Professional Documents
Culture Documents
แคลคูลัส 1
แคลคูลัส 1
วชิรารักษ โอรสรัมย
คณะวิทยาศาสตร
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย
2560
(1)
คํานํา
เอกสารประกอบการสอนวิชาแคลคูลัสผูเขียนไดเรียบเรียงขึน้ เพื่อใชประกอบการสอนในรายวิชา
แคลคูลัส 1 รหัส 4091401 ซึ่งหัวขอเรือ่ งไดยึดหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต(วทบ.4ป) ของสาขาวิชา
คณิตศาสตร คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรรี มั ย (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2558) เปนหมวด
วิชาแกนของคณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรมั ย ซึ่งเนื้อหาในเลมนีป้ ระกอบไปดวย ลิมิตและ
ความตอเนื่องของฟงกชัน อนุพันธของฟงกชัน การประยุกตอนุพันธ ฟงกชั้นหลายตัวแปร อนุพันธยอย
ขาพเจาขอขอบพระคุณทานผูเรียบเรียงหนังสือและเอกสารที่ปรากฏอยูในเอกสารอางอิงเปน
อยางสูง ขาพเจาหวังเปนอยางยิง่ วาเอกสารประกอบการสอนวิชาแคลคูลัส 1 เลมนี้ คงเปนประโยชน
สําหรับนักศึกษา และผูส นใจทั่วไป
วชิรารักษ โอรสรัมย
สิงหาคม 2560
(2)
สารบัญ
เรื่อง หนา
คํานํา (1)
สารบัญ (2)
สารบัญรูปภาพ (4)
สารบัญตาราง (5)
บทที่ 1 ลิมิตและความตอเนื่องของฟงกชัน 1
1.1 บทนิยามของลิมิต 1
1.2 ทฤษฎีบทของลิมิต 14
1.3 ลิมิตที่เกี่ยวของกับอนันต 25
1.4 ความตอเนื่องของฟงกชัน 50
1.5 สรุปทายบทที่ 1 53
แบบฝกหัดทายบทที่ 1 54
บทที่ 2 อนุพันธของฟงกชัน 59
2.1 สวนเปลี่ยนแปลงและอัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย 59
2.2 อนุพันธของฟงกชัน 60
2.3 การหาอนุพันธของฟงกชันพีชคณิต 67
2.4 การหาอนุพันธของฟงกชันประกอบ 75
2.5 การหาอนุพันธของฟงกชันตรีโกณมิติ 80
2.6 การหาอนุพันธของฟงกชันลอการิทึมและฟงกชันเลขชี้กาํ ลัง 89
2.7 การหาอนุพันธของฟงกชันตาง ๆ 96
2.8 การหาอนุพันธของฟงกชันโดยปริยาย 105
2.9 อนุพันธอันดับสูง 107
2.10 สรุปทายบทที่ 2 109
แบบฝกหัดทายบทที่ 2 110
บทที่ 3 การประยุกตอนุพันธ 115
3.1 ความเร็ว และความเรง 115
3.2 อัตราสัมพัทธ 119
3.3 สมการเสนสัมผัส และเสนปกติ 124
3.4 คาสูงสุดคาต่ําสุด และกราฟ 129
3.5 หลักเกณฑโลปตาล 143
3.6 สรุปทายบทที่ 3 147
(3)
สารบัญ(ตอ)
เรื่อง หนา
บทที่ 4 ฟงกชันหลายตัวแปรและอนุพันธยอย 151
4.1 ฟงกชันคาจริงของสองตัวแปรหรือมากกวา 151
4.2 ลิมิตของฟงกชันสองตัวแปร 155
4.3 ความตอเนื่องของฟงกชัน 2 ตัวแปร 164
4.4 อนุพันธยอย 166
4.4 กฎลูกโซของฟงกชันของตัวแปร 2 ตัว 172
4.5 อนุพันธยอยอันดับสูง 178
4.6 สรุปทายบทที่ 5 177
แบบฝกหัดทายบทที่4 148
บรรณานุกรม 187
(4)
สารบัญรูปภาพ
ภาพประกอบ หนา
ภาพประกอบ 1.1 กราฟของฟงกชัน f (x ) x 5 2
ภาพประกอบ 1.2 แสดง 0 และ 0 7
3x 2
ภาพประกอบ 1.3 กราฟของฟงกชัน f (x ) 28
1 x2
x
ภาพประกอบ 1.4 กราฟของฟงกชัน f (x ) 34
x 1
ภาพประกอบ 1.5 กราฟของฟงกชัน f (x ) x 3 44
ภาพประกอบ 1.6 กราฟของฟงกชัน f (x ) x 3 5x 1 50
ภาพประกอบ 2.1. กราฟแสดงอัตราการเปลี่ยนแปลงความชันของฟงกชัน f (x ) 60
ภาพประกอบ 2.2 วิธีการวัดมุม 80
ภาพประกอบ 2.3 มุม และมุม 81
ภาพประกอบ 3.1 แสดงเสนปกติ และเสนสัมผัส 124
ภาพประกอบ 3.2 แสดงจุดสูงสุดสัมพัทธของฟงกชันบนชวง (x 1, x 2 ) 125
ภาพประกอบ 3.3 แสดงจุดต่ําสุดสัมพัทธของฟงกชันบนชวง (x 1, x 2 ) 125
ภาพประกอบ 3.4 แสดงจุดสูงสุดสัมพัทธโดยใชอนุพันธอันดับที่สองบนชวง x 1, x 2 134
ภาพประกอบ 3.5 แสดงจุดต่ําสุดสัมพัทธโดยใชอนุพันธอันดับที่สองบนชวง x 1, x 2 134
ภาพประกอบ 3.6 แสดงจุดเปลี่ยนเวาของฟงกชัน y f x 136
ภาพประกอบ 3.6 แสดงเซต B (A; r ) 156
(5)
สารบัญตาราง
ตาราง หนา
ตาราง 1.1 แสดงกรณี x มีคาเขาใกล 2 ทางซาย ( x 2 และ x เขาใกล 2 ) 3
ตาราง 1.2 แสดงกรณี x มีคาเขาใกล 2 ทางขวามือ( x 2 และ x เขาใกล 2 ) 3
3x 2
ตาราง 1.3 คาของ f (x ) เมื่อ x มีคาเขาใกล และ 27
1 x2
x
ตาราง 1.4 คาของ f (x ) เมื่อ x มีคาเขาใกล 1 35
x 1
ตาราง 1.5 คาของ f (x ) x 3 43
1
บทที่ 1
ลิมิตและความตอเนื่องของฟงกชัน
เนื้อหาสวนใหญในรายวิชากลาวไดวา แนวคิดหลักประการหนึ่งของแคลคูลสั ไดแก การศึกษา
วิเคราะหเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฟงกชัน เชน อนุพันธที่ผูเรียนจะไดศึกษาในบทที่ 3 ซึ่งคือ อัตรา
การเปลี่ยน แปลงของฟงกชันที่จุดใดจุดหนึ่งในขณะที่ตัวแปรตนที่จุดนั้นเปลี่ยนไปนอยมาก ๆ นั่นเอง
นอกจากนีป้ ริพันธจํากัดเขต ซึ่งผูเ รียนจะไดศึกษาในบทที่ 5 จะเปนผลรวมของคาของฟงกชันใน
สวนยอย ๆ จํานวนมากมายนับไมถวน แลวไดผลลัพธเปนผลรวมของฟงกชันในสวนใหญ สวนหนึ่งจะ
เห็นไดวาทั้งอนุพันธและปริพันธจํากัดเขต ลวนเปนแนวคิดทีเ่ กี่ยวของกับคาของฟงกชันและปริมาณที่
นอยมาก ๆ หรือปริมาณที่ใหญมาก ๆ ดังนั้นเพื่อใหสามารถวิเคราะหคาของฟงกชันทีเ่ กี่ยวของกับ
ปริมาณดังกลาวไดอยางถี่ถวนและชัดเจนนักคณิตศาสตรจึงพัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับลิมิตขึ้นมา อาจ
กลาวไดวา หากปราศจากแนวคิดเรื่องลิมิตแลว วิชาแคลคูลัสคงไมอาจเกิดขึ้นไดดังนั้นเนื้อหาที่จะได
ศึกษาในบทนี้จะประกอบดวยบทนิยามของลิมิตซึ่งจะแสดงใหรูวาลิมิตนัน้ คืออะไรพรอมทั้งแสดงการ
เขียนลิมิต ลิมิตทางซายและลิมิตทางขวา ตลอดจนทฤษฎีบทตางๆ ที่เกี่ยวของกับลิมิต เพื่อจะไดหาคา
ลิมิตไดอยางรวดเร็วและถูกตอง และบางครั้งการหาคาลิมิตของฟงกชันนั้นก็ไมจําเปนตองเปนจํานวน
จริงเสมอไปดังนั้นจึงจําเปนที่ตองศึกษาเรื่องลิมิตที่เกี่ยวของกับอนันตดวย
1.1 บทนิยามของลิมิต
ลิมิต ถาแปรตามพจนานุกรมศัพทคณิตศาสตรฉบับราชบัณฑิตยสถานศัพทแปลวา ขีดจํากัด
เมื่อใชศัพทเฉพาะ ในทางคณิตศาสตรแลวนั้นจะทําความเขาใจยากมากพอสมควร ดังนั้นในตอนแรกนี้
จะไดใหตัวอยางเพื่อเปนแนวคิดกับผูเ รียนวา เมือ่ ไรจะใชคําวาลิมิต และจะหาคาลิมิตนั้นโดยคราว ๆ
ไดอยางไร จากนั้นจึงจะนําเขาสูความหมายที่แทจริงของลิมติ ตอไป (ราชบัณฑิตยสถาน, 2553 : 351)
ตัวอยางเชน
รถยนตคันหนึ่งวิ่งจากเมือง ก ไปยังเมือง ข ซึ่งหางกัน 50 กิโลเมตร ใชเวลา 30 นาที ถาให s
แทนระยะทางทีร่ ถคันนี้วิ่งได หลังจากเวลาผานไป t นาที จะเห็นวาเมือ่ เวลา t เขาใกล 30 นาที (แต
ยังไมถึง 30 นาที) นั้นระยะทาง s ที่ไดจะเพิ่มขึ้นและมีคาเขาใกล 50 กิโลเมตร มากขึ้นลักษณะเชนนี้
จะกลาวไดวา “ลิมิตของระยะทาง (s) ” ที่รถยนตวิ่งไดเมื่อเวลา (t ) เขาใกล 30 นาที เทากับ 50
กิโลเมตร และเขียนขอความนี้ดวย tlim 30
s 50
ในการศึกษาเกี่ยวกับลิมิตของฟงกชันมีขอสังเกตวาคาลิมิตของฟงกชันนั้นแตกตางกับคาของ
ฟงกชันเชนกําหนดให f (x ) x 5 คาของฟงกชันที่ x 2 คือการแทนคา x 2 ลงใน
2
x f (x ) x 5
1.5 6.5
1.9 6.9
1.99 6.99
1.999 6.999
1.9999 6.9999
1.99999 6.99999
x f (x ) x 5
2.5 7.5
2.1 7.1
2.01 7.01
2.001 7.001
2.0001 7.0001
2.00001 7.00001
วิธีทํา แยกพิจารณาเปนสองกรณีดังตอไปนี้
x f (x ) x 1 x f (x ) x 1
จากตารางจะไดวา
เมื่อ x มีคาเขาใกล 3 ทางซายแลว f (x ) มีคาเขาใกล 4
เมื่อ x มีคาเขาใกล 3 ทางขวาแลว f (x ) มีคาเขาใกล 4
ดังนั้น lim f (x ) 4
x 3
x2 x 2
ตัวอยาง 1.2 กําหนดกําหนดให f (x ) จงหาคาของ lim f (x )
x 1 x 1
x2 x 2 x2 x 2
x f (x ) x f (x )
x 1 x 1
จากตารางจะไดวา
เมื่อ x มีคาเขาใกล 1 ทางซายแลว f (x ) มีคาเขาใกล 3
เมื่อ x มีคาเขาใกล 1 ทางขวาแลว f (x ) มีคาเขาใกล 3
ดังนั้น lim f (x ) 3
x 1
การหาคาของ lim f (x )
x a
เปนการดูพฤติกรรมของ f (x ) เมื่อ x มีคาเขาใกล a แต x a
ในการหาลิมิตเมื่อ x เขาใกล a นั้นไมวาฟงกชัน f (x ) จะมีคาที่ x a หรือไมก็ตามสิง่ ทีส่ นใจก็
คือคาของฟงกชัน f (x ) เมื่อ x เขาใกล a เปนอยางไรเทานั้น (กมล เอกไทยเจริญ, 2544 : 16)
5
x
ตัวอยาง 1.3 กําหนดให f x จงหาคาของ lim f x
x x 0
วิธีทํา แยกพิจารณาเปนสองกรณีดังตอไปนี้
x x
x f x x f x
x x
-0.1 -1 0.1 1
-0.01 -1 0.01 1
-0.001 -1 0.001 1
-0.0001 -1 0.0001 1
-0.00001 -1 0.00001 1
-0.000001 -1 0.000001 1
จากตารางจะไดวา
เมื่อ x มีคาเขาใกล 0 ทางซายแลว f (x ) มีคาเขาใกล -1
เมื่อ x มีคาเขาใกล 0 ทางขวาแลว f (x ) มีคาเขาใกล 1
จะเห็นวาเมื่อ x มีคาเขาใกล 0 ( โดยที่ x 0 ) แลว f (x ) จะมีคาเขาใกลคาคงตัวสองคา
คือ 1 และ -1 ในกรณีเชนนี้กลาวไดวาฟงกชัน f นี้ไมมีลิมิตทีจ่ ุด x 0 หรือ lim
x 0
f (x ) ไมมี
1
ตัวอยาง 1.4 กําหนดให f (x ) จงหาคาของ lim f (x )
x x 0
วิธีทํา แยกพิจารณาเปนสองกรณีดังตอไปนี้
กรณีที่ 1 x มีคาเขาใกล 0 ทางซาย กรณีที่2 x มีคาเขาใกล 0 ทางขวา
x 1 x 1
f (x ) f (x )
x x
-0.1 -10 0.1 10
-0.01 -100 0.01 100
-0.001 -1000 0.001 1000
-0.0001 -10000 0.0001 10000
-0.00001 -100000 0.00001 100000
-0.000001 -1000000 0.000001 1000000
6
จากตารางจะไดวา
เมื่อ x มีคาเขาใกล 0 ทางซายแลว f (x ) มีคาลดลงอยางไมมีขอบเขต
เมื่อ x มีคาเขาใกล 0 ทางขวาแลว f (x ) มีคาเพิ่มขึ้นอยางไมมีขอบเขต
จะเห็นวาเมื่อ x มีคาเขาใกล 0 ( โดยที่ x 0 ) แลว f (x ) ไมเขาใกลคาคงตัวใด ๆ เลย
1
ลักษณะนี้กลาววา f นี้ไมมีลิมิตที่จุด x 0 หรือ lim f (x ) lim
x 0 x 0 x
ไมมี
ใหสังเกตวา lim f (x ) L
x a
ก็ตอเมื่อ lim f (x ) lim f (x ) L
x a x a
x2 x 2
ในตัวอยาง 1.2 จะเห็นวา lim 3 และ
x 1 x 1
x2 x 2 x2 x 2
lim 3 lim
x 1 x 1 x 1 x 1
x x x
ในตัวอยาง 1.3 จะเห็นวา lim ไมมี แต lim 1 และ lim 1
x 0 x x 0 x x 0 x
1 1 1
และในตัวอยาง 1.4 จะเห็นวา lim ไมมี และ lim ไมมี และ lim ไมมี
x 0 x x 0 x x 0 x
7
หรือพิจารณาจาก lim(3x 1) 5
x 2
ซึ่งมี f (x ) 2x 1,a 2, L 5 จะเห็นวา
ให 3 จะหาไดวามี 1 ซึ่งถา 0 x 2 1
จากลักษณะดังกลาวมาขางตนนั้นจึงกําหนดบทนิยามของลิมิตของฟงกชันไวดังนี้
(เฟองฟา ศรีจันทพงศ และคณะ, 2553 : 13)
บทนิยาม 1.1
กําหนดให y f (x ) เปนฟงกชันคาจริงของตัวแปรจริง และให a และ L
เปนคาคงตัวที่เปนจํานวนจริง จะกลาวา ลิมิตของ f (x ) เมื่อ x มีคาเขาใกล a เทากับ L
( เขียนเทนดวย limx a
f (x ) L ) ก็ตอเมื่อ สําหรับแตละ 0 ที่กําหนดใหจะตองมี
บทนิยาม 1.2
กําหนดให y f (x ) เปนฟงกชันคาจริงของตัวแปรจริง และให a, M และ L
เปนคาคงตัวที่เปนจํานวนจริงจะกลาววา
ทฤษฎีบท 1.1
ให y f (x ) เปนฟงกชันคาจริงของตัวแปรจริงและให a และ L
เปนจํานวนจริงจะไดวา lim f x L ก็ตอเมื่อ lim f x lim f x L
x a x a x a
นิยามของลิมิตนี้
แลว 4x 7 5
ขอสังเกต 1.1
วิธีหาคา 0.1 ในตัวอยาง 1.5 ที่ผานมาอาจทําไดโดยการแยกตัวประกอบ x 3 ออก
จาก 4x 12 แลวพิจารณาวา x 3 ควรจะนอยกวาจํานวนจริงบวกคาใดจึงจะทําให 4x 12
กับนิยามของลิมิตนี้
แลว 3x 1 7
3 x 2
3
3
3
ดังนั้น เปนคาทีส่ อดคลองกับนิยามของลิมิตนี้เมื่อ 0
3
พิจาณา 2x 1 9 2x 1 9
12
2x 8
2 x 4
2
2
2
นั่นคือ 2x 1 9
5x 10
5 x 2
5 x 2
5
5
5
นั่นคือ 5x 3 7
แลว x2 4 )
ให 0 เปนจํานวนจริงบวกใด ๆ
13
เลือก 1
ให 0 x 2
จะได 0 x 2 1
1 x 2 1
1 4 x 2 4 1 4 ]
3 x 2 5 ]
และ x 2 5
พิจารณา x 2 4 x 2x 2
x 2 x 2
5 ]
กรณี 5 จะมี 1 ซึ่ง 0 x 2 แลว x 2 4
8
ตัวอยาง 1.11 จงพิสจู นวา lim
x 7 x 3
2
8
แลว 2
x 3
ให 0 เปนจํานวนจริงบวกใด ๆ
เลือก 1
ให 0 x 7
จะได 0 x 7 1
1 x 7 1
1 4 x 7 4 1 4 ]
3 x 3 5 ]
และ x 3 3
14
8 8 x 3
พิจารณา 2 2
x 3 x 3 x 3
8 2 x 3
x 3
2x 14
x 3
]
2
x 7
x 3
]
2
3
]
2 8
กรณี จะมี 1 ซึ่ง 0 x 7 แลว 2
3 x 3
2
กรณี จะมี 3 ซึ่ง 0 x 7 แลว
3 2
8 x 7
2 2
x 3 x 3
2 3
3 2
]
3
3
]
]
8
ดังนั้น โดยบทนิยามของลิมิต lim
x 7 x 3
2 เปนจริง
1.2 ทฤษฎีบทของลิมติ
ในหัวขอที่ผานมานั้นเรื่องความหมายและบทนิยามของลิมิตพรอมทั้งไดมีการพิสูจนลิมิตโดยใช
บทนิยามไปแลวนั้น สําหรับฟงกชันนั้นก็ไมเหมาะที่จะหาลิมติ แบบในหัวขอที่ผานมา เราจึงใชทฤษฎี
บทของลิมิตชวยในการหาคาลิมิตนั้นจะทําใหการหาคาลิมิตไดสะดวกรวดเร็วและงายขึ้นดังนั้นในหัวขอ
นี้จะกลาวถึงทฤษฎีบทของลิมิต และการนําทฤษฎีไปใชในการหาคาลิมิตตอไป สําหรับในหัวขอนี้นั้น
ฟงกชันที่กลาวถึงตอไปนี้เปนฟงกชันคาจริงของตัวแปรจริง นอกจากจะระบุเปนอยางอื่น (คณาจารย
ภาควิชาคณิตศาสตร คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยรามคําแหง, 2542 : 32-41)
15
ทฤษฎีบท 1.2
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L1 และ L2 เปนจํานวนจริง
f เปนฟงกชันที่นิยามบน I แตอาจไมนิยามที่ a ถา lim f x L1 และ
x a
lim f x L2 แลว L1 L2
x a
ทฤษฎีบท 1.3
ถา a และ k เปนจํานวนจริงใด ๆ lim k k
x a
ทฤษฎีบท 1.4
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L และ M เปนจํานวนจริง
f และ g เปนฟงกชันที่นิยามบน I แตอาจไมนิยามที่ a ถา lim f x L
x a
ทฤษฎีบท 1.5
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , c และ L เปนจํานวนจริง
f เปนฟงกชันที่นิยามบน I แตอาจไมนิยามที่ a ถา lim f x L
x a
แลว lim cf x cL
x a
lim 5x 8 10 8
x 2
18 ]
ดังนั้น lim 5x 8 8
x 2
65 ]
1 ]
ดังนั้น lim 3x 5 1
x 2
ทฤษฎีบท 1.6
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L และ M เปนจํานวนจริง
f และ g เปนฟงกชันที่นิยามบน I แตอาจไมนิยามที่ a ถา lim f x L และ
x a
lim 7x 5x 8 7 5 8
2
x 1
4]
ดังนั้น
lim 7x 2
x 1
5x 8 4
17
วิธีทํา
lim 2x 5x 2 2 x 1 lim 2x 5x 2 2 lim x 1
x 0 x 0
x 0
lim 2x 5x 2
2 x 1 (lim 2x lim 5x lim 2)(lim x lim1)
2
x 0 x 0 x 0 x 0 x 0 x 0
ทฤษฎีบท 1.7
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , M เปนจํานวนจริงใด ๆ ที่ M 0
f เปนฟงกชันที่นิยามบน I แตอาจไมนิยามที่ a ถา lim f x M
x a
1 1
แลว lim
x a f x M
1
ตัวอยาง 1.17 จงหาคา lim
x 0 x 2
1 1
วิธีทํา lim
x 0 x 2 lim x 2
x 0
1 1
lim
x 0 x 2 2
1
2
]
1 1
ดังนั้น lim
x 0 x 2
2
ทฤษฎีบท 1.8
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L และ M เปนจํานวนจริงที่ M 0
f x lim f x L
และ lim g x M แลว lim x a
x a x a g x lim g x M
x a
18
ขอสังเกต 1.2
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L1, L2, L3,..., Ln และ k1, k2, k3,..., kn เปนจํานวน
จริงใด ๆ f1, f2, f3,..., fn เปนฟงกชันที่นิยามบน I แตอาจไมนิยามที่ a
1).ผลของทฤษฎีบท 1.4 สามารถขยายใชไดกับฟงกชันจํานวนจํากัดนั่นคือ
ถา lim f x L1, lim f2 x L2 , lim f3 x L3, ..., lim fn x Ln
x a 1 x a x a x a
แลว lim k f x k f x k f x k L k L k L
x a 1 1 2 2 n n 1 1 2 2 n n
2
2x 5x 2
ตัวอยาง 1.18 จงหาคา lim
x 0 x 1
2x 5x 2 2 lim
2x 5x 2 2
วิธีทํา lim x 0
x 0 x 1 lim x 1
x 0
2x 5x 2 2 2
l im
x 0 x 1 1
2 ]
2x 5x 2 2
ดังนั้น lim 2
x 0 x 1
บทแทรก 1.1
ถา f และ g เปนฟงกชัน ซึ่ง f (x ) g(x ) ทุก x ซึ่ง 0 x a r
2
2x 5x
ตัวอยาง 1.19 จงหาคา lim
x 0 x
2x 5x
2
x 2 5x
วิธีทํา เพราะวา lim lim
x 0 x x 0 x
2
2x 5x
lim lim 2 5x
x 0 x x 0
2 5(0) ]
2 ]
2
2x 5x
ดังนั้น lim 2
x 0 x
2
x 7x 12
ตัวอยาง 1.20 จงหาคา lim
x 4 x 4
x 2
7x 12 x 4x 3
วิธีทํา เพราะวา lim lim
x 4 x 4 x 4 x 4
x 2 7x 12
lim lim x 3
x 4 x 4 x 4
43 ]
1 ]
x 2 7x 12
ดังนั้น lim 1
x 4 x 4
x3 8
ตัวอยาง 1.21 จงหาคา lim
x 2 x 2
3
x 8 x 3 23
วิธีทํา เพราะวา xlim lim
2 x 2 x 2 x 2
x3 8 (x 2)(x 2 2x 4)
lim lim
x 2 x 2 x 2 x 2
lim (x 2 2x 4)
x 2
]
(2)2 2(2) 4 ]
12 ]
x3 8
ดังนั้น lim
x 2 x 2
12
20
x2 4
ตัวอยาง 1.22 จงหาคา lim
x 2 x 3 8
2 2 2
x 4 x 2
วิธีทํา พิจารณา lim 3
lim 3 3
x 2 x 2 x 8 x 2
x2 4 (x 2)(x 2)
lim 3
lim
x 2 x 8 x 2 (x 2)(x 2 2x 4)
lim
(x 2)
2
x 2 (x 2x 4)
]
22
22 2(2) 4
]
1
3
]
x2 4 1
ดังนั้น lim 3
x 2 x 8 3
2x 2 , x 2
ตัวอยาง 1.23 จงหาคา lim f (x ) เมื่อกําหนด f (x )
x 2 3 x , x 2
วิธีทํา หาคา lim f (x )
x 2
ตองแยกพิจารณาหาลิมิตซาย และลิมิตขวา
พิจารณา lim f (x ) lim 2x 2
x 2 x 2
2(2)2
8 ]
ได lim f (x ) 8
x 2
lim f x 3 2
x 2
1 ]
ได lim f (x ) 1
x 2
ดังนั้น lim f (x )
x 2
ไมมีลิมิต
21
2x 2 , x 2
ตัวอยาง 1.24 จงหาคา lim f (x ) เมื่อกําหนด f (x )
x 1 3 x , x 2
วิธีทํา หาคา lim
x 1
f (x ) แยกพิจารณาหาลิมิตซาย และลิมิตขวา
lim f x 2(1)2
x 1
2 ]
ได lim f (x ) 2
x 1
lim f x 2(1)2
x 1
2 ]
ได lim f (x ) 2
x 1
ดังนั้น lim f x 2
x 1
พิจารณา lim
x x3 5 lim x x 3
5
x 0 x x 0 x
lim
x x3 5 lim (x 3
5)
x 0 x x 0
(03 5) ]
5 ]
ได lim
x x3 5 5
x 0 x
22
พิจารณา lim
x x3 5 lim x x 3
5
x 0 x x 0 x
lim
x x3 5 lim (x 3
5)
x 0 x x 0
(03 5) ]
5 ]
ได lim
x x3 5 5
x 0 x
เนื่องจาก lim
x x3 5 lim x x 3
5
x 0 x x 0 x
ดังนั้น lim
x x3 5 ไมมีลิมิต
x 0 x
พิจารณา lim
x 2 x 2 3x 4 lim x 2x 2
3x 4
x 2 x 2 x 2 x 2
lim
x 2 x 2 3x 4 lim (x 2
3x 4)
x 2 x 2 x 2
(22 3(2) 4) ]
2 ]
ได lim
x 2 x 2 3x 4 2
x 2 x 2
23
พิจารณา lim
x 2 x 2 3x 4 lim x 2x 2
3x 4
x 2 x 2 x 2 x 2
x 2 x 2 3x 4 lim
lim x 2
3x 4
x 2 x 2 x 2
(22 3(2) 4) ]
2 ]
ดังนั้น lim
x 2 x 2 3x 4 2
x 2 x 2
เนื่องจาก lim
x 2 x 2 3x 4 lim
x 2 x 2 3x 4
x 2 x 2 x 2 x 2
ดังนั้น lim
x 2 x 2 3x 4 ไมมีลิมิต
x 2 x 2
พิจารณา lim
x 1 x 2 3x 4 lim (x 1)x 2
3x 4
2 2
x 1 x 3x 2 x 1
x 3x 2
lim
x 1 x 2 3x 4 lim (x 1)x 2
3x 4
x 1
2
x 3x 2 x 1
(x 2)(x 1)
lim
x 1
(x 2 3x 4)
x 2
]
2 ]
ได lim
x 1 x 2 3x 4 2
x 1 x 2 3x 2
24
พิจารณา lim
x 1 x 2 3x 4 lim (x 1)x 2
3x 4
x 1 x 2 3x 2 x 1 x 2 3x 2
lim
x 1 x 2 3x 4 lim (x 1)x 2
3x 4
x 1 x 2 3x 2 x 1 (x 2)(x 1)
lim
x 1
(x 2 3x 4)
x 2
]
2 ]
ได lim
x 1 x 2 3x 4 2
2
x 1 x 3x 2
เนื่องจาก lim
x 1 x 2 3x 4 lim x 1 x 2
3x 4
x 1 x 2 3x 2 x 1 x 2 3x 2
ดังนั้น lim
x 1 x 2 3x 4 ไมมีลิมิต
x 1 x 2 3x 2
x 12x
ตัวอยาง 1.28 จงหาคา lim
x 1 x 2 3x 2
x 1, x 1
วิธีทํา พิจารณา x 1
(x 1),
x 1 ]
2x , x 0
และ 2x
2x ,
x 0 ]
การหาคาลิมิตตองแยกพิจารณาหาลิมิตซายและลิมิตขวา
x 12x x 1 2x
พิจารณา lim lim
x 1 x 2 3x 2 x 1 x 2 3x 2
x 12x (x 1)(2x )
lim lim
x 1 x 2 3x 2 x 1 (x 2)(x 1)
lim
x 1
(2x )
x 2
]
2 ]
25
(x 1)2x
ได lim 2
x 1 x 2 3x 2
x 12x x 1 2x
พิจารณา lim 2
lim 2
x 1 x 3x 2 x 1 x 3x 2
x 12x (x 1)(2x )
lim lim
x 1
2
x 3x 2 x 1 (x 2)(x 1)
lim
x 1
2x
x 2
]
2 ]
x 12x
ได lim 2
x 1 x 2 3x 2
x 12x x 12x
เนื่องจาก lim lim
x 1 x 2 3x 2 x 1 x 2 3x 2
x 12x
ดังนั้น lim ไมมีลิมิต
x 1 x 2 3x 2
1.3 ลิมิตที่เกี่ยวของกับอนันต
กอนที่จะศึกษาลิมิตที่เกี่ยวของกับอนันคนั้นกอนอื่นตองรูจ ักความหมายของคําวา อนันต
เสียกอน อนันต แทนดวยสัญลักษณ ไมใชจํานวนจริง แตใชแทนจํานวนที่มีคามากกวาทุกจํานวน
จริง กลาวคือสําหรับทุก ๆ r R
r
บทนิยาม 1.3
จะกลาววาจํานวนจริง x เขาสูอนันต (เขียนแทนดวย x )
ถา x M ทุก ๆ จํานวนจิง M 0 (กลาวคือ x มีคาเพิ่มขึ้นอยางไมมีขอบเขต)
จะกลาววาจํานวนจริง x เขาสูล บอนันต (เขียนแทนดวย x )
ถา x M ทุก ๆ จํานวนจิง M 0 (กลาวคือ x มีคาลดลงอยางไมมีขอบเขต)
2. ลิมิตคาอนันตที่จุด x a ( a เปนจํานวนจริง)
ให a เปนจํานวนจริงฟงกชัน f ไมมีลิมิตที่จุด x a โดยที่ถา x เขาใกล a
แลวคา f (x ) เพิ่มขึ้นหรือลดลงอยางไมจํากัด (นั่นคือ f (x ) หรือ f (x ) )
มี 6 ลักษณะคือ
lim f (x ) , lim f (x )
x a x a
lim f (x ) , lim f (x )
x a x a
lim f (x ) , lim f (x )
x a x a
3. ลิมิตคาอนันตที่จุดอนันต
ฟงกชัน f ไมมีลิมิตทีจ่ ุดอนันตโดยที่เมือ่ x หรือ x แลว
f (x ) หรือ f (x ) ) มี 4 ลักษณะคือ
lim f (x )
x
lim f (x )
x
lim f (x )
x
lim f (x )
x
กอนที่จะศึกษาลิมิตที่เกี่ยวของกับอนันตทั้ง 3 ประเภทอยางละเอียดนั้นจะขอ
กลาวถึงนิยามทีส่ ําคัญและจําเปนตองทราบกอนดังนี้ (ทัศนีย อารยะตระกูลลิขิต และคณะ, 2539 :
25)
27
บทนิยาม 1.4
ฟงกชัน f (x ) เปนฟงกชันซึ่งเมื่อ x เขาใกล a แลว f (x ) อยูในรูปแบบใด
รูปแบบหนึง่ ดังตอไปนี้ คือ 0 , , 0 , , 00, 0 หรือ 1 แลวจะไดวา lim f (x )
0 x a
มี รูปแบบที่ไมกําหนด ที่ x a
3x 2
ตาราง 1.3 คาของ f (x ) เมื่อ x มีคาเขาใกล และ
1 x2
3x 2 3x 2
x f (x ) x f (x )
1 x2 1 x2
1 3 1 3
2 2
10 300 10 300
101 101
100 30000 100 30000
10001 10001
1000 3000000 1000 3000000
1000001 1000001
… … … …
3x 2
พิจารณากราฟฟงกชัน f (x ) ดังตอไปนี้
1 x2
28
3x 2
ภาพประกอบ 1.3 กราฟของฟงกชัน f (x )
1 x2
3x 2
จากตารางหรือจากกราฟของฟงกชัน f (x ) จะเห็นวา เมือ่ x แลว คา
1 x2
3x 2
ของฟงกชัน f (x ) มีคาเขาใกล 3 นั่นคือ lim
x 1 x 2
3 และในทํานองเดียวกัน เมื่อ
3x 2
x แลว คาของฟงกชัน f (x ) มีคาเขาใกล 3 จะได lim
x 1 x 2
3
ในกรณีทั่วไป lim f (x ) L
x
หมายความวา เมื่อ x มีคาเพิ่มขึ้นอยางไมจํากัดแลวคา
f (x ) มีคาเขาใกลจํานวนจริง L และในทํานองเดียวกัน xlim
f (x ) L หมายความวา เมื่อ x มี
บทนิยาม 1.5
ให f เปนฟงกชันคาจริงที่นิยามบนบางชวงเปด (a, ) กําหนดให L
เปนจํานวนจริง xlim f x L (อานวา ลิมิตของ f (x ) เมื่อ x เขาสู เทากับ L )
ทุก ๆ x M
29
2
lim 3
x x
4
lim 5
x x
}
2
lim 3 lim
x x x
4
lim 5 lim
x x x
3x 2 30
lim
x 5x 4 50
3
5
}
3x 2 3
ดังนั้น lim
x 5x 4
5
30
2x 2 7x 5
ตัวอยาง 1.30 จงหาคา xlim
5x 3 2x 1
3 2 7 5
x
2x 2 7x 5 x x 2
x 3
วิธีทํา xlim lim
5x 3 2x 1 x 2 1
x 3 5 2 3
x x
3 2 7 5
x
2x 2 7x 5 x x 2 x 3
lim lim
x 5x 3 2x 1 x 2 1
x 3 5 2 3
x x
lim x x
x
2 7
2 3
2
5 2 3
x
1
5
}
x x
2
2
7
lim lim 2 lim 3
x x x x x x
000
5 0 1
}
0
5
}
0 }
2x 2 7x 5
ดังนั้น lim
x 5x 3 2x 1
0
}
2 7 5
1 x x 2
lim
x
x 2 1
5
x 2 x 3
}
2 7 5
1
x x 2
lim lim
x x x
5 2 1
x 2 x 3
2 7 5
1 x x 2 2
เนื่องจาก lim 0 และ lim
x
x x
5 2 1 5
x 2 x 3
2x 2 7x 5
ดังนั้น lim
x 5x 3 2x 1
0
3x 6 6x 2 1
ตัวอยาง 1.31 จงหาคา xlim
2x 3 x
6 6 1
x 3
3x 6 6x 2 1 x 4
x 6
วิธีทํา lim lim
x 2x 3 x x 1
x 3 2 2
x
x3 3 6 1
3x 6 6x 2 1 x 4 x 6
lim lim
x 2x 3 x x 1
x 3 2 2
x
lim
x
x
6
x 3 3 4 6
1
x 3 2 2
x
1
x
}
32
x
x
6
lim 2 2
x x
1
1
lim 3 4 6
x
}
lim 3 lim
x x x
6
lim 2 lim 2
x
4
x x
1
}
lim 6
x x
1
300
20
}
2
}
3
3x 4 6x 2 1 3
ดังนั้น lim 2
x 2x x 2
3x 6 6x 2 1
ตัวอยาง 1.32 จงหาคา x
lim
2x 3 x
6 1
x 6 3 4 6
3x 6 6x 2 1 x x
วิธีทํา lim lim
x 2x 3 x x 1
x 3 2 2
x
x3 3 6 1
3x 6 6x 2 1 x 4 x 6
lim lim
x 2x 3 x x 1
x 3 2 2
x
lim
x
x
6
x 3 3 4 6
1
x 3 2 2
x
1
x
}
33
lim
x
x
6 1
3 4 6
x
1
2 2
x
}
lim 3 lim
x x
6
x 4
lim 2 lim 2
x
lim 6
x x
1
x x
1
}
300
20
}
2
3
}
3x 4 6x 2 1 3
ดังนั้น lim
x 2x 2 x 2
5x 5 2x 3 7
ตัวอยาง 1.33 จงหาคา xlim
2x 3 1
6 5 2 7
x
5x 5 2x 3 7 x x 3
x 6
วิธีทํา lim lim
x 2x 3 1 x 1
x 3 2 3
x
5 2 7
x 6 3 6
5x 5 2x 3 7 x x x
lim li m
x 2x 3 1 x 1
x 3 2 3
x
lim
x
x3
5
2 7
1
x 3 2 3
x
}
x x 3 x 6
34
lim
x
5
2 7
1
2 3
x
x x 3 x 6
}
lim
5
x x x x
2
lim 3 lim 6
lim 2 lim 3
x x x
1
} 7
x x
000
20
}
}
0
2
0 }
5x 5 2x 3 7
ดังนั้น lim 0
x 2x 3 1
ขอสังเกต 1.3
จากตัวอยางทีผ่ านมาจะสังเกตไดวาถา P (x ) a 0 a1x a n x n และ
Q (x ) b0 b1x bm x m เปนฟงกชันพหุนามโดยที่ a n 0 และ bm 0 แลว
a a
P (x ) , n m P (x ) , n m
n n
lim
x Q(x )
bm
และ lim
x Q (x )
bm
0, n m 0, n m
1.3.2 ลิมิตคาอนันตที่จุด x a
x
พิจารณาฟงกชัน f (x ) ไดตารางดังตอไปนี้
x 1
35
x
ตาราง 1.4 คาของ f (x ) เมื่อ x มีคาเขาใกล 1
x 1
x x
x f (x ) x f (x )
x 1 x 1
0.5 -1 1.5 3
0.9 -9 1.1 11
0.99 -99 1.01 101
0.999 -999 1.001 1001
0.9999 -9999 1.0001 10001
… … … …
x
พิจารณากราฟฟงกชัน f (x ) ดังตอไปนี้
x 1
x
ภาพประกอบ 1.4 กราฟของฟงกชัน f (x )
x 1
36
x
จากตารางหรือจากกราฟของฟงกชัน f (x ) จะเห็นวา เมือ่ x เขาใกล 1 ทางขวา
x 1
(x 1) นั้น คาของ f (x ) เขาสู อนันต () และเมื่อ x เขาใกล 1 ทางซาย (x 1) นั้นคาของ
f (x ) เขาสู ลบอนันต () ในกรณีเชนนี้เราไดวา
x x
lim และ lim
x 1 x 1 x 1 x 1
ในทํานองเดียวกันจะไดวา
x x
lim และ lim
x 1 x 1 x 1 x 1
และ
2 2
x x
lim และ lim
x 1 x 1 x 1 x 1
ในกรณีทั่ว ๆ ไปถา lim f x ( หรือ ) และ lim f x ( หรือ ) มี
x a x a
บทนิยาม 1.6
lim f x (อานวาลิมิตของ f (x ) เมื่อ x เขาใกล a ทางขวาเทากับ )
x a
ทฤษฎีบท 1.9
1
1. lim
x a (x a)n
1 , เปนเลขคู
2. lim
x a (x a )n
, เปนเลขคี่
1
ตัวอยาง 1.34 จงหาคา lim
x 3 (x 3)2
1
วิธีทํา เนื่องจาก lim
x 3 (x 3)2
1
และ lim
x 3 (x 3)2
1
ดังนั้น lim
x 3 (x 3)2
1
ตัวอยาง 1.35 จงหาคา lim
x 2 (x 2)3
1
วิธีทํา เนื่องจาก lim
x 2 (x 2)3
1
และ lim
x 2 (x 2)3
1
ดังนั้น lim ไมมีลมิ ิต
x 2 (x 2)3
1
ตัวอยาง 1.36 จงหาคา lim
x 0 x
1
วิธีทํา เนื่องจาก lim
x 0 x
1
และ lim
x 0 x
38
1
ดังนั้น lim ไมมีลมิ ิต
x 0 x
ทฤษฎีบท 1.10
ให lim
x a
f (x ) L และ lim g (x ) I
x a
เมื่อ L R และ
I หรือ จะไดวา
I , L0
2. lim f (x ) g(x ) , L0 และ
x a
,
L0 และ
f (x )
lim
x g(x )
0 เมื่อ L 0
f (x )
3. lim 0
x a g(x )
I , เปนเลขคี่
4. lim n g (x )
x a
, เปนเลขคู และ
I , เปนเลขคี่
5. lim g n (x )
x a
, เปนเลขคู
ขอสังเกต 1.4
1. ทฤษฎีบท 1.10 ยังคงเปนจริงสําหรับกรณีลมิ ิตทางซาย และลิมิตทางขวาของ f และ g
2. ถา L 0 แลว lim
x a
f (x ) g(x ) อยูในรูปแบบไมกําหนด แลวลิมิตนีอ
้ าจจะหาคาไดหรือ
หาคาไมได ตัวอยางตอไปนี้
1
ตัวอยาง 1.37 จงหาคา lim f (x ) g(x ) เมื่อกําหนด f (x ) และ g(x) x
x 0 x2
1
วิธีทํา พิจารณา lim f (x ) lim 2
x 0 x 0 x
39
x
แต lim f (x ) g (x ) lim
x 3 x 3 x2
1
lim
x 0 x
]
ดังนั้น lim f (x ) g(x )
x 0
1
ตัวอยาง 1.38 จงหาคา lim f (x ) g(x ) เมื่อกําหนด f (x ) และ g(x) x
x 0
x
1
วิธีทํา พิจารณา lim f (x ) lim
x 0
x 0
x
และ lim g (x ) lim x 0
x 0 x 0
x
แต lim f (x ) g(x ) lim
x 3 x 3 x
lim 1
x 0
1 ]
ดังนั้น lim f (x ) g(x ) 1
x 0
1
ตัวอยาง 1.39 จงหาคา lim f (x ) g(x ) เมื่อกําหนด f (x ) และ g (x ) (x 3)2
x 3 x 3
1
วิธีทํา พิจารณา lim f (x ) lim
x 3
x 3
x 3
และ lim g (x ) lim(
x 3)2 0
x 3 x 3
(x 3)2
แต lim f (x ) g(x ) lim
x 3 x 3 x 3
40
0 ]
ดังนั้น lim f (x ) g(x ) 0
x 3
1
ตัวอยาง 1.40 จงหาคาของ lim 5
x 2 (x 2)
3
1 1
วิธีทํา จาก lim 5 lim lim 5
x 2 (x 2) x 2 (x 2)3 x 2
3
1
และ lim , lim 5 5
x 2 (x 2)3 x 2
1
ตัวอยาง 1.41 จงหาคาของ lim 2
x 1 x 1
1 1
วิธีทํา จาก lim lim
x 1 x 1 x 1 (x 1)(x 1)
2
1 1
lim
x 1 (x 1) (x 1)
1 1
lim lim
x 1 (x 1) x 1 (x 1)
1 1 1
และ lim , lim
x 1 (x 1) x 1 (x 1) 2
โดยทฤษฎีบท 1.10 ขอ 2
1
ดังนั้น lim 2
x 1 x 1
41
5
ตัวอยาง 1.42 จงหาคาของ lim 2
x 3 x 3x
5 5
วิธีทํา จาก lim lim
x 3 x 2 3x x 3 x (x 3)
5 1
lim
x 3 x x 3
5 1
lim lim
x 3 x x 3 x 3
5 5 1
และ lim , lim
x 3 x 3 x 3 x 3
5
ดังนั้น lim 2
x 3 x 3x
5
วิธีทํา จาก lim 5(x 2)2 lim
x 2 x 2 1
(x 2)2
5
lim
x 2 1
(x 2)2
lim
lim 5
x 2
1
]
x 2 (x 2)2
1
และ lim 5 5 ,
x 2
lim
x 2 (x 2)2
1
ตัวอยาง 1.44 จงหาคา lim 2
x 3 x 7x 12
1 1
วิธีทํา จาก lim lim
x 3 x 7x 12 x 3 (x 3)(x 4)
2
1 1
lim
x 3 (x 3) (x 4)
1 1
lim lim
x 3 (x 3) x 3 (x 4)
1 1
และ lim , lim 1
x 3 (x 3) x 3 (x 4)
x 1
ตัวอยาง 1.45 จงหาคา lim
x 2 x 2
1
x 1 2
วิธีทํา พิจารณา lim lim x
x 2 x 2 x 2 1
x 1
1
lim
x 2 x 2
1
lim
x 2 x 1
1 1 1
และ lim , lim
x 2 x 2 x 2 x 1 3
x 1
ได lim
x 2 x 2
1
x 1 x 2
พิจารณา lim lim
x 2 x 2 x 2 1
x 1
43
1
lim
x 2 x 2
1
lim
x 2 x 1
1 1 1
และ lim , lim
x 2 x 2 x 2 x 1 3
x 1
ได lim
x 2 x 2
x 1 x 1
เนื่องจาก lim lim
x 2
x 2 x 2 x 2
x 1
ดังนั้น lim
x 2 x 2
ไมมีลิมิต
1.3.3 ลิมิตคาอนันตที่จุดอนันต
พิจารณาฟงกชัน f (x ) x 3 ไดตารางดังตอไปนี้
x f (x ) x 3 x f (x ) x 3
1 1 -1 -1
2 8 -2 -8
3 27 -3 -27
4 64 -4 -64
5 125 -5 -125
10 1000 -10 -1000
… … … …
44
พิจารณากราฟฟงกชัน f (x ) x 3 ดังตอไปนี้
lim x 3
x
ในกรณีทั่ว ๆ ไป ลิมิตคาอนันตที่จุดอนันต นั้นมีความหมายดังบทนิยามตอไปนี้
(เฟองฟา ศรีจันทพงศ และคณะ, 2553 : 35-40)
บทนิยาม 1.7
1. xlim
f (x ) ก็ตอเมื่อ ทุก ๆ คา M 0 จะมีคา N 0
ซึ่งถา x N แลว f (x ) M
2. xlim
f (x ) ก็ตอเมื่อ ทุก ๆ คา M 0 จะมีคา N 0
ซึ่งถา x N แลว f (x ) M
45
บทนิยาม 1.7(ตอ)
3. xlim
f (x ) ก็ตอเมื่อ ทุก ๆ คา M 0 จะมีคา N 0
ซึ่งถา x N แลว f (x ) M
4. xlim
f (x ) ก็ตอเมื่อ ทุก ๆ คา M 0 จะมีคา N 0
ซึ่งถา x N แลว f (x ) M
ทฤษฎีบท 1.11
ให n N จะไดวา
1. lim x n
x
, เปนเลขคี่
2. lim x n
x
, เปนเลขคู
ตัวอยาง 1.46
lim x
x
lim x
x
lim x 2
x
lim x 5
x
lim x 4
x
ทฤษฎีบท 1.12
ให xlim
f (x ) L และ lim g(x ) I
x
โดยที่ L R
และ I (หรือ )
ทฤษฎีบท 1.12(ตอ)
2. ถา L 0 แลว
g (x ) I ,
2.1 lim f (x ) g (x ) lim
x x f (x )
I ,
f (x )
2.2 lim 0
x g(x )
I , เปนเลขคี่
3. lim g (x )
x
, เปนเลขคู และ
I , เปนเลขคี่
4. lim g n (x )
x
, เปนเลขคู
ทฤษฎีบท 1.13
ให xlim
f (x ) I และ lim g(x ) J
x
โดยที่ I (หรือ )
และ J (หรือ ) จะไดวา
,
1. lim f (x ) g (x )
x ,
ทฤษฎีบท 1.14
ให P (x ) a 0 a1x a n x n และ Q (x ) b0 b1x bm x m
เปนฟงกชันพหุนามระดับขั้น n และ m ตามลําดับ ถา n m แลวจะไดวา
P (x ) a
lim lim n x n m
x Q(x ) x b
m
47
หมายเหตุ
1. เมื่อเราแทน x ดวย x ในทฤษฎีบท 1.12, 1.13 และ 1.14 จะไดวา
ทฤษฎียังคงเปนจริง
f (x )
2. lim จะเรียกวาอยูในรูปแบบไมกําหนด และ lim f (x ) g(x ) ซึ่ง
x g (x ) x
(x ) (x )
เมื่อเราทราบทฤษฎีบทตาง ๆ ที่เกี่ยวของกับลิมิตที่จุดอนันตที่กลาวมาแลวเราสามารถหาคา
ลิมิตไดดังตัวอยางตอไปนี้
และ lim x 3 ,
x
lim 2 2
x
ดังนั้น lim(x 3 2)
x
ดังนั้น lim (x 3 5)
x
48
เพราะ xlim
x 2 และ lim 4 4
x
และ lim 3 3 ,
x
ดังนั้น lim (3 4x 2 )
x
2
ตัวอยาง 1.50 จงหาคาของ lim
x x 3
2 lim 2
วิธีทํา จาก lim
x x 3
x
lim x 3
x
และ lim 2 2 ,
x
lim x 3
x
และ lim 3x 2 ,
x
lim x ,
x
lim 1 1
x
ดังนั้น lim(3x 2 x 1)
x
49
ดังนั้น lim (x 3 x )
x
และ xlim
x , lim(x 1)
x
ดังนั้น lim(x 2 x )
x
ดังนั้น lim x 3 (1 x 2 )
x
3x 2 x 1
ตัวอยาง 1.55 จงหาคาของ lim
x 2x 1
3x 2 x 1
วิธีทํา เนื่องจาก lim อยูในรูปแบบไมกําหนด ทําไดดังตอไปนี้
x 2x 1
50
2
1 1
x 3
3x 2 x 1 x x 2
lim lim
x 2x 1 x 1
x 2
x
1 1
x 3 2
x x
lim
x 1
2
x
1 1
3 2
lim x lim x x
x x 1
2
x
1 1
3 2
และ xlim x , lim x x 3 โดยทฤษฎีบท 1.12 ขอ 2
x 1 2
2
x
3x 2 x 1
ดังนั้น lim
x 2x 1
บทนิยาม 1.8
กําหนดให y f (x ) เปนฟงกชันคาจริงของตัวแปรจริง และ a R
จะกลาววา f ตอเนื่องที่จุด x a ก็ตอเมื่อ
1. f (a ) หาคาได
2. lim
x a
f (x ) หาคาได
3. f (a) lim
x a
f (x)
lim f (x ) lim x 3 4 8
x 2 x 2
lim f (x ) lim x 3 8
x 2 x 2
3. เนื่องจาก lim
x 2
f (x) f (2)
lim f (x ) lim x 2 4 8
x 2 x 2
lim f (x ) lim x 3 8
x 2 x 2
3. เนื่องจาก lim
x 2
f (x) f (2)
(5)2 (5) 20 0
วิธีทํา เนื่องจาก f 5 หาคาไมได
(5 5) 0
53
วิธีทํา 1. f (3) 32 3 12
2. lim
x 3
f (x ) ไมมีลิมิตเพราะวา
ไมตองพิจารณาขอ 3 ตอ
1.5 สรุปทายบทที่ 1
ลิมิตและความตอเนื่องของฟงกชันนั้นเปนพื้นฐานทีส่ ําคัญอยางยิ่งในการศึกษาเนื้อหาตาง ๆ
ในบทถัดไป จากการที่ไดศึกษาเรื่องลิมิตนั้นทําใหเห็นถึงความหมายของลิมิตไดอยางชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเมื่อเราไดรูความหมายของลิมิตแลวนั้นเราก็จะสามารถพิสูจนลิมิตโดยใชบทนิยามของลิมิตได ซึ่ง
จะแสดงใหเห็นไดอยางชัดเจนวาลิมิตนั้นคืออะไร และทําใหสามารถแสดงการเขียนลิมิต พรอมทัง้
ตรวจสอบวาแตละฟงกชันนั้นมีหรือไมมีลมิ ิตก็ไดโดยใชทฤษฎีตาง ๆ ที่เกี่ยวของ โดยหลักทีส่ ําคัญตอง
พิจารณาการหาคาลิมิตนั้นก็คือตองพิจารณาลิมิตทางซายและลิมิตทางขวากอนเสมอ ยกเวนกรณีลิมิต
(คาจริง) ที่จุดอนันต และลิมิตคาอนันตที่จุดอนันต สวนการพิจารณาวาฟงกชันทีก่ ําหนดใหนั้นตอเนื่อง
หรือไมตอเนื่อง ณ จุดใด x a หรือไมนั้น ก็ตรวจสอบแควา f (a) lim x a
f (x) หรือไมถาเปนจริง
แสดงวาฟงกชัน f (x ) ตอเนื่องทีจ่ ุด x a
54
แบบฝกหัดทายบทที่ 1
x 2 x
1.5 lim
x 0 x
2. จงใชบทนิยามพิสจู นลิมิตที่กําหนดใหตอไปนี้
2.1 lim
x 2
x 1 3 2.2 lim x 8 5
x 3
1 1
2.3 lim x 2 9 2.4 lim
x 3 x 1 x 2 3
3.3
lim x 2 5
x 5
3.4
lim x 2 5
x 5
2 2
3.5 lim 3.6 lim
x 1 x 1 x 1 x 1
x x 2 x x 2
3.7 lim 2
3.8 lim
x 2 x x 2 x2
3.9 lim
x 2
2x 3.10 lim
x 2
2x
x 0 x x 0 x
x x 3
4.7 lim x 3 4.8 lim
x 3 x 7 x 1
4.9 lim
x 1 x 2 2x 3 4.10 lim
x 2
x 1 x2 1 x 2 x 2
4.11 lim
x 2 x 5
4.12 lim
x 2 x2 1
x 2 x 2 x 1 x 1
x 2 3x 2 x 2 3x 2
4.13 lim 4.14 lim
x 1 x 1 x 1 x 1
2, x 0
5. กําหนดให f (x ) 3,
x 0 ] จงหาคาลิมิตที่กําหนดใหตอไปนี้ (ถาลิมิตหาคาได)
1, x 0]
1. xlim
1
f (x )
2. lim
x 0
f (x )
3. lim
x 3
f (x )
x 2 3, x 4
6. กําหนดให f (x ) จงหาคาลิมิตที่กําหนดใหตอไปนี้ (ถาลิมิตหาคาได)
3x 1,
x 4 ]
1 lim
x 3
f (x )
2 lim
x 4
f (x )
3 lim
x 5
f (x )
2x 3, x3
7. กําหนดให f (x ) x 2 1,
x 3 ]จงหาคาลิมิตที่กําหนดใหตอไปนี้ (ถาลิมิตหาคาได)
3x 2, x 3]
1 lim
x 1
f (x )
2 lim
x 3
f (x )
3 lim
x 5
f (x )
56
1 x
8.3 lim 8.4 lim
x 3
x 3 2 2
x 3 x 3x
1 x
8.5 lim
x 7 x 2 5x 14
8.6 lim
x 2 x 2 5x 14
x 2 6x 7 x 2 6x 7
8.7 lim 8.8 lim
x 7
x 1
x 1 2 x 7
1
, x 1
1 x
9. จงหาคา lim f (x ) เมื่อกําหนดให f (x ) (ถาลิมิตหาคาได)
x 1 2
(x 1)
2
, x 1 ]
1
, x 7
x 2 5x 14
f (x )
]
10. จงหาคา lim
x 7
f (x ) เมื่อกําหนดให
(ถาลิมิตหาคาได)
x 2
, x 7
x 5x 14
2
2x 4 2x 2 7 2x 8
11.5 lim
x 3x 5 x 5
11.6 lim
x
x2 x 3
2x 1 3x 2 1
11.7 lim
x
11.8 lim
x2 x 3 x
x4 x2 3
3x 2 1
11.9 lim
x 4 2
11.10 lim
x
x 4 x2 3
x x 3
57
x 2 3, x 4
12.2 f (x ) ที่ x 4
3x 1, x 4
]
2, x 0
12.3 f (x ) 3,
x 0 ] ที่ x 0
1, x 0]
2x 3, x 3
12.4 f (x ) x 2 1, x 3
] ที่ x 3
3x 2, x 3
]
x 2 4, x 2
12.5 f (x ) 5 ,
x 2 ] ที่ x 2
x 2, x 2
]
x 2 4, x 3
12.6 f (x ) 5 ,
x 3 ] ที่ x 3
x 2, x 3
]
2x 2 2, x 4
12.7 f (x ) x ,
x 4 ] ที่ x 4
x 5, x 4]
58
x 2 1, x 1
13. กําหนด f (x ) 2x 1,
1x 3 ]
x 2,
x 3 ]
จงพิจารณาวาฟงกชัน f x ตอเนื่องที่จุดทีก่ ําหนดใหหรือไม
1 x 0
2 x 1
3 x 2
4 x 3
5 x 4
59
บทที่ 2
อนุพันธของฟงกชัน
คณิตศาสตรสําหรับวิทยาศาสตร 1 นั้นเปนสวนหนึ่งของวิชาที่เรียกวา แคลคูลัส ซึง่ แคลคูลสั
นั้นเปนคณิตศาสตรแขนงหนึ่งที่มี ไอแซก นิวตัน นักคณิตศาสตรชาวอังกฤษ และ กอตตฟรีด วิลเฮลม
ไลบนิตซ นักคณิตศาสตรชาวเยอรมัน เปนผูใหกําเนิด ซึง่ มีประโยชนตอวิทยาการในสาขาตาง ๆ
มากมาย เชน ฟสิกส เคมี ชีววิทยา วิศวกรรมศาสตร ดาราศาสตร เศรษฐศาสตร สังคมวิทยา และ
พฤติกรรมทางจิตวิทยา ตลอดจนเปนพื่นฐานของการศึกษาคณิตศาสตรสาขาอื่น ๆ แทบทุกสาขา
ดังนั้นสําหรับเรือ่ งอนุพันธของฟงกชัน ก็เปนสวนหนึ่งของรายวิชาคณิตศาสตรสําหรับวิทยาศาสตร 1
เชนกัน โดยกลาวถึงอัตราการแปรคา อัตราการแปรคาชั่วขณะ สวนเปลี่ยนแปลงและอัตราการ
เปลี่ยนแปลงเฉลี่ย ซึ่งมีประโยชนอยางกวางขวางในการแกปญ หาตาง ๆ ซึง่ จะกลาวในบทที่ 4 เรื่อง
การประยุกตอนุพันธ และจากบทที่ 2 เรื่องลิมิตและความตอเนื่องของฟงกชันที่ผเู รียนไดศึกษาผานมา
นั้นเปนการหาเฉพาะลิมิตของฟงกชันพีชคณิตเทานั้น สวนในบทนี้จะแบงการหาอนุพันธออกเปน 2
ประเภท คืออนุพันธของฟงกชันพีชคณิต และอนุพันธของฟงกชันอดิศัย กอนที่จะศึกษาอนุพันธของ
ฟงกชันนั้น เราจะศึกษาสวนเปลีย่ นแปลงและอัตราการเปลีย่ นแปลงเฉลี่ยของฟงกชันเพื่อนใหผเู รียนได
ศึกษาเรื่องอนุพันธไดเขาใจดียิ่งขึ้นน
2.1 สวนเปลี่ยนแปลงและอัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ย
โดยทั่ว ๆ ไปสําหรับ y f (x ) จะไดวาเมื่อ x มีคาเปลี่ยนไปคาของฟงกชัน f (x ) ก็
เปลี่ยนไปดวยคือเมื่อ x เปลี่ยนจาก x ไปเปน x x คาของฟงกชันจะเปลี่ยนจาก f (x )
ไปเปน f (x x ) ดังนั้นปริมาณการเปลี่ยนแปลงของฟงกชันนี้คือ f (x x ) f (x ) ในขณะ
f (x x ) f (x )
ที่ปริมาณเปลี่ยนแปลงของ x คือ x และเรียกอัตราสวน วา อัตราการ
x
เปลี่ยนแปลงเฉลี่ย (เฟอ งฟา ศรีจันทพงศ และคณะ, 2553 : 53)
พิจารณา f (x ) x 2 1 ถา x เปลี่ยนจาก 2 ไปเปน 5 คา x 3 จะไดอัตราการ
เปลี่ยนแปลงเฉลี่ยเทากับ 21 ถา x เปลี่ยนจาก 2 ไปเปน 3 คา x 1 อัตราการเปลี่ยนแปลง
เฉลี่ยมีคาเทากับ 5 ถา x เปลี่ยนจาก 2 ไปเปน 2.1 คา x 0.1 อัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยมี
คาเทากับ 4.1 และถา x เปลี่ยนจาก 2 ไปเปน 2.01 คา x 0.01 จะไดอัตราการ
เปลี่ยนแปลงเฉลี่ยเทากับ 4.01 ตอไปเรื่อย ๆ
60
y
y f (x )
f (x 1 h )
f (x h) f (x )
f (x 1 )
h
0 x
x1 x1 h
บทนิยาม 2.1
กําหนดให y f (x ) เปนฟงกชันที่หาอนุพันธไดที่ x a
y f (a x ) f (x ) f (x ) f (a )
ถา lim
x 0 x
lim lim หาคาได
x 0 x x 0 x a
และเขียนแทนคาที่ไดนี้ววา f (a ) และเรียกวา อนุพันธของ f ที่ a นั่นคือ
f (x ) f (a ) f (a x ) f (a )
f (a ) lim lim
x a x a x 0 x
f (a h ) f (a )
lim เมื่อกําหนด x h
h0 h
หมายเหตุ 2.1
f (x ) f (a )
1. ถา lim หาคาไมไดเราจะกลาววาฟงกชัน f ไมสามารถหาอนุพันธไดที่
x 0 x a
x a
2. สัญลักษณที่ใชแทนอนุพันธของ f ที่ x ใด ๆ คือ f (x ) ซึ่งจะเทากับ
f (x h ) f (x )
lim และจะเขียนเทนดวย dy , d f (x ) หรือ y
h0 h dx dx
จากบทนิยาม 2.1
f (x ) f (a ) f (x ) f (a ) f (x ) f (a )
lim หาคาไดก็ตอเมื่อ lim lim และจาก
x a x a x a x a x a x a
f (x ) f (a ) f (x ) f (a )
บททีผ่ านมานั้นเราเรียก lim วาเปนลิมิตทางขวาของฟงกชัน และใน
x a x a x a
f (x ) f (a ) f (x ) f (a )
ทํานองเดียวกันก็เรียก lim วาเปนลิมิตทางซายของฟงกชัน ตอไปนี้เรา
x a x a x a
f (x ) f (a ) f (x ) f (a )
จะนิยาม lim และ lim ในรูปของอนุพันธดังตอไปนี้
x a x a x a x a
62
บทนิยาม 2.2
ฟงกชัน y f (x ) เปนฟงกชันที่หาอนุพันธดานขวาไดที่ x a ถา
f (x ) f (a )
lim หาคาได และจะเรียกลิมติ นี้วา อนุพันธดานขวา ของ f ที่ a
x a x a
เขียนแทนดวย f (a )
บทนิยาม 2.3
ฟงกชัน y f (x ) เปนฟงกชันที่หาอนุพันธดานซายไดที่ x a ถา
f (x ) f (a )
lim หาคาได และจะเรียกลิมติ นี้วา อนุพันธดานซาย ของ f ที่ a
x a x a
เขียนแทนดวย f (a )
หมายเหตุ 2.2
f (x ) f (a ) f (a h ) f (a )
lim lim
x a x a h 0 h
f (x ) f (a ) f (a h ) f (a )
lim lim
x a x a h 0 h
lim
h 0
x 2xh h 2x 2h x 2 2x
2 2
h
]
lim
h 0
x 2 2xh h 2 2x 2h x 2 2x
h
]
lim
h 0
2xh h 2 2h
h
]
lim
h 0
(2x h 2)h
h
]
63
lim(2x h 2)
h 0
]
2x 0 2 ]
2x 2 ]
ดังนั้น อนุพันธของ f (x ) x 2 2x ที่จุด x ใด ๆ คือ 2x 2
lim
h 0
(x 3x h 3xh 2 h 3 ) (2x 2h ) x 3 2x
3 2
h
]
lim
h 0
x 3x h 3xh h 2x 2h x 3 2x
3 2 2 3
h
]
lim
h 0
x 3 3x 2h 3xh 2 h 3 2x 2h x 3 2x
h
]
lim
h 0
3x 2h 3xh 2 h 3 2h
h
]
lim
h 0
(3x 2 3xh h 2 2)h
h
]
64
lim(3x 2 3xh h 2 2)
h 0
]
3x 2 2 ]
ดังนั้น อนุพันธของ f (x ) x 3 2x ที่จุด x ใด ๆ คือ 3x 2 2
lim
x 0
x 0
x
]
lim
x 0
x
x
]
lim
x 0
x
x
]
1 ]
วิธีทํา 2) อนุพันธดานขวาของ f ที่ 0 คือ
f (x ) f (0)
f (0 ) lim
x 0 x 0
lim
x 0
x 0
x
]
lim
x 0
x
x
]
lim
x 0
x
x
]
1 ]
f (x ) f (0) f (x ) f (0) f (x ) f (0)
เนื่องจาก lim lim จะไดวา lim หาคาไมได
x 0 x 0 x 0 x 0 x 0 x 0
3x 1, x 1
ตัวอยาง 2.4 กําหนด f (x ) 3 จงหาคา f (x )
x 1, x 1
วิธีทํา เราจะแยกพิจารณาเปน 3 กรณีดังตอไปนี้
กรณีที่ 1 x 1
f (x h ) f (x )
f (x ) lim
h 0 h
lim
h 0
3(x h ) 1 3x 1
h
]
3x 3h 1 3x 1
lim
h 0 h
lim
h 0
3x 3h 1 3x 1
h
]
lim
h 0
3h
h
]
lim 3
h 0
]
3 ]
กรณีที่ 2 x 1
f (x h ) f (x )
f (x ) lim
h 0 h
lim
h 0
(x h )3 1 x 3 1
h
]
lim
h 0
x 3 3x 2h 3xh 2 h 3 1 x 3 1
h
]
lim
h 0
x 3 3x 2h 3xh 2 h 3 1 x 3 1
h
]
lim
h 0
3x 2h 3xh 2 h 3
h
]
lim
h 0
(3x 2 3xh h 2 )h
h
]
lim 3x 2 3xh h 2
h 0
]
3x 2 ]
66
x 1
x 3 1 3(1) 1
lim
x 1
]
lim
x 1
x3 12
x 1
]
x3 1
lim
x 1 x 1
lim
x 1
(x 1)(x 2 x 1)
x 1
]
lim(
x 1
x 2 x 1) ]
3 ]
f (x ) f (1)
f (1 ) lim
x 1 x 1
3x 1 3(1) 1
lim
x 1
x 1
]
lim
x 1
3x 1 2
x 1
]
lim
x 1
3x 3
x 1
]
lim
x 1
3(x 1)
x 1
]
lim 3
x 1
]
3 ]
3, x 1
ดังนั้น จากทั้งสามกรณีสรุปไดวา f (x ) 2
3x , x 1
67
หมายเหตุ 2.3
dy d
การเขียนอนุพันธของฟงกชัน y f (x ) สามารถแทนดวย f (x ) , y , หรือ f (x )
dx dx
ทฤษฎีบท 2.1
d
ถา y f (x ) c เมื่อ c คือคาคงตัว แลว f (x ) 0
dx
dy
ตัวอยาง 2.5 กําหนด y 3 จงหา
dx
dy d
วิธีทํา (3)
dx dx
0
dy
ดังนั้น 0
dx
ทฤษฎีบท 2.2
d d n
ถา y f (x ) x n แลว f (x ) x nx n 1
dx dx
เมื่อ n เปนจํานวนเต็มบวก
dy
ตัวอยาง 2.6 กําหนด y x 3 จงหา
dx
dy d 3
วิธีทํา
dx
dx
x
3x 2
dy
ดังนั้น 3x 2
dx
68
d
ตัวอยาง 2.7 กําหนด f (x ) x 100 จงหา f (x )
dx
d d 100
วิธีทํา
dx
f (x )
dx
x
100x 99
dy
ดังนั้น 100x 99
dx
ทฤษฎีบท 2.3
กําหนดให c เปนคาคงตัวถา y f (x ) cu(x ) เมื่อ u(x ) เปนฟงกชันที่มี
อนุพันธที่ x แลว d f (x )
d
c u (x ) c
d
u(x )
dx dx dx
ทฤษฎีบท 2.4
ถา u(x ), v(x ) เปนฟงกชันของตัวแปร x และ u(x ), v(x ) มีอนุพันธที่ x
d d d
แลว
u(x ) v(x ) u (x ) v(x )
dx dx dx
3x 2 4
dx
dx
0 ]
3x 2 4 ]
dy
ดังนั้น 3x 2 4
dx
69
ตอไปจะกลาวถึงการหาอนุพันธของผลคูณ ผลหารและตัวยกกําลังดังทฤษฎีบทตอไปนี้
(ไมตรี ปชาเดชสุวัฒน, 2532 : 31-33)
ทฤษฎีบท 2.5
ถา u(x ), v(x ) เปนฟงกชันของตัวแปร x และ u(x ), v(x ) มีอนุพันธที่ x
d u (x ) v (x ) u(x ) d v (x ) v(x ) d u(x )
แลว
dx dx dx
d 20 d
f (x ) (x 1) (x 5x ) (x 20 5x ) (x 1)
dx dx
(x 1)(20x 19 5) (x 20 5x )(1) ]
(x 1)(20x 19 5) (x 20 5x ) ]
20x 20 20x 19 10x 5 ]
ดังนั้น f (x ) 20x 20 20x 19 10x 5
ทฤษฎีบท 2.6
ถา u(x ), v(x ) เปนฟงกชันของตัวแปร x และ u(x ), v(x ) มีอนุพันธที่ x
d d
v(x ) u(x ) u(x ) v(x )
d u(x ) dx dx
และ v(x ) 0 แลว
2
dx v(x ) v(x )
x3 4
ตัวอยาง 2.13 กําหนด y 2 จงหา dy
6x 5x dx
3
วิธีทํา dy d x 2 4
dx dx 6x 5x
71
d d
dy
(6x 2 5x ) (x 3 4) (x 3 4) (6x 2 5x )
dx dx
dx (6x 5x )
2 2
(6x 2 5x )(3x 2 ) (x 3 4)(12x 5)
(6x 2 5x )2
]
6x 4 10x 3 48x 20
(6x 2 5x )2
]
dy 6x 4 10x 3 48x 20
ดังนั้น
dx (6x 2 5x )2
x 1
ตัวอยาง 2.14 กําหนด y จงหา dy
x 3x 5 dx
dy d x 1
วิธีทํา
dx dx x 3x 5
d d
dy
(x 3x 5 ) (x 1) (x 1) (x 3x 5 )
dx dx
dx (x 3x 5 )2
(x 3x 5 )(1) (x 1)(1 15x 4 )
(x 3x 5 )2
]
12x 5 15x 4 1
(x 3x 5 )2
]
dy 12x 5 15x 4 1
ดังนั้น
dx (x 3x 5 )2
ทฤษฎีบท 2.7
ถา u(x ) เปนฟงกชันของตัวแปร x และ u(x ) มีอนุพันธที่ x
d d
แลว [u(x )]n n[u(x )]n 1 u(x ) เมื่อ n เปนจํานวนเต็ม
dx dx
d 5
f x 10(x 5 4x )9 (x 4x )
dx
10(x 5 4x )9 (5x 4 4) ]
ดังนั้น f (x ) 10(x 5 4x )9(5x 4 4)
1
ตัวอยาง 2.17 กําหนด f x จงหา f x
x
11
6
3x 1
d
11
วิธีทํา f x x 6 3x 1
dx
d 6
12
f x 11 x 6 3x 1 x 3x 1
dx
11(x 6 3x 1)12 (6x 5 3) ]
6x
12
ดังนั้น f (x ) 11 x 6 3x 1 5
3
ทฤษฎีบท 2.8
สําหรับจํานวนเต็มบวก n ใด ๆ และ u(x ) 0 มีอนุพันธที่ x
1 1
d u(x ) n 1
1 d
แลว
u(x ) n
u(x )
dx n dx
ทฤษฎีบท 2.9
สําหรับจํานวนตรรกยะ r ใด ๆ และ u x 0 มีอนุพันธที่ x
d d
แลว [u(x )]r r [u(x )]r 1 u(x )
dx dx
73
dx
2 1 3 d
f x x 5 4x
3 dx
x 5 4x
2 5
3
1 3
(x 4x ) (5x 4 4) ]
2 5
ดังนั้น f (x )
1 3
(x 4x ) (5x 4 4)
3
dy
ตัวอยาง 2.19 กําหนดให y 3x 5 2x 8 จงหา
dx
dy d
วิธีทํา 3x 5 2x 8
dx dx
dy d 12
(3x 5 2x 8)
dx dx
1
(3x 5 2x 8)
2
1 2 d
dx
(3x 5 2x 8) ]
1 1 2
(3x 5 2x 8) (15x 4 2)
2
15x 4 2
2(3x 5 2x 8)
12
]
dy 15x 4 2
ดังนั้น 12
dx 2(3x 5 2x 8)
12
4x 2 x
ตัวอยาง 2.20 กําหนดให y 3 จงหา y
5x 2
12
d 4x 2 x
วิธีทํา
y
dx 5x 3 2
11
4x 2 x d 4x 2 x
y 12 3
5x 2 dx 5x 3 2
74
3
11 (5x 2) d (4x 2 x ) (4x 2 x ) d (5x 3 2)
4x 2 x dx dx
y 12 3
5x 2 (5x 3 2)2
11
4x 2 x (2 16x 10x 3 20x 4 )
y 12 3
5x 2 (5x 3 2)2
11
4x 2 x (2 16x 10x 3 20x 4 )
ดังนั้น y 12 3
5x 2 (5x 3 2)2
dx
(2x 3 x )
]
dy
dx
1
(2x 3 x ) (3x 5 2x 8)
2
1 2 d
dx
(3x 5 2x 8)
]
5 12 d
(3x 2x 8) (2x 3 x )
dx
dy 1 1 2
(2x 3 x ) (3x 5 2x 8) (15x 4 2)
dx 2
5 1 2 2
(3x 2x 8) (6x 1)
1
(3x 5 2x 8) (2x 3 x )(15x 4 2) 2(3x 5 2x 8)(6x 2 1)
2
1 2
]
(3x 5 2x 8)
1 2
(66x 7 21x 5 28x 3 96x 2 16) ]
dy
ดังนั้น 1 2
(3x 5 2x 8) (66x 7 21x 5 28x 3 96x 2 16)
dx
75
1
ตัวอยาง 2.22 กําหนดให f x และ x 0 จงหาคาของ f x
2x
2
2
3
x
d 1
วิธีทํา f (x )
dx 3
2
2
2x x
d 1
f x
23
dx (2x x )
2
d
dx
(2x 2 x )
2 3
]
2
(2x 2 x )
3
5 3 d
dx
(2x 2 x ) ]
2
3
(2x 2 x )5 3(4x 1) ]
2
ดังนั้น f (x ) (2x 2 x )5 3(4x 1)
3
บทนิยาม 2.4
ให f : A B และ g : B C เปนฟงกชันแลว ฟงกชันประกอบ
ของ f และ g เขียนแทนดวย g f และ g f (x, z ) A C : มี y B ซึ่ง
(x , y ) f และ (y, z) g หรือ g f (x ) g f (x )
76
ทฤษฎีบท 2.10
f เปนฟงกชันทีม
่ ีอนุพันธที่ u และให g เปนฟงกชันนิยามโดย
f (u h ) f (u )
f (u), h0
g h h
0, h0
dy
หรือ g (u ) f (x )
dx
ทฤษฎีบท 2.12
ให y f (x ) เปนฟงกชันตอเนื่อง และมีฟง กชันผกผันซึง่ ตอเนือ่ งบนโดเมน a,b
1 dx 1
โดย x f 1(y) g(y) แลว g (y) หรือ เมื่อ f (x ) หาคาได
f (u) dy dy
dx
และ f (x ) 0
77
วิธีที่ 2 วิธีการแทนคา
จาก y u 3
และ u x 2 2x 5
จะได y (x 2 2x 5)3
dy d 2
(x 2x 5)3
dx dx
d
3(x 2 2x 5)2 (x 2 2x 5)
dx
]
3(x 2 2x 5)2 (2x 2) ]
dy
ดังนั้น 3 (x 2 2x 5)2 (2x 2)
dx
dy
จะได 10 (2t 3)4 (2x 2)
dx
4
10 2(x 2 2x 5) 3 (2x 2)
10(2x 2 4x 10 3)4(2x 2) ]
10 (2x 2 4x 7)4(2x 2) ]
10 (2x 2 4x 7) 2(x 1)]
4
20 (2x 2 4x 7) (x 1)]
4
dy
ดังนั้น 20 (2x 2 4x 7)4 (x 1)
dx
วิธีที่ 2 วิธีการแทนคา
จาก y 2t 3
และ t x 2 2x 5
5
จะได y 2 (x 2 2x 5) 3
y (2x 2 4x 10 3)5
(2x 2 4x 7)5 ]
และ dy
dx
d
dx
(2x 2 4x 7)5 ]
d
5 (2x 2 4x 7)4 (2x 2 4x 7)
dx
]
5 (2x 2 4x 7)4(4x 4) ]
dy
20(2x 2 4x 4)4 (x 1)
dx
dy
ดังนั้น 20(2x 2 4x 4)4 (x 1)
dx
dy d
(x 5 2x 3 x )
dx dx
dy
dx
5x 4 6x 2 1 ]
dx 1
จาก
dy dy
dx
dx 1
4
dy 5x 6x 2 1
dx 1
ดังนั้น 4
dy 5x 6x 2 1
1
ตัวอยาง 2.26 กําหนดให y จงหา dy
2x
10
5
x 3 5x dx
1
วิธีทํา ให y โดยที่ u 2x 5 x 3 5x
u 10
dy d 1
ดังนั้น
du du u 10
dy d 10
u
dx du
10u 11
du d
และ (2x 5 x 3 5x )
dx dx
du
10x 4 3x 2 5
dx
dy dy du
จาก
dx du dx
dy
dx
10u 11 10x 4 3x 2 5
10x ]
11
10 2x 5 x 3 5x 4
3x 2 5
dy
10x
11
ดังนั้น 10 2x 5 x 3 5x 4
3x 2 5
dx
80
(x , y )
(x , y )
x x
0 0
บทนิยาม 2.5
y x
ฟงกชันไซน และโคไซน ของมุม นิยามดังนี้ sin และ cos
r r
เมื่อ r x 2 y2
มุมลบคือมุมที่วัดจากแกน x ดานบวกในทิศตามเข็มนาฬิกาดังรูป
(x , y )
x
0
(x , y )
บทนิยาม 2.6
ฟงกชันแทนเจนต มีบทนิยามดังนี้
sin x
tan x เมื่อ cos x 0
cos x
cos x
cot x เมื่อ sin x 0
sin x
1
sec x เมื่อ cos x 0
cos x
1
cosec x เมื่อ sin x 0
sin x
เอกลักษณที่สําคัญทางตรีโกณมิตมิ ีดังตอไปนี้
1. sin2 A cos2 A 1
2. 1 tan2 A sec2 A
82
3. 1 cot2 A cos ec 2A
4. sin A B sin A cos B cos A sin B
A B A B
14. sin A sin B 2 cos sin
2 2
A B A B
15. cos A cos B 2 cos cos
2 2
A B A B
16. cos A cos B 2 sin sin
2 2
2.5.1 ทฤษฎีบทของอนุพันธของฟงกชันตรีโกณมิติ
ให u u(x ) เปนฟงกชันของตัวแปร x และ u(x ) มีอนุพันธที่ x สําหรับการหาอนุพันธ
ของฟงกชันตรีโกณมิตินั้นอาศัยทฤษฎีบทตาง ๆ แตจะเวนการพิสจู นทฤษฎีบท ดังตอไปนี้ (จันทนีย
กาญจนะโรจน และชุลี โชติกประคัลภ, 2557 : 52-54)
ทฤษฎีบท 2.13
dy d
ถา y sin x แลว y cos x หรือ sin x cos x
dx dx
83
ขอสังเกต 2.1
d du
ถา u เปนฟงกชันของ x ซึ่งหาอนุพันธไดแลวโดยกฎลูกโซจะได sin u cos u
dx dx
ทฤษฎีบท 2.14
dy d
ถา y cos x แลว y sin x หรือ cos x sin x
dx dx
ขอสังเกต 2.2
d du
ถา u เปนฟงกชันของ x ซึ่งหาอนุพันธไดแลวโดยกฎลูกโซจะได cos u sin u
dx dx
]
cos(2x ) 2
2 cos 2x ]
ดังนั้น y 2 cos 2x
d
y tan 3x
dx
d sin 3x
dx cos 3x
]
cos 3x
d
dx
sin 3x sin 3x
cos2 3x
d
dx
cos 3x
]
(cos 3x cos 3x ) d (3x ) (sin 3x sin 3x ) d (3x )
dx
2
cos 3x
dx ]
(cos 3x cos 3x )(3) (sin 3x sin 3x )(3)
cos2 3x
]
3(cos2 3x sin2 3x )
cos2 3x
]
3
]
cos2 3x
3 sec 3x ]
2
ดังนั้น y 3 sec2 3x
2.5.2 อนุพันธของฟงกชันตรีโกณมิติอื่น ๆ
สูตรอนุพันธของ tan x, cot x, sec x และ cosec x หาไดโดยเขียนฟงกชันตรีโกณเหลานี้
ในรูปของ sin x และ cosx ดังแสดงในตัวอยางจะได
d
tan x sec2 x
dx
d
sec x sec x tan x
dx
d
cot x cosec2x
dx
d
cosec x cosec x cot x
dx
d
sec2 (x 2 2x )21 21(x 2 2x )20 (x 2 2x )
dx
]
]
sec2 (x 2 2x )21 21(x 2 2x )20 (2x 2)
)]
42 sec2 (x 2 2x )21 (x 2 2x )20 (x 1
[cot(6x 5)]
d
dx
d
cos(x 2 3) cos(x 2 3) cot(6x 5)
dx
]
cot(6x 5)[ sin(x 2 3)]
d 2
dx
(x 3) ]
d
cos(x 2 3)[cosec2(6x 5)] (6x 5)
dx
]
cot(6x 5)[ sin(x 2 3)](2x )
วิธีทํา y
sin x 3 7
x 3
5
y
3
d sin x 7
dx x 35
(x 3)5d
dx
(x 3) 10
d
sin(x 3 7) sin(x 3 7) (x 3)5
dx ]
(x 3) 10
dx ]
[(x 3)5 cos(x 3 7)] d (x 3 7) [sin(x 3 7)][5(x 3)4 ] d (x 3)
dx
[(x 3)5 cos(x 3 7)](3x 2 ) [sin(x 3 7)][5(x 3)4 ](1)
(x 3)10
]
3x 2 (x 3)5 cos(x 3 7) 5(x 3)4 sin(x 3 7)
(x 3)10
]
3x 2(x 3)5 cos(x 3 7) 5(x 3)4 sin(x 3 7)
ดังนั้น y
(x 3)10
ตัวอยาง 2.37 กําหนด y cosec x sin 3x 2 1 x 3 จงหา y
วิธีทํา
y cosec x sin 3x 2 1 x 3
d
y [cosec x sin(3x 2 1) x 3]
dx
d
dx
d d
cosec x sin(3x 2 1) x 3
dx dx
d
dx
]
d
cosecx cotx cos(3x 2 1) (3x 2 1) 1 0
dx
]
cosecx cotx [cos(3x 2 1)](6x ) 1 ]
cosecx cotx 6x cos(3x 2 1) 1 ]
ดังนั้น y cosecx cotx 6x cos(3x 2 1) 1
89
บทนิยาม 2.7.
n
1 1
1
e lim 1 หรือ e lim 1 s s ,s
n n x 0 n
หมายเหตุ 2.4
e เปนคาคงตัวที่เปนจํานวนอตรรกยะมีคาประมาณ 2.71828
เพื่องายในการหาอนุพันธของฟงกชันลอการิทมึ จึงกลาวถึงคุณสมบัติทสี่ ําคัญของลอการิทึม
ดังตอไปนี้ เมื่อ a 0 , a 1 , b 0 , b 1 , M 0 , N 0 และ M n เปนจํานวนจริง
4. loga a 1
5. loga 1 0
6. a
loga M
M
1
7. loga n M loga M เมื่อ n 0
n
logb M
8. loga M
logb a
1
9. loga b
logb a
90
ทฤษฎีบท 2.15
ถา y loga u เมื่อ u u(x ) เปนฟงกชันของ x โดยที่ u(x ) 0
1 du
และ a เปนจํานวนจริงที่ a 0 , a 1 แลว y นั้นคือ
u ln a dx
dy d 1 du
loga u
dx dx u ln a dx
ทฤษฎีบท 2.16
ถา y ln u เมื่อ u u(x ) เปนฟงกชันของ x โดยที่ u(x ) 0 แลว
1 du dy d 1 du
y นั้นคือ ln u
u dx dx dx u dx
y (x 3 2x )25
ln y ln (x 3 2x )25 ]
d
dx
ln y d ln (x 3 2x )25
dx ]
d
dx
ln y d 25 ln (x 3 2x )
dx ]
1 dy
y dx
3
25
x 2x dx
d 3
(x 2x )]
1 dy
y dx
3
25
x 2x
(3x 2 2) ]
dy
dx
3
25
x 2x
(3x 2 2)y ]
dy
dx
3
25
x 2x
(3x 2 2)(x 3 2x )25 ]
dy
dx
25(x 3 2x )24 (3x 2 2)]
ดังนั้น y 25(x 3 2x )24(3x 2 2)
92
x
2 5
วิธีทํา y x3 1 3
2x 2 x 1
y (x 3 1)2 (x 3 2x 2 x 1)5
ln y ln (x 3 1)2 (x 3 2x 2 x 1)5 ]
ln y ln (x 3 1)2 ln (x 3 2x 2 x 1)5 ]
ln y 2 ln x 3 1 5 ln x 3 2x 2 x 1 ]
d
dx
ln y
d
dx
2 ln x 3 1 5 ln x 3 2x 2 x 1
]
1 dy
y dx
d d
2 ln x 3 1 5 ln x 3 2x 2 x 1
dx dx
]
1 dy
y dx
2 3
1 d 3
x 1 dx
(x 1 5 3 1
2
d
x 2x x 1 dx
(x 3 2x 2 x 1) ]
1 dy
y dx
2 3
1
x 1
(3x 2 ) 5 3
1
2
x 2x x 1
3x 2 4x 1 ]
1 dy 6x 2 5(3x 2 4x 1)
3
y dx x 1 x 3 2x 2 x 1
1 dy
y dx
6x 2
3
5(3x 2 4x 1)
3
x 1 x 2x 2 x 1
]
1 dy
y dx
3
6x 2
15x 2 20x 5
x 1 x 3 2x 2 x 1
]
dy
dx
6x 2
y 3 3
15x 2 20x 5
2
x 1 x 2x x 1
]
dy
dx
(x 1) (x 2x x 1)
3 2 3 2
5 4 3 2
5 21x 22x 11x 21x 20x 5
(x 3 1)(x 3 2x 2 x 1)
]
y (x 3 1)(21x 5 22x 4 11x 3 21x 2 20x 5)(x 3 2x 2 x 1 )]
4
dy
ตัวอยาง 2.42 กําหนดให y x 2
x 5
จงหา
dx
วิธีทํา ให y xx
2
5
y xx 5
ln y ln x x
2
5
]
ln y x 2 5 ln x ]
d
dx
ln y
d 2
dx
x 5 ln x ]
1 dy
y dx
x2 5 d
dx
ln x ln x
d 2
dx
x 5 ]
1 dy
y dx
x2 5
x
2x ln x ]
dy
dx
x 2 5
y
x
2x ln x
]
dy
dx
x 5
x x 5
2
x
2
2x ln x
]
dy x 2 5
ดังนั้น xx
2
5
x 2x ln x
dx
ทฤษฎีบท 2.17
กําหนดให u u(x ) ฟงกชันของ x ถา y eu แลว y e u du
dx
dy d u du
นั้นคือ e eu
dx dx dx
ทฤษฎีบท 2.18
กําหนดให u u(x ) ฟงกชันของ x ถา y au ; a 0 แลว
du dy d u du
y a u ln a นั้นคือ a a u ln a
dx dx dx dx
สรุปสูตรอนุพันธของฟงกชันลอการิทึมและฟงกชันเลขชี้กําลังไดดังนี้ กําหนดให u u x
เปนฟงกชันของ x ซึ่งหาอนุพันธได (สุกัญญา สนิทวงศ ณ อยุธยา และคณะ, 2556 : 68)
94
d 1 du
1. ln u
dx x dx
d 1 du
2. loga u
dx u ln a dx
d u du
3. e eu
dx dx
d u du
4. a a u ln a
dx dx
e 5x
d
dx
d
log2 x log2 x e 5x
dx
]
e 5x
1
x ln 2
log2 x e 5x
d
dx
5x
]
1
y e 5 x log2 x e 5x 5
x ln 2
e 5 x
1
x ln 2
5e 5x log2 x ]
1
ดังนั้น y e 5x 5e 5x log 2 x
x ln 2
95
10x
ตัวอยาง 2.45 กําหนดให f (x ) จงหา f (x )
ln x 6
10x
วิธีทํา f (x )
ln x 6
d 10x
f (x )
dx ln x 6
ln x 6
d x
dx
10 10x
ln2 x 6
d
dx
ln x 6
]
(ln x 6 )(10x ln 10) 10x
ln2 x 6
1 d 6
x 6 dx
x
]
10x ln x 6 ln 10
ln2 x 6
10x 6x 5
x6 ]
x 10x ln 10 ln x 6 6(10)x
x ln2 x 2
]
x 10x ln10 ln x 6 6(10)x
ดังนั้น f (x )
x ln2 x 2
d
f (x ) sin x 3 ln10 x
dx
sin x 3
d 10
dx
ln x ln10 x
dx
d
sin x 3 ]
d d 3
sin x 3 10 ln9 x ln x ln10 x cos x 3 x
dx dx
1
sin x 3 10 ln9 x (ln x )9 (ln x )10 (cos x 3 ) 3x 2
x
]
10 9
x
ln x sin x 3 3x 2 ln10 x cos x 3 ]
10 9
ดังนั้น f (x ) ln x sin x 3 3x 2 ln 10 x cos x 3
x
96
d dv du
6.
dx
uv u
dx
v
dx
du dv
v u
d u
7. dx 2 dx
dx v v
dy dy du
8.
dx du dx
d n du
9.
dx
u nu n 1
dx
d du
10.
dx
sin u cos u
dx
d du
11.
dx
cos u sin u
dx
d du
12.
dx
tan u sec2 u
dx
d du
13.
dx
cot u cosec2u
dx
d du
14.
dx
sec u sec u tan u
dx
d du
15.
dx
cosecu cosecu cot u
dx
d 1 du
16.
dx
arcsinu
1 u dx
2
d 1 du
17.
dx
arccosu
1 u dx
2
d 1 du
18.
dx
arctanu
1 u 2 dx
d 1 du
19.
dx
arccotu u
1 u dx
2
d 1 du
20.
dx
arcsecu
u u 2 1 dx
d 1 du
21.
dx
arccosecu
u u 2 1 dx
d 1 du
22. ln u
dx x dx
d 1 du
23. loga u
dx u ln a dx
98
d u du
24. e eu
dx dx
d u du
25. a a u ln a
dx dx
d du dv
26.
dx
u v vu v 1
dx
ln u u v
dx
d du
27.
dx
sinh u cosh u
dx
d du
28.
dx
cosh u sinh u
dx
d du
39.
dx
tanh u sech2 u
dx
d du
30.
dx
coth u cosech2u
dx
d du
31.
dx
sech u sech u tanh u
dx
d du
32.
dx
cosechu cosechu coth u
dx
1 d
dx
5x 2
2
2
1 5x
10x
1 25x 4
d 10x
ดังนั้น
dx
arcsin 5x 2
1 25x 4
99
dy
ตัวอยาง 2.49 จงแสดงวิธีทําเพื่อหา เมื่อกําหนด y arccos x 3
dx
dy d
วิธีทํา
dx
dx
arccos x 3
1 d
dx
x 3
1 x 3
2
d 1
x 3
2
1 x 6x 9 dx
1
10 6x x 2
dy 1
ดังนั้น
dx 10 6x x 2
dy
ตัวอยาง 2.50 จงแสดงวิธีทําเพื่อหา เมื่อกําหนด y arctan x 3 1
dx
dy d
วิธีทํา
dx
dx
arctan x 3 1
d 3
1
x 1
2
3
1 x 1 dx
1 d 3
x 1
1 x 6 2x 3 1 dx
3x 2
x 6 2x 3
dy 3x 2
ดังนั้น
dx x 6 2x 3
100
dy
ตัวอยาง 2.51 จงแสดงวิธีทําเพื่อหา เมื่อกําหนด y arccot 2x 3
dx
dy d
วิธีทํา
dx
dx
arccot 2x 3
1 d
2x 3
2
1 2x 3 dx
1d
2x 3
1 4x 6 dx
6x 2
1 4x 6
dy 6x 2
ดังนั้น
dx 1 4x 6
dy
ตัวอยาง 2.51 จงแสดงวิธีทําเพื่อหา เมื่อกําหนด y arcsec 2x 3
dx
dy d
วิธีทํา
dx
dx
arcsec 2x 3
1 d
dx
2x 3
2x
2
3 3
2x 1
1 d
dx
2x 3
2x 3 6
4x 1
6x 2
2x 3 4x 6 1
dy 6x 2
ดังนั้น
dx 2x 3 4x 6 1
101
dy
ตัวอยาง 2.52 จงแสดงวิธีทําเพื่อหา เมื่อกําหนด y arccosec x 5
dx
dy d
วิธีทํา arccosec x 5
dx dx
1 d
dx
x 5
x 5 x 5
2
1
1 d
x 5
x 5 x 2 10x 25 1 dx
1
x 5 x 2 10x 24
]
cosh(2x ) 2
2 cosh 2x ]
ดังนั้น y 2 cosh 2x
d
y cosech 3 x
dx
cosech(3 x ) coth(3 x )
d
dx
]
(3 x )
104
วิธีทํา y
sinh x 3 7
x 3
5
y
3
d sinh x 7
dx x 35
d
(x 3)5
dx
d
sinh(x 3 7) sinh(x 3 7) (x 3)5
(x 3)10
dx ]
[(x 3)5 cosh(x 3 7)] d (x 3 7) [sinh(x 3 7)][5(x 3)4 ] d (x 3)
dx
(x 3) 10
dx ]
(x 3)10
]
[(x 3)5 cosh(x 3 7)](3x 2 ) [sinh(x 3 7)][5(x 3)4 ](1)
3x 2 (x 3)5 cosh(x 3 7) 5(x 3)4 sinh(x 3 7)
(x 3)10
]
3x 2(x 3)5 cosh(x 3 7) 5(x 3)4 sinh(x 3 7)
ดังนั้น y
(x 3)10
1. หาอนุพันธเทียบตัวแปร x ทั้งสองขางของสมการฟงกชันโดยปริยาย
2. หาอนุพันธแตละพจน
3. แกสมการหา dy
dx
d 2 d
x y2 0
dx dx
2x 2y
dy
dx
0 ]
106
2y
dy
dx
2x]
dy
dx
2x
2y
]
dy
dx
x
y
]
dy x
ดังนั้น
dx y
x3
dy
dx
y 3x 2 5y 4
dy
dx
6x 5 0 ]
x3
dy
dx
5y 4
dy
dx
6x 5 3x 2y ]
(x 3 5y 4 )
dy
dx
6x 5 3x 2y ]
dy
dx
6x 5 3x 2y
x 3 5y 4
]
6x 5 3x 2y
ดังนั้น y
x 3 5y 4
d 4
dx
x
d
dx
sin y 3 x
d
dx
d
dx
0 ]
]
3
3 3 dy
4x cos y 1 0
dx
4x 3 (cos y 3 )3y 2
dy
dx
1 0 ]
dy 1 4x 3
2
dx 3y cos y 3
1 4x 3
ดังนั้น y
3y 2 cos y 3
บทนิยาม 2.8
f x h f x
ให f (x ) เปนอนุพันธของฟงกชัน f (x ) แลวถา lim
h 0 h
หาคาได เรียกคาของลิมิตนี้วาอนุพันธอันดับที่สองของ f (x ) เทียบกับ x
d 2y d2
อนุพันธอันดับทีส่ องของฟงกชันเขียนแทนดวย f (x ) , y , หรือ f (x )
dx 2 dx 2
ในทํานองเดียวกันถา f (x ) มีอนุพันธเทียบกับ x เรียกอนุพันธนี้วาอนุพันธอันดับทีส่ าม
d 3y d3
ของ f (x ) เทียบกับ x และเขียนแทนดวย f (x ) , y , หรือ f (x ) และถา
dx 3 dx 3
f (x ) มีอนุพันธเทียบกับ x เรียกอนุพันธนี้วาอนุพันธอันดับทีส่ ี่ของ f (x ) เทียบกับ x
d 4y d4
และเขียนแทนดวย f (x ) , y
(4) (4)
, หรือ f (x ) ในทํานองเดียวกันผลลัพธจากการ
dx 4 dx 4
หาอนุพันธ n ครั้งติดตอกันไปเมื่อ n เปนจํานวนเต็มบวกก็จะเรียกกวาอนุพันธอันดับที่ n
d ny dn
ของ f (x ) ซึ่งเขียนแทนดวย f (n )
(x ) , y (n )
, หรือ f x ดังตัวอยางตอไปนี้
dx n dx n
108
วิธีทํา f (x ) 3x 5 2x 3
d
f (x ) (3x 5 2x 3)
dx
15x 4 2 ]
f (x )
d
dx
]
(15x 4 2)
60x 3 ]
ดังนั้น f (x ) 60x 3
d 4
f (x ) x 5x 2
dx
4x 3 5 ]
f (x )
d
dx
(4x 3 5) ]
12x 2 ]
f (x )
d
dx
12x 2 ]
24x ]
4
f (x )
d
dx
24x ]
24 ]
5
f (x )
d
dx
24 ]
0 ]
5 4
เนื่องจาก f (x ) 0 และ f (x ) 0 ดังนั้น n 5
2.10 สรุปทายบทที่ 2
กอนที่เราจะหาอนุพันธของฟงกชันนั้น กอนอื่นเราตองตรวจสอบกอนเสมอวาฟงกชันที่เราจะ
หาอนุพันธนั้นมีอนุพันธหรือไม ซึง่ ถาหากฟงกชันนั้นมีอนุพันธแลวเราสามารถหาอนุพันธของฟงกชันได
เลยอาจจะหาอนุพันธของฟงกชันแบบใชนิยามก็ได แตถาบางฟงกชันไมเหมาะกับการหาโดยใชนิยาม
เราสามารถแบงฟงกชันที่เราจะหาอนุพันธในรูปแบบตาง ๆ ที่ไดกลาวมา เชนการหาอนุพันธของ
ฟงกชันพีชคณิต การหาอนุพันธของฟงกชันประกอบ การหาอนุพันธของฟงกชันตรีโกณมิติ การหา
อนุพันธของฟงกชันลอการิทึมและฟงกชันเลขชี้กําลัง การหาอนุพันธของฟงกชันโดยปริยาย และการ
หาอนุพันธอันดับสูง ซึ่งเราไดรูความหมายของอนุพันธไปแลวนั้นแลวเราก็จะสามารถนําอนุพันธนั้นไป
แกปญหาตาง ๆ ไดอยางถูกตองและเหมาะสมตอไป
110
แบบฝกหัดทายบทที่ 2
1. จงหาอนุพันธของ f (x ) x 2 5x
1.1 ที่จุด x ใด ๆ
1.2 ที่จุด x 1
1.3 ที่จุด x 0
2. จงหาอนุพันธของ f (x ) 3x 2 x 5
2.1 ที่จุด x ใด ๆ
2.2 ที่จุด x 3
2.3 ที่จุด x 2
4. จงหาอนุพันธของ f (x ) (x 3)2 x
4.1 ที่จุด x ใด ๆ
4.2 ที่จุด x 1
4.3 ที่จุด x 0
5. จงหาอนุพันธของ f (x ) x (x 2)3
5.1 ที่จุด x ใด ๆ
5.2 ที่จุด x 1
5.3 ที่จุด x 10
6. จงหาอนุพันธของฟงกชันตอไปนี้
6.1 y x 3 6x 1 6.2 y x 6x 10 12
6.4 y 3 2x 10 3x 5
2
12
6.3 f (x ) 5x 3 x 1
6.5 f (x ) x 6
3x x 5 6.6
y 2x 6 x 3x 2 4x
111
2x
5
6
x
6.7 f (x ) (x 6 3x )20(x 5) 6.8 y
3x 2 4x
2x
12
x
20
6
x 6
3x
6.9 y 6.10 f (x )
3x 2 4x x 5
2x
5
6
x (2x 6 x )12 3x 2 4x
6.11 y 6.12 y
3x 2 4x 3x 2 4x
7. จงหา dy เมื่อกําหนดให
dx
7.1. y 3u และ u x 2 5x 1
7.2. y u10 และ u 3x 5
7.3. y 2u 4 และ u x 5 3x 2 11
8. จงหาอนุพันธของฟงกชันที่กําหนดใหตอไปนี้และตรวจสอบวาอนุพันธเทากันหรือไม
3
8.1. y sin 3 x 2 5 และ y sin x 2 5
sin x 2
8.2. y และ y tan x 2
cos x 2
1
8.3. y sin 2x 1 และ y
cosec 2x 1
9. จงหาอนุพันธของฟงกชันตอไปนี้
9.1 y sin x 10 6x 12 9.2 y cos 3x 5 x
9.3 y tan x 1 10
9.4 y cot 3x 4 20
9.5 y cosec x 3x 5
9.6 y sec x 21
2 10
cot 3x 4 20
9.9 y 3
9.10 y cos x 3 tan 3x 4 12 5 10
x 5x
9.11
y cos x tan x 2 3x 2 9x
112
10. จงหาอนุพันธของฟงกชันตอไปนี้
10.1 y sinh x 10 6x 12 10.2
y cosh 3x 5 x
10.3
y tanh x 10 1 10.4 y coth 3x 4 20
10.5
y cosech x 5 3x 2 10.6 y sech x 21 10
10.7
y cosh 3x 5 x tanh x 3 10.8 y tanh x 1 19 5
coth 3x 20
4
10.9 y
x 3 5x
10.10
y cosh 12 x 5 3 tanh 10 3x 4
10.11
y cosh x tanh x 2 3x 2 9x
11. จงหาอนุพันธของฟงกชันตอไปนี้
11.1 y arcsin x 10 12 11.2
y arccos 3x 5 x
11.7
y arccos 3x 5 x arctan x 3
arccot 3x 20
4
11.8 y
x 3 5x
11.9
y arccosx arctan x 2 3x 2 9x
12. จงหาอนุพันธของฟงกชันตอไปนี้
12.1 y ln x 10 6x 12 12.2 y log2 3x 5 x
12.3 y e x 1 12.4 y 125x 7x
10 3
12.9 y
ln 3x 20 4 12.10 y ln x 5 e cot 5x
3
x 5x
113
dy
13. ให y เปนฟงกชันของ x ซึ่งสอดคลองกลับสมการดังตอไปนี้ จงหา
dx
13.1 xy x 2 5 13.2 y 5x 3 x 2
13.3 3yx 5 x 2 13.4 y 5x 6 3x x 2
13.5 y 5 sin x y 1 13.6 ey 3 x 2 5
13.7 y 5 sin x 6 x y 2 13.8 y 2x y10 2x
13.9 ey sin x y 2 13.10 y tan x 6 3 x y 2
บทที่ 3
การประยุกตอนุพันธ
ขอสังเกต 3.1
1. ถา v 0 วัตถุจะเคลื่อนที่ในทิศทางที่ไดระยะทางเพิ่มขึ้น
2. ถา v 0 วัตถุจะเคลื่อนที่ในทิศทางที่ไดระยะทางลดลง
3. ถา v 0 แสดงวาวัตถุหยุดนิ่ง
116
เชนเดียวกันกับความเรงของวัตถุเมื่อเวลา t ใด ๆ เราหาไดจากอัตราสวนระหวางปริมาณการ
v
เปลี่ยนแปลงของ v กับปริมาณการเปลี่ยนแปลงของ t โดยหาคา lim
t 0 t
ซึ่งแทนดวยสัญลักษณ
dv
นั่นคือความเรงของวัตถุเมือ่ เวลา t ใด ๆ คือ a dv แต v ds ดังนั้น
dt dt dt
d ds d 2s
a (มาริสา มัยยะ และวันเพ็ญ จันทรังษี, 2550 : 85)
dt dt dt 2
ขอสังเกต 3.2
1. ถา a 0 ความเร็วจะเพิ่มขึ้น
2. ถา a 0 ความเร็วจะลดลง
dv
จาก a
dt
d 2
a (t 1)
dt
2t ]
ได a 2t
ณt 3 ได a 2(3) 6
v 3 t 1t 3
dv d
a
dt
dt
3t 2 12t 9 6t 12
6 t 2 ]
1. เมื่อ v 0 ดังนั้น t 1, 3
เมื่อ t 1
s 13 6(1)2 9(1) 4 8
a 6(1 2) 6
เมื่อ t 3
s 33 6(3)2 9(3) 4 4
a 6(3 2) 6
2. เมื่อ a 0 ดังนั้น t 2
เมื่อ t 2
s 23 6(2)2 9(2) 4 6
v 3(2 1)(2 3) 3
3. s (ระยะทาง) เพิ่มขึ้นเมื่อ v 0
v 3 t 1t 3 0
จะได t 1 หรือ t 3
ดังนั้น s (ระยะทาง) เพิ่มขึ้นเมือ่ t 1 หรือ t 3
จะได t 2
ดังนั้น v (ความเร็ว) เพิ่มขึ้น เมื่อ t 2
2. ความเร็วของลูกบอลขณะทีล่ ูกบอลตกกระทบพื้นแสดงวา s 0
0 320 16t 2
16t 2 320
320
t2
16
t 2 20
t 20
3.2 อัตราสัมพัทธ
อัตราสัมพัทธ หมายถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของตัวแปร 2 ตัวหรือมากกวา 2 ซึ่งมีปญหาอีก
จํานวนมากทีเ่ กี่ยวของกับตัวแปรหลายตัว และแตละตัวแปรเหลานั้นก็เปนฟงกชันของเวลาถาเรา
ทราบคาตัวแปร และอัตราการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรบางตัวเทียบกับเวลาแลวจะสามารถหาอัตรา
การเปลี่ยนแปลงของตัวแปรที่ตองการเทียบกับเวลาไดวิธีการนี้เรียกวา อัตราสัมพัทธ (พัฒนา สีมากุล,
2537 : 31)
ในการแกปญหามีขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 เขียนแผนภาพประกอบปญหา
ขั้นที่ 2 กําหนดตัวแปรแทนปริมาณตาง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา
ขั้นที่ 3 สรางสมการแสดงความสัมพันธของตัวแปรตาง ๆ ซึ่งเปนจริง ณ เวลาใด ๆ
ในชวงเวลาของปญหา
ขั้นที่ 4 หาอนุพันธเทียบกับเวลา จากสมการที่สรางขึ้นในขอ 3
ขั้นที่ 5 แทนคาอัตราการเปลี่ยนแปลงเทียบกับเวลาและตัวแปรทีท่ ราบ แลว
คํานวณสิ่งที่ตองการทราบ
วาดรูปทรงกลมไดดังนี้
4 3
จาก v r
3
dv d 4
r 3
dt dt 3
4 d
(r 3 )
3 dt
4 dr
3r 2
3 dt
dv 4 dr
3r 2
dt 3 dt
4
3(50)2(4)
3
40000
จาก v r 2h
dv d
(r 2h )
dt dt
d
(r 2h )
dt
]
d d
r 2 h h r 2
dt dt
dh
r 2
dt
dr
2hr
dt
]
dv dh dr
ได r 2 2hr
dt dt dt
dh dr
0 52 (2)(40)(5)
dt dt
dh
0 52
dt
(2)(40)(5)(1)
]
400 25
dh
dt
]
dh
dt
16 ]
ดังนั้น สวนสูงของทรงกระบอกลดลงในอัตรา 24 ฟุต/ชั่วโมง
ไดความสัมพันธของรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก x 2 y 2 z 2
(30)2 y 2 (50)2
y 2 2500 900 ]
y 2 1600 ]
y 1600 ]
40 ]
เพราะวา y 0 เพราะฉะนั้น y 40
จาก x 2 y2 z2
d 2 d
(x y 2 ) (z 2 )
dt dt
d 2 d 2
dt
d
x y z2
dt dt
]
2x
dx
dt
2y
dy
dt
2z
dz
dt
]
2(30)4 2(40)
dy
dt
0 ]
dy
dt
240
80
]
3 ]
ดังนั้น ปลายบนของบันไดเคลื่อนทีล่ งดวยอัตรา 3 เมตร/วินาที
x r
จากความสัมพันธจะได
y h
x 5
y 10
x y
1
2
]
1 2
พิจารณาปริมาตรของน้ํา v x y
3
2
1 1
v y y
3 2
1
12
y 3 ]
1
จาก v y 3
12
dv d 1
จะได y 3
dt dt 12
dv 1 dy
3y 2
dt 12 dt
dv
dt
1
y 2
4
dy
dt
]
() ]
1 dy
2 62
4 dt
2
9
dy
dt
]
2
ดังนั้น ระดับน้ําจะสูงขึ้นดวยอัตรา ฟุต/นาที
9
124
ขอสังเกต 3.3
ถา f (x 0 ) 0 แลวสมการเสนสัมผัสคือคือ y y0 f (x 0 )(x x 0 ) แตถา
f (x 0 ) 0 เสนโคง y f (x ) จะมีเสนสัมผัสเปนเสนขนานกับแกน x
บทนิยาม 4.1
กําหนดให y f (x ) เปนฟงกชันทีห่ าอนุพันธไดที่จุด P0(x 0, y0 ) เสนตรง
ที่ผานจุด P0(x 0, y0 ) และตั้งฉากกับเสนสัมผัสทีจ่ ุดสัมผัส P0(x 0, y0 ) เรียกวาเสนปกติ
สมการเสนปกติที่ผานจุด P0(x 0, y0 ) คือ x x 0 ถาเสนสัมผัสอยูในแนวระดับ
1
สําหรับกรณีอื่นสมการคือ y y0 (x x 0 ) ถา f (x 0 ) 0
f (x 0 )
เสนปกติ
เสนสัมผัส
ขอสังเกต 3.4
ถา m 0 แทนความชันของเสนสัมผัสจะได 1 แทนความชันของเสนปกติ เพราะเสน
m
ปกติกับเสนสัมผัสตั้งฉากกันความชันคูณกันจึงมีคาเทากับ 1
คือ y 4 4 x 2
y 4 x 2 4
4x 4 ]
เนื่องจากความชันของเสนสัมผัสมีคาเทากับ 4 ดังนั้นความชันของเสนปกติมีคาเทากับ 1
4
2x 3
d
dx
dy
(xy) 2y 0
dx
]
dy
2x 3 x
dx
dx
y 2y
dx
dy
dx
0 ]
dy
2x 3 x
dx
y 2y
dy
dx
0 ]
2x 3x
dy
dx
3y 2y
dy
dx
0 ]
3x
dy
dx
2y
dy
dx
2x 3y ]
(3x 2y)
dy
dx
2x 3y ]
dy
dx
(2x 3y )
3x 2y
]
ความชันของเสนตรงทีส่ ัมผัสเสนโคงทีจ่ ุด (1,1)
dy 2(1) 3(1
คือ dx 3(1) 2(1)
1,1
1
คือ y 1 1 x 1
y 1 x 1
y x 0 ]
ดังนั้น สมการเสนสัมผัสคือ y x 2 และสมการเสนปกติคือ x y 0
y y0
y0
x0
x
y0
x0
x0 ]
y y0
y0
x0
x y0 ]
y
y0
x0
x ]
y0
เนื่องจากสมการ y x เปนสมการเสนตรงซึ่งผานจุดกําเนิดเสมอ
x0
ดังนั้น เสนปกติของเสนโคง x 2 y 2 a 2 ที่จุด (x 0, y0 ) ใด ๆ เปนเสนตรงทีผ่ านจุดกําเนิด
128
xy 2x xy y ]
]
2xy 2x y 0
4xy 4x 2y 0]
แตเนื่องจาก 4xy 1
ได 1 4x 2y 0
1
และ 4x
y
1
ได 1 2y 0
y
y 1 2y 2 0
2y 2 y 1 0 ]
129
(2y 1)(y 1) 0 ]
1
y , 1
2
]
1 1
แทนคา y จะไดคา x ,
2 4
เพราะฉะนั้นเสนสัมผัสเสนโคงทีจ่ ุด 1 , 1 และ 1 , 1
4 2 2
โดยมีความชันของเสนสัมผัสที่จุด 1 , 1 คือ dy x
4
4 dx y
y 2 4x 4 ]
y 4x 2 0 ]
สวนความชันของเสนสัมผัสที่จุด 1 , 1 คือ dy x
1
2 2 dx y
y 2 x 1 ]
y x 1 0 ]
3.4 คาสูงสุดคาต่ําสุด และกราฟ
ในหัวขอนี้จะกลาวถึงการหาคาสูงสุด คาต่ําสุดของ ฟงกชันเพิ่ม ฟงกชันลด จุดวิกฤต จุดสูงสุด
สัมพัทธ จุดต่ําสุดสัมพัทธ จุดเปลี่ยนเวา คาวิกฤต คาสูงสุดสัมพัทธ คาต่ําสุดสัมพัทธ คาสูงสุดสัมบูรณ
และคาต่ําสุดสัมบูรณ และนําความรูทงั้ หมดไปชวยในการเขียนกราฟของฟงกชันตาง ๆ (กมล เอกไทย
เจริญ, 2544 : 51)
บทนิยาม 3.2
กําหนดให f (x ) เปนฟงกชันตอเนือ่ งบนชวง I
1. ถา f (x1) f (x2 ) สําหรับทุกคา x1 x2 บนชวง I
เรียก f (x ) วาเปนฟงกชันเพิ่ม บนชวง I
2. ถา f (x1) f (x2 ) สําหรับทุกคา x1 x2 บนชวง I
เรียก f (x ) วาเปนฟงกชันลดบนชวง I
3. ถา f (x ) 0 ในชวง (a, b ) แลว f (x ) เปนฟงกชันคงตัวบนชวง (a, b )
จากตัวอยางทีผ่ านมานั้นการพิจารณาฟงกชันเพิ่มหรือฟงกชันลดพิจารณาจากกราฟนั้นจะ
คอนขางยากและเสียเวลาในการวาดกราฟ ดังนั้นเราสามารถพิจารณาโดยใชอนุพันธดันดับที่ 1 มาชวย
ในการพิจารณาโดยใชทฤษฎีบทตอไปนี้ (Stein, S.K.& Barcellos, A., 1992 : 131)
ทฤษฎีบท 3.1
กําหนดให f (x ) เปนฟงกชันตอเนือ่ งบนชวง a , b
โดยที่ a,b R
1. ถา f (x ) 0 ทุก ๆ x (a, b ) แลว f (x ) เปนฟงกชันเพิ่มขึ้นบนชวง a , b
2. ถา f (x ) 0 ทุก ๆ x (a, b ) แลว f (x ) เปนฟงกชันลดลงบนชวง a , b
132
คาสูงสุดและคาต่ําสุดของฟงกชัน อุษณีย
อุษณีย ลีรวัฒน (2552 : 47) ไดใหรายระเอียดไวดังบทนิยามตอไปนี้
บทนิยาม 3.3
กําหนดให a และ b เปนคาคงตัวใด ๆ และ f (x ) เปนฟงกชันตอเนือ่ งบนชวง
a , b และ x a , b
0
1. ถา f (x 0 ) f (x ) ทุก ๆ คา x อยูในบางชวงเปดที่บรรจุ x 0 แลวจะเรียก f (x )
วามีคาสูงสุดสัมพัทธ หรือ มีคาสูงสุดเฉพาะที่ ที่จุด x 0
2. ถา f (x 0 ) f (x ) ทุก ๆ คา x อยูในบางชวงเปดที่บรรจุ x 0 แลวจะเรียก f (x )
วามีคาต่ําสุดสัมพัทธ หรือ มีคาต่าํ สุดเฉพาะที่ ที่จุด x 0
3. ถา f (x 0 ) f (x ) สําหรับทุก ๆ x a , b แลว f (x ) มีคา สูงสุดสัมบูรณ
ที่จุด x 0
4. ถา f (x 0 ) f (x ) สําหรับทุก ๆ x a , b แลว f (x ) มีคา ต่ําสุดสัมบูรณ
ที่จุด x 0
133
บทนิยาม 3.4
จุดวิกฤต คือจุด x 0
Df ซึ่ง f (x 0 ) 0 หรือ f (x 0 ) หาคาไมได
ทฤษฎีบท 3.2
กําหนดให a และ b เปนคาคงตัวใด ๆ ฟงกชัน f (x ) มีอนุพันธบน a , b
และ f (x ) มีคาสูงสุดสัมพัทธ หรือต่ําสุดสัมพัทธที่ x x 0 เมื่อ a x 0 b แลว
f (x 0 ) 0
ฟงกชัน f (x ) มีอนุพันธบนชวง a , b
จะไดวา
f x 0 0 หรือหาคาไมได f x 1 0 หรือหาคาไมได
f x 2 0 หรือหาคาไมได f x 3 0 หรือหาคาไมได
134
การทดสอบคาสูงสุดหรือต่ําสุดสัมพัทธของฟงกชัน ณ จุดวิกฤต
พลอนันต แสงประสิทธิ์ (2554 : 93) ไดใหรายละเอียดไวดังนี้
ให c เปนคาคงตัวใด ๆ ถา c เปนจุดวิกฤต และ f (c) 0
1. ถา f (x ) 0 เมื่อ x1 x c และ f (x ) 0 เมื่อ c x x2 แลว f (x )
มีคาสูงสุดสัมพัทธที่ x c
2. ถา f (x ) 0 เมื่อ x1 x c และ f (x ) 0 เมื่อ c x x2 แลว f (x )
มีคาต่ําสุดสัมพัทธที่ x c
3. ถา f (x ) 0 บนชวง (x1, x2 ) และเครื่องหมาย f (x ) ไมเปลี่ยนแปลงบนชวง
(x1, x2 ) แลว f (x ) จะไมมีคาสูงสุดหรือต่ําสุดในชวงดังกลาว แสดงไดจากกราฟตอไปนี้
แสดงไดดังรูป
ดังนั้น f (x ) ไมมีจุดสูงสุดและจุดต่ําสุดสัมพัทธ
136
การทดสอบจุดวิกฤตโดยใชอนุพันธอันดับสอง
ถา x c1 เปนจุดวิกฤตที่ f (c1 ) 0 โดยที่ c1 (x1, x2 ) สมมุติวากราฟของฟงกชันมี
ลักษณะ โคงเวาขึ้น (กราฟหงาย) หรืออยูในลักษณะเสนโคงอยูเหนือเสนสัมผัสบนชวง (x1, x2 ) จะ
เห็นวาเมือ่ x เพิ่มขึ้นเสนสัมผัสมีคาความชันเพิ่มขึ้นแสดงวา f (x ) เปนฟงกชันเพิม่ ขึ้นบนชวง
(x1, x2 ) ดังนั้น f (x ) 0 บนชวง (x1, x2 ) และที่จุด x c2 โดยที่ c2 (x1, x2 ) ฟงกชันมีคา
ต่ําสุดสัมพัทธ ในทางกลับกันถากราฟมีลักษณะ โคงเวาลง (กราฟคว่ํา) หรืออยูในลักษณะเสนสัมผัส
อยูเหนือเสนโคงบนชวง (x1, x2 ) จะเห็นวาเมื่อ x เพิ่มขึ้นคาแตคาของ f (x ) ลดลงแสดงวา f (x )
เปนฟงกชันลดลงบนชวง (x1, x2 ) ดังนั้น f (x ) 0 บนชวง (x1, x2 ) และที่จุด x c2 ฟงกชนั มี
คาสูงสุดสัมพัทธ (เฟองฟา ศรีจันทพงศ และคณะ, 2553 : 87)
ทฤษฎีบท 3.3
กําหนดให a,b และ c เปนคาคงตัวใด ๆ ถา f x เปนฟงกชันตอเนื่องถึงอนุพันธ
อันดับสองบนชวง a , b ที่มี c อยูแ ละ x c เปนจุดวิกฤตซึง่ f c 0 และ
f x , f x หาคาไดทุกคา x ในชวงเปด a , b
1. ถา f c 0 แลว f x มีคาสูงสุดสัมพัทธที่ x c
2. ถา f c 0 แลว f x มีคาต่ําสุดสัมพัทธที่ x c
บทนิยาม 3.5
จุดเปลี่ยนเวาคือจุดที่เชื่อมระหวางเสนโคงเวาขึ้นกับเวาลง หรือระหวางเสนโคง
เวาลงกับเวาขึ้น
ทฤษฎีบท 3.4
ให f x หาคาไดบนชวงเปด a , b
ถา f x 0 สําหรับทุก x a , b แลวกราฟจะ เวาขึ้น บนชวงเปด a , b
ถา f x 0 สําหรับทุก x a , b แลวกราฟจะ เวาลง บนชวงเปด a , b
ทฤษฎีบท 3.5
ถา f มีจุดเปลี่ยนเวาที่ x a แลว f x 0
หมายเหตุ
กรณี f (c ) หาคาไมไดและ f (x ) เปลี่ยนเครื่องหมายเมื่อ x เปลี่ยนแปลงผาน c จาก
นอยไปหามากจะไดวา x c เปนจุดเปลี่ยนเวาเชนเดียวกัน
12x (x 1) 0 ]
x 0,1 ]
สามารถตรวจสอบโดยอนุพันธอันดับสอง ดังรูป
f (x ) 6x 6 ]
หาจุดวิกฤตให f (x ) 0
3x 2 6x 9 0
3(x 2 2x 3) 0]
3(x 3)(x 1) 0]
x 3,1 ]
1. จุดสูงสุดสัมพัทธ จุดต่ําสุดสัมพัทธ
f ( 3) 6( 3) 6 12 0 ดังนั้น x 3 เปนจุดสูงสุดสัมพัทธ
f (1) 6(1) 6 12 0 ดังนั้น x 1 เปนจุดต่ําสุดสัมพัทธ
แสดงไดดังรูป
3. หาจุดเปลี่ยนเวาให f (x ) 0
6x 6 0
6x 6
x 1
สามารถตรวจสอบโดยอนุพันธอันดับสอง ดังรูป
4. ชวงใดที่ลักษณะของกราฟโคงเวาขึ้น และโคงเวาลงบนชวงใด
กราฟของ f (x ) จะโคงเวาขึ้นบนชวง f (x ) 0 และโคงเวาลงบนชวงใดบนชวง f (x ) 0
แสดงไดดังรูป
สรุปหลักการเขียนกราฟ
1. หา f (x ) และ f (x )
2. หาจุดวิกฤตจาก f (x ) 0 หรือหาคาไมได เพื่อตรวจสอบชวงที่ฟง กชันมีคาเพิ่มขึ้นหรือ
ลดลงคาสูงสุดหรือคาต่ําสุดสัมพัทธ
3. หาคา x ที่ทําให f (x ) 0 หรือหาคาไมไดเพื่อตรวจสอบลักษณะการโคงของ
เสนกราฟ และจุดเปลี่ยนเวา
4. เขียนกราฟของฟงกชันโดยใชขอมูลที่ไดจากขัน้ ตอนที่ 1-3
141
หาจุดวิกฤตให f (x ) 0
4x 3 6x 2 0
x 2(4x 6) 0 ]
3
x 0,
2
แสดงไดดังรูป
หาจุดเปลีย่ นเวาให f x 0
12x 2 12x 0
12x (x 1) 0
x 0, 1
แสดงไดดังรูป
จากขอมูลทั้งหมดนํามาเขียนกราฟไดดังนี้
แสดงไดดังรูป
แสดงไดดังรูป
เวาลง เวาขึ้น
จากขอมูลทั้งหมดนํามาเขียนกราฟไดดังนี้
3.5 หลักเกณฑโลปตาล
หลักเกณฑนเี้ ปนการประยุกตของอนุพันธอีกทางหนึ่ง ซึ่งเปนการนําอนุพันธมาชวยในหาหา
คาลิมิตของฟงกชัน โดยการหาคาลิมิตของฟงกชันนั้นไดกลาวแลวในบทที่ 1 แตการจะใชหลักเกณฑโล
ปตาลนั้นตองผานการเรียนเรื่องอนุพันธของฟงกชันมากอนดวย จึงจะสามารถหาลิมิตโดยใช
หลักเกณฑโลปตาลได และการหาอนุพันธของฟงกชันนั้นไดกลาวถึงในบทที่ 2 ไปแลว การหาลิมิตของ
ฟงกชันโดยใชกฏของโลปตาลนั้น ลิมิตตองอยูใ นรูปแบบที่ไมกําหนดตามบทนิยามตอไปนี้ (อุษณีย
ลีรวัฒน, 2552 : 61)
144
บทนิยาม 3.6
ฟงกชัน f (x ) เปนฟงกชันซึ่งเมื่อ x เขาใกล a แลว f (x ) อยูในรูปแบบใด
รูปแบบหนึง่ ดังตอไปนี้ คือ 0 , , 0 , , 00, 0 หรือ 1 แลวจะไดวา
0
lim f (x ) มีรูปแบบที่ไมกําหนด ที่ x a
x a
f (x )
หลักเกณฑโลปตาลจะชวยใหสามารถคํานวณลิมิตในรูปแบบ lim ในกรณีรปู แบบที่ไม
x a g(x )
กําหนดเมือ่ ตัวเศษ f (x ) และตัวสวน g (x ) เขาใกล 0 ทั้งคูหรือเขาใกล ทั้งคู ดังทฤษฎีบท
ตอไปนี้ (อัจฉรา ปาจีนบูรวรรณ, 2555 : 71)
ทฤษฎีบท 3.6
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L เปนจํานวนจริง f และ g
เปนฟงกชันที่หาอนุพันธไดบนชวงเปด I โดยที่ g(x ) 0 ทุกคาของ x ในชวงเปด I
f (x )
ยกเวนที่ x a ถา lim f (x ) 0 , lim g (x ) 0 และ lim L
x a x a x a g (x )
f (x )
แลว lim L
x a g (x )
ทฤษฎีบท 3.7
กําหนดให I เปนชวงเปดทีบ่ รรจุ a , L เปนจํานวนจริง f และ g เปนฟงกชัน
ที่หาอนุพันธไดบนชวงเปด I ถา lim
x a
f (x ) (หรือ ), lim f (x )
x a
f (x ) f (x )
(หรือ ) และ lim L แลว lim L
x a g (x ) x a g (x )
f (x )
จากทฤษฎีบท 1.8 และ 1.9 จะชวยใหสามารถคํานวณลิมิตในรูปแบบ lim ในกรณี
x a g(x )
รูปแบบที่ไมกําหนดไดงายยิ่งขึ้น นั้นหมายถึงวาถาตัวเศษ f (x ) และตัวสวน g (x ) เขาใกล 0 ทั้งคู
145
f (x ) f (x )
หรือเขาใกล ทั้งคูแลวเราสามารถหา lim โดยการหา lim แทนดังตัวอยาง
x a g(x ) x a g (x )
ตอไปนี้ (สุรวิทย ตันแตงผล และอนุสรณ ชนวีรยุทธ, 2557 : 44)
2
2x 5x
ตัวอยาง 3.24 จงหาคา lim
x 0 x
วิธีทํา พิจารณา lim(2
x 0
x 5x 2 ) 0
และ lim x 0
x 0
2
2x 5x
ดังนั้น lim อยูในรูปแบบที่ไมกําหนด
x 0 x
ให f x 2x 5x 2 ได f x 2 10x
และ g x x ได g x 1
f (x ) f (x )
จากหลักเกณฑโลปตาล lim lim
x a g(x ) x a g (x )
2
2x 5x 2 10x
จะได lim lim 2
x 0 x x 0 1
2
2x 5x
ดังนั้น lim 2
x 0 x
x 2 7x 12
ตัวอยาง 3.25 จงหาคา lim
x 4 x 4
วิธีทํา พิจารณา lim(
x 4
x 2 7x 12) 0
และ lim(x 4) 0
x 4
x 2 7x 12
ดังนั้น lim อยูในรูปแบบที่ไมกําหนด
x 4 x 4
ให f (x ) x 2 7x 12 ได f (x) 2x 7
และ g (x ) x 4 ได g (x) 1
f (x ) f (x )
จากหลักเกณฑโลปตาล lim lim
x a g(x ) x a g (x )
x 2 7x 12 2x 7
จะได lim lim 1
x 4 x 4 x 4 1
x 2 7x 12
ดังนั้น lim 1
x 4 x 4
146
x3 8
ตัวอยาง 3.26 จงหาคา lim
x 2 x 2
และ lim (x 2) 0
x 2
x3 8
ดังนั้น lim
x 2 x 2
อยูในรูปแบบที่ไมกําหนด
ให f (x ) x 3 8 ได f (x ) 3x 2
และ g (x ) x 2 ได g (x) 1
f (x ) f (x )
จากหลักเกณฑโลปตาล lim lim
x a g(x ) x a g (x )
x3 8 3x 2
จะได lim
x 2 x 2
lim
x 2 1
12
x3 8
ดังนั้น lim
x 2 x 2
12
x2 4
ตัวอยาง 3.27 จงหาคา lim
x 2 x 3 8
และ lim(x 3 8) 0
x 2
x2 4
ดังนั้น lim
x 2 x 3 8
อยูในรูปแบบที่ไมกําหนด
ให f (x ) x 2 4 ได f (x ) 3x 2
และ g (x ) x 3 8 ได g (x) 1
f (x ) f (x )
จากหลักเกณฑโลปตาล lim lim
x a g(x ) x a g (x )
x2 4 2x 1
จะได lim 3
lim 2
x 2 x 8 x 2 3x 3
x2 4 1
ดังนั้น lim 3
x 2 x 8 3
147
x 3 1
ตัวอยาง 3.28 จงหาคา lim 3
x 1 4x x 3
และ lim(4x 3 x 3) 0
x 1
x 3 1
ดังนั้น lim
x 1 4x 3 x 3
อยูในรูปแบบที่ไมกําหนด
ให f (x ) x 3 1 ได f (x ) 3x 2
และ g (x ) 4x 3 x 3 ได g (x ) 12x 2 1
f (x ) f (x )
จากหลักเกณฑโลปตาล lim lim
x a g(x ) x a g (x )
x3 1 3x 2 3
จะได lim lim
x 1 4x 3 x 3 x 1 12x 2 1 11
x 3 1 3
ดังนั้น lim 3
x 1 4x x 3 11
3.6 สรุปทายบทที่ 4
จะเห็นววาอนุพันธนั้นสามารถนําไปประยุกตใชไดในทางวิทยาศาสตรไดหลากหลายสาขา เชน
การเคลื่อนที่ของวัตถุ เราสมารถหาความเร็วและความเรงของการเคลื่อนที่จาก s f (t ) ซึ่งแทน
สมการการเคลือ่ นที่ สวนความเร็วโดยทั่วไปเราไดจากอัตราสวนระหวางปริมาณการเปลี่ยนแปลงของ
s(ระยะทาง) กับปริมารการเปลี่ยนแปลงของ t (เวลา) แตถาตองการความเร็วชั่วขณะหรือความเร็วที่
s ds
เวลา t ใด ๆ คือ lim ซึ่งแทนดวย ดังนั้นความเร็วของวัตถุเมื่อเวลา t ใด ๆ คือ v ds
t 0 t dt dt
แบบฝกหัดทายบทที่ 3
1.2 s t 4t 8t
5 2
1.3 s (2t 6 5t )3
1.4 s (3t 3 t )(t 1)
3. วัตถุเคลื่อนที่ในแนวราบมีสมการการเคลื่อนที่ s t 9t
3 2
24t จงหา
3.1. จงหา s (ระยะทาง) และ a (ความเรง) เมื่อ v 0
3.2. จงหา s (ระยะทาง) และ v(ความเร็ว) เมื่อ a 0
3.3. เมื่อใดที่ s (ระยะทาง) เพิ่มขึ้น
3.4. เมื่อใดที่ v(ความเร็ว) เพิ่มขึ้น
4. จงใชแสดงวิธีทําเพื่อหาคําตอบ
4.1 บอลลูนลอยสูง 60 เมตร และกําลังลอยขึ้นในแนวดิ่งดวยอัตราเร็วคงตัว 4.5 เมตรตอ
วินาที รถยนตคันหนึ่งแลนในแนวเสนตรงผานใตบอลลูนดวยอัตราเร็ว 20 เมตร/วินาที
ถามวาระยะทางระหวางบอลลูนกับรถยนตเปนไปอยางไร เมื่อเวลาผานไป 1 วินาที
4.2 พิงบันไดยาว 26 ฟุต ไวกับผนังซึ่งตั้งฉากกับพื้นดิน ถาปลายลางของบันไดเลื่อนลงดวย
อัตรา 4 ฟุต/วินาที จงหาวาปลายลางของบันไดจะเคลื่อนทีอ่ ยางไร ในขณะที่ปลายบน
ของบันไดอยูหางจากพื้น 10 ฟุต
4.3 บอลลูนรูปทรงกลม ชายคนหนึ่งปลอยแกสเขาไปในบอลลูนดวยอัตราเร็ว 1000
ลูกบาศกฟุต/วินาที อยากทราบวารัศมีของบอลลูนจะเพิ่มขึน้ เทาไร เมือ่ รัศมีบอลลูนเปน
5 ฟุต
4.4 วัตถุทรงกระบอกสูง 20 เมตรไดมีการขยายตัว ถารัศมีของทรงกระบอกเพิ่มขึ้นดวยอัตรา
3 เมตร/นาที ปริมาตรของทรงกระบอกจะเปลี่ยนแปลงอยางไรในขณะที่รัศมี 10 เมตร
และความสูงคงที่
149
6. กําหนดให f (x ) x 3 2x 2 5x 3 จงหาสมการเสนสัมผัสและเสนปกติของเสนโคง
ที่จุด x 1
3
1
7. เสนตรงที่ตงั้ ฉากกับเสนโคง y x 2 2 ที่จุด (1, 0) ตัดกับเสนตรง y 1
x
ที่จุดใด
8. กําหนด y f (x ) ดังตอไปนี้
8.1 f (x ) x 2 2x 3 8.2 f (x ) x 3 27x 36
8.3 f (x ) 2x 3 3x 3 8.4 f (x ) (x 3)3
8.5 f (x ) x 3 2x 2 x 2 8.6 f (x ) x 3x 3
จงหา
1 จุดสูงสุดสัมพัทธ จุดต่ําสุดสัมพัทธ
2 เปนฟงกชันเพิม่ และเปนฟงกชันลด บนชวงใด
3 จุดเปลี่ยนเวา
4 ชวงใดที่ลักษณะของกราฟโคงเวาขึ้น และโคงเวาลง
5 เขียนกราฟ
150
x 3 3x 2 2x x 3 3x 2
9.5 lim 9.6 lim
x 0 x x 1 x 1
151
บทที่ 4
ฟงกชันหลายตัวแปรและอนุพันธยอย
บทนิยาม 4.1
สัญลักษณ Rn ใชแทนเซตของสิง่ ของ n สิ่งที่เปนอันดับ ของจํานวนจริงนั่นคือ
Rn (x1 , x2, x3,...xn ) x1 R, x2 R, x 3 R,...xn R
และโดยความหมายทางเรขาคณิตจะไดวา
เมื่อ n 1, R คือเสนจํานวนจริง
เมื่อ n 2, R2 (x, y ) x R, y R คือระนาบพิกัด
เมื่อ n 3, R 3 (x, y, z ) x R, y R, z R คือปริภูมิสามิติ
หมายเหตุ
เราไมสามารถเขียนความหมายทางเรขาคณิตของ Rn เมื่อ n 3
152
บทนิยาม 4.2
กําหนดให f : D R โดยที่ D Rn เรียกฟงกชัน f วาเปน
ฟงกชัน n ตัวแปร x1, x2, x 3,, xn ถาสําหรับจุด (x1, x2, x 3,, xn ) ใด ๆ
ในโดเมน D สามารถหาคา f (x1, x2, x3,, xn ) ไดเพียงคาเดียวเทานั้น
และถา กําหนดให z f (x1, x2, x3,, xn ) เรียกเซตของ (x1, x2, x 3,, xn )
ซึ่งเปนจํานวนจริงวา โดเมนของฟงกชัน f เขียนแทนดวย Df สวนเซตของ z
ซึ่งเปนจํานวนจริงเรียกวา เรนจของฟงกชัน f เขียนแทนดวย Rf
หมายเหตุ
ในกรณีที่ f เปนฟงกชันของตัวแปร 2 ตัว x, y เรามักจะใชตัวแปร z แทนคาของ f
และเขียนแทนดวย z f (x , y) ซึ่งในที่นจี้ ะใช z เปนตัวแปรตามของ f
ในกรณีที่ f เปนฟงกชันของตัวแปร 3 ตัว x, y, z เรามักจะใชตัวแปร w แทนคาของ f
และเขียนแทนดวย w f (x , y, z )
วิธีทํา กําหนด f (x , y) x 2y 5y 2 3
f (1, 0) 12 (0) 5(02 ) 3 3
]
f (2, 3) 22 (3) 5(32 ) 3 12 45 3 36
x 2 3xy 1
ตัวอยาง 4.2 ให f (x , y ) โดยที่ xy 1 จงหา f (0, 0), f (1, 2) และ f (b, c)
xy 1
x 2 3xy 1
วิธีทํา กําหนดให f (x , y ) โดยที่ xy 1
xy 1
153
02 3(0)(0) 1
f (0, 0) 1
(0)(0) 1
f (1,2)
12 3(1)(2) 1
(1)(2) 1
4 ]
f (b, c)
b 2 3(b)(c ) 1 b 2 3bc 1
(b)(c) 1
bc 1
]
; bc 0
หรือ
Df (x, y) : x 2 y 2 1
เขียนกราฟ Df ไดดังนี้
x y
1 1 1
ตัวอยาง 4.4 กําหนดให f (x,y, z) 1 x 2 y2 z 2 จงหาคา f ( , , )
2 2 2
พรอมทั้งหา Df
2 2 2
1 1 1 1 1 1
ดังนั้น f ( , , ) 1
2 2 2 2 2 2
1 1 1
1
4 4 4
1
2
]
โดเมนของฟงกชัน
f (x, y, z ) : 1 x 2 y 2 z 2 0
หรือ
f (x, y, z ) : x 2 y 2 z 2 1
ซึ่งเปนรูปทรงกลมตันจุดศูนยกลางอยูที่ (0, 0, 0) และมีรัศมี 1 หนวย
เขียนกราฟ Df ไดดังนี้
x y
y
ตัวอยาง 4.5 กําหนดให f (x , y ) 1 x จงเขียนกราฟของฟงกชัน f
2
พรอมทั้งบอก Df และ Rf
วิธีทํา กําหนดให z f (x , y )
ดังนั้น z 1 x y
2
155
หรือ 2z 2x y 2 0
ซึ่งเปนกราฟของระนาบ ตัดแกน x ที่จุด (1, 0, 0)
ตัดแกน y ที่จุด (0, 2, 0)
ตัดแกน z ที่จุด (0, 0,1)
เขียนกราฟ Df ไดดังนี้
x y
4.2 ลิมิตของฟงกชันสองตัวแปร
ในการศึกษาลิมิตและความตอเนือ่ งของฟงกชัน จําเปนตองทราบความหมายของเซตของจุด
ในระนาบหรืออาณาบริเวณในระนาบที่สําคัญซึ่งจะตองอางอิงถึงบอย ๆ มีดังตอไปนี้คือ (สุชาติ เจริญ
นิตย, 2554 : 103-105)
1) กําหนด A(x 0 , y 0 ) เปนจุดคงที่จุดหนึ่งใน R2 และจุด X (x , y ) เปนจุดใด ๆ ใน R2
ระยะทางระหวางจุดสองจุดคือ XA (x x 0 )2 (y y 0 )2 หรืออาจเขียนแทนดวย
X A
r
A
X
x
บทนิยาม 4.3
กําหนดให f เปนฟงกชันสองตัวแปร f : D R โดยที่ D R2 เราจะกลาววา
f มีคาลิมิตเทากับจํานวนจริง L ขณะที่ (x , y ) ยางเขาสู จุด (x 0 , y 0 ) ซึ่งแทนดวยสัญลัษณ
lim f (x , y ) L
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
พิจารณาจากสิง่ ที่ตองการ
(3x 2y ) 7 3x 2y 7
3x 3 2y 4 ]
(3x 3) (2y 4) ]
]
3x 3 2y 4
3 x 3 2 y 2]
5 ]
ดังนั้นเราเลือก
5
สามารถแสดงวิธีทําไดดังนี้คือ
กําหนด 0 เลือก ดังนั้น 0
5
ให (x , y ) เปนจุดใด ๆ บน R2 โดยที่ (x, y ) (1, 2)
สมมุติให 0 (x, y ) (1,2)
และ (x , y ) (1,2) (x 1)2 (y 2)2
3x 3 2y 4 ]
(3x 3) (2y 4) ]
]
3x 3 2y 4
3 x 3 2 y 2]
158
5 ]
5
5
]
]
จึงสรุปไดวา lim 3x 2y 7
(x ,y )(1,2)
บทนิยาม 4.4
กําหนดให f วาเปนฟงกชันสองตัวแปร f : D R โดยที่ D R2 และ
(x 0 , y 0 ) เปนจุดลิมิตของ D ถา C เปนเสนโคงใด ๆ ใน R ซึ่งผานจุด (x 0 , y 0 ) จะกลาว
2
บน C
ก็ตอเมื่อ สําหรับทุก ๆ จํานวนจริงบวก ที่กําหนดใหจะมีจํานวนจริงบวก 0 ที่ทําให
f (x, y ) L สําหรับทุก ๆ (x , y ) C D ซึ่ง 0 (x, y) (x 0, y0 )
ขอสังเกต 4.1
1. ถา lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
f (x , y ) L จะไดวา lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
f (x , y ) L สําหรับทุกเสนโคง C
บน C
ที่ผานจุด (x 0 , y 0 )
บน C 1 บน C 2
159
y2 x2
ตัวอยาง 4.7 จงแสดงวา lim
(x ,y )(0,0) y 2 x 2
ไมมีลิมิต
วิธีทํา กําหนดให C1 แทนเสนตรง x 0
และ C2 แทนเสนตรง y 0
y 2 02 y2
lim lim
(x ,y )(0,0) y 2 02 ( x ,y )(0,0) y 2
บน C 1 lim 1
( x ,y )(0,0)
]
1 ]
สําหรับจุด (x , y ) ใด ๆ ที่อยูบน C 2 ซึ่ง (x, y ) (0, 0) จะไดวา
02 x 2 x 2
lim lim
(x ,y )(0,0) 02 x 2 (x ,y )(0,0) x 2
บน C 2
lim 1
(x ,y )(0,0)
]
1 ]
y2 x 2 y2 x 2
จะเห็นวา lim
(x ,y )(0,0) y 2 x 2
lim
(x ,y )(0,0) y 2 x 2
บน C 1 บน C 2
y2 x2
ดังนั้น lim
(x ,y )(0,0) y 2 x 2
ไมมีลิมิต
xy
ตัวอยาง 4.8 กําหนดให f (x , y ) เมื่อ (x, y ) (0, 0) จงแสดงวา
x y2
2
lim
(x ,y )(0,0)
f (x , y ) ไมมีลิมิต
วิธีทํา ให (x, y ) (0, 0) ตามเสนตรงทีผ่ านจุดกําเนิด y mx แต (x, y ) (0, 0)
x (mx )
ดังนั้น f (x , y )
x (mx )2
2
160
mx 2
x 2 m 2x 2
mx 2
2
x (1 m 2 )
m
1 m2
m
นั่นคือ lim f (x, y )
(x ,y )(0,0) 1 m2
(ตาม y mx )
จะเห็นวาเมื่อคาของ m เปลี่ยนลิมิตของ f (x, y ) ก็จะเปลี่ยนดวย นั่นคือเมื่อให
(x , y ) (0, 0) ตามเสนตรงที่ตางกันแลว f (x , y ) จะมีคาตางกันไปดวย
ดังนั้น lim
(x ,y )(0,0)
f (x , y ) ไมมีลิมิต
x 2y
ตัวอยาง 4.9 กําหนดให f (x , y ) 4 เมื่อ (x, y ) (0, 0) จงหาลิมิตของ f (x , y ) เมื่อ
x y2
(x , y ) (0, 0) ตามเสนตรง y mx และตามพาราโบลา y x 2 และพิจารณาวา f (x , y ) มี
ลิมิตเมื่อ (x, y ) (0, 0) หรือไม
วิธีทํา ให f (x, y ) (0, 0) ตาม y mx และ (x, y ) (0, 0)
x 2 (mx )
ดังนั้น f (x , y )
x 4 (mx )2
mx 3
x 4 m 2x 2
mx 3
2 2
x (x m 2 )
mx
2
x m2
mx
นั่นคือ (x ,ylim f (x, y ) lim 0 ตาม y mx
)(0,0) x 0 x m2
2
x4
2x 4
1
2
1
นั่นคือ lim f (x, y ) ตาม y x 2
(x ,y )(0,0) 2
ดังนั้น lim
(x ,y )(0,0)
f (x , y ) ไมมีลิมิต
xy 2
ตัวอยาง 4.10 ให f (x , y ) 2 เมื่อ (x, y ) (0, 0) จงพิสจู นวา (x ,ylim f (x , y ) 0
x y2 )(0,0)
xy 2
เริ่มตนจาก f (x , y )
x 2 y2
ถา 0 x 2 y2
ดังนั้น lim
(x ,y )(0,0)
f (x , y ) 0
ทฤษฎีบท 4.1
1. (x ,y )lim x x0 .
(x ,y )0 0
2. (x ,y )lim y y0 .
(x ,y )0 0
ทฤษฎีบท 4.2
ถา f (x, y ) และ g (x , y ) เปนฟงกชันที่ (x ,y )lim
(x ,y )
f (x , y ) L1 และ
0 0
lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
g (x , y ) L2 แลวจะไดวา
1. (x ,y )lim
(x ,y )
f (x , y ) g (x , y ) L1 L2
0 0
2. lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
f (x , y ) g (x , y ) L1 L2
3. lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
f (x , y ) g (x , y ) L1 L2
4. lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
kf (x , y ) kL1 เมื่อ k เปนคาคงตัว
f (x , y ) L1
5. lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 ) g (x , y )
เมื่อ L2 0
L2
n
L1 เมื่อ n เปนเลขคู และ L1 0
6. (x ,y )lim n
f (x , y )
(x ,y )0 0
n L เมื่อ n เปนเลขคี่
1
3 lim x
(x ,y )(1,0)
(x ,y )(1,0)
lim y 2 lim x 2 lim 5
(x ,y )(1,0) (x ,y )(1,0)
]
3(1)(0) 1 5 ]
4 ]
ดังนั้น lim (3xy 2 x 2 5) 4
(x ,y )(1,0)
3
x 2x 2 2xy 2 4y 2
ตัวอยาง 4.12 จงหาคาของ (x ,ylim
)(1,2) xy 3x 2y 6
x 3 2x 2 2xy 2 4y 2 (x 3 2x 2 ) (2xy 4y 2 )
วิธีทํา lim lim
(x ,y )(1,2) xy 3x 2y 6 (x ,y )(1,2) (xy 3x ) (2y 6)
x 2 (x 2) 2y 2(x 2)
lim
(x ,y )(1,2) x (y 3) 2(y 3)
lim
(x 2 2y 2 )(x 2)
(x ,y )(1,2) (x 2)(y 3)
]
lim
x 2 2y 2
(x ,y )(1,2) y 3
]
lim
(x ,y )(1,2)
lim
x
(x ,y )(1,2)
2
2y 2
y 3
]
lim x 2 2 lim y 2
(x ,y )(1,2)
lim y lim 3
(x ,y )(1,2)
(x ,y )(1,2)
(x ,y )(1,2)
]
18
23
]
9
5
]
x 3 2x 2 2xy 2 4y 2 9
ดังนั้น lim
(x ,y )(1,2) xy 3x 2y 6 5
164
บทนิยาม 4.5
ให z f (x , y) เปนฟงกชันทีห่ าคาไดที่ทุก ๆ จุด (x , y ) ในยานจุด (x 0, y0 )
จะกลาววาฟงกชัน f ตอเนื่องทีจ่ ุด (x 0, y0 ) ถา (x ,y )lim
(x ,y )
f (x , y ) f (x 0 , y 0 )
0 0
กับเงื่อนไขตอไปนี้
1. f (x , y ) หาคาได
0 0
3. lim
(x ,y )(x 0 ,y 0 )
f (x , y ) f (x 0 , y 0 )
บทนิยาม 4.6
ถา f ตอเนื่องทุก ๆ จุด (x , y ) ใน S R2 แลวจะกลาววา
f ตอเนื่องบน S
xy 2
ตัวอยาง 4.13 ให f (x , y ) จงพิจารณาวา f (x , y ) ตอเนื่องที่จุด (0, 0) หรือไม
x 2 y2
วิธีทํา เนื่องจาก f (0, 0) หาคาไมได ดังนั้น f (x , y ) ไมตอเนื่องที่จุด (0, 0)
165
xy
; (x , y ) (0, 0)
ตัวอยาง 4.14 ให f (x , y ) x 2 y 2 จงแสดงวา f ไมตอเนื่องที่จุด (0, 0)
0 ; (x , y ) (0, 0)
วิธีทํา เนื่องจาก f (0, 0) 0
xy
พิจารณา lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 2
เมื่อ (x, y ) (0, 0)
mx 2
2
x m 2x 2
mx 2
2
x (1 m 2 )
m
1 m2
m
นั่นคือ lim f (x, y )
(x ,y )(0,0) 1 m2
(ตาม y mx )
จะเห็นวาเมื่อคาของ m เปลี่ยนลิมิตของ f (x, y ) ก็จะเปลี่ยนดวย นั่นคือเมื่อให
(x , y ) (0, 0) ตามเสนตรงที่ตางกันแลว f (x , y ) จะมีคาตางกันไปดวย
นั่นคือ (x ,ylim
)(0,0)
f (x , y ) ไมมีลิมิต
xy 2
; (x, y ) (0, 0)
ตัวอยาง 4.15 ให f (x , y ) x 2 y 2 จงแสดงวา f ไมตอเนื่องที่จุด (0, 0)
1 ; (x , y ) (0, 0)
วิธีทํา เนื่องจาก f (0, 0) 0
xy 2
และ lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 2
0 (จากตัวอยาง 4.10)
xy 2
; (x , y ) (0, 0)
ตัวอยาง 4.16 ให f (x , y ) x 2 y 2 จงแสดงวา f ไมตอเนื่องที่จุด (0, 0)
0 ; (x , y ) (0, 0)
วิธีทํา เนื่องจาก f (0, 0) 0
xy 2
lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 2
0 (จากตัวอยาง 4.10)
xy 2
และ lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 2
f (0, 0)
บทนิยาม 4.7
ให z f (x, y ) เปนฟงกชัน 2 ตัวแปร และ (x0, y0 ) Df
อนุพันธยอยของ f เทียบกับ x ที่จุด (x 0 , y 0 ) คือ
f f (x 0 h, y 0 ) f (x 0 , y 0 )
(x 0 , y 0 ) lim ถาลิมิตหาคาได
x h 0 h
อนุพันธยอยของ f เทียบกับ y ที่จุด (x 0 , y 0 ) คือ
f f (x 0 , y 0 h ) f (x 0 , y 0 )
(x 0 , y 0 ) lim ถาลิมิตหาคาได
y h 0 h
167
หมายเหตุ
การใชสัญลักษณเกี่ยวกับอนุพันธยอยมีหลายแบบเชน (Taylor Angus E.,1972 : 158)
อนุพันธยอยของ f เทียบกับ x ที่จุด (x 0 , y 0 ) จะใชสัญลักษณ
f z
(x 0, y0 ) fx (x 0, y0 ) f1(x 0, y0 ) D1(x 0, y0 ) (x 0 ,y0 )
x x
อนุพันธยอยของ f เทียบกับ y ที่จุด (x 0 , y 0 ) จะใชสัญลักษณ
f z
(x 0 , y 0 ) fy (x 0 , y 0 ) f2 (x 0 , y 0 ) D2 (x 0 , y 0 ) ( x 0 ,y 0 )
y y
f
ตัวอยาง 4.17 กําหนด f (x , y ) 2xy 1 จงหา (x , y )
y
วิธีทํา f (x , y ) 2xy 1
f f (x , y h ) f (x , y )
(x , y ) lim
y h 0 h
lim
h 0
2x (y h ) 1 [2xy 1]
h
]
2xy 2xh 1 2xy 1
lim
h 0 h
lim
h 0
2xh
h
]
lim 2x
h 0
]
2x ]
f
ดังนั้น (x , y ) 2x
y
168
f
ตัวอยาง 4.18 กําหนด f (x , y ) 3x 2y 5x จงหา (x , y ) โดยใชบทนิยาม
x
วิธีทํา f (x , y ) 3x 2y 5x
f f (x h, y ) f (x , y )
(x , y ) lim
x h 0 h
lim
h 0
3(x h )2 y 5(x h ) 3x 2y 5x
h
]
lim
h 0
3(x 2 2xh h 2 )y 5(x h ) 3x 2y 5x
h
]
lim
h 0
3x y 6xyh 3h y 5x 5h 3x 2y 5x
2 2
h
]
lim
h 0
3x 2y 6xyh 3h 2y 5x 5h 3x 2y 5x
h
]
lim
h 0
6xyh 3h 2y 5h
h
]
lim
h 0
(6xy 3hy 5)h
h
]
lim(6xy 3hy 5)
h 0
]
6xy 5 ]
f
ดังนั้น (x, y ) 6xy 5
x
f
ตัวอยาง 4.19 กําหนด f (x , y ) 3x 2y 5x จงหา (2,1) โดยใชบทนิยาม
y
วิธีทํา f (x , y ) 3x 2y 5x
f f (2,1 h ) f (2,1)
(2,1) lim
y h 0 h
lim
h 0
3(2)2 (1 h ) 5(2) 3(2)2 (1) 5(2)
h
]
lim
h 0
12 12h 10 12 10
h
]
169
lim
12h
h 0 h
]
lim 12
h 0
]
12 ]
f
ดังนั้น (2,1) 12
y
สําหรับอนุพันธยอยของฟงกชันของตัวแปรที่มากกวาสองตัวแปรนั้นก็จะคลายกันกับอนุพันธ
ยอยของฟงกชันสองตัวแปรดังจะกลาวในบทนิยามตอไปนี้ (สุกัญญา สนิทวงศ ณ อยุธยา และอนัญญา
อภิชาตบุตร, 2551 : 79)
บทนิยาม 4.8
กําหนดให D Rn f : D R และ (x 1, x 2 , x 3 ,..., x n ) D
จากบทนิยาม และตัวอยางขางตนการหาอนุพันธยอยเทียบแตละตัวแปรเราสามารถคิดเสมือน
วาตัวแปรนั้นเปนตัวแปรที่จะทําการหาอนุพันธเพียงตัวแปรเดียวสวนตัวแปรที่เหลือใหมองเปนคาคงตัว
ดังนั้น สามารถนําทฤษฎีตาง ๆ ของการหาอนุพันธของฟงกชันหนึ่งตัวแปรมาใชแสดงไดเหมือนกันดัง
ตัวอยางตอไปนี้ (Trench William F., 1978 : 112-115)
f f
ตัวอยาง 4.20 กําหนด f (x , y ) 3x 2y 3 5x 4 y 12 จงหา (x , y ) และ (x , y )
x y
วิธีทํา กําหนด f (x , y ) 3x 2y 3 5x 4 y 12
f
x
(x, y )
x
3x 2y 3 5x 4 y 12
x
3x 2y 3
x
5x 4
x
y
x
12 ]
6xy 3 20x 3 0 0 ]
6xy 3 20x 3 ]
f
ดังนั้น (x, y ) 6xy 3 20x 3
x
กําหนด f (x , y ) 3x 2y 3 5x 4 y 12
f
y
(x , y )
y
3x 2y 3 5x 4 y 12
y
3x 2y 3
y
5x 4
y
y
y
12 ]
9x 2y 2 0 1 0 ]
9x 2y 2 1 ]
f
ดังนั้น (x , y ) 9x 2y 2 1
y
f f
ตัวอยาง 4.21 กําหนด f (x , y ) (5x 4 xy ) sin 3x 2y 5 จงหา (x , y ) และ (x , y )
x y
วิธีทํา กําหนด f (x , y ) (5x 4 xy ) sin 3x 2y 5
f
(x , y ) (5x 4 xy) sin 3x 2y 5
y y
(5x 4 xy )
y
sin 3x 2y 5 sin 3x 2y 5
y
(5x 4 xy ) ]
171
(5x 4 xy )(cos 3x 2y 5 )
y
3x 2y 5 (sin 3x 2y 5 )(0 x ) ]
(75x 6y 4 15x 3y 5 ) cos 3x 2y 5 x sin 3x 2y 5 ]
f
ดังนั้น (x , y ) (75x 6y 4 15x 3y 5 ) cos 3x 2y 5 x sin 3x 2y 5
y
f f
ตัวอยาง 4.22 กําหนด f (x , y ) (x 12 sin 3x 2y 5 )30 จงหา (x , y ) และ (x , y )
x y
วิธีทํา กําหนด f (x , y ) (x 12 sin 3x 2y 5 )30
f 12
(x sin 3x 2y 5 )30
y y
บทนิยาม 4.9
กําหนดให D Rn f : D R และ z f (x 1, x 2 , x 3 ,..., x n ) เปนฟงก โดย
(x 1, x 2 , x 3 ,..., x n ) D เรากลาววา f หาอนุพันธได ที่จุด (a 1, a 2 , a 3 ,..., a n ) ถา
f
(a , a , a ,..., an ) มีคาทุก i
x i 1 2 3
173
ทฤษฎีบท 4.3
z f (x , y ) เปนฟงกชันทีห่ าอนุพันธได และสมมติวา x x (t )
dx dy
และ y y(t ) เปนฟงกชันที่หาอนุพันธที่ และ หาคาได และตอเนื่อง
dt dt
ดังนั้น z f x (t ), y(t ) จะเปนฟงกชันทีส่ ามารถหาอนุพันธเทียบกับ t ได
df f dx f dy
และ
dt x dt y dt
135t 81t ] 4 2
df
ดังนั้น 135t 4 81t 2
dt
174
วิธีที่ 2 ใชการแทนคา
ให f (x , y ) x y , x 3t , และ y t 2 1
3
ได f (x , y ) x y
3
(3t )3(t 2 1)
27t 3(t 2 1) ]
27t 5 27t ]3
f f
ได y 2, 2xy
x y
dx dy
sin t, cos t
dt dt
df f dx f dy
และ
dt x dt y dt
df
y 2 ( sin t ) 2xy(cos t )
dt
(sin t )2 sin t 2(cos t )(sin t )(cos t ) ]
(sin t )3 2(cos t )2 (sin t ) ]
2 cos2 t sin t sin 3 t ]
df
ดังนั้น 2 cos2 t sin t sin3 t
dt
175
วิธีที่ 2 ใชการแทนคา
ให z f (x , y ) xy และ x cos t , y sin t
2
ได f (x , y ) xy 2
cos t sin 2 t
จาก f x (t ), y(t ) cos t sin2 t
df d
cos t sin2 t
dt dt
df
dt
d d
cos t sin2 t sin2 t cos t
dt dt
]
(cos t )2(sin t )(cos t ) sin 2 t ( sin t ) ]
2 cos2 t sin t sin 3 t ]
df
ดังนั้น 2 cos2 t sin t sin3 t
dt
ทฤษฎีบท 4.4
z f (x , y ) เปนฟงกชันทีห่ าอนุพันธไดและ y y(x ) เปนฟงกชัน
dy
ที่หาอนุพันธซงึ่ หาคาไดและตอเนื่อง ดังนั้น z f x , y(x ) เปนฟงกชัน
dx
dz z z dy
ที่สามารถหาอนุพันธเทียบกับ x ได และ
dx x y dx
df
ตัวอยาง 4.26 กําหนด f (x , y ) x 3 xy 2 และ y tan x จงหา
dx
วิธีทํา จาก f (x , y ) x 3 xy 2
f
3x 2 y 2
x
f
y
2xy ]
dy
dx
sec2 x ]
df f f dy
จาก
dx x y dx
df
ดังนั้น (3x 2 y 2 ) 2xy sec2 x
dx
ทฤษฎีบท 4.5
กําหนดให z f (x , y ) เปนฟงกชันทีห่ าอนุพันธ x และ y เปนฟงกชัน
ของตัวแปร 2 ตัว r และ s นั่นคือ x x (r, s) และ y y(r , s ) เปนฟงกชันที่
f x y y
, , และ ตอเนื่อง ดังนั้นฟงกชันประกอบ z f x (r , s ), y(r, s )
r s r s
เปนฟงกชันที่สามารถหาอนุพันธเทียบกับ r และ s ไดและ
z z x z y
r x r y r
z z x z y
s x s y s
z z u z v
จากกฎลูกโซ
x u x v x
z u
fu , 2
u x
z
v
fy ,
v
x
2x ]
z
ดังนั้น 2 fu 2xfv
x
z z u z v
จากกฎลูกโซ
y u y v y
z u
fu , 1
u y
z
v
fy ,
v
y
1 ]
z
ดังนั้น 1fu 1fv fu fv
x
2. การหาอนุพันธยอยเทียบกับ y สองครั้ง
2z 2 f f
f
y 2 y 2
yy
y y
178
2z 2z
หมายเหตุ อนุพันธยอย และ เรียกวาอนุพันธยอยอันดับทีส่ องแบบผสม
x y y x
ได fx (x , y ) 6xy 5x 4
และ fy (x, y ) 3x 2 12y 3
พิจารณา
fxx (x , y ) f (x , y )
x x
x
(6xy 5x 4 ) ]
6y 20x 3 ]
ดังนั้น fxx (x , y ) 6y 20x 3
พิจารณา
fyx (x , y ) fy (x , y )
x
x
(3x 2 12y 3 ) ]
6x ]
ดังนั้น fyx (x , y ) 6x
179
พิจารณา
fxy (x , y ) f (x , y )
y x
y
(6xy 5x 4 ) ]
6x ]
ดังนั้น fxy (x , y ) 6x
พิจารณา
fyy (x , y ) fy (x , y )
y
y
(3x 2 12y 3 ) ]
36y 2 ]
ดังนั้น fyy (x , y ) 36y 2
4e 2 x 9y 10 sin 3xy 5 ]
ดังนั้น fxx (x , y ) 4e 2x 9y 10 sin 3xy 5
180
พิจารณา
fyx (x , y ) f (x , y )
x y
x
(15xy 4 cos 3xy 5 ) ]
15xy 4
x
(cos 3xy 5 ) cos 3xy 5 15xy 4
x
]
15xy 4 (3y 5 ( sin 3xy 5 )) (cos 3xy 5 )(15y 4 ) ]
ดังนั้น fyx (x , y ) 45xy 9 sin 3xy 5 15y 4 cos 3xy 5
พิจารณา
fxy (x , y ) f (x , y )
y x
y
(2e 2x 3y 5 cos 3xy 5 ) ]
2x
y
2e
y
3y 5 cos 3xy 5 ]
0 3y 5
y
cos 3xy 5 cos 3xy 5
y
3y 5 ]
3y 5(15xy 4 sin 3xy 5 ) (cos 3xy 5 )(15y 4 ) ]
45xy 9 sin 3xy 5 15y 4 cos 3xy 5 ]
ดังนั้น fxy (x , y ) 45xy 9 sin 3xy 5 15y 4 cos 3xy 5
พิจารณา
fyy (x , y ) fyy (x , y )
y
(15xy 4 cos 3xy 5 )
y
15xy 4
y
(cos 3xy 5 ) (cos 3xy 5 ) 15xy 4
y
]
15xy 4 (15xy 4 sin 3xy 5 ) (cos 3xy 5 )(60xy 3 ) ]
225x 2y 8 sin 3xy 5 60xy 3 cos 3xy 5 ]
ดังนั้น fyy (x , y ) 225x 2y 8 sin 3xy 5 60xy 3 cos 3xy 5
181
จากตัวอยาง 4.28 และ 4.29 จะเห็นวาอนุพันธยอยอันดับทีส่ อง fxy (x, y ) และ fyx (x, y ) มี
คาเทากัน ซึ่งเรามีทฤษฎีบทที่กลาวถึงเงื่อนไขที่อนุพันธยอยแบบผสมจะเทากันดังนี้ (สิริวรรณ ตั้งจิตร
วัฒนะกุล และสมศักดิ์ บุญมาเลิศ, 2542 : 87)
ทฤษฎีบท 5.6
ถา f (x, y) และอนุพันธยอย fx (x , y ), fy (x , y ), fxy (x , y ) และ fyx (x, y )
เราสามารถนิยามการหาอนุพันธยอยอันดับที่สองและทฤษฎีบททีเ่ กี่ยวของกับการเทากันของ
อนุพันธยอยแบบผสมของฟงกชัน 3 ตัวหรือมากกวา 3 ตัวในทํานองเดียวกัน กําหนดฟงกชันของตัว
แปร 3 ตัว w f (x , y, z ) จะไดอนุพันธยอยอันดับทีส่ องของฟงกชัน f ดังนี้ (ศรีบุตร แววเจริญ,
2541 : 102)
2 f 2 f 2 f
fxx (x , y, z ), fxy (x , y, z ), fxz (x , y, z )
x 2 y x z x
2 f
y 2
fyy (x , y, z ),
2 f
x y
fyx (x , y, z ),
2 f
z y
fyz (x , y, z ) ]
2 f
z 2
fzz (x , y, z ),
2 f
y z
fzy (x , y, z ),
2 f
x z
fzx (x , y, z ) ]
ทฤษฎีบท 4.7
กําหนดให f เปนฟงกชัน 3 ตัวแปรซึ่ง f f (x , y, z ) โดยที่อนุพันธยอย
แบบผสมของ fx (x, y, z ), fy (x, y, z ), fz (x, y, z ) หาคาไดและ f (x, y, z ) ตอเนื่องทีจ่ ุด
(x 0 , y 0 , z 0 ) แลว
fxy x 0 , y 0 , z 0 fyx x 0, y 0 , z 0
]
fxz x 0 , y 0 , z 0 fzx x 0 , y 0 , z 0
fyz x 0 , y 0 , z 0 fzy x , y , z ]
0 0 0
182
fz (x , y, z ) 3x 2y 2z ]
พิจารณา
fxx (x , y, z ) f (x , y, z )
x x
x
(6xyz 5x 4y ) ]
6yz 20x 3y ]
ดังนั้น fxx (x , y, z ) 6yz 20x 3y
พิจารณา
fyx (x , y, z ) f (x , y, z )
x y
x
(3x 2z x 5 12y 3 ) ]
6xz 5x 4 ]
ดังนั้น fyx (x , y, z ) 36y 2
พิจารณา
fxy (x , y, z ) f (x , y, z )
y x
y
(6xyz 5x 4y) ]
6xz 5x 4 ]
ดังนั้น fxy (x , y, z ) 6xz 5x 4
183
พิจารณา
fyy (x , y, z ) f (x , y, z )
y y
y
(3x 2z x 5 12y 3 ) ]
36y 2 ]
ดังนั้น fyy (x , y, z ) 36y 2
พิจารณา
fxz (x , y, z ) f (x , y, z )
z x
z
(6xyz 5x 4y ) ]
6xy ]
ดังนั้น fxz (x , y, z ) 6xy
พิจารณา
fzx (x , y, z ) f (x , y, z )
x z
x
(3x 2y 2z ) ]
6xy ]
ดังนั้น fxz 6xy
พิจารณา
fyz (x , y, z ) f (x , y, z )
z y
z
(3x 2z x 5 12y 3 ) ]
3x 2 ]
ดังนั้น fyz (x , y, z ) 3x 2
184
พิจารณา
fzy (x , y, z ) f (x , y, z )
y z
y
(3x 2y 2z ) ]
3x 2 ]
ดังนั้น fzy (x , y, z ) 3x 2
พิจารณา
f (x , y, z )
fzz (x , y, z ) z
z
z
3x y 2z ]
2
2 ]
ดังนั้น fzz (x , y , z ) 2
อนุพันธยอยอันดับทีส่ าม
3f 2 f
เชน fxyz (x , y, z ) f (x , y , z )
z y x z y x z xy
อนุพันธยอยอันดับทีส่ ี่
4 f 3 f
เชน fyxyz (x , y , z ) f (x , y, z )
z y x y z y x y z yxy
185
จาก f x , y, z 3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2
fx (x , y, z ) (3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2 )
x
15x 4y 2z 5x 4y z 4 ]
fxy (x , y, z )
y
(15x 4y 2z 5x 4y z 4 ) ]
30x 4yz 5x 4 ]
fxyz (x , y, z )
z
(30x 4yz 5x 4 ) ]
30x 4y ]
ดังนั้น fxyz (x , y, z ) 30x 4y
จาก f x , y, z 3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2
fx (x , y, z ) (3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2 )
x
15x 4y 2z 5x 4y z 4 ]
fxx (x , y, z )
x
(15x 4y 2z 5x 4y z 4 ) ]
60x 3y 2z 20x 3y ]
fxxy (x , y, z )
y
(60x 3y 2z 20x 3y ) ]
120x 3yz 20x 3 ]
fxxyz (x , y, z )
y
(120x 3yz 20x 3 ) ]
120x 3y ]
ดังนั้น fxxyz (x , y, z ) 120x 3y
186
จาก f x , y, z 3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2
fy (x, y, z ) (3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2 )
x
6x 5yz x 5 z 2
fyz (x, y, z )
z
(6x 5yz x 5 z 2 ) ]
6x 5y 2z
fyzy (x , y, z )
y
(6x 5y 2z ) ]
6x 5
fyzyz (x, y, z )
z
(6x 5 ) ]
0
ดังนั้น fyzyz (x , y, z ) 0
จาก f x , y, z 3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2
fx (x , y, z ) (3x 5y 2z x 5y xz 4 yz 2 )
x
15x 4y 2z 5x 4y z 4 ]
fxz (x , y, z )
z
(15x 4y 2z 5x 4y z 4 ) ]
15x 4y 2 4z 3 ]
fxzy (x , y, z )
y
(15x 4y 2 4z 3 ) ]
30x 4y ]
fxzyz (x , y, z )
z
(30x 4y ) ]
0 ]
fxzyzx (x , y, z )
z
(0) ]
0 ]
ดังนั้น fxzyzx 0
187
4.7 สรุปทายบทที่ 4
ในบทนี้นั้นเปนเรื่องของฟงกชันหลายตัวแปรและอนุพันธยอย โดยพื้นฐานเริ่มตนจากฟงกชัน
หลายตัวแปรจากบทนิยาม นั้นคือกําหนดให f : D R โดยที่ D Rn เรียกฟงกชัน f วาเปน
ฟงกชัน n ตัวแปร x1, x2, x 3,, xn ถาสําหรับจุด (x1, x 2, x 3,, xn ) ใด ๆ ในโดเมน D
สามารถหาคา f (x1, x2, x3,, xn ) ไดเพียงคาเดียวเทานั้น และถา กําหนดให
z f (x1, x2, x 3, , xn ) เรียกเซตของ (x1, x 2, x 3,, xn ) ซึ่งเปนจํานวนจริงวา โดเมนของ
ฟงกชัน f เขียนแทนดวย Df สวนเซตของ z ซึ่งเปนจํานวนจริงเรียกวา เรนจของฟงกชัน f เขียน
แทนดวย Rf เพื่อหาโดเมนและเรนจของฟงกชันหลายตัวแปร หลังจากนั้นเปนการหาลิมิตของฟงกชัน
สองตัวแปรจากบทนิยามที่วาถา f มีคาลิมิตเทากับจํานวนจริง L ขณะที่ (x , y ) ยางเขาสู จุด
(x 0 , y 0 ) ซึ่งแทนดวยสัญลัษณ lim f (x , y ) L ก็ตอเมื่อ สําหรับทุก ๆ จํานวนจริงบวก ที่
(x ,y )(x ,y )
0 0
หรือจะเปนการหาคาลิมิตของฟงกชันสองตัวแปรโดยใชทฤษฎีบทตาง ๆ เพื่อนําไปสูการหา
อนุพันธยอยของฟงกชันกหลายตัวแปรโดยเริม่ จากฟงกชันสองตัวแปรจนถึงฟงกชัน n ตัวแปร พรอม
ทั้งการใชกฎลูกโซในการหาอนุพันธยอย และเรื่องสุดทายคือการหาอนุพันธยอยอันดับสูง
188
แบบฝกหัดทายบทที่ 4
1. กําหนดให f x, y 2x 2y 5y 2 3x 1
1.1 จงหา f 0, 0
1.2 จงหา f 2, 0
1.3 จงหา f 2, 5
1.4 จงหา f x, y h
1.5 จงหา f x h, y
2 2
2. กําหนดให f x, y 3x y y โดยที่ xy 2
xy 2
2.1 จงหา f 0, 0
2.2 จงหา f 2, 0
2.3 จงหา f 2, 5
2.4 จงหา f x, y h
2.5 จงหา f x h, y
4. จงหาโดเมนของฟงกชันตอไปนี้พรอมทัง้ เขียนกราฟของโดเมนของแตละฟงกชัน
4.1 f x, y 9 x 2 y 2
4.2 f x, y x 2 y2 1
5. จงหาลิมิตตอไปนี้
189
5.1 lim 3y 2 x 2y 5
(x ,y )(1,2)
xy x
5.3 lim
(x ,y )(2,0) x 2 y 2
x 4 y4
5.4 lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 2
6. จงแสดงวาลิมิตของฟงกชันตอไปนี้ไมมีคา
x2 y
6.1 lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 2
xy 3
6.2 lim
(x ,y )(0,0) x 2 y 6
f f
7. กําหนด f x, y ดังตอไปนี้จงหา
x
x, y และ
y
x , y โดยใชบทนิยาม
7.1 f x, y x 2y 2xy
7.2 f x, y 3xy x 2y
7.3 f x, y 15x 2y x 2 2x y
7.4 f x, y xy 3 xy 2x 2 y
7.5 f x, y 2y 3 2x 2
f f
8. กําหนด f x, y ดังตอไปนีจ้ งหา
x
x, y และ
y
x , y
8.1 f x, y 15x 2y x 2 2x y
8.2 f x, y xy 3 xy 2x 2 y
8.3 f x, y xy 3 x 5y sin2x
8.4 f x, y
tan xy 3 x 5y
5x sin 2x
xy 3 x 5y
8.5 f x, y
15x 2y x 2 2x y
190
บรรณานุกรม