นางนวล

แห่งมาลบีนาส ตอนแรก
พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก

ในทะเลมีฉลาม บนฟ้าสีครามมีนกนางนวล
ทะเลนั้นเป็น เหมือนถิ่นของเรา เราทหารเรือทั้งมวล
ยามสงบ เราดั่งนกนางนวล
หากศัตรูรบกวน เราร้ายเยี่ยงฉลาม

10 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖

ด้วย ความที่เป็นนกทะเลสีขาว หรือ
บางชนิดสีหมอก อยู่กันเป็นหมู่
คณะ บินไปมาพร้อมเพรียงกันในทะเล มองแล้ว
เป็นภาพที่สวยงาม สงบเรียบร้อย อุ่นใจ สบายใจ
ทหารเรือจึงถือเอานกนางนวลเป็นสัญลักษณ์ที่
แสดงถึงความรักสงบ อ่อนโยน มีระเบียบวินัย
และเป็นสุภาพบุรุษ มีข้อสังเกตคือแม้จะมียุทธวิธี
ต่อสู้โจมตีเหยื่อผิวน้ำที่รวดเร็ว เด็ดขาด แต่หาก
จะกล่าวถึงการต่อสู้และลักษณะการเข้ากระทำ
ฝ่ า ยตรงข้ า ม ทหารเรื อ จะใช้ “ฉลาม” เป็ น
สัญลักษณ์สื่อความหมายแทน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ
จุ ด มุ่ ง การต่ อ สู้ ใ นทะเลของทหารเรื อ มิ ใช่ ก าร

ขับไล่ข้าศึกให้ออกจากพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นความ
ต้ อ งการทำลายศั ต รู ใ ห้ ห มดขี ด ความสามารถ
หรื อ จมลงในทะเล โดยการไล่ ล่ า ให้ ถึ ง ที่ สุ ด

ตามลักษณะการต่อสู้ที่ดุดัน แบบกัดไม่ปล่อยของ
ฉลาม
“มาลบีนาส” (Malvinas) เป็นคำในภาษาสเปน

ที่ ป ระเทศอาร์ เจนติ น าใช้ เรี ย กหมู่ เ กาะฟอล์ ก แลนด์

(Falkland Islands) ปัจจุบันหมู่เกาะนี้อยู่ในความปกครอง
ของอังกฤษ มีที่ตั้งอยู่ทางใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก
ห่ า งจากประเทศอาร์ เจนติ น าไปทางทิ ศ ตะวั น ออก

๔๕๐ ไมล์ทะเล ห่างจากประเทศอังกฤษประมาณเกือบ

๘,๐๐๐ ไมล์ ท ะเล ตั้ ง แต่ ถู ก ค้ น พบเมื่ อ ประมาณ

ปี ค.ศ.๑๖๐๐ หลายประเทศ ซึ่ ง ได้ แ ก่ อั ง กฤษ

ฝรั่งเศส สเปน และอาร์เจนตินา ต่างอ้างกรรมสิทธิ์

แย่งกันครอบครองมานานหลายศตวรรษ จนกระทั่ง
ครั้งสุดท้าย ได้เกิดกรณีพิพาทแย่งชิงหมู่เกาะ จนนำไปสู่
สงคราม เมื่ออาร์เจนตินาส่งทหารนาวิกโยธินเข้ายึด

หมู่เกาะจากอังกฤษ ในวันที่ ๒ เมษายน ค.ศ.๑๙๘๒

และ ๓ วันต่อมา กำลังทางเรือของอังกฤษพร้อมด้วย
กำลังรบยกพลขึ้นบก และกำลังทางบก ได้เริ่มทยอย
ออกเดินทางเข้าสู่เขตสงคราม โดยใช้เกาะ Ascension
ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างอังกฤษและหมู่เกาะมาลบีนาส
เป็นที่ตั้งกองบัญชาการกำลังเฉพาะกิจร่วม ส่วนล่วงหน้า

นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ 11

และฐานทัพอากาศในยุทธบริเวณของกำลังทางอากาศ กำลั ง เหนื อ กว่ า ของนั ก บิ น ทหารเรื อ อาร์ เ จนติ น า

กองทัพอากาศ การสงครามใช้เวลา ๗๔ วัน ผลของ ซึ่งสมควรเป็นแม่แบบให้ยึดถือเป็นเยี่ยงอย่างแก่นักรบ

สงครามอาร์เจนตินาไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ ในทะเลรุ่นหลัง
ตั้งใจไว้ได้ การเรียบเรียงบทความนี้ได้ใช้บทความของนักเขียน
อาร์เจนตินา ชื่อ Diego Zompini ซึ่งลงเผยแพร่ใน
เว็บไซต์ www.britains-smallwars.com falklands/
Exocet.html ซึ่ ง กล่ า วถึ ง การปฏิ บั ติ ก ารครั้ ง สำคั ญ
ระหว่ า งสงครามของหน่ ว ยบั ญ ชาการบิ น ทหารเรื อ
(Naval Aviation Command) กองทัพเรืออาร์เจนตินา
เป็นโครงร่าง และเสริมด้วยบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทำไมจึงใช้ “นางนวล” เป็นชื่อบทความ
ก่อนอื่นขอเรียนให้ทราบก่อนว่า ทำไมผู้เขียนจึงใช้
คำว่า “นางนวล” เป็นชื่อของบทความนี้ เรื่องก็คือ

หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ หรือ Malvinas ในภาษาสเปน เดิมตั้งใจจะใช้ชื่อว่า “ฉลามร้ายแห่งมาลบีนาส” แต่ติด

ตรงที่ “ฉลาม” ได้มีผู้อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน นำไปใช้
สงครามมาลบีนาส ๑๙๘๒ (Malvinas War 1982) ก่อนแล้ว ซึ่งได้แก่ นาวาโท Nigel Ward แห่งราชนาวี
เป็นสงครามที่ประกอบด้วยการยุทธหลายรูปแบบทั้งใน อังกฤษ ผู้บังคับฝูงบินขับไล่โจมตีที่ ๘๐๑ (ฝูงบิน Sea
ทะเลและบนบก ก่อให้เกิดบทเรียนมากมาย รวมทั้ง Harrier) ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS.Invincible
กล่ า วได้ ว่ า เป็ น ครั้ ง แรกในการทำสงครามทางเรื อ
และปฏิบัติหน้าที่นายทหารอากาศยุทธวิธีของหมวดเรือ
สมั ย ใหม่ อ ย่ า งเต็ ม รู ป แบบ ซึ่ ง รายละเอี ย ดต่ า ง ๆ
(Tactical Air Officer) รับผิดชอบเสนอแนะผู้บังคับ
ตลอดจนบทเรียน บทวิเคราะห์ ได้ปรากฏเป็นผลงาน บั ญ ชาเกี่ ย วกั บ การใช้ ก ำลั ง และบั ง คั บ บั ญ ชากำลั ง

ด้ า นวิ ช าการ และเป็ น บทความแพร่ ห ลายทั่ ว ไป

ทางอากาศทั้งมวลในยุทธบริเวณ โดยมีผู้ตั้งฉายาให้กับ
(โดยเฉพาะในทัศนะของผู้ชนะ) คาดว่าท่านผู้อ่านส่วนใหญ่ นาวาโท Ward ว่า “Sharky”
คงได้ผ่านตากันมาบ้างแล้วพอสมควร บทความเรื่อง
“นางนวลเเห่งมาลบีนาส” นี้ จะมาในอีกรูปแบบหนึ่ง
โดยจะนำเสนอเหตุ ก ารณ์ ใ นวั น ที่ ๔ พฤษภาคม
ค.ศ.๑๙๘๒ ที่ทำความตกตะลึงให้กับชาวโลก เมื่อเรือ
พิ ฆ าต Type 42 ของอั ง กฤษ HMS.Sheffield

ถู ก เครื่ อ งบิ น ขั บ ไล่ โ จมตี แ บบ Super Etendard

ของกองทั พ เรื อ อาร์ เจนติ น าใช้ อ าวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี ยิ ง

จนเสียหายหนัก และจมในที่สุด ผู้เขียนเห็นว่า แม้

เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดมากว่า ๓๐ ปี แล้วก็ตาม แต่ก็ยัง นาวาโท Nigel Ward นาวาตรี Augusto Bedacarratz
เป็นที่กล่าวขวัญอยู่ ในเรื่องจิตใจการต่อสู้ ความกล้าหาญ แห่งราชนาวีอังกฤษ นักบินนาวีแห่งกองทัพเรือ
ฉายา “Sharky” อาร์เจนตินา ฉายา
และความมุมานะ พยายามหาหนทางเอาชนะข้าศึกที่มี “นางนวลที่หวงรัง”

12 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖

 นอกจากคำว่ า “ฉลาม” จะมี ผู้ น ำไปใช้ แ ล้ ว
เขาไม่เคยพลาดการสอบได้เป็นที่หนึ่งของชั้น สำหรับ
ผู้เขียนยังต้องการจะสื่อถึงนายทหารเรือคนแรกในรอบ ประวัติการรับราชการ Bedacarratz ออกรับราชการ
เกือบสี่สิบปีที่สามารถจมเรือรบอังกฤษได้ คือ “นาวาตรี ครั้ ง แรก ตำแหน่ ง ประจำแผนกเดิ น เรื อ เรื อ บรรทุ ก
Augusto Bedacarratz” แห่งกองทัพเรืออาร์เจนตินา เครื่องบิน ARA.Independencia เมื่อเป็นนักบิน
ซึ่งเป็นนักบินทหารเรือ การใช้นกทะเลเป็นสัญลักษณ์
ทหารเรือ เครื่องบินประเภทแรกที่ทำการบิน คือเครื่องบิน
จึ ง น่ า จะเหมาะสม นอกจากนี้ ต ามประวั ติ ที่ ท ราบ สะเทินน้ำสะเทินบกแบบ HU-16 “Albatross” (เครื่องบิน
นาวาตรี Bedacarratz แม้ว่าจะเป็นวีรบุรุษสงครามซึ่ง ประเภทนี้ เคยประจำการในกองทัพเรือไทย ปัจจุบันได้
มี ชื่ อ เสี ย งมาจนกระทั่ ง บั ด นี้ แต่ จ ากการสั ม ภาษณ์
นำมาตั้งแสดงบริเวณหน้าประตูใหญ่ทางเข้า กองการบิน
การแสดงออกตามสื่อต่าง ๆ และลักษณะการรบ มิใช่ ทหารเรือ) ซึ่งมีภารกิจในการค้นหา และกู้ภัยในทะเล
เหี้ ย มเกรี ย ม ดุ ดั น เหมื อ น
ฉลามแต่ จ ะออกในลั ก ษณะ
นักวิชาการ เรียนหนังสือเก่ง
อ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพอ่อนโยน
แต่จิตใจแข็งแกร่ง กล้าหาญ
ไม่ ย อมแพ้ ต่ อ สถานการณ์

บีบบังคับต่าง ๆ มีความเป็น
มื อ อาชี พ มุ ม านะพยายาม

หาทางนำหน่วยเอาชนะข้าศึก
ให้ได้ ทั้งที่เสียเปรียบทุกอย่าง

เป็ น สุ ภ าพบุ รุ ษ ทหารเรื อ

ที่ ส มบู ร ณ์ แ บบ การใช้ ค ำว่ า

“นางนวลที่ ห วงรั ง ” จึ ง น่ า
เหมาะสม
Augusto Bedacarratz เกิดเมื่อเดือนกรกฎาคม
ค.ศ.๑๙๔๓ ในครอบครัวเกษตรกรที่ร่ำรวย ประวัติ
ขับไล่โจมตีที่ ๓ ทำการบินกับเครื่องบินโจมตีแบบ A-4
การศึกษา หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ
กองทัพเรืออาร์เจนตินา โดยสอบได้เป็นที่หนึ่งของชั้น
ได้ไปปฏิบัติราชการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน จากนั้นได้
สมั ค รเข้ า รั บ การศึ ก ษาที่ โรงเรี ย นการบิ น ทหารเรื อ
สำเร็จออกมาเป็นนักบินทหารเรือ จนกระทั่งยศนาวาตรี
เมือง port Stanley เมืองหลวงของเกาะ มาลบีนาส
จากนั้นในปี ค.ศ.๑๙๗๘ ได้ย้ายไปประจำการที่ฝูงบิน
Skyhawk ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน ARA.Veinticinco
de Mayo โดยได้รับตำแหน่งรองผู้บังคับฝูงบิน ต่อมา
ในปี ค.ศ.๑๙๘๑ ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับ
ฝูงบินขับไล่โจมตีที่ ๒ ทำการบินกับเครื่องบินโจมตีแบบ
Super Etendard ซึ่งเพิ่งเข้าประจำการ โดยได้รับ

จึ ง ได้ เข้ า รั บ การศึ ก ษาที่ Argentine Naval War การคัดเลือกเป็นกำลังพลรับเครื่องที่ฝรั่งเศสด้วย

College ซึ่งน่าจะเป็นหลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ ปี ต่ อ มา ค.ศ.๑๙๘๒ เกิ ด สงครามมาลบี น าส
(Naval Staff) และเมื่อดำรงยศนาวาเอก จึงได้เข้ารับ นาวาตรี Bedacarratz ได้ เ ป็ น วี ร บุ รุ ษ สงคราม

การศึกษาที่วิทยาลัยเสนาธิการทหารฝรั่งเศส (French รั บ เหรี ย ญกล้ า หาญ หลั ง จากนั้ น ได้ ด ำรงตำแหน่ ง

Joint War College) ทุ ก ครั้ ง ที่ เข้ า รั บ การศึ ก ษา

ผู้บังคับฝูงบินขับไล่โจมตีที่ ๒ พร้อมทั้งเลื่อนยศเป็น

นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ 13

นาวาโท เมื่อมียศ นาวาเอก ได้ดำรงตำแหน่งในระดับ

ผู้ บั ง คั บ การกองบิ น และเป็ น อาจารย์ ที่ Argentine

War College ตามลำดับ จนกษียณอายุราชการในปี
ค.ศ.๑๙๙๑ ขณะมี ย ศเป็ น นาวาเอก ในตำแหน่ ง

ฝ่ายอำนวยการกองบัญชาการกองทัพเรือ หลังจาก

เกษี ย ณอายุ ร าชการแล้ ว ได้ ก ลั บ ไปทำธุ ร กิ จ ด้ า น

เกษตรกรรมกับครอบครัว ระหว่างปี ค.ศ.๒๐๐๑ - ๒๐๐๔
เขาได้ รั บ มอบหน้ า ที่ เ ป็ น ผู้ จั ด การผลผลิ ต ทางเกษตร
ของกองทัพเรืออาร์เจนตินา ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว
อย่ า งมี ค วามสุ ข โดยเดิ น ทางไป ๆ มา ๆ ระหว่ า ง

กรุงบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) และบ้านเกิดเมือง

Pampas ประเทศอาร์เจนตินา
พลเอก ลีโอปอลโด กัลเทียรี
เหตุการณ์ก่อนเกิดสงคราม ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา
ก่อนที่ พลเอก ลีโอปอลโด กัลเทียรี (Leopoldo
Galtieri) จะได้ขึ้นครองอำนาจเป็นผู้นำเผด็จการของ
อาร์เจนตินา ต่อจากประธานาธิบดี Roberto Eduardo
Viola ในเดือน ธันวาคม ค.ศ.๑๙๘๑ เขาได้วางแผนกับ
พลเรื อ เอก Jorge Anaya ผู้ บั ญ ชาการทหารเรื อ
อาร์เจนตินาสมัยนั้นไว้ว่า หลังจากขึ้นครองอำนาจแล้ว
จะใช้กองทัพเรือเป็นความพยายามหลัก (Main Effort)
ในการยึ ด หมู่ เ กาะมาลบี น าสคื น จากอั ง กฤษให้ ไ ด้

ก่ อ นเดื อ นมกราคม ค.ศ.๑๙๘๓ ซึ่ ง จะเป็ น ปี ที่ ค รบ

๑๕๐ ปี ของการยึ ด ครองของอั ง กฤษที่ ท ำความเจ็ บ
พลเรือเอก Jorge Anaya
แค้ น ฝั ง ใจอย่ า งรุ น แรงกั บ ประชาชนอาร์ เ จนติ น า
ผู้บัญชาการทหารเรืออาร์เจนตินา
มาโดยตลอด เพราะก่อนหน้านั้น หมู่เกาะดังกล่าวอยู่ใน
ความปกครองของอาร์เจนตินา แต่ถูกอังกฤษใช้กำลัง

ที่เหนือกว่าเข้ายึดตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๘๓๓ และเมื่อเขาได้

เป็นประธานาธิบดี ท่ามกลางความกดดันของประชาชน
ที่ เริ่ ม ต่ อ ต้ า นรั ฐ บาลเผด็จการทหาร ภาวะเศรษฐกิจ
ตกต่ำ เงินเฟ้อขึ้นไปถึงเกือบ ๑๕๐% คนว่างงานเกือบ
๒๐% และมีแนวโน้มมากขึ้นด้วย ประกอบกับเห็นว่า
อั ง กฤษเริ่ ม มี ค วามถดถอยในปั ญ หาเศรษฐกิ จ เช่ น
เดียวกัน มีการปรับลดกำลังทหาร โดยเฉพาะที่หมู่เกาะ
พลเรือเอก Jorge Anaya ผู้บัญชาการทหารเรืออาร์เจนตินา กับ
มาลบี น าส ซึ่ ง แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง การลดความสำคั ญ
พลเอก Leopoldo Galtieri ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา

14 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖

ของหมู่ เ กาะดั ง กล่ า ว เพื่ อ เป็ น การลดกระแสกดดั น
หลั ก สู ต รที่ ไ ปรั บ การฝึ ก หั ด ศึ ก ษา โดยเฉพาะนั ก บิ น

จากประชาชน เพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล เขาจึงเห็น ใช้เวลา ๙ เดือน ซึ่งรวมการเรียนภาษาฝรั่งเศส ๓ เดือนด้วย

ว่ า เป็ น โอกาสเหมาะที่ จ ะเบี่ ย งเบนความสนใจของ ที่เหลือเป็นการฝึกบินเปลี่ยนแบบเบื้องต้น ประมาณ
ประชาชนให้ ม าอยู่ ใ นกระแสรั ก ชาติ จึ ง ได้ ตั ด สิ น ใจ
๕๐ ชั่วโมง และเรียนรู้พื้นฐานระบบอาวุธปล่อยนำวิถี
เลื่ อ นการปฏิ บั ติ ก ารชิ ง หมู่ เ กาะมาลบี น าสให้ เร็ ว ขึ้ น พื้ น -สู่ - พื้ น แบบ AM-39 Exocet โดยไม่ มี ก ารฝึ ก บิ น

โดยได้ปฏิบัติการในวันที่ ๒ เมษายน ค.ศ.๑๙๘๒ การใช้อาวุธแต่อย่างใด

เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ Super Etendard

ขณะ Take Off จากเรือบรรทุกเครื่องบิน
ระหว่ า งการวางแผนของผู้ น ำที่ ไ ด้ ก ล่ า วมาแล้ ว
นาวาโท Jorge Colombo ผู้บังคับฝูงบินโจมตี
ในช่ ว งหั ว เลี้ ย วหั ว ต่ อ ของการส่ ง ต่ อ อำนาจ รั ฐ บาล
ขับไล่ที่ ๒ หน่วยบัญชาการบินทหารเรือ
ได้ อ นุ มั ติ ใ ห้ ก องทั พ เรื อ อาร์ เจนติ น าจั ด หาเครื่ อ งบิ น
กำลังพล Super Etendard ทั้ง ๕๐ นาย กลับจาก
ขั บ ไล่ โ จมตี แ บบ Super Etendard จากฝรั่ ง เศส
ฝรั่งเศส ในเดือน ตุลาคม ค.ศ.๑๙๘๑ เพื่อเตรียมรับ
จำนวน ๑๔ เครื่อง พร้อมอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศ-สู่-พื้น เครื่ อ งบิ น ชุ ด แรก ๕ เครื่ อ ง ที่ จ ะมาถึ ง ในเดื อ น
แบบ AM-39 Exocet จำนวนเท่ า กั น เพื่ อ เตรี ย ม พฤศจิ ก ายน ค.ศ.๑๙๘๑ พร้ อ มอาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี
ทดแทนเครื่องบินแบบ A-4 Skyhawk ที่ส่วนใหญ่อยู่
จำนวนเท่ากับเครื่องบิน ทั้งนี้ตามแผนเดิม เครื่องบิน

ในสภาพใช้ราชการไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถจัดหา ชุดแรกจะมาถึงพร้อมกับเจ้าหน้าที่เทคนิคจากบริษัท

อะไหล่จากบริษัทผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาได้ เพราะขณะนั้น ผู้ผลิต และครูการบินที่จะมาติดตั้งทดสอบระบบอาวุธ

อาร์เจนตินาได้ถูกสหรัฐอเมริกาประกาศ “กักห้ามสินค้า”
(Embrago) กรณี ก ารปราบปรามฝ่ า ยต่ อ ต้ า นของ
รัฐบาลอาร์เจนตินา ในการนี้นักบิน ช่างเครื่องบิน และ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากฝูงบินโจมตีขับไล่ที่ ๒ หน่วย
บัญชาการบินทหารเรือที่ได้รับการคัดเลือก ๕๐ นาย
รวมทั้ง นาวาโท Jorge Colombo ผู้บังคับฝูงบิน และ
และฝึกนักบินตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งรวมทั้งการใช้อาวุธด้วย
เครื่องบินแบบ Super Etendard
เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน
สร้างโดยบริษัท Dassault Breguet ประเทศฝรั่งเศส
ได้ รั บ การปรั บ ปรุ ง พั ฒ นาจากเครื่ อ งบิ น ต้ น แบบเดิ ม

นาวาตรี Bedacarratz รองผู้ บั ง คั บ ฝู ง ได้ ถู ก ส่ ง ไป

จนได้ เข้ า ประจำการในกองทั พ เรื อ ฝรั่ ง เศส เมื่ อ ปี
รับการฝึกหัดศึกษาที่กองทัพเรือฝรั่งเศส เพื่อเตรียมเป็น ค.ศ.๑๙๗๘ โดยอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี ค.ศ.๑๙๗๗
กำลังพลที่จะปฏิบัติการกับเครื่องบินที่กำลังจัดหาใหม่ ถึง ๑๙๘๓ ปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ ๒๐๑๓) ยังมีใช้ราชการ

นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ 15


เครื่องบินแบบ Super Etendard ขณะกำลัง
Landing บนเรือบรรทุกเครื่องบิน
ผลงานของ Super Etendard ในสงครามมาลบีนาส ๑๙๘๒ สามารถ
ใช้อาวุธปล่อยนำวิถี จมเรือพิฆาต HMS.Sheffield เรือส่งกำลังบำรุง
Atlantic Conveyor และทำความเสียหาย แก่เรือบรรทุกเครื่องบิน
HMS.Invincible ของกองทัพเรืออังกฤษ
จำนวน ๒ แท่ น ยิ ง ระเบิ ด และอาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี

ในกองทัพเรือหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา
และอิ รั ก โดยคาดว่ า กองทั พ เรื อ ฝรั่ ง เศสจะปลด
ค้นหา และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ ประกอบด้วย
ประจำการและทดแทนด้วยเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ
Dassault Rafale ทั้งหมดก่อนปี ค.ศ.๒๐๑๕ เครื่องบิน
อากาศ- สู่-อากาศ แบบ R 550 Magic เครื่องมือตรวจจับ
เรดาร์ ค้ น หาแบบ Thomson-SSF Agave Radar
ระบบจัดการการบิน และอำนวยการรบแบบ U.AT-40

ประเภทนี้มีชื่อเสียงและวีรกรรมเป็นที่กล่าวขวัญมาก และอื่น ๆ ในการนี้ภายหลังสงครามมาลบีนาส Super

เช่น การปฏิบัติการใน Lebanon ค.ศ.๑๙๘๓ สงคราม Etandard ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถทำการรบใน
โคโซโว สงครามอ่าวเปอร์เซีย สงครามอัฟกานิสถาน เวลากลางคืน มีระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ในการ
และการปฏิบัติการใน Libya ค.ศ.๒๐๑๑ ของกองทัพ ป้องกันตัว และเครื่องมืออุปกรณ์อื่น ๆ จนสามารถใช้
ฝรั่งเศส การรังควานเส้นทางการค้า (Merchant Ship อาวุธนิวเคลียร์ได้ในปัจจุบัน
Striking) อย่างได้ผลของกองทัพเรืออิรัก ในสงคราม
อิรัก-อิหร่าน และที่สำคัญคือการปฏิบัติการของกองทัพเรือ อาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี อ ากาศ-สู่ - พื้ น แบบ AM-39
อาร์เจนตินาในสงครามมาลบีนาส โดยสามารถใช้อาวุธ Exocet
ปล่อยนำวิถีจมเรือของกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งได้แก่
เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีโจมตีเรือผิวน้ำ ที่สร้างโดย
เรื อ พิ ฆ าต HMS.Sheffield และเรื อ ส่ ง กำลั ง บำรุ ง บริษัทผู้ผลิตประเทศฝรั่งเศส สามารถใช้กับเครื่องบินทั้ง
Atlantic Conveyor ตลอดจนทำความเสี ย หายแก่
แบบลาดตระเวนทางทะเล และเครื่องบินขับไล่โจมตี
เรือบรรทุกเครื่องบิน HMS.Invincible รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ เป็นอาวุธปล่อยที่ได้เริ่มสร้างและ
เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นแบบ SNECMA Atar 8K-50 พัฒนาจากอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น แบบ MM 38
Turbojet ความเร็ ว สู ง สุ ด ประมาณความเร็ ว เสี ย ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๖๗ ได้เริ่มเข้าประจำการในกองทัพเรือ
(๑,๒๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เพดานบินสูงสุดประมาณ ฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.๑๙๗๓ หัวรบขนาด ๓๖๐ ปอนด์
๔ หมื่ น ฟุ ต (๑๓,๗๐๐ เมตร) ระยะทางบิ น ไกลสุ ด
หรือ ๑๖๕ กิโลกรัม เครื่องยนต์แบบเชื้อเพลิงแข็งระยะ
ที่ ร ะดั บ น้ ำ ทะเล ๔๐๐ ไมล์ ท ะเล (๗๒๐ กิ โ ลเมตร) ยิ ง ประมาณ ๓๘ ไมล์ ท ะเล (๗๐ กิ โ ลเมตร) ขึ้ น ไป
ระบบอาวุธหลักได้แก่ อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศ-สู่-พื้น ความเร็วเดินทางประมาณ ๐.๙ ความเร็วเสียง (๑,๑๐๐
แบบ AM-39 Exocet ปืนใหญ่อากาศขนาด ๓๐ มิลลิเมตร กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

16 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖

 การโคจรเข้ากระทบเป้าของอาวุธปล่อยนำวิถีแบบนี้ ฝูงบินขับไล่โจมตีที่ ๒ กองทัพเรืออาร์เจนตินา มี
ลำดับการทำงานที่สำคัญคือ หลังจาก “ปล่อย” แล้ว อาวุธปล่อยนำวิถี AM-39 Exocet ในการรบครั้งนั้น
อาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี จ ะดิ่ ง ลงไปที่ ค วามสู ง ประมาณ
เพียง ๕ ลูก ได้ใช้หมด โดยจมเรืออังกฤษได้ ๒ ลำ
๓๐ เมตร ก่ อ น จากนั้ น จะลงมารั ก ษาความสู ง
ทำความเสียหาย ๑ ลำ ในจำนวนนี้พลาดเป้า ๑ ลูก
ในการเดินทางเหนือพื้น ที่ความสูงประมาณ ๒ เมตร
ภายหลังจากที่ HMS.Sheffield ถูกยิงจม อังกฤษ
ได้ มี ค วามพยายามที่ จ ะส่ ง หน่ ว ยปฏิ บั ติ ก ารพิ เ ศษ

เข้าก่อวินาศกรรมที่สถานีการบินทหารเรือ Rio Grande

ซึ่ ง เป็ น ที่ ว างกำลั ง ของฝู ง บิ น Super Etandard

เพื่อทำลายเครื่องบินดังกล่าว และอาวุธปล่อยนำวิถี
AM-39 Exocet ที่ เ หลื อ อี ก ๓ ลู ก แต่ ไ ม่ ป ระสบ

ผลสำเร็จ

การเตรียมการรบภายใต้สถานการณ์วิกฤติ
หลั ง จากที่ เ ครื่ อ งบิ น ทั้ ง ๕ เครื่ อ ง มาถึ ง หน่ ว ย
บัญชาการบินทหารเรือที่กรุงบัวโนสไอเรส เมื่อเดือน
พฤศจิกายน ค.ศ.๑๙๘๑ โดยเจ้าหน้าที่เทคนิค และครู
การบินไม่ได้เดินทางมาด้วยตามข้อตกลงที่กำหนดไว้
ซึ่งฝูงบินขับไล่โจมตีที่ ๒ ของนาวาโท Colombo ยังมี
ความหวังคอยต่อไป แต่ได้ให้นักบินในฝูงซึ่งเพียงแต่ได้
รับการฝึกบินเปลี่ยนแบบขั้นพื้นฐาน ๕๐ ชั่วโมง ทำการ
บินทดสอบระบบการบินต่าง ๆ (Functional Flight
Check) และระบบอาวุ ธ เอง เท่ า ที่ จ ะทำได้ ก่ อ น

หลั ง จากนั้ น ฝู ง บิ น ได้ รั บ คำสั่ ง เตื อ นจากกองทั พ เรื อ

ให้เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด และเมื่อสงครามเริ่มในวันที
่
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศ-สู่-พื้น แบบ AM-39 Exocet
๒ เมษายน หลังจากที่คอยช่างเทคนิค ครูการบิน และ
อุปกรณ์สำคัญอื่น ๆ จากบริษัทผู้ผลิตฝรั่งเศสหลายเดือน
โดยการควบคุ ม ของ Radar Altimeter ซึ่ ง ติ ด ตั้ ง ที่
ฝู ง บิ น ขั บ ไล่ โ จมตี ที่ ๒ จึ ง ได้ แ น่ ใ จว่ า การรอคอย

ตัวอาวุธปล่อย ฯ ทิศทางการเดินทางในขั้นนี้ ใช้ข้อมูล ที่ ผ่ า นมาสู ญ เปล่ า เมื่ อ รั ฐ บาลฝรั่ ง เศสได้ ป ระกาศ

เข้าจากเครื่องควบคุมการยิง ซึ่งได้ป้อนเข้าไปทั้งจาก “กักห้ามสินค้า” โดยงดการส่งออกนำเข้าสินค้าทุกชนิด

การชี้ เ ป้ า พ้ น ระยะขอบฟ้ า (Over The Horizon กับอาร์เจนตินา
Targeting) ของยาน Third Party และจากเรดาร์ค้นหา แม้ จ ะอยู่ ใ นสถานการณ์ วิ ก ฤติ ที่ จ ะต้ อ งเข้ า ทำ
ของอากาศยานเอง ภายหลังประมาณ ๒ – ๓ วินาที
สงครามกับชาติมหาอำนาจทางทะเล ในยุทธบริเวณที่มี
ของการเดิ น ทางเข้ า หาเป้ า เรดาร์ อ าวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี
สภาพอากาศ และสภาพท้ อ งทะเลที่ รุ น แรงอย่ า ง

จะเริ่มค้นหาเป้า เมื่อพบจะ “Lock” แล้วนำวิถีตนเอง

แสนสาหัส ด้วยเครื่องบินที่ได้รับมาใหม่ โดยยังไม่ได้รับ
เข้าชนเป้า การทดลอง ตรวจสอบระบบต่าง ๆ และเชื่อมต่อระบบ

นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ 17

 อาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี จ ากเจ้ า หน้ า ที่ เ ทคนิ ค บริ ษั ท ผู้ ผ ลิ ต
นักบินรบประจำฝูงมีชั่วโมงบินเฉพาะแบบ ประมาณ
๕๐ ชั่ ว โมง เรี ย นรู้ ร ะบบอาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี เ พี ย งขั้ น

พื้ น ฐาน ไม่ มี ใ ครได้ รั บ การฝึ ก ใช้ อ าวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี

มาก่ อ น และที่ ส ำคั ญ ในการรบจะต้ อ งใช้ ฐ านบิ น บก

เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินยังไม่พร้อมที่จะปฏิบัติการ
รับ – ส่ง เครื่องบินดังกล่าว เวลาที่จะใช้เตรียมการ

มีเพียงไม่กี่วัน แต่กำลังพลของฝูงบินนี้ ภายใต้การนำ

Loading an Exocet ของผู้บังคับฝูง นาวาโท Colombo และรองผู้คับฝูง
นาวาตรี Bedacarratz นักรบผู้แกร่งวิชา ยึดมั่นใน

ขั้นตอนการฝึกต่าง ๆ ก็สามารถแก้ปัญหาได้เองทั้งหมด
โดยวิธี “เปิดตำรา” ทำ ซึ่งที่น่าทึ่งคือ การเชื่อมต่อระบบ
อาวุ ธ ปล่ อ ยนำวิ ถี โดยปราศจากการชี้ แ นะหรื อ

ช่วยเหลือของผู้ที่เชี่ยวชาญทางเทคนิค และสำหรับการฝึก
นักบินในการต่อสู้เรือผิวน้ำ ทั้งที่ไม่มีนักบินผู้ใดในฝูงมี
ประสบการณ์ในการใช้อาวุธปล่อยนำวิถีมาก่อน แต่ได้
ประยุกต์แบบฝึกจากที่เรียนรู้มา และตามตำรา ทำการ
Loading an Exocet ฝึ ก หาความชำนาญกั บ เรื อ พิ ฆ าต Type 42 ARA.
Hercules และ ARA.Santisma Trinidad ที่กองทัพเรือ
อาร์เจนตินาได้จัดหาจากอังกฤษมาก่อนหน้า โดยได้
ทำการฝึ ก อย่ า งหนั ก จนกระทั่ ง นั ก บิ น ของฝู ง มี ค วาม
รอบรู้ จุ ด แข็ ง จุ ด อ่ อ น ของเรื อ ดั ง กล่ า วเป็ น อย่ า งดี
พร้อมกับได้พัฒนาปรับปรุงยุทธวิธีหลายรูปแบบ
ARA.Hercules

เรื่ อ งกำลั ง สนุ ก และน่ า ติ ด ตามอ่ า นมาก เห็ น ได้ ชั ด ว่ า ฝรั่ ง เศสเลื อ กที่ จ ะรั ก ษาความสั ม พั น ธ์ กั บ อั ง กฤษ

โดย ประกาศ Embargo กับอาร์เจนตินา ทั้งๆ ที่ มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับอาร์เจนตินา น่าเสียดายที่พื้นที่

ในฉบับนี้หมดลง ขอเชิญติดตามอ่านต่อฉบับหน้าครับ

18 นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖