Professional Documents
Culture Documents
411 1
411 1
411 1
๑
ถอยคําที่ไดจัดพิมพลงไวในประมวลกฎหมายอาญาทหารนี้ เปนถอยคําที่ใชในสมัยรัตนโกสินทรศก ๑๓๑ และ
เปนไปตามที่ไดประกาศไวในราชกิจจานุเบกษา ฉะนั้น คําบางคําจึงมิไดเปนไปตามพจนานุกรมฉบับ
ราชบัณฑิตยสถานที่ใชอยูในปจจุบัน
๒
๑) กฎหมายลักษณขบถศึก
๒) ขอความในพระราชกําหนด กฎหมาย แลกฎขอบังคับอื่น ๆ ซึ่ง
เกี่ยวกับบรรดาความผิด ที่กฎหมายนี้บัญญัติวาตองมีโทษ
๓
มาตรา ๔ ในกฎหมายนี้ คําวา “ทหาร” หมายความวาบุคคลที่อยูใน
อํานาจกฎหมายฝายทหาร
คําวา “เจาพนักงาน” ที่ใชในประมวลกฎหมายลักษณอาญานั้นทาน
หมายความตลอดถึงบรรดานายทหารบก นายทหารเรือ ชั้นสัญญาบัตร แลชั้นประทวน
ที่อยูในกองประจําการนั้นดวย
คําวา “ราชสัตรู” นั้น ทานหมายความตลอดถึงบรรดาคนมีอาวุธที่แสดง
ความขัดแขงตออํานาจผูใหญ หรือที่เปนขบถ หรือเปนโจรสลัด หรือที่กอการจลาจล
คําวา “ตอหนาราชสัตรู” นั้น ทานหมายความตลอดถึงที่อยูในเขตรซึ่ง
กองทัพไดกระทําสงครามนั้นดวย
คําวา “คําสั่ง” นั้น ทานหมายความวา บรรดาขอความที่ผูซึ่งบังคับบัญชา
ทหารผูถืออํานาจอันสมควรเปนผูสั่งไปโดยสมควรแกกาลสมัย แลชอบดวยพระราช
กําหนดกฎหมายคําสั่งเชนนี้ทานวา เมื่อผูรับคําสั่งนั้นไดกระทําตามแลว ก็เปนอันหมด
เขตรของการที่สั่งนั้น
คําวา “ขอบังคับ” นั้น ทานหมายความวา บรรดาขอบังคับแลกฎตางๆที่
ใหใชอยูเสมอ ซึ่งผูซึ่งบังคับบัญชาทหารผูถืออํานาจอันสมควรไดออกไวโดยสมควรแก
กาลสมัย แลชอบดวยพระราชกําหนดกฎหมาย
มาตรา ๕ ทหารคนใดกระทําความผิดอยางใด ๆ นอกจากที่บัญญัติไวใน
ประมวลกฎหมายอาญาทหารนี้ ทานวามันควรรับอาญาตามลักษณพระราชกําหนด
กฎหมาย ถากฎหมายนี้มิไดบัญญัติไวใหเปนอยางอื่น
๓
มาตรา ๔ แกไขเพิ่มเติมโดย (๒) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙,
มาตรา ๓ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๓, มาตรา ๓ แหง
พระราชกําหนดแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร พุทธศักราช ๒๔๘๖ และมาตรา ๓ แหง
พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๗) พุทธศักราช ๒๔๘๗
๔
๔
มาตรา ๕ ทวิ บุคคลที่อยูในอํานาจศาลทหาร ตามกฎหมายวาดวย
ธรรมนูญศาลทหาร ผูใดกระทําความผิดตามประมวลกฎหมายนี้ หรือกฎหมายอื่นนอก
ราชอาณาจักรจะตองรับโทษในราชอาณาจักร
ในกรณีที่มิใชความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแหงราชอาณาจักร ตามที่
บัญญัติไวในมาตรา ๑๐๗ ถึงมาตรา ๑๒๙ แหงประมวลกฎหมายอาญา ถาไดมีคํา
พิพากษาของศาลในตางประเทศอันถึงที่สุดใหปลอยตัวผูนั้น หรือศาลในตางประเทศ
พิพากษาใหลงโทษ และผูนั้นไดพนโทษแลว หามมิใหลงโทษผูนั้นในราชอาณาจักร
เพราะการกระทํานั้นอีก แตถาผูนั้นยังไมพนโทษ ศาลจะลงโทษนอยกวาที่กฎหมาย
กําหนดไว หรือจะไมลงโทษเลยก็ได
๕
มาตรา ๖ ผูใดตองคําพิพากษาศาลทหารใหลงอาญาประหารชีวิต ทาน
ใหเอาไปยิงเสียใหตาย
๖
มาตรา ๗ ผูมีอํานาจบังคับบัญชาตามกฎหมายวาดวยวินัยทหารมีอํานาจ
ลงทัณฑแกทหารผูกระทําความผิดตอวินัยทหารตามกฎหมายวาดวยวินัยทหาร ไมวาเปน
การกระทําความผิดใน หรือนอกราชอาณาจักร
๗
มาตรา ๘ การกระทําความผิดอยางใด ๆ ที่บัญญัติไวในมาตรา ๒๑
มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑
มาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๗ มาตรา ๓๙
มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๖ และมาตรา ๔๗ แหงประมวล
กฎหมายนี้ ถาผูมีอํานาจบังคับบัญชาตามกฎหมายวาดวยวินัยทหาร พิจารณาเห็นวาเปน
การเล็กนอยไมสําคัญ ใหถือวาเปนความผิดตอวินัยทหาร และใหมีอํานาจลงทัณฑตาม
๔
มาตรา ๕ ทวิ บัญญัติเพิ่มขึ้นโดยมาตรา ๓ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๕
มาตรา ๖ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๗
๖
มาตรา ๗ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๗
มาตรา ๘ แกไขเพิ่มเติมโดย มาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๕
๘
มาตรา ๙ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๙
มาตรา ๑๒ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาชญาทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๓ และมาตรา ๗ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘)
พ.ศ.๒๕๐๗
๖
๑๐
มาตรา ๑๔ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๑
มาตรา ๑๗ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๒
มาตรา ๑๘ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๗
๑๓
มาตรา ๑๙ ผูใดเปนนายเรือ ทานใชใหควบคุมเรือลําหนึ่งลําใดของ
ทหารของสมเด็จพระเจาอยูหัว ในขณะกระทําการรบพุง ถาและมันถอยออกเสียจากที่รบ
นั้นโดยไมมีเหตุอันสมควร ทานวาโทษของมันถึงประหารชีวิต หรือจําคุกจนตลอดชีวิต
หรือมิฉะนั้นใหจําคุกมันไวตั้งแตหาปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๑๔
มาตรา ๒๐ ผูใดเปนนายเรือ ทานใชใหควบคุมเรือลําหนึ่งลําใดของ
ทหารของสมเด็จพระเจาอยูหัว และมันจงใจกระทําหรือปลอยใหเรือนั้นชํารุดหรือ
อับปาง ทานวาโทษของมันถึงจําคุกตั้งแตหาปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๑๕
มาตรา ๒๑ ผูใดเปนนายเรือ ทานใชใหควบคุมเรือลําหนึ่งลําใดของ
ทหารของสมเด็จพระเจาอยูหัว และมันกระทําหรือปลอยใหเรือนั้นชํารุด หรือับปางดวย
ความประมาทของมันไซ ทานวาโทษของมันถึงจําคุกไมเกินกวาสามป
๑๖
มาตรา ๒๒ ผูใดเจตนากระทํา หรือปลอยใหเรือลําหนึ่งลําใดของทหาร
ของสมเด็จพระเจาอยูหัว ชํารุด หรืออับปาง ทานวาโทษของมันถึงจําคุกตั้งแตสามปขึ้น
ไปจนถึงสิบหาป
๑๗
มาตรา ๒๓ ผูใดกระทํา หรือปลอยใหเรือลําหนึ่งลําใดของทหารของ
สมเด็จพระเจาอยูหัว ชํารุด หรืออับปางดวยความประมาทของมันไซ ทานวาโทษของ
มันถึงจําคุกไมเกินกวาสองป
มาตรา ๒๔ ถาเรือนั้นเปนเรือสําหรับใชเดินในลําน้ํา ทานวาควรลดอาญา
อยางหนักที่บัญญัติไวในมาตรา ๒๐, ๒๑, ๒๒, ๒๓ นั้นลงกึ่งหนึ่ง และมิใหศาลตองถือ
๑๓
มาตรา ๑๙ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๔
มาตรา ๒๐ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๕
มาตรา ๒๑ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๖
มาตรา ๒๒ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๗
มาตรา ๒๓ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๘
ตามอาญาอยางเบาที่บัญญัติไวนั้นๆ เปนประมาณในการที่จะปรับโทษผูกระทําผิด
๑๘
มาตรา ๒๕ ผูใดเปนนายเรือ ทานใชใหควบคุมเรือเดินทะเลลําหนึ่งลํา
ใดของทหารของสมเด็จพระเจาอยูหัว ถามีเหตุรายเกิดขึ้นเชนพยุ เปนตน และมันไม
พากเพียรจนสุดสิ้นความสามารถที่จะแกไขใหเรือนั้นพนอันตรายเสียกอน มันละทิ้งเรือ
นั้นไปเสียไซ ทานวาโทษของมันถึงจําคุกไมเกินกวาสามป
๑๙
มาตรา ๒๖ ผูใดเปนนายเรือ ทานใชใหควบคุมเรือเดินทะเลลําหนึ่งลํา
ใดของทหารของสมเด็จพระเจาอยูหัว ถามีเหตุรายเกิดขึ้น เชนเรือเกยที่ตื้น หรือจวน
อับปาง มันรูวายังมีคนอยูในเรือนั้น แลมันจงใจไปเสียจากเรือนั้นไซ ทานวาโทษของมัน
ถึงจําคุกไมเกินกวาหาป
มาตรา ๒๗ ผูใดเปนทหาร ถามันมิไดมีเหตุอันสมควรที่จะกระทําได แล
มันบังอาจทําลาย หรือละทิ้งเครื่องสาตราวุธ กระสุนดินปน เสบียง มา หรือเครื่องยุทธนา
การ อยางใดๆ ก็ดี หรือทําใหของนั้นๆ วิปลาศบุบฉลายไปก็ดี ทานวามันมีความผิดตอง
ระหวางโทษตามสมควรแกเหตุดังจะวาตอไปนี้ คือ
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญา
มันเปนสามสฐานคือสฐานหนึ่งใหประหารชีวิต สฐานหนึ่งใหจาํ คุกจนตลอดชีวิต สฐาน
หนึ่งใหจําคุกตั้งแตปหนึ่งขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันไวจน
ตลอดชีวิต หรือมิฉนั้นใหจําคุกมันตั้งแตปหนึ่งขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๓) ถามันกระทําความผิดนั้น ในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่วามาแลว
ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวายี่สิบป
มาตรา ๒๘ ธงซึ่งไดมีพระบรมราชานุญาตใหใชในราชการ เปนเครื่อง
หมายสําหรับประเทศก็ดี รัฐบาลก็ดี หรือสําหรับเรือรบหลวง หรือกรมกองทหารใด ๆ ก็
๑๘
มาตรา ๒๕ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๙
มาตรา ๒๖ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช
๒๔๖๙ และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๙
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญามัน
เปนสามสฐาน คือ สฐานหนึ่งใหประหารชีวิตเสีย สฐานหนึ่งใหจําคุกจนตลอดชีวิต
สฐานหนึ่งใหจําคุกตั้งแตสามปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแตป
หนึ่งขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้น ในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาหาป
มาตรา ๓๑ ผูใดเปนทหาร และมันขัดขืนมิกระทําตามคําสั่งอยางใด ๆ
โดยมันแสดงความขัดขืนดวยกิริยา หรือวาจาองอาจตอหนาหมูทหารถืออาวุธดวยไซ
ทานวามันมีความผิด ตองระวางโทษตามสมควรแกเหตุ ดังจะวาตอไปนี้ คือ
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญา
มันเปนสามสฐาน คือ สฐานหนึ่งใหประหารชีวิต สฐานหนึ่งใหจําคุกจนตลอดชีวิต
สฐานหนึ่งใหจําคุกตั้งแตหาปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแต
สามปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้น ในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาสิบป
มาตรา ๓๒ ผูใดเปนทหาร และมันขัดขืนหรือละเลยมิกระทําตาม
ขอบังคับอยางใด ๆ ทานวามันมีความผิด ตองระวางโทษตามสมควรแกเหตุ ดังจะวา
ตอไปนี้คือ
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญา
จําคุกมันตั้งแตปหนึ่งขึ้นไปจนถึงสิบป
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึกไซ ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแต
๑๑
สามเดือนขึ้นไปจนถึงหาป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้นในเวลา หรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาสามป
มาตรา ๓๓ ผูใดเปนทหาร และมันขัดขืนมิกระทําตามขอบังคับอยางใด ๆ
โดยมันแสดงความขัดขืนนั้นดวยกิรยิ า หรือวาจาองอาจตอหนาหมูทหารถืออาวุธดวยไซ
ทานวามันมีความผิดตองระวางโทษตามสมควรแกเหตุ ดังจะวาตอไปนี้ คือ
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญา
จําคุกมันตั้งแตสามปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรูแตไดกระทําใน
เวลาศึกสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแต
ปหนึ่งขึ้นไปจนถึงสิบป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้นในเวลา หรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาหาป
๒๐
มาตรา ๓๔ ผูใดเปนทหาร ทานใชใหเปนยามรักษาการ หรืออยูยาม
ประจําหนาที่ และมันหลับเสียในหนาที่ก็ดี หรือเมาสุราในหนาที่ก็ดี ทานวามันมี
ความผิดตองระวางโทษตามสมควรแกเหตุ ดังจะวาตอไปนี้ คือ
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญา
จําคุกมันตั้งแตปหนึ่งขึ้นไปจนถึงเจ็ดป
๒) มันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแต
สามเดือนขึ้นไปจนถึงสามป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้นในเวลา หรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาสองป
มาตรา ๓๕ ผูใดเปนทหาร ทานใชใหเปนยามรักษาการหรืออยูยามประจํา
๒๐
มาตรา ๓๔ แกไขเพิ่มเติมโดย (๕) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช
๒๔๖๙
๑๒
๒๑
มาตรา ๓๗ แกไขเพิ่มเติมโดย (๖) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช
๒๔๖๙
๑๓
๒๒
มาตรา ๓๘ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๓
๑๔
สมควรรับโทษหนักยิ่งกวาที่บัญญัติไวในมาตรานี้แลว ก็ใหลงอาญาแกมันผูกระทําผิด
นั้น ตามลักษณที่ทานบัญญัติไวในมาตรา ๒๕๐, ๒๕๑ และ ๒๕๗ แหงประมวล
กฎหมายลักษณอาญา
๒๓
มาตรา ๔๑ ผูใดเปนทหาร และมันบังอาจแสดงความอาฆาตมาดรายตอ
ผูบังคับบัญชา หรือตอทหารที่เปนผูใหญเหนือมัน หรือมันหมิน่ ประมาทใสความ หรือ
โฆษนาความหมิ่นประมาทอยางใด ๆ ก็ดี ทานวามันมีความผิดตองระวางโทษจําคุกไม
เกินกวาสามป
มาตรา ๔๒ ถาทหารมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ตั้งแตหาคนขึ้นไปใชกําลังทํา
ราย หรือขูเข็ญวาจะทํารายก็ดี หรือมันกระทําการอยางใด ๆ ขึ้นใหวุนวายในบานเมือง
ของทานก็ดี ทานวามันมีความผิดฐานกําเริบ ตองระวางโทษตามสมควรแกเหตุดวยกัน
ทุกคนดังจะวาตอไปนี้คือ
๑) หนึ่งใหประหารชีวิตเสีย สฐานหนึ่งใหจําคุกมันจนตลอดชีวิต
สฐานหนึ่งใหจําคุกตั้งแตสามปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแตป
หนึ่งขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้น ในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาหาป
มาตรา ๔๓ ถาและในพวกทหารที่กระทําการกําเริบที่วามาในมาตรา ๔๒
นั้น มีสาตราวุธไปดวยตั้งแตคนหนึ่งขึ้นไป ทานวาพวกนั้นตองระวางโทษตามสมควร
แกเหตุดวยกันทุกคน ดังจะวาตอไปนี้คือ
๑) ถามันไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญา
มันเปนสามสฐานคือ สฐานหนึ่งใหประหารชีวิตเสีย สฐานหนึ่งใหจําคุกจนตลอดชีวิต
สฐานหนึ่งใหจําคุกตั้งแตหาปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๒๓
มาตรา ๔๑ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาชญาทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๓
๑๕
๒) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันตั้งแต
สามปขึ้นไปจนถึงยี่สิบป
๓) ถามันไดกระทําความผิดนั้น ในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่วา
มาแลว ทานใหลงอาญาจําคุกมันไมเกินกวาสิบป
มาตรา ๔๔ เมื่อเจาพนักงาน ผูมีตําแหนงหนาที่ไดบังคับทหารที่กระทํา
การกําเริบในที่ใด ๆ ใหเลิกไปเสีย ถาและพวกทหารที่กระทําการกําเริบนั้น คนใดทีย่ ัง
มิไดใชกําลังทํารายอยางใด แลวเลิกไปตามบังคับนั้นโดยดี ทานวาใหลงโทษแกมัน
ตามที่บัญญัติไวในมาตรา ๔๒ และ ๔๓ นั้นแตกงึ่ หนึ่ง
๒๔
มาตรา ๔๕ ผูใดเปนนายทหารชั้นสัญญาบัตร ชั้นประทวน ชั้นนายสิบ
ชั้นจา หรือเปนพลทหารก็ดี ถาแลมันขาดจากหนาที่ราชการโดยมิไดรับอนุญาต หรือมัน
ขาดจากราชการในเมื่อพนกําหนดอนุญาตลาแลวก็ดี แมเปนไปดวยความเจตนาจะ
หลีกเลี่ยงจากราชการตามคําสั่งใหเดิรกองทหาร หรือเดิรเรือไปจากที่ หรือคําสั่งเรียก
ระดมเตรียมศึกนั้นไซ ทานวามันมีความผิดฐานหนีราชการ อีกนัยหนึ่งมันขาดจาก
ราชการจนถึงกําหนดที่จะกลาวตอไปนี้คือ
๑) ขาด ๒๔ ชั่วโมง ตอหนาราชสัตรู
๒) ขาด ๓ วัน ถามิใชตอหนาราชสัตรู แตในเวลาสงครามหรือใน
เขตรที่ใชกฎอัยการศึก
๓) ขาด ๑๕วัน ในที่และเวลาอื่น ๆ นอกจากที่กลาวมาแลวดังนี้ไซ
ทานก็วามันมีความผิดฐานหนีราชการดุจกัน
มาตรา ๔๖ ผูใดกระทําความ ผิดฐานหนีราชการ ทานวามันตองระวาง
โทษตามสมควรแกเหตุดังจะวาตอไปนี้ คือ
๑) ถามันหลบหนีไปเขาอยูกับพวกราชสัตรู ทานวาโทษมันถึงตาย
๒) ถามันกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู ทานใหลงอาญาจําคุก
๒๔
มาตรา ๔๕ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๙ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๑๖
มันไวจนตลอดชีวิต หรือมิฉะนั้นใหจําคุกมันไวยี่สิบป
๓) ถามันมิไดกระทําความผิดนั้นตอหนาราชสัตรู แตไดกระทําใน
เวลาสงครามหรือในเขตรซึ่งอยูในอํานาจกฎอัยการศึก ทานใหลงอาญาจําคุกมันไวตั้งแต
ปหนึ่งขึ้นไปจนถึงสิบหาป
๔) ถามันกระทําความผิดนั้น ในเวลาหรือที่อื่นนอกจากที่วามาแลว
ทานใหลงอาญาจําคุกมันผูกระทําผิดนั้นไวไมเกินกวาหาป
๒๕
มาตรา ๔๗ ผูใดเปนทหาร ทานใชใหมีหนาที่จัดซื้อ หรือทํา หรือ
ปกครองรักษาทรัพยสิ่งใด ๆ ของทหาร ถาและมันบังอาจเอาของอื่นปลอมหรือปนกับ
ทรัพยสิ่งนั้น ๆ ใหเสื่อมลงก็ดี หรือมันปลอยใหผูอื่นกระทําเชนนั้นโดยมันรูเห็นเปนใจ
ดวยก็ดี ทานวามันมีความผิดตองระวางโทษจําคุกตั้งแตสามเดือนขึ้นไปจนถึงเจ็ดป และ
ปรับตั้งแตรอยบาทขึ้นไปจนถึงสองพันบาทดวยอีกโสดหนึ่ง
และทหารคนใดทานใชใหมีหนาที่จัดซื้อ หรือทํา หรือปกครองรักษาสิ่ง
ใด ๆ ของทหาร ถาและมันบังอาจจายทรัพยสิ่งใด ๆ ที่มันรูอยูว ามีของอื่นปลอมหรือปน
เชนวามาแลวก็ดี หรือมันปลอยใหผูอื่นกระทําเชนนั้น แลวมันไมรีบรองเรียนตอผูใหญที่
เหนือมันก็ดี ทานวามันมีความผิดตองระวางโทษเชนวามาในมาตรานี้แลวนั้นดุจกัน
มาตรา ๔๘ ในเวลาสงคราม ถาผูใดกระทําการปราศจากความเมตตาแก
คนที่ถูกอาวุธบาดเจ็บ หรือแกคนที่ปวยเจ็บในกองทัพฝายหนึ่งฝายใดก็ดี หรือกระทําการ
ปลนทรัพยแยงทรัพยอยางใด ๆ ที่ทานบัญญัติไวในมาตรา ๒๔๙ ถึงมาตรา ๒๕๙ และ
มาตรา ๒๘๘ ถึงมาตรา ๓๐๓ แหงประมวลกฎหมายลักษณอาญานั้น ทานใหเพิ่มโทษมัน
ผูกระทําผิดตองระวางโทษตามที่ทานบัญญัติไวสําหรับความเชนนั้นขึน้ ดวยอีกกึ่งหนึ่ง
๒๖
มาตรา ๔๙ ในเวลาสงคราม ถาผูใดใชธงกาชาด หรือเครื่องหมายกาชาด
โดยผิดขอบังคับแหงหนังสือสัญญานานาประเทศ ซึ่งทําที่เมืองเยนีวาเมื่อ วันที่
๖ กรกฎาคม รัตนโกสินศก ๑๒๕ ทานวามันมีความผิดตองดวยอาญาซึ่งบัญญัติไวใน
๒๕
มาตรา ๔๗ แกไขเพิ่มเติมโดย (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช
๒๔๖๙ และมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ.๒๕๐๗
๒๖
มาตรา ๔๙ แกไขเพิ่มเติมโดย (๗) แหงประมวลกฎหมายอาญาทหารแกไขเพิ่มเติม พระพุทธศักราช ๒๔๖๙
๑๗
๒๗
มาตรา ๕๐ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาชญาทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๖
๑๘
๒๘
มาตรา ๕๑ ยกเลิกโดยมาตรา ๓ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาชญาทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๖
๒๙
มาตรา ๕๒ เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาทหาร พุทธศักราช ๒๔๗๐