Professional Documents
Culture Documents
บทความวิชาการ กาเมลัน
บทความวิชาการ กาเมลัน
บทความวิชาการ กาเมลัน
กาเมลัน : วงดนตรีประจ�ำชาติของอินโดนีเซีย
GAMELAN: INDONESIA’S NATIONNAL ORCHESTRA
อาทิตย์ โพธิ์ศรีทอง / ARETHIT POSRITHONG
ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
DEPARTMENT OF CURRICULUM ANN INSTRUCTION,
FACYLTY OF EDUCATION, SRINAKHARINWIROT UNIVERSITY
บทคัดย่อ Abstract
บทความนี้ เป็ นผลมาจากการศึกษาค้นคว้าจาก This article is the result of a study of concerned
เอกสารและแหล่งข้อมูลต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง เพือ่ น�ำเสนอให้เห็น documents and resources to present a check of the form
ถึงรูปแบบและโครงสร้างของวงดนตรีกาเมลัน (Gamelan) ซึง่ and structure of the Gamelan music. Gamelan is the
เป็ นวงดนตรีประจ�ำชาติของประเทศอินโดนีเซีย โดยวงกาเม Indonesia’s national orchestra. It has a unique style of
ลัน (Gamelan) เป็ นวงดนตรีทม่ี เี อกลักษณ์ทางด้านเครือ่ ง Instrument and playing obviously. The results of the study
ดนตรีและรูปแบบการบรรเลงทีช่ ดั เจน โดยผลจากการศึกษา show that Gamelan had four types of instruments. There
ค้าคว้าพบว่า วงกาเมลัน (Gamelan) มีเครือ่ งดนตรีทงั ้ หมด 4 are Idiophones, Chordophones, Aerophones and
ประเภท คือ 1) ประเภทเครือ่ งกระทบหรือเครือ่ งตี Membranophones. The Gamelan has 2 Tuning Systems.
(Idiophones) 2) ประเภทเครือ่ งสาย (Chordophones) 3) Slendro tuning system is divided into five sounds
ประเภทเครือ่ งเปา่ (Aerophones) และ 4) ประเภทเครือ่ งหนัง (Pentatonic Scale) in an octave and Pelog tuning system
(Membranophones) โดยมีระบบเสียง (Tuning Systems) 2 is divided into seven sounds in an octave. The Mode of
ระบบ คือ ระบบสเลนโดร (Slendro) แบ่งเสียงออกเป็ น 5 เสียง Gamelan includes Slendro and Pelog separated by a
(Pentatonic Scale) ในหนึ่งช่วงเสียง (Octave) และระบบเสียง system of three forms. Tempo of Gamelan is divided into
แบบเปล็อค (Pelog) แบ่งเสียงออกเป็ น 7 เสียง ในหนึ่งช่วง five levels, from fast to slow. They are Irama Lancar,
เสียง (Octave) ส�ำหรับกลุม่ เสียง (Mode) ของวงดนตรีกาเม Irama Tanggung, Irama dados or Dadi, Irama Wilet and
ลัน (Gamelan) พบว่า มีทงั ้ ระบบสเลนโดร (Slendro) และ Irama rangkep.
ระบบเปล็อค (Pelog) โดยแยกออกเป็ นระบบละ 3 รูปแบบ
ส่วนอัตราจังหวะ (Tempo) ของวงดนตรีกาเมลัน (Gamelan) Keywords: Music, Gamelan, Indonesia
จะมีการแบ่งออกเป็ น 5 ระดับจากเร็วไปช้า คือ ไอรามะ ลันกา
(Irama Lancar) ไอรามะ แทงกัง (Irama Tanggung) ไอรามะ
ดาโดส หรือ ดาดิ (Irama dados or dadi) ไอรามะ ไวเลท
(Irama Wilet) และไอรามะ ลังเคป (Irama rangkep)
1.7 ซารอน (Saron) คือ ระนาดเหล็ก มี 3 ขนาด ใช้ ภาพที่ 11 สเลนทุม (Slenthum)
เล่นท�ำนองหลักของเพลง ขนาดใหญ่สดุ เรียกว่า ซารอน เดมุง ที่มา : http://www.mimo-db.eu
(Saron demung) ขนาดกลางเรียกว่าซารอน บารัง (Saron
barung) และขนาดเล็กเรียกว่าซารอน ปาเนรุส หรือเปกิง 1.10 สเลนทุม (Slenthum) ระนาดท่อใหญ่ ลักษณะ
(Saron panerus or Peking) แต่ละขนาดมีลกู ระนาด 7 ลูก (1 เป็ นลูกระนาดโลหะแผ่นบาง 7 ลูก วางเรียงเป็ นแผงบนราง มี
Octave) จึงมีเสียงทีล่ ดหลันกั
่ นไป ซารอน (Saron) ขนาดใหญ่ ท่อไม้ไผ่หรือท่อเหล็กรองรับข้างใต้เพือ่ ช่วยขยายความกังวาน
และกลางจะใช้ไม้ตี รูปร่างเป็ นค้อนไม้ หัวกลมมน ส่วนขนาด ของเสียงแบบระนาดฝรัง่ มีเสียงทุม้ ต�่ำใช้ไม้ตหี วั กลมแบน
เล็กใช้ไม้ตรี ปู ค้อนแหลมท�ำจากเขาสัตว์ ซารอน (Saron) ทัง้ 3 ขนาดใหญ่ ใช้วธิ ตี แี ละห้ามเสียงแบบซารอน (Saron)
30
4.2 เบ็ดฮัก (Bedhug) เป็ นกลองสองหน้าขนาดใหญ่ แตกต่างๆ กัน และมีระดับเสียงทีต่ ่างกัน ระนาดกัมบัง
หน้ากลองขึงด้วยหนังวัวหรือหนังควาย ยึดหน้ากลองโดยการ (Gambang) หลายช่วงเสียง เซเลมปงั (Celempung) และกล
ั่
ตอกหมุดฝงตรงขอบกลอง รูปร่างลักษณะเหมือนกับกลองทัด องเก็นดัง (Kendang)
ของไทย และใช้ไม้ตเี หมือนกลองทัวๆ ่ ไป โดยจะใช้บรรเลง 2. วงกาเมลัน เจมบลัง (Gamelan
ร่วมในวงกาเมลัน มังแกง (Gamelan Munggang) ซึง่ เป็ นวง jemblung) ประกอบด้วย ปี่ไม้ไผ่บมั บัง (Bumbung) ซารอน
ดนตรีแบบโบราณ บางโอกาสใช้ตปี ระกอบการเต้นทีเ่ รียกว่า (Saron) เคนอง (Kenong) เคตุ๊ก (Ketuk) ปล้องไม้ไผ่ใช้เคาะ
Male Combat Dance หรือใช้ในการประกอบเพลงละครฟ้อนร�ำ และกลองเก็นดัง (Kendang)
3. วงกาเมลัน กัมเบง (Gamelan gumbeng)
การรวมวงกาเมลัน (Gamelan ensembles) ประกอบด้วย ปี่ไม้ไผ่บมั บัง (Bumbung) ปล้องไม้ไผ่ใช้เคาะ
และเครื่องสายทีข่ งึ สายบนกระบอกไผ่ใช้ไม้ตที ส่ี ายเรียกว่าเค
การรวมวงกาเมลัน (Gamelan ensembles) จะมี เต็ง เคเต็ง (Keteng – Keteng)
การน�ำเอาเครือ่ งดนตรี 2 กลุม่ เข้ามาประกอบ ดังนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีวงดนตรีพน้ื บ้านอืน่ ๆ อีก เช่น
1. กลุม่ เครือ่ งหนัก จะมีเสียงทีค่ อ่ นข้างทุม้ และ วงคาลุง (Calung) ใช้ระนาดทีเ่ รียกว่ากาลุง 3 ตัว กลองเก็นดัง
ดัง ประกอบด้วย เก็มปูลและก็องอาเก็ง (Kempul and Gong (Kendang) และปี่ไม้ไผ่เสียงต�่ำแทนฆ้อง หรือ วงเคโตปรัก
ageng) เคนอง (Kenong) เคตุ๊ก (Ketuk) เคมยัง (Kempyang) (Ketoprak) ใช้ในการแสดงการละเล่นของชาวบ้าน มีการ
โบนัง (Bonang) และซารอน (Saron) นอกจากนี้ ยังมีเครือ่ ง พัฒนาจากการใช้เพียงสากต�ำข้าว 3 – 5 แท่ง ในระดับเสียง
ดนตรีประเภทกลองอีกหลายขนาด เช่น เก็นดัง เก็นดิง ต่างๆ กัน และขลุย่ ซูลงิ (Suling) มาผสมเครือ่ งดนตรี เช่น
(Kendhang Kendhing) ซิบลอน (Ciblon) เคติปงั (Ketipung) ฆ้องเคนอง (Kenong) กลองเก็นดัง (Kendang) และซอรีบบั
และเบ็ดฮัก (Bedhug) เป็ นต้น (Rebub) เป็ นต้น วัฒนธรรมไม้ไผ่ในวงพืน้ บ้านอีกชนิดทีพ่ บ
2. กลุม่ เครือ่ งเบา จะมีเสียงทีค่ อ่ นข้างเบานุ่ม ได้ทวไปในหมู
ั่ เ่ กาะอินโดนีเซียก็คอื วงอังกะลุง (Angklung
นวล ประกอบด้วย กัมบัง (Gambang) ซูลงิ (Suling) รีบบั ensemble) โดยอังกะลุง เป็ นเครือ่ งดนตรีดงั ้ เดิมของชวา ท�ำ
(Rebab) เซเลมปงั (Celempung) ซิเตอร์ (Siter) สเลนทุม ด้วยกระบอกไม้ไผ่มขี นาดต่างๆ และในปจั จุบนั ได้มกี ารพัฒนา
(Slenthum) เก็นเดอ (Gender) เป็ นต้น ปรับเสียงของอังกาลุงให้เป็ นแบบตะวันตก คือ มีระบบครึง่
ทัง้ นี้ วงกาเมลัน (Gamelan ensembles) เครือ่ งหนัก เสียง (Semitone) ซึง่ สามารถเขย่าเป็ นคูเ่ สียงและคอร์ดได้ใน
เสียงดัง จะเป็ นกลุม่ เครือ่ งดนตรีทน่ี �ำไปใช้ในการประโคมใน ชิ้นเดียวกันและยังเป็ นเครื่องดนตรีชนิดเดียวกันกับอังกะลุง
พิธมี งคลต่างๆ โดยใช้บรรเลงในปริมณฑลของราชส�ำนัก เรียก ของไทยทีไ่ ทยได้รบั เอาแบบอย่างมาจากอินโดนีเซีย อังกะลุง
ว่า “เกราติน” (Keratin) และตามสถานทีเ่ ป็ นทางการทัวไป ่ ของชวาจะต่างจากอังกะลุงไทย คือ จะมีแค่ 2 กระบอก แต่ของ
รวมถึงเป็ นวงที่ใช้ประโคมส�ำหรับการร่ายร�ำชัน้ สูงและการ ไทยมี 3 กระบอก โดยการถือด้วยมือแล้วใช้อกี มือแกว่งไป
แสดงหนังเงาของวงวายัง กูลติ (Wayang Kulit) ในฉากทีเ่ น้น ข้างๆ ไม่ใช้การเขย่าแบบของไทย วงดนตรีพน้ื บ้านมักจะใช้
ความดุเดือดเร้าใจ ส่วนกลุม่ เครือ่ งเบาเสียงเบา จะใช้ประกอบ ตัง้ แต่ 4 ตัวขึน้ ไป จนถึงวงขนาดใหญ่ทม่ี มี ากกว่า 40 ชิน้ ใน
การขับร้องเดีย่ วของนักร้อง การอ่านท�ำนองเสนาะทีเ่ รียกว่า ปจั จุบนั
“มาคาปตั ” (Macapat) ประกอบการเล่นเพลงแสดงทักษะชัน้ วงดนตรีพน้ื เมืองในชวาตะวันตก
สูงและการแสดงหนังเงาในฉากทีเ่ น้นความสงบสุขุมหรือการ เขตชวาตะวันตก จะเป็ นวัฒนธรรมดนตรี
บรรยายทีต่ อ้ งใช้สมาธิในการฟงั สูง ท�ำนองทีพ่ วกเครือ่ งเบา ของชาวซุนดรา (Sudanese music) วงกาเมลันแบบซุนดรา
เล่นมักจะเป็ นท�ำนองทีส่ วยงาม ในขณะทีท่ ำ� นองทีพ่ วกเครือ่ ง จะใช้เครือ่ งดนตรีของชวากลาง คือ ซารอน (Saron) กัมบัง
เสียงดังบรรเลงมักจะเป็ นท�ำนอกหลักและเสียงตกส�ำคัญของ (Gambang) โบนิง (Boning) เก็นเดอ (Gender) ฆ้องขนาด
เพลง ใหญ่ (Gong) หรือ ฆ้องเก็มปูล (Kempul) นอกจากนัน้ ยังใช้
นอกจากการรวมวงในราชส�ำนักแล้ว ในรูปแบบของ เครือ่ งดนตรีประเภทจะเข้ (Zither) ทีเ่ รียกว่าคาซาปี (Kacapi)
การเล่นดนตรีของชาวบ้าน ก็มกี ารรวมวงทีห่ ลากหลายเช่นกัน ขลุย่ ซูลงิ (Suling) ซอรีบบั (Rebub) และซอไม้ทเ่ี รียกว่าทารา
ข้อแตกต่างทีส่ ำ� คัญประการหนึ่งก็คอื วงดนตรีกาเมลัน วังซา (Tarawangsa)
(Gamelan ensembles) แบบชาวบ้าน มักจะไม่ได้มเี ครือ่ ง วงดนตรีพน้ื เมืองในชวาตะวันออก
ดนตรีสมั ฤทธิเป็ ์ นหลักแบบราชส�ำนัก แต่จะใช้วสั ดุพน้ื บ้านที่ เขตชวาตะวันออก มักเรียกรูปแบบของ
ส�ำคัญก็คอื ไม้ไผ่ (Bamboo) ซึง่ ได้เข้ามาเป็ นวัสดุพน้ื บ้านที่ ดนตรีราชส�ำนักว่า กาเมลัน ฮาลัส (Gamelan halus) ซึง่
ชาวบ้านน�ำมาใช้ประกอบเป็ นเครือ่ งดนตรี จนกลายมาเป็ น เป็ นการรวมวงแบบเดียวกันกับวงดนตรีราชส�ำนักในชวากลาง
วัฒนธรรมทีเ่ รียกว่า Bamboo culture ซึง่ ก็เป็ นเอกลักษณ์ท่ี และจะเรียกวงกาเมลันพืน้ บ้านว่ากาเมลัน คาเซอ (Gamelan
ส�ำคัญอีกประการหนึ่งของวิถชี วี ติ ในชนบทแถบเอเชียตะวัน kaser) วงดนตรีประเภทคาเซอ (Kaser) นี้ มักจะแบ่งไปตาม
ออก (Terry Miller and Andrew Shahriari, 2006 : 144-145) การละเล่นหรือการแสดงต่างๆ เช่น กาเมลัน เรยอก (Gamelan
ลักษณะวงดนตรีพน้ื เมืองบนเกาะชวา reyog) จะใช้ประกอบการแสดงเรยอก ซึง่ ประกอบด้วย ปี่เซล
วงดนตรีพน้ื เมืองบนเกาะชวากลาง ประกอบด้วย อมเปต (Selompret) อังกะลุง 2 ตัว กลองสามชนิด คือ เก็นดัง
1. วงกาเมลัน บัมบัง (Gamelan bumbung) (Kendang) เทอบัง (Terbang) เคติปงั (Ketipung) เคนอง
ประกอบด้วย ปล่องไม้ไผ่ทใ่ี ช้เคาะจ�ำนวนมาก โดยมีขนาดที่ (Kenong) และเคตุ๊ก (Ketuk) นอกจากนี้ ยังมีวงดนตรีทเ่ี รียก
32
ว่ากาเมลัน ซาโรเนน (Gamelan saronen) ทีใ่ ช้สำ� หรับในการ ของดนตรี จะขึน้ อยูก่ บั กลุม่ วัฒนธรรมต่างๆ ทีจ่ ะสามารถ
แข่งขันวัวชนของชาวชวาตะวันออก โดยมีเครือ่ งดนตรีชนิด แสดงเอกลักษณ์ ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ตนเองได้จากเสียงโหมด
ต่างๆ เช่น ปี่ซาโรเนน (Saronen) เคตุ๊ก (Ketuk) เก็นดัง (Mode) และบันใดเสียง (Scale) การตัง้ เสียงให้เข้ากันมักเป็ น
(Kendang) และขลุย่ บัมบัง (Bumbung) อิทธิพลทีม่ าจากตระกูลของนักดนตรี กลุม่ ช่างดนตรี หมูบ่ า้ น
นอกจากวงดนตรีพ้นื บ้านดังกล่าวข้างต้นในทัวทุ ่ ก กลุม่ ชน ตลอดจนราชส�ำนักทีส่ ำ� คัญๆ เป็ นหลัก นอกจากนี้
ภูมภิ าคของเกาะชวาแล้ว ยังปรากฏพบลักษณะของการรวม ภาษาของแต่ละเชือ้ ชาติ ก็ยงั ส่งผลต่อระบบเสียงดนตรี ถึง
วงดนตรีในรูปแบบง่ายๆ เพือ่ ใช้ในการบรรเลงเพลงพืน้ บ้าน แม้วา่ บางระบบเสียงดนตรีอาจดูคล้ายกันมาก แต่ในด้าน
ทัวไปอี
่ กมากมาย ตามประเพณีและวัฒนธรรมของหมูบ่ า้ น ความถีแ่ ล้วแตกต่างกันออกไป โดยระบบเสียงดนตรีของ
หรือกลุม่ ชนต่างๆ ตลอดจนการน�ำเอาเครือ่ งดนตรีตะวันตก อินโดนีเซีย จะแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ สเลนโดร (Slendro)
ต่างๆ เข้ามาผสมผสาน รวมถึงเครือ่ งดนตรีจากอาหรับ อินเดีย และ เปล็อค (Pelog) (Terry Miller and Sean William, 1998:
และจีน เป็ นทีน่ ่าสังเกตว่า ดนตรีในชวาจะไม่มกี ารใช้แคน ซึง่ 656-657)
เป็ นเครื่องดนตรีลมทีอ่ าศัยการสันของลิ
่ น้ ทีเ่ ป็ นโลหะมักจะท�ำ 1. ระบบเสียงแบบสเลนโดร (Slendro)
จากเงินหรือสัมฤทธิ ์ ดังนัน้ วัฒนธรรมดนตรีแคน จึงมิได้ขา้ ม เป็ นระบบเสียงทีม่ คี วามเก่าแก่ทส่ี ดุ โดย
ทะเลไปถึงยังหมูเ่ กาะชวา อินโดนีเซีย แต่พบการใช้แคนใน สัน นิ ษ ฐานว่ า น่ า จะมีก ารเริ่ ม ต้ น ใช้ ง านมาตัง้ แต่ ใ นสมัย
กลุม่ คาบสมุทรมลายูและเกาะบอร์เนียว ไปจนถึงภาคพืน้ ที่ ศตวรรษที่ 6-7 ซึง่ พัฒนามาจากระบบ 3 เสียงเดิม โดยในหนึ่ง
เป็ นแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียเท่านัน้ (Terry Miller and ช่วงเสียง (Octave) จะแบ่งออกเป็ น 5 เสียง (Pentatonic
Andrew Shahriari, 2006: 148-149) Scale) โดยเสียงทุกเสียง เกือบจะมีระยะความห่างของเสียง
เท่าๆ กันหมด เสียงทีเ่ กิดขึน้ จะให้ความรูส้ กึ มีชวี ติ ชีวาและ
ระบบเสียงกาเมลัน (Gamelan Tuning Systems) โดยปกติแล้ว ระบบเสียงแบบสเลนโดร (Slendro) นี้ จะใช้
ประกอบการแสดงหนังตะลุงหรือหุ่นกระบอกในเรื่องรามาย
ระบบเสียงดนตรีของวงกาเมลัน (Gamelan) ประเทศ ณะและมหาภารตะเป็ นส่วนใหญ่ โดยลักษณะของระบบเสียง
อินโดนีเซีย มีลกั ษณะทีแ่ ตกต่างจากระบบเสียงดนตรีของ แบบสเลนโดร (Slendro) จะมีลกั ษณะโครงสร้างของเสียงเมือ่
ตะวันตก เช่นเดียวกับลักษณะทางดนตรีของกลุม่ ประเทศ เทียบกับระบบเสียงแบบโครมาติก (Chromatic) ของดนตรี
ต่างๆ ในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวคือการตัง้ เสียง ตะวันตก ตามระบบการวัดแบบ Cent จะได้ ดังนี้
2. ระบบเสียงแบบเปล็อค (Pelog)
ค�ำว่า “เปล็อค” (Pelog) เป็ นค�ำทีเ่ พีย้ นมาจากค�ำว่า “เปแล็ก” (Pelag) ซึง่ เป็ นภาษาชวาดัง้ เดิม หมายถึง ดี
สวยงาม วิจติ ร ใช้เรียกระบบเสียงทีพ่ ฒ
ั นามาจากระบบสเลนโดร (Slendro) โดยมีการเริม่ ใช้มาตัง้ แต่สมัยศตวรรษที่ 12 โดยหนึ่ง
ช่วงเสียง (Octave) แบ่งออกเป็ น 7 เสียงย่อย เสียงทีเ่ กิดขึน้ จะมีลกั ษณะคล้ายกับระบบเสียงไมเนอร์ (Minor) ของดนตรีตะวันตก
โดยลักษณะของระบบเสียงเปล็อค (Pelog) จะมีลกั ษณะโครงสร้างของเสียงเมือ่ เทียบกับระบบเสียงแบบโครมาติก (Chromatic)
ของดนตรีตะวันตก ตามระบบการวัดแบบ Cent จะได้ ดังนี้
ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Irama
เอกสารอ้างอิง
จรรย์สมร ผลบุญ. (2558, มกราคม-มิถุนายน). วิวฒ ั นาการ
วัฒ นธรรมการแสดงของคนไทยเชื้อ สายมลายูใ น
จังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารสถาบัน
วัฒนธรรมและศิ ลปะ. 16 (2): 100-115.
Pholboon, Jansamorn. (2015, January–June). Evolution
of Thai - Malay u’s Performances in Border
Provinces of Southern Thailand. Institute of
Culture and Arts Journal. 16 (2): 100-115.
ั
ปญญา รุง่ เรือง. (2551). ประวัติการดนตรีไทย. พิมพ์ครัง้ ที่
5. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช
Rungrueng, Panya. (2009). Thailand music history. (5th
ed.). Bangkok: Thaiwattanapanit
_________. (2551). หลักวิ ชามานุษยดุริยางควิ ทยา.
กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
_________. (2009). Technicality Ethnomusicology.
Bangkok: Kasetsart University
_________ . (2551). เอกสารประกอบการสอนวิ ชาดนตรี
ในเอเชียตะวันออกเฉี ยงใต้. กรุงเทพมหานคร :
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
_________. (2009). The Course Outline of Music in
Southeast Asia. Bangkok: Kasetsart University
Terry E.Miller and Andrew Shahriari. (2006). World Music
A Global Journey. New York: Taylor & Francis
Group, LLC
Terry E.Miller and Scan Williams. (1998). The Garland
Encyclopedia of World Music. Volume 4
Southeast Asia. New York: Garland publishing,
INC