่เขายังท�างานในต�าแหน่ง 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไหว พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีทำงที่จะเปลี่ยน 
ตัวรั มนตรีว่ำกำรกระทรวงกลำโหม ยกเว้นตนเองจะหมดแรงเสียก่อน
  แต่หลังจาก พล.อ.ประวิตรประสบอุบัติเหตุหกล้ม จนต้องใส่เฝือก 
อ่อนที่แขนและขาขวาอยู่เกือบหนึ่งเดือนนั้น เขาก็ไม่เต็มร้อยเท่าใดนัก 
ท�าให้มีการเล็งๆ กันไว้ว่าหาก พล.อ.ประวิตรถอดใจเรื่องสุขภาพ “บิ๊กโด่ง” 
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมก็จะขึ้นเสียบ 
แทน
  จึงไม่แปลกหากจะมีควำมพยำยำมในกำรเสี้ยมให้เกิดควำม 
ขัดแย้งระหว่ำง พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์  ในเรื่องความ 
เห็นที่ไม่ตรงกัน  แต่  พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์พูดตรงกันเสมอ 
ว่าความเห็นไม่ใช่จะตรงกันทุกเรื่อง อีกทั้งทุกวันนี้มีอะไรก็คุยกันเพราะ 
ต้องเจอหน้ากันทุกวัน หรือไม่ก็โทรศัพท์คุยกันตลอด
  ที่ส�าคัญ ความผูกพันที่ยาวนานแน่นแฟ้นของทั้งคู่ตั้งแต่เป็นทหาร 
เสือฯ เด็กๆ ท�าให้ยากที่จะมีอะไรมาท�าลายความเป็นพี่น้องของเขาได้
  กระนั้น พล.อ.ประวิตรก็ถูกจับตามองว่า มีเปำหมำยที่จะเป็น 
นำยกรั มนตรีในอนำคต จนมีข่าวว่าเพื่อนร่วมรุ่นและคนใกล้ชิดมีแผน 
ตั้งพรรคทหารหรือพรรคนอมินีเพื่อรองรับ พล.อ.ประวิตรสู่การเป็นนายก 
รัฐมนตรีอยู่เสมอๆ แม้  พล.อ.ประวิตรจะปฏิเสธมาตลอดก็ตาม
  ถือได้ว่าในยุคนี้  ไม่ว่าทหารหรือต�ารวจก็วิ่งเข้าหา พล.อ.ประวิตร 
ทั้งสิ้น เพราะดูแลทั้งสีกากีและสีเขียว รวมถึงเรื่องอื่นๆ ก็สามารถคุยกับ 
พล.อ.ประยุทธ์ได้  จึงท�าให้บารมีของ พล.อ.ประวิตรมีเหลือล้น
  กลายเป็นขั้วอ�านาจที่เรียกว่า “วงษ์สุวรรณ” หรือแม้แต่การยกย่อง 
ให้  พล.อ.ประวิตรเป็นเสมือน “ป๋า” ของนายทหารทั้งสายบูรพาพยัค  ์
ทหารเสือฯ และวงศ์เทวัญ รวมถึงต�ารวจ จนท�าให้  “บิ๊กปอด” พล.ต.อ. 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 161
พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย “บิ๊กป้อม” มีบารมีในวงการต�ารวจไปด้วย
  เมื่อ พล.อ.ประวิตรตัดสินใจเลือก “บิ๊กแปะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ 
ชัยจินดาเป็น ผบ.ตร.ซึ่งจะเหลืออายุราชการถึงปี  พ.ศ.๒๕๖๓ และอาวุโส 
น้อยที่สุด ตอกย�้าบารมีของ พล.อ.ประวิตรเป็นอย่างดี
  ยิง่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปถึงอย่างน้อย 
กลางปี  พ.ศ.๒๕๖๐ หรือนานกว่านั้น ยิ่งท�าให้ขั้วอ�านาจนี้เบ่งบาน
  ยุคนี้จึงเป็นยุคทองของ “วงษ์สุวรรณ” และ “จันทร์โอชำ” โดย 
แท้จริง ท่ำมกลำงควำมเป็นห่วงถึงรอยร้ำวในใจระหว่ำง “บิ๊กหมู” 
พล.อ.ธีรชัยกับ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช  ่ึงจะท�ำให้  “วงษ์สุวรรณ- 
จันทร์โอชำ” และ คสช.ร้ำวไปด้วยหรือไม่   “บิ๊กปอม” พี่ใหญ่กับ 
“บิ๊กตู่” คงต้องดูแลอย่ำงใกล้ชิด...

162 วาสนา  นาน่วม

“จักรทิพย์” ผบ.ตร.ลายพราง

“ พล.ต.อ.จั ก รทิ พ ย์ ยั ง ด้ ช่ื อ ว่ า เปน  เดก


ในบ้าน  หรือขาประจำาของบ้าน ร.๑ รอ. ของ 


พล.อ.ประวิตรอีกด้วย

เป็นทีฮ่ อื ฮำไม่นอ้ ยเมือ่ ครัง้ มติคณะกรรมกำรข้ำรำชกำรต�ำรวจ


แห่งชาติ  (กตช.) มีมติให้  “บิ๊กแปะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา รอง 
ผบ.ตร.อาวุโสอันดับท้ายสุดขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนใหม่
  เป็นการจัดทัพสีกากีโดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร ในฐานะรอง 
นายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงที่  พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ดูแลต�ารวจ 
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์มอบให้  พล.อ.ประวิตรเป็นประธานการประชุม  
กตช.แทน
  จนถูกเรียกว่าเป็ น  ผบ.ตร.ที่ เ กิ ด ในค่ ำ ยทหำร เพราะ พล.อ. 
ประวิตร ใช้  ร.๑ พัน ๔ รอ.เป็นสถานที่ประชุม กตช.เพื่อเลือก ผบ.ตร.คน 
ใหม่เมื่อวันที่  ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ด้วยมติเอกฉันท์  แม้  พล.ต.อ. 
จักรทิพย์จะมีอายุราชการเหลือถึงปี  พ.ศ.๒๕๖๓ ก็ตาม
  ด้วยเหตุผลของสถานการณ์ที่ไม่ปกติ  จึงจ�าเป็นต้องมี  ผบ.ตร.อย่าง 
“บิ๊กแปะ” ที่ท�างานด้านความมั่นคงร่วมกับทหารมาตลอด ทั้งชายแดน 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 163
ภาคใต้จนถึงการเมืองภายใน อีกทั้งเป็นต�ารวจที่รู้จักสนิทสนมกับฝ่าย 
ทหารอย่างดี  เพราะความที่เป็นเตรียมทหารรุ่น ๒๐ เพื่อนซี้ของ “บิ๊กแดง” 
พล.ท.อภิรัชต์  คงสมพงษ์  แม่ทัพน้อยที่  ๑ แกนน�ารุ่นซึ่งเป็นรุ่นดาวรุ่งของ 
ทบ.
  ไม่แค่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ยังได้ชื่อว่าเป็น “เด็กในบ้าน” หรือ 
ขาประจ�าของบ้าน ร.๑ รอ.ของ พล.อ.ประวิตรอีกด้วย
  ยิ่งเมื่อเกิดเหตุระเบิดราชประสงค์  พล.อ.ประวิตรก็ไว้วางใจให้ 
พล.ต.อ.จักรทิพย์รับผิดชอบเรื่องคดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัว ผบ.ตร. 
คนใหม่เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคน
  ดังนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์จึงกลายเป็น ผบ.ตร.ลายพรางอีกคน เช่น 
เดียวกับ “บิ๊กออด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงที่เกษียณราชการไป
  ท่ามกลางช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของต�ารวจที่เคยถูกเรียกว่าเป็นต�ารวจ 
มะเขือเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์พูดหลายครั้งเรื่องการปฏิรูปต�ารวจ รวมถึง 

164 วาสนา  นาน่วม
การรวมต�ารวจมาอยู่ในกระทรวงความมั่นคง หรืออาจอยู่กับทหารใน 
กระทรวงกลาโหม
  แต่การขึ้นเป็น ผบ.ตร.ในยุค คสช.นี้  หากมีการเลือกตั้งแล้วเปลี่ยน 
ขั้วอ�านาจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ก็ท�าใจไว้แล้วว่าพร้อมจะถูกโยกย้ายหรือ 
ลาออก เนื่องจากเขาได้ชื่อว่าเป็นต�ารวจสายทหาร สาย คสช.ไปแล้ว
  เป็นการวัดบารมีของ พล.อ.ประวิตร และการให้เกียรติของ พล.อ. 
ประยุทธ์ที่มีต่อ “พี่ป้อม” ผู้นี้ด้วย
  เพราะไม่ใช่แค่เลือก ผบ.ตร.เท่านั้น แต่การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร 
พล.อ.ประยุทธ์ก็ให้เกียรติ  พล.อ.ประวิตรในฐานะที่มอบหมายให้ดูแล 
กระทรวงกลาโหม ยิ่งเป็นการเพิ่มอ�านาจและบารมีให้  “บิ๊กป้อม”
  ยิ่งกลำยเป็น “ปำปอม” มำกขึ้น

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 165

“บิ๊กหมู” ผบ.ทบ.คนที่ ๓

“ ผมยืนยันว่า ม่ ด้ตังใครเพื่อสืบทอดอำานาจ
ทำา มมันต้องสืบทอดอำานาจ มันมีของมันอยู่ ล้ว
อย่ า ป สวงหาให้ มั น มากนั ก  เพราะยิ่ ง หายิ่ ง


ขว่คว้า มันยิ่ง ม่มายิ่ง ม่มี ใช้มากกยิ่ง ม่ดีอีก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กำรจัดทัพของ คสช.จำกกำรแต่งตั้งโยกย้ำยนำยทหำร  ๑
นาย ที่โปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่  ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ได้กลายเป็นดัชนี 
ชี้วัดการเมืองและกองทัพ
“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ใหญ่ของ คสช.ที่รับบัญชานายกฯ ใน 
การจัดวางตัวขุนพลแม่ทัพนายกองที่จะเติบโตขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.เพื่อให้ 
กองทัพนิ่งและไว้วางใจได้ในยามที่  พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี 
ต่อไปอีกระยะหนึ่ง พร้อมรองรับการเมืองที่ไม่แน่นอนหลังการเลือกตั้ง
จึงมีการจัดท�าแพ็กเกจนายทหารที่จะขยับต่อคิวกันขึ้นเป็น ผบ.ทบ. 
คนต่อๆ ไปต่อเนื่องกันถึง ๔ คน
เริ่มจากการให้  “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นำควำนิช ผช.ผบ.ทบ. 
ขึ้ น เป็ น  ผบ.ทบ. ตั้งแต่วันที่  ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๘ แทน “บิ๊กโด่ง” 
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตรที่จะเกษียณจาก ผบ.ทบ.ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วย 

166 วาสนา  นาน่วม
ว่าการกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้  เป็นความเห็นชอบตรงกันตั้งแต่ต้นของ พล.อ.ประวิตรและ 
พล.อ.ประยุทธ์  ที่ให้  พล.อ.ธีรชัยเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่เป็น ผบ.ทบ.คนที่ 
๓๙ แห่งกองทัพบกไทย
และถื อ เป็ น   ผบ.ทบ.ที่ เ ติ บ โตมาจากสายบู ร พาพยั ค ์ ค นที่   ๔ 
ต่อเนื่องกัน เพราะโตมาจากกองพลทหารราบที่  ๒ รักษาพระองค์  (พล.ร. 
๒ รอ.) ขุมก�าลังรบของกองทัพภาค ๑ ซึ่งได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ปิดฉาก 
ยุ ค รุ ่ ง เรื อ งของสายวงศ์ เ ทวั ญ ที่ เ ติ บ โตจากกองพลที่   ๑ รั ก ษาพระองค์ 
(พล.๑ รอ.)
ก่อนหน้านี้  “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดาได้เป็น ผบ.ทบ. 
นาน ๒ ปี  เมื่อตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๑-กันยายน พ.ศ.๒๕๕๓ ต่อด้วย พล.อ. 
ประยุทธ์อีก ๔ ปี  จนมาถึง พล.อ.อุดมเดชอีก ๑ ปี  รวมระยะเวลายาวนาน 
๗ ปี
แม้  พล.อ.อุดมเดชจะไม่เคยเป็น ผบ.พล.ร.๒ รอ. แต่ก็เติบโตมา 
ใน ร.๒๑ รอ.เป็นทหารเสือราชินีและเติบโตมาใน พล ร.๒ รอ.ก็ถือเป็น 
บูรพาพยัค ์เช่นกัน แถมเป็นน้องรักของแผงอ�านาจ ๓ ป.แห่งบูรพาพยัค  ์
ด้วย เพราะเติบโตมากับพี่ๆ ๓ ป. อีกทั้งเป็น ผบ.ร.๒๑ รอ. ต่อจาก พล.อ. 
อนุพงษ์และ พล.อ.ประยุทธ์
จึงไม่แปลกที่  พล.อ.อุดมเดชจะยอมเสนอชื่อ พล.อ.ธีรชัยขึ้นเป็น 
ผบ.ทบ.ตั้งแต่แรกตามที่  “พี่ป้อม”, “พี่ตู่” เห็นพ้อง เช่นเดียวกับชื่อของ 
“บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชำ จันทร์โอชำ น้องชายนายกฯ ที่ถูกส่งจาก ผช.ผบ. 
ทบ.ไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมตั้งแต่แรกอันเป็นไปตามบัญชาของ 
พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์นั่นเอง
แม้โดยส่วนตัว พล.อ.อุดมเดชจะสนับสนุน พล.อ.ปรีชา แต่เพรำะ 
เป็นบัญชำของผู้ใหญ่  เขำจึงเสนอชื่อ พล.อ.ธีรชัยไปตั้งแต่ต้น แม้ 
จะไม่ค่อยลงรอยกันนัก ถึงจะเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น ๑๔ ด้วยกันก็ตาม
ส� า หรั บ   พล.อ.ธี ร ชั ย ซึ่ ง เป็ น บู ร พาพยั ค ์ พั น ธุ ์ แ ท้ เ ติ บ โตมาจาก 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 167
ร.๒ รอ.ของ พล ร.๒ รอ.จนได้เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่  ๒ รักษา 
พระองค์  (ผบ.ร.๒ รอ.)  เขาเคยท�างานกับ พล.อ.ประวิตรมาตั้งแต่เป็น 
นายทหารเด็กๆ ใน ร.๒ พัน ๒ รอ. ที่  พล.อ.ประวิตรเป็นผู้บังคับกองพัน 
จนได้ชื่อว่าเป็นน้องรัก และผ่านยุทธการชายแดนเขมรมาอย่างโชกโชน
ไม่แค่นั้น ยังท�างานกับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่  พล.อ. 
ประยุทธ์เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่  ๒๑ รักษาพระองค์  (ผบ.ร.๒๑ 
รอ.) ในฐานะรุ่นพี่เตรียมทหารรุ่น ๑๒ กับรุ่นน้องเตรียมทหารรุ่น ๑๔
เรำก็รักกัน สนิทกันทุกคนแหละ ผมรู้จักหมดอยู่แล้ว ใครจะเปน
ก็เหมือนกัน ตอนผมเปน ผบ.ร.๒๑ รอ. ธีรชัยเขำเปน ผบ.ร.๒ รอ.เขำรุ่น
น้องผม ก็ดูแลช่วยเหลือกันมำตลอด ทุกคนล้วนรู้จักกันหมด เพรำะแม่ทัพ
ทุกทัพผมก็เปนคนตังมำเอง  “บิ๊กตู่” แจงสัมพันธ์กับ “บิ๊กหมู”

168 วาสนา  นาน่วม
อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นเป็นคนเลือก พล.อ.ธีรชัย จากรอง 
เสธ.ทบ.มาเป็ น แม่ ทั พ ภาค  ๑  คุ ม ก� า ลั ง รบ  ก� า ลั ง ปฏิ วั ติ เ มื่ อ วั น ที่   ๒๒ 
พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘ และเป็ น  ผบ.กองก� า ลั ง รั ก ษาความสงบของ 
คสช. ต่อจากนั้น อันเป็นกำรชี้ชัดถึงควำมไว้วำงใจที่  พล.อ.ประวิตร 
และ พล.อ.ประยุทธ์มีให้
จึงไม่แปลกเมื่อมีโปรดเกล้าฯ โยกย้ายทหาร พล.อ.ธีรชัยได้เข้ามา 
ในท�าเนียบรัฐบาลเพื่อขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ในทันใด
เขำยินดีท�ำหน้ำที่รักษำควำมสงบต่อไป พร้อมกับสนับสนุนรั บำล
ในกำรแก้ไขป หำ  บิ๊กตู่เผย ก่อนจะปล่อยมุข  เขำไม่ได้มำยื่นค�ำขำด
ให้ผมไปสักหน่อย  นายกฯ พูดข�าๆ เพื่อสยบข่าวลือ เพราะอาจมีคน 
ไม่น้อยที่เคยคิดหรือเชื่อว่า หาก ผบ.ทบ.มาพบนายกฯ จะต้องมากดดัน 
ให้ลาออก หรือรัฐประหารเงียบ
ผมยืนยันว่ำไม่ได้ตังใครเพื่อสืบทอดอ�ำนำจ ท�ำไมมันต้องสืบทอด
อ�ำนำจ มันมีของมันอยู่แล้ว อย่ำไปแสวงหำให้มันมำกนัก เพรำะยิ่งหำ
ยิ่งไขว่คว้ำ มันยิ่งไม่มำยิ่งไม่มี ใช้มำกก็ยิ่งไม่ดีอีก  นายกฯ ยืนยัน
ดั ง นั้ น ในเรื่ อ งของขั้ ว อ�า นาจ  พล.อ.ประยุ ท ธ์ จึ ง วำงใจในตั ว 
พล.อ.ธีรชัยได้พันเปอร์เ นต์ว่ำ...ไม่มีทำงเป็นอื่น
ถึงแม้  พล.อ.ธีรชัยจะไม่ได้เป็นนายทหารที่  พล.อ.ประวิตรและ 
พล.อ.ประยุทธ์อุ้มชูมาตั้งแต่ต้น เพราะในอดีตพี่ใหญ่ทั้งคู่ไปหนุน “บิ๊กอูด” 
พล.อ.วลิต โรจนภักดีให้เติบโตในกองทัพภาค ๑
ส่งผลให้เส้นทางเดินของ พล.อ.ธีรชัยไม่สู้จะสวยงามเช่นอดีต 
ผบ.ทบ.ที่ผ่านมา เนื่องจากจ�าเป็นต้องเดินไปสู่ทางเบี่ยงไปโตในกองทัพ 
น้อยที่  ๑ จากเสนาธิการกองทัพน้อยที่  ๑ เป็นรองแม่ทัพน้อยที่  ๑ จนได้ 
เป็นแม่ทัพน้อยที่  ๑ จากนั้นถูกส่งมาเป็นรองเสนาธิการทหารบกฝ่าย 
อ�านวยการ และถูกส่งกลับไปเป็นแม่ทัพภาค ๑ คุมก�าลังรบก่อนจะมีการ 
รัฐประหารเมื่อวันที่  ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ นั่นเอง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 169
  จากเก้าอี้แม่ทัพภาค ๑ และ ผบ.กกล.รส. ดูแลต่อกรกับคนคิดต่าง 
แบบใช้ยาแรง ทั้งตามไล่จับ ตรวจยึดอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมาย 
การพนัน การจัดระเบียบวินรถตู้  วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ล้วนเป็นผลงาน 
ของ พล.อ.ธีรชัยที่หนุนเนื่องเขาได้เป็น ผบ.ทบ.แบบที่เรียกว่าก่อนหน้านี้ 
หลายปีไม่มีใครคำดคิดเลยว่ำ “บิ๊กหมู” จะได้เป็น ผบ.ทบ.ในปลำย 
ทำง เพราะเส้นทางรับราชการของเขาผกผันเบี่ยงเบนอยู่ตลอด
  กระนั้น แม้เขาจะได้เป็น ผบ.ทบ.เพียงแค่  ๑ ปี  ก่อนจะเกษียณ 
ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๙ แต่ก็เป็นการสะท้อนอ�านาจและบารมีของ 
พล.อ.ประวิตร ที่ผลักดันน้องรักขึ้นเป็น ผบ.ทบ.แม้จะมีคู่แข่งเป็นน้องชาย 
นายกรัฐมนตรี  และเป็นการสะท้อนถึงแผงอ�านาจบูรพาพยัค ์ที่ผงาดยึด 
กองทัพบกอย่างต่อเนื่อง
  จึงไม่แปลกที่  พล.อ.ธีรชัยจะประกำ ทันทีที่ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. 
ว่ำจะสนับสนุนรั บำลเตมที่  กองก�ำลังรักษำควำมสงบ คสช.จะทุ่มเท 
เพื่อให้สถำนกำรณ์เอื้ออ�ำนวยต่อกำรบริหำรประเท ของรั บำล 
และจะท�ำตำมค�ำสัง่ รั มนตรีวำ่ กำรกระทรวงกลำโหมอย่ำงเคร่งครัด...

170 วาสนา  นาน่วม

พกเกจ   ผบ.ทบ.

“ มี ผนการวางตั ว ขุ น พลที่ จ ะขนมาดู ล


ชาติบา้ นเมืองเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์กน
ั ว้ ง


 คน เรียก ด้ว่าจัดมาเปน พกเกจเลยทีเดียว

ในกำรโยกย้ำย  ๑ นำยพลนั้น เหนชัดว่ำมีกำรวำงตัวนำย
ทหารที่จะขึ้นมาดูแลกองทัพให้นิ่ง และเป็นกองหนุนให้รัฐบาลของ พล.อ. 
ประยุทธ์ที่จะต้องอยู่ต่อไปจนถึงกลางปี  พ.ศ.๒๕๖๐ หรือนานกว่านั้น 
ท่ามกลางการเมืองที่ยากจะคาดเดา
เพราะจาก “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัยที่เป็น ผบ.ทบ.คนที่  ๓๙ ซึ่งจะ 
เกษียณในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๙ แล้ว ก็มีการดึง “บิ๊กแกละ” พล.อ. 
พิสิทธิ์  สิทธิสาร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.และ ผอ.ศูนย์ปรองดอง คสช. 
ขยับเข้าไลน์ขึ้นเป็นเสนาธิการทหารบก ซึ่งจะได้เป็นเลขาธิการ กอ.รมน. 
ด้วย นับเป็นต�าแหน่งส�าคัญที่จะต้องจ่อชิงเก้าอี้  ผบ.ทบ.ในการโยกย้าย 
เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๙ โดย พล.อ.พิสิทธิ์เป็นเตรียมทหารรุ่น ๑๗ 
ซึ่งจะเกษียณในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๐ 
พล.อ.พิสิทธิ์จัดเป็นนายทหารในสายบูรพาพยัค ์  และเป็นน้อง 
รักของ พล.อ.ประวิตรที่เติบโตมาใน พล.ร.๒ รอ. แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นทหาร 
สายพันธุ์ใหม่ที่มีแนวคิดปรองดอง เพรำะเป็ น ทั้ ง บู ร พำพยั ค ์ แ ละ 
วง ์เทวัญ เนื่องจากเติบโตมาใน พล.๑ รอ.ซึ่งเป็นทหารเมืองกรุงฯ ตั้งแต่ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 171
เป็นนายพัน โดยเติบโตใน ร.๑๑ รอ. เป็นทั้ง “ผู้พัน” และ “ผู้การ” ภายใต้ 
แรงสนับสนุนของ “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ และ “บิ๊กตอก” 
พล.อ.ไพบูลย์  คุ้มฉายา ซึ่งล้วนเป็นลูกหม้อราบ ๑๑
ดังนั้น พล.อ.พิสิทธิ์จึงมีพลังทางด้านข้างจากพี่ชาย ๒ คน พี่ใหญ่ 
ในราบ ๑๑ คอนเน็กชั่นหนุนด้วย นอกเหนือจากมี  “พี่ป้อม” พี่ใหญ่บูรพา 
พยัค ์ดัน
อย่าลืมว่า พล.อ.ดาว์พงษ์นั้นเป็นเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่น ๑๒ ของ 
พล.อ.ประยุทธ์  เป็นที่ปรึกษาส�าคัญของนายกฯ และเป็นหนึ่งในคีย์แมน 
ของการรัฐประหารที่ยังคงอยู่ในคณะรัฐมนตรี  จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 
ศึกษาธิการ
ส่วน พล.อ.ไพบูลย์ก็ยังเหนียวแน่นในต�าแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระ 
ทรวงยุติธรรม เพราะเป็นผู้ร่วมวางแผนรัฐประหารด้วยอีกคน

172 วาสนา  นาน่วม
แม้ในการโยกย้ายครั้งนี้  “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาทขึ้น 
มาจากผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) ขึ้นเป็น 
ผช.ผบ.ทบ.(๑) มาเป็นแคนดิเดตชิง ผบ.ทบ.ด้วยอีกคน   แต่   พล.อ. 
พิสิทธิถือว่ำมีน�้ำหนักมำกกว่ำ แม้  พล.อ.เฉลิมชัยจะเป็นรุ่นพี่เตรียม 
ทหารรุ่น ๑๖ แต่ก็มีอายุราชการถึง พ.ศ.๒๕๖๑
เมื่อ พล.อ.เฉลิมชัยขึ้นมาเป็น ๕ เสือ ทบ.ย่อมเป็นที่ฮือฮา เพราะ 
เขาไม่ใช่สาย ๓ ป. แต่เป็นทหารรบพิเศษหมวกแดงที่โตมาในสายของ 
รบพิเศษ โดยมี  “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนท์  องคมนตรี  เป็นพี่ใหญ่ 
และ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.
เพราะสายรบพิเศษร้างลาไปจากการคุมอ�านาจใน ทบ.ตั้งแต่หมด 
ยุค พล.อ.สนธิที่จบไม่สวย ด้วยถูกมองว่ำท�ำให้กำรรั ประหำรเมื่อ 
๑  กันยำยน พ. .  เสียของ ซึ่งก็ต้องโทษไปถึง พล.อ.สุรยุทธ์ 
จุลานนท์  นายกรัฐมนตรีในเวลานั้น จึงท�าให้แผงอ�านาจหมวกแดงแตก 
ฉานซ่านเซ็น
แต่  พล.อ.เฉลิมชัยก็แหวกฟ้าคว้าดาวขึ้นมาเป็น ๕ เสือ ทบ.ได้ 
ในรอบหลายปี  หลังจากสายรบพิเศษตกรอบ แผ่วแรง ขึ้นไม่ถึง แล้วก็ 
เกษียณกันไป เขาจึงกลายเป็นความหวังของทหารสายรบพิเศษในการ 
ลุ้นชิง ผบ.ทบ.ในปี  พ.ศ.๒๕๕๙ ซึ่งเชื่อกันว่าปลายทางของ พล.อ.เฉลิมชัย 
อาจถูกส่งไปเป็น ผบ.สส. หรือปลัดกระทรวงกลาโหม
กระนั้นการที่  พล.อ.เฉลิมชัยขึ้นมาเช่นนี้  ท�าให้กองทัพบกมีภาพ 
ลักษณ์ที่ดีขึ้นในการให้ความยุติธรรมในการโยกย้าย ไม่ใช่ดันแต่บูรพำ 
พยัค ์ หรือวง ์เทวัญ หรือสำยวงษ์สุวรรณเท่ำนั้น
แม้โอกาสที่  พล.อ.เฉลิมชัยจะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.มีน้อยกว่า พล.อ. 
พิสิทธิ์  แต่ก็ต้องมาดูกันว่าระหว่าง “สิทธิสาร” กับ “สิทธิสาท” นามสกุล 
ไหนจะได้ขึ้นท�าเนียบ ผบ.ทบ.และจะท�าให้แผนแพ็กเกจ ผบ.ทบ.ของ 
บูรพาพยัค ์ต้องผิดแผนหรือไม่  เพราะหาก พล.อ.เฉลิมชัยเป็น ผบ.ทบ. 
ย่อมจะเป็นการปิดทาง ผบ.ทบ.สายบูรพาพยัค ์นั่นเอง

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 173
ที่วางเอาไว้อีกคนคือ “บิ๊กเข้” พล.ท.เทพพงศ์  ทิพยจันทร์  แม่ทัพ 
น้อยที่  ๑ ซึ่งขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาค ๑ และถูกวางตัวให้ขึ้น ๕ เสือ ทบ. 
ในการโยกย้ายปลายปี  พ.ศ.๒๕๕๙ เพื่อขึ้นชิงเก้าอี้  ผบ.ทบ.ในอนาคต 
เพราะมีอายุราชการถึงเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ เนื่องจากเขาได้ชื่อว่า 
เป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา
พล.ท.เทพพงศ์เป็นนายทหารที่มีชีวิตเรียบง่าย ไม่ถือตัว ใจดี  ใกล้ 
ชิดลูกน้อง จนเรียกกันติดปากว่า “พี่เข้” อันเป็นชื่อที่  พล.อ.ประยุทธ์ตั้งให้
โดยมองกันว่า “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์  คงสมพงษ์กถูกวำงตัว 
ไว้เป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป เพราะเขาขยับจากรองแม่ทัพภาค ๑ ขึ้นเป็น 
แม่ทัพน้อยที่  ๑ จากเดิมที่มีชื่อไปเป็น “พลโท” ที่  บก.ทบ.ในต�าแหน่งรอง 
เสนาธิการทหารบก
แต่เพราะความเป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์  เขาจึงกลับมาเป็น 
เบอร์  ๑ ของกองทัพน้อย ดีกว่าไปเป็นหางราชสีห์เพราะจ่อขึ้นแม่ทัพ 
ภาค ๑ ได้โดยตรง ซึ่งคาดกันว่าในการโยกย้ายปลายปี  พ.ศ.๒๕๕๙ เขา 
จะขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาค ๑ แทน พล.ท.เทพพงศ์ที่ขึ้น ๕ เสือ ทบ.โดย 
ถือว่า พล.ท.อภิรัชต์เข้าไลน์  แถมมีอายุราชการถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 
๒๕๖๓
ที่แตกต่างก็คือ พล.ท.อภิรัชต์นั้นไม่ใช่สายบูรพาพยัค ์  แต่ได้ชื่อ 
ว่าเป็นนายทหารในสายวงศ์เทวัญ เพราะเติบโตมาใน พล.๑ รอ.ตลอด 
โดยโตมาจาก ร.๑๑ รอ. เป็นทั้ง “ผู้พัน” และ “ผู้การ”
ทว่าเขามีพลังพิเศษ เพราะเป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์  จะเห็น 
ว่าได้รับภารกิจลับและส�าคัญจาก พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด เรียกได้ 
ว่าเป็นมือท�างานลับด้านการเมืองและความมั่นคงให้  พล.อ.ประยุทธ์มา 
ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.จนเป็นนายกรัฐมนตรี
ดั ง นั้ น จึ ง เหนได้ ว ่ ำ มี แ ผนกำรวำงตั ว ขุ น พลที่ จ ะขึ้ น มำดู แ ล 
ชำติบ้ำนเมืองเคียงข้ำง พล.อ.ประยุทธ์กันไว้ถึง   คน เรียกได้ว่ำ 
จัดมำเป็นแพกเกจเลยทีเดียว

174 วาสนา  นาน่วม
๓๑
“อภิรัชต์”
กับ     

“ โดยเ พาะ พล.ท.อภิ รั ช ต์ นั น ม้ จ ะเปน


วง ์ เ ทวั ญ   ม่ ใ ช่   บู ร พาพยั ค ์   ต่ ก เปน


ในสายวง ์สุวรร จันทร์โอชา

นอกเหนือจำกขั้วสำย “บูรพำพยัค ์”  “วง ์เทวัญ” หรือลูกผสม


“บูรพาเทวัญ” ที่แชร์อ�านาจในกองทัพบกแล้ว ต้องไม่มองข้ามสายสัมพันธ์ 
แห่งราบ ๑๑ หรือที่เรียกว่าเป็นทีม Club 11 ที่ก�าลังเติบโต
โดยมีความหวังจาก “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์  คงสมพงษ์  แม่ทัพ 
น้อยที่  ๑ ซึ่งถูกมองว่าเข้าไลน์จ่อขึ้นสู่เส้นทางเหล็กในอนาคต
ในส่วนของราบ ๑๑ คอนเน็กชั่น มี  พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ 
เป็นพี่ใหญ่  และ พล.อ.ไพบูลย์เป็นพี่รองที่ช่วยดันน้องๆ มาตลอด
ทั้ง “บิ๊กแกละ” พล.อ.พิสิทธิ์  สิทธิสาร เสธ.ทบ. ก็ถือว่าเติบโตมา 
จาก ร.๑๑ รอ. แม้เดิมจะเป็นบูรพาพยัค ์ที่เติบโตมาจาก พล.ร.๒ รอ. 
กับ พล.อ.ประวิตรก็ตาม แต่ก็มีแรงหนุนจาก พล.อ.ดาว์พงษ์จากราบ ๑๑ 
คอนเน็กชั่นด้วยอีกแรง จนได้ชื่อว่าเป็นบูรพาเทวัญสายพันธุ์ปรองดองก็ 
ว่าได้
อย่าลืมว่า พล.อ.ดาว์พงษ์เป็นเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่น ๑๒  ที่มี 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 175
อิทธิพลต่อควำมคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น้อยกมีส่วนช่วยหนุน 
น้อง  ในมุ้งรำบ ๑๑
โดยเฉพาะ พล.ท.อภิรัชต์นั้นแม้จะเป็นสาย “วงศ์เทวัญ” ไม่ใช่สาย 
“บูรพาพยัค ์” แต่ก็เป็นในสาย “วงษ์สุวรรณ-จันทร์โอชา”
ที่น่าสนใจคือ พล.ท.อภิรัชต์เป็นแกนน�าเตรียมทหารรุ่น ๒๐ ซึ่งได้ 
ชื่อว่าเป็นยังเติร์กของ ทบ. เขาถูกดันให้น�ารุ่นขึ้นมาในช่วงที่การเมือง 
ไม่แน่นอนหลังปี  พ.ศ.๒๕๖๐ หากมีการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ 
ว่าใครจะชนะ การเลือกตั้งจะเรียบร้อยและเป็นที่ยอมรับหรือไม่  จะจัดตั้ง 
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้หรือไม่  หรืออาจต้องน�าไปสู่รัฐบาลปรอง 
ดองแห่งชาติ  และนายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งเชื่อกันว่ารัฐธรรมนูญจะเปิด 
ช่องเอาไว้
หากดูช่วงเวลาแล้วในกลางปี  พ.ศ.๒๕๖๐ พล.ท.เทพพงศ์  ทิพย- 
จันทร์จะเป็น ผบ.ทบ. โดยมี  พล.ท.อภิรัชต์ที่ตอนนั้นคงขึ้นมาเป็น “พลเอก” 

176 วาสนา  นาน่วม
๕ เสือ ทบ.ต่อคิวไว้แล้ว จะต้องเป็นหลักส�าคัญของกองทัพในการดูแล 
สถานการณ์ทางการเมือง
ทั้ง พล.ท.เทพพงศ์และ พล.ท.อภิรัชต์เป็นคนที่  พล.อ.ประยุทธ์ 
ไว้วางใจ มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นจังหวะที่เตรียมทหำร 
รุ่น  ๐ ของ พล.ท.อภิรัชต์ขึ้นมำจ่อดูแลกองทัพพอดี
โดยมี เ พื่ อ นเตรี ย มทหารรุ ่ น   ๒๐  มารองรั บ   ทั้ ง   “บิ๊ ก โอ”  พล.ต. 
พงษ์สวัสดิ์  พรรณจิตต์และ พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ เป็นรองแม่ทัพภาค 
๑ โดยมี  “บิ๊กตู่” พล.ต.กู้เกียรติ  ศรีนาคา เพื่อนอีกคน เป็นรองแม่ทัพภาค 
๑ อยู่ก่อนแล้ว 
ทั้งต้องจับตา พล.ต.ณัฐ ซึ่งเป็นลูกรักของ พล.อ.ประวิตร เพราะ 
มีอายุราชการถึงปี  พ.ศ.๒๕๖๔ และเป็นทหารเสือราชินีที่เติบโตมาจาก 
ร.๒๑ รอ.ด้วยเช่นกัน แต่ไปเป็นทหารเสือพระสุรสีห์  พล.ร.๙ กาญจนบุร ี
ไม่ได้เติบโตใน พล.ร.๒ รอ.
  กล่ำวกันว่ำนำยทหำรรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เติบโตขึ้นมำดูแลกอง 
ทัพในช่วงกำรเปลี่ยนผ่ำนพอดี...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 177
๓๒
น้องชายนายกฯ

“ อย่างน้อยประวติ ั าสตร์ก ด้จารก ว้ ล้ว


ว่ า   ตระกู ล จั น ทร์ โ อชา  มี บิ ด าเปน ค่ พั น เอก
ต่ลก ู ชาย ด้เปน ง ผบ.ทบ.  ละนายกรั มนตรี


ส่วนลูกชายอีกคน ด้เปนปลัดกระทรวงกลาโหม

กำรมีนำมสกุล “จันทร์โอชำ” เป็นทั้ง “ผลบวก” และ “ผลลบ”
กับ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม 
เพราะการเป็นน้องชายนายกรัฐมนตรี  ท�าให้เขาถูกจับตามองและ 
กลายเป็นเป้าในการถูกโจมตีไปด้วย จึงอาจมีส่วนท�าให้  พล.อ.ประยุทธ์ 
ไม่กล้าเลือกน้องชายเป็น ผบ.ทบ.
แต่ก็นั่นอีก เพราะถ้า พล.อ.ปรีชาไม่ได้นามสกุลนี้  เขาก็อาจขึ้นมา 
ไม่ถึงจุดนี้ก็เป็นได้  เพราะเป็นการยากที่แม่ทัพภาค ๓ จะฝ่าดง “วงศ์เทวัญ” 
และ “บูรพาพยัค ์” ขึ้นมาเป็น ๕ เสือ ทบ.จนมาได้เป็นปลัดกระทรวง 
กลาโหม
เส้นทางเดินของ พล.อ.ปรีชาจึงไม่ได้สวยงาม ไม่ได้เติบโตจาก 
คอมแมนด์  แต่โตมาจากสายกิจการพลเรือนและเป็นนักบิน ทบ.มาก่อน 
แต่มาเข้าไลน์ในกองทัพภาค ๓ จนได้เป็นแม่ทัพภาค ๓ เมื่อ พล.อ.ประ 
ยุทธ์เป็น ผบ.ทบ.

178 วาสนา  นาน่วม
ในช่วงการแต่งตั้งโยกย้ายนั้น พล.อ.ปรีชาอาจเสียความมั่นใจใน 
ตัวเองไปบ้างในช่วงที่ยังไม่มีโปรดเกล้าฯ ลงมา เพราะสื่อส่วนใหญ่ต่าง 
เสนอข่าวว่าเขาได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทบ.  เขาจะได้เป็น ผบ.ทบ. 
จากที่ไม่เคยหวังก็อาจจะหวังขึ้นมาบ้าง ทั้ง  ที่  พล.อ.ธีรชัยได้รับกำร 
เสนอชื่อเป็น ผบ.ทบ.ไปตั้งแต่ต้น ส่วน พล.อ.ปรีชาก็ถูกส่งชื่อเป็น 
ปลัดกระทรวงกลาโหมตั้งแต่แรกเช่นกัน

พล.อ.ประยุทธ์  นายกรัฐมนตรีผู้เป็นพี่ชายจึงพูดถึงน้องชายว่า 
เขำก็รู้ส ำนะเขำอยู่ เขำก็รู้ว่ำเขำควรอยู่ตรงไหน รู้มำตังนำนแล้วแต่ทว่ำ
สื่อชอบไปยุแยงให้มันเปนแบบนีแบบนัน
ผมก็เคยบอกแล้วไงว่ำมันมีเรื่องควำมอำวุโส ควำมเหมำะสม
เพรำะธีรชัยเขำเปนรุ่นพี่ แล้วเขำเปนพลโทมำก่อน แล้วจะเอำข้ำงหลัง
มำแ งหน้ำมำก ได้หรือ
แล้วกำรเปนปลัดกระทรวงกลำโหมมันขีไก่มำกหรือไง มำบอกว่ำ
เปนต�ำแหน่งใส่กรุ  เปน ึงระดับพลเอกมำบอกเขำจะขึนกรุ ไอ้ควำม ูมิใจ

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 179
มันก็หำยไป มันก็เลยอยำกจะแย่งกันเปนโน่นเปนนี่กันหมด นี่เขำมีไว้เปน
เกียรติยศเกียรติศักดิควำมพอใจของตัวเองที่มีอยู่ ได้ดูแลครอบครัว นี่ก็ไป
ท�ำลำยเขำว่ำ ูกปลด ูกอะไร ูกจับใส่กรุ มันกรุตรงไหนวะ กรุอะไรกันนัก
กรุพระหรือ กระทรวงกลำโหมไม่ใช่กรุพระสักหน่อย กรุสมบัติก็ไม่ใช่  เขำ
ก็ปกครองคนของเขำ สั ลักษ ์ของกระทรวงกลำโหมก็ครอบอยู่บนหัว
ของทุกเหล่ำทัพ เพียงแต่ว่ำเหล่ำทัพบกมีอำวุธมำกหน่อยก็เท่ำนันเอง
นายกรัฐมนตรีแจง
  พล.อ.ประยุทธ์เองก็คงรู้สึกถึงหัวอกของ “บิ๊กติ๊ก” อยู่บ้างเหมือนกัน 
เขำจึงเอ่ยปำกว่ำไม่อยำกพูดเรื่องโยกย้ำยมำกนัก กลัวน้องชำยจะงอน
  ฝ่าย พล.อ.ปรีชานั้น พี่ชายก็ไม่เคยมาบอกตรงๆ ว่าจะให้เป็น 
ผบ.ทบ.หรือปลัดกระทรวงกลาโหม จึงไม่แปลกที่เขาจะแอบมีความหวัง 
จากการเสนอข่าวของสื่อและกองเชียร์ที่เชื่อว่า “เลือดย่อมข้นกว่าน�้า” 
นายกรัฐมนตีต้องเลือกน้องชายเป็น ผบ.ทบ. เพราะไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็คงไม่ต้องการเพิ่มต�าบลกระสุนตกขึ้นมา ด้วย 
กำรดันน้องชำยเป็น ผบ.ทบ.เพรำะคงจะต้องโดนโจมตีทุกย่ำงก้ำว 
อีกทั้งที่ผ่านมาเรื่องการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัต ิ
แห่งชาติ  (สนช.) ก็ยังเป็นที่กังขา
  กระนั้นเมื่อเขาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นเบอร์  ๑ ของข้าราช 
การประจ�าของกลาโหม ได้เป็นหัวแถวของ ผบ.เหล่าทัพ แต่  พล.อ.ปรีชา 
ก็หนีไม่พ้นที่จะถูกจับตามอง หรือถูกจับจ้องโจมตี  เพราะนามสกุล “จันทร์- 
โอชา” ติดตัวเขาไปทุกที่  รวมถึงคุณผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา ซึ่งต้อง 
รับหน้าที่นายกสมาคมภริยาส�านักปลัดกระทรวงกลาโหมด้วยเช่นกัน
  กระทั่ง พล.อ.ปรีชาต้องยอมรับสภาพว่า ก็ไม่รู้จะท�ายังไง จะให้ไป 
เปลี่ยนนามสกุลหรืออย่างไร
  แต่อย่ำงน้อยประวัติ ำสตร์กได้จำรึกไว้แล้วว่ำ “ตระกูลจันทร์ 
โอชำ” มีบิดำเป็นแค่พันเอก แต่ลูกชำยได้เป็นถึง ผบ.ทบ.และนำยก 
รั มนตรี ส่วนลูกชำยอีกคนได้เป็นปลัดกระทรวงกลำโหม

180 วาสนา  นาน่วม
๓๓
ทะเล ม่เคยหลับ

“ ต้ อ งยอมรั บ ว่ า  พล.ร.อ. ะขนมาเปน


ผบ.ทร.ท่ามกลางความฮือฮา เพราะใคร  กเชื่อ
ว่า พล.ร.อ. กรสร ผบ.ทร.ในเวลานันเสนอชื่อ 
พล.ร.อ. รงค์ พ ล ผช.ผบ.ทร. เปน ผบ.ทร.


คนใหม่

ชำวเรือพูดกันเสมอว่ำ...ทะเลไม่เคยหลับใหล เพรำะมีคลื่นลม
อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็คงไม่แตกต่างจาก “ราชนาวีไทย” เท่าใดนัก แม้จะ 
เป็นเหล่าทหารน�้าแลดูเย็นใจ แต่ทว่าก็มีคลื่นทั้งบนน�้า-ใต้น�้าเกิดขึ้นอยู ่
ทุกยุคทุกสมัย
ในเมื่อการโยกย้ายที่คลอดออกมาเมื่อวันที่  ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. 
๒๕๕๘ นั้น มีรายการฟ้าผ่าเปรี้ยงใส่  “บิ๊กยุ้ย” พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บาง
ช้าง ผช.ผบ.ทร.ในเวลานั้นแบบตั้งตัวไม่ติดจนเกือบแทบท้อใจลาออกเลย 
ด้วยซ�้า 
จากที่มีชื่อเป็น ผบ.ทร.คนใหม่แต่ก็มีอันต้องถูกเปลี่ยนในโค้งสุด 
ท้าย โดย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์  ผบ.ทร.ในเวลานั้นก็ไม่ได้บอก 
ล่วงหน้าหรือชี้แจงเหตุผลในเวลาต่อมา
นอกเสียจากระบุว่า...มันเป็นเรื่องของ  estin  
พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ใช่เหตุผลที่  พล.ร.อ.ณรงค์พลจบจากโรงเรียน

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 181
• “บิ๊กณะ”-ณะ แปลว่า การท�าความดีงาม ซึ่ง “บิ๊กณะ” ได้ขอให้ทหารเรือทุกคน 
ลด ละ เลิกอัตตาของตัวเองลง เพื่อกองทัพเรือและเสด็จเตี่ย

นายเรือเยอรมัน หรือม่ำนประเพณีที่ห้ำมนักเรียนนอกเป็น ผบ.ทร. 
แต่อย่ำงใด
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้  “บิ๊กต้อม” พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง พี่ชาย 
แท้ๆ ของ พล.ร.อ.ณรงค์พลก็พลาดเก้าอี้  ผบ.ทร.มาแล้วครั้งหนึ่งอาจด้วย 
เหตุผลเดียวกัน
ทว่าไม่มีใครในกองทัพเรือที่จะยอมรับว่า มีกฎข้อห้ามเรื่องนักเรียน 
นอกห้ามเป็น ผบ.ทร.เนื่องจากจะท�าให้ถูกโจมตีว่าเป็นการกีดกั้น
แต่เหตุผลหนึ่งอาจเพราะมีการมองว่า พล.ร.อ.ณรงค์พลเป็นน้อง 
ชาย พล.ร.อ.อมรเทพซึ่งมีความสนิทสนมกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร 
หรือไม่
ประกอบกับ พล.ร.อ.ณะ และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น ๑๕ ของเขา 
หลายคนสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร รวมทั้งเป็นรุ่นที่มีแต่คนส�าคัญทั้ง 

182 วาสนา  นาน่วม
พล.อ.ปรีชา น้องนายกฯ, “บิ๊กเต้” พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.สส.คนใหม่ 
และ “บิ๊กตอก” พล.อ.ไพบูลย์  คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 
ที่ช่วยผลักดัน พล.ร.อ.ณะด้วย 
ดังนั้น ๑ ปีของการที่  พล.ร.อ.ณรงค์พลต้องมาเป็น รอง ผบ.ทร. 
ให้กับ “บิ๊กณะ” พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร.คนใหม่นั้นจะมีปัญหาใดๆ 
กันหรือไม่  โดยเฉพาะการชะลอและทบทวนโครงการซื้อเรือด�าน�้าจากจีน
ด้วยแต่เดิมนั้นเหมือนมีการตกลงที่จะเป็นกันคนละปี  คือ พล.ร.อ. 
ณรงค์พลเป็นเตรียมทหารรุ่น ๑๔ รุ่นพี่เป็น ผบ.ทร.ก่อน เพราะเกษียณ 
ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๙ แล้วต่อด้วย พล.ร.อ.ณะ เตรียมทหารรุ่น 
๑๕ ที่จะเกษียณในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
แต่ในที่สุดก็มีการแก้ไขโผของ ทร. เปลี่ยนจำกชื่อของ พล.ร.อ. 
ณรงค์พล มำเป็น พล.ร.อ.ณะ ที่ขึ้นจำกเสนำธิกำรทหำรเรือมำเป็น 
ผบ.ทร.คนใหม่ 
ต้องยอมรับว่า พล.ร.อ.ณะขึ้นมาเป็น ผบ.ทร.ท่ามกลางความ 
ฮือฮา เพราะใครๆ ก็เชื่อว่า พล.ร.อ.ไกรสร ผบ.ทร.ในเวลานั้นเสนอชื่อ 
พล.ร.อ.ณรงค์พล ผช.ผบ.ทร.เป็น ผบ.ทร.คนใหม่  เพราะเขาเป็นคนดึง 
พล.ร.อ.ณรงค์พลจากรองเสนาธิการทหาร บก.กองทัพไทย เมื่อการโยก 
ย้ายในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๘ มาเป็น ผช.ผบ.ทร. เพื่อท�าโครงการ 
เรือด�าน�้าจนเลือกเรือด�าน�้าจีน ๓ ล�า ราคา ๓.๖ หมื่นล้านได้ส�าเร็จ รอแค่ 
น�าเข้าคณะรัฐมนตรีเท่านั้น
น� า มาซึ่ ง การเปลี่ ย นสลั บ ให้   พล.ร.อ.ณะเป็ น  ผบ.ทร. แล้ ว เอา 
พล.ร.อ.ณรงค์พลเป็นรอง ผบ.ทร. แม้จะเป็นรุ่นพี่เตรียมทหารรุ่น ๑๔ 
ก็ตาม ท่ามกลางการถูกจับตามองว่าจะมีผลต่อการเดินหน้าโครงการเรือ 
ด�าน�้าด้วยหรือไม่
พล.ร.อ.ณะยืนยันที่จะดูแล พล.ร.อ.ณรงค์พล และยึดหลักคุณ 
ธรรมในการดูแลกองทัพเรือตลอดเวลา ๒ ปีของการเป็น ผบ.ทบ. ส่วน 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 183
พล.ร.อ.ณรงค์พลก็ไม่คิดที่จะลาออก แต่จะท�างานในต�าแหน่ง รอง ผบ.ทร. 
ใน ๑ ปีสุดท้ายก่อนเกษียณอย่างเต็มที่
แต่แน่นอนว่ำบำดแผลในใจนั้นคงยำกที่จะลบเลือน...

184 วาสนา  นาน่วม

กเตรียมทหารรุ่น ๑

“ บิก
๊ จอม  พล.อ.อ.จอม รุง่ สว่าง  ง่ ยังคง
เปน เสธ.ทอ.ต่อ ปอีกป กเตรียมจ่อเปน ผบ.ทอ.
คนต่ อ ปในการโยกย้ า ยเดื อ นกั น ยายน พ. .


ภำพของ ผบ.ทอ.คนใหม่ชัดเจนมำกขึ้นหลังกำรโยกย้ำยทหำร
เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ. 
จัดวางทัพใหม่
  จากที่เคยมีเตรียมทหารรุ่น ๑๖ จ่อชิงเก้าอี้แม่ทัพฟ้ากันอยู่ใน ๕ 
เสืออากาศถึง ๓ คนก็ถูกขยับออกไป เช่น “บิ๊กโป่ง” พล.อ.อ.ศิวเกียรติ 
ชเยมะ จาก ผช.ผบ.ทอ. ข้ามไปเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม
  “บิ๊กจอม” พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ซึ่งยังคงเป็น เสธ.ทอ.ต่อไปอีกปี 
ก็เตรียมจ่อเป็น ผบ.ทอ.คนต่อไปในการโยกย้ายเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๙ 
เพราะได้เปรียบตรงที่มีอายุราชการเหลือมากที่สุดคือเดือนกันยายน พ.ศ. 
๒๕๖๑ 
  ถึ ง จะจบจากโรงเรี ย นนายเรื อ อากาศญี่ ป่ นุ ก็ ไ ม่ มี ผ ล  เนื่ อ งจาก 
พล.อ.อ.ตรีทศก็จบจากเยอรมัน อีกทั้งกองทัพอากาศไม่มีม่านประเพณี 
ห้ามนักเรียนนอกเป็น ผบ.ทอ.เช่นกองทัพบก

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 185
แม้ ว ่ า   “บิ๊ ก เจี๊ ย บ”  พล.อ.อ.สุ ท ธิ พั น ธุ ์   กฤษณคุ ป ต์ จ ะขยั บ จาก 
ผช.ผบ.ทอ. ขึ้นครองอัตราจอมพลในต�าแหน่งประธานที่ปรึกษา ทอ.ท�าให้ 
อาวุโสกว่า พล.อ.อ.จอมก็ตาม แต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้มากนัก แถมมี 
อายุราชการถึงแค่กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐ เท่านั้น
เนื่องจำกมีกำรวำงตัว พล.อ.อ.จอมไว้เป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป 
เพรำะเขำเป็นทำยำทอ�ำนำจในสำยของ “บิ๊กตอย” พล.อ.อ.ชลิต 
พุกผำสุข  องคมนตรี  อดี ต ผบ.ทอ.  “บิ๊กเ อง” พล.อ.อ.อิทธพร 
ุภวง ์  อดีต ผบ.ทอ. และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนำยกรั  
มนตรีและอดีต ผบ.ทอ.เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.ตรีท  สนแจ้งนั่นเอง

186 วาสนา  นาน่วม
เกบตกนายกฯ บิ๊กตู่

แม้  พล.อ.ประยุทธ์จะยืนยันว่ำตนเองไม่ใช่นักกำรเมือง ไม่
จ�าเป็นต้องท�าอะไรเพื่อสร้างคะแนนนิยม และไม่ใช้นโยบายประชานิยม 
ทว่าในทางปฏิบัติแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ย่อมต้องรู้ดีว่าการที่เขาจะอยู่ได้นาน 
หรือไม่  ไม่ว่าเขาอยากอยู่ต่อหรือไม่ก็ตาม การท�าให้ประชาชนพอใจนั้น 
เป็นสิ่งส�าคัญที่สุด แม้จะไม่ใช่การใช้ประชานิยมแบบนักการเมือง แต่ก็ 
เป็นประชานิยมแบบทหารเพื่อท�าให้ประชาชนสนับสนุนนั่นเอง

ตลำดนำยกฯ
เป็นผลงานที่  พล.อ.ประยุทธ์ภาคภูมิใจมากเพราะได้เปิดตลาดให้ 
ผู้ผลิตหรือเกษตรกรโดยตรงได้มาขายโดยไม่เสียค่าเช่าที่ใดๆ ตรงบริเวณ 

188 วาสนา  นาน่วม
ริมคลองผดุงกรุงเกษมข้างท�าเนียบรัฐบาล โดยมีการผลัดเปลีย่ นเป็นสินค้า 
ต่างๆ เดือนละ ๑ งาน
เริ่มจากการที่  พล.อ.ประยุทธ์อยากเห็นตลาดน�้าในกรุงเทพฯ เพื่อ 
ย้อนยุคสมัยโบราณ จึงเนรมิตให้เกิดเป็นตลาดน�้าก่อน โดยจัดตั้งเวทีเพื่อ 
ใช้ในการแสดง การละเล่นของไทยแบบโบราณมาผสมผสานก่อนจะมา 
เป็นตลาดบกแบบถาวร  ซึ่งนานๆ จะมีตลาดน�้ามาเสริมบ้าง
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนงานในแต่ละเดือน พล.อ.ประยุทธ์จะมาท�า 
พิธีเปิด เดินเที่ยว ชม ชิม ซื้อของด้วยตนเอง และมักจะชวน รศ.นราพร 
จันทร์โอชา ภริยามาเดินด้วยเสมอ
ถึงขั้นที่นายกฯ สั่งให้กรุงเทพมหานครจัดเรือแจวหรือเรือเครื่องมา 
รับ-ส่งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการนั่งเรือล่องคลองผดุงฯ 
และก�าชับให้ท�าน�้าในคลองให้ดูใสสะอาด
กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้เนรมิตให้มีการตักบาตรทางเรือ โดยมี 
พระสง ์มาบิณ บาตเมื่อวันแม่  ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘
แม้จะมีชื่อว่า “ตลาดริมคลองผดุงกรุงเกษม” แต่ใครๆ ก็นิยมเรียก 
ว่า “ตลาดนายกฯ” มากกว่า ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เองก็พอใจที่จะเรียกแบบ 
นัน้ ติดปากเช่นกัน เนือ่ งจากมีการส�ารวจว่าได้รบั การตอบรับจากประชาชน 
ที่มาเดินเที่ยว พักผ่อน และทานอาหารกันจ�านวนมากในแต่ละวัน
โดยมีการจัด “ถนนคนเดิน” หรือ “ถนนสายวัฒนธรรม” มีศิลปิน 
มาวาดภาพ มีดนตรีบรรเลง และมีอาหารจากทุกภาคมาขายควบคู่กันไป 
  เมื่อมีคณะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติมาเข้าพบนายกฯ 
ที่ท�าเนียบรัฐบาลแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็จะสั่งทีมงานน�าคณะเหล่านั้นมา 
เดินเที่ยวชมตลาดนายกฯ เสมอๆ
แม้ผลพวงของตลาดนายกฯ จะท�าให้ข้าราชการท�าเนียบรัฐบาลได้ 
รับความเดือดร้อน เนื่องจากแต่ก่อนบริเวณริมคลองผดุงฯ นี้เป็นที่จอดรถ 
ได้ราว ๒๐๐ คัน  แต่เมื่อนายกฯ ให้เอามาท�าตลาดที่คล้ายจะเป็นตลาด 
แบบถาวรเนื่องจากท�าเป็นตลาดติดแอร์นั้น ข้าราชการก็ต้องประสบปัญหา 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 189
ที่จอดรถ ทว่าก็ท�าให้พวกเขามีสถานที่ส�าหรับทานอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ 
ตลอดทั้งปี
ไม่แค่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังมีค�าสั่งให้ทุกจังหวัดจัดตลาดแบบนี ้
ในแต่ละจังหวัดของตนเองหรือในแต่ละภาค โดยจัดเป็นตลาดสี่มุมเมือง 
เพราะคนที่อยู่ชานเมืองหรือนอกเขตกรุงเทพฯ จะได้มีตลาดแบบนี้ไว้เดิน 
และพักผ่อนใกล้ๆ บ้าน

ค่ำนิยม ๑  ประกำร
  พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า เขาไม่ได้มาลบล้าง ๑๐ ข้อของเด็กดี  นับ 
แต่ยุคสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ท่องกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ให้เพิ่ม 
๑๒ ประการของเขาขึ้นมา
  ๑. มีความรักชาติ  ศาสนา พระมหากษัตริย์
  ๒. ซื่อสัตย์  เสียสละ อดทน
  ๓. กตัญ ูต่อพ่อแม่  ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
  ๔. ใฝ่หาความรู้  หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
  ๕. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
  ๖. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์
  ๗. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
  ๘. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
  ๙. มีสติ  รู้ตัว รู้คิด รู้ท�า
๑๐. รู้จักด�ารงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๑๑. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออ�านาจ 
ฝ่ายต�่า
๑๒. ค�านึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของ 
ตนเอง
  ท�าให้เด็กๆ นักเรียนทั่วประเทศจะต้องหันมาท่องค่านิยมทั้ง ๑๒ 
ประการนี้  จนต้องมีการแต่งเป็นเพลงเพื่อให้จดจ�าง่าย แต่ก็ไม่ติดปากเท่า 

190 วาสนา  นาน่วม
“เด็กเอยเด็กดี...” และไม่ว่าจะไปที่ไหนเมื่อพบเจอเด็กนักเรียน พล.อ. 
ประยุทธ์ก็จะต้องท่องให้ฟังเสมอ

วำทกรรมบิ๊กตู่
ผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ประเทศเรำจะล่มสลำยอยู่แล้ว
ผมไม่ได้ยึดอ�ำนำจ ผมแค่เข้ำมำใช้อ�ำนำจรั ำธิปตย์เท่ำนัน
ผมเข้ำมำด้วยชีวิต
กลัวที่ไหน ไม่กลัวอะไรทังนัน ไม่งันผมไม่มำยืนอยู่ตรงนีหรอก
ผมไม่ใช่วีรบุรุษ ไม่ใช่อัศวินม้ำขำว
เลือกตังได้ก็เลือกไปเลย ้ำไม่มีตีกันอีก ผมพร้อมกลับบ้ำน แต่
้ำเกิดอะไรขึนอีก อย่ำมำเรียกผมแล้วกัน
กับดักประชำธิปไตย
  เรำจะเติบโต
และแข็งแกร่งไปด้วยกัน เพรำะที่นี่คือบ้ำนของเรำ ประเทศของเรำ
ผมเปนคนอำรม ์ดี เปนคนตลก
ผมเปนคนโรแมนติก ผมบอกรัก รรยำผมทุกวันอยู่แล้ว เพรำะ
ะนันวันเกิดหรือวันอะไรจะไม่มีอะไรเปนพิเศษ เพรำะเขำรู้อยู่แล้วว่ำ
ผมรักเขำ

“บิ๊กตู่” โกอินเตอร์
  เป็นนายกรัฐมนตรีจากการรัฐประหาร แถมเป็นหัวหน้าคณะรัฐ 
ประหารเองด้วย  แต่  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชาก็ได้ไปเยือนเวที 
การประชุมองค์การสหประชาชาติมาแล้ว และเป็นการจากเมืองไทยไป 
นานที่สุดตั้งแต่เป็นนายกฯ คือ ๒๓ กันยายน-๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๘
   ไม่ ใ ช่ ไ ปในฐานะแค่ น ายกรั ฐ มนตรี ข องคณะรั ฐ ประหารหรื อ มา 
จากการรัฐประหารเท่านั้น แต่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าคณะ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 191
รัฐประหารที่ได้ไปยืนบนเวทีระดับโลก 
  แม้ จ ะไปในฐานะแขกของนายบั น คี มู น   เลขาธิ ก ารองค์ ก ารสห 
ประชาชาติ  แต่ก็ถือว่าเป็นการไปเหยียบเยือนสหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่ง 
เสรีภาพ ที่หาได้งดการออกวีซ่าให้หัวหน้าคณะรัฐประหารแต่อย่างใดไม่ 
ทั้งๆ ที่ในอดีตเชื่อกันว่านายทหารที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารจะไม่ได้ 
วีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกา
  แถมยังท�าให้ฝรั่งมังค่าตื่นตกใจที่มีคนไทยหลายร้อยคนแห่กันไป 
ให้ก�าลังใจ พล.อ.ประยุทธ์แบบ ๓ วันรวด แม้จะเพื่อแสดงพลังถ่วงดุล 
กลุ่มต่อต้าน คสช.ก็ตาม  แต่ทางสถานทูตไทยในสหรัฐอเมริกาก็ระบุว่า 
มีคนไทยมายืนเรียงรายตามถนนพร้อมป้ายข้อความและภาพมากถึง 
๓๐๐-๔๐๐ คน ขณะที่กลุ่มต่อต้าน คสช.มาแสดงสัญลักษณ์ท่ีหน้า  N 
ในจ�านวนที่น้อยกว่ามาก
  ท�าให้ชาวต่างชาติงุนงงว่าท�าไมคนไทยสนับสนุนนายกฯ จากการ 
รัฐประหาร และสนับสนุนการรัฐประหาร
  แม้ตอนเป็น ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์จะเคยมารับเครื่องราชอิสริยา 
ภรณ์จากกองทัพสหรัฐมาแล้ว  แต่การมาเหยียบแผ่นดินอเมริกาครั้งนี้ 
ยิง่ ใหญ่กว่า เพราะมาในฐานะนายกรัฐมนตรีซง่ึ แม้จะมาจากการรัฐประหาร 
ก็ตาม แต่ก็ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากคนไทยจ�านวนไม่น้อย 
ท�าให้ทุกวันนี้กระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ตก
  จนท�าให้ประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐอเมริกาต้องส่งเอกอัคร 
ราชทูตสหรัฐอเมริกาคนใหม่มาประจ�าประเทศไทย แม้ว่าประเทศไทยจะ 
มีการเลือกตัง้ ในราวเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๐ แถมหากร่างรัฐธรรมนูญ 
ร่างที่  ๒ ไม่ผ่านประชามติก็ต้องยืดเวลาการเลือกตั้งออกไปอีก
  อีกทั้งโอบามายังได้เดินมาจับมือทักทาย พล.อ.ประยุทธ์ระหว่าง 
พบกันในเวทีการประชุม  N เกี่ยวกับกองก�าลังรักษาสันติภาพเมื่อ ๒๘ 
กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗

192 วาสนา  นาน่วม
  กระนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้แจงโรดแมปที่จะมีการร่างรัฐธรรมนูญ 
ใหม่  และหากผ่านประชามติก็จะมีการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 
๒๕๖๐ กับเลขาธิการสหประชาชาติแล้ว  แต่ทว่าก็เป็นการพูดอย่างมี 
เงื่อนไข หาได้ให้สัญญาประชาคมหรือผูกมัดตัวเองไม่
  ต้องยอมรับว่าการไปร่วมประชุม  N ของ พล.อ.ประยุทธ์ท�าให้ 
เกิดการยอมรับในเวทีนานาชาติมากขึ้น โดยได้พบปะกับทั้งประธานาธิบดี 
สีจิ้นผิงของจีน นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมตรีญี่ปุ่น แม้จะไม่เป็นทาง 
การก็ตาม โดยเฉพาะการทักทายกับประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐ
  สิ่งที่เห็นได้ชัดในตัว พล.อ.ประยุทธ์จากการไปประชุมครั้งนี้ก็คือ 
มีความตั้งใจในการปรากฏตัวและไปร่วมแสดงความคิดเห็นและแสดง 
ถ้อยแถลง เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนหรือมีที่ยืนบนเวทีโลกแม้จะเป็น 
นายกฯ จากการรัฐประหารก็ตาม
  แม้จะถูกฝ่ายตรงข้ามเหน็บแนมค่อนขอดเรื่องการอ่านถ้อยแถลง 
ว่า ในที่สุดก็เป็นการอ่านโพย แถมอ่านเป็นภาษาไทยเสียอีก มีภาษา 
อังกฤษแค่ค�าเดียวคือ “Thank  ou”  ยิ่งกว่านั้นก็คือ อ่านเร็วมาก เพราะ 
มีเวลาจ�ากัดแค่ไม่กี่นาทีจนกลายเป็นประเด็นที่ถูกล้อเลียน
  ความจริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่จ�าเป็นต้องไปร่วมประชุมครั้งนี้ 
ก็ได้  เพราะต้องเตรียมตัวการอ่านถ้อยแถลงนานพอสมควร  แต่เพราะ 
พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้สังคมโลกเห็นว่าประเทศไทยก็ได้รับเชิญและ 
ได้รับการยอมรับ จึงต้องเรียก “บิ๊กเบี้ยว” พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสธ. 
ทบ.ในเวลานั้นซึ่งเคยเป็นคีย์แมนของการรัฐประหารไปช่วยแบบเงียบๆ 
อีกด้วย
  แต่โดยภำพรวม พล.อ.ประยุทธ์กพอใจที่ไม่ได้ถูกรังเกียจ ได้ 
มีที่ยืนในเวทีโลก และพอใจก�ำลังใจจำกคนไทยในสหรั  อันเป็น 
เครื่องกำรันตีว่ำคนไทยจ�ำนวนไม่น้อยยังยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ 
นำยกฯ ที่มำจำกกำรรั ประหำรคนนี้...

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 193
รู้จักผู้เขียน

“เลก” วำสนำ นำน่วม ดูจะกลำยเป็นนักข่ำวที่คอกำรเมืองและ
การทหารคุ้นหูมากที่สุดในเวลานี้   โดยเฉพาะในยามที่การเมืองวิกฤต 
ทหารเข้ามามีบทบาทครองอ�านาจ
ประชาชนคนอ่านข่าว เสพข่าว และผู้อ่านย่อมรอที่จะอ่านเรื่องราว 
จากปลายปากกาของเธออย่างน้อยก็ปีละครั้ง เกี่ยวกับเบื้องหน้า เบื้องหลัง 
และความเป็นไปของสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทหารยัง 
คงมีบทบาทสูงอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย
โดยเฉพาะเมื่อมีการรัฐประหารอุบัติขึ้นอีกครา จาก ๑๙ กันยายน 
พ.ศ.๒๕๔๙ ซึ่งไม่มีใครกล้าฟันธงว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย  เพราะอีกแค่  ๘ 
ปีต่อมาก็มีรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ตามมาติดๆ
น�ามาซึ่งการมีนายกรัฐมนตรีทหารและคณะรัฐมนตรีทหาร ภายใต้ 
การน�าของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ที่ฉีกทุกกฎต้องห้ามของ 
การเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร กล้าเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง โดยไม่ 

194 วาสนา  นาน่วม
รีบร้อนคืนอ�านาจเฉกเช่นผู้ก่อรัฐประหารในอดีต
ตามมาด้วยคณะรัฐมนตรีทหาร ซึ่งก็คือบรรดาแกนน�ารัฐประหาร 
ผบ.เหล่าทัพที่ชักแถวกันเข้าไปเป็นรัฐมนตรีกันพึ่บพั่บ พร้อมกับควบเก้าอี ้
ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) อีกด้วย
ส่งผลให้  “วาสนา” ต้องมาท�าหน้าที่เป็นนักข่าวสายท�าเนียบรัฐบาล 
ติดตามท�าข่าวนายกฯ ทหารและ ครม.ทหาร เพื่อเสริมทีมนักข่าวบางกอก 
โพสต์  เนื่องจากมีนักข่าวสายท�าเนียบฯ เป็นตัวแทนองค์กรสื่อไปท�าหน้าที่ 
เป็น สปช. 
นอกเหนือจากเป็นนักข่าวสายทหาร แต่เพราะเป็นยุคที่แยกไม่ 
ออกระหว่างกองทัพ, คสช. และรัฐบาล ทั้งเป็นยุคที่อ�านาจรวมศูนย์อยู่ท ี่
พล.อ.ประยุ ท ธ์   ผู ้ เ ป็ น ทั้ ง นายกฯ และหั ว หน้ า  คสช. โดยมี   “บิ๊ ก ป้ อ ม” 
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ใน คสช. เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่าย 
ความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงท�าให้นักข่าวสาย 
ท�าเนียบฯ และสายทหารยังคงท�างานหนักอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะ “วาสนา” ที่ต้องวิ่งไปวิ่งมาทั้ง ๒ สาย แต่ก็ท�าให้เธอ 
สามารถมองภาพรวมของการเมืองและกองทัพได้อย่างครอบคลุมและ 
ลึกซึ้งมากขึ้น
นอกจากเฟซบุก ทวิตเตอร์ และรายการ “ลับ ลวง พราง” ทางวิทยุ 
และทีวีสัปดาห์ละครั้งที่วาสนาด�าเนินรายการอยู่จะได้รับความสนใจจาก 
คอการเมืองและการทหารแล้ว หนังสือของเธอก็ยังคงเป็นที่รอคอยและ 
สนใจติดตามอ่านจากแฟนหนังสือและแฟนคลับที่สนใจการเมืองและการ 
ทหาร  แม้งานที่มากขึ้นของเธอจากการวิ่งท�าข่าว ๒ สาย ท�าให้เธอแทบ 
ไม่มีเวลาเขียนหนังสืออันเป็นงานที่เธอรัก
แต่ดว้ ยการทีเ่ ธอเป็นนักข่าวทีไ่ ด้ชื่อว่าเป็น “วงใน” จึงท�าให้หนังสือ 
ของเธอยังเป็นที่น่าสนใจติดตาม
แม้ผลจากการท�าข่าวทั้งสายทหารและสายท�าเนียบรัฐบาลจะท�าให้ 
“วาสนา” ถูกฝ่ายต่อต้าน คสช. กล่าวหาว่าเป็นพวก “ติ่งประยุทธ์” เสนอ 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 195
ข่าวฝ่ายทหารก็ตาม  แต่ในขณะเดียวกันฝ่ายทหารเองก็ไม่เคยคิดว่า 
เธอเป็นพวก เพราะความที่วาสนาเป็นนักข่าวที่มีจุดยืน มีอุดมการณ์ของ 
ตนเองจนเกิดค�าพูดที่ว่า...คนเสื้อเหลืองก็หาว่าเป็นเสื้อแดง ส่วนคนเสื้อ 
แดงก็หาว่าเป็นพวกทหาร ส่วนทหารก็หวาดระแวง เพราะรู้จักดีว่าวาสนา 
ไม่ใช่พวกใคร เธอจึงยังยืนหยัดท�าหน้าที่นักข่าวที่มีความน่าเชื่อถือในการ 
น�าเสนอข่าวและข้อมูลต่างๆ เรื่อยมา
“วาสนา” เป็นนักข่าวที่ถูกมองว่าสามารถเจาะเรื่องราวในกองทัพ 
ได้อย่างลึกซึ้งและแม่นย�าคนหนึ่ง  โดยเฉพาะในยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ 
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้า คสช. จนถูกเรียกว่าเป็นนักข่าว 
ที่รู้จัก รู้ใจ รู้ทาง พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุดคนหนึ่งในเวลานี้
ด้วยเหตุที่เธอท�าข่าว พล.อ.ประยุทธ์มาตั้งแต่ยังเป็นนายทหาร 
หนุ่ม  วาสนาเล่าว่ามีสัญญาณบางอย่างสะกิดให้จับตามองนายทหาร 
คนนี้ตั้งแต่เขายังเป็น พล.ต.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการกองพล 
ทหารราบที่  ๒ รักษาพระองค์  ว่าจะเข้าไลน์แม่ทัพภาค ๑ และขึ้นสู่การ 
เป็นผู้บัญชาการทหารบกในอนาคต
  นักข่าวสายทหารรู้จักเขาในนามของ “บิ๊กตู่นะจะ” เพราะมักจะพูด 
ลงท้ายค�าพูดว่า “นะจะๆ” พร้อมรอยยิ้ม ด้วยเหตุท่ีเขาเป็นนายทหารเสือ 
ราชินี  เติบโตมาจากกรมทหารราบที่  ๒๑ รักษาพระองค์ ค่ายนวมินทราชินี 
ที่ถวายงานรับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมาตลอด 
ตั้งแต่เป็นผู้บังคับกองพัน, ผู้บังคับการกรม
  ในเวลานั้นรู้กันด้วยว่าเขาเป็นน้องรักของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร 
วงษ์สุวรรณ และ “บิ๊กปอก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาที่เข้าไลน์จ่อเป็น 
แม่ทัพภาค ๑ และถูกมองว่าจะเป็น ผบ.ทบ.ในไม่ช้าอีกด้วย
  จากนั้นมา “บิ๊กตู่นะจะ” ก็เติบโตมาในเส้นทางเหล็ก ตั้งแต่ขยับ 
เป็นรองแม่ทัพภาค ๑ และเป็นแม่ทัพภาค ๑ คุมก�าลังรบหลักอันเป็น 
หัวใจส�าคัญของ ทบ. ก่อนจะขยับขึ้น ๕ เสือ ทบ. เป็นเสนาธิการทหารบก 
และเป็นรอง ผบ.ทบ.ก่อนจะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เป็นผู้บัญชาการทหารบก 

196 วาสนา  นาน่วม
คนที่  ๓๗ แห่งกองทัพบกไทย
  ทว่าเส้นทางรับราชการทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้โรยด้วยกลีบ 
กุหลาบหวานชื่น เนื่องจากขึ้นมาท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองนับตั้งแต่ 
หลังรัฐประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ เรื่อยมา
  ด้วยความเป็นนายทหารที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา ท�าให้  พล.อ. 
ประยุทธ์กลายเป็นนายทหารแถวหน้าที่ออกมารับผิดชอบในการแก้วิกฤต 
การเมืองในการกระชับพื้นที่คนเสื้อแดงตั้งแต่ปี  พ.ศ.๒๕๕๒ จนถึง พ.ศ. 
๒๕๕๓ ทั้งๆ ที่เป็น เสธ.ทบ. และรอง ผบ.ทบ.เท่านั้น โดยไม่กลัวว่าจะ 
เปลืองตัวหรือพลาดพลั้งไปก็จะไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. เพราะความที่เป็นคน 
“เต็มที่” กับหน้าที่
  โดยเฉพาะเมื่อจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นที่รู้กัน 
ดีว่า “ประเทศชาติมาก่อน” กับม็อตโต้  “Countr  First” และเป็นนาย 
ทหารที่มีภาพของความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ที่ชัดเจนที่สุด
  แม้จะมีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์กระชับพื้นที่คนเสื้อแดงเมื่อ 
พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓  แต่  พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ตามไลน์ 
ต่อจาก พล.อ.อนุพงษ์ พี่เลิฟแกนน�ารัฐประหาร ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ 
ที่เกษียณราชการไปแล้ว
  ท่ า มกลางการถู ก จั บ ตามองว่ า รั ฐ บาลพรรคเพื่ อ ไทยที่ ช นะการ 
เลือกตั้งเข้ามาใหม่จะเด้ง พล.อ.ประยุทธ์พ้นเก้าอี้  ผบ.ทบ.หรือไม่  เพราะ 
ถูกมองว่าเป็นนายทหารในขั้วรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์  และสนิทสนมกับ 
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ทั้งยังท�างาน 
กับทหารมาตลอดที่เป็นรัฐบาล
  แต่ที่สุดแล้วรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็เล่นไม้นวม ทั้งการให้นางสาว 
ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกมาท�าดีใกล้ชิดกับ ผบ.เหล่า 
ทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์  ไม่มีความพยายามในการที่จะเด้ง พล.อ. 
ประยุทธ์พ้นจากเก้าอี้  ผบ.ทบ.แม้จะมีแรงเชียร์ก็ตาม

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 197
  ตรงกันข้าม นางสาวยิ่งลักษณ์ได้กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที ่
มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด จนทักษิณ ชินวัตร 
อดีตนายกฯ ผู้เป็นพี่ชายเลือกที่จะให้น้องสาวควบเป็นรัฐมนตรีว่าการกระ 
ทรวงกลาโหมหญิงคนแรก เพราะวางใจ พล.อ.ประยุทธ์ว่าจะมาช่วยน้อง 
สาว  ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ก็วางใจ พล.อ.ประยุทธ์  และคิดว่าเธอจะ 
ดูแลกองทัพไม่ให้ทหารไปเป็นพวกฝ่ายตรงข้าม หรือก่อการรัฐประหาร 
ได้อีก เพราะเธอใจดีกับกองทัพแบบสุดๆ แบบว่าขออะไรให้หมด
  แต่ในที่สุดฝ่ าย “ทักษิณ” ก็ชะล่าใจ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์และ 
ผบ.เหล่าทัพยอมเป็นพวกแล้ว จึงเดินหน้าออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบ 
สุดซอย เปิดช่องให้มีการก่อม็อบต่อต้านและเริ่มการล้มรัฐบาล โดยฝ่าย 
ทหารก็ถูกมองว่าเป็นใจ
  “วาสนา” เป็นนักข่าวที่เกาะติดสถานการณ์ในเวลานั้นอย่างใกล้ชิด 
รู้ดีว่าการรัฐประหารรออยู่เบื้องหน้า  โดยเฉพาะเมื่อดูจากท่าทีและค�าพูด 
ของ พล.อ.ประยุทธ์  ผบ.ทบ.ในเวลานั้นเรื่อยมา ประกอบกับการที่เธอคุยใน 
ช่องทาง “ส่วนตัว” กับ พล.อ.ประยุทธ์เป็นระยะๆ จึงท�าให้เธอคาดการณ์ 
ได้ถูกต้องว่าจะเกิดการรัฐประหาร  เพราะในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ถูก 
ชั่งใจ เดาใจว่าเขาจะก่อการหรือไม่  เนื่องจากเป็นช่วงที่รอให้สถานการณ์ 
สุกงอม รอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสถานะนายกรัฐมนตรีของนางสาว 
ยิ่งลักษณ์ก่อนนั่นเอง
  เพราะก�าลังทหารถูกเตรียมพร้อมด้วยการวางก�าลังอยู่เต็มเมือง 
ภายใต้ข้ออ้างว่ามาดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว อีกทั้งอาวุธยุทโธป- 
กรณ์ที่น�ามาสวนสนามในวันกองทัพไทยเมื่อวันที่  ๑๘ มกราคม พ.ศ. 
๒๕๕๗ ก็ไม่ได้ขนย้ายกลับที่ตั้ง ถือเป็นการส่งสัญญาณแล้ว
  ทั้งภายหลังเหตุการณ์กราดยิงผู้ชุมนุม กปปส.ที่อนุสาวรีย์ประชา 
ธิปไตย ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ทั้งการเตรียมใช้กฎ 
อัยการศึกอันเป็นเสมือนก้าวแรกของการรัฐประหารที่มีการประกาศใช้ 

198 วาสนา  นาน่วม
แล้วน�ามาซึ่งการรัฐประหารแสนแยบยล จนท�าให้เจ้าของซีรีส์ “ลับ ลวง 
พราง” อย่างวาสนาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็น “ลับ ลวง พราง ตัวพ่อ” 
เลยด้วยซ�้า
  กระนั้นการวางแผนในการรัฐประหาร และต่อด้วยการเป็นนายก 
รัฐมนตรีเสียเอง ตลอดจนการวางแผนการต่างๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ก็เต็ม 
ไปด้วยความน่าสนใจ  ในฐานะที่  พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนเรียนเก่งจึงเอา 
มันสมองของเขามาคิดอ่านแผนการต่างๆ ที่มีหลักการ มีกรอบ มีหัวข้อ 
ตัวเลข ตามสไตล์นายทหารที่จบจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
  จนวันนี้  “วาสนา” เป็นนักข่าวสายทหารมานานถึง ๒๕ ปีแล้ว 
ในฐานะนักข่าวอาวุโสของหนังสือพิมพ์บำงกอกโพสต์ แต่เธอบอกว่าเป็น 
ห้วงเวลาที่เธอได้ประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นจากการรัฐประหารของ คสช. 
เพราะความที่ คสช.ท�าหน้าที่เป็นรัฐบาลและบริหารประเทศเองจึงท�าให้ 
ทหารต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง
  จากการเป็นนักข่าวสายทหารที่ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจก็ต้องมาศึกษา 
เพิ่มเติม เพราะ คสช.ต้องมาท�างานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องบริหาร 
จัดการน�้า หรือเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ที่นักข่าวต้องศึกษา เพื่อที่จะราย 
งานข่าวได้ถูกต้อง ท�าให้มีความกระตือรือร้นและได้ความรู้มากขึ้น
  ทุกครัง้ ทีม่ กี ารรัฐประหาร นักข่าวสายทหารจะท�างานหนักมากทีส่ ดุ  
แต่คราวนี้ถือว่าหนักสุดแล้ว ยาวที่สุดอีกด้วย เพราะ คสช.ยังคงอยู่เคียงคู ่
รัฐบาลทหารที่มีนายกฯ ทหาร และเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ทั้งถือเป็น 
ยุคทองของทหารอีกยุคหนึ่งที่ทหารมีอ�านาจถึงขีดสุด ทั้งอ�านาจในการ 
บริหารราชการแผ่นดินที่เป็นของรัฐบาลทหาร และมีกองทัพที่เข้มแข็ง
  ทุกวันนี้ “วาสนา” จึงยังท�าหน้าที่เกาะติดความเคลื่อนไหวในกอง 
ทัพซึ่งเป็นก�าลังหลักของ คสช.และนายกรัฐมนตรีทหารคนนี้ต่อไป จนเธอ 
เปรยๆ ว่าไม่รู้ว่าจะต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่างท�าเนียบฯ กับกองทัพบกแบบนี ้
ไปถึงเมือ่ ไหร่  หรือจนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะลงจากต�าแหน่งนายกรัฐมนตรี 

“บิ๊กตู่” นายกฯ โหด มัน ฮา 199
ซึ่งอย่างน้อยก็คงจะกลางปี  พ.ศ.๒๕๖๐ พร้อมกับเผื่อใจว่าอาจต้องอยู่ 
นานกว่านั้นก็เป็นได้
  และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์คงต้องประเมินสถาน 
การณ์  และประเมินว่าประชาชนจะเบื่อ คสช. เบื่อ พล.อ.ประยุทธ์  อยาก 
จะเลือกตั้งกันหรือยัง เพราะการอยู่ในอ�านาจนานเกินไปย่อมไม่เป็นผลดี
  สู้จำกไปแบบให้คนไทยยังคิดถึง ดีกว่ำจำกไปด้วยควำมเบื่อ 
หน่ำยของประชำชน หรือต้องจบลงแบบไม่สวย...

200 วาสนา  นาน่วม

You might also like