1 730

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 6624

กำเนิดเทพมำร

ตอนที่ 1
บนโลกที่คนส่วนใหญ่นั้นนับถือและให้ความเคารพกันแต่เพียง ‘
ความแข็งแกร่ง ‘ โดยมิได้คานึงถึงความผิดชอบชั่วดีของตัวบุคคลผู้
นั้น อาจกล่าวได้ว่าหากแม้มีคนกระทาความผิด แต่หากมันเป็นผู้ทมี่ ี
ความแข็งแกร่งและอานาจที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่เกรงกลัว
ของผู้คนแล้ว ความผิดของพวกมันเหล่านี้ล้วนเปรียบเสมือนสาย
ลมบางเบาที่พร้อมจะพัดพาความผิดชอบเหล่านี้ไปจากความคิด
ผู้คนโดยในทันที
กลับกันหากมีบุคคลที่ไร้ซงึ่ อานาจ พลัง และ ความแข็งแกร่ง
แล้วละก็ตัวมันย่อมถูกกล่าวขานเรียกโดยทั่วกันว่า ขยะไร้ค่า เพราะ
แม้ขยะบางประเภทยังอาจพอนามาแสวงหาผลประโยชน์ได้บาง
เล็กน้อยแต่กลับบุคคลที่ออ่ นแอแล้วนั้นย่อมไม่เป็นที่ต้องการของ
ใครแม้แต่คนเดียวไม่เว้นแม้กระทั่งผู้คนในตระกูลของตนเอง
ในสวนแห่งหนึ่งอันเป็นทีต่ ั้งของตระกูลหลิน มีร่างของเด็กหนุ่ม
อายุราว 15 ปีคนหนึ่งกาลังถูกทุบตีโดยเด็กหนุม่ อีกคนหนึ่งซึ่งดูอายุ
ไม่ต่างจากกันมากนัก เด็กหนุ่มผู้ที่ออกแรงหมัดและเท้าทุบตีเด็ก
หนุ่มอีกคนซึ่งดูอ่อนแอและบอบบางเสียยิ่งกว่าสตรี แต่มันก็ไม่ได้มี
การออมมือแต่อย่างใด กลับลงมือกระทาการออกหมัดและเท้าอย่าง
หนักหน่วงทุกทวงท่าราวกับปรารถนาจะเข่นฆ่ากัน
“ เจ้าขยะไร้ค่า เพียงเท่านี้เจ้าก็ถึงกับหมดแล้วอย่างนั้นรึ สม
แล้วที่ถูกกล่าวว่าเป็นเพียงขยะไร้ค่า ฮ่าๆๆ ”
“ นายน้อย นายหญิงให้ข้ามาเรียกท่านเจ้าคะ ”
“ ท่านแม่อย่างนั้นรึ เอาเป็นว่าวันนี้พอเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน เจ้า
น่าจะดีนะที่ได้เป็นคู่ฝึกซ้อมให้แก่ข้าผู้นี้ฮ่าๆคราวหน้าก็ให้มันทนมือ
ทนเท้าของข้าให้มากกว่านี้หน่อยละ ฮ่าๆ ”
ผ่านไปเพียงชั่วครู่หลังจากที่ตัวของเด็กหนุ่มพยายามเรียกสติ
และฝืนร่างกายลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผูท้ ี่ทุบตีมันจากไป
แล้ว เด็กหนุ่มผู้นหี้ าใช่คนรับใช้หรือทาสภายในตระกูลหลินแห่งนี้
แต่อย่างใดกลับกันฐานะของเขานั้นคือหนึ่งในนายน้อยของตระกูล
หลินนาม ‘ หลินหมิง ‘ และผู้ที่ทุบตีมันเมื่อสักครู่นนั้ อาจ
เปรียบเสมือนน้องชายของมันแม้จะต่างมารดากันก็ตามที่ แต่ตัว
ของหลินหมิงนั้นไม่ได้รับการเคารพจาก หลินชู น้องชายต่างมารดา
ของมันเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วตัวของเขานั้นไม่แม้แต่เพียง
หลินชูที่ถูกนับว่าเป็นน้องเท่านั้นแม้แต่บิดาของเขาก็ยังไม่เห็นค่า
ของตัวเขาแต่อย่างใด
ตัวเขานั้นนับได้ว่าเป็นบุตรที่เกิดจากมารดาของเขาที่เป็นภรรยา
ลาดับที่สามของบิดาของเขาจากบรรดาภรรยาน้อยใหญ่กว่าสิบคน
โดยตามจริงแล้วนั้นสถานะของเขานั้นย่อมต้องเหนือกว่า หลินชู ผู้
ที่ทุบตีมันเมื่อสักครู่เสียอีก เพียงแต่ว่าเมื่อเขาเกิดมานั้นไม่เพียงแต่
จะต้องเสียมารดาโดยไม่เพียงแม้แต่จะได้พบเจอหน้ากัน ซ้าตัวเขา
ยังเป็นคนที่ถูกกล่าวว่าเป็นเพียงขยะไร้ค่า ไม่พลังปราณใดๆเลยใน
ร่างกาย ซึ่งมันหาได้ยากมาก อาจเรียกได้ว่าหาสุ่มคนมาจานวน
หนึ่งแสนคนก็อาจจะไม่พบบุคคลที่ไร้ความสามารถเช่นเขา
มันจึงทาให้สถานะของหลินหมิงในตอนนี้แม้จะไม่ใช่ทาสแต่ก็มิ
อาจขัดขืนคากล่าวของพี่ หรือ น้อง ร่วมสายเลือดของมันแต่อย่าง
ใด เพราะบิดาของมันนั้นตั้งแต่จาความได้เมื่อเขาถูกพบว่าเป็น
ตัวตนที่ไร้ค่า ไร้ความสามารถนับตั้งนั้นก็ถูกกลั่นแกล้งโดยเสมอมา
และไม่มีทที ่าว่าบิดาของเขาจะเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด
และหน้าที่ของหลินหมิงเมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั้นก็คือการเป็นคู่
ซ้อมต่อสู้ให้กบั น้องต่างสายเลือดของมัน หลินชู แม้ตัวของหลินห
มิงจะรู้แต่แล้วอยู่แล้วว่าหลินชู นั้นตัวมันแม้จะอายุน้อยกว่าเขาอยู่
หนึ่งปีเต็มแต่มันไม่ได้เป็นขยะไร้ค่าอย่างเขา หลินชูผู้นี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์
ที่มีความสามารถในระดับพลังปราณเริ่มต้นขั้น 7 และโดดเด่นเป็น
อันดับสาม จากบรรดาบุตรของบิดามันทั้งหมด
ดังนั้นตัวเขาที่ไร้ซึ่งพลังใดๆย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินชูอย่าง
แน่นอน แต่ด้วยความหวังในใจของหลินหมิงก็คือการที่อย่างน้อย
เขาอาจจะสามารถโจมตีใส่หลินชูตอบกลับได้เพียงสักหนึ่งครั้งก็
นับว่าพอใจมากแล้ว แต่เรื่องที่หลินหมิงหวังไว้นั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น
เลยแม้แต่ครั้งเดียวจากการที่เขาต้องเป็นคู่ซ้อมให้กว่าหลินชูกว่า
ร้อยครั้ง และผ่านสถานการณ์ที่เฉียดตายมากว่าสิบครั้ง
หลินหมิงพยายามฝืนร่างกายของเขาเพื่อกลับไปยังบ้านของเขา
และนั้นย่อมไม่ใช่จวนหลักของตระกูลหรือแม้กระทั่งจวนอื่นๆแต่
อย่างใด มันเป็นเพียงบ้านที่ถูกปล่อยร้างไว้ที่ป่าท้ายสวนของตระกูล
เท่านั้น และสถานที่แห่งนีม้ ันย่อมนับได้ว่าแย่เสียยิ่งกว่าที่พักของ
เหล่าคนรับใช้เสียอีก
เพราะว่าแม้สถานะโดยแท้จริงของหลินหมิงคือหนึง่ ในนายน้อย
แห่งตระกูลหลิน แต่บรรดาคนรับใช้ล้วนรับรู้ถึงเรื่องที่นายน้อยผู้นี้
เป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งพลังปราณเป็นอย่างดี แม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่ได้
ทาการกลั่นแกล้งหลินหมิงแต่อย่างใดแต่ก็ไม่มีใครที่คิดจะช่วยเหลือ
หลินหมิงแต่อย่างใดเช่นเดียวกัน เพราะว่ามิเช่นนั้นแล้วพวกเขา
อาจจะโดนนับรวมว่าเป็นพวกเดียวกันกับขยะไร้ค่าก็ได้
เมื่อหลินหมิงมาถึงที่บ้านของเขาที่อยู่ท้ายสวนของตระกูลอย่าง
ยากลาบากด้วยระยะทางที่ห่างกันอยู่ไม่ใช่น้อย หากถามว่าเมื่อเป็น
เช่นนี้เหตุใดตัวเขาถึงไม่คิดหลบหนีออกจากตระกูลแห่งนี้เสีย นั้นก็
เพราะหากตัวเขาคิดออกไปยังนอกตระกูลแล้วละก็คงไม่พ้นถูกรังแก
กลั่นแกล้งอีกเช่นเดียวกัน ซ้ามันอาจจะรุนแรงเสียยิ่งกว่านี้ด้วยซ้า
ไปเพราะฉะนั้นแล้วตัวเลือกของเขาจึงมีเพียงต้องอาศัยอยู่ในที่แห่ง
นี้เพียงเท่านั้น
สาหรับตัวเขาที่อายุ 15 ปี และต้องทนความยากลาบากเช่นนี้
มาเกือบ 10 ปีมีหลายครั้งที่เขาต้องร้องไห้ออกมาจนมิอาจหลับนอน
ได้ หรือแม้กระทั่งคิดฆ่าตัวตาย แต่ด้วยความหวังเดียวก่อนตายของ
เขาก็คือการได้แก้แค้นบุคคลที่กลั่นแกล้งรังแกเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็
ยังดี
หลินหมิงทิ้งตัวลงนอนอย่างอ้อนล้าบาดแผลจากการถูกทุบตี
โดยหลินชูนั้นหากเป็นคนปกติทั่วไปอาจต้องพักฟื้นเพียง 2-3 วันแต่
สาหรับตัวของเขาที่ร่างกายอ่อนแอนั้นอาจต้องพักราวสัปดาห์จึงจะ
เริ่มหายดี
“ ขอเพียงแค่ข้ามีพลังเท่านั้น..ข้าจะเอาคืนพวกมันอย่างสาสม

ตอนที่ 2
หลังจากที่หลินหมิงล้มตัวลงบนเตียงอย่างอ้อนล้า แม้ว่าหากคน
อื่นได้เห็นเตียงของเขาแล้วนั้นพวกเขาเหล่านั้นอาจไม่คิดเช่นนั้น
เพราะเตียงที่หลินหมิงอาศัยหลับนอนนั้นเป็นเพียง เตียงไม้แข็งๆที่
แค่ดูภายนอกก็ย่อมรู้แล้วว่าหากต้องนอนหลับพักผ่อนอยู่บนเตียง
เช่นนี้ย่อมมิต่างอะไรจากการทรมาณตนเองในยามดึก
หน้าที่ของหลินหมิงในตระกูลหลินแห่งนี้เขาไม่ใช่ข้ารับใช้จึง
ไม่ได้มีหน้าที่อะไรมากมาย อาจกล่าวได้ว่าหน้าที่ของเขามีเพียงเป็น
ที่ระบายอารมณ์ให้แก่ญาติพี่น้องต่างแม่ หรือแม้กระทั่งเหล่าภรรยา
ของบิดาของเขาเองก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นหากเขาต้องใช้เวลากว่า
สัปดาห์ในการพักฟื้นตัวแล้วละก็มันก็จะไม่มีใครสนใจเขาแต่อย่าง
ใด เปรียบเสมือนกับตัวตนที่มีก็ได้ไม่มีก็ไม่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในวันนี้ที่หลินหมิงออกไปเป็นคู่ซ้อมให้กับ หลินชูนั้นไม่เพียงแต่
เขาจะหวังว่าจะสามารถโต้ตอบใส่อีกฝ่ายได้บ้างแม้เพียงเล็กน้อย
เท่านั้น เขายังหวังว่าบิดาของเขาจะหันมาสนใจในตัวของเขาบ้าง
เพราะเนื่องจากในวันนี้นั้นเป็นวันที่เขามีอายุครบ 15 ปี แม้ว่าใน
ความเป็นจริงในทุกๆปีทผี่ ่านมานั้นตัวเขาก็ไม่ได้รับความสนใจใดๆ
เช่นในวันนี้ก็ตามที่ แต่ในส่วนลึกของจิตใจมันก็อดไม่ได้ที่จะ
คาดหวังว่าจะได้รับความอบอุ่นจากบิดาของเขาบ้างแม้เพียง
เล็กน้อยก็ตามที่
หลินหมิงหลับตาลงเพื่อทาการพักผ่อนตนเอง เขาไม่ต้องเป็น
ห่วงในเรื่องอาหารการกินของตนเองแต่อย่างใดแม้ว่าจะไม่มีข้ารับ
ใช้มาคอยปรนเปรอปณิบัติเช่นเดียวกันกับญาติพี่นอ้ งของเขา แต่
รอบๆบ้านของเขานั้นยังเต็มไปด้วยพืชพรรณผลไม้ต่างๆมันจึงทา
ให้เขาไม่อดตาย แม้จะขาดสารอาหารจาพวกเนื้อไปก็ตามนั้นจึง
เป็นเหตุทาให้ร่างกายของหลินหมิงนั้นอ่อนแอ่เป็นอย่างมาก
เนื่องจากเขาไม่ได้รับสารอาหารที่จาเป็นมากพอ
ภายในห้วงความคิดของหลินหมิงยามหลับไหลหลินหมิงพลัน
คิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ตัวเขาในอดีตที่เคยด่าท้อสาบแช่ง
ผู้ที่กาหนดชะตาของเขาให้ต้องเป็นเช่นนี้ น้าตาของความเศร้าสลด
เสียใจในโชคชะตาของตนเองที่ไหลออกมาไม่เคยหยุดย่อนเป็นเวลา
เกือบห้าปีจนมันแปลเปลีย่ นเป็นสีแดงฉาน ความรู้สึกเศร้าเสียใจ
ต่างๆพลันเปลี่ยนเป็ความโกรธแค้น สิ่งที่เขาพบเจอนั้นมันสมควร
แล้วหรือที่เด็กหนุ่มวัยเช่นเขานั้นสมควรได้รับ
หากแม้ตัวเขาได้มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองได้อย่างเช่นคนอื่นตัว
เขาจะไม่ลังเล และจะทุ่มตนสุดความสามารถเพื่อพัฒนาตนและจะ
ไปล้างแค้นกับผู้ที่กระทากับเขาเช่นนี้
ภายในจิตใจของหลินหมิงในขณะที่เขากาลังราพึงถึงเหตุกาณ์ที่
ผ่านมานับแต่ในอดีตอย่างโกรธแค้นพลันเกิดเรื่องประหลาดภายใน
จิตใจของเขา ตัวของหลินหมิงทีก่ ระทาการหลับตาอยู่นั้นพลันรู้สึก
ได้ว่าในร่างกายของเขามีบางอย่างกาลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไป
หลินหมิงลองเพ่งสมาธิสารวจภายในจิตใจของตนเองเพื่อสืบหา
ความประหลาดที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา แม้ว่านี้จะเป็นหนึ่ง
ในสิ่งที่เขาทาเป็นประจาอยู่แล้วก็ตามที่เพื่อหวังว่าอย่างน้อยตัวเขา
นั้นอาจเกิดปฏิหารย์ขึ้นมาบ้างแม้ว่านับแต่อดีตจะไม่เคยเกิดเรื่อง
ดังเช่นที่เขาหวังก็ตามที่
ภายในจิตของหลินหมิงนัน้ ต้นเถียนของเรียกได้ว่ามันสมบูรณ์ดี
ทุกประการ แต่มันขาดซึ่งพลังงานในการหมุนวนไปทั่วร่าง มิว่าเขา
จะทาเช่นไรพลังงานภายในร่างของเขามันก็ไม่เคยมีเลยแม้แต่เศษ
เสี้ยว แต่แล้วเขาก็พบสิ่งที่ต่างออกไปจากอดีตภายในเขาพบว่ามี
พลังงานแปลกประหลาดสีดาทมิฬ มันคล้ายคลึงกับเปลวเพลิง
เพียงแต่ว่ามันมีสีดา !
เพียงแค่หลินหมิงทาการจ้องมองไปที่เพลิงทมิฬทีก่ าลังลุกโชน
อยู่ภายในต้นเถียนของเขานั้นมันก็ทาให้เขารู้สึกเกิดอาการ
หวาดกลัวขึ้นมา นับตัง้ แต่ตัวของหลินหมิงที่เคยตัง้ เป้าไว้ว่าจทา
การแก้แค้นนั้นตัวเขามิเคยเกรงกลัวต่อความตายแต่อย่างใด หาก
ความตายของเขาสามารถทาให้เขาแก้แค้นได้เขาก็จะไม่เสียเวลาคิด
เลยแม้แต่น้อย
แต่เปลวเพลิงทมิฬข้างหน้าของหลินหมิงนีม้ ันอาจกล่าวได้ว่ามัน
มีความน่ากลัวเสียยิ่งกว่า ความตาย ! สีดาของเปลวเพลิงทมิฬนี้
ราวกับว่ามันเป็นหลุมดาที่มีความลึกไม่สิ้นสุด แม้ว่าตัวของหลินห
มิงจะไม่รู้สึกถึงความร้อนใดๆของเปลวเพลิงทมิฬนี้ แต่เขากลับรู้สึก
เย็นเยือกไปทั่วร่างแทนเสียอย่างนั้น
หลินหมิงที่เกิดอาการหวาดกลัวครอบงาภายในจิตใจนั้นเขา
กาลังทาการออกจากสมาธิเพื่อหลีกหนีความน่ากลัวของเปลวเพลิง
นี้ เพียงแต่ว่าในระหว่างนั้นตัวเขากลับเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
หลินหมิงก้าวเท้าออกไปด้วยความมุ่งมั่นแววตาของความ
หวาดกลัวที่เคยปรากฎอยู่ในดวงตาของเขาเมื่อครู่พลันอันตรธาน
หายไปราวกับว่าตัวเขาเปลี่ยนแปลงเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ความแน่ว
แน่ที่หวังจะแก้แค้นของเขานั้นมันมีค่ามากเสียยิ่งกว่าความ
หวาดกลัวต่อสิง่ ใดๆ !
ราวกับว่าเปลวเพลิงทมิฬนั้นรับรู้สิ่งที่หลินหมิงกาลังจะทา เปลว
เพลิงของมันลุกขึ้นมาอย่างโชติช่วงภายในต้นเถียนของเขาแม้ว่า
หลินหมิงจะไม่อาจรู้ได้ว่ามันกาลังคิดเช่นใด ดีใจ ตกใจ ตื่นเต้น ยิ้ม
เยาะ เยาะเย้ย ? เพียงแต่ว่าในเวลานี้นั้นตัวเขาไม่สนใจถึงสิ่งที่คน
หรือมันผู้ใดคิดแต่อย่างใด
‘ ข้าต้องการพลัง ! ’
เมื่อมาถึงในระยะที่มือของเขาสามารถเอื้อมสัมผัสเปลวเพลิง
ทมิฬนี้ได้หลินหมิงไม่รอช้าแต่อย่างใด เมื่อปลายนิ้วของเขาเข้ามา
ภายในเปลวเพลิงทมิฬนี้ เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดภายนอกแต่อย่างใด
เพียงแต่ว่าจิตใจของเขานั้นกลับเป็นอีกเรื่องหนึง่
ภาพของการถูกทารุณในอดีตถูกฉายซ้าภายในหัวของหลินหมิง
ราวกับว่ามันจะเป็นแรงกระตุ้นให้เขาสามารถก้าวข้ามผ่านความ
เจ็บปวดภายในจิตใจของเขาไปได้ เปลวเพลิงทมิฬราวกับว่ามัน
ต้องการแผดเผาดวงวิญญาณของเขาให้หายไปในบัดดล
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !
แม้ว่าหลินหมิงจะเคยพบกับสถานการณ์ที่ถูกทารุณทรมาณมา
มากมายเพียงแต่การจู่โจมของเปลวเพลิงทมิฬหากเทียบกับเรื่องที่
เขาพบเจอมานับแต่อดีตนั้นราวกับว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นเกิดขึ้น
จากการที่ถูกทารกทุบตี !เปลวเพลิงทมิฬจากเดิมทีอ่ ยู่ที่ปลายนิ้ว
ของหลินหมิงนั้นค่อยๆลุกลามภายในร่างกายของเขาอยู่เรื่อยจนใน
ที่สุดไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดร่างของหลินหมิงภายในจิตใจก็
ถูกอาบไปด้วยเปลวเพลิงทมิฬไปเสียแล้ว

ตอนที่ 3
ราวกับว่าอวัยวะภายในของเขากาลังถูกบีบรัดอย่างรุนแรง
ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเปลวเพลิงสี
ดาครอบคลุมทั้งร่างกายของหลินหมิงไปแล้วแต่มันไม่มีทที ่าว่าจะ
ผ่อนลงแต่อย่างใดความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้นยังคงอยู่
ในตอนนี้นั้นหลินหมิงได้ออกมาจากการทาสมาธิเพื่อเข้าไปภาย
ใสจิตใจของเขาแล้วไม่ใช่ว่าตัวเขาต้องการล้มเลิกความตั้งใจแต่
อย่างใดเพียงแต่เพราะความเจ็บปวดเช่นนี้มันยากเกินกว่าที่เขาจะ
คงสมาธิภายในจิตใจของเขาเอาไว้ได้ และถึงแม้ว่าหลินหมิงจะทา
การออกมาภายนอกจิตใจแล้วเขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอยู่เช่นเดิม
เพียงแต่ว่าร่างกายแท้จริงของเขานั้นไม่ได้มีเปลวเพลิงทมิฬปกคลุม
อยู่นี้จึงเป็นแค่ความแตกต่างเดียวในระหว่างที่เขาอยู่ภายในจิตใจ
กับตัวของเขาในตอนนี้
ผิวหนังตามร่างกายของหลินปรากฎเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาจน
ทาให้บางส่วนระเบิดออกมาเป็นเลือด ดวงตาของหลินหมิงในตอนนี้
ที่เคยเป็นสีฟ้าสดใสค่อยๆถูกย้อมไปด้วยสีแดงเลือดอันเกิดมาจาก
เลือดของเขานั้นเอง แม้ว่าตัวเขาจะตะโกณร้องอย่างเจ็บปวด แต่
ตัวเขานั้นรู้ดีว่าไม่มีทางทีค่ นในตระกูลแม้แต่คนเดียวจะได้ยินเสียง
เขา พื้นที่บ้านของเขานั้นนอกเสียจากมันจะตั้งอยู่ไกลจากจวนของ
ตระกูลมากแล้วนั้นบรรดาคนในตระกูลโดยทั่วไปล้วนไม่มีใครอยาก
เข้าใกล้พืนที่บ้านของเขามากนักเพราะพวกเขากลัวว่าจะโดนหาว่า
เป็นพวกเดียวกันกับขยะไร้ค่า
สามวันผ่านไป
ในสามวันที่ผ่านมานี้หลินหมิงได้ฝืนทนความเจ็บปวดจนมีหลาย
ครั้งที่ภายในความคิดของเขาก็ความคิดที่จะฆ่าตัวตายเพื่อหลีกหนี
ความเจ็บปวดเช่นนี้ไป แต่สิ่งเหล่านั้นย่อมเกิดเพียงอารมณ์ชั่วครู่
เท่านั้น
‘ ข้าจะยังไม่ยอมตายง่ายเพียงเท่านี้ ’
ภายในสามวันมานี้เนื่องจากเขาต้องทนความเจ็บปวดตลอดวัน
ตลอดคืนโดยในช่วงวันแรกนั้นเขาได้ตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บ
จวบจนกระทั่งเสียงของเขาค่อยๆแหบพล่าและหมดสติไปใน
บางครั้งเพียงแต่ว่าไม่นานตัวของหลินหมิงก็จะรู้สกึ ตัวขึ้นมาเอง
ในทันทีเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากเปลวเพลิงทมิฬ
สามวันสามคืนที่หลินหมิงต้องผ่านมาขอบตาของเขาในตอนนี้
ม่วงคล้าอย่างเห็นได้ชัดซึง่ มันเป็นอาการของคนที่ขาดการพักผ่อน
หลับนอน แม้ว่าในตอนนีค้ วามเจ็บปวดทั่วร่างกายของหลินหมิงจะ
จางหายไปแล้วเพียงแต่ในตอนนี้ตัวของเขานั้นไม่มีเรียวแรงเหลือ
พอที่จะกระทาการใดๆ เรี่ยวแรงของเขาที่แต่เดิมมีเพียงน้อยนิดอยู่
แล้วนั้นได้ถูกใช้ไปกับการอดทนฝืนกลั้นความเจ็บปวดที่ผ่านมา
แถมเขายังต้องอดข้าวเป็นเวลาถึงสามวันยังดีที่ว่าตัวของหลินหมิง
นั้นด้วยความที่กระหายน้าเป็นอย่างมากในช่วงเวลาสามวันก่อน
หน้ามันทาให้เขาต้องกลากลืนดื่มเลือดของตนเองลงไปเพื่อประทั่ง
ชีวิตจนกระทั่งในที่สุดวันที่สี่นี้ตัวของหลินหมิงก็ได้หลับหมดสติไป
อย่างอ่อนล้าไปถึงหนึ่งวันเต็ม
หลังจากได้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายเต็มที่มาหนึ่งวันเต็มแล้วนั้น
หลินหมิงรู้สึกได้ในทันทีวา่ ร่างกายของเขาในตอนนี้รู้สึกเบาสบาย
มากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า ร่างกายของเขาไม่เคยรู้สึกดีเช่นนี้
มาก่อนราวกับว่าตัวเขาในตอนนี้ได้รับพรจากสวรรค์ให้เกิดใหม่
อย่างใดอย่างนั้น หลินหมิงไม่รอช้ารีบเข้าสมาธิเพื่อสารวจภายใน
จิตใจของตนเองอีกครั้งแม้ว่ามันจะมีโอกาสที่เขาจะต้องพบเจอ
เปลวเพลิงทมิฬเช่นนั้นอีกและมันอาจจู่โจมเขาดังเช่นที่ผ่านมาแต่
ส่วนลึกในจิตใจของหลินหมิงนั้นมันบอกว่าเปลวเพลิงทมิฬนั้นไม่ได้
เป็นอันตรายต่อเขาอีกต่อไป
เมื่อหลินหมิงเข้ามาภายในจิตใจของตนเองแล้วนั้นก็อดที่จะยิ้มที่
มุมปากไม่ได้ หยดน้าตาทีไ่ ม่เคยไหลออกมานานเสียหลายปีบัดนีม้ ัน
ได้ไหลอาบแก้มของเขาทัง้ สองข้างด้วยความปิติยนิ ดี เพราะว่า
ในตอนนี้ภายในต้นเถียนของเขานั้นไม่ได้ปราศจากพลังใดๆอีก
ต่อไป มันถูกปกคลุมไปด้วยไอพลังปราณรูปแบบสีดาของเปลว
เพลิงทมิฬที่ตอนนี้ได้สลายตนเองในรูปแบบของเปลวเพลิง
แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับเขา
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่รู้เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ
สิ่งใด แต่ตัวเขาในตอนนี้หาได้สนใจในสิ่งเหล่านั้นไม่เพราะในตอนนี้
ความหวังของเขานั้นได้ถกู จุดประกายขึ้นมาแล้ว ความหวังที่จะได้
ทาการล้างแค้นคนที่เคยกระทาสิ่งใดกับเขาเอาไว้ ! หลินหมิงรีบทา
การสารวจพลังปราณทมิฬภายในร่างกายของเขาอย่างถี่ถ้วนอีก
ครั้ง
‘ พลังปราณเริ่มต้น ขั้น 4 ! ‘
แม้ว่าด้วยระดับพลังปราณเพียงเท่านี้มันอาจไม่สามารถนาไป
เปรียบเทียบได้กบั หลินชูที่อ่อนวัยกว่าเขาหนึ่งปีแต่กลับมีพลังปราณ
เริ่มต้นขั้น 7 แต่นั้นเป็นเพราะว่าหลินชูนั้นได้ถูกกล่าวว่าเป็นหนึ่งใน
อัจฉริยะของตระกูล แถมยังเป็นลาดับที่สามอีกด้วย และสองอันดับ
แรกนั้นเป็นบุตรของภรรยาลาดับที่หนึ่งและสองของบิดาของเขาซึ่ง
มีอายุมากกว่าหลินชูโดยพวกเขาทั้งคู่นั้นมีพลังไกลเคียงกันในระดับ
พลังปราณเริ่มต้นขั้น 8 ด้วยวัย 16 ปี
หากหลินชูได้รับความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องมันย่อมเป็นไปได้ว่า
ตัวของหลินชูอาจเหนือล้าเสียยิ่งกว่าพวกเขาเหล่านั้นในวัย
เดียวกัน แต่สาหรับหลินหมิงนั้นตัวเขารู้สึกพอใจในพลังปราณของ
เขาในตอนนี้อยู่มากในตอนแรกนั้นตัวเขาคิดว่าอาจจะต้องเริ่มนับ
หนึ่งที่ระดับพลังปราณเริ่มต้นขั้น 1เสียด้วยซ้าไป
แม้ว่าหลินหมิงในตอนนี้จะมีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 4 แต่หากให้
เขาไปสู้กับเหล่าญาติพี่น้องของเขาที่มีระดับพลังไล่เลี่ยกันตัวเขาก็
มั่นใจอย่างแน่นอนว่าตัวเขาจะต้องพ่ายแพ้ เพราะถึงแม้ว่าตัวของ
หลินหมิงในตอนนี้จะมีพลังปราณที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับปกติของ
คนทั่วไปในวัยเพียงเท่านี้แต่เขายังขาดซึ่งประสบการณ์และวิชา
ยุทธ์ต่างๆที่จะใช้ระหว่างการต่อสู้ และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะ
สามารถหาทักษะเหล่านั้นจากภายในตระกูล
เพราะหากคนในตระกูลนั้นได้ล่วงรู้เกี่ยวกับพลังของเขา
ในตอนนี้นั้นสถานะของเขาย่อมไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่าย บรรดา
เหล่าญาติพี่น้องที่แต่เดิมหากนับสถานะโดยการเป็นภรรยาของบิดา
ของพวกเขาเหล่านั้นนับได้ว่าหลินหมิงนั้นอยู่ในระดับต้นๆ หากเป็น
เช่นนั้นพวกมันเหล่านั้นอาจต้องก้มหัวให้ความเคารพแก่หลินหมิง
เช่นนั้นหรือ ? แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้นั้นพวกเขาเหล่านั้นย่อมไม่มที าง
ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อคิดเห็นเช่นนี้แล้วหลินหมิงก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าตัวเขานั้น
ต้องออกจากตระกูลไปสักระยะเพื่อทาการฝึกฝนตนและพัฒนา
ตนเองให้แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าบรรดาเหล่าญาติพี่น้องของเขา และ
เมื่อนั้นหากเขาต้องการกลับมาแก้แค้นมันย่อมไม่สายเกินไป
แม้ว่าแต่เดิมนั้นตัวของหลินหมิงอาจคาดหวังเพียงแค่การทุบตี
คืนอีกฝ่ายเพียงครั้งสองครั้งสักคราเพียงแต่ว่าในยามนี้ตัวเขากลับ
ประสบวาสนายิ่งใหญ่ที่ผอู้ ื่นไม่เคยได้พบเจอมาก่อนทาให้ตนเอง
ได้รับพลัง และสามารถทีจ่ ะพัฒนาตนเองต่อไปได้ตราบใดที่ตัวเขา
ยังไม่ละซึ่งความพยายาม เมื่อเป็นเช่นนี้ความหวังจากการทุบตี
เพียงครั้งสองครั้งมีหรือจะเพียงพอกับโอกาศที่ราวฟ้าดินประทาน
ให้ หลินหมิงนั้นตระเตรียมของทุกอย่างภายในบ้านร้างของตน
อย่างรวดเร็วเพราะของดั้งเดิมที่ตวั เขามีนั้นมีเพียงเล็กน้อยมิอาจ
เทียบบรรดาผู้พี่หรือน้องร่วมสายเลือดได้เลยแม้แต่ส่วนเดียวซ้าข้าว
ของบางส่วนยังมิอาจสามารถใช้งานได้ หรืออาจอยู่ในสภาพที่เก่า
ทรุดโทรมตัวเขานั้นก็มิได้นาไปแต่อย่างใด
ร่างของเด็กหนุ่มที่เคลื่อนที่ออกจากที่ตั้งตระกูลหลินนั้นใบหน้า
ของเขานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า พร้อมกับความมั่นใจ
ที่มากเกินกว่าเด็กวัยเดียวกันอยู่หลายส่วน หลินหมิงนั้นย่อมรู้ดีว่า
แม้ตัวเขาจะออกมาจากตระกูลหลินแห่งนี้แล้ว แต่ภายนอกนั้นย่อม
มิแตกต่างจากภายในตระกูลของเขาสักเท่าไหร่เพราะผู้คนนั้นย่อม
เคารพนับถือแต่เพียงผู้ที่มีอานาจและพลังกาลังเพียงเท่านั้น หาก
ผู้ใดแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นเพียงสักครานั้นย่อมเกิดความ
เสียหายแก่ชีวิตต่อคนผู้นั้นมิใช่น้อย เพราะผู้คนทั้งหลายพร้อมที่จะ
เหยียบย้าซ้าเติมเพื่อให้ตนเองได้ก้าวสูงขึ้นแม้เพียงสักครึ่งขั้นก็
ตามแต่
หลินหมิงที่ออกมาจากตระกูลแล้วนั้นไม่ได้ตรงไปยังภายในตัว
เมืองที่มีสานักเปิดรับฝึกสอนชาวยุทธ์แต่อย่างใดแต่กลับมุง่ หน้า
ออกไปทางด้านประตูเมืองและไปยังป่าภายนอกเมืองในยามดึก
เพราะตัวของหลินหมิงนัน้ รู้ดีว่าแม้ตัวเขาในยามนี้จะเรียกได้ว่าไม่
อ่อนแอ่ อาจอยู่ในระดับกลางๆเหลือบไปสูงเล็กน้อยหากเทียบกับ
คนในวัยเดียวกัน แต่หากสานักที่เปิดสอนเหล่านั้นย่อมล้วนเต็มไป
ด้วยยอดฝีมือจานวนมาก ซ้ายังมีบุตรของผู้ที่เรืองอานาจในเมืองอยู่
ไม่ใช่น้อย หากประสบโชคร้ายตัวเขาอาจพบเจอกับเหล่าญาติพี่
น้องในตระกูลก่อนวันเวลาที่ตัวเขาจะได้ตระเตรียมพร้อมนั้นย่อม
ไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่

ตอนที่ 4
เป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่หลินหมิงหลบหนีออกจาก
มาจากตระกูลหลินมาอาศัยอยู่ที่บริเวณชายป่าไม่ห่างไกลจากตัว
เมืองมากเท่าใดนัก ทีห่ ลินหมิงมาอาศัยในป่าแห่งนี้ก็เพราะว่าตัวเขา
นั้นจะได้ฝึกฝนในการเอาชีวิตรอดจากสัตว์อสูรที่อยู่ภายในป่าแห่งนี้
และเนื่องจากว่าตัวเขานั้นไม่ได้เข้าไปส่วนลึกภายในป่าดังนั้นแล้ว
โอกาสที่หลินหมิงจะต้องรับมือกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งก็นับได้ว่ามี
เพียงน้อยนิด
แต่แม้ว่าหลินหมิงจะใช้เวลากว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาในการเอาชีวิต
รอดจากสัตว์ที่มีระดับแตกต่างจากเขาไม่มากเท่าใดนักบางส่วน เขา
กลับพบว่าพลังปราณในร่างกายของเขานั้นกลับไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาขึ้นเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าตัวเขานั้นย่อม
รู้ดีว่าการฝึกฝนตนของชาวยุทธ์นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ย่อมต้อง
สมควรมีความก้าวหน้าบ้างเป็นอย่างน้อยถึงแม้จะไม่ได้มีการก้าว
ข้ามขอบเขตก็ตามที่
ในการเอาชีวิตรอดในป่าแห่งนี้นั้นมันทาให้หลินหมิงได้รับรู้ถึง
ความอ่อนแอ่ของตนเองอย่างเด่นชัด เพราะว่าแม้ตัวเขาในยามนี้
จะต้องพบเจอกับสัตว์อสูรที่มีระดับพลังปราณขั้นเริ่มต้นขั้นที่สี่ใน
ระดับเดียวกันกับเขา ตัวของหลินหมิงในตอนนี้ยังไม่มีความมั่นใจ
ว่าจะชนะมันได้เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่รับมือและเอาชีวิตรอดจาก
สัตว์อสูรประเภทนี้ก็นับได้ว่าเต็มกลืนแล้วสาหรับหลินหมิงในตอนนี้
และหากเมื่อใดที่เขาจะต้องพบเจอกับสัตว์อสูรที่มพี ลังมากการ
ตัวเขาพลังเปลวเพลิงสีดาในต้นเถียนของเขาจะตอบสนองต่อสิ่งที่
เป็นอันตรายต่อตัวเขาในทันที ทาให้ตัวของหลินหมิงนั้นสามารถ
หลบหนีจากการปะทะของสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าได้ แต่ถึงอย่าง
นั้นเขาก็จะต้องรับมืออย่างยากลาบากกับสัตว์อสูรที่มีพลังปราณ
ระดับเดียวกันกับเขาอยู่ดเี พราะดูเหมือนว่าหากเป็นสัตว์อสูรเหล่านี้
เปลวเพลิงสีดานั้นจะไม่มกี ารตอบสนองแต่อย่างใด
‘ บัดซบเจ้าเปลวเพลิงสีดามันกลับมีเงื่อนไขที่แปลกประหลาด
เช่นนี้ด้วย ‘
ในวันนี้นั้นหลังจากที่หลินหมิงทาการบ่มเพาะพลังราวนับ
สัปดาห์แล้วเขาก็พบว่าตัวเขาไม่ได้มีการพัฒนาใดๆเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าเขาจะสามารถสังหารสัตว์อสูรขั้นเริ่มต้นระดับสามไปได้ก็
ตามที่ ตัวเขาจึงได้ตัดสินใจทาสมาธิเพื่อเข้าไปตรวจสอบยังภายใน
ต้นเถียนของเขาอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เขาได้พลังมานั้นตัวเขาไม่มี
ความคิดเลยแม้แต่น้อยที่จะทาสมาธิเพื่อเข้าไปสารวจภายในจิตใจ
ของตนเองอีกครั้ง จากบทเรียนในคราวที่เปลวเพลิงทมิฬได้มอบแก่
เขาในคราวนั้นยังคงฝั่งใจเขาเป็นอย่างมาก
แต่ในตอนนี้นั้นตัวของหลินหมิงไม่มที างเลือกแต่อย่างใด
เพราะว่าเขาไม่สามารถบ่มเพาะพัฒนาตนเองได้เลยในช่วงสัปดาห์
ที่ผ่านมา และเมื่อเขาเข้ามาสารวจภายในจิตใจของตนเองอีกครั้งก็
ต้องพบกับความแปลกประหลาดที่เปลวเพลิงทมิฬได้มอบไว้ให้แก่
ตัวของเขาเอง เปลวเพลิงทมิฬราวกับตอบรับการกลับมาของหลินห
มิงแม้ว่าตัวมันจะอาศัยอยู่ภายในก็ตามที่
แต่เมื่อมันเห็นหลินหมิงปรากฎขึ้นดวงไฟของเปลวเพลิงทมิฬก็
ลุกโชติชวงคลุมร่างของหลินหมิงเอาไว้แต่ว่ามันไม่ได้ให้ความรู้สึก
ทรมานดังคราวที่แล้ว และมันไม่ได้เพิ่มพลังฝึกตนของเขาแต่อย่าง
ใดด้วยแต่หลินหมิงกับพบว่าสมองของเขากาลังได้รับข้อมูล
บางอย่างที่ตัวเขาเองนั้นไม่เคยได้รับรู้มาก่อนซึ่งมันย่อมต้องเกิดจาก
เปลวเพลิงทมิฬนี้อย่างแน่นอน
อย่างแรกที่เขาพบนั้นก็คือทักษะต่อสู้ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
มากที่สุดในยามนี้ชื่อทักษะของมันก็คือ ทักษะเพลิงทมิฬ ตัวของ
หลินหมิงนั้นแม้ว่าจะไม่มพี ลังในอดีตแต่เขาก็พอรู้ชื่อทักษะบ้าง
เล็กน้อยจากบรรดาเหล่าญาติพี่น้องของเขาที่ชอบโอ้อวด แข่งขัน
ตนต่อบิดาของพวกเขา แต่หลินหมิงไม่เคยได้หลินชื่อทักษะเปลว
เพลิงทมิฬนี้มาก่อน ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นทักษะที่ใช้
ร่วมกันกับเปลวเพลิงภายในต้นเถียนของเขาอย่างแน่นอน
ตัวทักษะเปลวเพลิงทมิฬนี้กล่าวถึงควบคุมพลังปราณธาตุยิน
พร้อมกับเปลวเพลิงทมิฬภายในร่างกายของผู้ใช้ควบคู่ไปกับโจมตี
กล่าวคือหลินหมิงในตอนนี้สามารถใช้เปลวเพลิงทมิฬนี้ในการเพิ่ม
พลังโจมตีของเขาขึ้นได้อย่างมหาศาลแต่มันก็ยังขึน้ อยู่กับความ
แข็งแกร่งของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน
หลินหมิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ในตอนนี้เขาก็ได้มีทักษะเป็น
ของตนแถมมันย่อมสมควรเป็นทักษะเฉพาะติดตัวของเขาที่คนอื่น
ไม่มี หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องเป็นคนที่มีเปลวเพลิงทมิฬในต้นเถียนเช่น
เขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพลังของทักษะนี้จะอยู่ในระดับใดแต่ว่ามันไม่
สมควรอ่อนด้อยแต่อย่างใด เพราะอย่าลืมว่าเปลวเพลิงทมิฬนี้ได้
สร้างปฎิหารย์ในการฟื้นฟูให้หลินหมิงกลับมาใช้พลังปราณได้อีก
ครั้งพร้อมกับมอบพลังปราณให้อย่างก้าวกระโดดจนอยู่ในระดับ
เริ่มต้นขั้นที่ 4
แต่เมื่อเขาค้นพบข้อมูลส่วนต่อมามันก็ทาให้หลินหมิงอดที่จะ
รู้สึกขมวดคิ้วเขาหากันอย่างรุนแรงพร้อมกับความกังวลเป็นอย่าง
มากที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา เพราะว่าตามข้อมูลที่หลินหมิงได้
รับมานั้นตัวเขาจะไม่สามารถทาการพัฒนาตนเองได้ดังเช่นผู้อื่น
หากแต่ตัวเขาจะต้องพึ่งพาอาศัยสตรี ! แถมตัวของหลินหมิงยัง
ต้องกระทาการร่วมรักกับเหล่าสตรีเพื่อทาให้ตัวของเขานั้น
พัฒนาขึ้นไปได้
หากเป็นเหล่าคุณชายหรือบรรดาญาติพี่น้องของเขาหากได้เรื่อง
เหล่านี้พวกเขาเหล่านั้นต่างย่อมต้องอยากได้เงื่อนไขนี้ของหลินหมิง
จนน้าลายแทบจะไหลออกมาจนหมดปาก เหตุเพราะว่าตัวพวกเขา
ที่มีสถานะร่ารวยการหาหญิงสาวมาบ่าเร่อทุกชั่ววันนั้นมิใช่เรื่อง
ยากเย็นแต่อย่างใดอาจลาบากเพียงแค่การร่วมรักกับพวกนางเพียง
เท่านั้น
แต่สาหรับหลินหมิงนั้นมันไม่ใช่เขาไม่ได้มีสถานะสูงส่งเช่นนั้น
ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นคุณชายตระกูลหลินแต่ตัวเขาภายนอกนั้นนับ
แทบที่จะไม่มีใครล่วงรู้ถึงตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย ซ้าสถานะ
ภายในก็ยังนับได้ว่าเท่าเทียมกับบ่าวไพร่ซ้าร้ายอาจแย่กว่าเสียด้วย
ซ้าไป
หลินหมิงออกมาจากสมาธิด้วยอาการท้อแท้หากให้เขาเพียร
พยายามพัฒนาตนดั่งเช่นผู้อื่นตัวหลินหมิงนั้นมั่นใจอยู่หลายส่วนว่า
ตัวของเขานั้นย่อมไม่ได้เลวร้ายด้วยความเพียรของตน แต่กลับ
เงื่อนไขเช่นนี้มันก็อดไม่ได้ที่จะทาให้หลินหมิงหนักใจ
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้มันก็ยากเกินกว่าที่จะทาให้ตวั ของหลินห
มิงที่ประสบพบเจอกับความยากลาบากมามากมายต้องยอมแพ้
หากเป็นเช่นนี้ตัวมันขอเพียงแค่ว่าสามารถหาเงินจานวนหนึ่งเพื่อ
นาไปใช้ในการเข้าหอนางโลมก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ลาพังเศษ
ชิ้นส่วนจากการล่าสัตว์อสูรของหลินหมิงในตอนนีก้ ็น่าจะเพียงพอ
ให้ตัวเขาสามารถพบเจอกับประสบการณ์ผู้ใหญ่ได้แล้ว
แต่มันยังมีความเสี่ยงที่ว่าหอนางโลมนั้นเป็นสถานที่ที่ผู้คน
มากมายต่างเข้า-ออกกันไม่เว้นหน้า นั้นรวมไปถึงบรรดาญาติพี่น้อง
ของเขาด้วยเช่นกันหากต้องประสบพบเจอพวกมันเข้าแล้วละก็มันก็
คงจะยังไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนักในตอนนี้
ในขณะที่ตัวของหลินหมิงกาลังนั่งขบคิดเรื่องราวต่างๆอยู่นั้น
ทันใดนั้นหูของเขาก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ไม่ไกล
จากเขามากเท่าใดนัก หลินหมิงรีบหันควับไปด้วยความตื่นตระหนก
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหากพลั้งเผลอในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรแห่ง
นี้นั้นหากผิดพลาดเพียงชั่ววินาทีนั้นย่อมหมายถึงภัยร้ายถึงชีวิตได้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานัน้ ตัวเขาเฝ้าระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ราวกับว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินป่าแห่งนี้ หนึ่งเพราะว่านี้
เป็นการล่าสัตว์อสูรพร้อมกับฝึกตนของเขาเพียงลาพังนั้นย่อมเป็น
เรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องคอยดูแลความปลอดภัยของตนเอง
ตลอดเวลา
แต่มันกลับเรื่องที่ไม่คาดคิดเมื่อเขาเผลอตัวคิดเรื่องราวการ
ฝึกฝนของตนเพียงเล็กน้อยกลับมีเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาถึงตัวเขา
เสียแล้ว
เมื่อเขาหันมามองทางเสียงฝีเท้าที่เขาได้ยิน ภาพตรงหน้ามันทา
ให้เขาตกใจเป็นอย่างมากมันไม่ใช่เพราะว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา
คือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง แต่มันคือภาพของหญิงสาวผู้งดงามราวกับ
เทพธิดาที่ถูกประทานลงมาจากสรวงสวรรค์ แม้คากล่าวนี้ตัวของ
หลินหมิงนั้นคิดว่ามันอาจจะเกินกว่าที่เขาคิดไปอยู่บ้างเพราะ
เนือ่ งจากที่ตั้งแต่เล็กนั้นเขาต้องอาศัยอยู่ที่ตระกูลหลินเรื่อยมา
จนเรียกได้ว่าไม่ได้ออกจากตระกูลมานานหลายปีนนั้ จึงเป็นเหตุ
ให้เขาไม่ค่อยพบเจอผู้คนมากเท่าใดนัก แต่ก็พอรู้เรื่องราวต่างๆ
ภายในเมืองจากการพูดคุยกันของบรรดาญาติพี่น้องหรือกระทั่งคน
รับใช้
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็มีความมั่นใจอยู่หลายส่วนว่าหญิงสาว
ที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ตัวตนของนางล้วนย่อมต้องไม่ธรรมดา
อย่างแน่นอน อ่อร่าบรรยากาศที่แผ่ออกมารอบตัวนางนั้นแค่เพียง
หลินหมิงที่อยู่ใกล้กว่าสิบเมตรก็สามารถทาให้เขาขนลุกขึ้นมาได้
ในทันที
หญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ดูจากภายนอกแล้วนางสมควรมีอายุ
มากกว่าหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อย อาจราวสัก 5-6 ปี นั้นย่อม
หมายความว่านางนั้นสมควรมีอายุราว 20 ต้นๆเท่านั้นแต่ตัวนาง
กลับมีบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ หญิงสาวผู้งดงามนั้นดู
เหมือนว่าจะรู้อยู่แล้วว่าตรงหน้านางนั้นมีคนอยู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะ
เลิกคิ้วด้วยความตกใจเล็กน้อย
เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้นถึงแม้ว่าในป่าชั้นนอกแห่งนี้สัตว์
อสูรไม่อาจถือได้ว่าแข็งแกร่งแต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีคนรุ่นเยาว์คนใด
ที่เข้ามาภายในที่แห่งนี้เพียงลาพังอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงเหล่า
อัจฉริยะของบรรดาตระกูลต่างๆพวกเขาเหล่านั้นล้วนถูกอบรบอยู่
ภายในตระกูลอย่างเข้มงวด ไม่มีทางออกมาเพียงลาพังอย่าง
แน่นอน
“ เด็กน้อยเจ้ามาทาสิ่งใดในที่แห่งนี้กัน ไม่รู้รึว่าสถานที่แห่งนี้
เป็นที่ใดหากเจ้าต้องการเข้ามาเพื่อหาพืชพรรณผลไม้แล้วละก็ข้า
คาดว่าเจ้าคงมาผิดที่เสียแล้ว ”
น้าเสียงของหญิงสาวผู้งดงามเต็มไปด้วยความนุ่มนวล เพียง
ของเสียงของนางนั้นก็เพียงพอที่จะทาให้เหล่าชายหนุ่มแทบจะสยบ
อยู่ใต้เท้าของนาง ! ยิ่งไปกว่านั้นรอยยิ้มที่มมุ ปากของนางเมื่อ
กล่าวยังเพิ่มเสน่ห์ในตัวนางขึ้นไปอีกหลายขั้นพร้อมกับทาให้หัวใจ
ของหลินหมิงถึงกับสั่นไหว !
ชุดที่นางใส่อยู่เป็นชุดรัดรูปสีขาวยาวลงมาถึงบริเวณขาซึ่ง
ครอบคลุมทุกส่วนบนร่างกายของนางแต่ถึงอย่างนัน้ มันกลับทาให้
กระชับเผยเรื่องราวอันแสนเย้ายวนออกมา แต่ที่หลินหมิงตกใจนั้น
ไม่เพียงแต่ความงามของนางเพียงเท่านั้น เรื่องที่น่าตกใจอีกอย่างก็
คือทางที่นางเพิ่งเดินจากออกมานั้นเห็นได้ชัดว่ามันเป็นเขตของป่า
ชั้นกลางซึ่งเหล่าสัตว์จะแข็งแกร่งกว่าบริเวณชั้นนอกอย่างเทียบไม่
ติด แต่ถึงอย่างนั้นเสื้อผ้าของนางกลับไม่มีร่องรอยเปื้อนเลยแม้แต่
น้อย
มันจึงอดที่จะทาให้หลินหมิงคิดไปไม่ได้ว่าแม่นางผูง้ ดงามคนนี้
คือเทพธิดาที่ลงมาเที่ยวชมผืนป่าหรืออย่างไรกัน
“ ขะ..ข้ามาที่นี้เพื่อทาการฝึกฝนตน ”
หลินหมิงไม่กล้าตอบความเท็จแก่นางแต่อย่างด้วยสายตาของ
นางที่จับจ้องมาที่เขาใตอนนี้มันราวกับว่านางสามารถอ่านความคิด
ของเขาได้ทุกอย่าง
“ ฮ่าๆ อาศัยเพียงพลังขั้นเริ่มต้นระดับ 4 ของเจ้านะรึ ข้าคิด
ว่าเจ้าประเมิณตนเองสูงไปแล้ว แม้ว่าสัตว์อสูรในทีน่ ี้จะอ่อนแอ แต่
มันก็เพียงพอที่จะสามารถเอาชีวิตของเจ้าได้อย่างง่ายดาย ”
เมื่อถึงตรงนี้หลินหมิงสัมผัสได้ถึงน้าเสียงของนางที่ราวกับจะยิ้ม
เยาะในความไม่ประมาณตนของเขาหลินหมิงจึงไม่คิดจะพูดกล่าว
อันใดกับนางอีก
“ พี่สาว ข้าเกรงว่าเรื่องนี้นั้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านแต่อย่าง
ใด ข้าขอให้ท่านเดินทางโดยปลอดภัย ”
หญิงสาวผู้งดงามถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นางเพียงเอย
ปากพูดด้วยความหวังดีแม้นางจะรู้ดีว่าคากล่าวของนางที่พูด
ออกไปนั้นจะดูเหยียดหยามเด็กหนุ่มผู้นี้อยู่บ้างแต่อย่างไรก็ตามเด็ก
หนุ่มผู้นี้ไม่เห็นค่าชีวิตของมันแล้วอย่างนั้นรึ ?
“ โฮ่ ในเมื่อเจ้ามีความมั่นใจขนาดนั้นข้าเองก็อยากดูหน่อยสิ
ว่าเจ้าจะทาอะไรได้บ้าง ”

ตอนที่ 5
เมื่อได้ยินคากล่าวของหญิงสาวผู้งดงามหลินหมิงก็พอสัมผัส
ความรู้สึกโกรธเกรี้ยวเล็กๆในคาพูดของนางเพียงแต่ว่าทันทีที่นาง
กล่าวจบนั้น บรรยากาศโดยรอบตัวของนางกลับเปลี่ยนไปโดย
สิ้นเชิงแม้ว่าในตอนแรกนั้นหลินหมิงจะคิดว่าบรรยากาศรอบตัวของ
นางนั้นยามที่เดินมาหาเขานั้นก็นับว่าเป็นอะไรที่น่าหวาดหวันยิ่ง
แล้ว แต่กลับในตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถนามาเปรียบเทียบกัน
ได้เลยแม้แต่น้อย
“ พะ..พี่สาว ท่านคิดจะ...ทาอะไร ”
หลินหมิงกล่าวถามด้วยความยากลาบากแต่เขาไม่มีความคิดที่
จะหนีนางในตอนนี้แม้แต่น้อย เพราะถึงแม้เขาจะออกตัวหนี
ในตอนนี้มันก็เป็นไปไม่ได้เลยสาหรับเขาที่จะหนีจากหญิงสาวผู้
งดงามตรงหน้านี้ไปได้
“ ข้าเพียงแค่อยากจะขอชมว่าเจ้ามีความสามารถดั่งที่เจ้า
กล่าวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ก็เท่านั้น ไม่ต้องเป็นห่วงหากเจ้ามี
ความสามารถมากพอข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะปลอดภัยและข้ายินดี
มอบของขวัญเล็กๆน้อยๆให้เพื่อเป็นค่าเสียเวลาในการฝึกของเจ้า
แต่ถ้าเกิดความสามารถของเจ้านั้นผิดดั่งที่กล่าวมาจนทาให้ข้าต้อง
ผิดหวังแล้วละก็เจ้าก็เพียงแค่ต้องระวังอาการเจ็บตัวที่จะเกิดขึ้น
เพียงเท่านั้น
หากในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่เจ้ามีความสามารถเป็นเพียงผู้ที่
อ่อนแอ ไร้ซึ่งความสามารถเช่นนั้นแล้วข้าขอบอกเลยว่าชีวิตของ
เจ้านั้นอาจต้องจบลงวันนี้เพียงเท่านั้น ”
‘ บัดซบ ’
ตัวของหลินหมิงนั้นเพิ่งออกจากตระกูลได้ไม่นานและไม่ค่อยได้
ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมภายนอกมากเท่าไหร่นัก มันจึงทาให้เขาลืมคิดไป
ว่า ความหยิ่งทะนงของบรรดาผู้ที่แข็งแกร่งนั้นย่อมมิยอมให้ใครมา
กล่าวหรือพูดจาล้อเลียนได้โดยง่าย และหากตัวมันจะเรียกร้อง
ความเป็นธรรมจากในป่าแห่งนี้ก็ย่อมไม่มที าง ไม่แน่ว่าบางทีหาก
สถานกาณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในเมืองตัวของเขาก็อาจมีชะตากรรมที่ไม่
ต่างกัน
ดูจากลักษณะของนางและพลังของนางแล้วนั้นสมควรเรียกได้
ว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในระดับที่เขาไม่สามารถหยั่งได้ ดังนั้นสถานะของ
นางภายในเมืองย่อมต้องสูงส่งอยู่ไม่ใช่กระทั่งนางอาจเป็นถึงศิษย์
อันดับหนึ่งของสานักใหญ่ใดสานักหนึ่งหรือกระทัง่ ลูกหลานของ
ตระกูลใหญ่ ไม่ว่าจะทางใดนับเป็นเรื่องเลวร้ายทั้งสิ้นสาหรับหลินห
มิงในตอนนี้
“ ไม่ต้องห่วงข้าไม่คิดจะลงมือกับเจ้าก่อนแต่อย่างใด ข้าจะให้
เจ้าได้โชวความสามารถอย่างเต็มที่แต่เมื่อใดที่ข้าคิดเห็นว่า
ความสามารถของเจ้ามันช่างต่าต้อยจนทาให้ข้ารู้สึกเบื่อแล้วละก็
เมื่อนั้นคือเวลาที่เจ้าจะต้องเตรียมรับมือกับข้าอย่างจริงจัง ”
หลินหมิงถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความตรึงเครียด แค่
บรรยากาศโดยรอบนี้ที่แผ่ออกมาจากตัวนางนั้นก็ทาให้เขาหายใจ
และเคลื่อนไหวได้อย่างยากลาบากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นโอกาศรอด
ชีวิตของเขาในตอนนี้มีเพียงแค่ต้องสู้เท่านั้น หลินหมิงฉายแววตา
มุ่งมั่นขึ้นมาในทันทีที่เขาตัดสินใจได้
หลินหมิงกัดฟันพุ่งเข้าหาหญิงสาวผู้งดงามในทันที กาปั้นขวา
ของเขาถูกง้างออกไปพร้อมกับเกร็งพลังปราณไว้ที่หมัดนี้ของเขา
หลินหมิงเชื่อว่าหญิงสาวผู้งดงามนางนี้คงดูถกู เขาอยู่ในใจอยู่ไม่ใช่
น้อย ซึ่งมันเป็นธรรมดาของบรรดาเหล่าอัจฉริยะที่มักจะไม่เห็นค่า
ของตัวตนที่ต่ากว่าพวกเขาและนั้นคือจุดอ่อนอย่างหนึ่งซึง่ นาพา
ไปสู่ความประมาณของพวกเขาเหล่านั้น
หมัดของหลินหมิงที่ถกู ล่อหลอมไปด้วยพลังปราณของเต็มที่ของ
เขานั้นถูกชกออกไปแบบเต็มเหนี่ยว แต่ตวั เขายังไม่ได้ใช้ซึ่งทักษะที่
ได้มาจากเปลวเพลิงทมิฬแต่อย่างใดเพราะเขาอยากเก็บมันเอาไว้
เป็นความลับ และจะใช้มันในยามจาเป็นหรือยามที่เขาสามารถ
ปกป้องดูแลตนเองได้แล้วเท่านั้น
เสียงหมัดของหลินหมิงทีก่ ระแทกเข้าใส่เป้าหมายอย่างจัง แต่
แล้วตัวเขาก็ต้องตื่นตระหนกครั้งใหญ่เพราะว่าหมัดของเขานั้นไม่
เพียงไม่สามารถสร้างบาดแผลให้แก่หญิงสาวผู้งดงามนางนี้ได้
เท่านั้น แต่หมัดของเขายังไปไม่ถึงตัวนางเสียเลยด้วยซ้าไป !
“ กาแพงปราณ ! ”
“ โฮ่ ดูเหมือนเจ้าจะมีความรู้อยู่บ้าง แต่นั้นไม่ทาให้ข้าพอใจ
ขึ้นมาหรอกนะ แล้วอีกอย่างเจ้าคิดว่าหมัดเปล่าๆของเจ้าที่ไร้ซึ่ง
ทักษะใดๆจะสามารถโจมตีข้าได้ ? นี้เจ้ากาลังดูถูกข้าอยู่รึไงหรือ
เจ้าจะบอกว่าการโจมตีเมื่อสักครู่นี้คือเต็มที่ของเจ้าแล้วอย่างนั้นรึ
ฮ่าๆ ”
สิ่งที่หมัดของหลินหมิงกระทบนั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่ากาแพงปราณ
ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ที่จะสามารถใช้กาแพงปราณได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่
อยู่ในขอบเขตของระดับจอมยุทธ์ขึ้นไปเท่านั้น ! ซึง่ นี้เป็นเพียง
ระดับขั้นต่าของนางเพียงเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วการที่ผู้คนจะ
สามารถรับมือกับผู้ที่มีระดับการฝึกตนที่มากกว่านัน้ นับเป็นเรื่องที่
ยากมาก อาจต้องพึ่งพาทักษะ ประสบการณ์เพื่อทดแทนในส่วน
ของระดับพลังแต่การที่จะให้รับมือกับผู้ที่มีพลังมากกว่าถึง 2 ชั้น
นั้นนับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย !
หญิงสาวผู้งดงามนางนั้นคิดว่าหลินหมิงนั้นเป็นเพียงลูกหลาน
ของสามัญชนธรรมดาหากนางคิดฆ่าแกงอย่างไรก็ไม่เสียหาย แถม
ด้วยสถานะอันสูงส่งของนางภายในเมืองนั้นนับได้ว่าเป็นรองคน
เพียงหยิบมือเดียวแล้วนางจะต้องมีอะไรที่จะต้องหวั่นเกรง
จริงอยู่ว่าในตอนนี้นั้นหลินหมิงนั้นไม่ได้มีทักษะต่อสู้ใดๆเลย
นอกจาก ทักษะเปลวเพลิงทมิฬ แต่ด้วยพื้นฐานของเขาแล้ว
หลังจากที่ได้รับการกระตุน้ จากเปลวเพลิงทมิฬมันทาให้ร่างกายของ
เขานั้นเหนือกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปคนอื่นอยู่หลายขุม นั้นจึงเป็นเหตุให้
เขาสามารถเอาชีวิตรอดในป่าแห่งนี้ได้แม้จะต้องเจอสัตว์อสูรที่มี
ระดับพลังเท่ากันกับเขา
‘ ไม่มที างเลือก ’
แม้ว่ามันจะดูเร็วไปนักสาหรับหลินหมิงที่จะตัดสินใจทักษะเพียง
อย่างเดียวที่เขามีอยู่นั้นก็คือทักษะเพลิงทมิฬ ที่เพิ่งได้รับมาไม่นาน
นี้ แต่หากตัวเขานั้นรู้ดีว่าหมัดที่เขาปล่อยออกไปก่อนหน้านี้นั้นเป็น
หมัดทีด่ ีที่สุดของเขาแล้ว และยังเป็นช่วงเวลาที่ดที ี่สุดด้วยเช่นกัน
พร้อมกับที่หากเขาปล่อยเวลาไปมากกว่านี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก
เพราะที่ยืนอยู่ได้ในตอนนี้ก็นับได้ว่าลาบากเหลือทนแล้ว
หญิงสาวผู้งดงามด้วยการที่นางมีประสบการณ์ในการต่อสู้มา
มากมายเมื่อเห็นนัยตาของหลินหมิงที่ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถ
ตัดสินใจอะไรบ้างอย่างอย่างแน่วแน่ได้ก็พลันนึกนับถือในตัวเด็ก
หนุ่มผู้นี้อยู่ไม่ใช่น้อย เพียงแต่ว่ามันคนละเรื่องกันกับการที่เด็กผู้นี้
พูดจาไม่แยแสกับนางก่อนหน้านี้
พลันทันใดนั้นร่างของหลินปรากฎคลื่นพลังปราณที่เต็มไปด้วย
ความร้อนแผ่ออกมาจากร่างของเขาราวกับว่ามันเป็นพลังปราณที่
จะสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่งอย่าง
‘ ความร้อน ? ‘
หญิงสาวผู้งดงามในตอนนี้ถึงกับตาเบิกกว้างอย่างสุดขีด ไม่ใช่
ว่านางไม่สามารถทนรับมือกับความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวของ
หลินหมิงได้ เพียงแต่ว่าภาพตรงหน้าของนางในตอนนี้ก็คือร่างของ
หลินหมิงที่กาลังพุ่งเข้าโจมตีใส่นางอีกครั้ง ด้วยกาปั้นข้างขวาข้าง
เดิมแต่ที่เปลี่ยนไปก็คือกาปั้นข้างนี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิงสีดาอัน
หน้ากลัวปกคลุมอยู่ มันมืดหมนครอบคลุมไปทั่วทั้งมือของหลินหมิง
จนไม่สามารถมองเห็นมือของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
นางที่เป็นผู้ฝึกตนทีม่ ากประสบการณ์ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้
เห็น หรือได้ยินเรื่องราวอันใดที่บอกว่ามีทกั ษะที่สามารถปลดปล่อย
เปลวเพลิงสีดาเช่นนี้ได้มนั จึงทาให้นางแปลกประหลาดใจเป็นอย่าง
มากที่ลูกหลานชาวบ้านธรรมดาเช่นนี้จะสามารถมีทักษะที่แปลก
ประหลาดเช่นนี้ได้
ปัง !!
เสียงหมัดกระทบกับกาแพงปราณดังสนันยิ่งกว่าครั้งแรกหลาย
เท่า เพียงแต่ว่ามันก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะสามารถทาลายกาแพง
ปราณของผู้ที่มีระดับถึงจอมยุทธ์ลงได้อย่างง่ายๆ
“ นี้เจ้า..... ”
ไม่ทันทีห่ ญิงสาวผู้งดงามจะได้กล่าวอะไรหลังจากที่นางตกละลึง
อยู่พักใหญ่ แม้ว่ากาแพงปราณของนางจะไม่ถูกทาลายแต่นางรู้ดีถึง
อนุภาพของหมัดสีดานี้ของเด็กหนุ่มผู้นมี้ ันสมควรมีพลังไม่น้อยไป
กว่าผู้ที่มีระดับพลังขั้นเริ่มต้นระดับสูง หรืออาจถึงขั้นระดับก่อเกิด
ขั้นต้นเลยเสียด้วยซ้าไป !
“ ย๊ากก ! ”
หลินหมิงไม่ในตอนนี้ไม่คิดอะไรมากมายในตอนนี้หากหนึ่งหมัด
ของเขาไม่สามารถทาลายกาแพงปราณของนางได้ แต่นั้นไม่ได้
หมายความว่าสิบหมัดหรือร้อยหมัดของเขาจะไร้ผล เปลวเพลิงสี
ดาปรากฎขึ้นมาในกามือข้างซ้ายของหลินหมิงเช่นเดียวกันกับอีก
ข้างพร้อมกับที่หลินหมิงระดมกาปั้นต่อยไปที่กาแพงปราณของนาง
อย่างต่อเหนื่อง
ปัง ! ปัง ! ปัง !
ผ่านไปชั่วครู่หญิงสาวผู้งดงามราวกับว่านางเพิ่งหายจากอาการ
ตื่นตะลึงเห็นได้ชัดว่าเจ้าหนุ่มนี้หวังใช้จังหวะที่นางตกใจ เข้าโจมตี
นางในทันทีหากเป็นผู้ที่มพี ลังใกล้เคียงกันกับนางแล้วละก็คงไม่พ้น
อาการบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว นางรีบระเบิดพลังปราณผลักร่างของ
หลินหมิงให้กระเด็นกลับไปในทันที
อั่กกก
หลินหมิงที่กาลังจู่โจมอยูน่ ั้นไม่คิดว่านางจะสามารถตั้งสมาธิได้
อย่างรวดเร็วเช่นนี้ นั้นแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์การต่อสู้ที่
มากกว่าตัวเขาอยู่หลายขั้นเลยทีเดียว
“ แฮ่ก ๆ ๆ ”
หลังจากที่หลินหมิงรั่วหมัดไปนับสิบหมัด มันทาให้เขารับรู้เลย
ในทันทีว่า ทักษะเพลิงทมิฬนี้มันกินพลังปราณของเขาไปมากเสีย
เหลือเกิน เปลวเพลิงสีดาในมือทั้งสองข้างของเขาค่อยๆลดขนาดลง
เรื่อยๆจนค่อยๆเผยให้เห็นกาปั้นทั้งสองข้างของเขา หลินหมิงมอง
ไปยังหญิงสาวผู้งดงามอย่างไม่วางตาเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าความต่าง
ชั้นของผู้ที่มีระดับการฝึกตนมากกว่า 2 ชั้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถ
หาอะไรมาเปรียบได้
ในขณะที่หลินหมิงกาลังนึกเศร้าใจที่ชะตากรรมของเขาช่างเล่น
ตลกกับตัวเขายิ่งนัก ในเมื่อในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสที่จะได้ไปแก้
แค้นเหล่าญาติพี่น้องและพวกคนที่ดูถูกเขาทั้งหลาย แต่กลับต้องมา
จบชีวิตลงในวันนี้โดยที่ยงั ไม่ทันได้ทาอะไรเลย ใบหน้าของหญิง
สาวผู้งดงามก็เปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ออกมาจาก
ปากของนาง
“ ฮ่าๆๆๆๆๆ ”
“ เด็กน้อยเจ้าช่างทาให้ข้าพอใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ”
แต่ถึงนางจะพูดอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคิดว่าชีวิตของเขานั้นยังไง
เสียก็อาจไม่พ้นความตายอยู่ดี
“ ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า......เจ้าจงมาเป็นศิษย์ของข้าหรือ
ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องได้รับโทษที่ล่วงเกินก่อนหน้านีแ้ น่นอนว่าที่หาก
เจ้ามาเป็นศิษย์ข้านั้นข้าพร้อมยินดีสนับสนุนเจ้าในทุกอย่าง.... ”
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวพร้อมกับมองหน้าของหลินหมิงที่
ในตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน ในตอนแรกนางจะฆ่าข้าอย่างเห็น
ได้ชัด แล้วตอนนี้จะรับข้าเป็นศิษย์ แต่ตัวนางอายุก็ไม่น่าจะห่างจาก
ข้ามากแล้วนางจะ....
“ เจ้าคงคิดว่าข้าอายุไม่ต่างจากเจ้าย่างงั้นสิ...เฮ้อ...ไม่เข้าใจ
จริงๆเจ้านี้อยู่อาศัยที่ใดมาถึงได้ไม่รู้จักข้ากันเช่นนั้นข้าจะเอยนาม
ของข้าที่เป็นอาจารย์ของเจ้าให้ได้รับรู้เอาไว้ ”
‘ บัดซบข้ารับนางเป็นอาจารย์แต่เมื่อใดกัน ’
“ ข้า จูหนิงเอ๋อ หัวหน้าสมาคมนักปรุงยา แห่งเมืองฟานชู ”
เมื่อได้ยินชื่อของนางหลินหมิงก็พลันนึกเรื่องราวทุกอย่างได้
ในทันที ตัวเขาที่ไม่ได้ออกจากตระกูลหลินนั้นย่อมรู้เพียงข่าวคราว
บ้านเมืองเล็กน้อย และรวมถึงบุคคลสาคัญต่างๆในเมืองแต่ไม่ได้
รับรู้ถึงใบหน้าของบุคคลเหล่านั้นแต่อย่างใด
แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อของนางนั้นมันทาให้หลินหมิงถึงกับตาเบิก
กว้างเพราะว่าสถานะของในเมืองนั้นย่อมเป็นอะไรที่สูงส่งจนแทบ
จะไม่มีใครกล้าล่วงแม้กระทั่งตระกูลหลินของเขาที่เป็นตระกูลใหญ่
ยังต้องให้ความเคารพ และ หญิงสาวนามจูหนิงเอ๋อผู้นี้ที่ดารง
ตาแหน่งหัวหน้าสมาคมนักปรุงยานั้น ไม่ใช่ว่านางเป็นอัจริยะรุ่น
เยาว์ แต่ในความเป็นจริงแล้วนางมีอายุราว 30 ปีเข้าไปแล้วแต่นาง
กลับมีใบหน้าทีง่ ดงามไม่ต่างจากสาววัยรุ่นเลยแม้แต่น้อย
และชื่อเสียงของนางในเมืองนั้นก็นับได้ว่าดีอยู่บ้างหากเทียบกับ
บรรดาขุมอานาจอื่นๆ หลินหมิงจึงมีความคิดเอนเอียงที่จะตอบ
รับคากล่าวของนาง ขืนมันกล่าวปฎิเสธไปนั้นอาจเป็นจุดจบของ
ชีวิตของมันอย่างแท้จริงก็เป็นได้เพียงแต่ว่าตัวเขาย่อมต้องแน่ใจ
ก่อนว่านางต้องการอะไรจากตัวเขากันแน่
“ ฮ่าๆ เจ้าไม่ต้องทาหน้าสงสัยหรอก ”
‘ บัดซบนี้นางอ่านใจข้าได้หรืออย่างไร ’
“ ที่ข้าเสนอให้เจ้ามาเป็นศิษย์ส่วนตัวเพียงคนเดียวของข้านั้นก็
เพราะว่าเจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าเห็นว่าสมควร ”
“ เพราะเปลวเพลิงสีดาของข้า ? ”
หลินหมิงกล่าวถามออกไปอย่างตรงไปตรงมาเพราะตัวเขาไม่ได้
แสดงอะไรที่น่าตื่นตะลึงให้นางดูเลยนอกจากทักษะเพลิงทมิฬ
“ ถูกต้อง ด้วยทักษะเปลวเพลิงที่เจ้ามีอยู่มันย่อมส่งเสริมให้เจ้า
สามารถเป็นนักปรุงยาอัจฉริยะเช่นข้าได้ไม่ยาก....หรือแม้หากเจ้า
ต้องการฝึกฝนบ่มเพาะพลังเจ้าก็ยังจาเป็นจะต้องใช้ ยาบ่มเพาะ
จานวนไม่น้อยหากเจ้าได้เป็นนักปรุงยานั้นหนทางในการบ่มเพาะ
ของเจ้าล้วนต้องเปิดกว้างออกในทันที..ยิง่ ไปกว่านั้นข้ายินดีที่จะสั่ง
สอนทักษะต่อสู้ให้เจ้าเมื่อข้าคิดว่าเจ้ามีความพร้อมแล้ว...เป็น
อย่างไรบ้างละ ”
หน้าตาของหญิงสาวผู้งดงามในตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เปลวเพลิงสีดาที่ปล่อยออกมาจากหมัดของหลินหมิงที่นางสัมผัสได้
นั้นมันมีความบริสุทธ์อย่างมาก และมันเต็มไปด้วยพลังงานซึ่งเป็น
คุณสมบัติที่เหมาะสมสาหรับนักปรุงยา หากจะบอกว่าคนที่จะ
สามารถเป็นนักปรุงยาได้นั้นจะต้องมี่พลังปราณธาตุไฟในร่าง นั้น
อาจนับได้ว่ามีหลายคนที่สามารถเป็นได้
เพียงแต่ว่าหากเปลวไฟในร่างของคนเหล่านั้นมีความบริสุทธ์ไม่
เพียงพอการที่จะเป็นนักปรุงยาได้นั้นย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เพราะว่ามันจะทาให้ ยา ที่พวกเขาทาขึ้นนั้นเสื่อมคุณภาพลงไป
อย่างมหาศาลนั้นจึงเป็นเหตุให้มีคนที่สามารถเป็นนักปรุงยาได้น้อย
มากแม้จะมีคนที่มีพลังปราณธาตุไฟในร่าง เทียบกับเปลวเพลิงของ
หลินหมิงแล้วนั้นความบริสุทธ์ของเปลวเพลิงนั้นเป็นอะไรที่นางไม่
เคยผมมาก่อนถึงขนาดทีว่ ่าเปลวเพลิงของนางยังมีความบริสุทธ์
น้อยกว่าของเด็กหนุ่มผู้นีเลยเสียด้วยซ้าไป

ตอนที่ 6
ในความเป็นจริงแล้วสาหรับหญิงสาวผู้งดงามผู้นี้นางไม่เคยรับ
ใครเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางมาก่อนเลยแม้แต่คนเดียวไม่ใช่ว่า
เพราะภายในเมืองฟานชูของเขานั้นไม่มีผู้ที่มีพรสวรรค์หรือมุ่งมั่นใน
ด้านนี้แต่อย่างใด กลับกันผู้ที่มีเปลวไฟบริสุทธ์อยู่ภายในเมืองนั้นก็
ใช่ว่าจะไม่มีแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะว่าบุคคลที่มุ่งมั่นในแนวทางการปรุงยานั้นล้วน
จะต้องมีทรัพย์สมบัติคอยส่งเสริมเพื่อพัฒนาทักษะเป็นที่แน่นอนว่า
การก้าวไปสู่ตาแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาเช่นเดียวกันกับนาง
นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งนั้นเป็นสิ่งที่นางย่อมรู้ดี ทรัพย์สมบัติที่นางได้ใช้
ไปกว่าจะมาถึงจุดนี้นั้นอาจนับได้ว่าใกล้เคียงกับกึ่งหนึ่งจานวน
ทรัพย์สมบัติของตระกูลใหญ่เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นจึงมีแต่บรรดาเหล่าชนชั้นสูงภายในเมืองที่มากไป
ด้วยทรัพย์สินเท่านั้นที่จะเพียงพอต่อการสนับสนุนเหล่าบุตรหลาน
ให้พัฒนาทักษะของตน แต่ถึงเป็นเช่นนั้นนางก็ไม่คิดจะสั่งสอนพวก
เขาเหล่านั้นแต่อย่างใดเพราะหากพวกเขาเหล่านั้นประสบ
ความสาเร็จแล้วก็อาจเปรียบเทียบได้ว่าการที่อาจารย์สอนศิษย์ที่
เป็นบัณฑิตอยู่แล้วนั้นการประสบความสาเร็จจึงเป็นเรื่องธรรมดา
แต่หากนางรับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ที่ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นเพียง
สามัญชนธรรมดาแต่เพียงแค่เปลวเพลิงสีดาของเขานั้นก็เพียง
พอที่จะทดแทนในส่วนของบรรดาบุตรหลานตระกูลใหญ่ได้อย่าง
เกินพอ อีกทั้งทักษะในการควบคุมเปลวเพลิงของเด็กหนุ่มผู้นกี้ ็จัด
ได้ว่ายอดเยี่ยมในวัยเพียงเท่านี้สาหรับในสายตาของนาง
เพราะว่าในตอนที่เด็กหนุ่มผู้นี้ทาการโจมตีใส่นางนั้น เขากระทา
การเพียงรีดเร้นลมปราณมาไว้ที่บริเวณกามือเท่านั้นซึ่งนั้นใช้เวลา
เพียงชั่วอึดใจเดียว ซึ่งนี้กเ็ ป็นอีกหนึ่งในทักษะที่จาเป็นของเหล่านัก
ปรุงยาด้วยเช่นกัน แถมพลังการต่อสู้ของทักษะเปลวเพลิงสีดาของ
เด็กหนุ่มผู้นกี้ ็นับได้ว่าร้ายกาจยิ่งอาจเป็นไปได้ว่ามันอาจเป็นหนึ่งใน
ทักษะโบราณที่สาบสูญและถูฏส่งทอดลงมาถึงเด็กหนุ่มผู้นี้
แต่หญิงสาวผู้งดงามไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นความสนใจของนางมี
เพียงการที่นางจะทายังไงให้เด็กหนุ่มผู้นี้พัฒนาทักษะปรุงยาอย่าง
ก้าวกระโดดโดยที่นางแทบจะลืมคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไปเสีย
แล้ว
“ ผู้อาวุโส ข้าต้องขออภัยที่เสียมารยาทต่อท่านก่อนหน้านี้แต่
ข้ายังไม่เข้าเหตุใดท่านจึงรับข้าเป็นศิษย์ ”
หลินหมิงเปลี่ยนคาพูดที่มตี ่อ จูหนิงเอ๋อในทันทีที่เขารู้ถึง
เบื้องหลังที่แท้จริงของนางหากเขาพลั้งปากทาให้นางอารมณ์เสีย
ขึ้นมาอีกนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องดีนัก สิง่ ที่เขาต้องตระหนักในตอนนี้ก็คือ
เหตุใดนางถึงรับเขาเข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางกัน แต่ดูเหมือนว่า
หลินหมิงจะไม่สามารถหาเหตุผลได้เสียแล้ว
“ เรื่องนั้นเจ้าไม่จาเป็นต้องรู้ รู้เพียงแต่ว่าข้านั้นสามารถพัฒนา
ตัวเจ้าไปได้มากกว่าที่เจ้าเป็นอยู่นี้อย่างมากและหากเจ้าไปกับข้า
เจ้าก็ไม่จาเป็นต้องกังวลเรื่องครอบครัวของงเจ้าข้ายินดีช่วยเหลือ
พวกเขาเหล่านั้นเช่นเดียวกัน ”
จูหนิงเอ๋อนั้นนางคิดว่าที่หลินหมิงมีอาการลังเลนัน้ อาจเป็น
เพราะว่าตัวมันนั้นอาจเป็นห่วงครอบครัวสามัญชนของเขา
“ ผู้อาวุโส ข้าฮั่วหมิง เป็นเพียงเด็กกาพร้าปราศจากบิดา
มารดาอาศัยชีวิตเพียงลาพังนับว่าเป็นบุญของข้าที่ได้ผู้อาวุโสรับ
เป็นศิษย์ ”
หลินหมิงกล่าวโป้ปดชื่อของเขาแก่นางไปหากเขาแสดงตัวว่า
เป็นคุณชายหลินจากตระกูลหลินนั้นเรื่องราวคงจะยุ่งยากมากขึ้น
กว่าเดิมเป็นแน่ จูหนิงเอ๋อเมื่อได้ยินคากล่าวและท่าทีที่เปลี่ยนไป
ของหลินหมิงก็ยิ้มอย่าพอใจ
“ จากนี้ไปเจ้าต้องเรียกหาข้าว่า อาจารย์ ”
“ ขอรับท่านอาจารย์ ”
“ เอาล่ะทีนี้เจ้าก็ตามข้ามาดูเนื้อตัวของเจ้าสิช่างสกปรกยิ่งนัก
ข้าคงไม่สามารถทาการสอนสั่งเจ้าได้ในสภาพเช่นนี้เพราะมันช่าง
บรรทอนใจข้ายิ่งนัก ”
จูหนิงเอ๋อกล่าวร่ายไม่หยุดพร้อมกับเดินนาหลินหมิงเข้ากลับสู่
ตัวเมือง โดยที่ทางไม่มีทที ่าสนใจอาการสับสนของหลินหมิง
ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย สิง่ ที่นางกาลังคิดอยู่ภายในใจตอนนี้มีเพียง
เรื่องวิธีการที่จะทาให้ศิษย์ของนางผู้นี้ประสบความสาเร็จโดยเร็ว
ที่สุดเพียงเท่านั้น และเมือ่ นั้นชื่อเสียงของนางก็จะขจรจายไปทั่วทั้ง
เมืองและบรรดาเมืองข้างเคียงอย่างแน่นอน
หลินหมิงเดินเข้ามาในตัวเมืองฟานชูในก่อนหน้านี้ที่เขาออกมา
จากตระกูลหลินนั้นด้วยความตั้งมั่นที่จะพัฒนาฝึกฝนตนทาให้เขา
ไม่ได้สงั เกตบริเวณโดยรอบมากนัก แม้ว่าเมืองฟานชูแห่งนี้จะนับได้
ว่าอยู่ไกลจากเขตเมืองหลวงแต่ความเจริญภายในก็นับได้ว่าไม่ด้อย
กว่ากันไปมากนัก แถมเนือ่ งด้วยเป็นเมืองที่อยู่ขอบชานเมืองจึงทา
ให้เป็นเมืองหน้าด่านคอยรับมือศัตรู
ดังนั้นแล้วตระกูลส่วนใหญ่ที่มาตั้งรกรากที่นี้ล้วนแต่มีความ
แข็งแกร่งยิ่งเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องคอยทาศึกอยู่บ่อยครั้ง
และหนึ่งในตระกูลเหล่านัน้ ก็คือตระกูลหลิน
ภาพสาวสวยวัยแรกรุ่นย่างเท้าเก้าเดินเข้ามาภายในเมืองที่เต็ม
ไปด้วยผู้คนนั้นตราตรึงอยู่ในใจบุรุษหนุ่มแทบจะทุกคน แม้จะดูเป็น
สาวสวยวัยเยาว์แต่พวกเขาเหล่านั้นล้วนต้องรู้ถึงเบื้องหลังที่แท้จริง
ของนางจึงทาให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ตัวนางมากนัก จูหนิงเอ๋อ
เดินเข้าตัวเมืองอย่างสบายอารมณ์ใบหน้าของนางปรากฎรอยยิ้มอยู่
ตลอดทางที่นางก้าวผ่านเพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทาให้หัวใจของ
บุรุษหนุ่มทั้งหลายถึงกับชุ่มช่าราวกับว่ารอยยิ้มนี้สามารถยืดอายุ
ของพวกเขาได้อีกเป็นพันๆปี
ส่วนทางด้านหลินหมิงที่เดินตามหลังจูหนิงเอ๋อมานั้นตัวเขาได้
รักษาระยะห่างระหว่างเขากับนางเป็นอย่างดีเพราะในตอนนี้นั้นตัว
เขาไม่สมควรทาตัวโดดเด่นจนมากเกินไป ถึงแม้ว่าในตอนแรก
อาจารย์สาวสวยของเขาจะหันกลับมามองด้วยสายตาเคืองๆ แต่
เมื่อนางทาความเข้าใจอะไรหลายๆอย่างนางก็ไม่ได้ว่าอะไร
จากสภาพของหลินหมิงทีใ่ นตอนนี้เสื้อผ้ามีร่องรอยขาดอยู่ทั่ว
ร่าง ซ้าทั่วร่างยังเปราะเปรื้อนไปด้วยคราบฝุ่นอยู่เต็มไปหมดมันจึง
เป็นเครื่องอาพรางตัวได้อย่างนี้สาหรับหลินหมิงในตอนนี้เพราะว่า
สาหรับบรรดาคนแถวนี้ที่สายตาของพวกเขาล้วนจดจ้องไปที่
เทพธิดาที่กาลังปรอยยิ้มอยู่ในตอนนี้ตัวตนของเขาล้วนไม่มีค่าให้
มองแต่อย่างใด
หลินหมิงใช้เวลาเดินตามหลังอาจารย์สาวสวยของเขาอยู่สักพัก
เพียงไม่นานบรรดาเหล่าผู้คนที่เคยหลายล้อมอยู่ตามทางก็คอยๆ
หายไป เพราะว่าในตอนนี้นั้นตัวเขาได้เข้าสู่เขตสมาคมนักปรุงยา
แล้ว ในส่วนของทางด้านสมาคมนักปรุงยานั้นพื้นที่ถูกแบ่งออกเป็น
สองส่วนใหญ่ๆหนึ่งนั้นก็คือพื้นที่สาหรับตั้งร้านค้าขายโอสถจานวน
มากที่เหล่าผู้อาวุโสจากสานักได้ทาการปรุงออกมา
และในส่วนอีกพื้นที่หนึ่งนัน้ ก็คือพื้นที่สาหรับเหล่าผู้อาวุโสที่ใช้
สาหรับเวลาพักผ่อนหรือกระทั่งตอนปรุงยาด้วยเช่นกันอาจกล่าวได้
ว่าพื้นที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเหล่าผู้อาวุโสของสานักและไม่อนุญาติ
ให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในได้
และแน่นอนว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังอยู่ในพื้นที่สว่ นที่สองซึง่
เป็นพื้นที่เฉพาะสาหรับเหล่าผู้อาวุโสแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยัง
สามารถพบเห็นบรรดารุ่นเยาว์เช่นวัยเดียวกับเขาหรือมากกว่า
จานวนไม่น้อยภายในพื้นที่แห่งนี้ อาจารย์สาวของหลินหมิง
ในตอนนี้นางยิ้มเยาะชอบใจกับใบหน้าของหลินหมิงที่ตอนนี้ดูสนใจ
พื้นที่โดยล้อมนี้เป็นอย่างมากเพราะหากเทียบกันแล้วแม้ว่าความ
แข็งแกร่งทางด้านการต่อสู้ของสมาคมนักปรุงยาจะเป็นรองตระกูล
ใหญ่แต่ในเรื่องความมั่งคั่งแล้วนั้นเรียกได้ว่าสมาคมแห่งนี้เป็น
อันดับหนึ่งในเมืองแห่งนี้
รวมกับพื้นที่แห่งนีซ้ ึ่งถือเป็นพื้นสาหรับเหล่าผู้อาวุโสด้วยแล้ว
นั้น ดังนั้นสิ่งก่อสร้างต่างๆจึงถูกสร้างมาด้วยความประณีตงดงาม
จนทาให้หลินหมิงที่เคยอยู่ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินอดทึง่
ไม่ได้
“ เจ้าไม่ต้องสับสนไปที่เจ้าเห็นเด็กวัยเดียวกันกับเจ้าก็เพราะว่า
พวกมันเหล่านั้นล้วนเข้ามาด้วยเหตุผลเดียวกันกับเจ้านั้นก็คือการ
เข้าเป็นศิษย์ของเหล่าผู้อาวุโส แต่ถึงอย่างนั้นสถานะของเจ้าล้วน
สูงส่งกว่าพวกมันอยู่หลายขุมแม้ว่าพวกมันจะมาจากตระกูลที่มี
ชื่อเสียงแต่เรื่องเหล่านั้นสามารถทดแทนได้ด้วยตาแหน่งศิษย์
ส่วนตัวของหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา ”
จูหนิงเอ๋อกล่าวออกมาอย่างภูมิใจนางไม่อยากให้หลินหมิงต้องก
ระวนกระวายมากนัก และนางจาเป็นต้องให้หลินหมิงรับรู้ถึงสถานะ
ของตัวเขาในตอนนี้เพื่อที่ว่าตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้จะได้ไม่ถกู รังแกโดย
เด็กหนุ่มที่มาจากตระกูลเหล่านั้นโดยง่าย มิเช่นนั้นมันอาจเป็นการ
ขัดขวางการก้าวหน้าของหลินหมิงซึ่งนางไม่ยอมให้มีปัจจัยเสี่ยง
ใดๆเข้ามารบกวนศิษย์คนเดียวของนางผู้นี้แน่
“ ขอรับอาจารย์ ”
หลินหมิงกล่าวรับคาของอาจารย์สาวสวยด้วยน้าเสียงเคารพ
มากยิ่งขึ้น ในตอนนี้นางเดินอยู่ไม่ห่างไกลจากเข้ามากนักเพื่อแสดง
ให้ผู้ที่เห็นว่าเด็กหนุ่มสภาพซ่อมซอผู้นี้มีความสาคัญกับนาง จึงเป็น
เหตุให้หลินหมิงเริ่มเชื่อใจในตัวของอาจารย์สาวสวยผู้นี้มากยิ่งขึ้น
“ เอาล่ะในตอนนี้สิ่งแรกที่เจ้าต้องทาก็คือชาระร่างกายของเจ้า
ซะ ข้าไม่อาจทนสอนเจ้าในสภาพเช่นนี้ได้แน่ ”
หลินหมิงที่ได้ยินคากล่าวของอาจารย์สาวสวยของเขาเสร็จก็ไม่
ทันได้ตั้งตัวอะไรแต่อย่างใด มือนุ่มนิ่มชวนน่าสัมผัสได้ออกแรงดึง
ร่างเขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลางที่ดูโดดเด่นกว่าพืน้ ที่โดยรอบเป็น
อย่างมากซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านั้นต้องเป็นสถานทีอ่ ยู่อาศัยของนาง
เป็นแน่
เพียงแต่ว่าในตอนนี้หลินหมิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านั้นเลยแม้แต่
น้อย หรือแม้กระทั่งที่กาลังชุนกระชากเขาอยู่ในตอนนี้มีมากน้อย
เพียงใดเขาก็มิอาจรับรู้ได้สิ่งเดียวที่เขารับรู้ก็คือสัมผัสที่บริเวณอัน
ข้อมือของเขา และกลิ่นหอมโชยจากร่างของอาจารย์สาวผู้งดงาม
เมื่อหลินหมิงก้าวเข้าสู่ภายในตานักของนางนั้นเรียกได้ว่าความ
หรูหราภายนอกจากที่เข้ามองเข้ามานั้นก็นับได้ว่าหาใดเปรียบ
เพียงแต่ว่าภายในนี้กลับมีความหรูหราสวยงามยิ่งกว่าภายนอกเสีย
อีก อาจเป็นเพราะว่าอาจารย์สาวของเขานั้นเป็นสตรีจึงเป็นเหตุ
สิ่งก่อสร้างภายในและภายนอกถูกออกแบบและตกแต่งอย่าง
สวยงามต่างจากบิดาของเขาที่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องพวกนี้มากเท่า
นัก ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของพวกผู้นาทั่วไป
หลินหมิงนั้นหลังจากก้าวเข้าสู่ตาหนักของอาจารย์สาวสวยคน
ใหม่ของเขาแล้วนั้นพวกเขาก็เรียกได้ว่าแทบจะแยกจากกันในทันที
เพราะนางสั่งให้บรรดาคนรับใช้ภายในตานักให้ช่วยนาตัวของเขา
ไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยคุยกัน
หากเป็นการอาบน้าล้างตัวตามปกตินั้นหลินหมิงก็ไม่คิดหนักใจ
อะไรแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเมื่อมาถึงที่ห้องอาบน้าที่มีขนาด
กว้างขวางเกินกว่าห้องปกติทั่วไปอยู่มาก มันเป็นสถานที่เปิดโล่ง
แจ้งแต่ก็มีรั้วสูงคอยกั้นเอาไว้อย่างดีเยี่ยมและถึงจะไม่มีรั้วไม้กัน
เอาไว้ก็ตามเขาก็คิดว่าไม่น่าจะมีใครที่คิดเบื่อชีวิตขนาดมาแอบส่อง
ยังตาหนักของหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา
คนรับใช้ที่เป็นคนนาทางเขามามีอยู่ด้วยกันสองคนและทั้งสอง
คนนั้นล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตางดงามแม้หากเมื่อเทียบ
พวกนางกับบอาจารย์สาวสวยของเขาแล้วความงามของพวกนาง
อาจนับได้ว่าธรรมดาแต่หากเปรียบเทียบตามมาตรฐานทั่วไปแล้ว
นั้นความงามของพวกนางเหนือกว่าหญิงสาวทั่วไปอยู่หลายส่วน
“ ขะ..ข้าขอบคุณพวกท่านทั้งสองมากที่นาทางข้า ข้าคงไม่
รบกวนอะไรพวกท่านอีกเชิญพวกท่านตามสบายเถอะ ”
หลินหมิงในใจตอนนี้รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมากเพราะว่า
แม่นางทั้งสองคนนี้เมื่อมายังถึงห้องอาบน้าแล้วนั้นพวกนางไม่มที ี
ท่าว่าจะกลับไปเลยแม้แต่น้อยซ้าพวกนางยังเข้ามาในห้องอาบนี้
พร้อมกับเขาเสียอีก !
“ นายหญิงสั่งพวกข้าเอาไว้ว่าให้ดูแลท่านเป็นอย่างดี ฉะนั้น
คุณชายไม่ต้องเกรงใจแต่อย่างใด ”
เมื่อได้ฟังคากล่าวเสียงเรียบของแม่นางทั้งสอง หัวใจของหลินห
มิงก็พลันเต้นรั่วยิ่งกว่าตอนที่เขาสู้กับสัตว์อสูรเสียอีก พวกนางทั้ง
สองจะร่วมอาบน้าพร้อมข้า ? ทางด้านหญิงสาวทั้งสองนั้นแม้พวก
นางจะยังไม่รู้สถานะที่แท้จริงของหลินหมิงแต่พวกนางก็ไม่กล้าเสีย
มารยาทแต่อย่างใด
เดิมทีพวกนางทัง้ สองพี่นอ้ งนั้นเป็นเด็กกาพร้า และชะตากรรม
คงไม่พ้นต้องตกไปเป็นแก่เหล่าผู้มีชาติตระกูลเพียงแต่เคราะห์ที่
พวกนางทั้งสองนั้นได้รับการอุปการะจากจูหนิงเอ๋อร์ และนายหญิง
ของพวกนางนั้นเรียกได้วา่ ดูแลพวกนางดีเสียยิ่งกว่าบรรดาคนรับใช้
ของเหล่าผู้มีอิทธิผลอื่นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นแล้วสาหรับพวกนาง
สองพี่น้องนั้นนายหญิงของพวกนางเปรียบเสมือนเทพธิดาที่ลงมา
ประทานพรให้และพวกนางพร้อมทาทุกวิธีทางเพื่อทดแทนบุญคุณ
แม้ว่าต้องแลกกับการที่จะต้องเสียความบริสุทธ์ที่แสนสาคัญของ
หญิงสาวให้กับชายแปลกหน้าที่พวกนางไม่เคยรู้จักก็ตาม แต่ในเมื่อ
ชายผู้นี้เป็นคนที่นายหญิงของพวกนางให้การยอมรับมีหรือที่พวก
นางทั้งสองจะทาให้นายหญิงต้องผิดหวัง

ตอนที่ 7
แววตาของหญิงสาวสองพี่น้องที่มองมาทีห่ ลินหมิงนั้นเต็มไป
ด้วยความมุ่งมัน่ และเด็ดเดียว จนทาให้ตัวเขาแทบจะทาอะไรไม่ถูก
ในสถานการณ์ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าอาจารย์สาวสวยของ
เขาจะต้อนรับเข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางด้วยการมอบหญิงสาว
สองพี่น้องเป็นของขวัญแด่เขา
‘ อึก ‘
หลินหมิงกลืนน้าลายลงไปก้อนใหญ่ลงคอคาพูดที่จะกล่าวปฎิ
เสธใดๆตอนนี้ล้วนไม่สามารถออกมาจากปากราวกับว่าเขา
กลายเป็นคนใบ้ไปแล้วในตอนนี้ เบื้องหน้าของหลินหมิงหญิงสาวทั้ง
สองที่ค่อยๆปลดเปลื้องผ้าคลุมกายของพวกนางทีละส่วนอย่าง
เชื่องช้ามันช่างเป็นภาพที่กระตุ้นใจเหล่าชายหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง
ผิวขาวเรียบเนียบอันแสนผุดผ่องค่อยเผยให้เห็นแก่สายตา
หลินหมิงไปทีละส่วน ไม่เพียงแต่ตอนนี้หลินหมิงจะราวกับเป็นใบ้แต่
ในตอนนี้เขาแทบจะขยับร่างกายไปไหนไม่ถูกไปเสียแล้ว หญิงสาว
ทั้งสองอายุของพวกนางนั้นใกล้เคียงกันโดยคนพี่นั้นอายุราว 17 ปี
คนน้อง 16 ปีซึ่งนั้นหมายความว่าพวกนางทั้งนั้นล้วนมีอายุ
มากกว่าหลินหมิงและยังเป็นช่วงเวลาที่หญิงสาวกาลังผลิบานอย่าง
เต็มที่
หญิงสาวสองพี่น้องเมื่อเห็นสายตาของหลินหมิงทีจ่ ้องมาที่พวก
นางนั้นก็พลันเกิดความเอียงอายขึ้นมาในทันทีแม้วา่ พวกนางจะ
ไม่ได้มีฐานะในตาหนักแห่งนี้แต่อย่างใดก็ตามพวกนางล้วนไม่เคย
ถูกบังคับหรือให้กระทาการใดๆเช่นนี้มาก่อน
ร่างสตรีทั้งสองในสภาพเปลือยกายปรากฎสู่สายตาของหลินห
มิงผิวขาวของพวกนางราวกับว่ามันเป็นดังกระจกที่สะท้อนแสงแต่
ถึงมันจะเป็นเช่นนั้นมันกลับช่างดูนุ่มนวลและน่าสัมผัสยิ่งนัก ขาทั้ง
สองของพวกนางบิดกันเป็นเกลียวเพื่อบดบังพื้นทีส่ งวนของหญิง
สาวพร้อมกับแขนทั้งสองข้างที่กอดรัดหน้าอกของพวกนางเอาไว้
พวกนางใช่เวลาทาใจเพียงชั่วครู่หลังจากที่ปลดเปลืองเสื้อผ้า
ของพวกนางเรียบร้อย พวกจึงค่อยๆทาใจลืมความอายที่เกิดขึ้น
ภายในใจและเดินตรงไปหาหลินหมิง
“ ขะ..ข้า..ว่า ”
“ ไม่เป็นไรเจ้าคะคุณชาย พวกเรานั้นยินดีรับใช้คุณชายจากใจ
จริงแต่หากคุณชายรังเกียจพวกเรานั้น.... ”
หญิงสาวผู้พี่กล่าวประโยคสุดท้ายด้วยวาจาปนเศร้าเล็กน้อย
หลินหมิงแม้จะทาอะไรไม่ถูกกับสถานการณ์เช่นนี้แต่เขาก็พอเข้าใจ
สถานการณ์ของพวกนางอยู่บ้างในตอนนี้ไม่มากก็น้อย
“ เหตุใดข้าจะรังเกียจพวกท่านทั้งสองได้กัน ”
หญิงสาวสองพี่น้องเมื่อได้ฟังคากล่าวของหลินหมิงพวกนาง
กลับรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยตามความคิดของพวกนางนั้นฐานะ
ของหลินหมิงย่อมไม่ธรรมดาเพราะว่านับตั้งแต่ที่พวกนางรับใช้จูห
นิงเอ๋อร์มาพวกนางยังไม่เคยเห็นนายหญิงของพวกนางพาผู้ชายเข้า
ตาหนักของนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ดังนั้นแล้วเมื่อพวกนางลองคาดการณ์ดูสิ่งเดียวที่นายหญิงของ
พวกนางต้องการนั้นก็คือ ศิษย์ ที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือใคร
และพวกนางก็พอจะคาดเดาจะสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของ
นายหญิงได้ว่าหลินหมิงนัน้ อาจได้รับการอบรบเป็นศิษย์ส่วนตัว
เพียงหนึ่งเดียวของนายหญิงของนาง
ดังนั้นแล้วด้วยฐานะของหลินหมิงเช่นนี้แต่เขากลับปฎิบัตกิ ับ
พวกนางอย่างอ่อนโยน แม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ว่าหลินหมิงนั้น
อาจมาจากตระกูลต่าต้อยแต่เรื่องในอดีตนั้นไม่สาคัญแต่อย่างใด
สถานะปัจจุบันของเขาล้วนไม่ต้องเกรงกลัวใครในสมาคมนักปรุงยา
แห่งนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้พวกนางทั้งสองกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันทีที่อย่าง
น้อยพวกนางได้เสียความบริสุทธ์ของพวกนางให้แก่ชายหนุ่มผู้นี้
ทางด้านหลินหมิงนั้นเขาคิดเห็นแล้วว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงจาก
สถานการณ์เช่นนี้ได้เป็นอย่างแน่นอน แถมเมื่อมีร่างกายของหญิง
สาวสวยทั้งสองอยูต่ รงหน้ามีหรือที่เขาจะสามารถทานทนเอาไว้ได้
นาน
“ เช่นนั้นพวกข้าทั้งสองขอเสียมารยาทนะเจ้าคะ ”
หญิงสาวสองพี่น้องเคลื่อนไหวไปทางด้านข้างของหลินหมิงไป
กันคนละด้านพร้อมกับค่อยปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหลินหมิงออกไปที
ละชิ้น สภาพของหลินหมิงในตอนนี้แม้จะเปราะเปื้อนไปด้วยฝุ่นจาก
การที่เขาฝึกฝนภายในป่ามานับสัปดาห์
แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อขนาดสมส่วนหญิงสาว
ทั้งสองล้วนจ้องมองไปยังร่างกายของหลินหมิงอย่างไม่วางตาพร้อม
กับสายตาของพวกนางที่เริ่มเกิดความกังวลขึ้นมาในทันทีเมื่อ
สายตาของพวกนางเลื่อนลงมาที่ด้านล่าง
“ ยะ...ใหญ่ ”
“ มะ..ไม่น่าเชื่อ ”
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงเมื่อเห็นแววตาของทั้งสองสาวที่มองมา
ที่ท่อนล่างของเขา ก็พลันทาให้เขาเกิดความสงสัยในความเป็นจริง
แล้วขนาดท่อนโลกของเขาไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ใหญ่ดังเช่นพวกนาง
กล่าวอาจกล่าวได้ว่าขนาดของมันนั้นล้วนอยู่ในเกณฑ์ปกติสาหรับ
บุรุษทั่วไป แต่เมื่อหลินหมิงก้มลงมามองเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง
ดังเช่นหญิงสาวพี่น้องทั้ง
‘ มันใหญ่ขึ้น ! ตั้งแต่เมือ่ ใดกัน ’
‘ หรืออาจเป็นเพราะทักษะเพลิงทมิฬ ? ’
หลินหมิงสะบัดหัวไล่ความสับสนออกไปสิ่งที่เขาต้องให้ความ
สนใจในตอนนี้ก็คือหญิงสาวสองคนตรงหน้าเขาในตอนนี้ นี้ไม่
เพียงแต่จะเป็นโอกาศที่เขาจะได้ลิ้มลองหญิงสาวเป็นครั้งแรกแต่
หากมันยังเป็นโอกาศในการพัฒนาพลังของเขาด้วยเพราะด้วย
เงื่อนไขข้อจากัดของทักษะเพลิงทมิฬนั้นทาให้เขาไม่สามารถฝึกฝน
ได้ดังเช่นคนทั่วไป
หลินหมิงกางเขนออกพร้อมกับรวบพวกนางทัง้ สองมาไว้แนบ
กายอย่างอบอุ่น ผิวเนียนนุ่มของหญิงสาวยามกระทบกับผิวของเขา
มันทาให้รู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกปลุกกระตุ้นด้วยพลังงาน
บางอย่าง
“ ไม่ต้องกังวล ข้าจะทาอย่างอ่อนโยนที่สุด ”
“ เจ้าคะ ”
แม้ว่านี้มันจะเป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกันก็ตามที่ แต่หลินห
มิงตั้งใจเอาไว้ว่าจะตั้งทาให้ดีที่สุดไม่แน่บางทีเขาอาจจะทากับพวก
นางอีกในอนาคตเช่นนั้นแล้วเขาควรจะทาให้พวกนางประทับใจ
เอาไว้เสียตั้งแต่แรก มือทัง้ สองข้างของหลินหมิงค่อยๆเคลื่อนที่ไป
บนผิวเรียบเนียนของหญิงสาวสองพี่น้องด้วยความตื่นเต้น พร้อม
กับเสียงครางเบาๆของพวกนางในยามที่ตอนนี้มือของหลินหมิงนั้น
เลื่อนลงมาที่บริเวณต้นขาอ่อนของพวกนาง
หลินหมิงค่อยๆลูบไล้จากบริเวณเหนือหัวเข่าขึ้นมาจนถึงจุด
บริเวณอันตรายของหญิงสาว หลินหมิงพบว่านอกจากเสียงหายใจ
หอบอย่างรุนแรงของสองสาวพี่น้องนั้นบริเวณจุดอับของหญิงสาว
ของพวกนางก็ตอบรับต่อการจู่โจมของเขาได้อย่างดีเยี่ยมมันอาจ
เป็นเพราะว่าพวกนางยังไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆมาก่อน มันจึงอด
ไม่ได้ที่พวกนางจะรู้สึกตื่นเต้นซึ่งหลินหมิงเองก็เช่นเดียวกัน
“ อ้าา ~~~ ”
น้าใสๆค่อยๆไหลออกมาจากร่องรักของหญิงสาวพี่น้องเรื่อยๆ
เมื่อหลินหมิงนามือไปสัมผัสดูพวกนางทั้งสองก็ถึงกับสะดุ้งถ้าหาก
ว่าร่างกายของพวกนางทั้งสองยังคงมีเรี่ยวแรงดังเช่นในตอนแรก
พวกนางทั้งสองคงกระโจนออกจากการโจมตีของหลินหมิงที่ไม่ให้
พวกนางได้หยุดพักไปแล้ว
นิวชี้ทั้งสองข้างของหลินหมิงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วตาม
สัญชาตญาณของชายหนุ่มแม้ว่าหลินหมิงจะยังไม่มีเคยมี
ประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อนเลยกตาม แต่ตวั เขากลับพบว่าเขามี
ความรู้สึกว่าส่วนของร่างกายของหญิงสาวที่น่าจะเป็นจุดอ่อนมัน
จึงทาให้หลินหมิงสามารถสยบสองสาวพี่น้องได้อย่างง่ายดาย
‘ มันอาจเป็นเพราะทักษะของข้า ? ‘
เกี่ยวกับเรื่องนั้นหลินหมิงยังไม่คิดจะเก็บมาคิดในตอนนี้ หญิง
สาวคนพี่นางเริ่มรู้สึกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางคงหมดแรงภายใน
เวลาไม่นาน แต่นางก็ยังคงไม่มีเรี่ยวแรงหนีออกจากอ้อมกอดของ
บุรุษหนุ่มคนนี้อยู่ดีและต่อให้แม้ว่านางจะมีเรี่ยวแรงอยู่ก็ตามในใจ
ของนางก็คิดว่าบางทีนางอาจไม่ต้องการจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม
ที่นางเพิ่งได้พบหน้าวันนี้ไปก็ได้
แม้จะดูว่านางเป็นคนใจง่ายแต่สาหรับหญิงสาวสาหรับใช้อย่าง
พวกนางนั้นการที่บริการเจ้านายถือเป็นเรื่องปกติ แต่สาหรับ
เจ้านายที่กระทากับทาสรับใช้อย่างอ่อนโยนเช่นนี้นั้นหาได้ยากยิ่ง
เพราะฉะนั้นแล้วนางจึงมีความรู้สึกที่ไม่อยากจะจากอ้อมกอดอัน
แสนอบอุ่นนี้ไป
มือขาวเรียบเนียนของหญิงสาวผู้พี่คว้าจับไปที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงพร้อมกับเริ่มทาการเคลื่อนไหวในทันที ในตอนนี้นาง
ต้องการจะให้หลินหมิงผ่อนจังหวะลงบ้าง หญิงสาวคนน้องเห็นการ
กระทาของพี่สาวก็พอจะเข้าใจความคิดซึ่งกันและกันขึ้นมาในทันที
นางใช้มือของนางเคลื่อนไหวลูบไล้ตามร่างกายของหลินหมิงไปทั่ว
ทันใดนั้นหญิงสาวคนพี่ทที่ าการจัดการตัดกาลังของหลินหมิงที่
ทวนมังกรก็ต้องพบกับสิ่งที่น่าตกใจ
‘ มะ..ไม่น่าเชื่อ..มันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว ‘
เดิมทีขนาดของทวนมังกรของหลินหมิงนั้นนับเป็นปัญหาที่น่า
หนักใจสาหรับพวกนางเป็นอย่างมาก พวกนางเคยได้ยินเหล่าหญิง
สาวที่นี้เคยเล่ามาว่าการที่หญิงสาวเช่นพวกนางนัน้ เวลาเสียความบ
ริสุทธ์ครั้งแรกมันเป็นอะไรที่จะปวดเป็นอย่างมาก ยิ่งโดยเฉพาะ
เหล่าบุรุษที่มีขนาดทวนขนาดใหญ่ด้วยแล้วละก็มันคงไม่สามารถ
พรรณนาออกมาเป็นคาพูดได้เลย
แม้ว่าในตอนแรกนางจะพอทาใจกับขนาดทวนของหลินหมิงได้
แล้ว แต่มันกลับใหญ่ขึ้นอกเมื่อพลันนึกถึงเรื่องเล่าในอดีตนางก็เริ่ม
มีความลังเลขึ้นมา เพียงแต่ว่าก่อนที่นางจะได้ทันตัดสินใจอะไรนาง
ก็ถูกหลินหมิงจู่โจมประกบปากอย่างดูดดืม่ ไปเสียแล้ว
“ อื้อ~~~~~~ ”

ตอนที่ 8
สัมผัสอันนุ่มนวลละมุนลิน้ ภานในปากของนางนั้นทาให้นางรู้สึก
หายใจได้อย่างยากลาบากมากยิ่งขึ้น เรี่ยวแรงที่แต่เดิมนั้นแทบจะ
ไม่เหลืออยู่แล้วพลันหายไปสิ้นไปแทบหมด
มือทั้งสองข้างของนางต้องโอบร่างของหลินหมิงไว้พร้อมกับเอน
ร่างอันไร้เรี่ยวแรงซบบนร่างของหลินหมิงด้วยเช่นกัน ลิ้นที่อยู่
ภายในปากของนางนั้นยังคงเคลื่อนไหวไปมาอย่างบ้าคลั่งโดยที่นาง
ไม่สามารถตอบรับได้ทันได้เลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้พี่นั้นนางเริ่มที่จะหายใจได้อย่าง
ลาบาก และถึงขีดจากัดของนางแล้วจึงละปากออกจากนางพร้อม
กับก้มลงพรมจูบไซร้คอของนางอย่างแผ่วเบา แต่มันก็ทาให้นาง
ครางเสียงหลงออกมาแบบไม่เห็นจังหวะ
หญิงสาวคนน้องในตอนนีน้ างราวกับว่าตัวตนของนางถูกลบไป
เพราะตอนนี้หนึ่งชายและพี่สาวของนางนั้นกาลังเล้าโลมกันจนไม่มี
ที่ว่างให้นางเขาไปเสียแล้ว แต่นางกลับมีความรู้สึกแปลกที่ได้เห็น
พี่สาวสุดที่รักของนางกาลังถูกเล้าโลมโดยหลินหมิง
นางบิดตัวไปมาอย่างเอียงอายพร้อมบริเวณร่องรักของนางที่ดู
เหมือนจะตอบสนองภาพตรงหน้าได้ดีเกินไป ในตอนนี้ร่องของนาง
พลันมีความรู้สึกแปลกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นิ้วมือของนางพลัน
ขยับไปเองอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ อ้าา~~~~ ”
เสียงครางของหญิงสาวผู้น้องทาให้หลินหมิวละความสนใจของ
คนพี่ เพราะว่าภาพตรงหน้าของเขาในตอนนี้คือหญิงสาวผู้น้องคน
นี้กาลังทาการใช้นิ้วแหย่เข้าไปบริเวณร่องรักของนางพร้อมกับจ้อง
มองมาที่พวกเขาด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
หลินหมิงค่อยๆเคลื่อนที่ออกจากหญิงสาวผู้พี่ไปหาสาวคนน้องที่
ตอนนี้กาลังใช้นิ้วกับร่องของนางอย่างเมามันส์
“ คะ...คุณชาย.. อ้า~~ ”
หลินหมิงก้มลงพรมจูบไปทั่วร่างของนางอย่างร้อนแรง พร้อม
กับทวนมังกรของเขาที่รู้สึกว่าจะไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้อกี
ต่อไป ทวนมังกรของหลินหมิงตอนนี้จ่ออยู่ที่บริเวณทางเข้าร่องรัก
ของหญิงสาวเตรียมพร้อมที่จะเข้าจู่โจมในทันที
“ ดะ..เดียวเจ้า..อ้าาา~~~~~ โอ้ยยย ”
ก่อนที่นางจะได้กล่าวอะไรต่อหลินหมิงก็เริ่มลงมือไปเสียแล้ว ใน
ตอนแรกนางเพียงต้องการให้หลินหมิงเล้าโลมนางเหมือนกับพี่สาว
แต่นางไม่ได้คิดเลยว่าหลินหมิงจะไม่สามารถอดกลัน้ ได้แล้วลงมือจู่
โจมนางทันที
แม้ทวนมังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิงจะค่อยๆแทงทะลวงเข้าไป
ภายในร่องของหญิงสาวอย่างช้าๆ แต่นางก็รู้สึกว่ามันเป็น
ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากร่องรักของนางหลังจากที่
หลินหมิงแทงทวนมังกรของเขาเข้าไปในร่างของนางได้ครึ่งท่อน
ราวกับว่าทวนของเขานั้นกาลังจะถูกหลอมละลายภายในร่างกาย
ของหญิงสาวผู้นี้
หลินหมิงเห็นน้าตาของหญิงสาวที่ไหลออกมาจากความเจ็บปวด
ที่นางได้รับเพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกแต่อย่างใด
เสียงครางของนางมันทาให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกันกับนางแม้ว่านางจะรู้สึกเจ็บเป็นอย่างมากเพียงแต่
ว่านางกลับพบว่านางพลันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้น
มันเป็นความรู้สึกเสี่ยวซ่านไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะบริเวณร่องรัก
ของนางนั้น
ที่ถูกจู่โจมโดยทวนมังกรขนาดใหญ่เมื่อทวนแท่งนีค้ ่อยๆดันเข้า
มาลึกขึ้นเรื่อยนางก็พลันรู้สึกเสียวมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
“ อ้าา~~~ ”
หลินหมิงพบว่าเขาไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว น้าขาว
ขุ่นจานวนมากพุ่งทะลักเข้าไปภายในร่องของหญิงสาวจนนางไม่
อาจทนรับไว้ได้ไหวเช่นเดียวกัน จึงทาให้น้าใสๆของหญิงสาวพลัน
ออกมาเป็นจานวนมากจากการเสร็จกิจไปสองรอบในคราวเดียว
‘ มะ..มันจบแล้วสินะ ’
นางนั้นเคยได้ยินมาว่าแม้บุรุษจะนิยมมีสตรีข้างกายหลายคนแต่
พวกเขานั้นล้วนไม่สามารถทาสงครามในยามดึกกับพวกนางได้ทกุ
คนอันที่จริงแล้วบุรุษส่วนใหญ่นั้นล้วนสามารถปลดปล่อยออกมาได้
เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เพียงแต่ว่าในขณะที่นางกาลังคิดเช่นนั้นนางพบว่ามีบางอย่างที่
ผิดปกติไป
‘ ทาไมขนาดของเขาไม่ลดลง? ’
แม้ว่าจะมีบุรุษบางคนที่สามารถกระทาศึกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง
เพียงแต่พวกเขาล้วนต้องใช้เวลาพักฟื้นตัวก่อนนางไม่เคยได้ยินมา
ก่อนว่าจะมีใครที่สามารถทาได้ติดต่อกัน
ก่อนที่นางจะได้พักผ่อนหลินหมินก็พลันแทงทวนมังกรเข้าไปลึก
ยิ่งกว่าเดิม ร่องของนางนัน้ ตอดรัดทวนของเขาแน่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับว่ามันต้องการรีดเร้นน้าจากร่างกายของเขาไปอีก
นางรู้สึกได้ว่าภายในร่องของนางนั้นเต็มไปด้วยน้าของนางและ
น้าขาวขุ่นของหลินหมิง หลินหมิงพบว่าเขาไม้สามารถดันทวนของ
เขาเข้าไปได้ลึกมากไปกว่านี้เพราะตอนนี้ทวนของเขาได้ทะลวงเข้า
ไปสู้ส่วนที่ลกึ ที่สุดเสียแล้ว
หลินหมิงเริ่มกระทาการขยับทวนภายในร่องรักของนางอย่าง
เชื่องช้าเพราะว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ถนัดนักเนื่องจากร่อง
รักของนางมันตอดรัดแน่นมากจนเกินไป
“ ขะ..ข้าไม่ไหว..แล้วเจ้าคะ ”
แม้ว่าเดิมทีหญิงสาวจะสามารถรองรับความต้องการของเหล่า
บุรุษได้มากกว่าหนึ่งครั้งแต่นั้นเป็นเพราะขนาดปกติของบุรุษล้วน
ด้อยกว่าหลินหมองอยู่หลายขั้นอาจเรียกได้ว่าหากเทียบกับของ
หลินหมิงแล้วนั้น บุรุษทั่วไปอาจเปรียบได้ว่าเสมือนไร้ซึ่งทวนมังกร
เลยทีเดียว
หลินหมิงเมื่อได้ยินคากล่าวของนางก็พลันค่อยๆถอนทวนมังกร
ของเขาออกมาเขาไม่ต้องการให้ความประทับใจในครั้งแรกของ
หญิงสาวเป็นไปในทางทีเลวร้าย ถึงแม้ว่าเขาจะยังรู้สึกว่ายังไม่
สามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่
แต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอย่างน้อยหญิงสาวผู้นี้ได้ตกเป็นของเขา
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการที่เขาจะร่วมรักกับนางในครั้งหน้านั้นก็
ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
เสียงครางหอบอย่างหนักของหญิงสาวพร้อมกับน้าจานวนมาก
ที่ค่อยๆไหลออกมาจากร่องรักของหญิงสาวเพียงแต่ใบหน้าของนาง
ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อเห็นเช่นนี้หลินหมิงจึงไม่มีเรื่อง
อะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไปเขาจึงทาการจูบนางพร้อมกับลูบศรีษะ
ของนางอย่างแผ่วเบาและหันหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป

ตอนที่ 9
หลินหมิงหลังจากจัดท่าวางของหญิงสาวผู้นอนให้นางได้หลับ
นอนได้อย่างสบายตัวหลังจากที่นางต้องทนรับศึกหนักกับทวนมังกร
ของเขาอย่างหนักหน่วงจนร่างกายของนางถึงขีดจากัด
หญิงสาวผู้พี่นั้นนางนั้นได้ดูทุกท่วงท่าลีลาระหว่างที่น้องสาว
ของนางได้ร่วมรักกับบุรุษผู้นี้ ใบหน้าของนางแดงซ่านเมื่อนางพลัน
คิดว่าได้ชะตากรรมของนางคงมิได้ต่างจากน้องสาวของนางที่นอน
หมดสติไปแล้วมากนัก
ตึกๆ
เสียงย่างก้าวของหลินหมิงพร้อมกับเสียงจังหวะหัวใจที่สั่นไหว
อย่างไม่เป็นจังหวะ หัวสมองพลันนึกถึงเสียงครางของน้องสาว
แม้ว่าจะดูเจ็บปวดอย่างมาก แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มเปี่ยมไป
ด้วยความสุขอย่างที่ขนาดนางเป็นพี่ยังไม่เคยได้เห็นมาก่อน
เมื่อเป็นเช่นนี้นางจึงไม่คิดจะต่อต้านหลินหมิงแต่อย่างใด เพราะ
อย่างไรเสียนนางเชื่อว่าหลินหมิงย่อมต้องลงแรงไปมากพอตัวจาก
การร่วมรักกับน้องสาวของนาง ด้วยวัยของหลินหมิงในสายตาของ
นางนั้นเขายังดูเยาวัยกว่าพวกนางสองพี่น้องเสียอีกนางจึงคิดว่า
บุรุษหนุ่มผู้นี้คงไม่อาจทาได้อย่างหนักหน่วเช่นเดียวกันกับนองของ
นางเป็นแน่
แต่ว่าสิ่งที่นางคิดมาก่อนล้วนพลันกลับพลิกพลันโดยสิ้นเชิง
หลินหมิงพุ่งเข้าประกบปากนางอย่างดูดดื่มเสียยิ่งกว่าน้องสาวของ
นางมือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้เขี่ยยอดประทุมของนางราวกับ
ต้องการจะเด็ดออกมาเชยชม
“ ยะ..อย่า..บีบแรงสิเจ้าคะ..อ้าา~ ”
เป็นเพราะก่อนหน้านี้นั้นตัวเขายังไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆมา
ก่อนมันจึงทาให้เขายังไม่สามารถลงมือได้อย่างถนัดน่วงมากนัก แต่
กลับในตอนนี้นั้นแม้เขาเพิ่งมีประสบการณ์มาเมื่อครู่เพียงแต่
อารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่มันจึงทาให้หลินหมิงจู่โจมนางอย่างหนัก
หน่วง
เนินอกสีชมพูของหญิงสาวนั้นดูใหญ่กว่าของน้องสาวของนาง
อยู่มากพอสมควรและก่อนหน้านี้นั้นเนื่องจากหลินหมิงยังคงตื่นเต้น
จากการใช้ทวนมังกรแทงทะลวงเข้าร่องรักของหญิงสาวผู้น้องเขา
จึงไม่ได้จดจ่อกับส่วนอื่นของร่างกายหญิงสาวมากนัก
สัมผัสเนียนนุ่มพร้อมกับแรงเด้งกลับมาจากการที่เมื่อเขากด
สัมผัสลงบนยอดปะทุมมันเป็นความรู้สึกที่ทาให้ร่างกายของหลินห
มิงเบาสบาย ร่างกายเนื้อทั้งสองทีต่ อนนี้นอนชิดติดกันโดยหลินหมิง
เป็นฝ่ายคร่อมและเล้าโลมร่างกายส่วนต่างๆของนางอย่างหื่น
กระหาย
เสียงครางกระเส้าออกมาอย่างไม่ขาดหายของหญิงสาวกระตุ้น
ความเป็นชายของหลินหมิงขึ้นมาอย่างไม่รู้จบ สาหรับนางแล้ว
ในตอนนี้ร่างกายของนางไม่สามารถตอบสนองต่อการเล้าโลมของ
หลินหมิงได้อย่างทันท่วงทีมีเพียงเสียงครางของนางเท่านั้นที่ยังคง
ตอบสนองอย่างต่อเนื่อง
“ ขะ..ไม่ไหว..แล้วเจ้าคะ ”
หญิงสาวผู้พี่นอนแผ่อย่างหมดแรงแต่นางยังไม่คิดจะล้มเลิก
ในตอนนี้แต่อย่างใดที่นางกล่าวออกไปนั้นไม่ใช่ให้หลินหมิงหยุดลง
มือแต่อย่างใด แต่นางรู้สึกว่าที่บริเวณร่องรักของนางนั้นเริ่มที่จะมี
ความรู้สึกแปลกๆ และนางก็เข้าใจดีว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะสามารถ
คลายทุกข์ของนางได้ในตอนนี้นั้นก็คือทวนมังกรของบุรุษหนุ่ม
หลินหมิงเองก็เข้าใจความหมายในสิ่งที่นางต้องการเช่นกัน แต่
ถึงแม้ว่านางจะเอยห้ามให้เขาหยุดดังเช่นน้องสาวของนางเขาก็คิด
ว่าเขาก็ยังคงไม่อาจห้ามใจให้หยุดลงได้ง่ายนัก
ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆแทงทะลวงเข้าไปในร่องรักของ
หญิงผู้พี่อย่างบ้าคลั่ง เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากร่อง
เพียงแต่ว่าไม่นานเลือดเหล่าล้วนต้องจางลงไปเพราะมีน้าใสๆ
จานวนมากไหลออกมาจากร่องรักของนางด้วยเช่นกัน
“ โอ้ยยย ซี๊ดดดดกด~~~~ ”
ร่างกายของหญิงสาวกระตุกถี่ขึ้นเรื่อยๆ ภายในร่องของหญิง
สาวนั้นมันดูนุ่มละมุนเสียยิ่งกว่าน้องสาวของนางแต่ถึงอย่างนั้นมัน
ก็ยังคงคับแน่นไม่ต่างกันมากนัก
หากเป็นดังเช่นในตอนแรกหลินหมิงคงต้องปล่อยน้าออกมาเป็น
จานวนมากไปแล้วเมื่อเขานาทวนมังกรแทงทะลวงเข้าไปได้สุดลา
เพียงแต่ในตอนนี้หลินหมิงยังคงสามารถอดทนเอาไว้ได้ หลินหมิงยัง
ไม่ต้องการให้การร่วมรักของเขาจบเร็วมากนัก
เขาแทงทะลวงทวนมังกรเข้าไปจนสุดและนามันค้างไว้เช่นนั้น
อยู่เพียงชั่วครู่เพียงให้เวลานางในการพักฟื้นตัวสักน้อยหลังจากจึง
เริ่มทาการขยับเอวอย่างช้าๆ
“ มะ..ไม่ไหว..แล้วเจ้าคะ... อ้าาา~~ ”
เพียงผ่านไปได้ไม่กลี่ มหายใจหญิงสาวผู้พี่ก็ไม่สามารถทนต่อ
ทวนมังกรอันยิ่งใหญ่ของหลินหมิงได้อีกต่อเช่นเดียวกันกับหลินหมิง
ที่ปลดปล่อยอารมณ์ราคะออกมาเต็มร่องของหญิงสาว
ภาพของสาวงามพี่น้องนอนหมดสภาพโดยที่ส่วนล่างของพวก
นางนั้นล้วนเปราะเปรื้อนไปด้วย น้าขาวขุ่นจานวนมากของหลินห
มิง มันทาให้อารมณ์ของเขาแทบจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งเพียงแต่ว่า
เขาก็คิดได้ว่าควรจะพอแค่นี้เสียก่อน
เพราะหากฝืนบังคับพวกนางมากจนเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อ
อนาคตความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกนางสองพี่น้องด้วยเช่นกัน
ส่วนทางด้านสองสาวนั้นพวกนางไม่คิดเลยว่าจะถูกบุรุษหนุ่มที่อ่อน
เยาว์กว่านางจะดูเหมือนจะไร้ซึ่งประสบการณ์จัดการพวกนางสอง
พี่น้องภายในช่วงเวลาไม่นาน
หากเป็นการร่วมรักระหว่างบุรุษและสตรีทั่วย่อมต้องกินเวลา
อย่างน้อยครึ่งชั่วยาม แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางกลับพบว่ามันเป็น
ความสุขที่มากที่สุดที่ชีวติ นี้พวกนางเคยได้รับมากและนั้นไม่ใช่เป็น
เพียงเพราะความอ่อนโยนของบุรุษหนุ่มผู้นี้เท่านั้นแต่นั้นเป็นเพราะ
ขนาดทวนของเขาที่สามารถสยบสตรีทั้งหลายได้เพียงชั่วเวลาไม่
นาน
หญิงสาวคนน้องนางเริ่มรู้สึกว่าเรี่ยวแรงเริ่มกลับจึงค่อยๆลุก
อย่างเชื่องช้าเพื่อมาทาความสะอาดให้กับหลินหมิง เมื่อนางกาลัง
ทาความสะอาดร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงอยู่นนั้ จนมาถึงส่วนที่
เขาใช้ในการการาบพวกนางสองพี่น้องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบจาก
การรบอันร้อนแรง
กลิ่นอันร้อนแรงบวกกับสัมผัสน้าข่าวขุ่นที่อยู่เต็มภายในท้อง
ของนางในตอนนี้ ยังคงสามารถทาให้นางรู้สึหเสียวร่างกายอย่าง
บอกไม่ถูก
“ ข้าขออนุญาตินะเจ้าคะ ”
ไม่ทันทีห่ ลินหมิงจะทันได้กล่าวอะไร หญิงสาวคนน้องเริ่มทา
ความสะอาดทวนมังกรของหลินหมิงอย่างร้อนแรงเพียงแต่สิ่งที่นาง
ใช้ทาความสะอาดนั้นก็คือปากของนาง
ในความเป็นจริงแล้วสตรีนั้นจะไม่ทาเช่นนี้กับเหล่าบุรุษมิว่าจะ
เป็นใครก็ตามเพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดเห็นว่าไม่เป็นเรื่องอัน
สมควรและสาหรับเหล่าบุรุษนั้นสตรีก็เปรียบเสมือนที่ระบาย
อารมณ์เพียงเท่านั้นจึงไม่มีใครคิดทาเช่นนี้มาก่อน
เพียงแต่สาหรับหญิงสาวผู้น้องนั้นนางในตอนนี้ได้ปล่อยตัวไป
ตามสัญชาตญาณของนาง นางจึงไม่อาจคิดได้ด้วยหลักเหตุผลแต่
อย่างใด
แม้ว่าสาสัมผัสภายในปากของหญิงสาวจะไม่สามารถเทียบได้
กับร่องของพวกนางที่คับแน่นและร้อนแรงยิ่งกว่าแต่มันกลับให้
ความรู้สึกเสียงที่ต่างกันเพราะว่าภายในปากของนางนั้นยังมีลิ้นของ
นางที่ตวัดรอบทวนของเขาไปมาจนสร้างความสุขให้เขาได้อย่างไม่
หยุดย่อน
จนกระทั่งเขาต้องปล่อยน้าขาวขุ่นจานวนมากออกมากอีกครั้ง
แต่คราวนี้พวกมันทั้งหมดล้วนถูกดูดกลืนไปโดยหญิงสาวผู้น้องโดย
ที่ใบนางราวกับว่านางได้รับประทานอาหารเลิศรวจากสวรรค์อย่าง
ใดอย่างนั้น

ตอนที่ 10
หลินหมิงหลังจากทาศึกสงครามร่วมรักกับหญิงสาวสองพี่น้อง
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบไปหาอาจารย์สาวของเขา อาจกล่าวได้
ว่าที่เขาสามารถปลดปล่อยความบริสุทธ์ของตนได้นั้นทั้งหมดล้วน
เป็นเพราะนาง หลินหมิงจึงมีความประทับใจในตัวอาจารย์สาวสวย
ของเขาอยู่ไม่ใช่น้อย
เพราะเรือ่ งในคราวนี้ไม่เพียงเขาจะสามารถได้ร่วมรักกับหญิง
สาวถึงสองคนในคราวเดียว แต่มันยังคงทาให้ระดับการบ่มเพาะ
ของเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิมที่ในตอนแรกเขาอยู่ใน
ระดับปราณขั้นต้น ขั้นที่สี่แต่ในตอนนี้หลังจากผ่านเรื่องราวอัน
ร้อนแรงมาแล้วมันทาให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของขั้นที่ห้าระดับ
ปราณเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงพบว่าไม่ใช่เพียงพลังปราณในร่างกาย
ของเขาที่มีการเปลี่ยนแปลง ร่างกายของเขาล้วนมีความแข็งแกร่ง
มากขึ้นเช่นเดียวกัน
หลินหมิงเดินมาตามทางที่หญิงสาวพี่น้องได้บอกกล่าวเขาเอาไว้
ก่อนที่เขาจะจากพวกนางไปเดิมทีพวกนางต้องเป็นคนนาทางหลินห
มิง แต่เนื่องจากสภาพร่างกายของพวกนางในตอนนี้นั้นการจะให้
เดินเหินในทันทีนั้นคงจะยังเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ หลินหมิงจึงให้พวก
นางบอกทางให้แก่เขาก็เพียงพอ
หลินหมิงมาหยุดยืนที่หน้าห้องที่ดูมีขนาดกว้างขวางใหญ่โต มัน
อาจใหญ่กว่าห้องที่บรรดาเหล่าลูกพี่น้องเขาอาศัยอยู่ในตระกูลหลิน
นั้นถึงสี่ห้าเท่าเลยทีเดียว กลิ่นหอมโชยของหญิงสาว ผสมกับกลิ่น
ยาโอสถหลากชนิดจานวนมากลอยฟุ้งอยู่เต็มห้องหลังจากที่หลินห
มิงได้เขามาแล้วนั้นเขาพลันกวาดสายตาไปรอบๆ
ภายในห้องของอาจารย์สาวสวยของเขานั้นยังคงประกอบไป
ด้วยห้องย่อยไปอีก 3 ห้องด้วยกันแต่เขายังไม่สามารถทราบได้ว่า
ห้องเหล่านั้นไว้ใช้ทาอะไร
“ เร็วกว่าที่ข้าคิดอีกนะเนี่ย ”
หลินหมิงพลันหันไปสบตากับเจ้าของเสียงอันนุ่มนวลซึ่งมันจะ
เป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากอาจารย์สาวสวยของเขานั้นเอง เมื่อ
หลินหมิงได้เห็นนางนั่งยิ้มเยาะอย่างมีความสุขบนโต๊ะทางานขนาด
ใหญ่ของนางที่มีเอกสารและตาราจานวนมากอยู่เขาก็รู้ในทันทีว่า
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของนางเพื่อที่จะผูกมัดเขาเอาไว้
แต่ถึงนางจะไม่ทาเช่นนี้หลินหมิงก็ไม่ได้คิดจะหนีจากไปไหนอยู่
แล้ว เขาต้องการที่จะพัฒนาตนเองให้รวดเร็วที่สุดดังนั้นเขาย่อม
ต้องมีผู้สนับสนุนที่ทรงอานาจ และด้วยอาจารย์สาวสวยของเขา
นางนับได้ว่าไม่ด้อยไปกว่าใครในเมืองนี้แม้แต่บิดาของเขาก็ตาม
“ ข้าขอขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส ”
จูหนิงเอ๋อนั้นนางรู้เป็นอย่างดีว่าหลินหมิงเพิ่งจะผ่านเกตุการณ์
ใดมา ด้วยตัวนางแม้จะนับได้ว่าอ่อนเยาว์สาหรับตาแหน่งประมุข
แต่นั้นเป็นเพราะความอัจริยะและความสามารถในการคิดอ่านที่เกิน
กว่าวัยของนางไปหลายขัน้ จึงทาให้นางสามารถรักษาตาแหน่งนี้
เอาไว้ได้หลายปี
“ ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าแล้วไม่ใช่รึ ”
“ ขอรับท่านอาจารย์ ”
หลินหมิงสามารถทาความเข้าใจกับคาพูดของอาจารย์สาวสวย
ของเขาได้ในทันที นางมิใช่ต้องการเพียงหยอกล้อหลินหมิงเล่น
เพียงเท่านั้นเห็นได้ชัดว่านางตั้งความหวังไว้กับตัวเขามากเพียงใด
มิเช่นนั้นนางคงไม่รับเขาที่สภาพดูไม่ต่างจากเด็กสามัญชนมาเป็น
ศิษย์ส่วนตัว
นางยังต้องการให้หลินหมิงได้ผ่อนคลายลงจากความกังวล ซึ่ง
นั้นนับเป็นเรื่องปกติสาหรับเด็กสามัญชนธรรมดาทัว่ ไปที่มโี อกาศ
ได้รับหนทางในการก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุดนั้นจึงเป็นเหตุให้พวกเขา
เหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะเกิดความประหม่าและความกังวลภายในจิตใจ
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วนัน้ ตัวเขาไม่ได้มีความคิดเหล่านั้นในหัว
เลยแม้แต่น้อย แรงกดดันจากการที่เขาต้องทนทุกข์มาตั้งแต่เด็กนั้น
เป็นประสบการณ์ชั้นยอดที่ทาให้เขาสามารถรับกับสถานการณ์ที่
ยากลาบาก
อีกอย่างบรรยากาศโดยรอบตัวนางในตอนนี้ต่างจากตอนที่นาง
หมายจะเอาชีวิตของเขาในครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง ในตอนนั้นหลินหมิ
งหากเขาสามารถหนีนางได้แล้วละก็เขาคงไม่มีความคิดลังเลเลย
แม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้กลิ่นหอมโชยอันอบอวลของอาจารย์สาว
สวยที่อยู่ภายในห้อง
รวมกับท่าทางของนางทีด่ ูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นปฎิปักษ์ต่อเขา
อีกต่อมันจึงทาให้หลินหมิงไม่อยากที่จะจากอาจารย์สาวสวยคนนี้ไป
เลย อาจเรียกได้เพียงเขาได้อยู่ใกล้นาง ชมใบหน้าของนาง เชยชม
กลิ่นหอมหวนจากร่างกายของนางก็เพียงพอที่จะทาให้เขาแทบจะ
หันหลังกลับไปหาหญิงสาวสองพี่น้องอีกครั้ง !
“ เอาล่ะต่อจากนี้ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีหนทางของการเป็นนัก
ปรุงยาแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่เจ้ามีเปลวเพลิงที่แตกต่างจากคนอื่น
แล้วจะทาให้เจ้าประสบความสาเร็จ
เจ้าย่อมต้องอาศัยความมั่นเพียรเป็นอย่างมากในการศึกษา
เพราะเจ้าย่อมไม่มีพื้นฐานดั่งเดิมของนักปรุงยาแต่เจ้ายังมีข้อ
ได้เปรียบตรงที่ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าสามารถควบคุมเปลว
เพลิงของเจ้าได้อย่างชานาญ
ฉะนั้นขอเพียงแค่เจ้าศึกษาหาความรู้หนทางสู้การเป็นนักปรุงยา
เช่นข้าหรืออาจเหนือกว่าข้าย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ”
“ ท่านอาจารย์ตัวข้าไม่ได้สนใจเพียงทักษะปรุงยา ทางด้านวร
ยุทธ์ข้าเองก็..."
ก่อนที่หลินหมิงจะพลันได้กล่าวอะไรอาจารย์สาวสวยของเขายก
มือขึ้นห้ามพร้อมกับยิ้มให้เขาเล็กน้อย เพียงแค่นี้มันก็แทบจะทาให้
เขาอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าจู่โจมหากไม่มีเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่
สามารถโจมตีนางได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ เรื่องที่เจ้ากังวลข้าย่อมรับรู้ หนทางแห่งบุรุษส่วนใหญ่แล้ว
นั้นจะมุ่งสู่การเป็นนักรบเรื่องนั้นข้าย่อมเข้าใจดี และด้วยตานักของ
ข้าแห่งนี้แม้จะเป็นสถาบันนักปรุงยาแต่มันหาได้มีเพียงตาราปรุงยา
อย่างเดียวเท่านั้น

เจ้าสามารถที่จะฝึกฝนตารายุทธ์ต่างๆได้แต่นั้นเมื่อข้าเห็นว่าเจ้า
สามารถเข้าใจพื้นฐานของศาสตร์แห่งการปรุงยาได้ในระดับหนึ่ง
เท่านั้น ”
แม้ว่าตัวของหลินหมิงจะไม่อาจเรียนรู้ทักษะอื่นๆได้เนื่องจาก
เปลวเพลิงสีดาในร่างกายของเขาแต่เขานั้นค้นพบว่าเงื่อนไข
เหล่านั้นล้วนจากัดเพียงทักษะโจมตี หากเป็นทักษะเสริมกายา หรือ
ทักษะที่ส่งเสริมความสามารถเฉพาะตัวนั้นเขาย่อมสามารถที่จะ
เรียนรู้ได้
และหลินหมิงยังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากไม่ต้องสงสัยเลยว่าตา
ราวรยุทธ์ภายในสานักที่ยิ่งใหญ่เช่นสมาคมนักปรุงยานั้นย่อมเป็น
อะไรที่ไม่ธรรมดา
“ ข้าจะตั้งใจมั่นศึกษาพื้นฐานศาสตร์แห่งการปรุงยาเพื่อไม่ให้
อาจารย์ผิกหวัง ”
“ ฮ่าๆ ดีมากๆ ”
อาจารย์สาวสวยหัวเราะร่าอย่างมีความสุข แม้ว่าบุคคลิกของ
นางจะดูขัดต่อภาพลักษณ์ที่เปรียบดั่งราชินี แต่เรื่องเพียงเท่านี้ก็ไม่
สามารถบรรทอนคนามงามของนางลงได้เลยแม้แต่น้อย
“ ที่จริงข้าเองก็อยากสั่งสอนเจ้าเสียแต่วันนี้ แต่ตัวข้านั้นใน
สองสัปดาห์จะต้องเดินทางเพื่อออกทาธุระยังเมืองหลวง แต่เจ้าไม่
ต้องข้าได้เตรียมอาจารย์ที่จะสั่งสอนเจ้าแทนข้าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
และความสามารถของนางก็เทียบเท่าเหล่าผู้อาวุโสชั้นยอดเลย
ทีเดียวในแง่ของทักษะการปรุงยาที่สาคัญนางจัดได้ว่าเปรียบเสมือน
มือขวาของข้าเลยทีเดียว
แต่อย่างไรเสียข้าได้สั่งคนไปบอกกล่าวแก่นางแล้วในเวลา
กลางวันพรุ่งนี้นางถึงจะสามารถมาหาเจ้าได้ในระหว่างนี้เจ้าก็อาศัย
อยู่ตานักแห่งนี้และข้าอนุญาติให้เจ้าเข้าให้หอสมุดของตาหนักข้าได้
แต่ข้าไม่แนะนาให้เจ้าออกไปภายนอก เจ้าคงรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ส่วน
ใหญ่ล้วนมีแต่สตรีเพศการที่บุรุษเช่นเจ้ามาอาศัยนั้นอาจก่อให้เกิด
เหตุบางอย่างได้ ”
หลินหมิงใช้เวลาพูดคุยกับอาจารย์สาวชั่วครู่แล้วจึงค่อยออกมา
จากห้องของนาง แล้วจึงตรงไปที่ห้องของเขาในทันทีเพราะเขาอด
ไม่ได้ที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เขาได้รับโอกาศมาในตอนนี้

ตอนที่ 11
เช้าวันรุ่งขึ้นหลินหมิงตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชินจากการที่เขา
จะต้องคอยถูกรบกวนตั้งแต่เช้าจากบรรดาพี่น้องต่างแม่ ในค่าคืที่
ผ่านมานั้นนับได้ว่าเป็นคืนที่เขาได้หลับสบายมากที่สุดในรอบหลาย
ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
ความรู้สึกแข็งแกร่ง ความกังวล ความเคร่งเครียดจากที่ต้องอยู่
ภายในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรเพียงลาพังราวกับว่าเรื่องทุกอย่าง
เป็ยเพียงความฝัน เมื่อวานนี้ก่อนเข้านอนหลินหมิงได้ใช้เวลาใน
การศึกษาตาราเกี่ยวกับวิธีการปรุงยาเองอยู่บ้าง
เพราะเขาไม่ต้องการให้อาจารย์สาวสวยต้องผิดหวัง ถึงแม้เขา
จะเข้าใจดีว่าการทาความใจเกี่ยวกับตาราปรุงยานั้นย่อมไม่ใช่เรื่อง
ง่ายแต่อย่างใดแต่เมื่อเขาได้ลองศึกษาดูเพียงคราวๆ เขากลับพบว่า
มีหลายสิ่งทีภ่ ายในตารานั้นไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนและ
เขาไม่สามารถที่จะทาความเข้าใจกับมันได้
ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นขั้นตอนสาคัญมนการปรุงยาที่จะอธิบาย
วิธีการและกลักขั้นตอนต่างๆที่หลินหมิงพอจะสรุปได้ว่าก็คือการ
ปรุงยานั้นแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลักๆนั้นก็คือการกลั่น และการ
หลอมรวมโดยในขั้นแรกนักปรุงยาจะต้องทาการกลั่นวัตถุดิบต่างๆ
โดยใช้เปลวเพลิงของพวกเขา
และแน่นอนพวกเขาย่อมต้องควบคุมเปลวเพลิงในระดับที่
เหมาะสม และถ้ามันเป็นเปลวเพลิงที่มีความบริสุทธ์มากมันก็ยิ่งทา
ให้คุณค่าของวัตถุดิบจากการกลั่นนั้นสูงยิ่งขึ้นตามไปด้วย และใน
ขั้นต่อมาคือการหลอมรวมโดยจะนาเอาพลังงานจากวัตถุดิบที่ได้
จากการกลั่นในตอนแรกมาทาการหลอมรวมกัน
โดยในขั้นตอนนี้หลินหมิงพบว่ามันช่างยากโดยแท้จริงเพราะไม่
เพียงแต่จะต้องควบคุมระดับเปลวเพลิงที่เหมาะสมยังต้องมีสายตา
ที่เฉียบแหลมในการหาจังหวะช่วงเวลาที่เหมาะสมในการหลอมรวม
อาจการได้ว่าหากทิ้งระยะเวลาจากช่วงการกลั่นไว้เป็นเวลานานก็
จะทาให้พลังงานรั่วไหล
แต่หากทาการหลอมรวมในทันทีมันก็เป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป
เพราะระดับพลังงานยังไม่เสถียร อีกทั้งยังต้องมีความชานาญใน
การจัดลาดับการหลอมรวมเพื่อเกิดความสูญเสียพลังงานให้น้อย
ที่สุดอีกด้วย
หลินหมิงใช้เวลาในการรับประทานอาหารเช้าเพียงลาพังในตอน
แรกเขาคาดหวังว่าหญิงสาวสองพี่น้องจะเป็นคนมาดูแลเขา แต่เขา
กลับต้องผิดหวังเพราะว่าคนรับใช้ที่นาอาหารมาให้เขาบอกว่าพวก
นางทั้งสองตอนนีก้ าลังนอนจับไข้และคงไม่หายในเร็ววันหลินหมิง
ใช้เวลาที่เหลือในการอ่านทาความเข้าใจตาราปรุงยาต่อไปเพื่อรอ
อาจารย์ที้จะมาสอนแทนจนกระทั่งในช่วงบ่าย

“ คุณชายเจ้าคะ..ผู้อาวุโสมาแล้วเจ้าคะ ”
เสียงข้ารับใช้หญิงสาวดังขึ้นทาให้หลินหมิงรู้ในทันทีว่าอาจารย์
ชั่วคราวของเขานั้นได้มาถึงแล้ว หลินหมิงรู้มาจากอาจารย์สาวสวย
ของเขาว่าคนที่จะมาทาการสอนแทนเขานั้นก็คือผู้อาวุโสซูหลิ่ง
นางเป็นครที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอาจารย์สาวของเขานั้นคือ
ราว 30 กว่าปี แต่ถึงอย่างนั้นนางนับว่าเป็นอัจริยะทางด้านการปรุง
ยาที่หาตัวจับได้ยากแม้วา่ นางจะไม่มีพรสวรรค์ทางด้านวรยุทธ์มาก
เท่าไหร่นักก็ตามที่
หลินหมิงก้าวออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว เขามีประสว
การณ์ที่ไม่ค่อยดีนักในตอนที่เขาทาให้อาจารย์สาวของเขาต้องโกรธ
เคืองและเขาจะพยายามไม่ให้เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นอีกเพื่อลด
อุปสรรคที่จะขัดขวางทางก้าวหน้าของเขา
เมื่อหลินหมิงก้าวเขามาภายในห้องเขาก็พบกับหญิงสาวใบหน้า
งดงาม ผิวของนางขาวพุดผ่องแลดูเรียบจนชวนน่าสัมผัสไม่เพียง
เท่านั้นขนาดสัดส่วนตามร่างกายของนางสามารถบ่งบอกได้อย่าง
ชัดเจนว่านางเป็นหญิงที่มีรูปร่างสมบูรณ์จนอยู่ในระดับเดียวกันกับ
อาจารย์สาวสวยของเขา !
เพียงแค่เหล่าได้เพียงมองสัดส่วนโค้งเว้าตามร่างกายของหญิง
สาวผู้นี้ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทาให้พวกเขาเหล่านั้นตกต้องอยู่
ภายใต้อาณัติของนางอย่างไม่มีเงื่อนไข เดิมทีหลินหมิงคิดว่า
อาจารย์สาวสวยของเขาเป็นข้อยกเว้นเดียวที่ทาให้นางเอาชนะ
กาลเวลาและยังดูงดงามราวกับหญิงสาววัยรุ่น
แต่กลับหญิงงามตรงหน้าที่มีอายุไม่ต่างจากอาจารย์สาวของเขา
มากนักนางก็ยงั คงมีใบหน้าที่งดงามไม่ปรากฎร่องรอยที่มักเกิดขึ้น
ตามกาลเวลาเลยแม้แต่น้อย จนเขาอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเป็นไปได้
หรือไม่ว่ามันจะมีโอรถที่ทาให้ร่างกายของพวกนางไม่เคลื่อนไหว
ตามกาลเวลา ?
“ เจ้าเองงั้นรึ ”
น้าเสียงแรกของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมตัวของหลินหมิงที่พลันตัง้
สติเบิกคิดเรื่องฟุ้งซ่านทุกอย่าง น้าเสียงของนางดูดุดันและน่าเกรง
ขามถึงแม้ว่าอาจารย์สาวสวยของเขาจะบอกว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งผู้นี้จะ
ไร้พรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้แต่เมื่อเขาลองประเมิณดูคราวๆความ
แข็งแกร่งของนางนั้นน่าจะประมาณขั้นกลางของระดับก่อเกิดซึ่ง
ระดับพลังเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทาให้เขาบอกลาวันพรุ่งนี้ไป
อย่างง่ายดาย
“ ขอรับ..ข้าฮั่วหมิงขอรบกวนผู้อาวุโสโปรดสอนสั่ง ”
หลินหมิงก้มลงเคารพด้วยความนอบน้อมและไม่ลมื ที่จะเปลี่ยน
แซ่เดิมของเขาเหมือนกับตอนที่เขาได้บอกกล่าวแก่อาจารย์สาวสวย
สายตาของผู้อาวุโสซูหลิ่วกวาดมองหลินหมิงอย่างพิจรณาราวกับ
ว่านางสามารถตรวจสอบเขาได้ทุกอย่างเพียงแค่การมอง
“ ฮึ่ม เอาเถอะข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประมุขคิดเช่นไรที่นาเจ้ามา
เป็นศิษย์ส่วนตัวแต่นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องของข้าอยู่แล้ว ยูร์เอ๋อเจ้าเข้า
มาได้แล้ว ”
สิ้นเสียงของนางหลินหมิงก็หันกลับไปมองตามเสียงฝีเท้าที่ค่อย
ก้าวเข้ามาภายในห้องนี้ กลับกลายเป็นหญิงสาวทีง่ ดงามราวกับ
เทพธิดาอีกองค์หนึ่งในชีวิตนี้เขาเคยเห็นหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้
เพียงแค่สามคนด้วยกันและทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นภายในสองวัน
“ ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์ ”
หญิงสาวทีม่ าใหม่ก้มหัวคาราวะให้กับอาวุโสซูหลิ่งกริยาท่าทาง
ของนางช่างงดงามและดูสูงส่งความงามของหญิงสาวที่
เปรียบเสมือนเทพธิดาทั้งสามสาหรับหลินหมิงแล้วพวกนางนั้นต่าง
มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป อาจารย์สาวสวยของเขานางดูเป็นคน
ร่างเริงและไม่ค่อยถือตัว
อาวุโสซูหลิ่งนั้นหากดูเพียงผิวเพินนางออกไม่ต่างจากสตรีที่เข้า
มาใหม่แต่ด้วยอายุและวุฒิภาวะที่มากกว่าของนางจึงทาให้นางดู
เหมือนเป็นคนที่เจ้าระเบียบและเคร่งครัดตามกฎ ส่วนสตรีคน
สุดท้ายนางเปรียบเสมือนราชินีน้าแข็งที่ไม่มีวันถูกหลอมละลาย
กริยาท่าทางแม้แต่ในตอนที่นางยืนอยู่ห่างเจ้าเขาไปไม่ไกลนักหลินห
มิงยังสัมผัสได้ถึงอ่อร่าอันสูงส่งที่แผ่ออกมาจากตัวนาง พร้อมกับ
สายตาของนางที่มองมาที่หลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความดูถูกเห็นได้
ชัดว่านางพอจะทราบเรื่องราวของเขามาบ้าง
“ นี้คือศิษย์ส่วนตัวของข้า หลิวฉวนยูร์ ”
‘ หลิว ! หนึง่ ในตระกูลใหญ่เช่นเดียวกันกับตระกูลหลิน มิน่า
นางถึงได้มีทีท่ายะโสโอหังเช่นนี้ ’
“ งั้นในวันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าเกี่ยวกับพื้นฐานในการปรุงยา
ส่วนเจ้ายูร์เอ๋อข้าอยากให้เจ้าลองปรุงยาระดับ 3 ให้ข้าจะเป็นอะไร
ก็ได้ ”
นักปรุงยานั้นแบ่งออกเป็น 10 ระดับด้วยตามระดับของโอสถที่
พวกเขาสามารถปรุงได้และแน่นอนว่ามันยังถูกแบ่งย่อยลงไปอีก
สามระดับตามความบริสุทธ์ของโอสถนั้นก็คือระดับขั้นเริ่มต้น ขั้น
กลาง และขั้นสูงรวมเป็นทั้งหมด 30 ขั้น
นักปรุงยาส่วนใหญ่นั้นจะสามารถปรุงยาในระดับสอง หรืออาจ
ระดับสามนั้นย่อมเป็นเรื่องปกติแต่สาหรับหญิงสาวผู้มาใหม่เห็นได้
ชัดว่านางอายุไล่เลี่ยกับเขานั้นจึงเป็นเหตุผลให้หลินหมิงได้แต่ตะลึง
งันกับความสามารถของหลิวฉวนยูร์

ตอนที่ 12
ไม่เพียงแต่นางจะมีพรสวรรค์ในด้านการปรุงยาสัมผัสจากพลัง
ปราณที่แผ่ออกมาจากตัวนางราวกับว่านางกาลังต้องการที่จะข่ม
เหงหลินหมิง สายตาของนางที่จ้องมองมาที่หลินหมิงเต็มไปด้วย
ความดูถูกและเหยียดแรงกดดันนี้มันอาจเรียกได้ว่ามากกว่าของ
หลินชู น้องชายต่างแม่ที่เขามักจะเป็นคู่ซ้อมให้ในคราวที่อยู่ที่
ตระกูลหลินนั้นแสดงว่าหญิงสาวตระกูลหลิวผู้นยี้ ่อมมีพลังไม่ต่าไป
กว่าระดับเจ็ดปราณเริ่มต้น !
หลิวฉวนยูร์ตอบรับคาจากอาจารย์ของนางอย่างว่าง่ายการที่คน
ส่วนใหญ่จะก้าวมาถึงที่ในตาแหน่งนักปรุงยาระดับสามนั้นพวกเขา
อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการศึกษา และบ่มเพาะประสบการณ์ของ
พวกเขาแต่หญิงสาวอายุ 15 นางนี้นางกลับพยักหน้าคาบอกกล่าว
ของอาจารย์ของนางราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่นางทาอยู่ทุก
วันอย่างใดอย่างนั้น
แน่นอนว่าหลินหมิงย่อมต้องรู้จักชื่อของหลิวฉวนยูร์ไม่ใช่เพียง
เพราะพรสวรรค์ของนางที่นับได้ว่าหาตัวจับได้ยากทั้งในเรื่องของ
การต่อสู้และทางด้านการปรุงยา แต่นางยังเป็นถึงคู่หมั้นของ
น้องชายร่วมสายเลือดของเขาหลินชูอีกด้วย แต่หลินหมิงนั้นรู้ดีว่า
การหมั้นในครั้งนี้ดูเหมือนว่าตัวของหญิงสาวนั้นไม่ได้เต็มใจแต่เป็น
ทางด้านผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลเป็นคนตกลงกัน ซึ่งมันเห็นได้จาก
การที่หลินชูนั้นมักจะกลับมาจากตระกูลหลิวด้วยใบหน้าโกรธเป็น
ฝืนเป็นไฟ จนมันต้องมาระบายที่เขา
หลิวฉวนยูร์นางเดินไปนัง่ ยังจุดที่ห่างออกจากหลินหมิงพอ
สมควร แม้ว่านางจะเป็นคนที่เย่อยิ่งแต่นางยังคงให้ความเคารพ
อาจารย์ของนางเป็นอย่างมาก หลินหมิงไม่ได้เก็บท่าทางของหลิวฉ
วนยูร์มาสนใจมากนักเช่นเดียวกันกับอาวุโสซูหลิ่งทีด่ ูเหมือนว่านาง
จะชินชากับพฤติกรรมเช่นนี้ของศิษย์นางไปเสียแล้ว
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยในแต่ละวันนั้นหลินหมิงได้เพียง
รับคาสอนจากอาวุโสซูหลิ่งรวมถึงการที่เขาได้ถามบางเรื่องที่ยังไม่
เข้าใจ ต่างจากหลิวฉวนยูร์ที่ดูเหมือนว่าบทเรียนของนางนั้นจะเน้น
ไปในด้านการปฏิบัติแสดงให้เห็นได้ชัดว่านางมีพื้นฐานในด้านการ
ปรุงยาที่ดีเลิศ ซึ่งขาดเพียงประสบการณ์ที่ต้องคอยให้ผู้อาวุโส
ชี้แนะในบางจุด
“ เอาล่ะ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ทดลองปรุงยาเป็นครั้งแรกแน่นอน
ว่าเจ้าไม่ต้องเคร่งเครียดไปกับมันมากนักเนื่องจากเจ้าพึ่งใช้เวลา
เรียนรู้มาได้ไม่นานนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด วัตถุประสงค์
แท้จริงของข้าคือต้องการให้เจ้าได้ลองปฎิบัติจริงดูบ้างเพียงสักครั้ง

ได้ยินคาของผู้อาวุโสซูหลิ่งหลินหมิงแทบกระโดดโห่ร้องด้วย
ความดีใจหลายวันที่ผ่านมาเขาได้เก็บความอดกลั้นในการที่จะได้
ปรุงยาไว้อย่างมาก ยิ่งการที่เขาได้เห็นหลิวฉวนยูรป์ รุงยาในแต่ละ
วันที่เป็นถึงอย่างระดับจานวนราวๆ 4-5 ขวดในแต่ละวันมันทาให้
เขาแทบจะกักเก็บน้าลายในปากไม่ให้ไหลออกมาไปไม่ได้
ด้วยยาระดับที่นางปรุงขึน้ ในแต่ละวันนั้นมีทั้งยาทีช่ ่วยในการบ่ม
เพาะ ยาที่ช่วยในการรักษาบาดแผล หรือกระทั่งยาแก้พิษ โดยส่วน
ใหญ่แล้วผู้คนมักจะศึกษาไปทางด้านเดียวเสียมากกว่าและนั้นย่อม
ต้องเป็นโอสถประเภทบ่มเพาะแต่กลับหญิงสาวที่อายุเท่าเขานาง
กลับมีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อจนหลินหมิงไม่อาจทราบได้ว่า
นางไปนาเวลามาจากไหนในการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้
วัตถุดิบจานวนมากรวมถึงหม้อปรุงยาถูกนาออกมาจากแหวน
มิติที่ส่วมอยู่บนนิ้วเรียวงามของผู้อาวุโสซูหลิ่ง หลินหมิงพอจะจา
ลักษณะของโอสถที่เขาจะต้องปรุงได้ว่ามันจะต้องใช้วัตถุดิบใดบ้าง
และจากที่เขาเห็นวัตถุดิบที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งนาออกมานั้นย่อมเป็น
วัตถุดิบสาหรับทายาบ่มเพาะระดับหนึ่ง
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงยาบ่มเพาะระดับหนึ่งแต่ราคาของมันก็นับ
ได้ว่าไม่ถกู นักมันเหมาะสาหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีตระกูลหนุนหลัง
หรือมีฐานะที่ร่ารวยโดยราคาของมันอยู่ที่ราวๆ 100 เหรียญตาม
ความบริสุทธ์ของยาที่สามารถปรุงได้โดยที่รายได้ของคนทั่วไปที่เป็น
ชาวยุทธ์นั้นจะอยู่ที่ 3000 เหรียญ แต่หากเทียบกันกับยาของแม่
นางหลิวฉวนยูร์ที่เป็นระดับสามแล้วละก็ราคาขั้นต่าของมันล้วน
เริ่มต้นที่ 1500 เหรียญเป็นอย่างน้อยเห็นได้ชัดว่ามันมีช่องว่าง
ขนาดใหญ่ระหว่างนักปรุงยาในแต่ละระดับชั้น
“ เนื่องจากนี้เป็นครั้งแรกของเจ้าดังนั้น ข้าจะให้คาแนะนาเจ้า
ในส่วนของช่วงเวลาการกลั่นวัตถุดิบ ”
“ ขอรับผู้อาวุโส ”
“ เอาล่ะเช่นนั้นเจ้านาหม้อปรุงยานี้ไปพร้อมกับวัตถุดิบเหล่านี้
หลังจากนั้นก็เริ่มทาการเรียกเปลวไฟของเจ้าออกมาได้แล้ว ”
หลินหมิงรับของทั้งหมดมาวางเรียงข้างตัวเพื่อให้ง่ายแก่การ
หยิบจับมีเพียงหม้อปรุงยาเท่านั้นที่ถูกตั้งเอาไว้ที่ดา้ นหน้าของเขา
หลินหมิงหลับตาลงเพื่อทาการเรียกสมาธิเข้าสู่ต้นเถียนของเขาอีก
ครั้งในตอนนี้เขาไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆเกี่ยวกับภายในต้นเถีย
นของเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าในยามดึกนั้นในช่วงที่เขาหลับนอน
อยู่เขากลับพบว่าตัวเขาเปรียบเสมือนได้เข้ามาภายในโลกที่คล้ายๆ
ภายในต้นเถียนของเขาที่โลกแห่งนั้นหลินหมิงสามารถทาความ
เข้าใจทักษะเปลวเพลิงของเขาได้อย่างต่อเนื่องจนทาให้รู้สึกเคยชิน
กับเปลวเพลิงสีดานี้เป็นอย่างมากราวกับว่ามันเป็นสหายสนิทของ
เขาเพียงคนเดียวในโลกใบนี้
หลินหมิงลืมตาขึ้นช้าๆด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลิวฉวนยูร์หันมามองที่หลินหมิงด้วยสายตาปนดูถกู ยิ่งกว่าเดิมใน
สายตาของนางนั้นตัวตนของหลินหมิงไม่นับว่าเหมาะสมกับการได้
ตาแหน่งศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคมนักปรุงยาที่ขนาดนางยังไม่
เหมาะสม แต่กลับเด็กหนุม่ บ้านนอกผู้นี้แล้วมันกลับได้เป็น ? นี้ไม่ใช่
แปลว่านางนั้นด้อยกว่ามันหรอกหรือ ?
เปลวเพลิงสีดาทมิฬค่อยๆปกคลุมมือทั้งสองข้างของหลินหมิงอ
ย่างช้าๆราวกับว่ามันต้องการกลืนกินมือของหลินหมิงให้หายไป สี
หน้าของผู้อาวุโสซูหลิ่งเปลี่ยนเป็นตะลึงงันเช่นเดียวกันกับหลิวฉวน
ยูร์หลังจากที่พวกนางได้เห็นเปลวเพลิงของหลินหมิง แต่กลับหลินห
มิงนั้นเขาไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใดเขาสามารถที่จะควบคุม
เปลวเพลิงทมิฬนี้ได้อย่างใจนึก
ปัญหาเดียวในตอนแรกทีเ่ ขามีก็คือการที่มันกินพลังปราณไป
มาก แต่เมื่อเขายกระดับพลังปราณมาอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นที่ห้า
ระดับเริ่มต้นนั้นจึงทาให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบน้อยลงอย่างเห็นได้
ชัด
“ ผู้อาวุโสข้าต้องทาสิ่งใดต่อไป ”
เสียงของหลินหมิงพลันเรียกสติของซูหลิ่งให้หายจากอาการตก
ตะลึงโดยพลัน เช่นเดียวกันกับอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงนาง
เองก็ยังไม่เคยเห็นเปลวเพลิงสีดาทมิฬเช่นนี้มาก่อน มันถึงขนาดทา
ให้นางตกอยู่ในความกลัวไปชั่วขณะหลังจากได้เห็นเปลวเพลิงสีดา
ที่ดูไร้จุดสิ้นสุดนี้ อีกทัง้ ความบริสุทธ์ของเปลวเพลิงชนิดนับได้ว่ามัน
ไม่มีอะไรที่จะสามารถมาเปรียบเทียบได้เรียกได้ว่ามันเป็นเปลวเพลิง
ที่ปราศจากมลทินร้อยเปอร์เซ็นต์ !
หลินหมิงค่อยๆทาการกลัน่ วัตถุดิบต่างๆตามลาดับขั้นตามที่ผู้
อาวุโสซูหลิ่งเป็นคนบอกเดิมทีตัวเขาคิดว่าเพียงแค่ขั้นตอนการกลั้น
นั้นก็ยากยิ่งสาหรับเขาแล้วแต่มันหาได้เป็นปัญหาสาหรับเขาไม่
พลังงานของวัตถุดิบต่างๆถูกกลั่นออกมาอย่างบ้าคลั่งและรวดเร็ว
มันต่างจากตาราที่เขาอาจโดยสิ้นเชิง โดยปกติแล้วเพียงแค่ขั้นตอน
การกลั่นวัตถุดิบนัน้ ย่อมตกกินเวลากว่าครึ่งชั่วยามหากเป็นมือใหม่
เช่นหลินหมิงแต่ขั้นตอนการกลั่นวัตถุของหลินหมิงเกือบจะเสร็จ
ภายในเวลาเพียงแค่ชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป
ด้วยความเร็วขนาดนี้มันอาจเรียได้ว่าใกล้เคียงกันกับนางที่อยู่ใน
ตาแหน่งผู้อาวุโสแม้ว่าตัวของหลินหมิงจะได้เปรียบในเรื่องของการ
ที่เขาไม่ต้องคอยสังเกตจังหวะในการกลั่นวัตถุดบิ ต่างๆ รวมถึง
ลาดับขั้นที่นางจะเป็นคนคอยตรวจสอบให้แต่มันก็ยังถือได้ว่าเป็น
ความเร็วที่น่าตกใจ จนถึงขนาดที่ว่าหลิวฉวนยูร์ยงั ไม่อาจสามารถ
ทาได้ด้วยความเร็วเท่านี้นางนั้นถือเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงแต่ถึง
อย่างนั้นนางต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งก้านธูปครึ่งในการจัดการ
ขั้นตอนการกลั่นวัตถุดิบ
สีสันของพลังงานบริสุทธ์จานวนมากภายในหม้อปรุงยาของ
หลินหมิงมันทาให้เขาอดที่จะดีใจไปไม่ได้ เขาไม่ได้หันไปสังเกต
อาการของหญิงสาวทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่หลิวฉวนยูร์
ที่ในตอนแรกนางรักษาระยะห่างจากหลินหมิง นางถึงกับต้องค่อยๆ
ขยับร่างกายเข้ามาใกล้ๆเพื่อพิจรณาถึงสิ่งที่หลินหมิงกาลังทาอยู่
พลังงานต่างๆจากวัตถุดบิ คอยๆถูกหลอมรวมโดยหลินหมิงโดย
ที่มีผู้อาวุโสซูหลิง่ คอยแนะนาด้วยอาการตื่นเต้น การดาการใน
ขั้นตอนนี้ค่อยๆเป็นไปอย่างเชื่องช้าเพราะหลินหมิงยังคงไม่คุ้นชิน
เกี่ยวกับพลังงานต่างๆว่าเป็นของวัตถุดิบชนิดใด อาจเรียกได้ว่าใน
ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชานาญเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับพบว่าพลังงานที่ได้จากการกลั่น
วัตถุดิบเหล่านั้นไม่มที ีท่าว่าจะลดลงไปเลยแม้แต่นอ้ ยราวกับว่า
ในตอนนี้พวกมันล้วนถูกผูกมัดเอาไว้โดยเปลวเพลิงสีดาของเขานั้น
จึงเป็นเหตุให้หลินหมิงไม่รีบร้อนและดาเนินการต่อไปด้วยความใจ
เย็น
ผู้อาวุโสหลิ่งแอบยิ้มชื่นชมหลินหมิงภายในจิตใจหากเป็นคน
ธรรมปกติโดยทั่วไปพวกเขาจะกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนนี้มากและ
มักจะเร่งจนทาให้พลังงานเกิดการเสียความสมดุลซึ่งนางเองก็เป็น
หนึ่งในนั้นเห็นได้ชัดว่าทาไมประมุขสมาคมนักปรุงยาถึงได้รับเด็ก
หนุ่มผู้นี้มาเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางไม่เพียงแต่เขาจะมีเปลวเพลิงที่
น่าอัศจรรย์อีกทั้งสมาธิของเขาล้วนอยู่ในระดับที่สูงเลยทีเดียวสิ่ง
เดียวที่เขาขาดในตอนนี้ก็คือประสบการณ์และความรู้พื้นฐานเพื่อรอ
วันที่เติบโตจนมีความสามารถในระดับนางหรือสูงกว่าเสียด้วยซ้าไป

ตอนที่ 13
ครึ่งชั่วยามผ่านไปในที่สุดการปรุงยาครั้งแรกของหลินหมิงก็
สิ้นสุดลงด้วยการประสบความสาเร็จอย่างสวยงาม มันเป็นโอสถ
สาหรับบ่มเพาะระดับหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่ามันอยู่ในขั้นสูงเลยทีเดียว
สาหรับการปรุงยาครั้งแรกแล้วได้ผลรับเช่นนี้นับได้ว่าตัวตนของ
หลินหมิงในสายตาของซูหลิ่งนั้นเด็กหนุ่มผู้นี้นับได้ว่าเป็นอัญมณี
โดยแท้จริง
“ เยี่ยม เยี่ยม สมแล้วที่เจ้าเป็นคนที่ท่านประมุขยอมรับ ”
“ แฮ่กๆ..ขะ..ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ ”
หลินหมิงนั้นหลังจากใช้เปลวเพลิงสีดาไปเกินกว่าหนึ่งชั่วยาม
เขาพบว่าพลังปราณในร่างกายของเขาสูญหายไปกว่าครึ่งนั้นจึง
เป็นเหตุให้เขาเกิดอาการเหนื่อยอ่อน ผู้อาวุโสซูหลิง่ เห็นอาการของ
หลินหมิงนางเองก็พอเข้าใจอยู่บ้างสาหรับนักปรุงยาที่มีเปลวเพลิงที
แสนวิเศษเช่นนี้การที่มันกินพลังงานมากกว่าเปลวเพลิงทั่วไป 2-
3 เท่านั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดาแต่นางไม่ได้รู้เลยว่าในการปรุงยานั้น
เปลวเพลิงของหลินหมิงได้ช่วยเขาเอาไว้เป็นอย่างมาก
หลิวฉวนยูร์ที่ได้เห็นภาพของอาจารย์ของนางยิ้มมีความสุข
ให้กับหลินหมิง นางพลันเกิดความรู้โกรธเกรี้ยวขึ้นมาภายในจิตใจ
บรรดาคนรุ่นเยาว์ที่อายุไล่เลี่ยกันกับนางนับได้ว่าหาคนที่มี
ความสามารถเทียบเคียงนางนั้นแทบจะนับได้ด้วยมือข้างเดียว ใน
ตอนแรกนางเพียงคิดว่าหลินหมิงเป็นเพียงเด็กบ้านนอกที่ประมุข
สมาคมนักปรุงยาหวังจะชุบเลี้ยงเพื่อเพิมพูนชื่อเสียงของนาง
แต่กลับกลายเป็นว่ามันกลายเป็นเพชรในตมเสียนี้ อีกทั้ง
พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มทีอ่ ายุเท่านางผู้นี้ดูเหมือนว่าจะสูงส่งยิ่งกว่า
นางไปหลายขุมจนไม่อาจสามารถนาไปเทียบกันได้เลยทีเดียว
“ ข้าเพียงช่วยเหลือเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เอาล่ะดูเหมือนว่า
ในวันนี้เจ้าจะเหนื่อยพอสมควรดังนั้นแล้วในวันนี้กพ็ อเท่านี้ก็แล้ว
กัน และข้าจะบอกข่าวแก่ท่านประมุขเรื่องความสาเร็จของเจ้าด้วย
เพราะฉะนั้นในตอนที่นางกลับมาเจ้าก็รอรับรางวัลจากนางเสียล่ะ มี
เรื่องไม่กี่อย่างหรอกที่จะทาให้นางนั้นมีความสุขและแน่นอนว่าเรื่อง
ของเจ้านับเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอนข้ามั่นใจ ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งค่อยๆก้าวเดินออกไปจากห้องด้วยรอยยิ้มที่เต็ม
เปี่ยมไปด้วยความสุขพร้อมกับหลิวฉวนยูร์ การทีม่ ีอัจริยะเกิดใน
สมาคมนั้นย่อมเป็นเรื่องทีด่ ีกว่าการที่ได้รับอัจริยะทั้งหลายที่มีฐานะ
จากตระกูลต่างๆเพราะในท้ายที่สุดพวกเขาเหล่านั้นส่วนใหญ่ล้วน
แต่ไม่ได้อยู่ทสี่ มาคม อีกทัง้ การปรากฎขึ้นของหลินหมิงที่เป็น
อัจฉริยะนั้นเป็นการการันตีว่าสมาคมจะไม่ขาดแลคนรุ่นเยาว์จาก
คนในของสมาคมที่มีความสามารถ
“ ข้าไม่ยอมแพ้เจ้าแน่ ! ”
หลิวฉวนยูร์กล่าวคาออกไปกระซิบข้างหูของหลินหมิงหากเขา
ไม่นึกถึงคาพูดในความหมายของนางนี้นับได้ว่าเป็นประสบการณ์
อย่างดีเยี่ยมในการที่มีสาวงามเช่นคุณหนูจากตระกูลหลิวมากระซิบ
ข้างหูอีกทั้งยังได้ดมกลิ่นกายของนางในระยะชิดใกล้
หลินหมิงล้มตัวลงอย่างอ่อนล้าพร้อมถุงเงินจานวน 100 เหรียญ
ที่ผูอาวุโสซูหลิ่งเป็นนามาให้เขาโดยนางอ้างว่านี้เป็นส่วนแบ่งจาก
การที่นางจะนายาขวดนี้ของเขาออกขาย โดยนางบอกว่าด้วยการที่
มันเป็นโอสถคุณภาพสูงราคาของมันย่อมอยู่ที่
ประมาณ 150 เหรียญเป็นอย่างน้อย นี้นาเป็นเงินสะสมก้อนแรก
ของเขาแม้ว่ามันจะเป็นจานวนไม่มากก็ตามที่ แต่เขาเชื่อมั่นว่าหาก
ให้เวลาเขาเติบโตขึ้นเรื่อยๆแน่นอนว่าการที่เขาจะทาให้บิดาของ
เขาและบรรดาญาติต้องเสียใจกับสิ่งที่ทาในอดีตได้อย่างแน่นอน
หลินหมิงกลับเข้ามาพักผ่อนภายในห้องของตนเองเขาไม่เคยคิด
มาก่อนเลยว่าเปลวเพลิงสีดาของเขานั้นไม่เพียงแต่มันจะเป็นทักษะ
ที่ใช้ในการต่อสู้ชั้นยอดจนยากแก่การที่จะสรรหาทักษะอื่นมา
เปรียบเทียบแต่มันยังสามารถช่วยเขาในขั้นตอนการปรุงยาอีกด้วย
ในระหว่างที่หลินหมิงกาลังนอนพักอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงของหญิงสาว
ที่คุ้นเคย
“ คุณชายเจ้าคะ ผู้อาวุโสซูหลิ่งให้ข้ามาดูแลคุณชายเจ้าคะ ”
ซึ่งมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหญิงสาวผู้พี่ที่เขาได้เคยร่วมรัก
กับนางมาก่อนนั้นเองหลังจากในครั้งนั้นไม่น่าเชื่อว่านางต้องพักฟื้น
ไปร่วมสามวัน เมื่อนางก้าวเข้ามาภายในห้องนางก็พบกับบุรุษผู้ที่
ช่วงชิงเอาความบริสุทธ์ของนางไปใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความ
เขินอาย ในความเป็นจริงแล้วตรงบริเวณร่องรักของนางนั้นยังคงไม่
หายจากอาการบาดเจ็บที่ถูกหลินหมิงเข้าเล่นงานนางจึงอ้างว่าไม่
สบายทั้งทีจริงแล้วนางหายป่วยเสียตั้งแต่วันแรกแล้วนางกลัวว่า
หลินหมิงจะกระทาการจู่โจมนางอีก
แต่ในเมื่อนี้เป็นคาสั่งของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่เปรียบเสมือนดังมือ
ขวาของประมุขนางจึงมิอาจทาสิ่งใดได้ แต่ลึกๆในใจของนางนั้น
นางยังคงแอบดีใจที่ได้เจอกับหลินหมิงอีกครั้ง
“ เจ้านั้นเอง ”
หลินหมิงเมื่อเห็นนางเขาจึงอดที่จะไม่คิดไปถึงเรื่องราวที่เขากับ
นางได้ร่วมรักกับนางและน้องสาวของนางไปไม่ได้ ใบหน้าของหญิง
สาวแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูเมื่อนางได้เห็นบุรุษที่นางได้มอบหัวใจ
และร่างกายจ้องมองมาที่นางด้วยสายตาเร่าร้อน
“ เจ้ายังเจ็บอยู่งั้นรึ ”
หลินหมิงยิ้มขึ้นอย่างสนุกสนานพร้อมกับเดินไปโอบร่างกายของ
นางเอาไว้เพื่อสูดดมกลิ่นของหญิงสาวในระยะใกล้ชิด แล้วประคอง
นางให้นั่งลงบนเตียงข้างๆเขา หัวใจของหญิงสาวพลันเต้นระรั่วขึ้น
เรื่อยๆนางรู้สึกดีที่ได้ยินถ้อยคาที่หลินหมิงเอยถามความรู้สึกของ
นาง
นางยอมรับว่าในคืนแรกหลังจากการร่วมรักกับนางและหลินห
มิงนั้นนางแทบจะนอนไม่หลับเลย เพราะนางยังคงรู้สึกถึงทวนมังกร
ของหลินหมิงในตอนที่เขาใช้มันแทงทะลวงเข้าสู่ตัวนางเพียงแค่
นางคิดเช่นนั้นร่องของนางก็พลันเกิดอาการกระตุก ความเสียวซ่าน
ค่อยๆไหลผ่านไปทั่วร่างและในตอนนี้อ้อมกอดของหลินหมิงที่ยังคง
โอบกอดนางไว้ดว้ ยความอบอุ่นมันทาให้นางนึกถึงเรื่องราวในครั้ง
นั้นอีกครั้ง
แม้ว่าในตอนแรกนางจะรู้สึกกลัวที่จะโดนหลินหมิงจู่โจมแต่
ในตอนนี้นางไม่สามารถอดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้ว นางพุ่งเข้า
ประกบปากกับหลินหมิงอย่างดูดดื่มร่องของนางค่อยๆเปรอะเปรื้อน
ไปด้วยคราบน้าใสๆที่ค่อยๆไหลซึมออกมาจากชุดของนาง นาง
ต้องการทวนมังกรของเขาอย่างแท้จริงแม้ว่ามันจะเป็นความ
เจ็บปวดแต่อย่างไรก็ตามนางกลับรู้สึกว่านางมีความสุขเป็นอย่าง
มากจากที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิง
ลิ้นทั้งสองกาลังพัวพันกันอยู่ภายในช่องปากอย่างโหยหาการที่
หลินหมิงต้องอยู่กบั ผู้อาวุโสซูหลิ่ง และหลิวฉวนยูร์ที่เปรียบดั่ง
เทพธิดาผู้งดงามทั้งสองมันทาให้เขาต้องอดกลั้นอารมณ์เป็นอย่าง
มาก เช่นเดียวกันกับหญิงสาวนางมีความต้องการแรงกล้าที่จะได้รับ
อ้อมกอดอันอบอุ่นของหลินหมิงและเหนือกว่านั้นก็คือทวนมังกร
ของเขา
มือของนางพลันล่วงเข้าไปที่ทวนมังกรที่กาลังผงาดพร้อม
จัดการศัตรูเสื้อผ้าของหลินหมิงถูกถอดออกอย่างว่องไว มือทัง้ สอง
ข้างของนางลูบไล้ไปที่ทวั่ ร่างของหลินหมิง และทีบ่ ริเวณทวนมังกร
อย่างร้อนแรง
“ เจ้ามีอารมณ์มากขนาดนี้เชียว ? ”
หลินหมิงอดที่จะหยอกล้อนางไปไม่ได้ในตอนแรกหน้าเต็มไป
ด้วยความเขินอายจนเขาไม่คาดคิดว่านางจะมีความกล้าลงมือกับ
เขาก่อนเช่นนี้
“ ข้ายังคงจาความสุขที่ท่านมอบให้กับข้าได้ ได้โปรดทากับข้า
อีกครั้ง ”
หญิงสาวผลักร่างของหลินหมิงให้นอนราบกับเตียงและขึ้นคร่อม
หลินหมิงเอาไว้ แม้ว่าในตอนนี้นางจะรู้สึกตัวดีแต่นางรู้สึก
เหมือนกับว่านางต้องการที่จะให้หลินหมิงนั้นมอบความสุขให้แก่
นางอย่างไม่รู้จบ
ตอนที่ 14
หญิงสาวกาลังอยู่ในท่าขึน้ คร่อมร่างของหลินหมิงที่นอนราบอยู่
บนเตียง โดยมีทวนมังกรของเขากาลังจ่ออยู่ที่บริเวณทางเข้าของ
ร่องรักของหญิงสาวแม้วา่ นางจะยังสามารถจดจาความเจ็บปวดใน
ครั้งจากการที่ได้เสียความบริสุทธ์ให้แก่หลินหมิงได้เป็นอย่างดีก็
ตามที่ ในความเป็นจริงแล้วนั้นนางพบว่าร่างกายของนางปรากฎ
เรื่องประหลาดอยู่อย่างหนึ่งหลังจากที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิง
แล้วนั้น
ร่องรักของนางที่สมควรฉีกขาดจากขนาดทวนที่ใหญ่เกินมาตร
ปกติของหลินหมิง แต่มันกลับค่อยๆฟื้นสภาพเช่นในตอนแรกเมื่อ
มันเป็นเช่นนี้นางไม่รู้ว่าจะนางสมควรจะเศร้าใจหรือดีใจดีแน่นอน
ว่าการที่ขนาดร่องรักของนางนั้นยงคงกลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้นั้น
จะทาให้นางลดโอกาศที่จะถูกหลินหมิงทอดทิ้งดังเช่นสาวใช้คน
อื่นๆ บรรดาเหล่าชนชั้นสูงจานวนมากเมื่อเขาเล่นกับสาวใช้คน
เดิมๆย่อมเกิดอารมณ์เบื่อหน่ายและหนึ่งในนั้นก็เกิดมาจากการที่
ร่องรักของพวกนางนั้นมีขนาดกว้างขึ้นจนทาให้พวกเขารู้สึกหลวม
แต่หากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่านางจะต้องทนความเจ็บปวดราวกับ
ว่านางเพิ่งเสียความบริสุทธ์ในครั้งแรกทุกครั้งที่นางทาการหลินหมิง
เมื่อเห็นหญิงสาวมีทีท่าอาการกังวลตัวเขานั้นไม่ใช่คนที่ดีอะไร
มากมายนักแต่เขานั้นย่อมพอเข้าใจความรู้สึกของนางบ้างแม้จะไม่รู้
ว่าร่องรักของนางในตอนนี้อยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมดังเช่นในตอน
แรก
มือทั้งสองข้างของหลินหมิงลูบไล้บริเวณต้นขาของนางอย่าง
แผ่วเบาเพื่อให้นางคลายความกังวลภายในจิตใจ แต่ดูเหมือนว่า
สาหรับตัวของหญิงสาวนัน้ มันจะส่งผลมากยิ่งกว่านั้น ความรู้สึก
เสียวซ่านเริ่มปะทุขึ้นมาจากการที่หลินหมิงลูบไล้บริเวณต้นขาของ
นางและเกือบเหลือมล่าเข้าจุดอันตราย
เรี่ยวแรงที่บริเวณต้นขาที่คอยค้าย้าร่างกายค่อยๆหมดลงพร้อม
กับร่างกายของนางที่อยู่เหนือบริเวณทวนมังกรของหลินหมิงที่
ค่อยๆตกลงมาตามธรรมชาติ
“ อะ..อร้าาา~~~~ งง ”
เพื่อแค่ส่วนปลายของทวนมังกรที่ทะลุเข้าสู่ร่างกายของนางมัน
ก็ทาให้นางถึงกับครางเสียงหลง แต่มันกลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด
อย่างที่นางคิดแน่นอนว่าที่บริเวณร่องรักของนางนั้นยังคงมีรอย
เลือดสีแสดงเผยออกมาให้เห็นนางไม่เข้าใจเหมือนกันทาไมว่าร่อง
รักของนางถึงสามารถสมานตัวได้เช่นนี้แต่นางเชื่อว่าทั้งหมดนีต้ ้อง
เป็นเพราะหลินหมิง
เช่นเดียวกันหลินหมิงรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่ร่องรักของ
หญิงสาวนั้นยังคงรู้สึกคับแน่นดังเช่นในตอนแรกอีกทั้งมันยังคงมี
รอยเลือดสีแดงสดให้เห็นออกมาราวกับว่านางเพิ่งจะได้เสียความบริ
สุทธ์เป็นครั้งแรก
“ อ้าา~~~~ ”
เสียงครางอย่างเย้าย้วนยังคงครางออกมาอย่างไม่หยุดจากปาก
ของหญิงสาวแม้ว่าในตอนนี้ทวนของหลินหมิงจะไม่ได้แทงทะลุเข้า
ไปแต่เพียงแค่ส่วนหัวของมันที่ทะลุเข้าไปก็เห็นได้ชัดว่ามันสามารถ
ทาให้นางมีความสุขมากเพียงใด ทางด้านของหญิงสาวเมื่อนาง
คิดเห็นว่านางไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดดั่งเช่นในตอนแรกอีกต่อไป
แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
นางค่อยๆทิ้งร่างกายของนางลงอย่างช้าพร้อมกับปล่อยให้ร่อง
รักของนางกลืนกลินทวนมังกรของหลินหมิงและซึมซับความเสียว
ซ่านที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของนางที่กาลังเพิ่มขึ้นเรื่อยจากการที่
ทวนมังกรของหลินหมิงกาลังแทงทะลุเข้ามา
หลินหมิงมีความรู้สึกว่าร่องรักของหญิงสาวนั้นดูเหมือนว่ามันจะ
สามารถตอบสนองต่อทวนมังกรของเขาได้มากกว่าในครั้งที่แล้ว
อย่างที่ไม่ติด ด้วยขนาดร่องอันคับแคบและมันยังคงทาการบีบรัด
ทวนมังกรของเขาอย่างหนาแน่นจนเป็นเหตุขนาดที่หญิงสาวทิง้
ลาตัวลงมายังสามารถเจาะทะลวงไปได้อย่างยากลาบาก
น้าใสๆของหญิงสาวค่อยๆไหลพรั่งพรู่ออกมาเรื่อยไหลไป
บริเวณตามต้นขาของนางอย่างเซ็กซี่ จนในที่นางก็รู้สึกได้ว่าทวน
ของหลินหมิงได้เข้ามาสู่จุดที่ลึกทีส่ ุดของร่องรักของนางแล้ว
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุขและสะใจอย่างที่นางไม่เคยทา
มาก่อนพร้อมกับน้าไหลจานวนมากที่ไหลออกมาจากปากของนาง
อย่างหยุดไม่อยู่
บริเวณท้องอันราบเรียบของหญิงสาวถึงกับโป่งพ่องขึ้นมา
เล็กน้อย นางค่อยๆขยับร่างกายขึ้นลงพร้อมกับโยกสะโพกไปด้วย
เพื่อซึมซับความเสียวซ่านที่มากล้นเช่นนี้ หลินหมิงเองในตอนนนี้
เขาเริ่มมีความสุขอันร้อนแรงขึ้นภายในจิตใจ เมื่อเขาได้เห็นใบหน้า
อันเปี่ยมสุขของหญิงสาวที่กาลังควบทวนมังกรของเขาอยู่หลินหมิง
นามือทั้งสองข้างจับไปทีบ่ ริเวณเอวของนางพร้อมกับยกตัวนางขึ้น
เล็กน้อยแล้วจับนางกดลงมา
“ อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~~~~ ”
แน่นอนว่านางแทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยตรงกันข้ามนางกลับ
รู้สึกมีความสุขเสียมากกว่า เมื่อหลินหมิงเห็นเช่นนั้นจึงไม่มีทที ่าว่า
จะหยุดเลยแม้แต่น้อยเขาดึงร่างของหญิงสาวลงมากอดอย่างรัด
แน่นแล้วประกบปากอย่างดูดดืม่ โดยทีบ่ ริเวณช่วงล่างของเขาและ
นางยังคงทาการขยับตามจังหวะอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ มะ..ไม่ไหวแล้วเจ้า ค่าา ~~~~ อร้าาาาาาางางง~~~~ ”
ผ่านไปไม่นานหลินหมิงก็ต้องปลดปล่อยน้าขาวขุ่นจานวนมาก
เข้าสู่ภายในร่างกายของนาง พร้อมกับที่ตัวนางได้ปล่อยน้าใสๆ
ออกมาจากร่องรักเป็นจานวนกี่ครั้งแล้วก็ไม่อาจนับได้
หลินหมิงนาทวนมังกรออกมจากร่างกายของหญิงสาว แต่ถึง
อย่างนั้นก็ที่เขาจะได้ทาอะไรทวนมังกรของเขากลับถูกขว้าอย่าง
รวดเร็วโดยมือของหญิงสาวที่ดูจากทีท่าของนางนั้นไม่ต้องบอกเลย
ว่านางหมดสภาพจนไม่นา่ จะทาต่อไหวแล้ว
“ ขะ..ข้าจะทาความสะอาดให้เองเจ้าคะ ”
หญิงสาวนั้นในตอนที่ร่วมรักครั้งแรกแน่นอนว่าในช่วงท้ายนั้น
นางยังคงพอมีสมติที่จะเห็นน้องสาวของนางใช้ปากทาความสะอาด
ให้แก่หลินหมิงอย่างร้อนแรง และนั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะ
เกิดความรู้สึกเช่นนั้นบ้างนางมีความรู้สึกว่าทวนมังกรแท่งนี้ของ
หลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาเลย ไม่เพียงแต่มันจะมีขนาด
ใหญ่โตกว่าทวนของบุรุษอื่น
แต่กลิ่นอายของมันที่แผ่ออกมานั้นแม้จะมันจะดูอับ และดูกลิ่น
แรงไปบ้างแต่มันก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ของนางได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นนางจึงอยากลิ้มลองรสชาติของมันดูสักครั้ง
“ จ๊วบ...อื้มมมม ”
เสียงที่เกิดขึ้นภายในปากของหญิงสาวมันช่างเร้าร้อนกระตุ้น
อารมณ์ของชายหนุ่มถ้าหากในก่อนหน้านี้หลินหมิงไม่ได้ทาการ
ปลดปล่อยอารมณ์ไปแล้วหนึ่งครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่าเขาจะเข้าจู่
โจมนางในทันทีเลยหรือไม่ ภายในปากของนางนั้นยังคงเต็มไปด้วย
ความรู้สึกนุ่มลื่นผสมกับการที่นางใช้ลิ้นโลมเลียทวนมังกรของเขา
อย่างหื่นกระหาย ทักษะในการใช้ปากของนางนั้นเรียกได้ว่ายอด
เยี่ยมกว่าน้องสาวของนางอย่างเทียบไม่ติด
หญิงสาวพบว่าน้าขาวขุ่นของหลินหมิงนั้นมันมีรสชาติที่น่า
อัศจรรย์เป็นอย่างมากแม้ว่ามันจะเหนียวจนทาให้รู้สึกกลืนลงคอได้
อย่างยากลาบากก็ตามที่ หลินหมิงปล่อยให้นางได้รับน้าขุ่นขาวของ
เขาไปอีกครั้งจนท่วมปากของนางเพื่อไม่ให้เกิดอารมณ์ค้างคา

ตอนที่ 15
วันต่อมาหลินหมิงยังคงเข้ารับการสอนจากผู้อาวุโสซูหลิ่งท่าที
ของนางที่มีต่อหลินหมิงนัน้ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าในตอนแรก
นางจะไม่มีความคิดในแง่ร้ายเท่ากับศิษย์ของนางหลิวฉวนยูร์
แต่นางก็คิดว่าตัวของหลินหมิงนั้นไม่มีความเหมาะสมสาหรับ
ตาแหน่งศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคมนักปรุงยา
แต่หลังจาหที่นางได้เห็นพรสวรรค์อันมากล้นของหลินหมิงนั้น
นางก็พลันต้องเปลี่ยนความคิดทุกอย่างไปในทันทีไม่ต้องสงสัยเลย
ว่าในอนาคตเด็กหนุ่มผู้นี้จะสามารถก้าวหน้าไปได้อย่างไม่มีที่สนิ้ สุด
ด้วยพรสวรรค์ของเขาและมันย่อมทาให้สมาคมได้รับผลประโยชน์
อย่างมหาศาล
ผิดกับอาจารย์หลิวฉวนยูร์นางมีความรู้สึกขัดแย้งขึ้นมาภายใน
จิตใจในตอนแรกนางแสดงออกถึงความดูถกู ทีม่ ีต่อหลินหมิงอย่าง
ชัดเจนเพียงแต่ยังไม่ทันถึงวันเขากลับแสดงความสามารถอันน่าตก
ตะลึงมันจึงเป็นเรื่องที่นางยากจะยอมรับ
”วันนี้ข้าจะสอนในเรื่องของสมุนไพรและวัตถุดิบต่างๆ แน่นอน
ว่าสาหรับนักปรุงยานั้นสิ่งที่จาเป็นไม่ใช่เพียงความสามารถและ
พรสวรรค์ในการปรุงยาเท่านั้นเจ้ายังจาเป็นต้องมีความสามารถใน
การแยกแยะคุณภาพของวัตถุดิบอย่างเด่นชัด
สาหรับนักปรุงยาที่เชี่ยวชาญมากพวกเขาทุกคนล้วนมีสิ่งนี้ ใน
วันนี้ข้าจะให้เจ้าและยูร์เอ๋อร์เข้าไปในป่ารอบนอกเพื่อตามหา
สมุนไพรที่ข้ากาหนดเอาไว้ให้ ”
หลินหมิงรับใบรายชื่อสมุนไพรและวัตถุที่จาเป็นมาจากผู้
อาวุโสซูหลิ่ง หลินหมิงสามารถจดจาสมุนไพรบางอย่างได้เห็นได้ชัด
ว่ามันเป็นสมุนไพรสาหรับปรุงยาระดับหนึ่ง ในส่วนของหลิวฉวนยูร์
นั้นนางได้รับรายชื่อสมุนไพรที่ต่างกันซึ่งเขาเดาว่ามันคงเป็น
สมุนไพรระดับสองหรือไม่กก็อาจเป็นระดับสามเลยก็เป็นได้
แน่นอนว่าหลิวฉวนยูร์นางไม่ได้รับรายชื่อมสมุนไพรมากเท่ากับ
หลินหมิง ในบริเวณป่ารอบนอกนั้นแน่นอนมันมีสมุนไพรระดับ1-
3 อยู่แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะหาสมุนไพรระดับสามได้ ส่วน
สมุนไพรระดับอื่นๆนั้นต้องเข้าไปในป่าส่วนกลางหรือชั้นใน หรือ
หากโชคดีก็มีโอกาสได้พบเจอในบริเวณป่าชั้นนอกก็เป็นได้แม้ว่ามัน
จะมีโอกาสน้อยมากก็ตามที่
หลิวฉวนยูร์นางรับใบรายชื่อสมุนไพรจากอาจารย์ของนางด้วย
ท่าทีเฉยเมย นี้เป็ยภารกิจที่นางเคยได้รับจากมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่
ครั้งดังนั้นนางจึงเข้าใจดีว่าอาจารย์ของนางนั้นเพียงต้องการให้นาง
แนะนาหลินหมิงเพียงเพียงเท่านั้น
“ ข้าให้เวลาพวกเจ้าถึงเพียงช่วงเย็นเท่านั้นแม้ว่าพวกเจ้าจะไม่
สามารถหาสมุนไพรและวัตถุดิบต่างๆได้ครบถ้วนพวกเจ้าก็ต้อง
กลับมาในทันที ”
ในป่าในเวลากลางคืนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เหล่าสัตว์อสูรจาก
บริเวณชั้นกลางอาจหลุดออกมายังป่าชั้นนอกเพื่อหาเหยื่อแม้ว่า
พวกมันจะมีจานวนและไม่แข็งแกร่งมากเท่ากับสัตวอสูรอื่นๆที่ทา
การล่าอยู่ภายในชั้นกลางแต่พวกมันก็นับได้ว่าแข็งแกร่งจนอยู่ใน
ระดับจุดสูงสุดของปราณเริ่มต้นหรือไม่ก็อาจก้าวข้ามไปจนถึงขั้น
ปราณก่อกาเนิด
หลิวฉวนยูร์ด้วยการที่นางเป็นสตรีงามอันดับต้นๆของเมืองด้วย
ความงามของนางตั้งแต่วยั เยาว์นั้นนางถูกคาดการณ์ว่ามนอนาคต
นางอาจมีความงดงามที่ยิ่งกว่าจูหนิงเอ๋อประมุขของสมาคมนักปรุง
ยาเสียอีกนั้นจึงเป็นเหตุให้บิดาของนางหรือประมุขผู้นาตระกูลหลิว
เห็นค่าความสาคัญของนางเป็นอย่างมาก
และการที่เขาให้นางได้หมั้นหมายกับหลินชูทมี่ ีพรสวรรค์ที่เรียก
ได้ว่าไม่เป็นรองใครในรุ่นเยาว์ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม แทบ
ตระกูลหลินยังเป็นตระกูลใหญ่ที่ไม่น้อยหน้สตระกูลหลิวเลยแม้แต่
น้อย
ดังนั้นนอกจากคู่หมั้นของนางหลินชูที่นางรู้สึกไม่หน้าตั้งแต่ครั้ง
แรกนางไม่เคยออกไปกับบุรุษอื่นใดเพียงลาพังเช่นนี้เลยแม้แต่ครั้ง
ในความเป็นจริงแล้วนางเพียงแค่เคยได้คุยกับหลินชูเป็นการลาพัง
เท่านั้นที่สวนถายในตระกูลดังนั้นนี้นับเป็นครั้งที่นางได้ออกไปข้าง
นอกกับบุรุษ
หลินหมิงและหลิวฉวนยูร์ทั้งสองต่างตกลงกันว่าจะไปตระเตรียม
ข้าวของสาหรับเก็บสมุนไพนในครั้งนี้แล้วจึงไปเจอกันที่นางประตู
เมืองเลยทีเดียว
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขาแทบจะอดไม่ได้ที่จะนาเรื่องราวที่
เขาได้ออกเดินป่ากับคู่หมัน้ ของน้องชายเขาหลินชู ไปบอกแก่มัน
เพื่อเยาะเย้ยเพียงแค่เขาจินตนาการภาพของหลินชูอยู่ภายในใจมัน
ก็สร้างความสะใจให้แก่เขาอยู่ไม่น้อย
โดยที่หลินหมิงไม่ทันได้สงั เกตใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงามอย่าง
หลิวฉวนยูร์ที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เลยแม้แต่น้อย
หลิวฉวนยูร์เป็นฝ่ายที่เดินจากออกไปก่อนในความเป็นจริงแล้ว
สาหรับนางการเตรียมตัวสาหรับเดินป่าเก็บสมุนไพรในครั้งนาได้ว่า
แทบจะไม่มีความจาเป็นเลยแม้แต่น้อย
เนื่องด้วยนางเองก็มีแหวนมิติทมี่ ีราคาแพงเกินกว่าที่คนธรรมดา
ทั่วไปจะอาจหวังและภายในนั้นยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือนางต่างๆ
อย่างนับไม่ถ้วน
“ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บวัตถุดิบไป ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งกล่าวพร้อมกับยื่นแหวนมิติวงหนึ่งให้เขาหลินหมิง
ทราบดีว่ามันเป็นแหวนมิติที่มีคุณภาพนะดับต่าซึ่งต่างจากของ
หลิวฉวนยูร์
“ นี้เป็นเพียงสิ่งที่ข้าให้เจ้ายืมใช้ก่อนเพียงเท่านั้น หากเจ้า
ต้องการได้มันเจ้าเพียงต้องประพฤติตัวให้ดีแล้วอาจารย์ของเจ้า
ย่อมมอบเป็นของขวัญให้แก่เจ้าโดยง่าย ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งแม้ว่านางจะประทับใจในตัวของหลินหมิงค่อน
ข้างมากแต่นางก็ไม่ต้องการให้สิ่งของเขาโดยง่ายนักเพราะนั้นจะ
เป็นการทาให้เขาขาดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง นั้นเป็นสิ่ง
ที่อัจิฉริยะจากตระกูลใหญ่นั้นประสบพบเจอพวกเขาจะเฉยชาจาก
ความประสบความสาเร็จเล็กน้อยๆ
จนเป็นเหตุให้พวกเขาไม่สามารถพัฒนาตนได้อย่างเต็มที่ตาม
ความสามารถและพรสวรรค์ที่พวกเขาเหล่านั้นควรมี
“ ผู้เยาว์ขอขอบพระคุณผู้อาวุโส ”
หลินหมิงรับแหวนมิตมิ าด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข เมื่อคิดถึงในอดีต
เขาไม่สามารถคิดได้เลยว่าจะสามารถก้าวมาอยู่จุดนี้ได้

ตอนที่ 16
ครึ่งชั่วยามต่อมาอันเป็นเวลาที่หลินหมิงได้นดั หมายกับหลิวฉวน
ยูร์ที่ประตูหน้าเมือง เมื่อหลินหมิงมาถึงก็พบว่านางอยู่ที่หน้าประตู
เมืองเสียแล้ว จากในความคิดของเขาหลินหมิงไม่คิดว่านางจะเป็น
คนที่ตรงต่อเวลาขนาดนี้โดยเฉพาะในการมากับตัวเขาในครั้งนี้
“ ข้าต้องขออภัยที่ทาให้..คุณหนูฉวนยูร์รอนานพอดีข้าเพิ่ง
ตระเตรียมสาภาระเสร็จ ”
“ ฮึ..พวกบ้านนอกก็อย่างนี้แหละนะ ”
หลิวฉวนยูร์ไม่ได้กล่าวอะไรต่อกับหลินหมิงมากมายนางเดิน
นาหน้าหลินหมิงไปเหมือนกับไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงจึงทาได้เพียงยักไหลอย่างพร่อนปรนกับอารมณ์ของแม้
เทพธิดาสาวผู้นี้ ในระหว่างทางนั้นหลินหมิงไม่ได้กล่าวพูดคุยใดๆ
กับนางอีกเลยหรืออาจกล่าวให้ถูกต้องก็คือนางจงใจเว้นระยะห่าง
กับหลินหมิงค่อนข้างมากจนไม่สามารถพูดคุยกันได้
เมื่อมาถึงที่ป่ารอบนอกพวกเขายังคงไม่พบเจอร่องรอยของสัตว์
อสูรเลยนี้นับเป็นข่าวดีอย่างมาก แต่สาหรับหลิวฉวนยูร์นั้นนางต่าง
ออกไปโดยสิ้นเชิงนางไม่ได้มีความกังวลใดๆเมื่อนางเข้ามาในป่า
แห่งนี้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าของและกริยาท่าทางต่างๆราวกับว่า
นางเพียงมาเดินเล่นในป่าที่เต็มไปด้วยสัตวอสูรเพียงเท่านั้น
เนื่องด้วยบริเวณป่ารอบนอกแห่งนี้เจ้าถิ่นหรือสัตวอสูรที่มีพลัง
ปราณมากที่สุดจะอยู่ในระดับ 7 ขั้นปราณเริ่มต้นเท่านั้นซึ่ง
เปรียบเทียบกับตัวนางทีม่ ีพลังระดับ 7 ขั้นสูงสุดนัน้ นับเป็นเรื่องง่าย
มากที่นางจะสามารถเดินเล่นในป่าแห่งนี้ได้อย่างสบายใจเพราะหาก
ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการที่นางต้องพบเจอกับสัตว์อสูร
ระดับ 7 ขั้นสูงสุดของปราณเริ่มต้นเช่นเดียวกันกับนางแม้ว่านางจะ
ไม่สามารถเอาชนะได้แต่นั้นย่อมไม่นบั รวมถึงการหลบหนีของนาง
หลิวฉวนยูร์เริ่มทาภารกิจของนางด้วยความตั้งใจโดยไม่ลมื
เหลือบมามองหลินหมิงด้วยสายตาเหยียดหยาม แน่นอนว่านาง
มั่นใจในเรื่องการเก็บเกี่ยวสมุนไพรของนางอยู่หลายส่วนทักษะนี้
ไม่ได้เป็นทักษะที่วัดกันด้วยพรสวรรค์ดั่งเช่นในการปรุงยาแต่มัน
ต้องใช้ทักษะการสังเกต และประสบการณ์อย่างมากในการค้นหา
สมุนไพรเหล่านี้กับตัวของหลินหมิงพึ่งได้ศึกษาเล่าเรียนการปรุงยา
มาไม่นานดังนั้นไม่มีทางที่นางจะด้อยกว่าเขาในด้านนี้
หลินหมิงสังเกตพืชพรรณสมุนไพรรอบตัวด้วยความใจเย็น ใน
ก่อนหน้านี้ที่เขาเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้เขาไม่ได้มีเวลามากนักในการ
สารวจตรวจสอบเหล่าพืชพรรณเพราะลาพังเพียงแค่เขาต้องเอา
ชีวิตรอดภายในป่าจากเหล่าสัตว์อสูรมันก็นับได้ว่ายากเย็นยิ่งแต่
สาหรับตอนนี้ไม่เพียงแต่พลังปราณในร่างกายของเขาจะพัฒนา
อย่างก้าวกระโดดจนมาอยู่ในจุดสูงสุดขั้นที่ห้าของปราณเริ่มต้น แต่
ร่างกาย รวมถึงประสาทสัมผัสของเขาต่างๆล้วนเฉียบแหลมขึ้นจน
ไม่อาจเทียบก่อนหน้านี้ได้เลยแม้แต่น้อย
ในคราวที่แล้วหลินหมิงใช้การตอบสนองที่ว่องไวของเปลวเพลิง
สีดาในการตรวจสอบเหล่าอสูรที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเขา เขา
จึงคิดว่าเขาสามารถใช้เปลวเพลิงสีดาในต้นเถียนตรวจสอบพืช
พรรณสมุนไพรที่เขาต้องการได้เช่นเดียวกัน
เพราะครั้งที่แล้วนั้นการที่เปลวเพลิงสีดาตอบสนองนั้นมันเป็นไป
ตามกลไลปกติของมันไม่ได้เกี่ยวกับสิง่ ที่หลินหมิงต้องการเลยแม้แต่
น้อย ดังนั้นหากเขาสามารถควบคุมเปลวเพลิงสีดาเพื่อตรวจสอบ
พลังงานโดยรอบเขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถหาสมุนไพรที่อยู่ใกล้
ตัวของเขาได้โดยง่าย
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลินหมิงไม่รอช้าเขานั่งลงเพื่อทาสมาธิและทา
การแผ่จิตเข้าสู่ภายในต้นเถียนอีกครั้งเปลวเพลิงสีดาภายในต้นเถีย
นราวกับว่ามันรับรู้ความต้องการของหลินหมิง เปลวเพลิงสีดา
ค่อยๆแผ่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกันกับร่างกายของหลินหมิง
ที่ค่อยแผ่อ่อร่าแปลกประหลาดออกมา
หลิวฉวนยูร์ในตอนนี้นางสามารถหาสมุนไพรระดับสามได้สาม
ต้นแล้วโดยใช้เวลาเพียงสองก้านธูปนี้นับว่าเป็นเรือ่ งที่น่ายินดีโดย
แท้จริง การหาสมุนไพรนั้นสิ่งที่สาคัญอีกอย่างนั้นก็คือโชคและดู
เหมือนว่าในวันนี้นางจะมีมันเสียด้วยโดยปกตินั้นหากนางต้องการ
หาสมุนไพรระดับสามสักสามต้นนางอาจต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่ว
ยามเลยทีเดียว
สาหรับการปรุงยาระดับสามที่อาจารย์ของนางมักให้ฝึกฝนนั้น
การเก็บสมุนไพรของนางสามต้นนี้แน่นอนว่าย่อมไม่เพียงพอต่อการ
ปรุงยาแม้แต่ขวดเดียว แต่ที่นางสามารถปรุงยาได้ถึงวันละ4-5 ขวด
นั้นเป็นเพราะว่าที่สมาคมนักปรุงยานั้นแน่นอนว่าจะต้องมีสวน
สมุนไพรที่เอาใช้สาหรับนักปรุงยาอยู่และสวนของอาจารย์ของนาง
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นนับเป็นขุมสมบัตโิ ดยแท้จริง เหล่าผู้อาวุโสส่วน
ใหญ่ของสมาคมนั้นมักจะมีสวนสมุนไพรเป็นของตัวเองแต่สวนของ
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นไม่อาจเทียบได้กบั ผู้อาวุโสคนอื่นได้เลยแม้แต่น้อย
นางมั่นใจถึงขนาดที่ว่าสวนของผู้อาวุโสซูหลิ่งเพียงคนเดียวอาจ
มีมูลค่าเท่ากับหนึ่งในสี่ของทรัพย์สมบัตินางทัง้ ตระกูลเลยทีเดียว
ดังนั้นทางตระกูลหลิวจึงให้ความเคารพแก่ผู้อาวุโสซูหลิ่งเป็นอย่าง
มากไม่ใช่เพียงเพราะนางเป็นนักปรุงยาระดับสูงอย่างเดียวเพียง
เท่านั้นแต่ในแง่ของทรัพย์สมบัตินั้นนางนับได้ว่ามีมากล้น การที่ให้
หลิวฉวนยูร์เข้าไปศิษย์นางจึงเป็นการการันตีได้ว่าหลิวฉวนยูร์จะไม่
ขาดซึ่งวัตถุดบิ ในการพัฒนาเลยแม้แต่น้อย
แต่สาหรับหลิวฉวนยูร์แล้วนางยังคงมีความสงสัยบางอย่างใน
จิตใจเพราะว่าหากในเมื่อสวนของผู้อาวุโสซูหลิ่งยังมีคุณค่า
มากมายขนาดนี้นางไม่อาจประเมิณได้เลยว่าสวนของประมุข
สมาคมนักปรุงยาจะมีค่ามากเพียงใดแต่นางก็ได้แต่เก็บความสงสัย
เหล่านั้นเอาไว้ภายในใจ หลิวฉวนยูร์นางถึงกับขมวดคิ้วเมื่อนางจ้อง
มองไปที่ร่างของหลินหมิงที่กาลังนั่งสมาธิอยู่
‘ นี้เขากาลังทาอะไรอยู่กัน ’
นางไม่เข้าใจถึงสิ่งที่หลินหมิงกาลังอยู่เลยแม้แต่นอ้ ย ในความ
เป็นจริงแล้วหากหลินหมิงทาการหยิบหญ้าขึ้นมาแล้วกล่าวอ้างว่านี้
เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเขายังคงดูฉลาดมากกว่านี้ แต่แล้วทันใดนั้น
นางพลันนึกได้ถึงแผนการณ์ที่นางได้เตรียมเอาไว้ก่อนที่จะเข้ามา
ภายในป่าแห่งนี้รอยยิ้มแห่งเทพธิดาของนางในตอนนี้แทบจะ
แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายของปีศาจโดยที่หลินหมิงไม่ได้รับรู้
ความคิดของเทพธิดาสาวผู้นี้เลย
ตอนที่ 17
ผ่านไปสักพักหลินหมิงเริม่ ที่จะสามารถแยกแยะพลังงานโดย
รอบตัวของเขาได้แล้วเนื่องจากว่าเขาได้เคยปรุงยามาก่อนแล้วใน
ก่อนหน้านี้มันจึงทาให้เขาสามารถที่จะแยกแยะพลังงานของ
สมุนไพรและวัตถุดิบต่างๆของส่วนผสมโอสถระดับหนึ่งได้
หลินหมิงลืมตาขึ้นมาเขาใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วยามในการจับ
สัมผัสของพลังงาน แต่นนั้ มันย่อมคุ้มค่ากับการที่เขาไม่ต้องเสียเวลา
สุ่มหามันในแต่ละที่ หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อยที่เมือ่ เขาลืมตาขึ้นมา
ก็พบว่าเขาไม่เห็นหลิวฉวนยูร์แล้ว อาจเป็นไปได้ว่านางได้ตระเวณ
เก็บสมุนไพรและวัตถุดิบโดยรอบนี้จนหมดจึงทาการย้ายไปที่อื่น?
อย่างไรเสียหลินหมิงไม่ได้สนใจแม่เทพธิดาสาวผู้เอาแต่ใจคนนี้
มากนัก การที่มีนางอยู่ใกล้ๆเขามันกลับทาให้เขารู้สึกอันตรายอย่าง
บอกไม่ถูก หลินหมิงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วตามสัมผัส
พลังงานที่คาดว่าน่าจะเป็นส่วนผสมของวัตถุดิบที่เขาตามหา
หนึ่งชั่วยามต่อมาในตอนนี้หลินหมิงสามารถเก็บเกีย่ วสมุนไพร
ได้เกือบครบตามจานวนยอดที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งได้ให้เอาไว้ การหา
สมุนไพรต่างๆของหลินหมิงเป็นไปอย่างราบรื่นราวกับว่าเขาเป็น
ผู้เชี่ยวชาญในการเก็บสมุนไพรเหล่านี้แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็
เข้าใจดีว่าหากเป็นคนธรรมดาทั่วไปย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเก็บ
สมุนไพรเหล่านี้เพราะส่วนใหญ่แล้วนั้นพวกมันจะอาศัยร่างของ
ต้นไม้และพืชพรรณที่มีขนาดสูงกว่าบดบังตนเองเอาไว้
ในหนึ่งชั่วยามนี้เขาก็ยังไม่ได้พบร่องรอยของหลิวฉวนยูร์เลย
แม้แต่น้อยอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ค่อยได้ขยับออกไปไกลจากจุด
เดิมมากนักเทียบกับนักเก็บสมุนไพรคนอื่นพวกเขาเหล่านั้นอาจต้อง
ตระเวณไปทั่วป่าเพื่อตามหาสมุนไพรเหล่านี้
หลินหมิงไม่คิดว่านางจะกลับไปก่อนเขาเห็นได้ชัดว่าอาจารย์
ของนางนั้นต้องการให้นางมาเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลเขา เพราะฉะนั้น
หากนางกลับไปก่อนโดยทิ้งเขาไว้ในป่าเมื่ออาจารย์ของนางรู้เขานั้น
ย่อมไม่ใช่ผลดีสาหรับตัวนางมากนักต้องไม่ลืมว่าแม้สถานะของผู้
อาวุโสซูหลิ่งจะด้อยกว่าอาจารย์สาวสวยของเขา แต่นางยังนับได้
ว่าเป็นผู้ที่มีอานาจไม่เปนรองใครในสมาคมนักปรุงยาแห่งนี้หากไม่
รวมประมุขสมาคม
แต่แล้วจู่ๆหลินหมิงก็พลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายประหลาดเปลว
เพลิงสีดาภายในต้นเถียนของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง ในการเข้าป่า
รอบนอกคราวที่แล้วหลินหมิงได้ใช้การสั่นไหวของเปลวเพลิงสีดา
ในหลบหลีกสัตว์อสูรที่คาดว่าน่าจะมีพลังมากกว่าเขาแต่มันเห็นได้
ชัดว่าเปลวเพลิงสีดานี้ตอบสนองเพียงแค่เหล่าสัตว์อสูรเพียงเท่านั้น
ไม่งั้นเขาคงไม่มีโอกาศได้พบเจออาจารย์สาวสวยเป็นแน่
“ กรี๊ดดดดด ”
ในขณะที่หลินหมิงกาลังตัง้ ท่าหลบหนีไปให้ไกลจากสัมผัสอันน่า
กลัวนั้นเสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาวที่แสนคุ้นหูกด็ ังขึ้นระงมไปทั่ว
‘ หรือว่าจะเป็นนาง ? บัดซบเอย ‘
หลินหมิงสะบดอย่างรุนแรงในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ใช่คนดี
อะไรขนาดนั้นแน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงชีวิตของเขาย่อมสาคัญที่
สุดแต่ว่าหากเขาทิ้งนางไปตอนนี้นั้นย่อมสร้างปัญหาที่ใหญ่หลวง
ให้แก่เขาในอนาคตไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากตระกูลหลิวเป็นปฎิปกั ษ์
ต่อเขาแล้วมันก็ไม่ง่ายนักที่สมาคมนักปรุงยาจะรับมือโดยง่ายอีกทัง้
เขายังไม่แน่ใจความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสมาคม
หลินหมิงกัดฟันแน่นพร้อมกับทยานร่างพุ่งเข้าไปในป่าที่ลึก
ยิ่งขึ้นตามเสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาวพร้อมกับอาการสั่นไหวของ
เปลวเพลิงสีดาที่ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยภายในต้นเถียนของเขา
ใช้เวลาเพียงไม่นานเมื่อหลินหมิงเข้ามาถึงภาพที่เห็นตรงหน้า
มันแทบจะทาให้เขาหยุดหายใจพื้นที่เป็นหลุมเป็นบ่อจานวนมาก
จากการต่อสู้ ไม่สิมันอาจเรียกได้ว่าเกิดจากการกระทาอยู่ฝ่ายเดียว
ภาพของหญิงสาวที่ดูงดงามราวกับเทพธิดาในตอนแรกกาลังหลบ
หลีกการไล่ล่าจากสัตว์อสูรที่มีรูปร่างคล้ายลิง แต่ขนาดลาตัวของ
มันนั้นมีขนาดใหญ่กว่าลิงธรรมดากว่าสิบเท่า อีกทัง้ มันยังมีเขาสอง
ข้างที่เสริมรูปลักษณ์ความน่ากลัวของมันยิง่ ขึ้นไปอีก
‘ นั้นมันวานรสองเขา ‘
แน่นอนว่าหลินหมิงย่อมต้องรู้จักวานรสองเขาเพราะมัน
เปรียบเสมือนราชาของป่ารอบนอกแห่งนี้โดยแท้จริงมันไม่ได้มีพลัง
ปราณเพียงขั้นเจ็ดของระดับปราณเริ่มต้นแต่มันมีพลังอยู่ที่จุดสูงสุด
ของขั้นปราณเริ่มต้น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม่เทพธิดาสาวผู้เอา
แต่ใจจะไม่สามารถรับมือกับมันได้ เนื้อตัวของนางนั้นในตอนนี้เต็ม
ไปด้วยฝุ่นโคลนจากการกลิ้งหลบหลีกการโจมตีของวานรสองเขา
เห็นได้ชัดว่าเจ้าสัตว์อสูรหน้าลิงตัวนี้มันยังไม่ได้คิดจัดการกับ
เทพธิดาสาวผู้เอาแต่ใจ มันต้องการเพียงหยอกล้อกับเหยื่อของมัน
อย่างสนุกสนานเพียงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วความต่างระหว่าง
จุดสูงสุดปราณเริ่มต้นกับขั้นที่เจ็ดของนางนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่
สามารถนามาเปรียบเทียบกันได้
สภาพของหลิวฉวนยูร์ในตอนนี้นางเต็มไปด้วยความอ่อนล้า
แม้ว่านางจะเพิ่งรับมือกับวานรสองเขามาเพียงหนึ่งก้านธูปหรือาจ
มากกว่านั้นเพียงเล็กน้อยแต่นี้ย่อมเป็นการต่อสู้ที่พลังของคู่ต่อสู้นาง
มากกว่าจนไม่อาจเทียบได้กะบี่ในมือของนางที่เป็นของขวัญจาก
บิดา ใบดาบเป็นสีน้าเงินอมฟ้าแผ่กลิ่นอายความเย็นยะเยือกออกมา
แน่นอนว่ามันย่อมกะบี่ทอี่ ยู่ในระดับสูง กะบี่หลอมเหมันต์ ในความ
เป็นจริงแล้วเพียงแค่นางชักกะบี่เล่มนี้ขึ้นมาศัตรูตรงหน้านั้นล้วนแต่
จะถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
แต่กลับวานรสองเขาตนนี้การวาดกะบี่ของนางนั้นทาได้เพียง
อย่างมากเป็นรอยแผลเล็กๆราวกับรอยขวนของลูกแมวน้อยอย่าง
ใดอย่างนั้น ในขณะที่นางกาลังจ่มอยู่กับความสิ้นหวังพร้อมกับหมัด
ขนาดนับตันของวานรสองเขาที่ค่อยๆเข้าสู่ร่างของนาง นางมั่นใจ
เลยว่าหมัดนี้ของเจ้าสัตว์อสูรตนนี้จะสามารถบดขยี้ร่างของนางให้
หายไปในพริบตาจนเหลือแต่กองเลือด !
ปังงงงงงงงงง !
เสียงปะทะดังก้องไปทั่วป่าพร้อมกับสายลมที่สั่นไหวไปทั่ว
เช่นเดียวกัน หลิวฉวนยูร์นางไม่กล้าลืมตามองสิ่งทีเ่ กิดขึ้นในขณะที่
นางกาลังหลับตาอยู่นั้นนางเพียงได้ยินเสียงหมัดของวานรสองเขา
ปะทะเข้ากับอะไรสักอย่างเข้าอย่างจัง ใจของนางเต้นอย่างไม่เป็น
จังหวะเมื่อนางค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับวานรสองเขาที่ดูแปลกใจ
กับการโจมตีของมันทีถ่ ูกหยุดเอาไว้ได้โดยมนุษย์ตวั เล็กๆคนหนึ่ง
เท่านั้น
“ จะ..เจ้า ”
หลิวฉวนยูร์นางรู้สึกงุนงงกับภาพตรงหน้าเป็นอย่างมากภาพ
ของบุรุษที่นางไม่เคยแม้แต่จะชอบหน้า ภาพของบุรุษที่นางทาตัว
หยิ่งยะโสใส่เขาไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม อีกทัง้ นางยังว่างแผนจะล่อ
สัตว์อสูรเพื่อให้พวกมันเข้าไปโจมตีเขาแต่กลับเป็นนางเสียเองที่ต้อง
รับเคราะห์กรรมนี้ คาพูดทุกอย่างล้วนจุกอยู่ในอกของนางภาพของ
บุรุษที่ตอนนี้ใช้แขนทั้งสองข้างที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงสีดาอัน
น่าสะอิดเอียนและน่าหวาดกลัวเข้ารับการโจมตีจากหมัดของวานร
สองเขา
บุรุษที่มีพลังปราณเพียงแค่จุดสูงสุดขั้นที่ห้าของปราณเริ่มต้น
กลับหาญกล้าเข้ารับการโจมตีจากวานรสองเขาเพื่อช่วยชีวิตนาง
นั้นก็คือหลินหมิงนั้นเอง
ตอนที่ 18
อั๊กก !
บริเวณพื้นใต้เท้าของหลินหมิงเกิดรอยราวขึ้นมาในทันทีจาก
การที่เขาเข้ารับหมัดของวานรสองเขา หมัดของวานรสองเขาหมัด
นี้แทบจะทาให้แขนทั้งสองข้างของเขาแหลกสลายไปใน
พริบตาเดียวหากไม่ได้มีเปลวเพลิงสีดาคลุมเอาไว้รวมกับการที่
ร่างกายของเขามีการพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมากจากเดิม
แต่เดิมนั้นหลังจากที่หลินหมิงได้รับเปลวเพลิงสีดาในครั้งแรก
ร่างกายของเขาก็มีการพัฒนาที่น่ากลัวการคนทั่วไปหลายเท่ายิ่งกับ
ในตอนนี้ที่เขาได้ผ่านการร่วมรักกับหญิงสาวมาถึงสองครั้งมันไม่
เพียงแต่ทาให้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นแต่ร่างกายของเขา
ยังคงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันแม้ว่าในครั้งล่าสุดที่เขาทาการร่วมรักกับ
หญิงสาวผู้พี่พลังของดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยคืบหน้าก็ตามที่ มันเป็น
เพียงแค่การพัฒนาเล็กๆน้อยๆหากเทียบกับในตอนแรก
ซึ่งหลินหมิงได้แต่คิดว่าเขาอาจต้องร่วมรักกับหญิงสาวไม่ซ้า
หน้า หรือต้องเป็นหญิงสาวที่ยังคงมีพรหมจรรย์เท่านั้นที่จะทาให้
เขาสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดเช่นในตอนแรก
หลินหมิงกัดฟันอย่างรุนแรงพร้อมกับกลั้นเลือดไม่ให้ทะลักออก
จากปากพร้อมกับคว้าร่างของหลิวฉวนยูร์ที่อยูด่ ้านหลังแล้ว
กระโดดถอยหลังไปเพื่อตัง้ หลัก
หลิวฉวนยูร์นางรู้สึกงุนงงและสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้าไป
หมด หากเป็นในสถานการณ์ปกติการที่มีบุรุษมาแตะต้องตัวนาง
เช่นนี้มันผู้นั้นย่อมต้องมีจุดจบภายใต้กะบี่ของนางเป็นแน่
“ หนีไป ”
“ หะ ? ”
“ ข้าบอกให้หนีไปไงเล่า !! ”
หลินหมิงสบถเสียงด้วยอารมณ์ดุดันจากสถานการณ์ตรงหน้าไม่
ว่าเขาจะเลือกทางไหนมันย่อมเป็นหนทางทีย่ ากลาบากและ
อันตรายต่อชีวิตเขาทั้งสิ้น แม้ว่าสภาพของหลินหมิงหลังจากรับ
หมัดของวานรสองเขามาแม้ไม่อาจเรียกได้ว่าสาหัสแต่มันก็ยังอยู้ใน
จุดที่เรียกได้ว่าย่าแย่
แขนทั้งสองข้างของเขาแทบจะด้านชาจนไม่รู้สึกพร้อมกับ
ร่องรอยเลือดที่ปริแตกออกมาจากแขนจานวนเล็กน้อย หากเขาต้อง
รับการโจมตีแบบเมื่อกี้นี้อกี โชคดีที่สุดก็คือการที่เขาต้องเสียแขนทั้ง
สองข้างไปร้ายทีสุดก็คือชีวิตของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นสภาพของหลิวฉวนนั้นดูแย่กว่าหลินหมิงเสียอีก
ไม่ใช่บาดแผลภายนอกแต่เป็นสภาพการต่อสู้หลิวฉวนยูร์นั้นนางได้
หลบหลีกจากวานรสองเขามาเป็นเวลานานจนทาให้พลังและ
เรี่ยวแรงแทบจะไม่เหลือ
“ ไปสิ !! ”
ตราบใดที่หลิวฉวนยูร์หลบหนีไปได้หนทางหลบหนีของหลินหมิง
ก็ใช่ว่าจะเป็นศูนย์ แต่หลินหมิงคิดผิดพลาดไปอยู่อย่างหนึ่ง
หลิวฉวยยูร์นางไม่ได้ขยับเขยือนร่างกายไปไหนเลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ว่าเพราะร่างกายของนางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขนาดนั้นแต่มันเป็น
เพราะว่านางที่เกิดมาในตระกูลใหญ่และถูกเลี้ยงดูอย่างดีนั้นไม่เคย
ต้องได้รับความลาบากและการต่อสู้ที่ยากเช่นนี้
อีกทั้งการที่มีคนตวาดขึ้นเสียงกับนางนั้นนี้ย่อมเป็นครั้งแรกใน
ชีวิตของนางเพราะขนาดบิดา มารดาของนางยังไม่เคยเลยแม้แต่
ครั้งเดียว ในตอนนี้นางมีอารมณ์ที่ยากจะอธิบายอยู่ในใจมากมาย
ทาไมเขาถึงช่วยนาง ? ทาไมเขาถึงกล้าพูดจากับนางอย่างนี้ ?
แต่สิ่งที่ทาให้นางก้าวขาไม่ออกจริงๆก็คือภาพของวานรสองเขา
ที่กาลังเข้าจู่โจมอีกครั้งด้วยพละกาลังที่เหนือกว่าในตอนแรกอย่าง
เทียบไม่ตดิ ! นางกลัวจนไม่อาจก้าวเดินได้ในตอนแรกนางเพียง
รับมือการหยอดล้อจากวานรสองเขาเท่านั้นแต่เห็นได้ชัดว่า
ในตอนนี้มันไม่มีอารมณ์หยอกล้อกับนางแล้ว
“ โธ่เว้ย ! ”
เมื่อเห็นนางนั่งนิ่งเช่นนี้พร้อมกับร่างของวานรสองเขาที่พุ่งเข้า
มาด้วยความเร็วสูง หลินหมิงไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้อีกต่อไป
ในเมื่อตอนนี้หนทางของเขามีทางเดียวเท่านั้นก็คือ.......
“ ย๊ากก ”
ร่างของหลินหมิงพุ่งเข้าหาวานรสองเขาสร้างความแปลกใจ
ให้กับมันเป็นอย่างมากแม้ว่ามันจะไม่ได้มีสมองทีช่ าญฉลาดเช่น
มนุษย์แต่มันก็สามารถรับรู้ได้ว่าหากเป็นมนุษย์โดยทั่วไปใน
สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาเหล่านั้นคงรีบวิ่งหนีโดยไม่คิดชีวิตและ
นั้นจะทาให้มันสามารถไล่ฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและด้วยสติปัญญาของมันทา
ให้มันไม่สามารถตอบนสนองต่อการกระทาอันแปลกประหลาดของ
หลินหมิงได้
หลินหมิงหลบหมัดของวานรสองเขาได้อย่างฉิวเฉียด รอยเลือด
เป็นเส้นตรงปรากฎบนแก้มได้ซ้ายของเขา แต่ถึงอย่างนั้นร่างของ
หลินหมิงยังคงพุ่งต่อไปพร้อมกับหมัดทั้งสองที่คลุมไว้ด้วยเปลว
เพลิงสีดา
ปังง ! ปังงง !! ปังงง
เสียงหมัดของหลินหมิงชกเข้าที่ลาตัวของวานรสองเขาอย่างบ้า
คลั่งมันเป็นช่วงเวลาเพียงเสียงวินาทีเท่านั้นทีวานรสองเขาไม่
สามารถตั้งสติได้ และหลินหมิงได้ใช้โอกาสนี้ในการเอาชีวิตรอดของ
เขา
“ นะ..นี้เขา..บ้าไปแล้ว ! ”
หลิวฉวนยูร์นางสับสนเรือ่ งราวไปหมด หลินหมิงสมควรเป็นผู้ที่
มีพลังขั้นห้าของปราณเริ่มต้นเท่านั้นแต่เหตุใดหมัดของเขาถึงใดมี
ความรุนแรงเช่นนี้ ! ซึ่งนางไม่ได้รู้เลยว่าหากหลินหมิงไม่ได้รับ
บาดเจ็บจากการโจมตีก่อนหน้าหมัดของเขาในตอนนี้อาจสร้าง
บาดแผลสาหัสให้แก่วานรสองเขาไปแล้ว
ช่วงเสียววินาทีผ่านไปวานรสองเขานั้นอย่างไรเสียตัวมันนั้นถือ
ได้ว่าเป็นราชาของป่ารอยนอกอย่างแท้จริงไม่มีท่าทีมันจะถูกจัดการ
ลงได้ง่าย หมัดขวาของมันหวดเข้าเต็มท้องของหลินหมิงโดยพลัน !
“ อุกกก ! ”
ร่างของหลินหมิงปลิวกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร พร้อมกับ
กระอักเลือดออกมาคาโต หลินหมิงรู้สึกราวกับว่ากระดูดในร่างกาย
ของเขานั้นถูกบดละเอียดยับจากการโจมตีนี้เพียงแต่ว่า..
‘ ยัง..ยังไม่จบ ’
ร่างของหลินหมิงพลันดีดตัวเขาหาวานรสองเขาอีกครั้งเปลว
เพลิงสีดาที่เคยปกคลุมบริเวณที่มือทั้งสองข้างของเขาค่อยๆปกคลุม
ส่วนอื่นไปด้วยแม้จะเบาบางกว่าก็ตามที่
ปัง !
หมัดของหลินหมิงชกเข้าไปที่เต็มหน้าของวานรสองเขาจนทาให้
ร่างของมันเซถอยหลังไปเล็กน้อย หลินหมินรีดเร้นพลังปราณทุก
หยดภายในร่างขีดจากัดของเขตต่างๆล้วนถูกทาลายเส้นเลือด
ประสาททุกเว้นล้วนปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ภาพของวานรสองเขาที่เปรียบดั่งราชาของป่ารอบนอกกับภาพ
ของมนุษย์ที่มีเปลวเพลิงสีดาอันน่ากลัวปกคลุมตามร่างกายกาลัง
เข้าโรมรันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งสองฝ่ายต่างแลกมันกันโดยที่
ไม่มีทที ่าว่าฝ่ายใดจะตั้งรับทั้งสองทาเพียงหลบหลีกการโจมตีบ้างใน
บ้างครั้งแล้วสวนกลับไป
ยิ่งเวลาผ่านไปหลินหมิงเริ่มที่จะสามารถหลบหลีกการโจมตีของ
วานรสองเขาได้มากยิ่งขึ้นต่างจากมันที่เป็นเพียงสัตว์อสูรที่มี
สติปัญญาต่า ความโกรธเกรี้ยวจากการโดนโจมตีมนุษย์ตัวกระจ้อย
ทาให้มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนสิ่งใด
ผ่านไปครบชั่วเวลาหนึ่งก้านธูปร่างของวานรสองเขาก็ล้มลง
กลายเป็นร่างไร้ชีวิตนอนแน่นิ่งไป ร่างของหลินหมิงยังคงเต็มไป
ด้วยเลือดเต็มร่างกายอาจกล่าวได้ว่าราวกับหลินหมิงได้ไปอาบฝน
เลือดมาอย่างใดอย่างนั้น
หลิวฉวนยูร์ในระหว่างทีห่ ลินหมิงกาลังแลกหมัดกับวานรสอง
เขาอยู่นั้นนางถึงกับทาอะไรไม่ถูก นางคิดรังแกคนที่แข็งแกร่งขนาด
นี้? อีกทั้งเขายังมีพรสวรรค์ในทุกๆด้านที่เหนือกว่านางอย่างเห็นได้
ชัด แต่ทาไมเขาถึงเข้ามาช่วยนางกันละ
หัวใจของนางสั่นไหว นางได้รับคากล่าวชมจากบุรุษมามากมาย
แต่มันไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ทาให้นางสามารถรู้สึกได้เช่นนี้ ถึงแม้นาง
จะไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่นางไม่สามารถปล่อยให้
หลินหมิงตายได้

ตอนที่ 19
หลิวฉวนยูร์หัวใจของนางแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นร่างที่เต็มไปด้วย
บาดแผลของหลินหมิงล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ด้วยตาทั้งสองข้าง
ของเขาล้วนปิดสนิท นางรีบวิ่งไปหาหลินหมิงในทันที
“ เจ้า..ได้ยินข้ารึเปล่า..ห้ามหลับเชียวนะลืมตาขึ้น..ฮือออ ”
จากบาดแผลของหลินหมิงในตอนนี้นางไม่สามารถพาเขา
กลับไปรักษาที่เมืองได้ทันอย่างแน่นอน ด้วยสภาพของนางที่เป็นอยู่
ในตอนนี้ทาให้นางไม่อาจเคลื่อนไหวได้สะดวก และมันอาจมีปัญหา
ระหว่างทางอย่างเช่นการต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร ซึ่งต่อให้พวก
มันจะเป็นสัตว์อสูรขั้นหนึง่ ของปราณเริ่มต้นมันก็สามารถจัดการ
นางได้อย่างง่ายดาย
สถาพของหลินหมิงในตอนนี้นั้นสาหัสมาก อาจเรียกได้ว่าประตู
แห่งความตายลอยอยู่ข้างหน้าเขาเพียงคืบเดียวเท่านั้น บาดแผล
ปรากฎทั่วทุกแห่งตามร่างกายของหลินหมิง หากเป็นนางในอดีต
นางคงไม่กล้าแม้แต่จะคิดเขามาใกล้คนสภาพเช่นนี้
แต่ว่าทันใดก็มีเสียงฝีเท้าของคนมุ่งหน้ามาทางของหลินหมิ
งเพียงแต่ว่าหลิวฉวนยูร์นางนั้นไม่สามารถรับรู้สิ่งใดๆได้เลย
ในตอนนี้นางพยายามฝืนร่างกายเพื่อค่อยๆแบกร่างของเขาแต่มัน
กลับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ นี้มันเกิดอะไรขึ้น ! ”
เสียงของสตรีผู้ทรงอานาจและแสนคุ้นเคยปรากฎในโสด
ประสาทมันราวกับเสียงสวรรค์ที่มาประทานพรให้แก่นาง ทั้งชีวิต
นางไม่เคยรู้สึกขอบคุณสวรรค์มากเท่านี้มาก่อนเลย คนที่มาถึงก็คือ
อาจารย์ของนางผู้อาวุโสซูหลิ่ง
“ ท่านอาจารย์ ! ช่วยด้วย..ฮั่วหมิงเขา..เขา ”
หลิวฉวนยูร์พยายามอธิบายเรื่องราวต่างๆแต่มันเป็นเพราะ
ในตอนนี้นางไม่อาจอดกลั้นหยาดน้าตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
อันหลากหลาย มันจึงทาให้ผู้อาวุโสซูหลิ่งไม่อาจเข้าใจได้ง่ายนัก แต่
ถึงอย่างนั้นเมื่อนางสารวจไปรอบๆนางพบกับซากของวานรสองเขา
ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แม้ว่านางจะยังไม่เข้าใจว่าวานรสองเขา
ถูกจัดการได้อย่างไรก็ตาม
นางจัดการห้ามเลือดของหลินหมิงให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นางออกมาตรวจสอบหลินหมิงและหลิวฉวน
ยูร์ ในความเป็นจริงแล้วนางเพียงต้องการมาให้คาแนะนาหลินหมิง
สักเล็กน้อยเพราะนางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะสามารถประสบ
ความสาเร็จในการเก็บเกี่ยวตั้งแต่ครั้งแรก
โอสถจานวนมากปรากฎออกมาจากแหวนมิติสีเขียวมรกตของ
นาง ทุกชิ้นล้วนเป็นโอสถระดับสูงที่ใช้สาหรับการรักษาบางขวดนั้น
อาจมีราคานับหลายหมื่นเหรียญ แต่เงินเหล่านั้นล้วนไม่อาจเทียบ
ได้กับชีวิตของหลินหมิง
“ เมื่อกลับไปข้าเชื่อว่าเจ้าย่อมมีคาอธิบายในเรื่องนี้ ”
ผูอ้ าวุโสกล่าวขึ้นอย่างลอยๆในขณะที่นางกาลังทาการรักษาอยู่
น้าเสียงของนางเต็มไปด้วยอานาจ ผู้อาวุโสซูหลิ่งนางรู้ดีเกี่ยวกับ
สถานการณ์เช่นนี้ดี มันย่อมไม่ใช่เรื่องปกติมันไม่มที างที่วานรสอง
เขาจะเข้าโจมตีพวกเขาทั้งสองในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอนอีกทั้ง
บริเวณที่พวกเขาอยู่มันยังไม่ใช่เขตแดนของวานรสองเขาที่อยู่ส่วน
ลึกสุดของป่ารอบนอก
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลินหมิงพลันค่อยๆได้สติตื่นขึ้นมาร่างกาย
ของเขายังคงรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วตัว และยังรู้สึกปวดหัวอยู่เล็กน้อย
หลินหมิวพยายามหวนนึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาเขาจาได้เพียงแค่ว่าได้
เข้าต่อสู้กับวานรสองเขาอย่างสุดขีดกาลัง และเขาก็หมดสติไปใน
ที่สุด
‘ นี้ห้องของข้า ? ’
“ อะ..คุณชาย...ท่านพี่คุณชายได้สติแล้ว ! ”
เสียงของหญิงสาวดังขึ้นข้างๆไม่ห่างจากเขามากนักเมื่อเขาหัน
ไปมองก็พบกับหญิงสาวสองพี่น้องที่เขาได้ช่วงชิงความบริสุทธ์ไป
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเดินเข้ามาภายในห้องของเขาอย่าง
รวดเร็ว
“ พวกเจ้าหลบไปก่อน ”
“ เจ้าคะ ”
เป็นผู้อาวุโสซูหลิ่งที่เข้ามาด้วยความรวดเร็วในช่วงเวลาสัปดาห์
ที้ผ่านมาเป็นนางที่ได้ลงมือทาการรักษาหลินหมิงเองทั้งสิ้น หาก
ไม่เช่นนั้นหลินหมิงคงต้องจบชีวิตไปนานแล้ว หญิงสาวผู้พี่และน้อง
ต่างหลีกทางให้กบั ผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างรวดเร็วโดยที่มีร่างของหญิง
สาวที่ยืนข้างหลังด้วยสีหน้าเศร้าสลด
“ เจ้ารู้สึกเป็นเช่นไรบ้างรู้สึกมีความผิดปกติสิ่งใดกับร่างกาย
หรือไม่ ”
“ ข้ายังคงรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายอยู่เพียงเล็กน้อย ”
“ อืมนั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องเป็นห่วงร่างกายของเจ้า
ฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ข้าคาดคิดไว้มาก อีกทัง้ การที่เจ้ารู้สึกเจ็บปวด
ตามร่างกายเพียงเล็กน้อยแค่นี้นั้นย่อมถือเป็นเรื่องดีนัก ”
หลินหมิงเข้าใจคากล่าวของนางดี จากสภาพของเขาในครั้ง
ล่าสุดที่เขายังคงมีสติอยู่มนั แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถ
มีชีวิตรอดมาได้ อีกทั้งเขายังสามารถฟื้นคืนสติได้เพียงชั่วเวลาเพียง
สัปดาห์เดียวด้วยสภาพปางตาย
“ ขะ..ข้าขอโทษ ”
“ พวกเจ้าทั้งสองออกไปก่อน ”
หญิงสาวสองพี่น้องนั้นได้ถูกผู้อาวุโสซูหลิง่ ไล่ออกไปก่อน เมื่อ
พวกนางได้เห็นหลินหมิงได้สติพวกนางก็เบาใจลงไปมากเมื่อเทียบ
กับสภาพในตอนแรกที่พวกนางได้เห็นหลินหมิงทีผ่ ู้อาวุโสซูหลิ่งพา
มาพวกนางแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ เอาล่ะ ยูร์เอ๋อร์ได้อธิบายเรื่องราวให้ข้าฟังแล้ว ”
หลิวฉวนยูร์ยืนจ้องมองมาทางหลินหมิงด้วยท่าทีสานึกผิดอย่าง
สุดใจ
“ เจ้าควรรู้ว่าการที่พวกเจ้าได้พบวานรสองเขานั้นไม่ใช่เรื่อง
บังเอิญ แต่เป็นเพราะยูร์เอ๋อได้วางแผนโปรยผงล่อสัตว์อสูรไปทาง
เจ้าแต่ด้วยความไม่ชานาญกอปรกับการที่บริเวณนั้นอยู่ในส่วนลึก
ของป่าแต่ถึงอย่างนั้นก็นบั ได้ว่าเป็นโชคร้ายที่พวกเจ้าได้เจอวานร
สองเขาอยู่ดี ”
“ ข้าไม่ได้ตั้งใจข้าเพียงต้องการให้เจ้สประสบปัญหาเพียง
เล็กน้อยจากสัตว์อสูร.. ”
“ พอ ! ข้าบอกให้เจ้าพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
ผู้อาวุโสกล่าวขัดหลิวฉวนยูร์มันเห็นได้ชัดว่าจากเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นนี้ทาให้ความสัมพันธ์ของสองเทพธิดาต่างบุคคลิกเริ่มมีรอย
ร้าว
“ ฮั่วหมิงหากเจ้าต้องการให้นางชดใช้ก็กล่าวมาแม้นางจะไม่
เต็มใจชดใช้แต่เรื่องนี้ทางสมาคมของเราย่อมไม่ยอมเป็นแน่แท้ว่า
อีกฝั่งจะเป็นตระกูลหลิวก็ตาม ! ”
หลินหมิงแน่นอนว่าเขาย่อมต้องรู้สึกโกรธแค้นหลิวฉวนยูร์เป็น
อย่างมาก เขาเอาชีวิตเข้าช่วยนางแต่กลับกลายเป็นว่าเป็นางที่จง
ใจทาร้ายเขา? หากเขารู้เช่นนี้เขายังต้องเข้าไปช่วยเหลือนางอีก
หรือไม่ ? ก็แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมเป็นไปตามเดิมเพราะไม่เช่นนั้น
เขาคงต้องมีปัญหากับตระกูลหลิวเป็นแน่
“ ข้าไม่ต้องการสิ่งใดผู้อาวุโส อย่างไรเสียนางนั้นย่อมไม่ตงั้ ใจ
ให้เกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ข้าจึงไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากไปกว่านี้ ”
การมีปัญหากับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลิวในตอนนี้มันอาจ
ส่งผลทาให้ตระกูลหลินของเขาได้รู้ตัวตนของเขาและเมื่อเป็น
เช่นนั้นการที่เขาต้องรับมือกับตระกูลใหญ่สองตระกูลย่อมไม่ใช่เรื่อง
ง่าย เขาจาเป็นต้องมีความแข็งแกร่งที่มากเพียงพอที่จะปกป้อง
ตัวเองได้เสียก่อน
“ ฮึ่ม ! หากเจ้าว่าเช่นนั้นก็ตามใจเจ้าแต่ข้าได้แจ้งเรื่องนี้ไปกับ
ท่านประมุขแล้ว หากท่านกลับมาเมื่อใดข้าคิดว่าเรื่องนี้คงไม่จบ
เพียงเท่านี้ แต่ในวันนี้เจ้าจงพักผ่อนรอท่านประมุขกลับมาและข้า
จะมาดูอาการของเจ้าอยู่เรื่อยๆ ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งก้าวออกไปจากห้องเหลือเพียงหลิวฉวนยูร์อยู่
ภายในห้องกับหลินหมิงเพียงสองคน
ตอนที่ 20
ภายในห้องที่เหลือเพียงหลินหมิงและหลิวฉวนยูร์เต็มไปด้วย
ความอึดอัด นางยังคงไม่ได้จากไปแม้ว่าอาจารย์ของนางผู้อาวุโสซู
หลิ่งจะออกไปแล้วก็ตามที่
“ ข้าอยากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น..หากเจ้าต้องการสิ่งใดให้ข้า
ชดใช้เจ้าสามารถบอก.... ”
“ ข้าต้องการพักผ่อนในตอนนี้ ”
หลินหมิงยังไม่ต้องการพูดคุยกับนางในความจริงแล้วเขารู้สึก
ตกใจกับเรื่องที่นางวางแผนเอาไว้เช่นเดียวกันและมันยังมีความ
เป็นไปได้ที่นางอาจแสร้งทาเป็นเศ้ราเสียใจเพื่อลดโทษความผิดของ
นางแม้ว่านั้นจะโอกาสต่าก็ตามที่
“ หากเจ้าว่าอย่างนั้นข้าก็จะไม่รบกวนเจ้า ”
หลิวฉวนยูร์ออกไปจากห้องด้วยสีหน้าเศร้าสลดเช่นในตอนแรก
นางคาดไว้อยู่แล้วว่ามันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ทุกคนอภัยในเรื่อง
นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลินหมิงที่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยนาง
หลินหมิงหลับตาลงเพื่อพักผ่อนจากความอ่อนล้าจนในที่สุดเขา
ก็เผลอหลับลงไป
หลินหมิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆหลังจากที่เขาสัมผัสได้ถงึ
ความรู้สึกแปลกๆตามร่างกายของเขา หลินหมิงเมือ่ ลืมตาเต็มตื่น
เขาก็พบหญิงสาวอายุราวสามสิบปลายๆกาลังใช้ผ้าเช็ดทาความ
สะอาดร่างกายส่วนต่างๆให้กับเขาอยู่
นางเป็นหญิงสาวทีม่ ีรูปร่างแตกต่างจากเทพธิดาทั้งสามของ
หลินหมิงอยู่เล็กน้อยในเรื่องความงามนั้นนางเป็นรองอย่างไม่ต้อง
สงสัยเพียงแต่ว่าด้วยรูปร่างและหุ่นของหญิงสาวสูงวัยนางนี้สมควร
เรียกได้ว่ามันช่างยั่วยวนใจเหล่าชายหนุ่มของเขาได้อย่างมาก
ยอดภูเขาคู่งามที่ประดับที่ทรวงอกของหญิงสาวมันใหญ่ล้น
ออกมาจนเขารู้สึกสงสารเสื้อผ้าที่นางใส่อยู่เล็กน้อย รวมกับรูปร่าง
ของนางค่อนข้างมีน้ามีนวลไม่ได้พร้อมเรียวเช่นเทพธิดาทั้งสามมัน
จึงเป็นความงดงามของหญิงสาวในอีกรูปแบบที่น่าชื่นชม
“ คุณชายตื่นแล้วรึเจ้าคะ ”
“ อ่า ”
“ ผู้อาวุโสได้สั่งให้ข้ามาเป็นคนคอยดูแลปรนณิบัติท่าน..หาก
ท่านต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมสามารถเรียกใช่ข้าได้เลยเจ้าคะ ”
หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวสองพี่น้องไม่ได้เป็นคนมา
ดูแลเขาทั้งที่ในตอนแรกตอนที่เขาตื่นขึ้นมามันเห็นได้ชัดว่าเป็นพวก
นางที่คอยดูแลเขาในช่วงระหว่างที่เขาไม่ได้สติอยู่
‘ พวกนางอาจเหนื่อยล้าจากการเฝ้าข้ามาเป็นเวลานาน ? ‘
หญิงสาวสูงวัยยังคงทาการเช็ดตัวให้กับหลินหมิงต่อไป โดย
ในตอนนี้นางได้ยกโค้งร่างกายของนางขึ้นเพื่อทาความสะอาดแขน
อีกข้างหนึ่งของหลินหมิง ยอดภูเขาทั้งสองนางในตอนนี้อยู่ไม่ห่าง
จากใบหน้าของเขามากเท่าใดนัก
รวมกับกลิ่นอายของหญิงสาวที่ดูเหมือนว่าหลินหมิงจะตอบรับ
กับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยมพวกมันจึงกลายเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์
ของเขา หลินหมิงนามืออีกข้างที่ว่างอยู่จากการทาความสะอาดของ
หญิงสาวสูงวัยสัมผัสเข้าที่หน้าอกของนาง
“ อ๊าาา~~~~~ ”
หญิงสาวสูงวัยสะดุ้งตัวเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าหน้าอกคู่ใหญ่นี้เป็น
จุดอ่อนไหวของนาง ใบหน้าของนางปรากฎสีแดงระเรื่ออย่างไม่อา
จอดกลั้นได้นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะมีอารมณ์หลังจากที่เขา
ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้
ตัวนางนั้นเป็นหญิงสาวรับใช้ภายในสมาคมมีหน้าที่ดูแลแขก
ที่มาเยี่ยมด้วยเหตุที่นางมีประสบการณ์ในการดูแลแขกมามากมายผู้
อาวุโสซูหลิ่งจึงได้ให้นางทาหน้าที่ในการดูแลหลินหมิง แน่นอนว่า
นางย่อมเคยผ่านเรื่องราวการร่วมรักกับบุรุษมาแล้ว แต่นางก็ยังอด
แปลกใจไม่ได้อยู่ดี
หลินหมิงยังคงใช้มือลูบไล้หน้าอกของนางเมื่อเห็นว่านางไม่ได้มี
ทีท่าตอบโต้แต่อย่างใด เขารู้ดีว่าสถานะของเขาในตอนนี้ภายใน
สมาคมนั้นล้วนต้องเป็นทีเ่ คารพต่อบรรดาข้ารับใช้ในที่แห่งนี้เป็น
อย่างมากอีกทั้งมันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่บุรุษนั้นจะต้องการ
ระบายอารมณ์ต่อบรรดาสาวใช้ เพียงแต่ว่าในก่อนหน้านี้นั้นที่ตานัก
แห่งนี้นั้นล้วนแต่ไม่มีผู้ชายและหญิงสาวสูงวัยนั้นนางเป็นคนของผู้
อาวุโสซูหลิ่ง
หลินหมิงค่อยๆประคองร่างของนางขึ้นมาบนเตียงของเขาโดยที่
ในขณะนี้เขากาลังอยู่ในท่ากอดรัดหญิงสาวสูงวัยจากด้านหลัง
พร้อมกับลูบคลายอดภูเขาอวบอิ่มของนางอย่างสนุกสนาน แต่ถึง
อย่างไรหญิงสาวสูงวัยนั้นสมกับที่นางเคยมีประสบการณ์เช่นนี้มา
บ้างแล้ว นางยังคงมีสมาธิและตั้งใจเช็ดตัวให้หลินหมิงจากบริเวณ
ต้นขาไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ
“ อ๊าา~~ ....อย่าบีบแรงสิเจ้าคะ ”
“ เจ้าไม่ชอบอย่างนั้นรึ ? ”
“ ปะ...เปล่าเจ้าคะ ”
หญิงสาวสูงวัยตอบอย่างกล้าๆกลัวๆปกติแล้วนั้นจาก
ประสบการณ์ในอดีตของนางบุรุษมักไม่มีการเล้าโลมกับสตรีเช่นนี้
มันจึงทาให้นางมีความรู้สึกแปลกๆ หลินหมิงยื่นใบหน้าเข้าไปที่
บริเวณซอกคอของนางแล้วทาการสูดดมอย่างหื่นกระหายจนถึง
ตอนนี้เขาแทบจะลืมความรู้สึกเจ็บปวดก่อนหน้าไปเกือบทั้งหมด
“ อ๊าา~~~~~ มันรู้สึกแปลกๆนะเจ้าคะ ”
มือข้างหนึ่งของหลินหมิงเริ่มเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดยุทธศาสตร์ของ
หญิงสาว สัมผัสเปียกแฉะที่ปลายนิ้วของเขาสามารถบ่งบอกได้
อย่างนี้ว่านางมีอารมณ์ตอบสนองต่อเขามากเพียงใด
“ ไม่คิดเลยว่าแม้เจ้าจะมีอายุมากขนาดนี้จะยังมีอารมณ์มาก
เช่นนี้ ”
“ มะ...ไม่ใช่นะเจ้าคะ..เพราะคุณชา...อ๊าาาาา...ซี๊ดดดด..ยะ..
อย่าแหย่เข้าไปลึกเจ้าคะ ”
ในตอนนี้หญิงสาวสูงวัยถูกจู่โจมจากทุกด้านโดยหลินหมิงร่องรัก
ของนางนั้นถูกนิ้วมือข้างหนึ่งของหลินหมิงแหย่ไปมากอย่างซุกซน
ส่วนอีกข้างนั้นยังคงอยู่ทยี่ อดประทุมทันของนางอันเป็นส่วนที่นางมี
ความรู้สึกไวต่อสัมผัสเป็นอย่างมาก มือข้างนั้นของหลินหมิงยังคง
บีบคลึงหน้าอกของนางอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยพร้อมกับริมฝีปากของ
หลินหมิงที่โหมกระหน่าเข้าสูดดมและโลมเลียซอกคอและใบหูของ
นาง
“ ชะ...ช้าก่อนเจ้าคะ...ขะ..เริ่มรู้สึกว่าจะ....
อ๊าาาาาาาา~~~~~ ”
หลังจากต้องทนการเล้าโลมจากหลินหมิงมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง
นางก็ไม่สามารถอดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปน้ารักได้ไหลพุ่งออกมา
จากร่องรักของนาง จากการที่นางนั้นถูกเล้าโลมโดยหลินหมิงเพียง
อย่างเดียวเท่านั้น หากเป็นปกติแล้วนางสามารถรับมือกับทวน
มังกรของเหล่าบุรุษได้โดยไม่เสร็จด้วยซ้าไป
“ เจ้าไม่คิดจะทาให้ข้าบ้างอย่างนั้นรึ ”
เสียงเรียกของหลินหมิงดังที่ข้างหูของนางมันทาให้นางได้สติมัน
นานมากแล้วที่นางไม่ได้ปล่อยน้ารักของนางออกมา มันจึงทาให้
นางเผลอตัวไปกับความสุขจากการปลดปล่อยไปชั่วครู่
นางรู้ดีถึงสิ่งทีห่ ลินหมิงต้องการสื่อออกมามือของนางเข้าปลด
กางเกงของหลินหมิงออกมาเพื่อที่นางจะได้ทาสิ่งที่นางมั่นใจ ทักษะ
ในการบาเร่อบุรุษของนางนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมจนเหล่าบุรุษบาง
คนยังไม่ทันได้เสียบทวนมังกรของพวกเขา พวกเขาเหล่านั้นก็ต้อง
สิ้นฤทธิ์ไปเสียแล้ว แต่แล้วนางก็ต้องตกใจกับขนาดทวนมังกรของ
หลินหมิง
“ มะ......ไม่..น่าเชื่อ ”
ขนาดของมันใหญ่เกินกว่าทวนมังกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ตดิ มือ
ของนางค่อยๆเอื้อมไปจับเข้าที่ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างช้าๆ
‘ มันแข็ง..แล้วก็ใหญ่มาก..แถมยังอุ่น..ไม่สิร้อนเลยต่างหาก ‘
“ โอ้ยย..อ๊าา~~~..เบาๆเจ้าคะ ”
ในระหว่างที่หญิงสาวสูงวัยกาลังอยู่ในห้วงแห่งความคิดนางก็
ถูกหลินหมิงเข้าจู่โจมอีกครั้งเพื่อเรียกสติของนาง ยอดปะทุมถันของ
นางยังคงถูกบีบไปมาอย่างสนุกสนาน นางจะไม่ยอมง่ายๆแต่เพียง
เท่านี้อย่างแน่นอนขอเพียงแค่นางสามารถสยบทวนมังกรแท่งนี้ลง
ได้ไม่ว่ามันจะมีขนาดใหญ่-เล็กเพียงใดเรื่องนั้นย่อมไม่เกี่ยวกัน
มือทั้งสองของนางลูบไล้ไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างเร้า
ร้อน ทักษะของนางนั้นเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าหญิงสาวสองพี่น้องไป
มากนัก นางมีการเว้นจังหวะและเร่งจังหวะไปพร้อมๆกันมันทาให้
เขารู้สึกเสียวซ่านเป็นอย่างมาก
เมื่อหญิงสาวสูงวัยเริ่มสังเกตเห็นน้าขาวขุ่นของหลินหมิงนาง
เริ่มยิ้มออกมาอย่างมีชัย มันไม่มีทางที่นางจะถูกสยบโดยเด็กหนุ่ม
แต่โดยง่ายอยู่แล้วแต่นางต้องยอมรับว่าทักษะของคุณชายผู้นี้เรียก
ได้ว่าเหนือล้ากว่าบุรุษอื่นไปมากนัก ขนาดเขายังไม่ได้ใช้ทวนมังกร
แท่งยักษ์นี้ก็สามารถสร้างความสุขให้แก่นางอย่างไม่เคยพบมาก่อน

ตอนที่ 21
หญิงสาวสูงวัยยังคงใช้มอื ทั้งสองข้างของนางบีบรัดเพื่อรีดเร้น
น้าขาวขุ่นของหลินหมิงให้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกันกับ
หลินหมิงที่กาลังเล่นสนุกกับร่างกายของนาง
“ ข้าจะเสร็จแล้ว ”
“ อ๊าา~~~..ข้าด้วยเจ้าคะะะ ”
น้ารักของหญิงสาวสูงวัยถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้งไม่ห่างจาก
ช่วงเวลาแรกมากเท่าใดมันจึงทาให้ร่างกายของนางเริ่มไร้ซึ่ง
เรี่ยวแรง หลินหมิงเองก็ได้ปลดปล่อยน้าขาวขุ่นพุ่งตรงเข้าสู่ร่างกาย
ของหญิงสาวจนรางกับว่านางเพิ่งได้ไปบ่อน้ารักของเขามา
‘ มันมีกลิ่นฉุนมาก..แถมยังเหนียวแต่มันกลับมีรสชาติดีจนน่า
อัศจรรย์ ’
“ อ๊าา~~~ แฮ่กๆ ”
“ เอาล่ะงั้นเรามาต่อกันดีกว่า ”
คากล่าวของหลินหมิงทาให้นางตื่นตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ มัน
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสาหรับบุรุษที่จะปลดปล่อยน้ารักออกมาได้
ถึงสองครั้งในเวลาติดๆกันแต่เมื่อนางหันกลับมองยังร่างของหลินห
มิงที่ดูเหมือนว่าเขาจะปราศจากซึ่งความเหนื่อยล้าโดยสิ้นเชิง
“ ดะ..เดียวก่อน...เจ้าคะ..ข้าไม่สามารถ...ว๊ายย ”
ก่อนที่นางจะได้กล่าวอะไรหลินหมิงได้พลิกร่างกายของนางให้
นอนหงายราบบนเตียงโดยมีทวนมังกรจ่อที่ร่องรักของนางเตรีย
ใเผด็จศึก
“ ขะ..ข้าว่าเราน่าจะพักกัน...โอ้ยยยยยย...มะ...มันใหญ่ไปเจ้า
คะ...เอาออกไปก่อนนน....ขะ..ข้ารับม่าย..ไหวววว...ซี๊ดดดดดด....
อ๊าาาาาาาา ”
แม้ว่าหญิงสาวสูงวัยจะเคยผ่านประสบการณ์มามากแต่เมื่อนาง
ได้เจอกับทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังแทงทะลุเข้าไปยังตัวนาง
มันก็ทาให้นางรู้สึกได้ว่าโพร่งของนางนั้นกาลังฉีกขาด ทวนมังกร
ของหลินหมิงนั้นเพิ่งจะแทงทะลุเข้าไปได้เพียงสามส่วนซึ่งนางไม่
อาจคาดคิดถึงตอนที่มันแทงทะลวงเข้ามาจนสุด
“ มะ..ไม่..อึกกก..อ๊าาาาาาาาาาาา~~~~~ ”
ใบหน้าของหญิงสาวสูงวัยในตอนนี้ลิ้นของนางห้อยออกมาจาก
ปากพร้อมกับน้าลายของนางที่ค่อยๆไหลออกมาเป็นจานวนมาก
พร้อมกับดวงตาของนางที่เหลือกมองขึ้นด้านบนไปตามธรรมชาติ
ราวกับว่านางใกล้จะหมดสติไปแล้วจากการที่หลินหมิงแทงทะลวง
เข้ามาสุดลา
ร่องรักของหญิงสาวสูงวัยนั้นหากเปรียบเทียบกับหญิงสาวสองพี่
น้องนั้นร่องของรักอาจไม่คับแน่นเท่าแต่ด้วยขนาดของทวนมังกร
ของหลินหมิงเขาเชื่อว่าต่อให้ร่องของหญิงสาวจะหลวมมากเพียง
เขาก็ยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้
แต่ร่องของหญิงสาวสูงวัยนั้นจะดูมีความยืดยุ่นมากกว่ามันจึง
ทาให้เขาสามารถแทงทะลวงได้โดยง่ายกว่าหญิงสาวสองพี่น้อง
น้ารักใสๆของหญิงสาวค่อยๆไหลออกมาอีกครั้ง ราวกับว่า
ร่างกายภายในของนางนั้นเกิดคลื่นระเบิดแต่นางไม่อาจปฏิเสธได้ว่า
มันให้ความรู้สุขสมแก่นางได้อย่างมาก
“ เจ้ารู้เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ”
“ แฮ่กๆๆ..ขะ..ข้าขอพัก..ก่อนเจ้าคะ.. ”
นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเสียท่าให้กับคุณชายตรงหน้า
ที่อายุยังน้อยถึงเพียงนี้ หลินหมิงยิม้ ให้เล็กน้อยกับท่าทีอันน่ารักของ
หญิงสาวสูงวัยเขาก้มลงประปากของนางอย่างนิ่มนวลเขายังไม่
ต้องการให้นางหมดสติไปตอนนี้แต่ก็ไม่ต้องการให้นางได้พัก
เช่นเดียวกัน
“ อื้มมมมมม~~~~ ”
ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มขยับอย่างช้าตามจังหวะระรอกคลื่น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็กลับทาให้หญิงสาวแทบจะระเบิดน้ารักของนาง
อีกครั้ง เมื่อหลินหมิงเห็นว่านางเริ่มมีความรู้สึกเคยชินและผ่อน
คลายลงเขาจึงค่อยๆทาการเร่งจังหวะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนหน้านี้กับ
หญิงสาวสองพี่น้องนั้นเขายังไม่อาจโจมตีพวกนางได้อย่างรุนแรง
มากนักเพราะพวกนางยังคงขาด.ึ่งประสบการณ์ไม่เช่นนั้นแล้วพวก
นางคงหมดสติภายในช่วงเวลาไม่นาน
“ อะ อะ อะ โอ้ยย..รู้สึกเสียวไปหมดเลยเจ้าคะ ”
หญิงสาวสูงวัยนางเริ่มรู้สึกได้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเริ่มทุเลา
ลงแต่มันกลับแทนที่ดว้ ยความรู้สึกเสียงซ่านมและความสุขสมจาก
การโดนหลินหมิงจู่โจม
“ งั้นข้าจะเร่งขึ้นอีก ”
หลินหมิงรู้สึกพอใจเป็นอย่างเข้าเร่งจังหวะเข้าซัดร่างของหญิง
สาวสูงวัยจนร่างกายของนางกระตุกถี่อยู่บ่อยครั้งอันเป็นสัญญาณ
ว่านางได้ปลดปล่อยน้ารักออกมาเป็นจานวนมาก แต่ถึงอย่างนั้น
เสียงครางของนางก็ยังคงดังสร้างอารมณ์ให้เขาอยู่อย่างต่อเหนื่อง
มันเห็นได้ชัดว่านางจะไม่หมดสติไปง่ายๆแม้ว่าเรี่ยวแรงของนางจะ
หมดลงไปแล้วก็ตาม
“ อ๊าาาาาาา~~~~~~~~~ ”
น้าขาวขุ่นถูกปลดปล่อยเข้าสู่โพร่งร่องรักของนางเข้าไปเต็มท้อง
หลินหมิงนาทวนมังกรของเขาออกเพราะว่าเขาต้องการให้น้ารักทั้ง
ของเขาและนางได้ระบายออกมา
“ เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ”
“ ขะ..ข้าขอเป็นข้ารับใช้คุณชายตลอดไป~~ ”
“ งั้นข้าคงต้องไปบอกผู้อาวุโสซูหลิ่งแล้วละนะ ”
ด้วยขนาดทวนมังกรของหลินหมิงที่จู่โจมนาง ทาให้นางคิดว่า
นางคงไม่สามารถบริการชายใดได้อีกร่องรักของนางนั้นในตอนนี้
เรียกได้ว่าเบ่งบานออกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันกลายเป็นร่องที่
มีไว้สาหรับคุณชายคนนี้คนเดียวเพียงเท่านั้น
“ แต่ว่ามันยังไม่จบหรอกนะ ”
“ เอ๊ะ ! ”
หลินหมิงพลิกร่างของนางให้หันกลับมานอนคว่าโดยที่ยกส่วน
สะโพกของนางให้โค้งตั้งขึ้นมาโดยมีเข่าทั้งสองข้างตั้งชั้นเอาไว้
“ คะ..คุณชายยัง..มะ..ไม่พอใจอีกรึเจ้าคะ ”
“ โฮ่ จากมุมนี้ข้าสามารถตรวจสอบร่องของเจ้าได้เป็นอย่างดี
ไหนดูสิยังคงมีอะไรอยู่ข้างไหนบ้างน้า~ ”
“ อย่าเอานิ้วแหย่เล่นสิเจ้าคะ..อ๊าา~~ ”
“ ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอารมณ์ตองสนองที่ดีเยี่ยมเลยนะ ”
หลินหมิงเริ่มรู้สึกได้ว่าร่องรักของนางเริ่มจะปลดปล่อยน้าใสๆ
ออกมาอีกครั้ง มันทาให้เขายากที่จะอดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปทวน
มังกรของหลินหมิงเข้าประจาการและเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง
“ โอ้ววว ”
“ ซี๊ดดดดดด! อ้าาา~~~~ทาไม..มันถึงใหญ่เหมือนเดิมเลยเจ้า
คะ..แบบนี้มัน อ๊าาาาา~~~ ”
ปัป ปัป ปัป ปัป ปัป ปัป
เสียงเนื้อมนุษย์ทั้งสองกระทบกันอย่างร้อนแรงด้วยการที่นาง
เป็นหญิงสาวที่ไม่อาจเรียกได้ว่าผอมเพรียวแต่ไม่ถงึ ขั้นอวบ สะโพก
ของนางนั้นราวกับว่ามันถูกสรรสร้างให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับ
อารมณ์ของเหล่าบุรุษ
“ ทะ...ท่านี.้ .มัน...รู้สึกว่าเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมอีกเจ้าคะ ”
หลินหมิงยังคงร่วมรักกับหญิงสาวสูงวัยในท่านี้อย่างยาวนานจน
เขาปลดปล่อยน้าขาวขุ่นไปถึงสามครั้ง
“ อ๊า~~ ”
ร่างกายของหญิงสาวนั้นเรียกได้ว่าอาบไปด้วยน้ารักอย่าง
แท้จริงโดยเฉพาะบริเวณร่องรักของนาง หญิงสาวสูงวัยนอนคว่า
หน้าลงด้วยความอ่อนล้าจากท่วงท่าการร่วมรักของหลินหมิง
“ เอ๊ะ..คุณชาย..จะทาอะไรเจ้าคะ..ตรงนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ...อึก
กกกกก..อ๊าาาาา~~~ ”
“ ดูเหมือนว่ารูก้นของเจ้ายังบริสุทธ์อยู่นะ ”
“ มะ..ไม่..ไหว......แล้ว ”
หลินหมิงยังคงกระแทกดุน้ เข้าไปยังก้นของนางอย่างร้อยแรง
โดยที่เขาไม่ได้สงั เกตเลยว่านางนั้นได้หมดสติไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
ไปเสียแล้วแต่ถึงอย่างนั้นนางจะยังคงร้องเสียงครางอย่างไม่ขาด
สาย

ตอนที่ 22
วันถัดมาหลินหมิงตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นราวกับว่าบาดแผล
ที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องโกหก ผู้อาวุโสซูหลิ่งแทบจะไม่เชื่อสายตาของ
นางเอง แน่นอนว่านางได้จัดตัวยาและสมุนไพรระดับสูงจานวนมาก
เพื่อทาการรักษาหลินหมิงแต่มันย่อมไม่น่าส่งผลดีถึงเพียงนี้ นี้อาจ
เป็นเพราะพรสวรรค์หรือทักษะติดตัวของเขาเปลวเพลิงสีดาที่นาง
เองก็ไม่อาจทาความเข้าใจเกี่ยวกับมันได้มากนัก
“ ผู้อาวุโสข้ามีเรื่องที่จะกล่าวขอสักเล็กน้อย ”
ในห้องรับรองใหญ่ของตานักประมุขสมาคมนักปรุงยานั้นไม่ได้มี
เพียงแต่หลินหมิงกับผู้อาวุโสซูหลิง่ เท่านั้นยังมีสาวสูงวัยที่หลินหมิง
ได้ร่วมรักกับนางไปเมื่อวานนี้อย่างเร่าร้อน การเดินและการนั่งต่างๆ
ของนางเห็นได้ชัดว่านางยังไม่สามารถขยับตัวได้อย่างถนัดนัก และ
ยังมีหลิวฉวนยูร์ศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสนั่งอยู่ข้างๆโดยนางเหลือบ
มองมาที่หลินหมิงเป็นระยะ
“ อืม..ซื่อโฉวนางได้บอกกล่าวข้าเกี่ยวกับเรื่องนีแ้ ล้วตัวข้านั้น
ย่อมไม่มีเรื่องขัดข้องแต่อย่างใดและดูเหมือนว่านางจะเต็มใจข้าจึง
ไม่มีเรื่องขัด อีกทัง้ เจ้าเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บการที่ได้นาง
เอาไว้ดูแลร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ”
“ ขอขอบพระคุณผู้อาวุโส ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งพอจะเข้าใจเรื่องราวบางอย่างอาจเป็นไปได้ว่า
หลินหมิงนั้นมีความชอบพอในลักษณะของ ซื่อโฉวข้ารับใช้ของนาง
การที่นางเสียข้ารับใช้สาวไปสักคนสองคนหรือนับสิบคนนั้นย่อม
ไม่ใช่เรื่องที่มีความหมายแต่อย่างใดกลับกันการสร้างความ
ประทับใจ และความปลอดภัยให้หลินหมิงนั้นย่อมเป็นเรื่องสาคัญ
ยิ่งกว่า
“ อีกเรื่องหนึ่งท่านประมุขนั้นยังคงไม่สามารถเดินทางกลับมา
ได้เนื่องจากติดประชุมยาวที่เมืองหลวงดังนั้นท่านจึงให้ข้าเป็นคน
ดูแลเจ้าไปอีกสักระยะ ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของหลิวฉวนยูร์สดใสขึ้นมาเล็กน้อยหาก
เป็นตามกาหนดการเดิมจูหนิงเอ๋อร์นั้นต้องกลับมาในวันพรุ่งนี้และ
หากเป็นเช่นนั้นโอกาศที่นางจะได้อยู่กับหลินหมิงก็นับได้ว่าน้อยนิด
“ ในวันพรุ่งนี้จะมีการจัดการประลองกันระหว่างศิษย์ของเหล่า
ผู้อาวุโสภายในสมาคมซึ่งในเรื่องนี้ท่านประมุขต้องการให้เจ้าเข้า
ร่วมด้วยแน่นอนว่าการประลองนั้นมีสองประเภทนัน้ ก็คือการ
ประลองการปรุงยา และการประลองยุทธ์แต่ในส่วนของงาน
ประลองปรุงยานั้นได้จบลงไปแล้วในระหว่างที่เจ้าไม่ได้สติและผุ้
ชนะก็คือยูร์เอ๋อร์ ”
หลินหมิงคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่หลิวฉวนยูร์นนั้ เป็นผู้ชนะ
ไปหากผู้อาวุโสซูหลิง่ กล่าวว่าหลิวฉวนยูร์ไม่ได้ชนะอันดับหนึ่งนั้น
ถือจะเป็นเรื่องแปลกสาหรับหลินหมิงการที่จะปรุงยาระดับสามด้วย
วัยเพียง 15 ปีนั้นย่อมเกินกว่าสามัญสานึกคนธรรมดาทั่วไปอยูม่ าก
นักเช่นนั้นแล้วคนที่จะสามารถเอาชนะนางได้ต้องเป็นนักปรุงยาที่
สามารถปรุงยาระดับ 4 ได้หรืออย่างน้อยต้องปรุงยาระดับ 3 ขั้นสูง
เท่านั้น
“ ข้าคิดเห็นว่าในเมื่อเจ้าหายดีจากอาการบาดเจ็บจึงสมควรใช้
โอกาสนี้ในการสั่งสมประสบการณ์ และเพิ่มชื่อเสียงให้กับตัวเจ้า ”
“ ขอรับท่านผู้อาวโส ”
แน่นอนว่าหลนหมิงย่อมต้องการเข้าร่วมการจัดแข่งในครั้งนี้
ตั้งแต่ที่เขาได้รับพลังมานัน้ เขายังไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่เป็นมนุษย์เลย
หากไม่นับอาจารย์สาวสวยของเขามันจึงทาให้เขาประเมิณพลังของ
ตัวเองกับรุ่นเยาว์โดยทั่วไปได้อย่างยากลาบากแน่นอนว่าตัวของ
หลินหมิงนั้นรู้ดีว่าเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทัว่ ไปมากนักแต่
เขาก็ยังไม่สามารถคาดคะเนเปรียบเทียบกับรุ่นเยาว์คนอื่นได้
“ ขะ..ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะพักต่ออีกสักหน่อย ”
หลินหมิงได้ยินคากล่าวของหลิวฉวนยูร์นั้นทาให้ตวั เขารู้สึก
งงงวยเป็นอย่างมาก นางรู้สึกเป็นห่วงเขา? อีกทั้งปฎิกริยาของผู้
อาวุโสซูหลิ่งนั้นแตกต่างไปจากเมื่อวานที่นางแสดงออกอย่างเห็นได้
ชัดว่านางมีความรู้สึกโกรธเกรี้ยวต่อหลิวฉวนยูร์มากเพียงใด แต่
ในตอนนี้นางแสดงท่าทีเอ็นดูหลิวฉวนยูร์ดงั่ เช่นก่อนหน้านี้หรืออาจ
มากกว่า
“ ข้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆขอบใจแม่นางที่เป็นห่วง ”
หลิวฉวนยูร์รู้สึกเอียงอายจนหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อผู้
อาวุโสซูหลิ่งเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มชอบใจออกมา
‘ มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ระหว่างสองเทพธิดานางนี้ ? ’
หลินหมิงแยกจากผู้อาวุโสซูหลิ่งมายังห้องที่เอาไว้ใช้สาหรับ
ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ ในก่อนหน้านี้นั้นอาจารย์สาวสวยของเขาบอก
ว่าตัวเขายังไม่ต้องสนใจในการทักษะเหล่านี้มากนัก แต่ในตอนนี้
นางอนุญาติให้เขาได้ฝึกฝนด้วยตนเองไปก่อน
การฝึกฝนด้วยตนเองนั้นแม้ดูเป็นหนทางทีย่ ากลาบากกว่าการที่
มีอาจารย์มาฝึกสอนแต่มันสามารถสร้างประสบการณ์ในการพัฒนา
และด้านการคิดของผู้ฝึกให้เติบโตได้ อาจารย์สาวสวยของเขาจึง
ตั้งใจให้เขาได้ฝึกฝนตนและจะชี้แนะในส่วนที่สาคัญเท่านั้นเพื่อที่จะ
ไม่ได้เป็นการขว้างกั้นขีดจากัดของเขา
หลินหมิงทาสมาธิเพื่อตรวจสอบพลังงานภายในร่างกายพลัง
ปราณในร่างกายของเขาในตอนนี้เลื่อนขึ้นมาเป็นขั้นที่หกของ
ปราณเริ่มต้นหลังจากที่ได้ผ่านการร่วมรักกับซื่อโฉว หญิงสาวรับใช้
ของผู้อาวุโสซูหลิ่งทีต่ อนนี้กลายเป็นสาวใช้ของเขาเป็นที่เรียบร้อย
เขาจึงสามารถสรุปได้ว่าเขาจะต้องร่วมรักกับหญิงสาวที่ไม่ซ้า
เท่านั้นถึงจะสามารถรับพลังงานจานวนมากได้ แต่หากเขาร่วมรัก
กับพวกนางซ้าก็จะได้เพียงพลังงานส่วนเล็กๆเท่านั้น
แม้ว่าพลังงานที่เขาจะได้จากการร่วมรักกับนางนั้นจะสามารถ
ทาให้เขาทะลุก้าวเข้าสู่ขั้นที่หกของปราณเริ่มต้นแต่พลังงานเหล่านี้
ยังไม่มากเท่ากับตอนที่เขาได้จากการร่วมรักกับหญิงสาวสองพี่น้อง
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาจะต้องเป็นคนช่วงชิงความบริสุทธ์ของพวก
นางเพื่อที่จะได้รับพลังงานอย่างเต็มที่
วัดต่อมา
หลินหมิงในตอนนี้อยู่ที่ลานประลองกว้างของสมาคมนักปรุงยา
โดยมีรุ่นเยาว์จานวนมากอยู่ไม่ห่างจากเขาไปมากนัก บนที่นั่งของ
เหล่าผู้อาวุโสหลินหมิงเห็นผู้อาวุโสซูหลิ่งที่นงั่ อยู่ตรงกลาวด้วย
ตาแหน่งนั้นมันแสดงได้วา่ นางนั้นมีอานาจเพียงเป็นรองแค่อาจารย์
สาวสวยของเขา แต่เขากลับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่หลิวฉวนยูร์ไป
ยืนอยู่ใกล้ๆผู้อาวุโสซูหลิง่ อาจเป็นไปได้ว่านางไม่ต้องการเข้า
แข่งขันครั้งนี้ ?
รุ่นเยาว์ที่เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสนั้นถูกจากัดอายุให้ไม่เกิน 18 ปี
แต่ถึงอย่างนั้นจานวนของพวกเขาโดยรอบนั้นก็มมี ากกว่ายี่สิบคน
โดยที่ส่วนใหญ่แล้วนั้นพวกเขาจะมีอายุใกล้เคียง 18 ทั้งสิ้นพลังงาน
ที่พวกเขาแผ่ออกมาเพื่อกดดันแสดงให้เห็นว่าคนที่มีพลังต่าสุดนั้นก็
พลังถึงขั้นที่เจ็ดของปราณก่อตั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดหลิวฉวน
ยูร์จึงไม่ได้เข้าร่วมงานประลองครั้งนี้
นางแม้จะถูกจัดว่าเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากทั้งในด้านการ
ปรุงยาและวรยุทธ์แต่ด้วยช่วงอายุของนางกับรุ่นเยาว์เหล่านี้มัน
ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเอาชนะพวกเขาไปได้ สายตาจานวน
มากต่างมองมาที่หลินหมิงข่าวของประมุขสามคมนักปรุงยาที่รับ
ศิษย์ส่วนตัวเขามานั้นแม้ว่านางจะไม่ได้ทาการประกาศแต่ข่าวใหญ่
เช่นนี้ย่อมไม่อาจพ้นหูพวกเขาไปได้
ด้วยวัยของหลินหมิงกับพลังขั้นหกปราณเริ่มต้นมันอาจถูกมอง
ว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะแม้ว่าจะด้อยกว่าหลิวฉวนยูร์แต่นั้นย่อมไม่
เพียงพอต่อการเป็นศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคม ผู้เข้าแข่งขัน
ทั้งหมดนั้นมีทงั้ สิ้น 24 คนและมันเป็นการประลองหนึ่งต่อหนึ่งซึ่งไม่
อนุญาติให้มีการเอาชีวิตกันหากเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สามารถทาการ
ต่อสู้ได้ผู้อาวุโสที่เป็นกรรมการจะเข้าทาการหยุดโดยทันที
ผู้อาวุโสซูหลิ่งเนื่องจากนางไม่ได้ส่งศิษย์เข้าแข่งในครั้งนี้นางจา
ทาหน้าที่ในการจับฉลากคู่ประลอง โดยในคู่แรกนั้นเป็นคู่ที่น่าจับตา
มองเป็นอย่างมากเพราะว่าเป็นการประลองของ หลินหมิง ศิษย์
ส่วนตัวของประมุขสมาคม
ฮั่วหมิง(หลินหมิง ) - ลู่คง
หลินหมิงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเขาแทบจะอดใจรอไปไม่ไหว
การที่เขาได้เป็นคู่แรกนั้นย่อมไม่มีอะไรที่เยี่ยมไปกว่านี้ ลู่คงนั้นจัดได้
ว่าเป็นศิษย์ที่มีพลังขั้นที่แปดของปราณเริ่มด้วยอายุเพียง 18 ปีด้วย
พลังขนาดนี้เขาสามารถจัดให้อยู่ในระดับหนึ่งในห้าของการ
ประลองตั้งแต่ก่อนเริ่ม
หลินหมิงก้าวขึ้นบนเวทีโดยปราศจากความกังวลใดๆ
เช่นเดียวกับลู่คง ลู่คงนั้นแม้ว่าตัวมันจะไม่ได้มีพรสวรรค์ในการปรุง
ยาที่ดีเลิศมากนักจากการที่มันสามารถปรุงยาระดับสองเริ่มต้นได้
และผลสาเร็จนั้นอยู่ราวๆ 6 ใน 10 ซึ่งนั้นนับเป็เกณฑ์ธรรมดา
ทั่วไปของศิษย์ผู้อาวุโสในสมาคมแต่หากเป็นด้านการต่อสู้แล้วละก็
ตัวเขานั้นเชื่อมันว่าอยู่ในระดับสูงอย่างแน่นอน
อีกทั้งคู่ต่อสู้ของเขายังเป็นเพียงขั้นที่หกปราณเริ่มต้นที่อ่อนด้อย
กว่าเขาไปถึงสองขั้นไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่า ฮั่วหมิงคนนี้เป็นคนที่รุ่น
เยาว์ทุกคนต้องการประลองด้วยเพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าจะ
สามารถเอาชนะได้อย่าง่ายดาย
“ น้องหมิงด้วยนี้เป็นการประลองที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดง
ความสามารถในตัวของแต่ละคน ข้านั้นในบางทีอาจจะไม่สามารถ
รั้งพลังที่เหมาะสมจนเจ้าเจ็บตัวข้าคงต้องขอโทษเจ้าเอาไว้ด้วย ”
ลู่คงกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ ตัวเขานั้นไม่มีความคิดที่จะ
พ่ายแพ้การประลองในครั้งแรกนี้เลยแม้แต่น้อย เขาคิดเพียงแต่ว่า
วิธีที่จะสามารถเอาชนะหลินหมิงได้อย่างสวยงามเพียงเท่านั้น
“ ข้าก็เช่นกัน บางทีข้าอาจทาให้พี่ชายบาดเจ็บข้าคงต้องข้อ
อภัยท่านด้วย ”

ตอนที่ 22
ลู่คงได้ยินคากล่าวของหลินหมิงก็แทบอดกลั้นหัวเราะเอาไว้
ไม่ได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนสาหรับการที่ผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถ
เอาชนะผู้ที่เหนือกว่าสองขั้นเช่นนี้เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเป็นอัจฉริยะ
ที่หาได้ยากยิ่งและมีการฝึกฝนทักษะในระดับสูง
เสียงกรรมการดั่งลั่นไปทัว่ ทั้งเวทีอันเป็นสัญญาณเตือนผู้อาวุโส
ทุกคนต่างจับตามองมาทีห่ ลินหมิงพร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้
อาวุโสซูหลิ่งทีก่ าลังเฝ้าดูด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในความเป็นจริงแล้ว
นางอาจไม่ต้องเข้าร่วมการประลองนี้ก็ยังได้เพราะศิษย์ของนาง
ไม่ได้เข้าร่วม แต่ที่นางมานั้นย่อมเป็นเพราะหลินหมิง
จากเรื่องราวที่ได้ฟังจากหลิวฉวนยูร์ความสามารถที่สามารถ
เอาชนะสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งเกินกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกัน
แม้ว่าพวกมันจะมีสติปญ
ั ญาที่ด้อยกว่าแต่นั้นคือวานรสองเขาที่อยู่
จุดสูงสุดของลมปราณเริ่มต้น นางจึงอยากเห็นความแข็งแกร่งของ
หลินหมิงด้วยตาของนางเอง
ร่างของลู่คงพุ่งเข้าหลินหมิงด้วยความเร็วอันน่าตกใจ พร้อมกับ
เคลื่อนไหวไปรอบๆตัวของหลินหมิงเขาต้องการแสดงความเร็วอัน
เป็นจุดเด่นของเขาให้บรรดาผู้อาวุโสดู และหากมันเป็นที่ยอมรับ
โดยเหล่าผู้อาวุโสเขาอาจได้รับการสนับสนุนที่ดีเยีย่ ม ผู้เยาว์ทุกคน
ต่างล้วนเข้าใจการกระทาของลู่คงดีหากเป็นพวกเขาย่อมลงมือไม่
ต่างกัน
“ เอาล่ะนะ ”
ลู่คงส่งเสียงร้องเตือนหลินหมิงเพื่อที่เข้าจะแสดงความรุนแรง
ของหมัดนี้ของเขา แม้ว่าหลินหมิงจะสามารถตอบสนองได้ทันเขาก็
เชื่อว่าหลินหมิงจะไม่สามารถรับหมัดนี้ได้
ทักษะวรยุทธ์ หมัดพสุธา เป็นหนึ่งในทักษะของลู่คงมันเป็น
ทักษะที่เสริมพละกาลังร่างกายของเขาได้เป็นอย่างมากราวกับว่า
หมัดนี้ของเขาเป็นหมัดที่เกิดจากกลุ่มก้อนหินก้อนหกพุ่งเข้าชนร่าง
ของเป้าหมาย
กรรมการการแข่งขันเหลือบมองไปที่ผู้อาวุโสซูหลิง่ เล็กน้อย
ขนาดตัวเขาที่เป็นผู้อาวุโสเช่นเดียวกันก็คิดว่าหลินหมิงไม่สามารถ
ที่จะรับมือกับหมัดนี้ได้โดยง่ายแม้ว่ามันจะไม่อาจนับว่าเป็นทักษะ
ระดับสูงแต่อย่างน้อยหมัดย่อมเป็นทักษะระดับ 2 จากบรรดาทักษะ
ทั้งหมด 9 ระดับ
การที่ครอบครองทักษะจานวนมากนั้นไม่ใช่เครื่องหมายที่บ่ง
บอกถึงความสามารถของคนเหล่านั้นแต่เป็นการทาความใจใน
ทักษะเหล่านั้นต่างหาก มันเห็นได้ชัดว่าลู่คงมีความสามารถในการ
ทาความเข้าใจในทักษะระดับสองอย่างหมัดพสุธาได้เป็นอย่างดีแต่
ถึงอย่างนั้น....
ปัง !
เสียงหมัดที่รุนแรงของลู่คงถูกหยุดเอาไว้โดยชายหนุ่มร่างเล็ก
กว่าอย่างง่ายดายโดยมือข้างเดียวอีกทั้ง เด็กหนุ่มคนนี้ดูเหมือนว่า
จะไม่ได้ใช้ทักษะใดๆในการรับการโจมตี ทั่วทั้งลานประลองเต็มไป
ด้วยความตื่นตะลึงไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าผู้อาวุโส
‘ อ่ารุนแรงใช่เล่นเลยนะเนี่ย ’
แต่ถึงแม้ว่าหลินหมิงจะคิดอย่างนั้นแต่มันไม่สามารถเทียบกับ
หมัดของวานรสองเข้าที่เขาได้กาลังเข้าแลกหมัดจนเกือบตาย
มาแล้ว ด้วยการที่หลินหมิงก้าวมาสู่ขั้นที่หกลมปราณเริ่มต้น
ร่างกายและความแข็งแกร่งของเขาล้วนถูกพัฒนาขึ้นมาจากก่อน
หน้านี้อย่างมหาศาลดังนั้นแล้วหากไม่ใช่หมัดที่อยูใ่ นระดับเดียวกับ
วานรสองเขานั้นคงสามารถโค้นเขาลงได้ยาก
ลู่คงกระหน่าหมัดเข้าจู่โจมหลินหมิงอย่างต่อเหนื่อง ทางด้าน
หลินหมิงเองก็ใช่การหลบหลีกหรือใช้การตั้งรับพลัดกันไปบ้างใน
บางครั้ง เพราะว่าเขายังคงไม่อาจตอบสนองต่อความเร็วของลู่คงได้
อย่างทันทวงที
ปังงง !
คราวนี้ทั่วทั้งลานประลองถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เพราะว่า
แทนที่จะเป็นเสียงหมัดของลู่คงเข้าปะทะร่างของหลินหมิงกลับเป็น
หมัดของหลินหมิงที่พุ่งเข้าใส่ลู่คงอย่างง่ายดายโดยอาศัยจังหวะที่ลู่
คงนั้นกาลังสับสนและระส่าระสายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากลู่คง
สามารถตั้งสมาธิกับการต่อสู้แน่นอนว่าหลินหมิงไม่อาจสามารถ
เอาชนะได้ง่ายเช่นนี้ด้วยการที่เขาไม่อาจตามความเร็วของลู่คงได้
ทัน
ผู้อาวุโสซูหลิ่งยิม้ ออกมาอย่างชอบใจพร้อมกับหลิวฉวนยูร์ที่
แสดงออกถึงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด เหล่าผู้อาวุโสจานวนมากต่าง
ลอบประเมิณความแข็งแกร่งของหลินหมิง รวมถึงบรรดารุ่นเยาว์
ทั้งหลายเดิมทีพวกเขาคิดว่าหลินหมิงจะเป็นหมูในอวยให้พวกเขา
รอเชือดเพื่อเป็นโชว์การแสดงความสามารถของพวกเขาแต่
ในตอนนี้ทุกอย่างล้วนกลับกันโดยสิ้นเชิง
เสียงของผู้อาวุโสซูหลิ่งดังขึ้นเพื่อคลี่คลายสถานการณ์สับสน
กรรมการผู้คุมก็เหมือนกับว่าตัวเขาเพิ่งได้ตื่นจากฝันอันแปลก
ประหลาด ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ใบหน้าล้วนเบ่งบานการที่ท่านประมุข
รับศิษย์ที่มีความสามารถเช่นนี้เข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวย่อมเป็นเรื่องดี
ต่อสมาคมอย่างไม่ตกสงสัย
“ หลินเสี่ยวต้า - กงหยาน ”
‘ หลินเสี่ยวต้า ? ’
หลินเสี่ยวต้านั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในพี่ชายของเขาแต่แม่ของ
หลินเสี่ยวต้านั้นเป็นภรรยาลาดับที่ห้าแต่ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ของ
มันที่อยู่ในระดับจุดสูงสุดขั้นแปดปราณเริ่มต้นด้วยวัย 18 ปีมันจึง
ถูกเรียกได้ว่าเป็นรุ่นเยาว์อันดับสองของตระกูล
‘ ฮ่าๆๆ ไม่คิดเลยว่าโอกาสที่จะได้แก้แค้นจะมาถึงเร็วเช่นนี้..โอ้
ไม่สิข้าคงไม่สามารถจัดการเจ้าอย่างรุนแรงได้มากนักแต่ก็ไม่เป็นไร
ข้าคงต้องเตรียมวิธีอื่น..... ’
หลินเสี่ยวต้านั้นเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสฟางซิ่นนางนั้นได้ว่าเป็น
มือซ้ายของอาจารย์สาวสวยของเขา และตัวมันนั้นยังนับได้ว่ามัน
ตัวเต็งของการแข่งขันครั้งนี้
“ โอ๋..ข้าต้องขอโทษด้วยที่มาช้า ”
เสียงของสาวที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนต่อบบุรุษดังขึ้นที่บริเวณ
ที่นั่งของเหล่าผู้อาวุโสหลินหมิงเหลือบมองขึ้นไปภาพที่เห็นมันเกือบ
ทาให้ตัวของเขาแข็งค้าง เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่านางปรุงยาที่เป็นสตรี
นั้นพวกนางต้องมีความลับในการคงความงามของพวกนางเอาไว้
อย่างแน่นอนเพราะว่าภาพของหญิงสาวสวยผู้งดงามราวกับ
เทพธิดาอีกองค์ลงมาจุตินางสวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยหัวไหล่ราวกับว่า
นางต้องการที่จะให้บุรุษทั้งหลายตกเป็นทาส
“ ฮึ่ม..เจ้ายังทาอะไรตามใจเช่นเคยเลยนะ ”
“ ข้าเพียงแค่มาช้านิดหน่อยเท่านั้นเอง..อย่างน้อยข้าก็ยังมาทัน
ดูศิษย์ของข้า ”
ที่นั่งด้านบนของเหล่าผู้อาวุโสในตอนนี้ถูกดึงดูดความสนใจ
อย่างแรงกล้าภาพของเทพธิดาทั้งสามกาลังนั่งมองดูการประลอง
นั้นช่วยปลุกกระตุ้นอารมณ์ความกระหายในชัยชนะของเหล่าบุรุษ
ได้มากเหลือล้น
“ นั้นหรอศิษย์ของท่านประมุข..น่าสนใจจริงๆ ”
หลิวฉวนยูร์มองไปทีห่ ลินเสี่ยวต้าด้วยสายตารังเกียจ มันเป็น
เพราะมีตัวของหลินเสี่ยวต้าอยู่ภายในสมาคมแห่งนี้และฐานะของ
มันนั้นนับได้่าไม่
ว่ ต่าต้อยไปกว่าสักเท่าใดมันจึงเป็นเหตุให้หลิน
เสี่ยวต้าผู้นี้ชอบใช้โอกาสนาพาน้องชายของมันหลินชูเข้ามาพบนาง
อยู่บ่อยครั้งจนนางรู้สึกราคาญใจ
คู่ต่อสู้ของหลินเสี่ยวต้านั้นนับได้ว่าแข็งแกร่งอยู่ไม่น้อยอาจจัด
ได้ว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับลู่คงหรืออาจเหนือกว่าเพียงเล็กน้อย
ร่างของกงหยานพุ่งเข้าโจมตีด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกะบี่ใน
มือของเขาที่ถูกนาออกมาจากแหวนมิติอย่างรวดเร็วสาหรับผู้ที่
อ่อนแอ่กว่าการโจมตีก่อนย่อมได้เปรียบกว่าเพราะพวกเขาคงไม่
สามารถทนรับการโจมตีของผู้ที่มีพลังมากกว่าได้นานมากนัก
สาหรับการต่อสู้ครั้งนี้นั้นไม่ได้มีข้อกาหนดว่าห้ามใช้อาวุธ ดังนั้น
มันจึงไม่ผิดกฎการประลองแต่ในการประลองของหลินหมิงนั้นลู่คง
ประมาณจนเกิดไปเพียงเท่านั้น
“ [ ค่ายกลคลื่นสมุทร ] ”
ทักษะการต่อสู้ระดับสองถูกเรียกใช้อีกครั้งในงานประลองครั้งนี้
ค่ายกลคลื่นสมุทรนั้นเป็นทักษะระดับ 2 ของกงหยานที่เอาไว้ใช้รวม
กับกะบี่ ทวงท่าการฟันแทงของกงหยานั้นจู่โจมหลินเสี่ยวต้าอย่าง
ต่อเหนื่อง
มันเป็นเรื่องยากมากในการรบเพลงกะบี่นี้แม้ว่าจะเป็นหลิน
เสี่ยวต้าก็ตามที่เพลงกะบีข่ องกงหยานที่จู่โจมอยู่นนั้ ค่อยๆกดดันการ
เคลื่อนไหวของหลินเสี่ยวต้า หากแม้เป็นเวลาไปเนิน่ นานกว่านี้เขา
คงไม่อาจรับมือได้อีกต่อไป
“ โฮ่..นี้มันเกือบจะเป็นทักษะระดับ 3 ได้เลยนะเนี่ยเจ้าหนูนี่ก็
น่าสนใจไม่น้อย ”
“ ดูเจ้าไม่เป็นห่วงศิษย์ตัวเองเลยนะ ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งและผู้อาวุโสฟางซิ่นยังคงพูดคุยกันเล่นโดยไม่ได้
สนใจสถานการณ์การต่อสู้นี้เลยวักเท่าใด
“ ก็นะ..ยังไงเดียวเจ้าศิษย์โง่ของข้ามันก็สามารถเอาชนะได้อยู่
แล้วล่ะ ”
ตาแหน่งรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาคมนักปรุงยาแห่งนี้ไม่ได้
ได้มาโดยเส้นสายตระกูลของหลินเสี่ยวต้าแต่มันมาจากความ
แข็งแกร่งของเขาโดยแท้จริง
“ [ คลื่นระเบิดสุริยัน ] ! ”
หลินหมิงขมวดคิ้วเข้าหากันหลังจากที่ได้ยนิ ชื่อทักษะจากปาก
ของหลินเสี่ยวต้า ประกายแสงของพลังงานสีทองถูกรวมเอาไว้ที่ฝ่า
มือของหลินเสี่ยวต้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับจังหวะทีเ่ ขาไม่สามารถ
หลบเลี่ยงจากค่ายกลคลื่นสมุทรได้อีกต่อไป
“ ทักษะระดับ 3 ! ”
ผู้อาวุโสบางคนนั้นอาจไม่รู้จักถึงทักษะค่ายกลคลื่นสมุทรของ
กงหยานแต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่รู้จักทักษะของหลินเสี่ยวต้า [
คลืน่ ระเบิดสุริยัน ] ไม่ใช่มันเป็นเพราะทักษะระดับ 3 ธรรมดาๆมัน
จัดว่าอยู่ในทักษะระดับ 3 ขั้นสูงและเป็นหนึ่งในทักษะประจา
ตระกูลหลิน !
เสียงระเบิดเล็กๆเกิดในทันทีที่สองทักษะปะทะกันแน่นอนว่ามัน
ย่อมเป็นทางฝั่งของหลินเสี่ยวต้าที่ชนะในการประลองครั้งนี้ ร่าง
ของกงหยานนั้นกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวแม้วา่ จะมีกรรมการ
มาสกั้นกัดการโจมตีให้เขาแล้วกผ้ตามที่มันแสดงให้เห็นถึงความน่า
กลัวของทักษะจากตระกูลหลินได้อย่างมาก !
‘ ฮึประกายแสงเช่นนั้นข้าจะดับมันด้วยเพลิงของข้า ! ’

ตอนที่ 24
หลังจากสิ้นสุดการประลองระหว่างหลินเสี่ยวต้ากับกงหยานไป
แล้วนั้นการประลองในคู่นั้นเรียกได้ว่าไม่อาจดึงดูดความสนใจได้
มากเท่ากับสองคู่แรก อีกทั้งยังมีผู้เข้าแข่งจานวนมากพากันยอมแพ้
ในการแข่งขันครั้งนี้แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะสามารถเอาชนะใน
รอบแรกมาได้ก็ตามที่
เป้าหมายของการแข่งครั้งนี้สาหรับศิษย์ทั้งหลายของผู้อาวุโสแต่
ละคนก็คือการแสดงความสามารถพวกเขาไม่ได้หวังซึ่งชัยชนะ
ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และในการประลองครั้งพวกเขาล้วนใช้
ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่ พวกเขาจึงไม่อยากทีจ่ ะสร้างความอับ
อายในการพ่ายแพ้ให้แก่ตนนเอง
เท่ากับว่าในตอนนี้ในลายประลองกลับกลายเป็นว่าเหลืออยู่
เพียงสองคนเท่านั้นตาแหน่งตัวเต็งอย่างกงหยานและลู่คงต่างแพ้ไป
เสียตั้งแต่รอบแรกมันจึงทาให้การแข่งครั้งนี้มาถึงจุดสิ้นสุดโดยเร็ว
“ น้องหมิงเจ้ายังต้องการสู้กับข้า ? ”
หลินเสี่ยวต้ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่หลินหมิงยังไม่ได้ถอนตัว
ออกจากการแข่งครั้งนี้ แม้ว่าตัวของหลินหมิงจะจัดได้ว่าแข็งแกร่ง
อยู่มากแม้จะมีพลังปราณเพียงขั้นที่หกปราณเริ่มต้นแต่การจะต่อกร
กับเขาที่มีพลังปราณระดับจุดสูงสุดขั้นที่หก และยังมีทักษะประจา
ตระกูลอย่าง [ คลื่นระเบิดสุริยัน ]
“ รบกวนพี่ชายโปรดสั่งสอน ”
ทางด้านผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นแม้ว่านางจะไม่ได้ดูการแข่งขันใน
รอบแรกของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของเขาย่อม
เป็นที่แน่นอนว่ามันย่อมไม่เพียงพอต่อการเอาชนะศิษย์ของนางได้
“ ข้าไม่เข้าใจจริงว่า ฮั่วหมิงคิดการอันใดอยู่หรือว่าเขาจะไม่
สามารถประเมิณพลังคู่ต่อสู้ได้รึอย่างไรกัน
“ แล้วเจ้าไม่คิดว่าเขาอาจมั่นใจในการประลองครั้งนี้บ้างรึ ”
ทางฝั่งผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นนางไม่ได้ตอบกลับผู้อาวุโสซูหลิง่
สาหรับนางแล้วงานประลองครั้งนี้ควรจบลงด้วยชัยชนะของศิษย์
เป็นแน่
“ ฮั่วหมิง - หลินเสี่ยวต้า ”
หลินหมิงพุ่งเข้าจู่โจมหลินเสี่ยวต้าในทันทีที่เสียงประกาศของ
กรรมการดังขึ้น แต่ว่าสาหรับหลินเสี่ยวต้านั้นมันได้เตรียมพร้อม
เอาไว้อยู่แล้ว หมัดของหลินหมิงดูเรียบง่ายมากซะจนหลินเสี่ยวต้า
สับสนหมัดดูเป็นหมัดที่ไร้ถึงทักษะใดๆ
ปัง !
เสียงปะทะระหว่างหมัดของหลินหมิงกับฝ่ามือของหลินเสี่ยวต้า
ดังไปทั่วสนามประลองพร้อมกับสีหน้าของผู้อาวุโสที่เต็มไปด้วย
ความตื่นเต้นแม้ว่านี้จะเป็นการประลองสาหรับผู้ที่มีพลังปราณ
เริ่มต้นก็ตามที่หลินเสี่ยวต้ามีความรู้สึกแปลกประหลาดที่ฝ่ามือที่เข้า
รับการโจมตีของหลินหมิง ฝ่ามือเขารู้สึกด้านชาไปเล็กน้อย
‘ เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ’
หลินเสี่ยวต้าคิดว่าแต่เดิมนั้นเขาคงจะสามารถเอาชนะหลินหมิง
ได้ไม่ยากนักแต่ในตอนนีห้ มัดของหลินหมิงที่ปราศจากทักษะใดๆ
กาลังจู่โจมเขาอย่างบ้าคลั่ง มันจึงจาเป็นที่เขาจะต้องสวนกลับไป
เสียบ้าง
ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้หมัดอย่างหลินหมิงกับฝ่ามือของ
หลินเสี่ยวต้า เสียงหมัดของหลินหมิงเข้าปะทะกับฝ่ามือของหลิน
เสี่ยวต้าอีกครั้งด้วยความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ปัง !
ร่างของทั้งสองถอยหลังออกห่างจากบริเวณจุดปะทะไปหลาย
ก้าวแต่ถึงอย่างนั้นเห็นได้ชัดว่าการปะทะเมื่อสักครู่นี้เป็นทางฝ่าย
ของหลินหมิงที่ได้เปรียบเพราะร่างของเขากระเด็นถอยไปใกล้กว่า
เล็กน้อย หลินหมิงแสยะยิม้ มุมปากด้วยความพอใจด้วยพละกาลัง
ร่างกายของเขสในตอนนี้มันสมควรไม่ต่าไปกว่าผู้ที่มีพลังขั้นเก่า
ปราณเริ่มต้นเขาจึงได้เปรียบหลินเสี่ยวต้าเป็นอย่างมากแต่นี้ย่อม
เป็นเพราะทักษะ [ คลื่นระเบิดสุริยัน ] ยังไม่ถูกนาออกมาใช้
ร่างทั้งสองยังคงเข้าปะทะกันอย่างต่อเหนื่องโดยที่สหี น้าของทั้ง
สองนั้นดูต่างกันโดยสิ้นเชิงหลินเสี่ยวต้ารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาไม่สามารถเอาชนะหลินหมิงได้แน่นอนหากเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้ว่า
การโจมตีของหลินหมิงจะดูเรียบง่ายแต่มันเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว
เกินไป
ทางด้านหลินหมิงนั้นเขาคิดว่าในตอนนี้หลินเสี่ยวต้านั้นรับมือ
ง่ายยิ่งกว่าลู่คงที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วเสียอีก หลินเสี่ยวต้า
ต้องการที่จะใช้ทักษะของเขาแต่หากเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่พ้นถูก
หัวเราะเยาะ ผู้ที่มีพลังระดับจุดสูงสุดขั้นแปดต่อสูอ้ ย่างสุดกาลังโดย
ใช้ทักษะระดับ 3 จัดการผู้ที่มีพลังขั้น 6 แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั ดีกว่า
ที่เขาจะมาแพ้ลงในตรงนี้
ประกายแสงสีทองถูกรวมรวบเอาไว้ที่ฝ่ามือของหลินเสี่ยวต้า
การที่เขาประกาศเตือนหลินหมิงไปเมื่อสักครู่นั้นเพียงหวังที่จะลด
ความอับอายลงบ้างเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้ทากานเตือนฝ่ายตรง
ข้ามก็เข้าโจมตีแล้ว กลับกันหลินหมิงแทบจะกั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
สิ่งที่เขากังวลมาโดยตลอดก็การจู่โจมแบบฉับพลันของทักษะของ
หลินเสี่ยวต้าแต่ในตอนนีม้ ันกลับโยนความได้เปรียบทิ้งไปเสียแล้ว
ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีดาทมิฬได้ลกุ โชนที่กาปั้นข้างขวาของ
หลินหมิงเปลวเพลิงที่ทาให้ขนาดเหล่าผู้อาวุโสรู้สึกหนาวไปจนถึง
ขั้วหัวใจ
เสียงร้องอุทานของเหล่าผู้อาวุโสยังคงดังต่อไปพร้อมกับพวกเขา
ที่ลอบประเมิณระดับของทักษะของหลินหมิงนั้นย่อมไม่ต่าไปกว่า
ทัดษะระดับ 3
“ ยูร์เอ๋อร์นั้นรึสิ่งที่เจ้าบอก ”
“ เจ้าคะอาจารย์ ”
“ ซูหลิ่งนี้เจ้ารู้เกี่ยวกันทักษะแปลกประหลาดนั้นด้วย ? ”
ผู้อาวุโสฟางซิ่นจากตอนแรกที่นางมั่นใจว่าจะต้องเป็นศิษย์ของ
นางที่ได้รับชัยชนะแต่หลังจากที่ได้เห็นทักษะของหลินหมิงแล้วนั้น
มันทาให้นางเริ่มรู้สึกกังวล
“ ข้าเพียงรู้มาจากศิษย์ข้าเล็กน้อย...มันก็แค่เป็นทักษะที่เขาใช้
จัดการวานรสองเขาเพียงเท่านั้น ”
‘ ฮ่าๆ ไอ้ลูกเต๋าเสี่ยวต้าข้าไม่รู้จะขอบคุณความโง่ของเจ้าเช่น
ไรดีเลย โอ้ข้าอาจาเป็นต้องส่งของขวัญผ่านเจ้าไปหาคุณป้าห้าผ่าน
ใบหน้าของเจ้า? หรือท่อนแขนที่หักแล้วของเจ้าดี ’
หลินหมิงมีความมั่นใจเป็นอย่างมากหากเขาต้องปะทะอย่างซึ่ง
หน้ากับหลินเสี่ยวต้าแม้ว่ามันจะใช้ทักษะ [ คลื่นระเบิดสุริยัน ] ก็
ตามที่แต่ว่าในระหว่างที่หลินหมิงกาลังวางแผนทีจ่ ะจัดการหลิน
เสี่ยวต้าอย่างไรดีนั้นก็ปรากฎร่างของหญิงสาวผู้งดงามลงมาอยู่
ระหว่างระยะห่างของเขากับหลินเสี่ยวต้า
“ หยุดมือ ! การประลองจบเพียงเท่านี้ ! ”
‘ หะ ? ’
เป็นผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ลงมายุติการประลอง ทุกสายตาล้วนจับ
จ้องมาที่นางอย่างไม่อาจละสายตาไปได้
“ นี้เป็นเพียงการประลองเพื่อให้พวกเจ้าแสดงความสามารถ
และพรสวรรค์พวกเจ้าทั้งสองนั้นทาให้ข้าและเหล่าผู้อาวุโสท่านอื่น
พอใจมาก ดังนั้นรางวัลของพวกเจ้าทั้งสองคือ เม็ดยาระดับ 6 กับ
เงินจานวน ห้าหมื่นเหรียญ ”
ทุกคนเมื่อได้ยินคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงและความอิจฉาแน่นอนว่าสาหรับผู้อาวุโสนั้นเงินห้าหมื่น
เหรียญนั้นอาจไม่เยอะมากเท่าใดนักแต่เม็ดยาระดับ 6 นั้นราคาของ
มันนั้นมีค่าไม่สามารถประเมิณได
เพราะมันเป็นยาเม็ดไม่ใช่ยาประเภทของเหลวดังเช่นทั่วไปมัน
จึงทรงผลได้มากกว่าหลายเท่าอีกทั้งมันยังคงเป็นยาระดับ 6 ที่หาได้
ยากยิ่งอาจมีเพียงประมุขและผู้อาวุโสซูหลิ่งเท่านั้นที่สามารถเตรียม
ของรางวัลเช่นนี้ได้ หลินหมิงรู้สึกอยากทักท่วงกับผู้อาวุโสฟางซิ่น
หากเขารู้เช่นนี้เขาจะไม่เสียเวลาหยอกล้อกับหลินเสี่ยวต้าอยู่นาน
สองนาน
“ ฮั่วหมิง มาหาข้า ”
เป็นเสียงของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กล่าวเรียกชื่อของเขา ผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นนั้นได้มอบรางวัลให้แก่ศิษย์ของนางเป็นที่เรียบร้อย หลินหมิง
เหลือบมองสีหน้าของหลินเสี่ยวต้าที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่าง
ปิดไม่มิดหากมันสามารถดูดซับเม็ดยานี้จนหมดสิ้นก็มีความเป็นไป
ได้อย่างมากทีม่ ันจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตขั้นที่ 9
‘ ไอ้ลูกเต๋าเสี่ยวต้าวันนี้โชคดีไป..ยังไงซะข้าก็ได้รู้วา่ มันอยู่ที่
สมาคมนักปรุงยาเช่นเดียวกันเอาไว้หาโอกาสอื่นก็ย่อมได้ ’

ตอนที่ 25
หลินหมิงเดินขึ้นมาหาผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วยสีหน้าเซ็งแซ่ ถึงแม้ตัว
เขาจะพอรู้ถึงสาเหตุที่ผู้อาวุโสทั้งสองนั้นเข้าขัดจังหวะการต่อสู้ใน
ครั้งนี้ดีนั้นก็คือพวกนางทั้งสองนั้นอาจประเมิณดูแล้วว่ามีความ
เป็นไปได้สูงที่ตัวเขาจะสามารถเอาชนะในการประลองครั้งนี้ซึ่งเรื่อง
นั้นมันอาจทาให้ตัวของเขาได้มีปัญหากับทางตระกูลหลินดังนั้นแล้ว
พวกนางจึงพยายามลดความเสี่ยงจากอันตรายทั้งหมดที่จะเกิด
ขึ้นกับตัวเขา
ผู้อาวุโสซูหลิ่งยิม้ ให้หลินหมิงอย่างสดใสเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของ
นางมันทาให้หลินหมิงเกือบลืมเหตุการณ์ที่เขาได้พลาดโอกาสทอง
ในการแก้แค้นไปในทันที ผู้อาวุโสซูหลิ่งได้ยื่นแหวนมิติวงหนึ่งให้แก่
เขามันเป็นแหวนมิติเพียงระดับกลางเท่านั้นแต่มันก็มีราคาขั้นต่า
ราวสองหมื่นเหรียญเข้าไปแล้ว
“ ภายในนั้นมีรางวัลที่เจ้าสมควรได้รับอีกทั้งยังมีแก่นของวานร
สองเขาซึ่งเจ้าเป็นคนจัดการไปมันย่อมสมควรเป็นของเจ้าด้วย
เช่นเดียวกัน ”
ยาบ่มเพาะระดับ 6 ทั่วไปนั้นไม่อาจเทียบได้กับยาบ่มเพาะ
ระดับ 3 ของหลิวฉวนยูร์ได้เลยราคาของมันนั้นอาจถูกประเมิน
เริ่มต้นด้วยราคาขั้นต่าถึงหมื่นเหรียญแต่ถงึ อย่างนัน้ รางวัลที่หลินห
มิงได้มานั้นเป็นยาเม็ดซึ่งราคาของมันต้องไม่ต่ากว่าสามหมื่น
เหรียญอย่างน้อยที่สุด
หลินหมิงสัมผัสไปที่ตัวแหวนเพื่อตรวจสอบสิ่งของภายในชิ้น
แรกนั้นเป็นแก่นแท้ของวานรสองเขาที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่มัน
แผ่ออกมาด้วยอานาจบริสุทธ์แก่นแท้สัตว์อสูรนั้นสามารถใช้ในการ
ปรุงยาได้เช่นเดียวกันแต่ผู้ที่จะใช้มันนั้นต้องมีความสามารถอย่าง
มากเพราะการควบคุมพลังของสัตว์อสูรแม้ว่ามันจะตายไปแล้วย่อม
ยากกว่าการควบคุมพลังงานจากสมุนไพรอย่างเทียบไม่ตดิ
ถัดมาเป็นเม็ดยาขนาดเล็กหลินหมิงรู้ดีว่าเม็ดยานี้ไม่ได้มี
ประโยชน์ต่อเขาเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะสามารถสัมผัสได้ถึง
พลังงานที่แผ่ซ่านออกจากมัน แต่ด้วยเงื่อนไขของทักษะเปลวเพลิง
ของเขามันจึงทาให้เขาไม่สามารถบ่มเพาะได้อย่างเช่นคนทั่วไป
และสิ่งของอย่างสุดท้ายนัน้ เป็นเงินห้าหมื่นเหรียญด้วยจานวนเงิน
เท่านี้มันสามารถบ่งบอกได้ถึงสถานะของสมาคมนักปรุงยาว่าร่ารวย
เพียงใดที่สามารถแจกจ่ายรางวัลเหล่านี้ได้
“ ขอขอบพระคุณผู้อาวุโส ”
“ ไม่เป็นไรนั้นย่อมเป็นรางวัลที่เจ้าสมควรได้รับอยู่แล้ว..ถึง
อย่างนั้นข้าคาดไม่ถึงเลยว่าไม่เพียงแต่เจ้าจะมีพรสวรรค์ทางด้าน
การปรุงยาที่เป็นเลิศในด้านวรยุทธ์ของเจ้านั้นอาจเรียกได้ว่าไม่เป็น
รองใครเช่นเดียวกัน ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นชื่นชอบหลินหมิงเป็นอย่างมากในอนาคตนาง
ได้วาดฝันเกี่ยวกับสมาคมนักปรุงยาแห่งนี้ว่าจะสามารถพัฒนาไปได้
อย่างไร้ขีดจากัดหากมีรุ่นเยาว์เช่นนี้
“ ผู้อาวุโสข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องสักเล็กน้อย ”
“ อืม..ว่ามาสิ ”
“ ข้านั้นต้องการเรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับการใช้อาวุธเพียงแต่ว่าข้า
นั้นยังคงไร้ซึ่งประสบการณ์ จึงอยากได้รับคาแนะนาสักเล็กน้อย ”
หลินหมิงนั้นรู้ดีว่าความแข็งแกร่งนั้นมีด้วยกันหลายรูปแบบ
ไม่ใช่เพียงแต่ในด้านพลังปราณเท่านั้น มันยังมีทางด้านทักษะต่างๆ
และอาวุธซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ การที่เขา
สามารถใช้อาวุธได้แน่นอนว่ามันย่อมสามารถเพิ่มพลังทาลายของ
การโจมตีของเขาได้หลายเท่าเพียงแต่ว่าเขายังไม่สามารถตัดสินใจ
ได้ว่าอาวุธในรูปแบบใดที่เหมาะสมกับตัวเขา
การเลือกอาวุธให้เหมาะสมกับตัวบุคคลนั้นเป็นเรื่องที่จาเป็น
อย่างมากไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเหล่านั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาอย่าง
ยาวนานในการเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะของอาวุธนั้นๆ
“ อืมม..นั้นสินะดูจากรูปลักษณ์ของเจ้าถึงแม้ว่าจะดูผอมเพรียว
แต่มีกาลังมาก..ข้าคิดว่ากะบี่คงไม่เหมาะสมสาหรับเจ้าสักเท่าไหร่...
เจ้าสนใจอาวุธประเภทขวาน หรือ ทวน หรือไม่กง็ า้ วหรือไม่ อ่าจริง
สิยูร์เอ๋อร์ข้าจะให้เจ้าพาฮั่วหมิงไปที่คลังเก็บสรรพาวุธของตานัก ใน
เมื่อเจ้าเคยได้รับคาอธิบายจากข้าด้วยเช่นกันแล้วอาวุธภายในนั้น
เจ้าล้วนคุ้นเคยกับมันมากพอตัว ”
“ ขะ..ข้าอย่างนั้นรึ ”
“ ใช่นะสิหรือเจ้าจะปฎิเสธพอดีว่าข้าเพิ่งนึกว่าได้ว่าข้ามีธุระ
ต้องคุยกับฟางซิ่นสักเล็กน้อยข้าจึงไม่อาจให้คาแนะนากับฮั่วหมิงได้
ดังนั้นแล้วเจ้าย่อมเหมาะสมที่สุด ”
“ ศิษย์ไม่ปฎิเสธเจ้าคะ ”
หลินหมิงรู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับการกระทาของผู้อาวุโสซูหลิ่งและ
หลิวฉวนยูร์ ในความเป็นจริงแล้วนางสมควรกีดกั้นหลิวฉวนยูร์ให้
ห่างจากตัวเขาให้มากที่สุดไม่ใช่รึอย่างไร หลังจากที่เกิดเหตุการณ์
เช่นในอดีตมาแล้ว อีกทั้งหลิวฉวนยูร์ยังคงตอบรับคาอย่างว่าง่าย
แม้ว่านี้จะเป็นภายในสมาคมนักปรุงยาแต่หลินหมิงคงต้องเพิ่ม
ความระมัดระวังตัวยามอยู่ใกล้แม่เทพธิดาตัวน้อยผู้นี้
‘ หรือว่าข้าสมควรที่จะกล่าวปฎิเสธ ’
แต่ในตอนนั้นสายตาของเขาเหลือบไปเห็นร่างของหลินเสี่ยวต้า
ที่มองมาที่เขา หลินหมิงจึงพลันเกิดความคิดดีดีขึ้นมา
“ โอ้..ข้าต้องขอขอบคุณม่นางหลิวเป็นอย่างมาก ”
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้หลิวฉวนยูร์ นางไม่เข้าใจว่า
ทาไมหลินหมิงถึงได้ทาเช่นนี้นางคิดว่าหลินหมิงนั้นย่อมยังต้องมี
ความโกรธเคืองในตัวนางอยู่แต่เมื่อเห็นหลินหมิงแสดงออกเช่นนี้
ใบหน้าของนางจึงผันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อย หลิน
เสี่ยวต้ามองภาพตรงหน้าถึงกับขมวดคิ้วไม่เพียงแต่ฮั่วหมิงผู้นี้
เกือบจะสามารถเอาชัยชนะไปจากเขาได้แต่มันยังคิดแย่งน้องสะใภ้
ของเขาไปอีก
หลินหมิงแสยะยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นทีท่าไม่พอใจของหลินเสี่ยวต้า
เขานั้นย่อมรู้จักหลินเสี่ยวต้าดีมันเป็นคนอารมณ์ร้อน หากเมื่อใดที่
เขาสามารถยั่วยุคนโง่ผู้นี้จนมันไม่อาจทนได้มันจะเป็นฝ่ายตรงมาหา
เรื่องเขาเองและเมื่อนั้นเขาจะได้มีเหตุผลในการจัดการเจ้าโง่ผู้นี้โดย
ไม่ต้องรับโทษ
“ เช่นนั้นขอเชิญแม่นางโปรดนาทาง ”
“ อะ..อืม ”
แม้แต่ผู้อาวุโสซูหลิ่งยังรู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของ
หลินหมิง อาจเป็นไปได้วา่ คนผู้นี้มีความกระหายที่จะเรียนรู้จนลืม
เลือนสิ่งที่เกิดขึ้นไปเสียหมดแล้ว หลินเสี่ยวต้าได้แต่มองไปที่หลินห
มิงและหลิวฉวนยูร์ที่เดินเคียงคู่กันไป มันไม่เคยมีใครทาให้เขารู้สึก
อารมณ์เสียมากเช่นนี้มาก่อนหากไม่ติดว่าหลินหมิงนั้นเป็นศิษย์
ส่วนตัวของประมุขสมาคมเขาคงไม่ลังเลที่จะจัดการหลินหมิงไป
แล้ว

ตอนที่ 26
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะไม่สามารถที่จะจัดการกับหลิน
เสี่ยวต้าได้ แต่เมื่อเขาได้เห็นใบหน้าบิดเบียวของมันนั้นก็นับว่าเป็น
เรื่องที่ไม่เลว หากเขาทาการโจมตีใส่หลินเสี่ยวต้านั้นแม้ว่าโอกาสที่
เขาจะชนะนั้นย่อมมีมากกว่าอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นมันอาจไม่
สามารถสร้างความพอใจได้เท่ากับการทรมานใจหลินเสี่ยวต้าไป
เรื่อยๆเช่นนี้
" มีเรื่องอะไรอย่างนั้นรึ ? "
หลิวฉวนยูร์นั้นนางสังเกตอาการที่ผิดแปลกไปของหลินหมิง
เช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ตอนที่นางได้อธิบายความจริงออกไปเห็นได้
ชัดว่าหลินหมิงนั้นมีความโกรธเคืองในตัวนางจนแทบไม่อยากจะ
เห็นหน้า เพียงแต่ในตอนนี้ท่าทีของหลินหมิงนั้นเปลี่ยนไปโดย
สิ้นเชิงราวกับว่านางได้สร้างเรื่องที่พึงพอใจให้แก่เขาเป็นอย่างมาก
ทั้งๆที่นางยังไม่ได้ทาอะไร
" ไม่มีอะไรหรอกข้าเพียงตื่นเต้นไปก็เท่านั้น "
หลินหมิงเองก็แทบจะลืมความโกรธเคืองต่อตัวเทพธิดาน้อยคน
นี้ไปแล้วเสียจริงๆ ประกอบด้วยที่ผ่านมานั้นนางได้ปฎิบัตติ ัวต่อเขา
ดีมากและดูเหมือนว่านางจะมีความรู้สึกสานึกผิดอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ถึง
อย่างนั้นเขาก็ไม่อาจวางใจได้มากนัก
หลิวฉวนยูร์ได้เดินนาทางหลินหมิงมาจนถึงที่ตานักของผู้
อาวุโสซูหลิ่งแน่นอนว่านางมีสถานะค่อนข้างสูงในตานักแห่งนี้ รวม
กับขื่อเสียงและความอัจฉริยะของนางอันเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ทาให้
่คนนั
ผ้ ้นให้ความเคารพในตัวนางเป็นอย่างมากแม้กระทั่งคนที่มีอายุ
มากกว่าตัวนางก็ตามที่ แต่อาจมียกเว้นอยู่เพียงคนหนึ่ง..
" ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าจะได้รับความเคารพมากมายเช่นนี้ ? "
" นั้นเพราะว่าข้าเป็นถึงศิษย์ของผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างไรล่ะ..จริงสิ
อีกเดียวไม่นานเจ้าก็คงไม่ต่างจากข้าสักเท่าไหร่นักหรอก "
ในระหว่างทางนั้นเป็นหลินหมิงที่คอยชวนนางคุยตลอดทางมัน
จึงทาให้นางไม่รู้สึกอึดอัดดั่งเช่นก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่านางจะไม่วา
มารถเข้าใจได้จริงๆว่าเหตุใดหลินหมิงถึงได้อารมณ์ดีเช่นนี้ บรรดา
เหล่าข้ารับใช้ภายในตานักนั้นล้วนมีแต่สตรีเพศเช่นเดียวกับตานัก
ของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิง
อีกทั้งตัวตานักเองยังคงมีความคล้ายคลึงอย่างน่าประหลาดใจ
มันอาจบ่งบอกได้ว่าเทพธิดาผู้งดงามทั้งสองนางนี้มคี วามสัมผัส
ใกล้ชิดมากเพียงใด
" เอาล่ะ..ถึงแล้ว "
หลิวฉวนยูร์ได้เดินนาทางหลินหมิงมาถึงที่หน้าประตูห้องโถง
ใหญ่ที่ถูกวางรูปแบบด้วยอาคมที่บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้
รูปแบบอาคมนั้นเป็นสิ่งทีไ่ ม่สามารถทาลายได้โดยง่ายหากไม่ใช่ผู้ที่
สามารถใช้อาคมได้ในระดับเดียวกัน การที่จะสามารถก้าวผ่าน
อาคมได้นั้นจาเป็นต้องรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการปลดล็อคอาคมที่ผู้สร้าง
เป็นคนกาหนดขึ้น หากไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเหล่านั้นอาจเกิด
อันตรายถึงชีวิตขึ้นอยู่กับระดับของอาคม
หลิวฉวนยูร์ค่อยๆทาการแก้กระดานอาคมไปด้วยสีหน้า
ตามปกติ แต่ดูเหมือนว่านางจะมีความสุขมากกว่าปกติจากสายตา
ของหลินหมิงซึ่งมันอาจเป็นเพราะว่านางคงไม่ได้ถกู ให้เข้ามาห้อง
โถงนี้บ่อยมากนักแม้ว่านางจะเป็นศิษย์ก็ตามที่ รอเวลาเพียฃไม่นาน
ประตูห้องโถงถูกเปิดออก
กลิ่นอายของความกดดันถูกแผ่ออกมาจากภายในห้องจน
เหลือล้น มันทาให้หลินหมิงรู้สึกจนรู้ซู่วไปชั่วขณะ แต่เพียงไม่นาน
เขาก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ ร่างหนุ่มสาวเดินเข้ามาภายในห้อง
ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันเห็นได้ชัดว่าอาวุธภายในห้องเหล่านี้นั้นล้วน
เป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดา
" เอาล่ะ..ในความเป็นจริงแล้วหากเจ้าเลือกอาวุธประเภทกะบี่
ข้าเองก็สามารถแนะนาเจ้าได้แต่ส่วนเรื่องอาวุธประเภทอื่นข้าเองก็
ยังไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับมันมากนักหรอกนะ "
หลินหมิงคงแปลกใจมากถ้านางสามารถให้คาแนะนากับเขาได้
ครบทุกประเภทอาวุธด้วยวัยเพียงเท่านี้การที่นางสามารถใช้เวลาใน
การเรียนรู้ทักษะการปรุงยาและการต่อสู้นั้นนับได้ว่าเกินกว่า
ขีดจากัดด้านอายุของนางไปมากแล้ว หลินหมิงกวาดสายตามอง
อาวุธที่อยู่ตามชั้น มันถูกจัดแบ่งประเภทไว้อย่างเหมาะสม
หลิวฉวนยูร์เมื่อเห็นท่าทีของหลินหมิงที่ราวกับเด็กได้เห็นขนม
หวานก้อนโต มันทาให้นางเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา นางปล่อย
ให้หลินหมิงได้ทาการลองสัมผัสเหล่าอาวุธประเภทต่างๆอย่างพอใจ
เพราะนี้ก็เป็นวิธีเดียวกันกับที่อาจารย์ของนางใช้ แน่นอนว่ากะบี่
หลอมเหมันต์ของนางที่ใช้ต่อสู้กับวานรสองเขานางก็ได้มาจากที่
แห่งนี้แม้ว่าทางตระกูลของนางต้องเสียข้าใช้จ่ายเป็นจานวนไม่ใช่
น้อยแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขาไม่จาเป็นต้องเสียอะไรเนื่องจาก
เขาเปรียบเสมือนเป็นบุคคลภายในสมาคมแล้ว
' กะบี่มนั เบาเกินไปข้าไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้มากนัก อาจเป็น
อย่างที่ผู้อาวุโสได้กล่าวไว้จริงๆ '
หลินหมิงไล่สายตาไปยังอาวุธประเภทขวาน ทวน และง้าว ถึง
อย่างนั้นเขายังคงคิดว่าอาวุธประเภทขวานนั้นไม่ค่อยเหมาะสมกับ
เขามากนัก สิ่งที่เขาสนใจจริงๆก็คืออาวุธประเภททวน และง้าว ทั้ง
ทวนและง้าวนั้นเรียกได้วา่ มันเป็นอาวุธที่มีระยะโจมตีค่อนข้างกว้าง
และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย
จนกระทั่งสายตาของหลินหมิงเหลือบมองไปเห็นทวนเล่มหนึง่
ด้ามจับของมันเป็นสีดาเงาแต่ใบมีดของมันนั้นกลับมีสีเงินส่อง
ประกายอีกทั้งที่บริเวณด้ามจับของมันยังคงมีลวดลายอะไร
บางอย่างที่เขาไม่สามารถทาความเข้าใจได้
' หนัก '
มันเป็นอาวุธที่ค่อนข้างหนักหากเทียบกับกะบี่ในก่อนหน้า แต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงก็พอใจกับน้าหนักของมัน ถึงแม้ว่าขนาดความ
ยาวของมันจะดูขัดกับตัวของเขาที่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถกวัด
แกว่งได้ แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถกวัดแกว่งได้อย่างสบาย
" ข้าว่ามันออกจะดูขัดๆกับรูปร่างของเจ้าแต่ถ้ามันอาจเข้ากันได้
ดีกับเปลวเพลิงสีดาของเจ้า "
" เอ้านี่ "
หลิวฉวนยูร์ส่งตาราบางอย่างมาให้กับหลินหมิง
" สิ่งนี้คือ ? "
" นั้นคือตาราทักษะพื้นฐานการใช้ทวน แน่นอนว่ามันย่อม
แตกต่างจากตาราทั่วไปอย่างเทียบไม่ตดิ เพราะอย่างนั้นเมื่อใดที่เจ้า
สามารถทาความเข้าใจได้หมดแล้วก็ให้นามาคืนด้วย "
หลินหมิงออกมาจากห้องโถงพร้อมกับหลิวฉวนยูรด์ ้วยความ
ตื่นเต้นเขามีความกระหายที่จะอยากทดลองอาวุธใหม่นี้ของเขา
โดยเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีบางสิ่งที่ต้องทาก่อน
" จริงสิข้ารบกวนเวลาของเจ้ามาก็ไม่ใช่น้อย... งัน้ เอานี้ถือเป็น
ของตอบแทนจากข้าแล้วกัน "
หลิวฉวนยูร์นางนั้นได้ถูกหลินหมิงจับข้อมือของนางเอาไว้ นี้อาจ
เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นางได้ถูกบุรุษจับมือแต่นางไม่ได้มีทีท่าไม่
พอใจแต่อย่างใดกลับกันนางรู้สึกว่ามือของหลินหมิงนั้นเต็มไปด้วย
ความรู้สึกอบอุ่นอันน่าแปลกประหลาก
" นี้..มัน ? "
เมื่อนางสามารถตั้งสติได้นางจึงสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งของเล็กๆที่
หลินหมิงได้ส่งเข้ามาภายในมือของนางมันก็คือเม็ดยาระดับ 6 !
แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงแล้วนั้นมันไม่ได้มัประโยชน์อันใดสาหรับ
เขา และเขาก็ไม่ได้มปี ญั หาในเรื่องเงินแต่อย่างใดและยิ่งด้วยการที่
เขาเป็นศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์สาวสวยเขาจึงสมควรที่จะมีสถานะ
ไม่จาดแคลนแต่อย่างใด

เว็บธัญวาลัยมันมีปัญหานะทาให้ไม่สามารถจัดรูปแบบได้ แล้วก็
งงๆกับระบบใหม่อยู่อาจยากสักเล็กน้อยแต่แจ้งเรื่องไปแล้วแต่ไม่มี
การตอบกลับเบยย ไม่รู้จะทายังไง อ่อแล้วเรื่องนี้ไปทาการลงที่
fictionloog แล้วนะ แปะลิงค์ระบบใหม่ไม่เป็น ชื่อเรื่องเดิมรูปเดิม
เลยจ้า

ตอนที่ 27
หลินหมิงจากมองโดยไม่ได้เห็นสีหน้าของหลิวฉวนยูร์ที่เต็มไป
ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แน่นอนว่าถึงเป็นนางเม็ดยาระดับ 6 นี้ก็
นับได้ว่าไม่อาจสามารถหามาได้ง่ายๆแต่หลินหมิงกลับให้นางให้
ง่ายๆเช่นนี้เพียงแค่นางมาช่วยนาทางและชี้แนะเขาเพียงเล็กน้อย
อาจเป็นไปได้ว่าเขาเริ่มที่จะมีความรู้สึกชอบพอในตัวนาง?
ด้วยการให้สิ่งของเช่นนี้มนั เป็นเรื่องธรรมดาที่ทางฝ่ายชายจะ
เป็นคนจัดหามาเพื่อซื้อใจทางฝ่ายหญิง และนางก็ได้รับมาจาก
ตระกูลหลินเป็นจานวนไม่ใช่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นไม่สามารถ
เปรียบเทียบกับเม็ดยาเม็ดนี้ของหลินหมิงได้ ไม่ใช่ว่าสิ่งของที่
ตระกูลหลินส่งมานั้นมีค่าด้อยกว่าแต่มันเป็นเพราะความรู้สึกของ
นางที่มีต่อหลินชูนั้นด้อยกว่าทางฝั่งของหลินหมิงแบบเทียบไม่ติด
กลับกันทางด้านฝั่งของหลินหมิงที่จากมานั้นไม่ได้รู้เลยว่าตัวเขา
ได้สร้างความลาบากใจให้แก่เทพธิดาน้อย ตัวเขาเพียงแค่คิดแต่ว่า
การที่เขาให้เม็ดยาระดับ 6 แก่หลิวฉวนยูร์เพื่อเป็นเครื่อง
บรรณาการให้นางรู้สึกพอใจในตัวเขา นางจะได้ไม่ต้องวางแผนกลั้น
แกล้งเขาอีก การรับมือกับเหล่าบุรุษเช่นเดียวกันกับเขานั้นหลินหมิ
งมองว่ามันเป็นเรื่องทีง่ ่ายกว่าสตรี
เพราะอย่างน้อยตัวเขาได้คลุกคลีอยู่กับด้านมืดของเหล่าพี่น้อง
ต่างแม่ ได้เห็นนิสัยของเหล่าชนชั้นสูงทั้งหลาย แต่สาหรับหลินหมิง
แล้วนั้นสตรีไม่ว่าจะวัยใดพวกนางล้วนมีความอันตรายที่ซ่อนอยู่
และเขายังคงไม่อาจตรวจสอบมันได้โดยง่ายดังนั้นแล้วเขาจึงจาเป็น
ที่จะต้องลดความเสี่ยงเหล่านั้นลงไป
หลินหมิงเก็บทวนและตาราทักษะเข้าสู่แหวนมิติที่ได้จากผู้
อาวุโสเขาแทบจะรอให้อาจารย์สาวสวยของเขากลับมาไม่ไหว เขา
ไม่อาจเดาได้เลยว่าเมื่อนางกลับมานั้นนางจะทาสีหน้าอย่างไรใน
เมื่อตอนที่นางไม่อยู่เขาก็ได้สร้างชื่อเสียงไปพอสมควรและเป็นที่รู้
กันในตอนนี้ว่าเขาถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นเยาว์ที่อายุไม่เกิน 18
ปี ด้วยอายุเพียง 15 เท่านั้น เช่นนั้นแล้วในฐานะที่นางเป็นอาจารย์
นางสมควรให้รางวัลเขาไม่น้อยไปกว่าผู้อาวุโสซูหลิ่ง ?
หลินหมิงกลับเข้ามาภายในตานักของอาจารย์สาวสวยในตอนนี้
นั้นเหล่าข้ารับใช้ภายในตานักเริ่มมีความคุ้นชินกับตัวเขามาก
พอสมควร พวกนางจึงทาความเคารพเขาในทันทีที่เห็นหลินหมิง
หลินหมิงเดินตรงไปที่ลานฝึกของสานักในทันทีด้วยความตื่นเต้น
แต่ว่าในระหว่างทางนั้นเองหลินหมิงก็พลันชนเขาเห็นให้กับบางสิ่ง
บางอย่างที่นุ่มจนมันแทบจะให้หลินหมิงหลับฝันกลางวันไปได้
ในทันที
" ขอโทษเจ้าคะคุณชาย "
หน้าอกขนาดภูเขาใหญ่ลูกโตยังคงไม่หญกล้านาตนเปรียลเทียบ
ของนางนั้นเป็นสิ่งที่หลินหมิงจาได้ดีอาจกล่าวว่าเพียงแค่เขากลับ
ตาจับหน้าอกของหญิงสาวเขาก็สามารถแยกแยะได้วางหน้าอกคู่ใด
เป็นของนางแต่น่าเสียดายที่ไม่มีการทดสอบเช่นนัน้ ให้หลินหมิงได้
ทดลอง ร่างของหญิงสาวสูงวัยมองมาที่หลินหมิงด้วยความเป็น
กังวลเล็กน้อย นางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก หญิงสาวรับใช้ที่
หลินหมิงได้ขอมาจากผู้อาวุโสซูหลิ่งนางก็คือซื่อโฉวนันเอง
เพียงแค่หลินหมิงได้เห็นหน้านางมันก็อดไม่ได้ที่จะทาให้เขานึก
ถึงเรื่องราวอันร้อนแรงระหว่างเขาและนาง ซื่อโฉวนางเองย่อม
สังเกตเห็นใบหน้าของหลินหมิงที่แสดงออกมาด้วยการที่นางมีอายุ
มามากจึงมีประสบการณ์ในการสังเกตในเรื่องนี้อยู่ไม่ใช่น้อย
" คะ..คุณชาย "
นางไม่คาคิดเลยว่าหลินหมิงจะมีอารมณ์จากการเพียงได้สัมผัส
หน้าอกของนางอาจเป็ยเพราะว่าเขายังเป็นเด็กหนุ่มวัยร้อนแรงแต่
ถึงอย่างนั้นเมื่อครั้งล่าสุดเขาก็ได้ใช้ร่างกายระเบิดอารมณ์ของเขา
ไปอย่างเต็มที่แล้วไม่ใช่หรือ ? มันสมควรที่เขาจะต้องพักผ่อนไป
อย่างน้อยราวสัปดาห์
หลินหมิงล้มเลิกความคิดในการฝึกของเขาไปในทันที เขาก็ไม่รู้
เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามีความต้องการมากเช่นนี้จนมัน
สามารถบดบังเป้าหมายของเขาไปเพียงแต่อย่างน้อยการร่วมรักกับ
หญิงสาวก็ถือเป็นการพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาด้วยเช่นกันใน
เรื่องนี้หลินหมิงจึงไม่ค่อยเป็นกังวลมากนะ
หลินหมิงพยักหน้าให้หญิงสาวรับใช้สูงวัยซื่อโฉวเป็นเชิงให้นาง
ตามเขามา นางตรงข้ามกับหลินหมิงแม้นางจะมากประสบการณ์แต่
นางก็ยังคงรู้สึกปวด แสบตามร่องรักและรูก้นของนางที่ถูกหลินหมิง
ทะลวงเข้าไป แน่นอนว่ามันทาให้นางมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมา
ก่อนแต่เพียงนางต้องการพักผ่อนสักเพียงเล็กน้อยก่อนเท่านั้น
หลินหมิงเดินจูงมือนางเข้าตรงไปยังภายในห้องของเขา โดยทีไม่
ต้องถามทางด้านซื่อโฉวเลยแม้แต่น้อย เมื่อมาถึงภายในห้องของ
เขาหลินหมิงเริ่มทาการใช้มือทั้งสองข้างเคลื่อนไหวไปตามส่วน
ต่างๆของร่างกายของนางอย่างบ้าคลั่ง แต่มันเห็นได้ชัดว่าหลินหมิง
มีความรู้สึกที่ดีต่อหน้าอกขนาดภูเขายังต้องเอียงอายคู่นี้
" อ้าา~~~บะ...เบาๆ..เจ้าคะ... "
ซื่อโฉวนางรู้สึกตกใจไปไม่น้อยที่เห็นหลินหมิงจู่โจมนางหื่น
กระหาย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นสัญญาณที่ดตี ่อตัวนางว่าเด็ก
หนุ่มมผู้นี้อาจไม่ทิ้งจากนางไปง่ายนัก ไม่เหมือนดังบุรุษผู้อื่นที่เมื่อ
เขาได้ลิ้มลองเหล่าหญิงสาวเดิมๆนั้นพวกเขาจะเริ่มเกิดความรู้สึก
เบื่อหน่าย
หน้าอกของนางถูกขย้าและบีบนวดอย่างรุนแรงพร้อมกับใบนาง
ของหลินหมิงที่เข้าจู่โจมบริเวณซอกคอของนางจนทาให้นางแทบ
จะไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนอีกต่อไป นางจาเป็นที่จะต้องเอนร่างของนาง
พิ่งไว้กับเด็กหนุ่มผู้หื่นกระหายคนนี้อย่างช่วยไม่ได้และแน่นอนว่า
มันย่อมเข้าทาง ทางได้เด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก
" อื้มมมม~~~~~ "
ปากของหลินหมิงเข้าประกบปากของนางอย่างดูดดื่ม ลิ้นที่ผัว
พันภายในปากนางนั้นมันทาให้นางรู้ได้ว่านางไม่อาจต่อกรต่อบุรุษ
หนุ่มผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย การเคลื่อนไหวของเขาทั้งรวดเร็วจนนาง
ไม่สามารถตามจับจังหวะได้ทัน หลินหมิงประคองร่างของนางไปที่
เตียงโดยยังคงไม่ได้ทาการหยุดจู่โจมแต่อย่างใด
" คะ...คุณชายเจ้าคะ..ข้ายังไม่หายจากคราวก่อนได้โปรดให้ข้า
บริการท่านด้วยสิ่งอื่นได้รึไม่เจ้าคะ "
ร่องรักของนางนั้นแม้ว่านางจะแปลกใจที่มันค่อยๆฟื้นตัว
หลังจากที่นางถูกหลินหมิงใช้ทวนมังกรแทงทะลวงอย่างหนักหน่วง
แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ใช้เวลาอันสั้นในการฟื้นฟู จนถึงตอนนี้มัน
ยังทาให้นางไม่สามารถเดินได้อย่างปกติมากนัก
" งั้นข้าคงต้องช่วยเจ้าสักเล็กน้อย "
" คะ..คุณชาย..จะทาอะไรเจ้าคะ.... อ้าา~~~~~ ตะ...ตรงนี้..มะ
..มัน..สกปรก..เจ้าคะ..อ้าาาา "
หลินหมิงทาการให้หัวของมุดเข้าไปใต้เสื้อระหว่างขาของนาง
จากนั้นทาการใช้ลิ้นโลมเลียร่องสวาทของนางจากบริเวณรอบนอก
ก่อน มันย่อมเป็นเรื่องแปลกมากสาหรับซื่อโฉวทีบ่ ุรุษกระทาเช่นนี้
พวกเขาเหล่านั้นสมควรที่จะหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเกินกว่าจะมาทา
อะไรเช่นนี้แค่เพียงการเล้าโลมนางยังแทบไม่เคยได้จากบุรุษเลย
แม้แต่ครั้งเดียว
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วนัน้ ทุกอย่างราวกับว่ามันเป็นไปตาม
สัญชาตญาณของเขา เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อเขาทาเช่นนี้แล้วนาง
จะมีความรู้สึกเช่นไรเพียงแต่ว่ามันสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเขา
ได้เป็นอย่างดีเท่านั้นก็เพียงพอ กลิ่นฉุนๆเล็กน้อยที่แผ่ผสมกับกลิ่น
กายของหญิงสาวมันสร้างความตื่นเต้นแปลกๆให้แก่เขาแน่นอนว่า
ทันทีที่ลิ้นของหลินหมิงสัมผัสไปที่ร่องสวาทของนางน้าใสๆของนาง
ก็เริ่มเดินในทันที
" เจ้าถึงกับเสร็จเลยอย่างนั้นรึ "
จนในที่สุดนางก็ไม่อาจอั้นไหวน้ารักใสๆของนางจานวนมากได้
ไหลออกมาอย่างพรั่งพรูเต็มใบหน้าของหลินหมิง ซื่อโฉวนั้นรู้สึกตื่น
ตระหนกในทันทีนางอาจโดนทาโทษอย่างร้ายแรงจากการที่นางไม่
อาจระงับอารมณ์ของนางได้ในครั้งนี้
" ขะ..ข้า..โทษ..เจ้าคะคุณชาย "
" ตาเจ้าทาให้ข้าบ้าง "
" จะ..เจ้าคะ ? "
ซื่อโฉวนางรู้สึกสับสนเล็กน้อยในความเป็นจริงแล้วคุณชายหนุ่ม
ผู้นี้สมควรโกรธในตัวนางไม่ใช่เช่นนั้นหรอกหรือ ? แต่ท่าทีของเขา
ในตอนนี้ไม่ได้ต่างจากตอนแรกเลยแม้แต่น้อย เมือ่ เห็นดังนั้นนางไม่
กล้าขัดใจหลินหมิงแต่อย่างใด นางยื่นใบหน้าไปใกล้ๆกับท่อนทวน
มังกรที่เพิ่งปรากฎออกมาอย่างสง่างาม
สิ่งที่นางต้องทาในตอนนีค้ ือบรรทอนกาลังของหลินหมิงลงให้
ได้มากที่สดุ นางเชื่อว่าแม้ว่าในครั้งล่าสุดหลินหมิงจะใช้ร่างกายของ
นางระเบิดอารมณ์ไปเป็นจานวนมากจนนางสิ้นสติไปเพียงแต่เมื่อดู
จากอารมณ์ของเขาในตอนนี้แล้วนั้นมันอาจเรียกได้ว่านางอาจ
ประสบชะตากรรมที่ไม่ต่างจากอดีตหรือไม่ก็นักกว่าเพราะร่างกาย
ของนางในตอนนี้ล้วนไม่ได้สมบูรณ์ดั่งเช่นก่อนหน้า
ลิ้นของนางทาการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างร้อนแรง
เสียง จ๊วบ จ๊วบ ดังขึ้นอย่างต่อเหนื่องมันอาจกล่าวได้ว่าเพียงแค่
หนุ่มสาวได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นนี้มันอาจทาให้พวกเขามีอารมณ์เกิดขึ้น
ได้ในทันที มือของนางเองก็ไม่ได้อยู่เฉยนางทาการใช้มันลูบไล้ลูก
บอลกลมสองอันของหลินหมิงอย่างเย้ายวน นางต้องการให้มันผลิต
น้าขาวขุ่นออกมาให้มากที่สุด
" อ่า...ดูเหมือนว่าเจ้าจะทาได้ดีขึ้นไม่ใช่น้อย "
ทักษะของนางนั้นเรียกได้ว่าถูกพัฒนาไปโดยทีน่ างไม่รู้ตัวถึง
อย่างนั้นในตอนนี้นางเพียงแต่ต้องทาให้หลินหมิงรู้สึกเพลิดเพลิน
มากที่สุดเพียงเท่านั้นทันใดนั้นนางก็พลันคิดบางอย่างขึ้นมาได้
" โอ้ "
" ชอบรึไม่เจ้าคะ "
นางจาได้ว่าหลินหมิงนั้นชอบพอในหน้าอกขนาดภูเขาของนาง
ลูกนี้มากเพียงนางทาการประกบมันเข้ากับทวนมังกรของหลินหมิง
แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลถึงนางด้วยเช่นกันด้วยหน้าอกของนางที่
ค่อนข้างไว้ต่อสัมผัสมันทาให้นางสามารถรับรู้ได้ถึงความร้อนของ
ทวนมังกรที่แผ่ออกมา
" ขยับมันอย่างนั้นละ "
" อมมันเข้าไปด้วย "
หลินหมิงรู้สึกชื่นชอบในทักษะนี้ของนางเป็นอย่างมากมันอาจ
เป็นทักษะเฉพาะตัวสาหรับหญิงสาวที่สามารถใช้ได้เพียงไม่กี่คน
เท่านั้นด้วยขนาดหน้าอกของพวกนางและด้วยขนาดทวนมังกรของ
เขาอาจเรียกได้ว่าหน้าอกของนางคู่นี้มีไว้เพื่อบริการเขาโดยเฉพาะ
เท่านั้น
ตอนที่ 28
เพียงไม่นานหลินหมิงก็อาจรับมือกับอนุภาพขนาดหน้าอกเนียน
นุ่มของซื่อโฉวได้อีกต่อไปน้าขาวขุ่นจานวนถูกปลดปล่อยออกมา
ท่วมปากของนางจนนางไม่สามารถรับได้ไว้ แน่นอนว่านางชื่นชอบ
รสชาติน้ารักของหลินหมิงแต่เดิมอยู่แล้วหลังจากที่นางได้ลิ้มลองไป
ในครัง้ แรกดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะพยายามกลืนมันลง
ไปทั้งหมด
ร่างกายของนางกระตุกเล็กน้อยจากการดื่มกลืนน้ารักของหลินห
มิงเพียงเท่านั้นร่องสวาทของนางตอนนี้นางรู้สึกได้ว่ามันแฉะเสียยิ่ง
กว่าในตอนที่ร่างกายของนางต้องเปียกปอนไปด้วยฝนเสียอีก
หลินหมิงผลักร่างของนางลงบนเตียอย่างไม่รอช้าทวนมังกรของ
เขาเตรียมเข้าประจาการจู่โจมทุกชั่วขณะ
" อึกก อ้าา~~~เบา..เบาก่อนเจ้า..ค่ะ..โอ้ยย..อะ...อะ~~~ ..เร็ว
ไปแล้วเจ้าค่ะ "
หลังจากที่หลินหมิงทาการเสียบทวนมังกรเข้าไปในตัวของซื่อโฉ
วนางไม่รู้ดีว่าในตอนนี้นางคงไม่พ้นชะตากรรมเดิมนางทาได้เพียง
นอนรอรับความสุขที่ได้จากกการร่วมรักในครั้งนี้เพียงเท่านั้น เป็น
อีกครั้งที่หลินหมิงต้องแปลกใจร่องของนางนั้นสมควรฉีกขาดอย่าง
มากจากการร่วมรักกับเขาในครั้งแรกแต่ในตอนนี้มันราวกับว่ามัน
สามารถฟื้นฟูตนเองเหมือนกับในตอนของหญิงสาวผู้พี่
แม้ว่ามันอาจไม่เรียกได้วา่ สามารถฟื้นฟูกลับมาในสภาพดั่งเช่น
สาวบริสุทธ์เพียงแต่ว่ามันก็ใกล้กับในตอนแรกที่เขาได้ทาการร่วมรัก
กับนาง ความรู้สึกตอดรัดและการตอบสนองภายในร่องสวาทของ
นางนั้นดีเยี่ยทจนไม่น่าเชื่อ มันทาการบีบรัดทวนของเขาตามจังหวะ
การเข้าออกจนหลินหมิงไม่อาจระงับอารมณ์เอาไว้
หน้าอกขนาดภูเขาคู่งามกระเพือมขึ้นลงพร้อมกับเสียงครางกระ
เส้ายิ่งทาให้กระตุ้นอารมณ์ของหลินหมิงมากยิ่งขึน้ ไป หลินหมิงโน้ม
ร่างของเขาลงไปกดทับร่างกายของนางเอาไว้พร้อมกับทาการโลม
เลียยอดปทุมถันของนางอย่างหื่นกระหาย
" ยะ..อย่ากัด..โอ้ยยย..อ้าาา~~~~~ "
ด้วยการที่หน้าอกของนางเป็นจุดไวต่อการสัมผัสและนางยังคง
หลินหมิงจู่โจมอย่างต่อเหนื่องมันทาให้นางไม่อาจสามารถรับมือกับ
หลินหมิงได้โดยง่าย น้ารักของนางพรั่งพรูเต็มไปภายในร่องสวาท
เพียงแต่ว่ามันสามารถไหลผ่านช่องว่างระหว่างทวนของหลินหมิงอ
อกได้เล็กน้อย แน่นอนว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นานนางก็สัมผัสได้ว่า
หลินหมิงได้ระเบิดน้ารักของเขาออกมาเป็นจานวนมากด้วยเช่นกัน
" อร้าาาาาางง~~~~~ ดะ..เดียว...อะ~~..อะ..ก่อน..เจ้าคะ "
ราวกับว่าหลินหมิงไม่ได้หมดแรงลงไปเลยแม้แต่น้อยจากการ
ปลดปล่อยอารมณ์ในครั้งสาหรับซื่อโฉวแล้วนางมองว่าหลินหมิง
อาจมีความสามารถจนถึงขนาดที่ว่าเขาอาจสามารถทากับหญิงสาว
ได้อย่างไม่มีขีดจากัดแน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางอาจต้องตก
ตายไปเพราะความสุขสมที่มากล้นจนเกินไปก็เป็นได้
หลินหมิงยังคงขยับเอวอย่างถี่ ท้องของนางโป่งพ่องขึ้นมาจาก
การที่มันไม่สามารถเก็บน้ารักจากเด็กหนุ่มและนางได้ เสียงแจะ
แจะ ยังคงดังต่อเหนื่องจากภายในร่องสวาทของนางทุกครั้งที่หลินห
มิงทาการแทงทะลวงทวนมังกรเข้ามามันจะมีน้ารักกระเด็นออกมา
ภายนอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เวลาผ่านไม่เนิ่นนานจนนางไม่อาจรู้ได้ว่านางได้ทาการร่วมรัก
กับหลินหมิงไปมากน้อยเพียงใด นางรู้สึกจุกแน่นที่ช่วงท้องจนแทบ
จะพูดไม่ออกแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีครางเล็กน้อยออกมาจากปาก
ของนางโดยที่นางไม่สามารถควบคุมได้
" โฮ ดูว่าข้าและเจ้าจะปลดปล่อยอารมณ์ดันไปเยอะไม่ใช่เล่น
เลย "
" แฮ่กๆๆ "
หลินหมิงหยุดจังหวะแทงทะลวงร่องสวาทของนางอย่างพอใจ
มันอาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้มันถึงขีดจากัดที่ภายในร่องของนางนั้น
สามารถรับน้ารักได้แล้วมันจึงทาให้เข้าไม่สามารถขยับทวนเข้าออก
ได้อีก ซื่อโฉวนางไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเช่นนี้มาก่อนอาจเป็นครั้งแรกที่
นางได้เรียนรู้เกี่ยวกับคาว่าสุขเจียนตาย
หลินหมิงนาทวนมังกรของเขาออกมาในทันที น้ารักจานวนมาก
จากเขาและนางพุ่งออกมาราวกับเขือนแตกพร้อมกับร่างของนางที่
โก่งตัวโค้งและกระตุกถี่หยิบอันเป็นเหตุจากการที่นางได้ปลดปล่อย
น้ารักจานวนมากออกมาภายนอก มันจึงทาให้นางเสร็จหลายครั้ง
ภายในเวลาอันสั้น สีหน้าของนางในตอนนี้เรียกได้ว่าย่าแย่กว่า
คราวที่แล้วแต่มันยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมที่มากขึ้น
เช่นเดียวกัน
หลังจากการปลดปล่อยน้ารักจานวนมากจากภายในร่องสวาท
ซื่อโฉวนางถึงกับหมดสติไปอีกครั้งมันคงแปลกมากสาหรับหลินหมิ
งหากนางยังคงมีสติอยู่เพราะเขาเองก็ไม่อาจนับได้ว่าทากับนาง
เสร็จสิ้นไปทั้งหมดกี่ครั้ง เขาได้ทาการเปลี่ยนร่วมรักกับนางหลาย
ท่าจนสร้างความพอใจให้กับมากล้นถึงเพียงนั้นตัวของหลินหมิง
ยังคงรู้สึกว่าเขายังคงสามารถทาเช่นนี้กับสตรีได้อีก
แน่นอนว่าเขาย่อมอยากรู้ขีดจากัดของตนเองเป็นอย่างมาก มัน
อาจเป็นเพราะว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าคนปกตินั้นจึงทาให้
เขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้มากเช่นนี้ ? แน่นอนว่านั้นย่อม
ไม่ใช่มีนักรบมากมายที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาแต่พวกเขาเหล่านั้น
ล้วนไม่อาจเสพสมกับสตรีได้ยาวนานเท่ากับหลินหมิงการเสร็จกิจ
ของเหล่าบุรุษนั้นมันก็คือการปลดปล่อยปราณหยางของเหล่าบุรุษ
ปราณหยางอาจเรียกได้ว่าเป็นปราณที่เกิดมาพร้อมกับบุรุษทุก
คนขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ไม่ว่าพวกเขา
เหล่านั้นจะมีปราณหยางเข้มข้นมากเพียงใดแต่เขาก็ไม่อาจทา
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงได้ยกเว้นแต่พวกเขาจะมีปราณหยางบริ
สุทธ์ แน่นอนว่าหลินหมิงเองคิดว่าตัวเขามีปราณหยางบริสุทธ์ด้วย
เช่นเดียวกัน
หากพูดให้ถูกเขาคิดว่าเปลวเพลิงทมิฬนี้ทาให้เขามีปราณหยา
งบริสุทธ์ เขาไม่ค่อยรู้เรื่องของปราณหยางบริสุทธ์เท่าไหร่นักเพราะ
มันเป็นดั่งตานานที่เคยมีแต่ในอดีตผู้ที่ครอบครองปราณหยางบริ
สุทธ์นั้นถูกเล่าขานว่าพวกเขาสามารถมอบความสุขให้แก่หญิงสาว
ได้ไม่มีที่สิ้นสุดและไม่เพียงเช่นนั้นปราณหยางบริสุทธ์ยังส่งผลกับ
ปราณหยินในร่างของหญิงสาวได้อย่างเหมาะสม
หลินหมิงทาความสะอาดร่างกายของตนเองพร้อมกับสวมใส่
เสื้อผ้า สาหรับซื่อโฉวนัน้ จะมีหญิงสาวรับใช้นางอื่นเป็นคนทาการ
ดูแลนาง หากถามว่าแล้พวกนางจะรู้ได้อย่างไร เสียงครางของซื่อ
โฉวดั่งลั่นแทบจะทั้วทั้งตานักนั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครได้
ยิน หลินหมิงก้าวออกมาจากห้องพร้อมกับตรงไปยังห้องของหญิง
สาวรับใช้ที่ไม่ห่างไกลจากเขา
" เอ๊ะ..คะ..คุณชาย "
แน่นอนว่านี้ย่อมเป็นห้องของหญิงสาวสองพี่น้อง แม้ว่าหลินห
มิงระเบิดอารมณ์ไปมากกับซื่อโฉวจนเขารู้สึกพอใจแต่เขาไม่
ต้องการให้พวกนางสองพี่น้องนั้นคิดว่าเขาลืมพวกนางไปแล้ว
แน่นอนว่าพวกนางย่อมเป็นหนึ่งในคนที่ได้ยินเสียงการร่วมรักของ
เขาและซื่อโฉว
พวกนางสองพี่น้องรู้สึกตกใจที่เห็นหลินหมิงเข้ามาภายในห้อง
ด้วยการที่ห้องของพวกนางนั้นถูกจัดเอาไว้ไม่ใกล้กบั ห้องของหลินห
มิงมากนักทาให้พวกนางสามารถได้ยินเสียงครางของหญิงสาวอย่าง
ชัดเจน
" นี้พวกเจ้ามีอารมณ์จากการฟังเพียงเท่านั้น ? "
หลินหมิงอาจคิดไปเองเพียงแต่ว่าหญิงสาวที่ผ่านการร่วมรักกับ
เขานั้นดูเหมือนว่าพวกนางจะมีความตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้มาก
ขึ้น
" มะ..ไม่..ใช่นะเจ้าคะ "
หลินหมิงยิ้มให้กบั ท่าทีเอียงอายของหญิงสาวสองพี่น้องแม้ว่า
พวกนางจะยังไม่ได้มีลีลาที่เร้าร้อนดั่งเช่นซื่อโฉวแต่ความบริสุทธ์ไร้
เดียงสาของพวกนางก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ของบุรุษได้ไม่
น้อยหน้าไปกว่ากัน พวกนางทั้งสองบิดตัวอย่างเอียงอายเพิ่อบดบัง
ร่องสวาทใต้เสื้อผ้าที่ตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยน้ารัก
หลินหมิงพุ่งเข้าไปหาพวกนางทั้งสองแล้วทาการกอดรัดร่างของ
พวกนางทั้งสองเอาไว้ ผิวเนียนนุ่มของหญิงสาวรวมกับกลิ่นกลาย
ของสาววัยผลิบ่านนั้นไม้ว่าชายใดย่อมไม่สามารถต้านทานได้
" คะ..คุณชายไม่เหนื่อยรึเจ้าคะ "
พวกนางรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยจากที่ฟังเสียงครางของหญิงสาว
เป็นเวลานานแม้พวกนางจะรู้ดีถึงความผิดปกติทางอารมณ์ของ
หลินหมิงที่มากกว่าบุรุษอื่นแต่การร่วมรักอย่างต่อเนื่องนานถึงหนึ่ง
ชั่วยามนั้นนับเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน
" งั้นข้าจะแสดงให้พวกเจ้าทั้งสองดู "
แขนทั้งสองข้างของหลินหมิงเริ่มทาการขยับไปตามส่วนของ
ร่างกายพวกนางอย่างเร้าร้อน ริมฝีปากของหลินหมิงบดเข้ากับ
หญิงสาวผู้พี่อย่างโหยหา พวกนางทั้งสองนั้นรอวันที่จะได้ทาเช่นนี้
กับหลินหมิงมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะหญิงสาวคนน้อง
" อื้มมมมม~~~~~ "
จากการที่หญิงสาวคนน้องไม่สามารถต่อต้านอารมณ์ความ
ต้องการได้อีกต่อไปเสื้อผ้าของนางถูกปลดออกอย่างรวดเร็วพร้อม
กับการที่นางขึ้นคร่อมพร้อมกับนาทวนมังกรเสียบเข้าไปในทันที
" อึกกก อ๊ายยยย~~~~~~ "
ร่องกระชับแน่นของหญิงสาวนั้นตอดรัดแน่นเสียยิ่งกว่าร่อง
สวาทของซื่อโฉวอย่างเทียบไม่ตดิ ร่องของนางราวกับว่าเป็นร่อง
สวาทที่ยังไม่เคยผ่านการเสียความบริสุทธ์มาแต่อย่างใด หญิงสาว
คนน้องไม่ได้ขยับร่างกายของนางมากนักหลังจากที่นางเสียบทวน
มังกรของหลินหมิงเข้าไปสุดลา
นางนาร่างกายของนางเข้าถูไถ่กับกล้ามเนื้อของหลินหมิงไปมา
พร้อมกับส่วนล่างของนางที่เคลื่อนไหวไปมาเป็นวงกลม หญิงสาวผู้
พี่เองก็ไม่น้อยหน้านางยังคงแลกลิ้นภายในปากของหลินหมิงอย่าง
ร้อนแรง เพียงแค่นางได้ผ่านการร่วมรักกับเขามาเพียงสองครั้ง
ทักษะการจูบของนางนั้นอาจเรียกได้ว่าเหนือกว่าซือ่ โฉวเสียอีก
อารมณ์ของหลินหมิงถูกกระตุ้นขึ้นเรื่อยๆอย่างห้ามไม่อยู่
" อ้า~~~ มะ..มันกระตุกอยู่ภายในร่องใหญ่เลยเจ้าคะ..
อ้าาาา~~~ "
แน่นอนว่าความอดทนของพวกนางนั้นย่อมต่ากว่าซื่อโฉวเป็น
อย่างมากเห็นได้จากการที่หญิงสาวคนน้องเพียงแค่นางเสียบทวน
มังกรเข้าร่องสวาทของนางนั้นน้ารักใสๆของนางก็พลันถูกระเบิด
ออกในทันที และในตอนนี้เพียงแค่นางขยับอย่างช้าๆร่างกายของ
นางก็ยังคงกระตุกถี่อย่างไม่หยุดย่อน
" ตะ..ตาข้าบ้างสิ..เจ้าทานายเกินไปแล้ว "
" อ้า~~ "
หญิงสาวผู้พี่เป็นคนขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงแทนนางยังคง
ขยับทวนมังกรเข้าหาอย่างช้าๆอาจเป็นเพราะว่านางยังคงตราตรึง
กับความเจ็บปวด แต่หลินหมิงไม่รอช้าการที่นางทาเช่นนี้มันทาให้
เขารู้สึกราคาญใจหลินหมิงจับเอวของนางแล้วส่งร่างของนางลงไป
ในทันที สาหรับของพวกนางที่ตอดรัดแน่นเช่นนี้เพียงแค่พวกนาง
ทาการขยับเล็กน้อยมันก็สามารถเรียกน้ารักจากเขาได้ไม่ยาก
" รับไป !"
" อ้าาาาาาาาาาาา~~~~~ "
หลินหมิงจับร่างของพวกนางทั้งสองมานอนซ้อนกันโดยมีร่าง
ของหญิงสาวผู้พี่อยู่ด้านล่าง ร่องสวาทสองร่องพร้อมกับรูก้นคับ
แน่นช่างเป็นภาพที่ทาให้หลินหมิงรู้สึกเร้าร้อน หลินหมิงแทงทวน
มังกรเข้าไปที่ร่องของหญิงสาวคนน้องที่อยู่ด้านบน
" อ้าาาาาา~~~~~~~ "
" ขะ..ข้าด้วยเจ้าคะ "
หญิงสาวผู้พี่ร้องของต่อหลินหมิงอย่างอ้อนวอนเมือ่ ได้เห็น
ใบหน้าของน้องสาวที่ถูกกระทาในท่านี้ แน่นอนว่าหลินหมิงย่อม
ตอบสนองในทันที หลินหมิงแทงทวนเข้าไปภายในร่องสวาทของ
หญิงสาวผู้พี่พร้อมกับทาการขยับเอวไปมา
" อะ อะ อะ อะ อะ ~~~~ "
" ทะ..ท่านพี่ "
หลินหมิงใช้มือทั้งสองข้างทาการสารวจร่องสวาท และรู้ก้นของ
หญิงสาวผู้น้องเพื่อไม่ให้นางต้องรู้สึกว่างงาน
" อ้าา~~รูนั้น~~~มะ..ไม่ได้เจ้าคะ อ้าาาา~~~ "
หลินหมิงได้ปลดปล่อยอารมณ์ของเขาอีกครั้งเขาไปเต็มร่อง
สวาทของหญิงสาวผู้พี่พร้อมกับพวกนางทัง้ สองทีป่ ล่อยน้ารัก
ออกมาเป็นจานวนมากอย่างหยุดไม่อยู่
ตอนที่ 29
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้หลินหมิงยังคงใช้เวลา
เรียนรู้และสะสมประการณ์จากผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างต่อเนื่อง จนทา
ให้เขาสามาารถปรุงยาระดับโดยด้วยตนเองได้อย่างไม่ขาดตก
บกพร่อง และดูเหมือนว่าท่าทีของหลิวฉวยยูรท์ ี่มีต่อเขาจะดีขึ้น
อย่างเห็นได้ชัดเขาเริ่มมีความมั่นใจแล้วว่านางคงไม่มีความคิดที่จะ
วางแผนเล่นงานเขาอีก
ในวันนี้เป็นวันที่หลินหมิงว่างจากการฝึกสอนเพราะผู้อาวุโสซู
หลิ่งนั้นนางไม่ว่างในวันนี้แต่ก่อนที่นางจะไปนางได้กล่าวกับตัวเขา
ว่าอาจารย์สาวสวยของเขานั้นจะกลับมาในวันนี้
แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นหลินหมิงได้ทาการฝึกฝน
เกี่ยวกับทักษะการใช้ทวน แต่เขาพบว่ามันเป็นเรื่องมากที่จะทา
ความเข้าใจเกี่ยวกับมันอาจเป็นเพราะว่าตัวเขานั้นไม่เคยได้ฝึกใช้
อาวุธเหล่านี้มาก่อนและยังไม่เคยได้ฝึกฝนตาราใดๆ
แต่เขาย่อมคาดการณ์ในเรื่องนี้เอาไว้แล้วด้วยการที่มันเป็นตารา
ที่ได้จากตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งมันไม่มีทางที่จะเป็นธรรมดา และ
การที่มันเป็นเช่นนี้ความยากในการฝึกฝนมันล้วนต้องไม่ใช่เรื่องง่าย
หลินหมิงที่กาลังฝึกเพลงทวนตามตาราทักษะอยู่นั้นพลันได้กลิ่น
หอมโชยเข้าสู่จมูก มันเป็นกลิ่นที่ทาให้ตัวเขารู้สึกสบายและคุ้นเคย
จนทาให้ตัวเขาแทบจะหลับไหล
" ไม่เลวหนิ..เพียงไม่ถึงเดือนตัวเจ้ากับก้าวหน้าได้ถงึ เพียงนี้ "
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มความงามของนาง
ที่ไม่เป็นรองเทพธิดาอย่างผู้อาวุโสซูหลิ่งและหลิวฉวนยูร์รวมถึงผู้
อาวุโสฟางซิ่นแล้วนั้นมีเพียงแค่อาจารย์สาวสวยของเขาเท่านั้น
จูหนิงเอ๋อนางได้รับข่าวสารเกี่ยวกับหลินหมิงมาไม่น้อยในช่วงที่
นางไม่อยู่ แม้นางจะรู้ว่าเด็กหนุ่มนั้นมีพรสวรรค์ที่เรียกได้ว่าหาได้
ยากยิ่งแต่นี้มันก็ยงั เกินกว่าที่นางได้คาดการณ์เอาไว้มาก ไม่เพียงแต่
จะสามารถปรุงยาระดับ 1 ระดับสูงภายในขั้นแรกได้เขายังสามารถ
เอาชนะวานรสองเขาสัตวอสูรขั้นสูงสุดปราณเริ่มต้นด้วยพลังปราณ
เพียงขั้นห้า
แล้วหลังจากนั้นก็สามารถพัฒนาตนเองขึ้นมาจนมาถึงขั้นที่หก
ปราณเริ่มต้น และเอายังเกือบเอาชนะหลินเสี่ยวต้าได้ !
" หืม..เจ้าเลือกทวนงัน้ รึไม่เลว....งั้นวันนี้ข้าจะขอทาหน้าที่ใน
ฐานะอาจารย์สักหน่อยก็แล้วกัน "
จูหนิงเอ๋อกล่าวออกไปพร้อมกับแผ่บรรยากาศกดดัน หลินหมิง
นั้นเข้าใจจุดประสงค์ของนางดี ทวนของหลินหมิงชี้ลงพื้นและทา
การเอียงขึ้นตามรูปแบบการวางท่าที่เขาได้เรียนรู้มา
ร่างของหลินหมิงทยานไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทวนของเขาที่
แทงเขาจุดตายของนางในทันที กับการต่อสู้กับผูแ้ ข็งแกร่งเช่นนาง
นั้นหลินหมิงรู้ดีว่าเขาไม่ควรประมาทเลยแม้แต่น้อยไม่เช่นนั้นแล้ว
มันจะเป็นเขาเสียเองที่จะต้องเจ็บตัว
เสียงทวนของหลินหมิงปะทะเข้ากับบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะถึง
ตัวอาจารย์สาวสวยของเขา โล่พลังปราณ มันเป็นสิ่งเดียวกับใน
ตอนแรกที่หลินหมิงได้เจอกับนาง แม้ว่าหลินหมิงจะแข็งแกร่งขึ้นมา
มากแต่โล่พลังปราณของนางนั้นดูไม่มที ีท่าว่าจะถูกทาลายแต่อย่าง
ใด
เปลวเพลิงสีดาลุกโชนอย่างน่าสะพรันพรึงที่บริเวณมือทั้งสอง
ข้างของหลินหมิงพร้อมกับลุกลามไปที่บริเวณทวนของเขาอย่าง
รวดเร็ว พลังกาลังของหลินหมิงล้วนต่างจากเดิมออไปโดยสิ้นเชิง
เคล้ง เคล้ง !
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เพียงพอที่จะสามารถทาลายโล่พลังปราณ
ของนางลงไปได้ความต่างชั้นของพวกเขายังคงมีมากเกินไป
หลินหมิงหยุดมือในทันทีที่ได้ยินเสียงของอาจารย์สาวสวยของ
เขา ใบหน้าของนางนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่านางจะเป็นคนที่ยิ้มร่าอยู่แล้วเพียงแต่ว่าในตอนนี้หลินหมิง
รู้สึกได้ว่ามันต่างจากเดิมไปมาก
" แม้ว่าทักษะทวนของเจ้าจะยังไม่อาจเรียกได้ว่าใช้ได้แต่
เนื่องจากเจ้าทีเวลาฝึกฝนมันไม่นานก็นบั ได้ว่าไม่เลว... ตามข้ามา "
อาจารย์สาวสวยของหลินหมิงเดินนาเขาออกไปจากลานฝึกตรง
ไปยังห้องทางานของนาง นี้เป็นเพียงครั้งที่สองที่หลินหมิงได้เข้ามา
ภายในห้องแห่งนี้ อาจารย์สาวสวยของเขาเดินหยิบหาของ
บางอย่างโดยให้หลินหมิงเฝ้ารอ
" เอ้านี้ "
ตาราทักษะอีกอย่างถูกส่งมอบมาให้แก่หลินหมิง [ ก้าววายุ ]
เพียงแค่ชื่อตาราทักษะมันก็ถึงกับทาให้มือไม้ของหลินหมิงสั่นเทาไป
ด้วยความตื่นเต้น ตาราทักษะแต่ละอันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้
แต่ที่ยากไปกว่านั้นก็คือการตามหาตาราเหล่านี้
ตาราทักษะนั้นอาจมีเพียงเฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นที่มีเอาไว้
ครอบครอง สาหรับผู้ฝึกยุทธ์โดยทั่วไปที่ไม่ได้มฐี านะนั้นพวกเขา
อาจมีโอกาศได้ฝึกตาราทักษะพื้นฐานต่างๆเพียเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้นมูลค่าของตาราทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมิณ
ราคาได้ โดยเฉพาะตาเล่มนี้ตัวตารานั้นถูกขีดเขียนไว้ก้วยอักษรที่
ทรงพลังเพียงแค่หน้าปกของมันก็แผ่รังสีความแข็งแกร่งของผู้เขียน
ออกมาได้อย่างเด่นชัด
" ตารานั้นข้าให้เจ้านาไปฝึกฝนหากเจ้ามีอะไรสงสัยก็สามารถ
นามาถามข้าได้..ส่วนนี้ "
ของอีกอย่างที่อาจารย์สาวสวยให้แก่เขามานั้นก็คือแหวนมิติ
แม้ว่านางจะเห็นว่าเขามีแหวนมิติอยู่แล้วก็ตามแต่สิ่งของเหล่านี้
นางตั้งใจให้เป็นรางวัลแก่หลินหมิงอยู่แล้ว ไม่เพียงเท่านั้นภายใน
แหวนมิตินั้นประกอบไปด้วยสมุนไพรจานวนมากมายนับไม่ถ้วน
" ข้าไม่คิดจะให้ยาบ่มเพาะใดๆแก่เจ้าหรอกนะหากเจ้าต้องการ
มันเจ้าเพียงแต่จะต้องปรุงมันขึ้นเองเท่านั้น..ด้วยวัตถุดิบภายใน
แหวนนั้นมันก็มีมากพอให้เจ้าสามารถฝึกฝนได้อย่างไม่มีขีดจากัด "
หลินหมิงไม่อาจประเมิณความร่ารวยของอาจารย์สาวสวยของ
เขาได้เลยแม้แต่น้อย สมุนไพรเหล่านี้อาจมีมูลค่ารวมกันถึงหนึ่งแสน
เหรียญเป็นอย่างน้อยแต่นางกลับสามารถแจกจ่ายได้โดยง่าย?
และด้วยการที่นางทาเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยในการฝึกฝนทักษะ
ของเขามันยังเป็นการให้เขาฝึกฝนตนโดยที่ไม้ได้รับสิ่งใดง่าย
จนเกินไปไม่เช่นนั้นแล้วพื้นฐานของเขาจะไม่แข็งแกร่งมากพอและ
จะต้องพบกับจุดตีบตันในภายภาคหน้าโดยเร็ว
" อืมงั้นเจ้าก็ไปได้แล้ว..เดียวข้ามีธุระที่จะต้องทาอีก "
หลินหมิงจากอาจารย์แสนสวยของเขาไปด้วยรอยยิ้มแห่งความ
เปี่ยมสุขเขามั่นใจว่าหากเขาสามารถฝึกฝนทักษะพื้นฐานการใช้
ทวนและทักษะ [ ก้าววายุ ] ที่เป็นทักษะการเคลื่อนไหวที่เขาขาด
ไปแล้วนั้นมันจะทาให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลินหมิงตัดสินใจว่าเขาสมควรจะฝึกฝนทักษะทวนและการ
เคลื่อนไหวภายในป่ารอบนอก เพราะการที่เขาฝึกอยู่ตอนนี้นั้นดู
เหมือนว่ามันจะไม่ส่งผลกับตัวเขามากนักและการที่หลินหมิง
สามารถพัฒนาพลังปราณขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั้นทาให้ร่างกายของ
เขายังไม่ค่อยคุ้นชินดังนั้นเขาจึงจาเป็นที่จะต้องใช้การต่อสู้เพื่อปรับ
สภาพร่างกายของเขา

ตอนที่ 30
ในระหว่างที่หลินหมิงได้เดินออกไปจากนมาคมนักปรุงยาเพื่อทา
การฝึกฝนนั้นเขาไม่ได้รู้เลยว่าการเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ถูกจับ
ตาดูอยู่ภายใต้กลุ่มคนกลุม่ หนึ่ง
" มันออกไปนอกสมาคม ! "
" ข้าจะรีบไปบอกนายท่านพวกเจ้าตามมันไว้ "
กลุ่มคนที่เป็นหนึง่ ในศิษย์ของสมาคมนักปรุงนานั้นแม้ว่าพวก
เขาเหล่านี้จะไม่ได้มีผู้อาวุโสต่างๆคอยชี้แหนะเป็นการส่วนตัว หรือ
ก็คือพวกเขาเป็นศิษย์ภายนอกที่ไม่ค่อยมีฐานะสูงมากเท่าไหร่
สามารถราเรียนทักษะได้อย่างจากัด ด้วยสถานะเช่นนี้ย่อมไม่แปลก
ที่พวกเขาเหล่านี้จะคอยเกาะแข่งเกาะขาผู้ที่มีสถานะสูงกว่าเพื่อที่
เพื่อว่าตนจะมีโอกาศได้รับสิ่งตอบแทนบางอย่าง
สาหรับพวกเขาเหล่านี้แล้วพวกเขาไม่ได้คาดหวังในการเป็น
ศิษย์ส่วนตัวของเหล่าผู้อาวุโสมากนักการเป็นเพียงศิษย์สายใยและ
ได้รับทรัพยากรจากสานักนั้นก็เป็นสิ่งที่เกินคาดฝันสาหรับพวกเขา
" นายท่าน ! ฮั่วหมิงมันกาลังทาการออกไปยังนอกสานักขอรับ
"
" ว่าไงนะ "
ชายผู้ได้รับรายงานจากศิษย์ภายนอกนั้นส่งยิ้มออกมาอย่างชั่ว
ร้ายเมื่อได้ยินเช่นนี้ ตัวเขาซึ่งแต่เดิมได้รับความเคารพเป็นอย่าง
มากในสมาคมไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้อาวุโสหรือจากเหล่าศิษย์ด้วยกัน
แต่เรื่องราวมันราวกับพลิกฝ่ามือเพียงชั่ววัน
คนผู้นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากหลินเสี่ยวต้าภายหลังการ
ประลองนั้นท่าทีของผู้อาวุโสทั้งหลายเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดด้วย
ความที่มีคลื่นลูกใหม่อนาคตไกลที่มากกว่าตัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
อีกทั้งเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ได้สงั กัดตระกูล หรือพรรคใดๆมันจึงกล่าวได้ว่า
เด็กหนุ่มผู้นี้จะต้องเป็นบุคคลสาคัญของสานักในภายภาคหน้าอย่าง
แน่นอน
" พวกเจ้าทาดีมากเดียวต่อจากนี้ข้าจะเป็นคนจัดการเอง...เอ้านี้
...แล้วก็อย่าได้นาเรื่องนี้ไปบอกใครไม่งั้นละก็.. "
ถุงเงินจานวนหนึ่งพันเหรียญนั้นมีราคาเทียบเท่ากับหนึ่งในสาม
ของรายได้รายเดือนของชาวยุทธ์ทั้วไป เทียบกับพวกเขาที่ยัง
เยาว์วัยอยู่นั้นเงินก้อนนี้นบั เป็นเงินจานวนมหาศาล
" ข้าและสหายไม่บอกใครแน่ขอรับ "
" ยิ่งข้าปล่อยมันเอาไว้นานเท่าใดก็คงจะยิ่งกาจัดมันได้ยากเย็น
ยิ่งขึ้น แต่ขาดไม่ถึงเลยว่าจะมีโอกาสดีงามมาโดยเร็วเช่นนี้ ฮ่าๆๆ "
ชัวะ !
เสียงฟาดกะบี่ของหลินหมิงเข้าใส่ร่างของสัตว์อสูรขั้น 6 ปราณ
เริ่มต้นในตอนนี้สาหรับพวกมันเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาในการล่าของ
หลินหมิงแต่อย่างใด สัมผัสโดยรอบของหลินหมิงถูกแผ่ออกไปอย่าง
กว้างขวาง แม้ว่าในครั้งล่าสุดที่เขาร่วมรักกับหญิงสาวนั้นจะดู
เหมือนว่ามันมีการส่งผลที่น้อยลงเรื่อยๆมันจึงไม่ได้ทาให้ระดับของ
เขาหยุดอยู่ที่ขั้น 6 เช่นเดิม
แต่ในส่วนของประสาทสัมผัสของหลินหมิงนั้นได้รับการ
พัฒนาขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก ในตอนแรกหลินหมิงนั้นใช้เปลว
เพลิงทมิฬของเขาในการตรวจสอบสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งและ
สามารถทาอันตรายต่อตัวเขาได้
และในครั้งต่อมาหลินหมิงสามารถใช้มันตรวจสอบพลังงาน
โดยรอบเพื่อค้นหาสมุนไพร ทักษะทั้งสองอย่างนี้ของหลินหมิงนั้น
ล้วนถูกพัฒนาขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมากและเขายังไม่ต้องใช้สมาธิ
มากเท่าเดิมในการใช้พวกมัน
กรรร !
สัตว์อสูรที่ล้อมรอบหลินหมิงอยู่ในตอนนี้มที ั้งหมดสี่ตัวแต่พวก
มันได้ตายไปแล้วหนึ่งตัว พวกมันเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 ทั้งสิ้นภายใต้
วงล้อมเช่นนี้หลินหมิงกลับไม่ได้มีความรู้สึกกังวลแต่อย่างใดด้วย
ประสาทสัมผัสของเขาในตอนนี้มันทาให้เขาเปรียบเสมือนมีดวงตา
อยู่ข้างหลัง
' ความกดดัน ' ' เป้าหมาย '
ทั้งสองสิ่งนี้เป็นตัวที่คอยพัฒนาตัวเขาได้อย่างดีเยี่ยทภายใต้
ความคิดของหลินหมิง แม้ว่าเขาจะฝึกฝนการใช้ทวนมาเป็นเวลา
กว่าสัปดาห์ แต่นั้นมันเป็นการฝึกการใช้ท่วงท่าไม่ได้เป็นการใช้จริง
การใช้งานจริงนั้นในความคิดของหลินหมิงนั้นมันสามารถทาให้ตัว
เขาเกิดความคิดพลิกแพงและทาความเข้าใจในตัวทักษะภายใต้แรง
กดดัน
ด้วยความกดดันและความอันตรายนั้นจะเป็นสิ่งที่ทาให้มนุษย์
ก้าวข้ามขีดจากัดของตนเองได้ ถึงแม้ว่ามันจะดูเสี่ยงแต่สาหรับ
หลินหมิงที่ผ่านการทรมานมาตั้งแต่เด็กหลังจากการที่เขาได้รับเปลว
เพลิงสีดานี้มันทาให้เขารู้สึกเคยชินไปเสียแล้ว
' อ่า..พวกมันไม่เพียงพอ '
การเข้ามายังป่าภายนอกของหลินหมิงนั้นสัตว์อสูรระดับ 6 นั้น
เป็นตัวตนที่เขาต้องหลีกเลี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ภายในเวลาหนึ่ง
เดือนพวกมันทั้ง 4 ตัวกลับกลายเป็นร่างไร้วิญญาณภายใต้เพลง
ทวนของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหลินหมิงในตอนนี้ความแข็งแกร่งของ
พวกมันนั้นไม่ได้สร้างความกดดันให้แก่เขามากนัก หลินหมิงยังคง
ตรงเข้าไปยังส่วนลึกภายในป่ารอบนอกจนเกือบเข้าไปยังเขตป่าชั้น
กลาง ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขายังไม่เพียงพอที่จะเข้าไปยัง
บริเวณนั้น ภายในป่าชั้นกลางระดับความอันตรายย่อมแตกต่างจาก
ป่าภายนอกอย่างเทียบไม่ติด
สัตว์อสูรที่เปรียบดั่งราชาเช่นวานรสองเขาอาจเป็นได้เพียงเหยื่อ
อันโอชะภายในป่าชั้นกลาง พวกมันสามารถเป็นได้เพียงผู้ถูกล่า
เท่านั้น
หลินหมิงใช้เวลาอยู่ริมเขตป่ารอบนอกเพียงเวลาชั่วครู่เขาก็
สามารถสัมผัสได้ถงึ แรงกดดันที่มากกว่าสัตว์อสูรสีต่ ัวก่อนหน้านี้
แบบเทียบไม่ติด
' พยัคฆ์สามตา '
กรรร
สัตว์อสูรรูปแบบคล้ายเสือเพียงแต่ว่ามันมีดวงตาที่สามเพิ่มเข้า
มาและมันยังมีขาาดตัวทีใ่ หญ่กว่าราวครึ่งเท่า หลินหมิงได้เรียนรู้
มากมายเกี่ยวกับสัตว์อสูรของป่ารอบนอกที่สามารถคุกคามชีวิต
ของเขาได้ แน่นอนว่าพยัคฆ์สามตานี้ย่อมเป็นหนึ่งในนั้น
ไม่ใช่พลังของมันที่เป็นภัยคุกคามต่อเขาแต่เป็นในเรื่องความเร็ว
ต่างหาก ด้วยพลังระดับแปดปราณเริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องยากต่อการ
รับมือของเขามากนักแต่มันเป็นสัตวอสูรที่โดดเด่นในเรื่องความเร็ว
ไม่เหมือนวานรสองเขาที่โดดเด่นในเรื่องกาลัง
พยัคฆ์สามตาราวกับว่ามันได้เห็นเหยื่ออันโอชะที่สามารถทาให้
ท้องของมันอิ่มไปได้ในวันนี้ กับพลังของมนุษย์เพียงขั้น 6 นั้นไม่ได้
ต่างจากกระต๋ายตัวน้อยๆในสายตาของมัน พยัคฆ์สามตากระโจน
เข้าหาหลินหมิงด้วยความเร็วที่น่าตื่นตระหนก !
แต่หลินหมิงนั้นสามารถรับรู้ได้อยู่ก่อนหน้าแล้วทวนของเขานั้น
ไม่เพียงแต่มันจะเป็นอาวุธที่สามารถโจมตีได้ในระยะไกล แต่มันยัง
สามารถโจมตีได้รอบตัว ! ไม่ว่าพยัคฆ์สามตาจะพยายามโจมตี
หลินหมิงมากเพียงใดมันก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆให้แก่
เขาได้
แน่นอนว่าในตอนนี้หลินหมิงเพียงใช้พยัคฆ์สามตาตัวนี้ในการ
ฝึกฝนสาหรับเขาเพียงเท่านั้น การโจมตีของมันไม่ได้หนักหน่วงมันมี
ความเร็วเป็นจุดเด่น ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นหลินหมิงก็สามารถ
ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มันทาให้พยัคฆ์สามตาตัวนี้รู้สึกหงุดหงิด
เวลาผ่านสองก้านธูปร่างของพยัคฆ์สามตาตอนนี้กลายเป็นร่าง
ไร้วิญญาณไปไหนที่สุด เนื่องจากหลินหมิงไม่สามารถเรียนรู้ใดๆ
จากมันได้อีกต่อไป มันโจมตีหลินหมิงอย่างบ้าคลั่งจนมันไม่ทันได้
สนใจการตั้งรับของตนเอง มันเพียงคิดว่าด้วยพลังระดับหลินหมิง
นั้นสมควรไม่น่าจะนับมือกับมันได้นาน นั้นจึงเป็นเหตุให้มัน
กลายเป็นศพนอนแน่นิ่งในตอนนี้
ทันใดนั้นหลินหมิงพลันได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจานวนหนึ่งตรง
มาทางเขา มันไม่แปลกที่จะมีคนอยู่ในป่ารอบนอกแห่งนี้ มันเป็นจุ
มทรัพย์สาหรับนักสู้ระดับทั่วไป แต่ที่นางแปลกก็คอื พวกเขาเหล่านี้
ตรงมาที่หลินหมิงอย่างเห็นได้ชัด !
จนในที่สุดหลินหมิงก็สามารถเห็นกลุ่มคนเหล่านี้ มันทาให้เขา
ขมวดคิ้วลงด้วยความคิด
' ตระกูลหลิน ! '
กลุ่มคนนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สวมเครื่องแบบที่บง่ บอกสังกัด
ของตนแต่หลินหมิงสามารถจดจาใบหน้าของพวกเขาได้ พวกเขา
เหล่านี้เป็นคนจากตระกูลหลินอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขามีด้วยกัน
ทั้งหมด 5 คนและคนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นมีพลังในระดับปราณก่อตั้ง
ขั้นแรก !

ตอนที่ 31
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนพวกเขาเหล่านี้เป็นคนจากตระกูล
หลินและยังเป็นลูกน้องของหลืนเสี่ยวต้าแม้ว่าพลังของพวกมันจะมี
ผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดและที่เป็นเป็นผู้ที่มีพลังขั้น 8 สามมคนและ
ขั้น 9 อีกหนึ่งคนแต่ดว้ ยอายุของพวกมันที่ดูคราวๆประมาณยี่สิบ
เกือบสามสิบเข้าไปแล้วทาให้พวกมันไม่ได้มีสถานะสูงส่งแต่อย่างใด
ในตระกูล
แน่นอนว่าพวกมันเฝ้าติดตามหลินหมิงมาเป็นเวลานาน
นับตั้งแต่ที่หลินหมิงเข้ามายังป่าภายนอก แต่เมื่อพวกมันได้เห็น
หลินหมิงทาการต่อสู้จึงไม่ได้เข้าไปขัดขวางแต่อย่างใดด้วย
ความสามารถของหลินหมิงที่แสดงออกมาในตอนที่เขาสู้กับอสูร
ระดับ 6 นั้นมันทาให้พวกเขาทั้ง 5 เกิดความกังวลเล็กน้อย
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาทั้งห้าจะกลัวว่าจะไม่อาจเอาชนะหลินหมิง
ได้ แต่สิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลนั้นก็คือการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ แม้ว่ามันจะ
เป็นบริเวณปากในสุดของป่ารอบนอกที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมาแต่มัน
ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะขึ้นเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการต่อสู้ของพวก
เขา
กลุ่มคนทั้งห้านี้นั้นเป็นคนที่หลินเสี่ยวต้าเป็นคนสั่งการให้มา
จัดการกับหลินหมิง ในความคิดของพวกเขานั้นหลินหมิงสมควรที่
จะมีความเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากในการต่อสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ
การรับมือกับอสูรระดับ 8 อย่างพยัคฆ์สามตา
" พวกเจ้าต้องการอะไร "
สาหรับโลกแห่งนี้ที่ผู้แข็งแกร่งคือผู้อยู่รอดนั้น เรื่องเหล่านี้เป็น
เรื่องที่สามารถเกิดได้ทุกวันสาหรับผู้ที่แข็งแกร่งพวกเขาสามารถทา
สิ่งใดกับผู้ที่อ่อนแอกว่าได้ตราบใดที่ไม่มีคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวก
เขาเหล่านั้น
กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งห้านั้นไม่ได้ตอบคาถามของหลินหมิงพวกมัน
ทั้งห้าทาการโอมรอบปิดกั้นทางหนีของหลินหมิงเอาไว้ หลินหมิงนั้น
ไม่สามารถตรวจสอบตัวตนของพวกเขาก่อนหน้านี้ได้เลยมันอาจ
เป็นเพราะพวกเขาปิดกั้นพลังเอาไว้ ?
กับคู่ต่อสู้ที่มีพลังขั้น 7 และ 8 ถึงอย่างละสองคนและยังมีผู้ที่มี
พลังขั้นก่อเกิดอีกคนสถานการณ์เช่นนี้หากเป็นคนอื่นพวกเขาคงได้
ต่อรอวันดูงานศพของตนเองในร่างไร้วิญญาณ แต่สาหรับหลินหมิง
แล้วนั้นมันต่างออกไป
' มันยิ้ม ? '
รอยยิ้มของหลินหมิงสร้างความแปลกประหลาดใจให้แก่พวกมัน
ทั้งห้า กับผู้ที่มีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 6 นั้นไม่มที างเป็นไปได้ที่จะ
สามารถเอาชนะพวกมันทั้งห้าได้ไม่ต้องพูดถึงสภาพของเด็กหนุ่มผู้นี้
ที่เพิ่งทาการต่อสู้มาอย่างยากลาบากในสายตาของพวกมัน
กะบี่ ดาบ ถูกชักออกมาจากกลุ่มคนทั้งห้าเป็นสัญญาณว่าการ
ต่อสู้ในครั้งนี้พวกเขาจะไม่มีทางปล่อยให้หลินหมิงมีชีวิตกลับไป
โดยง่าย
เคล้ง เคล้ง !
เสียงทวนของหลินหมิงสะบัดปะทะเข้ากับการโจมตีจากสองชาย
ฉกรรจ์หลินหมิงใช้การหมุนควงทวนเป็นวงกลมในการโต้กลับการ
โจมตีครั้งนี้
' บ้าเอย มันมีแรงมากเช่นนี้ ? '
สัมผัสด้านชาที่บริเวณมือทาให้พวกมันทั้งสองถึงกับตะลึงงัน
หากดูจากรูปร่างของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีผู้นี้ก็ดูไม่กายาเหนือกว่าเด็ก
วัยเดียวกันเท่าไหร่นักแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีพลังกายอย่าง
มหาศาล !
ที่เหลืออีกสามคนไม่รีรอพวกเขาจะต้องจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด !
หลินหมิงหลับตาทาสมาธิเพียงชั่วครู่ ในตอนนี้เขาสามารถ
สื่อสารกับเปลวเพลิงทมิฬได้ราวกับแขนขาส่วนหนึ่งของร่างกาย
เปลวเพลิงสีดาอันน่าหวาดกลัวลุกโชนขึ้นที่บริเวณมือและลาม
ไปที่ทวนเขาอย่างรวดเร็วแม้ว่านี้จะเป็นทักษะโจมตีเพียงอย่างเดียว
ที่หลินหมิงมีแต่เขาก็มั่นใจในทักษะนี้ของเขาเป็นอย่างมาก มัน
สมควรมีระดับที่เกินกว่า [ คลื่นระเบิดสุรยัน ] ของหลินเสี่ยวต้าเสีย
อีก !
ภายใต้ความตกตะลึงในความน่ากลัวของเพลิงสีดาทวนของ
หลินหมิวถูกตวัดอย่างรวดเร็วไปที่ศรีษะของชายคนหนึ่งในกลุ่มคน
ทั้งห้า
ชัวะ !
แม้ว่านี้จะเป็นการฆ่าคนครั้งแรกของหลินหมิงแต่เขาไม่ได้มี
ความลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาไม่แม้แต่จะกะพริบตาเสียด้วยซ้าเขา
ต้องการมองไปที่ใบหน้าทีเ่ ต็มไปด้วยความหวาดกลัวก่อนตายของ
มัน !
" น้องสี่ ! เจ้า ! "
หลินหมิงจู่โจมอีกครั้งอย่างรวดเร็วสาหรับหลินหมิงแล้วนั้น
นักรบระดับพลังเพียงขั้นที่ 8 นั้นไม่ใช่ปัญหาสาหรับเขาเลยแม้แต่
น้อยในตอนนี้
ฉึก !
เสียงทวนแทงทะลุร่างชายคนหนึ่งในกลุ่มคนทั้งห้าการที่พวก
เขาตั้งวงล้อมเช่นนี้มันง่ายต่อหลินหมิงที่จะทาการโจมตีไปที่พวกมัน
ทีละคนโดยที่พวกมันไม่อายสามารถเคลื่อนที่มาช่วยเพื่อนของมัน
เอาไว้ได้ทัน กอปรกับด้วยการที่พวกมันนั้นยังคงเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงทีไ่ ด้เสียคนในกลุม่ ไปอย่างรวดเร็วคนแรกเพียงไม่กี่อึดใจ
ต่อมาพวกมันกลับต้องเสียคนที่สองเสียแล้ว
" ไอ้ตัวบัดซบ ! ข้าจะฆ่าเจ้า ! "
กลุ่มคนทั้งสามที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้นโจมตีเข้าหาหลินหมิ
งอย่างพร้อมเพรียง
ปัง !
หลินหมิงนั้นพอที่จะสามารถทนรับการโจมตีของผู้ที่มีพลังระดับ
9 ทั้งสองคนได้อยู่บ้างแต่สาหรับผู้ที่พลังขั้นก่อเกิดนั้นพลังของมัน
เหนือกว่าสองคนนี้และเขามากเกินไป
อัก !
ร่างของหลินหมิงไถลไปห้าก้าวจากการใช้ทวนรับกะบี่ในมือของ
ผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิด ความห่างระหว่างผู้ที่มีพลังขั้นก่อเกิดกับขั้น
9 ปราณเริ่มต้นนั้นมีมากเกินไป
ประสาทของหลินหมิงถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง พร้อมกับตัวเขาที่
พลันเริ่มคิดถึงวิธีทางเอาชนะ ในระหว่างที่ยังคงรับมือกับกะบี่ของ
อีกฝ่าย
เคล้ง เคล้ง เคล้ง !
หลินหมิงรับมือกับการโจมตีของผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดอย่าง
ต่อเนื่องจนกล้ามเนื้อของเขารู้สึกเกร็งจนปวดไปหมด หลินหมิงใช้
แรงปะทะดีดตัวถอยห่างออกมาเพื่อสร้างระยะห่าง แต่กะบี่ของอีก
ฝ่ายนั้นกลับตามมาอย่างรวดเร็ว !
' ไอ้โง่ '
คราวนี้หลินหมิงไม่ได้ตั้งรับอีกต่อไปทวนของหลินหมิงทาการ
แทงสวนเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย แน่นอนว่ามันย่อมเป็นทวนของเขา
ที่สามารถแทงทะลุอีกฝ่ายได้ก่อนด้วยระยะการโจมตีที่ไกลกว่า และ
อีกฝ่ายยังโกรธและประมาทในตัวเขามากจนเกินไป
ข้อได้เปรียบนี้ของหลินหมิงนี้นั้นหลินหมิงคิดว่ามันอาจเปรียบได้
ดังไผ่ลับของเขาเลยทีเดียวไม่ว่าเขาจะต้องรับมือกับใครแต่มันจะ
เป็นเรื่องยากมากที่อีกฝ่ายจะประเมิณระดับพลังความสามารถของ
หลินหมิงได้อย่างถูกต้อง
ฉึก !
การสิ้นชีวิตของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุม่ มันทาให้พวกมันหน้า
ขาวซีด เพียงแต่หลินหมิงเองก็ได้รับบาดเจ็บจากกะบี่ที่ถกู ฟาดลง
มาบริเวณช่วงหัวไหล่ด้านซ้ายของเขาด้วยเช่นกัน
ในขณะที่พวกมันทั้งสองกาลังคิดที่จะเข้าโจมตีหลินหมิงอีกครั้ง
พวกมันได้เห็นรอยยิม้ ที่เปรียบดังมัจจุราชมารอรับพวกมัน
" ดะ...ได้....โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย "
หลินหมิงก้าวไปหาพวกมันทั้งสองอย่างช้าๆโดยไม่สนใจทีท่า
อ้อนวอนของพวกมันทั้งสองเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าเมื่อทันทีที่
หลินหมิงยืนอยู่ไม่ห่างจากพวกมันมากเท่าใดนัก ก็มีร่างของชายคน
หนึ่งปรากฎขึ้นมาทิศทางที่เขาจากมานั้นเป็นทางส่วนลึกของป่านั้น
ย่อมเป็นป่าชั้นกลาง
เมื่อหลินหมิงได้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนเขาถึงขมวดคิ้ว
พร้อมกับอารมณ์อันรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในหัวใจของเขา
' หลินฮ่าว ! '
ชายวันกลางคนผู้นี้ก็คือผู้นาตระกูลหลินคนปัจจุบันและยังเป็น
บิดาของเขาอีกด้วย

ตอนที่ 32
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นบิดาของเขา แต่
ความรู้สึกของเขานั้นตั้งแต่เด็กบิดาโดยสายเลือดของเขานั้นแทบจะ
ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเช่นนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหลิน
ฮ่าวผู้นี้จะจาเขาไม่ได้แม้ว่าจะเป็นลูกแท้ก็ตามที่ ในความคิดของ
หลินหมิงนั้นเขามีความมั่นใจอยู่หลายส่วนว่าทุกคนในตระกูลล้วน
ย่อมไม่อาจจดจาเขาได้เป็นอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เพียงรูปลักษณที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ความแข็งแกร่งของเขา
ในตอนนี้มันมากเกินกว่าคาอธิบายใดๆ ภายในหนึ่งเดือนสามารถ
พัฒนาจากผู้ไร้พลังก้าวขึ้นมาถึงขั้น 6 ปราณเริ่มต้นเช่นนี้แล้วเหล่า
ผู้คนที่เรียกขานตนเองว่าเป็นอันฉริยะนั้นล้วนอาจต้องเต็มไปด้วย
ความอับอายเมื่อเทียบกับหลินหมิง
" ท่านผู้นา ! "
" ชะ..ช่วยพวกข้าด้วยขอรับ "
พวกมันรู้สึกมีความหวังในการรอดชีวิตขึ้นมาในทันที ตัวตน
อย่างหลินฮ่าวนั้นไม่สามารถพบเจอได้โดยง่ายแม้ว่าตระกูลหลินจะ
ไม่ได้มีทรัพย์สมบัตทิ ี่มากเหมือนดั่งสมาคมนักปรุงยา แต่ที่พวกเขา
สามารถคานอานาจกับสมาคมเอาไว้ได้นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นเพราะ
หลินฮ่าวผู้นี้ !
หลินหมิงตั้งแต่จาความได้เขาเพิ่งเคยได้พบหน้าของบิดาเพียง
สองสามครั้งเท่านั้นและครั้งสุดท้ายก็คือในตอนที่ผลการทดสอบ
ออกมาว่าเขาเป็นเพียงคนไร้ซึ่งพรสวรรค์ใดๆและถูกกล่าวขานว่า
เป็นเพียงขยะ
ความแข็งแกร่งของบิดาของเขานั้นเรียกได้ว่าไม่ได้น้อยไปกว่า
อาจารย์สาวสวยของเขาเลยแม้แต่น้อยหรือมันอาจมากกว่าเสียด้วย
ซ้าไป !
" พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี้ "
" พะ..พวกข้า..เพียงแค่ออกมาล่าสัตว์อสูรแล้วหลังจากนั้น..... "
" ...... "
สายตาของหลินฮ่าวที่มองไปที่ร่างของชายทั้งสองคนมันแทบจะ
ทาให้พวกเขาตายลงเพราหยุดหายในทันทีพวกเขามีความรู้สึกว่า
ไม่สามารถปิดกั้นการกระทาของพวกเขาได้แม้ว่าจะโกหกไปก็ตามที่
มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะสามารถคนที่ดารงตาแหน่งประมุขตระกูล
อันยิ่งใหญ่ ด้วยตาแหน่งนี้ทันย่อมเป็นเครื่องหมายการันตีได้เป็น
อย่างดีว่าไม่เพียงแต่จะสีความสามารถในการสู้รบแต่ในด้านอื่นๆ
เขาย่อมเหนือกว่าคนทั่วไปอยู่หลายขุม
ชายทั้งสองถึงกับสั่นไปด้วยความกลัวและไม่กล้าที่จะกล่าวอะไร
อีก
" ข้าคงต้องขอให้เจ้าปล่อยพวกเขาทั้งสองไป..หลังจากนี้ข้าจะ
เป็นคนสืบสวนและลงโทษพวกเขาเอง "
" ปล่อย ? "
ฉัวะะะ !!!
ศรีษะทั้งสองของร่างกายทั้งสองที่สะบัดขาดออกจากร่างภายใน
ที่เดียวโดยที่ใบหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง หลินฮ่าว
รู้สึกคิ้วกระตุกขึ้นมาในทันทีตัวเขาย่อมพอจะรับรู้เรื่องราวคร่าวๆได้
บ้างแต่ถึงอย่างนั้นการปล่อยให้คนในตระกูลถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตา
มันอาจทาให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย
แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุม่ ผูน้ ี้กลับกล้าหักหน้าเขาอย่างไม่มีชิ้นดี
แม้แต่ประมุขตระกูลอื่นยังไม่อาจกล้าทาเช่นนี้
" ท่านจะให้ข้าปล่อยไอพวกบัดซบที่คิดจะสังหารข้างั้นหรอ ?
ข้าไม่ใช่ทารกที่สามารถรังแกได้โดยง่ายหรอกนะแล้วก็เป็นเพราะ
พวกบัดซบนี้จู่โจมข้าก่อนแล้วทาไมข้ายังจะต้องปราณีพวกมัน ? "
การที่หลินหมิงทาเช่นนี้ไม่เพียงแต่เขาจะรู้สึกพอใจที่ได้แก้แค้น
พวกมันทั้งห้าคนที่หมายเอาชีวิตเขา แต่มันยังสามารถหักหน้าบิดา
ที่ไม่เคยใส่ใจบุตรของตนได้เป็นอย่างดีคนนี้อีกด้วย
หลินหมิงอยากจะรู้จริงๆว่าหากเขาบอกไปว่าตัวเขานั้นเป็นบุตร
ของตัวมัน มันยังจะกล่าวขอชีวิตพวกมันเหล่านั้นอีกหรือไม่ แม้ว่า
มันจะมีโอกาศที่บิดาผู้แสนน่าชิงชังคนนี้จะลืมตัวตนของเขาไปเสีย
แล้ว
" ข้าบอกให้เจ้าปล่อยพวกเขา.... "
" ข้าก็บอกเหตุผลท่านไปแล้ว "
ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่กระพริบ ความกดดันทีแ่ ผ่ออกมาจาก
ร่างชายวัยกลางคนผู้นี้กลับมีมากกว่าอาจารย์สาวสวยของเขาอย่าง
ไม่ต้องสงสัย
ปัง !!!!!
เพียงแค่หลินหมิงกระพริบตาไปชั่วหวูบร่างของเขาพลันถูก
กระแทกชนกับโขนหินอย่างรุนแรงตนเกิดไปรอยยุบลงไปพร้อมกับ
เลือดจานวนมากที่ออกมาจากปากเขาอย่างหยุดไม่อยู่ แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่ได้ประมาณเลยแม้แต่น้อยแต่เขาไม่สามารถมองการ
เคลื่อนไหวของชายวัยกลางคนผู้นี้ได้จริงๆ
และถึงแม้ว่าหลินหมิงจะสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ
ชายผู้นี้ได้เขาก็ไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะสามารถหลบ
หลีกการโจมตีนี้ได้
" นี้คือโทษฐานที่เจ้ากล้าแม้แต่กระทั่งสังหารคนที่มาจากตระกูล
เดียวกัน "
"!"
หลินหมิงรู้สึกสับสนและตืน่ ตะลึงมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่บิดาของ
เขาจะสามารถจดจาตัวเขาได้หากคิดในความเป็นจริงแล้วบิดาของ
เขาผู้นี้ควรเป็นผู้ที่มีโอกาสต่าที่สุดที่สามารถจดจาเขาได้
" เจ้านึกว่าข้าจะจาเจ้าไม่ได้ ? "
อั่ก !
หลินหมิงค่อยๆนาร่างออกมาจากโขนหินอย่างยากลาบากแม้ว่า
เขาจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแต่เพียงการโจมตีที่ผ่านมา
นั้นมันทาให้เขาแทบหมดสติ กระดูกภายในของเขาราวกับว่ามันถูก
บดละเอียดโดยการทุบเพียงครั้งเดียว
" คะ..ใคร...เป็นคน..ตะ..กูล..เดียวกับ..พวกแก "
เพลิงสีดาลุกโชนขึ้นมาอย่างน่ากลัวเขาไม่คาดคิดเลยว่าบิดาผู้
น่าชิงชังผู้นี้จะสามารถจดจาเขาได้และด้วยสภาพเช่นนี้เขาไม่อาจ
รอดเงื้อมมือของชายผู้นี้เป็นแน่
" ช่างเป็นลูกบัดซบโดยแท้ "
ปัง !!
เสียงร่างของหลินหมิงถูกส่งเข้ากระทบกับโขนหินอีกครั้งเลือด
จานวนมากไหลออกมาตามผิวหนังของเขาอย่างน่าหวาดกลัว
แม้ว่าเขาจะมีเปลวเพลิงทมิฬในตอนนี้แต่มันเหมือนกับว่าเปลว
เพลิงของเขาในตอนนี้แทบจะไม่สามารถช่วยเขาได้เลยแม้แต่น้อย
หัวสมองของหลินหมิงในตอนนี้รู้สึกขาวโพน เขาแทบไม่มีความรู้สึก
ใดๆแล้วในตอนนี้
แต่ว่าทันใดนั้นเขาก็พลันได้กลิ่นหอมโชย มันเป็นกลิ่นที่ทาให้
เขาสามารถเรียกสติกลับมาได้โดยในทันที เบื้องหน้าของเขา
ในตอนนี้ปรากฎร่างของหญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดายืนบังร่าง
ของเขาที่แทบจะลุกขึ้นยืนไม่ไหว
" นี้ท่านคงไม่คิดสังหารศิษย์ของข้าหรอกใช่หรือไม่ ? "

ตอนที่ 33
จูหนิงเอ๋อร์นั้นหลังจากที่นางได้แยกจากหลินหมิงแล้วนั้น นางได้
เข้าหาหรือกับผู้อาวุโสต่างๆเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนที่นางไม่อยู่
มันพอจะทาให้นางทราบได้ว่าดูเหมือนว่าศิษย์ของนางผู้โดดเด่นคน
นี้จะไปก่อเรื่องให้กับตระกูลหลินเขาเสียแล้ว
ทุกคนต่างรู้สึกถึงนิสยั ธาตุแท้ของหลินเสี่ยวต้าไปไม่มากก็น้อย
มันทาให้นางประเมินได้วา่ ศิษย์ของนางนั้นอาจได้รับอันตรายจาก
เรื่องนี้ นางจึงรีบติดตามหลินหมิงในทันทีที่ได้ทราบว่าหลินหมิงได้อ
อกไปยังภายนอกสานัก
แต่นางไม่ได้คาดเลยว่านางจะต้องเจอกับผู้นาตระกูลหลิน หลิน
ฮ่าวแม้ว่านางจะถูกจับตามองว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งในรอบ
ร้อยปีของเมืองแต่เมืองเทียบกับหลินฮ่าวที่สะสมประการณ์มาอย่าง
ยาวนานและพลังของนางย่อมเป็นรองชายผู้ไม่นี้ราวครึ่งขั้น หาก
ต้องเกิดการสู้กันนางไม่มคี วามมั่นใจเลยว่าจะสามารถเอาชนะได้
แต่สิ่งหนึ่งที่นางมั่นใจคือหลินฮ่าวผู้นี้คงไม่นาตระกูลหลินเข้ามา
เสี่ยงเพียงเพราะเด็กคนเดียวอย่างแน่นอนเพราะถึงแม้ว่าหลินฮ่า
วจะสามารถเอาชนะนางได้แต่แล้วอย่างไรเล่า มันไม่มีทางที่เขาจะ
สามารถชนะนางได้โดยไม่เสียหายแต่อย่างใด
" เจ้าเป็นอาจารย์ของมันงั้นรึ ? "
เสียงรายเรียบของหลินฮ่าสราวกับว่าเขาไม่ได้แยแสต่อการ
ปรากฎตัวของนางเลยแม้แต่น้อยบรรยากาศที่ผู้ที่แข็งแกร่งอันดับ
ต้นๆของเมืองมาประจันหน้ากันเช่นนี้มันอาจเพียงพอที่จะทาให้คน
ธรรมดาถึงแก่ขีวิตเพียงแค่ว่าไม่สามารถทนรับแรงกดดันของพวก
เขาได้
" เจ้าเด็กนี้เป็นศิษย์ของข้าอย่างแน่นอน ด้วยพรสวรรค์ของเขา
มันเพียงพอที่จะทาให้เขาเติบโตได้เหนือกว่าข้าเสียอีก "
จูหนิงเอ๋อนั้นนางไม่ได้รับรู้ว่าหลินหมิงนั้นเป็นบุตรของหลินฮ่า
วนางเพียงคาดการณ์จากศพที่อยู่ได้รอบซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นคน
จากตระกูลหลิน คนพวกนนี้น่าจะเป็นคนที่หลินเสี่ยวต้าจ้างวาน
พวกมันมาจัดการกับหลินหมิงแต่มันกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันเข้า
หลินฮ่าวนั้นบังเอิญพบเจอหลินหมิงสังหารคนภายในตระกูลจึงคิด
ล้างแค้นเพื่อไม่ทาให้ตระกูลเสื่อมเสีย นั้นคือสิ่งทีน่ างคิดซึ่งหากมอง
โดยทั่วไปมันย่อมเป็นเช่นนั้น
หลินฮ่าวมองมายังร่างของหลินหมิงที่อาบไปด้วยเลือดด้วย
สายตาครุ่นคิด
" หืม..เอาเถอะยังไงซะข้าก็ได้สั่งสอนมันไปบ้างแล้ว... "
หลินฮ่าวกล่าวจบพร้อมกับหันหลังทาท่าเดินจากไป มันทาให้จูห
นิงเอ๋อนางรู้สึกผ่อนคลายลงเป็นอย่างมากเพียงแต่ว่า..
" ดะ....เดียว..ก่อน..มะ..มาทุบ..ตีข้า...ละ..แล้วหนี... "
" เจ้าพูดบ้าอะไรเนี่ยจะยืนไม่ไหวแล้วไม่ต้องพูดแล้ว.. "
หลินฮ่าวหยุดชะงักเล็กน้อยเพียงแต่เขาไม่ได้หันกลับมามองแต่
อย่างใด
" อีก 6 เดือน.. แล้วข้าจะรอดูพัฒนาการของเจ้า "
จูหนิงเอ๋อร์นางไม่ได้สนใจในคากล่าวของหลินฮ่าวมากนัก นาง
รีบนาร่างของหลินหมิงทีแ่ ทบจะไร้สติจากไปในทันที นางไม่คิดเลย
ว่าศิษย์ของนางคนนี้จะมีความบ้าหรือโง่ถึงขนาดกล้ากล่าวเช่นนั้น
กับประมุขของตระกูลหลินอย่างหลินฮ่าว
แต่ที่นางสงสัยจริงๆก็คือท่าทีของหลินฮ่าวด้วยระดับฝีมือของ
หลินฮ่าวนั้นแม้ว่าหลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกนับสิบ
เท่ามันก็ไม่สามารถเทียบได้กับหลินฮ่าวได้เลยแม้แต่น้อย การ
สังหารหลินหมิงสาหรับหลินฮ่าวที่มากไปด้วยประสบการณ์นั้นไม่
ต่างอะไรจากกาจัดมดตัวหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้นศิษย์ของนางก็ยังคงสามารถรอดชีวิตมาได้จาก
บุคคลเช่นนั้นถึงแม้ว่านั้นอาจจะเป็นเพราะว่านางสามารถเข้าไป
ช่วยได้ทันก็ตาม แต่เมื่อดูจากบาดแผลของหลินหมิงแล้วนั้น
บาดแผลส่วนใหญ่เป็นเพียงบาดแผลภายนอกราวกับว่าหลินฮ่าวผู้
นั้นจงใจไม่สร้างความเสียหายภายในให้แก่หลินหมิงมากนัก การที่ผู้
ที่มีพรสวรรค์ได้รับความเสียหายภายในนั้นมันย่อมส่งผลร้ายแรงต่อ
อนาคตของพวกเขา
พวกเขาจะไม่สามารถพัฒนาตนได้อย่างที่ควรจะเป็นอันเหตุให้
ขีดจากัดของพวกเขานั้นต้องลดลงมา นักปรุงยาเองก็ไม่เป็น
ข้อยกเว้นการบาดเจ็บภายในจะทาให้พวกเขาไม่สามารถปรุงยาได้
อย่างง่ายดายนัก สาหรับเวลาของเหล่าอัจฉริยะนั้นอาจกล่าวได้ว่า
ทุกวินาทีนั้นมีค่าเป็นอย่างมาก
ตรงจุดเดิมที่จูหนิงเอ๋อร์จากหลินฮ่าวยังคงจ้องมองไปยังร่างของ
นางที่โอมอุ้มร่างของหลินหมิงจากไปด้วยอารมณ์ซบั ซ้อน
ฟุบ !
กลุ่มคนจานวนหนึ่งปรากฎขึ้นพร้อมคุกเข่าทาความเคารพให้กับ
หลินฮ่าวด้วยเกียรติสงู สุด
" ท่านประมุขพวกข้าหาคุณชายสามโดยรอบแล้วไม่พบเห็นเลย
ขอรับ "
คนพวกนี้คือกลุ่มคนที่หลินฮ่าวไว้ใจมากที่สุดภายในตระกูล
ตั้งแต่ที่หลินหมิงหลบหนีออกจากตระกูลไปหลินฮ่าวได้ให้พวกเขา
ออกตามหาหลินหมิงไปทัว่ เมืองถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถพย
แม้แต่ร่องรอยของหลินหมิงได้
จนเป็นเหตุให้หลินฮ่าวตกลงมือทาการหาบุตรชายที่ไม่ได้เรื่อง
ของเขาด้วยตัวเอง แต่เมื่อเขาได้พบเจอบุตรชายของเขาแล้วนั้นเขา
พบว่าบุตรชายคนนี้ได้เปลี่ยนไปมากราวกับเป็นคนละคนไม่เพียงแต่
จะมีพลังขั้น 6 ปราณเริ่มต้นเป็นอย่างน้อยแต่เขายังสามารถจัดการ
ผู้ที่มีพลังมากกว่าถึง 5 คนแถมหนึ่งในนั้นยังมีคนที่มีพลังระดับก่อ
เกิดอีกด้วย
แต่เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่บุตรชายของเขาคนนี้กล้าแข็งขืน
ต่อเขา ? มันนานมากแล้วที่มีคนกล้าปฎิบตั ิต่อเขาเช่นนี้ แววตาของ
หลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังจากที่หลินฮ่าวสามารถ
สัมผัสได้ ไม่ใช่การเกลียดขังเพียงตัวเขาเท่านั้นแต่เป็นทุกคนภายใน
ตระกูลเลยก็ว่าได้เขาจึงคิดจะสั่งสอนหลินหมิงให้รู้จักเคารพคนที่
เป็นบิดาเสียบ้างแล้วค่อยนาตัวกลับไปที่ตระกูล
' หึ..น้องหญิงเจ้าคงไม่ต้องเป็นห่วงไอลูกบ้านั้นแล้วล่ะนะ '
หลินฮ่าวแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าด้วยอารมณ์หลากหลายภายในใจ
โดยไม่ได้สนใจกลุ่มคนรอบข้างที่กาลังคุกเข่าให้กับอยู่ที่กาบังเต็มไป
ด้วยความงุนงง
" ไม่ต้องตามหามันแล้ว...พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว "
แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะมีความสงสัยที่ตรงกันว่าศพของพวกที่
นอนตายอยู่นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ศพทั้งห้านี้พวกเขาหลายคน
สามารถจดจาได้บ้างด้วยที่พวกมันนั้นเป็นคนภายในตระกูลหลิน
เช่นเดียวกันแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้โดดเด่นแต่ในเมือ่ อยู่ภายใน
ตระกูลเดียวกันก็ย่อมเคยพบเห็นมาบ้าง

ตอนที่ 34
ผ่านไปเพียงสามวันเท่านั้นหลินหมิงในตอนนี้ค่อยๆรู้สึกตัว
ขึ้นมาอย่างช้าๆ แม้ดูจากภายนอกบาดแผลของเขาอาจจะหนัก
พอๆกับตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บจากวานรสองเขาในครั้งก่อน
เพียงแต่ว่าบาดแผลภายในของเขานั้นหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ อีกทั้ง
สมดุลพลังกายในตัวของเขายังคงเพิ่มขึ้นแต่ก่อนหน้านี้มันจึงทาให้
เขาสามารถฟื้นตัวขึ้นมาภายในเวลาอันสั้น
จูหนิงเอ๋อร์ อาจารย์สาวสวยของหลินหมิงเป็นคนที่เขาพบหน้า
ในยามนี้ ใบหน้าของดูปราศจากความกังวลใดๆ มันทาให้หลินหมิ
งคิดในใจว่าอาจารย์สาวสวยผู้นี้ไม่กงั วลใจเกี่ยวกับตัวเขาเลยบ้าง
เช่นนั้นหรือ? แต่หากคิดในอีกมุมหนึง่ หากนางไม่ได้มีความเป็น
กังวลเกี่ยวกับตัวเขานางคงไม่ได้ออกตามหาเขาด้วยตัวเอง และการ
ที่นางมีสีหน้าคลายกังวลนั้นอาจเป็นเพราะว่านางสามารถรับรู้ได้ถึง
พลังฟื้นฟูของหลินหมิงทีน่ ่ากลัวจนเกินไป
" เฮ้อ..อย่างที่ซูหลิ่งกล่าวเจ้ามีพลังการฟื้นตัวที่ยอดเยี่ยมแต่นั้น
ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถไปก่อความวุ่นวายเช่นนี้อยู่
เรื่อยๆ...ยังดีที่ในคราวนี้หลินฮ่าวผู้นั้นไม่ได้ทาอะไรเจ้าไม่เช่นนั้น
แล้วแม้ตัวข้าเข้าช่วยก็คงเป็นไปได้ยากที่เจ้าจะมีชีวิตรอด "
หลินหมิงเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดบิดาผู้นา่ ชิงชังนั้นถึง
ปล่อยเขารอดชีวิตกลับมา แต่ในเรื่องนั้นหลินหมิงคิดว่าอาจเป็น
เพราะอาจารย์สาวสวยของเขาเพราะว่าถึงแม้ว่านางจะกล่าวว่า
หากหลินฮ่าวต้องการชีวิตเขานางคงไม่สามารถรับประกันชีวิตเขา
ได้เหมือนกัน แต่ด้วยภาพลักษณ์ของผู้นาตระกูลหลินที่ยิ่งใหญ่นนั้ มี
หรือที่เขาจะยอมบาดเจ็บหรือสู้รบกับนางเพียงเพราะตัวตนอย่าง
เขา ?
" ในเรื่องนี้ข้าได้สืบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือ
ของหลินเสี่ยวต้า ! "
มันไม่ต่างจากที่หลินหมิงคาดการณ์เอาไว้เสียแต่แรก แต่เขาไม่
คิดว่าหลินเสี่ยวต้าจะเป็นคนที่มีความอดกลั้นต่าถึงเพียงนี้ และเขา
ยังไม่ได้ระมัดระวังตัวในตอนที่ออกไปภายนอกสมาคม ต้องยอมรับ
ว่าเขามั่วแต่ตื่นเต้นดีใจกับการได้ฝึกฝนพัฒนาตนจนลืมประเมิน
สถานการณฺ์รอบด้าน
" แล้วท่านจะทาเช่นไร "
หลินหมิงค่อยๆลุกขึ้นชันตัวผิงขอบเตียงเพื่อให้คุยกับอาจารย์
สาวสวยของเขาได้อย่างถนัด เขาไม่คิดว่านางจะกล้าลงมือกับหลิน
เสี่ยวต้า เพราะถึงแม้ว่านางจะรู้ว่าเป็นฝีมือของมันเพียงแต่ว่านาง
คงไม่ยินยอมที่จะมีเรื่องกับตระกูลหลินโดยตรงเช่นนี้
" ในตอนนี้นั้นหลินเสี่ยวต้าได้ถูกปลดออกจากตาแหน่งศิษย์ของ
ผู้อาวุโซฟางซิ่นเป็นที่เรียบร้อย...และทางตระกูลหลินก็ได้หารือกับ
ข้าในเรื่องนี้ให้ยุติความบาดหมางนี้ลงเพียงเท่านี้เพราะยังไงซะฝ่าย
ที่สูญเสียมากทีส่ ุดก็คือฝ่ายนั้น "
" อืมม "
" ข้ารู้ว่าเจ้าอาจไม่พอใจอยู่บ้าง...แต่มันยังคงมีโอกาสสาหรับ
เจ้าอยู่ "
ในความเป็นจริงแล้วหลินหมิงไม่ได้ไม่พอใจผลลัพธ์ในคราวนี้
เลยแม้แต่น้อย การที่หลินเสี่ยวต้าถูกปลดออกจากตาแหน่งศิษย์ของ
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อตัวมันไปไม่มากก็
น้อย อีกทั้งความสัมพันธ์ของตระกูลหลินและสมาคมนั้นก็อาจเริ่ม
ปรากฎรอยร้าวขึ้นมา ซึ่งที่จริงแล้วหลินหมิงยังผิดหวังเล็กน้อยที่
ไม่ได้ไปแสดงตนต่อหน้าหลินเสี่ยวต้าว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ เขาแทบ
จะอดที่จะไปเจอหน้ามันไม่ไหว
" อย่างไรหรือ ?..ท่านอาจารย์ "
" เจ้าจาได้รึไม่คากล่าวของหลินฮ่าวก่อนจากไป "
หลินหมิงห้วนนึกถึงคากล่าวของหลินฮ่าวในช่วงก่อนที่สติของ
เขาจะหมดลงไปพร้อมกับทาท่าครุ่นคิด
" อีก.. 6 เดือน "
" ใช่นั้นคือโอกาสของเจ้าอย่างแท้จริง !...ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
จะมีการทดสอบรุ่นเยาว์ในเมืองฟานชูแห่งนี้ซึ่งมันถูกจัดขึ้นทุกๆ 1
ปีโดยจะมีขุนผลจากเมืองหลวงมาทาการคัดเลือก "
หลินหมิงจมอยู่ในห้วงความคิดเมืองฟานชูแห่งนี้เป็นหนึ่งใน
อาณาเขตของอาณาจักรวายุคราม และด้วยการเป็นเมืองรอบ
นอกนั้นทาให้เมืองแห่งนีต้ ้องเผชิญหน้ากับศัตรูต่างอาณาจักรอยู่
บ่อยครั้ง ซึ่งนั้นทาให้ภายในเมืองแห่งนี้ย่อมมีความแข็งแกร่งมาก
อยู่ไม่ใช่น้อยเห็นได้จากอาจารย์สาวสวยของเขาและบิดาของเขา
เป็นต้น
แต่ถึงอย่างนั้นการถูกคัดเลือกจากขุนผลในเมืองหลวงนั้นเป็น
ความหวังสาหรับคนรุ่นเยาว์โดยมากเพราะแม้ว่าพวกเขาจะมี
สถานะทางตระกูลที่ดี แต่ถึงอย่างไรซะทางเมืองหลวงนั้นกล่าวได้ว่า
เป็นที่ฝึกฝนสาหรับอัจฉริยะรุ่นเยาว์โดยแท้จริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
บิดาของเขาและอาจารย์สาวสวยของเขาก็คือหนึ่งในศิษย์เก่า
สถานที่แห่งนั้น
" โอ้ "
" แม้ว่าอายุของเจ้าจะยังน้อยไปอยู่มากและระดับพลังของเจ้า
ยังคงต่ากว่าที่ระดับคนทีท่ ั่วไปที่จะสามารถผ่านการทดสอบไปได้แต่
ตัวข้านั้นรู้ดีว่าด้วยระดับของเจ้าในตอนนี้ผู้ที่มีพลังขั้นที่ 8 ก็คงจะ
ไม่ใช่คู่มือเจ้าอีกต่อไป ดังนั้นข้าจึงเห็นว่านี้เป็นโอกาสดีสาหรับตัว
เจ้าเป็นอย่างมาก "
" ศิษย์เข้าใจแล้วขอรับ "
" เอาล่ะงั้นเจ้าก็จงมั่นฝึกเสียให้มากเวลา 6 เดือนอาจดูมากแต่
มันก็น้อยเช่นเดียวกัน "
ก่อนที่อาจารย์สาวสวยของเขาจะจากไปนางให้คาแนะนากับ
หลินหมิงเล็กน้อยเกี่ยวกับทักษะ [ ก้าววายุ ] ที่นางได้ให้แก่หลินห
มิง เดิมทีนางตั้งใจที่จะให้หลินหมิงตั้งใจศึกษาด้วยตนเองแต่เมื่อ
นางได้เห็นนิสัยส่วนหนึ่งของศิษย์นางผู้นี้ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเป็น
คนที่ไม่มีความกลัวต่อสิ่งใด ซึ่งมันอาจทาให้เขาพบเจอกับอันตราย
เช่นนี้อีก
ดังนั้นนางจึงเลือกให้เขาพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็วแต่ไม่มากจน
เกิน นางจะให้เพียงแนวทางสาหรับการพัฒนาเท่านั้นพร้อมกับ
สนับสนุนในเรื่องต่างๆตามสมควรนี้คือสิ่งที่ทาให้อัฉริยะสามารถ
เติบโตไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แน่นอนว่าที่ไม่เคยรับ
ศิษย์ใดมาก่อนเหตุใดจึงสามารถเรียนรู้เรื่องเหล่านี้
นั้นก็เพราะว่าครั้งหนึ่งนางเองก็เคยมีสถานะใกล้เคียงกับหลินห
มิง และนางก็ได้เข้ารับเลือกการทดสอบเพื่อไปฝึกฝนตนที่เมือง
หลวง มีหลายคนที่เรียกที่แห่งนั้นว่าสวรรค์ปแห่งการฝึกฝนแต่มันก็
เป็นนรกได้เช่นเดียวกัน การแก่งแย่ง การแข่งขัน การเอาชนะ ล้วน
เป็นสิ่งที่ผู้ที่สามารถผ่านการคัดเลือกนั้นย่อมมีในตัวตนของพวกเขา
และพวกเขาจะไม่ยอมตกอยู่เบื้องล่างโดยนั้นเป็นเหตุให้พวกเขา
สามารถพัฒนาตนได้อย่างต่อเหนื่อง
' เอาล่ะ '
ภายในลานฝึกหลังจากหลินหมิงได้รับคาแนะนาจากอาจารย์
สาวสวยของเขาหลินหมิงไม่รีรออีกต่อไป หลินหมิงใช้เวลาทั้งวันทา
ความใจเกี่ยวกับทักษะ [ ก้าววายุ ] หลินหมิงรับรู้ได้ว่าตัวเขา
สามารถรับรู้แรงลมโดยรอบตัวและต้องใช้ลมเหล่านี้ในการ
เคลื่อนไหว หลินหมิงพยายามรับรู้การเคลื่อนที่ของ ลม ในรูปแบบ
ต่างๆ
หลังจากหลินหมิงเริ่มจับจุดบางอย่างได้นั้นมันทาให้หลินหมิงรู้
ว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่ดมี ากเพียงใด มันไม่ใช่ทักษะประเภทที่ต้อง
ใช้พลังปราณจานวนมากในการเคลื่อนที่ แต่มันใช้พลังธรรมชาติ
เป็นตัวคอยเสริมในการเคลื่อนของตนเอง มันทาให้เขาสามารถ
เคลื่อนที่ได้อย่างสงบ
หลินหมิงสามารถพบได้วา่ มันเริ่มมีการแลกเปลี่ยนพลังงานที่พื้น
ใต้เท้าของเขาเข้ามาสู่ภายในร่างกายเพื่อทาให้ร่างกายของเขา
เคลื่อนที่
ฟุบ !
หลังจากผ่านไปสองชั่วยามแม้ว่ามันอาจไม่เรียกได้ว่าสาเร็จใน
วิชานี้แต่มันก็เป็นก้าวเล็กๆที่ทาให้ตัวเขาพัฒนาขึ้นไปอย่างมาก
ความเร็วของหลินหมิงในตอนนี้อาจเพิ่มขึ้นราวเกือบ 10
เปอร์เซ็นต์แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทาความเข้าใจในเนื่อหาของมัน
ได้ทั้งหมดและยังคงไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มทีก่ ็ตาม
หลินหมิงใช้เวลาฝึกถึงจนช่วงเวลาค่าเขาจึงกลับไปที่ห้องของ
เขาพร้อมกับร่างของหญิงสาวสามคนที่ปรากฎตัวอยู่ภายในห้อง
ของเขา

ตอนที่ 35
ร่างของหญิงสาวทั้งสามกาลังนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อยเพื่อรอ
การกลับมาของหลินหมิง หลังจาหที่พวกนางได้รว่ มรักกับหลินหมิง
แล้วนั้นมันเป็นสิ่งที่ทาให้พวกนางมีความสุขเป็นอย่างมาก พวกนาง
จึงคาดหวังว่าหลินหมิงจะมอบความสุขเช่นนี้ให้แก่พวกนางไปใน
ทุกๆวัน
แน่นอนว่าแม้ในช่วงแรกพวกนางจะมีอาการเจ็บจากการที่ร่อง
สวาทของพวกนางถูกจู่โจมอย่างน่ากลัวแต่มันก็ยงั ฟื้นตัวได้ และดู
เหมือนว่ามันจะฟื้นตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆหลังจากร่วมรักกับคุณชายของ
พวกนางคนนี้
" คุณชาย ! "
" พวกเจ้า ? "
หลินหมิงนั้นแต่เดิมเขาตั้งใจจะใช้เวลาในช่วงกลางคืนนี้ศึกษา
ตาราเกี่ยวกับทักษะปรุงยาเพิ่มสักเล็กน้อยเพื่อที่จะทาให้อาจารย์
สาวสวยของเขาได้พอใจ แต่เมื่อได้เห็นภาพของสามสาวที่นั่งรอการ
กลับมาของเขาด้วยสายตาคาดหวังในบางสิ่งบางอย่างมันแทบจะ
ทาให้หลินหมิงสะบัดกาหนดการในตอนแรกทิ้งไปในทันที
ในตอนนี้เพียงแค่เขาเห็นหน้าพวกนางหรือคิดถึงพวกนางทั้ง
สามคนนี้มันก็ยากที่จะทาให้เขาไม่หวนคิดถึงถึงช่วงเวลาอันแสนเร่า
ร้อนกับพวกนาง อวัยวะของหลินหมิงที่ส่วนล่างมีการตอบสนองดี
ยิ่งกว่าส่วนใดในร่างกาย มันแทบจะตอบสนองในทันทีที่ในใจของ
หลินหมิงพลันคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น
" ข้านึกว่าพวกเจ้าต้องใช้เวลาพักตัวสักหน่อย ? หรือว่าพวก
เจ้าหายเจ็บแล้ว ? "
" ในตอนนี้พวกข้าทั้งสามนั้นรู้สึกดีมากขึ้นแล้วเจ้าคะ...หาก
คุณชายต้องการให้พวกข้าปรนณิบัติรับใช้พวกข้าก็พร้อมเจ้าคะ "
เป็นซื่อโฉวที่เป็นคนกล่าวตอบรับคาของหลินหมิง โดยมีหญิง
สาวสองพี่น้องพยักหน้าตอบรับอย่างไม่มีทที ่าปฎิเสธ มันราวกับว่า
ในตอนนี้ไม่ใช่ทางตัวของหลินหมิงที่ต้องการการปรณนิบัติแต่
กลับกันเมื่อดูจากท่าทางของหญิงสาวทั้งสามแล้วพวกนางคง
คาดหวังในตัวหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อย
" อ่า งั้นข้าจะให้พวกเจ้าทาตามใจชอบแล้วกัน "
หลินหมิงเมื่อเดินไปนัง่ ที่เตียงพร้อมกับกล่าวออกมาและดูท่าที
ของพวกนางไปด้วย. มันเห็นได้ชัดว่าพวกนางมีท่าทีตอบสนองทีท่ า
ให้เขาอดที่จะยิ้มไปไม่ได้มันราวกับว่าพวกนางเป็นหญิงสาวตัวน้อย
ที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นขนมหวานแสนอร่อยจนพวกนางตาเป็นประกายไม่
เว้นแม้แต่ซื่อโฉวทีส่ มควรผ่านประสบการณ์มาพอสมควร
หญิงสาวสองพี่น้องเข้าประกบบริเวณระหว่างขาของหลินหมิง
ทั้งสองข้างโดยที่ในตอนนีซ้ ื่อโฉวได้ขึ้นมาที่เตียงและเริ่มทาการ
เล้าโลมไปที่บริเวณใบหน้าใบหูของหลินหมิงอย่างเร้าร้อน
หญิงสาวสองพี่น้องพวกนางทาการปลดเสื้อผ้าส่วนล่างของ
หลินหมิงออกด้วยความรวดเร็ว ทวนมังกรขนาดใหญ่ปรากฎต่อ
หน้าพวกนางอีกครั้ง เช่นเดียวกันกับหลินหมิงไม่ต้องสงสัยเลยว่า
พวกนางจะมีอารมณ์ความต้องการมากเพียงใด
มันถึงขนาดที่ว่าเมื่อพวกนางได้เห็น และได้ดมกลิ่นอบอวนของ
ทวนมังกรแท่งนี้แล้วนั้นมันถึงกับทาให้ภายในร่องสวาทของพวก
นางรู้สึหเกิดอาการปั่นปวนขึ้นมาในทันที เมื่อพวกนางทั้งสองค่อยๆ
ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างเชื่องช้าผิดกับ
ทางด้านซื่อโฉวแต่ว่ามันก็กระตุ้นอารมณ์ของหลินหมิงได้เป็นอย่าง
ดี
ทักษะการปรนณิบัติเหล่าบุรุษนั้นเป็นสิ่งที่หญิงสาวควรมี
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ทักษะของพวกนางทั้งสามคนนี้หลินหมิงเชื่อว่า
หากมีชายใดได้เจอการลูบไล้ทวนมังกรของเฟล่าบุรุษพวกเขา
เหล่านั้นคงต้องเสียน้าขาวขุ่นเป็นจานวนมากภายในเวลาไม่นาน
เพราะพวกนางไม่ได้ใช้การลูบไล้ธรรมดาๆ แต่มอื อีกข้างหนึ่ง
ที่ว่างอยู่ของพวกนางนั้นกาลังสัมผัสไปที่ร่องสวาทที่เปียกแฉะไป
ด้วยน้ารักใสๆของหญิงสาวมันจึงทาให้พวกนางครางออกมาอย่าง
ไม่หยุดปาก
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกนางทาไปทั้งหมดนี้นั้นไม่ได้เกิดมาจากการ
ฝึกฝนหรือการเรียนรู้แต่อย่างใดแต่มันเป็นเพียงสัญชาตญาณการ
ตอบสนองโดยธรรมชาติของพวกนางเท่านั้นพวกนางแทบจะไม่
รู้สึกตัวเลยว่าพวกนางกาลังทาอะไรลงไปอยู่บ้าง พวกน่งรู้เพียงแค่
ว่าพวกนางจะต้องตักตวงเวลาแห่งความสุขนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สดุ
ลิ้นของหญิงสาวสองพี่น้องเริ่มตะวัดไปที่ทวนมังกรของหลินห
มิงพร้อมกับมือของพวกนางที่ไล่สัมผัสไปที่บริเวณส่วนที่เหลือ
" อ้า~~ ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะเก่งขึ้นไม่...อื้มมมม~~~ "
เมื่อหลินหมิงเอยปากพูดไปได้เพียงไม่กี่คาริมฝีปากของเขาก็ถูก
ซื่อโฉวประกบเข้าให้อย่างเร้าร้อน ร่างกายอันแสนนุ่มนวลของหญิง
สาวประกบชิดร่างของหลินหมิง มันทาให้หน้าอกขนาดภูเขาใหญ่ยัง
อายแนบชิดร่างของหลินหมิงด้วยเช่นกัน
การจู่โจมในครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาเพราะว่ามันเป็นศึกษา
ภายในปากของหลินหมิงลิ้นของนางเข้าพัวพันกับลิ้นของหลินหมิง
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังนับได้ว่าเป็นผู้ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย
" อ้า ~~!! "
มือของหลินหมิงนั้นเคลื่อนไหวไปเองโดยธรรมชาติเข้สสัมผัส
เข้ากับหน้าอกขนาดใหญ่ของนางอย่างเต็มมือ สัมผัสเนียนนุ่มนีม้ ัน
ยากที่จะทาให้หลินหมิงปล่อยมือไปจากมัน หลินหมิงบีบนวด
หน้าอกของซื่อโฉวไปมาพร้อมกับเสียงครางของนางที่ดังเล็ดรอด
ออกมาจากการประกบปากของเขาและนาง
เพียงไม่นานก็ดูเหมือนว่าซื่อโฉวจะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
นางถอดปากออกมาด้วยความเหนื่อยหอบเช่นเดียวกันกับหลินหมิง
ที่ไม่สามารถทนต่อการเล้าโลมของหญิงสาวทัง้ สามนี้ได้อีกต่อไป น้า
ขาวขุน่ จานวนมากถูกปล่อยออกมาเต็มใบหน้าและร่างกายของ
หญิงสาวสองพี่น้อง แต่มนั ดูเหมือนว่าพวกนางไม่มีทีท่ารังเกียจใดๆ
เลยแม้แต่น้อย
ราวกับว่าหากเป็นไปได้พวกนางนั้นกลับต้องการอาบน้าที่เต็มไป
ด้วยน้ารักของหลินหมิงเลยก็ว่าได้
" เดียวพวกข้าทาความสะ่อาดให้เจ้าคะ "
จ๊วบบ จ๊วบบ
เสียงที่เกิดจากการใช้ปากของหญิงสาวทั้งสองดูดกลืนน้ารักของ
เขาไปอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับร่างของพวกนางทั้งสองพี่น้องที่กระตุก
ขึ้นมาพร้อมกันอันเป็นสัญญาณว่าพวกนางนั้นก็ไดเมาถึงขีดจากัด
แล้วเช่นกัน น้ารักใสๆได้ถูกระเบิดออกมาจากการที่พวกนางดูดกลืน
น้ารักของหลินหมิงไปเพียงเท่านั้น
ร่างของหญิงสาวสองพี่น้องถึงกับนั่งลงขาอ่อนลงไปด้วยความ
เหนื่อยจากการเสร็จอันเป็นโอกาศของซื่อโฉวที่จะได้ร่วมรักกับ
คุณชายของนางเสียที ซื่อโฉวขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงพร้อมกับ
นารูสวาทของนางเข้าคลุมทวนมังกรของหลินหมิงในทันที
" อ้าาาาาาาา~~~~~ "
หากเป็นหญิงสาวโดยทั่วไปคงไม่มีใครคิดกล้ามาเช่นนี้ การนา
ทวนมังกนขนาดใหญ่เช่นนี้เสียบเข้าไปในทันทีนั้นไม่ต้องสงสัยเลย
ว่ามันจะสามารถสร้างความเจ็บปวดมากเพียงใดแต่สาหรับซื่อโฉว
นั้นราวกับว่าสมองของนางถูกตัดขาดทางด้านอารมณ์ความ
เจ็บปวดไปเสียแล้ว
" สะ...เสียว...เสียวมากเลยเจ้าคะ...อ้าา~~~ "
นางขึ้นคร่อมพร้อมกัขยับร่างกายอย่างรวดเร็วจนหลินหมิงแทบ
จะสามารถปลดปล่อยน้ารักของเขาออกได้ในทันทีภายในเวลาไม่
นานหลังจากที่เขาได้ปล่อยไปในครั้งแรก
และแล้วในที่สุดระเบิดขาวขุ่นของหลินหมิงก็ถกู ปลดปล่อย
ออกมาในที่สุดพร้อมกับร่างของซื่อโฉวที่แทบจะเป็นลมหมดสติไป
อันเป็นเพราะว่านางทาอะไรที่มันเกินขีดจากัดของตัวเองไปมาก
นั้นเอง

ตอนที่ 36 NC 18+
หลังจากการร่วมรักระหว่างหลินหมิงและซื่อโฉวไปแล้วทาให้
หญิงสาวรู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปในทันทีแม้ว่าที่ผ่านมานางจะเคยทา
กับหลินหมิงได้นานมากกว่านี้เพียงแต่ว่าเพราะคราวนี้นั้นนางทุ่มสุด
ตัวเสียตั้งแต่ตอนแรกจนเป็นเหตุให้ไม่สามารถรับมือกับหลินหมิงได้
นานดั่งก่อนหน้า
" คุณชายเจ้าคะช่วยทากับพวกเราด้วยเถอะเจ้าคะ "
หลินหมิงให้ไปตามเสียงก็พบกับร่างของหญิงสาวสองพี่น้อง
นอนเรียงอยู่พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างของพวกนางแหวกร่องสวาท
เพื่อเปิดทางให้กับหลินหมิงเข้าจู่โจมได้โดยง่าย
สาหรับหลินหมิงที่แทบจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อยแม้ว่า
เขาจะปลดปล่อยน่ารักออกมาภายในเวลาไม่นานจานวนติดๆกัน
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้มันก็ทาให้เขากระโจนเข้าหาพวกนางทั้งสองใน
ทัน เริ่มจากหญิงสาวคนพี่ที่โดนจู่โจมก่อนเป็นคนแรก
" อ้าา~~...ลึกกสุดๆไปเลยเจ้าคะ "
เสียงร้องครางของหญิงสาวดังออกมาในทันทีที่หลินหมิงเสียล
ทวนมังกรของเขาเข้าไปแน่นอนว่ามันเข้าไปได้ยากลาบากกว่าของ
ซื่อโฉวอยู่ไม่ใช่น้อยถึงแม้ว่านางจะเคยร่วมรักกับหลินหมิงมาแล้วก็
ตามที่
" ดูเหมือนว่าเจ้าจะเสร็จแล้ว ? "
หลินหมิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพียงแค่เขาเสียบทวนมังกรของ
เขาเข้าไปได้ไม่นานหญิงสาวคนนี้ก็ถึงกับกระตุกขึน้ มาในทันทีพร้อม
กับหลินหมิงทีส่ ามารถสัมผัสได้ว่าภายในร่องของนางในตอนนี้กาลัง
เปียกแฉะแบบสุดๆ
" จะ..เจ้าคะ "
" แต่เจ้าคงไม่คิดว่ามันจะจบง่ายๆเช่นนี้หรอกใช่ไหม ? "
หญิงสาวผู้พี่สะดุ้งตัวเล็กน้อยหลังจากที่นางได้เห็นการร่วมรัก
อันแสนเร้าร้อนของหลินหมิงกับซื่อโฉวมันก็เป็นเรือ่ งธรรมดาที่มัน
จะทาให้นางรู้สึกเกิดอารมณ์ร่วมเป็นอย่างมาก
" ดะ..เดียวเจ้าคะ...อ้าาา~~~ มะ...มัน...ไว..ไป..แล้วเจ้าคะ..
อร้างงง "
" คุณชายได้โปรดทามันกับข้าด้วย "
หญิงสาวผู้น้องรู้ดีว่าหากนางกล่าวเช่นนั้นกับผู้เป็นนาย
โดยทั่วไปแล้วเท่ากับว่านางกาลังขัดความสุขของพวกเขา และมัน
อาจทาให้นางถูกทาโทษได้แต่สาหรับหลินหมิงนั้นนางไม่คิดว่าเขา
จะเป็นคนอย่างนั้น
" อ่า...ได้สิ "
หลินหมิงใช้นิ้วมือสองนิ้วเข้าจู่โจมหญิงสาวผู้น้องในขณะที่กาลัง
เพลิดเพลินอยู่กับคนพี่ เสียงครางของหญิงสาวทั้งสองยังคงกระตุ้น
อารมณ์ของหลินหมิงได้อย่างดีเยี่ยม
" อ้า~~~มะ...ไม่น่า..เชื่อ..เพียงแค่นิ้ว..ของคุณชาย..ข้าก็เสร็จ...
แล้ว...อร้างงงง~~~ "
" ขะ..ข้า..มะ..ไม่ไหว..แล้วววว...อ้าาาาาา~~~จะ..ระเบิดแล้ว
เจ้าคะ...อร้างงง~~~ "
น้ารักของหลินหมิงถูกปลดปล่อยเข้าใส่หญิงสาวคนพี่ไปอย่าง
ท่วมท้น พร้อมกับร่างของนางที่กระตุกถี่ขึ้นมาในทันทีเช่นเดียวกัน
" เอาล่ะ ต่อไปก็ตาเจ้าแล้วละนะ "
" ตะ..แต่ข้าเพิ่งจะ..สะ...ว้ายย ! "
ไม่ทันทีห่ ญิงสาวผู้น้องจะได้พักเหนื่อยหอบนางถูกหลินหมิง
บังคับให้เปลี่ยนจากท่านอนหงายมาเป็นท่าสุนัข พร้อมกับทวน
มังกรที่เข้าจู่โจมนางจากด้านหลังในทันที
" อึกกกก...อ้าาาา~~~ "
ภายในร่องของนางนั้นอาจไม่ต่างจากพี่สาวของนางมากเท่าใด
แต่เห็นได้ชัดว่าภายในร่องของนางนั้นมีการตอบสนองต่อทวนมังกร
ของหลินหมิงได้อย่างดีเยีย่ ม
" หรือว่าเจ้าชอบท่านี้ ? "
" อ้า~~ มะ..มันเข้าไปลึก...มากเจ้าคะ "
" งั้นข้าจะขยับละนะ "
หลินหมิงเริ่มทาการขยับสะโพกเข้าออกอย่างรวดเร็วด้วยการที่
พวกนางสองพี่น้องนั้นต่างจากซื่อโฉวหลินหมิงยังคงไม่สามารถจู่
โจมพวกนางได้อย่างเต็มกาลังมากนักแต่ถึงอย่างนัน้ หากผ่านไปใน
อนาคตเขาเชื่อว่าพวกนางย่อมต้องตอบสนองต่อเขาได้ดียิ่งกว่าเดิม
อย่างมาก
เพราะเมื่อดูจากอดีตที่ผ่านมานับได้ว่าพวกนางนั้นพัฒนาการ
รับมือกับทวนมังกรของเขาได้รวดเร็วเป็นอย่างมากไม่ใช่เพียงแค่
พวกนางเท่านั้นแม้แต่ซื่อโฉวเองก็ด้วยเช่นกัน
" อ้าาา~~~ ระ..แรง..แรง..เลย..เจ้าคะ "
หลินหมิงทาการขย้าก้อนเนื้อที่บริเวณแก้มก้นของนางไปด้วย
เพื่อทาให้นางรู้สึกผ่อนคลาย แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าประสาท
สัมผัสทั้งหมดของนางในตอนนี้จะดูเหมือนว่ามันถูกนาไปรวมที่จุด
เดียวนั้นก็คือร่องสวาทของนางเสียแล้ว
" นะ..นายท่าน ? "
เป็นซื่อโฉวที่เริ่มกลับมามีสติขึ้นอีกครั้ง หลินหมิงรู้สึกแปลกใจ
กลับคาเรียกของนางที่เปลี่ยนจากคุณชาย เป็น นายท่าน ไปทั้งที่
ก่อนหน้านี้ยังเรียกเขาว่าคุณชายอยู่แท้ๆอาจเป็นเพราะว่านาง
ยอมรับตัวเขาอย่างเต็มใจแล้ว ?
หลินหมิงไม่รอช้าดึงนางเข้ามาประกบปากอย่างดูดดื่ม
" อื้อออออ~~~~~ "
สัมผัสนุ่มนวลที่บริเวณริมฝีปากของนางมันทาให้นางถึงกับได้
สติขึ้นมาเต็มตาเพราะไม่อย่างนั้นนางอาจจะต้องหมดสติไปอีกครั้ง
จากการจู่โจมของนายท่านของนางผู้นี้
" มะ...ไม่ไหว...แล้วเจ้าคะ...อร้างงงงง~~~ "
หญิงสาวคนน้องไม่สามารถทนรับมือกับทวนมังกรของหลินหมิง
ได้อีกต่อไปเมื่อน้ารักของเขาได้พุ่งเข้าสู่ตัวนางจนแทบจะทะลัก
ออกมา
หลินหมิงใช้เวลาอีกสักพักในการจู่โจมซื่อโฉวที่เพิ่งได้สติขึ้น
พร้อมกับวนไปจัดการหญิงสาวสองพี่น้องอีกคนละรอบจนพวกนาง
ต้องนอนหลับหมดสติไปจริงๆด้วยความอ่อนล้า แต่มันกลับตรงข้าม
กลับหลินหมิงที่ราวกับว่าการร่วมรักกับพวกนางนัน้ เป็นการฟื้นฟู
ความเหนื่อยล้าไปเสียอย่างนั้น
หลินหมิงจัดการทาความสะอาดร่างกายให้แกพวกนางเล็กน้อย
เพื่อให้พวกนางสบายตัวถึงอย่างไรพวกนางทั้งสามก็ได้ชื่อว่าเป็น
หญิงสาวของเขาแล้วการดูแลพวกนางเสียบ้างก็ถือเป็นหน้าที่ของ
บุรุษเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นหลินหมิงออกมาภายนอกตรงเข้าไปสู่ตวั เมือง
แน่นอนว่ามันย่อมมีความเสี่ยงทีว่าความลับของตัวเขาอาจถูก
เปิดเผยไปโดยบิดาของเขาแล้วนั้นหลินหมิงจึงตัดสินใจใส่ผ้าคลุม
ปิดบังใบหน้าเล็กน้อย
ภายในตัวเมืองยามดึกนั้นเป็นสถานที่ที่แปลกตาสาหรับหลินห
มิง เพราะว่ามันช่างแตกต่างกลับตอนกลางวันราวกับว่าสถานที่
แห่งนี้เป็นคนละเมืองกันเลยทีเดียว ผู้คนที่สญ
ั จรไปมาโดยรอบแม้
จะมีไม่มากเท่ากับตอนกลางวันแต่มันก็กลับดูรู้สึกมีชีวิตชีวาไปอีก
แบบเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุบังเอิญหรือไม่อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่นั้นที่ออกมา
ภายนอกในยามนี้ล้วนแล้วแต่ปิดบังตัวตนแท้จริงของตนเอาไว้
ทั้งสิ้นนั้นจึงเป็นเหตุให้หลินหมิงไม่ค่อยสะดุดตานักเดิมทีเขาเพียง
ต้องการออกมาเดินเล่นเพียงเท่านั้น
หลินหมิงเดินไปตามทางด้วยความสนใจอย่างไรเสียเขาก็เป็น
เพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่เคยได้รับประสบการณ์เช่นนี้
" นี้เจ้า ! "
ทันใดนั้นหลินหมิงได้ยนิ เสียงเรียกตรงมาที่เขาอย่างเห็นได้ชัด
จากน้าเสียงนั้นเห็ยได้ชัดว่ามันเป็นเสียงของหญิงสาวอย่างไม่ผิด
อย่างแน่นอนและหลินหมิงยังคงคุ้นเคยกับมันเพียงแต่ว่าตัวเขากลับ
นึกไม่ออก
" เจ้าเป็นใคร ? "
หลินหมิงเอยถามเจ้าของเสียงที่คลุมหน้าตัวเองเช่นเดียวกันกับ
เขาดูจากขนาดตัวของนางแล้วนางสมควรมีอายุไม่ต่างจากเขามา
เท่าใด จนในที่สุดเมื่อหลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมโชย
จากตัวหญิงสาวมันก็แทบจะทาให้หลินหมิงนึกถึงตัวตนของนาง
ออกขึ้นมาโดยแทบไม่ต้องมองไปที่รูปร่างของนางอีกต่อไป
" ฉวนยูร์ ? "
" ชู่วว ! อย่าส่งเสียงดังสิตามมานี้เลย ! "
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางจะต้องเป็นหลิวฉวนยูร์อย่างแน่นอน นาง
จับข้อมือของหลินหมิงพร้อมกับลากเขาเดินไปตามทางจนมาถึง
สถานที่เป็นที่ลับสายตาคน

ตอนที่ 37
หลินหมิงที่ถกู มือเนียนนุ่มลากมาที่ลับตาคนมันก็อดไม่ได้ที่จะทา
ให้หัวใจของเขาเต้นระทึกขึ้นมากลิ่นหอมหวนของหญิงสาวผู้งดงาม
ราวกับเทพธิดานางนี้ยังคงลอยล่องเข้าสู่ประสาทของเขาอย่างต่อ
เหนื่อง จนมันแทบจะทาให้หลินหมิงลืมนึกไปเลยว่ามนอดีตที่ผ่าน
นั้นนางได้วางแผนร้ายกับเขาเอาไว้
เมื่อมาถึงจุดที่ไม่มีผู้คนสังเกตเห็นหลิวฉวนยูร์ก็หยุดพร้อมกับหัน
มามองที่หลินหมิงแม้ว่าหลินหมิงจะไม่สามารถสังเกตเห็นใบหน้า
ของนางในยามนี้ได้แต่เขากลับรู้สึกได้ถงึ ความไม่พอใจที่แผ่ออกมา
จากตัวของนาง มันอาจเรียกได้ว่านี้เป็นหนึ่งในทักษะที่ดีเลิศของ
เขาเลยก็ว่าได้หากเป็นเรื่องหญิงสาวแล้วละก็หลินหมิงมีความมั่นใจ
อยู่หลายส่วนว่าเขาจะไม่แพ้บุรุษผู้ใด
" เจ้าออกมาทาอะไรตอนดึกเช่นนี้กัน ? "
น้าเสียงที่กล่าวออกมาของนางนั้นปนไปด้วยความไม่พอใจอย่าง
เห็นได้ชัดซึ่งหลินหมิงผู้เชี่ยวชาญในเรื่องสตรียังคงไม่สามารถทา
ความเข้าใจในจุดนี้ได้
" ข้าเพียงแค่ออกมาเดินเล่นเพียงเท่านั้น....แล้วเจ้าละหรือว่า
เจ้าจะแอบตามข้ามา ? "
ประโยคหลังหลินหมิงถามออกด้วยน้าเสียงหยอกเย้าเพื่อทาให้
นางคลายความตรึงเครียดลงไปบ้างเพียงแต่ว่าท่าทีของนางนั้น
เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
" บะ..บ้าใครจะแอบตามเจ้าออกมากัน..ขะ..ข้าก็แค่..แค่ออกมา
เดินเล่นเหมือนกันก็เท่านัน้ "
" หืมมมม "
"เดียวเถอะแล้วนี้เจ้าจะทาท่าสงสัยไปทาไมกัน..จริงๆแล้วมัน
ควรเป็นข้าที่ต้องสงสัยในตัวเจ้ามากกว่าไม่ใช่รึ "
" สงสัยข้า ? "
หลินหมิงรู้สึกสับสนกับอาการท่าทีของฉวนยูร์เล็กน้อย เพียงแต่
ว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกนางสักเล็กน้อยแม้ว่าจะไม่ได้เห็น
ใบหน้าของนางเพียงแต่ว่าการแสดงท่าทีของนางในตอนนี้นับว่า
ต่างจากปกติโดยทั่วไปโดยสิ้นเชิง
" ก็จริงๆแล้วเจ้าคงออกมาเที่ยวราตรีดั่งเช่นบุรุษอื่นล่ะสิ...ทั้งๆ
ที่..... "
แน่นอนว่าแต่เดิมนั้นหลินหมิงย่อมมีเป้าที่การเที่ยวราตรีหรือหอ
นางโลมบางสักครั้ง แต่เมื่อเขาได้ออกมาเห็นบรรยากาศภายในเมื่อ
ยามดึกมันก็ทาให้เขารู้สึกผ่อนคลายจนลืมเรื่องพวกนั้นไปเสียสนิท
" ข้าเพียงแค่ออกมาสูดอาการภายนอกเล่นเพียงเท่านั้นจริงๆ..
หากเจ้าไม่เชื่อข้ายินดีให้เจ้าพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการของเจ้า "
" พิสูจน์ ? "
หลินหมิงเริ่มสับสนแล้วว่าในตอนนี้นางรู้สึกกับเขาอย่างไรกันแน่
ไม่ใช่ว่านางเกลียดเขามากเช่นนั้นหรือ ? หรือเป็นเพราะของรางวัล
ที่เขาให้แก่นางไปจะทาให้นางรู้สึกดีกับตัวเขาขึ้นมา ?
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่อาจทาความเข้าใจกับเหตุผลเหล่านั้นแต่
การได้พูดคุยกับหญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดาและได้สูดดมกลิ่น
ของนาง ฟังเสียงไพเราะของนางก็นับได้ว่าเป็นทางฝ่ายของเขาที่
คุ้มค่า
" เจ้าแน่ใจนะว่าจะให้ข้าพิสูจน์ได้ "
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับเปิดผ้าคลุมเผยให้เห็นใบหน้าอัน
งดงามราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ผิวพรรณอันงดงามเนียนนุ่ม
สะท้อนกับแสงจันทร์ยิ่งส่องประกายให้เห็นชัดถึงความงามของนาง
มากยิ่งขึ้นไปอีก
" แน่นอน "
" งั้นเจ้าก็หลับตาลง....ข้าบอกให้หลับตาลงอย่างไรเล่า "
หลินหมิงหลับตาลงไปอย่างช่วยไม่ได้แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจ
ว่านางไม่ได้มีความคิดร้ายต่อเขาอีกต่อไปเพียงแต่ว่ามันก็อดไม่ได้ที่
หลินหมิงจะหวาดระแวง
หลินหมิงสัมผัสได้ว่าผ้าคลุมของเขาค่อยๆถูกเปิดออกโดยมือ
ของหญิงสาว โดยที่เขาไม่ได้เห็นใบหน้าของนางยามนี้ที่ขึ้นสีแดงระ
เรื่อ นางมองไปที่ใบหน้าของหลินหมิงด้วยความเปี่ยมสุข ในความ
จริงแล้วหลังจากที่นางได้รับของจากหลินหมิงมันทาให้หัวใจของ
นางรู้สึกผองโตจนนางแทบจะนอนไม่หลับ ความรูส้ ึกอบอุ่นในหัวใจ
ของนางนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จนดึกวันนี้ที่นางนอนไม่หลับนางพลันเห็นร่างของบุรุษส่วมผ้า
คลุมออกจากตานักของประมุขสมาคมซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านั้น
จะต้องเป็นหลินหมิงอย่างแน่นอน นางจึงรีบแอบตามไปอย่าง
โดยเร็ว
การเที่ยวราตรีของบุรุษนั้นอาจเป็นเรื่องทั่วไปในยามที่พวกเขา
รู้สึกเบื่อหน่ายกับภรรยาของเขาเหล่านั้นหรือแม้กระทั่งเหล่าบุรุษวัย
เยาว์ที่ใช้เวลากลางวันในกลางขัดเกลาบ่มเพาะฝีมือในยามดึกก็คือ
ช่วงเวลาผ่อนคลายของพวกเขาเช่นเดียวกัน
หลิวฉวนยูร์จ้องมองใบหน้าของหลินหมิงด้วยความพึงพอใจ
แม้ว่าใบหน้าของหลินหมิงจะงดงามจดจัดได้ว่าเป็นบุรุษงาม แต่ถึง
อย่างนั้นหากเทียบกับบุรุษที่เคยเข้ามาหวังหมายปองในตัวนางแล้ว
นั้นนับได้ว่าหลินหมิงนั้นเป็นรองอยู่หลายคนเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นมนสายตาของนางใบหน้าของหลินหมิงก้ยังคง
มอบความสุขให้แก่นางได้มากเสียยิ่งกว่าบุรุษเหล่านั้นรวมกันเสีย
อีก
" ข้าลืมตาได้แล้วหรือยัง ? "
" ยังข้ายังเตรียมตัวไม่เสร็จเลย "
เมื่อหลินหมิงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานเพียงแต่ว่ามันยังคงไม่เกิด
อะไรขึ้นเขาจึงได้กล่าวถามนางดูแต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการสร้าง
ความไม่พอใจให้แก่นางเข้าไปอีก
หลิวฉวนยูร์ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆกับใบหน้าของหลินห
มิงนางสามารถสูดดมกลิน่ กายของหลินหมิงได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงเขาไม่กล้าเปิดสายตามองออกอย่าง
แน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นที่เข้ามาในจมูก
ของเขากลิ่นกายของหญิงสาวที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
จุ๊บบ
สัมผัสเนียนนุ่มทีป่ ากของหลินหมิงทาให้เขาตาสว่างขึ้นมา
ในทันที ภาพที่เห็นคือภาพของหญิงสาวผู้งดงามกาลังประกบปาก
เข้าอยู่ด้วยใบหน้าของนางที่ขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด
ริมฝีปากเนียนนุ่มของนางราวกับว่ามันสามารถทาให้ร่างกาย
ของหลินหมิงลอยคว้างไปในอากาศได้เลยทีเดียว
ลิ้นของหลินหมิงเริ่มตอบสนองไปตามธรรมชาติและดูเหมือนว่า
นางจะไม่มีทีท่าต่อต้านด้วยเช่นเดียวกัน ร่างทั้งสองค่อยๆโอบกอด
กันอย่างเชื้องช้าราวกับว่าในโลกใบนี้มีเพียงพวกเขาทั้งสอง
มือของหลินหมิงโอบกอดไปที่แผ่นหลังของนางสัมผัสเนียนนุ่มที่
มือมันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่าหญิงสาวสองพี่น้องเสียอีก
เช่นเดียวหลิวฉวนยูร์ก็กาลังโอบกอดหลินหมิงไว้ดว้ ยสีหน้าเปี่ยมสุข
ลิ้นทั้งสองยังคงพัวพันกันไปมาราวกับว่าพวกมันไม่ต้องการแยก
จากกัน
อื้ออออออออ~~~~~~~~~~~
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดที่ร่างทั้งสองยังคงกอดชิดติดกัน
จนกระทั่งหลิวฉวนยูร์ไม่อาจสามารถหายใจได้อย่างถนัดนางจึงถอน
ปากออกมาด้วยความเสียดายแต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยงั คงกอดหลินห
มิงเอาไว้พร้อมกับเอาหน้าซุกลงที่แผ่นอกของหลินหมิงด้วยความ
เอียงอาย
" แล้วการทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง "
" นี้เจ้ายังถามถึงเรื่องนั้นอีกหรอ "
นางค่อยๆเงยนางมองหลินหมิงอีกครั้งด้วยความขวยเขินตั้งแต่
เกิดนี้เป็นครั้งแรกที่นางถูกโอบกอดอย่างใกล้ชิดโดยบุรุษ แต่มันก็
เป็นความอบอุ่นที่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยเช่นเดียวกัน นางมี
ความรู้สึกว่าอยากให้ช่วงเวลาหยุดลงเพียงเท่านี้
ดวงตาของชายหญิงทั้งสองที่สบตากันอีกครั้งราวกับว่าต่างรับรู้
อารมณ์ของอีกฝ่าย หลังจากนั้นการประกบปากอันร้อนแรงก็เริ่มขึ้น
อีกครั้งพร้อมกับมือทั้งสองข้างของทั้งสองคนที่โอบกอดร่างของอีก
ฝ่ายเอาไว้อย่างแนบแน่น

ตอนที่ 38
ร่างของหลินหมิงและหลิวฉวนยูร์ค่อยๆแยกจากกันอย่างช้าๆ
โดยทียังคงมีร่องรอยของการจูบอันเร้าร้อนของพวกเขาเป็นน้าลาย
ยืดออกมาเป็นทางยาวระหว่างริมฝีปากทั้งสอง หลิวฉวนยูร์นั้น
แม้ว่าสาหรับนางนี้จะเป็นการจูบเพียงครั้งแรกก็ตามแต่นางสามารถ
ทาให้หลินหมิงพอใจได้มากกว่าการจูบกับหญิงสาวที่ผ่านเป็นอย่าง
มาก
" แฮ่ก ๆ ๆ "
เสียงหอบหายใจอ่อนๆของหลิวฉวนยูร์รวมกับกริยาท่าทางของ
นางในตอนนี้มันทาให้หลินหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหัวใจเต้นโครม
ครามจนแทบจะระงับร่างกายของตัวเองเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป แต่
ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องพยายามควบคุมตนเองเอาไว้ แน่นอนว่า
ในตอนนี้หลินหมิงเริ่มเข้าใจความรู้สึกที่นางมีต่อเขาได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกันกับหลิวฉวนยูร์ด้วยเช่นกัน
ร่างทั้งสองยังคงโอบกอดกันอย่างหลวมๆไม่แยกจากกันไปไหน
แม้ว่าหลินหมิงจะปราถนาในสิ่งที่มากกว่านี้แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องดี
นักหากเขาจะทาเช่นนั่นหากนางเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาดังเช่น
ซื่อโฉวและหญิงสาวสองพี่น้องในตอนนี้หลินหมิงคงไม่มีการรีรอที่
จะเข้าทาการจู่โจมแม่นางเทพธิดาสาวสวยผู้นี้ในทันที เพียงแต่ว่า
ฐานของนางนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
หากหลินหมิงทาการเข้าจู่โจมนางในทันทีนั้นมันอาจเป็นการ
สร้างความไม่พอใจให้กับตัวนางเสียมากกว่าต้องเข้าใจว่าแม้ว่านาง
จะมีความรู้สึกที่ดีต่อหลินหมิงแต่นางคงไม่ยอมเป็นเพียงเครื่องบา
เร่อของเขาเพียงเท่านั้นอย่างแน่นอน หลินหมิงก้มลงมองใบหน้าอัน
งดงามพร้อมกับสูดดมกลิน่ หอมของหญิงสาวเอาไว้โดยไม่ให้มีการ
เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์สาหรับเขาช่วงเวลาเช่นนี้นั้นมันช่าง
หากได้ยากยิ่ง
" อะ..อืม..ข้าไม่เป็นไรแล้ว "
จากการที่นางต้องโดนหลินหมิงจ้องมองเป็นเวลานานมันก็ทาให้
หลิวฉวนยูร์รู้สึกเอียงอายขึ้นมาจนนางแทบจะไม่กล้าสบตากับ
หลินหมิงนางค่อยๆผลักร่างของหลินหมิงให้แยกจากตัวนางด้วย
ความเสียดายอยู่ในใจ นางไม่สามารถกระทาการใดๆไปได้มากกว่า
นี้ด้วยชื่อเสียงของตระกูลนางด้วยการกระทาเช่นนี้หากมีคนรับรู้เข้า
มันอาจทาให้ชื่อเสียงของตระกูลนางนั้นต้องเสื่อมเสียยิ่งนางได้ชื่อ
ว่าเป็นคู่หมั้นของหลินชูอยู่แล้วด้วย
" เจ้าต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ "
หลิวฉวนยูร์รวบรวมความกล้าขึ้นมาสบตากับหลินหมิงอีกครั้ง
นางมีความตั้งใจแน่วแน่มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกภายในใจของ
นางที่ค้างคามานานกับหลินหมิง แต่ในเมื่อนางได้ทาการใกล้ชิดและ
จูบกับหลินหมิงไปแล้วมันก็เหมือนกับเป็นการปัดเป่าความรู้สึก
เหล่านั้นทิ้งไปจนหมดสิ้นไปเสียแล้ว
" แต่พวกเราแค่จูบกันเพียง... "
" หรือเจ้าจะปฎิเสธ ? "
น้าเสียงเย็นเรียบดังสวนขึ้นมาก่อนที่หลินหมิงจะทันได้กล่าว
อะไรแม่เทพธิดาสาวสวยผู้นี้ยังคงมีนิสัยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ในสายตาของหลินหมิง
" ไม่แน่นอน !...เมื่อถึงวันนั้นข้าจะทาให้เจ้ากลายเป็นของข้าทั้ง
กายและใจเชียวล่ะ "
นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะตอบนางกลับมาด้วยความรู้สึก
มั่นคงน้าเสียงของหลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความมัน่ ใจอย่างมาก นาง
รู้ดีว่าการที่หลินหมิงจะรู้สึกชอบพอกับนางนั้นเท่ากับว่าตัวของ
หลินหมิงนั้นอาจต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหลิน ! แต่ถึงอย่างนั้นนาง
ก็คาดหวังว่าหลินหมิงจะตอบรับความรู้สึกของนางด้วยความรู้สึก
จากใจอย่างแท้จริงแล้วมันก็เป็นเช่นนั้น
ด้วยสถานะของหลินหมิงในตอนนี้นั้นอาจเรียกได้ว่าสูสีกับหลินชู
ที่เป็นคู่หมั้นของนางเพียงแต่ว่าพื้นเพดังเดิมของหลินหมิงนั้นใน
สายตาของนางนั้นเขาเป็นเพียงสามัญชนนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่บิดา
ของนางจะยอมรับในตัวของหลินหมิง ดังนั้นทางเดียวที่หลินหมิงจะ
สามารถเอาชนะใจบิดาของนางได้นั้นก็คือการแสดงความแข็งแกร่ง
ของเขาออกมาให้เป็นที่ประจักษ์
สาหรับการประลองภายในสมาคมนั้นไม่ได้เปิดให้
บุคคลภายนอกเข้าชมมากเท่าที่ควรนั้นจึงเป็นเหตุให้ชื่อเสียงของ
หลินหมิงนั้นยังคงไม่มากพอ และหากเมื่อดูจากภายนอกนั้นหลินห
มิงเป็นเพียงบุคคลที่มีพลังเพียงขั้นที่ 6 เท่านั้นแน่นอนว่ามันไม่ได้
เรียกว่าต่าต้อยกลับกันมันก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจระดับหนึ่งเพียง
เท่านั้น มันยังคงไม่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่บิดานางได้
มากเท่าที่ควร
" ฮึ่ม...แล้วข้าจะคอยดู..หากเจ้าทาสาเร็จมิว่าจะเป็นเรื่องใดข้าก็
จะยินยอมตามเจ้าอย่างไม่มีข้อแม้ "
นางพูดออกมาด้วยน้าเสียงจริงจังแต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดไม่ได้ที่
นางจะรู้สึกอายกับคากล่าวของนางที่กล่าวออกไป แน่นอนว่านาง
ย่อมเป็นหนึ่งในคนที่รู้ความสามารถของหลินหมิงดีกว่าใคร นางรู้ดี
ว่าตัวของหลินหมิงนั้นมีศกั ยภาพพอที่จะสร้างความตื่นตะลึงให้กับ
ผู้คนได้อย่างแน่อน หลินหมิงแทบจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นแทบไม่
ไหวเมื่อเขาพลันจินตการถึงยามค่าคืนที่มีเพียงเขาและนางอยู่ร่วม
ชายคาเตียงเดียวกันและร่วมขับร้องบรรเลงเพลงรักไปด้วยกันอย่าง
ยาวนานเมื่อถึงยามนั้นเขาตั้งใจจะไม่ให้นางได้พักไปทั้งคืนเลย
ทีเดียว
" เจ้าตัวร้ายนี้เจ้ากาลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ข้ารู้นะ ฮึ่มม "
หลิวฉวนยูร์หยิกแขนของหลินหมิงเล็กน้อยด้วยความมั่นไส้ และ
มันยังเป็นการกลบเกลื่อนความอายของนางไปในตัวอีกด้วย
" ข้าเพียงแค่แทบจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วเท่านั้น "
จุ๊บบ
ริมฝีปากของนางประกบเข้ากับหลินหมิงอีกครั้งแต่ในครั้งนี้ไม่ได้
มีการแลกลิ้นดังเช่นที่ผ่านมาเป็นการจูบเพียงเวลาไม่นานเพียง
เท่านั้น
" งั้นนี้เป็นของรางวัลเล็กน้อย "
ร่างทั้งสองยังคงโอบกอดกันโดยไม่แยกจากกันเลยตั้งแต่ต้น ถึง
นางจะกล่าวว่านี้เป็นรางวัลสาหรับหลินหมิงแต่หลินหมิงกับรู้สึกว่า
นี้มันเป็นการทรมานเสียมากกว่าเพราะว่าการที่นางทาเช่นนี้มันยิ่ง
ทาให้ตัวของหลินหมิงนั้นระงับอารมณ์ได้ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
" ดูเหมือนว่าข้ายังคงต้องการอีกสักเล็กน้อย "
" ในตอนนี้เจ้าสามารถรับผลประโยชน์ได้เพียงเท่านี้ หากเจ้า
ต้องการเพิ่มเจ้าเพียงแค่ต้องรีบแสดงความสามารถออกมาเพียง
เท่านั้น....ข้าคงต้องไปแล้ว...หากเจ้าไม่ทาตามที่พดู ข้าไม่ปล่อยเจ้า
ไว้แน่ "
" แน่นอนข้าจะทาตามที่ว่าที่ภรรยาของข้ากล่าวอย่างแน่นอน
"
" จะ...เจ้า...ข้าจะไปแล้ว แล้วก็อย่ากลับดึกมากนักล่ะ "
ท้ายประโยคที่นางกล่าวออกมานั้นแฝงไปด้วยความนัย
บางอย่างซึ่งหลินหมิงเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี ในความเป็นจริงแล้ว
หลิวฉวนยูร์เองนางก็ยงั ไม่ได้ต้องการจากหลินหมิงไปในตอนนี้
เพียงแต่ว่าหากนางใช้เวลาอยู่ใกล้กับหลินหมิงไปมากกว่านี้นางคง
ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไปเช่นเดียวกันนางจึงต้องตัดใจ
จากหลินหมิงมาก่อน
หลินหมิงมองร่างของหลิวฉวนยูร์จากไปด้วยได้รอยยิ้มพร้อมกับ
ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจในตอนนี้หลินหมิงมีเป้าหมายอีกอย่างต้องทา
เพิ่มเติมเสียแล้ว เขาต้องนาแม่เทพธิดาสาวผู้นี้มาครอบครองให้ได้
แน่นอนว่าการที่เขาสามารถครอบครองนางได้มันก็เหมือนเป็นการ
ตบหน้าตระกูลหลินเข้าให้อย่างจัง เขาอยากจะบันทึกภาพการจูบ
อันดูดดื่มของเขาและนางเอาไว้แล้วส่งไปให้หลินชูดู ไม่ต้องสงสัย
เลยว่ามันคงแทบจะกระอักออกมาเป็นสายเลือด หญิงสาวทีม่ ันใช้
เวลาตามจีบอยู่นานการได้พูดคุยและเห็นหน้านั้นคือสิ่งที่ตัวมันได้
มากที่สุดแล้วจากตัวนางไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแตะต้องตัวนางเลย
หลินหมิงเดินออกมายังสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนอีกครั้งในตอนนี้
สายตาของหลินหมิงกวาดตามองก็พบว่าส่วนใหญ่ร้านโดยรอบจะ
เป็นหอนางโลมที่เปิดตอนรับเหล่าบุรุษที่เดินเที่ยวไปมาตามระแวก
นี้เป็นเสียมาก โดยรองลงมาก็คือร้านสุราที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความ
นิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกัน
หลินหมิงเสาะหาหอนางโลมสักแห่งเพื่อที่เขาจะสามารถ
ปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างคาจากแม่เทพธิดาสาว มันคงเป็นไปไม่ได้
สาหรับตัวของหลินหมิงทีจ่ ะปล่อยให้อารมณ์มันค้างคาเอาไว้เช่นนี้
แต่แล้วทันใดนั้นสายตาของหลินหมิงก็เหลือบมองไปเห็นร่างของ
บุคคลที่เขาคุ้นเคย

ตอนที่ 39
ในระหว่างที่หลินหมิงกาลังกรอกตามองไปยังบริเวณร้านค้า
ต่างๆสายตาของเขาเหลือบมองไปเห็นร่างที่คุ้นเคย หลินหมิงแอบ
ติดตามนางไปที่หอนางโลมแห่งหนึ่ง เป้าหมายของหลินหมิงนั้น
เปิดเผยใบหน้าออกมาอย่างชัดเจนมันเป็นใบหน้าของหญิงสาวทีม่ ี
อายุราว 30 ปี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงเรียกได้ว่ามีความงามอยู่ไม่
น้อยด้วยของนางในวัยนี้
เพราะหากไม่เช่นนั้นแล้วนางคงไม่ได้เป็นภรรยาของประมุข
ตระกูลใหญ่นั้นก็คือตระกูลหลิน หรือนางก็คือมารดาของหลิน
เสี่ยวต้านั้นเอง การที่หญิงสาวมาที่หอนางโลมนัน้ ไม่ใช่เรื่องแปลก
ตามากนักแต่ส่วนใหญ่แล้วพวกนางจะเป็นผู้มีฐานะค่อนข้างสูง การ
ที่เหล่าบุรุษไม่สามารถตอบรับความต้องการของหญิงสาวได้อย่าง
พอเพียงจึงเป็นเหตุให้พวกนางต้องหาที่ระบายความใคร่ของตนเอง
ยิ่งสาหรับหญิงสาวตระกูลใหญ่ที่เหล่าบุรุษมักจะมีภรรยาน้อย
ใหญ่อยู่เป็นจานวนมากมันจึงเป็นเรื่องยากที่สามีของพวกนางจะ
มอบความรักให้แก่พวกนางได้ทุกวัน แต่ถึงอย่างนัน้ ก็ใช่ว่าพวกนาง
จะสามารถไปมีอะไรกับบุรุษอื่นได้ การที่พวกนางมาที่หอนางโลม
นั้นแน่นอนว่าพวกนางต้องใช้สตรีเพศเดียวกันในการระบายความ
ใคร่ของพวกนางออกไป
ดังนั้นเหล่าสาวบริการภายในหอนางโลมไม่เพียงแต่พวกนางจะ
มีทักษะที่คอยใช้บริการเหล่าบุรุษพวกนางยังคงต้องมีทักษะในการ
มอบความสุขให้แก่สตรีดว้ ยเช่นเดียวกัน มารดาของหลินเสี่ยวต้า
ภรรยาอันดับที่ห้าของบิดาของเขานั้นชื่อว่า เหม่ยฮวา นางเองก็
เป็นหนึ่งในคนที่หลินหมิงมีความแค้นเคืองอยู่มากไม่ใช่น้อย
เช่นเดียวกัน
หลินหมิงมองร่างของเหม่ยฮวาที่เดินตรงเข้าไปพร้อมกับหญิง
สาวรับใช้อีกสองคนที่น่าจะมาจากตระกูลหลินแน่นอนเรื่องราว
เช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาสาหรับสตรีพวกนางจึงไม่ตอ้ งสวมใส่
หน้ากากปิดบังตัวตนแต่หากพวกนางต้องการเสพสุขกับเหล่าบุรุษ
แล้วนั้นย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลินหมิงตรงไปยังหอนางโลมที่เหม่
ยฮวาตรงเข้าไปหญิงสาวรับใช้ที่อยู่หน้าร้านกล่าวต้อนรับหลินหมิง
ด้วยน้าเสียงสุภาพ จากสายตาของนางแม้ว่าหลินหมิงจะมีผ้าคลุม
ปกปิดเอาไว้อยู่แต่เมื่อดูจากเสื้อผ้าแล้วนางก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าตัว
ของหลินหมิงนั้นย่อมมีฐานะพอสมควร
" ยินดีต้อนรับคุณชายเจ้าคะ "
หลินหมิงรู้สึกประทับเล็กน้อยกับหญิงสาวใช้ของหอนางโลมแห่ง
นี้ พวกเขาใช้หญิงสาวที่หน้างดงามในการเรียกลูกค้ารวมกับกริยา
ท่าทางของนาง และเสื้อผ้าอันบางเบาที่นางส่วมใส่อยู่มันสามารถ
ส่งเสริมอารมณ์ของเหล่าบุรุษได้ดียิ่ง
หลินหมิงไม่เสียเวลาก้าวเข้าไปข้างในในทันทีไม่เช่นนั้นเขาอาจ
คลาดสายตากับเหม่ยฮวาก็เป็นได้เนื่องด้วยหอนางโลมที่เปิดในยาม
ดึกนั้นมีจานวนไม่ใช่น้อยทาให้ผู้คนนั้นไม่ได้มีมากมายภายในหอ
นางโลมแห่งนี้ มันจึงทาให้เมื่อหลินหมิงเข้ามาก็พบเหม่ยฮวา
ในทันที แล้วทันใดนั้นก็ที่หลินหมิงจะได้ทาสิง่ ใดมีหญิงสาวรับใช้
เดินมาที่ทางด้านของหลินหมิงอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงจ้องมองไปที่เหม่ยฮวาซึ่งดูเหมือนว่านางกาลังทาการ
พูดคุยกับหญิงสาวอีกคนซึ่งดูเหมือนว่านางจะมีฐานะค่อนข้างสูงใน
ที่แห่งนี้ ซึง่ หลินหมิงเดาว่านางเป็นเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้เพียง
ไม่นานร่างของเหม่ยฮวาและหญิงสาวรับใช้สองคนรวมถึงหญิงสาว
ที่หลินหมิงคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของหอนางโลมก็เดินไปในบริเวณ
ด้านหลังร้าน มันทาให้หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อย
หากดูจากคร่าวๆแล้วหอพักต่างนั้นภายในหอนางโลมแห่งนี้
สมควรจะอยู่ที่บริเวณชั้นสองไม่ใช่หรือแล้วเหตุใดนางถึงได้เดินไปที่
บริเวณด้านหลังร้านกันเหล่า หญิงสาวรับใช้ที่เตรียมการต้อนรับ
หลินหมิงอยู่นั้นไม่เห็นท่าทีตอบสนองของหลินหมิงจึงทาการเรียก
หลินหมิงอีกทีหนึง่ หลินหมิงตัดสินใจรวบร่างของนางเข้ามากอด
เอาไว้ในทันทีโดยไม่หันให้นางได้ตั้งสติ
" ว้ายย ! ดะ...เดียวก่อนสิเจ้าคะ...ตรงนี้ไม่ได้เจ้าคะ...ได้โปรด
ขึ้นไปที่ชั้นสองก่อน..โอ้ยยอย่าบีบแรงเจ้าคะ "
หลินหมิงเข้าจู่โจมหญิงสาวรับใช้จากทางด้านหลังเพื่อไม่ให้นาง
ได้หลบหนีสัมผัสจากเสื้อผ้าเบาบางนั้นมันแทบจะทาให้หลินหมิง
รู้สึกราวกับว่าพวกนางไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแต่อย่างใด ถึงอย่างนั้นมันก็
มอบความสุขแบบแปลกประหลาดให้เขาเช่นเดียวกัน เสียงคราง
ของหญิงสาวร้องดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อมือข้างหนึ่งของหลินหมิงล่วงเข้า
ไปที่บริเวณร่องสวาทของนาง
" ดะ..ได้โปรด..หยุดก่อน..เจ้าคะ...อ้า~~~~~ "
เสียงครางที่ดังของหญิงสาวรับใช้ทาให้หญิงสาวที่หลินหมิงคาด
ว่าจะเป็นเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้ปรากฎตัวขึ้นมาจากด้านหลัง
ร้านที่นางหายเข้าไปพร้อมกับเหม่ยฮวาในตอนแรก
" คุณชายได้โปรดปล่อยมือก่อนเจ้าคะ หากคุณชายลงมือตรงนี้
เกรงว่ามันอาจทาให้ลูกค้าท่านอื่นนั้นไม่พอใจท่าอย่างไรขอเชิญ
คุณชายด้านบนข้าจะเตรียมสาวงามไปปรนนิบัติทา่ นในทันที "
ดูเหมือนว่านางจะมีประสบการณ์เช่นนี้อยู่มากไม่ใช่น้อยใน
สายตาของหลินหมิงนางกล่าวออกมาโดยไม่มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น
ซึ่งหากมองในความเป็นจริงแล้วบุรุษวัยเยาว์ที่กาลังคึกคะนองและ
กาลังมีความมั่นใจในตนเองการที่พวกเขาลงมืออุกอาจนั้นอาจเป็น
เรื่องธรรมดาที่พวกนางพบเจอโดยทั่วไป
หลินหมิงเหลือบมองไปทีห่ ญิงสาวเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้นาง
สมควรมีอายุราว 20 ปลายๆเพียงเท่านั้นแต่ถึงอย่างนั้นคงไม่ต้อง
สงสัยเลยว่านางนั้นได้ผ่านเหล่าบุรุษมามากพอสมควรเลยทีเดียว ดู
ได้จากการที่นางรับมือกับเขาด้วยความเยือกเย็น หลินหมิงปล่อยมือ
จากหญิงสาวรับใช้ไปนางเกือบจะเสร็จภายในเวลาไม่นานหลังจาก
ที่หลินหมิงเข้าจู่โจมนางนั้นเป็นเหตุทาให้นางนั่งลงด้วยความ
เหนื่อยอ่อน แต่เมื่อนางได้เห็นสายตาของหญิงสาวที่เป็นเจ้าของหอ
นางโลมแห่งนี้แล้วนางจึงค่อยๆฝืนร่างกายแล้วจากไป
" แล้วหากข้าไม่พอใจในตัวพวกนางที่เจ้าเลือก ? "
" เช่นนั้นข้ายินดีพาคุณชายไปเลือกหญิงสาวทีท่ ่านต้องการ "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงราบเรียบโดยไม่มีความกังวลแต่
อย่างใด ดูได้จากการที่นางสามารถไล่หญิงสาวรับใช้คนแรกให้
ออกไปรวมถึงการที่นางสามารถพูดคุยกับคนระดับสูงอย่างเหม่
ยฮวาได้แล้วนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่านางจะต้องเป็นเจ้าของแห่งนี้
อย่างแน่นอน
" งั้นข้าต้องการเจ้า ! "
" ............. "
หญิงสางเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้นางชื่อเหลียนเย่อิ๋งนางนั้น
เคยเป็นหญิงสาวรับใช้เช่นนางอื่นมาก่อนแต่เพราะว่าเจ้าของคน
เก่านั้นถูกใจในตัวนางมากจึงยกทรัพย์สมบัติให้แก่นางก่อนที่จะเสีย
ไปนั้นจึงเป็นเหตุให้นางได้รับกิจการนี้มาดูแล การที่นางมีอายุถึง 28
ปีแล้วนั้นมันทาให้ความงามของนางลดลงนางไม่มคี วามกล้า
เพียงพอในการบริการเหล่าบุรุษดั่งเช่นในอดีตและถึงแม้นางจะมี
ความกล้ามากเพียงพอแต่ต้องเข้าใจว่าบุรุษนั้นนิยมชมชอบเพียง
สตรีที่อยู่ในวัยแรกแย้มเสียมากกว่า
ดังนั้นนางจึงไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใดๆกับบุรุษมาเป็นเวลานนาน
หลายปีแล้วนั้นแต่ในตอนนี้กลับกันบุรุษในผ้าคลุมนี้กับเอยกล่าวจะ
ตัวเขาจะต้องการนาง ? แม้ว่าจะปกปิดใบหน้าเอาไว้อยู่แต่เมื่อดู
จากมือและผิวหนังส่วนอืน่ ๆนางสามารถสรุปได้ว่าบุรุษคนนี้น่าจะมี
อายุวัยเยาว์มากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องการมีอะไรกับนาง ?
" ข้าเกรงว่าข้าอาจทาให้ท่านต้องผิดหวัง "
" เจ้าจะไม่บริการข้าอย่างนั้นหรือ "
" ไม่ใช่เจ้าคะ "
" งั้นข้าก็ไม่มีอะไรที่ต้องผิดหวัง "
นางรู้สึกสับสนไปหมดบุรษุ หนุ่มผู้นี้ช่างมีความคิดที่แปลก
ประหลาดมากในสายตาของนาง สาหรับหญิงสาวรับใช้ก่อนหน้านี้
นางเป็นเพียงหญิงสาวทีม่ ีอายุ 18 ปีเท่านั้นเหตุใดเขาถึงไม่เรียกร้อง
หานางต่อเล่า หัวใจของนางรู้สึกพองโตขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมีบุรุษ
กล่าวต้องการในตัวนางแม้ว่านางจะมีอายุแล้วก็ตามที่
" งั้นขอเชิญคุณชายด้านบน "
นางเดินนาหลินหมิงไปทีช่ ั้นสองของร้านที่ซึ่งเป็นห้องพัก
แน่นอนว่ามันยังคงมีลูกค้าอื่นอยู่เพียงแต่ภายในห้องพักเหล่านั้นถูก
ลงอาคมเก็บเสียงเอาไว้จึงทาให้เหมือนราวกับว่าห้องเหล่านั้นเป็น
เพียงห้องว่างเปล่าไม่มีผู้ใดอยู่ หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างกายของ
เหลียนเย่อิ๋ง แม้ว่านางจะมีอายุมากแล้วก็ตามที่แต่ในสายตาของ
หลินหมิงนั้นความงามของนางก็ยังคงไม่น้อยไปกว่าซื่อโฉวของเขา
เลยทีเดียว
หน้าอกอวบอิ่มของนางนัน้ แม้จะเป็นรองซื่อโฉวอยูค่ รึ่งขั้นแต่ผิว
เรียบเนียนและสัดส่วนโค้งว้าวที่ที่มากว่ามันสามารถดึงดูดอารมณ์
ของเขาได้เป็นอย่างมาก หลินหมิงไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของเหล่า
บุรุษอื่นมากเท่าไหร่แต่สาหรับเขามันอาจเป็นไปได้ขอเพียงแค่เป็น
ผู้หญิงเขาก็สามารถค้นพบความงามของนางได้
หลินหมิงเข้ามายังภายในห้องที่ถกู จัดเตรียมไว้อย่างเรียบง่าย
เตียงนอนตัวเดียวพร้อมกับแสงไฟอ่อนๆรวมถึงกลิน่ หอมอะไร
บางอย่างที่เข้าสู่โสดประสาทซึ่งมันสามารถกระตุน้ อารมณ์ของเหล่า
บุรุษได้เป็นอย่างดี

ตอนที่ 40
" ข้าเหลียนเย่อิ๋งยินดีรับใช้คุณชายเจ้าคะ "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงที่มีความมั่นใจเต็มที่เรือนร่างของ
หญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าบางเบา รวมถึงอารมณ์ที่ค้างคามาจาก
หลิวฉวนยูร์มันทาให้ทวนมังกรของหลินหมิงตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว
เหลียนเย่อิ๋งลงไปนอนที่เตียงด้วยความรวดเร็วนางรู้ดีจาก
ประสบการณ์ที่ผ่านมาเหล่าบุรุษวัยเยาว์นั้นมีต้องการอันร้อนแรง
และพวกเขาจะจู่โจมนางอย่างรวดเร็ว
นางไม่ได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าตนเองออกในทันทีการที่บุรุษนั้นได้
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าเหล่าสตรีนั้นเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่นางได้รับรู้
มาจากประสบการณ์ความตื่นเต้น และความอยากรู้อยากเห็นนั้น
เป็นสิ่งที่มีในตัวของบุรุษวัยเยาว์เช่นนี้
หลินหมิงเปิดผ้าคลุมออกให้นางเห็นหน้าซึ่งแน่นอนว่าเหลียน
เย่อิ๋งนั้นนางคงไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาแม้ว่าเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็น
ศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคมนักปรุงยาก็ตามที่เพียงแต่ว่าในเวลา
ที่ผ่านมานั้นเขายังไม่เคยปรากฎให้บุคคลภายนอกเห็นเลยอาจมี
เพียงข่าวหลุดลอยออกไปเรื่องการรับศิษย์ส่วนตัวของประมุข
สมาคมนักปรุงยาแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงไม่รู้ใบหน้า
ของหลินหมิงอยู่ดี
หลินหมิงค่อยๆเคลื่อนกายเข้าหาร่างของเหลียนเย่อิ๋งพร้อมกับ
ตรงเข้าที่ส่วนล่างของนางในทันที หลินหมิงเอื้อมมือไปสัมผัสที่
บริเวณร่องสวาทของนางภายใต้เสื้อผ้าที่ปกคลุมอยู่แล้วทาการใช้
นิ้วเขี่ยไปมา
" อ้าาา~~~~~ คะ...คุณชาย..จะ..ทาอะไรเจ้าคะ "
เหลียนเย่อิ๋งนางไม่เข้าใจการกระทาของหลินหมิงปกติแล้วบุรุษ
จะเข้าจู่โจมโดยการเสียบทวนมังกรของพวกเขาในทันทีไม่ใช่หรือ ?
แน่นอนในตอนนี้หลินหมิงมีแผนที่เขาวางเอาไว้ในใจแล้วเขา
ต้องการให้หญิงสาวนางนี้เป็นของเขาแล้วเขาจะได้สอบถามถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับเหม่ยฮวา
หลินหมิงยื่นใบหน้าเข้าไปภายใต้เสื้อผ้าที่ปกคลุมร่องสวาทที่ไม่
มีการปิดบังโดยชุดชั้นในที่ถูกหลินหมิงปลดออกไปอย่างรวดเร็วโดย
ที่นางแทบจะไม่ทันรู้สึกตัว กลิ่นที่ออกมาจากร่องสวาทของนางนั้น
เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างแรงทีเดียว หลินหมิงใช้นิ้วเพื่อเขี่ยดูภายในโพรง
ร่องสวาทของนางก็พบว่านางน่าจะผ่านบุรุษมากไม่น้อยเลยทีเดียว
" ตะ...ตรงนั้น...มะ..มัน...ไม่...ได้นะเจ้าคะ...มะ...มันสกปรก
..อิย๊าาา~~~~ "
ลมหายใจของหลินหมิงทีอ่ ยู่ใกล้กับบริเวณร่องสวาทของนางนั้น
ทาให้นางรู้สึกแปลกประปลาด จนกระทั่งเมื่อหลินหมิงสอดลิ้นเข้า
ไปโลมเลียที่บริเวณร่องสวาทของนางนั้นนางถึงกับร้องครางเสียง
หลงออกมา แม้ว่านางจะผ่านบุรุษมาไม่ใช่น้อยแต่นางยังไม่เคยเจอ
บุรุษคนใดที่ทากับนางเช่นนี้มาก่อน ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะใช้
ทวนมังกรเข้าโจมตีแล้วมันก็จบลงอย่างรวดเร็วโดยที่ส่วนใหญ่นั้น
นางยังคงมีอารมณ์ค้างคาอยู่
" ซี๊ดดดดดดดดดด~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ สะ....เสียว...
สุด...สุดไปเลยเจ้าคะ อ้าาาาาา~~~~~~~~ "
" ขะ...ข้า...จะ..ไม่ไหวแล้ว.....ชะ.ช้าลงหน่อยเจ้าคะ "
แต่ในตอนนี้ที่ลิ้นของหลินหมิงตวัดไปมาอย่างร้อนแรงที่บริเวณ
ร่องสวาทของนางมันแทบจะทาให้นางระเบิดอารมณ์ออกมาเพียง
เวลาในไม่นาน หลังจากที่หลินหมิงตวัดโลมเลียบริเวณโดยรอบ
อย่างทั่วถึงลิ้นของเขาสอดเข้าไปที่บริเวณข้างโพรงร่องสวาทของ
นางเป็นเป้าหมายต่อไป
" ยะ...อย่า....เจ้า..คะ...ขะ...เข้าไป..ไม่..ได้นะ...อู้วววว~~~~~~
"
ถึงแม้นางจะกล่าวเช่นนั้นมือทั้งสองข้างของนางกลับกดศรีษะ
ของหลินหมิงราวกับว่าไม่อยากให้แยกจากไปไหน หลินหมิง
สามารถสัมผัสได้ว่าน้ารักใสๆของนางเริ่มที่จะค่อยออกมาพร้อมกับ
ร่างของนางที่เริ่มกระตุกถี่ขึ้นจึงลงมือตวัดลิ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นไป
อีก
" พะ...พอ..ก่อน..เจ้าคะ...ขะ..ข้าจะ...ออกแล้ว..คุณชาย..ออก
แล้วววว อร้างงงงงงง~~~~~~~~~ "
น้ารักใสๆจานวนมากถูกระเบิดออกมาเพียงแค่นางโดนเล้าโลม
จากบุรุษหนุ่มคนนี้เพียงเท่านั้นแม้ว่านางจะเคยร่วมเสพสมกับบุรุษ
มามากแต่ไม่เคยมีครั้งใดเลยทีมันจะทาให้นางมีความสุขได้มาก
เท่านี้ น้ารักของนางแน่นอนว่าตอนนี้เปราะเปรื้อนเต็มใบหน้าของ
หลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับจัดการเลียมันเข้าไปในปาก
ภายในเวลาไม่นาน
" แฮ่กๆๆ ขอโทษเจ้าคะ "
เหลียนเย่อิ๋งนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเหนื่อยอ่อน หลินหมิง
ค่อยๆเคลื่อนกายมาทับร่างของนางเอาไว้แล้วเริ่มทาการจู่โจมที่
บริเวณร่างกายของนางเป็นเป้าหมายต่อไป เนินอกขนาดรองครึ่ง
ขั้นของซื่อโฉวนั้นเป็นเป้าหมายสาคัญในการโจมตีของหลินหมิงครั้ง
นี้ เสื้อผ้าของนางถูกปลดออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความชานาญของ
หลินหมิง
" ซี๊ดดดดด~~~~~~~ ขะ..ขะ...ข้า...ขอ..พักเจ้าคะ...ยะ..อย่า
เพิ่ง.....โอ้ย...อย่าดูดแรงสิเจ้าคะ..."
หลินหมิงใช้ปากดูดยอดปทุมถันของนางอย่างรุนแรงจนนางรู้สึก
เจ็บปวดพร้อมกับมือของเขาที่เข้าบีบจับหน้าอกขนาดใหญ่ได้อย่าง
เต็มมือด้วยการที่นางเพิ่งจะเสร็จไปมันจึงทาให้เหลียนเย่อิ๋งไม่มีแรง
ในการต่อต้านหลินหมิงแต่อย่างใดหน้าอกของนางโดนจู่โจมอย่าง
หนักหน่วงเสียยิ่งกว่าร่องสวาทในตอนแรกของนางเสียอีก
นางเริ่มรู้สึกว่าร่องสวาทของนางเริ่มมีปฎิกริยาตอบสนองขึ้นมา
อย่างรวดเร็วอีกครั้งแม้ว่านางจะเพิ่งเสร็จไปเพียงเวลาไม่นาน การจู่
โจมของบุรุษหนุ่มคนนี้รวดเร็วและรุนแรงมากแต่ถึงอย่างนั้นมันก็
สร้างความสุขให้แก่นางอย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน
" โอ้ยย..ยะ..อย่ากัด..สิเจ้าคะ..ขะ...เหนื่อย..แล้ว...พะ..พอก่อน...
อื้ออออออออ~~~~~~~ "
หลินหมิงจัดการเข้าประกบปากของนางต่อไปเพื่อให้นางไม่
สามารถส่งเสียงร้องใดๆได้อีกแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั คงมีเสียงคราง
เล็ดรอดออกมาอยู่ดีมือทัง้ สองข้างของหลินหมิงยังคงบีบนวดไปที่
หน้าอกขนาดใหญ่ของนางไปด้วย จนในที่สุดหลินหมิงก็สามารถ
สัมผัสได้ของเหลียนเย่่งนั
อิ่ ้นกระตุกถี่ขึ้นมาอีกครั้งเขาจึงถอนปาก
ออกมา
" อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~~~~~~~~~~~~~ "
น้ารักใสๆพวยพุ่งออกมาจากร่องสวาทของนางมากยิ่งกว่าใน
ตอนแรกเสียอีกพร้อมกับร่างของนางที่โก่งโค้งขึ้นมาชั่วขณะ
" มะ..ไม่..ไหว...แล้ว....ดะ..ได้โปรด..หยุดก่อน..แฮ่กๆๆ "
เหลียนเย่อิ๋งนางไม่ยากเชือ่ เลยว่าเพียงแค่เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป
นางก็หมดแรงลงเสียแล้ว ทักษะของเด็กหนุม่ ผู้นี้นา่ กลัวจนเกินไป
" เจ้ายังไม่ท่านได้บริการข้าเลยแม้แต่น้อยแต่เจ้ากลับบอกกล่าว
ให้ข้าพอเสียแล้ว "
แม้ว่านางจะรู้สึกผิดกับหลินหมิงแต่จะทาอย่างไรได้ในตอนนี้นาง
เสร็จไปแล้วถึงสองครั้งเพียงเวลาไม่นานนั้นมันทาให้ร่างกายของ
นางอ่อนล้าอย่างแท้จริง หลินหมิงปลดเสื้อผ้าของตนเองจนเผยให้
เห็นขนาดทวนมังกรที่ยงิ่ ใหญ่กว่าทวนใดๆของเหล่าบุรุษ เมื่อ
เหลียนเย่อิ๋งนางได้เห็นขนาดทวนมังกรของหลินหมิงนางถึงกับกลืน
น้าลายลงไปอึกใหญ่
ขนาดของมันนั้นใหญ่ยิ่งกว่าทวนใดๆที่นางเคยพบเจอมาแม้ว่า
ร่องสวาทของนางจะถูกใช้งานมามากแต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่รับมือ
กับทวนขนาดใหญ่เช่นนี้ เหลียนเย่อิ๋งนางเริ่มฝืนร่างกายเพื่อที่จะ
ขยับหลบหนีไปจากหลินหมิง หากนางโดนจู่โจมด้วยทวนมังกรแท่ง
นี้นางคงเป็นบ้าไปแน่ๆ
ในขณะที่นางกาลังคลานหันหลังให้กบั หลินหมิงนัน้ นางไม่ได้รู้ตัว
เลยว่านางได้พลาดท่าเข้าให้เสียแล้ว หลินหมิงคร่อมนางจากทาง
ด้านหลังโดยที่นางไม่สามารถเคลื่อนกายไปในได้อีกเนื่องจากโดนน้า
ของหลินหมิงกดทับพร้อมกับทวนมังกรของหลินหมิงที่จ่อเข้า
ประจาการ
" มะ....ไม่..ไม่ได้นะ..มันใหญ่เกินไปเจ้าคะ..ข้ารับมันไม่ไหวหรอก
..อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา~~~~~~~ "
หลินหมิงไม่สนใจคาพูดของเหลียนเย่อิ๋งทวนมังกรของเขาเสียบ
เข้าร่องสวาทของนางจะทางด้านหลังในทันที พร้อมกับเสียงคราง
ลั่นของนางที่ดังออกมา ภายในร่องของนางนั้นแม้ว่าจะเคยผ่านการ
ใช้งานมาแล้วก็ตามที่แต่ด้วยขนาดทวนที่ใหญ่เกินกว่าปกติมันก็ยัง
ทาให้หลินหมิงเข้าไปได้อย่างยากลาบาก
" ละ..ลึก..ลึก...ไป..แล้ว อ้าาาาา~~~~ "
" ยะ...อย่า..เพิ่งขยับ.....โอ้ยยย.....หะ...หัวสมอง...ข้าโล่งไป
หมดแล้ว.....อ้าาาาา~~~~~~~ "
หลินหมิงขยับเอวกระแทกทวนมังกรเข้าสู่ภายในร่องของนาง
อย่างต่อเหนื่องจนทาให้เหลียนเย่อิ๋งรู้สึกหัวสมองของนางนั้นขาวโผ
ลนไปหมด แม้ว่าในตอนแรกนางจะรู้สึกเจ็บปวดจากการที่ร่อง
สวาทของนางต้องรับมือกับทวนมังกรที่ขนาดใหญ่เกินธรรมดา
เพียงแต่ว่าภายในเวลาไม่นานความรู้สึกเหล่านั้นกับแปรเปลี่ยนเป็น
ความเสี่ยวซ่านยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
" เป็นอย่างไรบ้างละ "
" ขะ..ข้าไม่ร.ู้ ..จะ..เจ้าคะ...อร้างงงงงง~~~~~~~~ "
การที่นางโดนทวนมังกรขนาดใหญ่เพียงนี้เข้าโจมตีมันทาให้นาง
ไม่สามารถรับมือกับมันได้ร่องสวาทของนางตอบสนองในทันทีเพียง
เวลาไม่นานน้ารักใสๆของนางเริ่มถูกขับออกมาอีกครั้งเป็นครั้งที่
สามพร้อมกับที่นางสามารถสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงเองก็
เริ่มมีการสั่นไหวแล้วเช่นเดียวกัน
" เตรียมตัวรับไป ! "
" อ...ออก..มาเลย..เจ้าคะ...อร้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง
~~~~~~~~ "
น้ารักของหลินหมิงถูกระเบิดเข้าไปในโพรงร่องสวาทของเหลียน
เย่อิ๋งจนท้องของนางบวมขึ้นมาหน่อยๆ อารมณ์ที่ค้างคาจากหลิวฉ
วนยูร์นั้นมันมากพอที่ทาให้ในครังนี้เป็นการปล่อยน้ารักของเขาใน
จานวนที่มากที่สุดเลยก็วา่ ได้
" ดะ...เดียว..ทาไมมันยังแข็ง..อยู่...อ้าาาาาา ~~~~~~~~ "
หลินหมิงเริ่มเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้งแน่นอนว่าหลินหมิงนั้น
สามารถทาเช่นนี้กับหญิงสาวได้อย่างไม่รู้จบในความคิดของเขา
เหลียนเย่อิ๋งเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของนางเริ่มไร้เรี่ยวแรงแรงทั้งหมด
ของนางในตอนนี้มีไว้เพียงเพื่อประคองสติรับรู้ความเสียวซ่านที่
เกิดขึ้นและส่งเสียงครางตอบออกไปตามธรรมชาติเพียงเท่านั้น
" ต่อจากนี้ไปข้าเป็นนายของเจ้าตกลงหรือไม่ ? "
" อะ...อะ...อะ..อ้าา..ตะ...ตก..ลง..เจ้าคะ....ขะ..ข้า..ยิน..ดี..ทา
ตามทุก...อย่าง อ้าา ~~~~~~~~ "
เหลียนเย่อิ๋งนั้นแน่นอนว่านางไม่เคยมีความสุขมากเช่นเท่านี้มา
ก่อน รวมกับการเล้าโลมและทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นีแล้วมัน
สามารถสร้างความสุขให้แก่หญิงสาวได้อย่างไม่รู้จบ เพราะดู
เหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่มีคาว่าเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่ต้น
เรี่ยวแรงของเขาที่โจมตีนางนั้นยังคงเท่าเดิมไม่เปลีย่ นแปลง
หลังจากผ่านไปอีกเพียงชั่วครู่หลินหมิงก็ระเบิดน้ารักออกมาอีกครั้ง
" อร้างงงงงงงงง ~~~~~~~~~~~~~~ "
หลินหมิงนาทวนมังกรออกมาจากตัวนางในใจของเขายังคงมี
ความคิดที่อยากจะทาต่ออยู่เหมือนกันเพียงแต่ว่าหากเป็นเช่นนั้น
อาจทาให้เขาไม่สามารถสอบถามนางในเรื่องของเหม่ยฮวาได้หลินห
มิงจึงได้ตดั ใจในเรื่องนี้ไปก่อน

ตอนที่ 41
เหลียนเย่อิ๋งนางรู้สึกราวกับว่านางเพิ่งได้เดินทางผ่านสรวง
สวรรค์มาอย่างใดอย่างนั้น ความรู้สึกอุ่นๆภายในท้องของนางนั้น
เป็นหลักฐานได้อย่างเด่นชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความฝัน การ
ร่วมรักของนางและเด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้มันแทบจะทาให้ร่างกาย
ของนางระเบิดออกมาด้วยการที่มันไม่สามารถกักเก็บความสุขได้
อย่างเพียงพอ
แม้ว่าในตอนแรกนางจะพยายามต่อต้านคัดคืนจากการโดน
เสียบโดยทวนมังกรของเด็กหนุ่มแต่ในตอนนี้นางยินยอมพร้อมใจที่
จะร่วมรักกับหลินหมิงอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป มันไม่ได้มีความรู้สึก
เจ็บดังที่นางคาดคิดเอาไว้มันอาจเป็นเพราะอารมณ์ความสุขที่มาก
ล้นยิ่งกว่านั้นกลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บปวดของนางออกไปจนสิ้น
เมื่อนางเริ่มค่อยๆปรับลมหายใจได้อย่างปกตินางก็เหลือบไปมองดู
หน้าเด็กหนุ่มที่จัดการนางอย่างร้อนแรง
ในตอนแรกนั้นนางไม่ได้มเี วลาในการมองหน้าเด็กหนุ่มคนนี้ได้
อย่างชัดเจนเท่าไหร่นักเนื่องจากว่าความรู้สึกของนางนั้นกาลังจด
จ่ออยู่กับความเสี่ยวซ่านที่เกิดขึ้น ใบหน้าที่นางเห็นก็คือใบหน้าของ
เด็กหนุ่มผู้งดงามคนหนึ่งที่สามารถชวนให้เหล่าสตรีหลงไหลได้อย่าง
ง่ายดายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเขาสามารถบ่งบอกได้อย่างดีว่า
สถานะของเขานั้นย่อมต้องไม่ธรรมดา
" นายท่าน.... "
เหลียนเย่อิ๋งนางตัดสินใจที่จะมอบกายและใจให้แก่เด็กหนุ่มผู้
มอบความสุขอันร้อนแรงให้แก่นางผู้ดีไปอย่างหมดใจ นางไม่ยินดี
แน่นอนหากว่านางจะไม่ได้ทาการร่วมรักกับเด็กหนุม่ คนนี้อีกต่อไป
เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถมอบความสุขในการร่วมรักให้แก่
นางได้มากเช่นนี้ นางไม่เชื่อว่าจะมีบุรุษคนใดที่มีความสามารถ
เช่นนี้อีก นางมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความ
รักอย่างที่นางไม่เคยทามาก่อน
หลินหมิงเองก็สามารถสัมผัสได้เช่นเดียวกันแน่นอนว่าเป้าหมาย
ของเขาในขั้นต้นนั้นถือว่าประสบผลสาเร็จไปอย่างงดงาม การที่เขา
สามารถทาให้หญิงสาวตกเป็นของเขาทั้งกายและใจหลังจากที่พวก
นางได้ลิ้มลองทวนมังกรของเขาแล้วนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากที่พวก
นางจะสามารถหักห้ามใจได้
" ในตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้วดังนั้นเจ้ายินดีเชื่อฟังข้าทุกอย่าง
หรือไม่ "
" เจ้าคะ "
แม้ว่านางจะสามารถรับรู้ได้ว่าการที่หลินหมิงทาการร่วมรักกับ
นางนั้นอาจแฝงไว้ด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่างแต่ถึงอย่างนั้นแล้ว
อย่างไรเล่า? ตราบใดที่นางยังคงสามารถอยู่ใกล้ชิดกับเขาและยังคง
ได้มีโอกาสร่วมรักกับเด็กหนุ่มผู้นี้อีกครั้งนั้นนับเป็นเรื่องที่น่าพอใจ
มากสาหรับนาง
สาหรับหลินหมิงนั้นหากเขาเห็นว่านางมีทีท่าไม่เชื่อฟังแล้วละก็
คงไม่มีทางเลือกนอกจากจะลงมือเข้าจู่โจมนางอีกสักครั้งสองครั้ง
บทเพลงอันเร้าร้อนเมื่อครู่นั้นยังคงขับกล่อมในโสทประสาทของนาง
จนยากจะลืมเลือน
อื้อมมมมมมมมมมม ~~~~~~~~
หลินหมิงก้มลงไปประกบปากนางอีกครั้งเพื่อเป็นรางวัลสาหรับ
ความภักดีของนาง และดูเหมือนว่านางจะพอใจมากสาหรับรางวัล
เช่นนนี้ เหลียนเย่อิ๋งนั้นนางไม่คาดคิดเลยว่าด้วยร่างกายวัยอายุ 28
ปีจะสามารถสร้างความพอใจให้กับหลินหมิงได้เป็นอย่างมาก ผ่าน
ไปชั่วครู่หลินหมิงจึงทาการถอนปากออกมา
" นี้เป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆ......เจ้ามีอะไรที่ต้องการอีกอย่างนั้นรึ
"
เมื่อหลินหมิงสังเกตเห็นว่านางมีท่าทีกระอักกระอวนเล็กน้อย
ราวกับว่านางมีความต้องการในใจอะไรบางอย่างอยู่จึงกล่าวถาม
ออกไปโดยตรง
" ข้าอยากให้นายท่านเรียกข้าว่า เย่อิ๋ง ได้หรือไม่ "
นางกล่าวออกไปด้วยความรู้สึกเอียงอายแม้ว่านางจะรู้สถานะ
ความสัมพันธ์ของนางกับหลินหมิงดีแต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดไม่ได้ที่ใจ
ของนางจะคิดเรื่องความสัมพันธ์หนุ่มสาวกับหลินหมิงแม้ว่าตัวนาง
จะมีอายุมากกว่าพอสมควรก็ตาม
" อ่า ได้สิ เย่อิ๋ง "
หลินหมิงตอบกลับไปอย่างง่ายๆสาหรับเขาแล้วเรื่องเพียงนี้ถือ
ว่าไม่ได้เป็นคาขอที่มากเกินไปแต่อย่างใด แต่สาหรับบุรุษอื่นแล้วมัน
อาจตรงข้ามกันเลยก็ว่าได้ เหลียนเย่อิ๋งนางรู้สึกหัวใจพองโตราวกับ
ว่านางได้กลับไปเป็นสาววัยแรกรุ่นอีกครั้ง
" งั้นข้ามีเรื่องจะถามเล็กน้อย "
" ได้เลยเจ้าคะ ข้ายินดีตอบในทุกเรื่องเลยเจ้าคะ "
หลินหมิงได้กล่าวถามในเรื่องของเหม่ยฮวาไปตามตรงซึ่งผิดกับ
ทีหลินหมิงคาดคิดเอาไว้ในตอนแรกว่าเหลียนเย่อิ๋งคงจะต้องมี
ความรู้สึกกังวลในการตอบคาถามของเขาอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะ
อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงภรรยาของประมุขตระกูลใหญ่อย่าง
ตระกูลหลินที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่นางกลับตอบคาถามของ
หลินหมิงออกมาอย่างว่าง่ายพร้อมกับเล่าเรื่องราวของ เหม่ยฮวา
ออกมาจนหมดสิ้นทุกอย่างที่นางรู้
หลินหมิงเมื่อเห็นว่าเหลียนเย่อิ๋งนั้นมีความรู้สึกต่อตัวเขามากอยู่
ไม่ใช่น้อยไม่เช่นนั้นนางคงไม่กล้าตอบคาถามที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต
เช่นนี้จึงได้จัดการมอบความสุขให้แก่นางไปอีกชุดจนนางหลับไป
ด้วยสีหน้าที่เปียมไปด้วยความสุข
หลินหมิงเดินออกมาจากห้องและตรงไปที่ชั้นล่างรอยยิ้มมุมปาก
ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของหลินหมิงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจากเรื่องที่
หลินหมิงรับรู้มาจากเหลียนเย่อิ๋งนั้นมันสามารถทาให้เขาแก้แค้น
เหม่ยฮวามารดาของหลินเสี่ยวต้าได้โดยง่ายเลยทีเดียว
หลินหมิงที่ค่อยๆเดินลงมาจากชั้นสองนั้นเนื่องจากเขาไม่
ต้องการให้หญิงสาวรับใช้นางใดได้เห็นตัวเขา และตรงไปที่ด้านหลัง
ร้านที่ที่เหม่ยฮวาเข้าไปในตอนแรก หลินหมิงเดินไปตามทางเดินสัก
พักก็พบกับประตูลบั ตามที่เหลียนเย่อิ๋งได้บอกกล่าวกับเขาเอาไว้
แน่นอนว่าภายในห้องนี้นั้นคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้แต่เนื่องจาก
เหลียนเย่อิ๋งได้ให้กญ
ุ แจกับหลินหมิงเอาไว้เรียบร้อยปัญหาเหล่านั้น
จึงหมดสิ้นไปในทันที
หลินหมิงไขกุญแจปลดลอคออกไปพร้อมกับบานประตูที่ค่อยๆ
เปิดออกจนเผยให้เห็นทุกคนที่อยู่ภายในแน่นอนว่าต้องมีเหม่ยฮวา
และหญิงสาวรับใช้ของนางอีกสองคนอย่างแน่นอแต่ดูเหมือนว่าจะ
ยังมีคนอื่นอีกหนึ่งคนและคนคนนั้นยังเป็นบุรุษอีกด้วย
ภาพที่หลินหมิงเห็นนั้นตรงกับคาบอกกล่าวของเหลียนเย่อิ๋งทุก
ประการเหม่ยฮวานั้นมีความต้องการทางเพศที่สูงจนไม่อาจระงับได้
ด้วยสตรีทั่วไปดังนั้นแล้วทางออกเดียวก็คือบุรุษและต้องเป็นบุรุษ
วัยเยาว์เท่านั้นด้วย เด็กหนุ่มในสภาพถูกปิดหูปิดตานั้นกาลังถูก
บังคับให้มีอะไรกับเหม่ยฮวาที่นอนอยู่บนเตียง และดูเหมือนว่าการ
เข้ามาภายในห้องของหลินหมิงนั้นผู้คนภายในห้องนั้นจะไม่ได้มกี าร
รับรู้แต่อย่างใด
เนื่องจากเพราะมันเป็นห้องที่มีขนาดกว้างอีกทั้งตัวประตูยังคง
ห่างจากเตียงที่ร่างทั้งสี่อยู่ไปไกลพอสมควรหลินหมิงแอบสอดส่องดู
พฤติกรรมของเหม่ยฮวาด้วยความสนใจ มันต้องกล่าวว่าในตอนนี้
นางกาลังบังคับขืนใจเด็กหนุ่มผู้นั้นอยู่โดยมีสตรีรับใช้ทั้งสองของ
นางเป็นคนใช้กาลังผลักดันจังหวะของเด็กหนุ่ม
" ข้าไม่ไหวแล้วขอรับ "
" ไม่ได้ข้ายังไม่พอใจเลยแล้วเจ้ากลับกล่าวเช่นนี้ "
" แต่ว่ามัน...โอ้ยยย "
เสียงเฆี่ยนตีจากหนึ่งในหญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวาหวดเข้าไป
ทีเด็กหนุม่ เข้าอย่างจัง เพื่อเป็นการเตือนไม่ให้เขาหยุด
" พวกเจ้าพอแล้วรู้สึกว่ามันจะไม่สามารถทาอะไรได้แล้ว..
จัดการเอามันซะ "
สิ้นเสียงของเหม่ยฮวาร่างของหญิงสาวรับใช้คนหนึ่งก็จัดการบิด
คอเด็กหนุ่มผู้นั้นอย่างโหดเ**้ยม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนางทั้ง
สองนั้นจะต้องเป็น่ผูฝึกยุทธ์อย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นจากการ
ประเมิณของหลินหมิงความแข็งแกร่งของพวกนางทั้งสองนั้นไม่ได้
อยู่ในระดับที่เกินมือเขาเพราะว่าพวกนางมีระดับพลังอยู่ที่ขั้นที่ 8
และ 9 ปราณเริ่มต้นเท่านั้น
และหลังจากที่หลินหมิงได้ร่วมรักกับเหลียนเย่อิ๋งไปเมื่อสักครู่ที่
ผ่านมามันทาให้พลังปราณในร่างกายของเขาเกิดพัฒนาขึ้นจนทา
ให้เขามีพลังในระดับ 7 ปราณเริ่มต้นในตอนนี้หากไม่ใช่นักสู้ระดับ
ปราณก่อเกิดนั้นย่อมไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดสพหรับหลินหมิง

ตอนที่ 42
" หึ...ไหนนางว่าเด็กหนุ่มคราวนี้หน่วยก้านดีกันนี้มันยังไม่
สามารถทาให้ข้าพอใจได้แต่เพียงนิด "
เหม่ยฮวานางกล่าวออกมาอย่างอารมณ์เสียด้วยการที่นางมี
ฐานะค่อนข้างสูงจึงเป็นเรื่องยากหากนางจะทาการร่วมรักกับบุรุษ
อื่นอย่างออกนอกหน้าไม่เช่นนั้นแล้วนางคงถูกหลินฮ่าวสังหารเป็น
แน่หากเขารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
" นายหญิงงั้นให้ข้าไปพาหญิงสาวมาปรนนิบัตทิ ่าดีหรือไม่ "
" ไม่ต้องพอแล้วเสียเวลาเปล่าๆเอาเป็นว่าวันนี้พวกเรากลับกัน
ได้แล้ว "
" งั้นให้ข้าช่วยปรนนิบัติให้ท่านได้หรือไม่ "
เสียงของหลินหมิงดังขึ้นทาให้ร่างของหญิงสาวทั้งสามคนตื่นตัว
ขึ้นมาในทันทีหากมีคนรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วละก็ชชีวิตของ
พวกนางทั้งสามคงจบสิ้นไปในทันทีอย่างแน่นอน
" เจ้าเป็นใครกันเข้ามาได้ยังไง "
" ไม่ต้องสนใจฆ่ามันซะ "
เหม่ยฮวานั้นนางไม่สนใจว่าหลินหมิงจะสามารถเข้ามาด้วยวิธี
ใดในตอนนี้นางต้องทาการกาจัดหลินหมิงไปโดยเร็วที่สุดเพื่อความ
ปลอดภัยของตัวนาง หญิงสาวรับใช้ทั้งสองคนทีม่ ีระดับพลังขั้น 8
และ 9 นั้นไม่ใช่เรื่องยากที่คนวัยเยาว์เช่นหลินหมิงจะรับมือจากการ
ประเมิณของเหม่ยฮวาแล้วนั้นไม่ว่าหลินหมิงจะมีความแข็งแกร่ง
มากเพียงใดเขาก็ยังคงไม่สามารถเอาชีวิตรอดไปจากหญิงสาวรับใช้
ทั้งสองของนางได้
เนื่องจากว่าเมื่อดูผิวเผินจากนอกอายุของหลินหมิงนั้นสมควร
อยู่ที่ราวๆ 15 - 16 ปีการที่จะต่อกรกับผู้ที่พลังขั้น 8 และ 9 นั้น
ย่อมแสดงว่าเขาก็ต้องมีระดับพลังขั้น 9 เป็นอย่างน้อยซึ่งเรื่องนั้น
มันย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ การจู่โจมของหญิงสาวทั้งสองนั้นอาศัย
ความเร็วเข้าจู่โจมหวังจัดการปลิดชีวิตหลินหมิงภายในทีเดียว
ปังง !!
เสียงหมัดของหลินหมิงกระทบเข้าไปร่างของหญิงสาวผู้ที่พลัง
ระดับ 9 จนนางกระเด็นชิดติดกาแพงพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
ที่มุมปาก ช่วงเวลานั้นเองที่หญิงสาวรับใช้อีกคนหันความสนใจไป
มองเพื่อนของนางที่แข็งแกร่งกว่าถูกโจมตีอย่างไม่คาดคิดเพียงหมัด
เดียวกลับสามารถโค่นผู้ที่มีพลังระดับ 9 ได้แม้ว่าจะอาศัยช่วงเวลา
ที่เพื่อนของนางไม่ทันระวังตัวก็ตามที่
ปัง !!
เสียงหมัดของหลินหมิงเข้ากระทบร่างของหญิงสาบรับใช้อีกคน
จนนางกระเด็นติดกาแพงและมีสภาพไม่ต่างจากเพื่อนของนางเลย
ในตอนแรก หลินหมิงมีความลังเลเล็กน้อยว่าจะทาอย่างไรกับพวก
นางทั้งสองจะฆ่า หรือปล่อยเอาไว้ดีหลินหมิงจัดการชกเข้าไปที่ท้อง
ของพวกนางอีกครั้งอย่างเต็มแรกจนพวกนางกระอั่กเลือดออกมา
กองใหญ่พร้อมกับสติที่ดบั ลงไปและดูเหมือนว่าจะไม่สามารถตื่น
ขึ้นมาโดยง่าย
" อ่า ที่นี้ก็เหลือแค่พวกเราแล้วละนะ "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปหาเหม่ยฮวาด้วยสีหน้าหื่น
กระหาย เหม่ยฮวานางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้อยู่ไม่ใช่
น้อยเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์มากเช่นนี้สมควรที่นางจะต้องรู้จักบ้าง
ไม่ใช่หรืออย่างไร หญิงสาวรับใช้ที่มีพลังระดับ 8 และ 9 ถูกจัดการ
ลงโดยง่ายด้วยเด็กหนุม่ คนเดียวอย่างนั้นแล้วพลังของเขาก็สมควร
ไม่ต่ากว่าปราณก่อเกิด !
" จะ...เจ้าคิดจะทาอะไร "
" ก็บอกแล้วไงว่าข้าแค่จะมาปรนนิบัติท่านเท่านั้นเอง "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเดินไปที่เตียงเตะเอาร่างไร้วิญญาณของ
เด็กหนุ่มที่ถูกสังหารทิ้งลงเตียงไปอย่างไม่แย่แส สีหน้าของเหม่
ยฮวานั้นเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
" ยะ..อย่าเข้ามานะ ! "
หลินหมิงก้าวเดินจนไปหยุดที่ปลายเตียงสายตาของหลินหมิงก
วาดมองที่เรือนร่างของเหม่ยฮวาไปทั่วร่างด้วยสายตาหื่นกระหาย
อย่างปิดไม่มิด ถึงแม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่มีอายุมากแต่ด้วย
ฐานะของนางนั้นจาเป็นที่นางจะต้องดูแลตนเองอยู่สม่าเสมอ ผิว
เรียบเนียนของนางนั้นแม้จะยังไม่อาจเทียบเท่าอาจารย์สาวสวย
ของเขาแต่มันก็ด้อยกว่าราวกับหนึ่งขั้นเท่านั้น
รวมกับเรือนร่างที่สมวัยของผู้ใหญ่ อวัยทุกส่วนล้วนพัฒนาจน
มาถึงในระดับสุดยอดของหญิงสาวหน้าอกและสะโพกของนางนั้น
ราวกับว่ามันถูกสรรสร้างขึ้นมาเพื่อมาบาบัดความใคร่ให้กับบุรุษ
โดยเฉพาะแต่หน้าเสียดายที่นางไม่ค่อยได้รับความพอใจจากบุรุษ
มากเท่าใดนัก
เหม่ยฮวานางนั้นรู้สึกไม่คุ้นหน้าหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย นางไม่
อยากเชื่อว่าจะมีผู้เยาว์คนใดที่มีความสามารถมากถึงเพียงนี้แต่นาง
กลับไม่รู้จักเขา ? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง
ชีวิตของนางในตอนนี้ล้วนถูกแขวนอยู่บนเส้นดาย นางพยายามใช้
ความคิดเพื่อค้นหาทางออกในเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถแต่ถึง
อย่างนั้นกับคนที่วามารถเอาชนะคนรับใช้ทั้งสองของนางได้ภายใน
พริบตาแล้วนางจะสามารถทาอะไรได้อีก
" ขะ..ขอละเจ้าอย่าได้นาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ใด..หากเจ้าต้องการ
เงินหรือสิ่งใดข้าจะจัดหามาให้เจ้าอย่างแน่นอน... "
เหม่ยฮวานางครุ่นคิดถึงคาพูดหลินหมิงก่อนหน้านี้ แม้ว่านางจะ
อายุมากพอสมควรและความงามของนางก็ลดถอยไปตามเวลาแต่
มันก็อาจเป็นไปได้ว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้อาจจะให้ความสนใจในตัวนาง
เมื่อคิดเห็นเช่นนั้นนางก็พลันเกิดรอยยิ้มเล็กน้อยหากนางวามารถ
จัดการสยบบุรุษหนุ่มผู้นี้ด้วยการร่วมรักเมื่อนั้นเขาคงจะสิ้นแรงไป
ไม่ใช่น้อยแล้วเมื่อนั้นมันอาจเป็นโอกาสของนางก็ได้ใครจะรู้
" หรือ..หะ..หากเจ้าต้องการร่วมรักกับข้า... "
เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้วยน้าเสียงยั่วย้วนอย่างไรเสียการร่วม
รักกับบุรุษหนุ่มนั้นก็เป็นที่ชื่นชอบสาหรับนางอยู่แล้ว และยิ่งหาก
นางสามารถทาให้เด็กหนุ่มมากความสามารถเช่นนี้ต้องอยู่ใต้อาณัติ
ได้มันก็คงจะดีไม่ใช่น้อยแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยาก แต่ถึงอย่างนั้น
การทาให้เขาอ่อนแรงลงเพื่อที่นางจะสามารถหาโอกาสหรือ
แม้กระทั่งถ่วงเวลาเพื่อให้หญิงสาวรับใช้ทั้งสองฟืน้ ขึ้นมาโจมตีเด็ก
หนุ่มคนนี้ก็ย่อมได้
มือทั้งสองข้างนางลูบไล้ไปที่ต้นขาของนางเพื่อยั่วย้วนหลินหมิง
พร้อมกับนร่างกายอันเปลื่อยเปล่าของนางด้วยเช่นกัน แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่ได้มีความลังเลที่เข้าโจมตีนางเลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของนางอยู่บ้างแต่สิ่งนั้นจะ
เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบุรุษคนนั้นไม่ใช่เขาทั้งนั้นแม้ว่าคาคืนนี้หลินหมิงจะ
ผ่านการร่วมรักมามากพอสมควรทั้งกับหญิงสาวสองพี่น้อง ซื่อโฉว
และล่าสุดเหลียนเย่อิ๋งแต่เขาก็ยังคงไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าใน
เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

ตอนที่ 43
หลินหมิงจ้องมองไปยังเรือนร่างของเหม่ยฮวาด้วยความพอใจ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีความหลงไหลในตัวนางมากเท่าไหร่นักแม้ว่า
นางจะมีความงามที่เทียบเท่าซื่อโฉวหรืออาจมากกว่าเพียงเล็กน้อย
แต่เรื่องราวในอดีตที่นางและบุตรของนางหลินเสี่ยวต้าได้กระทาต่อ
หลินหมิงนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทาให้เขาลืมได้โดยง่าย
" เอางั้นก็ได้.. "
หลินหมิงกล่าวออกไปด้วยน้าเสียงราบเรียบพร้อมกับรอยยิ้มที่
มุมปาก เหม่ยฮวาตัวนางนั้นไม่ได้รู้เลยว่าตัวนางในอนาคตอันใกล้นี้
จะต้องประสบพบเจอกับชะตากรรมอันใด แต่ที่แน่นอนก็คือหลินห
มิงนั้นคงไม่ยอมปล่อยมือจากนางไปโดยง่ายอย่างแน่นอน หลินหมิ
งก้มลงมองไปที่ร่องสวาทของเหม่ยฮวาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะว่าร่องสวาทของนางนั้นถูกผ่านการใช้งานมามากเกินไป
สาหรับเรื่องนั้นแล้วด้วยขนาดทวนมังกรของเขาไม่อาจนับได้ว่าเป็น
ปัญหา
ปัญหาสาหรับหลินหมิงในตอนนี้ก็คือการที่ดูเหมือนว่าร่องสวาท
ของนางในตอนนี้จะมีคราบน้ารักไหลปนออกมาแม้ว่าจะเป็นจานวน
เล็กน้อย แต่นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการหลินหมิงต้องการจู่โจมนาง
อย่างรุนแรงให้นางได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดและความรุนแรงฉะนั้น
แล้วหลินหมิงจะไม่ทาการเล้าโลมนางดั่งเช่นสาวอื่นที่ผ่านมาแน่ๆ
เสื้อผ้าของหลินหมิงถูกปลดออกอีกครั้งพร้อมกับร่างกายของ
หลินหมิงที่ก้าวขึ้นสู่เตียงเดียวกับเหม่ยฮวาอย่างรวดเรียว เหม่ยฮวา
นางมองไปยังเรือนร่างของบุรุษหนุ่มผู้นี้ซึ่งสร้างความพอใจให้กับ
นางไม่ใช่น้อยด้วยรูปร่างหน้าตาของเขานั้นอาจกล่าวได้ว่าบุรุษ
หนุ่มคนนี้คือหนึ่งในบุรุษงามอย่างไม่ต้องสงสัย
ร่างกายกาย่าสมส่วนจนนางแทบจะอดใจไม่ไหวทีจ่ ะเข้าไป
สัมผัสสักเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางมองต่าลงมาเรื่อยๆมันก็ทา
ให้นางหน้าซีดขึ้นมาในทันทีพร้อมกับเสียงกลืนน้าลายลงไปอึกใหญ่
ด้วยความยากลาบากใจ
" นะ...นั้น..มันของจริง...หรอสวรรค์.... "
แม้ว่านางจะร่วมรักกับบุรุษที่อยู่ในวัยเยาว์เป็นส่วนใหญ่แต่ใช่
ว่านางจะไม่เคยร่วมรักกับบุรุษที่อยู่วัยเดียวกับนาง ดังนั้นแล้วนาง
สามารถประเมิณทวนมังกรแท่งนี้ของหลินหมิงได้เป็นอย่างดีว่ามัน
จะต้องเป็นอันดับหนึ่งในโลกล้านี้อย่างแน่นอน ไม่มีบุรุษผู้ใดที่
สามารถมีทวนได้ขนาดใหญ่เท่านี้และคงไม่มีสตรีใดที่สามารถรับมือ
ทวนมังกรของเขาได้โดยง่ายอย่างแน่นอน
เมื่อถึงตรงนี้ความลาบากใจเริ่มปรากฎขึ้นมาภายในจิตใจของ
เหม่ยฮวา นางเริ่มคิดว่าความคิดที่ผ่านมาของนางนั้นอาจผิดพลาด
เสียแล้ว แม้ว่าร่องสวาทของนางจะมีขนาดกว้างกว่าตอนที่นางยัง
เยาว์วัยแต่มันไม่มีทางรับมือกับทวนมังกรขนาดนั้นได้อย่างแน่นอน
" ขะ...ข้าว่า..ข้าเปลี่ยนใจหากเจ้าต้องการเงินหรือทรัพย์......
ว๊ายยยยย !! "
หลินหมิงไม่ต้องการให้นางพูดกล่าวอะไรอีกต่อไปเสียงที่เขา
อยากได้ยินนั้นก็คือเสียงกรีดร้องของหญิงสาวผู้นี้เพียงเท่านั้นทวน
มังกรของหลินหมิงอัดกระแทกเข้าไปยังร่องสวาทของนางอย่างสุด
แรง จนท้องของนางโป่งพ่องขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับอาการ
จุกจนนางแทบจะพูดไม่ออก
ด้วยการทะลวงอันหนักหน่วงเหม่ยฮวาสามารถรับรู้ได้ถึงภายใน
ร่องของนางที่ฉีกขาดอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกเจ็บแสบบริเวณร่องรัก
ของนางเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นบุรุษหนุ่มผู้นกี้ ไ็ ม่มีทที ่าว่าจะ
ล้มเลิกแต่อย่างใดกลับกันนางกลับรู้สึกว่าทวนมังกรภายในร่างกาย
ของนางเริ่มขยับตัวขึ้นทันทีที่มันสามารถทะลวงเข้าไปภายใน
ร่างกายของนางได้
" ดะ..ดะ..เดียว...ม่ายยยยยยยยยยยย ~~~~~~ "
" ฮ่าาๆๆๆๆ ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบมันหรอกหรือการร่วมรักกับบุรุษ
วัยเยาว์เช่นข้า ? ข้ายินดีร่วมรักกับเจ้าไปชั่วข้ามคืนเจ้าคิดเห็นว่า
อย่างไรบ้างละ หรือหากเจ้าต้องการมากกว่านั้นข้าเองก็ไม่ว่าอะไร
หรอกนะ "
หลินหมิงเริ่มทาการขยับสะโพกของเขาอย่างบ้าคลั่งแบบทีไม่
เคยทามาก่อน เสียงเนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างรุนแรงดังไปทั่วห้อง
นั้นสามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าจากจู่โจมของหลินหมิงในครั้งนี้
นั้นรุนแรงมากเพียงใด
" พะ...พอ...ข้า....ขอร้อง อิย๊าาาาาาาาาา ~~~~~~ "
น้าลาย น้าตา จานวนมากไหลพรั่งพรูออกมาจากปากและตา
ของนางตามลาดับเหม่ยฮวานางรู้สึกราวกับว่าภายในท้องของนาง
นั้นกาลังมีการะเบิดที่รุนแรงเกิดขึ้น นางสามารถสัมผัสได้เป็นอย่าง
ดีว่าทวนมังกรที่อยู่ภายในตัวนางตอนนี้นั้นมันได้ขยายใหญ่ขึ้นเสีย
ยิ่งกว่าในตอนแรกเสียอีก น้ารักของนางเริ่มเดินในทันทีพร้อมกับ
ร่างของนางที่กระตุกถี่อย่างหยุดไม่อยู่แต่น่าเสียดายที่น้ารักใสๆของ
นางนั้นยังคงไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้เนื่องจากมันไม่สามารถ
ผ่านช่องว่างอันคับแคบที่ตอนนี้มีทวนมังกรของหลินหมิงเสียบค้าง
เอาไว้อยู่
" นี้เจ้าเสร็จแล้ว ? ดูเหมือนข้าจะทาให้เจ้าพอใจได้มากละสิ ?
เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าลิ้มลองต่อเลยแล้วกัน "
หลินหมิงไม่สนใจร่างกายของเหม่ยฮวาที่ยังคงกระตุกอยู่อย่างไม่
หยุด มือข้างหนึ่งของเขาตบไปที่บริเวณแก้มก้นของนางเพื่อให้นาง
คลายจากอาการกระตุกนี้เพราะมันทาให้เขาเคลื่อนไหวได้ลาบาก
" เห้...หากเจ้ายังไม่หยุด ข้าก็ไม่สามารถมอบความสุขให้เจ้าได้
อย่างถนัดนักนะรู้ไหม "
เพี้ยะะะ !!
" อ้าาา อ้าาาา ม่ายยยย พ..พอ..หยุดดด...ที... "
แม้ว่าเหม่ยฮวานางจะไม่ค่อยรู้สึกถึงบริเวณก้นของนางที่ถูกตบ
ตีโดยหลินหมิงอันเป็นเพราะว่าความรู้สึกที่เกิดที่บริเวณร่องสวาท
ของนางนั้นมันมีมากกว่าจนไม่อาจนามาเปรียบเทียบกันได้ นางรู้สึก
ได้ว่านางได้ปลดปล่อยน้ารักของนางออกมาโดยแทบจะไม่หยุดยั้ง
แต่มันก็ไม่สามารถออกไปได้ดังนั้นแล้วท้องของนางจึงค่อยๆขยาย
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
" โอ้..ดูเหมือนว่าข้าก็จะเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน เจ้าดีใจหรือไม่ ?
งั้นหรองั้นก็เตรียมรับไป "
" เอ้า !!! "
" ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อร้างงงงงงงงงงง
~~~~~~~~~~~ "
เทียบกับน้ารักของนางที่ไหลออกมาอย่างต่อเหนื่องแล้วการ
ปลดปล่อยน้ารักของหลินหมิงเพียงครั่งเดียวนั้นอาจเรียกได้ว่ามันมี
จานวนเทียบเท่ากับน้ารักของนางเลยก็ว่าได้ มันจึงทาให้ท้องของ
นางโป่งพ่องขึ้นมาราวกับว่ามันจะแตกออก
" ขะ...ขอร้อง..เอา..ออกไป..ก่อนนน "
นางต้องการให้น้ารักพวกนี้ออกไปจากร่างกายของนางโดยเร็วที่
สุดแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับติดตรงที่ทวนมังกรของหลินหมิงยังคง
เสียบร่องสวาทของนางเอาไว้มันจึงทาให้น้ารักนั้นค่อยๆซึมออกไป
ช้าๆเพียงเท่านั้น หลินหมิงมองไปยังร่างของเหม่ยฮวาด้วยความ
พึงพอใจคราบน้าตาและน้าที่ปรากฎที่บนใบหน้าของนางนั้นทาให้
เรียกได้ว่าสภาพของนางในตอนนี้แทบจะไม่เรื่อร่องรอยของผู้ที่มี
ตาแหน่งภรรยาของประมุขตระกูลใหญ่เลยแม้แต่นอ้ ย
หลินหมิงจาใจดึงทวนมังกรของเขาออกมาก่อนน้ารักของเหม่
ยฮวานั้นมีมากเกินไปมันทาให้เขาไม่สามารถขยับได้อย่างถนัด ผิด
กับหญิงสาวที่ตอนนี้ดูเหมื่อนว่านางกาลังเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
เมื่อนางเห็นว่าหลินหมิงถอนทวนมังกรออกไปแล้วนางถอนหายใจ
ออกเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกพร้อมกับเสียงลมหายใจอันหนักอึ้ง
ของนางในช่วงเวลาต่อมา
นางเพิ่งร่วมรักกับหลินหมิงไปเพียงไม่นานแต่ราวกับว่านางนั้น
ได้เสพสุขกับเหล่าบุรุษนับร้อย ไม่สิต่อให้เป็นพันเป็นหมื่นนางก็เชื่อ
ว่าพวกเขาเหล่านั้นคงไม่อาจทาให้นางมีสภาพเช่นนี้ได้ น้ารักขอ
นางไหลออกมาอย่างไม่หยุดย่อนพร้อมกับน้ารักอุ่นๆของหลินหมิ
งเองเช่นเดียวกัน นางอาจคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจบลงเพียงเท่านี้
ด้วยมาตรฐานธรรมดาของเหล่าบุรุษ
" เจ้าพร้อมต่อแล้วสินะ "
" มะ..หมายความ..ว่า...ไง "
" ก็อย่างนี้ไง "
อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา~~~~~~~~~~~~~~
หลินหมิงเสียบทวนมังกรเข้าไปในร่องสวาทของนางอีกครั้ง
แม้ว่ามันจะยังคงมีร่องรอยน้ารักจากก่อนหน้าจนทาให้เมื่อหลินหมิง
ขยับสะโพกของเขาจะทาให้เกิดเสียง กระเฉาะ ของน้าออกมาแต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้แต่อย่างใดเขายังคงแทง
ทะลวงเหม่ยฮวาต่อไปทัง้ อย่างนั้น
หลินหมิงจับให้ร่างของเขาเป็นฝ่ายนอนหงายลงโดยมีร่างของ
นางกดทับ เขาไม่ต้องการให้นางคุ้นชิดกับท่าเดิมๆโดยปกติแล้วท่า
นี้นั้นจะเป็นทวงท่าที่ให้เหล่าสตรีเป็นผู้นาแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิ
งก็กระแทกยกเอวของเขาพร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่จับเอว
ของนางเอาไว้พร้อมกับโยกร่างของนางขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเหม่ยฮวาในตอนนี้นางไม่มีเรี่ยวแรงเหลือในการ
ประคองร่างอีกต่อไปนางล้มลงทับร่างของหลินหมิงด้วยความ
เหนื่อยอ่อนแต่ถึงอย่างนัน้ ทวนมังกรกับมือของหลินหมิงทีย่ ังคงบีบ
จับที่ก้นของนางก็ยังคงจู่โจมนางต่อไปอย่างไม่หยุด นางสามารถ
รู้สึกได้ว่าด้วยการร่วมรักในท่านนี้มันทาให้ทวนมังกรของหลินหมิ
งแทบจะจะทะลุหน้าท้องด้านหน้าของนางออกมา
" อะ อะ อะ อ๊ะ อ๊าาาาาาา "
" ดะ..ได้โปรด...อะ อะ..ข้า...อ๊ะ~~มะ..ไม่ อ๊ะ~~ อ๊ะ~~ ไหว..
แล้ว "
เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้วน้าเสียงเหนื่อยอ่อนพร้อมกับอ้อนวอน
หลินหมิงอย่างสุดกาลัง แม้ว่าในภายหลังนางจะเริ่มไม่รู้สึกถึงความ
เจ็บปวดแต่มันแทนที่ดว้ ยความเสียวซ่านแล้วก็ตามแต่ถึงอย่างนั้น
การรับมือกับทวนมังกรขนาดนี้ด้วยจังหวะอันเร้าร้อนนั้นมันทาให้
ร่างกายของนางรับภาระมากเกิน นางคิดว่าต่อจากไปนี้นางคงไม่
สามารถหาความสุขกับบุรุษอื่นใดได้อีกต่อไป และถึงแม้ว่าบุรุษ
หนุ่มคนนี้จะไม่นาความลับของนางไปป่าวประกาศแต่หากเมื่อวันใด
ที่หลินฮ่าวสามีของนางเกิดมีความรู้สึกต้องการในตัวนางเมื่อนั้นก็
คงเป็นคราวจบสิ้นชีวิตของนางเช่นกัน
" เอาไปอีกกกก ! "
" อร้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ~~~~~~~~~~~~ "
หลินหมิงปล่อยน้ารักจานวนมากเข้าสู่ร่องสวาทของนางอีกครั้ง
จนแทบจะทาให้ร่างกายส่วนล่างของหญิงสาวในตอนนี้ราวกับว่า
มันถูกอาบไปด้วยน้ารัก หลินหมิงถอนทวนมังกรออกอีกครั้งพร้อม
กับผลักร่างของนางจากการที่นางคร่อมตัวของเขาเอาไว้อยู่
ในตอนนี้เหม่ยฮวานางแทบจะไม่สามารถประคองสติของตนเองได้
อีกต่อไปนางไม่อาจคาดคิดได้ว่านี้เป็นฝันที่นางได้ขนึ้ สวรรค์หรือ
นรกกันแน่
เพียะะ !!!
เสียงตบฉากใหญ่ที่ก้นของนางนั้นได้เรียกสติของนางให้ตื่น
ขึ้นมาจากการกลับไหลพร้อมกับทวนมังกรของหลินหมิงที่เข้าจู่โจม
ใส่ร่างกายของนางซ้าแล้วซ้าเล่า และเมื่อนางใกล้หมดสติเมื่อใด
นางก็จะถูกบุรุษหนุ่มผู้นี้ปลุกขึ้นมาเสมอ
ตอนที่ 44
ร่างของหญิงสาวที่ทั่วร่างของนางนั้นเปราะเปรื้อนไปด้วยน้ารัก
จานวนมากของบุรุษราวกับว่านางได้ผ่านการร่วมรักกับบุ่รุษมานับ
ร้อย พร้อมกับเสียหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงผสมกับเสียงคราง
อันเป็นจังหวะซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ว่านางจะอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว
นั้นทางฝ่ายของบุรุษหนุ่มเพียงคนเดียวที่ทาการร่วมรักกับนางอย่าง
ยาวนานนั้นไม่ได้มที ีท่าว่าจะให้นางได้พักเลยแม้แต่น้อย
" อ๊าา อ๊าาา อ๊าาาา อ๊าาาาา ~~~~~~~~~ พ...พอ...อร้างงงง "
เสียงครางกระเส้าของนางยังคงดังอย่างต่อเหนื่องแต่ถึงอย่างนั้น
นางก็ยังคงพยายามเอยคากล่าวขอร้องให้หลินหมิงได้หยุดลงเสียที
หรืออย่างน้อยในตอนนี้นางขอเพียงได้มีโอกาสพักผ่อนเสียหน่อยก็
ยังดีแม้ว่ามันจะเป็นความหวังอันหริบหรี่ก็ตามที่
" ถึงแม้เจ้าจะขอร้องให้ข้าหยุดแต่ภายในร่องสวาทของเจ้านั้นดู
เหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นนะ "
หลินหมิงที่กาลังขยับสะโพกอย่างรุนแรงตั้งแต่เริ่มนั้นสามารถ
สัมผัสภายในร่องของเหม่ยฮวาได้เป็นอย่างดีว่ามันได้ทาการ
ตอบสนองต่อทวนมังกรของเขาได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆครั้งที่หลินห
มิงทาการโยกสะโพกร่องของนางก็จะเกิดการขยับตัวไปโดย
ธรรมชาติด้วยเช่นกัน
หลินหมิงไม่รู้ว่าตัวเขานั้นได้ปลดปล่อยน้ารักไปกี่ครั้งแล้วมัน
อาจมากกว่าสิบหรือยี่สิบแต่เขาไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นเลยที่เขามั่นใจ
แน่นอนก็คือเหม่ยฮวานั้นจะต้องปล่อยน้ารักมามากกว่าเขาจนตัว
เขาไม่อาจเทียบติดอย่างแน่นอน เมื่อภายในร่องสวาทของนางนั้น
ในตอนนี้ถูกอัดไปด้วยน้ารักของเขาและนางจนมันไม่อาจระบาย
ออกมาได้ทันอีกต่อไป แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงจะใช้วิธีการรอให้
ร่องสวาทของนางได้ปลดปล่อยน้าออกมาเพียงแต่ว่าเขาคิดว่ามัน
เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์และมันยังทาให้นางได้พักอีก
ด้วย
" ...พอ..แล้ว..ใช่ไหม....ขอบคุณ...นะ..นายท่าน "
หลินหมิงไม่ได้บอกกล่าวให้นางเรียกตัวเขาว่านายท่านดังเช่น
เหลียนเย่อิ๋งเพียงแต่ว่าเมื่อเหม่ยฮวานั้นได้ถกู หลินหมิงจู่โจมอย่าง
บ้าคลั่ง มันทาให้หัวสมองของนางต้องพลันคิดถึงวิธีต่างๆ
เพื่อที่จะให้เขาได้หยุดจู่โจมนางนางพยายามทาทุกวิธีทางไม่ว่าจะ
ขอร้องอ้อนวอน หรือแม้กระทั่งสัญญาว่าจะยอมเชื่อฟังเด็กหนุ่มผู้นี้
แต่มันก็ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถสร้างความพอใจให้กับ
เขาได้มากนัก
จิตใจของนางเริ่มถูกแปรเปลี่ยนไปทีละนิดจากการที่โดนหลินหมิ
งกระแทกทวนมังกรอย่างยาวนานในจิตใจของนางเริ่มยอมรับในตัว
ของบุรุษหนุ่มผู้นี้ แรกเริ่มสาหรับนางแล้วบุรุษวัยเยาว์นั้นอาจ
เปรียบเสมือนสิ่งบาเร่อความใคร่ของนางเพียงเท่านั้นแต่ในตอนนี้
ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลับกันโดยสิ้นเชิง นางไม่สามารถ
โต้ตอบใดๆกับหลินหมิงได้ แต่แม้ว่านางจะเหนื่อยมากเพียงใดแต่
กลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นความสุขที่เยี่ยมยอดจนไม่อาจบรรยายได้
แม้ว่านางในตอนนี้จะต้องการให้หลินหมิงหยุดจู่โจมแต่นั้นเป็น
เพราะนางเหนื่อยจากการเสพสาลักความสุขที่มากเกินไป ไม่ใช่ว่า
นางไม่ต้องการให้หลินหมิงทาเช่นนี้อีก
" เจ้าก็รู้ว่ามันยังไม่พอหรอกนะ เอ้า..อี๊บบบบบบบบบ ! "
" ม่ายยยยย รูนั้นมัน อ๊าาาาาาา ฉีกหมดแล้ววววววว ดะ..ได้
โปรดเอาออกมาาาา "
แน่นอนว่าทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้ไม่ได้เสียบเข้าไปที่
ร่องสวาทของนางอีกต่อไปแต่หลินหมิงเสียบเข้าไปที่รูก้นของนาง
แทนต่างหาก ด้วยความที่รูก้นนี้ไม่เคยถูกใช่งานใดๆมาก่อนเลยมัน
จึงทาให้ขนาดของมันคับแคบเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิง
ก็ยัง่งแรกจากสะโพกจนสุ
ส่ ดกาลังส่งทวนของเขาแทงทะลุเข้าไปสุด
จนนางร้องเสียงโหยหวนออกมา
รูก้นของนางนั้นคับแคบกว่าร่องสวาทของนางอย่างเทียบไม่ติด
แต่อย่างนั้นหลินหมิงพบว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายนัก
เพราะว่าภายในรูก้นของนางนั้นปราศจากน้ารักของนางที่ทาหน้าที่
เปรียบเสมือนตัวล่อลื่น แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจเหมาะสมยิ่งกว่า
ก็เป็นได้ไม่ใช่หรือ ?
" โอ้ววว เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้างละกับก้นของเจ้าในตอนนี้ "
" อ๊าาาาา~~~~~~~ มะ...มันใช้ไม่ได้แล้ว...ดะ..ได้โปรดดด...
นะ..นายท่าน..เอา..ออก...ปายยยย "
ถึงแม้ว่าเหม่ยฮวาในตอนนี้นางจะถูกจู่โจมจากทางรูทวารแต่ดู
เหมือนว่าร่างกายของนางยังคงตอบสนองได้ดีอยู่เช่นเคย เห็นได้
จากร่างกายของนางที่ยังคงกระตุกถี่พร้อมกับน้ารักใสๆของหญิง
สาวที่ยังคงไหลออกมาอย่างไม่หยุดย่อนไม่ต่างจากในตอนที่หลินห
มิงจู่โจมนางที่ร่องสวาทของนางเลย
" เจ้าเป็นเพียงทาสของข้าแต่กลับกล้าออกคาสั่งข้างั้นรึนังร่าน !
"
เพี๊ยะะ !!
หลินหมิงตบฉากใหญ่เข้าไปที่แก้มก้นของนางจนในตอนนี้ที่
บริเวณก้นของนางนั้นจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นรอย
แดงเต็มไปหมดจากการทีน่ างได้ถูกหลินหมิงตบตี แต่ถึงจะเป็น
เช่นนั้นเหม่ยฮวาในตอนนี้นั้นดูเหมือนว่านางจะไม่ได้สนใจในการ
กระทาเช่นนี้ของหลินหมิงเลยแม้แต่น้อยกลับกันดูเหมือนว่านางจะ
ชื่นชอบมันเสียมากกว่าจากการที่ร่างกายของนางมักจะกระตุกอย่าง
รุนแรงขึ้นมาเมื่อถูกตบตี พร้อมกับใบหน้าของนางที่ปรากฎริ้วรอย
แห่งความสุขขึ้นมาเรื่อยๆ
" อ้าา ใช่ ข้ามันร่าน ได้โปรดแรงๆเลยนายท่านนน "
ตับ ตับ
เสียงก้อนเนื้อกระทบกันอย่างรุนแรงด้วยการที่นางมีสะโพกอัน
ใหญ่เหมาะแก่การรองรับของบุรุษมันจึงสร้างความพอใจให้แก่
หลินหมิงได้มากไม่ใช่น้อย ตัวของเหม่ยฮวาในตอนนี้นางไม่ได้เอ่ย
ปากขอร้องให้หลินหมิงหยุดอีกต่อไป ในตอนนีน้ างเพียงตั้งใจรับ
ความสุขที่ได้จากหลินหมิงเพียงเท่านั้น
" เจ้ามันร่านเกินเยียวยาจริงๆ ขนาดโดนทุบตียังแสดงสีหน้ามี
ความสุขเช่นนี้ "
" อร้างงงงงงงง "
หลินหมิงจัดการปล่อยน้ารักเข้าไปในรูก้นของนางจนมันแทบ
ทะลักออกมาด้วยตาของนางเบิกกว้างออกด้วยความสุขอย่างปิดไม่
มิด พร้อมกับสติของนางที่ค่อยๆหมดลงดูเหมือนว่านี้จะเป็น
ขีดจากัดของนางแล้วจริงๆมันไม่น่าตกใจเลยทีนางหมดสติลงเช่นนี้
หลินหมิงนั้นเองก็คาดไม่ถึงว่านางจะสามารถอดทนมาได้มากถึง
เพียงนี้เช่นเดียวกัน
" แล้วพวกเจ้าจะอยู่อย่างนั้นอีกนานไหม ? "
" !! "
หลินหมิงกล่าวขึ้นมาลอยๆแต่กลับมีร่างสองร่างสะดุ้งขึ้นมา มัน
เป็นร่างของหญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวานั้นเองในระหว่างที่หลินห
มิงได้ใช้เวลาร่วมรักกับนายหญิงของพวกนางนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่
ยาวนานมากและเมื่อพวกนางพลันได้สติขึ้นมาก็ตอ้ งตกใจกับภาพที่
เห็นตรงหน้า นางหญิงของพวกนางที่ไม่เคยพอใจกับบุรุษผู้ใดกับ
เอยปากครางเสียงหลงอย่างมีความสุขแบบที่พวกนางไม่เคยเห็นมา
ก่อน
และยิ่งพวกนางได้เห็นขนาดทวนมังกรในจังหวะทีห่ ลินหมิงนา
สะโพกขยับออกมันทาให้พวกนางหน้าสีเผือกไปด้วยอารมณ์
หลากหลาย มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีหญิงใดที่มสามารถรับมือกับทวน
ขนาดใหญ่เท่านี้ได้ไม่ใช่หรือ แต่ดูเหมือนว่านายหญิงของพวกนาง
นั้นจะไม่ได้แสดงทีท่าความเจ็บปวดแต่อย่างใดเลย เมื่อพวกนาง
สังเกตไปทีใบหน้าของนายหญิงของพวกนางพวกนางกลับพบเพียง
ใบหน้าของหญิงสาวที่เหนื่อยอ่อนแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเปี่ยมไป
ด้วยความสุข
พวกนางถึงกับทาอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้แน่นอนว่า
หากเป็นในสถานการณ์ปกติพวกนางสมควรเข้าช่วยเหลือนายหญิง
ด้วยการโจมตีหลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ในเมือ่ นายหญิงของ
พวกนางแสดงสีหน้าพึงพอใจมากถึงเพียงนี้แล้วพวกนางจะสมควร
ทาสิ่งใดได้กันเล่า
" ขะ ...ข้า "
พวกนางทั้งสองเริ่มมีอาการรนรานอย่างเห็นได้ชัดจากการที่
พวกนางได้เห็นบทรักอันเร้าร้อนของนายหญิงพวกนางกับเด็กหนุม่
ตรงหน้าไม่เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
พวกนางทั้งสองเป็นเพียงหญิงสาววัย 20 ต้นๆเพียงเท่านั้นการที่
พวกนางได้เห็นบทรักอันร้อนแรงเช่นนี้มันทาให้ร่องสวาทของพวก
นางถึงกับคันมุมมิบ พร้อมกับสัมผัสเปียกแฉะที่เกิดขึ้น

ตอนที่ 45
หญิงสาวรับใช้ทั้งสองของเหม่ยฮวานั้นพวกนางล้วนเป็นคนที่
เหม่ยฮวาไว้ใจในตัวพวกนางเป็นอย่างมากไม่เช่นนั้นแล้วด้วยฐานะ
ของเหม่ยฮวานั้นไม่มีทางที่นางจะให้ผู้ติดตามที่มีพลังเพียงขั้นที่ 8
และขั้นที่ 9 ปราณเริ่มต้นมาทาหน้าที่ปกป้องตัวนาง นางเพียง
ต้องการคนที่ไว้ใจได้เพียงเท่านั้นและบรรดาผู้ที่แข็งแกร่งในตระกูล
หลินนั้นล้วนมีฐานะที่ไม่ธรรมดาและพวกเขาอาจหาทางเอาเปรียบ
นางได้ในภายหลังนั้นจึงเป็นเหตุให้เหม่ยฮวาเลือกพวกนางทั้งสอง
หลินหมิงมองไปที่หญิงสาวรับใช้ทั้งสองด้วยความพึงพอใจเขา
สังเกตเห็นมาตัง้ แต่แรกแล้วว่าพวกนางนั้นได้สติตนื่ ขึ้นมาตั้งแต่
เมื่อใด แต่ในเมื่อไม่มีทที ่าว่าจะเข้าจู่โจมเขาแต่อย่างใดดังนั้นมันก็
ไม่มีความจาเป็นใดๆที่เขาจะต้องลงมือกับพวกนางอีก หลินหมิง
สารวจมองไปที่เรือนร่างของพวกนางด้วยสายตาหื่นกระหายแบบ
ปิดไม่มิดจนทาให้หญิงสาวทั้งสองนั้นรู้สึกทั่วร่างสัน่ สะท้านไม่ใช่
เพราะความกลัวต่อสายตาของหลินหมิงแต่เป็นอารมณ์อะไร
บางอย่างที่พวกนางไม่อาจเข้าใจได้เช่นกัน
สัดส่วนโค้งว้าวของเรือนร่างของพวกนางนั้นแม้ว่าจะดูด้อยกว่า
เหม่ยฮวาอยู่เพียงเล็กน้อยแต่นั้นย่อมเป็นเพราะอายุของพวกนาง
นั้นยังเพียง 20กว่าปีเพียงเท่านั้นดังนั้นแล้วพวกนางจึงเหนือกว่าใน
ด้านความงามและผิวพรรณที่ยังดูพุดพ่องอยู่เฉยเคย
" พวกเจ้าชื่ออะไร ? "
" ขะ...ข้า..หาน..จิงหนิง..เจ้าคะ "
" ขะ..ข้าจู..เวยเหลียน..เจ้าคะ "
หญิงสาวทั้งสองตอบออกมาด้วยน้าเสียงกังวลพร้อมกับใบหน้า
ของพวกนางที่แดงซ่านระเรื่อขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นเดินเข้ามาใกล้
พวกนาง ด้วยระยะใกล้ชิดเพียงนี้พวกนางสามารถสังเกตถึงขนาด
ทวนมังกรของหลินหมิงได้อย่างเด่นชัดไม่เพียงแต่มันจะมีรูปร่างที่
อวบกว่าทวนอื่นๆมันยังมีขนาดยาวกว่าอีกด้วย กลิ่นฉุนหน่อยลอย
มาตามลมเข้าสู่ปลายจมูกของพวกนางทั้งจิงหนิง และจูเวยเหลียน
นั้นพวกนางต่างรู้ดีว่ากลิน่ นี้สมควรเป็นของสิ่งใดแต่ถึงอย่างนั้นใน
ใจของพวกนางกลับปราถนากลิ่นเหล่านี้โดยที่พวกนางไม่อาจห้าม
ใจ
หานจิงหนิงนั้นเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างผอมเพรียวหากเมื่อเทียบ
กับเหม่ยฮวาแล้วพวกนางอาจเรียกได้ว่าค่อนข้างผอมแต่ถึงนางนั้น
บริเวณอวัยวะตรงหน้าอกของนางนั้นที่ดูผิดธรรมชาติจากรูปร่าง
ของนางไปบ้าง นางคือหญิงสาวที่มีพลังปราณขั้น 9 ปราณเริ่มต้น
ซึ่งจากการคาดเดาของหลินหมิงนั้นพวกนางทั้งสองนั้นอาจเป็น
หญิงสาวที่ถกู เหม่ยฮวาเก็บมาเลี้ยงดังนั้นพวกนางจึงต้องเคารพเชื่อ
ฟังเหม่ยฮวาแต่สิ่งเหล่านัน้ หลินหมิงหาได้สนใจไม่
ในความเป็นจริงแล้วสาหรับทุกคนในตระกูลหลินนัน้ หลินหมิง
ล้วนแล้วแต่มีความแค้นกับพวกเขาด้วยทั้งหมดทุกคน แม้ว่าเขาจะ
ไม่ได้ถกู ทุกคนกลั่นแกล้งก็ตามที่แต่สายตาดูถกู เหยียดหยามนั้นเป็น
สิ่งที่เขาต้องเผชิญตลอดเวลาหลายปีนั้นเป็นสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืม
และการแก้แค้นเล็กน้อยๆของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนี้แม้ว่าเหม่
ยฮวานั้นจะไม่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเพราะหลินหมิงนั้นไม่
ต้องการเปิดเผยออกไป
เพราะมันจะทาให้ความปลอดภัยของตัวเขานั้นน้อยลง ไม่มี
อะไรสามารถรับประกันได้ว่าเมื่อนางได้รับรู้ตัวตนของเขาแล้วนั้น
นางจะไม่บ้าคลั่งหรือคิดแก้แค้นเขา หากเปรียบเทียบกับสภาพของ
เหม่ยฮวาในตอนนี้เรียกได้ว่านางตกอยู่ภายใต้อาณัติของเขาเกือบ
ร้อยเปอร์เซ็นต์ สาหรับหญิงสาวรับใช้ทั้งสองหานจิงหนิงและจูเวย
เหลียนนั้นสาหรับการสังหารพวกนางนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
และเขาก็ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อยหากเขาจาเป็นต้องสังหารใคร
ก็ตาม
เพราะว่าในเรื่องนี้นั้นหลินหมิงได้ทาใจมาตั้งแต่แรกแล้ว หาก
เขาจะทาการสังหารหญิงสาวทั้งสองคนนี้สู้เอาพวกนางมาเป็น
เครื่องบาเร่ออีกทั้งพวกนางยังสามารถช่วยเขาในการพัฒนา
ขอบเขตพลังได้อีกด้วยดังนั้นหลินหมิงจึงไม่ได้ทาการสังหารพวก
นางทิ้งเสียตั้งแต่ตอนแรก
" ดะ...เดียว..จะทาอะไรเจ้าคะ...ไม่..ดะ..ได้อ๊าา "
หลินหมิงใช้มือข้างหนึ่งเข้าไปสารวจโพรงร่องสวาทของหานจิง
หนิงตอนนี้กาลังแฉะได้ที่ ร่างกายของหญิงสาวสั่นไปด้วยความ
เสียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมือสากๆของหลินหมิงนั้นทันทีที่เข้า
สัมผัสกับร่องสวาทของนางนั้นมันทาให้ร่างกายของหานจิงหนิงสั่น
กระตุกขึ้นมาในทันที
" โห..ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอารมณ์จากการดูการแสดงการร่วมรัก
ระหว่างข้ากับนายหญิงของเจ้า ? ไหนมาให้ข้าดูของเจ้าหน่อยสิ "
" มะ..ไม่ได้...อย่า...อิย๊าาาาา ~~~~~ "
ไม่ทันที่จูเวยเหลียนนางจะได้ตอบสนองได้ทันมืออีกข้างของ
หลินหมิงได้ล่วงเข้ามาผ่านเสื้อผ้าของนางอย่างรวดเร็วราวกับว่า
ในตอนนี้นางไม่ได้มีอาภรณใดๆปิดบัง สัมผัสที่ร่องสวาทของนางนั้น
ตื่นตัวขึ้นมาไม่ต่างจากหานจิงหนิงน้ารักใสๆของพวกนางทั้งสอง
ค่อยๆพรั่งพรู่ออกมาเรื่อยๆ
แม้ว่าพวกนางจะรู้ดีว่าเรื่องอย่างนี้มันไม่เป็นการสมควรแต่จะ
ทาอย่างไรได้ในเมื่อตอนนี้เมื่อพวกนางอยู่ต่อนางหลินหมิงนั้นราว
กับว่าเรี่ยวแรงของพวกนางทั้งสองนั้นถูกเสกให้อันตฐานหายไปใน
บัดดล
" ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทั้งสองคงอยากให้ข้าปรนนิบัติพวกเจา
ด้วย แน่นอนว่าข้านั้นสามารถทาให้พวกเจ้ามีความสุขเช่นนาย
หญิงของเจ้า ขอเพียงแค่นับแต่นี้ไปให้พวกเจ้าถือว่าตัวข้าเป็นนาย
ของพวกเจ้าแล้วข้าจะมอบความสุขให้พวกเจ้าบ่อยๆ "
" มะ..ไม่...อร้างงงงงงง ~~~~~~ "
" เจ้าว่าไงนะข้าฟังไม่ค่อยถนัดเลย "
หานจิงหนิงนั้นนางพยายามกล่าวฝืนความสุขที่เกิดขึ้นที่ร่อง
สวาทของนางแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็กลับใช้นิ้วของเขาแทงทวน
ร่องสวาทของนางเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม แตกต่างจากเพื่อนสาวของ
นางจูเวยเหลียนนั้นนางมีท่าทีตอบสนองในท่าทีดีกบั คาพูดของ
หลินหมิง สาหรับนางแล้วการขัดขืนหลินหมิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนักใน
ความคิดของนางไม่ว่าจะในเรื่องของความแข็งแกร่งนางล้วน
แล้วแต่ไม่มีทางเอาชนะหลินหมิงได้ดังนั้นนางเพียงได้แต่ทาตามคา
กล่าวของหลินหมิงไปไม่เช่นนั้นนาอาจถูกจู่โจมอย่างรุนแรงเหมือน
นายหญิง
" ดะ...ได้โปรด..นายท่านข้ายินยอมท่านทุกอย่าง "
" นี้เจ้า ! "
" ตัดสินใจได้ดีดังนั้นในตอนนี้ข้าคงต้องทาโทษเพื่อนของเจ้าเสีย
หน่อย..อ่อแต่หากเจ้าปราถนาจะให้ข้าปรนนิบัติเจ้าก่อนก็ได้นะถือ
ว่าเป็นรางวัลสาหรับการตัดสินใจของเจ้า "
" เอ่อ..มะ..ไม่ดกี ว่าเจ้าคะ "
หลินหมิงไม่ได้สนใจกับท่าทีของจูเวยเหลียนมากนักเขาหันมา
สบสายตากับหานจิงหนิงที่มองไปที่เพื่อนสาวของนางด้วยท่าท่า
โกรธกริ้ว หลินหมิงทาการดึงร่างของนางขึ้นมาพร้อมกับดันให้นาง
หันหลังให้เขาโดยที่ร่างกายของนางนั้นแนบชิดติดกาแพง ใน
ท่วงท่านี้หลินหมิงได้ทาการส่งทวนมังกรของเขาเข้าสู่ร่องสวาทของ
นางจากทางด้านเข้าไปอย่างสุดลาโดยที่หานจิงหนิงนั้นนางไม่
สามารถขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อย
" อ๊าาาาาาาา มะ มันลึกกกเกินไป ฉีกกกหมดแล้วว ดะ ได้
โปรดดด "
แม้ว่าหลินหมิงจะลงมือเบากว่าในตอนที่เขาเข้าจู่โจมเหม่ยฮวา
แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงครางออกมาอย่างสุดเสียง พร้อมกับ
พยายามออกแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากการโจมตีนี้ แต่ดูเหมือนว่าสิ่ง
เหล่านั้นจะเป็นการกระทาที่เปล่าประโยชน์ หลินหมิงเมื่อสอดทวน
มังกรของเขาเข้าไปในร่องสวาทของนางนั้นก็พบว่ามันมีขนาด
คับแคบอยู่พอสมควรอาจเป็นไปได้ว่านางนั้นไม่ได้ผ่านผู้ชายมามาก
นักแม้ว่าความบริสุทธ์ของนางจะถูกช่วงชิงไปแล้ว
หลินหมิงดึงร่างของจูเวยเหลียนเข้ากอดพร้อมกับประกบปาก
นางอย่างดูดดื่ม แม้ว่าเขาจะปลดปล่อยน้ารักไปเป็นจานวนมากใน
วันนี้แต่เขายัคงรู้สึกได้ว่าเขาสามารถกระทากับพวกนางไปได้อย่าง
ไม่หยุดหย่อน จูเวยเหลียนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็พลันถูกหลินหมิง
ประกบปากไปนั้นแม้ว่าในตอนแรกนางจะพยายามขัดขืนแต่เมื่อ
ผ่านไปสักพักร่างกายของนางก็พลันไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืนนางจึงทา
ได้เพียงปล่อยให้ลิ้นของหลินหมิงเข้าพัวพันภายในปากของนาง
อย่างหื่นกระหาย
เช่นเดียวกันกับหานจิงหนิงในตอนนี้นางไม่ได้มีทที ่าขัดขืนต่อ
หลินหมิงอีกต่อไป ทวนมังกรที่ยังคงอัดกระแทกร่องสวาทของนาง
ส่งให้ร่างของนางแนบชิดติดกาแพงนั้นมอบความรู้สึกเปี่ยมสุขแบบ
ที่นางไม่เคยเป็นมาก่อน
" ข้า......จะเสร็จแล้ววววเจ้าคะะะ อร้างงงงงงงงงงงงงงงง "
น้ารักของหลินหมิงจานวนมากได้เข้าสู่ภายในร่างกายของนาง
อย่างท่วนถ้นหลินหมิงดึงทวนมังกรของเขาออกมาส่งผลให้ร่างกาย
ของจิงหนิงที่ไร้ซึ่งสิง่ ค้ายันนั่งฟุบลงที่พื้นด้วยความหมดแรง
" ทาความสะอาดมันซะ "
" จะ..เจ้าคะนายท่าน "
จิงหนิงนางไม่กล้ากล่าวต่อต้านใดๆกับหลินหมิงอีกต่อไปเมื่อนึก
ถึงภาพนายหญิงของพวกนางแล้วนั้น สภาพของนางเช่นนี้เรียกได้
ว่าดูดีกว่านายหญิงของนางแบบเทียบไม่ติด มือทัง้ สองข้างของนาง
ที่กาลังจะเอื้อมมือไปเพื่อสัมผัสชะล้างคราบน้ารักที่เปราะเปรื้อนบ
นทวนมังกรของหลินหมิงนั้นถูกหลินหมิงกล่าวขัดขึ้นมาเสียก่อน
" เดียว..ใช้ปากของเจ้า "
นางรู้สึกสับสนในคากล่าวของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้
นางไม่สามารถทาสิ่งใดได้นอกจากทาตามคาสั่งเท่านั้น หลินหมิ
งหันกลับไปนั่งลงที่เตียงโดยยังคังประกบปากอย่างดื่มด่ากับจูเวย
เหลียนต่อไปและให้จิงหนิงนั้นใช้ปากทาความสะอาดทวนมังกรของ
เขา
จิงหนิงนั้นนางจะริมฝีปากแตะไปที่คราบน้ารักทีละน้อยด้วย
ความเอียงอาย หลินหมิงจึงใช้มือข้างหนึ่งของเขากดศรีษะของนาง
ส่งผลให้ทวนมังกรเข้าไปเต็มปากของนางจนทะลุลงไปถึงลาคอ
" อื้ออออออออ..~~~~~~~~~~ "
หลินหมิงจับศรีษะของนางค้างไว้สักพักจากนั้นจึงปล่อยออก จิง
หนิงสาลักออกมาอย่างรุนแรงแต่ถึงอย่างนั้นรสชาติของน้ารักของ
หลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่นางไม่สามารถทาใจให้ลืมได้ นางพยายามจะ
เข้าไปทาความสะอาดมันอีกครังเพียงแต่ในตอนนี้หลินหมิงได้ใช้
ทวนมังกรของเขาแทงกระแทกเข้าไปใส่เพื่อนสาวของนางเข้าไป
เสียแล้ว
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยามในตอนนี้หลินหมิงกาลังนอนพักผ่อนอย่าง
สบายใจหลักจากที่เขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปเป็นจานวนมาก โดย
ที่มีร่างของหญิงสาวสองคนกาลังใช้ปากทาความสะอาดทวนมังกร
ของเขาอยู่ซึ่งพวกนางก็คือหญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวานั้นเอง
หลินหมิงใช้เวลาหนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาในการร่วมรักอย่างหนักหน่วง
กับพวกนางทั้งสองจนทาให้พวกนางทั้งสองนี้กลายเป็นของเขาโดย
สมบูรณ์ พวกนางยินดีทาความสะอาดทวนมังกรให้แก่เขาอย่างว่า
ง่ายอาจกล่าวได้ว่าเป็นทางฝ่ายพวกนางที่ขอร้องเขาเสียมากกว่า

ตอนที่ 46
หลินหมิงกลับออกมาจากหอนางโลมของเหลียนเย่อิ๋งในเวลา
เกือบเช้าโดยที่เข้าไปลืมทีจ่ ะให้ของขวัญแก่เหม่ยฮวาอีกสักครั้งก่อน
จากลาในตอนที่นางตื่นขึ้นมา โดยนับต่อจากนี้นนั้ เหม่ยฮวานั้นอาจ
กล่าวได้ว่านางได้กลายเป็นเครื่องบาเร่อส่วนตัวของเขาโดยสมบูรณ์
ไปเสียแล้ว หอนางโลมของเหลียนเย่อิ๋งนั้นจะเป็นสถานที่ที่เขานัด
เจอกับนาง แต่มันจะไม่ใช่เร็วๆนี้อย่างแน่นอน
เพราะแม้ว่าในตอนแรกการทรมานนางด้วยการข่มขืนเหม่ยฮวา
นั้นอาจเป็นเรื่องที่ทาให้เขาพึงพอใจเมื่อได้เห็นใบหน้าของนาง
เพียงแต่ในตอนนี้ที่จิตใจของนางเปลี่ยนไปการที่ทรมานให้นางไม่
สามารถลิ้มรสความสุขจากการร่วมรักกับบุรุษนั้นเป็นอะไรที่
น่าสนใจยิ่งกว่า
หลินหมิงกลับมาพร้อมกับทาสมาธิเพื่อปรับพลังลมปราณใน
ร่างกาย หลังจากที่เข้าได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวไปเป็นจานวน
มากในคาคืนนี้มันทาให้ในที่สุดระดับพลังปราณของเขาในตอนนี้ก็
ก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดขั้นที่ 7 ปราณเริ่มต้น หลินหมิงรู้ดีว่ายิ่งเมื่อเขา
แข็งแกร่งขึ้นมาเพียงใดการที่เขาจะสามารถพัฒนาไปได้ต่อนั้นยิง่
ยากยิ่งขึ้น
ในค่าคืนนี้ไม่เพียงเขาได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวไปถึงสี่คนแต่
นั้นเพียงพอสาหรับการที่เขาสามารถพัฒนาตนจากขั้นที่ 6 มาเป็น
ขั้น 7 ปราณเริ่มต้นเพียงเท่านั้นหลินหมิงไม่อยากคิดถึงอุปสรรคใน
ตอนที่เขาเข้าสู่ลมปราณระดับก่อเกิดเมื่อนั้นเขาคงบ่มเพาะพลังได้
ยากยิ่งกว่าในตอนนี้แบบเทียบไม่ติด
เมื่อในตอนนี้หลินหมิงมีพลังจุดสูงสุดขั้นที่ 7 ปราณเริ่มต้นแล้ว
นั้นมันทาให้เขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการรับมือกับผู้ที่มีพลัง
ระดับปราณก่อเกิด และการประลองในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้มันคง
ไม่อาจนับได้ว่าเป็นปัญหาสาหรับหลินหมิงอีกต่อไป หลังจากใช้
เวลาพักใหญ่ในการปรับพลังลมปราณในร่างกายหลินหมิงจึงนา
ตารา [ ก้าววายุ ] ที่ได้มาจากอาจารย์สาวสวยของเขานามาศึกษา
ต่อแม้ว่าหลินหมิงจะทราบดีว่าการทาความเข้าใจเกี่ยวตาราทักษะ
พวกนี้นั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งแต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงผิดหวังไม่
น้อยที่ไม่สามารถพบความก้าวหน้าใดๆในทักษะนี้
หลินหมิงใช้เวลาศึกษาจนกระทั่งถึงในช่วงบ่ายหลินหมิงจึงได้ทา
การไปหาอาจารย์สาวสวยของเขาเพราะดูเหมือนว่านางจะต้องการ
ทราบความก้าวหน้าของเขาในทุกๆวัน เมื่อมาถึงภายในห้องทางาน
ห้องนางหลินหมิงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อดูดเอากาอาศสดชื่น
ที่อบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของหญิงสาว ราวกับว่ากลิ่นหอมนี้มนั
สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนของเขาให้หาย
เป็นปลิดทิ้ง
" ศิษย์มาแล้วขอรับท่านอาจารย์ "
" อ่อ..อืมมานี้สิ...ไม่เลวดูเหมือนว่าเจ้าจะพัฒนาขึ้นมามาก
ทีเดียวถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีใดก็ตาม...แล้วข้ามีเรื่องที่ต้อง
บอกให้แก่เจ้าด้วย "
" ในวันพรุ่งนี้เจ้าจะต้องออกไปทาภารกิจ ! "
สาหรับเหล่าขุมอานาจดั่งเช่นสมาคมนักปรุงยาหรือบรรดา
ตระกูลใหญ่ต่างๆแล้วนั้นรายได้ส่วนหนึ่งของพวกเขานั้นย่อมได้มา
จากภารกิจที่ถูกว่าจ้าง โดยภารกิจเหล่านี้แต่ละฝ่ายนั้นมีการจัดแบ่ง
ที่แตกต่างกันออกไปโดยสมาคมนักปรุงยานั้นศิษย์ที่เป็นศิษย์ส่วนตัว
ของผู้อาวุโสนั้นภารกิจจะถูกคัดเลือกโดยอาจารย์ของพวกเขาเองไม่
เพียงแต่นี้จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับสมาคมมันยังเป็นหนทางใน
การพัฒนาตนให้กับศิษย์ของพวกเขาอีกด้วย
แต่สาหรับศิษย์ที่ไม่ใช่ศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสแล้วนั้นพวกเขา
จะต้องเลือกภารกิจกันเอาเองโดยที่ภารกิจทั้งหลายนั้นจะถูกจากัด
ขีดขั้นต่าของระดับพลังที่ผู้รับภารกิจจะต้องรวมถึงคุณสมบัติอื่นๆที่
ผู้ว่าจ้างต้องการ รางวัลที่ได้จากภารกิจนั้นจากหนึ่งในสามจะต้อง
เป็นของศิษย์อีกทั้งยังได้คะแนนไปแลกวัตถุดิบในการบ่มเพาะหรือ
แม้กระทั่งยาเพียงแต่ว่าภารกิจเหล่านี้นั้นถูกจากัดให้ทาเอาเพียงได้
แค่คนละ 1 เดือนต่อครั้งเท่านั้นยิ่งภารกิจที่มีความอันตรายมากผล
ตอบรับก็ยิ่งสูงมากเช่นเดียวกันและทุกคนต้องทาภารกิจต่อปีหนึ่งไม่
น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปีไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกไล่ออก
แต่สาหรับศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสนั้นพวกเขาไม่ได้ถูกข้อจากัด
ในเรื่องการปฎิบัติภารกิจ ภารกิจเหล่านี้นอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน
บททดสอบที่เหล่าผู้อาวุโสจงใจมอบให้แก่พวกเขาเพื่อทดสอบ
ความสามารถดังนั้นแล้วพวกเขามีโอกาสที่จะได้ทาภารกิจมาก หรือ
น้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้อาวุโสและพวกเขาไม่ได้มีแต้มแลกดังเช่นศิษย์
อื่นๆเพราะหากเมื่อพวกเขาปฎิบัติภารกิจสาเร็จคงไม่ต้องพูดถึงว่า
ของรางวัลที่เขาได้จากผู้อาวุโสนั้นจะมากเพียงใดดังนั้นแล้วสาหรับ
แต้มแลกนั้นมันนับได้ว่าเป็นสิ่งน้อยนิดจนไม่อาจนามาเทียบกันได้
จูหนิงเอ๋อส่งม้วนกระดาษที่เขียนเนื้อหาภารกิจส่งมาให้แก่เขา
หลินหมิงเปิดอ่านทันทีด้วยความตื่นเต้น เนื้อหาของภารกิจนั้น
เกี่ยวกับการตรวจสอบบริเวณชายแดนเมืองที่ดูเหมือนว่าจะมีกอง
กาลังแปลกๆเกิดขึ้นเข้าโจมตีหมู่บ้านต่างๆ หากดูตามเนื้อหาแล้ว
นั้นด้วยพลังของเขาในตอนนี้มันอาจกล่าวได้ว่าไม่เหมาะสม เพราะ
เนื่องด้วยที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นที่ชายแดนนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้น
จากกลุ่มโจรที่มีอานาจหรือไม่ก็กองกาลังจากอาณาจักรอื่นที่เข้ามา
ก่อกวนซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วสาหรับผู้ที่พลังขั้น 7 ปราณเริ่มต้น
นั้นนับว่าเป็นอะไรที่เกิดตัวเกิดไป
" ไม่ต้องเป็นห่วงภารกิจนี้ข้าไม่ได้ส่งเจ้าไปเพียงลาพัง...เข้ามา
"
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างหญิงสาวคนหนึ่งปรากฎตัว
ขึ้นมา มันทาให้หลินหมิงถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะผิวพรรณของ
หญิงสาวที่เรียบเนียนขาวผุดพ่องดังเช่นหิมะขาว ดูหนุ่มละมุนราว
กับปุ่ยเมฆสัดส่วนโค้งว้าวตามร่างกายของนางที่ดแู ล้วช่างยั่วย้วน
อารมณ์ของเหล่านั้นและที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือใบหน้าที่งดงามที่
เทียบเท่ากับเทพธิดาทั้งสีท่ ี่อยู่ในใจเขาตอนนี้ !
" คาระวะท่านประมุข "
หญิงสาวผู้มาใหม่เมื่อหลินหมิงดูจากภายนอกแล้วนั้นอายุของ
นางนั้นอาจประมาณเพียง 20 ต้นๆเพียงเท่านั้น แต่หลินหมิงไม่
สามารถตรวจสอบพลังของนางได้เป็นไปได้ว่าอย่างน้อยแม่นางผู้
งดงามผู้นี้จะต้องมีพลังไม่น้อยกว่าขั้นก่อเกิดเข้าไปแล้ว
" ฮั่วหมิง..นี้ หลัวฉิงเชี่ยน "
' หลัว...ฉิงเชี่ยน ? '
แม้ว่าหลินหมิงจะเพิ่งเข้าสมาคมนักปรุงยาได้ไม่นานแต่มันไม่มี
ทางที่เขาจะไม่เคยได้ยินชื่อของ หลัวฉิงเชี่ยนเป็นแน่หากผู้คนกล่าว
ว่าหลินเสี่ยวต้านั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์ที่อายุมไม่
เกิน 18 ปี หลัวฉิงเชี่ยนนี้นางอาจกล่าวได้ว่าเป็นศิษย์ที่มีความ
อัจฉริยะมากที่สุดในสมาคม
ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้มีผู้อาวุโสใดๆรับเป็นศิษย์ส่วนตัวแต่นางถือ
ว่าเป็นศิษย์สายนอกจานวนน้อยนิดของอาจารย์สาวสวยของเขา
ด้วยวัยของนางที่มีอายุเพียง 20 ปีแต่นางกลับมีระดับพลังถึงขั้น 3
ปราณก่อเกิดหากเปรียบเทียบกับหลินเสี่ยวต้าแล้วนั้นตัวตนของเขา
ยังคงไม่สามารถนามาเปรียบกับหญิงสาวนางนี้ได้เพราะถึงแม้ว่า
หากหลินเสี่ยวอายุครบ 20 ปีแต่มันคงไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นจนถึง
ระดับเดียวกันกับนางในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน
กริยาท่าทางของหลัวฉิงเชี่ยนนั้นเต็มไปด้วยความเคารพในตัว
อาจารย์สาวสวยของเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาจารย์สาวสวยของ
เขานั้นมีส่วนในการพัฒนาอันน่ากลัวของหญิงสาวผู้นี้เนื่องด้วยแต่
เดิมแล้วนั้นตระกูลหลัวยังไม่อาจนับเป็นตระกูลใหญ่เช่นเดียวกับ
ตระกูลหลินและตระกูลหลิว แต่ถงึ อย่างนั้นนางกลับมีความสามารถ
ที่ล้าลึกเสียยิ่งกว่ารุ่นเยาว์จากบรรดาตระกูลใหญ่
" เจ้าคงทราบเกี่ยวกับภารกิจที่ข้าได้ส่งคนไปแจ้งแล้วสินะ ? "
" เจ้าคะ "
" งั้นก็ดีดงั นั้นแล้วข้าจะอธิบายภารกิจนี้ให้พวกเจ้าฟังอีกครั้ง...
หน้าที่ของพวกเจ้าทั้งสองมีเพียงเข้าตรวจสอบความวุ่นวายที่
เกิดขึ้นบริเวณชายแดนเมืองหากพบเห็นว่าปัญหาเหล่านั้นไม่เกินมือ
ของพวกเจ้าข้ายินดีให้พวกเจ้าจัดการได้โดยในทันที...แต่หาก
ปัญหาที่พวกเจ้าพบนั้นมีความอันตรายต่อชีวิตพวกเจ้าก็จงรีบ
กลับมารายงานให้กับข้า "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนกล่าวพยักหน้ารับคาจูหนิงเอ๋อร์อย่าง
ว่าง่ายด้วยการที่มีผู้ที่พลังปราณขั้น 3 ปราณก่อเกิดนั้นอาจเรียกได้
ว่าความปลอดภัยของพวกเขาอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่าง
ใดเพราะหากพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งเข้ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่พวก
เขาจะทาการหลบหนี
" อีกสามวันจะถึงวันที่พวกเจ้าจะต้องออกเดินทางดังนั้นให้พวก
เจ้าไปเตรียมให้เรียบร้อย "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนกล่าวพูดคุยสอบถามเกีย่ วกับภารกิจ
อีกเพียงเล็กน้อยจึงทาการออกมาจากห้องของนาง ด้วยพลังของ
หลินหมิงในตอนนี้เขามีความมั่นใจอยู่หลายส่วนในการที่จะทา
ภารกิจในครั้งนี้ หลัวฉิงเชี่ยนหันมามองน้องหลินหมิงในตอนที่พวก
เขาได้ออกมาจากห้องของอาจารย์สาวสวย
" ศิษย์น้องนี้คงเป็นภารกิจแรกของเจ้าดังนั้นหากเจ้ามีปัญหาอัน
ใดสามารถปรึกษากับข้าได้ "
แน่นอนว่าหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมีความรู้สึกในแง่ดีต่อหลินหมิง
เพราะว่าเนื่องจากนางและหลินหมิงนั้นล้วนมีฐานะแต่เดิมนั้นไม่ดี
เทียบเท่ากับรุ่นเยาว์จากบรรดาตระกูลใหญ่โดยเฉพาะกับหลินหมิง
นางเข้าใจดีว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คงต้องพบเจอกับความลาบากมากกว่า
นาง
" ขอบน้าใจศิษย์พี่ "

แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงจะรู้สึกเศร้าใจที่จะต้องออกไปทา
ภารกิจในที่ห่างไกลมันทาให้เขาไม่สามารถพบเจอหญิงสาวของเขา
ไปเป็นเวลานานแต่ถึงอย่างนั้นอย่างน้อยเขาก็ยังได้พบเจอหญิงงาม
เช่นหลัวฉิงเชี่ยนในแต่ละวันของการทาภารกิจนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่
ไม่เลวนัก

หลัวฉิงเชี่ยน

ตอนที่ 47
หลินหมิงได้รับคาแนะนาต่างๆในการเตรียมตัวจากศิษย์พี่สาว
สวยของเขาถึงแม้ว่านางจะมีอายุและความแข็งแกร่งที่มากกว่าเขา
แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ให้ความรู้สึกกดดันกับตัวเขาเลยแม้แต่
น้อยกลับกันเมื่อหลินหมิงอยู่ใกล้ๆนางตัวเขากลับรูส้ ึกผ่อนคลายเสีย
มากกว่า
จวบจนตอนเย็นเมื่อหลินหมิงตระเตรียมสัมภาระส่วนหนึ่งเสร็จ
เรียบร้อยเขาจึงได้เดินทางไปยังตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งเพื่อไปหา
หลิวฉวนยูร์ ด้วยระยะห่างจากสองตานักที่ไม่ห่างกันมากนักทาให้
หลินหมิงใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึง หลินหมิงนึกสงสัยเล็กน้อยว่า
แม่เทพธิดาน้อยของเขานั้นจะได้รับภารกิจเช่นเดียวกับเขาด้วย
หรือไม่ถึงอย่างไรเสียนางก็เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วย
เช่นกัน
เมื่อหลินหมิงมาถึงที่ตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นเขาก็แปลกใจ
เล็กน้อยเมือบรรดาคนรับใช้ต่างๆไม่ได้มีใครเข้ามาสอบถามในการ
มาเยือนของเขาในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อยราวกับว่าพวกเขาถูกออก
คาสั่งเอาไว้ หลินหมิงไม่สนใจกับความผิดปกติเล็กน้อยนี้เขาเดินเข้า
ไปยังสวนหลังตานักที่ที่หลิวฉวนยูร์ชอบอาศัยอยู่
หลินหมิงเดินเข้ามาภายในสวนจนกระทั่งเจอร่างของหญิงสาวที่
เขาตามหาอันที่จริงแล้วสวนแห่งนี้นั้นถูกสงวนเอาไว้โดยผู้อาวุโสซู
หลิ่งไม่ให้ผู้ใดได้เข้ามายกเว้นเพียงศิษย์ของนาง ถึงอย่างนั้นหลินห
มิงก็เคยได้รับการสอนจากนางมาช่วงเวลาหนึ่งเช่นเดียวกันนั้นอาจ
ทาให้บรรดาเหล่าข้ารับใช้ไม่ได้ตรงเข้าห้ามหลินหมิงก็เป็นได้
หลินหมิงเดินตรงไปหาหลิวฉวนยูร์ด้วยย่างก้าวทีแ่ ผ่วเบาหาก
เป็นเมื่อก่อนมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเคลื่อนไหวเช่นนี้ นี้ต้อง
ขอบคุณอาจารย์สาวสวยของเขาที่มอบทักษะ [ ก้าววายุ ] มาให้
เขาถึงแม้ว่าหลินหมิงจะทาความเข้าใจมันได้เพียงเล็กน้อยแต่เห็นได้
ชัดว่ามันก็มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งไม่ใช่น้อย
" ว้ายย "
หลินหมิงเข้าสวมกอดของหลิวฉวนยูร์จากทางด้านหลังของนาง
ในตอนนี้เนื่องจากหลินหมิงพอจะทราบความรู้สึกของแม่เทพธิดา
สาวผู้นี้ที่มีต่อเขาแล้วเขาจึงกล้ากระทาเช่นนี้ หลิวฉวนยูร์ร้อง
ออกมาอย่างตกใจพร้อมกับแสดงท่าทางขัดขืนออกมาแต่เมื่อนาง
เหลือบไปมองเห็นเป็นร่างของหลินหมิงนั้นเรี่ยวแรงขัดขืนของนางก็
ค่อยๆน้อยลงไป
" เจ้าตัวร้ายเจ้ากล้าทาเช่นนี้เชียวรึ "
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับออกแรงหันตัวไปเผชิญหน้ากับ
หลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงกอดนางไม่ปล่อยให้หลุด
ออกจากอ้อมแขนของเขา
" ข้าแทบนอนไม่หลับเมื่อคืนนี้นั้นย่อมเป็นเพราะความผิดของ
เจ้าดังนั้นแล้วข้าต้องการของขวัญปลอบประโลมเสียหน่อย "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับยืน่ ริมฝีปากเข้าใกล้หลิวฉวนยูร์แต่ถึง
อย่างนั้นเขาก็ถูกนางหยุดเอาไว้เสียก่อน แน่นอนว่าหลิวฉวนยูร์เอง
นั้นในคืนที่ผ่านมานางแทบจะนอนไม่หลับเช่นเดียวกันนางแทบไม่
อยากคิดว่าเมื่อนางหลับลงไปแล้วนางตื่นขึ้นมาหากเรื่องราว
ทั้งหมดเป็นเพียงความฝันนั้นคงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากสาหรับนาง
แต่อย่างไรเสียการที่หลินหมิงมาหานางในตอนนี้นั้นเท่ากับเป็นการ
ตอกย้าแล้วว่านางไม่ได้ฝนั ไปจริงๆ
" หืม...ข้ารู้หรอกนะว่าเมื่อคืนเจ้าไปทาสิ่งใดมาดังนั้นแล้วเจ้ายัง
กล้ากล่าวขอของขวัญจากข้าทั้งที่เจ้ารู้ว่าเจ้าไปทาสิ่งใดมา "
หลินหมิงหลั่งเหงื่อออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคากล่าวของหลิวฉ
วนยูร์ดูเหมือนว่าแม่เทพธิดาสาวสวยผู้นี้จะมีความสามารถที่รอบ
ด้านเสียจริง หลินหมิงทาการปล่อยนางออกจากอ้อมแขนเปลี่ยนไป
เป็นการจับมือนางอย่างอบอุ่นแทน หลินหมิงกล่าวเรื่องที่เขาต้องไป
ทาภารกิจให้กับนางฟังในขณะที่ทั้งสองเดินจับมือคุยกันอย่างอบอุ่น
หลิวฉวนยูร์นางมีท่าทีเสียใจเล็กน้อยเมื่อนางรู้ว่าหลินหมิงต้อง
ไปทาภารกิจ ในการทาภารกิจในที่ห่างไกลนั้นย่อมใช้เวลาไปไม่ใช่
น้อยดังนั้นแล้วนั้นย่อมหมายความว่านางจะไม่สามารถเห็นหน้า
หลินหมิงไปหลายวันเมื่อคิดถึงมันก็ทาให้ใจของนางสั่นไหว
" เจ้าตัวร้ายเจ้าต้องรีบกลับมานะ "
หลิวฉวนยูร์นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงแงงอนแม้ว่านางจะไม่
ต้องการให้หลินหมิงจากไปแต่นางจะทาอย่างไรได้ หลินหมิงใช้เวลา
เปี่ยมสุขกับหลิวฉวนยูร์อยู่พักใหญ่การได้พูดคุยกับแม่เทพธิดาสาว
สวยผู้นี้ช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าการที่เขาได้ร่วมรัก
กับหญิงสาวเมื่อคืนนี้เสียอีก
หลังจากที่ได้กล่าวพูดคุยกับหลิวฉวนยูร์อยู่พักใหญ่ทาให้เขาได้รู้
ว่านางไม่ได้มภี ารกิจที่ต้องไปทาในที่ห่างไกลเช่นเดียวกันกับเขา
อาจเป็นไปได้ว่าเรื่องของภารกิจในที่ห่างไกลนั้นทางตระกูลของนาง
คงไม่ยอมส่งตัวนางให้ออกไปทาภารกิจเหล่านั้นตามความคิดของ
หลินหมิง หลินหมิงกลับออกมาจากตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งตัว
ความรู้สึกชุมชื่นหัวใจมันคงไม่ดีมากนักหากเขาจะอยู่ที่นั้นนานมาก
เกินไป
สามวันผ่านไปในที่สุดก็ถงึ กาหนดการของวันที่เขาต้องไปทา
ภารกิจหลินหมิงยืนอยู่หน้าตานักของอาจารย์สาวสวยของเขาโดย
ข้างข้างเขามีร่างของหลิวฉิงเชี่ยน การเดินทางในครั้งนี้จะเป็นการ
เดินทางโดยใช้รถม้าด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากชายแดนนั้นจึง
เป็นเหตุว่าพวกเขาจะต้องใช้รถม้าในการเดินทางครั้งนี้
พวกเขาอาจต้องใช้เวลาราว 3 วันในการเดินทางไปยังชายแดน
อีกทั้งยังต้องสารวจพื้นที่โดยรอบอีกด้วย ท่าทางของหลิวฉิงเชี่ยน
นั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจมันเห็นได้ชัดว่าแม่สาวสวยผู้นี้มี
ประสบการณ์ในการทาภารกิจมามากพอสมควรเพราะว่านางไม่ได้ที
ท่าตื่นเต้นหรือตื่นตระหนกเหมือนตัวของหลินหมิง
หลังจากกล่าวลาอาจารย์สาวสวยของเขาเป็นที่เรียบพวกเขาก็
ได้ขึ้นรถม้าพร้อมกับออกเดินทางในทันที โดยในส่วนของคนขับรถ
ม้านั้นเป็นคนจากสมาคมที่ทาหน้าที่นี้ ภายในรถม้านั้นในตอนแรก
หลินหมิงคิดว่าเขาอาจต้องเผชิญหน้ากับความอึดอัดเนื่องจาก
ภายในนั้นจะประกอบไปด้วยเขาและหลัวฉิงเชี่ยนเพียงเท่านั้น
เพียงแต่ว่ามันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่หญิงสาวผู้งดงามผู้นี้กลับมีอัธ
ยาสัยที่ดีเกินกว่าที่หลินหมิงคิดเอาไว้นางเป็นกล่าวพูดคุยกับหลินห
มิงอย่างสบายเพื่อช่วยสลายบรรยากาศอึดอัดเหล่านั้น นางได้
สอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาและการสอนของอาจารย์พร้อมทั้ง
แลกเปลี่ยนความรู้กันเล็กน้อย
" ไม่น่าเชื่อว่าศิษย์น้องอายุเพียงเท่านี้กลับมีความสามารถทั้งใน
ฐานะนักปรุงยาและนักสูอ้ ีกด้วย "
เมื่อหลัวฉิงเชี่ยนนางได้ฟงั เรื่องราวของหลินหมิงนางก็อดตะลึง
ในความสามารถของเด็กหนุ่มผู้นี้ไปไม่ได้ นางย่อมเป็นหนึ่งที่รู้ดีว่า
การฝึกฝนทักษะการปรุงยาโดยปราศจากผู้สนับสนุนนั้นเป็นเรื่องที่
ยากมากดังนั้นแล้วบรรดารุ่นเยาว์ที่มีฐานะปานกลางลงมาจึงไม่
ค่อยมีสิทธิ์ในการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้เท่าใดนัก
หลินหมิงเองก็รู้สึกแปลกใจในความแข็งแกร่งของหญิงสาว
เช่นเดียวกันจากการพูดคุยกับนางทาให้เขารู้ว่าตระกูลหลัวนั้นเป็น
เพียงตระกูลพ่อค้าที่มีฐานะระดับปานกลางเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่าง
นั้นนางก็ยังสามารถฝึกฝนตนจนเป็นหน้าเป็นตาของคนในตระกูล
แน่นอนว่าแม้นางจะไม่ได้เป็นหนึ่งในศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสแต่
ตาแหน่งศิษย์สายของประมุขสมาคมนั้นก็อาจนับได้ว่าเป็นตาแหน่ง
ที่สูงพอสมควรอีกทั้งการที่นางได้รับคากล่าวว่าเป็นศิษย์ที่มี
พรสวรรค์มากที่สุดในสมาคมนั้นเป็นเรื่องที่ทาให้ชื่อเสียงของนาง
มากยิ่งขึ้นไปอีก

ตอนที่ 48
หวิวทิวทัศน์ที่แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆในขณะที่รถม้าได้เคลื่อนผ่าน
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนต่างใช้เวลาพูดคุยและเสพสุขกับ
ทัศนียภาพนี้อย่างเพลิดเพลิน จนในที่สุดรถม้าของพวกก็หยุดรถที่
บริเวณแหล่งชุมชนแห่งหนึ่งแม้ว่าตามเป้าหมายของภารกิจของ
พวกเขานั้นจะเป็นการสารวจชายแดนที่ไกลกว่านี้อีกมาก
แต่ถึงอย่างนั้นการสารวจและสอบถามข้อมูลจากบริเวณ
โดยรอบนั้นก็เป็นสิ่งที่อาจทาให้ภารกิจของพวกเขาสะดวกมาก
ยิ่งขึ้น แหล่งชุมชนแห่งนี้นั้นเมื่อหลินหมิงมองออกไปเขาสามารถ
พบเห็นเพียงบ้านจานวน 20-30 เรือนประมาณนั้นและมันยังไม่
สามารถเทียบได้กับบ้านที่มีขนาดเล็กในเมืองฟานชูเลยแม้แต่น้อย
ผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ต่างมองมาที่รถม้าทีม่ ายังหมูบ่ ้านของพวก
เขาด้วยความสนใจ จากการแสดงออกพวกเขาดูเหมือนว่าหมู่บ้าน
แห่งนี้นั้นจะไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าใดนักแม้ว่ามันจะอยู่ห่างจากตัว
เมืองไม่ใกล้มากเท่าใดนัก หลินหมิงและหลัวฉิงเชีย่ นก้าวลงมาจาก
รถม้า หลังจากที่พวกเขาได้ปรึกษาเกี่ยวกับภารกิจในครั้งนี้พวกเขา
ตัดสินใจที่จะพักค้างคืนที่แห่งนี้ก่อนเพื่อพยายาามรวบรวมข้อมูล
เมื่อหลินหมิงมองสารวจไปบริเวณรอบเขาก็พบกับผู้คนใน
หมู่บ้านจานวนไม่น้อย แต่พวกเขาเหล่านี้ต่างล้วนอ่อนแอ่ด้วยกัน
ทั้งสิ้นหลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าหากพวกเขาต้องประสบพบ
เจอกับสัตว์อสูรขึ้นมาแล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร ด้วยนี้
เป็นครั้งแรกที่หลินหมิงได้ออกมายังภายนอกเมือง
หลินหมิงไม่เคยประสบพบเจอกับชาวบ้านตามนอกเมืองมาก่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยได้ยินมาบ้างว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีการอยู่อาศัยที่
ค่อนข้างลาบากแต่นี้มันก็เกินกว่าที่หลินหมิงได้คาดคิดเอาไว้ เพียง
ไม่นานก็มีร่างของชายชราคนหนึ่งเดินมาทางของหลินหมิงซึ่งอาจดู
เหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ได้รับความเคารพจากคนในหมู่บ้านแห่งนี้
" ไม่ทราบว่าพวกท่านทั้งสองมีธุระสิ่งใดกันหรือถึงได้มายัง
หมู่บ้านแห่งนี้ "
ชายชราเหลือบมองไปที่ใบหน้าของหลัวฉิงเชี่ยนเพียงชั่วครู่มันก็
ทาให้เขาถึงกับชะงักไปชัว่ ครู่ เช่นเดียวกันกับเหล่าบุรุษภายใน
หมู่บ้านแห่งนี้ที่เหลือบสายตามองมาที่ร่างของหญิงสาวที่ประกอบ
ไปด้วยความงามราวกับเทพธิดาจากสวรงสวรรค์ แต่ถึงอย่างเพียง
ไม่นานชายชราผู้นี้ก็สามารถตั้งสติได้
" พวกข้าทั้งสองนั้นมีความประสงค์ที่จะขอพักอาศัยที่นี้เพียง
หนึ่งคืน........ "
หลินหมิงปล่อยให้นางจัดการในเรื่องการพูดคุยกับชายชราผู้นี้ถึง
อย่างไรเสียหลัวฉิงเชี่ยนนัน้ นางก็มีประสบการณ์ในการทาภารกิจ
เช่นนี้มาก่อนดังนั้นแล้วนางจึงสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่าง
คล่องแคล่ว
" อ่อ..เป็นเช่นนี้เองพวกท่านทั้งสองมาทาภารกิจสินะ..เช่นนั้น
ขอเชิญพวกท่านทั้งสองหากไม่รังเกียจพวกท่านสามารถมาพักที่
บ้านของข้าได้ "
ชายชรากล่าวออกมาด้วยความยินดีหลังจากที่เขาได้ยินว่า
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมาทาภารกิจ ซึ่งมันทาให้หลินหมิง
และหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมีความคิดว่าชายชราผู้นี้อาจรู้อะไรบางสิ่ง
บางอย่างเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้ก็เป็นได้ หลังจากนั้น
พวกเขาทั้งหมดได้เข้ามาภายในบ้านของชายชราซึ่งดูเหมือนว่า
บ้านของเขานั้นจะเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่บ้านแห่งนี้
ท่าทางของชายชราผู้นี้นั้นดูแปลกประหลาดสักเล็กน้อยใน
ความคิดของหลินหมิง เขาดูมีความสุข ? และตืน่ เต้นอันน่าแปลก
ประหลาดมันก็เป็นไปได้วา่ พวกเขาอาจไม่ได้เจอกับผู้คนจากภายใน
เมืองมานานจึงมีความรู้สึกเช่นนี้ ?
" ผู้อาวุโสข้าไม่ค่อยเห็นบุรุษภายในหมู่บ้านแห่งนี้สักเท่าไหร่ "
สมกับที่นางเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาภารกิจนางสามารถ
มองเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆทีห่ ลินหมิงได้มองข้ามไป เมื่อ
หลินหมิงหวนนึกย้อนกลับไปมันก็เป็นตามที่นางกล่าวเอาไว้บรรดา
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ที่เขาเห็นนั้นส่วนใหญ่จะสตรีและ
เด็กเล็ก
" พวกเขาออกไปทาการล่าสัตว์ภายนอกหน่ะ..เพิง่ ออกไปก่อนที่
พวกท่านมาได้ไม่นานนี้เอง "
" เป็นเช่นนั้น ? "
" ใช่แล้ว...เกี่ยวกับภารกิจของพวกท่านนั้นในความเป็นจริงแล้ว
ข้าก็ไม่ค่อยรู้สิ่งใดมากนักรู้แต่เพียงว่าไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าที่
บริเวณหมู่บ้านที่ห่างไกลนั้นได้ถูกโจมตีซึ่งนั้นอาจเป็นภารกิจที่พวก
ท่านทั้งสองได้รับมอบหมายมา "
" ท่านพอจะทราบหรือไม่ว่าหมู่บ้านแห่งนั้นถูกผู้ใดเข้าโจมตี "
" เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่นกั ...อาจเป็นไปได้ว่าพวกมัน
จะเป็นโจรป่าในระแวกนี้จากคาบอกกล่าวของพวกที่ออกไปทาการ
ล่านั้นพวกเขาได้บอกข้าเอาไว้ว่าพวกเขาได้บังเอิญพบพวกมัน..แต่
ดูเหมือนว่าเนื่องจากหมู่บา้ นของพวกเรานั้นอยู่ใกล้กับตัวเมืองมาก
เกินไปจึงทาให้พวกมันไม่ค่อยกล้าลงมือ "
หากเป็นเพียงโจรป่านั้นนับว่าภารกิจนี้ไม่ได้เกินฝีมอื ของพวก
เขาทั้งสองคนแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สมควรจะต้อง
เตรียมตัวอย่างดีพร้อมเทียบกับเหล่าโจรป่านั้นพวกเขาเป็นรอง
เพียงอย่างเดียวก็คือในเรื่องของความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมแต่
ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปได้ถ้าหากพวกเขามีคนนาทาง
" ข้าอยากขอรบกวนผู้อาวุโสในเรื่องของตาแหน่งที่แน่ชัดของ
พวกโจรป่าเหล่านั้น...ถึงแม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ว่าพวกมัน
อาจจะไม่ได้อยู่ในระแวกนั้นแล้วแต่อย่างน้อยเพื่อความมั่นใจมันก็
ไม่มีอะไรเสียหายใช่หรือไม่ ? "
" โอ้..เรื่องนั้นย่อมไม่มปี ญ
ั หาอย่างแน่นอนข้าจะรีบหาคนนาทาง
ให้แก่พวกท่านโดยเร็ว "
" ไม่เป็นไรพวกข้าตัดสินใจที่จะออกเดินทางอีกครั้งในพรุ่งนี้อยู่
แล้วเพราะว่าในตอนนี้มันก็ใกล้ค้ามืดแล้ว "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนใช้เวลากล่าวคุยกับชายชราอีกเพียง
เล็กน้อยจึงทาการขอตัวไปจัดวางขอสัมภาระเสียก่อน มันยังดีที่
ถึงแม้ว่าบ้านแห่งนี้จะมีขนาดเล็กน้อยแต่อย่างน้อยมันก็ยังมีห้อง
ว่างเพียงพอสาหรับพวกเขาคนละห้องไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงก็ไม่
มั่นใจว่าตนเองจะสามารถหักห้ามใจได้มากเพียงใด

ตอนที่ 49
ค่าคืนในวันแรกของหลินหมิงได้ผ่านพ้นไปอย่างยากลาบากด้วย
การที่เขาต้องพยายามหักห้ามใจตนเองไม่ให้นึกถึงหญิงสาวผู้งดงาม
อย่างหลัวฉิงเชี่ยนที่ห้องของนางอยู่ติดกับเขา อาจเป็นเพราะว่าใน
หลายวันที่ผ่านมานี้ตัวเขาได้ใช้เวลาร่วมรักกับหญิงสาวมาเป็น
เวลานานจนทาให้ตัวของหลินหมิงนั้นอดที่จะไม่คิดถึงภาพ
เหตุการณ์เหล่านั้นไปไม่ได้
ในช่วงเช้านัน้ หลินหมิงตืน่ มาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อนจากการที่
เขาไม่สามารถข่มใจให้หลับลงได้โดยง่าย ในตอนนี้ตัวของหลินหมิง
เริ่มมีความคิดเสียแล้วว่าตัวเขาต้องรีบทาภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้น
โดยเร็วไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าเขาจะสามารถทนกับ
สภาพเช่นนี้ไปได้นานเท่าใด แตกต่างกับหลินหมิงหลัวฉิงเชี่ยนนั้น
นางยังคงมีสภาพที่ดีกว่าตัวของหลินหมิงอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่า
นางไม่ได้คิดมากในเรื่องทีจ่ ะต้องหลับนอนค้างคืนต่างถิ่นกับบุรุษอื่น
เท่าใดนักแม้ว่ามันจะเป็นคนละห้องแต่ถึงอย่างไรมันก็ได้ชื่อว่าอาศัย
อยู่ที่บ้านเรือนหลังเดียวกัน
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนตื่นมาพร้อมกับผมหน้าของชายชรา
คนเดิมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม มันแสดงให้เห็นว่าแม้ว่ากลุ่มโจรที่
ออกอาละวาดหมู่บ้านภายรอบนอกขอบชายแดนนั้นจะไม่เคยมา
โจมตีพวกเขาแต่มันก็ทาให้พวกเขากังวลไปไม่น้อยเลยทีเดียว ที่
ข้างๆร่างของชายชราในตอนนี้ปรากฎร่างของหญิงสาววัยใสทีเต็ม
เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันสดใสอาจกล่าวได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเพียง
พอที่จะทาให้ผู้คนนั้นยิ้มออกได้โดยง่าย
เมื่อเด็กสาวเห็นหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนเด็กสาวมองพวกเขา
ด้วยความสนใจและความตื่นเต้นจนขนาดที่ทาให้หลินหมิงคิดว่า
เพียงแค่นางได้พบเจอกับเขาชาวเมืองเช่นพวกเขานางก็ดีใจถึง
เพียงนี้เชียว ?
" พวกท่านทั้งสองมาพอดี...นี้อย่างไรคนที่จะนาทางพวกท่านทั้ง
สอง "
หลินหมิงพร้อมกับหลิวฉิงเชี่ยนหันมองไปโดยรอบแต่พวกเขา
กลับไม่พบใครอื่นที่น่าจะเป็นคนนาทางให้แก่พวกเขาได้
" พี่ชาย..พี่สาวข้านี้แหละคนนาทาง "
" หะ ? "
เด็กสาวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ราว
กับจะบอกว่า ' เชื่อในตัวข้าเถอะ ' จากคากล่าวของเด็กสาวมัน
ถึงกับทาให้หลินหมิงและหลิวฉิงเชี่ยนชะงักงันไปในทันทีไม่ใช่ว่าคน
ที่จะนาทางให้พวกเขานั้นสมควรเป็นหนึ่งในกลุ่มของบุรุษที่ไปออก
ล่าที่บังเอิญไปพบเจอพวกโจรเหล่านั้นไม่ใช่หรือ ? แต่เมือพวกเขา
หันกลับมองไปที่ชายชราก็ไม่พบว่าชายชราผู้นี้จะมีท่าทีปฎิเสธแต่
อย่างใด ทั้งสองมองหันมองหน้ากันด้วยความสับสนอาจเป็นไปได้
ว่าแม่สาวตัวน้อยคนนี้อาจมีความชานาญในพื้นที่แถวนี้เนื่องจาก
นางเป็นคนถิ่นนี้แต่อย่างไรเสียนางจะไม่อายุน้อยเกินไปหน่อยหรือ
เมื่อดูจากรูปร่างของนางแล้วนั้นนางสมควรมีอายุราว 10 ปี หรือ
น้อยกว่านั้น
" เอ่อ..ผู้อาวุโสท่านจะบอกว่าเด็กสาวผู้นี้เป็นคนนาทาง ? "
" ใช่แล้ว ! "
คาตอบของชายชราเป็นการยืนยันอย่างแน่ชัดแม้ว่าพวกเขาทั้ง
สองจะยังคงมีความสงสัยว่าเหตุใดเด็กสาวผู้นี้ถึงได้เป็นผู้นาทาง
ให้แก่พวกเขา ทั้งสองเพียงได้รับคายืนยันอีกครั้งจากชายชราว่าเด็ก
สาวผู้นี้มีความสามารถในการนาทางให้แก่พวกเขาแน่นอน
" ข้าชื่อ..เสี่ยวยู้ "
เมื่อเห็นท่าทีที่มั่นใจเช่นนี้ของเด็กสาวพวกเขาทั้งสองถอน
หายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปฎิ
เสธเด็กสาวผู้ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเช่นนี้ และเมื่อพวกเขาออกมา
จากหมู่บ้านก็พบว่าบุรุษที่ทาการไปออกล่าสัตว์ปา่ นั้นยังคงไม่
กลับมา ? ดังนั้นแล้วนี้อาจเป็นเหตุให้คนนาทางของพวกเขาจาเป็น
จะต้องเป็นเด็กสาวผู้น่ารักนางนี้
" ถึงแม้ว่านางจะดูเด็กไปอยู่บ้าง..แต่บิดาของนางนั้นเป็นผู้เชียว
ชาญในเรื่องการเดินป่าในระแวกนี้แล้วอีกอย่างนางเองย่อมเป็หนึ่ง
ในคนที่เห็นกลุ่มโจรจากการที่ในครั้งนั้นนางได้ติดตามบิดาออกไป
ด้วย.. "
เมื่อหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนได้รับคาอธิบายจากชายชราใน
ระหว่างที่เขารอเด็กสาวไปกล่าวคาทักทายจากบรรดาผู้คนใน
หมู่บ้าน ซึ่งดูเหมือนว่าเด็กสาวจะเป็นที่นิยมไม่น้อยในหมู่บ้านแห่งนี้
" พี่ชาย พี่สาวข้าพร้อมแล้ว ! "
ตามแผนการณ์ที่พวกเขาทั้งสองได้ตกลงนัดหมายกันเอาไว้นั้นก็
คือพวกเขาจะทาการตรวจสอบความแข็งแกร่งของกลุ่มโจรนี้
เสียก่อนแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยทาการลงมือเพราะถึงแม้ว่าพวกมัน
เหล่านี้จะเป็นเพียงโจรตามชายแดนแต่มันก็เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจ
พลันตัวมาจากนักรบเก่าที่มีความแข็งแกร่งก็เป็นได้ ในครั้งนี้พวก
เขาและเด็กสาวได้ออกเดินทางกันด้วยเท้ามันคงไม่ดีนักหากพวก
เขาใช้รถม้าในการเดินทาง
" พี่ชาย พี่สาวพวกท่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างนั้นหรือ ? เช่นนั้น
แล้วพวกท่านจะต้องแข็งแกร่งมากเลยใช่รึเปล่า ? ในเมืองของพวก
ท่านมีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต ? พวกท่านเคยเห็น.... "
หลากหลายสารพัดคาถามที่เด็กสาวถามออกมาด้วยความสนใจ
ดูเหมือนว่าแม่สาวน้อยผูน้ ี้จะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นไป
เสียหมดแต่ถงึ อย่างนั้นมันก็ยังคงทาให้นางดูน่ารักไปอีกแบบ
เช่นเดียวกันด้วยความใส่ซื่อของนาง หลัวฉิงเชีย่ นนางถึงกับต้อง
นาเอาขนมบางอย่างออกมาจากแหวนมิติของนางเพื่อทาให้ปาก
ของแม่สาวน้อยนี้หยุดลงเสียมากไม่เช่นนั้นแล้วหากพวกเขาอาจ
ต้องเหนื่อยจากการตอบคาถามของแม่สาวน้อยผู้นี้จนไม่อาจ
เดินทางต่อไปได้
" ว้าว ! มันอร่อยมาก ! "
หลินหมิงและหลิวฉิงเชี่ยนถึงกับอมยิ้มให้กับท่าทางของแม่สาว
น้อยผู้นี้ ดูเหมือนว่าแผนการณ์ของหลิวฉิงเชี่ยนจะประสบผลสาเร็จ
อย่างสวยงาม เพราะว่าในตอนนี้เด็กสาวกาลังใช้เวลาอย่างมี
ความสุขกับขนมของนางถึงขนาดที่ว่าหากพวกเขาไม่เตือนนางเด็ก
สาวก็อาจหลงลืมถึงหน้าที่ของนางไปแล้ว
ใช้เวลาในการเดินราวหนึ่งชั่วยามร่างของเด็กสาวของพวกเขาก็
หยุดลงไม่ใช่เป็นเพราะนางเหนื่อยแต่นั้นเป็นเพราะดูเหมือนว่าพวก
เขาจะมาถึงแล้ว เบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้ก็คือถ้าแห่งหนึ่งที่
ถูกบดบังเอาไว้ด้วยต้นไม้เถาวัลย์เต็มไปหมดทีบ่ ริเวณทางเข้า หาก
พวกเขาเดินผ่านถ้าแห่งนี้พวกเขาอาจไม่รู้เลยว่าที่ตรงนี้นั้นเป็น
ทางเข้าไปยังถ้าภายในและนั้นย่อมเหมาะสมสาหรับการเป็นที่ฐาน
ของเหล่าโจร
หลัวฉิงเชี่ยนดึงร่างของเด็กสาวที่เดินนาทางมาโดยตลอดไปอยู่
ด้านหลัง พร้อมกับนางที่พยายามตรวจสอบคนที่อยู่ภายในซึ่งดู
เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลดีสักเท่าไหร่นัก และการเข้าไปยังฐานของ
พวกมันที่ดูเหมือนว่าจะมีทางเข้าเพียงทางเดียวนั้นคงไม่ใช่ความคิด
ที่ดีสักเท่าไหร่นักดังนั้นแล้วหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนจึงตัดสินใจที่
จะใช้เวลาเฝ้ารอกลุ่มสมากชิกของเหล่าโจรที่จะเข้าหรือออกมาจาก
ถ้าแห่งนี้ เพียงแต่ว่าในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองกาลังนัดหมาย
วางแผนกันอยู่นั้นร่างของเด็กสาวข้างกายของพวกเขาก็ได้วิ่งตรง
เข้าไปภายในถ้าไปเสียแล้ว

ตอนที่ 50
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการณ์ที่พวกเขาวางไว้คงต้องทิ้งมันไป
เสียแล้ว การที่แม่สาวตัวน้อยพุ่งตรงเข้าไปยังภายในถ้าที่คาดว่าจะ
มีกลุ่มโจรอยู่นั้นทาให้พวกเขาทั้งสองตกใจแม้ว่ามันจะมีตัวเลือก
อย่างการที่ปล่อยเด็กสาวเอาไว้เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนั้นกลุ่มโจร
ภายในเหล่านั้นก็คงรีดเค้นสอบถามข้อมูลต่างๆจากตัวแม่สาวน้อย
และนั้นอาจรวมถึงเรื่องของพวกเขาด้วย และหากเป็นเช่นนั้นมัน
ย่อมเป็นไปได้มากว่ากลุม่ โจรเหล่านี้อาจจะทาการเคลื่อนไหวเพื่อทา
การหลบหนีหรือพวกมันอาจเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะ
เกิดขึ้น
ดังนั้นแล้วตัวเลือกของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนนั้นในตอนนี้มี
เพียงแค่ทางเดียวนั้นก็คือพวกเขาต้องรีบตามแม่นาวสาวตัวน้อย
กลับมาโดยเร็วก่อนที่กลุม่ โจรจะรู้ตัว เมื่อทั้งสองเข้ามาภายในถ้านั้น
พวกเขากลับไม่พบร่องรอยของแม่สาวตัวน้อยมันจะเป็นไปได้
อย่างไรก็ในเมื่อพวกเขาตามหลังนางมาไม่ห่างมากนักรวมกับ
ความเร็วของพวกเขาที่เหนือกว่านางอยู่มากโขแล้วมันเป็นไปไม่ได้
ที่พวกเขาจะไม่สามารถพบร่องรอยของแม่สาวตัวน้อย
ความรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างแปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น
ภายในใจของทั้งสองคน พวกเขาสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแปลก
ประหลาดภายในถ้าแห่งนี้ แม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะไม่อยู่ในส่วน
ลึกของถ้ามากเท่าใดนักแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับไม่พบร่องรอยที่
แสดงถึงการคงอยู่ของกลุม่ คน ในความรู้สึกของหลินหมิงที่แห่งนี้
นั้นจากเปลวเพลิงทมิฬในร่างกายของเขาสามารถสัมผัสได้ถงึ ความ
อันตรายภายในถ้าแห่งนี้
แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่อันตรายที่เกิดจากกลุ่มโจรโดยทั่วไปมัน
อาจเป็นอะไรที่น่ากลัวจนไม่อาจเทียบกันได้ ถึงแม้ว่าชายชราที่ดู
เหมือนจะเป็นหัวหน้าหมูบ่ ้านได้บอกกล่าวพวกเขามาว่าที่แห่งนี้นั้น
สมควรเป็นฐานของกลุ่มโจรแต่หลินหมิงคิดว่ามันต้องไม่ใช่อย่าง
แน่นอน
" ฮิ ฮิ ฮิ... "
เสียงหัวเราะพลันดังขึ้นมาจากภายในาถ้าเนื่องจากมันเกิดการ
สะท้อนเสียงไปมาหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนจึงไม่สามารถจับต้น
ทางของเสียงได้ เพียงแต่ว่าเสียงที่เปล่งออกมานั้นย่อมเป็นเสียง
ของสตรีและมันไม่ใช่เสียงของเด็กสาวตัวน้อยเสียวยู้อย่างแน่นอน
บรรยากาศโดยรอบตัวของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนค่อยๆ
เปลี่ยนไปพวกเขารู้ได้ถึงความหนาวเย็นที่กระทบเข้ากับผิวหนังของ
พวกเขา พร้อมกับประสาทสัมผัสที่ราวกับบอกพวกเขาว่าในตอนนี้
ได้มีสายตาจ้องมองพวกเขาอยู่
" อึกก ! "
อยู่ทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง
โดยทันทีพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจเมื่อครู่ที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
เพียงแต่คราวนี้มันต่างกันเล็กน้อยเพราะพวกเขาสามารถรับรู้ได้ว่า
ต้นทางของเสียงนั้นมาจากทิศเนื่องด้วยในตอนนี้ร่างของเจ้าของ
เสียงหัวเราะนั้นได้ปรากฎขึ้นมาอย่างกระทันหันโดยที่พวกเขาไม่ทัน
ได้รู้ตัวเลย หากมองดูภายนอกนางเปรียบเสมือนสตรีสาวอื่นเช่น
ทั่วไปทีม่ ีผิวพรรณ์งดงามสดใสราวกับไข่มุก ดวงตาสีฟ้าที่ดูเหมือน
ราวกับได้สีของทะเลมาแต่งแต้มพร้อมกับจ้องมาทีพ่ วกเขา
หากเป็นเช่นในสถานการณ์ปกติหลินหมิงคงต้องยืนอึ่งในความ
งามของแม่สาวสวยคนนี้เพราะว่าความงามของนางนั้นไม่ใช่
เพียงพอต่อการล่มเมืองเพียงเท่านั้นนางอาจสามารถสยบโลกได้ทั้ง
ใบด้วยความงามที่ดูราวกับถูกสวรรค์สรรสร้างมาอย่างประณีต
แน่นอนที่หลินหมิงไม่ทาเช่นนั้นก็เพราะว่าแม้หญิงสาวตรงหน้าจะมี
ความงามที่มากกว่าหญิงสาวทั้งหมดที่เขาเคยเจอไม่เว้นแม้กระทั่ง
เหล่าเทพธิดาสาวในใจของเขาแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางย่อมเป็น
คนที่ปลดปล่อยบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ออกมา
เทียบกันกับอาจารย์สาวสวยของเขาหรือแม้กระทั่งบิดาของ
หลินหมิงพวกเขาไม่แม้แต่จะสามารถถูกนามาเปรียบเทียบได้กับ
ความแข็งแกร่งของแม่สาวนางนี้และเมื่อเป็นเช่นนั้นหากนางเพียง
ต้องการชีวิตของเขาและหลัวฉิงเชี่ยนมันอาจยากเพียงแค่นาง
ตัดสินกระดิกนิว้ เพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของหญิงสาวผู้
นี้ก็นับได้ว่าแปลกประหลาดจากหญิงสาวอื่นอยู่ไม่ใช่หน้าอกขนาด
ซื่อโฉวของเขายังต้องพ่าย แต่นั้นเป็นเพราะบนศรีษะของนางกลับ
ปรากฎเขาสองข้าง ? ทันใดนั้นสายตาของหลินหมิงเหลือบไปเห็น
ร่างของเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวผู้น่ากลัวนางนี้
" ข้า..ช่วยนาพวกเขามาให้แก่ท่านแล้วดังนั้นได้โปรดปล่อยพ่อ
ของข้า... "
เสี่ยวยู้กล่าวพูดคุยกับหญิงงามด้วยท่าทีเศร้าสร้อยไม่แสดงให้
เห็นถึงความร่าเริงก่อนหน้าอีกต่อไปมาถึงตรงนีห้ ลินหมิงและ
หลัวฉิงเชี่ยนก็เริ่มพอจะเข้าใจสถานการณ์ของตนเองขึ้นมาบ้าง แต่
พวกเขาก็ไม่อาจทาความเข้าใจตัวตนของหญิงสาวตรงหน้านี้ได้อยู่
ดีมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนแข็งแกร่งเช่นนี้จะหลุดรอดสายตาจน
ไม่มีผู้ใดพบเห็นแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะลึกลับแต่มันย่อมไม่เกินมือ
ผู้เชี่ยวชาญภายในเมือง
" หืมม..เจ้ากล้าต่อรองกับข้า ? "
" ก็ท่าน..บอกกับข้า.. "
" มันตายไปแล้ว... "
การพูดของหญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ดูเย็นชาราวกับว่านางไม่ได้
แยแสต่อสิ่งใดนางยังคงจ้องมองมาทีห่ ลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนดู
รอยยิ้มแต่มันไม่ใช่รอยยิม้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรมันเป็นรอยยิ้มที่
ราวกับเด็กที่ได้เห็นอาหารจานโอชะ เสี่ยวยู้ถึงกับเข่าทรุดนั่งพับขา
อย่างอ่อนแรกในวันนั้นนางเพียง ในความเป็นจริงแล้วในวันที่นาง
และบิดารวมถึงกลุม่ ของคนในหมู่บ้านที่ทาการออกล่าสัตว์ป่านั้น
นางไม่ได้พบเจอกับกลุม่ โจรแต่อย่างใดแต่สิ่งที่นางพบนั้นกลับนาง
กลัวยิ่งกว่านั้นมาก มันคือภาพของผู้คนที่ล้มตายนอนไร้สติสภาพ
ของพวกเขาแต่ละคนล้วนตายอย่างอนาถในแบบที่ว่าแม้แต่บุรุษ
หลายคนยังคงไม่สามารถอดทนต่อภาพตรงหน้าได้และแน่นอนฝีมือ
ทั้งหมดนี้ย่อมเกิดจากเพียงหญิงสาวผู้งดงามคนนีค้ นเดียวเท่านั้น
เมื่อนางพบเจอกลุ่มของชาวบ้านที่มาโดยบังเอิญแน่นอนว่า
เสี่ยวยู้นั้นได้เห็นภาพของคนใกล้ชิดตกตายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่า
ใบไม้ร่วงพวกเขาไม่ได้มีบาดแผลภายนอกแต่อย่างใดแต่ทั้งหมดนั้น
ล้วนเกิดขึ้นจากบาดแผลภายในจิต ร่างกายของพวกเขาล้วนสูบ
ผอมไปทันทีจนถึงขนาดบางร่างถึงกับแหกเผือกไปไม่ต้องสังสัยเลย
ว่าก่อนที่พวกเขาจะตายนั้นจะต้องได้รับความทรมานมากถึง
เพียงใด
แต่นับว่าโชคดีบิดาของนางนั้นยังนับได้ว่ามีความแข็งแรงอยู่
บางเขาจึงไม่ได้สิ้นชีพไปไหนในทันทีแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคง
อ่อนแอ่กว่าที่จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้แต่ถงึ อย่างนั้นอย่างไร
เสียเขาก็เป็นบิดาของนางการที่จะให้ทิ้งบิดาแล้วเอาชีวิตรอดนั้นตัว
เด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นนี้คงไม่ยอมอย่างแน่นอนนางจึงได้เอยปาก
ร้องขอชีวิตบิดาของนางแลกกับการที่หญิงสาวนั้นสามารถใช้งาน
อย่างไรก็ได้ซึ่งดูเหมือนว่าหญิงสาวผู้งดงามก็ดูเหมือนจะตกลง แต่
ถึงอย่างนั้นในวันนี้นางกลับบอกว่าบิดาของนางตายแล้ว ?
" นี้เจ้า..เป็นตัวอะไรกัน ? "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงปั่นยากกับสภาพที่ถูกแรง
กดดันจากอีกฝ่ายเช่นนี้มันสามารถบอกได้เป็นอย่างดีว่าตัวนางนั้น
ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แถมด้วยจากรูปลักษณ์ของ
หญิงสาวผู้นี้มันไม่อาจเรียกได้อย่างเต็มปากว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็น
มนุษย์นางอาจเป็นคนจากเผ่าอื่น ?
" ข้าไม่สนใจเจ้าหรอกนะ "
อั่กกก
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวพร้อมกับหันไปทางหลัวฉิงเชี่ยนเล็กน้อย
เพียงแค่นางมองไปทีหลัวฉิงเชี่ยนร่างของหลัวฉิงเชี่ยนถึงกับ
กระเด็นติดกาแพงพร้อมกับกระอั่กเลือดออกมากองใหญ่จนหมดสติ
ไปในทีเดียว หลินหมิงแทบจะตาข้างเขาไม่สามารถแม้แต่จะ
มองเห็นการโจมตีเมื่อสักครู่กับตัวตนในระดับนี้นางสามารถจัดการ
พวกเขาโดยไม่กระดิกนิ้วก็ยังได้ ? หญิงสาวผู้งดงามมองมาที่หลินห
มิงด้วยความสนใจสายตาของนางนั้นอาจทาให้บุรุษเคลิ้มจนตกอยู่
ในภวังค์แต่ในสถารณ์เป็นตายเช่นนี้ในหัวของหลินหมิงแทบจะว่าง
เปล่าเพราะมันมีทางใดเลยทีเขาจะสามารถรอดชีวิตออกไปจาก
สถานการณ์นี้ได้
ตอนที่ 51
มันแตกต่างจากคราวที่หลินหมิงต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์สาว
สวยรือบิดาของเขาแม้ว่าหลินหมิงจะยังคงไม่อาจเอาชนะพวกเขา
ได้อย่างแน่นอนเช่นเดียวกันแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพอทาสิ่งใดได้
บ้างแต่เมื่อเทียบกับในสถารณ์ตอนนี้แค่ลาพังขยับตัวก็เรียกได้ว่า
ยากเกินทนอีกทั้งหลัวฉิงเชี่ยนที่มีพลังมากกว่าหลินหมิงก็กลับพ่าย
ไปในพริบตาเดียว
" ท่านพ่อ....พี่ชายข้า..ขอโทษ..ฮึกๆ "
เสียงของเสี่ยวยู้ดังขึ้นด้วยความสานึกผิดนางนั่งร้องไห้จน
เหนือยอ่อนและหมดสติลงไปแต่หลินหมิงไม่สามารถรับรู้หรือได้ยิน
เพราะสมาธิของเขาในตอนนี้ล้วนจนจ่ออยู่กับการกระทาของหญิง
สาวผู้งดงามตรงหน้าอย่างเดียวเพียงเท่านั้น เปลวเพลิงสีดาทมิฬ
พลันลุกขึ้นมาที่ปลายมือของเขาแน่นอนว่าหลินหมิงยังไม่ทันได้ทา
การเรียกมันออกมาแต่อย่างใดหรืออาจเป็นไปได้ว่ามันอาจรับรู้ถึง
อันตรายที่อยู่ตรงหน้าจึงปรากฎขึ้นเพื่อช่วยเหลือเขา ?
เมื่อเปลวเพลิงทมิฬปรากฎขึ้นบรรยากาศโดยรอบตัวของหลินห
มิงนั้นก็นบั ได้ว่าเบาลงไปมากจนเขาสามารถเริ่มที่จะขยับได้แต่มัน
ยังคงไม่เพียงพอสาหรับการต่อสู้หรือแม้กระทั่งหลบหนี หญิงสาวผู้
งดงามมองเปลวเพลิงสีดาทมิฬด้วยนัยตาเบิกกว้างราวกับว่านาง
นั้นได้เคยเห็นเปลวเพลิงนี้มาก่อนอย่างใดอย่างนั้น
" หรือว่าเจ้า.... "
รอยยิ้มมุมปากปรากฎขึ้นบนใบหน้าเรียวงามของหญิงสาว
หลินหมิงไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันมีความหมายเช่นไรแต่อย่างนั้นมัน
ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดสี าหรับตัวเขาอย่างแน่นอน
ตึก..ตึก...
เสียงก้าวเท้าของหญิงสาวผู้งดงามตรงมาทางหลินหมิงอย่าง
เห็นได้ชัดแม้ว่านางจะก้าวเดินอย่างเชื่องช้าแต่มันก็ทาให้ใจของ
หลินหมิงนั้นสั่นไหวราวกับเสียงกองศึก
' ต้องรีบหนี ! '
ส่วนลึกภายในจิตใจของหลินหมิงได้ทาการสั่งให้ตวั เขารีบหนี
ออกไปจากสถานที่แห่งนีโ้ ดยเร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ดีว่ามัน
ไม่มีทางหนีไปได้หากหญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ไม่ต้องการให้เขาหลบหนี
จนในที่สุดร่างของหญิงสาวผู้งดงามก็ได้หยุดลงตรงหน้าห่างจาก
หลินหมิงเพียงสามก้าวความกดดันที่ออกมาจากตัวนางนั้นทาให้
หลินหมิงได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่าจนแทบจะลงไป
มอบคลานกับพื้น หากเป็นผู้ที่มีพลังเพียงขั้นที่ 7 โดยทั่วไปพวกเขา
อาจถูกบดละเอียดจากแรงกดดันที่ออกมาจากตัวของนางไปแล้ว
สติของหลินหมิงค่อยๆดับวูบลงไปโดยทีย่ ังไม่ทันได้รับรู้ว่าเกิดสิ่ง
ใดขึ้นภาพที่เห็นภาพสุดท้ายของเขาก็คือภาพของหญิงสาวผู้งดงาม
กาลังจ้องมองมาที่เขาที่กาลังล้มลงหมดสติไป
อึกก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใดหลินหมิงพลันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็
พบกับอาการปวดหัวอย่างหนักมันอาจเป็นความเครียดสะสม
หลินหมิงภวนาว่าให้เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ฝันแต่เมื่อเขา
ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าความหวังของเขาต้องแตกสลาย ในตอนนี้ร่าง
ของหลินหมิงได้นอนแผ่อยู่บนเตียงแห่งหนึ่งโดยที่ร่างกายส่วนบน
ของเขาล้วนเปลื่อยเปล่าออกหมด
" ในที่สุดเจ้าก็ตื่นเสียที... "
หลินหมิงหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างของหญิงสาวผู้งดงาม
ตามเดิมเพียงแต่ว่าสถานที่โดยรอบของเขาในตอนนี้ดูเหมือนราวกับ
ว่าตัวเขาไม่ได้อยู่ในถ้าก่อนหน้านี้อีกต่อไปมันเปรียบเสมือนเป็น
เพียงห้องนอนขนาดใหญ่ซึ่งมันไม่น่าจะมีได้ภายในถ้าเช่นนั้นแล้ว
ในตอนนี้เขาอยู่ที่ใด ?
ขยับตัวไม่ได้ ?
ที่บริเวณข้อมือข้อเท้าของหลินหมิงนั้นถูกล็อคเอาไว้ที่มุมเตียง
ทั้งสี่ด้านแม้ว่าหลินหมิงจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไปอย่าง
มากแต่เขาก็กลับไม่สามารถทาลายโซ่ที่พันธนาการเขาอยู่ในตอนนี้
ลงได้ หลินหมิงรู้สึกว่าเรี่ยวแรงภายในร่างกายถูกลดถอนลงไปเป็น
จานวนมากอีกทั้งเขายังไม่สามารถวบรวมพลังปราณได้อีกไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าทั้งหมดนี้จะต้องเป็นเพราะโซ่พันธนาการเหล่านี้
" ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่ "
ในตอนนี้บรรยากาศโดยรอบตัวของหญิงสาวผู้งดงามนั้นได้หาย
สิ้นไปหมดแล้วแต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกตกค้างจากครั้งก่อนก็ยังคง
สร้างความกังวลให้กับหลินหมิงได้ไม่น้อยดังนั้นแล้วหลินหมิงจึง
เลือกกล่าววาจาให้สุภาพที่สุดกับหญิงสาวผู้งดงาม
" ไม่ต้องกังวลข้าไม่ได้คิดจะสังหารเจ้าดังเช่นพวกมดปลวกที่
ผ่านมาข้าเพียงต้องการให้เจ้าช่วยเหลือข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแล้ว
ข้าจะปล่อยเจ้ากับเพื่อนของเจ้าไปอย่างโดยดี "
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่หลินหมิงไม่
อาจคาดเดาได้ว่าคากล่าวของนางนั้นจะเป็นไปตามความหมายนั้น
หรือนางเพียงแค่ต้องการหลอกใช้เขาดังเช่นเสี่ยวยู้ ร่างของหญิง
สาวค่อยๆเคลื่อนกายเข้าหาหลินหมิงที่นอนอยู่บนเตียงหลินหมิง
สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าภายในห้องแห่งนี้นั้นต้องเป็นห้องที่
อยู่อาศัยของนางเนื่องจากภายในห้องแห่งนี้มกี ลิ่นหอมหวนของ
หญิงสาวอบอวนอยู่เต็มไปหมด
" นี้ท่าน.... "
หญิงสาวผู้งดงามในตอนนี้นางเคลื่อนกายเขาหาหลินหมิงในท่า
นั่งคร่อมร่างของหลินหมิงเอาไว้ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั มีส่วนผิวหนัง
ของหญิงสาวที่สมั ผัสกับผิวหนังของหลินหมิง มันเนียนนุ่มจนทาให้
จิตใจของหลินหมิงแทบจะล่องลอยพร้อมกับรอยยิม้ ซุกซนของหญิง
สาวผู้นี้แล้วหลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้เลยว่านางต้องการสิ่งใดกัน
แน่
" ข้าเพียงต้องการพลังงานหยางมาฟื้นฟูร่างกายของข้าเพียง
เท่านั้น..ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าจะมีพลังงานเหล่านั้นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
จนไม่อาจเทียบได้กับพวกที่ผ่านเลยแม้แต่น้อย "
หลินหมิงหน้าซีดเผือกไปในทันทีที่ได้ยินคากล่าวของหญิงสาวผู้
งดงามนางกล่าวว่านางต้องการพลังงานหยาง ? จากความรู้ที่ผ่าน
มานั้นแม้ว่ามันจะมีทักษะวิชาที่เกี่ยวกับพลังงานหยินและหยางของ
หญิงสาวอยู่บ้างแต่ทกั ษะเหล่านั้นมักจะใช้ร่วมกันกับสามีภรรยา
ของตนเพียงเท่านั้นดังนั้นแล้วจากการที่นางได้กล่าวออกมานั้นนาง
ได้ดูดซับพลังงานหยางของบุรุษไปเป็นจานวนมาก
ดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงพอจะคาดเดาตัวตนของนางได้อยู่บ้างว่า
นางอาจเป็นเผ่าพันธ์อื่นที่ไม่ใช่มนุษย์เนื่องจากรูปลักษณที่แตกต่าง
กัน รวมกับความสามารถในการดูดพลังงานหยางของบุรุษนางอาจ
เป็นเฝ่าพันธ์โบราณที่หาได้ยากยิ่งอย่างเผ่าซัคคิวบัสที่ปรากฎกันแต่
ตานานเล่าขานกันปากต่อปากเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิง
กับพบสิ่งที่นางแปลกประหลาดใจจากกลิ่นหอมหวนของหญิงสาวที่
แผ่ออกมาตัวของหลินหมิงสามารถสัมผัสได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ยังคงมี
ความบริสุทธ์อยู่ ?
อ้าา
นิ้วมือเรียวงามของนางลูบไล้ไปบนเรือนร่างของหลินหมิงที่
เปลือยเคลื่อนตัวไปสู่บริสว่ นล่างพร้อมกับเสื้อผ้าส่วนล่างของหลินห
มิงที่ค่อยๆหายวับไป
" นี้มัน... "
ทวนมังกรขนาดใหญ่ได้ประกาศตนเป็นเจ้าสรรพวุธต่อหน้าหญิง
สาวผู้งดงามจนทาให้ใบหน้าของนางนั้นถึงกับเต็มไปด้วยความตื่น
ตระหนก นิ้วมือของนางเคลื่อนเข้าหาทวนมังกรของหลินหมิงตาม
สัญชาติญาณ
" ฮิ ฮิ เจ้านี้ช่างยอดเยี่ยมโดยแท้จริงดูเหมือนว่าเจ้าจะมี
พลังงานหยางที่มากเกินกว่าที่ข้าจะคาดคิดเอาไว้เสียอีก "
หลังจากที่นางกล่าวจบนางเคลื่อนตัวไปที่บริเวณส่วนล่างของ
ร่างกายหลินหมิงพร้อมกับใช้ปากของนางเข้าโลมเลียทวนมังกรของ
หลินหมิงอย่างหื่นกระหาย เพียงแค่สัมผัสจากนิ้วมือของหญิงสาว
นั้นมันก็แทบจะเพียงพอทาให้หลินหมิงต้องระเบิดน้ารักของเขา
ออกมาแต่นี้นางกลับใช้ปากของนางจู่โจมทวนมังกรของเขาอย่าง
รวดเร็วแล้วมีหรือที่หลินหมิงจะสามารถอดทนได้ไหว ?
น้ารักของหลินหมิงจานวนมากถูกระเบิดออกมาแต่ถึงอย่างนั้น
มันก็ถกู หญิงสาวผู้งดงามจัดการจนหมดเกลี้ยงไปในพริบตานางใช้
ลิ้นของนางตวัดเลียทุกส่วนบนร่างกายของหลินหมิงทีม่ ีคราบน้ารัก
ของเขาเกาะติดอยู่ ใบหน้าพอใจอย่างมากปรากฎขึ้นบนหน้าเรียว
งามของนาง
" ยะ...เยี่ยม อ้าาา มันช่างยอดเยี่ยมมมมม ~~~~~ "
หญิงสาวผู้งดงามยังคงตวัดโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอ
ย่างต่อเหนื่องนางค่อยๆเคลื่อนไหวร่างกายของตนเองให้อยู่ในท่าที่
นางสามารถดูดกลืนทวนของหลินหมิงได้ง่ายที่สดุ ทาให้ในตอนนี้
นางได้อยู่ในทางที่กาลังใช้ริมฝีปากเข้าอมทวนมังกรของหลินหมิง
โดยที่บริเวณร่างกายของนางนั้นได้หันไปทางด้านหลินหมิง !

ตอนที่ 52
หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสกาลังใช้ริมฝีปากอวบอิ่มโลมเลียทวน
มังกรของหลินหมิงอย่างไม่ได้สนใจรอบข้าง ในความเป็นจริงแล้ว
นางไม่จาเป็นต้องใช้วิธีเช่นนี้ในการดูดพลังหยางจากบุรุษก็ย่อมได้
เหมือนกับที่นางได้ดูดพลังหยางมาจากกลุ่มบิดาของเสี่ยวยู้ แต่ด้วย
ขนาดและกลิ่นอันหอมหวนที่ถูกปล่อยออกมาจากทวนมังกรของ
หลินหมิงนั้นมันทาให้ต่อมประสาทการรับรู้กลิ่นของเผ่าซัคคิวบัส
ที่อนข้
่ค่ างไว้ทาให้นางไม่อาจหักห้ามใจตนเองได้
และยิ่งเมื่อนางได้ลิ้มลองสัมผัสน้ารักของหลินหมิงมันแทบจะทา
ให้นางขาดสติไปแน่นอนว่านางไม่เคยมีประสบการณ์กับเหล่าบุรุษ
ใดๆมาก่อนที่ผ่านมานั้นนางทาแค่เพียงดูดพลังหยางจากร่างกาย
ของพวกเขาเหล่านั้นออกมาเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้
ร่างกายของนางกลับตอบรับทวนมังกรแท่งนี้ไปโดยธรรมชาติ
หลินหมิงสามารถรับรู้ได้ถงึ ลิ้นของหญิงสาวที่ดูเหมือนว่ามันจะมี
ขนาดยาวกว่าของเผ่ามนุษย์รวมถึงสัมผัสนุ่มนิม่ ภายในปากของ
นางนั้นแทบจะทาให้เขาต้องตกอยู่ในภวังค์แห่งความสุข เมื่ออยู่ใน
ท่วงท่านี้ที่บริเวณใบหน้าของหลินหมิงนั้นอยู่ไม่ห่างจากบริเวณ
บั้นท้ายของหญิงสาวต่างเผ่ามากเท่าไหร่นัก ทาให้เขาสามารถ
สังเกตเห็นถึงร่องสวาทของนางที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีน้ารักใสๆ
ซึมออกมาจากเสื้อผ้าของนางอย่างไม่ขาดสาย
กลิ่นหอมที่บริเวณร่องสวาทของนางปล่อยออกมามันถึงกับทา
ให้ร่างกายของหลินหมิงรูส้ ึกเบาสบายหากเขาไม่ได้โดนพันธนาการ
เอาไว้เช่นนี้แล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงสาวซัคคิวบัสนางนี้คงต้อง
โดนเขาจู่โจมไปแล้ว
" อ้าา "
เสียงครางของหลินหมิงออกมาอย่างมีความสุขหลังจากที่เขาได้
ปล่อยน้ารักออกมาอีกครั้งเพียงแต่ในครั้งนี้ไม่มีน้ารักของเขาแม้แต่
หยดเดียวที่สามารถออกมาจากปากของหญิงสาวได้ สีหน้าตื่นเต้น
และดีใจปรากฎอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวซึ่งดูเหมือนว่านางคงจะ
ไม่มีความรู้สึกว่าจะเพียงพอเลยแม้แต่น้อยกับการที่นางได้ดื่มด่ากับ
น้ารักของหลินหมิง
เทียบกันกับพลังหยางที่นางได้เคยดูดกลืนมาก่อนนางนี้ทั้งหมด
นั้นมันแทบจะไม่สามารถนับมาเปรียบเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย
เอื้ออก
เสียงกลืนน้ารักลงไปอึกใหญ่พร้อมกับเสียงอีกหลายอึกที่ดัง
ออกมาจากลาคอของหญิงสาวเห็นได้ชัดว่าปริมาณน้ารักของหลินห
มิงที่ปลดปล่อยออกมานั้นมีจานวนมากเกินกว่าทีผ่ ่านภายในปาก
ของนางนั้นจะสามารถรองรับได้ทั้งหมดดังนั้นนางจึงต้องทาการ
กลืนพวกมันส่วนหนึ่งลงไปก่อน
หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงบริเวณร่องสวาทของนางที่อยู่
บริเวณใบหน้าของเขาที่ค่อยๆมีอุณหภูมสิ ูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับน้า
รักใสๆของหญิงสาวทีซ่ ึมผ่านเสื้อผ้าของนางออกมาราวกับเขื่อน
แตก เมื่อเห็นเช่นนี้หลินหมิงจึงเริ่มมีความคิดดีดีขึ้นมา
" นะ..นี้เจ้า..ทาอะไรหน่ะ..อ้าาา...เอาหน้าของเจ้าออกไปให้ห่าง
เดียวนี้ ! "
หลินหมิงในตอนนี้ได้ยื่นใบหน้าของเขาเข้าไปสูดดมกลิ่นกาย
ของหญิงสาวอย่างใกล้ชดิ เมื่อได้เห็นอาการพอใจของหญิงสาวที่มี
ต่อทวนมังกรของเขาแล้วนั้นหลินหมิงไม่มีความรู้สึกกลัวว่านางจะ
ลงมือสังหารเขาอีกต่อไป และถึงแม้ว่านางจะกล่าวเช่นนั้นแต่นาง
ริมฝีปากของนางยังคงโลมเลียทวนมังกรของเขาต่อไปพร้อมกับ
เสียงครางสั่นเครื่อที่หลุดออกมาจากปากของนาง
แผล๊บบบ
" อร้างงงงงงงงงงงงงงงง ~~~~~~~~~~~ "
ทันใดนั้นเมื่อลิ้นของหลินหมิงตรงเข้าสัมผัสกับเสื้อผ้าเบาบางที่
ขวางกั้นร่องสวาทของนางเอาไว้ เสียงครางลั่นของหญิงสาวเผ่าซัค
คิวบัสดังลั่นออกมาพร้อมกับน้ารักของหญิงสาวที่พงุ่ แรงออกมาเสีย
ยิ่งกว่าครั้งก่อน เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหญิงสาวผู้งดงามคนนี้คงไม่เคย
มีประสบการณ์ใดๆกับบุรษุ มาก่อนอย่างแน่นอน
" จะ...จะ..เจ้า อ้าา อ้าา~~~~~ ยะ..อย่าเลีย...มะ...ไม่ได้.. อร้า
งงงงง "
ดูเหมือนว่าร่างกายของหญิงสาวนั้นจะมีการตอบสนองที่ดีหญิง
กว่าหญิงสาวมนุษย์โดยทัว่ ไปแบบเทียบไม่ติดร่างกายของของนาง
สั่นกระตุกถี่ขึ้นพร้อมกับน้ารักของนางที่ยังคงพุ่งออกมาโดยไม่มีที
ท่าว่าจะหยุดหย่อนลงไปเลยแม้แต่น้อย หลินหมิงเว้นจังหวะให้นาง
พักหายใจหลังจากที่เขาใช้ลิ้นตวัดโลมเลียที่ร่องสวาทของนางจน
ทาหญิงสาวต้องปล่อยน้ารักออกมาถึงสองครั้งติดกัน
" นะ..นี้เจ้า..ทาอะไรลงไป..ทาไมร่างกายของข้าถึงได้รู้สึกร้อน...
"
ในตอนนี้อาจเรียกได้ว่านี้เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัส
นั้นได้ละความสนใจจากทวนมังกรของหลินหมิงนางหันร่างกลับมา
โดยที่ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาท้่งห่างจากกันไม่มากนัก นางยังคง
หวาดกลัวกับการจู่โจมของหลินหมิงอย่างไม่คาดคิดจึงทาให้นาง
ตัดสินใจไม่ให้ร่องสวาทให้แก่หลินหมิงอีก
" แล้วท่านรู้สึกดีหรือไม่ ? "
หญิงสาวเต็มไปด้วยความครุ่นคิดนางไม่เคยมีอาการเสร็จสมที่
รุนแรงเช่นนี้มาก่อนมันเป็นความสุขที่มาเกินกว่าทีน่ างจะอธิบายได้
เมื่อรวมกับกลิ่นหอมที่มาจากทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นี้แล้วนางจึง
ไม่อาจปฎิเสธได้อย่างเต็มปากว่านางไม่มีความสุข ร่องสวาทของ
นางยังคงสั่นกระตุกเล็กน้อยหลังจากที่โดนหลินหมิงโลมเลียเข้าราว
กับว่าร่องสวาทของนางนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งในร่างกายของนางอีก
ต่อไปมันมีความต้องการในการที่จะโดนหลินหมิงจู่โจมอีกรั้ง !
" ท่านจะรู้สึกกังวลไปทาไมกันเล่าข้านั้นมีพลังอ่อนแอ่กว่าท่าน
ตั้งมากมายอีกทั้งข้ายังโดนพันธนาการอยู่...ดังนั้นเป้าหมายของข้ามี
เพียงทาให้ท่านพึงพอใจให้มากที่สุดเพียงเท่านั้น "
หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสเมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงนางก็พลัน
คิดขึ้นได้ไม่มีเหตุผลใดที่นางจะต้องกังวลกับเด็กหนุม่ ผู้นี้
" หากเจ้าทาให้ข้าพอใจแล้วละก็ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่สังหารเจ้า
ทิ้งอย่างแน่อน "
หญิงสาวซัคคิวบัสกล่าวพร้อมกับหันใบหน้าเข้าหาทวนมังกร
ของหลินหมิงอีกครั้งในความเป็นจริงแล้วจุดประสงค์ของนาง
ในตอนนี้คือการที่นางอยากให้หลินหมิงใช้ลิ้นของเขาจู่โจมนางอีก
ครั้ง
" เช่นนั้นท่านสมควรปลดเปลื้องเสื้อผ้าของท่านออกเสียก่อน
ไม่เช่นนั้นเกรงว่าข้าจะไม่สามารถทามันได้อย่างถนัด "
หญิงสาวซัคคิวบัสไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ในตอนนี้นางสนใจเพียง
ความสุขที่หลินหมิงจะมอบให้แก่นางเพียงเท่านั้น ร่างกายเปลือย
เปล่าปรากฎสู่สายตาของหลินหมิง มันราวกับเป็นภาพจินตรกรรม
อันงดงามทีถ่ ูกสรรสร้างขึ้นโดยเทพเจ้าความงามของนางนั้นอาจ
กล่าวได้ว่าล้วนไม่มีที่ติแต่อย่างใด กลีบร่องสวาทสีชมพูอ่อนแสดง
ให้เห็นถึงพรหมจรรย์ของหญิงสาวที่ยังคงไม่สูญเสียไป
หญิงสาวสามารถสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงนั้นมีอาการ
สั่นกระตุกหลังจากที่นางได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกจนหมด
ไปเรียบร้อยแล้วพร้อมกับมีน้ารักของหลินหมิงที่ค่อยๆไหลออกมา
นางจึงเข้าทาการโลมเลียพวกมันอีกครั้งอย่างนึกเสียดาย
" อ๊าาาา อ๊าาาา อ๊าาา "
ลิ้นของหลินหมิงเข้าโลมเลียที่กลีบสีชมพูของหญิงสาวด้วย
ความร้อนแรงเสียงครางสนั่นของหญิงสาวราวกับว่านางต้องการให้
ผู้คนได้รับรู้ถึงความสุขของนางในขณะนี้ มันแตกต่างจากตอนนี้ที่
ลิ้นของเด็กหนุ่มได้โลมเลียร่องสวาทของนางในตอนแรกผ่านเสื้อผ้า
ของนาง ในตอนนี้นางสามารถรับรู้ได้ถึงลิ้นของหลินหมิงอย่าง
ชัดเจน
" มะ...มันเข้าไป..อู้ววว..สะ...สุดยอดด...เจ้า..ชะ..ช่างยอดเยี่มม
อ๊าาาา อ๊าาา ~~~~~~ "
เมื่อหลินหมิงส่งลิ้นเข้าไปสารวจโพร่งร่องสวาทของหญิงสาว
เพียงไม่นานน้ารักจานวนมากของนางก็ไหลพรั่งพรู่ออกมาต้อนรับ
ลิ้นของหลินหมิงอีกครั้ง ร่างกายของหญิงสาวสั่นกระตุกอย่าง
รุนแรงพร้อมกับน้ารักของหลินหมิงที่ได้ปะทุขึ้นมาเข้าสู่ภายในปาก
ของเช่นเดียวกัน
" พะ..พอก่อน....ขะ..ข้าเหนื่อย "
เมื่อหญิงสาวกล่าวเช่นนีห้ ลินหมิจึงไม่สามารถทาสิ่งใดได้แม้ว่า
หากเป็นในสถานการณ์ปกติหลินหมิงคงเข้าจู่โจมต่ออย่างไม่ลังเล
เพียงแต่ว่าในตอนนี้นางได้ย้ายสะโพกของนางให้หา่ งจากใบหน้า
ของหลินหมิงไปเสียแล้ว

ตอนที่ 53
หญิงสาวซัคคิวบัสหลบหนีมานอนหอบบนเตียงข้างกายหลินห
มิงไม่รู้ว่าอาจเป็นสัญชาตญานของเผ่าซัคคิวบัสที่ดีกว่าเผ่ามนุษย์ที่
ทาให้นางให้ตัดสินใจเช่นนี้ หรืออาจเป็นเพราะนางอาจรู้สึกมี
ความรู้แปลกๆกับทวนมังกรของหลินหมิงที่ไม่ว่านางจะรีดเค้นมัน
ไปมากเพียงใดมันกลับไม่มีทีท่าว่าจะหดลงไปเลยแม้แต่น้อย จาก
การโลมเลียของหลินหมิงมันทาให้ร่างกายของนางรู้สึกเหนื่อยอ่อน
อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมันไม่ใช่ความรู้สึกทรมานอย่างการเหนื่อย
ล้าปกทั่วไป แต่มันคือความเหนื่อยล้าจากการเสพสุขมากจนเกินไป
มากกว่าในความคิดของหญิงสาว
นางมองดูใบหน้าของหลินหมิงที่แม้จะเค้าโครงใบหน้าของบุรุษ
รูปงามแต่มันก็ยงั ไม่อาจนับได้ว่าเป็นบุรุษรูปงามทีห่ าได้ยากยิ่งอีก
ทั้งด้วยหน้าตาผิวพรรณของเด็กหนุ่มผู้นดี้ ูแล้วสาควรมีอายุราว 15-
16 ปีเพียงเท่านั้นแต่เขากลับมีความสามารถในเรื่องนี้อย่างช่าชอง
? เผ่าซัคคิวบัสของนางนั้นหากคนทั่วไปได้ยินชือ่ แล้วอาจต้องนึก
ถึงเรื่องของคนในเผ่าที่มีความสามารถในเรื่องทางเพศระดับสูงใน
การดูดซับพลังหยางจากเหล่าบุรุษ แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่า
เผ่าพันธ์ของนางจะมีความสามารถเช่นนั้นอย่จริงแต่ส่วนใหญ่พวก
เขาจะไม่ใช่วิธีการร่วมรักในการดูดพลังหยาง
เผ่าพันธ์ซัคคิวบัสของนางนั้นสามารถทาการดูดพลังหยางจาก
เหล่าบุรุษที่อ่อนแอ่กว่าตนได้ในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆยิ่ง
เป้าหมายมีความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นกันเพียงใดผลลัพธ์ของการดูด
พลังก็ยิ่งแสดงผลได้ดียงิ่ ขึ้นมากเท่านั้น และนั้นเป็นวิธีที่นางได้ใช้
กับกลุม่ ของชาวบ้านที่เผลอเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ สาหรับตัวนางนั้น
เป็นเพียงผู้ที่เหลือรอดไม่กี่คนของเผ่าพันธ์เนื่องจากความแข็งแกร่ง
ที่มากจนเกินไปทาให้เผ่าพันธ์อื่นนั้นเกรงกลัวพวกเขาเหล่านั้นจึงได้
ทาการรวมกลุ่มเข้าโจมตีเผ่าพันธ์ของนางเมื่อพันปีก่อน
ใช่แล้วเผ่าพันธ์ซัคคิวที่เป็นดั่งตานานนั้นมีอายุขัยที่มากกว่า
เผ่าพันธ์อื่นอย่างเทียบไม่ติดและนางเองก็มีอายุไม่น้อยไปกว่า 1500
ปี ดังนั้นแล้วพวกนางจึงมีเวลาในการพัฒนาฝึกฝนที่มากกว่า
เผ่าพันธ์นอื่น หลังจากผ่านการต่อสู้เมื่อพันปีก่อนร่างกายของนาง
ต้องเข้าสู่ภาวะหลับไหลเนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้
นางไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเผ่าพันธ์ของนางเป็นเช่นไรบ้างในตอนนี้ที่
นางสามารถทาได้ในตอนนนี้มีเพียงฟื้นกาลังตัวของนางให้ได้มากที่
สุดแต่ในเรื่องนั้นดูเหมือนว่าจะมีความยากลาบากเล็กน้อยเนื่องจาก
ในยุคนี้ที่นางได้ตื่นมาหลังจากหลับไหลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
ผู้คนล้วนอ่อนแอ่กว่าในอดีตกันอย่างเทียบไม่ติดขนาดในตอนนี้นาง
ที่ไม่ได้มีพลังที่สามารถเทียบเท่าได้กับก่อนหน้า
แม้ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปแต่พลังหยางของพวกเขา
ล้วนไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับบุรุษในอดีตที่นางได้เคยดูดซับมา
เลยแม้แต่น้อยนั้นจึงทาให้การฟื้นตัวและพลังของนางเป็นไปได้
เชื่องช้า แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าพันปีที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นมาบ้างแต่
นางยังคงไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของนางให้กับใครได้รู้มิเช่นนั้น
แล้วชีวิตของนางอาจอยู่ตกในอันตรายอีกครั้ง
เพราะนางยังคงไม่สามารถรับรู้สถานการ์ณและความแข็งแกร่ง
ของคนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดีนักแต่จากการที่นางได้ดูกลืนพลังหยาง
ของเหล่าบุรุษที่ผ่านทางมาล้วนแล้วแต่มีกระทัง่ ชาวบ้านและพวกที่
ดูเหมือนจะเป็นนักรบของเผ่ามนุษย์จึงพอทาให้นางดูความทรงจา
ของพวกเขาเหล่านั้นบางส่วนและสามารถประเมิณความแข็งแกร่ง
ของเผ่ามนุษย์ได้
สาหรับสหายร่วมเผ่าพันธ์ของนาง นางไม่อาจตั้งเป้าความหมาย
ไว้สูงนักหลังจากที่พวกนางทั้งหมดต้องรับศึกหนักเช่นนั้นมันแทบ
จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตรอดจากสงครามไม่สิไม่อาจเรียกได้ว่า
เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์แม้ว่าเผ่าซัคคิวบัสจะมีความแข็งแกร่งที่
มากกว่าเผ่าอื่นแต่ถึงอย่างนั้นจานวนของคนในเผ่าพันธ์ก็นับได้ว่า
น้อยกว่าเผ่าอื่นด้วยเช่นกันไม่ต้องกล่าวในกรณีนี้ที่แทบจะทุกเผ่า
ร่วมมือกันเข้าโจมตีพวกนาง
แต่ยังนับว่าเป็นโชคดีของนางที่ดูเหมือนว่านางจะได้พบกับบุรุษ
หนุ่มทีม่ ีพลังหยางกล้าแกร่งพลังหยางของเขานั้นมีมากเสียยิ่งกว่า
บุรุษใดที่นางเคยพบเจอมา ทั้งที่เมื่อดูจากภายนอกแล้วเขาดูเป็น
บุรุษรุ่นเยาว์ที่มีอายุราว 15-16 ปีเพียงเท่านั้นอีกทั้งเปลวเพลิงสีดา
ทมิฬที่เขาได้ใช้ออกมานั้นทาให้นางรู้สึกคุ้นเคยแม้ว่านางจะเคยจา
ได้ว่าเคยเห็นมาก่อนแต่นางกลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ใด
แต่แน่นอนว่าเปลวเพลิงสีดานี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกทีด่ ีต่อนางเลย
แม้ว่านางจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าบุรุษหนุ่มผูน้ ี้แบบที่ไม่
สามารถเปรียบเทียบกันได้แต่ถึงอย่างนั้นภายในจิตใจของนางถึงกับ
ต้องสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเปลวเพลิงสีดาทมิฬเช่นนี้ ด้วยการที่
เผ่าพันธ์ของนางนั้นจะมีประสาทสัมผัสที่ค่อนข้างดีในการ
ตรวจสอบพลังหยางนางจึงสามารถสัมผัสพลังหยางของบุรุษหนุ่มผู้
นี้ได้อย่างชัดเจน
ยิ่งในตอนที่เขาได้ใช้เปลวเพลิงสีดาอันนั้นออกมาราวกับว่า
ภายในถ้านั้นถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นหอมจากพลังงานหยางของเขา
มันแทบจะทาให้นางรู้สึกเคลิ้มราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ดังนั้นแล้ว
นางจึงตัดสินใจที่ไม่สังหารบุรุษหนุ่มผู้นีทิ้ง แน่นอนว่าการดูดซับ
พลังงานหยางนั้นสามารถทาได้หลายวิธีและหนึ่งในนั้นคือการดูด
ซับจากน้ารักของเหล่าบุรุษ แต่วิธีนี้นั้นเผ่าพันธ์ของนางมักใช้กับ
บุรุษที่พวกนางถูกใจเพียงเท่านั้น
และดูเหมือนว่าความคาดหลังของตัวนางทีม่ ีต่อเด็กหนุ่มนั้นจะ
ไม่เสียเปล่ากลิ่นหอมที่บริเวณทวนมังกรของเขานั้นนางสามารถ
สัมผัสได้ตงั้ แต่ที่มันยังคงไม่ปรากฎตัวออกมา แค่เพียงกลิ่นที่ส่งออก
มานั้นมันก็สามารถบ่งบอกถึงความบริสุทธ์ของพลังหยางจากเด็ก
หนุ่มได้เป็นอย่างดี
แต่เรื่องที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อนางได้ทาการปลดปล่อย
ทวนมังกรของเขาให้เผยออกสู่โลกแล้วนั้น กลับกลายเป็นว่าทวน
ของเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นมีขนาดยิ่งใหญ่กว่าทวนทั่วไปแบบเทียบกันไม่
ติด ด้วยขนาดที่ใหญ่ของมันมันคงสามารถทะลวงประตูของหญิง
สาวให้แหลกเละโดยง่ายภายในทีเดียว
ราวกับร่างกายของนางนั้นถูกสั่งการโดยธรรมชาติแน่นอนว่า
แม้ว่านางจะมีอายุยืนยาวมากว่า 1500 ปีแต่ถึงเช่นนั้นนางยังคงไม่
เคยมีประสบการณ์เช่นใดกับบุรุษมาก่อนแต่ในตอนนี้แม้แต่นางเอง
ยังคงรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหวของนางนั้นดูเป็นธรรมชาติเสียยิ่งกว่า
พวกพ้องของนางที่โชกโชนไปด้วยประสบการณ์
เมื่อลิ้นของนางเข้าทาการโลมเลียสัมผัสน้าเหนียวข้นที่ไหล
ออกมาจากทวนมังกรของเด็กหนุม่ ถึงกับทาให้ร่างกายของนางสั่น
สะท้านไปด้วยความรู้สึกแปลกๆร่องสวาทของนางพลั่นรู้สึกมี
อาการตื่นตัวขึ้นในทันที เพียงไม่นานนางก็ตดั สินใจได้ว่าสิ่งที่นาง
จะต้องทาในตอนนี้มีเพียงแค่ปล่อยตัวไปตามสัญชาติญานและลิ้ม
รสความสุขเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ

ตอนที่ 54
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะอยู่ในสภาพที่ถูกพันธนาการเอาไว้อยู่
แต่เขายังคงสามารถเอียงคอมองภาพของสาวสวยเผ่าซัคคิวบัสที่
กาลังนอนแผ่ร่างบนเตียงข้างกายเขาด้วยสภาพเปลื่อยเปล่า
หน้าอกขนาดไซด์มหึมากาลังทาการเคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างไม่หยุด
หย่อนตามจังหวะการหายใจอย่างเหนื่อยหอบของหญิงสาว
ผิวพรรณที่ขาวเรียบเนียนในตอนนี้ปรากฎสีชมพูบางขึ้นมาบาง
จุดจากอาการเหนื่อยล้าพร้อมกับคราบเหงื่อใสๆที่ออกมาจากรูขุม
ขนของหญิงสาวผู้งดงามมันทาให้ในตอนนี้เสน่ห์ทมี่ ีอยู่ในตัวของ
หญิงสาวนั้นทีม่ ากจนเกินกว่าชายใดจะห้ามใจยิ่งมากขึ้นไปอีก หาก
บุรุษใดเมื่อได้เห็นภาพของนางที่กาลังนอนด้วยสภาพเช่นนี้พวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่หมดไฟไปแล้วพวกเขาก็ยังต้องลุกขึ้นสู้
กับภาพตรงหน้าอย่างสุดฤทธิ์
เมื่อหลินหมิงได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าตัวเขาจะผ่านการ
ร่วมรักกับหญิงสาวมามากแต่มันก็ยงั คงไม่สามารถเปรียบเทียบกับ
หญิงสาวตรงหน้านี้ได้ เสียงกลืนน้าลายลงคอเฮือกใหญ่ด้วยความ
เสียดายที่ไม่อาจทาตามใจตนเองของหลินหมิงกระตุ้นให้หญิงสาว
หันมามองในตัวของเขา ถึงนางจะไม่มีประสบการณ์กับบุรุษมาก่อน
แต่เมื่อได้เห็นแววตาของหลินหมิงเช่นนี้มีหรือที่นางจะไม่สามารถ
คาดเดาได้
หญิงสาวเหลือบมองไปทีท่ วนมังกรของหลินหมิงด้วยความลังเล
ใจไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการที่จะไม่ทาการร่วมรักกับเด็กหนุ่มผู้นดี้ ้วย
พลังหยางที่บริสุทธ์มากถึงเพียงนี้และดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่
สะทกสะท้านกับการที่นางดูดพลังหยางของเขาไปเลยแม้แต่น้อยซึ่ง
หากเป็นคนธรรมดานั้นพวกเขาอาจตกตายไปหลายรอบแล้วก็
เป็นได้ หากพวกพ้องของนางยังคงอยู่นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันอาจ
เกินการต่อสู้เพื่อแย่งชิงตัวเด็กหนุ่มคนนี้
แต่ปัญหาสาหรับนางในตอนนี้ก็คือขนาดทวนมังกรของเขาที่ไม่
ว่าจะดูอย่างไรแล้วมันก็ใหญเกินกว่าที่นางจะสามารถรับมือได้ไหว
อันที่จริงในความคิดของนางมันสมควรกล่าวได้อีกอย่างว่ามันจะมี
สตรีนางใดที่สามารถรับมือกับทวนมังกรเช่นนี้ได้ไหวจริงๆนะหรือ ?
แต่แล้วทันใดนั้นหญิงสาวก็พลันมีความคิดดีดีขึ้นมานางรีบลุกขึ้น
จากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วหายวับไปในทันทีโดยทีห่ ลินหมิงไม่ทัน
จะได้เห็นการเคลื่อนไหวของนางเลยเสียด้วยซ้า
เพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจต่อมาหญิงสาวปรากฎมาในห้องของนาง
อีกครั้งเพียงแต่ในคราวนี้นางไม่ได้ปรากฎมาเพียงลาพัง แต่ยังมีร่าง
ของสาวน้อยวัยใสที่กาลังทาสีหน้างุนงงซึง่ นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก
เสี่ยวยู้นั้นเองหลินหมิงไม่รู้ว่าในตอนนี้หลัวฉิงเชี่ยนนเป็นอย่างไร
บ้างแต่ในเมื่อเสี่ยวยู้นั้นยังคงมีชีวิตอยู่นั้นก็แสดงว่ามีโอกาสอย่าง
มากที่หลัวฉิงเชี่ยนยังคงมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกัน
หลินหมิงมองไปที่หญิงสาวซัคคิวบัสด้วยความสับสนเขาไม่
เข้าใจเลยจริงๆว่าในตอนนี้นางกาลังตั้งใจทาสิ่งใด เทียบกับอาการ
ของหลินหมิงในตอนนี้เสี่ยวยู้นั้นแตกต่างออกไป เมื่อนางถูก
เคลื่อนย้ายมาอย่างรวดเร็วเข้ามาภายในห้องแห่งนี้นางเต็มไปด้วย
ความสับสนแต่เมื่อนางได้เห็นร่างของหลินหมิงที่กาลังเปลื่อยเปล่า
อยู่แม้ว่านางจะเป็นเพียงเด็กที่อายุไม่ถึง 10 ปีกต็ ามแต่นางก็พอรู้
เรื่องราวและความอับอายที่เป็นพื้นฐานอยู่บ้าง
" ข้าจะให้เจ้าร่วมรักกับนางซะ ! "
จากความคิดของนางหญิงสาวผู้งดงามนั้นหากนางมีความกังวล
ในเรื่องขนาดทวนมังกรของหลินหมิงนั้นทางออกก็ง่ายเพียงนิด
เดียวเท่านั้น นางเพียงแค่ต้องดูการร่วมรักของเขากับสตรีอื่นและยัง
โชคดีที่นางยังไม่ได้สังหารทั้งเสี่ยวยู้และหลัวฉิงเชี่ยน
เหตุที่นางไม่เลือกหลัวฉิงเชี่ยนนั้นเป็นเพราะว่านางต้องการรู้ว่า
หากเป็นสตรีที่ยังเป็นเด็กเช่นเสี่ยวยู้นั้นทวนมังกรของหลินหมิงนั้น
จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อแม่สาวน้อยนางนี้บ้างแน่นอนว่าในเรื่อง
ความอดทนนั้นเด็กสาววัยไม่ถึง 10 ปีนางนี้ยอ่ มมีความอดทนที่
น้อยกว่าอย่างไม่อาจเทียบ และหากนางไม่สามารถทนได้หญิงสาวผู้
งดงามนางก็จะเปลี่ยนเป็นหลัวฉิงเชี่ยนในภายหลังก็ย่อมได้
เสี่ยวยู้เมื่อได้ยินคากล่าวของหญิงสาวผู้งดงามก็ตนื่ ตะลึงไป
ในทันทีแน่นอนว่านางเข้าใจในความหมายเหล่านั้น แน่นอนด้วย
ความใสซื่อและยังเยาวัยของนางทาให้นางยังคงไม่อาจรับรู้ถึง
กระบวนการการ่วมรักต่างๆของบุรุษกับสตรี แต่อย่างน้อยนางก็พอ
รู้ได้ว่าทั้งบุรุษและสตรีนั้นจะต้องทาการหลับนอนด้วยกัน ทาการ
ประกบปากซึ่งกันและกันและเปลื่อยเปล่าต่อนหน้ากันและกัน
" นะ..นี้ท่านหมายความว่าอย่างไร ? "
" ก็ตามที่ข้าพูดหากเจ้าไม่ทาเช่นนั้นข้าก็จะสังหารเด็กสาวนางนี้
รวมถึงเพื่อนของเจ้าด้วย "
" พะ..พี่ชายข้าไม่เป็นไรหรอก..นี้ถือว่าเป็นโทษของข้าที่ทาให้
พวกท่านต้องมาพบเจออันตราย "
เด็กสาวกล่าวออกมาด้วยท่าทีสานึกผิด แต่ที่หลินหมิงกังวลนั้น
ไม่ใช่เรื่องความคิดของเด็กสาวแต่เป็นความคิดภายในใจของหญิง
สาวผู้งดงามต่างหาก แต่ถึงเป็นเช่นนั้นในสภาพของหลินหมิง
ในตอนนี้ก็ไม่สามารถทาสิง่ ใดได้อยู่ดีเขาจาเป็นจะต้องทาตามคา
กล่าวของหญิงสาวผู้งดงามอย่างเลี่ยงไม่ได้
" ข้าเกรงว่าข้าคงไม่อาจสามารถทามันได้อย่างถนัด..เนื่องจาก
มันยังคงมีสงิ่ พันธนาการ.. "
เคร้งง
เพียงหญิงสาวผู้งดงามดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวโซ่พันธนาการที่รั้ง
ร่างของหลินหมิงเอาไว้กพ็ ลันสลายหายไปในทันที
" ทีนี้ก็เรียบร้อยแล้วสินะ "
หลินหมิงจ้องมองไปที่เสี่ยวยู้แน่นอนว่าหลินหมิงยังคงมี
ความเห็นใจเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวของเด็กสาว หญิงสาวผู้งดงามใช้
สายตาจ้องมองไปที่เสี่ยวยู้ราวกับต้องการให้นางดาเนินการโดยเร็ว
ที่สุด เสี่ยวยูก้ ้าวขึ้นมาบนเตียงด้วยความกังวลนางซึ่งยังเป็นเด็ก
สาวไร้ซึ่งประสบการณ์ใดๆกลับต้องมาเสียความบริสุทธ์ของนางใน
วันนี้เสียแล้ว
ร่างเล็กๆของหญิงสาวสั่นไปด้วยความกังวลอย่างปิดไม่มดิ
หลินหมิงทาการโอบร่างกายของเด็กสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเป
ลื่อยเปล่าของเขา สัมผัสไออุ่นที่ออกมาจากตัวของหลินหมิงทาให้
เสี่ยวยู้ถึงกับตาเบิกกว้าง นางไม่คิดว่านางจะได้รับการให้อภัย
หลังจากที่นางได้กระทากาลงไปเช่นนั้นแต่ถึงอย่างนั้นหากย้อนไปได้
นางก้คงต้องทาอย่างนี้อย่างเดียวเพียงเท่านั้น
หยดน้าตาใสๆของเด็กสาวไหลอาบแก้มเนียนนุม่ ของนางไม่ว่า
จะด้วยเพราะเหตุใดเมื่อนางได้อยู่ใกล้หลินหมิงเช่นนี้นางรู้สึก
เหมือนกับว่าตัวเองได้อยูใ่ นที่ที่ปลอดภัยสาหรับเด็กสาวที่เสียพ่อที่
เป็นพึ่งพาไปเป็นธรรมดาที่นางจะต้องเกิดความรู้สึกเช่นนี้ นางพยัก
หน้าให้หลินหมิงหนึ่งครั้งเป็นเชิงว่านางพร้อมกับสาหรับเรื่องอย่าง
ว่าแล้ว
หลินหมิงประคองร่างของเด็กสาวให้นอนหงายลงบนเตียงอย่าง
แผ่วเบาพร้อมกับทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกอย่าง
เชื่องช้า ถึงเสี่ยวยู้จะเป็นเพียงเด็กสาววัยที่ยังใบผลิบานเหมือนกับ
บรรดาๆสาวของเขาที่ผ่านมาแต่ด้วยความความสดใสในวัยนี้ของ
นางนั้นกลับมีเสน่ห์ไปอีกแบบในสายตาของหลินหมิง ผิวเนียบนุ่ม
ลื่นสีชมพูอ่อนปรากฎเผยสู่สายตาของหลินหมิงท่ามกลางความ
เอียงอายของเด็กสาว
ร่องสวาทของเด็กที่ยังคงเป็นกลีบสีชมพูดสดกับผิวหนังเปล่ง
ปลังของเด็กสาวมันช่างรูส้ ึกเร้าอารมณ์ของหลินหมิงไปอีกแบบหนึ่ง
หากเป็นในสถานการณ์ปกติหลินหมิงก็ต้องขอทาการเล้มโลม ทุก
ส่วนของร่างกายของนางเสียก่อน แต่ในตอนนี้นั้นยังคงมีสายตาของ
หญิงสาวผู้งดงามจ้องมองเขาราวกับเป็นเชิงให้เขาลงมือเสียที
หลินหมิงขึ้นไปคร่อมร่างของเสี่ยวยู้พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งลูบ
ไปที่ศรีษะไล่ลงมาที่ใบหน้าของหน้าเพื่อให้นางคลายความกังวล
สาหรับหญิงสาวที่จะต้องเสียความบริสุทธ์ครั้งแรกไปนั้นเป็น
ธรรมดาที่พวกนางจะกังวลจนมีอาการเกร็งขึ้นมานั้นจะทาให้การ
ร่วมรักของพวกเขานั้นยากขึ้นไม่ต้องสงสัยสาหรับตัวของเด็กสาว
ในวัยเพียงเท่านี้ความกังวลของนางอาจมากกว่าหญิงสาวโดยทั่วไป
อย่างเทียบไม่ตดิ
เสี่ยวยู้นางไม่กล้ามองถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นลาพังเพียงตอนนี้ที่นาง
ต้องเปลื่อยเปล่าประกบชิดร่างกับหลินหมิงนางนั้นก็รู้สึกอายจนเกิด
กว่าจะรับไหวอยู่แล้ว มือเล็กทัง้ ๆสองข้างถูกยกขึ้นมาปิดใบหน้า
ของนางเอง โดยที่ในตอนนี้นางไม่รู้เลยว่าทวนมังกรแท่งใหญ่ของ
หลินหมิงนั้นกาลังจดจ่อทีร่ ่องสวาทของนางอยู่
นางสามารถรู้สึกได้แค่เพียงผิวหนังสัมผัสที่บริเวณร่องสวาทของ
นางกับเนื้อหนังบางส่วนของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นที่บริเวณ
ส่วนล่างของนางก็เริ่มมีปฎิกริยาขึ้นมาหลังจากที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงเริ่มที่จะทาการบุกทะลวงเข้าไปอย่างเชื่องช้า
ด้วยร่องสวาทของเด็กสาวเช่นนี้มันเป็นธรรมดาทีม่ ันจะมีขนาด
คับแคบกว่าหญิงสาวทั่วไปหลินหมิงจึงจาเป็นต้องลงมืออย่าง
เชื่องช้า เขารู้สึกได้ถึงอาการเกร็งไปทั่วทั้งร่างกายของเด็กสาว
ดังนั้นหลินหมิงจึงทาการใช้ลิ้นของเขาโลมเลียไปที่บริเวณหน้าอกคู่
เล็กน้อยสีชมพูของนาง
" อ๊าา อ๊าาา พี่ชาย..มะ..ไม่ได้นะ...อ๊าา "
เสียงครางของเด็กสาวครางออกมาหลังจากที่บริเวณส่วนปลาย
ทวนของหลินหมิงเริ่มแทงทะลวงเข้าไปพร้อมกับลิน้ ของหลินหมิงที่
กาลังเล่นอยู่กับยอดปทุมถันของนาง แม้ว่านางจะไม่สามารถบอก
ได้ว่าความรู้สึกเช่นนี้เป็นเช่นไรแต่อย่างน้อยมันย่อมไม่ใช่ความรู้สึก
ทรมาน แม้ว่าที่บริเวณส่วนล่างของนางจะเริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
บ้างแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับถูกแทนทีด่ ้วยความเสี่ยวซ่านจากบริเวณ
หน้าอก และร่องสวาทของนางไปในทันทีนางเริ่มยกมือทั้งสองข้าง
ออกจากใบหน้าแล้วเปลี่ยมาเป็นการกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้
แทน
หลินหมิงเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทาการเสียบดุ้นเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม
สัมผัสภายในร่องของนางนั้นคับแคบและเนียนนุ่มยิ่งกว่าสาวคนใด
อาจเป็นเพราะนางยังคงเด็กอยู่ เลือดสีแดงสดไหลอาบออกมาจาก
บริเวณร่องสวาทของเด็กสาวแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับไม่ส่งเสียงใดๆ
นอกจากเสียงครางกระเส้าเพียงเท่านั้น
" มะ..มันเข้ามาอยู่ในร่าง..กายแล้ว..อ๊าาาาา อ๊าาามัน..แน่น..
ใหญ่เกินไปแล้ว อ๊าาาา..รู้สึกอุ่น อ๊าาาาา ~~~~~~~~~ "
น้ารักใสๆของนางพุ่งออกมาเป็นจานวนมากไม่แพ้กับหญิงสาว
โดยทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงกอดหลินหมิงเอาไว้แน่นยิ่ง
กว่าเดิมอีกทั้งขาทั้งสองข้างของนางยังคงถูกยกขึ้นมาคล้องเกี่ยวกัน
ไหวราวกับไม่ต้องการให้หลินหมิงแยกจากไปไหน
ด้วยขนาดสภาพร่องที่คับแน่นเช่นนี้หลินหมิงเองก็ไม่อาจหัก
ห้ามใจตนเองได้มากนักเขาค่อยๆทาการดันทะลวงดุ้นของเขาเข้าไป
จนสุดโพร่งของเด็กสาว สีหน้าของนางนั้นสามารถบ่งบอกได้เป็น
อย่างดีถึงอาการจุกที่อยู่ภายในท้อง
" ฉี่..ข้า...จะออกมา..อีกแล้วพี่ชาย...อ๊าาาาาา ~~~~~~~~~~ "
" มะ..มันไม่ยอมหยุด...อร้างงงง ~~~~~~~~~ "

ตอนที่ 55
ด้วยการที่ยังเป็นเด็กสาววัยสดใสอยู่นั้นการที่เสี่ยวยู้นางจะต้อง
มาเสียความบริสุทธ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบถึงจิตใจของเด็กสาว แต่
หากดูจากใบหน้าของนางแล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสี่ยว
ยู้ไม่สามารถรับรู้ได้ว่านางได้ปลดปล่อยน้ารักของนางออกมา
มากมายกี่ครั้ง แต่ตราบใดที่ทวนมังกรของหลินหมิงยังคงอยู่ภายใน
ร่องสวาทของนางนั้นน้ารักของนางก็จะยังคงไหลออกมาอย่างไม่
หยุดหย่อน
" อ๊าา พะ..พี่ชาย..ของ..พี่ชายมัน...กระตุก อ๊าาาาาาาาาาาา
~~~~~~~~ "
ในจังหวะนั้นเองนี้ก็เป็นขีดจากัดของหลินหมิงแล้วเช่นกันกับ
การที่ต้องรับมือกับร่องสวาทที่คับแน่นแบบนี้หากเป็นตัวของหลินห
มิงที่ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์ร่วมรักกับสตรีใดมาก่อนนั้นเขาอาจ
ต้องเสร็จสมไปในตั้งแต่ตน้ ไปแล้ว เสี่ยวยู้ในตอนนี้ถึงกับครางเสียง
หลงเมื่อนางสัมผัสได้ว่ามีของเหลวอุ่นๆถูกปลดปล่อยเข้ามาภายใน
ตัวนางด้วยจานวนที่เยอะมาก
ร่างกายของเด็กสาวที่บอบบางและร่องสวาทที่ยังเติบโตไม่
สมบูรณ์พร้อมนั้นไม่อาจรองรับน้ารักของหลินหมิงเอาไว้ได้ทั้งหมด
ทาให้ท้องของเด็กสาวถึงกับโป่งโพ่งราวกับมันจะแตกออกในทันที
หลินหมิงดึงทวนมังกรของเขาออกเมื่อเห็นเช่นนี้น้ารักจานวนมาก
ไหลพุ่งทะลักออกมาจากร่องสวาทของเสี่ยวยู้แบบหยุดไม่อยู่
" อร้างงงงงงงงง ~~~~~~ "
หลังจากผ่านไปเพียงชั่วครู่คลื่นน้าทะลักที่ออกมาจากร่องสวาท
ของเด็กสาวก็หยุดลงพร้อมกับร่างกายของนางที่เหนื่อยอ่อนแบบ
เต็มที่จนหลับสนิทไป ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้มีร่างของหญิง
สาวผู้งดงามจ้องมองการร่วมรักของพวกเขาอย่างไม่กระพริบตา
สายตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงมั่นชัดเจนว่าด้วยร่อง
สวาทของเด็กสาวเช่นเสี่ยวยู้นั้นการรับมือกับทวนมังกรขนาดใหญ่
เช่นนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวนางนี้กลับทนได้
และยังคงส่งเสียงออกมาด้วยความเปี่ยมสุข ?
ใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงามถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูอ่อน
พร้อมกับยืนบิดข้างไขว้กนั เมื่อนางได้เห็นบทรักที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่า
มันจะเป็นเพียงชั่วเวลาเพียงไม่นานแต่มันกลับทาให้นางมี
ความรู้สึกแปลกๆที่บริเวณร่องสวาทของนางด้วยเช่นกัน มันจะ
เป็นไปได้รึเปล่าว่านางเองก็สามารถรับมือกับทวนมังกรแท่งนี้ได้ ?
หญิงสาวพลันจินตนาการนึกถึงในตอนนี้ที่นางนอนหงายร่างให้
เด็กหนุ่มเข้าจู่โจมด้วยทวนมังกรเพียงแค่นางจินตนาการได้ไม่นาน
ร่างกายของนางก็พลันรู้สึกสั่นสะท้านไปทัว่ ร่าง ต่อมานางสามารถ
สัมผัสได้ว่ามีสายตาของเด็กหนุ่มที่จ้องมาที่นางด้วยความสงสัย
หญิงสาวผู้งดงามดูสภาพร่างกายของเด็กหนุ่มที่ร่วมรักกับเด็ก
สาวมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอาการเหนื่อยล้าแต่อย่างใดกลับกัน
เมื่อดูจากสายตาที่เขาจ้องมองมาที่นางนั้นนางสามารถสัมผัสได้ว่า
อารมณ์ของเขากาลังพุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
" เอาล่ะ..นะ..นี้ถือเป็นโชคดีของเจ้า..ขะ..ข้ายินให้เจ้าร่วมรักกับ
ข้าได้..แน่นอนว่าหากเจ้าทาให้ข้าพึงพอใจได้ข้าจะมีรางวัลให้เจ้า
อย่างงาม "
หลินหมิงแทบจะอยากตะโกนออกไปในทันทีว่ารางวัลที่เขา
ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ย่อมเป็นร่างกายของหญิงสาวผู้งดงาม
ตรงหน้าโดยแท้จริงดูจากสัดส่วนโค้งว้าวตามร่างกายเปลื่อยเปล่า
พร้อมกับผิวขาวเรียบเนียนนี้แล้วมันสามารถกระตุน้ อารมณ์ของ
หลินหมิงให้ตื่นตัวได้ไม่รู้จบ
หญิงสาวผู้งดงามเดินมาทีเตียงพร้อมกับนอนหงายร่างเพื่อเป็น
การเชื้อเชิญให้หลินหมิงเข้ามาจู่โจมนางได้ตามสบายเพราะ
ในตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าแม้ว่าขนาดทวนมังกรของหลินหมิงจะมี
ขนาดใหญ่แต่มันคงไม่สร้างความเจ็บปวดให้แก่นางมากนักเพราะ
ขนาดเด็กสาวที่อ่อนแอ่ก็ยังคงสามารถรับมือกับมันได้
หลินหมิงมองไปที่ร่างของหญิงสาวผู้งดงามด้วยความหื่น
กระหาย และเมื่อเขาได้เห็นท่าทีเชื้อเชิญของหญิงสาวมีหรือที่
หลินหมิงคิดจะรีรอหลินหมิงกระโดดเข้าหาร่องของนางในทันทีที่
นางอนุญาติ ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าดูดดมยอดปทุมถันพร้อมกับ
มือทั้งสองที่เข้าสัมผัสลูบไล้ผิวหนังเนียนนุ่มที่บริเวณหน้าอกของ
นาง
" อ๊าา...ดะ...เดียวสิ...อ๊าาา..นะ..นี้เจ้า..ทาอะไร..อ๊าาาาาาาาา
~~~~~ "
หญิงสาวผู้งดงามนางรู้สึกตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยเมื่อได้เห็นการ
กระทาของหลินหมิงที่เข้าจู่โจมนางเช่นนี้ในตอนแรกนางบอกให้เข้า
ทาการร่วมรักกับนางไม่ใช่หรอแล้วเหตุใดเขาถึงได้เข้ามาดูดยอด
ปทุมถันของนางราวกับเป็นเด็กน้อยเช่นนี้ อีกทัง้ มือทั้งสองข้างของ
เด็กเด็กหนุม่ ยังคงเคลื่อนไหวอย่างซุกซนไปทั่วร่างกายของนาง แต่
แม้ว่านางจะตกใจแต่ภายในใจของนางกลับรู้สึกได้ถึงความสุขที่
กาลังเพิ่มขึ้น
สัมผัสรสชาติที่ปลายลิ้นของหลินหมิงที่สมั ผัสยอดปทุมถันของ
หญิงสาวนั้นมันช่างเป็นผิวเนียนนุ่มราวกับว่ามันจะสลายไปในทันที
หากเขาทามันรุนแรงเกินไป กลิ่นหอมเย้ายวนที่แผ่ออกจากตัวของ
นางในตอนนี้หลินหมิงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน หลินหมิงทา
การใช้มือข้างหนึ่งไล่ลูบไล้ลงไปจากบริเวณหน้าทองไล่ถึงบริเวณต้น
ขาเข้าสู่จุดลับของหญิงสาว..
" นะ...นี้เจ้า..พะ..พอ..อื้ออออออออออ~~~~~~~~~ "
หญิงสาวผู้งดงามไม่สามารถกล่าวตอบโต้ใดๆได้เพราะในตอนนี้
ริมฝีปากของนางได้ถูกหลินหมิงเข้าประจูบอย่างดูดดื่มอย่างไม่ทัน
ตั้งตัวอีกทั้งมือข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มก็บุกเข้าสารวจโพร่งร่องสวาท
ของนางอย่างอุกอาจ หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ว่าในตอนนี้หญิง
สาวผู้งดงามนางนี้ดูเหมือนว่านางจะมีอารมณ์ตอบสนองที่ดียิ่งกว่า
หญิงสาวโดยทั่วไปนั้นอาจเป็นเพราะจุดเด่นเรื่องเผ่าพันธ์ของนาง ?
ก็เพราะว่าในตอนนี้ที่บริเวณโพร่งร่องของนางนั้นเต็มไปด้วยน้ารัก
ใสๆที่ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตกทั้งที่นางเพียงแค่โดนเล้าโลมพียง
เท่านั้น
ริมฝีปากของหญิงสาวนั้นให้ความรู้สึกที่ดีเยี่ยมรสชาติภายใน
ปากของนางนั้นราวกับผลไม้จากสวรงสวรรค์ ลิ้นของหลินหมิงเข้า
ทาการสารวจทุกซอกมุมภายในปากของนางพร้อมกับผัวพันลิ้นของ
นางจนนางไม่อาจตามการเคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ทัน แม้ว่า
ในตอนแรกนางจะมีท่าทีขัดขืนเพียงแต่ในตอนนี้หญิงสาวในตอนนี้
เพียงตั้งใจจดจ่อรับความสุขที่หลินหมิงถ่ายถอดมาให้แก่นางเท่านั้น
" อ๊าา..ขะ..หายใจ..ไม่.. "
ไม่สามารถรับรู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดที่หลินหมิงทาการแลกลิ้น
ประกบปากกับหญิงสาวอย่างเพลิดเพลิน หลินหมิงทาการถอนริม
ฝีปากของเขาออกมาเพื่อให้นางได้หอบหายใจเสียก่อนใบหน้าของ
หญิงสาวในตอนนี้กาลังเหนื่อยอ่อนอย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับท่าที
องอาจในตอนแรกที่หลินหมิงพบเจอแล้วนั้นราวกับว่าในตอนนี้นาง
ได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
" ขะ...ข้าทนไม่ไหว...แล้วเสียบมัน..เข้ามา "
แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงจะตั้งใจเล้าโลมหญิงสาวจนเหนื่อย
จนไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยทาการจู่โจมนางแต่เมื่อได้
ยินคาขอของหญิงสาวผู้งดงามเช่นนี้แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นคาสั่งเช่น
ในตอนแรก แต่หลินหมิงกลับพบว่าตัวเขาไม่สามารถขัดขืนคากล่าว
ของนางได้ ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าจดจ่ออยู่กับบานประตูคู่กลีบ
ชมพูของนางเพื่อทาการรอเข้าจู่โจมทุกชั่วขณะ

ตอนที่ 56
ใบหน้าของหญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์
ความต้องการทวนมังกรของหลินหมิงอย่างแรงกล้า นางพยายาม
เร่งเร้าให้หลินหมิงเสียบทวนมังกรเข้ามาภายในตัวของนางได้
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนี้หลินหมิงไม่มีทางที่จะขัดใจสาวสวยเช่น
นางได้ เพียงแค่ปลายทวนมังกรของหลินหมิงกลีบบัวสีชมพูสดของ
นางสัมผัสเนียนนุ่มทีป่ ลายทวนที่ถกู ส่งมาหาหลินหมิงในทันที
ทวนมังกรของหลินหมิงตืน่ ตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนี้ขนาด
เพียงแค่เขาใช้ทวนมังกรจดจ่อที่ปากทางเข้าเพียงเท่านั้นเสน่ห์ของ
หญิงสาวนางนี้เป็นที่แน่นอนว่าไม่มีหญิงใดสามารถนามาเปรียบได้
แม้กระทั่งอาจารย์สาวสวย หรือหลิวฉวนยูร์เองก็ตามที่ แต่ถึงอย่าง
นั้นร่องสวาทของนางยังคงให้ความรู้สึกดีมากกว่าหญิงสาวที่ผ่านมา
เสียอีก
หากเปรียบแล้วร่องสวาทของหญิงสาวที่มีขนาดเล็กเช่นเสี่ยวยู้
นั้นด้วยการที่มันมีขนาดเล็กมันจึงสามารถบีบรัดทวนมังกรของบุรุษ
ได้อย่างแน่นพร้อมกับให้ความรู้สึกชวนเพลิดเพลิน แต่กลับหญิง
สาวผู้งดงามนางนี้เมื่อหลินหมิงส่งทวนมังกรส่วนปลายหัวเข้าไป
ร่องสวาทของนางนั้นไม่ได้มีขนาดคับแน่นเช่นเด็กสาวแต่ถึงอย่าง
นั้นราวกับว่าร่องสวาทของนางนั้นถูกสรรสร้างขึ้นเพื่อรองรับ
อารมณ์บุรุษโดยเฉพาะ
ภายในร่องสวาทของนางนั้นเต็มไปด้วยผิวหนังเนียนนุ่มอีกทั้งดู
เหมือนว่ามันจะสามารถปรับขยายขนาดของตัวมันเองได้ นี้อาจเป็น
หนึ่งในความสามารถของเผ่าพันธ์ของนาง ?เทียบกันแล้วกับเสี่ยวยู้
แม้ว่าร่องของเด็กสาวจะคับแน่นกว่าแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่อง
สวาทของสาวสวยนางนี้เป็นผู้เหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
" อ๊าาาา.. มะ..มัน..เข้า..มาแล้วววว ~~~~~~~ "
ร่องสวาทของนางกาลังคลายตัวพร้อมกับบีบรัดอีกครั้งตาม
จังหวะการกระแทกเอวของหลินหมิง แน่นอว่าในเรื่องนี้นางเองคง
ไม่ได้ตงั้ ใจทาอย่างแน่นอนแต่มันคงเป็นเพราะสัญชาติญานของ
เผ่าพันธ์ในตานานอย่างเผ่าซัคคิวบัส เสียงครางลั่นสนั่นของนาง
ยังคงดังระงมเพียงแค่หลินหมิงส่งทวนมังกรเข้าไปจนสุดลา
" อู้วว "
" อร้างงง..ยะ...ยอดมาก...แน่นไป..หมดเลย "
น้ารักใสๆของนางเริ่มไหลผ่านออกมาจากบริเวณร่องรักของนาง
มันเป็นเรื่องยากมากสาหรับหญิงสาวที่จะสามารถรับมือกับทวน
มังกรของหลินหมิงและยิง่ ในตอนนี้หลินหมิงอยู่ในอารมณ์ที่มากกว่า
ที่ผ่านมาแบบเทียบไม่ติด สายตาของหลินหมิงจ้องมองไปที่
ผิวหนังเปลื่อยเปล่าพร้อมกับใบหน้าเปี่ยมสุขของหญิงสาวที่กาลัง
ครางออกมาอย่างมีความสุขหน้าอกคู่งามกาลังกระเพื่อมขึ้นลง
อย่างช้าๆอย่างเย้ายวนตามจังหวะการกระแทกทีห่ ลินหมิงกระแทก
เอวของเขา
หลินหมิงเริ่มรู้สึกว่าตัวเขาในตอนนี้เริ่มจะไม่สามารถอดกลั้นใจ
ได้ไหวอีกต่อไปจังหวะการกระแทกของหลินหมิงเริ่มเปลี่ยนไปอีก
ครั้ง มันเร็วขึ้นจนหญิงสาวครางสนั่นแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคง
เร่งจังหวะขึ้นไปอีก
" อ๊าา อ๊าาา อ๊าาา มะ...ไม่...เร็ว..ไป..อ๊าาาาาาาา ~~~~ ด...
เดียววว "
หญิงสาวพยายามกล่าวหยุดหลินหมิงที่ตอนนีก้ าลังส่งทวนมังกร
เข้าจู่โจมร่องสวาทของนางอย่างร้อนแรง แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่า
คากล่าวของนางกลับทาให้อารมณ์ของเด็กหนุ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในตอนแรกนางเพียงแค่นึกว่าหลังจากที่หลินหมิงได้ปลดปล่อย
อารมณ์ไปเป็นจานวนมากในตอนแรกที่นางได้ดูดกลืนน้ารักของเขา
อีกทั้งเด็กหนุ่มผู้นี้เพิ่งผ่านการร่วมรักมาก่อนหน้ากับเด็กสาวมา
หมาดหากเป็นคนธรรมดาโดยทั่วไปพวกเขาอาจจะต้องตกตายไป
เสียแต่ตอนแรก แต่ในตอนนี้อารมณ์ของเด็กหนุ่มผู้นี้กลับพุ่งสูงขึ้น
เสียยิ่งกว่าในตอนที่เขาร่วมรักกับเด็กสาวเสียอีก
หัวสมองของนางเริ่มรู้สึกขาวโผลนหากเป็นในตอนแรกนางคง
สามารถใช้กาลังของนางผลักร่างของเด็กหนุ่มที่แสนอ่อนแอ่นี้ให้
กระเด็นออกไปได้ในทันทีเพียงบแต่ว่าในตอนนี้ร่างกายของนางกลับ
รู้สึกอ่อนแรงลงอย่างน่าประหลาด ใบหน้าของหลินหมิงก้มลงเข้า
ซบหน้าอกของหญิงสาวเพื่อทาการดูดดมยอดปทุมถันของนางอีก
ครั้ง
ในตอนนี้ร่างกายของหญิงสาวพลันสั่นสะท้านไปด้วยความเสียว
ทั่วร่างแม้ว่าในตอนนี้นางจะไม่มีความร้สึกเจ็บปวดมากเท่าใดนักแต่
ถึงอย่างนั้นการที่เด็กหนุม่ จู่โจมนางอย่างรุนแรงเช่นนี้มันทาให้นาง
ไม่สามารถรับมือได้ แต่ถงึ อย่างนั้นนางเองก็ยังคงมีความรู้สึกเหนื่อย
ล้าอย่างน่าประหลาดเดิมทีด้วยระดับพลังของนางนั้นการที่นางไม่
ต้องหลับนอนเป็นเวลาหลายวันก็ยังคงไม่สามารถทาสิ่งใดนางได้แต่
กลับสถานการณ์ในตอนนี้เพียงทวนมังกรของเด็กหนุ่มเข้าจู่โจมนาง
ยังไม่ทันถึงหนึง่ ก้านธูปนางก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปเสียอย่างนั้น
เสียงครางหอบของนางยัคงดังต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนาง
สามารถสัมผัสได้ถงึ แสดงความหวังเมื่อทวนมังกรของเด็กหนุ่ม
เริ่มทาการสั่นไหวภายในร่องสวาทของนางอย่างรุนแรงอันเป็น
สัญญานตัวของเด็กหนุม่ นั้นกาลังจะปลดปล่อยอารมณ์ของเขาออก
มาแล้ว น้ารักจานวนมากถูกปลดปล่อยเข้ามาใส่ภายในตัวนางจน
นางคิดว่าด้วยจานวนน้ารักที่มากถึงเพียงนีม้ ันอาจเพียงพอในการ
ใช้อาบร่างกายของนางไปทั่ว
สัมผัสอุ่นๆเกิดขึ้นที่ภายในท้องร่างกายของหญิงสาวรู้สึกราวกับ
ว่าพลังงานที่หดหายไปเมือ่ ครั้งพันปีก่อนเริ่มกลับคืนมาอย่างไม่น่า
เชื่อแม้ว่าจะยังไม่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์พร้อมกับแต่อย่างนั้นมันก็
ยังฟื้นคืนเร็วเกินกว่าที่จะสามารถคาดคิดเอาไว้ได้ หญิงสาวมี
รอยยิ้มบนใบหน้าขึ้นมาในทันทีนางเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเด็ก
ของเด็กหนุ่มทีย่ ังคงคร่อมร่างของนางโดยที่ริมฝีปากของเขากาลัง
โลมเลียซอกคอและทั่วร่างของนางอยู่
ในที่สุดหลังจากที่นางต้องทนเหนื่อยอ่อนกับทวนมังกรของ
หลินหมิงเป็นเวลานานมันก็ดูเหมือนว่าจะสิ้นสุดลง เด็กหนุ่มหยุด
จังหวะการกระแทกเอวของเขา หญิงสาวผู้งดงามนางคิดว่านางคง
ไม่อาจปล่อยเด็กหนุ่มผู้นี้ไปโดยง่ายนางไม่เคยได้รับความสุข
มากมายเช่นนี้มาก่อนอีกทั้งดูเหมือนว่าเขาจะเป็นบุรุษที่ไม่ได้รับ
ผลกระทบจากการดูดกลืนพลังหยางของนางเลยเสียด้วยซ้า แต่ว่า
ทันใดนั้นนางพลันมีความรู้สึกแปลกๆภายในร่องสวาทของนาง
' มะ..มันยังแข็งอยู่ ! "
สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นซีดเสียวขึ้นมาในทันทีแม้ว่านาง
จะรู้ว่าหลินหมิงนั้นมีความแปลกประหลาดทีม่ ากกว่าบุรุษโดยทั่วไป
แต่อย่างนั้นแบบนี้มันจะไม่มากเกินไปอย่างนั้นหรือ นางไม่สามารถ
นับได้อย่างแน่ชัดว่าเด็กหนุ่มปลดปล่อยอารมณ์ไปมากกี่ครั้งแล้วมัน
อาจมากกว่าสิบแต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มผู้นกี้ ลับยังคงมีความต้องการ
ในการร่วมรักกับนางอีก
" นะ..นี้..ข้าว่าเราพัก....อ๊าาาาาาาาาาาาาา ~~~~~~~~ "
ทวนมังกรของหลินหมิงถูกกระแทกเข้ามาสุดลาอีกครั้งในก่อน
หน้านี้หลินหมิงเพียงแค่ทาการขยับทวนมังกรออกเพียงเล็กน้อย
เพื่อให้น้ารักของเขาและนางได้ระบายออกเพื่อที่เขาจะสามารถขยับ
ได้อย่างถนัด หลินหมิงไม่ยอมถอนทวนมังกรของเขาออกโดยง่าย
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าการที่เขานาทวนมังกรออกมาก่อนนั้นมันจะ
สามารถระบายน้ารักได้ดีกว่าถึงอย่างนั้นสัมผัสเนียนนุ่มภายในร่อง
สวาทของหญิงสาวนางนีม้ ันทาให้เขารู้สึกไม่อยากแยกจาก
" อ๊ะ อ๊ะ อ๊าา ทะ..ทาไม..มันแข็ง..กว่าเดิมอีก...อ๊าาา..ข้าไม่ไหว..
แล้ววววว ~~~~~~ "
" อื้อออออออออออออ~~~~~~~~~~~ "
ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงไปอีกอีกครั้งอย่างร้อนแรงโดยเด็ก
หนุ่มในตอนนี้เสียงครางของนางได้ส่งผ่านออกมาอย่างยากลาบาก
รสชาติภายในปากของนางนั้นนางไม่อาจรับรู้ได้อย่างแน่ชัด
เนื่องจากหัวสมองของนางในตอนนี้ราวกับว่าไม่สามารถทางานได้
อีกต่อไป ยอดปทุมถันของนางโดนบีบนวดโดยมือของหลินหมิงไป
มาอย่างสนุกมือ
เสียงปะทะกันระหว่างเนือ้ ที่บริเวณช่วงล่างค่อยๆรุนแรงขึ้น
เรื่อยๆพร้อมกับร่างกายของหญิงสาวที่สั่นกระตุกขึน้ มาแบบไม่หยุด
หย่อน ความเสียวสะท้านไปทั่วทัง้ ร่างกายเนื่องจากในตอนนี้นางได้
โดนเด็กหนุม่ ผู้นี้จู่โจมอย่างร้อนแรงร่างกายของนางทุกส่วนถูก
สารวจและลุกคืบจนราวกับว่ามันไม่ใช่ร่างกายของนางอีกต่อไป
น้ารักของนางระเบิดออกมาเป็นจานวนมากไปต่างจากในตอนที่
หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับเสี่ยวยู้แต่ถงึ อย่างนั้นหลินหมิงยังคงไม่
มีความคิดที่จะละมือไปจากร่างของหญิงสาวผู้งดงาม ในตอนนี้
หญิงสาวสติของนางเริ่มพลางมั่วไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดแต่ใน
ท้องของนางนั้นเต็มไปด้วยน้ารักจานวนมากจนมันแทบจะระเบิด
ออกมา
สติของนางดับวูบไปหลายต่อหลายครั้งแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนาง
ตื่นขึ้นมานางก็พบว่านางยังคงต้องส่งเสียงครางออกมาอย่างต่อเหนื่
งแม้กระทั่งในตอนที่นางหมดสติไป นางเริ่มมีความคิดว่าหากปล่อย
ให้เด็กหนุ่ม่นี
ผ้ ้กระทาการจู่โจมนางเช่นนี้ต่อไปนางอาจต้องตกตาย
ไปด้วยการไม่สามารถรับความสุขที่มากล้นนี้ได้
" นะ...นี้..ขะ..ข้า..ขอร้อง..เอา..มันออกก่อน...ข้ารู้สกึ แน่น.. "
หญิงสาวกล่าวด้วยน้าเสียงอ้อนวอนอย่างที่นางไม่เคยทามาก่อน
แต่จะทาอย่างไรได้เล่าในตอนนี้สภาพของนางไม่ตา่ งจากหญิงสาว
ทั่วไปที่ไร้กาลังมันอาจจะแย่เสียยิ่งกว่าด้วยซ้าไป เมื่อหลินหมิงได้
ยินคากล่าวของนางหลังจากที่ผ่านมาเป็นเวลานานเป็นครั้งแรก
นอกจากเสียงคราง หลินหมิงจึงทาการหยุดพร้อมกับปล่อยให้น้ารัก
จานวนมากไหลทะลักออกมาจากร่องสวาทของนางราวกับเขื่อน
แตก
ภายในท้องของหญิงสาวรู้สึกเบาสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แน่นอนว่ามันเป็นความสุขที่มากล้นจนแทบจะทาให้นางเฉียดตาย
ร่างกายของหญิงสาวหอบเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อนาง
เหลือบมองไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงก็ยังคงพบว่ามันยังคง
แข็งตัวอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
นางรีบพลิกกลายคลานเข้าไปหาหลินหมิงในทันทีเมื่อเห็นเช่นนี้
ริมฝีปากของนางเข้าโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างชานาญ
คราบน้ารักของหลินหมิงถูกชาระล้างลงไปในปากของหญิงสาว
อย่างรวดเร็วพร้อมกับที่หญิงสาวผู้งดงามยังคงทาการโลมเลียต่อไป
มันคงไม่ดีนกั หากนางปล่อยให้หลินหมิงเข้าจู่โจมนางอีกครั้งดังนั้น
นางจึงจาเป็นต้องทาเช่นนี้แม้ว่าในตอนนี้นางรู้สึกอยากจะนอน
หลับไหลไปสักพันปีอกี ครั้ง
มือของเด็กหนุม่ ที่แสนซุกซนเข้าลูบไล้สารวจเรือนร่างของนาง
ไปมาอย่างไม่หยุดหย่อนนางไม่เข้าใจเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีอารมณ์
ความต้องการมากเพียงใดนี้ขนาดเขาปลดปล่อยอารมณ์กับนางไม่
ตั้งมากมายจนนางแทบสิน้ สติแต่มันเห็นได้ชัดว่าเขายังคงมีอารมณ์
ความต้องการอย่างเต็มเปี่ยม
จนสุดท้ายแล้วเมื่อนางเผลอตัวไปเด็กหนุ่มก็ได้เข้าจู่โจมนางอีก
ครั้งจนนางเป็นลมหมดสติไปจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของนางก็
ยังคงถูกเป็นทีบ่ าเร่อความใคร่ของเด็กหนุ่มไปอย่างยาวนาน

ตอนที่ 57
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามเผ่าซัคคิวบัสที่กาลังนอนหงายไร้ซึ่งสติ
ด้วยสภาพเปลื่อยเปล่าถูกแต่งแต้มไปด้วยน้ารักของหลินหมิง
จานวนมากโดยเฉพาะที่บริเวณร่องสวาทของนางนั้นมันอาจเรียกได้
ว่าในตอนนี้มันการเป็นแอ่งน้าขนาดย่อมๆไปแล้ว หลินหมิงไม่
สามารถรู้ได้ว่าเขาได้ใช้เวลาในการร่วมรักกับแม่สาวผู้ร้อนแรงนาง
นี้ไปนานมากเพียงใดแต่มนั ย่อมมากกว่าการร่วมรักกับเหล่าสตรีที่
ผ่านมาของเขาแบบเทียบไม่ติดสังซึ่งมันสามารถสังเกตได้จาก
หลักฐานตรงหน้าโดยง่าย
หญิงสาวผู้งดงามถึงกับหมดสติไปก่อนครึ่งทางที่หลินหมิงร่วม
รักกับนางเสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นเสียงครางคร่าาครวญของนางก็
ยังคงถูกส่งออกมาจากปากแม้ว่านางจะหมดสติไปแล้วก็ตาม
แน่นอนด้วยเวลาที่หลินหมิงใช้ร่วมรักกับหญิงสาวผู้งดงามนั้นมัน
เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากดังนั้นไม่แปลกที่สาวน้อยที่นอนหลับ
หมดสติไปตอนแรกจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นการร่วมรักอันแสน
ร้อนแรงที่สามารถเทียบกันกับในตอนที่หลินหมิงทากับนางได้
ดังนั้นเด็กสาวจึงรีบทาเป็นแกล้งหลับไม่ได้สติต่อไปไม่ใช่
เพราะว่านางไม่ต้องการให้หลินหมิงทาเช่นนั้นกับนางอีกแต่
ในตอนนี้นางยังเด็กและเหนื่อยเกินกว่าจะรับมือเขาได้ไหว และเมื่อ
ได้เห็นหลินหมิงในสภาพที่กาลังจู่โจมหญิงสาวผู้งดงามที่แข็งแกร่ง
จนกระทั่งหมดสติไปจิตใจของนางก็เริ่มมีความกังวลว่านางจะโดน
แบบเดียวกันหรือไม่
หลังจากที่หลินหมิงใช้ร่างของหญิงสาวผู้งดงามจนพอใจเขาก็
ล้มตัวลงไปกอดร่างเนียนุม่ ของนางเอาไว้พร้อมกับหลับไปทัง้ อย่าง
นั้นโดยไม่สนใจคราบรักที่เขาได้ก่อขึ้น
หญิงสาวผู้งดงามนางตื่นขึ้นมาพร้อมกับสภาพเหนื่อยอ่อนอย่าง
สุดแรง สัมผัสด้านช้าบริเวณช่วงล่างของนางนั้นเป็นหลักฐานชิ้นดี
ว่าเด็กหนุ่มได้ใช้ร่างกายของนางไปมากเพียงใด นางรู้สึกอบอุ่นที่
บริเวณร่างกายเมื่อนางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับร่างของเด็กหนุ่มที่
ยังคงกอดนางเอาไว้อย่างแนบแน่น นี้ขนาดเขาใช้ร่างกายของนาง
ไปมากมายเพียงนี้แล้วยังคงมาเอาเปรียบนางเช่นนี้กระทั่งในเวลา
หลับนอน
เมื่อคิดนางก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแม้กระทั่งในการต่อสู้พันปี
ก่อนมันยังไม่อาจไม่ร้อนแรงเทียบเท่ากับการจู่โจมของเด็กหนุ่มที่
ผ่านมา นางยังคงปล่อยตัวให้เด็กหนุม่ กอดนางเอาไว้เช่นนั้นพร้อม
กับจ้องมองใบหน้าของหลินหมิงในยามหลับหากเมื่อดูเช่นนี้ใบหน้า
ของเขาช่างดูไร้เดียงสาไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยเยาว์ทั่วไป แตกต่าง
จากสีหน้ามุ่งมั่นที่จะจู่โจมร่างของนางไปโดยสิ้นเชิง
นางจ้องมองร่างของหลินหมิงด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขมันอาจเป็นไป
ได้ว่าในตอนนี้ดวงใจของนางนั้นเริ่มมีความปราถนาต่อเด็กหนุ่มผู้นี้
อย่างแรงกล้าจนไม่อาจแยกจากได้ นางกอดร่างของเด็กหนุ่มเอาไว้
พร้อมกับตั้งใจที่จะหลับนอนต่อไปทั่งอย่างนี้เพียงแต่ทันใดนั้นก็มี
เสียงที่มาทาลายความสุขของนางลง
" เอ๊ะ "
เสียวยู้ไม่อาจทราบได้ว่านางหลับลงไปได้อย่างไรท่ามกลางเสียง
ร่วมรักของหลินหมิงและหญิงสาวผู้งดงามมันอาจเป็นเพราะความ
เหนือยล้า เมื่อนางตื่นขึ้นมานางเห็นการกระทาของหญิงสาวผู้
งดงามทุกอย่างในตอนแรกนางเพียงคิดตั้งใจจะปลุกหลินหมิงขึ้นมา
เพื่อให้ทาการหลบหนี
มันเป็นไปไม่ได้สาหรับหลินหมิงที่กระทาการรุนแรงกับหญิงสาว
ที่ทรงอานาจเช่นนั้นแล้วจะสามารถรอดชีวิตไปได้ในสายตาของเด็ก
สาว แต่ภาพตรงหน้านั้นมันช่างแตกต่างจากที่นางคิดเอาไว้มากจน
นางต้องส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ หญิงสาวผู้งดงามหันหน้า
มามองเด็กสาวด้วยความไม่พอใจหากเป็นในอดีตนางคงไม่ลังเลที่
จะสังหารชีวิตของเด็กสาวตัวน้อยนางนี้เพียงแต่ว่าในตอนนี้หัวใจ
ของนางได้ถูกเด็กหนุ่มผู้นคี้ รอบครองเอาไว้มันจึงทาให้นางไม่อยาก
ทาให้เขาไม่พอใจ ยังดีที่นางยังไม่ได้ทาการสังหารเพื่อนของเขา
ที่มาด้วยกันไม่เช่นนั้นแล้วนางไม่อาจคาดคิดถึงความโกรธของเด็ก
หนุ่มได้
อืมม...
เสียงของหลินหมิงส่งเสียงออกมาพร้อมกับท่าทีขยับตัวเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นมือทัง้ สองข้างของเขาก็ยังโอบกอดร่างของหญิงสาว
ผู้งดงามเอาไว้อย่างนั้น หญิงสาวผู้งดงามละความสนใจจากเด็กสาว
พร้อมกับจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มทีม่ อบความสุขให้แก่นางได้อย่าง
มากล้น หากเผ่าพันธ์ของนางยังคงอยู่นางเชื่อว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เพียง
คนเดียวอาจสามารถสยบพวกพ้องของนางได้ทั้งเผ่าพันธ์ก็เป็นได้
" เจ้าตื่นแล้วอย่างนั้นรึ.. "
" พะ..พี่ชาย.. "
หลินหมิงตื่นขึ้นมาพร้อมกับได้ยินเสียงต้อนรับสดใสจากหญิง
สาวต่างวัย ภาพตรงหน้าของเขาก็คือภาพของสองสาวที่กาลังนอน
อยู่บนเตียงเดียวกันกับเขาโดยที่ร่างของหญิงสาวผูง้ ดงามนั้นยังคง
อยู่ในอ้อมกอดของเขา หลินหมิงรู้สึกแปลกใจกับน้าเสียงของหญิง
สาวผู้งดงามเล็กน้อย แน่นอนว่าการร่วมรักที่ผ่านมาหลินหมิงแทบ
จะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ไม่เช่นนั้นเขาคงอาศัยจังหวะที่หญิง
สาวผู้งดงามกาลังสิ้นสติอยู่หลบหนีไปแล้ว
" อ่า..."
หลินหมิงคลายอ้อมกอดจากหญิงสาวผู้งดงามในทันทีที่เขาตั้ง
สติได้ แม้ว่าจะผ่านการร่วมรักกันมาหมาดๆแต่ยงั ไม่ได้เป็นการรันตี
ว่านางจะไม่สังหารเขาทิ้ง ดังนั้นในตอนนี้หลินหมิงเลือกหนทางที่จะ
หลีกเลี่ยงไม่ให้นางพอใจเสียดีกว่า
หญิงสาวผู้งดงามลุกขึ้นพร้อมกับสัมผัสไอร้อนที่เกิดที่บริเวณ
ผิวหนังของนางและหลินหมิงรวมถึงเสี่ยวยู้นางจัดการปัดเป่าคราบ
น้ารักไปอย่างหมดจดแม้ว่าในใจนางจะนึกเสียดายที่ไม่ได้ดูดกลืน
พวกมันเหล่านั้นแต่อย่างไรก็ตามเมื่อนางคิดถึงการร่วมรักที่ผ่านมา
นั้นนับได้ว่านางได้รับมันมามากจนเกินพอไปแล้ว
ในตอนนี้หญิงสาวผู้งดงามกาลังจดจ้องมาที่หลินหมิงด้วย
ความคิด แม้ว่าในตอนแรกเป้าหมายของนางนั้นก็คือการฟื้นฟู
ร่างกายและพลังหลังจากการหลับไหลพันปีที่แต่เดิมนางนั้น
คาดการณ์เอาไว้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานหลายปีในการดูดซับ
พลังหยางจากบุรุษเพียงแต่ในตอนนี้เพียงแค่เด็กหนุ่มเพียงคนเดียว
กลับทาให้เป้าหมายหลายปีของนางนั้นสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วอีกทั้ง
ดูเหมือนว่าในตอนนี้นางสามารถรู้สึกได้ว่านางแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่า
ในอดีตเสียอีก
นางไม่มีความคิดที่จะแยกจากหลินหมิงไปอย่างแน่นอนดังนั้น
แล้วทางเลือกของนางก็คือพันธนาการเด็กหนุ่มผู้นี้เอาไว้เพื่อให้เขา
เป็นเครื่องสนองตัณหาให้แก่นาง แน่นอนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ย่อมไม่มี
ทางขัดขืนกับพลังที่กลับมาดั่งเช่นอดีตของนาง เพียงแต่เมื่อนาง
พลันนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นและใบหน้าไร้เดียงสาตอนหลับของ
หลินหมิงแล้วนั้นนางก็พลันตัดทางเลือกนี้ทิ้งไปอย่างไม่ลังเล
" เอ่อ...ท่านผู้อาวุโส..แล้วท่านจะ..."
" ข้าตัดสินใจแล้ว ! "
ในขณะที่หลินหมิงกาลังจะกล่าวเพื่อสอบถามว่านางจะปล่อย
พวกเขาหรือไม่ทันใดนั้นเสียงของหญิงสาวผู้งดงามก็พลันดังตอบ
ขึ้นมาด้วยน้าเสียงแน่วแน่ นางจ้องมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาที่
แตกต่างกับในตอนแรกมันเป็นสายตาที่เขารู้สึกคุ้นเคยมากเพราะ
มันเป็นสายตาเดียวกันกับสายตาของเหล่าหญิงสาวที่หลินหมิงผ่าน
การร่วมรักมาด้วย
" ต่อจากนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย ! "
หลินหมิงตกใจเป็นอย่างมากกับคากล่าวของหญิงสาวผู้งดงาม
แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลินหมิงนั้นไม่สามารถกล่าวโต้แย้งใดๆกับนาง
ได้เพราะว่าความแข็งแกร่งของนางที่มากกว่าเขาแบบเทียบไม่ติด
และดูเหมือนว่าในตอนนี้นางจะสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่ง
กลับมาได้แล้วดังนั้นหลินหมิงจึงได้แต่ก้มหน้าตอบตกลงนางไปทั้ง
อย่างนั้น
สาหรับหญิงสาวผู้งดงามนั้นแน่นอนว่านางมีความเคียดแค้นกับ
เผ่าพันธ์ต่างๆที่เคยรวมกลุ่มกันเข้าโจมตีเผ่านางแต่ถึงอย่างนั้นด้วย
ระยะพันปีที่ผ่านมาพวกมันเหล่านั้นย่อมตกตายไปจนหมดสิ้นอาจ
เหลือไว้แต่เพียงลูกหลานเท่านั้น แน่นอนว่าหากนางเจอพวก
ลูกหลานพวกมันเหล่านั้นนางอาจทาการสั่งสอนพวกมันสักเล็กน้อย
ด้วยพลังของนางในตอนนี้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าในอดีต

ตอนที่ 58
ในตอนนี้หลินหมิงไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากต้องให้หญิงสาวผู้
งดงามนางนี้ติดตามเขาไปแม้ว่าจะไม่รู้ว่านางมีเป้าหมายอะไรก็
ตามที่ หากเป็นบุรุษอื่นพวกเขาคงต้องก้มหัวกราบคุกเขาเพื่อให้ได้
หญิงสาวผู้นี้มายืนเคียงข้างแต่พวกเขาคงไม่ได้รับรู้เลยว่านอกจาก
ความงามภายนอกแล้ว ความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ภายในของนางนั้น
อาจมากเพียงพอต่อการสั่นไหวอาณาจักรหนึ่งได้อย่างสบายๆ
" ท่านผู้อาวุโสแล้วสหาย... "
ยังไม่ทันที่หลินหมิงจะได้แล้วจบร่างของหลัวฉิงเชี่ยนก็ปรากฎ
ตรงหน้าของเขาด้วยสภาพสมบูรณ์เพียงแต่ว่าในตอนนี้นางกาลังอยู่
ในสภาพหลับไหล
" ข้าทาให้นางหมดสติเอาไว้อีกไม่กี่ชั่วยามนางก็คงฟื้น..และข้า
ได้ลบความทรงจาของนางก่อนหน้านี้ไปแล้ว "
แน่นอนว่าเมื่อหญิงสาวผู้งดงามนางนี้นางตั้งใจจะติดตามเขาไป
มันจะเป็นปัญหาได้หากหลัวฉิงเชี่ยนนาเรื่องนี้ไปบอกกล่าวแก่คน
อื่น หลินหมิงช้อนร่างของหลัวฉิงเชี่ยนขึ้นมาเพื่อเตรียมออกไปจาก
ถ้าแห่งนี้ สาหรับในส่วนภารกิจของพวกเขานั้นคงนับได้ว่ามันอาจ
เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยเพราะหญิงสาวผู้งดงามเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด
นี้ขึ้นและการที่นางติดตามเขาไปก็นับได้ว่าปัญหาแนวชายดายก็จะ
หมดไปเช่นเดียวกัน
แต่ยังคงมีเรื่องน่าแปลกใจอีกอย่างก็คือเสี่ยวยู้เองนางก็ต้องการ
จะติดตามหลินหมิงไปเช่นเดียวกัน สาหรับนางในตอนนี้แม้ว่านาง
จะมีความคุ้นเคยกับคนในหมู่บ้านค่อนข้างมากแต่ครอบครัวของ
นางที่เหลือเพียงแต่บิดาในตอนแรกก็ได้ตายไปแล้วดังนั้นนางจึง
ตัดสินใจที่จะติดตามหลินหมิง
ในส่วนของการเดินทางกลับเสี่ยวยู้กล่าวว่าพวกเขาคงไม่
สามารถใช้รถม้าในตอนแรกได้อีกเพราะในตอนนี้คนในหมู่บ้านคง
จะทาการสังหารคนขับรถม้าและทาลายหลักฐานทิง้ ไปหมดแล้ว
ดังนั้นพวกเขาเหลือเพียงทางเดียวนั้นก็การเดินเท้ากลับ หลินหมิง
ได้ทาการตรวจสอบพลังของเขาในตอนนี้เนื่องจากว่าเขาได้ทาการ
ร่วมรักกับเสี่ยวยู้และหญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสไปนั้นแม้ว่าเขาจะพอรู้
ว่ามันอาจไม่เพียงพอต่อการยกระดับของเขาแต่ถึงอย่างไรก็ตาม
พวกนางทั้งสองนั้นยังนับได้ว่าเป็นหญิงสาวบริสุทธ์ดังนั้นมันอาจ
เพียงพอสาหรับการก้าวข้ามไปปราณเริ่นระดับ 8 ได้
แต่เมื่อหลินหมิงทากาสารวจตรวจสอบพลังภายในร่างของเขาก็
ถึงกับตื่นตะลึง ไม่ใช่ว่าเพราะว่ามันไม่ได้เพิ่มขึน้ แต่เพราะว่ามัน
เพิ่มขึ้นอย่างมากจนน่าตกใจต่างหาก ในตอนนี้ระดับพลังปราณของ
เขาคือจุดสูงสุดขั้น 3 ปราณก่อเกิด ! การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้
เกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาข้ามคืน หากผู้อื่นรู้เขาพวกเขาคงได้ตาย
ในทันทีด้วยความตกใจ และความอิฉา
สาหรับในเรื่องนี้หลินหมิงคาดว่ามันเป็นเพราะความแข็งแกร่ง
ของหญิงสาวผู้งดงาม ก่อนหน้านี้ที่หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับ
หญิงสาวที่ผ่านมานั้นหญิงสาวเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนธรรมดา
ทั้งสิ้นยกเว้นเพียงผู้รับใช้ของป้าห้าของเขาเพียงเท่านั้นแต่เนื่องจาก
พวกนางนั้นไม่ได้มีความบริสุทธ์และความแข็งแกร่งของพวกนาง
ยังคงไม่อาจนามาเปรียบกับหญิงสาวผู้งดงามได้
ซึ่งเรื่องนี้หลินหมิงสามารถรับรู้ได้จากความรู้ที่ถูกส่งผ่านจาก
เปลวเพลิงทมิฬภายในต้นเถียนของเขา เมื่อเขาได้ก้าวเข้าสู่
ขอบเขตพลังระดับใหม่แน่นอนว่าเขายังคงได้ความสามารถใหม่
เช่นเดียวกันหนึ่งในนั้นก็การที่เขาสามารถยกระดับหญิงสาวที่ทากา
ร่วมรักกับเขาได้ด้วยเช่นกันแต่ดูเหมือนว่ามันจะส่งผลอย่างมาก
เฉพาะในครั้งแรกเท่านั้นซึ่งมันก็ตรงกับเงื่อนไขของเขาเช่นเดียวกัน
และมันยังมีทักษะโจมตีใหม่ที่เขาได้รับมาด้วยเช่นกันแต่เดิมนั้น
หลินหมิงมีจุดเด่นในเรื่องความแข็งแกร่งทางร่างกายที่มากกว่านักสู้
ทั่วไป แต่เขายังคงขาดซึ่งทักษะต่างๆรวมถึงการเคลื่อนไหวด้วย
และเมื่อหลินหมิงได้ได้ทาความเข้าใจทักษะใหม่นี้รอยยิ้มมุมปาก
ของเขาปรากฎขึ้นมาในทันที
[ ดรรชนีเพลิง ]
มันเป็นทักษะโจมตีที่จะทาการรวบรวมเปลวเพลิงของเขาเอาไว้
ที่ปลายนิ้วแล้วทาการบีบอัดพวกมันอย่างหนาแน่น แน่นอนว่า
หลินหมิงยังคงไม่สามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพของมันแต่หากลอง
เปรียบเทียบกับความแข็งแกร่งที่เปลวเพลิงทมิฬได้มอบให้กับเขาใน
ตอนที่เป็นนักสู้ปราณเริ่มต้นแล้วนั้นมันก็ต้องเป็นทักษะที่ไม่ธรรมดา
อย่างแน่นอน
" หืม..นี้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างนั้นหรือ ? "
เสียงของหญิงสาวผู้งดงามดังขึ้นในจังหวะที่หลินหมิงกาลัง
ตรวจสอบร่างกายของตนเอง นางไล่สายตามองดูไปทั่วร่างของ
หลินหมิง แน่นอนว่าแม้วา่ นางจะมีชีวิตมาอย่างยาวนานนางก็ยังคง
ไม่เคยเห็นความก้าวหน้าที่รวดเร็วเพียงชั่วข้ามคืนเช่นนี้ รอยยิ้มมุม
ปากปรากฎขึ้นที่ใบหน้าของหญิงสาวนางตัดสินใจแล้วว่าเด็กหนุ่มผู้
นี้นั้นมีคุณค่ามากเพียงพอ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์
ที่แสนอ่อนแอ่แต่เขากลับมีพัฒนาการที่รวดเร็วเช่นนี้ได้ไม่แน่ว่าบาง
ทีเขาอาจจะเติบโตก้าวหน้าขึ้นมาเคียงข้างนางได้
เมื่อนางคิดถึงภาพเหล่านั้นหัวใจของหญิงสาวพลันรู้สึกพ่องโต
ขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยไม่ได้สินหลินหมิงที่สับสนกับท่าที
ของหญิงสาวเป็นอย่างมาก
" ต่อจากนี้เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโสแล้ว..ให้เรียกข้าว่า..ซื่อ
เฟย.. "
ในตอนนี้หากหลินหมิงต้องการแก้แค้นบรรดาญาติพี่น้องตระกูล
หลินของเขาโดยใช้หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัส ซื่อเฟยนางนี้แล้วละก็
เรื่องราวมันคงง่ายเพียงแค่ราวกับพลิกฝ่ามือ เพราะแม้ว่าต่อให้เป็น
ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินที่มบี ิดาของเขาเป็นประมุขหลินหมิงก็
เชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะหญิงสาวนางนี้ได้ แต่นั้นเป็น
กรณีที่นางยอมร่วมมือกับเขาโดยดีแต่หากนางไม่พอใจที่เขาไปทา
การเหมือนสั่งนางเช่นนั้นเรื่องราวของเขาคงจบลงได้ไม่สวยนัก
หลินหมิงตัดใจจากเรื่องจากความช่วยเหลือของนางทิ้งไปในเมื่อ
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอที่จะประกาศตนได้ว่าเป็น
อันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์ ดังนั้นแล้วหนทางที่เขาจะได้ซัดปากบรรดา
ลูกพี่น้องอย่างหลินเสี่ยวต้าและคนอื่นในอีก 6 เดือนข้างหน้ามันคง
เป็นเรื่องง่าย เรื่องที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดก็คือเขาจะไปอธิบายเรื่อง
ที่เขามีสตรีติดตามกลับมาถึง 2 คนกลับแม่เทพธิดาของเขาหลิวฉ
วนยูร์อย่างไรเนี่ยสิ
หากเป็นเสี่ยวยู้นั้นอาจไม่เป็นปัญหามากนักแต่ซื่อเฟย นี้คงเป็น
ปัญหาหนักอย่างใหญ่หลวงแม้ว่านางจะกล่าวว่านางสามารถปลอม
แปลงปิดบังเขาบนศรีษะนางให้เหมือนกับมนุษย์ไปได้แต่ด้วยความ
งามของนางนั้นมันอาจเพียงพอที่ทาให้ทั้งเมืองต้องฆ่าฟันกันเพื่อยื้อ
แย่งตัวแม่สาวคนนี้

ตอนที่ 59
หญิงสาวผู้งดงามหรือซื่อเฟยนั้นได้สอบถามถึงเส้นทางที่หลินห
มิงจะไปแล้วนางได้ทาการแยกตัวจากไป โดยนางอ้างว่านางจะลอง
ไปตรวจสอบที่ดินแดนเดิมที่เป็นที่อยู่ของเผ่าพันธ์นาง แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้ว่าที่อยู่ของเผ่าพันธ์ที่เป็นตานานในอดีต
นั้นอยู่ในที่แห่งใด แต่ในเมื่อมันไม่เคยปรากฎในตาราหรือคาบอก
เล่าแต่อย่างใดมันอาจเป็นไปได้ว่าสถานที่แห่งนั้นย่อมอยู่ไกลหรือ
อันตรายจนเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะเอื้อมถึง
หลัวฉิงเชี่ยนนางตื่นขึ้นมาหลังจากที่ซื่อเฟยจากไปแล้วนาง
พยายามทาความเข้าใจสถานการณ์แม้ว่าจะยังคงรู้สึกมึนหัวอยูบ่ ้าง
ซึ่งหลินหมิงก็ได้กล่าวไปว่าพวกเขาได้จัดการกลุ่มโจรภายในถ้าจน
หมดไปแล้วแต่เนื่องจากนางได้รับพิษจึงทาให้สลบไม่ได้สติไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องขอบคุณทักษะที่รุนแรงของซื่อเฟยซึ่งดูเหมือนว่า
มันจะทาให้หลัวฉิงเชี่ยนไม่สามารถจนจาเรื่องราวต่างๆได้มากนัก
หลินหมิงใช้เวลากว่าสองวันในการเดินทางกลับเข้ามาภายใน
เมืองหน้าที่ในการรายงานภารกิจแก่อาจารย์สาวสวยนั้นหลินหมิ
งยกมันให้แก่ศิษย์พี่สาวขอเขาอย่างไม่ลังเล ในขณะที่ตัวของหลินห
มิงนั้นได้ตรงไปทีต่ านักผู้อาวุโสซูหลิ่งเป็นอันดับแรก
ร่างของเทพธิดาสาวสวยหลิวฉวนยูร์แย้มยิม้ ขึ้นทันทีเมื่อได้เห็น
หลินหมิง มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมากว่าในก่อนหน้านี้นางมี
ความเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวของหลินหมิงมากเพียงใดและนั้นมันทา
ให้หลินหมิงรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา
" เจ้าตัวร้าย..เจ้าไม่บาดเจ็บกลับมาใช่หรือไม่.."
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับจ้องมองสารวจร่างของหลินหมิงอ
ย่างถี่ถ้วนหากเป็นในทีห่ ลับตาคนนางคงอดใจห้ามไม่ไหวที่จะพุ่ง
เข้ามากอดหลินหมิงไปแล้ว แน่นอนว่าเมื่อสายตาของนางเหลือบ
มองเห็นร่างของหญิงสาวตัวน้อยที่อยู่ข้างกายของหลินหมิงมัน
ถึงกับทาให้ตัวของหลินหมิงหลัง่ เหงื่อเย็นออกมาเล็กน้อย
หลังจากกล่าวพูดคุยกับหลิวฉวนยูร์อย่างพอใจหลินหมิงกลับไป
ที่ห้องของเขาที่มีซื่อโฉวคอยต้อนรับเขาอย่างดีเยี่ยมเขาฝากให้นาง
จัดการเรื่องของเสี่ยวยู้ด้วย แน่นอนว่าสถานะของเด็กสาวนั้นย่อม
ไม่เป็นอย่างอื่นนอกจากข้ารับใช้ฝึกหัด
" คุณชายเจ้าคะ..คือว่า... "
เมื่อเห็นท่าทีของซื่อโฉวทีก่ าลังยืนบิดตัวด้วยความเอียงอาย
พร้อมกับพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะกล่าวอะไรบางอย่าง
ออกมาหลินหมิงก็พอรับรู้ความต้องการของนางจากสีหน้าและการ
กระทาได้ เพียงแต่ว่านี้มันยังไม่อาจใช่เวลาที่เหมาะสมนักดังนั้น
หลินหมิงจึงทาการส่งสัญญาณให้นางรอไปก่อน
หลินหมิงออกมาจากตานักอีกครั้งพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่หอนาง
โลมของเหลียนเย่อิ๋งแน่นอนว่าสาหรับพลังในตอนนี้ของหลินหมิง
การร่วมรักกับหญิงสาวธรรมดานั้นมันอาจไม่เพียงพอที่จะทาให้เขา
สามารถก้าวหน้าได้มากนักแต่ที่เขามาที่แห่งนี้นั้นเพราะต้องการ
ทดสอบอะไรบางอย่างเพียงเท่านั้น
ร่างของหญิงสาวต้อนรับคนเดิมกับครั้งก่อนที่หลินหมิงได้มาเป็น
ครั้งแรกเมื่อนางได้เห็นหน้าของหลินหมิงนั้นท่าทีของนาง
เปลี่ยนเป็นกระวนกระวายในทันที นางทาการเชิญหลินหมิงเข้าไป
ภายในอย่างด้วยกริยาท่าทางอันงดงามพร้อมกับตัวนางที่เป็นคน
เดินนาให้กับหลินหมิงเอง เมื่อเข้ามาภายในร้านหญิงสาวพนักงาน
ต้อนรับที่เดินนาทางหลินหมิงหันไปเรียกหญิงสาวอีกคนพร้อมกับ
ทาการกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
อาจมันเป็นนี้ยังคงอยู่ในเวลาที่ยังคงไม่ค่ามืดมากนักผู้คนภายใน
หอนางโลมจึงค่อนข้างบางตาไปอยู่มาก เพียงไม่นานก็ปรากฎร่าง
ของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยสัดส่วนโค้งเว้าอันแสนเย้ายวนหน้าอกคู่
งามที่ปรากฎกายนาร่างของหญิงสาวนั้นราวกับว่ามันต้องการ
ประกาศตนเป็นอันดับหนึง่ เหนือสิ่งอื่นใด
" นายท่าน..มีอะไรให้ข้ารับใช้อย่างนั้นหรือ ? "
หญิงสาวผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากเจ้าของหอนางโลมแห่ง '
เหลียนเย่อิ๋ง ' นี้นั้นเองนางเดินเข้ามาพร้อมกับยึดแขนข้างหนึ่งของ
หลินหมิงโดยไม่ได้สนใจความห่างอายุระหว่างพวกเขาเลยแม้แต่
น้อย นางได้ทาการสั่งบรรดาคนภายในร้านเอาไว้อย่างทั่วถึงว่า
เมื่อใดที่พบเห็นหลินหมิงนั้นให้ทาการต้อนรับเขาอย่างดีที่สุดพร้อม
กับแจ้งนางโดยทันที นางเดินนาหลินหมิงไปยังบริเวณห้องลับหลัง
ร้านที่เดิมนั้นเป็นห้องที่ปา้ ห้าของเขามักจะใช้อยู่เป็นประจา
" อา...นายท่าน..ข้าคิดถึงท่านมากเหลือเกิน..ได้โปรดลงโทษ
ทาสผู้ซื่อสัตย์คนนี้ "

เหลียนเย่อิ๋ง
เหลียนเย่อิ๋งกล่าวในขณะที่ร่างของพวกเขากาลังพัวพันกันอยู่
บนเตียง ใบหน้าของหญิงสาวเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้เต็มไปด้วยสี
หน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจของนางค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้สูดดม
กลิ่นกายของหลินหมิง นิ้วมือของนางลูบไล้สมั ผัสไปที่บริเวณเเสื้อ
ผ้าของหลินหมิงทีก่ าลังปกปิดร่างกายของเขา พร้อมกับค่อยๆทา
การปลดมันออกด้วยสีหน้าหื่นกระหายอย่างปิดไม่มดิ
" เดียวสิ..เอาไว้หลังจากที่เจ้าทางานให้ข้าเสร็จสิ้นเสียก่อน "
" อา.... "
เหลียนเย่อิ๋งกล่าวครางออกมาด้วยความเสียดายอย่างสุดใจ ใคร
จะไม่นึกกันเล่าว่าเจ้าของหอนางโลมผู้แสนยั่วยวนนางนี้จะมี
อารมณ์หื่นกระหายมากมายเช่นนี้ ด้วยงานของนางที่ต้องพบปะ
ผู้คนและเหล่าบุรุษเป็นจานวนมากนั้นนางสมควรทีจ่ ะต้องมีความ
อดทนเป็นอย่างมากไม่ใช่เช่นนั้นหรือ ? แต่มันเพราะเด็กหนุ่มตรง
หน้าที่นางเรียกว่านายท่านนั้นได้ทาให้นางให้ความอดทนของนาง
หมดสิ้นไปตั้งแต่ท่เขาได้
ี ทาการร่วมรักกับนาง
" นายท่านต้องการให้ข้าทาสิ่งใดอย่างนั้นหรือเจ้าคะ "
น้าเสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกระรือร้นเห็นได้ชัดว่านาง
มีอารมณ์ความต้องการมากเพียงใด เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วหลินหมิงจึง
ตัดสินใจให้รางวัลแก่นางสักเล็กน้อยทวนมังกรของเขาเผยออกมา
ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับว่านางได้กลับกลายเป็นหญิง
สาววัยแรกรุ่นอีกครั้ง
นางจ้องมองไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงด้วยร่างกายสั่นเทาที่
บริเวณร่องสวาทของนางแทบจะมีปฎิกริยาในทันทีที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงปรากฎกายออกมา แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงไม่
อนุญาติให้นางทาสิ่งใดดังนั้นนางจึงทาได้แต่หักห้ามใจตนเองเอาไว้
ก่อน
" ข้าอนุญาติให้เจ้าโลมเลียได้เท่านั้น "
หญิงสาวไม่รอช้าริมฝีปากของนางเข้าดูดกลืนทวนมังกรของ
หลินหมิงอย่างรีบเร่ง ลิ้นที่อยู่ภายในปากขอนางนั้นเข้าทาการโลม
เลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างหื่นกระหาย กลิ่นอบอวนที่แผ่
ออกมาจากทวนมังกรของหลินหมิงนั้นทาให้ร่องสวาทของนางพลัน
ตื่นตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิมน้าใสๆเริ่มไหลออกมาจากร่องสวาทของนาง
" ข้าต้องให้เจ้าติดต่อไปหา เหม่ยฮวา ให้ข้าสักหน่อย "
" อ้า....ถ้าเรื่องนั้นเกรงว่าข้าจะไม่จาเป็นต้องทาสิ่งใดหรอกเจ้า
คะ.... "
หญิงสาวกล่าวกับหลินหมิงพร้อมกับทาการก้มลงไปดูดอมทวน
มังกรของหลินหมิงต่อ หลินหมิงไม่เข้าใจคากล่าวของนางเท่าใดนัก
เพียงแต่ว่าทันใดนั้นประตูห้องก็ถกู เปิดออกโดยมีรา่ งของหญิงสาว
ทั้งสามก้าวเข้ามาภายในห้องด้วยสภาพบิดตัวอย่างเอียงอายไม่
ต่างกัน

ตอนที่ 60
ในค่าคืนที่เหม่ยฮวาได้โดนหลินหมิงเข้าจู่โจมอย่างรุนแรงนั้นมัน
ทาให้จิตใจของนางแปลงเปลี่ยนไปในทันทีแม้ว่ามันจะไม่ได้มีผลต่อ
นิสัยเย่อยิ่งและอวดตัวของนางมากเท่าใดนักกับคนอื่นแต่เมื่อนางได้
อยู่ต่อหน้าหลินหมิงนางได้แปรเปลี่ยนราวกับเป็นแมวเชื่องตัวน้อยๆ
ของหลินหมิงไปในทันที
เหลียนเย่อิ๋งนางไม่ได้สนใจการปรากฎตัวของหญิงสาวทั้งสามผู้
มาใหม่แต่อย่างใดนางยังคงทาการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิ
งต่อไป ภาพตรงหน้าของเหม่ยฮวาและสองข้ารับใช้สาวนั้นทาให้
พวกนางทั้งสามพลันสีหน้าเปลี่ยนแดงระเรื่อ หลังจากค่าคืนในครั้ง
นั้นเหม่ยฮวานางได้สง่ คนมาคอยเข้าหอนางโลมแห่งนี้และให้
รายงานแก่นางในทันทีที่พบเห็นหลินหมิง
นั้นจึงเป็นเหตุให้นางมาถึงสถานที่แห่งนี้โดยเร็วในทันทีที่นาง
ทราบข่าว และนางยังได้พาข้ารับใช้ทั้งสองคนมาด้วยเพื่อที่ว่านาง
จะอาจสร้างความพอใจให้แก่เด็กหนุม่ ผู้นี้เป็นที่แน่นอนจากในครั้ง
ก่อนว่าบทรักอันร้อนแรงของเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นเกินกว่าที่สตรีนางเดียว
จะรับไหว
" นะ..นายท่านได้โปรดให้ข้าได้ปรนณิบัติท่านด้วย.. "
น้าเสียงของเหม่ยฮวาเต็มไปด้วยความขอร้องอ้อนวอนจากใจ
จริงหากหลินหมิงนาไปเล่าให้คนภายนอกฟังนั้นเขาอาจโดนหาว่า
เป็นพวกไม่สมประกอบในทันที หญิงสาวรับใช้ทั้งสองหานจิงหนิง
และจูเวยเหลียนนั้นแม้ว่าพวกนางจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอาจ
เป็นเพราะว่าพวกนางนั้นยังไม่กล้าที่จะทาอะไรมากนักต่อหน้านาย
หญิงของพวกนางแต่เมื่อดูจากสภาพแล้วอารมณ์ของพวกนางนั้นก็
คงไม่ต่างจากเหม่ยฮวาไปมากสักเท่าใด
เมื่อเห็นทวนมังกรของหลินหมิงทีก่ าลังถูกโลมเลียโดยเหลียน
เย่อิ๋งนั้นเหม่ยฮวาในใจของนางนั้นแทบอยากจะพุ่งเข้าไปแย่งมัน
ในทันทีหากไม่ติดตรงที่สายตาของเด็กหนุ่มที่กาลังจ้องมองมาที่นาง
อยู่
" อ่า...พวกเจ้ามาพอดีข้ากาลังตามหาพวกเจ้าอยู่เหมือนกัน "
" นายท่านมีสิ่งใดอยากให้ข้าทาหรือเจ้าคะ..โปรดบอกกล่าวมา
ข้านั้นยินดีรับฟังทุกอย่างขอเพียงแค่นายท่านมอบความสุขให้แก่ข้า
..อ๊าา "
หลินหมิงทาการเรียกพวกนางทั้งสามเข้าไปหา มือซุกซนของ
หลินหมิงเข้าล่วงไปทีจุดลับของเหม่ยฮวาอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เมื่อนางเข้ามาภายในระยะ
อ๊าาาาาาาาา~~~~~~
เสียงครางสนั่นของเหม่ยฮวาร้องขึ้นมาอย่างตกใจพร้อมกับน้า
ใสๆเป็นจานวนมากที่กาลังพรั่งพรู่ออกมาจากร่องสวาทของนาง
เหม่ยฮวานางแกล้งทาเป็นไร้เรี่ยวแรงปล่อยร่างกายของนางให้
ประกบร่างกายของหลินหมิงอย่างแนบเนียน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
เด็กหนุ่มผู้นี้นั้นสามารถมอบความสุขให้นางได้มากเพียงใดเพียงแค่
การจู่โจมเมื่อสักครู่มันก็ดีกว่าที่นางได้ร่วมรักกับหลินฮ่าวอย่างเทียบ
ไม่ติด
" เจ้านี้มันช่างร่านเสียจริง "
" อ๊าา..ก็เพราะนายท่านนั้นแหละ..ได้โปรดมอบ..ความสุขให้แก่
ข้า "
หลินหมิงทาการผลักร่างของเหม่ยฮวาลงอย่างรุนแรงพร้อมกับ
นาทวนมังกรของเขาออกมาจากปากของเหลียนเย่อิ๋งแม้ว่าใบหน้า
ของนางจะปรากฎความเสียดาย แต่มันก็เพียงไม่นานเพราะหลินห
มิงทาการรวบร่างของนางเข้ามากอดอย่างรวดเร็วพร้อมกับทาการ
ไซร้คอของนางจนนางแทบจะเป็นรอยแดงไปทั่วร่าง
เหม่ยฮวานางรีบปลดเสื้อของนางออกอย่างรวดเร็วราวกับว่า
นางรุ้ว่าหลินหมิงคิดจะทาสิ่งใด ลมหายใจของนางนั้นเต็มไปด้วย
ความหนักหน่วง พร้อมกับภายในใจของนางที่กาลังร่าร้องให้หลินห
มิงนาทวนมังกรของเขาเสียบเข้ามาภายในตัวของนาง
หลินหมิงเหลือบสายตาไปมองร่างของเหม่ยฮวาอย่างสมเพชใน
ใจ ทวนมังกรของเขาทาการเข้าจู่โจมในทันทีแบบไม่มีเยื้อใยแต่
อย่างใดสาหรับหญิงสาวอื่นนั้นหลินหมิงอาจทากับพวกนางอย่าง
ค่อยเป็นค่อยไปแต่สาหรับหญิงสาวนางนี้แล้วนั้นตัวเขาไม่
จาเป็นต้องทาเช่นนั้น ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าจู่โจมเหม่ยฮวา
ในทันทีพร้อมกับเสียงครางลั่นสนั่นไปทั่วห้องที่แม้แต่หญิงสาวรับใช้
ทั้งสองทีก่ าลังมองนายหญิงของพวกนางนั้นก็พลันตกใจไปด้วย
" อร้างงงงง...นะ...นาย..ท่านไม่...ใช่รูนั้น อ๊าาาา "
ทวนมังกรของหลินหมิงทีเ่ ข้าจู่โจมเหม่ยฮวานั้นไม่ได้เข้าจู่โจม
ภายในร่องสวาทของนางเหมือนแต่ก่อนแต่ในคราวนี้หลินหมิงได้
การเสียบเข้าไปในรูทวารของนาง แน่นอนว่าสาหรับรูทวารเช่นนี้
นั้นมันย่อมไม่มีบุรุษใดที่คดิ ทาเช่นหลินหมิงมาก่อนดังนั้นแล้วขนาด
ของมันอาจเรียกได้ว่าคับแน่นพอๆกับร่องสวาทของหญิงสาวบริ
สุทธ์หรืออาจมากกว่าเสียด้วยซ้าไป แต่ถึงอย่างนัน้ การเสียบเข้าไป
ภายในรูทวารนั้นก็ยังคงนับได้ว่ายากกว่าร่องสวาทเป็นอย่างมาก
ด้วยเช่นกันเพราะมันไม่ได้มีน้าล่อลื่นเหมือนภายในร่องสวาท
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงส่งทวนมังกรของเขาเข้าไปสุดลา
จนทาให้เหม่ยฮวาถึงกับลืมหายใจไปชั่วครู่ หญิงสาวทั้งสามที่เหลือ
มองไปที่เหม่ยฮวาด้วยความตกใจเห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นอาจมี
ความแค้นเคืองอะไรบางอย่างกับภรรยาลาดับที่หา้ ของตระกูลหลิน
นางนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกนางจะต้องสนใจในตอนนี้
เพราะตอนนี้พวกนางได้แต่หวังว่าเมื่อใดจะเป็นโอกาสสาหรับพวก
นางบ้าง
" จะ... ออก..แล้ว !! อร้างงงงงง ~~~~~~~~~~ "
แม้ว่านางจะโดนเสียบเข้าจากรูทวารแต่ถึงอย่างนั้นน้ารักภายใน
ร่องสวาทของนางนั้นก็ยังคงตื่นตัวและไหลออกมาเป็นจานวนมาก
ไม่ต่างกัน สภาพของนางในตอนนี้ไม่สามารภค้าจุนร่างกายส่วนบน
ของนางได้อีกต่อไปแต่นางก็ยังคงโก่งบั้นท้ายของนางให้หลินหมิง
เข้าจู่โจมอย่างต่อเหนื่องต่อไป
เพียงไม่นานหลังจากที่หลินหมิงได้รับการเล้าโลมมาจากเหลียน
เย่อิ๋งก่อนหน้านี้น้ารักจานวนมากของเขาก็ถูกปลดปล่อยเข้าสู่
ภายในตัวเหม่ยฮวาไปเต็มรูทวารของนาง นางหอบหายใจอย่าง
เหนื่อยอ่อนดวยการที่นี้เป็นครั้งแรกที่นางได้ถูกจู่โจมบริเวณรูทวาร
แม้ว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดแต่มันก็ให้ความสุข
แก่นางมากเช่นเดียวกัน
หลินหมิงพลิกร่างของเหม่ยฮวามาให้นอนหงายในทันทีโดยไม่ให้
นางพักแต่อย่างใดทวนมังกรของเขาเข้าจู่โจมไปที่ร่องสวาทของ
นางในทันทีจนนางรู้สึกจุกจนแทบจะส่งเสียงครางออกมาไม่ได้
หลินหมิงใช้เวลาร่วมรักกับเหม่ยฮวาค่อนข้างนานดูเหมือนว่าหญิง
สาวนางนี้จะมีความสามารถในการอดทนรับศึกหนักกับเขามากกว่า
ในคราวที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงต้องหมดสติไปหลังจากที่
โดนหลินหมิงกระหนาซัดน้ารักเข้าไปจนท่วมร่องสวาท
หญิงสาวทั้งสามเพียงแค่ได้มองการร่วมรักตรงหน้าร่องสวาท
ของพวกนางก็เกิดอาการคันแปลกๆ แม้ว่าหญิงสาวรับใช้ทั้งสองจะ
เคยเห็นบทรักเช่นนี้มาก่อนนหน้าแต่ในตอนนั้นพวกนางต้องแกล้ง
ทาเป็นไม่ได้สติจึงไม่อาจสังเกตได้อย่างเด่นชัด เทียบกันแล้วกับ
เหลียนเย่อิ๋งนางนั้นนึกว่าในตอนที่หลินหมิงร่วมรักกับนางนั้นนับได้
ว่าร้อนแรงเสียยิ่งกว่าอื่นใดแต่เมื่อนางได้เห็นภาพตรงหน้าบทรัก
ของนางก็ไม่อาจนาไปเปรียบเทียบได้เลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างไร้สติของเหม่ยฮวาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หากนางกรีดร้องมากกว่านี้นั้นมันก็อาจทาให้เขาพอใจมากกว่านี้แต่
กลับกันแล้วดูเหมือนว่าหญิงสาวนางนี้จะเสพติดความเจ็บปวดจน
เขาไม่รู้ว่าจะทรมานนางไปเพื่อเหตุใด เหลียนเย่อิ๋งเป็นลาดับต่อไปที่
เข้ามาหาหลินหมิงนางเข้าประกบปากกับหลินหมิงอย่างร้อนแรง
โดยที่นางตั้งใจจะมอบความสุขให้หลินหมิงไม่แพ้เหม่ยฮวา
หากนางต้องพ่ายแพ้สตรีที่ยังคงอ่อนวัยกว่านางเช่นหญิงสาวรับ
ใช้ทั้งสองนี้นางก็ยังคงพอทาใจได้ แต่กลับหญิงสาวเช่นเหม่ยฮวาที่
มีอายุมากเสียยิ่งกว่านางนั้น นั้นเป็นเรื่องที่นางไม่อาจยอมรับได้ลิ้น
ของนางเป็นฝ่ายเข้ารุกไปในปากของหลินหมิงอย่างร้อนแรง
เพียงแต่ว่าด้วยการโต้กลับของหลินหมิงนั้นทาให้ร่างกายของนาง
พลันรู้สึกว่านางกลับเป็นฝ่ายโดนรุกเร้าเสียเอง
นางผลักร่างของหลินหมิงลงพร้อมกับนาร่องสวาทของนั้นคร่อม
ทวนมังกรของหลินหมิงในขณะที่พวกกเขาทั้งสองยังคงประกบปาก
กันอยู่ แน่นอนว่าสาหรับนางที่อาศัยอยู่กินในหอนางโลมแห่งนีม้ า
แทบทั้งชีวิตดังนั้นแล้วนางย่อมมีความมั่นใจในทักษะการปรนนิบัติ
บุรุษอยู่มากพอสมควร

ตอนที่ 61
แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป้าหมายของหลินหมิงที่มายังหอนางโลมของ
เหลียนเย่อิ๋งก็เพื่อหวังทดสอบความสามารถใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับมา
จากการยกระดับอย่างก้าวกระโดด แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่การ
ทดลองใช้ทักษะ [ ดรรนีเพลิง ] แต่อย่างใด มันเป็นความสามารถ
ที่ว่าเมื่อเขาได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวแล้วนั้นจะสามารถทาให้
พวกนางพัฒนาขึ้นไปได้ดว้ ยเช่นเดียวกัน
แม้ว่ามันจะมีกรณีของหญิงสาวผู้งดงามเผ่าซัคคิวบัสอย่างซือ
เฟยแล้วนั้นแต่ด้วยความสามารถของเผ่านางที่สามารถดูดซับ
พลังหยินของบุรุษมาพัฒนาตนเองได้นั้นมันจึงทาให้หลินหมิงไม่
สามารถทาความเข้าใจความสามารถใหม่ของเขาได้อย่างเด่นชัด
และหากจะให้เขาทาการร่วมรักกับซื่อโฉวหรือหญิงสาวรับใช้สองพี่
น้องพวกนางทั้งสามก็ล้วนแต่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์แต่อย่างใด
ดังนั้นแล้วในบรรดาหญิงสาวที่หลินหมิงเคยร่วมหลับนอน
ทั้งหมดจึงมีเพียงแค่หญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวาเพียงเท่านั้นที่
สามารถเป็นตัวทดสอบความสามารถใหม่นี้ให้กับเขาได้
เหลียนเย่อิ๋งในตอนนี้นางได้ถอนปากออกจากหลินหมิงเป็นที่
เรียบร้อย พร้อมกับสมาธิของนางที่กาลังจดจ่ออยู่กับการขึ้นควบ
ทวนมังกรของหลินหมิง มันคงไม่ดีแน่หากนางยังคงปล่อยตัว
ประกบปากกับหลินหมิงเช่นนั้นต่อไปเพียงแค่การจู่โจมด้วยปาก
ของเด็กหนุ่มผู้นมี้ ันก็สามารถทาให้หญิงสาวเสร็จได้โดยง่ายซึ่งนาง
คงไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน
" ดีหรือไม่เจ้าคะ "
" แรงขึ้นอีกสิ "
นางค่อยๆทาการขยับสะโพกไปอย่างช้าๆก่อนในตอนแรกนี้ถือ
ว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคหนึ่งที่นางได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์การใช้
ชีวิตภายในหอนางโลมแห่งนี้ การที่นางทาเช่นนี้นั้นมันสามารถทา
ให้บุรุษนั้นรู้สึกมีความต้องการทางอารมณ์เพิ่มขึ้นพวกเขาจะ
พยายามเร่งรัดนางให้ทาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก
" เห็นทีว่าข้าคงต้องมาทีนี้บ่อยๆเสียแล้ว "
" อ๊าา..ซี๊ดดดดดดด...ชะ..เช่นนั้น..ข้ายินดีรับใช้..นะนาย..ท่าน
เสมอเจ้าคะ.. "
เหลียนเย่อิ๋งด้วยการที่ในตอนนี้นางเริ่มทาการขยับเร่งจังหวะมัน
ทาให้นางไม่สามารภกล่าวออกมาได้อย่างปกติลาพังเพียงแค่ทวน
มังกรของหลินหมิงที่อยู่ภายในตัวนางตอนนี้ด้วยขนาดของมันก็
เพียงพอแล้วที่นางจะทรงตัวได้อย่างยากลาบาก
สัมผัสภายในร่องสวาทของนางในตอนนี้มันสัมผัสที่นางได้แต่
ใฝ่ฝันในช่วงหลายวันที่ผ่านมาหลังจากที่เด็กหนุ่มผู้นี้ได้จากไป
แม้ว่านางจะต้องการทราบว่าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นเป็นใครมาจากไหน
เพียงแต่ว่าหากอาศัยเพียงแค่หน้าตาเช่นนี้เกรงว่ามันคงเป็นเรื่อง
ยากเกินกว่าที่นางจะสามารถสืบค้นข้อมูลของเด็กหนุ่มผู้นี้ ดังนั้น
แล้วเมื่อนางได้พบหลินหมิงอีกครั้งนางจึงตั้งใจว่าจะปรนนิบัติเขาให้
อย่างดีที่สุด เพื่อที่จะสร้างความพอใจให้กับหลินหมิงได้มากที่สุด
จนในตอนนี้ร่องสวาทของนางเริ่มออกอาการตอบสนองต่อทวน
มังกรของหลินหมิงอย่างรวดเร็ว น้าใสๆจานวนมากกาลังพรั่งพรู่
ออกมาเป็นสัญญาณว่านางได้เสร็จสมไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นนางก็
ยังคงฝืนร่างกายขยับสะโพกของนางต่อไป
" ซี๊ดดดดด~~~~~~~ นะ...นายท่านนนนน ดะ..ดูดแรงไปแล้ว
เจ้าคะ อร้ายย "
หลินหมิงที่ในตอนแรกกาลังนอนอย่างสบายมองดูร่างของ
เหลียนเย่อิ๋งควบทวนมังกรของเขาอยู่นั้น เมื่อได้เห็นเต้านมขนาด
ใหญ่คู่งามของหญิงสาวทีก่ าลังเคลื่อนที่ขึ้นลงตามจังหวะการควบ
ของนางนั้นก็พลันเกิดความต้องการในเต้านมของหญิงสาว หลินห
มิงทาการชันตัวขึ้นมาพร้อมกับใช้ปากเข้าเด็ดดมยอดปทุมถันของ
นางจนทาให้เหลียนเย่อิ๋งถึงกับชะงักไปชั่วครู่ แม้ว่านางจะเป็นหญิง
สาวที่มั่นใจในทักษะการปรนเปร่อบุรุษแต่เมื่อนางต้องเป็นฝ่ายถูก
กระทาเช่นนี้นั้นมันนับเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ใช่
กระทั่งแม้แต่หญิงสาวอื่นใดพวกนางล้วนแล้วแต่ไม่เคยได้พบกับ
ประสบการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วมันย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
ที่พวกนางจะไม่สามารถอดทนต่อการเล้าโลมของหลินหมิงได้
ลิ้นของหลินหมิงที่เข้าทาการสัมผัสที่ยอดปทุมถันของนางนั้นทา
ให้นางรู้สึกเสี่ยวซ่านไปทัว่ ร่างจนแทบจะทาให้ร่างกายของนาง
หงายหลังล้มลงไปอย่างเหนื่อยอ่อนหากไม่ใช่เพราะว่ามีมือของเด็ก
หนุ่มที่โอบกอดนางเอาไว้จากด้านหลังแล้วละก็นางคงล้มลงไปแล้ว
มือทั้งสองข้างของนางทาการตอบรับการเล้าโลมของหลินหมิงอย่าง
ดีเยี่ยมนางโอบกอดศรีษะของหลินหมิงเอาไว้ราวกับว่านางไม่
ต้องการที่จะแยกจากบุรุษหนุ่มผู้นี้อีกต่อไป
น้ารักของหลินหมิงเริ่มทาการปะทุขึ้นมาหลังจากที่เข้าได้ทาการ
เด็ดดมยอดกลีบบัวของหญิงสาวแม้ว่าในตอนนี้เหลียนเย่อิ๋งนางจะ
เบาจังหวะการขยับสะโพกของนางลงไปแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยัคง
สร้างความเสียวซ่านให้แก่หลินหมิงได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
" อร้างงงงง ~~~~~~~~~~ "
น้ารักอันแสนอบอุ่นที่ได้พุ่งเข้ามาสู่ตัวของนางนั้นทาให้เหลียน
เย่อิ๋งครางสนั่นไปทั่วห้อง ริมฝีปากของนางในตอนนี้ถูกทาให้
เปราะเปรื้อนไปด้วยคราบน้าลายที่กาลังไหลออกมาจากปากของ
นาง มันแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านางมีความสุขมากเพียงใด
จากการที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิง
หลินหมิงยังคงกอดหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับทาการโลมเลียไปทั่ว
ร่างของนาง ผิวเนียนนุ่มของหญิงสาววัยสามสิบนัน้ แม้ว่าจะไม่อาจ
เทียบหญิงสาววัยแรกรุ่นได้ แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวทีต่ ้อง
ทาหน้าที่ปรนเปรอบุรุษเช่นนางแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนางจะ
ด้อยกว่าหญิงสาววัยแรกรุ่นไปบ้างแต่สาหรับหลินหมิงนั้นปัญหาใน
ส่วนนั้นนับเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เขาแทบจะไม่ได้นามันมาใส่ใจ
เนื่องจากในตอนนี้หญิงสาวกาลังไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจากการที่นางได้
โดยหลินหมิงปล่อยน้ารักเข้ามาภายในร่องสวาทดังนั้นแล้วการขย่ม
ของนางจึงหยุดไป แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงใช้สองมือของเขา
จับเอวของนางเอาไว้พร้อมกับให้นางทาการขยับร่างอย่างต่อเหนื่อง
ไปเช่นเคย
หลินหมิงใช้เวลาในการร่วมรักกับเหลียนเย่อิ๋งไม่แพ้กับเหม่ยฮวา
เลยในตอนแรกแต่หากพูดถึงหญิงสาวที่ให้ความสุขกับเขา นั้นย่อม
เป็นแม่หญิงสาวเจ้าของหอนางโลมแห่งนีไ้ ม่เพียงแต่นางจะมีทักษะ
ในการปรนนิบัติอันน่าพอใจแต่นางยังคงมีจิตใจหึดสู้ไม่แพ้ใคร
จึงทาให้ในตอนนี้บนเตียงนอนภายในห้องนั้นถูกแต่งแต้มไปด้วย
หญิงสาววัยสามสิบสองคนที่กาลังนอนไร้สติเต็มไปด้วยคราบน้ารัก
ของหลินหมิง เมื่อหลินหมิงหันไปมองหญิงสาวรับใช้ทั้งสองของเหม่
ยฮวา จิงหนิง และจูเวยเหลียนในตอนนี้พวกนางทัง้ สองกาลังนั่งขา
พับด้วยความไร้เรี่ยวแรง
พวกนางเคยคิดว่าการที่พวกนางได้รับบทลงโทษจากตระกูล
อย่างการถูกทุบตีนั้นนับเป็นเรื่องที่ทรมานเป็นอย่างมากแต่ในตอนนี้
การที่ให้พวกนางทั้งสองทาการดูบทรักอันร้อนแรงของเด็กหนุ่มกับ
หญิงสาวสองอย่างยาวนานนั้นเรื่องเหล่านั้นมันจะเป็นอะไรไปได้ ?
ที่บริเวณระหว่างขาของพวกนางแน่นอนว่าในตอนนี้มันย่อมเกิด
แอ่งน้าขนาดย่อมขึ้นมา
พวกนางทั้งสองมองไปทีห่ ลินหมิงด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างสุด
ความสามารถแม้ว่าพวกนางจะสามารถบรรเทาอารมณ์ของพวก
นางได้ด้วยตนเอง แต่มันไม่อาจเปรียบเทียบได้เลยแม้แต่น้อยกับ
ทักษะของเด็กหนุม่ ผู้นี้ ในตอนนี้เมื่อพวกนางทั้งสองได้เห็นหลินหมิง
กาลังนั่งมองมาที่พวกนางด้วยร่างกายเปลื่อยเปล่าอยู่นั้นมันทาให้
พวกนางไม่อาจหักห้ามใจเอาไว้ได้อีกต่อไป
พวกนางทั้งสองเคลื่อนตัวเข้าหาหลินหมิงอย่างรวดเร็วในเมื่อ
ในตอนนี้นายหญิงของพวกนางและเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้อย่าง
เหลียนเย่อิ๋งนั้นได้รับความสุขจนพวกนางทั้งสองพอใจไปแล้ว
ดังนั้นมันสมควรเป็นคราวของพวกนางบ้างไม่ใช่เช่นนั้นหรือ ?
เมื่อพวกนางทั้งสองเห็นว่าหลินหมิงไม่ได้มีการโต้ตอบต่อการ
เคลื่อนไหวของพวกนางมันอาจเป็นไปได้ว่าเด็กหนุม่ ผู้นี้อาจเหนื่อย
อ่อนจากการร่วมรักมาก่อนหน้านี้แม้ว่าพวกนางจะรู้ดีว่าเด็กหนุ่ม
คนนี้มีความสามารถในการ่วมรักที่เรียกได้ว่าไม่อาจมีบุรุษใดมา
เปรียบได้แต่ถึงอย่างนั้นเพียงไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมานั้นเขาก็ได้
ปลดปล่อยน้ารักออกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วดังนัน้ แล้วมันจึงเป็น
เรื่องธรรมดาที่เขาอาจไม่มีอารมณ์ในการร่วมรักกับพวกนางต่อ
หญิงสาวพุ่งเข้าไปหาทวนมังกรอย่างรวดเร็วริมฝีปากของหญิงสาว
ทั้งสองเข้าโลมเลียเพื่อหวังฟื้นฟูกาลังให้กับทวนมังกรแท่งนี้
แม้ว่าพวกนางจะสามารถขึ้นควบทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
ดั่งเช่นเหลียนเย่อิ๋งแต่เกรงว่าพวกนางทั้งสองคงไม่มีความอดทนอด
กลั้นมากพอในการรับมือเช่นนาง ดังนั้นแล้วความหวังเดียวของ
พวกนางนั้นก็คือการที่ให้บุรุษหนุ่มคนนี้เกิดอารมณ์และเข้าจู่โจม
พวกนาง หลินหมิงมองไปที่การกระทาของหญิงสาวรับใช้ทั้งสอง
อย่างพอใจมันเป็นที่แน่นอนว่าในตอนนี้พวกนางอาจเชื่อฟังเขามาก
เสียยิ่งกว่าเหม่ยฮวานายหญิงของพวกนาง หรือถ้าไม่เป็นอย่างนั้น
เขาก็ยังคงควบคุมเหม่ยฮวาแทนเสียก็ย่อมได้
ด้วยการที่พวกนางได้ประสบการณ์จากการมองดูบทรักมาอย่าง
ยาวนานนั้นมันทาให้ฝีมือในการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงนั้น
ค่อนข้างดีเยี่ยม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คงไม่อาจนาไปเทียบกับเหลียน
เย่อิ๋งได้ หลินหมิงทาการรวบร่างของจูเวยเหลียนขึ้นมาในอ้อมกอด
ของเขาพร้อมกับทาการไซร้คอและโลมเลียไปทั่วร่างของนาง
เสื้อผ้าของนางนั้นถูกปลดออกอย่างรวดเร็วราวกับว่านางไม่ได้สวม
ใส่อะไรอยู่ก่อนหน้า ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นนางก็ยังคงปล่อยตัวไปตาม
อารมณ์ไม่ได้ทาการขัดขืนหลินหมิงแต่อย่างใด เสียงครางกระเส้า
ของนางมันทาให้จิงหนิงที่เป็นเพื่อนของนางนั้นรู้สึกมีความกังวล
ขึ้นแน่นอนหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปมันอาจจบลงด้วยการที่
หลินหมิงนั้นทาการร่วมรักกับเพื่อนสาวของนางอย่างยาวนาน
เช่นเดียวกันกับก่อนหน้า ซึ่งนั้นนับเป็นเรื่องที่นางไม่สามารถอดใจ
รอได้นัก เห็นได้ชัดว่านี้อาจเป็นการกลั่นแกล้งของเด็กหนุ่มที่ในครั้ง
อดีตนั้นนางได้ทาการขัดขืนเขา เมื่อนึกถึงตรงนี้ความเสียใจปรากฎ
ขึ้นภายในใจของนาง
" อ๊าา..ดีมากเลยเจ้าคะ.."
ตอนที่ 62
หานจิงหนิงไม่นางไม่อาจปล่อยให้เรื่องราวปล่อยไปเกินเลยได้
มากกว่านี้ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่อาจทาให้นางและจูเวยเหลียนต้อง
โกรธเคืองกันแต่ในตอนนี้นางทรมานจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
เช่นเดียวกัน นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดพร้อมกับจ้องมองไปที่
ร่างของเด็กหนุ่มที่กาลังโอบกอดรัดเพื่อนสาวของนางอย่างนัวเนีย
" นะ..นายท่าน..ได้โปรดทากับข้าด้วย "
เมื่อหลินหมิงได้ยินคากล่าวของจิงหนิงนั้นเขาหยุดการเล้าโลม
กับจูเวยเหลียนไว้ก่อนพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างของจิงหนิงที่เต็มไป
ด้วยความหื่นกระหายอย่างเด่นชัด เสื้อผ้าของนางในตอนนี้กาลังถูก
ปลดออกด้วยตัวของนางเอง นางทาเช่นนี้เพื่อทาการเชื้อเชิญให้
หลินหมิงเข้าจู่โจมกับนาง บริเวณร่องสวาทของนางเมื่อหลินหมิง
เหลือบไปมองนั้นหลินหมิงพบกับน้าตกขนาดเล็กเกิดขึ้น
แน่นอนว่านางเองย่อมเห็นสายตาของหลินหมิงที่จ้องมองมาที่
เรือนร่างเปลื่อยเปล่่าของนางด้วยสายตาเร้าร้อน เพียงแค่สายตา
ของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่ราวกับต้องการจะกลืนกินตัวนางไปทั้งตัวนั้นก็
เพียงพอที่จะทาให้ร่างกายของนางนั้นเกิดการตอบสนองอย่าง
โดยง่าย นางจงใจไม่ได้ปิดบังส่วนใดของร่างกายเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่ามันจะน่าอายสาหรับที่ต้องทาเช่นนี้ต่อหน้าบุรุษแต่ในยามนี้
นางไม่มีทางเลือกใดอีกต่อไปแล้ว
จูเวยเหลียนเมื่อนางเห็นเพื่อนของนางกระทาการเช่นนี้นางเองก็
ไม่คิดจะยอมแพ้เช่นเดียวกัน นางเรียนรู้วิธีสร้างความสุขจากก่อน
หน้าไม่น้อย ริมฝีปากของนางเข้าทาการโลมเลียแผ่นอกเปลื่อย
เปล่าของหลินหมิงเพื่อทาการเรียกความสนใจของเขาให้กลับมาที่
ตัวนาง แม้ว่านี้จะเป็นความต้องการส่วนหนึ่งที่มาจากตัวของนางก็
ตามที่ จิงหนิงลุกขึ้นมาพร้อมกับนาร่างของนางแนบชิดติดกับร่าง
ของหลินหมิงในอีกด้านอย่างไม่ยอมแพ้
สัมผัสเนียนนุ่มของผิวหญิงสาววัยยี่สิบนั้นนับได้วา่ กาลังอยู่ช่วง
ที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เต้านมของพวกนางแม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่น
เหลียนเย่อิ่งและเหม่ยฮวาถึงอย่างนั้นไม่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่ามันมี
ขนาดเล็กแต่อย่างใดกลับกันแล้วมันค่อนข้างมีขนาดใหญ่พอตัวแต่
หากเมื่อนาไปเทียบกับหญิงสาวสองคนก่อนหน้านีท้ ี่หน้าอกของ
พวกนางนั้นเปรียบกับระดับสุดยอดของหญิงสาวแล้วนั้นพวกนาง
จึงดูด้อยกว่า
หลินหมิงหันไปสัมผัสสูดดมกลิ่นกลายของหญิงสาวทั้งสองคน
อย่างเต็มปอด แม้ว่าเขาจะร่วมรักกับเหลียนเย่อิ๋งและเหม่ยฮวามา
อย่างร้อนแรงแต่มันก็ไม่ได้ทาให้อารมณ์ราคะของเขาลดลงไปเลย
แม้แต่น้อย
ลิ้นของพวกนางเข้าเป็นฝ่ายรวมพลังเข้าจู่โจมไปในปากของ
หลินหมิง มือทั้งสองข้างของหลินหมิงนัน้ ต่างบีบคลึงเต้านมพวก
นางอย่างละข้างจนพวกนางกลัวว่ามันอาจแตกคามือเด็กหนุ่มผู้นี้ไป
เสียก็เป็นได้
แม้ว่าในตอนนี้อารมณ์ของพวกนางจะมาถึงขีดจากัดจนแทบจะ
ไม่อาจห้ามใจได้ไหวแต่มหี รือที่พวกนางจะกล้ากล่าวคาขอใดๆกับ
หลินหมิงหากเมื่อใดที่พวกนางคนใดคนหนึ่งบอกกล่าวเช่นนั้น
ออกไปมันอาจทาให้พวกนางต้องหมดสิทธ์ในการร่วมรักกับเด็ก
หนุ่มก็เป็นได้ ดังนัน้ แล้วพวกนางจึงตั้งใจปล่อยตัวไปตามการ
เคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มผูน้ ี้ แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ร่องรักเปลื่อย
เปล่าของพวกนางนั้นจะเห็นได้ว่าพวกนางได้ทาการขยับเอว
เล็กน้อยเพื่อถูไถมันไปกับต้นขากาย่าของหลินหมิง
" นะ...นายท่าน..ยอดเยี่ยมม ที่สดุ ดซีด๊ ดดด "
หลินหมิงทาการจัดท่าให้พวกนางเพื่อที่ว่าในตอนนี้เขาจะได้จู่
โจมใส่พวกนางเสียที ซึ่งในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกนางทั้งสองจะมี
อารมณ์ความต้องการมากไม่แพ้กัน ดังนั้นแล้วเขาจึงคิดที่จะทาการ
จู่โจมพวกนางทั้งสองคนพร้อมกันไปเลย ร่างของจูเวยเหลียน
ในตอนนี้ถูกจัดให้นอนหงายหน้าโดยมีร่างของจิงหนิงนอนคว่ากด
ทับเอาไว้ ร่องสวาทของพวกนางถูกหันเข้าหาหลินหมิงตามทวงท่า
ที่เข้าได้จัดเตรียมเอาไว้
" เอาเลยเจ้าคะ "
" ได้โปรดนามันเข้ามาเร็วๆ เจ้าคะ "
หญิงสาวทั้งสองที่กาลังนอนรอการจู่โจมของหลินหมิงอยู่นั้น
พวกนางไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อใดที่พวกนางจะถูกจู่โจมเพราะพวก
นางไม่อาจมองเห็นได้ ทวนมังกรของหลินหมิงเสียบเข้าไปที่ร่อง
สวาทของจูเวยเหลียนที่อยู่ด้านล่างร่างกายของนางพลันกระตุก
ขึ้นมาในทันที แน่นอนว่าจิงหนิงนั้นเมื่อนางได้เห็นสีหน้าของเพื่อน
นางก็พลันรู้สึกอิจฉาขึ้นมา แต่ความรู้สึกเหล่านั้นคงอยู่ได้เพียงไม่
นานเมื่อนางพบว่าในตอนนี้ร่องสวาทของนางก็ได้ถูกเติมเต็มไปด้วย
ทวนมังกรของหลินหมิงแล้ว
หลินหมิงทากาารสลับเสียบทวนมังกรของเขาเข้าร่องสวาทของ
พวกนางทั้งสองสลับไปมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกนางทั้งสั่น
กระตุกขึ้นมาเรื่อยๆในจังหวะที่พวกนางได้ถูกจู่โจมน้ารักใสๆ
จานวนมากไหลพรั่งพรู่ออกมาจากร่องสวาทของพวกนางมากกว่า
ก่อนหน้านี้แบบเทียบไม่ตดิ
" อร้างงงงงง ~~~~~~~~~ "
" แรงๆ เลยเจ้าคะ ซี๊ดดดดดดดดดดดด "
หน้าอกของหญิงสาวทีก่ าลังถูกกดทับด้วยกันนั้นกาลังถูก
สั่นคลอนด้วยร่างกายของพวกนางทั้งสองที่กาลังสัน่ ไหวไปตาม
จังหวะการกระแทกของหลินหมิง ยอดปทุมถันของพวกนางทั้งสอง
ต่างเสียดสีกันจนเกิดความเสียวซานที่บริเวณหน้าอก
" โอ้ยย.. รูก้น..ของข้าาาา~~~~ "
" อร้างงงง~~~~~ "
ในตอนนี้ไม่ใช่เพียงร่องสวาทของพวกนางเท่านั้นที่ได้รับการจู่
โจมจากหลินหมิวรูทวารของพวกนางในตอนนี้ก็ถกู รวมเป็น
เป้าหมายของหลินหมิงเข้าไปด้วย นิ้วมือของหลินหมิงเข้าล่วง
สารวจโผร่งรักของหญิงสาวที่ตอนนี้ได้รับการพักจากการรับมือจาก
ทวนของเขา
" ฉะ..ฉีกกก..หมดแล้ว~~~..เบาลงหน่อยเจ้าคะ "
" ซี๊ดด..มะ.มันลึกไปแล้วเจ้าคะ "
ด้วยทวนขนาดใหญ่ของเด็กหนุ่มผู้นี้เมื่อมันได้เข้ามาภายในตัว
ของพวกนางนั้นมันแทบจะทาให้ร่างกายของพวกนางแทบจะสิ้นสติ
แม้ว่าพวกนางจะได้เห็นการร่วมรักที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน
หน้า แต่เมื่อต้องมารับมือด้วยตนเองแล้วมันช่างเป็นเรื่องที่หนัก
หนากว่ากันมาก
รูทวารของพวกนางถูกแหวกออกกว้างเสียจนพวกนางกังวลว่า
มันอาจไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ดั้งเดิม แต่อย่างไรเสียในตอนนี้
พวกนางทาได้เพียงส่งเสียงครางและรับความสุขที่ได้จากนายท่าน
หนุ่มของพวกนางเท่านั้น
หลินหมิงใช้เวลาร่วมรักกับพวกนางน้อยกว่าที่ร่วมรักกับเหม่
ยฮวาหรือเหลียนเย่อิ๋งด้วยการที่พวกนางยังคงจัดว่าอยู่ในวัยสาว
ดังนั้นพวกนางจึงไม่มีความอดทนเท่าหญิงสาววันสามสิบสองคน
ก่อนหน้า อีกทั้งเมื่อพวกนางต้องรับมือกับทวนมังกรของหลินหมิง
แล้วนั้นการที่พวกนางทาได้ถึงเพียงนี้นั้นนับว่ายอดเยี่ยมแล้ว
หลินหมิงทาการตรวจสอบร่างกายของหญิงสาวทัง้ สองคนระดับ
พลังของพวกนางล้วนก้าวหน้าขึ้นมาในทันทีหลังจากที่บทเพลงรัก
ของเขาจบลง จูเวยเหลียนในตอนแรกนางมีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 8
แต่ในตอนนี้นางได้ก้าวข้ามพัฒนามาเป็นผู้มีพลังปราณก่อเกิดขั้น 2
ในทันที เช่นเดียวกันกับจิงหนิงที่ก่อนเดิมมีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 9
ตอนนี้ก็ได้ก้าวมาเป็นปราณก่อเกิดขั้น 3 เช่นเดียวกันกับเขา
หลินหมิงมองผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างพอใจ หากเป็นเช่นนี้เขา
อาจสร้างก่อกาลังสตรีที่แข็งแกร่งขึ้นมาก็ย่อมได้ดว้ ยความสามารถ
เช่นนี้ แต่เป็นที่แน่นอนว่าหญิงสาวที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่พวก
นางล้วนมีสังกัดของตนอยู่แล้วดังนั้นมันอาจไม่ง่ายนัก
" นะ..นายท่านน~~ ข้าจะทาความสะอาดให้เจ้าคะ "
เหลียนเย่อิ๋งตื่นขึ้นมาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อนแบบสุดๆนางใช้
ปลายลิ้นตวัดเลียคราบน้ารักของหลินหมิงที่เปราะเปรื้อนทวนมังกร
ของเขาเพื่อที่จะทาให้หลินหมิงพอใจมากที่สุด แน่นอนว่าเพียงไม่
นานเหม่ยฮวาก็พลันได้สติขึ้นมาด้วยสภาพไม่ต่างกัน นางรีบลุกเข้า
หาทวนมังกรของหลินหมิงอย่างรวดเร็วพร้อมกับใชลิ้นของนางเข้า
โลมเลียอย่างเร้าร้อน
หลินหมิงทาการส่งน้ารักเข้าไปในตัวของเหม่ยฮวาและเหลียน
เย่อิ๋ง จนกระทั่งเกือบเช้าใบนางของหญิงสาวสองนางนั้นเต็มไปด้วย
ความพอใจอย่างมาก น้ารักที่ท่วมภายในท้องของนางนั้นเป็นสัญ
ลักษณแห่งความสุขที่เกิดขึ้นภายในค่าคืนนี้ และพวกนางยังคง
แราถนาที่จะได้รับมันเช่นนี้ตลอดไป

ตอนที่ 63
หลินหมิงกลับมายังห้องพักของตนเองด้วยสภาพสุขใจอย่างล้น
พ้น แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเขาได้เห็นซื่อโฉวทีก่ าลังรอเขาอยู่ภายในห้อง
ด้วยแรงปราถนามีหรือว่าตัวของเขาจะปล่อยให้หญิงสาวเช่นนี้เกิด
อารมณ์ค้างคา หลินหมิงทาการเข้าจู่โจมพร้อมกับหลับนอนกับนาง
ไปทั้งอย่างนั้นจนกระทั่งถึงช่วงเช้า
น่าเสียดายว่าความสามารถที่สามารถเพิ่มระดับพลังของหญิง
สาวได้จากการร่วมรักกับตัวเขานั้นจะมีผลเพียงแค่ผู้ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์
เพียงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้ว ซื่อโฉว หรือหญิงสาวสองพี่น้องนั้นคงได้
กลายเป็นหนึ่งในกองกาลังที่เขาสามารถใช้งานได้ไปแล้ว แม้ว่า
ในตอนนี้จะมีเพียงหญิงสาวรับใช้สองคนของเหม่ยฮวาอย่างจิงหนิง
และจูเวยเหลียนแม้ว่าพวกนางจะไม่ค่อยมีฐานะมากเท่าใดนัก
ภายในตระกูลหลิน แต่มันก็เพียงพอสาหรับการสืบหาข่าว
เล็กๆน้อยๆได้ อีกทั้งเขายังมีเหม่ยฮวาที่ตอนนีน้ างเปรียบเสมือน
กลายเป็นทาสบาเร่อรักของเขาไปแล้ว
แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจนักหากนางได้รับรู้ตัวตนของเขาหรือว่าหาก
เขาต้องการทาให้นางทาในสิ่งที่เสียหายต่อตระกูลหลินนั้นนางจะมี
ปฎิกริยาตอบกลับเช่นไร แต่อย่างน้อยถ้าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
อย่างอื่นมันก็ไม่มีทางทีห่ ญิงสาวผู้เป็นภรรยาลาดับที่ห้าของประมุข
ตระกูลหลินนางนี้จะปฎิเสธเขา
จนกระทั่งถึงในยามเช้าเมื่อหลินหมิงรู้สกึ ตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าซื่อ
โฉวนางได้จากไปจากอ้อมแขนของเขาเสียแล้ว คราบสงครามเพลง
รักอันร้อนแรงเมื่อคืนนี้ก็ได้ถูกทาความสะอาดจนหมดสิ้นไปอย่าง
รวดเร็วราวกับว่ามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อหลินหมิงได้ทาภารกิจส่วนตัวในยามเช้าจนเสร็จสิ้น หลินห
มิงได้ตดั สินใจว่าจะไปที่ลานฝึกของตานักหลังจากที่เขาได้ก้าว
ขึ้นมาในระดับปราณก่อเกิดนั้น ขอบเขตหลายอย่างของเขาล้วน
พัฒนาขึ้นมากกว่าแต่ก่อนแบบก้าวกระโดดอีกทั้งความสามารถของ
เปลวเพลิงทมิฬนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะพัฒนาขึ้นมาด้วย
เช่นเดียวกัน
ร่างกายของหลินหมิงที่แต่เดิมมีความแข็งแกร่งทีม่ ากกว่ามนุษย์
ธรรมดาโดยทั่วไปแบบเทียบไม่ตดิ ในตอนนี้หลินหมิงคาดว่าต่อให้
เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝกึ ทักษะเกี่ยวกับการเสริมพลังร่างกายของตนเอง
พวกเขาเหล่านั้นก็อาจไม่สามารถเทียบกับร่างกายของเขาในตอนนี้
ได้ แน่นอนว่านั้นย่อมยกเว้นผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกฝนทักษะจนถึงระดับสูง
หรือผู้ที่มีขอบเขตพลังมากกว่าตัวเขา
แต่เมื่อหลินหมิงกาลังจะตรงไปยังลานฝึกประจาตาหนักก็มีร่าง
ของหญิงสาวผู้งดงามมาปรากฎตรงหน้า หลินหมิงแปลกใจกับการ
ปรากฎตัวขึ้นของหญิงสาวนางนี้ นางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากผู้
อาวุโสฟางซิ่นแต่เดิมนั้นนางเป็นอาจารย์ของหลินเสี่ยวต้าฃูกพี่
ลูกน้องของเขา แม้ว่าตัวของหลินหมิงจะค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็น
ความหวังของสมาคมนักปรุงยาแต่การที่หญิงสาวผู้งดงามนางนี้
ต้องเสียศิษย์ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถอย่างหลินเสี่ยวต้าส่วน
หนึ่งนั้นย่อมเป็นเพราะตัวของหลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเป็น
เช่นนี้มันอาจเป็นไปได้ว่ามันอาจทาให้หญิงสาวผู้นี้เกิดความไม่
พอใจขึ้นเสียก็ได้
หลินหมิงจ้องมองไปที่ใบหน้างดงามของผู้อาวุโสฟางซิ่นมันคง
ไม่เชื่อเรื่องง่ายนักหากนางต้องการที่หาเรื่องหรือทาอันตรายเขา
เพราะอย่างไรเสียในตอนนี้เขาก็ยังคงอยู่ที่ตาหนักของอาจารย์สาว
สวยและอีกอย่างนางคงไม่ต้องการเสียรุ่นเยาว์ที่เป็นความหวังของ
สมาคมไป
" คารวะผู้อาวุโส ไม่ทราบท่านมีเรื่องอะไรกับข้างั้นหรือ ? "
ใบหน้าของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างปกติหลินหมิงไม่อาจ
แน่นักว่าภายในใจของหญิงสาวผู้นี้คิดการณ์เช่นไรเอาไว้ ถึงแม้
สถานะของนางภายในสมาคมจะด้อยกว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งและ
อาจารย์สาวสวยของเขาแต่ความแข็งแกร่งของนางนั้นเลื่องลื่อว่า
เป็นรองเพียงแค่อาจารย์สาวสวยของเขาเพียงเท่านั้น
" ข้ามีเรื่องที่จะกล่าวกับเจ้าเล็กน้อย..รบกวนการฝึกเจ้าไม่มาก
หรอก "
นางออกเดินนาไปในทันทีโดยไม่รับฟังคากล่าวใดๆของหลินหมิง
มันจึงทาให้หลินหมิงไม่มที างเลือกในเมื่อหญิงสาวนางนี้จงใจกล่าว
เช่นนี้หากเขาไม่ยอมตามไปก็อาจไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนัก
หลินหมิงเดินตามผู้อาวุโสฟางซิ่นไปจากด้านหลังพร้อมกับ
สายตาของเขาที่จ้องมองไปที่สัดส่วนของว้าวของนางจากด้านหลัง
เมื่อนางทาการเคลื่อนไหนสัดส่วนบริเวณสะโพกของนางนั้น
เคลื่อนที่ได้อย่างลงตัว รวมกับเสื้อผ้าของนางที่ค่อนข้างรัดรูปมันจึง
เผยให้รูปร่างของนางได้อย่างชัดเจน
เกียวกับเสน่ห์ของนางนั้นนางไม่ได้มีเสน่ห์ในแบบเดียวกัน
อาจารย์สาวสวยของเขาหรือผู้อาวุโสซูหลิ่งกระทั่งหลิวฉวนยูร์ที่เป็น
สาวงามประเภทไม่สนใจบุรุษมากนักสายตาของพวกนางทั้งสามที่
มองที่บุรุษนั้นล้วนเต็มไปด้วยความเย็นชา ยกเว้นแต่เพียงตัวของ
เขาเพียงเท่านั้น
แต่สาหรับหญิงสาวที่กาลังเดินนาหน้าหลินหมิงอยูใ่ นตอนนี้
ใบหน้าของนางนั้นมักถูกปกคลุมด้วยรอยยิ้มอันอ่านยากของนางอยู่
ตลอดเวลา มันจึงทาให้ผู้คนไม่สามารถคาดคิดได้ว่านางคิดอาจเช่น
ไรอยู่
" หืม..เหตุใดเจ้าจึงทาหน้าตาเช่นนั้นเล่า..."
เมื่อนางเหลือบหันมามองหลินหมิงนั้นทาให้หัวใจหลินหมิงหล่น
วูบนั้นเพราะว่าเมื่อสักครู่นั้นหลินหมิงกาลังสารวจร่างกายของหญิง
สาวผู้นี้จากด้านหลัง หากนางรู้เข้านั้นไม่รู้เลยว่าหลินหมิงจะโดน
เช่นไรบ้าง แต่เมื่อเห็นว่านางนั้นกาลังเข้าใจผิดอยู่หลินหมิงจึงเส
แสร้งทาเป็นกังวลไปตามน้า
" อันที่จริงแล้วข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยข้าสักเล็กน้อยเพียง
เท่านั้น "
" ข้างั้นรึ ? "
หลินหมิงเต็มไปด้วยความสับสนแน่นอนว่าแม้ว่าพลังของเขา
ในตอนนี้จะพัฒนาขึ้นมาแต่มันคงไม่ได้ดีพอในขนาดที่จะช่วยเหลือ
หญิงสาวนางนี้ หรือแม้จะทาได้เขาอาจเหมาะสมพอสาหรับ
ตาแหน่งคนใช้ของนางเพียงเท่านั้น
เพียงไม่นานเมื่อหลินหมิงหันไปโดยรอบก็พบว่าในตอนนี้เขาได้
ออกมาจากเขตของตาหนักอาจารย์สาวสวยไปเสียแล้ว อาจเป็น
เพราะว่าสายตาของเขานั้นมั่วแต่จดจ้องอยู่กับสะโพกของหญิงสาว
มากจนเกินไปโดยไม่ได้รบั รู้รอบข้าง สัมผัสแรงกดดันถูกปล่อย
ออกมาในทันทีจากตัวของหญิงสาวพร้อมกับอาคมที่ถูกกางขึ้น
ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้
ตอนที่ 64
ด้วยการที่เขตอาคมซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของ
หญิงสาวตรงหน้าหลินหมิง แม้ว่าหลินหมิงจะไม่สามารถรับรู้ได้
อย่างแน่ชัดว่าเขตอาคมเช่นนี้สามารถทาสิ่งใดได้บ้างแต่อย่างหนึ่งที่
แน่นอนจากที่เขาคิดนั้นก็คืออาคมนี้สามารถป้องกันการมองเห็น
จากภายนอกได้ เพราะแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่นอกอาณาเขต
ของตานักอาจารย์สาวสวยแต่มันยังไม่อาจเรียกได้ว่าไกลจนพ้น
ระยะสายตา และด้วยตาแหน่งของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นคนทั่วไปเมื่อ
เห็นนางนั้นย่อมตกก้มหัวหรือแสดงความเคารพ
แต่ในตอนนี้ทุกคนที่อยู่ใกล้บริเวณแห่งนี้ล้วนปฎิบตั ิเหมือนกับว่า
ไม่มีสงิ่ ใดอยู่ในตาแหน่งทีพ่ วกเขายืนอยู่นั้นจึงเป็นข้อสรุปเดียวที่
หลินหมิงจะสามารถคาดเดาได้ หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของผู้
อาวุโสที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้สายตาของเขาได้
เปลี่ยนไปจากตอนแรกทีค่ อยแทะโลมนางเปลี่ยนเป็นสายตาจริงจัง
ในทันที
ในสายตาของผู้อาวุโสสาวสวยคนนี้นั้นจ้องมองมาที่หลินหมิง
ด้วยแววตาจริงจังนี้เป็นครั้งแรกที่หลินหมิงได้เห็นสายตาของนาง
เช่นนี้ นี้แสดงว่าเรื่องที่นางต้องการให้เขาช่วยนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่
ไม่ธรรมดาหากตัวตนระดับนางที่มีความแข็งแกร่งระดับเท่าเทียม
กับอาจารย์สาวสวยของเขาที่เขาไม่สามารถยั้งวัดระดับของพวก
นางทั้งสองนี้ได้ แต่อย่างน้อยหลินหมิงก็เชื่อว่าพวกนางทั้งสองอาจ
อยู่ในขั้นสูงสุดของปราณระดับจอมยุทธ์เป็นอย่างน้อย และด้วย
ปัญหาที่ทาให้หญิงสาวนางนี้เป็นกังวลได้ถึงขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลย
ว่ามันย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิตเขาอย่างแท้จริง
" ไม่ต้องกังวล..ข้าคิดว่าบางทีมันคงไม่อันตรายถึงกับชีวิต "
หลินหมิงได้ยินคากล่าวของนางเขาพลันแถบอยากตอบปฎิเสธ
คาขอร้องของนางไปในทันทีหากไม่ติดว่าในตอนนี้ที่บริเวณพืนดิ
ภายในอาคมนั้น เกิดอักษรประหลาดที่หลินหมิงไม่สามารถทาความ
ใจได้มันค่อยปรากฎขึ้นจากจุดศูนย์กลางหลังจากนั้นก็แผ่ขยาย
ออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงสว่างจ้าจนหลินหมิงต้องนามือมา
ปิดบังเอาไว้
หลินหมิงถึงกับลืมหายใจไปชั่วครู่ภาพตรงหน้าของเขาในตอนนี้
มันไม่ใช่อาณาเขตของสมาคมนักปรุงยา หรือกระทั่งเมืองฟานชูมัน
เป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันเป็นป่ารกร้างที่มีขนาด
กว้างใหญ่สัมผัสแรงกดดันนี้อาจเรียกได้ว่ามันมากกว่าป่ารอบนอก
ของเมืองฟานชูแบบเทียบกันไม่ติด เปลวเพลิงสีดาภายในต้นเถียนข
องหลินหมิงถึงกับลุกพร้อมกับเกิดการสั่นไหวขึ้นในทันทีที่หลินหมิ
งลืมตาขึ้น
" ข้าแนะนาว่าเจ้าไม่ควรส่งเสียงดัง หรือทาอะไรที่เป็นจุดสนใจ
มากนัก "
หลินหมิงหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างของผู้อาวุโสสาวที่
ใบหน้าของนางยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอยู่เช่นเดิม
" ผู้อาวุโสนี้คือที่ใด ? "
" ป่ามรณะ "
เขากล่าวเสียงเรียบเฉยของผู้อาวุโสสาวสวยเพียงแต่ด้วยคา
กล่าวนี้มันทาให้หลินหมิงถึงกับตัวแข็งค้าง ป่ามรณะ? เพียงแค่ชื่อนี้
มันก็สามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าป่าแห่งนี้มีความอันตรายมาก
เพียงใด แน่นอนว่าชื่อเสียงของป่ามรณะนั้นเป็นที่รู้จักโดยทั่วกันถึง
ความอันตรายของมัน ถึงขนาดที่ว่ามันถูกจัดได้วา่ เป็นหนึ่งในสถาน
ที่สุดยอดอันตราย แต่ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านัน้ ก็คือการที่เขามา
ปรากฎอยู่ที่แห่งนี้ได้ต่างหาก
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่แน่ใจว่าระยะทางจากเมืองฟานชูมาถึงที่ป่า
มรณะแห่งนี้นั้นมีระยะทางมากน้อยเพียงใด เพียงแต่ว่าระยะทาง
ของมันนั้นย่อมไกลเกินกว่าระยะทางที่เขาเดินทางไปทาภารกิจเมื่อ
เร็วๆนี้กันแบบเทียบไม่ตดิ แต่หญิงสาวตรงหน้าของเขากลับพาเขา
มายังสถานที่แห่งนีด้ ้วยเวลาเพียงชั่วอึดใจ
" ตามข้ามา.. "
ผู้อาวุโสสาวสวยกล่าวออกมาพร้อมกับร่างของนางที่หันหลัง
เดินไปในทันทีโดยที่นางไม่คิดจะอธิบายสิ่งใดเพิ่มเติม หลินหมิงได้
แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อย เกี่ยวกับความเอาแต่ใจของบรรดา
เหล่าชนชั้นสูงนั้นแม้ว่าตัวของเขาจะมีประสบการณ์มามากจาก
บรรดาญาติพี่น้อง แต่หากเทียบกันกับหญิงสาวที่เป็นชนชั้นสูง
รอบตัวเขาอย่างอาจารย์สาวสวย ผู้อาวุโสซูหลิง่ หรือผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นนางนี้ พวกนางล้วนกระทาการแต่ละอย่างโดยไม่สนใจสิ่งใด
อย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกันญาติพี่น้องของเขาพวกเขาเหล่านั้น
ยังคงมีความเกรงกลัวในบิดา หรือมารดาของพวกเขา
เกือบครึ่งชั่วยามที่พวกเขาได้ออกเดินมาจากจุดเริ่มต้นแม้ว่ามัน
จะมีสัตว์อสูรมาขัดขวางทางพวกเขาอย่างเช่นกระทิงสองขา มัน
เป็นสัตวอสูรที่มีความชานาญในการต่อสู้ค่อนข้างมากซึ่งมัน
แข็งแกร่งกว่าวานรสองเขาที่หลินหมิงเคยกาจัดลงได้แบบเทียบไม่
ติด แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะแข็งแกร่งขึ้นมามากแล้วแต่เขาก็
ยังคงไม่อาจยั้งวัดระดับพลังของสัตว์อสูรตนนี้ได้ มันอาจเป็นไปได้
ว่าความแข็งแกร่งของมันนั้นอาจมีมากถึงในระดับ 7 หรือกระทั่ง 8
ในปราณก่อเกิด แต่เขายังคงไม่สามารถการันตีได้อย่างแน่ชัดเพราะ
เขายังไม่สามารถที่จะได้เห็นความสามารถของมัน
กระทิงที่ยืนสองขาพร้อมกับการตั้งท่าต่อสู้แบบไม่มีช่องโหว์แต่
อย่างใด หมัดกล้ามที่ปูดพ่องขึ้นบริเวณทั่วผิวหนังของมันนั้น
สามารถบ่งบอกได้ถึงความแข็งแรงของมันเป็นอย่างดีขนาดที่ว่าตัว
ของหลินหมิงนั้นยังคงไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยความ
แข็งแกร่งอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับถูกสังหารลงเพียงชั่ว
พริบตาโดยที่หลินหมิงไม่อาจทาความเข้าใจได้ ร่างของมันค่อยๆล้ม
ลงพร้อมกับรอยแบ่งครึ่งจากบริเวณศรีษะไล่ลงมากจนกระทั่งร่าง
ของมันทุกแยกออกมจากกัน
หากเป็นในยามปกติหลินหมิงคงต้องขอสารวจซากซบของเจ้า
กระทิงตัวนี้อย่างไม่ต้องสงสัยแม้ว่าเขาไม่มีปัญหาในเรื่องเงิน แต่
ซากศพของมันที่มีความแข็งแกร่งระดับปราณก่อเกิดในระดับสูงนั้น
ล้วนมีค่าอย่างไม่ต้องสงสัยแต่มันติดเพียงว่าหญิงสาวผู้กาจัดมันลง
นั้นได้เดินจากไปในทันทีราวกับว่าร่างของอสูรตนนี้เป็นเพียงฝุ่น
ละอองไม่ควรค่าที่นางจะให้ความสนใจ

ตอนที่ 65
หลายชั่วยามผ่านไปหลินหมิงยังคงเดินตามร่างของหญิงสาว
เบื้องหน้าของเขาโดยไม่กล้าละสายตาไปจากนาง ซึ่งแม้ว่าหากเป็น
โดยปกติแล้วด้วยความงามของนางและรูปร่างที่เรียกได้ว่าถูกสรร
สร้างขึ้นมาเพื่อยั่วยวนบุรุษโดยจริงนั้นจะทาให้เขายากที่จะข่มใจละ
สายตาจากนางไปได้ เพียงแต่ว่าในตอนนี้หลินหมิงหาได้มองร่าง
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นเช่นนั้นไม่
หลินหมิงจ้องไปที่นางอย่างไม่คลาดสายตาเพื่อที่ว่าเขาจะไม่
ผลัดหลงกันกับนาง แม้ว่าด้วยทางเดินที่ผ่านมาของพวกเขานั้นจะ
เจออุปสรรคอย่างสัตว์อสูรอยู่เป็นระยะและระดับของพวกมันก็เรียก
ได้ว่าหากหลินหมิงต้องเผชิญหน้ากับพวกมันเพียงตัวใดตัวหนึ่งก็
อาจต้องใช้พลังต่อสู้เป็นตายกับพวกมันเป็นแน่ แต่ด้วยความ
แข็งแกร่งของผู้อาวุโสสาวนั้นทาให้เขาไม่ต้องพบเจอกับปัญหา
เช่นนั้น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลอดทางที่ผ่านมานั้น
นางลงมือจัดการกับศัตรูตรงหน้าด้วยความฉับไว โดยที่หลินหมิ
งแทบจะยังไม่ทนั ได้เห็นการเคลื่อนไหวของนางด้วยซ้าไป มันแสดง
ให้เห็นว่าแม้ว่านางจะมีความแข็งแกร่งในระดับที่น่าเกรงขามแต่
นางก็ยังคงไม่กล้าที่จะแสดงพลังในระดับที่สามารถเป็นเป้าหมาย
สายตาได้อย่างเด่นชัด
จนทในที่สุดเมื่อพวกเขาเดินทางมาอย่างยาวนานร่างของผู้
อาวุโสสาวตรงหน้าของหลินหมิงก็มีการหยุดเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก
หลินหมิงสังเกตร่างของนางที่ยืนนิ่งพร้อมกับแหงนคอสังเกตภาพ
เบื่องหน้าที่ตอนนี้เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวของ
หญิงสาวนางนี้จะต้องมีจดุ ประสงค์ที่เกียวกับภูเขาไฟลูกนี้
แม้ว่าบริเวณป่าโดยรอบที่หลินหมิงได้เดินมาตลอดทางนั้นมัน
สร้างแรงกดดันให้กับตัวเขาค่อนข้างมาก แต่หากเมื่อเทียบกับภูเขา
ไฟที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้มันก็คงเรียกได้ว่ามันเป็นแรงกดดันที่
ถูกเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ ที่บริเวณยอดภูเขาไฟนั้นมีร่องรอยควัน
ปรากฎอยู่แสดงให้เห็นถึงสภาพของภูเขาไฟลูกนี้ที่ยังคงไม่ดับสนิท
" ผู้อาวุโสพวกเราจะขึ้นไปยังยอดเขาแห่งนั้น ? "
" ชูว ! "
หลินหมิงถึงกับเงียบเสียงไปในทันทีเมื่อได้เห็นท่าทางของหญิง
สาวในตอนนี้ ใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยความตรึงเครียดแบบที่
เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ร่างของหลินหมิงถูกกระชากไปด้วยสัมผัสนุ่ม
นิ่มที่บริเวณฝ่ามือแม้ว่ามันจะเป็นความรู้สึกเพียงชั่วครู่แต่มันก็
เพียงพอให้หลินหมิงเคลิม้ ฝันไปได้ในทันที
ร่างของหลินหมิงและฟางซิ่นนั้นพุ่งเข้ามาหลบหลังต้นไม้โดยที่
หลินหมิงเองยังไม่แน่ใจนักว่าเกิดเหตุใดขึ้น ด้วยความแข็งแกร่ง
ของหญิงสาวนางนี้ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือที่นางจาเป็นจะต้องกังวล ?
ทันใดนั้นเมื่อหลบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ได้สกั พักก็พลันปรากฎเสียง
ฝีเท้าคนเดินออกมาจากพุ่มไม้
" หัวหน้าข้าบอกแล้วว่าท่านกังวลมากเกินไป "
" แต่หายากเหมือนกันนะ ที่สัญชาตญานของหัวหน้าจะ
ผิดพลาด "
กลุ่มคนที่เดินออกมานั้นมีอยู่ด้วยกันทัง้ หมดห้าคนอีกทั้งทัง้ ห้า
คนนั้นล้วนเป็นสตรีด้วยกันหมดทัง้ สิ้น แต่ถึงอย่างนั้นความ
แข็งแกร่งของพวกนางแต่ละคนที่อยู่ต่อหน้าหลินหมิงนั้นแน่นอนว่า
ย่อมเหนือกว่าเขาแบบไม่ต้องสงสัย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถประเมิณ
ความแข็งแกร่งของพวกนางทั้งห้าได้อย่างเด่นชัด แต่หากประเมิณ
คราวๆจากการที่พวกนางสามารถเข้ามาถึงภายในสถานที่แห่งนี้
ด้วยสภาพสมบูรณ์นั้นพวกนางแต่ละคนล้วนจะต้องมีความ
แข็งแกร่งไม่ต่ากว่าปราณขั้นจอมยุทธ์ระดับต้น
และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าหัวหน้านั้นดู
เหมือนว่าจะมีความแข็งแกร่งที่เรียกได้ว่าอาจเทียบเท่ากับผู้อาวุโส
สาวของเขาเลยทีเดียว หากเมื่อสักครู่นี้ผู้อาวุโสฟางซิ่นเคลื่อนไหว
ตัวช้ากว่านี้ไปเพียงนิดเดียวอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาคงถูกจับได้ไป
แล้ว
หัวหน้ากลุ่มโจรสาว
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้เต็มไปด้วยความตรึงเครียด
เมื่อเห็นท่าทางของกลุ่มสตรีสาวทั้งห้าที่กาลังจะเดินขึ้นไปยังไป
บริเวณยอดเขาแห่งนี้ แม้ว่านางจะยังไม่แน่ใจได้อย่างเด่นชัดว่า
กลุ่มของหญิงสาวทั้งห้านี้มีเป้าหมายเดียวกันกับนางหรือไม่
เป้าหมายของนางนั้นอยู่บนยอดเขาภูเขาไฟลูกนี้มันคือ บงกช
เหมันต์ ทีม่ ีคุณสมบัตสิ ามารถส่งเสริมความก้าวหน้าให้แก่นางได้
อย่างมหาศาล
ด้วยเปลวเพลิงของนางทีเ่ ป็นเปลวเพลิงที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึง
กันนี้ จึงไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อนางได้รับบงกชเหมันต์มาความ
แข็งแกร่งของนางเรียกได้ว่าคงพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดและยัง
เป็นการเปิดขอบเขตพลังของนางให้สามารถก้าวขึ้นไปยังระดับ
ต่อไปได้อีกด้วย ด้วยเปลวเพลิงของนางที่เป็นรูปแบบปราณเย็นซึ่ง
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเปลวเพลิงที่มีความบริสุทธ์ค่อนข้างมากแต่ถึง
อย่างนั้นมันก็ยังไม่เหมาะสมสาหรับการปรุงยาดังนัน้ แล้วในเรื่อง
ของการปรุงยานางจึงเป็นรองอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงและผู้
อาวุโสซูหลิ่งค่อนข้างมาก

และหากนางได้ครอบครองบงกชเหมันต์นี้มันมีความเป็นไปได้
อย่างสูงว่ามันจะสามารถกลบของด้อยของเปลวเพลิงของนางลงไป
ได้ ด้วยลักษณะของมันที่อยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่เต็มไปด้วยปราณห
ยินเช่นนี้ มันจึงไม่ใช่บงกชเหมันต์ธรรมดาอีกต่อไป
ดังนั้นแล้วนางไม่ยินดีที่จะเสียมันไปอย่างแน่นอนแม้ว่ากลุ่มของ
หญิงสาวทั้งห้านี้จะอาจยังไม่รับรู้เรื่องของบงกชเหมันต์บนยอดเขา
แต่เมื่อดูท่าทีแล้วพวกนางทั้งห้านี้กาลังจะขึ้นไปบนยอดเขาโดยแน่
และมันไม่มีทางที่หญิงสาวที่เป็นหัวหน้ากลุม่ แห่งนีจ้ ะไม่สามารถ
สัมผัสได้ถงึ มัน
หลินหมิงพลันแทบจะลืมหายใจเมื่อเขาพบว่าเพียงกระพริบตา
ต่อมาร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นก็พลันหายไปจากตรงหน้าของเขา
นางพุ่งเข้าไปหากลุ่มหญิงสาวทั้งห้าด้วยความรวดเร็วฝ่ามือของ
นางถูกเรียกใช้ออกมาเป้าหมายของนางก็คือการลอบจู่โจมคนกลุ่ม
นี้และสังหารคนในกลุ่มไปให้ได้อย่างน้อยสักคนหนึ่ง
หากดูจากความแข็งแกร่งแล้วนางน่าจะมีความแข็งแกร่ง
เหนือกว่าหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มสักเล็กน้อยแต่หากเมื่อคานึงถึงเหล่า
สมาชิกที่เหลือที่แม้ว่าระดับพลังของพวกนางจะค่อนข้างแตกต่าง
กับหัวหน้าของพวกนางแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสาหรับนาง
นั้นก็คือการประสานงาน และด้วยความสนิทสนมของคนภายใน
กลุ่มที่สามารถกล่าวพูดคุยกับหัวหน้าได้อย่างสบายใจเช่นนี้ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าพวกนางคงเป็นกลุ่มที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน
บรึ้มม !
ระเบิดหิมะของผู้อาวุโสฟางซิ่นส่งผลให้หญิงสาวทัง้ ห้าพลันแตก
กระจายออกในทันที ร่างของนางพุ่งเข้าหาหญิงสาวคนหนึ่งภายใน
กลุ่มพร้อมกับฝ่ามือขนางที่ประทับเข้าฝ่าท้องของหญิงสาวผู้นั้นเข้า
ไปอย่างจัง เพียงแต่มันน่าเสียดายตรงที่ว่าหัวหน้ากลุ่มของนางนั้น
สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วนางเข้ามาสกัดการโจมตีของผู้
อาวุโสฟางซิ่นได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับเข้าระงับปราณเย็นที่กาลัง
ลุกลามไปทัว่ ชีพจรของหญิงสาวภายในกลุ่มนาง
แม้ว่าจะยังไม่สามารถคร่าชีวิตได้แต่มันก็เพียงพอที่จะทาให้
หญิงสาวนางนี้ไม่สามารถใช้พลังไปได้อีกอย่างน้อยก็สักสองสามวัน
ซึ่งมันทาให้ศัตรูของนางลดลงไปด้วย คนภายในกลุ่มหญิงสาว
สามารถตั้งตัวได้อย่างว่องไวพวกนางเข้ามารวมกลุ่มกับหัวหน้า
พวกนางอย่างรวดเร็ว พร้อมเข้าดูอาการเพื่อนของพวกนาง
ร่างของหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสฟางซิ่นที่กาลัง
เตรียมการหลบถอย ด้วยสถานการณ์ที่เป็นเช่นนี้ด้วยความเร็วของ
นางนั้นมันสามารถทาให้นางสามารถต่อสู้กับหัวหน้ากลุ่มหญิงสาวผู้
นี้ได้ตัวต่อตัวเนื่องจากหญิงสาวที่เหลือไม่อาจตามมาได้ทันและพวก
นางยังคงต้องระวังเพื่อนของพวกนางที่ได้รับบาด
แต่โดยที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ได้รับรู้เลยว่าแผนการณ์ของนางนั้น
ได้ถูกอ่านออกโดยหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มเสียแล้ว ในตอนนี้มีร่างของ
หญิงสาวสองคนภายในกลุ่มพุ่งตรงเข้าหาหลินหมิงตามคาสังที่พวก
นางได้รับมาจากหัวหน้าพวกนาง

ตอนที่ 66
ถึงแม้ว่าด้วยระดับของหัวหน้ากลุ่มของหญิงสาวจะด้อยกว่า
ทางด้านของผู้อาวุโสฟางซิ่นเล็กน้อย แต่เนื่องจากการที่พวกนางทั้ง
สองเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับสูงด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งในเรื่องของการ
ต่อสู้นั้นไม่อาจวัดได้จากเพียงระดับพลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ดังนั้นแล้วจึงไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่ชัดว่าผู้ใดจะเป็นฝ่าย
ชนะ และเมื่อเป็นเช่นนี้การต่อสู้ของหญิงสาวทั้งสองย่อมต้องใช้
เวลาอยู่พอสมควร
ที่บริเวณร่างของหญิงสาวที่ล้มลงนอนไม่ได้สติจากการโจมตี
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นมีเพื่อนสาวคนหนึ่งของนางกาลังดูแลรักษา
บาดแผลของนางอย่างใกล้ชิด โดยที่อีกสองคนที่เหลือนั้นกลับพุ่ง
ตรงมาที่ตาแหน่งที่หลินหมิงอยู่อย่างเห็นได้ชัด หลินหมิงทยานถอย
หนีไปในทันทีเมื่อเป็นเช่นนี้ ลาพังเพียงแค่พวกนางคนใดคนหนึ่งนั้น
เขาย่อมไม่สามารถเอาชนะได้อยู่แล้ว นี้ย่อมไม่ต้องพูดถึงในยามนี้ที่
พวกนางทั้งสองพุ่งเข้ามาหาเขา
แม้ว่าระยะห่างของพวกเขาในตอนแรกจะห่างกันอยู่พอสมควร
แต่ด้วยระดับพลังที่แตกต่างกันมากจนเกินอีกทั้งหลินหมิงยังไม่ได้
เชี่ยวชาญทักษะประเภทเคลื่อนไหวดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้มีจุดเด่น
ในเรื่องความเร็วแต่อย่างใด ด้านหน้าและด้านหลังของหลินหมิง
ปรากฎหญิงสาวสองคนภายในเวลาไม่นาน
หลินหมิงถึงกับนึกเศร้าโศรกอยู่ในใจตัวเขาเพิ่งจะเคยพบกับ
สถานการณ์ที่ยากลาบากเช่นนี้มานับไม่ถ้วนหลังจากได้รับพลังมา
ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเผชิญหน้ากับอาจารย์สาวสวยในครั้งแรก บิดา
ของเขาหลินฮ่าว หรือแม้กระทั่งแม่ซัคคิวบัสสาวสวยอย่างซือเฟย
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวตนทีเ่ ขายังไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าระดับของหญิงสาวทั้งสองจะอ่อนแอกว่าคนเหล่านั้นที่กล่าว
มาแต่ระดับพลังของพวกนางก็ยังคงเรียกได้ว่ามากกว่าหลินหมิ
งแบบเทียบไม่ติด
โดยเฉพาะกับการที่พวกนางทั้งสองมีระดับพลังอยู่ในขั้นปราณ
จอมยุทธ์ที่เป็นกาแพงขนาดใหญ่ที่แม้แต่ผู้ที่มีพลังระดับปราณก่อ
เกิดขั้น 9 ก็ยังคงไม่สามารถนาไปเปรียบเทียบกันได้ พวกนางจ้อง
มองมาที่หลินหมิงด้วยสายเฉียบคม แน่นอนว่าแม้ว่าพวกนางจะ
สามารถรับรู้ถึงความแข่งแกร่งของหลินหมิงได้อย่างชัดเจน ดังนั้น
แล้วการที่พวกนางจะจัดการกับหลินหมิงนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ
ของพวกนางเพียงเท่านั้น
หลินหมิงมองไปที่ร่างของหญิงสาวทั้งสองคนเนื่องจากในตอน
แรกพวกเขานั้นอยู่ห่างกันค่อนข้างไกลดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงไม่
สามารถสังเกตเห็นพวกนางได้อย่างเด่นชัด พวกนางทั้งสองเป็น
หญิงสาวทีม่ ีอายุราวยี่สิบปลายๆ สัดส่วนโค้งว้าวของหญิงสาวทุก
ส่วนล้วนถูกพัฒนาเติบโตมาจนเต็มที่ และหากเมือ่ ดูจากผิวพรรณ
และเครื่องแต่งกายของพวกนางแล้วนั้นจะสามารถบอกได้ในทันที
เลยว่าเบื้องหลังของพวกนางนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
" ข้าจัดการเอง "
เสียงของหญิงสาวด้านหลังของหลินหมิงดังขึ้นพร้อมกับเสียง
จังหวะการก้าวเท้าของนางที่เข้ามาหาหลินหมิงอย่างช้าๆ ด้วย
ระดับพลังของหลินหมิงในตอนนี้เขายังไม่เคยได้ทดสอบมันเลย
หลังจากเลื่อนระดับขึ้นมาและเขายังไม่แน่ใจว่าพลังของเขา
ในตอนนี้มันจะเพียงพอที่จะสามารถทาลายกาแพงปราณของผู้ที่มี
ระดับพลังขั้นจอมยุทธ์ได้หรือไม่
หลินหมิงก้าวท้าวพุ่งไปยังด้านข้างเพื่อหลบเลี่ยงจาก
สถานการณ์วิกฤตแต่มีหรือหญิงสาวจะปล่อยให้เขารอดพ้นไปได้
นางพุ่งตัวด้วยความเร็วทีน่ ่าตกใจเพียงชั่วพริบตาเบื้องหน้าหลินห
มิงปรากฎฝ่ามือของหญิงสาวที่กาลังจะปะทะกับร่างของเขา หลินห
มิงฝืนร่างกายเบี่ยงข้อเท้าหลบการโจมตีของนางพร้อมกับเรียกทวน
ของเขามาจากแหวนมิติ
ปังง
เสียงปะทะระหว่างฝ่ามือของหญิงสาวกับทวนมังกรของหลินหมิ
งส่งให้ร่างของเขาถอยหลังไปหลายก้าว พร้อมกับอาการชาที่
บริเวณข้อมือ ใบหน้าของหญิงสาวปรากฎความแปลกใจเพียง
เล็กน้อยแน่นอนว่าการโจมตีเมื่อสักครู่นี้หากเป็นผูท้ ี่มีระดับพลัง
ปราณก่อเกิดระดับ 3 ทั่วไปคงตกตายไปแล้ว
หลินหมิงควงทวนมังกรเพื่อเข้าโจมตีหญิงสาวกลับโดยไม่ลังเล
เพียงแต่ว่าในสายตาของนางนั้นการโจมตีของผู้ที่มีระดับพลังเพียง
ขั้นปราณก่อเกิดนั้นยังไม่มีค่าพอให้อยู่ในสายตาของนาง นางเงื้อฝ่า
มือขึ้นอีกครั้งเพื่อทาการโจมตีแลกกับหลินหมิง
" [ ดรรชนีเพลิง ] ! "
ทักษะของหลินหมิงที่เพิ่งได้รับมาใหม่ที่นาออกมาใช้เป็นครั้ง
แรกพร้อมกับเปลวเพลิงสีดาที่ลุกโชนขึ้นที่บริเวณปลายนิ้วของ
หลินหมิง การฟาดทวนในครั้งแรกนั้นเป็นเพียงตัวหลอกล่อเพื่อให้
นางลดการระวังตัวลง ปราณเพลิงสีดาทมิฬถูกรวบรวมเอาไว้ที่
ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางของหลินหมิงที่เรียงชิดติดพร้อมกับชี้
เป้าหมายไปที่หญิงสาวอย่างรวดเร็ว
สาแสงเพลิงสีดาพุ่งตรงออกไปอย่างรวดเร็วจากปลายนิ้วของ
หลินหมิงพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของหญิงสาวพร้อมกับร่างของหลินหมิงที่
ปะทะเข้ากับฝ่ามือของนางเข้าอย่างจัง
เพล้ง !
เสียงเกราะพลังปราณปริแตกสร้างความประหลาดใจให้กับหญิง
สาวเป็นอย่างมากลาแสงสีดาที่ถูกอัดแน่นไว้ด้วยพลังปราณพุ่งเข้า
หาร่างของนางที่บริเวณท้องของนางโดยที่นางไม่สามารถหลบเลี่ยง
ได้ทันอย่างแน่นอน ราวกับคมมีดที่ถกู อาบไปด้วยเพลิงร้อนระอุ
แม้ว่าแผลที่บริเวณร่างกายของนางจะมีรูปรากฎบนร่างเพียง
เล็กน้อย
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ปราณในร่างกายของนางนั้นล้วนสับสนไป
หมดจากการโจมตีของหลินหมิง หญิงสาวและหลินหมิงต่างกระอั่ก
เลือดออกมากองใหญ่แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นทางฝ่ายหลินห
มิงที่ยังคงสมบูรณ์มากกว่า เพื่อนของนางที่มองการต่อสู้จาก
ด้านหลังหลินหมิงนั้นไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้น นาง
เห็นแค่เพียงเพื่อนของนางนั้นเข้าทาการแลกหมัดกับหลินหมิงอย่าง
ซึ้งหน้า
ซึ่งหากเป็นกรณีทั่วไปแล้วมันเป็นไปได้หรือที่ผู้ที่มพี ลังปราณ
ระดับก่อเกิดเช่นเด็กหนุม่ ผู้ที่จะสามารถทาลายเกราะพลังปราณให้
แตกลงได้ ? นางเตรียมเข้าทาการพุ่งไปหาเพื่อนของนางเพื่อทา
การช่วยเหลือเพียงแต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว หลินหมิงทะยาน
ร่างไปที่เพื่อนของนางพร้อมกับทวนของเขาที่จ่อไปที่คอของเพื่อน
สาวนางในทันที
" หยุดอยู่ตรงนั้น ! "
เสียงตะโกณของหลินหมิงยังคงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจาก
การโจมตีเมื่อสักครู่ ร่างของหญิงสาวถึงกับชะงักไม่กล้าพุ่งตัวเข้าไป
หาเพื่อนของนาง
ตอนที่ 67
" ลี่เซียน !....เจ้าห้ามทาอะไรนางไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเอา
ไหวแน่ "
" หมิงเลี่ยน..ขะ..ข้า..ไม่ตอ้ ง..สนใจข้า... "
หญิงสาวที่ถกู หลินหมิงเข้าจู่โจมด้วยดรรชนีเพลิงนั้นมีชื่อว่าลี่
เซียนในตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหน่วงจากบาดแผล
ภายใน ใบหน้าของนางซีดเผือกจากการที่ปราณหยินของหลินหมิง
ได้เข้าแทรกปราณในร่างกายของนางมันทาให้นางไม่สามารถ
ควบคุมลมปราณได้อย่างปกติอีกต่อไป
หมิงเลี่ยนเพื่อนของนางนัน้ มองภาพตรงหน้าด้วยความโกรธ
แค้นแม้ว่านางจะไม่ทราบแน่ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้สามารถเอาชนะ
เพื่อนของนางได้อย่างไร แต่เมื่อดูจากสภาพของเขาในตอนนี้แล้ว
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถทาการต่อสู้ต่อไปได้อีก ปัญหาเดียว
สาหรับนางก็คือเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งหนัก เขาใช้เวลาเพียงไม่
นานหลังจากการปะทะกันทะยานร่างพุ่งตรงเข้าไปหาลี่เซียนพร้อม
กับนาทวนจ่อไว้ที่คอของลี่เซียนก่อนที่นางจะพลันได้เคลื่อนไหวเสีย
อีก
เมื่อเห็นใบหน้าของลี่เซียนที่อยู่ในสภาพย่าแย่หมิงเลี่ยนไม่
สามารถทาสิ่งใดได้อีกนอกจากข่มอารมณ์ความโกรธเอาไว้พร้อมกับ
ถอยระยะออกมาจากหลินหมิง ในขณะเดียวกันหลินหมิงเริ่มทาการ
โคจรลมปราณเพื่อรักษาบาดแผลแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะ
สามารถรักษะให้หายได้ในทันทีก็ตาม
" เอาอย่างนี้ไหม หากเจ้าปล่อยเพื่อนข้าไปข้ารับรองได้ว่าพวก
ข้าจะไม่ติดตามล่าเจ้าต่อไปอีก "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงที่ข่มความโกรธเกรี้ยวภายในใจ
สภาพของลี่เซียนในตอนนี้นางหมดสติลงไปแล้วดังนั้นนางจึงไม่
สามารถรีรออะไรได้อีก แม้ว่าภายนอกบาดแผลมันจะดูเล็กขนาด
ราวเท่ากับหัวนิ้วชี้เพียงเท่านั้นแต่เมื่อดูจากอาการทรมานของเพื่อน
นางแล้วเห็นได้ชัดว่าในตอนนี้เพื่อนของนางกาลังตกอยู่ในอันตราย
อย่างแท้จริง
" ไม่ ! "
หลินหมิงกล่าวตอบปฎิเสธเสียงแข็งแบบที่ไม่ต้องคิดเขาไม่คิดว่า
เมื่อเขาปล่อยหญิงสาวนามลี่เซียนคนนี้แล้วชีวิตของเขาจะ
ปลอดภัยดังที่หญิงสาวกล่าว มันไม่มีอะไรทีส่ ามารถรับประกันได้
เขาจะสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้หากเขาปล่อยนางไป
" นี้เจ้า ! งั้นข้ายินมอบทรัพย์สมบัติในแหวนมิตขิ องข้าทั้งหมด
ให้แก่เจ้า "
" ไม่ ! "
หมิงเลี่ยนนางแทบอยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ใจจะ
ขาด แต่นางไม่สามารถใจร้อนได้ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของเพื่อนนางตก
อยู่ในกามือของเด็กหนุ่ม
" แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด "
" ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออก "
" !! "
ในขณะที่หมิงเลี่ยนกาลังจะกล่าวแทรกคากล่าวของหลินหมิงมือ
ของหลินหมิงที่กาลังกาทวนเหนือคอของลี่เซียนก็พลันคอยๆตกลง
ไปจดใบมีดที่บริเวณปลายทวนสัมผัสกับบริเวณคอของลี่เซียน
ใบหน้าของหมิงเลียนซีดไม่ต่างจากเพื่อนของนางในตอนนี้ นาง
เข้าใจความหมายของหลินหมิงดีว่าเด็กหนุ่มคนนี้ตอ้ งการอะไรจาก
นาง
มันเป็นเรื่องธรรมดาของบุรุษที่มักนิยมชมชอบสตรีงดงามและ
ยิ่งเป็นสตรีที่มีความแข็งแกร่งแล้วนั้นยิ่งทาให้คุณค่าในตัวของพวก
นางเหล่านั้นสูงยิ่งขึ้นไปอีก และนางเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น
นางไม่เคยสนใจบุรุษแต่อย่างใดไม่ใช่เพียงแค่นางเท่านั้นเพื่อน
ทั้งหมดภายในกลุ่มของนางก็ล้วนแล้วแต่ไม่คิดสนใจบุรุษดังนั้นแล้ว
พวกนางจึงทาการร่วมกลุ่มด้วยจุดประสงค์เดียวกันนั้นก็คือเพื่อ
แสดงพลังของสตรีที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าบุรุษ
มือของหมิงเลี่ยนเลื่อนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองอย่างด้วยอา
กาสั่นเทามันเป็นไปไม่ได้ที่ในตอนนี้จะมีคนมาช่วยนางจาก
สถานการณ์เช่นนี้ เรือนร่างเปลื่อยเปล่าของนางค่อยๆถูกเผยให้
หลินหมิงได้เฉยชมทีละส่วน เนินอกขนาดพอดีพร้อมกับเอวรูปร่าง
โค้งว้าวอันเป็นสรีระที่เหมาะสมสาหรับผู้ฝึกยุทธ์
หมิงเลี่ยนางไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างของนางถูก
ปลดออกหมดเรียบร้อยนางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยความโกรธ
แค้นยิ่งกว่าเดิม แม้วา่ บุรุษนั้นจะมีอารมณ์เช่นนี้เป็นเรื่องปกติใน
สายตาของนางเพียงแต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้มันจะมีใครบ้างเล่าที่
มีความคิดเลวร้ายเช่นเด็กหนุ่มผู้นี้
หลินหมิงจ้องมองไปที่เรือนร่างของนางด้วยสายตาเร้าร้อนแม้ว่า
มือของนางจะปกปิดบริเวณส่วนลับของนางอยู่แต่เมื่อหลินหมิงดู
จากท่าทางของหญิงสาวผู้นี้แล้วมันเป็นไปได้ว่านางอาจจะยังไม่เคย
มีความสัมพันธ์ใดๆกับบุรษุ มาก่อน หลินหมิงทาการเรียกให้นางเดิน
เข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ
หมิงเลี่ยนมองไปที่ทวนของหลินหมิงแม้ว่านางจะมั่นใจในเรื่อง
ของความเร็วของนางอยู่พอสมควรแต่มันเป็นไปได้อย่างมากว่าเมื่อ
นางโจมตีเด็กหนุม่ คนนี้ทวนของเขาคงต้องตกลงไปทะลุคอของลี่
เซียนอย่างแน่นอน
" หันหลัง "
เมื่อนางก้าวมาอยู่ในระยะทาการของหลินหมิงร่างของหญิงสาว
พลันหันกลับไปด้วยสายตาขืนขม นางจาเป็นจะต้องรีบทาให้ทุก
อย่างจบลงได้ไวที่สดุ นางเคยได้ยินมาว่าบุรุษนั้นแม้ว่าจะมีอารมณ์
ค่อนข้างรุนแรงแต่พวกเขาไม่สามารถอดทนกับการร่วมรักกับหญิง
สาวได้นานมากนัก และเมื่อใดที่พวกเขาเสร็จกิจเมื่อนั้นพวกเขาจะ
อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ่อย่างมากและเมื่อนั้นคือโอกาศที่นางรอคอย
หลินหมิงทาการปลดเสื้อผ้าของตนเองพร้อมนาทวนมังกรของ
เขาออกมาเผชิญหน้ากับร่องสวาทสีชมสดที่ปราศจากมลทินใดๆ
หลินหมิงผลักร่างของนางลงไปให้อยู่ในท่าเข่าและมือสองข้างยัน
พื้นเอาไว้ ทวนมังกรของหลินหมิงทาการเขี่ยบริเวณร่องสวาทของห
มิงเลี่ยนเพื่อเตรียมพร้อมบุกทะลวง
" อ้า..จะ...ทา..อะไรก็รีบทา "
สัมผัสแปลกที่เกิดขึ้นบริเวณร่องสวาทของนางนั้นทาให้นาง
เผลอครางออกมาโดยไม่รู้เพียงชั่วแวบหนึ่ง หลินหมิงเองก็ไม่คิดจะ
รีรอเช่นเดียวกัน หากเป็นสถานการณ์ปกติหลินหมิงคงต้องทาการ
โลมเลียและสารวจร่างกายอันสมบูรณ์พร้อมของหญิงสาวเสียก่อน
แต่ในตอนนี้เขาต้องรีบเผด็จศึกนางให้โดยเร็วเพราะเขาไม่อาจรู้ได้
ว่านางอาจมีแผนอะไรอย่างอื่นซ่อนเอาไว้อีก
ทวนมังกรของหลินหมิงเสียบทะลุผ่านเยื่อพรหมจรรย์ของนาง
เข้าไปอย่างบ้าคลั่งเลือดสีแดงสดปรากฎขึ้นที่บริเวณร่องสวาทของ
นางพร้อมกับเสียงครางสนั่นของหมิงเลี่ยน นางไม่เคยคิดมาก่อน
เลยว่ามันจะเจ็บถึงเพียงนี้
" โอ้ยย...บะ..เบาๆ อ๊าาา ~~~~~ "
" นะ...นี้..มันใหญ่เกินไปแล้ว..โอ้ยย "
นางครางออกมาเสียงสนั่นนางไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าทวน
มังกรของบุรุษนั้นจะมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ เนื่องจากในตอนแรกนั้น
นางไม่ทันได้เห็นขนาดของมัน ดังนั้นแล้วนางจึงรับรู้ได้จากเพียง
ร่องสวาทของนางเพียงเท่านั้น ในตอนนี้ท้องของนางราวกับว่ามัน
กาลังจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
แท่งเนื้อร้อนที่กาลังค่อยๆมุ่งทะลุทลวงเข้ามาภายในตัวนางทา
ให้นางเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ เรี่ยวแรงบริเวณแขนของนางที่เคย
ใช้ค้ายันพื้นนั้นค่อยๆหมดลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
สวบบบบ !
" อร้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ~~~~~~ "
จนในที่สุดเมื่อหลินหมิงสามารถนาทวนมังกรของเขาแทง
ทะลวงเข้ามาสุดลาแล้วนางครางออกมาด้วยเสียงยาว ใบหน้าของ
นางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างแท้จริง ในตอนนี้นางเริ่มคิดแล้ว
ว่านี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ด้วยทวนมังกรของเด็กหนุ่มคน
นี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะสามารถรับมือกับมันได้อีกต่อไป เพียง
เท่านี้ร่างกายของนางก็ราววกับว่ามันจะถูกระเบิดออกอยู่แล้ว
" พะ..พอๆ..ขะ..ข้าไม่เอาแล้ว...เอาออกไป....ดะ...เดียวนั้นเจ้า...
อ๊าาา อ๊าาา ~~~~ "
หลินหมิงทาการขยับเอวต่อไปโดยไม่สนทีท่าของหมิงเลี่ยน
ในตอนนี้เขาจาเป็นที่จะต้องสยบหญิงสาวผู้นี้เสียก่อนเพื่อความ
ปลอดภัยของตัวเขาเอง หมิงเลี่ยนในตอนนี้อยู่ในสภาพคลานต่าติด
พืน้ โดยที่สะโพกของนางนั้นยกขึ้นเพื่อรับการโจมตีจากหลินหมิง
หลินหมิงในตอนนี้ได้ปล่อยทวนจากมือของเขาพร้อมกับทาการ
ใช้สองข้างบีบหนวดแก้มก้นของนางพร้อมกับใช้มันเป็นฐานในการ
ขยับเอวของเขา หมิงเลี่ยนนางพยายามคลานหนีออกไปให้ห่างจาก
หลินหมิงอย่างสุดแรงหากเป็นในยามปกติเพียงแค่ฝ่ามือเดียวนางก็
คงสามารถซัดหลินหมิงให้กระเด็นไปได้หลายเมตรเพียงแต่ว่า
ในตอนนี้ทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังเสียบร่องสวาทของนางอยู่
นั้นราวกับว่าพวกมันทั้งสองไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และ
ยังคงมีมือของเด็กหนุ่มทีค่ อยดึงฉุดร่างของนางเอาไว้ไม่ให้คลานหนี
ไปไหน

ตอนที่ 68
" แฮ่ก ๆ อร้างงงง~~~~~~~~ "
เสียงหอบหายใจอย่างหนักพร้อมกับเสียงครางสนั่นของหมิง
เลี่ยนยังคงดังลั่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง จังหวะการขยับของ
เด็กหนุ่มตอนนีก้ าลังทาการจู่โจมนางอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของนาง
เริ่มรู้ชา ? จนมันอาจไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคตนางอาจไม่สามารถใช้ร่องสวาทของ
นางได้อีกต่อไปแล้วก็เป็นได้
ไม่รู้ว่าผ่านมาเนินนานเพียงใดแต่หลินหมิงก็ยงั คงไม่มีทที ่าว่าจะ
หยุดทาการร่วมรักกับนางลง น้ารักใสๆของหญิงสาวได้ไหลออกมา
จากร่องสวาทของนางผสมกับคราบเลือดที่เกิดจากการเสียความบริ
สุทธ์ เรือนร่างทุกซอกมุมของนางในตอนนี้ถูกสารวจไปทั่วร่างราว
กับว่าร่างกายนี้ไม่ได้เป็นของนางอีกต่อไป
บริเวณซอกคอของนางนั้นยังคงถูกไซร้ราวกับว่ามันเป็นขุมสมับ
ติที่เด็กหนุม่ ตามหา ลิ้นของเขาที่กาลังทาการเลียไปที่ต้นคอของนาง
มันทาให้ร่างกายของนางรู้สึกเบาสบายแต่ถึงอย่างนั้นมือของเขา
กลับลงมือด้วยการกระทาที่แตกต่างมืองของเด็กหนุม่ เข้าบีบหนวด
หน้าอกของนางราวกับต้องการให้มันระเบิดออก
นางชักไม่แน่ใจในตนเองแล้วในตอนนี้นางได้ตกอยู่ในนรกหรือ
สวรรค์กันแน่ในตอนแรกนางเจ็บปวดเป็นอย่างมากจากการที่ต้อง
เสียความบริสุทธ์ในครั้งแรก และด้วยความขนาดทวนมังกรที่ใหญ่
ผิดมนุษย์อื่นของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันแทบจะทาให้นางแทบสิ้นใจ
เพียงแต่ว่าเมื่อผ่านมาสักระยะหนึ่งความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับ
เริ่มทุเราลงอย่างน่าประหลาดทั้งๆที่เด็กหนุม่ ก็ยังคงจู่โจมนางอยู่
ตลอด ซ้ามันอาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆต่างหาก สัมผัสความสุขที่เกิดขึ้น
ทาให้มือทั้งสองข้างของนางเผลอรวบร่างของหลินหมิงทีก่ าลัง
คร่อมร่างของนางเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว
ในตอนนี้นางอาจลืมไปแล้วเสียว่าเหตุใดที่นางต้องมาทาการ
ร่วมรักกับหลินหมิงเช่นนี้ นางครางตอบรับหลินหมิงอย่างเต็มเสียง
โดยไม่มีทีท่าเอียงอาย ราวกับว่าในตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกที่อด
กลั้นเอาไว้ได้ระเบิดออกมา น้ารักภายในร่องสวาทของนางเริ่ม
พรั่งพรู่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงไม่งา่ ยนักที่พวกมัน
จะออกมาหากไม่ได้รับอนุญาติจากหลินหมิง
" พอ พอๆ ก่อน อ๊าาา "
นางพยายามกล่าวเพื่อให้หลินหมิงแต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล
การเสร็จสมของสตรีนั้นไม่ได้ต่างจากบุรุษมากนักเมื่อพวกนางได้ทา
การปปลดปล่อยน้ารักออกมานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่พวกนางอ่อนแอ
และเกิดความรู้สึกอ่อนล้า แต่ที่จริงแล้วโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นเหล่า
สตรีจะไม่ได้รับความปราถนาจากบุรุษมากเท่าที่พวกนางต้องการ
เมื่อนางเริ่มรู้สึกหลังจากผ่านมาหลายชั่วอึดใจที่นางแทบจะเป็น
ลมไม่ได้สติจากการจู่โจมของเด็กหนุ่มพร้อมกับน้ารักที่แสดงว่านาง
ได้เสร็จสมไปเป็นจานวนมาก ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มมีการสั่น
กระตุกจากภายในร่องสวาทของนางมันอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก
สาหรับหญิงสาวที่ต้องปล่อยให้บุรุษอื่นปล่อยน้ารักของพวกเขาเข้า
สู่ร่างกายของพวกนาง
แต่สาหรับหมิงเลี่ยนในตอนนี้นี้เปรียบเสมือนเสียงระฆังช่วยชีวิต
จากสวรงสวรรค์ นางพยายามฝืนร่างกายอย่างสุดขีดตอบสนองต่อ
อารมณ์ของหลินหมิงที่เดินทางมาถึงจุดสุดยอดแล้ว
" อร้างงงงงงง ~~~~~~~~ "
น้ารักจานวนมากของหลินหมิงถูกระเบิดออกเข้าใส่ตัวของนาง
จนมันท่วมร่องสวาทของนาง ใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์
หลากหลายยากจะอธิบาย แต่แล้วนางกลับต้องแปลกใจเมื่อนาง
พบว่าทวนมังกรของหลินหมิงยังคงอยูภ่ ายในตัวของนางแถมมัน
ยังคงมีขนาดใหญ่อยู่เท่าเดิม มันกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรเล่า ?
นางไม่สามารถรับมือกับเด็กหนุ่มไปได้มากกว่านี้แล้ว ในจังหวะที่
หลินหมิงกาลังจะเริ่มขยับสะโพกอีกครั้งหมิงเลี่ยนตัดสินใจรวบรวม
แรงของนางที่มีทั้งหมดในตอนนี้กล่าวกับหลินหมิง
" ดะ..ได้โปรด ตอนนี้ข้านั้นได้ตกเป็นของเจ้าแล้ว ดังนั้นข้าไม่มี
ความคิดที่จะทาร้ายเจ้าหรอกนะ เจ้ายังคงคิดว่าข้าในสภาพเช่นนี้
จะเป็นอันตรายต่อเจ้า ? "
นางกล่าวออกมาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ลูบไปทีใ่ บหน้าของ
หลินหมิง สายตาของนางไม่ได้เต็มเปียมไปด้วยความเย่อยิ่งที่
แสดงออกต่อหลินหมิงในตอนแรก มันกลับกลายเป็นสายตาของ
หญิงสาวทีม่ องมายังทีบ่ ุรุษของพวกนางแม้ว่ามันจะยังไม่ถงึ ขั้น
หญิงสาวของหลินหมิงแต่นี้อาจเรียกได้ว่ามันอาจเป็นแนวโน้มทีด่ ี
" อืมม ก็ได้แต่ข้าคงต้องขอสิ่งค้าประกันสักเล็กน้อย "
อื้มมมมม ~~~~~~
หลินหมิงกล่าวจบก็กม้ ลงไปพรหมจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มของหมิง
เลี่ยน มันเป็่นการจูบที่แตกต่างจากในช่วงที่พวกเขาได้ทาการร่วม
รักกันแม้ว่ามันจะไม่ได้ร้อนแรงเท่า แต่มันก็เพียงพอทาให้หัวใจของ
หญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ในคาวมคิดของนางในตอนนี้
แม้ว่านางจะยังคงไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นหญิงสาวของหลินหมิงอย่าง
แน่นอน แต่อย่างน้อยในสายตาของนางหลินหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายนัก
" ฮิฮิ พอแล้ว...จริงสิลี่เซี่ยนเจ้าช่วยไปดูนางให้ข้าหน่อยได้ไหม
"
หมิงเลี่ยนกล่าวด้วยน้าเสียงอ่อนโยนที่นางกล่าวให้หลินหมิง
หยุดนั้นส่วนหนึง่ ก็เพราะนางเกรงว่าเด็กหนุ่มคนนีอ้ าจจู่โจมนางเข้า
อีกทีก็เป็นได้ เมือ่ ดูจากขนาดทวนมังกรของเขาที่ยังคงแข็ง
ตัวอย่างเช่นเดิม และนางยังคงเกรงว่านางจะไม่สามารถห้ามใจ
ตัวเองเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน
หลินหมิงหลังจากจูบกันหมิงเลี่ยนจนพอใจเขาจึงละตัวออกจาก
นางพร้อมกับไปดูอาการของลี่เซี่ยน เมื่อมองจากภายนอกนั้นมันดู
เป็นเพียงบาดแผลเล็กๆเพียงเท่านั้น เนื่องจากหลินหมิงไม่ได้มี
ประสบกาณ์ในด้านการรักษาเลยแม้แต่น้อยดังนั้นภาระทั้งหมดจึง
ต้องมาที่หมิงเลี่ยนอย่างไม่ต้องสงสัย
ยังดีที่เนื่องจากคราวนี้พวกนางต้องออกเดินทางมายังป่ามรณะที่
ขึ้นชื่อในเรื่องความอันตราย ดังนั้นแล้วพวกนางจึงได้เตรียมโอสถ
รักษารวมถึงสิ่งของจาเป็นอื่นๆเป็นจานวนมาก หมิงเลี่ยนทาการ
ตรวจสอบร่างกายของลี่เซี่ยนด้วยความยากลาบาก ด้วยการที่
ในตอนนี้นางอยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อนจนแทบจะล้มนอนลงไปเพื่อ
พักผ่อนร่างกายใจจะขาด
แต่ด้วยการที่เป็นเช่นนี้นางจึงจาเป็นต้องให้หลินหมิงประคอง
ร่างของนางเอาไว้ แต่มือซุกซนของเขากลับสัมผัสไปทั่วร่างเปลื่อย
เปล่าของนางในขณะที่นางกาลังตรวจสอบร่างกายเพื่อนของนาง
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงใช้ร่างกายของนางไม่พอใจอีกหรืออย่างไร ?
นางไม่ได้มีทีท่ารังเกียจต่อการกระทาของหลินหมิงดังเช่นในตอน
แรกนางปล่อยให้หลินหมิงทาตามอาเภอใจกับร่างกายของนางได้
อย่างตามใจชอบเพราะว่าตัวนางเองก็สามารถเสพความสุขจาก
สัมผัสของเด็กหนุม่ ผู้นี้ได้เช่นเดียวกัน
" เสร็จแล้วอย่างนั้นรึ ? "
" อืม.~~ อ๊าา "
ด้วยการที่นางต้องฝืนร่างกายในสภาพเหนื่อยอ่อนรวมกับ
บาดแผลภายในของลี่เซี่ยนที่เรียกได้ว่าค่อนข้างหนักมันจึงทาให้ห
มิงเลี่ยนอ่อนล้าอย่างสุดขีด แถมน่ายังคงต้องอดทนต่อการเล้าโลม
ของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ตลอดการรักษาอีก ร่างของนางหลับลงไป
ภายในอ้อมกอดของหลินหมิงอย่างเหนื่อยล้าในที่สดุ
ในตอนนี้หากหลินหมิงต้องการสังหารพวกนางทั้งสองคนนี้ทิ้ง
นั้นคงเป็นเรื่องง่ายเสียยิ่งกว่าอะไรดี แต่เมื่อดูจากท่าทางของหมิง
เลี่ยนปฎิบัติต่อเขาแล้วนัน้ มันเป็นไปได้มากว่านางคงไม่ได้มีความ
คิดร้ายต่อเขาอีกต่อไป ในตอนนี้ภายในใจของหลินหมิงไม่ได้นึก
โกรธเหล่ากลุ่มหญิงสาวทัง้ ห้านี้มากเท่าใดนัก แต่เป็นผู้อาวุโสสาว
ของเขาต่างหาก หากไม่ใช่เป็นเพราะนางเขาคงไม่ต้องมาพบเจอกับ
อันตรายเช่นนี้ แล้วนางยังคงกล้าทิ้งเขาเอาไว้เพียงลาพังอีก
ต่างหาก ไม่แน่ว่าเขาคงต้องคิดหาทางเอาคืนผู้อาวุโสสาวสวยนางนี้
บ้างเสียแล้ว

ตอนที่ 69
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามวัยยี่สิบปลายๆความงดงามของพวก
นางที่ถูกพัฒนาจนมาถึงจุดสูงสุดของเหล่าสตรี พวกนางทั้งสอง
กาลังนอนไร้ซึ่งสติด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง ลี่เซี่ยนแม้ว่านางจะได้รับ
การรักษาจากหมิงเลี่ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ดูเหมือนว่านางจะ
ยังคงไม่สามารถฟื้นคืนสติได้เร็วๆนี้
แตกต่างกับหญิงสาวอีกคนหมิงเลี่ยนกาลังนอนหลับในอ้อมกอด
ของหลินหมิงด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขในตอนนี้หลินหมิงได้ทาความ
สะอาดร่างกายของนางพร้อมกับแต่งกายให้นางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คงไม่ดีนักหากเขายังคงปล่อยให้หญิงสาวอยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่า
ต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงเองก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเขาจะ
ไม่ลงมือจู่โจมนางอีกครั้ง
หลินหมิงทาการตรวจสอบพลังปราณในร่างกายของเขาก็พบว่า
หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บมาพอสมควรจากการต่อสู้กับลี่เซี่ยน
ในตอนนี้สภาพพลังปราณในร่างกายของเขาเริ่มกลับมาเสถียรและ
กาลังอยู่ในช่วงพัฒนาหลังจากร่วมรักกับหมิงเลี่ยน อาจเป็นไปได้ว่า
เขาคงสามารถก้าวไปสู่ขั้นต่อไปหรือระดับปราณก่อเกิดขั้น 4 ได้ใน
เร็วๆนี้
เมือเทียบกับหญิงสาวที่ได้รับน้ารักของเขาไปแล้วนั้นหมิงเลี่ยนดู
เหมือนว่านางจะประสบความสาเร็จในการพัฒนาอย่างงดงามยิ่ง
กว่า เนื่องจากหลินหมิงไม่อาจตรวจสอบพลังนางได้เลยทาให้เขาไม่
สามารถระบุพลังของนางได้อย่างเด่นชัดแต่พลังในร่างกายของนาง
ที่กาลังพัฒนาขึ้นนั้นมันเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนขนาดที่
คนอื่นมาเห็นพวกเขาอาจตกใจจนสิ้นชีพไปเลยก็เป็นได้
หลินหมิงมองไปที่ร่างของหญิงสาวอีกคนลี่เซียนแน่นอนว่าหาก
ในตอนนี้หลินหมิงทาการร่วมรักกับนางในตอนนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ที่
หญิงสาวจะสามารถขัดขืนเขาได้ แต่ด้วยสภาพอาการบาดเจ็บของ
นางในตอนนี้มันคงไม่เหมาะนักหากเขายังคงคิดทาเรื่องเช่นนั้นกับ
หญิงสาว ถึงอย่างไรเสียในตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหมิง
เลี่ยนก็เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นพัฒนามันคงจะดีกว่าถ้าหากเขาแสร้ง
ปฎิบัติตัวเป็นบุรุษที่ดี ไม่เช่นนั้นแล้วความสัมพันธ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมันก็
พร้อมที่จะถูกทาลายได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
หลินหมิงยังคงนอนพักอย่างสบายใจโดยที่ภายในอ้อมกอดของ
เขายังคงมีร่างของหมิงเลี่ยน ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่หมิงเลี่ยนก็ได้สติ
ขึ้นมาจากความเหนื่อยล้า นางมองหลินหมิงด้วยสีหน้าเอียงอาย
ด้วยอายุของนางในตอนนี้มันชัดเจนว่านางค่อนข้างมีอายุมากกว่า
เด็กหนุ่มคนนี้อยู่พอตัว แต่ถึงอย่างนั้นการที่นางยังคงได้รับอ้อมกอด
อย่างอบอุ่นในยามที่นางหลับนั้น มันทาให้หัวใจนางอบอุ่นราวกับได้
ย้อนเวลาไปเป็นหญิงสาววัยเยาว์อีกครั้ง
นางเหลือบมองไปที่ลีเซี่ยนในตอนนี้สีหน้าของนางคลายกังวลลง
ไปมาก เนื่องจากดูเหมือนว่าในตอนนี้เพื่อนของนางดูเหมือนจะพ้น
จากขีดอันตรายไปแล้ว นางแอบลอบหวันอยู่ในใจทักษะของหลินห
มิงนั้นเป็นทักษะประเภทใดกันที่ขนาดสามารถทาให้ผู้ที่มีพลังปราณ
ระดับจอมยุทธ์บาดเจ็บสาหัสได้ถึงเพียงนี้ แม้วา่ มันจะเป็นเพราะ
ความประมาทของเพื่อนนางส่วนหนึ่งทีม่ ั่นใจว่าหลินหมิงไม่สามารถ
โจมตีฝ่ากาแพงปราณได้ก็ตาม
หลินหมิงและพวกนางได้ทาการพูดคุยกันเพื่อสอบถามเรื่องราว
ของแต่ละฝ่ายภาพตรงหน้าที่ปรากฎนี้มันราวกับคู่รักที่เพิ่งผ่านการ
ค่าคืนอันแสนเร้าร้อนของพวกเขามา ในส่วนของหลินหมิงเขาบอก
ไปถามความจริงทั้งหมดที่เขาถูกลากมารวมถึงฐานะของเขาแต่
ยังคงเก็บเรื่องที่เขาเป็นคนตระกูลหลินเอาไว้เสียก่อน
แต่สาหรับหมิงเลี่ยนแล้วนั้นมันเป็นอะไรที่น่าตกใจยิ่งกลุ่มของ
พวกนางทั้งห้าแน่นอนว่าหลินหมิงคาดการณ์เอาไว้จากความ
แข็งแกร่งในวัยเพียงเท่านี้ของพวกนางแน่นอนว่าฐานะของพวก
นางย่อมต้องไม่ธรรมดา แต่เขาก็ยังอดตกใจไม่ได้นั้นก็เพราะแท้จริง
แล้วพวกนางเป็นเหล่าผู้อาวุโสจากสานักเพลิงศักดิ์สิทธ์ที่เขาหมาย
จะทดสอบเข้าในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้
แม้ว่าเมื่อดูจากความแข็งแกร่งของพวกนางสี่คนนั้นยังคงไม่อาจ
เรียกได้ว่าอยู่ในระดับผู้อาวุโสอย่างเต็มปากแต่ด้วยความสามารถ
เมื่อเทียบกับอายุแล้วมันจึงทาให้พวกนางได้รับตาแหน่งนี้มาอย่าง
ง่ายดาย อีกทั้งหัวหน้ากลุ่มของพวกนางก็ยงั เป็นคนที่มีความ
แข็งแกร่งในระดับจุดสูงสุดขั้นจอมยุ่ทธ์อีกด้วย ดังนั้นแล้วแม้ว่าจะ
เป็นภายในสานักฐานะของพวกนางที่มหี ัวหน้าสาวคอยค้าจุนอยู่ก็
นับได้ว่าไม่น้อยหน้าใคร
" เจ้าก็จะเข้าร่วมการทดสอบ ? "
" ใช่แล้ว "
หมิงเลี่ยนแทบจะเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่แรกเริ่มเดิมทีนางคิด
ว่าหลินหมิงและหญิงสาวที่ทาการต่อสู้กับหัวหน้าของพวกนางนั้น
อาจเป็นคนต่างอาณาจักร แต่เมื่อได้รู้ความจริงแล้วความกังวล
เหล่านั้นก็พลันหายไปในพริบตาหากนางมีความสัมพันธ์กับบุรุษ
ที่มาจากอาณาจักรอื่นที่อาจเป็นศัตรูแล้วนั้นแน่นอนว่ามันย่อมเกิด
ความลังเลในใจนางไม่น้อย
เกี่ยวกับการทดสอบที่จะเข้าร่วมสานักนั้นแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะ
เข้ามาด้วยวัย 18 ปีหรือมากกว่านั้นแต่เมื่อดูจากความสามารถของ
หลินหมิงแล้วนั้นมันไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ที่
นางแปลกใจก็คือการที่ตัวตนระดับผู้อาวุโสของสานักนักปรุงยาไม่
รู้จักหัวหน้าของนาง ?
ซึ่งในส่วนนี้หลินหมิงคาดการณ์นั้นอาจเป็นเพราะตัวของผู้
อาวุโสสาวของเขานั้นไม่ค่อยได้เข้าไปยังเมืองหลวงเท่าใดนัก ซึ่ง
ตามความเป็นจริงแล้วนั้นการประชุมเมื่อครั้งก่อนที่อาจารย์สาว
สวยของเขาเข้าร่วมแน่นอนว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นย่อมต้องเดินทางไป
ด้วยเช่นเดียวกันแต่ด้วยนิสัยของนางที่เบื่อกับการทาอะไรเช่นนี้จึง
ทาให้นางปฎิเสธไป แตกต่างจากผู้อาวุโสซูหลิ่งที่มีจุดเด่นในเรื่อง
ของทักษะการปรุงยาดังนัน้ แล้วการประชุมที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงนั้น
นางจะเดินทางไปพร้อมกับอาจารย์สาวสวยของเขาในเฉพาะเรื่องที่
เกี่ยวกับทางเพียงเท่านั้น
ในขณะนั้นเหมือนกับหมิงเลี่ยนนางเพิ่งค้นพบความแปลก
ประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวของนาง พลังในร่างกายของนางพัฒนาขึ้น
? แต่เดิมนางเพิ่งจะก้าวขึ้นสู่ในระดับปราณจอมยุทธ์มาไม่นาน
เพียงแต่ว่าในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าในร่างกายของนางนั้นพลังปราณ
ถูกเลื่อนระดับเป็นปราณจอมยุทธ์ขั้น 2 แถมยังเป็นระดับสูงสุดอีก
ด้วย นางรู้สึกสับสนกับความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น
เมื่อนางพลันสังเกตเห็นใบหน้าของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
พร้อมกับอาการตกตะลึงของนางที่พบว่าระดับพลังปราณของเด็ก
หนุ่มคนนี้ก็เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน
ปราณก่อเกิดขั้น 4 !
เพียงแค่ชั่วเวลาไม่นานหลังจากที่นางหลับไม่ได้สติไประดับ
ความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มคนนี้และนางกลับเพิ่มขึ้น นางลอบ
ตรวจสอบพลังอีกครั้งแต่แล้วผลก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ด้วยใบหน้าที่
เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเด็กหนุ่มผู้นไี้ ม่ต้องสังสัยเลยว่านี้เป็น
ความสามารถของเขา ?
" ฮึ่มมม ไม่เพียงแต่เจ้าจะมีทักษะที่ร้ายกาจ เจ้ายังสามารถ
พัฒนาตนได้ด้วยความสามารถที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เจ้าคงต้องมี
อะไรกับสตรีมามากมายแล้วสินะ "
เมื่อนางได้รับคาอธิบายจากหลินหมิงหมิงเลี่ยนนางกล่าวออกมา
ด้วยน้าเสียงแงงอน นางไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดนางจึงทาเช่นนี้
แต่เมื่อนางขบคิดใหม่อีกทีดูในตอนที่เด็กหนุ่มผู้นี้เข้าทาการร่วมรัก
กับนางมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่นางจะสามารถรับมือกับ
เด็กหนุ่มคนนี้ได้อย่างลาพัง อาจเป็นว่านางอาจต้องยืมกาลังจาก
เพื่อนสาวของนาง ?
แต่ในจังหวะที่หลินหมิงกาลังพูดคุยย้อหลอกกันอยูน่ ั้นกลับ
ปรากฎร่างของหญิงสางที่แบกร่างของหญิงสาวอีกคนไว้ที่หลังของ
นาง นางจ้องภาพตรงหน้าด้วยสีนหน้าไม่อยากจะเชื่อ
" หมิงเลี่ยน นี้เจ้าทาอะไรอยู่ ! "
" หวางเฟย ! "
หญิงสาวที่ถกู เรียกว่าหวางเฟยนั้นคือหนึ่งในกลุ่มของหมิงเลี่ยน
นั้นเองนางได้ทาการักษาให้ฉีหลิน เพื่อนสาวของนางที่ได้รับ
บาดเจ็บหนักจากการโจมตีของผู้อาวุโสฟางซิ่น นางออกเดินทาง
ตามหาเพื่อนของนางที่ออกมาตามล่าเด็กหนุม่ ตามคาบอกของ
หัวหน้าพวกนางด้วยความเป็นห่วงลังจากที่นางคิดว่าเพื่อนของนาง
นั้นใช้เวลามากจนเกินไป
แต่ภาพตรงหน้านั้นมันแทบจะทาให้หวางเฟยพุ่งเข้าไปตบเพื่อน
ของนางสักทีสองทีพร้อมกับสังหารเด็กหนุม่ คนนี้เสีย ลีเซียน
บาดเจ็บ ? ฉีหลินได้รับบาดเจ็บแต่หมิงเลี่ยนกลับมาเสวนากับศัตรู
เช่นนี้อย่างสบายอารมณ์ ? อารมณ์ความโกรธของนางพุ่งขึ้น
แน่นอนว่านางไม่ตั้งใจจะสังหารเพื่อนของนางอย่างแน่นอนมัน
เป็นไปได้ว่านางอาจถูกล่อหลวงด้วยกลวิธบี างอย่าง ด้วยความ
แข็งแกร่งของนางที่อยู่ในระดับจุดสูงสุดปราณจอมยุทธ์ขั้นหนึ่งแล้ว
นั้นแม้แต่หมิงเลี่ยนจะเข้าขัดขวางนางไม่ให้สังหารเด็กหนุ่มตรงหน้า
ก็คงนับได้ว่าเป็นเรื่องยาก

ตอนที่ 70
หมิงเลี่ยนเต็มไปด้วยความตะลึงค้างแม้ว่านางจะเตรียมใจไว้
แล้วมันคงเป็นเรื่องยากทีจ่ ะอธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับ
เพื่อนของนางฟัง แต่ในตอนนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนับว่าเลวร้าย
กว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้มาก
กะบี่ของหวางเฟนถูกนาออกมาจากแหวนมิติของนางอย่าง
รวดเร็ว แสดงให้เห็นว่านางจะความต้องการที่จะฆ่าฟันอย่างรุนแรง
แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่านางจะมีพลังมากกว่าหมิงเลี่ยนแต่มัน
ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเอาชนะหากนางไม่เอาจริงเสียแต่เริ่ม
หมิงเลี่ยนในตอนนี้แม้ว่าจะได้รับการพัฒนาพลังปราณแบบก้าว
กระโดด จนเหนือกว่าหวางเฟยไปแล้วเพียงแต่ว่าด้วยการร่วมรักที่
หนักหน่วงเกินไปของหลินหมิงที่แม้ว่านางจะได้นอนพักฟื้นร่างกาย
มาชั่วครู่ แต่อาการเหนื่อยล้าเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะไม่หายไปโดยง่าย
แม้ว่าหลินหมิงจะมีพลังปราณก่อเกิดขั้น 4 แล้วก็ตามแต่เขาก็
ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้สาหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับจอมยุทธ์ แม้ว่าเทียบความ
แข็งแกร่งแล้ว หวางเฟยอาจแข็งแกร่วพอๆกับลีเซี่ยนที่เขาจัดการ
ลงไป แต่เรื่องเหล่านั้นย่อมเป็นเพราะความประมาเกินไปของลี
เซี่ยน หากนางทุ่มสุดตัวเพื่อสังหารเขาดั่งเช่นหวางเฟยในตอนนี้มี
หรือที่เขาตะสามารถเอาชนะนางได้ ?
ขนาดเขารับมือเพียงแค่ฝ่ามือเดียวที่ไร้ซึ่งทักษะกระบวนท่า
หลินหมิงก็บาดเจ็บสาหัสมากแล้ว หลินหมิงจับทวนของเขาขึ้นมา
พร้อมกับพุ่งตัวไปรับมือกับหวางเฟย ด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่านของ
นาง หญิงสาวผู้นี้ไม่ได้มีการกักเก็บพลังไว้แต่อย่างใด พลังเต็มที่
ของผู้ที่พลังจอมยุทธ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่สามารถนามาล้อเล่นกันได้
เคร้งงง ! เคร้งง !
เสียงปะทะกันระหว่างกะบี่ของหวางเฟยและทวนของหลินหมิง
ดังขึ้นอย่างต่อเหนื่อง แรงกระแทกที่เกิดขึน้ จากการปะทะส่งผล
บริเวณมือทั้งสองข้างของหลินหมิงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ข้อมือ
ของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หลินหมิง
ไม่สามารถเทียบแรงกับหวางเฟยได้เลยแม้ว่าเขาจะใช้งานเพลิง
ทมิฬแล้วก็ตามที่
แต่มันก็ยังนับเป็นโชคดีของหลินหมิงอยู่บ้างนั้นเพราะว่าด้วย
ความโกรธของหวางเฟยนั้นทาให้การโจมตีของนางค่อนข้างคาด
เดาได้ง่ายและดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ใช้กระบวนท่ากะบี่ของนางใน
การโจมตีในสภาวะที่ขาดสติเช่นนี้ หมิงเลี่ยนมองเหตุการณ์ตรงหน้า
ด้วยสีหน้าปั้นยาก นางพยายามฝืนลุกร่างกายอย่างยากลาบาก
ความเจ็บปวดที่บริเวณระหว่างขายังคงส่งผลแม้วา่ จะผ่านมาเนิน
นานแล้วก็ตาม
" ข้าคิดว่าท่านคงมีเรื่องเข้าใจอะไรผิด... อั่กก ! "
" หุบปาก ! "
หลินหมิงพยายามกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่เสียเปรียบเช่นนี้
ตัวของหลินหมิงในตอนนีไ้ ม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถรับมือกับหวาง
เฟยไปได้อีกนานเพียงใด จากการที่ต้องรับมือกับนางมาเป็นเวลา
เพียงไม่นานมันก็แทบจะทาให้เรี่ยวแรงที่ถือทวนของเขาแทบจะ
หมดสิ้นลง แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของหลินหมิงจะไม่เป็นผลหญิง
สาวในตอนนี้ไม่รับฟังคาพูดใดๆของหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย
เป้าหมายเดียวของนางนั้นก็คือชีวิตของหลินหมิงเพียงเท่านั้น
ปังงงง !
เสียงฟาดกะบี่ของนางอย่างสุดกาลังปะทะเข้ากับทวนของ
หลินหมิงอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าคราวนี้มันจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่
ผ่านมา ร่างของหลินหมิงถูกส่งไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่
อยู่ด้านหลังเขาในตอนแรกหลายก้าวจนเป็นรอยแหว่ง หลินหมิงก
ระอั่กเลือดออกมาคาโตพร้อมกับอาการความเจ็บปวดจนแทบจะสิ้น
สติ
" ตาย ! "
ร่างของหวางเฟยพุ่งเข้ามาหาหลินหมิงด้วยความรวดเร็วเพื่อ
หวังปลิดชีวติ เขา สายตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเลือดเย็น
ปังง !
เสียงปะทะเกิดขึ้นเพียงแต่ว่าหนึ่งในนั้นไม่ได้เกิดขึนจากฝีมือ
ของหลินหมิงแต่เป็นหมิงเลี่ยนที่เข้ามารับการโจมตีแทนหลินหมิ
งร่างของนางถูกส่งให้ลอยไปไกลด้วยในสภาพของนางที่อ่อนแอ่
เช่นนี้แม้ว่าจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมา แต่นางก็ยังคงไม่
สามารถฝืนความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดจากการโจมตีของ
หวางเฟยได้จึงทาให้นางหมดสติลงไป
ทางด้านหวางเฟยนั้นใช่ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย นางรู้สึกจุก
พร้อมกับเลือดที่กาลังกองรวมกันภายในลาคอของนาง แต่ถึงอย่าง
นั้นนางก็ยังคงไม่มีความคิดที่จะล้มเลิกในการสังหารเด็กหนุ่มแต่
อย่างใด นางเงยหน้าเพื่อมองหาเป้าหมายเดิมของนางอีกครั้ง
"!"
แล้วนางก็ต้องแปลกใจเมือ่ นางพบว่าหลินหมิงในตอนนี้ได้พุ่ง
เข้ามาหานางเสียแล้วในจังหวะที่นางปะทะกับหมิงเลี่ยนอยู่นั้น เหตุ
ใดเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่คว้าโอกาศนั้นนี้ไปกันเล่า นางสัมผัสได้ถงึ ความ
แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเด็กหนุ่มคนนี้พุ่งเข้ามาหานางโดย
ปราศจากทวนของเขาเช่นในตอนแรก ที่บริเวณระหว่างนิ้วชี้และ
กลางของเขาถูกชี้มายังร่างของนาง
มันเป็นพลังที่ถกู ควบแน่นคลื่นพลังที่แผ่ออกมานั้นทาให้ลาง
สังหรณ์ของนางสั่นเตือนในทันที ' หลบ ' แต่ด้วยระยะขนาดนี้และ
อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมันคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะตอบสนองได้ทัน
กะบี่ของนางถูกยกขึ้นมากันเบื้องหน้าของเอาไว้ตามสัญชาติญาณ
[ ดรรชนีเพลิง ]
ทักษะนี้ค่อนข้างกินพลังปราณของหลินหมิงไปมาก แม้ว่าเขาจะ
ใช้ไปเพียงแค่สองครั้งแต่มันก็แทบจะทาให้พลังปราณในร่างของเขา
แห้งเหือดลงในทันที คลื่นพลังสีดาที่น่าหวาดหวั่นพุ่งเข้าหากะบี่
ของหวางเฟยที่เตรียมรับมืออยู่ก่อนแล้ว เมื่อพวกมันปะทะกันร่าง
ของหวางเฟยถูกส่งกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวและดูไม่มที ีท่าว่า
จะหยุดลงโดยง่าย
เลือดที่ตกค้างอยู่ที่ลาคอของนางในตอนแรกถูกส่งออกมาจาก
ปากของนางอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพูดถึงกาแพงปราณในตอนนี้
แม้แต่กะบี่ของนางก็เกรงว่าจะไม่สามารถรับมือกับพลังเช่นนี้ได้ไหว
ความรู้สึกแปลกใจและความโกรธเกี้ยวผสมกันจนทาให้นางแทบ
เป็นบ้า
" ย้าห์ ! "
น่าคารามออกมาพร้อมกับกะบี่ของนางที่ตวัดคลื่นพลังของ
หลินหมิงทิ้งไป สภาพของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
อย่างแท้จริง พลังปราณในร่างกายของนางลดลงจนอยู่ในระดับที่
อาจไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว ซึ่งมันทาให้กาแพงปราณของผู้ฝึก
ยุทธ์ระดับจอมยุทธ์อย่างนางหายไปด้วยเช่นเดียวกัน
แต่แล้วทันใดนั้นกลับมีฝา่ มือหนึ่งปะทะกับช่วงท้องของนางเข้า
อย่างจัง ร่างของนางถูกส่งถอยหลังพร้อมกับดวงตาของนางที่แทบ
จะปิดสนิท แต่นางยังคงเห็นร่างของเด็กหนุ่มทีก่ าลังเดินมาหานาง
ด้วยสภาพที่น่าสมเพชน้อยกว่านางสักเล็กน้อยเท่านั้น

ตอนที่ 71
แม้ว่าหลินหมิงจะได้รักษาบาดแผลจากการต่อสู้กับลีเซี่ยนใน
ตอนแรกมาก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นบาดแผลที่เกิดจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้น
จอมยุทธ์นั้นยังคงเป็นอะไรที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในทันที แล้ว
ในตอนนี้เขายังต้องได้รับบาดเจ็บจากการจู่โจมแบบบ้ากระหน่าของ
หวางเฟยอีก
ตามความเป็นจริงแล้วในความคิดของหลินหมิงนั้นหากหญิง
สาวผู้นี้ยอมรับฟังคากล่าวของเขาหรือแม้กระทั่งเพื่อนของนาง
อย่างหมิงเลี่ยนเรื่องราวทุกอย่างคงไม่จบเช่นนี้ ทั้งหมดนั้นเป็น
เพราะนิสัยของนาง ? หลินหมิงนั้นมีความคุ้นเคยกับอารมณ์ของ
พวกเหล่าชนชั้นสูงดี พวกคนเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะมี
อารมณ์ไม่ต่างจากหญิงสาวตรงหน้าเขามากนัก
อย่างเช่นแม่เทพธิดาน้อยอย่างหลิวฉวนยูร์ของเขาที่ในตอนแรก
นางยังเกือบวางแผนสังหารเขาได้ หรือกระทั่งผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เข้า
จู่โจมกลุ่มของหญิงสาวทัง้ ห้านี้แบบไม่มีการไต่ถาม ซึ่งถ้าพูดกัน
ตามความจริงแล้วมันต้องเป็นนางที่เป็นคนผิดที่ลงมือก่อนแต่ถงึ
อย่างนั้นในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสินผิดถูก
หวางเฟยมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาเคียดแค้นหากหมิงเลี่ยน
ไม่ได้ทาการจู่โจมในจังหวะที่นางไม่คาดฝันแน่นอนว่าเขาที่ต้องนอน
หมดสภาพเช่นนี้ย่อมไม่ใช่นางอย่างแน่นอน แม้ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
ได้ทาการหลอกหลวงเพื่อนสาวของนางด้วยวิธีใด จากเดิมที่กลุ่ม
พวกนางนั้นทุกคนล้วนเป็นสตรีที่ค่อนข้างเกลียดเหล่าบุรุษแต่นี้
เพื่อนของนางกลับเข้าช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนนี้โดยที่ตัวเองยอมได้รับ
บาดเจ็บ ?
" เฮ้ออ ~ "
หลินหมิงถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนพร้อมกับ
เสื้อผ้าของเขาที่ค่อยถูกปลดออกทีละชิ้น หวางเฟยที่กับตาเบิกกว้าง
เมื่อเห็นการกระทาของหลินหมิง แม้ว่านางจะเป็นสาวบริสุทธ์อยู่แต่
นางก็พอจะเข้าใจความหมายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับนางในอนาคต
อันใกล้นี้
" จะ...เจ้า ! "
นางกล่าวออกมาอย่างยากลาบากลาพังเรี่ยวแรงของนาง
ในตอนนี้แค่เพียงทาการพูดกล่าวยังคงไม่สามารถทาได้อย่างถนัด
นัก หลินหมิงนั้นไม่อยากเสียเวลามากนักแน่นอนว่าที่เขาต้องทา
เช่นนี้นั้นก็เพราะว่าเขาต้องการรักษาอาการบาดเจ็บส่วนตัวของเขา
ด้วยส่วนหนึง่ อีกทั้งการที่เขาทาการร่วมรักกับนางนั้นอาจเป็น
หนทางที่จะทาให้นางยอมรับเขาดั่งเช่นหมิงเลี่ยนก็เป็นได้
หลินหมิงนามือไปลูบไล้เรือนร่างของหญิงสาวที่มีความงาม
คล้ายกับหมิงเลี่ยน แต่ดว้ ยนิสัยของนางนั้นมันทาให้หลินหมิงคิดว่า
หวางเฟยนั้นยังคงมีเสน่หน์ ้อยกว่าหมิงเลี่ยนสักเล็กน้อย ร่างของ
นางสั่นไหวพร้อมกับทาการพยายามฝืนตัวขยับร่างกายให้ห่างจาก
หลินหมิง โดยที่มันเป็นไปไม่ได้
" อะ...เอา..ออกไป "
หน้าอกของนางนั้นถูกบีบคลึงโดยมือของหลินหมิงอย่างบ้าคลั่ง
นางไม่เคยต้องรู้สึกอับอายเท่านี้มาก่อนในชีวิตร่างของเด็กหนุ่มที่
นางแสนจะเกลียดชั่งขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้อีกทั้งริมฝีปากของ
เขากาลังเข้าโลมเลียไปที่ซอกคอของนางราวกับว่ามันเป็นอาหาร
จารโอชะ
" มะ..ไม่..อย่า... "
อุณหภูมิในร่างกายของหวางเฟยค่อยๆร้อนขึ้นมาโดยที่นางเองก็
ไม่ทันรู้ตัวพร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นภายในใจ
ของนางเอง แม้ว่านางจะพยายามขัดขืนอย่างเต็มความสามารถแต่
ด้วยสภาพของนางในตอนนี้นั้นมันเพียงพอให้นางทาได้แค่ส่งเสียง
ออกมาเท่านั้น
มือข้างหนึ่งของหลินหมิงละออกจากหน้าอกของหวางเฟยพร้อม
กับเคลื่อนไหวไปตามร่างกายไปยังส่วนลับของหญิงสาวที่ไม่เคย
เปิดเผยต่อผู้ใด นิ้วมือของหลิมหมิงเข้าทาการเขี่ยบริเวณปากถ้าที่ดู
เหมือนว่าในตอนนี้นางเองก็เริ่มจะมีอารณ์ขึ้นมาเพราะหลินหมิง
สามารถสัมผัสได้ถงึ น้ารักของหญิงสาวที่กาลังแฉะเยิ้มอยู่ที่ร่อง
สวาทของนาง
" ถึงปากท่านจะกล่าวไม่..แล้วเหตุใดที่ส่วนนี้ของท่านจึงเป็น
เช่นนี้เล่า "
" ไม่...ข้าไม่ร.ู้ ...ออกไปจากตัวข้า "
" อ้าาา ~~~ ไม่...อย่าจับ....อ้าาา "
ในที่สุดหวางเฟยนางก็เริ่มทนไม่ไหวต่อการเล้าโลมของหลินหมิ
งเสียงครางอันแสนเซ็กซีอ่ อกมาจากปากของหญิงสาวผิดกับในตอน
แรก ใบหน้าของแดงซ่านอาจด้วยความอายหรืออาจเป็นความโกรธ
เสื้อผ้าของนางค่อยๆถูกปลดออกทีละชิ้นเพื่อให้หลินหมิงได้เฉยชม
สาหรับตัวของหวางเฟยนั้นหลินหมิงคิดว่าเขาคงอาจจะไม่
สามารถปราบพยศแม่สาวคนนี้ได้ดั่งเช่นหมิงเลีย่ น ด้วยนิสัยของ
นางที่แสดงออกมานั้นนางมีความเกลียดต่อบุรุษมากจนเห็นได้ชัด
" อื้ออออออ~~~~~~ จ๊วบบบบบ อ้าาาา ~~~~~ "
หลินหมิงก้มลงประกบปากของหวางเฟยอย่างเร้าร้อนสัมผัสนิ่ม
นวลที่ริมฝีปากของหญิงสาวนั้นทาให้อารมณ์ของหลินหมิงพลุ
พล่านขึ้นมาเรื่อย ด้วยการที่มันเป็นประสบการณ์เพียงครั้งแรกของ
นาง หวางเฟยไม่อาจตอบสนองต่อการรุกล้าของหลินหมิงได้ ลิ้น
ของหลินหมิงที่ส่งเข้ามาภายในปากของนางเข้าทาการผัวพันลิ้น
ของนางจนนางไม่อาจตามได้ทัน
ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างกาลังจ่ออยู่ที่ปล่อง
ทางเข้าร่องสวาทของนาง โดยไม่ต้องใช้ความคิดอื่นแต่อย่างใดนาง
สามารถจินตนาการได้ในทันทีว่าสิ่งทีก่ าลังจ่ออยู่นี้คืออะไร นาง
พยายามดิ้นอย่างสุดแรงแต่ด้วยรสจูบของเด็กหนุม่ ผู้นี้มันกลับทาให้
เรี่ยวแรงของนางพลันหายไปเสียยิ่งกว่าเดิม
" ม่ายยยยยยยยยยยยย~~~~~~~~~~ "
เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากร่องสวาทแสดงให้เห็นถึงความบ
ริสุทธ์ของนางที่ได้ถกู ช่วงชิง ทวนมังกรของหลินหมิงที่เข้ามาสู่ตัว
นางนั้นไม่เพียงทาให้นางรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเพียงเท่านั้นแต่
ภายในใจของหวางเฟยนั้นก็ราวกับถูกค้อนทุบบดละเอียดไป
เช่นเดียวกัน
สัมผัสอบอุ่นที่บริเวณร่องสวาทของสาวบริสุทธ์นั้นเป็นอะไรที่
ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งมันยังเป็นความบริสุทธ์ของสาว
งามที่บุรุษทั่วอาณาจักรต่างอยากได้มาครอบครอง หลินหมิงที่เสียบ
ทวนมังกรของเขาเข้าไปภายในร่องสวาทของหวางเฟยอย่างลาบาก
กาลังเสพสุขกับร่องของหญิงสาวที่ทาการตอบรับเข้าดียิ่งกว่า
เจ้านายของมัน
ร่องสวาทของนางสั่นกระตุกพร้อมกับเกิดการขยายตัวและหด
ตัวเป็นจังหวะ พร้อมกับเสียงครางอ่อนๆของนางหลินหมิงค่อยทา
การแทงทะลวงเข้าไปพร้อมกับพรหมจูบหญิงสาวไปด้วย เรี่ยวแรง
ที่เคยพยายามขัดขืนในตอนนี้หายไปหมดสิ้น
ร่างกายของนางราวกับไม่ใช่ของนางอีกต่อไปแม้วา่ นางจะมี
ความรู้สึกโกรธเกลียดการกระทาของหลินหมิงเป็นอย่างมาก แต่
ความรู้สึกสุขสมที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ก็เป็นอะไรที่นางไม่
สามารถปฎิเสธไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน
หลินหมิงค่อยๆทาการขยับสะโพกไปอย่างช้าๆเนื่องจากขนาด
ร่องสวาทของหวางเฟยนั้นยังคงคับแน่นอยู่มากแม้ว่าหลินหมิงจะ
ขยับอย่างช้าๆมันก็เพียงพอที่จะทาให้เขาเพลิดเพลินกับมันจนแทบ
จะสามารถจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา แต่ทางฝั่งของหวางเฟย
นั้นนางไม่สามารถอดกลัน้ อารมณ์เอาไว้ได้น้ารักของหญิงสาวไหล
ออกมาเป็นจานวนมากในในขณะที่นางกาลังโดนข่มขืนเช่นนี้

ตอนที่ 72
ร่องสวาทของหวางเฟยที่กาลังถูกจู่โจมอย่างโหด้ายด้วยทวน
มังกรขนาดผิดธรรมดาของหลินหมิงฉีกขาดจนเลือดอาบ หวางเฟ
ยนางได้แต่ส่งเสียงครางออกมาพร้อมกับศรีษะของนางเองที่ส่ายไป
มาอย่างไม่เป็นจังหวะมันยากที่จะยอมรับว่าการกระทาของเด็กหนุ่ม
ผู้นี้มันสามารถสร้างความรู้สึกสุขสมแบบที่นางไม่เคยได้สัมผัสมา
ก่อน
หลังจากผ่านไปเนิ่นนานจิตใจของหวางเฟยแล้วเริ่มการ
เปลี่ยนแปลงเสียงครางจากในตอนแรกของนางที่พยายามข่มกลั้น
เอาไว้กลายเป็นเสียงครางที่ออกมาจากปากของนางเองอย่าง
สุดเสียง ความเจ็บปวดทุกอย่างล้วนค่อยๆจางหายไปแต่มันกลับ
แทนที่ด้วยความเสียวซ่าน
" แม่สาวร่านสวาทแม้เจ้าจะกล่าวปฎิเสธข้าอยู่ตลอดแต่เหตุใด
ร่องสวาทของเจ้าถึงได้ตอดรัดข้าแน่นยิ่งขึ้นเช่นนี้กัน "
ปัป ปัป ปัป
หลินหมิงกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงล้อเลียนเมื่อเขาหวนนึก
สภาพในตอนแรกที่เขาได้เจอกับนาง คงไม่มีใครคาดคิดว่าหญิงสาว
ที่มีท่าทีเช่นนั้นกาลังนอนอ้าขารับความสุขจากบุรุษที่นางต้องการ
จะสังหารเช่นนี้ ตาของนางเริ่มพร่ามั่วจากการจู่โจมของหลินหมิง
จนแทบสิ้นสติหากไม่เป็นเพราะว่าหลินหมิงได้ทาการกระตุ้นไม่ให้
นางได้หมดสติไปนั้นนางคงหลับไปเสียตัง้ นานแล้ว
หลินหมิงหลังจากที่สอดใส่ทวนมังกรของเขาใส่ร่องสวาทของ
หวางเฟยเป็นเวลาก็ได้เวลาที่เขาจะทาการปลดปล่อยน้ารักเข้าสู่
ภายในตัวของหญิงสาว ตาของหวางเฟยเหลือกขึ้นทันทีหลังจาก
ได้รับน้ารักจานวนมากของหลินหมิงสัมผัสอุ่นภายในท้องเป็นเครื่อง
แสดงให้เห็นชัดเจนว่านางได้ตกเป็นของบุรุษหนุ่มคนนี้ไปเสียแล้ว
หวางเฟยหลังจากที่นางได้รับน้ารักของหลินหมิงไปนั้นนางก็ได้
หมดสติลงไป เมื่อนางตืน่ ขึ้นมาก็พบว่าอาการบาดเจ็บตามร่างกาย
ของนางนั้นล้วนหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของนั้นเป็น
เครื่องตอกย้าเป็นอย่างดีว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความฝัน
" อ้า อย่างนั้นแหละ..ท่านทาได้ดีมากใช้ลิ้นเลียไปด้วย "
ภาพที่อยู่ตรงหน้าของนางในตอนนี้ก็คือหมิงเลี่ยนเพื่อนสาวของ
นางกาลังใช้ปากของตนเองเขาทาการโลมเลียทวนมังกรของบุรุษ
อย่างหื่นกระหาย นางไม่เคยเห็นหรือได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนแม้ว่า
ในตอนแรกนางจะคิดว่าเพื่อนของนางนั้นอาจโดนบุรุษหนุ่มคนนี้ขืน
บังคับแต่เมื่อดูจากสีหน้าแล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
ใบหน้าของหมิงเลี่ยนในตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขแบบที่นาง
เองที่เป็นเพื่อนยังไม่เคยได้เห็นมาก่อน
" ข้าจะเสร็จแล้ว ~~~~~~~ "
" อ้าาา ~~~~~ มันช่างเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยม "
หมิงเลี่ยนนางดูดกลืนน้ารักของหลินหมิงที่นางอุตสาเป็นคนรีด
เร้นออกมาอย่างลาบากจนหมดเกลี้ยงแม้ว่านี้จะเป็นครั้งแรกที่นาง
จะต้องทาอะไรเช่นนี้ก็ตาม สัมผัสน้ารักของหลินหมิงที่อยูภ่ ายใน
ลาคอของนางทาให้ร่างกายของนางร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้งหากไม่ติด
ว่านางยังคงมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณร่องสวาทอยู่รวมถึงการที่มี
เพื่อนๆของนางนอนรายล้อมไม่ได้สติอยู่นางคงขอให้หลินหมิงช่วย
ปลดเปลื้องอารมณ์ของนางไปอีกรอบแล้ว
" ดูเหมือนว่าเพื่อนของท่าน จะได้สติแล้วนะ "
หมิงเลี่ยนได้ยินคากล่าวของหลินหมิงก็หันไปพบกับหวางเฟ
ยที่มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ หมิงเลี่ยนนางเป็นคน
เดินเข้าไปคุยกับหวางเฟยตามที่ได้คุยกันกับหลินหมิงเอาไว้ แม้ว่า
หากกล่าวตามความจริงฝ่ายที่เป็นฝ่ายผิดนั้นจะเป็นฝ่ายเด็กหนุ่มที่
ผู้อาวุโสของเขาเข้าโจมตีก่อน แต่แล้วอย่างไรเล่าในเรื่องนี้เขาไม่ได้
เป็นคนเห็นด้วยกับมันเสียหน่อย
หลินหมิงเคลื่อนตัวมาพร้อมกอดร่างของหญิงสาวทั้งสองเอาไว้
ทั้งสองข้าง ก่อนหน้านี้หมิงเลี่ยนนั้นได้รู้เรื่องที่หลินหมิงได้ทาการ
ร่วมรักกับเพื่อนสาวขอนางแล้วแต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความ
โกรธต่อเขาที่ลงมือข่มขืนเพื่อนของนาง ใบหน้าของหมิงเลี่ยนเต็ม
ไปด้วยความสุขยามอยู่ในอ้อมกอดของหลินหมิง แตกต่างจากหวาง
เฟยที่พยายามดิ้นด้วยแรงเล็กน้อยราวกับว่านางเองก็ไม่ได้ต้องการ
จะจากอ้อมกอดเด็กหนุ่มคนนี้ไป
เกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมาแม้ว่ามันจะเป็นไปตามความจริงดังที่หมิง
เลี่ยนว่าแต่ตามแผนการณ์ที่หัวหน้าของพวกนางวางไว้คือการ
จับกุมตัวเด็กหนุ่มคนนี้เพื่อเข้าทาการต่อรองกับผู้อาวุโสสาวของเขา
แต่นี้มันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่พวกนางแยกจากกับหัวหน้าอาจ
เป็นไปได้ว่าการต่อสู้นั้นคงจะจบไปแล้ว
ฉีหลิน - หวางเฟย - ลีเซีย่ น - หมิงเลี่ยน

" รู้ไหมที่จริงแล้วท่านไม่จาเป็นต้องเสี่ยงอันตรายอย่างการเข้า
มายังป่าแห่งนี้เพื่อแสวงหาสมบัติในการพัฒนาตนหรอกนะ "
หวางเฟยเหงยนางมองหลินหมิงด้วยความสนใจซึ่งมันตรงกับ
ที่หมิงเลี่ยนได้กล่าวเขาฟังเอาไว้ แม่หญิสาวร่านสวาทผู้นี้นั้นสิ่งที่
นางสนใจมีเพียงแสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าบุรุษดังนั้นแล้ว
นางจึงเป็นคนที่แสวงหาความแข็งแกร่งอย่างไม่สิ้นสุด
" แค่เพียงท่านมาเป็นสตรีของข้าแค่เท่านั้น "
" เจ้าคิดว่าข้าโง่เช่นนั้นรึ "
ประโยคต่อมาทาให้หวางเฟยถึงกับตั้งสติได้เด็กหนุม่ คนนี้คิดว่า
นางโง่หรืออย่างไร แม้ว่านางจะเป็นฝ่ายเสียความบริสุทธ์ให้แก่เขา
ไปแต่มันใช่ว่านางจะยอมเป็นสตรีของเขาแต่โดยง่าย ด้วยสถานะ
และความงามของนางนั้นมีบุรุษมากด้วยฐานะจานวนมากที่พร้อม
จะสนับสนุนความแข็งแกร่งของนางให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นโดยแลกกับ
การได้นางเป็นภรรยา แล้วเช่นนั้นเด็กหนุ่มเช่นเขาจะสามารถ
เปรียบเทียบกับพวกเขาเหล่านั้นได้ ?
หลินหมิงใช้มือข้างที่อ้อมกอดหวางเฟยกระชับร่างของหญิงสาว
ให้แนบชิดติดตัวเขามากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าหลินหมิงพอจะเข้า
ความคิดอ่านของนางอยู่บ้าง
" งั้นท่านลองตรวจสอบสตรีของข้า โอ้ไม่สิเพื่อนของท่านดูสิ "
หมิงเลี่ยนขวยเขินเล็กน้อยเมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงหัวใจ
ของนางในตอนนี้มอบให้เด็กหนุ่มผูท้ ี่นางเพิ่งเคยเห็นนางครั้งแรกไป
แล้วอย่างหมดใจ
เมื่อหวางเฟยลองตรวจสอบพลังของหมิงเลี่ยนตามคาแนะนา
ของหลินหมิงนั้นนางก็พลันตื่นตระลึงแน่นอนว่านางย่อมรู้
ความสามารถของเพื่อนสาวนางเป็นอย่างดี หมิงเลี่ยนที่เพิ่งจะก้าว
ขึ้นมาในระดับปราณจอมยุทธ์ระดับ 1 แต่ตอนนี้นางอยู่ในระดับสอง
แล้ว มันแตกต่างจากการพัฒนาด้วยทรัพย์สมบัติไปอย่างสิ้นเชิง
เพราะการใช้สิ่งของเหล่านั้นแม้ว่าจะพัฒนาความแข็งแกร่งได้แต่
พื้นฐานของพวกเขาจะไม่มั่นคง
แต่กับหมิงเลี่ยนในตอนนีก้ ล่าวได้ว่าพื้นฐาน โครงสร้างพลัง
ปราณในร่างกายของนางดีเยี่ยมเสียยิ่งกว่าคนที่มีพลังปราณจอม
ยุทธ์ในระดับเดียวกันมาอย่างยาวนาน แม้แต่นางก็ยังคงไม่สามารถ
เปรียบเทียบได้
" ไม่จริง.. "
" ท่านเองก็เช่นเดียวกัน "
ไม่รอช้าหวางเฟยนางรีบทาการตรวจสอบพลังในร่างกายของ
นางโดยทันที พลังปราณของข้ากาลังพัฒนา ? หัวใจของนางเต้นระ
รั่วไปด้วยความตื่นเต้น แม้ว่านางจะไม่เชื่อคากล่าวของเด็กหนุ่มใน
ตอนแรกแต่เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งที่ถูกพัฒนาขึ้นของหมิงเลี่ยน
และตัวนางเองมันจึงไม่สามารถที่นางจะกล่าวปฎิเสธได้ แม้ว่านาง
จะยังคงมีพลังปราณจอมยุทธ์ระดับ 1 อยู่แต่ในตอนนี้มันกาลัง
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็วอีกไม่นาน นางคงสามารถ
ก้าวทะลวงเข้าสู่ปราณจอมยุทธ์ระดับ 2 ได้อย่างแน่นอน
หากเป็นสถานการณ์ปกตินางอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือ
กระทั่งเป็นปีเพื่อก้าวมาสูจ่ ุดนี้ กระทั่งทรัพย์สมบัติวิเศษทั้งหลายก็
ไม่เคยปรากฎว่าจะมีสิ่งใดที่สามารถทาได้ถึงเพียงนี้ ตาของหวาง
เฟยเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ถูก
พัฒนาขึ้นมันสามารถบ่งบอกได้ว่าขอบเขตในอนาคตของนาง
ในตอนนี้ถูกเปิดกว้างออกจนอาจจะเหนือกว่าหัวหน้าของนางก็
เป็นไปได้ในอนาคต
" นี้เจ้าจะทาอะไร ! "
หวางเฟยตื่นจากภวังค์ความคิดเมื่อนางสัมผัสได้ถงึ มือข้างหนึ่งที่
กาลังลุกล้าที่หน้าอกของนาง นางแทบอยากจะทุบตีเจ้าเด็กหนุ่มผู้
นี้ให้ตายคามือ แต่เมื่อคิดดูแล้วความแข็งแกร่งของนางที่พัฒนาขึ้น
มาได้นั้นล้วนเป็นเพราะเขานางจึงยังคงยั้งมือเอาไว้ก่อน
" แล้วเจ้าไม่คิดจะตอบแทนสามีของเจ้าบ้างเลยรึ "
เสื้อผ้าของนางที่เพิ่งถูกสวมใส่ถูกปลดออกอีกครั้งพร้อมกับทวน
มังกรของหลินหมิงที่จ่อเข้าร่องสวาทของนางทุกชั่วขณะ หวางเฟย
บ่นอุบออกมาโดยที่จงใจให้หลินหมิงได้ยินเขาเพิ่งทาการจู่โจมนาง
ไปไม่นาน อีกทั้งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพื่อนของนางเองก็คงไม่ต่างกัน
แล้วเหตุใดเขาจึงมีอารมณ์เหลือมากล้นขนาดนี้ได้กัน ?
นางรู้สึกว่าถึงนางขัดขืนเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ไปก็คงไม่มีความหมาย
ใด สู้นางฝืนใจรับความสุขที่เด็กหนุม่ คนนี้สร้างสมให้แก่นางไม่
ดีกว่าเช่นนั้นหรือ และนางคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
เป็นสามีของนางอย่างแท้จริงไม่เพียงแต่เขาจะสามารถเปิดอนาคต
อันไร้ขอบเขตในการฝึกตนให้แก่นางได้แต่ทักษะการสร้างความสุข
ของเขาช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่า
หลินหมิงก้มลงไปยังบริเวณส่วนลับของหญิงสาวเผยให้เห็กลีบ
บัวสีชมพูอ่อนที่ยังคงเปราะเปรื้อนคราบเลือดสีแดงสดสักเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงส่งกลิ่นที่นางเฉยชมออกมาให้หลินหมิงได้
สัมผัส หลินหมิงแหวกขาของหวางเฟยออกพร้อมกับลิ้นของเขาที่
ตวัดโลมเลียร่องสวาทของนางอย่างหื่นกระหาย
" อูยยย ซี๊ดดดดดด จะ...เจ้า..ทาอะไร....อ๊าาาาา มันสกปรก
อ๊าาาาาา "
ทั่วร่างของหวางเฟยสั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่าน เดิมที
แล้วบุรุษนั้นไม่ควรทาสิ่งที่ไม่สมควรเช่นนี้กับเหล่าสตรีไม่ใช่หรือ
หากเป็นบุรุษโดยทั่วไปนัน้ พวกเขาล้วนมองเหล่าสตรีเป็นเพียงที่บา
เร่อกามไม่ต้องพูดถึงการใช้ลิ้นของเด็กหนุ่มทีก่ าลังทาให้นางอยู่
ในตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นนางที่มีความงามไม่น้อยหน้าใครแต่หากนาง
เอยปากบอกให้เหล่าบุรุษกระทาการโลมเลียร่องสวาทของนาง
เช่นนี้มันก็คงไม่มีใครคิดจะทาเช่นกัน
" เป็นอย่างไรบ้างภรรยาข้า "
" ยะ ยอดเยี่ยมที่สุดเลย สามีข้า อ๊าาาาาาา ~~~~~~~~~ "
หวางเฟยกล่าวตอบหลินหมิงไปในทันทีในตอนนี้นางคิดว่านาง
คงไม่สามารถคาดเด็กหนุ่มคนนี้ไปได้อีกแล้ว ทางด้านหมิงเลี่ยนเมื่อ
เห็นหลินหมิงสนุกกับเพื่อนของนาง นาเองก็ทาการแหวกขาออก
เผยให้เห็นร่องสวาทสีชมพูอ่อนไม่ต่างจากหวางเฟยเพื่อให้หลินหมิง
ได้เฉยชมเช่นเดียวกัน
" ท่านพี่ได้โปรดทามันกับข้าด้วย ~~~~~ "
หมิงเลี่ยนนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงออดอ้อน ซึ่งหลินหมิ
งเองก็ไม่ขัดใจนางอยู่แล้วหลินหมิงทาการตวัดลิ้นโลมเลียร่องสวาท
อันงดงามของหญิงสาวทัง้ สองสลับไปมาจนพวกนางระเบิดน้ารัก
ออกมาเป็นจานวนมากแล้วจากนั้นเป็นทางฝั่งของหวางเฟยที่ดูด
เหมือนว่านางไม่สามารถระงับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไปนางพุ่ง
ขึ้นคร่อมร่างหลินหมิงพร้อมกับเสียบทวนมังกรของหลินหมิงเข้ายัง
ไปตัวของนาง
ผ่านไปเนิ่นนานในตอนนี้หลินหมิงหลับพร้อมกับร่างกายของ
หวางเฟยและหมิงเลี่ยนทีเ่ ปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข พวก
เขาตัดสินใจพักกันสักเล็กน้อยในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าร่างของหญิง
สาวทั้งสองคือ ฉีหลิน และลี่เซี่ยนที่หมดสติไปดูเหมือนว่าพวกนาง
จะได้สติขึ้นมาแล้ว

ตอนที่ 73
ฉีหลินหมิงมองไปยังหวางเฟย และหมิงเลี่ยนที่ยงั คงอยู่ในอ้อม
กอดของบุรุษแปลกหน้าด้วยความประหลาดใจ แต่ลีเซี่ยนนั้นนาง
กลับแปลกใจยิ่งกว่าในก่อนหน้าที่นางจะหมดสติไปไม่ใช่ว่านางสู้
เอาเป็นเอาตายกับบุรุษหนุ่มคนนี้ไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดในตอนนี้
เพื่อนของนางทั้งสองคนถึงได้มีปฎิกริยาเช่นนี้กับเด็กหนุ่มคนนี้ได้
กัน
ทางฝั่งของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยนั้นนางรีบเข้าไปอธิบาย
เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหญิงสาวทัง้ สองมีท่าทีแปลก
ใจเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหมิงเลี่ยนและ
หวางเฟยจะเล่าเกี่ยวกับบทเพลงรักของเขาเสียมากกว่า ใบหน้า
ของหญิงสาวทั้งสองคนนั้นเต็มไปด้วยสีแดงระเรื่อ
ด้วยความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันระหว่างหญิงสาวของพวกนางนั้น
ทาให้หมิงเลี่ยนและหวางเฟยสามารถกล่าวออกไปได้อย่างไม่ขวย
เขินมากนัก ในความเป็นจริงแล้วพวกนางทั้งสองย่อมต้องการให้ฉี
หลินและลีเซี่ยนได้ทาการร่วมรักกับหลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน แต่
นางก็เข้าใจดีว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักด้วยสิ่งล่อลวงอย่างจาก
พัฒนาขอบเขตพลังปราณหลังจากร่วมรักกับเด็กหนุ่มนั้นแม้ว่ามัน
จะล่อตาล่อใจพวกนางทั้งสองเพียงแต่ว่ามันย่อมแลกมาด้วย
ความบริสุทธ์ของพวกนางเช่นเดียวกัน
และอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือท่วงท่าบรรเลงเพลงรักของเด็กหนุ่มผู้นี้
ที่เพื่อนของนางทั้งสองเล่ากล่าวด้วยความตื่นเต้นและความสุขเสีย
ยิ่งกว่าในประเด็นแรก ใบหน้าของหมิงเลี่ยน และหวางเฟยนั้นราว
กับว่าพวกนางได้ขึ้นไปเสพสุขบนสรวงสวรรค์มาแล้วนั้นทาให้ทั้งฉี
หลิน และลีเซียนสับสนไปหมด
ถ้าหากเป็นเพียงเฉพาะหมิงเลี่ยนนั้นพวกนางคงไม่มีความลังเล
เท่านี้เพราะว่าภายในกลุ่มของพวกนางนั้นอาจกล่าวได้ว่าหมิงเลี่ยน
นั้นมีความเกลียดชังต่อบุรุษน้อยที่สุด กลับกันแล้วหญิงสาวทีม่ ี
ความเกลียดชังต่อบุรุษมากที่สุดย่อมเป็นหวางเฟยที่กาลังบรรยาย
ความสุขที่นางได้รับด้วยสีหน้าภูมิใจ
เนื่องจากในตอนนี้อาการของฉีหลินและลีเซียนรวมถึงหวางเฟย
นั้นดีขึ้นมาแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจออกตามหาหัวหน้าสาวของพวก
นางกับผู้อาวุโสฟางซิ่น ที่แขนสองข้างของหลินหมิงที่ประกบไป
ด้วยร่างของหญิงสาวสองคนนั้นก็คือหวางเฟยและหมิงเลี่ยนอย่าง
แนบชิดจนกระทั่งตัวหลินหมิงเองยังรู้สกึ อายไม่ใช่น้อย โดยมีลีเซียน
และฉีหลินเหลือบมองการกระทาทุกอย่างด้วยใบหน้าแดงระเรื่อทั้ง
คู่
เมื่อพวกเขามาถึงยังจุดทีไ่ ด้แยกจากกับผู้อาวุโสฟางซิ่นและ
หัวหน้าของกลุ่มหญิงสาว พวกเขาสามารถเห็นร่องรอยการปะทะ
การต่อสู้ของผู้ที่พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดนั้นช่างเป็นอะไรที่
เลวร้ายเกินกว่าที่หลินหมิงคาดการณ์เอาไว้มาก ต้นไม้หลายสิบต้น
ถูกหักโค่นลงมาราวกับพวกมันเป็นเพียงกิง่ ก้านของใบอ่อนอย่างใด
อย่างนั้น
พื้นที่ป่าโดยรอบราวกับว่าเพิ่งเกิดศึกสงครามระหว่างกองทัพ
ขนาดย่อมๆ เพียงแต่ไม่ได้มซี ากศพเหล่าทหารประดับเอาไว้เพียง
เท่านั้น แม้แต่กลุ่มของหญิงสาวทัง้ สี่นี้พวกนางยังต้องอึ้งกับภาพ
ตรงหน้าที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าพวกนางไม่ได้รับรู้ถึงความสามารถของ
หัวหน้าพวกนางเพียงแต่ว่าพวกนางไม่เคยเห็นหัวหน้าต้องลงมือ
หนักถึงเพียงนี้
เพียงแค่มองซากจากบริเวณการต่อสู้นี้มันก็เพียงพอให้พวกเขา
จินตนาการได้ว่าหากพวกเขาคนใดคนหนึ่งยังอยู่ในบริเวณในยามที่
ปีศาจทั้งสองตนนี้กาลังสูก้ ันชีวิตของพวกเขาคงไม่ได้ต่างไปจาก
ใบไม้ที่พร้อมถูกลมแรงปลิวพัดให้หายไปได้อย่างง่ายดาย
หลินหมิงพลันได้ยินเสียงฝีเท้าตรงมาที่พวกเขาด้วยความเร็วที่
น่าตกใจ ไม่ต้องสงสัยว่าคนที่กาลังมาหาพวกเขาในตอนนี้ย่อมเป็น
หนึ่งในสองปีศาจที่สร้างมหันตภัยนี้ขึ้น แต่หลินหมิงอวยพรในใจให้
เป็นหัวหน้าของเหล่ากลุม่ หญิงสาวเสียมากกว่า เพราะว่าอย่างน้อย
หัวหน้าของพวกนางยังคงต้องเชื่อฟังคากล่าวของหญิงสาวทั้งสี่อยู่
บ้าง
เทียบกันแล้วหากเป็นผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าคา
กล่าวของเขาจะมีผลหรือไม่นางคงพุ่งเข้าจู่โจมสังหารหญิงสาวทั้งสี่
คนนี้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องไต่ถามแต่อย่างใด หลินหมิงเร่งพลัง
ปราณขึ้นมาพร้อมนาตัวมายืนบังหน้าหญิงสาวทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
ลี่เซียนและฉีหลินมองการกระทาของหลินหมิงด้วยความแปลก
ใจแน่นอนว่านางย่อมรู้ถึงความคิดและการตัดสินใจเช่นนี้ของหลินห
มิงอยู่บางส่วน ในใจของพวกนางทั้งสองเริ่มมองบุรุษหนุ่มคนนี้ไป
ในแนวทางที่ดีขึ้นมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่พวกนางจะสามารถหา
บุรุษที่มีความแข็งแกร่งที่เหนือล้า
แต่มันยากตรงที่ว่าบุรุษเหล่านั้นล้วนปราถนาเพียงร่างกายของ
พวกนางเพียงเท่านั้น พวกเขาไม่ยินดีที่จะยอมสูญเสียชีวิตของตน
เพื่อเข้าแลกดังเช่นเด็กหนุ่มตรงหน้าพวกนางนี้อย่างแน่นอน
นับว่าฟ้ายังคงเป็นใจอยู่บ้างเมื่อร่างที่ปรากฎขึ้นนั้นเป็นร่างของ
หัวหน้ากลุ่มของเหล่าหญิงสาวที่อยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อน พร้อมกับ
บาดแผลตามร่างกายของนางอยู่แทบทุกหนแห่ง เสื้อผ้าของนางนั้น
มีบาดส่วนที่ขาดหลุดไปจนเผยให้เห็นผิวขาวเรียบเนียนชวนสัมผัส
ถึงแม้ว่านางจะมีอายุมากแล้วก็ตามที่
ฟ่งซื่อเซียนหรือหัวหน้ากลุ่มของหญิงสาวมองไปทีส่ มาชิกใน
กลุ่มนางด้วยสีหน้าแปลกใจ แน่นอนว่าตามแผนการณ์ที่นางได้วาง
เอาไว้นั้นนางได้สั่งให้นาตัวของหลินหมิงมเพื่อทาการต่อรองกับ
หญิงสาวที่แข็งแกร่งเสียยิง่ กว่าปีศาจคนนั้น ด้วยความแข็งแกร่ง
ของนางที่ยังคงเป็นรองเล็กน้อยนางยังคงคาดว่านางจะสามารถ
ต่อสู้กับหญิงสาวคนนั้นได้อย่างพอสูสีอยู่บ้างด้วยความมั่นใจในกล
ยุทธ์และทักษะ
แต่มันกลับกลายเป็นว่าตัวนางนั้นยังคงด้อยกว่าทุกกระบวนท่า
ไปเสียอย่างนั้น ยังดีที่นางยังคงพอรับมือได้อยู่บ้างแต่มันก็เป็นเพียง
การต่อสู้เพื่อประหวิงเวลาให้เหล่าสมาชิกของนางทาการจับกุมตัว
เด็กหนุ่มมา แต่คาดไม่ถึงว่าสมาชิกของนางกลับต้องใช้เวลานานถึง
เพียงนี้แล้วอีกทั้งในตอนนี้สมาชิกของนางสองคนยังคงกอดรัดแขน
ของหนุ่มเอาไว้ราวกับของรักของห่วง ?

ตอนที่ 74
" นี้มันหมายความว่าเช่นไร "
ฟ่งซือเซียนหรือหัวหน้ากลุ่มหญิงสาวกล่าวถามออกมาด้วย
น้าเสียงโกรธเคืองเทียบกันการที่นางต้องทนรับมือกับผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเป็นเวลาอย่างยาวนานแล้ว แต่สมาชิกของนางที่เหลือกลับใช้
เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะว่านางยังคงมีไผ่
ตายลับสาหรับใช้หลบหนีไม่แน่ว่าบ้างทีนางอาจได้กลายเป็นศพ
ประดับป่าแห่งนี้ไปแล้วก็ได้
" ท่านผู้อาวุโส มันก็เพียงแค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อยเท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้วข้าไม่ได้มสี ่วนในการโจมตีพวกท่านเลยแม้แต่
น้อย แต่กลับเป็นผู้อาวุโสของฝ่ายข้าที่ลงมือโดยไม่ไต่ถามข้าเลยสัก
คา นาซ้าในตอนนี้ข้ายังคงถูกทิง้ เอาไว้เช่นนี้ "
ฟ่งซือเซียนในตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บมามากดังนัน้ แล้วนางจึง
ไม่อยากคิดเรื่องอันใดให้ร่างกายได้รับภาระไปมากกว่านี้ นางจึง
ปล่อยผ่านเรื่องของหลินหมิงเอาไว้ก่อนแน่นอนว่าหากนางทาการ
สังหารเด็กหนุ่มผู้นี้ลงตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอันใดแม้ด้วยสภาพของ
นางที่เป็นเช่นนี้ เพียงแต่ว่ามันจะไม่เกิดประโยชน์อันใดกับกลุ่มของ
นางมากนัก
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความสาคัญกับหญิงสาวคน
นั้นเช่นไรแต่ในความคิดของฟ่งซือเซียนนั้นนางคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
อาจเป็นศิษย์ที่มีระดับค่อนข้างสูงเนื่องจากระดับพลังและอายุของ
เขา แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวผู้นั้นกลับกล้าปล่อยให้เด็กหนุ่มผู้นี้ให้
อยู่คนเดียวในป่าเช่นนี้โดยง่าย หรือมันอาจเป็นไปได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
จะไม่ค่อยมีความสาคัญกับหญิงสาวผู้นั้นมากนัก
" เฮ้อ ช่างมันเถอะ "
" หัวหน้าแล้วเรื่องสมบัตพิ วกเราจะทาเช่นไรกันดี "
ในส่วนของเรื่องบงกชเหมันต์นั้นหลินหมิงไม่ได้รับรู้เรื่องแต่อย่าง
ใดเขาเพียงแค่พอจะคาดเดาได้ว่าบนยอดเขาที่พวกเขาได้พบกัน
ครั้งแรกนั้นย่อมมีสมบัตทิ มี่ ีคุณค่าหาใดเปรียบไม่เช่นนั้นแล้วตัวตน
ระดับผู้อาวุโสสาวสวยของเขาคงไม่มีท่าที่เช่นนั้น
เป็นทางฝั่งของลีเซียนทีก่ ล่าวถามขึ้นเดิมทีเป้าหมายของกลุ่ม
พวกนางนั้นย่อมไม่ต่างจากผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นก็คือการได้รับบงกช
เหมันต์ เพื่อทาการยกระดับให้กับหัวหน้ากลุม่ ของพวกนางเอง
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ทั้งหมิงเลี่ยนและหวางเฟยกับลืมเป้าหมาย
เหล่านั้นไปเสียแล้ว หากไม่ได้ยินคากล่าวของลีเซียนนั้นพวกนางคง
ลืมไปแล้วด้วยว่านางเข้ามายังป่าแห่งนี้ด้วยเหตุใด
" เรื่องนั้นค่อยว่ากัน ถึงอย่างไรเสียก็ไม่ใช่เพียงข้าเท่านั้นที่ได้รับ
บาดเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว "
ฟงซือเซียนออกเดินนามายังจุดที่น่าจะปลอดภัยเพื่อหลบซ่อน
ตัวและรักษาบาดแผลของนาง แต่มันยังคงไม่ห่างไปจากภูเขามาก
นักเนื่องจากบาดแผลของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ดูเหมื่อนจะได้รับ
บาดเจ็บน้อยกว่านางพอสมควรเป็นไปได้ว่านางอาจอาศัยจังหวะ
นั้นฉวยนาบงกชเหมันต์ไปครอบครองเสียก่อนดังนั้นแล้วนางจึง
จาเป็นจะต้องอยู่ในระแวกนี้เพื่อเฝ้าสังเกตการ
หน้าที่การรักษาฟ่งซือเซียนนั้นตกเป็นของลีเซียนและฉีหลินไป
ในทันทีเพราะเมื่อมายังถึงจุดหลบซ่อนแล้วหวางเฟยและหมิงเลี่ยน
ก็พลันเข้านั่งประกบชิดหลินหมิงโดยที่พวกนางทั้งสองแทบจะไม่ได้
สนใจอาการบาดเจ็บของหัวหน้าพวกนางเลย
" นี้มันเกิดอะไรขึ้นในตอนที่ข้าไม่อยู่กัน ? "
ฟ่งซือเซียนกล่าวถามกับหญิงสาวทั้งสองที่กาลังรักษาบาดแผล
ให้แก่นาง นางเคยคิดว่าหญิงสาวภายในกลุ่มนางทั้งหมดนั้นล้วน
แล้วแต่มีความเกลียดชังบุรุษจนแทบไม่อยากจะเข้าใกล้ โดยเฉพาะ
หวางเฟยแต่ในตอนนี้ทั้งหวางเฟยและหมิงเลี่ยนกับนั่งเอาอกเอาใจ
บุรุษหนุ่มตรงหน้าราวกับเป็นภรรยาของเขา ?
" คือว่าเรื่องมันเป็นเช่นนี้... "
ลีเซียนและฉีหลินกล่าวอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับหัวหน้า
พวกนางฟัง แต่พวกนางก็ยังคงอายเกินกว่าจะเล่าเรื่องการร่วมรัก
ของหญิงสาวที่พวกนางได้รับฟังมา ดังนั้นแล้วฟ่งซือเซียนจึงรับรู้
เพียงแต่ว่าหลินหมิงนั้นมีวิธีการแปลกประหลาดทีส่ ามารถทาให้
ผู้คนสามารถพัฒนาขอบเขตพลังของตนได้ภายในเวลาอันสั้น
เมื่อนางสังเกตไปที่หมิงเลีย่ นและหวางเฟยก็ดูเหมือนว่าทุกอย่าง
จะเป็นไปตามที่ฉีหลินและลีเซียนกล่าว ไม่เพียงแต่พลัง
ความสามารถของทั้งสองจะเพิ่มขึ้นมาหนึ่งขั้นเป็นอย่างน้อยแต่
ในตอนนี้พวกนางทั้งสองยังคงมีพื้นฐานระดับพลังในร่างกายที่เรียก
ได้ว่ายอดเยี่ยม ด้วยพืน้ ฐานที่ยอดเยี่ยมของพวกนางเช่นนี้ทันเป็น
การรันตีได้อย่างดีเยี่ยมว่าเส้นทางฝึกยุทธ์ของหญิงสาวทั้งสองนี้จะ
ยังไม่จบลงเพียงแค่ระดับจอมยุทธ์
โดยไม่ทันที่ฉีหลินและลีเซียนที่กาลังอึกอักกับวิธีการที่หลินหมิง
ใช้ในการพัฒนาให้กับเพื่อนสาวทั้งสองพวกนาง ฟ่งซือเซียนที่เต็ม
ไปด้วยความใคร่รู้รวมกับนางเองก็ติดอยู่ในระดับจุดสูงสุดปราณ
จอมยุทธ์มาอย่างยาวนานและยังคงไม่มที ่าทีว่าจะสามารถทะลวงไป
ได้โดยง่าย ดังนั้นแล้วในเมื่อความหวังที่จะได้บงกชเหมันต์ดูเหมือน
จะเลือนร่าง แต่อย่างน้อยนางยังคงมีความหวังตรงหน้านี้อยู่
เพราะหากเมื่อใดนางสามารถทะลวงพลังไประดับปรมาจารย์ได้
แล้วแน่นอนว่าหญิงสาวผู้นั้นก็ย่อมไม่ใช่คู่มือของนางอีกต่อไปและ
การแย่งชิงบงกชเหมันต์คงง่ายขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย นางลุกขึ้น
พร้อมกับก้าวเข้าหาหลินหมิงอย่างรวดเร็ว
" ท่านมีเรื่องอันใดกับข้าอย่างนั้นหรือ ? "
" เห็นว่าเจ้าทีวิธีที่สามารถพัฒนาขอบเขตพลังของผู้อื่นได้
ภายในช่วงเวลาไม่นาน....ข้าเองก็สนใจอยู่เหมือนกันแน่นอนว่าข้า
ย่อมไม่ขอให้เจ้าทาให้อย่างเสียเปล่าข้ายินดีมอบทรัพย์สมบัติ
จานวนมากให้แก่เจ้าได้ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกไปหากเปรียบเทียบแล้วแม้วา่ นางจะต้อง
เสียสมบัติล้าค่าอย่างบงกชเหมันต์เพื่อเข้าแลกมันก็ยังคงเรียกได้ว่า
คุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะว่าสมบัติอย่างบงกชเหมันต์นั้นแม้ว่ามัน
จะสามารถเพิ่มระดับพลังปราณในร่างกายได้แต่การที่ใช้สมบัติ
เหล่านี้นั้นมันจะทาให้ขีดจากัดในอนาคตของผู้ใช้ค่อยๆลดลง
เนื่องจากการก้าวข้ามอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีพื้นฐานที่ดีพอ
" หัวหน้าพวกข้าว่ามันคงไม่.... "
" ไม่เป็นไรแม้ว่าข้าจะไม่ได้นาสมบัติอันใดมมากนักแต่มันก็
น่าจะเพียงพอสาหรับการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่านี้ "
ฉีหลินและลีเซียนพยายามกล่าวอธิบายแต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้
จะไม่ทันเสียแล้ว สาหรับทรัพย์สมบัติระดับผู้อาวุโสของสานักใน
เมืองหลวงที่ผู้คนทั้งหลายต่างหมายปองนั้นแม้ว่านางจะกล่าวว่า
ในตอนนี้นางจะมีสมบัติตดิ ตัวเพียงเล็กน้อยแต่นั้นอาจเปรียบเทียบ
ได้กับทรัพย์สมบัติครึ่งหนึง่ ของตระกูลขนาดกลางเลยทีเดียว !
" ถ้าเช่นนั้นพวกข้าทั้งสองคงไม่รบกวนท่าน "
เป็นหมิงเลี่ยนและหวางเฟยที่กล่าวขึ้นพวกนางทั้งสองลุกขึ้น
พร้อมกับนาร่างของฉีหลินและลีเซียนจากตามไปด้วย โดยไม่ลืมส่ง
สายตาหวานเยิ้มมาให้หลินหมิงเป็นการส่งท้าย หากพวกนางไม่ติด
ว่าร่างกายส่วนล่างยังคงไม่ฟื้นตัวดีพอไท่เช่นนั้นแล้วพวกนางทั้ง
สองคงย่อมมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้
การที่พวกนางทาเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทาให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีต่อ
พวกนาง แต่มันยังทาให้หัวหน้าสาวของพวกนางนั้นต้องตกอยู่
ฐานะเดียวกัน และเมือ่ เป็นเช่นนั้นด้วยฐานะของหัวหน้าไม่แน่ว่า
พวกนางอาจได้ใกล้ชิดเด็กหนุ่มผู้นมี้ ากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ตอนที่ 75
โดยไม่คาดฝันว่าหลินหมิงจะได้มีโอกาศอันแสนล้าค่าเช่นนี้
แน่นอนว่าตัวของหลินหมิงสามารถรับรู้ได้ว่าฟ่งซือเซียนนางคงยัง
ไม่รู้ถึงวิธกี ารที่จะทาให้นางได้รับความแข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นแล้วนาง
คงไม่มีท่าทีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นโดยไร้ซงึ่ ความกังวล
เช่นนี้
หญิงสาวที่เหลือทั้งสี่ออกไปจากบริเวณที่หลินหมิงและฟ่งซือ
เซียนอยู่เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสาหรับฉีหลินและลีเซียนพวกนาง
อาจคัดค้านอยู่บ้างในตอนแรก แต่เมื่อนึกถึงความก้าวหน้าที่จะ
ได้รับของหัวหน้าสาวพวกนางมันอาจเรียกได้ว่าคุ้มค่า ?
แม้จะเป็นในเมืองหลวงของอาณาจักรผู้ที่มีพลังปราณในระดับ
ใกล้เคียงกับหัวหน้าสาวของพวกนางก็นับได้ว่าหายากยิ่ง และพวก
เขาทุกคนล้วนต้องการที่จะทะลวงไปสู่ระดับต่อไปนั้นก็คือระดับปรม
จารย์ และเมื่อเป็นเช่นนั้นฐานะที่สูงส่งของพวกเขาในตอนแรกก็คง
เพิ่มพูนขึ้นมาโดยไม่สามารถเทียบได้กบั ในตอนแรก
แม้จะเป็นแค่เพียงการก้าวเพิ่มระดับเพียงหนึ่งขั้นแต่นั้นเป็นการ
ก้าวข้ามจากระดับจอมยุทธ์ไประดับปรมาจารย์ที่แสนยากเย็น หาก
เป็นในสถานการณ์ปกติพวกเขาอาจต้องใช้เวลาหลายปี หรือกระทั่ง
สิบปี หรือไม่ก็ไม่อาจก้าวข้ามได้แม้จะติดอยู่ในระดับจอมยุทธ์มา
อย่างยาวนาน และเมื่อมีโอกาศดีงามเช่นนี้มีหรือที่พวกนางทั้งสอง
จะกล้าขัดความก้าวหน้าของหัวหน้า
ถึงแม้มันจะต้องแลกด้วยความบริสุทธ์ของหญิงสาวแต่แล้ว
อย่างไรเล่าในเมื่อเพื่อนสาวทั้งสองคนของพวกนางในตอนนี้กลับ
กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ผิวพรรณพวก
นางดูกระชับขึ้นมาทันทีหลังจากที่พวกนางไม่ได้พบเจอเพียงไม่นาน
รวมถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปราวกับว่าพวกนางทั้งสองได้กลับไปเป็นสตรี
วัยแรกรุ่นอีกครั้ง
" เอาล่ะ..แล้วข้าต้องทาอย่างไรบ้าง "
ฟ่งซือเซียนกล่าวถามออกมาด้วยความเร่งเร้าแม้ว่านางจะไม่ได้
ติดอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขนั้ สูงสุดมาอย่างยาวนานแต่นางก็รู้ใน
ความสามารถของตนเองดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่นางจะสามารถ
ก้าวข้ามขอบเขตนี้ไปได้
" หากจะว่ายากมันยาก..หากจะว่าง่ายมันก็ง่าย ทั้งหมเล้วน
ขึ้นอยู่กับตัวท่าน "
" เจ้าหมายความว่าเช่นไร ? "
" ในกระบวนการนั้นแน่นอนว่าข้าย่อมสัมผัส แตะเนื้อต้องตัว
ท่านและมันย่อมไม่ได้ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย หากท่านไม่ยินดีในเรื่อง
นี้ข้าเกรงว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ หรือหากแม้ว่าท่านมีการขัดขืนแม้
เพียงเล็กน้อยมันก็อาจส่งผลกระทบกับตัวข้าและท่านได้ "
ฟ่งซือเซียนครุ่นคิดเพียงชั่วครู่เมื่อฟังคากล่าวของหลินหมิง นาง
คิดว่ามันก็ฟังดูเป็นคากล่าวที่สมเหตุสมผลวิธีการที่สามารถทาให้
ระดับพลังพื้นฐานก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วหากมีใครได้รับรู้เรื่องนี้
เข้าเด็กหนุ่มผู้นี้คงสามารถเป็นผู้อาวุโสของอาณาจักรที่มีฐานะสูงส่ง
ยิ่งกว่าได้อย่างสบายๆ เช่นนั้นแล้วมันสมควรที่จะต้องมี
กระบวนการที่ยุ่งยากอยูบ่ ้าง
แม้ว่านางจะไม่ต้องการให้บุรุษมาแตะต้องตัวนางแต่แล้วอย่างไร
เล่า กับเด็กหนุ่มที่อายุราวกับรุ่นลูกเช่นนี้เขาจะยังมีความคิดอ่านใด
กับหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าเช่นนางได้อีก ?
" เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ถือในเรื่องการแตะเนื้อต้อง
ตัวข้า ดังนั้นแล้วเจ้ารีบลงมือได้แล้ว "
" เช่นนั้นขอเชิญท่านมานั่งลงตรงนี้ "
ฟ่งซือเซียนนั่งลงบนโขนหินตามที่หลินหมิงกล่าวอย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแต่นางจะสนใจความแข็งแกร่งที่จะถูกพัฒนาขึ้นแต่นาง
ยังคงสนใจวิธีการของเด็กหนุ่มผู้นี้ มันจะเป็นไปได้หรือไม่ว่านางจะ
สามารถเรียนรู้มันจากเด็กหนุ่ม ?
" เชิญท่านหลับตาลงแล้วทาใจให้สงบ ข้าต้องกล่าวย้าอีกครั้งว่า
หากท่านมีท่าทีขัดขืนมันจะทาให้กระบวนการล้มเหลวซึ่งร้ายแรง
ที่สุดมันอาจส่งผลกระทบถึงความก้าวหน้าในอนาคตของท่านและ
ข้าเอง "
ฟ่งซือเซียนพยักหน้ารับคาด้วยท่าทีจริงจังกับวิธีการที่สุดแสน
วิเศษเช่นนี้แน่นอนว่ามันย่อมมาพร้อมกับความเสีย่ งในความคิด
ของหญิงสาว นางหลับตาลงพร้อมกับทาใจให้สงบตามคากล่าวของ
หลินหมิง ทันใดนั้นนางสามารถรับรู้ได้ถึงมือของเด็กหนุ่มที่สัมผัสมา
ที่ร่างกายของนาง
หลินหมิงใช้มือของเขาลูบไล้บริเวณต้นขาของฟ่งซือเซียนจาก
ด้านหลังไล่ขึ้นจนถึงบริเวณช่วงท้องของนางอย่างเชื่องช้า ใบหน้า
ของหญิงสาวพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่นางยังคงไม่กล้า
แสดงอาการขัดขืน นี้มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
' มันนุ่มมาก ! '
ผิวพรรณของหญิงสาวนั้นนุ่มลื่นมือจนหลินหมิงแทบจะไม่อยาก
ละมือออกจากร่างกายของนาง เขาค่อยๆเลื่อนมืออยู่ที่บริเวณต้นขา
ของนางเป็นเวลายาวนานเพื่อทาการเร้าอารมณ์หญิงสาว จากนั้นก็
เลื่อนขึ้นมาที่บริเวณหน้าอก
หมับ
" อ้าา ~~~~ "
" ท่านต้องทาตัวให้สบายกว่านี้ ไม่เช่นนั้นแล้วแม้วา่ มันจะสาเร็จ
แต่มันอาจไม่ให้ผลลัพธ์ดงั ที่ท่านต้องการ "
ฟ่งซือเซียนนางครางออกมาในทันทีที่หลินหมิงใช้มอื คว้าจับ
หน้าอกของนางอย่างรุนแรง ลมหายใจของนางค่อยๆเปลี่ยนเป็น
รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงออกแรงบีบนวด
หน้าอกของนางอยู่เรื่อยๆ
สัมผัสเต็มไม้เต็มมือที่ฝ่ามือของหลินหมิงนัน้ อาจเปรียบเทียบได้
กับหญิงสาวของเขาอย่างซื่อโฉวเลยทีเดียว หรือไม่มันก็อาจดีเยี่ยม
ยิ่งกว่าเพราะว่าผิวพรรณของนางนั้นค่อนข้างเนียนนุ่มราวกับสัมผัส
ที่เขาได้รับจากหลิวฉวนยูร์ หลินหมิงชะโงกคอไปใกล้คอของนาง
เพื่อทาการสูดดมกลิ่นของหญิงสาวอย่างเต็มปอด
อ้าาาาาา
แน่นอนว่าฟ่งซือเซียนเองนางก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจ
ของเด็กหนุ่มทีก่ าลังรดต้นคอของนางอยู่ ที่บริเวณยอดปทุมถันของ
นางในตอนนี้กาลังโดนบีบ คลึงอย่างรุนแรงขึ้นจากฝ่ามือของเด็ก
หนุ่มนางรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะครางออกมาใจจะขาด มันเป็น
วิธีการเช่นใดกันถึงได้ทรมานเช่นนี้
ไม่สิหากเรียกทรมานคงไม่ถูกนักเพราะว่านางเริ่มสัมผัสได้ว่า
ในตอนนี้ร่างกายของนางเริ่มเบาหวิว เรี่ยวแรงในร่างกายเริ่มเลือน
หาย และพลันเกิดความรู้สึกแปลกๆที่บริเวณช่วงท้องนี้มันอาจ
แสดงได้ว่านางได้ประสบความสาเร็จในกระบวนการของเด็กหนุ่ม
ไปก้าวหนึ่ง ?
หลินหมิงย้ายร่างมาอยู่ที่ด้านของหญิงสาวเมื่อมองไปที่ใบหน้า
ของนางในตอนนี้ที่ปรากฎสีแดงอมชมพูไปทั้งใบหน้าไม่ต้องสงสัย
เลยว่านางอดทนมากเพียงใด แม้ว่าเขาจะต้องการกล่าวให้นาง
สามารถส่งเสียงครางออกมาได้แต่เมื่อทาเช่นนั้นตัวเขาอาจโดน
สงสัยเข้าให้ก็เป็นได้
" ผู้อาวุโสข้ามีข่าวร้ายที่จะต้องกล่าวกับท่านสักเล็กน้อย "
" อ้า แฮ่กๆ ~~~~ มะ..มีเรื่องอันใดอย่างนั้นรึ "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงยากลาบากในตอนนี้ร่างกายของ
นางรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่ามัน
เป็นความรูส้ ึกที่ดีเยี่ยมเสียยิ่งกว่าในตอนที่นางสามารถก้าวข้าม
ระดับขอบเขตพลังเสียอีก
" เนื่องจากระดับพลังของท่านที่หากกับข้ามากจนเกินไป ไม่
เหมือน แม่นางหวางเฟยและแม่นางหมิงเลี่ยนข้าเกรงว่าข้าอาจต้อง
สัมผัสไปที่ร่างกายของท่านโดยตรง "
ฟ่งซือเซียนในหัวสมองของนางเริ่มเบาหวิว เมื่อคิดถึงสภาพ
ของนางในตอนนี้มันคงเรียกได้ว่าวิธีการของเด็กหนุ่มผู้นี้นั้น
สามารถได้ผลจริงนี้ขนาดว่ามันยังคงไม่สาเร็จนางก็สามารถได้รับ
ความสุขมากถึงเพียงนี้
" อะ..อืม...เอาสิ "
หลินหมิงลงมือปลดเสื้อผ้าของฟ่งซือเซียนออกด้วยความ
ชานาญแต่เขาไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด เรือนร่างงามสง่าปรากฎสู่
สายตาของเขาจนหลินหมิงแทบจะพุ่งเข้าไปจู่โจมหญิงสาวผู้นี้เสีย
ในตอนนี้เลย
" ข้าจะดาเนินการในขั้นต่อไป ขอท่านโปรดทาใจสงบให้
มากกว่านี้ "
" อร้างงงงง ~~~~~ "
หลินหมิงกล่าวจบก็ทาการใช้ริมฝีปากของเขาเข้าโลมเลียยอด
ปทุมถันจนฟ่งซือเซียนไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้ นางครางร้องออกมา
เสียงดัง แต่เมื่อนางพลันได้สติหลังจากผ่านไปชั่วครู่นางรีบเก็บเสียง
ของตนเองลงแต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของนางยังคงส่ายไปมาด้วย
ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นที่บริเวณยอดปทุมถันของนาง
" ท่านทาได้ดีมาก...หากท่านยังคงสามารถอดทนได้เช่นนี้ต่อไป
ระดับปรมาจารย์คงไม่ใช่เป้าหมายที่เกินฝันอีกต่อไป "
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบบบ
หลินหมิงกล่าวออกมาพร้อมกับก้มลงไปดูดเลียหน้าอกของฟ่
งซือเซียนต่อ นางเองเมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงก็พลันตั้งใจ
มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะมีความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นจน
ยากอธิบาย แน่นอนว่านางไม่คิดว่านี้จะเป็นการลวนลามของเด็ก
หนุ่ม
ในโลกใบนี้นั้นเหล่าบุรุษหากพวกเขามีอารมณ์ความปราถนาใน
สตรีพวกเขาจะใช้ทวนมังกรของพวกเขาเข้าเสียบร่องสวาทของ
พวกนางนั้นคือการระบายอารมณ์ของพวกเขา ไม่มีใครที่จะทาการ
เล้าโลมหญิงสาวดัง่ เช่นหลินหมิงและมันไม่เคยถูกกล่าวถึงมาก่อน
หลังจากดื่มด่ากับหน้าอดเนียนนุ่มอยู่พักใหญ่หลินหมิงสามารถ
รับรู้ลมหายใจของหญิงสาวที่แรงขึ้นเรื่อย รอยยิ้มมุมปากปรากฎขึ้น
อย่างชั่วร้ายซึ่งมันไม่ได้สมวัยของเขาในตอนนี้เลย หลินหมิงย่อนตัว
ลงโดยที่ศรีษะของเขาในตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกับช่วงเอวของนาง
ร่องสวาทสีชมพูสดแสดงถึงการที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานมา
ก่อนแม้ว่านางจะมีอายุมากถึงเพียงนี้แล้วก็ตามที่ หลินหมิงใช้มือทั้ง
สองข้างลูบไล้ที่บริเวณต้นขาของนางอีกครั้งเพื่อให้นางได้ผ่อน
คลาย
" ท่านสามารถแหวกข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่ "
ในตอนนี้สภาพของฟ่งซือเซียนั้นเรียกได้ว่านางแทบจะไม่
สามารถคุมสติได้อยู่อีกต่อไป นางปฎิบัตติ ามคากล่าวของหลินหมิง
ไปในทันทีโดยที่ยังไม่ตระหนักถึงความเหมาะสม ร่างกายของหลินห
มิงเข้าแทรกบริเวณช่องว่างระหว่างขาของฟ่งซือเซียน
แผล๊บบ
" อร้างงงงง ~~~~~ "
" นะ...นีม้ ัน ..... อร้างงงงงงงงงงง ~~~~~~~~ "
เมื่อลิ้นของหลินหมิงตวัดโดนไปที่ร่องสวาทของหญิงสาว
ร่างกายของนางสั่นไหวอย่างรุนแรงไปในทันที พร้อมกับที่บริเวณ
ร่องสวาทของนางเริ่มมีปฎิกริยาเกิดขึ้น น้ารักใสๆของหญิงสาวเริ่ม
ทยอยไหลออกมาทีละน้อย
หลินหมิงยังคงตวัดลิ้นต่อไปไม่สนใจเสียงร้องของหญิงสาวที่
ยังคงดั่งระงมอู่ในตอนนี้ ในส่วนของฟ่งซือเซียนนั้นแม้ว่านางจะ
สามารถรับรู้ได้ว่าที่บริเวณส่วนลับของหญิงสาวของนางนั้นกาลัง
ถูกล่วงล้าแต่แล้วอย่างไรเล่า กับความสุขที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้มี
หรือที่นางจะต้องปฎิเสธมัน มือทั้งสองข้างของหญิงสาวเผลอตัวกด
ลงไปที่ศรีษะของหลินหมิงเพื่อไม่ให้ลิ้นของเด็กหนุม่ แยกจากไป
" อ๊าาา ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ลิ้นของเจ้า ~~~~ อู้วววว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~ "
ในตอนนี้นางแทบจะลืมเรื่องการพัฒนาระดับพลังของนางไปเสีย
แล้วกับความสุขที่กาลังเกิดขึ้นนี้ราวกับว่านางได้ขึ้นไปอยู่บนสรวง
สวรรค์ นางไม่สามารถอดทนได้นานนักกับการจู่โจมโดยใช้ลิ้นของ
หลินหมิงร่างกายของนางสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับน้ารักจานวน
มากที่ไหลออกมาจนแฉะเยิ้มไปทั่ว
" อร้างงงงงงงงงงงง ~~~~~~~ "

ตอนที่ 76
" แฮ่กๆ ~~~ "
เสียงหอบหายใจอันแสนเย้ายวนของฟ่งซือเซียนกระตุ้นอารมณ์
ของหลินหมิงจนเขาแทบจะไม่อาจอดกลั้นได้ไหวอีกต่อไป เสื้อผ้า
ของเขาถูกปลดออกอย่างรวดเร็วทวนมังกรของหลินหมิงโดยเผย
ออกมาอีกครั้ง แต่เนื่องจากหญิงสาวยังคงหลับตาอยู่นางจึงไม่
สามารถรับรู้ได้
" อ้าปากของท่านสิ "
ฟ่งซือเซียนปฎิบตั ิตามอย่างว่าง่ายแม้ว่าตัวของหญิงสาว
ในตอนนี้จะรู้สึกเหนื่อยอ่อนเสียยิ่งกว่าการต่อสู้เสี่ยงตายของนางใน
เร็วนี้ แต่นางยังคงนึกถึงรสชาติความสุขที่นางได้รับเมื่อชั่วครู่ที่ผ่าน
มา นางไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต ถึงขนาดว่าให้รวม
ความสุขทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตของนางเข้าด้วยกันมันก็อาจไม่
สามารถเปรียเทียบกับความรู้สึกเมื่อครู่ได้
หลินหมิงส่งทวนมังกรของเขาเข้าไปในปากของนางอย่างช้าๆ
ท่าทีของหญิงสาวพลันเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกเมื่อสัมผัสได้ว่ามีสงิ่
แปลกประหลาดเข้ามาภายในปากของนาง เพียงแต่ว่าไม่นานนางก็
ปล่อยตัวไปตามจังหวะของหลินหมิง
สัมผัสที่ลิ้นของนางได้รับนั้นมันเยี่ยมยอดเสียยิง่ กว่าอาหารเลิศ
ใดๆที่นางเคยได้รับมา แม้ว่ามันจะมีกลิ่นอบหน่อยๆแต่มันกลับทา
ให้ร่างกายของนางรู้สึกเบาหวิวอย่างน่าประหลาดอารมณ์ความรู้สึก
แปลกประหลาดเหมือนเมื่อชั่วครู่กลับมาอีกครั้ง ใบหน้าของฟ่งซือ
เซียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อนางคิดว่าจะได้รับความสุขเช่นนั้น
อีก
" ใชลิ้นของท่านเลียมันไปรอบๆ "
" อ๊าา อย่างนี้รึ แผล๊บบ แผล๊บบ "
ลิ้นเนียนุ่มที่สมั ผัสไปทีท่ วนมังกรของหลินหมิงราวกับว่านาง
ต้องการโลมเลียและกลืนกินทวนมังกรของหลินหมิงไปทั้งหมด
" อย่าให้มันโดนฟันละ โอ้ววอย่างนั้นละ อมมันเข้าไปทั้งหมด "
จ๊วบบ จ๊วบบ
" ข้าขอถามได้รึไม่ว่าของวิเศษนี้คือสิ่งใด ? "
ฟ่งซือเซียนด้วยการที่นางยังคงไม่ได้ลืมตาขึ้นมาตามคาบอกของ
หลินหมิง และนางยังคงเป็นสาวบริสุทธ์อยู่นางจึงไม่มีประสบการณ์
ในเรื่องนี้ นางอยากรู้ว่าแท่งอวบแข็งนี้ที่นางกาลังทาการโลมเลียมัน
อย่างเอร็ดอร่อยนี้คือสิ่งใด ไม่เพียงแต่มันจะให้รสชาติที่ดีเยี่ยมเสีย
ยิ่งกว่าอาหารจารสวรรค์แต่กลิ่นของมันก็ยงั คงส่งผลให้ร่างกายนาง
เบาสบาย
" อีกเพียงชั่วครู่ท่านก็จะได้รู้เอง "
เมื่อเวลาผ่านไปสักพักฟ่งซือเซียนนางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรที่
กาลังอยู่ในปากของนางมีอาการสั่นกระตุกอย่างแปลกประหลาด
และดูเหมือนว่ามันกาลังขยายตัวขึ้น ? หลินหมิงจับศรีษะของเธอ
พร้อมกับทาการโยกมันอย่างบ้าคลั่งเพื่อทาการปลดปล่อยน้ารักเข้า
ไปในปากของหญิงสาว
' โอ้ววว~~~~ '
" แค่ก แค่ก แค่ก "
" ท่านต้องกลืนมันลงไปทัง้ หมด "
รสชาติน้าเหนียวข้นที่อยู่ภานในปากของฟ่งซือเซียนทาให้
ร่างกายของนางสั่นกระตุกขึ้นอีกครั้ง และในทันทีที่นางได้กลืนน้ารัก
ของหลินหมิงลงไป ที่บริเวณร่องสวาทของนางพลันมีการ
ตอบสนองขึ้นในทันที น้ารักใสๆจานวนมากถูกปล่อยออกมาจาก
ร่องสวาทของหญิงสาวอีกครั้ง จนนางแทบจะเป็นลมไม่ได้สติไป
ด้วยความเหนื่อยอ่อน
เนื่องจากจานวนน้ารักของหลินหมิงทีม่ ากจนเกินไปมันจึงทาให้
หญิงสาวไม่สามารถรับมันเอาไว้ได้ทั้งหมด ดังนัน้ นางจึงต้องใช้มือ
ทั้งสองข้างประคองน้ารักที่ล้นออกมาจากภายในปากและทาการ
ดูดกลืนพวกมันลงไป
" เอาล่ะทีนี้ท่านสามารถลืมตาได้แล้ว "
ฟงซื่อเซียนนางรีบลืมตาตื่นขึ้นมาในทันทีเพื่อที่นางจะได้ทราบ
ว่าของวิเศษอันใดที่สามารถทาให้นางมีความสุขได้มากมายเช่นนี้
แต่แล้วเมื่อนางได้เห็นภาพตรงหน้าใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็น
ตะลึงค้าง
" นี้เจ้า..ให้ข้าทา...กับสิ่งนี้ ! "
เนื่องจากว่ามันเป็นอวัยวะส่วนล่างมันจึงไม่ใช่เรื่องเหมาะแต่
อย่างใดที่เด็กหนุ่มมาทาเรื่องเช่นนี้กับนาง แม้ว่ามันจะให้ความ
เพลิดเพลินกับนางได้มากแต่ว่าเรื่องเช่นนี้นั้นไม่เคยมีผู้ใดคิดทามา
ก่อน
" ข้ายังใช้ลิ้นของข้าทาให้ท่านเลย...ไม่ต้องกังวลใช่ว่าข้าจะ
หลอกท่านเสียหน่อยแน่นอนว่านี้ย่อมเป็นหนึ่งในกระบวนการ..ท่าน
คงเห็นผลลัพธ์ได้จากหมิงเลี่ยนและหวางเฟยแล้วไม่ใช่รึ "
" แล้วข้าต้องทาอย่างไรต่อ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวพร้อมกับมองไปยังทวนมังกรของหลินหมิงตรง
หน้าที่ยังคงมีคราบน้ารักของเขาเปราะเปรื้อนอยู่ในใจของนางนั้น
หากนางไม่ได้รับรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออวัยวะของบุรุษหนุ่มนางคงพุ่ง
เข้าไปโลมเลียคราบเหล่านั้นจนสะอาดไปแล้ว
" ท่านก็แค่เพียงปล่อยตัวไปตามสบายอีกครั้ง..นึกถึงตอนที่ข้าม
อบความสุขให้แก่ท่านสิคราวนี้มันจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สามารถ
มอบความสุขให้แก่ท่านในแบบที่ครั้งก่อนหน้าเทียบไม่ติด "
ในใจของฟ่งซือเซียนพลันเผลอคล้อยตามคาพูดของหลินหมิง
จนอยู่ในห้วงพวัง สัมผัสความสุขที่ได้รับก่อนหน้านี้เทียบไม่ติด ?
แล้วเหตุนี้มันจะยังคงมีสงิ่ ที่เรียกว่าสวรรค์ได้อีกหรือหากสิ่งที่เด็ก
หนุ่มผู้นี้กล่าวเป็นความจริง โดยที่นางไม่ทันได้รู้สกึ ตัวหลินหมิงเข้า
พลักร่างของหญิงสาวลงนอนราบกับพื้นพร้อมกับจ่อทวนมังกรของ
เขาเอาไว้ที่ร่องสวาทของนาง
อื้มมมมม ~~~~~~~~
ริมฝีปากของหลินหมิงประกบเข้ากับริมฝีปากของฟ่งซือเซียน
อย่างร้อน เกิดการปะทะกันระหว่างลิ้นทั้งสองภายในปากของหญิง
สาวแน่นอนว่าย่อมเป็นฝ่ายของฟ่งซือเซียนที่พ่ายแพ้ไปอย่างหมด
รูป นางได้แต่ปล่อยตัวไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวภายในปากของ
นาง หัวสมองของหญิงสาวเริ่มเกิดอาการเบาหวิวขึ้นมาอีกครั้งมือ
ทั้งสองข้างของนางเผลอลูบไล้ไปที่บริเวณแผ่นหลังขาวเรียบเนียน
แต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว
" โอ้ยย ! นะ..นีม้ ัน..เจ้าทาอะไร "
ทันใดนั้นนางรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่บริเวณร่อง
สวาทของนาง ในตอนนี้แม้แต่เด็กสาวย่อมต้องรู้ว่าจะเกิดชะตา
กรรมใดขึ้นกับตนเอง ในก่อนหน้านี้นางได้เห็นขนาดทวนมังกรที่
ใหญ่ผิดมนุษย์ของหลินหมิงไปแล้วแต่เนื่องจากนางมัวแต่หลงอยู่กับ
รสชาติน้ารักของเด็กหนุ่มจึงไม่ทันระวังตัว
" อ๊าา อ๊าา มันใหญ่เกินไป เอาออกไป ลึกไปแล้วววว "
ฟ่งซือเซียนกล่าวคาร้องออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนหน้าส่ายหน้า
พร้อมกับพยายามบิดร่างด้วยความเจ็บปวดเพียงแต่ว่าไม่นานหลัง
จากนั้นนางเริ่มรู้สึกได้่ว่าความเจ็บปวดของนางเริ่มหายไปอย่าง
ปลิดทิ้งและมันกลับถูกเติมเต็มด้วยอารมณ์ความสุขที่มากล้นแทน
หลินหมิงในตอนนี้กาลังพรหมจูบไปที่บริเวณต้นคอเรียบเนียนของ
หญิงสาวอย่างหื่นกระหาย
" นี้รู้ไหมหากท่านปล่อยตัวตามมสบายท่านจะรู้สึกดีมากกว่านี้
อีกนะ "
" อะ อ๊า อ๊าา ตะ..แต่ว่าแบบนี้มัน "
" ใช่แล้วข้ากาลังทาให้ท่านเป็นสตรีของข้าอย่างไรเล่า "
หลินหมิงกล่าวออกมาพร้อมกับในตอนนี้ที่เขาเริ่มขยับทวนมังกร
อย่างเชื่องช้า สาหรับหญิงสาวนั้นพวกนางมีความต้องการที่ต่างกัน
ออกไปอย่างเช่นเหม่ยฮวา หรือป้าห้าของเขานั้นเห็นได้ชัดว่านางมี
อารมณ์ความต้องการในการร่วมรักที่ค่อนข้างรุนแรงเทียบกับหญิง
สาวที่ไม่เคยผ่านบุรุษใดมาก่อนแน่นอนว่าประสบการณ์ครั้งแรก
ของพวกนางหลินหมิงจะต้องสร้างความประทับใจไว้ให้มากเสีย
หน่อย
" ตะ..แต่ว่า..ข้าอายุมากกว่าเจ้า.."
" เรื่องอายุไม่สาคัญดูจากเรือนร่างของท่านสิมันช่างเย้ายวนข้า
เสียตั้งแต่แรกเห็น...ขอเพียงท่านตอบตกลงเพียงเท่านั้นข้ายินดีมอบ
ความสุขให้กับท่านเช่นนี้ไปอย่างยาวนาน "
" เป็นเช่นไรบ้างล่ะแม่สาวน้อย "
หลินหมิงกล่าวออกมาเพือ่ ลดความกังวลใจของฟ่งซือเซียน
แน่นอนว่าในตอนนี้นางไม่ได้มีความรู้สึกกังวลในเรื่องที่ต้องทาการ
ร่วมรักกับหลินหมิง แต่มันกลับกลายเป็นความกังวลในเรื่องของ
อายุที่ห่างกัน
" ขะ..ข้ารู้สึกแปลกๆ..ทวนของเจ้ามันเต็มท้องข้าเลย ~~~~~~
"
" สาวน้อยไม่รู้รึว่าตอนนี้ข้าเป็นสามีของเจ้าแล้ว เจ้าสมควร
เรียกข้าว่าท่านพี่ "
" ทะ..ท่านพี่ อร้างงงงงงง ~~~~~ "
หลินหมิงกระแทกเอวแบบรุนแรงขึ้นในทันทีที่ได้ยนิ คากล่าวของ
ฟ่งซือเซียน ใบหน้าของหญิงสาวในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความสุข
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบุรุษจะสามารถสร้างความสุขให้กับ
หญิงสาวได้มากเพียงนี้ไม่สิมันอาจเป็นเพราะสามีของนางคนนี้ก็ได้
" ข้าจะบ้าตายอยู่แล้วท่านพี่..อ้าาาาา "
หลินหมิงใช้มือจับเอวทั้งสองข้างเพื่อทาการกระแทกเอวอย่าง
เต็มกาลังร่างกายของหญิงสาวสั่นกระตุกแบบถี่หยิบพร้อมกับน้ารัก
ที่ไหลออกมาจากโพร่งสวาทของนางราวกับเขื่อนแตก ในจังหวะ
เดียวกันหลินหมิงก็ปลดปล่อยน้ารักของเขาจานวนมากเข้าสู่โพร่ง
ร่องของหญิงสาวเข้าไปเช่นเดียวกัน
ผ่านไปราวครึ่งก้านธูปร่างของสตรีและชายหนุ่มยังคงกอดรัดกัน
อย่างเหนียวแน่นไม่จากกันไปไหน ทีบ่ ริเวณร่องสวาทของฟ่งซือ
เซียนนั้นยังคงถูฏเสียบเอาไว้โดยทวนมังกรของหลินหมิงโดยนาง
กล่าวว่าไม่อยากให้นามันออกไป แต่ด้วยการที่เป็นครั้งแรกของ
หญิงสาวนางก็เหนื่อยเกินกว่าจะรับมือกับสามีหนุ่มคนนี้ของนางได้
ไหวแล้ว
" ท่านพี่ ฮิฮิ พอก่อนเจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวกับหลินหมิงทีก่ าลังระดมพรหมจูบไปทั่ว
ร่างกายของนาง แน่นอนว่านางย่อมรู้สึกดีกับรสจูบของสามีนางแต่
นางเกรงว่านางจะมีอารมณ์เกิดขึ้นมา
" ท่านจะไม่ทิ้งข้าจริงๆนะเจ้าคะ "
นางกล่าวพร้อมกับสบตาของหลินหมิงด้วยความเอียงอาย
ในตอนนี้หัวใจของนางโดยถูกจองที่เอาไว้โดยเด็กหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว
เสียแล้ว ด้วยอายุที่มากกว่าเป็นอย่างมากของนางแม้นางจะพอใจ
กับการที่เขาดูเหมือนจะยังชื่นชอบเรือนร่างของนางอยู่เพียงแต่เมื่อ
เปรียบเทียบกับสาววัยแรกรุ่นนางจะยังคงสามารถสู้กับสตรีเหล่านั้น
ได้ ?
" เช่นนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดูเอง "
และแล้วการจู่โจมของหลินหมิงก็เริ่มขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียง
ครางของหญิงสาวที่ดังระงมไปทั่ว จนหญิงสาวทั้งสี่คนที่อยู่ห่าง
ออกไปไม่สามารถข่มตาหลับลงนอนได้เมื่อได้ยินเสียงเช่นนี้
ตอนที่ 77
เช้าวันต่อมาหลินหมิงตื่นขึ้นพร้อมกับสัมผัสเนียนนุ่มของ
ร่างกายฟ่งซือเซียนที่ยังคงกอดแนบชิดกับร่างกายของเขา เมื่อ
หลินหมิงเหลือบมองไปทีน่ างก็พบว่านางนั้นตื่นมาก่อนเขาแล้ว
" อรุณสวัสดิ์เจ้าคะ ท่านพี่ "
" อื้มมมมม อ้าาา ~~~~~~~ "
เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของหญิงสาวในยามเช้าพร้อมกับร่างกายเป
ลื่อยเปล่าของนาง หลินหมิงพุ่งเข้าไปประกอบปากนางอย่างดูดื่ม
โดยไม่รอช้า เนื่องจากค่าคืนที่ผ่านมานั้นแม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรก
ของหญิงสาวแต่นางก็ตอบสนองต่อเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่านาง
จะรู้สึกเหนื่อยอ่อนจนมากเพียงใดแต่นางยังคงพยายามประคองสติ
เพื่อทาให้หลินหมิงมีความสุขได้มากที่สุด และค่าคืนของพวกเขาจบ
ลงที่หลินหมิงได้ปลดปล่อยน้ารักใส่ตัวนางไปถึงห้าครั้ง
หากไม่ใช่เพราะว่าตัวของหลินหมิงเห็นว่านางไม่สามารถรับได้
ไหวอีกต่อไปมีหรือที่หลินหมิงจะต้องการหยุดเพียงเท่านี้ ?
" พอแล้วเจ้าคะ..ฮิฮิ ทั้งๆที่เมื่อคืนท่านพี่ก็ได้ระบายอารมณ์ไป
มากขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่ท่านกลับยังมีความต้องการที่ละโมบ
เช่นนี้
ฟ่งซือเซียนกล่าวพร้อมกับใช้มือลูบไปที่ใบหน้าของหลินหมิง
ด้วยความรักใคร่ ค่าคืนที่ผ่านมาที่สามีหนุ่มผู้นี้ได้มอบให้แก่นางนั้น
ย่อมเป็นค่าคืนที่ราวกับว่านางได้อยู่ความฝันที่เปี่ยมไปด้วยสุขจน
นางแทบไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นสามีของนางกลับไม่มี
ทีท่าว่าจะเพียงพอเพียงเท่านี้
จากที่นางได้ยินมาจากหญิงสาวและคากล่าวของผู้อื่นบุรุษนั้น
สมควรมีความสามารถในการร่วมรบบรรเลงเพลงรักกับหญิงสาว
อย่างมากได้เพียงหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่หรือ แต่นี้เมื่อคืนนี้นางได้รับน้ารัก
ของสามีไปถึงห้าครั้งและนางเองยังคงไม่แน่ใจว่าตนเองได้เสร็จไปกี่
ครั้งเนื่องจากนางไม่สามารถนับมันได้
" ของเช่นนี้หากน้องหญิงยังไหวแล้วละก็ข้าสามารถมอบ
ความสุขให้แก่เจ้าได้อย่างไม่รู้จบ "
" พอแล้วเจ้าคะ ข้ายังรู้สึกเหนื่อยอยู่เลย อย่างน้อยขอเพียงให้
ข้าได้พักสักหน่อย "
ทั้งสองทาการชาระล้างเนื้อตัวพร้อมกับใส่เสื้อผ้าเพื่อออกมาพบ
กับหญิงสาวที่เหลือ เมื่อพวกนางทั้งสี่ได้เห็นหัวหน้าของพวกนางอีก
ครั้ง ใบหน้าตกตะลึงปรากฎขึ้นในทันทีราวกับว่าหัวหน้าของพวก
นางนั้นได้รับพรจากสวรรค์ให้สามารถย้อนวัยกลับไปในวัยสาวได้
อีกครั้ง ผิวหนังของนางดูชุ่มช่าและเนียนนุ่มเสียจนพวกนางยังต้อง
อาย
ฉีหลิน และลีเซียนในตอนแรกพวกนางยังคงกังวลเกี่ยวกับกา
ตัดสินใจของพวกนางแต่เมื่อได้เห็บภาพตรงหน้าแล้วความกังวล
ของพวกนางยังคงมีค่าใดอีก ? ไม่เพียงแต่หัวหน้าของพวกนางไม่มี
ทีท่าเคืองโกรธแต่ใบหน้าของนางนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขชนิด
ที่พวกนางอยู่ด้วยมาอย่างยาวนานยังไม่เคยพบเห็น ทั้งหมดนี้
เกิดขึ้นจากฝีมือหนุ่มน้อยผู้นี้ ?
สาหรับหวางเฟยและหมิงเลี่ยนนั้นแน่นอนว่าเมื่อพวกนางได้รับ
ความสุขของหญิงสาวแล้วนั้นสภาพในตอนแรกของพวกนางทั้ง
สองไม่ต่างจากฟ่งซือเซียนมากเท่าใดเพียงแต่ว่าในค่าคืนที่ผ่านมาที่
พวกนางต้องทนฟังเสียงร่าร้องบทเพลงรักที่เกิดขึ้นมันทาให้พวก
นางไม่สามารถหลับลงได้อย่างง่ายดาย มันจึงทาให้พวกนางมีสภาพ
แย่ลงเล็กน้อย
" หัวหน้าพลังของท่าน......... "
ได้ยินคากล่าวของฉีหลินทุกคนพลันให้ความสนใจไปที่ฟ่งซือ
เซียนแม้แต่ตัวของหญิงสาวนั้นก็ได้ลืมเรื่องนี้ไปเสียนานแล้ว
แม้ว่าฉีหลินจะไม่สามารถสัมผัสพลังที่แน่ชัดได้แต่กย็ ังคงสามารถ
รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาของหัวหน้านางแบบก้าว
กระโดด
ฟ่งซือเซียนทาสมาธิอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับส่ง
จิตเพื่อเข้าไปทาการสารวจต้นเถียนภายใน พริบตาเดียวนางลืมตา
ตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขยิ่งกว่าเคย หญิงสาวทั้งสี่แน่นอนว่า
พวกนางสามารถคาดเดาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้บ้างเพียงแต่ว่าพวก
นางยังคงต้องการรับรู้ว่าหัวหน้าพวกนางก้าวหน้ามากเพียงใด
" น้องหญิงมันเป็นเช่นไร "
" ฮิฮิ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านพี่จริงๆ ในที่สุดข้าก็สามารถ
ก้าวข้ามระดับจอมยุทธ์ได้แล้ว ! "
สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงแม้จะรู้ความสามารถ
ของหลินหมิงกันอยู่แล้ว แต่ใครบ้างเหล่าจะไม่ตื่นเต้นกลับ
สถานการณ์เช่นนี้สามารถก้าวผ่านระดับจอมยุทธ์ไปสู่ระดับ
ปรมาจารย์ได้เพียงชั่วเวลาข้ามคืนเช่นนี้แล้วเหล่าปรมาจารย์ที่
ฝึกฝนมานับสิบปีนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าไร้ค่าหรอกหรือ ?
เนื่องจากในที่นี้ทุกคนล้วนมีพลังที่น้อยกว่าฟ่งซือเซียนดังนั้น
แล้วพวกนางจึงไม่สามารถทาการตรวจสอบพลังของนางได้ ดังนั้น
แล้วจึงมีแต่ตัวของนางเองเพียงเท่านั้นที่สามารถรับรู้ความ
เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เพียงการก้าวข้ามระดับอย่างธรรมดา
ทั่วไป ในตอนนี้พื้นฐานพลังระดับปรมาจารย์ของนางเองก็ถูก
ก่อสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์จนน่าตกใจ
ในเรื่องนี้ด้วยลาพังอายุของนางเพียงเท่านี้นางไม่อาจคาดฝันได้
เลยว่าในอนาคตนางจะสามารถพัฒนาไปได้มากเพียงใด
สีหน้าของฉีหลินและลีเซียนพลันแปรเปลี่ยนไปแน่นอนว่าใน
ตอนแรกแม้พวกนางจะได้ยินคากล่าวอ้างมาจากหมิงเลี่ยนและ
หวางเฟย แต่พวกนางยังคงไม่ปักเชื่อใจนัก เทียบกับภาพตรงหน้านี้
แล้วพวกนางยังคงสามารถหาคากล่าวปฎิเสธใดได้อีก พวกนางทั้ง
สองมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาอยากเดาอารมณ์
" ท่านพี่แล้วจากนี้ไปท่านจะทาเช่นใดต่อ... "
ฟ่งซือเซียนกล่าวถามหลินหมิงด้วยน้าเสียงอบอุ่น แน่นอนว่า
เมื่อนางได้รับการพัฒนาอย่างก้าวหน้าเช่นนี้แล้วสาหรับบงกช
เหมันต์นั้นย่อมไม่ได้สาคัญกับนางมากนัก ที่นางเป็นกังวลในตอนนี้
คือการที่นางจะต้องจากลาสามีหนุ่มของนางต่างหาก
" อันที่จริงแล้วข้าเองก็มีเรื่องที่จะให้พวกท่านช่วยสักเล็กน้อย "
ฟ่งซือเซียนตาเป็นประกายในทันที หมิงเลี่ยนและหวางเฟยก็
เช่นเดียวกันในตอนี้พวกนางทั้งสองเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากแล้วที่
บริเวณส่วนล่าง รวมกับการที่ต้องฟังเสียงครางระงมทั้งคืนที่ผ่านมา
มีหรือที่พวกนางจะสามารถอดกลั้นไว้ได้นาน เช่นเดียวกันกับฉีหลิน
และลีเซียนตาของพวกนางเต็มไปด้วยประกายความหวังบางอย่าง
" ท่านพี่โปรดกล่าวมาไม่ว่าท่านต้องการสิ่งใดข้ายินดีหามามอบ
ให้ กระทั่งบงกชเหมันต์บนยอดเขานี้ในตอนนี้มันก็ไม่ได้เกินมือข้า
เลยแม้แต่น้อย "
" น้องหญิงเรื่องที่ข้าจะรบกวนเจ้านั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
เท่านั้นสาหรับเจ้าในตอนนี้ "
" ข้ายินดีทาตามขอของท่านทุกเรื่องเจ้าคะ "
" ข้าก็เพียงต้องการมอบบทเรียนให้กับคนผู้หนึ่งก็เท่านั้นเอง "

ตอนที่ 78
ในตอนนี้หลังจากที่ร่วมรักกับฟ่งซือเซียนแล้วนั้นระดับพลังของ
หลินหมิงล้วนถูกพัฒนาขึ้นมาอีกครั้งอย่างน่าตกใจจนอยู่ในระดับ
ปราณก่อเกิดขั้นที่ 6 แล้วด้วยระดับพลังในตอนนี้แม้แต่ผู้ที่มีพลัง
ระดับจุดสูงสุดปราณก่อเกิดก็อาจไม่ใช่คู่มือของเขาแต่ถึงอย่างไร
หลินหมิงก็คงยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผู้ทมี่ พี ลังปราณจอม
ยุทธ์อย่างฉีหลิน และลีเซียนที่มกี ระทั่งปราณจอมยุทธ์ระดับหนึง่ ได้
อยู่ดี
ฟ่งซือเซียนนั้นสามารถเข้าใจในความหมายของสามีหนุ่มของ
นางได้อย่างทันที แม้ว่าสามีของนางจะมีอายุที่อยู่ในวัยหนุ่มซึง่ ส่วน
ใหญ่แล้วผู้คนในวัยอย่างสามีนางนั้นการที่พวกเขาจะมีอารมณ์คึก
คะนองปราถนาในเรือนร่างของหญิงสาวที่สวยงามล้วนไม่ใช่เรื่อง
แปลก ถึงอย่างนัน้ มันก็ไม่มีใครที่จะนิยมชมชอบสตรีที่มีอายุ
มากกว่าหลายสิบปีเช่นนี้
พวกเขามีความเชื่อกันว่าการที่พวกเขามีอารมณ์หรือแสดง
ความต้องการให้กับหญิงสาวที่มีอายุกว่าตนเองมากกว่าหลายปีนั้น
มันเปรียบเสมือนว่าพวกเขายังคงไม่เติบโต มันเหมือนกับว่าพวก
เขายังคงต้องการความรักความเอ็นดูจากมารดาอยู่อย่างใดอย่างนั้น
แต่กับสามีนางนั้นเขาไม่สนใจในเรื่องเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าการร่วมรักที่ผ่านมาของสามีนาง ย่อมไม่เกิดจาก
ผลประโยชน์ที่เขาปราถนาในตาแหน่งของนางอย่างแน่นอน
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะยังคงสามารถบรรเลงเพลงรักที่เร้าร้อนเช่นนั้น
ได้ ?
ไม่เพียงแต่จะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับสามีหนุม่ นี้ยังคงเป็น
โอกาศดีสาหรับนางในการล้างตาหญิงสาวผู้นั้น แม้ว่านางจะรู้สึกไม่
พอใจสักเล็กน้อยที่หญิงสาวผู้นั้นจะได้รับความสุขเช่นเดียวกันกับ
นาง และด้วยความงามของหญิงสาวผู้นั้นอาจกล่าวได้ว่าแม้ในยาม
นี้นางก็ยังคงไม่สามารถนาไปเปรียบเทียบได้
" น้องหญิงเจ้าจะกังวลไปทาไมกันเล่า แม้ว่านางจะมีความงาม
มากกว่าเจ้าแต่มีหรือที่นางจะสามารถมอบความสุขให้ข้ามากได้เท่า
เจ้าแล้วเช่นนี้เจ้ายังคงมีเรื่องอันใดที่ต้องกังวลอีก "
" เจ้าคะ ! "

ฟ่งซือเซียนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมกับกอดรัดแขน
ของหลินหมิงเอาไว้อย่างหนาแน่น
แม้ว่าหลินหมิงจะกล่าวเช่นนั้นออกไปแต่เป็นที่แน่นอนว่าผู้
อาวุโสฟางซิ่นคงไม่ปรากฎตัวออกมาในเร็วนี้ ด้วยเพราะบาดแผลที่
นางได้รับจากฟ่งซือเซียนด้วยแม้นางจะอาจเรียกได้ว่าเป็นฝ่ายมีชัย
เหนือฟ่งซือเซียนแต่มันก็ย่อมแลกมาด้วยความลาบากอยู่ไม่ใช่น้อย
และตามความเห็นของฟ่งซือเซียนทีก่ ล่าวกับหลินหมิงนั้นเป็นไปได้
ว่านางอาจต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่ถึง 2-3 วันเป็นอย่างน้อย
สาหรับฟ่งซือเซียนแล้วนัน้ การที่นางได้รับการพัฒนาอย่างก้าว
กระโดดจากการร่วมบรรเลงเพลงรักกับหลินหมิงนัน้ ทาให้ร่างกาย
ของนางเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล บาดแผลทุกอย่างล้วนฟื้นตัว
ขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจจะเหลือเพียงก็แต่ร่องสวาทของนาง
เพียเท่านั้นทียังคงมีความรู้สึกเจ็บแสบอยู่บ้าง
" ชะ...เช่นนั้น..ท่านสามารถมอบความสุขให้กับข้าอีกครั้งได้
หรือ "
" ขะ...ข้าก็ด้วย "
หวางเฟยและหมิงเลี่ยนกล่าวออกมาพวกนางเป็นกังวลกับ
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้หัวหน้าของพวกนางได้ตกลงอย่าง
เป็นหมั้นเป็นหมายว่าให้หลินหมิงเป็นสามี แล้วเช่นนี้พวกนางทั้ง
สองยังจะสามารถเป็นภรรยาของเขาต่อไปได้ ? สาหรับฟ่งซือเซียน
นางไม่มีความคิดที่จะยกสามีของนางผู้นี้ให้กับใครเป็นแน่
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 15 ปีแต่แล้วอย่างไรเล่าด้วยลี
ล่าท่วงท่าของเขานางมั่นใจว่าแม้แต่นางโลคีชั้นสูงยังคงต้องมอบ
กราบสามีของนางเป็นแน่ ไม่เพียงเท่านั้นด้วยพรสวรรค์และความ
แข็งแกร่งของเขาก็เรียกได้ว่าอัจริยะอย่างแท้จริงได้อย่างไม่อายใคร
และนี้ยังไม่รวมถึงความสามารถแปลกประหลาดทีส่ ามารถเพิ่ม
ขีดจากัดความสามารถของผู้คนได้ แล้วมันจะยังคงมีเรื่องอันใดน่า
อายที่นางจะรับเด็กหนุ่มเป็นสามีกันเหล่า
แต่หากเมื่อนางลองคิดใตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนดูแล้วนัน้ ภาพของ
ค่าคืนวานอันแสนร้อนแรงกลับเข้ามาในห้วงความคิดของนางอีก
ครั้ง มันคงเป็นไปไม่ได้สาหรับนางที่จะสามารถทาให้สามีนางพอใจ
ได้โดยง่ายขนาดที่ว่านางพยายามอดกลั้นฝืนทนอย่างสุด
ความสามารถแต่มันเห็นได้ชัดว่าสามีหนุ่มของนางนั้นยังคงมี
อารมณ์ความต้องการที่มากล้นเหลือจริงๆ
เช่นนั้นแล้วหญิงสาวสมาชิกในกลุ่มของนางล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี
ที่สุดสาหรับการแบ่งเบาภาระการมอบความสุขให้กับหลินหมิงไม่ใช่
เช่นนั้นหรือ
" พวกเจ้าทั้งสองไม่ต้องกังวลเกียวกับข้าอย่างไรเสียพวกเจ้าทั้ง
สองก็ขึ้นชื่อว่าได้เป็นภรรยาของเขาแล้วดังนั้นพวกเจ้าสมควรมอบ
ความสุขให้แก่สามีให้มากที่สุด "
ได้ยินเช่นนั้นทั้งหวางเฟยและหมิงเลี่ยนตาพลันแสดงสีหน้ายินดี
ขึ้น แม้ว่าพวกนางจะรู้ว่าพวกนางอาจต้องเป็นภรรยาที่มีลาดับ
ความสาคัญน้อยกว่าหัวหน้าพวกนาง ซึ่งหากเป็นบุรุษโดยทั่วไป
แล้วคงยากที่พวกนางจะได้รับความสุขจากสามีแต่เด็กหนุ่มผู้นไี้ ม่สิ
สามีของพวกนางหาได้ใช่คนธรรมดาอย่างนั้นไม่ ไม่เพียงแต่พวก
นางจะไม่ขาดความสุขที่ได้รับจากเขาแต่มันกลับตรงกันข้ามเสีย
มากกว่า
" เช่นนั้นมือเช้านี้ของข้าคงเป็นภรรยาทั้งสามแล้ว "
" ขะ..ข้าขอดูด้วยได้ไหมเจ้าคะ "
" ขะ..ด้วยเจ้าคะ "
ฉีหลินและลีเซียนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงตะกุกตะกักพวกนาง
ยังคงไม่แน่ใจนักสาหรับการที่จะยอมพลีกายและตกเป็นหญิงสาว
ของเด็กหนุ่มผู้นี้ แม้วา่ เมื่อดูจากรูปร่างภายนอกเขาจะดูงดงามมี
ราศีแต่นั้นเป็นเพียงความงามของบุรุษที่สามารถหาได้ไม่ยากนัก จุด
ที่พวกนางทั้งสองสนใจจริงๆนั้นคือความสามารถของเขาต่างหาก
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความสามารถเชิงต่อสู้อย่างเช่นระดับพลัง
หรือทักษะแต่เป็นความสามารถที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครที่
สามารถเพิ่มขีดจากัดให้กับหญิงสาวผ่านทางการร่วมรัก และการ
มอบความสุขให้กับหญิงสาวต่างหาก ดังนั้นแล้วพวกนางจึงอยาก
เห็นสิ่งเหล่านี้แม้ว่ามันจะดูน่าอายไปบ้างก็ตามที่
ฟ่งซือเซียนพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจตัวนางยังคงรู้สึกอ่อนล้า
บริเวณช่วงล่างอยู่เลยและคงไม่สามารถปรนนิบัตสิ ามีได้แต่ถึงอย่าง
นั้นไม่ใช่ว่าท่วงท่าที่บุรุษของนางได้ใช้ในค่าคืนที่ผ่านมานั้น
จาเป็นต้องใช้เพียงร่องสวาทของหญิงและทวนของบุรุษเพื่อหา
ความสุขไม่
ฟ่งซือเซียนเกาะแขนนาสามีของนางเข้าไปยังรังรักที่นางและ
เขาได้ร่วมบทเพลงกันในคืนที่ผ่านมาอีกครั้งโดยมีร่างของหญิงสาว
อีกสี่คนตามมาติดๆ

ตอนที่ 79
หลายชั่วยามผ่านไป
หลินหมิงกาลังนอนอย่างสบายใจด้วยร่างกายเปลื่อยเปล่าอยู่บน
ตักของฟ่งซือเซียน พร้อมกับร่างของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยที่
กาลังนอนหลับด้วยใบหน้าอันพึงพอใจโดยที่เรื่อนร่างของพวกนาง
ทั้งสองในตอนนี้ถกู ปกคลุมด้วยผ้าพื้นบางคนละชิดเพียงเท่านั้น อีก
ทั้งที่บริเวณส่วนล่างของพวกนางทั้งสองยังคงปรากฎหลักฐานแห่ง
ความสุขที่พวกนางได้รับจากหลินหมิงอย่างท่วมท้น
พวกนางไม่มีความสงสัยเลยว่าในตอนนี้ชีวิตของพวกนางทั้ง
สองคงไม่สามารถขาดเด็กหนุ่มผู้นี้ไปได้แล้ว ลีลาความสุขที่เขาได้
มอบให้แก่พวกนางนั้นมันช่างยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าในครั้งแรกอย่าง
ไม่ต้องสงสัย อาจเป็นเพราะที่บริเวณร่องสวาทของพวกนางนั้นเริ่ม
ที่จะสามารถปรับตัวได้อย่างน่าตกใจและมันทาให้ความเจ็บปวด
ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในตอนที่ศูญเสียพรหมจรรย์ในครั้งแรกราวกับ
เป็นเรื่องโกหกไปในทันที
" น้องหญิงแล้วเจ้าไม่สนใจบ้างเช่นนั้นรึ "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเอิ้อมมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าของฟ่งซือ
เซียนที่เป็นที่หนุนศรีษะของเขาในตอนนี้ นางยังคงไม่สามารถที่จะ
ร่วมรักกับหลินหมิงได้ในตอนนี้ไม่ใช่ว่าเพราะนางไม่ต้องการ
เพียงแต่ว่าหากเป็นเช่นนั้นนางคงได้หลับไม่ได้สติไปหลายวันเป็นแน่
" แน่นอนว่าข้าย่อมต้องการความรักจากท่านพี่เพียงแต่ตัวข้าใน
ยามนี้ยังคงต้องการพักฟื้นอีกสักเล็กน้อยและหากข้าได้ร่วมบทเพลง
กับท่านแล้วละก็ข้าเกรงว่าแผนการณ์ของท่านพี่อาจต้องล้มเหลว
"
" งั้นก็ช่างเรื่องนั้นมันเสีย "
" โปรดอย่าได้กล่าวเช่นนั้นตัวข้าเองนั้นก็ยังคงมีความแค้นเคือ
ยงกับหญิงสาวผู้นั้นอยู่ และด้วยนางเองก็เช่นเดียวกันดังนั้นแล้ว
หากข้าอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมเกรงว่าเมื่อนางมาถึงแม้ข้าจะได้รับ
ความก้าวหน้าจากท่านมาแล้วก็อาจเกิดเรื่องผิดพลาดได้เจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนอบอุ่นในหัวใจให้กับสามีหนุ่มของนางผู้นี้เขากระทั่ง
กล้าทิ้งแผนการณ์รวบหัวรวบหางหญิงสาวสูงศักดิน์ างนั้นเพียงเพื่อ
ต้องการหาความสุขจากนางที่ตกเป็นของเขาแน่นอนอยู่แล้ว
โดยที่ไม่ได้ใส่ใจสายตาของหญิงสาวอีกสองคนที่อยูภ่ ายในที่แห่ง
นี้ ฉีหลิน และลีเซียนแน่นอนว่าพวกนางอยู่ตั้งแต่หลินหมิงได้กระทา
การร่วมรักกับเพื่อนสาวของนางอย่างร้อนแรง ถึงพวกนางจะเคยได้
ยินคากล่าวเล่าจากเพื่อนมาก่อนหน้าแต่เมื่อได้เห็นของจริงแล้วนั้น
มันเกินกว่าที่จินตานาการของพวกนางทั้งสองคาดเอาไว้มาก
' มันใหญ่เกินไปไม่ใช่หรือ ? ' ' เหตุใดหมิงเลี่ยนกระทั่งหวางเฟ
ยถึงได้มีทีท่าความสุขเช่นนั้น ? '
พวกนางสับสนกับบทรักอันร้อนแรงของหลินหมิงมากเห็นได้
อย่างชัดเจนว่าทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่สิ่งทีส่ ตรีสามารถ
ต่อกรได้เลยแม้แต่น้อยอีกทั้งมันยังคงมีคุณสมบัติอนั ่าเหลือเชื่อนั้นก็
คือความไม่เสือมถอยลงเลยแม้แต่น้อย พวกนางได้ยินเสียงครางร้อง
ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของเพื่อนสาวทั้งสองแบบที่ไม่เคยพบเห็น
หลังจากที่ได้เห็นบทรักอันแสนยาวนานเช่นนี้แล้วร่องสวาทของ
พวกนางทั้งสองพลันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดจะว่าอาการมัน
ก็ไม่เชิง มันเป็นความรูส้ ึกแปลกประหลาดที่ราวกับร่างกายรู้สึกไม่
สบายอุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุพร้อมกับ
ลมหายใจที่หนักหน่วงด้วยเช่นเดียวกัน
" งั้นหลังจากจบเรื่องนี้ข้าจะมอบความสุขให้แก่เจ้าไปอย่าง
ยาวนานเลยน้องหญิงของข้า "
" ฮิฮิ ขอจะรอเจ้าคะ...เพียงแต่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่าจะมีผู้คน
ที่ต้องการให้ท่านพี่ช่วยบรรเทาทุกข์ให้เสียแล้วเจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างของฉีหลิน
และลีเซียนนางมั่นใจอยู่แล้วว่ามันคงไม่มีสตรีใดในโลกนี้ที่สามารถ
ทนเห็นบทรักนี้โดยไม่มีอารมณ์เกิดขึ้นขนาดนางเองที่ได้รับมันมา
เมื่อค่าคืนวานนี้แท้ๆยังแทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยูเ่ ลย
" ขะ..ข้าไม่ไหวแล้วหัวหน้า ร่างกายข้ามันรู้สึกแปลกๆ ได้โปรด
ช่วยข้าด้วย "
" ข้าเองก็ไม่ไหวแล้วเจ้าคะ มันร้อนรุ่มไปหมดจะหายใจยังรู้สึก
ลาบากเลยเจ้าคะ "
หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของหญิงสาวทั้งสองที่ยังคงนั่งพับขา
ด้วยท่าทีไร้ซึ่งเรี่ยวแรง พวกนางใช้มือทั้งสองโอบกอดร่างของ
ตนเองเพื่อต้องการบรรเทาความทรมานที่เกิดขึ้นแต่ดูเหมือนว่ามัน
จะไม่เป็นผลนัก
" เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านพี่ ด้วยหน้าตาของพวกนางนั้น
เรียกได้ว่างดงามไม่แพ้หมิงเลี่ยนหรือหวางเฟยที่ได้ตกเป็นของท่าน
ไปแล้ว พวกนางทั้งสี่ลว้ นเป็นบุปผางามที่บุรุษทัง้ หลายล้วนใฝ่ฝัน
"
" เจ้าเองก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กนั ....งั้นข้าคงต้องช่วยเหลือพวกนางสัก
หน่อย "
หลินหมิงเดินมาทางฉีหลินและลีเซียนพร้อมกับประคองร่างพวก
นางทั้งสองให้ขึ้นไปนั่งบนโขนหินที่ห่างกันไม่มากนัก หลินหมิงทา
การลูบไล้จากบริเวณข้อเท้าของพวกนางทั้งสองอย่างเชื่องช้าผ่าน
ขาเรียวงามจนกระทั่งขึ้นมาถึงต้นขาร่างกายของหญิงสาวสั่นไปมา
ด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย เพียงแต่ว่าในตอนนี้พวกนางรู้ดีขึ้น
เมื่อยามที่หลินหมิงได้สัมผัสไปที่เรือนร่างของพวกนาง
ขาทั้งสองข้างของหญิงสางทั้งสองถูกแหวกออกโดยที่พวกนาง
ยังคงไม่ทันได้รู้สึกตัวหลินหมิงก้มไปมองก็พบว่าร่องสวาทของพวก
นางนั้นแฉะเยิ้มราวกับทารักที่ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะของตนเองใน
ยามดึกได้ หญิงสาวทั้งสองเมื่อพลันรู้สึกตัวใบหน้าของพวกนางเต็ม
ไปด้วยความแดงซ่าน แต่ถึงเช่นนั้นพวกนางทั้งสองก็ยังคงปล่อย
กายให้หลินหมิงทาตามอาเภอใจพร้อมกับรับมือกับความสุขที่ได้
จากหลินหมิง
" งั้นเริ่มจากเจ้าก่อนก็แล้วกัน "
เป็นฉีหลินที่หลินหมิงได้กล่าวกับนางศรีษะของหลินหมิงเข้าใกล้
มาสู่จุดอันตรายของหญิงสาวจนนางแทบไม่กล้าเปิดตามอง
แผล็บบ
" อ้าาาาาาา ~~~~~ นะ...นี้มัน...ยอดเยี่ยมจริงๆเจ้าคะ "
เมื่อเจอกับการตวัดลิ้นโลมเลียร่องสวาทฉีหลินถึงกับครางร้อง
เสียงหลง เพียงแค่ในตอนที่ลิ้นของหลินหมิงยังไม่ทันได้สัมผัสมี
เพียงแค่ลมหายใจของเขาที่ยังคงจ่อรดร่องสวาทของนางอยู่นั้นมัน
ก็แทบจะทาให้นางอดทนไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ที่นาง
โดนเขาโลมเลียร่องสวาทราวกับจะทาความสะอาดมันเสียหมด
ถึงแม้จะได้ดูทว่ งท่าบทรักเช่นนี้มาก่อนหากแต่เมือ่ เทียบกับของ
จริงแล้วนั้นนางรู้ได้ทันทีว่านางประเมินตัวของหลินหมิงต่าไป นี้
อาจเรียกว่าเป็นหนึ่งในท่วงท่าของเขาที่สามารถมอบความสุขให้กับ
หญิงสาวนางแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าหากนางได้รับท่วงท่า
อย่างอื่นเล่า
" ลิ้น..ของท่าน...เข้าไปลึกมาก....อู้วววว ~~~~~~~~ "
เมือเห็นเช่นนี้มีหรือที่ลีเซียนางจะสามารถทนได้กระทั่งเพื่อน
ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับนางในตอนแรกยังแปรเปลี่ยนไปได้เสีย
ขนาดนี้เพียงแค่ท่วงท่าเดียว นางก็เหมือนกับยอมตกเป็นของเจ้า
เด็กหนุ่มนี้เสียแล้ว ในตอนนี้นางแทบจะทนรอไม่ไหวอีกต่อไปสัมผัส
ความสุขใดกันที่สามารถทาให้เพื่อนนางเป็นเช่นนี้ได้กัน
" ได้โปดรดทามันกับข้าด้วย.... "
เนื่องจากลิ้นของหลินหมิงยังคงตวัดอยูก่ ับร่องสวาทของฉีหลิน
ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่สามารถทามันกับลีเซียนได้แต่ถึงอย่างนั้นมือ
ข้างหนึ่งของหลินหมิงก็ได้ล้วงเข้าที่ร่องสวาทของนางอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับนิ้วสองนิ้วของเขาที่เข้าไปสารวจโพร่งร่องสวาท
" อ้าาา ~~~~~~~~~ "
มันจงจะเกินไปหน่อยสาหรับหญิงสาวแรกบริสุทธ์ที่ต้องทน
รับมือกับสองนิ้วในทีเดียวแต่ถึงอย่างนั้นลีเซียนนางก็ยังคงจับท่อน
แขนของหลินหมิงเอาไว้โดยไม่หันแขนของเขาห่างออกไปไหน
" ระ...เร็วไปแล้ว...อ้าาา อ้าาา ไม่ไหวแล้ว "
หญิงสาวทั้งสองปลดปล่อยน้ารักใสๆออกมาจากร่องสวาทของ
พวกนางเป็นจานวนมาก และไหลงมาที่ขาพวกนางอย่างเย้ายวน
" เอาละที่นี้ก็ตาพวกเจ้าบ้างแล้ว "
ฉีหลิน และลีเซียนยังไม่ทันหายเหนื่อยจากการเสร็จสมพวกนาง
ทั้งสองถูกทาให้กลายเป็นเครื่องบาเร่อของหลินหมิงไปเสียแล้ว
" แบบนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ "
" อาา..ดีมากตวัดลิ้นของเจ้าอย่างนั้นละ ใช้มือลูบมันด้วย "
พวกนางทั้งสองไม่อยากจะเชื่อว่าต้องทาอะไรเช่นนี้ขนาดเหล่า
หญิงสาวโลคียังคงไม่ต้องมาทาอะไรเช่นนี้ แต่เมื่อผ่านไปเพียงชั่วครู่
พวกนางกลับรู้สึกว่าทวนมังกรของหลินหมิงนั้นได้สร้างความโหย
หาให้กับพวกนางอย่างบอกไม่ถกู รสชาติที่ลิ้นของพวกนางยามได้
สัมผัสมันแทบจะทาให้ทั้งร่างกายหลอมละลายไปด้วยความรู้สึก
ร้อนรุ่น กลิ่นคาวที่แผ่ออกมานั้นแม้จะไม่เรียกได้วา่ หอมหวญแต่มัน
กลับสร้างความเพลิดเพลินให้กับพวกนางอย่างน่าประหลาด

ตอนที่ 80
ฉีหลินกับลีเซียนในตอนแรกนางพวกนางคิดคาดหวังในตัวของ
หลินหมิงเพื่อการยกระดับอันก้าวกระโดดของตนเอง เพียงแต่
ในตอนนี้สภาพของพวกนางไม่แตกต่างจากทาสกามอารมณ์ของ
หลินหมิงไปแล้ว ลิ้นของพวกนางที่กาลังโลมเลียทวนมังกรของ
หลินหมิงไปทัง้ แท่ง หากไม่ใช่บุรุษที่มีขนาดทวนมังกรใกล้เคียงกับ
เขามันคงเป็นไปได้ยากทีจ่ ะทาเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยขนาดทวน
ปกติโดยทั่วไปเพียงแค่มนั ต้องรับมือกับลิ้นของสตรีเพียงหนึ่งก็
นับว่าเต็มกลืนแล้ว
ทวนมังกรแท่งอวบถูกหญิงสาวทั้งสองลูบไล้สัมผัสและโลมเลีย
กระทั่งนาไปถูทีใบหน้าพวกนางอย่างไม่มีความอาย สิ่งนี้
เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ของพวกนางไปแล้ว เมือ่ หวนคิดถึงเพื่อน
สาวของพวกนางทั้งสองอย่างหมิงเลี่ยนและหวางเฟยหญิงสาวทั้ง
สองรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย ด้วยการที่พวกนางจะต้องตกเป็นของ
เด็กหนุ่มผู้นี้ในไม่ช้าแต่สถานะของพวกนางอาจด้อยกว่าเพื่อนสาว
ทั้งสอง
เพราะด้วยการที่พวกนางนั้นมาทีหลัง อีกทั้งสาหรับลีเซียนนาง
ยังเคยกระทั่งทาร้ายหลินหมิงมาก่อน เช่นนี้แล้วพวกนางยังจะได้รับ
ความสุขเท่ากับเพื่อนสาวทั้งสองอีกหรือ ไม่ต้องกล่าวถึงหัวหน้า
พวกนางอย่างฟ่งซือเซียนด้วยสถานะของนางนั้นเรียกได้ว่าสูงส่ง
อย่างยิ่งในตอนนี้เรียกได้ว่าแม้แต่ในเมืองหลวงตอนนี้ก็สามารถหา
คนขัดใจนางได้ยากยิ่งแล้ว แล้วยิ่งการที่ได้เห็นหลินหมิงให้ความ
เอาใจใส่หัวหน้าพวกนางดีเกินหน้าใครอื่นเช่นนี้เป็นที่ชัดเจนว่า
หัวหน้าพวกนางนั้นมีความสาคัญต่อหลินหมิงมากกว่าพวกนาง
" อ้าปากสิ...ข้าจะไม่ไหวแล้ว "
ฉีหลินและลีเซียนทาตามอย่างว่าง่ายพวกนางสามารถสัมผัสได้
ว่าทวนมังกรของหลินหมิงมีการสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับตัว
ทวนที่ดูเหมือนจะมีขนาดขยายใหญ่ขึ้นอยู่ชั่วขณะ น้ารักจานวน
มากของหลินหมิงได้พุ่งทะยานลอยเข้าสู่ภายในปากของหญิงสาว
ทั้งสองพร้อมกับเรือนร่างของพวกนางก็ยังคงประดับไปด้วยน้ารัก
ของหลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน
หญิงสาวทั้งสองเพียงได้สมั ผัสน้ารักของหลินหมิงร่างกายของ
พวกนางพลันรู้สึกตื่นตัวขึน้ มา
' นี้มันยาวิเศษใดกัน ! '
พวกนางอาจพอคาดเดาได้ว่าน้าที่พวกนางดื่มกลืนลงไปนั้นคือ
สิ่งใดเพียงแต่ว่าหากคิดถึงรสชาติและสิ่งที่พวกนางได้รับในตอนนี้
มันสมควรเรียกได้ว่าน้าทีม่ าจากเจ้าทวนมังกรของบุรุษได้อีกหรือ
ด้วยน้ารักของหลินหมิงการที่น้าศักดิ์สิทธ์หรือโอสถต่างๆทีต่ ่างล้วน
ได้รับคากล่าวอ้างว่าเป็นน้าที่มีคุณค่าและรสอันโอชะแต่หากเทียบ
กับน้ารักของเด็กหนุ่มผู้นสี้ ิ่งเหล่านั้นจะยังสามารถนามาเปรียบได้
อีกอย่างนั้นหรือ
หลินหมิงขึ้นไปคร่อมร่างของฉีหลินเอาไว้พร้อมกับค่อยๆนาทวน
ของเขาเข้าไปในร่างของนาง รสชาติความของหญิงสาวบริสุทธ์นั้น
มันไม่ใช่แค่เพียงร่องสวาทของพวกนางเท่านั้นแต่มันยังคงเป็น
ท่าทางของพวกนางที่ยังคงตอบสนองต่อบุรุษได้ไม่ดีนัก แต่ถงึ อย่าง
นั้นมันกลับทาให้หญิงสาวเหล่านั้นดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีกแบบ
" มะ...มันค่อยๆเข้า..มาแล้วววว "
เนื้อเยื่อพรหมจรรย์ของนางค่อยๆถูกทาลายลงอย่างเชื่องช้าแต่
ใบหน้าของหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความสะใจ เพียงแค่ส่วนปลาย
ทวนสามารถมุดเข้ามาที่ร่องสวาทได้ฉีหลินก็แทบจะไม่สามารถ
บรรยายความสุขที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใด
หัวหน้าของนาง หมิงเลี่ยนและหวางเฟยนั้นถึงได้มที ีท่าต่อหลินหมิง
เช่นนี้
" ซี๊ดดดดด ~~~~ แน่นท้องไปหมดเลย... "
" ข้าจะขยับมันแล้วนะ "
เมื่อหลินหมิงสามารถส่งทวนมังกรเข้ามาจนสุดผนังร่องสวาท
เขาไม่รอช้าทาการขยับสะโพกในทันทีพร้อมมือทั้งสองข้าของเขาที่
เข้าไปลูบไล้ยังเรือนร่างของฉีหลิน
" จากนี้ไปเจ้าเป็นหนึ่งในภรรยาของข้าแล้ว "
" เจ้าคะ...ขะ..ข้า..มีความสุขเหลือเกิน..."
หลินหมิงขยับสะโพกไปอย่างเชื่องช้าเพื่อค่อยๆลิ้มสัมผัสรสชาติ
ของร่องสวาทบริสุทธ์นี้แต่ถึงอย่างนั้นร่องสวาทของฉีหลินก็ยังคงไม่
สามารถอดกลั้นน้ารักของตนเองเอาไว้ได้ ทุกครั้งที่หลินหมิงทาการ
กระแทกทวนเข้าไปในร่องสวาทของนางจะสามารถได้ยินเสียงน้า
กระเฉาะอันเป็นเสียงน้ารักของหญิงสาว
" ขะ..ข้าเองก็อยากได้ของท่านเหมือนกันเจ้าคะ "
เป็นลีเซียนที่กล่าวออกมาหลังจากที่นางต้องทนดูหลินหมิงร่วม
รักกับเพื่อนนางไปได้เพียงชั่วครู่ หากนางไม่ทาเช่นนี้อาจเกรงได้ว่า
นางอาจต้องรอไปอย่างยาวนานจนกว่าจะถึงรอบของนาง หลินหมิง
พลันได้ความคิดดีดีขึ้นมาได้ร่างของหญิงสาวทั้งสองถูกจับให้นอน
คว่ากับพื้นพร้อมกับส่วนบั้นท้ายของพวกนางที่ถูกยกขึ้นมา
ด้วยการที่ร่างกายของหญิงสาวทั้งสองนัน้ ถูกจัดวางให้ไม่ห่างกัน
มากนักมันทาให้หลินหมิงง่ายต่อการที่จะสลับจู่โจมใส่พวกนางทีละ
คน สาหรับฉีหลินนั้นนางไม่ได้มีความรู้สึกโกรธเคืองต่อเพื่อนนางลี
เซียนเลยสักน้อยอันที่จริงแล้วมันกลับเป็นตรงกันข้ามแน่นนอว่า
นางย่อมปราถนาในการร่วมรักกับหลินหมิงอย่างแรงกล้าแต่หาก
ปล่อยให้เขาจู่โจมนางทั้งอย่างนั้นต่อไปนางคงไม่สามารถรับมือกับ
เขาได้อย่างยาวนาน
เทียบกันแล้วหากนางได้ลเี ซียนเขามาช่วยแบ่งเบาความสุขที่
กาลังจะเกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ว่านางจะสามารถร่วมรักกับเขาได้นานขึ้น
อย่างนั้นหรือ
ด้วยการที่อยู่ในสภาพเช่นนี้มันทาให้หญิงสาวทั้งสองไม่สามารถ
มองดูได้ว่าใครกันที่จะเป็นฝ่ายโดนจู่โจมจากหลินหมิง จึงทาให้เกิด
ความรู้สึกตื่นเต่นกับพวกนางเล็กน้อย
" อร้างงงงงง ยะ...ยอดเยีย่ ม...จริงๆด้วย "
เป็นลีเซียนที่ถกู หลินหมิงเข้าเปิดบริสุทธ์เสียก่อนอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงไม่ได้ค่อยทาการเสียบทวนเข้าไปดั่งเช่นในคราวของฉีหลิน
แต่เขาเสียบมันเข้าไปในทันที มันทาให้หญิงสาวหน้ามืดไปชั่วขณะ
เลยทีเดียสัมผัสแน่นทีท่ ้องเป็นเครื่องบ่งบอกอย่างแน่ชัดว่าทวน
มังกรของเด็กหนุม่ ผู้นี้มีขนาดใหญ่เพียงใด
" มาอีกแล้วว ~~~~~ "
ฉีหลินที่กาลังใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกายอยู่ได้ไม่นานทวน
มังกรของหลินหมิงก็กลับเข้ามาจู่โจมใส่ร่องสวาทของนางอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าในครั้งนี้หลินหมิงได้จู่โจมขึ้นอย่างหนักหน่วง เสียงก้อน
เนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างเร้าร้อนพร้อมกับเสียงครางของหญิงสาว
หลินหมิงยังทาการสลับจูโ่ จมร่องสวาทของฉีหลินและลีเซียนไป
อย่างยาวนานจนกระทั่งเขาระเบิดน้ารักใส่ร่องสวาทของพวกนาง
ไปคนละหนึ่งครั้งด้วยสภาพของหญิงสาวทั้งสองทีเ่ หนื่อยอ่อนแบบ
สุดๆ พวกนางไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ต้องรับมือกับหลินหมิงจะทาให้
พวกนางเหนื่อยได้ถึงเพียงนี้
แค่พวกนางต้องทนรับน้ารักของหลินหมิงเพียงแค่หนึ่งครั้งมันก็
แทบจะทาให้พวกนางจะบ้าตายไปด้วยความสุข แล้วเหตุใดหัวหน้า
ของพวกนางถึงสามารถทามันได้ทั้งคืนเพียงคนเดียวกัน เมื่อคิดได้
เช่นนี้พวกนางทั้งสองไม่มคี วามลังเลที่จะยื้อแย่งตาแหน่งของ
หัวหน้าพวกนางไปไม่เช่นนั้นแล้วหากกลับกันเป็นฝ่ายพวกนางทั้ง
สองที่โดนจู่โจมทั้งคืนคงเรียกได้ว่าพวกนางอาจไม่สามารถทาอะไร
ได้ไปอีกหลายวัน
ในตอนนี้หลินหมิงกลับไปมาอยู่ในสภาพนอนหนุนตักของฟ่งซือ
เซียนอีกครั้งพร้อมกับที่บริเวณช่วงล่างของเขานั้นได้รับการ
ปรนนิบัติจากฉีหลินและลีเซียนอย่างต่อเหนื่อง แม้ว่าพวกนางทั้ง
สองจะปฎิเสธที่จะร่วมรักกับเขาต่อไปเนื่องจากสภาพร่างกายของ
พวกนางที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บได้ไม่นานแต่พวกนางยังคง
ยินดีที่จะปรนนิบัติหลินหมิงด้วยท่วงท่านี้

ตอนที่ 81
สามวันผ่านไป
ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้แน่นอนว่าหลินหมิงและกลุ่มหญิงสาว
ทั้งห้านั้นไม่ได้ออกห่างไปจากบริเวณเขาอันเป็นที่ตั้งของบงกช
เหมันต์ วันคืนแต่ละวันของหลินหมิงและหญิงสาวทั้งห้าดาเนินไป
อย่างไม่มีความเบื่อหน่ายแม้ว่ากิจวัตรประจาวันของพวกเขาจะไม่
ค่อยต่างจากเดิมในแต่ละวันและส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้เวลาในการ
ขับร้องบทเพลงรักกันเสียส่วนใหญ่ก็ตาม
ในตอนนี้หลังจากที่หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวทั้งห้า
แล้วไม่น่าเชื่อว่าพลังปราณของเขาในตอนนี้จะก้าวกระโดดจนมา
อยู่ในจุดสูงสุดปราณก่อเกิดระดับ 6 ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมัน
สมควรจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งกว่านี้แม้ว่าหญิงสาวที่เขาทาการ
ร่วมรักด้วยทั้งห้าคนจะมีระดับพลังในขั้นจอมยุทธ์ทั้งหมดก็ตาม
ซึ่งทั้งหมดนีม้ ันเกิดขึ้นได้เพราะหญิงสาวซัคคิวบัสที่เขาได้ร่วม
รักกับนางก่อนหน้ามันทาให้พื้นฐานพลังของหลินหมิงนั้นเรียกได้ว่า
เกินพอสาหรับปราณก่อเกิดแล้วในตอนนี้ เมื่อหวนคิดกลับไปเมื่อ
ยามเขากลับไปที่สมาคมปรุงยาไม่สิเมื่อยามที่เขาได้กลับไปที่เมือง
ฟานชูแล้วยังจะมีรุ่นเยาว์คนใดที่มีความสามารถเทียบเท่ากับเขาได้
อีก
ขนาดศิษย์พี่สาวสวยของเขาอย่างหลัวฉิงเชี่ยนที่ได้รับการ
ขนานว่าเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุดในรุ่นเยาว์ก็ยังคงไม่
สามารถเปรียบเทียบได้ เทียบกับนางที่มีระดับปราณก่อเกิดระดับ 3
ด้วยอายุ 20 ปีหากเทียบกับหลินหมิงในตอนนีท้ มี่ ีอายุเพียง 15 ปี
มันเห็นได้ชัดระหว่างนางและหลินหมิงมีช่องว่างขนาดใหญ่เกินขึ้น
เพียงระยะเวลาไม่นาน
" ท่านพี.่ ..ข้าสัมผัสได้ถึงตัวนางแล้วเจ้าคะ "
เป็นฟ่งซือเซียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทีอ้อนน้อมและอ่อนหวาน
แบบทุกทีเช่นเดียวกันกับหญิงสาวที่เหลือทั้งสี่อย่างหมิงเลี่ยน หวาง
เฟย ลีเซียนและฉีหลิน พวกนางทั้งสี่ได้ตกเป็นของหลินหมิงทั้งกาย
และใจไปแล้วเช่นเดียวกันกับหัวหน้าพวกนาง
หลินหมิงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แม้ว่าความสุขที่ได้รับจากหญิง
สาวทั้งห้านี้ในสามวันที่ผา่ นมันจะเป็นอะไรที่เขาไม่อยากให้มัน
เลิกราเพียงแต่เมื่อหวนคิดถึงรสชาติสาวงามอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
ขนาดรวมความงามของหญิงสาวทั้งห้าคนนี้เข้าไว้ด้วยกันก็อาจ
เพียงพอแค่สูสีเพียงเท่านั้น
หลินหมิงและกลุ่มหญิงสาวทั้งห้าเดินทางมาหยุดอยู่ที่บริเวณ
ทางขึ้นเขาเพียงไม่นานหลินหมิงก็ได้พบกับร่างหญิงสาวที่แสน
คุ้นเคยอีกครั้ง ใบหน้าเรียวงามพร้อมกับผิวหนังอันเรียบเนียน
สะท้อนแสงแดดในยามเช้าจนเกิดประกายแสงเจิดจ้าสัดส่วนโค้ง
ว้าวของนางนั้นยังเป็นอะไรที่สามารถดึงดูดตาของหลินหมิงได้ทกุ
ครั้งอย่างไม่มีเบื่อ หากจะมีใครที่สามารถหันเหสายตาของเขาจาก
เรือนร่างของหญิงสาวผู้นี้ก็อาจมีเพียงแค่หญิงสาวซัคคิวบัสอย่าง
ซือเฟยหรือเหล่าแม่เทพธิดาที่เหลืออย่างอาจารย์สาวสวย หลิวฉวน
ยูร์และศิษย์สาวสวยของเขาเท่านั้น
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเมื่อได้
เห็นหลินหมิงอยู่ในกลุ่มของหญิงสาวทัง้ ห้า นางไม่คิดมาก่อนว่าใน
ตอนแรกนางจะถูกซ้อนแผน การต่อสู้ระหว่างนางกับหัวหน้าของ
กลุ่มหญิงสาวนี้เป็นแค่การถ่วงเวลาเท่านั้น และนางคงไม่สามารถ
ปล่อยให้หลินหมิงตกอยู่ในอันตรายได้ไม่เช่นนั้นแล้วแม้ว่าจะด้วย
ฐานะของนางแต่ประมุขสมาคมหรืออาจารย์ของเจ้าเด็กผู้นี้คงไม่
ปล่อยเรื่องนี้ไปโดยง่าย
" เอาล่ะข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งหมดหากพวกเจ้ายอมส่งเด็ก
หนุ่มคนนั้นคืนมาแต่โดยดี "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ได้สังเกตท่าทางของเหล่าหญิงสาวเลยว่านาง
ปฎิบัติตัวกับหลินหมิงเช่นไร อาจเป็นเพราะความกังวลภายในใจ
ของนางจึงทาให้นางไม่ทันได้สังเกต
" ไว้ชีวิต ? น่าขัน...เจ้ากล่าวอย่างกับว่าด้วยระดับของเจ้านั้นจะ
สามารถเอาชีวิตของพวกข้าได้ "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นถึงกับสับสนหญิงสาวผู้นี้นางได้รับแรง
กระทบกระเทือนจากการต่อสู้ครั้งก่อนจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว
หรืออย่างไร จริงอยู่ที่ว่าในการต่อสู้ครั้งก่อนนั้นแม้นางจะได้รับ
บาดเจ็บมาเช่นเดียวกันแต่นั้นคงไม่สามารถเทียบได้กับหัวหน้าของ
กลุ่มหญิงสาวทั้งห้านี้ บาดแผลที่นางได้รับส่วนใหญ่เป็นเพียง
บาดแผลเล็กน้อยแต่นางต้องใช้เวลาพักฟื้นพลังปราณในร่าง
ต่างหาก
แล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้นหรือนางจะมั่นใจเมื่อมีกลุ่มสมาชิกสาวมา
เพิ่มอีกสี่คน ? สาหรับการต่อสู้ของผู้ที่อยู่จุดสูงสุดขั้นจอมยุทธ์
ด้วยกันแล้วนั้นขนาดผู้ทมี่ ีพลังปราณจอมยุทธ์ระดับ 7 ยังคงเข้ามา
แทรกแทรงได้ยากแล้วนีน้ ับประสาอะไรกับปราณจอมยุทธ์เริ่มต้น
" เจ้าคงลืมบาดแผลที่ข้าฝากไว้ ? หรือหากเจ้ามั่นใจว่ามีตัว
ประกันแล้วจะทาให้ข้ามีความลังเลแล้วละก็ข้าขอบอกเลยว่าเจ้าคิด
ผิด...ทางเลือกของพวกเจ้ามีเพียงสองหนึ่งคือพวกเจ้าต้องปล่อยตัว
เด็กหนุ่มนั้นแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า..สองหากพวกเจ้าปฎิเสธข้าก็
พร้อมจะบดขยี้พวกเจ้าทั้งหมดลงตรงนี้เสีย "
เดิมทีหลินหมิงเองก็มีความแค้นเคืองกับผู้อาวุโสฟางซิ่นอยู่ไม่
น้อยไม่เพียงแต่นางจะเป็นอาจารย์ของศัตรูของเขาอย่างหลิน
เสี่ยวต้านางยังเป็นคนขัดขวางการแก้แค้นของเขา ซึ่งหาก
ไม่เช่นนั้นแล้วหลินเสี่ยวต้ามันคงไม่ได้มีโอกาสหายใจดั่งเช่นทุกวันนี้
อย่างโดยง่าย ซ้านางยังเป็นคนพาเขาเข้ามายังภายในป่ามรณะแห่ง
นี้ที่เต็มไปด้วยความอันตรายและนางยังคงกล้าปล่อยเขาไว้ตาม
ลาพัง
" บาดแผล ? เจ้าฝันไปหรือเปล่า...แหกตาของเจ้าดูสิว่าส่วนใด
ของร่างกายข้าที่ปรากฎร่องรอยบาดแผลของเจ้ากัน...แน่นอนว่าข้า
ไม่ได้มีจิตใจโหดเ**้ยมเช่นเจ้าหรอกนะ...ข้ายินดีปล่อยให้เจ้ามีชีวิต
ต่อไปไม่ว่าเจ้าจะเลือกต่อสู้กับข้าหรือจะหนีเสียแต่ในตอนนี้....แต่ข้า
ไม่ได้ปล่อยเจ้าไปโดยง่ายหรอกนะเอาไว้อีกไม่นานเดียวเจ้าก็จะ
เข้าใจ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาพร้อมกับเหลือบไปยิม้ ให้หลินหมิง
เล็กน้อย นางต้องยอมรับจริงๆเมื่อได้มาเห็นเรือนร่างของหญิงสาวค่่
แค้นนี้ขนาดนางที่เป็นสตรียังคงที่จะอดชื่นชมไปไม่ได้ไม่แปลกใจที่
สามีหนุ่มของนางจะมีอารมณ์กับหญิงสาวผู้นี้ แต่แล้วอย่างไรเล่าใน
ท้ายที่สุดนางเชื่อว่าต่อให้เป็นหญิงสาวทีม่ ีจิตใจกล้าแข็งเพียงใด
หากต้องเจอกับลีลาเล้าโลมของเด็กหนุม่ เข้าไปแล้วพวกนางก็ยากที่
จะลืมเลือนนี้ยังไม่รวมถึงทวนมังกรขนาดใหญ่และท่วงท่าอันสุด
แสนเร้าร้อนต่างๆไม่มที างที่สตรีใดจะอดใจไว้อย่างแน่นอน
แล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นมีหรือที่สามีของนางจะให้ความสาคัญกับ
นางน้อยกว่า ? แน่นอนว่าไม่แม้ว่าหญิงสาวจะมีความงามมากกว่า
แล้วอย่างไรเล่าเห็นได้ชัดว่าสามีของนางเองก็มีความโกรธเคืองใน
ตัวของหญิงสาวอยู่ไม่ใช่น้อยดังนั้นแล้วในอนาคตหญิงสาวผู้นี้ก็อาจ
เป็นเพียงทาสสาวบาเร่อรักของสามีนางเพียงเท่านั้น
" หาที่ตาย ! "
สีหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเปลี่ยนเป็นโกรธกริ้วพร้อมกับร่างของ
นางที่พุ่งเข้าหาฟ่งซือเซียนด้วยความเร็วชนิดที่ว่าไม่มีคนใดที่เหลือ
สามารถมองตามได้ทันยกเว้นฟ่งซือเซียนเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 82
ทางฝ่ายของฟ่งซือเซียนนางไม่ได้ตื่นตระหนกกับความเร็วเช่นนี้
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นอีกต่อไปในสายตาของนางตอนนี้แล้วแม้ว่าการ
เคลื่อนที่ของหญิงสาวจะรวดเร็วแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่นางจะ
สามารถจัดการลงได้ เมื่อฝ่ามือของทั้งสองเข้าปะทะกันคลื่น
พลังงานแผ่กระจายออกมาจากทั้งสองจนเกือบทาให้หลินหมิงต้อง
ล้มลงหากไม่ใช่เพราะเขาได้รับการคุ้มครองจากหญิงสาวสี่คนที่
เหลือ
แม้แต่พวกนางเองในสถานการณ์เช่นนี้พวกนางก็ไม่สามารถที่
จะเข้าไปมีส่วนร่วมได้เลยแม้แต่น้อยลาพังเพียงแรงปะทะในครั้ง
แรกของทั้งสองมันก็เต็มกลืนพวกนางแล้ว ดังนั้นแล้วพวกนาง
ตัดสินใจพาหลินหมิงหลบหนีออกไปยังจุดที่ปลอดภัยดีกว่านี้
เสียก่อนถึงแม้ว่าหัวหน้าพวกนางจะมีพลังเหนือล้ากว่าในตอนนี้แต่
มันไม่ใช่ว่านางจะสามารถเอาชนะได้โดยเร็ว
คาพูดยั่วยุของฟ่งซือเซียนในตอนแรกนั้นย่อมเป็นหนึ่งใน
แผนการณ์ของนาง นางต้องการให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นพุ่งตรงเข้าจู่โจม
นางแต่เพียงผู้เดียวไม่เช่นนั้นแล้วเหล่าสมาชิกกลุ่มของนางอาจตก
เป็นหมายเสียแทนดั่งเช่นในตอนแรก
" ทั้งที่เจ้ากล้าพูดจาใหญ่ในตอนแรก..แล้วไหนเล่าข้ายังไม่ได้
รู้สึกอะไรจากการโจมตีของเจ้าเลย..ไม่สิมันอาจทาให้ข้ารู้สึกคันๆอยู่
บ้าง "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนางรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากด้วยฐานะของนาง
นั้นผู้ที่กล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้จุดจบของพวกเขาเหล่านั้นก็คืออนาคตที่
ถูกดับสิ้นในทันที เพียงแต่กับหญิงสาวตรงหน้านีท้ ั้งที่นางตั้งใจจะ
สังหารให้ได้โดยเร็วพลังของนางถูกเรียกใช้ออกมาไม่น้อยกว่าแปด
ส่วนเข้าไปแล้วถึงอย่างนัน้ หญิงสาวตรงหน้านางก็ยังคงสามารถ
รับมือได้อย่างสบาย
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ตอบกลับคากล่าวของฟ่งซือเซียนนางจับไปที่
แหวนมิติทดี่ ูจากภายนอกก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นแหวนมิติ
ระดับสูงแส้สีดาที่เรียกออกมาอยู่ในมือของนางเพียงการสะบัดแส้
ครั้งเดียวในตอนที่นางเรียกออกมามันถึงกับทาให้อากาศถูก
แบ่งแยกออก เกิดรอยเฉือนที่บริเวณต้นไม้ที่ห่างไกลออกไป
' นั้นมันอาวุธอะไรกัน ! '
หลินหมิงถึงกับตะลึงค้างกับภาพตรงหน้าบรรยากาศรอบตัวของ
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกลับแผ่แรงกดดันขึ้นมากกว่าเดิมแบบเทียบไม่ติด
ลาพังเพียงแค่ตัวแส้นั้นก็บ่งบอกได้ทันทีว่ามันมีความอันตราย
เพียงใดและเมื่อมันได้ผู้ใช้ที่เป็นระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดด้วยแล้ว
เป็นไปได้หรือไม่ว่าฟ่งซือเซียนของเขาจะอาจพ่ายแพ้ ?
" ในตอนนี้ทางเลือกของเจ้าเหลือเพียงหนึ่ง....นั้นก็คือความตาย
!"
ผู้อาวุโสฟางซิ่นสะบัดแส้ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อการจู่โจม
ในครั้งนี้หลินหมิงไม่สามารถมองออกได้ทันว่านางโจมตีมากี่ครั้งแต่
มันปรากฎคลื่นพลังที่แหวกอากาศออกเป็นจานวนมากพุ่งเข้าหา
ร่างของฟ่งซือเซียนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของฟ่งซือเซียน
เปลี่ยนเป็นจริงจังกะบี่ของนางถูกนาออกมาตั้งแต่ตอนที่นางได้เห็น
แส้ของผู้อาวุโสฟางซิ่นแล้ว
แน่นอนว่ากะบี่ของนางเองก็เป็นอาวุธระดับชั้นยอดที่หาได้ยาก
ยิ่งเพียงแต่เมื่อเทียบกันกับแส้ของหญิงสาวตรงหน้าแล้วมันกลับ
ด้อยกว่าอย่างน้อยหนึ่งขัน้
เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง !
ฟ่งซือเซียนระบากะบี่ของนางเพื่อใช้ปัดป้องคลื่นพลังเหล่านั้น
ด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ว่าอากาศโดยรอบ
พลันแปรเปลี่ยนโดยฉับพลันอุณหภูมิลดต่าลงจนนางรู้สึกหายใจ
ลาบากเล็กน้อย ร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นปรากฎขึ้นพร้อมกับแส้ของ
นางที่เต็มไปด้วยเพลิงสีฟา้ ที่แผ่ความเย็นออกมาอย่างน่าประหลาด
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้เต็มไปด้วยความกระหาย
เลือดแส้ในมือของนางถูกสะบัดในระยะประชิดเพียงแค่คลื่นพลัง
จากระยะไกลของแส้อันนี้ก็เรียกได้ว่ามีพลังทาลายมหาศาลแล้วยิ่ง
ในตอนนี้ที่ฟ่งซือเซียนต้องรับมือกับมันในระยะประชิดอีกทั้งยังมี
ปราณเพลิงสีฟ้าของหญิงสาวเพิ่มอนุภาพยิ่งขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่าง
นั้นใบหน้าของฟ่งซือเซียนกลับไม่มีความกังวลแต่อย่างใดนางยิ้ม
ออกมาด้วยทีท่าเปี่ยมสุข
เนื่องจากนางเคยปะทะกับคนผู้นี้มาครั้งหนึ่งแล้วและแน่นอนว่า
นี้คือพลังสูงสุดของฝ่ายตรงข้ามที่ทาให้นางพ่ายแพ้ไปในครั้งก่อน
เพียงแต่ว่าในตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว
" ตาย ! "
เสียงตะโกณต่าของผู้อาวุโสฟางซิ่นหากเป็นสถานการณ์ปกติมัน
คือประกาศิตสั่งตายฝ่ายตรงข้ามในทันที
" ปังง ! "
แส้ของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เดิมนางตั้งใจว่าการจู่โจมในครั้งนี้อย่าง
น้อยก็ย่อมทาให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในตอนนี้แส้
ของนางกลับถูกปัดกระเด็นให้หลุดมือไปอย่างง่ายดาย ยังไม่ทันได้
หายตกใจฝ่ามือของฟ่งซือเซียนอัดเข้ามาเต็มท้องจนร่างของนาง
กระเด็นไปหลายเมตรพร้อมกับสาลักเลือดออกมากองใหญ่
' ได้เช่นไรกัน ! '
ร่างกายของนางนั้นรู้หนักอึ้งจนแทบจะลุกไม่ขึ้นอีกต่อไป
เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดล้วนพลันหายไปในพริบตาทั้งหมดล้วนเกิดขึ้น
จากการโจมตีเพียงครั้งเดียว !
" ก็อย่างที่บอกข้าไม่คิดสังหารเจ้าหรอก.... "
อึกก
กะบี่ของฟ่งซือเซียนนาไปจ่อไว้ที่บริเวณต้นคอของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นอย่างรวดเร็ว นี้นับเป็นการต่อสู้ที่แสดงถึงความต่างชั้นระหว่างผู้
ที่มีระดับพลังจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดกับปราญช์โดยแท้จริง แม้ว่าผู้
อาวุโสฟางซิ่นจะมีอาวุธที่เหนือล้ายิ่งกว่าแต่พลังปราณนางนั้นไม่
สามารถนามาเทียบกันได้แม้ว่ามันจะเป็นความห่างกันเพียงแค่
ระดับเดียวก็ตามที่
" นะ...นี้..มัน..ได้อย่างไรกัน....ระดับปราญช์...เจ้าก้าวข้ามผ่าน
มันมาได้อย่างไรในเวลาช่วงสั้นๆ !! "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่เพียงแต่จะโกรธที่พ่ายแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้
แต่ศัตรูตรหน้านางทั้งที่ในตอนแรกยังมีความอ่อนด้อยมากกว่านาง
แท้ๆแต่เพียช่วงเวลาแค่ 3 วันหญิงสาวตรงหน้านี้กลับสามารถ
ทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์ได้แม้แต่พลังปราณของนางในตอนนี้ก็คง
ต้องใช้เวลาหลายปีในการทะลวง
" ข้าไม่จาเป็นจะต้องตอบเจ้า..แต่ข้าขอให้คาแนะนาอะไรดีดีสัก
หน่อยก็แล้วกัน...หากต่อจากนี้เจ้าทาตัวดีดีแล้วละก็เจ้าก็อาจได้รับรู้
มันกระทั่งก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดเดียวกับข้า..... "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นยังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรต่อไปสติของนางก็ดับ
วูบลงไปเนื่องจากการโจมตีที่บริเวณสันคอของฟ่งซือเซียน
" ท่านพี่ข้าทาสาเร็จแล้วเจ้าคะ ~~ "
สีหน้าของฟ่งซือเซียนกลับแปรเปลี่ยนไปในทันทีจากหน้าตา
จริงจังในการต่อสู้ในตอนนี้ใบหน้าของนางปรากฎรอยยิ้มอ่อนหวาน
ชนิดที่ว่ารอยยิ้มนี้ของนางถูกสร้างมาเพื่อสามีหนุ่มของนางเพียงคน
เดียวเท่านั้น
ตอนที่ 83
ผู้อาวุโสฟางซิ่นค่อยรู้สึกตัวขึ้นอย่างช้าโดยไม่ได้รวู้ ่าตนนั้นหมด
สติไปนานมากเพียงใดนางยังคงมีอาการรู้สึกมึนหัวและอ่อนล้าไป
ทั้งร่างกาย นี้เป็นเรื่องที่ตอกย้าได้เป็นอย่างดีว่าความห่างชั้น
ระหว่างนางกับหัวหน้ากลุ่มของหญิงสาวเหล่านั้นแต่ต่างกันมาก
เพียงใด เพียงแค่นางต้องทนรับการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
มันกลับทาให้ร่างกายของนางต้องบอมช้าถึงเพียงนี้ ผ่านไปได้ไม่
นานนางเริ่มปรับสภาพสายตาของตนเองใหม่อีกครั้ง
ภาพตรงหน้าของนางในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะทาให้นางตะลึงค้าง
ความสับสน ความโกรธทุกๆอย่างล้วนเกิดขึ้นมาโดยทันทีเมื่อนางได้
เห็นภาพของหลินหมิงที่กาลังนัวเนียแนบชิดกับศัตรูคู่แค้นของอย่าง
แนบชิด ทั้งที่นางพยายามช่วยชีวิตเจ้าเด็กหนุ่มนี้แต่ตอนท้ายมัน
กลับได้รับความสุขเช่นนี้ ?
อีกทั้งมันยังมีสงิ่ ของแปลกประหลาดที่นางคุ้นเคยดีอยู่ไม่ไกล
จากร่างทั้งสองที่กาลังแนบชิดกันอย่างเร้าร้อน มันมีลักษณะคล้าย
ดอกบัวตูมเพียงแต่ว่ามันกลับมีสีฟ้าสว่างพร้อมกับไอพลังความเย็น
ที่แผ่ออกมาถึงขนาดที่นางอยู่ใกล้จากมันพอสมควรก็ยังคงสามารถ
สัมผัสได้โดยง่าย
' บงกชเหมันต์ !! '
แม้แต่สมบัติล้าค่าที่นางหมายตายังถูกช่วงชิง
" อ้าาา~~~ ท่านพี.่ ..ดูเหมือนว่านางจะได้สติแล้วนะเจ้าคะ "
หลินหมิงเองก็รับรู้อยู่ก่อนหน้านั้นแล้วว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นได้
ฟื้นสติขึ้นมาสักพักเพียงแต่ว่าสัมผัสอันเร้าร้อนที่เขากาลังได้รับจาก
ฟ่งซือเซียนมันทาให้เขาไม่อยากละมือออกห่างจากหญิงสาวผู้นี้เสีย
เท่าไหร่ ฟ่งซือเซียนเลียริมฝีปากอย่างเย้ายวนมาให้กับหลินหมิง
พร้อมกับหันมาจ้องที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นด้วยสายตายิม้ แย้ม
" เจ้า !.... "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่รู้จะสรรหาคาพูดใดมากล่าวกับหลินหมิง
ในตอนนี้อาจเป็นเพราะว่าเมื่อนางได้รับความพ่ายแพ้ไปแล้วเด็ก
หนุ่มผู้นี้จึงจาเป็นที่จะยอมตามน้าอีกฝ่ายเพื่อเอาชีวิตรอด ? แต่แล้ว
เหตุใดเด็กหนุ่มถึงไม่มหี วีแ่ หววความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยหญิง
สาวผู้นั้นเป็นถึงผู้ที่มีพลังระดับปราญช์แต่เขากลับโอบกอดหญิง
สาวเอาไว้ราวกับนางเป็นสตรีของเขาเสียอย่างนั้น
ในสายตาของฟางซิ่นนางมองเพียงว่าฟ่งซือเซียนนัน้ อาจมี
รสนิยมชมชอบในตัวของหลินหมิงแต่ด้วยฐานะของนางแม้ว่าจะ
เป็นในก่อนหน้านี้เด็กหนุม่ อย่างเช่นหลินหมิงก็ยังคงไม่มีค่าเพียงพอ
ให้เป็นคู่ครองของนางได้ แต่สายตาของหญิงสาวกลับตรงข้ามกับ
ความคิดของนางเสียอย่างนั้น
" เอาล่ะตามที่ข้าได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้หวังว่าเจ้าคงยังไม่ลืม
สินะ "
" จะฆ่าก็ฆ่า...จะทรมานแล้วเจ้าจะรอช้าอยู่ทาไมกัน... "
ฟ่งซือเซียนยิ้มพร้อมกับเดินมาหาฟางซิ่นในตอนนี้ฟางซิ่นแม้ว่า
นางจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อยแต่ด้วยโซ่ตรวนลงอาคมที่มัดมือ
และข้อเท้าของนางเอาไว้อยู่มันจึงทาให้นางไม่สามารถใช้พลัง
ปราณได้อย่างปกติในตอนนี้พลังปราณของนางอาจลดเหลือเพียง
อยู่ในระดับก่อเกิดระดับกลางหรือไม่ก็อาจต่ากว่านั้นจากสภาพ
ร่างกายของนาง
" คิคิ...ท่านพี่ดูเหมือนว่านางจะต้องการบทลงโทษของท่านเสีย
แล้ว "
คราวนีเ้ ป็นหลินหมิงที่เดินเข้ามาหาผู้อาวุโสฟางซิ่นพร้อมกับ
จ้องมองเรือนร่างของนางด้วยสายตาเร้าร้อนอย่างปิดไม่มิด
" ก็อย่างที่ภรรยาของข้ากล่าวก่อนหน้านี้...ผู้อาวุโสฟางซิ่นข้า
ไม่ได้มีความคิดจะสังหารท่านหรอกนะ...หากท่านยอมทาตามข้า
เพียงเล็กๆน้อยๆไม่เพียงแต่ข้าจะไว้ชีวตท่าน...สมบัติที่อยู่ตรงหน้า
ท่านนี้ก็อาจตกเป็นของท่านก็ได้หากท่านทาให้ข้าพอใจ "
" อย่ามาพูดเสียให้ยาก...คนอย่างข้าทาไมต้องฟังคาจากเจ้า "
แม้ว่าสิ่งล่อตาล่อใจอย่างบงกชเหมันต์จะถูกหลินหมิงวางล่อไว้
แต่ด้วยนิสัยที่ยะโสจนเกินไปทาให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นปฎิเสธแบบไม่
ต้องคิด ขนาดที่สมาคมจูหนิงเอ๋อร์หรืออาจารย์ของเจ้าหนุ่มนี้ยังคง
ไม่กล้ากล่าวสั่งอะไรกับนางมากมายแล้วเรื่องอะไรนางจะต้องตก
เป็นเบี้ยล่างของเด็กหนุ่มเช่นนี้กัน
อุกกกก
หมัดของฟ่งซือเซียนต่อยเข้าไปเต็มท้องจนตัวของฟางซิ่นงอ
ขนาดตอนที่นางอยู่ในสภาพพร้อมที่สุดนางก็ยังไม่สามารถรับมือกับ
หญิงสาวผู้นี้ได้แล้วในตอนนี้หมัดนี้ทนี่ างได้รับอาจเรียกได้ว่าเป็น
ความรู้สึกเจ็บปวดมากทีส่ ุดตั้งแต่นางเกิดมาในชีวิตเลยก็ไม่เกินไป
ในตอนนี้นางรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก
" งั้นก็คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันอีก..... "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับร่างของเขาที่โน้มตัวเข้าหาผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นที่กาลังนอนขดตัวอยู่ มือของเขาเข้าลูบไล้สัมผัสที่บริเวณต้นขา
เรียวงามเป็นอันดับแรก ตั้งแต่แรกที่แผนการณ์นี้ถูกวางไว้หญิงสาว
ผู้นี้ก็เหมือนจะตกเป็นของหลินหมิงอันเป็นที่แน่นอน ผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นพยายามจะขัดขืนแต่นางจะเอาเรี่ยวแรงจากไหนเล่านางทาได้
แค่เพียงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อดิ้นให้หลุดพ้นจากมืออันน่ารังเกียจของ
เด็กหนุ่ม
สัมผัสผิวเรียบเนียนพร้อมกับกลิ่นหอมที่แผ่ออกมามันทาให้
อารมณ์ของหลินหมิงพุ่งขึ้นสูงในทันทีมือของเขาพุ่งเข้าไปภายใน
เสื้อผ้าจนสัมผัสเข้ากับบริเวณต้นขาพร้อมกับค่อยเคลื่อนที่เข้าไปลึก
ยิ่งกว่าเดิมอย่างเชื่องช้า
" เจ้าเด็ก...ชั่ว..นี้เจ้าคิดจะทาอะไร "
" ก็บทลงโทษของท่านอย่างไรเล่า "
หลินหมิงเข้าเล้าโลมเรือนร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นอย่างบ้าคลั่ง
ในตอนนี้มือของเขาราบกับว่ามันไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป มันเคลื่อนที่
ไปเองตามธรรมาชาติโดยที่หลินหมิงแทบจะไม่ทันได้รู้สึกตัวเลยเสีย
ด้วยซ้ามือของหลินหมิงเลื่อนขึ้นมาบีบขย้าหน้าอันนุ่มนิ่มของหญิง
สาวแต่เขายังคงปล่อยมือข้างหนึ่งลูบไล้ทบี่ ริเวณต้นขาของนางไป
ตามเดิม
ศรีษะของหลินหมิงพุ่งเข้าไปหาบริเวณซอกคอของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเพื่อดมกลิ่นกายอมหอมหวนของนาง ร่างกายของหญิงสาวผู้นี้
ถูกสรรสร้างมาอย่างสมบูรณ์โดยแท้จริงขนาดความงามของฟ่งซือ
เซียนที่ได้รับการพัฒนาจากการร่วมรักกับเขามาหากมาเทียบกับผู้
อาวุโสฟางซิ่นแล้วมันก็ยงั คงน้อยกว่าอยู่หลายขั้น
สตรีเดียวที่เขารู้จักและมีความงามที่มากกว่านี้นั้นก็คือแม่สาว
ซัคคิวบัสแต่นางเป็นตัวตนในระดับสูงจนเกินไปและเขายังคงไม่อาจ
คาดเดาความคิดของหญิงสาวผู้นั้นได้โดยง่าย เทียบกันแล้วหากเขา
สามารถทาให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นเป็นทาสกามอารมณ์ของเขาได้ไม่ใช่
ว่าเขาจะได้มีโอกาสเล่นบทรักกับนางอย่างหน่าใจทุกวันเช่นนั้นหรือ
?
" ปะ...ปล่อยข้า...ออกไป.. "
ชายใดที่คิดจะทาตามคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นในยามนี้มันผู้
นั้นคงได้ถูกกล่าวสรรเสริญจากบรรดาบุรุษทั่วโลกว่ามันผู้นั้นจะต้อง
เป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกใบนี้อย่างไม่อาจมีใครเทียบได้ซึ่งหลินหมิง
แน่นอนว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้น
หลินหมิงรู้สึกนับถือหญิงสาวผู้นี้เล็กน้อยหลังจากที่ผ่านการ
เล้าโลมมาได้สักช่วงเวลาหนึ่งดูเหมือนว่านางยังคงมีจิตใจที่กล้า
แกร่งเช่นเดิมต่างจากหญิงสาวที่ผ่านมาแค่เพียงพวกนางได้รับการ
เล้าโลมเช่นนี้พวกนางคงหมดแรงอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมกับอ่อน
วอนให้เขามอบความสุขให้กับพวกนางไปแล้ว

ตอนที่ 84
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเปลี่ยนเป็นสีหน้าปั้นยากขึ้นมานาง
พยายามขมกลั้นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากหลินหมิงเพียงแต่ไม่
รู้ว่าเหตุใดนางถึงไม่สามารถระงับมันลงได้เลยแม้แต่น้อย จนในที่สุด
มือของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ก็ได้ล่วงเข้ามายังภายในเสื้อผ้าของนางมือ
ของเขาลูบคลาบริเวณหน้าอกของนางอย่างบ้าคลั่งราวกับเด็กทารก
ที่ได้อยากดื่มนมจากเต้าของมารดา
" ข้าจะฆ่าเจ้า... "
" ด้วยเหตุใดกันเล่า ? ทั้งๆที่ข้ากาลังทาให้ท่านมีความสุขแต่
ท่านกลับคิดสังหารข้า ? โอ้วหน้าอกของท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ..
ข้าคงต้องขอดูมันแบบตรงๆเสียหน่อย "
" ไม่ ม่ายยยยยย "
แคว๊กกก
เสื้อของผู้อาวุโสฟางซิ่นถูกฉีกขาดออกอย่างง่ายดายด้วยน้ามือ
ของหลินหมิง เรือนร่างอันงดงามที่เพียงปกติที่เขาได้จดจ้องมันก็
ยากที่จะระงับอารมณ์เอาไว้ แต่ตอนนี้เรือนร่างเปลื่อยเปล่าของผู้
อาวุโสสาวคนนี้มันกลับงดงามเสียยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้
มาก ผิวของนางขาวเรียบเนียนอมชมพูเล็กน้อยเสริมกับท่าทางขัด
ขืนพร้อมกับใบหน้ายามโกรธปนเสียใจอย่างนี้หลินหมิงเองก็คิดว่า
มันไม่เลวนัก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือหน้าอกโค้งงามที่กาลังรอคอยให้หลินหมิงได้
สัมผัสมันแม้ว่ามันจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตที่สามารถเทียบได้กับซื่อ
โฉวหรือเหม่ยฮวาแต่มันก็นับได้ว่าใหญ่เกินกว่าหญิงสาวธรรมดา
ทั่วไปอยู่มากอีกทั้งด้วยรูปร่างสัดส่วนของมันคงอาจเรียกได้ว่าดีกว่า
ของหญิงสาวก่อนหน้าทีม่ ีขนาดใหญ่กว่าเสียอีก เพราะด้วยผิวอัน
น่าสัมผัสของเทพธิดานางนี้มันทาให้ทั่วทัง้ ร่างของนางเนียนนุ่มราว
กับปุยเมฆ
ผู้อาวุโสฟางซิ่นพยายมนามือทั้งสองข้างที่ถกู มัดอยู่เพื่อนามาบด
บังเรือนร่างของนางแต่มันไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดมือของเจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นี้ว่องไวเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาได้ต่อสู้เสียอีก มือทั้งสองข้าง
ของนางถูกปัดออกพร้อมกับถูกตรึงเอาไว้ที่เหนือศรีษะอย่างรวดเร็ว
" หากอาจารย์เจ้ารู้เรื่องนี้แล้วละก็เจ้าไม่มีทางรอดไปอย่าง
แน่นอนแม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่นาง
ต้องการ แต่เจ้าคิดว่าเมื่อเจ้ากล้าทาเรื่องเช่นนี้แล้วเจ้าจะยัง
สามารถรอดไปได้โดยง่าย "
" ท่านเองก็ทราบดีด้วยสถานะของภรรยาข้าอย่างฟ่งซือเซียน
นั้นมีหรือที่ท่านอาจารย์จะกล้าล่วงเกิน...ทางที่ดีข้ายินดีให้โอกาส
ท่านอีกครั้งหากท่านมีความคิดกลับใจที่น่าพอใจอย่างเช่นยินยอม
เป็นข้ารับใช้ของข้า...แน่นอนว่าหากท่านทามันได้ดีข้าอาจเปลี่ยน
สถานะท่านมาเป็นหนึ่งในภรรยาข้าแต่แน่นอนว่าท่านยังคงต้องด้อย
กว่าน้องหญิงอยู่ดนี ะ "
ฟ่งซือเซียนที่ในตอนนี้นางเป็นขับจับขึงแขนของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเอาไว้ นางไม่ได้มปี ฎิกริยาที่ไม่พอใจกับคากล่าวของหลินหมิง
สาหรับคากล่าวที่ว่าสามีของนางนั้นจะเปลี่ยนหญิงสาวผู้นี้เป็น
ภรรยา นางรู้ดีว่านั้นเป็นเพียงคาหยอกล้อแม้นางจะเพิ่งรู้จักสามี
ของนางได้ไม่นานแต่ในช่วงเวลาหลายวันมานี้นางไม่เคยออกห่าง
จากเขาเลยไม่ว่าจะยามใดก็ตามมันจึงทาให้นางได้รับรู้นิสัยของ
หลินหมิงมาบ้าง
หลินหมิงเริ่มกระบวนการเล้าโลมเรือนร่างของผู้อาวุโสสาวอีก
ครั้งลิ้นของหลินหมิงทาการเลียที่บริเวณช่วงท้องของหญิงสาวอย่าง
เชื่องช้าพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่เปลี่ยนจากการลูบไล้มาเป็นการ
เกาที่โดยใช้ปลายเล็บของเขาขวนไปที่บริเวณต้นขาของนางอย่าง
เยื่องช้า ร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นพลันเกร็งแข็งตรึงขึ้นมาในทันที
นางพยายามจะออกแรงขัดขืนอย่างเต็มที่ไม่เพียงแต่ว่านาง
ในตอนนี้นางจะไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะสู้กับเด็กหนุ่มผู้นี้ ถึงต่อให้นาง
มีแต่หญิงสาวผู้ที่เพิ่งสามารถเอาชนะนางมาได้อย่างง่ายดายนั้นก็
ยังคงอยู่ที่นี้อยู่ดี
" เป็นเช่นไรท่านเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างล้วใช่ไหม "
" น่ารังเกียจ ! "
แม่สาวผู้นี้ช่างมีความอดทนอย่างแท้จริง หลินหมิงยิม้ ออกมา
ด้วยร้อยยิ้มเจ้าเล่ห์กับตัวเขาที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทาให้หญิงสาวมี
ความสุขนั้นการที่ได้รับคากล่าวเช่นนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้
หลินหมิงเริ่มลงมือด้วยท่วงท่าต่อไปมือทั้งสองข้างของเขาเข้าบีบ
นวดที่หน้าอกของนางอย่างรุนแรงพร้อมกับใช้ริมฝีปากโลมเลีย
ในความคิดของผู้อาวุโสฟางซิ่นนางคิดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันต้อง
ผิดปรกติไปแล้วแน่ๆ ด้วยสภาพเช่นนี้นางคงหนีไม่พ้นการโดน
ข่มขืนจากตัวของเด็กหนุม่ เพียงแต่ว่าในตอนนี้มันกาลังทาสิ่งใดกัน
? หรือว่ามันอาจจะยังเด็กเกินไปเกินกว่าที่จะรู้ว่าเรื่องราวการร่วม
รักของหญิงสาวต้องทาเช่นไร แล้วสิ่งที่มันกาลังทาอยู่นี้คืออะไรกัน
ร่างกายของนางสั่นไปมาด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างที่ไม่
เคยพบมาก่อนนางไม่อาจยอมรับได้จริงๆว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มผู้นี้กาลัง
ทานั้นมันทาให้นางเกิดความสุขขึ้นมาจนนางแทบจะอดกลั้นเสียง
ครางของนางเอาไว้ไม่ไหว เทียบกันแล้วในตอนนีน้ างยินยอมที่จะให้
หลินหมิงนาทวนมังกรของบุรุษนั้นเสียบเข้ามาภายในตัวของนาง
เลยเสียดีกว่าเรื่องทุกอย่างจะได้จบโดยเร็วเพราะอย่างไรแล้วนางก็
คงจะหนีชะตากรรมนั้นไม่พ้น
" ถึงท่านจะกล่าวปฎิเสธแต่ดูนี้สิยอดบัวบนหน้าอกของท่านกลับ
ตั้งชันราวกับเสาค้ายัน...รู้ไหมว่ามันหมายถึงว่าทากาลังมีความสุข
อย่างมากอยู่อย่างไรเล่า "
" หะ...หุบปา....อื้ออออออออออออ~~~~ "
หลินหมิงพุ่งเข้าประกบปากกับนางในทันทีดวงตาของผู้อาวุโส
ฟางซิ่นเบิกกว้างด้วยความตกใจจูบแรกของนางที่คาดหวังว่าจะไม่
มอบให้กับผู้ใดในตอนนี้มนั ถูกช่วงชิงไปแล้ว หลินหมิงยังคงไม่ทา
การสอดลิ้นเข้าไปเพราะว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นพยายามข่มปาก
ตัวเองอย่างหนาแน่นแต่สัมผัสนิ่มนวลที่บริเวณริมฝีปากของนางก็
เพียงพอที่จะทาให้เขาเพลิดเพลินแล้ว
เนื่องจากผู้อาวุโสฟางซิ่นหลังจากที่ผ่านอาการตื่นตกใจไปได้
นางพยายามส่ายหน้าหนีไปมาเพื่อหลุดพ้นจากการจูบของหลินหมิง
หลินหมิงจึงไม่มที างเลือกนอกจากเปลี่ยนทาการไซร้ซอกคอของ
นางแทน มือของหลินหมิงเลื่อนลงมาอย่างช้าๆจากบริเวณหน้าอก
ของนางผ่านหน้าท้องจนมาถึงส่วนลับของหญิงสาว
ร่องสวาทของนางในตอนนี้แน่นอนว่ามันแฉะเยิ้มไปด้วยน้ารัก
ใสๆของนางเอง แต่ทา่ ทีของนางในตอนนี้ยังคงปฎิเสธหลินหมิงอ
ย่างเห็นได้ชัด หลินหมิงไหลตัวลงไปตรงทีบ่ ริเวณส่วนลับของหญิง
สาวด้วยท่วงท่านี้หลินหมิงมั่นใจว่ามันจะทาให้ความตั้งใจของผู้
อาวุโสสาวต้องทลายลงในไม่ช้า ขนาดฟ่งซือเซียนที่โดนท่วงท่านี้
เข้านางยังคงไม่อาจปฎิเสธได้เลย
" นะ...นี้เจ้าจะทาอะไร.... "
เมื่อนางเห็นว่าการจู่โจมของเด็กหนุ่มหยุดลงพร้อมกับร่างกาย
ของเขาที่เคลื่อนที่ไปที่บริเวณส่วนล่างของนาง ในตอนแรกนางคิด
ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้อาจคิดจัดการนางเสียแล้ว เพียงแต่สิ่งที่อยู่หน้าโพร่ง
สวาทของนางในตอนนี้กลับไม่ใช่ทวนมังกรของบุรษุ แต่กลับเป็น
ใบหน้าของเขา !
" มันช่างสวยงามไม่แพ้เรือนร่างของท่านเลยจริงๆ "
" นะ...นี้เจ้า...เอานิ้วออก...ไปนะ...อ้าาาา~~~~ "
หลินหมิงยิ้มออกมาในทันทีดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสาวคนนี้คงใกล้
ถึงขีดจากัดแล้ว เรือนร่างของนางในตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อเล็กน้อย
แต่มันไม่ได้ทาให้เสน่ห์ของนางลดลงแต่อย่างใดกลับกันกลิ่นหอม
โชยจากร่างกายของนางกลับเด่นชัดเสียยิ่งกว่าในตอนแรกมันจึง
กระตุ้นอารมณ์ของหลินหมิงได้ดยี ิ่งขึ้นกว่าเดิม

ตอนที่ 85
ผู้อาวุโสฟางซิ่นหอบหายใจเหนื่อยอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยแม้
นางจะไม่ได้ลงไปมองดูอกี ต่อไปว่าหลินหมิงจะทาเช่นไรต่อไป แต่
นางสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าของเขาในตอนนี้อยู่ใกล้
กับร่องสวาทของนางมากด้วยลมหายใจของเขาที่กาลังรดอยู่บน
ร่องสวาทของนางเพียงแค่นี้มันก็เพียงพอทาให้ร่างกายของนางสั่น
สะท้าน นี้ยังไม่รวมถึงนิ้วของเด็กหนุ่มที่กาลังแหวกร่องสวาทของ
นางไปมาราวกับว่ามันเป็นของเล่น
" ข้าคงต้องชืมรสชาติมันเสียหน่อย "
หลินหมิงกล่าวออกมาอย่างสนุกสนานผิดกับผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
เมื่อลิ้นของหลินหมิงได้เข้าสัมผัสที่บริเวณร่องสวาทของนางร่างกาย
ของนางสั่นกระตุกอย่างรุนแรงช่วงท้องของนางถึงกับโค้งงอขึ้นมา
พร้อมกับน้ารักของนางที่กาลังไหลออกมาอย่างไม่หยุด
นี้มันคือส่วนที่สกปรกที่สดุ ของร่างกายไม่ใช่หรือแล้วเหตุใดเจ้า
เด็กนี้มันถึงได้ทาเช่นนี้อย่างมีความสุขกัน ? แม้นางจะพยายามคบ
คิดแต่ลิ้นของหลินหมิงทีก่ าลังตวัดไปมาพร้อมกับสอดเข้ามาภายใน
โพร่งนั้นทาให้หัวสมองของนางเริ่มขาวโพลน
" อ้าาา อ้าา ซี๊ดดดดด ~~~~~~~ "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองนั้นได้เผลอครางออกไปอย่างเย้า
ยวนนี้ยิ่งเป็นการทาให้อารมณ์ของหลินหมิงนั้นพุ่งขึ้นไปอีก ลิ้นของ
หลินหมิงที่อยู่ภายในโพร่งสวาทตวัดไปมาอย่างไม่มีความรังเกียจน้า
รักของนางเลยแม้แต่น้อย นางเริ่มไม่สามารถรับรู้ได้แล้วว่าในตอนนี้
กาลังเกิดสิ่งใดขึ้นกับตัวนางนี้หรือความสุขที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
กล่าวไว้ก่อนหน้า
เวลาผ่านไปราวชั่วครึ่งก้านธูปที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ทาการโลมเลีย
ร่องสวาทของนางจนตอนนี้ที่บริเวณนั้นกลายเป็นแอ่งน้าขนาด
ย่อมๆไปแล้วด้วยน้ารักของนางเอง
" แฮ่ก...แฮ่ก "
นางไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองได้ปลดปล่อยน้ารักออกมาเป็นจานวนกี่
ครั้งมันมากและรวดเร็วจนกว่าที่นางจะสามารถนับได้อีกทัง้ ด้วย
สภาพเช่นนี้นางยังคงที่จะสามารถประคองสติเอาไว้ได้ก็นับว่าเต็ม
กลืนแล้ว
" ถึงขั้นนี้แล้วข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่ท่านก็แล้วกันตัวเลือกมี
เพียงจะยอมเป็นข้ารับใช้ของข้าแต่โดย.... "
" ไม่ ! "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นตอบกลับอย่างไม่ลังเลนางยังต้องกังวลอะไรอีก
กับเด็กหนุม่ ที่ไร้น้ายาเช่นนี้แม้ว่าความสามารถเมื่อครู่ของเขาจะ
สามารถเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมันสามารถทาให้นางมีความสุขอย่างที่
ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่กับเด็กหนุ่มที่มีความสามารถเพียงเท่านี้และยัง
ไม่รู้เรื่องการร่วมรักยังมีอะไรที่นางต้องเป็นกังวล
นางเริ่มมั่นใจขึ้นมาแล้วว่าเจ้าเด็กหนุ่มนี้เรียนรู้แต่วิธีแปลก
ประหลาดกับการหาความสุขในเรือนร่างของหญิงสาวมันอาจเป็น
เพราะต้นกาเนิดของเขาเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาจึงขาดความรู้
พืน้ ฐานเหล่านี้ไปก็เป็นได้
" งั้นในเมื่อท่านเลือกเช่นนั้นก็เตรียมรับมือบทลงโทษจากข้า....
หากท่านจะขอร้องมันก็อาจสายเกินไปแล้ว "
หลินหมิงค่อยๆทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าตนเองออกในใจของผู้
อาวุโสฟางซิ่นเริ่มเป็นกังวลหรือว่าเจ้าเด็กหนุ่มจะไม่ได้โง่อย่างที่ข้า
คิด ? แต่แล้วสายตาของนางเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่อยู่บริเวณ
ระหว่างขาของเด็กหนุ่ม
" นะ...นั้นมัน....อะไร.... "
สวรรค์ทวนมังกรของเขาจะใหญ่เกินไปแล้ว !
มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่นางจะสามารถรับมือกับทวน
ขนาดเช่นนี้ขนาดสาวโลคีที่มากด้วยประสบการณ์ก็ยังคงต้องส่าย
หน้าในความคิดของนาง
" เจ้า....จะบ้าไปแล้วหรอ...มันใหญ่สียขนาดนัน้ นี้เจ้าเป็นตัว
อะไรกันแน่...มันไม่สามารถเข้าไปได้หรอกเอามันออกไปใกล้ๆนะ...
ไม่งั้น.... "
หลินหมิงไม่สนใจคาพูดของนางทวนมังกรของเขาเตรียมจอที่
บริเวณทางเข้าพร้อมกับเขี่ยไปมาจนร่างกายของนางสั่นสะท้านไป
ด้วยความกังวล ไม่ใช่เพียงเพราะขนาดของมันที่ใหญ่จนเกินไปแต่
มันเป็นเพราะตรงที่ทวนมังกรจ่ออยู่นั้นมันไม่ใช่ร่องสวาทของนาง
" ดะ...เดียวนั้น...โอ้ยยยย..มะ....ไม่....เอา...ออกไป..อึกกกกกกก
"
ทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้กาลังเสียบเข้ามาที่บริเวฯรู
ทวารของผู้อาวุโสฟางซิ่นเมื่อส่วนปลายของทวนมังกรของหลินห
มิงสามารถทะลวงเข้าไปได้อย่างยากลาบากหลินหมิงทาการหยุดมัน
เอาไว้เล็กน้อยพร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
เต็มไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด
" จะ...เจ้าโง่...เจ้าทาอะไรของเจ้า..เพียงแค่นี้เจ้าก็ยังไม่รู้...ที่เจ้า
เสียบ....โอ้ยยยยยยยยยย "
หลินหมิงแทงทะลวงส่งทวนมังกรของเขาเข้าไปจนสุดลารูทวาร
ของนางในตอนนี้กลายเป็นช่องทางเดินสาหรับทวนมังกรของหลินห
มิงไปแล้ว มันถูกเปิดกว้างออกจนเพียงแค่มองจากภายนอกก็
สามารถรู้ได้ว่ามันคงไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติอีก
" ข้ารู้อยู่แล้วล่ะ...รู้ไหมยิ่งท่านยิ่งพูดมากเพียงใดข้าก็จะยิ่งลง
มือหนักขึ้น..ทางที่ดีข้าขอแนะนาว่าให้ท่านส่งเสียงครางออกมาแทน
เสียดีกว่า "
ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นสามารถรับรู้ได้หรือไม่ใบหน้าของนาง
ในตอนนี้แข็งค้างไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับดวงตาของนางที่เลือน
ลอย แต่เพียงแค่หลินหมิงขยับทวนมังกรของเขาออกมาพร้อมกับ
ดันมันเข้าไปใหม่อีกครั้งเสียงครางของนางก็ดังตามมาในทันทีพร้อม
กับสติของนางที่เริ่มกลับคืนมา
ภายในรูทวารของนางนั้นแน่นอนว่ามันย่อมคับแน่นเป็นอย่าง
มากและมันยังไม่สามารถเข้าไปได้อย่างเหมือนกับร่องสวาทที่มีน้า
รักและส่วนเนื้อที่อ่อนตัวกว่า หลินหมิงยกขาทัง้ สองข้างของนาง
ขึ้นมาผาดบ่าพร้อมกับค่อยเร่งๆจังหวะในทันที เสียงเนื้อทั้งสอง
ปะทะกันอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงครางกระเส้าของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นดังอย่างต่อเหนื่องแบบไม่หยุด ดูเหมือนว่าในตอนนี้สติของนาง
จะหลุดไปแล้วอย่างแท้จริง เหลือแต่เพียงสัญชาติญาณที่ยังคงส่ง
เสียงตอบสนอง
" เอาเตรียมรับไป ! "
หลังจากผ่านไปไม่นานหลินหมิงก็มาถึงขีดจากัดเนื่องจากเขาเอง
ก็มีอารมณ์มาเสียตั้งแต่ตอนเล้าโลมร่างกายของนางอันงดงามนี้แล้ว
อีกทั้งภายในรูทวารที่คับแน่นและขยับได้ยากเช่นนี้มันก็
เปรียบเสมือนที่รีดน้าดีดนี ี้เอง หลินหมิงส่งทวนเข้าไปภายในส่วนลึก
ที่สุดค้างเอาไว้พร้อมกับน้ารักของเขาที่กระหน่าซัดเข้าไปเต็มรูทวาร
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความเลือนลอยที่บริเวณริม
ฝีปากของนางจะเห็นคราบน้าลายออกมาเป็นจานวนมาก
ฟ่งซือเซียนเดินมาทางหลินหมิงอย่างรู้งานนางทาการโลมเลีย
ทาความสะอาดทวนมังกรของหลินหมิงด้วยท่วงท่าระดับสูงจน
หลินหมิงแทบจะระเบิดอารมณ์ไปอีกครั้ง ผ่านไปได้ไม่นานผู้อาวุโส
ฟางซิ่นราวกับเพิ่งตื่นจากฝันแต่เมื่อนางได้่นภาพตรงหน้
เ าและ
ความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณรูทวารทาให้นางรู้ได้ว่ามันไม่ใช่ความ
ฝันแต่อย่างใด
" ดูเหมือนว่าท่านจะพร้อมต่อยกสองแล้วสินะ "
หลินหมิงที่กาลังนอนทับร่างกายของผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าวอย่าง
ไม่แยแส ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งเสร็จใส่รูทวารของนางไปได้ไม่นานไม่ใช่
หรอแล้วเหตุใดเด็กหนุ่มผูน้ ี้ถึงกล่าวราวกับว่าเขายังคงสามารถทา
กับนางได้อีกกัน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อหวนนึกกลับไปแม้ว่ามันจะ
ค่อนข้างเจ็บปวดแต่นางกลับรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมา
ก่อนขนาดที่ว่าการเล้าโลมของหลินหมิงในครั้งแรกก็ยังคงไม่
สามารถเทียบได้
" รู้ไหมว่าหากข้าเสียบเข้าไปที่ร่องสวาทของท่าน...มันจะให้
ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเสียอีก "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความตกใจ นี้มันยังคงมีอะไรที่
สามารถทาให้รู้สึกดียิ่งกว่าเมื่อครู่นี้อีกหรือ เมื่อนางเหลือบมองไป
เห็นร่างของฟ่งซือเซียนทีน่ ั่งคล้อยหลับด้วยสภาพเปลื่อยเปล่าที่
บริเวณร่องสวาทของนางนั้นมีคราบน้ารักจานวนมากอยู่ ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าคากล่าวของเจ้าเด็กหนุ่มไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงเวลาที่รอให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นตื่นนั้นแน่นอนว่าฟ่งซือเซียน
เองนางก็มีอารมณ์ขึ้นมาเช่นเดียวกันมันจึงช่วยไม่ได้ที่หลินหมิงจะ
ดูแลภรรยาผู้แสนใจดีของเขาคนนี้เสียหน่อย
" จริงหรือ ? "
แม้ว่านางจะรู้คาตอบอยู่แล้วก็ตามที่แต่นางก็อดสงสัยไปไม่ได้
หลินหมิงไม่ตอบพร้อมกับก้มลงประกบปากของนางนี้เป็นครั้งที่สอง
แล้วที่ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงเพียงแต่ว่าในครั้งนี้มันแตกต่าง
ออกไปลิ้นของเขาสอดใส่เข้ามาภายในปากของนางพร้อมกับเข้าผัว
พันลิ้นของนางอย่างเร้าร้อนมือของนางที่ได้รับการปลดปล่อยก็ไม่
อาจทราบได้เคลื่อนไว้เข้ารวบกอดร่างของเด็กหนุ่มอย่างไม่มีการ
ขวยเขินหรือปฎิเสธ
หากนางรู้ว่าเด็กหนุ่มสามารถทาให้นางมีความสุขได้มากเช่นนี้มี
หรือที่นางจะปฎิเสธ นางคงไม่มที างปล่อยให้หญิงสาวคนอื่นเข้ามา
ใกล้ตัวของเด็กหนุม่ คนนี้นอย่างแน่นอน
" ข้า...อยากให้เจ้าเสียบมา...ที่ร่องสวาทของข้า...ได้หรือเปล่า "
มันอาจเป็นฉากเฝ้ารอของเหล่าบุรุษที่พวกเขาได้แต่เผ้อฝัน
หลินหมิงอมยิ้มเล็กน้อยให้ท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้อาวุโสสาวแม้ว่า
ความสวยสง่าอันสูงส่งจากหายไปแต่มันกลับแทนที่ด้วยความน่ารัก
แบบหญิงสาวแทน
" งั้นท่านคงลืมไปแล้วละมั้งว่าต้องเรียกข้าว่าอย่างไร "
" นะ...นายท่าน...นีท้ ี่เจ้า....นายท่านกล่าวว่าหากข้าสามารถทา
ให้ท่านพอใจได้ท่านจะให้ข้าเป็นภรรยานั้นจริงหรือไม่ "
" นี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านแล้วละนะ "
ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าสอดใส่มาที่ร่องสวาทของผู้อาวุโส
ฟางซิ่นอย่างเชื่องช้า เลือดสีแดงสดไหลอาบลงมาแต่มันก็ถกู เจือง
จางลงโดยทันทีด้วยน้ารักใสๆของหญิงสาว นางรู้สึกได้ทันทีเมื่อ
ทวนมังกรของหลินหมิงเข้ามาจดสุดแท่งภายในท้องของนางรู้สึก
เติมเต็มราวกับว่านางไม่ตอ้ งกินอาหารใดอีกไปหลายปีได้ พร้อมกับ
ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นอยู่ภายในและภายนอกที่ร่างของนางกาลัง
แนบชิดกับร่างของหลินหมิง

ตอนที่ 86
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกอดรัดร่างของหลินหมิงอย่างแนบแน่นนางไม่
ต้องการที่จะเสียความรู้สึกอันล้าค่าเช่นนี้ไป แม้ว่านางจะรู้เจ็บปวด
จากการที่เนื้อเยื่อพรหมจรรย์ถูกทาลายแต่มันยังคงไม่อาจเทียบได้
กับในตอนที่เด็กหนุ่มเสียบทวนของเขาเข้ามาภายในรูทวารของนาง
ดังนั้นแล้วนางจึงสามารถพอตั้งสติกับทวนมังกรที่อยู่ภายในโพร่ง
สวาทของนางตอนนี้ได้
" ข้ารู้สึกแปลกๆ...เจ้าคะนายท่านน อ้าาา~~~~~~ "
หลินหมิงทาการขยับไปอย่างเชื่องช้าเพื่อลิ้มรสชาติของร่อง
สวาทของสาวงามผู้นี้ นี้อาจเป็นการร่วมรักกับหญิงสาวที่เขาอาจ
เรียกได้ว่ามีความสุขมากที่สุดด้วยร่างกายอันงดงามและสัดส่วน
และคุณภาพของร่องสวาทที่ตอบสนองตอดรัดทวนมังกรของเขา
อย่างดีเยี่ยมอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าจะมีหญิงสาวอย่างสาวซัคคิวบัสซือ
เฟยเพียงแต่ว่าในตอนนั้นหลินหมิงไม่อาจลงมือกระทาตามใจได้
อย่างถนัดใครจะรู้กันเล่าว่าหาเขาลงมือทาสิ่งที่นางไม่ชอบใจขึ้นมา
ชีวิตของเขาอาจจบลงไปแล้วก็ได้ แต่กลับผู้อาวุโสสาวคนนี้เขา
สามารถลงมือกับนางได้อย่างเต็มที่
" นี้เจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดซือเซียนถึงได้มีความก้าวหน้าแบบ
กระทันหัน "
" อู้ววว~~~~ ขะ...ข้าไม่สนใจ...เรื่องนั้นแล้วเจ้าคะ...นายท่าน
ลงมือต่อเถอะเจ้าคะ "
หลินหมิงอมยิ้มให้กับท่าทีของผู้อาวุโสสาวไม่น่าเชื่อว่านางจะ
สามารถเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ ใบหน้าของนางแสดงสี
หน้าขอร้องอ้อนวอนอย่างเต็มที่เพื่อให้หลินหมิงลงมือมอบความสุข
ให้แก่นางโดยไม่สนใจอื่นใด
" เจ้ากลับกลายเป็นนางร่านสวาทไปเสียแล้ว....เอาเถอะถึงเจ้า
จะไม่อยากรู้แล้วแต่ข้าก็จะบอกไว้ให้นั้นก็เพราะว่านางได้ร่วมรักกับ
ข้าเหมือนที่เจ้ากาลังได้รับอยู่ในตอนนี้อย่างไรเล่า "
" จะ...จริงหรือเจ้าคะ ! "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นแม้จะไม่สามารถสัมผัสพลังของฟ่งซือเซียนได้
อย่างแม่นยาแต่อย่างน้อยพลังของหญิงสาวผู้นั้นย่อมไม่ต่ากว่า
ระดับปราญช์อย่างแน่นอนและเมื่อดูจากภายนอกเพียงอย่างเดียวก็
รับรู้ได้ว่านางสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับปราญช์ด้วยรากฐานที่มั่นคงยิ่ง
มันเป็นการการันตีได้อย่างดีว่าในอนาคตเส้นทางบ่มเพาะของนาง
จะไม่จบลงอย่างรวดเร็วในตอนแรกนางนึกว่าหญิงสาวอาจได้รับ
สมบัติวิเศษอะไรสักอย่างแต่มันกลับกลายเป็นว่าหญิงสาวได้รับ
ความสุขเช่นนี้จนสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์ด้วยสภาพยอด
เยี่ยม
" ใช่แล้ว...และเจ้าก็มีโอกาศเช่นเดียวกันกับนางเพียงแต่ว่า
ผลลัพธ์ของมันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของข้า ถ้าเจ้าสามารถทาให้
ข้าพึงพอใจได้มากเพียงพอลาพังเพียงระดับปราญช์นั้นมันก็ง่าย
เพียงเจ้าคว้ามันเท่านั้น "
" เจ้าคะ...ข้าจะทาอย่างเต็มที่ "
เมื่อนางกล่าวจบนายน้อยหนุ่มคนใหม่ของนางเริ่มทาการขยับ
เอวในจังหวะที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อหวนนึกกลับไปแม้ว่านางจะไม่มี
ประสบการณ์ในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะชอบพอในเสียงครางใน
ยามที่ร่วมรักดังนั้นแล้วนางจึงไม่มีการปิดกลั้นเสียงแต่อย่างใด
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนางจะไม่สามารถทาได้อยู่แล้วก็ตามที่
" อ๊าา อ๊าา ระ..แรงมาก...เลยเจ้าคะ....ข้ารู้สึกขาวโพลนไปหมด
"
ร่างกายของนางสั่นไหวไปตามจังหวะการขยับของหลินหมิง
หน้าอกของนางที่กาลังกระเพื่อมขึ้นลงตกเป็นเป้าหมายลาดับต่อไป
ในทันที หลินหมิงก้มลงไปเด็ดดมยอดบัวของนาง ผู้อาวุโสฟางซิ่น
แทบจะไม่สามารถรับมือกับความเสียวซ่านที่เกิดขึน้ นี้ได้ เพียงแค่
ความสุขจากการที่ร่างกายของนางได้แนบชิดกับร่างของเด็กหนุ่ม
มันก็ทาให้นางสุขใจจนแทบจะบ้านี้ยังต้องเจอกับการเล้าโลมของ
เด็กหนุ่มพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่กาลังจู่โจมร่องสวาทของนาง
อย่างต่อเหนื่องอีก
เพียงผ่านไปไม่นานนางเริ่มไม่รู้สึกรับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
ตอนนี้โพร่งส่วนล่างทั้งสองของนางถูกทะลวงจนเป็นรูกว้างจนนาง
ไม่สามารถมั่นใจได้ว่ามันจะกลับไปใช้งานได้อย่างปกติหรือไม่ แต่
แล้วอย่างไรเล่าเทียบกับความสุขที่กาลังเกิด ณ ตอนนี้มันเรียกได้
เลยว่ามันสมควรเป็นความสุขที่สตรีทั้งหลายต้องใฝ่ฝันอย่าง
แน่นอน
ทั่วทั้งร่างกายของนางในตอนนี้ถูกหลินหมิงเข้าสารวจโลมเลีย
ไปทุกซอกจุดจนเขาอาจจะรู้มันดีเสียยิ่งกว่านางทีเ่ ป็นเจ้าของร่างไป
เสียแล้ว ที่บริเวณโพร่งสวาทของนางนั้นมีน้ารักไหลออกมาอย่างไม่
หยุดหย่อนอันเป็นหลักฐานแสดงว่านางได้เสร็จสมไปเป็นจานวน
มากอย่างไม่ต้องสงสัย
" ว้าย นะ..นายท่านนี้มันอะไรกันเจ้าคะ "
หลินหมิงพลิกร่างกลับมาให้ตัวเขานอนหงายโดยมีร่างของผู้
อาวุโสขึ้นคร่อมพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่ยังคงเสียบคาร่อง
สวาทของนางเอาไว้อยู่
" ตาเจ้าทาให้ข้ามีความสุขบ้างแล้วอย่างไรละ "
" ตะ...แต่ว่าข้า...ทามันไม่เป็นเจ้าคะ "
ใบหน้าของผู้อาวุโสสาวเต็มไปด้วยความกังวลด้วยความที่นาง
ไร้ซึ่งประสบการณ์และไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้สักเท่าไหร่ มันคงจะ
เป็นไปได้ยากที่นางจะสามารถทาให้เด็กหนุ่มผู้นมี้ คี วามสุขนางไม่ได้
กังวลว่าผลจากการร่วมรักระหว่างนางกับเขาจะไม่เพียงพอให้นาง
ก้าวสู่ระดับปราญช์แต่นางเกรงว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วฐานะของนาง
คงจะเป็นได้เพียงสาวรับใช้ของเขา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วด้วย
ฐานะเช่นนั้นนางจะยังคงได้รับความสุขเช่นนี้เทียบเท่ากับเหล่าหญิง
สาวอื่นที่เป็นภรรยาของเขาหรือ
หลินหมิงลูบไล้ไปที่ต้นขาของนางอย่างแผ่วเบาเพื่อให้นางได้
ผ่อนคลายลง เพียงสัมผัสที่ปลายมือของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่เข้าสัมผัส
ร่างกายของนางมันแทาให้ร่างกายของนางสั่นสะท้านราวกับว่าเขา
มีเวทย์มนต์ใดสักอย่าง
" เจ้าเพียงแค่เริ่มขยับไปอย่างช้า.....จากนั้น... "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นทาตามคากล่าวของหลินหมิงอย่างว่าหงาย
สะโพกของนางขยับไปอย่างเชื่องช้าพร้อมกับจังหวะขึ้นลงของนาง
ตามคากล่าวของหลินหมิงต่อมา แม้ว่ามันจะไม่เร้าร้อนเช่นกับใน
ตอนก่อนหน้าแต่นางเองก็ชอบพอความรู้สึกน่่มนวลเช่นนี้นางปล่อย
ตัวไปตามความสุขที่เกิดขึ้น พร้อมกับโน้มตัวลงไปหาร่างเปลื่อย
เปล่าของหลินหมิง แผ่นอกกายาที่ดูสมส่วนใบหน้าของเขาที่ไม่อาจ
เรียกได้ว่างดงามที่สดุ แต่ในสายตาของนางเขาเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ม
ที่สุดอย่างแน่นอน
นางเริ่มเรียนรู้จากการกระทาของหลินหมิงลิ้นของนางตวัดโลม
เลียร่างกายของเด็กหนุ่มด้วยความเสน่ห์หา ใบหน้าของนางแดง
ซ่านเต็มไปด้วยความตืน่ เต้น นางแทบไม่อยากจะแยกจากเด็กหนุ่ม
คนนี้อีกต่อไปแล้วเมื่อคิดได้เช่นนั้นจังหวะสะโพกของนาง
เปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นมา
" อ้าา~~~ ข้ารักท่านเจ้าคะ ~~~~~~ "
เพียงไม่นานนางสามารถสัมผัสได้ถงึ ทวนมังกรที่อยู่ในร่างกาย
ของนางนั้นเริ่มมีการสั่นกระตุกดังเช่นในตอนแรกที่เขาได้ปลดปล่อย
น้ารักของเขาออกมา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความยินดีอย่างยิ่งนี้
เท่ากับว่านางจะได้ตกเป็นสตรีของเขาอย่างแท้จริงแล้ว
" ปล่อย..มาเลยเจ้าคะ อร้างงงงงงงงงง~~~~~ "
เมื่อน้ารักของหลินหมิงเข้ามาเต็มภายในท้องของนางนางรู้สึก
เหนื่อยจนเกินกว่าจะทาสิ่งใดได้อีกต่อไป ทวนมังกรของเขายังคงอยู่
ภายในร่างกายของนาง นางทิ้งร่างลงบนร่างกายของหลินหมิงด้วย
สีหน้าเปี่ยมสุขแม้จะยังคงรู้สึกเสียดายที่การร่วมรักของนางจะต้อง
จบลงแต่นางก็เหนื่อยเกินกว่าจะทาสิ่งใดได้แล้วอีกทั้งตัวของเด็ก
หนุ่มที่ทาการส่งน้ารักมาภายในรูทวารของนางมาแล้วหนึ่งครั้งและ
กับซือเซียนภรรยาที่น่าอิจฉาของเขาและล่าสุดกับร่องสวาทของ
นางมันคงเป็นไปได้ยากทีเ่ ขาจะยังคงมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่
เทียบกับบุรุษคนอื่นเด็กหนุ่มผู้นี้สมควรเรียกได้ว่ายอดบุรุษอย่าง
ไม่ต้องสงสัย หากเป็นบุรุษอื่นตามที่นางได้ยินมาพวกเขาใช้เวลาใน
การร่วมรักโดยที่สตรียังไม่ทันได้ปลดปล่อยอารมณ์ความสุขเลยเสีย
ด้วยซ้าไป แต่นางในตอนนี้ปลดปล่อยน้ารักออกไปไม่รู้กี่ครั้งเข้าไป
แล้ว
" เอ๊ะ ! "
ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ว่ามือของหลินหมิงกาลังเข้าสัมผัสที่
บริเวณบั้นท้ายของนาง ทวนมังกรที่อยู่ภายในร่างกายของนางนั้เริ่ม
มีการขยับอย่างเชื่องช้าอีกครั้ง
" นะ...นายท่าน...นีท้ ่าน อร๊ายยยยย~~~~~~ "
ร่างกายของนางถูกพลิกอีกครั้งในตอนนี้นางอยู่ในสภาพนอน
คว่าโกงบั้นท้ายที่ยังคงมีทวนมังกรของเขาเสียบร่องสวาทของนาง
อยู่ ในตอนนี้เองนางเริ่มคิดได้แล้วว่าเหตุใดศัตรูของนางอย่างฟ่
งซือเซียนและหญิงสาวทัง้ สี่นั้นถึงได้ยินยอมให้นางได้ร่วมรักกับสามี
ของพวกนาง ไม่ใช่ว่าพวกนางต้องการทรมานนางเพียงแต่ว่าเด็ก
หนุ่มผู้นี้กลับมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุดต่างหาก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านล่วงเลยผ่านไปนานมากเพียงใด สภาพของนาง
ในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ารักของหลินหมิงไปทั่วทั้งร่าง มีหลาย
ครั้งที่สติของนางถึงกับดับวูบไปแต่เมื่อนางตืน่ ขึ้นมานางก็พบว่า
ร่างกายของนางยังคงถูกใช้งานเป็นที่บาเร่ออารมณ์อย่างไม่หยุด
หย่อน นางไม่ต่อต้านหลินหมิงแต่อย่างใดแม้ว่านางจะพยายาม
ตอบสนองหลินหมิงให้ได้มากทีสุดแต่เรื่องนั้นมันยากเย็นจนเกินไป
นางทาได้เพียงประคองสติของส่งเสียงครางออกมาเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 87
ภายหลังจากที่หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับผู้อาวุโสฟางซิ่น
อย่างยาวนานจนนางหมดสติไปเหล่าหญิงสาวที่เหลือทั้งสี่ หมิง
เลี่ยน ลีเซียน ฉีหลิน หวางเฟยพวกนางเองก็ต่างไม่ยอมแพ้เมื่อเป็น
เช่นนั้นแล้วหลินหมิงจึงได้ทาการมอบความสุขให้กับพวกนางทั้งสี่
จนพวกนางสุขสมใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นผู้อาวุโสฟางซิ่นเป็นคนที่ได้รู้สึกตัวก่อนใครอื่นเมื่อ
นางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายของหลินหมิงได้หายไปจากนาง
เสียแล้ว เมื่อนางมองไปก็พบว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังหลับอย่างมี
ความสุขท่ามกลางเหล่าหญิงสาวทั้งห้าคน ในตอนนี้นางเข้าใจแล้ว
ว่าเหตุใดฟ่งซือเซียนผู้นี้ถงึ ยอมให้เหล่าสมาชิกของนางเป็นภรรยา
ของหลินหมิง นั้นก็เพื่อการรับมือกับพลังงานอันมากล้นของเด็ก
หนุ่มนั้นเอง
ทันใดนั้นนางสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานประหลาดภายใน
ร่างกายของนาง นางทาสมาธิเพื่อทาการสารวจภายในร่างกายของ
นางในทันที
' นี้มัน ! '
ดวงตาของนางด้วยความตกตะลึง
' ปราญช์ระดับ 1 ขั้นสูงสุด ! '
ไม่เพียงแต่จะสามารถทะลวงมาสู่ระดับปราญช์ได้อย่างง่ายดาย
เพียงคืนเดียวแต่ในตอนนี้นางกลับอยู่จุดสูงสุดของระดับหนึ่งแห่งป
ราญช์
" ข้าบอกแล้วใช่ไหม.... ถือว่าเป็นของขวัญเล็กน้อยสาหรับเจ้าที่
เป็นข้ารับใช้ของข้าแล้ว "
เมื่อนางได้ยินเสียงของหลินหมิงนางรีบลืมตาตื่นขึน้ มาพร้อมกับ
จ้องมองไปที่ใบหน้าของเขาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ ในตอน
แรกที่นางได้ยินนั้นนางยังคงไม่อาจเชื่อได้แต่เมื่อผลลัพธ์ที่อยู่
ตรงหน้านางเช่นนี้แล้วมันจะยังปฎิเสธได้อย่างไรอีก ไม่เพียงแต่จะ
สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์ได้อย่างง่ายดายแต่พื้นฐาน
พลังปราญช์ในร่างกายของนางนั้นเรียกได้ว่ามั่นคงอย่างมาก
" นายท่าน.. "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าวเรียกหลินหมิงอย่างไม่มีอาการขวยเขิน
ด้วยความสามารถของเด็กหนุ่มและท่วงท่าที่เขาได้มอบความสุข
ให้แก่นาง นางสาบานกับตนเองเลยว่าจะทาทุกอย่างเพื่อที่ให้เขา
เลื่อนฐานะของนางขึ้นมาให้ได้อย่างแน่นอน ในขณะที่นางกาลังพุ่ง
เข้ากอดเพื่อหวังแนบชิดร่างกายของหลินหมิงอีกครั้งก็มีเสียงหนึง่
ดังขึ้นมาเสียก่อน
" เจ้าเป็นแค่ข้ารับใช้ไม่ใช่หรอ...แล้วเหตุใดถึงได้กล้าทาตัว
เช่นนี้ในขณะที่เจ้านายของเจ้ายังไม่ได้กล่าวกัน อ่อจริงสิเท่ากับว่า
ตอนนี้ข้าที่เป็นภรรยาของเขาก็เป็นนายของเจ้าด้วยใช่หรือ
ไม่เช่นนั้นแล้ว.... "
" ฝันไปเสียเถอะ ! "
ฟ่งซือเซียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับขัดจังหวะของผู้อาวุโสฟางซิ่นได้
อย่างน่าเจ็บใจ แม้ว่าในตอนนี้นางจะมั่นใจได้เลยว่าความสามารถ
ของนางในตอนนี้จะเหนือกว่าหญิงสาวคนนี้ไปแล้วเพียงแต่ว่าหาก
นางลงมือทาอะไรหญิงสาวคนนี้มันคงสร้างความไม่พอใจให้กับ
หลินหมิงเป็นอย่างมาก หลินหมิงยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับรวบร่างของ
พวกนางทั้งสองมาไว้ในอ้อมกอดทั้งสองข้างของเขา
ด้วยร่างกายเปลื่อยของพวกนางทั้งสองมันแทบจะทาให้หลินหมิ
งลุกขึ้นจู่โจมพวกนางอีกครั้งหากไม่ใช่ว่าฟ่งซือเซียนนั้นได้กล่าวขัด
เสียก่อน
ในตอนนี้ที่หญิงสาวทัง้ หมดได้ตื่นขึ้นมาใบหน้าของพวกนางเต็ม
ไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย นั้นก็เพราะว่าพวกนางได้ออกมาจาก
เมืองหลวงมาหลายวันแล้วมันคงไม่ดีนกั หากพวกนางยังคงใช้ชีวิต
อยู่ที่นี้ต่อไป
" ท่านพี.่ ..ไว้ข้าจัดการเรื่องทุกอย่างที่เมืองหลวงแล้วข้าจะไปหา
ท่านโดยเร็วที่สุดเจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนแม้ว่านางจะเจ็บใจที่ต้องปล่อยให้หลินหมิงอยู่กบั
ศัตรูคู่แค้นเช่นนี้แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับไปเมืองหลวง
แล้วกลับมาหาหลินหมิงทีเ่ มืองฟานชูโดยเร็วที่สุดเท่านั้น
" ฮิฮิ พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ารับรองเลยว่าข้าจะดูแลนาย
ท่านของข้าอย่างดีเยี่ยมทุกช่วงเวลาเลยล่ะ "
กับหญิงสาวที่เหลือทั้งสี่นนั้ พวกนางไม่ได้มีความรู้สึกเคืองอะไร
ในตัวของผู้อาวุโสฟางซิ่นมากนักในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว
นั้นหมายความว่าไม่ช้าก็เร็วหญิงสาวผู้นี้ย่อมต้องเป็นหนึ่งในภรรยา
ของเจ้าเด็กหนุ่มนี้อย่างแน่นอน และไม่ว่าเขาจะมีสตรีเพิ่มอีกสักกี่
คนนั้นก็ย่อมไม่ใช่ปัญหาสาหรับพวกนางมากนักเพราะว่าด้วย
เรี่ยวแรงและอารมณ์ที่มากมายของเขาสตรีทั้งหลายเหล่านั้นก็คงไม่
อาจรับมือมันได้ไหวหรอก
จะมีเพียงหัวหน้าของพวกนางเท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีความขุ่น
เคืองกันเล็กน้อยนั้นอาจเป็นเพราะว่าด้วยความงดงามของผู้อาวุโส
สาวคนนี้ มันจึงทาให้นางรู้สึกอิจฉาและด้วยการที่เป็นหญิงสาววัย
เดียวกันมีความสามารถใกล้เคียงกันพวกนางจึงไม่มีทีท่าว่าจะยอม
ให้แก่กันเพียงเท่านั้น ซึ่งหากดูไปแล้วนี้อาจเป็นเพียงการทะเลาะกัน
ราวกับเด็กเสียอย่างนั้นมากกว่า
หลินหมิงจูบลากับหญิงสาวทั้งห้าพร้อมกับกล่าวลาพวกนางไป
เท่ากับว่าในตอนนี้เหลือเพียงเขาและผู้อาวุโสฟางซิ่นในป่าแห่งนี้
เพียงเท่านั้น
" เอ้านี้สมบัติที่เจ้าอยากได้ "
หลินหมิงส่งบงกชเหมันต์ให้กับผู้อาวุโสฟางซิ่นอย่างง่ายดายราว
กับมันเพียงก้อนหินไร้ค่า นางรับมันมาอยู่ในมือด้วยอาการสับสน
จริงว่าด้วยระดับพลังของนางในตอนนี้มันอาจไม่สามารถช่วยเสริม
ให้นางทะลวงไปยังปราญช์ระดับ 2 ในทันทีแต่มันสามารถปรับแต่ง
เปลวเพลิงน้าแข็งของนางให้เหมาะสมและทาให้นางกลายเป็นนัก
ปรุงยาเต็มตัวได้
" แต่ว่า...นี้มันข้าว่านายท่านน่าจะเป็นคนใช้มันมากกว่านะเจ้า
คะ "
" เพียงไม่นานเจ้าก็เริ่มไม่เชื่อฟังข้าเสียแล้ว...เฮ้อ "
" ได้เจ้าคะ ข้ายินดีรับมันเจ้าคะ ! "
นางมองบงกชเหมันต์ในมือของนางด้วยแววตาเป็นประกายการ
ออกมาครั้งนี้เรียกได้ว่านางได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลไม่ว่าจะ
เป็นการทะลวงพลังอันน่าตื่นตะลึงและยังคงได้รับสมบัติที่เหมาะสม
กับเปลวเพลิงของนางที่หาได้ยากยิ่งอีก ทีส่ าคัญที่สุดก็คือการที่นาง
ได้กลายเป็นสตรีของเขา
" นายท่าน...คือว่าพลังปราณหยินในบงกชเหมันต์นี้มันมีมาก
จนเกินไปและข้าเกรงว่าข้าอาจปรับแต่งมันได้ไม่ดีหากไม่รบกวนข้า
อยากให้ท่านช่วยเหลือข้า.. "
" ได้สิ "
เดิมทีที่นางพาตัวหลินหมิงมาที่นี้ก็เพื่อการเก็บเกี่ยวบงกช
เหมันต์และการปรับแต่งมันเนื่องจากไอปราณหยินที่แผ่ออกมาจาก
ตัวของมันในปริมาณมากจนเกินไปหากผู้ที่ต้องการจะนามันมาไม่ได้
มีปราณหยางที่บริสุทธ์มากพอหรือมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอพวก
เขาอาจต้องเจอกับอันตรายที่ส่งผลต่ออนาคตอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาในส่วนนั้นได้ถกู ตัดไปแล้วเนื่องจากว่าฟ่งซือเซียนได้
เป็นคนนามันมาด้วยตัวของนางเอง ระดับปราญช์นั้นถือว่าไม่เป็น
ปัญหาใดสาหรับการนาบงกชเหมันต์มา เหลือเพียงการปรับแต่งมัน
เท่านั้นที่ยังคงเป็นปัญหาสาหรับนางอยู่
ในตอนนี้ผู้อาวุโสฟางซิ่นได้ทาการเริ่มดูดซับบงกชเหมันต์
ในทันทีนางแทบอดใจรอไม่ไว้ถึงผลลัพธ์ที่กาลังจะเกิดขึ้น เพียงแต่
ว่าท่วงท่าที่กาลังดูดซับของนางนั้นอาจแปลกประหลาดไปจากผู้อื่น
สักหน่อย เนื่องด้วยในตอนนี้นางได้กลับมาอยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่า
อีกครั้งพร้อมกับที่ด้านหลังของนางนั้นถูกอ้อมกอดอันอบอุ่นของเด็ก
หนุ่มกอดรัดเอาไว้อย่างแนบแน่น ที่สาคัญที่สุดคือทวนมังกรของเขา
ที่ถูกส่งเข้ามาอยู่ภายในตัวนาง
" นายท่านข้าเกรงว่าแบบนี้มันจะทาให้ข้าดูดซับ...อร้างงงง "
" รู้ไหมนี้เป็นวิธีทที่ ี่ดีสุดแล้วดูดพลังงานที่เจ้าได้ดูดซับไปสิ มันบ
ริสุทธ์ราวกับว่ามันไม่สญ ู เสียพลังงานไปเลยแม้แต่นอ้ ยแถมเจ้า
ยังคงได้รับความสุขเช่นนี้อีก แล้วเจ้าไม่พอใจเช่นนั้น ? "
ในตอนแรกผู้อาวุโสฟางซิ่นนางไม่ได้รับรู้เลยว่าด้วยการที่หลินห
มิงอ้อมกอดนางจากด้านหลังจนนางรู้อบอุ่นพร้อมกับทาการร่วมรัก
กับนางในท่วงท่านี้จะเป็นการช่วยเหลือของเขา จนเมื่อนาง
ตรวจสอบดูก็พบว่ามันเป็นจริงทุกประการพลังงานภายในตัวของ
นางที่ดูดซับมาจากบงกชเหมันต์ถกู กลั่นด้วยความเร็วอันน่า
ประหลาดใจ แม้ว่ามันอาจต้องใช้เวลาไปบ้างเนื่องจากเดิมที
มันเป็สมบัติที่ต้องใช้เวลาดูดซับค่อนข้างนานอาจกินเวลาไปถึงสอง
ถึงสามวัน แล้วเมื่อนางต้องทนรับมือกับการจู่โจมของหลินหมิงไป
ด้วยมันจึงยิ่งทาให้การดูดซับเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า
เป็นเวลาสัปดาห์หนึ่งเต็มๆที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นได้ใช้เวลาดูดซับ
บงกชเหมันต์พร้อมกับการที่หลินหมิงได้ใช้ร่างกายของนางเป็นที่บา
เร่อความใคร่ไปเต็มๆเจ็ดวันด้วยกัน ด้วยเรือนร่างของหญิงสาวที่
งดงามดั่งเทพธิดาเช่นนี้แล้วมีหรือที่หลินหมิงจะรู้สกึ พอใจโดยง่าย
?
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นที่โดนการจู่โจมของหลินหมิงมาตลอดเจ็ดวัน
ในตอนนี้นางพบว่าร่างกายของนางล้วนถูกฟื้นสมบูรณ์จนอยู่ใน
สภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุดบริเวณร่องสวาทและรูทวารที่เคยถูกจู่โจม
ล้วนฟื้นฟูขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกันมันทาให้เวลาที่นางได้ทาการร่วม
รักกับหลินหมิงนั้นร่องสวาทของนางจึงยังคับแน่นอยู่เช่นเคย นาง
จึงไม่ต้องมีความกังวลว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเบื่อนางไปเนื่องจากร่อง
สวาทของนางอาจหลวมเกินไปเพราะถูกใช้งานไปมาก
" นายท่านข้าว่ามันถึงเวลาที่พวกเราสมควรกลับได้แล้ว
เช่นเดียวกัน...เดิมทีพวกเราจากมาโดยไม่ได้บอกใครก่อนโดยเฉพาะ
ท่านป่านนี้อาจารย์ของท่านคงได้ออกตามหาท่านไปทั่วแล้ว "
" ข้ายังรู้สึกกลืนกินเจ้ายังไม่หน่าใจเลยเหตุใดเราไม่อยู่กันนาน
กว่านี้เสียหน่อยเหล่า "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับไซร้คอของฟ่งซือเซียนไปมาอย่างเคลิม
เคลิ้ม
" ฮิฮิ..พอแล้วเจ้าคะ...ใช่ว่าเมื่อกลับไปแล้วนายท่านจะไม่ได้ทา
กับข้าเสียหน่อยข้านั้นยินดีปรนเปร่อให้กับท่านทุกเมื่อเจ้าคะ "

ตอนที่ 88
หลินหมิงปรากกฎตัวขึ้นพร้อมกับผู้อาวุโสฟางซิ่นที่หน้าตานัก
ของอาจารย์สาวสวยด้วยอาคมที่ฟางซิ่นได้ใช้เช่นเดียวกันกับใน
ตอนแรกที่นางได้พาเขาไป แม้ว่ามันจะเป็นอาคมที่ดูสะดวกสบาย
เพียงแต่ว่าการที่จะใช้มันได้ย่อมต้องใช้ทรัพย์สมบัติจานวนไม่น้อย
อีกทั้งมันยังขึ้นอยู่กับระยะทางที่ตั้งระบุเอาไว้อีกด้วย
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นไม่ได้มที ีท่าความรู้สึกเสียดายกับทรัพย์สิน
เพียงเท่านี้สักเท่าไหร่นัก ด้วยจานวนของมันทีน่ างต้องเสียในการ
เดินทางไปกลับสองรอบพร้อมกับพาหลินหมิงไปด้วยมันทาให้นาง
ต้องใช้สมบัติเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่หากเมื่อเทียบกับสิง่ ที่นาง
ได้รับมาในตอนนี้ทรัพย์สินที่เสียไปล้วนคุ้มค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
" นายท่านหากท่านมีสงิ่ ใดต้องการใช้ข้ารับใช้เพียงแค่ท่านมา
หาข้าที่ตานักของข้าหรือเพียงส่งคนมาแจ้งข่าวแก่ข้า ข้านั้นจะรีบ
ไปหาท่านโดยเร็วที่สุด "
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความยิ้มแย้มนางพลัน
เคลื่อนตัวหายไปจากสายตาของหลินหมิงอย่างรวดเร็วหลังจากที่
นางกล่าวจบ ด้วยศักยภาพของนางในตอนนี้อาจเป็นไปได้ว่านาง
อาจสามารถเทียบเคียงกับอาจารย์สาวสวยของเขาได้แล้ว ? หลินห
มิงไม่ทันได้คิดสิ่งใดต่อเพียงไม่นานหลังจากที่เขาปรากฎตัวขึ้น
บรรดาสาวใช้ในตานักของอาจารย์สาวสวยรีบพุ่งมาหาเขาด้วย
ความรวดเร็วพร้อมกับอาการร้อนรน
" คุณชาย...ท่านอยู่ที่นี้เองรึเจ้าคะ ท่านประมุขตามหาท่านอยู่
เจ้าคะขอเชิญท่านรีบไปเถอะเจ้าคะ "
ดูจากใบหน้าที่รีบร้อนของสาวใช้ผู้นี้แล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่า
อาจารย์สาวสวยของเขานั้นคงเป็นกังวลในเรื่องนี้มากเพียงใด
ภายในห้องของจูหนิงเอ๋อร์สีหน้าของหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา
ในตอนนี้เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ภายใน
สมาคมล้วนถูกออกคาสั่งให้ออกตามหากตัวศิษย์ของนางอย่าง
ห้ามปฎิเสธใดทัง้ นั้น นางอุตส่าตามหาศิษย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
กับที่นางได้ตั้งเป้าหมายไว้และเมื่อดูจากการพัฒนาอันก้าวกระโดด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องเป็นอัจฉริยะที่เหนือล้ายิ่งกว่า
ผู้ใด นางกระทั่งวาดฝันไว้ว่าในอนาคตเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่ทาให้
สมาคมนักปรุงยาแห่งนี้นนั้ เจริญรุ่งเรื่องถึงขีดสุด
" ท่านประมุขออกอนุญาติเจ้าคะ "
ในขณะที่นางกาลังขบคิดเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่เด็กหนุ่มน่าจะ
ไป นางกระทั่งคิดไปว่าศิษย์ของนางอาจถูกตระกูลหลินจู่โจมอีกครั้ง
? แต่ด้วยความแข็งแกร่งของตัวนางยังคงไม่เพียงพอที่จะรับมือกับ
ประมุขตระกูลหลินอีกทั้งในคราวนี้ยังไม่มีใครเห็นเขาออกไปจาก
ภายในสมาคมแม้แต่คนเดียว ทันใดนั้นเมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาความ
กังวลที่สะสมมาตลอดหลายวันนี้ราวกับถูกปัดเป่าให้หายไปราวกับ
เป็นเรื่องตลก
หญิงสาวรับใช้เดินออกจากห้องในทันทีที่นางนาทางหลินหมิง
มาถึง หลินหมิงแทบจะสรรหาคามาพูดในตอนนี้ไม่ออกเลยทีเดียวดู
จากความวุ่นวายในระหว่างที่เขาได้เดินทางมายังห้องของนางก็
เพียงพอที่จะรับรู้ได้ว่านางเป็นกังวลมากเพียงใด
" นี้เจ้าหายไปไหนมาหลาย........สวรรค์ ! มะ...ไม่นา่ เชื่อ "
ในขณะที่จูหนิงเอ๋อร์กาลังเตรียมตะโกณด่าท้อศิษย์ของนาง นาง
พลันสัมผัสได้ถงึ พลังงานในร่างกายของเขาที่แข็งแกร่งขึ้นกว่า
เมื่อก่อนแบบเทียบไม่ติด ดวงตาของนางเบิกกว้างเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงแม้ว่านางจะเคยเห็นอัจฉริยะมามากมายทั้งในเมืองแห่งนี้
หรือกระทั่งเมืองหลวง แต่ไม่มีใครที่สามารถทาให้นางต้องตื่นตะลึง
เช่นนี้มาก่อน
" นี้เจ้าระดับก่อเกิดแล้ว ? แถมยังระดับ 7 !! "
ในก่อนหน้านี้ที่เขาไปภารกิจกับศิษย์พี่ของเขาหลัวฉิงเชี่ยนนั้น
เขาเป็นคนให้นางเป็นคนบอกกล่าวเรื่องการทาภารกิจแก่อาจารย์
สาวสวยดังนั้นแล้วนางจึงไม่ยังได้รับรู้พลังของเขาหลังจากในตอน
นั้น คากล่าววาจารที่เคยคิดด่าท้อกลับแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใส
และเสียงหัวเราะอย่างน่าหลงไหลอันเป็นเอกลักษณ์ประจาตัวนาง
" ที่แท้เจ้ากลับไปแอบฝึกตนจนก้าวกระโดดเช่นนี้ มิน่าเหล่าแต่
เจ้ารู้ไหมคราวหน้าเจ้าไม่จาเป็นต้องทาเช่นนี้หากเจ้าต้องการ
สถานที่เงียบสงบในการฝึกแล้วละก็ข้าสามารถสั่งให้ทุกคนใน
สมาคมห้ามเข้าไปรบกวนในลานฝึกของตานัก "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นหน้าเดินวนรอบตัวของหลินหมิงพร้อมกับ
สารวจร่างกายที่ดูแข็งแรงผิดกับอายุวัย 15 ปีของเขาหากเทียบกัน
แล้วด้วยการที่เขาอายุเพียงเท่านี้การที่เขาสามารถบรรลุถึงระดับ
ปราณเริ่มต้นขั้นที่ 8 หรือ 7 ได้มันย่อมเป็นเรื่องที่นา่ พอใจอย่างมาก
แล้ว แต่ในตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถก้าวไปสู่ระดับก่อเกิดได้
แต่เขากลับสามารถบรรลุได้ถึงระดับก่อเกิดระดับปลายอย่างระดับ
7 ภายในช่วงเวลาไม่กี่เดือน !
เช่นนี้แล้วรุ่นเยาว์ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะทั้งหลายอย่าง
บรรดาบุตรที่แสนภาคภูมิใจทั้งหลายของตระกูลหลินหรือกระทั่ง
สาวน้อยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อย่างหลิวฉวนยูร์แม้แต่ศิษย์ที่
มีพรสวรรค์มากที่สุดของนสานักอย่างหลัวฉิงเชี่ยนก็ยังไม่สามารถ
นามาเปรียบได้
" ไม่สิๆ จะดีกว่าหากเจ้าได้สถานที่เงียบสงบอย่างแท้จริงเอา
เป็นว่าข้าจะสร้างหอฝึกให้แก่เจ้าเป็นการส่วนตัวแน่นอนว่ามันอาจ
อยู่ไกลไปสักเล็กน้อยแต่เรื่องความสะดวกนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล แล้ว
ทักษะที่ข้าให้ไปเจ้าศึกษามันไปถึงไหนแล้วข้าสามารถแนะนาเจ้าได้
สักเล็กน้อยนะหากเจ้ายังมีเรื่องสงสัย.......... "
บรรดาคากล่าวของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงกล่าวออกมา
อย่างไม่หยุดพร้อมกับการที่นางยังคงสารวจร่างกายของหลินหมิ
งต่อไป ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความก้าวหน้าอันน่าทึ่งนี้อาจเป็นไป
ได้ว่าเขาได้รับโอกาศที่ฟ้าได้ประทานมาให้อย่างเช่นสมบัติต่างๆ
เพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านั้นแน่นอนว่าสามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์ก้าวหน้า
ได้แต่ในอนาคตของพวกเขาจะถูกจากัดเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกันหาก
พวกเขาใช้มันมากจนเกินไปหรือใช้สมบัติที่ไม่เหมาะสมกับระดับ
ของพวกเขา
แต่หลังจากที่นางตรวจสอบดูแล้วพลังงานก่อเกิดในร่างของ
หลินหมิงนั้นล้วนถูกสร้างมาอย่างมั่นคงเสียยิ่งกว่าผู้บ่มเพาะในระ
นับนี้มานานนับปีเสียอีก ดังนั้นแล้วนางจึงไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้
แม้ว่านางจะยังคงอยากจะรู้ว่ามันเป็นสมบัติใดที่สามารถนาความ
วิเศษณ์เช่นนี้มาได้แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้สาคัญสักเท่าไหร่หากเทียบ
กันศิษย์ของนางที่เป็นความหวังในตอนนี้
หลินหมิงไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือราคานแต่อย่างใดนั้นไม่ใช้เพราะว่า
เขาชอบฟังผู้อื่นพูดกล่าวแต่มันเป็นเพราะในยามนี้เขาสามารถสูด
ดมกลิ่นกายของอาจารย์สาวสวยในระยะใกล้ชิดได้ ดังนั้นมันจึงไม่มี
อะไรที่เขาจะต้องปฎิเสธนาง และหลินหมิงยังคงไม่แก้ไขความใจผิด
ของนางที่คิดว่าเขาไปเก็บตัวฝึกฝนมาด้วยเพราะว่าถึงเขาบอก
ความจริงไปทุกอย่างมันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมายนัก
" คิค.ิ ..ถือว่าเจ้าได้ดีมากไม่ผิดหวังที่ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์...ต่อจาก
นี้เจ้าจะได้รับเงินจานวนสองหมื่นเหรียญทุกเดือนพร้อมกับเม็ดยา
บ่มเพาะระดับ 4 "
ดวงตาของหลินหมิงเป็นประกายแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีปัญหาเรื่อง
เงินในตอนนี้เพียงแต่ว่าการมีมันสะสมเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
เทียบกับเงินจานวนนี้แม้ว่ามันจะน้องกว่ารางวัลชนะการแข่งขัน
ของเขาในครั้งที่ได้มาห้าหมื่นเหรียญพร้อมกับเม็ดยาบ่มเพาะระดับ
6 แต่เขาสามารถรับมันได้ตลอดทุกเดือน ! เพียงแค่เงินจานวนหนึ่ง
หมื่นเหรียญนั้นก็เรียกได้วา่ มากจนเกินพอเทียบกับระดับก่อเกิด
ทั่วไปพวกเขาสามารถหาเงินได้เพียงเดือนละ 3 พันเหรียญเพียง
เท่านั้น อีกทั้งเขายังได้รบั เม็ดยาบ่มเพาะระดับ 4 ซึ่งแน่นอนว่ามัน
จะต้องเป็นระดังสูงและราคาของมันก็คงอยู่ที่ราวๆ หนึง่ หมื่น
เหรียญ
" ขอบพระคุณท่านอาจารย์ "
" นี้ถือเป็นสิ่งตอบแทนสาหรับผลงานของเจ้า แล้วก็ข้าแนะนา
ว่าเจ้าไม่ควรโหมฝึกเสียจนมากเกินไปอย่างไรเสียในตอนนี้เจ้าก็มี
เงินไว้ใช้อยู่พอตัว เจ้าก็ควรผ่อนคลายเสียบ้างไม่เช่นนั้นแล้ว
ร่างกายเจ้าจะรับภาระหนักจนเกินไป...แล้วก็รับนีไ้ ปด้วย "
จูหนิงเอ๋อร์ส่งป้ายหยกสีเขียวที่มีสัญลักษณ์ของสมาคมนักปรุง
ยาด้วยสัญลักษณ์นี้เพียงแค่คนทั่วไปมองเห็นพวกเขาอาจต้องสั่น
เทาไปด้วยความกังวลเพราะว่ามันไม่ใช่เพียงป้ายสาหรับผู้อาวุโส
ของสมาคมนักปรุงยาทั่วไปแต่มันหมายถึงป้ายทีม่ ีตาแหน่งสูง
รองลงมาจากตาแหน่งประมุขสมาคมอันมีเพียงแต่เดิมเพียงสองนั้น
ก็คือผู้อาวุโสซูหลิ่งและผูอ้ าวุโสฟางซิ่นเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 89
หลังจากที่หลินหมิงใช้เวลาพูดคุยกับอาจารย์สาวสวยอย่าง
ยาวนานอันที่จริงแล้วมันเป็นเพียงแค่การพูดคุยอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
และมีบ้างที่หลินหมิงจะตอบเป็นครั้งคร่าวแม้ว่าเมื่อดูจากภายนอก
แล้วอาจารย์สาวสวยของเขาผู้นี้จะดูเป็นคนที่ไม่ใช่คนเงียบครึมแต่
การที่นางพูดกล่าวกับหลินหมิงเช่นนี้นั้นย่อมเป็นเพราะว่านางมี
ความรู้สึกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกเลยต่างหาก
ในตอนแรกนั้นแม้ว่านางจะรับหลินหมิงเข้าเป็นศิษย์ส่วนตัว
แล้วแต่ป้ายหยกนั้นนางยังไม่มีความคิดที่จะให้หลินหมิงถือครอง
ด้วยป้ายที่แสดงถึงสถานะอันสูงส่งของสมาคมนักปรุงยาหากใคร
เห็นเขาว่าผู้ถือเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มีพลังปราณระดับเริ่มต้นพวก
เขาอาจล้มลงพื้นแล้วหัวเราะจนแทบขาดใจตายก็เป็นได้ แต่
ในตอนนี้แม้ว่าป้ายหยกส่วนใหญ่ของเหล่าตระกูลหรือผู้ที่มีอานาจ
นั้นส่วนใหญ่ล้วนถูกถือครองโดยผู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่างน้อยก็
ระดับจอมยุทธ์ขึ้นไป
เพียงแต่ว่าตัวของหลินหมิงในวัยเท่านี้กับประสบผลสาเร็จอย่าง
งดงามในการบ่มเพาะพลังและเมื่อเขาสัญจรไปที่ใดและผู้คนได้
พบว่าเขาถือครองป้ายหยกของนางอยู่นั้นเท่ากับว่าเป็นการ
ประกาศความแข็งแกร่ง ความเจริญรุ่งเรืองของสมาคมในอนาคต
ไปด้วย
ในตอนแรกหลินหมิงคิดจะไปหาแม่เทพธิดาตัวน้อยของเขา
หลิวฉวนยูร์แต่เมื่อเขาไปถึงหน้าตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งก็ได้รับ
คาตอบจากบรรดาสาวใช้ว่าพวกนางทั้งสองได้ออกไปฝึกฝนตน
ภายนอก หลินหมิงกลับมายังห้องของเขาโดยทีม่ ีการต้อนรับจาก
หญิงสาวจานวนมากภายในห้อง
หญิงสาวสองพี่น้อง ซื่อโฉว กระทั่งเสี่ยวยู้ ทันทีที่พวกนางรู้ว่า
หลินหมิงกลับมาแล้วพวกนางรีบเตรียมตัวพร้อมต้อนรับคุณชาย
ของพวกนางในทันทีแม้วา่ พวกนางอยากจะวิ่งออกไปหาเขาในทันที
แต่ด้วยฐานะของพวกนางนั้นการทาเช่นนั้นคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่
นัก
" พี่ชายกลับมาแล้ว ! "
เป็นหญิงสาวตัวน้อยเสี่ยวยู้ที่กระโดดเข้ากอดหลินหมิงด้วย
ใบหน้าสดใสของเด็กวัยไม่ถึงสิบปี จากเดิมที่นางเคยเป็นเด็กซุกซน
จากหมู่บ้านแถวชายแดนจนสามารถพบร่องรอยคราบสกปรกตาม
ร่างกายของนางได้อยู่ทั่วไป แต่ในตอนนี้นางกลับถูกทาความสะอาด
จนเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ผิวพรรณพุดพ่องของนางสว่าง
กระจางชัดขึ้นมากกว่าเดิมจนสามารถรู้สึกได้ถึงสัมผัสอันเบาสบาย
ที่เกิดหากได้จับต้องผิวของเด็กสาวผู้นี้
หลินหมิงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนล้าด้วยการประสบ
เหตุการณ์ที่อันตรายต่อชีวิตในช่วงเวลาไม่นานนี้มนั แทบจะทาให้
เขารู้สึกเหมือนกาลังถูกกลั่นแกล้งจากสรวงสวรรค์ เมื่อเขาลองหวน
นึกถึงภาพของคนในตระกูลหลินต่างๆที่เคยดูถูกกลั่นแกล้งเขาเอาไว้
หากพวกเขาได้รับรู้ความจริงแล้วนั้นใบหน้าของพวกเขาจะเป็นเช่น
ไรกัน
นี้ยังไม่รวมถึงผู้สนับสนุนของเขาอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือฟ่
งซือเซียนพร้อมกับกลุ่มของนางเพียงแค่หญิงสาวสองคนแรกที่มี
พลังระดับปราญช์ทั้งคู่การที่ตระกูลหลินจะต้องเป็นศัตรูกับพวกนาง
ทั้งสองแม้จะเป็นบิดาของเขาก็ไม่น่าจะรับมือพวกนางทั้งคู่ได้ไหว
" มีเรื่องอะไรรึเจ้าคะ "
หญิงสาวคนพี่กล่าวออกมาในตอนนี้หญิงสาวทั้งสามไม่รวม
เสี่ยวยู้ที่กาลังนอนกอดหลินหมิงอยูก่ าลังนวดบรรเทาความเหนื่อย
ล้าให้กับคุณชายของพวกนาง แม้ว่าพวกนางจะไม่รู้ว่าหลินหมิงไป
ทาสิ่งใดมาในช่วงเวลาหลายวันมานี้เพียงแต่ในระหว่างที่หลินหมิ
งถูกเรียกเข้าไปคุยกับประมุขสมาคมนั้นได้เกิดคากล่าวบอกต่อกัน
มาปากต่อปากว่าในตอนนี้ศิษย์ของประมุขสมาคมได้ก้าวสู่ระดับก่อ
เกิดแล้ว ! แถมยังเป็นระดับ 7 อีกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้นย่อมมีผู้อาวุโสจานวนมากเข้าไปถาม
จูหนิงเอ๋อร์แต่พวกนางที่เป็นเพียงสาวใช่นั้นจึงไม่สามารถรับรู้ได้
เพียงแต่ว่าหากคิดดูแล้วว่าในเมื่อผู้อาวุโสทั้งหลายภายในตานักแห่ง
นี้ได้เข้าไปถามแล้ว และยังคงไม่ข่าวแก้ไขแต่อย่างใดนั้นไม่ใช่คา
กล่าวเหล่านั้นล้วนเป็นจริง ? อีกทั้งดูเหมือนว่าประมุขสมาคมใน
วันนี้นางจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเสียด้วยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นางแทบจะ
พลิกเมืองตามหาศิษย์
" ไม่มีอะไรหรอก อ่า ในตอนนี้ข้าอยากได้การปรนนิบัติมากกว่า
การนวดเสียแล้วสิ ไม่ใช่ว่าข้าหายไปนานแล้วพวกเจ้าคงรังเกียจข้า
ไปแล้วหรอกนะ "
" ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นเจ้าคะ "
.ใบหน้าของหญิงสาวสองพี่น้องเต็มไปด้วยความเอียงอาย ส่วน
ซือโฉวนั้นแววตาของนางเต็มไปด้วยประกายในทันทีน่าเสียดายที่
สาวน้อยอย่างเสี่ยวยู้หลับไปแล้วไม่งนั้ หลินหมิงคงได้สอนท่วงท่า
อะไรใหม่ๆให้กับสาวน้อยผู้นี้เสียหน่อย
หลังจากหลินหมิงใช้เวลาพักผ่อนอย่างยาวนานภายในห้องของ
ตนเองโดยมีหญิงสาวปรนนิบัติรับใช้ตั้งแต่เย็นจนกระทั่งช่วงสาย
ของวันใหม่ หลินหมิงลุกขึ้นออกมาจากห้องด้วยสภาพสมบูรณ์ทั้ง
กายใจแม้ว่าหญิงสาวเหล่านี้จะไม่ได้มีความงามที่สามารถเทียบได้
กับผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือเหล่าสมาชิกของฟ่งซือเซียนแต่ทักษะการ
ปรนนิบัติของพวกนางเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เนื่องจากพวกนางมีฐานะเป็นเพียงสาวใช้ที่ต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้
ตั้งแต่เด็ก แถมยังเมื่อพวกนางได้ผ่านการร่วมรักกับหลินหมิงมีหรือ
ที่พวกนางจะไม่นาเอาสิ่งนั้นมาใช้เพื่อให้นายของพวกนางมี
ความสุข
ในตอนนี้ทุกคนในตานักล้วนมองมาทีห่ ลินหมิงด้วยสายตาที่
เปลี่ยนไปแต่เดิมในตอนทีห่ ลินหมิงมายังสถานที่แห่งนี้พวกนางอาจ
มองว่าหลินหมิงเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่โชคดีเท่านั้นเพียงแต่วันนี้พวก
นางได้รู้แล้วว่าความสามารถในตัวของเด็กหนุ่มผู้นยี้ อดเยี่ยม
เพียงใด กระทั่งเหล่าบรรดาสาวใช้ของหลินหมิงในตอนนี้พวกนาง
เรียกได้ว่ามีฐานะดียิ่งกว่าสาวใช้ทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความ
แข็งแกร่งของหลินหมิงในตอนนี้มันเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่า
ในอนาคตนั้นเขาจะต้องได้ตาแหน่งสูงภายในสมาคมหรือกระทั่ง
ได้รับการสืบทอดตาแหน่งต่อจากประมุขก็เป็นได้
แต่เรื่องใหญ่นั้นกลับไม่ได้มีเพียงแค่ความแข็งแกร่งของหลินหมิ
งเพียงอย่างเดียวในไม่ช้านานได้เกิดความลือแพร่สะพัดไปอย่าง
รวดเร็วถึงการก้าวข้ามระดับสู่ขอบเขตปราญช์ของผู้อาวุโสฟางซิ่น
อีกทั้งในตอนนี้นางกระทั่งสามารถปรุงยาได้ด้วยเปลวเพลิงของนาง
ที่มีความบริสุทธ์ ด้วยข่าวทั้งสองนี้หากบรรดาขั้วอานาจต่างๆ
ภายในเมืองได้รับรู้พวกเขาคงได้แต่หวาดกลัวในความแข็งแกร่ง
ของสมาคมนักปรุงยา
หลินหมิงตัดสินใจจะใช้เวลาในช่วงนี้เสพสุขกับการพักผ่อนให้
เต็มที่ ในตอนนี้บรรดาสาวใช้ของเขาได้ถูกจู่โจมจนหมดแรงไม่อาจ
รับมือได้ไหว ผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้คงหมกหมุน่ อยู่กับการศึกษา
พลังระดับปราญช์ของนางและทักษะการปรุงยา เช่นนั้นแล้วมัน
ย่อมเหลือเพียงสถานที่แห่งเดียวเท่านั้น

ตอนที่ 90
เป้าหมายของหลินหมิงไม่ใช่ที่ใดอื่นนอกเสียจากหอนางโลมของ
เหลียนเย่อิ๋ง ไม่เพียงแต่เขาต้องการที่จะให้หญิงสาวเจ้าของหอนาง
โลมนางนี้ช่วยปรนบัติแต่หากเขาไปที่หอนางโลมของนางแน่นอนว่า
เขาต้องพบกับป้าห้าของเขาหรือเหม่ยฮวานั้นเอง เมื่อครุ่นคิดถึง
หญิงสาวสูงวัยคนนี้ที่นางกลายเป็นสาวร่านนิยมชมชอบในรสชาติ
บทเพลงรักของเขาจนกลายเป็นทาสไปเสียอย่างง่ายดาย เช่นนั้น
แล้วในช่วงที่เขาไม่อยู่หลายวันนี้เป็นไปได้หรือไม่วา่ หญิงสาวคนนี้
อาจคลั่งเสียจนแทบบ้าตายไปแล้ว ?
เพียงแต่ว่าในระหว่างทางที่หลินหมิงกาลังจะไปหอนางโลมอยู่
สายตาของเขาพลันพบกับเรือนร่างของหญิงสาวที่คุ้นเคยซึ่งดู
เหมือนว่านางจะสังเกตเห็นเขาด้วยเช่นเดียวกัน หญิงสาวเดินเขา
มาหาหลินหมิงพร้อมกับร้อยยิ้มอันสดใสเสียจนเขาเคลิ้มลืมสติไป
ชั่วขณะไม่ว่าเขาจะมีประสบการณ์กับสตรีมามากเพียงใดแต่ดู
เหมือนว่าเสน่ห์ของหญิงสาวผู้นี้ก็ยังสามารถส่งผลกระทบกับเขาได้
" ศิษย์น้อง..เป็นเจ้าจริงๆด้วย "
เป็นหลัวฉิงเชี่ยนหญิงสาวที่งดงามราวกับเทพธิดาอีกคนหนึ่งที่
หลินหมิงเคยพบเจอมา เนื่องจากนางไม่ได้เป็นศิษย์หลักของผู้
อาวุโสคนใดในสมาคมดังนั้นแล้วเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้เห็นนาง
ภายนอกสมาคม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงเล็กน้อย
พร้อมกับร้อยยิ้มโค้งเรียวที่ผุดขึ้นมา
" ไม่น่าเชื่อจริงเชียว...เพียงไม่เจอกันเพียงไม่ถึงเดือนเจ้ากลับ
พัฒนาขึ้นเช่นนี้ "
" ผู้น้องได้ดีเช่นนี้เพราะส่วนหนึ่งมาจากคาสอนของศิษย์พี่
เช่นเดียวกัน "
หลัวฉิงเชี่ยนนางไม่ได้รู้สกึ อิจฉากับตาแหน่งและสถานะของ
หลินหมิงแต่อย่างใด กลับกันนางกับรู้สกึ ว่ามันเป็นความรู้สึกที่น่า
ภูมิใจเสียมากกว่าเนื่องจากเดิมทีนั้นแม้ว่านางจะมีตระกูลหนุนหลัง
อยู่ แต่ตระกูลขอนางเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าขนาดกลางที่ไม่ได้สนใจ
ในเรื่องวิถีรบ ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องยากมากสาหรับนางในการที่
จะสามารถพัฒนาตนเองได้แม้ว่านางจะมีพรสวรรค์ก็ตามที
หากไม่ใช่ว่านางได้รับโอกาศจากประมุขสมาคมนักปรุงยาที่
ยอมรับนางเป็นศิษย์ทั่วไปแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่านางในตอนนี้คงไม่
อาจก้าวขึ้นระดับก่อเกิดได้อย่างแน่นอน แต่กลับกันเด็กหนุม่ อายุ
15 ปีผู้นี้ที่ไร้ซึ่งผู้หนุนหลังใดๆเขาเป็นเพียงเด็กหนุม่ สามัญที่ประมุข
สมาคมนาตัวมา และด้วยเช่นนั้นเขาสมควรที่จะขาดความรู้พื้นฐาน
ต่างๆสาหรับวิถีนักรบต่างจากผู้ที่มีตระกูลหนุนหลังอื่นๆที่ได้รับการ
สอนตั้งแต่ยังเด็ก
แต่ในตอนนี้เขากลับพัฒนาจนถึงในระดับที่อัจฉริยะอย่างนาง
ยังคงต้องอายหากถูกกล่าวเรียกเช่นนั้นแม้นางจะยังสัมผัสพลังที่แน่
ชัดของหลินหมิงไม่ได้แต่จากข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ภายในสมาคมนั้นกล่าวไว้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีพลังก่อเกิดระดับ 7 ซึ่ง
หากแม้มีความผิดเพี้ยนไปบ้างความแข็งแกร่งของเขาก็ย่อมต้อง
มากกว่านางที่อยู่ในระดับก่อเกิดนระดับ 3 อยู่ดี ซึ่งนั้นก็นับเป็น
เรื่องที่น่าตื่นตะลึงไม่น้อยไปกว่ากันหากเทียบกับอายุของเขา
ในตอนนี้
" คิคิ เจ้านี้กล่าวยอผู้อื่นเก่งเสียจริง แล้วเจ้ามาเดินเที่ยวภายใน
เมืองเช่นนั้นหรือ "
" ใช่แล้วขอรับข้าเพิ่งออกจากการเก็บตัวฝึกฝน และยังได้รับ
คาแนะนาจากท่านอาจารย์ให้มาพักผ่อนเสียบ้างจึงว่าเดินชม
ภายในเมืองเสียหน่อย "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวกับหลินหมิงอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากนาง
และหลินหมิงนั้นได้เคยมีประสบการณ์การไปทาภารกิจร่วมกันมา
ก่อนนางจึงมีความคุ้นเคยกับเด็กหนุม่ ไม่น้อย อีกทัง้ ด้วยสถานะของ
เด็กหนุ่มที่ประสบชะตากรรมที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่านางแต่เขากลับไม่
มีสายตาของคาว่าท้อถอยเลยแม้แต่น้อยนั้นจึงทาให้นางรู้สึกดีกับ
หลินหมิง เทียบกับเหล่าคุณชายจานวนมากที่เข้าหานางเพียงเพราะ
ประสงค์หวังในเรือนร่างที่แสดงออกมาจากสายตาของพวกเขา
อย่างเด่นชัดแล้ว การคุยกับเด็กหนุม่ ผู้นี้ยังเป็นอะไรที่สบายใจนาง
กว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
" เช่นนั้นแล้วในฐานะศิษย์พี่ ข้าเองยินดีจะเป็นคนนาเที่ยวชมดี
หรือไม่ "
" โอ้ หากได้นางสตรีงามเช่นท่านเป็นคนนาเที่ยวชมไหนเลยข้า
จะปฎิเสธได้ "
หลินหมิงตัดใจจากหอนางโลมของเหลียนเย่องิ๋ ในทันทีเมื่อ
สถานการณ์เป็นเช่นนี้ แม้จะเป็นเพียงการเดินเล่นพูดคุยกัน แต่
เช่นนั้นมันก็ทาให้หลินหมิงรู้สึกพอใจไม่ใช่น้อยการที่ได้เดินเล่น
พูดคุยกับสาวงามอย่างหลัวฉิงเชี่ยนนางนี้นั้นอาจเป็นความฝันของ
บุรุษหลายคนที่ไม่อาจเป็นจริงดังนั้นแล้วหลินหมิงย่อมต้องทาตาม
ความฝันเหล่านั้นแทนบุรุษที่ไม่มีโอกาส
หลัวฉิงเชี่ยนจากที่นางได้รับรู้มานั้นหลินหมิงเป็นเพียงเด็กหนุ่ม
สามัญที่ประมุขพบเขาโดยบังเอิญอีกทั้งเขายังไม่ญาติหรือ
ครอบครัวแต่อย่างใดซึ่งมันเป็นไปได้ว่าเขายังคงไม่เคยได้เห็น
สถานที่ต่างๆในเมืองแห่งนี้มากนัก
หลัวฉิงเชี่ยนหัวเราะชอบใจอย่างงดงามเล็กน้อยเมือ่ ได้ยินคา
กล่าวของหลินหมิง แม้ว่านางจะเคยได้รับคาชมมามากมายจาก
เหล่าบุรุษแต่หากเทียบกับคากล่าวที่ออกมาจากปากของศิษย์น้อง
ของนางผู้นี้นั้นนางรู้ดีว่านี้เป็นเพียงคาหยอกล้อของเขาเพียงเท่านั้น
ที่นางได้รับมาตลอดในช่วงที่ทาภารกิจด้วยกัน
ร่างทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างเชื่องช้าหากบุคคลภายนอกมองดู
พวกเขาแล้วละก็พวกเขาคงได้แต่คิดว่าทั้งคู่นี้เป็นคู่หมั้นกันอย่าง
แน่นอน หลัวฉิงเชี่ยนทาหน้าที่ในการแนะนาเมืองได้อย่างน่าชื่นชม
กระทั่งสถานที่บางแห่งทีห่ ลินหมิงไม่คาดคิดว่าจะมี กระทั่งร้าน
เล็กๆที่หากเขาทาการเดินผ่านนั้นอาจไม่พบเจอหญิงสาวผู้นี้ก็
สามารถแนะนาได้อย่างไม่ยากเย็น
ไม่รู้ว่าเวลาแห่งความสุขนี้ผ่านไปนานเพียงใดหลินหมิงพลัน
สังเกตสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปในทันทีของหญิงสาวพร้อมกับร่างของ
นางที่หยุดเดินลงจ้องมองไปยังเบื้องหน้า
" ช่างบังเอิญเสียจริง ที่ข้าได้พบเจ้าเช่นนี้ "
ปรากฎกลุ่มชายสามคนโดยที่คนที่อยู่ตรงกลางนั้นอายุราว25ปี
ใบหน้าของเขาเรียกได้ว่างดงามที่อยู่ในระดับเดียวกันกับหลินหมิง
หรือไม่ก็อาจมากกว่าโดยมีชายหนุ่มวัยไม่ต่างกันมากอีกสองคน
ประกบข้างทาหน้าที่เหมือนเป็นคนคุ้มกันให้กับเขาอยู่ ไม่ต้องสงสัย
ว่าชายหนุ่มผู้นี้ย่อมต้องเป็นคนที่มาจากตระกูลที่มฐี านะพอสมควร
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่กล้ากล่าวกับหลัวฉิงเชี่ยนโดยง่ายเช่นนี้
" ยินดีที่ได้พบคุณชายหยางเจ้าคะ "
แท้จริงแล้วชายหนุ่มวัย25ปีผู้นี้คือบุตรของผู้นาตระกูลเหยียน
อันเลื่องชื่อแม้ว่าตระกูลของพวกเขาจะยังคงไม่สามารถเทียบได้กบั
ตระกูลหลินหรือตระกูลหลัว แต่ก็นับได้ว่าพวกเขามีความแข็งแกร่ง
ในระดับต้นๆของเมืองได้เช่นเดียวกัน มันจึงไม่น่าแปลกใจนักที่
หลัวฉิงเชี่ยนแสดงที่ท่ากังวลเช่นนี้ ทั้งที่ชายหนุ่มผูน้ ี้มีระดับเพียงก่อ
เกิดระดับ 2 ซึ่งอ่อนแอ่กว่านางเสียอีก
สายตาของเหยียนหยางจ้องมองไปยังเรือนร่างของหลัวฉิงเชี่ยน
อย่างหื่นกระหายเล็กน้อยแล้วจึงรีบเปลี่ยนสายตาอย่างรวดเร็วเมื่อ
เขาเหลือบมองไปเห็นหลินหมิง เกิดความไม่พอใจขึ้นมาสายตาของ
เขาในทันทีหากไม่ใช่ว่าเขายังต้องรักษาภาพพจน์อันดีงามต่อหน้า
หลัวฉิงเชี่ยนแล้วละก็เหยียนคงไม่ลังเลที่จะสั่งสอนเจ้าเด็กหนุ่มที่ไม่
เจียมตัวผู้นี้เสีย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใครมาจากที่
ใด แต่เรื่องนั้นหาได้เป็นเรื่องสาคัญไม่เพราะว่ามันย่อมไม่ใช่ผู้ที่มี
อานาจหรือความแข็งแกร่งอะไรมากนักไม่เช่นนั้นเขาคงต้องพอรู้จัก
มันบ้าง
" ไม่รู้ว่าเจ้าชมชอบการเดินเที่ยวเช่นนี้ เช่นนั้นแล้วขอเพียงเจ้า
บอกกล่าวข้าพร้อมยินดีอีกทั้งยังสามารถจัดหาสิ่งของตามที่เจ้า
ต้องการได้ "
" ต้องคุณ คุณชายมากเจ้าคะแต่ข้าเพียงแค่มาเที่ยวชมพร้อมกับ
ศิษย์น้องของข้าเพียงเท่านั้น ไม่ได้นิยมชอบเป็นพิเศษแต่อย่างใด "
เหยียนหยางเหยียดยิม้ ออกมาอย่างเจ้าเล่ห์เขารู้ว่าที่หลัวฉิง
เชี่ยนกล่าวเช่นนี้เป็นเพราะว่านางคงไม่ต้องการให้เขาได้โอกาศใน
การเข้าใกล้นางด้วยสถานการณ์แบบนี้ในอนาคต
" แต่ดูเหมือนว่าศิษย์น้องของเจ้าจะเหนื่อยเสียแล้วสิ เอาเป็นว่า
ข้าเองก็ไม่ได้เที่ยวเล่นชมเมืองมาเสียนานคงจะดีไม่น้อยหากได้สตรี
งามมาเดินชมเคียงข้าง "
แต่เดิมนั้นเหยียนหยางนัน้ ได้พยายามทุกวิถที างในการคว้าตัว
ของหลัวฉิงเชี่ยนเพียงแต่ว่านางได้หลบเลี่ยงเขาด้วยการอาศัย
ภายในสมาคมนักปรุงยาหรือกระทั่งหลบซ่อนภายในตระกูลแล้ว
บอกกล่าวว่ายังคงอยู่ภายในสมาคมแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถ
ทาอะไรได้มากมาย แล้วในเมื่อเขาได้รับโอกาสดีงามเช่นนี้แล้วมี
หรือเขาจะปล่อยผ่านไปโดยง่ายนี้นับเป็นโอกาสดีที่เหล่าบุรุษที่
หมายปองนางนั้นต่างเฝ้าคอย
เหยียนหยางจ้องมองไปทีห่ ลินหมิงด้วยดวงตาข่มขู่ กับเด็กหนุ่ม
ที่ดูอ่อนแอ่เช่นนี้เขาเชื่อว่าอีกไม่นานมันคงได้วิ่งหนีไปด้วยความ
กลัวหากมันกล้าทาให้เขาเกิดความไม่พอใจขึ้นมา
" พี่ชายเหตุใดท่านถึงกล่าวโป้ปดเช่นนั้นเล่า ท่านเห็นข้ามีเหงื่อ
งั้นรึ ? หรือเห็นข้าหอบ ? หากท่านต้องการให้ศิษย์พี่ของข้าเที่ยว
ชมเช่นเดียวกันข้าคิดว่าบางทีท่านอาจต้องรอนานเสียนับปี ท่านก็รู้
การได้เดินเคียงข้างสาวงามเช่นนี้มีหรือที่บุรุษเหล่าจะเหนื่อยได้ "

ตอนที่ 91
สายตาของเหยียนหยางและผู้ติดตามทั้งสองจ้องมองไปที่ใบหน้า
ของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีตรงหน้าพวกเขาหลังจากที่ได้ยินคากล่าวของ
เด็กหนุ่ม พวกเขากระทั่งคิดว่าหูพวกเขาอาจฟาดไปจนทาให้การฟัง
ของพวกเขาเมื่อครู่เกิดการพลิกพลาด แต่เมื่อได้เห็นท่าทีมั่นของ
เด็กหนุ่มเช่นนี้มันแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไม่ได้เข้าใจสิ่งใด
ผิดพลาด
' บัดซบ เจ้าสวะนี้มันไม่รู้หรืออย่างไรว่ากาลังกล่าววาจากับใคร
'
แม้กระทั่งงหลัวฉิงเชี่ยนนางก็ยังตื่นตระหนกกับคากล่าวและ
ท่าทีของหลินหมิง กับเด็กหนุ่มทีม่ ีพื้นเพเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา
ที่มีฐานะต่าต้อย ถึงแม้วา่ เขาจะได้รับโอกาสความก้าวหน้าเช่นนี้แต่
พวกเขาก็ยังคงมีความหวาดกลัวต่อผู้ที่มีอานาจมากกว่าพวกเขาใน
อดีตอยู่ดี นางเข้าใจดีว่าหลินหมิงนั้นอาจมีความมั่นใจในพลังของ
ตนเองแน่นอนว่าด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ไม่มีทางที่รุ่นเยาว์
คนใดสามารถเทียบเคียงเขาได้ กระทั่งผู้ที่มีอายุ 20-30ปีนั้นก็ยังคง
ไม่สามารถหาคนเทียบเด็กหนุ่มนี้ได้อย่างง่ายดายนัก
แต่ถึงแม้ว่าศิษย์น้องของนางผู้นี้จะมีความแข็งแกร่งที่น่าตื่น
ตะลึงเพียงแต่ว่าด้วยอานาจของตระกูลหยางนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่
สามารถมองข้ามไปได้ อย่างน้อยๆบรรดาเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์
ต่างๆก็ไม่มีใครที่จะคิดสร้างปัญหากับตระกูลหยางโดยง่ายเช่นนี้
อย่างแน่นอน
" เมื่อกี้เจ้าว่าอย่างไรนะ ? เจ้าอาจยังไม่รู้ว่าข้าคือใคร ข้าคือเห
ยียนหยาง หากเจ้าเชื่อฟังข้าแต่โดยดีข้ารับรองได้ว่าอนาคตของเจ้า
ย่อมต้องรุ่งโรจน์กว่าที่เจ้าเป็นอยู่ในตอนนี้ "
เหยียนหยางแทบบ้าคลั่งเมื่อเขามองไปที่ใบหน้าของเด็กหนุม่ ที่
ปราศจากความหวาดกลัว กระทั่งคากล่าวของเขาที่ถูกกล่าวออกไป
เมื่อสักครู่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะยังไม่มที ่าทีเปลี่ยนแปลง
" ด้วยความสามารถของพี่ชาย ? ข้าเกรงว่ามันคงทาให้ข้า
เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ศิษย์พี่ข้าว่าพวกเราไปชมที่อื่นกัน
ต่อเถอะ "
เส้นเลือดปูดโปนของเหยียนหยางสามารถมองเห็นได้จาก
ภายนอกแล้วในตอนนี้กระทั่งเหล่าคนรับใช้ทั้งสองของหยางเหยียน
ก็ยังไม่เคยพบเด็กหนุ่มคนเด็กที่กล้าสามหาวได้เท่านี้ ด้วยการที่พวก
เขาติดตามเหยียนหยางมานานพวกเขาสามารถบอกได้ทันทีว่า
อนาคตของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้จบสิ้นแล้ว
" ดีดี...สงสัยว่าข้าคงต้องให้คาแนะนาแก่เจ้าสักเล็กน้อย รู้ไหม
ว่าไม่เคยมีใครทาให้ข้าโกรธมากเท่านี้มาก่อนรับรองเลยว่าหลังจาก
นี้เจ้าจะได้รับคาแนะนาดีดีจากข้าจนเจ้าต้องขอร้องอ้อนวอน "
คนรับชายทั้งสองคนยื่นห่างออกมาด้านข้างด้วยระดับพลังของ
พวกเขาทั้งสองคนคือพลังปราณก่อเกิดระดับ 5 ด้วยอายุเพียงยี่สิบ
ปลายๆความสามารถของพวกเขาถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง
หลัวฉิงเชี่ยนในตอนนี้แม้ว่านางจะอยากเขาไปห้ามปราบการต่อสู้ที่
กาลังจะเกิดขึ้นนี้แต่นางคงไม่สามารถทามันได้แล้ว ด้วยคนรับใช้ทั้ง
สองของเหยียนหยางพวกเขาคงไม่ให้นางเคลื่อนไหวใดๆแต่โดยง่าย
นางคงได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างไปตามสถานการณ์
" งั้นข้าก็ขอกล่าวเช่นเดียวกัน ข้าเองก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่
พี่ชายเขามาขัดขวางการเที่ยวชมของข้าเช่นนี้ เช่นนั้นแล้วข้าคง
ต้องให้บทเรียนแก่ท่านเล็กน้อยเพื่อที่ว่าในอนาคตท่านจะได้ไม่ทา
ตัวเช่นนี้อีก "
เมื่อคากล่าวของหลินหมิงสิ้นสุดราวกับว่ามันเป็นฝางเส้น
สุดท้ายของเหยียนหยางที่เขาจะสามาระงับอารมณ์เอาไว้ได้ เดิมที
นั้นเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเลือดร้อนอยู่แล้วแต่เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใด
มากนักที่กล้ายั่วยุเขาเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มผู้นี้ พลังปราณระดับก่อ
เกิดขั้นสองถูกระเบิดออกมาอย่างไม่ปิดบัง เหยียนหยางคาดหวังที่
จะได้เห็นสีหน้าความสิ้นหวังของหลินหมิงแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่
เป็นเช่นนั้น
ท่าทีของหลินหมิงนั้นไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆกับพลังปราณ
ของเหยียนหยางที่ปลดปล่อยออกมาราวกับมันเป็นเพียงลมพัดผ่าน
หน้าเขาไปเพียงเท่านั้น ในตอนนี้หลินหมิงลดระดับพลังของเขาลง
เหลือเพียงขั้นที่ 8 ปราณเริ่มต้นเพียงเท่านั้น มันจึงทาให้เหยียน
หยางมองหลินหมิงราวกับเหยื่อที่รอถูกเชือด เหยียนหยางเริ่มเข้าใจ
แล้วว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันอาจมั่นใจในพรสวรรค์ของมันจนหลงลืม
ตนไปแน่นอนว่าด้วยอายุของเจ้าเด็กนี้กับระดับพลังของมันตัวของ
เหยียนหยางไม่สามารถเทียบกันได้เลย
ร่างของเหยียนหยางพุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วการที่เขาต้อง
โดนเด็กหนุม่ กล่าวสามหาวใส่ต่อเนื่องกันเช่นนี้มีหรือที่เขาจะยอมให้
มันเกิดขึ้นต่อไปอีก เพียงชั่วครู่ระยะห่างระหว่างเด็กหนุ่มและเห
ยียนหยางถูกหล่นระยะมาอย่างน่าตื่นตระหนกแน่นอนว่าต่อให้คู่
ต่อสู้ของเหยียนหยางนั้นคือหลินเสี่ยวต้าที่มีพลังระดับ 8 ขั้นเริ่นต้น
ระดับสูงสดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเขาด้วยหมัดนี้เพียงหมัดเดียว
ปัง !
เสียหมัดกระแทกของเหยียนหยางทาให้เขาสับสนหมัดที่เขาชก
ออกไปเมื่อครู่แม้มันจะไม่ใช่พลังเต็มสิบส่วนซึ่งมันเป็นเพราะว่าเขา
ยังคงไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ตายอย่างโดยง่าย เมื่อเริ่มการ
ปะทะกันเกิดขึ้นในตอนนี้เริ่มมีเหล่าฝูงชนให้ความสนใจในการต่อสู้
ครั้งนี้มากขึ้นเรื่อยๆและเมื่อพวกเขาได้เห็นเหยียนหยางสีหน้าของ
พวกเขาบ่งบอกได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน
ร่างของหลินหมิงหยุดอยูท่ ี่เดิมหลังจากรับมือกับหมัดของเหยียน
หยาง ใบหน้าของเขาไม่ได้ปรากฎสีหน้าความเจ็บปวดอย่างที่ควร
จะเป็นแต่มันกลับเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
แม้ว่าตัวของเหยียนหยางไม่ถูกนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะแต่ด้วย
ฐานะของตระกูลเขาแน่นอนว่าเขาย่อมมีพื้นฐานในด้านการต่อสู้ที่
ค่อนข้างดีและยังมีโอกาสได้รักทักษะต่อสูต้ ่างๆ ดังนั้นต่อให้คู่ต่อสู้
ของเขาอยู่ในระดับเดียวกันเขาก็มีความมั่นใจอยู่พอสมควรว่าจะไม่
แพ้โดยง่าย กลับกันแล้วถ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่มีพลังต่ากว่านั้นย่อมไม่ต้อง
กล่าวถึง
" ดูเหมือนเจ้าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง "
" พี่ชายเองก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คนไร้ค่าไปเสียทีเดียว "
เหยียนหยางพุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้งอย่างไม่รอช้าเขาไม่สนแล้วว่า
เจ้าเด็กนี้จะเป็นเช่นไรต่อไปคนที่กล้ากล่าวเช่นนี้กบั เขา มันต้องตาย
สถานเดียวเท่านั้น หมัดขวาของเขาถูกปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว
และทรงพลังยิ่งกว่าในครั้งแรกบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ในระดับเริ่มต้นที่อยู่
ในบริเวณนั้นถึงกับแตกตืน่ ไปด้วยความหวาดกลัว ไม่ต้องสงสัยเลย
ว่าหากพวกเขาที่มีระดับพลังเพียงปราณเริ่มต้นหากต้องรับมือกับ
หมัดนี้ร่างของพวกเขาคงถูกแปรเปลี่ยนเป็นเศษเนื้อในทันที
อ๊าาาากกกกกกกกกกก
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นพวกเขารู้สึกชื่นชมในตัวเด็กหนุ่มที่
สามารถรับมือกับหมัดเช่นนั้นแล้วยังมีชีวิตส่งเสียร้องออกมาได้
เพียงแต่ว่าเขาได้ไปหาเรื่องผิดคนเสียแล้ว ในขณะที่ทุกคนกาลังคิด
เช่นนั้นอยู่ภายในใจกลับมีร่างที่ลอยปลิวไปไกลหลายสิบก้าวจน
กาแพงเข้าไป ร่างนั้นที่สมควรเป็นร่างของเด็กหนุ่มเพียงแต่ว่ามัน
กลับกลายเป็นร่างของคุณชายตระกูลหยางเสียอย่างนั้น
" ข้าขอถอนคาพูดแล้วกัน...สงสัยว่าเมื่อครู่ข้าจะผิดพลาดไปเอง
พี่ชายท่านเป็นคนไร้ค่าโดยจริง "
บรรดาเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังไม่หายจากอาการตกตะลึงเมื่อพวกเขา
ได้ยินคากล่าวเช่นนี้ของเด็กหนุ่ม มันทาให้พวกเขารู้สึกอับอาย
ขึ้นมา หากคุณชายตระกูลหยางผู้นี้ที่สามารถก้าวเข้าสู่ปราณเริ่มต้น
ได้เป็นเพียงสวะไร้ค่าแล้วพวกเขาจานวนมากที่อยู่ที่นี้เหล่า ทุก
สายตาล้วนจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มที่พวกเขาไม่คุ้นตา

ตอนที่ 92
ร่างของเหยียนหยางที่ถูกซัดกระเด็นจนตาเหลือกค้างไร้ซึ่งสติ
ภายในชั่วพริบตาส่งผลให้โดยรอบกลายเป็นนิ่งสงัดในทันที เห็นได้
ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ย่อมมาจากคู่ต่อสู้ของเขาที่เป็นเพียงเด็กหนุ่ม
อายุ 15 ปีเพียงเท่านั้นแต่เขากลับสามารถเอาชนะเหยียนหยางที่มี
พลังก่อเกิดขั้น 2 ได้
" สวรรค์ ! "
" นะ..นี้ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่ "
แม้แต่คนรับใช้ชายฉกรรจ์ทั้งสองของเหยียนหยางที่คอยคุ้มเชิง
หลัวฉิงเชี่ยนไม่ให้เข้าไปทาการแทรกแทรงยังตะลึงค้างและไม่อาจ
ตอบสนองไปช่วยนายของพวกเขาได้ทัน
" นะ... นี้เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทาสิ่งใดลงไป เจ้ากล้าลงมือกับนาย
น้อยรับรองได้ว่าครอบครัวของเจ้า... "
ในขณะที่คนรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้าไปดูอาการของเหยียนหยาง
แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บจนกระทั่งถึงแก่ชีวิตแต่อย่างน้อยด้วย
บาดแผลเช่นนี้มันย่อมใช่เวลารักษาอย่างน้อยก็ร่วมหลายเดือนและ
มันยังส่งผลถึงความก้าวหน้าในอนาคตของเขาที่ลดลงอย่างไม่ต้อง
สงสัย ส่วนทางด้านคนรับใช้อีกคนหนึ่งนั้นได้กล่าวข่มขู่หลินหมิงอ
ย่างชัดเจนหากเป็นในสถานการณ์ปกติเขาคงลงมือที่จะจู่โจมเจ้า
เด็กนี้แทนนายน้อยไปแล้ว
แต่ในตอนนี้ด้วยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นี้ต้องมีพลังระดับก่อเกิดอย่างแน่นอน แม้ว่ามันอาจยังไม่
แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเขาที่มีพลังระดับก่อเกิดระดับ 5 แต่แล้ว
อย่างไรเล่าตัวตนของผู้ฝึกยุทธ์อายุ 15 ปีที่มีพลังระดับก่อเกิดเพียง
เท่านี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องมีเบื้องหลังทีไ่ ม่
ธรรมดาอย่างแน่นอน ในใจของพวกเขาสั่นคลอนไปด้วยความ
หวาดกลัว
" กลับเป็นเช่นนั้นไปเสียได้พวกพี่ชายก็เห็นว่าข้าเพียงป้องกัน
ตัวเพียงเท่านั้น แต่ข้าไม่คาดคิดว่านายน้อยของพวกพี่ชายนั้นกลับ
อ่อนแอถึงเพียงนี้.... "
" นี้เจ้าหากเจ้ายัง.... "
ในขณะที่คนรับใช้ของเหยียนหยางกาลังจะกล่าวตอบโต้หลินหมิ
งกลับไปเพราะไม่เช่นนั้นแล้วไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของนายน้อยของ
พวกเขาจะเสียชื่อที่สาคัญไปกว่านั้นคือชื่อเสียและบทลงโทษของ
พวกเขาทั้งสอง พวกเขาทั้งสองพลันเห็นสิ่งของบางอย่างที่ตกมา
จากที่คาดเอวของเด็กหนุ่ม ด้วยสถานการณ์อันเงียบเฉียบก่อนหน้า
มันจึงทาให้ทุกคนสามารถได้ยินเสียงนีไ้ ด้อย่างชัดเจน
" เฮ้อ~~ ป้ายนี้มันอะไรกันข้าว่ามันช่างเกะกะข้าเสียจริง ศิษย์
ข้าเกรงว่าท่านคงต้องพาข้าไปร้านเครื่องประดับสักหน่อยไม่เช่นนั้น
ข้าคงได้โดนท่านอาจารย์บ่นเอาเป็นแน่ "
" คิคิ เรื่องนั้นย่อมไม่มีปญ
ั หาแต่อย่างใด "
ใบหน้าของคนรับใช้ทั้งสองซีดเผือกราวกับว่าระบบเลือดใน
ร่างกายของพวกเขาหยุดทางานไปในทันทีที่ได้เห็นสิ่งของที่หล่น
มาก แท้จริงแล้วสิ่งนัน้ คือป้ายหยกที่จูหนิงเอ๋อร์ได้ให้ติดตัวไว้กับ
หลินหมิง แน่นอนว่าเรื่องป้ายที่ตกพื้นไปนั้นย่อมไปเพียงความตั้งใจ
ของหลินหมิงซึ่งหลัวฉิงเชี่ยนนั้นสามารถรับรู้ได้จากใบหน้าอันยิ้ม
แย้มของศิษย์น้องของนาง ไม่เพียงเท่านั้นกระทัง่ คนทั่วไปที่ยืนชม
เหตุการณ์อยู่พวกเขาส่วนใหญ่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
เพียงรอโอกาสที่จะเปิดตัวอย่างสวยงามเช่นนี้
แม้ว่าตระกูลเหยียนนั้นจะมีอานาจค่อนข้างมากภายในเมืองแต่
หากเทียบกับสมาคมนักปรุงยาแล้วพวกเขาไม่สามารถนาไปเปรียบ
ได้เลยแม้แต่น้อยทั้งในด้านความมั่งคั่งและความแข็งแกร่งในเมือง
แห่งนี้อาจมีเพียงตระกูลหลินเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นที่มีอานาจ
เพียงพอที่จะเปรียบกับพวกเขาได้ แล้วเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับเป็นผูถ้ ือ
ครองป้ายหยกอันเป็นสัญลักษณ์ของประมุขสมาคมนักปรุงยา ด้วย
ภาพตรงหน้าที่เห็นพวกเขาสามารถใตร่ตรองได้อย่างรวดเร็วด้วย
การที่ว่าเคยมีข่าวลือเรื่องที่ประมุขสมาคมนักปรุงยานั้นได้เปิดรับ
ศิษย์ส่วนตัวเป็นคนแรกอีกทั้งคนผู้นั้นกลับไม่ได้ฐานอานาจใดเลยมา
ก่อน
มันจึงทาให้ผู้คนไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้มากนักอีกทั้งดูเหมือนว่า
ประมุขสมาคมนักปรุงยาจะปิดเรื่องนี้ไว้อย่างสนิท แต่เมื่อวันนี้กลับ
มีข่าวลือออกมาว่าศิษย์ของนางนั้นเป็นผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดด้วย
วัยเยาว์เดิมทีหากได้ยินคากล่าวเช่นนี้มีหรือที่คนทั่วไปจะเชื่อได้ แต่
เมื่อได้เห็นภาพเด็กหนุม่ ตรงหน้าพวกเขาแล้วมันจะมีสิ่งใดที่จะ
สามารถปฎิเสธได้อีก
" เมื่อกี้พี่ชายจะกล่าวอะไรนะ "
" คุณชาย..ได้โปรดให้อภัยพวกเรา พวกข้านั้นโง่เขลาจนไม่ทัน
ได้สังเกตว่าแท้จริงแล้วท่านเป็นผู้ใด... "
ท่าทีของคนรับใช้ทั้งสองรีบเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ด้วย
ฐานะของเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าแม้แต่นายน้อยของพวก
เขาก็ยังคงไม่มีสิทธ์นาไปเทียบ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในวัย
เพียงเท่านี้นับได้ว่าตัวตนของเด็กหนุ่มผู้นี้คือความหวังของสมาคน
นักปรุงยาโดยแท้จริงแล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นทางสมาคมไม่สิอาจารย์
ของเขาจะยอมให้มีเรื่องที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่ออัจฉริยะของนาง
งั้นหรือ เมื่อเป็นเช่นนี้การคุกเข่าอ้อนวอนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สดุ
พวกเขาได้แต่หวังว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้คงจะมีเมตตายอมมองผ่าน
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไป หากไม่เช่นนั้นแล้วในอนาคตตระกูลเหยียนคงไม่
อาจอยู่เมืองนี้ได้โดยง่าย
" เดิมทีแล้วนีม้ ันย่อมเป็นความคิดข้าส่วนหนึ่งทีพ่ ลั้งมือจนทา
ร้ายนายน้อยของพวกพี่ชาย...เอาเช่นนี้ดีไหมข้าจะไปแจ้งเรื่องกับ
ท่านอาจารย์ของข้าเพราะข้าเองก็มีเงินติดตัวไปมากกลัวว่าจะไม่
อาจชดใช้ให้พวกท่านได้..... "
" ไม่เป็นไรขอรับคุณชายเรื่องนี้คุณชายหาได้มีส่วนผิดไม่เลย
ขอรับ เป็นทางฝั่งของพวกข้าเองเสียมากกว่าที่ต้องเป็นฝ่ายชดใช้
ให้คุณชายเสียเวลา "
คนรับใช้ทั้งสองกล่าวพร้อมกันโดยไม่ทันต้องคิด มีหรือที่พวก
เขาจะกล้าให้หลินหมิงชดใช้หากพวกเขาทาเช่นนั้นไม่ใช่ว่าตระกูล
เหยียนคงต้องเตรียมการรับมือกับจูหนิงเอ๋อร์ประมุขแห่งสมาคมนัก
ปรุงยาเป็นแน่ หลินหมิงได้ไปหาหลัวฉิงเชี่ยนพร้อมกับเดินจากไป
ท่ามกลางผู้คนที่แหวกทางให้ แน่นอนว่าแผนการณ์นี้นนั้นเป็นส่วน
หนึ่งความคิดอาจารย์สาวสวยของเขาหากนางต้องการเปิดตัว
หลินหมิงอย่างทั่วไปแม้มนั จะสามารถสร้างความตื่นตาได้ไม่น้อยแต่
หากเทียบกับสถานการณ์เช่นนี้ที่ดูปลุกเร้าใจและสั่นคลอนอารมณ์
ได้มากกว่า
" ศิษย์น้องเจ้าช่างรังแกผู้อื่นได้ยอดเยี่ยมเสียจริง ไม่ใช่ว่าข้าเอง
ก็คงไม่พ้นมือเจ้าหรอกหรือ "
" ข้ามีหรือจะกล้ารังแกศิษย์พี่ที่งดงามเช่นท่านได้ "
หลัวฉิงเชี่ยนนางรู้สึกสบายใจอย่างมากในตอนนี้ไม่เพียงแต่เห
ยียนหยางจะได้รับบาดเจ็บจนไม่อาจมาก่อกวนนางได้อีกต่อไป
เพราะถึงแม้เขาจะหายดีแล้วมีหรือที่เขายังจะกล้ากลับมาหานางอีก
? แน่นอนว่านั้นย่อมเป็นเรื่องยากเพราะท้ายที่สุดแล้วตระกูลของ
เขาก็คงไม่ยอมให้ทาเช่นนั้นไม่เช่นนั้นคงได้เป็นปัญหากับเจ้าศิษย์
น้องของนางคนนี้
เดิมทีหลินหมิงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเผยความแข็งแกร่งของ
ตนเองแต่ในเมื่อนี้เป็นความต้องการของอาจารย์สาวสวยของเขามี
หรือที่เขาจะปฎิเสธลงได้ เพราะเมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจเป็นไปได้ว่า
หลินเสี่ยวต้าหรือรุ่นเยาว์ในตระกูลหลินคนอื่นคงหลีกเลี่ยงการต่อสู้
กับเขาอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยหากเป็นเช่นนั้นเขาคงสามารถยิ้ม
เยาะหลินเสี่ยวต้าได้อย่างสมใจแม้จะไม่ได้อัดมันสัง่ สองสามหมัดก็
ตามที
" ข้าคงต้องไปแล้ว หากเจ้ามีเรื่องให้ข้าช่วยเหลือแล้วละก็เจ้า
สามารถมาหาข้าได้ที่ร้านค้าตระกูลข้า "
หลินหมิงแยกจากกับหลัวฉิงเชี่ยนในช่วงเวลาเกือบเย็นของวัน
การใช้ชีวิตสบายกับหญิงสาวงดงามเช่นนี้ราวกับว่าจิตใจของเขาได้
พักผ่อนยาวนานนับสิบปี

ตอนที่ 93
" พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกับข้างั้นรึ ? "
หลินหมิงกล่าวถามออกไปอย่างเลื่อนลอยเมื่อเขาเดินมาถึงจุดที่
ปลอดผู้คนพอสมควร ไม่นานหลังจากนั้นปรากฎร่างหญิงสาวสอง
คนที่แสนคุ้นตา หญิงสาวทั้งสองคนนี้ก็คือหานจิงหนิงและจูเวย
เหลียนที่เป็นสาวรับใช้ของป้าห้าหรือเหม่ยฮวามารดาของหลินเสียว
ต้า ในความเป็นจริงแล้วหลินหมิงสามารถรับรู้ได้ถึงตัวตนของพวก
นางทั้งสองที่ตดิ ตามเขามาตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเหยียนหยาง
" แล้วพวกเจ้าทั้งสอง ไม่สินายหญิงของพวกเจ้าคงคิดมี
ความคิดแก้แค้นแทนบุตรอย่างนั้นรึ "
หลินหมิงยิ้มออกไปด้วยรอยยิ้มเ**้ยมด้วยการที่เขาได้เปิดเผย
ตัวออกไปเช่นนี้มันไม่มที างที่หญิงสาวทัง้ สองคนนีจ้ ะไม่ล่วงรู้ถึง
ฐานะของเขาที่เป็นศิษย์ของประมุขสมาคมนักปรุงยา และยังเป็น
ต้นเหตุที่ทาให้หลินเสี่ยวต้าต้องออกจากสมาคมนักปรุงยา
สารหรับหญิงสาวทั้งสองรู้ดีว่าพวกนางทั้งสองนั้นไม่ใช่แม้แต่
ตัวตนที่จะไม่เปรียบได้กับเด็กหนุ่มผู้นกี้ ล่าวกันตามความจริงแม้
พวกนางทั้งสองคนจะช่วยกันรุมเข้าสู้เหยียนหยางเพียงคนเดียว
พวกนางเองก็ยังคงไม่มีความมั่นใจที่จะสามารถเอาชนะได้ด้วย
ระดับพลังของพวกนางทีแ่ ม้จะเพิ่มขึ้นจากการร่วมรักกับเด็กหนุม่
คนนี้แล้วก็ตาม
" หาใช่เป็นเช่นนั้นเจ้าคะ คุณชาย....พวกเราเพียงสืบตามหา
คุณชายตามคาสั่งของนายหญิงทีห่ วังจะพบหน้าท่านเจ้าคะ "
" เป็นเช่นนั้น ? แล้วนางอยู่ที่ไหนเล่าในตอนนี้ "
หลินหมิงไม่ได้คิดแต่แรกอยู่แล้วว่าเหม่ยฮวานั้นจะมีความโกรธ
เคืองเขาหลังจากรับรู้เรื่องราวถึงขั้นเอาชีวิต หากเป็นโดยทั่วไปตัว
ของเขาย่อมต้องตกเป็นเป้าหมายของหญิงสาวผู่นีเ้ พียงแต่ว่า
ในตอนนี้นายหญิงแห่งตระกูลหลินผู้ร่านสวาทคนนี้มีหรือที่จะกล้า
ทาสิ่งใดให้หลินหมิงไม่พอใจ เพียงแค่ในครั้งล่าสุดที่นางได้ร่วมรัก
กับหลินหมิงใบหน้าของนางนั้นบ่งบอกอย่างดีว่านางดีความสุขมาก
เพียงใด รวมกับอารมณ์ความต้องการที่มากล้นของหญิงสาวผู้นี้มัน
ทาให้นางไม่สามารถขาดตัวของหลินหมิงไปได้
" เชิญคุณชายตามพวกข้ามาเจ้าคะ "
แม้แต่จูเวยเหลียน และหานจิงหนิงพวกนางยังคงปรากฎใบหน้า
สีแดงระเรื่อขึ้นมาให้เห็นไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อพวกนางสามารถพาเด็ก
หนุ่มคนนี้ไปหานายหญิงของพวกนางและเมื่อเกิดการขับร้องเพลง
รักระหว่างนายหญิงกับเด็กหนุ่มเมื่อใด นั้นย่อมหมายความว่าพวก
นางเองก็มีโอกาศที่จะได้รับมันเช่นเดียวกัน
หลินหมิงก้าวเข้ามาภายในโรงเตี้ยใแห่งหนึ่งทีไ่ ร้ซึ่งผู้คนเห็นได้
ชัดว่าด้วยความที่เมืองฟานชูแห่งนี้ค่อนข้างเจริญรุ่งเรืองแต่กลับไม่
มีคนเข้าพักที่โรงเตี้ยมแห่งนี้นั้นก็เพราะว่าเหม่ยฮวาได้ทาการจอง
ที่นี้เอาไว้เสียหมดแล้ว หลินหมิงข่มยิม้ ในใจเอาแทบไม่อาจ
จินตนาการภาพของเหม่ยฮวาในตอนนี้ที่ไม่ได้ร่วมรักกับเขามานาน
นับสัปดาห์
" นายหญิง พวกข้าพาคุณชายมาแล้วเจ้าคะ "
เมื่อหลินหมิงเข้ามาภายในห้องชั้นบนสุดของโรงเตีย้ มแห่งนี้
ปรากฎร่างของหญิงสาววัยสามสิบปลายๆในสภาพหอบหายใจ
อย่างหนักหน่วงทั่วเรือนร่างของนางแผ่อุณหภูมิร้อนออกมาพร้อม
กับเสียงหายใจอันแหบแห้ง หญิงสาวผู้นี้คือเหม่ยฮวานั้นเองนาง
เฝ้าอดใจรอเพื่อที่จะได้ทาการร่วมรักกับหลินหมิงมาอย่างยาวนาน
จนนางแทบจะสิ้นใจขาด
เมื่อนางได้เห็นใบหน้าของหลินหมิงดวงตาของนางเป็นประกาย
ราวกับว่านางสามารถย้อนอายุกลับไปเป็นหญิงสาววัยแรกรุ่นได้อีก
ครั้งอย่างใดอย่างนั้น
" นายท่าน.. ข้าเฝ้ารอนายท่านมาหลายวันเลยเจ้าคะ ได้โปรด
มอบความสุขให้กับข้ารับใช้ผู้นี้... "
" เจ้าย่อมน่าจะรู้ถึงตัวตนข้าแล้วไม่ใช่รึ ? "
เหม่ยฮวาเป็นดั่งที่หลินหมิงคาดการณ์เอาไว้แม้ว่าด้วยฐานะของ
หลินเสี่ยวต้าจะทาให้นางมีอานาจในตระกูลด้วยพรสวรรค์ของบุตร
นางเพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่อาจเทียบได้กบั ความสุขที่เด็กหนุม่
ผู้นี้ได้มอบให้กบั นาง
" ข้าไม่ได้สนใจเรื่องนั้นหรอกเจ้าคะ แต่อย่างน้อยข้าขอเพียง
นายท่านได้โปรดอย่าลงมือกับบุตรข้าจนเกินไปเช่นนั้นแล้วข้าก็จะ
ยังสามารถคงอานาจบางส่วนในตระกูลหลินเอาไว้ได้และหากนาย
ท่านมีสิ่งใดให้ข้าช่วยข้าก็พร้อมเสมอเจ้าคะ "
เหม่ยฮวานั้นนางได้ไตร่ตรองเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วนางไม่อาจ
คาดความสุขที่ได้รับจากหลินหมิงเช่นเดียวกันนางก็ไม่อยากที่จะ
สูญสิ้นอานาจภายในตระกูลไปหากเกิดเรื่องระหว่างบุตรชายของ
นางกับเด็กหนุม่ ผู้นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้ผู้ใดจะเป็นคนที่
ได้รับความเสียหายมากทีส่ ุด ดังนั้นแล้วนางจึงเสนอตัวเลือกในการ
ใช้อานาจของนางที่พร้อมจะเข้าช่วยเหลือหลินหมิงได้ทุกเมื่อ
" สมเป็นทาสร่านสวาทของข้า....เอาเป็นว่าข้อเสนอของเจ้าก็
นับว่าไม่เลว...เอาเป็นว่าในตอนนี้ข้าเองก็มีปัญหาเล็กน้อยกับ
ตระกูลเหยียนแต่ข้าก็คร้านเกิดกว่าจะลงมือด้วยตัวเอง เช่นนั้นแล้ว
ข้าจะขอทดสอบเจ้าเสียหน่อยหากเจ้าสามารถทาผลงานได้น่า
ประทับใจข้าเช่นนั้นแล้วเรื่องบุตรของเจ้าข้าก็อาจมองผ่านมันไปได้
บ้าง....แน่นอนว่าสิ่งที่เจ้าต้องทามีเพียงสร้างความลาบากเล็กๆน้อย
ให้กับตระกูลเหยียนคงไม่ต้องให้ข้าบอกหรอกมั้งว่าเจ้าสมควรทาสิ่ง
ใด "
" ข้าทราบดีเจ้าคะ ข้าจะไม่ทาให้นายท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
"
เหม่ยฮวาตอบกลับด้วยน้าเสียงมั่นใจแม้ว่าตระกูลเหยียนจะเป็น
ตระกูลที่ค่อนข้างมีอานาจแต่ด้วยเงื่อนไขของหลินหมิงนั้นมีเพียง
สร้างความลาบากให้กับตระกูลเหยียนสักเล็กน้อยใช่ว่าจะให้โค่นล้ม
เสียหน่อย เช่นนี้ก็นับได้วา่ นางก็พอมีทางอยู่บ้าง
" เอาไว้ข้าจะรอดูผลงานของเจ้าก็แล้วกัน....งั้นในตอนนี้ข้า
สมควรให้รางวัลแก่ทาสร่านสวาทคนนี้เสียหน่อย "
" ได้เลยเจ้าคะข้าพร้อมแล้วเจ้าคะ ข้ารับรองได้ว่าข้าจะทาให้
ท่านมีความสุขจนกว่าท่านจะพอใจ "
เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นขีดสุดเมื่อนางเห็นร่าง
ของหลินหมิงล้มลงนอนทีเ่ ตียงอย่างสบายตัว นางก็พอเข้าใจได้ว่า
เด็กหนุ่มต้องการให้นางทาสิ่งใด นางเคลื่อนไหวร่างกายไปคร่อม
ร่างของหลินหมิงเอาไว้พร้อมกับเสื้อผ้าของนางที่ถกู ปลดออกทีละ
ชิ้นอย่างรวดเร็ว
" อ้าาา ~~ เพียงแค่ได้กลิ่นของนายท่านข้าก็แทบจะเสร็จแล้ว "
เสื้อผ้าของหลินหมิงถูกปลดออกอย่างเชื่องช้าเนื่องจากเหม่
ยฮวากาลังสูดดมร่างของหลินหมิงไปทั่วร่างในขณะที่นางกาลังปลด
เปลื้องเสื้อผ้าของหลินหมิง ด้วยความที่แต่เดิมนั้นนางเป็นเพียงฝ่าย
ที่ต้องรับมือจากหลินหมิงอยู่ฝ่ายเดียวนางจึงไม่ค่อยได้มีโอกาส
เช่นนี้นัก
นางลูบไล้ไปที่ร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงพร้อมกับเสียง
หายใจอันหนักหน่วงร่องสวาทของนางถูกทิ้งลงอย่างเชื่องช้าค่อยๆ
เข้าครอบคลุมทวนมังกรของหลินหมิงที่พร้อมจะพิชิตเหล่าสตรีทุก
คน
" อ้าาาา ~~~~~~ แน่นนไปหมดเลยยยย ~~ นี้แหละที่ข้า
ต้องการร อร้างงงง ~~~~~~~~ "
หลินหมิงมองดูร่างกายของเหม่ยฮวาทีก่ าลังโยกสะโพกของนาง
เพื่อเก็บเกี่ยวความสุขที่กาลังขึ้นอย่างพอใจ เพียงในตอนที่ทวน
มังกรของหลินหมิงได้เสียบแทงทะลุโพรงสวาทของนาง น้ารัก
จานวนมากของนางก็พุ่งแตกออกมาในทันทีและมันยังคงออกมา
เรื่อยอย่างไม่หยุดหย่อน
หานจิงหนิง และจูเวยเหลียนพวกนางได้แต่ยืนบิดตัวกับภาพ
ตรงหน้าแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแต่นายหญิงของพวกนางเท่านั้นที่
ต้องการทวนมังกรของเด็กหนุ่มคนนี้พวกนางเองก็ไม่ต่างกัน เพียง
แค่พวกนางทั้งสองมองดูร่างของนายหญิงที่กาลังควบทวนมังกรนี้
อยู่น้ารักในโพรงสวาทของพวกนางก็ถึงกับเริ่มตื่นตัวขึ้นมาแล้วจาก
การมองเพียงเท่านั้น
หลินหมิงดึงร่างของหญิงสาวทั้งสองมาโดยไม่ใส่ใจเหม่ยฮวา
พวกนางทั้งสองประกบข้างในอ้อมกอดหลินหมิง ริมฝีปากอันเร้า
ร้อนของหลินหมิงเข้าทาการจู่โจมในทันทีจนพวกนางแทบจะสิ้น
เรี่ยวแรงนี้แม้อาจไม่ใช่ในสิ่งที่พวกนางปราถนามากที่สุด แต่มันก็ทา
ให้พวกนางแทบเคลิ้มจนราวอยู่ในกับความฝัน เสื้อผ้าของพวกนาง
ถูกปลดออกตั้งแต่เมื่อใดโดยไม่รู้ตัวร่างของพวกนางที่กาลังแนบเนื้อ
สัมผัสร่างของหลินหมิงทาให้อารมณ์ของพวกนางร้อนผ่าว
พวกนางโอบรัดร่างของหลินหมิงเอาไว้ขาทั้งสองข้างถูกไขว้
หนีบขาของหลินหมิงราวกับไม่อยากแจกจากเขาไปไหน เหม่ยฮวา
ไม่ได้สนใจในพฤติกรรมของหญิงสาวรับใช้ทั้งสองของนางแม้ว่า
นางเองก็ปราถนาในรสชาติจูบอันร้อนแรงของหลินหมิง แต่
ในตอนนี้มันจะยังมีสิ่งใดที่สามารถเทียบเท่าได้กับทวนมังกรที่กาลัง
อยู่ภายในร่างของนางอีกกัน

ตอนที่ 94
หนึ่งเดือนต่อมาภายในคฤหาสน์ตระกูลเหยียน บรรดาผู้คน
ระดับสูงในตระกูลถูกเรียกให้ประชุมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่
กาลังเกิดขึ้น ขนาดเหล่าผู้อาวุโสประจาตระกูลที่เก็บตัวฝึกวิชาอยู่
พวกเขาก็ยังถูกเรียกออกมาโดยไม่มีข้อแม้ ใบหน้าของทุกคนเต็มไป
ด้วยความเคร่งเครียด
" ท่านประมุข นี้มันเกิดเรื่องเช่นใดขึ้นกันแน่ ! "
" หากเดิมทีการที่ตระกูลของเราจะได้รับการตอบโต้จากสมาคม
นักปรุงยานั้นเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้...และพวกข้าก็ไม่คิดว่า
มันจะสร้างความเสียหายแก่ตระกูลมากเท่าใดนัก..... "
" เงียบลงก่อน ! "
ชายอายุกลางคนกล่าวหยุดคากล่าวต่างๆจากบรรดาผู้อาวุโสที่
กาลังต่างถกเถียงกันอยู่ภายใน เพียงแค่คากล่าวของเขาเพียงคา
เดียวก็สามารถสยบคนทีน่ ี้ลงได้ทงั้ หมด ไม่ต้องสงสัยว่าเขาก็คือ
ประมุขตระกูลเหยียน เหยียนจ้าวนั้นเองและเขาจะนับได้ว่าเป็น
บิดาของเหยียนหยางที่ไปมีเรื่องกับหลินหมิง เดิมทีนั้นทางตระกูลเห
ยียนไม่คาดว่าการที่นายน้อยของพวกเขาได้กระทาการก่อเรื่องกับ
ศิษย์ของประมุขสมาคมนักปรุงยานั้นจะส่งผลกระทบใดร้ายแรงต่อ
ตระกูลมากนัก
นั้นก็เป็นเพราะแต่เดิมนั้นพวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูล
ใหญ่อย่างตระกูลหลิวดัง่ พี่น้องบุตรของเขาและรุ่นเยาว์ที่มาก
ความสามารถภายในตระกูลต่างล้วนนับได้ว่าเป็นสหายของบุตร
ประมุขตระกูลหลิน แล้วด้วยในสถานการณ์ที่ผู้คนต่างรู้ดีว่าสามคม
นักปรุงยานั้นได้มีความขัดแย้งอะไรบางอย่างขึ้นกับตระกูลหลินจน
ถึงกับขับไล่หลินเสี่ยวต้ารุ่นเยาว์ที่มีความอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก
ออกจากสมาคมอย่างไม่เห็นหน้าตระกูลหลิน
เช่นนี้แล้วมันสมควรกล่าวได้ว่าการกระทาของบุตรเขาย่อม
แสดงถึงว่าพวกเขาเลือกที่จะอยู่ฝ่ายตระกูลหลิน เพียงแต่ว่าในหนึ่ง
เดือนที่ผ่านมาพวกเขากลับไม่ได้รับความช่วยเหลือใดจากตระกูล
หลินเลยแม้แต่น้อยกระทัง่ การพบปะพูดคุยระหว่างรุ่นเยาว์ทั้งสอง
ตระกูลก็อาจกล่าวได้ว่าทัง้ หมดล้วนแต่ไม่เกิดขึ้นทัง้ สิ้น เมื่อบรรดา
เหล่าสานัก หรือตระกูลอื่นสามารถสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็
กลายเป็นว่าในตอนนี้ตระกูลเหยียนถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวไร้ซึ่ง
หนทางคบค้าสมาคมกับขุมอานาจอื่นไปเสียแล้ว
ซ้าร้ายไปกว่านั้นบางขุมอานาจเมื่อได้เห็นดาวงดวงใหม่ที่กาลัง
จะเฉิดฉายในไม่นานของสมาคมนักปรุงยาอย่างหลินหมิงนี้จึงนับว่า
เป็นโอกาสดีของพวกเขาที่จะสามารถสร้างผลงานให้เป็นที่น่าพอใจ
กับเด็กหนุม่ หรือตัวสมาคมนักปรุงยาเช่นนี้แล้วตระกูลเหยียนจึง
ประสบพบเจอกับการจู่โจมยามที่คนภายในตระกูลออกไปทาภารกิจ
หรือฝึกตนภายนอก กระทั่งการซื้อของของคนในตระกูลเหยียนเวลา
นี้ยังนับได้ว่ายากยิ่งบรรดาร้านค้าต่างๆได้หลบเลี่ยงที่จะทาการค้า
ขายกับผู้ที่มาจากตระกูลเหยียน หรือหากจะทาการค้าขายแน่นอน
ว่าพวกเขาจะโก่งราคาจนถึงขีดสุด
" แม้ข้าเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเช่นใดตระกูลหลินถึงได้เมินเฉยต่อ
ตระกูลของพวกเรา อีกทั้งข้าก็ไม่สามารถติดต่อกับคนภายในตระกูล
หลินได้เลยดัง่ ที่ผ่านมา........ "
" ไม่จริง.... "
ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่าด้วยพลังของหลินหมิงทีแ่ สดงออกมา
ในตอนนี้จะเป็นการการันตีถึงความยิ่งใหญ่ในอนาคตของสมาคมนัก
ปรุงยาแต่มันก็ยังไม่สามารถนับได้ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งที่
เหนือกว่าตระกูลหลิน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีรุ่นเยาว์จานวนมากที่
ล้วนเป็นอัจฉริยะ บรรดาผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลหลินนั้นล้วน
แข็งแกร่งจนอาจเทียบเท่าได้กับประมุขตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่ยงิ่ ไป
กว่านั้นก็คือความแข็งแกร่งของประมุขตระกูลหลิน หลินฮ่าวที่เป็น
ที่เลืองลือโดยทัว่ กันว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแห่งนี้ ดังนั้น
แล้วขอเพียงตระกูลหลินยืนยัดที่จะติดต่อคบหากับตระกูลเหยียนดัง่
เดิมมีหรือที่บรรดาขุมอานาจอื่นจะกล้าทาอะไรพวกเขา ?
" ท่านประมุขเช่นนั้นแล้วพวกเราสมควรทาสิ่งใดกันต่อไป... "
แม้ว่าตระกูลเหยียนจะมีความแข็งแกร่งที่ไม่ยาเกรงตระกูลใด
ภายในเมืองแต่หากต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้แม้แต่ตระกูลใหญ่
อย่างตระกูลหลิวมันก็เกินกว่าที่จะรับมือได้ไหว !
" ข้าไม่คิดว่าเราจะมีทางให้เลือกมากนัก.....และทีข่ ้าเพียงพอจะ
คิดได้ก็มีเพียงการที่พวกเราจะต้องไปกล่าวกับประมุขสมาคมนัก
ปรุงยาเสียหน่อย ! "
ประกายในดวงตาของเหยียนจ้าวว้าวโรจน์ด้วยสถานการณ์
ในตอนนี้อีกเพียงไม่นานตระกูลเหยียนที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพ
บุรุษมาอย่างยาวนานคงจะต้องจบสิ้นลง แต่มีหรือที่เขาจะยอมให้
มันจบสิ้นลงแต่โดยง่าย แน่นอนว่าไม่ด้วยตัวเขาที่เป็นประมุข
ตระกูลนั้นย่อมมีความมั่นในระดับความแข็งแกร่งตนเองที่อยู่ใน
ระดับจุดสูงสุดขั้นจอมยุทธ์ แม้ว่าตัวเขาจะไม่รู้ว่าความแข็งแกร่ง
ของประมุขสามคมนักปรุงยานั้นมีมากน้อยเพียงใดเนื่องจากนางไม่
เคยได้เผยฝีมือตนให้ใครเห็นมากนักไม่เหมือนกับหลินฮ่าวที่ผ่านการ
ศึกกับอาณาจักรอื่นจนมีชื่อเสียงเลื่องลื่อแต่กลับประมุขสาวคนนี้
แล้วนางมีชื่อเสียงในด้านการปรุงยาเสียมากกว่า
ทุกคนภายในตระกูลเหยียนมองไปทีป่ ระมุขของพวกเขาด้วย
สายตาที่ไม่ต่างกัน แน่นอนว่าพวกเขาเองย่อมไม่สามารถรอดทนกับ
สถานการณ์ในตอนนี้ได้อีกต่อ การที่รับการดูถูกเหยียดหยามกันถึง
เพียงนี้สู้ให้พวกเขาสู้ตายไปเลยเสียดีกว่า
" ท่านประมุขเกิดเรื่องขึ้นแล้วขอรับ !!! "
ใบหน้าของคนรับใช้ที่วิ่งเข้ามาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและ
ความหวาดกลัว ทั่วร่างของเขาสั่นระริกราวกับว่าเพิ่งตกน้าแล้ว
ขึ้นมาพบเจอสายลมอันหนาวเหน็บ
" มีเรื่องใด......... "
" ข้าต้องขออภัยที่เสียมารยาท...เพียงแต่ว่าศิษย์ของข้านั้นดู
เหมือนว่าเขาจะเพิ่งสานึกตนได้ว่าสิ่งที่ทากับบุตรชายท่านนั้นเป็น
สิ่งผิดเขาจึงร้อนใจอยากมาเพื่อกล่าวโทษ "
แววตาว้าวโรจน์แต่เดิมของเหยียนจ้าวแปรเปลี่ยนไปในทันทีที่
เห็นร่างของกลุ่มคนจานวนมากเดินเข้ามาภายในห้องโถงตระกูล ไม่
ต้องบอกก็รู้ว่าน้าเสียงเรียบเฉยที่กล่าวมานั้นเป็นของผู้ใดและถึงจะ
กล่าวเช่นนั้นแต่มันเห็นได้ชัดว่านางจงใจใช้ถ้อยคาเพียงเพื่อ
ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของพวกเขาเพียงเท่านั้น !
" สมาคมนักปรุงยา ! "
เหยียนจ้าวเมื่อได้เห็นจูหนิงเอ๋อร์ด้วยสายตาตนเองแล้วความ
มั่นใจก่อนหน้านี้ของเขาพลันหายไปในพริบตาไม่ใช่่าเขาเกรงกลั
ว่ ว
ที่จะต้องตกตายหากต้องทาการสู้รบเพียงแต่ว่าเขากลัวว่าถ้าเกิดเขา
ต้องสู้กับหญิงสาวผู้นี้จริงๆแล้วละก็คงเป็นฝ่ายตระกูลเหยียนทีถ่ ูก
ทาลายภายในชั่วเวลาไม่นาน ไม่เพียงความสามรถของประมุขสาว
ที่ตัวเขาไม่อาจสามารถประเมิณได้ ที่เคียงข้างมาคู่กับนางนั้นเห็นได้
ชัดว่าเป็นตัวตนระดับสูงของสมาคมนักปรุงยาแม้ว่าแรงกดดันที่
ออกมาจากตัวของหญิงสาวคนนที่สองนั้นจะด้อยกว่าประมุข
สมาคมแต่มันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลาพังเพียงหญิงสาวนางนี้
เพียงคนเดียวก็สามารถจัดการเขาและผู้อาวุโสที่ได้อย่างสบายแล้ว
ในตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสของสามคมนักปรุงยาต่างมาเยือนกันที่
ตระกูลเหยียนอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด ไม่เพียงแต่ในเร็วนี้ทางสมาคม
จะพบดวงดาวที่เฉิดฉายดวงใหม่แต่ผู้อาวุโสสาวสวยขวัญใจบุรุษ
อย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นก็สามารถพบความก้าวหน้าได้อย่างก้าว
กระโดดเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าหลินหมิงเองก็ย่อมต้องมาด้วยตัวเขาไม่คาดคิดเลยว่า
ด้วยการกระทาของเขานั้นจะสามารถส่งผลให้ตระกูลเหยียนตกต่า
ลงได้ถงึ เพียงนี้ แน่นอนว่าแต่เดิมนั้นตัวเขาไม่ได้มีความแค้นเคือง
อะไรต่อตระกูลเหยียนมากนักเพียงแต่ด้วยผลเช่นนี้มันสามารถทา
ให้ตระกูลหลินนั้นไร้พันธมิตรที่เข็มแข็งอย่างตระกูลเหยียนไป อีกทั้ง
แน่นอนว่าคนภายในตระกูลหลินย่อมต้องเกิดความคิดแตกแยกจาก
ผลเช่นนี้
" ที่แท้ก็เป็นประมุขสมาคมนักปรุงยานี้เอง กลับเป็นพวกข้าเสีย
มากกว่าที่เสียมารยาทไม่ได้กล่าวออกไปต้อนรับพวกท่าน "
ในใจของตระกูลเหยียนทุกคนต่างสั่นผวาโดยทั่วไปแล้วผู้คนจะ
ไม่มีใครทราบถึงความแข็งแกร่งของสมาคมนักปรุงยามากนักพวก
เขาอาจคิดเพียงแต่ว่าตัวสมาคมนั้นเป็นเพียงขุมอานาจที่มีทรัพย์
สมบัตมิ ากกว่าผู้อื่นแต่ในเรื่องของความแข็งแกร่งแล้วนั้นพวกเขา
อาจเป็นรองขุมอานาจอื่น แต่ภาพตรงหน้าทาให้ทุกคนในตระกูลเห
ยียนนั้นเข้าใจดีถึงความน่ากลัวของสมาคมนักปรุงยาลาพังเพียง
เหล่าอาวุโสที่ปรากฎตัวตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้ก็นับได้ว่าโดยรวม
แล้วเหนือกว่าผู้อาวุโสของตระกูลพวกเขาไปอย่างน้อยสองขั้น
จูหนิงเอ๋อร์นั้นนางไม่ได้รวมผลผู้อาวุโสมาเพื่อทาลายตระกูลเห
ยียนแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพราะด้วยศิษย์ของนางเอง เดิมทีทาง
สมาคมนั้นเน้นการพัฒนาไปที่ด้านการปรุงยาเสียมากกว่าความ
แข็งแกร่งดังนั้นแล้วผู้คนภายในจึงไม่มีคนที่ได้แสดงออกถึงความ
แข็งแกร่งของตนเท่าใดนัก แต่ในตอนนี้หลินหมิงได้เป็นประกาย
ความหวังอนาคตของสมาคมเช่นนี้แล้วพวกเขาจึงไม่อาจปล่อยให้
เด็กหนุ่มคนนี้ตกอยู่ในอันตรายได้ ดังนั้นแล้วการที่พวกเขาได้แสดง
ถึงอานาจความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสมาคมนั้นมันก็เพียงพอต่อ
การที่ขุมอานาจอื่นจะกล้าคิดทาสิ่งใดต่อหลินหมิง
ตอนที่ 95
ด้วยร่างของหญิงสาวผู้งดงามทั้งสองราวกับเทพธิดาลงมาจุติยัง
โลกมนุษย์ มันสมควรทาให้เหล่าชายชาตรีตระกูลเหยียนรู้สึกเคลิ้ม
ฝัน เพียงแต่ว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาทาได้แค่เพียงเหลือบ
มองไปยังเรือนร่างของหญิงสาวทั้งสองคนนี้เพียงไม่ชั่วครู่พร้อมกับ
ก้มหน้าหลบในทันที ทั้งหมดที่พวกเขาทาเช่นนี้ก็เพราะว่าพวกเขา
กังวลว่าตนเองอาจทาเรื่องที่เสียหายต่อตระกูลไปมากกว่านี้ มีเพียง
เหยียนจ้าวกับผู้อาวุโสสี่หา้ คนเท่านั้นที่พอจะข่มกลั้นความรู้สึกที่
เกิดขึ้นได้
" ประมุขเหยียน ท่านรู้หรือไม่ข้ามีเหตุผลมากมายที่เพียงพอจะ
ลบตระกูลท่านนหรือทาให้ตระกูลของท่านตกต่าลงไปมากกว่านี้
....... "
เพียงได้ยินประโยคกล่าวเริ่มต้นเช่นนี้แม้แต่เหยียนจ้าวเองใจ
ของเขายังสั่นผวา ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ที่พวกเขาไร้ซึ่งผู้คุมครอง
อย่างตระกูลหลินไป มันไม่ใช่เรื่องยากนักสาหรับสมาคมนักปรุงยาที่
จะถอนรากถอนโคนตระกูลของเขา
" ไม่เพียงแต่บุตรของท่านจะคอยรังควานศิษย์ชั้นยอดของพวก
ข้าอย่างหลัวฉิงเชียนอย่างเลิกรา...นี้ขนาดศิษย์ของข้าเองก็ยังไม่พ้น
เช่นเดียวกันหากไม่ใช่ว่าศิษย์ของข้าพอมีความแข็งแกร่งอยู่บ้างเขา
คงตกตายไปแล้ว "
" มะ...ไม่ใช่อย่างนั้น..บุตรของข้าเขาเพียงโงเขลาจนเกินกว่าจะ
รับรู้ตัวตนของศิษย์ของท่านได้...หากเรื่องนี้ทาให้ทา่ นไม่พอใจ
ตระกูลเหยียนของข้ายินดีส่งตัวเหยียนหยางเพื่อให้ท่านลงโทษเขา
ได้ตามสมควร แต่ได้โปรดท่านเห็นแก่ตระกูลของข้าบ้าง "
ทุกคนที่อยู่ภายในห้องโถงนั้นสามารถเข้าใจคากล่าวกัดฟันของ
เหยียนจ้าวได้เป็นอย่างดี เขายินยอมที่จะส่งบุตรชายของตนไปโดย
ที่แม้จะรู้ว่าบุตรของเขานั้นอาจต้องเผชิญหน้ากับความตายหรือสิ่ง
ที่เลวร้ายกว่านั้น เพียงแต่ว่าหากเทียบกับความสาคัญของคนใน
ตระกูลจานวนมากแล้วนี้เป็นสิ่งที่หวั หน้าตระกูลอย่างเขา
จาเป็นต้องทา แม้ว่าถึงมันจะไม่ทาให้ตระกูลของเขากลับมามีหน้ามี
ตาเช่นเดิมแต่หากมันเพียงพอสาหรับการรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้
ก็นับว่าคุ้มค่า
" โห....ท่านประมุขข้าคิดเห็นว่าถึงแม้เราจะนาตัวของเหยียน
หยางมาก็ไม่ได้นับว่ามีประโยชน์อะไรต่อทางเรามากนัก........ "
จูหนิงเอ๋อร์มองมาที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นด้วยความแปลกใจเดิมที
หญิงสาวคนนี้แม้จะดารงตาแหน่งของผู้อาวุโสสมามคมเป็นรอง
เพียงนางและซูหลิ่งแต่นางมักไม่เคยให้ความร่วมมือใดๆเลยกับ
สมาคม กล่าวได้ว่านางมักมีนิสัยที่ชอบทาตามใจตนเองมากกว่าการ
ที่นางมาร่วมในการเยือนตระกูลเหยียนครั้งนี้ก็นับว่าแปลกมากแล้ว
แต่นี้นางกระทั่งออกกล่าวเสนอความเห็นด้วย ?
" แล้วเจ้าคิดว่าข้าสมควรทาเช่นใด "
" ประมุขเหยียน ข้าได้ยินมาว่าท่านเองก็มีบุตรสาวที่งดงามอยู่
คนหนึ่งไม่ใช่อย่างนั้นรึ "
เหยียนจ้าวพลันได้ยินคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นก็อยู่ใน
สถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาพอจะคาดเดาถึงสิ่งที่หญิงสาวเจ้า
เล่ห์ผู้นี้วางแผนแล้วไม่มากก็น้อย แต่หากให้เทียบกับบุตรชายของ
เขาอย่างเหยียนหยาง และบุตรีของเขาอย่างเหยีนจิวหลินแล้วละก็
บุตรีของเขาย่อมมีค่ากว่าเป็นไหนๆ ไม่ใช่เพราะว่านางมีระดับพลัง
ที่แข็งแกร่งที่จริงแล้วนางเป็นเพียงหญิงสาววัย 18 ปีที่มีระดับพลัง
เพียงปราณเริ่มต้นขั้น 6 แต่นางไม่เคยทาเรื่องเดือดร้อนสิ่งใดให้กับ
ตระกูลเลยแม้แต่น้อยอีกทั้งนางยังคอยพยายามช่วยเหลืองานของ
เขาในฐานะหัวหน้าตระกูลอยู่เสมอ
ดังนั้นแล้วเหยียนจ้าวจึงไม่อยากให้บุตรีที่ตนเองรักนั้นต้องตกอยู่
ในความยากลาบาก ขนาดบรรดาเหล่าบุตรที่แสนภาคภูมิใจของ
ตระกูลหลินแสดงที่ท่าชื่นชอบในตัวบุตรของเขา เหยียนจ้าวเองก็
ยังคงพยายามหลีกเลี่ยงได้มาจนถึงทุกวันนี้
" เรื่องนั้น..ข้าเกรงว่า.."
" ประมุขเหยียนท่านลองไตร่ตรองดูก่อน...หากพวกข้านั้นทา
ตามคากล่าวที่ให้นาตัวบุตรชายของท่านไปลงโทษตามสมควร...
แล้วตระกูลท่านจะรอดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างนั้นหรือ?
แน่นอนว่าไม่กลับกันแล้วมันอาจเลวร้ายกว่าเดิมเสียด้วยซ้าไป...แต่
หากท่านเพียงยอมให้บุตรีของท่านมาเป็นอนุของศิษย์เอกของเรา
แล้วแน่นอนว่าแม้จะเป็นเพียงตาแหน่งอนุแต่มีหรือที่ใครจะกล้าทา
สิ่งใดกับตระกูลท่านได้อีก "
จูหนิงเอ๋อร์แน่นอนว่านางย่อมเห็นด้วยกับความคิดเช่นนี้ของผู้
อาวุโสฟางซิ่น แม้ว่าฐานะของตระกูลเหยียนในตอนนี้จะตกต่าลงไป
มากแต่พวกเขาก็ยังคงมีคุ้มกาลังที่แข็งแกร่งอยู่ ส่วนทางด้าน
หลินหมิงนั้นเขาพอจะคาดเดาความคิดของผู้อาวุโสสาวคนนี้ได้ ที่
นางทาเช่นนี้เห็นได้ชัดว่านางต้องการเรียกความสนใจจากเขามา
บ้างที่นางอาจปราถนาในตาแหน่งภรรยาของเขามากกว่าสถานะขา
รับใช้สาวซึ่งถึงแม้ว่าสาหรับหลินหมิงในตอนนีท้ ั้งสิง่ อาจดูแตกต่าง
กันที่คาเรียกหาเพียงเท่านั้นก็ตาม
" ท่านพ่อ....ข้าไม่เป็นไรเจ้าคะ "
" จิวเอ๋อร์.... "
เหยียนจิวหลินหรือบุตรสาวของเหยียนจ้าวนางได้รับฟังบท
สนทนามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว มีหรือที่ทั้งตระกูลเกิดเรื่องวุ่นวาย
ใหญ่ถึงเพียงนี้แล้วนางจะไม่รับรู้ อันที่จริงแล้วคนที่ไม่สนใจเรื่อง
ในตอนนี้ภายในตระกูลคงอาจมีเพียงพี่ชายของนางที่อับอายจนเกิน
กว่าจะออกมาพบเจอหน้าคนในตระกูลอีก
" ข้านั้นเป็นเพียงหญิงสาวที่ไม่มีความสามารถที่โดดเด่นอะไรแต่
อย่างใด...หากท่านประมุขและผู้อาวุโสไม่รังเกียจแล้วละก็ข้าขอ
สัญญาว่าจะปรนนิบัติรับใช้คุณชายอย่างเต็มความสามารถเจ้าคะ
ขอเพียงอย่าได้ทาอะไรกับตระกูลของข้าอีกต่อไป "
หลินหมิงจ้องมองที่เรือนร่างของเหยียนจิวหลินอย่างพินิจ
เคราะห์ นางอาจไม่จัดได้ว่างดงามเทียบเคียงกับอาจารย์สาวสวย
หรือผู้อาวุโสฟางซิ่นแต่นางก็เป็นรองเพียงแค่หนึ่งขั้นหรืออาจเพียง
ครึ่งขั้นเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยที่บรรดาญาติพี่น้องของเขาต่างหมาย
ปองหญิงงามผู้นี้
ในสายตาของหลินหมิงนัน้ หญิงสาวผู้นี้เต็มไปด้วยแน่วแน่เห็น
ได้ชัดว่านางเต็มใจที่ยอมเสียสละตนเองไม่ว่ามากน้อยเพียงใดเพื่อ
ตระกูลและบิดาของนาง นับว่าเหยียนจ้าวยังคงมีวาสนาอยู่บ้างที่
แม้บุตรชายของเขาจะไม่เอาไหนแต่สวรรค์ก็ยังเห็นใจมอบบุตรีที่ล้า
ค่ายิ่งผู้นี้มาให้เขา เพียงชั่วครู่ที่ทุกคนกาลังครุ่นคิดกับสถานการณ์
ตรงหน้าของพวกเขา ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลเหยียนได้หันไป
พยักหน้าให้กับคนของเขาที่มีพลังระดับก่อเกิดระดับ 5 แน่นอนว่า
ชายหนุ่มผู้นี้ย่อมล่วงรู้ถงึ ความหมายที่ผู้อาวุโสต้องการจะสื่อกับเขา
เป็นอย่างดี
" คุณชายฮั่ว...แม้ว่าคุณหนูของพวกเราจะกล่าวตอบตกลงไป
แล้วก็ตาม...แต่ข้าขอเป็นตัวแทนคนจากตระกูลเหยียนเพื่อขอ
ทดสอบฝีมืออันเลื่องลือของท่านว่ามากพอที่จะดูแลคุณหนูได้
หรือไม่ "
ทางฝั่งของสมาคมนักปรุงยานั้นไม่มีใครคัดค้านใดกับคาพูดของ
ชายหนุ่มผู้นี้เลยแม้แต่น้อย กลับกันแล้วในฝั่งของคนตระกูลเหยียน
มีบ้างคนกระทั่งกลัวจนแทบจะวิ่งหนีไปเสียให้พ้น ในสถานการณ์
เช่นนี้ยังมีคนที่กล้ากล่าววาจาเช่นนี้ได้มันไม่กลัวว่าทั้งตระกูลจะลบ
หายไปหรืออย่างไร
" เรื่องนั้นย่อมไม่มีปญ
ั หาแต่อย่างใด ข้าย่อมยินดีแสดง
ความสามารถของข้าเล็กๆน้อยๆได้ให้พวกท่านพอใจได้ "

หากเป็นคนปกติทั่วไปได้ยินคาพูดเหล่านี้เข้าพวกเขาคงได้
หัวเราะจนกลิ้นไปกับพื้นเด็กหนุ่มอายุ 15 ปีกล้ากล่าวว่าจาเช่นนี้
โดยไม่ยาเกรงใดๆกับผู้ทพี่ ลังก่อเกิดระดับ 5 แต่สาหรับเด็กหนุ่มผู้นี้
นั้นเขามีสิทธ์ที่จะทาเช่นนี้ได้ทั่วทัง้ ตระกูลต่างรู้กันดีว่าเหยียนหยาง
นั้นถูกเด็กหนุ่มผู้นี้จัดการมาอย่างง่ายดายถ้าอย่างนั้นแล้วระดับพลัง
ต่าสุดของเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณปราณก่อเกิดขั้น 4 หรือกระทั่งขั้น
ที่ 5
" เช่นนั้นคุณชายเตรียมรับมือ "
ที่เขาทาเช่นนี้นั้นก็เพราะว่าอย่างน้อยตระกูลเหยียนก็ยังคง
รักษาชื่อเสียงตนเองไว้ได้บ้าง โดยไม่ถูกกล่าวว่าพวกเขายอมขาย
คุณหนูเหยียนจิวหลินเพื่อเอาชีวิตรอด
ชายหนุ่มตระกูลเหยียนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเมื่อเห็นท่าที
ของหลินหมิงแน่นอนว่าในตอนที่เขาประกาศให้หลินหมิงรับมือนั้น
เขาจงใจปลดปล่อยระดับพลังของตนเองออกมาทั้งหมดเพื่อหวัง
ข่มขู่ให้หลินหมิงกังวลสักเล็กน้อยแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
เลยแม้แต่น้อย ท่าทีของหลินหมิงยังคงมีทีท่าสบายๆราวกับว่าการ
ต่อสู้ในครั้งนี้มันถูกตัดสินแล้วอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มไม่รีรอช้าอีกต่อไปแม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ว่า
หลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาที่อยู่ในระดับ 5 แล้วก็ตาม
แต่แล้วมันอย่างไรกันเล่าคุณชายหนุ่มผู้นี้จะไม่ประมาทคู่ต่อสู้ไป
อย่างนั้นหรือ กะบี่ของเขาที่แนบลาตัวอยู่ในตอนแรกไม่ได้ถกู นา
ออกมาใช้ในทันที มันปรากฎในจังหวะที่เขาใช้ช่วงเวลาเพียงชั่ว
พริบตามายืนตรงหน้าหลินหมิงนี้เป็นท่วงท่าที่เขาคิดจะใช้จัดการ
กับหลินหมิงในครั้งนี้ !
แม้ว่าหลินหมิงจะสามารถตามความเร็วของเขาได้ท่านแต่ใน
เรื่องกระบวนท่าของกะบีเ่ ล่มนี้เขามั่นใจได้ว่าด้วยการที่หลินหมิง
ไม่ได้เตรียมรับมือตั้งแต่ก่อนหน้ามันจะต้องทาให้เด็กหนุ่มผู้นี้พลาด
พลั้งได้อย่างแน่นอน
อึก
จังหวะนั้นเองในขณะที่ชายหนุ่มกาลังจะใช้ท่วงท่ากะบี่ของเขา
สัมผัสหนาวเย็นที่ปลายคอของเขาเกิดขึ้นไปตามสัญชาตญาณ
พร้อมกับอาการเจ็บปวดเล็กน้อยที่เกิดขึ้น เมื่อเขาก้มลงไปมองดูก็
พบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น ในตอนนี้นิ้วมือทั้งห้าของหลินหมิงจอ
มาที่คอของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีกทัง้ ยังคงมีรอยเลือดอยู่บริเวณ
ที่คอของเขาซึ่งมันเป็นแผลเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเพียงแต่ว่าหากเขาไม่
หยุดยั้งตัวก่อนแล้วละก็ใครจะคาดคิดได้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น !
เรี่ยวแรงที่กากะบี่หายไปในฉับพลันเขาไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดสิ่ง
ใดขึ้นท่วงท่าของเขาที่ใช้ไปเมื่อครู่ล้วนเกือบจะสมบูรณ์แบบขาดแต่
เพียงกะบี่ของเขาที่ยังไม่ทันได้ฟาดฟันเพียงเท่านั้นแต่การ
เคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มผูน้ ี้กลับเหนือกว่าเขาจนราวกับว่าพวกเขา
อยู่กันคนละมิติกันเลย ด้วยพลังระดับปราณก่อเกิดระดับ 5 แต่ยัง
พ่ายแพ้ภายในช่วงเวลาอึดใจเดียวท่วงทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงโดยเฉพาะตระกูลเหยียน

ตอนที่ 96
ลาพังแค่เพียงข่าวของหลินหมิงทีส่ ามารถเอาชนะเหยียนหยางที่
มีพลังระดับ 3 ขั้นก่อเกิดได้ก็เพียงพอที่จะสร้างความปั่นป่วนไปได้
ทั่วเมืองแต่ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงยังคงสามารถที่จะเอาชนะชาย
หนุ่มทีม่ ีพลังระดับ 5 ขั้นก่อเกิดได้เพียงชั่วพริบตาเดิมทีพวกเขา
คาดเดากันว่าความแข็งแกร่งของหลินหมิงน่าจะอยู่ที่ระดับ 4 ไม่ก็
ระดับ 5 แต่ในตอนนี้ระดับพลังของเขาต้องมีอย่างน้อยถึงระดับ 6 !
" สวรรค์นี้เขาอายุเพียง 15 ปีเองนะ !!! "
แน่นอนว่าในตอนแรกบรรดาคนจากตระกูลเหยียนหรือกระทั่ง
บุคคลภายนอกจะมีบางส่วนที่ไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้แต่จากวันนี้ไปมันคง
ไม่ใช่อีกต่อไปแล้วโดยเฉพาะกับทุกคนในตระกูลเหยียนที่ได้เห็น
ภาพตรงหน้าอย่างเด่นชัด บรรดาเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเหยียน
ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหากพวกเขาวางแผนผูกสัมพันธ์กบั เด็ก
หนุ่มผู้นี้ก่อนหน้าไม่ต้องสงสัยเลยว่าตระกูลเหยียนของพวกคงเรือง
อานาจมากแน่ๆในอนาคต เพียงแต่ว่าในตอนนี้การที่คุณหนูของ
พวกเขาต้องไปเป็นอนุของเด็กหนุม่ ผู้นี้มันก็อาจไม่ใช่เรื่องแย่นัก
สาหรับความคิดของคนหลายคนในที่นี้เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่ง
ของหลินหมิง
" ท่านหญิง นี้เป็นความคิดเห็นของข้าเองที่ใช้ให้เขาเข้าทดสอบ
ศิษย์ของท่านหากมันทาให้ท่านไม่พอใจ ชายชราผู้นี้พร้อมยอมรับ
โทษโดยไม่โกรธเคือง "
" เรื่องเพียงแค่นี้ข้าไม่ได้คิดอันใดมากอยู่แล้ว ดีเสียอีกยังที่อย่าง
น้อยมันก็ยังทาให้ศิษย์ของข้าได้แสดงพลังส่วนหนึง่ ออกมา "
จูหนิงเอ๋อร์พอใจในสถานการณ์ตอนนี้มากนางหันไปพยักหน้าให้
หลินหมิงหนึ่งที่เพื่อปล่อยเรื่องที่เหลือให้หลินหมิงสามารถจัดการได้
ทั้งหมด แน่นอนว่าในอนาคตนี้ศิษย์ของนางคนนี้ย่อมต้องรับช่วงต่อ
จากนางไปอย่างแน่นอนดังนั้นแล้วนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างหนึ่ง นั้นก็
คือการตัดสินใจผู้ที่มีอานาจนั้นจะต้องมั่นใจและตัดสินใจได้อย่าง
เฉียบขาดปราศจากความลังเลใดๆ
" ท่านประมุขตระกูลเหยียน และผู้อาวุโสทุกท่านตัวข้านั้นเป็น
เพียงเด็กหนุ่มทีย่ ังไร้ซึ่งประสบการณ์ ด้วยเหตุการณ์ที่นายน้อยของ
พวกท่านได้ล่วงเกินต่อศิษย์พี่ของข้าแน่นอนว่ามันทาให้ข้าไม่พอใจ
เป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นตัวข้าเองก็ทราบดีว่าข้านั้นได้ทาเกิน
กว่าเหตุไปไม่ใช่น้อยจนทาให้พวกท่านทั้งหมดที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราว
ต้องเดือดร้อนไปด้วย.... "
" เช่นนั้นแล้วหากพวกท่านมีความเป็นกังวลว่าคุณหนูของพวก
ท่านจะได้รับความลาบากแล้วละก็ตัวข้าขอสัญญาด้วยเกียรติของ
ข้าเลยว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน "
สิ่งที่หลินหมิงกล่าวออกไปทาให้ผู้คนทั้งหลายในตระกูลเหยียน
ตกตะลึงด้วยการที่เด็กหนุม่ คนนี้มีสถานะสูงจนเสียยิ่งกว่าเหล่าผู้
อาวุโสหรืออาจแม้กระทั่งประมุขของพวกเขาในตอนนี้แต่เด็กหนุ่ม
คนนี้ก็ยังคงรักษาท่าทีนอบน้อมต่อพวกเขา ซึ่งมันหาได้อย่างยิ่ง
สาหรับคนวัยเยาว์เช่นเดียวกันหลินหมิง ด้วยการที่หลินหมิงกล่าว
เช่นนี้ออกไปไม่เพียงแต่จะทาให้บรรดาเหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลเห
ยียนคลายความกดดันลงไปในทันที แต่มันยังเป็นการรับประกัน
ความรุ่งโรจน์ในอนาคตของตระกูลเหยียนอีกด้วยเพราะจากคาพูด
ของเด็กหนุ่มเมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้มีท่าทีว่าจะนาคุณหนูของพวกเขา
ไปเพื่อเป็นนางบาเร่อแต่เขายังกล่าวให้ความสาคัญคุณหนูของพวก
เขาเสียด้วยซ้าไป
" จิวเอ๋อร์ ข้าไม่เพียงแต่จะไม่สามารถมอบความสุขให้กับเจ้าได้
แต่ยังช่วงชิงอนาคตของเจ้าไป..... "
" ท่านพ่อนี้เป็นทางที่ข้าได้เลือกแล้ว ไม่ใช่เป็นความผิดของท่าน
แต่อย่างใดอีกอย่างด้วยความสามารถของคุณชายผู้นี้ข้าอาจสุข
สบายเสียยิ่งกว่าท่านพ่ออีกนะเจ้าคะ... "
เหยียนจิวหลินนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงล้อเล่นเพื่อไม่ให้เห
ยียนจ้าวต้องเป็นกังวลแต่ถึงอย่างนั้นน้าเสียงสุดท้ายของนางกลับ
สั่นเครือ สาหรับหญิงสาวการที่ต้องตกเป็นของบุรษุ ที่ไม่เคยรู้จักกัน
มาก่อน อีกทั้งยังด้วยสถานการณ์เช่นนี้นางไม่สามารถคาดเดาได้
เลยว่านางจะต้องประสบชะตากรรมใด
" ท่านอาจารย์ ข้าขออาศัยอยู่ที่นี้สัก 2-3 วันได้หรือไม่ "
" ย่อมได้ข้ากล่าวไปแล้วว่าเรื่องนี้ข้าจะให้เจ้าจัดการเอง เอา
เป็นว่าเจ้าสามารถทาทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการได้ไม่ว่าสิ่งใด แล้ว
เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการฝึกมากไปนักเจ้าสมควรผ่อนคลายเสีย
ให้มากกว่านี้เจ้าอาจอยู่ที่นานมากเท่าใดก็ได้ตามทีเ่ จ้าพอใจ "
จูหนิงเอ๋อร์และบรรดาผู้อาวุโสส่วนใหญ่ต่างกลับไปที่สมาคม
ในทันทีเหลือเพียงผู้อาวุโสบางส่วนที่นางได้เหลือเอาไว้เพื่อทาการ
คุ้มครองหลินหมิง ถึงแม้ว่ามันจะไม่จาเป็นมากนักก็ตามที่ ตระกูล
คงกลายเป็นคนโงไปในทันทีถ้าหากพวกเขาคิดใช้โอกาสนี้ในการ
สังหารหลินหมิง เพราะนั้นจะทาให้ตระกูลของพวกเขาถึงจุดจบ
อย่างแน่นอนด้วยสมาคมนักปรุงยาในตอนนี้ไม่เพียงมีแต่เด็กหนุ่มผู้
นี้เท่านั้น ยังมีประมุขและหญิงสาวผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับ
เดียวกันอีกหนึง่ คนเพียงแค่หญิงสาวสองคนนี้พวกนางทั้งสองก็อาจ
กวาดล้างตระกูลเหยียนให้หายสิ้นไปอย่างง่ายดายแล้ว !
ภายไปราว 2 ชั่วยามหลังจากที่เหตุการณ์วุ่นวายทุกอย่างจบลง
บรรดาเหล่าผุ้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยาได้รับทีพ่ ักอย่างดีภายใน
ตระกูลเหยียน ในขณะที่หลินหมิงกาลังพูดคุยกล่าวกับเหยียนจ้าว
ทางฝั่งของเหยียนจิวหลินที่อยู่ภายในห้องของนางในตอนนี้เต็มไป
ด้วยความประหม่า แม้ว่านางจะเป็นคนตัดสินใจเองก็ตามแต่มัน
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้แท้จริงแล้วเขาคงมีความโกรธแค้น
ต่อตัวพี่ชายของนางอยู่และนางคงไม่พ้นรับเคราะห์แทน แต่ถงึ
อย่างนั้นคากล่าวในช่วงก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
ทันใดนั้นประตูห้องของนางที่ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับ
ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาภายในห้อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
นี้คือหลินหมิงอย่างแน่นอน นางไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าภายใต้
ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจางๆ ทีด่ ูสุขุมนี้มีความคิดเช่นใดแฝง
เอาไว้อยู่
" เจ้ากังวลอย่างนั้นรึ ? "
หลินหมิงเดินเข้ามาหาจิวหลินพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย แน่นอน
ว่าสาหรับหญิงสาวที่เกิดในตระกูลสูงศักดิ์นั้นมันหาได้ยากยิ่งที่พวก
นางจะมีความกล้าตัดสินใจดั่งเช่นหญิงสาวผู้นี้ มือของหลินหมิง
คว้าจับมือของนางในทันทีที่เขาเข้ามาใกล้ตัวนาง
" คะ..คุณชาย "
แม้ว่านางจะมีอายุมากกว่าหลินหมิงถึง 3 ปีแต่ด้วยความไร้
เดียงสาของนางมันทาให้ในตอนนี้นางดูกลายเป็นเด็กในสายตาของ
หลินหมิงเสียมากกว่า จิวหลินนางไม่สามารถปฎิเสธใดๆต่อการ
กระทาของหลินหมิงได้ไม่เช่นนั้นแล้วตระกูลของนางคงต้องตกไป
อยู่ในสถานะลาบากเช่นเดิม อันที่จริงแล้วในก่อนหน้านี้ได้มีผู้อาวุโส
จานวนไม่น้อยเข้ามาพูดคุยกับนางให้ปรนนิบัติหลินหมิงอย่างดี
เยี่ยมที่สุด แต่นางยังคงด้อยประสบการณ์จนเกินกว่าจะทาสิ่งใดได้
และถึงแม้ว่านางจะพอรู้เรื่องราวก็ตามที่แต่ร่างกายของนางแข็งทื่อ
ไปหมดแล้วนางจะยังคงทาสิ่งใดได้อีก ร่างของนางถูกจูงมาที่เพียง
นอนของนางโดยที่ไม่สามารถเลี่ยงได้แต่อย่างใด
" คุณชายแล้วเรื่องท่านพ่อของข้าและตระกูลของข้า ท่านจะไม่
ทาสิ่งใดกับพวกเขาจริงๆใช่ไหมเจ้าคะ "
จิวหลินรีบกล่าวเพื่อทาลายคลายกังวล นางเพียงหวังว่าอย่าง
น้อยหลินหมิงคงชะงักแล้วหันมาพูดคุยกับนางเสียหน่อยเพื่อว่านาง
จะได้พอมีเวลาทาใจก่อน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นร่างของ
นางถูกโอบกอดอย่างแนบแน่นโดยที่ร่างขอนางกาลังนอนคร่อม
ด้านบนร่างของหลินหมิง สัมผัสไออุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวของหลินห
มิงในตอนนี้มันทาให้ร่างกายของนางเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก นี้
อาจเป็นการตอบสนองโดยธรรมชาติของชายหญิง ?
" ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้น แต่หากเจ้า
ทาให้ข้าไม่พอใจนั้นก็คงเป็นเรื่องหนึ่ง "
" ขะ..ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เจ้าคะ "

ไม่ทราบด้วยเหตุใดในยามนี้ที่นางได้อยู่ภายในอ้อมกอดของ
หลินหมิงมันทาให้นางรู้สกึ อบอุ่นอย่างไม่ถกู มือของหลินหมิงที่
กาลังลูบไล้แผ่นหลังของนางอย่างเชื่องช้านางกลับพบว่านางไม่ได้มี
ความรู้สึกรังเกียจหลินหมิงดังเช่นที่ควรจะเป็น กลับกันแล้วร่างกาย
ของนางกลับรู้สึกพอใจต่อการสัมผัสเช่นนี้ของหลินหมิงเสียมากกว่า
" ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว..เจ้าสมควรเรียกข้าว่าท่านพี่ไม่ใช่
เช่นนั้นหรือน้องหญิง "
" เจ้าคะ..ทะ...ท่านพี.่ ..อื้มมม~~ "
ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงพร้อมกับลิ้นของหลินหมิงทีต่ วัดเข้า
พัวพันภายในปากของนาง มันไม่ได้เป็นรสจูบที่ร้อนแรงดั่งเช่นที่
หลินหมิงชอบใจจู่โจมเหล่าสตรีกลับกันแล้วแม้ว่าจะมีการจู่โจมเข้า
ไปภายในปากของจิวหลิน แต่มันเป็นอย่างจู่โจมอย่างเชื่องช้า
สาหรับหญิงสาวผู้นี้แล้วหลินหมิงมีความรู้สึกอยากทะนุถนอมนาง
เอาไว้เป็นดั่งสมบัตลิ าค่าส่วนตัวของเขาเอง
จิวหลินนางไม่ค่อยเข้าใจในการกระทาของหลินหมิงเสียเท่าไหร่
แน่นอนว่าการจูบเช่นนี้นับว่าเป็นการเริ่มของการร่วมรักระหว่าง
ชายหญิง เพียงแต่ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่ใช้เวลามากเกินไปเช่นนั้น
หรอสาหรับการเล้าโลมเช่นนี้ หากเป็นบุรุษโดยทัว่ ไปแล้วพวกเขา
คงไม่รอช้าหากได้รับโอกาสอันดีงามที่สามารถเฉยชมร่างกายของ
นางได้อย่างสบายใจเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจ
แต่อย่างใดเทียบกันแล้วการที่หลินหมิงกระทากับนางอย่างอ่อนโยน
เช่นนี้มันทาให้นางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ

ตอนที่ 97
ในความรู้สึกของจิวหลินรสจูบของหลินหมิงเพียงพอที่จะทาให้
ความรู้สึกที่บริเวณส่วนลับของนางถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างรุนแรง
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเพียงแค่การจูบกับบุรุษจะมีความสุขที่
เพียงนี้อีกทั้งดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเชี่ยวชาญในเรื่องการมอบ
ความสุขให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก หลังจากที่นางถูกช่วงชิงริม
ฝีปากจนกระทั่งนางเริ่มรู้สึกเหนื่อยหอบ เด็กหนุ่มได้เปลี่ยนจากการ
จูบอันแสนดูดดื่มมาโลมเลียที่บริเวณต้นคอและใบหน้าของนางแทน
" ขะ..ข้าไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อนเลยเจ้าคะ อ้าา~~~~~~ "
นางแทบจะเกือบลืมไปแล้วมันสมควรเป็นฝ่ายนางไม่ใช่หรอที่
จะต้องทาให้หลินหมิงมีความสุขเพียงแต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่า
หลินหมิงกาลังทาให้นางมีความสุขเสียมากกว่า เสื้อผ้าของนางถูก
ปลดออกอย่างรวดเร็ราวกับว่ามันไม่เคยมีมาก่อนเรือนร่างของนาง
ถูกเผยให้เห็นแก่สายตาของหลินหมิงที่จ้องมาด้วยสายตาหื่น
กระหายแบบไม่ปกปิด ลาพังเพียงแค่สัมผัสที่ผ่านจากเสื้อผ้ามาก็
แทบจะทาให้นางบ้าคลั่งจนจะตายอยู่แล้วเมื่อต้องเจอกับสัมผัส
โดยตรงเช่นนี้ร่างกายของนางบิดไปมาด้วยความเสียวซ่านที่กาลัง
เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยอดปถุมถันที่เบ่งบานสีชมพูดสดใสถูกหลินหมิงเข้าเด็ดดมอย่าง
โหยหา ด้วยขนาดหน้าอกของนางมันคงเรียกได้ว่าเป็นขนาดตาม
มาตรฐานทั่วไปของหญิงสาว และด้วยวัยของนางที่อยู่ในวัย 18 ปี
แล้วมันคงไม่สามารถเติบโตไปได้มากกว่านี้มากนักแต่ถึงอย่างนั้น
มันก็คงเรียกได้ว่างดงามเพราะมันดูเข้ากับรูปร่างเพรียวบางของ
นางเองเป็นอย่างดี
" ท่าน...พี่จะทาอะไรเจ้าคะ "
นางรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นหลินหมิงเคลื่อนตัว
ลงไปที่บริเวณส่วนล่างของนาง ในตอนแรกนางเพียงคิดว่าหลินห
มิงอาจหมดความสนใจในตัวนางไปแล้วก็ได้ เพียงแต่ว่าเมื่อได้เห็น
สายตาของหลินหมิงนางก็รู้ได้ว่าวันนี้นางคงไม่รอดมือของเด็กหนุม่
ได้อย่างแน่นอน
" ข้าก็แค่จะสารวจมันเสียหน่อย "
" ตะ...แต่ว่า...มันสกปรกนะเจ้าคะ "
จิวหลินน่าอับอายกับการกระทาของหลินหมิงเป็นอย่างมาก
สาหรับโพร่งสวาทที่ใบหน้าของหลินหมิงจ้องมองอย่างไม่ระวางตา
แน่นอนว่านี้เป็นอวัยวะสาคัญที่ใช้มอบความสุขให้กับบุรุษแต่มันคง
ไม่มีบุรุษคนใดที่คิดจะทาการสารวจมันอย่างแน่นอนเพราะไม่
เพียงแต่มันจะเป็นช่องทางที่ใช้รับมือกับทวนของบุรุษแต่มันยังเป็น
ช่องทางสาหรับขับถ่ายของเสียภายในร่างกาย แล้วมันจะยังมีบุรุษ
คนใดกล้าทาเช่นนั้นอีก ? นั้นก็คือบุรุษตรงหน้านางนี้อย่างไรเล่า !
" ไม่เห็นเป็นอะไรเลยข้าว่ามันออกจะงดงาม ไม่ว่าจะส่วนไหน
ของเจ้าข้าก็ชอบมันทั้งหมดนั้นแหละ "
จิวหลินไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มผู้ที่จะเติบใหญ่มีอานาจ
บารมีในอนาคตจะทาเช่นนี้ เพียงแค่เขาทาการเล้าโลมร่างกายของ
นางเมื่อสักครู่ก็นับว่าแปลกประหลาดมากแล้ว ลมหายใจของหลินห
มิงที่กาลังรดที่ปากโพร่งร่องสวาทชุ่มช่าไปด้วยน้ารักเล็กน้อยของ
นางที่ไหลออกมาตอนถูกเล้าโลมและมันยังคงไหลออกมาอย่างช้าๆ
เรื่อยๆ นางพยายามใช้มือทั้งสองข้างเพื่อค้ายันไม่ให้หลินหมิงได้เข้า
ไปใกล้โพร่งสวาทของนางไปมากกว่านี้
แม้ว่านางจะรู้สึกพอใจกับความกล่าวชมของหลินหมิงจนแทบ
ล่องลอยแต่สาหรับส่วนทีน่ ่าอายของหญิงสาวเช่นนี้ฃมันไม่ใช่สิ่งที่
คนทั่วไปสมควรได้รับคาชื่นชมไม่ใช่อย่างนั้นหรือ แล้วหากอาจารย์
ของเด็กหนุ่มผู้นี้ล่วงรู้เข้าไม่ใช่ว่าทั้งตระกูลของนางอาจต้องพบเจอ
กับความหายนะอีกรอบเนื่องจากมันเป็นการเสียศักดิ์ศรีของบุรุษ
อย่างเห็นได้ชัด
หลินหมิงไม่ได้สนใจอาการต่อต้านด้วยเรี่ยวแรงเล็กน้อยของจิว
หลินเพียงแค่นี้ นิ้วมือของเขาเข้าทาการแหวกโพร่งร่องสวาทสีชม
พูดสดเพื่อเข้าไปดูภายในร่องที่ไม่เคยผ่านการใช้งานใด แน่นอนว่า
มันมีกลิน่ ที่ทาให้เขารู้สึกอยากจะพุ่งเข้าจู่โจมอนุสาวคนนี้ของเขา
แผ่ออกมาด้วย
" ท่านพี่พอเถอะเจ้าคะ...อ้าาา~~~~~~~~ "
แม้ว่าจิวหลินจะรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรแต่นางก็ยังคงรู้สึกมี
ความสุขเมื่อหลินหมิงกาลังทาการใช้นิ้วมือของเขาเข้าสารวจโพร่ง
สวาทของนางอย่างหน่าใจ ผ่านไปไม่นานเสียงครางสนั่นของนางดั่ง
ขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนางสัมผัสได้ว่าร่องสวาทของนางนั้นถูกสัมผัส
โดยสิ่งที่ลนื่ ฉ่า เมื่อนางหันลงไปมองก็พบว่าหลินหมิงกาลังทาการ
โลมเลียร่องสวาทของนางอย่างร้อนแรง ในตอนนี้น้ารักของนางราว
กับเขื่อนที่มีรอยร้าวและเริ่มที่จะแตกออกทุกเมื่อ ร่างกายของนาง
สั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
" ซี๊ดดด....ท่านพี่....ท่านยอดเยี่ยมที่สดุ เลยเจ้าคะ....
อ้าาา~~~~~~~~~~ "
เทียบกับในตอนแรกแล้วในตอนนี้นางรู้สึกมีความสุขมากที่ได้
เป็นอนุของหลินหมิงด้วยบทเพลงและท่วงท่าทีห่ ลินหมิงได้มอบ
ให้แก่นาง มันทาให้นางรู้สึกมีความสุขจนแทบคลั่งอีกทั้งเขายังใช้
ลิ้นของเขาเพียงเพื่อตวัดโลมเลียโพรงร่องสวาทของนางอย่างไม่มีที
ท่ารังเกียจใดๆ มือทั้งสองข้างนางกดหัวของหลินหมิงราวกับไม่
ต้องการให้มันออกห่างไป เมื่อหลินหมิงส่งเข้าไปภายในร่างกายของ
นางแข็งตรงในทันทีพร้อมกับน้ารักจานวนมากที่ทะลักออกมาจน
หลินหมิงต้องรีบถอยออกมาตั้งหลักเสียก่อน
" เป็นเช่นไรบ้างน้องหญิง "
" แฮ่กกๆ ขะ...ข้าแทบจะบ้าตายอยู่แล้วเจ้าคะ ไม่น่าเชื่อว่าท่าน
พี่จะมีท่วงท่าที่แปลกประหลาดเช่นนี้ด้วย "
" ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรเล่าว่าข้าจะทาให้เจ้ามีความสุขและจะ
ไม่ทาให้เจ้าต้องพบเจอกับความลาบาก "
ในตอนนี้จิวหลินนางเริ่มเชื่อใจหลินหมิงอย่างหมดใจ จากที่นาง
เคยได้ยินมาการที่สตรีเช่นนางจะเสร็จสมดดั่งเช่นเมื่อสักครู่ได้เป็น
เรื่องที่ยากมากกระทั่งการร่วมรักกับบุรุษส่วนใหญ่กจ็ ะจบลงด้วย
การที่อารมณ์ของพวกนางจะต้องค้างคา เพียงแต่ในตอนนี้นางได้
ผ่านการเสร็จสมโดยที่ยังไม่ทันได้รับมือกับทวนมังกรเลยเสียด้วยซ้า
ไป หากจะกล่าวว่าสามีของนางผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการมอบ
ความสุขให้กับสตรีก็คงไม่เกินไป
" ทะ...ท่านพี่ข้า..อยากทาให้ท่านมีความสุขบ้างเจ้าคะ...ดะ...ได้
โปรดใส่มันเข้ามาเถอะเจ้าคะ "
การที่หลินหมิงได้มอบความสุขให้แก่นางมากมายเช่นนี้ นางมี
ความรู้สึกว่านางคงต้องเป็นภรรยาที่แย่แน่ๆที่ต้องให้บุรุษเคยบาเร่อ
ปรนนิบัติมอบความสุขให้แทนที่จะเป็นฝ่ายนางเองเสียมากกว่า
แม้ว่าในตอนนี้นางจะรู้สึกเหนื่อยจากการที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อสักครู่
หลินหมิงขึ้นครอมร่างของจิวหลินพร้อมกับทวนมังกรของที่จ่อเข้า
โพร่่ของนางเพี
งึ้ ยงแต่ว่านางยังคงไม่ได้เห็นขนาดของมันเนื่องจาก
หลินหมิงกาลังนอนทับร่างของนางอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วสตรีนางนี้คงมี
ความกังวลและเกร็งจนเกินไปจนทาให้เขาสามารถร่วมรักได้อย่าง
ยากลาบากอย่างแน่นอน
" โอ้ยย "
เพียงแค่ส่วนปลายทวนของหลินหมิงที่เสียบเข้ามันก็ทาให้ร่าง
ของจิวหลันผลันสั่นสะท้าน ความรู้สึกเจ็บปวดทีก่ าลังเกิดขึ้นเป็น
เครื่องหมายบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าในตอนนี้นางกาลังสูญเสีย
พรหมจรรย์ให้กับเด็กหนุ่มผู้นี้ไปแล้ว เพียงแต่ว่าในขณะที่นางกาลัง
ฝืนทนอยู่นั้นนางกลับพบว่าทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังสอดใส่
เข้ามาภายในร่างกายของนางนั้นกลับไม่มีทที ่าว่ามันจะหยุดลงอันที่
จริงแล้วด้วยขนาดของบุรุษโดยทั่วไปมันจะไม่สามารถทาให้สตรี
รู้สึกเจ็บปวดมากเท่าใดนัก
นางกัดฟันแน่นพร้อมกับความรู้สึกคับแน่นภายในร่องสวาทของ
นางตอนนี้ ร่างกายของนางราวกับว่าถูกอัดแน่นไปด้วยอะไร
บางอย่างจนทาให้นางรู้สึกจุกจนแทบจะพูดไม่ออก เหตุใดนางกลับ
รู้สึกเช่นนี้ได้ ? ทันใดนั้นในจังหวะที่หลินหมิงได้ยกร่างของตนเอง
ขึ้นเพื่อที่จะจู่โจมจิวหลินได้ง่ายขึ้น นางก็พลันเหลือบไปเห็นทวน
มังกรขนาดใหญ่ตรงที่กาลังเสียบร่องสวาทของนางอยู่
ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นซีดเสียวในทันทีดว้ ยขนาดของทวน
มังกรของหลินหมิงที่กาลังใส่เข้ามาในตัวนางจนถึงตอนนี้มันอาจ
เรียกได้ว่ายังไม่ถึงหนึ่งในสี่ส่วนเลยเสียด้วยซ้าไป
หลินหมิงค่อยๆริ้มรสร่องสวาทคับแน่นอันนี้อย่างเชื่องช้าทวน
มังกรของเขาค่อยเคลื่อนตัวเข้าสู่ภายในร่องสวาทของจิวหลินพร้อม
กับมือของเขาที่เข้าลูบไล้เรือนร่างอันแสนยั่วยวนของนางไปอย่าง
เพลิดเพลิน ผ่านไปเพียงไม่นานจิวหลินนางเริ่มไม่รู้สึกถึงความ
เจ็บปวดแน่นอนว่านางยังคงรู้สึกที่ความคับแน่นภายในท้องอยู่บ้าง
จากการที่ทวนมังกรของหลินหมิงได้เข้ามาสุดโพร่งของนางจนใน
ตอนแรกนางแทบสิ้นสติไป
" อ๊า....ทะ....ท่านพี.่ ... "
ดวงตาของนางลอยค้างนางแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทวนมังกร
ขนาดใหญ่ถึงเพียงนั้นกาลังอยู่ภายในร่างกายของนางเองในตอนนี้
ความรู้สึกอบอุ่นราวกับร่างกายค่อยๆถูกหลอมละลายกลายเป็น
หนึ่งเดียวกับเด็กหนุม่ ที่ร่างของนางแนบชิดด้วยเป็นความรู้สึกสุข
สมที่ยากจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ หากเปรียบเทียบกับ
ความสุขในตอนที่นางถูกเล้าโลมแล้วนั้นในตอนนี้มนั เป็นความสุขที่
มากกว่าหลายสิบเท่า !
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริเวณร่องสวาทของนางในตอนนี้
กลายเป็นเขือนที่แนวกั้นถูกพังทลายไปอย่างสมบูรณ์น้ารักจานวน
มากไหลออกมาโดยไม่มีทที ่าว่าจะหยุดหย่อน

ตอนที่ 98
" ท่านพี่ ข้ารักท่านที่สุดเลยเจ้าคะ ซี๊ดดดดด~~~ "
ร่างกายของจิวหลินสั่นกระเพื่อมช้าอันเป็นจังหวะเดียวกับที่
หลินหมิงเข้าจู่โจมนาง นางรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นตั้งใจที่จะทาอ่อนโยน
กับนางเช่นนี้เนื่องจากเป็นครั้งแรก แต่ถึงแม้มันจะเป็นเพียงขยับ
อย่างช้านางก็รู้สึกแทบจะหมดสติไปในทันทีที่ทวนมังกรของหลินห
มิงถูกอัดกระแทกเข้ามาภายในร่างกาย
ในตอนนี้นางไม่หลงเหลือความเสียใจใดๆที่ได้เป็นอนุของหลินห
มิงอีกต่อไปกลับกันแล้วนีเ้ หมือนเป็นพรจากสวรรค์ที่ทาให้นางได้
พบสามีที่สามารถมอบความสุขให้กับนางได้มากมายถึงเพียงนี้
" น้องหญิง เจ้ารู้ไหมว่าหากข้าเร่งจังหวะมันขึ้นอีกเจ้าจะรู้สึกดี
ยิ่งกว่าเดิมจนเทียบไม่ติดเชียว "
" อ๊ะ...อ้าา~~ ตะ...แต่...ว่าแค่น.ี้ .อ้าา~~ ข้าก็แทบไม่ไหวแล้วนะ
เจ้าคะ "
หลินหมิงค่อยๆเร่งจังหวะขึ้นอย่างเชื่องช้าเพื่อให้จิวหลิน
สามารถปรับตัวกับจังหวะได้เสียก่อนไม่เช่นนั้นแล้วนางคงได้หมด
สติไปในทันที
" อู้ววว~~~~~~ ซี๊ดดดดดด "
รสจูบอันร้อนแรงของหลินหมิงเข้าสัมผัสที่บริเวณเรือนร่างของ
นางไปทั่วร่าง ลาพังเพียงแค่ความรู้สึกเสี่ยวซ่านจากส่วนล่างมัน
แทบจะทาให้นางหลงลืมไปเสียว่าในตอนนี้นางกาลังอยู่ภายในห้อง
ของนางหรือบนสวรรค์กันแน่ ขาเรียวงามของนางถูกแหวกออก
กว้างขึ้นเรื่อยนางเข้าใจความหมายดีว่าต่อจากนี้นางอาจต้องตาย
ไปเลยก็ได้ แต่นางจะไม่มีความรู้สึกเสียใจแต่อย่างใดเพราะอย่าง
น้อยนางก็ได้ตายด้วยความสุขที่มากล้นจนเกินไป !
ปั๊บ ปั๊บ ปับ๊
" อ้า อ้า อ้า อ้า ~~~~~ "
เสียงก้อนเนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างรุนงแรงพร้อมกันด้วยกับ
เสียงครางของจิวหลินที่ดังระงมอย่างต่อเนื่อง ลาพังเพียงทวนมังกร
ขนาดใหญ่ของสามีของนางก็เพียงพอที่ทาให้ร่องสวาทของนางนั้น
อาจใช้งานไม่ได้ไปหลายวัน แล้วนี้นางยังคงต้องรับมือกับท่วงท่าอัน
เร้าร้อนถึงเพียงนี้อีก ไม่ใช่ว่าต่อจากนี้ไปร่องสวาทของนางคงไม่
อาจใช้งานได้อีกแล้วหรือ ? แต่ถึงอย่างนั้นสัมผัสความสุขที่เกิดขึ้น
มันได้บดบังความกังวลเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น
ดวงตาของจิวหลินในตอนนี้เหลือกขึ้นบนนพร้อมกับใบหน้าของ
นางที่สั่นไปมา นางเริ่มรู้พอใจกับจังหวะอันเร้าร้อนของหลินหมิ
งมากขึ้นเรื่อยในตอนนี้นางคงมีชีวิตไม่ได้หากต้องปราศจากบทรัก
อันเร้าร้อนเช่นนี้ หลังจากผ่านการจากจู่โจมอันหนักหน่วงไปราว
10 นาทีเต็มทวนมังกรภายในร่างกายของจิวหลินเริ่มมีอาการสั่น
ไหวเกินขึ้น
ของเหลวเหนียวข้นจานวนมากถูกปลดปล่อยเข้าใส่ภายในตัว
ของนางราวกับว่ามันต้องการรักษาเขื่อนที่แตกออกของนางใหม่อีก
ครั้งด้วยจานวนน้าที่เท่าเทียมกัน ความอบอุ่นภายในท้องของนาง
จากน้ารักของหลินหมิงเป็นเครื่องหมายแสดงชัดเจนเป็นอย่างดีว่า
ในตอนนี้นางได้ตกเป็นของหลินหมิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
" แฮ่ก ๆ...ขะ..ข้านับเป็นภรรยาที่บกพร่องอย่างแท้จริงไม่
เพียงแต่จะไม่สามารถทาให้ท่านพี่มีความสุขได้ กลับเป็นฝ่ายข้าเสีย
เองที่ได้รับความสุขจนมากล้นนี้อยู่ฝ่ายเดียว "
ในใจของนางในตอนนี้นางคิดว่าหลินหมิงเป็นสามีของนางอย่าง
แท้จริงด้วยกายและกระทั่งใจของนางที่มอบให้แก่หลินหมิงไปหมด
สิ้น แต่ถึงอย่างนั้นบทรักเมื่อครู่ที่ผ่านมาแม้ว่านางจะได้ลิ้มรสน้ารัก
ของหลินหมิงไปแล้วแต่นางกลับมีความรู้สึกว่าสามีของนางนั้น
ยังคงได้รับความสุขไม่เพียงพอ
" เช่นนั้นน้องหญิงก็มาปรนนิบัติข้าต่อเสียสิ "
" แต่ว่าท่านพี่เพิ่งเสร็จไปไม่ใช่หรือเจ้าคะ ...อีกอย่างข้า
ในตอนนี้แม้จะอยากจะมอบความสุขให้ท่านพี่อีกครั้งแต่เกรงว่าด้วย
เรี่ยวแรงในตอนนี้มันคงเป็นเรื่องยากเกินตัวเจ้าคะ "
" มันใช่ว่าจะมีวิธีเดียวที่น้องหญิงสามารถปรนนิบัติข้าได้เสีย
หน่อย เจ้าจาที่ข้าได้เล้าโลมเจ้าในตอนแรกได้หรือไม่ ในตอนนี้หาก
น้องหญิงอยากมอบความสุขให้แก่ข้าเจ้าลองใช้ปากของเจ้าเข้าโลม
เลียทวนมังกรของข้าดูเสียสิ "
ทวนมังกร และร่องสวาทนั้นทั้งสองสิง่ นี้ล้วนเป็นสิง่ ที่เอาไว้ใช้ใน
การขับของเสียออกจากร่างกาย แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่เรื่อง
เหมาะสมแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นนางเองก็ยังคงได้รับการเล้าโลม
จากหลินหมิงอย่างไม่รังเกียจแต่อย่างใดแล้วนางจะสามารถปฎิเส
ธลงได้ ?
" ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เจ้าคะ "
หลินหมิงนอนหลังพิงกาแพงโดยมีร่างเปลือยเปล่าของจิวหลิน
อยู่ด้านข้างโดยที่ศรีษะของนางในตอนนี้กาลังจ่อเข้าใกล้ทวนมังกร
ของเขาเข้าไปทุกทีๆ กลิน่ หอมรัญจวนที่นางไม่เคยได้รับจากดอกไม้
ชนิดใดมาก่อนลอยล่องเข้าสู่โพร่งจมูกของนางทาให้ร่างกายของ
นางรู้สึกเบาสบาย
' กลิ่นทวนของท่านพี่ช่างหอมอะไรเยี่ยงนี้ '
มือทั้งสองข้างของนางเอือ้ มจับทวนมังกรของหลินหมิงอย่างไม่มี
ความรังเกียจ ด้วยขนาดทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้แม้ว่ามัน
จะเพิ่งผ่านศึกรบกับนางมาไม่นานแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีท่าทีอ่อน
กาลังลงได้เลยแม้แต่น้อย
" เจ้าเพียงใช้ลิ้นของเจ้าตวัดโลมเลียมันรอบ แล้วก็ลองดูดกลืน
น้าพวกนี้ลงไปเสียสิ "
จิวหลินที่หัวสมองกาลังขาวโพลนจากความเหน็ดเหนื่อยและ
ทวนมังกรของหลินหมิงตรงหน้าทาตามคากล่าวอย่างว่าง่าย ลิ้น
ของนางเข้าสัมผัสไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงที่มีคราบน้ารัก
เปราะเปรื้อนอยู่เต็มไปหมด เพียงสัมผัสจากลิ้นของนางในครั้งแรก
มันถึงกับทาให้ร่างกายของนางสั่นสะท้าน
' รสชาตินี้มันอะไรกัน !!! '
ด้วยรสชาติเช่นนี้แม้แต่อาหารหรูจากตระกูลหรือโอสถทิพย์
ต่างๆนางยังคงเชื่อว่าพวกมันเหล่านั้นก็คงไม่สามารถเทียบได้กบั น้า
รักของสามีนางตรงหน้านี้ จิวหลินทาการโลมเลียไปด้วยความ
กระหายเสียงดังจวบจาบเกิดขึ้นเนื่องจากนางพยายามที่จะดูดกลืน
ทวนมังกรของหลินหมิงไปเสียทั้งหมดแต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ไปมันจึง
ทาให้นางไม่สามารถนาทวนมังกรของหลินหมิงเข้าไปทั้งหมดได้
" เป็นเช่นไรบ้างน้องหญิงชอบมันหรือไม่ "
" เจ้าคะ ! "
จิวหลินนางอาจลืมไปเสียแล้วว่าความตั้งใจเดิมของนางคือการ
ทาให้หลินหมิงมีความสุขแต่ในตอนนี้นางกลับเป็นฝ่ายหาความสุข
อย่างเต็มที่จากทวนมังกรของหลินหมิงเสียแทน หากคนในตระกูล
เหยียนมาเห็นภาพนี้เขาพวกเขาคงได้ตื่นตระหนกทีค่ ุณหนูผู้
เรียบร้อยของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงเพียงนี้
สองวันผ่านไปหลินหมิงใช้เวลาภายในตระกูลเหยียนหากจะ
กล่าวให้ถูกคือภายในห้องของจิวหลินเสียส่วนใหญ่จะมีบ้างที่เขาจะ
ออกมากินข้าวและพบหน้าผู้อาวุโสจากสมาคมนักปรุงยาและ
ตระกูลเหยียน แน่นอนว่าเมื่อทางฝั่งตระกูลเหยียนได้เห็นใบหน้า
ของคุณหนูของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึง ! เดิมทีแม้ว่า
ด้วยคากล่าวของหลินหมิงที่ให้คามั่นว่าจะไม่ทาให้คุณหนูของพวก
เขาต้องลาบากแต่ถึงอย่างนั้นการที่คุณหนูของพวกเขาต้องแต่งงาน
กับบุรุษที่ไม่เคยพบหน้าแทบยังเป็นได้เพียงอนุทั้งทีเ่ กิดในตระกูลสูง
ศักดิ์อย่างตระกูลเหยียนเช่นนี้แล้วนางจะยังคงมีความสุขได้อีก ?
แต่ภาพตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้ก็คือภาพรอยยิ้มสดใส
เคียงคู่มากับหลินหมิงอย่างแนบชิ้น ผิวพรรณของนางดูเปล่งปลัง
และมีชีวิตชีวามากขึ้นมากว่าเมื่อก่อนจนพวกเขาแทบจะจาไม่ได้
อีกทั้งเมื่อพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังปราณในร่างกายของ
คุณหนูของพวกเขาที่ในตอนแรกมีเพียงจุดเริ่มต้นของระดับ 6
ปราณเริ่มต้นแต่ในตอนนี้มันกลับก้าวกระโดดไปสู่จุดสูงสุดของ
ระดับที่ 7 ภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น !!
ทั้งหมดนี้ย่อมไม่ใช่เกิดขึ้นจากตัวของนางเองอย่างแน่นอนเป็นที่
กันดีว่าแม้พลังของนางจะไม่อาจเรียกได้ว่าย่าแย่แต่ก็ไม่ได้ถึงกับ
ยอดเยี่ยมมันเป็นเพียงพลังระดับกลางๆเท่านั้นหากเทียบกับเหล่า
อัจฉริยะจากตระกูลใหญ่อื่นๆ อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้มีความฝักใฝ่ใน
หนทางการบ่มเพาะมากเสียเท่าใด ดังนั้นแล้วนี้อาจเป็นไปได้ว่า
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะสามีของนาง !!
ลาพังเพียงแค่การก้าวกระโดดก็เพียงพอที่จะทาให้ผู้อาวุโสทั้ง
สองฝ่ายตะลึงค้างแต่นี้ระดับพลังของจิวหลินยังคงเรียกได้ว่ามันมี
พื้นฐานที่ดีในระดับที่พวกเขาบางคนยังต้องอับอาย เทียบกับหลิน
เสี่ยวต้า หรือหลิวฉวนยูร์แล้วนางอาจจะยังเป็นรองอยู่บ้างเล็กน้อย
แต่นางมีข้อได้เปรียบตรงที่พลังพื้นฐานในร่างกายของนางนั้นมั่นคง
เป็นอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถประเมิณได้เลยว่าหากนางหันมา
สนใจวิถีการต่อสู้แล้วละก็นางจะสามารถก้าวหน้าไปได้ถึงเพียงใด

ตอนที่ 99
หลินหมิงใช้เวลาภายในตระกูลร่วมกับจิวหลินเป็นเวลา 5 วัน
เต็มโดยตลอดห้าวันที่ผ่านมานี้ไม่มีคนในตระกูลเหยียนคนใดที่มี
ความเคืองแคลงใจต่อหลินหมิงอีกต่อไป ด้วยการที่คุณหนูของพวก
เขาดูเหมือนว่านางจะได้รับความสุขเสียยิ่งกว่าความสุขอื่นใดที่นาง
ได้รับมาทั้งชีวิตนี้นั้นคือสีหน้าของจิวหลินที่ผู้คนภายในตระกูลเห
ยียนสามารถเห็นได้ชัด ไม่เพียงเท่านั้นเด็กหนุ่มผู้นี้คือผู้ที่มอบ
ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ให้กับคุณหนูของพวกเขาอีกด้วย
ข่าวการที่คุณหนูตระกูลเหยียนอย่างจิวหลินได้เป็นอนุของ
หลินหมิงได้ถกู แพร่กระจายไปอย่างกว้างขว้างพร้อมกับข่าวเรื่อง
ของการที่หลินหมิงสามารถโค่นผู้ที่มีพลังปราณระดับก่อเกิดระดับ 5
ลงได้เพียงชั่วพริบตา หากเป็นปกติแล้วนี้คงเป็นความอับอายอย่าง
ที่สุดของตระกูลเหยียนทีต่ ้องพ่ายให้กับเด็กหนุม่ วัย 15 ปีภายใน
ตระกูลตนเองเพียงแต่ว่าหลินหมิงในตอนนี้นับได้วา่ เป็นส่วนหนึ่ง
ของพวกเขาไปแล้วเช่นเดียวกัน
ดังนั้นแล้วไม่เพียงแต่จะไม่ปิดบังตระกูลเหยียนกลับเป็นผู้
แพร่กระจายข่าวนี้ไปด้วยเสียเองอีกต่างหาก เมื่อหวนนึกถึงการ
กระทาต่างที่ผ่านมาหลินหมิงไม่คาดคิดเลยว่าตระกูลหลินจะยังคง
นิ่งเฉยกับสถานการณ์ในตอนนี้เดิมทีแล้วหลินหมิงกลับปราถนาเสีย
อย่างเต็มที่ว่าพวกเขาอาจก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายให้กับสมาคม
นักปรุงยาเสียอีก เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้วทุกอย่างคงเข้าทางเขา
พอดี
ด้วยขุมกาลังของสมาคมนักปรุงยาในตอนนี้อาจเรียกได้ว่า
เพียงพอกับการต่อกรตระกูลหลินหรือแม้กระทัง่ แข็งแกร่งยิ่งกว่า
ดังนั้นแล้วมันจึงเหลือเพียงเหตุจูงใจที่ทาให้ขุมอานาจทั้งสองเข้า
ปะทะกันแต่น่าเสียดายทีด่ ูเหมือนว่าตระกูลหลินจะยังคงไม่ให้ความ
สนใจกับเรื่องของเขามากเท่าใด ?
' ทั้งๆที่หลินฮ่าวล่วงรู้ตัวตนของข้าแล้ว แต่เขากลับไม่ลงมือทา
อะไร... '
นี้คือความเป็นจริงที่น่ากังวลสาหรับหลินหมิงมากทีส่ ุดในส่วน
ของเหล่าอัจฉริยะอย่างลูกพี่น้องของเขาทั้งหลายนั้นพวกเขา
เหล่านั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของหลินหมิงอีกต่อไปลาพังเพียงแค่ผู้ที่มี
ระดับพลังระดับ 5 ขั้นก่อเกิดก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของเขานับประสา
อะไรกับผู้ที่มีพลังยังไม่ถึงระดับก่อเกิด
หลินหมิงกาลังนั่งอยูภ่ ายในหอฝึกส่วนตัวที่อาจารย์สาวสวยได้
สร้างมันไว้ให้สาหรับหลินหมิงเพียงผู้เดียวโดยเฉพาะ ในช่วงเวลา
หนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาแม้ว่าระดับพลังของหลินหมิงจะยังคงไม่
พัฒนาขึ้นมาเพียงแต่ว่าในด้านทักษะของเขากลับเติบโตอย่าง
รวดเร็วแทน ตามการคาดเดาของหลินหมิงแล้วนั้นยิ่งระดับพลัง
ของเขาแข็งแกร่งมากเพียงใดการที่จะพัฒนาก้าวสู่ขอบเขตใหม่นั้น
เขาก็จาเป็นที่จะต้องมีการร่วมรักกับหญิงสาวที่มีความแข็งแกร่ง
และหากพวกนางยังคงมีความบริสุทธ์นั้นจะทาให้เขาได้รับ
ผลประโยชน์อย่างมากทีส่ ุด
โดยในตอนนี้แม้ว่าหลินหมิงจะผ่านการร่วมรักกับจิวหลินมาแต่
ระดับพลังของเขาก็ยังคงที่อยู่ที่จุดสูงสุดปราณก่อเกิดระดับ 7
เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าหากตัวเขาต้องการที่จะพัฒนาก้าวสู่ขอบเขต
ใหม่เขาจาเป็นจะต้องทาการร่วมรักกับหญิงสาวทีม่ ีพลังระดับ
มากกว่าเขาเป็นอย่างน้อย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หาจะหญิงสาว
ที่มีพลังระดับแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น
ในตอนนี้ทักษะ [ ก้าววายุ ] ของหลินหมิงได้รับการพัฒนาอย่าง
ต่อเนื่องแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะว่าหลินหมิงนั้นมีการเรียนรู้ที่
เหนือกว่าคนทั่วไป แต่มันเป็นเพราะว่าเขาได้รับการชี้แหนะจาก
อาจารย์สาวสวยของเขาที่ดูเหมือนว่านางจะเอาใส่ใจเขาเป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงยังคงได้รับคาชี้แนะจากผู้อาวุโสฟางซิ่นอีก
ด้วย แน่นอนว่าสาหรับหญิงสาวสองคนนี้พวกนางทั้งสองล้วนเป็น
อาจารย์ที่เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายได้แต่ใฝ่ฝันแต่ในตอนนี้เท่ากับว่า
หลินหมิงได้รับการสั่งสอนจากพวกนางทั้งสองคนพร้อมกันแล้วมี
หรือที่การพัฒนาของเขาจะเป็นไปอย่างเชื่องช้าไปได้ ?
ทันใดนั้นหลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงเท้าของคนที่เข้ามา
ภายในหอฝึกนี้ สาหรับหอฝึกแห่งนี้นั้นมีไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้
สามารถเข้ามาได้ แม้กระทั่งผู้อาวุโสอื่นก็ไม่ใช่สทิ ธ์ที่จะใช่สถานที่
แห่งนี้ในการฝึกตน ริมฝีปากของหลินหมิงเผยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส
พร้อมกับยกเลิกการทาสมาธิในทันที
" ข้าแทบจะอดใจรอที่จะเจอเจ้าไม่ไหว หากไม่ใช่เพราะว่าท่าน
อาจารย์สั่งห้ามไม่ให้ออกนอกเมืองแล้วละก็ข้าคงออกไปตามหาเจ้า
เสียนานแล้ว "
เรือนร่างของสตรีทีแสนคุ้นเคยปรากฎสู่สายตาของหลินหมิง
ร่างของหญิงสาววัยสดใสที่ราวกับว่าเป็นประติมากรรมชั้นยอดจาก
สรวงสวรรค์ แม้ว่านางจะเป็นเพียงหญิงสาววัย 14 แต่ความงดงาม
ของนางก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่ได้เป็นรองใครเลยแม้แต่น้อย กระทั่งไม่
แน่ว่าหากเมื่อนางเติบโตขึ้นกว่านี้อีกเพียง 2-3 ปี นางอาจได้ครอง
ตาแหน่งสาวที่งามที่สดุ ในเมืองแห่งนี้ไปก็ย่อมได้
" ฮึ่ม...เจ้าตัวร้ายไม่ใช่ว่าเจ้าคงหลงลืมข้าไม่แล้วหรอกหรือ ? ได้
ข่าวมาว่าเจ้าได้ตบแต่งอนุงามเช่นคุณหนูตระกูลเหยียนแล้ว เช่นนี้
ข้าจะยังคงอยู่ในสายตาของเจ้าอีก ? "
หลินหมิงอมยิ้มเล็กน้อยให้กับคากล่าวของหญิงสาวที่เอาแต่ใจผู้
นี้ นางไม่ใช่ใครอื่นใดนอกเสียจากคุณหนูผู้เอาแต่ใจแห่งตระกูลหลิว
หลิวฉวนยูร์ ไม่เพียงแต่นางจะมีความงามที่นางประทับใจสาหรับ
หลินหมิงแต่นางอาจกล่าวได้ว่านางเป็นเพียงสตรีเพียงคนเดียวที่
มอบความรักให้กับเขาโดยที่นางยังไม่เคยได้รับการร่วมรักกับเขา
เลยแม้แต่น้อย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้หลังจากที่หลินหมิงได้กลับมาจาก
ทาภารกิจพร้อมกับผู้อาวุโสฟางซิ่นเขาไม่ได้พบเจอหน้านางเลย
เนื่องจากนางออกไปทาภารกิจพร้อมกับผู้อาวุโสซูหลิ่ง แม้ว่าหลินห
มิงจะไม่รู้ว่าพวกนางออกไปทาภารกิจใดแต่มันคงไม่ใช่ภารกิจ
ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะว่าไม่เพียงแต่มันจะใช้เวลานานหลาย
เดือนแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาในตอนนี้คือแม่สาวน้อยผู้เอาแต่ใจคนนี้
กลับมีพลังปราณที่ก้าวกระโดดจนมาถึงจุดสูงสุดพลังปราณเริ่มต้น
ระดับ 8 เสียแล้วจากเดิมที่นางอยู่ในจุดสูงสุดของระดับ 7 การก้าว
ข้ามระดับ 1 ขั้นเต็มภายในช่วงเวลาไม่กี่เดือนนีน้ ับได้ว่าเป็นเรื่องที่
น่าตกใจยิ่ง แม้ว่ามันจะไม่สามารถนาไปเปรียบกับการพัฒนาของ
ตัวเขาเองได้ก็ตามที่
หลินหมิงเดินเข้าไปหาร่างของหลิวฉวนยูร์พร้อมกับโอบกอดนาง
อย่างอบอุ่นสาหรับหลิวฉวนยูร์แล้วนั้นนางได้มอบหัวใจของนางให้
หลินหมิงไปแล้ว และนางก็ยังคงรู้ดีว่าหลินหมิงคงไม่ได้มีสตรีเพียง
แค่นางคนเดียวอย่างแน่นอนในอนาคตซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่อง
ธรรมดาสาหรับบุรุษอยู่แล้ว แล้วยิ่งสาหรับหลินหมิงที่มี
ความสามารถเพียงพอที่จะกล่าวอ้างได้ว่าเขาคือรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยม
ที่สุดในเมืองหรือกระทั่งในอาณาจักรแห่งนี้
" เช่นนั้นพวกเราไปที่ตระกูลเจ้าตอนนี้เลยดีไหม...ไม่สิข้าอาจ
ต้องไปบอกกล่าวเรื่องนี้กบั ท่านอาจารย์และผู้อาวุโสซูหลิ่งเสียก่อน
"
หลินหมิงรู้ดีว่าแม่สาวน้อยคนนี้คงไม่ได้โกรธเคืองเขามากนัก
เนื่องจากว่านางไม่ได้มีท่าทีปฎิเสธเขาแต่อย่างใด สาหรับหลิวฉวน
ยูร์แล้วนั้นนางเพียงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่นางไม่ได้ตบแต่งเป็นสตรี
คนแรกของหลินหมิง ในตอนแรกนางตั้งใจว่าจะแสดงท่าทีเอาแต่ใจ
อย่างถึงที่สุดเพื่อเป็นการสั่งสอนหลินหมิงเสียบ้าง เพียงแต่ว่าไม่รู้
ด้วยเหตุใดเมื่อยามที่นางได้อยู่ภายในอ้อมกอดของหลินหมิงเช่นนี้
แล้วความคิดเหล่านั้นพลันหายสิ้นไปในทันที
" ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ หาก
ข้าไม่ได้มาเห็นกับตาเช่นนี้แม้แต่ข้าก็คงไม่สามารถเชื่อได้... "
" แล้วเจ้ารู้หรือเหตุใดข้าถึงได้พัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดเช่นนี้
"
ร่างขอบหลิวฉวนยูร์ถูกอ้อมกอดอย่างแนบแน่นยิ่งกว่าใบหน้า
ของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ นางรู้สึกมีความสุขเป็นอย่าง
มากที่ได้เห็นการพัฒนาอันน่่าตื่นตะลึงเช่นนี้ของหลินหมิง แน่นอน
ว่ามันย่อมเพียงพอให้บรรดาผู้อาวุโสหรือกระทั่งบิดาของนางต้อง
ครุ่นคิด ด้วยการที่แต่นางนั้นได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของหลินชูแต่นั้น
เป็นสิ่งที่นางไม่ได้ยอมรับมาตั้งแต่ต้นและนางก็ปฎิเสธอย่างเรื่อยมา
แล้วหากในตอนนี้นางเผยความสัมพันธ์ของนางกับหลินหมิงให้กับ
บิดาของนางรู้แล้วไม่ใช่ว่าพวกเขาคงยินดีที่จะยกเลิกเรื่องหมั้นของ
นางไปในทันทีหรอกหรือ ?
" เจ้าจาได้หรือไม่....ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าหากข้าสามารถ
พัฒนาตนมาได้จนถึงในระดับที่น่าตกตะลึงไม่ว่าสิ่งใดเจ้าก็จะ
ยินยอมทาตามอย่างไม่มขี ้อแม้... "
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิวฉวนยูร์รีบนาใบหน้าซุกลงไปทีแ่ ผงอกของ
หลินหมิงอย่างเอียงอาย แน่นอนว่านางสามารถจาคากล่าวของนาง
ที่ได้กล่าวออกไปได้ เพียงแต่ว่าในตอนนั้นนางไม่คาดฝันว่าหลินห
มิงจะสามารถพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

ตอนที่ 100
หลิวฉวนยูร์ที่แต่เดิมนางมีลักษณะของสตรีอันสูงศักดิ์ด้วย
ความสาเร็จในวัยเพียงเท่านี้ของนางทุกคนไม่สามารถประเมิณได้
เลยว่าในอนาคตน่าจะประสบความจาเร็จมากเพียงใด ไม่แน่ว่านาง
อาจกลายมาเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งและมีความสามารถดั่งเช่นจูห
นิงเอ๋อร์ หรืออาจกระทั่งเหนือกว่านั้นเพียงแต่ว่าในตอนนี้หญิงสาว
ผู้นี้กลับมีท่าทีผดิ ไปราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
หลิวฉวนยูร์ในอ้อมกอดของหลินหมิงในตอนนี้นางเหมือนกับลูก
กระต่ายน้อยอันแสนน่ารักที่ไร้เขี้ยวพิษใดๆ ผิดกับตอนที่นางไม่ได้
อยู่ต่อหน้าหลินหมิงโดยสิน้ เชิง สาหรับบุรุษโดยทั่วไปแล้วหากพวก
เขาคาดหวังว่าจะได้รับโอกาสเช่นนี้ดั่งเช่นหลินหมิงพวกเขาคงไม่
สามารถแม้แต่นาไปฝันได้เพราะพวกเขาคงไม่สามารถจินตนาการ
ถึงภาพเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน ขนาดคู่หมั้นของนางหลินชูยังมีโอกาส
พบนางเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
" งั้นข้าก็สามารถ...ขออะไรเจ้าในตอนนี้ได้เลยสินะ "
หลินหมิงก้มลงกระซิบข้างหูของหลิวฉวนยูร์ด้วยน้าเสียงเจ้าเล่ห์
ทาให้ร่างกายของนางสั่นไหวเล็กน้อยในตอนนี้หากหลินหมิงกล่าว
คาขอสิ่งใดกับนางมีหรือที่นางจะปฎิเสธลงได้ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคา
กล่าวของนางในก่อนหน้านี้เพียงแต่ว่าหากนางปฎิเสธไปแล้ว นาง
เป็นกังวลว่าจะทาให้หลินหมิงไม่พอใจเสียมากกว่า
" ข้าเพียงล้อเจ้าเล่นเท่านั้น...ฮ่าๆ "
" เอ๊ะ ! "
หลิวฉวนยูร์เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงมันทาให้นางพลัน
เกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นมาโล่งใจ โกรธเคือง หรือกระทั่ง
เสียดาย
" เจ้าตัวร้า.....อื้มมม~~~~~~~~~~~~ "
ไม่ทันที่นางจะได้กล่าวว่าตอบโต้หลินหมิงสัมผัสริมฝีปากของ
เขาได้ประกบเข้ากับริมฝีปากของนางอย่างร้อนแรงแม้ว่านางจะ
เป็นเพียงหญิงสาวบริสุทธ์และยังคงเยาว์วัยแต่นางเคยได้รับ
ประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้วจากหลินหมิง ดังนั้นแล้วนางจึง
สามารถรับมือกับเขาได้ดพี อสมควร มือทั้งสองข้างของนางเริ่ม
เคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณเข้าเคลื่อนที่สอดเข้าไปใต้วงแขน
และกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้อย่างแนบแน่น
ลิ้นของหลินหมิงกาลังเข้าผัวพันลิ้นของหลิวฉวนยูรอ์ ย่างเร้า
ร้อนแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยงั คงรู้สึกแปลกใจไปไม่ได้ที่แม่สาว
น้อยเอาแต่ใจผู้นี้ยังคงตอบสนองเขาได้ดีถึงเพียงนี้
การจูบอันแสนเร้าร้อนดาเนินไปอย่างยาวนานท่ามกลางอารมณ์
ความรู้สึกของทั้งสองที่เอ่อล้นออกมา จนกระทั่งเป็นทางฝ่ายหลิวฉ
วนยูร์ที่เริ่มรู้สึกหายใจติดขัดนางจึงค่อยๆผลักตัวออกจากหลินหมิง
ด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
" ขะ...ข้าต้องกลับไปหาท่านอาจารย์แล้ว..."
เสียงของหลิวฉวนยูร์เต็มไปด้วยความตะกุตะกักในตอนนี้นาง
เริ่มไม่มีความมั่นใจแล้วว่าหากนางได้อยู่ใกล้ชิดกับหลินหมิงเช่นนี้
ต่อไปอีกไม่แน่ว่าอาจเป็นนางเองที่ทนความรู้สึกทีม่ ีในภายในไม่ไหว
เสียก่อน
" สาหรับคาขอของข้านั้นเอาเป็นว่าข้าขอให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้า
ตลอดไป.... "
คากล่าวขอหลินหมิงที่ส่งผ่านออกมาในจังหวะที่หลิวฉวนยูร์
กาลังวิ่งจากไปร่่างของนางหยุดชะงักเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่
ปรากฎขึ้นที่ริมฝีปากโค้งงาม
แม้ว่าจะหลินหมิงจะยังคงอยากใช้เวลาร่วมกับหลิวฉวนยูร์ต่อ
อีกสักเล็กน้อยเพียงแต่ว่ามันคงไม่ดีนกั หากเขาทาอะไรตามใจกับ
นางจนมากเกินไป เพราะถึงอย่างไรเสียสาหรับแม่สาวน้อยผู้นี้นั้น
เห็นได้ชัดว่านางมีใจให้เขาอยู่ไม่ใช่น้อยและมันคงเป็นเรื่องของเวลา
เท่านั้นที่นางจะตกเป็นของเขา
วันเวลาผ่านไปอย่างสงบสุขจนกระทั่งใกล้ถึงช่วงเวลาของงาน
ประลองรุ่นเยาว์ภายในเมือง ในตอนนี้เหลือเวลาเพียง 3 วันก่อนที่
งานประลองจะเริ่มต้นขึ้น ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยความคึกคัก
อย่างเห็นได้ชัดเพราะว่ามันไม่ใช่งานประลองธรรมดาทั่วไป มันเป็น
งานประลองที่รุ่นเยาว์จากหลากหลายขุมอานาจต่างมาร่วมตัวกัน
เพื่อแสดงศักยภาพของตนเพื่อหวังเข้าสู่สานักภายในเมืองหลวง
หรือกระทั่งเหล่ารุ่นเยาว์ที่ไม่ได้สังกัดตระกูลใหญ่หรือสานักใหญ่
อื่นๆพวกเขาก็ยังคงมีความหวังว่าอย่างน้อยความสามารถของพวก
เขาอาจพอเข้าตาผู้อาวุโสจากทางเมืองหลวงบ้าง เพราะว่าในงาน
ประลองครั้งนี้แน่นอนว่ามันเป็นงานประลองที่อาศัยทักษะการต่อสู้
ดังนั้นแล้วระดับพลังจึงเป็นเรื่องสาคัญเพียงแต่ว่าหากพวกเขา
สามารถแสดงความสามารถอย่างอื่นขึ้นมาจนสามารถเรียกความ
สนใจจากบรรดาผู้อาวุโสได้ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีหนทางในการ
เข้าร่วมสานักเลยเสียทีเดียว
ภายในสมาคมนักปรุงยาหลินหมิงและเหล่าผู้อาวุโสจานวนมาก
กระทั่งอาจารย์สาวสวยของเขาต่่างมารวมกันที่ห้องโถง สาหรับ
ข่าวการพัฒนาอันน่าตกตะลึงของหลินหมิงนั้นไม่เพียงแต่มันจะเป็น
ข่าวที่สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองแห่งนี้กระทั่งภายในเมืองหลวงบรรดา
เหล่าผู้อาวุโสก็แทบไม่อยากเชื่อเมื่อได้ยินข่าวเช่นนี้ แต่เมื่อพวกเขา
ได้ยินผลงานของหลินหมิงที่ม่ ่ไ เพียงแต่สามารถเอาชนะผู้ที่มีพลัง
ปราณก่อเกิดได้ถึง 2 คนและหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้ที่มีพลังปราณก่อ
เกิดระดับ 5
หากเป็นชัยชนะในครั้งแรกพวกเขายังอาจพอเข้าใจได้ว่าอาจ
เป็นเพียงข่าวลือที่สร้างขึ้นแต่มันกลับมีครั้งที่สองเกิดขึ้น และที่
สาคัญที่สุดก็คือการที่พวกเขาได้ยินจากผู้อาวุโสชั้นสูงจากสานักที่
เป็นคนรายงานเรื่องนี้เองมันจึงทาให้ไม่มีความข้องเคืองใจอีกต่อไป
...
" ผู้อาวุโสจากเมืองหลวงเดินทางมาถึงแล้วเจ้าคะ "
ร่างของหญิงสาวทั้งห้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันแข็งแกร่งเพียง
พอที่จะทาให้ทุกคนสั่นไหวไปชั่วขณะโดยเฉพาะหญิงสาวที่อยู่ตรง
กลาวความแข็งแกร่งของนางอาจเรียกได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับ
ประมุขของพวกเขาเลยทีเดียว อีกทั้งหญิงสาวสี่คนที่เหลือแม้ว่า
พวกนางจะมีความแข็งแกร่งที่น้อยกว่าพอสมควรเพียงแต่ว่าเมื่อดู
จากใบหน้าและวัยของพวกนางแล้วผู้อาวุโสบางคนกลับเกิด
ความรู้สึกอายขึ้นมา
ใบหน้าของผู้อาวุโสทุกคนภายในตระกูลเต็มไปด้วยความยินดี
พวกเขารู้ดีว่าไม่ง่ายนักที่ผู้อาวุโสจากเมืองหลวงจะเดินทางมาเช่นนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะรับหลินหมิงเข้าสู่เมือง
หลวงโดยเร็วทีส่ ุดสาหรับการประลองที่ถูกจัดขึ้นนั้นแน่นอนว่ามัน
ไม่มีปญ
ั หาใดๆกับหลินหมิงเลยแม้แต่น้อยอาจกล่าวได้ว่าแม้ว่าตัว
ของหลินหมิงจะไม่เข้าทาการประลองเขาก็ยังคงได้สิทธ์ที่จะเข้าร่วม
สานักอยู่ดี
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นแตกต่างจากบรรดาผู้อาวุโสคนอื่น
อย่างเห็นได้ชัด นี้เป็นอีกครั้งที่จูหนิงเอ๋อร์รู้สึกแปลกใจที่ผู้อาวุโส
ฟางซิ่นมาเข้าร่วมการต้อนรับเช่นนี้ ผู้อาวุโสฟางซิ่นเมื่อได้เห็น
ใบหน้าของบรรดาผู้อาวุโสจากเมืองหลวงใบหน้าของนางกระตุก
ด้วยความไม่พอใจ แน่นอนว่าผู้อาวุโสจากเมืองหลวงทั้งห้าคนนี้
ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากกลุ่มของฟ่งซือเซียนัน้ เอง
กำเนิดเทพมำร
ตอนที่ 101
ฟ่งซือเซียนมองมาที่หลินหมิงด้วยสีหน้าหวานเยิ้มไม่ต่างจากกลุ่ม
หญิงสาวของนางที่เหลือทั้งสี่คน แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นที่น่าสงสัยแต่
อย่างใดในสายตาของคนทั่วไปแล้วนั้นพวกเขาคิดเห็นเพียงแค่ว่าเหล่า
ผู้อาวุโสของเมืองหลวงเพียงต้องการตรวจสอบความแข็งแกร่งที่แน่ชัด
ของหลินหมิงเพียงเท่านั้น
อันที่จริงแล้วหลังจากที่กลุ่มของฟ่งซือเซียนได้จากหลินหมิงมา
แน่นอนว่าพวกนางพยายามหาทุกวิธีทางเพื่อที่จะได้ไปหาหลินหมิง
โดยเร็วที่สุด หากไม่ติดตรงที่ว่าภายในสานักนั้นได้มีการฉลองในการ
พัฒนาอันน่าเหลือเชื่อของนาง ไม่เช่นนั้นแล้วหลังจากที่นางเดินทาง
กลับไปยังสานักเพื่อรายงานภารกิจนางคงรีบพุ่งทะยานมาหาหลินหมิง
ในทันที
สาหรับพลังของนางที่ตอนนี้อยู่ในขั้นปราชญ์และเหล่าหญิงสาวที
เหลือทุกคนล้วนอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้น 2 พร้อมกับพื้นฐานของพลังที่
น่าตื่นตะลึง ด้วยพลังของนางแม้จะยังคงมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เป็น
จานวนไม่ใช่น้อยแต่มีหรือที่พวกเขาเหล่านั้นจะสามารถก้าวข้ามสู่
ระดับปราญช์ได้ด้วยวัยเพียงเท่านี้ ? ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่
อย่างใดที่จะมีบรรดาเหล่าผู้อาวุโสมากหน้าหลายตาพยายามเอาอกใจ
นางกระทั่งผู้อาวุโสระดับปราชญ์เช่นเดียวกันเองบางคนยังคงแสดง
ความเคารพต่อนาง
" ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดคุณชายผู้นี้ถึงได้มีความแข็งแกร่งได้
เพียงนี้ แท้จริงแล้วเป็นเพราะมีท่านเป็นอาจารย์ของเขานี้เอง....เห็นที
ว่าเมื่อใดที่ข้ามีบุตรหลานข้าคงต้องขอฝากฝังพวกเขากับท่านเอาไว้เสีย
แล้ว "
ฟ่งซือเซียนกล่าวยอกับจูหนิงเอ๋อร์ที่จริงแล้วนางรู้อยู่แล้วว่าจูหนิง
เอ๋อร์นั้นเป็นอาจารย์ของหลินหมิง เพียงแต่ว่านางแสร้งทาท่าทีราวกับ
ว่านางไม่เคยรับรู้สิ่งใดได้อย่างแนบเนียน
" ท่านก็กล่าวเกินไป ลาพังเพียงแค่ตัวข้านั้นมีความสามารถสอนสั่ง
ตัวเขาได้เพียงเต็มความสามารถเพียงเท่านี้ข้าจึงหวังว่าอย่างน้อยหาก
เขาได้เข้าร่วมสานักของท่านแล้วเขาคงมีโอกาสในการพัฒนามาก
ยิ่งขึ้น "
ฟ่งซือเซียนเข้าใจในความหมายที่แฝงอยู่ของจูหนิงเอ๋อร์ได้เป็น
อย่างดี สาหรับศิษย์ที่เหมือนกับหัวใจในอนาคตของสมาคมนักปรุงยา
เช่นนี้หญิงสาวผู้นี้ได้กล่าวเป็นเชิงให้นางดูแลศิษย์ของตนให้ดี
ยิ่ง แน่นอนว่าในความเป็นจริงแล้วหญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าฟ่งซือเซียน
ในตอนนี้ไม่ใช่คนที่อยู่ในระดับด้อยกว่านางแต่อย่างใดลาพัง
ความสาเร็จโดยส่วนตัวแล้วหญิงสาวผู้นี้อาจเรียกได้ว่ามากกว่านางเสีย
ด้วยซ้าไป อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวผู้นี้ก็ยังอยู่ในระดับปราชญ์
เช่นเดียวกันและยังคงมีความแข็งแกร่งมากกว่านางอีกเสียด้วยซ้าไป
ทั้งๆที่อายุของพวกนางไม่ต่างกันมากนัก
" เรื่องนั้นท่านย่อมไม่ต้องเป็นกังวลไปในตอนนี้คุณชายฮั่ว ( ฮั่ว
หมิง ชื่อปลอมที่หลินหมิงตั้งขึ้น ) มีความสาคัญไม่เพียงต่อสานัก
เท่านั้นกระทั้งเหล่าขุนนางและราชวงศ์ต่างๆก็ยังสนใจในตัวเขาไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าในอนาคตเขาย่อมเป็นกาลังที่สาคัญอย่างแท้จริงของ
อาณาจักรดังนั้นแล้วข้าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน "
บรรดาผู้อาวุโสภายในห้องโถงต่างแสดงสีหน้ายินดีอย่างปิดไม่
มิด ท้ายประโยคของฟ่งซือเซียนนางได้ส่งสายตาไปทางหลินหมิง
เล็กน้อยด้วยความสามารถสามีหนุ่มของนางผู้นี้เป็นที่แน่นอนว่าใน
อนาคตอันใกล้เขาคงกลายเป็นผู้ที่มีอานาจของอาณาจักรแห่งนี้ซึ่งมัน
อาจมากเสียยิ่งกว่านางเสียอีก
" อันที่จริงแล้วทางข้านั้นก็มีศิษย์ภายในสมาคมที่น่าสนใจอยู่อีก 2
คนหากท่านไม่รบกวนท่านจนเกินไปข้าจึงอยากขอให้ท่านได้ประเมิณ
พวกเขาสักเล็กน้อยได้หรือไม่ "
จูหนิงเอ๋อร์กล่าวออกมาแน่นอนว่าศิษย์สองคนที่ว่านี้ย่อมไม่ใช่ใคร
อื่นนอกเสียจากหลัวฉิงเชี่ยน และหลิวฉวนยูร์ โดยตัง้ แต่แรกนั้นจูหนิง
เอ๋อร์คาดหวังไว้ว่าฟ่งซือเซียนจะสามารถสังเกตุเห็นความสามารถของ
ทั้งสองคนนี้ได้ แน่นอนว่าสาหรับหญิงสาวทั้งสองคนนี้แม้หากเทียบกับ
หลินหมิงแล้วพวกนางอาจดูธรรมดาไปในทันที แต่นั้นเป็นเพราะว่า
ในตอนนี้หลินหมิงเปรียบดั่งสัตว์ประหลาดที่มีความสามารถที่น่ากลัว
จนเกินไปไม่มีรุ่นเยาว์คนใดที่สามารถนาไปเปรียบกับเขาได้
หากคิดเช่นนี้แล้วด้วยความสามารถของหลิวฉวนยูร์ และหลัวฉิง
เชี่ยนนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมหากหลินเสี่ยวต้าคือบุตรที่น่าภูมิใจของ
ตระกูลหลิน เช่นนั้นแล้ว แล้วหลิวฉวนยูร์ กับหลัวฉิงเชี่ยนล่ะ ? หลิน
เสี่ยวต้าสามารถก้าวสู่ปราณเริ่มต้น ขั้นสูงสุดระดับ 8 ด้วยอายุ 18 ปี
เต็ม แต่กลับหลิวฉวนยูร์แล้วนั้นนางในตอนนี้มีอายุเพียง 14 ปีแต่พลัง
ปราณของนางกับเทียบเท่าได้กับหลินเสี่ยวต้าที่มีอายุมากกว่าถึง 4 ปี
ยิ่งไปกว่านั้นคือนางยังคงมีความสามารถในการปรุงยาอีกด้วย
สาหรับหลัวฉิงเชี่ยนแน่นอนว่าพรสวรรค์ของนางค่อนข้างเป็นที่
เลืองลื่อเหตุผลด้วยที่ในตอนนี้นางจะมีอายุถึง 20 ปีแล้วแต่นางยังคง
ไม่เข้าร่วมสานักนั้นก็เพราะว่านางยังคงมีความเป็นห่วงตระกูลของนาง
อยู่หากในตอนที่นางจากไปเข้าเมืองหลวงแล้วบิดาของนางต้องเจอกับ
การเกลี่ยกล่อมจากเหยียนหยางในตอนที่นางไม่อยู่ไม่ใช่ว่าเมื่อนาง
กลับมาแล้วนางอาจต้องการเป็นภรรยาของใครอื่นโดยไม่รู้ตัว เพียงแต่
ในตอนนี้ปัญหาเหล่านั้นได้หมดสิ้นไปแล้วแน่นอนว่าแต่เดิมไม่ได้มี
เพียงเหยียนหยางเท่านั้นที่หมายปองนาง
แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นแล้วจะยังคงมีใครหน้าไหน
กล้าเข้ามายุ่งกับนางอีก ไม่เช่นนั้นแล้วตระกูลของพวกเขาอาจไม่ได้
โชคดีเหมือนตระกูลเหยียนที่ยังคงมีบุตรีที่สามารถประคองตระกูลเห
ยียนไม่ให้ล่มสลายลงไปได้
" โฮ่.....พลังก่อเกิดระดับ 3 ....ส่วนอีกคนพลังเริ่มต้นขั้น 8 ระดับ
สูงสุด...... "
อันที่จริงแล้วตั้งแต่ที่ฟ่งซือเซียนเข้ามานางแทบจะไม่ได้สนใจใคร
อื่นนอกเสียจากหลินหมิงและจูหนิงเอ๋อร์ อาจมีบ้างที่นางเหลือบมอง
ไปที่ร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นและแอบยิ้มเยาะในใจเล็กน้อย
" ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนางทั้งสองคนนี้เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ
โดยแท้จริง....แน่นอนว่าหากพวกนางต้องการเข้าร่วมสานัก
เช่นเดียวกันกับคุณชายฮั่ว พวกนางเองก็ไม่จาเป็นที่จะต้องเข้าร่วมการ
ประลองลาพังเพียงความสามารถเช่นนี้ก็นับได้ว่าเพียงพอ "
หลัวฉิงเชี่ยน และหลิวฉวนยูร์ต่างปลื้มปิติอยู่ในใจโดยเฉพาะหลิวฉ
วนยูร์ในตอนแรกนางมีความกังวลที่จะต้องแยกจากหลินหมิงเพียงแต่
ในตอนนี้มันคงไม่จาเป็นเสียแล้ว อันที่จริงแล้วน้อยคนนักที่มีอายุต่า
กว่า 18 ปีจะสามารถเข้าร่วมสานักได้พวกเขาต้องถูกเรียกได้ว่าเป็น
อัจฉริยะที่เหนืออัจฉริยะทั่วไป
" ข้ารบกวนพวกท่านมามากแล้ว พวกท่านคงเหนื่อยจากการ
เดินทางข้าได้ให้คนเตรียมที่พักไว้ให้กับพวกท่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "
จูหนิงเอ๋อร์นางเองก็ยังรู้สึกยินดีกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน รุ่นเยาว์ของ
ตระกูลหลินนั้นได้ขึ้นชื่อว่าอัจฉริยะแทบทุกคนเทียบกับสมาคมนักปรุง
ยาของนางแล้วมีเพียงหลินหมิงที่โดดเด่นกว่าใครอื่น ดังนั้นแล้ว
ในตอนนี้นางยังคงมีหลิวฉวนยูร์และหลัวฉิงเชี่ยนอีกทั้งพวกนางทั้งสอง
ยังคงได้รับการประเมิณอย่างยอดเยี่ยมจากผู้อาวุโสจากเมืองหลวงและ
สามารถเข้าร่วมสานักได้โดยไม่ต้องทาการประลองเช่นนี้แล้วมีหรือที่
นางจะไม่ยินดีกัน

ตอนที่ 102
ภายในหอฝึกตนที่จูหนิงเอ๋อร์ได้สร้างให้กับหลินหมิงนั้นมันไม่
เพียงแต่เป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยสภาพแวดล้อมอันเหมาะสมสาหรับ
การฝึกฝน กระทั่งสมบัติต่างๆที่สามารถส่งเสริมการพัฒนาของเขาได้
พวกมันได้ถูกจัดนามาไว้ภายในนี้ทั้งสิ้น ไม่เพียงแต่อาจารย์สาวสวย
ของเขาเท่านั้นกระทั่งเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นมีหรือที่พวกเขาจะไม่สนใจ
เด็กหนุ่มผู้มีอนาคตสดใสเช่นนี้ ? ดังนั้นแล้วแม้ว่ามันจะเป็นสถานที่ฝึก
ส่วนตัวของหลินหมิงเพียงคนเดียวแต่ทรัพย์สมบัติและขนาดของหอฝึก
นี้อาจเรียกได้ว่ามีค่ามากเสียยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติของผู้อาวุโสในสมาคม
บางคนเสียอีก
ไม่เพียงแต่มันจะเป็นสถานที่สาหรับฝึกฝนเท่านั้นด้วยขนาดที่กว้าง
ขว้างของสถานที่แห่งนี้มันจึงมีที่ว่างเหลืออยู่มากเพียงพอที่จะสร้าง
ห้องนอนสาหรับหลินหมิงได้อย่างสบาย อาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้หอฝึก
แห่งนี้เปรียบเสมือนตานักของหลินหมิงเลยก็ว่าได้
" ท่านพี่ ~~ กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ~~ "
เสียงหวานใสของหญิงสาวดังขึ้นมาเมื่อร่างของหลินหมิงได้เดินเข้า
มาภายในหอฝึกแห่งนี้ เสียงนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากเหยียนจิว
หลินที่ในตอนนี้นางได้ย้ายมาอาศัยกับหลินหมิงแล้ว ลาพังเพียงแค่ได้
ยินเสียงของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสดใสเช่นนี้มันเพียงพอที่จะ
สามารถฟื้นฟูความเหนื่อยล้าภายในจิตใจของบุรุษทั้งหลายให้หายไป
ในบัดดล หากเหล่าทหารของอาณาจักรได้มีโอกาสได้ยินเสียงของจิว
หลินเช่นนี้ในยามที่พวกเขากลับจากสนามรบ มันคงไม่มีทางที่
อาณาจักรแห่งนี้จะพ่ายแพ้ให้กับใครได้อีก
" ผู้เยาว์คารวะผู้อาวุโสเจ้าคะ "
จิวหลินถึงกับเขินอายไปในทันทีเมื่อนางสังเกตเห็นว่าในตอนนี้
หลินหมิงไม่ได้กลับมาเพียงคนเดียว ซึ่งหากเป็นปกติแล้วมันหากได้
ยากยิ่งที่จะมีผู้ใดเข้ามาในหอฝึกแห่งนี้ดังนั้นแล้วเมื่ออยู่ภายในหอฝึก
แห่งนี้นางจึงสามารถแสดงกริยาของภรรยาได้อย่างเต็มที่โดยไม่อาย
ใคร
ร่างของหญิงสาวอายุราวยี่สิบปีปลายๆสองคนที่เดินมาพร้อมกับ
หลินหมิงนั้นแม้ว่านางจะไม่รู้จักก็ตามที่แต่จากความแข็งแกร่งที่นาง
สัมผัสได้คร่าวๆนั้น สตรีสองคนนี้มีความแข็งแกร่งที่มากกว่าสามีของ
นางเสียอีก และด้วยการที่พวกนางทั้งสองสามารถเข้ามาภายในหอฝึก
แห่งนี้ได้โดยที่ผู้อาวุโสของสมาคมยังคงถูกห้ามเข้านั้นแสดงว่าพวกนาง
ทั้งสองย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
" ดะ...เดียวก่อนเจ้าคะ..ท่านพี่ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งสองอยู่ด้วยนะเจ้า
คะ.. "
หลินหมิงเดินเข้าไปรวบร่างของจิวหลินเข้าสวมกอดอย่างแนบแน่น
พร้อมกับมือของเขาที่เข้าเคลื่อนลูบไล้บริเวณบั้นท้ายของนาง หาก
เป็นปกติแล้วจิวหลินนางจะไม่มีทางปฏิเสธการกระทาของหลินหมิงอ
ย่างแน่นอน สาหรับคนในตระกูลเหยียนแล้วนั้นเมื่อพวกเขาได้รับรู้ว่า
คุณหนูของพวกเขาจะได้มีโอกาสย้ายเข้าไปอยู่ในตานักของหลินหมิงที่
ถูกสร้างไว้ด้วยสมบัติมีค่ามากมายที่เหมาะสมสาหรับการฝึกฝนเช่นนั้น
แล้วแม้ว่าคุณหนูของพวกเขาจะไม่ค่อยสนใจในเรื่องการต่อสู้เท่าไหร่
นัก
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยศักยภาพอันเหลือล้นของคุณชายฮั่วสามีของ
นางแล้วนั้นแน่นอนว่าอย่างน้อยคุณหนูของพวกเขาคงได้รับ
ผลประโยชน์มาไม่มากก็น้อย ลาพังเพียงแค่พวกเขาเข้าร่วมหอในวัน
คืนแรกของหนุ่มสาว ไม่กี่วันต่อมาคุณหนูของพวกเขาก็พบกับ
ความสาเร็จอันยิ่งใหญ่เสียแล้ว แล้วหากคุณหนูของพวกเขาได้รับการ
ฝึกฝนจากสามีนางที่มีความสามารถผิดมนุษย์แล้วนั้นไม่ใช่ว่านางอาจ
ได้กลายเป็นรุ่นเยาว์ที่มีความแข็งแกร่งอันดับสองก็ได้ไม่ใช่เช่นนั้นหรือ
?
แตกต่างกับจิวหลินนางไม่ได้มีความคิดในเรื่องทักษะการต่อสู้ตั้งแต่
แรกที่นางย้ายมาอยู่ในตานักของหลินหมิงนั้นมีเพียงประการเดียวด้วย
เหตุคือการที่นางจะได้อยู่ใกล้หลินหมิงและได้ปรนนิบัติหน้าที่ในฐานะ
ภรรยา เทียบกับการฝึกฝนอันแสนน่าเบื่อและทรมานแล้ว การร่วมรัก
กับสามีของนางไม่เพียงแต่จะมอบความสุขกับนางได้อย่างมากล้นแต่
มันกลับเป็นการพัฒนาพลังของนางอีกด้วยแม้ว่ามันอาจไม่สามารถ
เทียบได้กับในครั้งแรก แต่อย่างน้อยมันก็ยังคงกล่าวได้ว่าวิธีการนี้ย่อม
รวดเร็วกว่าความเร็วในการฝึกฝนทั่วไปแบบเทียบไม่ติดอยู่ดี
" น้องหญิงเหตุใดเจ้าถึงต้องอายกัน...ในเมื่อพวกนางทั้งสองนี้นับได้
ว่าเป็นพี่หญิงของเจ้า "
ร่างของหญิงสาวทั้งสองที่มาพร้อมกับหลินหมิงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอก
เสียจากหมิงเลี่ยนและหวางเฟย เหตุที่ในตอนนี้พวกนางไม่ได้อยู่กัน
ครบทั้งกลุ่มนั้นเป็นเพราะว่าหากหัวหน้าของพวกนางจะพักพ่อนอยู่ที่
สมาคมนักปรุงยานั้นมันอาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุที่ว่าใน
งานประลองครั้งนี้หัวหน้าของพวกนางนั้นถือได้ว่าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดที่
ทางเมืองหลวงส่งมาแล้วเช่นนั้นมันอาจเกิดเสียงวิจารณ์ได้ว่าทางเมือง
หลวงนั้นมีการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม
ถึงอย่างนั้นสาหรับพวกนางทั้งสี่ที่เหลือก็ไม่ต่างกันแต่ถึงอย่างนั้น
มันก็ยังพอมีเหตุผลที่จะทาให้พวกนางสักสองคนอยู่ที่กับหลินหมิงได้
ด้วยพรสวรรค์และความสามารถของหลินหมิงที่แสดงออกมา มันเพียง
พอที่จะทาให้บุคคลภายนอกรับรู้ได้ว่าทางเมืองหลวงนั้นอาจต้องการ
เพียงทดสอบความสามารถพร้อมกับสั่งสอนเด็กหนุ่มที่จะเป็นบุคคล
สาคัญในอนาคตของอาณาจักรเสียแต่เนิ่นๆ
" พี่หญิงหรือเจ้าคะ ? "
ไม่ว่าเปล่าร่างของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยเคลื่อนเข้าหาประกบ
แนบชิดพร้อมกับจูบริมฝีปาก ใบหน้าของจิวหลินเต็มไปด้วยความตื่น
ตระหนกในทันที การสร้างความไม่พอใจให้กับผู้อาวุโสจากเมืองหลวง
นั้นแม้ว่าพวกนางจะมีความแข็งแกร่งที่เป็นรองผู้อาวุโสภายในสามคม
หลายคนเพียงแต่ด้วยอายุและพรสวรรค์ของพวกนางนั้นเป็นสิ่งที่ไม่
อาจประเมิณค่าได้ เช่นนั้นแล้วสมาคมนักปรุงยาหรือกระทั่งตระกูลเห
ยียนก็อาจพบปัญหาได้
" ท่านพี.่ ..ข้าคิดถึงท่านเหลือเกินเจ้าคะ "
" ข้าเองก็แทบอดใจที่จะรอมาหาท่านไม่ไว้เลยเจ้าคะ "
เสียงของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยเป็นเครื่องบ่งชี้แสดงให้เห็นอย่าง
ชัดเจนว่าสตรีอาวุโสสองนี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับสามีของ ร่าง
ของหมิงเลี่ยงก้มโค้งลงมาพร้อมกับปลดเสื้อผ้าส่วนล่างของหลินหมิงอ
อกจนเผยให้เห็นทวนมังกรของขนาดใหญ่ ลิ้นของนางเข้าพัวผันกับ
ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างช่าชองเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้จิวหลินที่แม้
จะมีประสบการณ์กับหลินหมิงมาไม่น้อยนางยังรู้สึกทึ่งกับการ
เคลื่อนไหวที่สอดคล้องกันระหว่างหญิงสาวทั้งสองนี้ ลาพังตัวนางที่
เป็นสตรีเมื่อมองดูแล้วก็ยังคงรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่างแล้วหากเป็น
บุรุษพวกเขาคงได้ล้มนอนไปด้วยความสุขในทันที
ตอนที่ 103
" ที่แท้ท่านพี่และพวกพี่หญิงมีความสัมพันธ์กันเช่นนี้เอง นับเป็น
วาสนาของข้าโดยแท้ที่ได้นับญาติกับพี่สาวทั้งสอง "
หลินหมิงและหมิงเลี่ยนรวมถึงหวางเฟยได้อธิบายความสัมพันธ์
ระหว่างพวกเขาให้กับจิวหลินฟังโดยหมดสิ้น ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์
ระหว่างตัวของหลินหมิงกับกลุ่มสาวที่เหลือด้วยอาจเว้นไว้แต่เพียงผู้
อาวุโสฟางซิ่นที่พวกนางตั้งใจจะให้หลินหมิงเป็นคนตัดสินใจเอาเองว่า
จะบอกกล่าวหรือไม้
จิวหลินในตอนแรกนางรู้สึกกังวลในทันทีที่ได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์
เช่นนี้ ลาพังเพียงหนึ่งในหญิงสาวของกลุ่มผู้อาวุโสทั้งห้าคนนี้ก็เรียกได้
ว่างดงามไม่แพ้นางอีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งและอานาจที่มากกว่านาง
อย่างเห็นได้ชัด หากเป็นในตระกูลปกติที่บุรุษมักมีสตรีหลายเมียเช่น
ผู้อื่นแล้วนางอาจโดนกลั่นแกล้งหรือกระทั่งโดนสามีของนางเมินเฉยก็
เป็นได้ แต่กลับกันเหล่าผู้อาวุโสสาวทั้งสองไม่เพียงแต่จะไม่พอใจพวก
นางกลับแสดงสีหน้าสดใสต้อนรับนางด้วยรอยยิ้มสดใส เมื่อหวนคิดถึง
บทเพลงร่วมรักอันเร้าร้อนของสามีนางนางก็พอจะเข้าว่าสตรีข้างกาย
ของสามีนางนั้นคงไม่มีวันทะเลาะกันเนื่องจากขาดความสุขอย่าง
แน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้นางตัดสินใจที่จะให้ผู้อาวุโสสาวทั้งสองได้ใช้เวลา
ร่วมกับหลินหมิงอย่างเต็มที่อย่างไรเสียในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เป็น
นางเพียงคนเดียวที่รับมือกับท่วงทานองรักของสามีจนแทบจะลุกไม่
ไหวอยู่แล้ว
" ฮิฮิ..ช่างเป็นน้องหญิงที่น่ารักเสียจริงนะเจ้าคะ.. "
หวางเฟยกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเย้ายวนอย่างเต็มที่เดิมทีแล้ว
ภายในกลุ่มของหญิงสาวทั้งห้าคนนางขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้ที่เกลียดบุรุษ
มากที่สุดคนหนึ่ง กระทั่งในตอนที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิงไปแล้วนาง
ยังคงหวังเพียงความสาเร็จในหนทางการต่อสู้เพียงแต่ว่าเมื่อผ่านการ
ร่วมรักไปมากยิ่งขึ้นภายในใจของนางกลับแปรเปลี่ยน หากแม้
ในตอนนี้การร่วมรักของนางและสามีหนุ่มของนางจะทาให้นางอ่อนแอ่
ลงนางก็จะไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
เรือนร่างของสาวงามทั้งสองที่งดงามสียยิ่งกว่าในตอนแรกที่หลินห
มิงได้พบเจอกับนาง เห็นได้ชัดว่าพวกนางคงจัดเตรียมร่างกายมาเพื่อ
วันนี้โดยเฉพาะ ภายในห้องนอนร่างของหญิงสาวทั้งสองนอนขนาบ
ข้างหลินหมิงพร้อมกับโลมเลียร่างกายเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงอย่าง
โหยหา เสื้อผ้าของหญิงสาวทั้งสองค่อยๆถูกปลดออกโดยตัวของพวก
นางเองเพื่อที่จะให้ร่างกายได้สัมผัสแนบชิดกับร่างกายของหลินหมิง
" ท่านพี่ได้โปรดใส่มันเข้ามาภายในตัวข้าเถอะเจ้าคะ.. ข้าแทบจะ
อดใจรอไม่ไหวแล้วเจ้าคะ "
ร่างของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยที่กาลังนอนถ่างขาออกเพื่อรอรับ
ความสุขจากสามีคนเดียวกันของพวกนาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใน
ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานี้พวกนางจะต้องอดทนมากเพียงใด
เพียงแค่คาคื่นใดที่พวกนางหวนนึกถึงบทเพลงอันเร้าร้อนของพวกนาง
และหลินหมิงแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะสามารถข่ม
ตาหลับลงได้
" ไม่ใช่ว่าพวกท่านกล่าวว่าจะมาหาข้าโดยเร็วเช่นนั้นรึ....เช่นนี้แล้ว
ข้าคงต้องลงโทษพวกท่านเสียบ้าง "
" ซี๊ดดดด ท่านพี่ ~~~~~~ / อ้าาา~~~~~~~~~ "
ลิ้นของหลินหมิงเข้าจู่โจมร่องสวาทสีชมพูดสดของพวกนางสลับกัน
ไปมา แม้ว่านี้จะไม่ใช่ทวนมังกรตามที่พวกนางหวังไว้ แต่ลาพังเพียง
บทเพลงเล้าโลมของสามีของพวกนางก็เพียงพอที่จะทาให้ร่างกายของ
พวกนางทั้งสองสั่นสะท้านไปด้วยความเสี่ยวซ่าน
" ขะ..ข้าผิดเองเจ้าคะ...ที่ไม่สามารถรีบมาหาท่านได้...โดยเร็วได้
โปรดลงโทษพวกเราเลยเจ้าคะ "
สาหรับหมิงเลี่ยนและหวางเฟยแล้วนั้นแม้ว่าสิ่งนี้จะถูกหลินหมิ
งเรียกว่าบทลงโทษแต่สาหรับพวกนางแล้วนั้นมันไม่ต่างอะไรจาก
ของขวัญล้าค่า ในขณะที่กาลังถูกโลมเลียบริเวณร่องสวาทอยู่นั้นมือ
ของหลินหมิงได้เข้าลูบไล้ที่บริเวณต้นขาเรียวงามของพวกนางทั้งสอง
จนร่างกายของพวกนางรู้สึกอ่อนระทวยภายในช่วงเวลาไม่นานน้ารักที่
อัดอั้นมานานนับเดือนได้ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นจานวนมากภายใน
ชั่วเวลาอึดใจเดียว
ทวนมังกรของหลินหมิงได้ตั้งผงาดขึ้นพร้อมพิชิตพวกนางทั้งสอง
เป้าหมายแรกของเขานั้นก็คือหมิงเลี่ยนสาวน้อยผู้เสียความบริสุทธ์
เป็นให้กับเขาเป็นคนแรกในกลุ่ม ทวนมังกรของหลินหมิงถูกอัด
กระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง
" อ้าาา~~~~~~~ สะ...สุดยอดไปเลยเจ้าคะ อะ อะ อ้าาา~~~~~
"
เสียงครางสนั่นของหมิงเลี่ยนดังไปทั่วห้องพร้อมกับใบหน้าของนาง
ที่แสดงสีหน้าพึงพอใจออกมาอย่างขีดสุด สาหรับจิวหลินแล้วนั้นหาก
หลินหมิงลงมือทาการร่วมรักด้วยบททานองรุนแรงเช่นนี้นางคงไม่
สามารถยืนระยะร่วมรักกับเขาได้อย่างยาวนานแต่สาหรับกลุ่มของ
หญิงสาวทั้งห้าพวกนางได้ผ่านการร่วมรักกับเขามาไม่น้อย อีกทั้งพวก
นางยังคงมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าตัวของจิวหลิน น้ารักของนางใน
ตอนแรกที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุดนั้นกลับกลายเป็นเขื่อนที่แตก
พังทะลายไปทั่วทั้งแนวกั้น
หลินหมิงพลิกร่างของหมิงเลี่ยนให้นอนหงายคว่าลงบนเตียงพร้อม
กับทวนมังกรของเขาที่แทงเข้าไปจนสุดลาร่องสวาทของหญิงสาว ด้วย
ท่วงท่าที่แปลกใหม่เช่นนี้มันทาให้หมิงเลี่ยนได้รับรู้ถึงความสุขที่แปลก
ใหม่เช่นเดียวกันนางไม่คาดคิดเลยว่าเพียงไม่เจอหน้าสามีของนางไป
ไม่กี่เดือนไม่เพียงแต่เขาจะมีความแข็งแกร่งที่รุดหน้าแต่ความสามารถ
ในการมอบความสุขของเขานั้นกลับยอดเยี่ยมยิ่งกว่า ร่างของนางที่
กาลังถูกขย่มจากด้านหลังโดยหลินหมิงสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างเพียงไม่
นานนางสัมผัสได้ถึงน้ารักจานวนมากมหาศาลที่ไหลพรั่งพรูเข้าสู่
ภายในตัวของนาง
" อร้างงงงงงงงงง~~~~~~~~~~~~~~~~~ "
น้ารักของหลินหมิงไหลเข้าท้วมท้นภายในท้องของหมิงเลี่ยนจน
นางรู้สึกว่าตนเองหากไม่ต้องกินอาหารไปอีกสัปดาห์ก็คงไม่ใช่ปัญหา
แต่อย่างใด ไม่รอช้าแต่อย่างใดหลังจากที่หลินหมิงทาการร่วมรักกับห
มิงเลี่ยนเป็นที่เรียบร้อยร่างของหวางเฟยที่อยู่ไม่ห่างกันนั้นคือ
เป้าหมายต่อไปอย่างแน่นอน
" ว้ายย "
ขาของนางถูกจับขึ้นพาดบนบ่าของหลินหมิงอย่างไม่ใจสิ่งใด
สาหรับบุรุษอื่นมันคงเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียเกียรติของพวกเขา ด้วย
ท่วงท่าที่แปลกประหลาดเช่นนี้มันทาให้ช่วงสะโผกของนางนั้นลอยอยู่
บนเตียงเล็กน้อย
" ใส่มันเข้ามาเลยเจ้าคะ ~~~~ "
ทวนมังกรของหลินหมิงตอบโต้อย่างว่าง่ายร่องสวาทของหญิงสาว
ทั้งสองนี้ราวกับว่ามันมีชีวิตจิตใจเป็นของตัวมันเอง มันค่อยๆทาการ
ขยับขยายตัวและหดตัวตามจังหวะการกระแทกของหลินหมิงอย่าง
ต่อเนื่องหากเป็นบุรุษอื่นเพียงแค่พวกเขาเสียบเข้าร่องสวาทของพวก
นางแล้วละก็พวกเขาคงปลดปล่อยน้ารักออกมาโดยในทันที
" อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ~~~~~ "
จังหวะการขยับเอวของหลินหมิงเป็นไปอย่างบ้าคลั่งใบหน้าของ
หวางเฟยที่ปกติจะเป็นสีหน้าเย็นชานั้นแปรเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละ
คน ตาของนางเหลือกบนพร้อมกับน้าลายที่พรั่งพรูออกมาจากริม
ฝีปากอวบอิ่มด้วยความสะใจแบบปกปิดไม่มิด
" ข้าจะบ้าตายอยู่แล้วเจ้าคะ อร้างงง~~~~~~~ "
หวางเฟยนางแทบไม่สามารถควบคุมสมองให้สามารถคิดสั่งสิ่งใด
ได้อีกต่อไป ร่างกายของนางในตอนนี้ราวกับเป็นเพียงเครื่องบาเร่อ
ความสุขให้กับหลินหมิงเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยินดีที่จะ
ได้รับบทเพลงร่วมรักเช่นนี้ตลอดไป
ตอนที่ 104
ภายในห้องโถงใหญ่ของสมาคมนักปรุงยาร่างของหลินหมิงพร้อม
ด้วยข้างกายของเขาที่เดินแนบชิดใกล้กันมาก็คือจิวหลิน โดยที่
ข้างหน้าของพวกเขานาโดยหมิงเลี่ยน และหวางเฟยที่ใบหน้าของพวก
นางทั้งสองเต็มไปด้วยความพึงพอใจอย่างปิดไม่มิด เมื่อเหล่าบุรุษผู้
อาวุโสทั้งหลายได้เห็นพวกนางทั้งสองแล้วพวกเขาตะลึงค้างไปด้วย
ความตกใจ
ในเมื่อวานนี้ที่พวกเขาเห็นพวกนางทั้งสองนั้นความงามของพวก
นางก็เรียกความตื่นตะลึงให้กับพวกเขาได้ไม่ใช่น้อย แต่ไม่รู้ว่าผ่านไป
หนึ่งวันพวกนางทั้งสองไปทาสิ่งใดกันมาไม่เพียงแต่รอยยิ้มของพวก
นางจะสามารถเติมเต็มหัวใจของพวกเขาได้ ผิวหนังของพวกนางทั้ง
สองยังคงเปล่งปลังสะท้อนแสงอาทิตย์จนพวกเขารู้สึกแสบตาเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีสายตาใดเลยที่ละไปจากเรือนร่างของพวกนาง
ทั้งสอง แม้ว่าความงามของจิวหลินจะอาจเรียกได้ว่าไม่ด้อยไปกว่า
หญิงสาวทั้งสองคนนี้
แต่สาหรับจิวหลินนั้นนางมีเจ้าของแล้วนั้นก็คือหลินหมิง ดังนั้น
แล้วมันคงไม่ดีนักหากพวกเขาแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าหลินห
มิง ไม่เห็นหรือว่าจุดจบของนายน้อยตระกูลเหยียนเป็นอย่างไร ? นั้น
ขนาดนายน้อยตระกูลเหยียนเพียงเข้าไปยุ่งกับหลัวฉิงเชี่ยนที่เป็นศิษย์
พี่ของหลินหมิง นายน้อยผู้นี้ก็ถึงกับหมดอนาคตไปในทันทีแล้วสาหรับ
ภรรยาของหลินหมิงแล้วเหล่าไม่ใช่ว่าตระกูลของพวกเขาอาจถูกกวาด
ล้างไปถึงเจ็ดชั่วโครตหรืออย่างไร
" พวกข้าทั้งสองต้องขอขอบคุณท่านประมุขแห่งสมาคมนักปรุงยา
และผู้อาวุโสทั้งหลายที่ให้การต้อนรับพวกข้าทั้งสองเป็นอย่างดี...ใน
ส่วนของคุณชายฮั่วนั้นจากที่ข้าได้ประเมิณแล้วความสามารถของเขา
ไม่ได้ผิดไปจากที่เลื่องลื่อมาซ้าอาจจะมากกว่าเสียด้วย...แต่ถึงอย่างนั้น
คุณชายฮั่วของพวกท่านก็ยังมีความปราถนาในการแสดงความสามารถ
ต่อผู้คน... "
" นี้หมายความว่าอย่างไร ? "
เมื่อหมิงเลี่ยนกล่าวยังไม่ทันจบใบหน้าของจูหนิงเอ๋อร์เกิดอาการ
สับสนเล็กน้อยในตอนนี้สาหรับศิษย์ทั้งสามของสมาคมนักปรุงยานั้น
อันประกอบไปด้วย หลินหมิง หลัวฉิงเชี่ยน และหลิวฉวนยูร์เป็นที่
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามจะสามารถเข้าร่วมสานักในเมืองหลวงได้โดย
ไม่ต้องทาการประลองดั่งเช่นรุ่นเยาว์ทั่วไป
" ท่านอาจารย์ศิษย์เพียงแค่มีความต้องการในการเข้าร่วมงาน
ประลองครั้งนี้...อันที่จริงแล้วแม้ตัวศิษย์จะได้รับคากล่าวขานในเรื่อง
ความแข็งแกร่งแต่มันจะเป็นไปได้หรือที่ผู้คนทั้งหลายจะเชื่อฟังสิ่ง
เหล่านี้ อันที่จริงแล้วหากตัวศิษย์ในก่อนหน้าที่ยังไม่พบอาจารย์ได้ยิน
ข่าวเช่นนี้เข้าตัวศิษย์เองก็คงแทบไม่อยากจะเชื่อเช่นเดียวกัน "
จูหนิงเอ๋อร์พยักหน้าเข้าใจเหตุผลของหลินหมิงแน่นอนว่าผู้คนส่วน
ใหญ่ในเมืองแห่งนี้ต่างรับรู้ความแข็งแกร่งของหลินหมิงเพียงแต่ว่าจะมี
สักกี่คนกันที่เชื่อในเรื่องเหล่านี้เด็กหนุ่มอายุ 15 ปีกับพลังปราณที่
แข็งแกร่งมากกว่าพลังก่อเกิดระดับ 5 ! มันเป็นเรื่องที่ยากเกินไปกว่าที่
ผู้คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเชื่อลงได้ แต่หากพวกเข้าได้เห็นด้วยตา
ตนเองก็นับเป็นอีกเรื่อง
อันที่จริงแล้วจูหนิงเอ๋อร์นางก็รู้ดีว่าตัวของหลินหมิงนั้นดูเหมือนจะ
มีความไม่พอใจกับตระกูลหลิน นั้นอาจเป็นเพราะว่าในอดีตที่ผ่านมา
นั้นศิษย์ของนางผู้นี้เกือบถูกสังหารโดยเหล่าลูกสมุนของหลินเสี่ยวต้า
หรือกระทั่งตกตายด้วยน้ามือของหลินฮ่าวประมุขแห่งตระกูหลิน !
" เช่นนั้นแล้วพวกข้าทั้งสองขอตัวไปจัดเตรียมงานประลองที่จะ
เกิดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า.. "
สาหรับท่าทางของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยนั้นแม้ว่าพวกนางทั้งสอง
จะแสดงท่าทีมีความสุขอย่างเห็นได้ชัดจากใบหน้าของพวกนาง แต่
แน่นอนว่าพวกเขาคาดคิดว่าพวกนางทั้งสองอาจพึงพอใจกับความ
แข็งแกร่งของหลินหมิงเพียงเท่านั้น สาหรับจิวหลินนั้นแม้ว่านางจะมี
ความสามารถเพียงพอสาหรับการเข้าร่วมงานประลองเพียงแต่ตัวนาง
ที่ไม่ได้สนใจเรื่องการต่อสู้นั้นไม่คิดเห็นว่าจะเกิดประโยชน์อันใด
ด้วยสถานะภรรยาของหลินหมิงแม้เป็นเพียงอนุแน่นอนว่าเมื่อ
หลินหมิงต้องไปยังเมืองหลวงแล้วมีหรือที่จะนางไม่ติดตามไปด้วย อีก
ทั้งในตอนนี้นางยังได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากพี่สาวทั้งสอง
อย่างหมิงเลี่ยนและหวางเฟยมันจึงไม่มีสิ่งใดที่นางจาเป็นจะต้องกังวล
อีกต่อไป
ภายในห้องท้องที่ใบหน้าทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสุขกลับมีใบหน้า
ของหญิงสาวผู้งามสง่าคนหนึ่งกาลังแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้
ชัด นั้นก็คือผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นเอง
" หนิงเอ๋อร์ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนสอนสั่งศิษย์ของเจ้าเพื่อเตรียม
ความพร้อมสาหรับงานประลองอย่างไรเสียแม้ว่าเขาจะมีความ
แข็งแกร่งที่เหลือเชื่อแต่เราก็ไม่ควรที่จะประมาท "
" อืม แล้วแต่เจ้าเถอะ "
จูหนิงเอ๋อร์กล่าวอย่างว่าง่ายสาหรับนางแล้วการเตรียมตัวสาหรับ
หลินหมิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่จาเป็นเลยแม้แต่น้อย ขนาดผู้ที่แข็งแกร่งอย่าง
ปราณก่อเกิดระดับ 5 ยังแพ้ภายในพริบตาเทียบกับงานปประลองรุ่น
เยาว์ที่อย่างมากก็คงมีเพียงแค่ผู้ที่มีระดับปราณก่อเกิดระดับ 1 เพียง
แค่ศิษย์ของนางหายใจพวกเขาก็คงล้มนอนลงไปแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงปล่อยให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นทาตามใจชอบไม่
ต้องสงสัยเลยว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้นไม่เพียงแต่ฟางซิ่นจะ
ช่วยบ่มเพาะแนวทางการต่อสู้ให้กับศิษย์ของนาง สมบัติต่างๆภายใน
หอฝึกของหลินหมิงนั้นอาจกล่าวได้ว่าพวกมันล้วนมาจากฟางซิ่นเกือบ
ครึ่งเลยทีเดียว
" เช่นนั้นศิษย์ขอลาท่านอาจารย์ "
หลินหมิงเดินตามร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นทีดูเหมือนว่านางจะมีท่าที
รีบร้อนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจิวหลินนั้นนางมีอิสระอย่างเต็มที่แม้ว่า
ส่วนใหญ่นางจะใช้เวลาอยู่ร่วมกับหลินหมิงแต่ในยามที่หลินหมิงจะฝึก
ตนมีบ้างที่นางอาจกลับไปที่ตระกูลเหยียนเพื่อช่วยงานบิดาเล็กๆน้อยๆ
เกียวกับพี่ชายของนางนั้นดูเหมือนว่าในตอนนี้เขาแทบไม่กล้าออกจาก
ห้องของตนเองอีกต่อไปหลังจากที่เขารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น มันไม่มี
อะไรมาการันตีได้ว่าเมื่อเขาต้องพบหน้าหลินหมิงอีกครั้งชีวิตของเขา
จะยังคงปลอดภัยเช่นเดิมอยู่
ร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เดินสะบัดบั้นท้ายอย่างเย้ายวนด้วยชุด
รัดรูปเผยสัดส่วนเรือนร่างอันงดงามทาให้หลินหมิงหวนถึงเหตุการณ์
ก่อนหน้านี้ นี้อาจเรียกได้ว่ามันไม่ต่างจากตอนที่เขาถูกนางลากไปที่ป่า
มรณะเลยแม้แต่น้อยหลินหมิงเดินสับขาเร็วขึ้นเพื่อกระชับระยะห่าง
ของพวกเขา มือข้างหนึ่งของหลินหมิงแอบเข้าสัมผัสบั้นท้ายของผู้
อาวุโสฟางซิ่นจนร่างของนางสะดุ้งโหย
" นะ..นายท่าน..ได้โปรดรอให้ถึงตานักของข้าก่อนเถอะเจ้าคะ "

ผู้อาวุโสฟางซิ่น

ตอนที่ 105
ตลอดการเดินทางมายังตานักของผู้อาวุโสฟางซิ่นหลินหมิงคอยหา
จังหวะเข้าลูบไล้บั้นท้ายโค้งงอของนางอยู่ตลอด แน่นอนว่าเพียงแค่
การสัมผัสของหลินหมิงก็เพียงพอทาให้ร่างกายของนางรู้สึกสั่นสะท้าย
ไปด้วยความเสี่ยวซ่านเพียงแต่ว่าถ้าหากมีคนเห็นขึ้นมาเล่า ? ดู
เหมือนว่านายน้อยหนุ่มของนางจะไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งรอบข้าง
เลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะฉวยโอกาสเข้าลูบไล้บั้นท้ายของนางและมี
บ้างที่มือของเขาเคลื่อนที่เข้าหาจุดยุทธศาสตร์สาคัญของหญิงสาว ใน
ยามที่ปลอดสายตาผู้คน
แต่ใบหน้าของเขายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อันไม่สมวัย
ของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีเลยแม้แต่น้อย เมื่อมาที่ตานักของนาง ร่างกาย
ของนางพลันอ่อนล้าไปด้วยความเหนื่อยหอบอย่างแท้จริง เมื่อนางได้
บอกกล่าวกับบรรดาสาวใช้ทั้งหลายให้ออกไปภายนอกจนหมด นาง
พลันทิ้งลงแอบอิงร่างของหลินหมิงอย่างไม่ถือตัว
" นายท่านเจ้าคะ..จนถึงตอนนี้ข้าได้ปรนนิบัติรับใช้มาอย่างเต็ม
ความสามารถ..ดังนั้นข้าอยากจะรู้ว่ามันเพียงพอหรือไม่ที่ข้าจะ
สามารถเป็นหนึ่งในภรรยาของท่านได้แน่นอนว่าอย่างน้อยข้าขอเป็น
เพียงอนุเช่นเดียวกับคุณหนูตระกูลเหยียน.. "
ผู้อาวุโสกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงออดอ้อนในช่วงหลายเดือนที่ผ่าน
มาไม่เพียงแต่นางจะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือหลินหมิงไม่ว่าจะในด้าน
พัฒนาทักษะของเขาในส่วนของทรัพย์สมบัติมีค่าภายในหอฝึกของ
หลินหมิงแน่นอนว่ากว่าครึ่งนั้นย่อมเป็นของนาง อีกทั้งในบางคืนนางก็
ยังคงปรนนิบัติหลินหมิงจนกระทั่งถึงเช้าอาจกล่าวได้ว่านางไม่เคยใช้
ความพยายามในสิ่งใดมากเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต
ใบหน้าของหลินหมิงยังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่เช่นเดิม
มันจึงทาให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่สามารถคาดเดาความคิดอ่านของหลินห
มิงได้ หลินหมิงจ้องมองไปยังร่างอันเย้ายวนของผู้อาวุโสฟางซิ่น
แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงแล้วนั้นหญิงสาวผู้นี้ยังคงมีเสน่ห์มากเสียยิ่ง
กว่าจิวหลินเสียอีก ดังนั้นแล้วมันไม่มีทางอย่างแน่นอนที่หลินหมิงจะ
ทอดทิ้งนาง
" อ้าา~~~ ดะ...เดียวก่อนสิเจ้าคะ...ท่านยังไม่..ตอบข้าเลย ~~~ "
ยังไม่ทันที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นจะได้รับคาตอบกลับมือของหลินหมิงเข้า
ลูบไล้ที่เรือนร่างของนางอย่างหื่นกระหายไปทั่วร่าง ร่างของนางถูกดึง
เข้าไปแนบชิดโดยที่นางไม่สามารถต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อยแม้ด้วย
ความแข็งแกร่งของนางนั้นกระทั่งหลินหมิงนางก็ยังคงสามารถจัดการ
ได้เพียงแค่ลาบากขยับมือเพียงเท่านั้นเพียงแต่เมื่อได้อยู่ชิดใกล้หลินห
มิงเมื่อเช่นนี้เมื่อใดไม่รู้ว่าเหตุใดเรี่ยวแรงของนางพลันมลายหายสิ้นราว
กับนางเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา
สาหรับหญิงสาวสูงวัยเช่นนางนั้นมันคงเป็นเรื่องแปลกที่บุรุษหนุ่ม
วัยเยาว์อย่างหลินหมิงจะรับนางเป็นภรรยา กลับกันถ้าเกิดเป็นบุรุษสูง
วัยแล้วพวกเขาต้องการสตรีเยาว์วัยเป็นภรรยาแล้วละก็เรื่องเหล่านั้น
กลับไม่นับว่าปกติอันใด แม้ว่าจะเป็นนางที่มีความงามไม่เป็นรองใครก็
ตามที่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ใบหน้าของนางพลันเกิดความเศร้าขึ้นมาแน่นอน
ว่าเมื่อจบงานประลองลงแล้วหลินหมิงกับนางคงต้องแยกจากกัน
ดังนั้นแล้วนางจึงคาดหวังเพียงแค่ว่าหลินหมิงจะรับนางเป็นภรรยา
เพื่อที่นางจะสามารถติดตามเขาไปได้
" นี้..ท่านคิดว่าข้าจะทิ้งสาวงามเช่นท่านไปงั้นรึ ? "
" เอ๊ะ ! "
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นอาจเรียกได้ว่าเขามีความคิดที่ไม่เหมือน
บุรุษทั่วไปอย่างมาก ในเมื่อดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วนั้นผู้อาวุโส
ฟางซิ่นนางนับได้ว่ายังคงงดงามเสียยิ่งกว่าหญิงสาวในวัยแรกรุ่นดังนั้น
แล้วมันจะยังคงมีสิ่งใดที่เป็นปัญหาอีก ? สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นใน
เรื่องความต่างอายุไม่ใช่เรื่องสาคัญ หลินหมิงเพียงแค่ต้องการกลั่น
แกล้งผู้อาวุโสสาวผู้นี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เรื่องรับนางเป็นภรรยา ? แน่นอนว่าถึงนางจะไม่เต็มใจหลินหมิงก็
ไม่ยินดีที่จะปล่อยนางไปอย่างแน่นอนในบรรดาหญิงสาวทั้งหมด
ในตอนนี้ของเขาหากไม่รวมซื่อเฟยหญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสผู้งดงามที่เกิด
มาพร้อมกับเรือนร่างและหน้าตาที่มีไว้เพื่อล่อล่วงบุรุษผู้อาวุโสสาวผู้นี้
นับได้ว่าเป็นหญิงสาวที่งดงามมากที่สุด กระทั่งซื่อเซียนก็ยังไม่สามารถ
เทียบได้
" นี้หรือว่าท่านรับข้าเป็นภรรยาแล้ว ! "
" ข้าไม่คิดจะปล่อยสาวงามเช่นท่านไปอยู่แล้ว...เช่นนี้แล้วท่านจะ
ไม่มอบรางวัลให้กับสามีสักเล็กๆน้อยๆเลยหรือ ? "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นยิ้มออกมาอย่างสดใสราวกับว่านางได้ย้อนวัย
กลับไปเป็นสาวในวัยเดียวกับจิวหลินอีกครั้ง ด้วยคาตอบกลับของ
หลินหมิงที่ยังคงน้าเสียงเจ้าเล่ห์เหมือนเพียงแต่ว่านางสามารถรับรู้ได้
ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องของความต่างอายุเลยแม้แต่
น้อย อันที่จริงแล้วนางรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นมีเพียงความหื่นกระหายใน
เรือนร่างที่งดงามของหญิงสาวดังนั้นแล้วเกียวกับอายุนั้นมันไม่อาจ
นับเป็นปัญหาของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้เลยเสียด้วยซ้าไป
เกี่ยวกับรางวัลที่หลินหมิงถามหานั้นแน่นอนว่าเจ้าเด็กหนุ่ม
ประหลาดที่ได้กลายเป็นสามีของนางผู้นี้ไม่ได้มีความโลภในทรัพย์
สมบัติแต่อย่างใดเลย รางวัลที่ดีที่สุดสาหรับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่สิ่งใด
อื่นนอกเสียจากเรือนร่างอันงดงามของนางเอง เสื้อผ้าของนางถูกปลด
ออกอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้หลินหมิงต้องรอนาน สายตาของหลินหมิ
งลุกว้าวเป็นประกายจนนางอดยิ้มขึ้นมา สามีหนุ่มของนางผู้นี้ไม่ใช่ว่า
จะไม่เคยเห็นเรือนร่างของนางเสียหน่อยแน่นอนว่าเขาเห็นมันมาอาจ
นับครั้งไม่ถ้วนแต่ปฎิกริยาตอบกลับของเขากลับยังคงเป็นเช่นเดิมเห็น
ได้ชัดเจนว่าเขายังคงมีความหื่นกระหายที่ไม่มีขีดจากัด
ร่างเปลื่อยเปล่าของนางเข้าพัวพันกับร่างของหลินหมิงพร้อมกับ
ปลดเสื้อผ้าของสามีของนางออกอย่างรวดเร็ว หน้าอกขนาดใหญ่อัน
แสนนิ่มนวลเคลื่อนไหวไปตามร่างกายของหลินหมิงด้วยความเชื่องช้า
นี้นับเป็นครั้งแรกเลยที่หลินหมิงได้รับการปรนนับัติที่สุดยอดเช่นนี้
แน่นอนว่านี้เป็นกระบวนท่าลับที่นางคิดค้นเพื่อเผด็จศึกพิชิตใจของ
หลินหมิงซึ่งนางได้เรียนรู้มาจากการที่ต้องถูกหลินหมิงเล้าโลมเป็น
เวลานาน
" เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ...ท่านพี่ ~~~~ "
น้าเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและทรงเสน่ห์หาได้
ปกติแล้วผู้อาวุโสฟางซิ่นอาจมีความงดงามในระดับที่เรียกได้ว่าไม่มีสิ่ง
ใดเทียบได้ แต่ในตอนนี้เสน่ห์ของนางมากยิ่งกว่านั้นจนไม่อาจประเมิณ
ได้ ! หน้าอกคู่นิ่มนวลที่กาลังกดทับบนร่างของหลินหมิงจนราวกับว่า
พวกมันจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับร่างของเขา มันทาให้ร่างกายของเขา
รู้สึกสบายและเคลิ้มเคลิม ที่บริเวณทวนมังกรของเขาในตอนนี้มันกาลัง
ถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วงด้วยกระบวนท่าที่แปลกประหลาด
เช่นเดียวกัน
ที่บริเวณระหว่างขาทั้งสองข้างของผู้อาวุโสฟางซิ่นได้ประกบแน่น
ชิดกับทวนมังกรของเขาและด้วยขนาดทวนมังกรที่ใหญ่จนเกินไปจึงทา
ให้มันโผล่ออกไปถึงด้านหลังของนาง ผิวสัมผัสบริเวณต้นขาของหญิง
สาวแน่นอนว่ามันเป็นส่วนที่นิ่มนวลอาจน้อยกว่าหน้าอกของหญิงสาว
เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ร่างกายส่วนล่างของหลินหมิงขยับไปเองเพื่อทา
การโยกสะโพกเข้าออกราวกับว่าที่บริเวณระหว่างขาของผู้อาวุโสสาวผู้
นี้เป็นร่องสวาทชั้นเลิศ !
ที่บริเวณปลายทวนมังกรที่ถูกยื่นออกไปถึงด้านหลังของนางนั้นถูก
มือข้างหนึ่งของหญิงสาวลูบไล้ยิ่งบริเวณปลายทวนมังกรอันเป็นจุด
อ่อนไหวสาหรับหลินหมิงนั้น มันยังคงถูกเล่นงานอย่างหนักหน่วง
พร้อมกับความรู้สึกที่ทวนมังกรของเขากาลังถูไถกลับร่องสวาทของ
หญิงสาวที่กาลังปล่อยน้ารักแฉะเยิ้มออกมานี้นับว่าเป็นการปรนนิบัติที่
เยี่ยมยอดที่สุดโดยแท้จริง

ตอนที่ 106
มือของหลินหมิงเคลื่อนไหวไปตามเรื่อนร่างของผู้อาวุโสอย่าง
รวดเร็ว ใบหน้าของนางไม่ได้ปรากฎความกังวลเหมือนก่อนหน้าอีก
ต่อไป นางพึงพอใจเป็นอย่างมากที่เรือนร่างของนางสามารถทาให้
หลินหมิงมีความสุขได้มากเช่นนี้ ที่สาคัญไปกว่านั้นก็คือท่วงท่าที่นาง
ใช้เวลาคิดเพื่อจัดการเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลกว่าที่นาง
คาดหวังไว้มาก
ริมฝีปากของหลินหมิงพุ่งเข้าประทับรอยจูบตามซอกคอและเรือน
ร่างของนางอย่างหื่นกระหายหากไม่ใช่ว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลัง
เพลิดเพลินกับหน้าอกคู่งามของนางที่กาลังถูไถกับร่างของเขาอยู่แล้ว
ละก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหน้าอกของนางจะต้องเป็นเป้าหมายริมฝีปาก
ของสามีหนุ่มของนางอย่างแน่นอน
" อ้า~~~~ "
เสียงครางกระเส้าของผู้อาวุโสสาวไม่ได้ทาให้อารมณ์ความต้องการ
ของหลินหมิงลดลงไปเลยแม้แต่น้อยกลับกันแล้วมันยิ่งสนองตัณหา
ของเขาได้มากยิ่งขึ้นไปอีก แน่นอนว่าเมื่อเจอกับกระบวนท่าอันแปลก
ประหลาดของฟางซิ่นทาสรักที่เพิ่งถูกเลื่อนขั้นเป็นภรรยาที่น่ารักของ
เขาแล้ว น้ารักของหลินหมิงถูกระเบิดออกมาด้วยเวลาที่รวดเร็วยิ่งกว่า
ครั้งไหนๆ อาจมีเพียงแค่ร่องสวาทของปีศาจสาวซัคคิวบัสที่อาจมี
ความสามารถในการรีดเร้นน้ารักของหลินหมิงออกมาด้วยความเร็ว
เช่นนี้
แต่นั้นเป็นเพราะความสามารถประจาตัวของเผ่านางที่สามารถ
ล่อลวงใจของบุรุษและเพิ่มตัณหาของพวกเขาได้ เทียบกับท่วงท่าที่
ภรรยาของเขาใช้แล้วนั้นหลินหมิงยังคงมีความรู้สึกดียิ่งกว่าเป็นไหนๆ
แน่นอนว่าหากปีศาจสาวซัคคิวบัสซือเฟยได้ใช้ท่วงท่าเช่นนี้กับบุรุษ
หรือแม้กระทั่งกับหลินหมิงเขาเองก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า
ตนเองจะไม่ต้องอยู่ในภวังค์ของนางไปเช่นนั้นเลยหรือ ?
ผู้อาวุโสฟางซิ่นค่อยๆพาร่างของหลินหมิงที่กาลังเพลิดเพลินอยู่กับ
ร่างเปลื่อยเปล่าของนางไปที่เตียงอย่างยากลาบาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
หากสามีของนางยังคงจู่โจมนางเช่นนี้ต่อไปมันคงเป็นฝ่ายนางเองเสีย
มากกว่าที่จะหมดแรงลงก่อนแม้ว่านางจะสามารถรีดเร้นน้ารักของ
หลินหมิงออกมาได้อย่างรวดเร็ว แต่เรื่องนั้นไม่นับว่าเป็นปัญหาที่ทาให้
สามีของนางได้เหนื่อยเสียด้วยซ้ากลับกันแล้วมันจะยิ่งทาให้เขาคึกคัก
ขึ้นเสียมากกว่า
" รู้ไหมว่าเจ้ากาลังทาให้ข้าคิดหนักเสียแล้วว่าข้าจะไปเข้าร่วมงาน
ประลองดีหรือไม่ "
" คิคิ..ท่านพี่แน่นอนว่าข้ายินดีพร้อมปรนนิบัติให้ท่านเช่นนี้ทุกเมื่อ
ตราบที่ท่านต้องการ "
เมื่อได้ยินคากล่าวหยอกล้อของหลินหมิงผู้อาวุโสฟางซิ่นหัวเราะ
ออกมาด้วยน้าเสียงสดใส ในตอนนี้นางอยู่ในสภาพขึ้นคร่อมร่างของ
หลินหมิงที่กาลังนอนหงายอยู่บนเตียง ร่องสวาทของนางค่อยๆเข้า
คลุมทวนมังกรของหลินหมิงอย่างเชื่องช้าพร้อมกับสะโพกของนางที่
เริ่มขยับด้วยท่าทางคลายกับการขี่ม้า
ด้วยท่วงท่าเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทวนมังกรของหลินหมิงจะสามารถแทง
ทะลวงเข้ามาจนลึกสุดภายในร่องสวาทของนางด้วยน้าหนักของตัวนาง
ที่ทิ้งลงไป แต่นางยังคงเป็นฝ่ายสามารถควบคุมจังหวะการร่วมรักได้
อีกด้วย แน่นอนว่านางไม่ได้ขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงเพียงอย่างเดียว
ร่างของนางก้มลงแนบร่างของหลินหมิงพร้อมกับริมฝีปากของนางที่
เข้าโลมเลียที่บริเวณร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงเช่นเดียวกัน
นางสามารถสัมผัสได้เลยว่าทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังอยู่
ภายในร่างกายของนางนั้นมีการสั่นกระตุกอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามัน
พร้อมที่จะระเบิดน้ารักออกมาได้ทุกเมื่อแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้มีหรือที่นาง
จะสามารถควบขี่มันได้อย่างง่ายดาย ? ลาพังเพียงขนาดทวนมังกรที่
ใหญ่ยิ่งของมันก็นับได้ว่ายากยิ่งที่สตรีจะรับมือแล้วยิ่งมาเจอกับทวน
มังกรของเขาในสภาพพร้อมรบสุดตัวเช่นนี้แล้ว เป็นไปได้ว่ามัน
สามารถทาให้สตรีโดยทั่วไปที่ไม่เคยร่วมรักกับสามีนางมาก่อนถึงกับ
ต้องขึ้นสวรรค์เพียงแค่การเสียบเข้าไปครั้งเดียว
" ว้ายย "
โดยไม่ทันคาดคิดเมื่อหลินหมิงเห็นว่าผู้อาวุโสเริ่มมีอาการเหนื่อย
ล้าจังหวะการขยับสะโพกของนางกลายเป็นเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ร่างของหลินหมิงลุกขึ้นมากอดรัดร่างของผู้อาวุโสสาวเอาไว้อย่างแนบ
แน่น โดยในตอนนี้หลินหมิงอยู่ในท่านั่งเหยียดขาโดยมีผู้อาวุฟางซิ่น
คร่อมทวนมังกรของเขาอยู่
" สาหรับภรรยาที่น่ารักเช่นเจ้าแล้ว เห็นทีว่าข้าคงต้องให้รางวัลชิ้น
ใหญ่เสียหน่อย "
" อู้วววว ~~~~~~~ "
มืองทั้งสองข้างของหลินหมิงที่กาลังจับที่บริเวณช่วงเอวของผู้
อาวุโสสาวพร้อมกับกดร่างของนางลงมาจนนางรู้สึกจุกแน่นที่ท้องจน
แทบพูดไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับรู้สึกพึงพอใจมันเสียมากกว่า
เทียบกับ
" ละ..ลึก..มากเลย...อ้าาา~~~~~~~~ "
มือของหลินหมิงที่ประคองร่างของนางเอาไว้เคลื่อนที่อย่างบ้าคลั่ง
พร้อมกับร่างของนางที่เคลื่อนที่ลงอย่างรวดเร็วไปตามจังหวะ ริม
ฝีปากของผู้อาวุโสสาวในตอนนี้กาลังถูกช่วงชิงอย่างดูดดื่มโดยสามีของ
นางเทียบกับการร่วมรักที่ผ่านๆมาแล้วนั้นการร่วมรักของนางในครั้งนี้
กับหลินหมิงมันทาให้นางรู้สึกมีความสุขมากกว่ายิ่งกว่าครั้งไหน ไม่ใช่
เพราะท่วงท่าแปลกประหลาดที่นางได้รับหรือที่นางได้ใช้กับหลินหมิงอ
อกไป แต่มันเป็นเพราะในตอนนี้นางได้ร่วมรักกับเขาในฐานะของ
ภรรยาอย่างเต็มตัว
นางพยายามใช้มือทั้งสองข้างที่แทบจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงโอบรัดร่าง
ของหลินหมิงโดยไม่ยอมแยกจาก แน่นอนว่าในตอนนี้นางแทบจะไม่มี
เรี่ยวแรงเหลืออยู่อีกต่อไปหลังจากต้องพบกับท่วงท่าที่รุนแรงเช่นนี้แต่
ถึงอย่างนั้นนางจะไม่บอกกล่าวให้หลินหมิงหยุดอย่างแน่นอน นาง
ปราถนาที่จะร่วมรักกับหลินหมิงเช่นนี้ไปอย่างยาวนานแม้ว่านางจะสิ้น
สติไปก็ตามที่
ผ่านไปหนึ่งวันเต็มไปหลังจากการร่วมรักอันเร้าร้อนของผู้อาวุโส
ฟางซิ่นกับหลินหมิงร่างของทั้งสองยังคงนอนแนบชิดกันอย่างไม่ห่าง
โดยที่ร่างของผู้อาวุโสสาวนั้นยังคงคร่อมร่างของหลินหมิงเอาไว้พร้อม
กับทวนมังกรของหลินมิงที่ยังคงเสียบคาร่องสวาทของนางเอาไว้อยู่
คราบน้ารักที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณเตียงและร่างกายส่วนล่าง
ของหญิงสาวเป็นเครื่องหมายบอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขาได้ร่วมรัก
กันไปมากมายเพียงใด
ด้วยทวนมังกรของหลินหมิงที่ยังคงเสียบคาเอาไว้อยู่ที่ร่องสวาท
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นแน่นอนว่ามันทาให้น้ารักของหลินหมิงไม่สามารถ
ระบายออกมาจากร่องสวาทของนางได้ แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแม้แต่
ในตอนนี้ที่พวกเขาหลับไหลไปด้วยความพึงพอใจเช่นนี้แล้ว ด้วย
จังหวะการหายใจของเขามันทาให้ร่างกายของพวกเขามีการ
เคลื่อนไหวเล็กน้อยแต่นั้นก็เพียงพอที่จะทาให้ทวนมังกรที่อยู่ภายใน
ร่างกายของนางนั้นขยับตืนตัวอยู่ตลอดเวลา ที่บริเวณช่วงท้องของนาง
นั้นในตอนนี้ไม่ได้แบนราบดั่งเช่นเคย
มันโป่งโพ่งขึ้นมาด้วยจานวนน้ารักที่อัดแน่นอยู่ภายในมาก
จนเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้นาทวนมังกรของหลินหมิงออกไป
แต่อย่างใดนางยังคงเพลิดเพลินกับความสุขที่ได้รับเช่นนี้พร้อมกับนอน
แอบอิงแผงอกของหลินหมิงไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
หากไม่ใช่ว่าวันนี้เป็นวันที่งานประลองเริ่มขึ้นแน่นอนว่าภรรยาใหม่
ผู้งดงามของเขาอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นนางก็ยังคงได้รับความสุขจากเขา
อย่างต่อเหนื่องต่อไปแน่นอน หลินหมิงพร้อมกับจูหนิงเอ๋อร์ หลัวฉิง
เชี่ยนและผู้อาวุโสจากสมาคมนักปรุงยาต่างพร้อมเพรียงกันเพื่อไปยัง
สนามประลองที่ถูกจัดขึ้นที่กลางเมือง สาหรับหลัวฉิงเชี่ยนนั้นนางไม่
จาเป็นที่จะต้องเข้าแข่งขันก็จริงลาพังเพียงชื่อเสียงและความแข็งแกร่ง
ของนางในตอนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากนางลงแข่งขันด้วยแล้วนาง
อาจด้อยกว่าเพียงหลินหมิงเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ที่นางไปยังงาน
ประลองในครั้งนี้ด้วยนั้นเป็นเพราะว่านางจะไปเป็นกาลังใจให้หลินหมิ
งต่างหาก
แม้ว่ามันจะดูเป็นสิ่งที่ไม่จาเป็นสักเท่าไหร่เทียบกับบรรดาคู่ต่อสู้
ทั้งหลายแล้วต่อให้รุ่นเยาว์ทั้งหมดที่ร่วมงานประลองในครั้งนี้ร่วมมือ
กันพวกเขาก็ยังคงไม่มีสิทธิที่จะฝันถึงโอกาสเอาชนะหลินหมิงได้เลย
เสียด้วยซ้าไป สาหรับหลิวฉวนยูร์นั้นดูเหมือนว่านางจะเข้าร่วมงาน
พร้อมกับตระกูลหลิวของนางพร้อมกับผู้อาวุโสซูหลิ่ง
สาหรับผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นแน่นอนว่านางคงไม่สามารถมางาน
ประลองในวันนี้ได้อย่างแน่นอน หลังจากที่นางได้ปรนนิบัติให้หลินหมิ
งชุดใหญ่เช่นนั้นไป หลินหมิงยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเขารู้ว่าบรรดารุ่น
เยาว์จากตระกูลหลินยังคงเข้าร่วมงานประลองกันอย่างครบถ้วน

ตอนที่ 107
ภายในงานประลองปีนี้นั้นไม่ต้องสงสังเลยว่ามันเต็มไปด้วยความ
คึกคักเสียยิ่งกว่างานประลองปีไหนๆ ว่ากันว่ารุ่นเยาว์ของตระกูลหลิน
รุ่นนี้ทุกคนล้วนถูกกล่าวว่าอัจฉริยะด้วยกันทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่คน
เดียว แม้ว่าจะมีหลายคนที่ยังไม่เข้าร่วมในงานประลองครั้งนี้ก็ตาม คน
ที่แข็งแกร่งของตระกูลหลินในบรรดารุ่นเยาว์คราวนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่น
นอกเสียจากหลินเสี่ยวต้า
ในตอนนี้ตัวของหลินเสี่ยวต้าไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่มีพลังปราณเริ้มต้น
ระดับ 8 อีกต่อไปเขาได้กา้ วเข้าสู่ปราณเริ้มต้นระดับ 9 ในไม่กี่เดือนที่
ผ่านมาเรืองนี้นับว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นตะลึงมาก ลาพังเพียงผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป
หากพวกเขาสามารถก้าวถึงปราณเริ่มต้นระดับ 8 ได้นั้นก็นับได้ว่าน่า
พึงพอใจอย่างมากแล้ว
แต่แน่นอนว่าเหตุผลที่ผู้เข้าชมในงานประลองครั้งนี้มีมากมายกว่า
ครั้งไหนนั้นย่อมไม่ใช่เพราะว่าตระกูลหลินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หาก
ความแข็งแกร่งของหลินเสี่ยวต้านั้นนับได้ว่าภาคภูมิใจแล้วละก็สาหรับ
เด็กหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก
ศิษย์เอกของสมาคมนักปรุงยา
ผู้เข้าร่วมงานประลองจานวนมากจากทั้งตระกูลใหญ่อย่างตระกูล
หลิว ตระกูลหลิน หรือ ตระกูลอื่นๆพวกเขาได้แน่แอบหันมองบนพื้นที่
ลานประลองของเขาที่ปรากฎร่างของเด็กหนุ่มที่ทาให้พวกเขาถึงกับตัว
สั่น
' ไม่ใช่ว่ามันได้เข้าร่วมสานัก โดยไม่ต้องเข้าร่วมงานประลอง
เช่นนั้นรึ ? '
' บัดซบ หากข้าได้เป็นคู่มือมันแล้ว ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่สามารถเข้า
ร่วมสานักได้เพราะว่ายังไม่ทันโดยแสดงฝีมือ ? '
แตกต่างกับบรรยากาศของผู้เข้าร่วมคนอื่นๆหลินหมิงยังคงยืน
อย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับจ้องมองไปรอบๆ จนกระทั่งเข้าสะดุดตาเข้า
กับที่พักของตระกูหลิว ร่างของเด็กสาววัยเดียวกันกับหลินหมิงกาลัง
ยิ้มมาให้หลินหมิงอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่านางจะเป็นใครอื่นไม่ได้
นอกเสียจากหลิวฉวนยูร์ ขนาดที่ว่าข้างกายของนางในตอนนี้มีบิดา
ของนางอยู่นางยังคงกล้าทาเช่นนี้อย่างเปิดเผยโดยไม่กลัวสิ่งใด ? ต้อง
ไม่ลืมเสียว่าในตอนนี้บิดาของนางนั้นได้ตกลงหมั่นหมายนางกับหลินชู
อยู่
หากจะบอกว่าผู้เข้าร่วมงานประลองคนอื่นนั้นต่างเคร่งเครียดอย่าง
เห็นได้ชัด แต่พวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับบรรดารุ่นเยาว์จากตระกูล
หลินที่เคยภาคภูมิใจในตนเอง ในกลุ่มพวกเขามีทั้งหมดด้วยกันทั้งสิ้น
5 คนโดยที่คนที่มีพลังต่าสุดนั้นยังคงมีพลังปราณในระดับเริ้มต้นขั้น
7 ขนาดหลินเสี่ยวต้าที่เป็นผู้นาของกลุ่มรุ่นเยาว์ของตระกูลหลิน
ใบหน้าของเขายังคงปรากฎความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่ามารดาของเขาจะบอกว่าหลินหมิงจะไม่ลงมือทาร้ายเขาอย่าง
แน่นอน แต่สิ่งเหล่านั้นมันสามารถเชื่อถือได้ ? ขนาดเหยียนจ้าวเพียง
เข้าไปขัดขวางการเดินซื้อของของเจ้าเด็กนี้กับศิษย์พี่ของมัน ตัวของเห
ยียนจ้าวนั้นถึงกับถูกบทลงโทษทาให้หมดสิ้นอนาคตไปในทันที แล้ว
เทียบกับตัวของหลินเสี่ยวต้าที่ขนาดเคยหมายเอาชีวิตเจ้าเด็กนี้เล่า ?
หลังจากนั้นเมื่อหลินหมิงเหลือบไปมองที่ฝั่งทางด้านที่พักของ
ตระกูลหลินเมื่อเขามองไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่ยังคงปรากฎสิ่ง
นิ่งเฉยราวกับไม่มีความรู้สึกใดๆ ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คือหลิน
ฮ่าว หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อยท่าทางหลินฮ่าวนี้เขาไม่รู้หรืออย่างไร
ว่าข้าพัฒนาขึ้นมามากแค่ไหน ? สาหรับในการประลองในครั้งนี้แม้จะ
เป็นหลินเสี่ยวต้าหลินหมิงก็สามารถจัดการได้โดยเพียงแค่ขยับมือครั้ง
เดียวหรือน้อยกว่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าหลินฮ่าวผู้นี้ก็ยังคงไม่
สนใจกับการประลองที่กาลังจะเกิดขึ้นนี้มากนัก
น่าเสียดายที่หลินชูคู่หมั้นของหลิวฉวนยูร์นั้นมันยังคงมีอายุน้อย
เกินไปแน่นอนว่าระดับพลังของมันนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวแทนของ
ตระกูลหลินที่เหลืออีกสี่คนสักเท่าไหร่ แต่ด้วยการที่มันอายุยังน้อยการ
รอคอยเวลาอีกสักสองสามปีแล้วกลับมาร่วมงานประลองใหม่มันจะทา
ให้มันกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุด
โดยที่ข้างกายของหลินฮ่าวนั้นประกอบด้วยร่างของหญิงสาวที่
ภรรยาของเขาอีกสามคนแน่นอนว่าสาหรับผู้นาตระกูลใหญ่อย่างหลิน
ฮ่าวนั้นการมีภรรยาสักสิบหรือกระทั่งยี่สิบคนก็ยังคงไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่อย่างใด แต่หากถามว่าทาไมในตอนนี้ถึงมีภรรยาของเขามาร่วมงาน
แค่เพียง 3 คนคาตอบนั้นง่ายมากนั้นก็คือเพราะว่าบุตรของพวกนางที่
เหลือไม่ได้ร่วมในงานประลองในครั้งนี้
เหม่ยฮวามารดาของหลินเสี่ยวต้าเหลือบมองทางหลินหมิงบ่อยเสีย
ยิ่งกว่าบุตรของนางเองไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากที่นางดาเนินการทา
ให้ตระกูลเหยียนต้องอยู่ในสภาวะยากลาบากจากการตัดความสัมพันธ์
กับตระกูลหลินทิ้ง นางยังคงไม่ได้พบเจอกับหลินหมิงอีกเลย ในตอนนี้
นางพยายามเพียงส่งสัญญาณทางใบหน้าให้กับหลินหมิงได้รับรู้ว่านาง
เพียงต้องการเวลาอยู่ร่วมกับเขาสักเล็กน้อย
หลินหมิงยิ้มเยาะในใจสาหรับเหม่ยฮวาแล้วนั้นแม้ว่านางจะยังคงมี
ความงดงามที่เรียกได้ว่าไม่นับว่าด้อยกว่าสตรีใดในวัยเดียวกันมากนัก
แต่ถึงอย่างนั้นหากเทียบกับเหล่าสตรีของหลินหมิงทั้งหลายแล้วนางจะ
ยังคงมีสิ่งใดเทียบได้ ? สาหรับหลินหมิงแม้ว่าเขาจะมีสตรีอยู่ข้างกาย
หลายคนในตอนนี้แต่เขาจะไม่ยอมเสียพวกนางไปอย่างแน่นอน แต่
สาหรับเหม่ยฮวานั้นหลินหมิงไม่นับว่านางเป็นสตรีของเขาตั้งแต่แรก
แล้ว ด้วยการที่นางเป็นมารดาของหลินเสี่ยวต้าแล้วยังเป็นหนึ่งในคนที่
ทาให้เขาต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้แล้วสาหรับหญิงสาวผู้มักมากในกาม
อย่างนางจึงเป็นเพียงแค่ที่ระบายอารมณ์ของหลินหมิงเพียงครั้งคร่าว
เท่านั้น
ในส่วนแรกนั้นเป็นการทดสอบระดับพลังแม้ว่าในงานประลองครั้ง
นี้จะมีผู้ที่สนใจเป็นจานวนมากแต่พวกเขาเหล่านั้นส่วนใหญ่แล้วจะไม่
ผ่านการคัดเลือกเสียตั้งแต่รอบแรกซึ่งก็คือการทดสอบวัดพลัง เพราะ
ไม่เช่นนั้นแล้วหากดาเนินการแข่งไปทั้งอย่างนี้ด้วยจานวนรุ่นเยาว์ที่
เข้าร่วมมากมายถึงกว่าร้อยคนพวกเขาอาจต้องจัดเวลาให้เหมาะสมกับ
การแข่งขัน และเมื่อเป็นเช่นนั้นมันอาจต้องใช้เวลาหลายวัน
" สาหรับเกณฑ์ขั้นต่านั้นก็คือต้องเป็นผู้ที่พลังระดับปราณเริ้มต้น
ขั้น 6 เป็นอย่างน้อยและต้องมีอายุไม่เกิน 18 ปี "
สาหรับเกณฑ์การคัดเลือกเมื่อผู้เข้าร่วมงานประลองทั้งหมดได้ยิน
พวกเขาส่วนใหญ่แล้วถึงกับสิ้นหวังแน่นอนว่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้อง
รู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว เพียงแต่ว่าพวกเขาเพียงหวังว่าบางทีในการทดสอบ
มันอาจมีสิ่งที่ผิดพลาดเกิดขึ้นได้บ้าง ด้วยการเข้าร่วมกับสานักในเมือง
หลวงได้แน่นอนว่ามันเพียงพอสาหรับการพลิกชีวิตของคนธรรมดา
สามัญทั่วไปดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากพวกเขาจะอยาก
ทดลองบ้าง
" ปราณเริ่มต้นขั้น 5 ระดับสูง ไม่ผ่าน "
" ปราณเริ่มต้นระดับ 4 ขั้นสูงสุดไม่ผ่าน "
การทดสอบดาเนินไปอย่างรวดเร็วสาหรับผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่แล้ว
พวกเขาจะมีพลังกันอยู่ในระดับปราณก่อเกิดขั้น 5 เสียส่วนใหญ่มีบ้าง
ที่บางคนถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อผลการทดสอบออกมาว่าเขามีพลัง
เพียงจุดสูงสุดของขั้นที่ห้า แล้วด้วยอายุของเขาที่ครบ 20 ปีแล้วนั้น
หมายความว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมสานักอีกต่อไป แน่นอนว่า
มันมีบางกรณีที่เป็นข้อยกเว้นได้บ้างอย่างเช่น หลัวฉิงเชี่ยนที่มี
พรสวรรค์สูงส่งดังนั้นทางเลือกของชายผู้นี้มีเพียงทางเดียวนั้นก็คือการ
พัฒนาตนอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่นานแน่นอนว่ามันแทบเป็นเรื่องที่
เป็นไปไม่ได้เลย ท้ายที่สุดแล้วจากบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดในตอนนี้
เหลือเพียง 20 คน
ฟ่งซือเซียนและกลุ่มหญิงสาวทั้งห้านั้นเป็นกรรมการในงาน
ประลองครั้งนี้แน่นอนว่าพวกนางต่างพึงพอใจกับผลลัพธ์เช่นนี้มากโดย
ปกติแล้วเมืองหนึ่งนั้นการที่พวกเขามีรุ่นเยาว์ที่มีพลังอย่างน้อยระดับ
ปราณเริ่มต้นขั้น 6 ด้วยอายุเพียงไม่ถึง 20 ปี ในแต่ละครั้งพวกนางจะ
สามารถพบเห็นรุ่นเยาว์ของแต่ละเมืองได้ด้วยจานวนเพียงแค่ครั้งละ
สิบต้นๆหรืออาจน้อยกว่านั้น แน่นอนว่าในจานวนนี้ประกอบไปด้วย
หลินหมิงและกลุ่มรุ่นเยาว์ทั้งห้าของตระกูลหลิน
สาหรับศิษย์ของผู้อาวุโสคนอื่นในสมาคมนักปรุงยานั้นพวกเขา
ไม่ได้ส่งใครเข้ามาร่วมในงานประลองครั้งนี้เลยเทียบกับหลินหมิงที่จอง
ผลความสาเร็จในงานประลองครั้งนี้แล้วเหตุใดพวกเขาถึงต้องส่งศิษย์
ของพวกเขามากันด้วยเหล่า ?
" ข้าขอชื่นชมพวกเจ้าทั้งหมดที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกมาได้ แน่นอนว่า
ด้วยความสามารถของพวกเจ้าในตอนนี้แม้ว่าพวกเจ้าบางคนอาจจะ
ไม่ได้เข้าร่วมสานักของเรา แต่ด้วยพลังของเจ้าข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะ
สามารถพัฒนาตนเองได้และพวกเจ้ายังคงมีโอกาสสาหรับครั้งต่อไป
ส่วนใครที่มีอายุ 20 ปีในปีนขี้ ้าอยากชี้แนะพวกเจ้าเพียงเล็กน้อยว่าแม้
พวกเจ้าจะไม่สามารถเข้าร่วมสานักได้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าจะหมด
หนทางในการพัฒนาตนไปเสียหน่อย หากแม้พวกเจ้ามีความกล้า
และความเพียรพยายามมีหรือที่สวรรค์จะไม่เมตตาพวกเจ้าบ้างดังนั้น
ข้าเพียงแต่หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ย้อท้อจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่พวกเจ้า
คาดหวัง "
คากล่าวของฟ่งซือเซียนทาให้ผู้คนที่ตกรอบไปเริ่มรู้สึกมีความหวัง
ขึ้นมาอย่างเลือนร่าง ขนาดพวกที่ผ่านรอบแรกมาได้ทั้ง 20 คนพวก
เขาบางคนยังอดสั่นกลัวไปไม่ได้เลย
ตอนที่ 108
สาหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบในแรกมาได้จานวน 20 คนมันมี
เรื่องน่าแปลกใจเล็กน้อยที่ในจานวน 20 นี้ปราศจากขุมอานาจใหญ่
อย่างตระกูลหลิว หรือกระทั่งสามคมนักปรุงยาที่มีเพียงหลินหมิงเพียง
คนเดียว กระทั่งตระกูลเหยียนที่มีขุมอานาจไม่นับว่าอ่อนด้อยพวกเขา
ก็ยังคงไม่ส่งรุ่นเยาว์คนใดเข้าร่วม อาจกล่าวได้ว่าในการประลองครั้งนี้
หากไม่มีหลินหมิงแล้วละก็กลุ่มรุ่นเยาว์ตระกูลหลินคงเป็นผู้ที่ผูกขาด
ชัยชนะไปได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าจะมีรุ่นเยาว์จากขุมอานาจอื่นที่พอมีพลังในระดับเริ่มต้นขั้น
7 อยู่บ้างแต่พวกเขาก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของรุ่นเยาว์ที่อ่อนแอ่ที่สุดใน
ตระกูลหลิน แม้ว่าในด้านพลังของพวกเขาจะเท่ากันแต่ในเรื่องทักษะ
แล้วนั้นพวกเขาอาจต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยก็เป็นได้ มันไม่มีทางใด
เลยที่รุ่นเยาว์ธรรมดาทั่วไปจะสามารถเทียบเคียงได้กับรุ่นเยาว์ที่มา
จากขุมอานาจใหญ่
" เนื่องจากจานวนพวกเจ้าทั้งหมดมีจานวน 20 คนดังนั้นแล้วจะมี
การประลองในรอบแรกทั้งหมด 10 คู่ พวกเจ้าไม่ต้องกังวลหากเมื่อ
พวกเจ้าแพ้จะไม่มีสิทธ์ในการเข้าร่วมสานักเพียงแค่พวกเจ้าสามารถ
แสดงความสามารถที่น่าพึงพอใจกับข้าได้ก็ใช่ว่าพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ไป
เสียทีเดียว "
รุ่นเยาว์จานวนสิบเก้าคนที่เหลือไม่รวมหลินหมิงพวกเขาเพียง
ปราถนาให้การแข่งขันในรอบแรกไม่ต้องเจอกับหลินหมิงก็เพียงพอ
แล้ว
" งั้นข้าจะทาการสุ่มคู่ประลองในรอบในทันทีหากพวกเจ้าไม่มีอะไร
สงสัยแล้ว "
ฟ่งซือเซียนกล่าวจบนางก็พลันทาการสุ่มประกบคู่ประลองแรกโดย
การนาชื่อของผู้ประลองทั้งหมดมารวมกันและสุ่มออกมาเพียงสองชื่อ
เท่านั้น
" คู่แรก ฮั่วหมิง - หลินเสี่ยวต้า "
รอยยิ้มมุมปากของหลินหมิงปรากฎขึ้นจนแทบจะฉีกขาด ผิดกับ
หลินเสี่ยวต้าที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเซียวลงไปในทันที อีกทั้งเมื่อหันไป
มองใบหน้าของหลินหมิงที่เป็นคู่ประลองแรกของตนที่ปรากฎรอยยิ้มที่
ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ แต่เมื่อดูจากใบหน้าของเจ้าเด็กนี้แล้วมัน
เห็นได้ชัดว่ามันคงคิดทาสิ่งที่เลวร้ายกับเขาอย่างแน่นอน
สาหรับการจับคู่การประลองนั้นแน่นอนว่าที่ผลเป็นเช่นนี้ย่อมไม่ใช่
เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด แต่มันเพราะว่าฟ่งซือเซียนและพวกนางที่เหลือ
ได้ตระเตรียมแผนเช่นนี้เอาไว้ล่วงหน้าตามคาบอกกล่าวของหลินหมิง
ส่วนหากถามว่าแล้วพวกนางไม่กลัวว่าจะโดนจับได้ ? สาหรับพวกนาง
ที่เป็นผู้อาวุโสของสานักที่มีฐานะสูงส่งจะมีใครที่กล้าสงสัยในตัวของ
พวกนางกัน
ในเมื่อภายในเมื่อแห่งนี้พวกนางไม่ได้มีผลประโยชน์ขนึ้ อยู่กับฝ่าย
ใด อีกทั้งหากพวกนางทาไปแล้วจะได้สิ่งใดกัน ? เมื่อคิดได้เช่นนี้ผู้คน
ทั่วไปเข้าใจเลยว่ามันอาจเป็นความโชคร้ายอย่างสุดซึ้งของรุ่นเยาว์ที่
แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหลินผู้นี้เสียแล้ว
อาจกล่าวได้ว่าที่หลินหมิงเข้าร่วมงานประลองในครั้งนี้นั้นก็
เพื่อที่จะจัดการหลินเสี่ยวต้าสาหรับตระกูลหลินที่เหลือนะเหรอหากว่า
พวกเขายังคงมีความกล้าเหลือมากพอในตอนที่หลินหมิงจัดการหลิน
เสี่ยวต้าไปแล้ว พวกเขาก็คงเป็นรายต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย
" ไม่ได้เจอกันเลยนะหลังจากงานประลองของสมาคม..ข้าจะเจอ
เพียงสัตว์เลี้ยงของเจ้าเพียงเท่านั้น.... "
หลินเสี่ยวต้าถึงกับกระอักกระอวนตัวมันในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะสมควร
ทาเช่นใดดี แม้ว่ามารดาของมันจะกล่าวว่าหลินหมิงจะไม่ทาอันตราย
ต่อตัวมันแต่เมื่อดูจากท่าทีของเจ้าเด็กนี้แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ
? แต่หากมันกล่าวยอมแพ้เสียแต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะเสียชื่อรุ่นเยาว์ที่
แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหลินในตอนนี้ไป แล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นมันจะ
ยังคงเงยหน้าอย่างสง่าภายในเมืองนี้ดั่งเช่นปกติได้อกี ?
" นั้นอาจเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันเล็กน้อย...สาหรับในตอนนี้ข้าเพียง
หวังว่าน้องชายฮั่วจะออมมือและเปิดหูเปิดตาให้กับข้าบ้างเพียง
เล็กน้อย "
คาพูดที่น้อบน้อมหลุดออกมาจากปากของหลินเสี่ยวต้าอย่างไม่น่า
เชื่อ สาหรับคนเช่นนี้คากล่าวเช่นนี้มันอาจเรียกได้ว่ามันหากยากยิ่งที่
จะได้ยินคาเหล่านี้หลุดออกมาจากปากพวกเขาเสียยิ่งงกว่าทรัพย์
สมบัติล้าค่า แน่นอนว่าแม้ตัวของหลินเสี่ยวต้าจะพยายามจะกล่าว
ออกมาด้วยน้าเสียงแผ่วเบาแต่สาหรับการประลองที่กาลังจะเริ่มต้นขึ้น
ผูค้ นทั้งหลายอยู่ในสภาวะเงียบสงบมันคงเป็นเรื่องยากที่ผู้คนทั้งหลาย
จะไม่ได้ยิน
" หวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจกฎการประลองดี ห้ามต่อสู้จนถึงกับเอา
ชีวิตกันข้าสามารถเข้าแทรกแทรงการต่อสู้ได้ทุกเมื่อ....เมื่อพวกเจ้าไม่
สามารถต่อสู้ได้หรือกล่าวยอมแพ้เช่นนั้นแล้วอีกฝ่ายต้องหยุดมือ
ในทันทีไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะโดนโทษอย่างร้ายแรง "
หลินหมิงแม้จะรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่สามารถปลิดชีพหลิน
เสี่ยวต้าได้เสียตั้งแต่ตอนนี้ แต่มันยังมีอย่างอื่นที่เขาสามารถทาให้มัน
ต้องทรมานได้อีกมาก
" เริ่มได้ "
สิ้นเสียงของฟ่งซือเซียนหลินเสี่ยวต้ารีบนากะบี่สีเงินมันวาวพร้อม
ลวดลายที่บริเวณเด้ามจับอันแสนปราณีตไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้อง
เป็นกะบี่ที่มีอนุภาพที่น่าเหลือเชื่ออย่างแน่นอน สาหรับในการประลอง
ครั้งก่อนกับหลินหมิงนั้นหลินเสี่ยวต้าไม่ได้ใช้กะบี่เล่มนี้ออกไปนั้นก็
เพราะว่าในตอนนั้นหลินหมิงยังคงเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มีพลังระดับ
เริ่มต้นขั้น 6 แต่เพียงไม่ถึงปีมันกลับพัฒนาไปได้อย่างเหลือเชื่อ
รอยยิ้มชั่วร้ายที่ปรากฎบนใบหน้าของหลินหมิงทาให้ร่างกายของ
หลินเสี่ยวต้ารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
' กลัว ? '
นี้เป็นสิ่งที่ตัวมันไม่เคยพบหรือกระทั่งรู้จักมาก่อน มือที่กาลังกุม
กะบี่เต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาจนชุ่มช่าระยะเวลาหลังจากที่ฟ่งซือ
เซียนกล่าวเริ่มการประลองนั้นเพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้นแต่สาหรับ
หลินเสี่ยวต้านี้มันเหมือนกับว่ามันผ่านไปแล้วหลายชั่วยามสายตาของ
เขายังคงจดจ้องไปที่หลินหมิงอย่างไม่วางตาอย่างน้อยมันต้องรับมือ
กับการจู่โจมของหลินหมิงให้ได้บ้าง
ฟุ่บ
เพียงพริบตาที่หลินเสี่ยวต้ากระพริบตาร่างของหลินหมิงพลัน
หายไปจากตรงหน้ามันอย่างรวดเร็ว สัมผัสหนาวเย็นเกิดขึ้นที่บริเวณ
ทั่วร่างของหลินเสี่ยวต้าอย่างไม่ทันรู้ตัว
ปังง !
เสียงการปะทะครั้งแรกเกิดขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ตื่นตะลึงของผู้ชม
ร่างของหลินเสี่ยวต้าในตอนนี้กาลังลอยค้างอยู่ในอากาศด้วยความ
สับสนมันยังไม่แม้แต่เห็นว่าถูกโจมตีเช่นใดแต่มันร้สึกได้ว่าใบหน้าของ
มันนั้นถูกอัดกระแทกด้วยแรงจานวนมหาศาล เลือดจานวนหนึ่งได้ไหล
ออกมาจากจมูกและปากของหลินเสี่ยวต้าอย่างห้ามไม่อยู่
สิ่งที่หลินหมิงใช้โจมตีนั้นไม่ใช่สิ่งใดอื่นนอกเสียเท้าของเขาเองที่อัด
เตะเข้าไปที่หน้าของหลินเสี่ยวต้าแน่นอนว่าหลินหมิงไม่สามารถใช้
เรี่ยวแรงได้อย่างเต็มที่ได้ไม่เช่นนั้นแล้วในตอนนี้หัวของหลินเสี่ยวต้าคง
หลุดออกจากบ่าหรือไม่ก็แหลกเหลวไปแล้ว
เพียะ
เสียงการปะทะครั้งที่สองดังต่อเนื่องขึ้นมาในจังหวะที่ร่างของหลิน
เสี่ยวต้ายังคงไม่ทันต้องถึงพื้นเลยเสียด้วยซ้า มือของหลินหมิงระดมตบ
เข้าไปที่ใบหน้าของหลินเสี่ยวต้าอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งฟันบางซี่ของ
มันได้หลุดออกมาพร้อมกับเลือดจานวนมาก แม้มันจะเป็นเพียงการ
ตบธรรมดาๆทั่วไปที่ปราศจากการใช้พลังปราณเข้าร่วมแต่พลังกาย
ของผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดขั้น 7 แล้วนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ที่มีพลังระดับเริ่มต้น
ไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอน
" หยุด ! "
เสียงของฟ่งซือเซียนดังขึ้นอีกครั้งเมื่อนางเห็นว่าหลินเสี่ยวต้าได้
หมดสติลงไปแล้วร่างของมันนอนแน่นิ่งกับพื้นในช่วงเวลาตั้งแต่เริ่ม
การประลองมันเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น ในตอนนี้
ผู้คนในตระกูลหลินใบหน้าของพวกเขาต่างตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ใครจะไปคิดกันว่าคุณชายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาจะพ่ายแพ้อย่าง
ง่ายดายเช่นนี้ กระทั่งเหล่าผู้ชมแม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินที่ความ
แข็งแกร่งของหลินหมิงมาบ้างแต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้แล้วมันทา
ให้พวกเขารู้สึกตะลึงยิ่งกว่าคาบอกเล่าทั่วๆไปอย่างเป็นไหนๆ

ตอนที่ 109
ร่างของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีที่หาญกล้าสู้กับผู้ที่มีอายุเหนือกว่าถึง 3
ปีอีกทั้งเขายังเป็นถึงรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลใหญ่อย่าง
ตระกูลหลิน หากปกติแล้วเด็กผู้นี้คงถูกกล่าวหาว่าสิ้นสติไปแล้ว
เพียงแต่มันกลับกันโดยสิ้นเชิงร่างของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีที่ยังคงยื่นอยู่
บนสนามประลองด้วยรอยยิ้มพึงพอใจจนถึงขีดสุดแน่นอนว่ามันอาจ
แตกต่างจากรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในตอนแรกของเขาเพียงเล็กน้อยแต่เห็นได้
ชัดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กาลังมีความสุขหลังจากที่ได้จัดการหลินเสี่ยวต้า
ผู้ชมโดยรอบต่างเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายเมื่อพวกเขามอง
ไปยังผลการแข่งขันเบื้องหน้าแน่นอนว่ามันอาจเป็นผลลัพธ์ที่คนส่วน
ใหญ่คาดการณ์กันเอาไว้แล้ว เพียงแต่ใครจะคิดกันว่ามันจะง่ายดายถึง
เพียงนี้ ความห่างชั้นของคนทั้งสองนี้อาจเรียกได้ว่าราวกับผู้อาวุโส
กาลังรังแกเด็กทารกอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าของหลินเสี่ยวต้าที่ถูกตบ
ตีจนบวมป่อนแทบไม่เหลือเคร้าโครงเดิมของใบหน้าบุรุษผู้หล่อเหล่า
แห่งตระกูหลินเลยแม้แต่นอ้ ย
แม้ว่าบาดแผลนี้จะนับว่าห่างไกลกับชีวิตของหลินเสี่ยวต้าเพียงแต่
ว่าในตอนนี้ตัวมันแทบจะกระอักออกมาเป็นสายเลือด แม้ว่าบาดแผล
ที่หลินเสี่ยวต้าได้รับในตอนนี้มันอาจเรียกได้ว่าหนักอยู่พอสมควร
เพียงแต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่อาการบาดเจ็บของเขาอีกต่อไปแล้ว จากรุ่น
เยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดกลับต้องตกอยู่ในสภาพที่เวทนาเช่นนี้แล้วเขาจะ
ยังคงเดินชูหน้าหยิ่งพยองภายในเมืองนี้ได้อย่างปกติ ?
ไม่เพียงเท่านั้นบาดแผลที่ได้รับจากหลินหมิงนั้นเห็นได้ชัดว่า
ทั้งหมดล้วนมีเป้าหมายเพื่อทาลายรูปลักษณ์และทาให้เขาอับอายขาย
หน้า เขาอยากจะลุกขึ้นพูดกล่าวด่าท้อหลินหมิงเพียงแต่ด้วยสภาพ
เช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการพูดกล่าวแค่ขยับเพียงเล็กน้อยในตอนนี้
ยังคงเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้
เมื่อหลินหมิงมองไปยังมองรุ่นเยาว์ของตระกูหลินที่เหลือพวกเขา
ถึงกับเสียวสันหลังวาบ ด้วยฐานะของคนในตระกูลหลินต่อให้พวกเขา
มีความแข็งแกร่งน้อยกว่าฝั่งตรงข้ามแต่มีหรือที่พวกเขาจะถูกเล่นงาน
จนอยู่ในสภาพน่าอับอายเช่นนี้ รอยยิ้มที่ยกขึ้นที่มุมปากของหลินหมิง
มันทาให้พวกเขาเข้าใจได้อย่างดีเลยว่าหากพวกเขาต้องเจอกับหลินห
มิงในรอบต่อไปแล้วละก็สภาพของพวกเขาคงไม่ต่างกันหรืออาจ
เลวร้ายกว่าด้วยซ้าไป เทียบความแข็งแกร่งของพวกเขากับหลิน
เสี่ยวต้าแล้วนั้นพวกเขายังคงอ่อนด้อยกว่าอยู่หลายขั้น
แล้วเมื่อหลินหมิงไล่มองไปที่ที่พักของตระกูลหลินสีหน้ากระอัก
กระอวน โกรธ ตกตะลึง นี้เป็นสีหน้าที่ทาให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
หากพวกมันเหล่านี้รู้ว่าเขาคือคนที่พวกมันกลั่นแกล้งอยู่หลายปีพวก
มันจะรู้สึกอย่างไร ?
กระทั่งเหม่ยฮวาในตอนนี้นางก็แทบทาตัวไม่ถูกอีกต่อไปไม่ใช่ว่า
หลินหมิงตกลงกับนางว่าจะไม่ถือสาบุตรของนางอย่างนั้นหรือ
ถึงแม้ว่าบุตรของนางจะไม่ตายก็จริงแต่แบบนี้มันอาจแย่ยิ่งกว่าตาย
เสียอีกสาหรับคนที่มีชื่อเสียงมากเช่นบุตรของนาง กระทั่งในการเข้า
ร่วมสานักในครั้งนี้เป็นไปได้สูงว่าบุตรของนางอาจไม่ถูกตัดสินให้เข้า
ร่วมเพราะว่าเขายังคงไม่ได้แสดงความสามารถใดเลย
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจดูไม่ยุติธรรมเพียงแต่ในการ
ประลองปกติแล้วมันไม่มีใครที่จะสามารถโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามได้
ง่ายดายเช่นเดียวกับหลินหมิงมาก่อน
แต่หลินหมิงถึงกับชะงักเล็กน้อยเมื่อเขาพลันเห็นสีหน้าของหลิน
ฮ่าวมันแตกต่างจากที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่ใบหน้าของเขาจะ
ปราศจากความกังวลและความเคร่งเครียดดังเช่นผู้อาวุโสหรือคนใน
ตระกูลหลินอื่น แต่เขากลับยิ้มออกมา ?
สาหรับหลินหมิงแล้วนี้เป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความดูถูก หลินห
มิงกาหมัดแน่นดูเหมือนว่าการที่หลินฮ่าวผู้นี้ได้เห็นบุตรของตนหมด
อนาคตไปเพียงหนึ่งมันคงจะยังไม่เพียงพอ แววตาของหลินหมิงลุกวาว
ไปด้วยความคั่งแค้นพร้อมกับเดินลงไปจากลานประลองเพื่อรอทาการ
ประลองรอบต่อไป
" บัดซบนี้มันมากเกินไปแล้ว ! นี้เป็นการประลองเพียงเพื่อทดสอบ
ความสามารถเหตุใดเจ้าถึงต้องรุนแรงเช่นนี้ด้วย "
ชายหนุ่มคนหนึ่งของตระกูลหลินตะโกณออกมาด้วยอารมณ์แค้น
เคือง การที่ตระกูลหลินถูกเหยียบหน้าถึงขนาดนี้นี้อาจเรียกได้ว่าเป็น
ครั้งแรกในรอบหลายปีเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นคนที่ลงมือยังเป็น
เพียงเด็กหนุ่มวัย 15 ปีเท่านั้น ชายหนุ่มผู้นี้มีอายุสามสิบปีระดับพลัง
ของมันจากที่หลินหมิงสัมผัสได้นั้นคือปราณก่อเกิดขั้น 9 มันอาจเรียก
ได้ว่าเป็นพรสวรค์ที่น่าชื่นชมไม่ใช่น้อย และการที่ชายหนุ่มคนนี้กระทา
การเช่นนี้เห็นได้ชัดว่ามันคงต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง
" ข้าไม่คิดว่ามันจะอ่อนแอ่ถึงเพียงนี้ก็เท่านั้น "
" เจ้า !! "
ด้วยอารมณ์ของหลินหมิงในตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นปฎิกริยาของ
หลินฮ่าวนับได้ว่านี้เป็นการกระทาที่โง่เง่าที่สุดแล้ว หลินหมิงหันกลับ
ไปจ้องร่างของชายหนุ่มผู้นี้ด้วยสายตาดูถูกแน่นอนว่าแม้ว่าระดับพลัง
แท้จริงของหลินหมิงในตอนนี้จะอยู่ในระดับปราณก่อเกิดขั้น 7 แต่มี
หรือที่ชายหนุ่มผู้นี้จะสามารถเป็นคู่มือเขาได้ ?
" หรือเจ้าต้องการแก้แค้น ? มาสิข้ายินดีให้โอกาสเจ้าหากเจ้ายังคง
พอมีความกล้าอยู่บ้างแน่นอนว่าหากเจ้าเลือกแล้วข้าคงต้องมอบ
บทเรียนที่มีค่ายิ่งกว่าคุณชายของเจ้าเสียหน่อย "
ฟ่งซือเซียนหากเป็นปกติแล้วนางคงไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นนาง
ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรระหว่างหลินหมิงกับตระกูลหลิน แต่แน่นอนว่าไม่
ว่าจะอย่างใดก็แล้วแต่นางยินดีพร้อมทาตามหลินหมิงทุกอย่างอยู่แล้ว
" เอาสิ..ข้าเองก็ได้ยินมาว่าเจ้าสามารถโค่นผู้ที่พลังปราณก่อเกิดขั้น
5 มาแล้ว ข้าเองก็อยากเห็นมันเช่นกัน "
ตระกูลหลินในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายแม้ว่าเจ้าเด็กนี้จะมี
ความสามารถที่น่าตื่นตะลึงก็จริง เพียงแต่ว่าชายหนุ่มที่ออกตัว
ประกาศประลองกับหลินหมิงนั้นใช่ว่าจะอ่อนด้อย ด้วยพลังปราณก่อ
เกิดขั้น 9 แน่นอนว่าด้วยระดับพลังเช่นนี้แม้แต่เหยียนจ้าวหรือผู้ที่มี
พลังระดับปราณก่อเกิดขั้น 5 เช่นเดียวกันคู่ต่อสู้ของหลินหมิงในข่าว
ลือก็ยังนับว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสังหารหลินหมิงลงในตรงนี้ได้เพียงแต่
ว่าผู้ที่ความมั่นใจมากเกินไปอย่างเจ้าเด็กนี้หากมันต้องพ่ายแพ้เพียงสัก
ครั้งนั้นก็เพียงพอที่จะทาให้ความก้าวหน้าทุกอย่างของมันต้อง
หยุดชะงักหรือกระทั่งพังทะลาย ดังนั้นแล้วนี้เป็นโอกาศดีที่สุดที่อย่าง
น้อยเจ้าเด็กนี้มันยังคงพอมีความโง่ที่มอบโอกาสให้กับพวกเขาอยู่บ้าง
ด้วยระดับพลังของชายหนุ่มที่พวกเป็นคู่ต่อสู้ของหลินหมิงการที่หลินห
มิงจะสามารถเอาชนะเขาคงต้องมีพลังระดับอย่างน้อยขั้น 9
เช่นเดียวกันเท่านั้นซึ่งนั้นนับเป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือ เด็กหนุ่มวัย 15
ปีเอาชนะผู้ที่มีพลังปราณระดับก่อเกิดขั้น 9 เช่นนั้นแล้วพวกเขาที่มี
อายุมากแล้วเช่นนี้คงได้ผูกคอตายกันไปเสียหมดแล้ว

ตอนที่ 110
ในที่พักของตระกูลหลินผู้อาวุโสส่วนหนึ่งได้สนใจไปกับการดูแล
หลินเสี่ยวต้าสาหรับการประลองเพื่อเข้าร่วมสานักนั้นในตอนนี้พวก
เขามองว่ามันไม่สาคัญเท่ากับอนาคตของเขา ชัดเจนเลยว่าผลจากการ
ต่อสู้ในครั้งนี้มันต้องสร้างผลกระทบอันร้ายแรงขึ้นภายในจิตใจของ
หลินเสี่ยวต้าพวกเขาเพียงได้แต่หวังว่ามันจะไม่ส่งผลต่อศักยภาพของ
เขามากนัก
ส่วนทางด้านชายหนุ่มผู้ทางประลองกับหลินหมิงเขามีชื่อว่าหลินลี่
เฉิง แม้ว่าด้วยความจริงสาหรับผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดขั้น 9 ด้วยวัย 30
เช่นเขาจะนับได้ว่าน่าตื่นตะลึงแต่นั้นเป็นเพราะว่าตัวของหลินลี่เฉิงนั้น
ได้ใช้ทรัพย์สมบัติจานวนมากในการบ่มเพาะพลังอาจกล่าวได้ว่า
ศักยภาพของเขาถูกผลาญไปอย่างรวดเร็วจนทาให้ในตอนนี้เพียงแค่
ก้าวขึ้นสู่ระดับจอมยุทธ์ก็ยังคงเป็นเรื่องยากมากสาหรับเขา
แต่หากเขาสามารถเอาชนะหลินหมิงลงได้แน่นอนว่าชื่อเสียงของ
เขาคงกระจายไปทั่วไปไม่เพียงเท่านั้นบรรดาผู้อาวุโสในตระกูลหลินคง
ต้องให้รางวัลแก่เขาไม่มากก็น้อยเมื่อคิดได้เช่นนี้หลินลี่เฉิงถึงกับเคลิ้ม
ฝันถึงกองสมบัติรางวัลที่เขาจะได้รับ
" ข้าต้องขอนับถือในความกล้าหาญของคุณชายฮั่วแม้ท่านจะต้อง
ต่อสู้กับผู้ที่มีอายุมากกว่าเช่นข้าท่านก็ยังคงไม่มีความเกรงกลัว "
" ฮืม....เป็นข้าต่างหากที่ต้องชื่นชมเจ้า...ขนาดเจ้าได้เห็นสภาพของ
คุณชายของเจ้าแล้วเจ้าก็ยังคงมีความโง่มากพอที่จะกล้าประลองกับข้า
..ข้าละนับถือในความโง่เขลาของเจ้าจริงๆ "
ลี่เฉิงขบฟันแน่นด้วยความโกรธลาพังเพียงศิษย์รุ่นเยาว์โดยทั่วไป
แล้วนั้นหากพวกมันได้ยินชื่อของเขาอาจทาให้พวกมันส่วนใหญ่กลัวจน
แทบฉี่ราด แต่ไม่เพียงเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่เกรงกลัวเขาแต่อย่างใดแต่
มันยังกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ ลี่เฉิงเลือกที่จะไม่กล่าววาจาตอบโต้ต่อไป
อีกไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากแต่นั้นเป็นเพราะว่าเขากลัวว่าจะห้ามใจไม่ให้
สังหารเด็กหนุ่มผู้แสนโอหังผู้นี้
สาหรับการประลองในครั้งนี้ล้วนถูกจับตามองเสียยิ่งกว่าการ
ประลองก่อนหน้าที่น่าจะเป็นคู่ประลองระหว่างผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของ
งานประลองครั้งนี้ แม้ว่ามันจะทาให้พวกเขาได้ตื่นตะลึงได้เป็นอย่าง
มากเพียงแต่ด้วยผลการประลองที่จบแบบรวดเร็วชนิดบางคนเพียง
กระพริบตาหรือหันไปคุยกับสหายพวกเขาก็พลาดช่วงเวลาสาคัญของ
กาต่อสู้ไปเสียแล้ว ดังนั้นแล้วเมื่อมีโอกาสที่พวกเขาจะได้เห็นหลินหมิง
ได้โชว์ความสามารถอีกครั้งแน่นอนว่าในครั้งนี้พวกเขาจะไม่ละสายตา
ไปจากลานประลองแน่เว้นเสียแต่มันจะมีอุกาบาตตกลงมาก็เท่านั้น
ฟ่งซือเซียนพร้อมกับกลุ่มหญิงสาวทั้งสี่ที่เป็นกรรมการพวกนาง
ไม่ได้มีความกังวลใดๆกับการประลองในครั้งนี้แน่นอนว่าพวกนาง
สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่แท้จริงของหลินหมิงที่อยู่มีด้อยกว่าฝ่ายตรง
ข้ามอยู่สองขั้น ด้วยความสามารถของหลินหมิงนั้นแม้ว่าฝ่ายตรงข้าม
จะมีพลังเทียบเท่ากับเขาหรือมากกว่าหนึ่งขั้นพวกนางเชื่อว่าพวกเขา
เหล่านั้นจะไม่เป็นปัญหาสาหรับหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย แต่หากเป็นผู้
ที่มีพลังมากกว่าสองขั้นเช่นนี้แม้แต่พวกนางเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยอีก
ฝ่ายหาใช่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาทั่วไปที่ไร้ซึ่งทักษะ ซ้าเขายังมาจากตระกูล
ใหญ่ที่เต็มไปด้วยทักษะยุทธ์มากมาย
แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางก็ยังคงมีทางออกสาหรับเรื่องนี้ หากว่าพวก
นางคิดเห็นว่าหลินหมิงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลาบากเมื่อใด
แน่นอนว่าพวกนางสามารถลงมือเข้าหยุดได้ในทันทีดดยอ้างสิทธ์ของ
ตัวแทนจากสานักหลวงที่ไม่ต้องการให้ศิษย์ที่ยอดเยี่ยมจากหลินหมิง
ต้องได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้แล้วมันจะยังคงมีใครกล้าเถียงได้อีก ?
" เริ่มได้ "
บนลานประลองลี่เฉิงนากะบี่ของมันออกมาในทันทีโดยไม่สนใจว่า
ฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่ามันถึงสองเท่า สาหรับการ
ประลองในครั้งนี้หากมันสามารถเอาชนะหลินหมิงได้แน่นอนว่ามัน
จะต้องได้รับรางวัลและชื่อเสียงมากมายกลับกันแล้วหากมันพ่ายแพ้
ขึ้นมาไม่ต้องสงสัยเลยว่าชีวิตน้อยๆของมันในชาตินี้คงอยู่ได้ยากแล้ว
ลาพังเพียงตระกูลหลินต้องเสียหน้าหลังจากที่หลินเสี่ยวต้าพ่ายแพ้นั้น
ก็นับว่าเป็นความเสื่อมเสียที่พวกเขาเกินจะรับได้ แล้วหากเขาที่เป็นถึง
ผู้ที่มีพลังปราณในระดับสูงสุดขั้นก่อเกิดพ่ายแพ้อีก เช่นนั้นแล้วบางที
เขาอาจไม่ต้องมีเวลาสานึกผิดเลยก็ได้เพราะชีวิตของเขาคงจบลง
ในทันที
เช่นนั้นแล้วลี่เฉิงจึงเลือกลงมือด้วยพลังของเขาที่มีทั้งหมด เขาไม่รู้
ว่าหลินหมิงมีความสามารถหรือทักษะอะไรบ้าง แต่มันไม่มีทางพ่ายแพ้
ให้กับหลินหมิงได้อย่างแน่นอน
ทวนสีดาทมิฬถูกนาออกมาจากแหวนมิติของหลินหมิง ด้วยแรง
กดดันที่แผ่ออกมาจากหลินหมิงในยามที่เขาปราศจากอาวุธกับตอนที่มี
อาวุธมันราวกับว่าเขาเป็นคนละคนกันเลย หากกล่าวว่าหลินหมิงยาม
ไร้ซึ่งอาวุธน่ากลัวแล้วหลินหมิงในตอนนี้ดูน่ากลัวกว่ามาก ดวงตาของ
เขาปรากฎความเย็นชาราวกับว่าลี่เฉิงตรงหน้าเขาเป็นเพียงแมลงที่ทา
ให้เขารู้สึกราคาญ
ร่างของลี่เฉิงพุ่งไปด้วยความเร็วสูงจนบรรดาผู้ชมทั่วไปไม่สามารถ
มองได้ทันขนาดรุ่นเยาว์ที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีพวกเขาเองก็สามารถ
มองเห็นเพียงเงาของลี่เฉิงที่พุ่งไปอย่างรวดเร็วเท่านั้น
เคล้ง !
เสียงปะทะกันในครั้งแรกระหว่างกะบี่ของลี่เฉิงและทวนของหลินห
มิง ใบหน้าของลี่เฉิงกระตุกขึ้นมาไม่เพียงแต่หลินหมิงจะสามารถรับมือ
กับกะบี่ของเขาได้แต่มันยังคงรับมือกับกะบี่ของเขาได้ด้วยมือที่ถือทวน
เพียงข้างเดียว !
" บัดซบ ! "
สาหรับลี่เฉิงแล้วนั้นไม่เพียงแต่หลินหมิงจะมีความสามารถที่น่า
กลัวแต่มันยังเป็นเด็กที่สามารถยั่วยุโทสะของเขาได้ยอดเยี่ยมโดย
แท้จริง พลังเต็มสิบส่วนของผู้ที่พลังปราณก่อเกิดขั้น 9 ถูกระเบิด
ออกมาอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย คลื่นระเบิดพลังแทบจะทาให้รุ่นเยาว์
ที่อยู่ใกล้รู้สึกจุกจนแทบพูดไม่ออก
แต่เมื่อพวกเขามองกลับไปยังหลินหมิงเด็กหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่า
พวกเขาเด็กหนุ่มผู้นี้กลับยังยืนอยู่อย่างนิ่งสงบเช่นเคย นี้คือสิ่งที่ทาให้
พวกเขารู้สึกตะลึงเป็นอย่างมากลาพังเพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังของลี่
เฉิงในตอนนี้มันอาจเพียงพอที่จะปลิดชีพเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งหมด
ในที่แห่งนี้เว้นเสียแต่หลินหมิงเพียงคนเดียวเท่านั้น !
ร่างของลี่เฉิงหายวับไปราวกับว่าเขาหายตัวได้ เพียงชั่วพริบตาเขา
กลับปรากฎด้านหลังของหลินหมิงพร้อมกับกะบี่ที่ถูกวาดออกมาด้วย
ความรุนแรง เพียงแค่แรงแหวกอากาศนี้มันอาจเพียงพอที่จะสังหาร
คนได้เลยทีเดียว !
เคล้ง !
เสียงทวนของหลินหมิงปะทะกับกะบี่ของลี่เฉิงอีกครั้ง โดยที่หลินห
มิงไม่ทันหันกลับมามองด้วยซ้า เขาเพียงพาดทวนไปด้านหลังและรับ
กะบี่ของลี่เฉิงอย่างง่าย
เคล้ง เคล้ง เคล้ง !
เสียงปะทะกันระหว่างกะบี่และทวนดังระงมอย่างต่อเนื่องเพียงแต่
ผู้คนทั่วไปไม่อาจเห็นได้เลยว่าพวกเขาปะทะกันไปในตอนไหนสิ่งที่
พวกเขาเห็นมีเพียงสะเก็ดไฟที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันเท่านั้น
ด้วยในหลายเดือนที่ผ่านมาหลินหมิงนั้นได้พัฒนทักษะ [ ก้าววายุ ]
และทักษะการใช้ทวนของเขาจนอยู่ในระดับที่น่าตื่นตะลึง ไม่เพียงแต่
การเคลื่อนไหวของลี่เฉิงจะไม่เป็นปัญหาสาหรับหลินหมิงกลับกันมัน
ยังคงดูเชื่องช้าไปเสียด้วยซ้า
เคล้งง !!!
เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงครั้งสุดท้ายร่างของลี่เฉิงถอยหลัง
กลับมาอย่างน้อยห้าก้าวพร้อมกับอาการชาที่บริเวณข้อมือของเขา
บรรดาผู้อาวุโสตระกูลหลินต่างพากันนั่งไม่ติดเห็นได้ชัดว่าลี่เฉิงนั้นได้
ใช้พลังที่มีอยู่เต็มสิบส่วนแต่มันไม่แม้กระทั่งสร้างปัญหาเพียงเล็กน้อย
ให้กับหลินหมิงได้เลยเสียด้วยซ้าไป ในตอนนี้หากจะมีผู้ใดที่สามารถ
ล่มเจ้าเด็กหนุ่มนี้ลงได้คงมีแต่ผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์แล้ว !
" บัดซบ บัดซบ บัดซบ !!!! "
ลี่เฉิงสะบดออกมาด้วยอารมณ์รุนแรงเขาไม่สามารถแพ้ในการ
ประลองครั้งนี้ได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงจาเป็นต้องใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อโค่นล้ม
หลินหมิงลงให้ได้
" [ คมดาบเจ็ดกระบวนท่า ] ! "
ลี่เฉิงตัดสินใช้ทักษะที่ตัวมันมั่นใจมากที่สุดมันจาเป็นต้องรีบจบการ
ประลองนี้ให้เร็วที่สุดไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้มันได้รับชัยชนะแต่มันจะ
ยังคงมีประโยชน์อันใดอีกในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเพียงเด็ก ? กล้ามเนื้อของ
ลี่เฉิงกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรงคม [ คมดาบเจ็ดกระบวนท่า ] เป็นอีก
หนึ่งในทักษะที่แสนภาคภูมิใจของตระกูลหลิน ไม่เพียงแต่ผู้ฝึกจะต้อง
มีความเข้าใจในการใช้กะบี่อย่างลึกซึ่งแต่เขาจะต้องพลังกายที่
เหมาะสมสาหรับการใช้ทักษะนี้กล่าวได้ว่าผู้ที่สามารถใช้ทักษะนี้ได้
ต้องเป็นผู้ที่มีพลังอย่างน้อยเท่ากับลี่เฉิง
ลี่เฉิงรู้ดีว่าตัวมันยังคงไม่อาจทาความเข้าใจทักษะนี้ได้อย่าง
ครบถ้วนเพียงแต่ว่ามันไม่มีทางเลือกอีกต่อไป ในใจของมันไม่คิดว่า
ทักษะอื่นใดจะสามารถล้มหลินหมิงได้อีกแล้วมีเพียงทักษะนี้เท่านั้นที่
เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียว

ตอนที่ 111
ความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายส่งผลให้ทั่วร่างของลี่เฉิงนั้น
ปรากฎเส้นเลือดปูดโปนออกมาอย่างน่ากลัว แต่ถึงอย่างนั้นลี่เฉิงไม่
สนใจความเจ็บปวดที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้สายตาของเขาจดจ้องไปยัง
ร่างของเด็กหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าถึงสองเท่าตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง
ผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลหลินต่างลุ้นระทึกกับภาพตรงหน้า
แน่นอนว่าหากลี่เฉิงใช้ทักษะ [ คมดาบเจ็ดกระบวนท่า ] นี้ออกไปแล้ว
หลินหมิงยังคงรับมือได้แน่นอนว่านี้จะต้องเป็นความพ่ายแพ้ของลี่เฉิง
อย่างแน่นอน ด้วยสภาพร่างกายของลี่เฉิงในตอนนี้เพียงแค่มันใช้
ทักษะนี้ออกไปมันจะทาให้ร่างกายของมันอ่อนแรงเสียยิ่งกว่าคน
ธรรมดาแล้วเช่นนั้นมันจะยังต่อสู้ได้ต่อ ? แน่นอนว่าไม่ถึงแม้ว่าทักษะ
นี้จะสามารถเอาชนะหลินหมิงได้แต่ผลสรุปของการประลองนั้นสภาพ
ของลี่เฉิงคงย่าแย่ไปไม่น้อยกว่าหลินหมิงแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ว่าจะทาง
ใดนั้นย่อมเป็นผลเสียต่อตระกูลหลินทั้งนั้น
" ฮ่าห์ !! "
เสียงคารามของลี่เฉิงดังไปทั่วลานประลองพร้อมกับกระบี่ของมันที่
ตวัดอย่างรวดเร็วมาที่หลินหมิง
" [ คมดาบกระบวนท่าที่หนึ่ง ] ! "
เมื่อกระบี่ของลี่เฉิงและทวนของหลินหมิงเข้าปะทะกันในคราวนี้
หลินหมิงไม่สามารถที่จะทาสีหน้าเรียบเฉยได้อีกต่อไปเห็นได้ชัดว่า
เพลงกระบี่ของลี่เฉิงในครั้งนี้มีความเฉียบคมและรุนแรงเป็นอย่างมาก
" [ คมดาบกระบวนท่าที่สอง ] ! "
ไม่ทันที่หลินหมิงจะได้ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของลี่
เฉิงสี่ประกาศกร้าวของลี่เฉิงพร้อมกับตัวกระบี่ของมันที่พุ่งเข้าหา
หลินหมิงด้วยความรุนแรงมากยิ่งกว่าในกระบี่แรกแบบทวีคูณ ด้วย
ทักษะ [ คมดาบเจ็ดกระบวนท่า ] เป็นทักษะโจมตีต่อเหนื่องด้วยกัน
เจ็ดครั้งด้วยกัน โดยมันจะอาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายผู้ใช้
ทั้งหมดเพื่อทาการจู่โจมเป้าหมาย
เมื่อคมดาบแรกถูกเรียกใช้ออกไปมันจะตามมาด้วยคมดาบที่สอง
ราวกับว่าเป็นการฟาดฟันในครั้งเดียว อาศัยแรงสะท้อนจากการปะทะ
กันระหว่างคมดาบแรกของทักษะกับเป้าหมายเพื่อเป็นการเสริมพลัง
ให้แก่คมดาบต่อๆไป เช่นนี้แล้วหนทางที่ศัตรูจะสามารถรอดพ้นจาก
ทักษะนี้ได้มีเพียงแค่การหลบให้พ้นกระบวนท่าแรกเท่านั้น เพราะหาก
พวกเขาเผลอตัวรับมือกับคมดาบแรกเข้าไปแล้ว มันคงเป็นเรื่องยากที่
จะหลบคมดาบต่อๆไปที่มีความรวดเร็วแบบทวีคูณด้วยเช่นเดียวกัน
เคล้ง !!!!
เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงส่งผลให้ร่างของหลินหมิงถอยไปสอง
สามก้าวแต่ถึงอย่างนั้นร่างของลี่เฉิงกลับพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับ
เป็นเงาตามตัว
" [ คมดาบกระบวนท่าที่สาม ] ! "
เมื่อเจอกับกระบวนท่าที่สามมือของหลินหมิงรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
พร้อมกับร่างของเขาที่ถอยหลังไปเกือบสิบก้าว แววตาของหลินหมิ
งลุกวาวไปด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่าน ด้วยกระบวนท่าที่ทวีความรุนแรง
และความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้มันเป็นเรื่องยากหากเขาจะสู้ต่อโดย
ปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้
ชั่วเวลาเพียงชั่วลมหายใจเดียวคมดาบที่สี่ของลี่เฉิงก็พุ่งเข้าหา
หลินหมิงอีกครั้งโดยไม่มีเวลาให้เขาได้ตั้งตัว เพลิงสีดาทมิฬลุกโชนขึ้น
ที่บริเวณฝ่ามือของหลินหมิงและลามไปที่ทวนสีดา
" นั้นมันเพลิงอะไรกัน ? "
" เพลิงสีดา..เหตุใดมันจึงได้ดูน่ากลัวเช่นนี้ "
เหล่าผู้ชมที่ได้เห็นเพลิงที่ปรากฎขึ้นของหลินหมิงมันทาให้พวกเขา
รู้สึกว่าราวกับถูกกลืนกินไป เพลิงสีดาทมิฬที่มืดมิดราวกับไร้ที่สิ้นสุด
แต่ลี่เฉิงสมกับเป็นชายหนุ่มที่มาจากตระกูลใหญ่มันไม่มีที่ท่าชะงักต่อ
ทักษะของหลินหมิงแต่อย่างใด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วกระบวนท่าของ
มันจะต้องล้มเหลวเป็นอย่างแน่นอน
ปัง !
เสียงของคมดาบที่สี่ของลี่เฉิงที่ปะทะในคราวนี้แตกต่างจากก่อน
หน้าโดยสิ้นเชิงมันราวกับว่าเขากาลังฟาดฟันไปที่หินผาสูงชั้นที่ไม่มีวัน
พังทลายลงมาได้ ใบหน้าของลี่เฉิงกระตุกขึ้นด้วยโทสะที่มากขึ้น
กว่าเดิม
" [ คมดาบกระบวนท่าที่ห้า ] "
เมื่อมาถึงจุดนี้ร่างกายของลี่เฉิงที่ต้องแบกรับกับพลังโจมตีที่ทวีคูณ
มากขึ้นเรื่อยๆเริ่มส่งผลออกมาเส้นเลือดที่ปูนโปนตามร่างกายของเขา
เริ่มมีการปริแตกออกมาตามผิวหนังอย่างน่ากลัว
ปัง !!
แม้ว่าในคราวนี้คมดาบที่ห้าของลี่เชิงจะมีความรุนแรงที่มากกว่าคม
ดาบที่สี่อยู่หลายเท่าแต่มันยังคงไม่สามารถพลักดันให้หลินหมิงถอยไป
ได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว ! ในสายตาของคนทั่วไปพวกเขารู้ดีว่าทักษะ [
คมดาบเจ็ดกระบวนท่า ] นั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ถึงอย่างนั้นเทียบกับ
ทักษะเพลิงสีดาทมิฬของหลินหมิงแล้วมันราวกับว่าเป็นขยะไร้ค่าไป
เสียอย่างนั้น

แม้ว่าจะเป็นคมดาบกระบวนท่าที่หกมันก็ส่งผลให้ร่างของหลินห
มิงชะงักถอยไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจนในที่สุดความหวังของลี่เฉิง
ขึ้นอยู่กับคมดาบสุดท้ายนี้ แม้ว่าในคมดาบทั้งหกที่ผ่านมามันไม่อาจ
สร้างความเสียหายให้กับหลินหมิงได้เลยเพียงแต่ว่าด้วยคมดาบสุดท้าย
นี้อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นคมดาบที่รุนแรงจนขนาดที่ว่าคมดาบที่หกไม่
สามารถเทียบได้และแน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ปัญหาย่อมไม่ตกอยู่กับ
ศัตรูเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ตัวผู้ใช้เองก็ย่อมต้องรับภาระนี้
เช่นเดียวกัน
" [ คมดาบกระบวนท่าที่เจ็ด ] !!! "
ร่างของลี่เฉิงราวกับว่ามันพร้อมจะแตกเป็นเสี่ยงๆได้ทุกเมื่อ เลือด
ที่ไหลออกมาตามผิวหนังของเขามันทาให้ทั่วร่างของลี่เชิงในตอนนี้ราว
กับได้อาบน้าในลาธารสายเลือด
หลินหมิงตั้งทวนของเขารับมือกับการโจมตีของลี่เฉิงอย่างมั่นคง
ความรุนแรงของคมดาบสุดท้ายนี้มันเพียงพอที่จะทาให้หลินหมิงรู้สึก
กังวลหากเขาต้องรับมือกับมันจริงๆ เพียงชั่วเสี้ยวพริบตาก่อนที่กระบี่
ของลี่เฉิงจะมาถึงที่ตัวของหลินหมิง
หลินหมิงได้เปลี่ยนการถือทวนเขาด้วยมือข้างเดียวจากนั้นนามือ
ข้างที่ไม่ได้ถือทวนเหยียดตรงชี้ไปที่ลี่เฉิงอย่างไม่หวาดเกรง
" [ ดรรชนีเพลิง ] "
[ ดรรชนีเพลิง ] ทักษะที่หลินหมิงเคยใช้เอาชนะลี่เซี่ยนหญิงสาว
ในกลุ่มของฟ่งซือเซียนที่มีระดับจอมยุทธ์มาแล้วนับประสาอะไรกับผู้ที่
มีพลังระดับก่อเกิดเช่นลี่เฉิง ปราณสีดาทมิฬที่พุ่งออกไปเป็นเส้นตรง
ปะทะเข้ากับคมกระบี่ที่กาลังพุ่งมาที่ร่างของหลินหมิง รอยยิ้มปรากฎ
ที่ใบหน้าของลี่เฉิงตัวมันไม่คิดว่าจะมีทักษะใดที่จะมีสามารถช่วยให้
หลินหมิงเอาชนะคมดาบที่เจ็ดนี้ของเขา
เพียงแต่ว่าเมื่อปราณสีดาของหลินหมิงเข้าปะทะกับกระบี่ของมัน
กับปรากฎเรื่องที่น่าตื่นตะลึงขึ้นกระบี่ของลี่เฉิงถูกทะลวงผ่านราวกับ
ว่ามันเป็นเพียงใบไม้อ่อน พร้อมกับปราณสีดาที่ยังคงพุ่งทะลวงต่อไป
จนทะลุหัวไหล ความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณหัวไหลทาให้กระบวนท่า
ของลี่เฉิงต้องหยุดงะชักลงถึงแม้ว่าปราณสีดาของหลินหมิงจะโจมตีไม่
โดนหัวไหลของลี่เฉิงกระบวนท่าของมันจะยังคงดาเนินต่อไปได้อีกหรือ
โดยที่กระบี่ของมันถูกทาลายไปแล้ว ?
" อ๊าาากกกกกกกกก !!!! "
ราวกับว่าร่างกายภายในของมันนั้นกาลังถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิง
ที่ไม่มีวันดับเทียบกับความเจ็บปวดที่มันต้องทนจากการฝืนร่างกายใช้
ทักษะ [ คมดาบเจ็ดกระบวนท่า ] แล้วนั้นความรู้สึกเหล่านั้นราวกับว่า
เป็นเพียงแค่การหกล้ม ร่างของลี่เฉิงล้มลงพร้อมกับตะโกณออกมา
อย่างโหยหวน ปราณในร่างของมันนั้นแตกซ่านจนยากที่จะสามารถ
ควบคุมได้
ทุกคนในลานประลองปรากฎสีหน้ายากจะเชื่อด้วยบาดแผล
เล็กน้อยเพียงนั้นกลับสามารถสร้างความเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้ ? ลาพัง
เพียงในตอนที่หลินหมิงมีระดับพลังขั้นก่อเกิดขั้น 3 เข้าสามารถใช้
ทักษะนี้โจมตีทะลุผ่านการป้องกันของผู้ที่พลังระดับจอมยุทธ์ไปได้
อย่างง่ายดายแล้วเทียบกับความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขาแล้วมันไม่
น่าแปลกใจเลยที่ลี่เฉิงจะมีท่าทีเช่นนี้
ผู้อาวุโสภายในตระกูลหลินใช้เวลาชั่วครู่เพื่อให้หายตกใจ คมดาบ
กระบวนท่าที่เจ็ดถูกทาลาย ? แถมมันยังถูกทาลายโดยผู้ที่มีพลังอ่อน
กว่าผู้ใช้ถึงสองขั้น นี้มันเป็นเรื่องบัดซบอันใดกัน !
เมื่อพวกเขาตรวจดูบาดแผลของลี่เฉิงคิ้วของพวกเขาขมวดเข้าหา
กันด้วยความเคร่งเครียดทักษะนี้แน่นอนว่าเป็นทักษะที่ไม่ได้ส่งผล
ภายนอกมากนักแต่กับภายในแล้วนั้นเรียกได้ว่าเป็นการทาลายล้างที่
พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ผู้อาวุโสต่างรีบหยุดปราณสีดาที่กาลัง
ลุกลามไปทั่วร่างของลี่เฉิงในทันทีหากไม่ใช่ว่าพวกเขามีพลังในระดับ
จอมยุทธ์ขั้นกลางแล้วมันยังคงเป็นเรื่องยากที่จะทาการหยุดปราณสีดา
นี้ด้วยซ้าไป

ตอนที่ 112
ใบหน้าของทุกคนในตระกูลหลินปรากฎแววตาเคืองแค้นมาที่
หลินหมิงอย่างเห็นได้ชัด เทียบกับการที่หลินหมิงเอาชนะหลินเสี่ยวต้า
ได้ยังนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาเพราะว่าทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าหลิน
เสี่ยวต้ามีพลังที่อ่อนแอ่กว่าหลินหมิง แต่กลับลี่เฉิงพวกเขาไม่มีสิทธ์ที่
กล่าวโต้แย้งแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่จะมีอายุมากกว่าถึงสองเท่า
ประสบการณ์การต่อสู้ที่ลี่เฉิงได้รับมามันย่อมมากกว่าหลินหมิงอย่างไม่
ต้องสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้นรู้กันดีว่าหลินหมิงนั้นแต่เดิมเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ไร้
ญาติที่ประมุขสมาคมนักปรุงยาอย่างจูหนิงเอ๋อร์นามาเป็นศิษย์นางยัง
ไม่ถึงหนึ่งปีเสียด้วยซ้าไป กล่าวได้ว่าด้วยพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มผู้นี้
หากเขาเกิดมาในตระกูลใหญ่หรือแค่ตระกูลระดับปานกลางมาตั้งแต่
ต้นไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้จะมีมาก
เพียงใด
เพียงแค่ในตอนที่เขามีระดับพลังในตอนนี้อยู่ระดับปราณก่อเกิดขั้น
ที่ 7 เขากลับสามารถเอาชนะคนที่มีพลังปราณมากกว่าได้ถึงสองขั้น
อย่างไม่เหนื่อยมากนัก ลาพังเพียงแค่พวกเขารู้ว่าหลินหมิงมี
ความสามารถในการพัฒนาตนจนถึงขั้นที่ 7 ปราณก่อเกิดนี้มันก็แทบ
จะทาให้ผู้คนที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์โดยทั่วไปรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะมุด
หัวลงดิน แต่ในตอนนี้เด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงสามารถเอาชนะลี่เฉิงผู้ที่มีพลัง
ปราณขั้น 9 มาได้ เช่นนี้แสดงว่าการบ่มเพาะพลังของเขานั้นไม่ได้
พึ่งพาโอสถหรือสมบัติวิเศษทั่วไป ไม่เช่นนั้นแล้วไม่ว่าพวกเขาจะได้รับ
สมบัติที่ดีมากเพียงใดพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะผู้ที่มีความ
แข็งแกร่งมากกว่าเช่นนี้ได้
ผู้อาวุโสที่เข้าดูอาการของลี่เฉิงรีบนาตัวของลี่เฉิงกลับเข้าไปที่พัก
ตระกูลหลินในทันทีด้วยผลการประลองเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ชื่อเสียงของตระกูลหลินที่มีมาแต่เนิ่นนานกลับถูกเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
ทาลายไปถึงสองครั้งแล้ว อันที่จริงแล้วเหล่าผู้คนในตระกูลหลินยังคงมี
รุ่นเยาว์ที่มีความสามารถเทียบเท่าลี่เฉิงอยู่เป็นจานวนหนึ่งแต่ถึงอย่าง
นั้นระดับฝีมือของพวกเขาก็ไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้นแล้วหากพวกเขา
เสนอตัวออกไปทาการประลองกับหลินหมิงอีกครั้งมันคงไม่ใช่ความคิด
ที่ดีนัก
ด้วยสภาพของหลินหมิงที่ผ่านการประลองมาถึงสองครั้งหากเขา
ต้องพ่ายแพ้ในครั้งที่สามนี้เขาก็ยังคงมีข้ออ้างอย่างมากมายเช่นด้วย
สภาพพลังปราณของเขาที่ยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ หรือด้วยการที่อีกฝ่ายมี
อายุมากกว่า กลับกันแล้วหากพวกเขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ
หลินหมิงเช่นเดียวกันกับลี่เฉิงชัดเจนเลยว่าอนาคตของพวกเขาต้องดับ
สิ้น
ผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลหลินเหลือบมองไปที่หลินหมิงด้วย
ความคับแค้นการประลองระหว่างรุ่นเยาว์นั้นพวกเขาไม่มีสิทธ์ที่เข้า
ร่วมแต่อย่างใด ลาพังเพียงแค่ลี่เฉิงที่มีอายุมากกว่าหลินหมิงถึงสอง
เท่านี้มันก็นับได้ว่ามากจนเกินไปแล้ว อีกทั้งในตอนนี้เมื่อพวกเขามอง
ไปที่กรรมการจากเมืองหลวงอย่างฟ่งซือเซียนและกลุ่มหญิงสาวทั้งสี่ที่
เหลือเห็นได้ชัดว่าในสายตาของพวกนางในตอนนี้หลินหมิงคือศิษย์ที่มี
ความสามารถโดดเด่นโดยแท้จริง
แม้จะเป็นเมืองหลวงที่ร่วมรวมเหล่ารุ่นเยาว์ที่เก่งกาจเอาไว้
มากมายแต่ถึงอย่างนั้นแน่นอนว่ามันคงไม่มีใครที่มีความสามารถอัน
น่าหวาดกลัวเท่ากับเด็กหนุ่มผู้นี้แล้วเช่นนี้พวกนางจะปล่อยให้หลินห
มิงเป็นอันตราย ? แน่นอนว่าไม่ ดังนั้นแล้วทางเลือกของพวกเขาคือ
ต้องยอมถ่อยออกมาก่อนเพื่อรอจังหวะในคราวหน้า ที่น่าแปลก
สาหรับพวกเขาก็คือประมุขของพวกเขาไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจกับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เลยแม้แต่น้อย
จริงอยู่ว่าประมุขของพวกเขานั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องภายในตระกูล
เสียเท่าไหร่ จึงทาให้อานาจในตระกูลส่วนใหญ่เหล่านั้นตกไปอยู่กับ
ภรรยาน้อยใหญ่และบรรดาบุตรของเขาเมื่อเป็นเช่นนี้มันจึงมีการ
แข่งขันกันภายในอย่างรุนแรงเพื่อที่จะคว้าเอาอานาจภายในตระกูล นี้
จึงเป็นเหตุให้รุ่นเยาว์รุ่นนี้ของตระกูลหลินมีความแข็งแกร่งที่น่าตื่น
ตะลึง
หลินหมิงก้าวลงมาจากลานประลองอีกครั้งในตอนนี้เขาเริ่มรู้สึก
สงบลงขึ้นมาบ้างนี้อาจเป็นการต่อสู้ในครั้งแรกที่เขาได้ใช้ฝีมือเกือบ
ทั้งหมดหลังจากที่ได้พัฒนาจนถึงขั้นที่ 7 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการได้ออก
กาลังเช่นนี้มันทาให้เขารู้สึกคลายกังวลไปได้มาก ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ
ใบหน้าของเหล่าผู้คนในตระกูลหลินมันราวกับเป็นยาฟื้นฟูทางจิตใจ
ชั้นเลิศให้กับเขา
ไม่ทันที่การประลองสาหรับคู่ต่อไปจะเริ่มต้นขึ้นบรรดารุ่นเยาว์ของ
ตระกูลหลินทั้งหมดต่างถอนตัวกันโดยไม่ลังเล แม้ว่าคู่ต่อของพวกเขา
ในตอนนี้จะมีเพียงหลินหมิงที่น่าหวันเกรง และพวกเขาก็สามารถ
เอาชนะคู่ประลองในรอบแรกได้อย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีพวก
เขาคนใดที่คิดจะขึ้นไปทาการประลองต่อ สาหรับการประลองในรอบ
แรกเมื่อจบลงจะเริ่มทาการประกบคู่ต่อไปแล้วหากเมื่อนั้นพวกเขา
พบว่าได้เป็นคู่ต่อสู้ของหลินหมิงเหล่า ?
แน่นอนว่าพวกเขาต้องถอนตัวอยู่ดีเช่นเดียวกันเทียบกันแล้วหาก
พวกเขาถอนตัวในตอนนี้แม้ว่าพวกเขาจะเสียชื่อเสียงไปไม่ใช่น้อยแต่
มันก็ยังคงดีกว่าการที่จะต้องถอนตัวในภายหลังเพราะความหวาดกลัว
พวกเขายังคงสามารถอ้างเหตุผลได้ว่าไม่อยากจะก้าวหน้าเกินลูกพี่ของ
พวกเขานั้นก็คือหลินเสี่ยวต้า ทาให้ในตอนนี้รุ่นเยาว์เหลือเพียง 15
คนเท่านั้น
" ข้าขอถอนตัวด้วยเช่นเดียวกัน "
คากล่าวที่ไม่น่าเชื่อออกมาจากปากของหลินหมิง เดิมทีเป้าหมาย
ของเขาคือการบดขยี้รุ่นเยาว์จากตระกูลหลินอยู่แล้วในเมื่อพวกมัน
ทั้งหมดถอนตัวแล้วมีสิ่งใดที่เขาจะต้องทาการประลองต่อไปอีก ?
ใบหน้าของรุ่นเยาว์ทั้งสี่เขียวคล้าไปด้วยโทสะ การทาเช่นนี้มันแสดงให้
เห็นเจตนาของหลินหมิงโดยเจน
สาหรับการประลองที่เหลือ 14 คนนั้นนับได้ว่าไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจ
เพราะด้วยในบรรดาพวกเขาทั้ง 14 คนคนที่แข็งแกร่งที่สุดยังคงมีพลัง
ปราณเริ่มต้นขั้นที่ 7 ระดับกลางเท่านั้นอีกทั้งการที่ตระกูลหลินไม่ได้มี
ตัวแทนรุ่นเยาว์ในการประลองมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะทาให้พวกเขาต้อง
รั้งรออยู่ต่อไปอีก
เมื่อหลินหมิงเดินเข้ามาที่พักของสมาคมนักปรุงยาบรรยากาศ
ภายในนับว่าแตกต่างกันตระกูลหลินก่อนหน้าโดยสิ้นเชิงใบหน้าของ
พวกเขาทุกคนล้วนปิติแย้มไปด้วยความยินดี เป็นที่รู้กันมาอย่าง
ยาวนานว่าตระกูลหลินถือครองตาแหน่งขุมอานาจที่แข็งแกร่งที่สุดใน
เมืองแห่งนี้มาอย่างยาวนาน และยังคงมีข่าวลือเรื่องที่พวกเขาได้ทา
การหมั้นหมายหลินชูกับหลิวฉวนยูร์ นั้นจึงเป็นเหตุให้บรรดาขุม
อานาจใหญ่ที่เหลือล้วนหวั่นเกรง
แต่ในวันนี้ไม่เพียงแต่รุ่นเยาว์ของตระกูลหลินจะถูกตบหน้ากลับไป
ด้วยความอับอาย มันยังคงมีข่าวลือที่น่ายินดีอีกเช่นเดียวกันนั้นก็คือ
ตระกูลหลิวได้ยกเลิกการหมั้นหมายระหว่าหลิวฉวนยูร์และหลินชูแล้ว
เนื่องด้วยความสามารถของหลิวฉวนยูร์ในตอนนี้นับได้ว่านางมี
พรสวรรค์ที่มากกว่าหลินเสี่ยวต้าเสียอีก ด้วยอายุของนางเพียง 14 ปี
กลับมีพลังที่น้อยกว่าหลินเสี่ยวต้าเพียงหนึ่งขั้นเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้นเป็นที่รู้กันดีว่านางคือรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถใน
ด้านการปรุงยาที่ยอดเยี่ยมที่สุดเช่นนี้แล้ว หลินชูจะยังคงเหมาะสมกับ
นางอีก ? และหากพวกเขาตระกูลหลิวยังคงทาการหมั้นหมายนางกับ
หลินชูต่อไปเป็นไปได้มากว่ามันอาจขัดขวางนางในการพัฒนาตนดังนั้น
แล้วพวกเขาจึงเลือกทางเลือกที่ไม่ขัดขวางการพัฒนาของนาง
ที่จริงแล้วหากไม่ใช่เพราะว่าการปรากฎตัวของหลินหมิงแล้วนั้น
แม้ว่าหลิวฉวนยูร์จะมีความสามารถที่น่าตื่นตะลึงแต่มีหรือที่พวกเขา
จะกล้าถอนหมั้นเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วเท่ากับว่าตระกูลหลิวของพวก
เขาประกาศตนเป็นศัตรูกับตระกูลหลินโดยตรง แต่ในตอนนี้มันต่างกัน
ในเมื่อมีสมาคมนักปรุงยาที่ประกาศตนเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตระกูล
หลินอย่างชัดเจนเช่นนี้ยังคงมีอะไรที่พวกเขาจะต้องกังวลอีก

ตอนที่ 113
จูหนิงเอ๋อร์ไม่ได้ไม่พอใจการกระทาของหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย
กลับกันแล้วนางรู้สึกพึงพอใจเสียมากกว่า เดิมทีแล้วนั้นสิ่งทีนางเป็น
ห่วงมากที่สุดสาหรับหลินหมิงไม่ใช่ปัญหาในด้านการบ่มเพาะหรือพื้น
เพของเขา แต่เป็นเรื่องการตัดสินใจ ความกล้า ด้วยส่วนใหญ่แล้วนั้น
สาหรับผู้ที่มีมาจากสามัญชนธรรมดาพวกเขาจะมีความหวาดกลัวต่อ
บรรดาเหล่าผู้ที่มีอานาจ
อีกทั้งด้วยตัวของหลินหมิงที่ยังคงอยู่ในวัยเยาว์เรื่องนี้เป็นสิ่งสาคัญ
มากสาหรับเขา นางจาเป็นต้องฝึกให้เขามีการตัดสินใจที่เด็ดขาดและ
สามารถรับผิดชอบปัญหาทั้งหมดของตนเอง และในเรื่องของตระกูลเห
ยียนที่ผ่านรวมถึงงานประลองในวันนี้นางได้เห็นแล้วว่าสิ่งเหล่านี้นาง
ไม่จาเป็นต้องกังวลกับมันเลยแม้แต่น้อย
การตัดสินใจและการลงมือของหลินหมิงในแต่ละครั้งนั้นเรียกได้ว่า
เด็ดขาดไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วนางน่าจะคิดได้
ตั้งแต่ที่เขากล้าเผชิญหน้ากับประมุขตระกูลหลินอย่างหลินฮ่าว มันจะ
ยังคงมีใครที่มีอายุเท่าเขาที่มีสามารถประจัญหน้ากับหลินฮ่าวโดยที่ไม่
หวั่นเกรงเช่นนั้น แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสส่วนใหญ่แล้วเพียงแค่ได้ยินชื่อ
พวกเขาก็ถึงกับสั่นกลัวไปแล้ว
" เจ้าทาได้ดีมาก..จริงสิเจ้าจะไปพักผ่อนเลยก็ได้นะเดียวข้าจะเป็น
คนบอกกล่าวแก่ผู้อาวุโสจากเมืองหลวงให้เอง "
" ขอบคุณขอรับท่านอาจารย์ "
หลินหมิงเดินไปทางด้านหลังของที่พักของสมาคมนักปรุงยา
ท่ามกลางสายตาชื่นชมของบรรดาเหล่าผู้คน
" ท่านพี่เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ ~~ "
เสียงของหญิงสาวแสนสดใสดังขึ้นปัดเป่าอารมณ์ความขุ่นเคือง
ภายในใจของเขาไปจนหมดสิ้น ร่างของจิวหลินก้าวมาอยู่ข้างกาย
หลินหมิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เมื่อผู้คนรอบข้างได้เห็นภาพนี้มีหลายคน
ที่เต็มไปด้วยความอิจฉาแน่นอนว่าสาหรับเหล่าบุรุษแล้วพวกเขาล้วน
อิจฉาที่หลินหมิงได้มีสาวสวยงดงามเช่นนี้อยู่ข้างกาย กลับกันแล้ว
บรรดาสตรีก็ล้วนอิจฉาจิวหลินไปไม่น้อยกว่ากัน
แม้ใบหน้าของหลินหมิงจะไม่งดงามในขนาดที่ว่าเป็นอันดับหนึ่งแต่
เขาก็ยังคงถือเป็นบุรุษรูปงามคนหนึ่งรวมกับสถานะของเขาในตอนนี้
มันคงไม่มีรุ่นเยาว์คนใดที่มีสถานะสูงไปกว่าเขาอีกแล้วในเวลานี้ เมื่อ
เป็นเช่นนี้เหล่าสตรีทั้งหลายมีหรือที่พวกนางจะไม่ต้องการเคียงข้างเขา
? .หลินหมิงนั่งลงพร้อมกับจิวหลินที่เข้าปรนิบัติบีบนวดให้เขาด้วย
ใบหน้ายิ้มแย้ม
" แล้วเจ้าไม่ไปอยู่ที่พักตระกูลเหยียนอย่างนั้นหรือ ? "
" ข้าอยากมาดูแลท่านพี่หนิเจ้าคะ "
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม่สาวงามผู้นี้นั้นทาตัวได้สมกับเป็นภรรยาของ
เขาโดยแท้จริง แม้ว่าอันที่จริงแล้วหลินหมิงจะอยากรวบร่างของนาง
มากอดแนบ แต่มันคงไม่ดนี ักกับสถานการณ์ที่ที่เต็มไปด้วยสายตาผู้คน
เช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วหลินหมิงหลังจากใช้เวลาร่วมกันการปรนิบัติ
ของจิวหลินเพียงไม่นานก็ตัดสินใจลุกจากไปในทันที
สาหรับงานประลองในรอบที่สองผู้คนจานวนมากไม่ได้ให้ความ
สนใจอีกต่อไปเริ่มต้นด้วยการจากไปของตระกูลหลิน ตามมาด้วย
ตระกูลเหยียนที่เห็นว่าหลินหมิงไม่ได้ทาการเข้าร่วมงานประลองอีก
ต่อไป ท้ายที่สุดสมาคมนักปรุงยาเองก็ไม่มีความจาเป็นจะต้องอยู่ต่อไป
เช่นเดียวกัน มันจึงทาให้งานประลองในครั้งนี้เป็นงานประลองที่ผู้คน
ให้ความสนใจมากที่สุดและน้อยที่สุดในเวลาเดียวกัน
ในขณะที่หลินหมิงเดินทางกลับเพื่อที่เขาจะได้รีบเร่งไปเสพสุขกับ
การปรนิบัติของภรรยาผู้น่ารักของเขาอย่างจิวหลิน ร่างของหญิงสาวผู้
งดงามที่เขาไม่ได้เห็นหน้ามานานก็ได้มายืนตรงหน้าเขาอีกครั้ง
" คาระวะผู้อาวุโสไม่ทราบว่าท่านมีธุระอันกับข้าอย่างนั้นหรือ "
นางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากผู้อาวุโสซูหลิ่งหลังจากที่นางได้
เดินทางเพื่อไปทาภารกิจกับหลิวฉวนยูร์นับแต่นั้นมาหลินหมิงยังคง
ไม่ได้พูดคุยกับนางเลย ด้วยการปรากฎตัวของผู้อาวุโสซูหลิ่งสาวสวยผู้
น่ารักข้างกายหลินหมิงอย่างจิวหลินรู้สึกเศร้าใจลงเล็กน้อย เห็นได้ชัด
ว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นดูเหมือนว่าจะมีธุระที่สาคัญกับสามีของนาง
แต่จิวหลินยังคงทาตัวเหมาะสมเป็นภรรยาผู้เพรียบพร้อมนางหอม
แก้มหลินหมิงไปฝอดใหญ่แล้วกลับไปรอที่ตานักก่อน
" มีคนที่อยากจะพบเจ้าหนะสิ..อีกราวหนึ่งชั่วยามเจ้าจงไปหาเขา
ตามที่อยู่ที่ข้าเขียนไว้ในนี้เมื่อเจ้าไปถึงแล้วเจ้าจะรู้เองว่าเจ้าต้องทา
อะไรบ้าง.. "
หลังจากกล่าวจบร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งก็พลันหันกายเพื่อเตรียมตัว
จากไปนี้อาจเป็นนิสัยจริงๆของนาง นางยังไม่นิยมพูดจาอะไรมาก
ความนางเป็นประเภทที่ชอบลงมือปฎิบัติเลยเสียมากกว่า หลินหมิง
ลองครุ่นคิดดูเกี่ยวกับบุคคลที่ต้องการพบเขาแน่นอนว่าด้วยสถานะ
ของเขาในตอนนี้มันคงมีคนจานวนมากมายที่ต้องการพบเขาแต่ใครกัน
ที่สามารถขอร้องผู้อาวุโสฟางซิ่นได้ ?
หลินหมิงเลิกครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรเสียในอีกหนึ่งชั่วยามนี้
เขาก็จะได้พบหน้าบุคคลคนๆนั้นอยู่ดี เมื่อร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นจาก
ไปจนพ้นสายตา ก็ได้มีร่างของหญิงสาวสองคนเดินมาทางเขาด้วย
ความรีบร้อน พวกนางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากจิงหนิงและจูเวย
เหลียนนี้เป็นสิ่งที่หลินหมิงคาดเดาเอาไว้แต่แรกแล้วว่าไม่ใช่ช้าก็เร็ว
จะต้องมีการติดต่อมาจากเหม่ยฮวาเป็นแน่แต่ก็คิดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่า
มันจะเร็วถึงเพียงนี้
" คุณชายได้โปรดนายหญิงมีเรื่องที่ต้องการคุยกับท่านเป็นการด่วน
...แน่นอนว่าพวกเราไม่ได้มีแผนการณ์ทาร้ายท่านแต่อย่างใด...นาย
หญิงเพียงต้องการทราบว่าเหตุใดท่านถึงได้ลงมือเช่นนั้น...หากคุณชาย
ไม่ไว้วางใจนายหญิงกล่าวว่าคุณชายสามารถนัดที่อื่นตามที่ท่านเห็นว่า
...... "
" นาทางไปสิ "
ไม่ทันที่จิงหนิงจะได้กล่าวจบอันที่จริงแล้วหากเป็นคนปกติ
โดยทั่วไปพวกเขาจะต้องมีความระแวงกันบ้างไม่ใช่หรอ หรือเขาคิดว่า
หลังจากที่ลงมืออย่างรุนแรงเช่นนี้กับบุตรของนายหญิงพวกนางทั้งสอง
แล้วมันจะไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น ?
พวกนางได้แต่เดินนาทางหลินหมิงไปอย่างว่าง่ายอันที่จริงแล้วพวก
นางก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่านายหญิงของพวกนางมีความคิดอ่านเช่นใดอยู่
ในตอนนี้อารมณ์ของพวกนางทั้งสองเต็มไปด้วยความสับสนสาหรับ
สถานการณ์ในตอนนี้เป็นไปได้อย่างมากว่าหลินหมิงกับนายหญิงของ
พวกนางจะมีความขัดแย้งกันแล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นพวกนางก็จะต้องเป็น
ศัตรูกับหลินหมิง นี้นับเป็นเรื่องที่พวกนางไม่คาดฝันมาก่อนเลยจริงๆ
หลินหมิงเดินตามหญิงสาวทั้งสองเข้ามาในโรงเตี้ยมแห่งเดิมที่เคย
มาพบกับเหม่ยฮวาครั้งล่าสุด หลินหมิงไม่ได้มีความกังวลเลยว่าตัวเขา
จะถูกวางกับดักเอาไว้นั้นเป็นเพราะว่าทางด้านของเหม่ยฮวานั้นไม่มี
ทางที่จะเปิดเผยความลับของนางกับหลินหมิงเป็นอย่างแน่นอน และ
อีกทั้งหากตระกูลหลินตั้งใจวางแผนจู่โจมเขาในทันทีเช่นนี้นั้นก็นับได้
ว่าเป็นการกระทาที่โง่งมโดยแท้จริง
สาหรับการประลองของหลินหมิงที่จบลงผู้คนทั่วไปต่างรู้ได้อย่าง
ชัดเจนว่าหลินหมิงนั้นได้สร้างความแค้นเคืองกับตระกูลหลินแล้วหาก
หลินหมิงได้รับอันตรายแล้วละผู้ที่น่าสงสัยที่สุดย่อมไม่ใช่ใครอื่น อีกทั้ง
สถานะของหลินหมิงในตอนนี้คือรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบพันปี
ของอาณาจักรเลยก็ว่าได้แล้วเช่นนี้หากตระกูลหลินกล้าก่อเรื่องมันคง
ไม่จบเพียงโทษเพียงเล็กน้อยอย่างแน่นอน
" พวกเจ้าทั้งสองออกไปก่อน "
เมื่อหลินหมิงเข้ามาภายในห้องร่างของเหม่ยฮวาที่นั่งอยู่บนเตียง
ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด จิงหนิงและจูเวยเหลียนแม้ว่า
พวกนางจะมีความอยากรู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแต่พวกนางก็ไม่
สามารถขัดคาสั่งได้
" นี้มันหมายความว่ายังไงกัน ข้าทาตามที่เจ้าบอกกล่าวแล้วไม่ใช่
อย่างนั้นรึ ข้าลงมือทาการตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเหยียนแล้วเหตุ
ใดบุตรของข้าถึงได้ถูกเจ้าเล่นงานจนหมดสภาพเช่นนั้น "
เหม่ยฮวานางกล่าวออกมาด้วยอารมณ์ความขุ่นเคือง ไม่ต้องสงสัย
เลยว่าด้วยเหตุการณ์ในวันนี้มันจะส่งผลกระทบให้ฐานะของนาง
ภายในตระกูลต้องดิ่งหวบ แทนคาตอบของหลินหมิงเมื่อนางได้เห็น
เขาแสยยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจเห็นได้ชัดว่านางได้ตกเป็นฝ่าย
ที่ถูกหลอกหลวงเข้าให้เสียแล้ว
แน่นอนว่าในตอนนี้นางเองก็ยังคงไม่ลืมรสชาติความสุขที่ได้ร่วมรัก
กับหลินหมิงเพียงแต่ว่าเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ความรู้สึกเหล่านั้น
มันแยกกัน ด้วยการที่นางเป็นถึงภรรยาของประมุขตระกูลหลินและมี
บุตรที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนมากมายจะให้
ความเคารพในตัวนาง แต่ในตอนนี้กลับมีเด็กหนุ่มวัยเพียง 15 ปีกล้า
ทากับนางเหมือนเป็นคนโง่คนหนึ่ง
ตอนที่ 114
" นี้เจ้ากล้าหลอกข้า !! "
โทสะของเหม่ยฮวาพุ่งสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใครจะไปคิดว่าตัว
ของนางที่ทาให้ชีวิตของบุรุหนุ่มรุ่นเยาว์ต้องหมดอนาคตมามากมาย
เนื่องจากความมักมากในกามอารมณ์ของนางจะต้องมาเจอกับ
บทเรียนที่ไม่ต่างกัน
" ฮ่า ๆๆๆ เจ้ากล้าเรียกข้าเช่นนี้รึ ไม่ใช่ข้าเป็นนายของเจ้าหรือ
อย่างไรกัน "
" เจ้า !! "
เหม่ยฮวารูด้ ีว่าด้วยฐานะของหลินหมิงในตอนนี้มันยากเกินกว่าที่
นางจะทาสิ่งใดได้ นางได้แต่กดั ฟันโกรธพร้อมกับจ้องมองไปที่หลินห
มิงด้วยสายตาอาฆาต แต่หารู้ไม่ว่านี้มันกลับทาให้หลินหมิงยิ่งชอบใจ
มากกว่าเดิมเสียอีก เมื่อเป็นเช่นนี้นางไม่จาเป็นต้องมีสิ่งใดพูดกล่าวกับ
หลินหมิงนางพลันรีบเร่งเดินจากห้องไปในทันที เพียงแต่ก่อนหน้าที่
นางจะสามารถออกไปได้มือของนางก็ถูกฉุดรั้งอย่างรุนแรงพร้อมกับ
ร่างของนางที่ถูกเหวี่ยงลงไปบนเตียง
" นี้เจ้าคิดจะทาอะไร ! "
" ในเมื่อทาสไม่เชื่อฟัง นายอย่างข้าก็ต้องลงโทษหรือเจ้าก็ทาเช่นนี้
เหมือนกันไม่ใช่หรือ "
ใบหน้าของเหม่ยฮวาซีดเผือกเมื่อนึกถึงในตอนที่หลินหมิงลงมือกับ
บุตรของนางและสภาพของลี่เฉิงเห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ได้มี
ความปราณีต่อศัตรูและความเกรงกลัวต่อสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย
แคว๊กกกก
เสียงชุดของนางถูกฉีกขาดจนไม่มีชิ้นดีสัดส่วนเรือนร่างที่ไม่ได้
เรียกว่าพร้อมเพรียวแต่มันเต็มไปด้วยเนื้อนุ่มนวลที่อัดแน่นอยู่ทุก
สัดส่วนโดยเฉพาะที่หน้าอกของนาง
" ไม่...หยุดนะ.....อือ้ อออออออออออ "
หลินหมิงทันทีที่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรวดเร็วทวน
มังกรของเขาถูกส่งเข้าไปภายในปากของเหม่ยฮวาอย่างรุนแรง พร้อม
กับมือทั้งสองข้างของเขาที่บังคับศรีษะของนางให้ทาการขยับอย่าง
รวดเร็ว ทุกครั้งที่ทวนมังกรของหลินหมิงแทงทะลวงเข้ามาภายในปาก
ของนางมันจะพุ่งทะลุเข้าจนลงคอของนางไปหลายส่วน
ความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณลาคอของนางเนื่องจากขนาดที่ใหญ่
เกินไปของหลินหมิงเพียงแต่ว่าในตอนนี้นางไม่สามารถขัดขืนหลินหมิง
ได้เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากนางไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ดังนั้นแล้วเรี่ยวแรง
ของนางจึงไม่ต่างกันคนธรรมดาทั่วไปแล้วนางจะเอาสิ่งใดไปสู้กับผู้ที่มี
พลังระดับก่อเกิดขั้น 7 กัน ?
หลินหมิงทาการขยับศรีษะของเหม่ยฮวาอย่างรุนแรงจนใบหน้า
ของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้าตาที่ไหลออกมาเป็นจานวนมาก
ทวนมังกรของหลินหมิงทุกครั้งที่มันถูกส่งเข้ามาภายในปากของนาง
นั้นมันจะเคลื่อนที่เข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ จนนางแทบจะหายใจไม่ออก
นางไม่สามารถส่งเสียงกรี๊ดร้องออกไปได้เนื่องจากทวนมังกรของ
หลินหมิงยังคงคาปากของนางเอาไว้อยู่
แล้วถึงแม้นางจะส่งเสียงเรียกออกไปได้แต่กลับจิงหนิงและจูเวย
เหลียนพวกนางทั้งสองก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของหลินหมิงอยู่
" ฮ่าๆ เป็นไงนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าชอบอย่านั้นหรือ ? เตรียมตัวรับมันดีดี
ล่ะข้าปล่อยมันเข้าไปในลาคอเจ้าอย่างนี้นี้แหละ "
หลังจากใช้เวลากระแทกทวนมังกรเข้าไปในปากของเหม่ยฮวาราว
ชั่วครึ่งก้านธูปร่างกายของเหม่ยฮวาเต็มไปด้วยความอ่อนแรงจะที่นาง
พยายามจะขัดขืน อีกทั้งนางยังคงสามารถหายใจได้อย่างยากลาบาก
ทวนมังกรของหลินหมิงเกิดการกระตุกอย่างรุนแรงภายในปากของนาง
แต่นางจะสามารถทาสิ่งใดได้นอกเสียจากการสั่นศรีษะไปมาเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น น้ารักเหนียวข้นจานวนมากได้ไหลลงสู่ลงคอของนาง
โดยตรงจนนางแทบจะรู้สึกอาเจียนออกมา
" แค่ก แค่ก แค่ก "
คอของนางร้อนผาวไปด้วยไอความร้อนจากน้ารักของหลินหมิงที่
กาลังไหลลงคอของนางอย่างเชื่องช้า หลินหมิฉีกยิ้มกว้างอย่างพึง
พอใจกับสภาพของเหม่ยฮวาไม่เพียงแต่วันนี้เขาจะได้เห็นสภาพอันน่า
อดสู่ของหลินเสี่ยวต้ากระทั่งมารดาของมันเองก็ยังคงมีสภาพที่เลวร้าย
ไม่แพ้กัน
" ฮ่าๆๆ ขอร้องข้าสิบางทีข้าอาจจะมีความเมตตาให้กับเจ้าบ้างก็ได้
นะ "
" แค่ก แค่ก เจ้า !! คิดว่าเรื่องมันจะจบลงได้ง่าย ? คิดว่าเจ้ามี
ความสามารถเพียงพอที่จะสามารถต่อกรกับผู้อาวุโสของตระกูลหลิน
ได้ ? แม้ว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะลี่เฉิงได้แต่แล้วอย่างไรเล่าสาหรับผู้
อาวุโสทั้งหลายของตระกูลหลินขอเพียงข้าเอยกล่าวพวกเขาสามารถที่
จะขยี้เจ้าให้หายไปได้ภายในพริบตา "
เหม่ยฮวานางเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองสาหรับก่อนหน้านี้ในตอน
ที่นางยอมเรียกกล่าวหลินหมิงเป็นนายนั้นมันไม่ได้มีความหมายอะไร
มากไปกว่าการที่นางเห็นเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นของเล่น ดังนั้นแล้วสาหรับ
นางการทาให้ของเล่นที่น่ารักของนางพึงพอใจสักนิดสักหน่อยด้วยการ
กล่าวเรียกนายท่านนั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรที่สาคัญนักถึงอย่างไรเสีย
เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นความลับ แต่ในตอนนี้ของเล่นที่นาง
หลงไหลกลับย้อนมาทาร้ายตัวของนางเสียเอง ซึ่งมีหรือที่นางจะยอม
โดยง่าย
หลินหมิงไม่รู้สึกสะทกทะท้านกับคากล่าวของเหม่ยฮวาแน่นอนว่า
หลินหมิงยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้สาหรับผู้ที่มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ หาก
แม้เป็นเพียงระดับจอมยุทธ์ขั้นเริ่มต้นมันก็พอมีโอกาสที่เขาจะสามารถ
ต่อสู้ได้บ้างแต่สาหรับจอมยุทธ์ระดับกลางขึ้นไปนั้นเรียกได้ว่าความ
แตกต่างนั้นยังคงมีมากเกินไป แต่เรื่องเหล่านี้หลินหมิงไม่จาเป็นต้อง
เกรงกลัว ข้างกายของเขามีผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ดูแลเขาอยู่ไม่ห่าง อีกทั้ง
ไม่นานนี้เขาจะเข้าร่วมสานักที่เมืองหลวงนั้นเท่ากับว่าเขาจะได้ใกล้ชิด
กับฟ่งซือเซียนแล้วเช่นนี้มันจะยังมีสิ่งใดน่ากลัวสาหรับเขาอีก ?
" ข้าจะรอดูก็แล้วกัน "
" โอ้ย "
ร่างของเหม่ยฮวาถูกผลักลงอย่างรุนแรงให้นอนราบกับเตียงพร้อม
กับหลินหมิงที่ขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้ ทวนมังกรของหลินหมิงเข้า
เสียบแทงที่ร่องสวาทของนางจนทะลุเข้าไปภายในมดลูก เห็นได้ชัดว่า
ทวนมังกรของหลินหมิงได้แทงทะลวงเข้ามาจนสุดผนังมดลูกภายใน
ร่องสวาทของนางแล้วแต่ถึงอย่างนั้นเจ้าเด็กผู้นี้กลับยังคงดึงดันที่จะ
ดันทวนมังกรของเขาให้เข้ามาลึกยิ่งกว่าเดิม
" มะ..ม่ายย...เอาออกไป.....มันลึกเกินไปแล้ว....ตะ..ตายแน่..ข้า
ตายแน่ๆ..มะไม่..ไม่ไหว...นี้..เจ้าจะฆ่าข้าอย่างนั้นรึ... "
เหม่ยฮวาคร่าครวญออกมาด้วยท่าทีทรมานเทียบกับการร่วมกับ
หลินหมิงก่อนหน้านี้แล้วการร่วมรักในครั้งนี้มันรุนแรงกว่ากันแบบ
เทียบไม่ติด หลินหมิงยิ้มเยาะอย่างพอใจด้วยสภาพจิตใจของเหม่ยฮวา
ที่เต็มไปด้วยความต่อต้านเช่นนี้มันทาให้ร่องสวาทของนางเกร็งตัวไม่
เหมือนกับที่ผ่านมาไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้นางจะรู้สึกทรมานมาก
เพียงใด หลินหมิงทาการนาทวนมังกรของเขาออกมาเพียงเล็กน้อย
และส่งกลับเข้าอย่างรุนแรงเพื่อดับเสียงครวญครางที่น่าราคาน
" อึกกกกกก~~~~~~~ "
ท้องของเหม่ยฮวาปูดโปนเป็นรูปทวนมังกรของหลินหมิงออกมา
อย่างชัดเจน ใบหน้าของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยความอัปลักษณ์ น้าหู
น้าตา น้าลายจานวนมากไหลพรั่งพรู่ออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
" ไหนเมื่อกี้เจ้าบอกว่าจะทาอะไรข้า ? "
" อึกกกกกก....พะ...พอแล้ว....มะ..มันเข้าไปไม่...ได้แล้ว.... "
หลินหมิงนามือทั้งสองข้างกดลงไปที่บริเวณท้องของนางที่ตอนนี้
กาลังปูนโปนเป็นรูปร่างทวนมังกร ด้วยการกระทาเช่นนี้มันทาให้
ภายในร่องสวาทของนางถูกบีบแน่นเข้าหาทวนมังกรของหลินหมิงจน
นางรู้สึกจุกจนแทบจะเป็นบ้า
" ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้พูดแบบนี้หนิ ? "
" ปะ...ปล่อย...ข้า... "
หลินหมิงไม่มีคาว่าสงสารใดๆทั้งสิ้นกับบรรดาผู้คนในตระกูลหลิน
ถึงแม้ว่าสภาพของเหม่ยฮวาในตอนนี้จะไม่มีเคร้าโครงของความยิ่ง
ผยองอีกต่อไปแล้วก็ตามที่ เทียบกับความทุกข์ทรมานที่เขาต้องเผชิญ
เพียงลาพังมาหลายปีเพียงแค่นี้มันยังคงไม่เท่ากับแม้เพียงเศษเสี้ยว
ของเขาเลยเสียด้วยซ้า
หลินหมิงปล่อยมือออกจากท้องของเหม่ยฮวาแล้วเปลี่ยนเป็นกา
หมัดแน่นพร้อมกับรอยยิ้มที่ทาให้ใบหน้าของเหม่ยฮวาซีดเผือก
" ยะ..อย่า....กรี๊ดดดดดดด ~~~ "
กาปัดของหลินหมิงถูกต่อยลงไปที่บริเวณท้องของนางจนนางรู้สึก
เจ็บปวดราวกับมีระเบิดเกิดขึ้นที่ภายในร่างกายของนาง ไม่เพียง
เท่านั้น ร่องสวาทของนางกลับถูกสะโพกของหลินหมิงขยับอย่าง
รวดเร็วจนไม่ทันได้พักฟื้นตัว
ปับ ปับ ปับ
เสียงก้อนเนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างรุนแรงทุกครั้งที่หลินหมิงก
ระแทกเอวเข้าไปร่างของเหม่ยฮวาจะถูกแรกส่งจนเจ็บปวดไปทั่วร่าง
หลินหมิงใช้เวลาสักพักในการกระแทกเอวเพื่อใช้ร่องสวาทของป้าสาว
ของเขาผู้นี้เป็นที่ระบายอารมณ์จนพึงพอใจ น้ารักจานวนมากได้ถูก
ปลดปล่อยเข้าไปสู่ภายในท้องของนางจนปูนพ่อง ที่บริเวณท้องของ
นางที่เคยเป็นผิวขาวเรียบเนียนปรากฎรอยช้าเป็นรูปหมัดอันเกิดมา
จากการที่นางได้โดนหลินหมิงทุบตีตลอดเวลาที่ร่วมรักกันด้วย
" ที่นี้เจ้ารู้แล้วหรือยังว่าใครที่จะเป็นคนขยี้ใคร ? แน่นอนว่าข้า
ไม่ได้คดิ จะให้รางวัลแก่เจ้าเพียงเท่านี้หรอกนะแต่เนื่องจากข้ายังคงมี
ธุระอื่นดังนั้นแล้วข้าจึงจะฝากฝังหน้าที่ที่เหลือให้กับผู้อื่นแทนข้า....เข้า
มา "
ทันทีที่สิ้นเสียงของหลินหมิง ร่างของชายวัยกลางคนจานวนนับสิบ
คนก็ได้เข้ามาภายในห้องแห่งนี้พร้อมกับร่างที่ไร้ซึ่งสติของจิงหนิงและ
จูเวยเหลียน

ตอนที่ 115
พวกเขานับสิบคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากผู้อาวุโสจากตระกูลเห
ยียน พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปยังร่างของเหม่ยฮวาที่เต็มไปด้วยคราบ
น้ารักอย่างเคืองแค้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้ที่ตัดความสัมพันธ์ระหว่าง
ตระกูลหลินกับตระกูลเหยียนเป็นผู้ใด
แม้ว่าโรงเตี้ยมแห่งนี้จะเป็นอาณาเขตของตระกูลหลินแต่เนื่องจาก
ในวันนี้ได้มีงานประลองจัดขึ้นมันจึงทาให้ไม่มีผู้คนอยู่เลย และเหตุที่จิง
หนิงและจูเวยเหลียนไม่ได้เข้ามาทาการช่วยเหลือนายหญิงของพวก
นางทั้งๆที่มีเสียงครางร้องดังระงมนั้นเป็นเพราะว่าพวกนางทั้งสองล้วน
ถูกจู่โจมจนหมดสติไปก่อนหน้าแล้ว
" ข้าคงไม่ต้องบอกนะว่าพวกเจ้าต้องทาสิ่งใดบ้าง ? แน่นอนว่าพวก
เจ้าสามารถลงมือได้ตามใจชอบแต่อยากให้นางได้รับอันตรายถึงชีวิต
นั้นก็เพียงพอ "
ผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนเหล่านี้พวกเขาทุกคนล้วนมีความเคารพ
ในตัวของหลินหมิงอย่างมาก แม้ว่าหลินหมิงจะเป็นผู้ที่ทาร้ายนายน้อย
ของพวกเขาจนหมดสภาพแต่แล้วอย่างไรล่ะ ในเมื่อนายน้อยของพวก
เขานั้นสมควรได้รับผลตอบแทนเช่นนี้อยู่แล้ว เทียบกันแล้วเมื่อพวก
เขาได้เห็นคุณหนูของพวกเขามีความสุขและมีอนาคตที่ดีเยี่ยมเคียงข้าง
กับเด็กหนุ่มที่น่าตื่นตะลึงผู้นี้ นี้อาจเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องขอบคุณ
นายน้อยของพวกเขาที่ทาให้เกิดเรื่องราวดีดีเช่นนี้ขึ้น
เหม่ยฮวายังไม่ทันได้สงบใจจากการร่วมรักอันโหดร้ายก่อนหน้า
แม้ว่าทวนมังกรของเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเหยียนเหล่านี้จะไม่สามารถ
เทียบได้กับหลินหมิง แต่แล้วอย่างไรล่ะสภาพในตอนนี้ยังคงแทบจะลุก
ไม่ขึ้นแล้วหากต้องเผชิญหน้ากับเหล่าบุรุษนับสิบเช่นนี้นี้ไม่เท่ากับฆ่า
กันเลยอย่างนั้นหรือ ?
" นะ... นายหญิง ! "
ในระหว่างนั้นจิงหนิงและจูเวยเหลียนได้ตื่นขึ้นด้วยท่าทีตื่น
ตระหนก เมื่อพวกนางมองไปที่เรือนร่างของนายหญิงของพวกนางที่
เต็มไปด้วยคราบน้ารักและรอยบาดแผลที่ท้องใบ อีกทั้งยังคงมีร่างของ
ชายวัยกลางคนอยู่เต็มห้องเช่นนี้
ผู้อาวุโสทั้งหลายมองไปที่เหม่ยฮวาด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่
ออกแน่นอนว่าพวกเขายอมรับว่าหากเป็นในสถานการณ์ปกตินายหญิง
แห่งตระกูลหลินผู้นี้ก็นับได้ว่ามีแสดงมีเพียงพอที่ยั่วยุอารมณ์พวกเขา
เพียงแต่สภาพของนางในตอนนี้เรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรไปจากสาวโลคีย์
ที่ถูกบุรุษนับร้อยนับจู่โจม
" คุณชายแล้วพวกนางทั้งสองเหล่า ? "
หลินหมิงพอจะคาดเดาอารมณ์ของผู้อาวุโสทั้งหลายได้ แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่ได้มีความกังวลในเรื่องของปัญหาที่จะตามมา หากเหม่
ยฮวากล้านาเรื่องเหล่านี้ไปบอกกล่าวแก่ผู้คนในตระกูลแล้วแน่นอนว่า
มันคงเป็นนางเองเสียมากกว่าที่ต้องรับผลเสียมากกว่า
" ตามใจพวกเจ้าเถอะ...แต่อย่าลืมมอบบทเรียนให้กับนายหญิงผู้นี้
ด้วย "
" ขอรับ "
ใบหน้าของสตรีทั้งสามล้วนซีดเผือกไปด้วยความหวาดกลัว แต่
หลินหมิงไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแรกเริ่มเดิมทีพวกนางล้วนเป็นเพียง
เครื่องระบายอารมณ์ของเขาเพียงเท่านั้นอยู่แล้ว หลินหมิงออกจาก
ห้องท่ามกลางเสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาวที่ดังระงมด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
หลินหมิงหยิบแผ่นกระดาษที่ระบุสถานที่ของบุคคลที่ผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นต้องการให้เขาไปพบขึ้นมา พร้อมกับเดินทางตามแผนที่นั้นไปอย่าง
ว่าง่าย จนในที่สุดใช้เวลาเพียงไม่นานหลินหมิงก็มาหยุดตรงที่สถานที่ที่
ระบุเอาไว้ในแผ่นกระดาษ
" ที่แห่งนี้ ? "
หลินหมิงทาการสารวจแผนที่ที่ระบุอีกรอบอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง แต่
ผลลัพธ์สุดท้ายแล้วนั้นล้วนไม่ต่างไปจากเดิม เบื้องหน้าของเขา
ในตอนนี้มันไม่ใช่สถานที่ที่ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าไปได้โดยง่าย กระทั่ง
ตัวของหลินหมิงเองก็ยังคงไม่มีความมั่นใจที่จะก้าวเข้าไป
' ตระกูลหลิว '
ป้ายตระกูลที่ประกาศอย่างเด่นชัดทาให้หลินหมิงรู้สึกสับสน
บุคคลผู้ใดในตระกูลหลิวต้องการพบเขากัน ? ในเมื่อผู้คนในตระกูล
หลิวที่เขารู้จักนั้นมีเพียงหลิวฉวนยูร์ แน่นอนว่าหากนางต้องการพบ
เขานางจึงมุ่งตรงไปที่ตานักของเขาดังนั้นแล้วหลินหมิงไม่คิดว่านี้จะ
เป็นหลิวฉวนยูร์ที่เป็นคนเรียกตัวเขา
' หรือข้าจะกลับไปถามผู้อาวุโสซูหลิ่งดี '
ในขณะที่หลินหมิงกาลังมีความคิดเช่นนั้นประตูอันกว้างใหญ่ของ
ตระกูลหลิวได้ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของสตรีนางหนึ่ง
" คุณชายฮั่วสินะเจ้าคะ...เชิญตามมาเลยเจ้าคะ "
ด้วยการต้อนรับเช่นนี้แสดงว่าหลินหมิงได้มาถูกที่จริงๆ ? หลินหมิง
เดินเข้ามาภายในตระกูลหลิวพร้อมกับกวาดสายตามองไปโดยรอบไม่
ต้องสงสัยเลยว่าตระกูลหลิวแห่งนี้มีอานาจมากเพียงใด ลาพังเพียง
ขนาดและสิ่งของโดยรอบนี้เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่แพ้กับตระกูลหลิน
เลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงเดิมตามหญิงสาวที่น่าจะเป็นสาวใช้ของตระกูลหลิวแห่งนี้
ไปเรื่อยท่ามโดยมีสายตาของผู้คนภายในที่จ้องมองมาที่เขาอยู่ตลอด
" เชิญข้างในเจ้าคะ "
หญิงสาวรับใช้ผู้นาทางให้หลินหมิงผายมือให้หลินหมิงเข้าไป
ภายในตัวตึกขนาดใหญ่โตอย่างสวยงาม เมื่อหลินหมิงเข้าไปภายในเขา
พบชายวังกลางคนที่แผ่อ่อร่ากดดันออกมาอย่างน่ากลัว ด้วยอ่อาร่าที่
แผ่ออกมาจากชายผู้นี้มันเรียกได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับอาจารย์สาว
สวยของเขาหรืออาจมากกว่าด้วยซ้าไป ! แต่เมื่อหลินหมิงเหลือบมอง
ไปด้านข้างของชายวัยกลางคนเขาพบร่างของสาวน้อยที่แสนคุ้นเคย
นั้นก็คือหลิวฉวนยูร์นั้นเอง
" ผู้เยาว์คาระวะประมุขตระกูลหลิว "
หลินหมิงเคยพบเห็นหน้าของประมุขตระกูลหลิวหรือก็คือหลิวจง
เทียนบิดาของหลิวฉวนยูร์มาในงานประลองเมื่อไม่นานนี้ แต่นี้นับเป็น
ครั้งแรกที่เขาได้ยืนประจัญหน้าในระยะชิดใกล้กับชายผู้น่าเกรงขามผู้
นี้ ดวงตาของหลิวจงเทียนจ้องมองมาที่ร่างของหลินหมิงราวกับ
ต้องการตรวจสอบไปทั่วร่างของเขา แต่ด้วยประสบการณ์ที่ต้องพบเจอ
กับผู้ที่แข็งแกร่งมามากมายหลินหมิงไม่รู้สึกอะไรกับสายตาของหลิวจง
เทียนผู้นี้มากนัก มันเป็นเหมือนอ่อร่าความกดดันของผู้ที่มีอานาจเสีย
มากกว่า
" ไม่เลว... "
คาพูดคาแรกของหลิวจงเทียนได้ปัดเป่าความกดดันทั้งหมดทิ้งไป
ราวกับเป็นเรื่องโกหกแน่นอนว่าสิ่งที่ประมุขตระกูลหลิวผู้นี้กล่าวถึง
ไม่ใช่ศักยภาพของหลินหมิง แต่เป็นความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ
โดยทั่วไปแล้วผู้ฝึกยุทธ์นั้นมักจะมีความหวาดกลัวเมื่อต้องเผชิญหน้า
กับผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าสาหรับผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์แล้วนั้นยิ่งแล้ว
ใหญ่
" ตามข้ามาสิ "
ร่างของหลิวจงเทียนหันหลังพร้อมกับเดินไปด้วยท่าทีทรงอานาจ
หลินหมิงเหลือบมองแม่สาวตัวน้อยของเขาหลิวฉวนยูร์เพื่อที่ว่านางจะ
สามารถอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้
ประโยชน์สิ่งที่เขาได้รับกลับมามีเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะคิกคัก
อย่างชอบใจ

ตอนที่ 116
หลินหมิงยังคงไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่ประมุขตระกูลหลิวอย่างหลิวจง
เทียนบิดาของหลิวฉวนยูร์ต้องการพบเขา แต่เมื่อดูจากท่าทีของแม่สาว
ตัวน้อยผู้นี้แล้วเห็นได้ชัดว่าบิดาของนางคงไม่ได้มีเรื่องกับเขาอย่าง
แน่นอน หลินหมิงเดินตามร่างของหลิวจงเทียนและหลิวฉวนยูร์จน
มาถึงภายในห้องที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นห้องของหลิวจงเทียนเอง
กลิ่นอายของมันแตกต่างจากห้องของอาจารย์สาวสวยของเขาโดย
สิ้นเชิง โดยหากเป็นห้องของอาจารย์สาวสวยหรือผู้อาวุโสฟางซิ่น กระ
ทั้งผู้อาวุโสซูหลิ่งภายในห้องทางานของพวกนางนั้นจะเต็มไปด้วย
เอกสารจานวนมากโดยเฉพาะอาจารย์ของเขาและผู้อาวุโสฟางซิ่น
สาหรับผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นอันที่จริงแล้วนางมีหน้าที่น้อยกว่าหญิงสาว
ทั้งสองก่อนหน้าเพียงแต่ว่าด้วยนิสัยของนางนั้นนางจะไม่ยินยอมทาสิ่ง
ใดที่นางไม่ต้องการทานั้นจึงเป็นเหตุให้บนโต๊ะทางานของนาง
กลายเป็นผู้เขาเอกสารขนาดย่อม
เทียบกับอาจารย์สาวสวยของเขาแล้วแม้ว่านางจะขยันมากเพียงใด
แต่มันไม่มีทางที่งานของนางจะจบลงได้เลย ยิ่งเฉพาะในตอนนี้ที่
สมาคมนักปรุงยาของนางกาลังโดดเด่นและมีหลายฝ่ายต้องการเป็น
พันธมิตรด้วยแล้ว ภาระหน้าที่ของนางแน่นอนว่ายิ่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แต่ถึงอย่างนั้นนี้เป็นสิ่งที่นางชอบพออยู่แล้วการรับมือกับปัญหา
สาหรับความก้าวหน้าของสมาคมย่อมดีกว่าการที่สมาคมไม่มีกิจการ
ใดๆ
แต่สาหรับห้องของชายวัยกลางผู้นี้มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ
นักรบ ! ภายในห้องหลินหมิงจะสามารถมองอาวุธโบราณชนิดต่างอยู่
โดยรอบ เพียงแค่หลินหมิงมองดูด้วยสายตาเขาก็สามารถรู้ได้ว่าอาวุธที่
อยู่ภายในห้องแห่งนี้แต่ละชิ้นล้วนมันไม่ธรรมดา โดยในแต่ละชิ้นมัน
อาจมีค่าไปไม่น้อยกว่าแส้ของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยม
ที่สุดเท่าที่หลินหมิงเคยเห็นมา
" เจ้าคงได้ยินข่าวลือมาบ้างแล้วใช่หรือไม่ ? "
คาถามที่ออกมาจากปากของหลิวจงเทียนทาให้หลินหมิงขมวดคิ้ว
แน่นอนว่าหลินหมิงรู้ว่าชายผู้นี้หมายถึงสิ่งใด เกี่ยวกับข่าวลือที่
เกี่ยวกับตระกูลหลิวนั้นในตอนนี้เห็นจะมีเพียงเรื่องของการยกเลิกการ
หมั้นระหว่างหลิวฉวนยูร์และหลินชู
" ผู้เยาว์พอจะได้ยินมาบ้าง "
" แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง...แต่มันไม่ได้เป็นเพราะเจ้าหรอกนะ..
เดิมทีแล้วแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่น่าตื่นตะลึงนี้ออกมา
ตระกูลหลิวของข้าก็จะทาการยกเลิกการหมั้นอยู่ดี...นั้นเป็นเพราะว่า
เดิมทีแล้วงานหมั้นในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นด้วยข้อตกลงบางอย่างเพียงแต่ว่า
ทางตระกูลหลินนั้นไม่สามารถทาตามข้อตกลงได้ "
หลินหมิงพยายามทาความเข้าใจคาพูดของหลิวจงเทียนอันที่จริง
แล้วหลินหมิงยังไม่เข้าใจว่าเหตุใด ประมุขตระกูลหลิวผู้นี้ถึงต้องเล่า
เรื่องเหล่านี้ให้เขาฟัง
" แต่ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสของเจ้าจะสามารถทาได้...เช่นนั้นแล้วพวก
เราจึงได้มีการตกลงกัน....เจ้ารู้สึกชอบพอในบุตรสาวของข้างั้นสินะ "
" แค่ก แค่ก อะ...เอออ "
ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยของหลิวจงเทียนแม้ว่าหลินหมิงจะสามารถ
คาดเดาอารมณ์ของผู้คนส่วนใหญ่ได้จากสีหน้าของพวกเขา แต่เทียบ
กับนักรบที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนผู้นี้แล้วประสบการณ์ของ
เขาอาจเรียกได้ว่ายังไม่ถึงหนึ่งส่วนของคนผู้นี้เสียด้วยซ้าไป มันจึงทา
ให้หลินหมิงลังเลที่ตอบคาถามนี้ออกไปเล็กน้อย
" ข้ากับอาจารย์ของนางนั้นล้วนรับรู้ในเรื่องความสัมพันธ์ของพวก
เจ้าดี...อีกทั้งข้าก็ไม่ได้มีความคิดที่จะขัดขวางความสัมพันธ์ของพวก
เจ้าหรอกนะ...แม้ว่าแต่เดิมเจ้าจะไม่ได้มีสายเลือดที่เกิดในชนชั้นสูงแต่
สิ่งเหล่านั้นล้วนมองข้ามได้ด้วยความสามารถอันโดดเด่นของเจ้า "
หลินหมิงถึงกับใจเต้นรั่วเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความสัมพันธ์
ของเขากับหลิวฉวนยูร์จะมีผู้ใดที่รับรู้ แต่หากเมื่อเขาลองครุ่นคิดกับไป
ดูความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นส่วนหนึ่งย่อมเป็นเพราะผู้อาวุโสซูหลิ่ง
สาหรับตานักของนางที่เป็นผุ้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยา มันไม่ใช่
สถานที่ที่ผู้ใดสามารถเข้าไปโดยง่ายแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคง
ได้รับสิทธ์ในการเข้าออกอย่างง่ายดาย
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันอยู่ในแผนการณ์ของผู้อาวุโสซู
หลิ่งแล้ว ? แม้ว่าหลินหมิงจะไม่รู้ว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งทาสิ่งใดลงไปบ้าง
แต่ดูเหมือนว่านางจะมีข้อตกลงอะไรบางอย่างที่สาคัญกับตระหลิว ซึ่ง
มันต้องเป็นเรื่องที่สาคัญมากพอที่นางจะมั่นใจได้ว่าประมุขตระกูลหลิว
ผู้นี้จะยอมรับในตัวเขา เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่ได้รับ
ผลประโยชน์อย่างมากก็คือสมาคมนักปรุงยา
เดิมทีหากมีการผูกความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลิวและตระกูล
หลินด้วยสถานการณ์ที่สมาคมนักปรุงยาได้มีการกระทบกระทั่งกับ
ตระกูลหลินเช่นนี้แน่นอนว่ามันคงส่งผลร้ายอย่างยิ่ง แต่ในสถานการณ์
ตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเสียแล้ว
มันเป็นเรื่องยากมากที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเป็นคู่ครองกับ
คนที่เกิดในชนชั้นสูงไม่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถที่โดดเด่นมาก
เพียงใด อาจมีเพียงกรณีของหลินหมิงที่มีความสามารถมากจนน่า
ตกใจจนเกินจิตสานึกเกินไปเท่านั้นที่จะสามารถทาเรื่องเช่นนี้ได้
ในตอนนี้หลินหมิงเข้าใจเรื่องทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้ง มิน่าเล่าแม่
สาวน้อยถึงได้มีท่าทีมีความสุขเช่นนี้เป็นไปได้ว่านางอาจล่วงรู้ถึงความ
ช่วยเหลือของอาจารย์นางเสียแต่ต้นแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนี้หลินหมิงมี
ความรู้สึกอยากจะจับนางมาประกบปากเพื่อมอบบทเรียนให้เสีย
หน่อย แต่มันติดอยู่ที่บิดาของนางยังคงอยู่ต่อหน้าเขา
" ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งได้ตกลงเรื่องใดกับท่านเอาไว้
"
เมื่อหลินหมิงกล่าวออกไปใบหน้าของหลิวฉวนยูร์กระตุกขึ้น
เล็กน้อย แน่นอนว่าหลินหมิงย่อมอยากรู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างมากสิ่งที่
ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินไม่สามารถทาได้แต่ผู้อาวุโสซูหลิ่งนาง
กลับมีความสามารถ ? แน่นอนว่ามันคงไม่ได้เกี่ยวกับการต่อสู้หรือ
อะไรทานางนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าความสามารถในการต่อสู้ของผู้อาวุโสซู
หลิ่งนั้นค่อนข้างธรรมดาจนเอนเอียงไปทางต่าด้วยซ้า

ตอนที่ 117
" ตามข้ามาสิ "
หลินหมิงเดินตามหลิวจงเทียนไปที่บริเวณด้านหลังของห้อง เบื้อง
หน้าของเขามีประตูซึ่งหลินหมิงคาดว่าภายในห้องแห่งนี้มันอาจเป็น
ห้องที่เอาไว้เก็บสมบัติส่วนตัวของประมุขตระกูลหลิวผู้นี้ แต่เมื่อหลินห
มิงได้เดินเข้ามาภายในห้องความรู้สึกภายในห้องนี้มันแตกต่างกับห้อง
ทางานก่อนหน้าของหลิวจงเทียนไปโดยสิ้นเชิง
' กลิ่นสมุนไพร ? '
สาหรับห้องของหลิวจงเทียนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายนักรบอย่าง
แท้จริงหลินหมิงคาดว่าแม้แต่ห้องที่เขาใช้เก็บสมบัติมันก็น่าจะมีกลิ่น
อายที่ไม่ต่างกัน เพียงแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่หลินหมิงแม้จะมี
ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไม่มากเท่ากับหลิวฉวนยูร์แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มี
ด้วยกลิ่นที่อบอวนอยู่ภายในห้องแห่งนี้มันทาให้หลินหมิงไม่สามารถ
รับรู้ได้อย่างแน่ชัดว่ามีสมุนไพรใดบ้าง
เป็นไปได้หรือไม่ว่าห้องแห่งนี้คือสถานที่ที่ประมุขตระกูลหลินทา
การเก็บสมุนไพร หรือพืชพรรณที่มีค่า ? แต่ความคิดเหล่านั้นล้วนพลัน
หายไปในพริบตาเมื่อหลินหมิงได้เห็นภาพตรงหน้าของเขา ภายในห้อง
ขนาดเทียบเท่ากับห้องนอนขนาดใหญ่ของบรรดาโรงเตี๋ยมมันไม่ได้ถูก
ตบแต่งไปด้วยอาวุธหรือสิ่งของที่เกี่ยวกับการต่อสู้ตามลักษณะของ
หลิวจงเทียน
กลับกันแล้วภายในห้องกลับมีพืชพันธ์สมุนไพรจานวนมากอยู่รอบ
ห้อง แต่ที่นางแปลกใจยิ่งกว่านั้นก็คือที่บริเวณใจกลางห้องนั้นปรากฎ
ร่างของหญิงสาวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับหลิวฉวนยูร์สักสี่หรือห้าส่วน
กาลังนอนหลับไหลอยู่บนเตียงอย่างไม่ได้สติ เมื่อเห็นภาพเช่นนี้หลินห
มิงก็พลันคิดเรื่องราวทั้งหมดได้คร่าวๆ
" ใช่แล้วนางเป็นภรรยาของข้าเอง "
คาตอบของหลิวจงเทียนทาให้หลินหมิงแน่ชัดในความคิดของ
ตนเอง ร่างของหญิงสาวที่มีลักษณะคล้ายกับหลิวฉวนยูร์แท้จริงแล้ว
นางก็คือแม่ของหลิวฉวนยูร์นั้นเอง เมื่อดูจากภายนอกแม้ว่าหาก
คานวณจากอายุของหลิวจงเทียนที่น่าจะมีอายุไม่ต่างจากบิดาของเขา
หลินฮ่าวแล้วนั้นหมายความว่าหญิงสาวที่กาลังนอนหลับไหลนี้ย่อมมี
อายุที่ไม่ต่างกันนั้นก็คือราวๆเกือบ 40 ปี
แต่ถึงอย่างนั้นผิวพรรณของนางยังคงผุดพ่องราวกับไข่มุกในท้อง
ทะเลลึกที่น่าทะนุถนอม ใบหน้าของนางที่ปรากฎริ้วรอยจางๆอันเกิด
มาจากช่วงเวลาที่ได้ล่วงเลยไปไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเป็นนางที่อยู่
ช่วงเวลาที่เบ่งบานที่สุดแล้วนั้นความงดงามของนางคงไม่น้อยหน้าไป
กว่าบุตรสาวของนางเลยทีเดียว
" เมื่อหลายปีก่อนในตอนที่ภรรยาของข้าได้รับบาดเจ็บจากการ
ต่อสู้กับสัตว์อสูร...และดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาเดิมที
แล้วความแข็งแกร่งของนางนั้นไม่ได้อ่อนแอ่อย่างที่เจ้าเห็นในตอนนี้..
นางเคยมีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดเพียงแต่ว่าหลังจาก
ที่ต้องรับมือกับสัตว์อสูรตนนั้นแม้ว่านางจะสามารถหลบหนีมาได้...แต่
ดูเหมือนว่านางจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงได้ "
หลินหมิงรู้สึกตกใจเล็กน้อยสาหรับผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับ
จุดสูงสุดขั้นจอมยุทธ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถฝันได้
ความแข็งแกร่งของพวกเขาเหล่านั้นแน่นอนว่าเพียงพอต่อการเป็น
ประมุขขุมอานาจขนาดกลางได้อย่างสบายๆ แต่ถึงอย่างนั้นผู้ที่มีพลัง
ระดับนี้เช่นนางกลับต้องหลบหนีจากสัตว์อสูรตนนั้นแล้วยังได้รับ
บาดเจ็บเช่นนี้ ?
เมื่อหลินหมิงลองตรวจสอบดูพลังของหญิงสาวผู้นี้ดูคร่าวเขาพบว่า
พลังของนางในตอนนี้อยู่ในระดับปราณก่อเกิดขั้นแรกเริ่มเท่านั้น
' นี้มันอะไรกัน ? '
หลินหมิงสามารถตรวจสอบได้ถึงความผันผวนอย่างแปลก
ประหลาดภายในร่างกายของหญิงสาว กล่าวได้ว่าอากาารบาดเจ็บของ
นางในตอนนี้ล้วนไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่เกิดจากบาดแผลธรรมดาทั่วไป
เพราะว่าในร่างกายของนางในตอนนี้หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึง
พลังงานแปลกประหลาดที่อยู่ภายในร่างกายของนางและนี้เองที่เป็น
เหตุทาให้พลังงานในร่างกายของนางลดลงอย่างต่อเนื่อง
" นี้มันคือสิ่งใดกัน ? "
หลินหมิงหลุดถามออกมาอย่างสงสัยเจ้าพลังงานแปลกประหลาด
ภายในร่างกายของหญิงสาวนั้นราวกับว่ามันมีชีวิต มันสามารถ
เคลื่อนไหวไปมาภายในร่างกายของนางพร้อมกับดูดกลืนพลังไปอย่าง
บ้าคลั่งหลินหมิงไม่รู้ว่ามารดาของหลิวฉวนยูร์ต้องพบปัญหาร้ายแรงนี้
มานานเพียงใดเพียงแต่ว่าหากเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่มีพลังระดับไม่ถึง
จอมยุทธ์พวกเขาคงไม่อาจทนได้กลับการดูดกลืนพลังอย่างบ้าคลั่ง
เช่นนี้
" ข้าได้ลองปรึกษากับแพทย์ที่เก่งกาจมามากมายแต่พวกเขาล้วน
ไม่เข้าใจเช่นเดียวกันว่ามันคือสิ่งใด.....มันเป็นพลังงานที่มีชีวิตจิตใจ
และคอยดูดกลืนพลังงานภายในร่างที่มันอาศัยอยู่ไปอย่างรวดเร็ว....
อีกทั้งเมื่อพวกเราคิดจะกาจัดมัน...มันกลับมีการตอบสนองที่น่าถึงเสีย
ยิ่งกว่า...มันจะตอบสนองโดยการเคลื่อนที่เข้าใกล้กับอวัยวะสาคัญ
ภายในร่างกายของนางอย่างเช่นหัวใจ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกข้า
สามารถลงมือได้อย่างถนัด จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาอย่าง
ยาวนานในตอนนี้ความแข็งแกร่งของมันในตอนนี้เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นจน
น่าหวาดหวั่น..... "
หลินหมิงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเขาไมเคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามัน
จะมีพลังงานใดที่มีความแปลกประหลาดเช่นนี้ มันมีความคิดเป็นของ
ตนเอง ? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหล่าสมุนไพรที่มีค่าภายในห้องแห่งนี้นั้นมี
ไหวเพื่อสิ่งใด ทั้งหมดนี้เพื่อให้ร่างกายของหญิงสาวสามารถฟื้นฟู
ร่างกายและพลังปราณได้หลังจากที่ต้องทนรับการดูดกลืนพลังอย่าง
บ้าคลั่ง แม้ว่ามันจะไม่เพียงพอแต่มันก็สามารถบรรเทาความรุนแรงที่
เกิดขึ้นได้บ้าง
ในตอนนี้หลินหมิงไม่รู้สึกแปลกใจว่าเหตุใดตระกูลหลินที่ได้ผิด
ข้อตกลงกับตระกูลหลิวไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการผิดคากล่าวแต่พวกเขา
ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถกาจัดปีศาจร้ายในร่างกายของ
หญิงสาวได้ ที่น่าสนใจก็คือก่อนหน้านี้หลิวจงเทียนกล่าวราวกับว่าผู้
อาวุโสฟางซิ่นมีวิธีการบางอย่างที่จะสามารถรับมือกับเจ้าปีศาจร้ายนี้
ได้
ทันใดนั้นเมื่อหลินหมิงพยายามก้าวเท้าเข้าไปใกล้อีกหนึ่งก้าวเพื่อ
ตรวจสอบปีศาจร้ายในร่างกายของหญิงสาว เปลวเพลิงทมิฬภายใน
ร่างกายของเขามีการสั่นไหวอย่างรุนแรง เช่นเดียวกันกับปีศาจร้ายราว
กับว่าพวกมันทั้งสองรับรู้การมีอยู่ของกันและกัน
อันที่จริงแล้วเปลวเพลิงทมิฬของหลินหมิงก็นับได้ว่ามันราวกับมี
ชิวิตจิตใจเป็นของตนเองเพียงแต่มันมีจิตสานึกที่ดีกว่า ไม่เพียงแต่มัน
จะไม่ส่งผลร้ายใดต่อเขามันกลับเป็นพลังให้กับเขาเสียอีก สาหรับ
พลังงานประหลาดตนนี้หลินหมิงไม่สามารถประเมิณมันได้อย่างแน่ชัด
ว่ามันมีความแข็งแกร่งที่ใกล้เคียงกับเปลวเพลิงของเขาหรือไม่ แต่ที่
แน่นอนก็คือพลังงานประหลาดนี้หากมีผู้ใดควบคุมได้พวกเขาอาจ
ได้รับความสามารถที่แปลกประหลาดเช่นเดียวกันกับเขามาก็ได้
หลินหมิงมีความคิดแปลกประหลาดเกิดขึ้นมือข้างหนึ่งของเขา
เอิ้อมเข้าไปสัมผัสบริเวณมือขาวซีดของหญิงสาวพร้อมกับปราณของ
เขา ปีศาจในร่างของหญิงสาวมีการเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งในตอนแรก
มันเพียงรับรู้ได้ถึงเปลวเพลิงของเขาแต่เมื่อในตอนนี้ที่เขาส่งปราณเข้า
ไปส่วนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเมื่อมันรับรู้ความแข็งแกร่งของเปลวเพลิงทมิฬ
ของเขาแล้ว มันมีท่าทีหวาดกลัวเป็นอย่างมาก !
หลิวจงเทียนตะลึงไปชั่วครู่แม้มันจะเป็นชั่วเวลาสั่นๆแต่ด้วยการที่
เขามีประสบการณ์ต่างๆมาอย่างโชกโชนเขาสามารถมองเห็นสิ่งที่
เกิดขึ้นนี้ได้ ปีศาจภายในร่างของภรรยาเขามีความหวาดกลัวเกิดขึ้น ?
แม้ในตอนแรกเขาจะสงสัยที่หลินหมิงกล้าเอื้อมมือสัมผัสภรรยาของ
ตนแต่เมื่อได้เห็นผลลัพธ์เช่นนี้มันทาให้เขารู้สึกตะลึงจนความคิด
เหล่านั้นหายไป มันแตกต่างจากตอนที่พวกเขาลงมือกาจัดเจ้าพลังงาน
ประหลาดนี้
ในตอนนั้นแม้ว่ามันจะหลบหนีเข้าใกล้อวัยวะสาคัญภายใน แต่ท่าที
ของมันไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยยิ่งเป็นสถานการณ์
ปัจจุบันที่มันได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากไม่ต้องสงสัยเลยว่า
พวกเขาไม่แม้แต่จะทาให้มันกังวลได้ แต่เพียงแค่หลินหมิงส่งปราณไป
เล็กน้อยมันกลับมีท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้ ?
ตอนที่ 118
สาหรับหลิวฉวนยูร์นั้นนางไม่ได้มีประสาทสัมผัสที่รวดเร็วพอที่จะ
สามารถรับรู้อาการสั่นไหวภายในร่างกายของมารดา มันจึงทาให้นาง
รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับท่าทีของหลินหมิง แต่เมื่อนางหันไปพบ
กลับสีหน้าของบิดาที่มีสีหน้าตื่นตะลึงนางก็พลันเข้าใจได้ว่าดูเหมือนว่า
ที่สามีในอนาคตของผู้นี้ได้ทาสิ่งที่น่าเหลือเชื่อลงไปอีกแล้ว ?
รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นบนใบหน้าของหลินหมิงแม้ว่าเขาจะ
ไม่รู้ว่าเจ้าพลังงานประหลาดนี้มีความสามารถมากเพียงใดแต่อย่าง
น้อยมันไม่ได้มีค่ามากไปกว่าเปลวเพลิงทมิฬภายในร่างกายของเขา ที่
สาคัญก็คือเป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะสามารถครอบครองพลังงาน
ประหลาดนี้ให้เป็นของตนเองได้ด้วยความช่วยเหลือจากเปลวเพลิง
ของเขา
" มันเกิดสิ่งใดขึ้น ! เหตุใดเจ้าพลังงานมันถึงได้หวาดกลัวพลังของ
เจ้ากัน "
หลิวจงเทียนกล่าวถามออกมาด้วยความร้อนรนแม้ว่าในตอนนี้ตัว
เขาจะได้รับคามั่นความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสซูหลิ่ง แต่ต้องเข้าใจก่อน
ว่าความช่วยเหลือจากนางนั้นไม่ใช่การกาจัดพลังงานประหลาดนี้ไป
โดยทันทีแต่เป็นเพียงผนึกมันเอาไว้เท่านั้น และผลของผนึกจะสามารถ
คงอยู่ได้เพียงหนึ่งปีหรืออาจมากกว่านั้นสักเล็กน้อย ดังนั้นแล้วหลิวจง
เทียนเขาจะไม่ปฎิเสธความหวังเล็กๆที่จะสามารถรักษาภรรยาของเขา
ให้หายขาด
" ข้าขอบอกกล่าวตามตรง...อันที่จริงแล้วข้าพอมีความคิดที่จะ
สามารถรักษาภรรยาของท่านได้เพียงแต่ว่าข้าเองก็ไม่มั่นใจนักว่ามัน
จะสาเร็จ..... "
แม้ว่าเปลวเพลิงของหลินหมิงจะมีความสามารถที่มากกว่าแต่นั้น
ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถขับไล่เจ้าพลังงานประหลาดนี้
ออกไปได้ เรื่องนี้หลินหมิงย่อมรู้ดีแต่เขายังต้องการที่ลองไม่แน่ว่าหาก
ผลลัพธ์ดาเนินไปได้ด้วยดีเมื่อเป็นเช่นนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ความสามารถของเขาคงได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดอย่างไม่ต้อง
สงสัย
" จริงงั้นรึเจ้าพอมีวิธีจริงๆอย่างนั้นรึ "
ตอนนี้แม้แต่หลิวฉวนยูร์ยังตกตะลึงเจ้าพลังงานประหลาดที่แม้แต่
แพทย์เก่งกาจทั้งหลายหรือกระทั่งผู้มากฝีมือยังคงไม่สามารถทาสิ่งใด
กับมันได้ แต่เด็กหนุ่มวัย 15 ปีกับกล่าวว่าพอมีวิธีแน่นอนว่าแม้ว่าเขา
จะกล่าว่ว่าไม่มั่นใจกับวิธีการของตนเอง แต่แล้วอย่างไรล่ะในหลายปีที่
ผ่านมานี้เจ้าพลังงานประหลาดนี้เติบโตอย่างรุดหน้าจนแพทย์และผู้
อาวุโสแต่ละคนได้แต่ส่ายหน้าอย่างไร้หนทาง แต่ในตอนนี้กลับมีคนที่
กล่าวว่ามีวิธีที่สามารถทาลายเจ้าพลังงานประหลาดนี้ได้
เช่นนี้แล้วมีหรือที่หลิวจงเทียน และหลิวฉวนยูร์ปฎิเสะแน่นอนว่า
หากอีกฝ่ายเป็นรุ่นเยาว์ทั่วๆไปที่กล่าวเช่นนี้ออกมา พวกเขาเหล่านั้น
คงได้สิ้นชีพในทันทีในข้อหากล่าววาจาไร้สาระ แต่เทียบกับหลินหมิงที่
ได้แสดงผลลัพธ์ให้พวกเขาได้เห็นแม้เพียงเล็กน้อย รวมกับศักยภาพ
ของเขาในตอนนี้ที่ราวกับเป็นที่ชื่นชอบของเทพบนสวรงสวรรค์พวก
นั้นจึงทาให้พวกเขามีความหวังในตัวของหลินหมิงขึ้นมา
" อืม...เพียงแต่ว่าข้าไม่ต้องการแสดงให้ใครเห็น...แต่หากท่าน.... "
" ไม่ ไม่...ไม่เป็นไรข้าและยูร์เอ๋อยินดีที่จะให้เจ้าได้ลอง...และพวก
ข้าจะไม่อยู่รบกวนเจ้าอย่างแน่นอนแต่หากเจ้าต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม
เจ้าก็สามารถแจ้งกล่าวได้ "

หลิวจงเทียนนั้นได้พบเจอผู้ที่มีความสามารถมามากมายและเขา
ย่อมเข้าใจความคิดของหลินหมิงไม่มากก็น้อยสาหรับผู้ที่ความสามารถ
เช่นหลินหมิงมันไม่แปลกเลยหากพวกเขาจะต้องการปกปิดเรื่องทักษะ
หรือพลังพิเศษเฉพาะตัวภายในของพวกเขาเฉพาะอย่างยิ่งกับรุ่นเยาว์
อย่างหลินหมิงแล้ว พวกเขาเหล่านี้จะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเพื่อ
รอวันเติบโตขึ้นในอนาคต
น้าเสียงของหลิวจงเทียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาแทบไม่อาจอด
ใจรอกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ได้ หลิวจงเทียนรีบก้าวออกไปจากห้อง
อย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาพูดคุยกับหลินหมิงอีกเล็กน้อย จะเหลือ
เพียงแต่หลิวฉวนยูร์ที่รอให้บิดาของนางออกไปก่อน
" เจ้าตัวร้ายหากเจ้าสามารถรักษามารดาของข้าได้แล้วละก็ ข้าจะ
ให้เจ้าจูบจนกว่าจะพอใจเลย ! "
" ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี.้ ..เจ้าบอกว่าเมื่อข้าสามารถแสดง
ความสามารถที่น่าพอใจแล้วเจ้าจะยอมฟังทุกอย่างที่ข้าขอ ? "
" ฮึ่ม ! เจ้าลามก ! "
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อตามบิดาของ
นางไป แน่นอนว่านางจะคงจาคากล่าวของตนเองได้เป็นอย่างดีและ
นางเป็นกังวลว่าหากหลินหมิงเกิดพลันเรียกร้องคาขอลามกขึ้นมา
ในตอนนี้เล่า ? แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นหากนางปฎิเสธก็เท่ากับว่า
นางผิดคาพูด แต่ทันใดนั้นร่างของนางกลับถูกฉุดรั้งเอาไว้โดยหลินหมิง
ไปชั่วขณะ
สัมผัสโอบกอดไออุ่นจากด้านหลังของนางทาให้หลิวฉวนยูร์ถึงกับ
หน้าขึ้นสีแม้ว่านางจะได้รับอ้อมกอดเช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแต่มันไม่มีทาง
เลยที่นางจะชินกับมันได้
" เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก..มารดาของเจ้าก็เหมือนมารดาของ
ข้า..ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ "
" อืม "
หลินหมิงเริ่มเรียนรู้วิธีที่จะการาบแม่สาวน้อยนางนี้ดูเหมือนว่าเมื่อ
ยามใดที่นางได้สัมผัสใกล้ชิดกับเขาเมื่อนั้นท่าทีของนางจะเปลี่ยนไป
เป็นอ่อนโยนราวกับเป็นคนละคน
หลิวฉวนยูร์แม้ว่านางจะยังคงต้องการอยู่ในอ้อมกอดของหลินหมิ
งต่อไปเพียงแต่ว่าหากพวกเขาใช้เวลานานเกิดไปและบิดาของนาง
กลับมาเห็นนั้นคงจะทาให้เรื่องราวทุกอย่างยากยิ่งขึ้น นางผลักร่างของ
หลินหมิงออกเล็กน้อยพร้อมกับประริมฝีปากของนางเข้ากับริมฝีปาก
ของหลินหมิงอย่างแผ่วเบา
" คิคิ...พยายามเข้าล่ะ "
หลิวฉวนยูร์นางไม่เข้าใจเหมือนกันว่าในใจของนางในตอนนี้เมื่อ
หลินหมิงกล่าวว่ามีวิธีที่จะช่วยเหลือมารดาของนาง นางกลับมีความ
เชื่อว่าเขาจะต้องทาสาเร็จอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วในตอนนี้จิตใจของ
นางกาลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่จะได้พูดคุยกับมารดาของนางอีก
ครั้ง
ภายในห้องที่เต็มไปด้วยสมุนไพรจานวนในตอนนี้เหลือเพียงหลินห
มิงและร่างของหญิงสาวที่กาลังนอนหลับไหล หลินหมิงสัมผัสได้ว่า
ในตอนนี้หลิวจงเทียนและหลิวฉวนยูร์ได้ออกไปข้างนอกเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งหลิวจงเทียนยังคงได้ทาการลงอาคมผนึกเสียง
เอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้หลินหมิงมีความกังวลใดๆเพื่อที่ว่า
อย่างน้อยมันจะสามารถเพิ่มโอกาสในการรักษาภรรยาของเขา
หลินหมิงไม่รอช้ามือของเขายื่นเข้าไปจับที่มือเนียนุ่มของหญิงสาว
อีกครั้งพร้อมกับทาการส่งปราณของเขาเข้าไปด้วย พลังงานแปลก
ประหลาดในร่างกายเริ่มมีการตอบสนองในทันทีอีกครั้ง เปลวเพลิง
ทมิฬภายในต้นเถียนสั่นไหวอย่างรุนแรงเช่นเดียวกันราวกับว่ามันรับรู้
ความต้องการของหลินหมิง
ด้วยการที่ในตอนนี้พลังงานประหลาดอยู่ในสภาวะหวาดกลัวทาให้
การเคลื่อนที่ของมันเป็นไปอย่างบ้าคลั่ง แต่มันนับได้ว่าดียิ่งกว่าในตอน
ที่มันยังคงปกติอย่างมาก เทียบกันกับในตอนที่มันยังปกติเมื่อมันรับรู้
ถึงอันตรายมันจะเคลื่อนที่เข้าหาจุดสาคัญในร่างกายในทันที แต่
ในตอนนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
" เอาล่ะ !! "

ตอนที่ 119
หลินหมิงทาการส่งพลังปราณเข้าไปในร่างของหญิงสาวเพื่อที่จะ
การาบเจ้าพลังงานประหลาดนี้ จนในที่สุดเมื่อพลังปราณของเขาได้เข้า
ปะทะกับมัน รูปร่างของมันที่แต่เดิมเป็นก้อนพลังงานสีฟ้าสดใสเกิด
การสั่นไหวไปมาราวกับว่ามันจะแตกออก แน่นอนว่าหลินหมิงรู้ดีว่า
ลาพังเพียงเท่าพลังของเขาที่ส่งไปในตอนนี้มันไม่เพียงพอที่จะสามารถ
เอาชนะเจ้าพลังประหลาดนี้ได้ เขาเพียงต้องการทดสอบความ
แข็งแกร่งของมันก่อนสักเล็กน้อยแล้วจึงค่อยจัดการมันลง
ทันใดนั้นเจ้าพลังงานนี้กลับมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในตอนนี้มันรู้ดีว่า
พลังปราณของหลินหมิงเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงต่อตัวมันอย่างยิ่ง
" สายฟ้า ? "
รอบๆก้อนพลังงานประหลาดปรากฎสายฟ้าขึ้นรอบๆตัวมัน !
หลินหมิงตื่นตะลึงกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเป็นที่รู้กันดีว่าปกติแล้วคน
ทั่วไปจะมีปราณหยางที่เป็นสัญลักษณของความร้อนแรง และปราณห
ยินซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามซึ่งพวกมันเป็นที่รู้กันดีในรูปแบบของเปลวเพลิง
และน้า เพียงแต่ใช่ว่าผู้คนจะปรากฎพบเพียงปราณสองชนิดนี้
มันยังคงมีปราณชนิดพิเศษอีกมากซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะพบใน
เผ่าพันธ์โบราณที่สาบสูญหรือเผ่าพันธ์ที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าปราณสายฟ้าตรงหน้าของหลินหมิงนี้ย่อมเป็นหนึ่งในนั้น
หลินหมิงรับรู้ได้ในทันทีว่าเจ้าพลังงานประหลาดนี้เตรียมพร้อมที่
จะต่อต้านเขาอย่างถึงที่สุด พลังปราณของเขาที่ถูกส่งไปเพื่อหวัง
ทดสอบมันถูกสลายไปอย่างง่ายดาย เมื่อเป็นเช่นนี้หลินหมิงรีบ
ตอบสนองอย่างรวดเร็วมือของเขารีบเคลื่อนที่เข้าสัมผัสที่ท้องน้อยของ
หญิงสาวอันเป็นจุดที่พลังงานประหลาดอยู่ในตอนนี้
หลินหมิงไม่มีทางปล่อยให้มันได้มีโอกาสเคลื่อนไหวใดๆอีกต่อไป
ไม่เช่นนั้นแล้วหากมันเคลื่อนที่เข้าหาจุดสาคัญแล้วละก็เป็นไปได้ว่า
แม้แต่เปลวเพลิงของเขาที่สามารถทาให้มันกลัวได้ก็ไม่น่าจะประโยชน์
อะไรอีกต่อไป พลังปราณของหลินหมิงถูกเร่งเร้าออกมาเป็นจานวน
มากด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ที่มีพลังอยู่ที่ปราณก่อเกิด
ระดับ 7
แต่ความหนาแน่นทางพลังของเขาอาจเทียบได้กับผู้ที่มีพลังระดับ
จุดสูงสุดขั้นก่อเกิดหรืออาจมากกว่านั้น เพียงแต่....
' อั๊กก ! '
แรงสะท้อนต่อต้านของพลังงานส่งผลให้หลินหมิงรู้สึกจุกจนเลือด
ของเขาแทบพุ่งออกไปมา แม้ว่าหลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งในระดับ
นี้แต่ว่ามันมีหรือที่จะเพียงพอต่อการรับมือกับเจ้าพลังงานประหลาดที่
ดูดกลืนความแข็งแกร่งของผู้ที่พลังระดับสูงสุดขั้นจอมยุทธ์มานานนับ
ปี
พลังงานประหลาดในร่างกายของหญิงสาวเริ่มมีการหยุดสั่นไหว
ในตอนนี้ราวกับว่ามันรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินหมิงที่
ไม่แม้แต่เพียงพอที่จะทาอะไรมันได้
" บัดซบ !! "
แม้ว่าหลินหมิงจะคาดการณ์เรื่องทั้งหมดนี้ไว้อยู่ก่อนแล้วเพียงแต่
ว่าการกระทาที่ราวกับมีชีวิตของเจ้าพลังงานนี้มันทาให้เขารู้สึกมีโทสะ
ขึ้นมา ในตอนนี้มันอยู่นิ่งไม่ไหวติ่งราวกับกาลังเชื้อเชิญให้หลินหมิงเข้า
ไปทักทายมันอีกรอบ แน่นอนว่าหากเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่าง
หลิวจงเทียนมีหรือที่เจ้าพลังงานที่น่ารังเกียจนี้จะกล้าทาเช่นนี้ ?
แน่นอนว่าไม่ เพียงแต่ว่าโอกาศเช่นนี้มันไม่มีทางมอบให้กับประมุข
ตระกูลหลิวเป็นอย่างแน่นอน
หลินหมิงนามือออกมาเพื่อโคจรพลังรักษาบาดแผลของเขาสัก
เล็กน้อยดูเหมือนว่าในตอนนี้เขาจะไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องที่มันจะทา
การหลบหนีอีกต่อไป
' เดียวบิดาผู้นี้จะทาให้เจ้ารู้เองว่าการที่เจ้ากล้าทาเรื่องเช่นีนีกับข้า
จะเป็นเช่นไร '
หลินหมิงคิดในใจพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่มุมปากอันเป็น
สัญลักษณ์ของเขาได้ปรากฎขึ้น แน่นอนว่าแผนการณ์ของหลินหมิง
ไม่ได้มีเพียงการใช้พลังปราณของเปลวเพลิงของเขาเข้าการาบเท่านั้น
แน่นอนว่าวิธีนี้มันมีความเป็นไปได้ว่าจะสาเร็จอย่างสูง ในกรณีที่เขามี
ความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางเป็นอย่างน้อย
หลินหมิงจ้องมองไปยังเรื่อนร่างของหญิงสาวผู้ที่มีความงดงามราว
กับร่างของหลิวฉวนยูร์ในอนาคต สัดส่วนโค้งว้าวต่างๆล้วนถูกสรร
สร้างมาด้วยองค์ประกอบที่ยอดเยี่ยม หากเทียบกับเหม่ยฮวามารดา
ของหลินเสี่ยวต้าที่มีตาแหน่งเป็นภรรยาของประมุขตระกูลใหญ่เช่นกัน
แล้วละก็ความงดงามของหญิงสาวทั้งสองคนนี้นับได้ว่าห่างไกลกันจน
แทบจะไม่สามารถนามาเปรียบได้
มือของหลินหมิงเข้าลูบไล้สัมผัสเรือนร่างของนางอย่างเชื่องช้า
พร้อมกับจินตนาการของเขาที่พลันหวนคิดไปถึงในตอนที่เข้าจะได้มี
โอกาศขับบทเพลงไปพร้อมกับแม่สาวน้อยของเขา สาหรับหญิงสาวผู้นี้
นางมีสัดส่วนโดยทั่วไปแล้วเหนือกว่าหลิวฉวนยูร์อย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะก้อนเนื้อบริเวณหน้าอกของนางที่เรียกได้ว่าพัฒนาจนมาอยู่
ในระดับสุดยอดของหญิงสาว
เพียงนิ้วมือของเขาที่เข้าสัมผัสที่บริเวณหน้าอกคู่งามของนางราว
กับว่ามือทั้งสองข้างของเขาในตอนนี้กาลังถูกดูดกลืนเข้าไปในปุ๋ยเมฆ
หนุ่มละมุนที่มีความลึกไม่มีที่สิ้นสุด ลาพังเพียงอาวุธคู่ชิ้นนี้ของนาง
หลินหมิงเชื่อว่าหากนางยังคงอยู่ในวัยที่อยู่ในช่วงผลิบานของหญิงสาว
บรรดาบุรุษทั้งหลายพวกเขาต่างต้องยอมมอบกราบให้กับอาวุธคู่งามนี้
อย่างช่วยไม่ได้
หลินหมิงเคลื่อนตัวลงมาที่ส่วนล่างอันเป็นสถานที่ลับของหญิงสาว
แม้ว่ามันจะน่าเสียดายอยู่บ้างที่หญิงสาวผู้นี้ไม่ได้เกิดมาอยู่ในช่วงเวลา
เดียวกันกับเขาไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่มีทางปล่อยให้นางตกเป็นของ
ผู้อื่นเป็นแน่ แต่อย่างน้อยนางก็ได้ให้กาเนิดตัวแทนที่มีความงดงามไม่
แพ้กันออกมาให้เขาดังนั้นแล้วมีหรือที่หลินหมิงจะไม่ตอบแทนนางเสีย
บ้าง ?
หลินหมิงทาการแหวกขาทั้งสองของหญิงสาวออกเพื่อที่จะทาการ
สารวจโพร่งสวาทของนางสักเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาไม่จาเป็นกังวลว่า
หลิวจงเทียนจะมาเห็นภาพที่น่าทึ่งในตอนนี้ เพราะว่าประมุขตระกูล
หลิวผู้นี้คงไม่ยอมทาสิ่งใดที่จะส่งผลต่อการรักษาภรรยาของเขาเป็นแน่
แม้ว่าภรรยาของเขาจะเป็นสตรีที่มีความงามแต่โดยปกติแล้วนั้นบุรุษ
รุ่นเยาว์จะไม่ให้ความสนใจกับสตรีที่มีอายุมากกว่าตนเองมากมายและ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุรุษรุ่นเยาว์ที่มีฐานะสูงส่งเช่นรุ่นเยาว์ที่ยอด
เยี่ยมของตระกูหลินแต่ละคน
พวกเขาไม่มีทางทาการร่วมรักกับหญิงสาวที่มีเจ้าของแล้วเช่นนี้ไม่
ว่านางจะมีความงดงามมากเพียงใด หากพวกเขาทาเช่นนั้น นั้นไม่
เท่ากับว่าพวกเขาเป็นรองสามีของนางอย่างนั้นหรือ ? แต่นางเสียดาย
ที่หลิวจงเทียนไม่ได้รับรู้เลยว่าหลินหมิงนั้นมีความคิดอ่านที่แตกต่าง
จากบุรุษโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
สาหรับหลินหมิงแล้วข้อเป็นเพียงสตรีที่มีความงามหรือที่เขามี
ความพึงพอใจจะเรื่องของอายุหรือเรื่องที่ว่าพวกนางเหล่านั้นจะมีสามี
แล้วเรื่องนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องสาคัญแต่อย่างใด
โพร่งร่องสวาทของหญิงสาวผู้นี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ถกู ใช้งานมา
อย่างยาวนานมากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเหยื่อพหรมจรรย์ของนางก็
ได้ถูกทาลายไปแล้ว มันคงจะน่าแปลกที่หญิงสาวที่มีความงามเช่นนี้จะ
สามารถถือครองความบริสุทธ์เอาไว้ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย
ตัวอย่างเช่นอาจารย์สาวสวยของเขา หรือผู้อาวุโสซูหลิ่งกระทั่งผู้
อาวุโสฟางซิ่นที่เพิ่งเสียความบริสุทธ์ของนางให้แก่หลินหมิงไม่นานนี้
เมื่อหลินหมิงลองทาการใช้นิ้วเข้าไปสารวจโพร่งสวาทของนางเขา
พบว่าร่องสวาทของนางยังคงมีขนาดคับแน่นอย่างไม่น่าเชื่อด้วย
ผลลัพธ์เช่นนี้แม้ว่าด้วยความที่นางจะหลับไหลไม่ได้สติมาอย่าง
ยาวนานหลายปีแต่ในช่วงก่อนหน้านี้เหล่า ? ดูเหมือนว่าประมุข
ตระกูลหลิวผู้นี้จะไม่ได้มีเวลาให้กับภรรยาของเขามากนัก
จนถึงในตอนนี้เจ้าพลังงานประหลาดในร่างกายของหญิงสาวมันได้
ต้องงงงวยกับการกระทาของหลินหมิงในตอนแรกมันคิดว่าหลินหมิง
จะพยายามทุกวิธีทางเพื่อเอาชนะมัน ? แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่า
สิ่งที่มันหวาดกลัวที่สุดกลับยอมแพ้ไปโดยง่ายเช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้า
พลังงานประหลาดกลับกลายสภาพเป็นก้อนกลมสีฟ้าที่ปราศจาก
สายฟ้ารอบตัวของมันดังเดิมและดูดกลืนพลังในร่างของหญิงสาวผู้นี้
ต่อไป
ตอนที่ 120
หลินหมิงใช้เวลาราวสองก้านธูปเพื่อเพลิดเพลินกับเรือนร่างอัน
สมบูรณ์พร้อมของหญิงสาวตรงหน้าของเขา แน่นอนว่าเป้าหมายของ
หลินหมิงนั้นยังคงเป็นการการาบพลังงานประหลาดที่อยู่ภายในร่าง
ของนาง เพียงแต่ด้วยพลังปราณของเขาในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อย่าง
แน่นอนที่เขาจะใช่วิธีธรรมดาในการเอาชนะเจ้าพลังงานจอมเจ้าเล่ห์
ตนนี้
ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีนทางไปเสียทีเดียว เมื่อหวนนึก
กลับไปสิ่งที่เจ้าพลังงานประหลาดนี้เกรงกลัวนั้นย่อมเป็นเปลวเพลิง
ทมิฬของเขาเพียงแต่ว่าหลินหมิงไม่สามารถใช้เปลวเพลิงของเขากับ
นางโดยตรงเช่นนี้ได้ แม้ว่านางจะเคยเป็นผู้ที่พลังระดับสูงสุดขั้นจอม
ยุทธ์แต่สภาพของนางในตอนนี้ไม่ต่างจากหญิงสาวธรรมดาที่มีพลัง
ปราณเล็กน้อย
ดังนั้นแล้วเขาจาเป็นจะต้องส่งพลังงานของเขาเข้าไปโดยตรง และ
แน่นอนว่าในเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับความสามารถของเขา
อย่างมาก ด้วยการร่วมรักของเขากับหญิงสาวพวกนางจะได้รับน้ารัก
ของเขาที่เต็มไปด้วยพลังงานหยางจากเปลวเพลิงของเขา ไม่เพียง
เท่านั้นมันยังคงเป็นพลังงานที่บริสุทธ์ยิ่งกว่าในตอนที่เขาใช้พลังโดย
ปกติอย่างมาก และเมื่อเป็นเช่นนี้แน่นอนว่าแม้แต่เจ้าพลังงาน
ประหลาดในร่างของนางก็คงไม่สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน
ขนาดหญิงสาวซัคคิวบัสผู้งดงามเมื่อนางได้ร่วมรักกับเขาเห็นได้ชัด
ว่าภายในร่างกายของนางนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะปฎิเสธพลังงานหยิน
จากน้ารักของเขาได้ เช่นนั้นแล้วแม้ว่าเจ้าพลังงานนี้จะแข็งแกร่งแต่มัน
จะสามารถเทียบได้กับหญิงสาวซัคคิวบัสอย่างนั้นหรือ ? แน่นอนว่ามัน
ไม่สามารถแม้แต่จะมีสิทธิไม่เปรียบเทียบด้วยซ้า
หากถามว่าแล้วเหตุใดเขาถึงไม่ลงมือทาการร่วมรักกับนางไปเลย
? นั้นก็เพราะว่าด้วยความงดงามของหญิงสาวผู้นี้แล้วมีหรือที่หลินห
มิงจะใช้โอกาศนี้เพื่อเพลิดเพลินกับมันเสียหน่อย
หลินหมิงทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกมาพร้อมกับแนบ
ร่างของเขากดลังไปบนตัวของหญิงสาว สัมผัสเนียนนุ่มจากร่างกาย
ของนางทุกส่วนที่กาลังสัมผัสตัวของเขาทาให้หลินหมิงรู้สึกดีเป็นอย่าง
มาก ทวนมังกรของเขาสั่นกระตุกอย่างรุนแรงอันเป็นเครื่องหมายว่า
มันแทบจะรอพิชิตหญิงสาวผู้นี้ไม่ไหวแล้ว
หลินหมิงนาทวนมังกรของเขาเสียบเข้าไปภายในร่างของหญิงสาว
ในทันที แน่นอนว่าหากเป็นปกติแล้วเขาคงจะต้องดาเนินการอย่าง
เชื่องช้าไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวที่ร่วมรักกับเขาคงหมดสติไปในทันที
หรือกระทั่งพวกนางอาจตกใจจนตายไปเลยก็ได้ เพียงแต่ว่าหญิงสาวผู้
นี้กาลังอยู่ในสภาพหลับไหลโดยไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมา รวมกับการที่
เขาได้เห็นร่างของหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้มันนับเป็นเรื่องยากที่หลินห
มิงจะสามารถอดกลั้นอารมณ์เอาไว้ได้
ทวนมังกรของหลินหมิงที่ถูกแทงเข้าไปสุดลาจนชนกับกาแพงผนัง
ภายในร่องสวาทของนางเพียงแค่ชั่วเวลาอึดใจเดียวเท่านั้น แม้ว่าหญิง
สาวผู้นี้จะไม่มีความบริสุทธ์แล้วเพียงแต่ไม่ต้องสังเลยว่าในช่วงเวลา
หลายปีที่ผ่านมานางนั้นไม่เคยได้ผ่านมือบุรุษมาเลยอย่างแน่นอน
ทวนมังกรของหลินหมิงที่อยู่ภายในตัวของนางราวกับว่ามันกาลัง
อยู่ในกองไฟอ่อนๆที่ให้ความอบอุ่นจนทวนมังกรของเขาสั่นไหวอย่าง
รุนแรง ไม่เพียงเท่านั้นแม้ว่านางจะยังคงไร้ซึ่งสติอยู่แต่ดูเหมือนว่า
ร่างกายส่วนล่างของนางจะตอบสนองต่อทวนมังกรของหลินหมิงได้อ
ย่างดีเยี่ยม ร่องสวาทของนางมีการขยายตัวและหดลงเพื่อบีบรัดทวน
มังกรของหลินหมิงอย่างต่อเนื่อง
" อา~~~ "
หลินหมิงนอนกดทับร่างของนางอย่างแนบแน่นพร้อมกับสะโพก
ของเขาที่ขยับอย่างบ้าคลั่ง ริมฝีปากอวบอิ่มของนางถูกประกบอย่าง
ร้อนแรง ลิ้นของหลินหมิงที่อยู่ภายในปากของนางทาการเข้าสารวจผัว
พันลิ้นของนางไปมาอย่างไม่มีทางตอบโต้
จนในที่สุดหลินหมิงก็ไม่สามารถต้านทานอารมณ์ของตนเองได้น้า
รักจานวนมากของเขาถูกระเบิดเข้าไปเต็มร่องสวาทของนางเพียงแต่ว่า
หลินหมิงไม่มีความคิดที่จะหยุดสะโพกของเขาแต่อย่างใด
หลินหมิงทาการสัมผัสไปที่พลังงานประหลาดภายในร่างกายของ
นางในทันที ด้วยพลังงานหยางบริสุทธ์ในน้ารักของเขาแน่นอนว่ามันมี
ความเข้มข้นที่เหนือกว่าบุรุษทั่วไปแบบเทียบไม่ติดอีกทั้งมันยังคง
ประกอบไปด้วยคุณสมบัติบางอย่างของเปลวเพลิงของเขาที่สามารถ
เพิ่มพลังให้กับเขาได้หลังจากร่วมรักกับหญิงสาว
จานวนพลังงานประหลาดในตอนนี้เมื่อต้องเจอกับพลังงานของ
เปลวเพลิงทมิฬที่มีความบุรุษมากกว่าก่อนหน้าแบบเทียบไม่ติด แม้ว่า
มันจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็วได้การแปลงสภาพเป็นรูปลักษณ์
สายฟ้าที่ทรงพลังยิ่งกว่าในตอนแรกเพียงแต่ว่ามันยังคงไม่เพียงพอที่จะ
สามารถต่อต้านพลังงานของเปลวเพลิงของหลินหมิงได้ ! ในตอนนี้
พลังงานของมันค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถเคลื่อนไหวใด
ได้อีกต่อไป
ทันใดนั้นหลินหมิงสัมผัสได้ว่าร่างของหญิงสาวเริ่มมีการตอบสนอง
ขึ้นมาดวงตาของนางเริ่มขยับเปิดอย่างเชื่องช้าด้วยท่าทีอ่อนแรง แต่
ทันใดนั้นเมื่อนางรู้สึกถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับร่างของนาง
ดวงตาของนางถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ !
" นี้เจ้าเป็นใคร...อ้าาา~~~~ "
แน่นอนว่าหลินหมิงยังคงดาเนินการแทงทวนมังกรของเขาเข้าไป
ในร่องสวาทอันดีเยี่ยมต่อไปแม้ว่านางจะได้สติตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม
ในตอนนี้หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกประหลาดที่กาลัง
เข้ามาสู่ภายในร่างกายของเขา มันคล้ายกับในตอนที่เขาได้ทาการร่วม
รักกับหญิงสาวคนอื่นเพียงแต่ว่าในตอนนี้มีความรู้สึกที่ชัดเจนมากกว่า
อาจเป็นเพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากพลังงานของเจ้าพลังงานประหลาด
นั้น
" จะ...เจ้า..ทา..อะไรกับข้า...ออกไป อร้างงง~~ "
ในตอนนี้พลังของเจ้าพลังงานประหลาดในร่างกายของนางเริ่มลด
ถอยลงอย่างต่อเนื่องเป็นผลให้ความแข็งแกร่งของหญิงสาวเริ่มกลับมา
เพียงแต่ว่าด้วยสภาพของนางสในตอนนี้ที่หลับนอนมาอย่างยาวนาน
จนทาให้กล้ามเนื้อของนางยังคงไม่สามารถปรับสภาพได้นางจึงไม่มี
เรี่ยวแรงในการต่อต้านหลินหมิง
หลินหมิงระเบิดน้ารักชุดที่สองเข้าไปด้วยจานวนที่ไม่น้อยกว่าใน
ครั้งแรกพร้อมกับหยุดสะโพกของเขาลง แต่ว่าร่างของเขายังคงกดทับ
กับร่างของหญิงสาวอยู่ด้วยเรือนร่างและผิวเนียนุ่มของนางเช่นนี้มัน
เป็นการยากที่จะให้หลินหมิงออกห่างไปจากร่างของนาง หลินหมิง
ตัดสินใจที่จะพูดกล่าวกับนางก่อนสักเล็กน้อยไม่เช่นนั้นแล้วเป็นไปได้
ว่าหากเขายังคงร่วมรักกับนางต่อไปด้วยสภาพของนางที่เพิ่งฟื้นคืนสติ
และยังคงอยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อนมันอาจส่งผลกระทบต่อนางได้
" แฮ่ก แฮ่ก ๆ "
ในตอนนี้หญิงสาวอยู่ในสภาพเหนื่อยหอบไม่เพียงแต่นางจะเพิ่งฟื้น
คืนสติด้วยร่างกายสภาพที่อ่อนแรงแต่นางกลับต้องมาเจอกับการร่วม
รักกับเด็กหนุ่มที่อ่อนวัยที่ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เรือนร่างของนางมา
อย่างยาวนาน สัมผัสความรู้อบอุ่นที่อยู่ภายในท้องของนางในตอนนี้
เป็นคาตอบได้อย่างดีว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ใช้ร่างของนางเป็นที่ระบาย
อารมณ์มาอย่างยาวนาน
เกิดความรู้สึกสับสนปนเปภายในใจของนาง นางจาได้ดีว่าห้องนี้คือ
สถานที่ที่สามีของนางสร้างไว้สาหรับนางในตอนที่นางใกล้จะสิ้นสติลง
เช่นนั้นแล้วเด็กหนุ่มผู้นี้เข้ามาได้อย่างไร แล้วสามีของนางเล่า ?
" ท่านไม่ต้องกังวลไป..ที่ข้าทาไปทั้งหมดนี้ก็เพื่อรักษาท่าน "
" หึ..เจ้าคิดว่าข้าโง่...อย่างนั้นรึ..ออกไปจากร่างของข้าเดียวนี้ ! "
นางพูดออกมาด้วยน้าเสียงสั่นเครือด้วยทวนมังกรของหลินหมิง
และน้ารักของเขาที่ยังคงอัดแน่นอยู่ภายในร่างของนางมันทาให้นาง
เกิดความรู้สึกเสียวสะท้านอย่างต่อเหนื่อง แต่ถึงอย่างนั้นนางจาเป็นที่
จะต้องเก็บอั้นอารมณ์เหล่านี้เอาไว้
" เฮ้อ ~ "
" อ้าา...นะ...นี้เจ้า ! "
หลินหมิงทาการกระแทกเอวลงไปหนึ่งจังหวะเพื่อสั่งสอนหญิงสาว
ผู้นี้สักเล็กน้อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่านิสัยของแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ของ
เขาได้มาจากบิดาหรือมารดาของนาง สาหรับหลิวจงเทียนนั้นนิสัยของ
เขาเหมือนแม่ทัพผู้เยือกเย็นและมีความสุขุมเป็นอย่างมากเทียบกับ
ภรรยาของเขาแล้วนั้นดูเหมือนจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
" ถ้าท่านยังพูดกล่าวโดยไม่ฟังคาข้าเช่นนี้ข้าก็จะลงมืออย่างรุนแรง
กว่าเมื่อครู่นี้.... "
" งะ...งั้นเจ้า....มีอะไรก็รีบพูดกล่าวออกมา "
" ท่านทาท่าทีเช่นนี้กับคนที่ช่วยเหลือท่าน ? ท่านรู้หรือไม่ว่าท่าน
หลับไม่ได้สติไปนานเพียงใด ? รู้หรือไม่หากไม่ใช่ข้าแล้วท่านคงไม่มี
สิทธ์ที่จะได้ลืมตาขึ้นอีกครั้งเสียด้วยซ้า "
แม้ว่านางจะไม่ทราบแน่ชัดว่านางได้หลับไหลไม่ได้สติไปนาน
เพียงใดแต่เมื่อดูจากพืชพรรณสมุนไพรภายในห้องที่ล้วนเติบโตขึ้น
อย่างมากเห็นได้ชัดว่านางได้หมดสติไปหลายปีด้วยกัน

ตอนที่ 121
ด้วยสภาพของหญิงสาวที่ร่างของนางยังคงถูกกดทับไว้ด้วยร่างของ
หลินหมิงอีกทั้งที่บริเวณส่วนล่างของพวกเขายังคงมีการเชื่อมต่อกัน
แบบแนบแน่น อันที่จริงแล้วในตอนนี้นางไม่สนว่าสิ่งที่หลินหมิงกล่า
วจะมีความจริงมากน้อยเพียงใดอีกต่อไป นางเพียงต้องการให้เขาลุก
ออกไปจากร่างของนางก่อนที่นางจะเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดไป
มากกว่านี้ แน่นอนว่าหลังจากนั้นนางคงไม่มีทางปล่อยให้เจ้าเด็กหนุ่ม
ผุ้นี้ได้มีชีวิตรอดไปอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าสิ่งที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นความจริงที่เขาได้ช่วยเหลือทา
การรักษาให้กับนาง แต่มันก็ใช่ว่าเขาจะมีสิทธิในการทาอะไรกับเรือน
ร่างของนางก็ได้เช่นนี้
" ก็..ได้ข้า..ขอโทษที่แสดงท่าทีไม่ดีต่อเจ้า..เพียงแต่ว่าในตอนนี้ข้า
อยากจะให้เจ้าออกไปจากร่างของข้าก่อนได้หรือไม่ "
น้าเสียงของนางเต็มไปด้วยความสั่นเครืองมันไม่ใช่เพราะว่า
ร่างกายของนางในตอนนี้อยู่ในสภาพอ่อนแอ่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้วยทวนมังกรของหลินหมิงที่ยังอยู่ภายในตัวของนางมันทาให้นางรู้สึก
เสียวสะท้านไปทั่วร่าง ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อยามใดที่นางหรือเจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นที้ าการพูดกล่าวแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการขยับเล็กๆน้อยแต่มัน
กลับส่งผลต่อส่วนลับของนางอย่างมาก
ที่ร่องสวาทของนางในตอนนี้แม้แต่นางเองยังคงสัมผัสได้เลยว่ามัน
เต็มไปด้วยน้ารักของชายหญิงจานวนมาก และมันยังไม่มีท่าทีว่าน้ารัก
ของนางจะหยุดลงแต่โดยง่าย
" ท่านแน่ใจอย่างนั้นรึ ? "
เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงในใจของนางพลันเกิดความรู้สึก
แปลกๆ จากประสบการณ์ของนางที่เป็นสาวงามนางพอจะมี
ความสามารถในการประเมิณนิสัยของชายหนุ่มไม่มากก็น้อย และมัน
เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้ประหลาดผู้นี้ไม่ได้มีความคิดที่จะปล่อยมือ
จากเรือนร่างของนางแต่โดยง่าย
" ด้วยพลังปราณในร่างของข้านั้นคือปราณหยางที่บริสุทธ์ที่หาได้
ยากยิ่ง มันจึงมีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถดาราบพลังงาน
ประหลาดภายในตัวของท่านได้.... แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าทั้งหมดนี้
จะได้ผลในทันที ที่ตอนนี้ตัวท่านสามารถฟื้นคืนสติได้นั้นก็เป็น
เพราะว่าเจ้าพลังงานประหลาดตนนี้กาลังอยู่ในสภาวะอ่อนแรงและมัน
ไม่ได้มีการดูดกลืนพลังงานจากท่านอีกต่อไป....
แต่ถึงอย่างนั้นแม้ว่าพลังหยางของข้าจะมีความบริสุทธ์เป็นอย่าง
มากแต่ด้วยระดับพลังปราณของข้าที่ยังคงนับได้ว่าอ่อนแอ่หากเทียบ
กับความแข็งแกร่งของท่าน...มันย่อมต้องใช้เวลาพอสมควรในการ
กาจัดเจ้าพลังงานนี้ แต่หากท่านปราถนาอยากให้ข้าล้มเลิกเสียแต่
ตอนนี้ข้าเกรงว่าอีกเพียงไม่นานเจ้าพลังงานประหลาดนี้มันคงสามารถ
ฟื้นฟูตัวมันเองได้และเมื่อเป็นเช่นนั้นมันคงไม่มีวิธีใดอื่นที่จะสามารถ
รักษาท่านได้อีกต่อไป "
เมื่อนางได้ยินคากล่าวของหลินหมิงท่าทีของนางเปลี่ยนไปตื่นตะลึง
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กล่าวว่าเขาทาการรักษานางด้วยวิธีการร่วมรักแบบ
ชายหญิงอย่างนั้นรึ ? แน่นอนว่าในตอนแรกนางย่อมไม่เชื่อคากล่าวที่ดู
ไร้สาระเช่นนี้แต่เมื่อนางสัมผัสพลังงานภายในของนางความคิด
เหล่านั้นล้วนแปรเปลี่ยนไปในทันที
เจ้าพลังงานประหลาดภายในร่างของนางในตอนนี้มันกาลังใช้
พลังงานอย่างเต็มที่ในการขัดขืนปราณหยางบริสุทธ์ของเจ้าเด็กผู้นี้
เห็นได้ชัดว่าหากปราศจากปราณของเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นไปได้อย่างสูงว่า
ทุกสิ่งอย่างจะเป็นไปตามคากล่าวของเด็กหนุ่มผู้นี้
" แล้วมันต้องใช้เวลานานเพียงใด ? "
ในตอนนี้นางเริ่มมีความเชื่อกับคากล่าวของหลินหมิง ด้วยพลัง
ปราณหยางที่บริสุทธ์ของเด็กหนุ่มผู้นี้แม้แต่นางที่ใช้ชีวิตบนโลกมานาน
มากกว่าถึงสองเท่าก็ยังไม่เคยพบเห็นผู้ใดที่มีปราณที่มีความบริสุทธ์
เช่นนี้มาก่อน
" อย่างน้อย 3 วันหากท่านยินยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี แต่
หากไม่ข้าเกรงว่ามันอาจต้องใช้เวลานับสัปดาห์หรืออาจมากกว่านั้น "
เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงใบหน้าของนางขาวซีด 3 วันนั้นคือ
เวลาอย่างน้อยที่สุดที่ร่องสวาทของนางจะต้องรับมือกับทวนมังกรอัน
ใหญ่โตของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ ไม่เพียงเท่านั้นเป็นไปได้ว่ามันอาจจะกิน
เวลามากกว่านั้น เช่นนั้นแล้วแม้ว่านางอาจจะไม่ต้องเสียชีวิตด้วยเจ้า
พลังงานในร่าง แต่มันไม่ใช่ว่านางอาจจะสิ้นชีวิตด้วยทวนมังกรของเจ้า
เด็กหนุ่มผู้นี้แทนอย่างนั้นหรือ ?
" ชะ..เช่นนั้นข้า..ต้องทาสิ่งใดบ้าง "
แน่นอนว่านางย่อมต้องเลือกหนทางที่พบกับความลาบากเป็นเวลา
สั้นที่สุด
" ท่านเพียงแต่ต้องได้รับปราณหยางของข้าอย่างต่อเนื่องก็เท่านั้น "
รับปราณหยางอย่างต่อเนื่อง ? ปราณอย่างของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
ส่งผ่านมาในร่างกายของนางด้วยวิธีการแปลกประหลาดอย่างด้วยการ
ร่วมรักของชายหญิง เช่นนั้นแล้วไม่ใช่ว่านางจะต้องลิ้มลองบทเพลงรัก
ของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไปต่อเนื่องถึง 3 วัน !
" แล้วหากข้า....เลือกตัวเลือกที่สอง "
ในตอนนี้นางเริ่มมีความลังเลภายในใจด้วยทวนมังกรที่อยู่ภายใน
ร่างของนางในตอนนนี้มันก็ทาให้นางรู้สึกหายใจติดขัด และอึดอัดเป็น
อย่างมากแล้วห่างต้องเจอกับการขยับสะโพกของเจ้าเด็กหนุ่มนี้แล้วละ
ก็นางคงได้ตายก่อน 3 วันเป็นแน่
" ข้ากับท่านก็จะต้องอยู่ในท่วงท่าเช่นนี้จนกว่าพลังงานประหลาด
ภายในร่างของท่านจะถูกกาจัด "
ในตอนนี้นางเริ่มรู้สึกเป็นกังวลอย่างหนักว่าสิ่งที่อันตรายต่อชีวิต
ของนางนั้นเป็นเจ้าพลังงานประหลาดหรือเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กันแน่ เห็น
ได้ชัดว่าเจ้าพลังงานประหลาดภายในร่างของนางในตอนนี้มันกาลังทา
การขัดขืนพลังหยางของเด็กหนุ่มอย่างเต็มความสามารถนั้นจึงทาให้
มันไม่มีโอกาสในการดูดซับพลังงานภายในร่างของนาง แต่ว่าความ
อ่อนแอ่ของมันที่ค่อยๆลดลงนั้นก็ดาเนินไปอย่างเชื่องช้า ด้วยความเร็ว
เช่นนี้อย่างว่าแต่เจ็ดวันเลย แม้ว่าภายไปนับเดือนนางก็ไม่รู้ว่าเจ้า
พลังงานประหลาดนี้จะถูกกาจัดไปจนหมดสิ้นจริงๆหรือไม่
" ก็ได้...งั้นเจ้าจะรอ..อะไรอยู่ล่ะ..ข้าไม่สามารถทนอยู่ในสภาพน่า
อับอายเช่นนี้ได้นานนักหรอกนะ ! "
เมื่อได้ยินคากล่าวเช่นนี้จากหญิงสาวทวนมังกรของหลินหมิงที่อยู่
ภายในร่างกายของนางเริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ริมฝีปากของหญิง
สาวสั่นสะท้านในทันทีมือทั้งสองข้างของนางจิกลงไปบนเตียงนอนด้วย
อารมณ์ความรู้กแปลกๆที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่ใช่ว่านางไม่เคยมี
ประสบการณ์ร่วมรักกับบุรุษมาก่อน เพียงแต่ด้วยขนาดทวนมังกรของ
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันจะมีสตรีใดที่สามารถรับมือกับมันได้จริงๆอย่างนั้น
หรือ ?
หลินหมิงเริ่มทาการขยับสะโพกของเขาด้วยจังหวะที่เร้าร้อนจน
นางไม่สามารถข่มเสียงครางของตนเองเอาไว้ได้อีกต่อไป แม้ว่านาง
อยากจะกล่าวให้หลินหมิงหยุดการขยับสะโพกของเขาเอาไว้เพียงแต่ดู
เหมือนว่าริมฝีปากของนางในตอนนี้มันมีความสามรถส่งเสียงได้เพียง
เสียงครางอย่างเดียวเพียงเท่านั้น
หน้าอกคู่งามที่กาลังสั่นกระเพื่อมจากจังหวะการกระแทกเอวของ
หลินหมิงได้ถูกหลินหมิงเข้าเด็ดดมอย่างหื่นกระหาย ด้วยสัมผัสความ
เสียวสะท้านที่บริเวณส่วนล่างยังไม่พอหน้าอกของนางยังคงถูกใช้ราว
กับว่านางเพิ่งคลอดทารกที่มีความหิวกระหายในน้านมของมารดาอยู่
ตลอดเวลา ศรีษะของนางส่ายไปมาด้วยความเสียวสะท้านที่เกิดขึ้นอยู่
ทั่วร่างพร้อมกับเสียงครางของนางที่ยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งวันผ่านไป
" อ้าาา อ้าาาา ~~~~~ "
สติของนางในตอนนี้เริ่มหลุดลอยหลังจากที่ต้องทนรับมือกับบท
เพลงของเด็กหนุ่มมาหนึ่งวันเต็มที่ภายในท้องของนางในตอนนี้เห็นได้
ชัดว่ามันเต็มไปด้วยน้ารักของเด็กหนุ่มเป็นจานวนมากจนราวกับว่ามัน
สามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ เกี่ยวกับพลังงานประหลาดในร่างกาย
ของนางนะเหรอ ? เพียงแค่ต้องตั้งสติกับบทเพลงรักของเจ้าเด็กหนุ่มผู้
นี้นางก็นับได้ว่าเต็มกลืนจนไม่สามารถทาสิ่งใดได้แล้ว
วันที่สองผ่านไป
ร่างกายของนางถูกใช้ราวกับว่าเป็นสาวโลคีย์ที่ชานาญในเรื่องการ
ให้บริการบุรุษ ทุกส่วนของร่างกายของนางถูกเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ใช้เพื่อ
สนองตัณหาของเขา ในตอนแรกนางคิดว่าด้วยปกติแล้วเหล่าบุรุษการ
ที่พวกเขาจะสามารถร่วมรักกับหญิงสาวได้เพียงการปลดปล่อยน้ารัก
ของพวกเขาหนึ่งครั้งและจะต้องพักไปอย่างน้อยไม่ตากว่ ่ าครึ่งวัน แต่
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับระเบิดน้ารักของเขาเข้าสสู่ภายในตัวของนางโดย
ไม่มีการหยุดหย่อน
แม้ว่าจะเป็นในตอนที่เขาเพิ่งปลดปล่อยน้ารักเข้าสู่ภายในตัวของ
นาง มันไม่ใช่ว่าเขาจะต้องมีความรู้สึกเหนื่อยอ่อนบ้างอย่างนั้นไม่ใช่
หรือ ? มีหลายครั้งที่นางรู้สึกสติวูบดับลงไปเพียงแต่ว่านางก็ต้อง
รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความเสียวสะท้านที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเหนื่อง
กระทั่งวันที่สามผ่านพ้นไป ร่างของนางถูกแต่งแต้มไปด้วยคราบน้า
รักจานวนมาก แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้นางกลับไม่มีความรู้สึกปฎิเสธ
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้อีกต่อไป ด้วยการร่วมรักกับเขาที่ผ่านมาถึง 3 วันเต็ม
มันทาให้นางได้รับรู้ถึงความสุขที่แท้จริงของเหล่าสตรี

ตอนที่ 122
หย่าเฟย หรือมารดาของหลิวฉวนยูร์ในตอนนี้กาลังหมดสภาพอยู่
บนเตียงเรือนร่างทุกส่วนของนางในตอนนี้จากที่เคยถูกแต่งแต้มไปด้วย
น้ารักจานวนมากของหลินหมิง ได้ถูกชาระล้างไปเป็นที่เรียบร้อยด้วย
ฝีมือของเด็กหนุ่ม ในตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้ที่มี
ความสามารถที่เรียกได้ว่าผิดมนุษย์อย่างมาก
แม้ว่านางจะหลับไปนานเป็นเวลาหลายปีเพียงแต่ว่าจากความทรง
จาของนาง นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีรุ่นเยาว์คนใดที่มี
ความสามารถที่มากมายถึงเพียงนี้ พลังปราณระดับก่อเกิดขั้น 7 ด้วย
อายุเพียงแค่ 15 ปี นี้นับเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้คนทั่วไปถึงกับตายด้วยความ
อิจฉาที่มากล้นในใจของพวกเขา ไม่เพียงเท่านั้นเขายังคงครอบครอง
พลังหยางที่มีความบริสุทธ์อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่สิ่งที่ทาให้นางตกใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องเหล่านี้ แต่เป็นการที่เจ้า
เด็กหนุ่มผู้นี้ได้บอกกล่าวกับนางว่าเขาได้มีความสัมพันธ์อันดีกับ
บุตรสาวของนาง และดูเหมือนว่าสามีของนางจะไม่ได้กีดกั้นอีกด้วย
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่หมายปองบุตรของนางเอาไว้แม้แต่นางเองก็
ยังต้องตกเป็นเครื่องบาเร่อกามอารมณ์ตามใจชอบของเขาอยู่ถึงสาม
วัน อันที่จริงนางพอจะรู้ความจริงตั้งแต่วันแรกแล้วว่าพลังงาน
ประหลาดในร่างกายของนางได้หายไปแทบจะหมดสิ้น
แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าเด็กหนุ่มผู้โลภมากผู้นี้กลับไม่มีทีท่าว่าจะ
เพียงพอ เขาปั้นหน้าเหมือนพยายามรักษานางอย่างเต็มที่ ซึ่งมีหรือที่
นางจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าแท้จริงแล้วเขาเพียงแค่กาลังเพลิดเพลินกับ
ร่างกายของนางเพียงเท่านั้น แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่นางจะสามารถขัด
ขืนเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ ไม่ใช่ว่าด้วยร่างกายของนางยังอ่อนแอ่เพียง
อย่างเดียวเท่านั้นแต่นางต้องยอมรับเลยว่าท่วงท่าบทเพลงรักของเด็ก
หนุ่มผู้นี้ช่างยอดเยี่ยมจนทาให้นางเคลิ้มราวกับอยู่บนสวรงสวรรค์

หย่าเฟย
" ท่านต้องการให้ข้าช่วยสวมใส่เสื้อผ้าให้หรือไม่ ? "
คากล่าวของหลินหมิงทาให้นางหยุดชะงักเล็กน้อยพร้อมกับมอง
ค้อนไปหาเด็กหนุ่ม คืนนางยังให้เด็กหนุ่มผู้นี้ช่วยสวมใส่เสื้อผ้าให้กับ
นางเป็นไปได้ว่าด้วยตาแหน่งบุรุษผู้ที่มีอารมณ์มากเป็นอันดับหนึ่งจะ
สาแดงเดชขึ้นมาในทันที
" เอาไว้คราวหน้าเถอะ ! "
เมื่อได้ยินคาตอบรับเช่นนี้หลินหมิงเข้าใจในความหมายของมันดี
แน่นอนว่าเมื่อนางกล่าวเช่นนี้แสดงว่าเขายังคงมีโอกาสที่จะได้สาน
สัมพันธ์กับว่าที่แม่ยายสาวสวยคนนี้อีก อาจด้วยบุคคลิกของนางที่
คล้ายกับแม่สาวตัวน้อยหลิวฉวนยูร์มันจึงทาให้นางไม่สามารถที่จะ
แสดงอารมณ์ต่อเขาเช่นหญิงสาวคนอื่นโดยง่าย
" หากท่านสนับสนุนข้าเรื่องความสัมพันธ์ของข้าและฉวนยูร์แล้ว
เช่นนั้นแล้วข้าสามารถมอบความสุขให้แก่ท่านยามที่ท่านต้องการได้
ง่ายยิ่งขึ้น ! "
หย่าเฟยรู้สึกปวดหัวกับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ เขาไม่รู้เลยหรือว่านางเป็น
ภรรยาของผู้ใดแม้ว่าถ้าเทียบกันแล้วหลิวจงเทียนของนางในวัยเยาว์จะ
ไม่ได้มีความสามารถที่โดดเด่นเช่นเขา เพียงแต่ว่าหากเรื่องเหล่านี้
ล่วงรู้ถึงหูของประมุขตระกูลหลิวผู้นี้เป็นไปได้ว่าแม้แต่อาจารย์ของเขา
ก็อาจจะรับมือไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้ปฎิเสธหลินหมิงแต่อย่าง
ใดร่างของทั้งสองชายหญิงเดินออกมาจากภายในห้องด้วยท่าที
เรียบร้อยราวกับว่าเรื่องความสัมพันธ์ก่อนหน้าเป็นเพียงแค่ฝัน
" ท่านแม่ ! "
หลิวฉวนยูร์พุ่งเข้ากอดแม่ของนางอย่างแนบแน่น ด้วยการที่แม้
ของนางหมดสติไปนานเลยปีนั้นหมายความว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้
นางจะต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ลาพังเนื่องจากบิดาของนางที่เป็นถึงประมุข
ตระกูลใหญ่ก็คงไม่มีเวลามากพอสาหรับนางด้วยเช่นเดียวกัน แต่
ในตอนนี้มารดาของนางได้กลับคืนมาหานางอีกครั้งด้วยสภาพพร้อม
สมบูรณ์หยดน้าตาแห่งความสุขไหลลงอาบแก้มของหญิงสาวทั้งสองที่
กาลังกอดรัดกันอย่างเหนียวแน่น
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้แม้แต่หลิวจงเทียนก็ดวงตาของเขาก็เริ่มมีอาการ
สั่นไหวเล็กน้อย หลิวจงเทียนได้เดินชวนนาหลินหมิงออกมายังด้าน
นอกเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการรบกวนการพบกันของแม่ลูกในรอบ
หลายปี
" กล่าวตามตรงข้าเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าจะสามารถ
ทาสาเร็จจริงๆ....เช่นนี้แล้วแม้ว่าข้าจะคัดค้านในเรื่องความสัมพันธ์
ของยูร์เอ๋อร์กับเจ้ามันก็จะไม่มีความสาคัญใดอีกต่อไป "
สายตาของหลิวจงเทียนมองมาที่หลินหมิงด้วยความรู้สึกชื่นชม
สาหรับอัจฉริยะที่มีความสามารถที่โดดเด่นนั้นนับได้ว่าหากได้ยากยิ่ง
เพียงแต่ว่ารุ่นเยาว์ที่มีจิตใจที่โดดเดียวเช่นนี้นับได้ว่าหายากยิ่งกว่า
แม้กระทั่งในการเผชิญหน้าพูดคุยกับตัวเขาเด็กหนุ่มผู้นี้แทบไม่แสดง
ท่าทีหวั่นเกรงแต่อย่างใด อีกทั้งแม้ว่าตัวของเขาจะไม่รู้ว่าหลินหมิงนั้น
ใช้วิธีใดในการรักษาภรรยาของเขาแต่เห็นได้ชัดว่ามันประสบผลสาเร็จ
อย่างงดงาม
ไม่เพียงแต่ร่างกายของนางในตอนนี้จะฟื้นฟูสภาพกลับมาอย่าง
สมบูรณ์ดังเก่าแต่พลังปราณของนางจากเดิมที่เคยมีระดับอยู่ที่
จุดสูงสุดขั้นจอมยุทธ์ในตอนนี้นางก็ได้ก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์ไปแล้ว นี้
นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมากสาหรับคนในตระกูลหลิว
แต่เดิมเขาคิดว่าแม้ว่าหลินหมิงจะสามารถรักษานางแต่มันคงเป็นไปได้
ยากที่จะสามารถรักษาพลังของนางให้คงเดิมไว้
" ขอบพระคุณท่านลุง "
" เป็นข้าเสียมากกว่าที่ต้องขอบคุณเจ้า....หากเจ้ามีสิ่งใดต้องการ
ตอบแทนแล้วละก็ขอเพียงเจ้าบอกกล่าวมาหากเป็นเรื่องที่ไม่เกินกาลัง
ของข้า ข้ายินดีที่จะตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน "
" ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทนอันใด ข้าเพียงแต่ต้องการให้ฉวนยูร์
มีความสุขเพียงเท่านั้น "
หลิวจงเทียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
คือรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคอย่างแน่นอน และเมื่อเป็นเช่นนั้นมัน
นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมากที่เด็กหนุ่มผู้นี้กับบุตรสาวของเขามี
ความรู้สึกชอบพอกันทั้งคู่ดังนั้นแล้วสิ่งที่เขาสามารถที่เขาสามารถทา
ได้เพื่อตอบแทนเด็กหนุ่มผู้นี้เล็กๆน้อยๆก็คือการสนับสนุน
ความสัมพันธ์ของพวกเขา
หลินหมิงใช้เวลาพูดคุยกับหลิวจงเทียนอีกชั่วครู่แล้วหลังจากนั้น
เขาก็รีบจากไปในทันที แม้ว่าประมุขตระกูหลิวผู้นี้จะชักชวนให้เขาอยู่
ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับภรรยาที่เพิ่งหายดี เพียงแต่ว่างานเช่นนี้มันไม่ใช่
เรื่องที่เขาถนัดนักและอีกอย่างในตอนนี้หลินหมิงมีความรู้สึกตื่นเต้น
เป็นอย่างมากที่จะตรวจสอบความสามารถของเขาหลังจากที่ดูดกลืน
เจ้าพลังงานประหลาดมาเป็นทีเรียบร้อย
ด้วยการตรวจสอบเพียงผิวเผินระดับพลังปราณของหลินหมิงที่แต่
เดิมอยู่ในปราณก่อเกิดขั้น 7 ในตอนนี้เขาได้ก้าวเข้าสู่ปราณก่อเกิดขั้น
ที่ 9 ระดับสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย ด้วยผลลัพธ์ความสาเร็จอันงดงาม
เช่นนี้มันย่อมได้มาจากความแข็งแกร่งของหย่าเฟยที่แต่เดิมมีพลังอยู่
ในระดับปราณจอมยุทธ์ขั้นสูงสุด รวมกับพลังงานของเจ้าพลังงาน
ประหลาด แน่นอนว่าด้วยระดับพลังของหลินหมิงในตอนนี้ไม่มีทางที่ผู้
ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นเริ่มต้นโดยทั่วไปจะสามารถเอาชนะเขาได้
กระทั่งผู้ที่พลังระดับจอมยุทธ์ขั้น 3 ก็ยังนับได้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะ
เอาชนะเขา
หลินหมิงเมื่อกลับมาถึงที่หอของเขาโดยไม่รอช้าเขารีบทาการ
สารวจต้นเถียนภายในร่างของตนเองในทันที แต่เดิมต้นเถียนของเขา
จะประกอบไปด้วยเปลวเพลิงทมิฬที่น่าหวาดหวั่นเพียงแต่ว่าในตอนนี้
รูปลักษณ์ของเปลวเพลิงของเขามีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ที่
โดยรอบเปลวเพลิงสีดาในตอนนี้จะปรากฎลวดลายเส้นสายฟ้าสีขาว
โดยรอบ เห็นได้ชัดว่ามันมาจากเจ้าพลังงานประหลาดตนนั้น

ตอนที่ 123
ด้วยคุณสมบัติของเปลวเพลิงทมิฬภายในร่างของหลินหมิงนั้นมันมี
ความสามารถในการส่งเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพ และพลัง
ปราณหยางอันบริสุทธ์ แต่ด้วยพลังของเจ้าพลังงานสายฟ้าประหลาดนี้
มันทาให้พลังปราณในร่างของหลินหมิงในตอนนี้อัดแน่นเสียยิ่งกว่าผู้ที่
มีระดับพลังขั้นก่อเกิดขั้น 9 โดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงเท่านั้น
หลินหมิงได้ค้นพบว่าเจ้าพลังงานตนนี้แต่เดิมที่มันราวกับเป็นสิ่งชีวิต
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ตัวมันกลับถูกดูดกลืนพลังงานไปจนหมดสิ้น
ด้วยเปลวเพลิงทมิฬของเขา ดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงไม่มีความกังวลใน
เรื่องที่มันอาจจะก่อเรื่องเช่นเดียวกันมารดาของหลิวฉวนยูร์
หลินหมิงพึงพอใจกับความแข็งแกร่งของเขาในระดับอย่างมากด้วย
เปลวเพลิงทมิฬของเขาในตอนนี้ที่ได้รับการส่งเสริมอย่างดีเยี่ยมจาก
พลังงานสายฟ้าไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแข็งแกร่งของมันคงไม่มีทางที่
คนทั่วไปจะสามารถจินตนาการ เมื่อเป็นเช่นนี้ทักษะของเขาอย่าง [
ดรรชนีเพลิง ] แน่นอนว่าพลังทาลายของล้วนได้รับจากพัฒนาอย่าง
ก้าวกระโดดด้วยเช่นเดียวกัน
ด้วยทักษะนี้หลินหมิงเชื่อมั่นว่าแม้แต่ผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น
สูงสุดพวกเขาก็อาจได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ด้วยทักษะนี้หากพวกเขาไม่
ระมัดระวังตัวอย่างมากพอ
หลังจากที่หลินหมิงใช้เวลาตรวจสอบความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจน
พึงพอใจเป็นที่เรียบร้อย ที่เบื้องหน้าของตานักของเขาปรากฎร่างของ
หญิงสาวผู้งดงามที่ดูเหมือนว่านางจะรีบมุ่งตรงมายังที่นี้ด้วยความเร่ง
ร้อนใจมาก
" นี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ! เจ้าสามารถรักษาอาการนั้นได้อย่างไร !
"
หญิงสาวที่กล่าวออกมาด้วน้าเสียงตื่นเต้นนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอก
เสียจากผู้อาวุโสซูหลิ่ง เดิมทีนางได้วางแผนจับคู่หลินหมิงกับศิษย์ของ
นางเพื่อความมั่นคงของสมาคม ซึ่งด้วยข้อตกลงที่นางได้พูดคุยกับ
ประมุขตระกูลหลิวนั้นก็คือการที่นางจะช่วยรักษาภรรยาของ
เขา แน่นอนว่าแม้ว่าจะเป็นนางที่มีความรู้ในเรื่องสมุนไพรและการ
รักษาจนเรียกได้ว่าไม่ด้อยไปกว่าใครแต่ถึงอย่างนั้นด้วยอาการของหย่า
เฟยนับได้ว่าเป็นกรณีร้ายแรงที่นางไม่เคยพบเจอมาก่อน
ดังนั้นแล้วสิ่งที่นางเพียงพอที่จะทาได้มีเพียงแค่การทาให้เจ้า
พลังงานประหลาดอ่อนแรงลงบ้างเพียงเล็กน้อยเพื่อยืดชีวิตของหย่า
เฟยให้ยาวออกไป แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อสามวันก่อนนางกลับได้ข่าวมา
จากหลิวจงเทียนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้กาลังลงมือรักษาหญิงสาวผู้ที่นางไม่
แม้แต่จะสามารถคิดค้นหาวิธีรักษาได้ แน่นอนว่าเดิมทีนางเพียงแค่คิด
ว่าหลินหมิงอาจทาลงไปเพื่อเรียกคะแนนจากว่าที่พ่อตาของเขา
จนกระทั่งเมื่อสามวันผ่านไปนางได้รับรู้ข่าวว่าหย่าเฟยได้ฟื้นคืนสติ
ขึ้นมาด้วยสภาพสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง ไม่เพียงเท่านั้นพลังของนาง
ยังคงก้าวขึ้นสู่ระดับปราญช์ ! กับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันคงจะมีแต่คนบ้า
เท่านั้นที่จะไม่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตัวนางที่มุ่งศึกษาสมุนไพรและ
ตาราแพทย์มาอย่างมากมายจนไม่ได้สนใจเรื่องระดับความแข็งแกร่ง
ของตน กระทั่งแพทย์ผู้อาวุโสที่ชานาญการมากมายภายในเมืองพวก
เขาเหล่านั้นต่างไม่มีใครที่จะสามารถแม้แต่จะคิดวิธีรักษาอาการของ
หญิงสาวได้
" ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน "
เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ตั้งใจปิดบังความจริงต่อนาง แม้ว่านาง
จะรู้ดีว่าสิ่งที่นางกล่าวถามนั้นมันอาจเกี่ยวกับข้องกับในเรื่องทักษะ
หรือความแข็งแกร่งของเขาที่ไม่อาจเปิดเผย แต่ด้วยความอยากรู้ในตัว
นางมันทาให้นางได้มองข้ามเรื่องเหล่านั้นไป
นับได้ว่านี้เป็นครั้งแรกเลยก็ได้ว่าที่หลินหมิงได้เห็นท่าทีที่ร้อนรน
และหงุดหงิดเช่นนี้ของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่แต่เดิมนางจะมีการแสดงสีหน้า
ออกอย่างเย็นชาและพูดกล่าวด้วยประโยคสั้นๆ
" ก็ได้ ! ถ้าเจ้าบอกข้ามาว่าเจ้าใช้วิธีใดข้ายินดีตอบแทนเจ้าด้วย
ทรัพย์สมบัติหรือเงินทองตามที่เจ้าต้องการ "
เป็นที่รู้กันดีว่าในเมืองแห่งนี้ขุมอานาจที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมเป็น
ตระกูลหลิน แต่ขุมอานาจที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดย่อมเป็นสมามคมนัก
ปรุงยา ดังนั้นแล้วด้วยสถานะของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่ถือครองอานาจเป็น
รองเพียแค่อาจารย์สาวสวยของเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าความมั่งคั่งของ
นางนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมิณค่าได้ และหากผู้คนทั่วไปได้ยิน
ข้อเสนอเช่นนี้ดวงตาของพวกเขาคงแปรเปลี่ยนเป็นเงินจานวนมากไป
ในทันที
" ข้าไม่รู้จริงๆ "
แต่น่าเสียดายที่ทรัพย์สมบัติ เงินทองเหล่านี้มันไม่ใช่หลินหมิงให้
ความสนใจกับมันมากนัก ในเมื่อเขาไม่สามารถพัฒนาความแข็งแกร่ง
ได้เหมือนอย่างคนทั่วไป ดังนั้นแล้วหากนางเปลี่ยนข้อเสนอเป็นหญิง
สาวบริสุทธ์ที่มีความแข็งแกร่งระดับจอมยุทธ์ขึ้นนั้นมันอาจจะทาให้
หลินหมิงพอครุ่นคิดได้บ้าง แต่แน่นอนว่าไม่มีทางที่หลินหมิงจะมีความ
โง่เพียงพอที่จะกล่าวคาพูดเช่นนี้ออกไป
สาหรับทรัพย์สมบัติเงินทองเหล่านี้ลาพังเพียงแค่ที่อาจารย์สาวสวย
ให้มานั้นมันก็นับได้ว่าเกิน ไม่เพียงเท่านั้นหากเขาต้องการมันเพิ่ม
แน่นอนว่าเขาสามารถไปขอจากภรรยาหน้าใหม่ของเขาอย่างผู้อาวุโส
ฟางซิ่นก็ได้ไม่ใช่หรือ ? หรือกระทั่งฟ่งซือเซียนที่ดูเหมือนว่านางจะถือ
ครองตาแหน่งสูงภายในสานักของเมืองหลวง
เมื่อเห็นท่าทีที่ปราศจากคตวามลังเลของหลินหมิงผู้อาวุโสซูหลิ่งรู้ดี
ว่านางคงไม่สามารถที่จะเกลี่ยกล่อมให้เขาบอกความลับแก่นางได้
อย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะน่าหงุดหงิดตัวนางที่ดารงตาแหน่งสูงส่ง
ภายในสมาคมกลับโดนรุ่นเยาว์ปฎิเสธเช่นนี้มันเรียกได้ว่าเป็น
ประสบการณ์ครั้งแรกที่น่าโมโหอย่างมาก หากไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
มีความดีความชอบอย่างมากแล้วละก็นางคงต้องมอบบทเรียน
เล็กๆน้อยๆหรือกระทั่งอาจข่มขู่เขาเพื่อให้คายความลับออกมา
" เฮ้อ ~ ก็ได้...แต่ถ้าเจ้าพอจะรู้อะไรขึ้นมาแน่นอนว่าข้อเสนอของ
ข้ายังคงพร้อมเสมอ "
" ขอบคุณขอรับผู้อาวุโส "
ร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งเดินกลับไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่มีทางเปิดเผยวิธีการรักษาของเขาให้กับนางได้รู้
เป็นอย่างแน่นอน ถึงแม้เขาจะกล่าวอ้างว่าใช้พลังปราณหยางที่มี
ความบริสุทธ์เข้าข่มพลังงานประหลาดในร่างของหย่าเฟย แต่ด้วย
ความอยากรู้อยากเห็นของผู้อาวุโสสาวสวยผู้นี้เห็นได้ชัดว่านางย่อม
ต้องอยากรู้รายละเอียดที่มากกว่านั้น และเมื่อเป็นเช่นนั้นแน่นอนว่า
ตัวเลือกอย่างการโกหกนั้นไม่ได้มีให้หลินหมิงได้เลือกใช้ได้อย่าง
แน่นอน
ด้วยความรู้และประสบการณ์ของนางหลินหมิงเชื่อว่านางจะ
สามารถแยกแยะออกได้ในทันทีว่าวิธีการที่เขาโกหกไปนั้นล้วนไม่
สามารถใช้ในการรักษาจริงได้ ดังนั้นแล้วตัวเลือกที่สุดที่สุดของเขาก็คือ
ตีหน้าใส่ซื่อและบอกไม่รู้ไปทุกอย่างเสียก็สิ้นเรื่อง

ตอนที่ 124
ค่าคืนของวันนี้แน่นอนว่าอาหารจานเด็ดของหลินหมิงย่อมเป็น
ภรรยาผู้แสนน่ารักของเขา จิวหลิน ด้วยการที่หลินหมิงจากหายไปถึง
สามวันแน่นอนว่านี้อาจเป็นครั้งแรกสาหรับนางที่ต้องแยกจากกับ
หลินหมิงนานถึงขนาดนี้ดังนั้นแล้ว เมื่อนางได้เห็นหลินหมิงกลับมาโดย
ไม่รอช้าทักษะในเรื่องการเป็นภรรยาที่ดีนั้นหลินหมิงเชื่อมั่นว่าภรรยาผู้
น่ารักของเขาผู้นี้จัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมจนหาผู้ใดเปรียบ
เปรียบเทียบกับหญิงสาวที่เกิดในบรรดาพวกตระกูลใหญ่ทั้งหลาย
พวกนางเหล่านี้ไม่อาจเปรียบเทียบได้แม้แต่เศษเสี้ยวเดียวของภรรยา
ของเขาผู้นี้ กระทั่งแม่สาวน้อยเอาแต่ใจอย่างหลิวฉวนยูร์หลินหมิงไม่
คิดว่านางจะมีทักษะในการบริการเช่นเดียวกันกับจิวหลินเช่นนี้ เห็นได้
ชัดว่าแม่สาวน้อยผู้นี้แต่เดิมนางไม่ได้มีความสนใจในตัวบุรุษสิ่งเดียวที่
นางสนใจนั้นก็คือความแข็งแกร่งของตัวนางและทักษะการปรุงยา
เท่านั้น
เมื่อยามเช้าวันใหม่หลินหมิงยังคงตื่นขึ้นมาในสภาพโอบกอดจิว
หลินในสภาพเปลื่อยเปล่าอย่างแนบแน่น หลินหมิงค่อยๆเคลื่อนกาย
ออกไปอย่างช้าๆเพราะเขาเกรงว่าจะทาให้นางตื่น แน่นอนว่าทุกครั้งที่
พวกเขาได้ทาการร่วมรักกันภรรยาของเขาผู้นี้จะพยายามอย่างสุด
ความสามารถเพื่อมอบความสุขให้แก่จนกระทั่งตัวนางหมดสติไป
ดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงปล่อยให้นางได้นอนพักผ่อนเช่นนี้ต่อไป
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มีโอกาสมอบบทเพลงรักให้กับฟ่งซือเซียน
และกลุ่มของนางอีกสองคน ด้วยฐานะของนางในตอนนี้ดูเหมือนว่า
นางจะไม่สามารถเที่ยวเตร็ดเตร่ตามอาเภอใจได้โดยง่าย ไม่ต้องสงสัย
เลยว่าในตอนนี้นางคงได้แต่บ่นอุบในใจที่ไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ
หลินหมิงเลย แม้ว่านางจะมีเวลาสาหรับการพักผ่อนภายในเมืองสอง
วันหลังจากจบงานประลองเพียงแต่ว่าในช่วงเวลานั้นหลินหมิงกลับ
กาลังทาการรักษามารดาของหลิวฉวนยูร์อยู่
สาหรับเรื่องที่เป็นหัวข้อพูดคุยภายในเมืองตอนนี้ย่อมไม่พ้นเรื่อง
ความแข็งแกร่งของหลินหมิง และปัญหาระหว่างสมาคมนักปรุงยาและ
ตระกูลหลิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่บุคคลภายในของขั้วสองอานาจนี้
เพียงแต่แค่การประลองในคู่ของหลินหมิงและหลินเสี่ยวต้าแม้แต่คนโง่
ก็ย่อมมองออกว่าพวกเขาทั้งสองคนนี้ย่อมมีปัญหาแต่เดิมกันมาก่อน
แม้ว่าแต่เดิมผู้คนจะคิดว่าหลังจากจบการประลองลงพวกเขาคงได้
มีโอกาสพบเห็นการต่อสู้ของขั้วอานาจใหญ่ทั้งสอง ด้วยเหตุที่รุ่นเยาว์ที่
ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลิน หรือหลินเสี่ยวต้าที่พ่ายแพ้ให้กับหลินห
มิงในสภาพที่เรียกได้ว่าสุดจะน่าสมเพช บรรดาเหล่าสตรีที่เคยปลาม
ปลื้มหลินเสี่ยวต้าไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้หัวใจของพวกนางได้
แปรเปลี่ยนไปหาหลินหมิงอย่างหมดใจ
แม้ว่าหลินเสี่ยวต้าจะไม่เสียตาแหน่งรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ
ตระกูลหลิน เพียงแต่ว่าด้วยการโจมตีของหลินหมิงนั้นเห็นได้ชัดว่า
ใบหน้าของหลินเสี่ยวต้านั้นคงไม่ง่ายนักที่จะสามารถกลับมารักษาได้
เมื่อเป็นเช่นนี้แม้ว่าบาดแผลทางภายนอกจะไม่มีแต่บาดแผลภายในใจ
ของเขานั้นคงเหมือนกับดาบที่ถูกแทงลงไปจนยากที่จะสามารถนา
ออกมาได้ และมันจะส่งผลต่ออนาคตของเขาอย่างใหญ่หลวง กระทั่ง
แม้ว่าตระกูลหลินจะส่งชายหนุ่มที่มีอายุราว 30 ปีมาอย่างลี่เฉิง แต่มัน
กลับกลายเป็นว่าพวกเขายิ่งส่งเสริมความอับอายและเพิ่มชื่อเสียงให้
หลินหมิง
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดทั้งๆที่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินถูกหยาม
หน้าเช่นนี้พวกเขากลับไม่มีการเคลื่อนไหว แต่สาหรับหลินหมิงแล้ว
ไม่ใช่
" พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกมันคิดจะทาสิ่งใด ? "
เสียงของหลินหมิงที่กล่าวถามอย่างเรียบเฉยใส่เหล่าผู้อาวุโสที่มี
อายุมากกว่า 40 ปีทั้งนั้นเพียงแต่ว่าไม่มีท่าทีที่ผู้อาวุโสเหล่านี้จะมี
โทสะหรอความรังเกียจแต่อย่างใดพวกเขามองไปทางเด็กหนุ่มผู้นี้ด้วย
ความเคารพอย่างสุดซึ้ง
แน่นอนว่าผู้อาวุโสเหล่านี้คือผู้อาวุโสจากตระกูลเหยียนที่หลินหมิง
เคยให้รางวัลกับพวกเขาเป็นร่างของป้าห้าของเขาหรือเหม่ยฮวาพร้อม
กับหญิงสาวรับใช้ของนางทั้งสองคน โดยทั่วไปแล้วด้วยสถานะของ
พวกเขาแน่นอนว่าการที่พวกเขาจะหาหญิงสาวหลับนอนด้วยย่อม
ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้มี
โอกาสที่จะได้หลับนอนกับสตรีที่เกือบทาให้ตระกูลของพวกเขาล่ม
สลาย
และพวกเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ผู้นี้ให้กลายเป็น
ทาสที่เชื่อฟังไปแล้ว แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้ย่อมไม่เกิดขึ้นหาก
ปราศจากหลินหมิง เพียงแค่พวกเขาเอยข่มขู่นางด้วยชื่อของหลินหมิ
งร่างกายของนางก็สั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าพวกเขาจะ
สามารถคาดเดาวิธีการของหลินหมิงได้ไม่น้อยก็มากจากคราบ
หลักฐานน้ารักของเด็กหนุ่มที่เต็มตัวของนางก่อนที่พวกเขาจะเข้าไป
เพียงแต่ว่าด้วยการร่วมรักกับแปรเปลี่ยนหญิงสาวที่เต็มไปด้วยราคะ
อย่างเหม่ยฮวาได้เลยเช่นนั้นหรือ ?
" พวกมันยังไม่มีการเคลื่อนไหวเลยขอรับ... "
ด้วยสถานะของหลินหมิงในตอนนี้หากตระกูลหลินจะต้องการ
จัดการเขาพวกเขาก็ต้องเตรียมตัวรับความเสี่ยง แต่ทว่าหลินหมิงไม่คิด
ว่าพวกเขากลับไม่มีความเคลื่อนไหวเช่นนี้ เขาสามารถจดจาสายตาอัน
แสนเคียดแค้นที่มาเติบเต็มหัวใจของเขาได้เป็นอย่างดี
" จากความคิดนั้นอาจเป็นเพราะว่าประมุขตระกูลหลินอย่างหลิน
ฮ่าวไม่ได้อยู่ภายในเมืองนี้ขอรับ....จากที่ข้าได้สอบถามจากนางมาดู
เหมืนอนว่าหลังจากจบงานประลองไปเพียงวันเดียวก็ดูเหมือนว่าหลิน
ฮ่าวผู้นี้กลับหายตัวไปโดยที่ไม่มีใครทราบ "
ด้วยตระกูลหลินที่ปราศจากหลินฮ่าวแล้วแม้ว่าพวกเขาจะยังคง
เรียกได้ว่าแข็งแกร่งด้วยจานวนผู้อาวุโสของพวกเขาที่มีความแข็งแกร่ง
อย่างมาก เพียงแต่ว่าหากเขาต้องการก่อเรื่องในกับสมาคมนักปรุงยา
ในยามที่ปราศจากผู้นาของพวกเขานั้นนับเป็นเรื่องที่โง่งมอย่างมาก
ด้วยความแข็งแกร่งของอาจารย์สาวสวยของเขาและผู้อาวุโสฟางซิ่น
ลาพังเพียงแค่พวกนางสองคนทางตระกูลหลินอาจต้องใช้ผู้อาวุโสที่
แข็งแกร่งของพวกเขาจานวนมากเพื่อรับมือกับพวกนางทั้งสอง
หลินหมิงเมื่อได้ยินเช่นนี้ที่มุมปากของเขายกขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
ที่แม้แต่ผู้อาวุโสตระกูลเหยียนเหล่านี้ยังคงรู้สึกเสียวสะท้านราวกับว่า
เป็นรอยยิ้มของปีศาจที่กาลังมอบหายนะให้กับศัตรูอย่างไรอย่างนั้น
นับว่าโชคดีมากที่อย่างน้อยตระกูลของพวกเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับเจ้า
เด็กหนุ่มผู้นี้

ตอนที่ 125
ในยามค่าคืนของวันนั้น ที่บริเวณกาแพงของคฤหาสน์ตระกูลหลิน
ได้มีร่างของชายหนุ่มที่สวมผ้าคลุมและหน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้า
อย่างมิดชิด แน่นอนว่าชายผู้น่าสงสัยคนนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสีย
จากหลินหมิง สาหรับเป้าหมายของเขาในครั้งนี้ชัดเจนว่าหลินหมิง
ต้องการที่จะดูสภาพอันน่าสมเพชของหลินเสี่ยวต้าสักเล็กน้อย
เดิมทีเขาไม่คิดว่าด้วยนิสัยของหลินเสี่ยวต้าผู้นี้มันจะเอาแต่เก็บตัว
อยู่ในคฤหาสน์อย่างเดียว ไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงจะไม่รอช้าหากได้
ข่าวการปรากฎตัวของพี่ชายต่างมารดาของเขาผู้นี้ หลินหมิงยินดีที่จะ
พูดกล่าวเป็นกาลังใจให้กับพี่ชายที่น่าชิงชังของเขา อันที่จริงแล้วแม้ว่า
หลินหมิงจะไม่ต้องพูดกล่าวอะไรกับหลินเสี่ยวต้าลาพังแค่พี่ชายต่าง
มารดาของเขาผู้นี้ได้เห็นใบหน้าของเขามันก็ยากที่เขาจะสามารถอด
กลั้นไม่ให้ตนเองกระอักเลือดออกมาได้
ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพราะว่าในตอนนี้หลิน
ฮ่าวประมุขของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ตระกูล ไม่เช่นนั้นแล้วแม้ว่าหลิน
เสี่ยวต้าจะไม่ยอม แต่บรรดาผู้อาวุโสของตระกูลหลินมีหรือที่จะยอม
ให้พี่ชายของเขาเอาแต่เก็บตัวอยู่ภายในตระกูลอย่างเดียว เช่นนั้นนี้จะ
ไม่เท่ากับว่าอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาเกรงกลัวเด็กที่อายุต่ากว่า
ถึง 3 ปีอย่างนั้นหรือ ?
แน่นอนว่าการที่หลินฮ่าวไม่อยู่ที่ตระกูลหลินในขณะนี้นับว่าเป็น
โอกาศดีที่สาหรับหลินหมิง อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ีดส ที่ าหรับการฉลองการ
ล้างแค้นของเขาย่อมเป็นบิดาผู้น่ากลัวผู้นี้ หลินหมิงไม่เข้าใจเหมือนกัน
ว่าเหตุใดหลินฮ่าวผู้นี้ถึงได้ไม่เปิดเผยตัวตนของเขา มันอาจเป็น
เพราะว่าเขาเกรงกลัวที่ตระกูลหลินจะเสียชื่อเนื่องจากพวกเขาได้
ปล่อยอัจฉริยะที่หายากยิ่งไป ? แต่ถึงอย่างนั้นในการประลองที่ผ่านมา
ดูเหมือนว่าประมุขตระกูลหลินผู้นี้กลับไม่ได้ให้ความสนใจกับการ
ประลองมากนัก กระทั่งบุตรที่ยอดเยี่ยมของเขาถูกเหยียบไปที่หน้าเข้า
อย่างจังใบหน้าของเขายังคงปรากฎเพียงแต่รอยยิ้ม
แม้ว่าภายในตระกูลหลินตอนนี้จะไม่มีหลินฮ่าวแต่ก็ใช่ว่าหลินหมิง
จะสามารถทาอะไรทีนี้ได้โดยง่าย เพราะว่าตระกูลหลินแห่งนี้ยังคง
ประกอบไปด้วยผู้อาวุโสที่มีความสามารถสูงอยู่เป็นจานวนมาก แม้ว่า
เขาจะสามารถเอาชนะผู้ที่พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นต้นได้อย่างไม่มีปัญหา
แต่หากเขาต้องเจอกับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางหรืออาจสูงกว่า
นั้น นั้นคงเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดอย่างแท้จริง
หากถามว่าเหตุใดหลินหมิงจึงต้องนาชีวิตมาเสี่ยงอย่างนั้นหรือ ?
ง่ายๆเพราะว่าเขาทนกลิ่นหอวหวนของการล้างแค้นและเสียงกรีดร้อง
ไม่ไหวนะสิ โอกาสอันดีงามที่ในตอนนี้ตระกูลหลินกาลังระส่าระส่าย
เหม่ยฮวาที่เคยเป็นหนึ่งในผู้จัดการภายในตระกูลในตอนนี้เห็นได้ชัดว่า
นางไม่สามารถทาสิ่งใดได้อีกต่อไปนอกจากหวาดระแวงและพยายาม
เก็บอาการของตนเองไม่ให้ผู้อื่นจับได้
สาหรับการโลบเข้ามาภายในตระกูลหลิน หลินหมิงเลือกใช้เส้นทาง
ทางด้านหลังของตระกูลที่เชื่อมกับป่าอันเป็นที่พักเดิมของเขา แม้ว่า
ตระกูลหลินจะเป็นตระกูลใหญ่แต่พวกเขามีคนคุมยามที่น้อยกว่า
สมาคมนักปรุงยา หรือกระทั่งตระกูลเหยียนเสียอีก ที่เป็นเช่นนี้นั้นก็
เพราะว่าพวกเขาไม่จาเป็นที่จะต้องใช้คนในการทาหน้าที่นี้อย่าง
มากมายเช่นตระกูลหรือขุมอานาจอื่น ลาพังเพียงแค่ชื่อตระกูลของ
พวกเขาก็เป็นกาแพงเหล็กชั้นดีที่แค่ผู้ได้ยินยังต้องหวั่นเกรง
แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาจะมีเหตุใดที่จะต้องเกรงกลัวการบุกรุก
อันที่จริงแล้ว หากมีผู้บุรุกจริงมันอาจเป็นทางฝ่ายของตระกูลหลินเอง
เสียมากกว่าที่จะดีใจ เป็นที่รู้กันดีว่าผู้คนในตระกูลหลินนั้นต่างต้อง
แก่งแย่งชิงดีกันแล้วหากเมื่อใดที่พวกเขารับรู้ว่ามีโจรหรือผู้บุรุกแล้วละ
ก็บรรดารุ่นเยาว์ที่เลือดร้อนทั้งหลายพวกเขาคงรีบลุกไปจัดการเพื่อ
แสดงอานาจและชื่อเสียงของพวกเขาอย่างว่องไว นั้นจึงเป็นเหตุให้
เหล่าหัวขโมยต่างพากันไม่กล้าแม้แต่จะคิดล่วงเกินตระกูลหลิน
แต่มันไม่ใช่สาหรับหลินหมิง สาหรับตัวเขาที่อาศัยอยู่ที่นี้มากว่าสิบ
ปีไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากให้หลินหมิงพันผ้าปิดตาเดินเขาก็สามารถเดิน
เที่ยวเล่นภายในตระกูลแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
ร่างของหลินหมิงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้าสู่บริเวณตัวบ้านที่เป็นที่
พักอาศัยเดิมของเขา เมื่อดูเช่นนี้แล้วสถานที่ในตอนนี้สาหรับหลินหมิง
มันไม่อาจเรียกได้ว่าบ้านเสียด้วยซ้า ด้วยขนาดของบ้านอันทรุดโทรมนี้
มันไม่สามารถเทียบได้แม้แต่กระทั่งห้องที่เล็กที่สุดในตานักของเขาเสีย
ด้วยซ้าไป หลินหมิงหันมองสังเกตุไปโดยรอบภายในตัวบ้านดู
เหมือนว่านับตั้งแต่เขาจากไปก็ไม่มีผู้คนเข้ามายังสถานที่แห่งนี้อีก ราว
กับว่าตัวตนของเขาแต่เดิมนั้นไม่อยู่ในตระกูลหลินตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แต่หลินหมิงไม่จาเป็นต้องสนใจในเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว ด้วยสภาพ
ของเขาในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าทุกคนในตระกูลหลินคงต้องจดจาเขาไป
จนวันสิ้นลมหายใจโดยเฉพาะพี่ชายต่างมารดาที่น่าสงสาร และมารดา
ของเขา ร่างของหลินหมิงทะยานไปด้วยความเงียบเฉียบ ด้วยผ้าคลุมที่
หลินหมิงสวมใส่อยู่นี้แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่ผ้าคลุมธรรมดาโดยทั่วไป
มันเป็นผ้าคลุมที่สามารถกลมกลืนไปกับความมืดได้เป็นอย่างดีและที่
สาคัญก็คือมันสามารถปิดบังกลิ่นอายพลังปราณของเขาได้ !
ไม่เพียงเท่านั้นหน้ากากสีขาวที่ปราศจากลวดลายใดๆที่หลินหมิง
กาลังสวมใส่อยู่แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่หน้ากากธรรมดาเช่นเดียวกัน
แต่มันเป็นหน้ากากที่สามารถปลอมแปลงเสียงของผู้ใส่ได้ ด้วย
คุณสมบัติของผ้าคลุมและหน้ากากทั้งสองอย่างนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
พวกมันจะต้องถูกจัดอยู่ในหมวดอุปกรณ์ระดับสูงสาหรับนักฆ่า และ
แน่นอนว่าพวกมันทั้งสองอย่างนี้ย่อมไม่ใช่ของหลินหมิง
สมบัติทั้งสองอย่างนี้เป็นสมบัติที่ตระกูลเหยียนได้เก็บเอาไว้ แต่
สาหรับพวกผู้อาวุโสที่ได้ยินแผนการของหลินหมิงพวกเขาตัดสนใจที่
จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกปฎิเสธในเข้าร่วม
การปฎิบัติการในครั้งนี้แต่พวกเขายังคงสามารถให้ความสนับสนุนใน
ด้านอื่นๆได้ เดิมทีตัวเลือกอย่างการขอร้องอาจารย์สาวสวยของเขาให้
จัดหาอุปกรณ์พรางตัวเช่นนี้นั้นหลินหมิงคิดว่านี้คงเป็นสิ่งเดียวที่
อาจารย์ของเขาคงไม่ยอมอย่างแน่นอน
ไม่ใช่ว่านางไม่สามารถจัดหาของเหล่านี้ได้ ด้วยกาลังทรัพย์ของนาง
มันยังจะมีทรัพย์สมบัติใดในโลกนี้ที่นางไม่สามารถซื้อได้อีกอย่างนั้น
หรือ ? แต่มันเป็นเพราะว่านางไม่ต้องการให้เขาใช้สิ่งของเหล่านี้ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าอาจารย์ของเขาในตอนนี้มีความสุขมากแค่ไหนกับการที่
นางได้เห็นหลินหมิงเดินเล่นภายในเมือง ลาพังเพียงแค่การเดินเล่น
ของเขาที่ห้อยป้ายหยกที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติราวสองเท่า มันก็ทาให้
ผู้คนมากมายต่างมองมาที่เขาด้วยความชื่นชมเคารพ และอารมณ์
อย่างอื่นอีกมากมาย
ที่สาคัญที่สุดก็คือพวกเขาทุกคนล้วนปราถนาที่อยากจะมีความ
แข็งแกร่งเช่นเดียวกันกับหลินหมิง เมื่อเป็นเช่นนั้นหนทางอย่างการฝึก
ตนนะหรือ ? มันอาจจะไร้สาระไปเลยหากพวกเขาได้มีโอกาศเป็นศิษย์
ของประมุขสมาคมนักปรุงยา ลาพังเพียงศิษย์สายนอกเพียงคนเดียว
ของนางอย่างหลัวฉิงเชี่ยนที่มาจากตระกูลขนาดกลาง ก็นับได้ว่ามี
ความแข็งแกร่งที่น่าตื่นตะลึงอย่างมาก ! เช่นนี้แล้วชื่อเสียงของนางใน
ฐานะของอาจารย์ผู้เยี่ยมยอดจึงพุ่งสูงขึ้นจนนางแทบจะอดหัวเราะ
อย่างมีความสุขตลอดทั้งวันไปไม่ได้
สถานที่ของตานักที่ใกล้กับตาแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้มากที่สุดย่อม
เป็นตานักของหลินเสี่ยวต้า และหลินชู จากในอดีตที่เขามักจะต้องเป็น
คู่ซ้อมให้กับน้องต่างมารดาอย่างหลินชูและต้องเป็นตัวละครแก้เบื่อ
ให้กับหลินเสี่ยวต้า ในตอนนี้เขาจะเป็นฝ่ายสนองสิ่งเหล่านั้นคืนไปเสีย
บ้าง

ตอนที่ 126
แม้ว่าการลอบเข้ามาภายในตระกูลหลินนั้นจะเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่า
ไม่ได้ยากลาบากอะไรมากมาย แต่การกลับออกไปนั้นมันแทบเป็นเรื่อง
ที่เป็นไปไม่ได้เลย ด้วยความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสจานวนมากที่ส่วน
ใหญ่ล้วนอยู่ในระดับจอมยุทธ์เช่นนี้ พวกเขาเหล่านี้สามารถตรวจสอบ
พลังปราณจากผูีที่ลักลอบเข้ามาได้เมื่อเข้ามาอยู่ในระยะใกล้ และ
แน่นอนว่าเมื่อมีการพบเจอบุคคลคนนั้นคงได้กลายเป็นเพียงสากศพที่
รอให้นกกินก็เท่านั้น !
หลินหมิงเคลื่อนไหวร่างกายของเขาไปตามความมืดอย่างเงียบ
เฉียบ สาหรับตัวเขาที่อาศัยภายในตระกูลนี้มาอย่างยาวนาน แน่นอน
ว่ามันทาให้เขาสามารถรับรู้ถึงการจัดเวรยามโดยคร่าวๆภายในตระกูล
ได้รวมกับความสามารถของผ้าคลุมที่สามารถปกปิดร่องรอยพลัง
ปราณของเขาได้เป็นอย่างดี หลินหมิงไม่คิดว่าจะมีใครที่จะสามารถพบ
เห็นเขาได้โดยง่าย
หลินหมิงเลือกเป้าหมายของเขาไปที่ตานักของหลินชู แม้ว่าเขาจะ
อยากรู้สภาพของเหม่ยฮวา และหลินเสี่ยวต้าในตอนนี้เพียงแต่ว่าเขา
อาจไม่ได้มีโอกาสกลับมามอบบทเรียนให้กับหลินชูในภายหลัง
เพราะว่าเขาอาจจะถูกพบตัวจนต้องหลบหนีไปเสียก่อน ดังนั้นแล้วใน
เมื่อเขาได้มอบบทเรียนเล็กๆน้อยๆให้กับหลินเสี่ยวต้าและเหม่ยฮวาไป
แล้วดังนั้นมันคงจะดีกว่าถ้าหากเขาได้ให้โอกาสแก่น้องชายของเขาผู้นี้
บ้าง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุคคลที่น่าชิงชังสาหรับหลินหมิงมากที่สุดใน
ตระกูลแห่งนี้คือ บิดาของเขาและหลินชู ไม่เพียงแต่มันผู้นี้จะเป็นคนที่
คอยทุบตีเขาอยู่ทุกเช้าเย็น มันยังอาจที่หมายคิดครอบครองแม่สาว
น้อยหลิวฉวนยูร์ของเขา ? เทียบกับหลินเสี่ยวต้าแล้วความเกลียดชังที่
หลินหมิงมีต่อหลินชูผู้นี้อาจเรียกได้ว่ามีมากกว่ากันหลายเท่านัก
" อ๊ากกกกกกกกกกกกก !! "
เมื่อหลินหมิงเข้ามาใกล้ที่ตานักของหลินชู ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียง
ร้องอย่างโหยหวนดังออกมา และมันยังเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยเหมือน
เพิ่งเคยได้ยินมาไม่นานนี้อีกด้วย
' ลี่เฉิง ? '
' ดูเหมือนว่าหลังจากที่มันพ่ายแพ้ให้กับข้ามันคงจะได้รับ
บทลงโทษอย่างหนักอย่างแน่นอน '
หลินหมิงครุ่นคิดอยู่ในใจอันที่จริงแล้วหน้าที่การจัดการส่วนใหญ่
ภายในตระกูลจะตกเป็นของเหม่ยฮวาและหลินเสี่ยวต้าเสียส่วนใหญ่
เนื่องจากความสามารถและชื่อเสียงของหลินเสี่ยวต้า แต่ในเมื่อในยาม
ที่หลินเสี่ยวต้าอยูีในสภาพที่ไม่กล้าออกมาพบหน้าใครแม้แต่ผู้คนใน
ตระกูลเช่นเดียวกันกับมารดาของเขา หน้าที่ทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่หลิน
เสี่ยวต้าที่มีพรสวรรค์รองลงมา
" คุณชายขอรับ ดูเหมือนว่ามันจะหมดสติไปแล้ว และลมหายใจ
ของมันก็อ่อนลงมากแล้ว "
" ฮึ ! เอาเม็ดยารักษาให้มันกิน ! คนที่ทาให้ตระกูลหลินต้องเสียชื่อ
เช่นนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันตายโดยง่าย ! "
เสียงของเด็กหนุ่มที่อายุราวไม่ต่างกับหลินหมิงออกแต่กลับออก
คาสั่งที่ผู้คนได้ยินถึงกับตัวสั่น เมื่อได้เห็นร่างของเด็กหนุ่มผู้นี้มือของ
หลินหมิงสั่นไปโดยความโกรธแค้น สาหรับหลินชูผู้นี้ที่อ้างถึงชื่อเสียง
ของตระกูล ในความคิดของหลินหมิงแล้วนั้นมันผู้นี้ก็เพียงแค่อาจรู้สึก
หงุดหงิดจากการที่หมดโอกาสครอบครองแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ของ
เขาก็เท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วเหตุใดมันถึงไม่ไปลงโทษพี่ชายที่น่านับถือ
ของมันกันเล่า !
ร่างของลี่เฉิงที่แต่เดิมเป็นร่างของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
สมส่วนและใบหน้าอันคมคายที่สามารถปลุกอารมณ์ของหญิงสาวได้ไม่
มากก็น้อย บัดนี้ทั่วร่างของมันล้วนถูกอาบไปด้วยเลือดของตัวมันเอง
ใบหน้าของมันยังคงปรากฎรอยบวมช้าจนแทบจะไมสามารถจะ
จดจาเคร้าโครงหน้าเดิมของมันได้
แม้ว่าในตอนนี้ลี่เฉิงจะได้รับเม็ดยารักษาไปแล้วเพียงแต่ว่ามันย่อม
ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรในการฟื้นสภาพของตัวมัน หลินชูเดินจากร่าง
ของลี่เฉิงที่นอนอยู่ในสภาพที่น่าสัมเพชไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากในตอน
นั้นหลินหมิงไม่ได้รับพลังของเจ้าเปลวเพลิงประหลาดนี้มาแล้ว มันอาจ
เป็นร่างของเขาที่ต้องพบเจอกับเรื่องเช่นนั้น !
ภายในตานักของหลินชู
" บัดซบ บัดซบ บัดซบ !!!! "
เสียงสบถของหลินชูดังก้องไปทั่วตานักแต่ดูเหมือนว่าเรื่องราว
เช่นนี้จะเป็นเรื่องราวที่ผู้คนภายในนั้นล้วนคุ้นเคยอยู่แล้ว พวกเขาจึง
ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
" ไอเจ้าบัดซบนั้น ไม่เพียงแต่คิดจะแย่งชิงสตรีที่ข้าหมายปอง มัน
ยังคงมีความโง่มากพอที่จะเหยียบหน้าตระกูลหลินเช่นนี้ ! "
สาหรับหลินเสี่ยวต้าที่แต่เดิมเป็นรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด
และหากว่าพี่ชายของมันได้รับการเข้าร่วมกับสานักในเมืองหลวง
ตาแหน่งรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมืองก็จะต้องตกเป็นของมัน
เพียงแต่ว่าในตอนนี้กลับมีการปรากฎตัวของหลินหมิง ที่มีความ
แข็งแกร่งในระดับที่เรียกได้ว่าไม่มีทางที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถ
ทาได้กระทั่งเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายยังคงต้องอับอายที่ถูกเรียกเช่นนั้น
เมื่อเทียบกับหลินหมิง
" แล้วเจ้าจะโมโหให้มันได้สิ่งใดขึ้นมากัน... หน้าที่ของเจ้าในตอนนี้
มีเพียงแค่รับผิดชอบในส่วนของเจ้าอย่าได้ผิดพลาด เจ้าคงได้เห็น
ตัวอย่างของหลินเสี่ยวต้าแล้ว "
" แน่นอนท่านแม่..ข้ารู้ดีว่าข้าควรทาสิ่งใด...ในตอนนี้ข้ายังไม่
สามารถที่จะเอาชนะมันได้..แต่มันก็ใช่ว่าข้าจะไม่มีโอกาสในการกาจัด
มัน "
หญิงสาวที่กล่าวคุยกับหลินเสี่ยวต้าอยู่ในตอนนี้ก็คือมารดาของเขา
หวงหว่านอิ๋ง ในสายตาของหลินหมิงนั้นนางเป็นสตรีที่อยู่ในวัยที่
ใกล้เคียงกับเหม่ยฮวาแต่อาจน้อยกว่าเพียงเล็กน้อย แน่นอนว่าในเรื่อง
ของความงามของนางนั้นยังคงเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมกว่าเหม่ยฮวา
แม้ว่าหากดูจากอดีตแล้วพวกนางทั้งสองก็คงถูกเรียกได้ว่าเป็นหญิง
งามของเมือง เพียงแต่ว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปทางฝั่งของเหม่ยฮวานั้นมี
อารมณ์ความต้องการทางเพศนั้นที่มากล้นนั้นจึงเป็นเหตุให้เสน่ห์ในตัว
นางค่อยๆลดลง เทียบกับมารดาของหลินชูแล้ว ดูเหมือนว่าเป้าหมาย
ของนางนั้นมีเพียงแค่การได้เห็นบุรุษของนางเติบใหญ่ด้วยฐานะภายใน
ตระกูลที่มั่นคง

ตอนที่ 127
หวงหว่านอิ๋ง
หลินหมิงยังคงสังเกตสอดส่องภายในตานักของหลินชูจาก
ระยะไกล แม้ว่าด้วยคุณสมบัติของผ้าคลุมของเขามันจะทาให้ยากแก่
การตรวจจับ เพียงแต่ว่าเมื่อเขาต้องเข้าใกล้กับผู้ที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์ขึ้นไปแล้วมันก็มีโอกาสไม่น้อยเช่นเดียวกันที่เขาจะถูกตรวจพบ
ร่างของหวงหว่านอิ๋งเดินจากไปหลังจากที่นางใช้เวลาคุยกับหลินชู
เพียงชั่วครู่
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้แม้ว่าตระกูลหลินจะต้องอยู่ในช่วงสภวาะ
ที่ค่อนข้างลาบากเล็กน้อยจากการที่สมาคมนักปรุงยามีความแข็งแกร่ง
ขึ้นมาในช่วงเวลาไม่นานนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับทาให้ฐานอานาจของ
นางในตระกูลนั้นดียิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างมาก สาหรับหลินเสี่ยวต้า
ในตอนนี้แม้ว่าความแข็งแกร่งของมันจะยังคงเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมแต่
นางมั่นใจว่าต่อให้ผ่านไปอีกหลายปีนับจากนนี้ความแข็งแกร่งของมันก็
คงไม่สามารถก้าวหน้าขึ้นได้อย่างที่ควรจะเป็นอีกต่อไป
ดังนั้นแล้วเหล่าผู้อาวุโสภายในตระกูลย่อมต้องเลือกตัวเลือกที่
รองลงมานั้นก็คือบุตรของนางเอง แม้ว่าจะมีตัวปัญหาอย่างหลินหมิงที่
แสดงตัวเป็นปฎิปักษ์ต่อตระกูลหลินอย่างชัดเจน แต่สาหรับหว่านอิ๋
งนางคิดว่าที่หลินหมิงกระทาการเช่นนี้ลงไปนั้นก็เป็นเพราะว่าหลิน
เสี่ยวต้าไปหาเรื่องก่อนไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ? แต่สาหรับบุตรของนาง
แล้วนั้นพวกเขาไม่ได้มีอะไรที่บาดหมางต่อกัน
ดังนั้นแล้วแม้ว่าหลินหมิงจะแสดงตนต่อต้านตระกูลหลิน แต่นั้น
ไม่ได้หมายความว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเจาะจงมาที่บุตรของนางโดยเฉพาะ
เหมือนกับหลินเสี่ยวต้า
อันที่จริงแล้วด้วยเหตุที่ประมุขตระกูลของพวกเขาอย่างหลินฮ่าวได้
หายตัวไปนั้นจึงเป็นเหตุให้ส่วนหนึ่งจานวนผู้อาวุโสโดยรอบนั้นมีอยู่
ค่อนข้างน้อย สาหรับตานักของหลินชูแห่งนี้แน่นอนว่าย่อมต้องมีผู้ที่มี
พลังระดับจอมยุทธ์อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวตนของบุคคลนี้นับเป็น
ปัญหาสาหรับหลินหมิงในตอนนี้อย่างแท้จริง
ในอดีตในยามที่เขาได้มีโอกาสพบหน้ากับหว่านอิ๋งหรือมารดาของ
หลินชูในบางครั้ง ที่นางได้มาเรียกหาบุตรของนางที่กาลังระบาย
อารมณ์ใส่เขา มันจะมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีอายุใกล้เคียงกับนาง
ปรากฎอยู่ข้างกายเสมอ นางมีชื่อว่าเฉินเซี่ยงหรง
สาหรับเหล่าผู้มีอานาจภายในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินเป็น
เรื่องธรรมดาที่พวกเขาเหล่านี้จะมีผู้อาวุโสหรือผู้ที่แข็งแกร่งคอยดูแล
แน่นอนว่าเหม่ยฮวาก็เช่นเดียวกันเพียงแต่ว่าในยามที่นางจะออกไป
เที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวความสุขสาราญในยามค่าคืนกับเหล่าเด็กหนุ่มนั้น
มันคงไม่ดีแน่นอนหากนางให้ผู้อาวุโสที่คอยดูแลนางนั้นติดตามไปด้วย
แน่นอนว่าเฉินเซี่ยงหรงย่อมเป็นหนึ่งในคนที่ว่านั้น ความแข็งแกร่ง
ของนางนั้นจากการที่หลินหมิงประเมิณคร่าวๆคงไม่ต่ากว่าในระดับ
จอมยุทธ์ขั้นกลาง ! แต่ยังนับว่าโชคดีที่ดูเหมือนว่าในตอนนี้เซี่ยงหรงผู้
นี้จะไม่ได้อยู่ข้างกายของหว่านอิ๋งอาจเป็นเพราะภาระหน้าที่ที่ของเหม่
ยฮวาที่ตกมาเป็นของหว่านอิ๋งนั้นจึงทาให้นางแบ่งเบาภาระส่วนหนึ่ง
ไปให้กับเซี่ยงหรง
ภายในห้องของหว่านอิ๋ง
" พวกเจ้าไปตามเซี่ยงหรงมาให้ข้า...บอกนางว่าข้ามีธุระจาเป็น
เร่งด่วน "
" เจ้าคะ "
หลังจากที่หว่านอิ๋งเข้ามาภายในห้องนางได้กล่าวกับหญิงสาวรับใช้
ทั้งสอง พร้อมกับทิ้งร่างลงบนเตียงขนาดใหญ่อย่างอ่อนล้า แต่ถึงอย่าง
นั้นในตอนนี้นางกลับรู้สึกมีความสุขกับความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นนี้
เพราะว่ามันเกิดจากการที่อานาจการตัดสินใจในตระกูลส่วนใหญ่
ในตอนนี้ล้วนตกเป็นของนางโดยสิ้นเชิง
" นายหญิงข้ามาแล้วเจ้าคะ "
ในขณะที่หว่านอิ๋งกาลังนอนเคลิ้มฝันว่านางจะใช้อานาจที่มีอยู่นี้ใน
อนาคตอย่างไรดี ได้มีเสียงของสตรีที่เต็มไปด้วยคาวมหนักแน่นดังขึ้น
" เข้ามา "

เฉินเซี่ยงหรง
ในทันทีที่เซี่ยงหรงเข้ามาภายในห้องของนาง มือของนางเคลือน
ไหวอย่างรวดเร็วเพื่อทาการสั่งการให้อาคมป้องกันเสียงเล็ดรอดซึ่งมัน
เป็นแบบเดียวกันกับภายในห้องของหย่าเฟย ( มารดาของหลิวฉวนยูร์
)
" เซี่ยงหรง มาเร็วเถอะข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว "
น้าเสียงที่เต็มไปด้วยอานาจแต่ก่อนของหว่านอิ๋งแปรเปลี่ยนไปราว
กับเป็นคนละคน ร่างของนางทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกับขาทั้งสองข้าง
ของนางที่แหวกออก จนเผยให้เห็นส่วนลับของหญิงสาว
ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันยังคงมีร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยังคง
อยู่ภายในห้องแห่งนี้โดยที่พวกนางทั้งสองไม่ทันได้รู้ตัวเลย นั้นก็คือ
หลินหมิงนั้นเอง เนื่องจากมันเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่พอสมควรอาจ
เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนในตานักของเขาที่อาจารย์สาวสวย
ของเขาตั้งใจสร้างให้ ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องยากสาหรับหลินหมิง
เท่าไหร่นักในการหลบซ่อนภายในนี้
เพียงแต่ว่าในตอนแรกหลินหมิงไม่คาดว่า เฉินเซี่ยงหรงผู้นี้จะ
ปรากฎตัวขึ้น ในตอนนี้ที่อาคมถูกเรียกใช้ให้ทางานทางเข้าออก
ในตอนนี้ล้วนถูกปิดตายเว้นเสียแต่ว่าหลินหมิงจะทาลายมันลงก็
เท่านั้น
แต่ยังคงนับว่าเป็นโชคดีสาหรับหลินหมิงอยู่บ้างที่ดูเหมือนว่าเซี่ยง
หรง นางจะไม่สามารถจับสัมผัสของเขาในตอนนี้ได้ อาจเป็นเพราะว่า
ภารกิจของนางตรงหน้านี้สาคัญมากจนนางไม่มีสมาธิอย่างที่ควร ?
" อ้าา ~~~ เจ้ายังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ซี๊ดดดดด ~~~~~ "
ภาพตรงหน้านี้มันถึงกับทาให้หลินหมิงตะลึงค้างไปด้วยความ
สับสน ในตอนนี้ที่หว่านอิ๋งอยู่ในสภาพนอนแหวกขาพร้อมกับเสื้อผ้าที่
ปิดบังส่วนล่างของนางนั้นถูกเปิดออกจนหมด ตามด้วยร่างของเซี่ยง
หรงที่กาลังใช้ลิ้นของนางเข้าตวัดโลมเลียร่องสวาทของนายหญิง
ตระกูลหลิน !
อันที่จริงแล้วแม้ว่าหลินหมิงจะเคยได้ยินมาบ้างว่าเหล่าสตรีชน
ชั้นสูงที่สามีของพวกนางนั้นมักจะมีสตรีอยู่ข้างกายหลายคนจนทาให้
พวกนางไม่ได้รับความสุขตามที่พวกนางต้องการ ดังนั้นแล้วตัวเลือก
ของพวกนางก็คือการให้เหล่าหญิงสาวรับใช้มาคอยปรนนิบัติให้
ความสุขแทน โดยการใช้แท่งไม้หยกปลอมที่มีขนาดเทียบเท่ากับทวน
มังกรของสามีพวกนาง เพื่อเป็นการฝึกฝนและรับมือกับสามีของพวก
นางในยามที่ได้รับโอกาส
แต่แน่นอนว่ามันย่อมไม่มีใครที่จะใช้เทคนิคเช่นเดียวกันกับเซี่ยง
หรง อันที่จริงแล้วเดิมทีหลินหมิงคิดเอาไว้ว่าเทคนิคนี้ถือว่าเป็นหนึ่ง
เทคนิคลับเฉพาะของเขาในการเผด็จศึกหญิงสาวเลยเสียด้วยซ้า
ร่างของหว่านอิ๋งนอนดิ้นส่ายไปมาด้วยความสุขสมจากรสสัมผัส
ของลิ้นจากเซี่ยงหรง หลินหมิงสามารถเห็นได้ชัดว่าที่ร่องสวาทของ
นางนั้นมีน้ารักใสๆจานวนมากพุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย เมื่อได้เห็น
ภาพนี้ในใจของหลินหมิงครุ่นคิดว่าบรรดาหญิงสาวชนชั้นสูงพวกนาง
เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกนางจะมีอารมณ์ความต้องการรุนแรงเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าเหตุผลหลักๆนั้นดูเหมือนว่าประมุขตระกูลหลินผู้นี้จะขาด
การอบรมให้กับภรรยาของเขา
ผ่านไปราวครึ่งก้านธูปร่างของหญิงสาวทั้งสองในตอนนี้กลับอยู่ใน
สภาพเปลื่อยเปล่าพร้อมกับกอดรัดกันอย่างแนบแน่น ที่บริเวณส่วน
ลับของพวกนางที่กาลังแฉะเยิ้มไปด้วยน้ารักใสๆกาลังถูไถสัมผัสกัน
อย่างเร้าร้อน
" ...อืม้ มม...นายหญิง~~~~ ข้าเกรงว่าข้าคงต้องไปจัดการธุระที่
เหลือให้เสร็จเสียก่อนไม่เช่นนั้นแล้วในยามนี้ท่านอาจได้รับคาว่ากล่าว
ได้ "
ริมฝีปากของทั้งสองที่กาลังดูดดื่มกันอย่างเร้าร้อนก่อนหน้าค่อยๆ
แยกจากกันด้วยสีหน้าของหว่านอิ๋งที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

" ฮึ..ในตอนนี้จะมีผู้ใดที่มีความโง่มากพอที่จะกล้าว่ากล่าวข้า ? เจ้า


ในตอนนี้เพียงทาหน้าที่มอบความสุขให้แก่ข้าก็เพียงพอแล้ว "
ร่างของเซี่ยงหรงถูกหว่านอิ๋งกอดรัดแน่นเพื่อไม่ให้นางจากไปไหน
เมื่อเป็นเช่นนี้เซี่ยงหรงนางจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากตอบสนองต่อ
นายหญิงของนาง เพียงแต่ว่าทันใดนั้นนางพลันสามารถสัมผัสได้ถึง
พลังงานประหลาดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วหวูบ แต่ด้วยสภาพของนางที่ได้
ปลดปล่อยอารมณ์ความสุขไปอย่างต่อเนื่องกับนายหญิงของอีกทั้ง
ในตอนนี้ร่างของนางยังคงถูกกอดรัดเอาไว้ด้วยมันจึงทาให้นาง
เคลื่อนไหวได้อย่างยากลาบากเพราะไม่เช่นนั้นแล้วนายหญิงของนาง
อาจได้รับบาดเจ็บ
" โอ้ยยยย !!! "
ทันใดนั้นความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณส่วนลับของนางพลันเกิดขึ้นใน
ชั่วพริบตาราวกับว่าในตอนนี้นางกาลังถูกทิ่มแทงด้วยหอกขนาดใหญ่
!
" นะ...นี้เจ้าเป็นใคร....อึกกกกกกก ~~~~~ "
ในตอนนี้เซี่ยงหรงและหว่านอิ๋งเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงที่บริเวณ
ร่องสวาทของเซี่ยงหรงในตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันกาลังถูกแทงทะลวง
ด้วยทวนมังกรของบุรุษที่สวมใส่ผ้าคลุมสีดาและหน้ากากที่ไร้ซึ่ง
ลวดลายใดๆ แถมมันยังเป็นทวนมังกรที่มีขนาดใหญ่เสียยิ่งกว่าที่พวก
นางทั้งสองได้เคยพบเห็นมาก่อน

ตอนที่ 128
เมื่อได้เห็นภาพบทเพลงท่วงทานองการขับร้องโดยหญิงสาวทั้งสอง
ที่แม้ว่าพวกนางจะมีอายุราว 30 กว่าปีแล้วแต่ถึงอย่างนั้นผิวพรรณ
และสัดส่วนเรือนร่างที่กาลังเผยให้หลินหมิงได้เห็นอยู่นี้มันไม่ใช่สิ่งที่
เขาจะสามารถละสายตาไปได้โดยง่าย สาหรับหญิงสาวชนชั้นสูงแล้ว
นั้นอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกนางจะดูแลเอาใจใส่ความงามของ
ตนเองให้คงอยู่ไปอย่างยาวนานที่สุด
อย่างน้อยก็เพื่อให้สามีของพวกนางยังคงพึงพอใจในร่างกายของ
พวกนางบ้าง แต่แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มันย่อมต้องแลกมาด้วยการใช้
จ่ายที่มหาศาลจนเกินกว่าคนธรรมดาจะรับไว้ อันที่จริงแล้วมันคงมีแต่
หญิงสาวที่มีฐานะสูงส่งอย่างนายหญิงของตระกูลใหญ่อย่างตระกูล
หลิน หรือผู้อาวุโสสาวสวยทั้งหลายของเขา
สาหรับหว่านอิ๋งนางนั้นได้รู้จักกับเซี่ยงหรงมาตั้งแต่ยังเด็กและ
แน่นอนว่าเมื่อนางได้รับการตบแต่งเขาหาตระกูลหลินกับหลินฮ่าว แม้
ในช่วงแรกนางจะได้รับการเสพสุขจากเขาอยู่บ้างแต่นั้นมันยังคงเป็น
จานวนครั้งที่นางแทบจะสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว เช่นนั้นแล้วตัว
นางจึงจาเป็นที่จะหาที่ระบายอารมณ์อย่างอื่นแทนซึ่งนั้นก็คือการให้
เพื่อนสาวของนางเซี่ยงหรงที่เข้ามายังตระกูลหลินพร้อมกับนางใน
ฐานะผู้รับใช้
แน่นอนว่าแม้ว่าการสัมผัสได้ลิ้นของเซี่ยงจะยังคงไม่ถือว่ายอด
เยี่ยมกับทวนมังกรของเหล่าบุรุษแต่มันก็ยังคงดีกว่าแท่งไม้หยกที่แข็ง
กระด้างจนเกินไป ซึ่งมันทาให้นางรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าที่จะรู้สึกเสพ
สุข
ร่างของเซี่ยงหรงที่กาลังโดนจู่โจมอย่างฉับพลันโดยทวนมังกรของ
หลินหมิง สัมผัสรสชาติของร่องสวาทที่ยังคงคับแน่นพร้อมกับเลือดสี
แดงสดที่ค่อยๆไหลออกมาจากบริเวณร่องสวาทของนางอันเป็น
เครื่องหมายของการที่เยื่อพหรมจรรย์ของนางพึงเคยถูกช่วงชิงเป็นครั้ง
แรก !
หลินหมิงยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจไม่เพียงแต่เขาจะได้ร่วมรักกับหญิง
สาวที่มีความงามไม่น้อยถึงสองคน ยิ่งไปกว่านั้นหนึ่งในนั้นยังคงเป็นผู้
ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางอีกทั้งนางยังคงความบริสุทธ์ของตนเอง
เอาไว้ได้ ! สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นสิ่งนี้มีค่ามากเสียยิ่งกว่าทรัพย์
สมบัติใดๆทั้งสิ้น เพราะในสายตาของหลินหมิงทรัพย์สมบัติต่างๆที่
ช่วยเพิ่มระดับการฝึกฝนของคนทั่วไปแล้วนั้นมันไม่สามารถใช้ได้กับ
เขา
แม้ว่าเซี่ยงหรงนางจะมีพลังปราณอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 6
เพียงแต่ว่าด้วยสภาพของนางที่ผ่านการขับบทเพลงร่วมกับหว่านอิ๋ง
แล้วมันทาให้นางรู้สึกอ่อนแรงลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งเมื่อต้องเจอกับ
ทวนมังกรขนาดใหญ่ที่เสียบเข้ามาภายในตัวของนางอย่างกระทันหัน
มันทาให้เรี่ยวแรงของนางที่แต่เดิมเหลือน้อยอยู่แล้วกลับกลายเป็น
หมดสิ้นไปในทันที
" นี้เจ้าเป็นใครกัน ! เข้ามาได้ยังไง ! "
หว่านอิ๋งเมื่อเห็นสภาพของเซี่ยงหรงที่เป็นเช่นนี้ตัวนางถึงกับสั่น
กลัวเล็กน้อย แม้ว่านางจะไม่ได้ถูกจู่โจมโดยทวนมังกรของชายหนุ่มผู้
แปลกประหลาดผู้นี้เหมือนกับเซี่ยงหรงเพียงแต่ตัวนางที่ไม่ได้มีการฝึก
พลังแต่อย่างใดหลังจากที่ปลดปล่อยอารมณ์ความสุขกับเซี่ยงหรงไป
แล้วมันกลับทาให้ร่างกายของนางอ่อนแรงเสียยิ่งกว่าเด็กทารกเสียอีก
!
หลินหมิงที่กาลังเพลิดเพลินกับร่องสวาทอันยอดเยี่ยมของเซี่ยงหร
งอยู่นั้น ชาเลืองมองไปทางหว่านอิ๋งเล็กน้อยอย่างราคานใจ มือของเขา
ข้างหนึ่งเคลื่อนที่เข้าสัมผัสผ่านบริเวณต้นขาอ่อนของนางอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับทะลวงเข้าสู่จุดยุทธศาสตร์ที่กาลังชุ่มฉ่า
" อ๊าา มะ...ไม่..นี้เจ้า...เอาออกไป "
" ซี๊ดด ~~~ "
เสียงของสตรีทั้งสองที่ร้องดังระงมสามารถปลุกเร้าเหล่าบุรุษให้เกิด
อารมณ์ขึ้นได้ในทันที ในตอนนี้แม้ว่าหว่านอิ๋งจะกล่าวปฎิเสธตอบโต้
มือของหลินหมิงที่ได้ล่วงล้าเข้าไปสู่ร่องสวาทของนางไปแล้ว แต่
ร่างกายของนางนั้นกับตอบสนองแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง มือทั้งสอง
ข้างของนางที่สมควรเข้ารั้งดึงฉุดมือของหลินหมิงเอาไว้แต่มันกลับทา
ได้แค่เสียงสัมผัสไปที่แท่นแขนของหลินหมิงเบาๆราวกับว่าไม่อยากให้
มือของเขาจากไปไหนเสียมากกว่า
ส่วนทางด้านของเซี่ยงหรงนั้นนางอยู่ในสภาพที่ย่าแย่กว่าหว่านอิ๋
งมาก ด้วยการที่ร่องสวาทของนางยังคงถูกอัดแน่นด้วยทวนมังกร
ขนาดใหญ่ของหลินหมิงพร้อมกับสะโพกของเด็กหนุ่มที่กาลัง
เคลื่อนไหวอย่างช้าๆเพื่อลิ้มรสชาติของร่องสวาทของนางอย่างหื่น
กระหาย แม้ว่าในตอนแรกนางจะมีท่าทีขัดขืนและกรีดร้องเพื่อให้
หลินหมิงหยุด เพียงแต่ว่านางก็ไม่อาจต้านทานความเจ็บปวดที่เหยื่อ
พรหมจรรย์ของนางถูกทาลายลงพร้อมกับความรู้สึกสะท้านของ
ร่างกายของนางที่กาลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อันที่จริงแล้วสาเหตุที่พวกนางทั้งสองมีอาการเช่นนี้ไม่ใช่เพียง
เพราะว่าท่วงท่าทานองรักของหลินหมิงอย่างเดียวเท่านั้นที่ยอดเยี่ยม
จากการที่เพลิงทมิฬของเขาได้ดูดกลืนพลังสายฟ้าประหลาดเข้ามาใน
ตัวของมัน มันทาให้เขาได้รักทักษะแปลกๆที่ไม่คดิ ว่าจะได้ใช้มันสัก
เท่าไหร่นัก มันเป็นการปลดปล่อยปราณสายฟ้าในรูปแบบพลังงาน
อ่อนๆที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าควบคู่ไปกับพลังปราณหยิน
จากเพลิงทมิฬ เพื่อทาการกระตุ้นอารมณ์ของเป้าหมายแน่นอนว่า
เป้าหมายเหล่านั้นจะต้องเป็นสตรีเพศเท่านั้น
เสียงครางระงมของสองสาวผู้สูงศักดิ์ดังระงมไปทั่วห้องยังนับว่า
โชคดีที่ก่อนหน้านี้หว่านอิ๋งได้ทาการปลดการทางานของอาคมระงับ
เสียงเอาไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นปานนี้ผู้คนทั่วทั้งตระกูลหลินคงได้ยินเสียง
ครางกระเส้าอันแสนเซ็กซี่ของหญิงสาวทั้งสองนี้ไปแล้ว
สาหรับหว่านอิ๋งนั้นแม้ว่านางจะเคยผ่านมือของบุรุษมาแล้วแต่นั้น
นับเป็นประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีแล้ว อีกอย่างหากเทียบกับ
ความสุขที่นางได้รับจากการร่วมรักกับบุรุษแม้ว่ามันอาจจะมากกว่า
การใช้ลิ้นของเซี่ยงหรงแต่มันไม่มีทางเทียบได้กับนิ้วมืออันซุกซนของ
บุรุษแปลกหน้าผู้นี้ !
" อ๊า อ๊า อ๊า บะ..เบาๆ..ลงหน่อย อ๊า "
ทางด้านเซี่ยงหรงนั้นนางหมดความหวังที่จะขัดขืนไปตั้งนานแล้ว
แม้ว่านางจะผิดหวังที่ประสบการณ์ในการร่วมรักกับบุรุษครั้งแรกของ
นางจะเป็นการถูกช่วงชิงอย่างโหดร้ายเช่นนี้แต่นางก็ไม่อาจปฎิเสธได้
ว่าบทเพลงของบุรุษผู้นี้ช่างมอบความสุขให้แก่นางมากล้นจริงๆ
ร่างกายของสั่นกระเพื่อมไปตามจังหวะการกระแทกเอวของหลินหมิง
ที่กาลังเร่งจังหวะขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกแปลกๆที่กาลังเกิดขึ้นและไม่รู้ว่า
จะรับมือกับมันอย่างไรดี เมื่อมองไปที่ด้านข้างขอนาง หว่านอิ๋ง หรือ
นางหญิงของนางนั้นกลับมีท่าทีที่ดีกว่านางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
" ขะ...ข้าอยากได้มันเช่นกัน ได้โปรด "
ท่าทีของหว่านอิ๋งเปลี่ยนเป็นหวานชนิดที่ว่าแม้ว่าในอดีตหลินหมิง
จะเคยพบเห็นหญิงสาวผู้นี้มาไม่น้อยแต่เขากลับไม่เคยแม้แต่จะได้เห็น
หรือกระทั่งสามารถจินตนาการด้านนี้ของนางได้เลยเสียด้วย
ซ้า ใบหน้าของนางขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมกับลมหายใจเข้าออกที่ยังคง
หอบอย่างหนักหน่วง
ในตอนนี้นางได้ลุกขึ้นนั่งชันเขาพร้อมกับกอดท่อนแขนของหลินห
มิงเอาไว้ และนาร่างแนบชิดกับร่างของหลินหมิงอย่างไม่มีความเอียง
อาย เมือ่ เห็นท่าทีของนางเช่นนี้หลินหมิงจับร่างของนางให้นอนคว่า
ทับร่างของเซี่ยงหรงเอาไว้พร้อมกับบั้นท้ายของนางที่ถูกยกขึ้นมา
ใบหน้าของหลินหมิงเข้าใกล้กับร่องสวาทที่กาลังอยู่ในสภาพที่
พร้อมใช้งานอย่างเต็มที่อันที่จริงแล้วร่องสวาทของนางนั้นแทบจะไม่ได้
แตกต่างจากเหล่าสาวบริสุทธ์ทั่วไปสักเท่าใดนักมันยังคงมีร่องลอย
กลีบบัวสีชมพูดสดปรากฎอยู่
เมื่อได้อยู่ในท่วงท่านี้หว่านอิ๋งนางสามารถมองเห็นใบหน้าที่แดง
ราวกับลูกตาลึงของเซี่ยงหรง สภาพของเพื่อนสาวของนางที่ตอนนี้อยู่
ในฐานะของหญิงสาวรับใช้ที่นางไว้ใจที่สุด ไม่เพียงแต่นางจะส่งเสียง
ครางออกมาอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดหย่อนทั่วร่างของนางหว่านอิ๋
งเองก็ยังคงสัมผัสได้จากผิวหนังที่สัมผัสกันอยู่ในตอนนี้ว่าร่างของเซี่ยง
หรงนั้นกาลังสั่นสะท้านด้วยความเสี่ยวซ่านอยู่ตลอดเวลา !
โดยไม่ปล่อยให้หว่านอิ๋งต้องว่างหลินหมิงทาการยกหน้ากากของ
เขาขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ปากของเขาสามารถทาการเข้าจู่โจมร่องสวาท
ของหว่านอิ๋งได้
" อู้วววววววววว ~~~~ ซีด๊ ดดด ~~~ "
เสียงครางของหว่านอิ๋งดังขึ้นราวกับว่านางต้องการประลองแข่ง
กับเซี่ยงหรงแน่นอนว่าในตอนนี้มันยังคงเป็นเซี่ยงหรงที่ยังคงเหนือกว่า
อย่างชัดเจน เนื่องสภาพของนางในตอนนี้ที่ถูกทับโดยหว่านอิ๋งที่กาลัง
ดิ้นผล่านด้วยความเสี่ยวซ่านของรสชาติลิ้นสัมผัสอันเยี่ยมยอดจาก
หลินหมิง แน่นอนว่ามันทาให้เซี่ยงที่ลาบากมากในการรับมือกับทวน
มังกรของหลินหมิงอยู่นั้นยิ่งแย่ยิ่งขึ้นไปอีก !

ตอนที่ 129
ด้วยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปราวสองก้านธูปร่างของ
เซี่ยงหรงเริ่มไม่สามารถขยับตัวได้เนื่องจากนางในตอนนี้อยู่ในสภาพที่
อ่อนแรงกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งในยามที่นางจะต้องใช้
พลังปราณเพื่อต่อสู้หรือทาภารกิจบางอย่างนางก็ยังคงไม่เคยรู้สึก
เหนื่อยเท่านี้มาก่อน อีกทั้งภายในร่องสวาทของนางในตอนนี้ยังคงถูก
เติมเต็มไปด้วยน้ารักจานวนมากของบุรุษที่นางไม่แม้จะได้เห็นหน้าของ
เขา
หว่านอิ๋งนั้นยังคงอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าดีกว่าเซี่ยงหรงมากอีกทั้ง
ดูเหมือนว่าเมื่อนางได้เห็นใบหน้าของเซี่ยงหรงในยามนี้รวมกับการที่
นางต้องเจอหลินหมิงเล้าโลมตลอดเวลาที่ผ่านมาแน่นอนว่ามันทาให้
ความต้องการของนางเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่านางจะ
ได้รับการปลดปล่อยด้วยการเล้าโลมไปเป็นจานวนไม่ใช่น้อย แต่เห็นได้
ชัดว่ามันไม่สามารถเทียบได้กับความสุขที่เซี่ยงหรงได้รับ
ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าทักษะใหม่ของหลินหมิงที่ได้จากเจ้า
สายฟ้าประหลาดอันที่จริงแล้วในตอนแรกหลินหมิงยังคงมีความกังวล
เล็กน้อยว่าเซี่ยงหรงจะสามารถคัดคืนเขาและสามารถตอบโต้ได้เพียง
เขาไม่คาดคิดว่าผลของทักษะนี้จะได้ผลถึงเพียงนี้หากไม่ติดตก
ข้อจากัดว่าเขาจาเป็นที่จะต้องสัมผัสกับร่างของหญิงสาวโดยตรง
ปราศจากอาภรณ์ที่คั่นขว้าง รวมถึงระยะเวลาในการสัมผัสเพื่อเร้า
อารมณ์พวกนางแล้ว เขาคงสามารถร่วมรักกับหญิงสาวต่างๆได้
โดยง่าย
" แล้วข้าเหล่า ? "
หว่านอิ๋งในตอนนี้นางถามออกมาด้วยน้าเสียงหอบกระหาย แม้ว่า
นางจะรู้อย่างเต็มอกดีว่าบุรุษนั้นจะสามารถปลดปล่อยน้ารักของพวก
เขาได้เพียงครั้งเดียวและอาจต้องพักฟื้นเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน แต่
ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมานีีบุ้ รุษผู้นี้ได้ปลดปล่อยน้ารักของเขาไปอย่าง
มากมายกับสาวรับใช้ของนางอย่างเซี่ยงหรงอย่างนั้นหรือ ?
" ท่านแม่ข้ามีเรื่องที่จะปรึกษา ! "
แม้ว่าภายในห้องนี้จะมีอาคมที่สามารถระงับเสียงไม่ให้เล็ดรอด
ออกไปเพียงแต่ว่าบุคคลภายในยังคงได้ยินเสียงจากภายนอกได้อยู่
แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มที่กล่าวขึ้นเช่นนี้ใบหน้าของ
หว่านอิ๋งพลันแปรเปลี่ยนเป็นตาสว่างขึ้นในทันที แตกต่างกับหลินหมิง
โดยสิ้นเชิงรอยยิ้มมุมปากของเขายกขึ้นด้วยความพึงพอใจจนถึงขีดสุด
กับเหตุการณ์ที่กาลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้
ในขณะที่หว่านอิ๋งกาลังสับสนว่านางจะทาสิ่งใดดี ร่างของชายหนุ่ม
แปลกหน้าที่เพิ่งมอบความสุขให้กับนางอย่างมากล้นกลับลุกขึ้นแล้ว
เดินไปทางประตู ! ใจของนางถึงกับสั่นกระตุกเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้
แน่นอนว่าในตอนนี้นางไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้อย่างแน่นอน และเมื่อ
นางมองไปยังเซี่ยงหรงเพื่อเป็นความหวังสุดท้ายที่จะหยุดชายหนุ่ม
แปลกประหลาดผู้นี้นางก็พบว่าเซี่ยงหรงนั้นได้หมดสติไปด้วยความ
อ่อนล้าไปเสียแล้ว !
ที่หน้าประตูมีร่างของหลินชูและผู้ติดตามของเขาอีกหนึ่งคน เมื่อ
พวกเขาทั้งสองได้ยินเสียงประตูเปิดขึ้นก็พบเรื่องที่น่าตกใจเมื่อผู้ที่เปิด
ประตูนั้นกลับไม่ใช่มารดาของเขาหรือกระทั่งสาวใช้ของนาง ! แต่ไม่
ทันที่พวกเขาจะได้ทันตอบสนองร่างของพวกเขาทั้งสองถูกจับเหวี่ยง
เข้ามาภายในห้องอย่างรุนแรง
ในตอนนี้หลินชูอยู่ในสภาวะเคร่งเครียดสาหรับตัวมันที่มีพลังระดับ
ปราณเริ่มต้นขั้น 7 ระดับสูงสุดแม้ว่ามันจะเป็นระดับที่น่าตื่นตะลึง
สาหรับคนรุ่นนี้แต่เห็นได้ชัดว่าบุรุษที่ส่วมหน้ากากผู้นี้มีความแข็งแกร่ง
มากกว่าเขามาก กระทั่งคนใช้ของหลินชูนั้นเขาก็เป็นเพียงผู้ที่มีพลัง
ระดับก่อเกิดขั้น 2 เท่านั้น
หลินชูสามารถตั้งสติได้อย่างรวดเร็วเขาพลันรีบมองสังเกตไปทั่ว
ห้องใบหน้าของเขาถึงกับซีดหนักยิ่งกว่าเดิม ด้วยสภาพร่างเปลื่อยของ
มารดาของเขาพร้อมที่บริเวณส่วนลับของนางยังคงปรากฎน้าแปลกๆ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุรุษแปลกผู้นี้กาลังคิดทาสิ่งใดอยู่แต่ที่น่าตื่นตะลึง
ที่สุดก็คือร่างของเซี่ยงหรงที่อยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่าเช่นเดียวกันที่
บริเวณส่วนล่างขอนางกลับกลายเป็นธารน้าตกขนาดย่อมที่มีน้าข้นสี
ขาวกาลังไหลออกมาจากร่องสวาทของนางอย่างช้าๆ
' มันกระทั่งสามารถเอาชนะผู้อาวุโสเซี่ยงหรงได้ ! '
หลินหมิงมองไปยังร่างหลินชูด้วยสายตาเคียดแค้นเพียงแต่ว่าหลิน
ชูไม่สามารถสังเกตได้เนื่องจากหลินหมิงยังคงสวมใส่หน้ากากอยู่ ใคร
จะไปคิดกันว่าเมื่อหลายเดือนก่อนเขายังคงมองตัวตนระดับหลินชูเป็น
ตัวตนที่ไม่สามารถก้าวไปอยู่ในระดับเดียวกันได้ หากเป็นในอดีตของ
เพียงแค่เขาสามารถสร้างบาดแผลให้กับหลินชูได้นั้นก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่
น่าพึงพอใจอย่างมาก แต่ในตอนนีม้ นั กลับกันแล้ว
ปัง !
ร่างของหลินหมิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยที่หลินชูไม่อาจ
ตอบสนองได้ทัน พร้อมกับลูกเตะอันแสนหนักหน่วงที่กระทบเข้าใส่
ร่างกายของมัน จนมันรู้สึกราวกับว่าร่างกายของมันกาลังจะแตกเป็น
เสี่ยงๆ ! ร่างของหลินชูกระแทกกับกาแพงห้องอย่างรุนแรงพร้อมกับ
กระอักเลือดออกมาคาโต
" นายน้อย ! ..........อั๊กกก "
ชายผู้เป็นข้ารับใช้ของหลินชูนั้นไม่ทันได้เข้าไปดูอาการของนาย
น้อยของเขา ร่างของเขาถูกส่งไปอัดเข้ากับกาแพงในด้านตรงข้าม
พร้อมกับเลือดที่ถูกส่งออกมาจากปากเป็นจานวนมากเช่นเดียวกัน
" จะ...เจ้า..เป็นใครกัน..ตะ...ต้องการอะไร "
สายตาของหลินชูแววโรจน์ไปด้วยความกราดเกรี้ยว ตั้งแต่เกิดมา
มันไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน กระทั่งผู้อาวุโสเซี่ยงหรง
ยังคงถูกจัดการ แล้วเมื่อมองไปยังเจ้าคนผู้นี้แล้วเขาไม่กระทั่งแม้มี
ร่องรอยของบาดแผล ภายในห้องนี้ยังคงเหมือนกับว่าไม่มีการต่อสู้
เกิดขึ้นเลยเสียด้วยซ้าเป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าคนผู้นี้จะมีระดับพลังที่
แข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสเซี่ยงหรงเป็นอย่างมาก ?
" ชูเอ๋อร์ ! "
หว่านอิ๋งเมื่อเห็นบุตรของนางได้รับบาดเจ็บนางพลันรีบลุกขึ้นจาก
เตียงอย่างยากลาบากเพื่อที่จะเข้าไปดูอาการของบุตรของนาง แน่นอน
ว่าด้วยลูกเตะเมื่อครู่ของหลินหมิงนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่อะไรไป
มากมายนักแต่ด้วยความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากเกินไปของเขา
และหลินชูมันก็เพียงพอที่จะทาให้น้องชายของเขาผู้นี้บาดเจ็บภายใน
อย่างรุนแรง !
หลินหมิงดึงรั้งแขนของหว่านอิ๋งเอาไว้ก่อนที่นางจะได้เข้าไปถึงตัว
บุตรของนาง ทันใดนั้นหลินหมิงทาในสิ่งที่นางไม่คาดคิดมาก่อน ทวน
มังกรของหลินหมิงได้ถูกอัดกระแทกเข้าร่องสวาทของนางอย่าง
กระทันหันและมันยังคงเป็นการจู่โจมแบบรวดเร็วและเข้าไปจดสุดลา
หลินหมิงใช้มือทั้งสองข้างประคองร่างของหว่านอิ๋งเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่าง
ของนางล้มลงพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับหน้าอกของนางเล็กน้อย
หว่านอิ๋งแม้ว่าในก่อนหน้านางจะพยายามร้องขอให้บุรุษแปลกหน้า
ผู้นี้ทาการร่วมรักกับนางก็จริงแต่นางไม่คาดคิดว่าจะได้รับการร่วมรัก
ต่อหน้าบุตรของนางเช่นนี้ ร่องสวาทของนางที่ถูกบุทะลวงอย่าง
กระทันหันทาให้นางรู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก น้าลายจานวนมากไหล
ออกมาจากปากของนางพร้อมกับหยาดน้าตาแห่งความเจ็บปวด หลิน
ชูและชายรับใช้ของเขาตะลึงกับการกระทานี้อย่างมาก
" ข้าเป็นใครอย่างนั้นหรอ ? ข้าคือหลินเหมือนกับพวกเจ้ายังไงล่ะ
ว่าไงจาข้าไม่ได้หรอน้อยชายผู้น่าชิงชังของข้า ข้าหลินหมิงยังไงล่ะ ! "
ใบหน้าของหลินชูเต็มไปด้วยความตื่นตะลึแน่นอนว่าเขายังคง
สามารถจดจาหลินหมิงได้ ใครจะไม่สามารถจดจากระสอบทรายที่เขา
ใช้อยู่ทุกวันได้กันเหล่า แต่เขามั่นใจว่าเสียงของหลินหมิงไม่ได้เป็น
เช่นนี้ อีกทั้งหลินหมิงไม่มีทางที่จะพลังในระดับที่น่าตื่นตะลึงถึงขนาด
เอาชนะผู้อาวุโสเซี่ยงหรงหรือกระทั่งตัวเขาได้ แม้ว่ามันจะได้รับการ
รักษาเส้นชีพจรลมปราณของมันก็ตาม
แสดงว่ามีคนกล้าปลอมตัวเป็นมัน ? แต่ตัวตนของหลินหมิงนั้นไม่มี
ทางที่คนนอกจะรับรู้ได้ งั้นแสดงว่าต้องเป็นบุคคลภายใน ? แต่ใครกัน
เล่าที่มีความโงพอที่จะเช่นนั้น
ในระหว่างช่วงเวลาที่หลินชูกาลังครุ่นคิด เอวของหลินหมิงกลับ
เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรงเข้าจู่โจมหว่านอิ๋งอย่างบ้าคลั่ง น้า
รักของนางกระสาดเซ็นไปทั่วห้อง แม้ว่านางจะเสร็จสมไปเป็นจานวน
มากแล้วแต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวนางนี้จะมีความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุด !
" อร้างงงง~~~ "
เสียงครางผสมกับเสียงกรี้ดร้องของหว่านอิ๋งดังไปทั่ว ขาของนาง
สั่นไปด้วยความอ่อนแรงอย่างเต็มทีแต่นางกลับไม่สามารถล้มตัวลงได้
เนื่องจากมีมือทั้งสองข้างประคองร่างของนางอย่างมั่นคงและมีทวน
มังกรของชายหนุ่มที่กาลังกระหน่าแทกนางอย่างบ้าคลั่งอีกด้วย
ตอนที่ 130
ผ่านไปราวหนึ่งก้านธูปร่างของหลินหมิงกาลังนอนอยู่บนเตียง
พร้อมกับร่างของหว่านอิ๋งและเซี่ยงหรงที่อยู่ในอ้อมกอดซ้ายขวาของ
เขา สาหรับหว่านอิ๋งนั้นแม้ว่านางจะพอจะได้ยินคากล่าวของหลินหมิง
ที่ประกาศตนเองออกมาเพียงแต่ว่าด้วยสติของนางในตอนนี้มันทาให้
นางไม่สามารถรับรู้สิ่งใดได้อย่างทั่วไป
ส่วนทางด้านของเซี่ยงหรงนั้นแม้ว่าในตอนนี้นางจะพอรู้สึกตัว
ขึ้นมาบ้างแล้ว เพียงแต่ว่าด้วยเรือนร่างเปลื่อยเปล่าของนางที่ถูกแนบ
ชิดด้วยร่างของหลินหมิง พร้อมกับมือของเขาที่เข้ากอดรัดตัวนาง
พร้อมกับบีบเค้นยอดปถุมทันของนางอย่างสนุกสนานมันทาให้นาง
ยังคงไม่สามารถตอบโต้ใดๆได้ และถึงแม้ว่านางจะยังคงมีเรี่ยวแรง
เพียงพอแต่นางก็ยังคงไม่อาจมั่นใจในตนเองว่านางจะละทิ้งความสุขที่
กาลังเกิดขึ้นเช่นนี้ได้
" ฮึ..เจ้าคิดว่าเมื่อเจ้าทาทุกสิ่งเช่นนี้แล้วจะสามารถนาพาชีวิตเจ้า
รอดกลับไปได้อย่างนั้นรึ ? "
หลินชูกัดฟันด้วยความโกรธเคืองมันไม่มีทางเชื่อว่าบุรุษแปลกสวม
หน้ากากที่อยู่ตรงหน้ามันในตอนนี้จะเป็นหลินหมิง หากเทียบจากวัน
สุดท้ายที่มันได้พบเห็นหลินหมิงนั้นคือชั่วเวลาราว 6 -7 เดือนก่อน
เช่นนั้นแล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ที่ไร้ซึ่งพลังใดๆตั้งแต่จนจะ
สามารถใช้เวลาเพียงไม่ถึงปีก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ! เช่นนั้นแล้วเหล่าผู้ฝึก
ยุทธ์ทั้งหลายจะเก็บตัวฝึกฝนเป็นเวลาหลายปีไปเพื่อสิ่งใดกัน ?
หลินหมิงยิ้มอย่างเย้ยยันไปทางหลินชูเนื่องจากว่าหน้ากากของเขา
ในตอนนี้ได้ถูกเปิดขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่เขาจะสามารถลิ้มลองรสชาติของ
หญิงสาวทั้งสองข้างกายนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน นั้นจึงเป็นเหตุให้หลินชู
สามารถเห็นรอยยิ้มนี้ได้อย่างชัดเจน
' บัดซบ !! '
' คนอย่างข้าถูกเย้ยยัน ? '
แม้แต่เด็กทารกยังต้องเกรงกลัวเมื่อได้ยินชื่อของรุ่นเยาว์จาก
ตระกูลหลินในยุคนี้ จิตใจของหลินชูในตอนนี้เต็มไปด้วยความคังแค้น
หากเขาไม่สามารถทรมานเจ้าคนที่แอบอ้างว่าเป็นหลินหมิงผู้นี้ มันคง
ทาให้จิตใจของเขาต้องสั่นคลอนไปชั่วชีวิตและนั้นแน่นอนว่าย่อมต้อง
ส่งผลถึงการพัฒนาของเขาเป็นอย่างยิ่ง
' อึกก ! '
ทันใดนั้นแรงกดดันที่ราวกับภูเขากดทับได้พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของ
หลินชูและผู้รับใช้ของมัน ด้วยความแตกต่างของพลังของหลินหมิง
และพวกมันทั้งสองมันง่ายมากที่หลินหมิงจะสังหารหลินชูในตอนนี้
หรือกระทั่งคนรับใช้ของมันที่มีความแข็งแกร่งเพียงปราณก่อเกิด 2
ด้วยเช่นเดียวกัน
หลินชูกระอักเลือดออกมาคาโตพร้อมกับร่างกายของมันที่หนักอึ้ง
จนแทบไม่สามารถลุกได้อีกต่อไป ใบหน้าของมันในตอนนี้ถูกกดลงกับ
พื้นด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น คนรับใช้ของมันยังคงอยู่ในสภาพที่
ดีกว่าอย่างไรเสียมันก็ยังคงมีพลังมากกว่าหลินชูดังนั้นมันจึงเป็นเรื่อง
ธรรมดาที่มันจะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า
คนรับใช้ของหลินชูในตอนนี้หน้าซีดลาพังเพียงแค่แรงกดดันที่แผ่
ออกมาจากตัวของบุรุษแปลกหน้าผู้นี้ก็เพียงพอที่จะสามารถทาให้มัน
พ่ายแพ้ได้ในทันที ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้นับได้ว่าเป็นวิกฤตใหญ่
ของชีวิตของมันโดยแท้จริง หากบุรุษแปลกหน้าผู้นี้ที่ดูเหมือนจะมี
ความแค้นเคืองอย่างมากกับนายน้อยของมันลงมือสังหารหลินชูแล้ว
แม้ว่ามันจะสามารถรอดชีวิตไปได้ แต่มีหรือที่เหล่าผู้อาวุโสจะปล่อย
มันไว้มันอาจได้รับการทรมานที่ยิ่งกว่าการตายเสียอีก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ตัวมันกัดฟันฝืนความเจ็บปวดพร้อมกับก้มหัวลง
เคารพให้กับหลินหมิงด้วยความยากลาบาก
" ผะ...ผู้อาวุโส..ได้ดปรดยั้งมือก่อน...ข้าไม่รู้ว่านายน้อยของข้าทา
สิ่งใดให้ท่านโกรธแค้น...เพียงแต่ว่าหากท่านคิดทาร้ายนายน้อยไป
มากกว่านี.้ ..ข้าเกรงว่าแม้ท่านจะแข็งแกร่งเพียงใด..ท่านก็คงไม่
สามารถเอาชีวิตรอดได้โดยง่าย "
แน่นอนว่าคนรับใช้ของหลินชูผู้นี้มันย่อมเคยได้ยินชื่อของหลินหมิง
คุณชายผู้เป็นขยะของตระกูลหลินมาบ้างและมันไม่คิดว่าบุรุษสวม
หน้ากากผู้นี้จะเป็นหลินหมิงเช่นเดียวกัน
" เฮอะ ! เจ้าคิดว่าบิดาผู้นี้เกรงกลัว ? ไม่เช่นนั้นแล้วข้าคงไม่กล้าลง
มือเช่นนี้ ! "
" มะ...ไม่..ไม่ ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะล่วงเกินท่านเช่นนั้น.."
ร่างของหว่านอิ๋งในตอนนี้ขยับเล็กน้อย แม้ว่าสติของนางในตอนนี้
จะเลือนร่างแต่นางก็พร้อมจะรับรู้เรื่องราวบ้างไม่มากก็น้อย
" ดะ..ได้โปรด..ยะ..อย่าทาอะไรบุตรของข้าเลย ~~ "
หลินหมิงยิ้มเยาะอย่างชอบใจพร้อมกระชับร่างของหว่านอิ๋งเข้ามา
แนบชิดยิ่งกว่าเดิม
" ก็ได้เช่นนั้นข้ามีทางเลือกให้พวกเจ้า....หากพวกเจ้าสามารถทาให้
ข้าเพลิดเพลินจนพึงพอใจแล้วละก็แน่นอนว่าข้ายินดีปล่อยนายน้อย
ของพวกเจ้าไป "
" เช่นนั้นพวกข้าต้องทาเช่นใดบ้าง ? "
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มรับใช้จะได้ทันกล่าวจบร่างของหว่านอิ๋งถูกจับ
ให้เปลี่ยนท่วงท่าอย่างรวดเร็วศรีษะของนางในตอนนี้ก้มลงมาอยู่ตรง
ระหว่างขาของหลินหมิงพอดี
" ขั้นแรกเจ้านาทรัพย์สมบัติทั้งหมดในห้องนี้มาให้ข้า...ส่วนนาย
หญิงผู้นี้เจ้าจงบริการข้าด้วยปากของเจ้าซะ "
ชายหนุ่มรับใช้รีบเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในตอนนี้นี้เป็นโอกาสเดียว
ที่มันจะสามารถรักษาชีวิตของตัวมันและนายน้อยของมันเอาไว้ได้
หว่านอิ๋งนั้นแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจถึงสิ่งที่หลินหมิงได้กล่าวออกมา
เพียงแต่ว่านางก็รับรู้ได้ว่าชายผู้นี้ต้องการให้นางใช้ปากของนางเพื่อทา
ให้ทวนมังกรของเขาได้รับการเติมเต็มอีกรอบ
ปากของนางเข้าครอบคลุมทวนมังกรของหลินหมิงอย่าง
ยากลาบากด้วยขนาดที่ใหญ่โตจนเกินไปของมัน แน่นอนว่าในตอนแรก
นางย่อมต้องมีความรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมากอวัยวะของบุรุษที่เต็มไป
ด้วยกลิ่นอันรุนแรง และเต็มไปด้วยความสกปรกแต่นางกลับต้องใช้
ปากของนางในการทาเรื่องเช่นนี้
แต่เมื่อลิ้นของนางได้เข้าสัมผัสรสชาติที่ผิวหนังของทวนมังกรของ
หลินหมิง ร่างกายของนางราวกับถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์อีกครั้ง ที่
บริเวณส่วนลับของร่างกายของนางถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงจนนางต้อง
หนีบขาเอาไว้เพื่อข่มกลั้นความรู้สึก ไม่เพียงเท่านั้นรสชาติของน้ารัก
ของหลินหมิงที่ยังคงเปราะเปรื้อนตามบริเวณทวนมังกรนั้นมันกลับให้
รสชาติที่ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าโอสถคุณภาพเยี่ยมนับร้อยเท่า !
ภายใต้การแนะนาของหลินหมิงลิ้นของนางตวัดไปมาอย่าง
คล่องแคล่วเพื่อลิ้มลองรสชาติอันหอมหวานและแปลกใหม่นี้อย่าง
เพลิดเพลิน กลิ่นอันรุนแรงของทวนมังกรของหลินหมิงนั้นกลับทาให้
ร่างกายของนางมีความตอบสนองที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิมแทนที่จะเป็น
ความรู้สึกรังเกียจ
ใช้เวลาเพียงไม่นานชายหนุ่มรับใช้ได้รวบรวมของสมบัติต่างๆมาจน
หมดแม้ว่าจะมีบางส่วนที่เขาไม่สามารถนาออกมาได้เนื่องจากมันมี
อาคมลงเอาไว้และต้องเป็นผู้ที่ล่วงรู้อาคมชั้นสูงหรือเจ้าของอาคม
เท่านั้นที่สามารถปลดได้ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นลาพัง
เพียงทรัพย์สมบัติที่เขารวบรวมมาในตอนนี้มันก็มีค่ามากเสียจนเขา
ยังคงต้องน้าลายไหล แน่นอนว่าทรัพย์สมบัติเหล่านี้ย่อมรวมไปถึงของ
หลินชูด้วยเช่นเดียวกัน
หลินหมิงรับแหวนมิติมาทั้งสิ้น 5 วงด้วยกันแน่นอนว่าเขาไม่ได้มี
ความขัดสนเรื่องทรัพย์สินสักเท่าไหร่นักที่ทาไปทั้งหมดนี้ก็เพื่อ
ความชอบใจเพียงส่วนตัวเท่านั้น
" ผู้อาวุโสเช่นนั้นแล้ว...ข้าสามารถรักษานายน้อยได้เลยหรือไม่ ? "
ชายหนุ่มรับรีบกล่าวอย่างกังวลด้วยสภาพของหลินชูในตอนนี้แม้
มันจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่มันเป็นไปได้ว่าในอนาคตนี้
ความก้าวหน้าของเขาจะถูกจากัดจนเหลือเพียงความสามารถระดับคน
ธรรมดาทั่วไปหรืออาจด้อยกว่านนั้นซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทางตระกูลไม่
สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน
" ยัง..ข้ายังมีบางสิ่งที่อยากให้เจ้าทาก่อน "
" มันคือสิ่งใดผู้อาวุโสโปรดว่ากล่าวออกมาได้เลย "
" ร่วมรักกับนายน้อยของเจ้าซะ ! "
คาตอบของหลินหมิงทาให้ชายหนุ่มรับใช้ถึงกับแข็งค้าง ร่วมรักกับ
นายน้อยของมัน ? แน่นอนว่าหากนายน้อยของมันเป็นสตรีสาวที่มี
ความงามเหมือนคุณหนูตระกูลหลิวแล้วละก็มันคงไม่มีความลังเลเลย
แม้แต่น้อย แต่นี้นายน้อยของมันเป็นบุรุษและมันเองก็เป็นบุรุษ
เช่นเดียวกัน !
" ระ...เรื่องนี้มัน "
" หรือว่าเจ้าไม่สามารถทาได้ ? เช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าทิ้งก่อนแล้ว
ค่อยทรมานนายน้อยของเจ้าด้วยวิธีอื่น "
" กะ..ก็ได้ขอรับ..ข้ายอมทาตามที่ผู้อาวุโสกล่าว "
ชายหนุ่มรับใช้รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองอยู่ปากของขุมนรกที่มีเหล่า
ผู้คุมนรกพร้อมลงทันณฑ์ทุกเมื่อหากแม้เขาผิดพลาดเพียงเล็กน้อย
แน่นอนว่าในตอนนี้เขาคงไม่สามารถปฎิเสธเรื่องความเลวร้ายที่จะเกิด
ขึ้นกับนายน้อยของเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นแล้วทางที่ดีที่สุดย่อมเป็น
รักษาชีวิตของมันและนายน้อยเอาไว้
" ข้าให้เวลาเจ้าเพียงสิบลมหายใจรีบๆเริ่มได้แล้ว..ไม่เช่นนั้นข้า
จะเปลี่ยใจเดียวนี้ ! "
ชายหนุ่มรับใช้แถมอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดแม้ว่าจะ
มันจะมีบุรุษที่มีความนิยมชมชอบเช่นนี้อยู่บ้าง แตตัวมันนั้นไม่ได้มี
ความชอบเช่นนี้เลยแม้แต่น้อย ทวนมังกรของมันถูกนาออกมาอย่าง
รวดเร็วพร้อมกับมือของมันที่รีบเข้าปลดเปลื้องเสื้อผ้านายน้อยของมัน
เช่นเดียวกัน
" กะ...แก !!!!! "
เสียงของหลินชูเต็มไปด้วยความสั่นเครือนี้นับเป็นความอัปยศอย่าง
แท้จริง ! แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มรับใช้ก็ไม่มีทางเลือกอีกต่อไปแล้ว
ทวนมังกรของมันถูกนาเสียบเข้าไปที่รูทวารของของหลินชู แน่นอนว่า
มันไม่กล้าแม้แต่จะออมแรงเมื่อได้เห็นสายตาของหลินหมิงที่กาลังจ้อง
มองมาไม่เช่นนั้นแล้วความพยายามของมันที่ทามาทั้งหมดอาจจะสูญ
เปล่าก็เป็นได้

ตอนที่ 131
ในความเป็นจริงแล้วนั้นสาหรับเหล่าบุรุษโดยทั่วไปพวกเขาจะใช้
เวลาเพียงเล็กน้อยในการปลดปล่อยอารมณ์ของพวกเขาเพียงแต่ว่านั้น
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปกติโดยทั่วไป หากว่าพวกเขาได้มี
โอกาสในการร่วมรักกับสาวงามนั้นก็อาจยิ่งทาให้พวกเขาได้ปลดปล่อย
อารมณ์ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ตรงข้ามหากพวกเขาต้องร่วมรักกับหญิงสาวผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์
นั้นก็อาจทาให้พวกเขาต้องใช้เวลาอย่างยาวนานจนกระทั่งอาจจะ
ล้มเลิกไปก่อน แต่ชายหนุ่มรับใช้เขาไม่มีตัวเลือกเช่นนั้นด้วยสายตา
ของหลินหมิงที่ยังคงจ้องมองมาอยู่เขาทาได้เพียงกระแทกเอวของเขา
ไปอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
ยังนับว่าโชคดีอยู่บ้างว่าด้วยรูทวารที่มีขนาดคับแน่นเป็นอย่างมาก
นั้นมันยังคงทาให้เขาพอรู้สึกดีบ้าง แม้ว่าเขาต้องพยายามหลับตาเพื่อ
นึกฝันถึงร่างของสาวงามเสียแทน แน่นอนว่าแม้ภายในห้องนี้จะมีร่าง
ของสตรีผู้งดงามไม่ใช่น้อยถึงสองคนอีกทั้งพวกนางยังคงอยู่ในสภาพเป
ลื่อยเปล่าอีกด้วย !
แต่มันไม่มีทางที่ชายหนุ่มรับใช้ผู้นี้จะมีความกล้าหรือความโง่ที่
เพียงพอที่จะสามารถทาเช่นนั้น สาหรับบุรุษโดยทั่วไปแล้วพวกเขาไม่
นิยมยินยอมให้สตรีของเขาต้องตกเป็นของผู้อื่น พวกนางที่
เปรียบเสมือนสมบัติส่วนตัวของเขาหากเป็นเช่นนั้นแล้วมันก็เหมือน
พวกเขาโดนตบหน้าแล้วถูกแย่งชิงสมบัติไป ดังนัน้ แล้วหากชายหนุ่ม
รับใช้กล้าแม้เพียงแต่จะมองไปเรือนร่างของหญิงสาวทั้งสองแล้วนั้น
อาจเป็นจุดจบของชีวิตของเขาในทันทีก็เป็นได้
สาหรับหลินชูแม้ว่าในตอนแรกมันจะส่งเสียงร้องออกมาอย่าง
ทรมาน เพียงแต่ว่าเมื่อผ่านไปได้ไม่นานเสียงร้องของมันก็หยุดลง
พร้อมกับกองเลือดใหญ่ที่ถูกพ้นออกมาจากปากของมันเป็นจานวน
มาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลินชูในตอนนี้มันได้แค้นใจและอับอายจน
กระอักเลือดออกมาเป็นสายธาร !
ใช้เวลาราวกว่าครึ่งชั่วยามชายหนุ่มรับใช้จึงเสร็จสมในกิจของเขา
เมื่อเขามองยังร่างของนายน้อยของเขาในตอนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
อนาคตของนายน้อยของเขาในตอนนี้มันคงได้รับการเปลี่ยนแปลง
อย่างยิ่งใหญ่ แต่มันย่อมไม่ใช่ในแง่ดีอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยเขาก็
ยังคงสามารถรักษาชีวิตนายน้อยของเขาเอาไว้ได้ แต่เมื่อคิดย้อนกลับ
ไปไม่ใช่ว่าหากเป็นเช่นนี้แล้วนายน้อยของเขาคงได้สังหารเขาในทันที
เพื่อล้างความอับอายอย่างนั้นหรือ ?
" ทาได้ไม่เลว "
หลินหมิกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงพึงพอใจอย่างแท้จริงด้วยสภาพ
ของหลินชูในตอนนี้มันอาจเรียกได้ว่าสภาพของเขามันนั้นย่าแย่เสียยิ่ง
กว่าหลินเสี่ยวต้าเสียอีก หลินหมิงจูบหญิงสาวข้างกายของเขาทั้งสอง
เพื่อกันการส่งลาแน่นอนว่าเขาไม่มีความคิดที่จะสังหารหลินชูหรือ
หว่านอิ๋งอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ว่าความแค้นของเขาหมดลงไปแล้ว
เพียงแต่ว่าการที่ปล่อยให้พวกเขาได้มีชีวิตอยู่ด้วยสภาพที่น่าอับอาย
นั้นมันย่อมเป็นความทุกข์ทรมานมากกว่าความตายเสียอีก
หลินหมิงดึงหน้ากากลงและสวมใส่อย่างมิดชิดอีกครั้งพร้อมกับจัด
เสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อย หว่านอิ๋งและเซี่ยงหรงในตอนนี้พวกนางได้
หมดสติไปอีกรอบนานแล้วในระหว่างที่ชายหนุ่มรับใช้กาลังทาการร่วม
รักกับหลินชูหลินหมิงไม่ถือโอกาสเช่นนี้ปล่อยให้พวกนางต้องว่างอย่าง
แน่นอน
ร่างของหลินหมิงเคลื่อนที่ออกมาจากตานักของหลินชูท่ามกลาง
ความมืดมิดด้วยความเงียบเฉียบสาหรับตานักของหลินชูนั้นผู้ที่
แข็งแกร่งที่สุดย่อมเป็นเซี่ยงหรงที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น 6 แม้ว่ามัน
จะยังคงมีระดับจอมยุทธ์ขั้นต้นอยู่บ้างแต่นั้นไม่นับเป็นปัญหาสาหรับ
หลินหมิงในการหลบซ่อนตัว
หลินหมิงตัดสินใจที่จะกลับออกไปจากตระกูลหลินในทันทีแม้ว่า
เป้าหมายของเขาแต่เดิมคือการมอบบทเรียนเล็กน้อยให้กับหลินชูและ
ปรากฎตัวเย้ยยันหลินเสี่ยวต้า เพียงแต่ว่าเขาได้ใช้เวลามากกับการ
มอบบทเรียนให้กับน้อยชายของเขาอีกอย่างในหัวใจของเขาในตอนนี้
รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากแล้วแม้ว่าจะไม่ได้เห็นสภาพของหลิน
เสี่ยวต้าและเหม่ยฮวาแต่มันก็ใช่ว่าเขาจะไม่สามารถจินตนาการได้
หลังจากที่ได้เห็นสภาพของหลินชูแล้ว
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
ทันใดนั้นระหว่างที่หลินหมิงกาลังเคลื่อนที่จนเข้าใกล้กับทางออกที่
อยู่ใกล้กับบริเวณที่ที่หลินหมิงเคยอาศัยอยู่เสียงแหวกอากาศจานวนดัง
ขึ้นพร้อมกับร่างของผู้คนจานวนนับสิบคนที่ปรากฎขว้างทางออกของ
หลินหมิงเอาไว้ !
คิ้วของหลินหมิงขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด ด้วยจานวนของ
ร่างที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ทั้งหมดพวกเขาล้วนมีพลังไม่ต่ากว่า
ระดับจอมยุทธ์ ! นั้นแสดงได้ว่าร่างตรงหน้าของเขาทั้งหมดนี้คือผู้
อาวุโสของตระกูลหลิน ลาพังเพียงคนที่อ่อนแอ่ที่สุดจากบรรดาสิบคน
นี้เขายังคงมีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 2
" ฮึ..เจ้าคิดว่าตระกูลหลินแห่งนี้เป็นโรงเตี้ยมที่เจ้าสามารถเข้าออก
เมื่อใดก็ได้อย่างนั้นหรือ ? "
เจ้าของเสียงที่พูดออกมาในตอนนี้แฝงไปด้วยพลังอานาจที่ทาให้
แม้แต่หลินหมิงในตอนนี้ยงั คงรู้สึกเกรงกลัว แม้ว่าหลินหมิงจะไม่
สามารถจับสัมผัสของพลังของเจ้าของเสียงหวานนี้ แต่เขารู้ระดับความ
แข็งแกร่งของนางเป็นอย่างดี เพราะว่าตัวตนที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ในตอนนี้แม้กระทั่งเหม่ยฮวา หรือหว่านอิ๋งที่มีฐานะสูงส่งภายใน
ตระกูลพวกนางก็ยังคงต้องกลัวเกรงให้กับหญิงสาวผู้นี้ !
' บัดซบ ! ผู้อาวุโสฝ่ายลงทัณฑ์ หลินฉินเหยา ! '
หลินฉินเหยา
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามไม่แพ้หญิงงามในวัยใกล้เคียงอย่างเซี่ยง
หรง หรือกระทั่งอาจพอเปรียบเทียบได้กับเทพธิดาในดวงใจของหลินห
มิงแม้ว่านางจะยังคงเป็นรองอยู่ไม่น้อยก็ตาม ด้วยการปรากฎตัวของ
นางแม้กระทั่งหลินเสี่ยวต้า หลินชูที่แข็งกล้าไม่ยอมต่อผู้ใดยังคงต้อง
อ่อนน้อมลงไป เพราะว่านางคือผู้อาวุโสสูงสุดของฝ่ายลงทัณฑ์ภายใน
ตระกูลหลิน
สาหรับความแข็งแกร่งของนางแล้วนั้นจากที่หลินหมิงเคยได้ยินมา
ความแข็งแกร่งของนางภายในตระกูลแห่งนี้นับเป็นอันดับสองรอง
เพียงหลินฮ่าวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าหญิงสาวนางนี้จะต้องอยู่ใน
ระดับปราญช์อย่างแน่นอน !
หลินหมิงไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดนางจึงล่วงรู้ว่าเขาเข้าภายในตระกูล
หลินแห่งนี้ ด้วยความเป็นจริงแล้วหากจะกล่าวว่านางล่วงรู้ถึงการบุก
รุกของเขาแล้วเหตุใดนางถึงไม่เข้าสกัดเขาตั้งแต่ทีแรก อีกทั้งหากจะ
กล่าวว่านางเพิ่งพบตัวเขาในภายหลังนั้นก็ดูจะไม่สมเหตุสมผล
เนื่องจากจานวนคนที่โผล่ออกมาทั้งหมดในตอนนี้ราวกับว่าพวกนางได้
เฝ้ารอการปรากฎตัวของหลินหมิงเสียแต่แรกแล้ว แต่ยังนับว่าโชคดี
ของหลินหมิงที่ดูเหมือนว่านางจะยังคงไม่ล่วงรู้ถึงโฉมหน้าของเขา แต่
ถึงอย่างไรซะด้วยระดับพลังที่แตกต่างกันมากถึงเพียงนี้มันคงขึ้นอยู่กับ
เวลาเพียงเท่านั้น
" จับตัวมัน ! "
ภายใต้คาสั่งของหลินฉินเหยาร่างของผู้อาวุโสวัยกลางคนที่มีพลัง
อ่อนแอ่ที่สุดในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 2 เคลื่อนที่เข้าหาหลินหมิงเพื่อหวัง
จับกุมอย่างรวดเร็ว แม้ว่าหลินหมิงจะมีผ้าคลุมที่สามารถช่วยอาพราง
พลังของเขาได้แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์อย่างผู้
อาวุโสฝ่ายลงทัณฑ์ผู้นี้แล้วสมบัติชิ้นนี้มันไม่ต่างอะไรไปจากผ้าขี้ริ้ว
เท่านั้น
นางสามารถสัมผัสได้ถึงการบ่มเพาะของหลินหมิงที่มีเพียงปราณ
ก่อเกิดขั้น 9 เท่านั้นดังนั้นลาพังเพียงผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสอง
นั้นก็นับได้ว่าเกินพออย่างยิ่ง
ผู้อาวุโสวัยกลางคนที่ได้รับคาสั่งจากฉินเหยาเคลื่อนกายเข้าหา
หลินหมิงอย่างรวดเร็วเพื่อหวังปิดฉากการต่อสู้นี้ในทันที ลาพังเพียง
ความแตกต่างระหว่างระดับจุดสูงสุดขั้น 9 ของปราณก่อเกิดกับผู้ที่มี
พลังระดับจอมยุทธ์นั้นก็นับได้ว่าไม่สามารถเทียบกันได้แล้ว แล้ว
ในตอนนี้ตัวของเขาที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น 2 ยังคงต้องมีสิ่งใดกลัว
เกรงกัน
หลินหมิงไม่รอช้าเขารีบนาอาวุธออกมาแหวนมิติในทันทีแต่มัน
ย่อมไม่ใช่ทวนตามปกติที่หลินหมิงเคยใช้มันเป็นทวนที่เขาได้รับมาจาก
ผู้อาวุโสฟางซิ่นแน่นอนว่ามันยังคงมีระดับใกล้เคียงกับทวนสีดาที่เข้า
กับรูปลักษณ์พลังของเขาก่อนหน้านี้ไม่มากก็น้อย
แน่นอนว่าแม้ในตอนนี้หลินหมิงจะใช้ทวนเป็นอาวุธแต่เขายังคงไม่
มีความจาเป็นที่จะต้องกังวลว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยอย่างน้อยก็
ในตอนนี้นั้นก็เป็นเพราะว่าในการประลองที่ผ่านไม่นานนี้ตัวเขามี
ระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับปราณก่อเกิดขั้น 7 แต่ในตอนนี้ตัวเขา
หลังจากได้ร่วมรักกับหย่าเฟยมารดาของหลิวฉวนยูร์และได้รับสายฟ้า
ประหลาดมามันทาให้เขาอยู่ในระดับ 9 ขั้นก่อเกิดแล้ว เช่นนี้แล้วมัน
คงไม่มีผู้ใดคาดคิดถึงว่าเขาจะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
ตอนที่ 132
เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ผู้อาวุโสของตระกูลหลินทั้งหลายรู้สึกยิ้มเยา
อย่างเย้ยยัน การที่ชายสวมหน้ากากผู้นี้กล้านาอาวุธของเขาออกมา
แทนที่เขาจะกล่าววาจาขอร้องอ้อนวอน นี้นับเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่
อยากจะเชื่อ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าชายส่วมหน้ากากผู้นี้จะ
เลือกหนทางใดจุดจนของเขาเมื่อตกต้องอยู่ในเมื่อของผู้อาวุโสฉินเหยา
ผู้โหดเ**้ยมก็คงไม่ต่างกัน
เพียงแต่ว่าหากมีคนหนึ่งร้อยคนต้องมาเจอสถานการณ์เดียวกับ
ชายสวมหน้ากากผู้นี้แล้วคงมีผู้ที่เลือกหนทางกล่าวอ้อนวอนอยู่ราว 99
คนส่วนอีกหนึ่งคนนั้นพวกเขายกให้เป็นกรณีตัวอย่างอันโง่งมของชาย
ตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้
แม้ว่าผู้อาวุโสของตระกูลหลินที่กาลังเข้าทาการจู่โจมหลินหมิงจะ
พบว่าเป้าหมายของเขาได้มีการนาอาวุธออกมาแต่สาหรับเขาแล้วนั้น
เรืองเหล่านี้ไม่นับว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด ต่อให้ชายสวมหน้ากากผู้นี้
จะมีมือเพิ่มขึ้นมีสักสองข้างแล้วล้วนถืออาวุธคุณภาพสูงทั้งหมดนั้นมัน
ก็ยังคงไม่สามารถก้าวข้าวความแตกต่างระหว่างพวกเขาในตอนนี้ไปได้
กาปัดเปล่าซึ่งไร้ซึ่งทักษะใดๆถูกปลดปล่อยออกไปอย่างไม่ใส่ใจ
แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ตัวของผู้อาวุโสผู้นี้ยังคงเป็นผู้ที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์ขั้น 2 ดังนั้นแล้วเขาย่อมคาดหวังว่าชายสวมหน้ากากผู้นี้คงหมด
สภาพไปในทันทีเมื่อต้องรับการโจมตีของเขาในหมัดนี้
ปัง !
เพียงปะทะอย่างรุนแรงพร้อมกับร่างกายของหลินหมิงที่ถึงกับรู้สึก
สั่นไหวจากภายใน ตัวตนระดับจอมยุทธ์นั้นมีความแข็งแกร่งมากเสีย
ยิ่งกว่าลี่เฉิงที่เขาเพิ่งเคยต่อสู้อย่างเทียบไม่ติด ใบหน้าของผู้อาวุโส
จากตระกูลหลินปรากฎร่องรอยแห่งความประหลาดใจขึ้นมา อันที่จริง
แล้วแม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหมัดของสหายของพวก
เขาที่ปลดปล่อยออกไปนั้นยังคงไม่ใช่พลังเต็มสิบส่วนแต่พวกเขาก็
มั่นใจได้ว่ามันย่อมไม่ใช่พลังที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับปราณก่อเกิดจะสามารถ
ทนได้ !
ร่างของหลินหมิงไถลไปสองสามก้าวพร้อมกับอาการบาดเจ็บ
ภายในเล็กน้อย ผู้อาวุโสตระกูลหลินผู้นี้ถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมา มันไม่ใช่
ว่าเขาจะมีความกังวลอะไรในการต่อสู้ครั้งนี้เพียงแต่ว่าด้วยผลการประ
มือในครั้งแรกนี้ แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้ใช้พลังเต็มที่แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างที่
จะสามารถกล่าวได้ว่าเหตุใดผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดขั้น 9 จะสามารถ
รับมือกับการโจมตีของเขาได้
อีกทั้งกระบวนท่าการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ยังคงต้องอยู่ภายใต้สายตา
อันน่าหวาดหวั่นของผู้อาวุโสฉินเหยา ! ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ใบหน้าอัน
งดงามของนางกาลังคิดสิ่งใดอยู่ แต่มันเป็นที่รู้กันดีว่าหากมีผู้ใดที่ทาให้
หญิงสาวผู้นี้ไม่พอใจแล้วละก็ชีวิตของเขาคงได้พบเจอกับสิ่งที่เลวร้าย
มากเสียยิ่งกว่าความตาย !
เขาตัดสินใจพุ่งเข้าหาชายสวมหน้ากากผู้นี้อีกครั้งไม่ว่าจะอย่างไร
แล้วผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดย่อมไม่มีทางที่จะสามารถเอาชนะผู้ที่มีพลัง
ระดับจอมยุทธ์ได้ ความเร็วของเขาพุ่งสูงขึ้นจนแทบจะไม่สามารถเห็น
ได้แม้แต่เงาของเขาแต่นั้นเป็นเพียงสาหรับสายตาของคนทั่วไปเท่านั้น
ร่างของผู้อาวุโสตระกูลหลินผู้นี้โผล่มาด้านหลังของหลินหมิงด้วย
ความเร็วที่น่าตื่นตะลึง เขามั่นใจเป็นอย่างสูงว่าด้วยหมัดนี้ของเขามัน
จะสามารถส่งร่างของชายสวมหน้ากากผู้นี้ให้กระเด็นไปนอนก้มกราบ
เท้าผู้อาวุโสฉินเหยาได้ในทันที !
หลินหมิงหันกลับมาตอบสนองต่อร่างของผู้อาวุโสทีกาลังโจมตี แต่
ทว่าสาหรับผู้อาวุโสผู้นี้แล้วนั้นเขาคิดว่าแม้ชายสวมหน้ากากผู้นี้จะมี
ความสามารถในการตอบสนองที่เป็นเลิศเพียงแต่ว่ามันก็ยังคงช้าไปสัก
เล็กน้อย ร่างของหลินหมิงกระโดดถอยหลบออกไปด้านข้าง ด้วยการ
ตอบสนองที่ดูผิดธรรมชาตินี้มันไม่สามารถทาให้หลินหมิงสามารถที่จะ
รอดพ้นการโจมตีของผู้อาวุโสผู้นี้ได้
ปัง !!
ร่างของหลินหมิงถูกส่งกระแทกไปอย่างรุนแรงไปไกลหลายสิบ
เมตร แม้ว่ามันจะผิดจากที่ผู้อาวุโสตระกูลหลินผู้นี้หวังไว้เล็กน้อยที่ไม่
สามารถส่งร่างของหลินหมิงไปนอนแนบเท้าของผู้อาวุโสฉินเหยาได้แต่
เท่านี้มันก็น่าจะเกินพอแล้ว แต่ทันใดนั้นขณะที่เขากาลังยิ้มอย่างมี
ความสุขและสบายใจที่สามารถล้างความอับอายจากการจู่โจมในครั้ง
แรกได้ พลันเกิดความรู้สึกแปลกที่บริเวณร่างกายของเขา
พลังปราณในร่างล้วนแตกซ่านจนเขาไม่สามารถรวบรวมมันได้อกี
ต่อไป ไม่เพียงเท่านั้นความเจ็บปวดที่กาลังแล่นสู่สมองอย่างรวดเร็วมัน
เป็นความรู้สึกเจ็บปวดจนเขาแทบรู้สึกจะเจียนตา เลือดจานวนมากถูก
พ่นออกมาจากปากของเขา ทันใดนั้นเมื่อเขาสัมผัสไปที่หน้าอกของ
ตนเอง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงสัมผัสเปียกอันแสนอบอุ่นและความ
เจ็บปวด
' บาดแผล ? ตะ..ตั้งแต่เมื่อใดกัน '
ภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของผู้อาวุโสที่เหลืออย่าง
ชัดเจน ในตอนนี้แมแต่ผู้อาวุโสฉินเหยายังขมวดคิ้วเข้าหากันด้วย
อารมณ์ซับซ้อน แน่นอนว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นบนร่างของผู้อาวุโสที่
กาลังทาการสู้กับชายสวมหน้ากากนางเองก็ยังคงไม่รู้แน่ชัดว่ามัน
เกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นแล้วไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโสที่เหลือ
พวกเขาตอบสนองในทันทีพร้อมกับมองไปยังร่างของชายสวม
หน้ากากที่เมื่อครู่เพิ่งจะทาการถูกโจมตีไป อันที่จริงแล้วภาพตรงหน้า
ของพวกเขาสมควรเป็นร่างของทั้งสองที่สลับบาดแผลกันไม่ใช่หรอ แต่
แล้วเหตุใดชายสวมหน้ากากผู้นี้หลังจากที่รับการโจมตีของสหายของ
พวกเขาเข้าไปแล้วยังคงถึงได้ลุกยืนขึ้นในสภาพที่ดูราวกับไร้ซึ่งอาการ
บาดเจ็บใดๆ
ภายใต้ความสงสัยของทุกคนหลินหมิงรีบลุกขึ้นพร้อมกับก้าวเท้า
หลบหนีอย่างรวดเร็ว ในก่อนหน้านี้เขาจงใจให้ผู้อาวุโสของตระกูล
หลินนั้นสามารถจู่โจมเข้าหาเขาได้โดยง่ายเพียงแต่ว่าในจังหวะที่ร่าง
ของเขากาลังจะถูกปะทะหลินหมิงใช้เวลาชั่วอึดใจในการเรียกปราณ
เพลิงทมิฬของเขาขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายของ
เขาเพียงชั่วครู่แต่เท่านี้มันก็เพียงพอที่จะทาให้เขาสามารถรอดพ้นจาก
หมัดของผู้อาวุโสผู้นี้ได้ และอาศัยจังหวะนั้นในการนาแรงปะทะพร้อม
กับเตรียมดีดตัวถอยหลังอยู่ก่อนหน้าแล้วด้วยวิธีเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะ
สามารถทาให้เขาสามารถสร้างระยะห่างได้อย่างน่าพึงพอใจ แต่มัน
ยังคงสามารถลดแรงปะทะของเขาไปได้อีกด้วย
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่มีทางที่จะปล่อยให้ตนเองถูกโจมตีอยู่ฝ่าย
เดียว ที่บริเวณนิ้วของเขาได้ใช้ทักษะอันเยี่ยมยอดที่สุดของเขา [
ดรรชนีเพลิง ] ในรูปแบบที่ได้รับการพัฒนาจากการหลอมหลวม
พลังงานสายฟ้าประหลาดเข้าไป ด้วยผลลัพธ์ในตอนนี้ผู้ที่มีพลังระดับ
จอมยุทธ์ขั้นที่ 2 ก็ยังคงพบกับความทรมานที่ส่งผลภายในร่างกาย
อย่างรุนแรงและด้วยปราณสายฟ้าที่อยู่ภายในร่างของเขา มันเป็นไป
ไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถขยับตัวหรือโคจรพลังปราณเพื่อรักษา
หลินหมิงอาศัยจังหวะนี้เพื่อทาการหลบหนีในทันทีแม้ว่าทางออกที่
บริเวณทางด้านป่าด้านหลังจะถูกบดบังด้วยผู้อาวุโสจากแผนกลงทัณฑ์
ที่เหลืออีก 9 คนแต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเข้าออกอื่น แน่นอนว่าทาง
เหล่านั้นย่อมเป็นเส้นทางหลักที่ผู้คนภายในตระกูลใช้เข้าออกดังนั้น
แล้วมันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่หลินหมิงอาจต้องพบเจอกับผู้อาวุโส
จากตระกูลหลินอีก เพียงแต่ว่าไม่ว่าจะอย่างไรมันก็ยังคงดีกว่าการ
เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสฉินเหยานางนี้ !
ในขณะที่หลินหมิงกาลังคิดว่ากลุ่มของผู้อาวุโสที่เหลือทั้ง 9 พวก
เขาคงต้องทุ่มเวลาไปกับการรักษาสหายของพวกเขา และถึงแม้ว่าพวก
เขาทั้ง 9 จะไม่ได้มคี วามเป็นห่วงสหายเพื่อนของเขาทั้งหมดแต่อย่าง
น้อยด้วยพลังปราณที่กาลังสับภายในร่างของผู้อาวุโสผู้นั้นอย่างน้อย
ที่สุดมันย่อมต้องให้ผู้อาวุโสฉินเหยาดูแล การที่เขาสามารถทาให้นางวุ่
ยวายได้เช่นนี้นับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของเขาเป็นอย่าง
มาก
" เจ้าคิดจะไปที่ใดกัน ! "
แต่ว่าดูเหมือนลินหมิงระประเมิณความเ**้ยมอามหิตของผู้อาวุโส
สาวผู้โหดเ**้ยมผู้นี้น้อยไป ไม่เพียงแต่นางจะไม่เข้าทาการช่วยเหลือผุ้
อาวุโสที่ได้รับบาดเจ็บ นางกระทั่งไม่ได้แหลตาไปมองร่างที่กาลังนอน
ทุรนทะรายอยู่ในตอนนี้เลยเสียซ้าไป ตรงข้ามแล้วหากร่างนี้ยังคงร้อง
ด้วยเสียงที่น่าราคานมากขนาดนี้นางอาจส่งมันไปทัวร์นรกเพื่อเยี่ยม
เยียนยมบาลเสียหน่อย

ตอนที่ 133
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะผ่านการร่วมรักกับผู้อาวุโสเซี่ยงหรง
มาแล้วเพียงแต่ว่ามันย่อมใช้เวลาอยู่พอสมควรในการที่จะปรับสภาพ
พลังปราณของเขา เช่นเดียวกันกับในกรณีของหย่าเฟยมารดาของ
หลิวฉวนยูร์เพียงแต่ว่าในตอนนั้นหลินหมิงได้ใช้เวลาร่วมรักกับหญิง
สาวยาวนานถึง 3 วันเต็ม มันจึงทาให้เขาสามารถตรวจสอบพลังปราณ
ได้ในทันทีเพราะว่าพลังปราณของเขานั้นเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันแรกแล้ว
ผู้อาวุโสแทบทุกคนอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกในทันทีเมื่อได้เห็น
สหายของพวกเขาลงไปนอนกองกับพื้นอย่างทุรมาน แม้ว่าจะมีบ้างคน
ที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาล้วนก็ต้องขมวดคิ้วเข้า
หากันอย่างเคร่งเครียดบาดแผลที่สหายของเขาได้รับนั้นแม้จะเป็น
บาดแผลเพียงเล็กน้อยแต่มันกลับส่งผลภายในอย่างน่าหวาดหวั่น !
โอสถระดับสูงจานวนมากถูกถ่ายโอนเข้าไปภายในปากของผู้อาวุโส
ที่กาลังนอนดิ้นอย่างทุรนทุราย พร้อมกับผู้อาวุโสที่เหลือที่กาลังโคจร
พลังเพื่อช่วยรักษาบาดแผลภายในให้กับสหายของเขา มันไม่ใช่ว่าพวก
เขาไม่เคยพบเห็นการโจมตีที่ส่งผลถึงภายในเช่นนี้ แต่พวกเขาไม่เคย
พบเห็นทักษะใดที่สามารถส่งผลถึงภายในได้รุนแรงมากขนาดนี้ หากผู้
ที่ต้องรับมือกับการโจมตีมีพีงปราณไม่
ลั ถึงระดับจอมยุทธ์แล้วละก็มัน
คงยากที่จะคาดเดาว่าชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นจะจบลงเช่นไร
แม้จะมีบางคนที่หวนนึกถึงบาดแผลของลี่เฉิงที่ได้รับจากหลินหมิง
แต่พวกเขาไม่คิดว่าชายสวมหน้ากากผู้นี้จะเป็นหลินหมิงอย่างแน่นอน
เพราะว่าด้วยพลังของชายสวมหน้ากากนี้คือปราณก่อเกิดระดับ 9
ส่วนของหลินหมิงที่พวกเขารู้จักนั้นยังคงมีพลังระดับก่อเกิดขั้น 7
เท่านั้น และอีกอย่างบาดแผลที่ส่งผลถึงภายในตัวของสหายพวกเขานี้
มันยังคงมีร่องรอยของพลังงานปราณสายฟ้าซึ่งหลินหมิงไม่มีคุณสมบัติ
เหล่านี้
ผู้อาวุโสฉินเหยาพร้อมกับผู้อาวุโสอีกสองคนที่อยู่ในระดับปราณ
จอมยุทธ์ระดับ 7 ออกติดตามหลินหมิงด้วยความเร็วที่น่าถึง ดู
เหมือนว่าแผนการณ์ที่หลินหมิงได้วางเอาไว้มันยังคงไม่เพียงพอที่เขา
จะสามารถรอดชีวิตในสถานการณ์นี้ได้ ด้วยความเร็วของผู้อาวุโสฉิน
เหยาที่อยู่ในระดับปราญช์เพียงแค่ไม่กี่อึดใจนางก็สามารถแซงมาดักที่
ด้านหน้าของหลินหมิงได้อย่างง่ายดาย
" เอาล่ะแล้วทีนี้เจ้าจะทาเช่นไรต่อ ? จะเช่นทักษะที่แปลก
ประหลาดนั้นโจมตีข้า ? หรือผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเจ้าทั้งสองคน ? แต่
ไม่ว่าเจ้าจะเลือกทางไหนข้าสามารถบอกได้เลยว่าเจ้าไม่มีทางรอด
เงื้อมมือของข้าไปได้...แต่หากเจ้ายังคงต้องการให้ข้าราคาญใจไป
มากกว่านี้ข้าสัญญาเลยว่าข้าจะจัดเตรียมการทรมานอันยอดเยี่ยมที่ยิ่ง
กว่านรกให้เจ้าได้รับชม ! "
น้าเสียงของผู้อาวุโสฉินเหยาเต็มไปด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น
แม้ว่าหลินหมิงจะสามารถใช้ทักษะ [ ดรรชนีเพลิง ] กับผู้อาวุโสก่อน
หน้าได้ แต่นั้นเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายประมาทเขามากเกินไป แต่กลับ
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสฉินเหยาจะรู้ว่าเขามีทักษะที่
ต้องระวัง แต่มันยังคงมีเรื่องของความห่างชั้นระหว่างพวกเขาที่ยังคง
มากเกินไป แม้ว่าทักษะของเขาจะสามารถจัดการผู้อาวุโสเหล่านี้ได้
แต่นั้นเท่ากับว่าเขาต้องใช้ทักษะนี้อีกถึง 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย แต่
ด้วยพลังปราณของเขาในตอนนี้หลินหมิงเกรงว่าเขาคงสามารถใช้ได้
อีกแค่สองครั้ง ด้วยประสิทธิภาพของมันที่ได้รับการพัฒนาจาก
พลังงานประหลาดไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันย่อมแลกมากับพลังงานของ
เขาที่ถูกผลาญไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นหลินหมิง
ไม่มีความมั่นใจเลยว่าทักษะของเขาจะสามารถเอาชนะผู้อาวุโสผู้
งดงามตรงหน้านี้ของเขาได้
ผู้อาวุโสสองคนที่อยู่ด้านหลังของหลินหมิงพุ่งเข้าหาหลินหมิงด้วย
ความเร็วที่มากกว่าผู้อาวุโสก่อนหน้านี้ที่หลินหมิงจัดการแบบเทียบไม่
ติด ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้หลินหมิงไม่สามารถใช้พลังของเขาแบบ
ครึ่งๆกลางได้อีกต่อไป ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์
ขั้นที่ 7 นาซ้ายังมีถึง 2 คน !
ร่าของหลินหมิงปรากฎเปลวเพลิงสีดาทมิฬที่ทาให้ทุกคนที่นี้ล้วน
ชะงักเล็กน้อย ไม่เพียงเท่านั้นในตอนนี้ที่บริเวณทวนของหลินหมิง
ยังคงมีพลังงานสายฟ้าปกคลุมโดยรอบ นี้นับเป็นการต่อสู้ที่หลินหมิง
ต้องใช้พลังงานเต็มที่อย่างแท้จริง !
" ฮ่าห์ !! "
ด้วยกวาดกวัดแกว่งทวนของหลินหมิงในครั้งนี้เพื่อเข้าต้านรับกับ
การโจมตีของผู้อาวุโสทั้งสอง คลื่นพลังงานจากเปลวเพลิงทมิฬและ
พลังงานสายฟ้าจานวนมากถูกนาไปใช้กับการโจมตีครั้งนี้ของหลินหมิง
จนพลังงานในร่างของเขาแทบจะหมดไป
แม้ว่าพวกเขาจะมีความแตกต่างในเรื่องของเขาความเร็วอยู่มาก
เพียงแต่ด้วยพลังงานของสายฟ้าที่กาลังเอ่อล้นที่ร่างของหลินหมิงนั้น
มันทาให้สัมผัสของเขาชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างมากราวกับว่าในตอนนี้สมอง
ของเขาถูกกระตุ้นให้ทางานด้วยศักยภาพที่เกินสิบส่วนไปแล้ว
บรึ้ม !!
แรงปะทะระหว่างผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดขั้น 9 กับผู้ที่มีพลังระดับ
จอมยุทธ์ขั้น 7 ถึงสองคนส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดขนาดใหญ่คลื่นลมอัน
เป็นผลมาจากการปะทะสามารถพัดผ่านร่างของมนุษย์ที่อยู่ใกล้นี้ให้
สามารถลอยในท้องฟ้าเพียงชั่วครู่ได้อย่างง่ายดาย
" อั่กกก ! "
แม้ว่ามันจะเป็นการโจมตีที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหลินหมิงในตอนนี้
แล้วเพียงแต่ว่ามันยังคงไม่เพียงพอต่อการรับมือผู้ที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์หากเป็นพวกเขาเพียงคนเดียวด้วยพลังของหลินหมิงเมื่อสักครู่มัน
อาจทาให้พวกเขาได้รับบาดแผลได้บ้างแต่เมื่อระดับจอมยุทธ์สองคน
รวมพลังกันมันเป็นภาพที่น่ากลัวยิ่งสาหรับผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิด แม้
จะมีพวกเขาอีกนับพันนับหมื่นมันก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสามารถ
เอาชนะผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์สองคนนี้ได้ !
ร่างของหลินหมิงถูกส่งลอยไปไกลหลายสิบเมตรจนชนเข้ากับต้นไม้
ใหญ่ ในตอนนี้หลินหมิงรู้สึกราวกับว่าร่างกายภายในทุกส่วนของเขา
ถูกระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งด้วยพลังงานที่เขาได้ใช้ไปจนหมดสิ้น
ในตอนนี้มันจึงทาให้เขายากที่จะสามารถรักษาสภาพของตนเองเอาไว้
ได้
ด้วยพลังของชายสวมหน้ากากที่แสดงออกมามันทาให้แม้แต่ผู้
อาวุโสฉินเหยายังคงรู้สึกตื่นตระหนก อีกทั้งด้วยเปลวเพลิงสีดาอันน่า
สะอิดสะเอียนนั้นมันไม่ใช่ว่ามันดูคุ้นๆอย่างนั้นหรือ ?
โดยไม่ทันที่พวกเขาจะต้องนึกสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของชายสวม
หน้ากากผู้นี้อีกต่อไป ด้วยพลังของแรงปะทะเมื่อสักครู่พลันเกิดรอย
ร้าวจนยากที่จะสามารถหวนคืนได้ที่บริเวณหน้ากากที่หลินหมิงกาลัง
สวมใส่แม้ว่ามันจะเป็นสมบัติระดับสูงแต่อย่างไรเสียความสามารถของ
มันย่อมเป็นการอาพรางและปลอมแปลงตนให้กับผู้ใช้มันไม่ได้มี
ความสามารถในการต่อสู้ใดๆเลย
เพล้ง
เสียงราวกับกระจกแตก ภาพที่อยู่เบื้องหน้านี้ทาให้เหล่าผู้อาวุโสทั้ง
สามถึงกับตาเบิกกว้างด้วยสีหน้ายากที่จะเชื่อ
' เป็นมัน !...ได้อย่างไรกัน..ไม่กี่วันที่ผ่านมามันยังคงอยู่ในระดับก่อ
เกิดขั้น 7 '
ด้วยความสามารถที่ก้าวกระโดดของหลินหมิงมันเพียงพอที่จะทา
ให้ผู้อาวุโสทั้งสองรวมถึงผู้อาวุโสฉินเหยาที่อยู่ในระดับปราญช์รู้สึก
หวาดหวั่น ด้วยเวลาไม่กี่วันเจ้าเด็กนี้กลับสามารถพัฒนาตนขึ้นมาได้ถึง
สองขั้น !
' สวรรค์ !! นี้มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอิจฉาอย่างยิ่ง '
ไม่เพียงแต่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะสามารถพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็ว
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่รากฐานของเขากลับมั่นคงเสียยิ่งกว่าผู้ที่มี
พลังระดับก่อเกิดขั้น 9 มาอย่างยาวนานหลายปีกระทั่งมันอาจเทียบได้
กับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นต้นเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าเด็กนี้
ยังคงสามารถเอาชนะผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น 2 ด้วย
กระบวนท่าเดียว และยังสามารถรับมือกับพวกเขาทั้งสองโดยที่ยังมี
ชีวิตรอด !
ความน่ากลัวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้มันถึงกับทาให้พวกเขาต้องหลั่ง
เหงื่อเย็นออกมาเป็นจานวนมาก ไม่ใช่ว่าหากให้เวลาเจ้าเด็กนี้สัก 1 ปี
ด้วยความสามารถอันน่าาตื่นตระหนกนี้มันก็คงสามารถสังหารพวกเขา
ได้ ! เช่นนั้นแล้วไม่ว่ายังไงก็จะปล่อยให้มันรอดไปไม่ได้
ความคิดนี้ไม่ใช่เฉพาะผู้อาวุโสสองคนเท่านั้นแต่ผู้อาวุโสฉินเหยาก็
ด้วยเช่นกันแม้ว่าความสามารถของนางจะอยู่ในระดับปราญช์แล้วแต่
หากเทียบกับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้นางแทบไม่ต่างจากคนธรรมดา ใครจะไป
รู้กันว่าหากเจ้าเด็กหนุ่มนี้ได้เวลาเติบโตอีกสักปีสองปีมันกระทั่งอาจ
กลายมาเป็นจอมยุทธ์ระดับสูงคนใหม่ และในอนาคตมันคงกระทั่งก้าว
ข้ามเข้าสู่ระดับปราญช์ได้อย่างไม่ยากเย็นอนาคตของมันนับว่าเป็นสิ่ง
ที่น่าอันตรายจนเกินไป !
มือของผู้อาวุโสฉินเหยาตวัดมืออย่างรวดเร็วนางไม่สามารถปล่อย
ให้เจ้าเด็กนี้เป็นภัยคุกคามใดๆต่อไปได้อกี แม้ว่าหลังจากวันนี้ไป
ตระกูลหลินจะต้องเผชิญหน้าเต็มตัวกับสมาคมนักปรุงยา แต่มันยัง
ดีกว่าการให้เจ้าเด็กนี้มีชีวิตรอดต่อไป !
เพียงแค่การสะบัดมืออย่างเรียบง่ายของผู้อาวุโสฉินเหยานแต่มัน
สามารถที่จะปลิดชีพของหลินหมิงได้โดยง่ายแม้แต่ผู้อาวุโสสองคนที่
เหลือพวกเขายังแทบมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของผู้อาวุโสฉินเหยา
เลยเสียด้วยซ้าไป
แต่ทันใดนั้นคลื่นพลังอันทรงอานาจของผู้อาวุโสฉินเหยากลับถูก
หยุดเอาไว้ลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับร่างที่ปรากฎขึ้นมาขว้างกั้น
ระหว่างพวกเขาและหลินหมิงเอาไว้

ตอนที่ 134
ผู้อาวุโสอีกสองคนใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงอัน
ที่จริงแล้วพวกเขาค่อนข้างมั่นใจในตนเองว่าด้วยอายุของพวกเขาที่
ล่วงเลย 40 จนเกือบจะถึง 50 ปีแล้วมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาย่อม
ต้องพบเจอประสบการณ์ต่างๆมามากมาย ดังนั้นแล้วมันเป็นเรื่องยาก
มากที่พวกเขาจะแสดงสีหน้าตกตะลึง
เพียงแต่ว่าภายในชั่วเวลาไม่นาน พวกเขาต้องตื่นตะลึงกับภาพ
ตรงหน้าไปอย่างมากมายเริ่มต้นด้วยชายสวมหน้ากากที่สามารถ
เอาชนะสหายของพวกเขาที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้น 2 ตามด้วยการ
ปะทะของชายสวมหน้ากากที่สามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของ
พวกเขาทั้งสองได้ ไม่เพียงเท่านั้นภายใต้หน้ากากนี้กลับเป็นบุคคลที่ทั่ว
ทุกคนในตระกูลหลินตอนนี้ย่อมรู้จักดี เด็กหนุ่มที่สามารถทาให้นาย
น้อยเสี่ยวต้าของพวกเขาต้องแทบจะหมดอนาคต
ที่ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีของผู้อาวุโสฉินเหยาที่พวกเขาไม่แม้แต่
กระทั่งจะสามารถมองเห็นได้อย่างถนัดแต่มันกลับถูกหยุดลงอย่าง
ง่ายดายโดยไร้ซึ่งแรงปะทะ ! ด้วยผลลัพธ์เช่นนี้มันย่อมแสดงให้เห็นว่า
ผู้ที่สามารถทาเช่นนี้ได้พวกเขาย่อมต้องมีพลังระดับปราญช์และจะต้อง
ไม่น้อยหน้าไปกว่าผู้อาวุโสระดับสูงอย่างผู้อาวุโสฉินเหยา !
" นี้มันหมายความว่ายังไงกัน ! "
เสียงของผู้อาวุโสฉินเหยากล่าวออกมาด้วยน้าเสียงไม่สบอารมณ์
แรงกดดันของผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ไหลออกมาอย่างท่วมท้นจนผู้
อาวุโสอีกสองแทบจะไม่สามารถยืนอยู่ได้อย่างปกติ แม้ว่าตอนนี้
สายตาของหลินหมิงจะเริ่มพร่ามั่วด้วยอาการบาดเจ็บที่ค่อนข้างจะ
รุนแรง แต่เขาสามารถเห็นร่างของคนที่เข้ามาช่วยเหลือเข้าได้ ทั่วทั้ง
พื้นที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่มองไม่เห็นด้วยแรงกดดันของผู้อาวุโส
ฉินเหยาที่ปลดปล่อยออกมาในตอนนี้นางสามารถสังหารผู้คนทั่วไปนับ
ร้อยได้ในชั่วพริบตา
เพียงแต่ร่างของชายวัยกลางคนที่เข้ามาขว้างกั้นการโจมตีของผู้
อาวุโสฉินเหยากลับไม่มีท่าทีสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้เมื่อ
ผู้อาวุโสอีกสองคนที่เหลือได้เห็นร่างของชายวัยกลางคนใบหน้าของเขา
เต็มไปด้วยความซีดเผือก !
" ทะ...ท่านประมุข ! "
หลินหมิงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะยังไม่มั่นใจเนื่องจากสายตาที่
กาลังพร่ามั่วอยู่ในตอนนี้แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงเรียกกล่าวของผู้อาวุโส
ทั้งสองที่ดังขึ้นมันทาให้เขาได้รับรู้ถึงบุคคลที่มาช่วยเขาเอาไว้ในทันที
' บัดซบ ! มันคิดจะทาอะไรกัน ! '
ร่างของชายวัยกลางคนที่ดารงตาแหน่งผู้นาของตระกูลใหญ่อย่าง
ตระกูลกล่าวได้ว่าเพียงแค่ผู้คนโดยทั่วไปหากได้ยินชื่อของเขา ในใจ
ของพวกเขาเหล่านั้นยังต้องถึงกับสั่นไหวด้วยความหวั่นเกรง แม้แต่ผู้
อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 ทั้งสองคนพวกเขายังคงต้องก้ม
หัวลงไปด้วยความเคารพอย่างไม่รู้ตัว สาหรับผู้อาวุโสฉินเหยาแล้วนั้น
หากคนที่เขามาขัดขวางนางเป็นประมุขสมาคมนักปรุงยาอาจารย์ของ
เจ้าเด็กนี้แล้วละก็
นางไม่มีความลังเลที่จะลงมือเข้าห่าหันกันเลยแม้แต่น้อย แม้ว่า
นางจะไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมีมากหรือน้อยกว่ามาก
เพียงใดแต่นนางยังคงเชื่อมั่นว่านางจะไม่จะไม่มีทางแพ้อีกฝ่ายที่ต้อง
กังวลกับร่างของหลินหมิง เพียงแต่ร่างที่ปรากฎตรงหน้านางกลับเป็น
ประมุขของนาง ? แน่นอนว่าที่นางสามารถรับรู้ได้ว่ามีบุคคลได้ล่วงล้า
เข้ามาภายในอนาคตตระกูลหลินนั้นย่อมเป็นประมุขตระกูลหลินผู้นี้ที่
บอกกล่าวกับนาง แต่ถึงอย่างนั้นทาไมเขาถึงได้มาขัดขวางนางเช่นนี้
เล่า !
เป็นที่แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของชายผู้นี้ย่อมแข็งแกร่งกว่านาง
อย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งแม้ว่านางจะสามารถค้นหาวิธีทางที่สามารถ
ทาให้ระดับการฝึกฝนของนางเท่ากับชายผู้นี้แต่ความห่างชั้นของนาง
และชายผู้นี้ก็ยังคงมากจนเกินไปอยู่ดี เพียงแค่อ่อร่าที่ปลดปล่อย
ออกมาจากตัวของชายผู้นี้แม้แต่ตัวนางก็ยังคงรู้สึกสั่นกลัวอยู่ภายในใจ
ดังนั้นแล้วนางไม่มีทางตัดสินใจกระทาเรื่องที่โง่งมอย่างการเป็นศัตรู
กับชายผู้นี้อย่างแน่นอน
ร่างของหลินฮ่าวเดินตรงมาหาหลินหมิงได้ไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้
อาวุโสฝ่ายลงทัณฑ์ทั้งสาม หลินหมิงเกิดความรู้สึกคับแค้นอยู่ในใจด้วย
สภาพของเขาในตอนนี้มันเป็นเรื่องง่ายมากหากบิดาของเขาต้องการที่
ทาให้เขากลับไปอยู่ในสภาพเดิมเช่นในอดีต ! แต่แล้วหลินหมิงกลับ
ต้องตกใจกับการกระทาของหลินฮ่าว เม็ดยารักษาระดับสูงที่คนทั่วไป
ไม่แม้แต่จะสามารถจินตนาการถึงมันได้ถูกดันส่งเข้าไปภายในปากของ
หลินหมิงโดยที่เขาแทบจะไม่ทันรู้สึกตัว
ก่อนที่หลินฮ่าวจะลุกและเดินกลับไปทางผู้อาวุโสฉินเหยาอีกครั้ง
หลินหมิงสามารถสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าที่เคยเรียบ
เฉยของบิดาของเขาเล็กน้อย
' ยิ้ม ? '
หลินหมิงลบความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้นทิ้งไปในทันที อันที่จริงแล้ว
สภาพของเขาอาจย่าแย่จนทาให้สายตาของเขานั้นมองเห็นไม่ชัดเจน
แม้ว่าจะได้รับเม็ดยารักษาแล้วแต่หลินหมิงก็ยังคงไม่สามารถขยับได้
ในตอนนี้
ร่างของหลินฮ่าวและผู้อาวุโสฉินเหยายืนประจันหน้ากันอย่างไม่มี
ใครยอมใคร ผู้อาวุโสอีกสองคนที่เหลือได้แต่กลืนน้าลายลงคอลงไปอึก
ใหญ่ แม้ว่าผู้อาวุโสฉินเหยาและประมุขหลินฮ่าวจะเป็นผู้ที่มีอานาจอัน
เป็นเสาหลักของตระกูลหลินเพียงแต่ด้วยการที่พวกเขาทั้งสองไม่ค่อย
ได้สนใจในเรื่องภายในตระกูลมากเท่าใดนักมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่
จะพบเห็นพวกเขาทั้งสองประจันหน้ากันเช่นนี้
" นี้มันหมายความว่าเช่นไรท่านประมุข...ไม่เพียงแต่ท่านจะยื่นมือ
เข้าขัดขวางข้าแต่ท่านยังคงรักษาให้กับศัตรูเช่นนี้.....อีกทั้งเจ้าเด็กผู้นี้
ยังเป็นคนที่ทาให้บุตรของท่านถึงกับไร้ซึ่งหนทางก้าวหน้าในอนาคต
เช่นนี้แล้วท่านกลับยังคงกระทาสิ่งที่ไร้ค่าเช่นนี้ "
" อันที่จริงแล้วฝ่ายที่ผิดนั้นไม่ใช่ข้าหรือกระทั่งเจ้าเด็กนั้น แต่เป็น
พวกเจ้าต่างหาก "
ผู้อาวุโสฉินเหยาขมวดติ้วด้วยความไม่เข้าใจ มันไม่มีเหตุผลใดๆที่
ตระกูลหลินสามารถยกโทษให้กับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ในสายตาของนางไม่
ว่าอย่างไรหลินหมิงย่อมต้องจบชีวิตลงภายในวันนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วนาง
คงไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจเป็นแน่
" ข้าไม่เข้าใจ "
" ตามกฎของตระกูลแล้วนั้นการที่รุ่นเยาว์ทาการปะทะกันระหว่าง
รุ่นเยาว์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ข้อห้ามนั้นก็เพื่อให้พวกเขาได้มีการแข่งขัน
เพื่อเติบโตขึ้น ! เพียงแต่ทั้งหมดนั้นจะต้องอยู่ในสายตาของผู้อาวุโส
ภายในตระกูล... "
ผู้อาวุโสฉินเหยาเริ่มเกิดโทสะขึ้นราวกับภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุ
ตลอดเวลาเขาคิดว่านางเป็นใครกัน ? นางคือผู้นาของฝ่ายลงทัณฑ์
เรื่องกฎของตระกูลเหล่านี้เปรียบเสมือนความรู้พื้นฐานของนางแล้ว
เขายังคงกล้ากล่าวออกมาต่อหน้านางเช่นนี้ หากเป็นผู้อื่นแล้วมันคงได้
ตายไปหลายร้อยครั้งแล้ว
" แต่การลงมือของผู้อาวุโสต่อรุ่นเยาว์นั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม.....
"
" ข้ารู้ ! แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ! ท่านกาลังยั่วโมโหข้า
อย่างนั้นรึ ! พวกเจ้าทั้งสองไปสังหารเจ้าเด็กนั้นซะ "
ผู้อาวุโสทั้งสองคนถึงกับเหงื่อตกอันที่จริงแล้วถ้าเป็นไปได้พวกเขา
อยากจะย้อนเวลากลับไปเพื่อรั้งรอทาการรักษาสหายของเขาแทนที่จะ
ติดตามผู้อาวุโสฉินเหยามา เห็นได้ชัดจากการยืนของประมุขของพวก
เขามันคงเป็นไปไม่ได้หากพวกเขาจะพุ่งไปสังหารหลินหมิง แต่ถึงอย่าง
นั้นพวกเขาก็ไม่สามารถขัดคาสั่งของผู้อาวุโสฉินเหยาได้ด้วย
เช่นเดียวกัน
" ข้าบอกพวกเจ้าแล้วไม่ใช่รึว่าการลงมือกับรุ่นเยาว์นั้นเป็นสิ่งที่ผู้
อาวุโสเช่นพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ "
" กฎนั้นมีไว้สาหรับผู้คนในตระกูลหลินเท่านั้น เจ้าเด็กนั้นมันเป็น
เพียงคนนอกหรือท่านจะกล่าวว่ามันเป็นคนในตระกูลหลินหรืออย่างไร
!"
" ถูกต้อง "
คาตอบของหลินฮ่าวทาให้ผู้อาวุโสฉินเหยาชะงักงัน แม้ว่านางจะไม่
ค่อยให้ความสนใจกับรุ่นเยาว์ภายในตระกูลเสียเท่าไหร่แต่นางก็รู้ดีว่า
เจ้าเด็กนี้มันย่อมไม่ใช่คนในตระกูลเป็นอย่างแน่นอน
" ใช่ไหมล่ะ..หมิงเอ๋อร์ "
ประโยคต่อมาของหลินฮ่าวทาให้ผู้อาวุโสทั้งสามพลันเข้าใจใน
เรื่องราวไม่มากก็น้อย หมิงเอ๋อร์ ? หลินหมิง ? นายน้อยหลินหมิง
! แม้ว่าในใจของพวกเขาจะปฎิเสธถึงคากล่าวของหลินฮ่าวแต่เมื่อพวก
เขาทั้งสามมองไปยังร่างของหลินหมิงที่กาลังลุกขึ้นอย่างยากลาบาก
พวกเขากลับพบว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มีใบหน้าคล้ายคลึงนายน้อยของ
พวกเขาที่แสนอ่อนแอ่ผู้นั้นอยู่หลายส่วน
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ! นายน้อยหลินหมิงนั้นเป็นเพียงขยะ
ที่มีคุณค่าเป็นเพียงที่ซ้อมมือให้กับรุ่นเยาว์ตนอื่น จะบอกว่าใน
ช่วงเวลาไม่กี่เดือนนี้เขาสามารถพัฒนาจากคนไร้ค่าเช่นนั้นมาจนถึงใน
ระดับนี้ !
" ขะ..ข้าไม่ใช่คนตระกูลเดียวกับพวกเจ้าอีกต่อไปแล้ว ! "
น้าเสียงของหลินหมิงที่กล่าวออกมาอย่างยากลาบากแต่มันทาให้ผู้
อาวุโสทั้งสองและผู้อาวุโสฉินเหยาราวกับได้ยินเสียงของหลินหมิงที่ดัง
กังวลยิ่งกว่าเสียงระเบิดอยู่ภายในร่าง ! ไม่ใช่คนในตระกูลอีกต่อไป
แล้ว ? แสดงว่าก่อนหน้านี้... ? ลาพังเพียงความสามามารถของหลินห
มิงที่แต่เดิมพวกเขาเชื่อว่าเป็นเพียงสามัญชนที่ได้รับการฝึกฝนและมี
พรสวรรค์ที่เหนือล้ายิ่งกว่าใครๆ นั้นก็แทบจะทาให้พวกเขาอิจฉาจน
แทบอยากจะฆ่าตัวตาย
แต่เด็กหนุ่มผู้นี้แล้วแต่เดิมนั้นเขาเป็นเพียงนายน้อยที่ไร้ซึ่งกาลัง
และความสามารถใดๆสถานะของเขาอาจเรียกได้ว่าต่าต้อยเสียยิ่งกว่า
สามัญชนธรรมดาทั่วไปที่อย่างน้อยพวกเขาเหล่านั้นยังคงมีอิสระใน
การทาสิ่งต่างๆ

ตอนที่ 135
" อ่า "
ใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งสองเปลี่ยนเป็นโง่งม อันที่จริงแล้วพวกเขา
สมควรดีใจที่ตระกูลได้ให้กาเนิดอัฉริยะที่หาได้ยากยิ่งในรอบหลายร้อย
หรือกระทั่งอาจหลายพันปีของอาณาจักร ! แต่อัจฉริยะตรงหน้าของ
พวกเขานี้เห็นได้ชัดว่าเขาได้มีความแค้นฝั่งลึกกับตระกูลหลินจนยากที่
จะรักษา แน่นอนว่าเมื่อเช่นนี้แทนที่มันจะส่งผลดีต่อตระกูลมันอาจส่ง
ผลร้ายเสียมากกว่า
" บุตรของท่าน ? เรื่องบ้าๆเช่นนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไร ! ไม่ใช่ว่า
เขาเป็นเพียงคนพิการที่ไร้ซึ่งความสามารถหรอกหรือ แต่เจ้าเด็กนี้เป็น
อัจฉริยะที่มีความสามารถที่ทาให้ฟ้าหวั่นเกรงได้แล้วมันจะเป็นคน
เดียวกันไปได้อย่างไร ! "
ผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้นางไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป
จากขยะไร้ค่าใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึงปีก้าวมาถึงจุดนี้ ! นี้มันเป็นสิ่งที่
นางไม่สามารถยอมรับได้กระทั่งเหล่าผู้คนทั่วไปก็ไม่สามารถเชื่อได้
ลง แต่แล้วเหตุใดเจ้าเด็กนี้ถึงได้มีความแค้นต่อตระกูลหลินละ ?
เพราะว่าความจริงแล้วเขาคืออดีตนายน้อยผู้ถูกกลั่นแกล้ง ? ทันใด
นั้นเมื่อนางหันไปสบตากาลังหลินหมิงที่กาลังจ้องมองร่างของหลินฮ่าว
ด้วยดวงตาว้าวโรจน์
' ช่างเหมือนกัน '
แววตาของหลินหมิงในตอนนี้ในความคิดของนางมันดูคล้ายกับ
หลินฮ่าวอย่างมากมันเป็นดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และ
อานาจที่สามารถข่มเหงผู้คนทั้งหลายให้มอบกราบได้
" ถ้าพวกเจ้ายังไม่เชื่อมันก็เรื่องของพวกเจ้า....แล้วก็เรื่องทั้งหมดนี้
อาจารย์ของเจ้าก็รู้แล้วเช่นเดียวกัน "
" ว่าไงนะ !! "
เดิมทีการที่อาจารย์สาวสวยของเขารับเขาเป็นศิษย์นั้นก็เพราะว่า
ตัวเขาเป็นสามัญชนธรรมดา เพื่อที่นางต้องการแสดงให้เห็นถึง
ศักยภาพในการสั่งสอนของนางว่านางมีความสามารถในการ
เปลี่ยนแปลงสามัญธรรมดาคนหนึ่งในกลายเป็นอัจฉริยะได้ แต่
ในตอนนี้เมื่อนางรู้ว่าเขามาจากตระกูลหลินนี้ไม่อาจนับว่าเป็นปัญหา
อย่างนั้นหรือ ?
" แล้วท่านยอมรับได้หรือ แม้ว่าความจริงแล้วเจ้าเด็กนี้จะเป็นบุตร
ของท่านแต่มันก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าเขาเป็นคนที่ทาให้หลินเสี่ยวต้า
ต้องพบกับความยากลาบากในอนาคต "
" เรื่องทั้งหมดนี้มันยังคงอยู่ในกฎระเบียนของตระกูลเราอย่าง
ชัดเจน "
กฎของตระกูลหลินนั้นค่อนข้างจะแตกต่างกับตระกูลอื่นพวกเขา
เปิดโอกาสให้รุ่นเยาว์ทั้งหมดสามารถต่สู้แลกเปลี่ยนกันได้ตามใจชอบ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาจะไม่ยอมให้เกิดบาดแผลที่หนักหนากับอีกฝ่าย
มากจนเกินไป แน่นอนว่ากรณีของหลินเสี่ยวต้าก็ยังคงอยู่ในขอบเขตนี้
บาดแผลที่หลินเสี่ยวต้าได้รับนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นบาดแผลที่เกิน
กว่าหนทารักษามันเป็นบาดแผลที่ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆต่อร่างกาย
ของเขา
" อีกทั้งด้วยความบาดหมางที่เกิดขึ้นนี้ทางเมืองหลวงได้ติดต่อข้า
และประมุขสมาคมนักปรุงยาเพื่อหาทางแก้ปัญหานี้เป็นที่เรียบร้อย
แล้ว "
เมื่อผู้อาวุโสฉินเหยาได้ยินว่าทางเมืองหลวงได้ลงมือเขายุติปัญหา
ทั้งหมดนี้นางได้ถอนหายใจออกอย่างเฮือกใหญ่โดยปกติแล้วทางเมือง
หลวงนั้นไม่เข้าแทรกแทรงปัญหาระหว่างอานาจภายในเมืองต่างๆไม่
ว่าจะหนักหนาเพียงใด แต่ในตอนนี้พวกเขากลับยื่นมือเข้ามาเห็นได้
ชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีความยินยอมที่จะต้องเสียเหล่าอัจฉริยะที่หาได้
ยากยิ่งทั้งจากตระกูลหลิน และหลินหมิงนั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางจะ
สามารถทาสิ่งใดได้อีก ?
" งั้นก็แล้วแต่ท่านเถอะ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาหันร่างกลับด้วยความไม่ใส่ใจ ถึงอย่างไรในตอนนี้
หากตระกูลหลินต้องเผชิญกับปัญหาความรับผิดชอบเหล่านั้นล้วนจะ
ไม่สามารถกล่าวอ้างถึงนางได้เพราะเรื่องทั้งหมดนี้หลินฮ่าวย่อมต้อง
เป็นคนรับผิดชอบ !
" แล้วเจ้าล่ะ "
หลินฮ่าวกล่าวเอยถามหลินหมิงโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง สาหรับ
หลินหมิงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าบิดาของเขาผู้นี้คาดหวังสิ่งใดจากการ
กระทาเช่นนี้แต่เขากลับมีความรู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ล้วน
แต่เป็นเพราะชายผู้นี้ การที่ต้องเดินตามแผนคนอื่นเช่นนี้นับเป็นสิ่งที่
เขาไม่ชอบอย่างมากอีกทั้งเมื่ออีกฝ่ายเป็นบิดาของเขาผู้นี้อีก
" เฮอะ ! ข้าไม่มีความคิดที่จะให้ความร่วมมือกับตระกูลของพวก
เจ้าหรอก "
" แต่ข้าว่าเจ้าควรจะต้องร่วมมือนะ "
เสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้นทาให้สถานการณ์ของหลินหมิงในตอนนี้
เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม ร่างของสาวสวยงามสง่าที่สามารถบดบังรัศมี
ของผู้อาวุโสฉินเหยาจนทาให้ผู้อาวุโสสาวผู้นี้ราวกับเป็นหญิงสาว
ชาวบ้าน ลาพังเพียงแค่เสียงของนางที่ดังก้องขึ้นมามันราวกับนางฟ้า
บนสวรรค์ที่กาลังบรรเลงเพลงขับกล่อมให้ผู้คนรู้สึกเคลิ้ม
ผู้อาวุโสที่มีระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 หัวใจของพวกเขาแทบจะหล่น
ไปที่ตาตุมเมื่อได้เห็นร่างของหญิงสาวที่กล่าวออกมาอย่างราบเรียบ
พร้อมกับร่างของหญิงสาวอีกคนที่มีความงามไม่แพ้ ที่สาคัญไปกว่านั้น
ก็คือระดับความแข็งแกร่งของพวกนางทั้งสองนี้เรียกได้ว่าอยู่ในระดับ
เดียวกับผู้อาวุโสฉินเหยาของพวกเขา โดยเฉพาะสาวงามที่เพิ่งส่งเสียง
เมื่อครู่ความแข็งแกร่งของนางที่ปรากฎออกมาในตอนนี้มีมากกว่าผู้
อาวุโสฉินเหยาเสียอีก !
" อาจารย์ ? ผู้อาวุโสฟางซิ่น ? "
นี้อาจเป็นปรากฎการที่แม้กระทั่งผู้คนที่มีอายุจนใกล้ถึงวัยสังขารก็
ไม่อาจสามารถเห็นภาพของการรวมตัวของผู้ที่มีความแข็งแกร่ง
ระดับปราญช์ถึงสี่คนรวมตัวกันอยู่ในที่แห่งเดียว !
สาหรับหลินหมิงในตอนนี้แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นจะไม่
ทอดทิ้งเขาอย่างแน่นอนแต่กลับอาจารย์สาวสวยของเขาแล้วนั้นเขา
ยังคงไม่อาจรู้ความคิดของนางอย่างแน่ชัด แต่เมื่อหลินหมิงได้เห็น
อาจารย์สาวสวยของเขายิ้มมาให้เขาด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วย
ความสุขอย่างแท้จริง เช่นนี้เขาจึงเข้าใจทุกอย่างแม้ว่าฐานะของเขาใน
อดีตจะเป็นหนึ่งในบุตรหลานตระกูลหลิน แต่เป็นที่รู้กันดีว่า
ความสามารถของเขาในอดีตนั้นนับได้ว่าเปรียบเทียบได้กับคนพิการ
เท่านั้น
เช่นนั้นแล้วมันคงจะน่าเหลือเชื่อมากสาหรับผู้คนที่จะเชื่อได้ว่า
บุคคลที่พิการเช่นนี้จะสามารถมาสู่จุดได้ด้วยเวลาเพียงไม่ถึงปี ซึ่ง
ความดีความชอบทั้งหมดจะตกที่ใครกัน ? แน่นอนว่าย่อมเป็นอาจารย์
สาวสวยของเขาผู้นี้ไม่ใช่หรือ ?
" พวกข้าทั้งสองต้องขอเสียมารยาทประมุขหลิน และผู้อาวุโสฉิน
เหยากับเรื่องที่ศิษย์ข้าได้กระทาลงไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงได้ชื่อ
ว่าเป็นคนจากตระกูลของพวกท่าน........ แต่หากข้าเข้าใจไม่ผิดกฎของ
ตระกูลพวกท่านไม่ใช่ว่าห้ามทาร้ายรุ่นเยาว์เช่นนั้นหรือ ? "
" เจ้า ! "
น้าเสียงที่เต็มไปด้วยความหยอกล้อของอาจารย์สาวสวยของหลินห
มิงทาให้ผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้รู้สึกเดือดพล่าน ลาพังเพียงแค่
ตระกูลหลินถูกบุกรุกอย่างง่ายดายเช่นนี้ก็นับว่าเสียชื่อไปมาก ไม่เพียง
เท่านั้นความผิดของหลินหมิงนั้นไม่อาจนับได้ว่าเป็นความผิดจากกฎ
ของตระกูล แต่กลับเป็นนางที่มีความผิดแทน
ตอนที่ 136
แม้ว่าด้วยการปรากฎตัวอย่างน่าประหลาดใจของผู้อาวุโสฟางซิ่น
และอาจารย์สาวสวยของเขามันจะทาให้ผู้อาวุโสฉินเหยารู้สึกแปลกใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้อาวุโสที่อีกสองคนที่เหลือที่ในตอนนี้ดู
เหมือนกับว่าอายุขัยของพวกเขาจะลดลงจากเดิมไปหลายปีจาก
เหตุการณ์ในวันนี้ ! แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีผลกระทบใดๆต่อหลินฮ่าวเลย
แม้แต่น้อย ชายผู้ยังความเยือกเย็นเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมเขาไม่แม้แต่
จะหันมามองทางหญิงสาวสูงศักดิ์ที่มาใหม่สองคนเลยเสียด้วยซ้าไป
" นั้นก็เพราะว่าศิษย์ของเจ้าได้บุกรุก... "
ผู้อาวุโสฉินเหยาในขณะที่นางกาลังจะกล่าวสวนอาจารย์สาวสวย
ของหลินหมิงไปด้วยอารมณ์ที่ร้อนรน ในใจของนางพลันนึกคิดได้ว่า
หากในตอนนี้เจ้าเด็กนี้คือ หลินหมิง เช่นนี้แล้วมันก็ไม่เท่ากับว่าเขาบุก
รุกตระกูลไม่ใช่อย่างนั้นหรอ ? ในตอนนี้นางแทบอยากตะโกณด่า
ประมุขผู้ชั่วร้ายของนางตรงหน้าว่าเขาจะทาการบอกกล่าวเรื่องบุกรุก
ทาไมกัน ?
" แล้วเจ้าต้องการอะไร...อยากบอกนะว่าประมุขสมาคมเช่นเจ้ามี
นิสัยคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ ? ไม่เห็นหรืออย่างไรว่าในตอนนี้เจ้าเด็กนั้นก็
ได้รับยาของประมุขของพวกเราไปแล้ว แน่นอนว่ามันย่อมเป็นเม็ดยา
รักษาที่มีคุณภาพเป็นเลิศไม่เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นเรื่องยากที่เจ้าเด็ก
นั้นจะสามารถลุกขึ้นมาได้เช่นนี้ "
" สาหรับเรื่องนั้นแน่นอนว่าข้าย่อมต้องขอบคุณพวกท่านเป็นอย่าง
มาก...แต่ข้าเกรงว่าในเรื่องนี้มันจะต่างกัน หากเป็นไปตามที่ท่านกล่าว
เอาไว้ไม่ใช่ว่าเช่นนี้แล้วข้าจะสามารถทุบตีผู้คนได้แล้วหลังจากนั้นค่อน
นายารักษาไปให้พวกเขา ? ท่านคิดว่าเรื่องเหล่านี้จะจบลงอย่าง
ง่ายดายเช่นนี้ ? "
เมื่อได้ยินคากล่าวของอาจารย์สาวสวยของเขาแม้แต่หลินหมิง
ยังคงประหลาดใจเล็กน้อยไม่ใช่ว่านางได้รับคาสั่งให้ปรองดองกับ
ตระกูลหลินอย่างนั้นหรือ ? แต่การกระทาของนางในตอนนี้ดูตรงข้าม
เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ตัวเขาย่อมไม่ได้ไม่พอใจตรงกันข้าม
แล้วเขากับพอใจกับการกระทาของอาจารย์ของเขาเสียมากกว่า
" ท่านอาจารย์ตัวข้ามีข้อเสนอ "
" โอ้ ว่าไงนฐานะที่เจ้าเป็นผู้ถูกกระทา เช่นนั้นมันคงจะดีกว่าหาก
ให้เจ้าได้มีสิทธ์ตัดสินใจอย่างนั้นสินะ "
ในตอนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยาราวกับเป็นตัวตลก ด้วยการพูดกล่าวกัน
อย่างลื่นไหลระหว่างสองศิษย์อาจารย์มันแทบจะทาให้นางเป็นบ้า !
พวกมันกล่าววาจาไร้สาระอันใดกัน ! ทายังกับว่าข้าจะยินยอมเรื่อง
ทั้งหมด
" ประมุขหลินท่านว่าอย่างไร "
" ตราบใดที่มันไม่เกินไปกว่าเหตุเรื่องนั้นข้าย่อมรับได้ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาซบสายตาของสองศิษย์อาจารย์ที่บนใบหน้ากาลัง
ถูกประดับไว้ด้วยรอยยิ้มอย่างเคียดแค้น ในความคิดของหลินหมิง
ในตอนนี้แม้ว่าผู้อาวุโสผู้เหย่อหยิ่งนางนี้จะมีพลังในระดับปราญช์แต่
ในตอนนี้นางเปรียบเสมือนลูกไก่ตัวน้อยๆที่ได้ตกอยูใ่ นกามือของเขา
เป็นที่เรียบร้อย
" เช่นนั้นแล้วในเมื่อตัวข้านั้นได้ถูกทุบตีอย่างรุนแรงมา....ดังนั้นแล้ว
ข้าจึงเรียกร้องด้วยคาขอเดียวกัน เพียงแต่ว่าด้วยความที่ข้าเป็นคนมี
จิตใจงดงามดังนั้นแล้วการทุบตีของข้าจะเป็นเพียงการทุบตีที่
ปราศจากการใช้พลังปราณเข้าช่วยรวมถึงทักษะต่างๆด้วยเช่นเดียวกัน
..และข้าเองก็เหนื่อยเกินกว่าจะลงมือทุบตีพวกท่านทุกคนดังนั้นแล้ว
ข้าจะขอเพียงทุบตีผู้อาวุโสฉินเหยาคนเดียวเท่านั้น "
" ฮ่า ๆ เจ้าจะทุบตีข้าโดยไม่ใช่พลังเข้าช่วย ? เอาสิเช่นนั้นข้ายินดี
ให้เจ้าทุบตีจนกว่าจะพอใจเลยถ้าเจ้าคิดว่าด้วยหมัดเปล่าๆของเจ้าจะ
สามารถทาอะไรข้าได้ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาระเบิดหัวเราะออกมามันจะมีผู้ใดกล้ากล่าวว่าจะ
ทุบตีผู้ที่มีพลังระดับปราญช์โดยไม่ใช่พลังปราณและทักษะใดๆ ?
ลาพังเพียงร่างกายของพวกเขาก็นับได้ว่ามีความแข็งแกร่งที่เหนือล้ายิ่ง
กว่าผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์อย่างมากแล้ว แต่เช่นนั้นเจ้าเด็กหนุ่มที่มี
พลังเพียงระดับก่อเกิดกลับกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ออกมา เช่นนี้แล้วมัน
จะไม่ให้นางหัวเราะได้อย่างไรกัน
อันที่จริงแล้วแม้แต่อาจารย์สาวสวยของเขาก็ยังคงขมวดคิ้วด้วย
ความสับสน สาหรับหลินฮ่าวนั้นเขาได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ต่อจากนี้อีกต่อไป พร้อมกับเดินจากไปในทันที แน่นอนว่าคากล่าวของ
หลินหมิงย่อมมีความแปลกประหลาดที่ผู้ฟังทั้งหลายจะต้องสับสนกับ
คากล่าวของเขาแต่ถึงอย่างนั้นกลับมีผู้ที่เข้าใจความหมายของสิ่งที่
หลินหมิงต้องการจะสื่อเป็นอย่างดี
ผู้อาวุโสฟางซิ่นยกยิ้มขึ้นมุมปากด้วยความพึงพอใจ แน่นอนว่าในที
นี้คงมีนางเพียงคนเดียวที่เข้าคากล่าวของหลินหมิง และแน่นอนว่านาง
ไม่จาเป็นต้องอธิบายให้ใครฟังถึงแม้ว่าผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้จะอยู่
ในสภาพหัวเราะอย่างเปี่ยมสุขแต่นางรับรองเลยว่าเพียงไม่ชั่วยามต่อ
จากนี้เสียงหัวเราะเหล่านี้แปรเปลี่ยนไปในทันที
" เช่นนั้นผู้เยาว์ก็ขอทาตามนั้น "
ชั่วเวลาต่อมาหลังจากที่หลินหมิงและผู้อาวุโสฉินเหยาได้ทาการตก
ลงกันอย่างเป็นที่เรียบร้อย นางได้นาพาหลินหมิงเข้ามายังตาหนักที่
พักของนาง ในเมื่อหลินหมิงต้องการทุบตีนางเช่นนั้นแล้วนางยินดีให้
เขาได้ทาตามที่ใจอยากอย่างตามสบายอย่างไรเสียไม่มีทางที่ร่างกาย
ของนางจะได้รับความเสียหายใดๆอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ? แต่ถึงอย่างนั้น
สาหรับตัวตนอย่างนางมันคงไม่เหมาะนักหากผู้คนในตระกูลได้เห็น
นางถูกทุบตีต่อหน้า เช่นนั้นแล้วมันจะส่งผลถึงชือเสียและความ
น่าเชื่อถือขอนางดังนั้นแล้วนางจาเป็นที่จะต้องพาหลินหมิงมาที่ห้อง
ของนาง
สาหรับอาจารย์สาวสวยของเขาผู้อาวุโสฟางซิ่นพวกนางทั้งสองได้
เดินทางกลับสมาคมไปแล้วด้วยสถานการณ์ในตอนนี้แม้ว่าหลินหมิงจะ
ยังคงอยู่กับผู้อาวุโสฉินเหยา แต่ถ้าหากผู้อาวุโสผู้นี้ยังคงกล้าคิดที่จะทา
อะไรหลินหมิงอีกนั้นแสดงว่านางคงเป็นคนที่โง่งมมากเห็นได้ชัดว่าใน
เรื่องนี้แม้แต่ประมุขของพวกนางยังไม่ต้องการที่ยิ่งไปกว่านั้นคือคาขอ
จากทางเมืองหลวงให้สองขั้วอานาจนี้ยุติการกระทบกระทั่งกัน
" เอาล่ะเจ้าสามารถลงมือได้ตามสบายแน่นอนว่าข้าจะไม่มีการ
ตอบโต้แต่อย่างใด "
หลินหมิงยิ้มเยาะอยู่ภายในใจแน่นอนว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะ
ทุบตีหญิงสาวผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ดังที่กล่าวเอาไว้แต่แรกอยู่
แล้ว ฝ่ามือแรกของหลินหมิงถูกส่งออกไปอย่างเรียบง่ายผู้อาวุโสฉิน
เหยาสามารถรับรู้ได้เลยว่าฝ่ามือนี้ของหลินหมิงนั้นสาหรับนางแล้วมัน
ไม่ต่างอะไรไปจากแรงลมที่เข้ากระทบร่างกายของนาง
หมับ !
แต่ว่าทันใดนั้นเมื่อฝ่ามือของหลินหมิงพุ่งเข้ากระทบร่างของนาง
มันแตกต่างจากที่นางคาดคิดเอาไว้มากแม้ว่าหลินหมิงในตอนนี้จะ
ไม่ได้ใช้พลังปราณใดๆแต่เห็นได้ชัดว่าฝ่ามือของเขานี้ราวกับว่ามันไม่ได้
มีเรี่ยวแรงใดๆเลย อีกทั้งจุดที่ฝ่ามือของหลินหมิงกาลังสัมผัสอยู่นั้นคือ
หน้าอกของนาง !
หากเป็นบุรุษที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันกับนางแล้วพวกเขาคงได้ตก
ตายไปแล้วหลายร้อยครั้งแต่เป็นที่รู้กันดีว่าสาหรับรุ่นเยาว์นั้นพวกเขา
จะไม่ให้ความสนใจกับสตรีที่มีอายุมากกว่าพวกเขาเป็นสิบปีเช่นนี้
ดังนั้นแล้วนางจึงไม่จาเป็นต้องคิดสิ่งใดมาก อาจเป็นไปได้ว่าเนื่องจาก
ร่างกายของเจ้าเด็กนี้มันยังคงไม่ฟื้นคืนจากการโจมตีของผู้อาวุโสทั้ง
สองก่อนหน้ามันจึงทาให้เขายังคงอ่อนแรงอยู่
หากหลินหมิงคิดที่จะโจมตีผู้อาวุโสฉินเหยาด้วยพลังกายของเขา
เพียงอย่างเดียว นั้นย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนยิ่งไปกว่า
นั้นมันอาจเป็นตัวของเขาเองที่ต้องได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกกลับ
ของพลังกายผู้ที่มีพลังระดับปราญช์แต่หากเป็นเพียงสัมผัสเอาเบาบาง
เพื่อสารวจเรือนร่างของหญิงสาวผู้นี้ล่ะ ! แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นเช่นนั้น
ผู้อาวุโสสาวผู้นี้ก็เปรียบเสมือนสาวโลคีย์ที่กาลังยืนยั่วยุด้วยร่างกายอัน
แสนน่าลิ้มลองของนาง !
ตอนที่ 137
ผู้อาวุโสฉินเหยานางยังคงไม่เข้าใจว่าหลินหมิงต้องการทาสิ่งใด
หรือว่าเขาจะมีวิธีการที่จะสามารถจู่โจมอันรุนแรงที่ทาให้ร่างกายของ
นางบาดเจ็บได้โดยไม่ใช้พลังปราณ ? ถ้าหากเป็นเช่นนั้นอย่างน้อย
ระดับพลังกายของเขาต้องเทียบได้เท่ากับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์เป็น
อย่างน้อย ลาพังเพียงแค่ร่างกายของหลินหมิงที่รับการโจมตีของผู้
อาวุโสสองคนก่อนหน้าเขาก็แทบจะสิ้นสติไปแล้ว เช่นนั้นแล้วมันจะ
เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะมีความสามารถเช่นนั้น
" นี้เจ้ากาลังวางแผนอะไรอยู่ "
หลินหมิงไม่ตอบคาถามของผู้อาวุโสฉินเหยาฝ่ามือของเขาเริ่มทา
การลูบไล้ที่บริเวณหน้าอกของนางอย่างช้า แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทาให้ผู้
อาวุโสฉินเหยารู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใด นางเข้าใจว่าหลินหมิงอาจ
กาลังค้นหาจุดที่เขาน่าจะสามารถโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ในความคิดของหลินหมิงในตอนนี้แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะกล่าวว่า
จะไม่ใช่พลังปราณใดๆในการโจมตีเพียงแต่ว่าในตอนนี้ที่เข้ากาลัง
สัมผัสหน้าอกอันเนียนนุ่มของผู้อาวุโสฉินเหยาอยู่นั้น พลังปราณ
สายฟ้าอ่อนๆได้ถูกส่งเข้าไปยังร่างของนางด้วยเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่า
มันคงจะเห็นผลได้ยากยิ่งกว่าในกรณีของหว่านอิ๋งกับผู้อาวุโสเซี่ยงหรง
ที่เขาได้ทาการสัมผัสพวกนางโดยตรง
แต่ถึงอย่างนั้นปัญหาเหล่านี้นับว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
แม้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างน้อยจนเขาผิดหวังแต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นที่ว่า
ไม่ได้ผลเลยซะทีเดียว รวมกับในตอนนี้ที่นางเป็นคนกล่าวเองว่า
สามารถให้เขาใช้เวลามากเท่าใดก็ได้ ดังนั้นแล้วการที่หลินหมิงจะได้ผู้
อาวุโสสาวผู้นี้มาครอบครองคงขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น
หมับ
มืออีกข้างของหลินหมิงถูกส่งไปประทับลงบนหน้าอกอีกข้างของผู้
อาวุโสฉินเหยา เมื่อได้เห็นใบหน้าของหลินหมิงที่กาลัง
เคร่งเครียด ใบหน้าของนางก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเด่นชัดสาหรับ
ผู้อาวุโสฉินเหยานั้นนางเพียงคิดว่าในตอนนี้หลินหมิงอาจกาลังหมด
หนทางที่จะสามารถโจมตีนางได้ สาหรับคากล่าวก่อนหน้านั้นอาจเป็น
เพราะว่าตัวของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันมั่นใจในตนเองมากจนเกินไป
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดสาหรับอัจฉริยะที่มีความสามารถ
จนแม้แต่นางก็ยังคงอิจฉา แม้จะน่าเสียดายที่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้
เห็นภาพของหลินหมิงในตอนที่ได้รับแรงจู่โจมของตนเองสะท้อน
กลับไป เพียงแต่ใบหน้าของเจ้าหลินหมิงในตอนนี้ก็ทาให้นางรู้สึก
เพลิดเพลินได้ไม่น้อย
โดยหารู้ไม่ว่าอันที่จริงแล้วทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในแผนการณ์ของ
หลินหมิงทั้งสิ้น หลินหมิงเริ่มทาดารขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมกับแสดง
ท่าทีว่ามีโทสะเกิดขึ้น สัมผัสที่บริเวณมือของเขาเปลี่ยนเป็นเคลื่อนไหว
อย่างรวดเร็ว พร้อมกับสัมผัสกดทับที่จมลงไปในนางอกของผู้อาวุโสจน
ราวกับว่ามือทั้งสองข้างของเขากาลังถูกดูดกลืนลงไป
หนึ่งก้านธูปผ่านไป
ในตอนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยาเริ่มรู้สึกมีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นกับ
ร่างกายของนาง ลมหายใจของนางค่อยๆรุนแรงขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่
ทราบสาเหตุ ไม่เพียงเท่านั้นอุณหภูมิภายในร่างกายของนางกลับสูงขึ้น
อย่างต่อเนื่อง
" อ๊าาา "
ทันใดนั้นนางได้เผลอตัวส่งเสียงครางออกมาในตอนนี้นิ้วมือของ
หลินหมิงพลันเลื่อนลงไปสัมผัสโดนบริเวณยอดปถุมทันของ
นาง จากนั้นนางพลันเห็นรอยยิ้มของหลินหมิงที่ปรากฎขึ้น
" หรือว่านี้จะเป็นจุดอ่อนของท่าน ! เช่นนั้นข้าจะโจมตีที่จุดนี้ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาแทบจะอดกลั้นความอับอายเอาไว้ไม่อยู่ยังดีที่
นับว่าเจ้าเด็กนี้สมองของเขาคงมีเพียงแต่เรื่องที่จะสามารถเอาคืนนาง
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาสมควรรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นไม่ใช่เพราะว่านาง
เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้เข้าใจ
หลินหมิงแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ดูเหมือนว่าในตอนนี้ผู้อาวุโสฉิน
เหยาในตอนนี้เริ่มรู้สึกมีอารมณ์ความต้องการขึ้นมาบ้างแล้ว เช่นนั้น
แล้วมือของหลินหมิงแปรเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง
สัมผัสมือของหลินหมิงในตอนนี้ไม่ได้จดจ่ออยู่ที่บริเวณหน้าอกคู่งาม
ของผู้อาวุโสสาวอีกต่อไป มือทั้งสองข้างของหลินหมิงเคลื่อนไหวเข้าสู่
บริเวณหน้าท้อง แขน มือ กระทั่งในตอนนี้บริเวณต้นขาของนางก็ยังคง
ได้รับสัมผัสจากมือของหลินหมิง
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
ในตอนนี้รอยยิ้มแต่แรกเริ่มของผู้อาวุโสฉินเหยาพลันหายไปสิ้น
นางไม่เข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรเหตุใดในตอนนี้นางถึง
ได้มีสภาพเช่นนี้ได้กัน เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กนี้เพียงแค่สัมผัสร่างกายของ
นางเพียงเท่านั้น ลมหายใจของนางค่อยหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับ
เรี่ยวแรงที่รู้สึกเหือดหายไปจนราวกับว่านางได้กลับกลายไปเป็นหญิง
สาวธรรมดาอีกครั้ง ร่างของนางทิ้งตัวลงบนเตียงภายในห้องอย่าง
อ่อนล้า
" นะ...เจ้ายังไม่พออีกรึ ! "
" ไม่ใช่ว่าท่านเป็นคนกล่าวว่าข้าสามารถใช้เวลานานเพียงใดก็ได้ ?
"
ผู้อาวุโสฉินเหยาเริ่มรู้สึกเสียใจกับคากล่าวโดยไม่ยั้งคิดของนาง
ก่อนหน้า แต่ใครมันจะคิดกันเหล่าว่าจะมีผู้ใดที่จะมีความอดทนมากถึง
เพียงนี้ หากเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปไม่ต้องพูดถึงในเรื่องความอดทน
พวกเขาไม่แม้แต่จะกล้ารับข้อเสนอของนางเช่นนี้ แล้วถึงแม้ว่าพวกเขา
จะกล้ารับข้อเสนอแต่จะมีหรือที่พวกเขาจะสามารถอดทนต่อสภาวะที่
ไม่มีหวังเช่นนี้ได้
ผ่านไปอีกราวหนึ่งก้านธูป
ลมหายใจของนางในตอนนี้หนักหน่วงจนแทบจะไม่สามารถหายใจ
ได้อย่างสะดวก ในตอนนี้นางไม่สนแล้วว่านางจะต้องผิดคากล่าวกับ
เจ้าเด็กนี้ หากเทียบกันแล้วแม้ว่าในตอนนี้นางจะต้องเสียชื่อบ้างจาก
การที่ผิดคากล่าวกับหลินหมิง แต่มันคงเทียบไม่ได้กับผลลัพธ์ที่กาลัง
จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป ในตอนนี้นางรู้ตัวดีว่าขืนยังคงปล่อยให้เจ้าเด็กนี้
ทาการสัมผัสร่างของนางไปมากกว่านี้ย่อมเป็นนางที่จะหมดสติลงไป
ก่อน
" พอแล้ว ! เจ้าใช้เวลานานเกินไปแล้ว ! ออกไปซะ เอาไว้ข้าจะส่ง
สมบัติอย่างอื่นชดใช้คืนให้......อ๊ะ ! "
ยังไม่ทันที่ผู้อาวุโสฉินเหยาจะได้กล่าวจบมือของหลินหมิงข้างหนึ่ง
ได้ลวงเข้าไปภายในเสื้อผ้าของนางอันเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธ์ของหญิง
สาว !
" นะ...นี้เจ้า ! จะทาอะไรกัน อะ...อู้วววว ~~~ "
เพียงแค่นิ้วมือของหลินหมิงสัมผัสไปยังร่องสวาทของนางที่ตอนนี้
กาลังแฉะเยิ้มโดยที่นางไม่รู้ตัว เพียงสัมผัสแรกที่นิ้วมือของหลินหมิง
โดนร่องสวาทของนางร่างกายของผู้อาวุโสฉินเหยาพลันสั่นสะท้าน
ขึ้นมาพร้อมกับอาการกระตุกขึ้นพร้อมกับสัมผัสเปียกแฉะที่มากขึ้นยิ่ง
กว่าเก่าที่บริเวณร่องสวาทของนาง
ร่างของหลินหมิงนอนกดทับร่างของผู้อาวุโสฉินเหยาเอาไว้ใน
ขณะที่มือข้างหนึ่งของหลินหมิงกาลังส่งนิ้วของเขาเข้าไปสารวจพร่อง
สวาทที่กาลังเดินเครื่องอย่างต่อเนื่องของนาง แม้ว่าผู้อาวุโสฉินเหยาจะ
มีพลังในระดับปราญช์เพียงแต่ว่าในตอนนี้เรี่ยวแรงของนางนั้นพลัน
หายไปไหนไม่รู้จนหมดสิ้น มือของนางที่พยายามพลักใส่ร่างของหลินห
มิงนั้นมันแทบจะไม่สามารถทาให้ร่างของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้สามารถขยับ
ได้เลยแม้แต่น้อย
" อะ....เอา...มือ...ของเจ้าออก...ปาายย ~~~ "
เสียงของผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้เต็มไปด้วยคาวมสั่นเครื่อ แขน
ทั้งสองข้างของนางในตอนนี้พยายามผลักใส่มือของหลินหมิงที่กาลัง
สารวจร่องสวาทของนางอย่างบ้าคลั่งเพียงแต่ว่ามันดูเหมือนจะไม่เป็น
ผลเลยแม้แต่น้อย
" นะ...นี้...ออกไป...เจ้าคิดจะทาอะไรกัน...ซี๊ดดดด ~~~~~ "
แม้ว่าร่างกายของนางจะพยายามดิ้นไปมาแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่
แม้แต่จะส่งผลให้เด็กหนุ่มผู้นี้เกิดความยากลาบากเลยแม้แต่น้อย
กลับกันแล้วมือของเขากลับจู่โจมนางอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นแทน ริมฝีปาก
ของหลินหมิงประกบเข้าสูดดมบริเวณซอกคอของผู้อาวุโสฉินเหยา
อย่างเร้าร้อน ในตอนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยานางไม่รู้ว่าสมควรจะทาเช่นไรดี
แม้ว่าในตอนนี้นางจะยังคงมีสติอยู่แต่เหมือนกับว่าสมองของนางนั้น
สามารถทาการได้เพียงแค่ 3 ส่วน สัมผัสของนางทุกอย่างในตอนนี้ราว
กับว่ามันกาลังตอบรับการกระทาของหลินหมิง
" อืม้ มม ~~~~~~ "
ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าประกบปากของผู้อาวุโสฉินเหยาอย่าง
ร้อนแรงดวงตาของนางเบิกกว้างเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
แน่นอนแม้ว่านางจะยังคงเป็นหญิงสาวที่ยังคงความบริสุทธ์เอาไว้ได้
เพียงแต่ว่าด้วยอายุของนางที่เกือบ 40 ปีนั้นมันไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลข
ธรรมดา แน่นอนว่านางย่อมต้องมีความรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง และนางรู้
ดีว่าในตอนนี้เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กาลังปราถนาสิ่งใดจากร่างกายของนาง
เมื่อมองเข้าไปยังดวงตาของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้นางสามารถมองเห็นได้
อย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่ดวงตาของเขาที่มองมาที่นางด้วยอารมณ์ความ
ขุ่นเขืองเหมือนดังก่อนหน้า แต่มันเต็มไปด้วยความต้องการอย่างแรง
กล้า ! แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกันเห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กนี้เพิ่งมีอายุราว
15 - 16 ปีแต่นางมีอายุเกือบ 40 ปี แล้วด้วยความต่างของอายุถึง
เพียงนี้แม้ว่านางจะมีความงามที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมแต่มันไม่สามารถ
ดึงดูดเหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายได้อย่างแน่นอน หากเป็นเหล่าผู้อาวุโสที่
แก่เฒ่าก็ยังคงว่ไปอย่าง
หลินหมิงบดริมฝีปากของผู้อาวุโสฉินเหยาจนนางรู้สึกว่าริมฝีปาก
ของนางในตอนนี้บวมขึ้นมาเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่มีทีท่าว่า
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะปล่อยนางไปแต่โดยง่าย
" อือ้ ออออ ~~~ "
ด้วยสัมผัสจู่โจมจากบริเวณร่องสวาทและริมฝีปากกระทั่งหน้าอก
ของนาง ในตอนนี้นางแทบจะไม่สามารถหายได้อย่างปกติอีกต่อไปขา
ขอนางพยายามดิ้นเพื่อสบัดร่างของหลินหมิงให้หลุดออกออก
ไม่เช่นนั้นแล้วหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจเป็นไปได้ว่านางอาจจะ
ตายเพราะขาดอาการหายใจก็เปนได้

ตอนที่ 138
ร่างของผู้อาวุโสฉินเหยานอนหอบอย่างหมดแรง ด้วยรสจูบอัน
ร้อนแรงของหลินหมิงที่กินเวลาอย่างยาวนานในตอนแรกนางกระทั่ง
คิดว่านางอาจจะตายได้หากเขายังคงประกบปากนางต่อไปอีกสักพัก
แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ในตอนนี้มันกลับไม่ได้ดขี ึ้นเลยแม้แต่น้อย
" แฮ่ก ๆ "
แม้ว่าในตอนนี้นางจะรอดพ้นจากการแลกลิ้นอันแสนร้อนแรงไป
แต่มันไม่ได้หมายความว่าในตอนนี้เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะพึงพอใจแล้ว ร่าง
ของนางที่อยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่าเมื่อไหร่นางเองก็ไม่สามารถรับรู้ได้
เพียงแต่ว่าในตอนนี้หน้าอกที่ไร้ซึ่งสิ่งบดบังกาลังถูกปากของเด็กหนุ่มที่
พึงพอใจกับริมฝีปากของนางแล้วดูดดื่มราวกับว่าเขาเป็นเพียงเด็ก
ทารกที่มีความปราถนาในน้านมของมารดาอย่างแรงกล้า
" อ๊า ยะ..อย่า..ซี๊ดดดด..ระ..แรงไปแล้ว ~~~~ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าเรี่ยวแรงของนางในตอนนี้
มีเพียงพอสาหรับการส่งเสียงร้องห้ามปนกับเสียงครางของนางออกมา
เท่านั้น แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรแต่แน่นอนว่า
ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นฝีมือของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้อย่างแน่นอน
อีกทั้งนางยังคงไม่เข้าใจว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มีความปราถนาในสิ่งใด
กันแน่ หากเขาต้องการให้นางประสบกับความยากลาบากและความ
เหนื่อยล้าแน่นอนว่าเขาได้ประสบความสาเร็จอย่างสวยงาม ! ไม่ต้อง
พูดถึงในเรื่องที่มากไปกว่านี้อย่างการร่วมรักระหว่างหญิงสาว สาหรับ
ผู้อาวุโสฉินเหยานางยังคงคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น
จากข่าวลือที่นางได้ยินมาดูเหมือนว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นจะมี
ความสามารถอย่างสูงในการร่วมรักกับหญิงสาวนั้นอาจเป็นไปได้ว่า
เขามีแผนที่จะใช้สิ่งเหล่านี้ในการทาให้นางเหนื่อยอ่อน แต่แน่นอนว่า
เมื่อเขาทาสิ่งเหล่านี้ลงไปมันย่อมต้องฝืนจิตใจของเขาไปไม่ใช่น้อย
ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ? แต่หากเป็นเช่นนั้นเจ้าเด็กนี้มันมีความอดทนมาก
ถึงเพียงใดกันถึงได้เล่นสนุกกับร่างกายของนางอย่างยาวนานเช่นนี้ !
หลินหมิงใช้เวลาไปอย่างยาวนานสาหรับการเล้าโลมร่างกาย
ส่วนบนของผู้อาวุโสฉินเหยาอาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้ร่างกายของนาง
ส่วนใหญ่นั้นล้วนถูกหลินหมิงสารวจจนสิ้น ร่างของหลินหมิงค่อยๆ
เคลื่อนลงไปยังเป้าหมายต่อไป ขาเรียวงามของผู้อาวุโสฉินเหยาถูกกาง
ออกโดยไร้ซึ่งแรงต่อต้าน
' อา...นางยังคงบริสุทธ์อยู่ ! '
เพียงแค่ได้เห็นร่องสวาทสีชมพูดสดของหญิงสาวที่มีความงดงาม
เช่นนี้ในใจของหลินหมิงเต้นระรั่วราวกับกลองศึก นี้นับว่าเป็นวันที่โชค
ดีของเขาอย่างแท้จริงไม่เพียงแต่จะได้รับโอกาสในการมอบบทเรียน
ให้กับหลินชูและมารดาของมัน กระทั่งเขายังจะได้รับความบริสุทธ์ของ
หญิงสาวสูงศักดิ์ถึงสองคน นั้นคือผู้อาวุโสเซี่ยงหรงและผู้อาวุโสฉิน
เหยาตรงหน้าเขา ! หลินหมิงแทบไม่อยากจะคิดเลยว่าหลังจากที่เขา
ร่วมรักกับผู้อาวุโสผู้นี้แล้วความแข็งแกร่งของเขาจะก้าวกระโดดไป
มากเพียงใดแน่นอนว่าในตอนนี้ระดับจอมยุทธ์นั้นขั้นเริ่มต้นอาจเป็น
เพียงได้แค่ทางผ่านของเขาเท่านั้น
แต่หลินหมิงยังคงไม่รีบร้อนนิ้วมือของเขาเข้าทาการแหวกร่อง
สวาทของผู้อาวุโสสาวพร้อมกับเขี่ยมันเล่นอย่างสนุกสนาน
" อ้าาา ~~ นะ...นี้เจ้า ! "
แม้ว่าในตอนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยาจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแต่เมื่อนางต้องเจอ
กับการกระทาของหลินหมิงเช่นนี้ไม่เพียงแต่มัจะเป็นความรู้สึกอับอาย
อย่างเดียวเท่านั้นแต่นางกลับพบว่าร่างกายของนางในตอนนนี้ร้อนรุ่ม
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและมันไม่ง่ายเลยที่นางจะสามารถหาวิธีดับ
ความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นนี้ได้ เพียงแค่หลินหมิงสัมผัสร่องสวาทของนาง
มันทาให้นางรู้สึกตื่น ? กังวล ? กระทั่งมีความสุข ?
" อู้วววววววววววววววววววว ~~~~~~ "
แต่ว่าในระหว่างที่นางกาลังใช้ความคิดและความอดทนกับ
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น ที่ร่องสวาทของนางพลันเกิดความรู้สึก
แปลกประหลาดขึ้นที่ร่องสวาทของนางอีกครั้ง !
ร่างของผู้อาวุโสฉินเหยาถึงโก่งโค้งด้วยความแข็งเกร็งพร้อมกับ
ร่างกายของนางที่เกิดอาการสั่นกระตุกอย่างรุนแรง ! สัมผัสเปียกแฉะ
ที่ไม่ได้เกิดจากน้ารักของนางอีกทั้งในตอนนี้มันกาลังเข้าสารวจภายใน
ร่องสวาทของนาง เมื่อนางก้มมองไปลงไปดูภาพที่นางเห็นมันถึงกับทา
ให้นางตกใจไปชั่วครู่ เพียงแต่ไม่นานสติของนางกก็พลันกลับคืนอย่าง
รวดเร็ว
' ลิ้น ? '
ลิ้นของหลินหมิงที่ถูกส่งเข้าไปยังร่องสวาทของผู้อาวุโสฉินเหยา
พร้อมกับดูดกลืนน้ารักีกที่ าลังไหลพรั่งพรู่ออกมาราวกับเขื่อนแตกไป
ได้อย่างหมดสิ้น ไม่เพียงเท่านั้นลิ้นของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับทาการ
ตวัดไปมาอยู่ภายในร่องสวาทของนาง ! นี้มันเรื่องประหลาดอันใดกัน !
ความร้อนรุ่มในตัวของนางพุ่งสูงขึ้นจนนางรู้สึกว่าร่างกายของนาง
ในตอนนี้สามารถละลายสิ่งที่อยู่รอบข้างได้โดยง่ีาย
รสชาติความรู้สึกแปลกใหม่ที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้มันทาให้
ร่างกายของนางเบาสบายราวกับว่านางกาลังล่องลอยอยู่ในอากาศ
ทันใดนั้นมือของนางเคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณเข้าบีบนวด
หน้าอกของตนเอง พร้อมกับเรียวของนางที่ขยับเข้าหนีนศรีษะของ
หลินหมิง
" อ้าา อ้าา อ้าา ~~~~ ยะ..ยอดเยี่ยม ~~~ นะ..นี้ข้า...เป็น..อะไร
...เกิด..อะไรขึ้นกับข้ากันแน่ อู้ววววว ~~~~ "
จากสมองของนางในตอนแรกที่ทางานเพียงสามส่วนจากรสสัมผัส
เล้าโลมของหลินหมิงในตอนนี้นางรู้สึกได้เลยว่ามันกลับทางานไม่ถึง
หนึ่งส่วนเสียด้วยซ้าไป แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้นางไม่มีอารมณ์
ความรูส้ ึกต่อต้านอีกต่อไป เทียบกับความรู้สึกที่ทาให้นางพึงพอใจ
อย่างการลงโทษผู้คนแล้วสิ่งที่เด็กหนุ่มผู้นี้กาลังทาให้นางอยู่นั้น
เหนือกว่านับร้อยเท่า ! เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเหตุใดนางจึงต้องปฎิเสธด้วย
?
ลิ้นหมิงใช้เวลาเพลิดเพลินกับร่องสวาทของผู้อาวุโสฉินเหยาเพียง
เล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นเห็นได้ชัดว่าในตอนนี้ใบหน้าของผู้อาวุโสผู้แสน
โหดเ**้ยมได้เปลี่ยนเป็นใบหน้าของหญิงสาวที่กาลังเคลิ้มฝัน ไม่ใช่ว่า
เขาไม่ต้องการลิ้มรสร่องสวาทของนางต่อไป เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าผู้
อาวุโสสาวผู้นี้มีการตอบสนองอย่างรุนแรงต่อท่วงท่านี้ของเขา มันคง
ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอนหากเขาจะทาให้นางหมดสติลงไปก่อนที่จะถึง
ช่วงเวลาสาคัญเช่นนี้
หลินหมิงเคลื่อนกายมากดทับร่างของผู้อาวุโสฉินเหยาอีกครั้ง
ใบหน้าเคลิ้มฝันของนางค่อยๆเปลี่ยนกับมาเป็นได้สติ อันที่จริงแล้ว
นางต้องการจะกล่าวกับหลินหมิงให้ทาเช่นนั้นต่อไป เพียงแต่ตัวนางที่
เป็นผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลอีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งที่แทบจะไม่
เป็นรองใคร กลับต้องร้องขอราวกับว่านางสาวตามหอนางโลมนี้ไม่ใช่
ว่าจะเป็นการเสียศักดิ์ศรีของนาง ?
" เป็นเช่นไรบ้าง ? "
เมื่อคาถามของหลินหมิงกล่าวจบริมฝีปากของหลินหมิงได้ประกบ
เข้าไปยังริมฝีปากของผู้อาวุโสฉินเหยาอย่างแผ่วเบาอีกครั้งเพียงแต่ว่า
ในครั้งนี้มันเป็นการจูบในชั่วยเวลาสั่นๆ แต่มันกลับทาให้หัวใจของผู้
อาวุโสสาวสั่นไหวอย่างรุนแรง คาตอบของนางทีเคยคิดกล่าวว่าจะ
โต้ตอบอย่างรุนแรงถูกกลืนหายลงไปจนหมดสิ้น
เมื่อนางจ้องมองเข้าไปยังดวงตาของหลินหมิงนางกลับพบความ
แปลกใจ สายตาของเขาไม่เหมือนกับเด็กหนุ่มที่พยายามแก้แค้นนาง
ก่อนหน้า อันที่จริงแล้วนางแทบจะรู้สึกว่าในตอนนี้เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
แปรเปลี่ยนเป็นคนละคนไปแล้ว ด้วยสายตาของหลินหมิงที่กาลังมอง
มาที่นางมันเต็มไปด้วยความปราถนาอันร้อนแรงเหมือนกับบุรุษที่อยู่
ในวัยเดียวกันกับนาง ! หรืออาจจะยิ่งกว่านั้น
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ? ในเมื่อนางอายุมากกว่าเขามากถึง
เพียงนี้ ทันใดนั้นริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง
ในตอนนี้นางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ในวัยแรกรุ่น
" อาา "
ผู้อาวุโสฉินเหยาส่งเสียงครางออกมาพร้อมกับสายตาของนางที่สื่อ
ออกมาอย่างชัดเจนว่านางยังคงปรานถนาให้หลินหมิงกระทากับนาง
เช่นนี้ต่อไป รอยยิ้มปรากฎที่ริมฝีปากของหลินหมิงเพียงแต่ว่ามัน
แตกต่างจากรอยยิ้มที่นางเคยเห็นที่ลานประลองหรือกระทั่งก่อนหน้า
นี้ มันเป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความพึงพอใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่รอยยิ้มที่
เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ดังเช่นก่อนหน้า
" ข้าจะทาให้เจ้าเป็นสตรีของข้า "
" อือ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาเผลอตัวผงกศรีษะตอบรับคากล่าวของหลินหมิงไป
โดยไม่รู้ตัวอันที่จริงแล้วนางรู้สึกมีความสุขมากในตอนที่ได้ยินคากล่าว
นี้ออกมาจากปากของเด็กหนุ่มมันจึงทาให้นางไม่ทันได้คิดเรื่องอันใด
หลินหมิงทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกพร้อมกับทวนมังกร
ของเขาที่อยู่ในระยะจู่โจมร่องสวาทของหญิงสาว
ร่างทั้งสองสามารถสัมผัสได้ถึงผิวหนังเปลื่อยเปล่าของพวกเขาที่
สัมผัสกันโดยตรงในตอนนี้ใบหน้าของผู้อาวุโสฉินเหยาขึ้นสีแดงระเรื่อ
นางไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับนางต่อไปแต่นางก็ยังไม่อาจ
หักใจเชื่อได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะทาการร่วมรักกับนางจริงๆ
เพียงแต่ว่าทันใดนั้นความคิดเหล่านั้นของนางพลันสลายไปในทันที
นางสามารถสัมผัสได้ถึงแท่งเนื้อขนาดใหญ่ที่กาลังพุ่งเข้ามาในร่างกาย
ของนางอย่างช้า
" อึก ! "
ใบหน้าของนางแสดงถึงอาการเจ็บปวดแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางมอง
ไปยังใบหน้าของหลินหมิงที่ห่างจากนางไม่มากนางพลันกลืนความรู้สึก
เหล่านั้นลงไป
" จูบข้า ~~~~ "
หลินหมิงตอบสนองในทันทีริมฝีปากของหลินหมิงบดเข้าไปยังริม
ฝีปากของผู้อาวุโสฉินเหยาอย่างแผ่วเบา แม้ว่ารสจูบอันร้อนแรงก่อน
หน้านี้ของหลินหมิงจะทาให้ร่างกายของนางสั่นสะท้านได้มากกว่าแต่
รสจูบเช่นนี้มันทาให้หัวใจของนางรู้สึกเติมเต็ม นางแทบไม่ทันได้รู้ตัว
ถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณส่วนล่างอีกต่อไป มืองทั้งสองข้างของ
นางเข้าโอบกอดร่างของเด็กหนุ่มผู้มีอายุต่างกับนางเกือบสามเท่าโดย
ไม่มีท่าทีเอียงอาย

ตอนที่ 139
หลินหมิงตัดสินใจที่จะทาให้ผู้อาวุโสฉินเหยาได้ตกเป็นของเขาทั้ง
กายและใจ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้อีก
ต่อไปที่สมาคมนักปรุงยาและตระกูลหลินจะทาการสู้รบกันอัน
เนื่องมาจากการแทรกแทรงของเมืองหลวง ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือดู
เหมือนว่าอาจารย์สาวสวยของเขาคงไม่ต้องการที่จะให้เขาทาลาย
ตระกูลหลินอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหลินหมิงจึงต้องทาการวางแผน
ใหม่สักเล็กน้อย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับว่าเขาจะได้กลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้ง
เมื่อเป็นเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าเขาจะได้มีโอกาสพบหน้าหลินเสี่ยวต้าและ
เหม่ยฮวาได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทุบตีผู้คนได้ซึ่งมันขัด
กับคาขอของทางเมืองหลวงแม้ว่าตระกูลหลินแห่งนี้จะมีกฎที่รุ่นเยาว์
สามารถประลองกันได้อย่างเปิดเผย แต่นั้นไม่อาจนับว่าเป็นปัญหาได้
เพียงแค่การคงอยู่ของหลินหมิงภายในตระกูลแห่งนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย
ว่ามันคงทาให้หลินเสี่ยวต้า หลินชู และอีกหลายคนที่เคยกระทาเรื่อง
เลวร้ายต่างๆกับเขาได้หายใจไม่ทั่วท้องอย่างแน่นอน
อีกทั้งด้วยการตัดสินใจของหลินหมิงที่เลือกที่เปลี่ยนให้ผู้อาวุโสฉิน
เหยาได้กลายเป็นสตรีของเขามันจะทาให้สถานนะในตระกูลของเขา
ก้าวกระโดดขึ้นมาในทัน แม้ว่าแต่เดิมเขาจะมีความสามารถที่
เหนือกว่าผู้อื่นเพียงแต่ว่ามีหรือที่เหล่าผู้อาวุโสต่างๆจะให้การ
สนับสนุนเขา ?
" โอ้ยย ! "
ทันที่เยื่อพรหมจรรย์เสียงครางเจ็บปวดของผู้อาวุโสฉินเหยาพร้อม
กับคราบน้าตาที่กาลังประดับบนดวงตาของนาง หลินหมิงเอื้อมมือข้าง
น้างลูบใบหน้าของนางอย่างแผ่เบาราวกับว่านางเป็นดั่งหยกงามล้า
ค่าที่เขาต้องการปกป้องไม่ให้เกิดแม้แต่รอยใดๆ ผู้อาวุโสฉินเหยาที่ไม่
เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแต่นางรู้ดีว่าสิ่งนี้สมควรเรียกว่า
ความชอบ ความรัก ? แม้ว่านางจะเป็นกังวลเรื่องความห่างของอายุ
ของนางและเด็กหนุ่ม แต่ในตอนนี้นางขอเพียงลิ้มรับสัมผัสความสุขที่
กาลังเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ก็เพียงพอแล้ว
ร่องสวาทของนางบีบรัดทวนมังกรของหลินหมิงอย่างหนาแน่น
สัมผัสความอบอุ่นที่ทวนมังกรของหลินหมิงมันทาให้เขารู้สึกพร้อมกับ
ระเบิดอารมณ์ออกมาได้ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่หลินหมิงเท่านั้นผู้
อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้นางได้รับผลกระทบจากการร่วมรักในครั้งนี้
อาจเรียกได้ว่ามากกว่าหลินหมิงนับสิบเท่า
" นะ..นี้..เป็นครั้งแรกของข้า...ยะ..อย่ารุนแรง..ล่ะ ~~~~ "
คากล่าวที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินจากปากของหญิงสาวผู้มีตาแหน่ง
เป็นรองเพียงประมุขตระกูลแห่งตระกูลหลิน สาหรับหลินหมิงแล้ว
แม้ว่าเขาจะมีความสุขจากการร่วมรักด้วยบทเพลงอันเร้าร้อนมากกว่า
เพียงแต่เขายินดีที่มอบบทเพลงทานองอันเชื่องช้าเพื่อให้นางได้ล้มรส
ความสุขอย่างเพลิดเพลินเสียก่อน ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงค้นพบว่า
ใบหน้าของผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้มันช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง
ดันนั้นแล้วเขาจึงอยากจะที่จดจาใบหน้าของนางเช่นนี้เอาไว้อีกสักพัก
ผู้อาวุโสฉินเหยาพยายามหันหลบหลินหมิงด้วยความเอียงอาย
สาหรับหญิงสาวแล้วการที่ต้องกล่าวเชิญชวนบุรุษเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่
น่าอายเป็นอย่างยิ่ง แล้วยิ่งด้วยกรณีของนางที่อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็ก
หนุ่มวัย 15 ปีเท่านั้น ใจหนึ่งนางก็อยากหันกลับไปมองใบหน้าของเด็ก
หนุ่มที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใสที่พึงพอใจในเรือนร่างของนาง
เพียงแต่ว่าในตอนนี้สะโพกของหลินหมิงได้เริ่มทาการขยับอย่าง
เชื่องช้า
" อ้าา ~~~~ ซี๊ดดดดด ~~~~ "
ในตอนแรกนางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะทาตามคาขอของนาง อัน
ที่จริงแล้วสาหรับบุรุษพวกเขาไม่แม้แต่จะสนใจในคากล่าวของสตรีใน
ยามที่พวกเขาต้องร่วมรักกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ใจของนางรู้สึกโป่งพองจน
แทบจะระเบิดออก เสียงครางกระเส้าของผู้อาวุโสฉินเหยาพร้อมกับ
เสียงน้ากระเฉาะที่บริเวณร่องสวาทในยามที่ทวนมังกรของหลินหมิง
ทาการขยับอันเกิดมาจากร่องสวาทของผู้อาวุโสสาวนั้นได้ทาการ
ปลดปล่อยน้ารักของนางออกมาอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนั้นเองนางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงที่อยู่ภายใน
ร่างกายของนางเริ่มมีการสั่นกระตุกพร้อมกับขยายตัวขึ้น !
" ข้าจะทาให้ท่านเป็นสตรีของข้าอย่างแท้จริง "
ขาทั้งสองข้างพร้อมกับมือของนางเข้ารวบรัดร่างของหลินหมิงอ
ย่างหนาแน่น พร้อมกับร่างกายของนางที่เริ่มสันไหวอย่างรุนแรงด้วย
เช่นเดียวกัน แม้ว่านางจะไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนแต่นาง
ไม่ใช่หญิงสาวที่ใสซื่อที่ไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์
ในตอนนี้นางมีความปราถนาอย่างแท้จริงที่จะได้กลายเป็นสตรีของ
หลินหมิงแม้ว่านางจะนึกเสียดายที่ตนเองเกิดมาเร็วเกินไปไม่เช่นนั้น
แล้วนางคงตัดสินใจครอบครองเด็กหนุ่มผู้นี้ในทันทีไปแล้ว
" อร้างงงงงงงงงงงง ~~~~~~~ "
น้ารักจานวนมากที่พุ่งเข้าสู่ภายในตัวของนางมันทาให้ภายในท้อง
ของนางรู้สึกอบอุ่น ขาทั้งสองข้างพร้อมกับมือของผู้อาวุโสฉินเหยา
ค่อยๆคลายออกจากร่างของหลินหมิงด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อนแม้ว่ามันจะ
เป็นเวลาเพียงชั่วสั่นๆแต่นางกลับรู้สึกว่านางได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์มา
นานนับปี
แม้ว่านางจะยังคงรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ความสุขเหล่านี้คงจะจบ
ลงแล้วนางรู้ดีวา่ บุรุษนั้นสามารถปลดปล่อยอารมณ์ของพวกเขา
ออกมาได้เพียงหนึ่งครั้งและยังคงต้องใช้เวลาพักฟื้นไปอย่างยาวนาน
' เอ๊ะ ! '
แต่ทันใดนั้นผู้อาวุโสฉินเหยาพลันพบเรื่องประหลาด
' มันสมควรจะเล็กลงไม่ใช่หรือ ? '
ทวนมังกรของหลินหมิงที่เพิ่งกราศึกมาเมื่อสักครู่อันที่จริงแล้วมัน
สมควรจะหมดแรงไปแล้วเพียงแต่ว่าทวนมังกรของหลินหมิงนั้นกาลัง
ยังคงแข็งตัวอยู่อันที่จริงแล้วนางพบว่ามันยังคงขยายตัวขึ้นมากกว่าเก่า
เสียอีก
" อ๊าา~~~~ "
เมื่อหลินหมิงเริ่มทาการขยับสะโพกของเขาอย่างเชื่องช้าอีกรอบริม
ฝีปากของนางตอบสนองโดยกายส่งเสียงครางออกมาโดยในทันที
เช่นเดียวกัน ในใจของนางในตอนนี้รู้สึกเปี่ยมสุขและเป็นกังวลในเวลา
เดียวกัน แน่นอนว่านางย่อมมีความสุขเป็นอย่างมากที่จะได้ร่วมรักกับ
หลินหมิงต่อไปเช่นนี้แต่เมื่อในตอนนี้นางได้หันกลับไปมองใบหน้าของ
หลินหมิง ใบหน้าของเขาไม่ปรากฎร่องรอยของความเหนื่อยล้าอย่างที่
ควรจะเป็นเลยแม้แต่น้อย
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะมีความาสามรถที่ท้าทายสวรรค์สามารถ
ร่วมรบกับสตรีได้อย่างต่อเหนื่อง ! ลาพังเพียงแค่การศึกในครั้งแรกนาง
ก็พบว่านางนั้นเหนื่อยจนแทบจะสิ้นใจ ไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ที่หลินห
มิงกาลังเคลื่อนไหวด้วยจังหวะที่เร่งเร้าขึ้นแรงแขนทั้งสองข้างของนาง
ที่แต่เดิมนางจะเข้าโอบกอดร่างของหลินหมิงถูกปล่อยทิ้งอย่างไร้
เรี่ยวแรง ในตอนนี้นางทาได้เพียงส่งเสียงครางลิ้มรสความสุขที่กาลัง
เกิดีนโดยไม่
ขึ้ สามารถทาอะไรต่อไปได้ ในที่สุดนางก็ต้องรับมือกับ
กระบวนท่าพิชิตสตรีอันยอดเยี่ยมของหลินหมิงจนกระทั่งนางได้สิ้นสติ
ลงไป
เช้าวันรุ่งขึ้นผู้อาวุโสฉินเหยาขึ้นมาด้วยสภาพสมบูรณ์ยิ่งกว่าเก่า
เมื่อนางลืมตาขึ้นมานางก็พบว่านางยังคงนอนหลับอยู่ในสภาพเปลื่อย
เปล่าภายใต้อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของเด็กหนุ่มที่นางเคยหมายจะเอา
ชีวิต ในตอนนี้นางสามารถมองเห็นใบหน้าของหลินหมิงได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าเขาจะยังคงเป็นเด็กหนุ่มวัย 15 ปีแต่จากลักษณะและนิสัยของ
เขาเห็นได้ชัดว่ามันเหนือกว่าคนในวัยเดียวกันแบบเทียบไม่ติด
นั้นอาจเป็นเพราะว่าในอดีตนั้นเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องพบเจอกับเรื่องราว
อันแสนโหดร้ายนั้นจึงทาให้เขาต้องพยายามเรียนรู้ที่จะมีชีวิตรอด เมื่อ
นึกถึงตรงนี้หัวใจของนางรู้สึกบีบคั้นแม้ว่านางจะได้ร่วมรักกับหลินหมิง
ไปแล้วแต่มันก็เป็นไปได้สูงว่าหลินหมิงจะสามารถทอดทิ้งนางไปได้ทุก
เมื่อ
" อืมมม "
" อะ ! "
ในขณะที่นางกาลังครุ่นคิดร่างของหลินหมิงมีการขยับขึ้นมาพร้อม
กับกระชับร่างของนางให้เข้าหาร่างของหลินหมิงอย่างแนบชิดยิ่ง
กว่าเดิมในตอนนี้นางสามารถสัมผัสได้เลยว่าที่บริเวณส่วนล่างของเจ้า
เด็กหนุ่มผู้นี้มันยังคงพร้อมใช้งานอยู่ ทั้งๆที่เมื่อค่าคืนที่ผ่านมานางต้อง
รับมือกับเขาจนกระทั่งนางสิ้นสติลงไปแต่มันยังคงเรียกได้ว่าไม่เป็น
ปัญหาสาหรับเขา ?
ผู้อาวุโสฉินเหยาแม้ในตอนนี้พละกาลังและความเหนื่อยล้าจากค่า
คืนที่ผ่านมานั้นจะฟื้นคืนเป็นที่เรียบร้อยและมันไม่ใช่เรื่องยากสาหรับ
ที่จะหนีออกจากอ้อมกอดของหลินหมิงในตอนนี้แม้ว่าหลินหมิงจะ
พยายามใช้พละของเขาอย่างเต็มที่ก็ตาม แต่นางยังคงปราถนาที่จะรับ
ความอบอุ่นเช่นนี้ต่อไปอีกสักพัก
" อืมมม เจ้าตื่นแล้ว ? อาาา "
เสียงของหลินหมิงกล่าวออกมาด้วยความเหนื่อยล้าแน่นอนว่ามัน
ไม่ใช่เพราะเรื่องการร่วมรักของเขาและผู้อาวุโสสาวแต่มันเป็นเพราะ
เมื่อคืนที่ผ่านมานั้นเขาต้องใช้พลังงานไปอย่างมากกับการต้อง
เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ไม่เพียงเท่านั้นจิตใจของ
เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยล้าด้วยเช่นเดียวกันความกดดันที่แผ่ออกมาจาก 4
ผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ในคาคื่นที่ผ่านมานั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามัน
เพียงพอที่จะสามารถเข่นฆ่าผู้คนได้อย่างง่ายดายการที่เขาซึ่งเป็นผู้ที่มี
พลังระดับก่อเกิดสามารถอดทนได้โดยสิ้นสติด้วยสภาพบาดเจ็บสาหัส
เช่นนั้นก็นับว่าเป็นปฎิหารย์แล้ว
" นะ..นี้..เจ้า "
ผู้อาวุโสฉินเหยารู้สึกตกใจนางสังเกตเห็นว่าหลินหมิงได้ตื่นขึ้น
มาแล้วอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่าในยามนี้เขากลับข่มตาหลับลงต่อโดย
ศรีษะของเขาพุ่งเข้ามาซุกหน้าอกเปลื่อยเปล่าของนาง
" ข้าเหนื่อย..ขอนอนพักอีกสักหน่อย "
ผู้อาวุโสฉินเหยาหมดหนทางที่จะพูดกับการกระทาของหลินหมิง
เด็กหนุ่มผู้นี้นับได้ว่ามีความแปลกประหลาดโดยแท้จริง เขากล้า
เผชิญหน้าท้าทายกับตระกูลหลินที่เป็นตระกูลของตนเองด้วยตัวคน
เดียวในคืนที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้นในเช้าวันนี้เขาสมควรที่จะต้อง
ระแวงในตัวนางบางไม่ใช่เช่นนั้นหรือ ? ถึงแม้ว่าเขาจะกล่าวว่านางได้
การเป็นสตรีของเขาไปแล้วแต่ใครเล่าที่ยินยอมรับกัน ?
ด้วยการกระทาของหลินหมิงนั้นมันทาให้นางรู้สึกคลายกังวลไป
หลายส่วนแม้ว่านางจะยังไม่มั่นใจสถานะของตนเองในตอนนี้สาหรับ
หลินหมิงแต่มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นศัตรูกับนางอีก
ต่อไป ผู้อาวุโสฉินเหยาผุดรอยยิ้มอันส่องประกายภาพกับนามือทั้งสอง
ข้างกอดร่างของหลินหมิงให้แนบชิดนางยิ่งกว่าเก่าและหลับตาลงไป
ด้วยความสุขอีกครั้ง

ตอนที่ 140
ภายนอกตานักของผู้อาวุโสฉินเหยาได้มีอาวุโสภายในรตระกูลหลิน
จานวนนับสิบคนยืนรออยู่บริเวณภายนอก อันที่จริงแล้วเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อวานนี้พวกเขาที่เป็นผู้อาวุโสของตระกูลย่อมมีสิทธ์ที่จะรับรู้
เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่สาคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการที่
เด็กหนุ่มที่พวกเขาเคยคิดว่าน่าจะเป็นอันตรายต่อตระกูลหลินใน
อนาคตกับเป็นคุณชายของตระกูลหลินด้วยเสียอย่างนั้น !
ในตอนนี้ทั่วทั้งตระกูลหลินราวกับเผชิญหน้ากับมรสุมขนาดใหญ่ที่
มองไม่เห็น หากโดยทั่วไปแล้วผู้คนภายนอกอาจเห็นว่าการที่ตระกูล
หลินได้รับเด็กหนุ่มที่มีความอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งในรอบหลายพันปีนี้
เป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อตระกูล แต่พวกเขาจะสามารถรับรู้ถึงสถานการณ์ได้
ดีเท่ากับผู้คนภายในอย่างนั้นหรือ ?
ด้วยในอดีตที่ผ่านมาคุณชายผู้นี้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสน
สาหัสจากผู้คนภายในตระกูล อีกทั้งพวกเขาที่เป็นผู้อาวุโสก็ต่างไม่มี
ใครให้ความช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วพวกเขากลับคิดไป
ว่าเมื่อไหร่คุณชายผู้พิการผู้นี้จะสิ้นชีวิตไปเสียที ความเป็นจริงที่
เกิดขึ้นในอดีตเช่นนี้มันทาให้แผ่นหลั่งของพวกเขาถึงกับหลั่งเหงื่อเย็น
ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นได้มีข่าวของการบุกรุกที่ตานักของนายน้อยหลินชู
ซึ่งในตอนนี้ตานักแห่งนั้นได้ถึงห้ามไม่ให้ผู้ใดสามารถเข้าไปได้
แต่จากข่าวลือที่ถูกบอกกล่าวออกมานั้นดูเหมือนว่าสภาพของนาย
น้อยหลินชูในตอนนี้จะเรียกได้ว่าน่าสมเพชเสียยิ่งกว่าหลินเสี่ยวต้าอยู่
หลายเท่า แล้วหากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ตองสงสัยเลยว่าอานาจทาง
ตระกูลของตระกูลหลินนั้นจะต้องถูกส่งต่อไปยังรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยม
ที่สุดซึ่งนั้นก็คือคุณชายผู้โหดเ**้ยมผู้นี้ ดังนั้นแล้วพวกเขาจาเป็น
จะต้องขัดขวางในเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ
ยังนับว่าโชคดีอยู่บ้างที่ดูเหมือนคุณชายผู้นี้จะมีความโง่งมเพียง
พอที่จะกล้าท้าผู้อาวุโสฉินเหยา ! นางเป็นถึงผู้ที่มีความแข็งแกร่งเป็น
อันดับสองของตระกูลและยังมีชื่อเสียงในเรื่องของความโหดเ**้ยมที่ไม่
เป็นรองใคร ดังนั้นแล้วพวกเขาในยามนี้ย่อมปราถนาที่จะได้เห็นภาพ
ของหลินหมิงในสภาพที่เดินออกมาจากตานักด้วยสภาพอันน่าสมเพช
ถึงแม้ว่าในเรื่องนี้จะได้การยอมรับจากประมุขของพวกเขาแล้ว
เพียงแต่ด้วยการคัดค้านของผู้อาวุโสจานวนมากและหากมีการ
คัดค้านจากผู้อาวุโสฉินเหยาเมื่อถึงตอนนั้นแม้แต่ประมุขของพวกเขาก็
คงไม่สามารถนิ่งเฉยในเรื่องเหล่านี้ได้
ทันใดนั้นประตูของตานักได้ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวผู้
งดงามและยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยอานาจอย่างแท้จริงแต่ที่แปลกไปกว่า
นั้นคือข้างกายของนางปรากฎร่างของเด็กหนุ่มที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์
เต็มร้อย !
" พวกเจ้าคิดว่าตานักของข้าเป็นสถานที่อันใดกันจึงสามารถมา
เยือนกันได้เป็นจานวนมากโดยไม่มีการถามไถ่เช่นนี้ ! "
ด้วยเสียงอันสดใสแต่เปี่ยมไปด้วยอานาจมันเพียงพอที่จะทาให้ผู้
อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางนั้นแทบจะคุกเข่าลงด้วยความ
อย่างลาบาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรับรู้ความแข็งแกร่งที่แน่ชัด
ของผู้อาวุโสฉินเหยาได้ตั้งแต่ในอดีตแต่พวกเขามีความเห็นตรงกันเลย
ว่าในตอนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยาได้ก้าวเข้าสู่ความแข็งแกร่งในขอบเขตใหม่
" ผู้อาวุโสฉินเหยา..พวกข้าล้วนมาเพื่อสนับสนุนให้ท่านคัดค้าน
ท่านประมุขในเรื่องของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นั้น...ด้วยคากล่าวอ้างของท่าน
ประมุขที่กล่าวว่าเขาเป็นคุณชายหลินหมิงนั้น พวกข้ามีความคิดเห็น
ตรงกันว่าสิ่งเหล่านั้นไม่อาจเชื่อถือได้ด้วยสภาพของคุณชายหลินหมิง
ในยามที่พวกเรารู้กันล่าสุดนั้นยังคงผ่านพ้นไปไม่ถึงปี
แต่ในตอนนี้เด็กหนุ่มผู้นี้กลับมีความสามารถในระดับก่อเกิดขั้น
ปลายแล้ว ! อันที่จริงแล้วพวกข้ามีความคิดเห็นว่าสิ่งเหล่านี้อาจเป็น
เพียงอุบายของเมืองหลวงที่ไว้ใช้เพื่อให้ขุมอานาจของเราและทาง
สมาคมไม่ให้มีการปะทะกันเกิดขึ้น "
" แล้วพวกเจ้าคิดเห็นว่าสมควรทาเช่นใด ? "
สายตาของผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา
เพียงแต่ว่าผู้อาวุโสคนที่กาลังกล่าวถามอยู่ในตอนนี้เขาไม่ได้รับรู้ถึง
ความรู้สึกเหล่านั้น ในตอนนี้จิตใจของเขาปราถนาที่จะทาให้เจ้าเด็ก
หนุ่มตรงหน้าของเขาออกไปจากตระกูลหลินโดยเร็วที่สุด และมันจะ
เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากหากพวกเขาสามารถมอบบทเรียนให้กับเจ้า
เด็กนี้ได้สักเล็กน้อย
" ท่านผู้อาวุโสฉินเหยาอาจจะยังไม่ทราบเมื่อคืนที่ผ่านมานี้ไม่
เพียงแต่เจ้าเด็กผู้นี้จะลักลอบเข้ามาภายในตระกูลของพวกเรา แต่มัน
ยังได้บุกรุกไปยังตานักของนายน้อยชูจนในตอนนี้นายน้อยได้รับ
บาดเจ็บสาหัส...ดังนั้นแล้วคิดเห็นว่าพวกเราน่าจะสมควรทาในสิ่งดะ
.......อ๊าาาาาาาาาากกกกกกกก !! "
ผู้อาวุโสที่กาลังกล่าวกับผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้ส่งเสียงร้อง
ออกมาอย่างเจ็บปวด ด้วยในตอนนี้แขนข้างหนึ่งของเขาถูกตัดออก
พร้อมกับเลือดจานวนมากที่พุ่งออกมาอย่างไม่หยุด ด้วยระดับพลังของ
ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ที่อยู่ใน ณ ทีนี้พวกเขาล้วนมีความแข็งแกร่งในระดับ
จอมยุทธ์ขั้นกลางขึ้นไปทั้งหมด โดยเฉพาะผู้อาวุโสที่กาลังร้องครวญ
ครางอยู่ในตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 8 เลย
เสียด้วยซ้าไป แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้กลับไม่มีใครรู้ว่าผู้อาวุโสผู้นี้
ได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร
" พวกเจ้าคิดว่าข้าโง่เช่นนั้นหรือ ? ลาพังเพียงแค่ดวงตาของพวก
เจ้ายังมองไม่ออกอีกหรือว่านี้คือคุณชายหลินหมิง ? อีกทั้งในค่าคืนที่
ผ่านมาหากไม่ใช่บุคคลที่เคยอยู่ภายในตระกูลมานานหลายปีด้วย
ระดับพลังของเขาที่อยู่ในระดับเพียงก่อเกิดกับตระกูลของพวกเราที่มีผู้
ที่มีระดับจอมยุทธ์อยู่เต็มไปหมด เช่นนี้แล้วเขาจะสามารถลอบเข้ามา
ภายในตระกูลได้โดยง่ายเช่นนี้ ?
ที่สาคัญที่สุดก็คือในเรื่องนี้ท่านประมุขได้เป็นคนตรวจสอบเรื่องนี้
ด้วยตนเอง เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าคิดว่าประมุขของพวกเราสมควรมี
ความกังวลเกี่ยวกับคาขอจากเมืองหลวงอย่างนั้นรึ ? "
คากล่าวของผู้อาวุโสฉินเหยาทาให้ผู้อาวุโสทั้งหมดในทีนี้ถึงกับสั่น
สะท้านอันที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับเหตุผลเหล่านี้แต่พวก
เขาเลือกที่จะปฎิเสธมันไปต่างหาก
" ขะ..ข้า..ผิดไปแล้ว..ดะ..ได้โปรดผู้อาวุโสฉินเหยาให้อภัย "
ใบหน้าของผู้อาวุโสที่ได้รับบาดเจ็บเต็มไปด้วยความซีดเผือก พวก
เขารับรู้ดีถึงความโหดเ**้ยมของหญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างดีแม้ว่าพวกเขาที่
อยู่ ณ ทีแห่งนี้จะมีจานวนมากถึงนับสิบคนแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ไม่มี
ประโยชน์หากจะเทียบกับความแข็งแกร่งของหญิงสาวตรงหน้าเพียง
คนเดียว
" เฮอะ ด้วยการกระทาของพวกเจ้าเห็นได้ชัดว่าพวกเจ้ามีความ
ตั้งใจสร้างความลาบากให้กับบุตรของประมุข อีกทั้งพวกเจ้ายังกล่าว
วาจาราวกับไม่เชื่อใจในตัวท่านประมุข เช่นนั้นแล้วข้าที่เป็นผู้อาวุโส
ฝ่ายลงทัณฑ์ย่อมมีสิทธ์สมควรที่จาลงโทษพวกเจ้าได้ตามใจชอบโดย "
" ผู้อาวุโสฉินเหยาได้โปรดพวกข้าผิดไปแล้ว ! "
ผู้อาวุโสทั้งหมดถึงกับเข่าอ่อนเมื่อได้ยินคากล่าวเช่นนี้ พวกเขาที่
เป็นถึงผู้อาวุโสของตระกูลแต่กับต้องถูกลงโทษเช่นนั้นหรือ หากผู้คนรู้
คนพวกเขาจะยังคงมีหน้าไปพบผู้ใดได้อีกกัน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็
ไม่สามารถหาคากล่าวใดขึ้นมาโต้แย้งได้ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะมี
หนทางเช่นนั้นแต่จะมีใครที่จะกล้ากล่าวกันเล่า !
" ผู้อาวุโสฉินเหยาข้าคิดว่าการลงโทษผู้อาวุโสเหล่านี้อาจเป็นเรื่อง
ที่รุนแรงจนเกินไป "
แม้ว่าจะมีคากล่าวจากผู้อาวุโสจานวนมากเพื่อขอร้องให้ผู้ฉินเหยา
หยุดความคิดเช่นนั้นแต่ดูเหมือนว่านางจะไม่มีท่าทีลังเลใดๆเลย
เพียงแต่ว่าด้วยคากล่าวที่ดังขึ้นจากข้างกายของนางกลับทาให้ผู้อาวุโส
ฉินเหยาละความสนใจจากผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้านางทั้งหมด
ด้วยสถานะของผู้อาวุโสฉินเหยาหากมีใครที่มีความโง่พอที่จะกล้า
กล่าวขัดการกระทาของนางนั้นผู้นั้นล้วนเป็นคนที่ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่
ต่อไปอย่างแน่นอน ทั้งๆทีพวกเขามีความคิดเช่นนั้นเรื่อยมาจนกระทั่ง
ถึงปัจจุบันนี้แต่ความคิดเหล่านั้นของพวกเขาล้วนพังทลายลงในทันที
เมื่อได้เห็นภาพของผู้อาวุโสฉินเหยาที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนไปให้กับเด็ก
หนุ่มข้างกายของนาง

ตอนที่ 141
ด้วยคากล่าวของหลินหมิงแม้ว่ามันจะทาให้ผู้อาวุโสฉินเหยาละเลย
เกี่ยวกับบทลงโทษของผู้อาวุโสจานวนมาก ณ ทีนี้เพียงแต่เมื่อพวกเขา
ได้มองไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผู้
นี้แล้วในใจของพวกเขากลับคิดว่าสิ่งที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กล่าวคงตามมา
ด้วยสิ่งเลวร้ายอย่างแน่นอน
" ด้วยการกระทาของพวกเขาที่หมายต้องการทาร้ายข้าที่เป็นเพียง
รุ่นเยาว์ในตระกูล โทษของพวกเขาย่อมเป็นไปตามที่ผู้อาวุโสฉินเหยา
ได้กล่าวไว้เพียงแต่ว่าตัวข้านั้นเข้าใจดีเกี่ยวกับความคิดของพวกเขาที่
ยังคงมีความไม่เชื่อใจในตัวข้า อย่างไรเสียข้าก็เป็นตระกูลหลิน
เช่นเดียวกันดังนั้นข้าจึงไม่อยากให้คนในตระกูลนั้นต้องทาร้ายกันเอง
เอาเป็นว่าบทลงโทษของพวกเขาก็คือการก้มหัวเคารพข้าทุกครั้งที่เห็น
หน้าก็เพียงพอ "
' บัดซบ !! '
" นี้เจ้ากล่าวไร้สาระอันใดออกมากัน พวกข้าเป็นถึงผู้อาวุโสของ
ตระกูลแล้วเหตุจึงต้องก้มหัวให้.....อั่กกกก ! "
คากล่าวของหลินหมิงนั้นทาให้ผู้อาวุโสถึงกับเดือดดาดด้วยฐานะ
ของพวกเขาที่อยู่ที่นี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้อาวุโสลาดับสูงของตระกูลที่มี
ความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางขึ้นไปทั้งนั้น ด้วยสถานะ
เช่นนี้แม้แต่นายหญิงหรือนายน้อยต่างๆพวกเขาก็ไม่จาเป็นจะต้องก้ม
หัวทาความเคารพให้บุคคลที่พวกเขาต้องทานั้นมีเพียงหนึ่งนั้นก็คือ
ประมุขตระกูลเท่านั้น
แต่คากล่าวแย้งของพวกเขาล้วนพลันต้องถูกกล้ากลืนลงคอไปเสีย
จนหมดสิ้นเมื่อได้เห็นภาพของผู้อาวุโสที่กาลังกล่าวแย้งหลินหมิงอย่าง
ทันควันได้ล้มลงไปนอนกับพื้นเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว แม้ว่าอาการ
บาดเจ็บของเขาจะยังคงดีกว่าผู้อาวุโสที่เสียแขนไปข้างหนึ่งแต่นั้นไม่ได้
หมายความว่าผู้อาวุโสผู้นี้แข็งแกร่งกว่าแต่ผู้อาวุโสฉินเหยาเลือกที่จะ
ลงมือแบบสถานเบาให้กับเขาต่างหาก
พวกเขาทุกคนล้วนเขาใจสถานการณ์ตรงหน้านี้อย่างท่องแท้แล้ว
ด้วยการลงมือของผู้อาวุโสฉินเหยาเมื่อสักครู่ หากเป็นไปตามปกตินั้นผู้
อาวุโสผู้นี้คงไม่พ้นชะตาที่จะต้องสูญเสียเช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสก่อน
หน้า แต่มันเป็นเพราะคากล่าวของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จึงทาให้นางเลือกที่
จะลงมือกับพวกเขาเพียงสถานเบาเท่านั้น
" หากมีพวกเจ้าคนใดคิดกล่าวค้านอีกแล้วละก็ มันผู้นั้นจะได้รับ
การยกเว้นจากคุณชายหลินหมิงแต่มันจะได้รับบทลงโทษจากข้าแทน !
"
ผู้อาวุโสนับสิบคนในตอนนี้ได้แต่นึกเสียใจหากพวกเขาไม่มี
ความคิดที่มาเอาเรื่องกับหลินหมิงในวันนี้ทุกอย่างมันก็คงไม่เกิดขึ้น
แม้ว่าด้วยตัวเลือกของหลินหมิงนั้นจะไม่ทาให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ
หรืออันตรายใดๆถ้าเทียบกับของผู้อาวุโสฉินเหยา แต่ด้วยการกระทา
ของพวกเขาเช่นนี้มันย่อมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้งหมดนี้ล้วน
สนับสนุนให้กับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วผู้อาวุโสที่เหลือ
ภายในตระกูลจะคิดเห็นเช่นไรกัน ?
แต่เดิมนั้นพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มผู้นี้นับได้ว่าเหนือกว่าผู้อื่นใน
ตระกูลอย่างเห็นได้ชัดแต่สงิ่ ที่เขายังคงขาดไปไม่เหมือนกับรุ่นเยาว์คน
อืน่ นัน้ ก็คอื ผูอ้ าวุโสทีใ่ ห้การสนับสนุนเขา แต่ในตอนนี้สิ่งเหล่านั้นล้วน
นับว่าเกินพอสาหรับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ลาพังเพียงแค่ผู้อื่นที่ได้เห็นพวก
เขาก้มหัวเคารพเจ้าเด็กผู้นี้นั้นก็เพียงพอที่จะทาให้สถานะของหลินห
มิงนั้นพุ่งสูงขึ้นในทันที ไม่เพียงเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าในตอนนี้หลินหมิง
ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้อาวุโสฉินเหยา กล่าวได้ว่า
ในตอนนี้หลินหมิงคือคนที่มีฐานะสูงสุดในบรรดารุ่นเยาว์ทั้งหมดอย่าง
แท้จริง
ร่างของหลินหมิงและผู้อาวุโสฉินเหยาได้หันหลังกลับเข้าไปยังตา
นักโดยไม่สนใจเหล่าผู้อาวุโสที่กาลังเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ในวันนี้
สภาพของพวกเขาในตอนนี้ราวกับว่าอายุขัยของพวกเขาถูกลดลงไป
เป็นสิบปี
ตรงกันข้ามกันผู้อาวุโสที่อยู่ด้านนอกทั้งหมดใบหน้าของผู้อาวุโสฉิน
เหยาในตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกยินดี ไม่เพียงแต่ในตอนนี้นางจะ
พบว่าความแข็งแกร่งของนางได้พัฒนามาอย่างก้าวกระโดดจนอยู่ใน
ระดับปราญช์ขั้น 3 แถมยังคงเป็นจุดสูงสุดของขั้นที่ 3 อีกด้วย ด้วย
ความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้นางมั่นใจได้เลยว่านางสามารถ
เอาชนะผู้อาวุโสฟางซิ่นได้อย่างแน่นอน
ไม่เพียงเท่านั้นในตอนนี้ร่างกายของนางราวกับว่ามันได้ถูกสรร
สร้างขึ้นมาใหม่นางสามารถรับรู้ได้ถึงกับหมุนเวียนลมปราณภายในร่าง
ที่ดีกว่าเมือ่ ก่อนอย่างเทียบไม่ติด ด้วยสภาพร่างกายของนางในตอนนี้
แล้วนั้นอนาคตของนางอาจจะก้าวไปได้ถึงระดับปราญช์ขั้นปลายเลยก็
ว่าได้ แต่ที่สาคัญที่สุดก็คือการที่นางได้รับการยอมรับจากหลินหมิงเด็ก
หนุ่มผู้ที่ได้มอบความสุขในฐานะสตรีและยังคงมอบความแข็งแกร่งใน
ระดับใหม่นี้ให้แก่นาง
หลินหมิงในตอนนี้หากเขาต้องการอาศัยภายในตระกูลหลินแห่งนี้
เขาไม่จาเป็นที่จะต้องกลับไปยังบ้านเก่าของเขาอีกต่อไป เพราะว่าเขา
สามารถอยู่อาศัยที่ตานักของผู้อาวุโสฉินเหยาที่ต้อนรับเขาอย่าง
ตลอดเวลา หลินหมิงพร้อมกับผู้อาวุโสฉินเหยาได้เข้าไปยังห้องฝึกตน
ภายในตานักแน่นอนว่าไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสฉินเหยาเท่านั้นที่ได้ก้าวสู่
ขอบเขตใหม่หลินหมิงเองก็เช่นเดียวกัน
ด้วยพลังงานที่เขาได้รับมาจากผู้อาวุโสเซี่ยงหรง และผู้อาวุโสฉิน
เหยานั้นในตอนนี้มันทาให้เขาได้ก้าวกระโดดขึ้นสู่ระดับจอมยุทธ์ขั้น 3
ในทันทีด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้หลินหมิงเชื่อว่าแม้แต่ระดับ
จอมยุทธ์ขั้นกลางนั้นก็ยากที่จะสามารถเอาชนะเขาได้
ไม่เพียงเท่านั้นทักษะ [ ดรรชนีเพลิง ] ของเขาก็ยังคงได้รับการ
ยกระดับหากไม่นับในเรื่องที่ทักษะนี้ต้องใช้ปราณของเขาไปเป็น
จานวนมากสาหรับหลินหมิงแล้วเขาคิดว่าทักษะนี้ไร้ซึ่งจุดอ่อนอย่าง
สิ้นเชิง ไม่เพียงแต่มันจะมีพลังโจมตีที่น่าหวาดหวั่นแต่ความเร็วของมัน
ก็เป็นเรื่องที่น่าหวั่นเกรงไม่แพ้กัน ในตอนนี้หากต้องเผชิญหน้ากับ
ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดด้วยทักษะนี้ของเขาหลินหมิงมั่นใจว่ามันย่อม
สร้างความตื่นตระหนกให้กับอีกฝ่ายไม่ใช่น้อย
ด้วยการก้าวขึ้นระดับใหม่นี้สิ่งที่หลินหมิงรอคอยไม่ใช่การยกระดับ
ของทักษะของเขาเพียงเท่านั้นในอดีตในตอนที่หลินหมิงได้ก้าวเข้าสู่
ระดับก่อเกิดเขาได้รับทักษะ [ ดรรชนีเพลิง ] มาและในตอนนี้ที่เขาได้
ก้าวเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์เล่า ?
[ ร่างแยกเพลิงอัสนี ]
[ เพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ ]
[ จิตสายฟ้า ]
' 3 ทักษะ ? '
ในตอนนี้ทักษะที่หลินหมิงได้รับจากการเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์นั้นมี
ถึง 3 ทักษะเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เขาได้เข้าสู่ระดับก่อเกิดนั้นเขาได้รับ
เพียงทักษะเดียว ซึ่งที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นไปว่าเพราะว่าในตอนนี้เปลว
เพลิงของเขาได้รับการพัฒนาจากพลังงานสายฟ้าประหลาดหรือไม่ก็
เพราะว่าการก้าวข้ามสู่ระดับจอมยุทธ์นั้นทาให้เข้าได้รับผลลัพธ์ที่ยอด
เยี่ยมยิ่งกว่าระดับก่อเกิด
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดด้วยทักษะทั้ง 3 นี้หลินหมิงไม่มีความสงสัย
ในเรื่องความแข็งแกร่งของพวกมันเลยแม้แต่น้อย ด้วยทักษะ [ ร่าง
แยกเพลิงอัสนี ] มันจะสามารถทาให้เขาสร้างร่างแยกออกมาได้หนึ่ง
ร่างโดยที่ร่างแยกนี้เขายังคงสามารถควบคุมได้ แต่มันจะมีพลังเพียงแค่
หนึ่งในสี่ส่วนเท่านั้น และจุดอ่อนที่สาคัญของทักษะนี้ก็คือการที่เขา
จะต้องแบ่งจิตไปควบคุมร่างแยกระหว่างต่อสู้ แต่มันก็ยังคงนับว่าเป็น
ทักษะที่ยอดเยี่ยมที่สามารถนาไว้ใช้หลอกหลวงศัตรูได้
[ เพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ ] มันเป็นทักษะที่จะทาการรวบรวม
พลังงานสายฟ้าและเปลวเพลิงภายในร่างของหลินหมิงเพื่อโจมตีใส่
เป้าหมาย แน่นอนว่าผลของทักษะไม่ได้มีเพียงเท่านี้เนื่องจากเขา
สามารถควบคุมพลังงานที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมซึ่งมันแตกต่างจาก [
ดรรชนีเพลิง ] ของเขาที่มันจะกินไปพลังงานไปอย่างมหาศาลภายใน
ทีเดียว
[ จิตสายฟ้า ] ทักษะนี้จะทาให้พลังงานสายฟ้าภายในร่างของ
หลินหมิงกระตุ้นการทางานของอวัยวะทั่วร่างและทาให้เกิดการหมุน
วนของลมปราณที่รวดเร็วชั่วขณะหนึ่ง ผลของมันจะทาให้หลินหมิง
ได้รับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่า แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อ
สิ้นสุดผลของทักษะมันก็จะทาให้เขาอ่อนแรงลงเป็นอย่างมากด้วย
เช่นเดียวกัน
' อาา '
หลินหมิงเผลอส่งเสียงร้องออกมาด้วยความยินดีอย่างแท้จริงเดิมที
เขาคิดว่าจะสามารถต่อกรกับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางได้อย่าง
ไม่มีปัญหาแต่ด้วยทักษะเหล่านี้การต่อสู้กับผู้ที่มีพลังระดับจอมุยทธ์ขั้น
ปลายก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ตอนที่ 142
หลินหมิงใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการทาความเข้าใจเกี่ยวกับขอบเขต
พลังและทักษะใหม่ของเขา และในยามค่าคืนนั้นเขาจะใช้เวลาร่วมกับ
ผู้อาวุโสฉินเหยาอย่างเร้าร้อน แน่นอนว่าในเรื่องนี้ผู้อาวุโสฉินเหยา
ไม่ได้มีการปฎิเสธแต่อย่างใดอันที่จริงแล้วนางยินดีที่จะได้รับการร่วม
รักอย่างเช่นนี้ไปตลอดอยู่แล้ว
ไม่เพียงแต่มันจะทาให้นางได้รับความสุขของหญิงสาวในปริมาณที่
มากล้นจนภายในใจของนางแทบจะระเบิดออกมา แต่มันยังเป็นการ
บ่มเพาะพลังของนางไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน โดยที่หลินหมิง
ไม่ลืมที่จะส่งจดหมายไปบอกกล่าวกับอาจารย์สาวสวยของเขา
สาหรับจูหนิงเอ๋อร์นั้นนางไม่มีความสงสัยในเรื่องที่หลินหมิงที่
ต้องการบ่มเพาะพลังของเขาในตอนนี้ ตามความคิดของนางนั้นหลินห
มิงมีความสามารถที่จะสามารถพัฒนาตนเองได้ในยามที่เขาได้พบเจอ
กับอันตรายที่มากเกินกว่าขอบเขตพลังของเขาอย่างมากดังเช่นในตอน
แรกที่เขาได้พบกับนาง หรือในตอนที่เขากล้าเผชิญหน้ากับหลินฮ่าว
ดังนั้นแล้วมันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่จะมีความหลุ่ม
หลงกับขอบเขตพลังใหม่ที่พวกเขาได้รับ
แต่สิ่งที่นางเป็นกังวลนั้นก็คือการที่หลินหมิงต้องอาศัยอยู่ในตระกูล
หลิน แต่ด้วยเขาบอกกล่าวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของผู้อาวุโสฟางซิ่น
ที่บอกกล่าวกับนางเอาไว้ว่าผู้อาวุโสฉินเหยาจะเป็นคนดูแลเขา
เอง สาหรับนางแล้วนั้นนี้นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างมากไม่
เพียงแต่ผู้อาวุโสฉินเหยาจะขึ้นเชื่อในเรื่องของความโหดร้ายแต่เห็นได้
ชัดว่านางได้มีปัญหาอย่างรุนแรงกับหลินหมิงแล้วเช่นนั้นเหตุใดผู้
อาวุโสผู้นี้ถึงต้องดูแลศิษย์ของนางกัน ?
แต่เมื่อนางได้รับจดหมายจากหลินหมิงที่ส่งโดยคนจากตานักของผู้
อาวุโสฉินเหยาความกังวลต่างๆของนางก็พลันหายไปจนสิ้น
ภายในตานักของอาจารย์สาวสวยของเขา หลินหมิงรีบกลับมาหา
อาจารย์สาวสวยของเขาเป็นอันดับแรก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการที่เขา
ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวหน้าเช่นนี้มันจะทาให้อาจารย์สาวสวยของ
เขามีความสุขเป็นอย่างมาก ใบหน้าของจูหนิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงและสุขใจในชั่วเวลาเดียวกันแม้ว่านางจะคาดเดาเอาไว้บ้าง
แล้วว่าศิษย์ของนางผู้นี้จะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์ได้จริงๆแต่
นี้มันนับเป็นความเร็วที่น่าตื่นตะลึงจนเกินไป
ไม่เพียงเท่านั้นเขากลับก้าวขึ้นมาสู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 3 ด้วย
ความแข็งแกร่งของเขาเช่นนี้มันคงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่จะหาผู้ที่
แข็งแกร่งกว่าเขาในรุ่นเดียวกันหรือกระทั่งคนที่มีอายุมากกว่าเขานับ
สิบปี
" ฮ่า ๆ ยอดเยี่ยม ๆ เจ้าทาได้ดีมาก ไม่เพียงแต่จะสามารถก้าวเข้า
สู่ระดับจอมยุทธ์ได้เจ้ายังคงสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์ขั้น 3
ได้ด้วยสภาพที่มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง "
เสียงหัวเราะและใบหน้าที่กาลังเปี่ยมสุขของอาจารย์สาวสวยของ
เขานับเป็นหนึ่งในรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่หลินหมิงต้องการพบเห็นมากเสีย
ยิ่งกว่าสมบัติใดๆ ด้วยรอยยิ้มและเสียหัวเราะอันสดใสของนางนั้น
เพียงพอที่ทาให้เหล่าบุรุษถึงเคลิ้มอยู่ห้วงอารมณ์แห่งฝันไปได้หลายค่า
คืน
" ทั้งหมดเป็นเพราะข้าได้รับโอกาสจากท่านอาจารย์ทั้งสิ้น "
จูหนิงเอ๋อร์ถึงกับยิ้มชอบใจยิ่งกว่าเดิม หลินหมิงได้ใช้เวลาพูดคุย
กับอาจารย์สาวสวยของเขาอีกสักพักซึ่งอันที่จริงแล้วมันอาจกล่าวได้ว่า
เป็นเพียงคากล่าวจากอาจารย์สาวสวยของเขาเพียงฝ่ายเดียวเสีย
มากกว่า ด้วยความสาเร็จของหลินหมิงมันอดไม่ได้ที่จะทาให้นางรู้สึก
ตื่นเต้น นางยินดีที่จะมอบทรัพย์สมบัติที่หลินหมิงต้องการเพื่อใช้ใน
การสนับสนุนการพัฒนาของเขา
แม้ว่าหลินหมิงจะกล่าวว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่จาเป็นแต่ดูเหมือนว่า
เขาจะไม่สามารถเลี่ยงที่จะรับพวกมันเอาไว้ได้ แน่นอนว่าในเมื่อ
อาจารย์สาวสวยของเขายินดีมอบให้เช่นนี้แม้ตัวเขาจะไม่สามารถใช้
ประโยชน์อันใดได้แต่กลับแม่สาวตัวน้อยอย่างหลิวฉวนยูร์และภรรยาผู้
แสนน่ารักของเขาอย่างจิวหลินนั้นยังคงต้องการพวกมันอย่างไม่ต้อง
สงสัย เกี่ยวกับสมบัติต่างๆที่เขาได้รับมานั้นแม้ว่ามันอาจแปลกไปบ้าง
ที่พวกมันส่วนใหญ่จะเป็นโอสถที่เอาไว้ใช้สาหรับรักษาบาดแผล หรือ
พิษต่างๆ
แต่นั้นเป็นเพราะว่าอาจารย์ของเขาคิดว่าด้วยวิธีการพัฒนาของ
หลินหมิงที่จะต้องอาศัยเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่มีภัย
คุกคามถึงชีวิต แน่นอนว่ามันยังคงมีสมบัติที่ใช้สาหรับการบ่มเพาะอีก
เป็นจานวนไม่น้อยด้วยทรัพย์สมบัติในตอนนี้ของหลินหมิงที่ได้รับมา
จากอาจารย์สาวสวยของเขา และผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือกระทั่งสตรีคน
ล่าสุดของเขาผู้อาวุโสฉินเหยามันทาให้หลินหมิงในตอนนี้มีความมั่งคั่ง
มากเสียยิ่งกว่าผู้อาวุโสหลายคนในสมาคมไปเสียแล้ว
" อา...จริงสิ ! "
เสียงของอาจารย์สาวสวยของเขาหยุดลงพร้อมกับการแจกจ่าย
สมบัติของนางที่ให้กับหลินหมิงอย่างไม่มีอาการหวงแหนแม้ว่าทรัพย์
สมบัติเหล่านี้จะมีค่าค่อนมากแต่ด้วยฐานะของนางสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่
เรื่องยากนักที่นางจะหามาใหม่ได้ ท่าทางของนางพลันแปรเปลี่ยนไป
ราวกับว่าพึ่งนึกบางสิ่งที่สาคัญขึ้นได้
" ที่จริงแล้วสามวันที่ผ่านมานี้มีการเรียกตัวเหล่ารุ่นเยาว์ที่ได้รับ
การคัดเลือกให้เดินทางไปยังเมืองหลวงแล้ว..แต่ในกรณีของเจ้าข้าได้
บอกกับพวกเขาไปแล้วว่าในตอนนี้เจ้ากาลังอยู่ในช่วงพัฒนาตนดังนั้น
พวกเขาจึงยกเว้นเจ้าเอาไว้เป็นกรณีพิเศษ "
เมื่อถึงตรงนี้หลินหมิงพลันเข้าใจถึงความแปลกประหลาดในยามที่
เขากลับมายังสมาคม นั้นก็คือการที่เขาไม่ได้เห็นภรรยาผู้แสนน่ารัก
ของเขา ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้นับรวมเป็นเข้าเป็นศิษย์ของสานักที่เมือง
หลวงเพียงแต่ว่าด้วยความแข็งแกร่งและพื้นฐานของนางในเร็วๆนี้ที่ได้
ก้าวเข้าสู่ระดับเริ่มต้นขั้นที่ 8 ระดับสูงสุดด้วยวัย 18 ปี แม้ว่ามันจะ
เป็นพรสวรรค์ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นอย่างมากแต่ก็ใช่ว่าจะสามารถได้
สิทธ์พิเศษเช่นเดียวกันกับหลิวฉวนยูร์ที่อยู่ในระดับ 8 เช่นเดียวกันแต่
นางพึ่งมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น หรือกระทั่งหลัวฉิงเชี่ยนที่อยู่ในระดับ
ก่อเกิดขั้นที่ 3 ด้วยอายุ 20 ปี
แต่การที่นางได้รับสิทธ์พิเศษนั้นเพราะว่าพวกเขาเห็นว่าพื้นฐาน
พลังของนางนั้นมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากอันที่จริงแล้วพวกเขาไม่
เคยพบเห็นรุ่นเยาว์คนใดที่มีพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาก่อน ( ยกเว้น
หลินหมิง ) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้วยการร่วมรักเป็นจานวนระหว่าง
หลินหมิงและจิวหลินมันจึงทาให้พลังพื้นฐานในร่างกายของนางนั้น
ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าหลิวฉวนนยูร์ในตอนนี้เสียอีก ดังนั้นแล้วมันเป็น
เรื่องธรรมดาที่ทางเมืองหลวงจะยกให้ภรรยาผู้น่ารักของเขาเป็นกรณี
พิเศษเช่นเดียวกัน
" แล้วข้าจะต้องเดินทางวันไหน ? "
" อืม..แม้ว่าข้าจะอยากให้เจ้าได้พักอีกสักหน่อยแต่มันคงไม่ดีนัก
หากพวกเรายังคงล่าช้าไปกว่านี้ ดังนั้นแล้วข้าสามารถให้เจ้าพักผ่อนได้
วันนี้อีกเพียงวันเดียวเท่านั้น และวันรุ่งขึ้นก็คือวันที่เจ้าต้องเดินทาง
และเจ้าไม่จาเป็นต้องกังวลในเรื่องใดในการเดินทางครั้งนี้จะมีผู้อาวุโส
ฟางซิ่นเดินทางไปกับเจ้าด้วย ! "
หลินหมิงหลังจากที่เขาใช้เวลาพูดคุยกับอาจารย์สาวสวยจนเสร็จ
สิ้นเขาไม่ได้กลับไปที่ตานักของเขาแต่อย่างใด ในเมื่อในตอนนี้ภรรยาที่
น่ารักของเขาอย่างจิวหลินไม่ได้อยู่ที่ตานัก ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องทาการ
เปลี่ยนสถานที่ทาการยามค่าคืนของเขาในคืนนี้ซึ่งนั้นก็คือตานักของผู้
อาวุโสฟางซิ่น !
ด้วยบทลีลาและท่วงท่าอันร้อนที่ได้รับการพัฒนาจากการร่วมรัก
กับหลินหมิงในครั้งก่อนทาให้ในตอนนี้นางมีทักษะที่เรียกได้ว่าสามารถ
รับมือกับหลินหมิงได้อย่างยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าจิวหลินที่มีโอกาสร่วม
รักกับเขามากที่สุดเสียอีก หลินหมิงได้ใช้เวลาร่วมรักกับผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเพียงสองชั่วยามเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วเป็นไปได้ว่าผู้อาวุโสผู้เย้ายวน
ผู้นคี้ งไม่สามารถเดินทางร่วมกับเขาในวันพรุ่งนี้ได้เป็นอย่างแน่นอน

ตอนที่ 143
วันรุ่งขึ้นหลินหมิงเดินออกเดินทางโดยรถม้าที่อาจารย์สาวสวยของ
เขาได้จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแม้ว่าในตอนแรกนางจะ
ต้องการให้ผู้อาวุโสคนอื่นติดตามไปด้วยแต่ด้วยการคัดค้านจากผู้
อาวุโสฟางซิ่นซึ่งดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสาวผู้นี้จะต้องการมีเวลาส่วนตัว
กับหลินหมิงโดยไม่ให้มีผู้ใดมาขว้างกั้น แน่นอนว่าหากนับตามความ
แข็งแกร่งของผู้อาวุโสฟางซิ่นแล้วนั้นมันย่อมทาให้อาจารย์สาวสวย
ของเขาเบาใจได้อยู่ไม่ใช่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นเพิ่งก้าวเข้าสู่
ระดับปราญช์ได้ไม่นานเช่นนั้นแล้วถึงแม้ว่าระดับพลังปราณของนาง
จะอยู่ในขั้นที่สองแล้วก็ตามที่แต่ด้วยระยะเวลาอันสั้นนี้มันทาให้
อาจารย์สาวสวยของเขาคิดเห็นว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นคงยังไม่สามารถคุ้น
ชินกับขอบเขตพลังระดับใหม่ได้มากนัก แต่ด้วยการปรากฎตัวของ
หญิงสาวที่ทาให้ผู้อาวุโสทั้งหลายขมวดคิ้วกระทั่งอาจารย์สาวสวยของ
เขาเช่นเดียวกัน
" ข้าจะติดตามไปด้วย "
คากล่าวที่แสนเรียบง่ายแต่มันกลับทาให้บรรดาผู้อาวุโสน้อยใหญ่ที่
หวังสร้างความดีความชอบให้หลินหมิงพอใจถึงกับตื่นตระหนกกับการ
ได้พบเห็นหน้าของผู้อาวุโสผู้งดงามผู้นี้ สตรีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความ
โหดร้ายโดยไม่เป็นสองรองใครผิดกับใบหน้าอันงดงามของนาง
" ถึงอย่างไรในตอนนี้เขาก็เป็นหนึ่งในตระกูลหลินอันเป็นที่รู้กันไป
ทั่วเมืองแล้ว เช่นนั้นมันคงไม่ดีนักหากตระกูลหลินของเราไม่ให้
ความสาคัญกับอัจฉริยะเช่นเขา "
สตรีที่ปรากฎตัวขึ้นนี้ก็คือผู้อาวุโสฉินเหยานั้นเอง จูหนิงเอ๋อร์นาง
เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดผู้อาวุโสฉินเหยาที่นางได้พบเห็นเมื่อ
หลายวันก่อนกับวันนี้มันช่างแตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน หากนาง
ไม่เคยได้รับรู้ถึงเรื่องราวและชื่อเสียงของผู้อาวุโสสาวผู้นี้มาด้วยตนเอง
แล้วละก็นางคงคิดว่าคากล่าวอ้างเหล่านั้นเป็นเพียงสิ่งหลอกหลวง
เพียงเท่านั้น
แม้ว่าผู้อาวุโสทั้งหลายจะอยากกล่าวโต้กับคากล่าวของผู้อาวุโสฉิน
เหยา อันที่จริงแล้วพวกเขาล้วนมีความหวังที่จะได้ใกล้ชิดกับหลินหมิง
ให้มากขึ้นเพื่อความรุ่งโรจน์ของพวกเขาเอง ด้วยอายุเพียง 15 เกือบ
16 ปีในตอนนี้ไม่เพียงแต่สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับก่อเกิดขั้นปลายได้
แต่เข้ายังคงก้าวเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์เข้าไปแล้ว ด้วยความแข็งแกร่ง
ของหลินหมิงในตอนนี้พวกเขาเชื่อว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงมีความ
แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าผู้อาวุโสบางคนเสียอีก
แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีหรือที่พวกเขาจะกล้ากล่าวคาเหล่านั้นออกไป
ในตอนนี้แม้แต่ตัวตนระดับสูงอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือกระทัีงประมุ
่ ข
ของพวกเขายังคงไม่มีความคิดที่จะคัดค้านใดๆแล้วพวกเขาจะมีสิทธ์
อันใดในการกล่าววาจาใดๆอีก ?
" เช่นนั้นข้าคงต้องขอรบกวนผู้อาวุโสแล้ว "
หลินหมิงและผู้อาวุโสสาวทั้งสองขึ้นรถม้าพร้อมกับออกเดินทาง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในทันที แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้
พบเห็นใบหน้าของอาจารย์สาวสวยของเขาไปอีกนาน แต่อย่างไรก็
ตามนางได้กล่าวเอาไว้ว่านางจะหาเวลามาเยี่ยมเขาเท่าที่จะเป็นไปได้
" อ๊ะ ! ยะ...อย่าเพิ่งสิเจ้าคะ "
ภายในรถม้าหลินหมิงรวบร่างของสตรีผู้งดงามทั้งสองข้างมาแนบ
กายของเขาพร้อมกับเข้าสัมผัสหน้าอกคู่งามขนาดใกล้เคียงกันของ
หญิงสาวทั้งสอง ด้วยการจู่โจมอันน่าตื่นตะลึงของหลินหมิงทาให้ผู้
อาวุโสฟางซิ่นที่แม้ว่านางจะคาดหวังในสิ่งเหล่านี้เอาไว้อยู่แล้วแต่นาง
ไม่คาดคิดว่าเขาจะลงมือกระทั่งในตอนที่รถม้ายังไม่ทันออกจากตัว
เมืองเลยเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะว่าภายในรถม้ามีการลงคมที่เก็บเสียง
เอาไว้แล้วละก็เสียงครางสะดุ้งเมื่อกี้ของนางและผู้อาวุโสฉินเหยาคงได้
หลุดออกไปให้แก่ผู้คนโดยรอบไปแล้ว
แตกต่างจากผู้อาวุโสฟางซิ่นที่มีท่าทีตื่นตระหนกเล็กน้อย ผู้อาวุโส
ฉินเหยากลับมีท่าทีตื่นตระหนกเป็นอย่างมากอันเนื่องมากจากการที่
นางต้องโดนหลินหมิงจู่โจมสัมผัสเรือนร่างขอนางอย่างกระทันหัน
แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นสิ่งเหล่านี้ไม่อาจนับว่าเป็นสิ่งที่แปลก
ประหลาดในชีวิตประจาวันของนางก็ตามที่ เพียงแต่ว่าในตอนนี้ได้มี
บุคคลอื่นอยู่ด้วยมันจึงอดไม่ได้ที่นางจะรู้สึกตื่นตระหนก
" นี้หรือว่าเจ้าเองก็....ทากับ...นาง ? "
ผู้อาวุโสฉินเหยาสามารถบอกได้ทันทีจากการตอบสนองของผู้
อาวุโสฟางซิ่นที่แทบไม่ปรากฎท่าทีขวยเขินเหมือนกับนางนั้นแสดงได้
ว่าหญิงสาวผผู้นี้ได้มีประสบการณ์กับเด็กหนุ่มมายังมากมายยิ่งกว่า
นางเสียอีก
" คิคิ...สามีท่านยังไม่ได้บอกนางรึเจ้าคะ "
เสียงของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนเข้ามาสู่โสด
ประสาทของหลินหมิงจนทาให้เขาแทบจะบ้าคลั่งขึ้นอีกครั้ง แต่ยัง
นับว่าเป็นโชคดีอยู่บ้างที่ในค่าคืนที่ผ่านและหวายวันที่ผ่านมานี้เขาได้
ระบายอารมณ์ออกไปมากไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นแล้วแม่ผู้อาวุโสสาวผู้
เย้ายวนผู้นี้คงได้เสร็จศึกกับเขาไปแล้ว
หลินหมิงกล่าวเล่าเรื่องของเขากับความสัมพันธ์ของหญิงสาวแทบ
จะทุกคนให้ผู้อาวุโสฉินเหยาได้รับฟังในตอนนี้ดวงตาของนางเบิกกว้าง
ด้วยความตื่นตะลึง ไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่ได้ตกเป็นของเจ้าเด็กหนุ่ม
ผู้นี้กระทั่งหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของเขาในตอนนี้ที่มีตาแหน่งสูงส่งใน
สมาคมนักปรุงยา หรือกลุ่มผู้อาวุโสสาวทั้งห้าจากเมืองหลวงก็ยังคงไม่
รอดพ้นเงื้อมมือของเด็กหนุ่มผู้นี้
หรือแม้กระทั่งนายหญิงจากตระกูลหลิว หย่าเฟยก็ยังคงตกเป็น
ของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ที่สาคัญที่สุดก็คือ เหม่ยฮวา และ หว่านอิ๋ง และผู้
อาวุโสเซี่ยงหรง ในตอนที่นางได้ยินเรื่องราวของเหม่ยฮวานั้นร่างของ
นางสั่นไปด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ถึงอ้อม
กอดอันอบอุ่นของหลินหมิงที่โอบกอดร่างของนางให้แนบชิดตัวเขา
ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
" เจ้าไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นไปข้าไม่มีความคิดที่จะทาร้ายเจ้าดั่ง
เช่นนั้นอย่างแน่นอน...ข้าคงไม่มีความคิดโง่งมมากพอที่จะทิ้งที่ยอด
เยี่ยมเช่นเจ้าไปหรอก ฮ่าๆ "
แม้ว่าคากล่าวของหลินหมิงจะทาให้นางร้ีสึกแปลกประหลาดอันที่
จริงแล้วมันสมควรเป็นคากล่าวที่ปลอบประโลมนางอย่างนั้นไม่ใช่หรอ
แต่อย่างไรก็ตามเทียบกับคากล่าวของหลินหมิงเช่นนี้แล้วในตอนนี้นาง
มีความรู้สึกว่าคากล่าวของหลินหมิงเช่นนี้ดูมีความน่าเชื่อมากกว่าคา
กล่าวปลอบประโลมเหล่านั้น แต่นางก็ยังคงไม่พอใจท่าทีหัวเราะชอบ
ใจของหลินหมิงในตอนนี้อยู่อันที่จริงแล้วมันเป็นความคิดหมั้นไส้เจ้าตัว
ร้ายน้อยผู้นี้เสียมากกว่า ดังนั้นแล้วนางที่ตอนนี้กาลังแอบอิงแผงอก
ของเขาจึงได้แต่ทุบอกประท้วงเล็กน้อยเพียงเท่านั้น
" เช่นนั้นแล้วในตอนนี้ข้าก็นับได้ว่าเป็นภรรยาของเจ้าใช่หรือไม่ ?
"
ด้วยคาถามของผู้อาวุโสฉินเหยามันทาดวงตาของผู้อาวุโสฟางซิ่น
ท้อประกายด้วยความคิดเจ้าเล่ห์อะไรบางอย่าง แน่นอนว่าหลินหมิ
งพอเข้าใจความคิดของผู้อาวุโสสาวผู้นี้ไม่มากก็น้อย นั้นก็เพราะว่ากว่า
ที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นจะได้รับการยอมรับจากหลินหมิงให้ได้รับตาแหน่ง
ภรรยานั้นนางยังคงต้องอยู่ในสถานะข้ารับใช้มาก่อน และกว่านั้นจะ
สามารถพัฒนาสถานะของตนเองมาได้นั้นก็นับได้ว่าต้องเรียนรู้วิชามา
ไม่น้อยเพื่อทาให้หลินหมิงพอใจ เช่นนั้นแล้วนางจะสามารถปล่อยให้
สตรีหน้าใหม่ผู้นี้ได้รับตาแหน่งโดยง่าย ?
แน่นอนว่านางไม่มีความคิดที่จะขัดขวางหลินหมิงในการรับสตรีเข้า
มาเพิ่ม แต่อย่างน้อยที่สุดนางรู้สึกว่ามันจะไม่เป็นธรรมอย่างมากหาก
สตรีเหล่านั้นสามารถรับสถานะภรรยาของเขาได้เลยในทันที
" ไม่...ที่จริงแล้วมันมีขั้นตอนอีกเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าข้าไม่ได้ไม่เชื่อใจ
เจ้าเพียงแต่ว่ามันเป็นเงื่อนไขที่บรรดาสตรีของสามีกาหนดขึ้น..ด้วย
การที่เจ้าเพิ่งได้ร่วมรักกับเขามาเป็นเวลาไม่นานนั้นแม้ว่าข้าจะเชื่อใจ
เจ้าแต่พวกนางที่เหลือนั้นย่อมไม่ใช่ ดังนั้นแล้วในตอนนี้เจ้าต้องพิสูจน์
ตนเอง !
ใช่แล้วเจ้าจะต้องทาทุกอย่างเพื่อให้สามีพอใจอันที่จริงแล้วเจ้า
สมควรจะต้องเชื่อฟังข้าด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นมีผล
เฉพาะในตอนที่พวกเราอยู่กับสามีพร้อมกับหากเป็นในยามปกตินั้นทุก
อย่างล้วนเป็นปกติ "
" เป็นเช่นนั้น ? "
ผู้อาวุโสฉินเหยาหันมาถามหลินหมิงที่ได้แต่พยักหน้าตอบรับไป
อย่างนั้น อันที่จริงแล้วดูเหมือนว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นคงมีความชื่นชอบอัน
แปลกประหลาดที่ได้รับบทเรียนมาจากในตอนที่นางได้ถูกกลุ่มฟ่งซือ
เซียนลอบจู่โจม ดังนั้นแล้วนางเพียงแค่ต้องการระบายสิ่งเหล่านั้นบ้าง
ออกไปเพียงเท่านั้น เมื่อเห็นหลินหมิงพยักหน้าดวงตาของผู้อาวุโสฉิน
เหยาแปรเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นพร้อมกับจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นราว
กับว่าในตอนนี้นางได้กลายเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสฟางซิ่นไปแล้ว
เป็นระยะเวลานานแล้วที่รถม้าของหลินหมิงได้เดินทางออกจากตัว
เมืองแต่ถึงอย่างนั้นภายในรถม้าคนทั้งสามกลับไม่มีความรู้สึกเบื่อ
หน่ายเลยแม้แต่น้อย ผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้กาลังกล่าวสอนบทเรียน
ต่างๆให้กับผู้อาวุโสฉินเหยาเกี่ยวกับท่วงท่าร้อยแปดในการรับมือกับ
หลินหมิง อย่างไรเสียเขาก็ต้องยอมรับว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้
รับมือกับเขาได้ยอดเยี่ยมที่สุดจริงๆ
ฉึก !
ทันใดนั้นพวกเขาพลันได้ยินเสียงแปลกประหลาดมันเป็นเสียงของ
ของแหลมคม ลูกดอก ? ลูกธนู ? แต่ที่แน่นอนในตอนนี้ด้วยการที่รถ
ม้าได้หยุดลงนั้นหมายความว่าคนขับรถม้าของพวกเขาในตอนนี้ได้ตก
ตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตอนที่ 144
ด้วยความแข็งแกร่งของหลินหมิงในตอนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขา
ย่อมเป็นบุคคลที่ถูกคาดหวังที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ แต่ถึงอย่างนั้นมัน
ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันไปเสียหมด โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งกับเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายที่พวกเขาเคยภาคภูมิใจในความแข็งแกร่ง
ของตนเองด้วยการปรากฎตัวของหลินหมิงมันทาให้ความแข็งแกร่ง
และพรสวรรค์ของพวกเขากลับกลายเป็นสิ่งไร้ค่า
เช่นนี้แล้วหลินหมิงไม่มีความสงสัยว่าเหตุใดเขาจึงจะถูกจู่โจมเช่นนี้
แต่สิ่งที่เขาสงสัยก็คือการที่อีกฝ่ายกล้าลงมือเช่นนี้นั้นหมายความว่า
พวกเขาได้ติดตามและเฝ้าจับตามองหลินหมิงมาเป็นเวลานาน
พอสมควรและเลือกลงมือในสถานที่ที่ห่างไกลจากตัวเมือง นั้น
หมายความว่าอีกฝ่ายย่อมต้องรับรู้ถึงตัวตนของหญิงสาวข้างกายทั้ง
สองของเขาไม่ใช่หรือ ?
ตัวตนอย่างผู้อาวุโสฉินเหยา และผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะ
สามารถมองข้ามไปได้หากฝ่ายทีลงมือจู่โจมเขาในคราวนี้ไม่มีผู้ที่มี
ความแข็งแกร่งอย่างน้อยระดับปราญช์แล้วละก็นี้คงเป็นการลงมือที่
สูญเปล่าอย่างแน่นอน
" แม้ว่าจะไม่ค่อยแน่ชัดแต่ข้าคิดว่าในตอนนี้อีกฝ่ายมีกันอยู่ทั้งหมด
ราว 20 คนเจ้าคะ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาพยักหน้าให้กับคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นอย่าง
ไม่มีคัดค้าน ในสถานเชนนี้พวกนางล้วนรู้ดีการที่อีกฝ่ายจู่โจมมาเช่นนี้
ย่อมมีผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับปราญช์อยู่ด้วย แต่เป็นที่รู้กันว่าบุคคล
ที่มีความแข็งแกร่งในระดับนั้นพวกเขาจะมีฐานะที่สูงส่งแม้ว่าจะอยู่
ภายในเมืองหลวงก็ตามที่ ดังนั้นแล้วถ้าหากพวกเขามีการเคลื่อนไหวที่
แปลกประหลาดเช่นนี้มันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่หลบพ้นของสายตาผู้อื่น
เว้นเสียแต่ว่ากองกาลังทั้งยี่สิบคนเหล่านี้ไม่ได้มาจากผู้คนในอาณาจักร
เดียวกัน !
ฉึก ฉึก !!
เสียงลูกธนูปะทะเข้ากับตัวรถม้าอย่างต่อเนื่องแม้ว่ารถม้าคันนี้จะ
ได้รับอาคมป้องกันเอาไว้ส่วนหนึ่งแต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เพียงพอต่อการ
โจมตีจากฝ่ายตรงข้าม หลินหมิง ผู้อาวุโสฉินเหยา และผู้อาวุโสฟางซิ่น
เลือกที่จะกระโดดออกจากรถม้าเพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูสาหรับพวกนาง
แล้วศัตรูเหล่านี้ไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่นักและถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมี
บุคคลที่มีความแข็งแกร่งในระดับปราญช์มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสาหรับ
พวกนางที่จะหลบหนี
แต่สิ่งที่พวกนางเป็นกังวลก็คือความปลอดภัยของหลินหมิงต่าง
หากเห็นได้ชัดว่าศัตรูโดยทั้งหมดนี้ล้วนได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี
พวกนางไม่แม้แต่จะสามารถจับสัมผัสของพวกเขาเหล่านั้นได้
จนกระทั่งรถม้าถูกจู่โจม และจากการประเมิณโดยคร่าวๆแล้วกอง
กาลังที่จู่โจมนี้ย่อมมีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ขึ้นไปทุกคนเป็น
อย่างน้อย
ทันใดนั้นด้วยการปรากฎตัวของพวกเขาทั้งสามเหล่ากองกาลัง
เหล่านี้ได้ระดมยิงธนูของพวกเขาเข้าหาร่างของคนทั้งสามอย่างรวดเร็ว
ด้วยความรุนแรงและความรวดเร็วของลูกธนูราวๆสิบกว่าดอกเหล่านี้
เห็นได้ชัดว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสที่มีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์
ขั้นต้นของสมาคมนักปรุงยา หรือกระทั่งตระกูลหลินก็คงไม่สามารถ
รับมือกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย
แต่ถึงอย่างนั้นผู้อาวุโสฟางซิ่นก้าวเท้าออกไปด้านหน้าพร้อมกับ
เรียกอาวุธของนางออกมาแหวนมิติที่ประดับบนนิ้วอันเรียวงามของ
นาง นางสะบัดแส้ของนางในทันทีโดยไม่มีการรีรอแต่อย่างใด ด้วยการ
ที่นางได้รับการพัฒนาก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์อีกทั้งนางยังคงได้รับ
สมบัติอย่างบงกชเหมันต์ในตอนที่อยู่ป่ามรณะทาให้ความแข็งแกร่ง
และปราณหยินของนางในตอนนี้มีความเข้มข้นมากพอที่ทาให้การ
สะบัดแส้ของนางในครั้งนี้สร้างวงน้าแข็งเป็นวงกว้างเป็นวงกลมห่าง
ออกไปได้หลายสิบเมตร
ลูกธนูทั้งหลายที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณถูกเปลี่ยนเป็นน้าแข็ง
โดยฉับพลันและหยุดนิ่งลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อหลินหมิงได้เห็น
ภาพเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าการที่เขาได้มอบบงกชเหมันต์ให้กับผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นนั้นเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด ด้วยความแข็งแกร่งและคุณสมบัติที่
ได้รับจากบงกชเหมันต์ในตอนนี้หลินหมิงเชื่อว่าความแข็งแกร่งของผู้
อาวุโสฟางซิ่นจะสามารถเทียบได้กับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้น 2
ระดับปลายหรืออาจจะถึงขั้นที่ 3 เสียด้วยซ้าไป
ร่างของกลุ่มคนทั้งยี่สิบค่อยๆปรากฎตัวขึ้นมาล้อมรอบพวกเขา มัน
ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไปหากพวกเขาจะยังคงหวังจู่โจมจาก
ระยะไกลเห็นได้ชัดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่อาจนับว่าเป็นปัญหาสาหรับหญิง
สาวตรงหน้าของพวกเขาเลยเสียด้วยซ้าไป
" เฮอะ ! สวะเช่นพวกเจ้าคิดว่ามีความสามารถมากพอที่จะโจมตี
พวกเรา ? "
ดวงตาของผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้ท้อประกายแสงฆ่าฟันออกมา
อย่างเด่นชัดพร้อมกับอาวุธของนางที่เป็นกระบี่สีเงินมันวาว มันสมควร
เป็นอาวุธระดับสูงที่ไม่ต่างจากแส้ของผู้อาวุโสฟางซิ่น ภายใต้แรง
กดดันที่ออกมาจากสองผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ทั้งสองนี้เหล่ากองกาลัง
เหล่านี้ที่สวมใส่ชุดดาปกปิดใบหน้าอย่างชัดเจนบางคนถึงกับถอยหลัง
ไปหนึ่งก้าวด้วยความหวั่นเกรง แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนมากไม่
น้อยก็ตามที่
ทันใดนั้นที่สองฝั่งหน้าหลังของพวกเขาปรากฎบุคคลที่เดินออกมา
ยืนด้านหน้าของกลุ่มนักฆ่าเหล่านี้ จากความคิดของหลินหมิงแล้วนั้น
พวกเขาเหล่านี้อาจเป็นสมาคมนักฆ่าที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะ
ด้วยตัวตนของบุคคลทั้งสองนี้สมควรมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยใน
ระดับปราญช์ !
แรงกดดันทั้งหมดที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยาสร้างขึ้น
เพื่อหวังลดถอนกาลังใจอีกฝ่ายพลันหายสิ้นด้วยการปรากฎตัวของ
บุคคลทั้งสองนี้
ที่ด้านหน้าในตอนนี้ประกอบไปด้วยบุคคลที่มีความแข็งแกร่งใน
ระดับปราชญ์ที่สวมใส่ชุดสีดาปกปิดร่างกายและใบหน้า แต่ถึงอย่างนั้น
เมื่อมองไปที่เรือนร่างของเขาที่เต็มไปด้วยความกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง
ที่ทุกส่วนนี้ตัวตนของบุคคลเช่นนี้หากหลินหมิงพบเห็นโดยทั่วไปแล้ว
เขาคงนึกว่าคนผู้นี้ดารงอยู่ในตาแหน่งแม่ทัพไปแล้ว
ส่วนทางด้านหลังนั้นรูปร่างของบุคคลที่มีความแข๊งแกร่งใน
ระดับปราญช์นั้นต่างจากบุคคลด้านหน้าโดยสิ้นเชิง ร่างของเขาดูสม
ส่วนและไม่ได้ปรากฎหมัดกล้ามเช่นเดียวกันกับชายก่อนหน้าแต่ถึง
อย่างนั้นสิ่งที่พวกเขาทั้งสองเหมือนกันก็คืออ่อร่าความแข็งแกร่งที่แผ่
ออกมานั้นสมควรเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่อาจเท่าเทียมกับผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นหรืออาจเหนือกว่าเสียด้วยซ้าไป
โดยไม่มีการรีรอให้ทางฝ่ายหลินหมิงได้ตั้งหลักแต่อย่างใดบุคคล
ร่างกายาพุ่งเข้าจู่โจมผู้อาวุโสฉินเหยาพร้อมกับอาวุธของเขาที่เป็น
ขวานขนาดใหญ่ เพียงแค่แรงเหวี่ยงของชายกายาผู้นี้แม้ว่าผู้อาวุโสฉิน
เหยาจะสามารถหลบเลี่ยงการปะทะได้แต่แรงเหวี่ยงอันมหาศาลของ
คนผู้นี้ก็เพียงพอที่จะทาให้นางต้องถอยหลังออกไปหลายสิบก้าว
ทางฝั่งของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นมีสภาพไม่ต่างกันมากนักด้วยอาวุธ
ของนางที่เป็นแส้ที่ตอนนี้กาลังเข้าพัวพันกับบุคคลลึกลับที่มีอาวุธเป็น
มีดทั้งสองข้างแม้ว่าในตอนนี้หากดูเพียงผิวเผินอาจเป็นฝ่ายผู้อาวุโส
ฟางซิ่นที่ได้เปรียบในเรื่องของระยะการโจมตีแต่มันก็ขึ้นอยู่กับ
สถานการณ์เท่านั้นหากเมื่อใดที่บุคคลลึกลับผู้นี้สามารถประชิดตัวนาง
ได้เมื่อนั้นนางจะต้องตกเป็นรองอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยสถานการณ์ที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้
กาลังถูกพัวผันอยู่มันจึงทาให้ในตอนนี้หลินหมิงได้ตกอยู่ในวงล้อมของ
นักฆ่าที่เหลือทั้งหมด 18 คนอย่างช่วยไม่ได้ อีกทั้งจากสัมผัสของ
หลินหมิงในตอนนี้เขาพบว่านักฆ่าทั้ง 18 คนนี้ล้วนมีความแข็งแกร่งที่
มากกว่าเขาทั้งหมดโดยที่บุคคลที่อ่อนแอ่ที่สุดก็ยังคงมีพลังระดับจอม
ยุทธ์ขั้นที่ 5 และยังคงมีจานวนมากถึง 8 คน ขั้น 6 อีก 5 คน ขั้นที่ 7
อีก 2 คน และขั้นที่ 8 และ 9 อีกอย่างละคน
สาหรับความแข็งแกร่งในตอนนี้ของหลินหมิงแม้ว่าเขาจะค่อนข้าง
มั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 5 ได้แต่นั้น
มันเป็นเพียงในกรณีที่เขาต้องเผชิญหน้าเพียงหนึ่งต่อหนึ่งเท่านั้นเทียบ
กับสถานการณ์ในตอนนี้ที่มีผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ถึง 8 คนและยังคง
มีผู้ที่แข็งแกร่งกว่านั้นอีกถึง 10 คน กับของเขาที่เป็นเพียงจอมยุทธ์ขั้น
3 นี้มันไม่ต่างอะไรไปจากการที่ผู้ใหญ่ทุบตีเด็กทารกชัดๆ

ตอนที่ 145
ผู้อาวุโสฉินเหยาที่กาลังรับมือกับพลังโจมตีอันมหาศาลของบุรุษ
ลึกลับที่มีร่างกายกายาในตอนนี้แม้ว่านางจะมีความต้องการที่จะเข้าไป
ช่วยเหลือหลินหมิง แต่นางก็ไม่สามารถละความสนใจไปจากชายชุดดา
นี้ได้ไม่เช่นนั้นแล้วเพียงพริบตาเดียวที่นางเสียสมาธิไป นั้นอาจ
หมายถึงความตายของนางเลยก็เป็นได้
และแม้ว่านางจะทุ่มพลังทั้งหมดความต่อสู้กับชายผู้นี้แต่มันก็แทบ
จะเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะสามารถจัดการชายผู้นี้ลงได้อย่างง่ายดาย
นั้นก็เพราะว่าไม่เพียงแต่ชายผู้นี้จะมีระดับพลังที่ใกล้เคียงกับนางแล้ว
ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของเขานั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่าง
มาก กระบี่เงินของนางที่เป็นอาวุธศาตราระดับสูงเมื่อฟันโดนผิวหนัง
ของชายชุดผู้นี้โดยอาศัยความเร็วของนางที่เหนือกว่าเล็กน้อย แต่มัน
กลับปรากฎเป็นบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น
" เจ้าคือ ราชสีห์ขนดา ? "
หลังจากประมือกับชายนักฆ่าผู้นี้ได้ไม่นานผู้อาวุโสฉินเหยาพลันนึก
ถึงตัวตนที่นางเคยได้ยินมาจากข่าวลือ ความแข็งแกร่งของกองกาลังที่
นาโดยชายชุดดาที่รับงานเกี่ยวกับการลอบสังหาร โดยที่หัวหน้าของ
พวกเขานั้นคือผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับปราญช์แต่เขากลับมีความ
แตกต่างจากกลุ่มนักฆ่าโดยทั่วไปที่อาศัยความเร็วในการเข้าจู่โจมปลิด
ชีพศัตรู เขากลับมีความโดดเด่นในเรื่องของความแกร่งในด้านร่างกาย
เป็นอย่างมาก
ด้วยความแข็งแกร่งและความดุดันของเขาในการต่อสู้นั้นราวกับ
ราชสีห์ที่สามารถสังหารเป้าหมายที่มันต้องการได้โดยไม่มีพลาด รวม
กับกับชุดนักฆ่าของเขาที่ดูขัดกับลักษณะ มันจึงเป็นที่มาของฉายาของ
ชายผู้นี้
" ฮ่า ๆ นั้นย่อมเป็นฉายาที่น่ารังเกียจของข้า "
เสียงของชายชุดกล่าวออกมาด้วยท่าทีภูมิใจหลังจากที่เขาได้ยินคา
กล่าวของผู้อาวุโสฉินเหยา เมื่อได้รับการตอบรับเชนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยา
คงได้แต่หวังว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นจะสามารถจัดการกับศัตรูตรงหน้าแล้ว
ไปช่วยหลินหมิงได้โดยเร็ว เพราะว่าศัตรูตรงหน้าของนางในตอนนี้คือ
บุคคลที่เคยลอบสังหารประมุขตระกูลหรือคนสาคัญต่างๆมามากมาย
" เฮอะ ! เช่นนั้นใครเป็นผู้ว่าจ้างให้เจ้าทาสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ? ข้า
ยินดีที่จะสามารถจ่ายค่าตอบแทนที่เหนือกว่ามันผู้นั้นให้เจ้าได้สามเท่า
หรือสี่เท่าเพื่อให้เจ้าไปสังหารมันผู้นั้นแทน "
" เรื่องนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ "
ชายชุดดากล่าวปัดข้อเสนอของผู้อาวุโสฉินเหยาโดยไม่ทันต้องคิด
สาหรับกองกาลังเช่นพวกเขาเหล่านี้แม้ว่าพวกเขาจะรับงานที่ผิด
กฎหมาย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงมีกเป็นของตนเองหนึ่งในนั้นก็
คือพวกเขาจะไม่มีทางรับงานจากเป้าหมายที่เอ่ยกล่าวออกมาเป็นอัน
ขาด ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อเกิดเช่นนั้นขึ้นมาพวกเขาจะเสียความเชื่อถือไป
หรือกระทั่งอาจเป็นการสร้างความแค้นเคืองให้กับทั้งสองฝ่ายเสียแทน
" ข้ามีข้อเสนอในภารกิจที่พวกข้าได้รับมอบหมายมานั้น พวกข้า
เพียงต้องการชีวิตของเด็กหนุ่มผู้นั้นหากท่านและผู้อาวุโสอีกท่านยินดี
ยอมจากไปพวกข้าก็จะไม่เข้าโจมตีพวกท่านต่อไป "
ทางฝั่งของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นนางรับมือกับชายชุดดาร่างผอม
เพรียวอย่างยากลาบากยิ่งกว่าผู้อาวุโสฉินเหยาเสียอีก แม้ว่าชายร่าง
ผอมผู้นี้จะมีพลังที่น้อยกว่านักฆ่าที่กาลังเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสฉินเหยา
แต่เขากลับโดดเด่นในเรื่องความเร็วและในด้านกลยุทธ์ในการลอบ
สังหารต่างๆเป็นอย่างมาก
" เฮอะ ! นั้นควรเป็นคากล่าวของข้าหากพวกเจ้าถอยกลับไปแต่
ตอนนี้ข้าจะยังพอมีความปราณีแก่พวกเจ้า "
หลินหมิงในตอนนี้เขาไม่สามารถหวังพึงความช่วยเหลือจากผู้
อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นได้อีกต่อไป ไม่เพียงแต่พวกนางทั้ง
สองในตอนนี้กาลังรับมือกับศัตรูอย่างยากลาบากแต่พวกนางยังคงถูก
กดดันให้ถอยห่างออกจากเขาไปเรื่อยๆ
หลินหมิงรีบนาทวนสีดาของเขาออกมาจากแหวนมิติในทันที
สายตาของเขาจ้องมองศัตรูตรงหน้าทั้ง 18 คน ที่กาลังล้อมรอบเขา
เป็นวงกลมโดยที่มีระดับพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น 5 ทัง้ 8 คนเป็น
ปราการชั้นแรกที่เขาจะต้องจัดการหากหลินหมิงยังคงปราถนาที่จะมี
ชีวิตรอดต่อไป
" ฮ่าห์ !! "
หลินหมิงระเบิดพลังระดับจอมยุทธ์ขันที่ 3 ของเขาออกมาอย่าง
เต็มที่แม้ว่ามันจะทาให้นักฆ่าเหล่านี้ตื่นตะลึงได้เล็กน้อย แต่พวกเขา
เหล่านี้ย่อมสมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย
สาหรับเหล่านักฆ่าทั้ง 18 คนนี้พวกเขาได้รับข้อมูลจากภารกิจว่า
เป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้เป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 15 ปีเท่านั้นแต่
ความแข็งแกร่งของเขากลับอยูในระดับก่อเกิดขั้นที่ 7 แต่สิ่งที่อยู่
ตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้มันคือผู้ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 3 !
พวกเขาเชื่อว่าข้อมูลที่พวกเขาได้รับรายงานมาอาจมีความ
ผิดพลาดซึ่งในกรณีเช่นนี้มันอาจเป็นเพราะว่าเป้าหมายนั้นได้ซ่อน
ความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้ ซึ่งพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนที่
มากกว่าที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกแน่นอนว่าพวกเขาไม่มีความกังวลใน
เรื่องความแข็งแกร่งของหลินหมิงมากนัก แม้ว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็น
อัจฉริยะที่น่าทึ่งจริงๆก็ตามแต่แล้วอย่างไรล่ะพวกเขานี้แหละคือผู้ที่จะ
ปลิดชีพที่หาได้ยากยิ่งในรอบหลายพันปีนี้เอง
ร่างของหลินหมิงเต็มไปด้วยอ่อร่าฆ่าฟันออกมาโดยรอบตัวเปลว
เพลิงสีดาทมิฬของเขาที่แต่ก่อนนั้นจะลุกขึ้นครอบคลุมร่างกายของเขา
ในตอนนี้มันแปรเปลี่ยนเส้นพลังงานบางรอบร่างกายหลินหมิงแทน แต่
ไม่ใช่ว่าพลังของมันลดลงแต่อย่างใดแต่นี้เป็นผลมาจากการที่หลินหมิง
ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับจอมยุทธ์มันทาให้เขามีความเข้าใจในการใช้เปลว
เพลิงของเขามากยิ่งขึ้น เปลวเพลิงสีดาที่เคยลุกท่วมร่างของหลินหมิง
แต่ก่อนถูกบีบอัดแน่นให้อยู่ในรูปแบบเส้นพลังงานเบาบางนั้นคือสิ่งที่
หลินหมิงได้เรียนรู้จากการยกระดับของเขา
ฟุ่บ !
หลินหมิงกระแทกเท้าพุ่งเข้าหาศัตรูที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 5
ทั้งสองคนตรงหน้าของเขาอย่างไม่มีความหวาดกลัว ชายชุดดาทั้งสอง
คนนี้รู้สึกเยาะเย้ยอยู่ภายในใจแม้ว่าพลังของหลินหมิงจะทาให้พวกมัน
ทั้งสองตื่นตะลึงได้ก็จริงแต่มันยังคงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างระดับ
จอมยุทธ์ขั้นที่ 3 และจอมยุทธ์ขั้น 5
ในขณะที่พวกเขาทั้งสองเตรียมใช้ทักษะเพื่อรับมือกับทวนของ
หลินหมิงที่กาลังจู่โจมพวกเขา ทันใดนั้นประสาทสัมผัสของพวกเขา
สัมผัสได้ถึงอันตรายที่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิต !
' นี้มัน ! '
เมื่อร่างของหลินหมิงเข้ามาใกล้พวกเขาในระยะไม่ถึงห้าก้าวพวก
เขาสามารถมองเห็นพลังงานประหลาดที่ปรากฎรอบตัวของเด็กหนุ่ม
มันเป็นพลังงานความมืดที่ราวกับว่าสามารถดูดกลืนพวกเขาลงไปใน
ความมืดมิดที่ไม่มีสิ้นสุด เพียงชั่วเวลาขณะที่เกิดความสับสนนี้คือสิ่งที่
สามารถตัดสินความเป็นอยู่ระหว่างการต่อสู้เป็นตายเช่นนี้
ฉัวะ !
ทวนของหลินหมิงกวาดฟันเป็นแนวนอนผ่านร่างของผู้ที่มีพลัง
ระดับจอมยุทธ์ระดับ 5 ไปอย่างง่ายดายไม่ใช่ว่าพวกเขายังไม่ทัน
ป้องกันแต่พวกเขาทั้งสองได้ลงมือป้องกันไปแล้วต่างหากเพียงแต่ว่า
มันเพียงพอที่จะสามารถหยุดรั้งพลังโจมตีอันน่าตื่นตะลึงของเด็กหนุ่ม
ผู้นี้ได้ !
ท่ามกลางสายตาหลายสิบดวงที่กาลังมองอย่างเบิกกว้างกับผ่าน
ตรงหน้าของพวกเขา สหายของพวกเขาไม่อาจนับได้ว่าอ่อนแอ่ แม้ว่า
พวกเขาจะประมาทไปบ้างที่ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ในการป้องกันแต่ถึง
อย่างนั้นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ล้วนมันย่อมไม่สมควรเป็นเช่นนี้
ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ
โดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีเวลาคิดไตร่ตรองหรือหายจากอาการตื่น
กลัวหลินหมิงรีบพุ่งทะลุไปยังร่างของชายชุดดาที่อยู่ด้านหลังที่มีพลัง
ระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 6 ด้วยการที่ชายผู้นี้อยู่ในระยะที่เรียกได้ว่า
สามารถมองเห็นการโจมตีของหลินหมิงได้อย่างเด่นชัดที่สุดเขา
ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของหลินหมิงอย่างรวดเร็ว
มีดสั้นในมือทั้งสองข้างของเขาถูกนาออกมาโดยไม่ต้องใช้ความคิด
ใดๆในตอนนี้เขาไม่มีความลังเลที่จะต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อสังหารเด็ก
หนุ่มตรงหน้านี้
เคล้ง !!
' รุนแรง ! '
นี้คือความคิดของชายชุดดาที่รับมือกับทวนของหลินหมิงเดิมทีนัก
ฆ่าอย่างพวกเขาไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ยกเว้นแต่เพียงหัวหน้าของพวกเขาเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคง
เป็นผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 6 มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้ที่มีพลังด้อยกว่าเขา
ถึงสามขั้นจะสามารถเทียบได้ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ?
" จิตสายฟ้า "
ทักษะใหม่ที่หลินหมิงเพิ่งได้รับถูกเรียกใช้ออกมาเป็นครั้งแรก
พลังงานในร่างกายของหลินหมิงพุ่งสูงขึ้นจนอยู่ในระดับที่ตัวของเขา
เองก็ยังอดตื่นตะลึงไปไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงสามารถสัมผัสได้
ว่าไม่เพียงแต่พลังปราณของเขาที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นประสาทสัมผัส ความ
แข็งแกร่ง การตอบสนองสิ่งเหล่านี้ล้วนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ยังไม่ทันที่ชายที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 6 จะสามารถตั้งตัวได้
ร่างของหลินหมิงที่ทะยานเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วที่เหนือกว่าก่อน
หน้าอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับทวนในมือที่ตวัดด้วยความรุนแรง รวดเร็ว
ทรงพลัง ชายชุดดาผู้นี้มองภาพตรงหน้าด้วยความไม่เชื่อ เห็นได้ชัด
จากระดับพลังของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันสมควรที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น
ที่ 3 และถึงแม้ว่ามันจะมีความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของอัจฉริยะที่
สามารถเทียบเท่ากับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น 5 แต่แล้วเหตุใดเพียง
ชั่วพริบตาความแข็งแกร่งของเจ้าเด็กผู้นี้ถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน
กันเล่า !
ภาพตรงหน้าของชายชุดดาแปรเปลี่ยนเป็นกลับหัวพร้อมกับความ
นึกคิดทุกอย่างของเขาที่หยุดทางานลง เลือดที่ซ่านกระเซ็นไปเป็นวง
กว้างจนมีส่วนหนึ่งชโลมร่างของหลินหมิงเอาไว้ มันจึงทาให้ร่างของ
หลินหมิงที่ต้องอยู่ในวงล้อมของชายชุดดาที่เหลืออีก 15 คนนี้ราวกับ
ว่าเป็นยมทูตที่จะมาปลิดชีวิตพวกเขา

ตอนที่ 146
ภายใต้สถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนี้ชายชุดดาที่มี
ความแข็งแกร่งระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 5 ถูกผลักออกไปอยู่วงนอกพร้อม
กับการสลับตาแหน่ง โดยการนาผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 ขึ้นไป
ทั้ง 4 คนมารับมือกับหลินหมิงแทน แม้หากมองเพียงผิวเผินจากการจู่
โจมเมื่อสักครู่จะเห็นได้ว่าหลินหมิงสามารถเอาชนะผู้ที่มีระดับพลัง
จอมยุทธ์มาอย่างง่ายดายแต่นั้นเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมั่แต่ตื่นตะลึงกับ
พลังที่เพิ่มขึ้นของเขาจนมากเกินไป ไม่เช่นนั้นแล้วแม้ว่ามันจะจบลง
ด้วยการที่หลินหมิงสามารถเอาชนะได้เช่นเดิมแต่มันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
ที่เขาจะสามารถเอาชนะได้
ภายใต้แรงกดดันจากชายชุดาที่มีความแข็งแกร่งระดับจอมยุทธ์ขั้น
ปลายทั้งสี่คนแม้แต่ในตอนนี้ที่หลินหมิงได้ทาการเรียกใช้ จิตสายฟ้า
เพื่อเพิ่มพลังของเขาชั่วขณะเขาก็ยังคงตกอยู่ใต้แรงกดดันนี้
เล็กน้อย โดยไม่มีความลังเลใดๆทั้งสิ้นชายชุดดาทั้งสี่คนเตรียมพร้อม
มีดสั้นของพวกเขาขึ้นมาเพื่อทาการจู่โจมหลินหมิงในทันที
อันที่จริงแล้วหากคู่ต่อสู้ของหลินหมิงเป็นผู้อาวุโสจากบรรดา
ตระกูลใหญ่หรือขุมอานาจต่างๆที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับชายชุดดาทั้ง
สี่คนนี้เรื่องราวทุกอย่างมันคงจะง่ายขึ้นมาก เพราะว่ามันจะเป็นเรื่อง
ยากมากที่พวกเขาเหล่านั้นจะยินยอมร่วมมือกันเพื่อทาการสังหารเด็ก
หนุ่มเพียงคนเดียว ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาที่เป็นผู้อาวุโสแม้ว่าจะได้รับ
ชัยชนะแต่มันก็คงหนีไม่พน้ ความอับอายที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของพวก
เขา
ภายใต้รูปแบบการยืนตาแหน่งของชายชุดดาทั้ง 15 คนที่เหลือยู่นี้
มันไม่ใช่เป็นการโอบล้อมหลินหมิงอย่างธรรมดาทั่วไป แต่มันยังนับได้
ว่าเป็นหนึ่งในค่ายกลที่ทรงอานาจอย่างมากด้วยการที่หลินหมิงจะต้อง
รับมือกับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นปลายทั้งสี่คนแล้วด้วยสภาวะเต็ม
กลืนไม่เพียงเท่านั้นในจังหวะที่หลินหมิพลั้งเผลอหรือเผยช่องว่าง
หลินหมิงจะถูกจู่โจมโดยทันที่จากชายชุดดาทั้ง 11 คนที่อยู่รอบนอก
ผ่านไปราวหนึ่งก้าวธูปร่างของหลินหมิงเต็มไปด้วยคราบเลือดอยู่
ทั่วทุกหนแห่งความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ลดลงไปอย่างมากห่าง
ไม่ใช่เพราะว่าทักษะจิตสายฟ้าของเขายังคงลงเหลือเวลาอีกเล็กน้อย
หลินหมิงในตอนนี้คงล้มลงสิ้นสติไปแล้ว
ชายชุดดาทั้งสี่คนที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นปลายพวกเขาล้วน
แล้วแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดจริงอยู่ที่พลังโจมตีของหลินหมิงนั้น
ค่อนข้างน่ากลัวแม้แต่พวกเขาที่เป็นจอมยุทธ์ขั้นปลายก็ยังคงต้องหวั่น
เกรง แต่มันไม่อาจนับว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใดภายใต้การร่วมมือของ
พวกเขาทั้งสี่
" แฮ่ก ๆ อั่กก ! "
" คุณชายแห่งตระกูลหลินท่านนับได้ว่าเป็นอัจฉิรยะที่ลาเลิศที่สุด
เท่าที่พวกข้าเคยพบเจอมาอย่างแท้จริง ดังนั้นแล้วข้าจะไม่ทาให้ท่าน
ต้องทรมานไปมากกว่านี้ "
ชายชุดดาที่มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ขั้น 9 กล่าวออกมาด้วย
น้าเสียงชื่นชมพวกเขาทั้งหมดนี้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเด็กหนุ่มวัย 15
ปีจะสามารถต้านทานพวกเขาเอาไว้ได้อย่างยาวนานเช่นนี้ กระบี่ของ
เขาถูกง้างขึ้นเพื่อเตรียมสะบั้นศรีษะของหลินหมิงในทันที หลินหมิงม
องพร้อมต้องหน้าด้วยอารมณ์ความโกรธแค้นแม้ในตอนนี้เขาจะยังคง
เหลือพลังปราณอยู่แต่อาการบาดเจ็บทั่วร่างกายของเขาในตอนนี้มัน
ทาให้เขาแทบขยับร่างกายไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
" ตาย !! "
ทันใดนั้นชายชุดดาทั้ง 15 คนสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่อัน
มหาศาลที่ตรงมายังพวกเขาด้วยความรวดเร็ว การลงมือของชายชุดดา
ที่มีความแข่งแกร่งระดับจอมยุทธ์ขั้น 9 ถูกผลักออกไปพร้อมกับชาย
ชุดดาทั้งหมดที่ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างของสตรีที่เขามาช่วย
หลินหมิงเอาไว้นั้นก็คือผู้อาวุโสฉินเหยาที่เต็มไปด้วยคาวมกราดเกรี้ยว
" ฮ่าๆ ถึงกับยอมรับบาดเจ็บเพื่อที่จะมาช่วยชีวิตเจ้าเด็กนี้ ข้าผู้นี้
ขอยอมรับในความแน่วแน่ของท่าน แต่ถึงอย่างนั้นท่านคิดว่าด้วย
สภาพของท่านที่เป็นเช่นนั้นจะยังคงสามารถปกป้องเจ้าเด็กนั้นได้ ? "
ร่างของชายรูปร่างกายาเดินมาทางหลินหมิงและผู้อาวุโสฉินเหยา
ด้วยท่าทีสบายๆ แม้ว่าตามร่างกายของเขาจะปรากฎบาดแผลรอยฟัน
ทั่วทุกหนแห่งเช่นเดียวกันแต่สาหรับเขาแล้วบาดแผลเพียงเล็กน้อย
เท่านี้ยังไม่อาจนับได้ว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใดสาหรับเขา
กลับกันแล้วทางฝั่งของผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้ที่ไหลข้างซ้ายของ
นางมีรอยฟันจากคมควานของชายร่างกายาแม้ว่ามันจะเป็นบาดแผลที่
ไม่อาจเรียกได้ว่าสาหัสแต่เห็นได้ชัดว่ามันทาให้ความแข็งแกร่งของผู้
อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้ตกลงไปไม่น้อย
ชายร่างกายามองไปที่ลูกน้องที่เหลือของเขาพร้อมกับขมวดคิ้วเข้า
หากันเมื่อเขาพลันสังเกตุเห็นร่างของลูกน้องของเขาสามคนถูกสังหาร
! แม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังคงอยากที่จะเชื่อภาพตรงหน้าเด็กหนุ่มวัย
15 ปีภายใต้การรุมล้อมจากผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางขึ้นไปถึง
18 คนไม่เพียงแต่ยังคงมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้แต่เขายังสามารถ
สังหารลูกน้องของเขาได้ถึงสามคน
ชายชุดดาทั้ง 15 คนเลือกที่ไม่ทาการลงมือต่อแต่อย่างใดพวกเขารู้
ดีว่าแม้ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี้จะตกลงไปไม่น้อย
แต่มันยังไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถเทียบเคียงได้ เช่นเดียวกันแล้ว
สาหรับผู้อาวุโสฉินเหยานางก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของหัวหน้าของพวกเขา
ในตอนนี้เช่นเดียวกัน ไม่เพียงแต่นางจะยินยอมได้รับบาดแผลเพื่อมา
ช่วยเด็กหนุ่มผู้นี้แต่ภายใต้สถานการณ์ที่นางจะต้องคอยดูแลเด็กหนุ่มผู้
นี้ไปด้วยพร้อมกับรับมือหัวหน้าของพวกเขาไปด้วยนั้นมันไม่ต่างอะไร
ไปจากการฆ่าตัวตายก็เท่านั้น
ร่างของหัวหน้าชายชุดดาเดินเข้าหาผู้อาวุโสฉินเหยาพร้อมกับแบก
ขวานของเขาเอาไว้บนไหล่ด้วยท่าทีสบายๆเห็นได้ชัดว่างานของเขาใน
ครั้งนี้แม้จะพบกับความสูญเสียไปบ้างแต่ถึงอย่างไรผลตอบแทนก็มัน
ยังคงเรียกได้ว่าคุ้มค่า แต่ทันใดนั้นสายตาของเขาพลันหรี่ลงเมื่อเขา
เห็นร่างของเด็กหนุ่มที่บาดเจ็บสาหัสถือทวนพุ่งตรงมาที่เขา
เขาฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างพอใจ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจความคิด
ของเด็กหนุ่มผู้เป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากยิ่งผู้นี้สาหรับอัจฉริยะเช่น
เขามันคงไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกไม่พอใจ ขุ่นเคือง โกรธแค้น นั้นเป็น
ความรู้สึกที่ทาให้เด็กหนุ่มผู้นี้พุ่งเข้าโจมตีศัตรูอย่างไม่คิดชีวิต ขวานใน
มือของเขายกสูงขึ้นเพื่อเตรียมการฟาดฟันลงมือด้วยการฟาดฟันของ
เขาในครั้งนี้แม้ว่าผู้อาวุโสสาวผู้นั้นจะสามารถเข้ามาช่วยป้องกันได้ทัน
แต่นางคงไม่พ้นจะต้องได้รบั บาดเจ็บสาหัสหรืออาจกระทั่งถึงตาย !
" ตายย !! "
คากล่าวที่สมควรเป็นคากล่าวของเขาในจังหวะที่เขากาลังสับขวาน
ด้วยความรุนแรงเต็มสิบส่วนร่างกายของเขาพลันสัมผัสได้ถึงความ
แปลกประหลาดของสถานการณ์ในตอนนี้เมื่อเขามองไปยังผู้อาวุโส
สาวเขากับพบว่านางไม่แม้แต่จะมีการเริ่มเคลือนไหวเพื่อช่วยเหลือ ?
ด้านหลังของหัวหน้าชายชุดดานั้นปรากฎร่างของหลินหมิงที่อยู่ใน
สภาพบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกันกับร่างของเด็กหนุ่มที่เขากาลังฟาด
ฟันลงไปนี้
' นี้มันเรื่องบัดซบอันใดกัน ! เหตุใดถึงได้มีเจ้าเด็กนี้ถึงสองคน '
ตูม !
เสียงขวานของหัวหน้าชายชุดดาฟาดฟันลงไปเต็มร่างของหลินหมิ
งที่อยู่ตรงหน้าเขา เพียงแต่ว่าร่างของเด็กหนุ่มผู้นี้กลับพลันกลายเป็น
แสงหายหวับไปในทันที เมื่อเห็นเช่นนี้หัวใจของเขาพลันกระตุกหวูบ
ตูม !!
เสียงปะทะต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกันแต่คราวนี้กลับเป็นร่างของ
หัวหน้าชายชุดดาที่โดนจูโจมจากหลินหมิงที่ทาการปลดปล่อยพลังงาน
จานวนมากจากทักษะ [ เพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ ] ด้วยความรุนแรงของ
ทักษะนี้ทรงผลให้เกิดการระเบิดรอบตัวของหัวหน้าชายชุดดาเป็นวง
กว้าง พื้นดินโดยรอบรัศมีการทาลายหลายสิบเมตรถูกขุดเจาะด้วย
ความเร็วที่น่าถึงท่ามกลางเสียงคารามอย่างเจ็บปวดของหัวหน้าชายชุ
ดา
ผิวหนังที่แข็งแกร่งของเขาได้รับการโจมตีราวกับว่าเขากาลังอยู่ใน
บ่อลาวาเดือดทาให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากาลังถูกหลอม
ละลาย
" อ๊ากกกกกกกกก !! "
เสียงคารามที่แฝงไปด้วยพลังของผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นที่ 3
เขาระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มที่สิบส่วนเพื่อทาการสลายพลังอันน่า
ตื่นตะลึงนี้ ที่ผิวหนังของเขาในตอนนี้จะพบเห็นรอยไหม้สีดาอยู่แทบ
ทุกส่วนตามร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่สามารถทาให้เขาตายได้
ด้วยการโจมตีเพียงเท่านี้
" แก !! ไอตัวบัด... "
" ตายย !! "
ไม่ทันที่หัวหน้าชายชุดดาจะพลันได้หาตัวของหลินหมิงเพื่อทาการ
ระเบิดอารมณ์ความโกรธของเขา ร่างของหลินหมิงพุ่งทะยานผ่านฝุ่น
ควันที่เกิดขึ้นพร้อมกับที่ปลายนิ้วของเขามีกลุ่มก้อนพลังงานอัน
หนาแน่นที่กาลังถูกบีบอัดเอาไว้อยู่ ลาแสงสีดาทมิฬถูกปลดปล่อยใน
ระยะประชิดเข้าสู่ภายในดวงตาข้างซ้ายของหัวหน้าชายชุดดา
" อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!! "
แม้ว่าร่างกายของชายผู้นี้จะมีความแข็งแกร่งในขนาดที่ทักษะที่
ยอดเยี่ยมที่สุดของหลินหมิงก็ยังคงไม่สามารถสร้างบาดแผลสาหัส
ให้กับเขาได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เพียงพอที่จะทาให้เขาสับสนและลด
พลังป้องกันของเขาลงไปได้หลายส่วนและเมื่อเช่นนันดรรชนีเพลิงของ
หลินหมิงในตอนนี้ที่ถูกปลดปล่อยเข้าสู่ดวงตายอันเป็นจุดอ่อนเดียว
ของผู้ที่มีพลังป้องกันสูงเช่นชายผู้นี้โดยตรงแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ในตอนนี้หัวหน้าของชายชุดดากาลังได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว

ตอนที่ 147
หัวหน้าของนักฆ่าชุดดาผู้มีพลังในระดับปราญช์ขั้นที่สาม ด้วยพลัง
ของชายผู้นี้มันทาให้เหล่าลูกน้องของเขามีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่า
กองกาลังของพวกเขานั้นมีอานาจไปไม่น้อยกว่าตระกูลใหญ่เลยแม้แต่
น้อย เพียงแต่ในตอนนี้ภาพตรงหน้าที่เกิดขึ้นของพวกเขาทั้ง 15 คนที่
เหลืออยู่นี้มันทาให้พวกเขาถึงกับตาเบิกกว้างและอ้างปากค้างไปด้วย
ความไม่เชื่อ
ด้วยการโจมตีอันรุนแรงของเด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยเพียง 15 ปีเพียงแค่
สองครั้งเท่านั้นในตอนนี้หัวหน้าของพวกเขานั้นเห็นได้ชัดว่าได้รับ
บาดเจ็บสาหัสเป็นอย่างมาก ที่ดวงตาข้างซ้ายของเขามีเลือดไหล
ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนพร้อมกับร่างของเขาที่ส่งเสียงร้องออกมา
อย่างทรมาน
หลินหมิงขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ แม้ว่าด้วยการลอบ
โจมตีของเขาจากการหลอกล่ออีกฝ่ายด้วยทักษะร่างแยกเพลิงอัสนี จะ
สาเร็จได้อย่างงดงามเพียงแต่ว่าด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมทั้งสองของเขา
อย่างเพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์กับดรรชนีเพลิงที่เล็งจู่โจมไปที่ดวงตาของ
หัวหน้ากลุ่มนักฆ่า แต่ถึงอย่างนั้นด้วยร่างกายของผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์มันยังคงทาให้เขายังมีชีวิตรอดอยู่ได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเป็นระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดหรือกระทัีงผู้ที่
มีพลังระดับปราญช์ขั้นเริ่มต้นทั่วไปพวกเขาอาจจะตกตายหรือได้รับ
บาดเจ็บสาหัสเป็นอย่างมากจากการโจมตีด้วยเพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ใน
ครั้งแรกไปแล้ว แต่ว่าเทียบกับหัวหน้าของกลุ่มนักฆ่าผู้นี้แล้วไม่
เพียงแต่เขาจะมีความแข็งแกร่งในระดับปราญช์ขั้น 3 แต่ร่างกายของ
เขาก็ยังคงเรียกได้ว่าแข็งแกร่งกว่าผู้คนที่มีความแข็งแกร่งในระดับ
เดียวกันเป็นอย่างมาก ไม่เช่นนั้นแล้วแม้ว่าเขาจะสามารถรอดพ้นจาก
เพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ได้ แต่ด้วยดรรชนีเพลิงของหลินหมิงที่มันสมควร
พุ่งเข้าเล่นงานเขาจากโสดประสาทตาเข้าสู่สมองซึ่งนั้นย่อมหมายถึง
จุดจบของชีวิตของเขาไปแล้ว
" แก !! ไอตัวบัดซบ !! ข้าจะฆ่า.....อั่ก !! "
ในระหว่างที่หัวหน้าของกลุ่มชายชุดดากาลังกราดเกรี้ยวพร้อมเท
ความสนใจไปที่หลินหมิงนั้นได้มีกระบี่เงินอันงดงามแทงทะลุร่างกาย
ของเขาจากด้านเข้าสู่หัวใจจนทะลุอกออกมาจากด้านหน้า โดยไม่ทันที่
หัวหน้าของกลุ่มนักฆ่าผู้นี้จะหันไปมองเขาสามารถรับรู้ได้ในทันทีว่า
กระบี่เงินนี้เป็นฝีมือของใคร มันเป็นเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ากับการ
เผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่มีสถานะในระดับใกล้เคียงกัน การที่เขาพลาด
พลั้งเพียงเล็กน้อยนั้นย่อมหมายถึงชีวิต
" ข้า...ยัง..ไม่ยอมหรอก...ฮ่าห์ !! "
หัวหน้าชายชุดดาเตรียมคารามปลดปล่อยพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อ
ที่ว่าอย่างน้อยเขาจะสามารถพาผู้อาวุโสฉินเหยาให้ตกตายไปพร้อมกับ
เขาด้วยหรืออย่างน้อยก็ขอเพียงให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสจนลูกน้อง
ของเขาสามารถรับมือกับนางได้เท่านั้นก็เพียงพอ ด้วยร่างกายที่
แข็งแกร่งรวมกับพลังปราณระดับปราญช์มันทาให้เขายังคงมีชีวิตอยู่
ต่อไปได้อีกเล็กน้อยแม้ว่าในตอนนี้หัวใจของเขาจะถูกแทงทะลุไปแล้วก็
ตาม
เพียงแต่ว่าพลังปราณในร่างกายของเขาที่สมควรปะทุขึ้นมาอย่าง
ร้อนแรงตามความต้องการของเขาในตอนนี้มันกลับปั่นป่วนจนไม่
สามารถควบคุมได้ การกระทาของเขาเช่นนี้มันกลับเป็นการส่งผลเสียง
กับร่างกายของเขาเสียมากกว่า หัวหน้ากลุ่มนักฆ่ากระอักเลือดออกมา
คาโตพร้อมกับจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
ตุบ !!
เมื่อผู้อาวุโสฉินเหยาดึงกระบี่ของนางออกมาพร้อมกับร่างของชาย
ร่างกายาที่ถูกปล่อยให้ตกลงสู่พื้นไปในสภาพแน่นิ่งไม่สามารถขยับได้
อีกต่อไป
ใจของชายชุดดาทั้ง 15 คนถึงกับสั่นสะท้านเมื่อปราศจากหัวหน้า
ของพวกเขาที่มีความแข็งแกร่งในระดับปราญช์ มันจะยังมีใครที่
สามารถต่อต้านสตรีผู้นี้ได้อีกกัน ? ไม่ต้องพูดถึงรองหัวหน้าของพวก
เขาที่ตอนนี้กาลังต่อสู้กับสตรีอีกคนในสถานการณ์ที่ยากลาบากไม่แพ้
กัน เมื่อเช่นนี้แล้วพวกเขาจะสามารถหวังสิ่งใดได้อีกกัน แม้ว่าในตอนนี้
ความแข็งแกร่งของนางจะลดลงมาเกือบครึ่งแต่นางก็ยังคงเป็นถึงผู้ที่มี
พลังระดับปราญช์ขั้น 3 ลาพังพลังเพียงครึ่งเดียวของนางก็เพียง
พอที่จะเข่นฆ่าพวกเขาทั้งหมดแล้ว
เวลาผ่านไปเพียงชั่วอึดใจร่างของชายชุดดาทั้งหมดเริ่มมีการ
เคลื่อนไหวในลักษณะที่คล้ายกันร่างของพวกเขาทั้งหมดมีการสั่น
กระตุกอย่างรุนแรงพร้อมกับเลือดจานวนมากที่กระอักออกมาเป็นสาย
ธาร
' ฆ่าตัวตาย ? '
สาหรับพวกเขาทั้ง 15 คนแน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของพวก
เขามันทาให้พวกเขาทั้งหมดนนี้ย่อมเคยทาภารกิจต่างๆมาไม่น้อยและ
หากพวกเขาต้องถูกจับหรือถูกสังหารโดยสตรีผู้นี้แล้ว เช่นนั้นแล้วพวก
เขายินดีที่จะปลิดชีพตนเองเสียดีกว่า
" เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ? "
ผู้อาวุโสฉินเหยากล่าวถามหลินหมิงด้วยความเป็นห่วง ในตอนนี้ไม่
เพียงแต่ตามร่างกายของหลินหมิงจะมีบาดแผลอยู่ทั่วทุกหนแห่งแต่
พลังปราณในร่างกายของเขากลับลดลงอยู่ในระดับที่น่าหวาดหวั่น
หลินหมิงขยับทาการหยิบนาโอสถรักษาจากแหวนมิติเข้าใส่ปากของ
เขาด้วยความยากลาบากผลลัพธ์จากการใช้ทักษะจิตสายฟ้ามันทาให้
เขารู้สึกว่าแทบจะไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้ไปอีกสักพักหนึ่ง
" ข้าไม่เป็นไร...ผู้อาวุโสฟางซิ่นล่ะ ? "
" สามี..ข้าย่อมไม่เป็นไรเช่นเดียวกัน ! "
เสียงหวานใสของผู้อาวุโสฟางซิ่นดังขึ้นด้วยอารมณ์ความห่วงแหน
แม้ว่าสภาพของหลินหมิงในตอนนี้จะเรียกได้ว่าบาดเจ็บสาหัสเป็น
อย่างมาก กระทั่งโอสถชั้นสูงที่ได้รับมาจากอาจารย์สาวสวยของเขามัน
ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถรักษาให้หายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ แต่
ถึงอย่างนั้นนางก็ยังรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่สามีหนุ่มของนางผู้นี้ยังคง
มีชีวิตอยู่
ผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยาเฝ้าดูอาการของหลินหมิงด้วย
ความเป็นห่วงอย่างใกล้ชิด ทันใดนั้นสายตาของหลินหมิงเหลือบไป
เห็นร่างของคนชุดดาที่ต่อสู้กับผู้อาวุโสฟางซิ่น
" ดูเหมือนว่านางจะรับรู้ถึงสถานการณ์ทางฝั่งของพวกเจ้า..มันจึง
ทาให้นางเกิดอาการร้อนและนาไปสู่ความพ่ายแพ้...ในช่วงเวลาสุดท้าย
นางจึงเลือกปลิดชีวิตตนเองเช่นเดียวกับชายชุดดาทั้ง15คนเหล่านั้น "
สิ่งที่หลินหมิงเห็นในตอนนี้คือร่างของหญิงสาวในชุดดาในตอนนี้ผ้า
คลุมใบหน้าที่เคยปกปิดเอาไว้ล้วนถูกเปิดจนเผยให้เห็นใบหน้าอัน
งดงามของนักฆ่าสาวผู้นี้ แต่เมื่อหลินหมิงมองไปยังเรือนร่างของนางที่
ผอมเพรียวแม้แต่อวัยวะส่วนสาคัญที่บริเวณหน้าอกของสตรีที่ควรจะมี
แต่มันกลับมีลักษณะคล้ายคลึงกับบุรุษไปเสียนี้ มันจึงไม่แปลกนักหาก
ผู้คนจะเข้าใจว่านางเป็นบุรุษเพศในยามที่นางได้สวมใส่ผ้าคลุมปิดบัง
ใบหน้า
แม้ว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นจะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะเหนืออีกฝ่ายแต่
สภาพของนางในตอนนี้ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าดีกว่าผู้อาวุโสฉินเหยาไป
มากนัก เห็นได้ชัดว่านางตั้งใจที่จะรีบเร่งการต่อสู้ให้จบลงโดยเร็วเพื่อ
เข้าช่วยเหลือหลินหมิงนางจึงเหลือที่จะทาให้การต่อสู้โดยไม่สน
บาดแผลใดๆ เมื่อมองไปยังร่างผู้อาวุโสฟางซิ่นผู้อาวุโสฉินเหยาที่
แม้ว่าพวกนางจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แต่อย่างน้อยพวกนางทั้งสองก็
ยังคงมีชีวิตอยู่
แม้ว่าเขาจะมีสตรีในข้างกายอยู่มากมายแต่การที่เขาจะต้องเสีย
พวกนางไปมันย่อมจะทาให้เขารู้สึกเจ็บปวดไม่ใช่น้อย หลินหมิงทิ้งร่าง
ลงนอนหอบบนพื้นอย่างหมดแรง หากไม่ใช่ว่าในตอนนี้เข้าได้ก้าวเข้าสู่
ระดับจอมยุทธ์และได้รับทักษะใหม่ทั้งสามที่เป็นปัจจัยสาคัญในชัย
ชนะครั้งนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้ผู้ที่มีกาลังมีความสุขย่อมเป็น
สากศพที่ไร้ชีวิตเหล่านี้
แม้ว่าในการต่อสู้ครั้งมันจะทาให้หลินหมิงรู้เข้าใจในทักษะต่างๆ
ของเขามากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นประสบการณ์ในการต่อสู้เสี่ยงตาย
เช่นนี้มันทาให้ทักษะของเขาล้วนพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด
เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่หลินหมิงต้องการที่จะรับรู้นั้นก็คือผู้ที่บ่งการอยู่
เบื้องหลังทั้งหมด แม้จะน่าเสียดายที่ศัตรูทั้งหมดล้วนสิ้นชีพไปจน
หมดแล้วแต่เขาจะยังสามารถทาสิ่งใดได้อีก ? ทันใดนั้นหลินหมิงพลัน
มีความคิดดีดีผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขาพร้อมกับจ้องมองไปยังเรือน
ร่างของสตรีชุดดาที่ลมหายใจโรยริน
ตอนที่ 148
เทียบกับร่างของชายชุดดาทั้ง 15 คนที่มีพลังระดับจอมยุทธ์
หลังจากที่พวกเขาได้ทาการปลิดชีพตนเองด้วยยาพิษที่แอบซ่อนเอาไว้
เพียงแค่ผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งสิบห้าคนล้วนแล้วแต่อยู่ในสภาพที่
นอนแน่นิ่งไร้สติแม้ว่าชายชุดดาที่มีความแข็งแกร่งระดับจอมยุทธ์ขั้น 9
เขาก็ทาได้เพียงแค่ยื้อระยะชีวิตของตนเองได้มากกว่าพวกพ้องของเขา
เพียงเล็กน้อย
แต่สาหรับหญิงสาวที่ที่เป็นรองหัวหน้าของกลุ่มนักฆ่านางยังคง
สามารถมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปอีกสักเล็กน้อย ที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าพิษ
ที่นางใช้สังหารตนเองนั้นไม่ได้มีความรุนแรงมากพอแต่นั้นเป็น
เพราะว่านางคือผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ตัวอย่างเช่นหัวหน้ากลุ่มนักฆ่า
ที่โดนกะบี่ของผู้อาวุโสฉินเหยาแทงเข้าทะลุหัวใจแต่เขาก็ยังคงมีชีวิต
อยู่ได้
ดังนั้นแล้วมันยังคงมีความเป็นไปได้อยู่ที่พวกเขาจะสามารถรักษา
สตรีนางนี้ให้หายจากพิษที่นางได้ใช้ปลิดชีพตนเอง แม้ว่าหลินหมิงจะมี
โอสถรักษาจานวนมากแต่พวกมันเหล่านั้นล้วนไร้ค่า หนทางเดียวที่จะ
สามารถรักษาพิษระดับสูงเช่นนี้ได้นั้นก็คือการได้รับยาแก้พิษเท่านั้น
ส่วนโอสถรักษานั้นพวกมันอาจทาได้แค่เพียงประคับประคองให้มีชีวิต
ต่อได้อีกสักเล็กน้อยเท่าใดตราบใดที่พวกเขาไม่สามารถหาหนทาง
กาจัดพิษนี้ได้สตรีนางนี้ย่อมไม่พ้นความตายอย่างแน่นอน
หลินหมิงกัดฟันพร้อมกับใช้เรี่ยวแรงที่เหลือลุกขึ้นอย่างยากลาบาก
ด้วยสภาพของหลินหมิงในตอนนี้ที่พลังปราณในร่างกายของเขาล้วน
ถูกใช้ออกไปจนหมด ไม่เพียงเท่านั้นผลกระทบจากทักษะจิตสายฟ้า
มันยังทาให้เขาอ่อนแรงจนเขาแทบจะไม่สามารถขยับร่างกายได้อยู่
แล้ว โอสถรักษาจานวนมากถูกนาออกมาจากแหวนมิติของหลินหมิง
พร้มอกับที่หลินหมิงรีบกรอกพวกมันเข้าไปในปากอย่างรวดเร็ว
" อืม้ มมม~~ "
ทันใดนั้นผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นถึงกับตาเบิกกว้างกับ
สิ่งที่หลินหมิงได้ลงมือกระทา ร่างของหลินหมิงพุ่งประปากกับนักฆ่า
สาวที่เบิกตากว้างออกมาเล็กน้อย โอสถที่อยู่ภายในปากของหลินหมิ
งถูกปลดปล่อยให้ไหลลงสู่ลาคอของนักฆ่าสาวโดยที่ลิ้นของหลินหมิง
ยังคงทาหน้าที่เข้าพัวผันให้เพื่อให้แน่ใจว่าโอสถเหล่านี้จะไม่ถูกสารอก
ออกมา
เป็นผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เคลื่อนไหวตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่านางจะไม่แน่ใจในสิ่งที่หลินหมิงต้องการ
กระทาแต่นางก็พอจะคาดเดาได้ นางรีบตรงไปยังร่างของนักฆ่าสาว
พร้อมทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนักฆ่าสาวออกอันที่จริงแล้วนางรีบ
ร้อนจนชีกเสื้อผ้าเหล่านั้นขาดไปจนหมด ผู้อาวุโสฟางซิ่นยังคงอยู่ใน
สภาวะสับสนนางยังไม่เข้าใจในสิ่งที่หลินหมิงหรือผู้อาวุโสฟางซิ่น
ต้องการกระทาเลยแม้แต่น้อย
แต่ทันใดนั้นเมื่อนางหวนนึกไปถึงค่าคืนที่ผ่านมาระหว่างนางกับ
หลินหมิง นางพลันจาได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้มีการพัฒนาอย่างก้าว
กระโดดเช่นเดียวกันกับนางด้วย เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาต้องการที่จะฉ
วนโอกาศนี้เพื่อพัฒนาตนด้วยวิธีที่เขาใช้กับนางด้วยเช่นเดียวกัน ?
" นี้หรือว่าเจ้าต้องทาการทามันกับคนผู้นี้ ? "
หลินหมิงไม่กล่าวตอบคากล่าวของผู้อาวุโสฉินเหยาเขาดึงร่างของผู้
อาวุโสสาวเข้ามาในอ้อมกอด ผู้อาวุโสฉินเหยาแม้ว่าจะตกใจอยู่บ้าง
เล็กน้อยแต่สาหรับนางการได้อยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มเช่นนี้มันทา
ให้นางรู้สึกอบอุ่นและสงบอย่างบอกไม่ถูกดังนั้นแล้วนางจึงไม่มีท่าทีขัด
ขืนแต่อย่างใดกลับกันแล้วเมื่อนางมองไปยังใบหน้าของหลินหมิงที่
ยังคงปรากฎร่องรอยความเหนื่อยล้านางจึงเป็นฝ่ายกระชับร่างของ
ตนเองเข้าไปหาหลินหมิงให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม
สิ่งที่ผู้อาวุโสฉินเหยาคาดคิดเอาไว้ในตอนนี้คือหลินหมิงนั้นมีความ
ปราถนาที่จะพัฒนาระดับพลังของเขาโดยอาศัยการร่วมรักกับนักฆ่า
สาวผู้นี้แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของหลินหมิงในตอนนี้กลับอ่อนแรงจน
เกินกว่าที่เขาจะสามารถขยับได้อย่างคล่องตัวดังนั้นแล้วมือทั้งสองข้าง
ของนางเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของ
หลินหมิงและของนางออกด้วยเช่นเดียวกัน
ที่นางจาเป็นจะต้องปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกนั้นส่วนหนึ่งก็
คือนางต้องการให้หลินหมิงเกิดอารมณ์ความต้องการที่มากพอที่จะทา
ให้เขาเผด็จศึกนักฆ่าสาวผู้นี้โดยเร็ว ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งนั้นมันคือความ
ปราถนาโดยส่วนตัวของนางเพียงเท่านั้น
หลินหมิงไม่มีเวลามองเรือนร่างของหญิงสาวนักฆ่าตรงหน้ามากนัก
ในตอนนี้ภาพเบื้องหน้าของเขาคือร่างกายของหญิงสาวสภาพเปลื่อย
เปล่าที่หน้าอกของนางมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับเหล่าหญิงสาว
ทั้งหลายของเขาแล้วนักฆ่าสาวผู้นี้ยังคงมีขนาดหน้าอกด้อยกว่าแม่สาว
ตัวน้อยอย่างหลิวฉวนยูร์เสียอีก ทั้งๆที่ดูจากหน้าตาและรูปร่างแล้ว
นางสมควรมีอายุใกล้เคียงกับผู้อาวุโสฉินเหยานั้นก็คือเกือบ 40 ปี
ทวนมังกรของหลินหมิงที่อยู่ในสภาพพร้อมรบหลังจากที่ผิวสัมผัส
ของร่างกายของเขาได้รับสัมผัสเนียนนุ่มจากทางซ้ายและขวาที่มีร่างเป
ลื่อยเปล่าของผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นกาลังทาการ
ปรนนิบัติเขาอย่างเต็มที่
สาหรับนักฆ่าสาวแม้ว่าในตอนนี้พลังชีวิตของนางจะเหลือน้อย
เต็มที่ตาของนางในตอนแรกที่เริ่มพร่ามั่วจนแทบจะปิดอยู่แล้วแต่
ทันใดนั้นนางกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันแปลกประหลาดที่บริเวณริม
ฝีปากไม่เพียงเท่านั้นในตอนนี้นางยังคงรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่กาลัง
ถูกนาเข้ามาสู่ภายในร่องสวาทของนาง !
ด้วยสภาพของนางในตอนนี้อย่าว่าแต่เรื่องตอบโต้เลยนางยังคงไม่
สามารถแม้แต่จะมีเรี่ยวแรงส่งเสียงร้องออกไปเสียด้วยซ้า ใครจะไปคิด
กันเล่าว่าในวาระสุดท้ายของชีวิตของนางเช่นนี้จะต้องพบเจอกับเรื่อง
เช่นนี้
แท่งเนื้อขนาดใหญ่และร้อนแรงถูกนาเข้ามาภายในร่องสวาทของ
นางอย่างรวดเร็ว หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อในตอนนี้ที่เข้าได้ส่งทวน
มังกรเข้าไปนั้นเขารู้สึกได้ถงึ เนื้อเยื่อพรหมจรรย์ของหญิงสาวที่เพิ่งถูก
ทาลาย ! แต่หลินหมิงยังคงไม่มีเวลาสนใจในสิ่งเหล่านี้มากนักในตอนนี้
เขาจาเป็นที่จะต้องระเบิดน้ารักของเขาออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
แต่เนื่องจากเรี่ยวแรงของเขาในตอนนี้มันทาให้เขาไม่สามารถขยับ
ร่างกายได้อย่างถนัดเพียงไม่นานร่างกายของหลินหมิงก็เริ่มรู้สึกว่าเขา
จะไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป ผู้อาวุโสฟางซิ่นนางสมกับเป็นสตรีที่ได้
ขึ้นชื่อว่ามีทักษะปรนนิบัติที่เป็นเลิศที่สุดด้วยการที่นางเคยมี
ประสบการณ์เฝ้าสังเกตหลินหมิงมาอย่างยาวนาน นางผลักร่างของ
หลินหมิงให้นอนลงพร้อมกับขึ้นคร่อมโดยนาทวนมังกรของหลินหมิง
เข้ามาภายในร่องสวาทของนางแทน !
" สามีเดียวข้าจะทาให้ท่านก่อนจากนั้นแล้วเมื่อท่านพร้อมข้าจะให้
ท่านได้ปลดปล่อยมันใส่ตัวของนาง "
หลินหมิงพยักหน้าตกลงอย่างเห็นด้วยดูเหมือนว่าหลังจากจบเรื่อง
ในคราวนี้เขาคงต้องให้รางวัลใหญ่แก่ผู้อาวุโสฟางซิ่นเสียแล้ว ผู้อาวุโส
ฉินเหยามองไปที่ฉากการร่วมรักอันเร้าร้อนของผู้อาวุโสฟางซิ่นและ
หลินหมิงแม้ว่านางจะมีความรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถร่วมรักกับหลินห
มิงได้ในตอนนี้เพียงแต่ฉากการร่วมรักกับหลินหมิงและผู้อาวุโสฟางซิ่น
นั้นมันทาให้นางได้เรียนรู้ครั้งใหญ่
เทียบกับนางที่เวลาร่วมรักกับหลินหมิงแล้วนั้นจะเป็นเพียงแค่
หลินหมิงเท่านั้นที่เป็นฝ่ายรุกเร้านางอย่างเร้าร้อนนางไม่เคยคาดคิดมา
ก่อนเลยว่ามันยังคงมีท่วงท่าที่วิเศษเช่นนี้ด้วย เมื่อเห็นภาพนี้นางไม่มี
ความสงสัยในเรื่องก่อนหน้าในรถม้าที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นต้องการให้นาง
เรียนรู้สิ่งต่างๆก่อนที่จะได้รับตาแหน่งภรรยาของหลินหมิง เมื่อเทียบ
กับผู้อาวุโสฟางซิ่นแล้วนางยังคงด้อยกว่ามากแน่นอนว่ามันไม่ใช่ใน
เรื่องของความแข็งแกร่งแต่มันเป็นในเรื่องของตาแหน่งภรรยาหรือสตรี
ข้างกายของเด็กหนุ่ม
" ซี๊ดดดด ~~~ "
เสียงครางของผู้อาวุโสฟางซิ่นดังออกมาอย่างต่อเนื่องแต่ถึงอย่าง
นั้นจังหวะการขึ้นลงของสะโพกของนางกลับไม่มีการตกลงเลยแม้แต่
น้อย กลับกันแล้วดูเหมือนว่าในตอนนี้นางจะมีความสุขมากจนเร่ง
จังหวะขึ้นได้อย่างไม่มีหยุด ผู้อาวุโสฉินเหยาเพียงแค่นางได้เห็นภาพ
ตรงหน้าที่บริเวณส่วนลับของนางพลันมีการตอบสนองอย่างร้อนแรง
ทันใดนั้นเมื่อนางได้เห็นท่าทีของหลินหมิงที่กาลังเชื้อเชิญนางโดยไม่มี
การรีรอนางรีบพุ่งตรงไปหาหลินหมิงในทันที
ด้วยการบอกกล่าวของหลินหมิงในตอนนี้นางอยู่ในท่วงท่าที่กาลัง
นั่งทับอยู่ที่บริเวณใบหน้าของหลินหมิง ร่องสวาทของนางในตอนนี้
กาลังถูกโลมเลียจนร่างกายของนางรู้สึกสั่นสะท้านนางยังคงจา
ความรู้สึกเช่นนี้ได้อย่างดีเยี่ยม เสียงครางของนางดังสนั่นเสียงยิ่งกว่าผู้
อาวุโสฟางซิ่นนับสิบเท่า
ท่ามกลางการปรนนิบัติอันยอดเยี่ยมจากผู้อาวุโสฟางซิ่นและ
รสชาติและเสียงครางอันเย้ายวนของผู้อาวุโสฉินเหยาทวนมังกรของ
หลินหมิงเริ่มมีการสั่นกระตุกอย่างรุนแรง ผู้อาวุโสฟางซิ่นตอบสนอง
ด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย นางรู้ดีว่าการทาให้หลินหมิงนั้นระเบิด
อารมณ์ออกมานั้นเป็นเรื่องยากมากเพียงใดนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขามี
อารมณ์ที่น้อยกว่าบุรุษอื่นแต่มันเป็นเพราะว่าจะเป็นนางเองที่หมดแรง
เสียก่อนที่จะได้รับน้ารักของเขาต่างหาก
ผูอ้ าวุโสฟางซิ่นประคองร่างของนักฆ่าสาวที่ไร้การต่อต้านขึ้นคร่อม
ทวนมังกรของหลินหมิงพร้อมกับกดร่างของนางลงไปจนสุดแรง น้ารัก
จานวนมากของหลินหมิงปะทุขึ้นมาเข้าสู่ภายในร่องสวาทของนักฆ่า
สาวเมื่อเห็นเช่นนี้ผู้อาวุโสฟางซิ่นปัดร่างของนักฆ่าสาวทิ้งอย่างไม่ใยดี
ตอนที่ 149
หากเป็นในสถานการณ์ปกติด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสาว
งามทั้งสามเช่นนี้ หลินหมิงคงไม่มีการลังเลที่จะทาการมอบความสุข
ด้วยบทเพลงรักอันร้อนแรงกับพวกนางอย่างยาวนาน แต่ด้วยสภาพ
ของหลินหมิงในตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะสามารภขยับได้โดยง่ายแต่ถึง
อย่างนั้นผู้อาวุโสสาวทั้งสองที่อารมณ์กาลังพลุ่งผล่านก็ได้เป็นฝ่ายรุก
เร้าเขาแทน
ผู้อาวุโสฉินเหยานางได้เรียนร้ีท่วงท่าแปลกใหม่จานวนมากที่นางไม่
เคยคาดคิดว่ามันจะท่วงท่าที่เยี่ยมยอดเช่นนี้ด้วย ดังนั้นแล้วใน
ช่วงเวลาที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นกาลังร่วมรักกับหลินหมิงนั้นนางไม่แม้แต่จะ
เอ่ยปากเพื่อทาการเรียกร้องแต่อย่างใด จนในที่สุดหลังจากที่ผู้อาวุโส
ฟางซิ่นได้รับน้ารักจากหลินหมิงไปเป็นจานวนมากนางก็เริ่มรู้สึกอ่อน
แรงลงด้วยสภาพพึงพอใจแน่นอนว่าสาหรับผู้อาวุโสฟางซิ่นแล้วนาง
ยังคงมีเรี่ยวแรงเหลือมากเพียงพอที่จะร่วมรักกับหลินหมิงได้ต่ออีกสัก
เล็กน้อย
แต่ถ้านางยังคงร่วมรักกับหลินหมิงต่อไปแม้ว่านางจะสามารถรับได้
ไหวแต่มันก็คงไม่พ้นการที่นางคงต้องหมดสติลงไปด้วยความเหนื่อยล้า
เช่นเดียวกับในตอนที่นางโดนเขาจู่โจมเช่นในอดีตเช่นนั้นแล้วทางเลือก
ที่ดีสุดที่สาหรับนางก็คือการที่นางจะพลัดกับผู้อาวุโสฉินเหยา ด้วยวิธี
เช่นนี้นางจะสามารถใช้เวลาในการพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายได้อีกสัก
เล็กน้อยเพื่อลิ้มรสความสุขให้ได้มากที่สุด
ผู้อาวุโสฉินเหยาที่กาลังขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงอย่างช้าๆแม้ว่า
นางจะเคยผ่านการร่วมรักกับหลินหมิงมาไม่น้อย แต่เทียบกับ
สถานการณ์ในตอนนี้ที่นางต้องเปลื่อยเปล่าและร่วมรักกับเด็กหนุ่มใน
สถานที่โล่งแจ้งเช่นนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่นางจะไม่รู้สึกเขินอาย
บาย ไม่เพียงเท่านั้นในการร่วมรักกับหลินหมิงในครั้งนี้ยังมีผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นที่คอยจ้องมองดูอยู่อีกต่างหาก
" ซี๊ดดด ~~~~~ "
แต่ถึงอย่างนั้นเทียบกับความกังวลเล็กน้อยเหล่านั้นกับความสุขที่
นางได้รับจากท่วงท่าแปลกใหม่ที่นางเพิ่งได้เรียนรู้มาความกังวล
เหล่านั้นไม่ต่างอะไรไปจากสิ่งไร้ค่า ร่องสวาทของนางที่เข้ากลืนกิน
ทวนมังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิงอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงครางกระ
เส้าที่หลุดออกมาจากปากของนางอย่างเย้ายวน แน่นอนว่าสาหรับ
หลินหมิงที่ต้องอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มันทาให้เขาไม่สามารถเล้าโลม
ร่างกายของสตรีผู้งดงามทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเขาได้เลยแม้แต่น้อย แต่
ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้จะเลวร้ายไปเสียทีเดียว
ด้วยการเคลื่อนไหวของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นมันอาจเป็นรูปแบบที่เขา
เคยได้ลิ้มลองมาบ้างแล้วแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะรู้สึกเบื่อกับ
มันอย่างแน่นอน แต่สาหรับผู้อาวุโสฉินเหยาแล้วนั้นนางยังคงแตกต่าง
ออกไปไม่ใช่ว่านางสามารถทาได้ดีกว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นแต่ด้วยรูป
ลักษณของผู้อาวุโสฉินเหยาที่เดิมเป็นสตรีผู้ขึ้นชื่อในเรื่องของความ
โหดร้ายแต่ใบหน้าของนางในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความต้องการเป็น
อย่างมาก
ด้วยอารมณ์รสชาติที่แปลกใหม่สาหรับหลินหมิงเช่นนี้มันจึงไม่ใช่
เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกับผู้อาวุโสฉินเหยา
ดังนั้นแล้วหลินหมิงตัดสินใจที่จะมองดูภาพของสตรีที่กาลังมุ่งมั่นใน
การลิ้มรสความสุขจากทวนมังกรของเขาอย่างเต็มที่ ผู้อาวุโสฟางซิ่น
นางราวกับว่าสามารถอ่านความคิดของหลินหมิงได้ นางเคลื่อนไหว
โดยใช้ตักของนางเป็นที่รองหนุนศรีษะให้กับหลินหมิงด้วยสภาพของ
หลินหมิงในตอนนนี้มันจึงทาให้เขาสามารถมองเห็นที่บริเวณส่วนล่าง
ของเขาได้อย่างถนัด
" อู้ววว ~~~ มะ...มันยอดเยี่ยม ซี๊ดดดด ~~~~~~ "
สะโพกของผู้อาวุโสฉินเหยาค่อยๆเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเพื่อ
ค่อยๆทาการลิ้มรสความสุขอย่างต่อเหนื่องแม้ว่าการจู่โจมของหลินห
มิงจะทาให้นางมีความสุขเสียยิ่งกว่าอะไร แต่การที่นางได้เป็นฝ่ายรุก
เร้าเองเช่นนี้มันก็นับได้ว่าไม่เลวนัก ไม่เพียงแต่นางจะสามารถเป็นฝ่าย
ควบคุมจังหวะได้แต่นางยังคงสามารถเคลื่อนไหวร่างกายของนางได้
อย่างถนัดซึ่งแตกต่างกับในตอนที่นางโดนหลินหมิงจู่โจมโดยสิ้นเชิง
หากเป็นเช่นในกรณีนั้นสิ่งที่นางทาได้คงมีเพียงการส่งเสียงคราง
ร้องออกมาพร้อมกับนอนแหวกขาให้กับหลินหมิงจู่โจมเท่านั้น นาง
โน้มตัวลงทาบกับร่างของหลินหมิง หน้าอกขนาดใหญ่เข้าสัมผัสกับ
ผิวหนังเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงนางสามารถสัมผัสได้ในทันทีว่าทวน
มังกรในร่องสวาทของนางมีการสั่นกระตุกในทันที
" ฮิฮิ "
ผู้อาวุโสฉินเหยาหัวเราะอย่างชอบใจ นิ้วมือเรียวงามทั้งสองข้างเข้า
ลูบไล้สัมผัสบริเวณเรือนร่างของหลินหมิงด้วยความโหยหาแววตาของ
นางในตอนนี้ราวกับว่านางต้องการที่จะกลืนกินและครอบครองหลินห
มิงเอาไว้เพียงผู้เดียวแต่นางรู้ดีว่าสิ่งเหล่านั้นนางไม่อาจสามารถทาได้
เพราะไม่เช่นนั้นแล้วชีวิตของนางก็คงราวกับอยู่ที่บริเวณขอบเหวที่มี
ความลึกไร้ที่สุดสิ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยสาหรับสตรีเพียงนางเดียวที่จะ
สามารถรองรับอารมณ์ความต้องการของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ทั้งหมด
ร่างของผู้อาวุโสฉินเหยาเคลื่อนไหวด้วยการขยับอย่างเชื่องช้าด้วย
การเคลื่อนไหวของนางเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทาให้ทวนมังกรของหลินห
มิงมีการขยับเข้าออกด้วยจังหวะเดียวกันแต่มันยังทาให้ยอดปถุมถัน
และหน้าอกคู่งามของนางเสียดสีกับร่างของหลินหมิงอีกด้วย
แม้แต่ผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ต้องการจะพักฟื้นร่างกายของนางต่ออีกสัก
พักแต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเช่นนี้แล้วมันคงเป็นเรื่องยากที่นางจะ
สามารถอดกลั้นอารมณ์เอาไว้ได้ ร่างของนางโค้งลงเพื่อทาการประกบ
ปากกับหลินหมิงอย่างเร้าร้อน น่าเสียดายที่ในตอนนี้หลินหมิงไม่แม้แต่
จะสามารถเคลื่อนไหวลิ้นของเขาได้โดยง่ายดังนั้นแล้วเขาจึงได้แต่
ปล่อยให้ลิ้นของผู้อาวุโสฟางซิ่นเข้าผัวผันภายในปากของเขาแทน
ผู้อาวุโสฉินเหยาเริ่มทาการขยับร่างกายบริเวณส่วนสะโพกของนาง
เป็นจังหวะที่เร้าร้อนมากยิ่งขึ้น ร่างกายของนางมีการสั่นไหวอยู่
ตลอดเวลาพร้อมกับน้ารักจานวนมากที่ไหลออกมาจากร่องสวาทของ
นางแบบไม่มีหยุด
หากเป็นบุรุษทั่วไปเมื่อพวกเขาต้องพบเจอสถานการณ์เช่นเดียวกัน
กับหลินหมิงพวกเขาอาจต้องตกตายด้วยการปลดปล่อยน้ารักเป็น
จานวนมากภายในครั้งเดียวจนทาให้ร่างกายสูญเสียน้ามากจนเกินไป
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขาแตกต่างออกไปโดยสิน้ เชิง ไม่เพียงแต่
เขาจะสามารถปลดปล่อยน้ารักออกมาได้โดยไม่รู้จักคาว่าเพียงพอแต่
ยิ่งเขาสามารถปลดปล่อยมันได้มากเพียงใดมันกลับทาให้เขารู้สึกสดชื่น
และมีความสุขมากยิ่งขึ้น
ด้วยการปรนนิบัติชั้นยอดจากสตรีผู้งดงามทั้งสองมีหรือที่หลินหมิง
จะสามารถอดกลั้นอารมณ์ของเขาเอาไว้ได้อย่างยาวนานเช่นปกติ
ทั่วไป น้ารักจานวนมากของเขาถูกระเบิดเข้าใส่ร่องสวาทของผู้อาวุโส
ฉินเหยาจนนางรู้สึกราวกับว่าภายในท้องของนางในตอนนี้ได้แปร
เปลี่ยนเป็นอ่างเก็บน้าขนาดย่อมๆอันหนึ่งไปแล้ว
หลังจากที่ผู้อาวุโสฉินเหยาได้รับน้ารักของหลินหมิงไปแล้วนางไม่
รีบร้อนที่จะได้รับมันเพิ่มเติมนางเคลื่อนกายลงไปที่บริเวณส่วนล่าง
ของหลินหมิงพร้อมกับริมฝีปากของนางที่เข้าทาการโลมเลียทวนมังกร
ของหลินหมิงที่กาลังเปราะเปรื้อนไปด้วยน้ารักของเขาและนางเป็น
จานวนมาก อันที่จริงแล้วท่วงท่านี้เป็นท่วงท่าที่นางได้ยินมาจากผู้
อาวุโสฟางซิ่นแม้ว่าในตอนแรกนางจะรู้สึกว่าการกระทาเช่นนี้เป็นสิ่งที่
น่ารังเกียจแต่มันใบหน้าของนางได้เคลื่อนไหวลงมาใกล้กับทวนมังกร
ของหลินหมิ
กลิ่นอันรุนแรงที่แผ่ออกมาทาให้หัวสมองของนางเบาโล่งไปชั่วครู่
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วนางไม่คิดว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าวจะเป็นสิ่ง
โกหกแต่อย่างใด ทันที่ที่ลิ้นของนางเข้าสัมผัสกับทวนมังกรของหลินห
มิงรสชาติอันยอดเยี่ยมของน้ารักที่เปราะเปรื้อนอยู่มันราวกับว่าเป็น
โอสถในตานานที่ไม่สามารถหาได้อีกบนโลกใบนี้ ทันใดนั้นโดยไม่รีรอ
ริมฝีปากของนางเข้าครอบคลุมทวนมังกรของหลินหมิงพร้อมกับโลม
เลียมันอย่างต่อเหนื่อง

ตอนที่ 150
ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่น
แม้ว่าในตอนนี้พวกนางจะได้รับบาดเจ็บมาจากการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านมา
ไม่นานแต่ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่ได้เป็นปัญหาสาหรับพวกนางใน
การร่วมรักกับหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วหลินหมิงคิดว่า
พวกนางอาจลืมไปเสียแล้วว่าพวกนางนั้นเคยได้รับบาดเจ็บมา
เวลาในการร่วมรักของหลินหมิงและสองผู้อาวุโสสาวดาเนินไป
อย่างยาวนานและต่อเหนื่องจนในที่สุดเมื่อผ่านไปสามชั่วยามเต็มๆ
ร่างกายของสองผู้อาวุโสสาวที่ถูกเติมเต็มไปด้วยน้ารักจานวนมาก
ถึงแม้ว่าเวลาสามชั่วยามนี้หากเป็นโดยปกติทั่วไปพวกนางย่อมใช้เวลา
ไม่ต่างจากนี้ในการร่วมรักกับหลินหมิง แต่ว่าเทียบกับสภาพร่างกาย
ของพวกนางทั้งสองที่อ่อนแรงและยังคงสูญเสียพลังปราณไปเป็น
จานวนมากดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกนางทั้งสองจะค่อยๆ
หลับหมดสติไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยการร่วมมือของสองผู้อาวุโสสาวทั้งสองนี้ไม่แน่
ว่าพวกนางอาจจะรับมือกับหลินหมิงได้ถึงข้ามวันข้ามคืนโดยที่พวก
นางทั้งสองไม่หมดสติเลยก็เป็นได้
หนึ่งวันเต็มผ่านไป
สภาพร่างกายของหลินหมิงในตอนนี้เริ่มฟื้นฟูจนสามารถขยับได้
อย่างถนัดแต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงสามารถใช้พลังปราณได้ราวสามส่วน
เพียงเท่านั้นทั้งหมดนี้นั้นก็เพราะว่าเป็นผลกระทบของการใช้ทักษะจิต
สายฟ้าและรวมไปถึงการที่เขาใช้พลังปราณมากจนเกินไป เทียบกับผู้
อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นแล้วหลังจากที่พวกนางทั้งสองได้รับ
น้ารักจากหลินหมิงบาดแผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนร่างกายของพวกนาง
พร้อมกับพลังปราณต่างๆล้วนฟื้นฟูขึ้นมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม
เพียงข้ามคืน
หลินหมิงในตอนนี้อยู่ในสภาพนั่งพิงหลังพิงกับต้นไม้ใหญ่ด้านข้าง
ซ้ายขวาของเขาประกอบไปด้วยสองผู้อาวุโสสาวที่กาลังนอนแอบอิ่
งร่างกายของเขาอย่างแนบชิดด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข แม้ว่าในตอนแรก
หลินหมิงจะมีความคิดที่จะจู่โจมพวกนางทั้งสองอย่างร้อนแรงหลังจาก
ที่เขาได้รับความแข็งแกร่งกลับคืนแต่เมื่อมองไปยังใบหน้าของพวกนาง
ทั้งสองที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขเช่นนี้แล้วหลินหมิงจึง
ตัดสินใจใช้มือทั้งสองข้างโอบร่างของพวกนางทั้งสองให้แนบชิดเขายิ่ง
กว่าเดิม
ทันใดนั้นหลินหมิงเหลือบไปเห็นร่างของสตรีสภาพเปลื่อยเปล่าอีก
คนที่กาลังนอนไร้ซึ่งสติอยู่ในบริเวณด้านหน้าของเขา นางก็คือนักฆ่า
สาวนั้นเอง หลินหมิงจ้องมองไปยังร่างของหญิงสาวอย่างจริงจังเขา
พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งด้วยความโล่งอก

' นางไม่ยังตาย... '


หลินหมิงไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับในเรื่องของความเป็นตายของ
นางมากนักเสียเท่าไหร่แต่ก่อนหน้าที่นางจะสามารถตายได้นั้น นาง
จาเป็นที่จะต้องบอกเขาให้รู้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์เหล่านี้
เสียก่อน
หลินหมิงไม่มีความจาเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับนักฆ่าสาวผู้นี้หาก
นางฟื้นคืนสติขึ้นมาในตอนนี้แม้ว่านางจะได้รับการร่วมรักกับเขาด้วย
เช่นเดียวกัน นั้นหมายความว่ามันมีโอกาศเป็นอย่างมากที่ในตอนนี้
ความแข็งแกร่งของนางนั้นจะก้าวกระโดดจนเกินกว่าผู้อาวุโสฟางซิ่น
ไปแล้วหรืออาจกระทั่งเหนือกว่าผู้อาวุโสฉินเหยา แต่ทั้งหมดนี้ล้วน
ไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าผู้อาวุโสสาวทั้งสองข้างกายของเขามีหรือที่ตัวตน
ระดับพวกนางจะพลาดท่าเพียงเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ? ไม่เช่นนนั้น
แล้วพวกนางคงไม่สามารถก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ได้
จุดพลังปราณในร่างของนักฆ่าสาวนั้นถูดกสกัดเอาไว้เกินกว่าครึ่ง
ไม่เพียงเท่านั้นบาดแผลที่นางได้รับร่วมกระทั่งผลของยาพิษที่นางได้ใช้
เพื่อปลิดชีพตนนั้นแม้ว่าพวกมันเหล่านั้นจะถูกกาจัดออกไปจนหมดสิ้น
ด้วยน้ารักของหลินหมิงไปแล้วแต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของนางก็ยังคง
ต้องรับผลกระทบอย่างหนักจากความเหนื่อยล้าที่ผ่านมา
" อืม.. "
เสียงครางเบาๆของนักฆ่าสาวพร้อมกับดวงตาของนางที่ค่อยๆเปิด
ออก ทันใดนั้นหลินหมิงที่เห็นภาพเช่นนี้เขารีบเหลือบมองไปยังสตรีทั้ง
สองข้างกายของเขาอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของนักฆ่า
สาวผู้นี้จะถูกสะกดเอาไว้เป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นพลังของเขามัน
ย่อมไม่ต่างกัน สาหรับหลินหมิงนั้นในตอนนี้เขายังคงไม่สามารถคาด
วัดระดับพลังของเขาได้อย่างชัดเจนอันเนื่องมาจากพลังของเขายังคง
ไม่ฟื้นฟูเต็มที่แต่ถึงอย่างนนั้นจากการประเมิณของหลินหมิงเขาคิดว่า
ระดับพลังของเขาในตอนนี้มันต้องอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้น 4 เป็น
อย่างน้อยหรือกระทั่งจอมยุทธ์ขั้นที่ 5 ก็เป็นได้
โดยไม่ต้องได้รับการบอกกล่าวจากหลินหมิงสตรีทั้งสองข้างกาย
ของหลินหมิงลืมตาพร้อมกับหันมองให้กับหลินหมิงเล็กน้อย อันที่จริง
แล้วพวกนางนั้นตื่นเสียตั้งนานแล้วเพียงแต่ว่าพวกนางยังคงปราถนาที่
จะแอบอิง่ ร่างของหลินหมิงเช่นนี้ต่อไปเพียงเท่านั้น
เมื่อดวงตาของนักฆ่าสาวลืมตาตื่นขึ้นอย่างเต็มตา ภาพตรงหน้า
ของนางในตอนนี้มันถึงกับทาให้ดวงตาของนางเบิกกว้างออกมาด้วย
ความตกใจ
' ข้ายังมีชีวิต ? แล้วพวกมันกาลังทาสิ่งใดกัน ? '
หลากหลายคาถามที่เกิดขึ้นภายในใจของนางอันที่จริงแล้วด้วยผล
ของยาพิษที่นางได้กินเข้าไปนั้นมันไม่มีทางที่นางจะมีชีวิตรอดได้อย่าง
นั้นไม่ใช่หรือ
" เฮอะ พวกเจ้าคิดจะทาสิ่งใดถึงได้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ "
น้าเสียงของนักฆ่าสาวเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองแม้ว่านางจะรู้ว่า
สภาพของนางในตอนนี้ไม่อาจแม้กระทั่งเป็นคู่มือของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
ดูเหมือนว่าในตอนนี้จะฟื้นฟูสภาพเต็มร้อย แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับนาง
ที่เลือกหนทางเช่นนี้แล้วความตายนั้นย่อมไม่ใช่สิ่งที่นางหวาดกลัวสัก
เท่าไหร่นัก
" ข้ายินดีที่จะไม่สังหารเจ้าหรือกักขังทรมานเจ้าแต่อย่างใด...หาก
เพียงเจ้าบอกกล่าวมาว่าใครเป็นคนว่าจ้างให้พวกเจ้าทาเรื่องทั้งหมด
เหล่านี้ "
สาหรับนักฆ่าเช่นพวกนางมันมีกฎอยู่ว่าพวกนางจะไม่สามารถ
เปิดเผยข้อมูลของผู้ว่าจ้างได้ แม้ว่าในตอนนี้กลุ่มกองกาลังของนางจะ
ถูกสังหารไปแล้วแต่ถึงอย่างนั้นใช่ว่ากองกาลังนักฆ่าของนางจะมีเพียง
เท่านี้เสียเมื่อไหร่อันที่จริงแล้วสาหรับภารกิจนี้ที่กลุ่มของนางได้รับมา
นั้นเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายเป็นบุคคลสาคัญที่มีผู้คุ้มกันเป็นถึงผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์ ดังนั้นแล้วในภารกิจนี้นางจึงคัดแต่คนที่มีความสามารถ
ในระดับจอมยุทธ์ขั้นกลางขึ้นไปเพียงเท่านั้น
และหากนางตัดสินเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลของผู้ว่าจ้างแน่นอนว่า
มันจะทาให้ชื่อเสียงของกองกาลังของนางนั้นตกต่าไปอย่างมากไม่
เพียงเท่านั้นพี่น้องที่อยู่ที่ค่ายนั้นก็อาจได้รับผลกระทบที่ร้ายแรง
ตามมาด้วยเช่นเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นสาหรับพี่น้องพวกพ้องของนาง
ที่ตัดสินใจปลิดชีพตนเองเพื่อรักษาความลับเอาไว้หากนางตัดสินใจ
บอกเรื่องราวทั้งหมดนั้นมันก็ราวกับว่าพวกพ้องของนางที่ปลิดชีพ
ตนเองเป็นพวกโง่งมเพียงเท่านั้น
" ข้าไม่โง่พอที่จะเชื่อคากล่าวของเจ้าหรอก ! และถึงแม้สิ่งที่เจ้า
กล่าวจะเป็นความจริงข้าก็ไม่คิดจะบอกกล่าวเรื่องใดกับเจ้าเท่านั้น แต่
ข้าสามารถบอกเจ้าได้นะว่าใครสามารถบอกเรื่องทั้งหมดกับเจ้าได้
พวกพ้องของข้ายังไงล่ะ ! ถ้าเจ้าอยากรู้มากนักก็ไปถามพวกเขาเอา
เสียเลยสิ ฮ่าๆ "
สิ่งที่นักฆ่าสาวกล่าวมานี้มันเป็นเพียงอุบายของนางเพียงเท่านั้น
สาหรับนางในตอนนี้แล้วอนาคตของนางล้วนมืดมนหากนางสามารถ
เอาชีวิตรอดได้จากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วอนาคตเล่า สาหรับผู้ที่
ว่าจ้างนางในคราวนี้พวกเขามีอานาจที่มากล้นจนเกินกว่ากองกาลังนัก
ฆ่าอย่างนางจะสามารถเทียบได้ ดังนั้นแล้วนางจึงเลือกที่จะกล่าวเพื่อ
ยั่วโทสะของหลินหมิงเพื่อให้เขาปลิดชีพนางเสียแต่ตรงนี้
แต่นางหาได้รู้ไหมว่าผลลัพธ์นั้นกลับเป็นสิ่งตรงข้ามโดยสิ้นเชิงสี
หน้าของหลินหมิงไม่ได้บ่งบอกถึงความโกรธเกรี้ยวหรือหงุดหงิดแต่
อย่างใด แต่ใบหน้าของเขาประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ไม่สมวัยของ
เขาพร้อมกับจ้องมาที่ร่างของนางทันใดนั้นหัวสมองของนางพลันนึกถึง
อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะช้าเกินไปเสีย
แล้วเพราะว่าในตอนนี้ร่างของหลินหมิงได้เดินมาหยุดในระยะใกล้กับ
ร่างของนางที่เสียแล้ว

ตอนที่ 151
ด้วยการที่นักฆ่าสาวยังคงมีชีวิตอยู่มันจึงทาให้นางรู้สึกแปลก
ประหลาดใจจนกระทั่งลืมคิดถึงเรื่องอื่นไปจนหมดสิ้น แต่ในตอนนี้เมื่อ
นางได้เห็นร่างของหลินหมิงที่ตรงมาหานางพร้อมด้วยสีหน้าที่เต็ม
เปี่ยมไปด้วยตัณหามันทาให้นางหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานได้
ในทันที แม้ในตอนนั้นนางจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ่จนแทบจะไม่
สามารถลืมตาเห็นได้ชัด
แต่จากสภาพของนางที่กาลังเปลื่อยเปล่าอยู่ในตอนนี้มันแสดงให้
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งที่นางคาดคิดเอาไว้นั้นเป็นความจริงไม่ใช่เพียง
ความฝัน
นี้เป็นเหตุผลที่นางเลือกที่จะปลิดชีวิตตนเองก่อนที่นางจะถูกจับกุม
หรือทรมานโดยผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยา สาหรับนางแล้ว
การตกตายไปเสียแต่แรกมันยังคงดีกว่าการที่นางจะต้องถูกนาไปเป็น
เครื่องบาเร่อให้กับเหล่าบุรุษหรืออาจเป็นสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น
" ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้งหากเจ้ายอมบอกว่าใครเป็นผู้อยู่
เบื้องหลังเรื่องราวในคราวนี้..ข้ายังคงยินดีที่จะปล่อยเจ้าไป "
" เฮอะ เจ้าคิดว่าเด็กเช่นเจ้าจะสามารถทาสิ่งใดกับข้าได้ ? อันที่
จริงแล้วหากเจ้าต้องการร่วมรักกับข้าสักร้อยครั้งอย่างมากที่สุดมันก็
เพียงทาให้ข้ารู้สึกราคาญและรังเกียจเด็กลามกเช่นเจ้าเพียงเท่านั้น "
เมื่อได้ยินนักฆ่าสาวกล่าวผู้ที่มีปฎิกริยาโต้ตอบในทันทีไม่ใช่หลินห
มิง แต่กลับเป็นผู้อาวุโสสาวทั้งสองอันที่จริงแล้วเทียบกับพวกนางใน
ตอนแรกพวกนางเองก็ย่อมมีความคิดที่ไม่ต่างกัน แต่หากเพียงแค่แม่
นักฆ่าสาวผู้นี้ได้สังเกตเห็นทวนมังกรของหลินหมิงแล้วละก็นางจะไม่มี
ทางกล่าววาจาโอหังเช่นนี้อย่างแน่นอน นี้ยังไม่นับรวมถึงบทลีลา
ท่วงท่าอันแสนร้อนแรงของหลินหมิง อย่าว่าแต่การร่วมรักร้อยครั้งเลย
เพียงแค่ครั้งเดียวพวกนางทั้งสองมั่นใจว่าหลินหมิงจะทาให้นักฆ่าสาวผู้
นี้ถึงกับหวาดผวาได้
หลินหมิงขึ้นคร่อมผลักร่างของนักสาวให้ลงไปนอนหงายกับพื้นดู
เหมือนว่าสิ่งที่หลินหมิงกังวลเรื่องความแข็งแกร่งของนางนั้นดูเหมือน
จะไม่มีความจาเป็นแต่อย่างใดอันที่จริงแล้วแม้ว่านางจะไม่ได้ถูกสะกด
พลังเอาไว้โดยผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นแต่ดูจากสภาพ
ร่างกายของนางในตอนนี้ที่ไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเลยแม้แต่
น้อยเห็นได้ชัดว่าผลกระทบจากการต่อสู้และพิษของนางค่อนข้าง
รุนแรงแม้ว่าจะได้รับการร่วมรักกับหลินหมิงแล้วก็ตามที่
" เจ้ามันตัวน่ารังเกียจอันใดกัน เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าอายุเท่าใด ? ข้า
อายุ 38 ปีด้วยอายุของข้าเท่านี้เจ้าสามารถเรียกกล่าวข้าว่ามารดาของ
เจ้าได้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้ายังคงมีความปราถนาที่จะทามันกับสตรีที่อายุ
รุ่นราวคราวเดียวกับมารดาของเจ้า ? "
นักฆ่าสาวยังคงกล่าวยั่วยุโทสะของหลินหมิงต่อไปนางไม่คาดหวัง
ว่าตนเองจะมีชิวตรอดได้อีกต่อไปแล้วหลังจากนี้ ต่อให้หลังจากนี้
หลินหมิงจะไม่ฆ่านางและกับนางเอาไว้เพื่อทรมานนางจะพยายามทุก
วิธีทางเพื่อที่จะปลิดชีพตนเองให้ได้เสียก่อนที่นางจะได้รับความทุกข์
ทรมานไปมากกว่านี้ สาหรับในเรื่องของการร่วมรักของนางกับหลินห
มิงสาหรับนางแม้ว่าเมื่อวานนี้นางจะถูกเจ้าเด็กนี้จู่โจมมาแล้วแต่ด้วย
สติของนางในตอนนั้นยังคงพล่าเลื่อนมันจึงทาให้นางจาอะไรไม่ได้
อย่างเด่นชัด
แต่ถึงอย่างนั้นมันจะยังคงมีสิ่งใดที่นางต้องเป็นกังวลกัน สิ่งที่นาง
ต้องทาเพียงแค่ทนรับความราคาญเพียงเล็กน้อยจากเด็กหนุ่มที่มาก
ตัณหาผู้นี้
หลินหมิงจ้องมองเรือนร่างเปลื่อยเปล่าของนักฆ่าสาวอย่างไม่ว่าง
ตาแม้ว่าหน้าอกของนางจะนับได้ว่าด้อยกว่ามาตรฐานทั่วไปของสตรี
แต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงกล่าวได้ว่ามีรูปร่างผอมเผรียว ซึ่งมันเข้ากับ
ขนาดหน้าอกขนาดเล็กของนางไดอย่างน่าประหลาดใจ
มืองทั้งสองข้างหลินหมิงเข้าลูบไล้ที่บริเวณหน้าอกขนาดเล็กของ
นักฆ่าสาว แม้ว่ามันจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตเท่ากับสตรีนางอื่นของ
หลินหมิงแต่มันก็ยังคงมีให้ความรู้สึกนุ่มละมุนอยู่ไม่ใช่น้อย
ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าโลมเลียที่บริเวณหน้าอกของนางอย่าง
เร้าร้อนทั่วทั้งร่างกายของนางในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้าลาย
ของหลินหมิงไปแทบเสียจะทุกส่วน เมื่อถึงตอนนี้เสียงกล่าวยั่วยุของ
นักฆ่าสาวกลับขาดหายไปไม่ใช่ว่านางหมดสติไปแล้ว แต่นางไม่
สามารถกล่าวออกมาได้ต่างหาก
แม้ว่านางจะไม่อยากยอมรับแต่กระบวนท่วงท่าเล้าโลมของเจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นี้มันถึงกับทาให้นางเกือบหลุดส่งเสียงครางออกมาอยู่หลายครั้ง
โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าอกของนางดูเหมือนว่ามันจะเป็นจุดโปรดป
รารของเจ้าเด็กนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะใช้เวลาโลมเลียกับมันอย่างยาวนาน
มากที่สุด เจ้าเด็กนี้ยังคงทาให้การดูดและกัดยอดปถุมทันของนางราว
กับเป็นทารก
นักฆ่าสาวหันศรีษะไปด้านข้างนางไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็นใบหน้า
ของนางในยามนี้เลยจริงๆ สาหรับตัวตนเช่นนางที่เป็นผู้ที่มีพลังถึง
ระดับปราญช์ใครจะไปคิดกันเล่าว่านางจะต้องกลายเป็นเครื่องบาเร่อ
ให้กับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ ด้วยการกระทาของนางเช่นนี้มันเท่ากับเป็นการ
เปิดจุดอ่อนสาคัญให้กับหลินหมิงที่
ที่บริเวณศรีษะของนางที่กาลังหันข้างอยู่นั้นมันทาให้เผยให้เห็นต้น
ขาขาวเรียบชวนน่าสัมผัสโดยไม่รอช้าหลินหมิงเคลื่อนกายอย่าง
รวดเร็วพร้อมทาการไซร้ซอกคอนักฆ่าสาวอย่างร้อนแรง
" นะ..นี้เจ้า...อาาา ~~~ "
ในที่สุดนางก็เผลอหลุดส่งเสียงครางออกมาแม้ว่านางจะพยายาม
ส่ายศรีษะไปมาเพื่อสะบัดการไซร้ของหลินหมิงแต่ดูเหมือนว่าสิ่ง
เหล่านั้นจะไม่เป็นผล ในตอนนี้เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ราวกับเป็นกาฝากที่
สามารถเกาะยึดได้อย่างเหนียวแน่น มือข้างหนึ่งของหลินหมิง
เคลื่อนไหวลงไปสู่จุดยุทธศาสตร์ของเหล่าสตรี
ร่างกายของนักฆ่าสาวถึงกับสั่นไหวอย่างรุนแรง เพียงปลายนิ้วของ
หลินหมิงเข้าสัมผัสกับบริเวณร่องสวาทของนางน้ารักจานวนมากได้ถูก
ระเบิดออกมาจากภายในร่องสวาทของนางเอง
' นี้ข้าเสร็จสมไปแล้ว ? '
แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ในการร่วมกับ
บุรุษเหล่าสตรีนั้นส่วนใหญ่แล้วพวกนางไม่แม้จะสามารถเสร็จสมได้แม้
เพียงสักครั้งในขณะที่เหล่าบุรุษล้วนหมดแรงไปแล้ว เพียงแต่ในตอนนี้
เพียงแค่ปลายนิ้วของหลินหมิงเข้าสัมผัสร่องสวาทของนางมันถึงกับทา
ให้นางเสร็จสมได้ !
" อาา...อืม้ มมมมม ~~~~~ "
ในจังหวะที่นางจะพลันได้ส่งเสียงครางออกมาอีกครั้งริมฝีปากของ
หลินหมิงเข้าประกบปากของนางอย่างเร้าร้อน ลิ้นของหลินหมิงที่
กาลังเข้าผัวพันกับลิ้นของนางมันถึงกับทาให้นางไม่สามารถทาสิ่งใดได้
การประกบปากของหลินหมิงดาเนินไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งนาง
รู้สึกได้ว่าริมฝีปากของนางเริ่มบวมขึ้นมาเล็กน้อยไม่เพียงเท่านั้นด้วย
การจู่โจมอันร้อนแรงของหลินหมิงมันทาให้นางรู้สึกหายใจไม่ถนัด
" แฮ่กๆ "
เวลาผ่านไปราวชั่วก้านธูปร่างของนักฆ่าสาวอยู่ในสภาพเหนื่อย
หอบราวกับว่านางพึ่งผ่านศึกกับผู้อาวุโสฟางซิ่นมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่
เพียงเท่านั้นที่บริเวณร่องสวาทของนางในตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วย
คราบน้ารักของนางเองเป็นจานวนมาก สาหรับการร่วมรักระหว่าง
บุรุษและสตรีพวกเขาอาจใช้เวลาเป็นอย่างมากราวหนึ่งชั่วยามเพื่อทา
ให้ตัวเองเสร็จสม แต่สาหรับในตอนนี้หลินหมิงได้ใช้เวลาเพียงชั่วก้าน
ธูปในการทาให้นางปลดปล่อยอารมณ์ไปแล้วถึงสามครั้ง !
ทันใดนั้นในระหว่างที่นางกาลังนอนอย่างเหนื่อยหอบนางเหลือบ
ไปเห็นร่างของหลินหมิงที่ลุกขึ้นออกจากร่างของนางพร้อมทาการปลด
เปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกไปจนหมด สายตาของนางเบิกกว้างไปด้วย
ความตกใจ !
' นะ...นั้นมันคือสิ่งใดกัน ! '
ทวนมังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิงที่พิชิตยอดสตรีงามมานับไม่ถ้วน
เผยให้เห็ต่อสายตาของนักฆ่าสาว ด้วยขนาดของมันที่ปรากฎตรงหน้า
ของนางในตอนนี้มันไม่มีทางเป็นไปนางเลยที่เหล่าสตรีจะสามารถ
รับมือกับมันได้ไหวแม้ว่านางจะมีความปราถนาที่จะปลิดชีพตนเองแต่
การตายด้วยของสิ่งนับเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากเกินไป
" ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสองทาง.....อย่างแรกข้าจะเข้าจู่โจมร่วมรัก
กับเจ้าอย่างเร้าร้อนเสียยิ่งกว่าเมื่อคร่นี้ "
นักฆ่าสาวถึงกับกลืนน้าลายลงคอไปอึกใหญ่ หากเป็นบุรุษ
โดยทั่วไปกล่าวนางคงคิดว่านี้เป็นเพียงคากล่าวที่แสนโง่งมแต่สาหรับ
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ที่นางได้รับบทเล้าโลมมาอย่างเร้าร้อนเมื่อสักครู่รวมกับ
ขนาดทวนอันผิดประหลาดนี้นางเชื่อว่าเขามีความสามารถมากพอที่จะ
ทาในสิ่งที่เขากล่าวได้
" แล้วอย่างที่สอง ? "
" เจ้าก็เพียงแค่ใช้ปากของเจ้ามาปรนนิบัติให้กับข้า..หากว่าข้า
พอใจกับมันแล้วแน่นอนว่าเจ้าก็จะไม่ถูกจู่โจมว่าอย่างไรล่ะ "
แน่นอนว่ามันเป็นข้อเสนอที่น่ารังเกียจโดยแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้น
นางยังคงมีหนทางเลือก ? หานางปล่อยให้เจ้าเด็กหนุ่มนี้ใช้ทวนมังกร
ของเขาเสียบเข้ามาภายในร่องสวาทของนางแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่
ออกมานั้นมันคงเลวร้ายเสียยิ่งกว่าการทรมานใดๆ ดังนั้นแล้วนางจึงได้
แต่กัดฟันยอมรับในข้อเสนอที่สองของหลินหมิง

ตอนที่ 152
นักฆ่าสาวถึงกับร่าร้องเสียงใจอยู่ภายในใจหากเพียงแต่นางได้รู้ว่า
นางจะต้องพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้นางคงไม่เลือกที่จะทาภารกิจ
เช่นนี้อย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปได้
อีก เบื้องหน้าของนางที่กาลังนั่งชันเข่าอยู่ในตอนนี้คือทวนมังกรของ
หลินหมิงที่กาลังผงาด ด้วยขนาดของมันที่นางได้เห็นนางไม่คิดว่ามัน
จะสามารถเข้าไปภายในปากของนางเลยเสียด้วยซ้าไป
สาหรับผู้อาวุโสสาวทั้งสองพวกนางไม่จาเป็นจะต้องเฝ้าระวัง
สถานการณ์ใดๆต่อไปอีกนั้นก็เพราะว่าเมื่อนักฆ่าสาวผู้นี้ต้องตกอยู่
ภายใต้การเล้าโลมสารพัดท่วงท่าของหลินหมิงแล้วไม่ว่าจะเป็นสตรีที่มี
จิตใจเข้มแข็งเพียงใดมันก็ล้วนแล้วแต่ไร้ความหมาย ดังนั้นแล้วพวก
นางจึงปล่อยให้หลินหมิงได้เสพสุขกับนักฆ่าสาวอย่างพึงพอใจโดยที่
พวกนางทั้งสองนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ
" ขะ..ข้าต้องทาเช่นใดบ้าง ? "
นักฆ่าสาวกล่าวออกมาด้วยความเขินอายเล็กน้อยสาหรับสตรีเช่น
นางแล้วการกล่าวออกไปเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรไปจากเหล่าสาวโลคีย์ใน
หอนางโลมเลยแม้แต่น้อย หลินหมิงยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพึงพอใจ
หลินหมิงเริ่มต้นด้วยการให้นักฆ่าสาวได้ลิ้มลองรสชาติทวนมังกรของ
เขาก่อน
ทันทีที่ลิ้นของนักฆ่าสาวสัมผัสกับทวนมังกรของหลินหมิงร่างกาย
ของนางพลันสะท้านไปด้วยความเสียวมันร่องสวาทของนางที่ก่อนหน้า
นี้ได้ปลดปล่อยน้ารักออกมาเป็นจานวนไม่ใช่น้อยแล้วแต่ถึงอย่างนั้น
ในตอนนี้มันก็ยังคงถูกปลดปล่อยออกมาเป็นจานวนมากอีก
เช่นเดียวกัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเป็นไปได้หรือไม่วา่ นางจะต้องตกอยู่
ในสภาพขาดน้าจนตายไปเลยก็ได้
กลิ่นอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากทวนมังกรราวกับว่ามันมี
ความสามารถในการควบคุมจิตใจผู้คน หัวสมองของนางพลันค่อยๆ
ว่างเปล่าไปอย่างช้าๆ การเคลื่อนไหวของนางจากในตอนแรกที่มี
อาการขัดขืนพร้อมกับด้วยท่าทีรังเกียจกลับค่อยๆแปรเปลี่ยนไป โดย
ไม่ทันที่หลินหมิงจะต้องว่ากล่าวสิ่งใดอีกต่อไปการเคลื่อนไหวของนัก
ฆ่าสาวเป็นไปตามสัญชาติญาณของนาง
มือทั้งของข้างของนางค่อยๆเข้าลูบไล้ที่บริเวณทวนมังกรของหลิงห
มิงอย่างรักใคร่ ใบหน้าของนางร้อนผาวไปด้วยความเปี่ยมสุขไปโดยไม่
รู้ตัว หลินหมิงจับศรีษะของนางพร้อมกับค่อยๆกดให้ริมฝีปากของนาง
กลืนกินทวนมังกรของเขาเข้าไปอย่างช้าๆ ภายในปากของนางลิ้นของ
นักฆ่าสาวยังคงทางานโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างต่อเหนื่อง
ใช้เวลาไม่นานทวนมังกรของหลินหมิงมีการสั่นไหวอย่างรุนแรง
ขึ้นมาอีกครั้ง น้ารักของหลินหมิงจานวนมากถูกปลดปล่อยให้เข้าสู่
ภายในปากของนักฆ่าสาวพร้อมกับสติของนางที่ถูกดึงกลับมา !
น้าขาวข้นที่อยู่ภายในปากของนางในตอนนี้แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่
สตรีทั่วไปสามารถดื่มกินได้ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยรสชาติที่นางสัมผัสได้
ในตอนนี้มันทาให้นางเผลอกลืนพวกมันทั้งหมดลงไปโดยไม่รู้ตัว คอ
ของนางรู้สึกร้อนผาวพร้อมกับร่างกายที่ราวกับว่ากาลังถูกเปลวเพลิง
อันอบอุ่นครอบคลุม
นางข่มความรู้สึกทั้งหมดลงไปไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพียงแค่ชั่วระวะ
เวลาเพียงไม่ถึงสองก้านธูปแต่นางได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปเป็นจานวน
มากกว่าห้าครั้งแล้ว ซึ่งมันทาให้ร่างกายของนางรู้สึกอ่อนแอ่ลงยิ่ง
กว่าเดิมเป็นอย่างมาก แต่ว่าเพียงเท่านี้ก็เท่ากับว่านางสามารถที่จะ
รอดพ้นจากเงื้อมมือเจ้าเด็กหนุ่มนี้ได้แล้ว ?
ไม่ทันที่นักฆ่าสาวจะพลันได้ตั้งตัวหลินหมิงทิ้งตัวคร่อมร่างของนาง
พร้อมกับทวนมังกรของเขาที่ประจาการประตูกาแพงเมืองเอาไว้เป็นที่
เรียบร้อย
" นี้เจ้า ! ไหนเจ้าบอกว่าหากข้าทาให้เจ้าแล้วเจ้าจะไม่ทามันกับข้า
"
นักฆ่าสาวกล่าวพร้อมกับแสดงท่าทีขัดขืนแต่ด้วยเรี่ยวแรงของนาง
ในตอนนี้มันไม่อาจทาสิ่งใดแก่หลินหมิงได้เลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้ว
นางมีความมั่นใจว่าหากนางสามารถทาให้เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้สามารถ
ปลดปล่อยอารมณ์ได้ด้วยปากของนางเช่นนั้นแล้วนางย่อมมีโอกาศ
เป็นอย่างมากที่จะรอดพ้นจากการร่วมรักกับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
แต่นางคาดไม่ถึงว่ามันจะมีบุรุษผู้ใดที่สามารถปลดปล่อยอารมณ์
ด้วยน้ารักที่มากถึงเพียงนั้นแล้วเขาจะยังคงมีอารมณ์ที่มากล้นเช่นนี้ได้
ด้วยทวนมังกรที่กาลังจ่อที่ปากทางเข้าร่องสวาทของนางมันทาให้นางรู้
ดีว่าขนาดของมันไม่แม้แต่จะลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
" ข้าบอกว่าถ้าเจ้าทาให้ข้าพอใจ ? แล้วนี้เจ้าไม่เห็นหรอข้ายังคงมี
อารมณ์อยู่ล้นเหลือแต่เจ้ากลับหมดสภาพไปแล้วเช่นนี้ "
นักฆ่าสาวอยากจะบีบคอเจ้าเด็กนี้ให้ตายคามือเห็นได้ชัดว่านาง
เป็นฝ่ายตกหลุมพรางของเด็กหนุ่มผู้นี้เข้าแล้ว ทันทีที่กล่าวเสร็จโดยไม่
รอช้าทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆถูกดันเข้าไปภายในร่องสวาทของ
นาง ใบหน้าของนักฆ่าสาวเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
แม้ว่านางจะเคยได้ผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วในวันที่ผ่านมาเพียงแต่
ว่าในตอนนั้นนางแทบจะเรียกได้ว่าไร้ซึ่งสติรับรู้ใดๆ
" มะ...มันเข้า..ไม่ได้หรอก..เอาออกไปเถอะ..อ้าาาา ~~~~ "
อันที่จริงแล้วสาหรับนักฆ่าสาวผู้นี้ที่ได้ผ่านการร่วมรักกับหลินหมิง
มาแล้วมันทาให้ร่างกายของล้วนแล้วแต่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ด้วยเช่นเดียวกัน ร่องสวาทของนางในตอนนี้แม้มันจะมีความคับแน่น
ไม่ต่างจากในตอนที่นางยังคงความบริสุทธ์อยู่แต่มันมีความยืดยุ่นเพียง
พอที่มอบความสุขให้กับทวนมังกรของหลินหมิงได้ !
" ซี๊ดดดด ~~~~~~ "
จินตนาการแต่เดิมของนักฆ่าสาวที่นางคาดว่าตนเองจะต้องได้รับ
ความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่ในตอนนี้มันกลับแปรเปลี่ยนเป็นตรงข้าม
โดยสิ้นเชิง ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงถูกดันเข้าไปสุดร่องสวาท
ของนางเสียงครางสนั่นของนางดังขึ้นแทบจะทาให้ทั่วทั้งป่าอยู่ในความ
วุ่นว่าย
" แฮ่กๆ ขะ...ข้า..ยอมแล้ว...ขอข้าพักก่อน..ข้ายินดีที่จะทาตามเจ้า
ทุกอย่าง...ขอเพียงให้ข้าได้พักสักหน่อย "
นักฆ่าสาวกล่าวออกมาด้วยความยากลาบากสภาพของนาง
ในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะถูกสะกดพลังเอาไว้แต่นางได้ปลดปล่อยไปน้ารัก
ไปเป็นจานวนมากแล้ว นางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสีหน้าอ้อนวอน
แต่ถึงอย่างนั้น.....
" ดะ...เดียวสิ...อู้วววว อาา ~~~~~ "
หลินหมิงทาการขยับทวนมังกรของเขาเข้าออกโดยไม่สนใบหน้า
ของนักฆ่าสาวที่มีสภาพย่าแย่ตาของนางเหลือกขึ้นมองบนพร้อมกับริม
ฝีปากอวบอิ่มของนางที่มีน้าลายไหลออกมา จังหวะของหลินหมิงทา
การเปลี่ยนเป็นจังหวะเร้าร้อนโดยกระทันหัน อันที่จริงแล้วด้วยการ
ขยับทวนมังกรของหลินหมิงด้วยจังหวะเชื่องช้ามันก็เพียงพอที่จะทาให้
นักฆ่าสาวรู้สึกราวกับอยู่ปากขอบเหวความตาย
แล้วเมื่อในตอนนี้นางต้องรับมือกับการขยับสะโพกอันรุนแรงของ
หลินหมิงหัวสมองของนางพลันว่างเปล่าขาทั้งสองข้างของนางถูกอ้า
ออกเพื่อให้หลินหมิงได้ลิ้มรสชาติร่างกายของนางได้อย่างเต็มที่
ในที่สุดเมื่อนางสามารถรับมือกับจังหวะอันเร้าร้อนของหลินหมิงได้
ราวสิบลมหายใจ คลื่นความสุขเข้าถาโถมจิตใจของนางยิ่งกว่าในตอน
ที่นางได้ลิ้มลองรสชาติทวนมังกรและน้ารักของหลินหมิงเป็นครั้งแรก
นับสิบเท่าหรือมากกว่านั้น แม้ว่าด้วยจังหวะของหลินหมิงมันอาจจะ
ทาให้นางตกตายได แต่มันไม่อาจนับว่าเป็นการตายที่โหดร้ายเพราะว่า
มันเป็นการตกตายด้วยความสุขที่มากล้นจนเกินไปภายในใจของนาง
เอง
แต่ว่าในขณะที่นางกาลังลิ้มรสความสุขที่กาลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรได้ออกไปจากร่องสวาทของนางเสียแล้ว นาง
หอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนแม้ว่านางจะไม่อยากยอมรับแต่
รสชาติความสุขที่ได้จากการร่วมรักกับหลินหมิงนั้นเป็นความสุขที่นาง
ไม่เคยพบมาก่อน แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงที่นางจะสามารถตายได้
เนื่องจากได้รับความสุขมากเกินไป กระทั่งความสุขที่นางสามารถก้าว
เข้าสู่ระดับปราญช์นั้นก็ยังคงไม่สามารถเทียบกันได้เช่นนี้แล้วเหตุใดยัง
จะมีสตรีใดที่สามารถต่อต้านเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้อีกกัน ?
" ในตอนนี้เจ้าจะต้องเป็นสตรีรับใช้ของข้า เจ้ามีหน้าที่ในการ
ปรนนิบัติรับใช้ข้าอยากไม่ขัดข้อง หากเจ้ายอมรับในสิ่งเหล่านี้ได้ข้าก็
จะทาให้เจ้าได้มีความสุขเช่นนี้ต่อไปไม่ใช่เพียงครั้งนี้เท่านั้น "
เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงหากเป็นตัวนางในอดีตนั้นนาง
คงปฎิเสธโดยไม่ลังเลกับนางที่เป็นถึงผู้ที่มีพลังระดับปราญช์จะ
สามารถเป็นได้เพียงสาวใช้ ? เช่นนั้นแล้วนายของนางก็คงต้องเป็น
ตัวตนที่เหนือกว่าระดับปราชญ์ไปอย่างน้อยสองขั้น ! แต่สาหรับนาง
ในตอนนี้ข้อเสนอเหล่านี้นับได้ว่ายอดเยี่ยมด้วยความสุขที่นางได้ลิ้ม
ลองมาเมื่อครู่ที่ผ่านมามันยังคงตราตรึงอยู่ภายในใจของนาง
นักฆ่าสาวพยักหน้าให้กับหลินหมิงไม่ใช่ว่านางเอียงอายเกินกว่าที่
จะสามารถกล่าวตอบได้แต่ว่านางในตอนนี้ลาพังเพียงแค่คาว่ากล่าวก็
ยังคงกล่าวออกมาด้วยความยากลาบาก โดยในทันที่หลินหมิงได้เห็น
นักฆ่าสาวพยักหน้าทวนมังกรของหลินหมิงถูกนาเข้าสู่ภายในตัวของ
นักฆ่าสาวอย่างร้อนแรง พร้อมกับจังหวะท่วงท่าร่วมรักที่แปร
เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
แม้ว่านางจะหมดสติไปโดยไม่รู้นานเท่าใดแต่เมื่อนางตื่นขึ้นมานาง
จะพบว่าร่างของนองก็ยังคงถูกใช้เป็นเครื่องบาเร่อความใคร่ให้กับเด็ก
หนุ่มผู้เป็นนายของนาง

ตอนที่ 153
หลินหมิงและผู้อาวุโสสาวทั้งสองไม่ได้รีบร้อนที่จะเดินทางต่อแต่
อย่างใดแม้ว่าสภาพร่างกายของผู้อาวุโสสาวทั้งสองจะเรียกได้ว่า
สมบูรณ์พร้อมแล้วในตอนนี้แต่กลับหลินหมิงนั้นเขายังคงใช้พลังได้
อย่างเต็มที่ได้ราวห้าถึงหกาส่วนเท่านั้น แน่นอนว่าด้วยพลังเพียงเท่านี้
ของหลินหมิงมันก็เพียงพอที่จะทาให้เขาสามารถเขย่าขวัญแก่เหล่าผู้
อาวุโสภายในสานักให้หวาดผวาในความแข็งแกร่งของเขาได้
แต่ที่หลินหมิงเลือกที่จะยังไม่เดินทางในทันทีก็เพราะว่าเขากาลัง
เพลิดเพลินอยู่กับสตรีทั้งสามอย่างเร้าร้อน สาหรับผู้อาวุโสฟางซิ่นนาง
ไม่เพียงแต่จะเป็นคนที่ทรงเสน่ห์มากที่สุดนางยังมีทักษะในการ
ปรนนิบัติที่โดดเด่นกว่าผู้อาวุโสฉินเหยาและนักฆ่าสาวอยู่มาก แต่มันก็
ใช่ว่าผู้อาวุโสฉินเหยาและนักฆ่านั้นไม่ใช่จะไม่ยอดเยี่ยมไปเสียทีเดียว
โดยเฉพาะผู้อาวุโสฉินเหยานางราวกับว่าได้กลับกลายเป็นวัยรุ่นที่มี
ความสนใจบางสิ่งอย่างลึกซึ้งทุกกระบวนท่าของผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือ
กระทั่งนักฆ่าสาวถูกนางจดจาเอาไว้เพื่อหลอกเลียนแบบท่วงท่าที่นาง
คิดว่านางจะให้ความสุขแก่นางมากที่สุด
ส่วนทางด้านนักฆ่าสาวแม้ว่านางจะเพิ่งได้เป็นสตรีของหลินหมิงไม่
นานนี้ แต่นางได้แต่ยอมรับว่าหลังจากที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิงไป
แล้วมันคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะขาดเจ้าเด็กหนุ่มผู้เร้าร้อนคนนี้ไปได้
เกี่ยวกับสถานะของนางแน่นอนว่าแม้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ
นางในตอนนี้จะเรียกได้ว่าเหนือกว่าผู้อาวุโสฉินเหยาแต่ถึงอย่างนั้น
ลาดับสถานะสตรีของหลินหมิงนั้นไม่ได้มีการวัดจากความแข็งแกร่ง
แล้วมันวัดจากอะไรนะหรอ ? นักฆ่าสาวแม้นางจะผ่านการร่วมรัก
กับหลินหมิงมาสองครั้งแล้วแต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่สตรีเช่นนางจะ
สามารถกล่าววาจาเช่นนั้นออกไปได้อย่างหน้าตาเฉย?
" สถานะของเจ้านะหรอ ? เจ้าจะต้องเริ่มต้นจากสาวรับใช้ ! ไม่สิ
มันต้องแย่ยิ่งกว่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วน้องฉินเหยาของข้าจะเสียเปรียบ
เอาเป็นว่าสถานะของเจ้าในตอนนี้คือคนใช้ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น "
เป็นผู้อาวุโสฟางซิ่นที่กล่าวออกมาอันที่จริงแล้วจากอายุของนาง
นั้นนางสมควรมีอายุน้อยที่สุดในบรรดาสตรีทั้งสามแต่ด้วยสถานะของ
นางที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในภรรยาของหลินหมิงรวมทั้งนางยังคงเป็นสุด
ยอดปรมาจารย์ในด้านการปรนนิบัติดังนั้นแล้วแม้แต่ผู้อาวุโสฉินเหยาก็
ยังคงเชื่อฟังนาง ดังนั้นแล้วไม่ต้องกล่าวถึงนักฆ่าสาว
แม้สถานะคนใช้จะเป็นเพียงสถานะอันต้อยต่าแต่นักฆ่าสาวนางรู้ดี
ว่าอันที่จริงแล้วนางไม่สมควรแม้กระทั่งได้รับสถานะเช่นนี้ด้วยเหตุการ
ก่อนหน้านี้กลุ่มของนางเกือบกระทั่งสามารถสังหารหลินหมิงลงได้การ
ที่นางจะไม่ต้องถูกโทษทันฑ์ใดๆนั้นย่อมนับว่าดีมากแล้ว โดยที่นาง
ไม่ได้รับรู้เลยว่าสตรีสองคนข้างหน้านางในตอนนี้ล้วนแล้วแต่มี
ประสบการณ์ไม่ต่างจากนางไปมากนัก
โดยในทันทีที่ผู้อาวุโสเห็นใบหน้าของนักฆ่าสาวที่ทาท่าทาแสดงว่า
การที่นางได้รับสถานะเช่นนี้ก็นับว่าไม่เลว
" แต่เจ้าจะยังคงสามารถพัฒนาสถานะของเจ้าได้ แน่นอนว่าเมื่อ
เจ้าสามารถขึ้นมาอยู่ในระดับสาวใช้เจ้าสามารถได้รับโอกาสการร่วม
รักกับสามีได้บ่อยมากยิ่งขึ้น และหากเจ้าสามารถก้าวขึ้นมาในตาแหน่ง
ภรรยาของสามีได้เจ้าจะสามารถร่วมรักกับสามีเมื่อใดก็ได้ตามที่เจ้า
ต้องการ "
ไม่เพียงแต่ดวงตาของนักฆ่าสาวจะเบิกกว้างด้วยความตกใจกระทั่ง
ผู้อาวุโสฉินเหยาเองก็ยังอดตื่นเต้นกับในเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าด้วย
พลังจู่โจมของหลินหมิงจะมีมากอย่างเหลือล้นแต่สตรีของเขาก็นับว่า
ไม่น้อยเช่นเดียวกันดังนั้นแล้วเมื่อเวลาผ่านไปมันเป็นไปได้มากว่าพวก
นางอาจถูกลืมหรือถูกละเลยไปดังนั้นแล้วด้วยสถานะภรรยาที่สามารถ
เรียกร้องการร่วมรักเมื่อใดก็นั้นย่อมเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอย่าง
แท้จริง
ผู้อาวุโสฉินเหยามีการตอบสนองที่มากกว่านักฆ่าสาวเพราะว่านาง
ได้รับรู้ว่าการร่วมรักกับหลินหมิงนั้นไม่เพียงแต่จะมอบความสุขให้กับ
สตรีได้อย่างมากล้นแต่มันยังสามารถพัฒนาพลังของพวกนางได้อย่างดี
เยี่ยม ดังนั้นแล้วด้วยสถานะภรรยาของหลินหมิงนั้นไม่เท่ากับว่าสมบัติ
ต่างๆล้วนไร้ค่า ? แน่นอนว่าสาหรับตัวนางที่อยู่ในระดับปราญช์การหา
สมบัติเพื่อช่วยยกระดับพลังในตอนนี้เรียกได้ว่าหายากยิ่งกว่างมเข็มใน
มหาสมุทร
แต่ถึงแม้ว่านางจะได้รับสมบัติเหล่านั้นแต่พวกมันล้วนยังคงมี
ข้อเสียอยู่บ้างในการดูดกลืนพวกมันเทียบการร่วมรักกับหลินหมิงแล้ว
ไม่เพียงแต่นางจะไม่ต้องเสียเวลาดูดกลืนสมบัติและใช้เวลาไปอย่างน่า
เบื่อหน่ายอีกหลายเดือน หรือปีหรือกระทั่งหลายสิบปี นางเพียงแค่ลิ้ม
รสรับความสุขที่หลินหมิงมอบให้เช่นนี้แล้วนางสามารถพัฒนาพลังและ
พื้นฐานของนางได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น !
หลินหมิงที่กาลังนอนผิงต้นไม้ใหญ่ดึงร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นเข้ามา
สวมกอดอย่างมั่นเขี้ยวดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสาวผู้นี้จะชื่นชอบในบทบาท
ของพี่สาวเป็นอย่างมากแต่อย่างไรเสียสิ่งที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าว
ออกมาหลินหมิงล้วนแล้วแต่ไม่คดั ค้านแต่อย่างใดในบรรดาหญิงสาว
จานวนมากของเขาในตอนนี้คนที่ได้รับตาแหน่งภรรยาของเขาไปมี
ภรรยาผู้แสนน่ารักของเขาอย่างจิวหลิน ผู้อาวุโสฟางซิ่น และฟ่งซือ
เซียนส่วนหญิงสาวภายในกลุ่มของนางนั้นพวกนางทั้งสี่ล้วนไม่กล้า
เรียกตนเองเสมอหัวหน้าสาวของพวกนาง
ดังนั้นแล้วมันจึงทาให้หลินหมิงในตอนนี้มีตาแหน่งภรรยาที่แน่นอน
เพียงสามคน และว่าที่ภรรยาที่เขาหมายปองอย่างแน่นอนอีกหนึ่งคน
นั้นก็คือแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์
" ฮิฮิ "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นหัวเราะร่าอย่างมีความสุขภายใต้อ้อมกอดของ
หลินหมิงนางรู้ดีว่าหลินหมิงจะไม่มีทางว่ากล่าวนางในเรื่องนี้อย่าง
แน่นอน ทันใดนั้นหลังจากได้รับรู้เรื่องสถานะตาแหน่งสตรีของหลินห
มิงทั้งสามขั้นนักฆ่าสาวพลันมีปฎิกริยาตอบสนองในทันที ด้วยสถานะ
ของนางในตอนนี้เป็นเพียงคนรับใช้ทั่วไปอีกทั้งเทียบใบหน้ารูปร่าง
หน้าตากับผู้อาวุโสสาวทั้งสองแล้วนางยังคงเป็นรองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กับผู้อาวุโสฟางซิ่นนางยังคงเป็นรองถึงสองถึงสามขั้น
เช่นนั้นแล้วไม่ใช่ว่าต่อจากนี้นางกระทั่งอาจไม่ได้รับการร่วมรักกับ
หลินหมิงอีกแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วนางจึงต้องทาอะไรสักอย่างเพียง
ยกระดับสถานะของนาง
" นายหญิง อันที่จริงแล้วข้าสามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนว่าจ้าง
พวกข้าในการลงมือครั้งนี้ เช่นนี้แล้วมันเพียงพอที่จะทาให้ข้าสามารถ
ยกระดับสถานะได้หรือไม่ ? "
นักฆ่าสาวเลือกที่จะกล่าวถามกับผู้อาวุโสฟางซิ่น เพราะว่าทุกคาที่
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าวออกมานั้นหลินหมิงล้วนไม่มีท่าทีปฎิเสธเลย
แม้แต่น้อย ผู้อาวุโสฟางซิ่นยกยิ้มขึ้นอย่างภูมิใจการถูกตัวตนระดับ
ปราชญ์เรียกว่านายหญิงนั้นให้ความรู้ที่ไม่เลวนักสาหรับนาง
" อืมนับว่าไม่เลว...เช่นนั้นข้าจะเลื่อนให้เจ้าเป็นคนรับใช้ส่วนตัว
ของสามีเจ้ามีหน้าที่ในการปกป้องดูแลเขาในยามที่พวกข้าไม่อยู่ "
ใบหน้าของนักฆ่าสาวเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างสดใสแม้ว่าสถานะของ
นางจะยังคงเป็นเพียงคนรับใช้อยู่เช่นเดิมแต่การได้ตดิ ตามรับใช้หลินห
มิงส่วนตัวนั้นแม้แต่ผู้อาวุโสฉินเหยาก็ยังคงต้องรู้สึกอิจฉาหากไม่ติดว่า
นางมีภาระที่ตระกูลหลินนางคงกล่าวเพื่อขอตาแหน่งนี้ด้วยไปแล้ว
" อันที่จริงแล้วคนที่ว่าจ้างพวกข้าในคราวนี้คือผู้อาวุโสระดับสูง
ภายในสานักทางเมืองหลวง...แน่นอนว่าในตอนแรกพวกเขาติดต่อกับ
หัวหน้าของข้าโดยใช้ตัวแทนลับเพื่อปิดบังตัวตนแต่ถึงอย่างนั้น พวกข้า
ก็ได้สืบรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาก่อนที่จะรับงาน "
" มันเป็นใครกัน ? "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยากระทั่งหลินหมิงรู้สึกตกใจ
เล็กน้อยเกี่ยวกับการที่ผู้ว่าจ้างลงมือในครั้งนี้เป็นผู้อาวุโสภายในเมือง
หลวงอันที่จริงแล้วมันสมควรเป็นกลุ่มคนจากภายนอกอาณาจักรเสีย
มากกว่า
" เขาคือผู้อาวุโสกงซุนเอี้ยน รองเจ้าสานัก ! "
ใบหน้าของบุคคลทั้งสามแฝงไปด้วยความประหลาดใจผู้ที่เป็นคน
สั่งลงมือให้กระทาการสังหารหลินหมิงคือรองเจ้าสานัก !!
" เจ้าแน่ใจเช่นนั้นรึ ? "
" ไม่ผิดแน่เจ้าคะนายหญิง..ข้ายังพอรู้เหตุผลคร่าวของผู้อาวุโสกง
ซุนอยู่ไม่น้อย อันที่จริงแล้วเขามีบุตรชายคนหนึ่งพรสวรรค์ของเขา
นับว่าโดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยวัยเพียง 18 ปีระดับพลังของเขา
ในตอนนี้ได้ก้าวเข้าสู่ระดับปราณก่อเกิดระดับสองแล้ว ดังนั้นแล้วหาก
ไม่นับนายท่านแล้วเขาย่อมเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุดในการ
คัดเลือกรุ่นเยาว์ในปีนี้ "
ด้วยตาแหน่งของผู้อาวุโสกงซุนเอี้ยนคือรองเจ้าสานักดังนั้นแล้ว
เป็นไปได้มากว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นต้องอยู่ในระดับที่สูงส่งจน
ยากจะคาดเดาแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่ได้ทาให้หลินหมิงรู้สึกเกรงกลัวเลย
แม้แต่น้อย ลาพังเพียงสตรีทั้งสามตรงหน้าของเขาในตอนนี้พวกนาง
ล้วนอยู่ในระดับปราชญ์ขั้นที่ 3 จะมีเพียงผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ยังคงอยู่ใน
จุดสูงสุดขั้นที่ 2 ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอาจารย์สาวสวยของเขา หรือ
กระทั่งมารดาของแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์หย่าเฟย รวมถึงฟ่งซือเซียน
ด้วยพลังของระดับผู้ที่มีพลังระดับปราชญ์ถึงหกคนมันจะยังคงมีสิ่งใดที่
เขายังคงต้องกังวลอีกกัน ?

ตอนที่ 154
ภายในเมืองหลวงข่าวที่เป็นที่สนใจในช่วงนี้ย่อมไม่พ้นหัวข้อในเรื่อง
ของเด็กหนุ่มผู้มีความสามารถราวกับเป็นผู้โปรดปรานจากสวรงสวรรค์
อีกทั้งเด็กหนุ่มผู้นี้ก็กาลังจะเข้ามาเป็นศิษย์ภายในสานักหลวงที่มี
ชื่อเสียงมายังยาวนาน ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะ
อยากพบเห็นใบหน้าของบุคคลที่จะได้เป็นใหญ่เป็นโตในอนาคต
เพียงแต่ว่าในตอนนี้แม้วันเวลาในการเรียกรวมตัวศิษย์จากทั่วเมือง
รอบนอกทั้งหมดแต่พวกเขากลับไม่เห็นมีผู้ใดที่มีความสามารถเช่นนั้น
เลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามันมีโอกาสอยู่ที่พวกเขาจะคลาดสายตากับ
เด็กหนุ่มผู้นี้ไปแต่ถึงอย่างไรมันก็ย่อมต้องมีข่าวกระจายการมาถึงของ
เด็กหนุ่มผู้นี้บ้าง
โดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวลือที่มีการกล่าวอ้างว่าเด็กหนุ่ม
อัจฉริยะนั้นได้ต้องเป็นเป้าหมายของกลุ่มนักฆ่าจากต่างเมืองที่หวังตัด
กาลังไม่ใช่อาณาจักรของพวกเขาได้มีอานาจที่มากเกินไปในอนาคต
" พี่หญิง ควรออกไปตามหาเขา ! ข้าได้ยินมาจากผู้อาวุโสภายใน
ตระกูลข้าพวกเขากล่าวว่าสามีนั้นได้ออกเดินทางหลังข้าเพียงหนึ่งวัน
เพียงเท่านั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยทีเขาจะใช้เวลามากถึงเพียงนี้ "
ภายเรือนพักแห่งหนึ่งเสียงอันสดใสของหญิงสาวผู้ที่ปกติมักจะร่า
เริงตลอดเวลาแต่ในตอนนี้ท่าทีของนางกลับเป็นกังวลอย่างมาก นางก็
คือจิวหลินและยังคงมีฟ่งซือเซียนที่กาลังครุ่นคิดอยากเป็นกังวลไม่น้อย
ไปกว่ากัน
" เจ้าก็รู้ว่าพวกเราไม่สามารถทาได้ แม้ว่าพวกเราจะคิดฝ่าฝืน
ออกไปแต่ด้วยสถานะของเจ้าและข้ามันทาให้พวกเราในตอนนี้ไม่
สามารถออกไปจากเมืองแห่งนี้ได้อย่างน้อยก็อีกนับเดือน ! "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงท้อแท้ อันที่จริงแล้วนางมี
ความรู้สึกไม่ต่างจากจิวหลินที่ต้องการออกไปตามหาหลินหมิงเสียแต่
ตอนนี้ แต่ด้วยสถานะของนางที่เป็นหนึ่งในผู้ดูแลเหล่าศิษย์หน้าใหม่
มันทาให้นางไม่สามารถจากเมืองไปไหนได้ในช่วงนี้ สาหรับจิวหลินเอง
นางย่อมไม่ต่างกันแม้ว่าพลังของนางจะไม่โดดเด่นมากนักด้วยพลัง
ระดับปราณเริ่มต้นขั้น 8 และยังคงมีอายุถึง 18 ปีแล้วเมื่อเทียบกับ
เหล่าศิษย์จานวนมากที่ถูกคัดเลือกเข้ามาความสามารถของนางเพียง
พอที่จะจัดได้ว่าอยู่ในระดับกลางเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงมีสิ่งที่ผู้อาวุโสทั้งหลายให้ความสนใจ
มากกว่าศิษย์คนอื่น ด้วยพลังพื้นฐานในร่างกายของนางนั้นมันอาจ
กล่าวได้ว่ามันมากเกินกว่าศิษย์หน้าใหม่ทุกคนอย่างไม่สามารถนามา
เปรียบเทียบกันได้ แม้แต่ศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดอย่างกงซุนต้วนก็ยังไม่
สามารถเปรียบเทียบกันได้ ดังนั้นแล้วมันไม่น่าแปลกใจเลยที่นางจะถูก
ตั้งความหวังว่าจะเป็นว่าที่ผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ในอนาคตได้อย่าง
แน่นอนหรือกระทั่งอาจจะเหนือกว่านั้น !
ทางด้านของหลิวฉวนยูร์นั้นนางย่อมมีความรู้สึกไม่ต่างกับฟ่งซือ
เซียนและจิวหลิน อีกทั้งด้วยข่าวลือที่เกิดขึ้นและมันยังคงไม่ได้รับการ
แก้ไขมันจึงทาให้ผู้คนเชื่ออย่างปักใจว่าหลินหมิงนั้นได้ตกตายไปเสีย
แล้ว แต่สาหรับนางแล้วสิ่งเหล่านั้นไม่สามารถเป็นไปได้ ถูกสังหารโดย
กลุ่มนักฆ่า ?
ในอดีตในตอนที่เจ้าตัวร้ายของนางมีพลังเพียงปราณเริ่มต้นขั้นที่ 5
เขาสามารถต่อกรกับวานรสองเขาที่มีพลังปราณระดับเริมต้นขั้น 9 ได้
กระทั่งสามารถสังหารมันลงได้ แม้กระทั่งอัจฉริยะที่โดดเด่นอย่างหลิน
เสียวต้าก็ยังคงถูกเขาจัดการได้โดยอาศัยพลังปราณเริ่มต้นขั้นที่ 6
ต่อจากนั้นนางได้ยินมาว่าขนาดผู้ที่มีพลังปราณก่อเกิดขั้นที่เริ่มต้นทา
การลอบสังหารเขาแต่ผลลัพธ์มันกลับกลายเป็นตรงกันข้าม
ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นผู้ที่หาญกล้าต่อกรกับผู้ที่แข็งแกร่งอย่าง
หลินฮ่าวโดยไม่หวั่นเกรงและยังคงสามารถรอดชีวิตมาได้ เช่นนี้แล้ว
เทียบกับกลุ่มกองโจรเหล่านี้พวกมันไม่สามารถนามาเปรียบกับตัวร้าย
ของนางได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังอดหวั่นใจไปไม่ได้
" โอ๊ะ นั้นศิษย์น้องหลิวใช่หรือไม่ ? "
ในขณะที่หลิวฉวนยูร์กาลังเดินเล่นภายในเมืองหลวงเพื่อคลาย
ความกังวลสาหรับศิษย์ใหม่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะใช้เวลานี้ในการ
เริ่มบ่มเพาะพลังของพวกเขาเพื่อเข้ารับการทดสอบในอนาคต แต่
สาหรับนางยังคงไม่อารมณ์ในการทาสิ่งเหล่านั้น เสียงของชายหนุ่มดัง
ขึ้นมาจากด้านหลังของนางเพียงแต่ว่านางไม่ได้ให้ความสนใจพร้อมกับ
เดินต่อไปราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้น
ร่างของชายหนุ่มผู้ส่งเสียงเรียกพลันก้าวเท้าอย่างรวดเร็วมาหยุดที่
หน้าของหลิวฉวนยูร์ แน่นอนว่าแม้ว่าเขาจะกล่าวเรียกหลิวฉวนยูร์ว่า
ศิษย์น้องแต่อันที่จริงแล้วเขาเป็นเพียงศิษย์หน้าใหม่เช่นเดียวกัน ชาย
หนุ่มผู้นี้คือนายน้อยจากตระกูลจาง จางต๋าพรสวรรค์ของเขานับได้ว่า
ไม่เลวนั้นด้วยพลังระดับเริ่มต้นขั้นสูงสุดด้วย 19 ปี
หลิวฉวนยูร์นางถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่ายอันที่
จริงแล้วเหตุผลที่นางไม่รีบร้อนเข้าบ่มเพาะพลังในสานักในตอนนี้ก็
เพราะว่าสถานที่บ่มเพาะนั้นเป็นหอฝึกรวมชั่วคราวซึ่งเปิดขึ้นเพื่อให้
ศิษย์ใหม่เตรียมตัวก่อนเข้ารับการทดสอบ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วนาง
ยังคงจดจาในคราวแรกที่นางก้าวไปในที่แห่งนั้นได้อย่างดีสายตาของ
บุรุษทีจ่ ้องมองมาที่นางด้วยสายตาอันน่ารังเกียจ พร้อมด้วยคากล่าว
วาจาที่เต็มไปด้วยความหลอกหลวง
แต่นางคาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่ภายนอกสานักเช่นนี้นางก็ยังพบเจอ
กับศิษย์ใหม่เช่นเดียวกัน อันที่จริงแล้วสาหรับจิวหลินนางเองที่จริงแล้ว
ก็อาจต้องพบเจอสถานการณ์เช่นเดียวกันกับหลิวฉวนยูร์หากนางไม่ติด
ว่าได้เป็นภรรยาของหลินหมิงไปแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าจิว
หลินนั้นเป็นที่สนใจของผู้อาวุโสจานวนมากดังนั้นแล้วมันจึงไม่ค่อยมี
ผู้ใดไปก่อกวนนางมากนัก
เทียบกับหลิวฉวนยูร์แล้วแม้ว่านางจะหมั้นหมายกับหลินหมิง
แล้วแต่นั้นเป็นเพียงการกล่าวปากเปล่ากับบิดารและมารดาของนาง
เพียงเท่านั้นมันยังไม่เป็นทีรับรู้ในวงกว้างเลยเสียด้วยซ้า ไม่เช่นนั้นแล้ว
มีหรือที่เจ้าพวกขยะพวกนี้จะกล้าเข้าใกล้นางหากเจ้าตัวร้ายของนาง
กลับมาเมื่อใดมันจะยังคงมีใครกล้าเข้าใกล้นางได้อีกกัน ?
" ข้าจาได้ว่าพวกเราไม่รู้จักกัน "
" ข้ามาจากตระกูลจาง นามว่าจางต๋า เช่นนี้แล้วศิษย์น้องก็นับว่า
รู้จักกับข้าแล้ว "
หลิวฉวนยูร์นางแทบอยากจะกระทืบคนตรงหน้าให้มอบกราบลง
กับพื้น ด้วยคากล่าวของนางในตอนแรกมันยังไม่ชัดเจนพออีกหรอว่า
นางไม่ต้องการที่จะพูดคุยกล่าวใดๆกับเขา มันจะยังคงมีผู้ใดที่มีใบหน้า
หนาเช่นนี้อีก ?
แต่อันที่จริงแล้วมันนับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดด้วยใบหน้าอัน
งดงามของหลิวฉวนยูร์ลาพังเพียงแค่การเฝ้ามองใบหน้าของนางมันก็
เพียงพอที่จะทาให้บุรุษถึงกับเคลิ้มฝันหรือกระทั่งสามารถเพิ่มอายุขัย
ของพวกเขาได้ไปอีกหลายปี
" ข้าต้องการเดินเล่นคนเดียวเพียงลาพัง "
" เหตุใดเจ้าถึงกล่าวเช่นนั้นมันจะดีกว่าหากเจ้าให้ข้าแนะนา
สถานที่รอบๆนี้ แม้ว่าข้าจะเป็นศิษย์ใหม่เช่นเดียวกันแต่ข้าก็เคยมาที่
เมืองหลวงแห่งนี้กับบิดาอยู่ไม่น้อยดังนั้นแล้วข้าสามรถ... "
" งั้นข้าขอตัวกลับ "
หากนางมีพลังบ่มเพาะสูงกว่าเจ้าบุรุษผู้หน้าหนาผู้นี้แล้วนางคง
กระทืบเขาให้ปางตายไปแล้วแม้ว่ามันจะมีกฎห้ามศิษย์ทาร้ายกันเอง
แต่สาหรับนางสิ่งเหล่านั้นล้วนไม่สาคัญหากใครทาให้นางไม่พอใจนาง
จะเลือกทาแต่ในสิ่งที่ตนเองปราถนาก็เท่านั้น
" เดียวๆ อันที่จริงข้าก็เริ่มเบื่อการเดินเล่นแล้วเหมือนกันงั้นข้าว่า
พวกเรากลับสานักพร้อมกันเลย....ผู้ใดมาสะกิดข้ากัน ! "
จางต๋ากล่าวออกมาด้วยอารมณ์เร้าร้อนสาหรับตัวเขาที่เป็นบุรุษ
จากตระกูลอันสูงส่งจากเมืองทางฝั่งเหนือ มีสตรีรับใช้อยู่มากมายแต่
มันยังคงไม่สามารถเทียบได้แม้เพียงส่วนเดียวกับความงามของสตรี
ตรงหน้าเขา ในเมื่อชื่อเสียงและใบหน้าของเขาไม่สามารถทาให้นาง
สนใจได้ จางต๋าจึงเลือกที่จะแสดงความสามารถของเขาเพื่อให้นาง
สนใจ และมันช่างประจวบเหมาะที่มีผู้คนมาสัมผัสโดนตัวเขาพอดี
" โทษทีพี่ชาย พอดีข้ารีบ..... "
จางต๋าแสยะยิ้มไม่ว่าผู้คนที่มาโดนตัวเขามันจะเป็นใครแต่มันถือได้
ว่าเป็นคราวซวยของมันแล้วในวันนี้เมื่อฟังจากน้าเสียงเห็นได้ชัดว่ามัน
เป็นเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้นและเมื่อเขาหันไปมองการแต่งกายของเด็ก
หนุ่มผู้นี้นั้นไม่ได้แสดงถึงสถานะอันสูงส่งแต่อย่างใดดังนั้นแล้วมันไม่มี
สิ่งใดที่เขาจาเป็นจะต้องกังวล
หมัดของจางต๋าถูกปลดปล่อยอย่างรวดเร็ว ความภาคภูมิใจของ
ตระกูลจางนั้นคือทักษะหมัดอันรวดเร็วและรุนแรง เพียงแต่ว่าก่อนที่
หมัดของเขาจะปะทะเข้ากับร่างของเด็กหนุ่มที่เป็นเป้าหมายร่างของ
เขาพลันทะยานลอยถอยหลังไปหลายสิบก้าวโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับ
อาการเจ็บปวดจนเขาสิ้นสติไป
หลิวฉวนยูร์ทันทีที่นางได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มนางรีบหันมามองยัง
เบื้องหลังของนางในทันทีแววตาของนางแปรเปลี่ยนเป็นสดใส
ความรู้สึกเบื่อหน่าย ความกังวลราวกับถูกปัดเป่าไปด้วยชั่วเวลาเพียง
อึดใจเดียว

ตอนที่ 155
ด้วยการปรากฎตัวของชายหนุ่มวัยเพียง 15 ปีมันสามารถสร้าง
ความสนใจให้แก่ผู้คนโดยรอบเป็นจานวนมาก อันที่จริงแล้วหากเป็น
การต่อสู้กันระหว่างรุ่นเยาว์ธรรมดาทั่วไปพวกเขาก็คงไม่ได้ให้ความ
สนใจกับมัน แต่เทียบกับภาพตรงหน้าของพวกเขานี้เห็นได้ชัดว่าส่วน
หนึ่งของเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมมาจากใบหน้าอันงดงามของสตรีสาววัย
เพียง 14 ปี
แม้ว่านางจะเพิ่งเข้ามาภายในเมืองหลวงได้ไม่นานแต่ชื่อเสียงความ
งามของนางนั้นกลับเป็นที่กล่าวขานไปอย่างมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลย
ว่าด้วยความงดงามของเด็กสาวในวัยเพียงเท่านี้นางสามารถควบคุม
เหล่าบุรุษให้อยู่ใต้อาณัติของนางได้เป็นกองทัพแล้วหากนางเติบโตขึ้น
จนอยู่ในวัยสภาพสมบูรณ์พร้อมเล่า ?
ทีส่ าคัญไปกว่านั้นแม้ว่าคนส่วนหนึ่งจะมองการต่อสู้ของรุ่นเยาว์ทั้ง
สองเป็นเรื่องธรรมดาแต่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถมองเห็นถึงความแปลก
ประหลาดในเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ จางต๋าที่ถูกโจมตีจนกระเด็นไปไกล
หลายสิบก้าวระดับพลังของเขานั้นก็ใช่ว่าจะอ่อนแอ่ แต่ถึงอย่างนั้นคู่
ต่อสู้ของเขากลับสามารถเอาชนะได้ด้วยเพียงการจู่โจมเพียงครั้งเดียว
และคู่ต่อสู้ของเขากลับเป็นเพียงเด็กหนุ่มในวัย 15 ปี
นั้นย่อมหมายความว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะต้องมีพลังอย่างน้อยในระดับ
ก่อเกิด ! แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาว่ามีรุ่นเยาว์ที่อายุ 15 ปีคนใดที่มี
ความสามารถที่ท้าสวรรค์เช่นนี้ได้.... ทันใดนั้นความคิดของผู้คนส่วน
ใหญ่เริ่มคิดไปในทางเดียวกัน
" หรือว่าเขาจะเป็น.... "
ผู้คนโดยรอบต่างจับจ้องมาที่หลินหมิงอย่างไม่วางตาเห็นได้ชัดว่า
ในตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มคาดเดาถึงตัวตนของเขาได้แล้ว แต่ถึอย่าง
นั้นหลินหมิงยังไม่สนใจสายตาโดยรอบที่กาลังมองมาที่เขาอันที่จริง
แล้วในสายตาของเขาในตอนนี้มีเพียงสาวน้อยของเขาหลิวฉวนยูร์
เท่านั้น
" เจ้าตัวร้าย ~~~ "
มันเป็นคากล่าวเรียกที่หลิวฉวนยูร์มักใช้เรียกหลินหมิงด้วยความรัก
ใคร่อย่างสม่าเสมอ ร่างของหลิวฉวนยูร์พุ่งเข้ากอดหลินหมิงอย่างโหย
หาโดยไม่ได้มีความสนใจแก่สายตารอบข้างเลยแม้แต่น้อย สัมผัสผิว
ร่างกายอันเนียนุ่นของหลิวฉวนยูร์ที่เข้าสัมผัสร่างกายของหลินหมิง
พร้อมกับกลิ่นหอมโชยจากตัวของนางมันแทบจะทาให้หลินหมิงบ้า
คลั่งหากไม่ติดว่าในตอนนี้มีสายตาของผู้คนโดยรอบเป็นจานวนมาก
กาลังจ้องมองมาที่พวกเขาอยู่หลินหมิงคงดึงร่างของสาวน้อยของเขา
เข้ามาประกบปากอย่างร้อนแรงไปแล้ว
" ข้าก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะพวกเจ้าทั้งสองมาหรอกนะ..แต่พวกเจ้า
ไม่เห็นหรืออย่างไรว่ามีสายตาของผู้คนมากมายจ้องมองมาที่พวกเจ้า
อยู่ "
น้าเสียงของสตรีอันยั่วยวนพร้อมกับเรือนร่างอันทรงเสน่ห์จนแทบ
จะทาให้เหล่าบุรุษที่อยู่โดยรอบอารมณ์เดือดผล่านราวกับพวกเขาได้
กลืนลาวาลงไปในร่างกาย และมันยังคงไม่ได้มีสตรีที่งดงามเพียงหนึ่ง
ที่มาพร้อมกับเจ้าของเสียงแต่ยังมีอีกถึงสองนางแม้ว่าความงดงามของ
พวกนางทั้งสองคนจะยังไม่สามารถเทียบกับสตรีที่กล่าวในตอนแรกได้
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความงามของพวกนางนั้นสามารถจัดได้ว่าเป็น
หญิงงามในระดับต้นๆของเมืองได้ไม่ยาก
" ฉวนยูร์คาระวะผู้อาวุโสฟางซิ่น "
หลิวฉวนยูร์ผละร่างออกจากหลินหมิงด้วยความไม่เต็มใจอันที่จริง
แล้วแม้ว่านางจะไม่ได้ให้ความสนใจของสายตาผู้คนโดยรอบแต่การ
กระทาของนางเมื่อสักครู่นี้เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะสามารถระงับความ
เขินอายของตัวเองเอาไว้ได้ หลิวฉวนยูร์นางเลือกที่จะกล่าวคาระวะผู้
อาวุโสฟางซิ่นที่นางค่อนค้างคุ้นเคยอยู่ไม่น้อยถึงอย่างไรเสียผู้อาวุโส
สาวผู้ทรงเสน่ห์ผู้นี้ก็มาจากสมาคมนักปรุงยาเช่นเดียวกันกับนาง
แต่กับหญิงสาวอีกสองคนนั้นนางจ้องมองไปที่พวกนางด้วยความ
ขุ่นเคือง นางรู้ดีว่าหนึ่งในนั้นคือผู้อาวุโสฉินเหยาที่เคยหมายเอาชีวิต
เจ้าตัวร้ายของนาง แต่เมื่อนางได้รับการกุมมือจากหลินหมิงพร้อมกับ
เสียงกระซิบข้างหูที่ทาให้ร่างกายของนางรู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาเล็กน้อย
มันทาให้นางสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าหญิงสางทั้งสองคนนี้ดู
เหมือนว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อเจ้าตัวร้ายของนางอีกต่อไป ร่างของ
สตรีผู้งดงามทั้งสี่พร้อมกับเด็กหนุ่มจากไปโดยไม่ได้สนใจจางต๋าที่อยู่ใน
สภาพที่ตกตะลึงกับภาพตรงหน้าของเขา
หลินหมิงพร้อมกับเหล่าสตรีผู้งดงามทั้งสี่คนมาถึงที่หน้าสานักวัง
จันทรา เพียงแค่ประตูหน้าทางเขาที่ตรงหน้าของหลินหมิงในตอนนี้มัน
สามารถบ่งบอกได้ทันทีถึงความยิ่งใหญ่ของสานักแห่งนี้หากให้เปรียบ
กับสมาคมนักปรุงยาหรือตระกูลหลินแล้วพวกเขายังไม่อาจเทียบเคียง
ได้แม้แต่ครึ่งเดียวของสานักแห่งนี้
ที่หน้าประตูทางเข้ามีชายชราสองคนกาลังเฝ้าประตูแห่งนี้อยู่ เมื่อ
พวกเขาทั้งสองได้เห็นร่างของหลิวฉวนยูร์ที่คล้องป้ายศิษย์ของสานัก
ดังนั้นแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาสามารถให้นางผ่านเข้าไปได้
แต่สาหรับเด็กหนุ่มที่เดินจูงมือมากับนางแล้วมาต่างกัน พวกเขาไม่
จาเป็นต้องสนใจสตรีทั้งสามด้านหลังของหลินหมิง แม้ว่าระดับพลัง
ของเขาจะด้อยกว่าพวกนางทั้งสามโดยสิ้นเชิงแต่มีหรือที่จะมีผู้คนที่โง่ง
มมากเพียงพอที่จะกล้ามาหาเรื่องกับคนของสานักวังจันทราแห่งนี้
ไม่เพียงแต่สานักแห่งนี้จะเป็นสานักแห่งเดียวที่มีการเปิดรับศิษย์
จากเมืองรอบนอกทั้งหมดของอาณาจักรแต่มันยังถือได้ว่าเป็นสถานที่
ที่เหมาะสมสาหรับการบ่มเพาะพลังเป็นอย่างมากอันที่จริงแล้วเทียบ
กับเมืองฟานชูที่หลินหมิงจากมาสานักวงจันทราแห่งนี้สามารถเพิ่ม
ระดับความรวดเร็วในการบ่มเพาะได้มากกว่าเดิมอย่างน้อยถึงสอง
เท่านั้นเป็นเพราะว่าระดับพลังปราณของสถานที่แห่งนี้มีความ
หนาแน่นมากกว่าเป็นอย่างมาก
" เจ้าหนูที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะสามารถเข้าไปได้ แม้ว่าเจ้าจะ
เป็นเพื่อนกับนางก็ตามหากเจ้าต้องการที่จะเข้าเป็นศิษย์ของสถานที่
แห่งนี้เจ้าจาเป็นจะต้องบ่มเพาะพลังให้โดดเด่นเช่นเดียวกันกับนาง
และเมื่อเจ้าได้รับการคัดเลือกในอนาคตเจ้าถึงจะมีสิทธ์ "
ชายชราทั้งสองมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาดูถูกพวกเขาไม่สนใจ
สถานะของหลิวฉวนยูร์ที่ถูกคาดหวังเอาไว้ไม่น้อยด้วยอายุของนาง
เพียง 14 ปีนางกลับมีพลังอยู่ในระดับปราณเริ่มต้นขั้นที่ 8 แต่ถึงอย่าง
นั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ยังคงถือได้ว่าเป็นผู้อาวุโสของสานักแห่งนี้แม้ว่า
สถานะของพวกเขาจะอยู่ต่าสุดก็ตาม
" ผู้อาวุโสทั้งสองอันที่จริงแล้วเขาก็คือคนที่ผ่านการคัดเลือกที่เมือง
ของข้าด้วยเช่นเดียวกัน "
ชายชราทั้งสองต่างขมวดคิ้วพวกเขาไม่เข้าใจว่าหลิวฉวนยูร์จะ
กล่าววาจาไร้สาระเช่นนี้ไปทาไมกันเห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้แม้ว่า
มันจะมีอายุมากกว่านางแต่มันก็เพียงหนึ่งปีเท่านั้นเช่นนั้นแล้วนางจะ
บอกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีความสามารถเช่นเดียวกันกับนาง ? ในขณะที่
หลิวฉวนยูร์กาลังทาท่ารีบจูงมือหลินหมิงผ่านเข้าไปยังประตูนาง
ต้องการที่จะใช้เวลาร่วมกับหลินหมิงโดยเร็วที่สุด ทันใดนั้นเสียงตวาด
ของผู้อาวุโสดังขึ้น
" หยุดเดียวนี้ ! เจ้าไม่สามารถหลอกหลวงผู้เฒ่าเช่นข้าได้ หากเขา
เป็นศิษย์ของสานักจริงแล้วในป้ายแสดงสถานะของเขากัน ? อีกทั้งข้า
ยังไม่เคยได้ยินมาว่าสานักของเรามีศิษย์ที่อายุน้อยเช่นนี้ "
คากล่าวของชายชราทาให้ร่างของหลิวฉวนยูร์ชะงักสาหรับหลิวฉ
วนยูร์แม้ว่านางจะมีพรสวรรค์ที่เรียกได้ว่าน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งแต่
ในตอนนี้นางยังคงเติบโตไม่เพียงพอดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่
นางจะได้รับผลกระทบจากหนึ่งในชายชราที่ตวาดขึ้นระดับพลังของ
เขาอยู่ในขั้นจอมยุทธ์ระดับ 7
หากเป็นที่สมาคมนักปรุงยาหรือตระกูลหลินตัวตนของพวกเขาทั้ง
สองคงได้รับตาแหน่งของผู้อาวุโสระดับกลางเป็นอย่างน้อยแต่ในสานัก
แห่งนี้พวกเขาทั้งสองกลับเป็นได้เพียงผู้อาวุโสที่ทาหน้าที่เฝ้า
ทางเข้าออกเพียเท่านั้น หลินหมิงขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องมองไปที่ชาย
ชราด้วยสายตาขุ่นเคือง
อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชายชราทั้งสองจะคิดสงสัยในตัว
ของหลินหมิงเดิมทีแล้วการเข้าเป็นศิษย์ของสานักพร้อมกับแจกป้าย
สถานะนั้นได้ล่วงเลยไปหลายวันแล้ว เช่นนั้นแล้วมันไม่มีทางที่เจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นี้จะสามารถเป็นศิษย์ของสานักแห่งนี้ไปได้
หลินหมิงกุมมือของหลิวฉวนยูร์มาที่ด้านหลังของเขาเพื่อบดบังแรง
กดดันจากชายชราเฒ่าทั้งสอง แน่นอนว่าเขาสามารถอธิบายเรื่องทุก
อย่างให้ชายชราเฒ่าทั้งสองนี้ให้เข้าใจได้โดยง่ายด้วยการแสดงพลังของ
เขาเช่นนั้นแล้วพวกเขาจะสามารถรับรู้ถึงตัวตนของเขาได้ในทันที แต่
เช่นนั้นแล้วมันคงจะง่ายเกินไปเสียหน่อยแม้ว่ามันจะเป็นการกระทา
เพียงเล็กน้อยแต่มันเห็นได้ชัดว่ามันทาให้แม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ของ
เขาได้รับผลกระทบเช่นนั้นแล้วหลินหมิงตัดสินที่จะมอบบทเรียน
เล็กๆน้อยๆให้กับผู้เฒ่าทั้งสองคนนี้เสียก่อน
เย้ย เว็บเปลี่ยนระบบใหม่ด้วยละ ต้องใช้เหรียญเท่านั้นในการอ่าน
เข้ากาหนดมาอย่างน้อยอ่านฟรีต้องใช้กุญแจต้องรอหนึ่งวันนะ ไรท์จะ
ตั้งค่าต่าสุดหนึ่งวันตลอดและขอโทษสายกุญแจทุกท่านจ้าา
ตอนที่ 156
แม้ว่าด้วยพรสวรรค์ของหลิวฉวนยูร์มันอาจนับได้ว่าเป็นสิ่งล้าค่าที่
ในประวัติศาสตร์ของสานักแห่งนี้จะต้องถูกจารึกด้วยอายุของศิษย์ที่
น้อยที่สุดที่สามารถเข้าร่วมสานักได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าสถานของ
นางจะโดดเด่นเหมือนบุตรของรองเจ้าสานักแห่งนี้ หรือกระทั่งจิวหลิน
เหตุเพราะว่าในตอนนี้ผู้คนต่างรับรู้ในความเร็วในการบ่มเพาะพลังของ
นางเป็นอย่างดีแต่สิ่งเหล่านี้ไม่อาจชี้วัดได้ว่าในอนาคตนางจะสามารถ
ก้าวไปได้มากน้อยเพียงใด
เทียบกับจิวหลินแล้วแม้ว่าหญิงสาวทั้งสองจะมีพลังเท่ากันแต่จิว
หลินจะมีอายุมากกว่าถึงหลิวฉวนยูร์มากกว่าถึง 4 ปีมันจึงไม่ใช่เรื่อง
แปลกที่ผู้อาวุโสทั้งหลายจะให้ความสาคัญกับจิวหลินมากกว่านั้นก็
เพราะว่าด้วยพลังพื้นฐานในร่างกายของนางในตอนนี้กล่าวได้ว่า
ระดับปราญช์นั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะสามารถก้าวไปถึงได้อย่าง
แน่นอน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ชายชราทั้งสองไม่มีความจาเป็นจะต้องกลัว
เกรงหลิวฉวนยูร์แต่อย่างใด หรือกระทั่งหลินหมิงที่มาพร้อมกับสตรีผู้
งดงามทั้งสามซึ่งชายชราคาดว่านางจะเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลของ
หลินหมิง สายตาของชายชราทั้งสองจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตา
เย้ยยัน
" ดูเหมือนว่าตาแก่ทั้งสองคงจะเบื่อชีวิตมากถึงได้กล้าทาเช่นนี้ "
หลินหมิงกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ชายชราทั้งสองด้วย
สายตาวาวโรจน์ ผู้อาวุโสฟางซิ่น ผู้อาวุโสฉินเหยาและนักฆ่าสาวพวก
นางทั้งสามเลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เทียบกับชายชราทั้ง
สองคนนี้แล้วแม้ว่าพวกเขาจะมีระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 แต่เทียบกับสามี
ของพวกนางแล้วเขาสามารถต่อกรกับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้น
ปลายจานวนกว่าสิบมาแล้วเช่นนั้นแล้วมันจะยังต้องมีสิ่งใดที่พวกนาง
ต้องกังวลอีกกัน ?
" เฮอะ ! เจ้าคิดว่าตัวเจ้าจะทาสิ่งใดกับพวกข้าทั้งสองได้ ? หรือเจ้า
คิดจะให้ผู้อาวุโสของเจ้าลงมือกัน ? เมือ่ เจ้าคิดลงมือเช่นนั้นข้าบอกได้
เลยว่านั้นจะต้องเป็นจุดจบของตระกูลที่ให้กาเนิดสวะเช่นเจ้าออกมา
"
" ข้าจะให้โอกาสพวกท่านทั้งสอง หากพวกท่านยอมก้มกราบขอ
โทษข้าและฉวนยูร์ตอนนี้ขา้ จะไม่ถือโทษ.... "
หลินหมิงไม่สนใจคากล่าวของชายชราทั้งสองแต่ในขณะที่หลินหมิง
กาลังกล่าวออกไปนั้นเสียงระเบิดหัวเราะร่าของชายชราทั้งสองดังขึ้น
ก้มกราบขอโทษ ? พวกมันทั้งสองแม้ว่าจะเป็นผู้อาวุโสระดับต่าสุดแต่
ก็ยังเป็นผู้มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 การที่พวกเขาท้ีงสองถูกจู่โจม
ทาร้ายนั้นเป็นสิ่งที่ทางสานักไม่อาจนิ่งเฉยได้อย่างแน่นอนนั้นเพราะว่า
มันจะส่งผลต่อชื่อเสียงสานัก
" ฮ่าๆ เจ้ากล่าวเรื่องตลกอัน...... "
เพียะ !
ก่อนที่หนึ่งในชายชราทั้งสองจะพลันได้กล่าวอะไรออกมาต่อ
ใบหน้าของเขาถูกตบเข้าอย่างรุนแรงจนร่างของเขาลอยกระแทกเข้า
หากาแพงของสานักจนเป็นร้อยราว ชั่วเวลาที่เกิดขึ้นนี้กินเวลาเพียงแค่
เสียววินาทีแต่ใจของชายชราทั้งสองพลันสั่นสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่
มีใครคาดคิดว่าจะมีเด็กหนุ่มคนใดที่จะมีความกล้ามากพอที่จะต่อกร
กับผูอ้ าวุโสของสานักและถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความกล้ามากพอแต่
พวกเขาย่อมยังคาดพลังและประสบการณ์ในการต่อกรกับผู้อาวุโส
ทั้งหลาย
แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาร่างของสหายของเขากลับถูกตบเข้าที่ใบหน้า
อย่างแรงโดยไม่อาจต้านทาน แม้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นเพราะความ
ประมาทเพราะว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าตนเองจะถูกจูโ่ จมแต่ถึงอย่าง
นั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่สหายของเขาจะได้รับบาดเจ็บจากเด็ก
หนุ่มตรงหน้าที่ดูเหมือนจะมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น
' หรือว่า... !! '
แม้แต่คนที่โง่ที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อเสียของ
เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถอันเป็นที่รักของสวรรค์ ท่าทีเย้ยยันต่อหลินห
มิงก่อนหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวไปโดยสิ้นเชิง หาก
เปรียบเทียบกับกับจิวหลินและบุตรของรองสานักกงซุนเอี้ยนแล้ว
แม้ว่ารุ่นเยาว์ทั้งสองนี้จะมีฐานะสูงสุดในศิษย์ใหม่แต่พวกเขาทั้งสองก็
ยังคงต้องให้ความเคารพพวกเขาบ้าง แต่มันแตกต่างไปจากหลินหมิง !
ด้วยพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มผู้นี้มันกล่าวได้ว่าแม้แต่คนในราชวงศ์ก็
ยังให้ความสนใจในตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความเร็วอัน
น่ากลัวในการบ่มเพาะของพลังของเขาเป็นที่แน่ชัดว่าอนาคตของเขา
นั้นล้วนไม่มีที่สิ้นสุด เป็นไปได้ว่าเขาอาจกลายเป็นตัวตนที่เหนือกว่า
ระดับปราญช์ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้และเมื่อนั้นฐานะของเขาจะสูงส่ง
เสียยิ่งกว่าเจ้าสานักแห่งนี้เสียอีก !
" ก้มหัวลงไป ! "
เสียงกล่าวเรียบของหลินหมิงทาให้ชายชราที่ยืนอยู่ถึงกับสั่นกลัว
มันราวกับว่าเป็นคาสั่งที่เป็นประกาศิตจากสวรรค์ที่เขาไม่สามารถปฎิ
เสธได้ เข่าของชายชราค่อยๆอ่อนแรงลงจนกระทั่งติดพื้นพร้อมกับ
ศรีษะของเขาที่โค้งก้มลงอย่างปราณีต
" เจ้าก็ด้วย "
ชายชราที่โดนหลินหมิงตบเข้าที่ใบหน้ารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่าง
มากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพวกเขาได้เข้าไปยุ่งกับตัวตนที่จะกลายเป็น
บุคคลสาคัญของอาณาจักรในอนาคต มันอาจทาให้อนาคตของพวก
เขาและตระกูลของพวกเขาต้องจบลง ดังนั้นแล้วสิ่งที่พวกเขาสามารถ
ทาได้ในตอนนี้มีเพียงบรรเทาความโกรธของหลินหมิงลงให้ได้มากที่สุด
เท่านั้น
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงทางเข้าสานักวังจันทรา แต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มี
ศิษย์คนใดอยู่ในระแวกนี้เมื่อพวกเขาได้พบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ตาของ
พวกเขาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ ไม่มีใครไม่รู้ถึงนิสัยของเฒ่า
ชราทั้งสองนี้ว่าพวกเขายิ่งผยองมากเพียงใดแต่ตอนนี้เฒ่าทั้งสองนี้
กาลังก้มกราบเด็กหนุ่มคนหนึ่งอย่างงดงาม
" พอแล้วล่ะ "
หลิวฉวนยูร์เข้ากุมมือหลินหมิงพร้อมกับกล่าวออกมาแน่นอนว่า
นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะทาเช่นนี้เพื่อนาง และนางก็ไม่คาดคิด
เช่นเดียวกันว่านางไม่เพียงไม่เจอเจ้าตัวร้ายของนางไม่กี่วันแต่
ความสามารถของเขากลับก้าวกระโดดจนสามารถทุบตีผู้ที่มีพลังระดับ
จอมยุทธ์ขั้นที่ 7 ได้
หัวใจของนางรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้เห็นหลินหมิงเป็นห่วงนางเช่นนี้
แน่นอนว่าด้วยนิสัยของนาง นางเองก็ต้องการทุบตีเฒ่าชราทั้งสองนี้ให้
ทรมานด้วยเช่นกันแต่หากทาเช่นนั้นมันเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวร้ายของนาง
คงได้พบปัญหาแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเรื่องร้ายมากมายด้วยสถานะของ
เขาแต่แน่นอนว่ามันจะทาให้นางเสียเวลาอันมีค่าที่จะได้อยู่ร่วมกับเขา
ไป !
" นี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ! "
เมื่อได้ยินเสียงของผู้มาใหม่ใบหน้าของชายชราทั้งสองกลายเป็นบิด
เบี้ยวอันที่จริงแล้วพวกเขาได้เตรียมวางแผนเพื่อที่จะรับมือกับสตรีทั้ง
สามที่คาดว่าน่าจะพลังเหนือกว่าพวกเขาเอาไว้แล้ว โดยที่พวกเขาได้ใช้
ยันต์สื่อสารเพื่อแจ้งว่ามีผู้ที่จะก่อเรื่องเป็นที่เรียบร้อย
เจ้าของเสียงอันสดใสที่กล่าวขึ้นพร้อมกับเรือนร่างของนางที่
ปรากฎแก่สายตาหลินหมิง นางเป็นสตรีที่มีอายุราวยี่สิบปีปลายๆแต่
ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของนางกลับน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมากนั้นก็
เพราะว่านางมีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ระดับสูงสุด เทียบกับ
หญิงสาวจากกลุ่มฟ่งซือเซียนที่มีอายุใกล้เคียงกันแม้ว่าพวกนางทั้งที่จะ
ได้ร่วมรักกับหลินหมิงแล้วในตอนนี้พวกนางเพียงมีพลังระดับเพียงจอม
ยุทธ์ขั้นที่สองเพียงเท่านั้น
" ผะ..ผู้อาวุโสโจว ? "
ร่างของหญิงสาวมองไปที่เหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาแปลก
ประหลาดนางไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้อาวุโสเฒ่าทั้งสองนี้ถึงได้คุกเข่าลง
เช่นนี้ อีกทั้งนางยังคงขมวดคิ้วอย่างหนักเมื่อมองเห็นร่างของผู้อาวุโส
ฟางซิ่น ผู้อาวุโสฉินเหยาและนักฆ่าสาว
" เป็นฝีมือพวกท่าน ? "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นยิ้มและตอบปฎิเสธไปอย่างง่ายดาย หญิงสาวผู้มา
ใหม่ถึงกับสับสนหากไม่ใช่ฝีมือของสตรีทั้งสามนี้แล้วมันจะเป็นผู้ใดกัน
ที่ทาร้ายเฒ่าชราทั้งสองนี้ได้ เมื่อนางหันไปมองที่เฒ่าทั้งสองคนพวก
เขาไม่มีท่าทีว่าจะกล่าวปฎิเสธคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นเลยแม้แต่
น้อยเช่นนั้นแล้วมันเป็นความจริง ? จะบอกว่าผู้ลงมือได้หนีไปแล้ว ?
แล้วเหตุใดพวกเขาถึงยังคงคุกเข่าอยู่เช่นนี้เล่า !
" เป็นฝีมือของข้าเอง "
สตรีผู้มาใหม่รีบหันหน้าไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่นางพบ
เห็นกลับเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นเพราะว่าคนที่กล่าวออกมานั้น
คือเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้นเช่นนั้นแล้วเขาจะ
สามารถทุกตีเฒ่าชราทั้งสองคนนี้ได้อย่างไรกัน
" แล้วเจ้าคือ ? "
ตัวนางที่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสที่รับหน้าที่ในการดูแลศิษย์ใหม่
เช่นเดียวกัน เมื่อนางมองไปเห็นร่างของหลิวฉวนยูร์นางสามารถจดจา
ได้ในทันีทีแต่กลับร่างของหลินหมิงนั้นนางมั่นใจได้ว่าเขาไม่ได้เป็นศิษย์
ของสานักแห่งนี้อย่างแน่นอน
หลินหมิงเลือกที่จะไม่สร้างปัญหาให้กับตนเองอีกต่อไปนั้นก็
เพราะว่าในตอนนี้แม่สาวน้อยของเขาจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตา
กล่าวเป็นเชิงว่านางต้องการรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นแล้วหลินห
มิงมีวิธีที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
" ข้าคือหลินหมิง "

ตอนที่ 157
เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงภายในใจของชายชราทั้งสองราว
กับว่าถูกตอกย้าด้วยความจริงอันแสนเจ็บปวด พวกเขาตระหนักได้
ตั้งแต่แรกแล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นหลินหมิง
ด้วยการที่เขาสามารถทุบตีผู้ที่มพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 ได้หาก
ไม่ใช่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้แล้วเขาก็ยังเป็นตัวตนที่พวกเขาทั้งสองไม่อาจ
ล่วงเกินได้
โจวซินเชี่ยน หรือผู้อาวุโสโจวจ้องมองมาที่หลินหมิงอย่างไม่วางตา
อันที่จริงแล้วนางเองก็ได้ยินเรื่องของหลินหมิงมาแต่ไม่ใช่ว่าระดับพลัง
ของเขานั้นอยู่ในระดับก่อเกิดอย่างนั้นหรือ ? แต่จากพลังปราณที่
ตอนนี้หลินหมิงตั้งใจปลดปล่อยออกมานั้นเห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มี
พลังมากถึงในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 5 แล้วแถมยังเป็นระดับสูงสุดอีก
ด้วย
' สวรรค์ ! '
ซินเชี่ยนตะลึงกับภาพตรงหน้าจนไม่อาจสรรหาคากล่าวใดๆได้อีก
เทียบกับผู้อาวุโสที่ได้รับการเคารพอย่างมากมายในสานัก พวกเขาไม่
อาจนับเป็นสิ่งใดได้เมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มผู้นี้แม้แต่ตวั นางเองก็
เช่นเดียวกัน
" หรือว่าข้าจะไม่สามารถเข้าร่วมสานักได้แล้ว ? "
" ไม่ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น "
ผู้อาวุโสซินเชี่ยนรีบกล่าวปัดในทันทีแม้ว่ามันเป็นความจริงที่หลินห
มิงจะมาเข้าร่วมสานักช้าไปจนเลยกาหนดไปแล้ว และทางสานักไม่มี
กฎว่าจะรับศิษย์เพิ่มกลางขันเช่นนี้ แต่กฎทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้น
โดยที่นางไม่ต้องรีรอถามผู้อาวุโสคนอื่นนางเชื่อมั่นว่าไม่ว่าผู้อาวุโสคน
ใดจะตัดสินใจเช่นเดียวกันกับนางเมื่อพวกเขาต้องเจอสถานการณ์
เช่นนี้
ผู้อาวุโสฉินเหยาตัดสินใจเดินเข้ามาเพื่ออธิบายเรื่องราวทั้งหมด
เมื่อนางเห็นว่าหลินหมิงไม่ต้องการที่จะพูดคุยกล่าวสิ่งใดอีกกับผู้อาวุโส
สาวตรงหน้า
" ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น ? "
" ข้าเองก็มีหลักฐานอยู่ด้วย นี้คือศพของนักฆ่าที่ได้วางแผนสังหาร
เขา "
ผู้อาวุโสโจวตื่นตะลึงยิ่งกว่าเก่าในบรรดาศพจานวนมากนี้ไม่มีผู้ใด
เลยที่มีพลังต่ากว่าระดับจอมยุทธ์ขั้นกลาง อีกทั้งมันยังคงมีศพร่างกา
ย้าเห็นได้ชัดว่าแม้ว่าเขาจะตายไปแล้วแต่ร่างของเขาก็ยังคงปลดปล่อย
พลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันเป็นลักษณะของผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์ !
" ข้าเข้าใจแล้วๆ ท่านสามารถนาร่างพวกนี้เก็บเข้าไปก่อน "
ผู้อาวุโสซินเชี่ยนถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อสักครู่นี้แม้มันจะเป็นชั่วเวลาเพียงไม่นานแต่ในตอนนี้ได้มีศิษย์มาก
หน้าหลายตาและผู้คนจานวนมากกาลังเฝ้ามองเหตุการณ์ในตอนนี้อยู่
ดังนั้นแล้วนางไม่สามารถทาให้เรื่องมันวุ่นว่ายไปมากกว่านี้ได้
" เช่นนั้นพวกท่านทั้งสามสามารถกล่าวรายละเอียดกับข้าได้
หรือไม่? "
ซินเชี่ยนนางรีบกล่าวเพื่อสลายสถานการณ์ในปัจจุบันนางรีบนาตัว
ผู้อาวุโสฟางซิ่น และผู้อาวุโสฉินเหยารวมถึงนักฆ่าสาวเข้าไปภายใน
สานักอย่างรวดเร็ว
ด้วยความสามารถของหลินหมิงที่แสดงออกเมื่อครู่นี้แม้ว่ามันจะ
นับว่าเป็นการจู่โจมเพียงกระบวนท่าเดียว แต่มันสามารถทาให้บุคคลที่
พบเห็นสามารถบ่งบอกตัวตนของหลินหมิงได้ในทันทีว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
เป็นใคร
แน่นอนว่าผู้อาวุโสซินเชี่ยนก็ยังต้องการให้หลินหมิงมากับนาง
พร้อมกับผู้อาวุโสฉินเหยา ผู้อาวุโสฟางซิ่นและนักฆ่าสาวด้วย
เช่นเดียวกัน แต่นางกลับได้รับการปฎิเสธในทันทีโดยที่หลินหมิงไม่
แม้แต่จะหันมามองนางอีกครั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้นางรู้สึกร่าไห้อยู่ภายใน
ใจอันที่จริงแล้วด้วยความสามารถของนางนั้นแม้แต่ผู้อาวุโส
ระดับปราญช์โดยทั่วไปก็ยังไม่อาจเมินเฉยต่อนางได้นั้นเพราะว่าตัว
นางถูกคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตอันใกล้นนี้จะสามารถก้าวขึ้น
สู่ระดับปราญช์ได้เช่นเดียวกัน
ผู้อาวุโสซินเชี่ยนได้แต่ยอมรับการตัดสินใจของหลินหมิง มันคงไม่ดี
แน่หากนางบังคับเขาตามมากับนางเมื่อเป็นเช่นนั้นด้วยนิสัยของ
อัจฉริยะที่ยากจะคาดขนาดผู้อาวุโสของสานักเขายังกล้าทุบตี อย่างไร
เสียนางก็เพียงต้องการฟังเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกับบอก
กล่าวให้กับประมุขสานักเพียงเท่านั้น
หลินหมิงเดินตามมาพร้อมกับหลิวฉวนยูร์โดยในระหว่างทางนั้นไม่
แปลกเลยที่จะมีศิษย์โดยรอบจ้องมองมาที่พวกเขา หลิวฉวนยูร์พา
หลินหมิงมาที่ที่พักของนาง ด้วยสถานที่อันกว้างขว้างของสานักวัง
จันทรามันเป็นเรื่องเล็กน้อยสาหรับพวกเขาที่จะสามารถจัดสรรที่พัก
ให้กับศิษย์แต่ละคน แน่นอนว่าที่พักอาศัยเหล่านั้นล้วนขึ้นอยู่กับ
ความสามารถและพรสวรรค์ของศิษย์แต่ละคน
ที่พักของหลิวฉวนยูร์นั้นมันไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากมายนักเมื่อ
เทียบกับที่พักอาศัยของนางเดิมที่ตะกูลหลิว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคง
ดีเยี่ยมยิ่งกว่าศิษย์ทั่วไปอยู่มาก เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยพ้นสายตา
ผู้คนร่างของแม่สาวน้อยผู้ทรงเสน่ห์พุ่งเข้ากอดหลินหมิงอย่างแนบ
แน่น
กลิ่นหอมโฉยจากตัวของแม่สาวน้อยผู้นี้มันทาให้หัวสมองของ
หลินหมิงแทบจะว่างเปล่า สัมผัสเนียนนุ่มที่บริเวณผิวหนังของเขา
สามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงเสน่ห์อันเย้ายวนของสาวน้อยผู้นี้ เมื่อ
ต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่หลินหมิงจะสามารถ
อดทนต่อไปได้เช่นเดียวกันกับหลิวฉวนยูร์
มือของหลินหมิงที่เข้าคล้องสัมผัสโอบกอดร่างของนางให้กระชับ
แน่นขึ้นใบหน้าของหลินหมิงยื่นเข้าหาใบหน้าของนางอย่างเชื่องช้า
ด้วยการกระทาของหลินหมิงเช่นนี้นางสามารถรับรู้ได้ว่าเจ้าตัวร้ายของ
นางต้องการสิ่งใด นางหลับตาพริบลงเพื่อรอรสชาติความสุขที่กาลังจะ
เกิดพร้อมกับยืน่ ริมฝีปากของนางขึ้นเล็กน้อย
สัมผัสเนียนนุ่มที่บริเวณริมฝีปากทั้งสองเข้าประกบกัน ทาให้
อารมณ์ของชายหญิงทั้งสองพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้ง
หลินหมิงและหลิวฉวนยูร์พวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กันมานาน
พอสมควรแล้วและในตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้รับการ
ยอมรับจากบิดาและมารดาของนางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นแล้วมัน
ไม่มีสิ่งใดที่นางจะต้องเป็นกังวลอีกต่อไป
" ีมมม
อื้ ~~~~~ "
หลินหมิงเริ่มทาการส่งลิ้นเข้าไปภายในปากของหลิวฉวนยูร์ ลิ้น
ของหลินหมิงที่อยู่ภายในปากของนางนั้นมันราวกับหัวขโมยที่กาลัง
ค้นหาสมบัติอย่างบ้าคลั่ง แต่ถึงอย่างนั้นนางไม่มีท่าทีต่อต้านหลินหมิ
งแต่อย่างใด ความรู้สึกคิดถึง โหยหาที่ผ่านมาทั้งหมดราวกับว่าพวกมัน
ได้ถูกระเบิดออกไปจนหมดสิ้น
ร่างกายของหลิวฉวนยูร์เริ่มรู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงหากในตอนนี้นาง
ไม่ได้อาศัยร่างกายของหลินหมิงเพื่อแอบอิ่งอยู่แล้วละก็ร่างกายของ
นางคงหมดสภาพลงที่พื้นไปแล้ว หลินหมิงพาร่างของหลิวฉวนยูร์ไปที่
เตียงของนางพร้อมกับขึ้นคร่อมร่างของแม่สาวน้อยของเขาเอาไว้
" แฮ่กๆ มิน่าเล่า...เจ้าถึงได้มีสตรีมากมายเช่นนี้ "
ใบหน้าของหลิวฉวนยูร์ที่ขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมกับเสียงหอบหายใจ
อันแสนเย้ายวนมันทาให้ร่างกายของหลินหมิงรู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมา
ในทันทีเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้ แม้ว่าแม่สาวน้อยจะกล่าวออกมา
ด้วยน้าเสียงแงงอนเล็กน้อย แต่แท้จริงแล้วในใจของนางในตอนนี้กลับ
ตรงข้าม
อันที่จริงแล้วความกังวลของนางไม่ใช่เพียงแค่ความปลอดภัยของ
หลินหมิงเพียงเท่านั้นนางรู้ดีว่าเจ้าตัวร้ายของนางผู้นี้จะต้องมีสตรีราย
ล้อมอยู่เป็นจานวนมากและเมื่อเป็นเช่นนั้นมันอาจเป็นไปได้ว่าเขาอาจ
ลืมเลือนนางไปแล้วก็เป็นได้ แต่เมื่อนางได้เห็นท่าทีของหลินหมิงที่เต็ม
ไปด้วยอารมณ์เช่นนี้ ความกังวลเหล่านั้นนับเป็นสิ่งไร้ค่าไปในทันที
โดยปกติแล้วเมื่อหลินหมิงได้รับโอกาศอันดีงามเช่นนี้จากหลิวฉวน
ยูร์ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งหมดจะจบลงด้วยการจูบอันเร้าร้อนพร้อมกับการ
โอบรัดกันอย่างแนบแน่นเพียงเท่านั้นทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะว่าแต่เดิม
นางยังคงมีความกังวลในเรื่องของบิดาและมารดาของนางอยู่
แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ทุกอย่างล้วนต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อได้รับ
ท่าทีของหลิวฉวนยูร์ที่เอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าของหลินหมิงด้วยความรัก
ไคร่ราวกับว่านางยินยอมที่จะต้องเป็นของหลินหมิงทั้งกายและใจ
หลินหมิงรีบก้มลงเข้าหาร่างกายของแม่สาวน้อยผู้นี้อีกครั้งในทันที

ตอนที่ 158
แต่ว่าทันใดนั้นก่อนที่หลินหมิงจะพลันได้ลงมือจู่โจมแม่สาวตัวน้อย
หลิวฉวนยูร์เขาสัมผัสได้ถึงบุคคลที่กาลังพุ่งมาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วถึงแม้จะน่าเสียดายอยู่บ้างแต่มันก็ใช่ว่าเขาจะไม่มี
โอกาสอีกเสียเมื่อไหร่ หลิวฉวนยูร์นางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสีหน้า
เข้าใจเช่นเดียวกันนางประกบปากเข้าหาหลินหมิงอย่างเบาบางเป็น
ครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกจากจากหลินหมิง
" ท่านพี่ ~~~ "
เสียงอันสดใสดังขึ้นมาตั้งแต่ไกลพร้อมกับร่างของสตรีทั้งสองที่
ปรากฎตัวขึ้นเบื้องหน้าของหลินหมิง พวกนางทั้งสองก็คือจิวหลิน
และฟ่งซือเซียนแน่นอนว่าจิวหลินนั้นนางมีความรู้ห่วงแหวนและคิดถึง
หลินหมิงไปไม่น้อยกว่าหลิวฉวนยูร์เลยดังนั้นแล้วโดยไม่สนใจสายตา
รอบข้างที่กาลังมองอยู่นางพุ่งเข้ากอดหลินหมิงอย่างรักใคร่ในทันที
สาหรับฟ่งซือเซียนนางได้แต่ถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ด้วยความ
เสียดายแน่นอนว่าหากในห้องแห่งนี้เหลือเพียงจิวหลินและหลินหมิง
แล้วละก็นางไม่มีทางลังเลที่จะพุ่งเข้ากอดหลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน
หลินหมิงได้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยคร่าวๆให้กับสตรีทั้ง
สามฟังอย่างเปิดเผย แน่นอนว่าในระหว่างนั้นจิวหลินไม่ได้แยกออก
จากหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย
" มันเป็นผู้ใดกันที่คิดวางแผนสังหารเจ้า ? "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงปนโทสะ หลินหมิงเลือกที่จะ
ยังไม่บอกเรื่องของรองเจ้าสานักกงซุนเอี้ยนที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ว่าจ้าง
กลุ่มนักฆ่าสังหารตัวเขา หากเขาบอกกับหญิงสาวทั้งสามตรงหน้ามัน
ไม่มีทางที่พวกนางทั้งสามจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแต่โดยง่ายอย่าง
แน่นอนและเมื่อเป็นเช่นนั้นหลินหมิงคงต้องพบกับปัญหาใหญ่ตามมา
อย่างแน่นอน
เทียบกันแล้วแม้ว่าหลินหมิงจะไม่ได้ลงมือทาสิ่งใดแต่ด้วยสถานะ
ของเขาในตอนนี้มันไม่มีทางที่รองเจ้าสานักกงซุนผู้นั้นจะสามารถทาสิ่ง
ใดกับเขาได้โดยง่าย เช่นนั้นแล้วหลินหมิงจึงเลือกที่จะรอเวลาที่จะตอบ
แทนอีกฝ่ายอย่างเหมาะสมด้วยตัวของเขาเอง
" เอาเถอะถึงอย่างไรเสียพวกนักฆ่าเหล่านั้นล้วนก็ถูกสังหารไปเป็น
ที่เรียบร้อยแล้ว และผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นเองก็ได้นา
ร่างพวกมันกลับมาเพื่อสืบหาเรื่องราวดังนั้นแล้วข้าไม่คิดว่ามันจะมี
เรื่องใดที่เราต้องกังวลกันอีก จริงสิเช่นนี้แล้วที่พักของข้าเป็นเช่นใด
แน่นอนว่ามันต้องเหนือกว่าฉวนยูร์ใช่หรือไม่ "
หลินหมิงตัดสินใจกล่าวเปลี่ยนประเด็นเพื่อไม่ให้สตรีทั้งสามคนนี้
สนใจเรื่องที่เขาถูกวางแผนลอบสังหาร
" อันที่จริงแล้วพวกเขาจัดที่พักของท่านพี่ไว้ทีเดียวกับข้าเพราะว่า
พวกเขาเห็นว่าพวกเราได้เป็นสามีภรรยากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "
จิวหลินกล่าวออกมาด้วยความขวยเขิน นางเข้าใจดีว่าแม้ว่า
ในตอนนี้นางจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างเปิดเผยเพียงคนเดียวของ
หลินหมิง แต่สตรีที่หลินหมิงยังคงให้ความสาคัญมากที่สุดนั้นย่อมเป็น
หลิวฉวนยูร์อย่างไม่ต้องสงสัย จริงอยู่ว่าพวกนางไม่เคยมีความสัมพันธ์
ใดๆกันมาก่อนในอดีตแต่เมื่อไม่นานมานี้ นางก็ได้ติดต่อกับหลิวฉวนยูร์
อยู่บ้างตั้งแต่ที่พวกเขาได้เข้ามาภายในสานักแห่งนี้
หลินหมิงตัดสินใจที่ที่จะไปยังที่พักของเขาอันที่จริงแล้วในตอนนี้
หลังจากที่เขาถูกยั่วยวนด้วยเสน่ห์ของแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ มันทา
ให้ร่างกายของเขาต้องการการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก หลิวฉวนยูร์
แสดงสีหน้าเสียดายเล็กน้อยแต่ทันใดนั้นเมื่อนางได้ยินคากล่าวก่อน
จากลาของหลินหมิงใบหน้าของนางพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
พร้อมกับสบถอย่างแผ่วเบาเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ
" หากเจ้าต้องการสานต่อเมื่อครู่ข้าสามารถมาหาเจ้าได้ทุกคืน "
หลินหมิง และจิวหลินพร้อมกับฟ่งซือเซียนได้มาหยุดที่หน้าที่พัก
ของหลินหมิงและจิวหลินด้วยขนาดของมันแน่นอนว่ามันยังมีขนาด
ใหญ่กว่าที่พักของหลิวฉวนยูร์อยู่สามเท่าเป็นอย่างน้อยแต่ถึงอย่างนั้น
มันยังคงด้อยกว่าตานักที่อาจารย์สาวสวยของเขาได้สร้างขึ้นเพื่อเขาอยู่
ดี
ก่อนที่หลินหมิงจะเข้าไปที่ที่พักเพื่อลิ้มรสชาติของจิวหลินและฟ่
งซือเซียน ปรากฎร่างของผู้อาวุโสฉินเหยา ผู้อาวุโสฟางซิ่นนักฆ่าสาว
และผู้อาวุโสซินเชี่ยนพร้อมกับชายชราที่เดินนาหน้าพวกนางทั้งสี่ เมื่อ
ได้เห็นชายชราตรงหน้าแม้แต่ฟ่งซือเซียนในตอนนี้ก็ยงั ต้องก้มหัวเพื่อ
ทาความเคารพเขา
อ่อร่าที่ปรากฎออกมาจากชายชราผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเขายังคง
เหนือกว่าผู้อาวุโสฉินเหยาไปมากหรืออาจกระทั่งเหนือกว่าบิดาของ
เขาเสียอีก ชายชราจ้องมองมาที่หลินหมิงพร้อมกับลูบเครายาวสีขาว
ของเขาอย่างวิเคราะห์
" คาระวะท่านเจ้าสานัก "
คากล่าวของฟ่งซือเซียนทาให้หลินหมิงพลันเข้าใจสถานะของชาย
ชราตรงหน้าของเขาในทันทีไม่ต้องสงสัยเลยว่าขอบเขตของชายชราผู้
นี้นั้นด้วยสถานะของเขามันจะต้องสูงส่งจนยากเกินกว่าที่หลินหมิงจะ
สามารถคาดเดาได้
" ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมเสียจริง "
ด้วยคากล่าวและท่าทีของชายชราที่ดูเป็นมิตรมันทาให้หลินหมิงไม่
ต้องรู้สึกถึงความกดดันโดยรอบตัวของชายชราผู้นี้อีกต่อไป อันที่จริง
แล้วมันหาได้ยากยิ่งที่เจ้าสานักเช่นเขาจะมาปรากฎตัวต่อหน้าศิษย์
ใหม่เช่นนี้ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเขาต้องการพบเจอเด็กหนุ่มผู้มี
ความสามารถในรอบหลายพันปีของอาณาจักร จากที่ชายชราผู้นี้ได้
สัมผัสพลังงานภายในตัวของหลินหมิงเขาสามารถบอกได้ในทันทีว่า
ระดับพลังของหลินหมิงนั้นราวกับว่าเขาเป็นผู้ที่บ่มเพาะพลังมาอย่าง
ยาวนานหลายสิบปี
หากดวงตาทั้งสองคู่ของเขามืดบอดแล้วละก็เขาคงคิดเห็นว่าหลินห
มิงอาจเป็นผู้อาวุโสอายุสามสิบปีที่มุ่งมั่นบ่มเพาะพลังพื้นฐานเพื่อ
อนาคตที่มั่นคงของพวกเขา
" ข้าจะรอชมผลงานของเจ้าในวันพรุ่งนี้ "
ชายชรากล่าวจบเขาก็พลันหันหลังกลับให้กับหลินหมิงที่ยังคง
สับสนเล็กน้อย เมื่อเขาหันไปมองที่จิวหลินและฟ่งซือเซียนพวกนาง
สองคนพยักหน้าเพื่อเป็นการแสดงว่าพวกนางจะอธิบายเรื่องราวใน
ภายหลัง
" เอาล่ะข้าได้คุยกับผู้อาวุโสของเจ้าแล้ว ทางสานักของเรายินดีที่
จะตามหาตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังให้กับเจ้าอย่างแน่นอน แต่จากที่ข้า
คาดการณ์เอาไว้พวกเขาสมควรเป็นคนต่างอาณาจักรมันจึงอาจไม่ใช่
เรื่องง่ายนัก "
ผู้อาวุโสซินเชี่ยนกล่าวกับหลินหมิงด้วยน้าเสียงเหนื่อยอ่อน
หลังจากนั้นนางภายมือให้กับผู้อาวุโสฉินเหยา ผู้อาวุโสฟางซิ่นและนัก
ฆ่าสาวอันที่จริงแล้วตามกฎของสานักพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้
อาวุโสจากตระกูลใดเข้าพักภายในสานักได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจจะ
เป็นการสร้างความรบกวนให้กับศิษย์คนอื่นได้
แต่ทันใดนั้นผู้อาวุโสซินเชี่ยนใบหน้าของนางพลันกระตุกเล็กน้อย
เมื่อนางเห็นว่ามีเพียงผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เดินตาม
นางมาเท่านั้นซึ่งมันยังขาดนักฆ่าสาวอยู่
" ตามกฎของสานักของเราแล้วท่านไม่อาจพักภายในนี้ได้ "
" อันที่จริงแล้วนางเป็นเพียงคนรับใช้หน่ะ "
" หา ? "
ด้วยคาตอบที่ได้รับจากผู้อาวุโสฉินเหยา ใบหน้าของผู้อาวุโสซิน
เชี่ยนพลันเบิกกว้างแน่นอนว่าศิษย์โดยทั่วไปแล้วพวกเขาสามารถนา
สาวใช้มาเพื่อปรนนิบัติรับใช้พวกเขาเป็นการส่วนตัวได้แม้ว่าทางสานัก
จะมีสาวรับใช้คอยปรนนิบัติให้กับเหล่าศิษย์แต่พวกเขาต้องเป็นผู้ที่มี
ความสามารถเป็นเลิศหรือเป็นผู้ที่ทางสานักเห็นว่ามีคุณค่าเพียง
พอที่จะสนับสนุนเท่านั้น
นางรีบหันไปมองยังร่างของนักฆ่าสาวในทันที แม้ว่านางจะไม่
สามารถสัมผัสพลังที่แน่นอนของสตรีผู้นี้ได้แต่อย่างน้อยพลังของสตรีผู้
นี้ย่อมอยู่ในระดับปราญช์เป็นอย่างน้อยแล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขา
กล่าวกับนางว่าพวกเขาใช้ตัวตนเช่นนี้เป็นสาวใช้ ! หากเรื่องนี้เป็น
ความจริงแล้วตัวนางคงไม่ใช่จะต้องไปเป็นทาสเลยเช่นนั้นรึ ?
ตอนที่ 159
ไม่ว่าคนผู้นั้นจะมาจากตระกูลที่ทรงอานาจมากเพียงใดพวกเขา
ล้วนไม่มีทางที่จะสามารถทาให้ตัวตนของผู้ที่มีพลังระดับปราญช์เป็น
สาวใช้ได้ พวกเขาล้วนเป็นตัวตนที่สูงส่งจนผู้คนส่วนใหญ่ได้แต่อิจฉา ผู้
อาวุโสซินเชี่ยนอาอึ้งจนกล่าวอะไรไม่ถูก
" ก็ได้.. แต่ท่านจะได้รับอนุญาติให้อยู่อาศัยเพียงแค่ที่พักเท่านั้น "
นางไม่เข้าใจจริงๆว่าสตรีนางนี้คิดเช่นใดอยู่อันที่จริงแล้วหากนาง
เพียงเอยปากขอเป็นผู้อาวุโสของสานักแห่งนี้มันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่
เป็นไปไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับเลือกที่จะติดตามเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
แล้วเป็นเพียงสาวใช้ ? นั้นเท่ากับว่านางจะสูญเสียเวลาอันมีค่าในการ
บ่มเพาะพลังไปในทันที ไม่เพียงเท่านั้นนางจะถูกผู้คนโดยรอบมองเป็น
สาวใช้ที่คอยปรินนิบัติรับใช้หลินหมิงอย่างว่าง่าย เช่นนั้นแล้วนางจะ
สามารถทนกับเรื่องเช่นนั้นได้ ?
ผู้อาวุโสซินเชี่ยนไม่กล่าวอะไรออกไปเพิ่มเติม นางคงทาได้เพียงแค่
แจ้งเรื่องราวนี้ไปให้เจ้าสานักเพิ่มเติมเท่านั้นและนางคิดว่าเขาคงไม่มี
ปัญหากับเรื่องเพียงเท่านี้ อันที่จริงแล้วตัวตนของเจ้าสานักนั้นเขาไม่
ค่อยออกมาพบปะผู้คนมากเสียเท่าไหร่กล่าวได้ว่านี้เป็นครั้งแรกของ
นางเลยเสียด้วยซ้าที่ได้พบกับเจ้าสานักในรอบหลายปี นั้นหมายความ
ว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มีความสาคัญเป็นอย่างมาก
เมื่อผู้อาวุโสซินเชี่ยนจากไปหลินหมิงพร้อมกับจิวหลิน ฟ่งซือเซียน
และนักฆ่าสาวรีบเข้าไปภายในที่พักอย่างรีบร้อนในทันที ในดวงตาของ
สตรีผู้งดงามทั้งสามนี้ปรากฎแววตาความต้องการบางอย่างแน่นอนว่า
หลินหมิงสามารถรับรู้ได้ไม่ยาก
ภายในห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เนื่องจากสถานะของหลินหมิง
มันทาให้ที่พักของเขานั้นค่อนข้างใหญ่โต โดยไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเตียง
ของเขานั้นถึงได้กว้างจนถึงขนาดที่สามารถนาคนมานอนเรียงกันนับ
สิบคนได้อย่างสบาย มันอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาได้ล่วงรู้ถึงประวัติ
และนิสัยของหลินหมิงมาบ้างแล้วพวกเขาจึงได้จัดเตรียมสถานที่เช่นนี้
เอาไว้ให้เขาเพื่อให้ค่าคืนของหลินหมิงเป็นค่าคืนอันยอดเยี่ยม
แต่ถึงอย่างนั้นภายในที่พักแห่งนี้มันยังคงปราศจากสาวรับใช้ นั้นก็
เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับข่าวเรื่องการหายตัวไปของหลินหมิง
และมันดูมีข้อมูลที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากดังนั้นแล้วทางสานักจึง
ไม่ได้ตระเตรียมสิ่งใดเพิ่มเติมนอกเสียจากที่พักซึ่งแต่เดิมแม้ว่าหลินห
มิงอาจจะถูกสังหารไปพวกเขาก็ยินดีมอบที่พักแห่งนี้ให้กับจิวหลิน
ภายใต้อารมณ์อันร้อนแรงของสตรีทั้งสามร่างของหลินหมิงถูกทา
การปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันกับสตรีทั้งสาม
แม้ว่าในตอนแรกจิวหลินและฟ่งซือเซียนจะกังวลกับนักฆ่าสาวจากที่
พวกนางสัมผัสได้มีความเป็นไปได้มากว่าสตรีนางนี้ย่อมต้องผ่านฝีมือ
การจู่โจมจากสามีของพวกนางมาแล้ว แต่สิ่งที่พวกนางเป็นกังวลก็คือ
ความแข็งแกร่งของสตรีนางนี้นั้นมีมากยิ่งกว่าฟ่งซือเซียนเสียอีก
" พวกเจ้าทั้งสองไม่มีความจาเป็นต้องกังวลในสิ่งใด นางเป็นเพียง
สาวรับใช้แน่นอนว่าหากเจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการเจ้าทั้งสองย่อมสามารถใช้
นางได้เช่นเดียวกันกับข้า "
เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงในใจของจิวหลินและฟ่งซือเซียน
คลายกังวลพร้อมกับจ้องมองมาที่สามีของพวกนางด้วยความรักใคร่ยิ่ง
กว่าเดิม หากเป็นบุรุษอื่นที่มักมากในอานาจพวกเขาคงเลือกที่จะสนใจ
ในตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าอย่างนักฆ่าสาวผู้นี้เป็นสาคัญ แต่สามีของพวก
นางนั้นยังให้ความสาคัญกับพวกนางที่มาก่อน
" เป็นเช่นนั้นเจ้าคะ นายหญิงทั้งสอง "
นักฆ่าสาวตอบรับคาของหลินหมิงอย่างว่าง่าย นางไม่คิดว่าการ
กระทาเช่นนี้จะเป็นการเสียศักดิศรีแต่อย่างใดที่สาคัญสาหรับนาง
ในตอนนี้คือการได้รับการยอมรับจากหลินหมิงต่างหากดังนั้นแล้วไม่ว่า
หลินหมิงจะว่ากล่าวสิ่งใดนางพร้อมยินดีทาตามอย่างว่าง่าย
หลินหมิงไม่รอช้าเข้ารวบร่างของจิวหลินและฟ่งซือเซียนเข้ามา
กอดอย่างแนบแน่น ร่างของหลินหมิงที่กาลังนอนอิงหัวเตียงพร้อมด้วย
สตรีผู้งดงามซ้ายขวา
" อา หน้าอกของเจ้ายังยอดเยี่ยมเช่นเคยไม่สิข้าคิดว่ามันใหญ่
ขึ้นมาเล็กน้อย "
จิวหลินรู้สึกอับอายในตอนนี้หน้าอกของนางกาลังได้รับการ
ประเมินอย่างเร้าร้อนจากริมฝีปากและฝ่ามืออันซุกซนของหลินหมิ
งยอดเม็ดบัวสีชมพูสดอย่างลุกตั้งชันด้วยอารมณ์ความรู้สึกเสียวซ่าน
โดยปกติแล้วนางจะใช่เวลาร่วมรักกับหลินหมิงเป็นประจาโดยแทบจะ
ไม่ขาดวันตั้งแต่ที่นางได้เป็นภรรยาของเขา แต่ในช่วงหลายวันมานี้ที่
นางไม่ได้ร่วมรักกับหลินหมิงทาให้อารมณ์ของนางค้างอยู่เป็นจานวน
มาก ดังนั้นแล้วเพียงแค่การสัมผัสและเล้าโลมเล็กน้อยจากหลินหมิง
น้ารักจานวนมากของนางถูกระเบิดออกในทันที
" ท่านพี่แล้วของข้าล่ะเป็นเช่นใดบ้าง "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาเมื่อนางได้เห็นจิวหลินได้รับความสุขจาก
หลินหมิงภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่วัน
หลังจากที่นางไม่ได้พบหน้าของสามีหนุ่มของนางนับตั้งแต่งานคัดเลือก
ศิษย์ที่เมืองฟายชู ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่เขาจะมีความแข็งแกร่งที่
เพิ่มขึ้นในระดับที่น่าหวาดหวั่น แต่ทักษะในการจู่โจมสตรีของเขานั้น
กลับพัฒนาขึ้นไม่แพ้กัน !
" ไหนข้าลองชิมรสชาติมันก่อน "
" อ้าาา ท่านพี่ ~~~~ "
ผลลัพธ์ของฟ่งซือเซียนล้วนไม่ต่างจากจิวหลินมากนักนางเองก็
ไม่ได้รับการร่วมรักจากหลินหมิงมาเป็นเวลานานมากเสียยิ่งกว่าจิว
หลินเสียอีก ฟ่งซือเซียนนางใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดศรีษะของหลินห
มิงเอาไว้อย่างแนบแน่นแม้ว่าในตอนนี้นางจะรู้สึกเหนื่อยจากอาการ
เสร็จอันรุนแรงที่ผ่านมาเมื่อสักครู่แต่นางยังคงมีความรู้สึกไม่อยากแยก
จากจากหลินหมิงในตอนนี้
จิวหลินเมื่อนางเห็นว่าร่างกายส่วนบนของหลินหมิงถูกยึดครอง
เอาไว้แล้วนางไม่สามารถทาสิ่งใดได้อันที่จริงแล้วแม้ว่านางจะเป็น
ภรรยาอย่างเปิดเผยเพียงคนเดียวแต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงให้ความ
เคารพฟ่งซือเซียน ไม่เพียงแต่ฟ่งซือเซียนจะเป็นสตรีของหลินหมิง
เช่นเดียวกันกับนาง แต่สตรีนางนี้ยังเป็นผู้อาวุโสของสานักแห่งนี้อีก
ด้วย
" ท่านพี่ข้าต้องการมัน ~~~~ "
จิวหลินขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงโดยมีทวนมังกรของหลินหมิงจด
จ่อร่องสวาทของนางอยู่ในตอนนี้ โดยไม่ต้องคิดถึงสิ่งใดอีกร่องสวาท
ของนางเข้าครอบคลุมทวนมังกรของหลินหมิงราวกับว่ามันต้องการ
กลืนกินทวนมังกรแท่งนี้ไปจนหมดสิ้น เสียงคราสนั่นของจิวหลินพร้อม
กับใบหน้าของนางที่แสดงความเปี่ยมสุขออกมาอย่างมากล้น
ในตอนนี้นางรู้สึกได้เติมเต็มความปราถนาในหลายวันที่ผ่านมานี้
ของนาง สาหรับนางแล้วการเข้าเป็นศิษย์ของสานักแห่งนี้นับว่าไม่มีค่า
อันใดหากนางไม่สามารถอยู่ร่วมกับสามีของนางได้ หลินหมิงสามารถ
สัมผัสได้ว่าในายมนี้ร่องสวาทของจิวหลินนั้นมีการบีบรัดทวนมังกรของ
เขาอย่างหนาแน่นไม่เพียงเท่านั้นนางยังคงไม่มีการรอช้าแต่อย่างใด
ร่างกายของนางเริ่มขยับจากจังหวะอันเชื่องช้าเพื่อลิ้มรสชาติความสุข
ที่กาลังเกิดขึ้นนี้
เพียงแต่ใช้เวลาเพียงไม่นานการขยับร่างกายของนางพลันเป็น
หยุดชะงักอันที่จริงแล้วสาหรับจิวหลินในยามที่นางร่วมรักกับหลินหมิง
นั้นนางแตกต่างจากผู้อาวุโสฟางซิ่นที่สามารถร่วมรักได้ทั้งบทรุกอัน
หนักหน่วงและบทรับการจู่โจมจากหลินหมิง สิ่งที่ได้ทาได้ดีเยี่ยมนั้นมี
เพียงการรับมือกับการจู่โจมของหลินหมิงเพียงเท่านั้นเพียงแต่ว่า
ในตอนนี้อารมณ์ของนางมันพุ่งสูงจนมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว
ร่างกายของนางค่อยๆเริ่มอ่อนแรงลง หลินหมิงเห็นเช่นนี้เขาผละ
ร่างออกจากฟ่งซือเซียนก่อนเล็กน้อยพร้อมกับจ้องมองไปที่จิวหลินที่
กาลังแสดงท่าทีผิดหวังเล็กน้อย อันที่จริงแล้วนางปราถนาที่จะมอบ
ความสุขให้กับหลินหมิงเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ว่าความเศร้าใจนั้นยังคงอยู่ได้เพียงไม่นานเมื่อนางสัมผัสได้
ถึงฝ่ามืออันคุ้นเคยที่โอบอุ้มจัดท่าร่างของนางให้อยู่ในท่วงท่าที่ชันกับ
พื้นเตียงโดยมีเข่าและมือทั้งสองข้างประคอง โดยที่ด้านขวาของนาง
นั้นเป็นฟ่งซือเซียนที่อยู่ในท่วงท่าเดียวกัน
หลินหมิงยิ้มอย่างสดใสกับภาพร่องสวาทสีชมพูสดของสตรีทั้งสอง
ตรงหน้า แน่นอนว่าการได้รับความสุขจากการปรนนิบัติจากเหล่าสตรี
นั้นเป็นความรู้สึกที่เยี่ยมยอดแต่หากพวกนางเหล่านั้นไม่ได้มี
ความสามารถเพียงสักครึ่งหนึ่งของผู้อาวุโสฟางซิ่นของเขาหลินหมิ
งเลือกที่จะจู่โจมสตรีเหล่านั้นเองเสียดีกว่า ทวนมังกรของหลินหมิงเข้า
เสียบไปที่ร่องสวาทของจิวหลินอีกครั้งมันแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดย
สิ้นเชิง
" อร้างง ~~ มันแน่นไปหมดเลยเจ้าคะ "
ร่างของนางที่เคยอ่อนแรงลงไปราวกับว่ามันถูกกระตุ้นด้วย
ความรู้สึกต้องการ นางชื่นชอบเป็นอย่างมากเวลาที่นางได้ถูกจู่โจมโดย
หลินหมิงเช่นนี้ ฟ่งซือเซียนเองก็เช่นเดียวกันนางไม่ได้รับอนุญาติให้
สามารถอยู่นิ่งๆได้ นิ้วมือของหลินหมิงเข้าสารวจโพร่งสวาทของสาว
ใหญ่นางนี้เพื่อตรวจสอบดูสภาพภายในจนราวกับว่าเขาสามารถรู้ถึง
สัดส่วนภายในร่องสวาทของนางได้ทุกส่วน
แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่สตรีทั้งสองเท่านั้นที่มีความรู้สึกปราถนา
หลินหมิงเองก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่น้ารัก
ของหลินหมิงจะถูกระเบิดเข้าใส่ภายในร่องสวาทของจิวหลินอย่าง
รวดเร็ว ร่องสวาทของฟ่งซือเซียนเป็นเป้าหมายถัดไปของหลินหมิง
แม้ว่าในตอนนี้นางจะระเบิดน้ารักไปเป็นจานวนมากจนร่างกายรู้สึก
เหนื่อยอ่อนแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่ว่านางจะเหนื่อยมากเพียงใดนางก็
ยังคงมีความต้องการในการร่วมรักกับหลินหมิงต่อไป
" ซี๊ดดดด ~~~~~~ อะ อะ อะ อร้างง ~~~~~ "
จังหวะการจู่โจมของหลินหมิงในตอนนี้เร้าร้อนเสียยิ่งกว่าในตอนที่
เขาจู่โจมจิวหลินนั้นเป็นเพราะว่าในตอนนี้อารมณ์ภายในร่างกายของ
เขาได้พุ่งสูงขึ้นมาจนถึงขีดสุดแล้ว แน่นอนว่าฟ่งซือเซียนนางไม่ได้รู้สึก
ทุกขทรมานแต่อย่างใดแต่นางกลับพึงพอใจในการจู่โจมอันหนักหน่วง
ของหลินหมิงเสียมากกว่า ทุกครั้งที่วนมังกรของหลินหมิงเข้าก
ระแทกร่องสวาทของนางมันจะถูกทะลวงจนชนเข้ากับผนังหมดลูก
ของนางจนทาให้ร่างกายสั่นสะท้านไปด้วยความเสี่ยวซ่าน

ตอนที่ 160
ร่างของจิวหลินและฟ่งซือเซียนต่างอ่อนแรงและหมดสติภายใน
เวลาอันสั้น อันที่จริงแล้วหากเป็นในสถานการณ์ปกติพวกนางย่อม
สามารถรับมือกับหลินหมิงได้ยาวนานยิ่งกว่านี้ แต่ทั้งหมดนี้เป็น
เพราะว่าพวกนางตื่นเต้นกับการได้พบเจอหลินหมิงอีกครั้งมาก
จนเกินไป
หลินหมิงหันไปมองนักฆ่าสาวที่มองดูการร่วมรักของเขาและจิว
หลินกับฟ่งซือเซียนอยู่ตลอดเวลา ในตอนนี้ใบหน้าของนางแปรเปลี่ยน
เป็นสีแดงระเรื่อพร้อมกับลมหายใจอันหนักหน่วง แต่แน่นอนว่านาง
ยังคงไม่มีความกล้ามากพอที่จะเข้าร่วมรักกับหลินหมิงและสองสาว
ก่อนหน้า
ไม่ใช่ว่าเพราะนางมีความเขินอายในการร่วมรักต่อหน้าผู้อื่นอันที่
จริงแล้วนางค่อนข้างคุ้นเคยกับมันหลังจากที่นางต้องร่วมรักกับหลิงห
มิงพร้อมกับผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยา แต่สิ่งที่นางเป็นกังวล
ก็คือการที่นางจะสามารถร่วมรักพร้อมกับภรรยาของหลินหมิงทั้งสอง
ได้หรือไม่ ?
มันแตกต่างจากในตอนที่นางได้รับโอกาสจากผู้อาวุโสฟางซิ่น
ในตอนนี้นางไม่ได้รับคาเชื้อเชิญใดๆจากภรรยาทั้งสองของหลินหมิง
ดังนั้นแล้วนางทาได้เพียงเฝ้ามองและรอคอยโอกาสสาหรับตัวนาง
" มานี้สิ "
นักฆ่าสาวตอบสนองต่อคากล่าวของหลินหมิงในทันที เนื่องจาก
เตียงนี้มีขนาดใหญ่มากจนสามารถรองรับคนสิบคนได้อย่างสบายๆ
ดังนั้นแล้วหลินหมิงไม่จาเป็นต้องกังวลว่าบทรักของเขาต่อจากนี้จะ
รบกวนภรรยาทั้งสองของเขาที่หมดแรงไปแล้ว
สาหรับนางแล้วหน้าที่ในการปรนนิบัติเป็นสาวใช้ของหลินหมิงนั้น
แน่นอนว่าหน้าที่หลักของนางคือการบาเร่อรักให้กับคุณชายหนุ่มของ
นางผู้นี้ยามที่เขาต้องการ แต่ถึงอย่างนั้นมันไม่ได้หมายความว่าอนาคต
ในหนทางต่อสู้ของนางจะสิ้นสุดลงดังเช่นสตรีทั่วไปที่ตบแต่งออกไปอยู่
อาศัยกับบุรุษอื่นเพราะว่าพวกนางเหล่านั้นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ
ดูแลและปรนนิบัติสามีของพวกนางตามหลักคาสอนของบิดามารดา
และบรรพบุรุษ
แต่สาหรับหลินหมิงนั้นมันแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง อันที่จริงแล้ว
นางก็เพิ่งได้รับรู้สิ่งเหล่านี้หลังจากที่นางได้รับการปลดผนึกพลังจากผู้
อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่น ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงเวลาการร่วม
รักเวลาหลินหมิงและผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้น มันทาให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นที่มี
โอกาศได้รับการร่วมรักกับหลินหมิงอย่างบ่อยครั้งมากที่สุดใน่ชวง
หลายวันมานี้ในก้าวหน้าเข้าสู่ปราญช์ขั้นที่ 3
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วนางเลือกที่จะติดตามหลินหมิงดีกว่า ไม่เพียงแต่
นางจะได้รับความสุขอันเพลิดเพลินราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์จากบท
เพลงรักของหลินหมิง แต่นางยังคงสามารถอยู่ในเส้นทางของบ่มเพาะ
ได้อย่างต่อเนื่องตราบที่หลินหมิงยังคงสนใจในตัวนาง
" นา..นายท่าน..อา.. ~~~~ "
ในขณะที่นางได้มาหยุดที่ตรงขอบเตียงมือของหลินหมิงได้ขยับมือ
เข้าสู่จุดอ่อนไหวของนางที่ตอนนี้กาลังอยู่ในสภาวะตื่นตัวอย่าง
เต็มที่ ร่างของนางสั่นไหวขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่หลินหมิงอย่าง
อ้อนวอน นางรู้ดีถึงนิสัยของหลินหมิงว่าเขามักจะเพลิดเพลินกับ
ร่างกายของสตรีก่อนที่จะลงมือจู่โจมเสมอ
แน่นอนว่านางรู้สึกดีเยี่ยมต่อนิ้วมือของหลินหมิงที่เคลื่อนไหวเข้าสู่
ภายในร่องสวาทของนางแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้หลังจากที่นางได้ดูบท
รักของหลินหมิงก่อนหน้าแล้ว สิ่งเหล่านี้ยังคงไม่อาจทาให้นางพอใจได้
อย่างเต็มที่
" ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องการมันมากจริงๆ "
หลินหมิงฉุดร่างของนักฆ่าสาวลงมาให้นอนหงายกับเตียง นักฆ่า
สาวนางสามารถรับรู้สถานการณ์ต่อไปจากนี้ได้ในทันที นางเข้าใจดีว่า
อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของหลินหมิงในยามที่ได้พบเจอกับเด็กสาวตระกูล
หลิวผู้นั้นมีมากเพียงใด ขนาดผู้อาวุโสฟางซิ่นที่มีความงดงามในระดับ
ที่สามารถทาให้ทั่วทั้งเมืองสั่นไหวไปด้วยความโกลาหลก็ยังคงด้อยกว่า
เด็กสาวผู้นี้เล็กน้อย
" เชิญใช้ข้าระบายอารมณ์ได้อย่างเต็มที่เลยเจ้าคะ ~ "
นักฆ่าสาวกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงยั่วย้วนอย่างเต็มที่แต่ถึงอย่าง
นั้นด้วยอดีตเดิมของนางนั้นเป็นนางคือนักฆ่าที่ไม่เคยสนใจในเรื่องนี้แต่
อย่างใด ดังนั้นแล้วในความเป็นจริงมันควรเป็นคากล่าวที่ไร้เสน่ห์ที่
สามารถดึงดูดหลินหมิงได้ แต่ด้วยฝีมือของผู้อาวุโฟางซิ่นผู้มี่
ความสามารถทาให้หลินหมิงพึงพอใจได้มากที่สุดกล่าวได้ว่าในตอนนี้
นักฆ่าสาวได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมาจากผู้อาวุโสฟางซิ่นมากพอที่จะทาให้
นางมั่นใจได้ว่านางสามารถมอบความสุขใก้กับหลินหมิงได้ไม่น้อยหน้า
สตรีใด
มือทั้งสองข้างของนางเอื้อมเปิดร่องสวาทเพื่อเชื้อเชิญให้ทวนมังกร
ของหลินหมิงเข้าจู่โจมได้ในทันที ขาทั้งสองข้างของนางเปิดกว้างออก
เพื่อพร้อมรับมือกับหลินหมิงเช่นเดียวกัน
" ซี๊ดดดด ~~~~~ "
ความรู้สึกเสี่ยวซ่านที่แสนคุ้นเคยเกิดขึ้นในทันทีที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงพุ่งเข้าสู่ภายในตัวของนาง ร่องสวาทของนางรู้สึกคับแน่นจน
นางต้องครางออกมาโดยไม่รู้ตัว
" อะ อะ อะ อ้า ~~~~ "
เมื่อต้องเจอกับการจู่โจมของหลินหมิงในสภาพที่สมบูรณ์พร้อม
แน่นอนว่านางย่อมไม่สามารถตามจังหวะการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วนี้
ของหลินหมิงได้ทัน เสียงครางของนางดังสนั่นจนมันสามารถเล็ดรอด
ออกไปจากที่พักอาศัยของพวกเขาได้อย่างง่ายดายแต่ถึงอย่างนั้นมัน
ยังดีที่ว่าทางสานักแห่งนี้ไม่ลืมที่จะติดตั้งอาคมระงับเสียงเอาไว้ให้กับ
หลินหมิงไม่เช่นนั้นแล้วในตอนนี้ที่หน้าที่พักของเขามันคงเนื่องแน่นไป
ด้วยเหล่าผู้คนไปแล้ว
ไม่เพียงแต่นางจะต้องรับมือกับการจู่โจมจากทางร่องสวาทของนาง
เพียงเท่านั้นในตอนนี้บริเวณหน้าอกอันโค้งว้าวของนางเล็กน้อยกาลัง
ถูกโลมเลียอย่างเร้าร้อนจากริมฝีปากของหลินหมิง
" ยะ..อย่ากัด..เจ้าคะ อร้างงงง ~~~ "
บริเวณกลางลาตัวของนางถึงกับโค้งงอขึ้นพร้อมกับใบหน้าของนาง
ที่ส่ายไปมาด้วยความเสี่ยวซ่านที่กาลังเกิดขึ้น นางสัมผัสได้เลยว่า
ในตอนนี้อุณหภูมิภายในร่างกายของนางกาลังพุ่งขึ้นสูง ที่บริเวณร่อง
สวาทของนางน้ารักจานวนมากกาลังพรั่งพรู่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย
อันที่จริงแล้วนางได้เสร็จสมไปตั้งแต่ที่นางได้รับทวนของหลินหมิ
งเสียบเข้าไปในทีแรกแล้ว
และเมื่อต้องเจอกับการจู่โจมอันต่อเนื่องเช่นนี้มันจึงไม่ใช่เรื่อง
แปลกแต่อย่างใดที่ในตอนนี้นางจะได้เสร็จสมไปมากกว่าห้าครั้งแล้ว
ภายในช่วงเวลาอันสั้น
" ปล่อยมาเลยเจ้าคะ ~~~ "
เมื่อนางสัมผัสได้ถึงทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังสั่นไหวกระตุก
อย่างรุนแรงภายในร่องสวาทของนางนางรีบกล่าวในทันทีอันที่จริงแล้ว
ถึงแม้ว่านางจะไม่กล่าวออกไปมีหรือที่หลินหมิงจะไม่ปลดปล่อย
อารมณ์ของเขาใส่ภายในตัวของนาง แต่ที่นางกล่าวออกไปเช่นนี้นั้นก็
เพราะว่ามันเป็นความเคยชินจากตอนที่นางได้มีโอกาสร่วมรักกับ
หลินหมิง พร้อมด้วยผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยา กล่าวได้ว่า
ในตอนนั้นแม้ว่านางจะเป็นฝ่ายรับมือกับหลินหมิงอยู่แต่ส่วนใหญ่แล้ว
น้ารักของหลินจะจบลงด้วยการดูดกลืนจากผู้อาวุโสทั้งสองมากกว่า
แต่นางก็ไม่สามารถทาสิ่งใดได้เนื่องจากนางยังคงมีสถานะด้อยกว่า
แต่ในตอนนี้นางเป็นฝ่ายที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิงเพียงคนเดียว
ดังนั้นแล้วนั้นเท่ากับว่าในตอนนี้นางสามารถรับน้ารักของหลินหมิงได้
ทั้งหมด
" อร้ายยยยยย ~~~~~~~~~~~~~ "
น้ารักอุ่นของหลินหมิงที่เข้าสู่ภายในตัวนางทาให้นางรู้สึกเติมเต็ม
ร่างของนางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทา
ให้หลินหมิงเสร็จสมแม้เพียงสักครั้งไม่ใช่ว่าหลินหมิงนั้นใช่เวลาเสร็จ
สมยากกว่าบุรุษทั่วไป แต่นั้นเป็นเพราะว่าเหล่าสตรีไม่อาจทนฝีมือการ
จู่โจมของเขาได้นานถึงขนาดนั้น
โดยไม่ทันที่นางจะสามารถพักหายใจได้นาน ร่างของนางถูกจับให้
นอนพลิกตะแขงข้างพร้อมกับยกขาข้างหนึ่งสูงขึ้น ทวนมังกรของ
หลินหมิงเริ่มทาการจู่โจมอีกครั้งเพียงแต่ในคราวนี้ที่ริมฝีปากของ
หลินหมิงจู่โจมนั้นไม่ใช่หน้าอกขนาดเล็กของนางอีกต่อไป แต่มันกลับ
เป็นต้นขาเรียวงามของหญิงสาวแทน
" ดะ...เดียว..ก่อนสิเจ้าคะ อะ อะ อ้าา ~~~ "
โดยปกติแล้วเวลาที่นางร่วมรักกับหลินหมิงนางจะมีตัวช่วยอย่างผู้
อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นแต่ในตอนนี้การที่นางต้องรับมือกับ
หลินหมิงเพียงคนเดียวนั้นมันเป็นสิ่งที่สตรีทั่วทั้งโลกนี้ไม่สามารถทาได้
!
" เจ้ามีหน้าที่ปรินนิบัติรับใช้ข้า เช่นนั้นแล้วเจ้าจะปฎิเสธ ? "
" มะ... ไม่ เจ้าคะ ~~~ อู้ววว~~~~~ "
นักฆ่าสาวในตอนนี้นางไม่สามารถกล่าวขัดใจหลินหมิงได้
ไม่เช่นนั้นแล้วสถานะภรรยาของเขาในอนาคตนั้นเป็นไปได้ว่านาง
อาจจะไม่ได้รับ จากที่นางได้ฟังจากผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นดูเหมือนว่าก่อน
หน้านี้ผู้อาวุโสสาวผู้งดงามผู้นี้ก็เคยได้รับตาแหน่งคล้ายคลึงกับนาง
เช่นเดียวกัน แต่ด้วยความพยายามของผู้อาวุโสฟางซิ่นนางสามารถทา
ให้หลินหมิงพอใจจนกระทั่งเขายอมรับนางเป็นภรรยา ดังนั้นแล้ว
สาหรับนักฆ่าสาวนางไม่ยินยอมให้เกิดเรื่องที่หลินหมิงจะไม่พอใจในตัว
ของนางแม้แต่เรื่องเดียว
" ยอดเยี่ยม "
หลินหมิงกล่าวออกมาด้วยความพึงพอใจ ในตอนนี้เขาสามารถ
เปลี่ยนนักฆ่าสาวผู้นี้ให้กลายเป็นทาสรักของเขาได้อย่างสมบูรณ์และ
แน่นอนว่าแม้ว่านางจะไม่ได้มีความงดงามที่เทียบเท่ากับบรรดาสตรี
อื่นของเขาแต่นางยังคงจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสตรีผู้งดงามทั้งหมดนี้นั้นก็
เพราะว่าเหล่าสตรีของหลินหมิงทั้งหลายนั้นมีความงดงามเกินกว่า
มาตรจนเกินไป
หลินหมิงโน้มตัวลงกอดร่างของนักฆ่าสาวจากด้านหลังพร้อมกับ
กระแทกทวนมังกรของเขาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้นาของนางถูกขยับให้
หันมาด้านหลังพร้อมกับประกบปากกับหลินหมิงอย่างดูดดื่ม
นางต้องรับมือกับหลินหมิงอย่างยาวนานยังดีที่ว่าในช่วงเวลาที่นาง
ใกล้หมดสติหลินหมิงนั้นยังคงให้โอกาสนางได้พักผ่อนหายใจ แต่ถึง
อย่างนั้นนางไม่สามารถนอนอยู่เฉยๆได้ ปากของนางถูกให้เป็น
เครื่องบาเร่อความใคร่ของเขาต่อไป และเมื่อหลินหมิงเห็นว่านางมี
สภาพที่พร้อมแล้วเขาก็จะลงมือจู่โจมนักฆ่าสาวผู้นี้ต่อจนกระทั่งนางไม่
สามารถประคองสติได้อีกต่อไป
ตอนที่ 161
หลินหมิงที่กาลังนอนหลับอย่างสบายใจหลังจากที่เขาได้ปลดปล่อย
ไปเป็นจานวนมากในเมื่อวานที่ผ่านมา ร่างของเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
โดยสองสาวภรรยาของเขาจิวหลินและฟ่งซือเซียน แน่นอนว่าหากเป็น
ในยามปกติแล้วไม่มีทางที่พวกนางจะปลุกหลินหมิงเช่นนี้แม้ว่าเขา
ปราถนาที่จะนอนทั้งวันก็ตามที่
แต่ในวันนี้มันเป็นที่สาคัญเพราะว่ามันเป็นที่ทางสานักวังจันทราได้
มีการทดสอบเหล่าศิษย์ใหม่ หลินหมิงลุกขึ้นอย่างงัวเงียอันที่จริงแล้ว
สาหรับหลินหมิงเขาไม่คิดว่ากาทดสอบนี้สาคัญต่อตัวเขามากนักไม่
เหมือนกับเหล่าภรรยาทั้งสองของเขา อันที่จริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย
ที่ทางสานักจะขับไล่แม้ว่าเขาจะไม่เข้าร่วมการทดสอบนี้ก็ตามมัน
สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าความแตกต่างระหว่างหลินหมิงและ
ศิษย์ใหม่คนอื่นนั้นมันหากกันมากจนเกินไป
เมื่อหลินหมิงเดินออกมาจากที่พักเขาพบกับสตรีสองคนที่มีความ
งดงามเพียงพอที่จะทาให้ดวงตาของเขาสว่างขึ้นในทันที
" ศิษย์น้อง ดูเหมือนว่าเจ้าจะปลอดภัยจริงๆด้วย "
พวกนางทั้งสองคือหลิวฉวนยูร์และหลัวฉิงเชี่ยนศิษย์พี่แสนสวย
ของเขา อันที่จริงแล้วหลิวฉิงเชี่ยนนางได้รับรู้เรื่องราวที่หลินหมิงมายัง
สานักพร้อมกับคนส่วนใหญ่นั้นจึงเป็นเหตุทาให้นางไม่สามารถมาพบ
เขาได้ในวันแรก เพราะว่าเมื่อนางรับรู้ข่าวนางก็พบว่าศิษย์น้องของ
นางผู้นี้ได้เข้าที่พักของเขาไปเสียแล้ว
ร่างของบุคคลที่สี่ที่เดินมาด้วยกันนี้สามารถดึงดูดสายตารอบข้างได้
อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่สตรีทั้งสามจะจัดได้ว่าเป็นสาวงามที่เหล่า
บุรุษนั้นได้เฝ้าฝันอย่างไม่มีทางเป็นจริง ตัวตนของเด็กหนุ่มที่อยู่ข้าง
กายของพวกนางทั้งสามนั้นก็ยังทาให้พวกเขาเกิดความอิจฉา เคารพ
ตะลึงอยู่ภายในใจ
สาหรับหลิวฉวนยูร์นางไม่มีความเอียงอายที่จะเดินข้างกายของ
หลินหมิงอย่างแนบชิดเช่นเดียวกันกับจิวหลินนั้นก็เพราะว่าในตอนนี้
นางได้ถูกหมั้นหมายกับหลินหมิงเอาไว้แล้วเพียงแต่ผู้คนยังไม่รู้เพียง
เท่านั้น ดังนั้นแล้วการกระทาของนางเช่นนี้มันเท่ากับว่านางมีเจ้าของ
แล้วและนางจะสามารถกาจัดปัญหาจากเหล่าบุรุษที่แสนน่ารังเกียจ
จานวนมากได้ในทันที
ส่วนหลัวฉิงเชี่ยนนางไม่สามารถทาอย่างเช่นเดียวกันกับสองสาว
ก่อนหน้าสถานะของนางกับหลินหมิงคือศิษย์ร่วมอาจารย์กันเพียง
เท่านั้น ดังนั้นนางจึงเลือกสร้างระยะห่างกับหลินหมิงเล็กน้อยเพื่อ
ไม่ให้ผู้อื่นเข้าใจผิด
ณ ลานทดสอบสาหรับศิษย์หลินหมิงเฝ้ามองผู้คนโดยรอบพวกเขา
เหล่านี้ล้วนเป็นอัจฉริยะที่มาจากเมืองต่างๆดังนั้นแล้วระดับความ
แข็งแกร่งของพวกเขาล้วนอยู่ในระดับปราณเริ่มต้นขั้นที่ 7 เป็นอย่าง
น้อย ด้วยจานวนของศิษย์ใหม่ที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้หลินหมิงประเมิณเอาไว้
คร่าวๆว่าพวกเขาน่าจะมีทั้งหมดประมาณหนึ่งพันคน
มันทาให้หลินหมิงได้เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรแห่งนี้ได้
โดยคร่าวๆหากเทียบจากเมืองฟานชูของเขาที่ฟ่งซือเซียนคัดเลือกศิษย์
ให้เข้าร่วมสานักเพียงแค่ 6 คนซึ่งอีกสองคนที่เหลือนั้นพวกเขาเป็น
เพียงผู้ฝึกยุทธ์จากขุมอานาจขนาดกลางของเมืองหากไม่ใช่ว่ารุ่นเยาว์
จากตระกูลหลินถอนตัวออกไปกันหมดแล้วละก็พวกเขาก็คงไม่ได้รับ
โอกาศเช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าอาณาจักรแห่งนี้จะต้องมี
เมืองรายล้อมอยู่นับร้อยเมือง !
โดยรอบลานประลองปรากฎร่างของผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งเป็นจานวน
มากในบริเวณที่นั่ง อันที่จริงแล้วนอกจากลานทดสอบแห่งนี้จะเป็น
สถานที่สาหรับทดสอบเหล่าศิษย์ใหม่แล้วมันยังเป็นสถานที่สาหรับการ
ประลองระหว่างศิษย์อีกด้วย ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงได้จัดทาที่นั่งเอาไว้
มากมายเพื่อให้ผู้คนได้รับชมโดยรอบ เพียงแต่ว่าหากเป็นปกติแล้วมัน
คงไม่มีผู้ใดที่ให้ความสนใจกับการทดสอบของศิษย์ใหม่มากนัก
" ดูนั้นข้าจาหน้าของเขาได้เขาคือหนึ่งในสี่แม่ทัพหลวงของ
อาณาจักรแม่ทัพโจว ! "
" แล้วชายชราข้างเขาเป็นใครกัน ? "
" เจ้าโง่นั้นเจ้าสานักแห่งนี้ยังไงเล่า ! "
เสียงของศิษย์ใหม่โดยรอบเต็มไปด้วยความวุ่นว่ายเมื่อพวกเขา
พบว่ามีบุคคลสาคัญของอาณาจักรเป็นจานวนมากมาดูการทดสอบ
ครั้งนี้ อันที่จริงแล้วไม่เพียงแต่แม่ทัพโจวเพียงเท่านั้นเหล่าขุนนางน้อย
ใหญ่หรือกระทั่งผู้อาวุโสของสานักพวกเขาล้วนให้ความสาคัญแก่การ
ทดสอบในครั้งนี้
นั้นก็เพราะว่าในการทดสอบครั้งนี้มีเด็กหนุ่มที่ในอนาคตเขาจะเติบ
ใหญ่จนแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าแม่ทัพทั้งสี่แห่งอาณาจักรนี้อย่างแน่นอน
" สวรรค์ มะ..ไม่จริง นั้นแม้แต่องค์ชายลาดับที่หนึ่ง ไม่สิองค์ชาย
ลาดับที่สองด้วยเช่นเดียวกัน ! "
ทั่วทั้งลานประลองกลายเป็นความวุ่นวายที่ไม่สามารถระงับได้
พวกเขาเข้าใจดีว่าตัวตนระดับสูงตรงหน้าของพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้มา
เพื่อรับชมความสามารถของพวกเขาแต่เป็นหลินหมิง แต่ถ้าหากพวก
เขาแสดงความสามารถได้มากเพียงพอมันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะได้รับ
โอกาสจากบุคคลระดับสูงเหล่านี้ ?
หากเป็นในสถานการณ์การที่พวกเขาจะสามารถพบหน้าบุคคล
เหล่านี้ยังไม่อาจนับว่าเป็นไปได้ลาพังเพียงแค่เจ้าสานักของพวกเขาก็
นับเป็นเรื่องยากแล้ว
สายตาของบุคคลผู้ทรงอานาจต่างจดจ้องมาที่หลินหมิงอย่าง
วิเคราะห์แน่นอนว่าพวกเขาได้ข่าวเรื่องความแข็งแกร่งของหลินหมิง
มาบ้างแล้วแต่เมื่อได้พบเห็นกับตามันแตกต่างจากคาบอกเล่าไปโดย
สิ้นเชิง หากพวกเขาพบว่าแม้หลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งในระดับที่
น่ากลัวเช่นนี้แต่หากพื้นฐานของเขาไม่มั่นคงพวกเขาก็ย่อมไม่ต้องให้
ความสนใจกับหลินหมิงมากนักเพราะมันยังไม่มีสิ่งใดรับรองอนาคต
ของเขาได้
แต่จากภาพตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้ เหล่าผู้ทรงอานาจ
ทั้งหมดต่างคิดไปเป็นอย่างเดียวกันว่าพวกเขาไม่เคยพบเจอระดับจอม
ยุทธ์ขั้นที่ห้าคนใดที่มีพลังพื้นฐานเข็มแข็งเช่นนี้มาก่อน !
" เงียบ !! "
คากล่าวตวาดจากเจ้าสานักสามารถทาให้เหล่าศิษย์ใหม่ที่อยู่ใน
สภาวะสับสนเงียบลงไปในทันที หลังจากทีเขาสามารถระงับความวุ่น
ว่ายนี้ได้แล้วเขาหันไปมองยังผู้อาวุโสที่ทาหน้าที่ควบคุมการทดสอบใน
ครั้งนี้เพื่อเป็นสัญญาณให้เริ่มได้
" เอาล่ะการทดสอบนั้นจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสองส่วน ในส่วนแรก
จะเป็นการทดสอบเพื่อประเมิณความแข็งแกร่งของพวกเจ้าหากผู้ใดมี
ความแข็งแกร่งไม่เพียงพอจะถูดคัดออกไปในทันที "
เมื่อได้ยินเช่นนี้เหล่าศิษย์ใหม่ไม่มีท่าทีตื่นตกใจอันที่จริงแล้วพวก
เขาล้วนรับรู้เรื่องนี้ว่าจะมีการทดสอบเพื่อคัดเลือกศิษย์อีกรอบจากใน
วันแรกที่พวกเขามาถึงต่างจากหลินหมิงที่เพิ่งมาถึงเมื่อวานนี้
" หากพวกเจ้าสามารถผ่านการทดสอบในครั้งแรกพวกเขาจะได้รับ
การยอมรับให้เป็นศิษย์สายนอกของสานักวังจันทราในทันที "
ผู้อาวุโสที่ควบคุมการทดสอบในครั้งนี้ยังคงปรากฎอาการประหม่า
แม้แต่ตัวเขาที่เป็นผู้อาวุโสของสานักก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ที่กดดัน
เช่นนี้มาก่อน เขาจ้องมองไปที่เหล่าศิษย์ทั้งหลายเพื่อดูว่ามีผู้ใดสงสัย
หรือไม่เพื่อที่จะกล่าวต่อไป
" สาหรับในการทดสอบส่วนแรกนี้จะเป็นการทดสอบความ
แข็งแกร่งของพวกเจ้าโดยก่อนที่พวกเจ้าจะเข้ามายังที่แห่งนี้พวกเจ้า
ทั้งหมดจะได้รับศิลาจาลองคนละหนึ่งอัน "
หลินหมิงจ้องมองศิลาที่อยู่ในมือของเขาแน่นอนว่าเขารู้จัก
ความสามารถของเจ้าศิลาชิ้นนี้อยู่บ้าง มันมีความสามารถในการ
จาลองคู่ต่อสู้ขึ้นมาเพื่อทาการฝึกฝนการต่อสู้ให้กับผู้ใช้ นั้นคือการ
ทางานของศิลาจาลองด้วยคุณสมบัติของมันที่สามารถทาการจาลอง
เพื่อฝึกฝนโดยที่ร่างของผู้ใช้ยังคงปลอดภัยไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใดมัน
จึงทาให้ศิลาจาลองนี้เป็นสิ่งที่มีราคาแพงเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้นทางอาณาจักรกลับสามารถแจกจ่ายพวกมันนับพัน
ชิ้นได้อย่างง่ายดายนี้สามารถประเมิณได้ว่าความร่ารวยของสมาคมนัก
ปรุงยาของอาจารย์สาวสวยของเขามันยังคงไม่สามารถเปรียบเทียบได้
กับสานักวังจันทราแห่งนี้
" โดยศิลาแต่ละชิ้นในตอนนี้พวกมันได้ถูกกาหนดให้คตู่ ่อสู้ของพวก
เจ้าเป็นนักรบที่มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกันกับพวกเจ้า สิ่งที่พวก
เจ้าต้องทาก็คือการสังหารพวกเขาเหล่านั้นให้ได้มากที่สุดโดยที่ทุกการ
สังหารนั้นพวกเจ้าจะได้รับแต้ม 20 แต้ม และจะมีแต้มสาหรับการ
สังหารคู่ต่อสู้ที่มีพีงต่
ลั ากว่าพวกเจ้าหนึ่งขั้น 5 แต้ม และหากพวกเจ้า
ต้องการที่จะเข้าร่วมสานักแห่งนี้พวกเจ้าจะต้องมีแต้มอย่างน้อย 50
แต้ม "
สิ้นเสียงผู้ควบคุมใบหน้าของศิษย์ใหม่แปรเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด มี
บางคนที่แสดงออกถึงความกังวลอย่างหนักด้วยการทดสอบเช่นนี้ไม่
สาคัญว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวมากเพียงใดแต่หากพวก
เขาไม่ได้มีพื้นฐานหรือทักษะการต่อสู้ที่เพียงพอพวกเขาจะไม่สามารถ
เข้าร่วมสานักแห่งนี้ได้

ตอนที่ 162
ศิษย์ใหม่ส่วนใหญ่ในตอนนี้พวกเขาต้องอยู่ในสภาวะกังวลเป็น
อย่างมาก ด้วยแต้มที่จะทาให้พวกเขาได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์ของ
สานักวังจันทราแห่งนี้คือ 50 แต้มนั้นหมายความว่าพวกเขาจะต้อง
สังหารผู้ที่มีพลังปราณเท่ากับพวกเขาถึงสามคนจึงจะเพียงพอหรือพวก
เขาสามารถสังหารผู้ที่มีพลังปราณเท่ากับพวกเขาเพียงสองและเลือก
สังหารผู้มีพลังปราณต่ากว่าพวกเขาอีกสองคน ไม่ว่าจะทางเลือกใด
พวกเขาทั้งหมดล้วนรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หลินหมิงเหลือบมองไปยังร่างของจิวหลินเล็กน้อยด้วยความกังวล
อันที่จริงแล้วสาหรับหลิวฉวนยูร์และหลัวฉิงเชี่ยนหลินหมิงไม่คิดว่าการ
ทดสอบเช่นนี้จะมีปัญหาใดกับพวกนาง แต่สาหรับภรรยาผู้น่ารักของ
เขาแล้วมันแตกต่างออกไป แม้ว่านางจะมีพลังพื้นฐานที่น่างทึ่งมาก
เพียงใดเพียงแต่ว่าตัวของนางไม่เคยได้สนใจแนวทางการต่อสู้มากสัก
เท่าไหร่นัก
" ท่านพี่เป็นกังวลเรื่องของข้าหรือเจ้าคะ "
จิวหลินนางสามารถรับรู้ได้ถึงสายตาของหลินหมิง เพียงแต่ว่าท่าที
การตอบสนองของนางนั้นต่างจากที่หลินหมิงคิดไว้มาก อันที่จริงแล้ว
นางดูเหมือนไม่ได้เห็นการทดสอบเช่นนี้อยู่ในสายตาเลยเสียด้วยซ้าไป
เมื่อได้เห็นความมั่นใจของจิวหลินเช่นนี้หลินหมิงคลายความกังวล
ลงไปหลายส่วนมันอาจเป็นไปได้ว่านางอาจได้รับคาแนะนาจากฟ่งซือ
เซียนมาก่อนหน้าแล้ว ? แต่ไม่สาคัญว่านางจะสามารถผ่านการ
ทดสอบนี้ได้หรือไม่หลินหมิงไม่คิดว่าทางสานักจะขับไล่นางออกไป
อย่างแน่นอน
" หากพวกเจ้าพร้อมแล้วพวกเจ้าสามารถเริ่มได้ในทันที แต่พวกเจ้า
จะต้องจาเอาไว้ว่าระยะเวลาของการใช้ศิลาจาลองนั้นมีเวลาให้พวก
เจ้าเพียงสองก้านธูปเท่านั้น "
สิน้ สุดคากล่าวของผู้อาวุโสที่ทาหน้าที่ควบคุมเหล่าศิษย์หน้าใหม่
พวกเขาต่างเริ่มนั่งทาสมาธิพร้อมกับถ่ายพลังปราณของพวกเขาลงไป
ในศิลาจาลอง
" เช่นนั้นพวกเราก็เริ่มกันเถอะ "
หลินหมิงกล่าวออกมา สตรีทั้งสามต่างจัดที่นั่งให้อยู่ใกล้เคียงกับ
หลินหมิง อันที่จริงแล้วในบริเวณที่หลินหมิงอยู่นั้นเป็นบริเวณที่ผู้คน
หลีกเลี่ยง นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อยากจะโดนเปรียบเทียบกับ
หลินหมิง
" ข้าสงสัยจริงๆว่าหากเขาไม่สามารถผ่านการทดสอบนี้ได้เช่นนั้น
แล้วทางสานักจะยังรับเขาเข้าเป็นศิษย์อยู่หรือไม่ ? "
บนที่นั่งของผู้ชมเสียงของบุรุษหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลังของเจ้า
สานัก ร่างของบุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าอันงดงามจนสามารถสยบเหล่าสตรี
ให้อยู่อาณัติเขาได้เพียงแค่จ้องมองเมื่อเจ้าสานักเห็นเช่นนั้นเขาลุกขึ้น
ยืนเล็กน้อยพร้อมกับเชื้อเชิญให้บุรุษหนุ่มผู้นี้สามารถนั่งลงข้างๆเขาได้
" แน่นอนว่าข้าจะยังรับเขาเข้าเป็นศิษย์อยู่ดี "
ร่างของบุรุษหนุ่มผู้นี้ก็คือหนึ่งในสองของผู้ที่มีสืบทอดบัลลังก์ต่อ
จากองค์จักรพรรดิคนปัจจุบัน เขาคือองค์ชายลาดับที่สอง แน่นอนว่า
แม้ว่าบุรุษหนุ่มตรงหน้านี้จะเป็นผู้ที่มีสิทธ์สืบทอดบัลลังก์และ
กลายเป็นจักรพรรดิในอนาคตแต่เขาก็ยังคงไม่ได้รับความเคารพจาก
เจ้าสานักหรือกระทั่งแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่
นั้นก็เป็นเพราะว่าตัวตนระดับสูงเหล่านั้นพวกเขาไม่ได้ต้องการ
แสดงออกว่าพวกเขาเลือกที่จะสนับสนุนให้ผู้ใดขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ
คนต่อไป สิ่งเดียวที่สามารถกาหนดได้นั้นก็คือความแข็งแกร่งของพวก
เขาเพียงเท่านั้น !
หลินหมิงในตอนนี้เริ่มถ่ายพลังปราณของเขาเข้าสู่ศิลาจาลองพร้อม
กับทาสมาธิในทันที เพียงแค่ชั่วเวลาอึดใจเดียวหลินหมิงพบว่า
ในตอนนี้เขากาลังอยู่ในที่ราบกว้างปราศจากต้นไม้ หรือสิ่งของใดๆ
โดยรอบโดยสิ้นเชิง
' หืม ? '
หลินหมิงพลันสังเกตได้ถึงร่างของชายวัยกลางคนที่อ่อร่า
ปลดปล่อยออกมาอย่างนางเกรงขามเพียงแต่ว่าใบหน้าของเขาในยาม
นี้ล้วนไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมา
' ระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ห้าเช่นเดียวกับข้า '
หลินหมิงหลังจากประเมิณศัตรูตรงหน้าแล้วเขาสามารถรับรู้ได้
ในทันทีว่านี้คือเป้าหมายที่เขาจะต้องสังหารอย่างแน่นอน บนที่นั่ง
ของผู้ชมเหล่าชนชั้นสูงจานวนมากพวกเขาคิดว่าหลินหมิงมีโอกาสน้อย
มากที่จะผ่านการทดสอบนี้ไม่สาคัญว่าเขาจะมีระดับความก้าวหน้าที่
น่ากลัวมากเพียงใด แต่การต่อสู้กับผู้ที่มีพลังเช่นเดียวกันเด็กหนุ่มผู้นี้
ด้วยเวลาเพียงสองก้านธูปนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากเกินไป
สาหรับการต่อสู้แล้วหากเป็นผู้ที่มีพลังระดับปราณเริ่มต้นหรือ
ปราณก่อเกิดช่วงต้นการต่อสู้ของพวกเขาล้วนแล้วแต่ใช้เวลาเพียงไม่
นานเนื่องจากพลังปราณของพวกเขานั้นยังคงมีจากัดอยู่มาก แต่
สาหรับการต่อสู้ของผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์แล้วนั้นมันแตกต่าง
ออกไปโดยสิ้นเชิง มันเป็นเรื่องยากมากที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสามารถ
สังหารอีกฝ่ายได้หากพวกเขาไม่ได้มีความสามารถที่มากเกินกว่าอีก
ฝ่าย
นั้นก็เพราะว่าหลังจากที่พวกเขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์ร่างกาย
และอวัยวะภายในร่างของพวกเขาล้วนถูกยกระดับจนไม่สามารถเทียบ
ได้กับผู้ที่มีพลังปราณก่อเกิดเลยแม้แต่น้อยนี้ยังไม่นับทักษะติดตัวอย่าง
โล่พลังปราณที่ผู้ที่มีระดับจอมยุทธ์จะต้องมีทุกคนด้วยแล้ว มันจึงเป็น
เรื่องยากมากที่ผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์จะสามารถได้รับบาดเจ็บได้
ในฝั่งตรงข้ามที่นั่งของเจ้าสานักร่างของชายที่เต็มไปด้วยหมัดกล้าม
ร่างของเขาปลดปล่อยอ่อร่าความกดดันและความแข็งแกร่งออกมาได้
จนผู้อาวุโสของสานักยังต้องหวาดหวั่น ที่ด้านข้างของเขานั้นมีบุรุษ
หนุ่มที่มีลักษณะร่างกายสมส่วนตามร่างของเขามีหมัดกล้ามให้เห็นอยู่
บ้าง พวกเขาทั้งสองก็คือแม่ทัพใหญ่แห่งวังหลวงและองค์ชายลาดับที่
หนึ่ง
" หาได้ยากยิ่งที่จะได้พบเห็นแม่ทัพโจวนั้นให้ความสนใจต่อรุ่นเยาว์
เช่นนี้ "
องค์ชายลาดับที่หนึ่งกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงสบายๆอันที่จริงแล้ว
สาหรับสถานการณ์ในการขึ้นครองบัลลังก์ในตอนนี้เขาเป็นฝ่ายที่กุม
ความได้เปรียบอยู่หนึ่งก้าวจากขุมอานาจที่สนับสนุนเขายังคงมี
มากกว่าน้องชายของเขา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาทั้สองรู้ดีว่าปัจจัยที่จะ
สามารถทาให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้มันจะเกิดขึ้นจากเด็ก
หนุ่มตรงหน้าของพวกเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
แน่นอนว่าในตอนนี้ความแข็งแกร่งของหลินหมิงยังไม่อาจนับได้ว่า
เพียงพอที่จะเป็นกาลังให้กับพวกเขา แต่หากเป็นเรื่องของภาพลักษณ์
และความมั่นคงในอนาคตแล้วละก็ฝ่ายใดที่สามารถดึงตัวเด็กหนุ่มผู้นี้
ให้อยู่กับพวกเขาได้พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในการขึ้นครองราชย์
ในทันที
" ข้าคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด "
แม่ทัพโจวผู้ยิ่งใหญ่กล่าวออกมาอย่างเรียบง่าย สาหรับเขาแล้วการ
แก่งแย่งชิงอานาจกันระหว่างองค์ชายทั้งสองนั้นเขาไม่ได้ให้
ความสาคัญกับมันเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าผู้ใดจะได้กลายเป็นจักรพรรดิ
คนต่อไปสิ่งที่เขาต้องทาก็ยังคงมีเพียงแค่การกาจัดศัตรูของอาณาจักร
เพียงเท่านั้น
ช่วงเวลาผ่านไปราวครึ่งก้านธูป ได้มีศิษย์ใหม่จานวนหนึ่งหลุด
ออกมาจากกาทาสมาธิของพวกเขามันไม่ใช่ว่าเพราะเกิดเรื่องผิดพลาด
แต่อย่างใดแต่นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาได้พ่ายแพ้ให้กับศัตรูแล้ว โดยไม่
ต้องใช้เวลาเหลือบมองไปที่ศิลาของศิษย์เหล่านี้แต้มของพวกเขา
เหล่านี้ไม่มีทางที่จะสามารถผ่านถึงเกณฑ์ตามที่สานักกาหนดเอาไว้ได้
อย่างแน่นอน
เหล่าศิษย์ใหม่ที่ต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาได้แต่ร่าร้อง
พร้อมกับเตรียมตัวที่จะจากไปในทันที มันจะมีประโยชน์อันใดให้พวก
เขาอยู่ที่นี้ต่อเพื่อได้รับความอับอายเพิ่มเติม พวกเขาเหล่านี้แม้ในเมือง
ของพวกเขาอาจจะถูกเรียกว่าอัจฉริยะแต่สิ่งเหล่านั้นมันเป็นเพราะ
ทรัพย์สมบัติที่ทางตระกูลของพวกเขาจัดเตรียมเอาไว้ให้เท่านั้นพวก
เขายังคงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถเข้าร่วมสานักแห่งนี้ที่
เต็มไปด้วยอัจฉริยะที่แท้จริงได้

ตอนที่ 163
เพียงแค่เวลาผ่านไปเพียงชั่วครึ่งก้านธูปเท่านั้นเหล่าศิษย์ใหม่
จานวนร้อยคนเดินออกจากลานประลองด้วยใบหน้าเศร้าสลดอันที่จริง
แล้วสาหรับการไม่ผ่านการคัดเลือกการทดสอบจากสานักมันย่อมเป็น
เรื่องที่น่าเจ็บปวดอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้มีชนชั้นสูงจากอาณาจักรจานวน
มากมาดูการทดสอบในครั้งนี้มันทาให้พวกเขารู้สึกอับอายจนไม่กล้า
ก้าวเท้าให้เกิดเสียงแต่อย่างใดไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาคงตกเป็นเป้า
สายตาให้ชนชั้นเหล่านั้นจดจาใบหน้าได้ในทันที
ในตอนนี้สาหรับศิษย์โดยทั่วไปที่ยังคงเหลือรอดอยู่พวกเขา
ตระหนักดีว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขานั้นไม่ใช่ว่าอ่อนแอ่เลยแม้แต่น้อย แต่
มันแตกต่างจากทางด้านของหลินหมิงไปโดยสิ้นเชิง
" อา "
เสียงผอนลมหายใจของเด็กหนุ่มที่ถือทวนยาวเป็นอาวุธที่ดูขัดกับ
รูปลักษณในวัยของเขาเป็นอย่างมาก ที่บริเวณโดยรอบร่างของเด็ก
หนุ่มผู้นี้ถูกเรียงรายไปด้วยร่างไร้ชีวิตเป็นจานวนมาก
' มันไม่มีปัญหาสาหรับข้าที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีระดับพลัง
ปราณเท่ากัน '
ร่างของเด็กหนุ่มผู้นี้ก็คือหลินหมิง สาหรับการทดสอบในครั้งนี้
จานวนของศัตรูจะเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆหลังจากที่พวกเขาสามารถสังหาร
เป้าหมายได้แล้ว แน่นอนว่าในตอนนี้หลินหมิงได้ทาการสังหารร่าง
จาลองของผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ห้าไปแล้วกว่าสิบคนไม่เพียง
เท่านั้นมันยังมีร่างของผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่สี่ด้วยจานวน
ใกล้เคียงกันอีกด้วย
แน่นอนว่าหากเป็นการต่อสู้ธรรมดานั้นหลินหมิงคงไม่ได้ให้ความ
สนใจกับมันมากนัก แต่ภายในศิลาจาลองนี้เขาสามารถเรียนรู้กระบวน
ท่าและทักษะกระทั่งประสบการณ์ต่างๆจากเหล่าผู้ที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์เหล่านี้
" ฮ่าห์ !! "
เสียงคารามต่าของหลินหมิงพร้อมกับร่างของเขาที่ครอบคลุม
ด้วยอ่อร่าสีดาทมิฬ ทวนในมือของเขาสามารถตวัดรับมือกับคู่ต่อสู้ตรง
หน้าที่เพิ่มจานวนมาจนกระทั่งมีทั้งหมดเจ็ดคนได้อย่างไม่มีปัญหา อัน
ที่จริงแล้วด้วยจานวนของศัตรูที่เพิ่มขึ้นนี้มันไม่ได้สร้างความกดดัน
ให้กับหลินหมิงมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นแล้วมันไม่มีความจาเป็นใดที่เขา
จะต้องใช้พลังปราณหรือทักษะทั้งหมดออกไป ที่หลินหมิงใช้ออกใน
การต่อสู้ครั้งนี้มีเพียงทักษะหอกและพลังกายของเขาเพียงเท่านั้น
" พวกเขามีรูปแบบค่ายกลด้วยเช่นนั้น ? "
หลินหมิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าศัตรูตรงหน้าของเขาที่
ไร้ความรู้สึกแต่พวกเขาทั้งหมดสามารถสอดประสานรวมมือกัน
แม้กระทั่งสร้างค่ายกลเพื่อโจมตีเขา แม้ว่ามันจะเป็นการร่วมสร้างค่าย
กลจากผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นห้าถึงเจ็ดคนไม่เพียงเท่านั้นที่
บริเวณรอบนอกยังคงปรากฎร่างของศัตรูที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่สี่
ที่กาลังสร้างค่ายกลเพื่อจากัดการเคลื่อนไหวของหลินหมิง
' น่าสนใจ '
หลินหมิงสามารถประเมิณความแข็งแกร่งของค่ายกลสองชั้น
เหล่านี้ได้ไม่มากก็น้อยอันที่จริงแล้วมันสมควรมีพลังเพียงพอที่จะ
ต่อต้านผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่เจ็ดหรือถึงกระทั่งขั้นที่แปดได้เลย
เสียด้วยซ้าไป แม้กระทั่งกลุ่มนักฆ่าที่มีชื่อเสียงก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่
มีการใช้รูปแบบค่ายกลที่น่ากลัวเช่นนี้
หลินหมิงตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นในด้านการศึกษาจากการต่อสู้ในครั้ง
นี้มากกว่าการทาแต้มเพราะอย่างไรเสียในตอนนี้แต้มของเขามันเรียก
ได้ว่าเกินพอไปแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งเกือบครบสองก้านธูปเหล่าศิษย์ใหม่
จานวนสามร้อยคนได้เดินจากไปด้วยใบหน้าเศร้าสลดไม่ต่างจากพวก
แรก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนที่แสดงสีหน้าเปี่ยมสุขออกมาแม้ว่า
พวกเขาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดจนกระทั่งหมดเวลาแต่เรื่องนั้นมัน
ยังคงสาคัญเท่ากับการที่พวกเขามีแต้มเพียงพอที่สามารถผ่านการ
ทดสอบนี้ ?
" 50 แต้ม ผ่าน ! "
เสียงของผู้ควบคุมที่ดังขึ้นเมื่อเขาได้ตรวจสอบให้แก่เหล่าศิษย์ที่ยื่น
ศิลาจาลองเพื่อแสดงความสามารถให้แก่เขา ส่วนใหญ่แล้วผู้คนจะมี
แต้มอยู่ในช่วง 50 - 60 แต้มเพียงเท่านั้น นั้นหมายความว่าพวกเขา
สามารถสังหารผู้ที่มีพลังระดับเดียวกับตนได้สองถึงสามคน ซึ่งมันไม่
น่าแปลกใจสักเท่าไหร่เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นตัวแทนของ
อัจฉริยะจากเมืองต่างๆ
" 70 แต้ม ! "
เมื่อได้ยินเสียงนี้กลุ่มศิษย์ใหม่ที่ได้ยินถึงกับตื่นตระหนกแม้ว่ามันจะ
เป็นความห่างของคะแนนเพียง 20 แต้มแต่มันสามารถบ่งบอกได้ถึง
ความห่างชั้นของพวกเขาได้อย่างชั้นเจน ชายหนุ่มที่ได้แต้ม 70 แต้ม
ในตอนนี้เขากาลังภาคภูมิใจกับผลงานความแข็งแกร่งของเขาที่เป็นที่
ประจักษ์ในตอนนี้ เช่นนี้แล้วเป็นไปได้หรือไม่ว่าข้าจะสามารถได้รับคา
เชิญจากชนชั้นสูงพวกนั้น สายตาโดยรอบของศิษย์ส่วนใหญ่เต็มไปด้วย
ความอิจฉาแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงอยู่ได้ไม่นานนัก
" 75 แต้ม ! "
" 80 แต้ม ! "
ด้วยเวลาที่ใกล้จะหมดเหล่าศิษย์ส่วนใหญ่ในตอนนี้ได้ลืมตาได้สติ
ขึ้นมาแต้มของพวกเขาถูกเปิดเผยออกมาจนทาให้ชายหนุ่มผู้ได้แต้ม
70 แต้มก่อนหน้าถึงกับก้มหน้าด้วยความอับอาย อันที่จริงแล้วเขา
น่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันยังคงมีศิษย์อีกจานวนไม่น้อยที่ยังคง
สามารถทาการทดสอบต่อไปได้นั้นหมายความว่าพวกเขาอาจทา
คะแนนได้มากกว่าเขา
" 100 แต้ม ! "
เสียงของผู้ควบคุมดังขึ้นอีกครั้งเพียงแต่ในคราวนี้ผู้คนโดยรอบล้วน
หันมามองยังต้นเสียงด้วยสายตาเดียวกันอันที่จริงแล้วจนกระทั่งถึง
ในตอนนี้แต้มที่สามารถพบเห็นได้มากที่สุดก็คือ 90 แต้มเพียงเท่านั้น
" เฮ้อ ~ "
ร่างของหญิงสาวที่ได้รับการประกาศแต้มจาวน 100 แต้มจากผู้
ควบคุมถอนหายใจออกมาด้วยใบหน้าผิดหวังเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น
ผู้คนโดยรอบกลับไม่คิดเช่นนั้นใบหน้าของสาวงามที่ดูอ่อนแอ่พวกเขา
ไม่เคยคิดเลยว่านางจะมีความสามารถที่เหนือกว่าพวกเขามากถึงเพียง
นี้ !
' ข้าคิดว่าอย่างน้อยข้าน่าจะสามารถสังหารได้อีกสักคน '
นางคิดอยู่ภายในใจและเหลือบไปมองร่างของเด็กหนุ่มที่อยู่ข้าง
กายของนาง สตรีนางนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากจิวหลิน ก่อนหน้า
นี้แม้ว่าพลังปราณในร่างของนางนั้นจะถูกพัฒนาจนอยู่ในระดับที่ยอด
เยี่ยมแต่ถึงอย่างนั้นนางตระหนักดีว่านางยังคงคาดประสบการณ์ใน
การด้านการต่อสู้ดังนั้นแล้วเพื่อที่นางจะสามารถอยู่เคียงข้างหลินหมิง
ได้นางได้มั่นศึกษาทักษะต่างๆจากตระกูลและจากคาแนะนารวม
กระทั่งทักษะหายากต่างจากฟ่งซือเซียน
ศิษย์ใหม่หลายคนจ้องไปที่จิวหลินด้วยสายตายากแก่การคาดเดา
อันที่จริงแล้วพวกเขาสามารถคาดเดาฐานะของนางต่อหลินหมิงได้ใน
ยามที่ทั้งสองไดเดินมาพร้อมกัน โดยไม่มีใครกล่าวสิ่งใดทุกสายตาล้วน
จับจ้องมองไปที่ร่างทั้งสองสามที่ยังคงนั่งทาสมาธิที่อยู่นั้นก็คือหลัวฉิง
เชี่ยน หลิวฉวนยูร์ และหลินหมิงเป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวประหลาดที่
เหลืออีกสามคนจะมีความสามารถเช่นเดียวกันกับนาง ?
" 110 แต้ม ! "
ทันใดนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกล่าวขานคะแนนของศิษย์ที่เป็น
สถิติใหม่อีกรอบพวกเขารีบหันไปทางต้นเสียงอีกครั้ง ร่างของเด็กหนุ่ม
ที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองพร้อมกับจ้องมองมาที่จิวหลิน อันที่จริง
แล้วกล่าวได้ว่าเขาเพ็งเล็งไปที่หลินหมิงเสียมากกว่า
" นั้นบุตรของรองเจ้าสานัก กงซุนหยาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใด
เขาถึงได้พรสวรรค์ที่ดีเลิศเช่นนี้ ! "
กงซุนหยางนั้นแน่นอนว่าเขามีความไม่พอใจในตัวของหลินหมิงอยู่
ไม่น้อยแม้ว่าทั้งสองจะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน สาหรับตัวเขาที่เกิด
มาพร้อมชื่อเสียงของบิดาที่เป็นถึงรองเจ้าสานักวังจันทราพร้อมกับ
พรสวรรค์ของเขาที่เรียกได้ว่าหาได้ยากยิ่งอนาคตของเขาถูกคาดหวัง
เอาไว้ว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ของวังหลวงได้หากเขา
สามารถบ่มเพาะตนได้อีกสักยี่สิบปี
แต่ถึงอย่างนั้นชื่อเสียงของเขาในสานักในคราวนี้กลับกลายเป็นว่าง
เปล่าเมื่อมีการปรากฎตัวของเด็กหนุ่มที่มีความสามารถที่เรียกได้ว่า
แม้แต่ผู้อาวุโสของสานักหลายคนยังต้องอับอาย นั้นก็คือหลินหมิง !
กงซุนหยางไม่คิดว่าหลินหมิงจะสามารถทาคะแนนไปได้มากกว่า
เขาอย่างแน่นอนอันที่จริงแล้วเขาไม่คิดว่าใครในที่นี้จะสามารถทา
คะแนนได้ใกล้เคียงเขาเลยเสียด้วยซ้าแต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดพลาด
ไปเล็กน้อยที่จิวหลินยังคงสามารถทาคะแนนได้ต่างจากเขาเพียง
เล็กน้อยเท่านั้น
" หมดเวลา "
ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปที่กลุ่มของหลินหมิงที่ค่อยๆลืมตาตื่นจาก
สมาธิแน่นอนว่ามันไม่ได้มีเพียงกลุ่มของหลินหมิงเท่านั้นที่สามารถอยู่
จนกระทั่งครบกาหนดเวลาเพียงแต่ว่าสิ่งที่ผู้คนสนใจในตอนนี้มีเพียง
แต้มของหลินหมิงเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 164
หลินหมิงลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่เหล่าสตรีข้างกาย
ของเขา หลินหมิงพบว่าจิวหลินนั้นดูเหมือนว่านางจะใช้เวลาเสร็จสิ้น
เร็วกว่าเขาเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเขามองไปที่ศิลาจาลองของนาง
ที่แสดงคะแนนของนางอยู่ในตอนนี้มันดูเหมือนว่าเขาไม่จาเป็นต้อง
กังวลสิ่งใดกับภรรยาผู้น่ารักของเขาแล้ว
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่รู้ว่านางทาได้อย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่านางคง
ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนาตนเอง และเมื่อหลินหมิง
เหลือบมองไปยังสองสาวข้างกายเขาที่เหลือหลัวฉิงเชี่ยนใบหน้าของ
นางปราศจากความกังวลใดๆอันที่จริงแล้วหลินหมิงรับรู้ดีถึง
ความสามารถของศิษย์แสนสวยของเขานางนี้ อันที่จริงแล้วด้วย
พรสวรรค์ของนางนั้นนางสมควรถูกยกย่องให้เหนือกว่ากระทั่งกงซุนห
ยางเสียด้วยซ้าไป
" ฮิฮิ เจ้าตัวร้ายข้าสามารถบอกได้เลยว่าคะแนนของเจ้าจะต้องต่า
กว่าพี่สาวจิวหลิน ! "
เสียงของแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ดังขึ้นมา สาหรับนางแล้วแม้ว่า
นางจะรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของหลินหมิงที่สามารถเอาชนะผู้ที่มีพลัง
แข็งแกร่งกว่าตนเองมาได้ แต่ช่องว่างระหว่างผู้ที่มีรพลังระดับจอม
ยุทธ์แต่ละขั้นนั้นมันยังคงมากเกินไป นางไม่คิดว่าหลินหมิงจะสามารถ
ทาคะแนนได้ดีสักเท่าไหร่นักแต่นางก็ไม่คิดว่าเขาจะไม่ผ่านการทดสอบ
นี้เช่นเดียวกัน
" เช่นนั้นเจ้ากล้าพนันกับข้าหรือไม่ว่าระหว่างเจ้ากับข้าใครจะได้
แต้มมากว่ากัน ? "
หลิวฉวนยูร์ยิ้มอย่างสดใสไปที่หลินหมิงตามความคิดของนาง
หลินหมิงอาจประเมิณความแข็งแกร่งของนางต่าเกินไป อันที่จริงแล้ว
หลังจากที่นางได้ออกไปทาภารกิจกับผู้อาวุโสซูหลิ่งอาจารย์ของนาง
ครั้งล่าสุดนางได้พบประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ทาให้นางสามารถ
ก้าวหน้าได้อย่างน่าทึ่ง !
" ได้สิ ! หากผู้ใดแพ้จะต้องยอมรับฟังคากล่าวของผู้ชนะโดยไม่มี
ข้อแม้ พี่สาวทั้งสองโปรดเป็นพยานด้วย "
" เจ้าอย่าลืมคากล่าวของเจ้าล่ะ "
ในตอนนี้หลัวฉิงเชี่ยนและจิวหลินได้แต่พยักหน้ารับคาขอของ
หลิวฉวนยูร์แม้แต่พวกนางเองก็คิดว่าหลินหมิงไม่น่าจะมีความสามารถ
เพียงพอที่จะสามารถเอาชนะจิวหลินได้ อีกทั้งพวกนางทั้งสองยังคงพอ
ทราบถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของแม่สาวตัวน้อยนี้อยู่บ้าง
" ฮิฮิ เจ้าอย่าได้ขอร้องข้าก็แล้วกันหากข้าสั่งให้เจ้าห้ามมีสตรีอื่นอีก
!"
บรรยากาศของกลุ่มหลินหมิงที่กาลังหยอกล้อกันอย่างคลายกังวล
ผิดกับเหล่าศิษย์จานวนมากที่กาลังจ้องมองมาที่พวกเขา
' บัดซบ พวกเขาไม่รู้หรืออย่างไรกันว่ามีผู้ใดมองพวกเขาอยู่กัน ? '
ผู้ควบคุมการทดสอบเดินเข้าไปหากลุ่มของหลินหมิงศิลาจาลอง
ของหลัวฉิงเชี่ยนถูกนาไปตรวจสอบเป็นคนแรกจากทั้งสามคน เมื่อได้
เห็นคะแนนที่ปรากฎขึ้นบนศิลาจาลองผู้อาวุโสที่ควบคุมการทดสอบ
เบิกตากว้างขึ้นในทันที ด้วยท่าทีของผู้ควบคุมที่เป็นเช่นนี้เขาที่ต้อง
เป็นเป้าสายตาของผู้คนโดยรอบ ทาให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถบ่ง
บอกถึงความแปลกประหลาดนี้ได้ในทันที
" หรือว่า !! "
หลายคนในตอนนี้เริ่มมีความคิดอยู่ภายในใจของพวกเขาที่
คล้ายคลึงกันหลังจากที่ได้เห็นท่าทีของผู้ควบคุม
" 150 แต้ม ! "
สวรรค์ !
เทียบกับพวกเขาส่วนใหญ่ที่ผ่านการทดสอบมาด้วยแต้มขั้นต่านั้นก็
คือ 50 แต้มนั้นหมายความว่าหญิงสาวตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้มี
ระดับพรสวรรค์และความสามารถในการต่อสู้ที่เหนือกว่าพวกเขาสาม
เท่า ? แน่นอนว่ามันย่อมไม่เป็นเช่นนั้นระยะห่างระหว่างแต้มแม้เพียง
ห้าแต้มหรือสิบแต้มแม้มันจะดูเป็นความห่างเพียงเล็กน้อยแต่มันไม่ใช่
อย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย นี้คือความจริงที่พวกเขาตระหนักได้
กงซุนหยางกัดฟันจ้องมองไปที่หลัวฉิงเชี่ยนด้วยสายตาทมึง เขาไม่
คิดเลยว่าจะมีใครที่มีความสามารถที่เหนือล้ากว่าเขาอีกเช่นนี้ ไม่ใช่ว่า
ในบรรดาศิษย์รุ่นนี้เขาถูกกล่าวขวัญว่าเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด
หากไม่นับหลินหมิงด้วยผลลัพธ์เช่นนี้มันราวกับว่าเขาถูกตบหน้าเข้า
อย่างรุนแรง
บุรุษหนุ่มหลายคนเมื่อมองไปที่รูปร่างของหลัวฉิงเชี่ยนแน่นอนว่า
พวกเขาย่อมมีความปราถนาที่จะครอบครองนางแต่ถึงอย่างนั้นพวก
เขารู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยไม่ต้องให้ผู้ใดบอกกล่าวในเมื่อ
นางยินยอมที่จะใกล้ชิดกับหลินหมิงเช่นนี้โดยไม่ถือตัวนั้นไม่ได้
หมายความว่ายนางถูกจับจองโดยหลินหมิงแล้ว ? เมื่อเป็นเช่นนั้นพวก
เขาจะยังคงมีสิทธ์อันใดอยู่กัน
" ยินดีด้วยศิษย์พี่ ! "
เมื่อได้รับคากล่าวยินดีจากหลินหมิงหลัวฉิงเชี่ยนรู้สึกหัวใจของนาง
เบิกบานขึ้นในทันทีอันที่จริงแล้วความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้หาก
เทียบกับในหลายเดือนก่อนหน้านี้นางคงไม่สามารถทาแต้มได้เพีย
อย่างมากก็ใกล้เคียงกับกงซุนหยางหรือกระทั่งน้อยกว่า เพียงแต่ว่า
หลังจากที่นางได้ออกไปทาภารกิจร่วมกับหลินหมิงไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด
กันนางจาได้ว่าในภารกิจคราวนั้นมันเป็นเพียงภารกิจตรวจสอบ
ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่นางกลับมานางกลับพบว่าพลัง
ปราณในร่างกายของนางหนาแน่นขึ้นอย่างมาก
" เจ้าตัวร้าย หากเจ้าทาตัวดีดีแล้วละก็ข้าอาจจะสั่งให้เจ้าทาเรื่อง
ง่ายๆเพียงเท่านั้น "
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับยื่นศิลาจาลองของนางไปให้กับผู้ควบคุม
นี้เป็นอีกครั้งที่เขาต้องรู้สึกตกใจจนสุดขีดเมื่อเขามองกลับไปยังร่างของ
หลิวฉวนยูร์พร้อมกับจ้องมองเพื่อคาดเดาอายุของนาง ไม่ใช่ว่านางเพิ่ง
มีอายุเพียง 14 ปี ? สาหรับรุ่นเยาว์ที่มีอายุเพียงเท่านี้แม้ว่าพวกเขาจะ
มีการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาจะยังคงอ่อนด้อย
ประสบการณ์และมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถผ่านการทดสอบ
ที่วัดความสามารถในการต่อสู้ไม่ใช่ระดับพลังนี้ได้
" 160 แต้ม !! "
ผู้คนโดยรอบแทบอยากจะเป็นลม โดยเฉพาะผู้ที่ได้คะแนน 50
แต้มพวกเขาแทบอยากจะนาใบหน้าซ่อนไว้ที่ใต้พื้นดินสาหรับพวกเขา
ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปนั้นหมายความว่าพวกเขามีเวลาสั่งสม
ประสบการณ์ที่มากกว่าสาวน้อยตรงหน้าถึงสี่ปี แต่ถึงอย่างนั้นผลลัพธ์
ที่เกิดขึ้นมันช่างแตกต่างราวกับฟ้ากับเหว
ด้วยคะแนนแต้มของนางคือ 160 แต้มนั้นหมายความว่านาง
สามารถสังหารผู้ที่มีพลังระดับเดียวกันกับนางได้ถึง 8 คน ? หรือไม่ก็
นางอาจจะสังหารพวกเขาเหล่านั้นในจานวนที่น้อยกว่าและเลือกที่จะ
สังหารผู้ที่มีพลังระดับน้อยกว่านางหนึ่งขั้นแทน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันก็ยังน่าตกใจอยู่ดี แม้แต่หลินหมิงเองก็ยังคงไม่
อยากจะเชื่อย้อนกลับไปเมื่อหกเดือนก่อนนางยังคงเป็นเด็กสาวที่
หวาดกลัวยามที่อยู่ต่อหน้าวานรสองเขาสัตว์อสูรพลังปราณระดับ
เริ่มต้นขั้นสูงสุดอยู่เลยในตอนนั้นนางราวกับเป็นเพียงเด็กสาวที่มีฐานะ
สูงส่งเพียงเท่านั้น
" ฮิฮิ เจ้าพลาดแล้วล่ะเจ้าตัวร้าย ! "
ไม่น่าแปลกใจเลยที่น่าจะมีความมั่นใจในตนเองมากถึงเพียงนี้ !
หลินหมิงยื่นศิลาจาลองของเขาไปยังผู้ควบคุมโดยไม่สนใจท่าทีของ
หลิวฉวนยูร์ที่แสดงท่าทียั่วยุโดยพร่าคาสั่งที่นางต้องการขอเขาออกมา
เป็นชุดๆ
" นี้...มัน ! "
ในตอนนี้แม้แต่ชนชั้นสูงก็ยังคงจับตามองไปที่ศิลาจาลองที่อยู่บน
มือของผู้ควบคุมมือของเขาสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับจ้อง
มองไปที่หลินหมิง เหล่าผู้คนแทบอยากจะตะโกณด่าผู้ควบคุมผู้นี้ให้
รีบเร่งบอกแต้มของหลินหมิงเสียที สาหรับกงซุนหยางในตอนนี้ไม่
เพียงแต่แต้มของเขาจะไม่ได้เป็นเพียงอันดับสองแต่มันยังลงไปถึง
อันดับสามและมันยังคงเป็นความห่างชั้นจากระดับหนึ่งและสองเป็น
อย่างมาก
เมื่อเป็นเช่นนี้ความปราถนาเดียวของเขาก็คือการเอาชนะหลินหมิ
งขอเพียงแค่แต้มของเขามีมากกว่าหลินหมิงนั้นก็เพียงพอที่จะทาให้
เขาสามารถคลายความหงุดหงิดในตอนนี้ได้บ้าง !
" หะ..ห้า... "
เสียงสั่นของผู้ควบคุมที่กล่าวออกมาประโยคสามารถทาให้ผู้คน
คาดเดาถึงแต้มของหลินหมิงได้
" อย่างน้อยมันเขาก็ยังคงได้คะแนน 50 แต้มเช่นเดียวกันกับข้า ! "
" เฮ้อ ~ มันทาให้ข้ารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน "
เมื่อผลลัพธ์เป็นเช่นนี้พวกเขาต่างคิดเช่นเดียวกันว่าการที่พวกเขา
ได้แต้มเท่ากับยอดอัฉริยะของอาณาจักรมันก็ดูเป็นสิ่งที่ไม่เลวนัก
เพียงแต่ว่าทันใดนั้นเสียงคากล่าวต่อมาของผู้ควบคุมทาให้ทั่วทั้งลาน
ประลองเงียบกริบ
" ร้อย.....ห้าร้อยแต้ม !!! "

ตอนที่ 165
" ห้าร้อยแต้ม !! "
ใบหน้าของผู้คนโดยรอบล้วนซีดเผือกลาพังเพียงแค่ความแข็งแกร่ง
ของหลินหมิงที่เกินสามัญสานึกโดยทั่วไป มันก็แทบจะทาให้พวกเขาที่
เป็นผู้อาวุโสของสานักหรือบรรดาชนชั้นสูงจากอาณาจักรสามารถอับ
อายได้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมีพรสวรรค์ในด้านการต่อสู้ที่สูงส่งเป็น
อย่างมาก !
ด้วยผลลัพธ์จากบททดสอบมันสามารถบ่งบอกถึงความสามารถใน
การต่อสู้ของเหล่าศิษย์รุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าพวกเขาบางคนจะมี
พลังในระดับก่อเกิดแล้วก็ตามแต่พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถทาแต้มได้
มากเกินกว่า 60 แต้มอยู่ดีความยากของแบบบททดสอบนี้คือการ
เอาชนะผู้ที่มีพลังในระดับเดียวกันกับพวกเขา ซึ่งนั้นหมายความว่า
พวกเขาจะต้องมีทักษะการต่อสู้ที่เหนือล้ากว่าผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะ
โดยทั่วไป !
แต่ถึงอย่างนั้นไม่ใช่ว่าในกรณีของหลินหมิงนั้นมันย่อมต่างออกไป
ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ? แม้ว่าเหล่าศิษย์จะไม่สามารถประเมิณความ
แข็งแกร่งของหลินหมิงได้แต่พวกเขาก็พอทราบข่าวลือเรื่องระดับพลัง
ของหลินหมิงจากการที่เขาสามารถตบหน้าของผู้อาวุโสที่ทาการเฝ้า
ประตูสานักได้ ซึ่งนั้นหมายความว่าหลินหมิงในตอนนี้ย่อมมีความ
แข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ !
" เขามีความสามารถในการต่อสู้กับผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์นับสิบ
คนได้ภายในสองก้านธูป ! "
บนลานที่นั่งฝั่งผู้ชมบุรุษหนุ่มทั้งสองที่ยังคงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน
พวกเขาจ้องมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตายากแก่การคาดเดา พวกเขา
ทั้งสองก็คือองค์ชายลาดับที่หนึ่งและสองอันที่จริงแล้วพวกเขาให้
ความสาคัญกับหลินหมิงในการเชื้อเชิญเด็กหนุ่มผู้นี้ให้เข้าร่วมกับฝ่าย
ของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นด้วยผลลัพธ์ที่ปรากฎขึ้นในตอนนี้พวกเขา
กาหมัดแน่นพร้อมกับจ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาเดียวกัน
' ข้าจะเสียเขาไปไม่ได้ ! '
กุงซุนหยางคุกเข่าลงด้วยความรู้สึกท้อแท้อันที่จริงแล้วสาหรับตัว
เขาที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองมาตั้งแต่อดีตเขาเพียงแค่คิดว่าหลินห
มิงอาจได้พบความบังเอิญจนสามารถก้าวหน้ามาได้จนถึงจุดนี้ แต่ด้วย
แต้มของหลินหมิงในตอนนี้มันสามารถบอกได้เลยว่าแม้ว่าเขาจะไม่ได้
มีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์หรืออาจมีความแข็งแกร่งในระดับ
เดียวกันกับเขาหรือด้อยกว่า หลินหมิงผู้นี้ย่อมสามารถเอาชนะเขาได้
ราวกับการเหยียบหมดตัวหนึ่งเท่านั้น !
" เอ่อ "
หลิวฉวนยูร์เมื่อนางได้เห็นผลลัพธ์เช่นนี้ของหลินหมิงนางไม่รู้ว่า
ตนเองสมควรจะรู้สึกเช่นไรดี แน่นอนว่านางรู้ว่าเจ้าตัวร้ายของนางผู้นี้
มีความสามารถที่เหนือล้ายิ่งกว่าผู้ใดแต่นี้มันจะไม่มากเกินไปอย่างนั้น
หรือ ?
" เจ้าคงไม่ลืมคากล่าวของเจ้าสินะ ? "
เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงหลิวฉวนยูร์รู้สึกขวยเขินเล็กน้อย
อันที่จริงแล้วนางรู้ดีว่าเจ้าตัวร้ายของนางผู้นี้มีความปราถนาในสิ่งใด
เมื่อนางหวนนึกภาพเหตุการณ์ในอนาคตกับคาขอของหลินหมิงใบหน้า
ของนางพลันขึ้นสีแดงระเรื่อ
สาหรับหลินหมิงแล้วในการทดสอบครั้งนี้เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับ
คะแนนของเขามากนัก อันที่จริงแล้วในช่วงหนึ่งก้านธูปที่เหลือหลินห
มิงได้ใช้เวลาในการศึกษาการตอบโต้ค่ายกลของศัตรูพร้อมกับหาวิธี
หนทางรับมือหรือกระทั่งการนาไปใช้ ! ไม่เช่นนั้นแล้วแต้มของเขาอาจ
กระทั่งทะลุถึง 1000 แต้มด้วยการที่เขาทุ่มพลังจนหมดตัวพร้อมกับ
เปิดการใช้งานทักษะต่างๆของเขา
ทางสานักให้เวลาสาหรับศิษย์ใหม่ในการพักผ่อนราวครึ่งชั่วยาม
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทาการต่อสู้จริงๆแต่ถึงอย่างนั้นด้วยการใช้ศิลา
จาลองมันทาให้พวกเขาต้องรู้สึกเหนื่อยล้าจิตอยู่ไม่ใช่น้อย
แต่มันกลับไม่เกิดขึ้นกับกลุม่ ของหลินหมิงสาหรับกลุ่มของหลินห
มิงในตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยชีวิตชีวาหากไม่นับเรื่องที่จิวหลินนั้นมี
คะแนนน้อยกว่ากุงซุนหยางเพียงเล็กน้อยกล่าวได้ว่าผู้ที่ได้คะแนน
สูงสุดนั้นมาจากกลุ่มของหลินหมิงด้วยกันทั้งหมด ลาพังเพียงแค่
ความสามารถของหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมันก็เพียงพอที่จะทาให้ผู้คนรู้สึกตื่น
ตะลึง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครที่เหนือกว่าหลิวฉวนยูร์ได้
ในตอนนี้เมื่อหลินหมิงได้รับโอกาสเขาไม่มีทางที่จะปล่อยโอกาส
งามเช่นนี้ในการหยอกล้อกับแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์อย่างเช่นว่า
เช่นนั้นข้าจะสั่งอะไรดีน้า ? แน่นอนว่านี้เป็นคากล่าวของนางในก่อน
หน้านี้ ส่วนจิวหลินและหลัวฉิงเชี่ยนนั้นพวกนางเต็มไปด้วยความอยาก
รู้ว่าหลินหมิงสามารถทาแต้มได้มากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
ด้วยสายตาอันมุ่งมั่นของสองสาวรวมกระทั่งหลิวฉวนยูร์ที่ยังคง
ปราถนาที่จะรับรู้ด้วยเช่นเดียวกันเพียงแต่นางไม่กล้าที่จะแสดงออกมา
มากนักเพียงเท่านั้น หลินหมิงได้เล่าการกระทาของเขาเพียงคร่าวๆ
เพื่อให้พวกนางได้รับรู้
" เช่นนั้นท่านพี่สามารถสังหารผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ได้ใน
กระบวนท่าเดียว ! "
" ศิษย์เจ้ากระทั่งต้องรับมือกับค่ายกลจากเหล่าศัตรูเช่นนั้น ? "
ในจานวนศิษย์ที่ลงเหลืออยู่จากทั้งหมดหนึ่งพันคนในตอนแรก
ในตอนนี้กลับเหลือเพียงสี่ร้อยคนเท่านั้น แน่นอนว่ามันยังคงเป็น
จานวนที่มากอยู่พอสมควร และพวกเขาที่เหลืออยู่ทั้งหมดสี่ร้อยคนนี้
แม้จะเป็นผู้ที่ได้แต้มเพียง 50 แต้มแต่พวกเขาถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน
อัจฉริยะที่หาได้ยากอย่างไม่ต้องสงสัย
" เอาล่ะเช่นนั้นพวกเราจะเริ่มการทดสอบในส่วนที่สองกัน "
ไม่รู้ด้วยเหตุใดหลินหมิงกลับพบว่าผู้ที่ควบคุมการประลองในครั้งนี้
ถูกเปลี่ยนไป เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะตกใจในแต้มของหลินหมิงจนไม่
อาจทาหน้าที่ได้ต่อไปแล้ว ? แน่นอนว่าในระหว่างการพักผ่อนครึ่งชั่ว
ยามที่ผ่านมาแม้ว่าเหล่าชนชั้นสูงบนที่นั่งของผู้ชมจะมีหลายคนที่
อยากจะมาพูดคุยกับหลินหมิงเพื่อทาความรู้จักแต่พวกเขาย่อมไม่อาจ
ทาได้เนื่องจากมันเป็นกฎของทางสานักแม้กระทั่งองค์ชายทั้งสองก็ไม่
อาจละเมิด !
เหล่าศิษย์ต่างกลับมารวมกันที่ลานเพื่อรับฟังแบบทดสอบในส่วนที่
สอง อันที่จริงแล้วจากคากล่าวของผู้ควบคุมก่อนหน้าในตอนนี้พวกเขา
ถือว่าได้เป็นศิษย์ของสานักวังจันทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมันยังมี
สิ่งใดที่พวกเขาจะต้องทดสอบอีกกัน ?
" พวกเจ้าไม่จาเป็นต้องกังวลในการทดสอบนี้มากนักอันที่จริงแล้ว
ทางสานักได้มีแบบทดสอบส่วนที่สองนี้เพื่อให้พวกเจ้าสามารถพบ
ความก้าวหน้า มันคือการเข้าไปในมิติเร้นลับ ! "
เหล่าศิษย์หลายคนสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ไม่มีทางที่พวกเขาจะ
ไม่รู้ว่ามิติเร้นลับคือสิ่งใด มันคือมรดกตกทอดจากในอดีตของ
อาณาจักรแห่งนี้กล่าวได้ว่ามันได้มีสมบัติมากมายถูกเก็บเอาไว้อยู่
มากมายนานนับล้านปีเลยก็ว่าได้ แววตาของพวกเขาลุกโชนไปด้วย
ความหวังในการก้าวหน้ามันอาจเป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาอาจจะ
กระทั่งกลายเป็นหลินหมิงคนที่สอง ?
" และเนื่องจากเงื่อนไขในการเข้ามิติเร้นลับนั้นคือการเข้าไปได้
เพียงแค่ครั้งเดียว และมันยังคงมีเงื่อนไขในการจากัดอายุอยู่ที่ต่ากว่า
20 ปี ดังนั้นแล้วเพื่อให้พวกเจ้าได้มีการเตรียมตัวที่ดีพร้อมที่สุดทาง
สานักของเราจะให้เวลากับพวกเจ้าอีกเจ็ดวันในการเตรียมตัว "
เหตุผลที่แม้ว่าการทดสอบในส่วนที่สองจะยังคงไม่เริ่มต้นในทันที
แต่ถึงอย่างนั้นทางสานักก็ยังคงให้เวลากับศิษย์ใหม่ในการพักผ่อน นั้น
ก็เพราะว่าด้วยผลลัพธ์ที่เกิดจากคะแนนของหลินหมิงนั้นมันทาให้
เหล่าศิษย์อยู่ในสภาวะที่กระวนกระวายจนเกินไป ดังนั้นพวกเขา
จาเป็นที่จะต้องให้เวลากับศิษย์ใหม่ในการผ่อนคลายลงเล็กน้อย
สาหรับหลินหมิงแม้ว่าตัวเขาจะแข็งแกร่งเกินกว่าระดับของศิษย์
ใหม่โดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิงแต่เขาไม่คิดว่าพลังของเขาจะมีประโยชน์อัน
ใดในมิติเร้นลับนั้นก็เพราะว่ามิติเร้นลับแห่งนี้นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของโชค
ลาภมีหลายคนที่แม้ว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสในการเข้าไปแต่พวกเขา
กลับไม่ได้สิ่งใดกลับมา
และแน่นอนว่าเมื่อมันเป็นมิติที่แม้แต่ทางสานักก็ไม่สามารถคาด
เดาถึงสิ่งที่อยู่ภายในได้ทั้งหมดแม้ว่าพวกเขาจะมีข้อมูลจากศิษย์ที่เคย
เข้าไปภายในมาหลายรุ่นแล้วก็ตาม มันยังคงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วย
อันตรายด้วยเช่นเดียวกันมันคงเป็นเรื่องแปลกสาหรับหนทางการบ่ม
เพาะพลังหากพวกเขาปราศจากประสบการณ์ในการเอาชีวิตรอด และ
นั้นเป็นสิ่งที่ทางสานักได้กาหนดส่วนที่หนึ่งเอาไว้เพื่อคัดเลือกศิษย์ที่จะ
สามารถมีชิวตรอดในมิติเรันลับได้
หลังจากคาประกาศของผู้ควบคุมสิ้นสุดด้วยการบอกเนื้อหา
รายละเอียดภายในมิติเร้นลับอีกเพียงเล็กน้อย เหล่าศิษย์ใหม่ทุกคน
ล้วนได้รับตราสัญลักษณ์ของศิษย์สานักวังจันทราอันเป็นการสิ้นสุดการ
ทดสอบในวันนี้ เหล่าชนชั้นสูงได้แต่จ้องมองหลินหมิงที่เดินกลับไปยัง
ที่พักของเขา กระทั่งเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนี้พวกเขายังคงไม่เห็นแม้แต่
จะชายตามองขึ้นมาบนที่นั่งของพวกเขาเลยเสียด้วยซ้าไป
ด้วยท่าทีรีบร้อนของหลินหมิงพวกเขาเข้าใจว่าหากพวกเขา
ต้องการทาความรู้จึกกับหลินหมิงนั้นมันคงไม่ง่ายที่พวกเขาจะเข้าไป
ทาการพูดคุยด้วยอย่างปกติ พวกเขาอาจต้องเผยสมบัติหรือเงินจานวน
หนึ่งเพื่อที่จะได้รับโอกาสเช่นนั้น ด้วยกฎของทางสานักมันทาให้พวก
เขาไม่สามารถติดต่อกับหลินหมิงได้ในยาที่เขายังคงอยู่ภายในสานักแต่
หากเป็นที่นอกสานักแล้วมันต่างกัน
โดยที่พวกเขาไม่ได้รู้ความจริงเลยว่าเหตุใดที่เด็กหนุ่มที่พวกเขา
หมายตาเอาไว้ถึงได้มีท่าทีรีบร้อนกลับที่พักของเขาเช่นนี้

ตอนที่ 166
หลินหมิงไม่ได้ตรงกลับไปที่พักของเขาพร้อมกับจิวหลินแต่เขา
เลือกที่จะไปที่พักของหลิวฉวนยูร์แทน แน่นอนว่าความต้องการของ
หลินหมิงย่อมไม่พ้นการได้ร่วมรักกับแม่สาวตัวน้อยของเขาอันที่จริง
แล้วหลินหมิงมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับมิติเร้นลับที่พวกเขาต้อง
เข้าไปในอีกเจ็ดวันข้างหน้า
แต่ความกังวลเหล่านั้นไม่ใช่สาหรับตัวเขาแต่เป็นสตรีข้างกายของ
เขาต่างหากแน่นอนว่าจิวหลินย่อมเป็นคนที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดแม้ว่า
นางจะสามารถทาผลงานได้ดีในการทดสอบส่วนแรก แต่มันไม่มีอะไร
สามารถการันตีสิ่งที่จะเกิดขึ้นในมิติเร้นลับได้ดังนั้นแล้วหลินหมิงจึง
ต้องมีการเตรียมความพร้อมกับให้มากที่สุด
ดังนั้นแล้วเขาเลือกที่จะทาให้แม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ได้พบกับ
ความก้าวหน้าเพื่อที่อย่างน้อยนางจะสามารถดูแลตนเองได้และพบกับ
โชคอันยิ่งใหญ่ในมิติเร้นลับ !
อันที่จริงแล้วด้วยการกระทาของพวกเขาในวันนี้มันทาให้ผู้คน
สามารถคาดเดาความสัมพันธ์ของหลินหมิงและสตรีขา้ งกายของเขาทั้ง
สามแม้กระทั่งหลัวฉิงเชี่ยนก็ยังคงถูกนับรวมเป็นสตรีของหลินหมิงไป
ด้วยแล้วเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วไม่สาคัญว่าความจริงจะเป็นเช่นไร
อย่างน้อยที่สุดเหล่าศิษย์ใหม่เหล่านี้พวกเขาไม่มีใครที่มีความโง่เพียง
พอที่จะเข้าไปยุ่งกับสตรีของหลินหมิงเป็นอันขาด
ภายในห้องนอนของหลิวฉวนยูร์ร่างของหลินหมิงกาลังจดจ้องร่าง
ของสาวน้อยอันงดงามราวกับอัญมณีอันล้าค่าที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
เมื่อหลินหมิงได้จดจ้องไปยังเรือนร่างของหลิวฉวนยูร์แม้ว่าสัดส่วนโค้ง
ว้าวและรูปร่างที่สามารถยั่วยวนบุรุษของนางนั้นจะยังไม่ถูกพัฒนาขึ้น
มาอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นมันเพียงพอที่จะทาให้เหล่าบุรุษถึงกับ
หายใจติดขัดได้ด้วยรูปลักษณ์ของนางเพียงเท่านี้
หลินหมิงไม่สามารถคาดเดาอนาคตในอีกสามหรือสี่ปีต่อจากนี้เมื่อ
นางมีอายุครบ 18 ปีนั้นจะเป็นช่วงที่นางผลิบานมากที่สุดเมื่อเป็น
เช่นนั้นเขาคงไม่มีวันลุกออกจากเตียงที่มีร่างของนางอยู่ข้างกายไป
นานนับเดือนหรือกระทั่งเป็นปี !
" ข้า..รักเจ้า นะ "
คากล่าวของหลิวฉวนยูร์ทาให้หลินหมิงหลุดออกจากภวังค์แห่ง
ความคิดใบหน้าของนางในตอนนี้ถูกแต่งแต้มไปด้วยหยาดสีชมพูทั่ว
ใบหน้ามันทาให้เลือดลมในกายของหลินหมิงร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม แม้ว่า
นี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นางต้องถูกหลินหมิงขึ้นคร่อมเช่นนี้แต่นางรู้ดีว่าใน
คราวนี้มันต่างจากหนแรกไปโดยสิ้นเชิงเพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวร้าย
ของนางผู้นี้จะไม่ยินยอมให้นางรอดพ้นจากมือของเขาในวันนี้อย่าง
แน่นอน
" ข้าก็รักเจ้าเช่นเดียวกัน "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเคลื่อนไหวมือทั้งสองข้างของเขาอย่าง
เชื่องช้าเพื่อสัมผัสเรือนร่างของหลิวฉวนยูร์ เสื้อผ้าของนางค่อยๆถูก
ปลดออกอย่างเชื่องช้าราวกับว่าด้วยการเคลื่อนไหวอันรุนแรงเพียง
เล็กน้อยของเขาจะทาให้นางได้รับบาดแผลได้
หลิวฉวนยูร์จ้องมองการกระทาของหลินหมิงด้วยสายตารักใคร่นาง
รู้ดีว่าหลินหมิงนั้นมีประสบการณ์กับสตรีมามากน้อยเพียงใดอย่างน้อย
ที่สุดนางก็พอจะได้ยินเรื่องราวมาจากจิวหลินอยู่บ้าง แต่นางไม่คาดคิด
ว่าเจ้าตัวร้ายของนางผู้นี้กลับมีอาการกังวลเช่นนี้เมื่อได้เห็นเรือนร่าง
ของนางอาจเป็นไปได้ว่าความยังคงมีความตื่นเต้นมากจนเกินไป นั้น
แสดงให้เห็นว่านางมีอิทธิพลต่อภายในใจของหลินหมิงมากเพียงใด !
เมื่อได้เห็นเรือนร่างเปลื่อยเปล่าของหลิวฉวนยูร์สายตาของหลินหมิ
งเบิกกว้างไปด้วยความตื่นเต้นมือของเขาเข้าเคลื่อนไหวลูบสัมผัสที่
บริเวณหน้าอกขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเพียงเล็กน้อย
หลิวฉวนยูร์นางหลับตาแน่นสนิทอันที่จริงแล้วด้วยวัยของนางเพียง
14 ปีและด้วยในออดีตที่นางได้ตั้งมั่นเอาไว้ว่านางจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุรุษ
ใดมันทาให้นางไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้มากนัก สาหรับนางแล้ว
เพียงแค่การสัมผัสของหลินหมิงมันทาให้นางราวได้ล่องลอยอยู่บน
อากาศ
" เจ้าเป็นกังวลเช่นนั้น ? "
" ข้า... "
หลิวฉวนยูร์นางไม่อยากกล่าวโป้ปดต่อหลินหมิงอันที่จริงแล้วมันคง
เป็นเรื่องแปลกที่นางจะไม่มีความกังวลใดเลยแม้ว่านางจะมั่นใจว่านาง
มีความชอบพอในตัวหลินหมิงอย่างมากก็ตามที มือของหลินหมิงได้
เคลื่อนย้ายเข้าลูบไล้สัมผัสใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน
" ข้าจะทาอย่างอ่อนโยนที่สุด แต่หากเจ้ารู้สึกว่าทนไม่ไหวให้บอก
กล่าวออกมาได้ในทันทีข้าจะรีบหยุดในทันที "
" อะ...อืม "
ในตอนนี้หลิวฉวนยูร์ราวกับภรรยาตัวน้อยผู้งดงามที่ยินยอมทา
ตามคากล่าวของสามีอย่างว่าง่าย หลินหมิงเคลือนกายลงไป
เพลิดเพลินกับหน้าอกของนางต่อ อันที่จริงแล้วหลินหมิงมีความ
ต้องการในการประกบปากกับนางเพื่อให้นางเพลิดเพลินและมันยังคง
เป็นประสบการณ์เพียงอย่างเดียวที่นางเคยได้รับจากเขา มันอาจจะทา
ให้นางสามารถคลายความกังวลลงได้บ้าง แต่กลับกลายเป็นว่า
ในตอนนี้นางเขินอายจนนามือทั้งสองข้างมาปิดบังใบหน้าของตนเอง
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงสามารถสังเกตผ่านฝ่ามือคู่เล็กทั้งสอง
ข้างหน้าได้ว่าภายใต้มือทั้งสองนั้นริมฝีปากของปรากฎรอยยิ้มอันน่า
หลงไหล
แม้ว่าหน้าอกของนางจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับสตรีอื่นของเขาแต่
มันนับว่าเป็นความรู้สึกที่ดีไม่ใช่ไม่ใช่ด้วยขนาดของมันที่ค่อนข้างจะ
พอดีมือของหลินหมิง และไม่รู้ว่าเพราะเนื่องจากขนาดของมันที่
ค่อนข้างเล็กมันจึงทาให้บริเวณส่วนหน้าอกของนางนั้นค่อนข้างไวต่อ
การสัมผัสเป็นอย่างมาก
" อ้าาา อาา ~~~ "
เสียงครางเล็กๆของนางดังออกมาอย่างต่อเนื่องแม้ว่านางจะ
พยายามข่มเสียงของตนเองเอาไว้มากแค่ไหนก็ตาม หลินหมิงเริ่มลงมือ
ด้วยท่วงท่าต่อไปลิ้นของเขาเข้าโลมเลียพร้อมกับดูดดื่มกับยอดปถุมทัน
ของสาวน้อยจนร่างกายของนางสั่นไปมาด้วยความเสี่ยวซ่าน
" มะ...ไม่นะ...ข้ารู้สึกแปลกๆ อ้าา ~~ จะ..เจ้า..จะไม่ดูดมันแรง..
ซี๊ดดด ~~~ "
หลินหมิงเพลิดเพลินกับหน้าอกของหลิวฉวนยูร์ราวกับว่าเรือนร่าง
ของนางนั้นเป็นอาหารจากสรวงสวรรค์ หลิวฉวนยูร์แม้ว่านางจะรู้สึก
ว่าเรี่ยวแรงภายในร่างกายของนางค่อยๆพลันหายไปพร้อมกับ
ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยที่เกิดขึ้นที่บริเวณส่วนลับของนางมันมีการ
ตอบสนองไม่แพ้กับหน้าอกของนางที่กาลังถูกจู่โจม ณ ขณะนี้ มือทั้ง
สองข้างของนางถูกนาออกมาจากใบหน้าของนางพร้อมกับโอบกอด
ศรีษะของหลินหมิงเอาไว้
เวลาผ่านไปเพียงไม่นานหลิวฉวนยูร์นางรู้สึกราวกับว่าที่นางใช้ชีวิต
อยู่มาตั้งแต่ในอดีตนั้นเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ นางไม่มีความสงสัยเลยว่า
เหตุใดเจ้าตัวร้ายของนางถึงได้ล้อมรอบไปด้วยสตรีผู้งดงาม เพราะว่า
เขามีความสามารถที่สามารถทาให้สตรีมีความสุขได้มากถึงเพียงนี้ !
หลินหมิงเคลื่อนไหวริมฝีปากของเขาไปยังส่วนบนของหลิวฉวนยูร์
คออันขาวเนียนของนางถูกแต่งแต้มด้วยรสจูบของหลินหมิง แต่ถึง
อย่างนั้นนางไม่มีท่าทีของความรังเกียจเลยแม้แต่น้อย หลิวฉวนยูร์นาง
หลับตาพริบลงด้วยความสุขพร้อมกับกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้โดย
ไม่อยากแยกจากไปไหน
" จูบ....ข้าที "
ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งผล่านของทั้งสองหลิวฉวนยูร์นางต้องการรสจูบ
ของหลินหมิงอันคุ้นเคยเพื่อบรรเทาอารมณ์รุ่มร้อนที่กาลังเกิดขึ้น
ภายในใจของนาง โดยไม่มีการปฎิเสธริมฝีปากของหลินหมิงบดเข้ากับ
ริมฝีปากของนางอย่างเร้าร้อน ไม่เพียงเท่านั้นด้วยร่างของหลินหมิงที่
แนบชิดกับเรือนร่างอันเปลื่อยเปล่าของนางมันทาให้นางรู้สึกได้เป็น
หนึ่งเดียวกับหลินหมิง
" อืม้ มม~~~~ อาา "
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่เลือกที่จะลงมือจู่โจมนางอย่างเร้าร้อนมาก
จนเกินไปไม่เช่นนั้นแล้วนางคงได้หมดสติไปก่อนที่พวกเขาจะได้ทาการ
ใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อหลินหมิงได้ทาการถอนริมฝีปากของเขา
ออกมาต้นคอของเขากลับถูกรวบและกดไปลงไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
" เอาอีก ~~ "
หลินหมิงไม่คาดคิดว่าแม่สาวน้อยของเขาจะมีอารมณ์ที่พลุ่งผล่าน
มากถึงเพียงนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยสายตาอันอ้อนวอนพร้อมกับใบหน้าของ
นางในยามนี้แม้ว่านางจะสั่งให้เขาไปเผชิญหน้ากับขุมนรกอันใดมัน
เป็นไปได้ด้วยหรือที่จะมีผู้ใดที่จะสามารถปฎิเสธได้ ! หลินหมิงก้มลง
พรหมจูบริมฝีปากของนางอย่างเร้าร้อน ลิ้นของหลินหมิงเข้าผัวผันกับ
ลิ้นของนางที่เคลื่อนไหวอย่างไม่ยอมแพ้ด้วยเช่นเดียวกัน
เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูปเป็นหลิวฉวนยูร์ที่รู้สึกหายใจติดขัดก่อนแต่
ถึงอย่างนั้นสายตาของนางยัคงบ่งบอกถึงความต้องการอยู่ หลินหมิง
เคลื่อนไหวกายลงที่บริเวณส่วนล่างของนางแน่นอนว่ารสชาติริมฝีปาก
ของหลิวฉวนยูร์นั้นสามารถมอบความสุขให้กับเขาได้อย่างคาดไม่ถึง
แต่ถึงอย่างนั้นมันคงไม่ดีนกั หากเขายังคงเพลิดเพลินกับนางเช่นนั้น
ต่อไปไม่แน่ว่าสติของเขาอาจสามารถขาดได้ตลอดเวลาและเมื่อนั้นต่อ
ให้มีสิบผู้อาวุโสฟางซิ่นก็ไม่แน่ว่าจะเพียงพอต่อการรับมือกับหลินหมิง
" จะ...เจ้าจะทาสิ่งใด ตะ..ตรงนั้น..มะ ไม่ได้นะ "
หลิวฉวนยูร์นางมีการตอบสนองในทันทีที่ศรีษะของหลินหมิง
เคลื่อนไหวเข้าใกล้จุดลับของนางอันที่จริงแล้วแม้ว่านางจะมีความ
ตั้งใจที่จะยินยอมเป็นสตรีของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นมันเป็นไปได้ด้วย
หรอที่นางจะสามารถเก็บอั้นความเขินอายเอาไว้ได้ ขาของนางหนีบ
เข้าหากันพร้อมกับมืองทั้งสองข้างของนางที่เข้าขว้างกั้นจุดยุทธ์ศาสตร์
ของนางเอาไว้
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางต้องเจอกับรสสัมผัสจากฝ่ามือของหลินหมิง
และรสจูบของเขาที่บริเวณต้นขาของนางเรี่ยวแรงที่เคยมีอยู่น้อยนิด
มันกลับพลันหายไปในทันที ร่องสวาทสีชมพูดสดใสเผยให้เห็นต่อ
สายตาของหลินหมิงจนเขาเบิกกว้างไปด้วยความตื่นเต้นแม้ว่าเขาจะ
เคยเห็นร่องสวาทของสาวบริสุทธ์มาไม่น้อยแต่หลินหมิงไม่คิดว่าเขาจะ
สามารถทาความคุ้นชินกับมันได้แม้ว่าต่อให้เขามีประสบการณ์เช่นนี้
อีกนับร้อยครั้งก็ตามที

ตอนที่ 167
หลิวฉวนยูร์นางเต็มไปด้วยความเขินอายการที่นางต้องเผย
ร่างกายเปลื่อยเปล่าให้กับหลินหมิงได้เชยชมนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องน่า
อายที่เกินพอสาหรับนาง แต่ในตอนนี้ใบหน้าของหลินหมิงอยู่ในระยะ
ที่ใกล้ชิดกับร่องสวาทของนางเป็นอย่างมากแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้มันจะ
เป็นไปได้อย่างไรที่นางจะสามารถปกปิดความเขินอายเอาไว้ได้
สาหรับนางแล้วนางยินดีให้หลินหมิงได้เชยชมทุกสัดส่วนเรือนร่าง
ของนางอย่างไม่ขัดข้องแต่อย่างไรเสียกับส่วนลับของนางแล้วมัน
ต่างกันไม่ต้องสงสัยว่ามันเป็นส่วนที่สตรีเอาไว้ใช้ในการขับของเสีย
ออกมาเมื่อเป็นเช่นนั้นกล่าวได้ว่ามันค่อนข้างสกปรก แม้กระทั่งนางที่
เป็นสาวงามก็ไม่มีข้อยกเว้น
" จะ..เจ้าตัวร้าย..ตรงนั้น..ไม่ได้นะ มันสกปรกเกินไป มาหาข้าข้า
ยินยอมเจ้าทุกอย่างแล้ว "
หลิวฉวนยูร์นางต้องการให้หลินหมิงประทับใจในการร่วมรักของ
พวกเขาทั้งสองอย่างมากที่สุดโดยไม่ต้องสงสัยหากหลินหมิงยังคงให้
ความสนใจกับร่องสวาทของนางต่อเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเขาอาจต้องทนไม่ไหว
หรือกระทั่งการร่วมรักของนางอาจต้องหยุดลงกลางคั้น ?
" มันไม่มีสิ่งใดสกปรกตราบที่มันเป็นร่างกายของเจ้า "
หลิวฉวนยูร์ตะลึงกับคากล่าวของหลินหมิงจนนางเผลอตัวให้กับ
ใบหน้าของหลินหมิงที่ไร้ซึ่งแรงต่อต้านจากมือทั้งสองของนาง กลิ่น
หอมโชยจากร่องสวาทของนางนั้นไม่ต้องสงสัยว่ามันค่อนข้างแรงแต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงไม่มีความรู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด
" มะ....ไม่ ไม่ ไม่ได้นะ อ้าาาา ~~~~ "
ทันทีที่ลิ้นของหลินหมิงเข้าสัมผัสกับบริเวณปากทางเข้าร่องสวาท
ของนาง ร่างของนางสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงครางของนางที่
ดังสนั่นขึ้น ขาทั้งสองข้างของนางพลันมีการตอบสนองในทันทีโดยการ
บีบรัดศรีษะของหลินหมิงเอาไว้มือทั้งสองข้างของนางแม้จะพยายาม
ผลักศรีษะของหลินหมิงให้ออกห่างแต่ด้วยเรี่ยวแรงของนางมีหรือที่
นางจะสามารถต่อต้านเจ้าตัวร้ายของนางได้กัน ?
" อร้างงงงงง ~~~~~ "
เพียงแค่ลิ้นของหลินหมิงที่เข้าสัมผัสบริเวณปากทางเข้าร่องสวาท
ของนางมันก็ทาให้นางนั้นเสร็จสมไปอย่างง่ายดาย แน่นอนว่าหลินห
มิงยังคงไม่หยุดจู่โจมเพียงเท่านี้มือทั้งสองข้างของหลินหมิงได้ทาการ
แหวกร่องสวาทของนางออกพร้อมกับส่งลิ้นของเขาเข้าไปสัมผัสรสชาติ
ภายในร่องสวาทอันบริสุทธ์ของนาง
แม้ว่าในตอนแรกนางจะมีความรู้สึกอยากจะห้ามปราบหลินหมิงให้
หยุดเพียงแต่ในตอนนี้หลังจากที่นางได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปแล้วหนึ่ง
ครั้งนางพบว่าหลินหมิงไม่ได้มีท่าทีรังเกียจร่องสวาทของนางเลยแม้แต่
น้อยกลับกันแล้วเขาดูตื่นเต้นและกระหายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ดังนั้นแล้วมันไม่มีความจาเป็นใดๆที่นางจะต้องห้ามเจ้าตัวร้ายของนาง
อีกต่อไป มือทั้งสองข้างของนางที่แต่เดิมเคยผลักศรีษะอยู่นั้นได้
เปลี่ยนไปเป็นการกาผ้าปูเตียงเพื่อบรรเทาอารมณ์ความเสี่ยวซ่านที่
กาลังเกิดขึ้นอย่างท่วมท้น
เวลาผ่านไปเพียงไม่นานร่างของหลิวฉวนยูร์ได้แต่นอนหอบหายใจ
อย่างเหนื่อยอ่อนนางตระหนักได้ถึงความสามารถในการมอบความสุข
ให้แก่สตรีของหลินหมิงนั้นยอดเยี่ยมเพียงใดนี้ขนาดเขายังไม่ทันเริ่ม
การร่วมรักกับนางอย่างแท้จริงมันกลับทาให้นางเสร็จสมไปอย่างน้อยก็
สามครั้งแล้วด้วยกัน โดยปกติแล้วบุรุษนั้นส่วนใหญ่หากพวกเขา
สามารถทาให้ภรรยาของพวกเขาเสร็จสมได้แม้เพียงสักครั้งพวกเขา
อาจกล่าวได้ว่าเป็นยอดบุรุษอย่างแท้จริง แต่สาหรับหลินหมิงนั้นนาง
สามารถเรียกเขาได้อย่างเดียวเท่านั้นว่า ตัวเลวร้ายที่แท้จริง !
ร่างของนางที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อจากอาการเหนื่อยอ่อนถูก
หลินหมิงชาระล้างคราบเหงื่อเหล่านั้นไปจนหมดสิ้นด้วยทักษะการโลม
เลียของเขา อันที่จริงแล้วในตอนนี้นางรู้สึกได้ว่าหลินหมิงได้สารวจทุก
ซอกมุมในร่างกายของนางจนกระทั่งเขาสามารถรู้มันดียิ่งกว่านางก็
เป็นได้
" ที่แท้เจ้าก็ร้ายกาจถึงเพียงนี้ ไม่น่าแปลกใจที่มีสตรีหลายคนชอบ
พอในตัวของเจ้า ! "
หลินหมิงในตอนนี้กาลังนอนหงายกอดร่างของหลิวฉวนยูร์ที่นอน
ทับอยู่บนร่างของเขา แน่นอนว่าเขายังคงไม่มีความจาเป็นจะต้องรีบ
ร้อนอันที่จริงแล้วในวันนี้หลินหมิงตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกับหลิวฉวนยูร์
ไปทั้งวันทั้งคืนดังนั้นแล้วเขายังคงมีเวลาอีกมาก สาหรับจิวหลิน ฟ่งซือ
เซียนและนักฆ่าสาวเมื่อวานนี้พวกนางต่างได้รับความสุขจนมากเกิน
พอโดยเฉพาะนักฆ่าสาวดังนั้นนี้จึงเป็นการดีที่พวกนางจะได้พักผ่อน
เสียบ้าง
เมื่อหลิวฉวนยูร์ได้อยู่ในท่วงท่าเช่นนี้นางสามารถสัมผัสได้ถึง
อุณหภูมิที่แผ่ออกมาจากหลินหมิงอย่างใกล้ชิด ภายในอ้อมกอดของ
หลินหมิงนางรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเสียยิ่งกว่าอื่นใดในโลกนี้ นาง
มองไปยังใบหน้าของหลินหมิงที่ยังคงปรากฎรอยยิ้มอันสดใสที่หาได้
ยากยิ่งอันที่จริงแล้วนางสามารถรับรู้ได้ว่าแม้ว่าหลินหมิงนั้นมักจะมี
ท่าทียิ้มแย้มอยู่ไม่ใช่น้อยแต่รอยยิ้มเหล่านั้นล้วนเป็นรอยยิ้มที่แสนเจ้า
เล่ห์
แต่กลับกันแล้วยามดีที่นางได้อยู่ใกล้ชิดกับหลินหมิงเช่นนี้รอยยิ้ม
อันแสนเจ้าเล่ห์เหล่านั้นล้วนแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงมันเป็นรอยยิ้มที่
สามารถทาให้หัวใจนางสั่นไหวได้อยู่ตลอดเวลา นางยินดีที่จะจ้องมอง
ใบหน้าของหลินหมิงเช่นนี้ไปได้ตลอดชั่วชีวิตหากนางสามารถทนระงับ
ความเขินอายที่เกิดขึ้นได้
" ให้ข้าทาให้เจ้ามีความสุขบ้าง "
นางกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองเรือนร่างของหลินหมิงกลิ่นหอม
โชยอันแปลกเอกลักษณ์เฉพาะของหลินหมิงนั้นนางสามารถจดจามัน
ได้เป็นอย่างดีเพราะว่าอันที่จริงแล้วนี้ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่นาง
ได้อยู่ภายใต้อ้อมกอดของหลินหมิงเช่นนี้ มือของนางเคลื่อนไหวเข้า
ปลดเสื้อผ้าของหลินหมิงอย่างเชื่องช้า
แน่นอนว่านางยังคงมีความเขินอายอยู่แม้ว่าจะผ่านมาถึงขนาดนี้
แล้วก็ตามที่มือข้างหนึ่งของหลินหมิงเข้าลูบไล้แผ่นพลังของนางให้
คลายความกังวลไปทั้งหมดสิ้น ในตอนนี้เมื่อนางได้เห็นแผ่นอกเปลื่อย
เปล่าแม้ว่ามันจะไม่ได้หมัดกล้ามที่ใหญ่โตมากนักหากเทียบกับบุรุษอื่น
แต่นั้นเป็นเพราะว่าเจ้าตัวร้ายของนางนั้นเพิ่งมีอายุเพียง 15 ปี และ
ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์เขาจึงแย่กว่านี้นางไม่คิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะสาคัญมาก
นัก
สัมผัสกายเนื้อที่แนบชิดของทั้งสองร่างมันให้นางรู้สึกราวกับว่าร่าง
ของนางและหลินหมิงถูกดึงดูดเข้าหากันโดยไม่สามารถแยกจากกันไป
ไหนได้ มือของนางเข้าสัมผัสเรือนร่างเปลื่อยเปล่าส่วนบนของหลินหมิ
งอย่างเชื่องช้าพร้อมกับสายตาของนางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
" ฮิฮิ จากนี้ไปเจ้าเป็นของข้าแล้ว ! "
ด้วยสายตาของหลิวฉวนยูร์ที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ในยามนี้
หลินหมิงตัดสินใจให้นางได้ใช้เวลาเพลิดเพลินกับร่างของเขาได้อย่าง
เต็มที่ มือทั้งสองข้างของนางวาดเป็นวงกลมที่บริเวณแผงอกของ
หลินหมิงมีบางครั้งที่นางกระทั้งนาใบหน้าของนางเขาถูไถกับมัน
ทันใดนั้นดวงตาของนางฉายแววพลันคิดถึงบางสิ่งบางอย่างได้มือง
ของนางเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดซ่อนอาวุธทรงพลังของหลินหมิง เสื้อผ้า
ส่วนล่างของหลินหมิงถูกปลดออกด้วยน้ามือของหลิวฉวนยูร์อย่างไม่
ต้องสงสัยในที่สุด ทวนมังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิงเผยให้เห็นสู่
สายตาของนาง
" มะ..มันใหญ่ถึงเพียงนี้ ! "
แม้ว่านางจะยังคงไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้แต่นางสามารถ
ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าทวนมังกรขนาดใหญ่แท่งนี้จะต้องเป็นสิ่งที่ถูก
นาเข้าสู่ภายในตัวของนางแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงเป็นไปได้ด้วยหรอที่
สิ่งที่มีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้จะสามารถเข้ามาได้ ?
แต่เมื่อนางหวนนึกกลับไปไม่ใช่ว่าเจ้าตัวร้ายของนางได้มี
ประสบการณ์กับสตรีมาไม่ใช่น้อยนั้นหมายความว่าสตรีเหล่านั้น
สามารถรับมือกับเจ้าตัวร้ายของนางได้และยังคงชื่นชอบมัน ? ดังนั้น
แล้วด้วยฐานะของนางที่ตั้งมั่นว่าจะเป็นภรรยาหลักของหลินหมิงนาง
ไม่สามารถยอมในเรื่องดีได้อย่างแน่นอน
ร่างของนางกลับหัวศรีษะของนางในตอนนี้อยู่ที่บริเวณระหว่างขา
ของหลินหมิง อันที่จริงแล้วนางต้องการมอบความสุขให้กับหลินหมิง
ด้วยท่วงท่าที่เขาได้ใช้ไปเมื่อสักครู่กับนางด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่า
นางรู้ดีว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ชายหญิงทั่วไปทากันแต่ถึงอย่างนั้นในเมื่อเจ้าตัว
ร้ายของนางยังคงสามารถทาให้นางได้อย่างไม่มีท่าทีรังเกียจแล้ว
เช่นนั้นนางจะทาไม่ได้เช่นนั้นหรือ ?
" ข้าจะทาให้เจ้ามีความสุขจนเจ้าไม่อยากแยกจากจากข้าเลยคอยดู
"
หลินหมิงยิ้มให้กับท่าทีของนาง นางยังคงไม่รู้ว่าหากนางทาสิ่งที่
นางกล่าวสาเร็จนั้นเป็นไปได้ว่าอายุขัยของนางอาจต้องสั้นลงเพราะว่า
นางจะต้องทนรับมือกับการจู่โจมของหลินหมิงอย่างต่อเหนื่อง มือทั้ง
สองข้างของนางเข้าลูบไล้สัมผัสทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังผงาด
ขึ้นอย่างแข็งแรง
' มันอุ่น.. '
ใบหน้าของนางที่อยู่ใกล้กับทวนมังกรของหลินหมิงในยามนี้ในตอน
แรกนางนึกว่านางอาจจะต้องทนรับกลิ่นที่ไม่พึงสมัยแต่มันกลับ
กลายเป็นว่ามันกลายเป็นกลิ่นที่สามารถทาให้หัวสมองของนางรู้สึก
ขาวโผลน โดยไม่ทันรู้ตัวมือของนางค่อยเคลื่อนไหวเข้าลูบไล้สัมผัส
ทวนมังกรของหลินหมิงไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ที่นางได้ลูบไล้แผงอกของ
หลินหมิง

ตอนที่ 168
มือทั้งสองข้างของหลิวฉวนยูร์ที่กาลังลูบไล้สัมผัสทวนมังกรของ
หลินหมิงทาให้นางรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากทวนมังกร
ของหลินหมิง ไม่เพียงเท่านั้นด้วยอาการสั่นเทาของทวนมังกรของ
หลินหมิงในตอนนี้เป็นไปหรือไม่ว่าเพราะว่าเจ้าตัวร้ายของนางกาลังมี
ความสุขอยู่ ?
ลิ้นของนางยื่นเข้าใกล้สัมผัสที่บริเวณผิวหนังที่หอหุ้มทวนมังกรของ
หลินหมิงเอาไว้เมื่อหวนนึกกลับไปก่อนหน้านี้หลินหมิงยังคงสามารถ
ทาในสิ่งเดียวกันให้กับนางโดยไม่มีท่าทีรังเกียจดังนั้นแล้วนางย่อมยินดี
ที่จะทาให้หลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน
ริมฝีปากอันนุ่มนวลพร้อมกับลิ้นของหลิวฉวนยูร์ที่สัมผัสเข้ากับ
บริเวณทวนมังกรของหลินหมิง แม้ว่ามันจะไม่ได้มีทักษะที่ดีเลิศเช่นผู้
อาวุโสฟางซิ่นหรือสตรีนางอื่นแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้หลินหมิงกลับ
รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขไม่แพ้กัน หลินหมิงจับสะโพกของนางที่อยู่
ตรงหน้าพร้อมกับแหวกร่องสวาทของนางออกมาอีกครั้งเพื่อชิมรสชาติ
ของแม่สาวน้อยของเขา
" อาา อาา "
ในตอนนี้หลิวฉวนยูร์นางไม่ได้มีท่าทีต่อต้านหลินหมิงอีกต่อไป ดู
เหมือนว่าการกระทาของหลินหมิงนั้นไม่เพียงแต่จะเป็นการทาให้นางมี
ความสุขแต่มันยังคงทาให้เขาเพลิดเพลินได้เช่นเดียวกัน หากถามว่า
นางรู้ได้อย่างไรกันนั้นก็เพราะว่าในตอนนี้นางก็กาลังมีความสุขกับการ
ได้ชิมรสชาติอันแปลกใหม่ของทวนมังกรของหลินหมิงเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่ามันแตกต่างจากความรู้สึกจากรสจูบที่แสนอบอุ่นของเขา
และนาง แต่มันเป็นความรู้สึกที่ทาให้ทั่วร่างของนางรุ่มร้อนกลิ่นอัน
รุนแรงที่แผ่ออกมจาทวนมังกรแท่งนี้ราวกับว่ามันเป็นโอสถกาหนัด
ชนิดหนึ่งร่างของนางร้อนรุมไปด้วยความต้องการดังนั้นแล้วหากหลินห
มิงไม่จู่โจมทีีร่่ องสวาทของนางในเวลานี้อยู่นางอาจจะเอยปากให้เขา
ทาอยู่ดี
ใช้เวลาเพียงไม่นานทวนมังกรของหลินหมิงมีการสั่นไหวอย่าง
รุนแรงเช่นเดียวกันกับร่างของนางที่มีการสั่นไหวด้วยเช่นเดียวกัน ลิ้น
ของหลินหมิงที่กาลังจู่โจมอยู่ภายในร่องสวาทของนางถูกนาออกมา
อย่างรวดเร็วเพื่อเปิดทางให้น้ารักจานวนมากของนางได้ไหลออกมา
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงในตอนนี้ด้วยสัมผัสนุ่มจากมือของหลิวฉวนยูร์
รวมทั้งความสุขที่ได้จากการเล้าโลมด้วยลิ้นของนางมันไม่ใช่เรื่องง่าย
เลยที่เขาจะสามารถอดทนเอาไว้ได้นานนัก

" อร้างง ~ "


น้ารักของหลินหมิงระเบิดออกราวกับภูเขาไฟ ใบหน้าของหลิวฉวน
ยูร์ในตอนนี้ได้ถูกแต่งแต้มไปด้วยคราบน้ารักจานวนมากของหลินหมิง
แน่นอนว่านางไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจมันแต่อย่างใดกลับกันแล้วนาง
กลับพบว่ารสชาติของน้ารักเหล่านี้นนั้นกลับมีรสชาติที่ดีเยี่ยมเสียยิ่ง
กว่าอาหารมื้อใดในโลกนี้ตั้งแต่ที่นางเกิดมา
หลินหมิงปล่อยให้หลิวฉวนยูร์ได้เพลิดเพลินในการทาความสะอาด
คราบน้ารักทั้งหมดที่อยู่บนทวนมังกรของเขาจนหมดสิ้นหลังจากนั้น
เขาพลิกร่างของนางให้กลับมานอนหงายพร้อมกับขึ้นคร่อมร่างของ
นางเอาไว้ในตอนนี้ไม่ต้องสงสัยว่าแม่สาวน้อยของเขานั้นคลายความ
กังวลไปหลายส่วนแล้วไม่เพียงเท่านั้นร่องสวาทของนางในตอนนี้ยังคง
ฉุ่มฉ่าไปด้วยคราบน้ารักซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่สะดวกมากยิ่งขึ้นสาหรับ
การร่วมรักครั้งแรกของนาง
" ทาให้ข้าเป็นของเจ้าเสียสิ "
หลินหมิงนางนอนจ้องมองร่างของหลินหมิงด้วยสายตารักใคร่จน
มาถึงจุดนี้แล้วนางไม่คิดว่าจะมีสิ่งใดที่สามารถขัดขว้างการร่วมรักของ
นางกับหลินหมิงในครั้งนี้ได้อีก ร่องสวาทของนางถูกจ่อเอาไว้ด้วยทวน
มังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิง แต่ถึงอย่างนั้นมันไม่มีสิ่งใดที่นางจะต้อง
มีความจาเป็นจะต้องกังวล ในเมื่อนางจะเป็นภรรยาของเขาต่อให้ทวน
มังกรของเขายังคงใหญ่กว่านี้นับสิบเท่าจนมันสามารถคร่าชีวิตนางได้
แต่นางก็ยังคงเลือกที่จะร่วมรักกับหลินหมิงต่อไป
หลินหมิงจ้องมองไปยังใบหน้าของหลิวฉวนยูร์ที่ยังคงประดับไว้
ด้วยรอยยิ้มอันสดใสอันที่จริงแล้วสาหรับรอยยิ้มเช่นนี้นั้นมันเป็นร้อย
ยิ้มที่หาได้ยากยิ่งแม้กระทั่งบิดาของนางก็ยังคงไม่ได้รับโอกาสเช่นนี้
อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นรอยยิ้มที่นางมีให้เฉพาะกับหลินหมิงเพียงคน
เดียวเท่านัน้
" เจ้าคงยังไม่ลืมสัญญาก่อนหน้านี้ "
หลิวฉวนยูร์แปลกใจในคากล่าวของหลินหมิงเล็กน้อยแต่นางก็
พอจะเข้าใจว่าหลินหมิงหมายถึงสิ่งใด นั้นอาจเป็นสัญญาที่นางได้
กล่าวเอาไว้ว่าหากผู้ใดได้แพ้คะแนนแบบทดสอบส่วนหนึ่งคนผู้นั้น
จะต้องยินยอมรับฟังของอีกฝ่ายหนึ่งข้อ
" อืม ข้าจาได้อยู่แล้ว "
นางคิดไม่ออกว่าหลินหมิงจะขอให้นางทาสิ่งใด อันที่จริงแล้วแม้ว่า
ในตอนนี้หลินหมิงจะกล่าวให้นางกลายเป็นหญิงสาวคอยปรินนิบัติรับ
ใช้เขาอยู่ข้างกายราวกับสาวใช้นางก็จะไม่ปฎิเสธมันกล่าวได้ว่าไม่ว่า
หลินหมิงจะให้นางทาสิ่งใดนางจะไม่มีทางปฎิเสธแน่นอนตราบใดที่
นางยังคงได้อยู่ภายใต้อ้อมกอดข้างกายหลินหมิงเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆดันเข้ามาภายในร่องสวาทของนางอย่าง
เชื่องช้า
" เจ้าต้องอยู่ข้างกายข้าตลอดไปห้ามหนีจากข้าไปไหน "
หลิวฉวนยูร์นางเผยรอยยิ้มกว้างขึ้นมาดูเหมือนว่าความคิดของนาง
จะไม่ต่างจากหลินหมิงมากนัก มือทั้งสองข้างของนางเอื้อมเข้าลูบไล้
ใบหน้าของหลินหมิงด้วยความทะนุถนอม ใครจะไปคิดกันว่าจากเด็ก
หนุ่มที่นางเคยวางแผนกลั่นแกล้งจนกระทั่งเกือบทาให้เขาต้องเสียชีวิต
ในตอนนี้นางกลับรักเขาจนไม่มีสิ่งใดเปรียบได้ ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือเขาก็
ยังคงมีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับนางแม้ว่านางจะมีนิสัยที่ค่อนข้างเอา
แต่ใจก็ตามที่
" อืม ข้าจะอยู่รังควานเจ้าไปชั่วชีวิตเลย "
ทวนมังกรของหลินหมิงที่ถูกส่งเข้าไปภายในตัวของนางหลังจากคา
กล่าวของนาง ความรู้สึกที่ร่างทั้งสองค่อยๆผสานกันแม้ว่ามันจะเป็น
ความรู้สึกเจ็บปวดที่ค่อนข้างมาก หยาดน้าตาใสๆของนางไหลริน
ออกมาจากตาทั้งสองเมื่อเห็นเช่นนี้หลินหมิงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยมือ
ข้างหนึ่งของเขาเอื้อมเขาเช็ดน้าตาของนาง แต่ถึงกระนั้นมันกลับถูก
กุมมือเอาไว้ด้วยมืออันเรียวบางของหลิวฉวนยูร์ก่อนที่หลินหมิงจะ
พลันได้เช็ดหยาดน้าตาของนาง
" ข้า..ไม่เป็นไร หรอกนะ "
ด้วยกากระทาของหลินหมิงหลัวฉวนยูร์นางรู้สึกว่านางได้เป็น
สมบัติล้าค่าของหลินหมิงไปแล้ว นางคิดในใจว่าจะยังคงมีสตรีใดที่
ได้รับโชคที่มากมายเช่นนี้เช่นเดียวกันกับนาง
' อา..มันก็คงเป็นสตรีทั้งหลายของเขา '
นางพลันคิดได้ในใจแต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงไม่ได้รับรู้เลยว่านี้เป็น
การร่วมรักที่หลินหมิงลงมืออย่างเชื่องช้าและทะนุถนอมมากที่สุด
แม้กระทั่งจิวหลินก็ยังคงไม่ได้รับสิทธ์เช่นนี้ โลหิตสีแดงสดไหลอาบ
ทวนมังกรของหลินหมิงอันเป็นเครื่องหมายว่าในตอนนี้นางได้
กลายเป็นสตรีของเขาโดยแท้จริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สัมผัสความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในท้องของนางในตอนนี้มันราวกับ
ว่านางสามารถใกล้ชิดกับหลินหมิงได้มากขึ้นอีกก้าวใหญ่ ความรู้สึก
ของนางร้อนผ่าวไปด้วยความต้องการที่มากล้นแม้ว่ามันจะยังคงมี
ความรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างแต่หากต้องเทียบกับความรู้สึกความต้องการ
และความสุขที่กาลังเกิดขึ้นสิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งไร้ค่าไปไหน
ทันที
" อึก ! "
ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่หลินหมิงจะสามารถนาทวนมังกรของ
เขาเข้ามาจนสุดร่องสวาทของนางในตอนนี้หลิวฉวนยูร์นางรู้สึกว่า
ภายในตัวของนางถูกเติมเต็มด้วยรสชาติความสุขจนแทบจะระเบิด
ออก ร่างกายของนางมีการสั่นไหวไปมาอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากการ
เสร็จสมอย่างรวดเร็วและต่อเหนื่อง
' มันกลับรู้สึกดีถึงเพียงนี้ '
หลิวฉวนยูร์นางไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถรับมือกับความสุขที่เกิดขึ้น
นี้ได้อย่างไรนางเอื้อมมือทั้งสองข้างเข้าคล้องคอหลินหมิงพร้อมกับกด
ลงมา ในตอนนี้สิ่งเดียวที่นางต้องการก็คือหลินหมิงโดยแท้จริงนางกอด
รัดเข้าเอาไว้อย่างแน่นหนาแม้ว่าในตอนนี้เรี่ยวแรงของนางจะนับได้ว่า
แทบจะไม่ต่างจากหญิงสาวพิการแต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงปราถนาที่
จะโอบกอดหลินหมิงเอาไว้เช่นนี้
" จูบข้าที ~~ "
ร่างชายหญิงทั้งสองที่ได้ผสานกันทั้งส่วนบนและล่างด้วยความรู้สึก
รักใคร่หยาดน้าตาของนางไหลออกมาด้วยความสุขที่นางไม่เคยขาดฝัน
ว่ามันจะเป็นจริงได้ ในอดีตนั้นในตอนที่นางได้รับรู้จิตใจตนเองว่านางมี
ความรู้สึกชอบพอกับหลินหมิงเพียงแต่ว่านางจะยังคงสามารถคาดหวัง
ในสิ่งเหล่านั้นจากหลินหมิงได้อีกอย่างนั้นหรือในเมื่อนางเป็นคน
วางแผนทาร้ายเขา ไม่เพียงเท่านั้นชื่อเสียงของนางนั้นแม้ว่าจะถูก
กล่าวได้ว่าเป็นสตรีที่มีความงดงามที่เลื่องชื่อแต่นางยังคงขึ้นชื่อในเรื่อง
เกลียดชั่งบุรุษด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่เพียงเท่านั้นนางยังคงมีคู่หมั้นหมายและฐานะทางตระกูลที่เป็น
สิ่งที่น่ากังวลและน่าราคาญใจเป็นอย่างมาก แต่ปัญหาเหล่านั้นถูกเจ้า
ตัวร้ายของนางปัดเป่าไปจนหมดสิ้นด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
เท่านั้นในตอนนี้นางสามารถโอบกอดหลินหมิงได้อย่างไม่ต้องมีความ
กังวลใดๆ
หลินหมิงขับเคลื่อนจังหวะการจู่โจมของเขาด้วยจังหวะที่ดาเนินไป
อย่างเชื่องช้าแต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงได้ยิ่งเสียงครางกระเส้าออกมา
จากริมฝีปากเล็กๆลอดผ่านช่องว่างระหว่างการจูบของพวกเขาทั้งสอง
อยู่ดี
" อืม้ มม ~~~ "
ร่างของทั้งสองที่ผสานกันด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากแยกจากกัน
ดาเนินไปอย่างยาวนานจนกระทั่งหลิวฉวนยูร์หมดสติไปด้วยใบหน้าที่
เปี่ยมไปด้วยความสุขเช่นเดียวกันกับร่องสวาทของนางในตอนนี้ที่ถูก
เติมเต็มไปด้วยน้ารักของหลินหมิง ร่างของนางที่ในตอนนี้กาลังนอน
ทับกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้พร้อมกับร่องสวาทของนางที่ยังคง
เชื่อมต่อกับทวนมังกรของหลินหมิงโดยไม่แยกจากจนกระทั่งถึงเช้าวัน
ใหม่

ตอนที่ 169
หลิวฉวนยูร์นางตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่ยังคงประดับไว้อยู่บน
ใบหน้าของ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องร่างกายของนางหลังจากที่ได้ร่วมรัก
กับหลินหมิงแล้วนั้นนางพบว่ามันไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทั้งที่ทวนมังกร
ของเขามีขนาดใหญ่ถึงเพียงนั้น แม้ว่านางจะรู้ดีว่าหลินหมิงใช้ความ
พยายามอย่างมากเพื่อที่จะทาให้นางรู้สึกเจ็บปวดน้อยที่สุดแต่ผลลัพธ์
ในตอนนี้มันก็ยังคงน่าแปลกใจอยู่ดี
แม้ว่าในตอนนี้นางจะตื่นขึ้นมาแล้วแต่นางยังคงไม่มีความคิดที่จะ
ออกห่างจากร่างของหลินหมิงไปไหน ร่างของนางที่ในตอนนี้นอนทับ
ร่างของหลินหมิงด้วยสภาพเปลื่อยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ความรู้สึกอบอุ่นที่
แผ่นซ่านออกมาจากผิวหนังและบริเวณภายในส่วนลับของนางที่ยังคง
เหลืออยู่มันทาให้นางรู้สึกมีความสุขจนไม่อยากที่จะจากไปไหน
" ฮิฮิ "
นางหัวเราะร่าอออกมาอย่างแผ่วเบาในขณะที่จดจ้องไปยังใบหน้า
ของหลินหมิงในยามที่เขากาลังหลับอยู่ แม้ว่าเขาจะมีใบหน้าที่เรียกได้
ว่างดงามแต่มันยังคงไม่สามารถเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากนักหากเทียบ
กับบรรดาเหล่าบุรุษอื่นแต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงไม่เข้าใจตนเอง
เช่นเดียวกันว่าเหตุใดนางถึงได้มีความรู้สึกชอบหลินหมิงมากถึงเพียงนี้
" อา... เจ้าตื่นแล้ว ? "
หลินหมิงตื่นขึ้นมาด้วยสภาพสับสนเล็กน้อย สัมผัสแรกที่หลินหมิง
ตื่นขึ้นมานั้นก็คือสัมผัสเนียนุ่มจากร่างกายของแม่สาวตัวน้อยของเขา
ร่างของนางในตอนนี้ดูเปล่งปลังสะท้อนแสงราวกับกระจกแต่ถึงอย่าง
นั้นมันกลับมีความนุ่มละมุนที่ชวนน่าหลงไหล ใบหน้าของนางในตอนนี้
ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มมันทาให้เสน่ห์ของนางเพิ่มขึ้นอีกนับร้อยเท่า หาก
ไม่ใช่ว่าหลินหมิงได้ระเบิดอารมณ์ใส่นางไปเมื่อคืนแล้วและเขายังคง
กังวลเกี่ยวกับสภาพร่างกายของนางไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้สภาพ
ของแม่สาวตัวน้อยผู้นี้สมควรเป็นได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นนั้นก็คือการ
ที่นางนอนส่งเสียงครางกระเส้าออกมา
" ฮึ่ม เจ้าตัวลามก เมื่อคืนเจ้ายังไม่เพียงพอเช่นนั้นอีกหรือ ! "
หลิวฉวนยูร์กล่าวกับหลินหมิงเมื่อนางสัมผัสได้ว่าส่วนล่างของ
หลินหมิงเริ่มมีการผงาดขึ้นมาในทันทีพร้อมกับแขนทั้งสองข้างของ
หลินหมิงที่เคลื่อนไหวตามร่างกายของนางอย่างซุกซน
" หากเป็นเจ้าต่อให้ข้าต้องทาเช่นนั้นทุกวันข้าก็ยินดี "
" เจ้า... "
หลิวฉวนยูร์นางทุบหมัดลงไปบนแผงอกของหลินหมิงแต่ถึงอย่าง
นั้นหมัดของนางมันกลับไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไม่ใช่เพราะนางยังคงไม่ฟื้นคืน
จากความเหนื่อยล้าเพียงแต่นางตอบสนองเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
อายของนางเพียงเท่านั้น
" เอ๊ะ ! "
ทันใดนั้นหลิวฉวนยูร์นางพลันสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดที่
เกิดขึ้นภายในร่างกายของนาง ในตอนนี้พลังปราณในร่างของนางมี
การพัฒนาเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่งอันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้นางเพียงแต่
ให้ความสนใจร่างของหลินหมิงเพียงเท่านั้นนางจึงยังคงไม่ได้สังเกตสิ่ง
ผิดปกติในร่างกายของตนเอง
" ปราณเริ่มต้นขั้นสูงสุด ? "
เสียงของนางกล่าวออกมาอย่างแผ่วเบาในตอนนี้นางจมลงอยู่ใน
ห้วงความคิด สาหรับนางแล้วสิ่งที่สาคัญที่สุดในอดีตนั้นย่อมเป็น
หนทางบ่มเพาะและการพัฒนาตน รวมถึงกระทั่งการปรุงยา แต่
ในตอนนี้มันมีการเปลี่ยนเล็กน้อยนั้นก็คือสิ่งที่สาคัญที่สุดของนางใน
ตอนนี้คือหลินหมิงแทน
" อันที่จริงแล้วข้าสามารถบอกกล่าวข้อสงสัยของเจ้าได้ "
หลินหมิงแย้มยิ้มในตอนนี้นางได้กล่าวเป็นสตรีของเขาอย่างเต็มตัว
แล้วและหลินหมิงรู้ดีว่าในตอนนี้แม่สาวตัวน้อยผู้นี้กาลังสับสนในเรื่อง
ใด
" เจ้าคงจะสงสัยว่าเหตุใดพลังของเจ้าถึงได้มีการพัฒนาขึ้นอย่าง
ก้าวกระโดดเช่นนั้นใช่หรือไม่ "
หลิวฉวนยูร์พยักหน้าสาหรับนางที่เพิ่งได้พัฒนายกระดับขึ้นมาสู่
ปราณเริ่มขั้นที่ 8 เมื่อไม่นานมานี้แต่ภายในช่วงเวลาเพียงข้ามคืนพลัง
ของนางกลับมีการพัฒนาโดยที่นางยังคงไม่ได้ทาสิ่งใด อันที่จริงแล้วมัน
ไม่ใช่เพียงเท่านั้นแต่นางยังคงสัมผัสได้ถึงพลังปราณพื้นฐานภายใน
ร่างกายของนางที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้วยสิ่งนี้
อนาคตของนางในเส้นทางการบ่มเพาะได้ถูกเปิดออกไปอย่างกว้าง
ขว้าง หลินหมิงยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อได้เห็นท่าทีสนใจของแม่สาวตัวน้อยผู้นี้
" นั้นเป็นเพราะว่าเจ้าได้ร่วมรักกับข้าอย่างไรล่ะ "
หลินหมิงกล่าวถึงเรื่องความสามารถของเขาโดยคร่าวๆให้กับหลิวฉ
วนยูร์ฟังสาหรับแม่สาวตัวน้อยผู้นี้แล้วหลินหมิงไม่มีความกังวลว่านาง
จะทรยศหรือหักหลังเขาดังนั้นแล้วเขาสามารถเปิดเผยความลับของ
เขาให้แก่นางได้ แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงปิดบังเรื่องราวบางส่วน
เอาไว้อยู่ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากบอกแต่หลินหมิงรู้สึกคร้านเกินไปก็เท่านั้น
หลิวฉวนยูร์นางรู้สึกเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตอยู่หลายส่วน
แท้จริงแล้วเหตุที่คุณหนูตระกูลเหยียน จิวหลินที่ถูกกล่าวว่านางได้รับ
การพัฒนาสั่งสอนจากหลินหมิงนั้นแท้จริงแล้วมันกลับเป็นความเป็น
จริงที่น่าตื่นตะลึงอันที่จริงแล้วก่อนหน้าที่จิวหลินจะได้เป็นภรรยาของ
หลินหมิงนางเองก็พอจะรับรู้ถึงความสามารถของจิวหลิน
ความสามารถของจิวหลินแต่เดิมนั้นนับได้ว่าธรรมดาไม่ได้โดดเด่น
อะไรมากแต่ถึงอย่างนั้นเพียงชั่วเวลาไม่นานหลังจากที่นางได้กลายเป็น
ภรรยาของหลินหมิงนางกลับได้พบหนทางความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ที่
เพียงพอที่จะสามารถสั่นคลอนไปทั่วทั้งอาณาจักรได้ เช่นนั้นแล้วหาก
เป็นนางเล่า ? มิน่าเล่าสตรีทั้งหลายถึงได้ชื่นชอบเจ้าตัวร้ายของนาง
มากนักไม่ใช่เพียงแต่เขาจะมีท่วงท่าที่ยอดเยี่ยมที่สามารถมอบ
ความสุขให้กับสตรีได้ แต่เขายังคงมีความสามารถที่จะทาให้สตรีได้รับ
การพัฒนาอันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าการได้รับสมบัติล้าค่าเสียอีก
" หากเจ้าต้องการบ่มเพาะพลังแล้วละก็เช่นนั้นแล้วพวกเราควรเริ่ม
กันต่อจากเมื่อคืนนี้ดีหรือไม่ "
" ไม่ ! "
หลิวฉวนยูร์กล่าปฎิเสธหลินหมิงในทันทีพร้อมกับวิ่งหนีไปด้วย
รอยยิ้มไปยังห้องอาบน้าเพื่อล้างตัว ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยหลิวฉวนยูร์
และหลินหมิงได้ไปยังที่พักอาศัยของหลินหมิงที่จิวหลินและนักฆ่าสาว
อยู่สาหรับศิษย์โดยทั่วไปแล้วพวกเขาล้วนใช้เวลานี้ในการเตรียมตัว
เพื่อเข้ารับการทดสอบในมิติเล้นลับในกหอฝึกฝนของสานักในส่วนของ
ศิษย์ใหม่
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วพวกเขาคร้านเกินกว่าที่จะฝึกร่วมกับคน
จานวนมากถึงเพียงนั้นไม่นับเรื่องที่พวกเขาทั้งหมดได้แสดง
ความสามารถอย่างน่าตื่นตะลึง หากพวกเขาไปที่หอฝึกฝนเช่นเดียวกัน
กับศิษย์โดยทั่วไปแล้วพวกเขาอาจไม่ได้ทาการฝึกฝนจริงๆทุกสิ่งอย่าง
จะจบลงด้วยการถามไถ่หรือการพูดคุยเพียงเท่านั้น
แน่นอนว่าสาหรับการเตรียมตัวของหลินหมิงนั้นเขาคิดว่ามันไม่มี
ความจาเป็นมากนักสิ่งที่เขาควรให้ความสนใจก็คือจิวหลินและแม่สาว
ตัวน้อยของเขา ดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงตั้งมั่นพัฒนาพวกเขาให้ก้าวหน้า
ให้ได้มากที่สุด แหวนมิติที่บรรจุสมบัติล้าค่าต่างๆมากมายที่ได้มาจาก
เหล่านักฆ่าก่อนหน้านี้ที่หลินพบเจอถูกหลินหมิงนาออกมาราวกับว่า
พวกมันไม่มีค่าแต่อย่างใด
" นี้มันโอสถระดับสูง ขวานนี้มันช่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันน่า
เสียดายที่ข้าไม่เหมาะกับมัน .... "
หลิวฉวนยูร์จ้องมองสมบัติล้าค่าด้วยความตื่นเต้นเห็นได้ชัดว่า
สมบัติล้าค่าเหล่านี้มีค่ามากเพียงใดขนาดแม่สาวตัวน้อยที่เกิดใน
ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลิวนางยังคงมีท่าทีเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัย
เกี่ยวกับจิวหลินแม้ว่านางจะไม่มีความสนใจในเรื่องของการบ่มเพาะ
พลังมากนักแต่เมื่อนางได้เห็นสมบัติจานวนมากเช่นนี้แม้แต่นางเอง
ยังคงอดที่จะตื่นตะลึงไปไม่ได้
แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงแล้วทั้งโอสถบ่มเพาะ อาวุธ หรือเครื่อง
ป้องกันอย่างอื่นนั้นล้วนไม่จาเป็นกับเขามากนักเพราะหลินหมิงนั้นได้
รับมาจากผู้อาวุโสฟางซิ่น ผู้อาวุโสฉินเหยากระทั่งอาจารย์สาวสวยของ
เขามาอย่างมากเกินพอดังนั้นแล้วสมบัติเหล่านี้เขายินดีให้พวกนางทั้ง
สองใช้พวกมันได้อย่างเต็มที่
" เจ้าให้พวกมันกับข้าจริงๆเช่นนั้น เจ้าห้ามเปลี่ยนใจแล้วนะ "
หลิวฉวนยูร์ตาประกายวาวด้วยทรัพย์สมบัติเหล่านี้มันเพียงพอที่จะ
ทาให้นางเพิ่มระดับความแข็งแกร่งได้อย่างมาก ดังนั้นแล้วนางไม่รอช้า
มือทั้งสองข้างเรียวงามของนางพลันควานหาสิ่งของที่นางคิดว่า
เหมาะสมสาหรับความแข็งแกร่งของนางจากนั้นนางรีบหลบไปอยู่มุม
หนึ่งเพื่อทาสมาธิและทาความเข้าใจกับขอบเขตใหม่ของนาง
เช่นเดียวกันกับจิวหลินแม้ว่านางจะมีท่าทีสับสนและลังเลอยู่บ้าง
แต่เมื่อนางได้เห็นใบหน้าของหลินหมิงที่แสดงออกถึงความต็มใจนางจึง
รีบหาสมบัติที่เหมาะสมกับนางและแยกตัวไปฝึกเช่นเดียวกันกับหลิวฉ
วนยูร์ แน่นอนว่าในระหว่างนี้หลินหมิงจะได้รับการบริการจากนักฆ่า
สาวหรือฟ่งซือเซียนกระทั่งหญิงสาวในกลุ่มของนางทั้งสี่
ส่วนในตอนกลางคืนนั้นเขาจะทาหน้าที่ในการพัฒนาพลังของ
ภรรยาผู้น่ารักทั้งสองของเขาอย่างเร้าร้อนจนกระทั่งพวกนางทั้งสอง
หมดสติไปด้วยความอ่อนล้า

ตอนที่ 170
วันเวลาเจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อถึงวันเวลาครบกาหนด
แบบทดสอบในส่วนที่สองเหล่าศิษย์ใหม่ต่างมารวมตัวกันอีกครั้งที่ลาน
ฝึกที่พวกเขาได้ทาการทดสอบในครั้งแรก เพียงแต่ว่าในตอนนี้แม้ว่ามัน
จะเป็นเพียงแค่เจ็ดวันแต่พวกเขาทุกคนล้วนมีความมั่นใจในตนเองขึ้น
เป็นอย่างมาก
ไม่เพียงแต่หอฝึกของสานักแห่งนี้จะเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยม
สาหรับผู้ฝึกยุทธ์เช่นพวกเขาเท่านั้นแต่มันยังคงมีสิ่งอานวยความ
สะดวกมากมายมันจึงทาให้ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาพัฒนาไป
อย่างรุดหน้า หากเทียบกันแล้วเพียงแค่พวกเขาได้ฝึกที่สานักแห่งนี้
เพียงเจ็ดวันมันก็ทากับว่าพวกเขาได้ใช้เวลาฝึกเช่นในอดีตมานับเดือน
เลยทีเดียว
แต่สิ่งที่ที่ผู้คนประหลาดใจที่สุดก็คือการที่พวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงา
ของกลุ่มของหลินหมิงเลยแม้แต่คนเดียว แน่นอนว่าด้วยความสามารถ
ที่กลุ่มของหลินหมิงได้แสดงออกมาในการทดสอบครั้งแรกนั้นมันจะ
เรียกได้ว่าห่างชั้นกับพวกเขาเป็นอย่างมากดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ที่พวกเขาจะไม่ต้องสนใจในการเตรียมตัวในการเข้ามิติเล้นลับนี้มาก
นัก
แต่มันจะไม่เป็นการประมาทมากเกินไปเช่นนั้นหรือ ? ภายในมิติ
เล้นลับนั้นแม้แต่อาณาจักรแห่งนี้ที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานหลายพันปี
พวกเขาก็ยังไม่สามารถล่วงรู้ข้อมูลที่แน่ชัดทั้งหมดภายในมิติแห่งนี้ได้
ดังนั้นแล้วหนทางที่ดีที่สุดพวกเขาควรจะเตรียมตัวบ้างเช่นนั้นไม่ใช่
หรือ แต่ถึงอย่างนั้นภายในเจ็ดวันนี้กลุ่มของหลินหมิงกลับไม่ปรากฎตัว
ที่หอฝึกเลย แม้กระทั่งหลัวฉิงเชี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน
" พวกเขาประมาทมากเกินไป ! "
" พวกเขามีความยิ่งทะนงเกินไปเห็นได้จากอายุของพวกเขาที่ยัง
เยาว์อยู่มันเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจไม่ให้ความสาคัญกับการเข้ามิติเล้น
ลับนี้เลยเสียด้วยซ้าไป "
" นี้ไม่ใช่ว่าในตอนนี้กงซุนหยางอาจเหนือกว่าแม่นางหลัวฉิงเชี่ยน
หรือกระทั่งหลิวฉวนยูร์ แล้วอย่างนั้นหรือ ? "
ในช่วงเวลาเจ็ดวันนี้พวกเขาทั้งหมดได้เห็นกงซุนหยางพัฒนาตน
ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วด้วยขอบเขตของคะแนนแต้ม
จากแบบทดสอบส่วนที่หนึ่งที่กงซุนหยางยังคงแตกต่างจากหลัวฉิง
เชี่ยนไม่มากนักเช่นนั้นแล้วศิษย์ส่วนใหญ่จึงคิดว่าในตอนนี้กงซุนหยาง
คงมีก้าวหน้าที่เหนือกว่าหลัวฉิงเชี่ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ในระหว่างที่เหล่าศิษย์กาลังพูดคุยกันนั้นร่างของเด็กหนุ่ม
ที่ล้อมรอบไปด้วยสตรีผู้งดงามถึงสามคนได้เดินเข้ามาภายในลานฝึก
อ่อร่าของเด็กหนุ่มที่แผ่ออกมานั้นทรงพลังจนพวกเขาคิดว่าเด็กหนุ่มผู้
นี้อาจเป็นหนึง่ ในผู้อาวุโสของสานักเลยเสียด้วยซ้าไป
" นั้นพวกเขา !... ไม่จริงน่า ! "
" สวรรค์ !! "
เหล่าศิษย์ใหม่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความแตกตื่นเมื่อพวกเขาได้เห็น
ร่างของหลินหมิงที่ก้าวเดินเข้ามาภายในลานฝึกพร้อมกับสตรีผู้งดงาม
ทั้งสามอย่างหลัวฉิงเชี่ยน จิวหลิน และหลิวฉวนยูร์ พวกเขาไม่ได้
แปลกประหลาดใจในระดับความแข็งแกร่งของหลินหมิงอันที่จริงแล้ว
ในตอนนี้มันคงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่ยังคงไม่ล่วงรู้ถึงระดับพลังของหลินห
มิงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสัมผัสพลังของหลินหมิงได้ก็ตาม แต่จาก
ข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วทั้งอาณาจักรในตอนนี้แม้แต่คนจรก็ยังคงต้อง
รู้จักชื่อเสียงของหลินหมิง
สิ่งที่พวกเขาตื่นตะลึงนั้นก็คือความแข็งแกร่งของจิวหลิน และ
หลิวฉวนยูร์ แน่นอนว่าพวกเขาสัมผัสได้เช่นเดียวกันว่าหลัวฉิงเชี่ยนนั้น
มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกันแต่หากเทียบกับสตรีทั้ง
สองก่อนหน้านี้แล้วมันนับเป็นสิ่งไร้ค่าความแข็งแกร่งของหลัวฉิงเชี่ยน
ที่เพิ่มขึ้นนั้นหากเทียบกับพวกเขาแล้วมันยังคงเรียกได้ว่าเหนือกว่า
เพียงเล็กน้อย เพียงเท่านี้มันก็เพียงพอที่จะทาให้พวกเขาตื่นตะลึงได้
อย่างมากเกินพอแล้ว
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้เข้าร่วมฝึกที่หอฝึกเลยแม้แต่วันเดียวแต่ถึง
อย่างนั้นนางกลับมีวิธีหนทางที่สามารถเพิ่มพลังของตนได้สูงยิ่งกว่า
พวกเขาไปมาก แต่สาหรับสตรีทั้งสองก่อนหน้านี้มันแตกต่างออกไปทั้ง
หลิวฉวนยูร์ และจิวหลินความแข็งแกร่งของพวกนางทั้งสองที่เพิ่มขึ้น
มันถึงกับทาให้ศิษย์ใหม่ทุกคนตะลึงค้างไปด้วยความตกใจ ความ
อิจฉา !
" ปราณก่อเกิดขั้นที่หนึ่ง !! "
" สวรรค์ ! พวกนางใช้เวลาเพียงเจ็ดวันในการก้าวยกระดับถึงสอง
ขั้น ! "
หลิวฉวนยูร์ในตอนนี้ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มนางสามารถ
เดินเคียงข้างหลินหมิงได้อย่างไม่มีความกังวลใดๆเกี่ยวกับในเรื่องของ
ความแข็งแกร่งของนางที่เพิ่มขึ้นนั้นแน่นอนว่าด้วยผลลัพธ์ส่วนใหญ่นั้น
มันคงต้องยกความดีความชอบให้กับเจ้าตัวร้ายของนางทั้งสิ้น ไม่
เพียงแต่บทรักของเขาจะสามารถช่วยให้นางพัฒนาขึ้นอย่างก้าว
กระโดดสมบัตแิ ละสิ่งล้าค่าที่เขามอบให้แก่นางก็มีส่วนด้วย
เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกันกับจิวหลินในตอนแรกนางมีระดับพลังในอยู่ที่จุดสูงสุด
ปราณเริ่มต้นขั้นที่แปดอยู่แล้วด้วยการร่วมรักกับหลินหมิงที่นาง
สามารถรับมือกัเขาได้นานมากกว่าแม่สาวตัวน้อยหลิวฉวนยูร์มันจึงทา
ให้นางได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดและด้วยสมบัติของ
หลินหมิงมันจึงทาให้นางได้รับความก้าวหน้าจนถึงระดับปราณก่อเกิด
ในที่สุด
สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่เพียงแค่ระดับพลังของสตรีทั้งสองที่เพิ่มถึงสอง
ขั้นเพียงเท่านั้นอันที่จริงแล้วสาหรับคนทั่วไปพวกเขาอาจต้องใช้เวลา
นับปีในการก้าวหน้าจากปราณเริ่มต้นขั้นที่แปดจนเข้าสู่ระดับปราณก่อ
เกิด และแน่นอนว่าถึงแม้พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับความช่วยเหลือจาก
สมบัติและโอสถมีค่าต่างๆ แต่มันไม่มีทางที่พวกเขาจะมีพลังปราณที่
มั่นคงเช่นสตรีทั้งสองตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้ ! กงซุนหยางที่อยู่ไม่
ห่างไกลออกไปในตอนนี้เขาแทบกระอักออกมาเป็นสายเลือด
' นี้มันเรื่องบัดซบอันใดกัน ! ข้ามั่นเพียรฝึกฝนอย่างหนักในช่วงเจ็ด
วันแต่ความแข็งแกร่งของข้ากลับยิ่งห่างจากพวกนางออกไปอีก '
สาหรับหลัวฉิงเชี่ยนนั้นนางเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากหลินหมิง
ด้วยเช่นเดียวกันแน่นอนว่านางยังคงไม่ได้เป็นสตรีของเขาแต่หลินหมิง
ได้ช่วยเหลือนางในเรื่องของทรัพยากร และสมบัติล้าค่าที่ไม่เหมาะสม
สาหรับภรรยาผู้น่ารักทั้งสองของเขา ด้วยฐานะในอดีตของนางที่เติบโต
มาในตระกูลที่มีอานาจเพียงปานกลางมันจึงทาให้นางไม่ค่อยได้รับ
ทรัพยากรที่มีค่ามากสักเท่าใดนัก เมื่อเป็นเช่นนี้การใช้โอสถและสมบัติ
ในการเพิ่มระดับของนางมันจึงยังคงไม่มีผลกระทบใดๆมากมาย
ในตอนนั้นเองที่ศิษย์ใหม่ส่วนหนึ่งพลันนึกถึงข่าวลือบางสิ่งที่พวก
เขาเคยได้ยินมาเกี่ยวกับหลินหมิง นั้นก็คือหลินหมิงนั้นมีความสามารถ
ที่จะทาให้สตรีข้างกายของเขามีการพัฒนาในระดับที่น่าหวาดหวั่น
แม้ว่าในตอนแรกผู้คนส่วนใหญ่ล้วนไม่เชื่อในสิ่งเหล่านี้แต่พวกเขาไม่
สามารถหาคาอธิบายอื่นได้อีก เมื่อเป็นเช่นนี้เหล่าศิษย์ใหม่ที่เป็นสตรี
ต่างมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาคาดหวังถึงบางสิ่งบางอย่าง
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อพวกนางมองไปยังสตรีทั้งสามข้างกายของหลินห
มิงหากเทียบกับสตรีทั้งสามแล้วความงดงามของพวกนางสมควรเรียก
ได้ว่าเป็นเพียงตัวอัปลักษณ์เพียงเท่านั้น
รอเวลาเพียงไม่นานผู้อาวุโสที่ทาหน้าที่ควบคุมได้เข้ามาภายในลาน
ฝึก สาหรับในครั้งนี้ตัวตนระดับสูงอย่างเจ้าสานัก หรือแม่ทัพแห่งวังห
ล่วงพวกเขาล้วนไม่ได้ปรากฎตัวในวันนี้เนื่องจากว่าการเข้ามิติเล้นลับ
ในครั้งนี้ผู้คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้ หาก
พวกเขาต้องการมาชมในแบบทดสอบส่วนที่สองนี้มันจะเป็นเพียงแค่
การเฝ้ารอศิษย์ใหม่เหล่านี้เข้าไปยังมิติเล้นลับและกลับออกมาเพียง
เท่านั้น แต่ต่างจากในครั้งแรกที่พวกเขาสามารถประเมิณความ
แข็งแกร่งของเหล่าศิษย์ใหม่ทั้งหลายได้
" สาหรับแบบทดส่วนที่สองนี้พวกเจ้าจะได้รับโอกาสในการเข้ามิติ
เล้นลับ แน่นอนว่าแม้แต่ข้าเองหรือผู้อาวุโสท่านอื่นพวกเขาก็ยังคงไม่
สามารถบอกกล่าวถึงสิ่งที่อยู่ภายในนั้นได้อย่างละเอียด
แต่ถึงอย่างนั้นข้าสามารถบอกได้เลยว่าสิ่งที่รอคอยเจ้าอยู่ภายใน
นั้นมันคือหนทางและโอกาสก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ี จงจาไว้หากพวกเจ้า
ต้องการสิ่งที่มีค่ายิ่งใหญ่เพียงใดมันย่อมมาพร้อมกับอันตรายที่หนัก
หนาไม่แพ้กัน "
เหล่าศิษย์ใหม่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังพวกเขา
รู้ดีว่าภายในมิติเล้นลับนี้มันมีสมบัติลับอยู่มากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบ
และมันสามารถช่วยให้พวกเขาได้พบกับความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่จน
อาจกลายเป็นเช่นเดียวกับหลินหมิงก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาทุกคนรู้
ดีว่ามันมีอันตรายมากเพียงใด ในอดีตนั้นผู้ที่ก่อตั้งอาณาจักรแห่งนี้นั้น
ในตอนที่เขายังคงเยาว์เมื่อเขาได้รับโอกาสในการเข้ามิติเล้นลับ
เขาได้พบกับสมบัติอันยิ่งใหญ่จนทาให้เขากลายเป็นผู้ที่มีพลังที่
สามารถสะเทือนแผ่นดินได้ กล่าวกันว่าในเวลานั้นระดับพลังของเขา
สูงส่งจนกระทั่งผู้อื่นไม่สามารถนามาเปรียบเทียบได้และได้ก่อตั้ง
อาณาจักรแห่งนี้ขึ้น เพียงแต่ว่าจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้มันก็ยังคงไม่มี
ใครที่มีวาสนาที่ดีมากเท่ากับผู้ก่อตั้งอาณาจักร

ตอนที่ 171
หลังจากที่ผู้ควบคุมกล่าวชี้แนะกับศิษย์ใหม่อีกเพียงเล็กน้อยและ
เขาได้พาเหล่าศิษย์ใหม่ไปยังลานฝึกที่เป็นทางเข้าไปสู่มิติเล้นลับ
ตรงหน้าของหลินหมิงในตอนนี้สภาพโดยล้อมนั้นมันไม่แตกต่างจาก
ลานฝึกที่เขาได้อยู่เมื่อก่อนหน้านี้สักเท่าใดนั้นแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่แปลก
ประหลาดก็คือตรงกลางของลานฝึกนั้นมีเสาสูงตระง่านตาตั้งอยู่คู่กัน
สองต้น
เพียงแค่แวบเดียวที่สายตาของหลินหมิงและเหล่าศิษย์ใหม่จ้องมอง
ไปที่เสาทั้งสองต้นนี้พวกเขาสามารถเข้าใจได้ในทันทีเลยว่านี้มันย่อม
เป็นทางเข้าไปสู่มิติเล้นลับ ตัวเสาทั้งสองต้นนั้นไม่เพียงแต่มีอ่อร่าที่
แปลกประหลาดที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเพียงเท่านั้น แต่ลวดลายที่
ถูกสลักลงบนเสาทั้งสองต้นมันทาให้พวกเขารู้สึกตื่นตะลึงมันไม่ใช่สิ่งที่
พวกเขาสามารถทาความเข้าใจได้เลยแม้แต่เสียวเดียว
ต่อให้เป็นศิษย์ใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกมาเพราะพรสวรรค์ในด้าน
การอ่านอักษรโบราณเมื่อต้องเจอกับอักษรประหลาดเหล่านี้ความรู้
และความเข้าใจของเขาย่อมไม่ต่างจากศิษย์ทั่วไป ขนาดผู้อาวุโสของ
อาณาจักรจานวนมากพวกเขาก็ยังคงไม่สามารถทาความเข้าใจกับ
อักษรโบราณเหล่านี้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้มันสาควรบอกได้ว่าเสาโบราณ
ทั้งสองต้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยาวนานมากเพียงใด
ขนาดตาราโบราณของอาณาจักรที่ถูกจัดเก็บเอาไว้หลายพันปีพวก
มันยังคงไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวข้อมูลของเสาโบราณทั้งสองต้นนี้ แต่สิ่งที่
น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าก็คือใครกันที่สามารถสร้างสิ่งของที่วิเศษเช่นนี้
ออกมาได้ มันกระทั่งมีอายุมานานมากกว่าหมื่นปี แสนปี หรืออาจนับ
ล้านปี
" เริ่มได้ "
เสียงกล่าวของผู้กล่าวออกมาเพื่อเป็นสัญญาณให้กับผู้อาวุโสระดับ
ต่าที่ทาหน้าที่ควบคุมเสาโบราณทั้งสองอันเป็นประตูทางเข้ามิติเล้นลับ
ผู้อาวุโสระดับต่าเหล่านั้นมีการเคลื่อนไหวตอบสนองในทันทีหิน
ลมปราณจานวนมากถูกนาออกมาจากแหวนิมิตของพวกเขา เมื่อเห็น
ภาพตรงหน้านี้เหล่าศิษย์ใหม่รู้สึกตื่นตะลึงขึ้นมาในทันที
ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาทุกคนล้วนมาจากตระกูลใหญ่ที่มี
ฐานะสูงส่งภายในเมืองของพวกเขาแต่จานวนหินลมปราณจานวนมาก
ที่ถูกนาออกมาตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้นั้นเมื่อนับมูลค่าของพวก
มันแล้วมันอาจมีค่าเทียบเท่ากับทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลพวก
เขาหรืออาจมากกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าทางสานักวังจันทรานี้มีความมั่ง
คั่งมากเพียงใดไม่เพียงแต่ในการทดสอบส่วนแรกพวกเขาจะใช้จ่ายศิลา
จาลองจานวนมากแก่เหล่าศิษย์โดยง่ายแต่ในตอนนี้พวกเขาก็ยังคงใช้
ทรัพยากรจานวนมากเช่นเดียวกัน
ระหว่างเสาโบราณทั้งสองต้นก่อเกิดพลังปราณหมุนวนอันเกิดจาก
หินลมปราณจานวนมากเหล่านี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม้ว่าทางตระกูล
ของพวกเขาคนใดคนหนึ่งหากได้รับเสาโบราณทั้งสองตนนี้ไปพวกเขาก็
คงไม่สามารถที่จะใช้มันได้ ไม่ใช่ว่าเพราะว่าพวกเขามีสมบัติไม่
เพียงพอแต่พวกเขาไม่สามารถทนรับความเสี่ยงที่จะเกินขึ้นกับการใช้
จ่ายสมบัติจานวนมากเช่นนี้โดยที่ไม่มีสิ่งใดมารับประกันว่าพวกเขาจะ
ค้นพบสมบัติล้าค่าภายใน
" ก่อนที่พวกเจ้าจะเข้าไปข้าจะขอกล่าวอีกเพียงเล็กน้อย สมบัติที่
พวกเจ้าค้นพบทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของพวกเจ้าโดยชอบธรรมแต่
ถึงอย่างนั้นหากพวกเจ้าค้นพบว่ามันมีความไม่เหมาะสมสาหรับพวก
เจ้าทางสานักยินดีที่จะรับมันไหว โดยที่สิ่งที่จะได้ตอบแทนก็คือแต้ม
รางวัลซึ่งพวกเจ้าสามารถใช้มันในการแลกสมบัติอย่างอื่นที่ทางสานักมี
ด้วยเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าสาหรับแต้มรางวัลนั้นพวกเจ้าจะได้รับมันจากการที่พวก
เจ้ารายงานสิ่งที่พวกเจ้าพบเจอภายในมิติเล้นลับยิ่งมันมีค่ามากเพียงใด
พวกเจ้าก็จะได้รับแต้มรางวัลมากเท่านั้น "
เหล่าศิษย์ใหม่ในตอนนี้บางส่วนเริ่มที่จะจับกลุ่มกันเพื่อเข้าทาการ
สารวจภายในมิติเล้นลับด้วยการกระทาของพวกเขาเช่นนี้แน่นอนว่าใน
ตอนที่พวกเขาได้มีโอกาสค้นพบสมบัติพวกเขาต้องทาการแบ่งกันอย่าง
เท่าเทียมหรือตามที่ตกลงกันเอาไว้นั้นหมายความว่าโอกาสที่พวกเขา
จะได้รับสมบัตินั้นจะมีโอกาสน้อยยิ่งกว่าศิษย์ที่ไปเพียงลาพัง
แต่ถึงอย่างนั้นการเดินทางเพียงลาพังในสถานที่ที่ไม่สามารถคาด
เดาได้อย่างมิติเล้นลับนี้มันนับเป็นความเสี่ยงที่มากเกินไปสาหรับหลาย
คน แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงเองก็เช่นเดียวกันหลินหมิงในตอนนี้จับ
กลุ่มกับจิวหลิน หลิวฉวนยูร์รวมถึงหลัวฉิงเชี่ยน หากให้เขาออกสารวจ
ภายในมิติเล้นลับเพียงลาพังหลินหมิงมีความมั่นใจว่าเขาจะไม่มีปัญหา
อย่างใดในเรื่องนี้แต่กับสตรีทั้งสามที่เหลือนั้นเขายังคงไม่ไว้วางใจมาก
นักแม้ว่าพวกนางจะได้รับการพัฒนาจนโดดเด่นแล้วก็ตามที่
" พวกเจ้าจงจาไว้พวกเจ้ามีเวลาภายในนั้นเพียงเจ็ดวันเท่านั้น
แน่นอนว่าหากเมื่อใดพวกเจ้าพบว่าพวกเจ้าไม่สามารถอยู่ภายในนั้น
ต่อไปได้ให้พวกเจ้าทาลายศิลานาทางที่อยู่ภายในมือของพวกเจ้าสิ่งนั้น
จะนาพาพวกเจ้ากลับมาที่นี้ในทันที "
กระบวนการเข้าไปยังมิติเล้นลับดาเนินไปอย่างเชื่องช้านั้นเป็น
เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะให้ศิษย์ใหม่เหล่านี้เข้าไปพร้อมกัน
เพราะว่าภายในมิติเล้นลับนั้นพวกเขาไม่สามารถตรวจสอบสิ่งใดได้
ดังนั้นแล้วมันอาจเป็นไปได้ว่าเหล่าศิษย์ใหม่ส่วนหนึ่งอาจมีการกระทา
ที่เลวร้ายต่อศิษย์ที่เหลืออย่างเช่นการเข่นฆ่าและแย่งชิงทรัพย์สมบัติ
สิ่งหนึ่งที่ทางสานักรู้แน่นอนก็คือช่วงเวลาที่เข้าไปภายในมิติเล้นลับนั้น
หากเข้าไปพร้อมกันเป็นกลุ่มพวกเขาจะถูกส่งไปยังสถานที่เดียวกัน
แต่หากพวกเขาเว้นช่วงเวลาเอาไว้เพียงเล็กน้อยพวกเขาจะส่งไปยัง
สถานที่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมันจะลดการเกิดปัญหาระหว่างศิษย์ได้
แม้มันจะมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะพบเจอกันในอนาคตก็ตามที่
รอเพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่กลุ่มของหลินหมิงนั้นจะเข้าไปสารวจ
ภายในมิติเล้นลับสาหรับศิษย์ที่ต้องการเกาะกลุ่มสารวจร่วมกันทาง
สานักยินยอมให้กลุ่มของพวกเขามีขนาดไม่เกินห้าคนเท่านั้น เพราะ
ด้วยกลุ่มจานวนมากเกินไปนั้นแม้ว่ามันจะมีข้อดีในเรื่องของความ
ปลอดภัยแต่การเคลื่อนไหวรวมถึงการสารวจมันจะด้อยประสิทธิภาพ
อย่างมาก
และแม้ว่ากลุ่มของหลินหมิงจะประกอบไปด้วยคนเพียงสี่คนนั้น
หมายความว่าพวกเขาสามารถรับคนเข้ามาได้อีกหนึ่งแต่อย่างนั้นมัน
กลับไม่มีใครที่มีความกล้ามากพอที่จะเข้าร่วมกลุ่มกับหลินหมิง เห็นได้
ชัดว่าในทีนี้คนที่มีความสามารถเพียงพอที่ใกล้เคียงกับกลุ่มของหลินห
มิงมากที่สุดก็คือกงซุนหยางเพียงเท่านั้นส่วนศิษย์ที่เหลือหากพวกเขา
ปราถนาที่เข้าร่วมกันกลุ่มของหลินหมิงนั้นหมายความว่าพวกเขาอาจ
ไม่ได้รับกระทั่งส่วนแบ่งเล็กน้อย ด้วยพลังของพวกเขาที่ไร้ประโยชน์ไป
โดยสิ้นเชิงหากเทียบกับกลุ่มของหลินหมิง
ใบหน้าของสตรีทั้งสามเต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับเด็กน้อยที่
เฝ้ารอของเล่นจากบิดามารดาพวกนางทั้งสามไม่ได้มีความกังวล
เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของพวกนางมากนักหากเทียบกับศิษย์คน
อืน่ นัน้ เป็นเพราะว่าข้างกายของพวกนางในตอนนี้มีหลินหมิงอยู่นั้นเอง
ร่างของกลุ่มคนทั้งสี่เดินหายเข้าไปช่องว่างระหว่างเสาโบราณทั้ง
สองความรู้สึกมึนหัวเล็กน้อยเกิดขึ้นกับกลุ่มของหลินหมิง เพียงแค่ชั่ว
ลมหายใจเดียวภาพตรงหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
' นี้คือภายในมิติเล้นลับ ! '
กลิ่นอายที่อยู่ภายในมิติเล้นลับแห่งนี้หลินหมิงสามารถบอกได้เลย
ว่ามันมีพลังปราณหนาแน่นเสียยิ่งกว่าที่หอฝึกของสานักหลายเท่า นี้
มันไม่ใช่ว่าแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความปราถนาในการค้นหาสมบัติแต่
พวกเขายังคงสามารถที่จะใช้สถานที่นี้ในการฝึกฝนและบ่มเพาะพลัง
อย่างนั้นหรือ ?
แต่หลินหมิงสะบัดหัวไหลความคิดเหล่านั้นไปในทันทีไม่เพียงแต่
พลังของเขาจะไม่สามารถเพิ่มได้อย่างคนปกติทั่วไป แต่หากมีคนทา
เช่นนั้นพวกเขาคงได้โดยด่าท้อว่าเป็นเพียงตัวโง่งมเพียงเท่านั้น ได้รับ
โอกาสในการเข้าสารวจมิติเล้นลับไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีโอกาสพบส
มับติที่ประเมินค่าไม่ได้เพียงเท่านั้น พวกเขาจะยังคงมีโอกาสได้รับแต้ม
รางวัลจากการเล่าเรื่องราวที่พวกเขาพบเจอภายในมิติแห่งนี้ให้กับทาง
สานักและจะได้รับแต้มรางวัลเป็นผลตอบแทน
เบื้องหน้าของหลินหมิงในตอนนี้คือทิวทัศน์ของป่าที่เต็มไปด้วย
ต้นไม้ และพืชพรรณแปลกประหลาดมากมายแน่นอนว่าหลินหมิงและ
สตรีข้างกายของเขาทั้งสามล้วนรู้ดีว่าแม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงพืช
พรรณและต้นไม้แต่พวกมันเป็นสิ่งที่เติบโตภายในมิติที่เต็มไปด้วย
พลังงานอันหนาแน่นเช่นนี้นั้นหมายความว่าพวกมันย่อมเป็นสิ่งที่หาได้
ยากไม่ใช่น้อย
ตอนที่ 172
" ไม่มีใครอยู่เลย.. "
เสียงของจิวหลินดังขึ้นมาด้วยความกังวลเล็กน้อยสาหรับนางที่เป็น
คุณหนูตระกูลกล่าวได้ว่านี้อาจเป็นการผจญภัยครั้งแรกของนางเลยก็
ว่าได้ แตกต่างจากหลิวฉวนยูร์และหลัวฉิงเชี่ยนพวกนางแม้จะไม่ได้มี
ประสบการณ์ในการต่อสู้เท่ากับหลินหมิง แต่พวกนางก็ได้ผ่านการทา
ภารกิจกับสานักมาอยู่บ่อยครั้ง
หลินหมิงแผ่สัมผัสออกไปโดยรอบด้วยระดับพลังของหลินหมิง
ในตอนนี้มันเพียงพอที่เขาจะสามารถสิ่งรอบตัวของเขาได้อย่างกว้าง
ขว้างมากกว่าสตรีทั้งสามนับสิบเท่า
' ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลย.. '
กลุ่มของหลินหมิงออกเดินสารวจบริเวณป่าแห่งนี้อย่างไม่รีบร้อน
แม้ว่าจากสัมผัสของหลินหมิงเขาจะไม่พบว่ามีสิ่งมีชิวิตหรือสัตว์อสูรใด
โดยรอบแต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีกับดักหรือสิ่งอื่นที่เป็นอันตรายต่อพวก
เขา
" นี้มันหญ้าสีเลือด ! "
ดวงตาของหลิวฉวนยูร์เป็นประกายไปด้วยความตื่นเต้นนางพลัน
เคลื่อนกายเข้าหาต้นหญ้าที่มีลักษณะเป็นสีแดงสด ไม่เพียงเท่านั้น
บริเวณโดยรอบของมันล้วนปลดปล่อยพลังงานที่ทรงพลังออกมา
เช่นเดียวกันไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องเป็นหนึ่งในพืชพรรณที่หา
ยากอย่างแน่นอน แม้ว่ามันอาจไม่เทียบเท่ากับบงกชเหมันต์ที่ผู้อาวุโส
ฟางซิ่นได้รับแต่มันก็นับได้ว่าด้อยกว่าเพียงหนึ่งขั้นหรืออาจน้อยกว่า
นั้น
หากเป็นศิษย์ทั่วไปที่ได้พบกับหญ้าสีเลือดนี้พวกเขาอาจทาได้เพียง
แค่เดินผ่านเท่านั้นด้วยรูปลักษณ์ของหญ้าสีเลือดแม้ว่ามันจะสะดุดตา
แตกต่างจากหญ้าทั่วไปอยู่มากแต่สิ่งเหล่านั้นไม่อาจนับรวมกับสิ่งที่อยู่
ภายในมิติเล้นลับเหล่านี้กล่าวได้ว่าพืชพรรณส่วนใหญ่ที่อยู่ที่แห่งนี้ล้วน
เป็นสิ่งแปลกประหลาดที่พวกเขาล้วนไม่เคยพบเห็น
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เหล่าศิษย์ใหม่จะ
สามารถแยกแย่งระหว่างพืชพรรณที่ไร้ค่ากับสมุนไพรอันเยี่ยมยอดได้
? แตกต่างจากแม่สาวตัวน้อยของหลินหมิงไม่เพียงแต่นางจะขึ้นชื่อใน
เรื่องของพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะเพียงเท่านั้นทักษะในด้านการ
ปรุงยาของนางนับได้ว่าเป็นเลิศไม่เป็นรองใครในวัยเดียวหรือมากกว่า
เลยแม้แต่น้อย
หนึ่งชั่วยามผ่านไปการสารวจของกลุ่มหลินหมิงนั้นอาจเรียกได้ว่า
ค่อนข้างผิดหวังพวกเขาไม่พบแม้กระทั่งร่องรอยของทรัพย์สมบัติแต่
อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นคนที่มีความสุขมากที่สุดก็คือแม่สาวตัวน้อย
หลิวฉวนยูร์ในตอนนี้ในแหวนมิติของนางนั้นจากการคาดเดาของ
หลินหมิงนั้นมันสมควรมีสมุนไพรที่ล้าค่าไม่ต่ากว่าสิบชนิด !
" อันที่จริงแล้วเจ้าไม่จาเป็นที่จะต้องใช้พวกมันก็ย่อมได้.. "
" เจ้าตัวร้าย นี้มันใช่เรื่องที่เจ้าสมควรกล่าวในที่นี้อย่างนั้นรึ ! "
หลินหมิงอดที่จะกล่าวหยอกล้อกับแม่สาวตัวน้อยของเขาไปไม่ได้
แน่นอนว่านี้ยังคงเป็นการพักผ่อนจิตใจของพวกเขาไม่ให้กังวลมาก
จนเกินไปอีกด้วย จิวหลินนางรู้สึกคุ้นเคยกับภาพตรงหน้าของแล้ว
แตกต่างจากหลัวฉิงเชี่ยนนางรู้ดีว่าหลินหมิงและหลิวฉวนยูร์นั้นมี
ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดเมื่อในตอนที่นางได้เห็นภาพ
ตรงหน้าของนางที่หลินหมิงกาลังหยอกล้อกับสตรีข้างกายของเขาทั้ง
สองอย่างสนุกสนานนางกลับรู้สึกเจ็บหัวใจเล็กน้อยขึ้นมา
วันเวลาล่วงเลยผ่านไปหนึ่งวันเต็มในหนึ่งวันที่ผ่านมานี้กลุ่มของ
หลินหมิงก็ยังไม่สามารถค้นพบสมบัติต่างๆได้อย่างเช่นเคยแต่ถึงอย่าง
นั้นด้วยระยะเวลาเพียงหนึ่งวันที่พวกเขาได้อาศัยอยู่ภายในมิติเล้นลับ
แห่งนี้มันทาให้ปราณของสตรีทั้งสามนั้นหนาแน่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงไม่สามารถคาดคิดได้ว่าหากสถานที่แห่งนี้ยังคงมีสิ่งมีชีวิตอยู่
พวกมันจะเป็นตัวตนที่น่ากลัวในระดับใดกัน
ทันใดนั้นเมื่อครบกาหนดหนึ่งวันเต็มจากวันที่พวกเขาได้เข้ามา
ภายในมิติเล้นลับแห่งนี้เป็นครั้งแรกบรรยากาศโดยล้อมของพวกเขา
ล้วนแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทิวทัศน์ที่เคยเป็นป่าได้ล้อมล้วน
เปลี่ยนไปเป็นถ้าโบราณที่ปรากฎแสงไฟเพียงเล็กน้อย กลุ่มของหลินห
มิงเข้าใจถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว
การใช้ชีวิตอยู่ภายในมิติเล้นลับแห่งนี้จากการที่พวกเขาได้ยินมา
จากเหล่าผู้อาวุโสมันจะมีระดับความอันตรายที่เพิ่มมากขึ้นเป็นอย่าง
มากในแต่ละวันในส่วนของวันแรกนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จะไม่ได้พบเจอ
สิ่งที่เป็นอันตรายมากนักแต่หากผู้คนที่มีวาสนาอันเลวร้ายเขาก็อาจได้
พบสถานการณ์ที่ย่าแย่เสียแต่ในวันแรกแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ
โชควาสนาเพียงเท่านั้น
รูปลักษณ์ของทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปนี้ถึงกับทาให้หลินหมิงขมวดคิ้ว
เล็กน้อย เขาไม่คิดว่ามันจะมีค่ายกลหรืออาคมรูปแบบใดที่สามารถเป
ลี่ยทิวทัศน์อันกว้างใหญ่โดยได้ถึงเพียงนี้ นี้มันแสดงให้เห็นถึงความ
เข้าใจในรูปแบบอาคมที่ลึกซึ้งเสียยิ่งกว่าในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ไม่กี่
ชั่วลมหายใจต่อมาภาพตรงหน้าของหลินหมิงนั้นมันถึงกับทาให้สตรีทั้ง
สามนั้นหวาดหวั่นขึ้นมาเล็กน้อย
" โฮกกกก ! "
เสียงคารามอันดุร้ายของสัตว์อสูรปรากฎขึ้นด้วยลักษณะของมันคือ
สัตวอสูรที่มีรูปร่างคล้ายกับสิงโตแต่ถึงอย่างนั้นมันแตกต่างจากสิงโต
โดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยรูปร่างส่วนบนของมันที่มีลักษณะเป็นหัว
สิงโตแต่ถึงอย่างนั้นที่บริเวณลาตัวของมันกลับปรากฎเป็นกล้ามเนื้อที่
มีลักษณะคล้ายกับวานรสองเขาที่สาคัญกว่านั้นคือมันสามารถยืนได้
ด้วยขาทั้งสองข้างและแขนทั้งสองที่เต็มไปด้วยหมัดกล้าม
" ปราณก่อเกิดขั้นที่ 6 "
หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงระดับพลังของเจ้าสัตว์ตัวนี้แน่นอนว่า
มันยังไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะสามารถสร้างความกังวลให้กับหลินหมิงได้ แต่
นั้นย่อมเป็นในสถานการณ์ปกติเพียงเท่านั้น !
" ข้าขยับไม่ได้ ! "
หลินหมิงรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกพันธนาการเอาไว้ด้วย
แรงกดดันอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้และมนทรงพลังใน
ขนาดที่แม้ว่าเขาจะเรียกใช้ความแข็งแกร่งของเขาออกมาเป็นจานวน
มากแล้วแต่มันก็ไม่มีท่าทีว่าพันธนาการที่มองไม่เห็นเหล่านี้จะหายไป
เลยแม้แต่น้อย
" พวกเจ้าหนีไป ! "
หลินหมินกล่าวตวาดออกไปด้วยความแข็งแกร่งของสัตว์อสูร
ตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้แม้จะเป็นหลัวฉิงเชี่ยนที่มีระดับพลังก้าว
มาถึงปราณก่อเกิดขั้นที่สี่แล้วก็ตามแต่นางเพิ่งยกระดับได้ไม่นานดังนั้น
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ระดับพลังที่แท้จริงของนางจะยังคงใกล้เคียง
กับปราณก่อเกิดขั้นที่สามเสียมากกว่า โดยไม่ต้องกล่าวถึงหลิวฉวนยูร์
และจิวหลินพวกนางทั้งสองยังคงมีพลังเพียงปราณก่อเกิดระดับเริ่มต้น
นี้มันไม่ใช่สิ่งที่พวกนางจะสามารถรับมือได้เลยแม้แต่น้อย
สตรีทั้งสามพวกนางสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับ
หลินหมิงแน่นอนว่าแม้หลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าเจ้าสัตว์
อสูรตนนี้เป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นด้วยสภาพของหลินหมิงที่ไม่อาจ
ขยับตัวได้ในตอนนี้นั้นมันเท่ากับว่าหลินหมิงจะต้องเป็นเป้านิ่งถูกเจ้า
สัตว์อสูรที่แปลกประหลาดตนนี้จู่โจม ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่พวกนางไม่
ยินยอมอย่างแน่นอน
" ข้าจะรับหน้าที่ในการประมือกับมันในแนวหน้า ศิษย์น้องฉวนยูร์
และศิษย์น้องจิวหลินพวกเจ้าทั้งสองคอยหาจังหวะในการเข้าจู่โจมมัน
"
หลัวฉิงเชี่ยนนางกล่าวออกมาพร้อมกับนากระบี่ของนางออกมา
จากแหวนมิติพลังของนางถูกเร่งเร้าจนอยู่ในระดับสูงสุดที่นางสามารถ
ทาได้ หลิวฉวนยูร์และจิวหลินเองพวกนางต่างเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
ด้วยเช่นเดียวกันแม้ว่าพวกนางจะรู้ดีว่าระดับพลังของพวกนางจะ
แตกต่างจากเจ้าสัตว์อสูรตนนี้อยู่มาก แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางไม่มี
ทางเลือกอื่น
ร่างของหลัวฉิงเชี่ยนที่ยืนประจันหน้ากับเจ้าสัตวอสูรเพื่อเตรียม
รับมือกับการจู่โจมของมัน เพียงชั่วพริบตาเดียวหมัดที่เต็มไปด้วย
กล้ามเนื้อของมันถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วเข้าใส่หลัวฉิงเชี่ยน
แม้ว่านางจะคาดเดาถึงการโจมตีเช่นนี้เอาไว้ก่อนแล้วแต่ด้วยความเร็ว
ของมันที่ยังคงมากกว่านางมากมันจะทาให้นางไม่สามารถตอบสนอง
ได้อย่างดีเยี่ยมมากนัก
ร่างของนางหันหลบข้างพร้อมกับกระบี่ของนางที่ถูกใช้เพื่อให้หัน
เหทิศทางการโจมตีของหมัดเจ้าสัตว์อสูรให้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
' มันแข็งอะไรเช่นนี้ ! '
กระบี่ของนางที่วาดผ่านเพื่อเบี่ยงเบนทิศทางกลับทาได้เพียงแค่
สร้างรอยเสียดสีเล็กน้อยให้กับผิวหนังของเจ้าสัตว์อสูรตนนี้ หลิวฉวน
ยูร์นางระเบิดพลังปราณที่เต็มไปด้วยไอเย็นออกมาปลายกระบี่ของนาง
นั้นอัดแน่นไปด้วยพลังปราณที่ทาให้บริเวณโดยรอบตัวนางนั้น
กลายเป็นน้าแข็งไปในทันที
ทางด้านจิวหลินนางเองก็เร่งเร้าพลังปราณขึ้นมาถึงขีดสุด
เช่นเดียวกันแตกต่างจากหญิงสาวทั้งสองก่อนหน้าจิวหลินนั้นนางไม่มี
ความสามารถโดดเด่นในเรื่องของทักษะการต่อสู้มากนักแต่ในเรื่องของ
รูปแบบอาคมและค่ายกลที่นางได้เรียนรู้มาจากฟ่งซือเซียนและกลุ่ม
หญิงสาวของนางมันทาให้นางค้นพบว่านางมีความสามารถเหมาะสม
ในเรื่องนี้มากยิ่งกว่า นั้นจึงเป็นเหตุให้นางสามารถผ่านแบบทดสอบใน
ส่วนที่หนึ่งได้อย่างง่ายดาย
" ข้าจะทาการขัดขวางการเคลื่อนไหวของมัน "
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิวฉวนยูร์และหลัวฉิงเชี่ยนพวกนางเข้าใจสิ่งที่
พวกนางต้องทาในทันที ที่บริเวณฝ่ามือของจิวหลินปรากฎอักษรอาคม
จานวนมากไหลเข้าหาสัตวอสูรเพื่อบีบรัดร่างของมันไม่ให้เคลื่อนไหว
แต่ถึงอย่างนั้นเพียงแค่มองดูก็สามารถรู้ได้ในทันทีว่าอาคมของจิวหลิน
นี้มันไม่สามารถที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าสัตว์อสูรนี้ได้นานนัก
มันอาจได้เพียงแค่ช่วงสามหรือสี่ลมหายใจเพียงเท่านั้น
ปราณกระบี่เย็นของหลิวฉวนยูร์ฟันลงเข้าหาร่างที่ถูกผนึกเอาไว้
ของเจ้าสัตว์อสูรเช่นเดียวกันหลัวฉิงเชี่ยนที่ระเบิดพลังปราณก่อเกิด
ของนางออกมาพร้อมกับฟันลงไปที่เจ้าสัตวอสูร์ตนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
" โฮกกกกกกกกก !! "
เสียงของสัตว์อสูรคารามด้วยความโกรธเกรี้ยว อาคมที่ถูกผูกหมัด
ร่างกายของมันเอาไว้อยู่ถูกระเบิดออกพร้อมกับส่งร่างของจิวหลินให้
ลอยไปหลายสิบก้าวเช่นเดียวกันกับหลิวฉวนยูร์และหลัวชิงเชี่ยนพวก
นางทั้งสองล้วนมีสภาพที่ไม่ต่างกันนัก เจ้าสัตว์อสูรจ้องมองไปที่สตรี
ทั้งสามด้วยแววตาอามหิตแม้ว่ามันจะได้รับการโจมตีจากหลัวฉิงเชี่ยน
และหลิวฉวนยูร์จนได้รับบาดแผลแต่มันยังคงเรียกได้ว่าห่างไกลแก่
ชีวิตมันไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงไม่ยอมรับที่ตัวมันได้รับบาดเจ็บ
จากสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ่กว่าเช่นนี้
เพียงแต่ชั่วพริบตาที่มันปราถนาจะเข้าจู่โจมร่างของสตรีทั้งสาม
พลันเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นพร้อมกับร่างของสัตว์ที่หายไปพร้อมกับการ
ปรากฎตัวของหญิงสาวแปลกประหลาดขึ้นมาแทน

ตอนที่ 173
ร่างของหญิงสาวที่ปรากฎออกมานั้นถึงกับทุกสายตาเต็มไปด้วย
ความตื่นตะลึง ด้วยเครื่องแต่งกายอาภรณ์ของนางที่เป็นสีขาวล้วนอัน
พุดผ่อง อ่อร่าที่แผ่ออกมาจากตัวนางนั้นเรียกได้ว่ามันเหนือกว่าสัตว์
อสูรก่อนหน้านี้อย่างเทียบไม่ติดอันที่จริงแล้วแม้กระทั่งหลินหมิงก็
ยังคงไม่สามารถประเมิณระดับความแข็งแกร่งของหญิงสาวผู้นี้ได้อย่าง
แน่ชัด แต่สิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือร่างกายของนางนั้นปรากฎเป็นเพียง
ภาพลางๆเท่านั้น
' จิตวิญญาณ ! '
นี้คือความคิดที่แล่นเข้ามาในหัวของหลินหมิงในทันทีหลังจากที่เขา
ได้เห็นหญิงสาวตรงหน้า จิตวิญญาณนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนทั่วไปจะ
สามารถมีได้ พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เคยเป็นผู้ที่มีพลังระดับที่สามารถ
สั่นสะเทือนพื้นดินได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวและเมื่อชีวิตของพวกเขา
ใกล้สิ้นสุดหรือกระทั่งพวกเขาอาจต้องการหาตัวตนที่จะสืบทอด
อานาจของพวกเขา พวกเขาจะคงร่างจิตวิญญาณของพวกเขาเอาไว้
เพื่อหาผู้สืบทอด
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยร่างจิตวิญญาณของพวกเขานั้นมันจะมีพลัง
อ่อนแอ่กว่าร่างจริงเป็นอย่างมาก แต่หญิงสาวผู้นี้ที่เป็นร่างจิตวิญญาณ
นางกลับมีพลังในระดับที่น่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้หลินหมิงไม่สามารถ
ประเมิณได้ว่าในยามที่นางยังคงมีชีวิตอยู่นั้นระดับของนางนั้นมีความ
แข็งแกร่งมากเพียงใด ด้วยร่างจิตวิญญาณของนางนั้นหลินหมิง
ประเมิณจากแรงกดดันโดยคร่าวๆแล้วมันสมควรแข็งแกร่งในระดับ
เดียวกันกับแม่ซัคคิวบัสสาวซือเฟยเลยทีเดียว !!
' จิตสายฟ้า ! '
หลินหมิงไม่รู้ว่าจิตวิญญาณตนนี้มีเป้าหมายใดแต่เขาไม่ยินยอมที่
จะถูกกักขังแล้วรอการพิพากษาโดยไม่ทาอะไรอย่างแน่นอน ตัวตน
ของผู้ที่มีพลังระดับในตานานเช่นนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือความคิดของ
พวกเขาที่ยากแก่การคาดเดา
" ฮ่าห์ ! "
หลินหมิงคารามออกมาพร้อมกับพลังปราณของเขาที่ถูกเร่งเร้า
ขึ้นมาอย่างต่อเหนื่องแม้ว่าด้วยผลของทักษะจิตสายฟ้ามันจะทาให้
พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นจนกระทั่งมันสามารถเทียบได้กับพลังปราณ
ของผู้ที่อยู่ในขั้นที่ 6 ระดับจอมยุทธ์แต่มันยังไม่สามารถสร้าง
ผลกระทบใดๆให้กับพันธนาการที่มองไม่เห็นนี้ได้
เปลวเพลิงสีดาที่ประกอบไปด้วยลวดลายของสายฟ้าที่ขาว
ล้อมรอบตัวหลินหมิง ตามผิวหนังและหน้าผากของเขาปรากฎเส้น
เลือดปูดโปนจนมันแทบจะแตกออกจากการที่หลินหมิงเร่งเร้าพลังของ
เขาจนมากเกินไป
" เงียบซะ.. "
เสียงกล่าวอันเย็นชาของหญิงสาวแปลกประหลาดดังขึ้นพร้อมร่าง
ของหลินหมิงที่ราวกับว่าเขาได้ถูกแรงโน้มถ่วงของโลกหลายสิบเท่ากด
ลงบนร่างจนไม่สามารถยืนขึ้นมาได้พลังปราณภายในร่างกายของเขาที่
รวบรวมมาที่ปัดเป่าให้หายราวกับฝุ่นภายในชั่วพริบตาเดียว
" อึก !! "
" เจ้าตัวร้าย.. "
หลิวฉวนยูร์ จิวหลินและหลัวฉิงเชี่ยนพวกนางได้แต่ตะลึงกับภาพ
ตรงหน้าแม้ว่าพวกนางจะไม่รู้ถึงขอบเขตพลังที่แน่ชัดของหลินหมิงแต่
เห็นได้ชัดว่าแม้กระทั่งผู้ที่มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ขั้นปลายก็ยังคง
ยากที่จะเอาชนะเขาแต่ถึงอย่างนั้นด้วยคากล่าวเพียงคาเดียวหญิงสาว
ตรงหน้ากลับสามารถเอาชนะหลินหมิงของพวกนางได้ !
" เปลวเพลิงอันน่ารังเกียจอย่างนั้นรึ..ก็นับว่าไม่เลว "
ร่างของสตรีทั้งสามเคลื่อนกายมาบดบังระหว่างหลินหมิงและหญิง
สาวแปลกประหลาดพร้อมด้วยอาการสั่นกลัว หญิงสาวในชุดขาวยิ้ม
ขึ้นมุมปากเล็กน้อยแล้วก็กวาดสายตามองไปยังร่างของหลิวฉวนยูร์
และจิวหลิน รวมถึงหลัวฉิงเชี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยท่าทางของหญิง
สาวชุดขาวนี้ดูเหมือนว่านางจะรู้จักเปลวเพลิงทมิฬของเขา ? แต่ถึง
อย่างนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่หลินหมิงสมควรถามออกไปในตอนนี้ทางที่ดีที่สุด
ของเขาคือรีบคิดหาหนทางหนีออกไป
' ศิลานาทาง '
แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพื่อทาลายศิลานั้น
ตัวตนระดับสตรีในชุดขาวนี้นางอาจสามารถเข่าฆ่าเขาได้นับสิบครั้ง
ภายในช่วงเวลาอึดใจเดียว
" ไม่เลว แม้ว่ามันจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีที่สุดแต่ข้าก็พึงพอใจ "
ทันทีที่สตรีชุดขาวกล่าวจบแรงกดดันที่เกิดขึ้นพลันหายไปราวกับ
เป็นเรื่องโกหกหลินหมิงที่ในตอนแรกอยู่ในสภาพที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้า
ขึ้นมองเหนือพื้นได้ ในตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนร่างอย่าง
แท้จริงพลังปราณในร่างกายของเขาเหือดแห้งจนไม่สามารถขยับตัวได้
แน่นอนว่านี้ไม่ใช่เพราะผลกระทบจากทักษะจิตสายฟ้าเพียงอย่าง
เดียวเท่านั้นแต่มันยังคงเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงนับสิบเท่าก่อนหน้านี้อีก
ด้วย
จิวหลิน และหลิวฉวนยูร์รีบเข้าดูอาการของหลินหมิงในทันที ส่วน
หลัวฉิงเชี่ยนนั้นนางยังคงไม่สามารถไว้วางใจในสถานการณ์ในตอนนี้ได้
นางจึงจ้องมองไปที่สตรีในชุดขาวเพื่อเตรียมรับมือ
" ท่านหมายความเช่นไร ? "
" มันก็เป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น...สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมีเพียงแค่
การหาผู้ที่จะสืบทอดพลังของขางต่อไปเพียงเท่านั้น "
ใจของหลินหมิงและสตรีทั้งสามเต้นระรัวเมื่อได้ยินคากล่าวจาก
สตรีในชุดขาวไม่ต้องพูดถึงแม้สถานะผู้สืบทอดของสตรีในชุดขาวผู้นี้
หลินหมิงเชื่อว่าแม้สถานะอย่างคนรับใช้ของนางเหล่าผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์ในสานักวังจันทราพวกเขาก็แก่งแย่งกันเพื่อได้ตาแหน่งนี้
ด้วยขอบเขตพลังในร่างจิตวิญญาณของนางนั้นกล่าวได้ว่านางสามารถ
ที่จะจัดการเหล่าผู้อาวุโสจากอาณาจักรของพวกเขาได้ราวกับมดตัว
หนึ่งเพียงเท่านั้น
" แน่นอนว่าไม่ใช่พวกเจ้าทั้งหมดที่ข้าจะให้มาเป็นผู้สืบทอดของข้า
มีเพียงสตรีทั้งสองนางนั้นที่ข้าคิดเห็นว่าพวกนางมีความเหมาะสมเพียง
เท่านั้น "
สตรีในชุดขาวกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ร่างของหลิวฉวนยูร์และจิวหลิน
พวกนางทั้งสองเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและอารมณ์ที่หลากหลายใน
สถานการณ์เช่นนี้แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกนางจะรู้สึกภูีม
ใจที่จะได้รับภูมิความรู้และการถ่ายทอดวิชาและทักษะต่างๆจากตัวตน
ระดับตานานเช่นนี้แต่ถึงอย่างนั้นความกังวลเดียวของพวกนางก็คือ
การที่พวกนางจะต้องแยกจากการหลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย
" ผู้อาวุโสหากไม่เป็นการเสียมารยาทมากจนเกินไปผู้เยาว์ขอถาม
ได้หรือไม่ว่า พวกข้าจะต้องอยู่ฝึกฝนกับท่านนานเพียงใด "
" หนึ่งปีหรืออาจมากกว่านั้นกระทั่งน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับ
ความสามารถและความเพียรพยายามของพวกเจ้าทั้งสอง "
หลิวฉวนยูร์ และจิวหลินพวกนางใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ด้วยเวลา
หนึ่งปีนั้นมันไม่อาจนับได้ว่านานมากนักสาหรับผู้ที่มีมุ่งมั่นในหนทาง
ของผู้ฝึกยุทธ์ มันก็เปรียบเหมือนกับปิดด่านเพื่อบ่มเพาะพลังแตกใน
กรณีของพวกนางนั้นมันแตกต่างออกไปเล็กน้อย นั้นก็คือพวกนางทั้ง
สองในตอนนี้ไม่ได้มีความคิดเห็นว่าหนทางการบ่มเพาะนั้นสาคัญ
สาหรับพวกนางมากที่สุดก็คือหลินหมิง ด้วยการที่พวกนางตอบรับ
เงื่อนไขจากสตรีในชุดขาวผู้นี้นั้นเท่ากับว่าพวกนางจะต้องแยกจากการ
หลินหมิงไปราวหนึ่งปีเต็ม !
ทันใดนั้นแววตาของหลิวฉวนยูร์และจิวหลินเปล่งประกายด้วย
ความแน่วแน่หลังจากที่พวกนางหันกลับมามองที่หลินหมิงที่ยังคงอยู่
สภาพอ่อนแอ่
" ข้าตกลง "
" ข้าเองก็เช่นเดียวกัน "
สตรีในชุดขาวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลังจากนั้นนางกล่าวให้
หลิวฉวนยูร์ และจิวหลินได้กล่าวลากับหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนเพียง
เล็กน้อย
แน่นอนว่าแม้ว่าพวกนางทั้งสองจะไม่ได้คดิ เห็นว่าหนทางบ่มเพาะ
นั้นสาคัญสาหรับพวกนางมากนักแต่ถึงอย่างนั้นหากพวกนางมีความ
แข็งแกร่งไม่เพียงพอในอนาคตนั้นเท่ากับว่าพวกนางจะต้องเป็นถ่วง
ของหลินหมิง กระทั่งอาจจะทาให้เขาได้พบกับอันตรายที่ถึงชีวิตได้
ดังนั้นแล้วพวกนางจึงตัดสินใจที่รับอานาจสืบทอดจากสตรีในชุดขาว
" เจ้าตัวร้ายเวลาหนึ่งปีต่อจากนี้เจ้าสามารถเที่ยวชมสตรีอื่นได้
อย่างเต็มที่ แต่หากเมื่อใดที่ข้าและพี่สาวจิวหลินกลับมาเมื่อนั้นเจ้า
จะต้องเชื่อฟังคาสั่งของพวกข้าทั้งสอง ดังนั้นแล้วเจ้าจงใช้โอกาสอันล้า
ค่านี้ให้ดีเสียละ "
" ท่านพี่ข้าต้องขออภัยที่ไม่สามารถทาหน้าที่ปรนนิบัติท่านได้นับ
จากหนึ่งปี แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อข้ากลับมาข้าสัญญาว่าข้าจะทาตามทุก
อย่างที่ท่านเรียกร้อง.. "
หลิวฉวนยูร์และจิวหลินโผเข้ากอดหลินหมิงอย่างอบอุ่นเพพื่อเก็บ
ความรู้สึกที่ได้แอบอิ่งข้างกายของหลินหมิงให้ได้นานที่สุด เพราะว่า
พวกนางจะไม่สามารถพบหน้ากับหลินหมิงได้อีกถึงหนึ่งปีเต็ม
" เมื่อพวกเจ้ากลับมาเตรียมตัวทาหน้าที่ของพวกเจ้าได้เลย ข้าจะ
ให้พวกเจ้าชดใช้ให้คุ้มค่า "
เมื่อหลิวฉวนยูร์และจิวหลินกล่าวจากลากับหลินหมิงอีกเพียง
เล็กน้อยด้วยการตวัดมือของหญิงสาวในชุดขาวเพียงครั้งเดียวภาพ
ตรงหน้าของหลินหมิงที่เคยคงอยู่ร่างของนางก็พลันหายไปพร้อมกับ
ร่างของภรรยาผู้น่ารักทั้งสองของเขาด้วยเช่นเดียวกัน

ตอนที่ 174
หลินหมิงแม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่อยากแยกจากจากภรรยาผู้น่ารักทั้ง
สองของเขาแต่ทั้งหมดนี้เพื่ออนาคตของพวกนางเอง เวลาเพียงหนึ่งปี
แลกกับอนาคตที่ไร้ขีดจากัดพร้อมกับทักษะที่ได้เรียนรู้จากตัวตนระดับ
ตานานเช่นนั้นย่อมเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
หลินหมิงใช้เวลาพักฟื้นฟูร่างกายของเขาราวครึ่งชั่วยามผลกระทบ
จากการใช้ทักษะจิตสายฟ้านั้นมันทาให้ร่างกาของเขาอ่อนแรงเป็น
อย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นด้วยโอสถจานวนมากที่หลินหมิงได้รับมาจาก
อาจารย์สาวสวยของเขารวมถึงจากบรรดาเหล่านักฆ่าก่อนหน้านี้มันทา
ให้อาการของเขาฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว
สาหรับหลัวฉิงเชี่ยนนั้นนางไม่ได้มีความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ถูก
คัดเลือกโดยตัวตนระดับตานานเช่นสตรีในชุดขาวผู้นั้น อันที่จริงแล้ว
แม้ว่าด้วยพรสวรรค์ของนางในเรื่องการบ่มเพาะและวิถีแห่งการต่อสู้
จะเหนือกว่าจิวหลิน แต่พลังปราณพื้นฐานโดยรวมของนางนั้นยังคง
ด้อยกว่าจิวหลินอยู่มากกล่าวได้ว่ามันขึ้นอยู่กับวันเวลาเท่านั้นที่จิว
หลิน หรือกระทั่งหลิวฉวนยูร์จะก้าวหน้ามากกว่านางได้ในอนาคต
แต่เมื่อนางครุ่นคิดดูอีกทีในระหว่างที่หลินหมิงกาลังพักฟื้นร่างกาย
ในตอนนี้ไม่เท่ากับว่านางจะต้องร่วมเดินทางกับศิษย์น้องของนางเพียง
ลาพัง ? แม้ว่าก่อนหน้านี้นางและหลินหมิงจะเคยไปทาภารกิจร่วมกัน
มาแล้วก็ตามแต่ในตอนนี้นางไม่สามารถห้ามความคิดที่แปลก
ประหลาดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของนางได้
" ศิษย์เป็นอะไรไปเช่นนั้นรึ ? "
" ปะ..เปล่า ไม่มีไรข้าคิดว่าพวกเราสมควรสารวจพื้นที่โดยรอบ
อย่างไรเสียมันอาจมีสมบัติที่ล้าค่า "
หลินหมิงพยักรับคากล่าวของหลัวฉิงเชี่ยนแน่นอนว่าทุกวันภายใน
มิติเล้นลับที่มีการเปลี่ยนแปลงไปนั้นย่อมหมายถึงโอกาศในการค้นพบ
สมบัติที่ล้าค่ายิ่งกว่าในวันแรกและแน่นอนว่าพวกมันย่อมมาพร้อมกับ
อันตรายที่เกิดกว่าจะสามารถคาดเดาได้
หลินหมิงใช้เวลาในการสารวจพื้นที่โดยรอบที่เปลี่ยนแปลงไปโดย
สิ้นเชิงราวหนึ่งชั่วยามแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงไม่พบสมบัติอาจมี
บ้างที่พวกเขาพบกับพืชพรรณสมุนไพรที่ล้าค่าแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็
ยังคงไม่สามารถประเมิณมันได้ว่ามันมีค่ามากน้อยเพียงใดกล่าวกัน
ตามความเป็นจริงแล้วเมื่อปราศจากแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ หลินหมิง
และหลัวฉิงเชี่ยนที่มุ่งเน้นในเรื่องของการบ่มเพาะและวิถีการต่อสู้
พวกเขาแทบจะไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่าสิ่งใดคือพืชพรรณที่มีค่า
กับไร้ค่ากันแน่
ทันใดนั้นเมื่อหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนกาลังเดินไปตามเส้นอยู่นั้น
เสียงของผนั้งถ้าที่ค่อยๆปริแตกออกมาพร้อมกับร่างโครกกระดูก
จานวนนับสิบตนที่โผล่ออกมาประจัญหน้ากับพวกเขา ดวงตาของพวก
มันมีสีแดงสดเพียงแค่มองแวบแรกหลินหมิงก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาต้องสิ่ง
ใด ด้วยพลังของโครงกระดูกเหล่านี้หากเป็นศิษย์ใหม่โดยทั่วไปพวกเขา
อาจต้องหน้าซีดเผือกไปในทันที
' ปราณเริ่มต้นขั้นที่ 8 '
แน่นอนว่าสาหรับศิษย์ส่วนใหญ่แล้วนั้นพวกเขามีระดับพลังปราณ
อยู่ในช่วงปราณเริ่มต้นช่วงปลายเพียงเท่านั้นจะมีเพียงไม่กี่คนที่
สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตปราณก่อเกิดได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นกระทั่ง
ผู้ที่มีพลังปราณเริ่มต้นระดับ 9 พวกเขาก็ยังคงต้องรับมือกับโครง
กระดูกพวกนี้อย่างยากลาบากด้วยจานวนของพวกมันที่มากจนเกินไป
ที่ข้างกายของหลินหมิงปรากฎสายลมโชยขึ้นพร้อมกับร่างของ
หลัวฉิงเชี่ยนที่ทะยานพุ่งเข้าหาโครงกระดูกนับสิบตนอย่างไม่กลัวเกรง
แน่นอนว่าไม่ว่านางหรือหลินหมิงจะเป็นคนลงมือในการกาจัดโครง
กระดูกเหล่านี้ผลลัพธ์มันย่อมไม่ต่างกันมากนัก
หลินหมิงในตอนนี้เขาพลันเพิ่งสังเกตเห็นถึงทักษะที่ศิษย์พี่แสน
สวยของเขาใช้ในการเคลื่อนไหว นางอาศัยแรงลมเพื่อที่จะทาให้การ
เคลื่อนไหวของนางนั้นรวดเร็วมากยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่ามันเป็นทักษะ
เดียวกันกับเขา ' ทักษะก้าววายุ ' และแน่นอนว่านางยังคงสามารถ
ฝึกฝนมันได้ในระดับสูงกว่าหลินหมิงอยู่ราวสองขั้นหรืออาจกระทั่ง
มากกว่านั้น
เพียงชั่วเวลาไม่กี่ลมหายใจร่างของโครงกระดูกทั้งหมดกลายเป็น
แน่นิ่งไปในทันที ที่บริเวณร่างของนั้นปรากฎหินลมปราณขนาดใหญ่
เท่าฝ่ามือแน่นอนว่ามันย่อมเป็นหินลมปราณขนาดกลางด้วยจานวน
ของโครงกระดูกทั้งหมดนีท้ าให้หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนได้รับหิน
ลมปราณทั้งหมดด้วยกันถึง 10 ก้อน แน่นอนว่ามันยังคงไม่จานวนที่
มากมายเพียงใดหากเทียบกับสมุนไพรที่แม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์เก็บได้
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยจานวนของหินลมปราณระดับกลางทั้ง 10 ก้อน
นี้มันถือว่าได้เป็นรายได้ของศิษย์ใหม่เช่นพวกเขาที่จะได้รับจากทาง
สานักในแต่ละเดือนเลยทีเดียว แน่นอนว่าหลินหมิงไม่มีความจาเป็น
จะต้องใช้มันและถึงแม้ว่าเขาจะจาเป็นจริงๆภายในแหวนมิติของนักฆ่า
ทั้งหลายมันยังคงมีหินลมปราณอยู่อีกเป็นจานวนไม่ใช่น้อยแม้ว่า
ภรรยาผู้น่ารักทั้งสองของเขาจะใช้พวกมันไปแล้วก็ตามที่
" ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นของศิษย์พี่นั้นเพราะท่านเป็นผู้ลงมือ.. อันที่
จริงแล้วข้าได้เรียนรู้สิ่งที่สาคัญกว่าจากการเคลื่อนไหวของท่าน "
หลัวฉิงเชี่ยนชะงักงันเล็กน้อยอันที่จริงแล้วนางยินดีที่จะแบ่งหิน
ลมปราณนี้ให้กับหลินหมิงในจานวนที่เท่าเทียมกันแต่เมื่อนางพลันคิด
ไปถึงทรัพย์สมบัติจานวนมากของศิษย์น้องของนางที่สามารถกระทั่ง
แบ่งปันหินลมปราณจานวนมากให้แก่นางก่อนหน้านี้ได้อย่างสบาย
อารมณ์และดูเหมือนว่าเขายังคงจะไม่จาเป็นที่จะต้องใช้มัน อาจเป็น
เพราะว่าในตอนนี้หลังจากที่ศิษย์น้องของนางได้ผ่านความก้าวหน้ามา
อย่างต่อเหนื่องมันอาจถึงจุดที่เขาไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้โดยง่าย
เมื่อคิดเห็นเช่นนี้หินลมปราณระดับกลางทั้งสิบก้อนล้วนถูกเก็บลงใน
แหวนมิติของนาง
วันที่สองล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็วหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยน
ยังคงไม่ค้นพบสมบัติที่น่าสนใจสาหรับพวกเขามากนัก มีบ้างที่พวกเขา
จะเจอนักรบโครงกระดูกก่อนหน้า และโครงกระดูกที่สวมใส่ชุดที่ดูราว
กับทหารศึกแต่ถึงอย่างนั้นระดับของพวกมันก็ยังคงไม่เป็นปัญหากับ
หลัวฉิงเชี่ยนเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้ใบหน้าของหลัวฉิงเชี่ยนเบ่งบาน
ไปด้วยความสูข
สาหรับนางที่เกิดในตระกูลที่มีฐานะปานกลางด้วยทรัพย์สมบัติที่
นางได้รับในวันที่สองนี้มันอาจเรียกได้ว่าเป็นรายได้หนึ่งสัปดาห์ของ
ตระกูลของนางเลยทีเดียว
ทันใดนั้นเมื่อครบกาหนดสามวันภาพเบื้องหน้าของหลินหมิง
แปรเปลี่ยนไปพร้อมกับทิวทิศน์ใหม่ที่ปรากฎขึ้น เมื่อได้เห็นภาพ
ตรงหน้าดวงตาของหลินหมิงเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ
" พระราชวังโบราณ .? "
ด้วยสถานที่ตรงหน้าของหลินหมิงที่เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เมื่อ
มองจากภายนอกนั้นมันมีรูปลักษณ์คล้ายกับพระราชวังแต่ถึงอย่างนั้น
มันกลับมีบางสิ่งที่แตกต่างออกไปจากพระราชวังในยุคนี้ ที่บริเวณ
โดยรอบพระราชวังโบราณนี้มันเต็มไปด้วยอักษรแปลกประหลาดที่
หลินหมิงไม่อาจทาความเข้าใจได้ ไม่เพียงเท่านั้นตัวของพระราชวัง
ยังคงแผ่รัศมีพลังงานที่เออล้นออกมาจนทาให้หลินหมิงตื่นตะลึง ไม่
ต้องสงสัยว่าสิ่งที่อยู่ภายในพระราชวังแห่งนี้จะต้องเป็นสิ่งที่ล้าค่ายิ่ง
หัวใจของหลินหมิงเต้นระรัวไปด้วยความตื่นเต้น
แต่ในทันใดนั้นที่หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนจะก้าวเข้าไปเพื่อสารวจ
พระราชวังโบราณตรงหน้าของพวกเขากลับปรากฎกลุ่มคนจานวนมาก
ปรากฎกายขึ้น หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็น
จานวนผู้คนที่ปรากฎขึ้นพวกเขาเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากเหล่า
ศิษย์ใหม่แห่งสานักวังจันทรา จากที่หลินหมิงได้ยินมานั้นโอกาศที่พวก
เขาจะพบกับกลุ่มอื่นภายในมิติเล้นลับแห่งนี้มีคนค่อนข้างน้อยมาก
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีกรณีอย่างในอดีตที่มิติเล้นลับได้มีการ
รวมตัวเหล่าศิษย์เพื่อรับการทดสอบ และสถานการณ์ของพวกเขาก็คง
เป็นเช่นนั้น หลินหมิงแอบผิดหวังเล็กน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเขา
ได้รายงานเรื่องพระราชวังโบราณแห่งนี้ให้กับทางสานักเช่นนั้นแล้วเขา
สมควรจะได้รับแต้มรางวัลที่มหาศาลแม้ว่าหลินหมิงจะไม่ขาดแคลน
เรื่องเงินทองแต่ทรัพย์สมบัติระดับสูงนั้นล้วนแตกต่างออกไป

ตอนที่ 175
เมื่อหลินหมิงพลันเห็นใบหน้าของหนึ่งในศิษย์ใหม่เช่นเดียวกันกับ
เขาทันใดนั้นหลินหมิงพลันเกิดจิตสังหารชั่วครู่ขึ้นมา แน่นอนว่าบุคคล
นั้นย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากกงซุนหยางแน่นอนว่าหลินหมิงยังคง
ไม่ลืมว่าบิดาของกงซุนหยางผู้นี้คือผู้ที่จ้างวานกลุ่มนักฆ่าให้มาสังหาร
เขาและแน่นอนด้วยระดับพลังของหลินหมิงในตอนนี้มันเป็นเรื่องง่าย
มากหากเขาต้องการที่จะดับชีวิตคุณชายผู้เย่อหยิ่งผู้นี้
แต่หลินหมิงพลันเก็บอาการลงในทันทีแม้ว่าเขาจะสามารถลงมือ
สังหารกงซุนหยางได้อย่างไม่ยากเย็นราวกับเหยียบมดเพียงเท่านั้นแต่
ในทีนี้นั้นมันเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์ใหม่จานวนมาก จากกฎของสานักที่
กล่าวเอาไว้ว่าไม่อนุญาติให้เหล่าศิษย์ใหม่นั้นโจมตีต่อกันไม่เช่นนั้นแล้ว
พวกเขาจะโดนโทษร้ายแรง และหากไม่พูดถึงเรื่องกฎของสานักหลินห
มิงก็ยังคงไม่โง่พอที่จะกระทาการโจงแจ้งต่อหน้าผู้คนจานวนมาก
เช่นนี้
เพราะเมื่อหากเรื่องนี้ไปถึงหูของรองเจ้าสานักบิดาของกงซุนหยาง
ผู้นี้แล้วละก็มันคงจะกลายเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไปในทันที เมื่อเหล่า
ศิษย์ใหม่ทั้งหลายได้มารวมกันอย่างไม่คาดฝันพวกเขาได้แต่มองหน้า
กันเองด้วยความสงสัยเล็กน้อย
" สวรรค์ที่มันพระราชวังแห่งใดกันมันถึงได้มีพลังงานเอ่อล้นออก
มาถึงเพียงนี้ ! "
ศิษย์ใหม่ทุกคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิดอันที่
จริงแล้วสาหรับพวกเขาทุกคนในสองวันที่ผ่านมานี้แม้ว่าพวกเขาจะ
สามารถหาสมบัติได้บ้างแต่สมบัติเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่สามารถหาได้
ง่ายยิ่งด้วยสถานะอันสูงส่งของตระกูลพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาได้เห็น
พระราชวังโบราณที่เต็มไปด้วยพลังงานอันบริสุทธ์มันคงมีแต่คนโง่
เท่านั้นที่จะไม่รู้ว่าภายในนี้จะต้องมีสมบัติที่ประเมิณค่าไม่ได้เอาไว้อยู่
ไม่กี่ชั่วลมหายใจต่อมาโดยที่เหล่าศิษย์ใหม่ยังไม่ทันได้หายจาก
อาการตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า ที่บริเวณอักษรโบราณตามพระราชวัง
พลันเรืองแสงประกายจ้าที่เต็มไปด้วยพลังงานที่มากล้น พร้อมกับการ
ปรากฎกายของชายวัยกลางคนที่ใบหน้าเย็นชา
' จิตวิญญาณโบราณ '
ศิษย์ใหม่ทุกคนยกเว้นหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนสีหน้าของพวกเขา
พลันแข็งค้างไปด้วยความไม่ยากจะเชื่อ อันที่จริงแล้วสาหรับจิต
วิญญาณโบราณนั้นมันเป็นเสมือนเรื่องเล่าที่กล่าวเกินจริง เพราะว่าใน
ยุคสมัยปัจจุบันหรือในอดีตหลายร้อยหรือกระทั่งพันปัไม่มีบรรพชนคน
ใดของพวกเขาที่มีความสามารถเช่นนี้
สาหรับจิตวิญญาณโบราณของชายวัยกลางคนผู้นี้แม้หลินหมิงจะ
สามารถรับรู้ได้ว่าเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างไรก็ตามแต่
หากเทียบกับจิตวิญญาณโบราณของสตรีในชุดขาวก่อนหน้าความ
แข็งแกร่งของชาวกลางคนผู้นี้ก็ยังคงนับได้ว่าเป็นรองอยู่หลายขั้นเลย
ทีเดียว
" พวกเจ้าไม่ต้องจาเป็นจะต้องแปลกใจไปว่าเหตุใดพวกเจ้าถึงได้มา
รวมกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความประสงค์ของนายข้าที่
ล่วงลับไปแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการทดสอบเพื่อคัดเลือกที่ผู้ที่เหมาะสม
ที่จะสืบทอดพลังอานาจและสมบัติที่เก็บอยู่ภายในพระราชวังแห่งนี้...
"
ศิษยใหม่ทุกคนพวกเขาไม่กล้าแม้แต่หายใจออกมาอย่างรุนแรง
พวกเขาเกรงว่าด้วยการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาดจนเกิดเสียงเพียง
เล็กน้อยมันอาจทาให้พวกเขาพลาดพลั้งข้อมูลที่สาคัญยิ่ง เดิมทีแล้ว
พวกเขามีความคิดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้คือผู้ที่เป็นเจ้าของพระราชวัง
แห่งนี้แต่มันกลับไม่ใช่ทั้งๆที่เขามีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ !
" หากพวกเจ้าคนใดมีความปราถนาที่แรงกล้ามากพอก็เชิญพวก
เจ้าผ่านเข้าไปยังประตูของพระราชวังจะมีด่านทดสอบสาหรับพวกเจ้า
อยู่ทั้งหมดด้วยกันสามด่านด้วยกัน และถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะไม่สามารถ
ผ่านด่านทดสอบได้ทั้งหมดพวกเจ้าก็ยังคงได้รับรางวัลตามผลงานของ
พวกเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน "
เมื่อร่างจิตวิญญาณโบราณกล่าวจบร่างของเขาพลันหายไปจาก
สายตาของเหล่าศิษย์ใหม่ในทันที ในตอนนี้ยังคงไม่มีผู้ใดกล้า
เคลื่อนไหวขยับกายแต่อย่างใด ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการที่เขาไป
ทดสอบแต่พวกเขาไม่ต้องการที่จะเข้าไปคนแรกโดยที่ยังคงไม่รู้ว่า
ภายในนั้นมีสิ่งใดรอพวกเขาอยู่กัน
ตรงกันข้ามกับหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนเห็นได้ชัดว่าทั้งสองนั้นมี
นิสัยที่คล้ายคลึงดังนั้นแล้วพวกเขาจึงสามารถคุยกันได้สบายๆราวกับ
สหายที่คบกันมานานนับสิบปี สัมผัสก้าวเท้าแรกของหลินหมิงที่
เหยียบลงบนพื้นภายในพระราชวังโบราณ
มันเต็มไปด้วยแรงกดดัน จิตสังหาร เมื่อมองไปรอบบริเวณทางเดิน
ที่มีขนาดกว้างขว้างเพียงพอที่จะให้กองทัพนับพันเดินผ่านได้อย่าง
สบาย บนกาแพงนั้นมีลวดลายประหลาดอยู่เต็มไปหมดแน่นอนว่าพวก
มันไม่ใช่อักษรโบราณเหมือนกับที่อยู่นอกพระราชวังก่อนหน้า หลินห
มิงจับมือหลัวฉิงเชี่ยนเอาไว้พร้อมกับถ่ายพลังปราณเพื่อเข้าคุ้มครอง
นางเอาไว้ด้วยส่วนหนึ่ง
แม้ว่าด้วยตัวของนางเองจะสามารถทนต่อสภาพกดดันเช่นนี้ได้แต่
ถึงอย่างนั้นมันย่อมต้องแลกด้วยความเหนื่อยล้าอยู่ไม่ใช่น้อยเลย
ทีเดียว
หลินหมิงไม่สนใจสายตาของศิษย์ใหม่ที่เหลือสาหรับหลินหมิงแล้ว
นั้นแม้ว่าแรงกดดันเช่นนี้จะไม่อาจนับได้ว่ามีปัญหาอันใดกับเขา แต่มัน
ไม่ใช่กับคนอื่นๆ
" ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด "
เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างของเขาที่ทะยานตามไป
พร้อมกับหลินหมิงทันทีที่เท้าของเขาก้าวข้ามสัมผัสขอบเขตชายประตู
ทางเข้ามันราวกับมีแรงโน้มถ่วงนับสิบเท่ากดร่างของเขาเอาไว้ไม่เพียง
เท่านั้นด้วยจิตสังหารที่มีอยู่เต็มทั่วท้องบริเวณทางเดินมันถึงกับทาให้
ตัวเขาไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างง่ายดาย
กงซุนหยางขมวดคิ้วหนักเขารู้ดีอยู่แล้วว่าสถานที่ที่ศักดิสิทธ์เช่นนี้
มันไม่มีทางที่จะสามารถผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายๆอย่างแน่นอน แต่ถึง
อย่างนั้นตัวเขาไม่สามารถถอยหลังกลับได้ด้วยความห่างชั้นของเขา
และกลุ่มของหลินหมิงในตอนนี้หากเขายังคงเคลื่อนไหวช้าไปมากกว่า
นี้นั้นเท่ากับว่าความห่างชั้นของพลังของพวกเขาก็อาจจะยิ่งเพิ่มขึ้นไป
ด้วย
ทันทีที่กงซุนหยางก้าวเท้าเดินเข้ามาแรงกดดันที่ถาโทมเข้ามามัน
ถึงกับทาให้เขาขมวดคิ้วไปด้วยความตรึงเครียด โดยไม่รอช้าแต่อย่าง
ใดพลังปราณก่อเกิดระดับสองของเขาถูกระเบิดออกมาโดยไม่มียั้งเพื่อ
คุ้มครองร่างตนเองเอาไว้ ด้วยการกระทาเช่นนี้แม้ว่ามันจะสามารถทา
ให้เขาก้าวเดินสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงเทียบได้เท่ากับ
การก้าวเดินทั่วไปเพียงเท่านั้น
แตกต่างจากหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนที่ก้าวเดินมาอย่างมั่นคง
จนกระทั่งพวกเขาพบกับประตูบานใหญ่ โดยไม่มีการรีรอใดๆทั้งสิ้น
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนเปิดประตูเข้าไปเพื่อรับการทดสอบในด่าน
แรกนี้
" นับว่าพวกเจ้าทั้งสองมีค่าควรแก่การประเมิณ "
ร่างของจิตวิญญาณชายวัยกลางคนปรากฎขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจ้อง
มองไปที่ร่างของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนหากเป็นไปตามปกติแล้วนั้น
เวลาที่รุ่นเยาว์ใช้ในการเดินทางมายังด่านทดสอบส่วนที่หนึ่งนั้นเขา
ประเมิณเอาไว้ว่าอย่างเร็วที่สุดมันสมควรใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งก้านธูป
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนกลับสามารถมาถึง ณ ที่แห่งนี้
ด้วยเวลาที่น้อยกว่าครึ่งก้านธูปเสียอีก
" เช่นนั้นข้าจะให้พวกเจ้าเริ่มทาการทดสอบในส่วนแรก...กฎมี
เพียงข้อเดียวเท่านั้นก็คือตราบใดที่พวกเจ้าสามารถเอาชนะนักรบ
ตรงหน้าของพวกเจ้าได้พวกเจ้าจะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะสู้ต่อหรือ
หยุด แน่นอนว่าทุกชัยชนะของพวกเจ้าพวกเจ้าจะได้รับรางวัลที่คุ้ม
ค่าตอบแทนด้วยเช่นเดียวกัน "
สายตาของหลินหมิงกลายเป็นพร่าเรือนพร้อมกับเบื้องหน้าของเขา
ที่แปรเปลี่ยนไป แม้ว่าการทดสอบเช่นนี้หากดูไปแล้วมันจะเหมือนกับ
การการทดสอบของสานักวังจันทราในส่วนที่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นข้อ
แตกต่างอันยิ่งใหญ่ของมันก็คืออันตรายที่มีต่อถึงชีวิต และไม่เพียง
เท่านั้นเมื่อหลินหมิงได้พบกับศัตรูตรงหน้าของเขาหลินหมิงถึงกับ
ขมวดคิ้วหนัก
' ปราณจอมยุทธ์ขั้นที่ 6 ระดับสูงสุด ! '
แม้ว่าศัตรูตรงหน้าของเขาที่มีพลังมากว่าแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคง
ไม่ใช่ปัญหาสาหรับหลินหมิงในการเอาชนะแต่กลับศิษย์พี่แสนสวยของ
เขาแล้วเล่า !

ตอนที่ 176
หลินหมิงระงับอารมณ์ความกังวลของเขาลงไปอย่างเสียในตอนนี้
เขาก็ไม่สามารถทาสิ่งใดได้ เขาเพียงได้แต่คาดหวังว่าศิษย์พี่ของเขาจะ
สามารถเอาชนะนักรบที่แข็งแกร่งกว่านางได้ถึงหนึ่งช่วงชั้นได้อย่าง
น้อยเพียงสักคนเพื่อที่นางจะได้ผ่านด่านทดสอบในครั้งนี้ แน่นอนว่า
หากนางสามารถเอาชนะนักรบได้หนึ่งคนนางยังคงมีสิทธ์ที่จะเรียกร้อง
คู่ต่อสู้เพิ่มเพื่อรางวัลที่มากมายยิ่งกว่าแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่อาจเป็นสิ่ง
ที่เป็นไปได้สาหรับนางอย่างแน่นอน
หลินหมิงจ้องมองไปที่นักรบชายวัยกลางคนตรงหน้าของเขาในมือ
ของเขาปรากฎอาวุธรูปร่างคล้ายกระบี่ แต่ส่วนคมของมันนั้นกลับมี
ความโค้งงอ
" ดาบ ? "
สาหรับอาวุธโดยทั่วไปที่ผู้คนนิยมใช้นั้นย่อมเป็นกระบี่อย่างไม่ต้อง
สงสัยด้วยข้อดีของมันคือการที่มันทักษะการจู่โจมที่รวดเร็วและ
น้าหนักที่เบา แต่ถึงอย่างนั้นข้อได้เปรียบที่สาคัญที่สุดของกระบี่ที่ผู้คน
ฝึกฝนนั้นก็คือการที่พวกเขาสามารถฝึกฝนทักษะของพวกเขาได้ง่าย
กว่าการฝึกฝนอาวุธประเภทอื่น นั้นก็เพราะนับแต่อดีตมาแม้ว่ามันจะมี
ทักษะอาวุธมากมายหลายชนิดแต่ส่วนใหญ่ที่ล้วนตกทอดต่อกันมาล้วน
เป็นทักษะประเภทกระบี่ด้วยกันทั้งสิ้น
เพียงแค่หลินหมิงจ้องมองนักชายวัยกลางคนตรงหน้าหลินหมิงก็
รู้สึกกังวลเกี่ยวกับศิษย์พี่ของเขาอย่างหนักหน่วงมันไม่ใช่เพียงแค่
ระดับที่สูงกว่าหนึ่งขั้นเพียงธรรมดาๆเท่านั้น แต่เห็นได้ชัดว่านักรบผู้นี้
มีประสบการณ์ในการต่อสู้มาอย่างโชกโชนอ่อร่าที่ออกมาจากตัวของ
เขาหากเทียบกับเหล่าคู่ต่อสู้ในบททดสอบส่วนที่หนึ่งของสานักแล้วมัน
แตกต่างราวฟ้ากับเหว
" คาดไม่ถึงว่าในยุคปัจจุบันเช่นนี้จะมีรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถเช่น
เจ้าหลงเหลืออยู่.. "
หลินหมิงตื่นตะลึงเมื่อได้ยนิ คากล่าวของชายวัยกลางคนตรงหน้า
ของเขา อันที่จริงแล้วหลินหมิงคิดว่าชายผู้นี้อาจเป็นเพียงสิ่งที่สร้าง
จากรูปแบบค่ายกลเพื่อเอาไว้ใช้ในการทดสอบเพียงเท่านั้นแต่จากคา
กล่าวเมื่อสักครู่นั้นแสดงให้เห็นว่าชายผู้นี้มีจิตปัญญาและความนึกคิด
เป็นของตนเอง ?
" ท่านเป็นใครกัน ? "
" ข้าไม่มีสิทธ์ที่จะพูดกล่าวเรื่องนั้น...เข้ามาสิ "
หลินหมิงนาทวนของเขาออกมาพร้อมกับตั้งท่าชี้ไปยังชายวัย
กลางคน อันที่จริงแล้วหากเป็นผู้ที่มีปราณระดับจอมยุทธ์ขั้นที่หก
โดยทั่วไปแล้วนั้นมันไม่มีความจาเป็นที่หลินหมิงจะต้องใช้ทวนของเขา
เลยเสียด้วยซ้าไปแม้ว่าเขาจะมีพลังด้อยกว่าก็ตามที่
ทวนของหลินหมิงพุ่งเข้าจู่โจมพร้อมกับทักษะก้าววายุที่ได้รับการ
พัฒนาขึ้นมาเล็กน้อยจากการชี้แนะจากศิษย์พี่แสนสวยของเขา
แน่นอนว่ามันยังคงไม่อาจเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากนักแต่มันก็ทาให้
ความเร็วของหลินหมิงนั้นเพิ่มขึ้นไปไม่ใช่น้อย ดวงตาของชายวัย
กลางคนไม่ปรากฎแววตาของความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ร่างของ
เขาหยุดนิ่งพร้อมกับตั้งท่ายกดาบขึ้นเล็กน้อยเพื่อรับมือกับการโจมตี
ของหลินหมิงในคร้ีงนี้
เคล้ง !
หลินหมิงที่แต่เดิมมั่นใจมากว่าด้วยการจู่โจมเพียงครั้งเดียวของเขา
นั้นมันสมควรมากพอที่จะสามารถสังหารผู้ที่มีพลังปราณระดับจอม
ยุทธ์ขั้นที่หกได้อย่างไม่ยากเย็นแต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีในครั้งนี้ของ
เขามันกลับถูกเบี่ยงออกไปได้อย่างง่ายดาย
ความรู้สึกเย็นวาบปรากฎขึ้นทันทีในหัวใจของหลินหมิงโดยไม่ทันที่
จะต้องคิดสิ่งใดเปลวเพลิงสีดาของหลินหมิงลุกโชนขึ้นล้อมรอบ
ร่างกายของเขาพร้อมกับเส้นลวดลายสีขาวเอาเบาบางที่ล้อมรอบ
ร่างกายของเขาด้วยเช่นเดียวกัน หลินหมิงถอยหลังออกมาอย่างรีบ
ร้อนหากเมื่อสักครู่นี้เขาเคลื่อนไหวหรือตัดสินใจช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย
นั้นเขาอาจได้รับบาดเจ็บไปแล้ว
" นั้นมันทักษะแปลกประหลาดอันใดกัน ? ช่างเถอะเข้ามาอีกสิ ! "
หลินหมิงพุ่งเข้าไปหาชายวัยกลางคนอีกครั้งแน่นอนว่าด้วยเปลว
เพลิงที่ล้อมรอบร่างกายของเขาอยู่ในตอนนี้มันทาให้ระดับความ
แข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนหน้าอย่างมาก ทวนของเขาพุ่ง
แทงไปที่หน้าอกของชายวัยกลางคนด้วยความเร็วที่น่าตื่นตกใจแต่ถึง
อย่างนั้นชายผู้นี้ก็ยังคงรับมือกับเพลงทวนของเขาได้อย่างง่ายดาย
หลินหมิงขมวดคิ้วหนักเขารู้แล้วว่าในตอนนี้แม้ว่าเขาจะมีพลัง
ปราณและความแข็งแกร่งโดยรวมที่เหนือกว่าชายวัยกลางคนอยู่มาก
แต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงไม่สามารถเทียบได้กับประสบการณ์ของชายผู้
นี้และทักษะของเขาเห็นได้ชัดว่าเขาจงใจที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ
โดยตรงกับหลินหมิงเพื่อลดถอนความเสียหาย แน่นอนว่ากล่าวนั้น
เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแต่หลินหมิงรู้ดีว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ยังคงไม่สามารถที่จะทาได้กระทั่งเหล่านักฆ่าที่
มีประสบการณ์ก่อนหน้านี้ที่มีพลังปราณในระดับจอมยุทธ์ขั้นปลาย
เหล่านั้นหลินหมิงก็ยังคงไม่เห็นพวกเขาใช้ทักษะเช่นนี้
เคล้ง เคล้ง เคล้ง !
เสียงปะทะเสียดสีกันระหว่างทวนของหลินหมิงและดาบของชาย
วัยกลางคนดังกระวานผ่านไปมากกว่าสิบกระบวนท่าแต่ถึงอย่างนั้นมัน
กลับไม่มีท่าทีว่าหลินหมิงจะสามารถจู่โจมชายวัยกลางคนนี้ได้เลย
แม้แต่น้อยกลับกันแล้วเป็นฝ่ายเขาเองเสียมากกว่าที่ต้องคอย
ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ
" หืม ? "
โดยไม่ต้องมีการคิดอะไรให้มากมายอีกต่อไปที่ปลายนิ้วของหลินห
มิงปรากฎกลุ่มก้อนเปลวเพลิงสีดาอัดแน่นขนาดเพียงเท่านิ้วหัวแม่มือ
แต่ถึงอย่างนั้นพลังงานของมันนั้นกลับทาให้ใบหน้าของชายวัย
กลางคนตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที
ดรรชนีเพลิง !
สาแสงสีดาที่ประกอบไปด้วยพลังงานสายฟ้าล้อมรอบพุ่งทะลวง
เข้าสู่หัวใจของชายวัยกลางคนโดยไม่สามารถรัีบมือได้ หลินหมิงเขารู้ดี
ว่าแม้ในเรื่องทักษะของเขาจะเป็นรองแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าชายวัย
กลางคนผู้นี้จะสามารถจู่โจมเขาได้ นั้นก็เพราะด้วยพลังโดยรวมแล้ว
นั้นเขายังคงเหนือกว่า ในเมื่อเขาไม่สามารถเอาชนะด้วยกระบวนท่า
ทั่วไปได้เช่นนั้นแล้วทักษะจู่โจมของหลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจมาก
ที่สุด
อัก !
ร่างของชายวัยกลางคนกระอักเลือดออกมาคาโตพลังปราณใน
ร่างกายของเขาล้วนแล้วแต่แตกซ่านจนไม่สามารถควบคุมได้ เขาจ้อง
มองไปที่หลินหมิงด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อไม่ใช่ว่าเขาตื่นตระหนกใน
ความสามารถของหลินหมิงแต่เขาไม่คาดคิดว่ามันจะมีวิชาที่แปลก
ประหลาดและน่ากลัวเช่นนี้อยู่บนโลก แม้ว่าเขาจะคาดเดาได้ว่าหลินห
มิงจะมีทักษะอื่นที่อาจเป็นไผ่ตายแต่ใครเล่าจะคิดกันว่ามันกลับเป็น
ทักษะที่น่ากลัวเช่นนี้
ร่างของชายวัยกลางคนสลายกลายเป็นแสงภายในชั่วเวลาไม่นาน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้วยทักษะดรรชนีเพลิงของหลินหมิงที่ได้รับการ
ยกระดับอย่างต่อเหนื่องจากระดับพลังปราณที่เพิ่มขึ้นและเจ้าพลังงาน
สายฟ้าที่เปลวเพลิงของเขาได้ดูดกลืนเข้าไปทาให้ในตอนนี้มันมีพลัง
ทาลายที่สามารถปลิดชีพผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นปลายได้ในทันที
หากพวกเขาไม่ระมัดระวังตัวแต่ถึงอย่างนั้นมันย่อมแลกมาด้วยพลัง
ปราณของเขาที่สูญเสียไปเป็นจานวนมากเช่นเดียวกัน
โดยที่ไม่ทันที่หลินหมิงจะได้พักฟื้นร่างกายตรงหน้าของเขาปรากฎ
นักรบคนใหม่ขึ้นมาในทันที นักรบตรงหน้าของหลินหมิงในตอนนี้คือ
ร่างของหญิงสาวที่สวมใส่ชุดเกราะเบาที่รัดรูปจนเผยสัดส่วนโค้งเว้า
ตามร่างกายของนางอย่างเต็มที่ที่มือของนางนั้นมีกระบี่สีเงินอันมันวาว
ส่องประกายพร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากตัวของนางที่
เหนือกว่าชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้เสียอีก
' พลังปราณระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 ระดับสูงสุด ! '
" เจ้าปราถนาที่จะสู้ต่อเช่นนั้นหรือไม่ "
หลินหมิงลอบสบถอยู่ในใจมันดูเหมือนกับว่าด่านทดสอบ
พระราชวังโบราณแห่งนี้จะเป็นด่านทดสอบที่โหดเ**้ยมเป็นอย่างมาก
ด้วยการที่เขาเพิ่งสูญเสียพลังปราณไปเป็นจานวนมากกับการต่อสู้กับ
ชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้เช่นนั้นแล้วโดยไม่มีการพักเขายังต้องสู้กับ
นักรบสาวที่มีพลังมากกว่าชายวัยกลางคนก่อนหน้าและมันเป็นไป
ได้มากว่านางจะมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เหนือกว่าชายวัย
กลางคนก่อนหน้านี้เสียอีก
" ข้าตกลง "
" เช่นนั้นก็เตรียมรับมือ ! "
ไม่ว่าจะด้วยเหตุบังเอิญหรือไม่อย่างไรก็ตาม ร่างของนักรบสาวพุ่ง
เข้าหาหลินหมิงด้วยความเร็วที่น่าตื่นตระหนกจนเขาไม่สามารถ
ตอบสนองได้ทัน เช่นนี้มันเป็นไปได้รึเปล่าว่าด่านทดสอบพระราชวัง
โบราณนี้ได้ทาการคัดเลือกนักรบที่มีทักษะที่ได้เปรียบแก่ผู้ทดสอบ
เห็นได้ชัดว่าจุดเด็นของหลินหมิงคือเรื่องพละกาลังที่ล้นลามแต่ถึง
อย่างนั้นจุดอ่อนของหลินหมิงย่อมเป็นการเคลื่อนไหวและความเร็วที่
เขายังคงด้อยอยู่
ร่างของนักรบสาวเคลื่อนไหวราวกับว่านางสามารถล่องลอยอยู่ใน
อากาศได้อย่างตามใจนึกหลินหมิงไม่สามารถแม้กระทั่งทาการโต้ตอบ
นางได้ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์มันย่อมเป็นการที่นางย่อมสามารถหลบ
การโจมตีของเขาได้และเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วน
เรื่องทักษะดรรชนีเพลิงนั้นนับเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยสาหรับศัตรูที่มี
ความเร็วมากกว่าเขาเช่นนี้
ผ่านไปหนึ่งก้านธูปร่างของหลินหมิงเต็มไปด้วยบาดแผลรอยฟัน
หลินหมิงไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของนางได้ทันเลยแม้แต่น้อย
เทียบกับการเคลื่อนไหวของนางแล้วมันอาจเรียกได้ว่าอยู่ในระดับ
เดียวกันกับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นต้นเลยเสียด้วยซ้าไป

" แม้ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ที่เยี่ยมยอดแต่เจ้านั้นยังคงไร้
ประสบการณ์เกินไป.. "
นักรบสาวกล่าวด้วยน้าเสียงเย็นชากระบี่ของนางในการจู่โจมครั้งนี้
เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารและพลังปราณอันมากล้น เพียงแต่ว่าทันใด
ที่กระบี่ของนางแทงเข้าสู่หน้าอกของหลินหมิงจนทะลุเข้าสู่หัวใจร่าง
ของหลินหมิงที่น่าจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกมันกลับปรากฎ
รอยยิ้มอันชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ !
แย่แล้ว !
นักรบสาวนางไม่รู้ว่าหลินหมิงมีแผนใดแต่สิ่งหนึ่งที่นางรับรู้ได้ก็คือ
แม้ว่านางจะแทงกระบี่เข้าสู่หัวใจเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้แล้วแต่เขากลับยังคง
มีชีวิตอยู่อย่างแน่นอนมือของนางเร่งพลังเพื่อดึงกระบี่ของนางกลับแต่
ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่สามารถนาออกมาได้ ในจังหวะที่นางสูญเสียสติ
และสมาธิไปนั้นลาแสงสีดาพุ่งตรงเข้าทะลุผ่านร่างของหลินหมิงแม้ว่า
นางจะมีปฎิกริยาตอบสนองที่รวดเร็วเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นนาง
ก็ยังคงได้รับบาดแผลจากลาแสงสีดานี้
ร่างของนักรบสาวถอยไปหลายสิบก้าวพร้อมกับกุมบาดแผลขนาด
เล็กที่เฉือนผ่านช่วงสะโพกของนางไป ร่างของหลินหมิงที่มีกระบี่ถูก
เสียบเอาไว้พลันสลายหายกลายเป็นสายฟ้าเข้าสู่ร่างของหลินหมิงที่อยู่
ด้านหลังที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด สาหรับหลินหมิงแล้ว
นั้นเขาได้คิดถึงช่วงเวลาที่นางจะลงมือปลิดชีพเขามาโดยตลอด โดย
วิชาร่างแยกสายฟ้านั้นแน่นอนว่าแม้ว่านางจะเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมแต่
จะมีใครบ้างที่จะคาดคิดว่าหลินหมิงจะยังคงมีวิชาที่แปลกประหลาด
เช่นนี้
ดรรชนีเพลิงที่พุ่งเข้าจู่โจมนักรบสาวมันทาให้นางสูญเสีย
ความสามารถในการต่อสู้ไปมากกว่าครึ่งด้วยพลังปราณในร่างกายของ
นางที่ไม่สามารถรวบรวมได้สาหรับนักรบแล้วนั้นย่อมหมายถึงความ
พ่ายแพ้ นางยื่นนิ่งเพื่อรอรับการสังหารจากหลินหมิงอย่างยินยอมแต่
ถึงอย่างนั้นในร่างของนางที่สมควรถูกสังหารกลับถูกผลักลงกับพื้น
พร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มที่ขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้ ?

ตอนที่ 177
สาหรับนักรบสาวนางไม่ได้คงอยู่ในร่างจิตวิญญาณดั่งเช่นสตรีใน
ชุดขาวที่รับภรรยาทั้งสองของหลินหมิงไปเป็นผู้สืบทอดหรือชายวัย
กลางคนที่ทาหน้าที่ควบคุมด่านทดสอบพระราชวังโบราณแห่งนี้ สิ่งที่
ทาให้หลินหมิงมั่นในเรื่องนั้นก็เพราะว่าเขาสามารถแตะต้องสัมผัสตัว
นางได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพราะรูปแบบค่ายกล
ระดับสูงที่เจ้าของพระราชวังโบราณแห่งนี้ได้จัดเตรียมเอาไว้ ?
" นี้เจ้าคิดจะทาอะไรกัน ! "
หลินหมิงไม่ตอบคาถามของนักสาวสาหรับหลินหมิงแล้วนั้นแม้ว่า
เขาจะสามารถเพิ่มพลังปราณของเขาได้โดยร่วมรักกับหญิงสาวนั้น แต่
เขาก็ยังคงไม่แน่ใจว่าสาหรับนักรบสาวผู้นี้แล้วเขาจะสามารถได้รับการ
ยกระดับหรือไม่แต่ถึงเขาจะไม่สามารถยกระดับได้แต่เพียงแค่ได้ลิ้ม
ลองความสุขจากเรือนร่างของนักรบสาวผู้งดงามเช่นนี้ก็นับว่าเกินพอ
สาหรับหลินหมิงแล้ว !
ดวงตาของหลินหมิงจดจ้องไปที่หน้าอกของนักรบสาวแม้ว่า
ในตอนนี้นางจะสวมใส่เกราะอยู่แต่เนื่องจากเกราะที่นางใส่นั้นเป็น
เพียงเกราะเบาและมันเผยให้เห็นสัดส่วนโคงว้าวตามร่างกายอย่าง
เต็มที่ สาหรับนักรบสาวผู้นี้แล้วแม้ว่านางจะไม่ได้มีความงดงามเท่ากับ
เหล่าสตรีที่เปรียบเสมือนเทพธิดาของเขาอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือ
หลิวฉวนยูร์ แต่นางก็ยังคงจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสาวงามอย่างไปต้อง
สงสัย
หลินหมิงเคลื่อนไหวมือทั้งสองข้างเพื่อลูบไล้ร่างกายของนักสาว
อย่างเชื่องช้าสัมผัสที่ปลายมือของหลินหมิงนั้นมันแตกต่างจาก
ผิวสัมผัสที่เขาเคยได้รับจากสตรีโดยทั่วไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าร่าง
ของนักรบสาวผุ้นี้ถูกฝึกฝนมาอย่างดีจนร่างกายของนางนั้นมีกล้ามเนื้อ
เผยให้เห็นอยู่บ้าง
" นี้เจ้า !! "
นักรบสาวถึงกับตื่นตะลึงสาหรับตัวนางที่ทาหน้าที่ของด่านทดสอบ
พระราชวังโบราณนี่มาหลายร้อยหลายพันปีหรืออาจกระทั่งมากกว่า
นั้นแม้ว่ามันจะไม่ค่อยมีใครที่มีขอบเขตพลังที่มากถึงขนาดที่ทาให้นาง
ต้องลงเป็นผู้ทดสอบแต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงสามารถรับรู้ถึงการ
ทดสอบจากนักรบคนอื่นที่ถูกค่ายกลโบราณนี้จารึกเอาไว้ด้วย
เช่นเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้นนางไม่เคยพบเห็นมาก่อนว่ามันจะมีผู้ทดสอบคนใดที่
มีความคิดที่เลวร้ายเช่นนี้ อันที่จริงแล้วนางเชื่อมั่นว่าต่อให้เป็นบุรุษที่มี
หมกหมุ่นในเรื่องของการร่วมรักอย่างมากมายแต่พวกเขาเหล่านั้นเมื่อ
ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากพระราชวังโบราณและด่านทดสอบ
ต่างๆพวกเขาจะยังคงมีอารมณ์เหล่านั้นอยู่เช่นนั้นหรือ ?
ร่างของนักรบสาวดิ้นไปมาเพื่อสะบัดมือของหลินหมิงที่กาลังปลด
เกราะอกเบาบางของนางออก แน่นอนว่าแม้ว่าจะเป็นสภาพของนาง
อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมมันยังคงเป็นเรื่องยากสาหรับนางที่จะ
สามารถเอาชนะเรื่องกาลังกับหลินหมิง ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงนางที่อยู่
ในสภาพที่ไม่สามารถควบคุมพลังปราณได้เช่นนี้ ในตอนนี้นางไม่ต่าง
อะไรไปจากลูกแกะที่อยู่ภายใต้มือของหลินหมิงแล้วเท่านั้น
" ยะ..อย่าบีบมันนะ โอ้ย.. ซี๊ดด ~~~ "
เมื่อเกราะเบาบางของนางถูกปลดออกการเคลื่อนไหวของหลินหมิง
เปลี่ยนบ้าคลั่งในทันที่เสื้อผ้าใต้เกราะของนางนั้นถูกฉีกกระชากจนเผย
ให้เห็นเรื่อนร่างเปลื่อยเปล่าอันสมบูรณ์พร้อมของนาง มือทั้งสองข้าง
ของหลินหมิงเข้าบีบนวดหน้าอกคู่งามของนางอย่างเพลิดเพลิน
ร่างของนักรบสาวดิ้นพล่านไปด้วยอารมณ์ความเสี่ยวซ่านที่ระเบิด
ขึ้นอย่างร้อนแรง ทั่วร่างของนางกลายเปรียบเสมือนอาหารจานโอชะ
สาหรับหลินหมิง ลิ้นของหลินหมิงที่เข้าโลมเลียไปทั่วร่างของนางอย่าง
ไม่รู้จักพอนั้นทาให้นางหมดสิ้นเรี่ยวที่จะคัดคืนอีกต่อไป
" ตะ..ตรงนั้น..มะไม่ได้นะ อร้างง ~~~ "
เมื่อนิ้วมือของหลินหมิงเคลื่อนที่เข้าสู่จุดลับของหญิงสาว เสียง
ครางสนั่นของนางพลันเกิดขึ้นพร้อมกับร่างของนางที่มีการสั่นกระตุก
อย่างต่อเหนื่องน้ารักใสๆของหญิงสาวระเบิดออกมาราวกับภูเขาไฟ
ระเบิด หลินหมิงคาดไม่ถึงจริงๆว่าแม้ว่านางจะเป็นเพียงร่างที่สามารถ
คงอยู่ได้เพราะว่าค่ายกลแต่จนถึงตอนนี้รสสัมผัสที่เขาได้ทากับนางนั้น
ไม่ต่างอะไรไปจากหญิงสาวโดยทั่วไปเลยแม้แต่น้อย
" แฮ่กๆ "
.ใบหน้าของนักรบสาวเต็มไปด้วยสีหน้าแดงระเรื่อพร้อมกับอาการ
เหนื่อยหอบอย่างอ่อนล้าไม่เพียงแต่ในตอนนี้นางจะได้รับบาดเจ็บจาก
ดรรชนีเพลิงของหลินหมิง นางยังคงต้องรับมือกับการจู่โจมอันร้อนแรง
ของหลินหมิงอีกด้วย
แม้แต่นางเองก็ยังคงมีอารมณ์ที่รู้สึกยากจะเชื่อมันไม่ใช่เพียงยุค
ปัจจุบันนี้เท่านั้นที่เหล่าบุรุษนั้นไม่สามารถมอบความสุขอันพึงพอใจ
ให้กับเหล่าสตรีได้แต่มันเป็นมาแต่เนิ่นนานนับแต่อดีตแล้ว แต่ถึงอย่าง
นั้นในตอนนี้เด็กหนุ่มที่กาลังเพลิดเพลินกับร่างกายของนางอยู่นั้นกลับ
ใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วก้านธูปเท่านั้นเขากลับสามารถทาให้นางเกิด
อารมณ์การสุขสมอย่างรุนแรงได้ !
สาหรับหลินหมิงแล้วเรื่องสมบัติที่ได้จากพระราชวังโบราณแห่งนี้
แน่นอนว่ามันย่อมต้องเป็นสิ่งที่ล้าค่าอย่างไม่ต้องสงสัยแต่หากมันเป็น
ทักษะบ่มเพาะหรือโอสถวิเศษสิ่งเหล่านั้นหลินหมิงไม่สามารถใช้พวก
มันได้อย่างแน่นอนเนื่องจากเงื่อนไขของเจ้าเปลวเพลิงสีดาของเขา
ดังนั้นแล้วหลินหมิงเลือกที่จะให้ความสาคัญกับสมบัติที่อยู่ตรงหน้า
ของเขาเสียมากกว่านั้นก็คือนักรบสาว แม้ว่าด่านทดสอบในส่วนแรก
นั้นจะไม่ได้มีกาหนดเวลาตายตัว แต่หลินหมิงไม่สามารถใช้เวลาอยู่ใน
ทีนี้ตลอดไปได้
นั้นก็เพราะว่าหากเขาใช้เวลานานมากจนเกินไปมันอาจจะทาให้
ศิษย์พี่สาวสวยของเขานั้นจะต้องเสียเวลารอก็ย่อมได้หากนางสามารถ
ผ่านด่านทดสอบมาได้ด้วยเช่นกัน สาหรับศิษย์พี่ของเขานั้นหลินหมิง
แม้จะมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับนางแต่หลินหมิงยังคงเชื่อมั่นว่า
นางจะสามารถเอาชนะศัตรูได้หนึ่งคนแต่ถึงอย่างนั้นมันย่อมต้องแลก
มาด้วยสภาพที่สาหัสของนางอย่างไม่ต้องสงสัย
หากเป็นปกติแล้วหลินหมิงคงใช้เวลาเพลิดเพลินกับเรือนร่างของ
สตรีมากกว่านี้ก่อนที่เขาจะจู่โจมพวกนางทั้งนี้มันไม่ใช่เป็นการกระตุ้น
อารมณ์ของเขาเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นแต่มันยังคงเป็นการกระตุ้น
อารมณ์ของสตรีเพื่อให้การร่วมรักของพวกเขานั้นง่ายขึ้น
เมื่อเห็นหลินหมิงปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกใบหน้าของนักรบสาวซีด
เผือกนางรู้ชะตากรรมตนเองดีว่าในไม่ช้านี้นางจะต้องเสร็จเจ้าหนุ่ม
มากตัณหาผู้นี้อย่างแน่นอน นางขบฟันแน่นพร้อมกับเตรียมกัดลิ้น
ตัวเองเพื่อปลิดชีวิตแต่อย่างนั้นด้วยสภาพของนางที่ยากแก่การ
เคลื่อนไหวมันจึงทาให้หลินหมิงสามารถคาดเดาในสิ่งที่นางกาลังจะทา
ได้อย่างง่ายดาย
" อืม้ มมมมมม ~~~~ "
ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าบดกับริมฝีปากของนักรบสาวลิ้นของ
หลินหมิงเข้าผัวพันกับลิ้นของนาง ใบหน้าของนักรบเต็มไปด้วยความ
ตื่นตระหนกอย่างแท้จริง ในตอนนี้นางสูญเสียการควบคุมร่างกายของ
นางไปอย่างสมบูรณ์พร้อม สมองของนางราวกับหยุดสั่งการไปชั่วครู่
ริมฝีปากของหลินหมิงที่ที่กาลังดูดดื่มกับนางอยู่นั้นแม้ว่าในตอนแรก
นางจะมีความสุขไม่ยินดีแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า
รสชาติจูบของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นมันให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่าง
มาก
ทวนมังกรของหลินหมิงที่เตรียมเผด็จจุดยุทธศาสตร์ของหญิงสาว
ค่อยๆเสียบแทงเข้าไปในตัวของนาง ในขณะที่นางยังคงแลกลิ้นกับ
หลินหมิงอยู่ เสียงอู้อี้พลันเกิดขึ้นรอดเล้นออกมาจากปากของนาง
พร้อมกับมือทั้งสองข้างของนางที่ทุบตีแผ่นพลังของหลินหมิงอย่างบ้า
คลั่งแต่ถึงอย่างนั้นด้วยสภาพของนางในตอนนี้การทุบตีของนางนั้น
ยังคงไม่สามรถเรียกได้ว่าเป็นการนวดให้หลินหมิงได้เลยเสียด้วยซ้าไป
หยาดน้าตาใสๆของนางไหลลงออกมาจากตัวตาทั้งสองข้างแน่นอน
ว่ามันเป็นหยาดน้าตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สุขสม
เจ็บปวด และก็เศร้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นเห็นได้ชัดว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น
และส่งผลกระทบต่อนางมากที่สุดในตอนนี้กลับเป็นความรู้สึกสุขสมไป
เสียอย่างนั้น !
" พอ..หยุดนะ โอ้ย ! ซี๊ดดดด ~~ "
เมื่อนางสามารถหลุดรอดจากการดูดดื่มของหลินหมิงได้เสียงกล่าว
ห้ามของนางเต็มไปด้วยความสั่นเครือแต่ท้ายที่สุดแล้วเสียงเหล่านั้น
กลับหายไปภายในเพียงเวลาไม่นานเมื่อนางพบว่าหลินหมิงไม่มีท่าทีว่า
จะสนใจคากล่าวใดๆของนางเลยเสียด้วยซ้าไป ลิ้นหมิงเข้าสูดดมซอก
คอที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมจากร่างกายของหญิงสาว
สภาพของนางในตอนนี้ที่กาลังอ่อนแรงมันทาให้ร่างกายของนาง
เริ่มมีเหงื่อปรากฎขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับถูกแทนที่ด้วยคราบน้าลาย
ของหลินหมิงไปเพียงเวลานไม่นาน แน่นอนว่าจนถึงในตอนนี้ความคิด
ในการปลิดชีพของนางยังคงอยู่เพียงแต่ว่านางไม่สามารถทามันได้
ด้วยจังหวะการกระแทกเอวของหลินหมิงที่ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกับรสชาติสัมผัสจากลิ้นและมือทั้งสองข้างของเขาที่เคลื่อนไหว
อย่างบ้าคลั่งมันทาให้หัวสมองของนางขาวโผลนและทาได้เสียงแค่ส่ง
เสียงครางออกมาอย่างต่อเหนื่องเพียงเท่านั้น
ตอนที่ 178
ณ ด่านทดสอบพระราชวังโบราณด่านที่หนึ่งนับตั้งแต่ที่หลินหมิงได้
เข้าทดสอบด่านทดสอบในด่านแรกนี้เวลาได้ผ่านล่วงเลยมากว่าหนึ่งชั่ว
ยามแล้ว และมันเป็นที่แน่นอนว่าเหล่าศิษย์สานักวังจันทราพวกเขา
ล้วนใช้ความพยายามอย่างยากลาบากจนมาถึงภายในห้องด่านทดสอบ
นี้ด้วยเช่นเดียวกัน
กงซุนหยางสมกับเป็นบุคคลที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดหากไม่นับ
กลุ่มของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเขามาถึงที่ด่านทดสอบแห่งนี้เขา
ไม่ได้มีความคิดรีบร้อนดั่งเช่นหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนสาหรับเขา
แล้วแน่นอนว่าด่านทดสอบเหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งที่เขาปราถนาอย่างไม่
ต้องสงสัยแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงต้องการสิ่งรับประกันและข้อมูลของ
ด่านทดสอบนี้ก่อนเข้าร่วม
เห็นได้ชัดว่าลาพังเพียงแค่ทางเดินก่อนมาถึงที่ด่านทดสอบนี้มันก็มี
ความยากลาบากยากเย็นเพียงใดอันที่จริงแล้วหากเป็นศิษย์รุ่นเยาว์
โดยทั่วไปมันอาจกระทั่งมีบางคนที่อาจจะต้องนอนเหนื่อยหอบหรือ
กระทั่งหวาดกลัวในจิตคุกคามที่กดดันพวกเขาอยู่ตลอดทางก็เป็นได้
แต่สาหรับพวกเขาที่ถูกคัดเลือกจากรุ่นเยาว์จานวนมาจากทั่วทั้ง
อาณาจักรมันทาให้พวกเขายังมีความสามารถเพียงพอที่จะรับมือกับ
ทางเดินที่เต็มไปด้วยแรงกดดันนี้ได้
กงซุนหยางเลือกที่จะส่งศิษย์ร่วมกลุ่มของเขาคนหนึ่งเข้าไปทาการ
ทดสอบก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเวลาผ่านไปล่วงเลยถึงสองก้านธูปมัน
กลับยังไม่ร่องลอยเพื่อของเขาหรือกระทั่งหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยน
ปรากฎตัวขึ้นมาเลยแม้แต่คนเดียว
' เป็นไปได้หรือไม่ว่าเมื่อผ่านด่านทดสอบนี้แล้วพวกเขาจะถูกส่งตัว
ไปยังด่านทดสอบต่อไปทัน ? '
แม้ว่าในตอนแรกเหล่าศิษย์ทั้งหลายจะเลือกที่จะรอคอย
เช่นเดียวกันกับกงซุนหยางนั้นก็เพราะว่าส่วนหนึ่งพวกเขายังคง
ต้องการข้อมูลของด่านทดสอบแรกนี้และสิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือพวกเขา
ต้องการเวลาในการพักเพื่อปรับลมปราณเสียก่อน

ครึ่งชั่วยามผ่านไปเกิดแสงเรื่องรองปรากฎขึ้นต่อหน้าพวกเขาร่างที่
ออกมาจากแสงส่องประกายนี้คือร่างของหญิงสาวผู้ทรงเสน่ห์ที่
สามารถยึดครองจิตใจของเหล่าบุรุษได้เพียงเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา
เท่านั้น กงซุนหยางขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นร่างของสตรีผู้งดงามตรงหน้า
นางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากหลัวฉิงเชี่ยน สภาพของนางในตอนนี้
แม้ว่าจะปรากฎร่องรอยของพลังงานที่ถูกเรียกใช้ออกไปเป็นจานวน
มากแต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็ยังคงสัมผัสได้ว่าความแข็งแกร่งของสตรี
ผู้งดงามคนนี้กลับเพิ่มขึ้นภายในช่วงเวลาที่พวกเขาคลาดสายตากัน
เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามและเสียด้วยซ้าไป
หลัวฉิงเชี่ยนเมื่อนางปรากฎกายราวกับเทพธิดาที่ตกลงมาจาก
สวรรค์นางไม่ได้สนใจสายตาโดยรอบที่กาลังจดจ้องมาที่นาง นางตวัด
สายตามองโดยรอบอย่างพิจรณาเพื่อมองหาหลินหมิงเป็นอันดับแรก
แต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงไม่พบเจอหลินหมิง แน่นอนว่าสาหรับนางแล้ว
นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะมีปัญหาใดกับด่านทดสอบนี้ สิ่งที่นาง
เข้าใจนั้นก็คือด้วยการต่อสู้ของผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์เช่นเดียวกันกับ
หลินหมิงแล้วนั้นมันต้องใช้เวลา และนางคาดเดาว่าหลินหมิงจะยังคง
สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้มากกว่าหนึ่งคนอย่างแน่นอน
" แม่นางหลัว จะเป็นไรหรือไม่หากพวกข้าต้องการที่จะสอบถามถึง
รายละเอียดภายในนั้นด่านทดสอบแรก ? "
ในขณะนั้นไดมีตัวแทนของเหล่าศิษย์ใหม่ได้เข้าไปกล่าวขอข้อมูล
จากหลัวฉิงเชี่ยน แน่นอนว่าผู้ที่มานี้ย่อมเป็นสตรีหาใช้บุรุษไม่ สาหรับ
บุรุษแล้วพวกเขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะเข้าไปพูดคุยกับหลัวฉิง
เชี่ยนเป็นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่าสตรีตรงหน้าของพวกเขา
นางนี้จะมีความงดงามที่ชวนน่าหลงไหลจนทาให้พวกเขาเคลิ้มฝันได้
อย่างไม่มีเบื่อหน่ายทุกครั้งที่พวกเขาได้เห็นใบหน้าของนาง
แต่พวกเขาไม่มีใครโง่พอที่จะเขาไปยุ่มย่ามกับสตรีของหลินหมิงอ
ย่างแน่นอน แม้ว่านางจะไม่ได้ประกาศตนอย่างโจ้งแจ้งเช่นเดียวกับ
สาวงามจิวหลิน และเมื่อไม่นานมานี้อย่างสาวน้อยผู้งดงามหลิวฉวนยูร์
แต่เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหลินหมิงนั้นจะสายตาคน
ภายนอกแล้วมันย่อมไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์พี่-น้องโดยทั่วไป
หลัวฉิงเชีย่นปรับลมหายใจของตนเองเล็กน้อยสาหรับนางที่เพิ่ง
ผ่านด่านทดสอบแรกมาได้อย่างฉิวเชียดนั้นมันประกอบไปด้วยโชค
หลายอย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือศัตรูที่นางพบเจอนั้นเป็นนักรบที่
มุ่งเน้นไปในเรื่องของความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายเป็นหลักการ
โจมตีของเขาหนักหน่วงจนเกือบจะเทียบเท่าได้กับผู้ที่มีพลังระดับก่อ
เกิดในช่วงปลาย แต่สาหรับนางที่โดดเด่นในทักษะการเคลื่อนไหวแล้ว
นั้นการโจมตีของนักรบผู้นี้ล้วนไม่มีผลแต่อย่างใด สิ่งที่นางต้องทาก็คือ
การระวังตนและมีสมาธิในการจู่โจมสวนกลับอยู่ตลอดเวลาเพียง
เท่านั้น
" อืม ได้สิ "
หลัวฉิงเชี่ยนพยักหน้าตอบรับ เมื่อเหล่าศิษย์ได้ฟังคากล่าวจาก
หลัวฉิงเชี่ยนนั้นใบหน้าของพวกเขาพลันแข็งค้างไปด้วยความตื่น
ตระหนกพวกเขาหลายคนคาดหวังว่าจะได้รับสมบัติเล็กๆน้อยๆจาก
ด่านทดสอบนี้แต่ถึงอย่างนั้นแม้ในด่านทดสอบแรกจากที่ฟังจาก
หลัวฉิงเชี่ยนแล้วนั้นมันไม่ได้ต่างอะไรไปจากขุมนรกที่รอพวกเขาอยู่
เลยแม้แต่น้อย
กระทัง่ กงซุนหยางยังคงแสดงสีหน้าตรึงเครียดออกมา เขาไม่คิดว่า
หลัวฉิงเชี่ยนจะกล่าวเท็จแต่อย่างใดเมื่อดูจากทางเดินที่เต็มไปด้วย
พลังงานกดดันถึงเพียงนั้นแต่นั้นยังคงไม่ใช่ด่านทดสอบ ดังนั้นแล้วการ
ที่ด่านทดสอบจะเป็นเรื่องยากถึงเพียงนี้มันย่อมเป็นสิ่งที่เหมาะสม
" เอ่อ..ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านได้รับสมบัติใดมา ? "
สตรีคนเดิมกล่าวถามแน่นอนว่าในตอนนี้จานวนคนมากกว่าครึ่งได้
ถอนหายใจยอมแพ้กับด่านทดสอบตรงหน้าพวกเขาแต่ถึงอย่างนั้นอีก
ครึ่งหนึ่งพวกเขายังคงปราถนาที่จะลองเสี่ยงดูด้วยความมั่นใจในตนเอง
และพวกเขาจะลองประเมิณจากสมบัติที่หลัวฉิงเชี่ยนได้รับหากมัน
คุ้มค่าเพียงพอแล้วแน่นอนว่าแม้มันจะมีความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต
" จิตวิญญาณลมระดับปัฐพี ! "
เมื่อได้เห็นสายลมรอบตัวของหลัวฉิงเชี่ยนที่เคลื่อนไหวราบกับว่า
มันมีชีวิตทุกคนต่างสามารถคาดเดาถึงระดับของสายลมนี้ได้เป็นอย่าง
นี้ แม้ว่าสาหรับพวกเขาบ้างคนที่มีฐานะสูงส่งแล้วจิตวิญญาณระดับปัฐ
พีนั้นมันอาจเป็นสิ่งที่ทางตระกูลพวกเขาสามารถที่จะจัดหาได้แต่ถึง
อย่างนั้นมันก็ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถครอบครองมันได้อย่างสมบูร์ มัน
อาจต้องใช้เวลานับเดือน ซึ่งมันขึ้นอยู่กับระดับของจิตวิญญาณ
เหล่านั้น
แต่สาหรับหลัวฉิงเชียนแล้วนั้นไม่เพียงแต่นางจะสามารถหลอม
หลวมกับจิตวิญญาณลมที่เป็นระดับปัฐพีขั้นกลางได้อย่างสมบูรณ์ แต่
นางยังคงสามารถควบคุมมันได้อย่างใจแน่นอนว่าทั้งหมดนี้รวมกระทั่ง
ระดับพลังของนางในตอนนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจากปราณก่อเกิดขั้นที่สี่ช่วงต้น
จนมาอยู่ที่ปราณก่อเกิดขั้นกลางนั้นก็เป็นเพราะรางวัลของด่าน
ทดสอบด้วยกันทั้งสิ้น
ทางฝั่งของหลินหมิง
" แฮ่กๆๆๆ "
ร่างของนักรบสาวหอบหายใจด้วยลมหายใจรอยรินในตอนนี้สภาพ
ของนางอยู่ในสภาพเปลื่อยเปลาที่บริเวณส่วนล่างของนางนั้นปรากฎ
ร่องรอยของน้ารักของหลินหมิงและนางเองเป็นจานวนมากอยู่ภายใน
ร่องสวาท หลินหมิงสามารถรับรู้ถึงพลังปราณในร่างของเขาที่ค่อยๆทา
การยกระดับขึ้นอย่างช้าๆ แน่นอนว่ามันเกิดการผลของการร่วมรัก
ระหว่างหลินหมิงและนักรบสาว
หลินหมิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อสิ้นสุดของกระบวนการแล้ว
เป็นไปได้ว่าเขาอาจสามารถเข้าสู่ขอบเขตใหม่จอมยุทธ์ขั้นที่หก ! ได้
เลยทีเดียว หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของนักรบด้วยความเสียดาย
เล็กน้อยแน่นอนว่าจนถึงตอนนี้นางก็ยังคงมีท่าทีปฎิเสธเขาอยู่นั้นอาจ
เป็นเพราะหัวใจนักรบและจิตวิญญาณของนางแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิง
เชื่อมั่นว่าหากเขาได้ร่วมรักกับนางเช่นนี้อีกสักสองหรือสามครั้งนาง
จะต้องตกเป็นสตรีของเขาทั้งกายใจอย่างแน่นอน
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถนาพานางกลับไปด้วยได้ไม่เช่นนั้น
แล้วไม่เพียงแต่หลินหมิงจะได้รับผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งเพิ่มอีกคนแต่
ด้วยทักษะที่นางใช้มันย่อมเป็นทักษะระดับสูงที่หาได้ยากยิ่งเช่นนั้น
แล้วแม้ว่าหลินหมิงจะไม่สามารถฝึกฝนพวกมันได้แต่กับสตรีของเขา
นางอื่นมันย่อมไม่แน่
หลินหมิงสะบัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปหอกในมือของเขาแทกไปที
หัวใจของนักรบสาวเพื่อปลิดชีพนางในทันที หลินหมิงไม่มีความคิดที่
จะทดสอบต่อแต่อย่างใดอันที่จริงแล้วหลินหมิงยังคงเหลือทักษะที่ทรง
พลังอย่างจิตสายฟ้าและเพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ด้วยทักษะทั้งสองนี้
หลินหมิงเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถเอาชนะนักรบได้อีกอย่างน้อยหนึ่ง
คน แต่หลินหมิงคร้านเกินกว่าที่เขาร่วมต่อไป
เกี่ยวกับนักรบสาวนั้นเห็นได้ชัดว่านางถูกเลือกมาเพราะ
ความสามารถที่แพ้ทางของหลินหมิงและเมื่อเป็นเช่นนี้หลินหมิงกังวล
ว่านักรบคนที่สามนั้นอาจเป็นคนที่มีความสามารถที่ทาให้เขาปวดหัว
ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หลินหมิงกล่าวหยุดด่านทดสอบลงลาแสงก้อนกลมขนาดเล็กสอง
ก้อนปรากฎขึ้นพร้อมกับคาอธิบายจากชายวัยกลางคนว่าสิ่งนี้คือ
รางวัลสาหรับด่านทดสอบในส่วนแรกไม่เพียงเท่านั้นมันยังคงมีลาแสง
ที่พุ่งเป็นเส้นตรงต่างจากก้อนพลังงานแสงทั้งสองก่อนหน้านี้ ลาแสง
สว่างที่พุ่งมาเป็นเส้นตรงเข้าระหว่างคิ้วของหลินหมิง
หลินหมิงรู้สึกมึนหัวเล็กน้อยแต่ทันใดนั้นเมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็พบ
กับเรื่องที่น่ายินดีแท้จริงแล้วสาแพงเมื่อสักครู่มันกลับเป็นการส่งผ่าน
ทักษะความรู้ให้กับเขา !

ตอนที่ 179
เทียบกับการยกระดับแล้วนั้นหลินหมิงให้ความสาคัญกับทักษะ
และความรู้มากกว่าแม้ว่าด้วยเงื่อนไขการยกระดับของเขาจะแตกต่าง
ไปจากผู้อื่นอย่างมากและมันยังคงเป็นเรื่องยากสาหรับหลินหมิงในอ
นาคตหากเขาต้องการที่ยกระดับต่อไปนั้นก็เพราะว่าเขาจาเป็นที่
จะต้องหาสตรีที่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงคิดว่าทักษะความรู้ที่ได้รับตกทอดมา
จากพระราชวังโบราณแห่งนี้เป็นสิ่งล้าค่ามากกว่า ข้อมูลรูปแบบ
กระบวนท่าของการใช้ทวนถูกถ่ายทอดเข้ามาภายในหัวของหลินหมิง
โดยตรงแน่นอนว่าตั้งแต่เริม่ ต้นนั้นหลินหมิงครอบครองทักษะเพียง
เล็กน้อยหากเทียบกับบรรดาเหล่าผู้ทรงภูมิในระดับจอมยุทธ์ทั่วไป
นั้นก็เพราะว่าตัวตนเหล่านั้นพวกเขาล้วนผ่านประสบการณ์และมี
ระยะเวลาในการฝึกฝนมาอย่างโชกโชนแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็มั่นใจ
ว่าแม้ในเรื่องของทักษะและความเข้าใจในการใช้ของเขาจะน้อยกว่า
แต่หากเทียบกับเรื่องของประสิทธิภาพของทักษะแล้วนั้นหลินหมิงไม่
คิดว่าเขาจะเป็นรองใครโดยง่าย
" รูปแบบการใช้ทวนระดับสูง ! "
หลินหมิงถึงกับกล่าวออกมาด้วยความดีใจเทียบกับทักษะเดิมที่เขา
ได้รับมาจากอาจารย์สาวสวยแล้วนั้นแม้ว่าทักษะเดิมของเขาจะเป็น
เพียงทักษะพื้นฐานการใช้ทวนแต่มันก็ยังจัดว่าเป็นทักษะพื้นฐานระดับ
ดีเยี่ยมแต่ถึงอย่างนั้นหากเทียบกับความรู้ที่เขาได้รับในตอนนี้มันช่าง
แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
หลินหมิงข่มกลั้นอารมณ์ปิติของเขาเอาไว้ชั่วครู่พร้อมกับจดจ้องไป
ที่ก้อนพลังงานแสงทั้งสองก้อนที่ยังคงลอยนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา จาก
คาอธิบายของชายวัยกลางคนผู้ควบคุมด่านทดสอบพระราชวังโบราณ
แห่งนี้ก้อนพลังงานทั้งสองนี้สมควรเป็นพลังงานที่เขาได้รับจากการ
ผ่านด่านแน่นอนว่าหากเป็นผู้ที่มีระดับจอมยุทธ์เช่นเดียวกันกับหลินห
มิงโดยทั่วไปแล้วนั้นมันเพียงพอที่จะทาให้พวกเขาก้าวข้ามระดับไปได้
หนึ่งขั้นเลยทีเดียว !
แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงแล้วนั้นก้อนพลังงานแสงทั้งสองนี้ไม่
นับว่ามประโยชน์อันใดกับตัวเขาแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงทาใจไม่ได้ที่
จะปล่อยให้สิ่งของล้าค่าเช่นนี้สูญเปล่าไปโดยเปล่าประโยชน์
' เช่นนั้นข้าจะกลั่นมัน ! '
หลินหมิงมีความคิดอันยอดเยี่ยมผุดขึ้นมาในหัวของเขาแน่นอนว่า
หากพูดถึงในเรื่องของทักษะการปรุงยาแล้วนั้นหลินหมิงแทบไม่ต่าง
อะไรไปจากศิษย์หน้าใหม่ที่แทบจะปราศจากความรู้นั้นก็เพราะว่า
หลินหมิงได้มุ่งเน้นความสามารถส่วนใหญ่ของเขาไปที่การบ่มเพาะและ
ความแข็งแกร่งเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น
อย่างมากอยู่ เปลวเพลิงสีดาของหลินหมิงลุกโชนขึ้นที่ฝ่ามือของเขา
ก้อนพลังงานแสงทั้งสองก้อนจากเดิมทีมันมีขนาดเล็กอยู่แล้วเมื่อมัน
ต้องเจอกับเปลวเพลิงสีดาของหลินหมิงขนาดของมันกลับหดลงอย่าง
ต่อเหนื่อง !
กระบวนการกลัน่ หรือการปรุงยาโดยปราศจากหม้อปรุงยาเช่นนี้
โดยปกติแล้วนั้นมันจะให้ผลที่เลวร้ายแก่นักปรุงยาเป็นอย่างมากนั้นก็
เพราะว่าในระหว่างกระบวนการกลั่นนั้นพลังงานทั้งหลายจะหลุด
ออกมาจากสมบัติเหล่านั้นทาให้เกิดความสูญเสียของพลังงานไปอย่าง
มาก
แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดกับกระบวนการกลั่นของหลินหมิงเปลวเพลิง
ของหลินหมิงที่ได้รับการยกระดับมาอย่างต่อเหนื่องในตอนนี้ไม่
เพียงแต่มันจะมีพลังทาลายล้างที่สูงส่งกว่าเมื่อตอนที่รับมันในครั้งแรก
แต่ความสามารถและการควบคุมเปลวเพลิงของหลินหมิงก็เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกัน พลังงานของก้อนพลังงานแสงทั้งสองที่กาลังจะหลุดลอย
ออกไปนั้นถูกกักเก็บเอาไว้ในเปลวเพลิงของหลินหมิงโดยที่เขาไม่ต้อง
ควบคุมมันเสียด้วยซ้าไป กระบวนการทุกอย่างดาเนินไปอย่างต่อเหนื่
องโดยไม่มีการชะงัก
หากอาจารย์สาวสวยของเขาได้เห็นภาพเช่นนี้นางอาจดีใจ
จนกระทั่งยอมมบตาแหน่งผู้สืบทอดประมุขสมาคมคนต่อให้กับหลินห
มิงเลยในทันทีก็เป็นได้ แต่สิ่งเหล่านั้นมันยังคงไม่อาจเทียบได้กับ
รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของอาจารย์สาวสวยของเขา
ใช้เวลาเพียงครึ่งก้านธูปก้อนพลังงานแสงทั้งสองถูกย่อขนาดพร้อม
กับกลั่นออกมาจนอยู่ในลักษณะที่มีความคล้ายคลึงกับลูกปัดขนาดเล็ก
เท่านั้นแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างน่าทึ่ง
หลินหมิงเก็บพวกมันลงไปในแหวนมิติของเขาแม้ว่าเขาจะไม่สามารถ
ใช้มันได้แต่กลับสตรีของเขาแล้วนั้นพวกนางจะได้รับประโยชน์อย่าง
มากอย่างแน่นอน
ร่างของหลินหมิงปรากฎตัวขึ้นหลังจากที่เขาใช้เวลาไปร่วมสองชั่ว
ยาม คนแรกที่ที่มีปฎิกริยาอย่างรวดเร็วเมื่อได้เห็นหลินหมิงย่อมไม่ใช่
ใครอื่นนอกเสียจากหลัวฉิงเชีย่น แน่นอนว่าในช่วงเวลาสองชั่วยามที่
ผ่านมานี้ย่อมมีศิษย์บ้างคนที่ไม่ได้เชื่อคากล่าวของหลัวฉิงเชี่ยนอยู่บ้าง
และพวกเขาได้เข้าร่วมทดสอบ แต่ผลกลับกลายเป็นว่าไม่มีใครเลยที่
สามารถกลับออกมาได้อีกครั้ง
กงซุนหยางใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีหน้าน่าเกลียดอย่างเห็นได้
ชัดสาหรับเขาแล้วนั้นเขามีความปราถนาให้หลินหมิงตกตายไปในการ
ทดสอบครั้งนี้ หากเป็นเช่นนั้นแล้วแม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าร่วมการ
ทดสอบในครั้งนี้เขาก็จะไม่รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด แต่สถานการณ์
ในตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไปจากที่เขาคิดเป็นอย่างมากด้วยการปรากฎ
ตัวของหลินหมิงเห็นได้ชัดว่าพลังงานในร่างกายของเขากาลังมีการ
พัฒนาอย่างต่อเหนื่องแม้ว่าผู้คนโดยรอบจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่า
ในตอนนี้เขามีระดับพลังเท่าไหร่
แต่ถึงอย่างนั้นจากแหล่งข่าวที่พวกเขาได้ทราบมาก่อนหน้านี้นั้นคือ
หลินหมิงนั้นมีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ห้าหากเทียบกับ
หลัวฉิงเชี่ยนที่สามารถยกระดับได้หนึ่งขั้นในทันทีที่นางผ่านด่าน
ทดสอบพร้อมกับได้รับจิตวิญญาณลมนั้นหมายความว่าหลินหมิงอาจ
ได้รับการยกระดับด้วยเช่นเดียวกัน ?
' ระดับจอมยุทธ์ขั้นที่หก ? '
' สวรรรค์ ! '
ผู้คนโดยรอบเต็มไปด้วยความอิจฉาเมื่อเขาจ้องมองมาที่หลินหมิง
มันจะมีใครกันที่สามารถพัฒนาตนได้รวดเร็วเช่นนี้เทียบกับรางวัลการ
ยกระดับของหลัวฉิงเชี่ยนอันน่าถึงเมื่อสักครู่แล้วนั้นสาหรับหลินหมิง
นั้นมันยกคงเหนือกว่ามากแม้ว่าทั้งสองจะสามารถยกระดับมาได้หนึ่ง
ขั้นเช่นเดียวกันแต่สาหรับปราณก่อเกิดขั้นที่สี่ไปขั้นที่ห้านั้นสมควรใช่
ระยะในการบ่มเพาะเพียงไม่นาน แต่กลับระดับจอมยุทธ์และทั้งยังเป็น
ระดับจอมยุทธ์ในช่วงกลางและทะลวงเข้าสู่ช่วงปลายด้วยแล้วแน่นอน
ว่าผู้อาวุโสบางคนยังต้องใช้เวลาหลายปีในการก้าวข้ามขอบเขตนี้ !
" ศิษย์น้อง ! "
หลัวฉิงเชียนเมื่อนางได้พบกับหลินหมิงในตอนแรกร่างกายของนาง
แทบจะพุ่งเข้ากอดกับศิษย์น้องของนางผู้นี้ไปแล้ว โดยในจังหวะ
สุดท้ายนางสามารถตระหนักได้ถึงสายตาของผู้คนโดยรอบที่กาลังจด
จ้องมาที่ศิษย์น้องของนางมันจึงทาให้นางสามารถระงับตัวเองเอาไว้ได้
เสียก่อน
หลินหมิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเขาได้พบเห็นร่าง
ที่ปลอดภัยของศิษย์แสนสวยของเขาด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่านี้
ยังคงไม่นับรวมถึงความแข็งแกร่งของนางที่เพิ่มขึ้นด้วย หลินหมิงและ
หลัวฉิงเชี่ยนเริ่มสร้างระห่างระหว่างพวกเขาและศิษย์คนอื่น แน่นอน
ว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจทาเช่นนั้นทั้งนี้สิ่งที่หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนทา
นั้นเพียงแค่การเข้าพูดคุยกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนบรรยากาศรอบ
ข้างเลยแม้แต่น้อย
สาหรับศิษย์คนอื่นนั้นแน่นอนว่าพวกเขาต้องการที่จะถามหลินหมิ
งถึงข้อมูลของด่านทดสอบนี้แต่ถึงอย่างนั้นจะมีใครที่มีความกล้ามาก
เพียงพอแน่นอนว่าหากเป็นหลัวฉิงเชี่ยนแล้วนั้นมันสมควรเป็นหน้าที่
ของศิษย์ที่เป็นสตรีเพื่อเข้าไปถามนางแต่หากเป็นหลินหมิงล่ะ ?
แน่นอนว่าด้วยนิสัยโดยส่วนตัวของคุณชายที่มีฐานะสูงส่งแล้วนั้นสิ่งที่
พวกเขาไม่ชอบที่สุดกคือรุ่นเยาว์ที่เป็นบุรุษที่มาจากตระกูลที่มีฐานะ
เช่นเดียวกัน
หากถามว่าพวกเขารู้ได้อย่างไรนั้นก็เพราะว่าพวกเขาเองก็คิดเห็น
เช่นเดียวกันแต่ถึงอย่างนั้นหากให้ศิษย์ที่เป็นสตรีไปถามหลินหมิงนั้นไม่
เท่ากับว่านั้นเป็นการตบหน้าหลัวฉิงเชี่ยนที่กาลังพูดคุยกับหลินหมิง
โดยอ้อมอย่างนั้นหรือ ? หลายคนถอนหายใจพร้อมกับเดินกลับไปยัง
ทางเดินที่เต็มไปด้วยแรงกดดันสาหรับด่านทดสอบนี้แม้ว่ามันจะมีสิ่ง
ล่อตาล่อใจพวกเขาอย่างการยกระดับและสมบัติเช่นจิตวิญญาณแต่ถึง
อย่างนั้นมันเห็นได้ชัดว่ามันมีความอันตรายมากเพียงใด จนกระทั่งถึง
ตอนนี้มีศิษย์มากมายที่เข้าร่วมทดสอบแต่มันกลับไม่มีใครออกมาเลย
นอกจากหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยน
จากผู้คนกว่าสี่ร้อยในตอนนี้อาจเหลือเพียงไม่ถึงห้าสิบคนเท่านั้น
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือพวกที่เข้าไปทาการทดสอบแต่ส่วนใหญ่นั้น
เลือกที่จะจากไป หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนตัดสินใจที่จะพักผ่อน
ก่อนที่เข้าร่วมในด่านทดสอบถัดไปสาหรับพวกเขาที่ได้ใช้พลังปราณไป
มากในด่านทดสอบแรกนั้นมันย่อมต้องใช้เวลาพักฟื้นอยู่พักใหญ่ไม่
เพียงเท่านั้นด้วยการที่พวกเขาก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตใหม่พวกเขายัง
จาเป็นที่จะต้องทาความเข้าใจระดับพลังของเขาก่อนที่ก้าวเข้าสู่ด่าน
ทดสอบต่อไป
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนเลือกสถานที่ที่ห่างไกลจากผู้คนและพวก
เขาก็ยังคงแยกกันด้วยเพื่อที่ว่าพวกเขาจะไม่รบกวนการทาสมาธิเพื่อ
ทาความเข้าใจในขอบเขตพลังระดับใหม่ของพวกเขา หลินหมิงไม่มี
ความจาเป็นใดที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับศิษย์พี่สาวสวยของเขาในตอนนี้
กล่าวได้ว่าในบรรดาศิษย์จานวนมากนั้นคนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจาก
เขาย่อมไม่ใช่ใครนอกเสียจากศิษย์พี่แสนสวยของเขา
หลินหมิงทาสมาธิเพื่อทาการรับรู้ข้อมูลทักษะการใช้ทวนที่อยู่
ภายในหัวสมองของเขา แม้ว่ามันจะเป็นทักษะความรู้ระดับสูงแต่อันที่
จริงแล้วมันยังคงมีความคล้ายคลึงกับทักษะพื้นฐานของเขาอยู่หลาย
ส่วนกล่าวได้ว่ามันเป็นการยกระดับทักษะพื้นฐานของเขาขึ้นไปราว
สามสี่ขั้นพร้อมกับกระบวนท่าแปลกประหลาดที่เขาไม่เคยพบเห็นมา
ก่อน
เพียงแต่ว่าในระหว่างที่หลินหมิงกาลังทาสมาธิไปได้ราวสองชั่วยาม
ได้มีร่างของสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วย
ความกังวล

ตอนที่ 180
ร่างกายของหญิงสาวผู้ก้าวเข้ามาในขอบเขตรับรู้ของหลินหมิงนั้น
ทาให้หลินหมิงตื่นตัวอย่างรวดเร็วเบื้องหน้าของเขาปรากฎร่างของ
สตรีที่งดงามเสียยิ่งกว่าเทพธิดาใดๆบนสรวงสวรรค์ความงามของนาง
เพียงพอที่จะทาให้ผู้คนนั้นแข็งค้างกลายเป็นหินได้ภายในชั่วพริบตา
แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่เพียงแต่เฉพาะแต่บุรุษเท่านั้นแม้แต่สตรี
ด้วยกันเองหลินหมิงก็ยังคงเชื่อว่ามันคงเป็นการยากที่พวกเขาจะอดใจ
ไม่ให้ชื่นชมกับความงามที่ไม่สามารถประเมิณหรือเปรียบเทียบกับสิ่ง
ใดนี้ได้ !
เหงื่อของหลินหมิงพรั่งพรู่ออกมาพร้อมกับอาการตรึงเครียดอย่าง
เห็นได้ชัด หากนี้เป็นการพบกันเพียงครั้งแรกระหว่างหลินหมิงและ
สตรีผู้งดงามนางนี้หลินหมิงอาจไม่รอช้ารีบเข้าพุ่งไปจู่โจมนางกดลงกับ
พื้นไปแล้ว แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นมันเป็นไปได้สูงว่าชีวีตของเขา
คงจบลงในทันที
' นางมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไรกัน '
" อา.. "
เสียงร้องเบาๆของสตรีผู้งดงามดังขึ้นเมื่อนางได้พบเห็นใบหน้าของ
หลินหมิงอย่างชัดเจนใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยความงดงามปรากฎ
รอยยิ้มที่ชวนน่าหลงไหลชนิดที่ว่าหลินหมิงแทบจะไม่สามารถอดใจได้
ไหว
" นึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะได้เจอเจ้าในที่แห่งนี้ หืม ? นี้แค่ไม่เจอกัน
เพียงไม่นานเจ้ากลับพัฒนาขึ้นถึงเพียงนี้ "
หลินหมิงแทบนึกอยากจะกระโดดหนีออกไปจากสถานที่นี้ในทันที
แน่นอนว่าแม้พระราชวังโบราณแห่งนี้จะมีสมบัติที่มากมายรอเข้าอยู่
ในด่านทดสอบถัดไปแต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่มีค่าอันใดหากเทียบกับชีวิต
ของเขาเอง ในจังหวะที่ขาของหลินหมิงเผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
อย่างไม่รู้ตัวระยะทางหลายสิบก้าวระหว่างสตรีผู้งดงามและหลินหมิ
งถูกหดมาภายในเวลาเพียงเสียวพริบตา
สตรีผู้งดงามที่สุดเท่าที่หลินหมิงเคยพบมาในชีวิตนี้ของเขาและยัง
เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา นางย่อมไม่ใช่ใครอื่น
นอกเสียจากซัคคิวบัสสาวผู้งดงามซื่อเฟย !
ดวงตาของซัคคิวบัสยังคงเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ที่หลินหมิงไม่
สามารถคาดเดาความคิดของนางได้เลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามกันแล้ว
สาหรับซื่อเฟยนั้นนางดูเหมือนว่าจะสามารถคาดเดาความคิดของ
หลินหมิงได้แทบจะหมดทั้งสิ้น มือข้างหนึ่งของนางเอื้อมเข้ามาลูบไล้
สัมผัสใบหน้าของหลินหมิงในยามที่ร่างทั้งสองแทบจะประชิดแนบกาย
กัน
ลมหายใจและกล่ีนหอมหวนของสตรีผู้งดงามตรงหน้านั้นมันทาให้
หลินหมิงไม่สามารถปฎิเสธหรือหนีจากสตรีผู้เย้ายวนนางนี้ไปได้
" ไม่ต้องกังวลหรอก~~ ข้าไม่ได้มีความคิดที่ไม่ดตี ่อเจ้าหรอกนะ
ข้าเพียงแค่แปลกใจเล็กน้อยเท่านั้นที่ได้เห็นเจ้าในสถานที่นี้ไม่เพียง
เท่านั้นความแข็งแกร่งของเจ้ากลับเพิ่มขึ้นมาด้วยความเร็วที่ค่อนข้าง
น่ากลัวเลยทีเดียว "
น้าเสียงยั่วย้วนของซัคคิวบัสสาวทาให้หัวสมองของหลินหมิงพลัน
พลุ่งพล่านไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้นจนแทบจะไม่สามารถหยุดห้ามใจ
เอาไว้ได้ หลินหมิงดีดตัวออกห่างจากซัคคิวบัสสาวเพื่อรักษาสติของ
เขาเอาไว้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพียงแต่นางจะมีความแข็งแกร่งที่สามารถ
สยบเหล่าผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ได้ราวกับเหยียบมดเพียงเท่านั้นลาพัง
เพียงแค่เสน่ห์ของนางนั้นก็อาจเพียงพอที่จะสามารถยึดครอง
อาณาจักรได้ทั้งอาณาจักรเลยทีเดียว
" ท่านมาทีนี้ได้อย่างไร "
หลินหมิงครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดที่ซัคคิวบัสสาวผู้งดงาม
สามารถเข้ามาภายในมิติเล้นลับแห่งนี้ได้เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันอาจ
เป็นเพราะมิติเล้นลับแห่งนี้อาจมีทางเข้าจากทีอื่น แต่ถึงอย่างนั้นมันจะ
ไม่บังเอิญไปหน่อยหรือ ? นับตั้งแต่ที่หลินหมิงได้แยกจากซื่อเฟยนั้น
มันก็เป็นเวลาหลายเดือนแล้วหากแม้ว่ามันจะมีมิติทางเข้าจากสถานที่
แห่งนี้นั้นหมายความว่าทั้งนางและเขาเลือกที่จะเข้ามาภายในมิติเล้น
ลับพร้อมๆกัน ?
" นั้นสินะ.. "
ซื่อเฟยนานิ้วชี้แตะบางของตนเองพร้อมกับครุ่นอะไรบางอย่าง
ด้วยการกระทาบางอย่างเพียงเล็กน้อยของนางเช่นนี้มันแทบจะทาให้
จิตใจของหลินหมิงระเบิดอารมณ์อออกมาราวกับสัตว์ป่า
" อันที่จริงมันสมควรเป็นทางฝั่งข้าเสียมากกว่าที่อยากจะรู้ว่าเจ้า
มาทาอะไรในพระราชวังแห่งการจองจาแห่งนี้ "
ในตอนนี้ความคิดของหลินหมิงเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลก
ประหลาดเกิดขึ้น สาหรับมิติเล้นลับแม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ที่จะมี
หนทางเข้าจากสถานที่แห่งอื่นแต่ไม่ใช่ว่าจากข้อกาหนดของผู้ที่
สามารถเข้ามาได้นั้นไม่ใช่ว่าผู้ที่จะเข้ามาภายในนี้นั้นจะต้องมีอายุต่า
กว่า 20 ปีไม่ใช่เช่นนั้นหรือ ?
" หรือว่ามนุษย์เช่นพวกเจ้าคิดว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่พวก
เจ้าสามารถเข้าออกเพื่อแสวงหาทรัพย์สมบัติเช่นนั้นหรือ ? ฮ่าๆๆ "
' พระราชวังแห่งจากการจองจา ? '
หลินหมิงหวนนึกถึงคากล่าวเรียกพระราชวังโบราณแห่งนี้ของซือ
เฟย มันมีความเป็นไปได้สูงว่านางจะมีความรู้จักสถานที่แห่งนี้อย่าง
น้อยก็มากกว่าหลินหมิง และดูเหมืนว่ามันจะไม่ใช่ด่านทดสอบเพื่อ
ค้นหาผู้ที่มีความเหมาะสมในการสืบทอดพลังดั่งเช่นที่จิตวิญญาณ
โบราณวัยกลางคนกล่าว หัวใจของหลินหมิงหลั่งเหงื่อเย็นในทันที
เป็นไปได้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วสถานที่แห่งนี้มันสมควรเป็น
พระราชวังที่ทาการกักขังสิ่งมีชีวิตโบราณที่น่าสะพรันพรึง หลินหมิง
เตรียมวิ่งหนีจากไปโดยก่อนหน้านั้นเขาจะต้องไปบอกกล่าวเรื่องนี้กับ
ศิษย์พี่สาวสวยของเขาเสียก่อน ไม่จาเป็นต้องสงสัยว่าสิ่งที่เขาคาดเดา
ถูกหรือไม่ เพียงแค่การคงอยู่ของสตรีผู้งดงามซื่อเฟยนางนี้มันก็เพียง
พอที่จะทาให้สถานที่นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอันตรายอย่างเห็นได้ชัด
กึก
เพียงแต่ว่าร่างของหลินหมิงกลับถูกหยุดนิ่งด้วยพลังบางอย่างที่
มองไม่เห็นหลินหมิงหันกลับไปอย่างเชื่องช้าเขาพบกับใบหน้าของซื่อ
เฟยที่กาลังยิ้มแย้มอย่างสดใสหลินหมิงไม่สนใจว่าสตรีนางนี้กาลังคิด
สิ่งใดอยู่เทียบกับจิตวิญญาณวัยกลางคนที่ทาหน้าที่บอกกล่าวเรื่องด่าน
ทดสอบพวกเขาแล้วนั้นเพียงแค่ตัวตนระดับนั้นมันก็เพียงพอที่จะ
สามารถสังหารเขาได้แล้ว แต่สาหรับซือเฟยแล้วนั้นนางอาจจะไม่มี
ปัญหาแม้กระทั่งต้องพบเจอกับสิ่งที่มีชีวิตที่ถูกกักวังไว้อยู่ใน
พระราชวังแห่งนี้
" มีบุรุษไม่มากหรอกนะที่ตัดสินใจหลบหนีข้าไปเช่นนี้..."
ร่างของซัคคิวบัสสาวผู้ทรงเสน่ห์เข้าแนบชิดกับร่างของหลินหมิง
สัมผัสเนียนนุ่มจากหน้าอกคู่งามและผิวสัมผัสแทบจะทาให้หลินหมิง
เคลิ้มฝัน ร่างของหลินหมิงถูกผลักลงพร้อมกับร่างของนางที่อยู่ด้านบน
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของซัคคิบัสสาว
มือของนางเข้าเคลื่อนไหวลูบไล้ไปที่บริเวณเรือนร่างของหลินหมิง
พร้อมกับแววตาของนางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์อะไรบางอย่าง
" ฮิฮิ.. เจ้าไม่ต้องกังวลไปต่อให้เจ้าสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ารังเกียจที่อยู่
ภายในนี้ตื่นขึ้นมาระดับพลังของมันนั้นก็คงไม่อาจนับว่าเกินมือข้า
เช่นนี้แล้วเหตุใดเจ้าถึงไปกับข้าเสียเลยล่ะเจ้าอาจได้พบกับสมบัติที่เป็น
ประโยชน์ต่อเจ้าก็ได้นะ "
หลินหมิงเมื่อได้รับฟังคากล่าวของซื่อเฟยนั้นเขาพลันหน้าซีดขึ้นมา
ในทันทีแต่เดิมนับแต่อดีตที่ผ่านมานั้นเขามักจะต้องพบเจอกับศัตรูที่
แข็งแกร่งมากกว่าเขาอยู่เสมอนี้เป็นสิ่งที่หลินหมิงไม่ค่อยพอใจนัก
ลาพังเพียงแค่ผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างผู้ที่มีพลังปราญช์ระดับ
สูงสุดนั้นมันก็อาจเพียงพอที่จะทาให้ชีวิตของเขานั้นหายไปจากโลกนี้
ได้ในพริบตาแล้วกับการต่อสู้ของปีศาจผู้งดงามนางนี้กับสิ่งมีชีวิต
โบราณที่ถูกผนึกอยู่เหล่า เขาอาจไม่มีสิทธ์แม้กระทั่งหายใจได้ในสถาน
เช่นนั้นเลยเสียด้วยซ้าไป
" ข้าสามารถปฎิเสธได้หรือไม่ "
" ฮิฮิ แน่นอน.....ว่าไม่ ! "
เสื้อผ้าของหลินหมิงเริ่มทาการถูกปลดออกทีละชิ้นด้วยฝีมือของซัค
คิวบัสสาวผู้ทรงเสน่ห์ โดยที่หลินหมิงไม่แม้แต่จะสามารถขัดขืนได้เลย
แม้แต่น้อย

ตอนที่ 181
คอของหลินหมิงรู้สึกแห้งขึ้นมาในทันที นิ้วมือและสัมผัสอันเนียน
นุ่มที่เขาได้รับจากซัคคิวบัสผู้งดงามซื่อเฟยนั้นมันทาให้หลินหมิงรู้สึก
อารมณ์เดือดพล่านไปด้วยความต้องการที่มากล้น แน่นอนว่าหาก
ในตอนนี้เขาไม่ได้โดนสะกดจนไม่สามารถขยับได้แล้วละก็สตรีนาง
อาจจะเจอการจู่โจมอันรวดเร็วของหลินหมิงไปแล้ว
" ฮิฮิ ข้ารู้ดีว่าเจ้ากาลังคิดสิ่งใดอยู่ ! "
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนของซื่อเฟยนั้นทาให้หัวใจของ
หลินหมิงกระตุกหวูบได้ทุกครั้ง หากเป็นคนชราที่มีปัญหาทางด้าน
หัวใจแล้วละก็พวกเขาอาจต้องตกตายไปในทันทีเมื่อได้เห็นความ
งดงามที่เกินกว่าจะสามารถจินตนาการนี้ได้
ซื่อเฟยจ้องมองเรือนร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงด้วยสายตาที่เต็ม
เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอันที่จริงแล้วสาหรับเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสนั้นตาม
จริงแล้วพวกนางจะไม่มีความสนใจเกี่ยวกับบุรุษมากนัก อย่างมาก
พวกเขาก็เป็นได้เพียงอาหารหรือแหล่งสมบัติที่ให้พวกนางดูดกลืน
พลังหยางเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น แต่สาหรับซือเฟยแล้วนั้นนาง
เริ่มมีความรู้สึกแปลกประหลาดในยามที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิงไปแล้ว
แม้ว่านางและเขาจะแยกจากกันมากหลายเดือนแล้วแต่ถึงอย่างนั้น
เวลาหลายเดือนสาหรับนางที่เป็นเผ่าพันธ์โบราณที่มีอายุยืนยาวนั้น
หากเทียบกับมนุษย์เช่นหลินหมิงแล้วเวลาหลายเดือนนี้ไม่ต่างอะไรไป
จากการหลับนอนผ่านไปไม่กี่คืนเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางได้จาก
หลินหมิงไปนางกลับพบว่านางมีความต้องการ ความโหยหาหลินหมิ
งเป็นอย่างมากซึ่งนางเองก็ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้
แม้ว่าจะมีอายุยืนยาวมาหลายพันปีแล้วก็ตาม
" ท่านสามารถปลดปล่อยข้าได้หรือไม่ ? อย่างไรเสียข้าก็ไม่
สามารถขัดขืนท่านได้อยู่แล้ว "
ในขณะที่ซื่อเฟยกาลังเพลิดเพลินกับการจดจ้องเรือนร่างเปลื่อย
เปล่าของหลินหมิง นางพลันได้ยินคากล่าวของหลินหมิงพร้อมกับหัน
หน้าไปเขารอยยิ้มอันสดใสปรากฎขึ้นบนใบหน้าของนางอันที่จริงแล้ว
นางเชื่อว่าหลินหมิงจะไม่มีทางหลบหนีจากนางที่อยู่ในสภาพเช่นนี้โดย
ไม่ทาอะไรอย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นเหตุผลที่นางยังคงผนึกเขาเอาไว้
ไม่ใช่ว่านางกังวลว่าเขาจะหลบหนี แต่มันเป็นเพราะว่านางกังวล
เกี่ยวกับการจู่โจมอันหนักหน่วงของเขา
" ข้าจะตอบแทนเจ้าจากคร่าวก่อนจนกว่าข้าจะพอใจ ! "
มือของนางเข้าลูบไล้แผงกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกของหลินหมิง
อันเปลื่อยเปล่าอย่างเชื่องช้าแต่ถึงอย่างนั้นเพียงแค่ได้สัมผัสมือของ
นางเช่นนี้มันทาให้หลินหมิงรู้สึกดีราวกับว่าเขากาลังล่องลอยอยู่ใน
สวรรค์ กลิ่นหอมโชยจากตัวของนางมันทาให้หลินหมิงรู้สึกเคลิ้มเคลิม
และมีอารมณ์ความต้องการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
ร่างของนางโน้มตัวลงหลังจากที่นางปลดอาภรณ์เพื่อเปิดเผยเรือน
ร่างอันงดงามเสียยิ่งกว่ามรกตล้าค่าใดๆในโลก ผิวพรรณของนางส่อง
ประกายราวกับว่าร่างกายของนางนั้นสามารถสะท้อนแสงจากดวง
ตะวันโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆได้ ไม่เพียงเท่านั้นหน้าอกคู่งามที่
ปรากฎตรงหน้าของหลินหมิงในตอนนี้มันสามารถดึงดูดสายตาของเขา
ได้เป็นอย่างมาก ยอดปถุมถันสีชมพูสดจนหลินหมิงอดไม่ได้ที่จะเลียริม
ฝีปากของเขาไปครั้งใหญ่
" ฮิฮิ เจ้าตัวลามก ! "
ซื่อเฟยนางสามารถสังเกตท่าทางของหลินหมิงได้อย่างชัดเจน อันที่
จริงแล้วสาหรับความงามของนางนั้นแม้แต่ในเผ่าพันธ์เดียวกันนางก็
นับได้ว่าโดดเด่นไม่เป็นรองใครดังนั้นแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่าง
ใดที่นางจะต้องถูกสายตาของเหล่าบุรุษหรือกระทั่งเหล่าสตรีมองมา
ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการบางอย่างแต่ถึงอย่างนั้นเทียบกับ
สายตาของหลินหมิงแล้วนั้น แม้ว่าสายตาของเขาจะไม่ได้แตกต่าง
อะไรไปจากพวกเหล่านั้นแต่มันกลับทาให้นางรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
นางทิ้งร่างลงไปแนบร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงสัมผัสเนียนนุ่ม
จากหน้าคู่งามที่บีบทับระหว่างร่างทั้งสองมันทาให้ทวนมังกรของ
หลินหมิงนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรงจนแทบจะประทุออกได้ตลอดเวลานี้
เป็นครั้งแรกที่หลินหมิงมีปฎิกริยาต่อสตรีมากมายถึงเพียงนี้ไม่ต้องพูด
ถึงแม้กระทั่งแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ของเขาก็ยังคงไม่มีความสามารถ
เพียงพอที่จะทาเช่นนี้ได้
ในตอนนี้จากสายตาของซื่อเฟยแล้วนั้นหลินหมิงไม่ต่างอะไรไปจาก
ลูกไก่ตัวน้อยอันแสนน่ารักสาหรับนาง นางยินดีที่จะเล่นสนุกกับเจ้า
ลูกไก่ตัวน้อยนี้ของนางไปจนตราบนานเท่านาน
หลินหมิงกระทั่งเผลอครางออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้รับสัมผัส
รสชาติจากผิวสัมผัสเรือนร่างของนาง มันอาจเป็นเพียงแค่ความฝัน
ของเหล่าบุรุษที่หวังจะได้รับการปรนนิบัติเช่นนี้จากสตรีผู้งดงามเช่น
นาง ลิ้นของซื่อเฟยเข้าโลมเลียซอกคอของหลินหมิงอย่างเร่าร้อนนาง
จนจาทุกกระบวนท่าที่หลินหมิงได้เคยใช้ร่วมกันกับนางและนี้เป็นโอา
กาสที่นางจะสามารถใช้มันกับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ !
แน่นอนว่ากระบวนท่าที่สามารถให้ความเพลิดเพลินแก่นางและ
หลินหมิงได้มากเช่นนี้นั้นแม้กระทั่งนางที่มีอายุมากอย่างยาวนานและ
ยังคงเป็นเผ่าพันธ์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอารมณ์ราคะก็ยังคงไม่มีความรู้
และทักษะที่สามารถเปรียบเทียบกับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้แม้แต่เศษเสี้ยว
" อ้าห์~~~~~~~ "
น้าลายใสๆของซื่อเฟยไหลออกมาเป็นทางยาวหลังจากที่นางใช้
พวกมันในการโลมเลียร่างกายของหลินหมิงอย่างพึ่งพอใจ ในตอนนี้
นางมั่นใจแล้วว่าความรู้สึกที่นางมีต่อเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นมันไม่ใช่เพียง
แค่ความรู้สึกความต้องการทางด้านอารมณ์อะไรบางอย่างเท่านั้น แต่
มันยังคงเป็นสิ่งเหนือกว่านั้นอีก สายตาของนางในตอนนี้เต็มไปด้วย
ความสุขอย่างแท้จริงแต่เมื่อนางมองไปที่หลินหมิงที่กาลังสีหน้าขมวด
คิ้วด้วยอารมณ์ความโกรธเกรี้ยว
" เจ้ารู้สึกไม่ชอบใจเช่นนั้น ? "
ซื่อเฟยนางก้มลงไปหาหลินหมิงอีกครั้งใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ใน
ระยะห่างที่แทบใบหน้าจะชนกันอันที่จริงแล้วนางพบว่าใบหน้าของ
หลินหมิงแม้ว่ามันจะเป็นใบหน้าที่งดงามแต่ถึงอย่างนั้นนางมั่นใจได้ว่า
ในชีวิตนี้ของนางนั้นนางย่อมเจอบุรุษที่มีความงดงามมากกว่าหลินหมิง
มามากมายจนนับไม่ถ้วนแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับรู้สึกว่าใบหน้าของ
หลินหมิงนั้นมีความน่าสนใจมากกว่าบุรุษรูปงามใดๆในโลกนี้
" ไม่ ! "
ไม่รู้ตัวด้วยว่าเพราะใดเมื่อนางได้รับคากล่าวที่เต็มไปด้วยอารมณ์
ความโกรธเคืองของหลินหมิงแฝงมาจากคากล่าวของเขาจิตใจของ
นางผลันสั่นไหวเล็กน้อย หากเป็นผู้คนปกติโดยทั่วไปที่กล้ากล่าวด้วย
อารมณ์เช่นนี้กับนางแล้วพวกมันอาจจะต้องสิ้นชื่อไปจากโลกนนี้เพียง
พริบตาไปแล้ว
' ข้าต้องการครอบครองเขา... '
นี้คือความคิดของนางมันง่ายมากที่นางจะจัดการจับกุมหลินหมิง
เอาไว้เพื่อเป็นคนของเล่นหรือที่บรรเทาอารมณ์ของนางแม้ว่าหลินหมิง
จะมีพรสวรรค์มากมายเพียงใดแต่ในตอนนี้เขายังไม่เติบโตจนสามารถ
เป็นสิ่งที่ทาอันตรายต่อหน้าได้ แต่เมื่อนางมองไปยังใบหน้าของหลินห
มิงความคิดเช่นนั้นหายไปในทันที
แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงแล้วนั้นมันคงเป็นการโกหกหากเขา
กล่าวว่าเขาไม่ได้มีความสุขและความเพลิดเพลินจากรเรือนร่างของ
สตรีงดงามเช่นนี้แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่หลินหมิงไม่พอใจก็คือการถูก
ควบคุม หลินหมิงยินดีที่จะให้สตรีข้างกายของเขาเป็นผู้นาในการร่วม
รักในบางครั้งโดยที่เขาสามารถสังเกตหรือกระทาบางอย่างกับร่างกาย
ของพวกนางได้แต่ในตอนนี้สิ่งที่เขาทาได้มีเพียงแค่การนอนแน่นิ่งราว
กับเป็นของเล่นเพียงเท่านั้นนี้ทาให้หลินหมิงไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นพริบตานั้นเองพันธนาการที่มองไม่เห็นพลันหายไปจาก
การควบคุมหลินหมิงร่างกายของหลินหมิลพลันขยับได้หลินหมิงมอง
ไปที่ซื่อเฟยที่กาลังแย้มยิ้มด้วยรอยยิ้มสดใสเช่นเคยด้วยความสังสัย
" แม้ว่าข้าจะปลดพันธนาการให้เจ้าแล้ว..แต่เจ้าห้ามลงมืออย่าง
รุนแรงเช่นคร่าวก่อนอีกไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายสาหรับ
ชีวิตเจ้าที่จะได้มีโอกาสทาเช่นนั้น......แล้วก็หากเจ้าทาให้ข้าพึงพอใจได้
มากเท่าไหร่แล้วละก็แน่นอนว่าข้ามีรางวัลที่ยิ่งใหญ่มอบให้เจ้าด้วย
เช่นกัน "
ประโยคสุดท้ายนั้นซื่อเฟยนางก้มลงกล่าวข้างหูหลินหมิงด้วย
น้าเสียงเจ้าเล่ห์ในตอนแรกหลินหมิงนั้นมีความคิดที่จะจู่โจมแม่สาวเจ้า
เล่ห์ผู้นี้อย่างเต็มกาลัง แต่เมื่อเขาครุ่นคิดดูอีกทีแม้ว่ามันจะมีสตรีบาง
ประเภทที่ชื่นชอบการจู่โจมจากบุรุษจากรุนแรง แต่ดูเหมือนว่ามันจะ
ไม่ใช่สาหรับซัคคบิวบัสสาวผู้นี้ ซึ่งมันดูขัดกับบุคลิกของนางเป็นอย่าง
มาก
หลินหมิงเป็นฝ่ายพลิกร่างของเขาขึ้นคร่อมร่างของซัคคิวบัสสาวผู้
งดงามสายตาของเขาในตอนนี้สามารถจดจ้องร่างกายอันเปลื่อยเปล่า
ของนางได้อย่างเด่นชัด หลินหมิงไล่สายตาของเขาตั้งแต่จากล่างขึ้น
บนเขาแทบจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีสิ่งใดในโลกนี้ที่มีความ
งดงามมากเช่นนี้ได้กัน มือของหลินหมิงเข้าลูบไล้สัมผัสจุดที่เขาสนใจ
มากที่สุด
" อาาา ~~~~~ "
สัมผัสอ่อนโยนที่บริเวณหน้าอกของนางนั้นทาให้นางเผลอคราง
เสียงกระเส้าออกมาเล็กน้อยจนหลินหมิงสะดุ้ง แต่ถึงอย่างนั้นเมือเขา
มองไปที่ใบหน้าของนางเขายังคงพบว่าใบหน้าของนางนั้นยังคงเต็มไป
ด้วยรอยยิ้มเช่นเคย ในตอนนี้ความตั่งมั่นของหลินหมิงก็คือเขาจะต้อง
ทาให้แม่สาวเจ้าเล่ห์ผู้นี้เป็นของเขาให้ได้เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วไม่เพียง
ต้องกังวลถึงในเรื่องใดอีกต่อกระทั่งตัวตนระดับสูงจากภายใน
อาณาจักรนั้นพวกเขาก็ยังคงไม่สามารถเปรียบเทียบกับนางได้เลย
แม้แต่น้อย
ไม่เพียงเท่านั้นด้วยการร่วมรักระหว่างหลินหมิงและแม่สาวเจ้าเล่ห์
ผู้นี้มันจะช่วยทาให้เขาสามารถยกระดับได้อย่างรวดเร็วจากพื้นฐาน
พลังปราณของนาง !

ตอนที่ 182
แม้ว่านี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินหมิงได้รับโอกาสที่ได้สัมผัสเรือนร่าง
อันงดงามของซัคคิวบัสสาวนางนี้ แต่เทียบกับในตอนแรกที่เขาเต็มไป
ด้วยความกังวลและอารมณ์มากมายที่คอยปิดกั้นการรับรู้ส่วนหนึ่งของ
เขาเอาไว้ เทียบกับในตอนนี้แล้วอ่อร่าทีสตรีผู้ทรงเสน่ห์ตรงหน้าของ
หลินหมิงในตอนนี้นางไม่ได้มีอ่อร่าที่คุกคามเขาแต่อย่างใด
มือของหลินหมิงที่กาลังบีบนวดหน้าอกคู่งามของซื่อเฟยอย่าง
อ่อนโยน แน่นอนว่าที่หลินหมิงต้องทาเช่นนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขากังวล
มากเกินไปเช่นเดียวกับในตอนที่เขาร่วมรักกับแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์
ของเขา เพียงแต่ว่าหลินหมิงไม่กล้าเพียงพอที่จะสัมผัสเรือนร่างของ
นางอย่างเร้าร้อนมากจนเกิน เพียงแค่สัมผัสปลายมือของเขาที่ได้แตะ
ไปที่หน้าอกของนางนั้นมันราวกับว่าหน้าอกของนางมีความสามารถ
อันแปลกประหลาดที่สามารถดูดกลืนมือของเขาให้ยากที่จะนาออกมา
ได้
จิตใจหลินหมิงปั่นป่วนอย่างหนักหน่วงไปด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
หากเป็นบุรุษสูงวัยที่ได้รับโอกาสเช่นนี้หรือกระทั่งบุรุษวัยเยาว์ที่มี
สภาพร่างกายไม่แข็งแรงเพียงพอพวกเขาอาจตกตายไปด้วยความ
ตื่นเต้น และความสุขที่มากล้นจนเกินไป
ซื่อเฟยนางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแม้ว่านางจะมี
ความภาคภูมิในเรื่องความงดงามที่โดดเด่นของนางที่สามารถกล่าวได้
ว่าไม่เป็นรองผู้ใด แต่ถึงอย่างนั้นนางไม่ได้รู้สึกมีความสุขอันใดกับ
สายตาที่จ้องมองมาที่นางด้วยอารมณ์ที่หลากหลายนั้นอาจเป็น
เพราะว่าความเคยชินจากการที่นางมีอายุมากว่าพันปี แต่ด้วยสายตา
ของหลินหมิงในตอนนี้มันกลับทาให้ร่างกายของนางรุ่มร้อนเต็มไปด้วย
ความรู้สึกปราถนาอย่างแท้จริง
" ซี๊ดดด ~~~ อ้าา ~~~~ "
ซื่อเฟยนางครางออกมาด้วยน้าเสียงกระเส้าเมื่อหน้าอกของนางนั้น
ถูกหลินหมิงดูดดื่มราวกับทารก ไม่เพียงเท่านั้นมือทั้งสองข้างของเขาที่
ในตอนนี้ว่างจากหน้าที่ในการจู่โจมหน้าอกของนางที่ถูกแทนที่ด้วยริม
ฝีปากนั้นพวกมันต่างเคลื่อนไหวไปทั่วเรือนร่างของนางราวกับต้องการ
หาขุมทรัพย์
หลินหมิงเคลื่อนไหวด้วยจังหวะที่เชื่องช้าริมฝีปากของเขาค่อยๆ
โลมเลียจากหน้าอกของนางขึ้นมาเรื่อยๆผ่านลาคอขาวเนียนเรียบอัน
ผุดจนมาหยุดที่ใบหน้าของนาง
" เจ้าจะต้องเป็นของข้า.. "
เสียงของซื่อเฟยกล่าวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์แท้จริง
แล้วด้วยสถานะของนางนั้นลาพังเพียงแค่คนรับใช้หรือกระทั่งทาสของ
นางนั้นแน่นอนว่าผู้คนมากมายย่อมยินยอมที่จะรับหน้าที่เหล่านั้น แต่
ในตอนนี้หลังจากที่นางได้ครุ่นคิดเรื่องความสัมพันธ์ของนางและ
หลินหมิงอย่างถี่ถ้วนแล้วนางตระหนักได้ถึงความรู้สึกของนางอย่าง
แท้จริง
ในการร่วมรักครั้งแรกระหว่างนางและหลินหมิงนั้นแน่นอนว่านาง
มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากหลินหมิงที่ไม่สามาถมีอารมณ์ร่วมได้เต็มที
มากนักนั้นเพราะว่านางตื่นเต้นมากจนเกินไปที่จะได้รับอานาจพลัง
ของนางกลับคืนมาจากการดูดกลืนพลังหยางอันบริสุทธ์ของหลินห
มิง แต่ในตอนนี้นางมีความมั่นใจในเรื่องอย่างแท้จริงทั้งในยามที่นาง
ได้พบเขาอีกครั้งมันราวกับนางได้พบของรักที่ห่างหายไปนานนับสิบปี
นางไม่ต้องการมีความรู้สึกแยกจากเช่นนั้นอีกต่อไป
หากพูดถึงในเรื่องของความแข็งแกร่งและอายุของนางและหลินห
มิงนั้นแน่นอนว่ามันย่อยแตกต่างกันอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นนางมี
ความเชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของหลินหมิงในตอนนี้เขาสามารถ
เติบโตจนกลายเป็นตัวตนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับนางได้ในอนาคตสิ่ง
ที่สาคัญที่สุดสาหรับผู้ที่จะมาเป็นบุรุษข้างกายสตรีเผ่าซัคคิวบัสเช่น
นางแน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องมีพลังหยางที่กล้าแกร่งเพียงพอที่จะไม่
เกิดอันตรายถึงชีวิตซึ่งส่วนใหญ่แล้วนับแต่อดีตบุรุษส่วนใหญ่นั้น
สามารถอดทนได้ไม่เกินหนึ่งเดือนนั้นคือขีดจากัดความสามารถสูงสุดที่
มีคนเคยทาได้จากที่นางได้ยินมา
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะตกตายภายในเวลาไม่ถึงเจ็ดวันเลย
เสียด้วยซ้าแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนางไม่จาเป็นจะต้องกังวลในเรื่อง
นั้นเห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นเขาไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย
หลังจากที่ได้ร่วมรักและถูกนางดูดกลืนพลังหยางแล้วไม่เพียงเท่านั้น
เขากลับดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเสียด้วยซ้าด้วยความแปลกประ
หลาเช่นนี้มันเป็นไปได้มากว่าแม้กระทั่งหญิงสาวผู้งดงามทั้งหลายจาก
เผ่าพันธ์ของนางก็ไม่อาจที่รับมือเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้คนเดียวได้
" อืม้ มมม ~~~~~ "
หลินหมิงไม่กล่าวโต้ตอบซือ่ เฟยแต่อย่างใดอันที่จริงแล้วหลินหมิง
ไม่รู้ว่าเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสนั้นมีประเพณีเช่นไร หากเป็นมนุษย์แล้วนั้น
พวกเขายินยอมที่บุรุษจะมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งจนกระทั่งนับสิบได้
อย่างไม่มีปัญหานั้นเป็นเพราะว่าตัวตนของบุรุษนั้นมีความสาคัญและ
ความหมายต่ออาณาจักรมากกว่าพวกเขามีความสามารถและ
พรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะที่มากกว่าสตรีอย่างไม่ต้องสงสัยแต่กลับ
เผ่าพันธ์ซัคคิวบัสที่มีสตรีแล้วเล่า ?
นางจะคิดเช่นไรหากเขากล่าวว่าในตอนนี้หลินหมิงมีสตรีข้างกาย
ของเขาอยู่มากมาย ? หลินหมิงเลือกที่จะไม่สนใจสิ่งเหล่านั้นไปก่อน
หากเพียงแต่เขาสามารถทาให้นางพอใจได้อย่างแท้จริงหลินหมิงไม่คิด
ว่านางจะมีวามคิดโกรธเคืองเขาแต่อย่างใด ที่สาคัญที่สุดก็คือริม
ฝีปากเนียนุ่มของนางนั้นทาให้หัวสมองของเขาพลันหยุดคิดเรื่อง
เหล่านั้นไปก่อน
" อืม้ ม ~~~ "
มือทั้งสองข้างของซื่อเฟยเข้ารวบกอดร่างของหลินหมิงให้แนบชิด
ร่างของนางด้วยความรักใคร่สัมผัสการจูบอย่างอ่อนโยนที่นางได้รับ
ในตอนนี้มันราวกับทักษะโบราณที่มีความสามารถทาให้นางสามารถ
ย้อนอายุกลับไปอยู่ในวัยสาวแรกเริ่มอีกครั้ง หัวใจของนางถูกเติมเต็ม
ไปด้วยความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
" แฮ่ก ๆ "
แม้ว่ามันจะเป็นการจูบที่ไม่ได้ร้อนแรงมากมายนักแต่ช่วง
ระยะเวลานั้นได้ดาเนินไปอย่างยาวนานไม่น่าแปลกใจเลยที่ซัคคิวบัส
สาวในตอนนี้อย่างจะหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ จังหวะการหายใจ
เขาออกของนางทาให้เรือนร่างอันเย้าย้วนนั้นมีการเคลื่อนไหวตามด้วย
เช่นเดียวกันหน้าอกของนางกระเพื่อมขึ้นลงจนหลินหมิงต้องกลืน
น้าลายลงไปอึกใหญ่หลินหมิงมีความแน่วแน่อย่างหนึ่งที่แท้จริงก็คือ
เขาจะต้องทาให้นางกลายเป็นสตรีของเขาให้ได้
แค่เพียงหลินหมิงได้นึกถึงภาพอนาคตของเขาในยามตื่นเช้าที่
ประกอบไปด้วยร่างของสตรีผู้ทรงเสน่ห์อย่างนาง แม่สาวน้อยหลิวฉวน
ยูร์ ผู้อาวุโสฟางซิ่นลาพังเพียงแค่สตรีทั้งสามนี้มันเพียงพอที่จะทาให้
หลินหมิงไม่มีความต้องการที่จะจากพวกนางไปไหนนี้ยังไม่รวมสตรีที่มี
ความงดงามรองลงมาอย่างภรรยาผู้น่ารักของเขาอย่างจิวหลิน หรือผู้
อาวุโสฟ่งซือเซียน
" นับว่าเจ้าทาได้ดีมากมันคงเป็นเรืองที่แย่มากหากข้าไม่ได้ตอบ
แทนเจ้าสักเล็กน้อย.. "
ซือเฟยนางใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของนาง
กลับมามือของนางเขาคลาไปที่บริเวณส่วนลับของหลินหมิง ใบหน้า
ของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ไม่ต่างจากหลินหมิงก่อนหน้านี้ ทวน
มังกรของหลินหมิงได้ปรากฎสู่สายตาของนางมันมีขนาดใหญ่เพียง
พอที่จะสามารถประกาศตนได้ว่ามันเป็นทวนที่ยอดเยี่ยมที่สุดซึ่งไร้ผู้
ทัดเทียมอย่างแน่นอน
ริมฝีปากอวบอิ่มของนางเข้าปกคลุมทวนมังกรของหลินหมิงโดยไม่
มีทีท่ารังเกียจเลยแม้แต่น้อย ทวนมังกรที่อยู่ภายในปากของซื่อเฟยนั้น
ไม่เพียงแต่มันจะได้รับการปรนนิบัติที่ดีจากการขยับหัวของนางและมือ
ทั้งสองข้างนางที่คอยลูบไล้แท่งทวนส่วนที่ไม่สามารถเข้าไปได้ ลิ้นของ
นางที่อยู่ภายในปากก็ยังคงเคลื่อนไหวพร้อมกับมอบความสุขอันมาก
ล้นให้กับหลินหมิง
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
เสียงดูดกลืนของซื่อเฟยนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจังหวะการขยับ
ศรีษะของนางเปลี่ยนเป็นเร้าร้อนขึ้นเรื่อยๆด้วยการกระทาเช่นนี้แม้
โดยทั่วไปแล้วมันอาจเป็นเพียงการมอบความสุขให้กับหลินหมิงแต่โดย
แท้จริงแล้วนางกลับมีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันไม่เพียงแต่ทวน
มังกรของหลินหมิงจะมีกลิ่นที่สามารถทาให้ร่างกายของนางรู้สึกเบา
สบายแต่รสชาติทวนมังกรที่อยู่ภายในปากของนางในตอนนี้มันเป็น
รสชาติที่ยากจะอธิบายแต่แน่นอนว่ามันมีรสชาติดียิ่งกว่าอาหารใดใน
โลกแม้ว่านางจะมีอายุมามากขนาดนี้แล้วก็ตาม
สิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือพลังหยางที่นางได้รับจากหลินหมิงมันแตกต่าง
จากในครั้งแรกที่นางได้รับอย่างมากเพียงแค่พลังหยางที่นางได้รับจาก
หลินหมิงในครั้งก่อนหน้าที่นางได้พบเจอครั้งแรกนั้นมันเพียงพอที่จะ
กล่าวได้ว่ามันมีปริมาณที่มากเกินกว่านางจะจินตนาการได้ว่ามัน
พลังงานหยางที่มาจากบุรุษเพียงคนเดียวแต่ในตอนนี้พลังงานหยาง
ของหลินหมิงกลับเติบโตขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเทียบไม่ติดด้วยพลัง
ปราณของหลินหมิงที่ก้าวกระโดดอย่างต่อเหนื่อง
ใบหน้าของซื่อเฟยเต็มไปด้วยความสุขในตอนนี้ด้วยการที่นาง
สามารถครอบครองหลินหมิงได้แล้วไม่เพียงแต่มันจะเป็นการการันตี
ในการหาความสุขและความเพลิดเพลินของนางได้แต่มันยังเป็นการ
พัฒนาของนางอยู่เช่นเดียวกัน
" ข้าจะออกแล้ว ! "
น้ารักของหลินหมิงถูกระเบิดเข้าไปภายในปากของซื่อเฟยจนทะลัก
ออกมาแม้ว่าเรือนร่างของนางในตอนนี้จะมีคราบของน้ารักของหลินห
มิง และคราบเหงื่อที่ปรากฎขึ้นจากกิจกรรมที่พวกเขาได้ทาร่วมกัน
ก่อนหน้าแต่มันไม่สามารถส่งผลกระทบต่อความงามของนางให้ลดลง
ได้เลยแม้แต่ส่วนเดียว
สายตาของซือเฟยที่เต็มไปด้วยความเชืีอเชิ
่ ญร่างของนางนอนแผ่
พร้อมกับอ้าขาออกเล็กน้อยในตอนนี้นางไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับ
ขนาดทวนมังกรของหลินหมิงอีกต่อไป ด้วยประสบการณ์ในครั้งแรก
นั้นมันทาให้นางจดจาได้เป็นอย่างดีถึงความสุขที่นางจะได้รับต่อจากนี้

ตอนที่ 183
ด้วยภาพอันเย้าย้วนของร่องสวาทสีชมพูสดของแม่สาวซัคคิวบัส
พร้อมกับท่าทางของนางที่พร้อมเชื้อเชิญให้หลินหมิงจู่โจมได้ทุกเมื่อ
ทวนมังกรของหลินหมิงผงาดขึ้นพร้อมกับความปราถนาอันรุนแรงของ
เขาด้วยเช่นเดียวกัน ร่างของหลินหมิงค่อยนอนคร่อมร่างของซัคคิวบัส
สาวผู้งดงามอย่างเชื่องช้า พร้อมกับบริเวณส่วนล่างทั้งสองของพวกเขา
ที่กาลังเชื่อมต่อกัน
" อ้าาาส์ ~~~~~ "
สัมผัสรสชาติที่ชวนน่าคิดถึงกลับมาหาซื่อเฟยอีกครั้งใบหน้าของ
นางในตอนนี้แดงระเรื่อด้วยอารมณ์ความสุขอย่างแท้จริงมือทั้งสอง
ข้างของนางนั้นเข้าโอบกอดร่างของหลินหมิงราวกับว่านี้คือคนรักที่
นางตามหามานานแสนนาน หลินหมิงก้มลงประทับจูบบนริมฝีปาก
อวบอิ่มของนางพร้อมกับค่อยๆดันทวนมังกรของเขาเข้าไปภายในร่อง
สวาทของนาง
ภายในร่องสวาทของนางนั้นมันสมควรเรียกได้ว่าเป็นร่องสวาทของ
เผ่าพันธ์ซัคคิวบัสที่เยี่ยมยอดโดยแท้จริง ไม่เพียงแต่มันจะมีสภาพ
ความยืดหยุ่นที่พอเหมาะที่เพียงพอที่จะทาให้หลินหมิงระเบิดอารมณ์
ออกมาได้ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น แต่ผนังมดลูกภายในร่องสวาทนั้นมัน
ราวกับมีชีวิตมันทาการบีบคั้นทวนมังกรของหลินหมิงที่อยู่ภายในอย่าง
เร้าร้อนด้วยจังหวะเช่นเดียวกับการสอดใส่ของเขา
" มันอัดแน่นอยู่ภายในตัวของข้า...แต่มันกลับทาให้ข้ามีความสุข
จนมากล้นโดยปราศจากความเจ็บปวด~~~ "
ดวงตาของซื่อเฟยลุกวาวพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใสของนางใน
ตอนนี้มันต่างจากประสบการณ์ในคร่าวแรกของนางอยู่มากพอสมควร
อารมณ์ความเจ็บปวดที่ก่อนหน้านี้นางเคยได้รับนั้นมันหายไปราวกับ
ว่าไม่มีผลกระทบใดๆ มันอาจเป็นเพราะว่าร่างกายของนางได้รับการ
พัฒนาขึ้น ? แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่นางจาเป็นที่จะต้องสนใจในตอนนี้
นางพลิกร่างของหลินหมิงให้นอนราบโดยมีร่างของนางขึ้นคร่อมอยู่
ด้านบน
" อืม้ มมม~~~ "
ริมฝีปากอวบอิ่มของนางจู่โจมหลินหมิงอย่างเร้าร้อนลิ้นของนาง
ตวัดไปมาพร้อมด้วยส่วนสะโพกของนางที่เริ่มทาการขยับด้วยจังหวะที่
บ้าคลั่ง เสียงครางกระเส้าที่ดังเล็ดรอดออกมาแม้ว่านางจะกาลังจูบ
อย่างดูดดื่มกับหลินหมิงอยู่นั้นมันแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า
ในตอนนี้นางกาลังมีความสุขมากเพียงใด
หลินหมิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับท่าทีของแม่ซัคคิวบัสสาวผู้
งดงามไม่ใช่ว่าในตอนแรกนางบอกให้เขาอ่อนโยนเช่นนั้นหรือ ? แต่
ในตอนนี้กลับเป็นนางเองที่กาลังจู่โจมอย่างเร้าร้อน หลินหมิงปล่อยตัว
ไปตามสถานการณ์อย่างมีความสุขร่องสวาทของนางนั้นมันเป็นร่อง
สวาทที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยไม่เพียงเท่านั้นมือของหลินห
มิงในตอนนี้เข้ารวบกอดร่างของนางพร้อมกับสัมผัสผิวอันเนียนนุ่มของ
นางไปทั่วร่าง
ใช้เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ช่วงลมหายใจทวนมังกรและร่างของแม่ซัค
คิวบัสสาวเริ่มมีการสั่นไหวอย่างรุนแรงอันเป็นเครื่องหมายว่าพวกเขา
พร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ได้ตลอดเวลา
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด ~~~~ "
ในตอนนี้ซัคคิวบัสสาวนางจาเป็นที่จะต้องถอนริมฝีปากออกจาก
หลินหมิงเสียก่อนเพื่อรับมือกับทวนมังกรของหลินหมิง ดูเหมือนว่ามัน
จะเป็นเรื่องยากมากเกินไปที่นางจะสามารถรับมือกับความสุขที่เกิน
จากสองช่องทาง สะโพกของนางเริ่มทาการขยับขึ้นอย่างเร้าร้อนมาก
ยิ่งขึ้นมือทั้งสองข้างของนางถูกนามาจาจุ้นพร้อมกับลูบไล้บริเวณหน้า
ท้องที่มีกล้ามเนื้อของหลินหมิงเล็กน้อย
ใบหน้าของนางแดงระเรื่อพร้อมกับลมหายใจที่แประเปลี่ยนเป็น
หนักหน่วงและถี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดน้ารักของหลินหมิงได้ถูก
เติมเต็มไปเข้ามาภายในร่องสวาทของนางเช่นเดียวกันกับน้ารักของ
นางที่ถูกปลดปล่อยออกไปเป็นจานวนมาก ร่างของนางถึงกับนอน
หอบลงบนร่างของหลินหมิงด้วยความเหนื่อยอ่อน
สัมผัสไออุ่นจานวนมากที่อยู่ภายในท้องของนางมันทาให้นางรู้สึก
เติบเต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริงแต่ถึงอย่างนั้น...
" เจ้าเป็นปีศาจลามกเช่นนั้น ? "
หญิงสาวซัคคิวบัสนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงล้อเลียนหลินหมิง
เมื่อนางพบว่าทวนมังกรของหลินหมิงที่ยังคงอยู่ภายในร่างของนาง
และมันยังคงมีสภาพสมบูรณ์พร้อมทั้งๆที่เพิ่งผ่านศึกหนักมากับนาง
แน่นอนว่าสาหรับหญิงสาวเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสเช่นพวกนางมันเป็นเรื่อง
ยากมากที่พวกนางจะสามารถได้รับความสุขเชกเช่นหญิงสาวจาก
เผ่าพันธ์ทั่วไป ด้วยความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์และลักษณะทาง
กายภาพที่โดดเด่นและราวกับถูกสรรสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นผู้นาในเรื่อง
ของการร่วมรัก
มันจึงทาให้พวกนางไม่ค่อยได้รับความสุขจากการร่วมรักมาก
เท่าใดนักดังนั้นแล้วนับแต่อดีตการร่วมรักของเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสจึงไม่
ค่อยเป็นที่นิยมมายนักเพราะมันจะเป็นเพียงการดูดกลืนพลังหยาง
เพียงเท่านั้นและแน่นอนว่ามันยังคงมีอีกหลากหลายวิธีที่พวกนาง
สามารถทาได้ดังนั้นแล้วพวกนางไม่มีความจาเป็นที่จะต้องยินยอมมอบ
ร่างกายให้กับุรุษที่ไม่สามารถสร้างความสุขให้แก่พวกนางได้
" เป็นเพราะความงดงามของท่านโดยแท้จริง ! "
ซื่อเฟยหัวเราะร่าอย่างชอบใจกับคากล่าวของหลินหมิงร่างของนาง
ถูกพลิกลงมาเป็นฝ่านอนราบอีกครั้งในตอนนี้นางรู้ชะตากรรมของนาง
ดีว่านางจะต้องผ่านพ้นศึกอันร้อนแรงกับหลินหมิงไปอีกหลายศึก ทวน
มังกรของหลินหมิงเริ่มจู่โจมนางอีกครั้งในตอนนี้หลินหมิงราวกับสัตว์
ป่าที่ถูกปลดปล่อยจากการคุมขัง
" ข้าจะทาให้ท่านมีความสุขกว่าก่อนหน้า ! "
ซื่อเฟยได้ยิ้มแทนคาตอบของนางอันที่จริงแล้วนางไม่ได้ต้องการ
ความสุขทีม่ ากล้นกว่าความสุขก่อนหน้านี้เท่าใดนักเพราะมันจะเป็น
เรื่องยากมากที่นางจะสามารถรับได้ไหว แต่ถึงอย่างนั้นนางเลือกที่จะ
ไม่กล่าวปฎิเสธหลินหมิงออกไปสาหรับบุรุษโดยทั่วไปแล้วนั้นพวกเขา
จะพึ่งหาแต่ความสุขของตนโดยไม่สนใจสตรีข้างกายของเขาเท่าไหร่
นัก นางรู้สึกไม่เสียดายที่จะเลือกหลินหมิงมาเป็นบุีรุษข้างกายของนาง
แม้ว่าเผ่าพันธ์มนุษย์จะมีช่วงอายุที่สั้นเป็นอย่างมากแต่มันไม่ได้
แปลว่ามันจะไม่มีหนทางที่จะทาให้เขามีช่วงอายุที่ยาวนาน
เช่นเดียวกันกับนางไม่เช่นนั้นมันคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสาหรับนางที่
ต้องเห็นเด็กหนุ่มผู้นี้ตายจากไป โดยที่นางไม่สามารถลิ้มรสชาติ
ความสุขนี้ได้ ตราบใดที่เขาสามารถพัฒนาตนไปได้เช่นนี้เรื่อยๆจนก้าว
เข้าสู่ระดับปราญช์และทะลวงไปยังระดับองครักษ์ได้ช่วงอายุของเขา
จะเพิ่มขึ้นนับพันปี ! สาหรับมนุษย์โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเรื่องยากมาก
ที่พวกเขาจะสามารถก้าวมาจนถึงระดับองครักษ์
แต่สาหรับเด็กหนุ่มผู้นี้แล้วจากประเมิณของนางนั้นมันขึ้นอยู่กับ
เวลาเพียงเท่านั้น ร่างของนางถูกจับพลิกให้นอนคว่าพร้อมกับส่วน
สะโพกที่ถูกยกขึ้นมาเผยให้ร่องสวาทสีชมพูสดที่ยังคงเต็มไปด้วยคราบ
น้าศึกสงครามก่อนหน้านี้ แต่หลินหมิงไม่ได้สนใจร่องสวาทของนางอีก
ต่อไป ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยถูกนาเข้าไปเสียบในอีกช่องทางหนึ่ง
" ดะ...เดียว นะ..นั้นไม่ใช่ อึกก....อู้ววว "
รูทวารของซือเฟยถูกแทงทะลวงโดยทวนมังกรของหลินหมิง อันที่
จริงแล้วมันไม่ใช่ว่าหลินหมิงไม่เคยลิ้มรสชาติรูทวารของหญิงสาวมา
ก่อนเพียงแต่ว่าเขามีความต้องการรับรู้ถึงรสชาติของรูทวารของสตรีผู้
งดงามเช่นนาง ในเมื่อร่องสวาทของเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสนั้นเห็นได้ชัดว่า
มันมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าร่องสวาทของสตรีเผ่าพันธ์มนุษย์
อย่างไม่ต้องสงสัยดังนั้นถ้าหากเป็นรูทวารของนางเล่า ?
ใบหน้าของซื่อเฟยเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงแม้แต่นางที่มีอายุมา
หลายพันปีนางก็ยังไม่เคยได้ยินการร่วมรักที่พิศดารเช่นนี้มาก่อน มัน
เป็นไปได้หรือที่รูทวารของนางจะสามารถรับมือกับทวนมังกรของ
หลินหมิงได้ ? แต่ไม่ทันที่นางจะได้ตั้งตัวทวนมังกรของหลินหมิงถูกส่ง
เข้ามาภายในรูทวารของนาง
" อ้าาาาาาาาาา ~~~~~~~ "
เสียงครางของนางดังสนั่นแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับพบว่ามันไม่ได้ให้
ความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใดแน่นอนว่านางย่อมรู้สึกคับแน่นที่บริเวณ
รูทวารของนางจนรู้สึกหายใจไม่ออก รูทวารของนางนั้นไม่ได้มี
ความสามารถในการยื้ดหยุ่นเมื่อกับร่องสวาทดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่อง
ที่นางจะสามารถรับมือกับหลินหมิงในท่วงท่านี้ได้
สัมผัสรสชาติอันคับแน่นมันทาให้หลินหมิงรู้สึกดีเยี่ยมจนราวกับจะ
ละลายเนื้ออันเนียนนุ่มยามที่หลินหมิงได้กระแทกสะโพกของเขาเข้า
หารูทวารของนางนั้นมันราวกับมีแรงสะท้อนจากผิวหนังอันเนียนนุ่ม
จนยากที่เขาจะสามารถหยุดตัวเองได้ เสียงครางของซือเฟยยังคงดัง
สนั่นอย่างต่อเหนื่องนางไม่เข้าจริงๆว่าเหตุใดกันในเมื่อนางกาลังถูกจู่
โจมด้วยการร่วมรักที่แปลกเช่นนี้แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับรู้สึกเสี่ยวซ่าน
ไม่แพ้ร่องสวาทของนางเลยก็ว่าได้ ความรู้สึกคับแน่นที่บริเวณรูทวาร
นั้นมันเพียงพอที่จะทาให้นางรู้สึกบ้าคลั่ง
" ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว ! "
แม้ว่าร่องสวาทของนางจะไม่ได้ถกู จู่โจมแต่ถึงอย่างนั้นน้ารัก
จานวนมากกลับหลั่งไหลพรั่งพรู่ออกมา ร่างของนายส่ายไปมาตาม
จังหวะการเคลื่อนไหวของหลินหมิงในตอนนี้นางต้องยอมรับแล้วว่า
ท่วงท่าทีหลินหมิงกาลังมอบให้นางเช่นนี้มันให้ความสุขแก่นางได้ยอด
เยี่ยมโดยแท้จริง
ป๊าป ป๊าป !
เสียงก้อนเนื้อทั้งสองดังกระทบกันอย่างรุนแรงใบหน้าของซือเฟย
เต็มไปด้วยความสะใจน้าลายจานวนหนึ่งไหลออกมาจากปากของนาง
นี้คงเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งสาหรับตัวตนระดับสูงเช่นนาง ด้วย
ร่างกายและเสียงครางอันเย้ายวนมันทาให้หลินหมิงไม่สามารถระงับ
อารมณ์ของเขาได้น้ารักของเขาถูกระเบิดออกมาเป็นครั้งที่สามในเวลา
ไม่ห่างกัน
" อร้างงงงงง ~~~~~~ "
แม้ว่าหลินหมิงจะปลดปล่อยน้ารักไปแล้วถึงสามครั้งแต่เขาไม่มี
ความคิดว่าจะเพียงพอเลยแม้แต่น้อยเมื่อได้เห็นร่างของซือเฟยที่
งดงามเช่นนี้ การร่วมรักของหลินหมิงและนางดาเนินไปอย่างยาวนาน
อย่างไรเสียหลินหมิงได้กล่าวกับศิษย์พี่ของเขาเอาไว้แล้วว่าพวกเขาจะ
พักผ่อนกันหนึ่งวันดังนั้นแล้วช่วงเวลานี้หลินหมิงจะไม่ยอมเสียมันไป
โดยสูญเปล่าอย่างแน่นอน

ตอนที่ 184
หลังจากผ่านค่าอันแสนเร้าร้อนมาแน่นอนว่าในค่าคืนที่ผ่านมานั้น
หลินหมิงไม่ได้ใช้เวลาในการพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ด้วยเรือนร่างขอ
แม่สาวเจ้าเล่ห์ซือเฟยมันคงเป็นไปได้ยากที่เขาจะรู้สึกพึงพอใจไม่ว่า
หลินหมิงจะได้ระบายอารมณ์ไปมากเพียงใด หากไม่ใช่เพราะว่าหลินห
มิงนั้นมีเวลาอยู่อย่างจากัดแน่นอนว่าเขาคงใช้เวลาในการร่วมรักกับแม่
สาวผู้ทรงเสน่ห์นางนี้ไปอย่างน้อยอีกสักสองสามวัน !
" เจ้าไม่มีความรู้สึกเหนื่อยล้าเลย ? "
ซัคคิวบัสสาวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยอันที่จริงแล้วสาหรับเมื่อคืนที่
ผ่านมามีหลายครั้งที่นางถึงกับสติดับวูบไปหลายครั้งแต่ถึงอย่างนั้น
เพียงไม่นานเมื่อนางได้สติกลับคืนมานางก็พบว่าเรือนร่างของนางทุก
ส่วนนั้นยังคงเป็นที่ระบายอารมณ์ของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้อยู่ ! ทั้งที่นาง
ต้องรับมือกับเขาอย่างเหน็ดเหนื่อยเช่นนั้นแต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
กลับไม่มีความอ่อนล้าให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
อันที่จริงแล้วมันควรเป็นฝ่ายกลับกันเสียมากกว่าด้วย
ความสามารถของเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสที่สามารถดูดกลืนพลังงานหยางได้
และแน่นอนว่านางได้ดูดกลืนพลังงานหยางของหลินหมิงมาเป็น
จานวนมากราวกับว่านางได้รับพลังงานเหล่านั้นมาจากบุรุษนับพัน
หรืออาจกระทั่งนับหมื่นคน ! พลังปราณในร่างกายของนางเห็นได้ชัด
ว่ามันมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเหนื่องเพียงเท่านี้มันก็เพียงพอที่จะ
หักล้างกับความเหนื่อยล้าของนางเมื่อคืนที่ผ่านมาได้อย่างเกินพอ
หลินหมิงและซือเฟยใช้เวลาในการทาความสะอาดร่างกายของ
พวกเขาอย่างรวดเร็วสิ่งที่สาคัญที่สุดในตอนนี้สาหรับหลินหมิงแล้วนั้น
ก็คือสถานการณ์ที่ผิดแปลกไปของพระราชวังโบราณแห่งนี้ซึ่งดู
เหมือนว่ามันจะไม่ใช่ด่านทดสอบที่มีไว้เพื่อค้นหาผู้สืบทอดโดยทั่วไป
ตามคาบอกกล่าวของซือเฟยนั้นสถานที่แห่งนี้กลับเป็นสถานที่ที่ผนึก
กักขังตัวตนระดับสูงที่มีพลังระดับใกล้เคียงกับนาง !
" งั้นพวกเราสมควรหนี ? "
หลินหมิงไม่มีความมั่นใจมากพอที่จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์
ในตอนนี้แม้ว่าข้างกายของเขาจะมีแม่สาวซัคคิวบัสอยู่ก็ตามในเมื่อ
ศัตรูอาจเป็นคนที่มีพลังระดับเดียวกันกับนางแม้ว่าหลินหมิงจะได้รับ
การยกระดับอย่างต่อเหนื่องจากการร่วมรักกับนักรบสาวในด่าน
ทดสอบพระราชวังโบราณในด่านแรกและการร่วมรักกับซือเฟยที่แม้ว่า
มันจะเป็นการร่วมรักครั้งที่สองของพวกเขาแต่มันกลับให้ผลลัพธ์ที่
ยอดเยี่ยมจนเกินกว่าที่หลินหมิงคาดเอาไว้มาก
ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพราะว่าความแข็งแกร่งของนางที่มากเกินกว่า
หลินหมิงไปมากในตอนนี้ระดับพลังปราณของหลินหมิงได้ก้าวเข้าสู่
ระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7 โดยสมบูรณ์ด้วยระดับพลังปราณของหลินหมิง
ในตอนนี้เขากระทั่งสามารถกลายเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสานักวัง
จันทราได้อย่างไม่ต้องสงสัย
" ไม่..ถึงแม้ว่าผนึกจะถูกปลดปล่อยในไม่ช้านี้แต่มันยังคงสามารถ
ลดพลังผู้ที่ถูกผนึกลงไปได้หลายส่วนดังนั้นแล้วมันไม่น่าจะใช่เรื่องยาก
สาหรับข้า ! "
เมื่อมองไปที่สายตาของแม่ซัคคิวบัสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
อันที่จริงแล้วหลินหมิงอยากจะกล่าวให้ตัวเขาหลบหนีจากสถานการณ์
ในตอนนี้ ด้วยการต่อสู้ระดับที่เกินกว่าสามัญสานักของเขาแม้ว่าซือ
เฟยจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าฝ่ายตรงข้ามแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่า
เขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ ?
" ท่านต้องการให้ข้าติดตามไปด้วย ? "
" แน่นอนในตอนนี้เจ้านับว่าเป็นบุรุษของข้าดังนั้นแล้วเจ้าจะต้อง
เติบโตขึ้นมากกว่านี้ สาหรับด้วยพัฒนาการของเจ้าในตอนนี้ข้า
สามารถบอกได้เลยว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่เจ้าจะสามารถก้าว
ขึ้นมาอยู่ในจุดเดียวกับข้า และเมื่อเป็นเช่นนั้นเจ้าจะได้รับพลังงานจาก
สวรรค์และพิภพเพื่อเพิ่มอายุขัย ! ที่สาคัญกว่านั้นคือหากเจ้าสามารถ
พัฒนาได้อย่างน่าพึงพอใจในแต่ละขั้นแล้วข้ายินดีที่จะให้รางวัลกับเจ้า
อย่างที่เจ้าต้องการ ! "
หลินหมิงเมื่อได้ยินคากล่าวของซือเฟยดวงตาของเขาลุกวาวไปด้วย
ความตื่นเต้นแต่มันไม่ใช่เพราะคากล่าวเมื่อเขาสามารถพัฒนาตนไปได้
เขาจะได้รับอายุขัยที่เพิ่มขึ้นแต่เป็นการได้รับรางวัลจากสาวงามเช่น
นางต่างหาก หลินหมิงแม้กระทั่งในก่อนหน้านี้เขายังคงมีความกังวล
อยู่เล็กน้อยว่าเขาจะสามารถได้รับโอกาสอันดีงามเช่นนี้อีกหรือไม่แต่ดู
เหมือนว่ามันจะไม่จาเป็นอีกต่อไป
เมื่อเห็นท่าทีของหลินหมิงที่ตื่นเต้นดีใจราวกับเด็กน้อยที่ได้รับ
ของขวัญนางรู้ดีว่านางควรชักจูงหลินหมิงด้วยวิธีใด อันที่จริงแล้วแม้ว่า
หลินหมิงจะไม่สามารถพัฒนาตนได้อย่างน่าพึงพอใจแต่นางก็ยังคง
ยินดีให้หลินหมิงได้รับรางวัลอันยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันเพราะนั้นไม่ใช่
เป็นเพียงการให้รางวัลแก่หลินหมิงเพียงคนเดียวเท่านั้นกล่าวได้ว่านาง
เองก็เป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันหรือกระทั่ง
อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้าไป
พลังปราณของนางในตอนนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ในตอนแรกนางมาถึงจุดตีบตันมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วแต่
ในตอนนี้ประตูคั้นความก้าวหน้าของนางราวกับว่ามันถูกทาลายลง
ภายในพริบตาที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิงเทียบกับการบ่มเพาะอัน
แสนน่าเบื่อหน่ายแล้วการร่วมรักอันเร้าร้อนของหลินหมิงไม่เพื่อให้
ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากกว่าแต่มันยังคงให้ผลประโยชน์ที่มากกว่า
หลายเท่าด้วยเช่นกัน
" งั้นข้าขอเวลาสักครู่เดียว "
หลินหมิงเร่งรีบไปกล่าวกับศิษย์พี่สาวสวยของเขาให้รีบออกไปจาก
พระราชวังโบราณแห่งนี้โดยไม่ต้องสนใจสิ่งใดอีก แน่นอนว่าสาหรับ
หลัวฉิงเชี่ยนแล้วนางไม่มีความลังเลเกี่ยวกับคากล่าวของหลินหมิงเลย
" แล้วเจ้าล่ะ ? เจ้าจะไม่ไปกลับไปด้วยกันอย่างนั้นหรือ "
ท่าทางของหลัวฉิงเชี่ยนเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก แม้ว่านาง
จะไม่รู้ว่าศัตรูที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใดแต่เมื่อพิ
จรณนาจากระดับความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณโบราณของชายวัย
กลางคนก่อนหน้าแล้วศัตรูที่หลินหมิงจะต้องเผชืญหน้านั้นมันไม่
เพียงแต่จะต้องเป็นระดับปราญช์เพียงทั่วไปมันอาจสูงกระทั่งถึงขั้นป
ราญช์ระดับสูงสุดหรือกระทั่งระดับองครักษ์ !
แม้ว่าศิษย์น้องของนางจะมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งแต่ในตอนนี้เขา
เปรียบเสมือนเพชรที่ยังไม่ได้รับการเจียรไนเพียงเท่านั้นมันยังคงเร็ว
เกินไปที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้
" ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวลไปอันที่จริงแล้วข้าได้รับความช่วยเหลือจากผู้
อาวุโสที่แข็งแกร่งเขามีพลังเพียงพอที่จะเมิณเชยกฎเกณฑ์ในการเข้า
ร่วมมิติเล้นลับแห่งนี้ได้ สาหรับพลังของเขาแล้วนั้นเขามีพลังที่อยู่
เหนือกว่าอีกฝ่ายสิ่งที่เขาต้องการคือให้ข้าได้พบเห็นประสบการณ์ และ
โชคอันเล็กน้อยเท่านั้น "
" เป็นเช่นนั้นจริง ? ถ้าหากที่เจ้ากล่าวมาเป็นความจริงข้าอยากพบ
หน้าผู้อาวุโสของเจ้าก่อน ! "
" เอ่อ..อันที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่ค่อนข้างแปลกประหลาดสัก
เล็กน้อยเขาไม่ต้องการพบกับผู้อื่นเพราะมันสร้างความราคาญให้แก่
เขา...แต่ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นกังวลไปข้าสัญญาว่าข้าจะกลับไปโดยเร็ว
ที่สุด "
หลินหมิงไม่กล้าพอที่จะศิษย์พี่สาวสวยของเขาพบหน้ากับซือเฟย
ในตอนนี้แม้ว่าในตอนแรกที่พวกนางทั้งสองได้พบกันนั้นศิษย์พี่สาว
สวยของเขาจะถูกลบความทรงจาไปแล้วก็ตาม แต่มันยังคงมีสิ่งที่น่า
กังวลอยู่นั้นก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเขาและซือเฟยที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
มันคงไม่ดีนักหากเขาแนะนาว่าเขามีสตรีข้างกายที่งดงามเช่นนี้
" ก็ได้..แต่เจ้าห้ามนาตัวเข้าไปเสี่ยงอันตราย ห้ามใช้เวลาอยู่ที่นี้
นานจนเกินไป ห้ามโลภกับสถานการณ์หรือสมบัติตรงหน้ามากนัก สิ่ง
ที่สาคัญที่สุดคือชีวิตของเจ้าตราบใดที่เจ้ายังคงสามารถพัฒนาได้ต่อ
เหนื่องเช่นนี้สมบัติเหล่านั้นใช่ว่าเจ้าจะไม่สามารถมีโอกาสได้รับพวก
มัน "
" ข้าเข้าใจ "
ทันใดนั้นหลังจากที่หลินหมิงได้กล่าวออกไปร่างกายของเขาสัมผัส
ได้ความอบอุ่นที่ปกคลุมทั่วร่างพร้อมกับกลิ่นหอมโชยที่อยู่ห่างจาก
จมูกของเขาไปเพียงเล็กน้อย สัมผัสอันนุ่มนวลจากเรือนร่างของหญิง
สาวทาให้สติของหลินหมิงตะเลิดไปชั่วครู่หลินหมิงจ้องมองไปยังศิษย์
พี่สาวสวยของเขาในตัวนางของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยความกังวล
และหยาดน้าตาที่ดูเหมือนว่านางจะพยายามกลั้นมันเอาไว้อย่างสุด
ความสามารถ
" ข้าจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นไม่จาเป็นต้องเป็นห่วง
ข้าสิ่งที่ท่านจาเป็นต้องกังวลมีเพียงความปลอดภัยของตัวท่าน "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับนามือของเขาปาดน้าตาที่กาลังไหลรินออก
จากใบหน้าอันงดงามของศิษย์พี่สาวสวยของเขา หลินหมิงก้มลง
ประทับจูบบนริมฝีปากศิษย์พี่สาวสวยของเขาอย่างเชื่องช้าแน่นอนว่า
ด้วยความเร็วการเคลื่อนไหวของหลินหมิงนั้นมันเป็นเรื่องง่ายมากที่
นางจะสามารถหลบหนีได้แต่ถึงอย่างนั้นหลัวฉิงเชี่ยนนางกลับเลือกที่
จะปล่อยร่างกายของนางไปตามความต้องการ
เทียบกับอารมณ์ที่นางต้องรู้ว่าหลินหมิงต้องเผชิญหน้ากับนักฆ่า
ก่อนหน้านี้นางไม่อยากมีความรู้สึกค้างคาหรือเป็นกังวลเช่นนั้นอีกนาง
เลือกที่จะทาสิ่งที่นางปราถนาโดยไม่ให้เกิดความเสียใจในภายหลัง
" อืม้ มม ~~~~~~ "
ร่างของทั้งสองที่กาลังแนบชิดกันอย่างแนบแน่นมือทั้งสองข้างของ
พวกเขาต่างเข้าโอบกอดพร้อมกับลูบไล้แผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างเร้า
ร้อน ลิ้นของพวกเขาเริ่มมีการพัวผันภายในปากของหลัวฉิงเชี่ยนนาง
เข้าใจดีว่านางมีความรู้สึกต่อศิษย์น้องของนางผู้นี้เช่นไร สิ่งที่นางกังวล
ในตอนแรกนั้นมีเพียงความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางซึ่งในตอนนี้นาง
ได้รับคาตอบนั้นแล้ว
" อา... "
หลัวฉิงเชี่ยนถอนริมฝีปากออกจากหลินหมิงมันอาจเป็นเพราะว่า
นางตื่นเต้นมากจนเกินไปมันจึงทาให้จังหวะการหายใจของนางนั้น
หนักหน่วงจนนางแทบจะไม่สามารถหายใจได้ทัน แต่ถึงอย่างนั้นนาง
กลับรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของหลินหมิง
เช่นนี้อันที่จริงแล้วนางปราถนาให้ช่วงเวลาเช่นนี้ยาวนานขึ้นไปอีก
เพียงสักหนึ่งหรือเสียววินาทีก็ยังดี หลินหมิงมองไปยังใบหน้าของศิษย์
พี่สาวสวยของเขาที่กาลังขวยเขินใบหน้าของนางแดงซ่าน
" อืม้ มม ~~ "
หลินหมิงประทับจูบลงบนริมฝีปากของนางอีกครั้งแม้ว่าในตอน
แรกนางจะตกใจเล็กน้อยแต่นางเลือกที่จะปล่อยตัวให้หลินหมิงได้ทา
ตามใจชอบ

ตอนที่ 185
ภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของหลินหมิงหลัวฉิงเชี่ยนนางยังคงรู้สึก
ไม่อยากแยกจากไปไหนแต่นางรู้ดีว่านางไม่สามารถปล่อยตัวไปตาม
อารมณ์เช่นนี้ต่อไปได้นานนักไม่เช่นนั้นแล้วนางอาจไม่สามารถห้ามใจ
กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในขั้นต่อไปนี้ได้ ดังนั้นแล้วนางจึงพยายาม
เก็บความอบอุ่นที่กาลังเกิดขึ้นจากอ้อมกอดของหลินหมิงรสชาติริม
ฝีปากของเขา ผิวสัมผัสที่เขาได้สัมผัสมาที่เรือนร่างของนาง
หลัวชิงเชี่ยนหลังจากที่นางคิดว่านางได้ตักตวงความสุขจนมากเกิน
นางแยกจากหลินหมิงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกขัดใจตนเองนางมองไปที่
ใบหน้าของหลินหมิงครั้งสุดท้ายเพื่อทาการแยกจากในครั้งนี้ นางกล้า
กลืนคากล่าวสุดท้ายของนางลงไปลาคอก่อนที่นางจะได้กล่าวอะไรนาง
คิดว่าในเวลาเช่นนี้มันยังไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมไม่เช่นนั้นแล้วด้วยคา
กล่าวของนางมันอาจทาให้หลินหมิงนั้นสูญเสียสมาธิไปในระหว่างที่
เขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตราย
" เจ้าต้องรีบกลับมานะ "
คากล่าวสุดท้ายของนางมันราวกับคากล่าวของภรรยาผู้แสนดีที่รอ
คอยสามีกลับมานางไม่ได้ตระหนักถึงความหมายของมันในตอนนี้นาง
รีบวิ่งจากหลินหมิงมาโดยทันทีนางไม่สามารถยู่ใกล้หลินหมิงได้นาน
มากกว่านี้ไม่เช่นนั้นแล้วนางอาจเปลี่ยนใจไม่ให้เขาไป
" หืม...แท้จริงแล้วเจ้ากลับมีสาวน้อยผู้งดงามเช่นนั้นอยู่ข้างกาย "
หลินหมิงสะดุ้งพร้อมกับหัวใจกระตุกหวูบเมื่อเขาหันไปมอง
ด้านหลังเขาพบร่างของสตรีผู้งดงามซือเฟย หลินหมิงไม่สามารถคาด
เดาความคิดของนางได้ดังนั้นแล้วมันจึงเรื่องธรรมดาที่เขาจะเกิดความ
กังวลขึ้นภายในใจและแน่นอนว่าที่สาคัญที่สุดก็คือความกังวลเกี่ยวกับ
ศิษย์พี่สาวสวยของเขา หากซัคคิวบัสสาวผู้นี้ต้องการปลิดชีพศิษย์สาว
สวยของเขามันคงง่ายดายราวกับการหายใจเพียงหนึ่งลมหายใจเพียง
เท่านั้น
แววตาของหลินหมิงวาวโรจน์ไปด้วยปณิฐานอันแรงกล้าแน่นอนว่า
แม้ว่าหลินหมิงจะได้รับการพัฒนาจนมาอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นที่ 7
แล้วแต่เขายังคงมองไม่เห็นหนทางในการเอาชนะสตรีผู้งดงามตรงหน้า
เขาเลยแม้แต่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นหากนางต้องการสังหารศิษย์พี่ของเขา
แล้วละก็มันมีเพียงทางเดียวเพียงเท่านั้นนั้นก็คือข้ามศพของเขาไป
ก่อน !
" ข้าไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเจ้าจะมีสตรีข้างกายมากน้อยเพียงใดอัน
ที่จริงแล้วข้าเองก้ไม่ได้มีความสามารถมากพอที่จะรับมือกับเจ้าเพียง
คนเดียว ดังนั้นแล้วการที่มีตัวช่วยในการแบ่งเบาการจู่โจมของเจ้าก็
นับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว "
คากล่าวของซือเฟยกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใสของนาง
เช่นเคยมันจึงทาให้หลินหมิงคลายความกังวลลง แต่สาหรับภายใน
จิตใจที่แท้จริงของซือเฟยแล้วนั้นนางกาลังสับสนเป็นอย่างมากอันที่
จริงแล้วนางพบเห็นภาพที่หลินหมิงกาลังประกบแนบชิดกับหลัวฉิง
เชี่ยนตั้งแต่ต้น แม้ว่ามันจะเป็นการกอดเช่นเดียวกันกับนางเมื่อค่าคืน
ที่ผ่านมาแต่นางกลับรู้สึกว่ามันให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปอย่างมาก
' มันเป็นเพราะสิ่งใดกัน ? '
หัวใจของนางสับสนเมื่อเห็นภาพตรงหน้าร่างของหลินหมิงและสาว
น้อยผู้งดงามนั้นราวกับสามารถเชื่อมถึงกับด้วยเพียงแค่การสัมผัส
เล็กน้อยความรู้สึกเป็นห่วงซึ่งกันและกันปรากฎสู่สายตาของนางโดยที่
ไม่มีใครต้องบอกกล่าว เพียงแค่นางมองก็รู้แล้วว่ามันหากไกลจาก
ความรู้สึกที่หลินหมิงมอบให้นางเมื่อวานเป็นอย่างมาก สิ่งที่นางได้รับ
เมื่อวานนี้มันอาจเรียกได้ว่าเป็นเพียงความหลงไหลเพียงเท่านั้นซึ่งที่
แท้จริงแล้วนางสมควรพอใจ ?
' ไม่ข้าต้องการให้เขามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นด้วยกัน ! '
นางรู้สึกตื่นตะลึงในตอนที่หลินหมิงส่งสายตาวาวโรจน์มาให้แก่นาง
หัวใจของนางรู้สึกเจ็บปวดขึ้นภายในชั่วพริบตาด้วยประสบการณ์
หลายพันปีของนาง นางสามารถทาความเข้าใจได้ว่าหลินหมิงกาลังคิด
สิ่งใดแต่นางไม่เข้าใจว่าเขาถึงกับกล้าเอาตัวเข้าแลกเพียงเพื่อปกป้อง
สาวน้อยที่ยังคงงดงามน้อยกว่านาง ?
ซือเฟยนางเก็บความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้ก่อนนางไม่เชื่อว่าด้วยความ
งดงามของนางนั้นมันจะไม่เพียงพอที่จะทาให้หลินหมิงมองนางด้วย
สายตารักใคร่และอบอุ่นเช่นนั้นได้ ดังนั้นแล้วมันสมควรขึ้นอยู่กับเวลา
เพียงเท่านั้น
" ข้าสงสัยว่าในเมื่อสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ปิดผนึกของตัวตน
ระดับสูงเช่นท่านแล้วเหตุใดมันถึงได้มีการทดสอบและรางวัลกัน ? "
" มันเป็นรูปแบบค่ายกลโบราณด่านทดสอบเหล่านั้นเป็นเพียงด่าน
ทดสอบสาหรับกักเก็บพลังงานเพื่อทาการปลดปล่อยผนึกเพียงเท่านั้น
!"
ร่างของหลินหมิงและซือเฟยก้าวเดินไปยังด่านทดสอบในส่วนที่
สองในตอนนี้ไม่มีการปรากฎตัวของจิตวิญญาณโบราณของชายวัย
กลางคนอีกต่อไปนั้นแสดงให้เห็นว่าคากล่าวของซือเฟยนั้นถูกต้อง
สาหรับเหล่าศิษย์สานักวังจันทราหลินหมิงไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก
แต่เขารู้ดีว่าด้วยนิสัยของศิษย์พี่สาวสวยของเขานั้นนางจะต้องไปบอก
เรืองราวนี้แก่พวกเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วมันย่อมขึ้นกับพวกเขา
ว่าจะเชื่อหรือไม่
ภายในทางเดินนั้นเต็มไปด้วยแรงกดดันที่หนาแน่นหากไม่ใช่ตัวตน
ระดับจอมยุทธ์ขึ้นไปแล้วก็ร่างของพวกเขาเพียงพอที่จะถูกบดให้การ
เป็นกองเลือดได้ภายในพริบตา เสียงฝีเท้าของหลินหมิงและซือเฟยดัง
สะท้อนไปทั่วทางเดินสาหรับซือเฟยแล้วนางดูเหมือนจะไม่มีความ
กังวลในการเผชิญหน้ากับศัตรูผู้ทรงพลังเลยแม้แต่น้อย แต่สาหรับ
หลินหมิงแล้วนั้นเขามีความคิดที่แตกต่างออกไป ในเมื่อศัตรูยังคงถูก
ผนึกอยู่เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาจะสามารถสังหารเขาก่อนที่ผนึกจะ
ถูกทาลาย ?
เมื่อหลินหมิงเดินมาจนสุดด่านทดสอบส่วนที่สองนั้นภาพที่หลินหมิ
งพบนั้นมันทาให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมากหรือว่านั้นคือศัตรูผู้ทรง
พลัง ?

ร่างของชายวัยกลางคนที่สภาพทรุดโทรมกาลังนั่งอย่างหมดแรงอยู่
บนบัลลังก์สีทองอารามอันที่จริงแล้วด้วยสภาพของเขาในตอนนี้มัน
ราวกับศพเลยก็ว่าได้ แม้ว่าหลินหมิงจะสัมผัสได้ว่าพลังปราณของชาย
วัยกลางคนผู้นี้นั้นจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแต่ด้วยสภาพของเขา
ในตอนนี้การที่เขาสามารถขยับได้นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก
แล้ว หรือนี้อาจเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดแม่ซัคคิวบัสสาวถึง
ปราศจากความกังวล ?
" ท่านทาเช่นนี้ทาไมกัน..... "
เสียงแหบพร่าของชายวัยกลางคนดังขึ้นหลินหมิงรู้สึกแปลกใจ
เล็กน้อยที่เขายังคงสามารถพูดกล่าวได้ ดวงตาของชายวัยกลางคนเต็ม
ไปด้วยความเศร้าโศก เมื่อเขามองไปยังร่างของซือเฟยนั้นมันราวกับว่า
เขาได้พบหายนะอย่างแท้จริง
" นั้นมันไม่ใช่เรื่องของเจ้า "
" ไม่ใช่เรื่องของข้า ? ท่านคิดว่าข้าต้องเสียอะไรไปมากมายเท่าใด
กันเพื่อปิดผนึกปีศาจร้ายที่อยู่หลังผนึกนี้ เพื่อนสหาย ทหาร
ประชาชน แม้แต่ภายใต้ผนึกเช่นนี้มันยังคงสามารถส่งพลังงานส่วน
หนึ่งออกไปเพื่อเรียกเหล่าผู้คนให้มาเพื่อลดพลังที่ผนึกมันลงได้ แต่
สาหรับตัวตนเช่นท่านมันไม่มีทางที่ท่านจะไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้นั้น
สมควรเป็นสิ่งใดแล้วทาไมท่านถึงได้เป็นคนลงมือทาลายผนึกกัน ! "
เสียงของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเขาจ้องมอง
ไปที่ซือเฟยด้วยสายตาอาฆาตแค้น หลินหมิงไม่สามารถทาความเข้าใจ
สถานการณ์ตรงหน้าได้มากนัก แต่ดูเหมือนว่าผนึกนั้นถูกทาลายลงโดย
แม่ซัคคิวบัสสาว ?
" เฮอะ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถปิดผนึกไว้ได้นานอีกเพียงใดกันสิบปี
ร้อยปีไม่มากไปกว่านั้นมันสมควรเป็นเจ้าที่จะต้องขอบคุณข้าที่จะมา
ปลดปล่อยภาระหน้าที่ของเจ้าให้สิ้นลงในวันนี้ "
" ถึงแม้จะเป็นท่านแต่มันไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าท่านจะสามารถ
เอาชนะได้ ข้าขอให้ท่านไตร่ตรองอีกรอบท่านสามารถกลับมาพร้อม
ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังเช่นเดียวกันกับท่านได้เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะไม่... "
" เจ้าคิดว่าข้าจาเป็นจะต้องฟังเจ้า ? "
ร่างของหลินหมิงถูกผลักดันกลับไปอยู่ด้านหลังของซือเฟยห่างไป
หลายสิบก้าวในเวลานี้พลังปราณของนางเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจนน่า
หวาดหวั่นเช่นเดียวกันกับชายวัยกลางคนที่ปลดปล่อยอ่อร่าออกมา
อย่างน่ากลัวเช่นเดียวกัน ที่มือทั้งสองข้างของชายวัยกลางคนปรากฎ
ง้าวสีดาขึ้นเพียงแค่มองแวบเดียวหลินหมิงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงาน
อันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากง้าวสีดาอันนี้
ที่ตัวง้าวนั้นแม้ว่ามันจะมีสีดาสนิทแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีลวดลาย
สีแดงที่บริเวณส่วนคมอันเป็นสัญลักษณ์ของการที่มันได้ลิ้มรสชาติ
เลือดของศัตรูมาเป็นจานวนมากเพียงแค่เจตจานงที่ปกคลุมภายใต้ง้าว
อันนีม้ นั เพียงพอที่จะทาให้หลินหมิงรูส้ กึ สัน่ ไปด้วยความหวาดกลัวโดย
แท้จริง !
" ฮ่าห์ ! "
ด้วยเสียงคารามของชายวัยกลางคนร่างของเขาส่องประกายเรือง
แสงสีทองพร้อมกับเกราะทองที่ถูกสวมใส่บร่างของเขาเทียบกับชายวัย
กลางคนในตอนนี้กับเหล่าแม่ทัพที่หลินหมิงได้พบของอาณาจักรของ
เขาแล้วนั้นตัวตนของพวกเขาไม่แม้กระทั่งเป็นได้เพียงนายทหารของ
ชายวัยกลางคนผู้นี้เลยเสียด้วยซ้าไป
ตอนที่ 186
ดวงตาของชายวัยกลางคนในตอนนี้ปรากฎจิตวิญญาณในการต่อสู้
อันมากล้นอันที่จริงแล้วหลินหมิงไม่เคยพบเห็นใครที่มีความมุ่งมั่น
เท่ากับชายวัยกลางคนตรงหน้านี้เขามาก่อน ด้วยสิ่งนี้เห็นได้ชัดว่า
เบื้องหลังผนึกนั้นมันย่อมศัตรูที่น่าหวาดหวั่นจนถึงขนาดทาให้ตัวตน
ระดับชายวัยกลางคนผู้นี้หวาดกลัวได้ !
" แม้จะเป็นท่านก็อย่าหวังว่าจะสามารถเอาชนะข้าโดยง่าย... "
หลินหมิงที่อยู่เบื้องหลังของซือเฟยในตอนนี้เขาไม่สามารถมองเห็น
ใบหน้าของนางในยามนี้ได้แต่ที่แน่นอนก็คือหลินหมิงพบว่าแม้ว่าชาย
วัยกลางคนผู้นี้จะแสดงพลังที่มากล้นออกมาจนเขาแทบหัวใจวายแต่
สาหรับซือเฟยแล้วนั้นนางดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งระดับนี้ก็ยังคงไม่
อยู่ในสายตาของนางเลย
พลังปราณของซือเฟยพุ่งสูงขึ้นจนทาให้ใบหน้าของชายวัยกลางคน
แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวความแตกต่างระหว่างพวกเขาทั้งสองนั้น
สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ที่มือของนางในตอนนี้ปรากฎก้อนพลังงาน
สีดาขนาดเท่าฝ่ามือขึ้น
' นั้นมันคือสิ่งใดกัน ? '
เพียงแค่หลินหมิงได้มองไปที่มันเขาก็พบว่าก้อนพลังงานสีดานี้มัน
ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังปราณเป็นจานวนมาก ไม่มีใครสามารถคาดเดา
ว่าเจ้าพลังงานก้อนนี้มีทาลายล้างมากเพียงใดแต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ
แม้แต่ผู้ทรงพลังระดับปราญช์ขั้นสูงสุดหรือกระทั่งระดับองครักษ์ก็ไม่
สามารถรับมือกับพลังงานเหล่านี้ได้
ไม่เพียงแต่ก้อนพลังงานสีดาของซือเฟยจะมีเพียงหนึ่งแต่นางกลับ
เรียกก้อนพลังงานจานวนมากขึ้นมารอบตัวนางมันอาจมีจานวนมากถึง
หลายสิบหรืออาจกระทั่งร้อยด้วยจานวนของพวกมันในตอนนี้แม้แต่
การรวมรวบผู้เชี่ยวชาญหรือผู้อาวุโสจากอาณาจักรของเขาจานวนมาก
มันก็ไม่สามารถหยุดพลังงานทั้งหมดเหล่านี้ได้
ด้วยการสะบัดมือเพียงครั้งเดียวก้อนพลังงานทั้งหมดพุ่งตรงไปยัง
ชายวัยกลางคนด้วยความเร็วที่น่าหวาดหวั่น มันเคลื่อนด้วยความเร็ว
ชนิดที่ว่าหลินหมิงไม่แม้แต่จะสามารถมองตามทันด้วยตาเปล่าเลยเสีย
ด้วยซ้าไปสิ่งที่เขาเห็นมีเพียงเส้นแสงพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมา
เพียงเท่านั้น
" มันไม่ง่ายอย่างนั้น ! "
ชายวัยกลางคนปรากฎดวงตาแห่งความโกรธเกี้ยวง้าวในมือของ
เขาขยับควงมันหนึ่งรอบพร้อมกับการเคลื่อนไหวของเขาที่ทาให้หลินห
มิงตกตะลึง !
' สวรรค์ ! '
เสียงการปะทะระหว่างพลังงานสีดาของซือเฟยกับง้าวของชายวัย
กลางคนดังไปอย่างกึกก้องเพียงแค่พลังงานจากการระเบิดนั้นมันถึงกับ
ทาให้รอบพระราชวังโบราณแห่งนี้สั่นไหวอย่างรุนแรง สถานที่แห่งนี้ที่
เต็มไปด้วยพลังงานอันบริสุทธ์จานวนมากมันไม่มีทางที่จะสั่นไหวหรือ
ถูกทาลายได้โดยง่ายเพียงแต่ว่าด้วยกระบวนท่าเดียวของผู้ทรงพลังทั้ง
สองตรงหน้าหลินหมิงในตอนนี้พื้นและผนังโดยรอบปรากฎร่องรอย
แห่งการต่อสู้ราวกับว่ามันเคยถูกใช้เป็นสนามรบของกองทัพนับพันนับ
หมื่น
ร่างของชายวัยกลางคนปรากฎออกมาท่ามกลางฝุ่นละอองที่จาง
หายไปบนเกราะสีทองของเขาไม่ปรากฎแม้แต่รอยเปื้อนแม้เพียงนิด
หลินหมิงรู้ดีว่าผู้ทรงพลังทั้งสองนี้มีความแข็งแกร่งที่มากเกินกว่าความ
เข้าใจของเขาแต่ถึงอย่างนั้นด้วยพลังระดับนี้มันไม่มากเกินไปเช่นนั้น
หรือ ? หากไม่ใช่ว่าเพราะเขาได้รับการป้องกันจากซือเฟยอยู่แล้วละก็
ในตอนนี้ร่างของเขาคงได้กลายเป็นฝุ่นจากพลังงานที่ปะทะกันเมื่อ
สักครู่ไปแล้ว
" ดูเหมือนข้าจะประเมิณความสามารถของเจ้าต่าเกินไปเล็กน้อย..
"
ร่างของสตรีผู้งดงามซือเฟยที่กาลังก้าวเดินไปประจัญหน้ากับชาย
วัยกลางคนอย่างเชื่องช้าทุกย่างก้าวของนางนั้นเต็มไปด้วยพลังงานที่
เพียงพอที่จะทาให้ทั่วทั้งอาณาจักรสั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัวได้
ทันใดนั้นปรากฎเปลวเพลิงสีม่วงขึ้นครอบคลุมร่างกายของนาง
' ปีก ? '
นี้คืรปู ลักษณ์ที่แท้จริงของเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสในตอนนี้นางได้กลับมา
อยู่ในร่างที่สมบูรณ์พร้อมของนางอีกครั้งพลังงานทั้งหมดของนางถูก
ปลดปล่อยออกมาราวกับเขื่อนแตกโดยที่ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้
ร่างกายของชายวัยกลางคนเแทบจะคุกเข่าลงด้วยความสั่นไหวด้วย
ระดับพลังของเขาในตอนนี้เขาไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้อย่าง
แน่นอน
ซ่าาาา
เปลวเพลิงสีม่วงรอบตัวของนางเริ่มมีการเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต
ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยพลังงานของนางทั้งหมดที่ปกคลุม ณ ที่แห่งนี้
หลินหมิงไม่รู้ว่าศิษย์พี่ของเขาในตอนนี้ได้จากไปหรือยังไม่เช่นนั้นแล้ว
นางจะได้รับผลกระทบจากพลังงานอันมหาศาลนี้อย่างแน่นอนแม้ว่า
นางจะอยู่ห่างไกลออกไปก็ตามที่
เปลวเพลิงของนางเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วพวกมัน
เคลื่อนไหวรอบตัวนางเป็นเกลียวสูงขึ้นไปหลายสิบเมตรปรากฎเป็น
เปลวเพลิงที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับงูโบราณที่ทรงพลังเพียงแค่เสียง
คารามของมันก็เพียงพอที่จะทาให้หลินหมิงตกตายไปได้ในทันที
ร่างของซือเฟยลอยขึ้นอยู่บนอากาศในระดับเดียวกับงูเพลิงสีม่วง
ของนางนางจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนราวกับเป็นของเล่นเพื่อให้
นางได้ทดลองพลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพียงเท่านั้น
" ทาให้ข้าสนุกสักหน่อยล่ะ "
น้าเสียงของนางเต็มไปด้วยความสนุกสนานอย่างแท้จริงผิดกับชาย
วัยกลางคนที่มีสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัดด้วยสภาพของเขา
ในตอนนี้เขาได้สูญเสียความแข็งแกร่งจากในอดีตไปเป็นอย่างมากแต่
ถึงแม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าดังเช่นในอดีตเขาก็ไม่มีความ
มั่นใจว่าเขาจะชนะศัตรูตรงหน้าได้
" ฮึ่มม ! "
เสียงของชายวัยกลางคนคารามในลาคอเกราะสีทองของเขา
เปล่งแสงสว่างจ้าพร้อมกับรอบตัวของเขาที่ปลดปล่อยพลังงาน
ระดับสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่งง้าวในมือของเขาราวกับว่ามันสามารถรับรู้
ความต้องการของผู้เป็นนายได้มันเริ่มมีการปลดปล่อยไอสังหารที่มาก
พอที่ทาให้ที่บริเวณส่วนคมที่ในตอนนี้กาลังชี้ลงพื้นนั้นถึงกับเป็นรอย
ฟันในแนวลึกได้ในทันที
งูเพลิงม่วงของซือเฟยพุ่งเข้าหาชายวัยกลางคนด้วยความรวดเร็ว
เช่นเดียวกันกับชายวัยกลางคนเขาไม่มีความคิดที่จะหลบเลี่ยงการ
โจมตีนี้ร่างของเขากระโดดขึ้นอย่างกล้าหาญหลินหมิงไม่คิดเลยจริงๆ
ว่าในโลกใบนี้มันจะมีใครที่มีความกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้ากับซัคคิว
บัสสาวผู้นี้หลังจากที่ได้เห็นพลังของนางเช่นนี้แล้ว
ด้วยการปะทะกันระหว่างทั้งสองแรงระเบิดที่มากกว่าในครั้งแรก
อย่างเทียบไม่ติดทั่วทั้งห้องถูกทาลายไปอย่างรวดเร็วหลินหมิงเขาไม่
อาจละสายตาจากภาพการต่อสู้อันน่าเหลือเชื่อนี้ได้สาหรับซือเฟยแล้ว
นั้นไม่เพียงแต่นางจะต้องสู้กับผู้ที่ทรงพลังในระดับนั้นแต่นางยังต้อง
แบ่งพลังของนางมาเพื่อป้องกันเขาและสาหรับชายวัยกลางคนแม้ว่า
เขาจะสูญเสียความแข็งแกร่งไปมากแต่ความแน่วแน่ของเขานั้นเป็นที่
ไม่มีใครในโลกล้าสามารถเทียบได้อย่างแน่นอน
ที่ใจกลางการปะทะกันร่างของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยเลือดเต็ม
ร่างกายของเขาบริเวณดินที่เขายืนอยู่ที่ขุดลึกลงไปมากกว่าร้อยเมตร
ไม่เพียงเท่านั้นมันยังคงกินระยะกว้างไปทั่วห้องจนเหลือเพียงอณาเขต
ที่หลินหมิงอยู่เพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นร่างของชายวัยกลางคนกลับ
ไม่มีท่าทีสั่นไหวเขาจ้องมองไปที่ซือเฟยด้วยสายตามุ่งมั่นอย่างแท้จริง
แม้ว่าในตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วก็ตาม
" ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ ยอดเยี่ยม ๆ ด้วยสภาพของเจ้าในตอนนี้เจ้ากลับ
ยังคงแสดงท่าทีอาจหาญเช่นนั้นได้ ไม่เสียแรงเลยจริงที่ข้าอุตสาพาเขา
มาด้วย... "
ซือเฟยนางหันนางไปทางหลินหมิงที่กาลังเต็มไปด้วยความตื่น
ตะลึงสิ่งที่เขารู้สึกทึ่งมากที่สุดไม่ใช่พลังอันมากล้นของซือเฟยแต่เป็น
หัวใจอันหนักแน่นของชายวัยกลางคน
" จงดูไว้สักวันเจ้าจะสามารถเติบโตขึ้นจนกระทั่งเป็นอย่างเขาได้
เจ้าจงใช้การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นแรงผลักดันให้เจ้าสามารถก้าวหน้าต่อไป
!"
หลินหมิงพลันเข้าใจในความคิดของซือเฟยในทันทีแท้จริงแล้วนาง
กลับมีความต้องการให้เขาได้เห็นการต่อสู้อันน่าเหลือเชื่อเช่นนี้
สาหรับผู้เชี่ยวชาญจานวนมากเมื่อพวกเขาฝึกฝนมาจนถึงจุดตีบตันมัน
จะเป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะสามารถก้าวผ่านไปได้นั้นเพราะส่วน
หนึ่งพวกเขาคาดแรงผลักดันและประสบการณ์การต่อสู้ดังนั้นแล้วด้วย
การต่อสู้ที่หลินหมิงได้พบเห็นในตอนนี้มันอาจเรียกได้ว่ามันมีค่ายิ่งกว่า
ทรัพย์สมบัติใดๆ
" เจ้าเป็นมนุษย์ ? "
ชายวัยกลางคนเพิ่งสังเกตตัวตนของหลินหมิงอันที่จริงแล้วเขาให้
ความสนใจแต่เพียงซือเฟยมาตั้งแต่ต้น ในตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไป
ด้วยความแปลกใจ แม้ว่าเขาจะอยู่ภายในพระราชวังโบราณแห่งนี้มา
อย่างยาวนานจนไม่สามารถออกไปไหนได้แต่เขาสามารถรับรู้ถึงระดับ
ความแข็งแกร่งของรุ่นเยาว์จานวนมากที่เข้ามาภายในนี้จากค่ายกลที่ผู้
ที่ถูกผนึกเอาไว้ได้ทาเอาไว้เพื่อใช้พวกเขาในการคลายผนึกลงอย่างช้าๆ
สาหรับเขาที่เป็นเผ่าพันธ์มนุษย์ที่ทรงภูมิในอดีตเขารู้สึกเศร้าใจเป็น
อย่างมากที่รุ่นเยาว์ในยุคนี้นั้นกลับอ่อนแอ่ลงอย่างเหลือเชือจนไม่
สามารถเทียบกับในอดีตได้เลยแม้แต่น้อย
แกร๊ก
ทันใดนั้นระหว่างที่ชายวัยกลางคนกาลังครุ่นคิดเกี่ยวกับหลินหมิ
งเสียงของวัตถุที่กาลังปริแตกดังขึ้นจากด้านหลังของเขาเพียงแต่ว่าสิ่ง
ที่แตกออกมานั้นไม่ใช่กาแพงหรือสิ่งอื่นแต่อย่างใดแต่มันกลับเป็น
อากาศที่ปริแตกออกมา
สวบ !
มือข้างหนึ่งที่ออกมาจากภายในมิติที่ปริแตกออกมาเสียบเข้าที่
ร่างกายของชายวัยกลางคนจนกระทั่งทะลุไปถึงหัวใจของเขา ร่างของ
เขาสั่นสะท้านจากการที่เขาต้องรับมือกับซือเฟยนั้นมันเพียงพอที่จะทา
ให้ร่างกายของเขารู้สึกอ่อนล้าและยังคงมีอาการบาดเจ็บสาหัสมัน
เป็นไปไม่ได้สาหรับเขาที่จะสามารถรอดชีวิตได้อีกต่อไปสายตาของเขา
ไม่ได้จดจ้องอยู่ที่ผู้ที่โจมตีเขาในขณะนี้เขาจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มที่มี
พรสวรรค์อันโดดเด่นก่อนในวาระสุดท้ายก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลง
ตอนที่ 187
ร่างของชายวัยกลางคนล้มลงอย่างไร้สติพลังปราณในร่างกายของ
เขาไหลทะลักออกมาจากร่างกายอย่างไม่มีทางหยุดได้อีกต่อไป แต่
ในตอนนี้มันแทนที่ด้วยการปรากฎตัวของผู้มาใหม่ร่างของสตรีผู้งดงาม
เพียงพอที่จะสามารถทัดเทียมกับแม่สาวซัคคิวบัสอ่อร่าพลังของนาง
นั้นมีมากกว่าชายวัยกลางคนอย่างไม่ต้องสงสัย
อันที่จริงแล้วหลินหมิงไม่สามารถประเมิณได้อย่างแน่ชัดว่าระหว่าง
ซือเฟยกับแม่สาวผู้มาใหม่นี้ใครเป็นฝ่ายที่เหนือกว่ากัน ใบหน้าของซือ
เฟยยังคงประดับไว้รอยยิ้มอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลงนางไม่ได้รู้สึกตื่น
ตระหนกกับการปรากฎตัวของหญิงสาวผู้มาใหม่เลยแม้แต่น้อยเดิมที
แล้วนั้นผนึกนั้นอ่อนพลังลงไปอย่างมากอยู่แล้วยิ่งด้วยการต่อสู้
ระหว่างนางและชายวัยกลางคนที่ผ่านมาเมื่อสักครู่มันจึงไม่ใช่เรื่อง
แปลกที่ผนึกจะถูกทาลายลงในทันที
ร่างของสตรีผู้มาใหม่ทาให้หลินหมิงแทบจะน้าลายไหลไปด้วย
อารมณ์ที่เร่าร้อนเทียบกับซือเฟยแม่สาวซัคคิวบัสที่มีความงดงามอัน
แสนร้อนแรงแต่ถ้าฝั่งสตรีผู้มาใหม่นั้นกลับเป็นตรงข้ามโดยสิ้นเชิงชุด
คลุมสีขาวที่ปกคลุมร่างกายนั้นเป็นเพียงผ้าเบาบางที่สามารถมองให้
เห็นผิวหนังภายในได้ไม่เพียงเท่านั้นมันยังไม่สามารถปกคลุมร่างของ
นางได้ทั้งหมด
ไหล่อันขาวเนียนและดวงตาอันสดใสของนางที่สามารถสะกดใจ
ชายหนุ่มให้อยู่ใต้อาณัติได้ในพริบตาด้วยการคงอยู่ของสตรีทั้งสองนี้
แล้วมันอาจเป็นไปได้ว่าทั้งโลกคงเกิดการแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายเพียง
เท่านั้นนั้นคือสตรีที่งดงามและดูอ่อนโยนตรงหน้ากับซือเฟยที่เต็มไป
ด้วยความงดงามอันน่าหลงไหล
" เป็นเจ้าเช่นนั้นที่ปลดผนึกข้า ? "
ดวงตาของสตรีผู้มาใหม่สาดส่องไปจนพบร่างของซือเฟยที่กาลัง
ลอยอยู่บนอากาศโดยมีงูเพลิงม่วงข้างกายของนางเอง
" ข้าไม่รังเกียจหรอกนะถ้าเจ้าจะกล่าวขอบคุณข้าหน่ะ "
เมื่อได้ยินคากล่าวของซือเฟยร่างของสตรีผู้งดงามหรี่ดวงตาของ
นางลง พลังปราณในร่างของนางถูกเร่งเร้าขึ้นจนอาจจะอยู่ในระดับ
เดียวกันกับซือเฟยเลยทีเดียว ! งูเพลิงม่วงของซือเฟยจากเดิมทีมีเพียง
หนึ่งในตอนนี้มันกลับปรากฎเพิ่มอีกถึงสองหัวด้วยกันเพียงแค่พลัง
โจมตีของงูเพลิงม่วงเพียงตัวด้วยมันสามารถปัดเป่าทาให้พระราชวัง
โบราณแห่งนี้ถูกทาลายไปได้อย่างง่ายดายแล้วถ้าหากเป็นสามตัวแล้ว
เล่า ?
ทันใดนั้นร่างของชายวัยกลางคนที่สมควรสิ้นลมหายใจไปแล้วเกิด
การเคลื่อนไหวอีกครั้งเขาส่งพลังงานจากปลายนิ้วมือของเขาเข้าสู่
ระหว่างคิ้วของหลินหมิง พร้อมกับสติสุดท้ายของชายวัยกลางคนที่ดับ
ลงพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง
" เฮอะ ! "
การกระทาของชายวัยกลางคนในจังหวะลมหายใจสุดท้ายนั้นไม่ได้
อยู่ในสายตาของสตรีผู้ทรงพลังทั้งสองเลยแม้แต่น้อย แต่กลับกัน
ในตอนนี้หัวสมองของหลินหมิงนั้นราวกับว่ากาลังถูกแทรกแทรงด้วย
พลังงานที่มองไม่เห็นสติของหลินหมิงดับหวูบลง
' นี้มัน.. '
หลินหมิงได้สติขึ้นมาพร้อมกับบริเวณทิวทัศนที่แปรเปลี่ยนไปโดย
สิ้นเชิง หลินหมิงมอบไปโดยรอบด้วยความสับสนอันที่จริงแล้วมันไม่น่า
เป็นไปได้ที่เขาจะถูกเคลื่อนย้ายได้เพราะด้วยร่างกายของเขาที่ยังคง
สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างไม่มีข้อบกพร่องใดๆนั้นแสดงให้เห็นอย่าง
ชัดว่าเขาไม่ได้หมดสติไปนาน
" เจ้าไม่จาเป็นจะต้องตกใจไป.. "
เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นที่บริเวณไม่ห่างจากหลินหมิงมาก
นักหลินหมิงหันหลังกลับไปเขาเห็นร่างของชายวัยกลางคนในสภาพ
สมบูรณ์พร้อมเทียบกับสภาพของเขาในก่อนหน้านที่ที่หลินหมิงได้เห็น
ีนแตกต่
มั างเป็นอย่างมากในตอนนี้ร่างของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออัน
เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน
" นี้คือภายในห้วงความคิดของเจ้า ข้ามีเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับเจ้า
สักเล็กน้อยแต่ด้วยเวลาขอข้าที่หมดลงไปแล้วนั้นมันจึงทาให้ข้าเหลือ
เพียงแค่วิธีนี้เท่านั้น "
" ท่านมีเรื่องอันใดจะพูดกล่าวกับข้า ? "
หลินหมิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดตัวตนระดับสูงเช่นเขาถึงต้องการพูดคุย
กล่าวกับหลินหมิง รอยยิ้มของชายวัยกลางคนปรากฎขึ้นบนริมฝีปาก
ของเขาอย่างอ่อนโยนมันแตกต่างจากสภาพของเขาในตอนสู้ที่ราวกับ
แม่ทัพที่ไม่เคยเกรงกลัวข้าศึกนับแสนนับล้าน
" ข้าเองก็เป็นเผ่าพันธ์มนุษย์เช่นเดียวกันกับเจ้า ดังนั้นแล้วข้า
เพียงแต่มีความปราถนาอันเล็กน้อยเพื่อพูดคุยกับเผ่าพันธ์เดียวกัน
เพียงเท่านั้น อา....มันอาจนานมากกว่าพันปีแล้วก็ได้ที่ข้าไม่ได้พบเจอ
ผู้ใด "
หลินหมิงตื่นตะลึงในคากล่าวของชายวัยกลางคนเผ่าพันธ์มนุษย์
เช่นเดียวกันกับเขา สาหรับในอดีตที่ผ่านมาของอาณาจักรของเขา
หลินหมิงไม่เคยได้ยินว่าจะมีการปรากฎขึ้นของตัวตนระดับสูงที่มีความ
แข็งแกร่งเช่นเดียวกันกับชายวัยกลางคนตรงหน้าของเขาในตอนนี้ มัน
อาจเป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาอาจเป็นจักรพรรดิในอาณาจักรที่ห่างไกล ?
" เจ้าคงได้เห็นการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ แน่นอนว่าหากยังคงไม่สามารถ
เทียบกับนางได้แม้ว่าข้าจะได้รับพลังอันสมบูรณ์กลับคืนมา แต่ข้าไม่ได้
มีความหวาดหวั่นในการเผชิญหน้ากับศัตรูนั้นเพราะว่าข้าได้รับภาระ
และความมุ่งมั่นจานวนมากมาจากสหายของข้า !
จงจาเอาไว้ตราบเท่าที่เจ้ามีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับ
สถานการณ์ที่ยากลาบาก ตราบเท่าที่เจ้าไม่มีความยอมแพ้ต่อผู้ที่
แข็งแกร่งเจ้าจะสามารถเติบโตไปได้อย่างไร้ขีดจากัด "
มือของชายวัยกลางคนวางลงบนศรีษะของหลินหมิงที่มีความสูงต่า
กว่าเขาใบหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันภาคภูมิใจ
" เมื่อข้าได้พบเจ้าข้ารู้ดีว่าข้าสามารถทาให้ความปราถนาของข้าได้
เป็นจริงได้ ! "
ทันใดนั้นที่ด้านหน้าของหลินหมิงปรากฎง้าวสีดาทมิฬตรงหน้าของ
เขาแน่นอนว่าหลินหมิงสามารถจดจาง้าวเล่มนี้ได้เป็นอย่างดีมันอาจ
กล่าวได้ว่ามันเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่หลินหมิงเคยพบเห็นมา
" ต่อจากนี้ไปมันเป็นของเจ้าแล้ว... "
" นี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน ? "
หลินหมิงสับสนขึ้นมาในทันทีอาวุธที่อยู่ตรงหน้าของหลินหมิง
ในตอนนี้มันมีพลังอานาจเพียงพอที่จะปัดเป่ากองทัพนับร้อยนับพันให้
หายไปในพริบตาเพียงแค่การคงอยู่ของมันทาให้ผู้คนสามารถ
หวาดหวั่นได้เพียงแค่จ้องมอง มันไม่ใช่อาวุธที่หลินหมิงจะสามารถจะ
ใช้ได้ในเร็วนี้อย่างแน่นอน
" มันจาเป็นสาหรับเจ้าในอนาคตอันใกล้นี้ ! และที่สาคัญที่สุดความ
ปราถนาของข้ามีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือการให้เผ่าพันธ์มนุษย์
สามารถคงอยู่ต่อไปได้.... "
ร่างของชายวัยกลางคนค่อยๆสลายกลายเป็นแสงก่อนที่หลินหมิง
จะพลันได้กล่าวถามอะไรเพิ่มเติม หลินหมิงต้องการรู้ว่าเขาสามารถ
ก้าวไปจนมีพลังระดับสุดยอดนั้นได้อย่างไรสาหรับเผ่าพันธ์ที่มีอายุ
เพียงจากัดแต่เขากลับสามารถมีอายุยืนยาวได้เป็นพันปีได้
หลินหมิงลังเลที่จะจับง้าวทมิฬเล่มนี้แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาเลือกที่จะ
สัมผัสไปที่มันอย่างไรเสียนี้มันเป็นความต้องการของชายวัยกลางคนที่
เปรียบเสมือนกับบรรพบุรุษของเผ่าพันธ์มนุษย์ เขาอาจสามารถ
สอบถามเรื่องราวเพิ่มเติมจากซือเฟยได้หากนางเต็มใจที่จะบอกกล่าว
แก่เขาแต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดที่หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ก็คือชายวัย
กลางคนนั้นไม่ได้มีความคิดร้ายต่อเขาแน่นอน
ครืดด !
เพียงปลายนิ้วของหลินหมิงสัมผัสที่ง้าวความรู้สึกหนักแน่นกดลง
ทับร่างของเขาในทันที เข่าของหลินหมิงทรุดลงไปหนึ่งข้างอย่างไม่อาจ
ต้านทาน ปณิฐานอันแรงกล้าที่เต็มเปี่ยมในตัวง้าวทมิฬเล่มนี้มัน
สามารถบ่งบอกได้ถึงความแข็งแกร่งและทักษะของผูท้ ี่เคยใช้มันมาได้
เป็นอย่างดี หลินหมิงไม่สามารถรับรู้ได้อย่างแน่ชัดว่าง้าวทมิฬเล่มนี้มัน
ถูกใช้งานไปมากน้อยเพียงใดแต่อย่างน้อยที่สุดมันอาจมีศัตรูนับแสนที่
ต้องตกตายภายใต้คมง้าวเล่มนี้ !
พร้อมกันนั้นความรู้ทักษะจานวนมากถูกถ่ายทอดเข้าสู่ภายในหัว
สมองของหลินหมิงโดยตรงหลินหมิงไม่แม้แต่จะสามารถปฎิเสธมันได้
ดังนั้นแล้วสิ่งที่เขาสามารถทาได้ในตอนนี้คือการทาสมาธิเพื่อรับข้อมูล
จานวนมากที่กาลังหลั่งไหลเข้ามา
' ทักษะง้าว ? ทักษะการเคลื่อนไหว ทักษะบ่มเพาะ '
ทั้งหมดถูกบีบอัดแน่นเข้าไปภายในหัวสมองของหลินหมิงอย่าง
รวดเร็วแน่นอนว่าหลินหมิงไม่สามารถที่จะรับข้อมูลทั้งหมดนี้ได้ดังนั้น
แล้วเขาจาเป็นที่จะต้องเลือกทาความเข้าใจพวกมันในบางส่วน หลินห
มิงเลือกที่จะทาความเข้าใจทักษะง้าวเป็นอันดับแรกเพราะเขาค้นพบ
ว่ามันมีรากพื้นฐานที่คล้ายคลึงกับทวนของเขาดังนั้นแล้วมันไม่น่าจะใช่
เรื่องยากที่เขาจะสามารถทาความเข้าใจมั่นได้
หลินหมิงวางง้าวทมิฬลงบนตักของเขาพร้อมกับทาสมาธิเพื่อ
จัดเรียงข้อมูลทักษะง้าวที่เข้าเลือกแน่นอนว่ามันเป็นทักษะง้าวที่ยอด
เยี่ยมชนิดที่หลินหมิงไม่เคยพบเห็นมาก่อนแท้จริงแล้วในยุคอดีตนั้น
อาวุธประเภทง้าวนั้นกลับเป็นอาวุธที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมากสาหรับ
เหล่าแม่ทัพผู้กล้าแกร่ง เพราะเพียงแค่การสะบัดมันในทีเดียวพวกเขา
สามารถปัดเป่าศัตรูให้หายไปได้ภายในพริบตาและมันยังมีระยะโจมตี
ที่กว้างกว่ากระบี่อย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อเสียของมันมีเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือการเคลื่อนไหวที่จะต้องใช้
พลังงานที่มากจนเกินไปดังนั้นแล้วแม้ว่าหลินหมิงจะมีพลังของเปลว
เพลิงทมิฬของเขาแต่เขาไม่คิดว่ามันจะเพียงพอสาหรับการใช้ง้าวเล่มนี้
อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วเขาจาเป็นที่จะต้องหาทักษะจากข้อมูลจานวน
มากเหล่านี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาด้วย
เช่นเดียวกัน
ตอนที่ 188
หลินหมิงเริ่มทาความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะบ่มเพาะร่างกายที่เขา
ได้รับมาโดยคร่าวๆ ทันใดนั้นเขาพบกับเรื่องที่น่าตื่นตะลึงนั้นก็
เพราะว่าทักษะเสริมร่างกายที่เขาพบในตอนนี้มันเป็นทักษะเดียวกัน
กับทักษะที่ชายวัยกลางคนที่ได้ใช้ ! แม้ว่าเขาจะระดับการบ่มเพาะที่
ด้อยกว่าซือเฟยอยู่สมพอสมควรแต่เขาสามารถรับการโจมตีของนางได้
ถึงสองครั้งโดยที่ร่างกายของเขายังมั่นคง
มันไม่ใช่เพียงเพราะจิตใจอันแน่วแน่ของเขาเพียงเท่านั้นแต่มันยัง
เป็นเพราะร่างกายของเขาที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากที่สาคัญไปกว่านั้น
ก็คือเกราะทองที่ประดับร่างของชายวัยกลางคนในตอนนั้นแท้จริงแล้ว
มันกลับกลายเป็นหนึ่งในทักษะที่เขาได้เรียกใช้ออกมา ! หลินหมิงแทบ
จะหยุดกลั้นหายใจทักษะที่มีพลังป้องกันสูงส่งขนาดหยุดการโจมตีที่สา
มาถสั่นสะเทือนทั่วทั้งอาณาจักรได้ !
หากเหล่าผู้เชี่ยวชาญได้พบเห็นทักษะนี้มันคงเกิดสงครามนองเลือด
ขนาดใหญ่เพื่อแย่งชิงมันน่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีโอกาสเช่นนั้นเพราะ
ทักษะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถูกฝั่งอยู่ภายใต้ปณิฐานของง้าวทมิฬซึ่ง
ในตอนนี้มันได้ผูกพันธ์กับวิญญาณของหลินหมิงไปแล้วทางเดียวที่พวก
เขาจะสามารถได้รับทักษะเหล่านั้นคือการสังหารหลินหมิงและทาให้
ทวนทมิฬเล่มนี้ยอมรับเพียงเท่านั้น
หลินหมิงใช้เวลาอย่างยาวนานในการทาความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะ
ใหม่ของเขาแม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะเลือกทาความเข้าใจทักษะเพียง
สองอย่างก็คือทักษะง้าวและทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์แต่ถึงอย่างนั้น
หลินหมิงพบว่ามันไม่ง่ายเลยที่เขาจะไม่สามารถทาความเข้าใจมันได้
อย่างท้องแท้ในเร็วนี้
หลินหมิงออกมาจากห้วงความคิดของเขา แม้ว่าเขาจะสามารถที่
จะฝึกฝนทักษะที่ได้รับใหม่ต่อไปได้เพียงแต่ว่าในตอนนี้เขาคิดว่าได้
มาถึงทางตันของการเรียนรู้เขาจาเป็นที่จะต้องทาความเข้าใจถึงทักษะ
ที่ได้รับมาก่อนเพื่อทาความคุ้นเคยกับมัน
" หือ ? "
หลินหมิงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสับสนเขาหันซ้ายขวาไปโดยรอบ
พร้อมกับความตกใจ นั้นก็เพราะว่าเขาจาได้ว่าในตอนท้ายที่เขาหมด
สติไปเขายังคงอยู่ภายในพระราชวังโบราณอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่า
ในตอนนี้วิวทิวทัศน์โดยรอบตัวของเขาล้วนแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ผนังอันหรูหราสิ่งก่อสร้างที่ถูกเรียกว่าพระราชวังโบราณถูกลบเลือน
หายไปโดยเหลือแต่ปรักหักพัง
หลินหมิงแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเองสิ่งก่อสร้างที่เต็ม
เปี่ยมไปได้วยพลังงานเช่นนั้นกลับหายไปได้ ? แม้แต่ตัวตน
ระดับปราญช์นับสิบคนก็ยังยากที่จะทาลายพระราชวังแห่งนี้ ทันใดนั้น
สายตาของหลินหมิงเหลือบมองเห็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ร่างของ
สตรีผู้งดงามทั้งสองที่กาลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า แม้ว่าในตอนนี้สภาพ
ของพวกนางทั้งสองจะเรียกได้ว่าค่อนข้างอ่อนแรงลงไปอย่างมากทั้งคู่
เพียงแต่ว่ามันก็ยังไม่ใช่ระดับที่หลินหมิงจะสามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งได้
อยู่ดี
ร่างของซัคคิวบัสสาวซือเฟยที่ปลดปล่อยร่างที่แท้จริงออกมาอย่าง
สมบูรณ์พร้อมที่ด้านหลังของนางมีปีกคู่ดาเงาปรากฎพร้อมกับหางที่
โผล่ออกมาจากบั้นท้ายอันชวนน่าสัมผัสไม่เพียงเท่านั้นที่บริเวณศรีษะ
ของนางยังมีเขาสีน้าตาลโผล่ขึ้นมาแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้ทาให้ความ
งามของนางลดลงไปเลยแม้แต่น้อยอันที่จริงแล้วมันกลับดูชวนน่า
หลงไหลอย่างน่าแปลกประหลาดเสียมากกว่าสาหรับหลินหมิง
ทางฝั่งตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าสตรีที่เพิ่งได้รับการปลดปล่อยนั้นสภาพ
ของนางอยู่ในสภาพที่ย่าแย่กว่าอย่างเห็นได้ชัดร่างของนางแตกต่าง
จากในตอนแรกที่หลินหมิงได้พบเห็นเล็กน้อยนั้นคือหางที่ประกอบไป
ด้วยขนฟูสีขาวชวนน่าสัมผัสไม่เพียงเท่านั้นที่บริเวณศรีษะของนาง
ในตอนนี้ปรากฎหูสีขาวที่ราวกับหูแมวขึ้น แน่นอนว่ามันแตกต่างจาก
ความงดงามของซือเฟยไปโดยสิ้นเชิง ร่างของสตรีผู้กลับเต็มไปด้วย
ความรู้สึกน่าทะนุถนอมเสียมากกว่า
" แฮ่ก ๆ "
เสียงหอบอย่างแหบพร่าของสตรีผู้ที่เพิ่งได้รับการปลดปล่อย
ออกมานางจ้องมองไปยังซือเฟยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ งูเพลิงม่วง
ของซือเฟยในตอนแรกก่อนที่หลินหมิงจะหมดสตินั้นเขาจาได้ดีว่ามันมี
เพียงสามหัวแต่ในตอนนี้มันกลับเพิ่มจานวนมากถึงเก้าหัวเข้าไปแล้ว !
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดพระราชวังโบราณแห่งนี้ถึงได้ถูก
ทาลายลงอย่างง่ายได้ สิ่งที่สาคัญไปกว่านั้นก็คือการที่เขายังสามารถมี
ชีวิตรอดได้จากการต่อสู้ที่เกินกว่าสามัญสานักของเขา !
" ฮิฮิ เจ้าไม่สามารถเทียบเคียงกับข้าได้อีกต่อไป ดูเหมือนว่าวัน
เวลาที่เจ้าถูกผนึกอยู่นับพันปีมันจะทาให้เจ้าอ่อนแอ่ลง ? "
ซือเฟยหัวเราะร่าอย่างชอบใจดูเหมือนว่าสตรีผู้งดงามทั้งสองนี้ใน
อดีตพวกนางจะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันอย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกับ
ตามปกติแล้วนั้นซือเฟยรู้ดีว่านางไม่สามารถดวลตัดสินกับคู่แค้นของ
นางได้อย่างแน่นอนเพราะผลที่ออกมาหากไม่ใช่บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ก็
เป็นตายทั้งคู่เพียงเท่านั้น แต่ในตอนนี้หลังจากที่นางได้รับการพัฒนา
จากการร่วมรักกับหลินหมิงมันไม่มีสิ่งใดที่นางจาเป็นจะต้องกังวลอีก
ต่อไป
ฟางเซียนหรือสตรีผู้ที่ได้รับการปลดผนึกออกมานางไม่เข้าใจว่าเหตุ
ใดระดับพลังของพวกนางทั้งสองถึงได้แตกต่างกันถึงเพียงนี้อันที่จริง
แล้วแม้ว่าพวกนางทั้งสองจะได้รับการปิดผนึกในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
และเป็นฝ่ายของซือเฟยที่ได้รับการปลดผนึกก่อนเพียงแต่ว่าช่วงเวลา
เล็กน้อยเพียงเท่านั้นมันไม่สามารถอธิบายได้ถึงความแตกต่างกันที่
มากมายถึงเพียงนี้ !
สาหรับผู้ที่มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกันกับพวกนางการใช้เวลา
ก้าวหน้าเพื่อพัฒนาต่อไปนั้นอาจใช้เวลายาวนานถึงสิบปีเป็นอย่างน้อย
แต่ช่วงเวลาที่ห่างกันเพียงไม่ถึงปีนี้ความสามารถของพวกนางกลับ
แตกต่างกันถึงเพียงนี้ได้เช่นไร
ทันใดนั้นฟางเซียนนางพลันสังเกตเห็นหลินหมิงที่ตื่นขึ้นมาอันที่
จริงแล้วในการต่อสู้ครั้งนี้มันคงจะจบเร็วยิ่งกว่านี้หากศัตรูของนาง
ไม่ได้ต้องคอยระวังเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ผู้นี้ ในตอนแรกนางไม่ได้มีความ
สนใจในตัวของหลินหมิงแต่อย่างใดสาหรับเผ่าพันธ์มนุษย์ที่อ่อนแอ่ลง
ไปมากหลายพันปีนี้แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการพัฒนาในอีกหลายสิบปี
มันก็ยังไม่ใช่ปัญหาสาหรับนางหากเพราะว่าท้ายที่สุดนี้บุรุษที่แข็งแกร่ง
ที่สุดของเผ่าพันธ์พวกเขาได้ตกตายไปแล้ว !
นางกัดฟันเฮือกสุดท้ายพลังปราณของนางถูกเร่งเร้าออกมาอย่าง
ท่วมถ้นร่างของสุนัขจิ้งจอกที่เต็มไปด้วยหมอกควันปรากฎขึ้นพร้อมกับ
พุ่งจู่โจมไปที่หลินหมิงด้วยความรวดเร็ว นางรู้ดีว่าการกระทาเช่นนี้เป็น
การกระทาที่ไม่สมควรสาหรับตัวตนระดับสูงเช่นนางแต่หากไม่มีสิ่งใด
ที่สามารถเทียบกับชีวิตของนางได้
ซือเฟยสบถออกมาอย่างไม่พอใจอันที่จริงแล้วในช่วงหลังของการ
ต่อสู้นางไม่ได้ให้ความสนใจหลินหมิงมากนักเพราะว่านางกาลัง
เพลิดเพลินอยู่กับการโจมตีอีกฝ่ายนั้นเป็นสิ่งที่ทาให้นางรู้สึกว่าทา
ผิดพลาดอย่างแท้จริง !
ร่างของซือเฟยโผล่ขึ้นมาด้านหน้าของหลินหมิงพร้อมกับรับโจมตี
ของฟางเซียนเอาไว้งูเพลิงม่วงทั้งเก้าหัวพุ่งเข้าจู่โจมไปยังทิศทางที่ฟาง
เซียนอยู่
บรึ้มม !
เสียงระเบิดดังก้องกังวาลไปทั่วเพียงแรงลมจากการระเบิดในครั้ง
มันเพียงพอที่จะทาให้ร่างของผู้คนหายไปได้ในพริบตาเดียว
" เฮอะ "
ซือเฟยสบถออกมาเล็กน้อยนางรู้ดีว่าแม้ว่าความสามารถของนาง
จะเหนือกว่าแต่มันไม่ง่ายที่จะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างเด็ดขาด
ร่างของฟางเซียนได้หายไปแต่กลับถูกแทนที่ด้วยคราบเลือดจานวน
หนึ่งเห็นได้ชัดว่าแม้ว่านางจะสามารถหลบหนีไปได้แต่มันยังคงแลกมา
ด้วยอาการบาดเจ็บที่ค่อนข้างสาหัส
" หืม ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะพัฒนาขึ้น "
น้าเสียงของซือเฟยดังขึ้นพร้อมกับจดจ้องมาที่ร่างของหลินหมิง
ในตอนนี้แม้ว่าระดับพลังของหลินหมิงจะไม่ได้เพิ่มขึน้ แต่อย่างใดแต่
ร่างกายของเขากลับแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมากและที่สาคัญที่สุดก็
คืออ่อร่าของหลินหมิงที่กาลังถือง้าวทมิฬอยู่ในตอนนี้แม้ว่ามันจะยังไม่
สามารถเทียบได้กับชายวัยกลางคนแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เพียงพอที่จะทา
ให้ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขั้นต้นหวาดผวาได้ !

F18
ตอนที่ 189
ร่างของซัคคิวบัสสาวซือเฟยกระโดดเข้าหาหลินหมิงด้วยสีหน้า
เปี่ยมสุขอันที่จริงแล้วสามารถกล่าวได้ว่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์
ของนางด้วยเช่นเดียวกัน เดิมทีแล้วนางมีความตั้งใจหลังจากที่ได้รับ
ผลประโยชน์จากการร่วมรักกับหลินหมิงอย่างมหาศาลในครั้งแรกเพื่อ
จัดการศัตรูคู่แค้นของนางอย่างฟางเซียน
แต่นางไม่คาดคิดว่านางจะได้พบกลับหลินหมิงอีกครั้งในพระราชวัง
โบราณแห่งนี้ ที่สาคัญที่สุดก็คือนางวางแผนที่จะทาให้เขาได้รับการ
เติบโตและอนาคตอันมั่งคง ด้วยการต่อสู้ระหว่างนางและชายวัย
กลางคนก่อนหน้านี้อันที่จริงแล้วด้วยความแข็งแกร่งที่เหลืออยู่ของเขา
นั้นมันไม่เพียงพอที่จะสามารถต้านทานความแข็งแกร่งของนางใน
ตอนนี้อย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้นนางเพียงต้องการให้หลินหมิงได้รับผลประโยชน์
เช่นเดียวกัน สาหรับเผ่าพันธ์มนุษย์พวกเขาส่วนใหญ่อาจคาดฝันถึง
ระดับที่สูงส่งที่สุดของเขาแค่เพียงระดับปราญช์ขั้นสูงสุดหรือไม่ก็ไม่
เพียงการก้าวไปสู่ระดับองครักษ์ ซึ่งสาหรับนางแล้วมันยังคงไม่
เพียงพอ ด้วยความแข็งแกร่งและทักษะของชายวัยกลางคนที่เป็น
เผ่าพันธ์มนุษย์เช่นเดียวกันกับหลินหมิงนางหวังว่าเขาจะได้รับการ
กระตุ้นอันยอดเยี่ยมจากปณิฐานอันแรงกล้าของชายวัยกลางคน
แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะได้รับสืบทอด
มรดกจากชายวัยกลางคนด้วย ง้าวทมิฬที่ถืออยู่ในมือของหลินหมิง
ในตอนนี้มันสามารถบ่งบอกนางได้ทุกอย่างอย่างชัดเจน อาวุธที่แม้แต่
เผ่าพันธ์ของนางก็ยังคงปราถนาที่จะครอบครองมันเอาไว้ มันเป็น
อาวุธที่วิเศษอย่างไม่ต้องสงสัยมันราวกับว่ามันได้รับจิตวิญญาณอันแรง
กล้าของผู้ใช้จนทาให้มันราวกับว่ามีชีวิตจิตใจเป็นของตนเองไปแล้ว
หลินหมิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยอันที่จริงแล้วแม้ว่าเขาจะได้ร่วมรัก
กับแม่ซัคคิวบัสสาวผู้นี้มาแล้วถึงสองครั้งเพียงแต่ว่ารูปลักษณ์ของนาง
ในตอนนี้มันแปลกประหลาดกว่าก่อนหน้าไปเป็นอย่างมาก นางดู
งดงามน้อยลง ? ไม่เลยมันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เสื้อผ้าของนาง
ในตอนนี้มีเพียงน้อยชิ้นที่ปิดบังสัดส่วนตามร่างกายจนเผยให้เห็น
ผิวหนังที่หลินหมิงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสมัน
" ฮิฮิ "
ซือหัวเราะยิ้มร่าร่างกายของนางเข้าเบียดเสียดร่างของหลินหมิง
ขาวอันขาวเนียนทั้งสองข้างของนางนั้นเข้าแหวกระหว่างขาของหลินห
มิงจนเขาต้องกลืนน้าลายลงไปอึกใหญ่ หากไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้หลินห
มิงได้รับโอกาศเช่นนี้มาแล้วตัวเขาในตอนนี้คงได้ตกตายไปด้วยเหตุ
เพราะเสียเลือดหรือตื่นเต้นมากจนเกินไป !
" ในเมื่อเจ้ามีการพัฒนาเช่นนี้เช่นนั้นข้าก็ยินดีมอบรางวัลให้แก่เจ้า
... "
ซือเฟยนางกล่าวด้วยน้าเสียงยั่วย้วนอย่างเต็มที่ไปที่ข้างหูของ
หลินหมิง ร่างกายของหลินหมิงสั่นเล็กน้อยไปด้วยความตื่นเต้นอันที่
จริงแล้วหลินหมิงเกือบลืมไปแล้วว่านางได้กล่าวเอาไว้ว่าเมื่อเขาได้รับ
การพัฒนาที่นางพึงพอใจนางจะยินดีมอบรางวัลให้แก่เขา
ดวงตาของซือเฟยตอนนี้แดงชานไปด้วยอานาจและอารมณ์ที่มาก
ล้นสาหรับเผ่าพันธ์ซัคคิวบัสเช่นพวกนางแล้วเมื่อใดที่พวกนางได้มีการ
ใช้พลังปราณที่มากเช่นนี้พวกนางจะได้รับผลกระทบที่ตามมานั้นก็คือ
อารมณ์ความต้องการที่มากล้นหากเป็นปกติแล้วนั้นางอาจสามารถ
ระงับมันได้ตัวเองได้ เพียงแต่ว่าหลังจากที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิง
แล้วนั้นมันจะยังมีสิ่งใดที่จะสามารถเทียบได้กับท่วงท่าของหลินหมิ
งอีกกัน ? การช่วยเหลือตนเองของนางอาจไม่เพียงพอที่จะทาให้นาง
รู้สึกผ่อนคลายลงไปเลยเสียด้วยซ้าไป
" แล้วเจ้าต้องการรางวัลในรูปแบบไหนล่ะ...ร่างก่อนหน้า..หรือว่า
ร่างนี้ ? "
หลินหมิงรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเขาถูกระเบิดออกในทันที
มันจะยังมีใครที่สามารถทนการยั่วยวนของสตรีผู้ทรงเสน่ห์เช่นนางได้
กัน แม้แต่มหาขันธีพวกเขาก็คงได้แต่ยินยอมเมื่อต้องเจอความงดงามที่
ราวกับว่ามันเป็นค่ายกลชั้นยอดที่ไม่อาจมีผู้ใดต้านทานได้ !
หลินหมิงเข้ารวบรัดร่างของแม่ซัคคิวบัสสาวผู้ยั่วสวาทมือของเขา
เคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงไปทั่วร่างของอันทรงเสน่ห์ของริมฝีปากของ
หลินหมิงเริ่มทางานโดยการเข้าเคลื่อนที่โลมเลียที่บริเวณเรือนร่างของ
นางอย่างหื่นกระหาย ซือเฟยนางไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกหรือรังเกียจ
แต่อย่างใด
แม้ว่าสายตาของหลินหมิงในตอนนี้จะยังคงไม่ใช่สายตาที่นาง
ต้องการเหมือนกับตอนที่เขาจ้องมองไปยังสาวน้อยผู้งดงามหลัวฉิง
เชี่ยนแต่นางเชื่อว่าอีกไม่นานสายตาของหลิงหมิงจะต้องมองมาที่นาง
ด้วยอารมณ์เช่นเดียวกันหรืออาจกระทั่งเหนือกว่าเสียด้วยซ้าไป !
ดวงตาแดงก่าของซือเฟยในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่มากล้น
เช่นเดียวกันในตอนนี้นางไม่รู้ว่าเพราะว่าการสัมผัสที่ร้อนแรงหรือว่า
ผลกระทบจากการใช้พลังปราณที่มากเกินไปของนาง ในตอนนี้ร่างกาย
ของนางราวกับกาลังถูกเพลิงแห่งความใคร่เผาผลาญมันไม่ได้มี
ความรู้สึกร้อนจนแทบจะละลายแต่มันเป็นความรู้สึกต้องการอันมาก
ล้น
" อ้าา ~~~~~ "
มือทั้งสองข้างของนางกอดศรีษะของหลินหมิงที่กาลังเล่นสนุกกับ
หน้าอกของนางอย่างสนุกสนานพร้อมกับส่งเสียงครางออกมาอย่างไม่
มีท่าทีเอียงอาย
" ข้าไม่ไหวแล้ว นามันมาใส่ตัวข้าที ~~ "
หลินหมิงรู้สึกว่าสติของเขาขาดผึงด้วยการอ้อนวอนที่เต็มไปด้วย
เสน่ห์เช่นนี้แม้แต่สัตว์เดรัจฉานพวกมันก็ยังคงต้องหลงไหลในเสน่ห์อัน
มากล้นของสตรีนางนี้ เสื้อผ้าของหลินหมิงถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว
ชนิดที่ว่าเขาเองก็แทบจะไม่รู้สึกตัวกับความรวดเร็วของการเคลื่อนไหว
ของเขาเอง
ทวนมังกรของหลินหมิงจดจ่ออยู่กับป่าถ้าสีชมพูสดที่ในตอนนี้กาลัง
แฉะเยิ้มไปด้วยนารักใสๆ อันที่จริงแล้วซือเฟยนางได้ปลดปล่อย
อารมณ์ไปหลายครั้งแล้วตั้งแต่เริ่มที่ร่างกายของนางได้รับการจู่โจม
จากหลินหมิงอย่างร้อนแรง
" เสียบมันเข้ามาในนี้นะ ข้ายังไม่ต้องการที่อื่น "
เสียงของซือเฟยเต็มไปด้วยความน่ารักและทะนุถนอมอันที่จริงแล้ว
หลินหมิงปราถนาให้นางเป็นเช่นนี้ตลอดไป หลินหมิงรู้ดีว่านาง
หมายถึงสิ่งใด ดูเหมืนอว่าในตอนนี้ที่ร่องสวาทของนางนั้นจะมีอาการ
สั่นไหวอย่างรุนแรงมันคงเป็นแย่มากหากหลินหมิงไม่ทาการบรรเทา
ทุกข์ร่องสวาทอันงดงามของนางในตอนนี้
มือทั้งสองข้างของซือเฟยแหวกร่องสวาทของนางออกเพื่อเชื้อเชิญ
ให้หลินหมิงสามารถจู่โจมนางได้ทุกเมื่อในตอนนี้ลมหายใจของนาง
หนักหน่วงไปด้วยความต้องการอันมากล้น
" อู้ววว ~~~~~~ "
ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงเสียบเข้าไปอย่างร้อนแรงร่างกาย
ของนางสั่นสะท้านพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนพึงพอใจที่เกิดขึ้นแม้ว่าการ
จู่โจมของหลินหมิงในตอนนี้จะไม่ได้อ่อนโยนดั่งเช่นเมื่อวานแต่นาง
ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่พึงพอใจแต่อย่างใดกลับกันแล้วมันดู
เหมือนกับว่าด้วยการเคลื่อนไหวอันร้อนแรงของหลินหมิงนั้นมันจะ
สามารถสร้างความพึงพอใจในยามนี้ให้แก่นางได้มากกว่า
" อร้างง ~~~ "
เสียงครางสนั่นของซือเฟยดั่งขึ้นอย่างต่อเหนื่องขาทั้งสองข้างของ
นางถูกแหวกออกจนแทบจะกางครบร้อยแปดสิบองศาศรีษะของนาง
ส่ายไปมาด้วยอารมณ์ความเสี่ยวซ่านที่กาลังเกิดขึ้นอย่างต่อเหนื่องนี้
เสียงกระทบกันระหว่างก้อนเนื้อทั้งสองดังเป็นจังหวะกองระรัวเห็นได้
ชัดว่าการจู่โจมของหลินหมิงในตอนนี้นั้นบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก
หลินหมิงทาการพลิกร่างของซือเฟยให้นอนคว่าพร้อมกับโก่ง
สะโพกของนางขึ้นอันที่จริงแล้วด้วยท่วงท่าเช่นนี้หลินหมิงสามารถ
สัมผัสไปที่หางอันน่าพิศมัยของนางได้ !
" ไม่นะ อย่าเล่นกับหางของข้า อร้ายย ~~~~~~ "
แม้ว่าซือเฟยจะกล่าวเช่นนั้นแต่หลินหมิงกลับพบว่าภายในร่อง
สวาทของนางในตอนนี้กลับตอดรัดทวนมังกรของเขาอย่างรัดแน่นมาก
ยิ่งขึ้นกว่าเก่ามือของหลินหมิงเข้าบีบหางของนางพร้อมกับจังหวะการ
กระแทกเอวของหลินหมิงใบหน้าของซือเฟยเต็มไปด้วยความสะใจ
" ยังไม่พอ "
หลินหมิงกล่าวออกมาสั้นๆราวกับคนไร้สติร่างของเข้ากดทับบน
ร่างของซือเฟยพร้อมกับริมฝีปากของเข้าที่เข้าจู่โจมที่บริเวณยอดปถุม
ทันของนางอย่างร้อนแรง
" มะ..ไม่ไหว อร้างงงง ~~~~~~ "
ซือเฟยนางไม่สามารถกล่าวหยุดหลินหมิงในตอนนี้ที่ราวกับเป็น
ปีศาจที่หื่นกระหายในกามอารมณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดได้ ร่างกายของ
นางสั่นไหวอย่างไม่มีการหยุดพัก ไม่เพียงเท่านั้นที่บริเวณร่องสวาท
ของนางในตอนนี้กลับกลายเป็นแหล่งเขือนขนาดย่อมเพียงแค่เวลาไม่
นานน้ารักของหลินหมิงได้ไหลทะลักเข้าสู่ภายในตัวนางอย่างต่อเหนื่อง
! แต่ถึงอย่างนั้นมันไม่มีท่าทีว่าเข้าจะหยุดลงหรือชะลอแต่อย่างใด
' ข้ากลับมีความสุขมากถึงเพียงนี้ '
ซือเฟยไม่เข้าใจตัวเองเช่นเดียวกันเห็นได้ชัดว่าเรือนร่างของนางนั้น
ถูกใช้ราวกับว่าเป็นที่ระบายอารมณ์แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางมองไปยัง
ร่างของหลินหมิงที่อยู่บนตัวของนางนางกลับไม่มีความคิดไม่พึงพอใจ
เลยแม้แต่น้อยกลับกันแล้วนางยินดีที่จะให้เขาใช้ร่างกายของนางได้
อย่างเต็มที่ มือทั้งสองข้างของนางเคลื่อนไหวอย่างยากลาบาก
ท่ามกลางการจู่โจมจากหลินหมิง เพื่อเข้ากอดร่างของหลินหมิงและลิ้ม
รสชาติความสุขที่กาลังเกิดขึ้นอย่างต่อเหนื่องนี้ต่อไปอย่างไม่มีหยุดพัก
ตอนที่ 190
หลินหมิงพลันสัมผัสได้ถึงพลังปราณของเขาที่ไหลพล่านไปทั่วร่าง
อย่างเดือดพล่าน แม้แต่ง้าวทมิฬที่อยู่ภายในจิตใจของเขาราวกับว่า
ในตอนนี้มันได้รับผลกระทบจากพลังหยินอันบริสุทธ์ของแม่ซัคคิวบัส
สาวด้วยเช่นเดียวกัน ง้าวทมิฬภายในจิตใจของหลินหมิงมีการสั่นไหว
พร้อมกับปลดปล่อยคลื่นพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่ซือเฟยยังคงเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงแม้แต่ในเผ่าพันธ์
ระดับสูงของนางนั้นมันยังคงไม่มีรุ่นเยาว์คนใดที่มีศักยภาพมากมาย
เท่ากับหลินหมิง ในตอนนี้นางได้เห็นการเปลี่ยนและการพัฒนาการ
ของหลินหมิงอย่างใกล้ชิด ร่างของหลินหมิงเรืองแสงสีทองที่เต็มไป
ด้วยพลังงานจากทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์
อันที่จริงแล้วหลินหมิงเดิมทีนั้นเขารับรู้ได้เพียงเศษเสี้ยวเดียวของ
ทักษนี้เพียงเท่านั้นแต่ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ภายในต้นเถียนของเขาเปลว
เพลิงทมิฬมีการลุกโชนอย่างโชติช่วงมันราวกับว่ามันดวงอาทิตย์ดวงที่
สองที่มีลักษณะดามืด ! เช่นเดียวกันกับภายในห้วงความคิดของหลินห
มิงข้อมูลของทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์ถูกเรียบเรียงจนหลินหมิงสามารถ
ทาความเข้าใจมันได้อย่างง่ายมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะผลประโยชน์โดยแท้จริงของพลัง
ปราณที่เขาได้รับจากแม่ซัคคิวบัสสาวรวมกระทั่งอานาจพลังที่เขา
ได้รับสืบทอดมาจากเจตจานงที่ได้รับมาจากชายวัยกลางคนผ่านง้าว
ทมิฬ
แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงได้วางแผนในการใช้โอกาสอันล้าค่าใน
การเพลิดเพลินกับร่างกายของสตรีผู้งดงามที่อยู่ตรงหน้าของเขา
เพียงแต่เมื่อได้รับประสบการณ์เช่นนี้แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ลง
มือจู่โจมแม่สาวเจ้าเล่ห์ผู้นี้ต่อไป แต่เป็นไปได้หรือไม่ว่าหากเขา
สามารถยกระดับได้อีกครั้งหนึ่งน่าก็สมควรให้รางวัลแก่เขาด้วย
เช่นเดียวกัน ?
หลินหมิงไล่ความคิดเหล่านั้นไปพร้อมกับหันไปสนใจทักษะที่ถูกจัด
เรียบเรียงในห้วงความคิดของเขาในตอนนี้ ภาพของชายวัยกลางคนที่
สวมใส่เกราะทองศักดิ์สิทธ์อันงดงามนั้นถูกฝั่งจารึกลงไปในจิตใจของ
หลินหมิงจนยากที่เขาจะลืมเลือน แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความแข็งแกร่ง
เท่ากับซือเฟยแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงไม่อาจสามารถประเมิณได้
ว่าเมื่อในอดีตนั้นชายผู้นี้สมควรแข็งแกร่งมากเพียงใด
ลาพังเพียงความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้เขาก็สมควรกล่าวตนขึ้นเป็นผู้
แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธ์มนุษย์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ซือเฟยจ้องมองไปยังร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงที่กาลัง
ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่องอันที่จริงแล้วสาหรับทุกช่วง
ระดับชั้นของขั้นพลังนั้นมีความยากลาบากที่มากยิ่งขึ้นไป นางย่อม
เข้าใจถึงเรื่องนี้ดีเพียงแต่ว่าในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพลังงานของหลินหมิง
นั้นกาลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเหนื่องและมันไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงโดยง่าย !
ปัง !
เสียงภายในต้นเถียนของหลินหมิงระเบิดขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิง
คลื่นลูกใหญ่ที่โหมกระหน่าภายในต้นเถียนของหลินหมิง พลังปราณ
ของหลินหมิงแผ่ซ่านออกไปทั่วโดยรอบโดยไม่คาดคิดว่าแท้จริงแล้วนี้
คือพลังของคนที่มีระดับพลังเพียงจอมยุทธ์ขั้นที่ 7
ปัง !
เสียงระเบิดภายในลมปราณของหลินหมิงดังขึ้นพร้อมกับใบหน้า
ของเขาที่เต็มไปด้วยความสุข
' ระดับจอมยุทธ์ขั้นที่แปด ! '
" เจ้าเด็กนี้ถึงกับแปลกประหลาดถึงเพียงนี้ ? "
ซือเฟยนางไม่เข้าใจเลยว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังทาสิ่งใดอยู่ เขา
กาลังบ่มเพาะพลัง ? ในสถานการณ์ที่พวกเขาเพิ่งผ่านการร่วมรักกัน
มา ? เกราะแสงสีทองศักดิ์สิทธ์ที่ปรากฎขึ้นบนร่างของหลินหมิง
ในตอนนี้แม้ว่ามันจะไม่ได้มีรูปร่างที่เด่นชัดเหมือนกับของชายวัย
กลางคนก่อนหน้าแต่ถึงอย่างนั้นมันย่อมไม่ใช่ทักษะที่คนทั่วไปสามารถ
ฝึกฝนได้เพียงเวลาเพียงไม่ถึงวันเช่นนี้ หรือเขากาลังฝึกฝนทักษะ ?
ซือเฟยไม่สามารถหาคาตอบในเรื่องนี้ได้ดูเหมือนว่าการที่นางได้พา
หลินหมิงมายังห้องผนึกแห่งนี้ด้วยนั้นเป็นความคิดที่ถูกต้องอย่างไม่
ต้องสงสัยแม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่ว่านางจาเป็นจะต้องคอยปกป้อง
เขาอยู่ตลอดจนทาให้ศัตรูตัวฉกาจของนางหนีรอดไปได้ แต่สิ่งเหล่านั้น
ย่อมไม่มีค่าเทียบเท่ากับเด็กหนุ่มตรงหน้าของนางในตอนนี้ไม่เพียงแต่
หลินหมิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กาลังพัฒนาขึ้นอย่างต่อเหนื่อง
พลังปราณอันบริสุทธ์ที่ไหลออกมาจากร่างของเขาถูกหล่อหลอม
เขากับร่างของซือเฟยที่แนบชิดกับเขา ร้อนของนางรู้สึกเต็มไปด้วย
ความอบอุ่นอย่างแท้จริง แม้ว่านางจะยังคงมีความรู้สึกปราถนาที่จะ
ร่วมรักกับหลินหมิงต่ออีกสักเล็กน้อยแต่นางไม่ต้องการที่จะขัดขวาง
ความก้าวหน้าของเขาในตอนนีีร่างของนอนล้มนอนแอบอิงร่างของ
หลินหมิงที่ยังคงปลดปล่อยพลังปราณออกมาอย่างต่อเหนื่องไปด้วย
ท่าทีที่เปี่ยมสุข
หลินหมิงลืมตาตื่นขึ้นมาเขาไม่รู้ตนเองอยู่ในสภาวะที่ไร้สติไปนาน
มากเพียงใดแต่ในตอนนี้เขาสามารถรับรู้ถึงสิ่งรอบข้างได้อย่างชัดเจน
มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแบบเทียบไม่ติด ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงลองขยับ
มือของเขาทั้งสองข้างเขาสามารถรู้สึกได้พลังกายของเขาที่เต็มไปด้วย
พลังงานที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาไม่สามารถคาดคิดได้ว่าหาก
เขาทาการเรียกใช้เปลวเพลิงสีดาของเขาความแข็งแกร่งในตอนนี้จะมี
มากเพียงใด
ทันใดนั้นหลินหมิงพลันรู้สึกได้ถึงเรือนร่างอันเนียนนุ่มที่กาลังนอน
กดทับร่างของเขาอยู่เมื่อหลินหมิงก้มมองลงไป ร่างของสตรีที่นอนทับ
เขาอยู่กลับเป็นร่างของซือเฟยอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
" อะ...อืม...อา...ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้ว ? "
เสียงของซือเฟยเต็มไปด้วยความสะลึมสะลือนางใช้มือทั้งสองข้าง
ของนางค้าย้าไปที่หน้าอกของหลินหมิงพร้อมกับผลักตัวของนางขึ้น
ในตอนนี้หลินหมิงรู้สึกได้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดที่บริเวณท่อน
ล่างของเขา แท้จริงแล้วในตอนนี้ทวนมังกรของเขายังคงถูกเสียบไว้อยู่
กับร่องสวาทของนาง !
ซือเฟยพลันนาร่างกายของนางลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าในตอนนี้ร่าง
อันงดงามของหญิงสาวซัคคิวบัสปรากฎสู่สายตาของหลินหมิงอีกครั้ง
นางยืนขึ้นพร้อมกับบิดกายที่ปราศจากอาภรณ์ใดๆด้วยความเย้ายวน
ทันใดนั้นในจังหวะที่หลินหมิงกาลังลุกขึ้นพร้อมกับเข้ากอดแม่หญิง
สาวยั่วสวาทนางนี้ ร่างของนางพลันหันมาโดยทันทีพร้อมกับจ้องมอง
มาที่เขา
" เจ้ายังคงต้องการทามันอีก ? หากเจ้าต้องการเรียกร้องรางวัลแล้ว
ละก็ในระหว่างที่เจ้ากาลังหลับอยู่นั้นข้าได้มอบมันให้แก่เจ้าอย่าง
มากมาย หากแต่เพียงเจ้าตื่นขึ้นมาเร็วกว่านี้อีกสักนิดเจ้าคงได้สนุกกับ
เรือนร่างของข้าอย่างเต็มที่ไปแล้ว "
หลินหมิงเกิดอาการเศร้าสลดเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ซือเฟยก
ล่าวนั้นเป็นความจริงไม่ใช่น้อยนั้นก็เพราะคราบน้ารักจานวนมากที่
กลายเป็นเป็นแอ่งน้านองในขณะที่สามารถบ่งบอกได้ว่านางได้รีดเร้น
ระบายอารมณ์ของเขาไปอย่างมากมาย
" แล้วข้าหลับไปนานเพียงใด ? "
" 1 เดือน ! "
ร่างกายของหลินหมิงพลันแข็งค้างอันที่จริงแล้วหลินหมิงใช้เวลา
ของเขาส่วนใหญ่ในการทาความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์
และทักษะง้าวโบราณของเขาเอง แต่ถึงอย่างเขาไม่คาดคิดว่าเวลาจะ
ผ่านล่วงเลยไปจนกระทั่งถึงหนึ่งเดือน ! สาหรับซือเฟยที่มีอายุมาอย่าง
ยาวนานนั้นสาหรับหนึ่งเดือนของนางนั้นไม่อาจนับว่าเป็นช่วงเวลาที่
ยาวนานได้นักดังนั้นแล้วนางจึงไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้ ซึ่งมันแตกต่าง
กับหลินหมิงไปโดยสิ้นเชิง !
" แย่แล้ว ! "
ระยะเวลาที่ทางสานักกาหนดให้พวกเขาเข้ามาภายในมิติเล้นลับ
แห่งนี้นั้นมีเพียงเจ็ดวันเพียงเท่านั้นซึ่งนั้นไม่ใช่เป็นเพียงกฎที่มีไว้
สาหรับเพื่อความปลอดภัยสาหรับศิษย์เท่านั้น แต่มันยังเป็นเพราะว่า
ศิลานาทางนั้นหลังจากที่พวกมันได้รับการถ่ายทอดพลังลงไปแล้วพวก
มันสามารถใช้ได้เพียงเจ็ดวันเท่านั้นด้วยเช่นเดียวกัน
" ข้าต้องรีบกลับไปเดียวนี้ ! "
หลินหมิงเกิดอาการร้อนรนในทันทีในตอนนี้หลังจากที่เขาจาก
มาถึงหนึ่งเดือนเต็มนั้น นั้นหมายความว่าผู้คนอาจคิดว่าเขาตกตายไป
แล้วก็เป็นได้ยังดีที่ว่าภรรยาสาวสวยทั้งสองของเขาพวกนางได้รับโชค
วาสนาอันยิ่งใหญ่ไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงไม่อาจคาดคิดได้ว่าในตอนี้
พวกนางทั้งสองจะทุกข์ทรมานมากเพียงใด แต่ถึงอย่างนั้นมันใช่ว่าจะ
ไม่มีคนเป็นห่วงหรือทุกข์กลับการหายตัวไปของเขาในครั้งนี้
ซือเฟยนางไม่เข้าถึงท่าทีรีบร้อนของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นด้วย
ระดับพลังปราณของนางในตอนนี้นางสามารถเข้ามาในทีแห่งนี้ได้
อย่างง่ายดายและมันเช่นเดียวกันกับการออกไปเช่นเดียวกัน นางคว้า
ศิลานาทางในมือของหลินหมิงมาพร้อมกับถ่ายพลังปราณลงไปใหม่อีก
ครั้งแน่นอนว่าศิลานาทางนี้ล้วนไม่สามารถใช้งานได้แล้วแต่ถึงอย่างนั้น
สิ่งที่นางต้องการก็คือพิกัดตาแหน่งที่แน่นอนที่พวกนางต้องการจะออก
จากมิติแห่งนี้

ตอนที่ 191
ณ สานักวังจันทรา
ในตอนนี้หลังจากผ่านมาหนึ่งเดือนนับตั้งแต่การทดสอบสาหรับ
ศิษย์ใหม่ในส่วนที่สองจบลง เหล่าผู้อาวุโสส่วนใหญ่ของสานักต่างเต็ม
ไปด้วยความรู้สึกเสียดายและเศร้าสลดนั้นก็เพราะว่าพวกเขาได้สูญเสีย
อัจฉริยะที่ล้าค่าไปถึงสามคนด้วยกันนั้นคือหลินหมิงที่มีศักยภาพที่ไม่
สามารถประเมิณได้ ไม่เพียงเท่านั้นสตรีอีกสองนางอย่างหลิวฉวนยูร์
และจิวหลินนั้นพวกนางย่อมต้องถูกกล่าวขานเป็นวีรสตรีหญิงใน
อนาคตอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสามจะ
ไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้นอีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากที่การทดสอบในส่วนที่สองสิ้นสุดมันได้มี
ข่าวที่ไม่ดีเกิดขึ้นเกี่ยวกับตัวของหลินหมิงและสาวงามทั้งสอง มีข่าวลือ
ว่าแท้จริงแล้วพวกเขามีความโลภมากจนเกินไปพวกเขาออกอุบายให้
ศิษย์คนอื่นต้องพบกับชะตากรรมที่ยากลาบากและไม่ได้รับโชคลาภใน
พระราชวังโบราณ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสามคนนั้นกลับไม่สามารถมีชีวิต
รอดกลับมาได้เช่นเดียวกัน
ข่าวลือเช่นนี้ของหลินหมิงกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่า
คนที่ปล่อยข่าวลือนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากกงซุนหยาง ! ด้วย
ฐานะของบิดาของเขากงซุนเอี้ยนเขาสามารถทาให้เหล่าผู้อาวุโสใน
สานักต่างเชื่อเขาได้อย่างง่ายดาย ที่สาคัญไปกว่านั้นแม้ว่าหลินหมิงจะ
เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งแต่ในเมื่อเขาตกตายไปแล้วนั้นจึงไม่มีความ
จาเป็นใดๆให้พวกเขาต้องสนใจในตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้อีก
แน่นอนว่าในเรื่องนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ออกความเห็นคัดค้าน
คากล่าวของกงซุนหยางนั้นคือศิษย์พี่สาวสวยของหลินหมิง แม้ว่านาง
จะกล่าวออกไปตามความจริงทั้งหมดแต่ด้วยฐานะของนางแม้ว่านาง
จะเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงส่งกว่ากงซุนหยางผู้นี้แต่เบื้องหลังของ
นางนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ดังนั้นแล้วไม่เพียงแต่เหล่าผู้
อาวุโสจะไม่เชื่อคากล่าวของนาง นางยังคงถูกโทษห้ามไม่ให้ออกไป
ไหนและรอคาพิจรณาบทลงโทษจากเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย
ภายในห้องประชุมสานักวังจันทราในตอนนี้มีเหล่าผู้อาวุโสอยู่เป็น
จานวนมากนั้นเพราะว่าส่วนหนึ่งพวกเขาได้รับคาเชื้อเชิญมาจากรอง
เจ้าสานักกงซุนเอี้ยนบิดาของกงซุนหยางแน่นอนว่าด้วยฐานะของศิษย์
ใหม่อันดับหนึ่งของบุตรของเขามันเป็นที่ยืนยันตาแหน่งและอานาจ
ของเขาในอนาคตดังนั้นแล้วมันจะยังคงมีใครที่กล้าที่จะปฎิเสธคาเชิญ
ดั่งกล่าว ?
" หลัวฉิงเชี่ยนเจ้ามีความคิดร้ายแรงโทษฐานที่เจ้ากล่าวความเท็จ
ในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในมิติเล้นลับ ซึ่งมันเป็นกฎข้อห้ามของสานักของเรา
แม้ว่าเจ้าจะเป็นหนึ่งในศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากยิ่งแต่ถึงอย่างนั้น
เจ้าก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงบทลงโทษนี้ได้ ! "
คนที่กล่าวออกมานี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากกงซุนเอี้ยนในตอนนี้
ใบหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ตรงข้ามกับเขา
หลัวฉิงเชี่ยนนางมีสีหน้าที่หมดอาลัยตายอยากแม้ว่านางจะไม่อยากจะ
เชื่อว่าในตอนนี้ศิษย์น้องของนางได้ตายไปแล้วเพียงแต่ว่าภายในมิติ
เล้นลับนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีใครที่อยู่ภายในนั้นเกินเจ็ดวันแล้ว
สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้
" แม้ว่าเดิมทีโทษของเจ้าคือการทาลายการบ่มเพาะของเจ้าทั้งหมด
และขับไล่ออกจาสานักเพียงแต่ว่าด้วยการกระทาเช่นนั้นมันจะทาให้
อาณาจักรของเราได้สูญเสียผู้ที่มีพรสวรรค์ไปโดยไร้ค่า ดังนั้นแล้ว
ในตอนนี้โทษของเจ้าคือการรับหน้าที่เป็นนางสนมให้กับหยางเอ๋อร์ ! "
แม้ว่าคากล่าวของกงซุนเอี้ยนจะดูไร้ซึ่งเหตุผลไปบ้างเพียงแต่ว่าเขา
รู้ดีว่าในตอนนี้หลัวฉิงเชี่ยนมีพรสวรรค์ที่น่ากลัวมากเพียงใดหลังจากที่
นางกลับออกมาจากมิติเล้นลับนางได้รับโชคอันมหาสศาลอย่าง
มากมายด้วยความสามารถและพรสวรรค์ของนางนั้นมันสามารถเพิ่ม
ชื่อเสียงให้กับบุตรของเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย
" ข้าปฎิเสธ ! "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวตะโกณออกมาด้วยความเดือดด่านพร้อมกับจ้อง
มองไปที่ผู้อาวุโสโดยรอบในตอนนี้แม้แต่ผู้อาวุโสฟางซิ่นก็ยังคงถูกจับ
ตามองอย่างใกล้ชิดนางไม่แม้แต่กระทั่งมีศิษย์ร่วมในการประชุมครั้งนี้
สาหรับฐานอานาจของกงซุนเอี้ยนในตอนนีไม่เพียงแต่เขาจะมีบุตรที่
สามารถการันตีอานาจของเขาในอนาคตแต่ทางองค์ชายลาดับที่หนึ่ง
นั้นก็ยังให้การสนับสนุนเขาดังนั้นแล้วมันจะยังมีใครที่สามารถขัดขวาง
เขาได้อีกกัน ?
สาหรับองค์ชายลาดับที่หนึ่งนั้นเขาคงไม่ให้การสนับสนุนกับกงซุน
เอี้ยนเช่นนี้หากว่าหลินหมิงยังคงมีชีวิตอยู่ด้วยประสบการณ์ของเขามัน
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองนั้นมีความไม่ร่องรอยต่อกันหากให้เลือดระหว่าง
หลินหมิงและชายชราเฒ่าผู้หนึ่งแล้วเขาย่อมเลือดหลินหมิงที่สามารถ
สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอย่างไม่ต้องสงสัย
หลัวฉิงเชี่ยนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบน้าตาบรรดาผู้อาวุโส
โดยรอบไม่แม้แต่จะสนใจในเรื่องนี้อันที่จริงแล้วพวกเขาเพิ่งตระหนัก
ได้ว่าพวกเขาถูกเชิญมาเพื่อเป็นพยานในการรับรู้บทลงโทษอันแสน
แปลกประหลาดนี้เพียงเท่านั้น
" แย่แล้ว ! ท่านรองเจ้สานัก ! "
ทันใดนั้นก่อนที่โทษของหลัวฉิงเชี่ยนจะพลันได้ตัดสินอย่างเด็ดขาด
ได้มีร่างของชายชราเฒ่าวิ่งก้าวเข้ามาภายในห้องด้วยความเหน็ด
เหนื่อยสาหรับในตอนนี้กงซุนเอี้ยนเขากระทั่งอาจมีอานาจมากกว่าเจ้า
สานักไปแล้วเสียด้วยซ้าไปไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเมื่อเกิดเรื่องขึ้นผู้
อาวุโสผู้นี้ถึงมาแจ้งเรื่องกับเขา
" เกิดเรื่องอันใดขึ้น ? "
" ที่หน้าประตู...ตระกูลหลิน ตระกูลหลิว และสมาคมนักปรุงยา
ได้มารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูสานักเรา ! "
ใบหน้าของกงซุนเอี้ยนเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวอันที่จริงแล้วเขาไม่
คิดว่าขุมอานาจทั้งหลายเหล่านี้จะกล้าถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าเมืองฟานชู
นั้นแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในเมืองนับร้อยภายใต้อาณาจักรแห่งนี้แต่พวกเขา
มีความแข็งแกร่งที่มากกว่าเมืองอื่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะขุมอานาจ
หลักทั้งหลายเหล่านี้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบได้
กับเหล่าผู้อาวุโสระดับปราญช์จานวนมากของสานักแห่งนี้ !
ร่างของกงซุนหยางสะบัดกายพร้อมกับเหล่าผู้อาวุโสภายในห้อง
ประชุมเห็นได้ชัดว่าเรื่องในคราวนี้ใหญ่โตเพียงใด มันอาจกระทั่งส่งผล
กระทบใหญ่หลวงถึงอาณาจักรก็เป็นได้ !
" พวกเจ้ารวมคนมาที่นี้เพื่อสิ่งใดกัน ? "
เสียงของกงซุนเอี้ยนกล่าวออกไปด้วยความเย่อยิ่งแม้ว่ากองทัพ
ของขุมอานาจตรงหน้าของเขาจะน่าหวาดหวั่นจนสามารถเข่ยา
ขวัญเมืองโดยรอบได้สามหรือสี่เมืองโดยพร้อมกันแต่สานักแห่งนี้คือ
สถานที่แห่งใดกัน ? นี้คือสานักที่ได้รับการสนับสนุนจากหวังหลวง
การกระทาของพวกเขานั้นย่อมไม่ต่างไปจากการก่อกบฎ !
" ข้าไม่คาดคิดว่าในสานักแห่งนี้จะมีผู้อาวุโสที่เลวร้ายอยู่เต็มไป
หมด ก่อนหน้านี้พวกข้าได้รับข่าวจากหลัวฉิงเชี่ยนนางเป็นเพียงคน
เดียวที่อยู่ในสถานการณ์ในตอนที่หลินหมิงแยกจากไป แต่ถึงอย่างนั้น
พวกเจ้าที่เป็นผู้อาวุโสของสานักทั้งหมดกลับเชื้อเพียงคากล่าวอันโง่งม
ของบุคคลที่ไม่แม้แต่กระทัง่ มีความกล้าในการเข้ารับการทดสอบ
พระราชวังโบราณเพียงแม้แต่ครั้งเดียว ! "
คากล่าวของชายหนุ่มวัยสามสิบปีกลางๆกล่าวออกมาพร้อมกับร่าง
ของเขาที่เดินออกมาจากกลุ่มคน เหล่าผู้อาวุโสทุกคนถึงกับหน้าซีดไป
ในทันทีเมื่อเขาได้เห็นร่างของชายผู้นี้ ไม่เพียงเท่านั้นข้างกายของชายผู้
นี้ปรากฎร่างของหญิงสาวผู้งดงามที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันและยังมีชาย
อายุสี่สิบปีกว่าอีกคนอยู่ข้างกายเขา
" สวรรค์นั้นมันหลินฮ่าว !! "
แม้แต่กงซุนเอี้ยนยังต้องขมวดคิ้วชื่อเสียงและความแข็งแกร่งของ
หลินฮ่าวนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่วท้งอาณาจักรด้วยความแข็งแกร่งของ
เขาในวัยเพียงเท่านี้ตัวเขาได้รับการประเมิณอย่างยอดเยี่ยมจากแม่ทัพ
ใหญ่ทั้งสี่ด้วยตาแหน่งว่าที่แม่ทัพใหญ่คนต่อไป กงซุยเอี้ยนไม่คิดว่าเขา
จะต้องพบเจอกับหลินฮ่าวเช่นนี้อันที่จริงแล้วเขาได้ยินข่าวมาว่าหลิน
ฮ่าวนั้นเป็นเพียงคนที่ไม่สนใจในเรื่องของตระกูลแต่อย่างใดแล้ว
เช่นนั้นเขามาที่แห่งนี้ทาไมกัน
" โอ้ไม่เพียงเท่านั้น นั้นจูหนิงเอ๋อร์ประมุขสมาคมนักปรุงยา ! และ
ยังมีหลิวจงเทียน ! "
บุคคลทั้งสามนี้ทรงพลังอานาจจนเป็นที่รู้จักไปทั่วกันอย่างไม่ต้อง
สงสัยแน่นอนว่าโดยปกติแล้วตัวตนของพวกเขาทั้งสามนั้นไม่ค่อย
ปรากฎแก่ผู้คนมากนัก
" ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาทั้งสามนั้นเป็นผู้ที่มีระดับพลังระดับปราญช์
ขั้นกลางเป็นอย่างน้อยโดยเฉพาะหลินฮ่าวในตอนที่เขาอยู่ในขอบเขตป
ราญขั้นที่หนึ่งเขาสามารถเอาชนะศัตรูจากต่างอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่
มีระดับพลังอยู่ในขั้นที่สองระดับสูงสุดได้ ! "
" เงียบซะ ! "

กงซุนเอี้ยนตวาดอย่างกราดเกรี้ยวแม้ว่าบุคคลทั้งสามตรงหน้าของ
พวกเขาจะทรงพลังอย่างแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงมีช่องว่าง
ขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขาอยู่เดิมทีนั้นการทีหลินฮ่าว และจูหนิงเอ๋อร์
นั้นมีชื่อเสียงอย่างสูงส่งภายในอาณาจักรนั้น นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขา
ทั้งสองต่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงส่งแต่ถึงอย่างนั้นหากเทียบกับกงซุน
เอี้ยนและผู้อาวุโสบางคนที่มีอายุมาอย่างยืนนานอย่างเช่นพวกที่มีพลัง
ระดับปราชญ์ขั้นที่ 7 หรือกระทั่งตัวของกงซุนเอี้ยนที่มีพลัง
ระดับปราญช์ขั้นที่ 8 เช่นนั้นแล้วพวกเขาทั้งสามจะยังคงสามารถ
ต่อกรได้ ?
ตอนที่ 192
หากให้เวลาหลินฮ่าว และจูหนิงเอ๋อร์กับพวกเขาอีกสักสิบปีพวก
เขาอาจกลายเป็นตัวตนที่เหนือกว่ากระทั่งกงซุนเอี้ยนได้อย่างไม่ต้อง
สงสัย แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับในตอนนี้มันยังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
มาก
" มันเป็นคากล่าวของนางเพียงคนเดียวเพียงเท่านั้นเจ้าไม่สามารถ
ที่จะเชื่อฟังทั้งหมดนั้นได้ ไม่เพียงเท่านั้นข้าและเหล่าผู้อาวุโสจาก
สานักได้ตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว "
" ฮ่าๆ ตรวจสอบ ? เจ้าสามารถตรวจสอบได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน
มิติเล้นลับ ? เช่นนั้นแล้วสานักจะมีข้อตกลงให้เหล่าศิษย์บอกเรื่องราว
โชคลาภที่พวกเขาพบเจอไปเพื่อเหตุใดกันในเมื่อพวกเจ้าสามารถ
ตรวจสอบได้ ! "
หลินฮ่าวกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว
ดวงตาของเขาจับจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสสานักวังจันทราทุกคนด้วย
สายตาฆ่าฟันอย่างปิดไม่มิดอันที่จริงแล้วในเรื่องนี้แม้ว่าจะมีผู้อาวุโส
บางคนสามารถตระหนักได้ถึงความแปลกประหลาดแต่พวกเขาจะ
สามารถคัดขืนกงซุนเอี้ยนได้ ?
" การตัดสินใจได้ดาเนินไปแล้ว แม้กระทั่งผู้อาวุโสส่วนใหญ่ก็เห็น
ด้วยเช่นเดียวกันแม้จะเป็นเจ้าแต่การกระทาของเจ้าในวันนี้มันไม่ต่าง
อะไรไปจากกบฎดังนั้นแล้วข้าขอเตือนให้พวกเจ้าทั้งหมดถอยกลับไป
ซะ ! "
จูหนิงเอ๋อร์จ้องมองไปที่กงซุนเอี้ยนด้วยสายตาเย็นชาที่นางมาใน
วันนี้เพียงเพราะว่าเห็นได้ชัดว่าศิษย์ของนางนั้นไม่ได้รับความเป็นธรรม
แม้ในยามที่เขาจากไป ไม่เพียงเท่านั้นสิ่งที่นางรู้สึกคับแค้นใจมากที่สุด
ก็คือการที่ศิษย์ของนางนั้นถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม
" ในวันนี้หากศิษย์ของข้าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างหวังว่าข้าจะ
กลับไปโดยง่าย ! สมาคมนักปรุงยาทุกคนจงจาคากล่าวของข้าเอาไว้
แม้ว่าในวันนี้อาจจะเป็นวันที่พวกเจ้าจะต้องตกตายไปข้ายินดีหากพวก
เจ้าจะจากไปในตอนนี้ เพียงแต่ว่าขอให้พวกเจ้าจดจาใบหน้าของเหล่า
ผู้คนที่น่ารังเกียจเหล่านี้เอาไว้ เมื่อได้ที่พวกเจ้าพบเจอพวกมันเหล่านี้
หรือกระทั่งลูกหลานของมันคาขอของข้ามีเพียงอย่างเดียเท่านั้นคือ ฆ่า
มันซะ ! "
คากล่าวของจูหนิงเอ๋อร์ปลุกอารมณ์ของผู้อาวุโสทุกคนในสมาคม
นักปรุงยาให้เดือดพล่านสาหรับพวกเขาที่มีหลินหมิงเป็นความหวังของ
สมาคมไป ไม่เพียงแต่ในตอนนี้พวกเขาจะเสียหลินหมิงแต่ศิษย์ที่เป็น
ความหวังของพวกเขายังคงถูกใส่ร้ายเรื่องเช่นนี้มันไม่สามารถยอม
ได้อย่งแน่นอน
ผู้อาวุโสของสานักวังจันทราหน้าซีดหลังจากที่ได้ยินคากล่าวเช่นนี้ดู
เหมือนว่าเรื่องในวันนี้มันคงไม่จบลงที่การพูดกล่าวเพียงเท่านั้น เห็นได้
ชัดว่าหากกงซุนเอี้ยนคิดแม้ยอมถอยเพียงก้าวเดียวนั้นหมายความว่า
เขายอมรับว่าสิ่งที่บุตรของเขากล่าวนั้นเป็นความเท็จแม้ในความเป็น
จริงหากเกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคงเป็นฝ่ายพวก
เขาที่ได้รับชัยชนะแต่ถึงอย่างนั้นมันย่อมต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย
ไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกัน
บนกาแพงของสานักได้มีร่างของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกาลังเฝ้ามอง
สถานการณ์ ณ ปัจจุบันอย่างใกล้ชิด นั้นคือองค์ชายลาดับที่หนึ่งและ
ข้างกายของเขายังมีผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นกลางอยู่อีก
หลายคนเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาไม่สามารถเข้าไปยื่นมือยุ่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้นั้นไม่ใช่ว่าเพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการเพียงแต่ว่า....
" แม้แต่ท่านก็ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้.. ท่านคงเข้าใจใช่ไหม
แม้ว่าการกระทาของพวกเขาจะดูเหมือนกับการก่อกบฎแต่แท้จริงแล้ว
พวกเราสมควรรู้กันดีว่าใครกันที่เป็นฝ่ายผิดหรือถูกดังนั้นแล้วไม่ว่าจะ
ด้วยสถานการณ์ใดก็ตาม หลินฮ่าว และจูหนิงเอ๋อร์ทั้งสองคนนี้จะต้อง
มีชีวิตรอดพวกเขาจะสามารถกลายเป็นกาลังหลักให้กับอาณาจักรได้
ในอนาคต "
คนที่กล่าวกับองค์ชายลาดับที่หนึ่งนั้นไม่ใช่ใครอื่นเขาคือหนึ่งในสี่
แม่ทัพใหญ่แม่ทัพโจว ! ด้วยระดับพลังที่แตกต่างกันมากจนเกินไปของ
ชายผู้นี้แม้แต่องครักษ์โดยรอบกายของเขาทั้งหมดก็ไม่อาจเป็นได้
แม้กระทั่งคู่ซ้อมมือของชายตรงหน้าเลยเสียด้วยซ้าไปดังนั้นแล้วองค์
ชายลาดับที่หนึ่งได้แต่เพียงกัดฟันแน่น เขาเพียงปราถนาว่าทั้งหลิน
ฮ่าวและจูหนิงเอ๋อร์นั้นจะไม่ได้มีความเกลียดชังมาที่เขาเพียงเท่านั้น
" หือ ? "
ทันใดนั้นแม่ทัพโจวพลันรู้สึกได้ถึงพลังงานที่ปรากฎขึ้นภายใน
สานักเขาหันหลังขวับไปในทันที สาหรับเหล่าองค์ชายและเหล่า
องครักษ์นั้นพวกเขาไม่สามารถตระหนักได้เลยว่าในตอนนี้ได้มีการ
ปรากฎตัวของบุคคลที่ทาให้ฐานอานาจของเขาสั่นสะเทือนได้ !
ร่างของหลินหมิงปรากฎขึ้นที่บริเวณลานทดสอบส่วนที่สองของ
สานักในตอนนี้ทางสานักเต็มไปด้วยความวุ่นว่ายผู้อาวุโสระดับปราญช์
ส่วนใหญ่ถูกเรียกรวมไปที่หน้าประตูสานักเป็นที่เรียบร้อย สาหรับซือ
เฟยในตอนนี้นางได้อาพรางกายอยู่ข้างกายของหลินหมิงหากไม่ใช่
ตัวตนระดับสูงนั้นก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะสามารถสัมผัสถึงตัวตน
ของนางได้
หลินหมิงไม่ทันได้สังเกตถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายโดยรอบเขารีบ
ออกวิ่งในทันทีที่ร่างของเขาปรากฎขึ้นความเร็วของหลินหมิงในตอนนี้
เพิ่มขึ้นมากว่าแต่ก่อนอย่างเทียบไม่ติด หลินหมิงจับสัมผัสไปที่ศิษย์
พี่สาวสวยของเขาพร้อมกับมุ่งหน้าตรงไปโดยไม่มีความลังเลสาหรับ
ศิษย์โดยทั่วไปในตอนนี้พวกเขาทาได้เพียงหลบซ่อนตัวอยู่ในที่พักของ
พวกเขาเพียงเท่านั้น
' นางอยู่ที่นี้ ? '
หลินหมิงวิ่งก้าวด้วยความเร็วจนมาอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าห้อง
ประชุมที่หน้าประตูปรากฎร่างของผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นที่
แปดอยู่สองคน สาหรับผู้อาวุโสที่มีความแข็งแกร่งตั้งแต่จุดสูงสุดขั้น
จอมยุทธ์ขึ้นไปนั้นพวกเขาถูกเรียกรวมไปโดยกงซุนเอี้ยนเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงมีบางส่วนที่ปฎิเสธอยู่บ้าง
เล็กน้อยนั้นอาจเป็นเพราะว่าพวกเขามีความเชื่อใจในตัวเจ้าสานัก
มากกว่าแต่ถึงอย่างนั้นด้วยจานวนผู้อาวุโสที่มีพลังระดับปราญช์
ทั้งหมดที่หน้าประตูสานักในตอนนี้อาจมีกระทั่งถึงห้าสิบคน !
" เจ้าเป็นศิษย์เช่นนั้นรึ ที่แห่งนี้เจ้าไม่สามรถเข้าไปได้มันไม่ใช่ที่
สาหรับศิษย์ถอยออกไปซะ "
ผู้อาวุโสทั้งสองกล่าวโดยไม่ให้ความสนใจกับหลินหมิงมากนักเห็น
ได้ชัดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าของพวกเขาน่าจะเป็นศิษย์ใหม่ที่พวกเขาไม่
คุ้นหน้าเพียงเท่านั้น ทันใดนั้นหลินหมิงพลันได้ยินเสียงร้องไห้ของ
บุคคลที่อยู่ภายในเขาสัมผัสได้ว่าภายในห้องประชุมแห่งนี้สมควรมีอยู่
เพียงคนเดียวเท่านั้นเช่นนั้นแล้วศิษย์พี่ของเขากาลังร้องไห้ ?
" ข้าบอกว่าเจ้าไม่สามารถเข้าไปได้ถอยไปซะไม่เช่นนัน้ เจ้าจะโดน
โทษร้ายแรง เจ้าไม่รู้หรือว่าใครกันที่อยู่ภายในห้องแห่งนี้นางคือว่าที่
หญิงสาวของคุณชายกงซุนเชี่ยวนะ หากเจ้าไม่อยากมีปัญหาก็รี........
อ๊ากกกกกกกกก ! "
ก่อนที่ผู้อาวุโสจะพลันได้กล่าวจบหลินหมิงพลันอารมณ์เดือดพล่าน
! ว่าที่หญิงสาวของกงซุนหยาง ? มันเป็นคากล่าวภายลมอันใดกัน !
ร่างของผู้อาวุโสที่กล่าวออกมาโดนหมัดของหลินหมิงอัดเข้าไปอย่าง
รวดเร็วที่ลาตัวของเขา พลังปราณภายในของเขาแตกซ่านพร้อมกับ
พลังปราณที่รั่วไหลออกมาเป็นจานวนมาก
ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งตื่นตะลึงเขาไม่แม้กระทั่งสามารถมองเห็นการ
เคลื่อนไหวเมื่อสักครู่ได้เลยเสียด้วยซ้าไป เขาหันมองย้อนกลับไปที่
บริเวณมือของหลินหมิงในตอนนี้ปรากฎคราบเลือดสีแดงสดอยู่
' เจ้าเด็กเป็นคนทามัน ? '
" เจ้าห้ามไปไหน ข้ามีเรื่องที่จะต้องถามเจ้าหากเจ้าคิดจะก้าว
ออกไปแม้แต่ก้าวเดียวเจ้าจะกลายเป็นคนพิการเหมือนกับเขา ! "
ผู้อาวุโสพยักหน้าไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัว
ของหลินหมิงนั้นแทบจะทาให้เขาฉี่ราด ไม่เพียงเท่านั้นเขาไม่เข้าใจเลย
ว่าเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวกลับสามารถทาให้ผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์ขั้นที่ 8 พิการได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว !
ร่างของหลินหมิงเดินก้าวเข้ามาพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างของสตรี
ผู้งดงามที่กาลังนั่งขาพับพร้อมกับหยาดน้าตาที่กาลังไหลรอยริน หัวใจ
ของหลินหมิงรู้สึกเจ็บแปลบ ร่างกายของหลินหมิงเคลื่อนที่อย่าง
รวดเร็วพร้อมกับเข้ากอดแนบชิดกับร่างของหลัวฉิงเชี่ยน
ในตอนแรกหลัวฉิงเชี่ยนนางเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงหลังจากที่
นางสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้นางแต่ทันใดที่นางหันหน้ากลับไปมอง
ยังใบหน้าของชายหนุ่มที่พุ่งเข้ามาความรู้สึกทั้งหลายราวกับถูกระเบิด
ออกภายในช่วงเสียววินาทีเดียว
ร่างของนางเป็นฝ่ายกระโดดกอดหลินหมิงพร้อมกับทิ้งน้าหนักลง
ทับร่างจนหลินหมิงเสียหลักนอนล้มไป ใบหน้าของนางเข้าซุกที่แผงอก
ของหลินหมิงโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะเงยหน้าขึ้นมาแต่อย่างใด
" เป็น..เป็นเจ้า...เป็นเจ้าจริงๆด้วย....ฮึก....ฮือๆ..ความอบอุ่นนี้...ข้า
จามันได้..นี้ไม่ใช่ความฝันใช่หรือไม่ ? "
หลัวฉิงเชี่ยนนางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองนางไม่สามารถทน
ยอมรับความเจ็บปวดหากกลับกลายเป็นว่าสิ่งที่นางคิดนั้นไม่ใช่ มือ
ของหลินหมิงเข้าโอบกอดเพื่อปลอบประโลมนาง
" ศิษย์พี่เป็นข้าเอง.... "
เมื่อได้ยินเสียงของหลินหมิงหลัวฉิงเชี่ยนนางเงยหน้ามองหลินหมิง
ในทันทีหยาดน้าตาใสๆไหลลงอาบแก้มของนางอย่างไม่มีทางหยุดได้
โดยง่ายนางเข้าสวมกอดหลินหมิงอย่างรัดแน่นมากยิ่งขึ้น
" จะ..เจ้า..หาย..ไปไหนมา..รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วง..เจ้ามากแค่ไหน... "
เสียงกล่าวของหลัวฉิงเชี่ยนเต็มไปด้วยความสั่นเครือหลินหมิงไม่
สามารถหาคาพูดใดออกมาเพื่อกล่าวได้ในตอนนี้ร่างกายของเขาทาได้
แต่เพียงมอบความอบอุ่นและความสุขสบายใจให้แก่ศิษย์พี่สาวสวย
ของเขาเพื่อทดแทนความเจ็บปวดที่นางได้รับมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่าน
มา

ตอนที่ 193
หลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้ว่าในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ศิษย์พี่ของเขา
ต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้างแต่เมื่อมองดูจากภายนอกเขาสามารถ
สังเกตเห็นได้อย่างชัดว่านางนั้นร่างกายซูบผอมลงไปอย่ีางเห็นได้ชัด
เดิมทีแม้ว่านางจะเป็นคนที่พรสวรรค์สูงส่งแต่นางไม่ได้มีพื้นหลัง
อานาจที่ยิ่งใหญ่นั้นจึงทาให้คากล่าวทั้งหมดของนางล้วนไม่ถูกเชื่อถือ
แต่อย่างใด
" ข้าบอกให้เจ้ากลับมาเร็วๆ แล้วทาไมเจ้าถึงหายไปนานถึงเพียงนี้
รู้ไหมว่าข้ารู้สึกอย่างไรในตอนที่เจ้าไม่อยู่กัน.... "
หลัวฉิงเชี่ยนนางร่าไห้ออกมาอย่างต่อเหนื่องในตอนนี้นางสามารถ
ระบายอารมณ์ทุกอย่างของนางได้อย่างหมดสิ้นอันที่จริงแล้วหาก
หลินหมิงไม่ปรากฎตัวขึ้นในวันนี้นางมีความคิดว่านางจะตัดสินใจปลิด
ชีพของตนเองไปเลยเสียด้วยซ้าไป
หลินหมิงก้าวเดินออกมาจากห้องประชุมหลังจากที่เขาใช้เวลา
อย่างยาวนานในการปลอบประโลมศิษย์พี่แสนสวยของเขาในตอนนี้
นางหลับหมดสติไปด้วยความอ่อนล้าไม่เพียงแต่สภาพร่างกายของนาง
เท่านั้นที่อยู่ในสภาพย่าแย่แต่สภาพจิตใจของนางนั้นเรียกได้ว่าเลวร้าย
ยิ่งกว่ามาก
" กล่าวมาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ "
หลินหมิงจ้องมองไปยังผู้อาวุโสที่เฝ้าอยู่ที่ประตูทางเข้าก่อนหน้านี้
เขามีความคิดที่จะหลบหนีไปและแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับผู้อาวุโส
คนอื่นแต่ทันทีที่เท้าของเขาขยับความรู้สึกเย็นเยือกพลันเกิดขึ้นภายใน
จิตใจของเขามันราวกับว่ามียมทูตปรากฎตัวที่ด้านหลังของเขาดังนั้น
แล้วมันจึงเป็นเหตุให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับกาย
" ที่แท้ก็เป็นมัน ? แล้วเสียงด้านนอกนั้นคือสิ่งใดกัน "
สีหน้าของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความอึดอัดใจในตอนนี้เขาสามารถ
คาดเดาตัวตนของหลินหมิงได้แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยระยะห่าง
ระหว่างบานประตูที่ปิดไม่สนิทนั้นเขาสามารถได้ยินบทสนทนาของ
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนทั้งหมดอย่างเห็นได้ชัด มันจะมีใครอีกที่นาง
เรียกว่าศิษย์น้อง ? จะมีใครอีกที่หายตัวไปและปล่อยให้หญิงสาวผู้นี้รอ
? มันยังจะมีใครอีกที่มีความแข็งแกร่งดั่งเช่นสัตว์ประหลาดด้วยอายุ
เพียงเท่านี้ !
ที่หน้าประตูสานักในตอนนี้สถานการณ์เต็มไปด้วยความตรึงเครียด
มากกว่าเก่าอย่างเห็นได้ชัดบรรดาเหล่าขุมอานาจจากเมืองฟานชูพวก
เขาต่างหยิบยกอาวุธของพวกเขาขึ้นเพื่อพร้อมรบตลอดเวลา แม้ว่า
ด้วยจานวนของผู้เชี่ยวชาญและระดับความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นจะ
เป็นทางฝ่ายสานักที่ได้เปรียบแต่ในตอนนี้บรรดาผู้อาวุโสเหล่านั้นล้วน
แต่ไม่มีความเต็มใจที่จะร่วมสงครามที่ไม่เกิดประโยชน์อันใดเช่นนี้ซึ่ง
มันต่างจากฝ่ายตรงข้ามที่มีความปราถนาฆ่าฟันอย่างเห็นได้ชัด
ทางฝั่งของขุมอานาจทั้งสามนั้นพวกเขามีจานวนผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์เพียงไม่ถึงสิบคนเพียงเท่านั้นแต่กับสานักวังจันทราแล้ว
พวกเขากระทั่งมีจานวนผู้ที่มีพลังระดับปราญช์มากถึงห้าสิบคนนี้เป็น
ตัวเลขที่สามารถบ่งชี้ได้ชัดถึงความแตกต่างในเรื่องกาลังรบ !
" การกระทาของพวกเจ้ามันจะไม่ส่งผลดีต่อพวกเจ้าแต่อย่างใด
มันจะดีกว่านี้หากพวกเจ้ายอมถอยกลับไป ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าคิด
ว่าด้วยกองกาลังของพวกเจ้าจะสามารถเอาชนะผู้อาวุโสทั้งหลาย
เหล่านี้ได้ ? "
แม้แต่กงซุนเอี้ยนเขาก็ยังคงอยู่ในสภาวะตรึงเครียดด้วยเรื่องราวที่
เกิดขึ้นในตอนนี้มันเพียงพอที่จะทาให้ตัวตนระดับสูงทั้งหลายของ
อาณาจักรนั้นเคลื่อนไหว เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วมันมีโอกาสเป็นอย่างมาก
ที่พวกเขาจะต้องสืบสวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อนั้นมันจะ
กลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ยิ่งสาหรับตัวของเขาอย่างแน่นอน
" แย่แล้ว ! ท่านรองเจ้าสานัก แย่แล้วขอรับ !! "
เสียงของผู้อาวุโสคนหนึ่งดั่งขึ้นอย่างรีบร้อนกงซุนเอี้ยนที่ตอนนี้เต็ม
ไปด้วยความตรึงเครียดแทบอยากจะระเบิดของผู้อาวุโสคนนั้นทิ้ง
ในตอนนี้มันจะยังมีสถานการณ์ใดแย่กว่าตรงหน้าของเขาในตอนนี้อีก
อย่างนั้น ?
" ไสหัวไปซะ เจ้าไม่มีตาหรืออย่างไรว่าในตอนนี้สานักกาลังเผชิญ
ปัญหาใดอยู่ "
" ไม่ได้ขอรับ ! ตอนนี้ที่ตานักของตาหนักของท่านโดนจู่โจมขอรับ !
"
ทันทีทีเสียงของผู้อาวุโสดังกล่าวสิ้นสุดลงใบหน้าของทุกคนเต็มไป
ด้วยความตื่นตะลึงแม้แต่จหู นิงเอ๋อร์ หลินฮ่าว และหลิวจงเทียนพวก
เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเหล่าผู้
อาวุโสทั้งหลายของสานัก ต้องเข้าใจว่าในตอนนี้ภายในสานักวังจันทรา
แห่งนี้ตาแหน่งและอานาจของกงซุนเอี้ยนมีอย่างมากมายจนสามารถ
เทียบเท่าได้กับเจ้าสานักไปแล้วด้วยการสนับสนุนขององค์ชายลาดับที่
หนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีคนทีีมี่ ความโง่เพียงพอที่จะบุกตาหนักของ
กงซุนเอี้ยนอีกอย่างนั้น ? ไม่เพียงเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น
เกิดขึ้นภายในสานักนั้นหมายความว่าเป็นฝีีอของคนภายในส
มื านัก
อย่างไม่ต้องสงสัย
' นี้มันเกิดเรื่องบ้าอันใดขึ้นกัน ! '
กงซุนเอี้ยนเต็มไปด้วยความตรึงเครียดมากกว่าเก่าเขาหันไปมองยัง
ผู้อาวุโสผู้มาใหม่
" มันเป็นใครที่บุกตานักของข้า แล้วผู้อาวุโสที่เหลือแล้วเล่า ? "
" ในตอนนี้มีผู้อาวุโสจานวนมากกาลังรับมือกับเขาอยู่แต่ดู
เหมือนว่าสถานการณ์จะไม่สู้ดีนักข้าไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
เขาเป็นใครการเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมากเขาสามารถสังหารผู้ที่มี
พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดได้ด้วยเพียงการโจมตีครั้งเดียว ! "
" ผู้ทมี่ ีพลังระดับปราญช์ ? ข้าคงต้องขอกาลังพวกท่านสักสองสาม
คนเพื่อไปกาจัดศัตรูในที่ตานักของข้า แน่นอนว่าข้ายินดีที่จะมอบของ
ตอบแทนให้พวกท่านอย่างสูง "
กงซุนเอี้ยนกล่าวพร้อมกับมองไปที่เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายเห็นได้ชัด
ว่ามีหลายคนที่มีความปราถนาที่จะไปจากที่แห่งนี้โดยเฉพาะผู้ที่มีพลัง
ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุด แต่ถึงอย่างนั้นฝั่งศัตรูมีระดับพลังถึง
ระดับปราญช์ดังนั้นแล้วพวกเขาย่อมไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้นอย่าง
แน่นอน มันจะยังคงมีใครที่จะอยากอยู่ในสถานที่แห่งนี้ศัตรูของพวก
ผมเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟัน
แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังระดับสูงกว่าฝ่ายตรงข้ามแต่เห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่าศัตรูนั้นมีความยินยอมแม้ว่าพวกเขาจะตกตายไปแต่ถึงอย่าง
นั้นเมื่อดูจากสายตาของพวกเขาแล้วพวกเขาจะไม่ยอมตกตายลงไป
ง่ายๆอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นที่ด้านหลังของกลุ่มผู้อาวุโสจากสานักปรากฎร่างของเด็ก
หนุ่มที่มีกลิ่นอายฆ่าฟันจนพวกเขารู้สึกสั่นผวาผู้อาวุโสจานวนมากหัน
ไปมองที่ด้านหลังของพวกเขาในทันที ร่างที่ปรากฎตรงหน้าของพวก
เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มทียังดูเยาว์อยู่มากแต่ถึงอย่างนั้นสภาพของเขา
ในตอนนี้น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
หลินหมิงก้าวเดินออกมาอย่างเชื่องช้าทุกก้าวเดินของเขาสามารถ
ทาให้หัวใจของผู้คนเต้นระรัวไปด้วยความตื่นตระหนก เลือดที่ไหลอาบ
ย้อมร่างกายของเขาเป็นจานวนมากแน่นอนว่าทั้งหมดนั้นไม่มีเลือด
ของเขาเลยแม้แต่น้อยมันมีแต่เพียงเลือดของฝ่างตรงข้ามเพียงเท่านั้น
ง้าวทมิฬในมือของหลินหมิงส่องประกายฆ่าฟันราวกับมันรับรู้ความ
ต้องการของหลินหมิงทุกอย่าง
" ทะ..ท่านพ่อช่วย..ข้าด้วย.. "
มือข้างหนึ่งของหลินหมิงลากร่างของมนุษย์ที่อาบไปด้วยเลือดและ
บาดแผลอันน่ากลัวเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้จะไม่ใช่ใครอื่นนอกเสีย
จากกงซุนหยาง ! ผู้อาวุโสหลายคนดวงตาของพวกเขาแทบจะทะลัก
ออกมาด้วยความตื่นตระหนกเมื่อพวกเขามองย้อนกลับไปพวกเขา
สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านหลังของเด็กหนุ่มผู้นี้ราวกับว่ามันถูก
แต่งแต้มไปด้วยสีแดงสดอาบไปทั่วทั้งบริเวณ
" ในวันนี้ข้าหลินหมิงจะขอทวงความยุติธรรมของข้าคืน หากใคร
กล้าคิดขว้างข้าไม่เพียงแต่มันจะต้องตาย ข้าจะไม่ละเว้นแม้แต่ตระกูล
ของพวกมันทั้งหมด !! "
คากล่าวของหลินหมิงดังก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณร่างของเหล่าผู้
อาวุโสรู้สึกด้านชาไปทั่วร่างมันราวกับว่าในตอนนี้พวกเขากาลังแบกรับ
ภูเขาเอาไว้ทั้งลูก
" ขะ..เขาคือหลินหมิง ? "
" สวรรค์ระดับพลังของเขา ! จอมยุทธ์ขั้นสูงสุด ! "
บนกาแพงสานักแม้แต่แม่ทัพโจวเขายังคงเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
แม้แต่เขาก็ยังอดที่ทึ่งกับความสาเร็จอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ของหลินหมิง
ไปไม่ได้
ตอนที่ 194
ทุกสายตาในตอนนี้ต่างจับจ้อมงที่ร่างของเด็กหนุ่มที่มาใหม่ด้วย
สายตาตื่นตะลึงที่ด้านข้างของเขาปรากฎร่างของกงซุนหยางบุตรชาย
ของกงซุนเอี้ยนรองเจ้าสานักแห่งนี้ที่อยู่ในสภาพอนาทอย่างแท้จริง
เมื่อพวกเขาได้เห็นบาดแผลเช่นนี้มันเป็นที่แน่นอนเลยว่าศักยภาพ
ทั้งหมดของคุณชายกงซุนผู้นี้จะต้องกลายเป็นไร้ค่าเขาอาจกลายเป็น
ตัวตนระดับธรรมดาทีเทียบเท่ากับสามัญชนทั่วไปเลยเสียด้วยซ้าไป
" ปล่อยเขาเดียวนี้ ! "
เสียงของกงซุนเอี้ยนตลาดดังขึ้นพร้อมกับพลังปราณของเขาที่ถูก
ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งหากไม่ติดที่ว่าในตอนนี้หลินหมิงเป็นฝ่ายกุม
ชีวิตบุตรของเขาเอาไว้อยู่แล้วละก็เขาคงลงมือปลิดชีพหลินหมิงไปโดย
ทันทีไปแล้ว
" หลินหมิงเจ้ายังปลอดภัยอยู่อย่างนั้นใช่ไหม ? "
เสียงอันสดใสของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงดังขึ้นโดยไม่รอช้า
แต่อย่างใดร่างของหลินหมิงออกก้าวเดินด้วยความมั่นคงโดยไม่มีความ
เกรงกลัวต่อบรรดาตัวตนระดับสูงที่อยู่ต่อหน้าเขาทั้งหมดในตอนนี้ กง
ซุนเอี้ยนกัดฟันแน่นร่างของหลินหมิงที่เดินผ่านร่างของกงซุนเอี้ยนไป
นั้นมันทาให้เขาราวกับอายุสั้นลงนับสิบปีแต่ถึงอย่างนั้นแม้ว่าเขาจะมี
ระดับพลังปราณที่มากกว่าหลินหมิงแต่เขาไม่สามารถลงมือกับหลินห
มิงได้ไม่เช่นนั้นแล้วบุตรของเขาจะต้องตกตายอย่างแน่นอน
ไม่เพียงเท่านั้นด้านหลังของหลินหมิงยังมีร่างของหญิงสาวอีกสาม
คนที่ปรากฎตัวขึ้นและเดินตามเขามาด้วยเช่นเดียวกันพวกนางทั้งสาม
ก็คือนักสาว ฟ่งซือเซียนและหลัวฉิงเชี่ยนแน่นอนว่าสาหรับหลัวฉิง
เชี่ยนแล้วีนันนางในตอนนี้ยังคงอยู่ในสภาพไร้ซึ่งสติใดๆทาให้ร่างของ
นางนั้นถูกโอบอุ้มร่างของนักฆ่าสาว
เมื่อกลุ่มของหลินหมิงสามารถเดินฝ่าดงของผู้อาวุโสทั้งหลายของ
สานักวังจันทรามาได้เขาเหวี่ยงร่างของกงซุนหยางไปยังเบื้องหน้าของ
กงซุนเอี้ยนราวกับเหวี่ยงสุนัขตัวหนึ่งเพียงเท่านั้น โดยไม่รอช้าแต่อย่าง
ใดกงซุนเอี้ยนพลันรีบเข้ามาดูอาการของบุตรชายของเขาด้วยความ
ร้อนรน

" แล้วยูร์เอ๋อร์ล่ะ นางเป็นอย่างไรบ้างนางยังปลอดภัยอยู่ใช่หรือไม่


"
ร่างของหลิวจงเทียนพร้อมกับหย่าเฟยบิดาและมารดาของหลิวฉ
วนยูร์พลันกล่าวถามหลินหมิงอย่างร้อนรนแม้ว่าเดิมทีแล้วด้วยการที่
พวกเขาเห็นหลินหมิงปรากฎตัวเพียงลาพังนั้นอาจหมายความว่า
บุตรสาวของพวกเขานั้นอาจตกตายไปแล้วก็เป็นได้แต่ถึงอย่างนั้นพวก
เขาก็ยังคงปราถนาในความหวังอันเล็กน้อย
" นางได้รับโชคจากผู้อาวุโสภายในมิติเล้นลับ เช่นเดียวกับจิวหลิน
จึงทาให้พวกนางต้องเรียนรู้ทักษะจากผู้อาวุโสท่านนั้นซึ่งมันอาจใช้
เวลาหนึ่งปีเป็นอย่างน้อย "
" เป็นเช่นนั้น ? "
หย่าเฟยแทบจะทิ้งร่างลงทรุดด้วยความโล่งอกเช่นเดียวกันกับหลิว
จงเทียน
" เจ้ากล้าดียังไงก็ทากับบุตรของข้าเยี่ยงนี้ !! "
กงซุนเอี้ยนตวาดลั่นพร้อมกับเตรียมกระโจนเข้าปลิดชีวิตของ
หลินหมิง เขาตรวจสอบดูสภาพร่างกายของบุตรชายของเขาเป็นที่
เรียบร้อยแล้วลมปราณภายในร่างแตกซ่านอย่างยากที่จะสามารถทา
การรักษาได้ไม่เพียงเท่านั้นอวัยวะภายในหลายส่วนของเขาถูกทาลาย
จนทาให้เขาอยู่ในสภาพที่จะต้องพิการอย่างแน่นอนแม้ว่าเขาจะ
สามารถรักษาบาดแผลเหล่านี้ได้ก็ตามที่
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของหลินหมิงเขาไม่ต้องการ
สังหารกงซุนหยางตั้งแต่เริ่มต้น เขาต้องการทรมานมันเพื่อที่ว่า
ผลกระทบเหล่านี้จะตกไปสู่บิดาของมันด้วยเช่นเดียวกัน
" หากเจ้าคิดจะลงมือแล้วละก็แน่นอนว่าพวกข้ายินดีที่จะสู้
ในตอนนี้เช่นเดียวกัน ! "
ร่างของหลินฮ่าว หลิวจงเทียน จูหนิงเอ๋อร์ทั้งสามตัวตนผู้ยิ่งใหญ่
แห่งเมืองฟานชูออกมายืนบดบังเบื้องหน้าของหลินหมิงเอาไว้ ร่างของ
กงซุนเอี้ยนชะงักค้างแม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจว่าเขามีความสามารถ
เหนือกว่าหลินฮ่าวที่แข็งแกร่งที่สุดในสามคนนี้แต่เขาไม่สามารถรับมือ
กับทั้งสามได้อย่างพร้อมกันอย่างแน่นอน
" คุณชายหลิน คะ..คุณหนูของพวกเรายังปลอดภัยอยู่อย่างนั้นใช่
ไหมขอรับ.. "
ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางมานี้หลินหมิงพลันพบเห็นใบหน้าที่คุ้น
หน้าตาเขาอยู่หลายคนหนึ่งในนั้นคือกองกาลังผู้อาวุโสจากตระกูลห
ยาง
" ตราบใดที่ข้ามีชีวิตอยู่การตายของนางนั้นแม้แต่เทพเซียนก็ไม่
อาจเอาไปได้ ! "
ด้วยคากล่าวของหลินหมิงร่างกายของผู้อาวุโสจากตระกูลหยาง
หลายสั่นสะท้านไปด้วยความสุขแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าในตอนนี้
คุณหนูของพวกเขากาลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ใดอยู่แต่ด้วยการ
ยืนยันของหลินหมิงเมื่อครู่นี้มันสามารถปัดเป่าความกังวลทั้งหมด
ภายในจิตใจของพวกเขาได้ในทันที
" ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่าพวกมันให้หมด ไม่ต้องรออะไรอีกต่อไปแล้วด้วย
การกระทาของพวกมันทั้งหมดในตอนนี้รวทั้งความเสียหายที่เกิด
ขึ้นกับสานักในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพวกมันทุกคนคือกบฎ ดังนั้นแล้ว
พวกเจ้าทั้งหมดสามารถสังหารมันได้โดยไม่ต้องเกรงกลัว หากใคร
สามารถทาผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมข้ายินดีจะให้การสนับสนุนตระกูล
ของพวกเจ้าทุกอย่าง !! "
ด้วยคากล่าวของกงซุนเอี้ยนมันทาให้ร่างกายของผู้อาวุโสหลายคน
เต็มไปด้วยความลังเล เมื่อพวกเขาได้เห็นการกลับมาของหลินหมิง
พร้อมกับพลังอานาจที่มากเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถทาความเข้าใจ
ได้เห็นได้ชัดว่าหากหลินหมิงยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปคนที่จะได้รับ
ผลกระทบมากที่สุดจะต้องเป็นรองเจ้าสานักของพวกเขา และแน่นอน
ว่ามันอาจรวมไปถึงพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน !
ผู้อาวุโสบางคนเริ่มทาการเคลื่อนไหวในทันทีพวกเขาไม่สามารถรอ
ช้าไปมากกว่านี้ได้อีกต่อไปไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจมีการปรากฎตัวของ
ตัวตนระดับสูงของอาณาจักรขึ้น ในขณะที่บางส่วนเลือกที่จะสงวน
ท่าทีของพวกเขาเอาไว้
" พวกท่านทั้งสองเชิญไปรับมือกับผู้อาวุโสคนอื่นได้เลย ข้ามั่นใจว่า
ข้าสามารถรับมือกับเจ้าแก่นี้ได้เพียงลาพัง ! "
เสียงของหลินฮ่าวเต็มไปด้วยความมั่นใจไม่มีใครรู้ว่าในตอนนี้ความ
แข็งแกร่งของเขาได้ก้าวมาถึงจุดใดแล้วแต่ที่สาคัญก็คอื เขามีพรสวรรค์
และศักยภาพที่สามารถท้าทายตัวตนที่มีระดับสูงกว่าเขาได้นั้นคือ
ความสามารถที่เขาเคยทิ้งไว้ในอดีต
จูหนิงเอ๋อร์และหลิวจงเทียนพยักหน้ารับในทันทีพวกเขาต่างรู้
สถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างดีแม้ว่าในตอนนี้จะมีผู้อาวุโส
ระดับปราญช์ที่เข้าร่วมการต่อสู้อยู่ราวครึ่งหนึ่งแต่อีกครึ่งหนึ่งยังคง
เลือกที่จะสงวนท่าทีและรอดูสถานการณ์ต่อไปแต่มันยังไม่ใช่เรื่องง่าย
ที่กองกาลังของพวกเขาจะสามารถรับมือได้อย่างไม่ต้องสงสัย
" ส่วนเจ้าถอยกลับไป... "
หลินฮ่าวกล่าวไปยังหลินหมิงที่อยู่เบื้องหลังของเขาโดยไม่แม้แต่จะ
หันมามองหลินหมิงไม่เข้าใจเช่นเดียวกันว่าเหตุใดตระกูลหลินถึงได้นา
ผู้อาวุโสจานวนมาพวกเขาแตกต่างจากตระกูลหลิว ตระกูลหยาง และ
สมาคมนักปรุงยาที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาซึ่งมันแตกต่างจาก
ตระกูลหลิน หลินหมิงมีเพียงแต่เรื่องบาดหมางกับพวกเขาเพียงเท่านั้น
!
ฆ่ามัน !
สัญญาฆ่าฟันปรากฎขึ้นที่กองกาลังทั้งสองฝ่ายร่างของผู้อาวุโส
ทั้งหลายเคลื่อนที่ด้วยพลังปราณของเขาเต็มสิบส่วนโดยไม่มียั้ง การ
ผิดพลาดในสงครามรบเพียงเล็กน้อยนั้นมันสามารถทาให้ชีวิตของพวก
เขาจบลงได้ในทันที หลินฮ่าวในตอนนี้ได้ทะยานร่างของเขาไปหยุดอยู่
ตรงหน้าของกงซุนเอี้ยนร่างกายของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายความ
แข็งแกร่งออกมาจนทาให้กงซุนเอี้ยนขมวดคิ้ว
มันดูเหมือนว่าเขาจะประเมิณความแข็งแกร่งของหลินฮ่าวต่า
เกินไปไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดแล้วเขาถึงได้เป็นที่จับตามองของแม่
ทัพใหญ่ทั้งสี่ของอาณาจักร
" นายท่านได้โปรดพานายหญิงหลบไปก่อนข้าจะเข้าร่วมศึกนี้
เช่นกัน ! "
นักฆ่าสาวพร้อมกับฟ่งซือเซียนดวงตาทั้งสองข้างของพวกนาง
ปรากฎแววตาที่เต็มไปด้วยความปราถนาในการฆ่าฟันออกมาอย่าง
เห็นได้ชัด มันเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มที่พวกนางต้องคิดว่าหลินหมิงได้
จากไปแล้วไม่เพียงเท่านั้นการเคลื่อนไหวของพวกนางทุกฝีเก้ากับถูก
ควบคุมราวกับนักโทษ
" ไม่..พวกเจ้าทั้งสองปกป้องนางเอาไว้ "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับก้าวเดินสู่สนามรบที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ
ระดับจอมยุทธ์ขั้นปลายเป็นจานวนมากและยังคงมีกระทั่งตัวตน
ระดับสูงอย่างผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ ร่างกายของหลินหมิงปลดปล่อย
กลิ่นอายฆ่าฟันออกมาง้าวทมิฬในมือของเขาเรืองแสงส่องประกาย
เพลิงทมิฬลุกลามไปทั่วง้าวของหลินหมิงพร้อมกับร่างกายของเขาที่
มีอ่อร่าสีดาที่เกิดจากการใช้ทักษะเพลิงทมิฬของเขา
ตาย !!
ง้าวของหลินหมิงตวัดกวาดไปยังร่างของผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์ขั้นสูงสุดคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขา โดยไม่มีความลังเลแต่
อย่างใดไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสคนนี้อ่อนแอ่หรือประมาทจนเกินไป เขา
มองเห็นการเคลื่อนไหวของหลินหมิงทุกฝีเก้าแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อร่าง
ของหลินหมิงมาหยุดที่เบื้องหน้าของเขาแล้วนั้นมันราวกับว่าร่างกาย
ของเขาโดนผนึกไปด้วยแรงกดดันอันมหาศาลที่ไม่สามารถมองเห็นได้
ฉัวะะะ !!
หัวของผู้อาวุโสคนนั้นหลุดลอยไปในทันที หลินหมิงจ้องมองไปยังคู่
ต่อสู้ของเขาโดยรอบที่ในตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่เหล่าผู้ที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์อีกต่อไปแล้วแต่มันคือตัวตนที่มีพลังระดับสูงถึงขั้นปราญช์ !!

ตอนที่ 195
ผู้อาวุโสที่มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดแม้ว่าพวกเขาจะมี
พลังปราณเทียบเท่ากับหลินหมิงและยังคงได้เปรียบในเรื่อง
ประสบการณ์ที่ผ่านโลกมาอย่างยาวนานมากกว่าแต่ถึงอย่างนั้นพวก
เขาทั้งหมดล้วนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หลินหมิงเลยแม้แต่น้อย
" ฮึ่ม ! "
จูหนิงเอ๋อร์ ผู้อาวุโสฟางซิ่น หลิวจงเทียนหรือกระทั่งหย่าเฟยพวก
นางต่างมีความต้องการที่จะไปช่วยหลินหมิงในสถานการณ์ในตอนนี้
แม้ว่ามันจะเห็นได้ชัดว่าหลินหมิงสามารถเอาชนะผู้อาวุโสที่มีพลัง
ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดได้อย่างดายแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่สามารถเทียบ
ได้กับเหล่าผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ความแข็งแกร่งของพวกเขาแตกต่าง
จากผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดไปมาก
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาทั้งหมดล้วนไีม่มีใครสามารถแยกตัวออกจาก
คู่ต่อสู้ตรงหน้าของพวกเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว ไม่ต้องพูดถึงหลินฮ่าว
ที่ในตอนนี้เป็นคนที่รับภาระหนักที่สุดการต่อสู้ของผู้ที่มีพลังระดับต้นๆ
ของอาณาจักรเติ่มต้นขึ้นอย่างร้อนแรงการปะทะของพวกเขาห่างใกล้
ออกไปจากหน้าประตูไปหลายไมล์นั้นเพราะไม่เช่นนั้นแล้วด้วยพลัง
ของพวกเขามันอาจสามารถสร้างผลกระทบให้กับฝั่งเดียวกันได้
" เจ้าเพียงอยู่ในขั้นปราญช์ขั้นที่เจ็ดเท่านั้นแม้ว่าจะเป็นเจ้ามันก็
เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะข้าได้ ข้าคิดว่าเจ้าก็ควรตระหนักดีถึงเรื่องนี้
แล้วทาไมเจ้าถึงได้กล้าทาเรื่องงี่เง่าพรรณนี้กัน ! "
กงซุนเอี้ยนที่ตอนนี้ปลดปล่อยพลังปราณออกมาอย่างเต็มสิบส่วน
เพื่อรับมือกับหลินฮ่าวแม้ว่าตัวเขาจะมีพลังระดับปราญช์ขั้นที่แปดแต่
มันกลับไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะสามารถเอาชนะชายตรงหน้าเขาได้ ไม่
ต้องสงสัยเลยว่าหากชายผู้นี้สามารถพัฒนาตนจนมีระดับพลังเทียบเท่า
กับเขาแล้วละก็เขาก็คงไม่สามารถเอาชนะหลินฮ่าวได้อย่างแน่นอน
" เจ้ายังกล้าถามข้าเช่นนี้ ? เจ้าสมควรรู้ว่าเจ้าทาอะไรลงไป หาก
ในตอนนี้เจ้ามีความรู้สึกสานักผิดแล้วละก็ข้าสามารถลงเว้นโทษตาย
ของเจ้าได้ ! "
ร่างของหลินฮ่าวปลดปล่อยอ่อร่าที่น่าเกรงขามไม่แพ้กันอาวุธในมือ
ของเขาเป็นดาบขนาดใหญ่ใบดาบมีคมด้านเดียวเป็นเงินอันสดสว่าง
ด้วยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียวของเขามันราวกับว่ามันสามารถทาให้
ภูเขาขนาดย่อมพังทลายลงมาได้ในทันที
จานวนผู้อาวุโสที่ล้อมรอบหลินหมิงในตอนนี้นางมีกระทั่งถึงนับสิบ
คนแม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นเพียงผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นที่หนึ่ง
จะมีบ้างที่อยู่ในขั้นที่สองนั้นแสดงให้เห็นว่าระดับของการฝึกฝนใน
ระดับที่สูงขึ้นนั้นยากเพียงใด
" ฮ่าๆ นี้น่ะหรอการกระทาของผู้อาวุโสของสานักวังจันทราอัน
ยิ่งใหญ่ ? พวกเจ้าที่วางตัวอย่างยิ่งยโสในตอนนี้กลับร่วมมือกันเพียง
เพื่อสังหารข้าเพื่อลบล้างความผิด ? เดิมทีแล้วนั้นภายในมิติเล้นลับนั้น
หากไม่ใช่ว่าศิษย์พี่ของข้านั้นมีความเมตตาและบอกให้ศิษย์ที่เหลือ
กลับไปพวกเจ้ารู้ไหมว่าพวกมันจะมีชะตากรรมเช่นใด ตาย อย่าง
อนาถทั้งหมด ! แม้แต่ไอลูกหมาที่อยู่ตรงนั้นก็เช่นเดียวกัน "
หลินหมิงกล่าวออกมาอย่างมีโทสะพร้อมกับชี้ไปที่กงซุนหยางเขา
ไม่มีทางลืมความโกรธเกรี้ยวนี้หรือระบายไปได้โดยง่ายอย่างแน่นอน
เมื่อเขาพลันนึกถึงใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้าตาของศิษย์พี่ของเขา ความ
ทุกข์ความทรมานนี้มันไม่ใช่สิ่งที่างสมควรได้รับ !
" แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่มีใครที่จะช่วยเหลือนางในยาม
ยากลาบากแม้แต่คนเดียว ไม่เพียงเท่านั้นนางกลับได้รับโทษแทน นี้คือ
สิ่งที่นางสมควรได้รับ ? แล้วพวกเจ้าที่เป็นผู้อาวุโสของสานักพวกเจ้า
เอาปัญญาไปไว้ที่ใดกัน ? ในวันนี้ข้าขอตัดสินใจไม่เพียงแต่พวกเจ้า
ทั้งหมดเท่านั้นที่จะต้องตาย สานักอันชั่วช้าแห่งนี้ข้าก็จะขอลบมันให้
หายไปด้วยเช่นเดียวกัน ! "
ผู้อาวุโสทุกคนแทบกระอักออกมาเป็นสายเลือดจากคากล่าวของ
หลินหมิง เมื่อพวกเขาหวนนึกถึงคากล่าวของกงซุนหยางมันมี
ข้อบกพร่องและน่าสงสัยอยู่หลายประการเห็นได้ชัดว่าคากล่าวของ
หลินหมิงนั้นมีความสมเหตุสมผลมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย และหากที่
หลินหมิงกล่าวมาเป็นตามความเป็นจริงแล้วละก็หากหลัวฉิงเชี่ยนนาง
ไม่บอกเรื่องเหล่านี้กับศิษย์คนอื่นเมื่อนั้นพวกเขาทุกคนสมควรตาย
คนที่ได้รับผลกระทบจะไม่ใช่เพียงตระกูลของพวกเขาแต่มันยังเป็น
สานักแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกันแม้ว่าสานักแห่งนี้จะเต็มไปด้วย
ผู้เชี่ยวชาญจานวนมาก และมีศิษย์ที่ต้องตกตายไปในมิติเล้นลับในแต่
ละปีก็มีจานวนไม่น้อยแต่ถงึ อย่างนั้นมันไม่เคยมีครั้งไหนที่จะมีศิษย์ตก
ตายไปทั้งหมด เมื่อเป็นเช่นนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าสานักของเขาจะเป็น
ที่เพ่งเล็งและทาให้สูญเสียอานาจอย่างไม่ต้องสงสัย
" เกราะศักดิ์สิทธ์ ! "
ฮ่าห์~~~~~~~~~~~~~~~~~
หลินหมิงคารามลั่นที่ร่างกายของเขาปรากฎลวดลายโคร่งร่าง
พลังงานที่ล้อมรอบเขาที่ในตอนนี้เต็มไปด้วยพลังงานจากเปลวเพลิง
ทมิฬก่อนหน้าแสงสีทองปรากฎขึ้นเป็นลวดลายซ้อนทับบนร่างของ
หลินหมิงไปอีกชั้นความแข็งแกร่งของหลินหมิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ่
แรงลมที่เกิดจากการตวัดง้าวทมิฬรอบตัวของหลินหมิงเพียง
พอที่จะทาให้ผู้อาวุโสทุกคนหน้าซีดเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง ความ
แข็งแกร่งที่หลินหมิงปลดปล่อยออกมาในยามนี้แม้ว่าพวกเขาจะยัง
สามารถสัมผัสได้ว่าพลังปราณของเขายังไม่พัฒนาจนทะลุ
ระดับปราญช์แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีพลังงานที่มากล้นอย่างน่า
เหลือเชื่อมันเป็นไปได้ว่าแม้แต่ผู้อาวุโสที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นที่หนึ่งก็
ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา !
" จิตสายฟ้า ! "
ภายในจิตใจของหลินหมิงในตอนนี้เต็มไปด้วยภาพของโศรกเศร้า
ของศิษย์พี่ของเขา ประกายสายฟ้าของเจ้าพลังงานประหลาดปรากฎ
ขึ้นเริ่มตัวของหลินหมิงพร้อมกับพลังปราณของเขาที่พุ่งทะยานสูงขึ้น
อย่างน่าหวาดหวั่น ผู้อาวุโสหลายคนที่ล้อมรอบหลินหมิงอยู่ในตอนนี้
ขาของพวกเขาสั่นไปด้วยความหวาดกลัว
มันมีช่องหว่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้ที่มีพลังระดับปราญช์และผู้ที่มี
พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุด การที่พวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นมาใน
ระดับปราญช์ได้นั้นบางคนอาจใช้เวลาเพียงปีเดียว หรือสิบปีหรืออาจ
มากกว่านั้น หรือกระทั่งไม่อาจสามารถก้าวผ่านมาได้ แต่ถึงอย่างนั้น
เป็นที่รู้กันดีว่าการก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์นั้นมันเปรียบเสมือนการที่
พวกเขาสามารถยกระดับได้เหนือกว่าคนทั่วไปอย่างเทียบไม่ติดฐานะ
ของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
" มะ..ไม่จริงน่า... "
หลินหมิงกัดฟันแน่นพร้อมกับจ้องมองไปยังศัตรูเบื้องหน้าของเขา
ทุกคนจนถึงในตอนนี้พลังปราณของหลินหมิงก็ยังคงหลั่งไหลออกมา
ราวกับว่าพวกมันไม่มีวันหมด
" ระ...ระดับ..พลัง..ของเขา.... "
" สวรรค์ ! เขามีพลังระดับปราญช์ด้วยอายุ 16 ปี !!!! "
เสียงของกองกาลังจากสามอานาจจากเมืองฟานชูดั่งขึ้นด้วยความ
ตื่นเต้นซึ่งมันแตกต่างจากฝั่งตรงข้ามของพวกเขาเป็นอย่างมากเดิมที
แล้วไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีกาลังคนที่น้อยกว่าและยังมีระดับความ
แข็งแกร่งที่น้อยกว่าด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในตอนนี้ผู้อาวุโสหลายคนเขา
อ่อนลงไปด้วยความไร้ซึ่งเรีียวแรงเมื่อพวกเขาได้เห็นภาพตรงหน้า
มันราวกับว่าหลินหมิงในตอนนี้เป็นร่างจิตวิญญาณของจักรพรรดิ
แห่งหมู่มวลมนุษย์ที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งด้วยพลังที่สามารถเขย่าโลก
ให้สั่นสะเทือนได้ หากเรื่องนี้ล่วงรู้ไปยังเบื้องบนของตัวตนระดับสูง
หรือกระทั่งเหล่าราชวงศ์แม้ว่าพวกเขาจะสามารถสังหารหลินหมิงได้
พวกเขาก็ไม่สามารถพ้นโทษร้ายแรงที่ทาให้อัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
ตายไป แต่ต่อให้เขาไม่สังหารหลินหมิงแต่เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้ใน
จิตใจของเด็กหนุ่มผู้นี้มีความเคียดแค้นต่อพวกเขามากเพียงใด
" เพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ !! "
พลังงานจานวนมากถูกหลอมหลวมไปที่ปลายง้าวทมิฬของหลินห
มิงนี้เป็นนึกในทักษะวิชาที่หลินหมิงได้เรียนรู้มาจากมรดกของชายวัย
กลางคนเขาสามารถผนวกทักษะของเขาเพื่อหลอมหลวมกับง้าวทมิฬ
เล่มนี้เพื่อทาให้การโจมตีของเขารุนแรงมากยิ่งขึ้น พลังงานสายฟ้าและ
เปลวเพลิงทมิฬของหลินหมิงถูกอัดแน่นไปที่บริเวณง้าวของหลินหมิง
ซี่ ซี่ !
" ตายยย !!! "
เสียงสายฟ้าที่ดังออกมาพร้อมกับพื้นที่บริเวณที่หลินหมิงยืนอยู่
ถึงกับปริแตกออกมา มือของหลินหมิงตวัดด้วยความรวดเร็วไม่ใช่เพียง
แค่อาศัยพลังปราณที่มีอยู่เป็นจานวนมากกับทักษะที่รุนแรงที่สุดของ
หลินหมิงเพียงเท่านั้นร่างกายของหลินหมิงในตอนนีเต็มไปด้วย
กล้ามเนื้อ พลังกายของเขามีมากล้นจนน่าเหลือเชื่อด้วยทักษะเกราะ
ศักดิ์สิทธ์และเปลวเพลิงทมิฬของเขา คลื่นพลังงานถูกระเบิดออกไป
อย่างรวดเร็ว
บรึ้มมมมมมมม !!!!!!!!!!
ผู้อาวุโสจากสานักวังจันทราด้านของหลินหมิงร่วมร้อยคนถูกแรง
ระเบิดจากทักษะนี้ของหลินหมิง และในพวกเขาเหล่านั้นมีตัวตน
ระดับปราญช์ด้วยกันอย่างน้อยถึงสี่คน ! แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาที่ยังไม่
ทันหายจากอาการตื่นตะลึงจึงไม่สามารถตอบสนองใดๆได้ทัน เสียง
ระเบิดดังก้องกังวาลไปทั่วทั้งสนามรบ
ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดพวกเขาต่างหยุดสู้และหันมามองที่
หลินหมิงเป็นทางเดียวกัน เบื้องหน้าของหลินหมิงที่แต่เดิมเต็มไปด้วย
ผู้อาวุโสจานวนมาก มันกลับร่องเหลือเพียงพื้นที่ว่างเปล่าและมีร่าง
ของผู้อาวุโสที่มีระดับปราญช์ห้าคนนอนอยู่ในสภาพไร้ซึ่งสติอีกทั้งหนึ่ง
ในพวกเขายังมีคนที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นที่สองเลยเสียด้วยซ้าไป
สาหรับสานักวังจันทราแม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้รวบร่วมผู้
อาวุโสที่มีพลังระดับปราญช์มาได้ทั้งหมดแต่ถึงอย่างนั้นด้วยจานวนผู้
อาวุโสที่มีอยู่ในตอนนี้มันสมควรกล่าวได้ว่ามันมีจานวนมากกว่าครึ่ง
อย่างแน่นอน จากผู้อาวุโสที่มีพลังระดับปราญช์จานวนเกือบห้าสิบคน
ในตอนนี้ด้วยทักษะเดียวของหลินหมิงพวกเขาต้องเสียผู้อาวุโสที่มีพลัง
ระดับปราญช์ไปถึงห้าคนแล้ว !

ตอนที่ 196
ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสระดัปราญช์จานวนห้าคนเท่านั้นแต่มันยังมีผู้
อาวุโสระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดนับร้อยที่ตกตายไปด้วยการโจมตีครั้งนี้
แม้แต่กาแพงประตูสานักที่ได้รับการลงอาคมชั้นยอดเอาไว้ก็ยังคงได้รับ
ความเสียหาย ! ด้วยพลังการโจมตีเมื่อสักครู่ของหลินหมิงนั้นมันไม่ใช่
พลังทาลายล้างที่ผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นต้นทั่วไปสามารถทาได้ มัน
อาจเทียบเท่าได้กับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นกลาง !!
ซี่ ซี่ !!
ผู้อาวุโสที่ล้อมรอบหลินหมิงก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นพวกเขาที่ได้รับ
ผลกระทบทางด้านจิตใจมากที่สุดหากเพียงแต่เมื่อครู่นี้หลินหมิง
ตัดสินใจเลือกที่จะตวัดง้าวมาที่พวกเขาแล้วมันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะ
สามารถหยุดมันได้เช่นเดียวกัน แต่ทันใดนั้นเสียงแปลกประหลาดแต่
ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
พวกเขาทุกคนจ้องมองไปที่ร่างของหลินหมิงที่กาลังถือง้าวทมิฬที่
กาลังเรืองแสงประกายสายฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังงานดั่งเช่นเมื่อครู่นี้ !
" เขาสามารถใช้มันได้อย่างต่อเหนื่อง ? "
ก่อนหน้านี้มีผู้อาวุโสบางคนคิดว่าหลังจากที่หลินหมิงได้ใช้ทักษะ
เมื่อครู่ออกไปมันอาจทาให้เขาหมดซึ่งพลังปราณและเต็มไปด้วยสภาพ
อ่อนแอ่แต่ภาพตรงหน้าของเขาในตอนนี้มันราวกับว่าเขาถูกตบหน้า
เขาอย่างจังในตอนนี้ความปราถนาเดียวของพวกเขาคือหลบหนีไป
ออกไปจากสงครามที่พวกเขาจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดนี้
" หยุดเท่านั้นแหละ ! ห้ามผู้ใดทาการต่อสู้กันอีก ! "
เสียงของบุรุษคนหนึ่งดังก้องกังวาลไปทั่วทั้งสนามรบแม้แต่หลิน
ฮ่าวและกงซุนเอี้ยนที่อยู่ห่างออกไปพวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงของชาย
คนนี้ แววตาของหลินหมิงเปลี่ยนเป็นคมกริบพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่าง
ของชายสูงอายุที่กาลังเดินมาหยุดตรงหน้าของเขา
" ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร..แต่ถึงอย่างนั้นหากท่านคิดต้องการคัด
ขวางข้าแล้วละก็แม้ว่าท่านจะแข็งแกร่งก็ตามข้าก็ไม่คิดจะยอมแพ้
โดยง่าย "
หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากร่าง
ของชายสูงอายุตรงหน้าของเขาในตอนนี้เขาเป็นคนที่มีความแข็งแกร่ง
อย่างน่าเหลือเชื่อหากเป็นคนธรรมดาที่อยู่เบื้องหน้าของเขาแล้วละก็
หัวพวกเขาคงถูกบังคับให้ก้มลงไปด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็นไปแล้ว
ผิดกับใบหน้าของผู้อาวุโสของสานักและผู้อาวุโสจากขุมอานาจทั้ง
สามด้วยอายุที่มากมายของพวกเขามันจะมีหรือที่พวกเขาจะไม่รู้บุคคล
ที่ทรงอานาจเช่นนี้ภายในอาณาจักร
" หนึ่งในสี่แม่ทัพใหญ่ แม่ทัพโจว !! สวรรค์ ! "
" จบสิ้นแล้ว ! "
ผู้อาวุโสที่ล้อมรอบหลินหมิงก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้ว่าจะรู้สึกเศร้า
ใจหรือดีใจดีด้วยการปรากฎตัวของแม่ทัพโจวหนึ่งในสี่แม่ทัพใหญ่ที่ไม่
ขึ้นตรงกับฝ่ายใดยกเว้นแต่เพียงจักรพรรดิ อานาจของเขามีอยู่อย่าง
มากล้นขนาดรองเจ้าสานักและเจ้าสานักของพวกเขารวมกันก็ไม่อาจ
เทียบได้
ท่ามกลางการต่อสู้ที่หยุดลงหลังจากดาเนินมาเป็นระยะเวลานาน
พอสมควร ร่างของหลินมิงยังคงยืนประจัญหน้ากับแม่ทัพโจวอย่างไม่
หวั่นเกรงแววตาของเขายังคงปรากฎความปราถนาในการฆ่าฟันอย่าง
เปี่ยมล้น ง้าวทมิฬที่เต็มไปด้วยพลังงานของหลินหมิงตวัดออกไปครั้งที่
สองอย่างรวดเร็ว
บรึ้มมมมมมมมมมม !!!!!!!!!!!
เสียงแรงระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้งด้วยพลังการทาลายล้างที่ไม่แพ้กับใน
ครั้งแรก หัวใจของผู้คนล่นหวูบมันมียังมีคนที่มีความกล้ามากพอที่จะ
ขัดคากล่าวของแม่ทัพโจว ? ในการโจมตีในครั้งนี้หลินหมิงไม่ได้เล็ง
โจมตีไปที่ชายตรงหน้าของเขาหลินหมิงเลือกที่จะโจมตีไปทางด้านซ้าย
ของเขาที่เต็มไปด้วยผู้อาวุโสของสานักวังจันทรา
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเสียงระเบิดสิ้นสุดลงแววตาของหลินหมิงพลัน
หดแคบลงพร้อมกับจ้องมองไปยังเบื้องหน้าของเขาที่ปรากฎร่างของ
แม่ทัพโจวที่กาลังใช้มือข้างหนึ่งจับง้าวทมิฬของเขาเอาไว้พื้นที่โดยรอบ
ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนถูกขุดลึกลงไปหลายเมตรและเป็นวงกว้าง
หลินหมิงกระโดดถอยออกมานับสิบก้าวพร้อมกับเช็ดเลือดที่มุม
ปากของเขาออกด้วยแรงระเบิดในระยใกล้ชิดเมื่อสักครู่เห็นได้ชัดว่ามัน
ส่งผลกระทบต่อเขาด้วยเช่นเดียวกันแต่ถึงอย่างนั้นแววตาของหลินห
มิงยังคงปรากฎความปราถนาอันแรงกล้า
" ข้ารู้ว่าเจ้ามีความโกรธ และต้องการที่จะสังหารพวกเขาเหล่านี้
แต่ข้าขอให้เจ้าหยุดแต่เพียงเท่านี้ข้าจะเป็นคนสืบสวนเรื่องทั้งหมดเอง
ด้วยชื่อเสียงของข้าเจ้าสามารถเชื่อถือมันได้ ! "
คากล่าวของแม่ทัพที่กล่าวกับหลินหมิงทาให้ผู้อาวุโสทั้งหมดของ
สานักเต็มไปด้วยสีหน้าเศร้าสลดสาหรับแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่นั้นแม้ว่าพวก
เขาจะมีแนวทางการต่อสู้ที่แตกต่างกัน และมีลักษณะนิสัยที่แตกต่าง
กันอย่างเห็นได้ชัดแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีความเห็นตรงกันก็คือนิสัย
ชอบพอในตัวของรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์อันสูงส่งในก่อนหน้านี้มีเพียง
หลินฮ่าวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับความสนใจจากแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่
แต่ในตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าหลินหมิงจะได้รับเกียรตืนั้นเป็น
คนที่สองในอนาคตเขาจะได้รับตาแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งวังหลวงอย่าง
ไม่ต้องสงสัย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วต่อให้ไม่มีการสืบสวนอะไรแต่ฝ่ายที่
ต้องเป็นฝ่ายได้รับโทษนั้นมันเห็นกันได้อย่างชัดเจนแล้ว !
ซี่ ซี่
สายตาของหลินหมิงเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวพลังงานสายฟ้าและ
พลังปราณของเขาหลอมหลวมกันที่บริเวณง้าวของเขาอีกครั้ง
" หลินหมิงหยุดเดียวนี้ เจ้าสมควรพอได้แล้ว ! "
" คุณชายพอเถอะขอรับ "
" นายท่านหยุดเถอะเจ้าคะ "
บรรดาคนรอบตัวของหลินหมิงกล่าวขอร้องเพื่อให้หลินหมิงหยุด
การกระทาของเขาเห็นได้ชัดว่าหลินหมิงยังคงเต็มไปด้วยความเคียด
แค้นที่ฝั่งลึก แม้แต่จูหนิงเอ๋อร์อาจารย์สาวสวยของเขาที่ปกติหลินหมิง
มักจะเชื่อฟังนางทุกอย่างแต่ในตอนนี้ราวกับว่าหลินหมิงไม่สามารถรับ
ฟังเสียงของผู้ใดได้อีกต่อไป
มันไม่เคยมีใครที่กล้ากระทาเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าแม่ทัพโจวมาก่อน
แม้กระทั่งคนในรางชวงศ์ก็ยังคงต้องให้ความเคารพเขา ไม่มีใครรู้ว่า
ในตอนนี้ในความคิดของแม่ทัพโจวกาลังคิดเรื่องเช่นใดอยู่แม้ว่าเขาจะ
มีนิสัยที่ชื่นชอบรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์แต่การกระทาของหลินหมิงนั้น
เป็นการฝ่าฝืนคากล่าวของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
" ให้ข้าหยุด ? หากเพียงแต่ข้าไม่สามารถกลับมาได้ภายในวันนี้จะมี
ใครบอกข้าได้บ้างว่าอาจารย์ของข้า คนจากเมืองของข้า รวมถึงศิษย์พี่
ของข้าจะได้รับชะตากรรมเช่นใด ! โดยเฉพาะศิษย์พี่ของข้าพวกเจ้ารู้
ไหมว่านางต้องทนรับความเจ็บปวดมากเพียงใด
แต่ถึงอย่างนั้นพวกท่านก็ยังคงต้องการให้ข้าหยุด ? นางต้องอยู่
อย่างโดดเดียวเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ท่ามกลางผู้คนที่เต็มไปด้วย
ความเลวร้ายที่ล้อมรอบอยู่ในตอนนี้ ในวันีอย่ นี้ าว่าแต่ท่านที่เป็นแม่
ทัพใหญ่ของอาณาจักรแห่งนี้ต่อให้แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่คนรวมถึงองค์
จักรพรรดิเป็นผู้มาเองข้าก็ไม่มีความคิดที่หยุด ! "
" ร่างแยกสายฟ้า !! "
ร่างของหลินหมิงปรากฎขึ้นมาอีกร่างหลังจากสิ้นเสียงของเขา
บรรดาผู้คนทั้งหลายเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง คากล่าวของหลินหมิง
เมื่อสักครู่มันเพียงพอที่จะทาให้เขาถูกประหารได้
" พอได้แล้ว เจ้าต้องเชื่อฟังข้ากลับมาเดียวนี้เจ้ายังคงมีโอกาสอีกใน
คราวหน้า ไม่เพียงเท่านั้นแม่ทัพโจวกล่าวแล้วว่าเขาจะเป็นคนตัดสิน
โทษในเรื่องนี้เอง เจ้าสามารถไว้ใจเขาได้ "
จูหนิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย นางพยายามกล่าว
เพื่อให้หลินหมิงเปลี่ยนใจแต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
ซี่ ีซี่ ซี่ ซี่ !
ร่างของหลินหมิงทั้งสองคนที่กาลังถือง้าวทมิฬทั้งคู่พร้อมกับ
ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างเอ่อล้น มีเลือดไหลออกมาจากมุมา
ปากของหลินหมิงอย่างไม่หยุดหย่อน เส้นเลือดตามร่างกายของเขาปูด
โปน เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ผู้อาวุโสหลายคนไม่อาจฝืนตัวกลั้นน้าตาของ
พวกเขาเอาไว้
ร่างของหลินหมิงแยกออกเป็นสองทางซ้ายขวาพร้อมกับตวัดง้าวใน
มือของเขาอย่างรวดเร็วคลื่นพลังงานอันมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมา
พร้อมกันแม้ว่าแม่ทัพจะเป็นแม่ทัพโจวผู้แข็งแกร่งแต่เขาจะยังคง
สามารถหยุดการโจมตีทั้งสองนี้เอาไว้ได้พร้อมกัน ?
บรึ้มมมมมมมมม !!!!!!!!!
แค่กกก ๆ
สิ้นเสียงการระเบิดร่างของหลินหมิงถูกส่งลอยกลับไปหลายสิบ
เมตรพร้อมกระอักเลือดออกมาเป็นจานวนมากในตอนนี้พลังปราณใน
ร่างกายของเขาลดลงไปเป็นจานวนมาก ท่ามกลางฝุ่นควันที่จางหาย
จากการระเบิดแม่ทัพโจวสามารถรับการโจมตีทางฝั่งซ้ายได้อย่าง
ง่ายดาย แต่สาหรับทางฝั่งขวานั้นปรากฎร่างที่เต็มไปด้วยอ่อร่า
พลังงานอันน่าหวาดหวั่นไม่แพ้แม่ทัพโจว
" มะ...แม้..แต่แม่ทัพฉินก็ยงั คงมา ! "
แม่ทัพโจวและแม่ทัพฉินจ้องมองไปที่หลินหมิงพวกเขาได้โจมตี
เล็กน้อยไปที่หลินหมิงเพื่อทาให้เขาหมดสติมันจึงทาให้สภาพของ
หลินหมิงในตอนนี้อยู่ในสภาพย่าแย่ มือของเขากาง้าวทมิฬในมืออย่าง
แน่นหนาพร้อมกับใช้มันค้าย้าตัวของเขาขึ้นมา แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง
แววตาของเขาปรากฎสีหน้าของความไม่อยากจะเชื่อแม้ว่าพวกเขาจะ
ไม่ได้โจมตีหลินหมิงอย่างเต็มกาลังแต่มันเพียงพอที่จะทาให้เด็กหนุ่มผู้
นี้หมดสติไปหลายวัน
" เจ้าหนูพอได้แล้ว... "
เสียงของแม่ทัพฉินดังขึ้นเขาไม่ต้องการให้หลินหมิงบาดเจ็บไป
มากกว่านี้ไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจส่งผลถึงศักยภาพของเขา
แค่ก ๆ ๆ
หลินหมิงไม่ตอบแต่อย่างใดแต่เขากลับพยายามรวบรวมพลังปราณ
ในร่างกายของเขาอีกครั้งเพื่อใช้ทักษะเพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์แต่ด้วย
สภาพและพลังปราณของเขาในตอนนี้มันเป็นเพียงการกระทาที่ทาให้
ร่างกายของเขารับภาระหนักขึ้นโดยเปล่าประโยชน์เพียงเท่านั้นหลินห
มิงกระอักเลือดออกมาอย่างคาโต
" ขะ..ข้า..จะ..ไม่หยุด... "
หลินหมิงยังจาความรู้สึกเย็นเฉียบจากหยดน้าใสๆของศิษย์พี่สาว
สวยของเขาได้เป็นอย่างดีมันราวกับน้าแข็งพันปีที่ไม่สามารถละลายได้
ร่างของหลินหมิงยืนขึ้นด้วยความยากลาบาก ทันใดนั้นหลินหมิงพลัน
สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นจากแผ่นหลังของเขา
" พอได้แล้ว ข้าไม่เป็นไรแล้ว ข้าขอร้องละหยุดได้แล้วหากเจ้าเป็น
อะไรไปอีกข้าคง..... "
ราวกับมันเป็นคากล่าวที่ปลดปล่อยหลินหมิงออกจากสภาวะบ้า
คลั่งง้าวทมิฬในมือของเขาสลายกลายเป็นแสงเข้าไปอยู่ภายในตัวของ
เขาพร้อมกับสติของหลินหมิงที่ดับวูบลง

ตอนที่ 197
หลินหมิงรู้สึกว่าความรู้สึกทุกอย่างของเขาถูกปลดปล่อยด้วย
ความรู้สึกอบอุ่นที่กาลังฉุดรั้งร่างกายของเขาเอาไว้ด้วยร่างกายของ
สตรีบอบบางเพียงคนเดียว ทั่วทั้งสนามรบเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
สตรีบอบบางที่มีความหาญกล้ามากพอเข้ามาในสนามรบที่เต็มไปด้วย
ผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์ขั้นปลายและยังรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ที่สาคัญที่สุดคือตรงหน้าของพวกเขามีตัวตนระดับสูง
อย่างสองในสี่ของแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรแห่งนี้
หลายคนเมื่อได้เห็นการกระทาและแววตาของหลินหมิงพวกเขา
ต่างมีความคิดว่าหลินหมิงจะไม่มีทางหยุดลงได้ง่ายอย่างแน่นอนแต่ถึง
อย่างนั้นเพียงคากล่าวเพียงไม่กี่ประโยคของสตรีที่กาลังโอบกอดเขา
จากด้านหลังมันทาให้ร่างกายของหลินหมิงหยุดการเคลื่อนไหวไป
ในทันที
" พอแล้ว พอได้แล้วล่ะ "
สตรีบอบบางที่กาลังโอบกอดหลินหมิงอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่น
นอกเสียจากหลัวฉิงเชี่ยน เมื่อนางฟื้นคืนสติขึ้นมาสิ่งแรกที่นางเห็นคือ
ภาพของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันนางรู้ดีว่าเหตุใดหลินหมิ
งถึงเป็นเช่นนี้ นั้นเป็นเพราะว่านาง ? คากล่าวของหลินหมิงทุก
ประโยคนางสามารถได้ยินมันทุกอย่างมันทาให้หัวใจของนางสั่น
สะท้านตลอดหนึ่งเดือนที่ต้องอยู่อย่างอ้างว้างโดยไม่มีใครคิดให้ความ
ช่วยเหลือนางแม้แต่คนเดียว
แต่ในตอนนี้กลับเป็นศิษย์น้องของนางผู้นี้ที่ให้ความช่วยเหลือนาง
นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางได้รับการช่วยเหลือจากเขา ย้อนกลับไปในตอนนี้
พวกเขายังคงอยู่ที่เมืองฟานชูเป็นนางที่มีปัญหากับนายน้อยตระกูลห
ยางแต่ถึงอย่างนั้นด้วยนางก็ยังคงได้รับจากการช่วยเหลือจากเขาโดยที่
ศิษย์น้องของนางผู้นี้ไม่ได้รับประโยชน์แต่อย่างใด
ในตอนนี้ที่พวกเขาได้ทาภารกิจร่วมกันก็ยังคงเป็นนางที่ได้รับการ
ช่วยเหลือจากเขาด้วยเช่นเดียวกัน หยาดน้าตาใสๆของหลัวฉิงเชี่ยน
ไหลออกมาอย่างพรั่งพรู่
สาหรับผู้อาวุโสทั้งหลายของสานักวังจันทราหัวใจของพวกเขาเต็ม
ไปด้วยความรู้สึกผิดบาปเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ แม้แต่สองแม่ทัพผู้
ยิ่งใหญ่ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากภาพตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มีความรู้จักคุ้นเคยแต่อย่างใดกับหลินหมิงและ
หลัวฉิงเชี่ยนแต่ด้วยการกระทาของเด็กทั้งสองนี้ด้วยประสบการณ์ของ
พวกเขาทั้งหมดมันเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น
ระหว่างพวกเขา
หัวใจของพวกเขาทั้งสองเต็มไปด้วยความบริสุทธ์ที่ต้องการปกป้อง
เช่นนี้แล้วพวกเขายังคงจาเป็นจะต้องตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ภายในมิติเล้นลับ ?
ร่างของหลินหมิงล้มลงอย่างอ่อนแรงอ่อร่าประกายฆ่าฟันจาง
หายไปจากตัวของเขาแต่เนิ่นนานแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการฆ่าฟันอีก
ต่อไปแต่เขาไม่สามารถปลดปล่อยพวกมันออกมาได้ในเมื่อข้างกายของ
เขามีร่างของศิษย์พี่สาวสวยของเขาอยู่ทุกคนรู้ดีว่าการเข้าใกล้หลินมิง
ในตอนสภาวะก่อนหน้าด้วยระดับพลังที่ยังไม่ถึงขั้นจอมยุทธ์นั้นมัน
เป็นเพียงการฆ่าตัวตายเท่านั้น
หลัวฉิงเชี่ยนประคองร่างของหลินหมิงให้เขานอนหลับลงบนตัก
ของนางอย่างเบาสบายใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกที่
หลากหลาย จูหนิงเอ๋อร์ ผู้อาวุโสฟางซิ่น นักฆ่าสาว ฟ่งซือเซียน ผู้
อาวุโสฉินเหยาพวกนางเร่งรีบเข้ามาดูอาการของหลินหมิงโดยพร้อม
เพียง แม้ว่าอาการบาดเจ็บของหลินหมิงจะไม่ถึงขั้นร้ายแรงจนถึงชีวิต
แต่ถึงอย่างนั้นผลกระทบจากการใช้พลังปราณที่มากจนเกินไปมันทา
ให้รีงกายของเขารั
่า บภาระอย่างหนัก ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงยังคง
ได้รับผลกระทบจากการใช้ทักษะจิตสายฟ้า
" พวกเจ้าทุกคนจงฟัง ! สาหรับพวกเจ้าที่เป็นผู้อาวุโสของสานักอัน
เป็นตัวแทนของราชวงศ์การกระทาของพวกเจ้าไม่เพียงแต่จะทาให้
เสื่อมเสียชื่อเสียงราชวงศ์และอาณาจักร แต่พวกเจ้ากลับคิดลงมือ
สังหารรุ่นเยาว์พร้อมกับกล่าวบทลงโทษโดยไม่มีมูลความจริง
โดยเฉพาะเจ้าที่เป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมดนี้ "
แม่ทัพโจวกล่าวตวาดดังอย่างกึกก้องพร้อมกับจ้องมองไปที่กงซุน
เอี้ยนที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมเช่นเดียวกันกับหลินฮ่าวเห็นได้ชัดว่า
การต่อสู้ระหว่างพวกเขานั้นเป็นไปอย่างดุเดือดมากมันอาจจะยิ่งกว่า
สถานการณ์ในฝั่งนี้เสียด้วยซ้าไป
" โทษของเจ้านั้นคือการทาลายการบ่มเพาะของเจ้าทั้งหมดทิ้งเสีย
พร้อมกับทุกคนในตระกูลของเจ้าจะต้องถูกควบคุมจากคนภายในวัง
หลวง ! "
ใบหน้าของกงซุนเอี้ยนเปลี่ยนเป็นซีดเผือกทาลายการบ่มเพาะ
ทั้งหมดของเขา ? ตระกูลของเขายังคงต้องถูกควบคุมโดยไม่ต่างจาก
นักโทษที่ไร้ซึ่งอิสระ
" ไม่..ไม่ข้าไม่ยอมรับในเรื่องนี้ ! "
สีหน้าของแม่ทัพโจวเต็มไปด้วยความเย็นชาสาหรับตัวตนอย่างกง
ซุนเอี้ยนแม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมและเป็นบุคคลากร
อันยอดเยี่ยมของอาณาจักรแห่งนี้แต่การกระทาของเขาในวันนี้จะเป็น
ที่กล่าวถึงไปทั่วทั้งอาณาจักรเทียบกับความสาคัญระหว่างกงซุน
เอี้ยนรวมถึงตระกูลกงซุนทั้งหมดแม้ว่าพวกเขาเดิมทีจะมีอานาจที่
กว้างขวางแต่หากเทียบกับคลื่นลูกใหม่อันร้อนแรงอย่างตระกูลหลินที่
นาโดยหลินฮ่าวและยังมีบุตรของเขาหลินหมิงที่มีพรสวรรค์อันน่า
เหลือเชื่อ
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่จาเป็นต้องคิดสิ่งใดอีกความเกลียดชังของหลินห
มิงและหลินฮ่าวสองพ่อลูกที่แสดงออกมาในวันนี้มีอย่างมากล้นกับกง
ซุนเอี้ยนหากเขาไม่ทาการลงโทษขั้นร้ายแรงต่อกงซุนเอี้ยนผู้นี้มัน
เป็นไปได้ว่าอาณาจักรแห่งนี้อาจจะต้องเสียบุคคลล้าค่าอย่างน้อยไปถึง
สองคน และนี้ยังไม่รวมถึงสมาคมนักปรุงยา และรุ่นเยาว์ข้างกายของ
หลินหมิงทั้งหมดที่เต็มไปด้วยศักยภาพอันมากล้นเหนือกว่ารุ่นเยาว์คน
อืน่
" การตัดสินของข้าถือเป็นที่สุด !! "
คากล่าวของแม่ทัพโจวนั้นทาให้ร่างกายของกงซุนเอี้ยนสั่นสะท้าน
ไปด้วยความสั่นกลัวแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังคงไม่อาจคัดคากล่าวของ
แม่ทัพผู้นี้ได้โดยง่าย ดังนั้นแล้วมันเป็นไปไม่ได้สาหรับตัวของเขาเลย
แม้แต่น้อย
" ไม่ ไม่ ฮ่าห์ !!! "
กงซุนเอี้ยนปลดปล่อยพลังออกมาในเฮือกสุดท้ายพร้อมกับแววตา
ของเขาที่จดจ้องไปยังร่างอันไร้สติของหลินหมิงเห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์
ในวันนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะหลินหมิงทั้งหมดสิ้น หากไม่มีการ
ปรากฎตัวของหลินหมิงในวันนี้แม้ว่าจะมีหลินฮ่าวแต่มีหรือที่แม่ทัพ
ใหญ่ทั้งสองผู้นี้จะตัดสินโทษของเขาเช่นนี้
" เป็นเพราะแก !! "
เหล่าสตรีที่ล้อมรอบหลินหมิงอยู่พวกนางไม่มีใครสามารถ
ตอบสนองได้ทัน อันที่จริงแล้วไม่มีใครคาดคิดว่ากงซุนเอี้ยนผู้นี้จะบ้า
คลั่งจู่โจมหลินหมิงต่อหน้าแม่ทัพใหญ่ทั้งสอง และถึงแม้ว่าพวกนางจะ
ตอบสนองได้ทันแต่ด้วยระดับพลังที่แตกตต่างกันมากจนเกินไปนี้ขนาด
จูหนิงเอ๋อร์ก็ไม่สามารถรับมือกับกงซุนเอี้ยนได้ ร่างของบุรุษคนหนึ่ง
ปรากฎตัวขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับจ้องมองไปที่กงซุนเอี้ยนด้วยสีหน้า
เกลียดชัง
ฉัวะะ !!
เสียงดาบสังหารของหลินฮ่าวดังไปทั่งบริเวณหากไม่ใช่ว่าหลายคน
ในตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงกับการกระทาของหลินหมิ
งก่อนหน้าไปเป็นอย่างมากแล้ว ในตอนนี้ภาพตรงหน้าของพวกเขา
เพียงพอที่จะทาให้พวกเขารู้สึกตื่นตะลึงไม่แพ้กัน แขนของกงซุนเอี้ย
นข้างหนึ่งถูกสะบัดขาดด้วยคมดาบของหลินฮ่าว !
สาหรับหลินฮ่าวที่มีพลังอยู่ในขั้นปราญช์ขั้นที่ 7 เขายังไม่เพียงแต่
สามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับกงซุนเอี้ยนี่มีพลังระดับปราญช์ขั้นที่ 8 แต่
เขายังคงสามารถตัดแขนของกงซุนเอี้ยนลงได้ ! ความสาเร็จนี้แม้แต่แม่
ทัพใหญ่ทั้งสองยังคงปรากฎรอยยิ้มพึงพอใจออกมา
แววตาของหลินฮ่าวยังคงปรากฎเจตนาฆ่าฟันดาบของเขา
เคลื่อนไหวอีกครั้งภายใต้ความเจ็บปวดที่กงซุนเอี้ยนกาลังได้รับเขาไม่
สามารถตอบโต้ดาบของหลินฮ่าวที่กาลังฟาดฟันมาที่เขาได้อย่างทัน
อย่างแน่นอน
ฉึกกก !!
คมดาบแทงทะลุเข้าไปในร่างของกงซุนเอี้ยนแววตาของเขาเต็มไป
ด้วยความรู้สึกยากที่จะเชื่อ หลินฮ่าวไม่ได้เล็งที่จะสังหารเขาแต่เขา
กลับเลือกหนทางที่เลวร้ายยิ่งกว่า
" มะ..ไม่...ไม่..จริง "
เสียงของกงซุนเอี้ยนเต็มไปด้วยความสั่นคลอพลังปราณในร่างกาย
ของเขาค่อยๆรั่วไหลออกมาอย่างต่อเหนื่องเมื่อเขามองไปที่ร่างของ
หลินฮ่าวที่อยู่ตรงหน้าเขา กงซุนเอี้ยนเต็มไปด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจ
ที่เขาเลือกที่จะเป็นศัตรูกับสัตว์ประหลาดสองพ่อลูกคู่นี้
หลินฮ่าวดึงดาบของเขาออกมาพร้อมกับสะบัดเลือดของกงซุนเอี้ย
นด้วยท่าทีเย็นชา พร้อมกับหันไปมองยังเบื้องหลังของเขาที่มีร่างของ
หลินหมิงที่กาลังนอนหลับไร้ซึ่งสติอยู่แววตาของเขาปรากฎร่องรอย
ของความอ่อนโยนลงมาเล็กน้อยโดยไม่มีใครสามารถสังเกตได้ทัน
" ข้าจะเป็นคนจัดการเขาต่อเอง "
ร่างของแม่ทัพโจวพร้อมกับแม่ทัพฉินปรากฎขึ้นด้านหลังของหลิน
ฮ่าว
" ถึงแม้ว่าในเรื่องนี้ส่วนใหญ่แล้วมันจะเป็นความผิดของกงซุนเอี้ยน
ผู้นี้แต่การกระทาของพวกเจ้าก็ไม่อาจเมิณเฉยได้ ดังนั้นแล้วข้าจึงต้อง
ของคุมตัวพวกเจ้าเอาไว้ก่อน "
" ข้าไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ "

หลินฮ่าวกล่าวจบเขาก็เดินไปทางผู้อาวุโสตระกูลหลินที่กาลัง
รวมตัวกันอยู่พร้อมกับจ้องไปที่ร่างของหลินหมิงเป็นครั้งสุดท้ายพร้อม
กับจากไป

ตอนที่ 198
บนกาแพงสานักวังจันทราร่างขององค์ชายลาดับที่หนึ่ง ซุนจิ้งชวง
กาหมัดในมือของเขาแน่นพร้อมกับจ้องมองไปยังสถานการณ์เบื้องหน้า
ของเขาในตอนนี้แต่เดิมแล้วสถานการณ์ในการหาผู้สืบทอดตาแหน่ง
จักรพรรดิคนต่อไปนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นบุตรชายคนโตแต่ถึงอย่างนั้น
ด้วยอิทธิพลและอานาจจากหลายฝ่ายภายในวังหลวงนั้นกลับ
กลายเป็นว่าทั้งตัวของเขาและน้องชายของเขาองต์ชายลาดับที่สองซุ่น
ฉือช่านกลับมีอานาจและโอกาสที่ทัดเทียมกัน
สาหรับในอาณาจักรแห่งนี้หรือกระทั่งอาณาจักรอื่นพวกเขาไม่
สนใจลาดับใครเกิดก่อนหลังพวกเขาสนเพียงแต่ความแข็งแกร่งและ
อานาจเพียงเท่านั้น ดังนั้นแล้วความได้เปรียบของเขาจึงมีเพียง
ประสบการณ์ที่เกิดก่อนเพียงหนึ่งปีเท่านั้น
และด้วยการตัดสินใจของเขาที่เลือกจะให้การสนับสนุนกับกงซุน
เอี้ยนที่เป็นรองเจ้าสานักวังจันทราอานาจของเขาจะเพิ่มขึ้นเหนือกว่า
น้องชายของเขาในพริบตาเพียงแต่ว่าด้วยการปรากฎตัวของหลินหมิ
งกงซุนเอี้ยนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอานาจก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นขยะไร้
ค่าภายในวันเดียวไม่เพียงเท่านั้นคนในตระกูลกงซุนยังได้รับโทษทัณฑ์
จากแม่ทัพโจว !
อานาจตระกูลกงซุนที่สะสมมานานหลายชั่วอายุคนในตอนนี้มันจะ
ถูกทาลายลงในไม่ช้าอย่างไม่ต้องสงสัย ในตอนนี้สาหรับซุ่นจิ้งชวงเขา
ไม่เพียงแต่เสียขุมกาลังที่สามารถสนับสนุนเขาให้ขึ้นครองราชย์เป็นคน
ต่อไปเท่านั้น เมื่อเขาได้เห็นการแสดงออกของหลินฮ่าวและหลินหมิง
สองพ่อลูกคู่นี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสมควรเป็นพ่อลูกกันอย่างไม่ต้อง
สงสัยด้วยนิสัยของพวกเขาที่ยิ่งทะนงและพร้อมจะทาลายอีกฝ่ายที่
เป็นศัตรูของพวกเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด
ในตอนนี้เขาอาจทาได้แค่เพียงภวนาให้หลินหมิีงและหลินฮ่าวไม่
โยงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มายังตัวเขาเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าหลินหมิงและ
หลินฮ่าวจะไม่ีทาเช่นนั้นแต่สุดท้ายแล้วเขาย่อมต้องเสียขุมอานาจที่ให้
การสนับสนุนเขาไปส่วนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยทางเดียวที่เขาจะ
สามารถได้รับตาแหน่งจักรพรรดิคนต่อไปมีเพียงการดึงหลินหมิงเข้ามา
ร่วมกับเขาเพียงเท่านั้น
ในสงครามที่เกิดขึ้นนี้แม้ว่ามันจะไม่ได้กินเวลายาวนานดั่งสงคราม
ทั่วไปแต่ถึงอย่างนั้นทั้งฝ่ายก็พบกับความสูญเสียไปไม่ใช่น้อยสาหรับฝั่ง
ของขุมอานาจทั้งสามจากเมืองฟานชูด้วยกาลังรบที่น้อยกว่าและความ
แข็งแกร่งที่ด้อยกว่าทาให้พวกเขาเสียจานวนผู้อาวุโสไปไม่ใช่น้อยแต่
หากเทียบกับทางด้านของสานักวังจันทราแล้วมันเทียบกันไม่ติด
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสูญเสียจานวนผู้อาวุโสขั้นจอมยุทธ์ระดับ
ปลายไปหลายร้อยคน ลาพังเพียงแค่การกวัดแกว่งง้าวของหลินหมิ
งก่อนหน้านี้มันก็ทาให้ชีวีตของผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุด
ก่อนหน้าหายไปนับร้อย ยังไม่รวมถึงในตอนที่เขาบุกเข้าไปสร้างความ
วุ่นวายที่ตานักของกงซุนเอี้ยน ที่สาคัญที่สุดก็คือการที่สานักต้องเสียผู้
อาวุโสที่มีพลังระดับปราญช์ไปหลายคนหนึ่งในนั้นยังเป็นรองเจ้าสานัก
ของพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน
ในตอนนี้ทั้งตระกูลหลิน สมาคมนักปรุงยาและตระกูลหลิว พวก
เขาได้รับคาสั่งไม่ให้เคลื่อนย้ายกลับเมืองของพวกเขาในทันที เพื่อ
สอบสวนเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งแต่สาหรับเหตุผลที่แท้จริงแล้วนั้นมัน
เป็นเพียงเพราะว่าแม่ทัพใหญ่ทั้งสองนั้นมีความต้องการที่จะพูดกล่าว
กับขุมอานาจทั้งสามนี้โดยเฉพาะหลินฮ่าว ดังนั้นแล้วมันไม่มีความ
จาเป็นใดๆทีพวกเขาจะต้องกังวล
เกี่ยวกับในเรื่องบทลงโทษของพวกเขาแม้แต่คนโง่ก็ยงั สมควรรู้ว่า
คากล่าวก่อนหน้านี้ของแม่ทัพโจวเป็นการกล่าวเพื่อไม่ให้ทางสานักเสีย
หน้าจนเกินไปนัก
ภายในห้องของหลินหมิงที่สานักวังจันทราร่างของหลินหมิงกาลัง
นอนหลับไร้ซึ่งสติโดยที่ข้างกายของเขามีร่างกายของหญิงสาวผู้งดงาม
กาลังดูแลอย่างใกล้ชิดนางก็คือหลัวฉิงเชี่ยน แม้ว่าในตอนแรกนาง
ต้องการจะปฎิเสธไม่เหยียบมาที่สานักแห่งนี้อีกแต่เนื่องจากสภาพและ
อาการของหลินหมิงมันทาให้นางไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่า
ทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของแม่ทัพใหญ่ทั้งสอง
สาหรับจูหนิงเอ๋อร์ ผู้อาวุโสฟางซิ่น ผู้อาวุโสฉินเหยา ฟ่งซือเซียน
กระทั่งนักฆ่าสาวแม้ว่าพวกนางจะมีความต้องการที่จะดูแลอาการของ
หลินหมิงเช่นเดียวกันแต่ในตอนนี้พวกนางทั้งหมดถูกคุมตัวโดยแม่ทัพ
ใหญ่ทั้งสองเช่นเดียวกัน
มือของหลัวฉิงเชี่ยนค่อยๆลูบไล้ไปที่ใบหน้าของหลินหมิงด้วยความ
รักใคร่ที่ปรากฎออกมาอย่างเห็นได้ชัดนางไม่รู้ความรู้สึกของนางนั้น
เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดมันอาจเริ่มขึ้นตั้งแต่ในตอนที่เขาได้ช่วยนางจาก
ตระกูลหยาง ? แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่สาคัญสาหรับนางในตอนนี้สิ่งที่
สาคัญที่สุดก็คือการที่นางยังคงได้อยู่เคียงข้างเขาต่อไป
ร่างของหลินหมิงค่อยๆฟื้นสติขึ้นลืมเปลือกตาของเขาลืมขึ้นอย่าง
เชื่องช้าท่ามกลางความมึนและสับสนที่กาลังเกิดขึ้นเบื้องหน้าของเขามี
เพียงร่างของศิษย์พี่สาวสวยที่งามสง่าอยู่ตรงหน้าของเขา ใบหน้าของ
นางในตอนนี้กาลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขศิษย์น้องของนางผู้นี้เป็นผู้
ปัดเป่าปัญหาทั้งหลายในชีวิตของนางอย่างแท้จริง
" เจ้าฟื้นแล้ว ! "
ร่างของหลัวฉิงเชี่ยนโผเข้ากอดร่างของหลินหมิงที่เพิ่งขึ้นมากลิ่น
หอมจากตัวของศิษย์ของเขาทาให้หลินหมิงเริ่มที่ตาสว่างขึ้นมาในทันที
แม้ว่าในตอนนี้จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเป็นอย่างมากแต่ถึง
อย่างนั้นผลกระทบจากการที่เขาใช้พลังปราณมากจนเกินไปและยัง
รวมถึงทักษะจิตสายฟ้ามันจึงทาให้หลินหมิงไม่สามารถขยับร่างกาย
โดยง่าย ในเวลานี้
หากไม่ใช่ว่าหลินหมิงได้เรียนรู้วิชาเกราะศักดิ์สิทธ์มาแล้วละก็ด้วย
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในวันนี้มันอาจส่งผลกระทบต่อตัวเขาอย่างร้ายแรง
หรือกระทั่งชีวิต
มือของหลินหมิงพยายามเข้าเคลื่อนไหวอย่างยากลาบากเพื่อ
ปลอบประโลมศิษย์พี่สาวสวยของเขาแต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของหลินห
มิงในตอนนี้มันราวกับว่าถูกภูเขากดทับเอาไว้อยู่ หลัวฉิงเชี่ยนที่เห็นสี
หน้าและท่าทางของหลินหมิงนางนาร่างกายของนางขึ้นพร้อมกับกุม
มือของหลินหมิงเอาไว้นางเข้าใจดีว่าศิษย์น้องของนางผู้นี้ต้องการทา
สิ่งใด
มือของหลินหมิงถูกนาไปไว้ที่บริเวณแก้มเนียนนุ่มของนาง
นิ้วหัวแม่มือของหลินหมิงขยับเคลื่อนไหวอย่างยากลาบากพร้อมกับ
ปาดน้าตาที่กาลังไหลรินออกมาจากดวงตาสดใสของศิษย์พี่ของเขา
" ข้า..ทาให้ท่านต้องร้องไห้อีกแล้ว... "
" มะ..ไม่..ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เจ้าไม่กังวลไป "
หยาดน้าตาของหลัวฉิงเชี่ยนไหลรินลงมามากยิ่งกว่าเก่าเมื่อนางได้
ยินประโยคแรกที่ออกมาจากปากของหลินหมิง แววตาของหลินหมิง
ในตอนนี้ไม่ปรากฎแววตาเจตนาฆ่าฟันดั่งก่อนหน้าที่นางได้เห็นที่
สนามรบมันราวกับว่าดวงตาเช่นนี้มีไว้เพื่อนางเพียงเท่านั้น เสียงของ
นางเต็มไปด้วยความสั่นเครือ
" ข้า..ขอโทษ... "
หลัวฉิงเชี่ยนนนางไม่สามารถระงับอารมณ์ของนางได้อีกต่อไป
แม้ว่านางอยากจะบอกกับหลินหมิงว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขาแต่
ในตอนนี้เสียงร้องไห้ของนางกลับทาให้นางพูดไม่ออก
ร่างของนางโผเข้ากอดร่างของหลินหมิงอีกครั้งราวกับว่าร่างกาย
ของหลินหมิงนั้นมีความสามารถในการบรรเทาทุกข์ของนางได้ราวกับ
สมบัติวิเศษ เข้ารู้สึกที่อบอุ่นนี้มันมีความสามารถเพียงพอที่จะทาให้
นางไม่ต้องกังวลกับปัญหาใดในโลกนี้ไม่ว่ามันจะมากหรือน่ากังวลสัก
เพียงใด ร่างของนางโอบกอดศิษย์น้องของนางเอาไว้อย่างแนบแน่น
อย่างเนิ่นนาน
เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยามในตอนที่หลัวฉิงเชี่ยนได้โอบกอดร่างของ
หลินหมิงเอาไว้พวกเขาราวกับว่าสามารถสื่อสารกันได้ด้วยการแนบชิด
เพียงเท่านั้น ร่างกายของหลินหมิงค่อยๆรู้สึกดีขึ้นอย่างเชื่องช้ามือของ
เขาเข้าโอบกอดร่างของหลัวฉิงเชี่ยนเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยกาลังที่
เข้ามีทั้งหมดในตอนนี้
ร่างกายของหลัวฉิงเชี่ยนมีการตอบสนองในทันทีริมฝีปากอวบอิ่ม
ของนางโผล่จูบริมฝีปากของหลินหมิงอย่างเร่าร้อนมือของหลินหมิง
เคลือนไหวลูบไล้สัมผัสแผ่นหลังศิษย์พี่ของเขาด้วยเช่นเดียวกัน สภาพ
ของพวกเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความปราถนาที่อัดแน่นอยู่ภายใน
หัวใจมาเนิ่นนาน

ตอนที่ 199
ร่างของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนแนบชิดกันจนสามารถสัมผัสได้
ถึงจังหวะหัวใจของอีกฝ่ายที่กาลังเต้นโครมคราม หากเป็นหลัวฉิงเชี่ยน
ในก่อนหน้านี้แม้ว่านางจะรู้สึกรักหลินหมิงมากเพียงใดแต่นางคงไม่มี
ทางที่จะกล้าทาเรื่องเช่นนี้อย่างแน่นอน
แต่สาหรับในตอนนี้หลังจากที่นางได้รับความรู้สึกจากการสูญเสีย
หลินหมิงไปถึงสองครั้งมันทาให้ความลังเลของนางหายไปหมดสิ้น ราว
กับว่าห้วงเวลาถูกหยุดลงร่างกายของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนนั้น
ประกบจูบกันอย่างดูดดื่มโดยที่พวกเขาไม่มีความรู้สึกที่จะแยกจาก
หลัวฉิงเชี่ยนเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากของนางออกมาจากหลินหมิ
งก่อน แน่นอนว่าหากเป็นในยามปกติแล้วมันคงไม่ง่ายดายนักที่นางจะ
สามารถถอนริมฝีปากออกไปจากหลินหมิงได้ แต่ด้วยสภาพของหลินห
มิงในตอนนี้แม้ว่าเขาจะยังคงไม่รู้สึกยินยอมสักเท่าใดนักแต่เขาก็ไม่
สามารถขยับกายได้อย่างถนัด
หลัวฉิงเชี่ยนจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตารักใคร่ พร้อมกับนา
มือไปลูบไล้สัมผัสที่ใบหน้าของเขา
" เจ้ายังต้องพักฟื้นตัวก่อน...เรื่องต่อจากนี้เอาไว้หลังจากที่เจ้าหาย
แล้วก็แล้วกันนะ "
แน่นอนว่าหลัวฉิงเชี่ยนนั้นนางก็เต็มไปด้วยความต้องการที่จะเป็น
หนึ่งเดียวกับหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อยแต่เมื่อดูสภาพอาการของหลินหมิง
ในตอนนี้แล้วนั้นทาให้นางตัดสินใจที่จะไม่เร่งรีบแต่อย่างใด การจูบ
เมื่อสักครู่นี้มันก็เหมือนกับคาตอบทุกอย่างที่นางต้องการแล้ว
" นายหญิงเจ้าคะ ท่านเจ้าสานักให้ข้ามาเรียกท่านไปพบเจ้าคะ "
เสียงของหญิงสาวดังขึ้นที่นางประตูห้องของหลินหมิงนางคือหนึ่ง
ในสาวใช้ที่รับหน้าที่ในการดูแลภายในตานักของหลินหมิงที่ถูก
คัดเลือกมาจากแม่ทัพโจว แน่นอนว่าในก่อนหน้านี้ทางสานักวังจันทรา
นั้นไม่ได้เตรียมพร้อมในเรื่องของสาวใช้และสิ่งอานวยความสะดวกใดๆ
อย่างอื่นให้กับหลินหมิงนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาคิดว่าหลินหมิงได้ตาย
ไปแล้ว
และถึงแม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะต้องการทาสิ่งเหล่านั้นพวกเขาก็
ไม่มีโอกาศอีกต่อไปแล้วนั้นก็เพราะว่าหลินหมิงไม่มีความคิดที่จะเชื่อใจ
พวกเขา ไม่เพียงเท่านั้นแม้กระทั่งจูหนิงเอ๋อร์ก็ไม่มีความคิดที่จะเชื่อใจ
ผู้อาวุโสทั้งหลายจากสานักแห่งนี้อีกต่อไปเช่นเดียวกัน
" งั้นเดียวข้ามานะ หากเจ้าต้องการสิ่งใดเจ้าสามารถเรียกสาวใช้ได้
ตามต้องการ "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวจบพร้อมกับประกบปากหลินหมิงอย่างแผ่วเบา
อีกครั้งพร้อมกับจากไป หลินหมิงไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่น
ไรบ้างแต่ถึงอย่างนั้นมันเห็นได้ชัดว่าีนคงไม่
มั มีสิ่งใดที่เขาจะต้องกังวล
อีกต่อไป ?
ทันทีที่หลัวฉิงเชี่ยนออกไปภายในห้องของหลินหมิงที่สมควรเต็มไป
ด้วยความเงียบงันกลับปรากฎเสียงของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความเย้า
ยวน
" ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เป็นไรมาก "
ร่างของซือเฟยปรากฎกายอยู่ตรงหน้าของหลินหมิง ตั้งแต่ที่หลินห
มิงกลับมาจากมิติเล้นลับนางได้อาศัยข้างตัวของหลินหมิงอยู่
ตลอดเวลา แม้กระทั่งในยามที่เขากาลังอยู่ในสนามรบที่เต็มไปด้วยผู้
เช่ียวชาญจานวนมาก แน่นอนว่าหากเพียงแต่หลินหมิงขอให้นาง
ช่วยเหลือเขาในเรื่องนี้สานักแห่งนี้สามารถหายได้ภายในไม่กี่ลมหายใจ
เท่านั้น
โดยไม่สนใจว่าในที่แห่งนั้นจะมีตัวตนระดับแม่ทัพโจวหรือแม่ทัพ
ฉินต่อให้แม่ทัพใหญ่ทั้งสี่มารวมตัวกันพวกเขาก็ทาได้แค่เพียงถ่วงเวลา
แห่งการล่มสลายเพียงเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่หลินหมิงไม่ได้ต้องการ
ช่วยเหลือในเรื่องนี้สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นความแค้นทั้งหมดที่เกิดขึ้น
นี้หากเขาไม่ได้เป็นคนระบายเขาคงรู้สึกว่าชีวิตนี้ของเขาเต็มไปด้วย
ความติดค้างไปชัีวชี
่ วิต
" ข้าล่ะอยากรู้จริงๆว่าหากเปลี่ยนจากสาวน้อยนางนั้นเป็นข้าแล้ว
เจ้าจะยังคงทาสิ่งเดียวกันหรือไม่ "
ซือเฟยในตอนนี้ค่อยๆขึ้นมานอบนาบทับร่างกายของหลินหมิง
หน้าอกอันนิ่มนวลเข้าบดทับจนทาให้หลินหมิงรู้สึกว่าร่างกายของเขา
สามารถหลอมละลายได้ ดวงตาอันเย้ายวนของนางจ้องมองไปที่
ใบหน้าของหลินหมิงที่ห่างกันเพียงเล็กน้อย แม้ว่าสายตาของนางนั้น
ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา แต่ในส่วนลึกภายใน
ใจจิตใจของนางนั้นนางค่อนข้างคาดหวังกับคาตอบนี้ของหลินหมิ
งเป็นอย่างมาก
สาหรับสตรีโดยทั่วไปแล้วมันคงเป็นเรื่องโกหกที่พวกนางจะไม่ยินดี
ที่บุรุษที่นางพวกรักยินยอมทาทุกสิ่งอย่างเพื่อพวกนางได้อย่างมากมาย
เช่นเดียวกันกับสตรีผู้ทรงอานาจอย่างนางก็เช่นเดียวกันภาพของ
หลินหมิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางสนามรบที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับ
พลังมากกว่าเขาโดยที่สายาตาของเขายังปรากฎความมุ่งมั่นอันแน่วแน่
มันไม่ใช่สายตาที่สามารถพบเจอได้ทั่วไปแม้แต่นางที่อยู่มาเป็นพัน
ปีนางก็เชื่อว่านางอาจจะพบเห็นสายตาเช่นนี้มาเป็นจานวนที่นับได้
ด้วยมือทั้งสองข้างเพียงเท่านั้น แม้กระทั่งในตอนที่เขาต้อง
ประจัญหน้ากับแม่ทัพใหญ่ทั้งสองนั้นความรู้สึกในใจของนางนั้นถึงกับ
สั่นไหวใจใจอย่างรุนแรง ความแข็งแกร่งของหลินหมิงที่ได้แสดง
ออกมานั้นแม้ว่ามันจะยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับนางแต่มันก็ทาให้
นางตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก
ภาพของหลินหมิงถูกสลักลงไปในหัวใจของนางอย่างตราตรึง
แม้ว่าการกระทาของหลินหมิงในตอนนั้นจะไม่ใช่เพื่อนางแต่นางก็อดที่
จะจินตนาการและคาดฝันไปไม่ได้
" ข้าคิดว่าหากเปลี่ยนศิษย์พี่ของข้าเป็นท่านแล้วละก็อาณาจักร
แห่งนี้คงถึงจุดจบไปแล้ว "
ซือเฟยรู้สึกผิดหวังกับคาตอบของหลินหมิงเล็กน้อยนางไม่คาดหวัง
ว่าหลินหมิงจะกล่าวคากล่าวที่เป็นเท็จหรือจริงนางเพียงแค่ต้องการได้
ยินคาพูดจากปากของเขาเพียงเท่านั้น หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของ
ซือเฟยที่แสดงท่าทีผิดหวังออกมาเล็กน้อย
" อาา...ที่จริงข้าก็ไม่อยากพูดหรอกนะแต่สาหรับข้าแล้วท่านยังคง
ไม่สามารถเทียบกับศิษย์พี่ของข้าได้ "
ประโยคที่หลินหมิงกล่าวออกมามันทาให้ซือเฟยรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
ขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ใช่ว่านางจะไม่รู้ความจริงในเรื่องนี้แต่นางไม่อยากที่
จะยอมรับมันเสียเท่าไหร่
" แต่ถึงอยากนั้นข้าก็มีความต้องการบางอย่างอยู่... "
" ความต้องการสิ่งใด ? "
ซือเฟยกล่าวถามกับหลินหมิง อันที่จริงแล้วหากเป็นบุรุษโดยทั่วไป
ที่ได้รับคาถามเช่นนี้จากนางนางเชื่อมั่นว่าพวกเขาทุกคนจะเลือก
คาตอบที่ทาให้นางพึงพอใจมากที่สุด
" ถึงแม้ว่าท่านจะยังไม่สามารถเทียบกับศิษย์พี่ของข้าได้ แต่มันก็ใช่
ว่าข้าจะยินยอมปล่อยท่านไปแต่โดยง่าย แน่นอนว่าแม้ว่าในยามนี้พลัง
ของข้านั้นอาจจะไม่เพียงพอที่จะทาสิ่งต่างๆเพื่อท่าน แต่อนาคตข้าจะ
แข็งแกร่งขึ้นจนมากเพียงพอที่จะช่วยเหลือท่านในยามที่ท่านพบเจอ
ปัญหา และสาคัญที่สุดข้าจะเปลี่ยนท่านเป็นภรรยาผู้น่ารักของข้าแต่
เพียงผู้เดียวและเชื่อฟังข้าเพียงเท่านั้น ! "
ซือเฟยดวงตาของนางเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง คาตอบ
ของหลินหมิงนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่นางคาดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่าง
นั้นนางรู้สึกได้ว่าคากล่าวของหลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอารมณ์
ที่ออกมาจากใจจริงของเขา ใบหน้าของนางแดงระเรื่อพร้อมกับเลือด
ลมในกายที่ร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
" ฮ่า ๆ เจ้านี้มันเหลือเกินจริงๆ "
ซือเฟยนางหัวเราะร่าออกมาอย่างมีความสุขไม่สาคัญว่าในตอนนี้
นางจะมีความสาคัญน้อยกว่าสาวน้อยข้างกายของหลินหมิงหรือไม่แต่
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแผนการณ์ในอนาคตของหลินหมิงนั้นยังคงมีนาง
อยู่ข้างกายของเขาเพียงแค่สิ่งนี้ก็เพียงพอที่ทาให้นางรู้สึกเป็นสุขยิ่ง
กว่าคาโกหกล่อลวงจากบุรุษอื่นนับล้านคา
ค่าคืนนั้นของหลินหมิงจบลงด้วยการปรนนิบัติอันยอดเยี่ยมจากซือ
เฟยอย่างเร้าร้อนแม้ว่าในก่อนหน้านี้หลินหมิงจะเพิ่งได้ร่วมรับกับนาง
มาเป็นจานวนมากแต่เขาไม่คิดว่ามันจะเพียงพอแต่อย่างใด
เป็นเวลาหนึ่งสับปดาห์ผ่านไป ร่างกายของหลินหมิงเริ่มกลับมามี
พลังและฟื้นฟูขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอนว่าเขายังคงไม่สามารถใช้
พลังทั้งหมดของเขาได้ในตอนนี้เขาอาจใช้ได้เพียงห้าส่วนเพียเท่านั้น
สาหรับผู้อาวุโสจากขุมอานาจทั้งสามจากเมืองฟานชูพวกเขาได้ถูก
ปล่อยตัวกลับไปเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงแต่ผู้อาวุโสฟางซิ่น ผู้อาวุโส
ฉินเหยาที่ยังคงอยู่เพื่อเฝ้าดูอาการของหลินหมิง
สาหรับอาจารย์สาวสวยของเขานางไม่สามารถจากสมาคมมาเป็น
เวลานานได้นางไม่เหมือนกับผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ไม่เลือกที่จะรับ
ภาระหน้าที่ในสมาคมสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นแล้วเมื่อนางเห็นว่าอาการ
ของหลินหมิงดีขึ้นนางจึงต้องรีบกลับไปยังสมาคมโดยเร็ว เพราะว่า
ด้วยการจากมาของนางและเหล่าผู้อาวุโสจานวนมากมันอาจทาให้มีขุม
อานาจอื่นก่อตั้งตัวขึ้นมาในช่วงเวลานั้นก็เป็นได้
เกียวกับความสัมพันธ์ของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนนั้นในตอนนี้
แม้แต่บุคคลภายนอกก็ยังดูออกถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ตระกูล
หลัวที่แต่เดิมเป็นตระกูลพ่อค้าขนาดกลางภายในเมืองฟานชูจากใน
ตอนที่หนึ่งเดือนก่อนที่พวกเขาได้รับข่าวการลงโทษจากสานักของ
หลัวฉิงเชี่ยนมันทาให้สถานะของพวกเขาภายในเมืองนั้นตกต่าลงไป
เป็นอย่างมาก แต่ใครจะสามารถคาดคิดกันได้ว่าเพียงชั่วเวลาเพียง
เดือนเดียวเท่านั้นทุกสิ่งอย่างกลับแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ไปแล้ว
แม้กระทั่งอาจารย์สาวสวยของเขาก็ยังคงไม่คัดค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้
อันที่จริงแล้วนางได้เรียกหลัวฉิงเชี่ยนไปคุยด้วยเล็กน้อยผลปรากฎ
ออกมาว่านางกลับมาหาหลินหมิงด้วยใบหน้าแดงระเรื่อเสียอย่างนั้น
" นี้เจ้าต้องการทาอย่างนี้ทุกเช้าเลยอย่างนั้นรึ ? "
ภายในห้องของหลินหมิงที่ได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยมจาก
หลัวฉิงเชี่ยนในทุกๆวันแน่นอนว่าหลังจากที่หลินหมิงเริ่มที่จะสามารถ
ขยับร่างกายของเขาได้อย่างปกติเขาไม่ยอมที่จะเสียโอกาสเล็กๆน้อยๆ
ในการเพลิดเพลินกับศิษย์พี่ของเขาอย่างเช่นการจูบนางและโอบกอด
นางเอาไว้เพื่อสูดดมกลิ่นกาย
ตอนที่ 200
กลับไปหน้าเรื่อง

หลัวฉิงเชี่ยนแม้ว่านางจะกล่าวออกมาเช่นนั้นแต่ท่าทีของนางนั้น
ไม่ได้มีการปฎิเสธการกระทาของหลินหมิงแต่อย่างใด อันที่จริงแล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่พวกเขาได้ร่วมอาศัยและ
ปฎิบัติกันราวกับสามีภรรยากัน แต่ในตอนนี้นางมีความรู้สึกคุ้นเคย
และพึงพอใจกับสถานะของนางในตอนนี้อยู่ไม่ใช่น้อย
แน่นอนว่าในเรื่องของทาเนียบปฎิบัติต่างๆในตอนนี้บิดาของนาง
นั้นได้พูดคุยกับประมุขสมาคมนักปรุงยาหรือจูหนิงเอ๋อร์เป็นที่
เรียบร้อยแล้วข่าวเรื่องการหมั้นหมายของนางและหลินหมิงถูกป่าว
ประกาศไปอย่างกว้างขวางแม้ว่าพวกเขาจะไม่ทาเช่นนั้นแต่ในตอนนี้
มันคงไม่มีใครที่ไม่สามารถคาดเดาความสัมพันธ์ของนางและหลินหมิง
ได้
แน่นอนว่าสาหรับหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ของหลินหมิงที่ยังไม่ได้ลง
มือกับศิษย์พี่สาวสวยของเขาผู้นี้ส่วนหนึ่งนั้นก็เพราะว่าร่างกายของเขา
ยังคงไม่หายจากอาการบาดเจ็บจนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก
นั้น ดังนั้นแล้วเขาจึงทาได้แค่เพียงลิ้มรสชาติจูบหอมหวานและกลิ่น
กายของศิษย์พี่ของเขาไปก่อนเพียงเท่านั้น แน่นอนว่ามันยังคงทาให้
ศิษย์พี่ของเขารู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้ก่อนที่นางจะต้องเผชิญหน้า
กับการจู่โจมที่แท้จริงจากเขาอีกด้วย
" นี้เจ้าต้องการทามันตอนนี้อย่างนั้นหรอ ? เจ้าอดทนรอไปถึงตอน
ตะวันลับแล้วไม่ได้หรืออย่างไร "
หลัวฉิงเชี่ยนนางตระหนักได้เป็นอย่างดีที่ความต้องการอันมากล้น
ของหลินหมิง เป็นนางเองที่กล่าวกับเขาว่าหากเมื่อใดที่หลินหมิงหาย
จนสามารถขยับได้อย่างปกติดีแล้วนางยินที่จะยินยอมกับเขาทุกอย่าง
แต่นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะมีความต้องการตั้งแต่เช้าวันเช่นนี้
แม้ว่าตานักนี้จะเป็นของหลินหมิงและนางแต่มันก็ยังคงเต็มไปด้วย
สาวใช้จานวนมากที่ถูกจัดเตรียมมาจากแม่ทัพโจว ไม่เพียงเท่านั้น
หลายวันมานี้ก็ได้มีเหล่าผู้อาวุโสที่รู้จักกับหลินหมิงมาเยี่ยมเขาอย่าง
มากมายแล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นหากพวกเขาอาจพบกับภาพที่ไม่เหมาะสม
ก็ได้ไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ?
" ศิษย์พี่...ไม่สิภรรยาของข้าเจ้ากังวลเช่นนั้น ? ในตอนนี้แม้แต่สุนัข
ก็ยังรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราดีเสียอีกพวกเขาจะได้รู้ว่าพวกเรา
มีความรู้สึกต่อกันมากเพียงใด ! "
หลัวฉิงเชี่ยนนางตระหนักได้แล้วว่านางคงไม่สามารถขยับยั้งหลินห
มิงได้อีกต่อไป ร่างของหลินหมิงที่โอบกอดนางจากด้านหลังเริ่ม
เคลื่อนไหวอย่างซุกซนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างของเขาเอื้อม
เข้ามาบีบรัดหน้าอกของนางอย่างเพลิดเพลิน
" มะ..ไม่..อย่าเลีย..หูของข้า..อา... ~~~~ "
ลิ้นของหลินหมิงเริ่มทาหน้าที่ของมันอย่างเร้าร้อนกลิ่นกายที่เขา
ได้รับมาจากศิษย์พี่ผู้งดงามตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มันเพีย
พอที่จะทาให้อารมณ์ของเขาสามารถระเบิดออกมาได้ทุกชั่วขณะ ลิ้น
ของหลินหมิงที่ทาการโลมเลียไปที่ใบหูของนางจนร่างกายของนางสั่น
สะท้าน
" ดะ...เดียวสิ...อาา ~~~ "
หลินหมิงไม่ปล่อยโอกาศให้ศิษย์พี่สาวสวของเขาได้ตงั้ ตัวแต่อย่าง
ใดคอของนางถูกหลินหมิงไซร้พร้อมกับเสียงครางกระเส้าของนางที่ดัง
ออกมา ใบหน้าของหน้าแดงระเรื่อเช่นเดียวกันกับหลินหมิงตลอดหนึ่ง
สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ลาพังเพียงแค่นางได้อยู่ในอ้อมกอดของหลินหมิง
เช่นนี้มันทาให้ร่างกายของนางได้รู้สึกที่ความสุขที่ถูกเติมเต็มร่างกาย
ของนางมีอาการตอบสนองกับอ้อมกอดของหลินหมิงทุกครั้ง
ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่ในตอนนี้ที่บริเวณส่วนล่างของนางเริ่ม
มีการตอบสนองอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน อารมณ์ที่นางเก็บสะสม
เอาไว้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ค่อยๆถูกปลดปล่อยออกมาผ่านทางเสื้อผ้า
บางๆของนาง
หลัวฉิงเชี่ยนนางเขินอายจนแทบจะหมุดลงดินขาทั้งข้างของนางถูก
นามาไขว้กันเพื่อพยายามข่มกลั้นอารมณ์ของนางที่เกิดขึ้นในตอนนี้
อย่างสุดฤทธิ์ แต่ถึงอย่างนั้นมันดูเหมือนว่าจะไม่สามารถช่วยนางได้
เลยแม้แต่น้อย
มือของหลินหมิงค่อยๆเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าจากบริเวณหน้าอก
คู่งามทั้งสองข้างของนางเข้าสู่บริเวณหน้าท้องพร้อมลงไปสู่จุดยุทธ
สาตร์ลับของหญิงสาว
" ไม่..อย่านะ "
มือของนางสามารถเข้าหยุดมือของหลินหมิงเอาไว้ได้ทันก่อนที่มัน
จะเข้าสู่ส่วนลับของนาง อันที่จริงแล้วนางเขินอายเกินกว่าจะให้หลินห
มิงรับรู้ว่าเพียงแค่การเล้าโลมเล็กๆน้อยๆจากหลินหมิงนั้นมันก็ทาให้
นางระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นเช่นนี้มันดูเหมือนกับ
ว่าหญิงสาวที่โหยหาในความใคร่อย่างนั้นไม่ใช่หรือ ?
" ข้ารู่ว่าเจ้ากาลังกังวลถึงสิ่งใด เจ้าไม่จาเป็นที่จะต้องกังวลในสิ่ง
เหล่านั้นในตอนนี้เจ้าเพียงแค่ปล่อยกายไปตามความรู้สึกของเจ้าก็
เพียงพอ.. "
ในตอนนี้หลินหมิงไม่ได้เรียกนางว่าศิษย์พี่อีกต่อไป ท่าทีของหลินห
มิงนั้นมันทาให้หัวใจของนางรู้สึกหวั่นไหวมือของนางเผลอลดการ
ป้องกันไปชั่วครู่จึงเป็นเหตุให้มือของหลินหมิงไม่ถูกฉุดรั้งอีกต่อไป มือ
ข้างหนึ่งของหลินหมิงเข้าสัมผัสที่ส่วนลับของนางภายใต้เสื้อผ้าที่บดบัง
อยู่
หลินหมิงไม่คาดคิดเลยว่าแท้จริงแล้วศิษย์พี่สาวสวยของเขาจะมี
อารมณ์มากถึงเพียงนี้น้ารักของนางจนถึงในตอนนี้มันก็ยังคงหลั่งไหล
ออกมาอย่างต่อเนื่อง
" มะ..มันไม่..ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะ...ข้าก็แค่.... "
หลัวฉิงเชี่ยนนางไม่สามารถหาคากล่าวได้มาอธิบายกับหลินหมิงได้
ในตอนนี้ ท่าทางของนางรู้สึกเขินอายจนนางแทบอยากจะวิ่งหนีจาก
หลินหมิงไปเสียในตอนนี้หากไม่ใช่ว่านางยังคงต้องการสัมผัสอันอบอุ่น
เช่นนี้ต่อไป ทันใดนั้นริมฝีปากอวบอิ่มของนางถูกบดเขาอย่างแผ่วเบา
และทะถนอมมันไม่ใช่จูบเร่าร้อนดั่งเช่นที่ผ่านมา หลัวฉิงเชี่ยนนางเงย
หน้าขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่หลินหมิงที่กาลังยิ้มให้กับนาง
ในตอนนี้นางรู้สึกได้ว่าความกังวลใดๆทั้งสิ้นก่อนหน้านี้ของนาง
นับเป็นสิ่งไร้ค่าไปในทันทีเมื่อนางได้เห็นภาพของหลินหมิงกาลังยิ้ม
อย่างสดใส
" มันเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่แสดงออกว่าเจ้ารักข้าเพียงใดเพียง
เท่านั้น "
หลัวฉิงเชี่ยนเข้ากอดหลินหมิงอย่างรัดแน่นในตอนนี้นางเป็นฝ่าย
รุกเร้าเข้าหาหลินหมิงโดยการเข้าจูบกับหลินหมิงอย่างเร่าร้อนราวกับ
ว่าในตอนนี้ความรู้สึกความเขินอายของนางนั้นถูกหลอมละลายจน
หายไปสิ้นมือของนางหลินหมิงที่กาลังเคลื่อนไหวตามสัดส่วนต่างๆตาม
เรือนร่างของนางนั้นทาให้ร่างกายของนางสั่นสะท้านแต่ถึงอย่างนั้น
นางไม่มีท่าทีปฎิเสธอีกต่อไป
ร่างของหลัวฉิงเชี่ยนค่อยๆถูกประคองไปนอนไว้ที่เตียงอย่างแผ่ว
เบาในตอนนี้ด้วยการกระทาของหลินหมิงนางร้ีสึกได้ว่าศิษย์น้องของ
นางผู้นี้ทะถนอมนางเป็นอย่างมากหากเปลี่ยนเป็นบุรุษอื่นที่ได้รับ
โอกาสเช่นนี้พวกเขาคงเร่งรีบทาตามอารมณ์ความต้องการของเขา
อย่างรวดเร็วไปแล้ว
หลินหมิงจ้องมองไปยังเรือนร่างอันงดงามของศิษย์พี่ของเขาที่
กาลังนอนด้วยเสียงลมหายใจอันเย้ายวนร่างกายของนางในตอนนี้มีสี
ชมพูสดใสอันเกิดจากอารมณ์ของนางที่พุ่งสูงขึ้นมันทาให้ในตอนนี้นาง
ดูเย้ายวนเป็นอย่างมาก
มือของหลินหมิงค่อยๆทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางอย่าง
เชื่องช้า หน้าอกคู่งามที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆบดบังปรากฎสู่สายตาของ
หลินหมิง ใบหน้าของหลินหมิงพุ่งเข้าหาหน้าอกของนางราวกับว่ามันมึ
แรงดึงดูดจนทาให้เขาไม่สามารถนาใบหน้าของเขาออกห่างจาก
หน้าอกคู่นี้ได้
ยอดปถุมทันที่ชมพูดสดใสตกเป็นเป้าหมายแรกของหลินหมิงริม
ฝีปากของหลินหมิงในตอนนี้กาลังเพลิดเพลินอย่างดูดดื่มกับหน้าอก
ของนาง
" นะ..นี้เจ้า..เป็นเด็กทารกหรือยังไงกัน "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงสัีนเครือแต่ถึงอย่างนั้นมือทั้ง
สองข้างของนางกลับโอบกอดศรีษะของหลินหมิงเอาไว้ ในตอนนี้นาง
ยินดีให้หลินหมิงเพลิดเพลินกับร่างกายของนางได้อย่างเต็มที่โดยไม่มี
ข้อแม้ใดๆทั้งสิ้นมือของนางค่อยๆลูบที่ศรีษะของหลินหมิงพร้อมกับ
โอบกอดเอาไว้ด้วยความรู้สึกรักใคร่
ผ่านไปกว่าหนึ่งก้านธูปหลินหมิงถอนริมฝีปากของเขาออกจาก
หน้าอกของหลัวฉิงเชี่ยนในตอนนี้มันปรากฎคราบร่องรอยการดูดดื่ม
ของหลินหมิงจนเป็นรอยแดงเล็กน้อย เสียงหายใจของนางเริ่ม
เปลี่ยนเป็นหนักหน่วงอันที่จริงแล้วจนกระทั่งถึงในตอนนี้มันยังไม่มี
ช่วงเวลาไหนเลยที่นางจะได้หยุดพักจากการจู่โจมของหลินหมิง ที่
บริเวณร่องสวาทของนางนั้นยังคงปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่าง
ต่อเนื่องจนทาให้นางเองก็ยังรู้สึกกังวลว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปร่างกาย
ของนางอาจสูญเสียน้ามากจนเกินไปก็เป็นได้ ?
ตอนที่ 201

ร่างกายของหลัวฉิงเชี่ยนหายใจหอบอย่างอ่อนล้ าสําหรับนางในตอนนี ้ช่วงเวลาที่


ั่ ่ และ
ผ่านมาไม่นานมานี ้มันราวกับว่านางได้ ไปอยูอ่ าศัยบนสรวงสวรรค์มาชัวครู
แน่นอนว่าคนที่พานางไปนันเป็
้ นหลินหมิง

ร่างของหลินหมิงเคลื่อนไหวลงสูบ่ ริ เวณจุดยุทธศาสตร์ ลบั ของหญิงสาวสําหรับ


หลินหมิงแล้ วนันเขาต้
้ องการเพลิดเพลินกับร่างกายของสตรี ก่อนเสมอที่จะลงมือ
จูโ่ จมโดยเฉพาะกับหญิงสาวที่ยงั คงความบริ สทุ ธ์อยูเ่ ช่นเดียวกันกับศิษย์พี่สาว
สวยของเขา

ที่บริ เวณระหว่างขาอันเรี ยบเนียนทังสองข้ ้ างถูกหลินหมิงแหวกออกอย่างช้ าๆเผย


ให้ เห็นกลีบบัวชีชมพูดสดในสภาพสมบูรณ์พร้ อมและแน่นอนว่ามันยังคงมีคราบ
นํ ้าใสๆที่ยงั คงเปราะเปรื อ้ นอยูไ่ ปทัว่ บริ เวณแต่สงิ่ เหล่านันไม่
้ ใช่ปัญหาสําหรับ
หลินหมิงแต่อย่างใดอันที่จริ งแล้ วมันกลับช่วยทําให้ เขามีอารมณ์มากยิ่งขึ ้นไปอีก
หลัวฉิงเชี่ยนที่อยูใ่ นสภาพอ่อนแรงเต็มทนนางไม่ทนั ได้ ร้ ูสกึ ตัวว่าในตอนนี ้หลินห
มิงคิดทําเช่นใดไม่เช่นนันแล้
้ วแม้ วา่ นางจะตัดสินใจยินยอมให้ หลินหมิง
เพลิดเพลินกับเรื อนร่างของนางได้ อย่างตามใจชอบแต่ถงึ อย่างนันกั ้ บบริ เวณส่วน
ลับอันเป็ นส่วนที่น่าอับอายสําหรับสตรี เช่นนางแล้ วมันย่อมเป็ นข้ อยกเว้ น

หลินหมิงสูดดมกลิน่ อันร้ อนแรงที่ออกมาจากร่องสวาทของหลัวฉิงเชี่ยนอาจเป็ น


ั งคงมีกลิน่ ของเหงื่อที่ไหล
เพราะว่านางได้ เสร็ จมาเป็ นจํานวนมากและมันยั
ออกมาจากร่างกายของนางมันจึงทําให้ กลิน่ ที่ออกมานันค่ ้ อนข้ างแรงแต่ถงึ อย่าง
นันมั
้ นไม่ได้ น่ารังเกียจเลยสําหรับหลินหมิง อันที่จริ งแล้ วมันก็เหมือนกับกลิน่
หอมของดอกไม้ ที่มีกลิน่ รุนแรงกว่าดอกไม้ งามปกติเพียงเท่านัน้

" ดะ...เดียว นี ้เจ้ าจะทําอะไร "

ทันใดนันหลั
้ วฉิงเชี่ยนตระหนักได้ ถงึ ความรู้สกึ แปลกประหลาดที่ขึ ้นที่ร่องสวาท
ของนางลมหายใจของหลินหมิงที่กําลังรอยริ นรดร่องสวาทของนางที่กําลังอยูใ่ น
สภาวะตื่นตัวอย่างเต็มที่ทําให้ นางตอบสนองอย่างรวดเร็ ว นางพยายามหุบขา
อย่างรวดเร็ วแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นกลับเป็ นไปไม่ได้ นนก็
ั ้ เพราะว่าในตอนนี ้ศรี ษะของ
หลินหมิงกําลังอยูท่ ี่ระหว่างขาของนางด้ วยเช่นเดียวกัน

" ข้ าเพียงต้ องการดูมนั สักเล็กน้ อย เหตุใดเจ้ าถึงต้ องกังวลกัน "

" นะ..นี ้มัน "

หลัวฉิงเชี่ยนถึงกับพูดไม่ออกสําหรับบุรุษโดยทัว่ ไปแล้ วพวกเขาแม้ จะต้ องการนํา


ทวนมังกรของพวกเขาเสียบมาในร่องสวาทของหญิงสาวแต่มนั ไม่มีบรุ ุษคนใด
อย่างแน่นอนที่ต้องการสํารวจร่องสวาทของหญิงสาว แต่ถงึ อย่างนันเมื ้ ่อนาง
หวนคิดถึงความตังใจก่
้ อนหน้ านี ้ของนางที่ตงใจให้
ั้ หลินหมิงเพลิดเพลินกับเรื อน
ร่างของนางได้ อย่างเต็มที่มือของนางค่อยๆถูกนําออกจากร่องสวาทสีชมพูสด
อย่างช้ า

" จะ..เจ้ าดูมนั เสร็ จแล้ วรึยงั ..ทําไมเจ้ าไม่ขึ ้นมาหาข้ าตอนนี ้เสียล่ะ ข้ ารู้สกึ ว่าข้ า
เริ่ มจะหายเหนื่อยแล้ วเช่นนันเรามาแลกเปลี
้ ่ยนจูบกันอีกรอบดีหรื อไม่ "
หลัวฉิงเชี่ยนนางพยายามโน้ มน้ าวให้ หลินหมิงเลิกสนใจในร่องสวาทของ
นาง แต่ดเู หมือนว่ามันจะไม่เป็ นผลแต่อย่างใดลมหายใจของหลินหมิงในะระย
ใกล้ ชิดกับร่องสวาทของนางมันทําให้ ร่างกายของนางรู้สกึ เบาหวิว นิ ้วมือของ
หลินหมิงเข้ าสัมผัสที่บริ เวณกลีบพร้ อมกับลูบไล้ อย่างแผ่าวเบา โดยในทันทีนํ ้า
รักใสๆของหลัวฉิงเชี่ยนเริ่ มมีการหลัง่ ไหลออกมาอีกครัง้ อย่างเชื่องช้ า

โดยไม่ทนั ให้ หลัวฉิงเชี่ยนได้ ตงตั


ั ้ วแต่อย่างใดลิ ้นของหลินหมิงเข้ าสัมผัสที่บริ เวณ
กลีบบัวสีชมพูพร้ อมกับโลมเลียไปทัว่ บริ เวณร่างกายของนางสัน่ ไหวอย่างรุนแรง
พร้ อมกับเสียงครางสนัน่

" อร้ างงง ~~~~ ดะ...เดียวสิ..นะ..นี ้เจ้ าทําอะไร..อา ~~~ "

ร่างของหลัวฉิงเชี่ยนบิดส่ายไปมาด้ วยความเสียวซ่านที่กําลังเกิดขึ ้น ขาของนาง


พยายามบีบรัดไปที่ศรี ษะของหลินหมิงมือของนางในตอนนี ้กําไปที่ผ้าปูเตียง
อย่างหนาแน่น
" นะ..นี ้มัน..อะไรกัน..ข้ ารู้สกึ หวิวไปหมดแล้ ว อ้ าาา~~~~ "

ลิ ้นของหลินหมิงเปลี่ยนจากการเคลื่อนไหวจากบริ เวณรอบๆกลีบบัวชีชมพูเป็ น
การสอดใส่เข้ าไปภายในร่องสวาทอันคับแน่นของนาง หลัวฉิงเชี่ยนหลับตาลง
อย่างชิดแน่นร่างกายบริ เวณหน้ าท้ องของนางถูกยกขึ ้นพร้ อมกับนํ ้ารักของนางที่
พร้ อมจะระเบิดออกอยูต่ ลอดเวลา หลินหมิงไม่สามารถโลมเลียต่อไปได้ เมื่อเขา
ได้ เห็นเช่นนี ้เขานําลิ ้นออกมาพร้ อมกับไม่นานที่นํ ้ารักของหลัวฉิงเชี่ยนถูกระเบิด
ออกมาราวกับเขื่อนแตก
หลินหมิงกลับขึ ้นมาคร่อมร่างของศิษย์พี่สาวสวยของเขาอีกครัง้ ในตอนนี ้นาง
หายใจถี่พร้ อมกับจ้ องมองมาที่หลินหมิง

" เจ้ าชอบมันหรื อไม่ ? "

หลัวฉิงเชี่ยนแม้ วา่ นางจะมีความรู้สกึ ยากที่ยอมรับแต่ถงึ อย่างนันไม่


้ วา่ จะเป็ น
การเล้ าโลมก่อนหน้ านี ้ของหลินหมิงทังหมด
้ หรื อภายใต้ อ้อมกอดของเขากระทัง่
รสชาติลิ ้นของเขาที่เข้ าสัมผัสไปที่ร่องสวาทของนางนันมั
้ นทําให้ นางรู้สกึ มี
ความสุขจนยากจะลืมเลือน ศรี ษะของนางพยักหน้ าเบาๆเป็ นการตอบหลินหมิง
แทน
หลินหมิงในตอนนี ้เริ่ มลงมือปลดเปลื ้องเสื ้อผ้ าของเขาออกในตอนนี ้เขาได้ ลงมือ
เตรี ยมการให้ กบั หลัวฉิงเชี่ยนให้ อยูใ่ นสภาพพร้ อมสมบูรณ์อย่างยอดเยี่ยม
แล้ ว ทวนมังกรของหลินหมิงถูกนําไปจ่อไปที่บริ เวณร่องสวาทของนาง หลัวฉิง
เชี่ยนสามารถสัมผัสได้ ถงึ ไออุน่ จากร่างเนื ้อของนางที่สมั ผัสกับร่างเนื ้อเปลื่อย
เปล่าของหลินหมิง

มือทังสองข้
้ างของนางค่อยๆเข้ าโอบคอของหลินหมิงเอาไว้ แน่นอนว่าในตอนนี ้
นางไม่มีความกล้ ามากพอที่จะมองไปดูยงั บริ เวณส่วนด้ านล่างอันที่จริ งแล้ วนาง
ได้ ยินมาว่าทวนมังกรของหลินหมิงนันมี ้ ขนาดใหญ่เกินกว่าของบุรุษทัว่ ไป
มาก แน่นอนว่าทังหมดนี
้ ้มาจากอาจารย์สาวสวยของเขาและนางจูหนิงเอ๋อร์
นันเอง
้ อาจเป็ นไปได้ วา่ อาจารย์ของพวกเขานันอาจได้
้ ยินเรื่ องเหล่านี ้มาจากสาว
ใช้ ของหลินหมิงในตอนที่เขายังคงอยูท่ ี่ตํานักภายในสมาคมนักปรุงยา

ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆถูกแทงทะลวงเข้ าไปภายในร่องสวาทของ
นาง ใบหน้ าของนางเต็มไปด้ วยความเจ็บปวดเล็กน้ อยแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่ใช่
ความเจ็บปวดที่เกินกว่านางจะสามารถทนได้ นางสามารถรู้สกึ ได้ ถงึ ทวนมังกร
ของหลินหมิงที่มีขนาดใหญ่จนทําให้ ร่องสวาทของนางนันถู
้ กขยายออกอย่าง
ต่อเนื่องแค่เพียงบริ เวณส่วนปลายหัวของทวนมังกรมันก็เพียงพอที่จะทําให้ ขา
ของนางนันถึ
้ งกับแข็งเกร็ งไปหมด

" จูบข้ าที "

หลัวฉิงเชี่ยนไม่สามารถระงับอารมณ์ความสุขที่เกิดขึ ้นได้ และนางไม่ร้ ูวา่ จะ


สามารถรับมือกับความเสียวซ่านที่เกิดขึ ้นนี ้ได้ อย่างไรดังนันแล้
้ วนางจึงเลือกไป
ตัวไปตามสัญชาตญาณทังหมด ้ นางโอบกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้ ในขณะที่
พวกเขากําลังประกบปากกันอย่างดูดดื่ม เช่นเดียวกันกับทวนมังกรของหลินหมิง
ที่คอ่ ยๆถูกแทงเข้ ามาภายในตัวของนาง

เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาอย่างต่อเนื่องแต่ถงึ อย่างนันเพี ้ ยงไม่นานหลัวฉิง


เชี่ยนนางกลับไม่ร้ ูสกึ ถึงความเจ็บปวดมากนักอันที่จริ งแล้ วส่วนหนึง่ เป็ นเพราะว่า
ในตอนนี ้ร่องสวาทของนางนันเต็ ้ มไปด้ วยคราบนํ ้ารักของนางก่อนหน้ านี ้ แต่ที่
สําคัญที่สดุ ก็คืออารมณ์ความสุขที่เกิดขึ ้นมันเพียงพอที่จะเปลี่ยนความรู้สกึ
เจ็บปวดทุกอย่างเป็ นไร้ คา่
หยาดนํ ้าตาของนางค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาทังสองข้้ างในขณะที่นางกําลัง
จูบกับหลินหมิงอยู่ หลินหมิงพลันถอนริ มฝี ปากของเขาออกมาพร้ อมกับหยุด
ทะลวงร่องสวาทของนางไปชัว่ ครู่

" เจ้ าเจ็บเช่นนันรึ


้ "

" ไม่เลย ข้ าเพียงแค่ร้ ูสกึ มีความสุขที่ในตอนนี ้ข้ าก็ได้ เป็ นหนึง่ เดียวกับเจ้ า ได้ เป็ น
ภรรยาของเจ้ า ได้ อยูข่ ้ างเจ้ า "

หลินหมิงยิ ้มอย่างอ่อนโยนพร้ อมกับก้ มลงประทับจูบไปที่ริมฝี ปากของนางอีกครัง้


ทวนมังกรของหลินหมิงดําเนินมาถึงจุดตันของร่องสวาทของนางแน่นอนว่า
ในตอนนี ้ร่องสวาทของนางมันทําให้ ร้ ูสกึ ว่าทวนมังกรของเขาอาจถูกหลอม
ละลายด้ วยความอบอุน่ ที่เกิดขึ ้นในตอนนี ้
หัวสมองของหลัวฉิงเชี่ยนรู้สกึ ขาวโผลนร่างกายของนางในตอนนี ้แทบจะไร้ ซงึ่
เรี่ ยวแรง ซึง่ มันตรงข้ ามกับหลินหมิงโดยสิ ้นเชิงในตอนนี ้ไม่เพียงแต่ลิ ้นของ
หลินหมิงกับเพลิดเพลินกับการผัวพันกับลิ ้นของนางภายในปาก ทวนมังกรของ
เขาเริ่ มมีการขยับเข้ าออกด้ วยจังหวะที่เพิ่มขึ ้นด้ วยเช่นเดียวกัน

หลินหมิงเริ่ มที่เปลี่ยนเป็ นจังหวะอันเร่าร้ อนริ มฝี ปากของเขาเคลื่อนไหวไปตาม


ซอกคอของนางพร้ อมกับเสียงครางกระเส้ าของนางที่ดงั สนัน่ ออกมา แม้ วา่ การ
จูโ่ จมของหลินหมิงจะเปลี่ยนเป็ นร้ อนแรงขึ ้นภายในชัว่ เวลาไม่นานแต่ถงึ อย่างนัน้
ศิษย์พี่สาวสวยของเขานางกลับไม่มีทา่ ทีปฎิเสธแต่อย่างใดหากเปลี่ยนเป็ นแม่
สาวตัวน้ อยของเขาหลัวฉวนยูร์แล้ วละก็ในตอนนี ้นางอาจบ่นเขาไปนับสิบ
ประโยคแล้ ว

" อ๊ ะ อ๊ ะ อ๊ ะ ~~~~ "

เสียงร้ องของนางค่อยๆเป็ นจังหวะต่อเนื่องขึ ้นเรื่ อยอันที่จริ งแล้ วในตอนนี ้หลัวฉิง


เชี่ยนกระทัง่ ไม่สามารถรู้สกึ ตัวได้ วา่ นางกําลังส่งเสียงครางอันเย้ ายวนออกมา
หน้ าอกทังสองข้
้ างที่กําลังกระเพื่อมขึ ้นลงถูกบีบจับโดยมือของหลินหมิงอย่าง
หนาแน่น เพียงไม่นานหลินหมิงเองก็ไม่สามารถทนอารมณ์ความสุขที่เกิดขึ ้นนี ้
ต่อไปได้ นานทวนมังกรของเขาปล่อยนํ ้ารักเข้ าสูภ่ ายในตัวของหลัวฉิงเชี่ยนอย่าง
ท่วมถ้ น......
ตอนที่ 202

หลินหมิงใช้ เวลาร่วมกับหลัวฉิงเชี่ยนอยูเ่ ป็ นเวลานานอันที่จริ งแล้ วนอกเหนือจาก


เวลากินอาหารเวลาของพวกเขาทังหมดล้ ้ วนใช้ ไปกับการแนบชิดกับอย่างแนบ
แน่นถึงสามวันเต็ม หลัวฉิงเชี่ยนนางสามารถสัมผัสได้ ถงึ ความแปลกประหลาด
ที่ขึ ้นกับร่างกายของนางพลังปราณภายในร่างของนางนันมี ้ การปะทุขึ ้นอย่างบ้ า
คลัง่ หลังจากร่วมรักกับหลินหมิง

นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าหลังจากที่ร่วมรักกับหลินหมิงแล้ วนางจะได้ รับ


ประโยชน์เช่นนี ้ด้ วยไม่เพียงแต่จะได้ รับความสุขที่มากล้ นแต่มนั ยังคงช่วย
ยกระดับให้ กบั นาง ? หากสตรี ทวั่ ทังอาณาจั
้ กรแห่งนี ้ได้ ร้ ูเขาพวกนางอาจรี บ
เสนอตัวเป็ นนางสนมให้ แก่หลินหมิงในทันที

" ข้ ายกระดับเข้ าสูป่ ราณก่อเกิดขันที


้ ่ห้าแล้ ว ? "
หลัวฉิงเชี่ยนรู้สกึ ตื่นเต้ นเป็ นอย่างมากไม่เพียงเท่านันนางยั
้ งคงสัมผัสได้ ถงึ พลัง
พื ้นฐานของนางที่กําลังถูกเติมเต็ม ทันใดนันหั ้ วสมองของนางพลันคิดได้ ถงึ อะไร
บางอย่างนางจึงรี บหันไปมองที่ใบหน้ าของหลินหมิงที่กําลังเปื อ้ นยิ ้มอยูข่ ้ างกาย
ของนางบนเตียง

" เพราะเหตุนี ้น้ องจิวหลินถึงได้ มีพลังพื ้นฐานที่หนาแน่นเช่นนัน้ ? "

นางรู้ดีวา่ จิวหลินนันมี
้ พลังพื ้นฐานที่น่าตื่นตะลึงมากเพียงใดในอนาคตไม่
เพียงแต่นางจะถูกคาดหวังให้ เป็ นตัวตนระดับปราญช์เพียงเท่านันนางอาจเข้
้ าสู่
ระดับปราญช์ขนปลายหรื
ั้ อกระทัง่ กลายเป็ นแม่ทพั ใหญ่ที่เป็ นหญิงสาวคนที่สอง
ของอาณาจักรได้ !

" ถ้ าเจ้ าต้ องการเช่นนางข้ าคิดว่าพวกเราควรจะต้ องขยันกันมากกว่านี ้อีกสัก


เล็กน้ อย ฮ่าๆ "
หลินหมิงกล่าวพร้ อมกับขยับเข้ าขึ ้นคร่อมร่างกายของหลัวฉิงเชี่ยนอีกครัง้

" ไม่ได้ ในตอนนี ้เจ้ ายังไม่ได้ รับอนุญาตให้ ทําเช่นนี ้ รู้ไหมว่าเจ้ าเก็บตัวภายใน


ห้ องนานมากแล้ วเจ้ าสมควรออกไปพบผู้คนภายนอกด้ วยอย่างน้ อยที่สดุ
ในตอนนี ้อาจารย์ของเจ้ าก็คงต้ องการพูดคุยกับเจ้ า ไม่เพียงเท่านันยั ้ งคงมีผ้ ู
อาวุโสจากเมืองของพวกเราอีกทีตา่ งรอเจ้ าอยู่ และข้ าเองก็ยงั ต้ องการที่จะฝึ กฝน
เพื่อทําความเข้ าใจระดับพลังใหม่นี ้ด้ วย "

" อาาา ก็ได้ "

หลินหมิงกล่าวออกมาด้ วยนํ ้าเสียงไม่ยินดีนกั แต่ถงึ อย่างนันเขารู


้ ้ ดีวา่ เขาคงไม่
สามารถเอาแต่หมกตัวอยูภ่ ายในห้ องอย่างเดียวได้ อย่างน้ อยที่สดุ เขาก็ยงั มีเหล่า
ผู้อาวุโสสาวทังหลายรอเขาอยู
้ ่

" คุณชายเจ้ าคะ ท่านแม่ทพั โจวต้ องการนัดเพื่อกล่าวคุยเรื่ องสําคัญกับท่านเจ้ า


คะ "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนมองหน้ ากันอันที่จริ งแล้ วก่อนหน้ าที่อาจารย์สาวสวย
ของเขาจะกลับไปนางเพียงเน้ นยํ ้ากับเขาว่าไม่ให้ เขาเชื่อใจในผู้อาวุโสของสํานัก
อีกต่อไปซึง่ แน่นอนว่าหลินหมิงเลือกที่จะทําเช่นนันอยู
้ แ่ ล้ วซึง่ มันแตกต่างจาก
หลัวฉิงเชี่ยนดังนันแล้
้ วคํากล่าวของอาจารย์ของเขานันดู ้ เหมือนว่าจะเป็ นการ
เตือนภรรยาหน้ าใหม่ของเขาเสียมากกว่า แต่ถงึ อย่างนันนางยั
้ งคงกล่าวเอาไว้ วา่
เขาสามารถเชื่อใจแม่ทพั โจวผู้นี ้ได้

หลินหมิงเข้ าอาบนํ ้าแต่งตัวด้ วยการช่วยเหลือจากหลัวฉิงเชี่ยนสําหรับหลินหมิง


ในตอนนี ้นางเหมือนกับภรรยาผู้เพรี ยบพร้ อมและสมบูรณ์แบบไปไม่น้อยกว่าจิว
หลินเลยเสียด้ วยซํ ้าไป หลินหมิงเดินออกมาจาสํานักแน่นอนว่าเขาย่อมเป็ นเป้า
สายตาจากบรรดาศิษย์ภายในสํานักและผู้อาวุโส

แน่นอนว่ามันไม่ใช่สายตาที่ดีนกั แต่มนั เป็ นสายตาทีเต็มไปด้ วยความหวาดกลัว


อย่างแท้ จริ ง เหล่าศิษย์ใหม่ทงหลายพวกเขาตระหนั
ั้ กได้ ถงึ ความผิดพลาดอัน
ร้ ายแรงแม้ วา่ พวกเขาจะไม่ได้ มีสว่ นร่วมในการร่วมมือกลันแกล้้ งหลัวฉิงเชี่ยนแต่
ถึงอย่างนันพวกเขากลั
้ บไม่มีใครแม้ แต่คนเดียวที่คิดจะสนับสนุนนางดังนันแล้
้ ว
มันอาจเป็ นเรื่ องที่งา่ ยมากที่หลินหมิงคิดจะทําให้ ตวั ตนของพวกเขา
หายไป ขนาดเหล่าผู้อาวุโสที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขนสู
ั ้ งสุดและกระทัง่ ผู้อาวุโสที่
อยูใ่ นขันปราญช์
้ ก็ยงั คงตกตายด้ วยมือของหลินหมิงมานับร้ อย ดังนันแล้
้ วไม่
ต้ องพูดถึงพวกเขาเลยแม้ แต่น้อย

แต่กลุม่ คนที่เป็ นกังวลที่สดุ ในเวลานี ้ย่อมไม่พ้นผู้อาวุโสภายในสํานักในตอนนี ้


ท้ องไส้ ของพวกเขารู้สกึ ปั่ นป่ วนกระทัง่ ในยามหลับ พวกเขาแทบจะทุกคนมีสว่ น
ร่วมในการโจมตีหลินหมิงจนมีความคิดที่จะสังหารเขาไปแล้ วเสียด้ วยซํ ้าไปแม้ วา่
เรื่ องทังหมดจะจบลงแต่
้ นนเป็
ั ้ นเพราะว่าแม่ทพั โจวเป็ นผู้ออกหน้ าให้ กบั พวก
เขา และยังมีคําขอร้ องจากหลัวฉิงเชี่ยนหลินหมิงจึงยังคงไม่คิดที่จะทําสิง่ ใด
ในตอนนี ้

แต่หากผ่านไปอีกสักสีถ่ งึ ห้ าปี เมื่อนันไม่


้ มีใครสามารถคาดคิดว่าหลินหมิงจะ
สามารถเติบโตไปได้ มากเพียงใดและเมื่อเป็ นเช่นนันหากหลิ
้ นหมิงยังคงไม่ลืม
ความแค้ นเหล่านี ้ไม่เพียงแต่ชีวิตของพวกเขาเท่านันกระทั
้ ง่ ตระกูลของพวกเขาก็
คงไม่อาจรอด
ทันทีที่หลินหมิงออกมานอกสํานักรถม้ าอันหรูหราได้ ปรากฎรอเข้ าอยูท่ ี่หน้ าประตู
สํานักเป็ นที่เรี ยบร้ อยแล้ วแน่นอนว่ารถม้ านี ้มีตวั อักษรที่สะกดชื่อของแม่ทพั โจว
เอาไว้ อย่างชัดเจนดังนันแล้้ วหลินหมิงไม่จําเป็ นจะต้ องกังวลว่านี ้จะเป็ นกลลวง
แต่อย่างใด

รถม้ าได้ เคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ วภายในรถม้ านันค่


้ อนข้ างสะดวกสบายและ
กว้ างขวาง ใช้ เวลาเพียงไม่ถงึ สองก้ านธูปรถม้ าก็ได้ หยุดลงพร้ อมกับที่หลินหมิง
ที่ก้าวลงมา ภาพที่เห็นเบื ้องหน้ าของเขาในตอนนี ้คือสถานที่อยูอ่ าศัยของแม่ทพั
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร

หลินหมิงไม่สามารถคาดเดาเหนือที่อนั กว้ างใหญ่ของตํานักของแม่ทพั ผู้นี ้


ได้ หลินหมิงสามารถมองเห็นถึงทหารจํานวนมากที่กําลังฝึ กฝน ตรวจตราอยู่
โดยรอบ ที่บริ เวณส่วนกลางมันมีตํานักขนาดใหญ่ขนาดที่วา่ แม้ หลินหมิงจะได้
พบเห็นตํานักอันใหญ่โตมามากมายแต่มนั ไม่สามารถเทียบได้ กบั ตํานักตรงหน้ า
ของเขาในตอนนี ้
หลินหมิงเดินเข้ ามาภายในตัวตํานักด้ วยการนําทางจากสาวใช้ อนั ที่จริ งแล้ ว
หลินหมิงพบว่าตํานักแห่งนี ้แม้ แต่สาวใช้ ก็ยงั มีความแข็งแกร่งในระดับจอมยุทธ์
ขันที
้ ่หนึง่ เป็ นอย่างน้ อย !

" โอ้ เจ้ ามาแล้ ว "

เสียงของชายสูงอายุดงั ขึ ้นแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากหนึง่ ในสี่


แม่ทพั ใหญ่แห่งอาณาจักรแม่ทพั โจว

" ท่านต้ องการคุยกับข้ า ? "

หลินหมิงนัง่ ลงพร้ อมกับจ้ องมองไปที่แม่ทพั โจว

" อันที่จริ งข้ าคิดจะหาเวลาพูดคุยกับเจ้ าตังนานแล้


้ วแต่ดเู หมือนว่าอาการของเจ้ า
จะยังคงไม่ดีขึ ้นนักดังนันข้
้ าจึงทําได้ แต่เพียงรอ "
" แล้ วท่านต้ องการพูดกล่าวสิง่ ใด ? "

แม่ทพั โจวยิ ้มออกมาเล็กน้ อยอันที่จริ งแล้ วหากเป็ นบุคคลทัว่ ไปมีหรื อที่พวกเขา


จะกล้ ากล่าวเช่นนี ้กับตัวตนเช่นเขา ? กระทัง่ เหล่าราชวงศ์ก็ยงั คงต้ องสํารวม
เวลาพูดคุยกับเขา มีคนไม่มากนักที่มีความกล้ ามีเพียงพอที่จะคุยกับเขา
เช่นนี ้ หนึง่ ในนันคื
้ อหลินฮ่าว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้ าเด็กหนุ่มผู้นี ้เป็ นบุตรของ
เขาอย่างไม่ต้องสงสัย

" สําหรับเรื่ องแรกความเสียหายที่เกิดขึ ้นกับตระกูลหลิน สมาคมนักปรุงยา และ


ตระกูลหลิว พวกเจ้ าจะได้ รับทรัพย์สมบัติสว่ นหนึง่ เป็ นการทดแทน "

หลินหมิงพยักหน้ ารับอย่างเห็นด้ วยอันที่จริ งแล้ วแม้ วา่ สงครามจะดําเนินไปด้ วย


ระยะเวลาสัน่ ๆแต่ถงึ อย่างนันด้
้ วยกําลังที่น้อยกว่าของพวกเขามันทําให้ พวกเขา
ต้ องสูญเสียผู้อาวุโสไปเป็ นจํานวนไม่ใช่น้อย

" เรื่ องต่อไปในตอนนี ้สถานะของเจ้ าได้ รับการยกระดับเป็ นหนึง่ ในผู้อาวุโสของ


สํานักเจ้ าสามารถเรี ยนรู้ทกั ษะพื ้นฐานต่างๆได้ ตามต้ องการและมีสทิ ธ์เข้ าถึง
ทักษะระดับสูงสองทักษะต่อปี และเจ้ ายังได้ รับผลตอบแทนต่อเดือนอีกด้ วย
เช่นเดียวกัน "

" ฮ่า ๆ ๆ ๆ "

หลินหมิงหัวเราะลัน่ จนทําให้ แม่ทพั โจวขมวดคิ ้วเขาไม่เข้ าใจว่าสิง่ ที่เขากล่าวมันมี


สิง่ ใดที่น่าขันตรงไหนอันที่จริ งแล้ วในตอนนี ้เขาพยายามที่จะสานความสัมพันธ์
ระหว่างสํานักวังจันทรากับหลินหมิง ไม่วา่ อย่างไรก็ตามแต่สาํ นักแห่งนี ้นันถู ้ ก
สร้ างขึ ้นมาเป็ นเวลานานแล้ วและมันคงไม่ดีนกั หากหลินหมิงยังมีความคิดที่ไม่ดี
เกี่ยวกับสํานักแห่งนี ้

" ผู้อาวุโสของสํานัก ? ทักษะระดับสูง ? ถึงตอนนี ้ท่านยังคงคิดว่าข้ าอยากเป็ น


ส่วนหนึง่ ของสํานักอันเน่าเหม็นนัน้ ? ข้ ายินดีเปลี่ยนข้ อเสนอของท่านทังหมด

เป็ นการให้ ข้าสามารถเข่นฆ่าผู้อาวุโสเหล่านันเพิ
้ ่มอีกสักสิบคนข้ าคงยินดี
มากกว่านี ้ "
หลินหมิงไม่ได้ มีความสนใจในเรื่ องของทักษะอีกต่อไปอันที่จริ งแล้ วด้ วยมรดกตก
ทอดจากชายวัยกลางคนมันทําให้ ในหัวสมองของหลินหมิงในตอนนี ้เต็มไปด้ วย
ทักษะโบราณอยูม่ ากมายแต่มนั ย่อมต้ องใช้ เวลาเป็ นอย่างมากกว่าที่หลินหมิงจะ
สามารถทําความเข้ าใจพวกมันได้ สกั ทักษะดังนันแล้ ้ วไม่ต้องพูดถึงทักษะของ
สํานักแห่งนี ้ที่ไม่สามารถเปรี ยบเทียบได้ กบั ทักษะที่เขาได้ รับตกทอดมาเลยแม้ แต่
น้ อย
ตอนที่ 203

แม่ทพั โจวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อนั ที่จริ งแล้ วไม่ใช่วา่ เขาไม่เข้ าใจ


ความรู้สกึ ของหลินหมิง แต่เขาคาดหวังว่าอย่างน้ อยทีสดุ หลินหมิงจะยังคงเห็น
แก่หน้ าของเขาบ้ าง แต่ดเู หมือนว่าเขาจะคาดการณ์สงิ่ เหล่านันผิ
้ ด ดูเหมือนว่า
เหตุผลเดียวที่หลินหมิงยังคงไม่ก่อความวุน่ วายในตอนนี ้นันก็
้ เพราะว่าสาวน้ อยที่
ชื่อหลัวฉิงเชี่ยนเพียงคนเดียวเพียงเท่านัน้

" เรื่ องนันข้


้ าเกรงว่ามันคงจะเป็ นไปไม่ได้ ...ข้ าขอให้ เจ้ าลองดูตรองดูให้ ดีไม่ใช่วา่
หญิงสาวอีกสองคนข้ างกายเจ้ ายังคงอยูภ่ ายในมิติเล้ นลับ แล้ วมันจะเป็ นเช่นไร
หากเจ้ าก่อความวุน่ วายขึ ้นไม่ใช่วา่ มันอาจส่งผลกระทบต่อประตูเข้ าออกของมิติ
เล้ นลับอย่างนันหรื
้ อ ?"
หลินหมิงเมื่อได้ ยินคํากล่าวของแม่ทพั โจวในหัวของเขาสบถออกมาอย่างอารมณ์
เสียดูเหมือนว่าตาเฒ่าผู้นี ้จะไม่ได้ มีเพียงอายุที่ยืนยาวเพียงเท่านันแต่

ประสบการณ์ของเขาและเล่ห์เหลี่ยมของเขานันเป็ ้ นของจริ งอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ วา่ ด้ วยการกระทําของหลินหมิงมันอาจไม่สร้ างผลกระทบโดยตรงต่อประตูเข้ า


ออกมิตเิ ล้ นลับแต่ถงึ อย่างนันใครจะสามารถคาดเดากั
้ นได้ บ้างว่าหากหลินหมิ
งกดดันเหล่าผู้อาวุโสภายในสํานักมากจนเกินไปพวกเขาอาจทําเรื่ องที่ร้ายแรง
อย่างเช่นการทําลายประตูมิตแิ ห่งนี ้เพื่อแก้ แค้ นหลินหมิง

" เอาอย่างนันก็
้ ได้ ...เพียงแต่วา่ ข้ าขอเปลี่ยนจากศิษย์ในการเข้ าถึงทักษะทังหมด

เป็ นหินลมปราณเพียงอย่างเดียวเท่านัน้ "

แม่ทพั โจวพยักหน้ าอย่างตกลงสําหัรบเขาแล้ วการที่ทําให้ หลินหมิงยอมรับใน


เรื่ องนี ้ได้ กบั การเสียหินลมปราณเพียงจํานวนหนึง่ ไม่อาจนับว่าเป็ นปั ญหาสําหรับ
เขาได้ เลยแม้ แต่น้อย ส่วนทางด้ านของหลินหมิงเองเขาไม่มีความคิดที่จะใส่ใจ
ในเรื่ องของทักษะของสํานักแห่งนี ้ตังแต่
้ ต้นดังนันแล้
้ วแม้ วา่ หินลมปราณนันเขา ้
จะไม่สามารถใช้ มนั ได้ แต่กบั เหล่าหญิงสาวของเขานันยั
้ งคงเป็ นอีกเรื่ องหนึง่

ในระหว่างที่หลินหมิงและแม่ทพั โจวกําลังพูดกล่าวกันอยูน่ นได้ ั ้ มีการปรากฎตัว


ของชายหนุ่มขึ ้นมาแน่นอนว่าด้ วยการปรากฎตัวของเขานันทํ ้ าให้ หลินหมิงคาด
เดาได้ วา่ พื ้นหลังของชายหนุ่มอายุราวยี่สบิ ปี ปลายๆผู้นี ้ย่อมไม่ธรรมดา อย่าง
น้ อยที่สดุ เขาก็มีความสามารถมากพอที่จะเข้ ามาในตํานักของแม่ทพั โจวผู้
ยิ่งใหญ่แห่งนี ้ได้

หลินหมิงหันไปมองที่แม่ทพั โจวที่กําลังจดจ้ องไปยังร่างชายหนุ่มที่มาใหม่พร้ อม


กับพยักหน้ าให้ เขานัง่ ลง

" เอาล่ะในส่วนธุระของข้ าคงหมดลงแค่นี ้ส่วนเรื่ องหินลมปราณนันข้


้ าจะจัดการ
ให้ คนของข้ านําไปให้ ไว้ ที่ตํานักของเจ้ าภายในเร็ วนี ้ "

ร่างของแม่ทพั โจวจากไปพร้ อมกับปล่อยให้ ชายหนุ่มหน้ าใหม่กบั หลินหมิงอยู่


เพียงสองคน อันที่จริ งแล้ วนันชายหนุ
้ ่มผู้นี ้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากองค์ชาย
ลําดับที่หนึง่ ซุน่ จิ ้งชวง แน่นอนว่าหลังจากจบสงครามลงเขาได้ พยายามหาวิธี
ทุกอย่างเพื่อเขาติดต่อกับหลินหมิงแต่ดเู หมือนว่ามันจะเป็ นไปไม่ได้ จนกระทัง่ ถึง
วันนี ้
หลายวันที่ผา่ นมานี ้อํานาจระหว่าของเขาและน้ องชายของเขาเริ่ มที่จะแตกต่าง
กันอย่างมากขึ ้นเรื่ อยๆ

เหตุผลเพียงอย่างเดียวเท่านันก็้ คือในก่อนหน้ านี ้เขาให้ การสนับสนุนกงซุนเอี ้ยน


ที่เป็ นศัตรูของหลินหมิง ในตอนนี ้ทัว่ ทังอาณาจั
้ กรคงมีแต่คนโง่เพียงเท่านันที
้ ่คิด
จะเป็ นศัตรูกบั หลินหมิงด้ วยอายุของเขาที่เพิ่งจะครบ 16 ปี ไปไม่นานแต่
ความสําเร็ จของเขาจะถูกจารึกไว้ ในประวัติศาสตร์ ของอาณาจักรอย่างไม่ต้อง
สงสัย
รุ่นเยาว์ที่มีอายุเพียง 16 ปี ที่หาญกล้ าสู้กบั เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังระดับจอม
ยุทธ์ขนสู
ั ้ งสุดและขันปราญช์
้ จนสามารถสังหารพวกเขาเหล่านันได้ ้ ไปนับ
ร้ อย เหตุการณ์ที่น่าสัน่ สะพรึงนี ้แน่นอนว่าต่อให้ ย้อนอดีตไปอีกนับล้ านปี พวก
เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่มีความสามารถเช่นนี ้ได้

" แล้ วท่านคือ ? "


อันที่จริ งแล้ วนันหลิ
้ นหมิงยังคงไม่ร้ ูถงึ ตัวตนที่แท้ จริ งของชายตรงหน้ าของ
เขา แม้ วา่ หลินหมิงจะคุ้นหน้ าของเขาอยูล่ างๆจากการทดสอบในส่วนที่หนึง่ ของ
สํานักแต่นนเป็
ั ้ นเพียงแค่การมองเพียงชัว่ ครู่เท่านันและเขายั
้ งคงไม่ร้ ูถงึ ฐานะของ
ชายผู้นี ้อีกด้ วย

ซุน่ จิ ้งชวงที่กบั ใบ้ ไปชัว่ ขณะสวรรค์ในอาณาจักรที่ใหญ่โตแห่งนี ้มันยังคงมีคนที่ไม่


รู้จกั เขา ในตอนนี ้สถานการณ์ปัจจุบนั ของอาณาจักรนันกํ ้ าลังอยูใ่ นช่วงหัวเลี ้ยง
หัวต่อ มีเพียงสองคนเท่านันที ้ ่มีโอกาสได้ รับตําแหน่งจักรพรรดิคนต่อไปนันคื ้ อ
เขาและน้ องชายของเขาเพียงเท่านันแต่ ้ ถงึ อย่างนันเจ้
้ าเด็กหนุ่มผู้นี ้กลับไม่ร้ ูจกั
เขา ?

" ข้ าซุน่ จิ ้งชวง "

หลินหมิงเมื่อได้ ยินชื่อของชายตรงหน้ าเขาตื่นตระหนกเล็กน้ อยชายตรงหน้ าของ


เขาในยามนี ้แม้ วา่ หลินหมิงจะไม่เคยพบเห็นใบหน้ าของเขาอยูบ่ อ่ ยครัง้ แต่ถงึ
อย่างนันชื
้ ่อของเขานันย่ ้ อมเป็ นที่ค้ นุ เคยไปทัว่ ทังอาณาจั
้ กร
" องค์ชายลําดับที่หนึง่ ? "

" ใช่....เจ้ าคงสงสัยในตัวข้ าอย่างนันสิ


้ นะ ข้ ายอมรับว่าในก่อนหน้ านี ้ข้ าเป็ นหนึง่
ในผู้ที่ให้ การสนับสนุนกับกงซุนเอี ้ยน... "

หลินหมิงขมวดคิ ้วลงอันที่จริ งแล้ วหลินหมิงยังคงไม่รับรู้ถงึ เรื่ องราวเหล่านี ้นันก็



เพราะว่าหลังจากที่เขาได้ สติขึ ้นมากิจวัตรประจําวันของเขามีเพียงเพลิดเพลินกับ
ศิษย์พี่สาวสวยของเขาเพียงเท่านัน้ แต่สําหรับซุน่ จิ ้งชวงแล้ วนันเขาตั
้ งใจที
้ ่จะ
เปิ ดเผยความสัมพันธ์ของเขาและกงซุนเอี ้ยนเพื่อแสดงความบริ สทุ ธ์ใจต่อหลินห
มิง

" เพียงแต่วา่ ข้ าไม่คาดคิดว่าเขาจะกระทําเรื่ องที่เลวร้ ายเช่นนี ้...ข้ าเพียงคาดหวัง


ว่าเจ้ าจะไม่ถือโทษโกรธข้ าในเรื่ องนี ้ "
ซุน่ จิ ้งชวงกล่าวพร้ อมกับนําแหวนมิติวงหนึง่ มาวางไว้ ที่หน้ าหลินหมิงพร้ อมกับ
เชื ้อเชิญให้ หลินหมิงสามารถสํารวจดูได้ ถึงตอนนี ้หลินหมิงสามารถคาดเดา
ความคิดอ่านขององค์ชายลําดับที่หนึง่ ผู้นี ้ได้ ไม่มากก็น้อยแท้ จริ งแล้ วเขาต้ องการ
ที่จะซื ้อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ? แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้ มีความสนใจ
ในเรื่ องของการเมืองเหล่านี ้แต่อย่างใด

ไม่วา่ ใครจะขึ ้นเป็ นจักรพรรดิคนต่อไปมันก็ไม่เห็นมีสงิ่ ใดที่เกี่ยวข้ องกับเขาเลย


้ ใช่หรื อ ? หลินหมิงยื่นมือไปสํารวจสิง่ ของที่อยูภ่ ายในแหวนมิิติทนั ใด
อย่างนันไม่
นันดวงตาของเขาเบิ
้ กกว้ างออกมาด้ วยความตื่นตระหนก ภายในแหวนมิติวงนี ้
กลับมีหินลมปราณจํานวนมากอาจเพียงพอที่จะทําให้ คนผู้หนึง่ ฝึ กได้ นานนับปี
เลยทีเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามูลค่าของหินลมปราณที่อยูภ่ ายในนี ้ทังหมดแล้ ้ ว
นันอาจรวมกั
้ นแล้ วมีมลู ค่าหลายล้ านเหรี ยญหรื อกระทัง่ อาจจะมากกว่านัน้

" นี ้เป็ นของชดใช้ และเพื่อแสดงความจริ งใจจากข้ า "

หลินหมิงยิ ้มมุมปากเล็กน้ อยดูเหมือนว่าในตอนนี ้เขาจะได้ กลายเป็ นผู้มงั่ คัง่ อย่าง


แท้ จริ งแล้ ว แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้ มีความคิดแค้ นเคืองใดๆกับองค์ชายลําดับ
ที่หนึง่ ผู้นี ้ตราบใดที่เขาไม่ได้ มีสว่ นร่วมในการลงมือกับสงครามก่อนหน้ านี ้หลินห
มิงก็ไม่คิดจะเอาเรื่ องกับเขาแต่อย่างใด

เมื่อเห็นหลินหมิงแสดงท่าทีพงึ พอใจในสมบัตทิ ี่เขาให้ ไปพร้ อมกับทําท่าจะ


ขอบคุณเขาซุน่ จิ ้งชวงรี บเขาห้ ามพร้ อมกับกล่าวอย่างหัวเราะร่า

" ไม่เป็ นไร สมบัติเหล่านี ้เป็ นเพียงสิง่ เล็กน้ อยหากสามารถแลกกับความเชื่อใจ


ของเจ้ าได้ นับแต่นี ้หากเจ้ าไม่รังเกียจเจ้ าสามารถเรี ยกหาข้ าว่าพี่ชายได้ และ
หากเจ้ ามีอะไรที่ต้องการให้ ข้าช่วยเหลือโปรดบอกพี่ชายคนนี ้ "

หลินหมิงไม่สนใจว่าในตอนนี ้องค์ชายผู้นี ้จะมีนิสยั เช่นใดแต่ด้วยการสนับสนุน


ขององค์ชายผู้นี ้แน่นอนว่ามันคงทําให้ เหล่าผู้อาวุโสทังหลายภายในสํ
้ านักนันอาจ

ถึงขันไม่
้ สามารถหลับนอนได้ อย่างเป็ นปกติสขุ เพียงแค่คิดหลินหมิงก็ร้ ูสกึ อยาก
ไปมองใบหน้ าอันน่าข่มขืนของพวกเขาโดยเร็ ว

" อันที่จริ งแล้ วข้ ามีเรื่ องรบกวนท่านสักเล็กน้ อย.. "


" โอ้ ? "

ซุน่ จิ ้งชวงดวงตาเป็ นประกายแน่นอนว่าเหมือนข่าวการนับถือของพวกเขาที่


ประดุจดัง่ พี่น้องระหว่างเขาและหลินหมิงได้ กระจายออกไปเมื่อนันขั ้ วอํ
้ านาจ
ทังหลายจะกลั
้ บฝั่งอีกครัง้ หนึง่ น่าเสียดายที่ในตอนนี ้องค์ชายลําดับที่สองไม่ได้
อยูภ่ ายในอาณาจักรแห่งนี ้ไม่เช่นนันแล้ ้ วเรื่ องราวทุกอย่างมันคงไม่งา่ ยเช่นนี ้

" ข้ าได้ ยินมาว่าในตอนนี ้ตระกูลกงซุนอยูภ่ ายใต้ การดูแลของวังหลวงมันจะ


เป็ นไปได้ ไหมหากข้ าคิดจะไปเยี่ยมพวกเขาสักครัง้ "

เมื่อได้ ยินคํากล่าวของหลินหมิงซุน่ จิ ้งชวงสามารถคาดเดาความตังใจของหลิ ้ นห


มิงได้ คําขอร้ องของหลินหมิงเช่นนี ้มันนับได้ วา่ เป็ นเรื่ องที่งา่ ยมากสําหรับ
เขา อันที่จริ งแล้ วเขากระทัง่ คาดเดาไปว่าหากหลินหมิงขอให้ เขาช่วยเข่นฆ่าเหล่า
ผู้อาวุโสทังหลายจากสํ
้ านักวังจันทรานันคงเป็
้ นเรื่ องที่ทําให้ เขาปวดศรี ษะเป็ น
อย่างแน่นอน
" ฮ่าๆ ด้ วยเรื่ องเพียงเท่านี ้มันเล็กน้ อยมากข้ าสามารถช่วยเหลือน้ องชายของข้ าผู้
นี ้ได้ อยูแ่ ล้ ว เพียงเจ้ าบอกมาว่าเจ้ าต้ องการไปเยี่ยมพวกเขาเวลาใดข้ าจะ
สามารถพาเจ้ าไปได้ ภายในทันที "
ตอนที่ 204

สําหรับหลินหมิงแล้ วนันหลั
้ งจากที่เขาได้ ร้ ูวา่ ไม่เพียงแต่กงซุนหยางที่ถกู ทําให้ เป็ น
คนพิการไร้ หนทางที่จะสามารถสูเ่ ส้ นทางของการบ่มเพาะได้ ด้วยฝี มือของ
เขา แต่กงซุนเอี ้ยนก็ยงั คงได้ รับผลรับเช่นเดียวกันไม่ได้ ตา่ งจากบุตรของเขาเลย
แม้ แต่น้อย ผลลัพธ์ที่เกิดขึ ้นกับกงซุนเอี ้ยนและกงซุนหยางนันมั ้ นเยี่ยมยอดกว่า
ให้ พวกเขาทังสองพ่
้ อลูกนี ้ตายเสียอีก เช่นนันแล้้ วมีหรื อที่หลินหมิงจะพลาด
โอกาสในการเยี่ยมชมผลลัพธ์เช่นนี ้

" เช่นนันแล้
้ วข้ าสามารถไปได้ ในตอนนี ้เลยหรื อไม่ ? "

ซุน่ จิ ้งชวงตอบรับอย่างว่าง่ายดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ เกิดขึ ้นกับเขาแล้ ว


ภายในวันนี ้เพียงแค่ได้ ความเชื่อใจจากหลินหมิงนันมั ้ นเพียงพอที่จะทําให้ เขารู้สกึ
เหมือนกับมีขมุ อํานาจนับร้ อยนับพันอยูข่ ้ างกาย ตัวตนของหลินหมิงในปั จจุบนั
นี ้แน่นอนว่าเขาจะต้ องเป็ นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมให้ กบั รุ่นเยาว์ทงหลาย
ั้ กระทัง่
ศิษย์สํานักรุ่นพี่ของเขาด้ วยเช่นเดียวกัน

มันไม่ใช่วา่ สํานักแห่งนี ้ไม่เคยทําเรื่ องเลวร้ ายมาก่อนแต่มนั จะมีใครที่มีความกล้ า


และแข็งแกร่งมากพอที่จะว่ากล่าวพวกเขา ? ข่าวของหลินหมิงที่แพร่สะพัด
ออกไปไม่เพียงแต่จะทําให้ รุ่นเยาว์ทงหลายรู ั้ ้ สกึ ฮึกเฮิมเพียงเท่านันเมื
้ ่อพวกเขาได้
รู้วา่ เมื่อหนึง่ ปี ก่อนนี ้แม้ วา่ หลินหมิงจะอยูใ่ นตระกูลหลินที่มีชื่อเสียงแต่ถงึ อย่าง
นันสถานะของเขานั
้ บได้ วา่ ไม่ตา่ งจากข้ ารับใช้ คนหนึง่ เพียงเท่านันั ้ ด้ วยเวลา
เพียงหนึง่ ปี เท่านันเขาสามารถก้
้ าวขึ ้นมาถึงจุดนี ้ได้ !

ซุน่ จิ ้งชวงพาหลินหมินไปยังรถม้ าของเขาพร้ อมกับมุง่ หน้ าไปที่ตระกูลกง


ซุน สําหรับในตอนนี ้ซุน่ จิ ้งชวงยังไม่เลือกที่จะชักชวนหลินหมิงให้ รวมกับเขา เขา
รู้ดีวา่ สําหรับคนเช่นหลินหมิงแล้ วนันดู
้ เหมือนว่าเขาจะไม่ชอบยึดติดและรับฟั ง
ใครเสียเท่าไหร่ ขอเพียงแค่หลินหมิงมีจิตใจเอนเอียงมาที่ฝั่งเขาเล็กน้ อยมันก็
เพียงพอที่จะทําให้ น้องชายของเขาพบกับคลื่นลูกใหญ่ได้
ใช่เวลาเพียงไม่นานรถม้ าของซุน่ จิ ้งชวงก็หยุดลงหลินหมิงลงมาพร้ อม
กับซุน่ จิ ้งชวง ภาพตรงหน้ าของเขาคืออาณาเขตของตระกูลกงซุนที่มีอาณาเขต
อย่างกว้ างขวางแต่ในตอนนี ้ทังหมดทั
้ งปวงกลั
้ บถูกควบคุมโดยทหารจากวังหลวง
ทังหมดทั
้ งสิ
้ ้น

" น้ องชายข้ าคงไม่อยูร่ บกวนเวลาเยี่ยมเยี่ยนของเจ้ า ข้ าได้ เตรี ยมรถม้ าอีกคัน


เอาไว้ ให้ เจ้ าแล้ วมันคงมาถึงในไม่ช้านี ้ "

เหล่าทหารที่อยูป่ ระจําตําแหน่งควบคุมตระกูลกงซุนถึงกับผงะเมื่อได้ เห็นภาพนี ้


แน่นอนว่าหากเป็ นเมื่อก่อนพวกเขาคงสงสัยว่าเจ้ าเด็กหนุ่มผู้นี ้เป็ นใครกันถึงได้
กล้ าแสดงออกเช่นนี ้กับผู้ที่มีสทิ ธ์ขึ ้นเป็ นจักรพรรดิคนต่อไป แต่ในตอนนี ้หลังจาก
ที่เรื่ องราวของหลินหมิงถูกเผยแพร่ออกไป สิง่ แรกที่ผ้ คู นที่มีอํานาจส่วนใหญ่ทํา
นันคื
้ อการจดจําใบหน้ าของหลินหมิงเอาไว้ และหลีกเลี่ยงที่จะมีปัญหากับเขา

แน่นอนว่าทังหมดนี
้ ้เป็ นส่วนหนึง่ ของแผนการณ์ของซุน่ จิ ้งชวงอันที่จริ งแล้ วเขาไม่
มีความจําเป็ นที่จะต้ องมากับหลินหมิงเลยเสียด้ วยซํ ้า แต่ที่เขามานันก็้ เพื่อ
แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหลินหมิงแม้ วา่ ทหารเหล่านี ้จะไม่ใช่ตวั ตน
ระดับสูงแต่พวกเขามาจากหลากหลายสังกัดและขุมอํานาจ ดังนันมั ้ นเป็ นที่
แน่นอนว่าข่าวในเรื่ องของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหลินหมิงคงถูก
แพร่ กระจายไปอย่างรวดเร็ ว

หลินหมิงก้ าวเดินเข้ าไปในตํานักหลักของตระกูลกงซุนแน่นอนว่าในตอนนี ้หลินห


มิงไม่จําเป็ นจะต้ องกังวลในเรื่ องของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของตระกูลกงซุน
ทังหลายเพราะว่
้ าพวกเขาเหล่านันล้ ้ วนถูกควบคุมอยูใ่ นสถานที่ที่แยกต่างหากๆ
อาจกล่าวได้ วา่ ในตอนนี ้ที่ตระกูลกงซุนแห่งนี ้อาจหลงเหลือเพียงผู้ที่มีพลังระดับ
จอมยุทธ์ขนกลางเป็
ั้ นอย่างมาก

ภายในตระกูลกงซุน กงซุนเอี ้ยนและกงซุนหยางอยูใ่ นสภาพที่เรี ยกได้ วา่


ใกล้ เคียงกับคนตายโดยเฉพาะกงซุนเอี ้ยนก่อนหน้ านี ้เขาได้ วาดฝึ กอํานาจที่
ยิ่งใหญ่ที่อยูใ่ กล้ มือของเขาเพียงปลายเอื ้อมแต่ทงหมดทั
ั้ งปวงก็
้ ถกู ทําลายลง
ภายในพริ บตา ไม่เพียงเท่านันการบ่้ มเพาะของเขาทังหมดที
้ ่ใช้ เวลามาหลายสิบ
ปี กบั ถูกทําลายไปจนหมดสิ ้น
อีกทังเหล่
้ าผู้อาวุโสภายในตระกูลก็ตา่ งเลือกที่จะทอดทิ ้งเขาไปอย่างไร้ เยื่อไยโดย
ที่พวกเขาหวังว่าด้ วยการกระทําของพวกเขาจะสามารถทําให้ พวกเขาถูกลดโทษ
ลงไปได้ บ้าง ข้ างกายของกงซุนเอี ้ยนมีสตรี นางนึงที่กําลังทําหน้ าที่ดแู ลเขาอยูไ่ ม่
ห่างนางคือภรรยาของเขาหรื อมารดาของกงซุนหยางนันเอง ้ เช่นเดียวกันกับกง
ซุนหยางเขาก็ยงั คงมีร่างกายของหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขากําลังคอย
ดูแลปรนนิบตั ิอยู่

หากเป็ นในก่อนหน้ านี ้แม้ วา่ ด้ วยสภาพของเขาที่เป็ นเช่นนี ้เขาคงมีบรรดาเหล่า


หญิงสาวอยูข่ ้ างกายของเขาพร้ อมกับให้ การปรนนิบตั ิอย่างไม่ซํ ้าหน้ าเพียงแต่วา่
ในตอนนี ้มันจะยังคงมีใครที่โง่เพียงพอที่จะเลือกอยูเ่ คียงข้ างเขากัน ? แม้ กระทัง่
ทาสรับใช้ ก็ยงั คงไม่คิดที่จะปฎิบตั ิตามพวกเขาอีกต่อไป แม้ วา่ พวกเขาจะคัดคืน
คําสัง่ ของกงซุนเอี ้ยนและกงซุนหยางแต่แล้ วอย่างไรละด้ วยสภาพของคูบ่ ดิ าและ
บุตรทังสองนี
้ ้พวกเขาล้ วนอ่อนแอ่กว่าคนทัว่ ไปอยูห่ ลายขุม

ในเมื่อทางตระกูลกงซุนไม่ได้ มีใครให้ การสนับสนุนเขาอีกต่อไปดังนันแล้


้ วมันไม่มี
ความจําเป็ นที่เหล่าทาสหรื อสาวใช้ ก่อนหน้ านี ้ของกงซุนหยางจะจําเป็ นที่จะต้ อง
รับใช้ พวกเขาอีกต่อไป
" ดูเหมือนว่าพวกเจ้ าสองพ่อลูกจะสบายดีอย่างนันสิ
้ นะ "

เสียงที่ปรากฎขึ ้นทําให้ ดวงตาของทังกงซุ


้ นเอี ้ยนและกงซุนหยางที่กําลังเลื่อนลอย
เปลี่ยนเป็ นเบิกกว้ างในทันที ร่างของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่พร้ อมกับผู้คมุ ที่มีระดับ
พลังปราณจอมยุทธ์ขนปลาย ั้ หากเป็ นเมื่อก่อนผู้คมุ เหล่านี ้คงยินยอมกระทัง่
เลียเท้ าของพวกเขาเพื่อใกล้ ชิด แต่ในตอนนี ้ในสายตาของผู้คมุ เหล่านี ้มีแต่เพียง
ความรังเกียจเท่านัน้

" แก !! "

กงซุนเอี ้ยนคํารามอย่างบ้ าคลัง่ แต่ถงึ อย่างนันด้


้ วยร่างกายที่บาดเจ็บหนักของเขา
มันจึงทําให้ เขาสําลักเลือดออกมากองใหญ่ แตกต่างจากบุตรของเขากงซุนห
ยางที่ได้ เห็นเด็กหนุ่มผู้มาใหม่หรื อหลินหมิงนันเอง
้ ร่างกายของเขาสัน่ เทาไป
ด้ วยความหวาดกลัว ตังแต่ ้ ต้นเป็ นเขาที่เห็นการลงมือของหลินหมิงทุกอย่าง
ตังแต่
้ ตอนที่เขาบุกเขาตํานักของบิดาของเขาที่สํานักวังจันทรา
ภาพของหลินหมิงที่ราวกับมัจจุราชที่พร้ อมกับปลิดชีพทุกผู้คนถูกสลักลงไปใน
หัวใจของเขา หากย้ อนเวลากลับไปได้ กงซุนหยางเขาจะไม่มีทางทําเรื่ องโง่เขลา
อย่างการเป็ นศัตรูกบั หลินหมิงอย่างเด็ดขาด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีสมบัติใดใน
โลกนี ้ที่สามารถทําเช่นนันได้
้ สงิ่ ที่เขาทําได้ มีเพียงสํานึกผิดด้ วยความหวาดกลัว
เพียงเท่านัน้

" พวกท่านทังสองออกไปก่
้ อนได้ หรื อไม่ ? "

หลินหมิงกล่าวกับผู้คมุ ทังสอง ้ ที่มีทา่ ทีกระอักกระอวนขึ ้นมาในทันทีสําหรับ


ในตอนนี ้แม้ วา่ กงซุนเอี ้ยนผู้นี ้จะเป็ นพิการไปแล้ วแต่อย่างไรก็ตามด้ วยคําสัง่ ของ
แม่ทพั โจวที่คิดว่าแต่เดิมกงซุนเอี ้ยนผู้นี ้ยังคงมีความดีติดตัวอยูไ่ ม่ใช่น้อยดังนัน้
แล้ วโทษของตระกูลกงซุนยังคงไม่ถงึ กับหายนะเสียทีเดียว และถ้ าหากเขา
ปล่อยให้ หลินหมิงอยูเ่ พียงลําพังแล้ วเมื่อนันหลิ ้ นหมิงลงมือสังหารกงซุนเอี ้ยนหรื
อกงซุนหยางขึ ้นมาเมื่อนันพวกเขาทั
้ งสองอาจได้
้ รับความเดือดร้ อนที่เกินหยัง่ ถึง

" ข้ าไม่คิดสังหารพวกเขาหรอกท่านทังสองโปรดว่
้ าใจได้ "
ผู้คมุ ทังสองพยั
้ กหน้ ามองกันพร้ อมตัดสินใจเมื่อพวกเขาได้ เห็นท่าทีที่มีความสุข
ของหลินหมิงจากการที่ได้ เหนสภาพของกงซุนเอี ้ยนและกงซุนหยางนัน้
หมายความว่าคุณชายตระกูลหลินผู้นี ้คงไม่มีความคิดที่จะปล่อยให้ สองพ่อลูกคู่
นี ้ได้ ไปสบายโดยง่ายอย่างแน่นอน

เมื่อร่ างของผู้คมุ ทังสองจากไปหลิ


้ นหมิงหันกลับมาจ้ องมองไปยังกงซุนเอี ้ยนและ
กงซุนหยางอีกครัง้ ด้ วยสายตาที่เต็มไปด้ วยความสมเพช

" ฮ่า ๆ ใครจะไปคิดกันว่ารองเจ้ าสํานักวังจันทราผู้ยิ่งใหญ่จะได้ พบกับชะตากรรม


เช่นนี ้ ! "

" ทังหมดมั
้ นเป็ นเพราะแก !! "

ดวงตาของกงซุนเอี ้ยนแทบจะมีเลือดไหลออกมาภรรยาของเขารี บเขาประคอง


ร่างกายของกงซุนเอี ้ยนพร้ อมกับจ้ องมองหลินหมิงไปด้ วยสายตาอ้ อนวอน
" เป็ นเพราะข้ า ? ไม่ใช่วา่ เจ้ าเป็ นคนเริ่ มเรื่ องทังหมดก่
้ อน ? ตังแต่
้ แรกเป็ นเจ้ าที่
ส่งนักฆ่าไปสังหารฆ่าแต่น่าเสียดายที่พวกเจ้ าส่งแต่พวกไร้ ฝีมือไป ถ้ าหากเป็ น
เจ้ ามาเองในครานันคนที
้ ่ได้ หวั เราะอยูต่ รงนี ้ก็อาจเป็ นเจ้ า "

" แกรู้ได้ ยงั ไง ? "


ตอนที่ 205 NC นิดๆ

ตอนที่ 206
กงซุนเอี ้ยนมองไปที่หลินหมิงหากเป็ นในก่อนหน้ านี ้เขาคงมีความกังวลเกี่ยวกับ
ในเรื่ องนี ้ แต่ด้วยสถานะของเขาในตอนนี ้ไม่วา่ ในอดีตเขาจะเคยทําชัว่ ช้ ากับ
หลินหมิงมามากเพียงใดแต่มนั จะยังคงมีสงิ่ ที่แย่กว่าสําหรับเขาในตอนนี ้อีกอย่าง
นันหรื
้ อ?

" เฮอะแล้ วอย่างไรใช่แล้ วข้ าเป็ นคนสัง่ เอง น่าเสียดายที่เจ้ าพวกนันมั


้ นไร้ ฝีมือ
จนเกินไป ! "

หลินหมิงจ้ องมองไปที่กงซุนเอี ้ยนด้ วยสายตายากเกินกว่าจะคาดเดา สําหรับนัก


ฆ่าเหล่านันพวกเขาแต่
้ ละคนล้ วนไม่ได้ ออ่ นแอ่เลยแม้ แต่น้อยหากไม่ใช่ความจริ ง
ที่วา่ ในตอนนันหลิ
้ นหมิงมีผ้ อู าวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยาอยูข่ ้ างกายแล้ วใน
ตอนนันเขาอาจกลายเป็
้ นศพไปแล้ ว

หลินหมิงเดินเข้ ามาใกล้ กบั ร่างของกงซุนเอี ้ยนที่กําลังถูกประคองโดยภรรยาของ


เขา ด้ วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ วหลินหมิงกระฉากร่างของกงซุนเอี ้ยนลงมาจาก
ก้ าวพร้ อมกับทิ ้งร่างของเขาลงกับพื ้นอย่างรุนแรง
" อ๊ ากกกกกกกกกกกกก !! "

ขาข้ างหนึง่ ของหลินหมิงเหยียบเข้ าไปที่บริ เวณแขนด้ านขวาของกงซุนเอี ้ยนที่ถกู


สะบันขาดออกไปจนต้
้ องพันผ้ าพันแผลเอาไว้ เสียงร้ องของกงซุนเอี ้ยนคํารามลัน่
ออกมาด้ วยความเจ็บปวดอย่างแท้ จริ ง เลือดที่บริ เวณปากแผลของเขาเริ่ มมีการ
ไหลออกมาอย่างน่ากลัวพร้ อมกับร่างกายของเขาที่ซีดเผือกขึ ้นมา

หากเป็ นกงซุนเอี ้ยนที่มีพลังปราณก่อนหน้ านี ้แม้ วา่ เขาจะได้ รับบาดเจ็บเช่นนี ้แต่


มันไม่ใช่ปัญหาสําหรับผู้ที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนปลายที ั้ ่จะสามารถรักษา
บาดแผลของพวกเขาได้ ในช่วงเวลาอันสัน้ แต่ในตอนนี ้กงซุนเอี ้ยนสามารถนับได้
ว่าเป็ นเพียงชายอายุห้าปี ปลายๆธรรมดาๆคนหนึง่ เพียงเท่านัน้

" คุณชาย ! ได้ โปรดหยุดเถอะเจ้ าคะ ข้ าต้ องขอโทษแทนสามีที่เสียมารยาท


ในตอนนี ้เขาได้ รับบาดเจ็บสาหัสเป็ นอย่างมากและยังคงไม่หายดีดงั นันแล้
้ วเขา
ไม่สามารถทนรับความบาดเจ็บไปได้ มากกว่านี ้ "
ภรรยาของกงซุนเอี ้ยนเขากอดขาของหลินหมิงพร้ อมกับข้ อร้ องอ้ อนวอนด้ วย
นํ ้าตาฐานะของนางแต่เดิมนันนั้ บได้ วา่ ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ผ้ อู าวุโสทังหลายภายใน

สํานักยังต้ องกลัวเกรงแต่ในตอนนี ้นางกลับเป็ นได้ เพียงหญิงสาวธรรมดาที่มีสามี
และบุตรเป็ นผู้พิการเพียงเท่านัน้

สําหรับครอบครัวที่สามีและบุตรชายของพวกเขาเป็ นเช่นนี ้แน่นอนว่าสตรี อย่าง


พวกนางล้ วนไม่มีความสามารถในการกอบกู้สถานะการกลับคืนมาได้ ซํ ้านาง
ยังคงไม่สามารถจากไปไหนได้ เนื่องจากไม่มีสถานที่แห่งใดที่ยินดีต้อนรับนางเป็ น
อย่างแน่นอน ดังนันแล้ ้ วหากด้ วยการตายของกงซุนเอี ้ยนเกิดขึ ้นแม้ วา่ สถานะของ
นางจะหลุดพ้ นจากสภาพในตอนนี ้แต่ท้ายที่สดุ แล้ วนางจะกลายเป็ นเพียงทาสรับ
ใช้ หรื อกระทัง่ ถูกขายต่อไปยังหอคณิการบ้ างแห่งที่ต้องการสาวสูงวัย

กงซุนหยางไม่ได้ มีความเข้ มแข็งทางด้ านจิตใจเหมือนกับบิดาของเขา อันที่จริ ง


แล้ วเขาเกิดมาพร้ อมกับพรสวรรค์ที่เหนือลํ ้ากว่าคนทัว่ ไปและได้ รับการสนับสนุน
อย่างยอดเยี่ยมจากตระกูลดังนันกล่
้ าวได้ วา่ นี ้เป็ นครัง้ แรกที่เขารู้สกึ หวาดกลัวคน
รุ่นเดียวกับเขาอย่างสุดหัวใจ
ขาของหลินหมิงที่กําลังเหยียบไปที่แขนของกงซุนเอี ้ยนจนกระทัง่ มันบิดรูปเป็ น
แบนราบพร้ อมกับกองเลือดที่ไหลออกมาเป็ นจํานวนมาก

" คุณชายพอเถอะเจ้ าคะ ! ข้ ายินดียอมทําทุกอย่างได้ โปรดหยุดเถอะเจ้ าคะ ! "

หลินหมิงที่ได้ ยินคํากล่าวจากภรรยาของกงซุนเอี ้ยนพลันเกิดรอยยิ ้มที่มมุ ปาก


ของเขา ร่างของหลินหมิงเคลื่อนกายออกห่างจากร่างของกงซุนเอี ้ยนพร้ อมกับนัง่
ลงบนเก้ าอี ้ตัวหนึง่ ภายในห้ อง

" เอาให้ มนั กินซะ "

หลินหมิงนําโอสถรักษาเม็ดหนึง่ ออกมาจากแหวนมิติของเขาพร้ อมกับโยนลงไปที่


พื ้นตรงหน้ าของภรรยาของกงซุนเอี ้ยน โดยที่ไม่มีการรอช้ าแต่อย่างใดนางรี บคว้ า
โอสถที่หลินหมิงโยนออกมาพร้ อมกับรี บนําไปให้ กบั สามีของนาง สําหรับ
ในตอนนี ้สติของกงซุนเอี ้ยนกําลังพร่าเลือนจากการสูญเสียเลือดมาจนเกินไปมัน
จึงทําให้ เขาไม่สามารถรับรู้ได้ วา่ หลินหมิงได้ โยนโอสถเม็ดหนึง่ ให้ เขาราวกับให้
อาหารสุนขั
เลือดที่ไหลออกมาจากแขนของกงซุนเอี ้ยนค่อยๆหยุดลงอย่างเชื่องช้ าพร้ อมกับสี
หน้ าของเขาที่เริ่ มดีขึ ้นอีกครัง้ แต่ถงึ อย่างนันกระบวนการทุ
้ กอย่างเป็ นไปอย่าง
เชื่องช้ าเป็ นอย่างมากในตอนนี ้แน่นอนว่ากงซุนเอี ้ยนนันไม่
้ มีเรี่ ยวแรงแม้ กระทัง่
จะขยับแม้ แต่ปลายนิ ้ว

" เจ้ าบอกว่าเจ้ าจะยอมทําตามคําสัง่ ข้ าทุกอย่าง ? "

เมิ่งฟ่ านหรื อภรรยาของกงซุนเอี ้ยนค่อยๆนําร่างของสามีของนางไปพิงไว้ กบั


กําแพงอย่างเชื่องช้ า นางไม่กล้ าที่นําร่างของสามีขึ ้นไปนัง่ พักบนเก้ าอี ้แต่อย่างใด
เห็นได้ ชดั ว่าหลินหมิงนันมี
้ ความเย่อหยิ่งอยูไ่ ม่ใช่น้อยในตอนนี ้นางจําเป็ นที่
จะต้ องหลีกเลี่ยงปั ญหาและความข้ องเคืองใจทังหมดของหลิ
้ นหมิงและสามีให้ ได้
มากที่สดุ

" คุณชายโปรดวกล่าวออกมา หากเป็ นเรื่ องที่เป็ นไปได้ ข้ายินดียอมทําทุกอย่าง "


หลินหมิงยิ ้มขึ ้นพร้ อมกับปลดเปลื ้องเสื ้อผ้ าส่วนล่างของเขาออกจนเผยให้ เห็น
ทวนมังกรที่ทําให้ ผ้ คู นตื่นตะลึงแม้ กระทัง่ กงซุนหยางที่อยูอ่ ย่างนิ่งเฉยๆมาโดย
ตลอดพร้ อมกับภรรยาของเขาก็ยงั คงเผลอตัวส่งเสียงร้ องออกมาด้ วยความตกใจ
ด้ วยขนาดทวนมังกรของหลินหมิงที่ปรากฎออกมานี ้หากเทียบกับของเขาแล้ ว
ทวนมังกรของเขามันอาจนับได้ วา่ ไม่มีเลยเสียด้ วยซํ ้าไป

เมิ่งฟ่ านดวงตาเบิกกว้ างพร้ อมกับจดจ้ องไปที่ทวนมังกรของหลินหมิง การที่


หลินหมิงนําทวนมังกรของเขาออกมานันมั ้ นสามารถตีความหมายได้ เพียงอย่าง
เดียวเท่านัน้ แต่นางไม่เข้ าใจว่าเหตุใดเขาถึงต้ องการทํากับนางที่เป็ นสตรี ที่มีอายุ
ถึงสี่สบิ ปี ปลายๆแล้ วแม้ วา่ ในตอนนี ้นางจะยังคงความงามได้ เหมือนกับสาวอายุ
สามสิบปี กลางทัว่ ไปได้ แต่เสน่ห์ของนางนันก็ ้ นบั ได้ วา่ ด้ อยลงไปจากอดีตเป็ น
อย่างมาก

ไม่เพียงเท่านันสํ
้ าหรับบุรุษหนุ่มรุ่นเยาว์เช่นหลินหมิงเขาสามารถเพลิดเพลินกับ
สาวงามทัว่ ทังอาณาจั
้ กรได้ ด้วยฐานะของเขาในตอนนี ้และถึงแม้ วา่ เขาจะไม่ทํา
เช่นนันแต่
้ ข้างกายของเขาหากไม่นบั สองสตรี ผ้ งู ดงามอย่างหลิวฉวนยูร์และจิว
หลินที่กําลังฝึ กตนอยูภ่ ายในมิติลกึ ลับเขาก็ยงั คงมีหลัวฉิงเชี่ยนที่มีความงดงาม
ไม่แพ้ กนั เทียบกับเหล่าสาวรุ่นเยาว์ที่งดงามเหล่านันแล้
้ วนางอาจเป็ นได้ เพียง
ดอกไม้ ที่เ**◌่ ยวเช่าไปแล้ วเท่านัน้

เมิ่งฟ่ านนางหันไปจ้ องมองไปที่สามีของนางอีกครัง้ ในตอนนี ้สิง่ ที่สําคัญที่สดุ คือ


การรักษาชีวิตสามีของนางแม้ วา่ ในตอนนี ้นางอาจต้ องไปเป็ นของเล่นของหลินห
มิงแต่มนั ยังคงดีกว่าการที่นางจะต้ องไปเป็ นทาสหรื อสตรี ตามหอนางโลมต่างๆ
นางเคลื่อนกายเข้ าไปใกล้ หลินหมิงพร้ อมกับเตรี ยมตัวปลดเปลื ้องเสื ้อผ้ าของนาง
ออกแต่ถงึ อย่างนันนางกลั
้ บถูกหยุดเอาไว้ โดยหลินหมิง

เมิ่งฟ่ านเต็มไปด้ วยความสับสนไม่ใช่วา่ เขาต้ องการร่วมรักกับนางอย่างนันหรื ้ อ?


แน่นอนว่าทังหมดที
้ ่หลินหมิงทําเช่นนี ้นางเข้ าใจว่ามันเป็ นการเหยียบยํ่าสามีของ
นางและบุตรของนางแต่ถงึ อย่างนันในตอนนี
้ ้สติของสามีของนางยังคงพร่าเลือน
อยูด่ งั นันแล้
้ วเขายังคงไม่สามารถรับรู้สงิ่ ๆต่างๆได้ อย่างปกติในเวลานี ้

" ใช้ ปากของเจ้ าอมมันซะ "


เมิ่งฟ่ านชะงักค้ างกับคํากล่าวของหลินหมิงตัวนางที่เคยเป็ นนายหญิงตระกูลกง
ซุนอันยิ่งใหญ่แต่ในตอนนี ้นางกลับต้ องใช้ ปากอมทวนมังกรของบุรุษ ? แม้ แต่
เหล่าสตรี จากหอคณิกานางก็ยงั ไม่เคยได้ ยินว่าหญิงสาวเหล่านันจะต้
้ องทําถึง
เพียงนี ้ !

" เจ้ าจะไม่ทําอย่างนันหรื


้ อ?"

เมิ่งฟ่ านเต็มไปด้ วยความอึดอัดใจเป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ ทวนมังกรของบุรุษนันไม่


้ ใช่มีไว้
เพียงเพื่อหาความสุขสําหรับพวกเขาเท่านันแต่ ้ มนั ยังเป็ นอวัยวะสําหรับการขัย
ถ่ายและด้ วยการที่นางต้ องอมทวนมังกรของหลินหมิงมันไม่อาจนับว่านางต้ อง
อมสิง่ สกปรกเหล่านัน้ ?

" ทําเจ้ าคะ....พวกเจ้ าทังสองออกไปก่


้ อน "

เมิ่งฟ่ านกล่าวไปทางกงซุนหยางพร้ อมกับภรรยาของเขาในตอนนี ้นางไม่มี


ทางเลือกอีกต่อไปแล้ ว
" ไม่ให้ พวกเขาอยูท่ ี่นี ้ด้ วย "

เมิ่งฟ่ านไม่กล้ ากล่าวขัดคํากล่าวของหลินหมิงแต่อย่างใดสําหรับหลินหมิง


ในตอนนี ้อํานาจของเขานันมี ้ มากเกินกว่าเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงของสํานักเสีย
ด้ วยซํ ้าไป ใบหน้ าของนางค่อยๆเข้ าไปใกล้ ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างเชื่องช้ า
กลิน่ อันรุนแรงที่ออกมาจากทวนมังกรแท่งนี ้เริ่ มทําให้ ร่างกายของนางรู้สกึ
ผิดปกติ

ทันทีที่นางอ้ าปากเพื่อเตรี ยมตัวที่จะอมทวนมังกรของหลินหมิงตามคําสัง่ มือข้ าง


หนึง่ ของหลินหมิงเข้ ากดศรี ษะของนางอย่างรวดเร็ วส่งผลให้ ในตอนนี ้ในปากของ
นางถูกอัดแน่นด้ วยทวนมังกรของหลินหมิง ดวงตาของนางเบิกกว้ างด้ วยความ
ตื่นตะลึง

ด้ วยขนาดที่ใหญ่จนเกินไปของทวนมังกรของหลินหมิงมันทําให้ ทวนมังกรของเขา
นันถู
้ กส่งไปจนลึกเข้ าไปภายในลําคอของนาง
หายใจไม่ออก !

เมิ่งฟ่ านพยายามดิ ้นรนแต่มีหรื อที่เรี่ ยวแรงของยิ่งสาวธรรมดาจะสู้เรี่ ยวแรงของ


หลินหมิงได้ ในตอนนี ้ด้ วยสภาพร่างกายของหลินหมิงแม้ แต่ผ้ เู ชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ก็ยงั คงเทียบเรื่ องความแข็งแกร่งทางด้ านร่างกายกับเขาได้ ยาก !
ตอนที่ 206

แค่ก ๆ

เมิ่งฟ่ านสําลักออกมาอย่างรุนแรงหลังจากที่หลินหมิงได้ ปล่อยมือของเขาออกไป


จากศรี ษะของนาง แต่ถงึ อย่างนันกลิ
้ น่ และรสชาติทวนมังกรของหลินหมิงยังคง
ตกค้ างอยูภ่ ายในปากของนางอยูไ่ ม่ได้ จางหายไปเลยแม้ แต่น้อย

" เอ้ า มันยังไม่จบหรอกนะถ้ าขืนยังชักช้ าดังเช่นก่อนหน้ าอีกละก็อย่าหาว่าข้ า


รุนแรงก็แล้ วกัน "
เมิ่งฟ่ านได้ แต่สบถด่าหลินหมิงอยูภ่ ายในใจแต่ถงึ อย่างนันด้ ้ วยสถานะของนาง
ในตอนนี ้นางไม่สามารถทําสิง่ ใดได้ สําหรับโลกใบนี ้ความแข็งแกร่งคือความ
ถูกต้ องที่แท้ จริ ง ร่างของนางขยับเข้ าใกล้ กบั หลินหมิงพร้ อมกับอมทวนมังกรของ
หลินหมิงเข้ าไปด้ วยความรวดเร็ ว

" มันยังเข้ าไปลึกได้ อีก "

เมิ่งฟ่ านหลับตาแน่นพร้ อมกับค่อยๆดูดกลืนทวนมังกรของหลินหมิงจนมันเข้ ามา


สุดภายในลําคอของนางอีกครัง้ หลินหมิงส่งเสียงออกมาด้ วยความพึงพอใจ
ในตอนนี ้กงซุนหยางใบหน้ าของเขาเต็มไปด้ วยความตื่นตระหนกเมื่อได้ เห็น
มารดาอันสูงส่งของเขากําลังปรนนิบตั ิหลินหมิงไม่ตา่ งไปจากคณิกาจากหอนาง
โลม แต่ที่ยิ่งไปกว่านันหลิ
้ นหมิงจ้ องมองไปยังร่างของกงซุนเอี ้ยนที่อยูห่ า่ งไกล
ออกไปเล็กน้ อย

แน่นอนว่าอันที่จริ งแล้ วเม็ดยาที่หลินหมิงให้ ไปนันมั ้ นไม่ใช่เม็ดยารักษาทัว่ ไปแต่


มันยังคงเป็ นเม็ดยาที่ทําให้ ผ้ ใู ช้ เป็ นอัมพาติชวั่ คร่าวเพื่อแลกกับผลรักษาอันยอด
เยี่ยม ดวงตาของกงซุนเอี ้ยนแดงกํ่าไปด้ วยความโกรธเกรี ย้ ว หลินหมิงค่อยๆนํา
มือของเขาเคลื่อนไหวไปลูบไล้ ใบหน้ าของเมิ่งฟ่ านอย่างช้ าๆ

" เอาล่ะเจ้ าคงไม่สามารถทนมันได้ นานหลังจากนี ้ให้ เจ้ าทําตามที่ข้าบอกหากข้ า


พอใจแน่นอนว่าข้ ายินดีที่จะให้ รางวัลแก่เจ้ าสักเล็กน้ อย "

เมิ่งฟ่ านเมื่อได้ ยินว่าหลินหมิงจะให้ รางวัลแก่นางแน่นอนว่านางไม่คาดหวังสิง่ ใด


มากในตอนนี ้นางข้ อเพียงแค่นางสามารถมีชีวติ ได้ อย่างสุขสบายไม่ต้องทรมานก็
เพียงพอแล้ ว ปากของนางค่อยๆถอนออกมาอย่างเชื่องช้ าพร้ อมกับค่อยๆอมทวน
มังกรของหลินหมิงเข้ าไปใหม่
" ดีมาก..อา...ไม่เลว ไม่เลวที่นี ้เจ้ าลองใช้ ลิ ้นของเจ้ าเคลื่อนไหวไปรอบๆทวนมังกร
ของข้ าด้ วย "

เมิ่งฟ่ านเริ่ มมีความรู้สกึ แปลกประหลาดเกิดขึ ้นกับร่างกายของนางจนถึง


ในตอนนี ้นางกลับพบว่านางไม่ได้ มีความรู้สกึ รังเกียจทวนมังกรของหลินหมิงดัง่
เช่นก่อหน้ านี ้อันที่จริ งแล้ วทวนมังกรของหลินหมิงนันแม้
้ วา่ มันจะส่งกลิน่ ที่รุนแรง
ออกมาแต่มนั กลับทําให้ ร่างกายของนางรู้สกึ เบาสบายมันราวกับว่ามันสามารถ
บรรเทาและเยี่ยวยาจิตใจของนางได้

ไม่เพียงเท่านันรสชาติ
้ ของทวนมังกรของหลินหมิงที่อยูภ่ ายในปากของนางนัน้
สามารถเรี ยกได้ วา่ อาหารชันเลิ ้ ศรสอันยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องพูดถึง
มือของหลินหมิงที่กําลังลูบไล้ ใบหน้ าของนางอย่างแผ่วเบามันทําให้ ร่างกายของ
นางรู้สกึ เสี่ยวซ่านไปทัว่ ร่าง

จ๊ วบ จ๊ วบ จ๊ วบ

เสียงดูดกลืนและลิ ้นที่ผวั พันของเมิ่งฟ่ านค่อยๆดังรุนแรงขึ ้นเรื่ อยๆ ในตอนนี ้นาง


ราวกับว่าตนเองกําลังหลับฝันอยูใ่ นห้ วงเวลาแห่งความสุขนางพริ ม้ ตาลงเพื่อลิ ้ม
รับรสชาติความสุขที่กําลังเกิดขึ ้นนี ้ให้ ได้ มากที่สดุ โดยที่ไม่ร้ ูเลยว่าการกระทํา
ทังหมดของนางนั
้ นอยู
้ ภ่ ายใต้ สายตาของสามีของนางกงซุนเอี ้ยน
หลังจากนันมื
้ อของนางค่อยๆเคลื่อนไหวตามคําบอกกล่าวของหลินหมิงไปที่ลกู
บอลกลมสองข้ างของหลินหมิงนางสัมผัสไปอย่างแผ่วเบาพร้ อมกับลูบไล้ มนั
เพียงไม่นานทวนมังกรของหลินหมิงมีการสัน่ ไหวอย่างรุนแรงแน่นอนว่านาง
สามารถสัมผัสได้ ถงึ สิง่ ที่เกิดขึ ้นและนางรู้ดีวา่ มันจะเกิดอะไรขึ ้นตามมา

แต่ถงึ อย่างนันเมิ
้ ่งฟ่ านนางกลับไม่เลือกที่จะถอนริ มฝี ปากออกมาจากทวนมังกร
ของหลินหมิงแต่อย่างใด นํ ้ารักจํานวนมากของหลินหมิงได้ พงุ่ เข้ าสูภ่ ายในปาก
ของนางอย่างจนมีบางส่วนทะลักลงคอของนางไป รสชาติอนั เข้ มข้ นของนํ ้ารัก
ของหลินหมิงทําให้ ร่างกายของนางสัน่ สะท้ านไปทัว่ ร่างที่บริ เวณส่วนลับของนาง
ในตอนนี ้เริ่ มมีอณ
ุ หภูมิที่สงู ขึ ้นและเริ่ มมีรอยเปี ยกซึมไหลออกมาจากชุดของนาง

ในใจของเมิ่งฟ่ านในตอนนี ้เริ่ มมีความรู้สกึ ขัดแย้ งเกิดขึ ้นอันที่จริ งแล้ วนางยังคง


ต้ องการดูดดื่มทวนมังกรของหลินหมิงต่อแต่ถงึ อย่างนันภายในใจของนางกลั
้ บรู้
ดีวา่ สิง่ เหล่านี ้ล้ วนไม่สมควร สิง่ ที่สําคัญที่สดุ ก็็คือการที่หลินหมิงได้ ปลดปล่อย
อารมณ์ของเขาออกไปแล้ ว นันหมายความว่
้ าแม้ วา่ นางจะมีความต้ องการมาก
เพียงใดแต่ตราบใดที่หลินหมิงได้ ระบายอารมณ์หมดไปแล้ วเช่นนี ้นันหมายความ ้
ว่านางย่อมไม่มีโอกาสอีกต่อไป

" ในตอนนี ้เจ้ าสมควรได้ รับรางวัลจากข้ า "


" จริ งหรื อเจ้ าคะ ! "

เมิ่งฟ่ านนางกล่าวออกมาด้ วยความยินดีนางไม่ร้ ูวา่ หลินหมิงจะให้ รางวัลอันใด


กับนางแต่หากเมื่อดูจากสถานะของหลินหมิงแล้ วนันแม้ ้ วา่ มันจะเป็ นรางวัลอันใด
เพียงเล็กน้ อยนันย่
้ อมมีคา่ มากสําหรับพวกนางในตอนนี ้ เมิ่งฟ่ านจ้ องมองไปที่
หลินหมิงที่กําลังยิ ้มอย่างเจ้ าเล่ห์ด้วยสายตาคาดหวัง

" งันเจ้
้ าลองหันหลังไปก่อนสิ "

ด้ วยคํากล่าวอย่างเรี ยบง่ายของหลินหมิงเมิ่งฟ่ านนางทําตามอย่างว่าง่าย


ในตอนนี ้แม้ วา่ ในอดีตสามีของนางจะมีฐานะสูงเพียงใดแต่สาํ หรับเขาในตอนนี ้
แล้ วนันแม้
้ แต่อาหารที่พวกนางได้ รับก็เป็ นเพียงอาหารที่เพียงพอสําหรับการมี
ชีวิตอยูเ่ ท่านัน้ ดังนันไม่
้ ต้องกล่าวถึงเงินทองหรื อยารักษาแต่อย่างใด
ทันใดนันเมื
้ ่อร่างของเมิ่งฟ่ านหันหลังกลับไปนางกลับพบสิง่ ที่น่าตื่นตะลึงนันคื้ อ
ใบหน้ าของสามีของนางที่เต็มไปด้ วยความแดงกํ่า ! หรื อว่าเขาจะรับรู้การกระทํา
ทังหมดเมื
้ ่อครู่ของนาง ? ใบหน้ าของเมิ่งฟ่ านซีดเผือกในตอนนี ้อาการของกงซุน
เอี ้ยนนันไม่
้ เพียงแต่บาดเจ็บอย่างร้ ายแรงเท่านันในตอนนี
้ ้เขากระทัง่ มีเลือดไหล
ออกมาจากมุมปากทังๆที ้ ่ไม่ได้ รับการโจมตีอนั ใดเพิ่มเติมแน่นอนว่าทังหมดมั
้ น
มาจากความคัง่ แค้ นภายในใจที่มากเกินกว่าจะอดกลันเอาไว้ ้ ได้

" ท่านพี่ ! "

เมิ่งฟ่ านนางรี บคลานเข้ าไปหากงซุนเอี ้ยนในทันทีเมื่อเห็นเช่นนี ้แต่ถงึ อย่างนันร่


้ าง
ของนางกลับถูกหยุดเอาไว้ เพียงครึ่งทางเท่านัน้

" คุณชายท่านตังใจจะทํ
้ าสิง่ ใดกัน ! "

เมิ่งฟ่ านกล่าวออกมาด้ วยนํ ้าเสียงมีอารมณ์ในตอนนี ้หากนางสูญเสียสามีไปแล้ ว


ละก็นนหมายความว่
ั้ าสถานะของนางภายในตระกูลกงซุนแห่งนี ้นับได้ วา่ ไม่มีคา่
อะไรเลยเมื่อนันนแล้
้ วมันขึ ้นอยูก่ บั เวลาเท่านันที
้ ่นางจะกลายเป็ นทาส !
" ก็ให้ รางวัลเจ้ ายังไงล่ะ ! "

หลินหมิงจับไปที่เอวทังสองข้
้ างของเมิ่งฟ่ านที่กําลังอยูใ่ นท่าคลานเข้ าไปหากงซุน
เอี ้ยนปลายเสื ้อผ้ าของนางถูกถลกขึ ้นอย่างรวดเร็ วด้ วยฝี มือของหลินหมิงพร้ อม
กันนันทวนมั
้ งกรของหลินหมิงเสียบแทงทะลวงเข้ าไปยังร่องสวาทของเมิ่งฟ่ านจน
ดวงตาของนางเบิกกว้ างด้ วยความตื่นตะลึง !

" มะ..ไม่...อะ..เอาออก..ไป..อ้ าาา...ท่านพี่ชว่ ยข้ า..ด้ วย..อ้ าาา ~~~~~ "

หลินหมิงที่กระแทกทวนมังกรของเขาเข้ าไปจนสุดลําในทันทีนนทํ ั ้ าให้ เมิ่งฟ่ าน


รู้สกึ เจ็บปวดเป็ นอย่างมากไม่เพียงเท่านันร่
้ องสวาทของนางนันยั้ งคงไม่ได้ ทํากา
เร้ าอารมณ์ดงั่ เช่นหญิงสาวของหลินหมิงคนอื่น แม้ วา่ ร่องสวาทของนางจะเคย
ผ่านมือบุรุษมาก่อนแล้ วแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่สามารถช่วยนางได้ กบั ขนาดของ
ทวนมังกรของหลินหมิงอันนี ้
มือของนางพยายามเอื ้อมไปไขว้ ขว้ าหากงซุนเอี ้ยนแต่ถงึ อย่างนันระยะห่
้ าง
ระหว่างนางและกงซุนเอี ้ยนกับไม่ลดลงแต่อย่างใด กงซุนเอี ้ยนที่มองภาพ
ตรงหน้ าถึงกับร่างกายสัน่ สะท้ านจนเส้ นเลือดปูนโปด

" ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าสามีเจ้ าจะไร้ นํ ้ายามากนี ้เขาไม่ได้ ทําให้ เจ้ าเลยใช่ไหม ? ไม่ใช่
ว่าเจ้ าชอบทวนมังกรของข้ ามากอย่างนันหรื ้ อ ? เมื่อก่อนหน้ านี ้เจ้ ายังทําหน้ าตา
เคลิ ้มเคลิมหลังจากที่ได้ ลิ ้มลองมันด้ วยปากอยูเ่ ลย ! "

เมิ่งฟ่ านถึงกับนํ ้าตาไหลอาบแก้ มไม่เพียงแต่ในตอนนี ้นางจะรู้สกึ เจ็บปวดเป็ น


อย่างมาก แต่นางยังคงรู้สกึ เจ็บปวดทางจิตใจด้ วยเช่นเดียวกันการกระทําของ
หลินหมิงเช่นนี ้มันราวกับว่าเขาต้ องการเปลี่่ยนนางให้ เป็ นหญิงสาวผู้มกั มากใน
กามอารมณ์

เพียะ ! เพียะ !

" ครางออกมาสิ แสดงให้ สามีของเจ้ าเห็นสิวา่ ในตอนนี ้หลังจากที่เจ้ าได้ รับรางวัล


จากข้ าแล้ วนันเจ้
้ ามีความสุขมากเพียงใด ! "
เสียงตบฉากใหญ่ไปที่แก้ มก้ นทังสองข้
้ างของเมิ่งฟ่ านจนเป็ นรอยแดงรูปฝ่ ามือไม่
เพียงเท่านันแม้
้ วา่ ในตอนนี ้เมิ่งฟ่ านนางจะรู้สกึ การกระทําของหลินหมิงแต่ถงึ
อย่างนันร่้ างกายของนางกลับตอบสนองหลินหมิงอย่างต่อเนื่อง ทุกๆครัง้ ที่หลินห
มิงทําการกระแทกทวนพร้ อมกับมือของเขาที่ตบที่ก้นของนางมันทําให้ ร่างกาย
ของนางสัน่ สะท้ าน นํ ้าลายจํานวนมากไหลออกมาจากปากของนางอย่างหยุดไม่
อยู่ พร้ อมกับร่องสวาทของนางในตอนนี ้ที่มีนํ ้ารักพุง่ ออกมาอย่างไม่ขาดสาย

" ช่างเป็ นหญิงสาวที่ร่านเสียจริ งนี ้เจ้ าถึงกับเสร็ จสมจากการถูกทุบตี ? "

" มะ..ไม่..ใช่..อะ อ๊ ะ อ๊ ะ อ๊ ะ อร้ างง~~~ "

ในตอนนี ้เมิ่งฟ่ านนางไม่สามารถพูดออกมาได้ เป็ นประโยคเลยเสียด้ วยซํ ้าการ


เคลื่อนของหลินหมิงนันรวดเร็
้ วมากจนทําให้ นางรู้สกึ บ้ าคลัง่ นางสามารถสัมผัส
ได้ เลยที่บริ เวณร่องสวาทของนางในตอนนี ้ถูกแหวกออกจนฉีกขาดและมันคงไม่
สามารถใช้ งานได้ ปกติดงั เดิม
----------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 207

เมิ่งฟ่ านไม่ร้ ูวา่ ในตอนนี ้เวลาผ่านไปนานเพียงใดแล้ วแต่สงิ่ ที่นางสามารถรับรู้ได้ ก็


คือท่อนทวนมังกรของที่หลินหมิงที่ยงั คงกระแทกเข้ าใส่ตวั นางด้ วยจังหวะที่
ร้ อนแรงดัง่ เช่นเริ่ มต้ น แม้ วา่ เขาจะปลดปล่อยนํ ้ารักเข้ าใส่ตวั นางไปแล้ วถึงสอง
ครัง้ แต่ถงึ อย่างนันทวนมั
้ งกรของหลินหมิงกลับไม่มีทา่ ทีวา่ จะอ่อนแรงลงแต่อย่าง
ใด นี ้ยังไม่นบั รวมก่อนหน้ านี ้ที่นางได้ ใช้ ปากของนางทําให้ เขาเสร็ จสมไปแล้ ว
ครึ่งหนึง่

นันเท่
้ ากับว่าในตอนนี ้หลินหมิงได้ ปลดปล่อยอารมณ์ของเขาออกมาถึงสามครัง้
ในช่วงระยะเวลาที่ไม่หา่ งกัน ! ไม่เพียงแต่เมิ่งฟ่ านเท่านันที
้ ่ตื่นตะลึงกระทัง่ กง
ซุนหยางที่เคยมัน่ ใจในลีลาการร่วมรักของเขากับหญิงสาวเมื่อเทียบกับหลินหมิง
แล้ วตัวเขานันเปรี
้ ยบได้ ดงั่ ทารกแรกเกิดเท่านัน้
ไม่ต้องพูดถึงในเรื่ องของกระบวนท่าการร่วมรักอันแปลกประหลาดพิศดาร
ทังหมดของหลิ
้ นหมิงลําพังเพียงจํานวนครัง้ การปลดปล่อยนํ ้ารักของหลินหมิง
ในตอนนี ้เขาสามารถเรี ยกตนได้ วา่ เป็ นยอดบุรุษอย่างไม่ต้องสงสัย

สําหรับกงซุนเอี ้ยนในตอนนี ้ใบหน้ าของมันยังคงปรากฎแต่อารมณ์ความคัง่ แค้ น


สัง่ สมเป็ นอย่างมากหากมันสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความแค้ นทังหมดนี
้ ้เป็ นการ
สังหารหลินหมิงแล้ วละก็หลินหมิงคงได้ ตกตายไปนับร้ อยนับพันครัง้ ไปแล้ ว
หลินหมิงเมื่อเห็นเช่นนี ้เขาตัดสินใจเร่งจังหวะขึ ้นถึงขีดสุด

" อ๊ ะ อ๊ ะ มะ..มันเร็ วขึ ้นอีกแล้ วว ~~~~ "

ใบหน้ าของเมิ่งฟ่ านจากในตอนแรกที่ปรากฎแต่อารมณ์ความเจ็บปวดแต่


ในตอนนี ้กลับกลายเป็ นอารมณ์เคลิ ้มฝัน ไม่ต้องพูดถึงการร่วมรักของนางและกง
ซุนเอี ้ยนที่ไม่เพียงพอตอบสนองอารมณ์ของนางได้ แม้ แต่เพียงนิดไม่เพียงเท่านัน้
ในช่วงระยะเวลาหลายปี มานี ้ไม่วา่ ด้ วยเหตุใดสามีของนางนันไม่
้ ได้ ร่วมรักกับนาง
มานานมากแล้ วอาจเป็ นเพราะเขาเสื่อมถอยสมรรถภาพหรื อไม่ก็ไม่มีเวลาให้ กบั
นาง
แต่ในตอนนี ้นางรู้สกึ ถึงได้ ถงึ ความร้ อนแรงจากการร่วมรักกับหลินหมิงมันราวกับ

ว่านางได้ ย้อนวัยไปในวัยสาวแรกรุ ่นอีกครัง้ กงซุนหยางและภรรยาของเขาแสดง
สีหน้ าไม่น่าเชื่อออกมาสําหรับมารดาของเขานันแต่ ้ เดิมนางเป็ นคนที่หยิ่งเป็ น
อย่างมากลําพังเพียงแค่การที่นางขอร้ องหลินหมิงให้ ละมือจากกงซุนเอี ้ยนนี ้ก็
นับเป็ นภาพที่หาได้ ยากยิ่งสําหรับพวกเขาแล้ ว

" อร้ างงงงงง ~~~~~ "

หลินหมิงกระแทกทวนมังกรเขาไปลึกสุดลําพร้ อมกับนํ ้ารักของเขาที่เข้ าสูต่ วั ของ


เมิ่งฟ่ านเป็ นครัง้ ที่สามร่างกายของนางสัน่ สะท้ านพร้ อมกับชักกระตุกไปหลาย
ครัง้ ที่บริ เวณระหว่างขาทังสองข้
้ างของนางนันมี
้ นํ ้ารักของนางและหลินหมิงไหล
ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

" เจ้ าชอบรางวัลที่ข้าให้ เจ้ าหรื อไม่ ? "


เมิ่งฟ่ านที่กําลังอยูใ่ นสภาพเหนื่อยอ่อนหลังจากที่นางต้ องทนการร่วมรักจาก
หลินหมิงมาเป็ นเวลานานทําให้ สมองของนางในตอนนี ้ไม่สามารถคิดทบทวนได้
อย่างปกติ นางตอบออกมาด้ วยสัญชาตญาณของนางเอง

" ชะ..ชอบเจ้ าคะ "

" แล้ วเจ้ าไม่คิดจะช่วยสามีของเจ้ าให้ พ้นทุกข์บ้างอย่างนันหรื


้ อ?"

หลินหมิงกล่าวถามเมิ่งฟ่ านพร้ อมกับจ้ องมองไปที่กงซุนเอี ้ยนที่แม้ วา่ ในตอนนี ้เขา


จะสวมใส่เสื ้อผ้ าคลุมตัวเอาไว้ แต่ในตอนนี ้โดยที่ไม่ต้องมีผ้ ใู ดคาดเดาหลังจากที่
เขาได้ เห็นการร่วมรักอันร้ อนแรงระหว่างหลินหมิงและเมิ่งฟ่ านมันจะมีบรุ ุษ
ใดบ้ างที่ไม่เกินอารมณ์ขึ ้นมา ? กระทัง่ หญิงสาวก็เช่นเดียวกันภรรยาของกงซุนห
ยางนางยังคงได้ รับผลกระทบนี ้ร่างกายของนางพลันอุณหภูมิเพิ่มสูงสุดขึ ้นโดย
ฉันพลัน

เมิ่งฟ่ านหันไปจ้ องมองที่สามีของนางอีกครัง้ ในตอนนี ้หลังจากที่นางได้ ร่วมรักกับ


หลินหมิงแล้ วนันไม่
้ ต้องสงสัยเลยว่านางคงไม่สามารถหาความสุขจากการร่วมรัก
กับบุรุษได้ อีกต่อไปที่บริ เวณร่องสวาทของนางนันถู
้ กขยายกว้ างออกจนขนาด
ทวนมังกรของเหล่าบุรุษทัว่ ไปเมื่อเสียบเข้ าไปแล้ วก็ยงั คงรู้สกึ หลวม ดังนันแล้
้ ว
หลังจากนันนางหั
้ นกลับมามองที่หลินหมิงอีกครัง้ หนึง่ โดยไม่สนใจสามีของนาง
อีกต่อไป

" ฮ่าๆ "

หลินหมิงหัวเราะด้ วยความพึงพอใจเป็ นอย่างมากดวงตาของกงซุนเอี ้ยนแดงกํ่า


ไปด้ วยความโกรธเกรี ย้ วร่างกายของเขาสัน่ ไหวอย่างรุนแรงแต่ถงึ อย่างนันด้
้ วย
สภาพของคนพิการเช่นมัน ไม่มีสงิ่ ใดที่หลินหมิงจะต้ องเป็ นกังวล ? หลินหมิง
ทําท่าให้ เมิ่งฟ่ านมาหาเขาราวกับสุนขั ที่เชื่องแล้ ว

ร่างกายของนางคลานเขามาหาหลินหมิงอย่างเชื่องช้ าเนื่องจากนางยังคงไม่หาย
จากอาการเหนื่อยล้ า ในตอนนี ้ใบหน้ าของนางแนบอยูก่ บั ขาข้ างหนึง่ ของหลินห
มิงราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์ไปแล้ ว

" กะ...แก ! "


กงซุนเอี ้ยนจ้ องมองไปที่หลินหมิงราวกับต้ องการกินเลือดเนื ้อของเขาแต่ถงึ อย่าง
นันหลิ
้ นหมิงไม่ได้ ให้ ความสนใจกับกงซุนเอี ้ยนอีกต่อไปเขาหันมาสนใจเมิ่งฟ่ า
นอีกครัง้ หนึง่

" เจ้ าอยากจะหลุดพ้ นจากสถานะเช่นนี ้ ? "

คํากล่าวของหลินหมิงทําให้ ดวงตาของเมิ่งฟ่ านสว่างขึ ้นในตอนแรกนางเพียง


คาดคิดว่าหลินหมิงอาจทําลงไปเพียงเพื่อเล่นสนุกกับนางและทรมานสามีของ
นางเพียงเท่านัน้

" เจ้ าคะ "

" งันต่
้ อจากนี ้ข้ าจะให้ เจ้ าไปเป็ นทาสบําเร่อคอยปรนนิบตั ิรับใช้ ข้าและภรรยาของ
ข้ า "
ใบหน้ าของเมิ่งฟ่ านไม่ได้ ปรากฎความเศร้ าเสียใจแต่อย่างใดสําหรับอนาคตของ
นางในตอนนี ้มันล้ วนไม่มีความหวังใดๆ ในเมื่อมันยังคงมีหนทางที่ทําให้ นาง
สามารถหลุดพ้ นจากสถานะเช่นนี ้ไปได้ ไม่เพียงเท่านันแม้
้ วา่ นางจะได้ ไปเป็ น
ทาสบําเร่อของหลินหมิงและต้ องคอยปริ นนิบตั ิรับใช้ เขาแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นยังคง
ดีกว่าการที่นางจะถูกส่งไปเป็ นทาสและขายเข้ าสูห่ อนางโลมกว่าเป็ นไหน

อีกทังในเมื
้ ่อการที่นางได้ เป็ นทาสบําเร่อของหลินหมิงนันหมายความว่
้ านางจะ
ยังคงสามารถลิ ้มรสชาติความสุขดัง่ เช่นก่อนหน้ านี ้ได้ อีกครัง้

" ข้ าตกลงเจ้ าคะ ข้ าจะเป็ นทาสที่ซื่อสัตย์และทําตามคําสัง่ ของคุณชาย "

หลินหมิงหัวเราะลัน่ ออกมาผิดกับกงซุนหยางที่ทําไปด้ วยความตกใจในตอนนี ้ไม่


เพียงแต่มารดาของเขาจะตัดสินใจทิ ้งพวกเขาไปอย่างง่ายดายแต่นางกลับเลือกที่
จะไปเป็ นทาสให้ กบั ศัตรูของพวกเขาเช่นนี ้

เมิ่งฟ่ านรี บแสดงออกถึงความภักดีของนางและเพื่อทําให้ หลินหมิงพึงพอใจริ ม


ฝี ปากของนางเข้ าโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงที่เปราะเปรื อ้ นไปด้ วยคราบนํ ้า
รักของเขาและนางอย่างไม่มีทา่ ทีรังเกียจอันที่จริ งแล้ วนางพบว่านํ ้ารักของหลินห
มิงนันมี
้ รสชาติที่ลํ ้าค่ายิ่งกว่าอาหารระดับสูงที่นางเคยกินมาทังหมด
้ ดังนันแล้
้ ว
มันไม่มีความจําเป็ นใดๆที่นางจะต้ องรังเกียจมัน

นางไม่ต้องกังวลว่าหลินหมิงจะไม่ชอบพอในการกระทําของนางเห็นได้ ชดั ว่าทวน


มังกรของเขายังคงไม่มีทา่ ทีวา่ จะสงบลงโดยง่ายอันที่จริ งแล้ วนางไม่สามารถ
ประเมิณได้ วา่ หลินหมิงมีความสามารถในการปลดปล่อยนํ ้ารักเป็ นจํานวนกี่ครัง้
ในช่วงระยะเวลาติดๆกันแต่ด้วยภาพตรงหน้ าและประสบการณ์ของนางเป็ นไปได้
หรื อไม่วา่ เขาอาจทําได้ ถงึ สิบครัง้ ?

หลินหมิงปล่อยให้ เมิ่งฟ่ านโลมเลียทวนมังกรของเขาไปอย่างว่าง่ายอันที่จริ งแล้ ว


เหตุผลที่เขามาในวันนี ้ก็เพื่อเหยียบยํ่ากงซุนเอี ้ยนและกงซุนหยางแม้ วา่ ในตอนนี ้
พวกเขาสองพ่อลูกจะถูกทอดทิ ้งโดยตระกูลทังหมดสิ ้ ้นแต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิง
ต้ องการให้ พวกเขาปราศจากที่พกั พิงใดๆ เห็นได้ ชดั ว่าการที่อาการของกงซุน
เอี ้ยนยังคงสามารถประคับประคองเอาไว้ ได้ เช่นนี ้นันเป็
้ นเพราะว่าเขาได้ รับการ
ดูแลจากภรรยาของเขา
เช่นเดียวกันกับกงซุนหยางดังนันแล้
้ วหากหลินหมิงนําหญิงสาวทังสองผู
้ ้ นี ้จาก
พวกมันสองพ่อลูกคูน่ ี ้ไปพวกมันไม่อาจสามารถทําอะไรได้ ด้วยตนเองอีกต่อไป

" แล้ วเจ้ าล่ะ ข้ าสามารถทําให้ เจ้ าหลุดพ้ นจากความยากลําบากนี ้ได้ เช่นเดียวกัน
กับนาง "

หลินหมิงหันนางไปทางภรรยาของกงซุนหยางหรื อฉางซีเมื่อได้ รับคํากล่าวจาก


หลินหมิงใบหน้ าของนางเต็มไปด้ วยความตื่นตระหนกตังแต่
้ ต้นนางเห็นการ
กระทําอันโหดร้ ายของหลินหมิงทุกอย่าง

หลินหมิงแย้ มยิ ้มไปที่ฉางซีสําหรับนางในตอนนี ้นางย่อมไม่มีทางเลือกอื่น


นอกจากติดตามเขา แม้ วา่ นางจะเป็ นภรรยาของกงซุนหยางมาก่อนแต่ถงึ อย่าง
นันหลิ
้ นหมิงไม่คิดสิง่ ใดมากเกี่ยวกับเรื่ องนี ้เห็นได้ ชดั ว่ารสนิยมของกงซุนหยางผู้
นี ้ดีไม่ใช่น้อยด้ วยความงดงามของฉางซีนางนี ้ นางกระทัง่ เกือบเทียบเคียงได้ กบั
ภรรยาผู้น่ารักของเขาอย่างจิวหลิน

" ข้ าขอปฎิเสธเจ้ าคะ "


โดยไม่คาดคิดคําตอบที่หลินหมิงได้ รับกับเป็ นการปฎิเสธ ? หลินหมิงจ้ องมองไป
ที่ดวงตาของฉางซีที่เต็มไปด้ วยความมุง่ มัน่
ตอนที่ 208 NC นิดๆ
โดย

Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 208

หลินหมิงไม่เข้ าใจว่าเหตุใดหญิงสาวตรงหน้ าเขาถึงได้ ตดั สินใจเช่นนี ้อันที่จริ งแล้ ว


แม้ วา่ สถานะที่เขาหยิบยื่นให้ แก่นางจะเป็ นเพียงทาสปรนนิบตั ิรับใช้ แต่มนั ก็ยงั คง
ดีกว่าสถานะของนางในตอนนี ้ที่แม้ จะกินดื่มก็ยงั คงยากลําบาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
การอยูอ่ าศัยที่ถกู จํากัดไม่สามารถออกไปไหนได้ เช่นนี ้แล้ วเหตุใดกันนางถึงได้
ตัดสินใจเช่นนี ้ ?

แม้ แต่กงซุนหยางเองก็ยงั คงตกตะลึงอันที่จริ งแล้ วฉางซีนนเป็ั ้ นเพียงภรรยาน้ อย


ของเขานางหนึง่ เพียงเท่านันแต่้ ตงแต่ั ้ ที่ฐานะของเขาตกตํ่าลงเหล่าภรรยาทังจาก

ตระกูลหลายแห่งที่มาจากตระกูลมากมายต่างเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กบั เขา
จนเหลือเพียงแค่ฉางซีเพียงคนเดียวเท่านัน้ กงซุนหยางไม่เข้ าใจว่าเหตุใดนาง
ถึงได้ ยงั อยูข่ ้ างกายของเขาอันที่จริ งแล้ วในบรรดาเหล่าสตรี ข้างกายของเขาก่อน
หน้ านี ้แม้ วา่ ฉางซีจะมีความงดงามที่คอ่ นข้ างหน้ าตื่นตะลึง
แต่ถงึ อย่างนันกงซุ
้ นหยางไม่ได้ ให้ ความสนใจกับนางมานักอันที่จริ งแล้ วนางเป็ น
ตัวเลือกลําดับท้ ายๆสําหรับเขาเลยก็วา่ ได้ นนก็
ั ้ เพราะว่านางไม่ได้ มีความเร่าร้ อน
ดัง่ เช่นหญิงสาวคนอื่นๆที่พยายามเอาอกเอาใจและยัว่ ยวนเขา

หลินหมิงจ้ องมองไปที่ฉางซีที่ยงั คงเต็มเปี่ ยมไปด้ วยความมุง่ มัน่ ดูเหมือนกับว่า


โชคชะตาของกงซุนหยางผู้นี ้จะไม่นบั ว่าเลวร้ ายแม้ วา่ เขาจะตกอยูใ่ นสถานการณ์
ที่ยากลําบากที่แม้ แต่กระทัง่ มารดาก็ยงั คงทิ ้งเขาไปแต่มนั ยังคงเหลือภรรยาผู้ที่
เขาไม่แม้ แต่จะเคยสนใจอยูเ่ คียงข้ างเขา เมื่อคิดได้ เช่นนี ้กงซุนหยางรู้สกึ หัวใจ
บีบรัดด้ วยความผิดบาปหากย้ อนเวลากลับไปได้ เขายินดีที่จะให้ ฉางซีกลายเป็ น
ภรรยาหลวงของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

" เอาอย่างนันก็้ ได้ ในเมื่อเจ้ าตัดสินใจเช่นนัน...แต่


้ ถงึ อย่างนันเจ้
้ าคงไม่คิดว่าข้ า
จะปล่อยสามีของเจ้ าไปโดยง่าย ? แน่นอนว่าในส่วนของบิดาของมันนันข้ ้ า
ได้ รับของตอบแทนที่เพียงพอแล้ วแต่สําหรับสามีของเจ้ าผู้นี ้แล้ วแน่นอนว่าไม่ได้
เกี่ยวข้ องกัน ! "
กงซุนหยางรู้สกึ หวาดกลัวไปสุดขัวหั ้ วใจเขายังจดจําภาพการกระทําอันโหดร้ าย
ของหลินหมิงได้ ทกุ อย่าง แน่นอนว่าเขาไม่มีความอดทนมากเพียงพอที่จะทนรับ
ความเจ็บปวดเช่นนันเดี ้ ยวกับบิดาของเขาอย่างแน่นอนลําพังเพียงแค่ในก่อน
หน้ านี ้ที่หลินหมิงบุกเข้ าตํานักของบิดาของเขาพร้ อมกับสังหารผู้อาวุโสที่มีระดับ
พลังขันจอมยุ
้ ทธ์ขนสู
ั ้ งสุดไปอย่างมากมายและตามด้ วยการทารุณเขาจนเส้ น
ลมปราณของเขาพิการ ด้ วยการกระทําเหล่านี ้กงซุนหยางรู้สกึ ว่าหลินหมิงราว
กับมัจจุราชในสายตาของเขา

แม้ วา่ สถานการณ์ของกงซุนหยางและกงซุนเอี ้ยนจะเลวร้ ายถึงเพียงนี ้เพียงแต่วา่


เมิ่งฟ่ านไม่ได้ ให้ ความสนใจสามีและบุตรของนางอีกต่อไป นางยังคงเพลิดเพลิน
อยูก่ บั การโลมเลียแท่งทวนมังกรของหลินหมิงโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนที่เกิด
ขึ ้นกับกงซุนหยางในยามนี ้

ใบหน้ าของฉางซีเปลี่ยนเป็ นปั น้ ยากขึ ้นมาในทันที นางรู้ดีวา่ หลินหมิงและสามี


ของนางนันมี ้ ความขัดแย้ งกันมากมายเพียงใด หากก่อนหน้ านี ้ไม่ใช่หลินหมิงที่
เป็ นฝ่ ายเอาชนะในวันนี ้คงเป็ นวันที่สามีของนางยํ่ายีหลัวฉิงเชี่ยนไปแล้ วดังนัน้
มันจึงไม่ใช่เรื่ องแปลกที่หลินหมิงจะมีความโกรธเกรี ย้ วมากถึงเพียงนี ้
" เช่นนันคุ
้ ณชายต้ องการสิง่ ใดถึงจะพอใจ "

" เจ้ าก็น่าจะรู้อยูแ่ ล้ ว "

ฉางซีนางกล่าวออกมาด้ วยนํ ้าเสียงสัน่ เครื ออันที่จริ งแล้ วมันไม่ใช่สงิ่ ที่ยากเกิน


กว่านางจะคาดเดาได้ ด้วยการที่ทวนมังกรของหลินหมิงยังคงผงาดพร้ อมใช้ งาน
อยูต่ ลอดเวลาเช่นนี ้นันหมายความว่
้ าเขาอาจที่จะต้ องการทําสิง่ เดียวกับแม่ยาย
ของนางกับนางเอง

แต่เดิมทีนางเป็ นคนที่ยดึ ถือมัน่ ในหลักคําสอนจากมารดาเมื่อนางได้ เป็ นหนึง่ ใน


ภรรยาของกงซุนหยางผู้นี ้แล้ วนางยินดีปรนนิบตั ิเขาทุกอย่างและจะเชื่อฟั งสามี
ของนางเป็ นที่สดุ หลินหมิงเริ่ มที่จะเข้ าใจในความคิดอ่านของสาวงามนางนี ้
ขึ ้นมาบ้ าง ดูเหมือนว่าไม่วา่ อย่างไรก็ตามเขาคงต้ องทําให้ ฉางซีแยกจากจากกง
ซุนหยางเมื่อเป็ นเช่นนันในฐานะอดี
้ ตคุณชายผู้มากไปด้ วยอํานาจเขาจะ
กลายเป็ นยิ่งกว่าขยะไร้ คา่ ที่ไม่สามารถทําสิง่ ใดได้ อีกต่อไป
" มันไม่มีสงิ่ อื่นที่คณ
ุ ชายต้ องการแล้ วอย่างนันหรื
้ อ ข้ ายินดีทําให้ แม้ วา่ มันจะยาก
เพียงใด "

ฉางซีนางยังคงไม่เต็มใจที่จะยินยอมตามหลินหมิงนางยังคงยึดมัน่ แม้ วา่ กงซุนห


ยางผู้นี ้จะไม่เคยแม้ แต่เลี่ยวมองนางก็ตาม

" ก็มีอยูช่ ีวิตของสามีของเจ้ ายังไง "

ใบหน้ าของฉางซีกลายเป็ นปั น้ ยากดูเหมือนว่านางจะไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก


ต่อไป นางหันไปหาพร้ อมกับจ้ องมองไปที่กงซุนหยาง นางเพียงคาดหวังว่านาง
จะได้ รับกําลังใจเล็กๆน้ อยๆหรื อกระทัง่ ความช่วยเหลือจากสามีผ้ ไู ม่เคยสนใจนาง
เลยผู้นี ้ แต่ราวกับว่าสวรรค์ต้องการกลัน่ แกล้ งนางโดยแท้ จริ งทันทีที่กงซุนหยาง
ได้ ยินว่าหลินหมิงต้ องการชีวติ ของเขา

โดยไม่มีสงิ่ อื่นใดที่จะต้ องคิดต่อไปกงซุนหยางผู้นี ้เตรี ยมพร้ อมกับผลักไสฉางซีผ้ ู


คอยปรนนิบตั ิรับใช้ เขามาตลอดอย่างซื่อสัตย์ไปอย่างไม่ใยดี หัวใจของนางรํ่ า
ร้ องไปด้ วยความเศร้ าโศก เมื่อเป็ นเช่นนี ้นางค่อยๆก้ าวเดินมาหาหลินหมิงอย่าง
เชื่องช้ า

เมิ่งฟ่ านที่กําลังโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอยูพ่ ลันหยุดการกระทําของ


นางในทันทีเมื่อนางได้ เห็นว่าฉางซีคลานมาหยุดตรงหน้ าของหลินหมิงเป็ นที่
เรี ยบร้ อยนางเคลื่อนกายไปด้ านข้ างของหลินหมิงอย่างซือสัตย์

" ข้ าจะยินยอมให้ ทา่ นเพียงครัง้ เดียวเท่านัน..เมื


้ ่อเป็ นเช่นนันแล้
้ วท่านต้ องรับปาก
ว่าท่านจะไม่ยงุ่ เกี่ยวกับสามีของข้ าอีกต่อไป "

" ก็ได้ "

ทันทีที่หลินหมิงกล่าวจบเขาส่งสัญญาณให้ ฉางซีขึ ้นมานัง่ คร่อมบนตักของเขาที่


กําลังนัง่ อยูบ่ นเก้ าอี ้ นางตามคําสัง่ ของหลินหมิงโดยไม่มีการคัดค้ านในตอนนี ้
นางได้ ขึ ้นคร่อมร่างตักของหลินหมิงขาของนางทังสองข้ ้ างแยกออกอย่าง
กว้ างขวางจนเผยให้ เห็นส่วนลับของหญิงสาวที่ตอนนี ้มันกําลังอยูใ่ กล้ ชิดกับทวน
มังกรของหลินหมิงเป็ นอย่างมาก
นิ ้วมือของหลินหมิงเคลื่อนไหวเข้ าสูจ่ ดุ ยุทธ์สาตร์ ลบั ของหญิงสาวด้ วยความ
อยากรู้แม้ วา่ ในตอนแรกมือของนางจะพยายามหยุดหลินหมิงเอาไว้ แต่ในทันทีที่
นางตระหนักได้ นางจึงได้ แต่ปล่อยให้ หลินหมิงทําตามอําเภอใจ ลมหายใจของ
หลินหมิงในตอนนี ้กําลังรดต้ นคอของนางจนทําให้ ร่างกายของนางรู้สกึ ร้ อน
รุ่ม นิ ้วมือของหลินหมิงในตอนนี ้หลังจากที่มนั สัมผัสไปทัว่ ไปบริ เวณร่องสวาท
มันเริ่ มทะลุทะลวงเข้ าไปสูภ่ ายใน !

ในทันทีที่นิ ้วมือของหลินหมิงเข้ าสูภ่ ายในร่องสวาทของนางร่างกายของนางสัน่


สะท้ านไปด้ วยความเสียวซ่านนํ ้ารักของนางเริ่ มไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงที่เปลี่ยนเป็ นตื่นเต้ นพร้ อมกับหันไปจ้ องมองที่กงซุนห
ยางด้ วยสายตาสมเพช

" ฮ่าๆ ทังที


้ ่เจ้ ามีภรรยาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี ้แต่เจ้ ากลับไม่เคยลิ ้มลองนางเลยแม้ แต่
ครัง้ เดียว ? นี ้เจ้ ายังคงเรี ยกตนเองว่าเป็ นบุรุษได้ ? "
กงซุนหยางได้ แต่หนั หน้ าหลบสายตาของหลินหมิงและทําเป็ นไม่ได้ ยิน ใน
เมื่อก่อนหน้ านี ้เขามีเหล่าหญิงสาวรอบข้ างอยูม่ ากมายจนนับไม่ถ้วนและด้ วย
ศักยภาพของบุรุษที่สามารถเสร็ จสมได้ เพียงแค่หนึง่ ครัง้ ต่อวันเขาจะสามารถร่วม
รักกับหญิงสาวเหล่านันได้ ้ ทงหมด
ั้ ? แน่นอนว่าไม่มนั ไม่มีทางที่เหล่าบุรุษทัว่ ไป
จะสามารถร่วมรักกับหญิงสาวจํานวนมากได้ ภายในเวลาอันสันนี ้ ้ยังไม่นบั รวมถึง
การที่พวกเขาจะต้ องใชเวลาในการฝึ กฝนตนเพื่อบ่มเพาะ

หากจะมีบรุ ุษคนใดที่สามารถทําให้ หญิงสาวจํานวนมากพึงพอใจได้ ไม่เว้ นวันนัน้


อาจมีเพียงคนเดียวเท่านันในโลกใบนี
้ ้นันก็
้ คือหลินหมิง

หลินหมิงเปลี่ยนเป็ นตื่นเต้ นพร้ อมกับเริ่ มทําการสูดดมกลิน่ กายของฉางซีไปที่


ซอกคอพร้ อมกับโลมเลียอย่างหื่นกระหาย มือทังสองข้ ้ างของเขาเข้ าบีบคลึง
หน้ าอกคูง่ ามของนางจนร่างกายของฉางซีถงึ กับกระสับกระส่ายไปมาด้ วย
ความรู้สกึ แปลกประหลาด

ทันใดนันนางรู
้ ้ สกึ ได้ วา่ เสื ้อผ้ าของนางค่อยๆถูกปลดออกไปจนเผยให้ เห็นเรื อน
ร่างเปลื่อยเปล่าที่ไร้ ซงึ่ อาภรณ์ใดๆบดบังผิวหนังของนางกลายเป็ นสีชมพูระเรื่ อ
ด้ วยความเอียงอายไม่ต้องพูดถึงในยามนี ้ที่นางต้ องเปลื่อยเปล่าต่อหน้ าหลินหมิง
มันยังคงมีคนอื่นอยูอ่ ีกด้ วยเช่นเดียวกัน

ฉางซีนางขบรี มฝี ปากแน่นเมื่อหลินหมิงเริ่ มทําการโลมเลียจากบริ เวณซอกคอลง


มาสูบ่ ริ เวณหน้ าอกคูง่ ามทังสองของนางเพื
้ ่อไม่ให้ เสียงครางของนางดังออกไป
ตอนที่ 209

สําหรับฉางซีถงึ แม้ วา่ ในตอนนี ้นางจะถือว่าเป็ นหนึง่ ในภรรยาของกงซุนหยาง


แล้ วแต่นางไม่เคยได้ รับความเอาใจใส่เลยแม้ แต่น้อยอันที่จริ งแล้ วหากไม่เกิด
เหตุการณ์เลวร้ ายขึ ้นกับกงซุนหยางตัวเขาคงลืมไปแล้ วว่าฉางซีนางนี ้ก็เป็ นหนึง่
ในภรรยาของเขาเช่นเดียวกัน

ในตอนนี ้ร่างกายของฉางซีกระสับกระส่ายไปมาด้ วยความเสียวซ่านจากการ


เล้ าโลมจากหลินหมิงอันที่จริ งแล้ วแม้ วา่ นางจะเตรี ยมตัวเตรี ยมใจที่จะร่วมรักกับ
หลินหมิงมาก่อนหน้ าแล้ วแต่นางไม่คาดคิดว่านางจะต้ องพบเจอกับการเล้ าโลม
เช่นนี ้ เทียบกับการร่วมรักของหลินหมิงและเมิ่งฟ่ านก่อนหน้ านี ้มันเต็มไปด้ วย
ความโหดร้ ายอย่างแท้ จริ ง แต่ในตอนนี ้นางไม่สามารถเข้ าใจได้ วา่ หลินหมิงกําลัง
ต้ องการสิง่ ใดเหตุใดเขาถึงยังไม่ลงมือร่วมรักกับนางกัน ?

อาา ~~~~

ทันทีที่ริมฝี ปากของหลินหมิงเปลี่ยนจากการโลมเลียเป็ นดูดดื่มที่บริ เวณหน้ าอก


ของนาง ฉางซีพลันไม่สามารถข่มกลันอารมณ์ ้ ของนางเอาไว้ ได้ ทนั ริ มฝี ปากของ
นางราวกับถูกบังคับให้ เปิ ดออกเสียงครางอันสดแสนไพเราะของนางดังขึ ้น
ในทันที ใบหน้ าของฉางซีเต็มไปด้ วยความอับอายด้ วยการกระทําของนางเมื่อ
สักครู่นี ้เห็นได้ ชดั ว่านางกําลังมีความสุขจากบุรุษที่ไม่ใช่สามีของนางซึง่ ผิดกับ
หลักสอน

มือของหลินหมิงเคลื่อนไหวอย่างซุกซนไปที่แผ่นหลังอันเปลื่อยเปล่าของนาง
ในตอนนี ้ฉางซีราวกับว่าร่างกายของนางได้ รับการพัฒนาให้ มีการตอบสนองที่
ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ ้น เล็บของหลินหมิงเข้ ากรี ดไปที่แผ่นหลังเรี ยบเนียนของนาง
อย่างแผ่วเบาและเชื่องช้ า โดยในทันทีร่างของฉางซีพลันแข็งแกร่งและตังตรง ้
ขึ ้นมาในทันที
แต่ถงึ อย่างนันมื
้ องของหลินหมิงยังคงกรี ดต่อไปจากบริ เวณด้ านบนแผ่นลงจนลง
ไปถึงระดับและเข้ าสูบ่ ริ เวณรูทวารของนาง

" อร้ าางง ~~~ "

ฉางซีนางไม่สามารถอดทนการเล้ มโลมของหลินหมิงได้ อีกต่อไปนํ ้ารักของนาง


ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงถึงอย่างไรก็ตามนางยังคงเป็ นหญิงสาวบริ สทุ ธ์อยู่
ดังนันแล้
้ วนางยังไม่เคยได้ รับประสบการณ์จากบุรุษเลยแม้ แต่น้อย ร่างกายของ
นางหอบอย่างเหนื่อยอ่อนพร้ อมกับพิงลงไปบนไหล่ของหลินหมิง

" ท่านก็ร่วมรักกับข้ าเสียทีทกุ อย่างจะได้ เสร็ จสิ ้น "

เสียงของฉางซีดงั ขึ ้นแม้ วา่ นางจะพยายามกล่าวด้ วยนํ ้าเสียงเต็มกําลังแต่ถงึ


อย่างนันด้
้ วยสภาพของนางในตอนนี ้มันกลับกลายเป็ นตรงข้ ามเสียงของนางนัน้
กลับดูยวั่ ย้ วนหลินหมิงเป็ นพิเศษ
" เจ้ าก็เห็นว่าก่อนหน้ านี ้ข้ าเพิ่งทําไปเป็ นจํานวนมากแล้ วดังนันในตอนนี
้ ้ข้ าจึงรู้สกึ
อ่อนล้ า ดังนันหากเจ้
้ าต้ องการให้ มนั จบลงโดยเร็ วข้ าเกรงว่าเจ้ าจะต้ องเป็ นฝ่ าย
ขึ ้นควบข้ าเอง "

" ท่าน ! ...อาา า~~~~ "

ฉางซีร้ ูดีวา่ สิง่ ที่หลินหมิงกล่าวมานันไม่


้ ได้ เป็ นความจริ งเลยแม้ แต่น้อย เหนื่อยล้ า
? แน่นอนว่าหากเป็ นบุรุษโดยทัว่ ไปนางคงไม่มีข้อสงสัยในเรื่ องนี ้แต่สําหรับหลินห
มิงแล้ วนันหลั
้ งจากที่เขาปลดปล่อยอารมณ์ไปถึงสี่ครัง้ หรื ออาจมากกว่านันเขา ้
ไม่ได้ มีทา่ ทีเหนื่อยอ่อนอย่างที่กล่าวมาเลยแม้ แต่น้อย

แต่นางไม่สามารถกล่าวสิง่ ใดออกไปได้ ดเู หมือนว่าในตอนนี ้นางไม่มีทางเลือก


อย่างแท้ จริ งหากนางต้ องทนกับการเล้ าโลมอันยอดเยี่ยมจากหลินหมิงต่อไป
เช่นนี ้เป็ นไปได้ วา่ นางอาจหมดสติไปก่อนที่หลินหมิงจะได้ ร่วมรักกับนางเสียอีก
ฉางซีนางค่อยๆยันตั้ วเองขึ ้นด้ วยกําลังที่หลงเหลืออยูข่ องนางในตอนนี ้ร่องสวาท
ของนางถูกขยับเข้ าไปอยูเ่ หนือทวนมังกรของหลินหมิงที่กําลังตังชั ้ นอย่างงดงาม
ร่างกายของนางสัน่ ไปด้ วยความหวาดกลัวอันที่จริ งแล้ วแม้ วา่ ก่อนหน้ านี ้นางจะ
ได้ เห็นการร่วมรักของหลินหมิงและเมิ่งฟ่ านมาแล้ ว

แต่นนไม่
ั ้ ได้ ทําให้ นางรู้สกึ ดีขึ ้นแต่อย่างใดกลับกันแล้ วสําหรับเมิ่งฟ่ านนันแม้
้ วา่
นางจะเคยผ่านมือบุรุษมาแล้ วแต่เมื่อต้ องเจอกับทวนมังกรของหลินหมิงแม่ยาย
ของนางผู้นี ้กับดิ ้นพล่านอย่างบ้ าคลัง่ แล้ วสําหรับนางที่เป็ นครัง้ แรกเล่า ?

หลินหมิงจ้ องมองไปยังฉางซีที่กําลังข่มตาแน่นพร้ อมกับค่อยๆทิ ้งลําตัวของนาง


ลงมาอย่างช้ าๆแต่เมื่อร่องสวาทของนางสัมผัสกับปลายทวนมังกรของหลินหมิ
งร่างกายของนางพลันสะดุ้งขึ ้นพร้ อมกับยกขึ ้นอีกครัง้ มือทังสองข้
้ างของหลินห
มิงเข้ าลูบไล้ ที่บริ เวณต้ นขาของนางเพื่อให้ นางคลายตัวลง

แต่ถงึ อย่างนันไม่
้ เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดฉางซีในตอนนี ้นางยังคงเต็มไปด้ วย
ความกังวลมากจนไม่กล้ าที่จะเสียบทวนมังกรของหลินหมิงเข้ าไปภายในร่างกาย
ของนาง
" เจ้ าเป็ นอะไรไป ? หรื อเจ้ าจะเปลี่ยนใจในตอนนี ้ ? "

ฉางซีในตอนนี ้นางอยูใ่ นสภาพเหนื่อยล้ าและตรึงเครี ยดอย่างแท้ จริ งนางไม่


คาดคิดว่าทวนมังกรของหลินหมิงนันจะสามารถเข้
้ าไปในร่องสวาทของสาวใดได้
มันมีขนาดใหญ่มากจนเกินไปแต่ถงึ อย่างนันนางไม่
้ มีตวั เลือกที่จะสามารถปฎิ
เสธได้ เช่นเดียวกัน

" ไม่ ! "

นางกล่าวเสียงแข็งพร้ อมกับค่อยๆทิ ้งร่างลงมาอีกครัง้ เพียงแต่วา่ ในคราวนี ้ต่าง


กับก่อนหน้ าหลินหมิงพลันดึงร่างของนางเข้ าไปแนบสัมผัสอบอุน่ จากกายเนื ้อเป
ลื่อยเปล่าทังสองทํ
้ าให้ ดวงตาของนางเบิกกว้ างไปด้ วยความตกใจไม่เพียงเท่านัน้
ริ มฝี ปากของนางพลันถูกช่วงชิงในทันที

อื ้มมมม ~~~~~~~
เสียงครางในลําคอของนางดัง่ ออกมาอย่างไม่สามารถจับใจความได้ มนั ไม่ใช่
เพราะว่าริ มฝี ปากของหลินหมิงที่กําลังประกบปากของนางอยูใ่ นตอนนี ้อันที่จริ ง
แล้ วรสชาติจบู ของหลินหมิงนันไม่
้ ได้ เร่าร้ อนแต่อย่างใดมันเป็ นรสจูบที่แสน
นุ่มนวลจนชวนน่าหลงไหลแต่สงิ่ ที่ทําให้ นางครางออกมานันก็ ้ คือการที่นางถูกจู่
โจมโดยไม่ทนั ตังตั
้ วเช่นนี ้

แน่นอนว่ามันทําให้ นางหลงลืมการควบคุมตัวไปร่างกายของนางถูกทิ ้งลงไปยัง


เบื ้องร่ างที่มีทวนมังกรของหลินหมิงรออยูท่ วนมังกรของหลินหมิงแทงทะลวงเข้ า
ไปอย่างต่อเหนื่องขึ ้นเรื่ อยๆเลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากร่องสวาทของ
นางเอง นางไม่สามารถคํ ้ายันร่างกายของนางได้ อีกต่อไปในเวลานี ้ร่างกายของ
นางรู้สกึ ไร้ ซงึ่ เรี่ ยวแรงใดๆไปโดยสิ ้นเชิง

แต่ถงึ อย่างนันฉางซี
้ นางพลันพบกับเรื่ องประหลาดเกิดขึ ้นนันก็้ เพราะว่าทวน
มังกรของหลินหมิงที่เข้ ามาสูภ่ ายในตัวของนางนันไม่ ้ ได้ ให้ ความรู้สกึ เจ็บปวดแต่
อย่างใดทังๆที
้ ่นี ้เป็ นครัง้ แรกของนาง แน่นอนว่าทังหมดนี
้ ้ส่วนหนึง่ เป็ นเพราะว่า
ร่องสวาทของนางนันมี ้ นํ ้าล่อลื่นจากนํ ้ารักของนางเองก่อนหน้ านไม่เหมือนกับเมิ่ง
ฟ่ านและที่สําคัญที่สดุ ก็คือรสสัมผัสจากหลินหมิงที่ได้ รับความสามารถมาจาก
เจ้ าพลังงานประหลาดก่อนหน้ ามันเป็ นความสามารถที่ทําให้ หญิงสาวมีความสุข
ได้ อย่างมากล้ นเมื่อใดก็ตามที่หลินหมิงได้ สมั ผัสไปยังเรื อนร่างของเหล่าหญิงสาว
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้ ใช้ มนั กับเมิ่งฟ่ าน

หลินหมิงถอนริ มฝี ปากของเขาออกมาจากริ มฝี ปากของฉางซีเพื่อให้ นางได้ หายใจ


ออกมาอย่างเฮือกใหญ่ในตอนนี ้ร่างกายของนางนันรู
้ ้ สกึ ราวกับกําลังถูกหลอม
ละลายทวนมังกรของหลินหมิงที่อยูภ่ ายในร่างกายของนางนันให้ ้ ความรู้สกึ คับ
แน่นอยูภ่ ายในจนยากที่จะบรรยาย

" ซี๊ดดดดดด ~~~ "

เสียงครางของฉางซีดงั ลัน่ ออกมาอย่างต่อเนื่องในตอนนี ้นางไม่สามารถข่มกลัน้


อารมณ์ความรู้สกึ ใดๆได้ อีกต่อไป

" มะ...มันเข้ ามาลึกมาก อ้ าาา ~~~~~~~ "


ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงถูกแทงเข้ ามาจนสุดลําร่างกายของฉางซีสนั่ สะท้ าน
พร้ อมกับใบหน้ าของนางที่พลันแข็งค้ างด้ วยความรู้สกึ ที่มากล้ นอันที่จริ งนาง
ยังคงมีสติรับรู้ดีวา่ สิง่ ที่นางทําในตอนนี ้เป็ นสิง่ ที่ไม่สมควรแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นจะ
ยังคงมีสตรี ใดๆที่สามารถต่อต้ านรสชาติการร่วมรักอันยอดเยี่ยมจากหลินหมิงได้
กัน ?

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เหตุใดแม่ยายของนางที่ได้ ตดั สินใจเช่นนันก่


้ อนหน้ านี ้ไม่ใช่วา่
เพราะนางต้ องการทิ ้งบุตรและสามีของนางแต่มนั เป็ นเพราะว่านางติดใจใน
รสชาติสมผัสอันร้ อนแรงของหลินหมิงต่างหาก

ทันใดนันร่
้ างกายของนางพลันถูกยกขึ ้นทวนมังกรของหลินหมิงถูกนําออกมาจาก
ร่องสวาทของนาง หากเป็ นในก่อนหน้ านี ้นางคงรู้สกึ ยินดีเป็ นอย่างมากแต่สาํ หรับ
ในตอนนี ้ด้ วยการกระทําเช่นนี ้ของหลินหมิงมันไม่ได้ ตา่ งอะไรไปจากการทรมาน
นางเลยแม้ แต่น้อย !

" เอาล่ะข้ าถือว่าเจ้ าทําให้ ข้าพอใจได้ มากพอแล้ ว เมิ่งฟ่ าน ! "


ในทันทีที่เมิ่งฟ่ านได้ ยินเสียงเรี ยกกล่าวจากหลินหมิงนางตอบสนองในทันทีโดย
ไม่ต้องฟั งคําสัง่ ใดๆนางราวกับว่าสามารถอ่านใจของหลินหมิงได้ เสื ้อของนาง
ถลกขึ ้นพร้ อมกับร่างของนางที่นอบราบพร้ อมกับโก่งส่วนสะโพกของนางขึ ้นมา
อีกครัง้

" อร้ าาาาางงง ~~~~ "

" นี ้หรื อว่าเจ้ าเพิ่งเสร็ จไป ? เฮอะช่างมันทาสบําเร่อที่ร่านเสียจริ งเจ้ าเสร็ จเพียงแค่


เพราะเฝ้าดูข้าเนียนะ ฮ่าๆ "

หลินหมิงเสียบทวนมังกรของเขาเข้ าไปในร่องสวาทของเมิ่งฟ่ านอีกครัง้ อย่าง


รุนแรงพร้ อมกับตบไปที่แก้ มก้ นของนางอย่างบ้ าคลัง่ แต่ถงึ อย่างนันใบหน้
้ าของ
เมิ่งฟ่ านกลับไม่แสดงท่าทีเจ็บปวดท่าทีของนางนันเต็
้ มเปี่ ยมไปด้ วยความสะใจ

" ท่านกล่าวว่าท่านพอใจแล้ วเช่นนัน้ ? "


ฉางซีนางยังคงสับสนกับสถานการณ์ในตอนนี ้ไม่ใช่วา่ หลินหมิงต้ องการร่วมรัก
กับนางอย่างนันหรื
้ อแต่เขาเพิง่ ทําเพียงแค่การเสียบทวนมังกรของเขาเข้ าไป
เพียงครัังเดี
้ ยวเท่านันและยั
้ งคงไม่ได้ ทําการขยับใดๆ ?

" ใช่แล้ วเจ้ ามีปัญหาอะไรหรื อย่างไร ? ข้ าไม่ยินดีที่จะร่วมรักกับสตรี ที่ไม่ยินยอม


เป็ นของข้ านานนักหรอก เอาเช่นนี ้เป็ นอย่างไรข้ าจะให้ เงื่อนไขเจ้ าอีกข้ อในเมื่อข้ า
รู้สกึ ชอบพอในนิสยั ของเจ้ าอยูไ่ ม่ใช่น้อยหากทิ ้งไว้ กบั สวะเช่นนี ้ก็คงจะเป็ นการ
เสียเปล่า "

ฉางซีในตอนนี ้นางไม่ได้ ยืนกรานเสียงแข็งกับหลินหมิงก่อนหน้ านี ้อีกต่อไป


ในตอนนี ้ที่ร่องสวาทของนางยังคงจดจํารสชาติความสุขและเรื อนร่างของนาง
ยังคงจดจํารสชาตืสมั ผัสอันยอดเยี่ยมได้ อยู่ นางยังคงอยากได้ สมั ผัสอันยอด
เยี่ยมและไออุน่ เช่นนันอี
้ กครัง้ !

" ข้ าจะให้ เจ้ าเป็ นสนมของข้ าแน่นอนว่าไม่ใช่ทาสบําเร่อเหมือนเจ้ าทาสร่านสวาท


นางนี ้ เจ้ าจะได้ เป็ นสนมและมีหน้ าที่บําเร่อข้ าเพียงอย่างเดียวเท่านัน้ และข้ าก็
อาจมอบความสุขให้ กบั เจ้ าในตอนนี ้ก็ได้ หากเจ้ าต้ องการ โดยแลกกับการที่สามี
ของเจ้ าจะได้ รับอาหารที่เพียงพอและมีชีวิตอยูท่ ี่ดีกว่านี ้เล็กน้ อย "

ฉางซีหนั ไปมองหน้ ากับกงซุนหยางที่แสดงท่าทียินยอมอย่างแท้ จริ งในตอนนี ้เขา


มีปัญหาในเรื่ องอาหารเป็ นอย่างมาก อาหารที่พวกเขาได้ รับในแต่ละวันนันมั ้ น
อาจกระทัง่ น้ อยกว่าอาหารที่เหล่าชาวบ้ านได้ รับในแต่ละวันเสียอีก นางรู้สกึ เศร้ า
ใจหากแม้ แต่กงซุนหยางคิดฉุดรัง้ นางแม้ แต่เพียงนิดนางอาจมีความลังเลและ
ตัดสินใจที่จะอยูก่ บั เขาต่อไป

" ข้ าตกลงเจ้ าคะคุณชาย "

ในทันทีที่ฉางซีกล่าวจบเป็ นจังหวะเดียวกันกับที่หลินหมิงระเบิดนํ ้ารักเข้ าสูต่ วั


ของเมิ่งฟ่ านอีกครัง้ พร้ อมกับสีหน้ าเปี่ ยมสุขของนาง

" แล้ วเจ้ าต้ องการให้ ข้าทําต่อหรื อไม่ ? "


ใบหน้ าของฉางซีแดงระเรื่ อด้ วยความเขินอายนางไม่เคยคาดคิดว่านางจะต้ อง
กล่าวสิง่ ที่น่าอับอายเช่นนี ้ออกไป แต่เมื่อนางได้ ยินเสียงของหลินหมิงดังขึ ้นที่ข้าง
หูร่างกายของนางพลันตอบสนองไปโดยไม่ทนั คิดศรี ษะของนางพยักหน้ าตอบตก
ลงอย่างว่าง่าย

หลินหมิงยกร่างของนางขึ ้นไปนัง่ บนเก้ าอี ้พร้ อมกับแหวกขาทังสองข้


้ างของนาง
ออกมา ทวนมังกรของหลินหมิงถูกส่งเข้ าไปที่ร่องสวาทของนางในทันที เสียง
ครางของนางดังสนัน่ ไปด้ วยความพึงพอใจ
ตอนที่ 210

ในตอนนี ้ร่างของฉางซีกําลังนอนหอบอย่างเคลิ ้มฝันหลังจากนางได้ ร่วมรักกับ


หลินหมิง แม้ วา่ หากเทียบกันกับเมิ่งฟ่ านแล้ วนางเพิ่งจะได้ รับนํ ้ารักจากหลินห
มิงไปเพียงครัง้ เดียวเท่านัน้ แต่ถงึ อย่างนันทุ
้ กการกระทําของหลินหมิงมันราว
กับภาพฝันที่นางเคยวาดฝันไว้ ตงแต่ั ้ ยงั เด็ก

จะมีสตรี ใดบ้ างที่ไม่ชื่นชอบการที่บรุ ุษของพวกนางนันลงมื


้ อกับพวกนางอย่าง
ทะนุถนอมเช่นนี ้ ในตอนนี ้นางจ้ องมองไปที่หลินหมิงด้ วยสายตารักใคร่อย่าง
เปิ ดเผย สําหรับหญิงสาวนิสยั เช่นนางแล้ วหลินหมิงมีความชื่นชอบในตัวของ
หญิงสาวเช่นนี ้เป็ นอย่างมากดังนันแล้
้ วในช่วงเวลาหลายเดือนต่อจากนี ้ที่เขาไม่
อาจพบหน้ าจิวหลินภรรยาผู้นา่ รักของเขาได้ แต่ฉางซีสามารถทดแทนความสุขที่
ขาดหายของเขาไปได้ ไม่มากก็น้อย

หลินหมิงใช้ เวลาอีกเพียงเล็กน้ อยภายในตระกูลกงซุนเพื่อรอให้ ฉางซีหายจาก


อาการเหนื่อยล้ าแน่นอนว่าในระหว่างนี ้หลินหมิงไม่ได้ นิ่งเฉยแต่อย่างใด ร่อง
สวาทของเมิ่งฟ่ านถูกใช้ เป็ นที่ระบายอารมณ์ของเขาอย่างต่อเนื่องจนนางแทบจะ
หมดสติไป จนกระทัง่ เมื่อหลินหมิงเห็นว่าฉางซีหายจากอาการเหนื่อยล้ าหลินห
มิงเตรี ยมพร้ อมที่จะจากไปในทันที

หลินหมิงไม่ได้ ให้ ความสนใจกับสองพ่อลูกคูน่ ี ้อีกต่อไปสําหรับคนพิการที่ถกู


ทอดทิ ้งเช่นพวกเขาทังสองนั
้ นในอนาคตของพวกเขาล้
้ วนถูกกําหนดเอาไว้ อย่าง
แน่นอนด้ วยการเป็ นทาสแรงงานหรื ออาจตํ่าต้ อยยิ่งกว่านัน้

" คะ..คุณชาย รอข้ าด้ วยเจ้ าคะ "


ในขณะที่หลินหมิงกําลังประคองร่างของฉางซีออกมาจากภายในห้ อง เมิ่งฟ่ านที่
รับภาระหน้ าที่ในการระบายอารมณ์จากหลินหมิงมาตลอดนางแทบจะไม่
สามารถยืนขึ ้นได้ อย่างมัน่ คงเลยเสียด้ วยซํ ้าไป แต่ถงึ อย่างนันสิ
้ ง่ ที่นางได้ รับจาก
หลินหมิงมีเพียงสายตาที่เย็นชาเท่านัน้ เทียบกับสาวสูงอายุนางนี ้กับฉางซีที่
เปี่ ยมไปด้ วยจิตใจอันบริ สทุ ธ์แล้ วนันหลิ
้ นหมิงไม่ต้องประเมิณค่าว่าหญิงสาวทัง้
สองคนนี ้ใครมีคา่ มากกว่ากัน

สําหรับเมิ่งฟ่ านนันนางอาจเป็
้ นได้ เพียงแค่เครื่ องมือสําหรับการทรมานกงซุน
เอี ้ยนและกงซุนหยางเพียงเท่านัน้

" หาเจ้ าไม่สามารถตามมาได้ ข้าก็จะทิ ้งเจ้ าเอาไว้ ทีนี ้ "

เมิ่งฟ่ านนางไม่คาดคิดว่านางจะต้ องพบเจอกับชะตากรรมเช่นนี ้ให้ อยูใ่ นสถานที่


แห่งนี ้ต่อไป ? นันเท่
้ ากับว่าอนาคตของนางนันเท่
้ ากับจบสิ ้นอย่างแน่นอน เทียบ
กันกับนางที่ต้องทนการจูโ่ จมจากการร่วมรักจากหลินหมิงอย่างหนักหน่วงและ
ยาวนานยิ่งกว่าฉางซีนางเพิ่งจะทนรับการจูโ่ จมจากหลินหมิงไปเพียงครัง้ เดียว
เท่านันแต่
้ ถงึ อย่างนันสภาพของนางก็
้ ยงั มีความเหนื่อยล้ าอยูอ่ ย่างเห็นได้ ชดั แล้ ว
สําหรับนางเล่า ?

หลินหมิงออกมาจากจนถึงภายนอกผู้คมุ ทังสองคนก่
้ อนหน้ านี ้ที่ทําหน้ าที่นําทาง
หลินหมิงใบหน้ าของพวกเขาเต็มไปด้ วยความสับสน ในตอนนี ้ในใจของพวกเขา
เต็มไปด้ วยความอึดอัดไม่วา่ หลินหมิงจะทรมานกงซุนหยางและกงซุนเอี ้ยนมา
กน้ อยเพียงใดมันก็ไม่มีปัญหาอันใดสําหรับพวกเขาตราบใดที่ทงสองพ่
ั้ อลูกคูน่ ี ้
ยังคงมีชีวิตอยู่

แต่ถงึ อย่างนันการที
้ ่หลินหมิงนําภรรยาของกงซุนหยางออกมาด้ วยนันเป็
้ นเรื่ องที่
พวกเขาไม่มีใครคาดคิด แต่มนั ยังคงมีสงิ่ ที่น่าแปลกประหลาดไปยิ่งกว่านันก็
้ คือ
ที่ด้านหลังของหลินหมิงมีร่างของหญิงสาวอายุวยั สี่สบิ ปี คลานออกมาด้ วยสภาพ
น่าสมเพช

ไม่ต้องมีใครบอกก็ร้ ูวา่ หญิงสาวผู้นี ้คือใครไม่ใช่วา่ นางคือภรรยาของกงซุนเอี ้ยนอ


ย่างนันหรื
้ อ ? แล้ วเหตุใดนางถึงได้ มีสภาพน่าเวทนาเช่นนี ้กัน ?
" คุณชายหลิน ท่านต้ องนําพวกนางทังสองไปด้
้ วย ? "

" ใช่ หรื อว่าพวกเจ้ ามีปัญหาอันใด "

ในใจของผู้คมุ ทังสองบี
้ บรัดขึ ้นมาในทันทีอนั ที่จริ งแล้ วแม้ วา่ พวกเขาทังสองจะ

รับหน้ าเป็ นผู้คมุ ตระกูลกงซุนแห่งนี ้แต่พวกเขาล้ วนไม่มีอํานาจมากมายในการ
ตัดสินใจแต่อย่างใด ในเมื่อตระกูลกงซุนแห่งนี ้ถูกควบคุมโดยราศวงศ์ดงั นันแล้ ้ ว
มีแต่บคุ คลภายในเท่านันที ้ ่สามารถสัง่ การใดๆได้ แต่ถงึ อย่างนันจะมี ้ ใครบ้ างใน
อาณาจักรแห่งนี ้ที่มีความกล้ ามากพอที่จะกล้ าขัดหลินหมิง

ไม่ต้องนับถึงความสามารถอันน่าตื่นตะลึงของเขาที่แม้ แต่แม่ทพั โจวและแม่ทพั


ฉินสองในสี่แม่ทพั ใหญ่ยงั คงให้ การยอมรับ กระทัง่ บิดาของเขาหลินฮ่าวที่แม้ วา่
หลายปี มานี ้เขาจะไม่ได้ สร้ างผลงานอะไรแต่ถงึ อย่างนันผลงานล่
้ าสุดของเขาที่
สามารถเอาชนะกงซุนเอี ้ยนที่มีพลังเหนือกว่าได้ นนแสดงให้
ั้ เห็นอย่างชัดเจนถึง
ความแข็งแกร่งของเขาแล้ ว ดังนันแล้ ้ วไม่แน่วา่ ในอนาคตอันใกล้ นี ้อาณาจักร
แห่งนี ้อาจมีสองแม่ทพั ใหญ่ถือกําเนิดขึ ้นโดยมาจากตระกูลเดียวกันเป็ นครัง้ แรก
ในประวัติศาสตร์ และเมื่อนันอํ้ านาจของตระกูลหลินอาจสูงส่งจนทัดเทียมได้
เท่ากับจักรพรรดิเลยก็วา่ ได้

" คุณชายหลินข้ าเกรงว่าข้ าจะต้ องแจ้ งเรื่ องนี ้ไปยังเบื ้องบนก่อน...... "

" ไม่จําเป็ น องค์ชายจิ ้งชวนได้ อนุญาติในเรื่ องนี ้แล้ วพวกเจ้ าทังสองไม่


้ จําเป็ นที่
จะต้ องทําให้ คณุ ชายหลินเสียเวลาไปมากกว่านี ้ "

ทันใดนันก่
้ อนที่ผ้ คู มุ ทังสองจะพลั
้ นได้ กล่าวจบเสียงของชายสูงอายุดงั ขึ ้นหลินหมิ
งหันกลับไปมองเขาพบว่าชายสูงอายุคนนี ้แท้ จริ งแล้ วเป็ นคนขับรถม้ าให้ กบั เขา
ในก่อนหน้ านี ้หลินหมิงไม่ได้ ให้ ความสนใจกับชายชราผู้นี ้สักเท่าใดนัก แต่ดู
เหมือนว่ากระทัง่ คนขับรถม้ าขององค์ชายลําดับที่หนึง่ ก็ยงั คงมีความสามารถใน
ระดับปราญช์ ? นี ้เป็ นการแสดงอํานาจของราศวงศ์ที่เหนือกว่าตระกูลใหญ่
ทัว่ ไปอย่างเห็นได้ ชดั

ผู้คมุ ทังสองไม่
้ กล้ ากล่าวสิง่ ใดอีกพร้ อมกับหลีกทางให้ กบั หลินหมิงอย่างน้ อม
นอบ โดยในตอนท้ ายพวกเขาพยายามจะช่วยเหลือเมิ่งฟ่ านที่กําลังคลานอยูใ่ น
สภาพอ่อนแรงหากไม่ใช่ความจริ งที่วา่ หลินหมิงได้ หยุดเสียเวลาคุยกับผุ้คมุ ทัง้
สองคนนี ้นางอาจไม่สามารถตามหลินหมิงมาได้ ทนั

" ไม่ต้องปล่อยให้ นางตามข้ ามาเองทังอย่


้ างนัน้ "

ร่างของหลินหมิงและฉางซีเดินจากไปพร้ อมกับชายชราที่ทําหน้ าที่ขบั รถม้ า เมิ่ง


ฟ่ านในตอนนี ้นางได้ แต่กดั ฟั นทนพร้ อมกับคลานไปอย่างรวดเร็ วดูเหมือนว่า
ความพยายามของนางจะไม่สญ ู เปล่าในตอนนี ้นางสามารถพาถึงที่รถม้ าได้ โดยที่
หลินหมิงยังคงไม่จากไป

ร่างของเมิ่งฟ่ านคลานขึ ้นรถม้ าด้ วยสภาพราวกับใกล้ ตายด้ วยฐานะของนางใน


อดีตที่เป็ นถึงนายหญิงตระกูลกงซุนมันสามารถกล่าวได้ วา่ ช่วงเวลาในตอนนี ้เป็ น
ช่วงเวลาที่นางรู้สกึ เหนื่อยล้ ามากที่สดุ ในชีวิต เทียบกับฉางซีที่สมควรจะอยูใ่ น
สถานะเดียวกันกับนางเมิ่งฟ่ านนางรู้สกึ ได้ ถงึ ความไม่เป็ นธรรมแต่ถงึ อย่างนัน้
นางไม่สามารถกล่าวสิง่ ใดออกไปได้ การทําให้ หลินหมิงไม่พอใจแม้ เพียง
เล็กน้ อยในตอนนี ้มันจะเท่ากับหายนะของนาง
" ไม่เลว ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวสูงศักดิ์เช่นเจ้ าจะมีความอดทนมากเพียงนี ้ เช่นนัน้
แล้ วข้ าสมควรให้ รางวัลเจ้ าสักหน่อย ? "

ดวงตาของเมิ่งฟ่ านเบิกโผลนในตอนนี ้รถม้ ากําลังอยูใ่ นระหว่างวิ่งกลับเข้ าสูต่ ํา


นักของหลินหมิงภายในสํานัก ดังนันแล้ ้ วรถม้ าแห่งนี ้ย่อมผ่านไปตามทางที่เต็ม
ไปด้ วยผู้คนแล้ วหากนางต้ องร่วมรักกับหลินหมิงในเวลาเช่นนี ้ ? โดยไม่ทนั ทีนาง
จะสามารถปฎิเสธอื่นใดได้ เสื ้อส่วนล่างของนางถูกถลกขึ ้นพร้ อมกับทวนมังกรอ
ของหลินหมิงที่กระหนํ่าแทงใส่อย่างบ้ าคลัง่ ไปตลอดทาง

หลินหมิงกลับมาถึงที่ตําหนักของเขาโดยในตอนนี ้เมิ่งฟ่ านกลายเป็ นหมดสติไป


เป็ นที่เรี ยบร้ อยแน่นอนว่าหลินหมิงไม่มีความจําเป็ นใดๆที่จะต้ องเอาใจใส่หญิง
สาวนางนี ้ทังหมดนั
้ นเป็
้ นหน้ าที่ของสาวใช้ ภายในตํานักแม้ วา่ พวกนางจะมี
ความรู้สงสัยว่าเหตุใดเมิ่งฟ่ านถึงได้ มีสภาพเหนื่ออ่อนเช่นนี ้แต่เมื่อพวกนางเหลือ
ไปเห็นร่ องรอยคราบสงครามอันร้ อนแรงบริ เวณระหว่างขาของเมิ่งฟ่ านใบหน้ า
ของพวกนางพลันแดงระเรื่ อพร้ อมแสดงถึงความเข้ าใจ
ในระหว่างที่สาวใช้ อยูใ่ นตํานักของหลินหมิงนันเป็
้ นเรื่ องธรรมดาที่พวกนางจะรู้
ถึงขีดจํากัดความสามารถที่เกิดกว่าบุรุษทัว่ ไปของหลินหมิงอันที่จริ งแล้ วในแต่ละ
วันตราบใดที่หลัวฉิงเชี่ยนหรื อนายหญิงของพวกนางยังคงอยูท่ ี่ตํานักแห่งนี ้หรื อ
อยูใ่ กล้ หลินหมิงเมื่อใดนางจะไม่พ้นการจูโ่ จมระยะประชิดอย่างแน่นอน

หลัวฉิงเชี่ยนที่เพิ่งเสร็ จจากการฝึ กบ่มเพาะในตอนนี ้ร่างกายของนางเต็มไปด้ วย


คราบเหงื่อจึงทําให้ เสื ้อผ้ าของนางกระชับเข้ ากับเรื อนร่างของนาง หลัวฉิงเชี่ยน
นางไม่สนใจหญิงสาวทังสองที ้ ่หลินหมิงพามาด้ วยอันที่จริ งแล้ วนางค่อนข้ างทุกข์
ใจไม่ใช่น้อยที่หลินหมิงเลือกที่จะจูโ่ จมนางเพียงคนเดียวในหลายวันมานี ้ มัน
ไม่ใช่วา่ สาวใช้ ที่แม่ทพั โจวเลือกให้ กบั หลินหมิงจะเลวร้ ายกลับกันพวกนาง
ทังหมดยั
้ งคงอยูใ่ นเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยมสําหรับสตรี ด้วยกัน

" นี ้เจ้ าไม่เห็นหรื อไงว่าข้ ามีเหงื่อมากแค่ไหน ในตอนนี ้ข้ าจะไปชําระร่างกายก่อน


แล้ วหลังจากนันข้ ้ าจะพิจรณาดูวา่ เจ้ าสมควรที่จะได้ รับรางวัลเล็กๆน้ อยๆ
หรื อไม่ "
แม้ วา่ หลัวฉืงเชี่ยนจะกล่าวเช่นนันออกไปแต่
้ ดเู หมือนว่าหลินหมิงจะไม่ได้ มีทา่ ที
ร่างกายที่เต็มไปด้ วยเหงื่อของนางในตอนนี ้เลยแม้ แต่น้อยกลับกันแล้ วมันกลับส่ง
กลิน่ หอมอันมาจากร่างกายของนางอย่างร้ อนแรง

" งันข้
้ าจะช่วยเจ้ าเอง "

ท้ ายที่สดุ แล้ วก็เป็ นอีกครัง้ ที่นางไม่สามารถหลบพ้ นเงื ้อมมือของศิษย์น้องผู้หื่น


กระหายของนางผู้นี ้ในตอนนี ้หลัวฉืงเชี่ยนกําลังนอนเปลื่อเปล่าอยูบ่ นเตียง
หลังจากที่นางร่วมรักกับหลินหมิงเสร็ จเรี ยบร้ อยนางเพิ่งตระหนักได้ วา่ นางยังมี
เรื่ องสําคัญที่ไม่ได้ บอกเขา

" ท่านอาจารย์เรี ยกข้ าไปพบอย่างนันหรื


้ อ?"
ตอนที่ 211
โดย

Haremkung
Copy Enabled

ตอนที่ 211
อันที่จริ งแล้ วหลังจากจบสงครามลงหลินหมิงได้ มีโอกาสพบหน้ ากับอาจารย์สาว
สวยของเขาเพียงครัง้ เดียวเท่านัน้ และยังคงไม่ได้ พดู อะไรกันมากมาย ดังนัน้
แล้ วมันไม่ใช่เรื่ องแปลกที่ในตอนนี ้นางจะต้ องการพูดกล่าวกับเขาไม่เพียงเท่านัน้
ด้ วยการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสภายในสมาคมนักปรุงยาและตระกูลหลิวหลินหมิง
มีความตังใจที
้ ่จะแสดงความขอบคุณพวกเขาอย่างแน่นอน

หากไม่ใช่เพราะการปรากฎตัวของพวกเขาหลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้ วา่ จุดจบจะ


เป็ นเช่นไรแม้ วา่ มันจะเป็ นที่แน่นอนว่าเขาจะไม่เป็ นไรอย่างแน่นอนด้ วยการที่
ท้ ายที่สดุ แล้ วแม่ซคั คิวบัสสาวจะออกมาช่วยเขาอย่างแน่นอนแต่นนอาจทํ
ั้ าให้ เขา
กลายเป็ นศัตรูกบั เผ่าพันธ์มนุษย์ด้วยกันเอง

สําหรับเผ่าพันธ์มนุษย์แล้ วนันพวกเขาไม่
้ ยินดีเปิ ดรับผู้คนจากเผ่าพันธ์อื่นเหตุผล
ง่ายๆก็คือในบรรดาเผ่าพันธ์ทงหมดพวกเขาเป็
ั้ นเผ่าพันธ์ที่ออ่ นแอ่ที่สดุ ในยุค
ปั จจุบนั นี ้ มันอาจเป็ นเพราะว่านับแต่อดีตมนุษย์มีการแก่งแย่งอํานาจกันมาก
จนเกินไปในขณะที่หลายเผ่าพันธ์มงุ่ มัน่ ที่จะเอาชนะศัตรูตา่ งเผ่าพันธ์
สําหรับตระกูลหลินหลินหมิงยังคงไม่เข้ าใจว่าเหตุใดตระกูลนี ้ถึงได้ มาช่วยเหลือ
เขา เป็ นไปได้ หรื อไม่วา่ เพราะอาจารย์สาวสวยของเขาไปขอร้ องพวกเขา ? แต่
ถึงอย่างนันมั้ นไม่มีทางที่ตระกูลหลินจะนํากําลังรบเต็มอัตราศึกมาเช่นนี ้ที่สําคัญ
ที่สดุ ก็คือหลินฮ่าวเป็ นผู้นํามาเอง

" เช่นนันแล้
้ วพวกเราจะออกเดินทางกันวันไหน ? "

" ไม่ข้าจะไม่ได้ เดินทางไปกับเจ้ าด้ วยในครัง้ นี ้แม่ทพั โจวต้ องการยืนยันว่าเจ้ าจะ


ไม่จากสํานักไปในยามนี ้ดังนันแล้
้ วข้ าจึงต้ องอยูส่ ํานักแห่งนี ้ไปก่อน "

หลินหมิงรู้สกึ เศร้ าใจเล็กน้ อยอันที่จริ งแล้ วเขาไม่มีความคิดที่จะแยกจากภรรยา


หน้ าใหม่ของเขานางนี ้ไปเลยแม้ แต่น้อย

" เช่นนันข้
้ าคงต้ องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ชว่ งเวลานี ้ให้ ได้ มากที่สดุ ! "

" ว้ ายย ! "


สิ ้นเสียงของหลินหมิงหลัวฉิงเชี่ยนนางโดนหลินหมิงจูโ่ จมอีกครัง้ อย่างเร่าร้ อน
แม้ วา่ นางจะมีประสบการณ์การร่วมรักกับหลินหมิงมามากพอสมควรแต่นางไม่
คาดคิดว่านางจะสามารถทําความเคยชินกับความรู้สกึ เช่นนี ้ได้

วันรุ่งขึ ้นหลินหมิงเตรี ยมตัวออกเดินทางในทันทีหลินหมิงไม่จําเป็ นที่จะต้ องเป็ น


ห่วงหลัวฉิงเชี่ยนมากนักในเมื่อตอนนี ้เขาได้ รับการหนุนหลังจากองค์ชายลําดับที่
หนึง่ และยังคงมีคนจากแม่ทพั โจวทําหน้ าที่ค้ มุ กันนางอยูโ่ ดยรอบไม่เพียงเท่านัน้
นักฆ่าสาวที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สามระดับสูงสุดยังคงเป็ นปราการ
ด้ านสุดท้ ายที่ผ้ ทู ี่คิดร้ ายต่อภรรยาผู้นา่ รักของเขาผู้นี ้ที่จะต่อฝ่ าฟั นไป

แน่นอนว่านี ้ยังคงไม่รวมถึงฟ่ งซือเซียนที่พลังปราณของนางได้ ก้าวเข้ าสู่


ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองในเร็ วๆนี ้ด้ วยความเร็ วในการก้ าวหน้ าของนางมันทําให้ ผ้ ู
อาวุโสทังหลายที
้ ่มีพลังระดับปราญช์ถงึ กับอิจฉาแน่นอนว่ายังคงมีพวกเขาบาง
คนที่มีระดับพลังปราณสูงกว่านางแต่ถงึ อย่างนันหากเที ้ ยบระยะเวลาที่ฟ่งซือ
เซียนได้ ก้าวเข้ าสูร่ ะดับปราญช์ขนที ั ้ ่หนึง่ และก้ าวเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่สองนางใช้ เวลา
ทังหมดเพี
้ ยงไม่ถงึ ครึ่งปี เลยเสียด้ วยซํ ้าไป
ในขณะที่พวกเขาส่วนใหญ่ใช้ เวลาสองถึงสามปี เป็ นอย่างน้ อยในขณะที่ผ้ อู าวุโส
เฒ่าชราบ้ างคนใช้ เวลาร่วมสิบปี ! แน่นอนว่าสําหรับการเดินทางในครัง้ นี ้หลินห
มิงเต็มไปด้ วยผู้เชี่ยวชาญมากมายที่คอยปกป้องเค้ าทังเหล่
้ าผู้เชี่ยวชาญที่มาจาก
องค์ชายลําดับที่หนึง่ และแม่ทพั โจวพวกเขาส่วนใหญ่อยูใ่ นระดับจอมยุทธ์ขนั ้
สูงสุดเป็ นอย่างน้ อยและมีจํานวนเกือบยี่สบิ คนและมีห้าคนที่อยูใ่ นระดับปราญช์
ซํ ้าหนึง่ ในนันยั
้ งคงมีพลังระดับปราญช์ขนกลาง
ั้ !

ที่สําคัญที่สดุ ก็คือข้ างกายของหลินหมิงที่ปรากฎหญิงสาวผู้งามสง่าที่ค้ นุ หน้ าคุ้น


ตาเขาเป็ นอย่างดีนนก้ ั ้ คือผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยา

สําหรับพวกนางทังสองที
้ ่เป็ นผู้อาวุโสที่ทรงอํานาจจากทังตระกู
้ ลหลินและสมาคม
นักปรุงยาแต่ถงึ อย่างนันพวกนางทั
้ งสองไม่
้ ได้ ให้ ความสําคัญกับหน้ าที่เหล่านัน้
เทียบเท่ากับหลินหมิงแม้ แต่ปลายเล็บ ด้ วยขบวนคุ้มกันที่หนาแน่นถึงเพียงนี ้
หากหลินหมิงต้ องเจอพบเจอกับกลุม่ นักฆ่าที่มีชื่อเสียงเช่นก่อนหน้ านี ้พวกเขา
เหล่านันจะถู
้ กสังหารเพียงไม่กี่ชวั่ ลมหายใจเท่านัน้
แม้ กระทัง่ ต่อให้ หวั หน้ าของพวกเขาเป็ นผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สาม
เช่นเดียวกันกับหัวหน้ ากลุม่ ของเหล่านักฆ่าเหล่านันแต่ ้ มีหรื อที่พวกเขาจะ
สามารถรับมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์มากมายถึงเพียงนี ้ได้ ? นี ้ยังไม่นบั
รวมถึงผู้ค้ มุ กันจากองค์ชายลําดับที่หนึง่ ที่แข็งแกร่งที่สดุ และยังคงเป็ นผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์ขนกลางต่
ั้ อให้ มีผ้ ทู ี่มีพลังระดับปราญช์ขนที
ั ้ ่สามจํานวนสี่หรื อห้ า
คนจูโ่ จมเขาหลินหมิงก็ไม่คิดว่ามันจะเป็ นปั ญหาแต่อย่างใดสําหรับชายสูงวัยผู้
นี ้ !

หลัวฉิงเชี่ยนลุกขึ ้นมาจัดเนื ้อแต่งตัวให้ กบั สามีของนางอย่างยากลําบากเล็กน้ อย


นางอดไม่ได้ ที่จะทุบตีเขาเล็กน้ อยหากไม่ใช่วา่ เมื่อคืนนี ้หลินหมิงลงมือกับนาง
รุนแรงจนเกินไปนางจะไม่มีทางที่จะมีสภาพเช่นนี ้

" เอาล่ะเรี ยบร้ อยแล้ ว "

ในทันทีที่นางจัดเตรี ยมอาภรณ์ให้ กบั หลินหมิงเสร็ จสิ ้นร่างของหลินหมิงเคลื่อน


กายเพื่อที่จะเข้ าจูโ่ จมนางอีกครัง้ แต่ในคราวนี ้มันไม่อาจเป็ นผลได้ แน่นอนว่า
หากนางยินยอมเขาในครัง้ นี ้ไม่ใช่วา่ การเดินทางในวันนี ้ของเขาอาจจะต้ องถูกยก
เยิกไปในทันที ?

" ฮึม่ ! เมื่อวานนี ้เจ้ าได้ รับรางวัลมามากพอแล้ วดังนันในวั


้ นนี ้เจ้ าจะได้ รับอีกเพียง
เล็กน้ อยเท่านัน้ "

หลัวฉิงเชี่ยนนางกล่าวเสร็ จก็ก้มจูบไปที่ริมฝี ปากของหลินหมิงอย่างแผ่วเบาอันที่


จริ งแล้ วนี ้ไม่ใช่การให้ รางวัลสําหรับหลินหมิงแต่เป็ นสําหรับนางเองเสียมากกว่า
สําหรับหลินหมิงแล้ วนันการกระทํ
้ าของนางเช่นนี ้ไม่ตา่ งอะไรไปจากการทารุณใน
เมื่อเขาได้ รับรสจูบหอมหวานเช่นนี ้แต่เขาไม่สามารถบรรเลงเพลงรักกับนาง
ได้ ?

" ไม่ใช่วา่ ในระหว่างทางเจ้ าจะสามารถระบายกับผู้อาวุโสผู้งดงามทังสองได้


้ ?"

ดวงตาของหลินหมิงเบิกกว้ างพร้ อมกับเข้ าหอมแก้ มของภรรยาที่น่ารักของเขา


อย่างชื่นมื่น ในเร็ วๆนี ้หลัวฉิงเชี่ยนนางได้ ร้ ูความสัมพันธ์ของหลินหมิงกับเหล่าผู้
อาวุโสทังหลายแล้
้ วแน่นอนว่าแม้ วา่ ผู้อาวุโสทังหลายจะได้
้ ขึ ้นชื่อว่าเป็ นภรรยา
ของหลินหมิงแต่พวกนางนันไม่
้ อาจเปิ ดเผยสถานะออกมาอย่างโจงแจ้ งได้
หลัวฉิงเชี่ยนนางไม่คิดว่าสิง่ เหล่านี ้เป็ นปั ญหาแต่อย่างใดสําหรับนาง ด้ วย
ความสามารถของหลินหมิงเขากระทัง่ สามารถมีหญิงสาวนับร้ อยนันก็ ้ ยงั คงไม่
เป็ นปั ญหาสําหรับเขาเลยแม้ แต่น้อย

หลินหมิงใช้ เวลาลําลากับหลัวฉิงเชี่ยนอีกเพียงเล็กน้ อยพร้ อมกับจากมา สําหรับ


หลัวฉิงเชี่ยนแล้ วนันแม้
้ วา่ ในตอนนี ้นางจะต้ องแยกจากจากหลินหมิงไปชัว่ คราว
แต่ถงึ อย่างนันนางยั
้ งคงมีเป้าหมายที่แน่นอนนันก็ ้ คือการบ่มเพาะพลังของนาง
เอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้ วยการร่วมรักกับหลินหมิงในหลายวันที่ผา่ นมานี ้มัน
ราวกับว่านางได้ รับการบ่มเพาะมาอย่างยาวนานหลายเดือนในตอนนี ้พลังของ
นางใกล้ เคียงที่จะเข้ าสูร่ ะดับก่อเกิดขันที
้ ่หกแล้ วมันขาดเหลือเพียงก้ าวเล็กๆเพียง
เท่านัน้

นางเพียงใช้ เวลาเพียงไม่กี่วนั ในการพัฒนาจากปราณก่อเกิดขันที ้ ่ห้าจนในตอนนี ้


นางได้ มีพลังปราณระดับก่อเกิดขันที้ ่ห้าระดับสูงสุดทังหมดนี
้ ้ต้ องขอบคุณ
ทรัพยากรที่นางสามารถใช้ ได้ อย่างไม่จํากัดของหลินหมิงด้ วย
เช่นเดียวกัน ดังนันในตอนนี
้ ้นางมีความกระตือรื อร้ นที่จะทําความเข้ าใจระดับ
พลังใหม่ของนางในทันที

ภายในรถม้ าของหลินหมิงที่กําลังเดินทางสูเ่ มืองฟานชู แน่นอนว่าในตอนแรก


หลินหมิงมีความลังเลเล็กน้ อยที่เขาจะนําตัวสตรี น่ารักอย่างฉางซีมาด้ วยแต่เมื่อดู
สภาพของนางที่ไม่ได้ เป็ นผู้บม่ เพาะแล้ วนันนางยั
้ งคงมีสภาพยํ่าแย่
จนเกินไป อีกทังด้
้ วยการที่ในตอนนี ้เขามีสองสาวงามอย่างผู้อาวุโสฟางซิน่ และ
ผู้อาวุโสฉินเหยามันก็นบั ได้ วา่ เพียงพอแล้ ว
ตอนที่ 212
โดย

Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 212
ภายในรถม้ าของหลินหมิงสองผู้อาวุโสสาวผู้งดงามอย่างผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้
อาวุโสฟางซิน่ ต่างได้ รับความรู้สขุ เติมเต็มจากหลินหมิงไปอย่างมากล้ น ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่ามันเป็ นเวลานานมากสําหรับพวกนางที่ต้องจากหลินหมิงไปดังนัน้
แล้ วเมื่อพวกนางทังสองได้
้ รับโอกาศเช่นนี ้มีหรื อที่พวกนางจะไม่ใช่มนั อย่าง
คุ้มค่า ?

แม้ วา่ ในก่อนหน้ านี ้จะมีผ้ อู าวุโสที่รับหน้ าที่ค้ มุ กันหลินหมิงมากมายที่มายปองที่


จะร่ วมรถม้ าคันเดียวกับหลินหมิงนันก็ ้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับ
หลินหมิงแต่ถงึ อย่างนันโดยที
้ ่หลินหมิงไม่ต้องคิดสิง่ ใด พวกเขาเหล่านัน้
สามารถมอบความสุขสมเช่นเดียวกับที่ผ้ อู าวุโสสาวทังสองนี ้ ้ทําได้ ? แน่นอนว่า
ไม่ ดังนันแล้
้ วพวกเขาเหล่านันทํ ้ าได้ แต่เพียงเก็บความผิดหวังภายในใจเพียง
เท่านัน้

สําหรับเหล่าผู้อาวุโสเหล่านันพวกเขาอาจคาดคิ
้ ดเพียงแค่วา่ ทังผู
้ ้ อาวุโสฟางซิน่
และผู้อาวุโสฉินเหยาพวกนางทังสองล้้ วนเป็ นผู้อาวุโสที่มาจากตระกูลหลิน และ
สมาคมนักปรุงยามันจึงไม่ใช่เรื่ องแปลกนักหากหลินหมิงต้ องการที่จะได้ รับการ
ปกป้องจากผู้อาวุโสที่ค้ นุ เคยเสียมากกว่า
" เจ้ าเป็ นคนโน้ มน้ าวให้ เหล่าผู้อาวุโสภายในตระกูลหลินทําเรื่ องก่อนหน้ านี ้
เช่นนันหรื
้ อ?"

หลินหมิงกล่าวสิง่ ที่เขาสงสัยมากที่สดุ ในตอนนี ้ หากคิดดูแล้ วความสัมพันธ์


ระหว่างหลินหมิงกับตระกูลหลินนันเรื ้ ่ องได้ วา่ เลวร้ ายเป็ นอย่างมากแม้ วา่ ทางฝั่ง
ของตระกูลหลินจะได้ รับชื่อเสียงจากผลงานและความแข็งแกร่งของหลินหมิงแต่
ผู้คนต่างรู้กนั ดีวา่ ความแข็งแกร่งของหลินหมิงในตอนนี ้ทังหมดล้้ วนมาจาก
อาจารย์สาวสวยของเขาประมุขสมาคมนักปรุงยา

ดังนันแล้
้ วหากกล่าวถึงเหตุผลที่ตระกูลหลินกล้ าแสดงออกถึงเพียงนี ้เพื่อตัวเขา
มันอาจมีเพียงผู้อาวุโสฉินเหยาเพียงคนเดียวเท่านันภายในตระกู
้ ลที่มี
ความสัมพันธ์ที่ดีตอ่ หลินหมิง แต่ถงึ อย่างนันนางมี
้ อํานาจมากมายถึงเพียงนัน้
? ไม่ต้องสงสัยว่าแม้ วา่ นางจะเป็ นอันดับสองของตระกูลหลินแต่ถงึ อย่างนันนาง

ยังคงไม่สามารถควบคุมทุกอย่างภายในตระกูลได้ อย่างร้ อยเปอร์ เซ็นต์ยิ่งไปกว่า
นันการปรากฎตั
้ วของหลินฮ่าวนันเป็
้ นเรื่ องที่ทําให้ หลินหมิงแปลกใจมากที่สดุ !
" อาา ~~~~ มะ..ไม่ใช่ ที่จริ งแล้ วก่อนหน้ านี ้ข้ าคิดว่าจะตัดสินใจร่วมกับสมาคม
นักปรุงยาและตระกูลหลิวในการเข้ ากดดันสํานักวังจันทราแต่ถงึ อย่างนันข้ ้ าไม่
คาดคิดว่าบิดาของเจ้ าจะเป็ นผู้ตดั สินใจรวบรวมผู้อาวุโสตระกูลหลินทังหมดเข้
้ า
ร่วมด้ วยเช่นเดียวกัน ! "

ผู้อาวุโสฉินเหยาที่กําลังขึ ้นควบทวนมังกรของหลินหมิงกล่าวออกมานํ ้าเสียง


สัน่ ๆ แต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงยังคงเข้ าใจเนื ้อหาที่นางกล่าวออกมาได้ ทกุ
อย่าง หลินฮ่าวผู้นนเป็
ั ้ นคนตัดสินใจเอง ? ขนาดหลินเสียวต้ า และหลินชูที่ถกู
เขาทารุณอย่างหนักหลินฮ่าวผู้นี ้ก็ไม่แม้ แต่มีความรู้สกึ ใดๆแสดงต่อบุตรของเขา
ทังสอง
้ แล้ วเหตุใดกันหลินฮ่าวผู้นี ้ถึงได้ นําตระกูลหลินมากัน ?

" ช่างเรื่ องนันก่


้ อนเถอะไม่ใช่วา่ ตอนนี ้เจ้ าต้ องทําให้ พวกเราสุขสมเพื่อชดเชย
ช่วงเวลาที่หายไป ? "

หลินหมิงสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านันไปในทั
้ นทีเมื่อได้ ยินนํ ้าเสียงเย้ ายวนของผู้
อาวุโสฟางซิน่ ตาของหลินหมิงเป็ นประกายวาบพร้ อมกับพุง่ เข้ าหาผู้อาวุโสสาวทัง้
สองอย่างร้ อนแรง
............

ทันทีที่ขบวนของรถของหลินหมิงเข้ าสูภ่ ายในเมืองฟานชูผ้ คู นจํานวนมากภายใน


เมืองต่างโห่ร้องออกมาด้ วยความดีใจ ในก่อนหน้ านี ้แม้ วา่ ด้ วยศักยภาพของ
หลินหมิงที่ทําให้ เขากลายเป็ นรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยมที่สดุ ในประวัติศาสตร์ ของ
อาณาจักรแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่สามารถเทียบได้ กบั ผลงานที่เขาได้ ทําลงไปใน
สงครามก่อนหน้ านี ้

แม้ วา่ ภายในเมืองจะต้ องพบกับการสูญเสียผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์ไปอย่าง


มากมายแต่หากเทียบกับสิง่ ที่พวกเขาได้ รับกลับคืนมาไม่วา่ จะเป็ นชื่อเสียงและ
ทรัพย์สนิ เงินทองชดเชยเป็ นจํานวนมากด้ วยจํานวนทังหมดนี
้ ้ มันอาจเปลี่ยนให้
เมืองของพวกเขากลายเป็ นเมืองที่มีอํานาจอันดับหนึง่ โดยเป็ นรองแค่เมืองหลวง
เพียงเท่านัน้ !

หลินหมิงไม่ได้ ลมุ่ หลงไปกับชื่อเสียงของเขาในตอนนี ้เลยแม้ แต่น้อยย้ อนกลับไป


เมื่อหนึง่ ปี ที่แล้ วผู้คนเหล่านี ้ไม่แม้ แต่สามารถรับรู้ถงึ ตัวตนของเขาบนโลกใบนี ้เลย
เสียด้ วยซํ ้าไป ขบวนรถของหลินหมิงมุง่ ตรงสูส่ มาคมนักปรุงยาในทันทีโดยไม่มี
การออกนอกเส้ นทางแต่อย่างใด เหล่าผู้อาวุโสที่ทําหน้ าที่ค้ มุ กันหลินหมิงนัน้
พวกเขาได้ รับการต้ อนรับอย่างดีเยี่ยมจากสมาคมนักปรุงยา

แน่นอนว่าผู้อาวุโสทังหมดเหล่
้ านี ้ไม่มีแม้ แต่คนเดียวที่มาจาสํานักวังจันทรา
ไม่เช่นนันแล้
้ วพวกเขาคงไม่สามารถกลับไปได้ อย่างครบสามสิบสองเป็ นแน่

หลินหมิงก้ าวเข้ ามาภายในห้ องของอาจารย์สาวสวยของเขาพร้ อมกับผู้อาวุโส


ฟางซิน่ สําหรับผู้อาวุโสฉินเหยาในตอนนี ้นางได้ กลับไปที่ตระกูลหลินเป็ นที่
เรี ยบร้ อย ทันทีที่เข้ ามาภายในห้ องของอาจารย์สาวสวยกลิน่ หอมโชยอันเป็ น
เอกลักษณ์ของนางลอยเข้ าสูโ่ พรงจมูกของหลินหมิงอย่างรุนแรงจนหลินหมิงอด
ไม่ได้ ที่จะสูญลมหายใจเข้ าไปเต็มปอด

ผู้อาวุโสฟางซิน่ แทบจะอดไม่ได้ ที่จะหัวเราะกับการกระทําของหลินหมิง ไม่ใช่วา่


ในระหว่างทางที่ผา่ นมาสามีของนางผู้นี ้เพิ่งระบายอารมณ์ไปอย่างมากมายแต่
ถึงอย่างนันเขากลั
้ บยังคงไม่มีความรู้สกึ เพียงพอ ?
เมื่อหลินหมิงเข้ ามาภายในห้ องเขาพบเห็นร่างของสตรี ผ้ งู ดงามอันคุ้นตาเขาเป็ น
อย่างมากในก่อนหน้ านี ้เขาไม่สามารถสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่แท้ จริ งของ
อาจารย์สาวสวยของเขาได้ เลยเพียงแต่ในตอนนี ้ด้ วยระดับพลังของเขาแม้ จะยัง
ไม่สามารถประเมิณได้ อย่างแน่ชดั แต่หลินหมิงคาดว่าอาจารย์สาวสวยของเขาคง
มีพลังระดับปราญช์ขนที ั ้ ่ 6 ! ด้ วยความแข็งแกร่งของนางเพียงเท่านี ้หลินหมิง
รู้สกึ โล่งใจเล็กน้ อยที่ในอดีตนันเขาไม่
้ ได้ ตดั สินใจในสิง่ ที่โง่เขลาอย่างการรวบรวม
กําลังจากผู้อาวุโสฟางซิน่ และฟ่ งซือเซียนเพื่อปราบอาจารย์สาวสวยของเขาให้
อยูใ่ ต้ อาณัติ

ในตอนนี ้แม้ วา่ หลินหมิงจะยังคงมีผ้ อู าวุโสฉินเหยาและนักฆ่าสาวที่มีพลังปราณ


ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สามทังสองคนแต่
้ พวกนางทังสี้ ่ก็ไม่อาจรับมือกับอาจารย์สาว
สวยของเขาเพียงคนเดียวได้ อย่างแน่นอน

" ศิษย์ขอคาระวะท่านอาจารย์ "

หลินหมิงก้ มลงคาระวะอาจารย์ของเขาทันใดนันสายตาของเขาเหลื
้ อบไปเห็นร่าง
ของหญิงสาวผู้งดงามอีกคนหนึง่ ที่อยูไ่ ม่ไกลจากอาจารย์สาวสวยของ
เขา หลินหมิงพลันให้ หน้ าไปหานางพร้ อมกับคาระวะนางอย่างงดงามด้ วย
เช่นเดียวกัน

" คาระวะผู้อาวุโสซูหลิง่ "

นางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากผู้อาวุโสซูหลิง่ อาจารย์ของแม่สาวน้ อยของเขาหลิวฉ


วนยูร์ ในใจของหลินหมิงในตอนนี ้รู้สกึ แบ่งบานจนเขาแทบจะล่องลอย มันจะมี
ชายอื่นใดในโลกนี ้ที่ได้ รับโอกาสอันดีงามได้ อยูใ่ นห้ องพร้ อมกับสาวงามทังสามนี
้ ้
พร้ อมกัน !

" สําหรับผลงานในสงครามก่อนหน้ านี ้นับว่าเจ้ าทําได้ ดีมาก นี ้ยังไม่รวมถึงการที่


เจ้ าสามารถพัฒนายกระดับได้ อย่างรุดหน้ าเช่นนี ้ "

จูหนิงเอ๋อรื นางนันจ้
้ องมองไปที่หลินหมิงดวงความภาคภูมิใจสําหรับนางแล้ วด้ วย
ผลงานของหลินหมิงในตอนนี ้มันทําให้ ชื่อเสียงของนางในฐานะอาจารย์นนถู
ั้ ก
แพร่ กระจายออกไปอย่างกว้ างกระทัง่ เหล่าขุนนางจากเมืองหลวงจํานวนมาก
ยังคงเสนอบุตรหลานของพวกเขาให้ เข้ าไปเป็ นศิษย์นาง
จูหนิงเอ๋อร์ กล่าวถามหลินหมิงกับเรื่ องที่เกิดขึ ้นภายในมิติเล้ นลับอย่างไรเสีย
ภายในมิติเล้ นลับแห่งนันก็้ ไม่เคยมีใครสามารถมีชีวิตอยูไ่ ด้ นานเกิดเจ็ดวันแต่
หลินหมิงกลับอยูไ่ ด้ นานถึงหนึง่ เดือน ! หลินหมิงตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทงหมด ั้
แต่ไม่ระบุเรื่ องของซัคคิวบัสสาวสวยของเขา แน่นอนว่าเนื ้อหาหลักอยูท่ ี่การที่เขา
ได้ รับสืบทอดพลังจากชายวัยกลางคน

ง้ าวทมิฬถูกเรี ยกออกมาเพื่อเป็ นการแสดงหลักฐานให้ กบั อาจารย์สาวสวยของ


เขาหลินหมิงไม่มีความกังวลเกี่ยวกับตัวอาจารย์สาวสวยของเขาหรื อผู้อาวุโสฟาง
ซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยา พวกนางทังสามนั
้ นล้
้ วนเป็ นหนึง่ คนที่หลินหมิงไว้ วางใจ
เป็ นลําดับต้ นๆ โดยเฉพาะผู้อาวุโสฟางซิน่ ที่เป็ นภรรยาของเขาด้ วยแล้ วมันไม่มี
ทางที่นางจะทรยศเขาอย่างแน่นอน

" มันเป็ นอาวุธระดับตํานานโดยแท้ จริ ง ! แม้ แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นอาวุธที่ทรงพลัง


มากถึงเพียงนี ้มาก่อน เจ้ าสามารถประเมิณได้ หรื อไม่วา่ ชายผู้นนมี
ั ้ ขอบเขตพลัง
มากน้ อยเพียงใด ? "
ดวงตาของผู้อาวุโสสาวทังสาวนั้ นเต็
้ มไปด้ วยความตื่นตะลึงเมื่อได้ เห็นง้ าวทมิฬ
ของหลินหมิง ไม่เพียงแต่มนั มีรูปลักษณ์ที่ดนู ่าหวัน่ เกรงบริ เวณส่วนคมมันยังคง
มีร่องรอยสีแดงจางๆอันเกิดจากคราบเลือดที่ผา่ นมาอย่างโชกโชนสะสมไว้ ไม่
เพียงเท่านันมั
้ นไม่เคยมีอาวุธใดที่พวกนางจะเคยได้ ยินมาว่ามันจะหลอมหลวม
เข้ ากับร่างกายของผู้ใช้ เช่นนี ้ แม้ วา่ ในตอนนี ้จะมีใครที่มีความโลภมากพอที่จะ
แย่งชิงง้ าวเล่มนี ้จากหลินหมิงพวกเขาก็ไม่สามารถทํามันได้ อย่างแน่นอน

" ข้ าไม่สามารถประเมิณพลังของเขาได้ แม้ วา่ ในตอนนันสภาพของเขาจะอ่


้ อนแอ่
ลงไปมากแต่ถงึ อย่างนันข้
้ าคาดเดาว่าแม้ จะเป็ นในสภาพที่ออ่ นแอ่ที่สดุ ของ
เขา เขาสมควรมีพลังมากกว่าแม่ทพั โจวและแม่ทพั ฉินรวมกันหลายเท่า ! "

ใบหน้ าของผู้อาวุโสทังสามแข็
้ งค้ างไปในทันทีต้องเข้ าใจว่าตัวตนระดับแม่ทพั โจว
และแม่ทพั ฉินนันคื
้ อคนที่แข็งแกร่งที่สดุ ในอาณาจักรแห่งนี ้อย่างแท้ จริ งด้ วยระดับ
พลังของพวกเขาต่อให้ มีสกั สิบกงซุนเอี ้ยนก็ไม่เพียงพอที่จะทําให้ พวกเขาบาดเจ็บ
เสียด้ วยซํ ้าไป แต่ถงึ อย่างนันชายวั
้ ยกลางคนที่หลินหมิงกล่าวถึงนันกลั
้ บมีพลัง
มากกว่าแม่ทพั โจวและแม่ทพั ฉินรวมกันหลายเท่า ? นันไม่ ้ ได้ หมายความว่าเขา
อาจมีพลังในระดับองครักษ์ ? แต่ถงึ อย่างนันใครจะสามารถประเมิ
้ ณได้ วา่ ใน
ยามที่เขามีสภาพสมบูรณ์พร้ อมเขาจะมีระดับพลังมากน้ อยเพียงใด
ตอนที่ 213

ตอนที่ 213
จูหนิงเอ๋อรี บสมรวบท่าทางของนางโดยเร็ วอย่างไรเสียนางก็ยงั คงเป็ นอาจารย์
ของหลินหมิง เช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสซูหลิง่ อันที่จริ งแล้ ว
ด้ วยเรื่ องราวที่หลินหมิงเล่ากล่าวแก่พวกนางนันมั
้ นเป็ นเรื่ องธรรมดาที่จะทําให้
ผู้คนตื่นตะลึง

เป็ นที่ร้ ูกนั ดีวา่ ในอดีตนันเผ่


้ าพันธ์มนุษย์มีความแข็งแกร่งที่ทดั เทียมกับเผ่าพันธ์
แต่ในเวลานี ้พวกเขาเป็ นได้ แค่เพียงเหยื่อในสายตาของเผ่าพันธ์อื่นเพียงเท่านัน้
ดังนันแล้
้ วมันจะมีใครที่ไม่ตื่นตะลึงกับการที่ได้ พบบรรพบุรุษของเผ่าพันธ์ทงยั ั ้ งคง
เป็ นตัวตนระดับสูงส่งอย่างมากอีกด้ วย หากเป็ นเฒ่าชราทัว่ ไปพวกเขาอาจตื่น
ตกใจตายไปแล้ วก็ได้

สิง่ ที่น่าตกใจสําหรับพวกนางนันก็ ้ คืออายุขยั ของมนุษย์นนแท้


ั ้ จริ งแล้ วสามารถ
เพิ่มขึ ้นได้ ตามระดับการบ่มเพาะแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ระดับปราญช์เพียง
เท่านันแต่
้ อายุขยั ของผู้คนจะเพิ่มขึ ้นในตอนที่พวกเขาได้ ก้าวเข้ าสูร่ ะดับองครักษ์
เป็ นอย่างน้ อย ! จูหนิงเอ๋อร์ สดู ลมหายใจเข้ าไปลึกเต็มปอดแม้ วา่ นางจะมีความ
ภูมิใจเป็ นอย่างสูงในเรื่ องพรสวรรค์และระดับการบ่มเพาะของนางแต่ถงึ อย่างนัน้
ในเรื่ องของการก้ าวเข้ าสูร่ ะดับองครักษ์ นนมั
ั ้ นเปรี ยบเสมือนฝันที่ไม่มีทางเป็ นจริ ง
สําหรับทาง

ขนาดตัวตนระดับสูงอย่างแม่ทพั ใหญ่ทงสี ั ้ ่ของอาณาจักรก็ยงั คงไม่มีแม้ แต่คน


เดียวที่จะก้ าวเข้ าสูร่ ะดับองครักษ์ เช่นนันแล้
้ วมันไม่ต้องพูดถึงตัวนาง หากจะมี
ผู้ใดสามารถคาดหวังได้ ในระดับองครักษ์ ภายในอาณาจักรนี ้ในยุคนี ้อาจมีเพียง
สองคือประมุขตระกูลหลิน และหลินหมิงเพียงเท่านัน้

แต่ถงึ อย่างนันนางไม่
้ คาดฝันในสิง่ ที่เกิดตัวไปมากถึงเพียงนันสํ ้ าหรับนางแล้ วการ
ที่หลินหมิงสามารถก้ าวหน้ าได้ อย่างไม่หยุดยังเช่้ นนี ้แน่นอนว่ามันจะทําให้ ชื่อเสีย
ของนางนันคงอยู
้ ไ่ ปตราบนานเท่านานแม้ วา่ นางจะตายจากไปแล้ วก็ตามที
เช่นเดียวกันกับจูหนิงเอ๋อร์ ผู้อาวุโสซูหลิง่ นางไม่ได้ เป็ นผู้ที่มนั่ ฝึ กฝนในแนว
ทางการบ่มเพาะอยูแ่ ล้ วพลังปราณของนางมีเพียงระดับจอมยุทธ์ขนต้ ั ้ นเพียง
เท่านันแต่
้ พรสวรรค์ของนางนันโดดเด่้ นในเรื่ องทักษะการปรุงยาและรักษาอันเป็ น
เลิศ
แตกต่างจากผู้อาวุโสสาวทังสองก่ ้ อนหน้ าผู้อาวุโสฟางซิน่ แย้ มยิ ้มออกมาด้ วย
ความสุขอย่างแท้ จริ ง หากเป็ นก่อนหน้ าที่นางจะพบเจอกับหลินหมิงนางคงไม่
คาดคิดว่านางจะสามารถไปถึงระดับองครักษ์ ได้ อย่างแน่นอนพรสวรรค์และพลัง
พื ้นฐานของนางนันยั ้ งคงด้ อยกว่าจูหนิงเอ๋อร์ เป็ นอย่างมากเสียด้ วยซํ ้าไป แต่มี
ใครรู้บ้างว่านางสามารถก้ าวจากพลังปราณขันจอมยุ ้ ทธ์ระดับสูงสุดจนมาถึง
ในตอนนี ้ที่นางได้ ก้าวเข้ าสูร่ ะดับปราญช์ขนที
ั ้ ่สามในเร็ วๆนี ้

ทังหมดนั
้ นนางใช้
้ เวลาเพียงไม่ถงึ ปี เพียงเท่านัน้ ! แน่นอนว่าทังหมดนี
้ ้ไม่ใช่เป็ น
เพราะตัวนางเองแต่เป็ นเพราะว่าการร่วมรักอันร้ อนแรงจากหลินหมิงต่างหาก
ตราบใดที่นางยังคงได้ ร่วมรักกับหลินหมิงอยูเ่ ช่นนี ้การก้ าวเข้ าสูร่ ะดับองครักษ์ นนั ้
ก็ไม่ใช่สงิ่ ที่ไกลเกินเอื ้อม !

" เอาล่ะ เรื่ องนันเอาไว้


้ ก่อน ที่จริ งแล้ วข้ ามีเรื่ องอื่นที่จะคุยกับเจ้ าในเวลานี ้ "

ใบหน้ าของจูหนิงเอ๋อร์ และผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสซูหลิง่ เปลี่ยนเป็ นจริ งจัง


เห็นได้ ชดั ว่าในเรื่ องนี ้มีความสําคัญเป็ นอย่างมากไม่เช่นนันแล้
้ วด้ วยการพูดคุย
โดยทัว่ ไปอาจารย์สาวสวของเขาไม่เคยให้ ผ้ อู าวุโสสาวทังสองนี้ ้อยูด่ ้ วย ดังนัน้
แล้ วมันอาจเป็ นเรื่ องใหญ่ที่ต้องการกําลังช่วยเหลือจากผู้อาวุโสสาวทังสอง ้ ? จูห
นิงเอ๋อหันหน้ าไปยังผู้อาวุโสซูหลิง่ เพื่อให้ นางเป็ นคนอธิบายในเรื่ องนี ้ต่อ

" เจ้ าคงได้ ยินมาจากฉวนยูร์แล้ วว่าในระหว่างที่พวกข้ าทังสองไปทํ


้ าภารกิจนันได้

พบเจอกับโชคบางอย่างจนทําให้ นางสามารถยกระดับได้ อย่างรวดเร็ ว.... "

อันที่จริ งแล้ วหลินหมิงเกือบลืมเรื่ องนี ้ไปแล้ วหากเทียบกับก่อนหน้ าที่หลิวฉวนยูร์


จะเข้ าร่วมทําภารกิจกับผู้อาวุโสซูหลิง่ แม้ วา่ นางจะมีพรสวรรค์อนั น่าตื่นตะลึงอยู่
แล้ วก็ตามที่แต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงจําได้ อย่างชัดเจนว่าในเรื่ องของการต่อสู้นนั ้
นางไร้ ซงึ่ ประสบการณ์และยังคงอ่อนแอ่อยูไ่ ม่ใช่น้อย เพียงแต่วา่ หลังจากนันนาง ้
กลับทําผลงานได้ อย่างยอดเยี่ยมในการทดสอบเข้ าสํานักวังจันทราในส่วนแรกที่
เป็ นการวัดความสามารถในด้ านการต่อสู้ !

" พวกเราบังเอิญไปเจออาณาเขตลึกลับที่เต็มไปด้ วยพลังงานบริ สทุ ธ์ แน่นอนว่า


ข้ าในตอนนันยั
้ งคงไม่มีความมัน่ ใจมากพอที่จะเข้ าไปสํารวจภายในนันแต่
้ ถงึ
อย่างนันเพี
้ ยงแค่บริ เวณโดยรอบมันก็มีสมุนไพรลํ ้าค่ามากมายที่มีอายุนบั ร้ อยนับ
พันปี ! ที่สําคัญที่สดุ ก็คือการที่ฉวนยูร์บงั เอิญได้ รับความรู้ตกทอดส่วนเล็กๆจาก
ภายรอบนัน้ ! "

หลินหมิงเปลี่ยนเป็ นตื่นตะลึงสถานที่แห่งใดที่เต็มไปด้ วยสมุนไพรลํ ้าค่าที่มีอายุ


นับพันปี โดยรอบ ไม่เพียงเท่านันมั ้ นยังคงมีชิ ้นส่วนสํานึกของความรู้ตกทอดลําพัง
เพียงชิ ้นส่วนเล็กสามารถเปลี่ยนแปลงแม่สาวน้ อยของเขาไปได้ มากถึงเพียงนี ้ ?
แล้ วถ้ าอย่างนันสิ
้ ง่ ที่อยูภ่ ายในนันมั
้ นอาจเป็ นสิง่ ของลํ ้าค่าที่ไม่สามารถประเมิณ
ค่าได้ มันอาจเป็ นสมบัติตกทอดในยุครุ่งเรื่ องของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ?

" มันก็อาจเป็ นไปได้ ไม่แน่วา่ มันอาจเกี่ยวข้ องกับการที่ผนึกของพระราชวัง


โบราณอ่อนแอ่ลงจนทําให้ สถานที่แห่งนันเปิ ้ ดเผยออกมา ! "

ผู้อาวุโสซูหลิง่ นางไม่ได้ ปฎิเสธความคิดของหลินหมิง อันที่จริ งแล้ วจากเรื่ องเล่า


ของหลินหมิงนันมั ้ นมีความเป็ นไปได้ สงู ที่อาณาเขตลึกลับแห่งนี ้จะเกี่ยวกับข้ อง
กับพระราชวังโบราณภายในมิติเล้ นลับไม่เช่นนันแล้ ้ วด้ วยอาณาเขตลึกลับที่เต็ม
ไปด้ วยพลังงานอันลํ ้าค่าและสมุนไพรมากมายมันไม่มีทางที่ผ้ คุ นจะไม่มีทาง
ปล่อยมันทิ ้งขว้ างเช่นนี ้อย่างแน่นอน กระทัง่ หลายร้ อยปี ที่ผา่ นมามันยังคงไม่เคย
มีการกล่าวถึงอาณาเขตลึกลับแห่งนี ้

" เดิมทีพวกเราได้ วางแผนที่จะเข้ าสํารวจอาณาเขตแห่งนีก่่้ อนหน้ า แต่มนั เป็ น


เพราะว่ามันได้ เกิดปั ญหาในก่อนหน้ านี ้จึงทําให้ พวกเราตัดสินใจที่จะสํารวจมัน
ในคราวหลัง "

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปั ญหาก่อนหน้ านี ้ที่อาจารย์สาวสวยของเขากล่าวออกมาคือ


สิง่ ใด มันคือสงครามที่เรี ยกร้ องความยุติธรรมให้ กบั เขา !

" หากเป็ นก่อนหน้ านี ้ข้ าคงไม่ให้ เจ้ าเข้ าร่วมด้ วยอย่างแน่นอน แต่หากดูจาก
ความสามารถและระดับความแข็งแกร่งของเจ้ าที่แสดงออกมาในสงครามก่อน
หน้ านี ้แม้ วา่ เจ้ าจะมีความแข็งแกร่ งในระดับจอมยุทธ์ขนสู ั ้ งสุดแต่เจ้ าก็ยงั คง
สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ไปได้ หลายคน ดังนันแล้ ้ วข้ าจึงตัดสินใจจะให้ เจ้ า
เข้ าร่ วมการสํารวจในครัง้ นี ้เจ้ าคิดว่าเช่นไร "

" ข้ าจะเข้ าร่วมอย่างแน่นอน ! "


สําหรับจูหนิงเอ๋อร์ แล้ วนันนางมองการก้
้ าวหน้ าของหลินหมิงทังหมดเกิ้ ดมาจาก
สภาวะอันกดดันของเขา ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อเขาต้ องพบกับความยากลําบาก
ภายในมิิติเล้ นลับมันอาจทําให้ ศิษย์ของนางผู้นี ้ก้ าวหน้ าขึ ้นอีกครัง้ ! ดังนันเมื
้ ่อมี
โอกาสดีงามเช่นนี ้นางไม่พลาดที่จะให้ ศิษย์ของนางผู้นี ้ได้ มีโอกาสก้ าวหน้ าต่อไป

" ดีดี แต่เจ้ าจงจําไว้ เรื่ องราวทังหมดนี ้ ้ล้ วนเป็ นความลับ ในตอนนี ้มีพวกข้ าทังสาม้
และเจ้ าเท่านัที้ ่ร้ ูเรื่ องนี ้ข้ าไม่อนุญาติให้ เจ้ านําเรื่ องนี ้ไปบอกกล่าวกับใครอื่นอีก
แน่นอนว่าข้ าจะหาโอกาสติดต่อไปยังตระกูลหลิวเพื่อสอบถามหลิวจงเทียนว่า
เขาจะสนใจเรื่ องนี ้หรื อไม่ ! "

สําหรับในตอนนี ้หลังจากผ่านสภาวะยากลําบากมาด้ วยกันตระกูลหลิวและ


สมาคมนักปรุงยานันล้ ้ วนแล้ วแต่ไม่ใช่คนอื่นไกลกันนี ้ยังไม่นบั รวมถึง
ความสัมพันธ์อนั แน่นแฟ้นระหว่างหลินหมิงและหลิวฉวนยูร์ ดังนันมั ้ นจึงไม่ใช่
เรื่ องแปลกแต่อย่างใดที่อาจารย์สาวสวยของเขาจะขอความช่วยเหลือจากหลิวจง
เทียน เป็ นที่แน่นอนว่าอาณาเขตลึกลับที่เต็มไปด้ วยพลังงานบริ สทุ ธ์อย่าง
มากมายที่สามารถหล่อเลี ้ยงสมุนไพรนับพันปี ได้ นนมั
ั ้ นย่อมต้ องมีความเสี่ยงใน
การค้ นหาสมบัติดงั นันแล้
้ วมันจะเป็ นการดีที่สดุ หากพวกเขาสามารถหาผู้
แข็งแกร่งเข้ าร่วมการเดินทางในครัง้ นี ้ได้

" อันที่จริ งแล้ วข้ ายังคงมีสหายสนิทอีกคนหนึง่ ที่ไว้ ใจได้ ในการร่วมเดินทางครัง้ นี ้ "

เสียงของผู้อาวุโสฟางซิน่ ดังขึ ้น แววตาของจูหนิงเอ๋อร์ และผู้อาวุโสซูหลิง่


เปลี่ยนเป็ นสับสนอันที่จริ งแล้ วพวกนางได้ ตกลงกันแล้ วว่าผู้ที่จะเข้ าร่วมในการ
เดินทางครัง้ นี ้จะต้ องเป็ นคนที่มีพลังระดับปราญช์เป็ นอย่างน้ อยแน่นอนว่าใน
กรณีของผู้อาวุโสซูหลิง่ นันเป็
้ นข้ อยกเว้ นเพราะว่านางมีความรู้ความเข้ าใจในเรื่ อง
ของการสํารวจอาณาเขตโบราณและการรักษาที่เป็ นประโยชน์ รวมถึงหลินหมิงที่
แม้ จะมีพลังปราณอยูใ่ นระดับจอมยุทธ์ขนสู ั ้ งสุดแต่เขายังคงมีความสามารถต่อสู้
แท้ จริ งแล้ วอาจเทียบเท่าได้ กบั ผู้ที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองหรื ออาจ
กระทัง่ เหนือกว่านัน้

" ผู้ใดกัน ? "

" ผู้อาวุโสฉินเหยา ! "


ตอนที่ 214
โดย

Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 214

ผู้อาวุโสซูหลิง่ และอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงถึงกับขมวดคิ ้วเมื่อได้ ยินชื่อของ


ผู้อาวุโสฉินเหยา แน่นอนว่านอกจากหลินหมิงแล้ วนันผู ้ ้ อาวุโสฟางซิน่ นางไม่
คาดคิดว่าจะมีใครที่ร้ ูตวั ตนและลักษณะของผู้อาวุโสตระกูลหลินผู้นี ้ไปมากกว่า
นาง แม้ วา่ หากมองในเรื่ องความแข็งแกร่งนางจะเป็ นรองผู้อาวุโสฉินเหยาอยู่
บ้ าง แต่ถงึ อย่างนันนางสามารถควบคุ
้ มผู้อาวุโสฉินเหยาให้ อยูภ่ ายใต้ การ
ควบคุมได้ ราวกับลูกแมวเชื่องที่น่ารักเพียงเท่านัน้

แตกต่างจากจูหนิงเอ๋อร์ ลําพังเพียงชื่อเสียงของผู้อาวุโสฉินเหยานันก็้ นบั ว่าโดด


เด่นในทางที่เลวร้ ายกระทัง่ เหล่าคุณชายมากความสามารถทังหลายภายใน

ตระกูลก็ยงั คงไม่มีใครกล้ าขัดใจนาง ยิ่งไม่ต้องนับถึงหลินหมิงที่สร้ างความ
เดือดร้ อนให้ กบั ตระกูลหลินไปทัว่ ซํ ้าหลินหมิงยังคงเคยกระทัง่ ล่วงเกินผู้อาวุโส
ฉินเหยามาก่อนไม่ใช่หรื อ ?
" พวกเจ้ าทังสองสบายใจได้
้ ในตอนนี ้ข้ ากับผู้อาวุโสฉินเหยานันนั
้ บได้ วา่ เป็ น
สหายที่สนทิกนั อย่างมาก ข้ าสามารถมองออกว่านางแท้ จริ งแล้ วเป็ นคนอย่างไร
"

จูหนิงเอ๋อร์ และผู้อาวุโสซูหลิง่ ได้ ยินคํากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิน่ ก็ผงกหัวรับอย่าง


เข้ าใจ สําหรับพวกนางแล้ วฐานะสหายของผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยา
ไม่สามารถรับประกันสิง่ ใดได้ แต่สงิ่ ที่พวกนางเชื่ออย่างหมดใจนันคื ้ อการมอง
ผู้คนของผู้อาวุโสฟางซิน่ เคยมีกระทัง่ คนได้ กล่าวเอาไว้ วา่ สายตาของผู้อาวุโสสาว
นางนี ้อาจกระทัง่ ยอดเยี่ยมกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนปลาย ั้ !

แน่นอนแม้ วา่ นันจะเป็


้ นแค่เพียงคําเปรี ยบเปรยแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นก็เพียงพอที่จะ
ทําให้ พวกนางทังสองวางใจได้

" แล้ วพวกเราสมควรชักชวนประมุขหลินหรื อไม่ ? "

คํากล่าวของผู้อาวุโสซูหลิง่ ทําให้ หลินหมิงขมวดคิ ้วอันที่จริ งแล้ วเขากําลังวาดฝัน


ภาพการผจญภัยอันแสนวิเศษที่เต็มไปด้ วยสาวงามล้ อมรอบ แม้ วา่ ก่อนหน้ านี ้
จะมีหลิวจงเทียนร่วมกับการสํารวจครัง้ นี ้แต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงไม่ต้องการที่จะ
นําหลินฮ่าวมาร่วมอย่างแน่นอน แม้ วา่ เขาจะเป็ นกําลังรบที่สําคัญที่สดุ อย่าง
แท้ จริ งแต่ถงึ อย่างนันเขาก็
้ ยงั คงไม่ยินดี ! ทันใดนันศรี
้ ษะของอาจารย์สาวสวย
ของหลินหมิงส่ายหัวด้ วยความผิดหวังเล็กน้ อย

" มันเป็ นไปไม่ได้ ! ในตอนนี ้หลังจากจบสงครามลงข้ าได้ ยินมาว่าประมุขหลินได้


เก็บตัวเพื่อก้ าวเข้ าสูร่ ะดับใหม่ ! "

ผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสซูหลิง่ กระทัง่ หลินหมิงยังคงอดที่จะตะลึงค้ างไป


ไม่ได้ ก้ าวเข้ าสูร่ ะดับใหม่ ? นันหมายความว่
้ าเขาจะเตรี ยมการเข้ าสู่
ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่8 ! ด้ วยความสามารถของหลินฮ่าวผู้นี ้อาจกล่าวได้ วา่ เมื่อเขา
ก้ าวเข้ าสูข่ นที
ั ้ ่ 8 ของระดับปราญช์นนแม้ั ้ แต่เจ้ าสํานักวังจันทราก็อาจไม่ใช่คมู่ ือ
ของเขาแม้ วา่ เจ้ าสํานักผู้นี ้จะมีพลังปราณระดับจุดสูงสุดขันที้ ่ 8 ก็ตามที่

หลินหมิงใช้ เวลาตกลงเนื ้อหาการสํารวจกับเหล่าผู้อาวุโสสาวสวยทังสามอี้ กเพียง


เล็กน้ อยและเป็ นหลินหมิงที่รับหน้ าที่ที่จะเป็ นคนไปเชิญชวนผู้อาวุโสฉินเหยา
ด้ วยตนเอง แม้ วา่ ผู้อาวุโสฟางซิน่ จะกล่าวว่านางเป็ นสหายที่ยอดเยี่ยมของผุ้
อาวุโสฉินเหยาแต่หากด้ วยการปรากฎตัวของนางที่ตระกูลหลินมันก็ไม่มีทางที่จะ
หลีกเลี่ยงความสงสัยของผู้คนได้

ตรงข้ ามกับหลินหมิงที่เป็ นคนภายในตระกูลหลินอยูแ่ ล้ วและยังคงเป็ นศิษย์ที่


ยอดเยี่ยมที่สามารถสร้ างชื่อเสียงให้ กบั ตระกูลหลินได้ อย่างมหาศาลการเข้ าพบผู้
อาวุโสฉินเหยาอาจเป็ นเพียงเรื่ องธรรมดาๆเท่านัน้

เมื่อตัดสินใจได้ ดงั นันหลิ


้ นหมิงตัดสินใจไปที่ตระกูลหลินในทันที เมื่อหลินหมิงอ
อกปรากฎตัวสูภ่ ายนอกรอบข้ างเขาเต็มไปด้ วยฝูงชนที่มองมาที่หลินหมิงด้ วย
สายตาชื่นชมและเคารพอย่างแท้ จริ ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเมืองฟานชูใน
หลายวันนี ้ถึงได้ รับโชคลาภอันมากมายทังหมดนี
้ ้เป็ นเพราะหลินหมิงโดย
แท้ จริ ง กระทัง่ เหล่าหญิงสาวพวกนางยังคงมองมาที่หลินหมิงด้ วยสายตา
หลงไหล
ในตอนนี ้ไม่วา่ จะเป็ นหญิงสาวจากตระกูลสูงศักดิ์เพียงใดพวกนางล้ วนแล้ วแต่ไม่
ถือตัวด้ วยกันทังสิ ้ ้นหากเพียงหลินหมิงเอยปากเพียงคําเดียวพวกนางยินยอมเป็ น
หญิงสาวบําเร่อรักให้ กบั หลินหมิงอย่างยินดีแม้ วา่ จะเป็ นเพียงได้ แค่สนมก็
ตาม เป็ นที่ร้ ูกนั ดีถงึ การกระทําของหลินหมิงในสงครามก่อนหน้ านี ้
ในช่วงท้ ายของสงครามที่มีการปรากฎตัวของแม่ทพั ใหญ่ทงสองที ั้ ่กล่าวบอกให้
หลินหมิงแต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงกลับไม่มีทา่ ทีที่จะเชื่อฟั งแม่ทพั ทังสองผู
้ ้ ยิ่งใหญ่
แต่ถงึ อย่างนันสาเหตุ
้ เดียวที่หลินหมิงหยุดมือนันมาจากหลั
้ วฉิงเชี่ยน ด้ วย
เหตุการณ์เพียงเช่นนี ้เหล่าสตรี แทบจะอดไม่ได้ ที่จะคาดฝันว่านางจะได้ เป็ นสตรี
ของหลินหมิงหรื อกระทัง่ แอบไปฝันว่าพวกนางได้ กลายเป็ นศิษย์พี่สาวสวยของ
หลินหมิงไปแล้ ว

เทียบกับบุรุษโดยทัว่ ไปแล้ วนันแม้


้ วา่ พวกเขาจะมีสตรี ที่งดงามอยูข่ ้ างกายแต่เมื่อ
พวกเขาจะต้ องเผชิญหน้ ากับสถานการณ์เช่นนันมี้ หรื อที่พวกเขาจะกล้ าแม้ แต่
กล่าวคําใดๆ ?

" อาา..ถ้ าหากข้ ารู้ก่อนหน้ านี ้ข้ าจะพยายามเข้ าหาเขาตังแต่


้ ก่อนหน้ านี ้ ไม่แน่วา่
ข้ าก็อาจได้ เป็ นหนึง่ ในสตรี ของเขา ? "
" ข้ าได้ ยินมาว่ากระบวนท่ายามศึกรักของเขานันเพี ้ ยงพอที่จะทําให้ สตรี นบั สิบ
อ่อนล้ าได้ ภายในหนึง่ คืน....หากเป็ นไปได้ แม้ วา่ ข้ าจะได้ เป็ นเพียงสาวใช้ ของเขา
มันก็อาจไม่นบั ว่าเลวร้ าย ! "

" ฮึ เลวไหล ! แม้ วา่ คุณชายหลินผู้นี ้จะมีชื่อเสียงในเรื่ องของสตรี อยูไ่ ม่ใช่น้อยแต่


ถึงอย่างนันพวกเจ้
้ าสามารถคาดฝันว่าจะเป็ นสตรี ของเขา ? เจ้ าไม่เห็นหรื อว่า
คุณหนูตระกูลหลิวงดงามและมีความอัจฉริ ยะมากเพียงใด พวกเจ้ าไม่เห็นถึง
ศักยภาพของคุณหนูตระกูลเหยียน ? หรื อกระทัง่ คุณหนูตระกูลหลัวพวกนางทัง้
สามนันในตอนนี
้ ้นับได้ วา่ เป็ นยอดอัจฉริ ยะที่อาจเป็ นรองเพียงคุณชายหลินเพียง
เท่านัน้ ! "

หลินหมิงผ่านทางเดินที่เต็มไปด้ วยผู้คนโดยไม่สนใจมากนักแน่นอนว่าด้ วยระดับ


การฝึ กฝนของเขาในตอนนี ้เขาสามารถได้ ยินเสียงซุบซิบเหล่านันอย่ ้ าง
ง่ายดาย หากเป็ นหลินหมิงในอดีตเขาคงยินดีที่จะคว้ าสาวงามจากกลุม่ ฝูงชน
สักสิบคนหรื ออาจมากกว่านันเพื ้ ่อร่วมบทเพลงรักกับเขา แต่สําหรับหลินหมิง
ในตอนนี ้หญิงสาวเหล่านี ้ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยเหลือเขาในด้ านการบ่ม
เพาะได้ อีกต่อไปด้ วยระดับพลังปราณที่สงู ขึ ้นซึง่ หลินหมิงคาดว่าหากไม่ใช่หญิง
สาวที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขนสูั ้ งสุดเช่นเดียวกันกับเขามันก็คงได้ ผลประโยชน์
ไม่ได้ มากมายนัก ไม่ต้องนับรวมถึงในตอนนี ้ที่หลินหมิงไม่คาดแคลนสาวงามที่
เหนือกว่าหญิงสาวทัว่ ไปราวฟ้ากับเหว

เมื่อหลินหมิงมาถึงที่ตระกูลหลินในตอนนี ้มันแตกต่างจากคราวก่อนไปมาเพียง
แค่เขามาถึงที่หน้ าตระกูลเขาก็สามารถมองเห็นเหล่าผู้คนภายในตระกูลที่แสดง
ท่าทีเคารพต่อเขาอย่างถึงขีดสุด แม้ วา่ ในก่อนหน้ านี ้ระหว่างพวกเขาและหลินห
มิงจะมีปัญหากันแต่ถงึ อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็ นหนึง่ ในตระกูลหลินเช่นเดียวกัน
ไม่ใช่หรื อ ?

เหล่าผู้อาวุโสทังหลายที
้ ่เกลียดชังหลินหมิงก่อนหน้ านี ้กลับเปลี่ยนจากหน้ ามือ
เป็ นหลังมือทังหมดนี
้ ้ไม่ใช่เพียงเพระพรสวรรค์ที่หลินหมิงแสดงออกมาเพียง
เท่านันแต่
้ มนั ยังคงเป้นเพราะว่าหลินหมิงได้ รับการสนับสนุนจากผุ้อาวุโสฉินเหยา
ที่มีความแข็งแกร่งเป็ นอันดับสองของตระกูล และจากสงครามครัง้ ล่าสุดเห็นได้
ชัดว่ากระทัง่ ประมุขหลินก็ยงั คงให้ ความสําคัญกับหลินหมิงพิเศษกว่าบุตรคน
อื่น
หลินหมิงไม่ได้ ก้าวไปยังตํานักของผู้อาวุโสฉินเหยาในทันทีสําหรับหลินหมิงแล้ ว
นันภายในตระกู
้ ลหลินในตอนนี ้ยังคงมีหลากหลายสถานที่ที่สามารถทําให้ เขา
เพลิดเพลินใจได้

" นับว่าเจ้ ายังคงมีความคิดอยูบ่ ้ าง เดิมทีข้าคิดว่าเจ้ าจะให้ คนขัดขวางข้ าไม่ให้


มายังตํานักของเจ้ าเสียอีก "

หลินหมิงในตอนนี ้ได้ เข้ าสูต่ ํานักของเหม่ยฮวามารดาของหลินเสี๋ยวตา แน่นอน


ว่าสําหรับเหม่ยฮวาในตอนที่นางรู้วา่ หลินหมิงได้ ตายจากไปนันนางแทบจะโห่

ร้ องด้ วยความยินดีแต่ถงึ อย่างนันส่้ วนลึกๆภายในใจของนางกลับมีความรู้สกึ
เศร้ าโศกเป็ นอย่างมาก

ภายในห้ องของเหม่ยฮวาในตอนนี ้หลินหมิงกําลังนัง่ บนเตียงของเหม่ยฮวาอย่าง


เฉยเมยข้ ารับใช้ ทงหมดถู
ั้ กสัง่ ให้ ออกไปรอข้ างนอกและห้ ามเข้ ามาโดยไม่มี
ข้ อยกเว้ นแต่อย่างใด ส่วนทางด้ านเหม่ยฮวานันนางไม่
้ กล้ าแม้ กระทัง่ ทําตัว
เสมอหลินหมิงแม้ วา่ นางจะมีฐานะในตระกูลหลินค่อนข้ างสูงแต่ทงหมดล้
ั้ วนเป็ น
เพราะความสามารถของบุตรนางเทียบกับในตอนนี ้ฐานะของนางนันล้ ้ วนตกตํ่า
จนแทบจะเทียบเท่าได้ กบั สนมของประมุขหลินคนหนึง่ เพียงเท่านัน้

" ไม่ๆ นายท่านข้ าไม่กล้ าทําอย่างนันอย่


้ างแน่นอน "

เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้ วยนํ ้าเสียงเกรงกลัวหลินหมิงไปถึงขัวหั


้ วใจนางยังคง
จดจําภาพการร่วมรักอันสุดแสนทารุณครัง้ สุดท้ ายระหว่างนางและหลินหมิงได้
เป็ นอย่างดี นางบีบนวดไปที่ขาทังสองข้
้ างของหลินหมิงโดยไม่มีการถือตัวเลย
แม้ แต่น้อย หากเป็ นนางในอดีตแล้ วนันเป็
้ นไปได้ มากว่านางคงยินดีที่จะยอมฆ่า
ตัวตายเสียมากกว่าทําเรื่ องเสื่อมเสียเช่นนี ้ !
ตอนที่ 215
ตอนที่ 215

สําหรับหลินหมิงแล้ วนันแม้ ้ วา่ เขาจะระบายอารมณ์ใส่เหม่ยฮวาไปอีกนับร้ อยนับ


พันครัง้ เขาก็ยงั คงไม่ร้ ูสกึ ว่ามันจะเพียงพอแต่อย่างใด หลินหมิงออกมาจากตํานัก
ของเหม่ยฮวาพร้ อมกับนางด้ วยการเดินมาเคียงข้ างกันระหว่างหลินหมิงและเหม่
ยฮวามันทําให้ เหล่าผู้อาวุโสหลายคนรู้สกึ แปลกใจในส่วนลึกของพวกเขา
ในตอนนี ้เริ่ มมีความรู้สกึ ยอมรับในตัวของหลินหมิง

พวกเขาทุกคนล้ วนรู้ดีวา่ ในอดีตนันเหม่


้ ยฮวาทําสิง่ เลวร้ ายอันใดกับหลินหมิงไป
บ้ างแต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงก็ยงั คงไม่ถือโทษโกรธนาง ? ตรงข้ ามกับเหล่าผู้
อาวุโสทังหลายที
้ ่กําลังมองอยูใ่ นตอนนี ้เหม่ยฮวารู้สกึ อับอายและหวาดกลัวเป็ น
อย่างมาก มือของหลินหมิงนันคอยลวงเข้
้ ามาภายในจุดลับของนางอยู่
ตลอดเวลาโดยอาศัมมุมอับที่ผ้ อู าวุโสไม่สามารถมองเห็นได้

ร่างกายของนางสัน่ สะท้ านไปด้ วยความเสี่ยวซ่านด้ วยรสสัมผัสของหลินหมิงที่


สามารถกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวได้ ทําให้ เหม่ยฮวาไม่สามารถเดินได้ อย่าง
มัน่ คง แต่ถงึ อย่างนันนางพยายามฝื
้ นร่างกายอย่างเต็มที่หากในตอนนี ้นางล้ มลง
ไปแล้ วละก็ผ้ คู นคงได้ เห็นที่บริ เวณระหว่างขาของนางที่มีคราบนํ ้ารักกําลังไหล
ออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลินหมิงพร้ อมกับเหม่ยฮวามาเข้ ามาถึงที่ตํานักหว่านอิ๋งมารดาของหลินชู


น้ องชายสุดรักของเขา แน่นอนว่าไม่มีสาวรับใช้ คนใดที่กล้ ามาหยุดหลินหมิง
ในตอนนี ้ภายในตระกูลหลินนันหลิ
้ นหมิงอาจมีอํานาจมากเสียยิ่งกว่าผู้อาวุโสฉิน
เหยาเสียด้ วยซํ ้า

เพียงแค่หลินหมิงก้ าวเท้ าเข้ ามาสูต่ ํานักของหว่านอิ๋งเพียงไม่นานปรากฎร่างของ


หญิงสาวที่เต็มเปี่ ยมไปด้ วยความงดงามนางก้ มลงโค้ งให้ กบั หลินหมิงด้ วยความ
เคารพพร้ อมกับผายมือนําทางให้ กบั หลินหมิงอย่างว่าง่าย ข้ ารับใช้ คนอื่นภายใน
ตํานักที่กบั เบิกตากว้ างไม่ใช่วา่ พวกนางไม่ร้ ูถงึ ฐานะของหลินหมิง แต่ถงึ อย่างนัน้
หญิงสาวหญิงตรงหน้ าพวกหน้ าในตอนนี ้ก็ใช่วา่ จะตํ่าต้ อยนางเป็ นถึงคนสนิท
ของนายหญิงของพวกนาง และยังคงเป็ นผู้อาวุโสระดับสูงภายในตระกูลนางคือผู้
อาวุโสเซี่ยงหรง

" เชิญคุณชายทางนี ้เจ้ าคะนายหญิงกําลังรอท่านอยู่ "

ผู้อาวุโสเซี่ยงหรงกล่าวกับหลินหมิงด้ วยความน้ อมนอมสําหรับนางแล้ วในตอนนี ้


นางจะให้ ความซือสัตย์ตอ่ หลินหมิงมากเสียยิ่งกว่าหว่านอิ๋งเสียอีก ไม่ต้องสงสัย
เลยว่าที่ในตอนนี ้นางสามารถก้ าวเข้ าสูร่ ะดับจอมยุทธ์ขนที
ั ้ ่แปดได้ นนั ้
ผลประโยชน์ทงหมดส่
ั้ วนใหญ่นนล้
ั ้ วนมาจากการร่วมรักกับหลินหมิงในอดีต
แม้ วา่ ในครัง้ นันนางจะรู
้ ้ เศร้ าโศกอย่างมากมายแต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ ้น
แล้ วนันมั
้ นนับว่ายอดเยี่ยม

หลินหมิงยิ ้มอย่างพึงพอใจที่ไปที่ผ้ อู าวุโสเซี่ยงหรงพร้ อมกับก้ าวเดินตามหลินหมิง


เข้ าไปภายในห้ องของหว่านอิ๋งภาพตรงหน้ าของหลินหมิงในตอนนี ้มันทําให้ เขา
ตกใจไปในทันทีพร้ อมกับหันไปจ้ องมองที่ผ้ อู าวุโสเซี่ยงหรง

" อาาา ~~~ "

เสียงครางกระเส้ าของหญิงสาวร่างหนึง่ ที่กําลังถูกหมัดโยงอยูบ่ นเตียงโดยไร้ ซงึ่


หนทางที่จะแก้ ออกโดยง่ายแม้ วา่ ในตอนนี ้นางจะสวมใส่เสื ้อผ้ าอยูอ่ ย่างครบถ้ วน
แต่ที่บริ เวณส่วนล่างของนางนันกลั
้ บถูกเปิ ดออกจนเผยให้ เห็นร่องสวาทที่กําลัง
ถูกสอดใส่โดยแท่งอยูข่ นาดใหญ่อยู่ แน่นอนว่าหญิงสาวนางนี ้คือหว่านอิ๋งอย่าง
แน่นอน

ไม่เพียงเท่านันที
้ ่บริ เวณบนพื ้นห้ องภายในห้ องปรากฎภาพของชายหนุ่มวัย
เดียวกันกับหลินหมิงที่อยูใ่ นสภาพเปลื่อยเปล่าที่บริ เวณรูมวารของเขานันปรากฎ

คราบนํ ้าสีขาวขุ่นอยูเ่ ป็ นจํานวนมากที่กําลังไหลทะลักออกมา ชายหนุ่มผู้นี ้คือ
หลินชูญาติผ้ นู ้ องที่แสนน่าชิงชังของเขา ในตอนนี ้หลินชูผ้ นู ี ้ไม่ปรากฎแววตาที่ยิ่ง
ยโสหรื อท่าทีที่เต็มเปี่ ยมไปด้ วยความมัน่ ใจแต่อย่างใดกลับกันแล้ วดวงตาของเขา
ในตอนนี ้ล้ วนแล้ วแต่วา่ งเปล่าราวกับคนตายไปแล้ ว

" อาา นายท่านข้ าทําได้ ดีหรื อไม่เจ้ าคะ "

ร่างของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงเข้ าประกบชิดกับร่างของหลินหมิงอย่างแนบแน่นพร้ อม
กับดวงตาของนางที่เต็มเปี่ ยมไปด้ วยความรักอย่างแท้ จริ ง

" ทังหมดนี
้ ้เป็ นฝี มือของเจ้ า ? "

" เจ้ าคะ สําหรับคุณชายหลินชูผ้ นู นเขาเพิ


ั้ ่งจะกลายเป็ นคนไร้ สติไม่นานนี ้ข้ าจึง
ตัดสินใจให้ เขาได้ พกั ก่อนในวันนี ้หากท่านต้ องการ...... "
หลินหมิงไม่สามารถคาดเดาได้ วา่ หลินชูผ้ นู ี ้ถูกร่วมรักกับบุรุษมามากน้ อยเพียงใด
แล้ วแต่เมื่อดูจากรูทวารของเขาที่เปิ ดกว้ างออกจนแทบจะสามารถนํามือเข้ าไปได้
โดยหลวมเช่นนี ้มันอาจเป็ นไปได้ วา่ เขาอาจถูกร่วมรักมาตังแต่้ ที่หลินหมิงมาตํา
นักแห่งนี ้ครัง้ ล่าสุด ?

" ไม่ละ่ เอาตัวเขาออกไป "

เพียงแค่สิ ้นคํากล่าวของหลินหมิงร่างของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงเคลื่อนกายอย่าง
รวดเร็ วพร้ อมกับนําร่างของหลินชูออกไปในทันที ในตอนนี ้แม้ กระทัง่ เหม่ยฮวาที่
อยูข่ ้ างกายหลินหมิงก็ยงั คงตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้ าหัวใจของนางหนาวสัน่
อย่างหวาดกลัวเป็ นไปได้ หรื อไม่วา่ หลินหมิงจะให้ นางได้ รับการทรมานเช่นนี ้
เช่นเดียวกัน ?

" ฮึ ไม่เลวๆ ถือว่าเจ้ าทําได้ ดีมาก "

หลินหมิงยกยิ ้มอย่างพึงพอใจพร้ อมกับนําร่างของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงเข้ ามากอด


แนบกายอย่างแนบชิดใบหน้ าของนางกลายเป็ นร้ อนผ่าวพร้ อมกับลมหายใจอัน
ร้ อนแรง สําหรับผู้อาวุโสเซี่ยงหรงในตอนนี ้เพียงแค่นางได้ กลิน่ กายของหลินหมิง
มันก็แทบจะทําให้ ร่องสวาทของนางปั่ นป่ วนอย่างเร่าร้ อนขึ ้นมาได้ ในทันที

" นายท่าน ข้ าอดทนไม่ไหวแล้ วเจ้ าคะข้ าอยากลิ ้มรสชาติจากท่าน ~~~~ "

" ฮ่าๆ ก็ได้ เห็นแก่ผลงานของเจ้ าในคราวนี ้ข้ ายินดีที่จะให้ เจ้ าควบทวนมังกรของ


ข้ าได้ ตามใจชอบ ! "

ดวงตาของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงเบิกกว้ างไปด้ วยความยินดีมนั เป็ นเวลานานมาก


นับตังแต่
้ ที่หลินหมิงร่วมรักกับนาง แม้ วา่ ภายหลังนางจะพยายามลองใช้ วิธีสําเร็ จ
ความใคร่ด้วยตนเองแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่สามารถมอบความสุขให้ กบั นางได้ แม้
เพียงส่วนหนึง่ หากเทียบกับการร่วมรักกับหลินหมิง

" แต่ข้ามีหน้ าที่ให้ เจ้ าเพิ่ม ต่อจากนี ้ไปเจ้ าจะไม่ใช่ผ้ อู าวุโสของตํานักนี ้อีกต่อไป
เจ้ าจะเป็ นผู้อาวุโสที่ขึ ้นตรงกับข้ าเพียงเท่านัน้ และหน้ าที่อีกอย่างของเจ้ าก็คือ
การทารุณพี่ชายของข้ าอีกคนหนึง่ "
ได้ ยินเช่นนันเหม่
้ ยฮวาถึงกับหน้ าซีดนางรู้ดีวา่ หลินหมิงหมายถึงบุตรของนาง
สําหรับหลินเสียวต้ าในตอนนี ้เขาได้ สญ
ู เสียพรสวรรค์ใดๆก่อนหน้ านี ้ไปทังหมดสิ
้ ้น
แล้ วหากเขาต้ องเจอการทารุณเช่นเดียวกับหลินชูแล้ วละก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขา
จะกลายเป็ นร่างไร้ วิญญาณอย่างแน่นอน

" ได้ เจ้ าคะ ข้ าจะไม่ทําให้ ทา่ นผิดหวัง "

คํากล่าวของเหม่ยฮวาถูกแข็งค้ างไว้ ในลําคอสําหรับนางในตอนนี ้นางรู้ดีวา่ นาง


ไม่สามารถช่วยเหลือบุตรของนางได้ อีกต่อไปอย่างแน่นอน หากนางพูดกล่าว
ขอร้ องหลินหมิงออกไปไม่ใช่เพียงแต่วา่ มันจะไม่ถกู รับฟั งแต่อาจถูกเหมารวมไป
ด้ วยก็เป็ นไปได้

หลินหมิงนอนลงบนเตียงด้ วยสภาพเปลื่อยกายที่ด้านบนของเขาในตอนนี ้มีร่าง


ของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงที่กําลังหอบหายใจอย่างรุนแรงพร้ อมกับกําลังค่อยๆทิ ้งร่าง
อันเปลื่อยเปล่าของนางลงมาเพื่อใช้ ร่องสวาทกลืนกินทวนมังกรของหลินหมิง
สําหรับหว่านอิ๋งและเหม่ยฮวานันพวกนางทั
้ งสองต่
้ างไม่ได้ อยูเ่ ฉยแต่อย่างใด
สําหรับพวกนางในตอนนี ้การทําให้ หลินหมิงมีความรู้สกึ พึงพอใจคือหน้ าที่ที่
สําคัญที่สดุ

พวกนางรู้ดีวา่ ในอดีตนันทั
้ งพวกนางและบุ
้ ตรนันทํ
้ าเลวร้ ายกับหลินหมิงไป
มากมายเพียงใดดังนันแล้
้ วพวกนางจึงได้ แต่เพียงหวังว่าหลินหมิงจะเกิดพอใจใน
ตัวของนางและลืมเรื่ องเหล่านันไปได้
้ มาก อย่างน้ อยที่สดุ ก็คือการที่พวกนางจะ
ไม่ต้องถูกทารุณใดๆอีกต่อไป

หว่านอิ๋งและเหม่ยฮวาอยูใ่ นสภาพเปลื่อยเปล่าทังคู ้ ห่ น้ าอกขนาดใหญ่ของพวก


นางทังสองเข้
้ าถูไถกับร่างกายของหลินหมิงไปมาอย่างเชื่องช้ า หากมีใครพบเห็น
ภาพเช่นนี ้เขาพวกเขาคงคิดว่าหญิงสาวทังสองนี
้ ้ย่อมไม่ใช่นายหญิงจากตระกูล
ใหญ่แต่เป็ นเพียงสาวคณิกาผู้ชํ่าชองเพียงเท่านัน้

แตกต่างจากผู้อาวุโสเซี่ยงหรงที่เปลี่ยนเป็ นบ้ าคลัง่ ในทันทีที่ร่องสวาทของนาง


กลืนกินทวนมังกรของหลินหมิงเสียงครางสนัน่ ของนางดังขึ ้นพร้ อมกับใบหน้ าที่
เต็มเปี่ ยมไปด้ วยความสะใจราวกับว่านี ้คือสิง่ ที่นางรอคอยมานานหลายสิบปี แล้ ว
" ซี๊ดดดดดดด ~~~~~~~~~~~~~~ "

แม้ วา่ มันจะผ่านมาเนิ่นนานแล้ วสําหรับการร่วมรักระหว่างนางกับหลินหมิงแต่ถงึ


อย่างนันนางยั
้ งคงจํารสชาติภาพความสุขเหล่านันได้
้ เป็ นอย่างดีเทียบกับ
ในตอนนี ้นางยังคงเป็ นสุขมากยิ่งกว่าในตอนนันด้
้ วยรสสัมผัจากเรื อนร่างของ
หลินหมิงที่เพียงพอที่จะสามารถกระตุ้นอารมณ์ให้ เหล่าสตรี เสร็ จสมโดยง่ายรวม
กับทวนมังกรของหลินหมิงที่กําลังอัดแน่นภายในร่องสวาทของนางมันทําให้
ร่างกายของนางสัน่ สะท้ านพร้ อมกับนํ ้ารักของนางที่ทะลักออกมาอย่างไม่มีหยุด
หย่อน

มือทังสองข้
้ างของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงลูบไล้ ที่แผ่นอกเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงด้ วย
ความหื่นกระหายอย่างปิ ดไม่มิด ในตอนนี ้หลินหมิงเพียงนอนลิ ้มรสชาติความสุข
ที่เกิดขึ ้นเพียงเท่านันไม่
้ ต้องสงสัยเลยว่าการสํารวจอาณาเขตลึกลับนันมั ้ นจะต้ อง
เป็ นสถานที่ที่อนั ตรายอย่างมากอย่างแน่นอนดังนันแล้ ้ วหลินหมิงมีความรู้สกึ ว่า
เขาจะต้ องเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแห่งความสุขนี ้ให้ ได้ มากที่สดุ
" ไม่น่าเชื่อว่าเจ้ าจะกลายเป็ นหญิงสาวร่านสวาทเช่นนี ้ เอาอย่างนี ้ข้ าจะให้ รางวัล
กับเจ้ าเพิ่มเติมนันก็
้ คือการที่เจ้ าสามารถทําสิง่ ใดกับร่างกายของข้ าก็ได้ ในครึ่งชัว่
ยามหากเจ้ าสามารถทําให้ ข้าระเบิดอารมณ์ได้ ภายในครึ่งก้ านธูป

ผู้อาวุโสเซี่ยงหรงตื่นเต้ นมากเสียจนร่องสวาทของนางบีบรัดเพียงแค่หลินหมิ
งได้ มองภาพเช่นนี ้เขาก็ร้ ูสกึ เพลิดเพลินเป็ นอย่างมากจากผู้อาวุโสที่เคยมี
ภาพลักษณ์ที่แสนเย็นชาในตอนนี ้ไม่ตา่ งอะไรไปจากหญิงสาวในหอนางโลม
ราคาถูกเพียงเท่านัน้

" อ๊ ะ อ๊ ะ อ๊ ะ อ๊ ะ อ๊ ะ ~~~~~~~~~ "

ผู้อาวุโสเซียงหรงกัดฟั นแน่นพร้ อมกับเริ่ มขยับสะโพกของนางอย่างรุนแรงและ


รวดเร็ วยิ่งขึ ้น นางรู้ดีวา่ นางไม่สามารถทําให้ หลินหมิงเสร็ จสมได้ อย่างง่ายอย่าง
แน่นอน ไม่เพียงเท่านันการขยั ้ บจังหวะที่เร่าร้ อนมากยิ่งขึ ้นนันก็
้ หมายถึงการที่
นางจะต้ องรับศึกหนักมากยิ่งขึ ้นเช่นเดียวกัน
ตอนที่ 216 NC 18+
ตอนที่ 216
ร่างกายของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงในตอนนี ้ชุม่ ฉํ่าไปด้ วยคราบเหงื่อทัว่ ร่างกายของ
นาง แต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่ได้ ลดแสดงของนางลงไปแต่อย่างใดกลับกันแล้ วด้ วย
หยาดเหงื่อใสๆของนางมันทําให้ ผิวพรรณของนางดูเป็ นประกายมากยิ่งขึ ้น นาง
หอบหายใจอย่างรุนแรงอันที่จริ งแล้ วในตอนนี ้เวลาเกือบจะครบครึ่งก้ านธูปตามที่
หลินหมิงกําหนเอาไว้ แล้ ว

แต่ถงึ อย่างนันนางยั
้ งคงไม่สามารถทําให้ หลินหมิงปลดปล่อยนํ ้ารักออกมาได้ เมื่อ
เป็ นเช่นนันนางจะอดได้
้ รับรางวัลที่น่าเย้ ายวนใจสําหรับนางจากหลินหมิง แม้ วา่
ในตอนนี ้นางจะสัมผัสได้ วา่ ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่ มมีการสัน่ ไหวพร้ อมกับ
ขยายตัวอย่างรวดเร็ วแต่ถงึ อย่างนันด้
้ วยสภาพของนางในตอนนี ้ที่ใช้ เรี่ ยวแรงกับ
การร่ วมรักไปเป็ นอย่างมากไม่เพียงเท่านันนางยั
้ งคงได้ ปลดปล่อยนํ ้ารักไปเป็ น
จํานวนมากในเวลาติดๆไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี ้นางจะเหนื่อยมากเพียงใด

" เหลืออีกเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านัน้ "


ผู้อาวุโสเซี่ยงหรงกัดฟั นเฮือกสุดท้ ายในทันทีที่ได้ ยินคํากล่าวของหลินหมิง ร่าง
ของนางเริ่ มขยับอย่างเร่าร้ อนพร้ อมกับเสียงครางสนัน่ อีกครัง้ แน่นอนว่าถึงแม้ วา่
จะเป็ นเช่นนี ้ต่อไปมันก็ไม่อาจทําให้ นางทําสําเร็ จภายในเวลาได้ หลินหมิง
ตัดสินใจช่วยเหลือนางเล็กน้ อยเอวของหลินหมิงยกขึ ้นแทงขึ ้นเข้ าไปสวนกับการ
การเคลือ่ นไหวของผู้อาวุโสเซี่ยงหรง

" อร้ าาาาางงง ~~~~~ "

ผู้อาวุโสเซี่ยงหรงรู้สกึ ได้ ในทันทีวา่ ทวนมังกรของหลินหมิงในคราวนี ้แทงเข้ ามา


ภายในร่องสวาทของนางลึกมากจนแทบจะแทงทะลวงผ่านผนังมดลูกของนางไป
แล้ ว ในจังหวะเดียวกันทวนมังกรของหลินหมิงไม่สามารถรัับมือกับร่องสวาทอัน
ยอดเยี่ยมของผู้อาวุโสสาวได้ อีกต่อไปนํ ้ารักของหลินหมิงกระฉูดเข้ าสูภ่ ายในตัว
ของนางอย่างท่วมถ้ น

ร่างของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงทิ ้งตัวลงทับร่างของหลินหมิงอย่างหมดแรงในตอนนี ้
แม้ แต่การหายใจของนางก็ยงั คงรู้สกึ ยากลําบาก
" น่าเสียดายเกินไปเพียงสองลมหายใจเท่านัน้ "

โดยไม่ทนั ที่ผ้ อู าวุโสเซี่ยงหรงจะพลันได้ ร้ ูสกึ เศร้ าเสียใจหรื อหายเหนื่อยแต่อย่าง


ใดหลินหมิงเป็ นฝ่ ายผลิกร่างของนางให้ นอนหงายพร้ อมกับเสียบทวนมังกรของ
เขาเข้ าไปอย่างรุนแรงอีกครัง้ เสียงครางของผู้อาวุโสเซียงหรงดังขึ ้นด้ วยความตื่น
ตระหนก

" แต่ถงึ อย่างนันข้


้ าก็ไม่ใจร้ ายเพียงพอที่จะไม่ให้ รางวัลใดกับเจ้ าเลย "

แม้ วา่ ผู้อาวุโสเซี่ยงหรงจะต้ องการกล่าวให้ หลินหมิงหยุดเพื่อให้ นางได้ พกั แต่ถงึ


อย่างนันไม่้ เพียงสะโพกของหลินหมิงจะกระแทกมาอย่างเร่าร้ อนร่างของหลินหมิ
งกดทับร่างของนางเอาไว้ อย่างแนบแน่นริ มฝี ปากของหลินหมิงเข้ าบดกับริ ม
ฝี ปากของนางจนนางรู้สกึ เจ็บริ มฝี ปากเล็กน้ อย

เทียบกับการร่วมรักก่อนหน้ านี ้ที่นางเป็ นผู้นําเองการเคลื่อนไหวของหลินหมิงนัน้


ไม่เพียงแต่เร่าร้ อนมากยิ่งกว่าเท่านัน้ ทุกสัมผัสของหลินหมิงมันเพียงพอที่จะทํา
ให้ ร่างกายของนางแทบจะระเบิดออกด้ วยความสุขสมขาทังสองข้ ้ างของนางชี ้
ตังขึ
้ ้นพร้ อมกับแหวกออกไปอย่างกว้ างขวาง ยิ่งไปกว่านันรสจู
้ บของหลินหมิงนัน้
แทบจะทําให้ สมองของนางรู้สกึ พล่าเลือน

" อาา ~~~~~ "

หลินหมิงถอนริ มฝี ปากออกจากผู้อาวุโสสาวที่ในตอนนี ้ดวงตาของนางนันเต็ ้ มไป


ด้ วยความรักใคร่อย่างแท้ จริ ง นางรู้สกึ มีความสุขเป็ นอย่างมากที่อย่างน้ อยบุรุษที่
ช่วงชิงความบริ สทุ ธ์ของนางไปนันคื ้ อหลินหมิง แม้ วา่ นางจะไม่สามารถอยูเ่ คียง
ข้ างหลินหมิงได้ ด้วยฐานะภรรยาของเขาแต่ถงึ อย่างนันเพี ้ ยงแค่การที่นางได้ ร่วม
รักกับเขาเช่นนี ้บ้ างในบ้ างครัง้ นางก็ร้ ูสกึ ว่ามันเพียงพอแล้ ว

" อ๊ ะ อ๊ ะ ทะ..ท่านยอดเยี่ยมที่สดุ เลย ~~~~ "

ใบหน้ าของผู้อาวุโสเซี่ยงส่ายไปมาด้ วยความเสี่ยวซ่านแขนทังสองข้


้ างของนาง
ในตอนนี ้โอบรอบคอบหลินหมิงอย่างหนาแน่นราวกับว่านางไม่ต้องการแยกจาก
จากหลินหมิงไปในตอนนี ้หลินหมิงก้ มลงเข้ าเด็ดดมยอดจุกชมพูสดที่กําลังตังชั
้ น
ราวกับภูเขาลูกหนึง่ ในทันทีร่างกายของนางกระตุกขึ ้นมาอย่างรุนแรง
ด้ านข้ างนันเหม่
้ ยฮวาและหว่านอิ๋งร่างกายของพวกนางทังสองร้ ้ อนผ่าวไปด้ วย
อารมณ์ความต้ องการอันรุนแรงแม้ วา่ พวกนางทังสองจะเกรงกลั
้ วหลินหมิงเป็ นอ
ย่างมากแต่ถงึ อย่างนันพวกนางไม่
้ สามารถปฎิเสธได้ วา่ กระบวนท่าเผด็จศึกสตรี
ของหลินหมิงนันยอดเยี
้ ่ยมอย่างแท้ จริ ง นี ้ยังไม่นบั รวมถึงทวนมังกรขนาดใหญ่ที่
สามารถกําราบสตรี ได้ นบั สิบนับร้ อยผ่านในคืนเดียว

ไม่เพียงเท่านันด้
้ วยภาพการร่ วมรักของหลินหมิงที่อยูต่ รงหน้ าพวกนางในตอนนี ้
แม้ วา่ จะเป็ นหญิงสาวที่รักตัวสงวนตัวมากเพียงใดเมื่อพวกนางเหล่านันได้
้ เห็น
ภาพเหล่านี ้ พวกนางเหล่านันก็ ้ จะก็ไม่ตา่ งอะไรไปจากเหม่ยฮวาและหว่านอิ๋ง
ในตอนนี ้

ร่างกายของเหม่ยฮวาและหว่านอิ๋งบิดไปมาพร้ อมกับมือข้ างหนึง่ ของพวกนางที่


ลวงเข้ าไปที่บริ เวณส่วนลับเพื่อปลดปล่อยความใคร่ที่กําลังมากล้ นอยูภ่ ายใน
ร่างกายของนาง เสียงหอบหายใจของพวกนางในตอนนี ้ค่อยๆรุนแรงขึ ้นจนแทบ
จะไม่ตา่ งจากผู้อาวุโสเซี่ยงหรงแล้ ว
แน่นอนว่าจนกระทัง่ ถึงในตอนนี ้ร่างกายของพวกนางก็ยงั คงถูไถกับร่างกายของ
หลินหมิงไปตามคําสัง่ ของเขา เมื่อเป็ นเช่นนี ้แน่นอนว่าพวกนางย่อมได้ รับ
ผลกระทบจากสัมผัสอันเร่าร้ อนซึง่ สามารถกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวได้ จาก
ความสามารถของหลินหมิง

" ข้ าสัง่ ให้ พวกเจ้ าสามารถหาความสุขใส่ตวั ได้ ? ไม่ใช่ข้าสัง่ ว่าให้ พวกเจ้ าทังสอง

ปรนนิบตั ิข้าหรื ออย่างไร "

ทังเหม่
้ ยฮวาและหว่านอิ๋งพลันตื่นตัวไปด้ วยความหวาดกลัวเมื่อได้ ยินคํากล่าว
เช่นนี ้ โดยไม่ทนั รี รออื่นใดพวกนางพลันรี บก้ มหัวขอโทษหลินหมิงอย่างไม่ถือตัว

หลินหมิงที่เพิ่งระเบิดนํ ้ารักเข้ าไปใส่ตวั ของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงอีกครัง้ จนทําให้ นาง


หมดสติไปด้ วยใบหน้ าเคลิ ้มฝันให้ ไปจ้ องมองเหม่ยฮวาและหว่านอิ๋งด้ วยสีหน้ า
แย้ มยิ ้ม โดยในทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงถูกนําออกมาจากร่องสวาทของผู้
อาวุโสเซี่ยงหรงศรี ษะของเหม่ยฮวาถูกบังคับอย่างรุนแรงพร้ อมกับปากของนางที่
ถูกใช้ เป็ นที่ทําความสะอาดทวนมังกรของหลินหมิง
ใบหน้ าของนางเต็มไปด้ วยความเจ็บปวดทวนมังกรของหลินหมิงนันไม่ ้ เพียงแต่มี
ขนาดใหญ่เกินไปแต่มนั ยังคงมีความยาวมากพอที่จะทะลวงไปถึงลําคอของนาง
ได้ ร่างกายของนางดิ ้นพล่านเพื่อพยายามให้ หลุดพ้ นจากสภาวะในตอนนี ้แต่ถงึ
อย่างนันด้้ วยเรี่ ยวแรงของนางนันไม่
้ เพียงพอที่แม้ แต่จะสามารถทําให้ หลินหมิง
รู้สกึ คันเสียด้ วยซํ ้า

หลินหมิงชักทวนมังกรของเขาออกมาหลังจากใช้ เวลาเพลิดเพลินภายในปากของ
เหม่ยฮวาไปไม่นานไม่เช่นนันแล้
้ วหญิงสาวนี ้อาจตกตายไปเนื่องจากขาดอากาศ
หายใจไปแล้ ว ในตอนนี ้หว่านอิ๋งนางแทบจะอยากจะวิ่งหนีจากหลินหมิงไป
ในทันทีเทียบกับการทารุณของผู้อาวุโสเซี่ยงหรงแล้ วนันการทารุ
้ ณจากหลินหมิง
นันแน่
้ นอนว่าย่อมร้ ายแรงมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก

หลินหมิงลุกขึ ้นยืนพร้ อมกับจับร่างของหว่านอิ๋งยกขึ ้นอย่างง่ายดายด้ วยเรี่ ยวแรง


ของหลินหมิงในตอนนี ้นํ ้าหนักของหว่านอิ๋งนันเปรี
้ ยบได้ ดงั่ ขนนกสําหรับคนทัว่ ไป
เท่านัน้ ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่ มจูโ่ จมอย่างรุนแรงอีกครัง้ จนดวงตาของหว่านอิ๋
งเบิกกว้ างพร้ อมกับเสียงโห่ร้องด้ วยความเจ็บปวดของนาง
" ไม่ใช่วา่ เจ้ าต้ องการมันเช่นนันหรื
้ อ ? อ่อดูเหมือนว่าข้ าจะเสียบเข้ าไปผิดรู "

ในตอนนี ้รูทวารของหว่านอิ๋งถูกขยายกว้ างออกมาเพื่อแหวกทางให้ กบั ทวนมังกร


ของหลินหมิง ใบหน้ าของนางเต็มไปด้ วยความอึดอัดแต่ถงึ อย่างนันที
้ ่บริ เวณร่อง
สวาทของนางกลับปรากฎนํ ้ารักที่หลัง่ ไหลออกมาอย่างท่วมถ้ น มือทังสองข้
้ าง
ของหลินหมิงจับไปที่เอวของหว่านอิ๋งพร้ อมกับยกร่างของนางขึ ้นลงอย่างรวดเร็ ว

หว่านอิ๋งในตอนนี ้นางรู้สกึ ว่าร่างกายของนางราวกับว่าจะแตกเป็ นเสี่ยงๆไม่


เพียงแต่ในแต่ละครัง้ ที่หลินหมิงกระแทกทวนมังกรของเขาเข้ ามาเสียงกระทบของ
ก้ อนเนื ้อดังสนัน่ ไปทัว่ ห้ องไม่แพ้ เสียงครางของนางเลยแม้ แต่น้อย ด้ วยท่วงท่า
ของนางที่กําลังถูกยกโดยหลินหมิงมันทําให้ นางรู้สกึ ได้ วา่ ทวนมังกรของหลินหมิง
สามารถทะลวงเข้ าไปลึกได้ ยิ่งกว่าท่วงท่าทัว่ ไปก่อนหน้ านี ้

" ตะ..ตาย ตายข้ าต้ องตายแน่ๆ อ๊ าาาา ~~~~~ "

หว่านอิ๋งในตอนนี ้แทบจะเปลี่ยนกลายเป็ นบ้ าคลัง่ ไปแล้ วจังหวะการกระแทกของ


หลินหมิงนันรุ
้ นแรงมากจนเกินไปเพียงแค่ชวั่ เวลาไม่นานนางรู้สกึ ได้ วา่ รูทวารของ
นางนันถู้ กเปิ ดกว้ างออกจนน่าจะไม่สามารถใช้ งานได้ อย่างปกติทวั่ ไปอย่าง
แน่นอน ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงมีการสัน่ ไหวอีกครัง้ ร่างของหว่านอิ่งถูกทิ ้ง
ลงพื ้นอย่างรุนแรงลงไปนัง่ พับพร้ อมกับปากของนางที่ถกู ทวนมังกรของหลินหมิง
ยัดเข้ าไปภายในตามด้ วยนํ ้ารักจํานวนมากที่พงุ่ ลงสูล่ ําคอของนางโดยตรง

หลินหมิงหันไปมองทางเหม่ยฮวาที่ในตอนนี ้เตรี ยมพร้ อมโก่งสะโพกของนางขึ ้น


พร้ อมกับมือทังสองข้
้ างของนางที่แหวกร่องสวาทของนางออกอันเป็ นการเชื ้อเชิญ
หลินหมิงแม้ วา่ นางจะเคยหลินหมิงแทงทะลวงรูทวารมาก่อนหน้ านี ้แล้ วและมัน
สามารถรักษาให้ มนั กลับมาให้ หายดังเดิมแต่ถงึ อย่างนันนางไม่
้ ต้องการให้ หลินห
มิงจูโ่ จมไปที่รูทวารมากนักแม้ วา่ มันจะรู้สกึ ยอดเยี่ยมแต่หลังจากนันนางอาจเดิ
้ น
ไม่ได้ ไปหลา◌่ ยวันเลยทีเดียว

" เห็นแก่ที่เจ้ าร้ ◌ูหน้ าที่ข้าจะเสียบไปที่รูนี ้ก็แล้ วกัน "

" ขะ...ขอบคุณ เจ้ าคะ "


หลินหมิงเสียบเข้ าไปที่ร่องสวาทของเหม่ยฮวาอย่างรุนแรงมือทังสองข้ ้ างของ
หลินหมิงตบตีไปที่แก้ มก้ นอันกว้ างใหญ่ของนางอย่างสนุกมือ ใบหน้ าของเหม่
ยฮวาบิดเบี ้ยวพร้ อมกับสีหน้ าของนางในตอนนี ้ที่เปลี่ยนไปเมื่อเจอกับการร่วมรัก
อันร้ อนแรงจากหลินหมิงไม่วา่ สตรี ที่ร่วมรักกับหลินหมิงแล้ วต้ องเจอบทรักอัน
ร้ อนแรงเช่นนี ้พวกนางย่อมไม่สามารถทนทานได้ อย่างแน่นอนแม้ วา่ นางจะมี
ประสบการณ์เช่นนี ้มาก่อนแต่สงิ่ เหล่านันล้ ้ วนไม่สามารถช่วยนางได้ แต่อย่างใด
ในตอนนี ้สิง่ ที่นางทําได้ มีเพียงภวนาให้ หลินหมิงพึงพอใจมากที่สดุ เพียงเท่านั ้

ตอนที่ 217
โดย

Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 217

ครบกําหนดเจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็ วภายในเจ็ดวันนี ้ไม่เพียงแต่หลินหมิงจะ


เพลิดเพลินกับเหม่ยฮวา หว่านอิ๋งและผู้อาวุโสเซี่ยงหรงเพียงเท่านัน้ อันที่จริ ง
แล้ วหลินหมิงใช้ เวลาร่วมกับสามสาวนี ้เพียงสองวันเท่านันส่้ วนในอีกห้ าวันที่
เหลือหลินหมิงใช้ มนั ร่วมกับผู้อาวุโสฉินเหยา เพราะถึงแม้ วา่ หลินหมิงจะ
ต้ องการเพลิดเพลินกับเหล่าสตรี แต่ถงึ อย่างนันเขาก็
้ ยงั คงต้ องให้ ความสําคัญกับ
ความแข็งแกร่งของสตรี ของเขาด้ วย

สําหรับผู้อาวุโสฉินเหยานันในตอนนี
้ ้นางได้ ก้าวเข้ าสูจ่ ดุ สูงสุดของระดับปราญช์
ขันที
้ ่สามแล้ วแม้ วา่ จะยังคงไม่สามารถทะลวงได้ แต่มนั ก็นบั ได้ วา่ เป็ นผลลัพธ์ที่น่า
ไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลยในอดีต เช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสฟางซิน่ ที่แวะมาที่
ตระกูลหลินอยูบ่ อ่ ยครัง้ ในตอนนี ้นางยังคงมีพลังปราณน้ อยกว่าผู้อาวุโสฉินเหยา
เพียงเล็กน้ อยเท่านัน้
หลินหมิงและผู้อาวุโสฉินเหยาออกเดินทางไปที่สมาคมนักปรุงยาตามนัดหมาย
ของพวกเขาภายในห้ องของอาจารย์สาวสวยมีร่างของหญิงสาวงามสง่าอยู่
ด้ วยกันทังหมดสี
้ ่คน สําหรับหญิงสาวคนที่สี่นอกเหนือจากผู้อาวุโสซูหลิง่ ผู้
อาวุโสฟางซิน่ แล้ วก็อาจารย์สาวสวยของเขานางกลับเป็ นนายหญิงแห่งตระกูล
หลิว หย่าเฟย

จากสงครามในครัง้ ก่อนนันทํ้ าให้ หลิวจงเทียนได้ รับบาดเจ็บสาหัสอยูไ่ ม่ใช่น้อย


ดังนันแล้
้ วเขาจึงไม่สามารถมาร่วมการสํารวจครัง้ นี ้ได้ แต่ถงึ อย่างนันทาง ้
ตระกูลหลิวก็ไม่อาจปฎิเสธความชวนจากทางสมาคมนักปรุงยาได้ เช่นเดียวกัน
และนี ้ยังไม่รวมถึงโอกาสที่ตระกูลของพวกเขาจะได้ รับส่วนแบ่ง
เล็กๆน้ อยๆ เทียบกับเหล่าผู้คนภายในกลุม่ นันไม่ ้ ต้องสงสัยเลยว่านายหญิงแห่ง
ตระกูลหลิวนางจัดได้ วา่ เป็ นคนที่ออ่ นแอ่ที่สดุ หากไม่นบั ผู้อาวุโสซูหลิง่

แววตาของหย่าเฟยจ้ องมองมาที่หลินหมิงด้ วยสายตาดุร้ายอันที่จริ งแล้ วในอดีต


ความแข็งแกร่งของนางนันเหนื
้ อกว่ากระทัง่ ผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยา
แต่ถงึ อย่างนันด้
้ วยการที่นางต้ องเจอกับเหตการณ์ไม่คาดฝันจากเจ้ าพลังงาน
ประหลาดมันจึงทําให้ นางนอนหลับไม่ได้ สติไปนานหลายปี นนจึ ั ้ งทําให้ ในตอนนี ้
ทังผู
้ ้ อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิน่ เหนือกว่านาง แต่ถงึ อย่างนันหากเป็
้ น
โดยปกติแล้ วนางเชื่อว่าระยะห่างของพวกนางก็ไม่สมควรห่างกันมากถึงเพียงนี ้

แน่นอนว่านางรู้ดีวา่ ทังหมดนี
้ ้ย่อมเป็ นฝี มือของหลินหมิง ! กระทัง่ นางเองก็
ยังคงได้ รับผลประโยชน์จากหลินหมิงในการก้ าวเข้ าสูร่ ะดับปราญช์ด้วย
เช่นเดียวกัน

หลินหมิงเมินเฉยต่อสายตาของหย่าเฟยแม้ วา่ นางจะจ้ องมองมาที่เขาด้ วยสายตา


ที่ดรุ ้ ายแต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงยังคงมัน่ ใจว่านางจะไม่มีทางทําเรื่ องเลวร้ ายกับ
เขาอย่างแน่นอน ในเมื่อเขาเป็ นถึงลูกเขยของนางและยังคงเป็ นผู้ที่ช่วยชีวิตนาง
แล้ วเหตุใดนางถึงต้ องการทําสิง่ เลวร้ ายกับเขากัน ?

ในตอนนี ้ผู้อาวุโสซูหลิง่ กําลังหมกหมุน่ อยูก่ บั การเตรี ยมกระดานค่ายกลเพื่อ


เคลื่อนย้ ายเช่นเดียวกันกับในก่อนหน้ านี ้ที่ผ้ อู าวุโสฟางซิน่ ได้ พาหลินหมิงไปที่ป่า
มรณะ แต่ถงึ อย่างนันสํ ้ าหรับในคราวนี ้มันแตกต่างออกไปเล็กน้ อยไม่เพียงแต่
จะมีจํานวนผู้คนที่มากกว่าแต่บริ เวณโดยรอบของอาณาเขตลึกลับแห่งนันมั ้ น
ยังคงเต็มไปด้ วยพลังงานอย่างหนาแน่นดังนันมั้ นจึงไม่ใช่เรื่ องแปลกที่ผ้ อู าวุโสซู
หลิง่ จะต้ องใช้ เวลาในการเตรี ยมกระดานค่ายกลสักเล็กน้ อย

เมื่อเป็ นเช่นนี ้ทังผู


้ ้ อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยาจึงต้ องร่วมมือเข้ า
ช่วยเหลือ อาศัยในจังหวะนี ้หย่าเฟยนางได้ เข้ าเคลื่อนไหนมาข้ างกายหลินหมิงอ
ย่างรวดเร็ ว

" นี ้หรื อว่าเจ้ าก็ทํามันกับพวกนางด้ วย ? "

เสียงกระซิบของหย่าเฟยดังขึ ้นที่ข้างหูของหลินหมิงอย่างแผ่วเบามันยากที่หลินห
มิงจะอดจินตนการถึงเรื อนร่างอันงดงามของแม่ยายของเขาผู้นี ้ในครัง้ อดีตไป
ไม่ได้ ริมฝี ปากสีชมพูอวบอิ่มที่อยูห่ า่ งจากใบหน้ าของเขาไปไม่กี่ชว่ งห่างไม่ใช่วา่
ในตอนนี ้มีผ้ อู าวุโสซูหลิง่ และอาจารย์สาวสวยของเขาอยูม่ ีหรื อที่แม่ยายของเขา
นางนี ้จะรอดพ้ นเงื ้อมมือของหลินหมิง ?

หลินหมิงผงกรับโดยไม่มีทา่ ทีปฎิเสธแต่อย่างใดสําหรับหย่าเฟยแล้ วนันนางถึ


้ งกับ
ตื่นตะลึงแม้ วา่ นางจะคาดเดาความสัมพันธ์ของหลินหมิงและผู้อาวุโสสาวอย่างผู้
อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิน่ เอาไว้ บ้างแล้ วแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นก็ยากที่จะเชื่อ
ได้ วา่ ตัวตนระดับสูงอย่างพวกนางทังสองนั
้ นจะยิ
้ นยอมให้ กบั หลินหมิงแต่
โดยง่าย แม้ แต่ในอดีตในยามที่พวกนางทังสองเป็
้ นดอกไม้ ที่งดงามสมบูรณ์
พร้ อมเหล่าบุรุษไม่เพียงแต่ภายในเมืองเท่านันกระทั
้ ง่ คุณชายนับร้ อยนับพันจาก
ต่างเมืองก็ยงั มาหาเพื่อพวกนางทังสองเพื
้ ่อคาดหวังโอกาสอันเล็กน้ อย

" หรื อว่าท่านหึงเช่นนันหรื


้ อ?"

ใบหน้ าของหย่าเฟยกลายเป็ นบิดเบี ้ยวนางแทบอยากจะตะโกณด่าท้ อหลินหมิง


เสียแต่ตอนนี ้ มันมีลกู เขยที่ไหนบ้ างที่กล้ ากล่าวกับแม่ยายของพวกเขาเช่นนี ้กัน

" นันมั
้ นย่อมเป็ นความผิดของข้ าเองที่ละเลยไม่ได้ ดแู ลท่านในก่อนหน้ าดังนัน้
แล้ วท่านไม่ต้องเป็ นกังวลไปคราวหน้ าข้ าจะหาเวลาไปหาท่านอย่างแน่นอน "

" เจ้ า...! "


หย่าเฟยเก็บคํากล่าวทังหมดลงไปในคอพร้
้ อมกับเดินหลีกหนีจากหลินหมิง
มา แต่ถงึ อย่างนันไม่
้ วา่ ด้ วยเหตุผลอันใดในตอนนี ้หลังจากที่นางได้ ยินคํากล่าว
ของหลินหมิงมันกลับทําให้ หวั ใจของนางรู้สกึ หวูบวาบขึ ้นอย่างร้ อนแรงอีกครัง้
ใช้ เวลาเพียงไม่นานกระดานค่ายกลของผู้อาวุโสซูหลิง่ ก็ปรากฎร่องรอยพลังงาน
อย่างหนาแน่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้ วยการเรี ยกใช้ กระดานพลังงานในครัง้ นี ้มัน
อาจเทียบเท่ากับสมบัตขิ องตระกูลระดับล่างได้ เลยทีเดียว !
ทังหมดยื
้ นล้ อมเป็ นวงกลมตามคํากล่าวของผู้อาวุโสซูหลิง่ เพียไม่นานก็ปรากฎ
แสงสว่างขึ ้นจากกระดานค่ายกลรอบตัวพวกเขาพร้ อมกับบรรยากาศโดยรอบที่
แปรเปลีย่ นไปในทันที หลินหมิงรู้สกึ มึนหัวเล็กน้ อยแต่เพียงไม่นานหลังจากนัน้
เมื่อหลินหมิงลืมตาขึ ้นมาเขาก็พบว่าวิวทิวทัศน์รอบข้ างของเขาล้ วนไม่ใช่ภายใน
ห้ องของอาจารย์สาวสวยของเขาอีกต่อไป

รอบข้ างของหลินหมิงในตอนนี ้ล้ วนเป็ นป่ าทึบที่เต็มไปด้ วยพลังงานบริ สทุ ธ์


กระทัง่ มากกว่าภายในสํานักวังจันทราอยูห่ ลายเท่านัก ที่รอบข้ างแม้ วา่ หลินห
มิงจะไม่ร้ ูเรื่ องเกี่ยวกับสมุนไพรมากสักเท่าใดแต่เพียงแค่ปรายตามองก็ร้ ูแล้ วา่
สมุนไพรเหล่านี ้ล้ วนมีคณ ุ ค่าอยูไ่ ม่ใช่น้อย ที่สําคัญที่สดุ ก็คือเบื ้องหน้ าของเขาที่
มีสงิ่ ก่อสร้ างคลายกับประตูที่เต็มไปด้ วยลวดลายอัขระที่หลินหมิงไม่แม้ แต่จะ
เข้ าใจได้ เพียงสักส่วนเดียว
" เจ้ าสามารถแก้ คา่ ยกลนี ้ได้ หรื อไม่ ? "
อาจารย์สาวสวยของหลินหมิงกล่าวถามกับผู้อาวุโสซูหลิง่ ที่ผงกหัวรับอย่าง
ง่ายดายอันที่จริ งแล้ วหลินหมิงแม้ วา่ หลินหมิงจะรู้วา่ สิง่ ก่อสร้ างตรงหน้ าของเขานี ้
มีการวางค่ายกลเพื่อปกปิ ดและป้องกันการเข้ าไปยังอาณาเขตภายในแต่ถงึ อย่าง
นันจากลวดลายที
้ ่จารึกอัขระเหล่านี ้มันกระทัง่ ไม่ใช่ภาษาโบราณของเผ่ามนุษย์
เพราะไม่เช่นนันแล้
้ วหลินหมิงที่ได้ รักความทรงจํามาจากชายวัยกลางคนก่อน
หน้ าก็สมควรมีความคุ้นเคยบ้ างไม่ใช่น้อย แต่ถงึ อย่างนันผู ้ ้ อาวุโสซูหลิง่ กลับ
ผงกหัวรับว่านางสามารถแก้ คา่ ยกลเหล่านี ้ได้ ?
หลินหมิงไม่ร้ ูสกึ แปลกใจเลยที่เหตุใดระดับการบ่มเพาะของนางถึงอยูใ่ นขันจอม ้
ยุทธ์ระดับเริ่ มต้ นแท้ จริ งแล้ วผู้อาวุโสสาวนางนี ้นางกลับใช้ เวลาไปอย่างมากกลับ
การศึกษาสิง่ อื่นเสียมากกว่า
การแก้ คา่ ยกลนันตกเป็
้ หน้ าที่ของผู้อาวุโสซูหลิง่ โดยมีจหู นิงเอ๋อร์ คอยเฝ้าระวังให้
ส่วนกลุม่ ที่เหลือนันได้
้ แบ่งแยกออกไปสํารวจพื ้นที่โดยรอบแม้ วา่ พวกเขาอาจไม่
โชคดีเท่ากับหลิวฉวนยูร์ที่ได้ รับความรู้ตกทอดแต่ถงึ อย่างนันมั ้ นก็อาจมีสมบัติ
บางอย่างที่ยงั คงเหลืออยูบ่ ้ าง ?
แต่ถงึ อย่างนันพวกเขาทุ
้ กคนล้ วนพบกับความผิดหวังแม้ วา่ จะสามารถเก็บ
สมุนไพรที่มีคา่ ได้ บ้างแต่ถงึ อย่างนันในใจของพวกเขาก็
้ ยงั คงปราถนาที่จะได้ เจอ
โชคลาภก้ อนใหญ่ ทันใดนันเมื ้ ่อหลินหมิงได้ ยินเสียงที่ดงั ขึ ้นที่บริ เวณของผู้
อาวุโสซูหลิง่ โดยไม่รอช้ าทังหมดรี
้ บกลับไปเข้ าไปรวมกลุม่ กันอีกครัง้ ในตอนนี ้
สิง่ ก่อสร้ างที่มีอขั ระแปลกประหลาดปรากฎอยู่ อัขระเหล่านันล้้ วนเคลื่อนไหว
อย่างรวดเร็ วพร้ อมกับปลดปล่อยพลังงานที่อนั หนาแน่นออกมา
ตอนที่ 218

โดยไม่รอช้ ากลุม่ ของหลินหมิงได้ เข้ าไปยังอาณาเขตลึกลับในทันทีภาพวิวทิวทัศน์


ของพวกเขาล้ วนเปลี่ยนแปลงไปอีกครัง้ ในตอนนี ้รอบกายของพวกเขามันเป็ น
อาณาเขตกว้ างขวางที่ไร้ ที่สิ ้นสุดที่ประกอบไปด้ วยศากปรักหักพักอยูม่ ากมาย สิง่
ที่ทําให้ หลินหมิงตื่นตะลึงก็คือศากสิง่ ก่อสร้ างเหล่านี ้แม้ วา่ มันจะถูกทําลายไป
แล้ วก็ตามแต่ถงึ อย่างนันด้
้ วยร่องรอยพลังงานที่แผ่ออกมาจากตัวสิง่ ก่อสร้ าง
เหล่านี ้มันสามารถอธิบายได้ อย่างเด่นชัดว่าในอดีตสิง่ ก่อสร้ างเหล่านี ้ล้ วนเป็ น
ของชันเยี
้ ่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย

มันอาจเป็ นสิง่ ก่อสร้ างในยุคเดียวกันกับชายวัยกลางคนที่หลินหมิงได้ รับมรดก


สืบทอดมา แต่ถงึ อย่างนันในตอนนี
้ ้หลินหมิงยังคงไม่สามารถหาความเกี่ยวเนื่อง
กันกับอาณาเขตลึกลับแห่งนี ้กับพระราชวังโบราณได้ แม้ วา่ พวกมันทังสองจะเป็
้ น
สถานที่ที่เต็มไปด้ วยพลังงานเช่นเดียวกันแต่เห็นได้ ชดั ว่ารูปแบบการสร้ างและ
อักขระที่ใช้ ล้วนแตกต่างกันออกไปโดยสิ ้นเชิง
แม้ วา่ เมื่อเขามาภายในอาณาเขตลึกลับแห่งนี ้โดยในทันทีทกุ คนล้ วนตรวจสอบ
บริ เวณโดยรอบของพวกเขาแต่ถงึ อย่างนันก็ ้ ไม่ปรากฎร่องรอยของสิง่ มีชีวิต
แตกต่างจากผู้อาวุโสซูหลิง่ ที่ขมวดคิ ้วอย่างหนัก นางจ้ องมองไปที่บริ เวณโดยรอบ
ด้ วยสายตาที่หวาดระแวงระวังเป็ นอย่างมาก เมื่อเห็นเช่นนี ้ทุกคนล้ วนเพิ่มความ
ระมัดระวังมากขึ ้นอีกเท่าตัว

แม้ วา่ ผู้อาวุโสซูหลิง่ จะเป็ นคนที่ออ่ นแอ่ที่สดุ แต่ในเรื่ องการสํารวจนันนางยอด



เยี่ยมยิ่งกว่าใครในกลุม่ พวกเขาทังหมด ้

" ฮ่าๆ ลูกหลานเมื่อเห็นบรรพบุรุษนันไม่


้ ใช่วา่ พวกเจ้ าสมควรทําความเคารพ
เช่นนันหรื
้ อ?"

เสียงของชายคนหนึง่ ดังขึ ้นพร้ อมกับแรงกดดันโดยรอบกลุม่ ของหลินหมิงแม้ แต่


ในตอนนี ้ก็ยงั ไม่มีแม้ แต่คนเดียวภายในกลุม่ ของหลินหมิงที่สามารถระบุตําแหน่ง
ที่แน่ชดั ของอีกฝ่ ายได้ ทันใดนันรอบข้
้ างของพวกเขาพลันปรากฎร่างของกลุม่
นักรบปรหลาดที่ทําให้ ดวงตาของทุกคนเบิกกว้ าง
กลุม่ ของนักรบเหล่านี ้ล้ วนมีประมาณด้ วยกันทังสิ
้ ้นสิบคนด้ วยกัน และพลังของ
พวกเขาแต่ละคนล้ วนไม่ตํ่ากว่าระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สอง แต่นี ้ยังคงไม่ใช่สงิ่ ที่น่า
กังวลมากที่สดุ จากคํากล่าวของชายคนหนึง่ ในกลุม่ ของพวกเขาที่กล่าวอ้ างว่า
ตนเป็ นบรรพบุรุษของกลุม่ ของหลินหมิงแต่ถงึ อย่างนันรู ้ ปร่างและลักษณะของ
พวกเขาล้ วนแตกต่างออกไปจากมนุษย์โดยสิ ้นเชิง

แม้ วา่ พวกเขาส่วนใหญ่จะมีรูปร่างที่คล้ ายคลึงกับมนุษย์แต่ถงึ อย่างนันมั


้ นยังคงมี
บางส่วนของร่างที่แตกต่างออกไปอย่างเช่นในบางคนที่มีแขนลักษณะเป็ น
รูปแบบอันน่ากลัวที่คล้ ายกับอุ้งมือของปี ศาจ ! ที่เด่นชัดยิ่งไปกว่านันก็
้ คือปี กสีดํา
สองข้ างบนหลังของพวกเขาเพียงแค่รูปลักษณเช่นนี ้มันก็สมควรกล่าวได้ วา่ วพวก
เขาเหล่านี ้ย่อมไม่ใช่บรรพบุรุษจากเผ่านพันธ์มนุษย์อย่างแน่นอน

ชายคนที่เป็ นกล่าวในตอนแรกเดินออกมานําหน้ ากลุม่ ของนักรบทังสิ ้ บคนพร้ อม


กับยืนประจัญหน้ ากลุม่ ของหลินหมิงอย่างไม่กลัวเกรงไม่ใช่วา่ เขามีพลังที่
เหนือกว่าอาจารย์สาวสวยของเขาอันที่จริ งแล้ วแม้ วา่ เขาจะเป็ นคนที่แข็งแกร่ง
ที่สดุ ในนักรบทังสิ
้ บนี ้แต่พลังของเขายังคงอยูใ่ นระดับปราญช์ขนที
ั ้ ่หก
เช่นเดียวกันกับอาจารย์สาวสวยของเขา
สายตาของนักรบทังสิ ้ บกวาดมองไปที่กลุม่ ของหลินหมิงด้ วยสายตาไม่เป็ นมิตร
บางคนอดไม่ได้ ที่จะนํ ้าลายไหลออกมาเป็ นทางยาวจนแทบจะท่วมพื ้นเมื่อพวก
เขาได้ เห็นกลุม่ หญิงสาวผู้งดงามเหล่านี ้ เทียบกับบุรุษในยุคปั จจุบนั นี ้พวกเขาจะ
ไม่สนใจในตัวหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าพวกเขาหรื อห่างไกลกับพวกเขามาก
เกินไป แต่สําหรับบุรุษในยุคอดีตที่มีอายุยืนยาวนับพันปี แล้ วนันอายุ
้ ของพวกเขา
ล้ วนไม่สามารถปิ ดกันสิ้ ง่ เหล่านี ้ได้
ดังนันแล้
้ วมันจึงไม่ใช่เรื่ องแปลกที่ในตอนนี ้นักรบทังสิ
้ บคนกําลังวาดฝันถึงคําคืน
อันร้ อนแรงกับหญิงสาวผู้งดงามตรงหน้ าของพวกเขาทังหมด ้

ในความคิดของพวกเขาแล้ วนันแม้ ้ วา่ จะมีหญิงสาวที่แข็งแกร่งที่สดุ ใน


ระดับปราญช์ขนที
ั ้ ่หกแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นยังคงไม่สามารถเปรี ยบเทียบได้ กบั ความ
แข็งแกร่งของพวกเขา แต่เดิมทีแล้ วในอดีตพวกเขาแต่ละคนล้ วนเป็ นยอดฝี มือที่มี
ระดับการบ่มเพาะในระดับองครักษ์ เป็ นอย่างน้ อย แต่เนื่องจากในอดีตอาณาจักร
ของพวกเขาได้ เข้ าร่วมกับเผ่าพันธ์ปีศาจเพื่อต่อต้ านสวรรค์นนจึ
ั ้ งเป็ นเหตุให้
ร่างกายของพวกเขาได้ รับการเปลี่ยนพร้ อมกับพลังที่เพิ่มขึ ้น
แม้ วา่ ระดับพลังของพวกเขาในตอนนี ้จะเท่ากับกลุม่ ของหลินหมิงแต่นนย่ ั ้ อม
ไม่ใช่ปัญหาเทียบกับลูกหลานเผ่านพันธ์มนุษย์ของพวกเขาที่มีพลังปราณระดับ
เดียวกันแล้ วพวกเขายังคงได้ เปรี ยบในเรื่ องของความชํานาญและประสบการณ์
เป็ นอย่างมาก อีกทังมั้ นเห็นได้ ชดั เจนว่าในกลุม่ ตรงหน้ าของพวกเขาในตอนนี ้
แม้ วา่ จะมีด้วยด้ วยกันทังสิ
้ ้นหกคนแต่มีถงึ สองคนที่ยงั ไม่แม้ กระทัง่ เข้ าสู่
ระดับปราญช์

เห็นได้ ชดั ว่าผู้อาวุโสซูหลิง่ และอาจารย์สาวสวยของเขาเริ่ มที่จะคาดเดาตัวตน


ของอีกฝ่ ายได้ แล้ วถึงอย่างไรเสียมันก็เคยมีบนั ทึกโบราณเกี่ยวกับอาณาจักรที่หกั
หลังเผ่านพันธุ์มนุษย์ด้วยกันเองและหันไปเข้ าร่วมมือกับเผ่าพันธ์ปีศาจเพื่อพลังที่
เพิ่มขึ ้นของพวกเขา แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ มีเพียงแต่ข้อดีเท่านันหากคนใดที
้ ่ไม่
สามารถรองรับพลังเหล่านันได้ ้ พวกเขาล้ วนจะต้ องตกตายไปในทันที ผู้คนจึง
เรี ยกกล่าวอาณาจักรแห่งนี ้ว่าอาณาจักรอสูร !

แน่นอนว่าหากเทียบความแข็งแกร่งแล้ วพวกเขาเหล่านี ้ล้ วนยังไม่แข็งแกร่ง


เท่ากับชายวัยกลางคนที่หลินหมิงได้ รับมรดกตกทอดมา ประวัตคิ วามเป็ นมาของ
อาณาจักรอสูรแห่งนี ้ล้ วนเกิดขึ ้นย้ อนไปเพียงเกือบหนึง่ พันปี เท่านันในขณะที
้ ่
พระราชวังโบราณมีอายุไปหลายพันปี แล้ ว
กลุม่ นักรบตรงหน้ าเตรี ยมปลดปล่อยพลังปราณของเขาออกมาเพื่อกําราบกลุม่
ของหลินหมิงอันที่จริ งพวกเขาสมควรใช้ กําลังคนเพียงครึ่งเดียวก็สามารถที่จะ
เอาชนะกลุม่ ของหลินหมิงได้ อย่างแน่นอนแต่หากเป็ นเช่นนันไม่ ้ ใช่วา่ ผู้ที่ไม่ลงมือ
อาจไม่ได้ รับรางวัลอันยอดเยี่ยมนันคื ้ อเรื อนร่างของสาวงามทังห้
้ าตรงหน้ า ?
แน่นอนว่าเมื่อเป็ นเช่นนี ้ย่อมไม่มีใครที่จะไม่คิดที่จะลงมือ

จูหนิงเอ๋อร์ ออกมายืนบังหน้ ากลุม่ เอาไว้ พร้ อมกับผู้อาวุโสซูหลิง่ ที่ถอยไปด้ านหลัง


อย่างไรเสียนางนับได้ วา่ เป็ นคนที่ออ่ นแอ่ที่สดุ แต่ถงึ อย่างนันมั
้ นใช่วา่ นางจะไม่มี
ความสามารถในด้ านการต่อสู้ กระดานค่ายกลจํานวนสามแผ่นถูกนําออกมาวาง
เรี ยงเป็ นแนวเดียวกัน มือของผู้อาวุโสซูหลิง่ ตะวัดเขียนอัขระไว้ บนกระดานอาคม
อย่างรวดเร็ ว

เมื่อเห็นเช่นนี ้แม้ แต่นกั รบที่แข็งแกร่ งที่สดุ ตรงหน้ าก็ยงั คงขมวดคิ ้วหากเป็ นการ
ประลองหนึง่ ต่อหนึง่ ผู้ใช้ คา่ ยกลนันล้ ้ วนอ่อนแอ่เป็ นอย่างมากแต่หากเป็ นการ
ต่อสู้แบบรวมกลุม่ นันผู ้ ้ ใช้ คา่ ยกลเพียงคนเดียวอาจสามารถเปลี่ยนผลการต่อสู้
จากหน้ ามือเป็ นหลังมือได้ ในพริ บตาเดียว
" ลงมือขัดขวางนางก่อนนางเป็ นผู้เชี่ยวชาญค่ายกล ! "

ในจังหวะนี ้ไม่มีใครที่คดิ ที่จะรอช้ าแต่อย่างใดอาวุธของพวกเขาทุกคนล้ วนถูกนํา


ออกมามาพร้ อมกับพลังปราณของพวกเขาที่ระเบิดออกมาอย่างบ้ าคลัง่
เช่นเดียวกันกับกลุม่ ของหลินหมิงที่เตรี ยมพร้ อมกับสูอ่ ยูต่ ลอดเวลาแต่ถงึ อย่าง
นันมั
้ นยังคงเป็ นการต่อสู้ที่ยากลําบากสําหรับพวกเขาเป็ นยากมาก

ไม่เพียงแต่จะเสียเปรี ยบในเรื่ องกําลังคนแต่ความแข็งแกร่งโดยรวมพวกเขายังคง


ด้ อยกว่า สําหรับหลินหมิงแล้ วนันแม้ ้ วา่ ในอดีตเขาจะสังหารผู้เชี่ยวชาญที่มีพลัง
ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองมาได้ แล้ วแต่ในตอนนันเขาได้
้ ปลดปล่อยทักษะที่เขามี
ออกไปแทบจะทังสิ ้ ้น แน่นอนว่าผลลัพธ์สว่ นใหญ่มาจากทักษะจิตสายฟ้าของเขา
นันหมายความว่
้ าหากหลินหมิงต้ องการที่จะเอาชนะกลุม่ ของนักรบเหล่านี ้ที่มี
ระดับพลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองเขาจําเป็ นที่จะต้ องใช้ ทกั ษะจิตสายฟ้าแต่
นันจะทํ
้ าให้ ร่างกายของเขารับภาระอย่างหนักในภายหลังไม่มีใครสามารถคาด
เดาได้ วา่ ต่อจากนี ้ไปพวกเขาจะต้ องพบเจอศัตรูอื่นใดอีก
แต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงย่อมไม่มีทางเลือกอื่นในระหว่างนี ้แม้ วา่ ในสภาวะที่
หลินหมิงจะยังไม่ใช้ ทกั ษะจิตสายฟ้มนั จะทําให้ เขาสามารถต้ านทานผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ขนสองที
ั้ ่ได้ บ้างแต่นนไม่
ั ้ เพียงพอสําหรับการเอาชนะ

ทันใดนันขณะที
้ ่ทงสองฝ่
ั้ ายเตรี ยมเข้ าโจมตีกนั ปรากฎแสงหวาบที่บริ เวณด้ านข้ าง
ของพวกเขา โดยมีกลุม่ คนอีกจํานวนห้ าคนปรากฎขึ ้น !
ตอนที่ 219
โดย

Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 219

กลุม่ คนที่มาใหม่ทงห้ ั ้ าทําให้ เหล่าผู้อาวุโสสาวเบิกคิ ้วด้ วยความแปลกใจเล็กน้ อย


แน่นอนว่ากลุม่ คนเหล่านี ้เป็ นที่ร้ ูจกั นี ้สําหรับพวกนางอาจมีเพียงแต่หลินหมิง
เท่านันที
้ ่ไม่ร้ ูจกั พวกเขา สําหรับนักรบโบราณทังสิ ้ บพวกเขาขมวดคิ ้วแน่นพร้ อม
กับจ้ องมองไปที่ผ้ มู าใหม่ หากเป็ นเพียงเฉพาะกลุม่ ของหลินหมิงพวกเขาย่อมไม่
มีปัญหาที่จะจัดการแต่หากรวบเข้ ากับกลุม่ ใหม่นี ้แล้ วที่มีผ้ ทู ี่แข็งแกร่งที่สดุ อยูใ่ น
ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หกและยังมีผ้ ทู ี่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองและสามอีก
สองและหนึง่ คนตามลําดับ

แม้ วา่ ในส่วนของคนที่ห้าที่เป็ นหญิงสาวรุ่นเยาว์ที่สดุ ในกลุม่ ของพวกเขาจะมี


ระดับพลังอยูใ่ นขันจอมยุ
้ ทธ์ขนเริ ้ ่อต้ องเผชิญหน้ ากับผู้ที่ีมี
ั ้ มต้ นแต่ถงึ อย่างนันเมื
พลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หกถึงสองคนนันมั ้ นไม่ใช่เรื่ องง่ายที่พวกเขาจะ
สามารถรับมือได้ โดยง่ายอย่างแน่นอน
ชายผู้นํากลุม่ ผู้มาใหม่เป็ นชายวัยสี่สบิ ปี ที่มีความแข็งแกร่งที่สดุ เขาก้ าวเดิน
ออกมาด้ านหน้ าพร้ อมกับพยักหน้ าให้ กบั จูหนิงเอ๋อร์ อย่างรู้กนั สําหรับจูหนิงเอ๋อร์
และผู้อาวุโสสาวทังหมดพวกนางต่
้ างรู้ดีวา่ กลุม่ คนเหล่านี ้คือตัวตนระดับสูงจาก
อาณาจักรนภา แม้ วา่ ในความเป็ นจริ งแล้ วนันอาณาจั ้ กรของพวกเขาจะไม่ได้ มี
ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นแต่อย่างใดกับอาณาจักรนภาซํ ้าด้ วยอาณาเขตที่
ใกล้ เคียงกันมันจึงทําให้ พวกเขามีการปะทะกันอยูบ่ อ่ ยครัง้

แต่ถงึ อย่างนันในสถานการณ์
้ ในตอนนี ้พวกเขาล้ วนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก
ร่วมมือกันแม้ วา่ กลุม่ จากอาณาจักรนภาจะเพิ่งมาใหม่แต่เมื่อพวกเขาได้ เห็น
รูปร่างของนักรบโบราณตรงหน้ าพวกเขาก็พอจะเข้ าไปใจสิง่ ต่างๆได้ หลายส่วน

แม้ วา่ หลินหมิงจะไม่ร้ ูวา่ กลุม่ คนผู้มาใหม่นนเป็


ั ้ นใครแต่จากการเคลือ่ นไหวของผู้
อาวุโสสาวของเขาแล้ วนันนั ้ นหมายความว่
้ านพวกเขาย่อมไม่ใช่ศตั รูอย่างน้ อย
ที่สดุ ก็ในตอนนี ้ สถานการณ์ในตอนนี ้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ ้นเชิงความกดดัน
ทังหมดล้
้ วนถูกโยนไปทางฝั่งนักรบโบราณทังหมดสิ ้ ้นแม้ วา่ พวกเขาจะมีนกั รบที่
อยูใ่ นระดับปราญช์มากกว่าแต่ถงึ อย่างนันทางฝั ้ ่งของศัตรูของพวกเขายังคงมี
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หกถึงสองคนความแตกต่างนี ้ไม่อาจชดใช้ ได้ ด้วย
พลังของผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์เพียงคนหรื อสองคน
" ผู้อาวุโสเป่ ยอย่างที่ทา่ นเห็นนักรบเหล่านี ้ล้ วนเป็ นตัวตนจากในอดีตที่สร้ าง
ความเสียหายต่อเผ่าพันธ์มนุษย์ ดังนันแล้ ้ วมันสมควรเป็ นหน้ าที่ของพวกเราที่จะ
ลบล้ างตัวตนที่สร้ างความเสื่อมเสียให้ กบั เผ่าพันธ์ของเรา อีกทังบนร่
้ างกายของ
พวกเขาเหล่านันสมควรมี
้ ของมีคา่ อยูไ่ ม่ใช่น้อยดังนันแล้
้ วหากฝั่งใดสามารถ
สังหารนักรบเหล่านันได้้ สมบัติของนักรบเหล่านันจะตกเป็้ นของผู้สงั หารท่านคิด
ว่าเช่นไร ? "

เสียงอันไพเราะของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงดังขึ ้นเห็นได้ ชดั ว่ากระทัง่ นางก็


ยังคงให้ ความสําคัญกับชายหัวหน้ ากลุม่ ผู้มาใหม่ ผู้อาวุโสเป่ ยหรื อชายหัวหน้ า
กลุม่ แย้ มยิ ้มให้ กบั คํากล่าวของจูหนิงเอ๋อร์ สําหรับเขานันสถานการณ์
้ ในตอนนี ้
เป็ นสิง่ ที่เกินกว่าที่เขาคาดเดาเอาไว้ มากแน่นอนว่านี ้อาจเป็ นโอกาสดีสําหรับการ
สังหารตัวตนระดับสูงจากอาณาจักรตรงข้ ามแต่ถงึ อย่างนันพวกเขาจะไม่

สามารถรอดชีวิตไปได้ อย่างแน่นอนหลังจากนัน้

ไม่เพียงเท่านันด้
้ วยคํากล่าวของจูหนิงเอ๋อร์ แม้ วา่ มันจะดูเหมือนเป็ นคํากล่าว
โดยทัว่ ไปแต่แท้ จริ งแล้ วมันแฝงความนัยเอาไว้ บางส่วน นันคื
้ อหากพวกเขาไม่ทมุ่
กําลังอย่างเต็มที่นนหมายความว่
ั้ าพวกเขาอาจไม่ได้ รับส่วนแบ่งเท่าที่ควร
หลังจากเสร็ จศึกแต่ถงึ อย่างนันหากพวกเขาใช้
้ กําลังไปจนหมดในตอนท้ ายพวก
เขาก็อาจโดนตลบหลังได้ ด้วยเช่นเดียวกัน

" ข้ าคิดเห็นเช่นเดียวกัน "

ทันทีที่กล่าวเสร็จดาบขนาดใหญ่ถกู นําออกมาจากแหวนมิติของผู้อาวุโสเป่ ยอ
ย่างรวดเร็ วตัวดาบนันมี ้ ขนาดใหญ่เกินกว่าที่บรุ ุษโดยทัว่ ไปจะสามารถถือมันได้
อย่างแน่นอน รูปแบบขวบนรบของทางฝั่งอาณาจักรนภานันคล้ ้ ายคลึงกับทางฝั่ง
ของหลินหมิง แน่นอนว่าพวกเขาเองก็ยอ่ มมีผ้ เู ชี่ยวชาญด้ านค่ายกลอยู่
เช่นเดียวกันนางคือหญิงสาวที่มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ขนเริ ั ้ ่ มต้ นหากดูเพียง
ผิวเพินแล้ วนางสมควรมีอายุราว24-25 ปี เพียงเท่านันแต่้ ถงึ อย่างนันจากทั้ กษะที่
นางได้ เริ่ มใช้ อย่างรวดเร็ วรวมถึงกระดานอาคมที่ถกู นําออกมาวางด้ วยกันสอง
แผ่น

' นางเองก็เป็ นผู้เชี่ยวชาญด้ านค่ายกล ? '


ในใจของผู้คนถึงกับตื่นตะลึงแท้ จริ งแล้ วสาวสวยผู้งดงามไม่แพ้ กบั อาจารย์สาว
สวยของเขาทุกกริ ยาของนางเคลื่อนไหวราวกับนางฟ้าบนสวรรค์กําลังดีดพิณ
แน่นอนว่านางยังคงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะเทียบเท่ากับผู้อาวุโสซูหลิงได้ ่่
แต่ถงึ อย่างนันด้ ้ วยอายุที่แตกต่างกันเกือบสิบปี ความสามารถของนางนันสมควร ้
่่ ไ่ ม่ใช่น้อย หากให้ เวลานางอีกเพียสาม
เรี ยกได้ วา่ ใกล้ เคียงกับผู้อาวุโสซูหลิงอยู
หรื อสี่ปีไม่มีผ้ ใู ดสามารถคาดเดาว่านางจะสามารถก้ าวหน้ าไปได้ มากเพียงใด

หลินหมิงสงบใจลงในทันทีในตอนนี ้ความตรึงเครี ยดก่อนหน้ าล้ วนจางหายลงไป


อย่างมากไม่มีความจําเป็ นที่เขาจะต้ องใช้ ทกั ษะจิตสายฟ้าอีกต่อไป ไม่เช่นนัน้
แล้ วหลังจากการต่อสู้กบั นักรบโบราณทังสิ
้ บนี ้จบไม่แน่วา่ พวกเขาอาจต้ องสู้กบั
กลุม่ คนจากอาณาจักรนภาด้ วยเช่นเดียวกัน

" เฮอะ ! ช่างเป็ นลูกหลานที่ไม่มีความเคารพเสียเลยพวกเจ้ าจะสังหารพวกข้ า ? "

นักรบโบราณระเบิดพลังปราณของเขาออกมาอย่างรุนแรงหากไม่ใช่วา่ ในตอนนี ้ผู้


อาวุโสซูหลิง่ ได้ รับการคุ้มกันจากหย่าเฟยอยูน่ นนางอาจได้
ั้ รับบาดเจ็บสาหัสหรื อ
กระทัง่ ตายไปแล้ วก็เป็ นได้ ร่างของเขาปลดปล่อยออร่าพลังงานไอความมืดอัน
มากล้ นออกมา ประกายฆ่าฟั นปรากฎออกในดวงตาของเขาอย่างไม่มีปิดหาก
เป็ นเพียงผู้อาวุโสเป่ ยหรื ออาจารย์สาวสวยของเขารับมือกับหัวหน้ านักรบโบราณ
เพียงลําพังแล้ วละก็ผลลัพธ์มนั อาจเห็นได้ อย่างชัดเจน

โดยไม่รอช้ าแต่อย่างใดร่างของนักรบโบราณพุง่ เข้ าโจมตีกลุม่ ของหลินหมิงด้ วย


ความเร็วสูง สําหรับกลุม่ จากทางฝั่งอาณาจักรนภานันพวกเขาต้
้ องรับมือกับ
นักรบโบราณเพียงสามคนเท่านันเห็ ้ นได้ ชดั ว่าพวกเขาต้ องการที่จะจัดการ
ผู้เชี่ยวชาญด้ านค่ายกลระดับสูงไปก่อน

นันหมายความว่
้ ากลุม่ ของหลินหมิงนันจะต้
้ องรับมือกับนักรบโบราณด้ วยกัน
ทังสิ
้ ้นหกคนที่เหลือในขณะที่พวกเขามีเพียงผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิน่
เท่านันที
้ ่มีพลังปราณเกินกว่านักรบโบราณเหล่านี ้ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกมันจะ
เล็งไปที่กลุม่ ของหลินหมิงก่อน

สําหรับพวกเขาแล้ วแม้ วา่ ผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยาจะมีพลังที่คอ่ นข้ าง


น่ากลัวแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่มีทางที่หญิงสาวทังสองจะสามารถรั
้ บมือกับพวกเขา
ทังหกคนได้
้ อย่างแน่นอนสําหรับหย่าเฟยแล้ วนันนางไม่
้ อาจสามารถรับมือกับ
นักรบโบราณเหล่านี ้ได้ อย่างแน่นอนดังนันแล้
้ วหน้ าที่ของนางมีเพียงปกป้องผู้
อาวุโสซูหลิง่ เพียงเท่านัน้

หลินหมิงนําง้ าวทมิฬออกมาจากภายในร่างของเขาแววตาของผู้อาวุโสทังหลาย ้
จากฝั่ งอาณาจักรนภาและนักรบโบราณเปลี่ยนเป็ นสับสนเมื่อพวกเขาเห็นหลินห
มิงเดินออกมาเพื่อเข้ าร่วมสูส่ นามรบอันที่จริ งแล้ วมันสมควรเป็ นหญิงสาวที่มีพลัง
ปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หนึง่ ไม่ใช่หรื อ ? เช่นนันแล้
้ วเหตุใดพวกเขาถึงได้ สง่ เด็ก
หนุ่มที่มีพลังเพียงจอมยุทธ์ขนสู ั ้ งสุดออกมากัน

กับในสนามรบในตอนนี ้ที่มีแต่ผ้ เู ชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองขึ ้นไปแม้ กระทัง่


ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนทีั ้ ่หนึง่ ก็สามารถตกตายได้ เพียงเวลาไม่นานดังนัน้
แล้ วไม่ต้องพูดถึงคนที่มีพลังปราณเพียงระดับจอมยุทธ์ขนสู ั ้ งสุด

ค่ายกลของผู้อาวุโสซูหลิง่ เปล่งแสงสว่างวาบขึ ้นโดยรอบอาณาเขตส่งผลให้ การ


เคลื่อนไหวของนักรบโบราณทังหกนั ้ นมี
้ ความเร็ วลดลงไปราวกับสิบเปอเซ็นต์ ไม่
เพียงเท่านันกระดานค่
้ ายกลอันที่สองของนางได้ ทํางานขึ ้นอย่างรวดเร็ วโซ่พนั ธนา
กาลที่เงินผุดขึ ้นมาพร้ อมกับปิ ดกันการเคลื
้ ่อนไหวของนักรบโบราณเอาไว้ ได้
ชัว่ คราวหนึง่ คน ท้ ายที่สดุ ผู้อาวุโสซูหลิง่ นางตบไปที่กระดานค่ายกลอันที่สาม

ดวงตาของผู้อาวุโสเป่ ยหรี่ ลงด้ วยความคิดภายในใจแม้ วา่ หากเทียบกันแล้ วกับ


กลุม่ ของหลินหมิงพวกเขาจะได้ เปรี ยบในเรื่ องของความแข็งแกร่งแต่ถงึ อย่างนัน้
เห็นได้ ชดั ว่าผู้ใช้ คา่ ยกลสาวสวยนางนี ้มีความสามารถเพียงพอที่จะปิ ดกันความ

ห่างนันไปได้

แสงสว่างวาบขึ ้นที่บริ เวณตัวของหลินหมิง ผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยา


หลินหมิงรู้สกึ ได้ ถงึ พลังกายที่เพิ่มขึ ้นอย่างต่อเนื่องไม่เพียงเท่านันเขายั
้ งคงรู้สกึ ได้
ถึงพลังปราณที่ไหลวนอย่างบ้ างคลัง่ สาวสวยผู้ใช้ คา่ ยกลของทางฝั่งอาณาจักร
นภามองภาพนี ้ดวยสายตาอิจฉาลําพังเพียงแค่การใช้ กระดานค่ายกลสองอันนัน้
ก็นบั ได้ วา่ เป็ นอัจฉริ ยะที่ลําเลิศแล้ วแต่ถงึ อย่างนันสํ
้ าหรับกระดานค่าลกลสามอัน
นันมั
้ นไม่ตา่ งอะไรไปจากสัตว์ประหลาด !
ตอนที่ 220
โดย
Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 220

สถานการณ์ในฝั่งของกลุม่ จากอาณาจักรนภานันดี ้ กว่ากลุม่ ของหลินหมิงอยูม่ าก


แม้ วา่ พวกเขาจะไม่ได้ เปรี ยบอีกฝ่ ายมากนักแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่ใช่เรื่ องง่ายอย่าง
แน่นอนสําหรับนักโบราณที่จะเอาชนะพวกเขา แม้ วา่ ทางฝั่งของนักรบโบราณนัน้
จะมีผ้ เู ชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนทีั ้ ่สามอยูถ่ งึ สามคนดวยกัน แต่ถงึ อย่างนันทาง

ฝั่งของกลุม่ ผู้มาใหม่จากอาณาจักรนภาไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้ เปรี ยบในเรื่ อง
ของการที่มีผ้ เู ชี่ยวชาญในด้ านค่ายกลคอยสนับสนุน

มันเห็นได้ ใช้ เจนจากการต่อสู้ของพวกเขาที่สอดประสานกันอย่างน่านเหลือเชื่อ


มันอาจเป็ นไปได้ วา่ พวกเขาเหล่านี ้ได้ ร่วมกลุม่ กันมานานหลายปี แล้ วก็เป็ นได้
เทียบกับนักรบโบราณที่มีความยิ่งทะนงเหล่านี ้พวกเขาเพียงอาศัยพลังปราณ
และประสบการณ์ของพวกเขาในการจัดการเป้าหมายเพียงเท่านัน้ นันจึ ้ งเป็ นเหตุ
ให้ ในตอนนี ้ทางฝั่งของอาณาจักรนภายังคงสามารถต้ านนักรบโบราณทัง่ สาม
เอาไว้ ได้
แตกต่างจากกลุม่ ของหลินหมิงแม้ วา่ ผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยาจะนับ
ได้ วา่ เป็ นสหายที่ดีตอ่ กันในเร็ วๆนี ้แต่ถงึ อย่างนันพวกนางไม่
้ สามารถสอดประงาน
การต่อสู้กนั อย่างแน่นอน ลําพังแค่การต่อสู้โดยไม่รบกวนอีกฝ่ ายนันก็ ้ ถือว่ายอด
เยี่ยมแล้ ว นันจึ
้ งเป็ นเหตุให้ ทางฝั่งของหลินหมิงนันรั ้ บมือกับสถานการณ์ที่
ยากลําบาก

กระดานค่ายกลของผู้อาวุโสซูหลิง่ ได้ ผกู พันธนาการนักรบโบราณที่มีพลังปราณ


ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองเอาไว้ ได้ หนึง่ คนแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นก็ใช่วา่ นางจะสามารถ
พันธนาการเอาไว้ ได้ ตลอดไป ด้ วยระดับของนักรบโบราณเหล่านี ้นางสามารถ
พันธนาการได้ เพียงแค่คนที่ออ่ นแอ่ที่สดุ ที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองและ
ยังคงได้ มีไม่กี่ชวั่ ลมหายใจเท่านัน้

ผู้อาวุโสฟางซิน่ ตวัดแส้ ในมือของนางเพื่อรับมือกับนักรบโบราณที่มีพลังปราณ


ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สามและขันที
้ ่สองเช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสฉินเหยาที่ต้องรับมือ
กับศัตรูถงึ สองคนเช่นเดียวกันนันหมายความว่
้ าในตอนนี ้ยังเหลือศัตรูอีกหนึง่ คน
ใบหน้ าของนักรบโบราณแย้ มยิ ้มเต็มเปี่ ยมไปด้ วยความมัน่ ใจ พร้ อมกับเดินเข้ า
หาหลินหมิงด้ วยท่าทางสบายๆสําหรับนักรบโบราณผู้นี ้แม้ วา่ เขาจะมีพลังปราณ
ระดับปราญช์ขนที
ั ้ ่สองแต่ถงึ อย่างนันเพี
้ ยงแค่ปรายตามองดูออ่ ร่าที่นกั รบผู้นี ้
ปล่อยออกมามันก็เห็นได้ ชดั ว่ามันเหนือกว่านักสู้เผ่าพันธ์มนุษย์ที่อยูใ่ นขัน้
เดียวกันมาก

" ฮ่าๆ เจ้ าหนูหากเจ้ าลองก้ มขอร้ องอ้ อนวอนบิดาผู้นี ้ข้ าอาจมีความปราณีให้ เจ้ า
อยูบ่ ้ าง "

ในสายตาของนักรบโบราณผู้นี ้เต็มไปด้ วยจิตสังหารฆ่าฟั นจนถึงขนาดที่วา่ มัน


อาจทําให้ ผ้ คู นธรรมดาตายได้ ด้วยจิตสังหารของเขาหากไม่ใช่วา่ หลินหมิงได้ รับ
การพัฒนาจากมรดกของชายวัยกลางคนเขาเองก็คงได้ รับผลกระทบจากจิต
สังหารนี ้ ลิ ้นของนักรบโบราณตวัดเลียริ มฝี ปากของเขาอย่างน่าเกลียดสําหรับเขา
แล้ วนันหลิ
้ นหมิงไม่อาจนับเป็ นตัวตนอะไรได้

ในสายตาของนักรบโบราณผู้นี ้หลินหมิงเปรี ยบเสมือนยอดหญ้ าที่เขาเพียงแค่


เผลอเหยียบลงไปก็ทําให้ ชีวิตของเด็กหนุ่มผู้นี ้ดับลงได้ อย่างง่ายดาย สายตาของ
เขามองทอดยาวไปถึงเบื ้องหลังของหลินหมิงที่มีสาวงามอยูด่ ้ วยกันสองคนนันก็้
คือผู้อาวุโสซูหลิง่ และหย่าเฟยความงามของพวกนางนันสามารถทํ
้ าให้ จิตใจของ
นักรบโบราณผู้มากประสบการณ์เต็มไปด้ วยความสัน่ ไหว

เขาแทบที่จะอดจินตนาการไปไม่ได้ วา่ เมื่อเขาได้ สมั ผัสร่างอันงดงามของพวกนาง


พร้ อมกับปลดปล่อยอารมณ์ใส่หญิงสาวทังสองนี ้ ้เขาจะสามารถมีความสุข
ได้ มากล้ นเพียงใด ใบหน้ าของหย่าเฟยเปลี่ยนเป็ นบิดเบี ้ยวในความจริ งแล้ วหาก
มีผ้ ใู ดที่กล้ าทํากริ ยาเช่นนี ้ต่อนางหน้ าพวกเขาทุกคนล้ วนจบชีวิตลงอย่างอนาถ
แน่นอนว่านางอาจต้ องยกเว้ นไว้ เพียงหนึง่ นันก็ ้ คือลหลินหมิง

แต่ถงึ อย่างนันในตอนนี
้ ้แม้ วา่ ความแข็งแกร่งในระดับปราญช์ของเผ่าพันธ์มนุษย์
ในยุคปั จจุบนั จะถือว่ายอดเยี่ยมแต่สาํ หรับนักรบโบราณเหล่านี ้พวกเขาล้ วนเคย
เป็ นตัวตนที่สงู กว่านันอย่
้ างมาก

หลินหมิงออกมายืนบังหน้ าปิ ดกันระหว่


้ างนักรบโบราณกับผู้อาวุโสซูหลิง่ และหย่า
เฟยการกระทําของหลินหมิงทําให้ นกั รบโบราณขมวดคิ ้ว นับแต่อดีตมันไม่เคยมี
ตัวตนระดับจอมยุทธ์คนใดที่กล้ ายืนประจัญหน้ ากับเขาเยี่ยงนี ้ไม่ต้องพูดถึงรุ่น
เยาว์ที่มีอายุเพียงเท่านี ้ แม้ วา่ ในตอนนี ้เขาจะอ่อนแอ่ลงไปมากแต่ถงึ อย่างนันมั
้ น
ไม่ใช่เรื่ องยากที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์นบั ร้ อยนับพัน

" ไอหนูดเู หมือนว่าแกจะไม่เข้ าใจอะไรเลยสินะ "

หมัดของนักรบโบราณถูกปลดปล่อยออกมาในตอนนี ้แม้ วา่ หย่าเฟยนางจะอยาก


เข้ าไปช่วยหลินหมิงมกเพียงใดแต่การเคลื่อนไหวของนักรบโบราณผู้นี ้รวดเร็วและ
รุนแรงมากจนเกินไป ทางฝั่งของกลุม่ จากอาณาจักรนภาแย้ มยิ ้มด้ วยความยินดี
เห็นได้ ชดั ว่าหลินหมิงเป็ นตัวตนที่น่ากลัวเกินไป แม้ วา่ พวกเขาจะไม่ร้ ูอายุที่
แน่นอนของหลินหมิงแต่เมื่อดูจากรูปร่างของเขาแล้ วนันมั ้ นอาจกล่าวได้ วา่ อายุ
ของชายหนุ่มผู้นี ้สมควรมีอายุราวๆยี่สบิ ปี หรื ออาจมากกว่านันเพี
้ ยงเล็กน้ อย

ดังนันแล้
้ วมันอาจกล่าวได้ วา่ ชายหนุ่มผู้นี ้ย่อมเป็ นอัจฉริ ยะที่หาได้ ยากยิ่งใน
อนาคตเขาจะกลายเป็ นตัวตนระดับสูงอย่างผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนสู ั ้ งสุด !

หลินหมิงมองไปที่นกั รบโบราณผู้นี ้อย่างรอบคอบเห็นได้ ชดั ว่านักรบโบราณผู้นี ้


ไม่ได้ ใช้ พลังเต็มสิบส่วนของเขา แต่ถงึ อย่างนันหลิ
้ นหมิงไม่สามารถประมาทได้
เปลวเพลิงทมิฬได้ ลกุ โชนขึ ้นกลายเป็ นเส้ นสีดํารอบตัวเขาพร้ อมกับมีประกาย
สายฟ้าเล็กน้ อย พร้ อมกันนันต่
้ อมาดวงตาของหลินหมิงปรากฎแสงสว่างวาบสี
ทองอร่ามภายในดวงตาร่างจําแลงเกราะสีทองอันเป็ นทักษะที่ได้ รับมาจากชาย
วัยกลางคนจากพระราชวังโบราณถูกประทับลงบนร่างของหลินหมิง

เมื่อเห็นฉากนี ้นักรบโบราณผู้นนชะงั
ั ้ กไปเล็กน้ อย แต่ถงึ อย่างนันด้ ้ วยความมัน่ ใจ
ของระดับพลังของเขาหมัดนี ้ของเขาแม้ วา่ มันจะไม่ใช่พลังสูงสุดแต่ถงึ อย่างนัน้
มันเพียงพอที่จะเป่ าร่างของผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หนึง่ ให้ หายไปได้ ใน
พริ บตา !

เพียงแค่พลังปราณจากหมัดของนักรบโบราณที่ถกู ง้ างออกแล้ วเตรี ยมพอที่จะ


ปลดปล่อยออกมานันคลื ้ ่นพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาทําให้ พื ้นโดยรอบแหวก
ออกเป็ นทางยาวโดยลึกลงไปเกือบหนึง่ เมตร หลินหมิงจับง้ าวทมิฬของเขาอย่าง
มัน่ คงพร้ อมกับจ้ องมองไปที่นกั รบโบราณที่กําลังพุง่ เข้ ามาด้ วยสายตามุง่ มัน่

ซี่ ซี่
ประกายสายฟ้าปรากฎขึ ้นบนตัวง้ าวทมิฬที่หลินหมิงควงไปด้ านหลังของเขาเพื่อ
หลบสายตาของนักรบโบราณหากเป็ นในยามปกติเขาย่อมรับรู้ถงึ การเรี ยกใช้
ทักษะของหลินหมิงแต่สําหรับในตอนนี ้นักรบโบราณผู้นี ้มีความประมาทและไม่
คิดที่จะสนใจหลินหมิงแม้ แต่หางตาเลยเสียด้ วยซํ ้าน

" ฮ่า ๆ ข้ ารับรองเลยว่ามันไม่เจ็บหรอกเพราะเจ้ าจะหายไปในทันทียงั ไงล่ะ ฮ่า ๆ


"

ระยะห่างระหว่างหลินหมิงและนักรบโบราณลดลงอย่างรวดเร็ ว แต่ถงึ อย่างนัน้


ในตอนนี ้ยังคงยืนอย่างมัน่ คงทุกสายตาในสนามรบล้ วนเบี่ยงความสนใจมาที่
การต่อสู้ของหลินหมิงเล็กน้ อย ไม่ใช่วา่ พวกเขาให้ ความสนใจกับหลินหมิงเพียง
แต่สําหรับนักรบโบราณแล้ วนันพวกเขามี
้ ความกังวลในผลลัพธ์การต่อสู้ของ
สหายของเขาเล็กน้ อย เพราะหากว่าสหายของเขาผู้นี ้สามารถจัดการหลินหมิ
งได้ อย่างรวดเร็วเช่นนี ้นันหมายความว่
้ าสองสาวงามด้ านหลังจะต้ องตกอยูใ่ นมือ
ของสหายของพวกเขาก่อน ?
ไม่มีใครยินยอมที่จะรับของเหลืออย่างแน่นอนแต่ถงึ อย่างนันในตอนนี
้ ้พวกเขา
ล้ วนไม่สามรถทําสิง่ ใดได้ เนื่องจากศัตรูตรงหน้ า

หลินหมิงหรี่ ตาลงพร้ อมกับกําง้ าวในมือแน่นในเจ็ดวันที่ผา่ นมานี ้ไม่เพียงแต่


หลินหมิงจะใช้ เวลาส่วนใหญ่ในการบ่าเพาะให้ กบั เหล่าสตรี ของเขาแต่เขายังคง
ใช้ มนั ไปกับเศษเสี ้ยวมรดกความรู้จากชายวัยกลางคนในตอนนี ้ทักษะการใช้ ง้าว
ของเขาล้ วนมาอยูใ่ นระดับขันต้
้ นเป็ นที่เรี ยบร้ อย หลินหมิงสามารถรู้สกึ ได้ อย่าง
ชัดเจนว่าง้ าวในมือของเขานันมั
้ นราวกับเป็ นส่วนหนึง่ ของร่างกายที่สามารถกวัด
แกว่งได้ ตามใจชอบ

หือ ?

ในจังหวะที่หมัดของนักรบโบราณกําลังจะเข้ ากระทบกับร่างของหลินหมิงทันใด
นันจิ
้ ตใจของเขาพลันรับรู้ได้ ถงึ หุบเหวของความตาย เหงื่อของเขาหลัง่ ไหลพรั่งพรู่
ออกมาโดยที่ตวั เขาไม่ทนั แม้ แต่จะรู้ตวั ด้ วยซํ ้าไป

ตาย !
ประกายในดวงตาของหลินหมิงเย็นเหยียบง้ าวในมือของหลินหมิงตวัดในทันทีที่
ร่างของนักรบโบราณเข้ ามาในระยะดวงตาของนักรบโบราณเบิกกว้ างเต็มไปด้ วย
ความตกใจแต่ถงึ อย่างนันด้
้ วยการที่เขาประมาทมากเกินไปเขาไม่อาจที่จะ
สามารถหลบการโจมตีท่ี่น่าสะพรันพรึงนี ้ได้ ทนั
ตอนที่ 221

อ๊ ากกกกกกกกกกก

อาศัยประสบการณ์ตอ่ สู้ที่ผา่ นมาอย่างยาวนานนักรบโบราณสามารถหลบวิถี


การฟั นของหลินหมิงออกไปได้ เพียงเล็กน้ อยมันจึงทําให้ เขารอดพ้ นจากการ
สะบันหั
้ วในทันทีแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นก็ยงั คงสร้ างผลลัพธ์ที่เลวร้ ายให้ ไว้ สําหรับเขา

อ๊ ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
คมง้ าวมของหลินหมิงตวัดอย่างรวดเร็ วและแข็งแกร่งแม้ วา่ หลินหมิงจะรู้สกึ
แปลกใจที่อีกฝ่ ายสามารถรอดพ้ นจากการจูโ่ จมของเขาในระยะใกล้ เช่นนี ้ได้ แต่
ถึงอย่างนันง้
้ าวของเขาก็ได้ ฟันตังแต่
้ หวั ไหล่ข้างซ้ ายของนักรบโบราณผู้นี ้จนแขน
ซ้ ายขาดสะบัดออกมา เลือดของเขาไหลออกมาราวกับนํ ้าผุแต่ถงึ อย่างนันนั ้ กรบ
โบราณผู้นี ้กัดฟั นแน่นจนเลือดออกมาจากริ มฝี ปากของเขา

เปลวเพลิงในมือข้ างซ้ ายของเขาเข้ าเผาบาดแผลเพื่อจะหยุดเลือดไม่ต้องสงสัย


เลยว่าการกระทําเช่นนี ้จะสามารถทําให้ เจ็บปวดมากเพียงใด แต่ถงึ อย่างนันเพื
้ ่อ
แลกกับการมีชีวิตแล้ วมันย่อมเป็ นสิง่ ที่ค้ มุ ค่า

" ในท่านเริ่ มดูเหมือนบรรพบุรุษผู้น่าเคารพขึ ้นมาบ้ าง "

" เจ้ า ! "

นักรบโบราณในตอนนี ้ล้ มลงอย่างอ่อนแรงบาดแผลที่เขาได้ รับในตอนนี ้มันส่งผล


ทําให้ เขาอ่อนแรงลงไปมาก และจากคํากล่าวของหลินหมิงเห็นได้ ชดั ว่ามันเป็ น
การดูถกู เขาอย่างรุนแรง ด้ วยแขนซ้ ายที่ราวกับอุ้งมือปี ศาจที่โดนตัดออกไป
ต่อจากนันเจ้ ้ าเด็กนี ้กลับกล่าววาจาออมาเยี่ยงนี ้ ! ไม่ต้องสงสัยเลยว่านับแต่อดีต
นันไม่
้ วา่ จะเป็ นผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์ขนสูั ้ งสุดหรื อระดับปราญช์พวกเขา
เหล่านี ้ล้ วนเป็ นทางเดินเหยียบสําหรับเขาเท่านัน้

แต่ในตอนนี ้สายตาของหลินหมิงที่กําลังก้ มมองลงมาด้ วยสายตาสมเพชจนทําให้


รู้สกึ เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าบาดแผลที่ได้ รับ ในตอนนี ้ทุกสายตายกเว้ นกลุม่ หลินห
มิงนันล้้ วนจ้ องมองมาที่เขาด้ วยสายตาไม่อยากจะเชื่อแม้ กระทัง่ เหล่าผู้อาวุโส
สาวทังหลายหากพวกนางไม่
้ ได้ เห็นภาพที่หลินหมิงกวาดล้ างผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ไปถึงสี่หรื อห้ าคนเดียวการโจมตีครัง้ เดียวในอดีตนันพวกนางก็
้ ไม่
ต่างจากพวกเขาเหล่านี ้สักเท่าใดนัก

สายตาของผู้อาวุโสเป่ ยที่กําลังรับมือกับนักรบโบราณที่แข็งแกร่งที่สดุ ร่วมกับจูห


นิงเอ๋อร์ หรี่ ลงด้ วยสายตาที่ยากเกินกว่าจะคาดเดา สําหรับนักรบโบราณนันใน ้
สายตาของพวกเขานันแม้ ้ วา่ สหายของพวกเขาคนนี ้จะไม่จดั ว่าอยูใ่ นระดับที่
แข็งแกร่งมากนักแต่หากเทียบกับเด็กหนุ่มที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขนสู ั ้ งสุดแล้ ว
นันต่
้ อให้ พวกเขายืนนิ่งมันก็ไม่สมควรที่เด็กหนุ่มผู้นี ้จะสร้ างความเสียหายให้ พวก
เขาได้ ไม่ใช่หรื อ ?
ไม่ต้องพูดถึงในเรื่ องความแข็งแกร่งที่หา่ งกันมากเกินกว่าจะเข้ าใจลําพังเพียง
ร่างกายของพวกเขาที่ได้ รับการพัฒนาจากเผ่าปิ ศาจนันมั ้ นก็ยากเกินกว่าที่
ผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกันจะสามารถสะบัดแขนของพวกเขาได้ แต่ถงึ อย่างนัน้
ด้ วยการควัดง้ าวเพียงครัง้ เดียว ! สหายของพวกเขาเกือบได้ ไปเยี่ยมบรรพบุรุษไป
แล้ ว !

" ถอยออกมา ! "

นักรบโบราณที่กําลังรับมือกับจูหนิงเอ๋อร์ และผู้อาวุโสเป่ ยกล่าวสักออกมา แม้ แต่


เขาเองก็คาดไม่ถงึ ว่ามนุษย์ในยุคนี ้จะมีรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นเช่นนี ้ นักรบโบราณคน
นันจ้
้ องมองไปที่หลินหมิงด้ วยสายตาเคียดแค้ นในตอนนี ้เขาไม่สนแล้ วว่าเขาจะ
ได้ รับสาวงามหรื อไม่แต่เขามีต้องได้ หวั หลินหมิง !

" ถอยออกมาซะเจ้ าโง่ เจ้ าไม่สามารถรับมือกับศัตรูได้ ด้วยสภาพเช่นนัน้ ! "


นักรบโบราณหัวหน้ ากลุม่ กล่าวสบถอย่างอารมณ์เสียในตอนนี ้เขาเขาไม่สามารถ
ที่จะสูญเสียพรรคพวกของเขาไปได้ ไม่เช่นนันสถานการณ์
้ ในตอนนี ้มันจะเลวร้ าย
ลงไปมาก นักรบโบราณตรงหน้ าหลินหมิงผงกรับอย่างไม่เต็มใจ

" ไอหนู...แกไม่ได้ ตายดีแน่ ! "

ร่างของนักรบโบราณถอยออกไปในทันทีในตอนนี ้พวกเขาเพียงคิดว่าการที่หลินห
มิงสามารถโจมตีใส่สหายของพวกเขาได้ นนย่ ั ้ อมหมายความว่าเด็กหนุ่มผุ้นี ้ได้ ใช้
พลังปราณของเขาไปจนหมดสิ ้น และด้ วยระยะห่างของนักรบโบราณและหลินห
มิงนันหมายความว่
้ าเด็กหนุ่มผู้นี ้จะไม่สามารถจูโ่ จมเขาได้ ด้วยง้ าวอีกต่อไป

ปราศจากพลังปราณดัง่ เช่นก่อนหน้ าและการโจมตีจากง้ าวที่ปลดปล่อยกลิน่ อาย


ประหลาดออกมาไม่มีผ้ ใู ดคิดว่าหลินหมิงจะสามารถสร้ างความเสียหายให้ กบั
นักรบโบราณได้ อีกต่อไป แต่ถงึ อย่างนันรอยยิ
้ ้มปราฏําที่มมุ ปากของหลินหมิง
นิ ้วชี ้ของเขายื่นออกไปในทิศทางที่นกั รบโบราณกําลังจากไป

ตาย !
ลําแสงสีดําพุง่ ออกมาเป็ นเส้ นตรงจากนิ ้วชี ้ของหลินหมิงเข้ าไปยังบริ เวณกะโหลก
ของนักรบโบราณและทะลุออกมาจากหน้ าผาก ร่างของนักรบโบราณล้ มลงอย่าง
แน่นิ่งโดยไม่สง่ เสียงใดๆออกมาอีกต่อไป ทัว่ ทังพื้ ้นที่กลายเป็ นเงียบกริ บ

ตายแล้ ว ? นักรบโบราณที่ในอดีตมีความแข็งแกร่งถึงในระดับองครักษ์ แม้ วา่ พลัง


ของเขาจะถูกลดลงมาอย่างมากแต่ถงึ อย่างนันการต่ ้ อสู้เพิ่งจะเริ่ มต้ นเพียงไม่
นานแต่คนที่ตายกลับไม่ใช่ผ้ ทู ี่มีพลังระดับจอมยุทธ์ ? ทันใดนันโดยรอไม่
้ ช้า
หลินหมิงนําเม็ดยาฟื น้ ฟูพลังปราณระดับสูงเข้ าใส่ปากพร้ อมกับมุง่ หน้ าไปหา
นักรบโบราณที่มีพลังปราณระดับสองอีกคนที่ถกู พันธนาการอยู่

" บัดซบเจ้ าเด็กนี ้มัน ! "

การกระทําของหลินหมิงทําให้ กระแสของการต่อสู้เปลี่ยนไปโดยสิ ้นเชิงหาก


ในตอนนี ้หลินหมิงสามารถฆ่านักรบโบราณได้ อีกคนหนึง่ นันหมายความว่
้ า
สถานการณ์ทางฝั่งของนักรบโบราณนันจะเรี
้ ยกได้ วา่ ขันวิ
้ กฤตอย่างแท้ จริ ง !
" เจ้ าเด็กน้ อยพวกเจ้ าดูถกู บิดาผู้นี ้มากเกินไป !! "

คลื่นพลังปราณของนักรบโบราณที่ถกู ผนึกอยูร่ ะเบิดออกมาอย่างรุนแรงจนทําให้


หลินหมิงถอยกลับไปแล้ วก้ าวพร้ อมกับขมวดคิ ้วลงอย่างตรึดเครี ยด

' ระดับปราญช์ขนที
ั ้ ่สองระดับสูงสุด ! '

โซ่เงินพันธนาการถูกระเบิดออกเป็ นชิ ้นพร้ อมกับผู้อาวุโสซูหลิง่ ที่กระอักเลือดออก


มาคําโต ในตอนนี ้ไม่มีคําว่าปราณีหรื อไม่มาทใดๆอีกต่อไป นักรบโบราณนําดาบ
ของเขาออกมาพร้ อมกับพุง่ เข้ าหาหลินหมิงด้ วยรังสีอาฆาตแค้ น

อึกกกก !

เพียงแค่การปะทะในครัง้ แรกร่างของหลินหมิงถอยหลังไปหลายก้ าวพร้ อมกับ


เลือดที่พงุ่ ขึ ้นมาในลําคอ ความแข็งแกร่งของนักรบโบราณผู้นี ้มีมากเกินกว่า
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ทวั่ ไปอย่างมาก ผู้อาวุโสซูหลิง่ ตบไปที่กระดานค่ายกลที่
ถูกทําลายก่อนหน้ านี ้พื ้นดินบริ เวณโดยรอบของนักรบโบราณผุ้นี ้เกิดการสัน่ ไหว
พร้ อมกับเสาดินจํานวนมากที่ขึ ้นมาล้ อบรอบและค่อยๆบีบรัดเข้ าเอาไว้

หย่าเฟยนางไม่สามารถเข้ าร่วมต่อสู้ระยะประชิดได้ ไม่เช่นนันแล้


้ วชีวิตของนางจะ
จบลงภายในไม่กี่ลมหายใจเท่านันนางนํ
้ าธนูออกมาพร้ อมกับเล็งไปที่นกั รบ
โบราณที่กําลังจูโ่ จมหลินหมิง ลูกธนูของนางนันทํ
้ าขึ ้นจากการหลอมและกลัน่
พลังปราณอย่างหนาแน่น

" ไร้ คา่ !! "

นักรบโบราณกระแทกดาบของเขาใส่หลินหมิงจนลอยออกไปกระทบผนังอย่าง
รุนแรง เช่นเดียวกันมือข้ างที่ไม่ได้ ถือดาบของเขาทุบลงไปที่พื ้นดินจนทําให้ พื ้นดิน
โดยรอบระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ค่ายกลของผู้อาวุโสซูหลิง่ ถูกทําลายลงอีกครัง้
สําหรับลูกศรของหย่าเฟยนันนั ้ กรบโบราณสามารถปั ดมันทิ ้งได้ ราวกับก้ อนหิน
บางเบา

แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ ว !
ด้ วยความแข็งแกร่งระดับนี ้ของนักรบโบราณผู้นี ้อาจกล่าวได้ วา่ เขาสามารถ
เทียบเท่าได้ กบั ผู้ที่มีพลังปราณะดับปราญช์ขนที
ั ้ ่สามของเผ่าพันธ์มนุษย์เลย
ทีเดียว

" ไอหนูไม่ต้องห่วงข้ าไม่คิดที่จะสังหารเจ้ าง่ายๆหรอกนะ จริ งสิสาวสวยทังหลายนี


้ ้
เป็ นอะไรกับเจ้ ากัน ? อาจารย์ ผู้อาวุโส มารดา พี่สาว ? เช่นนันแล้
้ วเจ้ าอยากเห็น
ช่วงเวลาที่พวกนางมีความสุขราวกับขึ ้นสวรรค์หรื อไม่ ฮ่า ๆๆ "

นักรบโบราณหัวเราะระเบิดอารมณ์อย่างบ้ าคลัง่ ในตอนนี ้เขาต้ องการที่จะ


เหยียบหยํ่าหลินมิงอย่างแท้ จริ ง นักรบโบราณเดินเข้ าไปใกล้ หาหย่าเฟยและผู้
อาวุโสซูหลิง่ แม้ วา่ ผู้อาวุโสซูหลิง่ จะพยายามสร้ างค่ายกลเพื่อป้องกันแต่ถงึ อย่าง
นันด้
้ วยระยะเวลาเพียงเล็กน้ อยเท่านี ้นางไม่อาจสร้ างค่ายกลที่ทรงประสิทธิภาพ
ได้ ค่ายกลป้องกันของนางถูกระเบิดออกด้ วยนิ ้วเพียงนิ ้วเดียวของนักรบโบราณ
" ยอดเยี่ยมๆ อาา ไอหนูแกคิดว่าข้ าควรเล่นสนุกกับพวกนางคนไหนก่อนดีกนั ?
อ่อจริ งสิข้าอาจต้ องแบ่งพวกนางคนหนึง่ ไปให้ กบั สหายของข้ าผู้ลว่ งลับไปแล้ ว
ไม่เช่นนันเขาคงตายไม่
้ หลับ งันข้
้ าจะให้ พวกเจ้ าเลือกแล้ วกันดีไหม ? ฮ่าๆ ๆ "
ตอนที่ 222

หลินหมิงกระอักเลือดออกมาคําโตหากเป็ นนักสูท่ ี่มีพลังระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สอง


ระดับสูงสุดโดยทัว่ ไปแม้ วา่ หลินหมิงจะไม่สามารถเอาชนะได้ หากไม่ใช้ จิตสายฟ้า
แต่ถงึ อย่างนันมั
้ นไม่มีทางที่เขาจะพ่ายแพ้ อย่างรวดเร็ วเช่นนี ้ ความแข็งแกร่งของ
ตัวตนในอดีตนันมี้ มากจนเกินไป !

ไม่ต้องพูดถึงพลังของพวกเขาในตอนนี ้หากเป็ นในสภาพที่พวกเขาเหล่านี ้ฟื น้ คืน


พลังมาได้ ลําพังเพียงด้ วยนักรบโบราณเพียงคนเดียวอาจทําให้ แม่ทพั ใหญ่ทงสีั้ ่
พ่ายแพ้ ภายในชัว่ พริ บตา !

ผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้อาวุโสฉินเหยาพวกนางทังสองกั
้ ดฟั นแน่นแม้ วา่ พวกนางจะ
มีพลังปราณมากกว่าฝ่ ายตรงข้ ามที่มีพลังปราณขันสามช่
้ วงต้ นและอีกคนคือขัน้
สองช่วงปลายแต่สําหรับพวกนางที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนสามขั
ั้ นสู
้ งสุดนัน้
มันยังคงเป็ นเรื่ องยากแก่การรับมือนักรบโบราณทังสองนี
้ ้

ไม่ต้องพูดถึงจูหนิงเอ๋อร์ แม้ วา่ ทางฝ่ ายนางจะค่อนข้ างได้ เปรี ยบอยูเ่ ล็กน้ อยแต่อนั
ที่จริ งแล้ วผู้อาวุโสเป่ ยและนางกลับยังคงไม่มีใครที่แสดงพลังออกมาอย่างเต็มที่
มากนักพวกเขายังคงเหลือไพ่ตายเอาในสถานการณ์ฉกุ เฉินหรื อเพื่อเอาไว้ หลังจบ
การต่อสู้ จูหนิงเอ๋อร์ เหลือบมองไปที่หลินหมิงนางไม่สามารถไปช่วยหลินหมิงได้
ในตอนนี ้ไม่เพียงเพราะว่านางกําลังสู้ผวั พันอยูเ่ พียงเท่านัน้

แต่มีหรื อที่ผ้ อู าวุโสเป่ ยผู้นี ้จะยินยอมให้ นางจากไปแม้ วา่ เขาจะสามารต้ านทาน


นักรบโบราณที่แข็งแกร่งที่สดุ ได้ ในสายตาของผู้อาวุโสเฒ่านันหลิ ้ นหมิงเป็ น
ตัวตนที่อนั ตรายเกินไปสําหรับอาณาจักรนภา หลินหมิงค่อยๆลุกขึ ้นมาพร้ อมกับ
จ้ องมองสถานการณ์โดยรอบเทียบกันแล้ วทางฝั่งของเขาล้ วนเสียเปรี ยบกว่า
อย่างเห็นได้ ชดั แต่สําหรับทางฝั่งอาณาจักรนภานันราวกั ้ บพวกเขาเพียงต่อสู้เพื่อ
ยื ้อเวลาเพียงเท่านัน้

' ไม่มีทางเลือก '


" ไอหนูที่จริ งแกน่าจะนอนดูนิ่งๆไปมากกว่านะ หือ ? "

นักรบโบราณจ้ องมองหลินหมิงที่ตอนนี ้เต็มไปด้ วยสายตาดุร้ายราวกับสัตว์ป่า


แม้ แต่ตวั เขาที่ได้ รับสายเลือดจากเผ่าพันธ์ปีศาจก็ยงั คงรู้สกึ สัน่ สะท้ านไปชัว่ หวูบ

" ฮ่าห์ !! "

พลังงานรอบตัวของหลินหมิงเพิ่มขึ ้นสูงอย่างฉับพลันโดยไม่มีใครรู้ถงึ สาเหตุ


แม้ วา่ มันจะมีทกั ษะมากมายในโลกใบนี ้ที่สามารถช่วยกระตุ้นความแข็งแกร่งของ
ผู้คนได้ แต่ถงึ อย่างนันเกรงว่
้ ามันจะไม่มีทกั ษะใดที่สามารถเพิม่ ระดับพลังจนทะลุ
ขอบเขตจอมยุทธ์เข้ าสูร่ ะดับปราญช์ได้ เช่นนี ้

ครื น ครื น
อ่อร่าของหลินหมิงที่เพิ่มขึ ้นมานันทํ้ าให้ ทกุ คนล้ วนสะพรันพรึงอันที่จริ งแล้ วนัน้
แม้ วา่ ในตอนนี ้หลินหมิงจะใช้ ทกั ษะจิตสายฟ้าแต่ระดับพลังของเขายังคงมีเพียง
ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หนึง่ เท่านัน้

" บะ..บ้ าน่า..เหตุใดระดับปราญช์ขนที


ั ้ ่หนึง่ ถึงได้ มีออ่ ร่าที่แข็งแกร่งเช่นนี ้ ! "
หญิงสาวผู้ใช้ คา่ ยกลมองไปที่หลินหมิงด้ วยท่าทีตื่นตะลึงเช่นเดียวกันกับผู้อาวุโส
และนักรบโบราณทุกคนภาพที่เห็นตรงหน้ านี ้หากพวกเขาไม่ได้ เห็นเองก็คงไม่มี
ทางเชื่อเรื่ องนี ้อย่างแน่นอน ประกายในดวงตาของหลินหมิงที่แต่เดิมเป็ นสีทองอ
รามจากทักษะของเกราะศักดิส์ ทิ ธ์ในตอนนี ้มันมีลวดลายของสายฟ้าเพิ่มเข้ าไป
เปรี ยะ เปรี ยะ

ที่รอบกายของหลินหมิงราวกับว่าตัวเขาเป็ นสื่อนําไฟฟ้ามีพลังงานไฟฟ้าจํานวน
มากล้ อมรอบตัวเขาเปลวเพลิงทมิฬลุกโชนเป็ นวงกลมรอบตัวหลินหมิง หาก
เทียบกับในอดีตในตอนที่หลินหมิงได้ รับความแข็งแกร่งเช่นนี ้ในสงครามนัน้
ในตอนนี ้หลินหมิงแม้ วา่ จะมีพลังปราณเทียบเท่าเดิมแต่ความแข็งแกร่งของเขาก็
เพิ่มขึ ้นมากกว่าแต่ก่อนไม่ใช่น้อย

้ นเพราะว่าเขาได้ ทําความเข้ าใจเกี่ยวกับทักษะง้ าวและเกราะศักดิ์สทิ ธ์ใน


นันเป็
ระดับที่สงู ขึ ้น หลินหมิงควงง้ าวทมิฬในมือพร้ อมกับสะบัดมันออกไปยังเบื ้องหน้ า
นักรบโบราณที่กําลังตื่นตะลึงที่กบั ถอยหลังไปสองก้ าวด้ วยความตกใจ

หลินหมิงพุง่ เข้ ามาด้ วยความรวดเร็ วมากกว่าก่อนหน้ าอย่างเทียบไม่ตดิ ง้ าวทมิฬ


ในมือของหลินหมิงตวัดอย่างรวดเร็ ว
เคร็ ง !!!!!

เสียงดังกังวาลไปทัว่ ทังพื
้ ้นที่พร้ อมกับพื ้นที่ระเบิดออกเป็ นหลุมลึกร่างของนักรบ
โบราณเป็ นฝ่ ายถอยลอยออกไปห้ าก้ าว เหงื่อของเขาหลัง่ ไหลออกมาจนไม่
สามารถหยุดได้ ไม่ใช่วา่ เมื่อสักครู่นี ้เขาไม่ทนั ได้ ตงตั
ั ้ วเขาได้ ใช้ พลังไปไม่ใช่น้อยใน
การปะทะกับหลินหมิงแต่ถงึ อย่างนันมั ้ นกลับเป็ นเขาที่เป็ นฝ่ ายถอย ?

" แก ไอหนูอย่าได้ ใจมากนัก ! "

พลังปราณของนักรบโบราณพวยพุง่ ลอยขึ ้นสูงไปบนฟ้าหลายเมตรพร้ อมกับการ


ตังท่
้ าดาบของเขาที่ดดู ดุ นั หลินหมิงจ้ องมองอย่างเฉยเมยประกายสายฟ้าปรากฎ
ขึ ้นที่ง้าวของหลินหมิง

ซี่ ซี่
ตาย !!

เสียงคํารามลัน่ ของหลินหมิงและนักรบโบราณดังขึ ้นในจังหวะเดียวกันกับร่างของ


พวกเขาทังสองที
้ ่พงุ่ เข้ าหากันด้ วยความเร็ วสูง ดาบของนักรบโบราณถูกยกขึ ้น
พร้ อมกับฟาดฟั นลงมาอย่างรวดเร็ วเกิดรอยแยกที่พื ้นดินเป็ นทางยาวราวกับเกิด
แผ่นดินไหว เช่นเดียวกันกับหลินหมิงที่ตวัดง้ าวทมิฬในมือของเขาจากล่างขึ ้นบน

บรึม้ มม !!

แรงระเบิดที่เกิดขึ ้นแทบจะทําให้ หย่าเฟยที่อยูห่ า่ งไกลออกไปแทบจะไม่สามารถ


ป้องกันแรงระเบิดนี ้ได้ เมื่อผลจากแรงระเบิดจางลงพวกเขาสามารถมองเห็นกอง
เลือดจํานวนมากที่กําลังหลัง่ ไหลออกไปจากร่างของคนผู้หนึง่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ด้ วยสภาพของคนผู้นี ้จากบาดแผลที่เขาได้ รับจากการถูกจนร่างแทบขาดออกเป็ น
สองซีกเขาจะต้ องตกตายในไม่ช้า

" อัก่ ก มะ...ไม่...จริ ง "


ร่างที่ได้ รับบาดเจ็บนี ้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนักรบโบราณอาวุธในมือของเขาลอย
หลุดออกไปไกลห่างไม่ใช่วา่ อาวุธของเขาเป็ นอาวุธระดับสูงทีหาได้ ยากยิ่งแล้ วละ
ก็ป่านนี ้อาวุธของเขาคงถูกทําลายไปพร้ อมกับส่วนของร่างกายที่หายไป หลินหมิ
งจ้ องมองไปอย่างเฉยชาง้ าวในมือของเขาตวัดอย่างรวดเร็ วโดยไม่ทนั ฟั งเสียงคํา
ขอร้ องจากนักรบโบราณที่กําลังจะออกจากปาก

ตุบ

หัวของนักรบโบราณที่ใบหน้ ายังคงเต็มไปด้ วยความตื่นตระหนกและไม่คาดฝัน


ตัวตนระดับสูงเช่นเขากับพ่ายแพ้ อย่างหมดรูปให้ กบั เด็กหนุ่มเพียงคนเดียว
เท่านัน้

ภายใต้ ผลลัพธ์เช่นนี ้นักรบโบราณที่รับหน้ าที่บกุ จูโ่ จมทางฝั่งของหลินหมิงที่เหลือ


อีกสี่คนล้ วนหน้ าซีดแม้ วา่ ในตอนนี ้พวกเขาจะได้ เปรี ยบผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้
อาวุโสฉินเหยาอยูไ่ ม่ใช่น้อยแต่ถงึ อย่างนันแล้
้ วต่อจากนี ้ล่ะ ? ไม่เพียงแต่ผ้ ใู ช้ คา่ ย
กลจะไม่ตายแต่สหายของเขาสองคนกลับกลายเป็ นซากศพไปแล้ ว
ธนูในมือของหย่าเฟยเตรี ยมพร้ อมเข้ าจูโ่ จมและช่วยเหลือผู้อาวุโสฟางซิน่ และผู้
อาวุโสฉินเหยาเช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสซูหลิง่ ที่กินเม็ดยารักษาลงไปพร้ อมกับ
เริ่ มทําการตบไปที่กระดานค่ายกลของนางอีกครัง้ หนึง่ ที่สําคัญที่สดุ ก็คือร่างของ
หลินหมิงที่พงุ่ ทะยานเข้ าหาร่างของนักรบโบราณที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนั ้
ที่สองช่วงปลายแต่หากเทียบกับสหายของเขาที่เพิ่งถูกหลินหมิงสังหารไปแล้ วนัน้
เขายังอ่อนแอ่กว่าอยูไ่ ม่น้อย

แส้ หนามในมือของผู้อาวุโสฟางซิน่ ยืดยาวออกพร้ อมกับปิ ดกันเส้ ้ นทางนักรบ


โบราณทังสองเห็
้ นได้ ชดั ว่าในตอนนี ้ด้ วยการร่วมมือกับหลินหมิงพวกเขาจะ
สามารถสังหารนักรบโบราณเหล่านี ้ได้ เมื่อไหร่นนเพี
ั ้ ยงขึ ้นอยูก่ บั เวลา

หนึง่ ก้ านธูปต่อมาร่างของหลินหมิงเต็มไปด้ วยความอ่อนล้ าอย่างแท้ จริ ง


เช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสสาวทังหลายอาจมี
้ เพียงหย่าเฟยเท่านันที
้ ่ยงั คงมีสภาพ
สมบูรณ์พร้ อมกว่าใครอื่นโดยไม่รอช้ าพวกเขาล้ วนรี บนําเม็ดยาฟื น้ ฟูลมปราณ
ระดับสูงเข้ าใส่ปากอย่างไม่รอช้ าสําหรับนักรบโบราณทางฝั่งของหลินหมิงทังหก ้
ล้ วนถูกจัดการไปจนหมดสิ ้นแต่ถงึ อย่างนันพวกเขาไม่
้ มีความคิดที่จะเข้ าไปช่วย
ทางฝั่ งอาณาจักรนภาอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าในตอนนี ้แม้ วา่ ทางฝั่งของอาจารย์สาวสวยของเขาจะยังต่อสู้ไม่ตบแต่
ถึงอย่างนันมั้ นไม่มีความจําเป็ นใดๆที่หลินหมิงจะต้ องเป็ นกังวลเกี่ยวกับนางเห็น
ได้ ชดั ว่าในตอนนี ้สภาพของนักรบโบราณที่แข็งแกร่งที่สดุ ล้ วนตกอยูใ่ นสภาพอ่อน
แรงลงไปมากต่างจากอาจารย์สาวสวยของเขาและผู้อาวุโสเป่ ยแต่ถงึ อย่างนัน้
หากต้ องการสังหารนักรบโบราณคนนี ้ย่อมต้ องใช้ พลังปราณจํานวนมากในการ
สังหารเขาซึง่ แน่นอนว่าในตอนแรกผู้อาวุโสเป่ ยผู้นี ้วางแผนให้ อาจารย์สาวสวย
ของเขาเป็ นคนลงมือเพื่อที่นางจะได้ กลับไปช่วยเหลือกลุม่ ของหลินหมิง

แต่ในสถานการณ์ในตอนนี ้ล้ วนเปลี่ยนไปโดยสิ ้นเชิงสาวสวยผู้ใช้ คา่ ยกลของทาง


ฝั่งอาณาจักรนภานางไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะใช้ คา่ ยกลได้ อีกต่อไป
ในตอนนี ้นางไม่ตา่ งจากตัวถ่วงของกลุม่ ที่ตกเป็ นเป้าหมายโดยง่าย ปราศจาก
ความช่วยเหลือจากค่ายกลทางฝั่งของนักรบจากอาณาจักรนภาล้ วนไม่สามารถ
รับมือกับนักรบโบราณได้ อย่างแน่นอน

" ท่านไม่คิดว่าท่านสมควรส่งคนไปช่วยเหลือคนของข้ าบ้ างอย่างนันหรื


้ อ?"
ผู้อาวุโสเป่ ยกล่าวออกมาด้ วยอารมณ์ร้อนรน ผิดกับจูหนิงเอ๋อร์ ที่ในตอนนี ้ใบหน้ า
อันงดงามของนางมีแต่รอยยิ ้มอันสดใสประดับอยูบ่ นใบหน้ าของนาง

" ท่านก็เห็นไม่ใช่หรื อว่าคนของข้ านันสู


้ ญเสียพลังไปมากเพียงใด ? อีกอย่างหาก
คนของข้ าเข้ าช่วยเหลือไม่ใช่วา่ สมบัติจากนักรบโบราณเหล่านันสมควรเป็
้ นของ
ทางฝั่ งข้ า เช่นนันแล้
้ วนักรบของฝั่งท่านอาจไม่ได้ สงิ่ ใดติดมือกลับไป "

คํากล่าวของจูหนิงเอ๋อร์ ทําให้ ผ้ อู าวุโสเป่ ยกัดฟั นแน่นเขาเข้ าใจความหมายของ


หญิงสาวผู้มากด้ วยเล่ห์เหลี่ยมผู้นี ้เป็ นอย่างดี สําหรับนักรบโบราณเหล่านี ้แม้ วา่
จะยังไม่มีใครตรวจสอบว่าพวกเขามีสมบัติมากมายเพียงใดภายในแหวนมิตแิ ต่
สําหรับตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี ้ในอดีตสมบัติของพวกเขาล้ วนย่อมไม่มีสงิ่ ใดที่ด้อย
ค่าอย่างแน่นอน ลําพังเพียงซากศพของพวกเขาก็อาจนําไปทําประโยชน์ได้ หลาย
อย่างจนกระทัง่ อาจมีคา่ หลายล้ านเหรี ยญ
ตอนที่ 223

ในตอนนี ้แม้ วา่ ทางด้ านของหลินหมิงและผู้อาวุโสาวจะอยูใ่ นสภาพที่เหนื่อล้ าแต่


หากเทียบกับผู้อาวุโสจากอาณาจักรนภานันพวกเขายั
้ งดีกว่ามาก ไม่เพียงแต่ผ้ ู
อาวุโสเหล่านันจะยั
้ งคงต้ องรับมือกับนักรบโบราณในสถานการณ์ที่ปราศจากการ
สนับสนุนจากผู้ใช้ คา่ ยกล แต่พวกเขายังคงต้ องคอยปกป้องสาวน้ อยผู้นนั ้
ด้ วย อาจกล่าวได้ วา่ ในตอนนี ้ชีวิตของพวกเขาทุกคนล้ วนแควนอยูบ่ นเส้ นด้ าย !

สําหรับโบราณผู้ยิ่งยะโสที่แข็งแกร่งที่สดุ ในตอนนี ้ใบหน้ าของเขาบิดเบี ้ยวเต็มไป


ด้ วยความโกรธแค้ นแม้ วา่ เขาจะได้ ยินทุกคํากล่าวของจูหนิงเอ๋อร์ และผู้อาวุโสเป่
ยออกมาอย่างเด่นชัดในระหว่างการต่อสู้ซงึ่ นันหมายความว่
้ ามนุษย์ทงสองนี
ั้ ้
ไม่ได้ เห็นเขาอยูใ่ นสายตาเลยแม้ แต่น้อย ! สําหรับตัวของเขาที่เป็ นถึงผู้ทรง
อํานาจในอดีตหากเป็ นแต่ก่อนแล้ วนันต่ ้ อให้ มีมนุษย์ทงสองคนนี
ั้ ้อีกนับร้ อยก็เกรง
ว่ามันจะไม่เพียงพอมือข้ างเดียวของเขาเสียด้ วยซํ ้า

แม้ วา่ เขาจะรู้สกึ ว่านี ้เป็ นการหยามเหยียดอย่างแท้ จริ งแต่ถงึ อย่างนันนั้ กรบ
โบราณผู้นี ้ไม่ได้ กล่าวแทรกหรื อระบายโทสะออกไปในทันที เขาตังใจที ้ ่จะใช้ เวลา
อันเล็กน้ อยนี ้ฟื น้ ฟูพลัง น่าเสียดายที่หากคูต่ อ่ สู้ของเขาเป็ นเพียงผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หกทัว่ ๆไปแล้ วนันมั
้ นอาจไม่เป็ นปั ญหาสําหรับเขามากถึงเพียง
นี ้ แต่สาํ หรับจูหนิงเอ๋อร์ ที่เต็มเปี่ ยมไปด้ วยพรสวรรค์ และผู้อาวุโสเป่ ยที่ไม่มี
น้ อยหน้ าและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานนับได้ วา่ เขาเจอคูต่ อ่ สู้ที่โหดร้ าย
เกินไป
ผู้อาวุโสเป่ ยกัดฟั นแน่นเมื่อเขาเห็นว่านักรบโบราณใช้ จงั หวะนี ้ในการรักษาตัว
แน่นอนว่าจูหนิงเอ๋อร์ นางไม่ได้ สนใจในเรื่ องนี ้มากนักสําหรับนางและผู้อาวุโสเป่ ย
ในตอนนี ้หลังจากต่อสู้มาชัว่ ระยะเวลาหนึง่ สภาพของนักรบโบราณผู้นี ้อาจเรี ยก
ได้ วา่ ไม่เกินมือหนึง่ ในพวกเขาอีกต่อไปแล้ ว

" ก็ได้ งนข้


ั ้ าขอให้ พวกเรารี บจบการต่อสู้นี ้โดยเร็ วหลังจากนันทางฝั
้ ่งของข้ าจะ
ขอรับเพียงร่างของนักรบโบราณเพียงร่างเดียวเท่านัน้ "

สําหรับผู้อาวุโสเป่ ยนันเขารู
้ ้ สกึ ว่านี ้เป็ นการแลกเปลี่ยนที่ขาดทุนเป็ นอย่างมาก
สําหรับทางฝั่งของพวกเขาที่ต้องรับมือกับนักรบโบราณถึงสามจนกระทัง่ ในตอนนี ้
ทังสองฝ่
้ ายอ่อนแอ่ แต่ถงึ อย่างนันพวกเขาอาจไม่
้ ได้ รับอะไรเลยหลังจากการ
ต่อสู้นี ้จบลง หรื อกระทัง่ พวกเขาอาจพบกับความสูญเสียผู้เชี่ยวชาญไปด้ วยการ
ตัดสินใจที่เชื่องช้ า การสูญเสียผู้อาวุโสระดับปราญช์ขนที ั ้ ่แรกนันนั
้ บว่าเป็ น
ความเสียหายไม่ใช่น้อยต่ออาณาจักรแต่สําหรับผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนที ั้ ่
สองขันที
้ ่สามนันมี้ คา่ ยิ่งกว่านันมาก
้ !
จูหนิงเอ๋อร์ นางพยักหน้ ารับอย่างยินดีแม้ วา่ ในตอนนี ้นางจะมีทางเลือกที่จะปฎิ
เสธผู้อาวุโสเป่ ยไปพร้ อมกับเข้ าโจมตีทางฝั่งอาณาจักรนภาในภายหลังและรวม
สมบัติทงหมด
ั้ แต่ถงึ อย่างนันไม่
้ มีใครสามารถคาดเดาได้ วา่ เฒ่าชราผู้นี ้มีไม้ ตาย
ใดอื่นอีก นางไม่อยากต้ อนอีกฝ่ ายมากจนเกินไปไม่เช่นนันแล้ ้ วแม้ วา่ ผลลัพธ์จะ
เป็ นฝ่ ายนางที่ได้ รับชัยชนะแต่มนั อาจไม่พ้นความสูญเสียที่ต้องแลกมา

ร่างของผู้อาวุโสเป่ ยและอาจารย์สาวสวยของเขาระเบิดพลังออกมาอย่างบ้ าคลัง่


ใบหน้ าของนักรบโบราณเต็มไปด้ วยความหวาดผวาอย่างแท้ จริ งในตอนนี ้เขาไม่
สามารถรับมือกับมุนษย์ทงสองนีั้ ้ได้ อย่างแน่นอน หนี ? แน่นอนว่าเขาไม่มี
ตัวเลือกนันชั
้ ว่ พริ บตาที่เขาคิดจะหันหลังให้ ศตั รู มันอาจหมายถึงความตายของ
เขา !

ดาบใหญ่ในมือของผู้อาวุโสเป่ ยยกขึ ้นพร้ อมกับเสียงคํารามที่ทําให้ ผ้ คู นทังหลาย



หยุดชะงัก แม้ แต่หลินหมิงเองก็ยงั คงตกตะลึงกับภาพตรหน้ าในตอนนี ้ นี ้อาจ
เป็ นครัง้ แรกที่เขาได้ เห็นการต่อสู้เต็มกําลังของผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนที
ั้ ่
หก แม้ วา่ มันจะไม่ได้ รุนแรงมากเท่ากับแม่ซคั คิวบัสสาวของเขาหรื อชายวัย
กลางคนแต่ถงึ อย่างนันมั ้ นก็ยงั มากเกินกว่าขอบเขตที่หลินหมิงคาดเดาเอาไว้ อยู่
มาก
เช่นเดียวกันกับอาจารย์สาวสวยของเขากระบี่ของนางปลดปล่อยเปลวเพลิงสีฟา้
ออกมาล้ อมรอบกระบี่ ที่บริ เวณหลังของนางปรากฎปี เพลิงสีฟา้ ที่ทําให้ ร่างกาย
ของนางดูงดงามขึ ้นมาอีก แม้ วา่ หลินหมิงจะมีความปราถนาว่าเปลวเพลิง
เหล่านันจะสามารถหลอมละลายเสื
้ ้อผ้ าของอาจารย์สาวสวยของเขาจนเผยให้
เห็นเรื อนร่างอันน่าจดจ้ องแต่หากเป็ นอย่างนันเหล่
้ าเฒ่าชราทังหลายเหล่
้ านี ้คง
เลิกทําการต่อสู้กนั เพื่อมองร่างของนางไปแล้ ว

เปลวเพลิงสีฟา้ พุง่ เข้ าหาร่างของนักรบโบราณในทันทีแม้ วา่ สภาพร่างกายของ


นักรบโบราณผู้นี ้จะได้ รับสายเลือดมาจากเผ่าปี ศาจจนมีความแข็งแกร่งที่เกิน
กว่ามนุษย์โดยทัว่ ไปอย่างมากนี ้ยังไม่นบั รวมถึงความแข็งแกร่ งของระดับปราณ
ขันปราญช์
้ ของเขามันเป็ นไปได้ ยากมากที่การโจมตีธรรมดาทัว่ ไปจะสามารถ
สร้ างความเสียหายให้ กบั เขาได้ กระทัง่ ความร้ อนจากลาวาเองก็อาจจะยังคงไม่
เพียงพอ

แต่ถงึ อย่างนันในทั
้ นทีที่เปลวเพลิงสีฟา้ ปรากฎขึ ้นรอบตัวของนักรบโบราณ
ร่างกายของเขาดิินพล่
้ านไปด้ วยความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวด ผิวหนังที่
ได้ รับความแข็งแกร่งมาจากเผ่าปี ศาจเริ่ มมีการแตกออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ
แม้ วา่ กระบวนการจะดําเนินไปอย่างเชื่องช้ าแต่ถงึ อย่างนันเปลวเพลิ
้ งสีฟา้ นี ้มัน
นับได้ วา่ เป็ นสิง่ ที่อนั ตรายต่อชีวิตของเขาอย่างแท้ จริ ง

ในขณะที่นกั รบโบราณกําลังวางแผนที่จะหลบหนีจากการโจมตีนี ้ดาบอันใหญ่โต


ของผู้อาวุโสเป่ ยฟาดฟั นลงมาด้ วยความเร็ วที่น่าเหลือเชื่อ โดยในทันทีที่ดาบ
ของนักรบโบราณตังรั้ บอย่างรวดเร็ วร่างของเขาจมลงไปในพื ้นดินเกือบสามเมตร
ในทันที พื ้นดินโดยรอบระเบิดออกมาด้ วยความรุนแรงที่ไม่น่าเชื่อ

อัก่ ก !

นักรบโบราณที่สญ ู เสียความแข็งแกร่งไปอย่างมากก่อนหน้ านี ้ไม่อาจต้ านรับ


ความเสียหายที่กําลังเกิดขึ ้นนี ้ได้ พลังป้องกันของเขาส่วนใหญ่ถกู ลดทอนลงไป
จากเปลวเพลิงสีฟา้ ไปกว่าครึ่งแล้ วยังคงต้ องรับการโจมตีจากดาบใหญ่เล่ม
นี ้ เลือดของเขากระอักออกมาจากปากเป็ นจํานวนมากที่บริ เวณแขนข้ างขวาที่
กําลังถือดาบต้ านรับการโจมตีของผู้อาวุโสเป่ ยอยูน่ นในตอนนี
ั้ ้ปรากฎเส้ นเลือด
ปูนโปนจนแทบจะปริ ออกได้ อยูต่ ลอดเวลา
ในตอนนี ้ปี กสีดําทังสองข้
้ างเขาล้ วนถูกหลอมละลายจนหายไปจนหมดสิ ้นไปที
เรี ยบร้ อยจูหนิงเอ๋อร์ นางไม่ได้ ลงมือต่อแต่อย่างใด นางเหลือมองไปที่ผ้ อู าวุโส
เป่ ยเพื่อให้ เขาแสดงพลังออกมาจัดการกับนักรบโบราณผู้นี ้ ทันใดนันที
้ ่เบื ้องหลัง
ของผู้อาวุโสเป่ ยปรากฎรูปร่างของลักษณะสัตว์ป่าอันดุร้ายปรากฎขึ ้นมันคือ
รูปร่ างของหมีโลหิต

อันที่จริ งแล้ วหลินหมิงเองก็เคยพบเห็นการต่อสู้คล้ ายกันนี ้มาก่อนในก่อนหน้ านี ้


ระหว่างการต่อสู้ของซัคคิวบัสสาวของเขากับฟางเซี่ยนหญิงสาวที่เพิ่งหลุดพ้ น
จากผนึกในพระราชวังโบราณแต่ถงึ อย่างนันในการต่
้ อสู้ของพวกนางนัน้ พวก
นางทังสองสามารถเรี
้ ยกรูปร่างของสัตว์วิญญาณเหล่านี ้ได้ ราวกับพวกมันมีชีวิต
หลินหมิงคาดเดาว่ามันอาจเป็ นเพราะความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสเป่ ยยังคงมีไม่
เพียงพอดังนันแล้
้ วเขาจึงไม่สามารถใช้ พลังอํานาจของสัตว์วญ ิ ญาณได้ อย่าง
เต็มที่ แน่นอนว่าการใช้ สตั ว์วิญญาณเหล่านี ้ได้ นนย่
ั ้ อมหมายความว่าพวกเขา
ต้ องเคยสังหารสัตว์อสูรเหล่านี ้มาก่อน หรื ออาจทําให้ พวกมันยอมรับมาแล้ ว

บรึม้ มมมมมมม !
เสียงระเบิดดังก้ องกังวานไปทัว่ พร้ อมกับเลือดที่กระจายออกมาจากร่างของ
นักรบโบราณ หากเป็ นนักรบโดยทัว่ ไปที่เจอกับการโจมตีเช่นนี ้ร่างของพวกไม่
อาจเหลือแม้ กระทัง่ ซากศพไปแล้ ว ในจิตใจของนักรบโบราณที่กําลังต่อสู้อยูก่ บั
ผู้อาวุโสทางฝั่งอาณาจักรนภาเปลี่ยนเป็ นซีดเผือก ในตอนนี ้พวกเขาไม่อาจ
ต้ านทานแม้ แต่ผ้ อู าวุโสเป่ ยหรื อหญิงสาวผู้มี่เปลวเพลิงสีฟา้ คนใดคนหนึง่ อย่าง
แน่นอน

โดยไม่รอช้ าผู้อาวุโสตรงไปยังกลุม่ ของเขาโดยเร็ ว โดยไม่ต้องพูดถึงผลลัพธ์อื่น


แต่อย่างใดร่างกายของนักรบโบราณทังสามกลายเป็
้ นศากศพไม่ตา่ งจากหัวหน้ า
ของพวกเขาภายในช่วงระยะเวลาไม่นาน จากร่างของนักรบโบราณทังสิ ้ บคน
ทางฝั่ งของอาณาจักรนภานันได้
้ รับไปเพียงหนึง่ และมันยังคงเป็ นร่างของนักรบที่
มีระดับพลังปราณเพียงระดับปราญช์ขนที ั ้ ่สองเพียงเท่านัน้

เทียบกับทางฝั่งตรงข้ ามของพวกเขาแล้ วนันนี้ ้อาจเรี ยกว่าเป็ นการปล้ นโดยแท้ จริ ง


แต่ถงึ อย่างนันพวกเขาไม่
้ อาจทําสิง่ ใดได้ ในตอนนี ้เห็นได้ ชดั ว่าในเรื่ องของความ
แข็งแกร่งพวกเขาเป็ นรองอีกฝ่ ายในทุกๆด้ าน ยิ่งไปกว่านันผู ้ ้ อาวุโสเป่ ยแม้ วา่ เขา
จะรู้สกึ เสียดายร่างของนักรบโบราณที่มีพลังปราณระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หกซึง่ ไม่
ต้ องบอกก็ร้ ูได้ เลยว่าภายในแหวนมิิติของนักรบโบราณผู้นี ้อาจมีคา่ มากกว่าของ
นักรบโบราณทังเก้ ้ าที่เหลือรวมกันเสียอีก

จูหนิงเอ๋อร์ นางรับหน้ าที่ในการเก็บสมบัติทงหมดลงไปภายในแหวนมิ


ั้ ติของนาง
อย่างไรเสียนางเป็ นคนที่แข็งแกร่งที่สดุ ในกลุม่ ดังนันแล้
้ วมันไม่มีทางที่จะมีผ้ ใู ด
สามารถช่วงชิงสมบัติลํ ้าค่าจากนางไปได้ โดยง่ายอย่างแน่นอน
ตอนที่ 224
โดย

Haremkung
Copy Enabled
ตอนที่ 224

ในตอนนี ้กลุม่ ของหลินหมิงนันล้


้ วนตื่นเต้ นไปด้ วยความยินดีนนก็ ั ้ เพราะว่า
ในตอนนี ้ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถเอาชนะนักรบโบราณผู้แข็งแกร่งได้ และ
ยังได้ สร้ างความอับอายเล็กๆน้ อยๆกับให้ กบั อาณาจักรนภาเพียงเท่านัน้ เมื่อ
อาจารย์สาวสวยของเขาลองนําเอาสมบัติสว่ นหนึง่ ออกมาจากแหวนมิติของ
นักรบโบราณนันด้ ้ วงตาของสาวงามทังหลายล้
้ วนเบิกกว้ างด้ วยความยินดี

สิง่ ที่อยูต่ รงหน้ าพวกนางในตอนนี ้ไม่ใช่เครื่ องประดับเพชรพลอยอันงดงามแต่มนั


กลับเป็ นเม็ดยาที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างมากล้ น มันกระทัง่ ไม่สามารถ
เทียบได้ กบั เม็ดยาพลังปราณที่อาจารย์สาวสวยของเขาสามารถปรุงได้ เสียด้ วย
ซํ ้าไป มันเป็ นเม็ดก้ อนเล็กขนาดเท่าหัวนิ ้วแม่มือมีลกั ษณะสีฟา้ แม้ แต่อาจารย์
สาวสวยของเขาก็ไม่สามารถระบุได้ วา่ เม็ดยาเม็ดนี ้คือสิง่ ใดกัน แต่ที่แน่นอน
ที่สดุ ก็คือพลังปราณที่อดั แน่นอยูใ่ นเม็ดยานี ้ล้ วนมีคา่ เพียงพอให้ แม้ แต่ผ้ ทู ี่อยูใ่ น
ระดับปราญช์สามารถพัฒนาได้
โดยปกติแล้ วเผ่าพันธ์มนุษย์ในยุคปั จจุบนั นี ้พวกเขาไม่สามารถปรุงยาที่เพียง
พอที่จะส่งผลกับผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ได้ มันไม่ใช่วา่ เพราะพวกเขาไม่มี
ความสามารถแต่พวกเขาขาดภูิมความรู้ตกทอดที่สญ ู หายจากในอดีตและที่
สําคัญที่สดุ คือสมุนไพรอันลํ ้าค่าอันเป็ นวัตถุดิบ แน่นอนที่เป็ นเช่นนี ้นันก็

เพราะว่าในดินแดนของมนุษย์นนล้ ั ้ วนไม่ปรากฎผู้แข็งแกร่งมาอย่างยาวนานมาก
แล้ วส่วนใหญ่สําหรับสมุนไพรอันลํ ้าค่านันพวกมั
้ นล้ วนได้ รับการเจริ ญเติบโตมา
จากการดูดกลืนพลังปราณเล็กน้ อยจากผู้เชี่ยวชาญระดับสูง

ในเมื่ออาณาจักรของเผ่าพันธ์มนุษย์ปราศจากบุคคลเหล่านันมั ้ นจึงเป็ นเรื่ องที่


ยากที่พวกเขาจะสามารถหาสมุนไพรที่นํามากลัน่ ได้ ยิ่งไปกว่านันมั ้ นยังคงไม่ได้
มีเพียงหนึง่ เม็ดเพียงเท่านันมั
้ นกระทัง่ มีอยูด่ ้ วยกันทังหมดสิ
้ บเม็ดด้ วยกัน พร้ อม
กันนันมั
้ นยังคงประกอบไปด้ วยตําราปรุงโอสถชนิดนี ้ด้ วยเช่นเดียวกันดวงตาของ
ผู้อาวุโสซูหลิง่ และอาจารย์สาวสวยเบิกกว้ า◌่ งจนนํ ้าลายของพวกนางแทบจะหก
ออกมา

แม้ วา่ พวกนางจะมีตําราที่สามารถปรุงยาเม็ดยาระดับสูงนนี ้ได้ แต่ถงึ อย่างนัน้


พวกนางย่อมต้ องใช้ เวลาไม่น้อยในการศึกษามัน แต่ถงึ อย่างนันด้ ้ วยสมบัติ
เหล่านี ้มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งและอํานาจให้ กบั สมาคมนักปรุงยาได้
อย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้อาวุโสฟางซิน่ นันแม้ ้ วานางจะเป็ นนักปรุงยาด้ วย
เช่นเดียวกันแต่นางตระหนักได้ ดีวา่ นางยังคงมีความสามารถไม่เพียงพอที่จะ
เรี ยนรู้ตํารานี ้ เทียบกับจูหนิงเอ๋อร์ และผู้อาวุโสซูหลิง่ แล้ วนันนางยั
้ งคงด้ อยกว่า
มาก มันจะเป็ นการดีกว่าที่นางปล่อยให้ สองผู้อาวุโสสาวเป็ นคนศึกษาในเรื่ องนี ้

เช่นเดียวกันกับหย่าเฟยนางเองก็ไม่ได้ มีความรู้ในด้ านการปรุงยามากนักแต่เห็น


ได้ ชดั จากเม็ดยาที่อยูต่ รงหน้ านางทังสิ
้ บเม็ดนี ้มันล้ วนเป็ นสมบัติที่ประเมิณค่า
ไม่ได้ ไม่แน่วา่ หากมันถูกนําออกไปประมูลขายที่อาณาจักรแล้ วนันราคาของมั ้ น
อาจสูงถึงหลายร้ อยล้ านเหรี ยญ ส่วนหนึง่ นันเป็
้ นเพราะตัวตนระดับผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ทกุ คนล้ วนย่อมอยากได้ มนั อย่างแน่นอน เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ ้น
นี ้นางรู้สกึ เบาใจที่ตระกูลหลิวนันร่
้ วมมือกับสมาคมนักปรุงยา และแน่นอนว่า
นางยังคงจะได้ รับส่วนแบ่งจากการสํารวจครัง้ นี ้ เมื่อคิดไปถึงภาพนันแม้ ้ กระทัง่
นางที่มีชีวิตมานานกว่าสามสิบปี ก็ยงั คงอดตื่นเต้ นไปไม่ได้

มันอาจเป็ นเพราะหัวหน้ าของนักรบโบราณผู้นี ้เขาอาจเป็ นนักปรุงยาด้ วย


เช่นเดียวกันเพราะว่าในแหวนมิติของเขานันยั ้ งคงมีสมุนไพรระดับสูงต่างๆ
มากมายอยูอ่ ย่างครบถ้ วน นี ้เป็ นการเก็บเกี่ยวที่ค้ มุ ค่าเหนื่อยของพวกเขาอย่าง
ไม่ต้องสงสัยเทียบกับผู้อาวุโสจากทางฝั่งอาณาจักรนภานันพวกเขาไม่
้ กล้ าแม้ แต่
หยิบของขึ ้นมาตรวจสอบ

ในตอนนี ้พวกเขาทําได้ เพียงรักษาอาการบาดเจ็บและฟื น้ พลังเพียงเท่านันใครจะ



รู้กนั บ้ างว่าหากพวกเขานําสมบัติขึ ้นมาแล้ วมันเกิดต้ องตาต้ องใจเหล่าสตรี ผ้ รู ้ าย
กาจทังหลายแล้
้ วพวกนางจะไม่ลงมือโจมตีพวกเขา ?
" แล้ วเจ้ าเป็ นอย่างไรบ้ าง ? "

หลินหมิงที่ในตอนนี ้กําลังนอนอย่างหมดแรงหลังจากได้ รับผลกระทบจากทักษะ


จิตสายฟ้าเขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถทําการสํารวจนี ้ต่อไปได้ อย่างแน่นอนด้ วย
สภาพของเขาในตอนนี ้มันอาจต้ องพักอย่างน้ อยหนึง่ วัน ใบหน้ าของหย่าเฟย
ขมวดคิ ้วเมื่อนางไปมองไปที่หลินหมิงที่กําลังนอนหนุนตักของผู้อาวุโสฉินเหยา

แน่นอนว่าภาพตรงหน้ านี ้มันดูไม่น่าเชื่อเป็ นอย่างมากกระทัง่ ในสายตาของ


อาจารย์สาวสวยและผู้อาวุโสซูหลิง่ พวกนางก็ยงั คงมีความรู้สกึ ที่ขดั แย้ งตัวตน
ของผู้อาวุโสฉินเหยาขึ ้นชื่อในทางเลวร้ ายมาแต่อดีต แต่ถงึ อย่างนันพวกนาง

เลือกที่จะไม่กล่าวสิง่ ใดที่เป็ นการเสียมารยาทออกไป แต่สาํ หรับหย่าเฟยแล้ วนัน้
นางล้ วนรู้ดีวา่ เจ้ าลูกเขยของนางคนนี ้กระทัง่ สามารถควบคุมสาวดุร้ายอย่างผู้
อาวุโสฉินเหยาได้ ด้วยบทเพลงยามคํ่าคืนของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

" ข้ าคิดว่าเราไม่สามารถสํารวจต่อไปได้ ด้วยสภาพของพวกเราในตอนนี ้ "

คํากล่าวของผู้อาวุโสซูหลิง่ นันไม่
้ มีใครปฎิเสธออกมาด้ วยสภาพของพวกเขา
ในตอนนี ้หลังจากเพียงเขาอาณาเขตลึกลับมาเพียงไม่นานกลับอยูใ่ นสภาพที่
ยํ่าแย่จะมีใครสามารถมัน่ ใจได้ วา่ หากพวกเขาทําการสํารวจไปมากกว่านี ้พวกเขา
อาจพบกระทัง่ ตัวตนที่สงู กว่านักรบโบราณทังสิ
้ บก่อนหน้ า

เช่นเดียวกันกับทางฝั่งของอาณาจักรที่เตรี ยมตัวจะจากไปด้ วยเช่นเดียวกัน


ในตอนนี ้มันคงขึ ้นอยูก่ บั ว่าทางฝ่ ายใดจะสามารถนําผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกลับมา
สํารวจอาณาเขตโบราณแห่งนี ้ได้ ก่อนกันเมื่อเป็ นเช่นนี ้ใบหน้ าของอาจารย์สาว
สวยรู้สกึ เสียดายเล็กน้ อยแม้ วา่ นางจะไม่ร้ ูสกึ ยินยอมที่จะต้ องเสียสิทธ์ในสมบัติ
ภายในนี ้ไปแต่ถงึ อย่างนันมั้ นยังคงดีกว่าการสูญเสียให้ กบั ศัตรูตา่ งอาณาจักร
เพียงแต่วา่ ในระหว่างที่ทงสองฝ่
ั้ ายกําลังตัดสินใจที่จะจากไปคลื่นพลังกดดันจน
ทําให้ พวกเขาทุกคนพลันหน้ าซีดพร้ อมกับหันไปมองยังเบื ้องหลังที่ปรากฎร่าง
ของบุรุษกึง่ ปี ศาจ !

เทียบกับลักษณะของบุรุษผู้นี ้กับนักรบโบราณก่อนหน้ านันบุ ้ รุษผู้มาใหม่มีนนมี


ั้
ลักษณะคล้ ายกับปี ศาจมากเสียยิ่งกว่ามนุษย์ร่างกายเกินครึ่งตัวของเขานันมี ้
ลักษณะรูปร่างของปี ศาจอย่างเห็นได้ ชดั ไม่เพียงเท่านันที ้ ่บริ เวณศรี ษะของเขา
ยังปราฏําเขาทังสองขึ
้ ้นมาที่บริ เวณหน้ าผาก สิง่ ที่ทําให้ ทกุ คนหน้ าซีดเผือกไม่ใช่
รูปร่างของเขาที่เป็ นปี ศาจแต่เป็ นระดับพลังของเขาที่เกินกว่าจินตนาการไปมาก

" ระ...ระดับปราญช์..ขันสู
้ งสุด !! "

แม้ วา่ มันจะเป็ นระดับพลังที่เทียบเท่ากับแม่ทพั ใหญ่ทงสีั ้ ่แต่ออ่ ร่าที่ปรากฎออกมา


ในตอนนี ้ล้ วนมากกว่าแม่ทพั ใหญ่ทงสี ั ้ ่อย่างแม่ทพั โจวและแม่ทพั ฉินอย่างเห็นได้
ชัด เพียงแค่การกวาดสายตามองของชายผู้นี ้ก็ถงึ กับทําให้ ผ้ อู าวุโสเป่ ยถอยหลัง
ไปสองก้ าวพร้ อมกับเหงื่อเย็นที่ไหลออกมาโดยไม่ร้ ูตวั
ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ วา่ ในอดีตนันตั ้ วตนของชายผู้นี ้จะยิ่งใหญ่เพียงใดด้ วย
ระดับพลังปราณของเขาในตอนนี ้แน่นอนว่ามันจะยังคงไม่ใช่ระดับพลังที่แท้ จริ ง
ของเขาอย่างแน่นอน ดังนันแล้ ้ วเป็ นไปได้ หรื อไม่วา่ ◌่ แท้ จริ งแล้ วในอดีตนันเขา

อาจเป็ นถึงผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังถึงระดับองครักษ์ ขนปลาย
ั้ ! เพียงแค่คิดได้ เช่นนี ้
ทุกคนสัน่ สะท้ านไปด้ วยความหวาดกลัว

" เป็ นพวกเจ้ าที่สงั หารเหล่าทหารของข้ า ? "

ด้ วยคํากล่าวเพียงประโยคเดียวทําให้ ทกุ คนถึงกับวิญญาณหลุดลอยเป็ นไปได้


หรื อไม่วา่ แท้ จริ งแล้ วชายผุ้นี ้อาจเป็ นถึงแม่ทพั ของนักรบโบราณเหล่านัน้ ?

ผู้อาวุโสเป่ ยออกมายืนอยูเ่ บื ้องหน้ าของกลุม่ จากทางฝั่งอาณาจักรนภาอย่าง


รวดเร็ วแม้ วา่ เขาจะรู้ดีวา่ เขาไม่ใช่คตู่ อ่ สู้ของชายตรงหน้ าเลยแม้ แต่น้อยแต่ถงึ
อย่างนันพวกเขายั
้ งคงมีทางเลือกอื่น ? การกลับออกจากสถานที่แห่งนี ้จําเป็ นที่
จะต้ องใช้ พลังของผู้ใช้ คา่ ยกลซึง่ ในตอนนี ้สาวสวยผู้ใช้ คา่ ยกลของพวกเขาต้ องใช้
เวลาในการพักฟื น้ อย่างน้ อยหนึง่ ก้ านธูป !
มันเป็ นไปไม่ได้ อย่างแน่นอนที่เขาจะสามารถรับมือกับตัวตนระดับสูงขนาดนี ้ด้ วย
ระยะเวลานานถึงเพียงนัน้ ทันใดนันเขารี
้ บหันไปมองยังกลุม่ ของหลินหมิงแม้ วา่
จะเป็ นศัตรูกนั ก็ตาม แต่ในตอนนี ้เขาไม่อาจคิดถึงเรื่ องเหล่านันได้
้ อีก
ต่อไป เพียงแต่วา่ เมื่อเขาหันไปหานันเขากลั
้ บพบว่าผู้อาวุโสซูหลิง่ ได้ ทําการ
สะบัดมืออย่างรวดเร็ วพร้ อมกับตบไปที่กระดายค่ายกลของนาง

ร่างของผู้อาวุโสสาวทังหลายถู
้ กนําออกไปยังสถานที่แห่งนี ้อย่างรวดเร็ วแม้ แต่
บุรุษกึง่ ปี ศาจก็ยงั คงมองมาที่ผ้ อู าวุโสซูหลิง่ ด้ วยสายตาแปลกใจ ผู้อาวุโสซูหลิง่
นางถอนหายใจออกมาด้ วยความโล่งอกก่อนหน้ านี ้นางได้ วาดอักขระลงบนตัว
ของทุกคนภายในกลุม่ สําหรับเหตุฉกุ เฉินเอาไว้ ลว่ งหน้ าก่อนแล้ ว ร่างของนางยืน
ขึ ้นพร้ อมกับประจัญหน้ ากับบุรุษกึง่ ปี ศาจอย่างไม่กลัวเกรง เพียงแต่วา่ ทันใดนัน้
สายตาของนางเหลือไปเห็นร่างของชายหนุ่มที่กําลังนอนอย่างหมดสภาพพร้ อม
กับยิ ้มมาที่นางเล็กน้ อย
ตอนที่ 225

ผู้อาวุโสซูหลิง่ เบิกตาด้ วยความแปลกใจเมื่อนางยังคงพบร่างของหลินหมิงที่ยงั คง


นอนอยูใ่ นสภาพอ่อนล้ าเช่นเดิม ไม่ใช่วา่ เขาสมควรถูกเคลื่อนย้ ายออกไปพร้ อม
กับผู้อาวุโสสาวทังหลายแล้
้ ว ? นางมัน่ ใจว่ารูปแบบค่ายกลของนางนันไม่
้ ได้ มี
ความผิดพลาดอย่างแน่นอนไม่เช่นนันแล้
้ วมันไม่มีทางที่ผ้ อู าวุโสสาวทังหลายจะ

เคลื่อนย้ ายไปได้

หลินหมิงค่อยๆลุกขึ ้นอย่างช้ าๆสภาพร่างกายของเขาในตอนนี ้อย่าว่าแต่นกั รบกึง่


ปี ศาจที่มีพลังระดับปราญช์ขนสูั ้ งสุดเลยขนาดผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์ทวั่ ไป
หลินหมิงในตอนนี ้ก็ไม่อาจเป็ นคูต่ อ่ สู้ให้ พวกเขาเหล่านันได้
้ ผู้อาวุโสซูหลิง่ มายืน
บังเบื ้องหน้ าเขา ทําให้ เขาหลินหมิงแปลกใจเล็กน้ อยอันที่จริ งแล้ วเขารู้วา่ นางนัน้
อาจมีสภาพที่ไม่สามารถเรี ยกได้ วา่ ดีกว่าเขามากนักด้ วยตลอดการต่อสู้ที่ผา่ นมา
นันเป็
้ นนางที่ต้องใช้ พลังปราณในการควบคุมค่ายกลอยูต่ ลอด ท้ ายที่สดุ แล้ ว
นางยังคงต้ องใช้ รูปแบบเคลื่อนย้ ายที่น่าจะต้ องใช้ พลังปราณไปมาก

" แล้ วพวกเราจะทําอย่างไรกันต่อไปดี ? "

" ที่จริ งข้ าวางแผนให้ เจ้ าหลบหนีออกไปด้ วยเช่นเดียวกันแต่ไม่ร้ ูเหตุใดเจ้ ากลับไม่


สามารถออกไปได้ "
ในตอนนี ้ผู้อาวุโสซูหลิง่ จ้ องไปที่บรุ ุษกึง่ ปี ศาจด้ วยสายตาแน่วแน่หลินหมิงไม่ร้ ูวา่
ผู้อาวุโสผู้งดงามของเขานางไปเอาความมัน่ ใจมาจากไหนลําพังเพียงแค่ศตั รูที่
เป็ นนักรบโบราณก่อนหน้ านี ้มันก็ทําให้ พวกเขาแทบจะเอาชีวิตไม่รอดแล้ ว

" ข้ าคิดว่าเราน่าจะใช้ พวกเขาถ่วงเวลาหลังจากนันท่


้ านก็ทําการเปิ ดประตู
ทางออกขึ ้นอีกครัง้ "

แม้ วา่ เสียงของหลินหมิงจะไม่ได้ ดงั มากแต่สําหรับผู้คนที่อยูใ่ นสถานที่แห่งนี ้ที่เป็ น


ตัวตนระดับสูงด้ วยกันทังหมดพวกเขาสามารถได้
้ ยินเสียงของหลินหมิงไม่
แตกต่างจากการพูดคุยทัว่ ไป ผู้อาวุโสเป่ ยกัดฟั นแน่นพร้ อมกับจ้ องมองมาที่
หลินหมิงและผู้อาวุโสซูหลิง่ เห็นได้ ชดั ว่าแผนการณ์ของหลินหมิงนันไม่้ แตกต่าง
อะไรไปจากการที่ให้ เขาไปถ่วงเวลาเอาไว้

ในตอนแรกหากมีจหู นิงเอ๋อร์ อยูร่ วมกันด้ วยผู้อาวุโสเป่ ยอาจจะยังคงคิดว่าเรื่ องนี ้


อาจพอเป็ นไปได้ แต่สําหรับในตอนนี ้เพียงคนเดียวที่เหลือที่สามารถพอต่อกรกับ
บุรุษกึง่ ปี ศาจนี ้ได้ มีเพียงเขาคนเดียวเท่านัน้ ดังนันแล้
้ วแผนการณ์ของหลินหมิง
ไม่สามารถเป็ นอะไรไปได้ มากกว่าการส่งเขาไปตายเพียงเท่านัน้
ผู้อาวุโสเป่ ยแทบอยากจะพุง่ เข้ าไปสังหารหลินหมิงเสียแต่ในตอนนี ้หากไม่ใช่วา่
ในตอนนี ้พวกเขายังคงมีสถานการณ์อนั ตรายรออยูต่ รงหน้ าไม่เช่นนันแล้้ วสําหรับ
ชายหนุ่มรุ่นเยาว์ผ้ นู ี ้คงได้ เป็ นกองเลือดประดับดาบใหญ่ของเขาไปแล้ ว

ทันใดนันผู
้ ้ อาวุโสเป่ ยรี บหันไปมองยังร่างของบุรุษกึง่ ปี ศาจที่เริ่ มทําการสํารวจ
จ้ องมองมาที่พวกเขาทีละคน สายตาของบุรุษกึง่ ปี ศาจราวกับว่ามันสามารถที่
จะจ้ องมองผ่านไปยังความสามารถที่แท้ จริ งของผู้คนได้ แม้ กระทัง่ ผู้อาวุโสเป่
ยเองก็ยงั คงไม่อาจทําใจเชื่อได้ เช่นเดียวกัน ในทันทีบรุ ุษกึง่ ปี ศาจจ้ องมองไปที่ผ้ ู
อาวุโสเป่ ยด้ วยสายตาเฉยชา

แผ่นหลังของผู้อาวุโสเป่ ยเสียววาบขึ ้นมาในทันทีเขารู้ดีวา่ เหตุใดบุรุษกึง่ ปี ศาจผู้นี ้


ถึงได้ จ้องมองมาที่เขา สําหรับการต่อสู้แล้ วนันมั้ นเป็ นเรื่ องธรรมดาที่ยอ่ มต้ องชิง
ความได้ เปรี ยบจากการสังหารผู้ที่แข็งแกร่งที่สดุ ก่อน แม้ วา่ ความแข็งแกร่งของ
บุรุษกึง่ ปี ศาจผู้นี ้จะห่างชันกั
้ บพวกเขาค่อนข้ างมากแต่เขาไม่ได้ มีความประมาท
เลยแม้ แต่น้อย
หมัดอันเต็มเปี่ ยมไปด้ วยพลังของบุรุษกึง่ ปี ศาจถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเรี ยบ
ง่ายมันเป็ นหมัดที่ไร้ ซงึ่ ทักษะใดๆแต่ถงึ อย่างนันมั
้ นกลับแฝงไปด้ วยพลังอํานาจ
ทําลายล้ างที่เหนือลํ ้ายิ่งกว่าทักษะระดับกลาง ผู้อาวุโสเป่ ยกัดฟั นแน่นพร้ อมกับ
ดาบใหญ่ของเขาที่ถกู ยกขึ ้นด้ วยแขนทังสองข้้ างมาตังรั้ บกับหมัดอันทรงพลังนี ้

โฮรกกกกก !!!!!

จิตวิญญาณหมีโลหิตของผู้อาวุโสเป่ ยปรากฎขึ ้นพร้ อมกับแผ่เสียงคํารามไปทัว่ ทัง้


พื ้นที่ ร่างกายของผู้อาวุโสเป่ ยในทันทีนนมี
ั ้ การขยายขึ ้นออกมาราวครึ่งเท่าตัว
เสื ้อผ้ าส่วนบนของเขาล้ วนถูกระเบิดออกมาจนเผยให้ เห็นกล้ ามเนื ้ออันใหญ่ตอ่
ของชายชราเฒ่าผู้นี ้

หลินหมิงรู้สกึ ตื่นตะลึงกับความาสามารถของผู้อาวุโสเฒ่านี ้เล็กน้ อยอันที่จริ งแล้ ว


ในตอนที่เขาสู้กบั หัวหน้ านักรบโบราณนันเขายั ้ งคงซ่อนความแข็งแกร่งไว้ มากถึง
เพียงนี ้ ทัว่ ทังร่้ างกายของผู้อาวุโสเป่ ยปรากฎเส้ นเลือดปูนโปนออกมาจนน่า
หวาดกลัวดวงตาของเขาแดงกํ่าจนแทบจะทะลุออกมา
ครื นนนนนนนนนนนนน !

คลื่นระเบิดแผ่ขยายเป็ นวงกว้ างอย่างรวดเร็ วสิง่ ที่น่าหวาดกลัวที่สดุ ก็คือแม้ วา่ ผู้


อาวุโสเป่ ยจะใช้ ความสามารถทังหมดของเขาแล้
้ วนันเขากลั
้ บไม่สามารถแม้ แต่
จะสามารถต้ านรับหมัดธรรมดาของบุรุษกึง่ ปี ศาจผู้นี ้ได้

" ผู้อาวุโสเป่ ย ! "

ในสายตาของกลุม่ จากอาณาจักรนภาพวกเขาล้ วนเต็มไปด้ วยความตื่นตกใจ


แม้ วา่ ผู้อาวุโสเป่ ยนันจะยั
้ งคงไม่ใช่นกั รบที่ยอดเยี่ยมที่สดุ ในอาณาจักรของพวก
เขาแต่ความแข็งแกร่งของเขานันอาจเรี ้ ยกได้ วา่ ใกล้ เคียงกับผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์ขนที ั ้ ่เจ็ดช่วงต้ น
อัก่ กกก
ร่างของผู้อาวุโสเป่ ยลอยกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตรจนกระแทกเขากับกําแพง
อย่างรุนแรง เลือดจํานวนมากไหลออกมาจากปากของเขาอย่างไม่หยุด
หย่อน แขนทังสองข้
้ างของเขาในตอนนี ้ถูกทิ ้งลงอย่างหมดแรงโดยที่ไม่สามารถ
ใช้ งานได้ อีก

สาวสวยผู้ใช้ คา่ ยกลรี บพุง่ ตรงไปดูอาการของผู้อาวุโสเป่ ยในทันทีในตอนนี ้เพียง


แค่ระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจคนที่แข็งแกร่งที่สดุ ในกลุม่ ของพวกเขาในตอนนี ้ได้
พ่ายแพ้ ไปแล้ ว ใบหน้ าของนักรบจากอาณาจักรนภาทังสามเต็ ้ มไปด้ วยความ
หวาดกลัวแต่ถงึ อย่างนันพวกเขาก็
้ ยงั คงรี บพุง่ เข้ ามายืนประจัญหน้ ากับบุรุษกึง่
ปี ศาจไม่ต้องสงสัยเลยว่านี ้จะเป็ นการสูญเสียครัง้ ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรนภา
อย่างแท้ จริ งหากพวกเขาต้ องเสียผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขนที ั ้ ่หกไป

ผู้อาวุโสเป่ ยจ้ องมองที่สาวสวยผู้ใช้ คา่ ยกลด้ วยสายตาเหนื่อล้ าในตอนนี ้จาก


สภาพของเขานันไม่ ้ อาจมีชีวิตได้ อีกต่อไปได้ นานนัก เขาหันกลับไปมองยังร่าง
ของผู้อาวุโสซูหลิง่ ด้ วยสายตาขอร้ อง แม้ วา่ อาณาจักรทังสองจะเป็
้ นศัตรูกนั แต่
สําหรับนักสู้แล้ วนันผู
้ ้ อาวุโสซูหลิง่ ยังคงรู้สกึ นับถือเฒ่าชราผู้นี ้ไม่น้อย นางเดิน
เข้ าไปหาผู้อาวุโสเป่ ยเพื่อรับฟั งคําขอของเขาครัง้ สุดท้ าย
" ขะ..ข้ าจะถ่วงเวลาให้ พวกเจ้ าสิบลมหายใจ...จงใช้ เวลาในช่วงนันเปิ
้ ดประตู
ทางออกแล้ วให้ นางไปด้ วย "

ผู้อาวุโสซูหลิง่ เลิกคิ ้วด้ วยความแปลกใจเล็กน้ อยจากคําร้ องกล่าวของผู้อาวุโสเป่ ย


นันมั
้ นอาจหมายความได้ วา่ หญิงสาวผู้ใช้ คา่ ยกลนางนี ้นางอาจมีฐานะที่ไม่
ธรรมดา ? ผู้อาวุโสเป่ ยลุกขึ ้นด้ วยความยากลําบากแขนทังสองข้ ้ างของเขาทิ ้ง
ดิ่งลงมาอย่างอ่อนแรง
" ไปซะ ! "

ผู้อาวุโสซูหลิง่ นางไม่ได้ สนใจในเรื่ องอื่นใดอีกต่อไปสําหรับนางแล้ วการตายของผู้


อาวุโสเป่ ยไม่อาจนับเป็ นความเสียหายแต่อย่างใดตรงกันข้ ามกันคนของ
อาณาจักรนภาที่เต็มไปด้ วยความไม่เต็มใจ ผู้อาวุโสเป่ ยนางรี บนําค่ายกลพร้ อม
กับเตรี ยมตัวเปิ ดทางออกอย่างรวดเร็วอันที่จริ งแล้ วสําหรับเวลาเพียงสิบลม
หายใจนันนางยั
้ งไม่แน่ใจว่าด้ วยความสามารถของนางนันจะเพี ้ ยงพอหรื อไม่ที่ยิ่ง
ไปกว่านันก็
้ คือการที่ผ้ อู าวุโสเป่ ยจะสามารถถ่วงเวลาได้ นานถึงเพียงนันหรื
้ อไม่
ฮ่าห์ !!

ร่างของผู้อาวุโสเป่ ยคํารามออกมาด้ วยเสียงแหบพร่าแต่มนั กลับเต็มเปี่ ยมไปด้ วย


พลังอย่างไม่น่าเชื่อบาดแผลที่อยูต่ ามร่างกายของเขานันถู ้ กทําให้ เปิ ดออกมา
อย่างไม่หยุดเลือดจํานวนมากไหลทะลักออกมา เป็ นไปได้ หรื อไม่วา่ แท้ จริ งแล้ ว
เฒ่าชราผู้นี ้กลับตังใจที
้ ่จะตายเพื่อแลกกับการอยูร่ อดของนักรบที่เหลือแม้ แต่
หลินหมิงเองก็ยงั คงรู้สกึ นับถือในตัวเฒ่าชราผู้นี ้ขึ ้นมาเล็กน้ อย

ดวงตาของผู้อาวุโสเป่ ยเปล่งแสงออกมาพร้ อมกับจิตวิญญาณหมีโลหิตที่ก่รู ้ อง


ราวกับว่ามันรับรู้ความต้ องการสุดท้ ายของผู้อาวุโสเป่ ย ร่างของเขาอัดแน่นไป
ด้ วยพลังปราณจนถึงขีดสุดคลืน่ พลังพลันระเบิดขึ ้นมาอย่างรุนแรงภายในร่างของ
เขา

บรึม้ !

เสียงระเบิดดังก้ องกังวาลไปทัว่ แน่นอนว่าแม้ วา่ มันจะเป็ นการจูโ่ จมครัง้ สุดท้ าย


ของผู้อาวุโสเป่ ยแต่แน่นอนว่ามันยังคงไม่เพียงพอที่จะสามารถสร้ างความ
เสียหายให้ กบั บุรุษกึง่ ปี ศาจผู้นี ้ได้ แต่ถงึ อย่างนันสิ
้ ง่ ที่เขาคาดหวังมีเพียงแค่เวลา
สักเล็กน้ อยเท่านัน้ หลินหมิงถอนหายใจด้ วยความโล่งอกขึ ้นมาดูเหมือนว่าจาก
กระบวนท่าแลกชีวิตของผู้อาวุโสเป่ ยนันมั ้ นอาจเป็ นไปได้ วา่ ที่บรุ ุษกึง่ ปี ศาจนัน้
อาจต้ องใช้ เวลาสักเล็กน้ อยในการรับมือกับมัน
ตอนที่ 226
ท่ามกลางฝุ่นควันที่ค่อยๆจางหายไปพร้อมกับร่างเงาของบุรุษกึ่ง
ปีศาจที่เดินออกมาด้วยสภาพสมบูรณ์ พร้อมราวกับว่าการระเบิดตัว
ของผู้อาวุโสเป่ยก่อนหน้านี้เป็ นเพียงการโจมตีธรรมดาที่ไม่ส่งผลใด
ๆ กับเขาเลย แม้ว่าสภาพของผู้อาวุโสเป่ยก่อนหน้านี้จะไม่อาจเรียกได้ว่
า สมบูรณ์ พร้อมแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็ นเรื่องยากที่ผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ ขั้นปลายจะสามารถรอดพ้นจากแรงระเบิดเช่นนี้โด
ย ไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย
ไม่ทันที่คนจากอาณาจักรทั้งสี่จะได้เสียใจด้วยการปรากฎตัวเช่นนี้
ของบุรุษกึ่งปีศาจที่เพิ่งผ่านไปเพียงห้าลมหายใจเท่านั้น นั้นไม่เท่ากับ
ว่าการตายของผู้อาวุโสเป่ยสูญเปล่า ? มีหรือที่พวกเขาจะยินยอมให้
เป็นเช่นนั้นนักรบระดับปราญช์ทั้งสามลุกขึ้นในตอนนี้แม้ว่าพวกเขา
จะต้องกาลังช่วยเหลือที่มากกว่านี้แต่เมื่อมองดูไปที่สภาพของหลินห
มิงที่ไร้ซึ่งกาลังใดๆ ยังไม่นับรวมถึงผู้ใช้ค่ายกลของเขาที่ต้องการการ
พักฟื้นอีกสักเล็กน้อยดังนั้นแล้วมันจึงเหลือเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น
" พวกข้าจะสานต่อในส่วนของผู้อาวุโสเป่ย "
ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าแม้ว่า
ในตอนนี้ที่บริเวณดวงตาทั้งสองข้างของพวกเขาจะเต็มไปด้วยหยาด
น้าตาแห่งความโศกเศร้า ตรงข้ามกับหลินหมิงและผู้อาวุโสซูหลิ่งพวก
เขารู้สึกว่าสถานการณ์เช่นนี้ช่างยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากไม่เพียงแต่
พวกเขาจะมีโอกาสรอดแม้ว่ามันจะน้อยนิดแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับผู้คน
จากอาณาจักรนภานั้นจะต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ !
" พวกเจ้าต้องดูแลนางให้ปลอดภัย แม้ว่าต่อจากนี้พวกข้าจะตาย
จากไปแล้วแต่หากดวงวิญญาณของพวกข้านั้นยังคงอยู่ พวกข้าขอ
สาบานเลยว่าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับนางแม้ว่าจะเป็นดวงวิญญาณข้าก็
ยินดีที่จะทาทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตพวกเจ้า ! "
ใบหน้าของหญิงสาวผู้ใช้ค่ายกลเศร้าสลดยิ่งกว่าเดิมนางอยากจะ
กล่าวห้ามผู้อาวุโสทั้งสามของนางแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ขั้นที่สองและสามที่ถือว่าแข็งแกร่งไม่ใช่น้อยแม้กระทั่ง
ภายในอาณาจักรพวกเขาก็ล้วนเป็นตัวตนที่ผู้คนส่วนใหญ่จะต้องก้มหัว
ให้แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษกึ่งปีศาจแล้วนั้นพวกเขาไม่ต่างอะไรไปจาก
เด็กทารก
" รู้ไหมว่าเหตุใดพวกข้าถึงได้ร่วมมือกับเผ่าพันธ์ปีศาจนั้นก็
เพราะว่าการเป็นมนุษย์เช่นพวกเจ้าในตอนนี้มันไม่ต่างอะไรไปจากรอ
ความตาย..ไม่ใช่เพียงแค่พวกเจ้าเท่านั้นที่ไม่สามารถรอดชีวิตจากโลกที่
เต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่งกระทั่งคนรู้จัก เพื่อน สหาย มารดา บิดา พวก
เขาเหล่านั้นจะตายหากพวกเจ้ามีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ "
ร่างของบุรุษกึ่งปีศาจกล่าวออกมาน้าเสียงเรียบเฉยอันที่จริงแล้ว
หลินหมิงสามารถรับรู้ความรู้สึกของชายผู้นี้ได้เล็กน้อยจากคากล่าว
ของเขาเป็นไปได้ว่าแท้จริงแล้วเขาอาจไม่มีความต้องการที่จะร่วมมือ
กับปีศาจแต่แรก แต่สาหรับโลกที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่ง
จานวนมากเผ่าพันธ์มนุษย์ล้วนไม่เป็นอะไรมากไปกว่าเหยื่อรายแรกที่
หลายเผ่าพันธ์ต่างต้องการ มันอาจไม่ผิดที่พวกเขาเลือกเข้าร่วมกับ
เผ่าพันธ์ปีศาจ หลินหมิงหากเป็นเขาก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะร่วมมือกับ
เผ่าพันธ์ปีศาจด้วยเช่นเดียวกันหากเผ่าพันธ์ปีศาจนั้นอุดมไปด้วยสาว
งามเช่นแม่ซัคคิวบัสสาวซือเฟย
นักรบของอาณาจักรนภาจ้องมองไปที่บุรุษกึ่งปีศาจด้วยสายตา
โกรธแค้น ร่างกายของพวกเขาระเบิดพลังออกมาจนถึงขีดสุด แน่นอน
ว่าถึงแม้ผลลัพธ์สุดท้ายแล้วนั้นพวกเขาจะกลายเป็นเพียงกองเลือดไปก็
ตามที่แต่ความหวังของเขาคือการให้หญิงสาวผู้ใช้ค่ายกลรอด
ในทันทีผู้อาวุโสซูหลิ่งเรียกใช้งานประตูทางออกได้สาเร็จพร้อมกับ
ร่างของนักรบอาณาจักรที่กลายเป็นร่างไร้ลมหายใจอย่างรวดเร็ว นาง
และหลินหมิงรีบเคลื่อนกายอย่างรวดเร็วไปที่ประตูทางออกแน่นอนว่า
พวกเขาไม่ลืมที่จะนาหญิงสาวผู้ใช้ค่ายกลจากอาณาจักรนภาไปด้วย
อย่างน้อยที่สุดแม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกันแต่ถึงอย่างนั้นนี้เป็นคาร้อง
ของสุดท้ายของนักรบด้วยกันมันไม่มีทางที่พวกเขาจะเมิณเฉยไปได้
ที่สาคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือตัวตนของสาวสวยผู้นี้อาจมีความสาคัญ
ต่ออาณาจักรนภาอยู่ไม่ใช่น้อยไม่เช่นนั้นแล้วเหล่านักรบจากอาณาจักร
นภาที่ยินยอมสละชีพเพื่อนางโดยไม่ลังเล
พรึบ !
ในทันทีพลันเกิดแสงสว่างขึ้นมาที่บริเวณผู้อาวุโสซูหลิ่ง บุรุษกึ่ง
ปีศาจหยุดนิ่งพร้อมกับจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วยสายตาแปลก
ประหลาดเช่นเดียวกันกับหลินหมิงและสาวสวยผู้ใช้ค่ายกล เพราะว่า
แสงสว่างที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้มันไม่ใช่แสงสว่างที่เกิดจากประตูค่าย
กลที่ใช้สาหรับออกจากที่แห่งนี้แต่มันกลับเป็นแสงสว่างที่เกิดขึ้นที่
หน้าผากของนาง
ร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งลุกขึ้นยืนพร้อมกับลอยขึ้นจากพื้นไปราวสาม
เมตร แสงที่บริเวณหน้าผากของนางยังคงปลดปล่อยออกมาอย่างไม่
หยุดหย่อนเช่นเดียวกันกับพลังปราณของนางที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่า
หวาดกลัว หลินหมิงตกใจจนแทบจะหัวใจวาย ระดับพลังของผู้อาวุโส
สาวของเขานางนี้ในตอนนี้นางมีพลังอยู่ที่ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดเป็น
ที่เรียบร้อยแล้วไม่เพียงเท่านั้นพลังของนางยังคงเพิ่มขึ้นโดยไม่มีท่าที
ว่าจะหยุดลง
ครีนน
เสียงแผ่นดินสั่นไหวเล็กน้อยจากการปลดปล่อยพลังปราณของผู้
อาวุโสซูหลิ่งจนกระทั่งพลังของนางระเบิดออกมาจนเข้าสู่
ระดับปราญช์มันก็ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง
สวรรค์ !
แท้จริงแล้วใครจะคิดกันเล่าว่าผู้อาวุโสสาวสวยที่ดูอ่อนแอ่ก่อนหน้า
นี้นางจะมีความสามารถที่น่าตกใจถึงเพียงนี้ ในตอนนี้ระดับพลังของ
นางนั้นเพิ่มขึ้นมาจนถึงจุดเดียวกับอาจารย์สาวสวยของเขานั้นก็คือ
ระดับปราญช์ขั้นที่หก ! และแม้ว่าพลังปราณของนางจะค่อยๆเพิ่มขึ้น
ด้วยความเร็วที่ลดลงไปมากแต่ถึงอย่างนั้นเห็นได้ชัดว่ามันจะยังคงไม่
หยุดลงโดยง่าย
ที่บริเวณพื้นด้านล่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กาลังลอยอยู่ปรากฎไอ
เย็นเยือกแข็งพื้นที่โดยรอบ อุณหภูมิโดยรอบนั้นลดลงมาด้วยความเร็ว
ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้นก็คือภาพลักษณ์ของผู้อาวุโสสาวที่ดูอ่อนแอ่
ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน เพียงแค่ชั่วระยะเวลาสั่นๆหลินหมิง
พลันเห็นร่างของผู้อาวุโสสาวที่ด้านหลังของนางปรากฎปีกสีเงินสอง
ข้างขึ้นมาเพียงแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
เช่นเดียวกันกับอาภรณ์ของนางที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้
นางอยู่ในอาภรณ์ที่มีลักษณะสีดามืดมิดมีลวดลายคล้ายกับขนของนก
ที่บริเวณหน้าผากระหว่างคิ้วของนางนั้นปรากฎเม็ดผลึกขนาดเล็ก
สีแดงจ้า ชายหนุ่มกึ่งปีศาจขมวดคิ้วลงในทันทีด้วยความรู้สึกแปลก
ประหลาดจากความแข็งแกร่งของหญิงสาวตรงหน้าของเขาในตอนนี้
แม้ว่ารูปลักษณในตอนนี้ของนางจะดูคล้ายกับมนุษย์ทั่วไปแต่เขารู้ดีว่า
มันไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่มีทางที่จะมีมนุษย์คนใดที่สามารถปลดปล่อย
ปีกสีเงินเช่นก่อนหน้านี้ออกมาได้
และยังคงไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของหญิงสาวตรงหน้าของ
เขาในตอนนี้ที่อาจเรียกได้ว่ามีพลังไม่มากไม่น้อยไปกว่าเขามากนัก
" เจ้าไม่ใช่มนุษย์ ? "
ร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งทิ้งลงบนพื้นดินอีกครั้งพร้อมกับก้อนน้าแข็งที่
เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่เท้าของนางสัมผัส หลินหมิงถอยหลังออกไป
ในทันทีไม่ใช่ว่าเพราะว่าเขาเกรงกลัวนางในรูปลักษณ์เช่นนี้แต่มันเป็น
เพราะว่าในตอนนี้น้าแข็งที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของผู้อาวุโสซู
หลิง่ นั้นอาจเพียงพอที่จะสังหารเขาได้ในทันทีหากเขาไม่ระวัง
นางหันกลับมายิ้มให้หลินหมิงเล็กน้อยด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าไม่
ต้องกังวลสิ่งใด เมื่อเห็นเช่นนี้หลินหมิงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย แท้จริงแล้ว
ผู้อาวุโสสาวผู้นี้นางกลับมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาหลินหมิงไม่สนใจว่า
นางจะเป็นเผ่าพันธ์มนุษย์หรือไม่แต่ในตอนนี้นางนับได้ว่าเป็นพวก
เดียวกันกับเขานั้นก็นับว่าเพียงพอที่จะทาให้เขารู้สึกเบาใจแล้ว เทียบ
กับผู้อาวุโสซูหลิ่งแล้วนั้นเขายังคงคิดว่าแม่ซัคคิวบัสสาวยังคงอันตราย
กว่าผู้อาวุโสสาวนางนี้อยู่มาก
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนางไม่สนใจถึงคากล่าวของบุรุษกึ่งปีศาจในมือของ
นางพลันเกิดการหลอมหลวมของก้อนน้าแข็งจนกลายเป็นกระบี่สีฟ้า
สดใส เพียงแค่นางสะบัดกระบี่ในมือหนึ่งครั้งไอเย็นที่แผ่ออกมาจาก
การวาดกระบี่เพียงครั้งเดียวส่งเป็นคลื่นแนวยาวออกไปหลายสิบเมตร
ระดับพลังของผู้อาวุโสซูหลิ่งในตอนนี้หลังจากข้ามพ้นพัฒนามา
อย่างรวดเร็วจากระดับจอมยุทธ์ขั้นแรกในตอนนี้นางมีพลังถึง
ระดับปราญช์ขั้นสูงสุดเช่นเดียวกันกับบุรุษกึ่งปีศาจแล้ว บุรุษกึ่งปีศาจ
เขาไม่อาจประมาทหญิงสาวตรงหน้าได้ดาบของเขาถูกเรียกออกมา
อย่างรวดเร็ว เขาค่อนข้างมั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าของเขาในตอนนี้
นางอาจเป็นตัวตนในอดีตเช่นเดียวกันกับเขาและถูกผนึกพลังเอาไว้
ส่วนหนึ่ง
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือสายเลือดของนางคืออะไร ? ด้วยรูปลักษณ์
ของปีกสีเงินเมื่อสักครู่ที่แผ่อ่อร่าอันน่าเกรงขามออกมาจนทาให้แม้แต่
เขาเองก็ยังคงรู้สึกหวั่นเกรงไม่แน่ว่าหากทั้งเขาและนางอยู่ในสภาพ
สมบูรณ์พร้อมกับแล้วละก็มันอาจเป็นหญิงสาวชุดดานางนี้ที่สามารถ
สังหารเขาได้อย่างไม่ยากเย็น

ตอนที่ 227
" นี้ท่าน.. ! "
สาวสวยผู้ใช้ค่ายกลจากอาณาจักรนภานางตะลึงกับการ
เปลี่ยนแปลงของผู้อาวุโสซูหลิ่ง ในใจของนางในตอนนี้กาลังคิดว่าหาก
ผู้อาวุโสวูหลิ่งทาเช่นนี้แต่แรกนั้นไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสเป่ยและผู้อาวุโสอีก
สามคนจะยังคงมีชีวิตรอด ? แต่เมื่อนางหวนนึกคิดดูอีกรอบมันไม่มี
ความจาเป็นใดๆที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งจะต้องยอมลงมือเสี่ยงเพื่อช่วยผู้คน
จากอาณาจักรนภาที่เป็นศัตรูกัน
ไม่เพียงเท่านั้นใครจะสามารถรับประกันได้ว่าหากเมื่อผู้อาวุโสซู
หลิ่งได้ทาการช่วยเหลือพวกเขา และสามารถเอาชนะชายหนุ่มกึ่ง
ปีศาจได้แต่นั้นย่อมแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บของนางที่ไม่ใช่น้อยแล้ว
เมื่อนั้นมีหรือที่ผู้อาวุโสเป่ยผู้นั้นจะยินยอมปล่อยให้ผู้อาวุโสซูหลิ่งมี
ชีวิตรอด ?
" เจ้ามาจากเผ่าวิหคฟ้า ? เหตุใดเผ่าพันัที
ธ์ ่สูงส่งเช่นเจ้าถึงได้มาอยู่
ที่อาณาจักรมนุษย์แห่งนี้ได้กัน "
บุรุษกึ่งปีศาจที่พลันนึกถึงรูปลักษณ์ของผู้อาวุโสซูหลิ่งกล่าวออกมา
ด้วยน้าเสียงที่ไม่มีความหยิ่งผยองอีกต่อไป แม้ว่าระดับพลังของพวก
เขาจะเท่ากันแต่ถึงอย่างนั้นเขามีความรู้สึกว่าเขาอาจเป็นรองหญิงสาว
ตรงหน้านี้เล็กน้อยหากพวกเขาสู้กันจริงๆ แม้ว่าเขาจะได้รับสายเลือด
มาจากเผ่าปีศาจแต่มันไม่อาจเทียบได้กับเผ่าพันธ์ที่สูงส่งอย่างเผ่าพันธ์
วิหคฟ้าไม่ใช่ว่าเพราะเผ่าพันธ์ปีศาจนั้นอ่อนแอ่กว่า
แต่นั้นเป็นเพราะว่าเขาเป็นเพียงมนุษย์ที่ได้รับสายเลือดจากเผ่า
ปีศาจมาเท่านั้นมันจึงทาให้เขาไม่สามารถเทียบได้กับผู้ที่มีสายเลือดที่
แท้จริงได้
" ข้าไม่มีความจาเป็นที่จะต้องตอบเจ้าในเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่
ว่าก่อนหน้านี้เจ้าต้องการสังหารข้า ? แล้วเหตุใดเจ้าจึงนิ่งเฉยในตอนนี้
กัน อย่าบอกนะว่าแท้จริงแล้วแม่ทัพของอาณาจักรอสูรที่มีความกล้า
มากพอจะทรยศต่อเผ่าพันธ์มนุษย์ทั้งหมดแต่กลับไม่กล้าเผชิญหน้ากับ
ศัตรูเพียงคนเดียว ? "
คาพูดของผู้อาวุโสซูหลิ่งทาให้ใบหน้าของบุรุษกึ่งปีศาจบิดเบี้ยว
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เต็มใจที่จะสู้เป็นตายกับหญิงสาวตรงหน้าแต่ถึงอย่าง
นั้นเขาก็ยังคงไม่สามารถปล่อยนางและมนุษย์อีกสองคนไปได้ลาพัง
กลุ่มมนุษย์ที่ออกไปก่อนหน้านี้ก็เพียงพอที่จะทาให้เขาพบกับความ
ลาบากได้แล้วในอนาคต
ใครจะรู้กันว่าเมื่อใดที่นางจะพาผู้เชี่ยวชาญจากเผ่าพันธ์มนุษย์
จานวนมากที่นี้ สาหรับในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขานั้นยังคง
อ่อนแอ่เกินยิ่งไปกว่านั้นก็คือยังคงมีผู้เชี่ยวชาญจากอาณาจักรของเขา
หลายคนที่ยังคงไม่คลายผนึกสิ่งที่เขาต้องการที่สุดก็คือเวลาในตอนนี้
" ได้..เจ้าบีบบังคับให้ข้าต้องทาเช่นนี้เอง ในวันนี้แม้ข้าจะต้องตาย
ข้าก็ขอไม่ตายเพียงคนเดียว ! "
บุรุษกึ่งปีศาจรีดเร้นพลังปราณออกมาจนร่างกายของเขาผองโต
ขึ้นมาเล็กน้อยบริเวณแขนที่มีรูปร่างคล้ายปีศาจปรากฎเลือดออกมาใน
ขณะที่มันกาลังขยายตัวเป็นไปได้ว่าในตอนนี้เขากาลังใช้ทักษะที่อาจ
ทาให้เขาพบกับความสูญเสียในอนาคต แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้เขาไม่
มีทางเลือกใดอีกต่อไปแล้ว
โฮรกกกกก !!!!
เสียงคารามของบุรุษกึ่งปีศาจโห่ร้องออกมาราวกับสัตว์ป่าแต่ถึง
อย่างนั้นผู้อาวุโสซูหลิ่งนางกลับเป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยไม่หวั่น
เกรง กระบี่ที่สร้างจากพลังปราณจนกลายเป็นดาบน้าแข็งอันสดใส
ของนางตวัดไปยังเบื้องหน้าอย่างเร็ว
ดาบในมือของบุรุษกึ่งปีศาจสามารถป้องกันเอาไว้ได้แต่ถึงอย่างนั้น
ในตอนนี้ที่บริเวณปลายด้ามของเขาพลันเกิดไอเยือกแข็งลามขึ้นมา
ใบหน้าของผู้อาวุโสซูหลิ่งแสยะยิ้ม
" เฮอะ ! "
บุรุษกึ่งปีศาจสะบัดร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งออกไปมันดูเหมือนว่ามัน
จะไม่ใช่ความคิดที่ดีนักหากเขายังคงปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้อต่อไป ที่
ด้านหลังของเขาในทันทีปรากฎร่างวิญญาณของอสูรกายอันน่าหวาด
หวันขึ้น แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นสัตว์วิญญาณของบุรุษกึ่งปีศาจแต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันคือตัวตนแต่เพียงแค่
รูปลักษณ์อันน่าเกลียดของมันนั้นอาจกล่าวได้ว่ามันย่อมเป็นสัตว์อสูร
สืบสายเลือดมาจากเผ่าปิศาจเช่นเดียวกัน
เทียบกับสัตว์วิญญาณของผู้อาวุโสเป่ยอย่างหมีโลหิตแล้วนั้นสัตว์
วิญญาณของบุรุษกึ่งปีศาจผู้นี้ดูเด่นชัดกว่ากันมาก แม้ว่ามันจะยังคง
เป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์จัดเจนมากนักแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงคิดว่ามัน
ค่อนข้างใกล้เคียงกับความจริงมากแล้ว ที่บริเวณหลังของบุรุษกึ่งปีศาจ
จากเดิมที่มีเพียงสองปีนั้นปรากฎปีกคู่ที่สองเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นอสูร
กายสี่ปีก
ยิ่งไปกว่านั้นตามตัวของเขาหลังจากที่กระตุ้นสายเลือดปีศาจ
ภายในตัวร่างกายครึ่งหนึ่งที่เคยหลงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง
ค่อยๆเริ่มถูกกลืนกินจนกลายสภาพเป็นปีศาจ ดวงตาแดงก่าของเขา
จ้องมองมาที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วยสายตาอาฆาต
โดยในทันทีผู้อาวุโสซูหลิ่งนางไม่สามารถเก็บออมพลังใดๆได้อีก
ต่อไปกระบี่น้าแข็งในมือของนางวางในท่วงท่าชี้ขึ้นไปบนท้องช้าพลัน
ปรากฎอ่อร่าพลังงานที่เอ่อล้นขึ้นร่างของวิหคสีเงินพลันลอยออกมา
จากเบื้องหลังของนางพร้อมกันนั้นที่บริเวณด้านหลังของนางพลัน
ปรากฎปีสีเงืนสองข้างที่เรืองรองออกมาอย่างสวยงาม
ร่างของวิหคสีเงินพุ่งตรงเข้าใส่บุรุษกึ่งปีศาจอย่างรวดเร็ว สัตว์
วิญญาณปีศาจออกมายังเบื้องหน้าของเขาพร้อมกับรับมือกับวิหคสีเงิน
เอาไว้ในทันทีคลื่นพลังทั้งสองที่ปะทะกันส่งผลให้ร่างของหลินหมิงลอย
ออกไปหลายสิบเมตรเช่นเดียวกันกับสาวสวยจากอาณาจักรนภา
" ฮึ่ม ! "
บุรุษกึ่งปีศาจกัดฟันแน่นจนเลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าเขาจะแพ้ ! ด้วยการแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้าย
ร่างกายของเขาเกือบทุกส่วนถูกปกคลุมไปด้วยอวัยวะรูปร่างคล้าง
ปีศาจไปจนหมดสิ้น ในตอนนี้เขาแทบจะไม่สามารถคงสติของตนเอง
เอาไว้ได้ เขาระเบิดพลังปราณออกมาเฮือกสุดท้ายพร้อมกับสัตว์
วิญญาณของเขาที่เข้าทุบร่างของวิหคสิเงินจนจมดินไปหลายเมตร
ผู้อาวุโสซูหลิ่งกระอักเลือดออกมาเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทาให้
บุรุษกึ่งปีศาจแปลกใจในตอนนี้ไม่ใช่สภาพร่างกายของเขาที่เปลี่ยนไป
อย่างมากจนแทบจะไม่สามารถควบคุมได้ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ออกมา
จากผู้อาวุโสซูหลิ่งต่างหาก ไม่ใช่ว่าสัตว์วิญญาณของนางถูกจู่โจมจนไม่
สามารถสู้ได้แล้ว ? แล้วเหตุใดนางถึงยังคงยิ้มได้กัน ?
แกร๊ก
เสียงปริแตกที่บริเวณผิวหนังของวิหคสีเงินเช่นเดียวกันกับปีกสีเงิน
ทั้งสองข้างของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กาลังปลิแตกออกเช่นเดียวกัน
พรึบ !!
เปลวเพลิงลุกท่วมขึ้นจากหลุมที่วิหคสีเงินอยู่ร่างกายของมันบิน
ขึ้นมาในทันทีด้วยสภาพสมบูรณ์พร้อม ไม่เพียงเท่านั้นสัตว์วิญญาณ
ของบุรุษกึ่งปีศาจในตอนนี้กาลังถูกเผาอย่างทุรนทุลายผู้อาวุโสซูหลิ่ง
ไม่ปล่อยให้โอกาสทองเช่นนี้หลุดมือไป วิหคสีเงินของนางที่ได้รับการ
ปลดปล่อยพลังออกมาชั่วคร่าวจนกลายเป็นร่างที่แท้จริงของมันนั้นก็
คือฟินิกส์ !
" มะ...ไม่จริง..ปะ..เป็นไปได้ยังไง ! "
ดวงตาของบุรุษกึ่งปีศาจเต็มไปด้วยความไม่เชื่อแม้ว่าสายเลือด
ปีศาจจะถูกจัดว่าอยู่ในระดับสูงกว่าเผ่าพันธ์อื่นไม่ใช่น้อยแต่สาหรับ
สายเลือดฟินิกส์ที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้มันเป็นอะไรที่เหนือกว่า
กันมากไม่เพียงแต่ทุกคนในเผ่าพันธ์นี้จะเป็นตัวตนที่อันตรายอย่างมาก
แต่ร่างกายของพวกเขายังคงมีความพิเศษกว่าเผ่าพันธ์อื่นนั้นก็คือการ
ฟื้นฟูอันรวดเร็วดังนั้นแล้วมันเป็นเรื่องยากมากที่นักรบที่มีพลัง
ใกล้เคียงกันจะสามารถสู้กับนักรบจากเผ่าฟินิกส์เช่นนี้ได้
ร่างของนกไฟสีทองอรามบินลงมาพันรอบปีศาจวิญญาณของบุรุษ
กึ่งปีศาจพร้อมกับนาพาร่างของมันขึ้นสู่บนอากาศไม่ต้องสงสัยเลยว่า
สัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างฟินิกส์นั้นจะความชานาญในการต่อสู้บน
อากาศมากกว่าดังนั้นแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ปีศาจวิญญาณจะ
สามารถรอดพ้นอันตรายนี้ได้
" จะ..เจ้าหลอกข้า ! "
บุรุษหนุ่มกึ่งปีศาจกลัวแทบจะวิ่งหนีไปในทันทีไม่ต้องพูดถึงตัวเขา
ในตอนนี้แม้กระทั่งผู้ที่มีสายเลือดปีศาจที่แท้จริงก็ยังคงไม่สามารถเป็น
คู่มือให้กับนางได้อย่างแน่นอน หากเขารู้ถึงตัวตนของนางก่อนหน้านี้
มันไม่มีทางที่เขาจะเลือกปรากฎตัวออกมาอย่างแน่นอน
" ข้าจะปลดปล่อยเจ้าจากห่วงแห่งความทุกข์ทรมาน "
เปลวเพลิงสีทองแผดเผาร่างของบุรุษกึ่งปีศาจผิวหนังของเขาที่ปก
คลุมไปด้วยภาพลักษณ์ของปีศาจค่อยๆสลายออกไปอย่างเชื่องช้า
" อ๊าาาากกกกกกกก !!!!!!! "
บุรุษกึ่งปีศาจคารามลั่นด้วยความเจ็บปวดพลังของเปลวเพลิงสีทอง
นี้ดูเหมือนว่ามันจะมีผลอย่างยิ่งกับสายเลือดปีศาจ ปีกทั้งสองคู่ของ
เขาในตอนนี้ล้วนสลายหายออกไปจนหมดสิ้นเปลวเพลิงสีทองนี้ไม่มี
ท่าทีว่ามันจะอ่อนกาลังดูเหมือนว่านางต้องการที่สังหารเขาด้วยการ
ทรมาน ? ไม่ใช่ว่านางบอกว่าจะปลดปล่อยเขาจากความทุกข์ ?
ใช่แล้ว บุรุษกึ่งปีศาจพลันเข้าใจอะไรบางอย่างได้ดูเหมือนว่ามันจะ
เป็นความจริงที่ว่าเมื่อผู้คนอยู่ในสภาวะที่ใกล้กับความตายนั้นสมอง
ของพวกเขาจะทางานได้มากกกว่าปกติหลายเท่า ในตอนนี้เขาพอ
เข้าใจความคิดของผู้อาวุโสซูหลิ่งแท้จริงแล้วนางอาจต้องทาให้เขาได้
เห็นภาพตัวเขาในตอนที่ยังคงเป็นมนุษย์เป็นภาพสุดท้ายก่อนจากไป

ตอนที่ 228
หลินหมิงและสาวสวยจากอาณาจักรนภาอยู่ในสภาพตะลึงค้าง
ภาพฝุ่นควันที่ล่องลอยจากร่างอันน่าเกรงขามของบุรุษกึ่งปีศาจหายไป
ราวกับว่าเขาไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
ตายแล้ว ?
ตัวตนระดับสูงที่อาจสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งอาณาจักรได้ด้วยตัวเพียง
คนเดียวแต่ในตอนนี้เขากลับถูกผู้อาวุโสซูหลิ่งสังหารไปแล้ว ผู้อาวุโสซู
หลิ่งถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ระดับพลังของนางเริ่มตกลงด้วย
ความเร็วที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก สัญลักษณ์สีแดงตรงระหว่างคิ้วของ
นางสว่างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเหงื่อของนางที่หลั่งไหลออกมาเป็น
จานวนมาก
สัตว์วิญญาณฟินิกส์ของนางกลายเป็นภาพจางและหายไปในเวลา
ต่อมาเช่นเดียวกันกับปีกเพลิงสีทองอรามของนางที่อยู่ด้านหลัง ไม่
เพียงเท่านั้นจากชุดสีดาอันงดงามในตอนนี้นางได้กลับกลายมาเป็นผู้
อาวุโสสาวสวยที่หลินหมิงรู้จักคนเดิมอีกครั้ง เพียงแต่ว่าสภาพของนาง
ในตอนนี้ดูย่าแย่เป็นอย่างมาก
" อั่ก "
เลือกคาโตออกมาจากปากอวบอิ่มของผู้อาวุโสซูหลิ่ง หลินหมิงไม่
รอช้าเขารีบพุ่งเข้าไปดูอาการของนางในทันทีแม้ว่าในตอนนี้หลินหมิ
งจะอยู่ในสภาพที่ย่าแย่เช่นเดียวกันแต่หากเทียบกับผู้อาวุโสซูหลิ่ง
ในตอนนี้แล้วนั้นเขายังคงดีกว่ามาก หลินหมิงค่อนข้างมั่นใจมากว่าใน
ตอการต่อสู้กับบุรุษกึ่งปีศาจนั้นผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ
มากมายนักแต่ถึงอย่างนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นในตอนนี้อาจเป็นไปได้ว่า
เพราะนางฝืนใช้พลังมากเกินไป ?
หลินหมิงรีบนาเม็ดยาฟื้นพลังใส่เข้าไปภายในปากของผู้อาวุโสซู
หลิ่งที่กาลังขยับขึ้นลงอย่างเหนื่อยล้าอาการของนางในตอนนี้ดูแย่
อย่างแท้จริง
" นี้ท่านได้ยินข้าหรือไม่ ? นี้มันเกิดสิ่งใดขึ้นกับท่านกัน "
หลินหมิงในตอนนี้เขารู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมากเสียงของ
เขาที่ส่งออกไปนั้นดูเหมือนว่านางจะไม่สามารถรับรู้ได้เลยแม้แต่น้อย
เช่นเดียวกันกับเม็ดยาฟื้นพลังที่กลายเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า หัวใจของ
หลินหมิงสั่นกระตุกไม่ใช่ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปผู้อาวุโสสาวของเขา
อาจต้องพบเจอกับอันตรายที่เสียงแก่ชีวิต ?
จนกระทั่งในตอนนี้ระดับพลังปราณของนางได้ลดลงมาอยู่ในระดับ
จอมยุทธ์ขั้นต้นเช่นเดิมเพียงแต่ว่ามันไม่มีแนวโน้มที่จะหยุดลง
" เหตุใดเจ้าถึงได้นิ่งเฉยกัน ไม่ใช่ว่าเจ้ามีความรู้ ? "
หลินหมิงสบถออกไปยังสาวสวยจากอาณาจักรนภาเห็นได้ชัดว่า
อาการของผู้อาวุโสซูหลิ่งในตอนนี้ไม่ใช่อาการของอาการบาดเจ็บทั่วไป
ด้วยสัญลักษณ์ตรงระหว่างคิ้วของนางนั้นอาจเป็นไปได้ว่านี้คือสิ่งที่ใช้
ผนึกพลังของนาง ดังนั้นแล้วสาหรับในกรณีเช่นนี้หมอรักษาอันดับหนึ่ง
ก็คงไม่อาจช่วยนางได้ไม่ใช่ว่าเพราะมันไม่มีทางรักษาเพียงแต่ว่ามัน
ไม่ใช่หน้าที่ของแพทย์เพียงเท่านั้น
ใช่แล้วในตอนนี้มันสมควรเป็นหน้าที่ของผู้ใช้ค่ายกลที่สมควรอย่าง
น้อยทาให้อาการของนางในตอนนี้ดีขึ้นได้บ้างแม้ว่าจะไม่สามารถปลด
ผนึกได้สาเร็จโดยสมบูรณ์แต่เพียงขอให้ผู้อาวุโสสาวของเขาปลอดภัยก็
เพียงพอแล้ว
ใบหน้าของสาวสวยจากอาณาจักรนภาเต็มไปด้วยความครุ่นคิดอัน
ที่จริงแล้วในใจของนางในตอนนี้ไม่ได้มคี วามคิดที่จะช่วยเหลือผู้
อาวุโสซุหลิ่งเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าในตอนนี้นางอาจไม่มีความสามารถ
เพียงพอที่จะปลดผนึกอันทรงพลังที่สามารถผนึกพลังของเผ่าพันธ์ที่
ทรงพลังอย่างฟินิกส์ได้แต่ถึงอย่างนั้นนางมั่นใจว่านางสามารถทาให้ผู้
อาวุโสสาวนางนี้รอดพ้นขีดอันตราย
แต่หากเป็นเช่นนั้นไม่ใช่ว่ามันจะทาให้ทุกสิ่งเลวร้ายลง ? สาหรับ
อาณาจักรของนางที่เป็นศัตรูมันสมควรเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากนางปล่อย
ให้ผู้อาวุโสสาวตรงหน้านี้ตายไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากมีการสู้รบกัน
ระหว่างสองอาณาจักรลาพังเพียงแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่ของอาณาจักรฝ่าย
ตรงข้ามก็นับได้ว่าตึงมืออย่างมากแล้ว และหากมันยังคงมีหญิงสาว
นางนี้อีกไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลลัพธ์มันจะเปลี่ยนไปในทันที
" ช่วย ? เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้าเองก็กาลังลาบากเช่นเดียวกัน "
นางจ้องมองไปที่ร่างของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
แม้ว่าในก่อนหน้านี้หลินหมิงจะแสดงความแข็งแกร่งที่น่าเหลือเชื่อ
ออกมาแต่เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้สภาพของเขานั้นย่าแย่กว่าก่อนหน้า
มาก แม้ว่านางจะไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของหลินหมิงในตอนนี้มาก
นักแต่ถึงอย่างนั้นมันคงไม่มีทางที่เขาจะสามารถจัดการกับนางได้
โดยง่ายอย่างแน่นอน
" เจ้าจะไม่ช่วยเช่นนั้น ? "
หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของสาวสวยจากอาณาจักรนภาแต่ถึง
อย่างนั้นนางกลับไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด หากไม่ใช่ว่าเป็น
คาร้องขอของผู้อาวุโสเป่ยก่อนตายแล้วละก็มีหรือที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งจะ
ปล่อยนางเอาไว้
" หากเจ้าต้องการให้ช่วยส่งนางไปสวรรค์ละก็ ข้ายินดี "
" ดีดี ! บิดาผู้นี้จะกล่าวกับเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายหากเจ้ายินยอมแต่
โดยดีเจ้าอาจไม่ได้รับความทุกข์ทรมาน ! "
" ด้วยสภาพของเจ้าในตอนนี้ ? "
หมิงเยี่ยนหรือสาวสวยจากอาณาจักรจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วย
สายตาเฉยชา มือของนางจัดเตรียมกระดานค่ายกลเอาไว้หนึ่งกระดาน
เป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าในตอนแรกนางจะตั้งใจเอาไว้สาหรับการ
หลบหนีออกไปยังสถานที่แห่งนี้ แต่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนักสิ่งที่
นางต้องทาก็มีเพียงแค่สังหารหลินหมิงที่อยู่ในสภาพอ่อนแอ่และผู้
อาวุโสสาวคนนั้น แล้วหลังจากนั้นนางก็เพียงรอพลังของนางฟื้นคืน
และหลบหนีไป
หลินหมิงยืนขึ้นพร้อมกับง้าวทมิฬที่ปรากฎอยู่ในมือของเขาสายตา
ของเขาจ้องไปที่ร่างของหมิงเยี่ยนด้วยสายตาโกรธแค้น เช่นเดียวกัน
กับหมิงเยี่ยนที่ตบไปที่กระดานค่ายกลของนางกระบี่สิบเล่มปรากฎขึ้น
รอบตัวนางทุกเล่มล้วนเป็นกระบี่ที่จัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ด้วยการ
วาดมือของนางเพียงครั้งเดียวกระบี่ทั้งสิบเล่มเปลี่ยแนวเป็นแนวราบ
ขนาดกับพื้นดิพร้อมกับชี้ไปยังหลินหมิง
ฟิ้ว !
กระบี่ทั้งสิบพุ่งเข้าหาหลินหมิงอย่างรวดเร็ว ง้าวในมือของหลินห
มิงสามารถสะกัดกั้นพวกมันเอาไว้ได้ทั้งหมดแต่ถึงอย่างนั้นเพียไม่นาน
กระบี่ที่ถูกหลินหมิงปัดออกไปพวกมันจะเริ่มพุ่งเข้าโจมตีใหม่อีกครั้ง
อย่างรวดเร็ว หลินหมิงขมวดคิ้วนี้นับว่าเป็นทักษะที่น่าราคาญเป็น
อย่างยิ่งหากไม่ใช่ว่าในตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ่แล้วมันก็คงไม่มี
ปัญหาแต่อย่างใด
กระบี่ของหมิงเยี่ยนพุ่งเข้าจู่โจมหลินหมิงอีกครั้งแต่ในตอนนี้หลินห
มิงพบว่ากระบี่ของนางนั้นไม่ได้จโู่ จมมาที่เขาทั้งหมดสิบเล่มดั่งเดิม เมื่อ
หลินหมิงเหลือบมองไปยังร่างของหญิงสาวเขาก็พบว่านางเองก็อยู่ใน
สภาพที่อ่อนล้าเช่นเดียวกัน สาหรับนักสู้ที่มีพลังปราณเพียงขั้นจอม
ยุทธ์ขั้นที่หนึ่งพวกเขาจะต้องใช้พลังปราณไปอย่างมากสาหรับการ
สนับสนุนการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์
ฉัวะ !
เสียงกระบี่เล่มหนึ่งเข้าผ่านเฉือนบริเวณแขนซ้ายของหลินหมิง
ในตอนนี้สภาพของเขาย่าแย่จนเกินไป เขาไม่สามารถต่อสู้ไปได้นาน
นัก
" ข้ารู้ว่าเจ้ากาลังคิดสิ่งใดเจ้าคงคิดว่าเจ้าจะสามารถทนไปได้
จนกว่าพลังปราณข้าจะหมด ? แต่ข้าขอเดิมพันเลยว่าเมื่อนั้นสภาพ
ของเจ้าแม้ว่าจะยังไม่ตายแต่ก็คงไม่อาจครบสมบูรณ์ได้ ! "
หมิงเยี่ยนกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจจากกระบี่ทั้งสิบเล่มแม้ว่า
ในตอนนี้จะเหลือเพียงเก้าแล้วก็ตายแต่นางคิดว่ามันเพียงพอที่จะ
สามารถจัดการกับหลินหมิงได้อย่างไม่ต้องสงัย

ทันใดนั้นสายตาของนางหรี่ลงร่างของหลินหมิงในตอนนี้ราวกับว่า
เขาไม่ได้ให้ความสนใจในกระบี่ที่กาลังล่องลอยและหาจังหวะจู่โจมย่าง
ก้าวของเขาค่อยๆเดินออกมาอย่างเชื่องช้าแต่เป้าหมายของเขานั้น
ชัดเจนมากว่านั้นย่อมเป็นนางอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉัวะ ฉัวะ !
กระบี่สี่เล่มพุ่งเข้าหาหลินหมิงอย่างรวดเร็วแม้ว่าเขาจะสามารถปัด
ทิ้งไปได้สองเล่มแต่อีกสองยังคงเฉือนไปที่เอวและขาของเขา แต่ถึง
อย่างนั้นสายตาของหลินหมิงไม่ปรากฎแววตาของความเจ็บปวดเขา
ยังคงเดินหน้าต่อไปหาหมิงเยี่ยนจนทาให้นางรู้สึกหวาดกลัว

ตอนที่ 229
ระยะห่างระหว่างหลินหมิงและหมิงเยี่ยนหดสั้นลงอย่างเชื่องช้า
ในตอนนี้สาหรับหมิงเยี่ยนแล้วนั้นนางไม่สามารถที่จะกล่าวหลบหนีไป
ได้เพราะหากนางทาเช่นนั้นแล้วมันคงเป็นเรื่องยากที่เธอจะสามารถคง
ค่ายกลกระบี่ของนางเอาไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้นางกาลังตกอยู่ใน
สภาวะตื่นตะลึงจนแทบจะก้าวขาไม่ออก
กระบี่ของนางทั้งสิบเล่มในตอนนี้เหลืออยู่เพียงเล่มเดียวเท่านั้น ใน
ตอนแรกนางไม่คิดว่าหลินหมิงจะสามารถทนกับกระบี่ของนางได้เกิน
ห้าเล่มเสียด้วยซ้า ร่างกายของหลินหมิงในตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผล
รอยฟันเฉือนเลือกจานวนมากไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างน่า
หวาดกลัว
ย่างก้าวของหลินหมิงนั้นไม่ได้มีความรวดเร็วหรือประกอบไปด้วย
ทักษะแต่อย่างใดแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหมิงเยี่ยนแม้ว่านางจะเป็น
ผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลที่ผ่านประสบการณ์ต่อสู้มามากมายแต่ถึงอย่าง
นั้นมันไม่มีครั้งใดเลยที่นางจาเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยตนเอง
เช่นนี้
มืออันอ่อนหนุ่มของนางชุ่มไปด้วยเหงื่อและความกังวลทุกย่างเก้า
ของหลินหมิงมันทาให้หัวใจสั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัว
เหตุใดเขาถึงยังขยับได้ ? เหตุใดเขาถึงไม่หนีไป ?
" มะ..ไม่ อย่าเข้ามานะ ! "
กระบี่เล่มสุดท้ายของนางพุ่งเข้าหาหลินหมิงด้วยความเร็วสูง
ในตอนนี้นางต้องการรีบสังหารหลินหมิงโดยเร็วที่สุดเพื่อคลายความ
กังวลของนาง
ฉึก !
กระบี่นั้นทิศทางของมันตรงกับบริเวณศรีษะของหลินหมิงอย่างพอ
ดิบพอดี แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่กระบี่เล่มนี้สามารถเสียบผ่านเข้าไปนั้น
ไม่ใช่ศรีษะของหลินหมิง แต่เป็นมือเปล่าของเขาที่สามารถยกขึ้นมาบด
บังเอาไว้ได้ ร่างของหมิงเยี่ยนถอยหลังล้มลงด้วยความอ่อนแรง
ไม่เพียงแต่พลังปราณของเธอในตอนนี้จะหมดแล้วเช่นเดียวเท่านั้น
อ่อร่าของหลินหมิงที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนักมันทาให้หัวใจของ
เธอนั้นรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ แม้ว่าตอนนี้หลินหมิงจะได้รับบาดเจ็บ
จากกระบี่ทั้งสิบเล่มของนางไม่ใช่น้อยแต่มันไม่ได้ทาให้นางรู้สึกสบาย
ใจขึ้นแต่อย่างใดภาพลักษณ์ของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด
อาบร่างของเขาอยู่ในตอนนี้มันราวกับว่าชายหนุ่มอ่อนวัยกว่านางคนนี้
เป็นดั่งมัจจุราช !
สาหรับนางที่มีฐานะสูงส่งอย่างมากนางไม่เคยต้องเผชิญหน้ากับ
สถานการณ์เช่นนี้มาก่อนอันที่จริงแล้วมันไม่เคยมีใครที่มีความสามารถ
เพียงพอที่จะสามารถทาสิ่งนี้กับนางได้ นั้นก็เพราะว่าอย่างน้อยที่สุด
พวกเขาต้องก้าวผ่านผู้อาวุโสจานวนมากที่คอยปกป้องนางที่มีพลังใน
ระดับปราญช์ ไม่ต้องพูดถึงรุ่นเยาว์อย่างเช่นหลินหมิงเหล่าเฒ่าชรา
ทรงอานาจก็ยังยากที่จะเข้าถึงตัวนางได้
ง้าวในมือของหลินหมิงพาดไปที่คอของหมิงเยี่ยนแววตาของเขา
เต็มไปด้วยความเย็นชา ทันใดนั้นหมิงเยี่ยนนางพลันนึกสิ่งใดขึ้นมาได้
นางข่มอารมณ์ความหวาดกลัวเอาไว้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองไป
หลินหมิง
" เอาสิเจ้าต้องการสังหารข้า ? เอาเลยเจ้าสามารถลงมือได้
ในตอนนี้แต่ข้ามั่นใจได้เลยว่าผู้อาวุโสของเจ้าจะตามข้าไปในไม่ช้า "
ใช่แล้วนางยังคงมีขอต่อรองที่สามารถทาให้หลินหมิงหยุดชะงักไป
ได้ เห็นได้ชัดว่าหลินหมิงผู้นี้นั้นดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ยอม
ปล่อยให้คนที่รู้จักของเขาต้องตายไปต่อหน้า หากเทียบกับบุรุษรุ่น
เยาว์ทั่วไปแล้วนั้นพวกเขาเหล่านั้นจะยินยอมทาทุกอย่างเพื่อให้ตนเอง
ก้าวหน้าโดยไม่สนวิธี เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยว่าในอนาคตหลินหมิง
จะเป็นตัวตนที่ทรงอานาจเหมือนกับแม่ทัพใหญ่ หรือผู้เชี่ยวชาญ
ระดับปราญช์ขั้นสูงสุดหรืออาจกระทั่งยิ่งไปกว่านั้น
" แม้ว่าหลังจากที่เจ้าสังหารข้าไปได้แล้วเจ้าจะสามารถออกไปจาก
ที่แห่งนี้และรวมกลุ่มกับกลุ่มของเจ้า แต่มันไม่มที างที่นางจะรอดได้
เพราะว่ากลุ่มของเจ้านั้นไม่ได้มีผุ้เชี่ยวชาญที่จะสามารถบรรเทาผนึก
ของนางได้ "
" เจ้าจะยังคงไม่ช่วย ? "
" หากเจ้าทาลายการบ่มเพาะของเจ้าและนางลงข้าจะยินดีที่จะ
ช่วย "
หมิงเยี่ยนยกยิ้มขึ้นแน่นอนว่าหลังจากที่หลินหมิงทาลายการบ่ม
เพาะของเขาและหญิงสาวต่างเผ่าผู้นั้นแล้วนางไม่มีความจาเป็นใดๆที่
จะต้องสังหารพวกเขาให้เปลืองแรงอีกต่อไป ในอนาคตพวกเขาจะถูก
ทาลายจนกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาหรืออาจตกต่าไปกว่านั้น
ไม่สาคัญว่าภูมิหลังหรือสายเลือดของพวกเขาจะเป็นเช่นใดตราบใดที่
ชีพจรลมปราณถูกทาลายพวกเขาเหล่านั้นล้วนไม่มีสิ่งใดที่แตกต่างกัน
ง้าวในมือของหลินหมิงขยับยกขึ้นราวกับว่าเขาเตรียมที่จะฝาดฟัน
ดวงตาของหมิงเยี่ยนเบิกกว้างนางไม่คิดว่าหลินหมิงจะกล้าลงมือ
สังหารนางอย่างแน่นอน หรือนี้อาจเป็นเพียงการขู่เท่านั้น ? นางมอง
ลึกเข้าไปดวงตาที่เปรียบเสมือนหลุมดาอันไร้ที่สิ้นสุดของหลินหมิง
' เข้าเอาจริง ! '
ร่างกายของนางขยับถอยหลังไปโดยในทันที แต่ถึงอย่างนั้นง้าวใน
มือของหลินหมิงขยับกวาดตัดผ่านอากาศโดยที่นางไม่สามารถหลบหนี
ได้อย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะเป็นความเร็วที่ด้อยกว่าความาสามรถที่
แท้จริงของหลินหมิงอยู่มากแต่เทียบกับสภาพของพวกเขาทั้งสองที่
ล้วนอยู่ในสภาพอ่อนแอ่เช่นนี้แล้วการโจมตีนี้แน่นอนว่ามันจะสามารถ
สังหารหญิงสาวตรงหน้าของเขาได้อย่างแน่นอน
ฉัวะ !
หมิงเยี่ยนกรี้ดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว เสียงฟาดฟันของ
ง้าวในมือของหลินหมิงจบลงแต่ถึงอย่างนั้นหมิงเยี่ยนนางกลับพบว่า
นางไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
เขาพลาด ?
นางลืมตาขึ้นด้วยสายตาเบิกกว้างแท้จริงแล้วเป้าหมายที่หลินหมิ
งโจมตีนั้นเขาไม่ได้เล็งมาเพื่อหมายเอาชีวิตของนางแต่มันเป็นเสื้อผ้า
อาภรณ์ของนางที่ที่ถูกแบ่งแยกออกมาเป็นสองส่วน เนินอกอันงดงาม
ของนางเปิดเผยสู่สายตาของหลินหมิง นางรีบนาแขนทั้งสองข้างปิดบัง
เรือนร่างของนางในทันที
" นี้เจ้า ! "
หลินหมิงไม่สนใจท่าทีอันโกรธเกรี้ยวของหญิงสาวเขาก้มลงพร้อม
กับมือทั้งสองข้างที่ยื่นออกไปหาหมิงเยี่ยนที่กาลังกอดตัวของนางอย่าง
สั่นเทา ในตอนนี้แม้แต่คนโง่ก็สามารถคาดเดาความคิดของหลินหมิงได้
ว่าเขาต้องการสิ่งใด เทียบกับความตายแล้วนั้นหมิงเยี่ยนยังคิดว่ามันดี
กว่าการที่เธอจะต้องถูกบังคับสู่สมกับบุรุษ
แคว๊กกก
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะแทบจะไม่มีพลังปราณเหลืออยู่แล้วก็
ตามแต่โดยพื้นฐานแล้วนั้นพลังกายของเขาสูงกว่าคนทั่วไปมากไม่ต้อง
นับว่าร่างกายของหลินหมิงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดนั้นมันก็
ยังคงเหนือกว่าหมิงเยี่ยนที่มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ขั้นต้น อีกทั้ง
หลินหมิงยังคงมีการพััฒนาร่างกายของเขาจากเปลวเพลิงทมิฬและ
ทักษะโบราณจากชายวัยกลางคน
เรี่ยวแรงของหมิงเยี่ยนนับได้ว่าไม่มีค่าแต่อย่างใดในสายตาของ
หลินหมิงไม่ว่านางจะพยายามขัดขืนสักเพียงใด เสื้อผ้าของนางถูกชีด
ขาดออกจากกันอย่างโหดร้ายในตอนนี้เรือนร่างของนางนั้นแทบจะไม่
มีอาภรณ์ใดปกปิดอยู่เลยแม้แต่ชิดเดียว ขาเรียวงามทั้งสองข้างของ
นางเข้าบิดกันเป็นเกลียวเพื่อปิดบังส่วนลับของหญิงสาวเช่นเดียวกัน
กับมือทั้งสองข้างที่ปกปิดเนิ่นอกอันแสนน่าภาคภูมิใจ
แต่เดิมแล้วหลินหมิงไม่ได้ไว้วางใจที่จะให้หญิงสาวนี้ทาการ
ช่วยเหลือผู้อาวุโสซูหลิ่งแต่แรกอยู่แล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นหากนาง
วางแผนคิดร้ายสังหารผู้อาวุโสซูหลิ่งในระหว่างนั้นเป็นไปได้ว่าเขาอาจ
ไม่สามารถตรวจสอบกระบวนการเหล่านั้นได้ทันเนื่องจากเขาไม่ได้มี
ความรู้เรื่องทักษะการใช้ค่ายกลอยู่เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นแล้วหลินหมิ
งจึงต้องทาให้นางกลายเป็นของเขาเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของผู้
อาวุโสซูหลิ่ง
มือของหลินหมิงเขาลูบไล้ที่บริเวณต้นขาเรียวงามของหมิงเยี่ยน
ร่างกายของเธอสั่นกระตุกรและพยายามจะหลีกหนีโดยในทันทีแต่ด้วย
ท่วงท่าของเธอที่ต้องปิดบังส่วนต่างๆมันทาให้เธอไม่สามารถขยับไป
ไหนได้อย่างง่ายดายนัก ทันใดนั้นร่างของหลินหมิงพุ่งเข้าประชิดชนิด
ที่ว่าเธอสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจอันเหนื่อยหอบของหลินหมิง ?
หรือมันอาจเป็นลมหายใจที่เขาตื่นเต้นจากการที่ได้เห็นเรือนร่างอัน
งดงามของเธอเอง ?
ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปไหนในทันทีที่มือของหลินหมิงเข้า
สัมผัสความรู้สึกอิ่มเอมและสุขสมพลันเกิดขึ้นภายในจิตใจของเธอ
อย่างไม่รู้ตัวอารมณ์จังหวะการหายใจของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นหนัก
หน่วงขึ้นอย่างช้าๆ
" มะ...ไม่นะ "
มือทั้งสองข้างของเธอถูกยกขึ้นไปเหนือหัวด้วยเรี่ยวแรงของแขน
หลินหมิงเพียงข้างเดียวเท่านั้น ร่างกายของเธอรู้สึกร้อนผ่าวไปด้วย
ความอับอายและอารมณ์ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เธอไม่เคยพบเจอ
...

ตอนที่ 230
สายตาของหลินหมิงกวาดมองไปที่เรือนร่างเปลื่อยเปล่าของหมิง
เยี่ยนด้วยสายตาหื่นกระหายอย่างปิดไม่มิดแม้ว่าในตอนนี้สถานการณ์
ของผู้อาวุโสซูหลิ่งจะน่าเป็นห่วงอยู่ไม่ใช่น้อยแต่มันก็ยังคงไม่อาจนับว่า
เป็นอันตรายถึงชีวิตในเร็วๆนี้ เขาจาเป็นที่จะต้องทาให้หญิงสาวนางนี้
พึงพอใจกับรสชาติความสุขของหญิงสาวอย่างเต็มที่เสียก่อน
" ไม่ เอามือของเจ้าออกไป สารเลวแกคิดว่ากาลังทาสิ่งใดอยู่กัน !!!
"
ร่างกายของหมิงเยี่ยนดิ้นพล่านพร้อมกับกรี้ดร้องออกมาอย่างไม่
ขาดปาก มือของหลินหมิงข้างหนึ่งกาลังลูบไล้บริเวณขาเรียวงามจาก
ส่วนล่างจนมาถึงบริเวณขาอ่อนของเธออย่างเชื่องช้า สัมผัสนีัเธอ ้ที่
ได้รับมันทาให้เธอรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก แต่ถงึ อย่างนั้นในตอนนี้
เธอไม่แม้แต่จะสามารถคัดคืนหลินหมิงได้เลยแม้แต่นอ้ ย
มือของหลินหมิงเคลื่อนไหวจนเข้าใกล้จุดสามเหลื่ยมลับของหญิง
สาว หมิงเยี่ยนหุบขาอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณ อุณหภูมิใน
ร่างกายของนางสูงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวในตอนนี้มือของหลินหมิงนั้นอยู่
ใกล้กับส่วนลับของนางมากเกินไปโดยที่นางไม่แม้แต่จะสามารถขัดขืน
ได้
" มันจะเป็นยังไงหากข้าจะทาลายการบ่มเพาะของเจ้าทิ้งลง
ในตอนนี้แล้วเปลี่ยนเจ้าเป็นที่บาเร่อความใคร่ "
" เจ้ามันตัวชั่วช้า ! "
หมิงเยี่ยนจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาอาฆาตแค้น แต่ถึงอย่าง
นั้นหลินหมิงกลับไม่ได้สนใจสายตาเหล่านี้ของนางเลยแม้แต่น้อย เรือน
ร่างอันงดงามและหน้าอกที่กาลังเต้งชั้นจากการเล้าโลมด้วยผลของเจ้า
พลังงานสายฟ้าประหลาดของหลินหมิงนั้นมันทาให้อารมณ์ความ
ต้องการของหมิงเยี่ยนเพิ่มขึ้นโดยที่นางไม่สามารถข่มกลั้นเอาไว้ได้
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วลาพังเพียงรสชาติการเล้าโลมของหลินหมิงก็
นับได้ว่าเพียงพอที่จะทาให้หญิงสาวสุขสมราวกับอยู่บนสวรงสวรรค์
แต่สาหรับหญิงสาวที่มีท่าทีต่อต้านอย่างมากมายเช่นนี้มันเป็นไปได้
ว่าพวกเธอจะปิดกลั้นอารมณ์ของพวกเขาเอาไว้ส่วนหนึ่งดังนั้นแล้วมัน
อาจเป็นเรื่องยากสาหรับหลินหมิงเล็กน้อยหากเขาไม่ได้รับการ
ช่วยเหลือจากพลังงานสายฟ้าของเขา
" อะ..เอามือของเจ้าออกไป ! "
มือของหลินหมิงยังคงไม่ได้ทาการเข้าสารวจบริเวณส่วนลับของ
หญิงสาวในทันทีเข้าเคลื่อนไหวมาที่ส่วนบนผ่านท้องอันราบเรียบของ
นาง สัมผัสนุ่นลื่นที่สุดทางเป้าหมายของมือหลินหมิงนั้นไม่ใช่สิ่งใดอื่น
นอกจากหน้าอกขนาดล้นมือของหมิงเยี่ยน ร่างกายของนางดิ้นไปมา
อย่างร้อนรน ไม่ต้องพูดถึงการกระทาเช่นนี้แม้แต่การพูดคุยโดยทั่วไป
มันก็ไม่มีบุรุษใดที่จะได้รับโอกาศจากนาง
แต่ในตอนนี้ร่างกายของนางกาลังโดนสารวจไปทั่วร่างเสียยิ่งกว่า
หญิงสาวจากหอนางโลมเสียอีก สาหรับหญิงสาวเหล่านั้นพวกนาง
เพียงแค่ต้องทาเพียงปรนนิบัติเหล่าบุรุษด้วยร่องสวาทของพวกนาง
เพียงเท่านั้นแต่การกระทาของหลินหมิงในตอนนี้มันคือสิ่งใดกัน ? เขา
ลูบไล้ไปที่เรือนร่างอย่างหื่นกระหายไม่ใช่ว่าเขาต้องพุ่งเข้าจู่โจมไปที่
ส่วนลับของนาง ?
หมิงเยี่ยนนางไม่อาจทาความเข้าใจการกระทาของหลินหมิงด้วยที่
สาคัญไปกว่านั้นนั้นก็คืออารมณ์แปลกประหลาดที่กาลังเกิดขึ้นกับตัว
นางในตอนนี้ ลมหายใจของนางค่อยๆเปลี่ยนเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าของหลินหมิงยื่นเข้าสูดดมกกลิ่นหอมรัญจวนจากเรือนร่างเป
ลื่อยเปล่าที่มีคราบเหงื่อสดใสจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้และการที่นางใช้
กาลังอย่างสุดตัวในการดิ้นให้หลุดพ้นจากการควบคุมของหลินหมิง
" ขะ..ข้ายอมแล้ว..ข้าจะช่วยเจ้ารักษา..ผู้อาวุโสของเจ้าเอง "
เสียงของหมิงเยี่ยนกล่าวออกมาด้วยความสั่นเครือในตอนนี้นางไม่
มีทางเลือกอื่นอีกต่อไปแล้วหากนางยังคงปล่อยให้หลินหมิงทาตาม
อาเภอใจต่อไปเช่นนี้ท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์ที่นางได้รับนั้นมันจะเลวร้าย
เสียยิ่งกว่าการตายยิ่งไปกว่านั้นคือขาขู่ก่อนหน้านี้ของหลินหมิงที่ว่าจะ
ทาลายการบ่มเพาะของนางและเปลี่ยนนางเป็นที่บาเร่อความใคร่ยังคง
อยู่ในความทรงจาของนางเป็นอย่างดี
" เฮอะ ! "
หลินหมิงพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเฉยเมย เขาไม่ได้สนใจใน
คากล่าวใดๆของหมิงเยี่ยนอีกต่อไปในตอนนี้สิ่งที่เขาอยากได้ยินนั้น
ไม่ใช่คากล่าวว่าจะช่วยเหลือผู้อาวุโสสาวสวยของเขา หรือคาขอร้อง
ใดๆ แต่มันเป็นเสียงครางกระเส้าของนางอย่างมีความสุขต่างหาก
ลิ้นของหลินหมิงเข้าโลมเลียไปที่ท่อนแขนที่กาลังถูกจับยกอยู่
รักแร้ของนางนั้นถูกสูดดมและโลมเลียจนเปราเปรื้อนไปด้วยคราบ
น้าลายของหลินหมิงเป็นจานวนมาก ไปเพียงเท่านั้นที่บริเวณหน้าอก
ของนางก็ยังคงถูกบีบนวดอย่างรุนแรงราวกับว่าเขาต้องการทดสอบ
แรงบีบฝ่ามือของเขา
" ซี๊ดดดด ~~ "
หมิงเยี่ยนนางเผลอส่งเสียงครางออกมาด้วยไม่รู้ตัวในตอนนี้นาง
รู้สึกได้เลยว่าร่างกายของนางนั้นไม่ได้เพียงบิดไปมาเพื่อพยายามขัดขืน
ให้หลุดพ้นจากการจับกุมของหลินหมิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มัน
ยังคงมีอาการสั่นสะท้านจากอารมณ์แปลกใหม่ที่นางไม่เคยพบมาก่อน
ลิ้นของหลินหมิงไต่จากบริเวณรักแร้ของนางเข้าสู่บริเวณหัวไหลและไป
ยังลาคอขาวเนียน แม้ว่าศรีษะของนางพยายามเบี่ยงหลบแต่มันไม่เป็น
แต่อย่างใดกลับกันแล้วมันเป็นการเปิดช่องวางพื้นที่ลาคอขาวเนียน
ของนางให้กับหลินหมิงเสียมากกว่า
ใบหน้าของนางส่ายไปมาพร้อมกับก่นด่าหลินหมิงอยู่ตลอดเวลา
มือของหลินหมิงในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะบีบคลึงหน้าอกขทั้งสองของ
นางอย่างรุนแรงเพียงเท่านั้นยอดปถุมทันของนางก็ยังคงถูกเด็ดดึง
อย่างรุนแรงด้วยเช่นเดียวกัน
" นะ..นี้ทาไม..กัน..เจ้าไม่อยาก..ช่วยนางแล้วอย่างนั้นหรือ...อ้าา...
ข้า..ขอร้องล่ะ..หยุดเถอะ... ~~~ "
ลิ้นของหลินหมิงไต่โลมเลียไปที่ใบหูของหมิงเยี่ยนพร้อมกับสอดไส้
เข้าไปในรูัของนาง
หู นางไม่เข้าใจจริงๆว่าหลินหมิงกาลังหาความสุข
ด้วยวิธีเช่นนี้ ?
" หยุด ? ไม่ใช่ว่าเจ้ากาลังมีความสุขอยู่อย่างนั้นหรือ ? "
เสียงของหลินหมิงดังขึ้นที่ข้างหูของนางในระยะใกล้ชิดในตอนนี
เรี่ยวแรงของนางจากเดิมที่เหลือน้อยอยู่มันราวกับถูกดูดกลืนจน
หายไปหมดโดยสิ้นเชิง มือของหลิมหมิงที่เคยควบคุมมือทั้งสองข้าง
ของนางเอาไว้ที่ส่วนบนไม่จาเป็นที่จะต้องควบคุมเอาไว้อีกต่อไป
ในตอนนี้มือของนางทาได้เพียงผลักและทุบตีใสร่างของหลินหมิงด้วย
เรี่ยวแรงอันน้อยนิดเพียงเท่านั้น
" มะ..ไม่ใช่..อ้าาาาาา ! "
" แล้วนี้เจ้าจะพิสูจน์มันว่าอย่างไร ? "
มือของหลินหมิงล้วงเข้าไปที่บริเวณส่วนลับของหญิงสาวที่กาลัง
แฉะเยิ้มไปด้วยน้ารักอันสดใส ร่างกายของนางสั่นสะท้านนิ้วมือของ
หลินหมิงที่เอื้อมลงไปแตะที่บริเวณปากทางเข้าร่องสวาทของนางนั้น
ทาให้ร่างกายของนางระเบิดน้ารักออกมาในทันที มือของหลินหมิงยื่น
เข้าไปใกล้ใบหน้าของหมิงเยี่ยนในระยะใกล้ชิด แม้ว่านางจะพยายาม
เบี่ยงใบหน้าหลบด้วยความอับอาย
แฮ่ก ๆ
เสียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าของหมิงเยี่ยนในตอนี้สภาพของ
นางเหนื่อยล้ามาอยู่ก่อนแล้วไม่ว่าจะเป็นในด้านร่างกายหรือจิตใจ แต่
นางกลับถูกบีบบังคับให้ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรงใน
สถานการณ์เช่นนี้ โดยไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้มีจังหวะพักผ่อนแต่อย่าง
ใด ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงโดยหลินหมิงที่เข้าบดขยี้อย่างรุนแรง
สัมผัสเนียนุ่มที่บริเวณริมฝีปากของหมิงเยี่ยนทาให้หลินหมิงรู้สึกว่า
ร่างกายของเขาได้รับการเยี่ยวยาจากความเหนื่อยล้า
แต่ต่างจากหมิงเยี่ยนดวงตาของนางเบิกกว้างไปด้วยความตกใจมือ
ของนางทุบไปทีแผ่นหลังของหลินหมิงด้วยอาการ้อนรนแต่ถึงอย่าง
ทั้งหมดเหล่านั้นล้วนไม่เป็นผลแต่อย่างใด ลิ้นของหลินหมิงเข้าสารวจ
ผัวพันที่บริเวณภายในโพร่งปากของนางอย่างซุกซน การเคลื่อนไหว
ของลิ้นของหลินหมิงทาให้หัวสมองของนางขาวโพลนเต็มไปด้วย
ความรู้สึกว่างเปล่า
" อือ้ มมมมม ♥ "
พร้อมกันนั้นมือข้างหนึ่งของหลินหมิงละเลยจากการเล่นสนุกกับ
หน้าอกของนางไปและเคลื่อนไปและเคลื่อนที่เข้าสู่จุดยุทธศาสตร์ของ
นางแล้ว แม้ว่าขาทั้งสองข้างของนางจะตอบสนองอย่างรวดเร็วแต่มัน
ยังคงช้าเกินกว่าที่ความต้องการของหลินหมิง
" อ้าาาาาา ♥ "
เสียงครางกระเส้าดังเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากของนางที่กาลัง
บดขยี้กับริมฝีปากของหลินหมิงเล็กน้อย ขาทั้งสองข้างของนางหนีบ
กันเอาไว้เพื่อพยายามข่มกลั้นอารมณ์ความรู้สึกที่กาลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อ
เหนื่อง นิ้วมือของหลินหมิงเข้าล้วงไปภายในร่องสวาทของนางและ
เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ 231
ด้วยอุณหภุมิของร่างกายของหมิงเยี่ยนที่เพิ่มสูงขึ้นเหนื่อยจากการ
เล้าโลมอันยอดเยี่ยมของหลินหมิง หยาดเหงื่อใสๆได้ไหลออกมาผิวอัน
งดงามของนางแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับใช้เวลาเพียงไม่นานในการ
แทนที่หยาดเหงื่อของนางเหล่านั้นด้วยน้าลายของเขา อาจกล่าวได้ว่า
ในตอนนี้ทั่วเรือนร่างของนางนั้นส่วนใหญ่แล้วทั้งหมดล้วนถูกแต่งแต้ม
ไปด้วยน้าลายของหลินหมิง
เทียบกับท่าทีอันแสนมั่นใจและยิ่งทะนงก่อนหน้านี้ของหมิงเยี่ยน
แล้วในตอนนี้นางราวกับว่ากลายเป็นคนละคนกัน ดวงตาของนาง
แสดงความอ่อนล้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด อันที่จริงแล้วการแสดงออก
ของนางในตอนนี้มันกลับทาให้หลินหมิงรู้สึกเร้าอารมณ์เสียมากกว่า
เสียงหอบรัญจวนอย่างเหนื่อยพร้อมกับร่างกายเปลื่อยเปล่าที่
กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือใบหน้าของ
นางที่เหม่อลอยเล็กน้อย
หากผู้อาวุโสทั้งหลายของอาณาจักรนภาเช่นผู้อาวุโสเป่ยได้เห็น
ภาพนี้พวกเขาคงยินดีที่จะยอมแลกทุกอย่างเพื่อสังหารหลินหมิงให้จง
ได้ น่าเสียดายที่พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นสากศพไปแล้วดังนั้นแม้วัผู
่า ้
อาวุโสเป่ยจะเป็นัเชี
ผ้ ่ยวชาญระดับปราญช์ขั้นที่หก แต่ถึงอย่างนั้นมัน
ไม่มีทางที่ดวงวิญญาณของเขาจะสามารถทาอันตรายใดๆกับหลินหมิง
ได้
" อาาา ♥ "
ทันทีที่หลินหมิงถอนริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากของหมิงเยี่ยน
ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าริมฝีปากสีชมพูสดของนางนั้นบวมเต้งขึ้นมา
เล็กน้อย เสียงครางของนางออกมาจากริมฝีปากพร้อมกับสูดหายใจ
เข้าไปเต็มปอดอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้นางรู้สึกเช่นไร มัน
ราวกับว่านางได้ไปอยู่เขตแบ่งแยกระหว่างสวรรค์และนรกมาแล้ว
ความสุขจากการเล้าโลมและรสจูบของหลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่นางไม่
อาจปฎิเสธได้แต่ถึงอย่างนั้นในใจของนางยังคงเต็มไปด้วยความไม่
ยอมรับ
เมื่อมองไปที่ฐานะของหลินหมิงนั้นแม้ว่าด้วยความสามารถของ
หลินหมิงจะโดดเด่นเป็นอย่างมากแต่ความสัมพันธ์ของเขาและนาง
เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น นั้นไม่ใช่ว่าเพราะเบื้องหลังของนางที่แข็งแกร่ง
เป็นอย่างมากอย่างเดียวเท่านั้นแต่มันยังคงเป็นเพราะว่าพวกเขาอาศัย
อยู่ที่อาณาจักรทั้งสองที่เป็นศัตรูกัน สิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือการที่หลินหมิ
งเพียงต้องการใช้เรือนร่างของนางเพื่อปรนเปร่อความสุขหรือคลาย
ความเครียดจากสถานการณ์ที่เขาพบเจอมาเพียงเท่านั้น
หากแม้ว่าหลินหมิงเป็นคนจากอาณาจักรนภาเช่นเดียวกันกับนาง
นางคิดว่าเรื่องทุกอย่างอาจจะง่ายยิ่งกว่านี้มาก หลินหมิงก้มลงไปที่
ช่องว่างระหว่างขาเรียวงามของหมิงเยี่ยนที่ตอนนี้กลายเป็นแอ่งน้า
ขนาดย่อม แน่นอนว่าหมิงเยี่ยนนางย่อมมีการขัดขืนแต่ด้วยเรี่ยวแรง
ของนางนั้นมันไม่นับว่าเป็นสิ่งใดสาหรับหลินหมิง
ขาทั้งสองข้างของนางถูกแยกออกมาอยากกว้างจนเผยให้เห็น
รูปร่างของกลีบบัวสีชมพูที่มีคราบน้ารักสดใสอยู่เต็มไปหมด ใบหน้า
ของหมิงเยี่ยนเต็มไปด้วยความน่าเกลียดใครจะคิดกันว่าเจ้าตัวชั่วร้ายนี้
จะไม่เพียงกับเรือนร่างของนางเพียงเท่านั้นแต่เขายังคงก้มไปมองดู
ส่วนลับของหญิงสาว ? หากไม่ใช่พฤติกรรมก่อนหน้านี้ของหลินหมิ
งนางอาจคิดว่าหลินหมิงเป็นแพทย์ฝึกหัดที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ
เรือนร่างของหญิงสาว
" นี้..เจ้าจะทาอะไร เอาหน้าของเจ้าออกไปเดียวนี้ ! "
หมิงเยี่ยนนางรู้สึกตื่นตระหนกมือของหลินหมิงไม่พียงแต่เข้าสัมผัส
ร่องสวาทของนางอย่างรวดเร็วพร้อมกับบีบยอดเมล็ดพันธ์อ่อนไหว
ของหญิงสาวไปมา ด้วยใบหน้าของหลินหมิงที่กาลังใกล้ชิดกับร่อง
สวาทของนางในระยะใกล้มันทาให้ร่องสวาทของนางนั้นต้องพบเจอ
กันลมหายใจอันหื่นกระหายของหลินหมิงที่กาลังสูดดมและเพลิดเพลิน
กับบริเวณส่วนลับของนาง
บริเวณต้นขาอ่อนอันใกล้กับบริเวณส่วนลับของนางคือเป้าหมาย
แรกที่ถูกโจมตีไม่ต้องสงสัยเลยว่าบริเวณต้นขาอ่อนของหญิงสาวนั้นก็
ย่อมเป็นจุดที่ไวต่อสัมผัสเช่นเดียวกัน ร่างกายของนางส่ายไปมาด้วย
ความเสียวซ่าน ลิ้นของหลินหมิงค่อยๆไต่ระดับจากบริเวณขาอ่อน
ของหมิงเยี่ยนเข้าสู่จุดลับสุดยอดของหญิง มือทั้งสองข้างของนาง
พยายามดันศรีษะของหลินหมิงออกไปในทันที แม้ว่านางจะไม่รู้
เป้าหมายของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นสัมผัสลิ้นที่ใกล้กับบริเวณร่อง
สวาทของนางนั้นมันทาให้ร่างกายของนางตอบสนองอย่างรุนแรง
' เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะโลมเลียไปที่จุดัน
น้ ? '
หมิงเยี่ยนพลันหน้าซีดไปในทันทีเมื่อลิ้นของหลินหมิงนั้นมีการ
เคลื่อนไหวเข้าใกล้กับบริเวณร่องสวาทของนางมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่
ต้องบอกก็รู้ว่าการกระทาของหลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเป็น
อย่างมาก
" ซี๊ดดดดดดดด "
ทันทีที่ลิ้นของหลินหมิงเข้าสัมผัสบริเวณร่องสวาทของหมิงเยี่ย
นร่างกายของนางสั่นกระตุกอย่างรุนแรงคลื่นความสุขได้โหมกระหน่า
เกิดขึ้นที่จิตใจของนาง เสียครางของนางดังสนั่นไปทั่วไม่เพียงแต่ลิ้น
ของหลินหมิงจะเข้าสัมผัสกับบริเวณปากทางเข้าร่องสวาทของนาง
เพียงเท่านั้น ลิ้นของหลินหมิงยังคงเข้าไปสอดใส่ภายในร่องสวาทของ
นางอีกด้วยเช่นเดียวกัน นางไม่เคยคาดคิดว่ามันจะมีบุรุษใดที่กล้าทา
สิ่งเหล่านี้แม้ว่าหญิงสาวเหล่านั้นจะเป็นหญิงสาวที่งดงามมากกว่านาง
นับสิบหรือร้อยเท่า
ด้วยการกระทาของหลินหมิงไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการเสียเกียรติของ
บุรุษไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ? น้ารักของนางราบกับเขืัอนที่โดนทาลาย
" อู้วว ~~ พอ..หยุด..เถอะข้าขอร้องล่ะ "
ในตอนนี้หมิงเยี่ยนนางแทบจะสูญเสียความคิดไปไม่แน่ว่าหากนาง
ยังคงปล่อยให้หลินหมิงทาสิ่งใดไปมากกว่ัานี้มันเป็นไปได้ว่าจิตใจของ
นางนั้นอาจได้รับการเปลี่ยนการกระบวนท่าอันยอดเยี่ยมจากหลินหมิง
ก็เป็นได้ ขาเรียวงามทั้งสองข้างนางบิดกันเป็นเกลียวที่บริเวณศรีษะ
ของหลินหมิงแน่นอนว่ามันไม่ได้ทาให้เขารู้สึกอึดอัดหรือลาบากแต่
อย่างใดกลับกันแล้วด้วยผิวอ่อนชวนน่าสัมผัสที่กาลังประกบซ้ายขวา
หลินหมิงอยู่ในตอนนี้มันกลับทาให้เขารู้สึกเพลิดเพลินเสียมากกว่า
" อร้าาาางงง ♥ "
หลินหมิงเพียงใช้เวลาตั้งแต่เริ่มต้นกับการเล้าโลมหมิงเยี่ยนราว
หนึ่งก้านธูปหรืออาจนานกว่านั้นเล็กน้อยแต่ในตอนนี้สาหรับนางนั้น
มันราวกับว่าเวลาได้ผ่านล่วงเลยไปหลายชั่วยามแล้ว ร่างกายของนาง
ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันย่าแย่กว่าในตอนนี้ที่นางใช้พลังปราณไปกับ
การใช้ค่ายกลก่อนหน้านี้เสียอีก
ทันใดนั้นสายตาอันเหนื่อยล้าของนางพลันมองเห็นร่างของหลินห
มิงที่กาลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกมา แม้ว่าในความเป็นจริง
แล้วนั้นนางจะเตรียมใจสาหรับเรื่องเช่นนี้มาตั้งแต่ตอนที่หลินหมิงฉีก
กระชากเสื้อผ้าอาภรณ์ของนางออกไปจนหมดสิ้นแต่ถึงอย่างนั้นมันมี
สิ่งที่เกินกว่าการคาดคิดของนางนั้นก็คือรสชาติอันเล้าโลมของหลินห
มิงที่ไม่สามารถพบเห็นได้ในบุรุษอื่น
ยิ่งกว่านั้นในตอนนี้สายตาของนางถูกตราตรึงเข้ากับอวัยวะบริเวณ
ส่วนล่างระหว่างขาทั้งสองของหลินหมิง แน่นอนว่าในฐานะสตรีนั้น
นางย่อมต้องเคยรับรู้เรื่องเหล่านี้มาบ้างแต่ถึงอย่างนั้นนางไม่เคยได้ยิน
มาว่ามันจะมีทวนมังกรของบุรุษใดที่มีขนาดใหญ่มากมายถึงเพียงนี้ !
" มะ...ไม่จริง "
ใบหน้าของหมิงเยี่ยนพลันขาวซีดไปด้วยความหวาดกลัวในตอนนี้
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหลินหมิงต้องการทาสิ่งใดกับนาง ไม่ต้องพูดถึง
ในตอนนี้ที่ร่างกายของนางอยู่ในสภาพอ่อนล้าอย่างถึงขีดสุดแม้ว่าจะ
เป็นนางที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมกับก้ไม่อาจรับมือกับทวนมังกร
ขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ ดังนั้นแล้วด้วยสภาพเหนื่อยอ่อนของนางในตอนนี้
ไม่ใช่ว่านางอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ?
หมิงเยี่ยนจนถึงตอนนี้นางรู้สึกว่าความตายนั้นไม่ได้น่ากลัวไปกว่า
การที่นางจะต้องอยู่ภายใต้เงื้อมมือของหลินหมิง แม้ว่าชีวิตของนาง
อาจจะต้องตกตายด้วยทวนมังกรของหลินหมิงตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้น
มันคงไม่ใช่การตายธรรมดาทั่วไป มันจะเป็นการตายที่แสนทุกข์
ทรมานอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่านางจะยังคงมีชีวิตรอดต่อไปได้
เพียงแต่ว่าต่อจากนั้นนางย่อมไม่อาจหลีกหนีพ้นการเป็นของเล่นให้กับ
หลินหมิง
หลินหมิงจ้องมองไปที่หมิงเยี่ยนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เขาคุ้นชิดกับ
สายตาเช่นนี้ของเหล่าสตรีมามากมายแล้ว มันคงเป็นเรื่องแปลกที่จะมี
สตรีใดไม่ตื่นตะลึงกับขนาดของเจ้าทวนมังกรอันแสนน่าภาคภูมิใจนี้
หลินหมิงยื่นขึ้นพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่อยู่ไม่ห่างจากใบหน้า
ของหมิงเยี่ยนมากนัก ใบหน้าของนางรีบพลันหันหลบในทันที แต่ถึง
อย่างนั้นใบหน้าของนางกลับถูกมือของหลินหมิงบีบบังคับให้หัน
กลับมาจดจ่ออยู่กับทวนมังกรของหลินหมิงอีกครั้ง
" เลียมันซะ ! "
" มารดาเจ้าเถอะ ! "
หมิงเยี่ยนก่นด่าหลินหมิงออกไปโดยไม่ต้องคิดให้นางโลมเลียสิ่ง
สกปรกเช่นนี้ ? มันไม่ใช่หน้าที่หญิงแม้แต่สาวคณิกาเสียด้วยซ้าไป แล้ว
เหตุใดนางถึงจะต้องทามันกัน !
" หรือเจ้าอยากให้ข้าเสียบมันไปที่.. "
เสียงของหลินหมิงกล่าวอย่างเฉยเมยแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของห
มิงเยี่ยนพลันแปรเปลี่ยนไปในทันที

ตอนที่ 232
หัวใจของหมิงเยี่ยนบีบรัดอย่างไร้หนทางเลือกแน่นอนว่าไม่ว่าจะ
เป็นตัวเลือกอย่างการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงมันไม่ใช่สิ่งที่นาง
ยินดีที่จะทาเลยแม้แต่น้อยอันที่จริงแล้วเพียงแค่การสัมผัสนางยังคง
รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มากเกินไปเสียด้วยซ้าแต่ถึงอย่างนั้นอีกตัวเลือกหนึ่ง
นั้นคือการร่วมรักกับหลินหมิงนั้นมันนับว่าได้ว่าเป็นตัวเลือกที่โหดร้าย
ยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
สาหรับการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงแล้วนั้นสิ่งที่นางต้องทา
อาจมีเพียงแค่การข่มกลั้นอารมณ์และศักดิศรีของนางเอาไว้เพียง
เท่านั้นมันยังคงดีกว่าการที่นางจะต้องเสียความบริสุทธ์และต้องทน
รับมือกับความเจ็บปวดที่ได้รับจากทวนมังกรแท่งนี้
" ว่าอย่างไร ? "
" กะ..ก็ได้ "
หลินหมิงยื่นทวนมังกรของเข้ามาจนใกล้ชิดกับริมฝีปากของหมิง
เยี่ยนที่กาลังขบแน่น ลิ้นของนางกาลังขยับออกมาอย่างช้าๆเพื่อเข้า
สัมผัสกับผิวหนังเปลือกหุ้มทวนมังกร
" ถ้าเจ้ายังคงลีลาเช่นนี้เจ้าก็คงรู้ว่านะว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป "
หมิงเยี่ยนจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาขุ่นเคืองในตอนนี้นาง
จาเป็นที่จะต้องให้หลินหมิงระเบิดอารมณ์ออกมาโดยเร็วให้ได้
ไม่เช่นนั้นแล้วความบริสุทธ์ของนางก็ยังไม่นับว่าปลอดภัย ลิ้นของนาง
เข้าสัมผัสไปทีทวนมังกรอของหลินหมิงมืองของนางเข้าลูบไล้มันตาม
คาบอกกล่าวของหลินหมิงทุกอย่างอย่างเชื่อฟัง
ไม่ใช่ว่านางต้องการทาสิ่งเหล่านี้แต่นางต้องทาให้หลินหมิงพอใจ
และระเบิดอารมณ์ออกมาโดยเร็วแต่ในเมื่อนางไม่มีประสบการณ์ใน
การทาเรื่องเช่นนี้ทางที่ดีที่สุดคือเชื่อฟังหลินหมิงไปก่อน
ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึงรสชาติที่ลิ้นของนาง
สัมผัสได้มันไม่ใช่รสชาติที่นับได้ว่าเลวร้ายอันที่จริงแล้วมันตรงข้ามไป
โดยสิ้นเชิง ไม่เพียงเท่านั้นกลิ่นอันรุนแรงที่ออกมาจากทวนมังกรของ
หลินหมิงนั้นมันราวกับว่าเป็นยาปลุกกาณัติร่างกายของนางร้อนผ่าว
และเต็มไปด้วยความต้องการอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างของนางบิดเป็น
เกลียวเพื่อพยายามยับยั้งอารมณ์ตนเอง นางไม่เข้าใจจริงๆว่าใน
เมื่อก่อนหน้านี้นางเพิ่งจะระเบิดอารมณ์ไปเป็นจานวนมากจากการ
เล้าโลมแล้วเหตุใดร่างกายของนางถึงได้มีการตอบสนองเช่นนี้ นี้ไม่ใช่
ว่าแท้จริงแล้วนางอาจเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความต้องการ ?
" อุ๊บ ♥ "
ในขณะที่หมิงเยี่ยนนางกาลังใช้ความคิดอย่างเหม่อลอยศรีษะของ
นางถูกมือของหลินหมิงจับเข้าเอาไว้ที่ด้านข้างทั้งสองพร้อมกับทวน
มังกรของเขาที่แทงทะลวงเข้ามาภายในปากของนางจนถึงลาคอ
หยาดน้าตาของนางไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย มือทั้งสอง
ข้างนางทุบที่ขาของหลินหมิงเพื่อพยายามจะเรียกร้อง ในตอนแรกเขา
บอกแค่ว่าโลมเลียมันกัน
ศรีษะของนางขยับไปตามจังหวะมือของหลินหมิงโดยที่นางไม่อาจ
ต้านทานได้ยิ่งไปกว่านั้นก็คือในตอนนี้นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนาง
เริ่มรู้สึกเบาสบายขึ้นมาอีกครั้งรสชาติของทวนมังกรของหลินหมิงนั้น
มันยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าอาหารเลิศรสทั้งหลายที่นางได้เคยกินมา ทันใด
นั้นนางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มมีการขยายตัวขึ้น
เล็กน้อยพร้อมกับสั่นกระตุกภายในปากของนาง
" อุกกกก ! "
หลินหมิงระเบิดน้ารักของเขาผ่านลงไปในลาคอของนางและยังคง
มีบางส่วนที่ยังคงอัดแน่นอยู่ภายในปากของนางด้วยเช่นเดียวกัน
แค่ก แค่ก
แม้ว่าในตอนนี้หมิงเยี่ยนจะรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะหมุดดิ้นหนี
แต่ในตอนนี้นางเริ่มรู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยนางก็ทาให้หลินหมิง
ระเบิดอารมณ์ออกมาได้แล้ว เมื่อเช่นนี้ความบริสุทธ์ของนางก็นับได้ว่า
ปลอดภัย ? แต่ความคิดเหล่านั้นของนางคงอยู่ได้ไม่นานหลินหมิงกระ
โจนเข้าหานางราวกับสัตว์ป่าพร้อมกับขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้ ทวน
มังกรของเขาห่างจากบริเวณปากทางเข้าร่องสวาทเพียงแค่เล็กน้อย
เท่านั้น
" ไม่...นะนี้เจ้าจะทาสิ่งใดกัน ในเจ้าบอกว่าหากข้าทามันแล้วเจ้าจะ
ปล่อยข้าไป "
" ข้าเคยบอกด้วยหรอ ? ข้าแค่กล่าวว่าเจ้ามีสองทางเลือก และ
แน่นอนว่าไม่มีใครบอกเจ้าว่าเมื่อเจ้าเลือกทางแรกแล้วทางเลือกที่สอง
จะหายไป "
หลินหมิงเตรียมเสียบทวนมังกรของเขาเพื่อลิ้มรสความสุขจาก
ร่างกายของหญิงสาวผู้งดงามนางนี้ ใบหน้าของหมิงเยี่ยนเต็มไปด้วย
ความหวาดกลัวนางพยายามกล่าวขอร้องอ้อนวอนหลินหมิงทุกอย่าง
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
กึก
ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆมุดทะลวงเข้าไปยังเยื่อโพร่งสวาท
อันบริสุทธ์เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วย
ความเจ็บปวดและความเสียใจนางกัดฟันแน่นเพื่อทนรับความเจ็บปวด
นี้บริเวณท้องของนางราวกับว่านางได้กินอาหารที่มากเกินไปจนอยู่ได้
นานนับปี
" อ้าาาาาา ♥ "
ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มแทงทะลวงเข้าไปจนสุดลาเสียง
ครางของหมิงเยี่ยนดังสนั่นเช่นเดียวกันกับร่างกายของนางที่สั่นสะท้าน
ที่ปากของนางนั้นเปิดออกพร้อมกับน้าลายจานวนมากที่หลั่งไหล
ออกมาดวงตาของนางเหม่อยลอยขึ้นด้านบนด้วยอาการตกใจอย่าง
รุนแรง
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงไม่ได้สนใจท่าทีของหมิงเยี่ยนในตอนนี้
ทวนมังกรของเขาแทงทะลวงด้วยจังหวะปานกลางแต่ถึงอย่างนั้นแม้ว่า
จะเป็นจังหวะปานกลางแต่มันยังคงไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวแสนบริสุทธ์เช่น
นางจะสามารถรับมือได้
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ♥
หมิงเยี่ยนนางรู้สึกแปลกใจกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก
ด้วยขนาดทวนมังกรของหลินหมิงนั้นมันสมควรที่จะสามารถทาให้นาง
ตกตายไปพร้อมกับความทรมานไม่ใช่หรือแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งนางกาลัง
ได้รับในตอนนี้คือรสชาติความสุขที่มากล้น มือทั้งสองข้างของหลินห
มิงเข้าบีบคลึงหน้าอกของนางราวกับเด็กทารกที่ต้องการน้านมจาก
มารดา ลาพังเพียงแค่การเล้าโลมจากหลินหมิงนั้นก็เป็นสิ่งที่รับมือได้
ยากยิ่งแล้วไม่ต้องพูดถึงการร่วมรักกับหลินหมิงที่มีขนาดทวนมังกร
ขนาดใหญ่เหนือกว่าบุรุษอื่นเป็นอย่างมาก
ในหัวสมองของนางขาวโพลนราวกับว่าสมองของนางได้หยุด
ทางานไปแล้วในตอนนี้นางไม่ได้สนใจในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง
อาณาจักรทั้งสอง เหล่าผู้อาวุโสของนางที่ตายไป หรือสถานะของ
หลินหมิงอีกต่อไปมือทั้งสองข้างของนางรวบไปที่ต้นคอของหลินหมิง
พร้อมกับดึงร่างของเขาลงมาพรหมจูบกันอย่างเร่าร้อน
อืม้ มมมม ♥
มือทั้งสองข้างของนางไหลลงมาจากบริเวณต้นคอของหลินหมิงม
พร้อมกับลูบไล้แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อขาเรียวงามทั้งสองข้าง
ของนางยกขึ้นพร้อมกับหนีบรัดร่างของหลินหมิงเอาไว้ราวกับไม่
อยากจะแยกจาก
" อาาา ♥ ขะ..ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว อร้าาาง ♥ "
น้ารักของที่บริเวณร่องสวาทระเบิดออกมาอย่างต่อเหนื่องโดยไม่มี
ท่าทีว่าจะหยุดลงโดยง่าย ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าเคลื่อนที่ไปโลม
เลียที่บริเวณใบหน้าและซอกคอของนางอย่างเร่าร้อนร่างกายของนาง
ส่ายไปมาแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้นางไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจใน
รสชาติการเล้าโลมของหลินหมิงอีกต่อไป
หลินหมิงพลิกร่างของหมิงเยี่ยนให้คว่าหน้าลงพร้อมกับมือทั้งสอง
ข้างของนางที่ชันพื้นพร้อมกับเข่าของนาง ร่องสวาทของนางหันมาทาง
ที่หลินหมิง ในตอนแรกหมิงเยี่ยนนางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเกี่ยวกับ
การกระทาของหลินหมิงโดยปกติแล้วนั้นบุรุษจะไม่มีลีลากระบวนท่า
ใดมากนักสาหรับการร่วมรักกับเหล่าสตรีแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้น
มันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
สิ่งที่นางคาดคิดเอาไว้นั้นอาจเป็นไปได้ว่าในตอนนี้หลินหมิงอาจ
มาทถึงขีดจากัดของเขาแล้ว ? อย่างไรเสียในก่อนหน้านี้เขาก็ได้ระเบิด
อารมณ์ไปเป็นจานวนมากใส่ภายในปากของนางและที่ยิ่งไปกว่านั้นก็
คือสภาพร่างกายของเขา เพียงแค่การที่เขายังคงสามารถร่วมรักกับ
นางอย่างเร่าร้อนมาได้ถึงจุดนี้ก็นับได้ว่าอัศจรรย์มากนัก
เอ๊ะ !
ทันใดนั้นหมิงเยี่ยนเต็มไปด้วยความตกใจ ดวงตาของนางเบิกกว้าง
ขาข้างหนึ่งของนางถูกยกขึ้นพร้อมกับอ้าออกอย่างกว้างขวางโดยไม่รอ
ช้าทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มทาการเสียบเข้ามาภายในร่องสวาทของ
นางจากทางด้านหลังอีกครั้ง
" อ้าาาา ♥ ชะ..ช้าลง..หน่อย ซี๊ดดดดด♥ "
ดูเหมือนว่าความคิดก่อนหน้านี้ของหมิงเยี่ยนจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า
ไปโดยสิ้นเชิงอันที่จริงแล้วนางพบว่าหลินหมิงไม่เพียงแต่จะสามารถ
ร่วมรักกับนางต่อได้แต่ดูเหมือนว่าพละกาลังในการร่วมรักของเขาไม่ได้
ตกลงไปเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้
ในตอนนั้นเองทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มสั่นกระตุกและขยายใหญ่
ขึ้นมาอีกครั้งหมิงเยี่ยนนางยังคงจาความรู้สึกเช่นนี้ได้ ร่างกายของนาง
พลันตื่นตัวไปด้วยความตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัวร่องสวาทของนางบีบรัดทวน
มังกรของหลินหมิงโดยในทันทีน้ารักจานวนมากของหลินหมิงระเบิด
เข้าใส่ภายในร่องสวาทของนางจนนางรู้สึกอบอุ่นไปทั่วท้อง
" อร้าาาาางงงงงง ♥ "

ตอนที่ 233
การร่วมรักระหว่างหลินหมิงและหมิงเยี่ยนไม่ได้ใช้เวลาไปมากมาย
มากนักแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหมิงเยี่ยนที่ต้องรับน้ารักของหลินหมิงเข้า
ไปถึงสามครั้งนั้นนางกลับรู้สึกแตกต่างเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นใน
ตอนท้ายที่สุดหลังจากที่หลินหมิงได้ปลดปล่อยน้ารักครั้งที่สามออกจน
ท้องของนางรู้สึกอัดแน่นไปด้วยน้าไออุ่นอย่างมากล้น ริมฝีปากของ
นางถูกใช้บริการเป็นที่ทาความสะอาดคราบน้ารักที่เปราะเปรื้อนอยู่ที่
ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างไม่อาจปฎิเสธได้
" แฮ่ก แฮ่ก "
แม้ว่าในตอนนี้หมิงเยี่ยนนางจะรู้สึกเหนื่อยล้าจนแทบอยากจะเป็น
ลมนอนล้มไปเสียตอนนี้ แต่หากนางทาอย่างนั้นนางไม่อาจคาดเดาได้
ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับนางในอนาคตเป็นไปได้หรือไม่ว่านางอาจถูกทิ้ง
อยู่ที่นี้ ? หรืออาจจับตัวไปเพื่อนาตัวนางเป็นที่บาเร่อรัก แม้ว่าในความ
เป็นจริงแล้วนั้นสาหรับนางเหตุการณ์แรกอาจนับว่าเป็นตัวเลือกที่
เหมาะสมกว่า เพราะว่าแม้ในท้ายที่สุดแล้วการที่นางถูกทิ้งที่นี้หรือการ
สังหารนางเสียแต่ตอนนี้มันอาจทาให้นางหลุดพ้นจากความทรมานที่
อาจจะพบเจอในอนาคต
แต่ถึงอย่างนั้นในใจของกลับรู้สึกเต็มไปด้วยความขัดแย้งร่องสวาท
ของนางที่เต็มไปด้วยน้าไออุ่นยังคงมีความรู้สึกว่ายังคงอยากที่จะได้รับ
ความรู้สึกเช่นนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นแล้วลึกๆในใจของนางนั้นยังคง
คาดหวังเล็กๆว่าหลินหมิงอาจนานางไปเป็นหญิงสาวบาเร่อรักส่วนตัว
ของเขา ?
สายตาของนางเหลือบมองไปที่ร่างของหลินหมิงที่ยังคงสมบูรณ์
พร้อมอันที่จริงแล้วในตอนนี้บาดแผลของเขาส่วนใหญ่เริ่มฟื้นตัวขึ้นมา
ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก ที่สาคัญไปกว่านั้นนั้นก็คือ
ทวนมังกรของเขาที่ยังคงอยู่ในสภาพพร้อมรบอยู่ตลอดเวลาดั่งเช่นเดิม
นางแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตนเองเมื่อได้เห็นภาพของทวน
มังกรของหลินหมิงที่ยังคงสมบูรณ์พร้อมเป้นไปได้หรือไม่ว่าเขายังคง
สามารถที่จะทามันอีกเป็นจานวนหลายรอบ ความคิดของนางได้รับ
คาตอบในทันทีโดยไม่ต้องคาดเดาร่างของหลินหมิงดึงร่างของนางลุก
ขึ้นมาในท่านั่งลงบนตักของหลินหมิงมือโดยมีมือทั้งสองข้างของหลินห
มิงโอบกอดจากด้านหลังแม้ว่าในตอนนี้ทวนมังกรของหลินหมิงจะยัง
ไม่ได้เสียบเข้ามาภายในร่างกายของนางอีกครั้งแต่ถึงอย่างนั้นจาก
สัมผัสอุณหภูมิของร่างกายทั้งสองและทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลัง
ดันโผล่ขึ้นมาระหว่างขาเรียวงามทั้งสองของนางมันทาให้ร่างกายของ
นางรู้สึกร้อนรุ่มไปด้วยความตื่นเต้น
" ที่นี้เจ้าก็ช่วยเหลือนางซะ...ไม่งั้น... "
เสียงของหลินหมิงที่ดังขึ้นข้างหูของนางทาให้ร่างกายของนางสั่น
ไหว พร้อมกันนั้นดุ้นของหลินหมิงที่ขยับราวกับว่ามันต้องการเสียบเข้า
มาภายในร่องสวาทของนาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหากนางไม่ทาตามเขา
กล่าวของหลินหมิงนั้นจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับนางในตอนนี้ มันเป็นไปได้ว่า
ร่างกายของนางอาจจะระเบิดเนื่องจากความสุขที่มากล้นหรือไม่ก็ขาด
น้าจากการระเบิดน้ารักออกมามากจนเกินไป
" อือ้ ออ...ขะ..เข้าใจแล้ว "
เสียงของหมิงเยี่ยนครางกระเส้าออกมาเล็กน้อเพราะว่าใน
ตอนท้ายนั้นลิ้นของหลินหมิงยังคงโลมเลียมาที่ใบหูและซอกคอของ
นาง พร้อมกันนั้นมือของนางยังคงเข้าบีบนวดยอดปถุมทันของนาง
อย่างเพลิดเพลิน
กระดานค่ายกลของนางถูกนามาออกมาสองกระดานในทันที
ในตอนนี้หลังจากระยะเวลาผ่านไปชั่วระยะหนึ่งแล้วนั้นแม้ว่าในตอนนี้
ร่างกายของนางจะอ่อนแอ่แต่พลังปราณของนางเริ่มฟื้นฟูกลับมา
บางส่วนแล้วอันที่จริงนางค่อนข้างตกใจกับพลังปราณที่ฟื้นฟูขึ้นมาของ
ในตอนนี้นั้นก็เพราะว่าในตอนนี้นางมีพลังปราณเหลือถึงอยู่ราวๆห้า
ส่วนทั้งๆที่ในตอนแรกมันน่าจะต้องใช้เวลาหลายชั่วยามในการฟื้นคืน
พลัง
กระดานค่ายกลของนางส่องแสงพร้อมกับดวงตาอันสั่นไหวของ
นางที่จดจ้องไปที่ร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งไม่ต้องสงสัยว่าผลึกสีแดง
ตรงหน้าผากของผู้อาวุโสสาวคนนี้ย่อมน่าจะเป็นผนึกที่ผนึกพลังของ
นางเอาไว้ดังนั้นแล้วที่สิ่งที่นางจาเป็นที่จะต้องทาในตอนนี้ไม่ใช่การ
ทาลายผนึก สาหรับผนึกที่สามารถปิดกั้นพลังของตัวตนระดับสูงถึง
ขนาดนี้ได้แม้ว่าต่อให้เป็นผนึกที่มีอายุยืนยาวนับร้อยนับพันปีแต่ถึง
อย่างนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ความสามารถของนางจะเพียงพอที่จะทาลายมัน
สิ่งที่นางต้องทาคือการลดถอนผลกระทบที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้
เห็นได้ชัดว่าหากไม่เช่นนั้นแล้วชีวิตของหญิงสาวผู้นี้ย่อมตกอยู่ใน
อันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขายังคงมีความ
สงสัยในบางสิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้อาวุโสสาวสวยของเขานางนี้นาง
ย่อมเป็นตัวตนระดับตานานในอดีตไม่ว่าจะเผ่าพันธ์หรือความ
แข็งแกร่งของนางหลินหมิงไม่สามารถประเมิณได้ว่าความแข็งรแกร่งที่
แท้จริงของนางนั้นมีมากมายเพียงใด แต่ถึงอย่างนั้นตัวตนระดับใดกัน
ที่สามารถผนึกพลังของเผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่งเช่นนางเอาไว้ได้ ?
ฮึบ
เสียงของหมิงเยี่ยนดังขึ้นพร้อมกับสมาธิของนางที่พยายามรวบรวม
และจดจ่อไปที่ผนึกของผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างยากลาบากแม้ว่านางจะ
ต้องการให้หลินหมิงหยุดทาการเล้าโลมนางในตอนนี้ก่อนเพราะว่ามัน
เป็นปัญหาอย่างมากสาหรับนางในการรวบรวมสมาธิแต่ถึงอย่างนั้นคา
กล่าวเหล่านั้นของนางล้วนถูกกลืนลงไปในลาคออย่างรวดเร็วนั้นก็
เพราะว่าใครจะรู้กันว่าหลินหมิงอาจไม่พอใจและจู่โจมนางขึ้นมา
ในทันทีก็เป็นไปได้
ผลึกสีแดงจ้าระหว่างคิ้วของผู้อาวุโสซูหลิ่งส่องสว่างพร้อมกับ
ใบหน้าของนางที่ยังคงแสดงท่าทีเจ็บปวด ลวดลายจากกระดานค่าย
กลทั้งสองของหมิงเยี่ยนได้พุ่งเข้าใส่ผลึกสีแดงพร้อมกับทาการหลอม
หลวมเข้าด้วยกัน
กระบวนการทั้งหมดดาเนินไปอย่างเชื่องช้าแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิง
สามารถสังเกตได้ว่าใบหน้าของผู้อาวุโสสาวสวยของเขานั้นเริ่มมีอาการ
ที่ดีขึ้นเล็กน้อย ระดับพลังปราณของนางเริ่มมีความคงที่มากขึ้น
หลังจากที่ในตอนแรกมันมีการลดระดับลงอย่างลวดเร็ว
ทางฝั่งอาณาจักรนภา
ภายในพระราชวังอันใหญ่โตอันเป็นสถานที่ระดับสูงสาหรับรา
ศวงศ์หรือไม่ก็เหล่าขุนนางแม่ทัพที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ที่บริเวณห้อง
โถงใหญ่ในตอนนี้มีการร่วมตัวของกลุ่มคนระดับสูงภายในอาณาจักร
แม้ว่าจะเป็นจานวนคนเพียงสิบกว่าคนเท่านั้นแต่พวกเขาเหล่านี้
ทั้งหมดล้วนเป็นตัวตนที่แบกรับอนาคตของอาณาจักรแห่งนี้เอาไว้
ด้วยกันทั้งสิ้น แน่นอนว่านั้นรวมถึงจักรพรรดิ์แห่งอาณาจักรนภาที่
ในตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความตรึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
" ลูกแก้ววิญญาณของผู้อาวุโสเป่ยและผู้อาวุโสท่านอื่นที่รวมกลุ่ม
กับองค์หญิงได้ถูกทาลาย... "
นี้คือหัวข้อที่ผู้คนได้แต่ขมวดคิ้ว ไม่มีใครสงสัยในความแข็งแกร่ง
ของผู้อาวุโสเป่ยเกรงว่าแม้แต่ภายในอาณาจักรแห่งนี้คงมีเพียงไม่กี่คน
เท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาดังนั้นแล้วมันจึงไม่น่าแปลกใจที่
เขาจะได้รับหน้าที่ในการฝึกสอนองค์หญิงสามที่มีพรสวรรค์สูงส่งและ
เป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิ์ แต่ถึงอย่างนั้นใครจะคาดคิดกันว่า
ลูกแก้ววิญญาณที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ของผู้อาวุโสเป่ยได้ถูกทาลายลง
ไปแล้ว
" ไปตามหาตัวนางมาเดียวนี้ ! "
เสียงของจักรพรรดิ์ตวาดลั่นนั้นก็เพราะว่าแม้ว่าในตอนนี้ลูกแก้ว
วิญญาณของผู้อาวุโสเป่ยจะถูกทาลายลงแต่สาหรับองค์หญิงสามนั้น
ไม่ใช่ อาจเป็นไปได้ว่าในช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นผู้อาวุโสเป่ยและผู้
อาวุโสท่านอื่นอาจได้เสียสละชีพเพื่อปกป้ององค์หญิง หรือไม่ก็หากคิด
ไปในกรณีที่เลวร้ายที่สุดด้วยหน้าตาและเรือนร่างขององค์หญิงสามนั้น
หากผู้ที่ลงมือเป็นบุรุษผู้มักมากแล้วละก็อนาคตของนางคงหนีไม่พ้นสิ่ง
เหล่านั้น
" ท่านจักรพรรดิ์ เราไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้มากมายในเวลา
นี้ ลาพังเพียงแค่การปิดข่าวเรื่องการตายของผู้อาวุโสเป่ยนั้นก็นับว่า
เป็นเรื่องยากแล้วดังนั้นหากทางเราส่งคนออกไปมากเกินความจาเป็น
มันอาจทาให้หลายฝ่ายรับรู้ถึงความผิดสังเกตนี้ "
บุรุษชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นที่ปรึกษาขององค์จักรพรรดิ์
กล่าวออกมาด้วยน้าเสียงโศกเศร้าในตอนนี้ความเป็นไปได้ที่องค์หญิง
สามจะปลอดภัยนั้นต่ามาก และต่อให้นางยังคงมีชีวิตอยู่แต่หากนางได้
ไปมีเรื่องเสื่อมเสียอย่างว่ากับบุรุษอื่นขึ้นมาแล้วนั้นจะกลายเป็น
ผลลัพธ์ที่แย่ยิ่งกว่าการที่นางตายไปเสียอีก
ท้ายทีส่ ุดแล้วพวกเขาเพียงทาได้แค่ส่งแม่ทัพใหญ่ออกไปได้เพียง
คนเดียวเท่านั้นโดยสามารถอ้างว่าไปตรวจชายแดนระหว่างอาณาจักร
แน่นอนว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะตัวตนระดับปราญช์ขั้นกลางหรือต่า
ในเมื่อผู้อาวุโสเป่ยยังคงถูกสังหาัรลงดังนั้นแล้วมันเป็นไปได้สูงว่าฝ่าย
ตรงข้ามจะต้องมีพลังระดับปราญช์ขั้นสูง !
ตอนที่ 234
ดวงตาของผู้อาวุโสซูหลิ่งสั่นกระเพื่อมเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นมันยัง
ไม่มีท่าทีว่านางจะฟื้นคืนสติขึ้นมาโดยง่าย สภาพร่างกายของนาง
ในตอนนี้แม้จะยังคงไม่สามารถเรียกได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดแต่ถึงอย่างนั้น
หากเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วนั้นมันนับว่าดีกว่ากันมาก
" เฮ้อ ~ "
หมิงเยี่ยนถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้าแม้ว่าในตอนท้าย
หลินหมิงจะไม่ได้ทาการจู่โจมนางอย่างเร่าร้อนอีกต่อไปแล้ว อาจเป็น
เพราะว่าเขาอาจสังเกตอาการของผู้อาวุโสสาวสวยของเขาที่มีอาการดี
ขึ้นดังนั้นแล้วเมื่อนางตื่นขึ้นมานางอาจพบภาพที่ไม่สมควรก็เป็นได้ ?
แต่ถึงอย่างนั้นมันใช่ว่าหลินหมิงจะปล่อยนางให้ลงมือโดยง่ายร่าง
ของเขายังคงโอบกอดนางจากด้านโดยที่ในตอนนี้ทั้งนางและหลินหมิง
ได้สวมใส่เสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นสัมผัสที่แนบ
ชิดแบบแนบเนื้อก่อนหน้านี้แต่ถึงอย่างนั้นนางไม่สามารถปฎิเสธความ
อบอุ่นที่กาลังเกิดขึ้นนี้ได้
แสงกระดานค่ายกลของหมิงเยี่ยนค่อยๆสิ้นสุดลงอันเป็นสัญลักษณ์
แสดงว่ากระบวนการของนางทุกอย่างเสร็จสิ้น ? หลินหมิงขมวดคิ้ว
อย่างหนักพร้อมกับกระชับร่างของหมิงเยี่ยนเข้ามาแนบแน่นยิ่ง
กว่าเดิมด้วยอารมณ์ตรึงเครียด
" นี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน ! "
" ในตอนนี้ข้าได้ลดผลกระทบจากผนึกของนางลงไปแล้ว แต่ถึง
อย่างนั้นผลกระทบที่นางได้รับนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่เพียงแค่เพราะผนึก
ของนางเพียงอย่างเดียวเท่านั้นร่างกายของนางได้รับการสูญเสียพลัง
ปราณมากจนเกินไปอีกทั้งด้วยการปลดปล่อยผนึกของนางรวมถึงการ
ใช้พลังปราณในก่อนหน้านี้ที่ข้าคิดว่ามันน่าจะทาให้ร่างกายของนางได้
รับภาระหนักจนได้รับผลกระทับเช่นนี้ "
หลินหมิงพุ่งเข้าไปดูอาการของผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วยความเป็นห่วง
ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับร่างกายของผู้อาวุโสซูหลิ่งหลินหมิงพลัน
หัวใจตกลงไปที่ตาตุ้ม ร่างกายของนางในตอนนี้ราวกับว่ากาลังอยู่ใน
สภาพภูมิอากาศอันหนาวเหน็บ ไม่เพียงเท่านั้นในตอนนี้จังหวะการ
หายใจของนางเริ่มเบาลงขึ้นทุกที
ดูเหมืนอว่าหลินหมิงจะคาดการณ์ทุกอย่างผิดพลาดไปอย่างใหญ่
หลวงด้วยผลกระทบจากการที่ฝืนเปิดใช้ผนึกอันทรงพลังที่สามารถ
ยกระดับทาให้กลายเป็นผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นสูงสุดจากระดับจอม
ยุทธ์ขั้นเริ่มต้นนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่ร่างกายของเผ่าพันธ์ระดับสูงเช่น
นางจะสามารถทนได้ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการที่นางได้ใช้พลังปราณไป
อย่างมากมายในช่วงการปลดผนึก ในตอนนี้บ่อลมปราณของผู้อาวุโซู
หลิ่งแห้งเหือดยิ่งกว่าพื้นดินที่แห้งแล้งหรือกระทั่งทะเลทราย
เม็ดยาฟื้นฟูพลังปราณไม่สามารถใช้ได้ผลกับนางได้ในตอนนี้นั้นก็
เพราะว่าในก่อนหน้านี้ที่ต้องสู้กับนักรบโบราณทั้งสิบนั้นนางได้กลืนกิน
เม็ดยาฟื้นพลังปราณไปแล้วถึงสองเม็ดแน่นอนว่าผลกระทบจากการ
กินเม็ดฟื้นฟูพลังปราณในระยะเวลาอันสั้นนั้นจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้าง
ต่ามากจนแทบจะไร้ผลซ้ามันอาจเป็นการสร้างภาระให้กับเส้นชีพจร
ลมปราณเสียมากกว่า
" แล้วเจ้าไม่มีวิธีช่วยนางเลยหรืออย่างไร ! "
หลินหมิงที่อารมณ์เดือดดาดพุ่งเข้าหาหมิงเยี่ยนพร้อมกับพุ่งขึ้น
คร่อมร่างของนางและจับแขนทั้งสองข้างของนางเอาไว้ ใบหน้าของห
มิงเยี่ยนไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนแปลงใดๆ นางรู้ดีว่าในตอนนี้หลินหมิงมี
อารมณ์ความโศกเศร้ามากเพียงใดเทียบกับนางที่ต้องสูญเสียผู้อาวุโสที่
ใกล้ชิดไปนั้นการที่ทาได้เพียงแค่เฝ้าดูการตายของผูัอาวุโสซูหลิ่ง
ตรงหน้านั้นอาจเป็นความเจ็บปวดที่ไม่แพ้กันเลย
แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับนางที่เป็นผู้ใช้ค่ายกลไม่ใช่แพทย์นางไม่ได้มี
ความสามารถในด้านนี้อยู่ตั้งแต่ต้นแล้ว มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สาหรับ
การรอดชีวิตของผู้อาวุโสสาวนางนี้ อันที่จริงแล้วต่อให้มีแพทย์ที่
เก่งกาจมากเพียงใดนางก็ยังคงคิดว่าโอกาสรอดของผู้อาวุโสสาวนางนี้
ก็ยังคงต่าอยู่ดี มันไม่ใช่เพียงแค่ต้องฟื้นฟูลมปราณของนางภายในเวลา
อันสั้นแต่เส้นชีพจรภายในของผู้อาวุโสสาวนางนี้ก็ยังคงได้รับความ
เสียหายจากการฝืนร่างกายมากเกินไปเช่นเดียวกัน
ลาพังเพียงแค่การฟื้นฟูลมปราณก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แล้ว นั้นก็เพราะว่าพลังปราณที่ต้องชดเชยไปนั้นไม่ใช่พลังปราณใน
พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นต้นของนางในตอนแรกแต่เป็นพลังปราณ
ระดับปราญช์ขั้นสูงสุด ! ไม่มีเม็ดยาฟื้นฟูใดสามารถใช้ได้ในตอนนี้ ไม่มี
แพทย์คนใดอยู่ในทีแห่งนี้ ไม่สามารถออกไปจากที่แห่งนี้ได้เนื่องจาก
นางต้องฟื้นพลังปราณเพื่อเตรียมทางออก
หมิงเยี่ยนนางมองไปที่ใบหน้าของหลินหมิงที่กาลังเต็มไปด้วยความ
เจ็บปวด นางไม่เข้าใจความรู้สึกของนางที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้อันที่
จริงแล้วไม่ใช่ว่านางควรยินดีที่ตัวตนระดับสัตว์ประหลาดเช่นผู้อาวุโสซู
หลิ่งนั้นจะถึงคร่าวจบชีวิตลงไม่ใช่อย่างนั้นหรือ ? แต่เมื่อนางได้เห็น
ใบหน้าของหลินหมิงในยามนี้มันทาให้หัวใจของนางบีบรัดด้วยความ
อึดอัดสมองของนางพยายามค้นหาทุกวิถีทางแต่ถึงอย่างนั้นด้วยทักษะ
และพลังปราณที่นางมีในตอนนี้มันไม่มีสิ่งใดที่นางสามารถทาได้อีก
ต่อไป
หลินหมิงลุกขึ้นจากการคร่อมตัวของหมิงเยี่ยนในตอนนี้เขารู้ดีว่า
ไม่ใช่ว่าเพราะนางไม่ต้องการช่วยเขา แต่มันดูเหมือนว่ามันจะไม่มี
หนทางใดๆที่นางจะสามารถช่วยได้จริงๆ
" อ๊ะ ! "
ทันใดนั้นเสียงร้องของหมิงเยี่ยนดังขึ้นพร้อมกับอาการตกใจราวกับ
ว่านางกาลังคิดสิ่งใดได้ นางมองไปที่ร่างของหลินหมิงที่กาลังอยู่ใกล้ชิด
กับผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจากนั้นมือของนางสัมผัสไป
ที่หน้าท้องของนางที่ยังคงเต็มไปด้วยความน้าไออุ่นภายในท้อง
" คะ..คือว่า..มันอาจ..มีวิธีอยู.่ . "
หลินหมิงหันควับกลับมาหาหมิงเยี่ยนอีกรอบด้วยสายตาที่เต็มไป
เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังแต่สาหรับหมิงเยี่ยนแล้วนั้นใบหน้าของนาง
แดงซ่านไปด้วยความอับอาย หลินหมิงไม่สนใจท่าทีของนางในตอนนี้
อันที่จริงแล้วหากบุรุษที่ได้เห็นใบหน้าของหมิงเยี่ยนในตอนนี้หัวใจของ
พวกอาจได้รับการทางานหนักจนกระทั่งต้องพักฟื้นไปหลายวัน แขน
ทั้งสองข้างของหลินหมิงจับเข้าไปที่ไหล่ของหมิงเยี่ยนพร้อมกับคาดคั้น
เอาคาตอบ
" ตะ..แต่..ว่าข้า..ไม่แน่..ใจเมื่อกัน..ว่ามันจะ..ได้ผลหรือไม่.. "
" ไม่เป็นไรลองกล่าวมาเถอะ "
หมิงเยี่ยนกลืนน้าลายลงไปอึกใหญ่พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าไป
อย่างเต็มปอด ดวงตาของนางเหลือบไปมองร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่จัด
ได้ว่ามีความงดงามชนิดที่ว่าขนาดนางเองที่เป็นสตรีด้วยกันยังคง
หลงไหลอยู่ไม่ใช่น้อยนางไม่สามารถประเมิณได้ว่าในสิบปีหรือสิบห้าปี
ที่แล้วความงามของผู้อาวุโสนางนี้จะทาให้ผู้คนเหล่าบุรุษต้องสับสน
หรือหลั่งเลือดกันไปมากเพียงใด สายตาของนางเหลือบมามองที่หลินห
มิงที่กาลังร้อนรนนางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับเตรียมใจที่
จะกล่าวออกไป...
" กะ...ก่อนหน้านี.้ ..ข้ารู้สึกได้ว่า..พลังปราณของข้านั้นเพิ่มขึ้น..ละ
...ละ..หลังจากที่..พะ..พวกเรา... "
ดวงตาของหลินหมิงเบิักกว้างออกในทันทีโดยไม่ต้องให้คากล่าว
ของหมิงเยี่ยนกล่าวจนจบหลินหมิงสามารถทาความเข้าใจในเนื้อหา
ส่วนที่เหลือได้อย่างไม่ยาก ร่างของหมิงเยี่ยนถูกหลินหมิงดึงเข้ามา
กอดด้วยความอบอุ่นใบหน้าของนางในตอนนี้ราวกับกาลังอยู่ในลาวา
เดือดจนร่างกายแทบจะหลอมละลาย
หลินหมิงหันกลับไปจ้องมองร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กาลังนอนไร้
สติอยู่อย่างเหนื่อยอ่อนแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นเขาไม่อาจปฎิเสธ
ได้ว่าเขาต้องการที่จะครอบครองผู้อาวุโสสาวสวยนางนี้เช่นเดียวกันแต่
เขาจะไม่เลือกวิธีการเช่นนี้หากมันไม่จาเป็นจริงๆ อย่างไรเสียนางถือ
ว่าเป็นอาจารย์ของเขานางหนึ่งนอกเหนือจากอาจารย์สาวสวยของเขา
หลินหมิงหันกายกลับไปขึ้นคร่อมร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งพร้อมกับ
สายตาของเขาที่จดจ้องไปยังเรือนร่างอันงดงามราวกับเป็นจิตรกรรม
ล้าค่าจากสรวงสวรรค์ ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูดของนางกาลังขยับ
หายใจเข้าออกอย่างเหนื่อยอ่อนเช่นเดียวกันกับร่างกายของนางที่ขยับ
ขึ้นลงด้วยลมหายใจที่แผ่วลงมากขึ้นทุกที
ขนตาของนางค่อนข้างยาวหากเทียบกับหญิงสาวทั่วไปผิวพรรณ
ของนางที่แต่เดิมเป็นผิวขาวเรียบเรียนสดใสราวกับไข่มุกแม้ว่า
ในตอนนี้มันจะดูซดี ลงไปไม่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่อาจปฎิเสธความ
งดงามของนางลงไปได้
ทันใดนั้นระหว่างที่หลินหมิงกาลังตะลึงกับความงดงามของผู้
อาวุโสซูหลิ่งในระยะใกล้ชิดอยู่นั้นร่างกายของเขาสัมผัสได้ถึงมืออัน
เรียบเนียนและนุ่มนวลที่มาสัมผัสยังร่างกายของเขาพร้อมกับค่อยๆ
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกไป
" ยะ..อย่าเข้าใจ..ผิดละ..ข้าแค่จะช่วย..เพราะว่า..ข้ากลัวว่าจะถูก
ทิ้งเพียงเท่านั้น "
หมิงเยี่ยนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงตะกุกตะกักอย่างเห็นได้ชัด
สาหรับนางนั้นนางคิดว่ามันอาจเป็นเรื่องยากสาหรับหลินหมิงที่จะร่วม
รักกับผู้อาวุโสซูหลิ่งแม้ว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งจะมีความงดงามที่เรียกได้ว่า
หาใครทัดเทียมได้ยากแต่ถึงอย่างนั้นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ก็คือช่องว่าง
ระหว่างอายุและฐานะของผู้อาวุโสและศิษย์ที่ผู้คนทั้งหมดล้วนไม่มีใคร
คิดที่จะก้าวผ่านสิ่งเหล่านี้ไป
ตอนที่ 235
มือทั้งสองข้างของหมิงเยี่ยนที่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหลินห
มิงจนค่อยๆเผยให้เห็นรูปร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นอย่าง
เหมาะสมกับร่างกายของเขา ร่างกายของหลินหมิงในสายตาของนาง
นั้นนางคาดว่าหลินหมิงน่าจะมีอายุราวๆยี่สิบปีต้นๆแต่มีสิ่งหนึ่งที่
ร่างกายของหลินหมิงนั้นแตกต่างออกไปจากเหล่าบุรุษจากตระกูลใหญ่
หรือฐานอานาจใหญ่อื่นๆก็คือเรือนร่างของเขาที่เห็นได้ชัดว่ามันได้ผ่าน
การขัดเกลามาอย่างมากล้น
ในยุคสมัยในตอนนี้มีคนไม่มากที่จะสนใจในเรื่องการบ่มเพาะความ
แข็งแกร่งทางร่างกาย ไม่เพียงแต่หนทางนี้จะใช้เวลาอย่างยาวนานใน
การพัฒนาร่างกายของพวกเขาให้แข็งแกร่งแต่ผลลัพธ์ที่พัฒนาขึ้นนั้น
มันแทบจะเรียกได้ว่าไร้ค่าหากเทียบกับช่วงระยะเวลาที่พวกเขาเก็บตัว
ฝึกฝนบ่มเพาะพลังและก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับใหม่ !
ฝามือของนางเผลอตัวลูบไล้ไปที่แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื่ออัน
สมส่วนอย่างไม่รู้ตัว นางไม่สามารถคาดเดาได้ว่าหลินหมิงจะต้อง
ลาบากมากมายเพียงใดเขาจึงได้รับร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้เป็นไปได้
ว่าเขาอาจต้องใช้ความพยายามที่มากกว่าการที่นางฝึกฝนเรียนรู้
กระดานค่ายกลอย่างไม่ต้องสงสัย
ทันใดนั้นระหว่างที่หมิงเยี่ยนนางกาลังเพลิดเพลินกับเรือนร่างของ
หลินหมิงอยู่นั้นร่างของนางถูกรวบอย่างรวดเร็วพร้อมกับถูกดึงมาแนบ
กายด้านข้างของหลินหมิง ผิวหน้าอกของนางที่แม้ในตอนนี้นางจะส่วม
ใส่อาภรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่นางไม่สามารถปฎิเสธอารมณ์ความ
ร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นภายในใจ ความคิดของนางเผลอตัวคิดไปถึงช่วงเวลา
ก่อนหน้านี้
" ถ้าเจ้าจะช่วยมันมีวิธีที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่านั้น "
หมิงเยี่ยนนางมองไปที่ใบหน้าของหลินหมิงที่ไม่อาจคาดเดา
อารมณ์ได้นางไม่เข้าใจว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังจริงจังกับสิ่งที่เขา
กล่าวหรือไม่นั้นก็เพราะว่าในตอนนี้อาภรณ์คลุมร่างของนางค่อยๆถูก
ปลดเปลื้องออกมาอีกครั้งหลังจากที่นางเพิ่งสวมใส่มันไปได้ไม่นานเลย
เสียด้วยซ้า
" อ้าาา ♥ "
ใบหน้าของหลินหมิงเข้าซุกที่หน้าอกเปลื่อยเปล่าของนางอยู่ราวสี่
ช่วงลมหายใจพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าพึงพอใจ หัวใจของห
มิงเยี่ยนเต็มไปด้วยความรู้สึกย้อนแย้ง อันที่จริงแล้วไม่ใช่ว่านางสมควร
รังเกียจการกระทาเช่นนี้ของหลินหมิง ? มันจะมีบุรุษใดบ้างที่กล้าใช้
เรือนร่างของนางไปที่ระบายอารมณ์กระทั่งใช้กระตุ้นอารมณ์เช่นนี้กัน
? แต่ถึงอย่างนั้นนางไม่อาจปฎิเสธได้ว่าในหัวใจของนางในตอนนี้รู้สึกมี
ความสุขที่หลินหมิงพึงพอใจในร่างกายของนางเช่นเดียวกัน
มือทั้งสองข้างของนางนั้นเกือบเอื้อมมือกอดศรีษะของหลินหมิง
เอาไว้ในจังหวะที่เขากาลังซุกไปที่หน้าอกของนาง หากเขายังคงใช้
เวลาไปมากกว่านี้สักอีกเพียงเล็กน้อยนางเกรงว่านางคงไม่อาจทนได้
เช่นเดียวกัน
ต่อมาริมฝีปากของหลินหมิงบดเข้าไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของหมิง
เยี่ยนอย่างแผ่วเบาพร้อมกับนิ้วมือข้างหนึ่งของเขาที่ล้วงเข้าไปกระตุ้น
จุดลับของหญิงสาว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม้ในตอนนี้หมิงเยี่ยนนางจะ
ปลดปล่อยน้ารักออกมาเป็นจานวนมากแต่ด้วยรสสัมผัสของหลินหมิง
ที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวได้นั้นร่างกายของนางราวกับตก
เป็นทาสกามอารมณ์อันหื่นกระหายของหลินหมิงไปโดยไม่รู้ตัว
" เอาล่ะต่อจากนี้เจ้าจะทาสิ่งใดก็ได้แต่ให้เจ้าอยู่แนบชิดข้าเอาไว้ก็
เพียงพอ "
คากล่าวของหลินหมิงแม้จะเรียบง่ายแต่มันทาให้หมิงเยี่ยนถึงกับ
ขมวดคิ้วอย่างหนัก ! ทาสิ่งใดก็ได้แต่ต้องอยู่ข้างกายของเขา ? นั้น
เท่ากับว่านางต้องเคลื่อนไหวด้วยตนเอง ? ดวงตาของนางเหมอมองไป
ที่เรือนร่างของหลินหมิงที่กาลังแนบชิดเป็นไปได้ไหมว่าในตอนนี้นาง
สามารถทาสิ่งใดกับร่างกายของหลินหมิงอย่างใดก็ได้ตราบที่นาง
ต้องการ ? หมิงเยี่ยนรีบสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านั้นทิ้งไป หากนางทา
เช่นนั้นมันไม่ต่างอะไรไปจากการที่นางยอมตกเป็นทาสหลินหมิง
เช่นนั้นไม่ใช่หรือ ? อันที่จริงแล้วหากหลินหมิงใช้คากล่าวขู่เข่นนางมัน
คงจะดียิ่งกว่านี้
ดวงตาของหลินหมิงจดจ้องไปที่เรือนร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กาลัง
นอนหลับ ร่างกายของนางราวกับเทพธิดาตกสวรรค์มายังโลกมนุษย์
มือของหลินหมิงเคลื่อนไหวไปที่ขาขาวเรียบเนียนของผู้อาวุโสซูหลิ่ง
สัมผัสเนียนนุ่มที่ปลายมือของหลินหมิงนั้นมันทาให้ร่างกายของหลินห
มิงนั้นถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมด้วยความตื่นเต้นและอารมณ์ที่หลากหลาย
ตรงกันข้ามหมิงเยี่ยนในขณะที่กาลังลังเลใจอยู่นั้นร่างกายของนาง
ที่กาลังแนบชิดกับร่างของหลินหมิงที่พลันเกิดอาการขนลุกซู่ขึ้นมา
' ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องยากสาหรับเขาที่จะร่วมรักกับผู้อาวุโส
ของตน ! '
นี้คือสิ่งที่หมิงเยี่ยนคิดในตอนนี้ร่างกายของนางเริ่มทาการขยับลูบ
ไล้เรือนร่างของหลินหมิงอย่างช้าๆโดยที่ในตอนแรกใบหน้าของนางนั้น
พยายามก้มต่าเพื่อหลบสายตาของหลินหมิง ใบหน้าของนางแดงระ
เรื่อขณะที่มือข้างหนึ่งของนางกาลังลูบไล้หน้าอกของหลินหมิงอย่าง
เคลิ้มฝัน ใบหน้าของนางเผลอแนบติดชิดไปที่ร่างกายของหลินหมิงไป
โดยไม่รู้ตัวทันใดนั้นห้วงความคิดของนางเผลอคิดถึงเวลาในช่วงที่
หลินหมิงกาลังเล้าโลมนาง ลิ้นของนางเข้าโลมเลียบริเวณเรือนร่างเป
ลื่อยเปล่าของหลินหมิง
" อ๊ะ ! "
หมิงเยี่ยนสะดุ้งด้วยความตกใจนางไม่คิดว่านางจะเผลอตัวทาในสิ่ง
ที่น่าอับอายเช่นนี้ลงไป สายตาของนางเผลอโผล่ขึ้นสบสายตาของ
หลินหมิงโดยไม่ทันตั้งตัว
" มะ..ไม่ใช่..นะข้าเพียง..แค่จามันมาจากเจ้าเท่านั้น..ก็...ก็..ใช่แล้ว..
ก็ข้าไม่รู้ว่าจะทาเช่นไร "
เสียงของหมิงเยี่ยนเต็มไปด้วยความตะกุกตะกักดูเหมือนว่าแม่สาว
งามผู้นี้จะไม่มีความสามารถในด้านการโกหกผู้อื่นมากเสียเท่าใดนัก
หรืออาจเป็นเพราะในสถานการณ์ในตอนนี้มันอาจทาให้นางไม่
สามารถควบคุมตนเองได้ง่าย แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงไม่ได้สนใจในสิ่ง
เหล่านั้น
" อืม..เจ้าทาได้ดีมาก "
คาตอบง่ายๆจากหลินหมิงที่กลับไปให้ความสนใจกลับเรือนร่าง
ของผู้อาวุโสซูหลิ่งต่อทาให้ร่างของหมิงเยี่ยนถึงกับแข็งค้างร่างกายของ
นางโอบชิดร่างของหลินหมิงแน่นยิ่งขึ้นมากยิ่งกว่าเก่า พร้อมกับเริ่มทา
การปรนนิับัติหลินหมิงอย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง
มือทั้งสองข้างของหลินหมิงเริ่มทาการลูบไล้ที่บริเวณขาเรียวงาม
ของผู้อาวุโสซูหลิ่งอีกครั้งจากบริเวณต้นขาของนางจนกระทั่งเมื่อมือ
ของเขาลูบไล้จนกระทั่งไปถึงที่บริเวณต้นขาอ่อนของนาง
" อา ♥ "
เสียงครางเบาๆของผู้อาวุโสซูหลิ่งดังขึ้น จนทาให้หลินหมิงกระดุ้ง
ขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่ใบหน้าของนางในตอนนี้หลินหมิงถอน
หายใจออกด้วยความโล่งอกเพราะดูเหมือนว่านางจะยังคงไม่ได้ฟื้นคืน
สติในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือเสียงครางเมื่อสักครู่ของนางนั้นมันทาให้
หัวใจของหลินหมิงสูบฉีดไปด้วยความตื่นเต้นแม้ว่าหากเทียบกันใน
เรื่องของความงดงามแล้วนั้นผู้อาวุโสซูหลิ่งจะสามารถเทียบได้กับผู้
อาวุโสฟางซิ่นของเขาแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งหนึ่งที่นางแตกต่างออกไปนั้นก็
คือการวางตัวอันเฉยชาของนางเทียบกับผู้อาวุโสฟางซิ่นที่มักจะ
แสดงออกอย่างยั่วยวนเหล่าบุรุษตลอดเวลาแล้วนั้นมันทาให้หลินหมิ
งอดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นอย่างโครมคราม !
ลิ้นก้มลงอย่างไม่รอช้าลิ้นของเขาโลมเลียจากบริเวณต้นขาอ่อน
ของผู้อาวุโสซูหลิ่งจนทาให้ร่างกายของนางสั่นไหวขึ้นมาแม้ว่านางจะ
หมดสติอยู่ก็ตาม ลิ้นของหลินหมิงไม่ได้หยุดยั้งแต่เพียงเท่านั้นมันได้
เคลื่อนไหวไปยังจุดสงวนลับของหญิงสาวในเวลาไม่นาน
ร่องสวาทสีชมพูดสดที่ของผู้อาวุโสซูหลิ่งปรากฎให้เห็นแก่สายตา
ของหลินหมิงที่กาลังแหวกขาของนางออกมา ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้
กับร่องสวาทของนางเพียงแค่ไม่เซนติเมตรเท่านั้น หลินหมิงจาเป็นที่จ
ต้องให้ร่องสวาทของนางนั้นได้รับการล่อลื่นจากน้ารักของนางเอง
เสียก่อนไม่เช่นนั้นแล้วเขาไม่อาจคาดคิดว่าเรือนร่างของผู้อาวุโสสาว
สวยของเขาจะต้องทนรับกับความเจ็บปวดเช่นไรบ้างแม้ว่าในความ
เป็นจริงแล้วความแข็งแกร่งด้านกายภาพของเผ่าพันธ์ฟินิกส์นั้นนับได้
ว่าสูงส่งอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ด้วยรูปลักษณ์ของหญิงสาวผู้งดงามราวกับอัญ
มณีล้าค่าหลินหมิงไม่มีทางยอมเสี่ยงแม้แต่เพียงเรื่องเล็กน้อยที่จะทา
ให้อัญมณีที่งดงามเช่นนี้ต้องได้รับความเสียหายแม้เพียงเล็กน้อย
ตอนที่ 236
กลิ่นกายจากสัมผัสระยะใกล้ชิดของผู้อาวุโสซูหลิ่งแทบจะทาให้
จิตใจของหลินหมิงล่องลอยไปไหนดินแดนแห่งความฝัน โดยเฉพาะใน
ยามนี้ที่ลิ้นของเขากาลังโลมเลียที่บริเวณร่องสวาทของนางหลินหมิง
ราวกับว่าเขาถูกกระตุ้นด้วยสัญชาติญาณสัตว์ป่า แม้ว่าในตอนนี้จะมี
ผู้ใดกล่าวว่ามีหนทางรักษาให้กับผู้อาวุโสซูหลิ่งได้หลินหมิงก็คงไม่อาจ
ห้ามใจให้หยุดได้อยู่ดี
แผล่บ แผล่บ
เสียงลิ้นของหลินหมิงตวัดอย่างรวดเร็วด้วยความหื่นกระหายแม้ว่า
ในยามนี้ผู้อาวุโสซูหลิ่งนางจะยังคงไม่ได้สติอยูแ่ ต่ถึงอย่างนั้นดู
เหมือนว่าร่างกายของนางกลับตอบสนองอย่างยอดเยี่ยมร่างกายของ
นางสั่นไหวพร้อมกับบิดไปมาเล็กน้อยด้วยอารมณ์เร่าร้อน ร่องสวาท
ของนางในตอนนี้ได้กลายเป็นอาหารเลิศรสจานหลักของหลินหมิง
หลินหมิงใช้เวลาเพลิดเพลินกับร่องสวาทขสีชมพูดของผู้อาวุโสซู
หลิ่งอย่างยาวนานจนกระทั่งเขาเกือบลืมเป้าหมายสาคัญในตอนแรก
ไป ลิ้นของหลินหมิงขยับเคลื่อนไหวผ่านช่วงท้องพร้อมกับมือของเขาที่
เข้าปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางด้วยความชานาญ ร่างกายของหญิงสาว
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามจนดวงตาทั้งสองข้างของหลินหมิงถึงกับ
แข็งค้างพร้อมกับน้าลายที่ไหลออกมาจากปากของเขาอย่างห้ามไม่อยู่
สิ่งที่เพิ่มเติมเสน่ห์และความเย้ายวนของนางในตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่
เรือนร่างเปลื่อยเปล่าอันงดงามที่หลินหมิงแทบไม่เคยจะคาดคิดว่าจะ
ได้รับโอกาสอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ ลมหายใจอันเหนื่อยหอบและร่างกาย
ของนางจากผิวขาวเรียบเนียนที่ในตอนแรกปรากฎร่องรอยซีดจางลง
ไปบ้างในตอนนี้หลังจากที่ผ่านการโลมเลียจากลิ้นมหรจรรย์ของหลินห
มิงร่างกายของนางเปล่งปลังด้วยสีสมชพูอ่อนๆ
แม้แต่หมิงเยี่ยนที่เป็นสตรีด้วยกันที่ได้เห็นภาพเช่นนี้ดวงตาของ
นางก็ยังคงแทบจะไม่ต่างไปจากหลินหมิงมากนัก แม้ว่าในตอนแรก
นางจะคาดเดาถึงความงดงามของผู้อาวุโสซูหลิ่งเอาไว้อยู่แล้วแต่เมื่อได้
เห็นเรือนร่างเปลื่อยเปล่าอันงดงามเช่นนี้ความงดงามอันแสนน่าภูมิใจ
ของนางสามารถกลายเป็นสิ่งไร้ค่าไปได้ภายในทันที
หลินหมิงใช้มือของเขาไล้สัมผัสที่บริเวณหน้าท้องของผู้อาวุโสสาว
อย่างแผ่วเบาพร้อมกับไล้ขึ้นไปยังบริเวณหน้าอกขนาดใหญ่เกิน
มาตรฐานของหญิงสาวที่กาลังกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
อันเหนื่อยหอบของนาง สัมผัสแรกที่มือของหลินหมิงได้สัมผัสลงไปที่
บริเวณผิวหนังบริเวณหน้าท้องของผู้อาวุโสสาวมันราวกับเป็นโคลนดูด
ที่หลินหมิงไม่สามารถต้านทานได้ มือของเขาไถลขึ้นสัมผัสที่บริเวณ
หน้าอกชพร้อมกับค่อยๆกดๆลงไป
" อือ้ ออ ♥ "
ยอดปถุมทันสีชมพูสดที่กาลังเบ่งบานตั้งชันปรากฎสู่สายตาของ
หลินหมิง โดยไม่รอช้าหลินหมิงเข้ากดทับร่างของผู้อาวุโสสาวด้วย
อารมณ์ที่เร่าร้อน ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าดูดดื่มหน้าอกของนางราว
กับเด็กทารก หมิงเยี่ยนนางไม่เข้าใจว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังทาสิ่งใด
แต่ถึงอย่างนั้นสมองของนางในตอนนี้ราวกับว่างเปล่าไปแล้วดังนั้นแล้ว
นางไม่สนใจในการกระทาของหลินหมิงในตอนนี้มากนัก นาง
เพลิดเพลินกับร่างของหลินหมิงลิ้นของนางโลมเลียไปทั่วร่างของ
หลินหมิงที่บริเวณแผ่นหลังของเขา พร้อมกับหน้าอกของนางที่เสียดสี
แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามตามด้วยร่องสวาทของนางที่ไม่ยอม
น้อยหน้าที่เข้าถูไถกับเรือนร่างของหลินหมิงเช่นเดียวกัน
จ๊วบ จ๊วบ
เสียงปากของหลินหมิงที่กาลังดูดดื่มทั้งสองข้างของผู้อาวุโสซูหลิ่ง
สลับไปมาอย่างเร่าร้อน ใบหน้าของนางเริ่มส่ายไปมาแม้ว่าจะยังคงไม่
รู้สึกตัว
โดยไม่อาจหักห้ามใจใดๆได้อีกต่อไปทวนมังกรของหลินหมิง
ในตอนนี้เริ่มทาการสั่นไหวราวกับมันพร้อมระเบิดออกได้ตลอดเวลา
ร่องสวาทสีชมพูสดของผู้อาวุโสซูหลิ่งตกเป็นเป้าหมายจู่โจมของทวน
มังกรของหลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย
อึก !
ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มทาการแทงทะลวงอย่างบ้าคลั่งเข้าใส่
ร่องสวาทของผู้อาวุโสซูหลิ่งในตอนนี้ใบหน้าของนางไม่ใช่เป็นการส่าย
ไปมาด้วยจังหวะเชื่องช้าอีกต่อไป ใบหน้าของนางส่ายไปมาด้วยจังหวะ
ที่บ้าคลั่ง ขาเรียวงามทั้งสองข้างของนางถูกแหวกออกพร้อมกับ
ร่างกายของนางที่สั่นสะท้านไปด้วยความเสี่ยวซ่าน
" อ้าาา ♥ "
เสียงครางกระเส้าที่เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากโค้งอันเรียวงาม
ดึงดูดสายตาของหลินหมิงให้ละไปจากหน้าอกที่ในตอนนี้เต็มไปด้วย
รอยแดงอยู่ทั่วจากริมฝีปากของหลินหมิง ใบหน้าของหลินหมิงจดจ้อง
มองไปที่ใบหน้าอันงดงามของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กาลังส่งเสียงคราง
ออกมาอย่างต่อเหนื่องเสียงครางของนางนั้นอาจมีพลังอานาจมากกว่า
ยิ่งกว่าการบรรเลงดนตรีจากนางฟ้าอัปสรจากสรวงสวรรค์
อันที่จริงแล้วเพียงแค่เสียงครางของนางอย่างเดียวเท่านั้นมันอาจ
ทาให้เกิดสงครามที่ทาให้อาณาจักรล่มสลายได้ ดังนั้นแล้วเสียงคราง
ของนางนั้นอาจมีพลังอานาจมากเสียยิ่งกว่าสมบัติล้าค่าเสียอีก
" อือ้ ออ ♥ "
ริมฝีปากอวบอิ่มของนางถูกประทับเข้าอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงอู้อี้
ลิ้นของหลินหมิงเข้าสอดใส่ไปภายในปากของผู้อาวุโสสาวพร้อมกับผัว
พันลิ้นของนางที่พยายามส่งเสียงครางออกมาอยู่ตลอดเวลา
สัมผัสที่บริเวณด้านล่างที่ทวนมังกรของหลินหมิงมันทาให้ร่างกาย
ของเขาสั่นกระตุกเต็มไปด้วยความต้องการเพียงแค่ส่วนหัวของทวน
มังกรของเขาที่กาลังแทงทะลวงเข้าไปนั้นหลินหมิงสัมผัสได้ถึงผิวหนัง
อันนุม่ ละมุนทีก่ าลังบีบรัดทวนมังกรของเขาราวกับว่าพวกมันกาลัง
ต้องการที่จะหลอมหลวมเป็นหนึ่ง ไอความอบอุ่นที่จากบริเวณปลาย
ทวนมังกรของหลินหมิงได้รับนั้นทาให้ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่ม
ขยายตัวพร้อมกับสั่นไหวอย่างรุนแรง
เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลอาบย้อมทวนมังกรของหลินหมิงแต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงยังคงดันทวนมังกรของเขาเข้าไปภายในร่องสวาท
ของผู้อาวุโสสาวเพื่อลิ้มรสชาติร่องสวาทของนาง
หมิงเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างที่กาลังมองฉากร่วมรักที่กาลังเริ่มต้นขึ้นด้วย
สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ความต้องการเช่นเดียวกัน ร่างกายของนาง
นอนขนาบข้างของหลินหมิงและผู้อาวุโสซูหลิ่งพร้อมกับดึงมือของ
หลินหมิงมาแนบร่องหน้าอกของนางเอาไว้ สัมผัสเนียนนุ่มจากหญิง
สาวงดงามเช่นหมิงเยี่ยนนั้นไม่มีทางที่หลินหมิงจะปฎิเสธแต่อย่างใด
มือข้างหนึ่งของเขายกให้เป็นรางวัลแก่นางเพื่อใช้ในการหาความสุข
มือของหลินหมิงนั้นไม่เพียงแต่ถูกกอดรัดแน่นเพียงเท่านั้นขาเรียว
งามทั้งสองข้างของนางยกขึ้นผัวพันมือของหลินหมิงพร้อมกับร่อง
สวาทของนางที่กาลังเสียดสีกับมือของหลินหมิงใบหน้าของนางกาลัง
จดจ้องไปที่หลินหมิงที่กาลังสอดใส้ลิ้นของเขาไปภายในปากของผู้
อาวุโสซูหลิ่ง ใบหน้าของนางค่อยๆขยับเข้าไปใกล้หลินหมิงขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกับลิ้นของนางที่เริ่มทาการเข้าผัวพันในศึกอันร้อนแรงนี้ด้วย
" อร้าาางงง ♥ "
ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงแทงทะลวงเข้ามาจนมิดด้ามน้ารัก
ของหลินหมิงระเบิดออกมาเป็นจานวนมากโดยที่เขาไม่สามารถอัดอั้น
ได้เลยแม้แต่น้อย เสียงครางของผู้อาวุโสซูหลิ่งดังสนั่นพร้อมกับดวงตา
ของนางที่สั่นไหวและร่างกายของนางที่สั่นสะท้านอย่างรุนแรง น้ารัก
ของนางระเบิดออกมาจนไหลหนองที่บริเวณระหว่างขาของนาง
แน่นอนว่าหลินหมิงยังคงไม่พอใจแต่เพียงเท่านี้ แม้ว่าเขาหลินหมิงจะ
ระเบิดน้ารักไปแล้วแต่ด้วยร่องสวาทล้าค่าราวกับสมบัติเช่นนี้หลินหมิง
ไม่ยินยอมที่จะล้มเลิกโดยง่าย
เอวของหลินหมิงเริ่มทาการขยับด้วยจังหวะที่เชื่องช้าพร้อมกันนั้น
โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเปลวเพลิงสีทองปกคลุมร่างของพวกเขาทั้งสาม
เอาไว้จนปรากฎเป็นรูปนกฟินิกส์สีทองทรามปรากฎขึ้นมา สัญลักษณ์
ผนึกตรงระหว่างคิ้วของผู้อาวุโสซูหลิ่งเริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็วราว
กับว่ามันไม่เคยมีมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหลินหมิงและหมิงเยี่ยน
ที่ลืมจุดประสงค์ในตอนแรกของพวกเขาไปแล้วนั้นทาให้พวกเขาไม่ได้
สนใจในสิ่งนี้แม้แต่น้อย
หลังจากที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งได้รับน้ารักจากหลินหมิงดวงตาของนางสั่น
ไหวพร้อมกับเปิดออกมาอย่างเชื่องช้าในตอนนี้นางเริ่มฟื้นคืนสติพร้อม
กับอารมณ์แปลกประหลาดและความรู้สึกหนักอึ้งแต่อบอุ่นที่กาลังกด
ทับร่างกายของนางอยู่ที่แปลกยิ่งไปกว่านั้นนั้นก็คือที่บริเวณส่วนล่าง
และท้องของนางนั้นรู้สึกอัดแน่นไปด้วยไออุ่นบ้างอย่างที่นางไม่รู้จักมา
ก่อน
เพียงแต่ในตอนที่นางพยายามจะส่งเสียงนั้นริมฝีปากของนางกลับ
พบว่ามันกาลังถูกประกบด้วยอะไรบางอย่างที่กาลังเคลื่อนไหวภายใน
ปากของนางอย่างเร่าร้อน เพียงหลังจากได้สติไม่นานดวงตาของผู้
อาวุโสซูหลิ่งเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้าของ
นาง !

ตอนที่ 237
หลินหมิง ?
ห้วงความคิดของผู้อาวุโสซูหลิ่งเต็มไปด้วยความสับสนหลังจากที่
ดวงตาทั้งสองข้างของนางลืมขึ้นอย่างเต็มตา ใบหน้าของชายหนุ่มที่
แสนคุ้นเคยที่อยู่ไม่ห่างไกลจากนางทาให้นางสามารถสังเกตใบหน้าอัน
แปลกประหลาดของเขาในยามนี้ได้อย่างชัดเจน อันที่จริงแล้วมัน
สมควรเรียกได้ว่าใบหน้าของพวกเขาทั้งสองนั้นกาลังประกบชิดติดกัน
อย่างแนบแน่น ?
ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ใช่เพียงหลินหมิงเพียงเท่านั้นที่กาลังลิ้มรสชาติ
จูบสัมผัสจากริมฝีปากของนางในตอนนี้ สาวสวยจากอาณาจักรนภาที่
เหล่าผู้อาวุโสต่างเอาชีวิตแลกเพื่อปกป้องนางก็กาลังส่งลิ้นของนางเข้า
มาผัวพันภายในปากของนางด้วยเช่นเดียวกัน
" นะ..นี้..พวกเจ้า..คิดทาสิ่งใดกัน ! "
ผู้อาวุโสซูหลิ่งอาศัยจังหวะที่หลินหมิงชะงักจากการที่เขาให้ว่านาง
ได้สติตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตา ใบหน้าของนางสามารถสลัดจนหลุดพ้น
การดูดดื่มอันเร่าร้อนของหลินหมิงไปได้ ภายในปากของนางในตอนนี้
นางรู้สึกได้เลยว่ามันมีคราบน้าลายจานวนมากจนนางเผลอกลืนลงไป
หลายอึกแล้วเสียด้วยซ้าไป
หลินหมิงไม่ได้ตอบคาถามของผู้อาวุโสซูหลิ่งแต่อย่างใดอันที่จริง
แล้วในตอนนี้หากหลินหมิงสังเกตดูเขาจะพบว่าผนึกที่ระหว่างคิ้วของผู้
อาวุโสซูหลิ่งนั้นหายไปแล้วนั้นย่อมหมายความว่าเป้าหมายของหลินห
มิงนั้นสมควรเสร็จสิ้น ? แต่ถึงอย่างนั้นลิ้นของหลินหมิงที่เพิ่งหลุดพ้น
จากริมฝีปากของผู้อาวุโสซูหลิ่งได้ควานหาเป้าหมายต่อไปนั้นก็คือซอก
คออันเรียบเนียนของนาง
" นะ..นี้..มันเกิดอะไรขึ้น...พวกเจ้าออกไป.. "
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนางรู้สึกว่าร่างกายของนางร้อนผ่าวไปด้วยอารมณ์
อันแปลกประหลาดสัมผัสจากรสชาติของลิ้นของหลินหมิงที่กาลังโลม
เลียต้นคอของนางอยู่ในตอนนี้ทาให้ร่างกายของนางกระสับกระส่ายยิ่ง
ไปกว่านั้นโดยที่นางไม่รู้ตัวร่องสวาทของนางจากเดิมที่เป็นร่องสวาทที่
อันบริสุทธ์ที่มีความคับแน่นยิ่ง แต่เมื่อนางได้สติขึ้นมามันกลับ
กลายเป็นว่าร่างกายของนางกลับตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่ง
กว่าเดิม ทวนมังกรของหลินหมิงที่อยู่ภายในราวกับว่ามันกาลังถูกบด
ด้วยเครื่องบดที่มีผิวบดอันเนียนนุ่ม
มือทั้งสองข้างของผู้อาวุโสซูหลิ่งพยายามผลักร่างของหลินหมิงให้อ
อกห่างจากร่างกายของนางโดยเร็วแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับพบว่า
ร่างกายของนางในตอนนี้กลับอ่อนแรงเป็นอย่างมาก นางไม่มีเรี่ยวแรง
กระทั่งเพียงพอให้หลินหมิงขยับได้แม้แต่เพียงเล็กน้อยเสียด้วยซ้า
" อ๊าาา ♥ "
จังหวะเดียวกันกับที่ทวนมังกรของหลินหมิงถูกยกขึ้นและแทง
ทะลวงไปอย่างบ้าคลั่งเสียงครางกระเส้าของผู้อาวุโสซูหลิ่งดั่งออกมา
โดยที่นางไม่อาจห้ามตนเองได้ยิ่งไปกว่านั้นนั้นก็คือร่างกายของนางที่
ราวกับว่ามันตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ร่องสวาทของนางมันราวกับ
ว่ามันมีชีวิตอยู่ผิวหนังด้านในร่องสวาทของนางเริ่มมีการขยับบีบนวด
ทวนมังกรของหลินหมิงด้วยตัวมันเอง
' นี้ข้ากาลังร่วมรักกับหลินหมิง ? '
ภายในห้วงความคิดของผู้อาวุโสซูหลิ่งนางยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิด
สิ่งใดขึ้นในตอนนี้เหตุใดหลินหมิงถึงได้มาร่วมรักกับนางเช่นนี้ ? ทันใด
นั้นดวงตาอันสดใสของนางมองผ่านไปยังร่างของหลินหมิงที่ปรากฎ
นกฟินิกส์สีทองอรามขึ้นรอบกายของนางและหลินหมิงเอาไว้ ดวงตา
ของนางเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงสัญลักษณ์ฟินิกส์สีทองเช่นนี้นางจะ
ไม่สามารถใช้มันได้อย่างแน่นอนในสภาวะที่นางยังคงได้รับผลกระทับ
จากผนึกอยู่กรณีเดียวเท่านั้นที่นางจะสามารถเรียกฟินิกส์ที่เป็นสัตว์
วิญญาณของนางออกมาได้อีกครั้งนั้นก็คือการที่ผนึกได้ถูกทาลายลง !
นางไม่สามารถหาคาตอบได้ว่าเหตุใดผนึกถึงได้ถูกทาลายลงใน
ขณะนี้อันที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องยากมากสาหรับนางที่จะสามารถ
ควบคุมความคิดภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ได้ ทวนมังกรของหลินหมิง
ราวกับว่ามันต้องการเปลี่ยนให้ร่องสวาทของนางไปเป็นของเล่นของ
มัน จังหวะการกระแทกเอวของหลินหมิงค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนผู้
อาวุโสซูหลิ่งไม่สามารถข่มเสียงครางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ออกมา
" อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ♥ "
ต่อจากนั้นผู้อาวุโสซูหลิ่งนางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงเริ่ม
มีการสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่ามันพร้อมที่จะระเบิดออกได้ทุกเมื่อ
แม้ว่านางจะพยายามส่งเสียงห้ามหลินมิงในตอนนี้แต่ดูเหมือนว่ามันจะ
สายเกินไปเสียแล้ว
" อร้าาาางงงง ♥ "
น้ารักจานวนมากได้พุ่งเข้าสู่ภายในร่องสวาทของผู้อาวุโสซูหลิ่งเป็น
ครั้งที่สองท้องของนางรู้สึกอัดแน่นจนแทบจะพูดกล่าวอันใดไม่ออก
แต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงรู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อยการร่วมรักอันเร่าร้อนนี้
สมควรจบลงแล้ว ?
" ข้า..ก็ต้องการมันเช่นเดียวกัน..ได้โปรด.. "
ทันใดนั้นเสียงของหมิงเยี่ยนได้ดังขึ้นในขณะที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งกาลัง
หายใจหอบอย่างเหนื่อยอ่อน ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆถูกนา
ออกมาจากร่องสวาทของนางพร้อมกับน้ารักจานวนมากที่กาลัง
หลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ร่างกายของนางแม้กระทั่งในตอนนี้ก็
ยังคงจดจาความรู้เสียวสะท้านเอาไว้ได้จนทาให้น้ารักของนางยังคง
ไหลออกมาอย่างต่อเหนื่อง สายตาของนางเหลือบมองไปเห็นด้านของ
นาง
หมิงเยี่ยนที่กาลังนอนแผ่ราบอยู่ด้านข้างกายของนางในสภาพเป
ลื่อยเปล่าไม่เพียงเท่านั้นขาเรียวงามทั้งสองของนางกลับอ้างออกอย่าง
กว้างขาวงพร้อมกับมือังสองข้
ท้ างของนางที่แหวกร่องสวาทที่เต็มไป
ด้วยน้ารักแฉะเยิ้มอยู่ทั่วทั้งบริเวณออก มันคงไม่มีหญิงสาวสูงศักดิ์คน
ใดที่มีความกล้าเพียงพอที่จะทากริยาเช่นนี้แม้แต่ต่อหน้าบุรุษของพวก
นางเอง การกระทาเช่นนี้ของพวกนางนั้นอาจถูกมองว่ามันอาจไม่ได้
ต่างอะไรไปจากหญิงสาวคณิกาเลยแม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้หมิงเยี่ย
นนางไม่ได้สนใจในส่วนนั้นอีกต่อไป
เมื่อมองไปที่การร่วมรักของหลินหมิงแล้วนั้นมันทาให้ร่องสวาท
ของนางเกิดการตอบสนองอย่างรุนแรง นางไม่สามารถช่วยเหลือ
ตนเองเพื่อสงบอารมณ์ที่กาลังเกิดขึ้นนี้ได้ทางเดียวที่จะสามารถระงับ
อารมณ์ที่กาลังระเบิดออกมาอย่างพลุ่งพล่านนั้นก็คือการร่วมรักกับ
หลินหมิงอีกครั้ง
" อ๊าาาา ♥ "
ทันทีที่ทวนมังกรของหลินหมิงแทงทะลวงเข้าไปยังร่องสวาทของ
นางอีกครั้งเสียงครางด้วยความพึงพอใจของนางดังขึ้นอย่างไม่มีความ
เขินอาย ผุ้อาวุโสซูหลิ่งมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตะลึงอันที่จริง
แล้วนางเพิ่งสังเกตเห็นถึงขนาดทวนมังกรของหลินหมิงที่มีขนาดใหญ่
จนน่ากลัว นางแทบไม่อยากจะเชื่อว่าก่อนหน้านี้ร่องสวาทของนาง
สามารถรับมือกับทวนมังกรอขนาดใหญ่เช่นนี้ได้
ร่องสวาทของหมิงเยี่ยนถูกกางออกด้วยทวนมังกรของหลินหมิง
จังหวะการกระแทกของหลินหมิงไม่ได้เริ่มต้นจากจังหวะอันเชื่องช้าอีก
ต่อไปอันที่จริงแล้วนั้นเอวของหลินหมิงกระแทกอย่างรุนแรงตั้งแต่ต้น
" ซี๊ดดดดดด ♥ "
น้ารักของหมิงเยีย่นกระเฉาะออกมาอย่างต่อเหนื่องทุกครั้งที่หลินห
มิงกระแทกทวนมังกรของเขาเข้าไป ผู้อาวุโสซูหลิ่งมองไปที่ฉากการ
ร่วมรักอันร้อนแรงด้วยสายตาสับสนหากเป็นไปได้นางจะหลีกหนีไปให้
ไกลจากสถานการณ์อันแปลกประหลาดในตอนนี้แต่ถงึ อย่างนั้นด้วย
สภาพร่างกายของนางในตอนนี้ลาพังเพียงแค่การยืนก็ยังคงนับได้ว่า
ลาบากเกินไปสาหรับนาง
" ว้าย ! "
ทันใดนั้นระหว่างที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งกาลังหอบหายใจอย่างเหนื่อย
อ่อนและอยู่ในสภาวะสับสนร่างกายของนางถูกยกขึ้นด้วยมือของ
หลินหมิงพร้อมกับถูกนามาว่าในลักษณะคว่าทับร่างของหมิงเยี่ยน
" อ๊าาา ♥ "
แผ่นหลังเปลื่อยเปล่าของนางถูกนิ้วชี้ของหลินหมิงลูบไล้จาก
บริเวณส่วนบนจนกระทั่งลงมาที่บริเวณสะโพก ร่างกายของนางตั้งชั้น
ไปด้วยความเกร็ง
ในทันทีที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งคิดจะขยับร่างของนางให้พ้นจาก
สถานการณ์อันตรายเช่นนี้ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าเสียบไปที่ร่อง
สวาทของนางอีกครั้งจนทาให้ร่างกายของนางแข็งค้าง ลาตัวของ
หลินหมิงโน้มตัวลงพร้อมกับเข้ากดแผ่นหลังเปลื่อยเปล่าของนางพร้อม
กับใบหน้าของเขาที่อยู่ที่ข้างหูของนางในตอนนี้
คลื่นอารมณ์อันรุ่นแรงได้โถมกระหน่าเข้าใส่ตัวนางอีกครั้งก่อนหน้า
นี้ขนาดนางเพิ่งได้สติไม่นานมันจึงทาให้นางไม่สามารถรับรู้ความรู้สึก
ทั้งหมดได้อย่างดีนักแต่ในตอนนี้ร่างกายของนางราวกับว่ามันได้ถูก
ควบคุมโดยหลินหมิงไปอย่างสมบูร์ ทุกสัมผัสจากหลินหมิงทาให้
ร่างกายของนางสั่นสะท้านไปด้วยความเสี่ยวซ่านที่ไม่อาจต้านทานได้
พร้อมกับลิ้นของหลินหมิงเข้าโลมเลียไปที่แผ่นหลังเปลื่อยเปล่าของ
นางอย่างเร่าร้อน

ตอนที่ 238
ร่างของผู้อาวุโสซูหลิ่งและหมิงเยี่ยนนอนหมดสภาพอย่างเหนื่อย
อ่อน บริเวณเรื่อนร่างของพวกนางนั้นมีคราบน้ารักอันเกิดจากการ
สงครามการร่วมรักอันร้อนแรงอยู่ทั่วร่าง
" อึกก "
เสียงที่เต็มไปด้วยความอึดอัดอันมากล้นออกมาจากริมฝีปากเรียว
งามของหญิงสาวที่สามารถสะกดใจของบุรุษทุกคนให้นิ่งค้างลงไปได้
อย่างง่ายดาย ผู้อาวุโสซูหลิ่งแม้ว่าในตอนนี้บทเพลงการร่วมรักของ
หลินหมิงอันร้อนแรงจะสิ้นสุดลงหลังจากดาเนินมาเป็นระยะเวลานาน
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงเสียบทวนมังกรของเขาเอาไว้ภายในตัว
ของนางอยู่ นั้นเป็นเหตุผลให้ในตอนนี้ภายในร่องสวาทของนางนั้น
ยังคงเต็มไปด้วยน้ารักของนางและหลินหมิงจานวนมากที่ไม่สามารถ
เล็ดรอดออกมาได้
แต่ถึงอย่างนั้นผู้อาวุโสซูหลิ่งไม่สามารถปฎิเสธความสุขที่กาลังเกิด
ขึ้นกับนางในขณะนี้ได้ อันที่จริงแล้วตามแผนการณ์ที่นางได้วางเอาไว้
ในคราวแรกหลังจากได้พบสถานที่โบราณแห่งนี้นั้นนางวางแผนที่จะใช้
กาลังความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์เพื่อนาเอาสมบัติที่
อาจจะมีความสามารถในการปลดผนึกพลังของนางได้
แน่นอนว่านางได้เตรียมสัญลักษณ์เคลื่อนย้ายเอาไว้ที่ทุกคนเป็นที่
เรียบร้อยแล้ว หากนางพบว่ามีสมบัติที่มีความสามารถทาให้นางได้รับ
พลังกลับคืนมาแล้วละก็แม้ว่านางจะรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ต้องแยกจาก
กับทุกคนแต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงมีหนทางของตนเองที่จะต้องก้าวเดิน
ต่อไป แต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือการคงอยู่ของตัวตนโบราณที่
แข็งแกร่ง และการที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายของนางไม่สามารถใช้ได้ผลกับ
หลินหมิง มันอาจเป็นเพราะว่าในตอนที่หลินหมิงได้ปลดปล่อยพลัง
ของเขาจากระดับจอมยุทธ์เข้าสู่ระดับปราญช์นั้นมันทาให้สัญลักษณ์ที่
นางเอาไว้บนตัวของเขาได้รับความเสียหาย ?
หลังจากที่นางส่งเหล่าผู้อาวุโสกลับไปได้แม้ว่านางจะรู้สึกเศร้าใจที่
ไม่สามารถส่งหลินหมิงกลับไปได้ อย่างไรเสียเด็กหนุ่มผู้นี้นับได้ว่าเป็น
ความหวังของสหายที่นางไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่งนั้นก็คือจูหนิงเอ๋อร์
สาหรับตัวนางที่แม้ว่าจะมีความสามารถในด้านการปรุงยาและทักษะ
การแพทย์ที่น่าเหลือเชื่อแต่ถึงอย่างนั้นด้วยความแข็งแกร่งของนางนั้น
มันอาจทาให้นางพบเรื่องเลวร้ายต่างๆมากมายได้หากไม่ใช่เพราะ
ความช่วยเหลือจากจูหนิงเอ๋อร์
แต่นางกลับไม่คาดคิดว่าการที่หลินหมิงยังคงอยู่ในสถานที่แห่งนี้
ต่อไปมันกลับทาให้นางได้รับผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ อันที่จริงแล้วด้วยการ
ฝืนใช้พลังในสภาพที่ถูกผนึกพลังของนางนั้นมันอาจส่งผลกระทบมาก
จนกระถึงทาให้นางสิ้นชีวิตได้หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือเส้นชีพจร
ลมปราณของนางจะขาดออกจนไม่สามารถรักษาได้ซึ่งนั้นมันจะไม่ได้
ต่างอะไรไปจากการตายเลยแม้แต่น้อย
นางไม่เข้าใจว่าหลินหมิงได้ใช้กลวิธีใดในการเข้าช่วยเหลือนาง
นับตั้งแต่ที่นางฟื้นสติขึ้นมาสิ่งที่นางรับรู้เกี่ยวกับการกระทาของหลินห
มิงนั้นมีเพียงการกระแทกทวนมังกรอันใหญ่โตของเขาเพียงเท่านั้น
" ฮึ่ม เจ้าหนูนี้ช่างเป็นตัวเลวร้ายสมกับที่ฉวนยูร์ได้กล่าวเอาไว้ "
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนางจ้องมองไปที่ใบหน้าของหลินหมิงในยามหลับที่
กาลังกอดรัดนางของนางเอาไว้อย่างแนบแน่น แม้ว่าร่างของนางจะอยู่
คร่อมด้านบนของหลินหมิงและผนึกพลังของนางได้ถกู ทาลายลงไป
แล้วแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายสาหรับนางที่จะเอาชนะพลังกาย
ของหลินหมิงได้
มือของนางยกขึ้นพร้อมกับลูบไล้ไปที่ใบหน้าของหลินหมิงในยาม
หลับ นี้อาจเป็นครั้งแรกที่นางได้สังเกตเห็นใบหน้าของหลินหมิงใน
ระยะใกล้ชิดเช่นนี้ ใบหน้าของเขาในยามนี้มันต่างจากในยามที่เขามีสติ
ออกไปเล็กน้อย โดยปกติแล้วนั้นใบหน้าของหลินหมิงที่นางเห็นนั้น
มักจะเป็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิดและความ
มุ่งมั่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่สาหรับหลินหมิงในตอนนี้
เขาดูไม่ต่างอะไรไปจากเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปที่มีหน้าตางดงาม
หัวใจของผู้อาวุโสซูหลิ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่นเมื่อนึกถึงฉากการ
ร่วมรักก่อนหน้านี้ อันที่จริงแล้วแม้ว่านางจะมีความงดงามที่สามารถ
ทาให้อาณาจักรล่มสลายได้ แต่ถึงอย่างนั้นหากเป็นบุรุษหนุ่มโดยทั่วไป
แล้วนั้นพวกเขาคงปฎิเสธเมื่อได้รับโอกาสเช่นนี้นั้นก็เพราะว่าสาหรับ
บุรุษจากตระกูลใหญ่เหล่านั้นพวกเขาคงไม่ยินยอมให้สตรีของพวกเขา
มีความแข็งแกร่งที่มากกว่าอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นระหว่างที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งกาลังจดจ้องไปที่ใบหน้าของ
หลินหมิง ดวงตาของหลินหมิงเริ่มมีอาการสั่นไหวพร้อมกับเปลือกตา
ของเขาที่กาลังเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ใบหน้าของผู้อาวุโสซูหลิ้ง
เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ อย่างไรเสียมันคงไม่เหมาะสมอย่างแน่นอนหาก
หลินหมิงได้เห็นภาพที่นางกาลังมองเขาในยามนี้กระทั่งนางเองก็ยังคง
ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าในสายตาของนางในตอนนี้กาลังมองไปที่หลินห
มิงด้วยสายตาเช่นใด
มือทั้งสองข้างของนางเข้าผลักไปที่หน้าอกของหลินหมิงพร้อมกับ
พยายามดันตัวออกห่างแต่ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างของหลินหมิงกับก
ดลงที่แผ่นหลังเปลื่อยเปล่าของนางจนทาให้ร่างกายของนางและ
หลินหมิงเข้าประกบชิดกันอีกครั้ง หน้าอกเปลื่อยเปล่าที่กระทบร่าง
ของหลินหมิงทาให้ทวนมังกรของหลินหมิงสั่นไหวเล็กน้อยแต่นั้นเพียง
พอที่จะทาให้ผู้อาวุโสซูหลิ่งสั่นไหวไปทั่วทั้งร่าง
ดวงตาของหลินหมิงที่ตื่นขึ้นอย่างอ่อนล้าจ้องมองไปที่ใบหน้าของผู้
อาวุโสซูหลิ่งที่พยายามหลบเลี่ยงใบหน้าของเขาด้วยสีหน้าเขินอาย อัน
ที่จริงแล้วสาหรับการร่วมรักก่อนหน้านี้มันคงจะไม่สามารถจบลง
โดยง่ายชนิดที่ยังคงผ่านไปไม่ถึงวันเช่นนี้ ด้วยความงดงามของผู้
อาวุโสซูหลิ่งนั้นหลินหมิงมั่นใจว่าเขาจะสามารถเพลิดเพลินอยู่ในห้วง
ความสุขกับนางไปได้ข้ามวันข้ามคืนอย่างสบายๆแต่ถึงอย่างนั้นด้วย
สภาพร่างกายของหลินหมิงในตอนนี้มันทาให้เขาเหนื่อยล้าเกินไปที่จะ
ทาเช่นนั้น
" แล้วทาไมเจ้าไม่ปล่อยข้าสักทีล่ะ....ดะ..เดียวก่อนสิ ! "
ผู้อาวุโสซูหลิ่งที่พยายามจะกล่าวให้หลินหมิงปล่อยนางให้หลุดจาก
อ้อมกอดของหลินหมิงนั้นไม่เพียงแต่ถูกเมินเฉยคากล่าวเหล่านั้น
กลับกันแล้วหลินหมิงกลับโอบรัดร่างของนางอย่างรัดแน่นมากยิ่งขึ้น
พร้อมกับใบหน้าของเขาที่ยื่นเข้ามาใกล้ที่บริเวณซอกคอของนาง
" จะ..เจ้าจะทาเช่นนี้ไม่ได้นะ "
" หืม ? ในเมื่อท่านได้เป็นภรรยาของข้าแล้วข้าคิดว่ามันเป็นเรื่อง
ธรรมดาที่ข้าจะเชยชมภรรยาผู้งดงามของข้า "
ผู้อาวุโสซูหลิ่งแทบจะอยากระเบิดอารมณ์ออกมาในตอนนี้ สาหรับ
นางที่มีอายุมาจนถึงกระทั่งในตอนนี้มีเหล่าบุรุษมากมายที่หมายปอง
นางแต่ถึงอย่างนั้นนี้หลินหมิงเป็นคนแรกที่เอ่ยปากว่านางเป็นภรรยา
ของเขาโดยที่นางยังคงไม่ได้ติดสินใจใดๆเลยแม้แต่นอ้ ย
แม้ว่านางจะไม่สามารถปฎิเสธผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมที่หลินหมิงทา
ให้แก่นางได้ด้วยการปลดผนึกพลังของนางซึ่งมันทาให้ชีวิตของนาง
ได้รับโอกาศอันยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้งไม่เพียงเท่านั้นในตอนนี้นางกลับ
พบว่าพลังปราณในร่างกายของนางนั้นกาลังมีการพัฒนาขึ้นอย่างน่า
แปลกประหลาด แต่ถงึ อย่างนั้นมันเป็นไปได้ด้วยหรอที่สตรีที่มีอายุ
มากกว่าถึงสองเท่าเช่นนางจะสามารถครองคู่กับบุรุษวัยเยาว์เช่น
หลินหมิง แม้ว่าในตอนนี้ในใจของนางจะยังคงไม่สามารถหาคาตอบที่
แน่ชัดสาหรับความรู้สึกที่มีต่อหลินหมิงได้แต่ถึงแม้ว่านางจะพบมัน มัน
ก็อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
หลินหมิงแย้มยิ้มพร้อมกับเข้าหอมไปที่แก้มสีขาวนวลของผู้
อาวุโสซูหลิ่งที่กาลังอยู่ในสภาวะสับสน
" ข้ารู้ว่าท่านกาลังกังวลเรื่องไร้สาระเช่นใดอยู่ แต่ทา่ นรู้หรือไม่ว่า
ท่านไม่ได้เป็นภรรยาคนแรกของข้า... "
ผุ้อาวุโสซูหลิ่งจ้องมองไปที่ดวงตาของหลินหมิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วย
ความอบอุ่นอันที่จริงแล้วมันยังคงมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ต่อจากนี้
ศิษย์ของนางหลิวฉวนยูร์นั้นก็เป็นหนึ่งในภรรยาของหลินหมิงและดู
เหมือนว่าหลินหมิงจะมีความรักให้แก่นางอย่างมากล้น เมื่อคิดดูแล้ว
ความสัมพันธ์ของพวกนางทั้งหมดจะซับซ้อนยิ่งขึ้นเป็นอย่างมาก
" ท่านสามารถปรึกษาความกังวลเล็กน้อยเหล่านั้นกับผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยาได้ "
ดวงตาของผู้อาวุโสซูหลิ่งเบิกกว้างไปด้วยความตื่นตะลึังอันที่จริง
แล้วนางไม่ได้คาดคิดว่าหลินหมิงจะให้คาตอบกับนางเช่นนี้ นางรู้ดีว่า
หลินหมิงนั้นอาจมีสตรีลับคนอื่นนอกเสียจากหลิวฉวนยูร์ จิวหลิน และ
หลัวฉิงเชี่ยน แต่จากคากล่าวเมื่อครู่มันบ่งบอกเชิงนัยได้ว่ากระทั่งผู้
อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยาก็ยังคงเป็นภรรยาของเขา !
ผู้อาวุโสซูหลิ่งแม้ว่าในตอนแรกนางจะยังคงมีความรู้สึกยากที่จะ
เชื่อแต่เมื่อนางครุ่นคิดย้อนกลับไปถึงท่าทีของผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้
อาวุโสฉินเหยาที่มีต่อหลินหมิงแล้วนั้นมันเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับคา
กล่าวของหลินหมิงเป็นอย่างมาก !
" แต่หากท่านยังคงมีเรื่องใดที่ยังคงกังวลอยู่แล้วละก็ ข้าจะเป็นคน
ปัดเป่ามันให้เอง ! "
ด้วยคากล่าวของหลินหมิงที่ปรากฎความต้องการในตัวนางอย่าง
มากล้นทาให้ใบหน้าของผู้อาวุโสซูหลิ่งแดงระเรื่อไปด้วยความเขินอาย
มันไม่ใช่ว่านางไม่เคยได้รับคากล่าวยอเช่นนี้ แต่สาหรับคากล่าวของ
หลินหมิงแล้วนั้นนางรู้ดีว่ามันล้วนไม่มีสิ่งโกหกเลยแม้แต่น้อย ด้วยการ
กระทาของหลินหมิงที่หาญกล้าเข้าเชยชมดอกไม้งามอย่างหลิวฉวนยูร์
จากเด็กหนุ่มไร้ฐานะ กระทั่งครั้งล่าสุดที่เขากล้าท้าทายแม้กระทั่งสอง
แม่ทัพใหญ่เพื่อหลัวฉิงเชี่ยน การกระทาของหลินหมิงทั้งหมดนั้นเห็น
ได้ชัดว่าเขาเป็นคนเช่นไร
โดยในทันทีที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งไม่ทันรู้สึกตัวใบหน้าของนางพยักตอบ
ตกลงอย่างง่ายดายพร้อมกับบทเพลงท่วงทานองแห่งรักที่เริ่มต้นขึ้นอีก
ครั้งอย่างร้อนท่ามกลางเสียงครางกระเส้าอย่างเหนื่อยอ่อนของนาง

ตอนที่ 239
หลินหมิงและผู้อาวุโสซูหลิ่งหลังจากผ่านช่วงเวลาอันเร่าร้อน
ร่วมกันทาให้ผู้อาวุโสซูหลิ่งจากเดิมทีนับได้ว่าเป็นยอดสาวงามที่หาใด
เปรียบแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ผิวพรรณของนางนั้นดูเปล่งปลังและ
เรียบเนียนมากยิ่งขึ้นกว่าก่อนหน้า ยิ่งไปกว่านั้นก็คือใบหน้าของนาง
นั้นดูอ่อนเยาว์ลงเล็กน้อยร่วมกับ่าทีของนางที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่มี
ลักษณะเอียงอายที่เพียงพอที่จะทาให้หัวใจของหลินหมิงสั่นไหวไปด้วย
ความต้องการตลอดเวลา
แน่นอนว่าในตอนนี้ไม่ได้มเี พียงหลินหมิงและผู้อาวุโสซูหลิ่ง
เพียงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงอาจจะยังคงเพลิดเพลินกับผู้อาวุโส
สาวสวยของเขาไปอีกนาน ร่างของหมิงเยี่ยนที่ตื่นขึ้นพร้อมกับสวมใส่
เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วในตอนนี้สถานการณ์ของทั้งสามนั้นเต็มไปด้วย
ความอึดอัดใจ
สาหรับผู้อาวุโสซูหลิ่งแล้วนั้นแน่นอนว่านางไม่มีความลังเล
เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับหลินหมิงอีกต่อไปแต่ถึงอย่างนั้นการคงอยู่
ของหมิงเยี่ยนนั้นมันทาให้นางรู้สึกอึกอัด ยังไม่ต้องกล่าวถึงช่วงเวลา
ก่อนหน้านี้ที่พวกนางทั้งสองร่วมรักกับหลินหมิงพร้อมกัน นั้นเป็นเรื่อง
ที่น่าอายเกินไปสาหรับนางหากให้นางเลือกแล้วละก็นางจะไม่ลังเลที่
จะสังหารหมิงเยี่ยนลงตรงนี้เลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าหากเป็นช่วงเวลาก่อนหน้านี้พวกนางทั้งสองอาจจะมี
ระดับพลังปราณที่เท่ากันแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับในตอนนี้ที่พลังปราณ
ของนางได้รับการปลดผนึกออกแม้ว่ามันจะต้องใช้เวลาอีกสักเล็กน้อย
ในการฟื้นฟูให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่เป็น
ปัญหาสาหรับการจัดการหมิงเยี่ยน ด้วยระดับพลังปราณของนาง
ในตอนนี้คือระดับปราญช์ขั้นสูงสุดกระทั่งแม่ทัพใหญ่นางก็ไม่มีความ
จาเป็นต้องเกรงกลัวหากเผชิญหน้ากันตัวต่อตัวดังนั้นแล้วไม่ต้องพูดถึง
ตัวตนระดับหมิงเยี่ยน
แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลก็คือการตัดสินใจของหลินหมิงนางไม่
แน่ใจว่าหลินหมิงต้องการทาเช่นใดกับหมิงเยี่ยน หากดูจากการที่
หลินหมิงนั้นมักจะให้ความสาคัญกับหญิงสาวของเขาเป็นอย่างมากนั้น
เช่นนั้นแล้วมันเป็นไปได้ว่าหลินหมิงอาจจะไว้ชีวิตหญิงสาวนางนี้ ?
หมิงเยี่ยนนั่งตัวออกห่างหลินหมิงกับผู้อาวุโสซูหลิ่งเล็กน้อย
นางแทบไม่อยากจะเชื่อว่าก่อนหน้านี้นางได้ทาสิ่งใดลงไปแม้ว่านางจะ
ภวนาให้ทั้งหมดเป็นเพียงฝันแต่เมื่อนางตื่นขึ้นมาพบกับความเจ็บปวด
ที่บริเวณส่วนล่างและความอบอุ่นที่ยังคงค้างอยู่ภายในตัวมันสามารถ
ตอกย้าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการ
ที่จะสานสัมพันธ์กับหลินหมิงแต่ด้วยสถานะของนางและหลินหมิงนั้น
มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
" เอาล่ะ คงได้เวลาที่พวกเราจะต้องกลับกันแล้วล่ะ "
" แล้วนางล่ะ ? "
หากเป็นในก่อนหน้านี้นางอาจว่ากล่าวหลินหมิงที่ไม่หัดดู
สถานการณ์ในตอนนี้เสียบ้างแต่ในตอนนี้นางสามารถมองผ่านเรื่องราว
เล็กน้อยเหล่านั้นไปได้
ดวงตาของหลินหมิงที่จ้องมองมาที่หมิงเยี่ยนทาให้หัวใจของ
นางรู้สึกสั่นไหวไปด้วยความคาดหวัง แม้ว่าสาหรับนางในตอนนี้นั้น
นางสมควรที่จะหาหนทางที่จะแยกจากจากหลินหมิงพร้อมกับกลับไป
ยังอาณาจักรของนาง แต่ถึงอย่างนั้นในส่วนลึกของจิตใจของนางนั้น
กลับไม่เป็นเช่นนั้น
" ในเมื่อนางก็นับได้ว่าเป็นสตรีของข้าแล้วนางก็ต้องไปกับพวก
เราด้วยเช่นเดียวกัน "
" เฮอะ ! ใครเป็นภรรยาของเจ้ากัน ! "
แม้ว่าหมิงเยี่ยนนางจะกล่าวออกไปเช่นนั้นแต่ในตอนนี้ใบหน้า
ของนางนั้นหันเชิดไปด้านหลังเพื่อปิดบังใบหน้าที่กาลังเต็มเปี่ยมไป
ด้วยความดีใจ
" แน่นอนว่าไม่ใช่เช่นนั้น..ในตอนนี้เจ้านับได้ว่าเป็นสาวบาเร่อ
ของข้าแล้วต่างหาก "
" นี้เจ้า ! "
คากล่าวของต่อมาทาให้อารมณ์ของหมิงเยี่ยนกลับจากหน้ามือ
เป็นหลังมือนางหันควับมามองที่หลินหมิงด้วยสายตาดุร้าย ด้วยฐานะ
ของนางที่เป็นถึงองค์หญิงการที่ยกนางเป็นภรรยารองยังนับว่าเลวร้าย
กับนางมาก แต่สาหรับสาใช้แล้วนั้นมันไม่ต่างอะไรไปจากการทุบตีนาง
อย่างรุนแรงเลยแม้แต่น้อย แม้ว่านางจะรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นยังคงไม่รู้ถึง
สถานะที่แท้จริงของนางแต่ถึงอย่างนั้นด้วยการที่นางมีผู้อาวุโสที่มีพลัง
ระดับปราญช์ติดตามอยู่อย่างมากมายเช่นนี้อย่างน้อยเขาน่าจะคิดได้
ว่าฐานะของนางไม่ธรรมดา แต่แล้วเหตุใดฐานะของนางถึงเป็นเพียง
สาวบาเร่อกัน !
" หากข้าสามารถกลับไปได้แล้วละก็รับรองได้เลยว่าข้าจะส่ง
ผู้เชี่ยวชาญมาสั่งสอนเจ้าอย่างแน่นอน ! "
" น่าเสียดายที่เจ้าคงไม่มีโอกาสเช่นนั้น "
หมิงเยี่ยนมองไปที่หลินหมิงที่กล่าวออกมาด้วยสีหน้ามั่นใจ อัน
ที่จริงแล้วนางรู้ดีว่าในอีกไม่ช้านี้ไม่ว่าหลินหมิงจะมีสถานะเช่นใดเขา
จะไม่สามารถหยุดยั้งเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่บิดาของนางได้ส่งออกมาตาม
ตัวนางกลับอย่างแน่นอน ในสายตาของนางในตอนนี้แม้ว่าผู้อาวุโสซู
หลิ่งที่เป็นเผ่าพันธ์ฟินิกส์จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแต่เนื่องจาก
ในตอนนี้นางได้ลดระดับพลังลงเพื่อเปิดเผยพลังในระดับจอมยุทธ์ขั้น
แรกเริ่มเท่านั้นดังนั้นแล้วในความคิดของหมิงเยี่ยนนั้นนางจึงมองว่าผู้
อาวุโสซูหลิ่งนั้นยังคงไม่สามารถทาลายผนึกพลังลงได้
ผิดกับผู้อาวุโสซูหลิ่งที่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แม้ว่าคา
กล่าวของหลินหมิงนั้นจะดูเรียบง่ายแต่สาหรับหมิงเยี่ยนที่ยังไม่เคยรู้ถึง
การกระทาในอดีตที่ผ่านมาของหลินหมิงนั้นนางคิดว่าเป็นเพียงคา
กล่าวเลื่อนลอยแต่สาหรับนางแล้วนั้นในตอนนี้ไม่สาคัญว่าสถานะ
ของหมิงเยี่ยนจะเป็นเช่นไรในอาณาจักรนภา มันไม่มีทางที่พวกเขาจะ
สามารถชิงตัวหมิงเยี่ยนไปจากหลินหมิงได้โดยง่ายอย่างแน่นอน !
ฟุ่บ !
ร่างของหลินหมิง หมิงเยี่ยนและผู้อาวุโสซูหลิ่งปรากฎขึ้น ณ
สถานที่ทางเข้าไปยังอาณาเขตลึกลับก่อนหน้า ด้านหน้าของพวกเขา
ในตอนนี้มีกลุ่มของหญิงสาวที่ใบหน้าของพวกนางนั้นเต็มไปด้วย
อารมณ์ความรู้สึกอย่างมากมาย พวกนางเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นนั้นก็คือ
เหล่าผู้อาวุโสสาว ในตอนนี้ผู้อาวุโสฉินเหยา ผู้อาวุโสฟางซิ่นกระทั่ง
หย่าเฟยพวกนางไม่สามารถห้ามใจตนเองได้พร้อมกับโผเข้ากอดหลินห
มิงในทันที
สาหรับอาจารย์สาวสวยของเขานางยัังคงตื่นตะลึงกับภาพ
ตรงหน้าอยู่เล็กน้อย สาหรับในตอนนี้นางอาจจะยังคงไม่รู้ว่าในบรรดา
สาวงามทั้งหมดในตอนนี้มีเพียงนางเท่านั้นที่ยังคงรอดพ้นเงื้อมมือของ
หลินหมิงไปได้
" นี้เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนมาหรือไม่ ?
"
ผูอ้ าวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยารีบสารวจร่างกายของ
หลินหมิงเพื่อหาดูบาดแผล ต่างกับหย่าเฟยที่รีบถอยห่างออกไป
ในทันทีที่นางรู้สึกตัว ในตอนนี้ผู้อาวุโสซูหลิ่งและหมิงเยี่ยนมองภาพ
ตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่รู้สึกไม่น่าเชื่อสาหรับผู้อาวุโสซูหลิ่งแล้วนั้นนางรู้
จากหลินหมิงแล้วว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสฉินเหยานั้นต่างมี
สถานะความสัมพันธ์กับหลินหมิงเช่นเดียวกันกับนาง แต่ถึงอย่างนั้น
ภาพเมื่อสักครู่นี้มันไม่ได้มีเพียงผู้อาวุโสสาวสองคนนี้เพียงเท่านั้น นาง
หันมองหลินหมิงด้วยสายตาเหนื่อยอ่อน กระทั่งแม่ยายของเขาเจ้าตัว
เลวร้ายผู้นี้ก็ยังคงไม่ยกเว้น ? เป็นไปได้ว่าตั้งแต่แรกนั้นนางอาจถูก
หมายปองให้เป็นของตัวเลวร้ายนี้ตั้งแต่ต้นแล้วก็เป็นได้
" เอาล่ะข้าว่าพวกเราค่อยคุยกันหลังจากที่กลับไปยังสมาคม
แล้วดีกว่า "
อาจารย์สาวสวยของหลินหมิงกล่าวพร้อมกับมองไปยังร่าง
ของหมิงเยี่ยนที่อยู่ในสภาพกังวลใจ แม้ว่าหลินหมิงจะยืนยันให้นาง
ติดตามมาด้วยแต่ถึงอย่างนั้นนางไม่สามารถข่มกลั้นความกังวลที่
อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยปกติทั่วไปหลังจากที่สามารถจับบุคคลระดับสูง
ของฝ่ายตรงข้ามมาได้นั้นพวกเขาเหล่านั้นอาจถูกทรมานเพื่อเอาข้อมูล
สายตาของจูหนิงเอ๋อร์ที่จ้องมองมาที่นางนั้นมันทาให้ทั่วร่างของนาง
สั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวสาหรับตัวนางที่เคยมีผู้อาวุโส
ระดับปราญช์มากมายคอยปกป้องมันจึงทาให้นางรู้สึกปลอดภัยอยู่
ตลอดเวลา
" ท่านอาจารย์ นางเป็นรางวัลของข้าสาหรับการสู้รบในครั้งนี้ "
" โอ้ ? "
จูหนิงเอ๋อร์มองไปที่หลินหมิงในทันทีสาหรับนางที่แล้วนั้น
แม้ว่านางจะไม่ได้ใกล้ชิดกับหลินหมิงมากนักแต่นางรู้ดีถึงความนิยม
ชมชอบสาวงามของเขาอันที่จริงแล้วทั่วทั้งอาณาจักรในตอนนี้ก็คงมี
น้อยคนหนักที่ไม่รู้ในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทาให้นางตื่นตะลึงนั้นไม่ใช่ข้อ
เรียกร้องของหลินหมิงแต่เป็นระดับพลังของเขา !
" เจ้าเข้าสู่ระดับปราญช์แล้ว ? "
" ใช่แล้วท่านอาจารย์ "
" ฮ่าๆ ๆ ยอดเยี่ยมๆ ! "
จูหนิงเอ๋อร์นางหัวเราะร่าออกมาอย่างมีความสุข หากเป็นใน
อดีตนั้นนางคงไม่ลังเลที่จะปฎิเสธคาขอของหลินหมิงแต่ในตอนนี้
ความสัมพันธ์ของนางและทางเมืองหลวงนั้นไม่ค่อยดีนักจากเรื่องราวที่
ผ่านมานั้นจึงทาให้นางไม่สนใจในเรื่องราวเล็กน้อยอีกต่อไป อีกทั้งตัว
ศิษย์รักของนางผู้นี้กลับมีการพัฒนาได้อย่างยอดเยี่ยมดังนั้นแล้วมันคง
เป็นเรื่องแปลกที่นางจะไม่ให้รางวัลตามทีัเขาขอ

ตอนที่ 240
ขบวนของหลินหมิงเมื่อกลับมายังสมาคมนักปรุงยานั้นพวกเขา
ได้รับความสนใจในทันที ในก่อนหน้านี้ในการเดินทางมาที่เมืองฟานซู
นั้นหลินหมิงไม่ได้มาเพียงลาพังเฉพาะผู้อาวุโสสาวสวยของเขาเพียง
เท่านั้นแต่มันยังคงมีผู้เชี่ยวชาญจานวนมากที่มาจากองค์ชายจิ้งชวน
และแม่ทัพโจว ดังนั้นแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ในตอนนี้พวกเขา
จะกระวนกระวายเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาไม่พบหลินหมิงและ
อาจารย์ของเขาหรือกระทั่งผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสซูหลิ่งเลย
สิ่งที่พวกเขากังวลนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยของหลินห
มิงและผู้อาวุโสสาวทั้งหลายด้วยการร่วมกลุ่มของผู้ที่มีพลัง
ระดับปราญช์อย่างมากมายกระทั่งประมุขสมาคมนักปรุงยาก็ยังคงเป็น
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขั้นที่หกมันเป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะพบ
กับอันตราย
แต่สิ่งที่พวกเขากังวลนั้นก็คือการหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว
เช่นนี้ ก่อนหน้านี้หน้าที่ที่พวกเขาได้รับมานั้นไม่ใช่เพียงแค่การปกป้อง
หลินหมิงเพียงเท่านั้นแต่พวกเขามีหน้าที่ยืนยันว่าหลินหมิงและทางขุม
อานาจจากเมืองฟานชูจะยังคงอยู่ฝ่ายเดียวกันกับอาณาจักรนภา
ดังนั้นสาหรับในตอนนี้ที่พวกเขาได้เห็นกลุ่มของหลินหมิงกลับ
มาอีกครั้งมันราวกับว่าพวกเขาได้ยกภูเขาแห่งความทุกข์ออกจากอก
จะมีใครสามารถบอกได้บ้างว่าหากพวกเขาปล่อยให้ตัวตนระดับสูง
เหล่านี้ออกไปเข้ากับฝ่ายศัตรูพวกเขาจะได้รับโทษเช่นใด ? แม้ว่าโทษ
ของพวกเขาที่อยู่ในระดับปราญช์จะไม่อาจถึงกับตายแต่ถึงอย่างนั้นมัน
ก็ยังคงมีสิ่งที่เลวร้ายมากมายรออยู่อย่างแน่นอน
" อา...คุณชายหลิน..ประมุขสมาคม... ข้าละเป็นกังวลมากยิ่ง
นักว่าอาจเรื่องอันใดขึ้นกับพวกท่าน.. "
" ฮ่าๆ ผู้อาวุโสเหยียนฉือท่านไม่จาเป็นต้องกังวลกับเรื่อง
เล็กน้อยเพียงเท่านี้พวกข้าเพียงแค่นาศิษย์เอกออกไปหาประสบการณ์
เพียงเล็กน้อยเท่านั้น "
เหยียนฉือหรือผู้อาวุโสที่สังกัดกับองค์ชายจิ้งชวนเขาเป็นผู้ที่มี
พลังแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มติดตามของหลินหมิงนั้นคือพลังปราณ
ระดับปราญช์ขั้นที่ห้า หากเป็นในสถานการณ์ปกติทั่วไปแล้วนั้นผู้คนที่
กล้าทาให้เป็นกังวลได้มากมายเช่นนี้พวกเขาย่อมได้รับผลตอบแทนที่
สมควร แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหลินหมิง และจูหนิงเอ๋อร์นั้นพวกเขาทั้ง
สองเป็นตัวตนที่แม้แต่องค์ชายของเขาก็ยังคงไม่อยากมีปัญหาด้วย
จนถึงในตอนนี้ใบหน้าของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงยังคง
ไม่สามารถหุบยิ้มลงได้เลยตลอดทางกลับมายังสมาคม ไม่เพียงเท่านั้น
คากล่าวของนางที่กล่าวกับผู้อาวุโสเหยียนฉือก่อนหน้านี้ยังคงเป็นการ
ให้ผู้อาวุโสเหยียนฉือและผู้อาวุโสคนอื่นสังเกตไปยังร่างของหลินหมิง
ดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสที่ติดตามหลินหมิงมาก่อนหน้าที่จะ
เดินทางมาเมืองฟานซูนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงพวกเขามีทั้งหมด
ด้วยกันทั้งสิ้น 25 คนและมีเพียงห้าคนที่มีพลังระดับปราญช์ แต่อีก
ยี่สิบคนที่เหลือนั้นล้วนเป็นผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดด้วยกัน
ทั้งสิน้ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมเคยพบเจอสิ่งประหลาดมาอย่างมากมาย
แต่สาหรับในตอนนี้ดวงตาของพวกเขาทุกคนเบิกกว้างด้วยความรู้สึก
ยากที่จะเชื่อ
ระดับปราญช์ !!
" ยะ..ยินดี..กับคุณชายหลิน..และประมุขสมาคมด้วย "
" อืม...ดูเหมือนว่าพวกข้าคงทาให้พวกท่านเป็นกังวลมากใน
ก่อนหน้านี.้ .เพราะฉะนั้นข้าจึงอยากขอมอบสิ่งนี้เป็นของทดแทน "
ใบหน้าของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วย
รอยยิ้มอันสดใส แต่ในตอนนี้ทุกคนแม้กระทั่งกลุ่มของหลินหมิงนั้น
พวกเขาต่างรู้ดีว่าใบหน้าที่ปรากฎในตอนนี้ไม่ได้แสดงท่าทียินดีกับกลุ่ม
ของผู้อาวุโสเหยียนฉือตรงหน้าสักเท่าใด สาหรับผู้อาวุโสเหยียนฉือนั้น
เขาไม่ได้มีความอยากได้สมบัติใดๆจากจูหนิงเอ๋อร์เลยแม้แต่น้อย ด้วย
ระดับพลังระดับปราญช์ของเขาในตอนนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะ
สามารถหาโอสถหรือสมบัติใดๆมาช่วยในการบ่มเพาะ แม้ว่าจะเป็น
อาวุธเขาัมีอาวุธข้างกายที่ใช้มาอย่างยาวนานแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่อาจปฎิเสธคากล่าวของจูหนิงเอ๋อร์
ไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจเท่ากับเป็นการตบหน้านาง มือของเขารับแหวน
มิติวงหนึ่งมาจากจูหนิงเอ๋อร์ ในตอนแรกเขาไม่ได้มีท่าทีสนใจสิ่งของที่
อยู่ภายในแต่เมื่อเขาได้เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มประหลาดของ
หญิงสาวตรงหน้ามันทาให้จิตใจของเขาสั่นคลอนไปด้วยความรู้สึก
แปลกๆบางอย่าง พลังปราณของเขาถูกถ่ายทอดลงไปสารวจสิ่งของที่
อยูภ่ ายใน
" สวรรค์ ! "
ภายในแหวนมิติวงนี้นั้นแม้ว่ามันจะไม่ได้สิ่งของอยู่อย่าง
มากมายแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งของที่เหยียนฉือสามารถสัมผัสได้ในตอนนี้
มันทาให้ร่างกายของเขาสั่นเทาไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย มันมี
อาวุธระดับสูงจานวนนับสิบชิ้นที่เทียบเท่ากับอาวุธที่เขาใช้อยู่ในตอนนี้
หรือไม่ก็อาจจะกระทั่งสูงกว่า ! แต่สิ่งที่สาคัญยังคงไม่ใช่อาวุธเหล่านี้
แต่มันเป็นเม็ดยาสีฟ้าสดใสเม็ดหนึ่งที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่าง
มากล้น กระทั่งผู้อาวุโสเหยียนฉือที่มีฐานะสูงเป็นอย่างมากเขาก็ยังไม่
เคยพบเห็นเม็ดยาที่มีพลังงานมากมายถึงเพียงนี้
มันอาจมีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถทาให้ผู้ที่อยู่ใน
ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์ได้เลยทีเดียว ! เสียง
อุทานของผู้อาวุโสเหยียนฉือทาให้ผู้อาวุโสคนอื่นล้วนให้ความสนใจกับ
สิ่งของภายในแหวนมิติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักสาหรับตัวตน
ระดับปราญช์ที่จะตื่นเต้นกับสมบัติหากมันไม่ใช่สมบัติที่มีค่ามหาศาล !
ผู้อาวุโสเหยียนฉือเงยหน้าขึ้นมองไปที่จูหนิงเอ๋อร์ที่กาลังแย้ม
ยิ้มพร้อมกับลูบไล้ที่แหวนมิติของนาง การแสดงออกของนางเช่นนี้เห็น
ได้ชัดว่านางไม่ได้มีเม็ดยาอันทรงพลังนี้เพียงหนึ่งเม็ดเพียงเท่านั้น ใน
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีนักปรุงยาคนใดที่มี
ความสามารถปรุงยาล้าเลิศเช่นนี้ออกมาได้ แม้กระทั่งหญิงสาว
ตรงหน้าของเขาที่มีทักษะปรุงยาเป็นเลิศก็ตามที่ นั้นหมายความว่า
สิ่งของที่นางได้รับมานั้นย่อมเกี่ยวพันธ์กับเรื่องที่นางและเหล่าผู้อาวุโส
ทั้งหลายหายตัวไปในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ !
" งั้นพวกข้าขอตัวก่อน.. "
จูหนิงเอ๋อร์ไม่ได้สนใจในตัวของผู้อาวุโสเหยียนฉืออีกต่อไป
ในตอนนี้นางได้ทาสิ่งที่สาคัญลงไปแล้วนั้นก็คือการประการถึง
ความสาคัญและความแข็งแกร่งของสมาคมนักปรุงยาด้วยเหตุนี้มันจะ
ทาให้นางลดแรงกดดันจากเมืองหลวงได้ด้วยการช่วยเหลืออันยอด
เยี่ยมจากองค์ชายจิ้งชวนและแม่ทัพโจว
ผู้อาวุโสเหยียนฉือก้มลงโค้งคานับจูหนิงเอ๋อร์ด้วยความรู้สึก
ซาบซึ้งอย่างแท้จริงในตอนแรกนั้นเขาเป็นกังวลในเรื่องที่องค์ชายของ
เขานั้นตัดสินใจให้การสนับสนุนหลินหมิงอยู่ ด้วยการกระทาเช่นนั้น
มันเท่ากับว่ามันอาจทาให้ผู้อาวุโสหลายคนที่ไม่พอใจกับการกระทา
ของหลินหมิงนั้นไม่พอใจกับการกระทาขององค์ชายของเขาแต่สาหรับ
ในตอนนี้เขาได้ตระหนักรู้ดีแล้วว่าไม่สาคัญว่าผู้อาวุโชราเฒ่าพวกนั้นจะ
มีความคิดเห็นกันเช่นใดในตอนนี้สิ่งที่เขาต้องให้ความสาคัญคือการ
สานสัมพันธ์กับสมาคมนักปรุงยาและตระกูลหลิน
หลังจากจากกับผู้อาวุโสเหยียนฉือกลุ่มของหลินหมิงได้ร่วมตัว
กับที่ห้องทางานของอาจารย์สาวสวยของเขาและแน่นอนว่ามันย่อม
เป็นเรื่องสมบัติที่จะทาการแบ่งปันกันสาหรับสมบัติก่อนหน้านี้ที่ผู้เห
ยียนฉือได้รับนั้นมันเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับสมบัติที่
กลุ่มของหลินหมิงถือครองอยู่ในตอนนี้ลาพังเพียงเม็ดยาสีฟ้าสดใสนั้น
พวกเขาก็มีอยู่ด้วยกันถึงสามสิบเม็ดเลยทีเดียว
สาหรับตัวแทนตระกูลหลัวอย่างหย่าเฟยนั้นนางยังคงละอาย
เกินกว่าจะรับส่วนแบ่งในการต่อสู้ที่ผ่านมานั้นอาจกล่าวได้ว่านางไม่
สามารถทาประโยชน์ใดได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นอาจารย์สาวสวยและผู้
อาวุโสสาวสวยท่านอื่นก็ยังคงยืนยัดที่จะแบ่งสมบัติให้แก่นางด้วย
อัตราส่วนที่เท่าเทียมกัน
" ท่านไม่จาเป็นต้อกังวลไป...ในตอนนี้พวกเราไม่ได้มีเพียงเม็ด
ยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเหล่ายังคงมีกระทั่งสมุนไพรและตาราปรุงยา
นั้นหมายความว่าพวกเรายังคงสามารถปรุงมันออกมาได้เพิ่ม "
หย่าเฟยนางพยักหน้ารับอย่างตกลงนางรับแหวนมิติที่
ประกอบไปด้วยเม็ดยาทั้งหมดห้าเม็ดแน่นอนว่ามันยังคงมีสมบัติอย่าง
อื่นเช่นตาราทักษะโบราณมากมายที่เหมาะสมสาหรับตระกูลหลิว
หลินหมิงไม่ได้สนใจในการแบ่งสมบัติแต่อย่างใดอันที่จริงแล้วเขารู้ดีว่า
อย่างไรเสียอาจารย์สาวสวยของเขาย่อมต้องจัดแบ่งส่วนให้เขาอย่าง
เหมาะสมอยู่แล้ว ดังนั้นแล้วในตอนนี้เขาปล่อยให้เหล่าผู้อาวุโสสาว
ทั้งหลายเพลิดเพลินกับสมบัติที่นางได้รับมากันอย่างเพียงพอ
โดยเฉพาะอาจารย์สาวสวยของเขาและผู้อาวุโสฟางซิ่นพวก
นางยืนยันที่จะศึกษาตาราปรุงยาโดยในทันทีเช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสซู
หลิ่งที่ดูเหมือนจะสนใจในสมบัติบางประเภทของนักรบโบราณเหล่านี้
แน่นอนว่าสาหรับในเรื่องของการปรุงยานั้นผู้อาวุโสซุหลิ่งนางมีความรู้
ในเรื่องกาปรุงยาชนิดนี้อยู่แล้ว เนื่องจากมันเป็นทักษะติดตัวของนาง
มาตั้งแต่อยู่เผ่าฟินิกส์

ตอนที่ 241
หลินหมิงจากมากจากห้องทางานของอาจารย์สาวสวยของเขา
แน่นอนว่าเขาไม่ได้จากมาเพียงลาพังตั้งแต่เริ่มต้นหมิงเยี่ยนนางอยู่ใน
สภาพที่น่าอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่านางจะถูกพบเห็นโดยเหล่าผู้
อาวุโสก่อนหน้านี้แต่สายตาที่พวกเขามองมาที่นางที่อยู่ใกล้ชิดหลินห
มิงนั้นไม่ได้มีสายตาที่เป็นศัตรูแต่อย่างใด ไม่ใช่แค่เพราะว่าพวกเขา
ไม่ได้ล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของนางแต่ในตอนนี้ตัวตนของนางอาจถูก
เข้าใจได้ว่าเป็นสตรีของหลินหมิงไปอย่างแน่นอนแล้ว
เมื่อมาถึงที่ตานักของหลินหมิงโดยไม่รอช้าหลินหมิงทิ้งร่างลง
นอนบนเตียงอย่างอ่อนล้า อันที่จริงแล้วแม้ว่าจะผ่านมาสามวันแล้ว
หลังจากการต่อสู้แต่ถึงอย่างนั้นผลกระทบจากการใช้ทักษะจิตสายฟ้า
นั้นยังคงเหลืออยู่ พร้อมกันนั้นร่างของหมิงเยี่ยนได้ถูกหลินหมิงดึงมา
รวบกอดนอนอย่างอบอุ่นโดยที่นางไม่สามารถต้านทานใดๆได้
" นี้เจ้า ! "
" เอาน่าข้าเพียงแค่จะกอดเจ้าเอาไว้เฉยๆไม่ได้คิดทาสิ่งใด
ในตอนนี้หรอก แต่หากเจ้าขัดขืนละก็ข้าอาจต้องทาให้เจ้าเหนื่อยสัก
หน่อยก่อน "
เมื่อได้ยินคากล่าวเช่นนี้หมิงเยี่ยนนางได้แต่นอนตัวขดอยู่บน
ตัวของหลินหมิงด้วยความเอียงอาย
สามวันผ่านไป ร่างกายของหลินหมิงในยามนี้เริ่มรู้สึกกลับมามี
เรี่ยวแรงแบบสมบูรณ์พร้อมอีกเช่นเคย แน่นอนว่าในสามวันที่ผ่านมา
นี้หมิงเยี่ยนนางย่อมไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือจากจู่โจมจากหลินหมิง
ไปได้ ในตอนนี้สภาพของนางนั้นกลับกลายเป็นอิดรอยเสียยิ่งกว่า
หลินหมิงในก่อนหน้านี้เสียอีก
เจ้าตัวหื่นกามผู้นี้ได้ใช้เรือนร่างของนางในการเสพสุขอย่าง
คุ้มค่าทุกเช้าค่าโดยไม่มีเว้น ด้วยสภาพร่างกายของนางในตอนนี้ไม่ต้อง
พูดถึงเรื่องหนีเลยลาพังเพียงแค่ลุกขึ้นยืนได้ก็นับได้ว่ายอดเยี่ยมแล้ว ที่
น่าแปลกใจยิ่งไปกว่านั้นคือในตอนนี้หลังจากที่นางได้ร่วมรักกับหลินห
มิงมาไม่ใช่น้อยนางรู้สึกได้ว่าพลังปราณในร่างกายของนางนั้นกาลัง
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเหนื่อง !
ไม่เพียงเท่านั้นพลังปราณพื้นฐานภายในร่างของนางนั้นราวกับ
ว่าได้รับสมบัติวิเศษที่หาได้ยากยิ่งเข้าไปเสริมจากเดิมที่ในตอนแรกนาง
มีระดับเพียงจอมยุทธ์ขั้นเริ่มต้นในวัย 23 ปีร่วมกับพรสวรรค์ในด้าน
การใช้ค่ายกลแล้วนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่นางจะถูกเรียกได้ว่าเป็นองค์
หญิงที่มีพรสวรรค์มากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นพอเมื่อนางกล่าวขึ้นมาใน
ระดับจอมยุทธ์นางไม่ได้ใช้เวลาไปกับการบ่มเพาะมากนักนางใช้เวลา
ส่วนใหญ่ในการศึกษาตาราค่ายกลเสียมากกว่า นี้จึงอาจเรียกได้ว่าเป็น
ครั้งแรกในรอบหลายเดือนหรือกระทั่งเป็นปีแล้วที่พลังปราณของนางมี
ความก้าวหน้า !
หลินหมิงในตอนนี้กาลังกอดร่างเปลื่อยเปล่าของหมิงเยี่ยนอ
ย่างแนบแน่นพร้อมกับลูบไล้แผ่นหลังเปลื่อยเปล่าของนางอย่างสบาย
อารมณ์
" ขะ..ข้าจะ..ให้เจ้า..ต้องชดใช้อย่าง..แน่นอน "
เสียงของหมิงเยี่ยนกล่าวออกมาอย่างยากลาบากพร้อมกับสติ
ของนางที่ดับวูบลงหลังจากที่ต้องผ่านการร่วมรักบมาอย่าง
ยาวนาน ในตอนนี้หลินหมิงตัดสินใจที่จะตรวจสอบระดับพลังใหม่ของ
เขาในขณะที่ยังคงเพลิดเพลินกับร่างเปลื่อยเปล่าของหมิงเยี่ยนไปด้วย
ด้วยระดับพลังระดับปราญช์ในตอนนี้ของเขามันเป็นไปได้ว่าเขาอาจ
ได้รับทักษะใหม่จากเปลวทมิฬอันยอดเยี่ยมของเขา ?
!
ดวงตาของหลินหมิงเบิกกว้างขึ้นหลังจากที่เขาทาสมาธิเข้าไป
ภายในจิตใจเพื่อตรวจสอบความสามารถที่ได้รับ ในตอนแรกหลินหมิง
ไม่ได้คาดหวังถึงทักษะโจมตีที่รุนแรงอีกต่อไปด้วยทักษะที่เขามีอยู่
ในตอนนี้อย่างดรรนีเพลิง เพลิงสายฟ้าศักดิสิทธ์ จิตสายฟ้า ทั้งหมด
เหล่านี้ล้วนเป็นทักษะที่ใช้พลังปราณมากจนเกินไป
" หลอมหลวมเปลวเพลิง "
นี้เป็นทักษะติดตัวทักษะแรกที่หลินหมิงได้รับจากเปลวเพลิง
ทมิฬของเขา ในก่อนหน้านี้หลินหมิงจาเป็นจะต้องทาการเรียกใช้เปลว
เพลิงขึ้นปกคลุมร่างกายของเขาเพื่อได้รับความแข็งแกร่งทางร่างกายที่
เพิ่มขึ้นแต่สาหรับในตอนนี้ด้วยทักษะหลอมหลวมเปลวเพลิงมันไม่
จาเป็นที่เขาจะต้องทาเช่นนั้นอีกต่อไป หลินหมิงกามือพร้อมกับสัมผัส
ความรู้สึกแข็งแกร่งทางร่างกายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากล้นมันไม่ใช่เพียงแค่
เพราะก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์เพียงเท่านั้นแต่ดูเหมือนทักษะหลอม
หลวมเปลวเพลิงนั้นจะยังคงทาให้ร่างกายของเขาได้รับพัฒนาขึ้น
เล็กน้อย
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือทักษะที่สองของหลินหมิงที่ไดร้ับและ
เป็นทักษะสุดท้าย หลินหมิงไม่แน่ใจว่ามันสมควรเรียกว่าเป็นทักษะดี
หรือไม่
' สัตว์วิญญาณพยัคฆ์ขาว ' !
สาหรับผู้ัทมีี พลังระดับปราญช์ขึ้นไปเพียงเท่านั้นที่มี
ความสามารถเพียงพอที่จะผูกพันธ์กับัตว์ สั วิญญาณได้แต่อันที่จริงแล้ว
ส่วนใหญ่พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นกลาง
หรือขั้นที่สี่เป็นอย่างน้อย นั้นก็เพราะว่าการควบคุมสัตว์วิญญาณนั้น
มันอันตรายมากเกินกว่าผู้ที่อยู่ในขอบเขตต่ากว่าจะสามารถควบคุมได้
ยิ่งเป็นสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งมากเพียงใดมันย่อมมีความเสี่ยงที่
มากมายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เช่นนั้นแล้วแสดงว่าสัตว์วิญญาณของเขาอ่อนแอ่ ? แน่นอนว่า
ไม่หลินหมิงส่งจิตเข้าไปสารวจภายในจิตของเขา ในตอนนี้เขาสามารถ
พบร่างของพยัคฆ์สีขาวที่กาลังนอนหลับไหลอย่างไม่ได้สติที่รอบตัว
ของมันนั้นมีประกายสายฟ้าสีขาวปลดปล่อยออกมาอยู่ตลอดเวลาแต่
ถึงอย่างนั้นทั่วร่างของมันกลับถูกโยงยึดเอาไว้ด้วยเปลวเพลิงสีดาของ
หลินหมิง
หลินหมิงมีความมั่นใจว่าเจ้าพยัคฆ์ขาวที่เขาได้รับนี้มันต้อง
เกี่ยวเนื่องกับเจ้าพลังงานสายฟ้าประหลาดแท้จริงแล้วมันอาจเป็น
เจ้าของพลังของเจ้าสายฟ้าประหลาดก็เป็นได้ หลินหมิงไม่มีทางคิดว่า
เจ้าพยัคฆ์ขาวตนนี้อ่อนแอ่อย่างแน่นอนทักษะของเขาส่วนหนึ่งที่ได้รับ
นั้นล้วนไม่อาจปฎิเสธได้ว่าเขาได้รับพลังมาจากมันส่วนหนึ่งดังนั้นแล้ว
หลินหมิงจึงสามารถตระหนักได้ถึงพลังงานสายฟ้าอันบริสุทธ์ที่เขา
ได้รับเป็นอย่างดี
สาหรับการใช้สัตว์วิญญาณอย่างเช่นผู้อาวุโสซูหลิ่งที่มีฟินิกส์
เป็นสัตว์วิญญาณหรือผู้อาวุโสเป่ยที่มีหมีโลหิตพวกเขาจาเป็นที่จะต้อง
พูดคุยและทาความเข้าใจกับสัตว์วิญญาณของตนเป็นอย่างดีเพื่อดึง
พลังของพวกมันออกมาใช้ แต่ถึงอย่างนั้นมันเป็นไปได้หรือไม่ว่า
ในตอนนี้เขาจะสามารถพูดกล่าวกับพยัคฆ์ขาวตนนี้ได้โดยไร้ซึ่งปัญหา
?
หลินหมิงกลับออกมาจากภายในจิตของเขาด้วยท่าทีผิดหวัง
เล็กน้อยไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้ากับ
พยัคฆ์ขาวแต่เมื่อเขาส่งเสียงเรียกมันไปแล้วกลับกลายเป็นว่ามันราว
กับเป็นสัตว์หูหนวกหรือไม่ก็เพียงเพราะมันขี้เกียจจนเกินกว่าจะตื่นได้
ดังนั้นหลินหมิงคงต้องรอคอยในโอกาสหน้า
หลินหมิงหอมฟอดใหญ่เข้าไปที่ทั่วใบหน้าของหมิงเยี่ยนที่
กาลังหลับไหลหากนางยังคงมีสติอยู่แล้วละก็นางคงดิ้นพล่านพร้อมกับ
กล่าวด่าท่อหลินหมิงไปแล้ว หลินหมิงลุกขึ้นพร้อมกับทาความสะอาด
ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วนั้นก็เพราะว่าในวันนี้เขาได้รับจดหมาย
จากพ่อตาของเขาหลิวจงเทียน
อันที่จริงแล้วตั้งแต่ตอนหลังจากจบศึกที่สานักวังจันทราหลินห
มิงยังคงไม่ได้พูดกล่าวอันใดกับหลิวจงเทียนเลยแม้แต่น้อยเป็นไปได้ว่า
ในตอนนี้เขาอาจกาลังกังวลเกี่ยวกับแม่สาวตัวน้อยหลิวฉวนยูร์
บุตรสาวของเขา มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ในก่อนหน้านี้นั้นหลินหมิง
ได้รับบาดเจ็บจากศึกและพอหลินหมิงกลับมายังเมืองฟานซูก็ต้อง
เตรียมพร้อมเข้าสารวจอาณาเขตโบราณนั้นจึงเป็นเหตุให้หลิวจงเทียน
ไม่อยากให้หลินหมิงเสียสมาธิก่อนที่เขาจะจัดการเรื่องราวส่วนตัวเสร็จ
สิ้น
เมื่อหลินหมิงออกมายังหน้าสมาคมโดยไม่รู้แต่เมื่อใดผู้อาวุโส
เหยียนฉือพร้อมกับผู้อาวุโสอีกสามคนปรากฎตัวตรงหน้าหลินหมิง
พร้อมกับจ้องมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาเคารพ หากไม่ติดว่าหลินห
มิงในตอนนี้ยังคงมีอายุน้อยจนเกินไปพวกเขาอาจทาความเคารพ
หลินหมิงไปแล้วก็เป็นไปได้
" คุณชายหลิน..ท่านต้องการออกไปข้างนอกใช่หรือไม่..หาก
ท่านไม่รังเกียจข้าขอติดตามท่านไปด้วยได้หรือไม่ "
หลินหมิงมองไปที่ผู้อาวุโสเหยียนฉือที่มีสีหน้ากังวลในตอนนี้
เขาไม่อาจปล่อยให้หลินหมิงหลุดรอดสายตาเขาไปได้ดั่งเช่นในคราแรก
อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถที่จะติดตามหลินหมิงไปได้โดย
สร้างความราคาญให้กับหลินหมิงเช่นเดียวกัน
" อืม...ย่อมได้แต่ข้าคิดว่าเพียงแค่ท่านเพียงคนเดียวก็เพียงพอ
แล้ว "
ผู้อาวุโสเหยียนฉือพยักหน้าให้กับผู้อาวุโสอีกสามคนที่เหลือที่มี
สีหน้าผิดหวังขึ้นมาในทันที ใครบ้างท่ัในตอนนี้จะไม่อยากได้โอกาสทา
ความรู้จักกับหลินหมิง

ตอนที่ 242
หลินหมิงและผู้อาวุโสเหยียนฉือเดินทางไปยังตระกูลหลิว
ท่ามกลางสายตาของผู้คนรอบข้างอันที่จริงแล้วลาพังเพียงสถานะของ
ัผูอาวุโสหลิวที่เป็นองครักษ์ขององค์ชายจิ้งชวนและยังคงเป็น
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขั้นกลางด้วยสถานะเพียงเท่านี้มันเพียง
พอที่จะทาให้ผู้คนเต็มไปด้วยความเคารพแต่นั้นย่อมเป็นใน
สถานการณ์ปกติที่เขาไม่ได้เดินข้างเด็กหนุ่มข้างกายของเขาในตอนนี้
สายตาส่วนใหญ่ของผู้คนนั้นล้วนจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วย
สายตาหลากหลายอารมณ์มันเป็นความจริงที่ว่าในตอนนี้แม้ว่าจะยังคง
ไม่มีการประลองใดๆเกิดขึ้นแต่ชื่อของหลินหมิงนั้นได้ขึ้นแท่นไปอยู่ใน
อันดับหนึ่งของรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพมากที่สุดของอาณาจักรแล้วอย่าง
ไม่ต้องสงสัย กระทั่งแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่ในอดีตก็ยังคงไม่มีความสาเร็จมาก
ถึงเพียงนี้
เมื่อหลินหมิงมาถึงที่หน้าทางเข้าตระกูลหลิวมีคนรับใช้จานวน
มากกระทั่งยังมีผู้อาวุโสระดับสูงหลายคนของตระกูลหลิวด้วย
เช่นเดียวกันทีอ่ อกมาต้อนรับเขา
หากเป็นในอดีตก่อนหน้านี้ที่หลินหมิงเพิ่งได้เข้าเป็นศิษย์ของ
อาจารย์สาวสวยของเขา ผู้อาวุโสเหล่านี้คงพยายามขว้างกั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและแม่สาวตัวน้อยหลิวฉวนยูร์ทุกวิธีทาง
อย่างไม่ต้องสงสัย หลินหมิงไม่ได้สนใจท่าทีของเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย
ที่เต็มไปด้วยความเคารพเพียงแค่เขามองที่ดวงตาของผู้คนเหล่านี้
หลินหมิงสามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้อาวุโสเหล่านี้คิดไว้ได้ไม่มากก็น้อย
มันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ทางตระกูลหลิวจะได้รับรู้ถึงเรื่อง
ผลลัพธ์จากการเข้าสารวจอาณาเขตโบราณ ดังนั้นแล้วในตอนนี้จะ
ยังคงมีใครบ้างที่ไม่ยินดีผูกมิตรกับสมาคมนักปรุงยา เป็นที่รู้กันดีว่า
ประมุขของสมาคมนักปรุงยาจูหนิงเอ๋อร์นั้นนางให้ความสาคัญกับศิษย์
ของนางคนนี้มากเพียงใด ดังนั้นแล้วแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเสื่อมเสียสัก
เล็กน้อยที่พวกเขาเหล่าผู้อาวุโสจะต้องยอมแสดงความเคารพต่อรุ่น
เยาว์เช่นนี้แต่มันไม่อาจนับได้ว่าเสียหายได้มากเท่ากับผลลัพธ์ที่พวก
เขาอาจได้รับในอนาคต
" เชิญคุณชาย และผู้อาวุโสทางนี้เจ้าคะ "
สาวใช้คนหนึ่งออกมานาทางหลินหมิงในทันทีโดยไม่รอช้า นี้
ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินหมิงได้เข้ามาที่ตระกูลหลิวแห่งนี้ แต่นี้เป็นครั้งแรก
ที่หลินหมิงได้พบเห็นผู้คนภายในตระกูลหลิวมากมายถึงเพียงนี้ กระทั่ง
เหล่าผู้อาวุโสที่ออกมาต้อนรับก่อนหน้านี้มีหลายคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ระดับจอมยุทธ์ระดับปลายแล้ว ไม่น่าแปลกใจหากพวกเขาจะต้องการ
ผลของเม็ดยาที่ได้รับจากการสารวจเพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์
แต่ว่าก่อนที่หลินหมิงจะเดินตามสาวใช้ไปผู้อาวุโสเหยียนฉือรู้ดี
ว่าเขาไม่สมควรแทรกแทรงการพูดกล่าวส่วนตัวของหลินหมิงและ
ประมุขตระกูลหลิวอย่างไรเสียเป้าหมายของเขามีเพียงต้องการทราบ
ว่าหลินหมิงนั้นไปยังสถานที่แห่งใดบ้างและสร้างความสัมพันธ์ทีละ
น้อยกับหลินหมิงเพียงเท่านี้ ผู้อาวุโสเหยียนฉือกล่าวลากับหลินหมิ
งไปอย่างว่าง่ายมันไม่คงไม่ดีนักหากเขายังคงตามติดกับหลินหมิงเช่นนี้
ไปตลอดมันอาจกลายเป็นว่าเขาจะสร้างความราคาญให้กับหลินหมิง
เสียมากกว่า
ที่ภายในห้องโถงของตระกูลหลิวสาวใช้ที่นาทางมาโค้งก้มลง
เคารพร่างของหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีที่กาลังนั่งรอหลินหมิงอยู่ภายในทั้ง
สองคนนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิวจงเทียนและหย่าเฟย เมื่อเห็น
หลินหมิงปรากฎตัวขึ้นหลิวจงเทียนแทบจะไม่สามารถข่มกลั้นอารมณ์
ความปิติของเขาเอาไว้
" คาระวะประมุขหลิว "
" ฮ่าๆ กล่าวอะไรเช่นนั้นไม่ใช่ว่าเจ้าสมควรเรียกข้าว่าพ่อตา
เช่นนั้นรึ "
เทียบกับความรู้สึกในคร่าวแรกที่หลินหมิงได้พบกับหลิวจง
เทียนนั้นในตอนนั้นเขารู้สึกได้เลยว่าบรรยากาศโดยรอบนั้นถูกกดดัน
จนเขาแทบจะไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ในตอนนี้มันไม่ต่างอะไร
ไปจากการที่เขาพูดคุยกับผู้คนทั่วไป
" ข้าต้องกล่าวขอโทษท่านจริงๆที่ก่อนหน้านี้ข้ายังคงไม่ได้
อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดภายในมิติเล้นลับ "
" ไม่เป็นไร ขอแค่เพียงข้าได้รู้ว่าบุตรสาวของข้ายังคงมีชีวิตอยู่
อย่างปลอดภัยนั้นก็เพียงพอแล้ว "
บนโต๊ะนั้นหย่ารินสุราที่มีอายุมากกว่าสิบปีให้กับหลินหมิงอ
ย่างไม่มีความเสียดายแต่อย่างใด แน่นอนว่านางเองก็ย่อมอยากจะรู้
เรื่องราวของบุตรสาวของนางด้วยเช่นเดียวกันแม้ว่านางจะรู้ว่า
ในตอนนี้หลิวฉวนยูร์นั้นจะยังคงปลอดภัยแต่นางย่อมต้องการอยากรู้
รานละเอียดที่มากกว่านั้น
ทั้งหลิวจงเทียนและหย่าเฟยนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าบุตรสาว
ของพวกเขานั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่
มีทางที่จะเพียงพอได้รับการยอมรับจากตัวตนระดับโบราณภายในมิติ
เล้นลับอย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นเพราะการส่งเสริมจากลูกเขย
อัจฉริยะของพวกเขา แทบจะไม่มีใครไม่รู้ถึงความสามารถของหลินห
มิงที่สามารถพัฒนาเหล่าผู้คนใกล้ชิดของเขาได้ในก่อนหน้านี้นั้นคุณหนู
ตระกูลเหยียน จิวหลินนั้นเป็นเพียงหญิงสาวที่มีความสามารถระดับ
ธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางได้เป็นสตรี
ข้างกายของหลินหมิงเพียงไม่กี่เดือนความสามารถของนางที่แสดง
ออกมานั้นกลับน่าตื่นตะลึงไปทั่ว
หลินหมิงเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับหลิวจงเทียนและ
หย่าเฟยฟังโดยขณะที่หย่าเฟยนางยังคงรู้สึกแปลกๆทุกครั้งในยามที่
หลินหมิงหันมาสบตากับนาง อันที่จริงแล้วมันทาให้นางหวนนึกถึงภาพ
ความหลังที่นางและหลินหมิงได้ร่วมสอดประสานบรรเลงเพลงรักกัน
อย่างเร่าร้อนสามวันเต็ม
" อืม..ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้..เวลา 1 ปี สาหรับการบ่มเพาะนั้นไม่
อาจนับได้ว่านานจนเกินไป "
หลังจากที่หลิวจงเทียนและหย่าเฟยได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด
พวกเขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจอันที่จริงแล้วพวกเขาได้รับความเข้าใจ
ใหม่ในการสนทนากับหลินหมิงในครั้งนี้ด้วยนั้นก็คือการทะลวงเข้าสู่
ระดับที่เหนือกว่าระดับปราญช์หรือก็คือระดับองครักษ์นั้นจะช่วย
เพิ่มพูนอายุขัยได้ ทันใดนั้นรงหน้าของพวกเขาหลินหมิงพลันนาเม็ดยา
เบิกฟ้าหรือเม็ดยาที่พบจากนักรบโบราณออกมาหนึ่งเม็ด
ดวงตาของหลิวจงเทียนเบิกออกเล็กน้อยด้วยความตกใจ
ในตอนนี้เขาได้รู้ถึงความยอดเยี่ยมของผลลัพธ์จากเม็ดยาเบิกฟ้านี้เป็น
อย่างนี้เพียงแค่พลังงานบริสุทธ์ที่ปลดปล่อยออกมานั้นก็มีพลังงานมาก
ล้นมากกว่าเม็ดยาระดับสูงทั่วไปเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าก่อนหน้านี้
ทางตระกูลหลิวได้รับเม็ดยาเป็นส่วนแบ่งมาจานวนห้าเม็ดด้วยกัน
ทั้งสิ้นแต่มีหรือที่พวกเขาจะกล้านาเม็ดยาเหล่านั้นไปใช้โดยในทันที
พวกเขาตัดสินใจที่จะมอบเม็ดยาเหล่านี้ให้กับรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพมาก
ที่สุดของตระกูลหลิวหรือก็คือหลิวฉวนยูร์ในยามที่นางกลับมา
" ท่านพ่อตาเม็ดยานี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ท่านเข้าสู่ระดับ
องครักษ์ได้มากขึ้น "
" ไม่ๆ...เจ้าสมควรเก็บเม็ดยานี้ไว้ใช้กับตัวเจ้าเองด้วยศักยภาพ
ของข้าในตอนนี้ข้ารู้ดีว่ามันแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากเม็ดยาเบิก
ฟ้ามันก็ยังคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ "
" ด้วยทักษะบ่มเพาะของข้านั้นเม็ดยาเหล่านี้ล้วนไม่ส่งผลอัน
ใดกับระดับพลังของข้ามากนัก และแม้ว่าพวกท่านจะหวังเก็บเม็ดยา
เหล่านี้เอาไว้เพื่อฉวนยูร์เพื่อให้นางทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ได้ แต่
พวกท่านจะคิดว่านางจะรู้สึกเช่นใดหากได้เห็นพวกท่านตายจากไป
สาหรับฉวนยูร์นั้นข้าสัญญาว่าข้าจะส่งเสริมให้นางพัฒนาจนเข้าสู่
ระดับองครักษ์ได้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วสิ่งที่พวกท่านสมควรเป็น
กังวลในตอนนี้คือการบ่มเพาะของพวกท่านทั้งสอง "
หลิวจงเทียนและหย่าเฟยตกตะลึงกับคากล่าวของหลินหมิง
พวกเขาไม่ได้คาดคิดไปถึงในอนาคตหากบุตรสาวของพวกเขาต้องให้
พวกเขาตายไปจากในขณะที่นางมีอายุยืนยาวจากการก้าวเข้าสู่ระดับ
องครักษ์ ไม่ใช่ว่าในอนาคตนางอาจต้องเป็นทุกข์จากการที่พวกเขาทั้ง
สองไม่ได้ยินยอมให้สมบัติเหล่าัเพื
นี้ ่อยกให้แก่นาง ?
" ยอดเยี่ยม ! นับว่ายูร์เอ๋อร์นั้นมองคนไม่ผิดจริงๆ แม้ว่าข้าจะ
ไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ได้ในอนาคตต่อจากนี้แต่ข้าก็คง
ไม่ต้องเป็นกังวลในสิ่งใด "
หลิวจงเทียนรับเม็ดยาเบิกฟ้าพร้อมกับดวงตาของเขาที่ปรากฎ
แววตารุ่มร้อนไปด้วยความปราถนาที่จะพัฒนาตนดั่งเช่นวัยหนุ่มสาว
" ฮึ่ม ! เช่นนั้นข้าคงไม่อาจรอช้าได้ เจ้าลูกเขยเจ้าในตอนนี้เจ้า
สามารถเข้าออกไปตระกูลหลิวได้โดยตามใจชอบโดยนับได้ว่าเป็นบ้าน
ของเจ้า "
หลิวจงเทียนรีบจากไปเพื่อเก็บตัวเข้าบ่มเพาะพลังด้วยความ
มุ่งมั่นที่จะเห็นอนาคตของบุตรสาวและอนาคตของตระกูลหลิว ! มัน
จึงทาให้ในตอนนี้ภายในห้องโถงนั้นเหลือเพียงหย่าเฟยและหลินหมิ
งเพียงสองคนเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 243
หย่าเฟยนางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วย
ความรู้สึกแปลกประหลาด จนกระทั่งในตอนนี้นางก็ยังคงกระวน
กระวายใจในยามที่ต้องพบกับหลินหมิง โดยไม่ต้องพูดถึงในยามนี้ที่
นางต้องอยู่กับหลินหมิงเพียงสองคน นางหวนนึกไปถึงการกระทาของ
นางก่อนหน้านี้ที่โผเข้ากอดหลินหมิงในยามที่เข้าออกมาจากอาณาเขต
ลึกลับใบหน้าของนางหลบไปเล็กน้อยเพื่อไม่เห็นหลินหมิงได้เห็นสีหน้า
ของนางที่ไม่รู้ว่าในตอนนี้กาลังแสดงอารมณ์เช่นใด
เมื่อได้โอกาสอยู่เพียงกันตามลาพังหลินหมิงเคลื่อนไหวกายเข้า
หาแม่ยายแสนสวของเขาอย่างเชื่องช้า แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์อย่างนางจะไม่รู้ตัว ในตอนนี้หัวใจของหย่า
เฟยสั่นไหวไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอันแปลกรประหลาด
ทันใดนั้นหย่าเฟยข่มตาลงแน่นหลังจากที่นางสัมผัสได้ว่า
ใบหน้าของหลินหมิงในตอนนี้นั้นเคลื่อนเข้ามาอยู่ข้างหูนางแล้ว
ใบหน้าของนางแดงระเรื่อไปด้วยความขวยเขินห่างเป็นตัวนางในอดีต
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการกระทาของหลินหมิงเช่นนี้แค่เพียงโอกาสอยู่กับ
หลินหมิงเพียงสองต่อสองนั้นมันยังคงเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีโอกาสนั้น
แต่ในยามนี้แม้นางจะรู้ดีจากสายตาของหลินหมิงที่จ้องชาเลืองมองมา
ที่นางตลอดเวลาที่คุยกันก่อนหน้านี้
แต่ถึงอย่างนั้นใจใจของนางกลับไม่มีความรู้สึกปฎิเสธแต่อย่าง
ใด เสียงลมหายใจของหลินหมิงที่รดต้นหูของนางทาให้ร่างกายของ
นางสั่นเทาไปเล็กน้อย มือของนางกาไปที่ขอบเสื้อผ้าแน่นพร้อมกับริม
ฝีปากของนางที่ขบกันจนแดงก่า
" แล้วท่านไม่สนใจการทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์เช่นนั้นรึ ? "
" อา.. "
หย่าเฟยนางเผลอส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อยในยามที่เสียง
ของหลินหมิงดังขึ้นที่ข้างหูอันที่จริงแล้วกว่าที่สมองของนางจะพลัน
รู้สึกตัวได้นั้นก็กินเวลาไปหลายลมหายใจ ในตอนแรกนางคาดคิดว่า
หลินหมิงอาจจะลงมือจู่โจมหรืออาจเล้าโลมนางแต่กลับกลายเป็นว่า
เขาเป็นกังวลในเรื่องที่นางจะไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ได้
? แน่นอนแม้ว่าในตอนนี้นางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นหากเทียบกับผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์คนอื่น
อย่างจูหนิงเอ๋อร์ สามีของนางหลิวจงเทียน พวกเขาทั้งสองนี้ย่อมมี
ความเป็นไปได้ที่จะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ได้หากสมาคม
นักปรุงยาประสบความสาเร็จในการปรุงเม็ดยาเบิกฟ้าได้เช่นเดียวกัน
กับผู้อาวุโสฉินเหยาและผู้อาวุโสฟางซิ่นแม้ว่าทั้งสองในตอนนี้จะเป็น
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขั้นที่สามแต่พวกนางยังคงมีโอกาสที่จะ
ทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ได้อาจไม่น้อยไปกว่าจูหนิงเอ๋อร์และสามี
ของนางเลยเสียด้วยซ้า
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเพราะพวกนางทั้งสองมีพรสวรรค์หรือ
ศักยภาพที่มากกว่าแต่มันเป็นเพราะการสนับสนุนของหลินหมิงต่าง
หาก ! เทียบกับนางแล้วหนทางที่นางจะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับองค์
รักษ์นั้นย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยเสียด้วยซ้านางกระทั่งมี
พรสวรรค์ที่น้อยกว่าจูหนิงเอ๋อร์และสามีของนาง
มือของหลินหมิงที่เอื้อมมือมาจากด้านหลังเข้ากุมมือของนางที่
ในตอนนี้กาลังสั่นเทา นางพลันได้รับความรู้สึกอบอุ่นจากบริเวณฝ่ามือ
และสัมผัสสิ่งของที่อยู่ภายในมือของหลินหมิงในตอนนี้นางก้มลงพร้อม
กับจ้องมองไปที่มือของนางหลังจากที่มือของหลินหมิงแยกจากออกไป
ดวงตาของนางเบิกกว้างไปด้วยความตกใจ
" นี้มัน... "
ในมือของนางนั้นคือเม็ดยาเบิกฟ้าจานวนทั้งหมดสามเม็ด
ด้วยกัน ! ลาพังเพียงแค่เม็ดยาเบิกฟ้าเพียงเม็ดเดียวนั้นหากเปิดเผยสู่
ผูค้ นภายนอกเป็นไปได้ว่าราคาของมันอาจพุ่งสูงถึงหลายร้อยล้าน
เหรียญ ในขณะที่รายได้ของผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่ที่มีระดับก่อเกิดนั้นจะมี
รายได้ต่อเดือนเพียงไม่เกินห้าพันเหรียญ จานวนเงินร้อยล้านเหรียญ
เช่นนี้แม้แต่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินหรือตระกูลหลิวก็ยังนับว่า
เป็นจานวนเงินที่มากไม่ใช่น้อย
ในตอนแรกที่นางได้เห็นยื่นเม็ดยาเบิกฟ้าให้กับสามีของนางนั้น
ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออยู่แล้ว แต่ในตอนนี้หลินหมิงกลับนาเม็ดยาเบิก
ฟ้าจานวนมากถึงสามเม็ดให้แก่นางอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
" ไม่..ข้ารับไว้ไม่ได้ "
" หากท่านไม่รับเอาไว้ข้าจะโยนพวกมันทิ้ง "
หย่าเฟยไม่อาจหาคากล่าวใดออกมาได้มันมีวิธีการบีบบังคับให้
ผู้คนรับสมบัติเช่นนี้ด้วยหรือ ? ดวงตาของหย่าเฟยที่ในตอนนี้หัน
กลับมาจ้องดวงตาของหลินหมิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอาญหาญในใจ
ของนางรู้สึกสั่นไหวกับการกระทาของหลินหมิง แม้ว่ามันอาจเป็นไปได้
ว่าเขาอาจใช้เม็ดยาเหล่านี้เพื่อหาโอกาสเข้าหานางอีกครั้งแต่ถึงอย่าง
นั้นมันจะมีบุรุษโง่งมคนใดบ้างที่ยอมเสียสละสมบัติล้าค่าเช่นนี้เพียง
เพื่อสตรีเพียงคนเดียว ?
มือของหลินหมิงเอื้อมขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของหยาเฟยที่
ในตอนนี้แดงซ่านจนไม่อาจห้ามอยู่แม้ว่าในยามนี้นางจะอยากหันหน้า
หลบหลินหมิงมากเพียงใดแต่นางไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าของ
หลินหมิงอันน่าหลงไหลได้ในยามนี้ มือของหลินหมิงที่สัมผัสที่ใบหน้า
ของนางนั้นทาให้ร่างกายของนางรู้สึกร้อนรุ่มไปด้วยความอารมณ์
แปลกประหลาด
" อาา ♥ "
หย่าส่งเสียงครางออกมาด้วยความพึงพอใจ เมื่อแย้มยิ้มพร้อม
กับมองไปยังใบหน้าของหย่าเฟยและท่าทีของนางในยามนี้ มันไม่น่า
แปลกใจเลยที่นางนั้นเป็นมารดาของแม่สาวตัวน้อยของเขาหลิวฉวนยูร์
กล่าวได้ว่าเมื่อยามที่หลิวฉวนยูร์เติบโตขึ้นมานั้นนางคงมีความงดงาม
ไม่น้อยไปกว่าหย่าเฟยและพวกนางทั้งสองยังนับได้ว่ามีนิสัยที่
คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก
หลินหมิงก้มลงประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากเรียวงามของหย่า
เฟยดวงตาของนางหลับพริ้มลงเพื่อลิ้มรสชาติความสุขที่กาลังเกิดขึ้น
ในตอนนี้นางไม่สนใจว่าสิ่งใดถูกหรือผิดอีกต่อไป มันอาจเป็นไปได้ว่า
ตั้งแต่ที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิงในครั้งนั้นหัวใจของนางได้กลายเป็น
ของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มือทั้งสองข้างของนางรวบไปที่ต้นคอ
ของหลินหมิงพร้อมกับลิ้นของนางที่เริ่มตอบรับลิ้นของหลินหมิงที่
กาลังผัวพันกันอยู่ภายในปากของนาง
" อาา... "
หลินหมิงถอนริมฝีปากของเขาออกมาในเวลาไม่นานเมื่อเขา
พบว่าในยามนี้หย่าเฟยนางกาลังหอบหายใจหนัก แม้ว่านางจะมีอายุที่
ใกล้เคียงกับผู้อาวุโสสาวทั้งหลายของเขาและนางยังคงกระทั่งมีสามี
แล้วแต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่านางไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเช่นนี้
เลยแม้แต่น้อยเทียบกันแล้วนางยังคงด้อยกว่าบุตรสาวของนางเสียด้วย
ซ้า
หย่าเฟยนางหอบหายใจพร้อมกับข่มกลั้นอารมณ์ความสุขที่
กาลังเกิดขึ้นในใจไม่ให้ระเบิดออกมาอย่างยากลาบากในมือของนาง
ในตอนนี้กาเม็ดยาเบิกฟ้าทั้งสามเม็ดด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย
แม้ว่าต่อจากนี้นางอาจจะไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับองครักษ์ได้แต่
ขอเพียงแค่นางได้รับความสุขเล็กน้อยจากหลินหมิงในบางคร่าวเพียง
เท่านี้นางก็นับว่าพึงพอใจแล้ว
" ไม่ต้องกังวลข้าไม่ยอมให้ท่านจากข้าไปโดยง่ายอย่างแน่นอน
!"
หลินหมิงที่กล่าวพร้อมกับเข้าไซร้ซอกคอของนางอย่างเร่าร้อน
โดยที่ไม่ทันที่หย่าเฟยนางจะได้เตรียมตัวแต่อย่างใดร่างของนางและ
หลินหมิงลุกขึ้นพร้อมกับกอดรัดกันอย่างแนนแน่น มือของนางเข้าโอบ
กอดแผ่นหลังของหลินหมิงเอาไว้อย่างไม่มีความรู้สึกว่าจะแยกจาก
แตกต่างจากมือของหลินหมิงที่เคลื่อนไหวไปอย่างซุกซนตามร่างของ
นาง
ชายเสื้อของนางถูกถลกขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับมือของหลินหมิง
ที่เริ่มเคลื่อนไหวเข้าไปยังภายในเสื้อผ้าของนาง สัมผัสมือของหลินหมิง
ที่เคลื่อนไหวไปตามร่างกายของนางแทบจะทาให้ร่ายกายของนาง
หลอมละลายไปด้วยความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นข้างทั้งสองข้างของนางยืน
บิดเป็นเกลียวคู่อย่างยากลาบากหากไม่ใช่ว่าในยามนี้นางอาศัยร่างของ
หลินหมิงพิงกายเอาไว้อยู่ด้วยแล้วอาจเป็นไปได้ว่าร่างกายของนางนั้น
คงล้มพบไปด้วยความเหนื่อยอ่อนไปแล้ว
" อ้าาา ♥ "
ร่างของหย่าเฟยถูกผลักเข้ากับผนังกาแพงของห้องโถงโดยมี
ร่างของหลินหมิงกดทับเอาไว้ใบหน้าของทั้งสองนั้นยังคงห่างกันใน
ระยะที่เรียกว่าแทบจะสัมผัสกันอยู่แล้ว
" ซี๊ดดดด ♥ "
เสียงครางกระเส้าของหย่าเฟยดังออกมาจากปากขอนางใน
ยามที่มือของหลินหมิงในล้วงเข้าไปในบริเวณจุดซ่อนลับพร้อมกับเขี่ย
มันเล่นอย่างเพลิดเพลิน
" อืม้ มมมม ♥ "
ริมฝีปากของทั้งสองเริ่มบดเข้าหากันอีกครั้งอย่างเร่าร้อนใน
คร่าวนี้หย่าเฟยนางเริ่มสามารถตามจังหวะการเคลื่อนไหวของหลินห
มิงได้ดีขึ้นเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงไม่สามารถควบคุมร่างกาย
ได้อย่างปกติเช่นเคยเมื่อในยามนี้ร่องสวาทของนางกาลังถูกกระตุ้นโดย
นิ้วมือของหลินหมิงที่กาลังแหย่เข้าไปในโพร่งร่องสวาทของนางแล้ว
" ขะ..ข้าจะไม่..ไหวแล้ว อร้าาาางง ♥ "
น้ารักของหย่าเฟยระเบิดออกมาระหว่างขาทั้งสองข้างของนาง
พร้อมกับลมหายใจอันหนักหน่วงของนาง หลินหมิงเริ่มดาเนินการ
ต่อไปมือของเขาเข้าเอื้อมไปหมายจะปลดเสื้อผ้าของแม่ยายสาวสวย
ของเขาแต่ถึงอย่างนั้นหย่าเฟยนางกลับดึงมือของหลินหมิงเอาไว้
เสียก่อน หรือว่านางคิดจะหยุดหลังจากที่เขาลงมือมาถึงเพียงนี้ ?
หากเป็นเช่นนั้นหลินหมิงคงอาจต้องรีบกลับไปยังตาหนักพร้อมกับ
ระบายอารมณ์อันรุนแรงที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้กับหมิงเยี่ยนหรือไม่ก็
ผู้อาวุโสสาวสวยของเขา
" ชะ..ช้าก่อน ข้าว่าพวกเราสมควรย้ายสถานที่กันก่อน "
ตอนที่ 244
ดวงตาสดใสของหย่าเฟยจ้องมองไปที่หลินหมิงอย่างหลงไหล
แม้ว่าภายในห้องโถงในตอนนี้จะไม่มีผู้ใดอื่นนอกจากนางและหลินหมิง
แต่สถานที่เช่นนี้ใช่ว่าจะไม่มีใครเข้ามาหรือกระทั่งพวกเขาอาจผ่าน
มาแล้วได้ยินเสียงอันน่าสงสัยระหว่างกระบวนการร่วมรักของนางและ
หลินหมิงก็เป็นได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแม้แต่นางเองก็ยังคงไม่สามารถหา
คาตอบได้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นกับนางและหลินหมิง
ที่สาคัญที่สุดก็คือนางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีแม่ยายคนใดที่มี
ความรู้สึกเช่นนี้กับบุตรเขยของตนเอง แน่นอนว่านางไม่ได้คิดที่จะแยก
จากจากสามีของนางหลิวจงเทียนอย่างไรเสียนางและเขาก็มี
ประสบการณ์ร่วมผ่านกันมาอย่างยาวนานสิ่งที่นางต้องการนั้นมีเพียง
การได้รับอารมณ์ร้อนแรงจากหลินหมิงเพียงครั้งคร่างเพียงเท่านั้น
ร่างของหลินหมิงและหย่าเฟยเดินเคียงข้างกันออกมาจากห้อง
โถงท่ามกลางสายตาของผู้คนในตระกูลหลิว หากพวกเขาสังเกตให้ดีใน
ยามนี้พวกเขาจะสามารถพบเห็นใบหน้าของนายหญิงของพวกเขาที่
แปรเปลีย่ นไปโดยสิ้นเชิง หย่าเฟยนางไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความ
ตื่นเต้นเอาไว้ได้เมื่อครู่นี้นางและหลินหมิงเพิ่งตัดสินใจที่จะทาสิ่งที่เกิน
เลยกันลงไป และในตอนนี้ผู้คนที่กาลังมองมาที่นางนั้นมันทาให้นาง
รู้สึกประหม่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาจะสามารถคาดเดา
ความสัมพันธ์ของนางและหลินหมิงออก ?
ร่างของหย่าเฟยกระสับกระส่ายด้วยความกังวล แต่ถึงอย่าง
นั้นความกังวลของนางนั้นนับเป็นสิ่งไร้ค่าไปโดยสิ้นเชิงในสายตาของ
ผู้คนในตระกูลหลิวแล้วนั้นพวกเขาไม่มีใครคาดเดาหรือจินตนาการถึง
ความสัมพันธ์ระหว่างหลินหมิงและหย่าเฟยเลยแม้แต่น้อยจริงอยู่ที่ว่า
นายหญิงของพวกเขานั้นมีความงดงามที่เกินกว่าคาบรรยายแต่ถึง
อย่างนั้นเทียบกับหญิงสาวข้างกายของหลินหมิงแต่ละคนแล้วนั้นนาง
ยังคงเป็นรองเรื่องความเยาว์วัยอยู่มากไม่เพียงเท่านั้นพวกเขาล้วนรู้ดี
ว่านิสัยของนายหญิงของพวกเขาเป็นเช่นใด !
ในอดีตที่นายน้อยหญิงของพวกเขาหลิวฉวนยูร์มีท่าทีต่อต้าน
บุรุษอย่างมากมายโดยไม่สนว่าคนผู้นั้นจะมาจากขุมอานาจใดนั้นเป็น
เพราะว่านางได้รับแม่แบบอย่างดีเยี่ยมจากมารดาของนาง !
ใช้เวลาเพียงไม่นานหย่าเฟยและหลินหมิงพวกนางทั้งสองได้
เดินมาถึงที่ตานักของนาง แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดสงสัยกับการเข้าออกตา
นักของหย่าเฟยและหลินหมิง ก่อนหน้านี้เป็นัรู ที่ ้กันดีว่าเป็นเพราะ
หลินหมิงนั้นจึงทาให้นายหญิงของพวกเขาหายจากอาการเจ็บป่วยที่
แพทย์ชั้นยอดก็ยังอับจนปัญญา อีกทั้งในก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งออก
ไสารวจอาณาเขตโบราณด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายหญิงของ
พวกเขาและหลินหมิงจะมีเรื่องที่ต้องพูดกล่าวกันบ้าง
หย่าเฟยนางทิ้งตัวอย่างหมดแรงลงบนเตียงอย่างอ่อนล้าใคร
จะรู้บ้างกันว่านางต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดในการก้าวเดินแต่
ละก้าวที่เต็มไปด้วยความกังวล หลินหมิงไม่ได้รีรอแต่อย่างใดใน
เมื่อก่อนหน้านี้อารมณ์ของเขาได้ถูกจุดขึ้นมาอย่างร้อนแรงแล้ว ร่าง
ของหลินหมิงขึ้นคร่อมร่างของหย่าเฟยที่กาลังนอนหอบอยู่บนเตียง
" แม่สาวน้อยเจ้ากับตื่นเต้นถึงเพียงนี้ ! "
หย่าเฟยอับอายกับคากล่าวของหลินหมิงเมื่อในยามที่มือของ
หลินหมิงได้เริ่มลงมือลูบไล้ไปที่ต้ขาเรียวงามของนางเพียงสัมผัสมือ
ของหลินหมิงในครั้งแรกมันก็เพียงพอที่จะทาให้ร่างกายของนางสั่น
ไหวพร้อมกับขาของนางที่บิดเป็นเกลี้ยวเพื่อพยายามข่มกั้นอารมณ์
" อ้าาาา ♥ "
หลินหมิงเปลี่ยนรูปแบบการลูบไล้จากปลายนิ้วเป็นปลายเล็บ
แผ่วเบาที่เขากรีดผิวเนียนนุ่มที่ไหวต่อสัมผัสบริเวณต้นขาของหย่าเฟย
พร้อมกับไล่ขึ้นไปจนกระทั่งเข้าใกล้ไปยังบริเวณสามเหลี่ยมลับของ
หญิงสาว เสียงครางของหย่าเฟยดังออกมาอย่างไม่มีทางข่มกลั้นได้
แม้ว่านางจะรู้ดีว่าการร่วมรักของหลินหมิงนั้นแปลกพิศดารกว่าบุรุษ
ทั่วไปจากประสบการณ์ในครั้งแรกที่นางได้เคยร่วมรักกับหลินหมิงถึง
สามวันเต็ม แต่ถึงอย่างนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่นางจะสามารถทาความเคยชิน
ได้
" ขะ..ข้าเสียว..จนจะบ้าตายอยู่แล้ว..จะ..เจ้ายังไม่ลงมืออีก
เช่นนั้นรึ ? "
หย่าเฟยนางไม่เคยคาดคิดว่านางจะต้องกล่วคาเช่นนี้ออกมา
ต่อบุรุษกระทั่งสามีของนางนั้นก็ยังไม่เคยได้รับโอกาสเช่นนี้ แต่ถึง
อย่างนั้นสภาพของนางในตอนนี้เพียงแค่ได้รับการเล้าโลมจากหลินหมิ
งเพียงเล็กน้อยนางถึงกับเริ่มระเบิดอารมณ์ออกมาจากร่องสวาทของ
นางที่กาลังเปียกแฉะมากขึ้นเรื่อยๆ
" ข้าจะค่อยๆบรรเทาให้เจ้าเดียวนี้ล่ะ แม่สาวน้อย ! "
หลินหมิงเริ่มทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหย่าเฟยออกอย่าง
รวดเร็วสัมผัสร้อนรุ่มที่กาลังเกิดขึ้นกับร่างกายของนางนั้นไม่ได้ลดลง
แต่อย่างใดแม้ว่าในยามนี้ร่างกายของนางสมควรระบายความร้อนได้
ดีกว่าหลังจากปลดอาภรณ์ออกไปหมดแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับตรงกัน
ข้ามนางจ้องมองไปที่สายตาของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยอารมณ์อัน
ร้อนแรงที่แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้ว่าในตอนนี้หัวสมองของหลินห
มิงนั้นกาลังคิดเรื่องลามกมากมายนับนับหมื่น
ร่างอันงดงามของหย่าเฟยในสภาพเปลื่อยเปล่านั้นทาให้หลินห
มิงอารมณ์พลุ่งพล่านจนแทบจะระเบิดออกมากลายเป็นสัตว์ป่า แต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงข่มความรู้สึกเอาไว้ก่อนได้ทันอย่างฉิวเฉียดไม่เช่นนั้น
แล้วเขาคงไม่สามารถเพลิดเพลินกับแม่ยายสาวสวยของเขาผู้นี้ได้นาน
ตามเท่าที่เขาต้องการเป็นแน่ ในตอนนี้หลินหมิงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ
หลิวจงเทียนในเมื่อพ่อตาของเขานั้นได้ปิดตัวบ่มเพาะพลังไปเป็นที่
เรียบร้อยแล้วไม่มีใครรู้ว่าสาหรับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์นั้นจะต้องใช้
เวลามากเพียงใดในการบ่มเพาะแต่ละครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นมันสมควร
ต้องใช้เวลานับเดือนหรือกระทั่งอาจมากไปกว่านั้น
เมื่อเห็นหลินหมิงเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกหย่าเฟ
ยนางรู้สึกราวกับว่าความทุกข์ทรมานทั้งหมดกาลังจะหายไป แต่ทันใด
นั้นทวนมังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิงนั้นไม่ได้นาไปเสียบกับบริเวณ
ร่องสวาทของนางที่กลายเป็นป่าดิบชื้น
" นะ..นี้เจ้าจะทาสิ่งใด ? "
ทวนมังกรของหลินหมิงถูกนามาวางไว้บนร่างกายของนาง
ทันใดนั้นดวงตาของนางเบิกกว้างพร้อมกับสัมผัสอันแปลกประหลาดที่
เกิดขึ้นกับหน้าอกของนาง
" อาา ♥ "
หลินหมิงใช้มือทั้งสองข้างบีบหน้าอกของหย่าเฟยเข้าหากัน
พร้อมกันแทงทวนมังกรของเขาเข้าไปยังช่องแคบอันนิ่มนวลระหว่าง
หน้าอกทั้งสองสัมผัสเนียนนุ่มที่หลินหมิงกาลังได้รับนั้นมันทาให้ทวน
มังกรของเขาสั่นไห แตกต่างจากหย่าเฟยในตอนนี้ทวนมังกรของ
หลินหมิงที่กาลังสัมผัสหน้าอกของนางที่ไวต่อสัมผัสมันทาให้นางได้รับ
ความรู้สึกไออุ่นจากทวนมังกรที่แผ่ซ่านเข้ามา ไม่เพียงเท่านั้นด้วย
ขนาดทวนมังกรของหลินที่ใหญ่เกินกว่าบุรุษทั่วไป แม้ว่าหน้าอกของ
นางจะนับได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่เกินกว่ามาตรฐานหญิงสาวทั่วไปแต่มัน
ยังคงไม่เพียงพอที่จะสามารถรองรับทวนมังกรของหลินหมิงได้
ปลายทวนมังกรของหลินหมิงนั้นยื่นออกมาจากบริเวณร่องนม
ของนางจนอยู่ห่างจากใบหน้าของนางไปไม่ใกล้กลิ่นอันรุนแรงของ
ทวนมังกรของหลินหมิงในยามนี้มันทาให้สมองของนางเริ่มพล่ามั่วราว
กับต้องมนตร์สะกด
" เลียมันสิ... "
เสียงของหลินหมิงที่ลอยเข้าหูของหย่าเฟยที่กาลังอยู่ในสภาวะ
ร่องรอยนั้นทาให้ใบหน้าของนางนั้นขยับเข้าหาทวนมังกรของหลินหมิ
งอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น กลิ่นอันรุนแรงที่ออกมาจากทวนมังกรของ
หลินหมิงทาให้ร่างกายของนางเริ่มตอบสนองอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจใดๆกับทวน
มังกรของหลินหมิงตรงหน้า ลิ้นของนางที่ถูกนาออกมาจากริมฝีปาก
อวบอิ่มเข้าสัมผัสกับทวนมังกรของหลินหมิงเพียงสัมผัสแรกก็เพียง
พอที่จะทาให้ร่างกายของนางสั่นกระตุกอย่างรุนแรง
หลินหมิงเอื้อมมือไปจับมือทั้งสองข้างของหย่าเฟยพร้อมกับนา
มันวางลงแทนที่มือของเขาที่เคยสัมผัสบีบหน้าอกของนาง โดยไม่ต้อง
บอกกล่าวสิ่งใดต่อหย่าเฟยนางราวกับเป็นศิษย์ที่ใฝ่หาความรู้เป็นอย่าง
ดีมือของนางเข้าบีบรัดหน้าอกของนางที่มีทวนมังกรของหลินหมิง
แทรกพร้อมกับขยับสั่นไหวเช่นเดียวกันกับในก่อนหน้านี้ที่หลินหมิงได้
ทา
" อาา.. ยอดเยี่ยม "
ไม่เพียงแต่ในยามนี้หลินหมิงจะได้รับสัมผัสนิ่มนวลจากหน้าอก
ของแม่ยายสาวสวยแต่ลิ้นของนางนั้นกาลังเริ่มเคลื่อนไหวอย่าง
ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นมันคงไม่มีหญิง
สาวใดยินยอมที่จะทาเช่นนี้กับบุรุษโดยง่ายแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้น
ขอเพียงแค่หญิงสาวเหล่านั้นได้ลิ้มลองรสชาติทวนมังกรของเขาไป
เพียงครั้งเดียวพวกนางจะลืมความคิดเหล่านั้นไปจนหมดสิ้นอย่าง
แน่นอน

ตอนที่ 249
แผล๊บ แผล๊บ
ลิ้นของหย่าเฟยเข้ากวาดโลมเลียไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงอ
ย่างเร่าร้อนไม่เพียงเท่านั้นในใจของนางในตอนนี้มันราวกับมีระเบิดลูก
ใหญ่ที่ปะทุขึ้นมา ทวนมังกรของหลินหมิงถูกปากของนางเข้าดูดกลืน
เข้าไปภายใปปากขอนางพร้อมกับลิ้นของนางที่เข้าผัวพันโลเลียอยู่
ภายใน พร้อมกับมือทั้งสองข้างของนางที่เข้าบีบนวดหน้าอกของนาง
ให้ถูกไถกับทวนมังกรของหลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าหลินหมิงไม่ได้อยู่เฉยแต่อย่างใดมือของหลินหมิง
เคลื่อนไหวไปยังยอดปถุมทันที่กาลังเบิกบานตั้งชันจนเห็นได้ชัดเจนบน
หน้าอกทั้งสองข้างของแม่ยายสาวสวยของเขา หย่าเฟยนางทาได้เสียง
ส่งเสียงร้องภายในลาคออย่างยากลาบากเมื่อยอดปถุมทันของนางนั้น
ถูกหลินหมิงบีบคั้นราวกับเขาต้องการขยี้มันให้แตกละเอียด
ทันใดนั้นหย่าเฟยนางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงที่มี
การสั่นไหวอยู่ตลอดก่อนหน้านี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น ขนาดทวน
มังกรของหลินหมิงนั้นดูเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับ
ภายในปากของนางที่เริ่มสัมผัสได้ถึงของเหลวเหนียวหนืดบางอย่างที่
ไหลลงสู่ลาคอของนางไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหย่าเฟยไม่ได้สนใจใน
เรื่องนี้แต่อยย่างใดนางยังคงเพลิดเพลินกับรสชาติจากทวนมังกรของ
หลินหมิง
อุก !!
โดยในทันทีหลินหมิงไม่สามารถเก็บอั้นอารมณ์ของเขาได้อีก
ต่อไปทวนมังกรของเขาถูกส่งเข้าไปลึกจนทะลวงเข้าไปถึงภายในลาคอ
ของแม่ยายสาวสวยพร้อมกับน้ารักจานวนมากที่ระเบิดลงคอของนาง
ไปอย่างรวดเร็ว
แค่ก แค่ก แค่ก
หย่าเฟยนางไม่เคยคาดคิดว่านางจะต้องดื่มกินน้ารักของบุรุษ
เช่นนี้มาก่อนอันที่จริงแล้วมันไม่น่าจะมีสตรีคนใดที่สมควรได้รับโอกาส
เช่นนี้หากพวกนางเหล่านั้นไม่ใช่สตรีของหลินหมิง น้ารักของหลินหมิง
ที่ไหลลงสู่ลาคอของนางนั้นทาให้ลาคอของนางรู้สึกรุ่มร้อนพร้อมกับ
อาการกระสับกระส่ายตามร่างกายของนาง
แน่นอนว่ามันยังคงมีน้ารักจานวนหนึ่งที่ยังคงเหลือค้างอยู่
ภายในปากของนางแต่เพียงไม่นานหลังจากนั้นหย่าเฟยนางตัดสินใจ
กลืนพวกมันลงไปทั้งหมด พร้อมกับกอดร่างของตนเองเอาไว้เพื่อระงับ
อารมณ์ความสุขที่กาลังจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา
สายตาของนางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาสดใสอันเต็ม
เปี่ยมไปด้วยความปราถนาแม้แต่สามีของนางนั้นนางก็ยังคงไม่เคยทา
กริยาเช่นนี้กับเขา ข้างทั้งสองข้างของนางค่อยๆกางออกมาอย่าง
เชื่องช้าพร้อมกับร่องสวาทสีชมพูดสดใสที่กาลังแฉะเยิ้มไปด้วยน้ารัก
สดใสของหญิงสาว
" ดะ.ได้โปรด..เสียบมันเข้ามาเถอะ..ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
"
ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าจดจ่อกับริเวณร่องสวาทของแม่
ยายสาวสวยที่กาลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการแต่ถึงอย่างนั้น
หลินหมิงกลับไม่ได้รีบร้อนเสียบทวนมังกรของเขาเข้าไปในตอนนี้
ปลายทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้กาลังถูไถสัมผัสกับผิวหนัง
บริเวณรอบนอกกับร่องสวาทของหย่าเฟยอย่างเชื่องช้า แน่นอนสิ่งนี้
มันยังคงไม่เพียงพอที่จะทาให้ความรู้สึกที่กาลังอัดอั้นอยู่ภายในทั้งหมด
ของนางนั้นสามารถระบายออกไปได้ทางเดียวเท่านั้นก็คือการที่หลินห
มิงจะต้องเสียบทวนมังกรของเขาเขามา
" หะ..เหตุใด..จะ..เจ้าถึงชอบกลั้น..แกล้งผู้คนเช่นนี้ อาา..♥ "
" ในยามที่ข้าและท่านอยู่เพียงสองตามลาพังนั้นท่านสมควร
เรียกข้าว่า สามี ! "
หย่าเฟยถึงกับนึกสับสนขึ้นมากับคากล่าวของหลินหมิงแม้ว่า
นางจะยินยอมร่วมรักกับหลินหมิงโดยง่ายแต่ถึงอย่างนั้นหากนางเรียก
กล่าวหลินหมิงเช่นนั้นมันทาให้นางรู้สึกราวกับว่านางกาลังมีสามีสอง
คนพร้อมกัน !
โดยไม่ปล่อยให้แม่ยายสาวสวยได้ใช้เวลาคิดอย่างยาวนานเล็บ
นิ้วมือทั้งสิบของหลินหมิงเริ่มกรีดอย่างแผ่วเบาไปที่ผิวเรือนร่างตามจุด
อ่อนไหวตามร่างกายของแม่ยายสาวสวยจนร่างกายของนางบิดไปมา
เล็กน้อยด้วยความเสียวซ่าน
" ก็ได้...สะ...สามี "
" ดีดี..เช่นนั้นในตอนนี้บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการสิ่งใดจากสามีผู้
นี้ "
" ขะ..ข้าอยากให้สามีเสียบของสามีเข้ามาภายในตัวข้า "
หลินหมิงยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่ค่อยๆ
แทงทะลวงเข้าไปภายในตัวของหย่าเฟยที่แสดงสีหน้าสะสมใจอย่าง
รุนแรง
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ♥ ♥ ♥ "
เสียงครางกระเส้าของหย่าเฟยครางออกมาอย่างไม่หยุดปาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางมีความปราถนามากมายเพียงใดอาจเป็นไปได้
ว่าตั้งแต่หลายเดือนก่อนที่หลินหมิงได้ร่วมรักกับนางนั้นนางอาจต้อง
เก็บงาอารมณ์ความต้องการมาเช่นนี้โดยตลอด
เมื่อเห็นร่างของแม่ยายสาวสวยของเขาไม่ได้มีความทุกข์
ทรมานหรือเจ็บปวดแต่อย่างใดหลินหมิงไม่จาเป็นที่จะต้องรั้งรอสิ่งใด
มือทั้งสองข้างของเขาประคองจับไปที่เอวบอบบางของหย่าเฟยเพื่อใช้
ในการค้าจุนพร้อมกับสะโพกของเขาที่เริ่มขยับในจังหวะที่เร่าร้อน
ร่างกายของหย่าเฟยถูกพลิกตะแคงข้างพร้อมกับขาของหนึ่ง
ของนางที่ถูกยกลอยตั้งตระหง่านริมฝีปากของหลินหมิงเข้าโลมเลีย
บริเวณต้นขาอ่อนที่อยู่ที่ตรงหน้าของเขา
" อ้าาาาา ♥ "
หย่าในตอนนี้นางไม่สามารถทาสิ่งใดได้ตามใจตนเองอีกต่อไป
หัวสมองของนางขาวโพลนราบกับหยุดสั่งการมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่
นางยังคงปกติดีอยู่หรืออาจยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิมนั้นก็คือประสาทสัมผัส
! ความรู้สึกอันเร่าร้อนที่นางใฝ่หามาตลอดหลายเดือนหลังจากร่วมรัก
กับหลินหมิงในยามนี้นางไม่มั่นใจว่าหลินหมิงจะใช้เวลาร่วมรักกับนาง
มากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่นางรู้ก็คือมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวนางหรือ
ร่างกายของหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าหากเป็นบุรุษทั่วไปพวกเขาจะจบทเพลงร่วมรักกับ
เพียงหนึ่งทวงทานางแต่สาหรับหลินหมิงที่สามารถร่วมรักกับนางได้ถึง
สามวันสามคืนนั้นนางยังคงคิดว่านั้นยังไม่ใช่ขีดจากัดของเขาเสียด้วย
ซ้า
" เจ้าชอบมันหรือไม่ ? "
" ชะ..ชอบเจ้าคะสามี..ชอบมากที่สุดเลยเจ้าคะ ! "
ในตอนนี้หย่าเฟยนางราวกับถูกผูกพันธ์พันธนาการให้ไม่
สามารถแยกจากจากหลินหมิงได้แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งนางรู้มาแต่ต้นแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นความปราถนาของนางยังคงมีมากกว่า นางไม่คิดว่าจะมี
สตรีคนใดที่ได้ลิ้มลองรสชาติทวนมังกรและบทเพลงเล้าโลมอันลาเลิศ
ของหลินหมิงแล้วสตรีผู้นั้นจะไม่พึงพอใจ
" โอ้แม่สาวน้อย เจ้าถึงกับเสร็จไวถึงเพียงนี้ ? "
น้ารักของหย่าเฟยระเบิดออกมาอย่างไม่ขาดสายแต่ถึงอย่าง
นั้นกระบวนการการกระแทกเอวของหลินหมิงนั้นไม่ได้ช้าลงแต่อย่าง
ใดกลับกันแล้วในตอนนี้ร่องสวาทของหย่าเฟยนั้นกลับหดตัวลงบีบรัด
ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างแนบแน่นยิ่งกว่าเก่า สาหรับหย่าเฟยแล้ว
นั้นแม้ว่านางจะรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นสมควรมีอายุน้อยกว่าราวสองเท่าหรื
อออาจมากกว่านั้นสักเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับสตรีที่ได้ยินคา
เรียกหาจากบุรุษว่าสาวน้อยเช่นนี้แน่นอนว่าหากเป็นบุรุษอื่นพวกเขา
เหล่านั้นคงจบด้วยการลงไปนอนกับพื้นแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับบุรุษที่
สตรีมีความชื่นชอบแล้วละก็พวกนางย่อมพึงพอใจกับคากล่าวเช่นนี้
เป็นอย่างมาก
หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ว่าร่องสวาทของแม่ยายของเขานั้น
คับลงเช่นเดียวกันหลินหมิงพลิกร่างของนางให้คว่าลงพร้อมกับมีเข่า
และมือทั้งสองข้างค้ายันเตียงเอาไว้ มันดูราวกับเป็นท่วงท่าร่วมรักกับ
ระหว่างสุนัขแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับในตอนนี้หย่าเฟยนางไม่สามารถ
คาดคิดได้ถึงสิ่งเหล่านั้นนางรู้แต่เพียงว่ากระบวนการจู่โจมนี้ของหลินห
มิงนั้นมันสามารถแทงทะลวงเข้ามาภายในร่องสวาทของนางได้ลึกเป็น
อย่างมาก
" อือ้ อออ ♥ "
หลินหมิงละมือทั้งสองข้างจากบริเวณเอวของหย่าเฟยที่เคยใช้
เป็นจุดค้าจุนมาเป็นบริเวณหน้าอกของนางพร้อมกับใบหน้าของหลินห
มิงที่เข้าใกล้แผ่นหลังเปลื่อยเปล่าของนาง ลิ้นของหลินหมิงตวัดโลม
เลียแผ่นหลังขาวเรียบเนียนจนร่างกายของหย่าเฟยสั่นเทาจนไม่
สามารถค้าจุนร่างกายได้อีกต่อไปเรี่ยวแรงของแขนทั้งสองข้างของนาง
นั้นราวกับถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเสียงเพื่อให้นางส่งเสียงครวญ
ครางออกมาได้อย่างต่อเหนื่อง
ทันใดนั้นทวนมังกรของหลินหมิงราบกับเขื่อนที่ไม่สามารถทน
เก็บกันการระบายน้าจานวนมากได้อีกต่อไปน้ารักของหลินหมิงจานวน
มากระเบิดเข้าใส่ร่องสวาทของหย่าเฟยพร้อมกับร่างกายของนางที
เกร็งตัวจากการที่เสร็จสมเป็นจานวนมากในเวลาติดๆกัน
.....
ร่างของหย่าเฟยในยามนี้กาลังนอนหงายหอบอย่างหมดแรก
บริเวณท้องของนางนั้นยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยไออุ่นจากน้ารักของ
หลินหมิงจานวนมากไม่ใช่น้อย นางไม่รู้ว่านางได้ร่วมรักกับหลินหมิงไป
มากมายเพียงใดและใช้เวลาไปมากน้อยเพียงใดแล้วแต่มันนาง
ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่ามันมีหลายครั้งที่นางกระทั่งสิ้นสติไประหว่าง
การร่วมรักเสียด้วยซ้า แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ร่างของเจ้าตัวร้ายผู้ลง
มือกาลังโลมเลียบริเวณรังแร้และเรือนร่างของนางอย่างหื่นกระหาย
โดยไม่ได้สนใจท่าทีที่เหนื่อยหอบของนางมากนัก มันดูราวกับว่าบท
เพลงร่วมรักที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงอาหารรองท้องสาหรับหลินหมิ
งเพียงเท่านั้น
" ดูเหมือนว่าแม่สาวน้อยของข้าจะเริ่มหายเหนื่อยแล้ว "
" อาา.... "
ท้ายที่สุดแล้วกระบวนการการ่วมรักของนางและหลินหมิงก็
เริ่มต้นอีกครั้งซึ่งมันกินระยะเวลาไปอย่างยาวนานไม่แพ้กับในครั้งแรก
ของนางที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิงเลย

ตอนที่ 250
เป็นเวลากว่าสามวันที่หลินหมิงและหย่าเฟยได้ใช้เวลาอันสุข
สมร่วมกันแม้ว่ามันจะเป็นจานวนวันเวลาที่เท่ากับประสบการณ์ของ
นางในครั้งแรกกับหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับรู้สึกว่าการร่วมรัก
กับหลินหมิงได้ในครั้งนี้นั้นร้อนแรงยิ่งกว่าครั้งแรกมาก อาจเป็น
เพราะว่าจิตใจของนางนั้นไม่ได้มีการต่อต้านหลินหมิงดั่งเช่นในครั้ง
ก่อนรวมกับการที่หลินหมิงจู่โจมนางด้วยกระบวนท่าแปลกพิศดาร
ต่างๆมากมาย
ในเช้าวันต่อมาหลังจากที่ผ่านล่วงเลยมาสามวันเต็มร่างของ
หย่าเฟยนอนเปลื่อยเปล่าแอบอิงหน้าอกของหลินหมิงอยู่ข้างกาย โดย
มีมือของหลินหมิงกาลังลูบไล้แผ่นหลังของนางอยู่ ริมฝีปากของนาง
เข้าประทับกับหลินหมิงในเมื่อนางเห็นว่าดวงตาของหลินหมิงค่อยๆ
เปิดกว้างขึ้นมันเป็นจูบรับอรุณที่ทาให้หลินหมิงอยากดาเนินกิจกรรม
ในยามดึกต่อในทันที แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้หลินหมิงตระหนักได้เป็น
อย่างดีว่าเขาไม่สามารถทาเช่นนั้นได้ในตอนนี้
" สามี ข้าสามารถทะลวงผ่านเข้าสู่ระดับปราญช์ขั้นที่สองได้
แล้ว ! "
น้าเสียงของหย่าเฟยอันสดใสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดีบอก
กล่าวกับหลินหมิงที่เพิ่งตื่นขึ้นมา แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้หลินหมิงย่อม
คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วหากนางไม่สามารถก้าวผ่านเข้าสู่
ระดับปราญช์ขั้นที่สองได้แล้วอย่างนั้นละก็เกรงว่าในตอนนี้นางยังคง
ต้องส่งเสียงครวญครางต่อไปอย่างน้อยอีกหนึ่งวันเต็ม
" เช่นนั้นแม่สาวน้อยของข้าอยากจะทะลวงไปขั้นต่อไปเลย
หรือไม่ ? "
น้าเสียงทะเล้นออกมาจากปากของหลินหมิงทาให้หย่าเฟย
หัวเราะคิกคักเล็กน้อย นางรู้ดีว่าหลินหมิงต้องการสื่อถึงสิ่งใด มันอาจ
เรียกว่าเป็นการเก็บตัวบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกของการบ่มเพาะ
เลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นสภาพของนางและหลินหมิงในตอนนี้ล้วน
ไม่ได้กินอะไรมาสามวันเต็มหากพวกเขาไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้วละก็
พวกเขาคงมีปัญหาในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นหลินหมิงแยกจากกับหย่าเฟยพร้อมกับตรงกลับมา
ที่ตานักของเขาที่สมาคมนักปรุงยา อันที่จริงแล้วแม้ว่าเขายังคง
อยากจะลิ้มลองรสชาติของแม่ยายสาวสวยของเขาต่ออีกสักเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยการที่นางเพิ่งประสบความสาเร็จในการเข้าสู่ระดับ
ใหม่นี้ทาให้นางต้องการที่จะเรียนรู้และทาความคุ้นเคยกับระดับใหม่นี้
ก่อน
ภายในตานักของหลินหมิงเมื่อเขากลับมาถึงภายในห้องของ
หลินหมิงมีร่างของหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามกาลังนั่งด้วยอารมณ์ไม่
พอใจ นางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากหมิงเยี่ยนองค์หญิงลาดับทีสามจาก
อาณาจักรนภา แน่นอนในสามวันที่ผ่านมานี้แม้นางจะรู้สึกโล่งใจ
เล็กน้อยที่นางไม่ต้องรับมือกับการจู่โจมอันร้อนแรงจากหลินหมิงอีก
แต่ถึงอย่างนั้นใครจะไปคาดคิดกันเหล่าว่าเจ้าตัวร้ายผู้นี้กลับทิ้งนางไว้
อยู่ที่ตานักถึงสามวันโดยไม่มีการบอกกล่าวสิ่งใด
ใบหน้าของหมิงเยี่ยนในยามนี้ดูไม่เหมือนกับเฉลยสาวที่ถูกชิง
ตัวมาแต่มันกลับกลายเป็นใบหน้าของสาวน้อยที่หึงหวงบุรุษของนาง
เสียมากกว่า
" หรือว่าเจ้ากาลังคิดถึงข้า ? "
" เหลวไหล ! ข้าแค่เบื่อเพียงเท่านั้น ! "
หมิงเยี่ยนนางสะบัดหน้านี้ไปจากหลินหมิงในทันทีแน่นอนว่า
หากเป็นเฉลยโดยทั่วไปแล้วแม้ว่าพวกนางเหล่านั้นจะเป็นองค์หญิงแต่
มีหรือที่พวกนางจะสามารถปฎิบัติเช่นนี้ได้ หลินหมิงไม่ได้โกรธเคือง
นางแต่อย่างใดเป็นความจริงที่ว่าในเมื่อนางได้มาอยู่กับเขาในฐานะ
ของหญิงสาวใช้แล้วนั้นมันทาให้นางไม่ได้รับอิสระในการออกไปยัง
นอกตานักโดยไม่ได้รับอนุญาติ เมื่อคิดถึงฐานะเดิมของนางที่น่าจะมี
ฐานะสูงส่งอยู่ไม่ใช่น้อยมันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะรู้สึกโกรธ
เคืองที่ต้องถูกจากัดเช่นนี้
" งั้นข้าจะทาให้เจ้าหายเบื่อเอง "
หมิงเยี่ยนสะดุ้งพรวดกับคากล่าวของหลินหมิงมันเป็นเรื่อง
ธรรมดาที่นางจะสามารถเข้าใจได้ว่าคากล่าวของหลินหมิงเช่นนี้กาลัง
หมายถึงสิ่งใดจนกระทั่งในตอนนี้ที่บริเวณร่องสวาทของนางยังคงรู้สึก
แสบๆอยู่เล็กน้อยอยู่เลย แต่ถึงอย่างนั้นร่างของหลินหมิงที่พุ่งเข้ามา
กลับไม่ได้จู่โจมพร้อมจับนางกดลงบนเตียงอย่างเช่นเคยกลับกันแล้ว
มือของหลินหมิงจับไปที่ข้อมือของนางด้วยเรียวแรงที่แผ่วเบาและแสน
นุ่มนวลพร้อมกับนาร่างของนางออกไปจากห้อง
ในยามนี้ร่างของหมิงเยี่ยนและหลินหมิงกาลังเดินอยู่ท่ามกลาง
ร้านค้าขายของจานวนมากที่กาลังคึกคักภายในเมืองแน่นอนว่าสีหน้า
ของหมิงเยี่ยนในตอนนี้เต็มไปด้วยความสนอกสนใจในสิ่งต่างๆรอบตัว
เป็นอย่างมากด้วยสถานะเดิมของนางนั้นที่เป็นถึงองค์หญิงมันทาให้
นางไม่ค่อยได้รับโอกาสออกมาเดินเที่ยวเล่นตามร้านค้าเช่นนี้มากสัก
เท่าใดนักและเมื่อนางออกมาในแต่ละครั้งนางจะสามารถพบได้แต่
เพียงภาพของเหล่าผู้อาวุโสที่ติดตามล้อมรอบและข้างกายประชานชน
ที่มอบกราบด้วยความเคารพ
" ดูนั้น นั้นไม่ใช่คุณชายหลินอย่างนั้นรึ ! "
" อา..ใช่จริงๆด้วย ! "
สิ่งที่ทาให้นางแปลกใจนั้นก็คือเสียงซุบซิบของผู้คนรอบข้าง
ทางพร้อมกับสายตาที่กาลังมองมาที่นางอันที่จริงแล้วนางเข้าใจดีว่า
พวกเขาเหล่านั้นกาลังมองไปที่ร่างของบุรุษข้างกายของนางต่างหาก
มันแตกต่างจากแววตาที่นางเคยได้รับโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิงแม้ว่าใน
ฐานะขององค์หญิงแล้วนั้นนางจะได้รับความเคารพอย่างมากแต่หาก
เทียบกับสายตาของผู้คนเหล่านี้แล้วนั้นมันไม่สามารถเทียบกันได้เลย
แม้แต่น้อย หมิงเยี่ยนนางไม่รู้ว่าหลินหมิงผู้หื่นกามผู้นี้ได้ทาสิ่งใดลงไป
จึงทาให้เหล่าผู้คนถึงกับเคารพเขามากมายถึงเพียงนี้
ในขณะที่ร่างของหมิงเยี่ยนและหลินหมิงกาลังเดินไปตาม
ร้านค้าต่างๆสายตาของนางพลันให้ความสนใจไปที่ร้านเสื้อผ้าสาหรับ
สตรี
" เจ้าสนใจเช่นนั้นรึ ? "
" มะ...ไม่สักหน่อย "
แม้ว่าหมิงเยี่ยนจะกล่าวเช่นนั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วหาได้
เป็นเช่นนั้นไม่ในตอนนี้จากการที่นางต้องถูกนาตัวมาโดยหลินหมิง
แม้ว่าภายในแหวนมิติของนางจะมีเสื้อผ้าหลงเหลืออยู่บ้างแต่หากนาง
ต้องอยู่ร่วมกับหลินหมิงไปอย่างยาวนานแล้วละก็มันอาจมีปัญหาก็
เป็นได้
" นี้ถือว่าเป็นการชดใช้จากข้าก็แล้วกันที่ปล่อยให้เจ้าต้องเบื่อ
หน่ายในหลายวันที่ผ่านมา ในวันนี้หากมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการข้าจะ
ปฎิบัติต่อเจ้าราวกับองค์หญิงเลยทีเดียว ! "
หัวใจของหมิงเยี่ยนสั่นหวูบไปด้วยอารมณ์อันหลากหลายใน
ตอนแรกนางพลันตกใจเมื่อได้ยินหลินหมิงกล่าวเรียกว่าองค์หญิงแต่
เมื่อมองไปยังใบหน้าของหลินหมิงที่ไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝงนางถอน
หายใจผ่อนคลายลงไปหลายส่วน พร้อมกับใบหน้าของนางที่ขึ้นสีแดง
ระเรื่อจากคากล่าวของหลินหมิง
" งั้นปล่อยข้าไป ? "
" ไม่ "
" ฮึ่ม ! เจ้าตัวหื่นกามคอยดูข้าจะทาให้เจ้าหมดตัว ! "
ใบหน้าของหมิงเยี่ยนในยามที่ถูกปฎิเสธการปล่อยตัวนางนั้น
ราวกับว่านางไม่ได้สนใจในคาตอบของหลินหมิงตั้งแต่ต้น ในตอนนี้นาง
หันนางเข้าไปภายในร้านเสื้อผ้าพร้อมกับจัดแจงลองชุดอย่างมากมาย
แม้ว่าในตอนแรกพนักงานของร้านเสื้อผ้าจะเห็นร่างของหมิงเยี่ยนที่
เป็นสาวงามไม่ใช่น้อยแต่พนักงานสาวยังคงกังวลว่าหญิงสาวผู้ไม่คุ้น
หน้านางนี้จะมีทรัพย์สินเพียงพอที่เท่ากับจานวนชุดที่นางกาลังจัดแจง
อยู่ในตอนนี้หรือไม่ หรือว่าหญิงสาวนางนี้นางต้องการที่จะก่อกวนโดย
การลองชุดแล้วไม่ซื้อมัน ?
" อืม ชุดนั้นนับว่าเหมาะกับเจ้าไม่ใช่น้อย "
ทันใดนั้นเมื่อนางได้ยินเสียงของบุรุษที่ดังขึ้นมาสายตาของ
พนักงานสาวหันไปมองยังต้นเสียงพร้อมกับดวงตาของนางที่เบิกกว้าง
ขึ้นด้วยความตกใจ
" แล้วเจ้าเข้ามาทาไมกัน ! ลองข้าเลือกชุดทั้งหมดเสร็จแล้วข้า
จะไปเรียกเจ้า "
ด้วยการที่ร้านค้าแห่งนี้เป็นเพียงร้านค้าที่มีเสื้อผ้าสาหรับสตรี
เพียงเท่านั้นมันจึงไม่สามารถพบเห็นบุรุษได้บ่อยนัก แต่ถึงอย่างนั้นมี
หรือที่พนักงานสาวอย่างนางจะไม่รู้ว่าบุรุษตรงหน้านางคือใครกัน ?
ในตอนนี้ร้านค้าแห่งนี้มีพนักงานทั้งหมดสี่คนพวกเขาต่างให้ความ
สนใจกับหมิงเยี่ยนที่กาลังลองชุดโดยในทันที ไม่สาคัญว่าหญิงสาวผู้นี้
จะมีความสัมพันธ์ใดกับชายหนุ่มอัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาจักรใน
เมื่อนางมาด้วยกันกับหลินหมิงนั้นก็เพียงพอที่จะทาให้พวกนางทุกคน
ปฎิบัติกับหมิงเยี่ยนอย่างดีเยี่ยม
หมิงเยี่ยนไม่ได้รู้สึกผิดแปลกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเหล่า
พนักงานสาว อันที่จริงแล้วนางคุ้นเคยกับท่าทีของผู้คนที่มีต่อหน้ามัน
จึงทาให้นางไม่ได้รู้สึกผิดแปลกแต่อย่างใด
" แล้วนั้นเจ้าจะซื้อทั้งหมดนั้นเลย ? "
เพียงแค่ช่วงเวลาผ่านไปเพียงไม่นานกองเสื้อผ้าขนาดย่อมถูก
จัดเตรียมอย่างเรียบร้อยโดยเหล่าพนักงานสาวที่กาลังอิ่มเอมกับรายได้
ของพวกนางที่กาลังจะได้รับจากการขายเสื้อผ้าเหล่านี้มันมาก
จนกระทั่งเทียบเท่ากับจานวนชุดที่พวกนางสามารถขายได้ดับเดือน
เลยทีเดียว !
" ใช่ ! หรือไม่ได้ ? "
ประโยคกล่าวของหลินหมิงและหมิงเยี่ยนทาให้ใบหน้าของ
พนักงานสาวถึงกับเหงื่อพรั่งพรู่แท้จริงแล้วหญิงสาวผู้นี้เป็นใครกันแน่
นางถึงกับกล้ากล่าวเช่นนี้ต่อหลินหมิง ! แน่นอนว่าพวกนางล่วงรู้ดีถึง
ใบหน้าของสตรีของหลินหมิงนั้นก็คือหลัวฉิงเชี่ยน จิวหลิน และหลิวฉ
วนยูร์เพราะหญิงสาวทั้งสามนี้ล้วนเป็นหญิงสาวที่งดงามหาใดเปรียบ
และอยู่ภายในเมืองเดียวกันมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกนางจะ
คุ้นเคยนางของหญิงสาวของหลินหมิงมาบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นกับ
หญิงสาวตรงหน้านางยังคงมีความงดงามน้อยกว่าสตรีทั้งสามก่อนหน้า
เพียงเล็กน้อยแต่นางกลับสามารถกล่าววาจาเช่นนี้กับหลินหมิงได้
ดังนั้นข้อสรุปของพวกนางนั้นมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นสาหรับ
หลินหมิงที่ไม่กลัวเกรงแม้กระทั่งแม่ทัพใหม่ของอาณาจักรสิ่งเดียวที่
สามารถหยุดยั้งหลินหมิงจากสงครามในครั้งก่อนได้นั้นก็คือสตรีของ
เขา !

ตอนที่ 251
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สาหรับ
เขาเลยแม้แต่น้อยลาพังเพียงเงินติดตัวและสมบัติต่างๆที่หลินหมิงมีอยู่
ในตอนนี้เขาสามารถเทียบได้กับเหล่าผู้อาวุโสชราที่สั่งสมสบัติของพวก
เขามาอย่างยาวนาน ทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่ย่อมมาจากอาจารย์สาวสวย
ของเขาและผู้อาวุโสฟางซิ่น และถึงแม้ว่าต่อให้หลินหมิงจะต้องการใช้
เงินจานวนมากเขาก็ย่อมไม่มีปัญหาในเรื่องนั้น
เหล่าสาวสวยของเขาลาพังเพียงแค่ผู้อาวุโสฟางซิ่นก็นับได้ว่ามี
ความร่ารวยอยู่ไม่ใช่น้อยยังไม่นับรวมถึงผู้อาวุโสซูหลิ่ง หรือกระทั่งฟ่
งซือเซียนหัวหน้าของกลุ่มหญิงสาวทั้งห้าที่เป็นผู้อาวุโสของสานักวัง
จันทรา
พนักงานสาวเมื่อพวกนางเห็นว่าหมิงเยี่ยนไม่มีทีท่าว่าจะเลือก
ชุดของนางเสร็จโดยง่าย เช่นนั้นแล้วเท่ากับว่าหลินหมิงจะต้องรอหญิง
สาวนางนี้อีกนานไม่ใช่น้อย พวกนางรีบจัดเตรียมเก้าอี้พร้อมโต๊ะให้กับ
หลินหมิงได้นั่งรออย่างยอดเยี่ยม อันที่จริงแล้วในตอนนี้พวกนางได้ทา
การปิดร้านเพื่อต้อนรับหลินหมิงและหมิงเยี่ยนเพียงเท่านั้นแล้ว
ทันใดนั้นระหว่างที่หมิงเยี่ยนกาลังเพลิดเพลินกับการเลือกชุด
อยู่หลินหมิงที่นั่งรออยู่นั้นเรียกพนักงานสาวคนหนึ่งให้ไปหาเขา
หลินหมิงในยามนี้เขาหวนคิดถึงศิษย์พี่สาวสวยของเขาหลัวฉิง
เชี่ยนแต่เดิมนั้นแม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามหาใดเปรียบ
แต่นางกลับไม่นิยมชื่นชอบในการแต่งตัวมากนักอาจเป็นเพราะว่านาง
เกรงกลัวว่าความงดงามของนางนั้นอาจจะสร้างปัญหาให้กับนางก็
เป็นได้ ?
" เจ้าพอจะคาดเดาเสื้อผ้าที่เหมาะสมสาหรับฉิงเชี่ยนได้หรือไม่
?"
พนักงานสาวที่ถูกเรียกไปพยักหน้าด้วยความยินดีแท้จริงแล้ว
วันนี้อาจเป็นวันที่ร้านแห่งนี้ได้กาไรมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์เลยก็ว่า
ได้ สาหรับนางที่เป็นพนักงานของร้านเสื้อสตรีเช่นนี้นางย่อมมี
ประสบการณ์และฝีมือเพียงพอที่จะคาดเดาเรือนร่างของหลัวฉิงเชี่ยน
ได้แม่นยาอย่างน้อยก็นับว่าเก้าส่วนแล้ว ดังนั้นเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้นับ
ได้ว่าไม่มีปัญหาอันใด
" ยอดเยี่ยม ! "
หลินหมิงลุกขึ้นและกวาดสายตาไปยังเสื้อผ้าที่อยู่ภายในร้านที่
คาดว่าน่าจะเหมาะสมกับศิษย์พี่สาวสวยของเขา หลินหมิงอาจเลือก
เสื้อผ้าที่เหมือนกับหมิงเยี่ยนให้กับฉิงเชี่ยนก็ย่อมได้แต่ถึงอย่างนั้น
สาหรับสตรีแล้วนั้นพวกนางจะมีความเหมาะสมกับเสื้อผ้าที่แตกต่าง
กันออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวงามเช่นหมิงเยี่ยนและฉิงเชี่ยน
ห่างออกไปเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นหมิงเยี่ยนกลับได้ยินคา
กล่าวของหลินหมิงอย่างชัดเจนทั้งหมด นางรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นไม่ได้มี
สตรีข้างกายเพียงหนึ่งหรือสองคนอย่างแน่นอนลาพังเพียงก่อนหน้านี้ก็
มีผู้อาวุโสทั้งหลายที่นางคาดว่านางจะมีความสัมพันธ์กับหลินหมิงอ
ย่างน้อยก็นับได้สามคนแล้ว
" ฉิงเชี่ยน ? "
แต่ถึงอย่างนั้นในบรรดาผู้อาวุโสทั้งสามนั้นไม่ได้มีใครที่มีนาม
ว่าฉิงเชี่ยนอย่างแน่นอนดังนั้นแล้วมันสมควรกล่าวได้ว่าหญิงสาวนางนี้
ย่อมเป็นสตรีที่เปิดเผยของหลินหมิงนอกเหนือจากผู้อาวุโสสาว
ทั้งหลาย
พนักงานสาวสามคนที่เหลือที่กาลังวุ่นวายกับการจัดเก็บ
เสื้อผ้าของหมิงเยี่ยนเมื่อได้เห็นท่าทีของหญิงสาวพวกนางต่างแสดง
ท่าทีสับสน หญิงสาวนางนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าฉิงเชี่ยนคือผู้ใดกัน ? ทั้งๆ
ที่นางย่อมนับได้ว่าเป็นสตรีของหลินหมิงแต่กลับไม่รู้ถึงตัวตนที่นับได้
ว่าเป็นภรรยาของหลินหมิงเช่นนั้น ? แต่ถึงอย่างนั้นในทันทีพวกนาง
คิดได้ว่าอาจเป็นเพราะว่าหมิงเยี่ยนนั้นเกิดหึงห่วงหลินหมิงขึ้นมา
" ท่านอย่าได้คิดมากเลยเจ้าคะ ข้ารับรองได้ว่าคุณชายหลินนั้น
ย่อมสนใจในตัวท่านแม่นางฉิงเชี่ยนอย่างแน่นอน "
ใบหน้าของหมิงเยี่ยนยังคงเต็มไปด้วยความสับสนแม้ว่าจะได้
รับคากล่าวอธิบายจากพนักงานสาว
" หรือว่าท่านไม่รู้จักแม่นางฉิงเชี่ยน ? แล้วคุณหนูตระกูลหลิว
และตระกูลเหยียนเล่า ? "
หมิงเยี่ยนส่ายหน้าอย่างสับสนชื่อของหญิงสาวทั้งสามนั้นนาง
ไม่แม้แต่จะเคยได้ยินมาก่อนเลยเสียด้วยซ้า ใบหน้าของพนักงานสาว
ทั้งสามเต็มไปด้วยความแปลกใจ ในตอนนี้แม้ว่าผู้คนจะไม่ได้มาจาก
เมืองหลวงหรือเมืองแห่งนี้แต่พวกเขาย่อมต้องเคยได้ยินการกระทาอัน
ห้าวหาญของหลินหมิงและชื่อของสตรีที่สามารถหยุดเขาเอาไว้ได้บ้าง
" ข้าออกเดินทางไปต่างอาณาจักรกับท่านอาจารย์เพิ่งได้กลับ
เข้าอาณาจักรมาไม่นาน ไหนพวกเจ้าลองเล่าให้ข้าฟังถึงเรื่องราวโดย
คร่าวๆ "
หมิงเยี่ยนนั้นเต็มไปด้วยความสนใจ ตั้งแต่เมื่อใดกันก็ไม่รู้ที่นาง
รู้สึกได้ว่านางอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยกับหลินหมิงผู้นี้ให้มากยิ่งขึ้น
.......
หลินหมิงและหมิงเยี่ยนใช้เวลาในร้านค้าเสื้อผ้าอยู่นานราว
หนึ่งชั่วยามหรืออาจมากกว่านั้นสักเล็กน้อยแน่นอนว่าทั้งหมดนั้นเป็น
เพราะหมิงเยี่ยนที่กาลังพูดกล่าวกับกาลังพนักงานสาวอย่างตื่นเต้นโดย
ที่หลินหมิงไม่แม้กระทั่งล่วงรู้ได้ว่าพวกนางกาลังกล่าวถึงสิ่งใดกัน
ร่างของชายหญิงทั้งสองเข้าชมตามร้านค้าตามคความต้องการ
ของหมิงเยี่ยนพร้อมกับสิ่งของจานวนมากที่ถูกอัดลงไปในแหวนมิติ
ของนาง เวลาล่วงเลยจนกระทั่งถึงช่วงพลบค่าร่างของหลินหมิงและห
มิงเยี่ยนก็กลับเข้าสู่ตานักอีกครั้ง ใบหน้าของหมิงเยี่ยนนั้นในระหว่าง
ทางที่ออกจากร้านค้าเสื้อผ้านั้นนางได้เหลือมองไปที่หลินหมิงครั้งคร่าว
นั้นก็เพราะว่าจากเรื่องราวที่นางได้ฟังจากพนักงานสาวก่อนหน้านี้นั้น
มันทาให้หัวใจของนางเต้นอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับการกระทาของหลินห
มิง
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือการที่หลินหมิงนั้นยังคงมีอายุ
เพียง 16 ปีเพียงเท่านั้นในตอนแรกนางคาดว่าหลินหมิงอาจมีอายุน้อย
กว่านางเพียงหนึ่งหรือสองปีและน่าจะมีอายุราว 21 ปี ลาพังความคิด
ของนางก่อนหน้านี้ก็เพียงพอที่จะกล่าวได้ว่าหลินหมิงนั้นย่อมเป็น
อัจฉริยะที่หาใดเปรียบได้และอาจเป็นอัจฉริยที่ยอดเยี่ยมแห่งยุคสมัย
แต่สาหรับอายุ 16 ปีที่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์ได้แล้วนั้นมันไม่
สมควรกล่าวได้ว่าอัจฉริยะอีกต่อไป สิ่งเดียวที่สามารถเรียกกล่าวหาได้
คือสัตว์ประหลาดเพียงเท่านั้น
ทันทีที่เข้ามาภายในห้องหลินหมิงรวบร่างของหมิงเยี่ยนเข้าสู่
อ้อมกอดพร้อมกับกระโดดลงบนเตียงอ่อนนุ่ม สาเหตุเดียวที่หลินหมิง
ยินยอมในช่วงก่อนหน้านี้ก็เพียงเพื่อที่จะทาให้นางพึงพอใจและเขาจะ
ตอบแทนนางด้วยบทรักอันร้อนแรงอีกครั้ง
ใบหน้าของหมิงเยี่ยนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกในทันทีมือ
ของหลินหมิงเริ่มเข้าลูบไล้บริเวณบั้นท้ายของนางอย่างเร่าร้อนพร้อม
กับร่างทั้งสองที่กาลังแนบชิดจนแทบจะประสานกัน แต่ถึงอย่างนั้น
หลินหมิงชะงักมือของเขาลงเมื่อเขาเห็นใบหน้าของหมิงเยี่ยนที่แปลก
ประหลาดออกไป
" เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากัน ? "
หมิงเยี่ยนในตอนนี้หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลก
ประหลาดในยามที่นางได้อยู่ชิดใกล้กับหลินหมิงเช่นนี้มันทาให้นางรู้สึก
ไม่อยากที่จะแยกจากไปไหน ความสุขที่ได้เคียงคู่ในฐานะของสตรีข้าง
กายของหลินหมิงสาหรับวันนี้มันทาให้นางรู้สึกอบอุ่นอยู่ภายในใจแต่
ถึงอย่างนั้นสถานะของนางกับหลินหมิงนั้นกลับเป็นเพียงหญิงสาวบา
เร่อที่เอาไว้ใช้สนองตัณหาเพียงเท่านั้น
หมิงเยี่ยนนางไม่สามารถกล่าวอันใดออกไปได้ นางที่เป็นถึง
องค์หญิงจะให้กล่าวสิ่งที่ไม่เหมาะสมเช่นนั้นออกไปได้หรืออย่างไร ต่อ
ให้นางกล่าวออกไปว่าอยากเป็นสตรีที่เคียงข้างของหลินหมิงอย่าง
แท้จริงเป็นไปได้หรือว่าที่หลินหมิงจะยอมรับนาง ?
ทันใดนั้นหมิงเยี่ยนนางสามารถสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่เพิ่มมากขึ้น
มือของหลินหมิงในตอนนี้ไม่ได้ลวนลามร่างกายของนางแต่อย่างใดแต่
มันกลับกระชับร่างของนางให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น
" เพียงเจ้ากล่าวออกมาว่ามีสิ่งใดกังวล ข้ายินดีที่จะทาให้สิ่ง
เหล่านั้นหายไปไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งใดก็ตาม ! "
หัวใจของหมิงเยี่ยนสั่นไหวอย่างรุนแรงยิ่งกว่าในตอนที่นาง
กาลังเหนื่อยอ่อนแรงอย่างแท้จริง ใบหน้าของหลินหมิงในตอนนี้ไม่ได้มี
ความเจ้าเล่ห์หรือใบหน้าอันหื่นกามที่มักมองมาที่นางแต่อย่างใด แต่
มันกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่แสดงถึงความเป็นห่วง
อย่างชัดเจน หากเป็นในก่อนหน้านี้นางอาจคิดว่านี้เป็นเพียงการแสร้ง
ของเหล่าบุรุษแต่สาหรับนางที่ได้ยินเรื่องราวของหลินหมิงมาจาก
พนักงานสาวนั้นมันทาให้นางคิดได้ว่าคากล่าวของหลินหมิงนั้นน่าเชื่อ
เพียงใด
" ขะ..ข้า..ขะ..ข้า..ปะ..เป็นได้...เพียงหญิงบา..เร่อให้เจ้าเช่นนั้น
หรือ ? "
หมิงเยี่ยนก้มตัวลงซุกหน้าอกของหลินหมิงโดยไม่กล้าแม้แต่จะ
มองหน้าของหลินหมิงในยามนี้ นางบีบเสื้อบริเวณหน้าอกของหลินห
มิงเอาไว้แน่นจนมันแทบจะขาดออก
" นี้คือปัญหาของเจ้า ? "
หมิงเยี่ยนไม่กล้าตอบหลินหมิงแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นมือ
ทั้งสองข้างของหลินหมิงเอื้อมมาจับใบหน้าของหมิงเยี่ยนขึ้นมาสบตา
ของเขาโดยที่ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงเล็กน้อย
" เช่นนั้นแล้วเจ้าอยากเป็นภรรยาของข้าในตอนนี้เลยหรือไม่ ?
ข้าพร้อมที่จะไปกล่าวเคารพบิดามารดาของเจ้าในทันที แน่นอนว่าเจ้า
ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอันเล็กน้อยเพียง
เท่านี้ หากใครมีปัญหาแล้วละก็ข้ายินดีที่จะดับลมหายใจของพวกมัน
ลงไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสของอาณาจักรของข้าก็ตามที่ ! "
" ไม่ ! เจ้าไม่สามารถทาเช่นนั้นได้ มันยังคงอันตรายเกินไป !
ในตอนนี้เจ้าเพียงต้องยอมรับข้าเป็นภรรยาในนามก่อนส่วนเรื่องพิธี
และการยอมรับจากมารดานั้นค่อยว่ากันทีหลัง สิ่งที่สาคัญที่สุดก็คือ
หากเทียบกันแล้วระหว่างข้า กับฉิงเชี่ยนของเจ้านั้นเจ้าชอบพอผู้ใด
มากกว่ากัน "
หลินหมิงแทบจะตามอารมณ์ของแม่สาวน้อยผู้เอาแต่ใจผู้นี้ไม่
ทันไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้นางกาลังซึมเศร้า ?
" อืม...นับได้ว่าฉิงเชี่ยนมากกว่า "
" ฮึ่ม ! เจ้าตัวลามก เจ้าไม่รู้จักเอาใจสตรีหรือย่างไรกัน ! งั้น
คาถามสุดท้ายหากเปลี่ยนจากฉิงเชี่ยนนางเป็นข้าแล้วในเหตุการณ์
สงครามก่อนหน้านี้เจ้าจะยังคงเข้าช่วยเหลือข้าเช่นเดียวกันกับนาง ? "
แม้ว่าหมิงเยี่ยนจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับคากล่าวของหลินห
มิงแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับนางที่มาที่หลังนั้นหากหลินหมิงกล่าวให้
ความสาคัญกับนางมากกว่าหลินหมิงมันจะเป็นเพียงคาโกหกแน่นอน
ดังนั้นเมื่อนางเห็นว่าหลินหมิงกล่าวทุกอย่างออกมาอย่างสัจจริงนางจึง
เลือกถามคาถามที่สอง
" ย่อมไม่ต่างกัน ! "
" ฮึ่ม ! ดี "
หมิงเยี่ยนพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับก้มลงซุกตัวลงนอนบน
อกของหลินหมิงต่อไปในทันทีพร้อมกันนั้นมือของหลินหมิงเริ่มรุกคืบ
ทางานต่อหลังจากเอาใจแม่สาวน้อยเอาแต่ใจผูัส
้นี้ าเร็จ

ตอนที่ 252
ร่างของหลินหมิงและหมิงเยี่ยนที่ผ่านคาคืนอันเร่าร้อนร่วมกัน
อีกครั้งแต่ถึงอย่างนั้นในครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนหน้าทั่วไปก็คือการที่ห
มิงเยี่ยนนั้นยินยอมหลินหมิงอย่างว่าง่ายไม่ได้เป็นม้าพยศอีกต่อไป
หลินหมิงค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับบริเวณส่วนล่างของเขาที่รู้สึก
ได้ถึงไออุ่นอันน่าประหลาดใจ ดวงตาของหลินหมิงมองไปยังหมิงเยี่ยน
ที่ยังคงหลับข้างกายของเขาอย่างอ่อนล้า
เมื่อหลินหมิงก้มลงไปมองถึงสาเหตุไออุ่นที่บริเวณส่วนล่างของ
เขานั้นย่อมไม่ใช่เพราะหมิงเยี่ยนเพราะนางกาลังหลับอยู่ข้างกายของ
เขา ดวงตาของหลินหมิงเปิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้เห็นร่างของเด็กสาว
อายุราวสิบปีกาลังใช้ริมฝีปากของนางโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิง
ราวกับผู้เชี่ยวชาญ
" เสี่ยวยู้ ? "
เสียวยู้ ( เด็กสำวที่หลินหมิงพบเจอตอนที่พบกับซัคคิวบัสสำวครั้ง
แรก เป็นคนพำหลินหมิงกับหลัวฉิงเชี่ยนไปหำซือเฟย )

ทันใดนั้นในขณะที่หลินหมิงกาลังจะกล่าวสิ่งใดต่อออกไปทวน
มังกรของเขาไม่สามารถรับมือกับริมฝีปากอันเล็กของเด็กสาวได้ น้ารัก
ของหลินหมิงระเบิดลงเข้าสู่ภายในลาคอของนางจนกระทั่งมีบางส่วน
ล้นออกมาจากปากเสียด้วยซ้า
" อืม้ มม ♥ น้าของพี่ชายยังคงอร่อยเหมือนเดิมเลย ! "
เสี่ยวยู้ที่กันน้
ลิ ารักของหลินหมิงลงไปบนค่อยๆคลานขึ้นมา
พร้อมกับใบหน้าของเด็กสาวที่อยู่ห่างกับหลินหมิงเพียงเล็กน้อย มัน
เป็นช่วงเวลานานหลายเดือนทีเดียวที่หลินหมิงไม่ได้เจอกับเสียวยู้นั้น
เพราะแม้ว่าหลินหมิงได้ส่งนางพร้อมกับหญิงสาวสองพี่น้องที่สมควร
กล่าวได้ว่าเป็นหญิงสาวลาดับแรกของเขาไปฝึกฝนตนกับผู้อาวุโสท่าน
อื่นภายในสมาคมนั้นจึงทาให้พวกนางนั้นไม่ค่อยได้พบเจอกับหลินหมิ
งมากเท่าใดนัก
" พี่ชายดูนี้เสี่ยวยู้สามารถเป็นผู้บ่มเพาะได้เช่นเดียวกับพี่ชาย
แล้ว ! "
หลินหมิงมองไปที่ร่างของเด็กสาวจากเดิมที่นางเป็นเพียงเด็ก
สาวสามัญชนธรรมดาแต่ในตอนนี้นางกลับกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เริ่มต้น
ได้แล้ว แม้ว่าระดับพลังปราณของนางจะไม่ได้สูงส่งมีเพียงระดับปราณ
เริ่มต้นขั้นแรกเท่านั้นแต่ถึงอย่างนั้นมันก็นับว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เลว
สาหรับเด็กสาวที่มีฐานะเดิมเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา หลินหมิงลูบ
ศรีษะของเสี่ยวยู้อย่างชื่นชมพร้อมกับริมฝีปากของเด็กสาวที่ส่งเสียง
หัวเราะคิกคักออกมาอย่างชอบใจ
ทันใดนั้นประตูห้องของหลินหมิงได้ถูกเปิดออกมาพร้อมกับ
ร่างของหญิงสาวสองคนที่วิ่งเข้ามาภายในห้องอย่างเหนื่อยหอบพร้อม
กับท่าทีของพวกนางที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
หลิงฉี ( คนพี่ )

หลิงเอ๋อร์ ( คนน้อง )
" อา..เสี่ยวยู้ เจ้ากาลังรบกวนคุณชายอยู่มากับพวกข้าเร็วเข้า !
"
หญิงสาวทั้งสองที่เข้ามาใหม่ก็คือหญิงสาวสองพี่น้องที่ได้รับ
ความบริสุทธ์ของหลินหมิงไป ในยามนี้เมื่อหลินหมิงมองไปที่พวกนาง
นับได้ว่าทั้งสองสาวนั้นเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อยเดิมทีพวกนางทั้งสองนั้นอยู่
ในช่วงที่ความงดงามของสตรีกาลังเบ่งบานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว และเมื่อ
ได้รับการร่วมรักอันยอดเยี่ยมจากหลินหมิงมันทาให้เสน่ห์ของพวกนาง
ทั้งสองนั้นเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะยังคงไม่สามารถเทียบได้
กับหมิงเยี่ยนหรือสตรีนางอื่นของเขาแต่ถึงอย่างนั้นพวกนางย่อม
สามารถจัดได้ว่าเป็นสาวงามที่หาผู้ใดเปรียบได้ยาก
หลิงฉีและหลิงเอ๋อร์หรือหญิงสาวสองพี่น้องรีบเข้ามาภายใน
ห้องของหลินหมิงหลังจากที่พวกนางเสร็จสิ้นจากการออกไปฝึกฝนกับ
ผู้อาวุโสภายในสมาคมมาเป็นระยะเวลานาน แน่นอนว่าพวกนางย่อมมี
ความคิดหาถึงหลินหมิงไม่ใช่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้พวกนางได้
ยินมาว่าหลินหมิงกาลังอยู่ร่วมหลับนอนกับสตรีงดงามนางหนึ่งซึ่ง
สมควรมีฐานะไม่ใช่น้อย อาจเป็นไปได้ว่านางอาจเป็นภรรยาของ
หลินหมิงก็ย่อมได้
หากเป็นปกติโดยทั่วไปแล้วนั้นการที่สาวใช้เช่นพวกนางจะเข้า
ก้าวก่ายภรรยาของเจ้านายเช่นนี้โทษของพวกนางจะไม่จบลงที่การ
ทรมานโดยง่ายแต่มันอาจร้ายแรงถึงขั้นชีวิต !
" คุณชายโปรดให้อภัยพวกข้าจะรีบพาเสี่ยวยู้ออกไปเดียวนี้เจ้า
คะ "
หลินหมิงชันตัวขึ้นพร้อมกับนั่งผิงที่ผนังเตียงโดยอุ้มร่างของ
เสี่ยวยู้ขึ้นกอดเอาไว้ราวกับหมอนนุ่มอันแสนน่ารัก หลินหมิงเหลือบไป
มองหมิงเยี่ยนที่ในตอนนี้ยังคงหลับอยู่พร้อมกับลูบไล้ใบหน้าของนาง
อย่างแผ่วเบาเมื่อคืนที่ผ่านมานี้นั้นไม่เพียงแต่นางจะต้องเหนื่อยอย่าง
มากกับการรับมือกับหลินหมิงแต่นางยังคงเพิ่งได้ระบายความกังวล
ภายในใจไปมันจึงไม่แปลกที่นางจะนอนหลับหมดสภาพเช่นนี้
" เอาเถอะ ไม่เป็นไรข้าไม่ได้โกรธเคืองกับเรื่องเล็กน้อยเพียง
เท่านี้อยู่แล้ว.. "
หลินหมิงกล่าวจบก็ทาท่าเรียกหลิงฉีและหลิงเอ๋อร์ให้เข้าไปหา
หลินหมิง หญิงสาวทั้งสองในตอนนี้ยังคงกังวลว่าหญิงสาวที่หลับข้าง
กายของหลินหมิงจะตื่นขึ้น พวกนางไม่แน่ใจว่าหญิงสาวนางนี้มีฐานะ
และนิสัยเช่นใดแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับสตรีที่มีความงดงามมากมายถึง
เพียงนี้มันย่อมเป็นที่แน่นอนว่าฐานะของนางย่อมไม่ธรรมดา
หญิงสาวทั้งสองเมื่อมาถึงข้างเตียงของหลินหมิงพวกนางทั้ง
สองนั่งลงคุกเข่าด้วยความน้อมนอบ ในตอนแรกพวกนางยังคงกังวลว่า
จากฐานะของหลินหมิงที่พวกนางได้ยินมานั้นมันเกินกว่าที่ตัวตนระดับ
พวกนางจะสามารถใกล้ชิดดังเดิมได้ ในตอนนี้ขอเพียงแค่หลินหมิงเอ่ย
ปากจะมีสตรีนับร้อยนับพันอาสาจะมาเป็นสตรีข้างกายของเขาหรือ
กระทั่งสาวใช้พวกนางก็ยังคงยินยอม
มือของหลินหมิงลูบไล้ไปที่ใบหน้าของหญิงสาวทั้งสองอย่าง
แผ่วเบา แม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงการลูบไล้ใบหน้าอย่างเดียวเพียง
เท่านั้นแต่มันกลับทาให้ร่างกายของพวกนางร้อนรุ่มขึ้นมาเล็กน้อย
พร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
" ไม่เลว พวกเจ้าก็สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้เช่นเดียวกันและ
ยังคงเป็นผู้ที่มพลังระดับปราณเริ่มต้นขั้นที่สอง "
" ทั้งหมดเป็นเพราะความเมตตาจากคุณชายเจ้าคะ "
หญิงสาวทั้งสองก้มลงด้วยความเคารพหลินหมิงอย่างแท้จริง
" ในตอนนี้พวกเจ้าไม่จาเป็นที่จะต้องเข้าฝึกตนกับผู้อาวุโสอื่น
อีก อีกไม่นานข้าจะกลับไปยังเมืองหลวงข้าจะให้พวกเจ้าทั้งสาม
ติดตามไปด้วย และข้าจะเป็นคนฝึกฝนพวกเจ้าเอง "
" จริงหรอพี่ชาย ! "
เสี่ยวยู้และหญิงสาวสองพี่น้องแสดงควายินดีออกมาทาง
ใบหน้าอย่างชัดเจน แม้ว่าการติดตามหลินหมิงไปยังเมืองหลวงจะทา
ให้พวกนางไม่สามารถฝึกฝนตนเองได้อีกแต่ถึงอย่างนั้นเทียบกับการได้
อยู่ข้างกายของหลินหมิงต่อไปแล้วนั้นการบ่มเพาะนั้นเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า
เพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าแท้การ
ได้อยู่ติดตามข้างกายของหลินหมิงนั้นอาจเป็นการก้าวหน้ามากยิ่งกว่า
การที่พวกนางได้ร่าเรียนกับผู้อาวุโสทั่วไป
หลินหมิงครุ่นคิดไปถึงชีวิตการอยู่อาศัยที่เมืองหลวงของเขา
และฉิงเชี่ยนแม้ว่าในที่แห่งนั้นเขาจะมีสาวใช้อย่างไม่ขาดแคลนแต่ถึง
อย่างนั้นพวกนางเหล่านั้นล้วนเป็นคนของแม่ทัพโจวมันจึงทาให้หลินห
มิงยังคงไม่สามารถไว้วางใจได้อย่างแน่นอนแท้จริงแล้วพวกนาง
เหล่านั้นอาจเป็นเพียงคนที่ถูกนามาใช้ติดตามการเคลื่อนไหวของ
หลินหมิงเพียงเท่านั้น
เสี่ยวยู้เมื่อได้ยินเช่นนี้นางรีบกระโดดเต้นไปด้วยความดีใจ
พร้อมกับพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปเก็บข้าวของของนางในทันที
แม้ว่าหลินหมิงจะยังคงไม่ได้บอกกล่าวนางว่าจะกลับเมืองหลวงเมื่อใด
ก็ตามที่
หลังจากนั้นหลินหมิงเข้าไปพบกับอาจารย์สาวสวยของเขาที่
ยังคงหมกตัวอยู่ภายในห้องร่วมกับผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสซูหลิ่ง
เมื่อดูจากสภาพของพวกนางในยามนี้ยกเว้นแต่เพียงผู้อาวุโสซูหลิ่งพวก
นางปรากฎร่องรอยขอบตาดาบริเวณใต้ตาเล็กน้อย อาจเป็นไปได้ว่า
พวกนางได้ใช้เวลาอย่างมากมายในหลายวันมานี้กับการศึกษาตารา
ปรุงยาจากนักรบโบราณ
เมื่อเห็นหลินหมิงเข้ามาตาของผู้อาวุโสฟางซิ่นเป็นประกายเจิด
จ้าในตอนนี้หาปราศจากจูหนิงเอ๋อร์แล้วละก็นางคงพุ่งเข้ากอดรัดฟัด
เหวี่ยงกับหลินหมิงเพื่อเติมเต็มความเหนื่อยล้าไปแล้ว
หลินหมิงได้กล่าวกับอาจารย์สาวสวยของเขาเพื่อบอกกล่าวกับ
นางว่าเขาจะกลับไปที่เมืองหลวงในเร็วนี้ แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนี้ค่า
คืนในวันนั้นผู้อาวุโสฟางซิ่นและผู้อาวุโสซูหลิ่งรีบมายังตาหนักของ
หลินหมิงพร้อมกับฉากร่วมรักอันเร่าร้อนของสตรีผู้งดงามถึงสามคนได้
เริ่มขึ้น
วันต่อมาหลินหมิงได้ตัดสินใจกลับไปยังเมืองหลวงพร้อมด้วย
ขบวนคุ้มกันอย่างผู้อาวุโสเหยียนฉือเช่นเคย สาหรับผู้อาวุโสสาว
ทั้งหลายพวกนางไม่สามารถติดตามหลินหมิงไปได้ในยามนี้เพราะว่า
พวกนางมีปัญหาภายในเมืองที่ต้องจัดการอยู่เป็นอย่างมากไม่ใช่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้นับได้ว่าทางฝั่งขององค์ชายจิ้งชวงองค์ชาย
ลาดับที่หนึ่งนั้นนับเป็นพันธมิตรอันดีเยี่ยมดังนั้นพวกนางจึงไม่จาเป็น
จะต้องกังวลในเรื่องนั้น
บนรถม้ามีร่างของหลินหมิงและหญิงสาวอีกสี่คนก็คือหมิง
เยี่ยน หลิงฉี หลิงเอ๋อร์และเสี่ยวยู้ แน่นอนว่าหมิงเยี่ยนนางไม่ได้รู้สึก
ขุ่นเคืองหลินหมิงแต่อย่างใด นางรู้มาจากคาบอกกล่าวของหลินหมิง
แล้วว่าหญิงสาวเหล่านี้ล้วนเป็นหญิงสาวรับใช้ของหลินหมิงแต่อดีตอ
ย่างยาวนาน สิ่งที่นางรู้สึกนับถือในเจ้าตัวลามกของนางผู้นี้ก็คือการที่
เขาไม่ทอดทิ้งสตรีข้างกายของเขา

ตอนที่ 253
เมื่อมาถึงที่เมืองหลวงผู้อาวุโสเหยียนฉือรีบกลับไปรายงาน
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับองค์ชายจิ้งชวงในทันที สิ่งที่สาคัญนั้นไม่ใช่
เรื่องการกลับมาของหลินหมิงแต่เป็นการที่สมาคมนักปรุงยานั้นได้
ครอบครองสิทธิอานาจในโอสถล้าค่าที่สามารถส่งเสริมให้กับ
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ได้ !
แม้ว่าในส่วนของขั้นตอนนั้นจะยังคงไม่สาเร็จดีนักแต่ผู้อาวุโส
เหยียนฉือได้คาพูดกล่าวกับจูหนิงเอ๋อร์มาแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่นับว่า
เป็นไปไม่ได้กลับกันแล้วความคืบหน้าในการทาความเข้าใจตาราโอสถ
โบราณนั้นคืบหน้าไปหลายส่วนแล้วด้วยกัน นี้ยังไม่นับรวมถึงเรื่อง
สาคัญที่ไม่แพ้กันมากนักอย่างการที่หลินหมิงได้ก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์
แล้ว !
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การเพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งขั้นแต่มีใครบ้างที่
ไม่เข้าใจความห่างชั้นของระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดและระดับปราญช์
ขนาดเหล่าผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญมากมายยังต้องใช้เวลาหลายปีด้วยกัน
ในการก้าวผ่านแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขาอาจใช้เวลาเพียงชั่วไม่กี่
วันเพียงเท่านั้น !
รถม้าของหลินหมิงมุ่งตรงไปยังสานักวังจันทรา ในตอนนี้
หลินหมิงรู้สึกคึดถึงและเป็นห่วงศิษย์พี่สาวสวยของเขาอยู่ไม่ใช่น้อยใน
ก่อนหน้านี้ที่เขาได้แยกจากจากนางไปมันเกือบทาให้นางต้องตกตาย
ลง เมื่อหลินหมิงมาถึงที่ตานักของเขาเขาก้าวลงจากรถม้าพร้อมกับห
มิงเยี่ยนสาหรับสามสาวที่เหลืออย่างหลิงฉี หลิงเอ๋อร์และเด็กสาวเสี่ยว
ยู้พวกนางทั้งสามล้วนหมดสภาพหลังจากได้ร่วมรักกับหลินหมิงใน
ระหว่างด้วยความโหยหา
สาวใช้ที่รอต้อนรับหลินหมิงได้แต่ยิ้มฝืนๆกับภาพตรงหน้า
พวกนางย่อมรู้ดีว่าหลินหมิงผู้นี้นั้นมีประสิทธิภาพในยามค่าตคืน
มากกว่าบุรุษทั่วไปแต่ถึงอย่างนั้นนี้เป็นครั้งแรกที่พวกนางได้เห็น
อานาจที่แท้จริงของหลินหมิงแต่เดิมนั้นพวกนางอาจเห็นได้เพียงจาก
หลักฐานบนร่างกายของหลัวฉิงเชี่ยนเพียงคนเดียวแต่ในตอนนี้สาหรับ
หญิงสาวที่กาลังนอนหอบอย่างไร้เรี่ยวแรงแต่ใบหน้าของพวกนางกลับ
ปรากฎแต่ร่องรอยแห่งความสุข แถมหนึ่งในนั้นยังคงดูเหมือนว่าจะมี
เด็กสาวที่มีอายุราวสิบปีอยู่ด้วย
เพียงหลินหมิงก้าวเข้ามาตานักเพื่อที่จะตรงไปหาหลัวฉิงเชี่ยน
ได้ไม่กี่ก้าวเบื้องหน้าของเขาในยามนี้ปรากฎร่างของหญิงสาวที่งดงาม
ที่กาลังยืนยิ้มให้เขาอย่างงดงาม แม้แต่หมิงเยี่ยนที่เคยมีความมั่นใจใน
ความงดงามของนางเองก็ยังคงรู้สึกด้อยกว่าหญิงสาวตรงหน้า ขนาด
ที่ว่านางเป็นสตรีด้วยกันนางยังคงอดที่จะชื่นชมไปไม่ได้
สายตาของหลัวฉิงเชี่ยนเหลือบมองมาที่ด้านข้างของหลินหมิง
ด้วยสายตาเข้าใจแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหมิงเยี่ยนแล้วนางยังคงอดที่จะ
กังวลไปไม่ได้ แต่เดิมแม้นางจะเคยได้ยินมาว่าภรรยาของหลินหมิงนาง
นี้จะมีความงดงามที่หาใดเปรียบและกระทั่งมากกว่านางแต่สาหรับ
นางที่เป็นถึงองค์หญิงและมีความมั่นใจในตนเองอยู่หลายส่วนมันทาให้
นางไม่สามารถยอมรับในเรื่องนี้ได้ แต่เมื่อได้เห็นหลักฐานตรงหน้าแล้ว
นางทาได้เพียงแต่ยอมรับอยู่ภายในใจ หากเป็นบุรุษอื่นที่มีสตรีงดงาม
เช่นนี้อยู่ข้างกายแน่นอนว่าแม้ว่าจะเป็นสตรีที่มีความงดงามเช่นนาง
แล้วก็อาจจะถูกเมินเฉยโดยง่าย
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วมันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง นั้นก็
เพราะว่าบุรุษเหล่านั้นล้วนมีความสามารถเพียงพอในการร่วมประสาน
กับสตรีได้เพียงหนึ่งคนต่อหนึ่งคืนแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นการร่วม
รักกับเจ้าตัวหื่นกามของนางผู้นี้เพียงหนึ่งคนต่อหนึ่งคืนนั้นมันเป็นสิ่งที่
ใกล้เคียงกับสวรรค์และนรกมากที่สุดแล้ว !
หลินหมิงเดินเคียงข้างกับสองสาวงามข้างกายของเขากลับไป
ยังห้องพัก เมื่อกลับมาถึงที่ห้องของเขาหลินหมิงระดมพรหมจูบไปยัง
ใบหน้าและซอกคอของหลัวฉิงเชี่ยนด้วยความหื่นกระหายอย่างไม่หัด ยุ
ยั้ง พร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่ไม่ได้โอบกอดแต่เพียงร่างของ
หลัวฉิงเชี่ยนเพียงเท่านั้นหมิงเยี่ยนนางถูกรวบรัดอย่างแนบแน่นด้วย
เช่นเดียวกัน
" ฮิฮิ นี้เจ้าไปอดอยากมาจากไหนกันหือ ? ไม่ใช่ในระหว่างทาง
เจ้าก็ดื่มด่าไปมากพอแล้วหรืออย่างไร "
เสียงอ่อนหวานของหลัวฉิงเชี่ยนที่ดังขึ้นไม่ได้เพียงพอที่จะทา
ให้หลินหมิงหยุดชะงักแต่มนั กลับทาให้เขาจู่โจมรุนแรงกว่าเดิมเสีย
มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นร่างของหลินหมิงกลับแยกออกไปจากหลัวฉิง
เชี่ยนอย่างไม่เต็มใจมากนักเมื่อมืออันเนียนนุ่มทั้งสองข้างของนางผลัก
ร่างของหลินหมิงด้วยแรงที่แผ่วเบา พร้อมกับจ้องมองไปยังหญิงสาว
ข้างกายของหลินหมิงเป็นเชิงให้แนะนา
สาหรับหลัวฉิงเชี่ยนนางรู้ดีอยู่แล้วว่าการที่หลินหมิงได้นาสตรี
ติดตามมาด้วยและยังคงเป็นสตรีที่มีความงดงามมากไม่ใช่น้อยดังนั้น
แล้วฐานะของนางย่อมเป็นเช่นเดียวกันกับนางสิ่งที่นางอยากจะรู้ก็คือ
หลินหมิงได้พบกับหญิงสาวนางนี้ได้อย่างไรกันแม้ว่าเมืองฟานซูจะ
กว้างใหญ่ไม่ใช่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่มีทางที่หญิงสาวที่มีความ
งดงามเช่นนี้จะไม่เป็นที่รู้จัก
หมิงเยี่ยนโค้งลงพร้อมกับกล่าวแนะนาตัว ด้วยฐานะของนาง
แท้จริงแล้วนั้นมันย่อมไม่มีความจาเป็นที่นางจะต้องก้มหัวให้กับใคร
เช่นนี้แต่ถึงอย่างนั้นนางยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับนิสัยของหญิงสาว
ตรงหน้า มันเป็นเรื่องธรรมดาสาหรับสตรีที่มาก่อนที่จะมีความเกลียด
ชังเหล่าอนุที่มาทีหลัง
" พี่หมิงเยี่ยนท่านไม่จาเป็นที่จะต้องเกร็งเช่นนั้น "
หลัวฉิงเชี่ยนขับไล่ให้หลินหมิงจากออกไปก่อนแม้ว่าในยามนี้ห
มิงเยี่ยนจะนับได้ว่าเป็นสตรีของหลินหมิงเช่นเดียวกันกับและสมควร
ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องปิดบังกันแต่ถึงอย่างนั้นสาหรับบางเรื่องมันย่อม
เหมาะสมสาหรับสตรีที่จะพูดกล่าวกันโดยเฉพาะเพียงเท่านั้น แม้ว่าใน
ยามนี้หลินหมิงจะอยากพุ่งเข้าจู่โจมหญิงสาวทั้งสองจนแทบจะไม่ทน
ไม่ไหวแล้วก็ตามที่นี้เป็นเหตุผลว่าเหตุใดหมิงเยี่ยนนางถึงสามารถรอด
พ้นจากการจู่โจมของหลินหมิงบนรถม้าไปได้
หากว่าเมื่อนางต้องพบหลัวฉิงเชี่ยนในสภาพที่หลังเสร็จศึกแล้ว
ละก็พวกนางคงไม่สามารถพูดกล่าวอันใดกันได้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวทั้งสองนั้นดูเหมือนจะใช้เวลาพูดกล่าวกัน
ค่อนข้างนานหลินหมิงตรงไปยังห้องฝึกฝนของตานัก ก่อนหน้านี้ที่
หลินหมิงได้เข้าสู่ระดับปราญช์นั้นเขาได้สัมผัสถึงสัตว์วิญญาณภายใน
ร่างกายของเขาเขานั้นคือพยัคฆ์ขาว ในยามนี้หลินหมิงนั่งลงพร้อมกับ
ทาสมาธิเพื่อเข้าไปสารวจภายในร่างกายของเขาอีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้นภาพที่เห็นตรงหน้าของเขาในยามนี้มันกลับไม่
ต่างจากก่อนหน้านี้หลินหมิงเริ่มสงสัยแล้วว่าเจ้าพยัคฆ์ขาวตัวนี้มัน
ยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่เหตุใดมันถึงได้นอนหลับได้อย่างยาวนานเช่นนี้
หลินหมิงถอนลมหายใจออกเฮือกใหญ่เขายังคงไม่สามารถที่จะสร้าง
ความขุ่นเคืองให้กับมันอย่างเช่นการไปปลุกมันได้อย่างแน่นอน ใครจะ
คิดกันบ้างว่าสัตว์วิญญาณที่ดูร้ายกาจเช่นนี้จะมีนิสัยเช่นใด ? มันคง
ไม่ได้ต่างจากเหล่าคุณหนู คุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์เสียเท่าไหร่
เมื่อประสบความล้มเหลวจากการเข้าหาสัตว์วิญญาณหลินหมิง
ยังคงไม่คลายจากสมาธิของเขาในยามนี้หลินหมิงได้เพ่งพลังสมาธิของ
เขาไปยังสมองที่ชายวัยกลางคนได้ถ่ายทอดความรู้มาให้แก่เขา ในก่อน
หน้านี้ที่หลินหมิงมีระดับในระดับจอมยุทธ์มันทาให้เขามีปัญหาในการ
รับรู้ข้อมูลจานวนมากนี้อยู่ช่วงใหญ่แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเข้าสู่ใน
ระดับปราญช์แล้วปัญหาเหล่านั้นล้วนลดลงไปอยู่หลายส่วน
ทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์ และ ทักษะง้าวยังคงเป็นทักษะที่หลินห
มิงให้ความสาคัญอยู่อย่างเช่นเคยโดยเฉพาทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์ที่
สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขาได้เป็นอย่าง
มากแม้ว่าจะยังคงไม่ได้เรียกใช้มันออกมา ในตอนนี้ลาพังเพียงพลังกาย
ของหลินหมิงเพียงอย่างเดียวนั้นก็เพียงพอที่จะสามารถสยบผู้บ่มเพาะ
ในระดับปราญช์ได้แล้วด้วยแข็งแกร่งระดับนี้ !
หลินหมิงจ่มอยู่ในห้วงความคิดของเขาอย่างยาวนานเพื่อ
ฝึกฝนทักษะทั้งสอง ในตอนนี้ภาพในห้วงของหลินหมิงคือการที่เขา
กาลังจับง้าวทมิฬพร้อมกับเรียกใช้เกราะศักดิสิทธ์ควบคู่ไปกับการใช้
ทักษะง้าว ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทั้งหมดของหลินหมิงนั้นอาจ
กล่าวได้ว่าส่วนใหญ่แล้วมันไม่ได้เป็นการต่อสู้ที่เขาจะต้องใช้ทักษะง้าว
เข้าช่วยมากนัก เขาอาศัยพลังปราณและทักษะอันรุนแรงในการสังหาร
ศัตรู
แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับบทเรียนในคราวนี้หลินหมิงตระหนักได้
เป็นอย่างดีถึงในกรณีที่มีจานวนศัตรูที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกันกับ
เขาและมีจานวนมากเขาไม่อาจใช้เพลิงสายฟ้าศักดิ์สิทธ์ในการสังหาร
ฝ่ายตรงข้ามได้ทุกคนอย่างแน่นอน ง้าวของหลินหมิงตวัดไปตาม
เจตจานงที่หลินหมิงได้เรียนรู้มา
พร้อมกับภาพในความคิดของเขาที่ปรากฎร่างของชายวัย
กลางคนที่กาลังอยู่ใช้ง้าวเข้าฟาดฟันกับตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าอย่างแม่
ซัคคิวบัสสาวของเขาอย่างไม่กลัวเกรง

ตอนที่ 254
เจ็ดวันผ่านไปนับตั้งแต่ที่หลินหมิงเข้าจมลงสู่ห้วงสมาธิเพื่อ
ฝึกฝนทักษะที่ได้รับสืบทอดมาจากชายวัยกลางคน หลินหมิงลืมตาตื่น
ขึ้นมาพร้อมกับอ่อร่ารอบตัวของเขาที่ดูแข็งแกร่งขึ้นแต่กว่าก่อนอย่าง
เห็นได้ชัดเจน แม้ว่าระดับพลังปราณของหลินหมิงยังคงเท่าเดิมอยู่แต่
ถึงอย่างนั้นด้วยการฝึกฝนทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์สาเร็จไปอีกส่วนมันทา
ให้หลินหมิงได้ก้าวหน้าไปมาก
ก่อนหน้านี้เขาอาจสามารถคงรูปร่างของเกราะสีทองเอาไว้ได้
เพียงลางๆไม่กี่วินาทีเพียงเท่านั้นแต่ในตอนนี้แม้ว่ามันจะยังคงห่างไกล
จากคาว่าสมบูรณ์เมื่อกับชายวัยกลางคนไปมากแต่อย่างน้อยหลินหมิง
ก็สามารถคงรูปร่างเกราะสีทองเอาไว้ได้ราวหนึ่งก้านธูป แต่ถึงอย่างนั้น
รูปร่างของตัวเกราะนั้นยังคงไม่ได้มีลวดลายที่งดงามเมื่อกับชายวัย
กลางคน
กล่าวได้ว่าเกราะแสงสีทองที่หลินหมิงสร้างขึ้นมานั้นหากมอง
เพียงผิวเพินแล้วมันอาจไม่ต่างจากเกราะทั่วไปมากเท่าใดนักหากไม่นับ
รวมแสงสีทองอรามที่ปลดปล่อยออกมา
" ข้าไม่สามารถใช้เวลาอยู่ในห้วงความคิดได้นานนัก "
ในก่อนหน้านี้ที่หลินหมิงได้เข้าสู่ห้วงความคิดนั้นในตอนแรกที่
เขาอยู่ภายในห้วงความคิดเขาคิดว่าเขาอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือ
อาจไม่ถึงวันเสียด้วยซ้าแต่ถึงอย่างนั้นผลลัพธ์ก็คือวันเวลาที่ล่วงเลยไป
ถึงหนึ่งเดือนเต็ม ! ดังนั้นแล้วในตอนนี้หลังจากผ่านไปเจ็ดวันหลินหมิง
สามารถทาความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์เพิ่มขึ้นและ
ทักษะง้าวของเขาอีกเพียงเล็กน้อย
แน่นอนว่าการเข้าสู่สภาวะห้วงความคิดของหลินหมิงนั้นเขา
จาเป็นที่จะต้องคาดการณ์เวลาเอาไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อยามที่เขา
ตื่นขึ้นมาอีกทีมันอาจเป็นไปได้ว่าวันเวลาอาจล่วงเลยไปนับปี ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าด้วยวิธีการฝึกฝนอันยอดเยี่ยมภายในห้วงความคิดนั้นมัน
ทาให้หลินหมิงที่แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้มากมาย
เท่าใดนัก ยังคงก้าวหน้าไปได้อย่างมากมาย หากไม่นับเรื่องผลเสียที่
สามารถมองเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างเวลาที่ต้องใช้ไปนั้นมันนับเป็น
หนทางการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
เป็นไปได้ว่าวิธีการเช่นนี้นั้นเหมาะสมสาหรับตัวตนระดับ
ตานานที่มีระดับพลังองครักษ์ขึ้นไปที่มีอายุยืนยาวนับพันปี การเข้า
เก็บตัวบ่มเพาะของพวกเขานั้นแม้ว่าจะใช้เวลานับปีก็ถือได้ว่าเป็นเพียง
เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อตรวจสอบร่างกายของตนเองเสร็จสิ้นหลังจากฝึกฝนเสร็จ
ไปที่เรียบร้อยหลินหมิงฉายแววในดวงตามุ่งมั่นที่จะทาความปราถนา
ก่อนหน้านี้ของเขา นั้นคือการหลับนอนร่วมกับสองสาวงามของหมิง
เยี่ยนและหลิวฉิงเชี่ยน ! แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของหลินหมิงพลัน
เหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวทั้งสองที่อยู่ไม่ห่างไกลจากเขามากนัก
ในห้องฝึกฝนแห่งนี้ พร้อมกับที่พวกนางกาลังทาสมาธิในการฝึกฝนตน
จิตใจของหลินหมิงห่อเ**่ยวลงไปในทันที มันอาจไม่ใช่เรื่อง
แปลกสาหรับหญิงสาวทั้งสองหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมีความมุ่งมั่นแนวแน่ใน
การฝึกฝนตนเป็นหลักอยู่แล้ว สาหรับหมิงเยี่ยนนั้นหลังจากที่นางได้
ร่วมรักกับหลินหมิงมาเป็นจานวนไม่ใช่น้อยทาให้ระดับพลังปราณ
ในตอนนี้จากระดับจอมยุทธ์ขั้นที่หนึ่งระดับปลายได้เกือบทะลวงเข้าสู่
ระดับขั้นที่สามแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในยามนี้นางจะ
เริ่มทาการทาให้พลังปราณในร่างกายของนางนั้นเสถียรเสียก่อนที่จะ
ยกระดับขึ้น !
หลินหมิงถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
หากว่าเขาเข้ารบกวนการฝึกฝนของพวกนางทั้งสองในยามนี้ ไม่
เพียงแต่อาจทาให้พวกนางเสียสมาธิแต่มันอาจทาให้พลังปราณใน
ร่างกายของพวกนางแตกซ่านและได้รับบาดเจ็บภายในได้ หลินหมิง
เดินจากออกไปยังห้องฝึกฝนในยามนี้เมื่อเขาไม่สามารถผ่อนคลาย
อารมณ์ที่สะสมมานานถึงเจ็ดวันได้กับภรรยาสาวทั้งสองตัวเลือกที่
เหลือนั้นย่อมไม่ใช่สาวใช้ในตานักแห่งนี้
หลินหมิงไม่คิดที่จะร่วมรักกับสาวใช้ในตานักที่เขาไม่รู้จักนิสัย
ของพวกนางดีพอแม้ว่าหลังจากร่วมรักเสร็จสิ้นแล้วนั้นมันเป็นไปได้ว่า
พวกนางอาจจะยินยอมเป็นของเขาและซือสัตย์กับเขา แต่ถึงอย่างนั้น
หลินหมิงยังคงคิดว่าสาหรับสตรีเช่นพวกนางแล้วนั้นย่อมต้องถูกฝึกฝน
ในเรื่องเหล่านี้มาอย่างนี้มันคงเป็นอันตรายสาหรับเขาและสตรีของเขา
อย่างแน่นอนหากเขารับเอาสตรีที่ไม่สามารถไว้วางใจได้มาข้างกาย
ต้องไม่ลืมว่าในยามนี้หลินหมิงยังคงมีปัญหากับเหล่าผู้อาวุโสจานวน
มากภายในสานัก
" หืม เสี่ยวยู้ ? "
เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่กาลังนอนเล่นอยู่บนเตียงของ
หลินหมิงด้วยท่าทีซุกซน ดวงตาอันสดใสของเด็กสาวเสี่ยวยู้เบิกกว้าง
ด้วยความดีใจในยามนี้ที่นางได้พบกับหลินหมิงอีกครั้ง
" พี่ชาย ! "
" เจ้าไม่ได้อยู่กับหลิงฉีและหลิงเอ๋อร์หรอกหรือ ? "
หลินหมิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยในยามนี้ สาหรับหญิงสาวทั้ง
สามแล้วนั้นพวกนางล้วนมาอยู่กับหลินหมิงในฐานะนางสนมแน่นอน
ว่าพวกนางย่อมมีฐานะเหนือกว่าเหล่าสาวใช้ที่อยู่เล็กน้อยเพียงเท่านั้น
เพราะแต่เดิมทีพวกนางล้วนเป็นตัวตนระดับธรรมดาและยังคงมีความ
แข็งแกร่งในระดับเริ่มต้น เทียบกับเหล่าสาวใช้ภายในตานักแห่งนี้แล้ว
นั้นพวกนางมีระดับพลังต่าสุดก็ระดับก่อเกิดขั้นแรกเข้าไปแล้ว !
" พี่สาวทั้งสองให้ข้าอยู่รอเมื่อยามพี่ชายฝึกฝนเสร็จ ! "
ดวงตาของหลินหมิงเต็มไปด้วยความเข้าใจในทันที ดูเหมือนว่า
ภรรยาทั้งสองของเขานั้นจะสามารถคาดการณ์เรื่องเหล่านี้ได้ไม่ใช่น้อย
ในตอนแรกหลินหมิงคาดว่าจะนาอารมณ์ที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้ไปลง
กับเมิงฟ่าน ( ภรรยาของกงซุนเอี้ยน ) และฉางซี ( อดีตภรรยาของ กง
ซุนหยาง ) เพราะสาหรับหลิงฉีและหลิงเอ๋อร์นั้นด้วยการที่ระดับพลัง
ของพวกนางนั้นมีเพียงระดับปราณเริ่มต้นขั้นแรกหลังจากร่วมรักกับ
หลินหมิงพวกนางจาเป็นจะต้องใช้เวลาอย่างมากในการหลอมหลวม
พลังที่เกิดขึ้น
แต่สาหรับเด็กสาวตรงหน้าของหลินหมิงในตอนนี้แน่นอนว่า
นางย่อมร่วมรักกับหลินหมิงไปบนรถม้าเช่นเดียวกันกับหลิงฉีและหลิง
เอ๋อร์เช่นเดียวกันแต่เขายังคงไม่สามารถทราบได้ว่าเหตุใดเด็กสาวที่ไร้
ซึ่งประสบการณ์เช่นนางถึงได้สามารถหลอมหลวมพลังที่เกิดขึ้นได้
รวดเร็วเช่นนี้ มันไม่ใช่น่าแปลกใจสาหรับผู้บ่มเพาะทั่วไปแต่สาหรับ
หญิงสาวที่เคยเป็เพียงสามัญชนธรรมดาและยังคงเป็นเด็กสาวที่มีอายุ
เพียงสิบปีนี้คือเรื่องที่น่าตื่นตะลึงไม่ใช่น้อย อาจเป็นว่าแท้จริงแล้วเด็ก
สาวผู้นี้กลับเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เป็นเลิศ ?
หลินหมิงสะบัดหัวไล่ความคิดที่ไม่จาเป็นในตอนนี้ทิ้งไปก่อน
ดวงตาของเขาในยามนี้จดจ้องไปยังร่างของเด็กสาวที่มีส่วนสูงราว 130
เซนติเมตร พร้อมกับใบหน้าของเด็กสาวที่แตกต่างจากในอดีตที่หลินห
มิงเคยพบเห็นไปอย่างมากในตอนนี้นางได้สวมใส่อาภรณ์ที่หรูหรา
พร้อมกับหน้าตาที่ดูสะอาดสะอ้านผิดจากเสี่ยวยู้เด็กสาวซุกซนของ
หมู่บ้านที่ชอบวิ่งเล่นคลุกฝุนจนตัวเปราะเปรื้อน
" ฮิฮิ "
เมื่อได้เห็นดวงตาหลินหมิงเด็กสาวหัวเราะคิักคักออกมาอย่าง
ชอบใจ เสี่ยวยู้กระโดดพุ่งเข้าหาหลินหมิงพร้อมกับจูงมือของหลินหมิง
ไปที่เตียงอย่างไม่มีความขวยเขินแม้กระทั่งเหล่าภรรยาของเขา
ในตอนนี้พวกนางยังคงไม่สามารถแสดงออกอย่างไร้ซึ่งใบหน้าเอียง
อายเช่นนี้ได้ แต่สาหรับเสี่ยวยู้ที่เป็นเด็กสาววัยสิบปีนั้นหลังจากที่นาง
ได้ผ่านในครั้งแรกมาแล้วและได้พบกับความสุขอันแสนรื่นรมย์นางไม่
คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องน่าอายมากนัก แต่สาหรับในกรณีของหลินหมิ
งเพียงคนเดียวเพียงเท่านั้น นางราวกับเด็กที่ได้พบเจอขนมในฝันที่
ถูกใจและจะไม่ยอมปล่อยให้ห่าง
" พี่ชายต้องการให้ข้าเป็นฝ่ายรุกเร้าหรือพี่ชายเอง ? "
น้าเสียงของเสี่ยวยู้เต็มไปด้วยความเย้ายวนแม้ว่านางจะเป็น
เพียงเด็กสาววัยสิบปีแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงไม่สามารถปฎิเสธได้ถึง
ความน่ารักอันสดใสของนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่ร่างกายของ
นางได้รับผลประโยชน์จากการร่วมรักกับเขามาแล้วมันทาให้ผิวพรรณ
ของนางนั้นดูสดใสเปล่งแสง ชั้นผิวของเด็กสาววัยสิบปีเช่นนางแน่นอน
ว่ามันยังคงเต็มไปด้วยเนื้อหนังหนาแน่นกว่าหญิงสาวในวัยผลิบานแล้ว
อยู่ไม่ใช่น้อย
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาในการลดถอนอารมณ์ของหลินหมิงกลับ
กันแล้วเมื่อมือของหลินหมิงไปสัมผัสเขาที่ผิวหนังของเสี่ยวยู้มันทาให้
เขาพบกับผิวสัมผัสอันเนียนนุ่มไม่แพ้สตรีของเขาเลยทีเดียว

ตอนที่ 255
" อ๊าาา ♥ "
เสียงครางของเด็กสาววัยสิบปีนั้นเป็นสิ่งที่เย้ายวนเกินกว่าที่
หลินหมิงจะห้ามใจได้ ในตอนนี้ร่างเสี่ยวยู้อยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่า
พร้อมกับมือของหลินหมิงที่ลูบไล้ไปที่บริเวณต้นขาอ่อนนุ่มใกล้กับจุด
สามเหลี่ยมลับหญิงสาว แน่นอนว่าไม่เพียงเท่านั้นเนินอกของนางเองก็
กาลังถูกโลมเลียโดยริมฝีปากของหลินหมิงจนเป็นรอยแดงก่าเล็กน้อย
" พี่ชาย ♥ "
แม้ว่าด้วยร่างของเสี่ยวยู้ที่ยังคงเป็นเด็กสาวในวัยเพียงสิบปี
ความงดงามของนางนั้นยังคงไม่ได้แสดงให้เห็นออกมากนักสาหรับ
หญิงสาวในวัยนี้ แต่ถงึ อย่างนั้นสาหรับเสี่ยวยู้ที่ผ่านการร่วมรักกับ
หลินหมิงมาแล้วนั้นมันทาให้ในตอนนี้แม้นางจะยังคงไม่สามารถเทียบ
ความงามกับเหล่าหญิงสาวของเขาได้แต่หากเพียงอีกสี่หรือห้าปี
ต่อจากนั้นอาจเป็นไปได้ว่านางอาจมีความงดงามไม่น้อยไปกว่าหลิวฉ
วนยูร์ในตอนนี้ !
" เจ้าห้ามทาอย่างนี้กับบุรุษอื่นเข้าใจหรือไม่ "
หลินหมิงที่ชิมรสชาติเนินอกของเสี่ยวยู้อย่างพึงพอใจในยามนี้
กล่าวขึ้นมากับเด็กสาว เขายังคงเป็นกังวลว่าหลังจากที่เสี่ยวยู้ได้เสีย
ความบริสุทธ์ไปตั้งแต่เด็กเช่นนี้มันอาจทาให้นิสัยของนางนั้น
แปรเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าในยามเช้านางจะเป็นฝ่ายจู่โจมรีดเร้นน้ารัก
ของหลินหมิงเข้าดื่มอยู่ทุกเมื่อ
" อือ้ ! เสี่ยวยู้จะไม่ทากับบุรุษนอกจากพี่ชายอย่างแน่นอน !
เพราะฉะนั้นพี่ชายห้ามทิ้งเสี่ยวยู้แล้วก็ทากับเสี่ยวยู้บ่อยๆนะ ♥ "
เสี่ยวยู้กล่าวออกมาด้วยน้าเสียงสดใส พร้อมกับมือทั้งสองข้าง
ของนางที่พยายามโอบรอบคอของหลินหมิงที่ใบหน้าของเขาอยู่ไม่ห่าง
อาจเป็นเพราะนางได้เห็นมาจากเหล่าหญิงสาวของหลินหมิงก่อนหน้า
นี้แต่ถึงอย่างนั้นด้วยร่างกายของนางที่ยังคงเด็กเกินไปทาให้มือของ
นางทาได้เพียงเอื้อมมาถึงที่บริเวณใบหน้าของหลินหมิงเพียงเท่านั้น
" ฮึ่ม ! "
เสี่ยวยู้พ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้น
นางละความสนใจจากการโอบรอบคอของหลินหมิงมาเปลี่ยนเป็นการ
จับไปที่แก้มทั้งสองข้างของหลินหมิงพร้อมกับดูดดื่มริมฝีปากกับหลินห
มิงอย่างเร่าร้อน
อืม้ มมมม ♥
ลิ้นของหลินหมิงถอนออกมาเพื่อให้เสี่ยวยู้ได้หายใจถึงอย่างไร
ก็ตามนางยังคงเป็นเด็กสาวอยู่นางไม่สามารถที่จะอดกลั้นหายใจได้
นานมากนัก
" อ๊าา ♥ พี่ชาย..ยอดเยี่ยมที่สุดเลย ! "
ลิ้นของหลินหมิงโลมเลียไปที่บริเวณซอกคอของเสี่ยวยู้พร้อม
กับเสียงครางด้วยความปิติที่ดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย ในเวลานี้ขาทั้ง
สองข้างของเสี่ยวยู้แยกออกจากกันเล็กน้อยเนื่องจากใบหน้าของ
หลินหมิงได้ลดต่าลงมาอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าหลินหมิงจะเคยร่วมรักกับเสี่ยวยู้มาแล้วแต่ถึงอย่างนั้น
เขายังคงไม่เคยได้เห็นร่องสวาทของนางอย่างชัดเจนและที่สาคัญไป
กว่านั้นก็คือเขายังไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติร่องสวาทของเด็กสาววัยสิบ
ปีเลย
" ฮิฮิ ♥ พี่ชายจะทาอะไรนะ "
เสี่ยวยู้ส่งเสียงหัวเราะร่ัาออกมาอย่างเสี่ยวซ่านเล็กน้อยในยาม
นี้ลิ้นของหลินหมิงกาลังโลมเลียไปที่บริเวณต้นขาอ่อนของนางที่กาลัง
ตั้งชันเป็นรูปสามเหลี่ยมทั้งสองข้างพร้อมกับแหวกออกเล็กน้อย
" ข้าก็จะลิ้มรสชาติของเจ้ายังไงล่ะ ! "
ร่องสวาทสีชมพูดสดใสอันเรียบเนียนปราศจากป่ารถทึบขึ้นมา
บนบังได้ถูกหลินหมิงโลมเลียอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของเสี่ยวยู้สั่นเทา
ด้วยความเสี่ยวซ่านพร้อมกับขาทั้งสองข้างของนางที่เข้าบีบศรีษะของ
หลินหมิงที่กาลังเพลิดเพลินอารมณ์อยู่ เช่นเดียวกันกับมือทั้งสองข้าง
ของนางที่กาลังกดศรีษะของหลินหมิงเอาไว้อย่างไม่แยกจาก
" ซี๊ดดดดด ♥ พี่ชายข้าไม่ไหวแล้ว !! "
น้ารักของเสี่ยวยู้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงพร้อมกับร่างกาย
ของนางที่สั่นกระตุกอย่างรุนแรงสองถึงสามครั้ง หลินหมิงย้ายร่างของ
เขาไปดูดดื่มปากกับเสี่ยวยู้พร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่เล่นสนุก
กับหน้าอกของนางเพื่อรอเวลาให้นางได้พักเสียก่อน
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ในตอนนี้ลมหายใจของเสี่ยวยู้เริ่ม
กลับมาเป็นปกติอีกครั้งทวนมังกรของหลินหมิงนั้นเข้าประจาทีอย่างไม่
รีรอในก่อนหน้านี้ที่เขาเข้าฝึกฝนเข้าต้องอัดอั้นอารมณ์มานานถึงเจ็ด
วันและเมื่อเขาได้ลิ้มรสชาติของเด็กสาวมันทาให้อารมณ์ของเขาไม่
สามารถเก็บอั้นไว้ได้นานกว่านี้อีกต่อไป
" อู้วววว ♥ "
ทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังมุดเข้าไปในร่องสวาทอันคับ
แน่นของหญิงสาวนั้นค่อยๆถูกบีบรัดอย่างต่อเหนื่องใบหน้าของเสี่ยวยู้
ไม่ได้ปรากฎความเจ็บปวดในยามที่หญิงสาวได้รับการร่วมรักจาก
หลินหมิงมาแล้วนั้นร่องสวาทของพวกนางจะมีความยืดยุ่นที่เพิ่มมาก
ยิ่งขึ้น
บริเวณหน้าท้องของเสี่ยวยู้ถึงกับโก่งโค้งขึ้นมาพร้อมกับสั่นเทา
ไปด้วยความเสี่ยวซ่านที่กาลังเกิดขึ้นอย่างต่อเหนื่องภายในร่องสวาท
ของนางนัน้ ราวกับได้เติมเต็มไปด้วยความสุขอันสุดยอดที่หาใดเปรียบ
" อ๊าาา ♥ "
หลินหมิงยกร่างของเสี่ยวยู้ให้เปลี่ยนจากท่านอนหงายมาขึ้น
นั่งคร่อมทวนมังกรบนตักของเขา เมื่อเป็นเช่นนี้ทวนมังกรของหลินหมิ
งถูกแทงทะลวงเข้าไปจนสุดผนังมดลูกพร้อมกับเสียงครางดังสนั่นของ
เด็กสาว
หลินหมิงนามือทั้งสองข้างของเขาจับไปที่เอวทั้งสองข้างของ
เสี่ยวยู้พร้อมกับเริ่มทาการขยับยกร่างของนางขึ้นลงอย่างเร่าร้อน ลิ้น
ของหลินหมิงยังคงเข้าไปโลมเลียไปบริเวณหน้าอกราบเรียบของนาง
ด้วย แม้ว่าในตอนนี้หน้าอกของนางนั้นจะยังคงไม่แสดงออกมาอย่าง
เด่นชัดแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่ถึงกับราบเรียบไปเสียทีเดียว โดยเฉพาะ
ยอดปถุมทันของนางในตอนนี้ที่ดูเหมือนว่าจะซือสัตย์เป็นอย่างที่กาลัง
ตั้งชันสู้กับหลินหมิง
" อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ♥ "
น้ารักของหลินหมิงใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถูกระเบิดออกมา
อย่างรวดเร็วเนื่องจากเขาต้องทนเก็บอารมณ์เอาไว้มาอย่างยาวนาน
รวมกับร่องสวาทของเด็กสาววัยสิบปีที่มีขนาดคับแน่นเกินห้ามใจ
" อร้างงง ♥ "
ด้วยร่างกายของเสี่ยวยู้แน่นอนว่านางไม่สามารถรับน้ารักของ
หลินหมิงได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน ในตอนนี้ท้องของนางโป่งพ่องขึ้นมา
อย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่หลินหมิงทามีเพียงการนาทวน
มังกรของเขาออกก่อนเพียงเล็กน้อยเพื่อให้น้ารักได้ไหลออกมา
บางส่วนพร้อมกับซัดทวนมังกรเข้าไปเพลิดเพลินกับเสี่ยวยู้อีกครั้ง
อย่างรวดเร็ว
....
ร่างของเสี่ยวยู้หมดสติลงไปหลังจากที่นางสามารถทนรับ
อารมณ์ของหลินหมิงไปได้ถึงสามน้าเทียบกับอายุของนางในตอนนี้
แล้วนั้น นี้เป็นผลลัพธ์ที่นับว่ายอดเยี่ยมมาก แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับ
ในตอนนี้ของหลินหมิงเขายังคงรู้สึกว่าร่างกายของเขายังคงหนักอึ้งไป
ด้วยอารมณ์ที่คั่งค้าง หลินหมิงจัดท่านอนให้กับสาวน้อยสุดน่ารักของ
เขาบนเตียงให้นางพักผ่อนพร้อมกับตรงออกไปจากห้องเพื่อหาที่
บรรเทาอารมณ์
เป้าหมายของเขาในยามนี้คงเหลือแต่เพียงเมิ่งฟ่านและฉางซี (
ภรรยาของกงซุนเอี้ยน และภรรยาของกงซุนหยาง) หลินหมิงตรงเข้า
มาภายในห้องของพวกนางอย่างรวดเร็วแรกเริ่มสายตาของพวกนาง
นั้นเต็มไปด้วยความตกใจแม้ว่าพวกนางจะรู้ข่าวที่หลินหมิงกลับมา
แล้วแต่ถึงอย่างนั้นพวกนางไม่ได้มีความมั่นใจในสถานะของพวกนาง
เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเป็นทที่รู้กันดีว่าก่อนหน้านี้ตระกูลกงซุนได้ทาสิ่ง
ใดกับหลินหมิงเอาไว้เช่นนั้นแล้วมีหรือที่พวกนางจะกล้าไปหาหลินหมิง
ด้วยตนเอง
" คุณชาย... "
หลินหมิงมองไปที่หญิงสาววัย 18 ปีที่มีใบหน้างดงามอยู่หลาย
ส่วนหากเหล่าบุรุษคุณชายจากตระกูลอื่นได้ยินว่าหลินหมิงรับนาง
เอาไว้เป็นเพียงสนมแล้วละก็พวกเขาอาจอิจฉากันท้วนหน้าด้วยความ
งดงามของฉางซีและกริยาของนางทั้งหมดนั้นนางสามารถกลายเป็น
คุณนายของตระกูลที่มีอานาจได้ไม่ยาก แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อในตอนนี้
นางเป็นสตรีของหลินหมิงแล้วไม่มีผู้ใดที่มีความกล้าเพียงพอที่จะคิดยื้อ
แย่งนางไป
" ข้าจะช่วยท่านเองเจ้าคะ "
เสียงของฉางซีดังขึ้นผิดกับเมิ่งฟ่านที่รีบก้มลงนั่งชันเข่ากับพื้น
ด้วยความกลัวเกรงหลินหมิง ฉางซีนางเดินเข้าไปหาหลินหมิงพร้อมกับ
ค่อยๆปลดเสื้อผ้าอาภรณ์ของหลินหมิงที่เพิ่งใส่อย่างรุ่มรามออก
ดวงตาของนางฉายแววตกใจเมื่อได้เห็นทวนมังกรของหลินหมิงอีกครั้ง
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ถึงอย่างนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่น่าจะสามารถทา
ใจให้เคยชินได้โดยง่าย
นางมองไปที่ดวงตาของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยความร้อนรุ่มอัน
เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการแน่นอนว่าในอดีตนี้เป็นสิ่งที่นางไม่
แม้แต่จะเคยได้รับ นางได้มีประสบการณ์จากบทเรียนจากกงซุนหยาง
สามีเก่าของนางมาแล้วดังนั้นในตอนนี้นางไม่ยินยอมที่จะให้หลินหมิ
งทอดทิ้งนางจากไปโดยง่ายดังนั้นแล้วนางตั้งใจที่จะปรินนิบัติหลินหมิ
งอย่างยอดเยี่ยมที่สุด
นางประคองร่างของหลินหมิงขึ้นเตียงพร้อมกับนางที่ค่อยๆ
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกแล้วนอนแหวกขาเชิญชวนตอนรับ
หลินหมิงอย่างเย้ายวน

ตอนที่ 256
ใบหน้าของฉางซีในตอนนี้จ้องมองไปที่หลินหมิงไม่ใช่สายตาที่
เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวเช่นในตอนแรก ในยามนี้เมื่อนางได้
เห็นเรือนร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงอีกครั้ง มันอดไม่ได้ที่จะทาให้
นางนึกถึงคืนวันอันเร่าร้อนของนางและหลินหมิง หลินหมิงจ้องมองไป
ยังเรือนร่างของฉางซีที่เป็นสาวขี้อายแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้นางกลับมี
ความกล้ามากพอที่จะอ้าขาของนางเพื่อปรนนิบัติเขา
ใบหน้าของหลินหมิงยื่นเข้าไปที่ข้างหูของฉางซีพร้อมกับโลม
เลียใบหูของนางที่กาลังแดงระเรื่อจนลามไปถึงใบหน้าแม้ว่านางจะ
ตกใจในยามนี้ แต่นางพลันฉุกคิดเรื่องนิสัยของหลินหมิงขึ้นมาได้หาก
เป็นบุรุษทั่วไปแล้วพวกเขาคงจู่โจมนางในทันทีไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น
สาหรับหลินหมิงนั้นเขามักจะเพลิดเพลินกับเรือนร่างของสตรีก่อนที่
เขาจะลงมือก่อนเสมอ
" เจ้าอยู่ที่นี้มีปัญหาอันใดหรือไม่ ? "
" มะ...ไม่..ไม่มีเจ้าคะ..อ๊าา "
ฉางซีตอบกลับด้วยน้าเสียงสั่นๆ นางไม่เข้าใจเหมือนกันว่า
เพียงแค่รสชาติการสัมผัสจากหลินหมิงเพียงเล็กน้อยมันกลับทาให้
ร่างกายของนางนั้นตอบสนองอย่างรุนแรง
พ่วงแก้มขาวเรียบของนางในยามนี้ปรากฎสีชมพูขึ้นทั้งสองข้าง
จนหลินหมิงไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากใบหน้าของฉางซีในยามนี้
ได้ มือของหลินหมิงเข้าลูบไล้ไปที่ผิวท้องราบเรียบไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆบด
บังพร้อมกับเลื่อนขึ้นมาจับสัมผัสหน้าอกเนียนนุ่มที่ราวกับว่ามัน
สามารถดูดกลืนมือของเขาได้ทั้งหมดสิ้น
ทันใดนั้นบริเวณส่วนร่างของหลินหมิงพลันสัมผัสได้ถึงความ
เปียกชื่นที่กาลังหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของหญิงสาวพร้อมกับ
ร่างกายของนางที่เริ่มสั่นเทา ใบหน้าของฉางซีในยามนี้นางแทบจะไม่
กล้าแม้แต่จะมองนางหลินหมิงเสียด้วยซ้า มันเป็นเวลานานหลายวัน
แล้วหลังจากที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิงไปในครั้งแรกและได้กลายมา
เป็นสตรีของเขา
ในทุกๆวันหลังจากนั้นนางไม่าจหวนคิดถึงฉากรักอันเร่าร้อน
พร้อมกับอ้อมกอดของหลินหมิงและใบหน้าของเขาได้ ในอดีตนั้น
แม้ว่านางจะเคยเป็นสตรีของกงซุนหยางมาก่อนและถูกเขาปฎิบัติไม่ใส่
ใจแต่ถึงอย่างนั้นนางไม่เคยเก็บเรื่องเหล่านี้มาเป็นกังวลมากนักแต่
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นมันแตกต่างออกไป มันจะเป็นยังไงหากหลินห
มิงลืมเลือนนางไปแล้ว ? เมื่อเป็นเช่นนั้นนางอาจต้องพบกับควาทุกข์
ทรมานในแต่ละวันเมื่อยามคิดถึงฉากร่วมรักของหลินหมิงและนาง
" เจ้าถึงกับเสร็จไวเพียงนี้ ? "
แม้แต่หลินหมิงเองก็ยังคงตื่นตะลึงดูเหมือนว่าสาวขี้อายนางนี้
แท้จริงแล้วจะมีอารมณ์ความต้องการซ่อนอยู่ภายในใจไม่ใช่น้อย มือ
ของหลินหมิงัเข้
ที่ าสัมผัสลูบไล้ไปที่ร่องสวาทที่เพิ่งทาการปลดปล่อยน้า
รักออกมาทาให้ร่างของฉางซีบิดเป็นเกลียวคู่
หลินหมิงยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างพึงพอใจเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าร่อง
สวาทของนางนั้นกาลังตอดขมิบกับนิ้วมือของเขาอย่างรัดแน่น ริม
ฝีปากของหลินหมิงไซร้ไปที่คอเรียบเนียนของฉางซีพร้อมกับเสียงคราง
กระเส้าของนางที่ค่อยๆดังออกมาอย่างต่อเหนื่อง ในยามนี้แม้ว่านาง
จะปลดปล่อยน้ารักออกมาแล้วแต่ถึงอย่างนั้นด้วยรสชาติการเล้าโลมที่
ค่อยๆร้อนแรงขึ้นนี้มันทาให้ในตอนนี้ร่องสวาทของนางราวกับลาธารที่
ไหลออกมาอย่างไม่มีหยุดหย่อน
" คะ..คุณชาย... อ๊าาา ♥ "
ฉางซีส่ายหน้าไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะสามารถรู้ได้ว่านางจะ
สามารถรับมือกับรสชาติความสุขที่กาลังเกิดขึ้นต่อเหนื่องนี้ได้อย่างไร
ทันใดนั้นเสียงกระซิบดังขึน้ ที่ข้างหูของนางทาให้ดวงตาของนางเบิก
กว้าง
" เจ้าอยากได้ทวนมังกรของข้าหรือยัง "
สาหรับสาวขี้อายเช่นนางแล้ว คาถามเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรไป
จากการกลั่นแกล้งกันเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าของนางก้มลงมุดจนแทบ
จะฝุบลงเตียง แต่ถึงอย่างนั้นศรีษะของนางกลับพยักหน้าอย่างช้าๆ
แทนคาตอบ
" หากเจ้าไม่กล่าวออกมาแล้วละก็ข้าย่อมไม่รู้หรอกว่าเจ้า
ต้องการมันหรือไม่ "
หลินหมิงในตอนนี้กาลังสนุกกับการเย้าแหย่หญิงสาวขี้อายเช่น
ฉางซี
" ขะ...ข้าต้อง..การมัน..เจ้าคะ...ขะ...ข้าต้องการ..ทวนมังกร
ของ...คุณชายเจ้าคะ "
ฉางซีกล่าวออกมาโดยหลบเลี่ยงใบหน้าของหลินหมิงอยู่ตลอ
ดั้งแต่เกิดมานั้นนี้อาจเป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกได้ว่าความเขินอายที่
แท้จริงเป็นเช่นใด หลินหมิงให้รางวัลในความซื่อสัตย์และท่าทีที่ทาให้
เขารักใคร่สาวขี้อายนางนี้ขึ้นด้วยการประกบริมฝีปากลงไปอย่างแผ่ว
เบา
อือ้ มมม ♥
หลินหมิงถอนริมฝีปากออกมาแล้วจ้องไปทางเมิ่งฟ่านที่กาลัง
นั่งคุกเข่ากับพื้นโดยที่นางหลบสายตาของหลินหมิงในทันทีที่หลินหมิ
งมองมา
" เจ้าขึ้นมานี้ ! "
เมิ่งฟ่านในตอนนี้ไม่หลงเหลือคราบของนายหญิงแห่งตระกูล
กงซุนอีกต่อไป นางรีบขึ้นไปบนเตียงในทันทีที่หลินหมิงเรียกหานาง
แน่นอนว่าแม้นางจะหวาดกลัวหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะจากการ
ร่วมรักระหว่างนางกับหลินหมิงนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างอ่อนโยนเช่นฉางซี
ไม่เช่นนั้นแล้วนางจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้อย่างแน่นอน
ในตอนนี้ดวงตาของนางฉายแววแห่งความหวังตราบใดที่
หลินหมิงต้องการร่วมรักกับนางนั้นนางจะไม่ปฎิเสธมันอย่างแน่นอน
จะมีคนโง่ผู้ใดบ้างที่จะปฎิเสธความสุขที่จะได้รับ แต่นางเพียงคาดหวัง
ที่จะได้รับการปฎิบัติอย่างอ่อนโยนเช่นเดียวกันกับอดีตลูกสะใภ้
ตรงหน้านางบ้าง
เมิ่งฟ่านที่ขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับนั่งพับเพียบลงถูกใช้เป็นตัก
หนุนหัวของหลินหมิงโดยที่นางยังคงเต็มไปด้วยความสับสน
เช่นเดียวกันกับฉางซีที่ฉายแววฉงน หรือว่าหลินหมิงอาจจะเหนื่อยจน
หมดอารมณ์ไปแล้ว ? แน่นอนว่านางไม่คิดเช่นนั้นในเมื่อหลักฐานอัน
ยิ่งใหญ่ยังคงตระหง่านอยู่ตรงหน้าของนางในยามนี้
" เจ้าสามารถขึ้นคร่อมมันได้ในตอนนี้ "
ได้ยินเสียงของหลินหมิงในใจของฉางซีเต็มไปด้วยความขัดแย้ง
สาหรับสตรีทั่วไปแม้แต่นางคณิกานั้นพวกนางยังคงมีไม่กี่คนเท่านั้นที่มี
ความสามารถทักษะการร่วมรักในท่วงท่านี้ เพราะหากพวกนางขึ้น
คร่อมทวนมังกรของบุรุษแล้วเผลอตัวเร่งจังหวะเร็วมากเกินไปแล้วละ
ก็ผลลัพธ์อันเลวร้ายคงส่งผลกับพวกนางในทันที ดังนั้นแล้วมันจะมี
เพียงแต่คณิการะดับสูงที่มีความมั่นใจเพียงพอที่จะสามารถให้การ
ปรนนิบัติบุรุษในท่วงท่านี้ได้
เช่นนั้นแล้วสาหรับนางเล่า ? นางเป็นเพียงหญิงสาวทั่วไปที่
เพิ่งเสียความบริสุทธ์มาไม่นานเท่านั้นนี้ยังไม่นับรวมถึงความเขินอายที่
กาลังก่อขึ้นอย่างท่วมท้นในใจของนาง
" ดะ..ได้เจ้าคะ ! "
ฉางซีกัดฟันแน่นพร้อมกล่าวออกมานางไม่ต้องการหลินหมิ
งทอดทิ้งนางไป เป็นที่รู้กันดีว่าหลินหมิงนั้นมีสาวงามข้างกายมากมาย
เพียงใดกระทั่งล่าสุดเขาก็ยังคงพาหญิงสาวที่มีความงดงามเพียง
พอที่จะสะกดทุกสายตาให้ตะลึงค้างมาเป็นภรรยาของเขาได้อย่างหมิง
เยี่ยน ! ดังันันแล้วหนทางเดียวที่นางจะยังคงมีสิทธ์อยู่ข้างกายของ
หลินหมิงต่อไปได้คือการปรนนิบัติให้เขายอดเยี่ยมที่สุด
ร่างของนางยกขึ้นเหนือทวนมังกรของหลินหมิงขาของนาง
แหวกออกเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้กับร่องสวาทของนางได้กว้างออก
ลาตัวของนางค่อยๆทิ้งดิ่งลงมาอย่างเชื่องช้า
" ซี๊ดดดดดดดดดด ♥ "
เมื่อมองไปยังภาพตรงหน้าเมิ่งฟ่านนางอดไม่ได้ที่จะรูส้ ึกอิจฉา
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะนอนหนุนตักของนางอยู่นั้นย่อมหมายความ
ว่าเขายังคงไม่ลืมนาง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยสภาพเรือนร่างเปลื่อยเปล่า
ของนางกับปลายเส้นผมของหลินหมิงบางส่วนที่อยู่ใกล้ชิดกับร่อง
สวาทของนางเป็นอย่างมากมันทาให้ร่องสวาทของนางเริ่มมีปฎิกริยา
ขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่เพียงเท่านั้นหน้าอกของนางในยามนี้กาลังถูกมือของ
หลินหมิงสัมผัสบีบนวดอย่างสนุกมือ
" อ๊าาาาาาา ♥ "
มือทวนมังกรของหลินหมิงสามารถแทงทะลวงเข้าไปภายใน
ร่องสวาทของฉางซีได้เพียงสองส่วนร่างกายของนางพลันเสียสมดุล
พร้อมกับลาตัวที่ทิ้งดิ่งลงมาร่องสวาทของนางกลืนกินทวนมังกรของ
หลินหมิงไปจนหมดสิ้นพร้อมกับเสียงครางของนางที่ดังสนั่นขึ้น
" แฮ่ก ๆ ขอ..ประทาน..โทษเจ้าคะ "
มือของนางในยามนี้ได้ถูกใช้พิงไปที่กล้ามเนื้อหน้าท้องอัน
หลินหมิงหากไม่เช่นนั้นแล้วในยามนี้นางอาจเสียหลักจนไม่สามารถตั้ง
ตัวได้ สัมผัสอันอบอุ่นและอัดแน่นภายในร่องสวาทอันน่าคิดถึงมันทา
ให้หัวสมองของฉางซีขาวโพลนไปด้วยความว่างเปล่า ดวงตาของนาง
จับจ้องไปยังร่างของหลินหมิงที่ในยามนี้กาลังนอนราบอยู่ตรงหน้าของ
นาง
ทันใดนั้นร่างของนางพลันนอนราบแอบอิงหน้าอกของหลินหมิ
งอย่างไม่รู้ตัวดวงตาของนางเหม่อลอยไปด้วยความต้องการอันแปลก
ประหลาดลิ้นของนางถูกนาออกมาโลมเลียไปยังเรือนร่างเปลื่อยเปล่า
ของหลินหมิงด้วยความเสน่ห์หา
" ไม่เลว ! เจ้าสามารถทาทุกสิ่งได้ตามต้องการ "
" เจ้าคะ "
สะโพกของฉางซีเริ่มขยับไปมาในขณะที่เมื่อนางได้ยินคากล่าว
ของหลินหมิงสิ้นสุดใบหน้าของนางเลื่อนเข้าไปหาหลินหมิงพร้อมกับ
ระดมพรหมจูบไปที่ใบหน้าของหลินหมิงอย่างต่อเหนืองมือของนาง
สัมผัสไปทั่วร่างกายของหลินหมิงพร้อมกับลมหายใจอันหนักหน่วงขึ้น
เรื่อยๆ

ตอนที่ 257
เมื่อฝางเส้นสุดท้ายที่คอยแบ่งกั้นสติ และความเขินอายของ
ฉางซีถูกทาลายลงด้วยความเย้ายวนใจต่ัเรือนร่างของหลินหมิง
ตรงหน้า สะโพกของนางทาการขยับควบทวนมังกรของหลินหมิงด้วย
จังหวะที่ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
" อ๊าา ♥ คะ..คุณชาย ♥ อ๊าาาา ♥ "
เสียงครางกระเส้าของฉางซีดั่งออกมาอย่างที่นางไม่ได้ปิดกลั้น
เอาไว้เลยแม้แต่น้อย ในยามนี้ร่องสวาทของนางในตอนนี้ที่ได้ควบท่อน
ทวนมังกรของหลินหมิงทุกจังหวะการกระแทกเขามันจะมีเสียงน้ารัก
ของนางกระเฉาะออกมาอย่างต่องเหนื่อง หลินหมิงยกยิ้มอย่างพึง
พอใจพร้อมกับลูบไล้ไปยังแผ่นหลังของฉางซีที่ในตอนนี้นางกาลัง
เพลิดเพลินกับหน้าอกเปลื่อยเปล่าของเขาอยู่
" แล้วเจ้ากาลังคิดว่าทาสิ่งใดอยู่ ข้าให้เจ้าเป็นเพียงหมอนรอง
หนุนศรีษะของข้าเพียงเท่านั้น "
เสียงของหลินหมิงที่ดังขึ้นทาให้เมิ่งฟ่านที่กาลังนั่งให้หลินหมิง
หนุนตักเปลื่อยเปล่าของนางสะดุ้งเฮือก แม้กระทั่งนางเองก็ยังไม่ขาด
คิดว่าอดีตลูกสะใภ้สาวของนางจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียได้ เดิมที
แล้วนางและฉางซีในอดีตย่อมไม่ค่อยได้พบหน้ากันมากนักและ
ถึงแม้ว่าพวกนางจะพบหน้ากันแต่ไม่มีสิ่งใดที่นายหญิงเช่นนางจะต้อง
พูดกล่าวอันใดกับนางสนมเช่นฉางซี
แต่หลังจากจบสงครามแล้วนั้นสมควรกล่าวได้ว่านางได้ใช้เวลา
ร่วมกับฉางซีอยู่ไม่น้อย ในบรรดาภรรยาของกงซุนหยางหรือเหล่านาง
สนมทั้งหมดที่มีเกินกว่ายีับคนกลั
่สิ บมีเพียงหญิงสาวนางนี้เพียงคน
เดียวที่ยังคงไม่ทอดทิ้งพวกเขาในยามลาบาก นางมีนิสัยที่ขี้อายแต่ถึง
อย่างนั้นกริยามารยาทต่างๆของนางนั้นล้วนยอดเยี่ยมอย่างไม่มีทีตื
เทียบกับฉางซีตรงหน้าของนางในยามนี้ที่กาลังขึ้นควบทวนมังกรของ
หลินหมิงอยู่มันราวกับเป็นฉางซีคนละคนที่นางเคยพบ !
เมื่อมองไปยังฉากร่วมรักอันเร่าร้อนตรงหน้าเมิ่งฟ่านนางอด
ไม่ได้ที่ใจสั่นไหวไปด้วยความต้องการเช่นเดียวกันมือของนางค่อยๆ
เอื้อมสัมผัสเข้าไปภายในร่องสวาทผ่านศรีษะของหลินหมิงที่กาลังนอน
หนุนอยู่แต่ถึงอย่างนั้นใครจะคิดกันว่าหลินหมิงกลับเอยขัดจังหวะ
นางในยาม
นี้
" นายท่านเจ้าคะ....ข้าเองก็อยากที่จะทามันกับท่าน
เช่นเดียวกันเจ้าคะ "
เสียงของเมิ่งฟานที่เต็มไปด้วยน้าเสียงอ่อนหวานไม่ได้มีเคร้า
โครงของนายหญิงที่เคยพูดกล่าวด้วยน้าเสียงที่เต็มไปด้วยอานาจและ
ความหยิ่งผยอง
" อร้าาาางงงงง ♥ "
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉางซีที่หลังจากที่นางขึ้นควบทวน
มังกรของหลินหมิงมาได้ราวเกือบหนึ่งก้านธูปและได้ปลดปล่อยน้ารัก
ออกไปมากมาย ในที่สุดน้ารักของหลินหมิงก็ได้ทะยานเข้าสู่ภายในร่อง
สวาทของนางอีกครั้ง ร่างของนางทิ้งดิ่งลงอย่างหมดแรงบนร่างของ
หลินหมิงพร้อมกับดวงตาของนางที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจอย่างเอ่อ
ล้น
" คุณชาย...ห้ามทิ้ง..ข้านะเจ้าคะ...ข้ายินดีปรนินับิตคุณชายทุก
เมื่อเลยเจ้าคะ "
หลังจากที่สาวขี้อายเช่นนางที่ต้องฝืนขีดจากัดในพร้อมกับต้อง
ขึ้นควบทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้หลังจากที่นางได้มองเห็นไป
ยังใบหน้าของหลินหมิงที่มีแต่รอยยิ้มอย่างพึงพอใจหลังจากที่นาง
กล่าวจบ นางไม่มีความกังวลใดๆอีกและหลับลงอย่างอ่อนแรงไป
ในทันที
หลินหมิงจูบไปยังริมฝีปากของฉางซีอย่างแผ่วเบาพร้อมกับยก
ร่องของนางขึ้นให้นอนหลับอยู่บนเตียง ทวนมังกรของหลินหมิงในยาม
นี้อยู่ในสภาพที่เปราะเปรื้อนไปด้วยคราบน้ารักจานวนมาก ใบหน้า
ของหมิงเมิ่งฟ่านที่ได้เห็นทวนมังกรของหลินหมิงในยามนี้ทาให้นาง
ถึงกับกลืนน้าลายลงไปอึกใหญ่
" ทาความสะอาดซะ ! "
น้าเสียงเด็ดขาดของหลินหมิงทาให้ดวงตาของเมิ่งฟ่านเต็มไป
ด้วยความตื่นเต้นร่างของนางคลานเข้าหาทวนมังกรของหลินหมิง
พร้อมกับริมฝีปากของนางที่เตรียมพร้อมจะดูดกลืนน้ารักจากทวน
มังกรของหลินหมิงทั้งหมดสิ้นแต่ถึงอย่างนั้นร่างของนางกลับถูกฉุดรั้ง
เอาไว้เสียก่อน
" ไม่ใช่ข้าแต่เป็นนางต่างหาก "
ดวงตาของเมิ่งฟ่านฉายแววตกตะลึงแน่นอนว่าถึงในตอนนี้เมิ่ง
ฟ่านนางไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจหากต้องใช้ปากของนางดูดดื่มโลม
เลียทวนมังกรของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยน้ารัก แต่สาหรับร่องสวาทฉาง
ซีที่ถึงแม้ว่ามันจะมีน้ารักของหลินหมิงอยู่เป็นจานวนมากแต่ถึงอย่าง
นั้นหากนางทาเช่นนั้นนางอาจไม่มีหน้าพบเจอฉางซีอีกต่อไป แม้นาง
จะรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นมีความรู้สึกในแง่ลบกับนางอย่างมากมาย แต่ถึง
อย่างนั้นนางไม่คิดว่าผลลัพธ์ของนางกับฉางซีจะต่างกันมากถึงเพียงนี้ !
" เจ้ายังมั่วรอช้า ? หากเจ้าไม่ทาในตอนนี้ข้าจะลงมือเสียบ
ทวนมังกรของข้าเข้าไปยังรูทวารของเจ้า ! "
ใบหน้าของเมิ่งฟ่านซีดเผือกลงไปในทันที ลาพังเพียงแค่ทวน
มังกรของหลินหมิงที่จู่โจมร่องสวาทของนางนั้นก็ยากเกินกว่าจะรับมือ
กับการเสียบไปที่รูทวารนั้นมันอาจไม่ต่างอะไรไปจากการฆ่านางเลย
เสียด้วยซ้า
เมิ่งฟ่านนางไม่สามารถรอช้าได้นางคลานเข้าไปหาบริเวณ
ระหว่างขาของฉางซีที่กาลังนอนหลับไร้ซึ่งสติอยู่ เพียงกลั้นอึดใจเดียว
ดวงตาของเมิ่งฟ่านฉายแววเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ริมฝีปากของ
นางเข้าโลมเลียและดูดกลืนคราบน้ารักของหลินหมิงที่กาลังทยอยไหล
ออกมาจากร่องสวาทของฉางซี แน่นอนว่าในส่วนของน้ารักของหลินห
มิงแล้วนั้นมันยังคงมีรสชาติอันยอดเยี่ยมเช่นเคยแต่ถึงอย่างนั้น
ในตอนนี้มันกลับผสมไปด้วยน้ารักของฉางซีที่ทาให้รสชาติเปลี่ยนไป
อีกทั้งการโลมเลียของนางเช่นนี้มันไม่ได้ให้ความรู้สึก
เพลิดเพลินใดๆแก่นางเหมือนกับตอนที่โลมเลียทวนมังกรของหลินหมิง
เลยแม้แต่น้อยกลับกันแล้วมันกลับทาให้นางรู้สึกแย่เสียมากกว่า
" ว้ายย ! "
เสียงร้องของเมิ่งฟ่านดังขึ้นอย่างตกใจเมื่อในยามที่ร่องสวาท
ของนางที่กาลังยื่นชี้หาไปให้หลินหมิงถูกนิ้วชี้ของหลินหมิงลูบไล้สัมผัส
ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นนางรีบตอบสนองอย่างรวดเร็วโดย
การเข้าดูดกลืนน้ารักจากบริเวณร่องสวาทของฉางซีอีกครั้ง
" ยกสะโพกของเจ้าขึ้น "
เมิ่งฟ่านตอบรับเสียงของหลินหมิงอย่างว่าง่าย ดวงตาของ
หลินหมิงปรากฎสายตาเย้ยยันจ้องมองไปที่ร่องสวาทที่กาลังแฉะเยิ้ม
ไปด้วยน้ารัก ร่างของหลินหมิงตรงไปหากสะโพกอันใหญ่โตของอดีต
นายหญิงตระกูลกงซุนพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่เขี่ยเล่นอยู่บริเวณ
ปากทางเข้าร่องสวาทของนาง
" อ๊าาา...นาย..ท่าน..ดะ..ได้โปรดอย่ากลั้นแกล้งข้าอีกเลย..
เสียบมันเข้ามาเถอะเจ้าคะ "
ทันใดนั้นดวงตาของเมิ่งฟ่านเบิกกว้างขึ้นเมื่อนางสัมผัสได้ว่า
ทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้อยู่ในจุดที่ไม่สมควร
" มะ...ไม่ๆ..ไม่ได้นายท่าน..ไม่ใช่ตรงนั้น "
" ในตอนนี้เจ้าสมควรรู้ว่าเจ้ามีฐานะอันใด เจ้าเป็นเพียงนางบา
เร่อของข้าเจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธ์เรียกร้อง ? หากข้าเบื่อเจ้าเมื่อใดแล้วละ
ก็ข้าอาจส่งเจ้ากลับไปหาสามีและบุตรของเจ้าก็ย่อมได้ "
" แบบ..นั้นมัน "
เมิ่งฟ่านนางไม่รู้ว่าทางเลือกไหนนั้นโหดร้ายไปกว่ากันแม้ว่า
นางจะต้องกลับไปอยู่กับสามีของนางที่ถูกจองจาอยู่ภายในอาณาเขต
ตระกูลกงซุนและไม่สามารถออกไปที่ใดได้ แม้ว่านางอาจไม่ได้รับความ
เจ็บปวดที่เทียบเท่ากับการเสียบทวนมังกรของหลินหมิงเข้าไปในรู
ทวารของนางแต่ถึงอย่างนั้นในระยะยาวแล้วนั้นนางอาจกลายเป็นคน
เสียสติเมื่อต้องกลับไปอยู่ที่ตระกูลกงซุนอีกครั้ง
ร่างของหลินหมิงโน้มตัวเข้าหานางจากด้านหลังใบหน้าของเขา
อยู่ข้างหูของนางที่กาลังโลมร่องสวาทของฉางซีอยู่
" ฮึ เห็นแก่เจ้าที่ทาตัวดีไม่ใช่น้อย หากเจ้ารับปากข้าว่าเจ้าจะ
ยินยอมเป็นข้ารับใช้ของฉางซีแล้วละก็ข้าจะเสียบเข้าไปยังร่องสวาท
ของเจ้าเช่นเดิมก็แล้วกัน "
หลินหมิงรู้ดีว่าแม้ในยามนี้ฉางซีจะมีสถานะมีสนมของเขาแต่
เมิ่งฟ่านนั้นเป็นเพียงนางบาเร่อและนางยังคงต้องมีหน้าที่ในตานักที่
ต้องทาอย่างอื่นอีกเทียบกับฉางซีแล้วนางมีเพียงหน้าที่ในการรอคอย
ปรนนิบัติหลินหมิงเพียงอย่างเดียว แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหญิงสาวเช่น
ฉางซีแล้วนางคงไม่สามารถมองเห็นอดีตแม่ยายของนางทางาน
เหล่านั้นเพียงคนเดียวได้ และด้วยนิสัยของเมิ่งฟ่านแล้วมันเป็นไปได้ว่า
งานทุกอย่างนั้นอาจเป็นฉางซีทั้งหมดที่ทา
" ดะ..ได้เจ้าคะ ข้าจะรับใช้นางอย่ัางดีที่สุดเจ้าคะ "
" ดี..หากข้ารู้มาว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นแล้วละก็เตรียมรูทวารของ
เจ้าเอาไว้ให้ดีล่ะ "
หลังจากกล่าวเสร็จทวนมังกรของหลินหมิงเสียบทะลวงเข้าไป
ภายในร่องสวาทของเมิ่งฟ่านอย่างรุนแรงจนทาให้ใบหน้าของนางเข้า
ไปจมกับร่องสวาทของฉางซี !
" ซี๊ดดดดดดด ♥ "
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะระเบิดอารมณ์ไปเป็นจานวนมาก
ไม่ใช่น้อยแล้วแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงคิดว่าผลกระทบจากการที่
เขาต้องอดยากไปถึงเจ็ดวันนั้นยังคงไม่เพียงพอดังนั้นแล้วร่างของเมิ่ง
ฟ่านจะกลายเป็นที่รองรับน้ารักของเขาได้อย่างดีเยี่ยมที่สุด

ตอนที่ 258
ในเช้าวันใหม่หลินหมิงลุกขึ้นมาพบกับหลิงเอ๋อร์และหลิงฉีที่
กาลังชาระร่างกายของเขารวมถึงสตรีอีกสองคนข้างกายบนเตียงนั้นก็
คือฉางซีและเมิ่งฟ่าน หากเป็นสาวใช้ภายในตานักที่มมาจากแม่ทัพโจว
แล้วละก็พวกนางเหล่านั้นแม้จะอยู่ภายในตานักของหลินหมิงมานาน
ไม่ใช่น้อยแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึงกับ
คราบสงครามอันยิ่งใหญ่บนเรือนร่างของหญิงสาวทั้งสอง
" พวกเจ้าก้าวเข้าสู่ขั้นที่สามแล้ว ? "
หลินหมิงเพียงชายตาเพียงครู่เดียวเขาก็สามารถมองเห็นถึง
ระดับการบ่มเพาะของหลิงฉีและหลิงเอ๋อร์ที่ในตอนแรกพวกนางเพิ่ง
ก้าวเข้าสู่หนทางแห่งผู้ฝึกตนแต่ในตอนนี้หลังจากที่พวกนางทั้งสอง
ได้รับการร่วมรักกับหลินหมิงบนรถม้าและทาการบ่มเพาะแล้วมันทา
ให้ระดับพลังของพวกนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากถึงสองขั้น !
" ทั้งหมดนั้นย่อมเป็นเพราะคุณชายเจ้าคะ "
น้าเสียงอ่อนหวานของหญิงสาวคนพี่หรือหลิงฉีกล่าวออกมา
ด้วยน้าเสียงเคารพหลินหมิงอย่างมาก แม้ว่าพวกนางจะได้รับการ
สนับสนุนให้สามารถบ่มเพาะพลังได้ด้วยทรัพยากรของหลินหมิงแต่ถึง
อย่างนั้นสาหรับพวกนางที่ไม่เคยมีพื้นฐานในเรื่องเหล่านี้มันแทบจะ
เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะสามารถพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็ว พวก
นางอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทะลวงเข้าสู่ปราณเริ่มต้นขั้นที่
สอง แต่ด้วยผลลัพธ์จากการร่วมรักกับหลินหมิงเพียงข้ามขืนมันกลับ
ทาให้พวกนางก้าวไปสู่ขั้นที่สาม
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพวกนางจะไม่ยินดีได้อย่างไร ? สาหรับสตรี
พวกนางมีโอกาสน้อยมากที่จะได้กลายเป็นผู้บ่มเพาะหากไม่ได้เกิดใน
ตระกูลที่มีอานาจอย่างตระกูลของแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์ตระกูลหลิว
หรือตระกูลเหยียนของจิวหลิน ส่วนใหญ่แล้วเมื่อผู้คนได้ให้กาเนิดบุตรี
พวกเขาจะมุ่งมั่นให้พวกนางเหล่านั้นมีความสามารถในด้านครัวเรือน
และกลายเป็นภรรยาที่ยอดเยี่ยมแทนเสียมากกว่า
หลินหมิงที่ได้รับการล้างเนื้อล้างตัวจากความช่วยเหลือจาก
สองสาวแน่นอนว่าแม้เขาจะต้องการเพลิดเพลินกับเรือนร่างของหญิง
สาวสองพี่น้องที่ได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเต็มตัวในยามอาบน้าล้างตัว
นั้นเพราะว่าในยามนี้ผิวพรรณของพวกนางทั้งสองนั้นดูสดใสและ
งดงามขึ้นมาจากก่อนหน้าไปมาก ไม่เพียงแต่ผู้บ่มเพาะจะมีความ
แข็งแกร่งที่มากกว่าผู้คนธรรมดาทั่วไป ผิวพรรณของพวกเขายังคง
สามารถคงความเยาว์วัยได้มากกว่าผู้คนธรรมดาด้วยเช่นเดียวกัน รวม
กับผลลัพธ์หลังจากร่วมรักกับหลินหมิงร่างของหญิงสาวสองพี่น้อง
ในตอนนี้เหมือนกับเพชรเม็ดงามที่เคยอยู่ใต้ธรณีและได้หลินหมิง
ค้นพบเจอ
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงไม่สามารถที่จะร่วมรักกับพวกนางทั้ง
สองได้ในยามนี้นั้นก็เพราะว่าพวกนางทั้งสองนั้นได้กล่าวว่าแม่ทัพโจว
นั้นต้องการที่จะพูดกล่าวกับเขา ภายในเมืองหลวงตอนนี้หลินหมิง
ยังคงไม่สามารถวางใจผู้ใดได้มากนัก คนที่หลินหมิงพอเชื่อถือได้
มากกว่าผู้อื่นเห็นมีเพียงแต่แม่ทัพโจวเพียงเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้มันคง
ไม่ใช่เรื่องดีนักหากเขาปล่อยให้แม่ทัพโจวต้องรอเขานานเกินไป
สาหรับองค์ชายลาดับที่หนึ่งองค์ชายจิ้งชวงนั้นความสัมพันธ์
ของพวกเขาดาเนินไปแบบผลประโยชน์ร่วมกับตราบเท่าที่หลินหมิง
ยังคงแสดงความแข็งแกร่งออกมาเช่นนี้ ไม่มีทางที่องค์ชายจิ้งชวงนั้น
จะหักหลังเขาอย่างแน่นอน
หลินหมิงออกมาจากตานักของเขาเบื้องหน้าสานักมีรถม้าของ
แม่ทัพโจวรอรับเขาเอาไว้อยู่แล้ว ใช้เวลาเพียงไม่นานหลินหมิงได้มาถึง
จวนตานักอันใหญ่โตของแม่ทัพโจวอีกครั้ง แม้ว่านี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่
หลินหมิงเคยมาตานักแห่งนี้แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
กับความใหญ่โตของตานักและบรรดาเหล่าทหารโดยรอบที่มีความ
แข็งแกร่งมากไม่ใช่น้อย
ภายใต้การนาของสาวใช้หลินหมิงได้ตรงมายังห้องโถงรับรองที่
มีร่างของชายสูงอายุคนหนึ่งกาลังนั่งอย่างสบายใจ แต่ถึงอย่างนั้นร่าง
ของเขากับแผ่อ่อร่าความแข็งแกร่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของ
ชายสูงอายุมองไปยังร่างของหลินหมิงที่ก้าวเข้ามาด้วยสายตาแปลกใจ
เล็กน้อย
" คาระวะท่านแม่ทัพโจว "
" โอ้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะสามารถเข้าสู่ระดับปราญช์ได้แล้ว
จริงๆอย่างนั้นสินะ "
แม่ทัพโจวกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับผายมือให้
หลินหมิงนั่งลง ก่อนหน้านี้มีผู้คนจานวนมากที่มีความคิดตรงกันก็คือ
หลินหมิงจะต้องติดอยู่ในคอขวนที่ไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์ได้
เพราะว่าเขานั้นได้รีบร้อนบ่มเพาะมากจนเกินไป มันอาจทาให้พลัง
พื้นฐานของเขาไม่มั่นคงมากเพียงพอที่จะสามารถทะลวงเข้าสู่
ระดับปราญช์ได้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนทั่วไปจะคิดเช่นนี้
กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงอย่างมากมายเวลาที่พวกเขาใช้ใน
การทะลวงจากระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดเข้าสู่ระดับปราญช์นั้นย่อมต้อง
ใช้เวลาอย่างน้อยนับปี ! แม่ทัพโจวพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเขาใช้
สายตากวาดมองร่างของหลินหมิง
" เจ้าสนใจที่จะเข้าร่วมกองทัพหรือไม่ ? "
หลินหมิงชะงักกับคากล่าวของแม่ทัพโจวไปเล็กน้อย สาหรับ
ผู้คนที่จะสามารถเข้าร่วมกับกองทัพได้นั้นพวกเขาอาจต้องมีพลัง
ปราณขั้นต่าในระดับจอมยุทธ์เว้นแต่เพียงหากพวกเขาจะเข้าร่วมเป็น
พลทหารพวกเขาก็ต้องมีพลังปราณในระดับก่อเกิดเป็นอย่างต่า แต่ถึง
อย่างนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าการเข้าร่วมเป็นทหารภายใต้สังกัดของแม่ทัพ
ใหญ่ทั้งสี่นั้นล้วนเป็นที่หมายปองของเหล่าบุรุษโดยทั่วไป
แม้กระทั่งเหล่าบุตรจากขุมอานาจใหญ่โตหากพวกเขาได้รับ
การเข้าร่วมกับกองทหารของแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่แล้วไม่เพียงแต่จะมี
ชื่อเสียงที่สามารถโอ้อวดผู้คนได้ แต่พวกเขาจะสามารถได้รับ
ประสบการณ์และทรัพย์สินตอบแทนต่อเดือนที่มหาศาล !
แต่การเข้าร่วมกับกองทัพนั้นใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่มี
ความแข็งแกร่งเพียงเท่านั้นถ้าหากพวกเขาต้องการตาแหน่งภายใน
กองทัพไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องมีความแข็งแกร่งที่มากพอที่เป็นที่
ยอมรับแต่พวกเขาจะต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างด้วยกัน ดังนั้น
แล้วมันแทบไม่มีรุ่นเยาว์คนใดที่จะเข้าร่วมกับกองทัพด้วยวัยก่อน 30
ปี อาจมีบ้างที่ครอบครัวของพวกเขามีสถานะที่ไม่ดีนักพวกเขาจึงไม่มี
ทางเลือกนอกจากเข้าร่วมเป็นพลทหารทั่วไป
แน่นอนว่ากระทั่งหลินหมิงเองแม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่
อาจจะเทียบเท่าได้กับรองแม่ทัพแต่เขายังไม่มีประสบการณ์มาก
เพียงพอในการบัญชาการทหาร
" แน่อนว่าข้ายังไม่ให้เจ้าเข้าร่วมในตอนนี้เพียงแต่ว่าหากเจ้า
ยินดีแล้วละก็ เจ้าสามารถเข้าร่วมกับพวกเราเพื่อเก็บเกี่ยว
ประสบการณ์ได้ ! "
สาหรับแม่ทัพโจวแล้วนั้นอนาคตของหลินหมิงนั้นเขาย่อม
กลายเป็นผู้ที่ทรงอานาจเช่นเดียวกับกับเขานั้นก็คือในระดับแม่ทัพ
ใหญ่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย ที่น่าคาดหวังไปกว่านั้นก็คือเขาอาจมีความ
แข็งแกร่งที่เกินกว่าเขาในตอนนี้ ! ดังนั้นแล้วเพื่อผลประโยชน์ของ
อาณาจักรการเตรียมพร้อมให้หลินหมิงมความพร้อมในอนาคตนั้นย่อม
เป็นสิ่งที่สมควร
ในใจของหลินหมิงในตอนแรกแม้อยากที่จะปฎิเสธแต่ถึงอย่าง
นั้นเมื่อเขาหวนคิดย้อนกลับไปเขาเก็บคากล่าวปฎิเสธลงไปในลาคอ
พร้อมกับกับตอบตกลงแม่ทัพโจวไปในทันที แม้ว่าเขาจะมีความ
แข็งแกร่งที่มากขึ้นในอนาคตแต่ถึงอย่างนั้นหากเขาปราศจากอานาจ
ชื่อเสียงแล้วมันอาจทาให้เขาต้องประสบความลาบากอยู่ไม่ใช่น้อย
หากในอนาคตเขาสามารถยึกครองตาแหน่งแม่ทัพใหญ่ของอาณาจักร
เอาไว้ได้ด้วยอานาเช่นนี้เขาอาจจะสามารถเพลิดเพลินไปกับเหล่าสตรี
ของเขาได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องสนใจสิ่งอื่นใด !
หากแม่ทัพโจวได้รู้ความคิดของหลินหมิงในตอนนี้เขาอาจจะ
กระอักเลือดออกมาด้วยความเจ็บปวดสาหรับรุ่นเยาว์ที่เป็นความหวัง
ของเขา
" ดีดี..งั้นนับจากนี้ไปอีกสามวันข้าขอให้เจ้าเตรียมตัวสาหรับ
ภารกิจแรกของเจ้า "
" กาลังจะมีสงครามเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ ? "
หลินหมิงแม้จะตอบตกลงกับแม่ทัพโจวไปแล้วแต่เขาไม่คิดว่า
เขาจะต้องเข้าร่วมกับกองทัพรวดเร็วถึงเพียงนี้ ! หากว่าภายในสาม
วันนี้ภรรยาสาวสวยทั้งสองของเขาอย่างฉิงเชี่ยนและหมิงเลี่ยนยังคง
บ่มเพาะไม่เสร็จสิ้นไม่ใช่ว่าเขาจะต้องพลาดจากการร่วมรักกับพวกนาง
ไปอีกอย่างยาวนาน ? ในสงครามครั้งหนึ่งนั้นก็กินเวลาไปนับเดือนแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลินหมิงเตรียมตัวที่จะกล่าวปฎิเสธ
" ไม่มันเป็นเพียงการสารวจพื้นที่ชายแดนเพียงเท่านั้น ไม่นาน
มานี้พวกเราได้ข่าวมาว่าบริเวณชายแดนของอาณาจักรของเขานั้นได้มี
กองทหารของอาณาจักรเคลื่อนไหว "
หลินหมิงโล่งอกไปเปราะใหญ่หากเป็นเพียงการสารวจ
โดยทั่วไปแล้วนั้นมันย่อมใช้เวลาเพียงไม่นานมากนัก

ตอนที่ 259
หลินหมิงใช้เวลาพูดกล่าวกับแม่ทัพโจวอีกเพียงเล็กน้อย
สาหรับกองกาลังที่หลินหมิงจะเข้าร่วมในการสารวจครั้งนี้นั้นจะเป็น
เพียงกองกาลังของทหารฝึกหัดที่เพิ่งเข้าร่วมกับกองทัพอาจกล่าวได้ว่า
นี้เป็นภารกิจลาดับเริ่มต้นของเหล่าทหารหน้าใหม่อย่างแท้จริง
หลินหมิงกลับจากจวนตานักของแม่ทัพโจวหลังจากที่เขาคุย
ธุระเสร็จสิ้นไปที่เรียบร้อย เมื่อกลับมายังตานักของเขาหลินหมิงเห็น
ร่างของหญิงสาวงดงามสองคนกาลังนั่งคุยกับอย่างถูกคอภายใน
ห้องนอนของเขา พวกนางจะเป็นใครอื่นไม่ได้เสียนอกจากภรรยาสาว
สวยทั้งสองของเขาหมิงเยี่ยนและฉิงเชี่ยนในยามนี้สาหรับฉิงเช่ัยนที่มี
อายุเพียงยี่สิบปีแต่ในตอนนี้พลังของนางได้ก้าวเข้าสู่ระดับก่อเกิดขั้นที่
เจ็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เช่นเดียวกันกับหมิงเยี่ยนก่อนหน้านี้นางมีพลังระดับจอมยุทธ์
ขั้นเริ่มต้นแต่ในตอนนี้ระดับพลังของนางกลับเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับ
จอมยุทธ์ขั้นที่สองระดับสูงสุด ! โดยไม่รอช้าหลินหมิงพุ่งเข้าสวมกอด
พร้อมกับมือของเขาที่เข้าพัวพันร่างของสาวงามทั้งสองอย่างหื่น
กระหาย
" เจ้าตัวลามก ! นี้เจ้าคิดจะทาเรื่องเช่นนี้ตั้งแต่ตะวันยังไม่ลับ
ฟ้าเลยอย่างนั้นรึ "
เสียงกล่าวของหมิงเยี่ยนที่แม้ว่านางจะกล่าวออกมาเช่นนั้นแต่
ถึงอย่างนั้นร่างกายของนางกลับไม่ได้มีท่าทีต่อต้านการรุกล้าของ
หลินหมิงแต่อย่างใดแตกต่างจากฉิงเชี่ยนที่เคยชินกับหลินหมิงมาไม่
น้อยนางเพียงหัวเราะคิกคักออกมากับท่าทีของหลินหมิงเพียงเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวทั้งสองต่างไม่อาจต้านทานอารมณ์ของ
หลินหมิงได้และจบลงด้วยเสียงครวญครางของพวกนางทั้งสองที่ดัง
สนั่นไปตลอดทั้งคืน
ช่วงสายของวันต่อมาหมิงเยี่ยนและฉิงเชี่ยนรีบลุกขึ้นจากเตียง
และทาความสะอาดร่างกายของพวกนางอย่างรวดเร็วหากไม่เช่นนั้น
แล้วไม่มีใครรู้ว่าหากสามีของพวกนางตื่นขึ้นมาแล้วพวกนางอาจต้อง
รับมือกับเขาอย่างหนักหน่วงอีกรอบ ดังนั้นแล้วเมื่อหลินหมิงตื่นขึ้นมา
เขาจึงไม่ได้พบร่างของภรรยาสาวสวยทั้งสอง ในตอนนี้พวกนางได้บอก
กล่าวแก่เสี่ยวยู้ที่กาลังโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงในยามเช้าเอาไว้
ว่าพวกนางจะออกไปเดินเล่นภายในเมืองหลวง
ก่อนหน้านี้หลินหมิงได้บอกกล่าวกับพวกนางไปแล้วว่าเขา
ได้รับภารกิจจากแม่ทัพโจวให้เข้าร่วมกับสารวจที่บริเวณชายแดน ที่น่า
แปลกใจก็คือหมิงเยี่ยนนั้นได้ขอติดตามเขาไปด้วยหลินหมิงไม่คิดว่า
เรื่องเช่นนี้จะเป็นปัญหาแต่อย่างใดอย่างไรเสียกองกาลังที่สารวจนั้นก็
เป็นเพียงเหล่าทหารรุ่นเยาว์ที่เพิ่งเข้าร่วมกับกองทัพ
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วหลินหมิงและหมิงเยี่ยนได้เดินทาง
ไปยังจวนตานักของแม่ทัพโจวด้วยกัน ก่อนหน้านี้หลินหมิงได้รายงาน
เรื่องการขอติดตามของหมิงเยี่ยนไปแล้วแน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่ปัญหา
แต่อย่างใดเมื่อเทียบกับความสามารถและอายุของหมิงเยี่ยนแล้วนางมี
ความสามารถและพรสวรรค์ที่เพียงพอที่จะเข้าร่วมกับกองทัพได้อย่าง
เกินพอ นี้ยังคงไม่นับรวมถึงความสามารถในการใช้ค่ายกลของนาง
ด้วย ดังนั้นแล้วมันไม่มีเหตุผลใดที่แม่ทัพโจวจะต้องปฎิเสธในเรื่องนี้
กลับกันแล้วหากเป็นฉิงเชี่ยนขอติดตามมาเรื่องราวทั้งหมดมัน
คงไม่ง่ายเช่นนี้แม้ว่าฉิงเชี่ยนจะมีพรสวรรค์ที่สูงส่งเป็นอย่างมากแต่
อายุและระดับพลังของนางยังคงเร็วเกินไปที่จะเข้าร่วมภารกิจภายใน
กองทัพ
หลินหมิงและหมิงเยี่ยนไม่ได้ตรงไปยังห้องโถงแต่พวกเขาตรง
ไปยังลานกว้างที่มีร่างของแม่ทัพโจวกาลังรออยู่พร้อมกับกลุ่มคน
จานวนห้าคน เพียงชายตามองแวบเดียวหลินหมิงสามารถมองเห็น
ความแข็งแกร่งของเหล่าบุรุษทั้งห้าคนนี้ได้อย่างแม่นยาพวกเขาแต่ละ
คนล้วนมีอายุน่าจะราวๆยี่สิบปีปลายๆและมีพลังระดับจอมยุทธ์
ด้วยกันทั้งหมด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเหล่านี้ย่อมเป็นรุ่นเยาว์ที่มี
ค่าสาหรับกองทัพในอนาคต
พวกเขาอาจมากจากตระกูลที่มีฐานะสูงส่งไม่เช่นนั้นแล้วพวก
เขาจะไม่มีทางที่จะสามารถบ่มเพาะความแข็งแกร่งได้มากถึงเพียงนี้
ด้วยการปรากฎตัวของหลินหมิงและหมิงเยี่ยนมันทาให้ดึงดูดสายตา
ของพวกเขาทั้งห้าอย่างไม่อาจต้านทาน สาหรับหลินหมิงแล้วไม่มีใครที่
ไม่รู้จักเด็กหนุ่มที่มีความสามารถรากับเป็นที่รักของสวรรค์เช่นนี้ แต่
สาหรับหญิงสาวที่เดินเคียงคู่มากับหลินหมิง
พวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะยังคงมีสตรีที่มีความ
งดงามมากมายถึงเพียงนี้แต่พวกเขาไม่รู้จัก กระทั่งเมื่อมองไปยังระดับ
ความแข็งแกร่งของหญิงสาวตรงหน้าพวกเขาบางคนถึงกับก้มหน้าด้วย
ความละอายใจเล็กน้อย อายุของพวกเขานั้นอยู่ในช่วงเกือบสามสิบปี
แต่สาหรับหมิงเยี่ยนั้นนางยังคงมีอายุเพียงยี่สิบห้าปีเพียงเท่านั้นแต่
ระดับพลังของนางนั้นกลับสูงกว่าพวกเขาบางคนเสียด้วยซ้า
หลินหมิงและหมิงเยี่ยนทาความเคารพแม่ทัพโจวอย่างเรียบ
ง่ายพร้อมกับเข้าร่วมประจาตาแหน่ง
" เอาล่ะ อยากที่พวกเจ้ารู้ภารกิจในครั้งนี้ของพวกเจ้ามีเพียง
การสารวจร่องรอยของทหารจากอาณาจักรนภา หากพวกเจ้าพบเห็น
พวกเขาเหล่านั้นอย่าคิดที่จะต่อสู้แม้ว่าระดับพลังของพวกเจ้าจะ
มากกว่าพวกเขาเหล่านั้นแต่พวกเจ้ายังคงมีประสบการณ์ที่น้อยกว่า ไม่
แน่ว่าพวกเจ้าอาจเข้าไปสู่กับดักของพวกเขาได้ ! "
ทันใดนั้นเมื่อเสียงของแม่ทัพโจวกล่าวเสร็จสิ้นปรากฎร่างของ
หญิงสาวที่มีอายุราวสามสิบปีปลายๆแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของนาง
ยังคงความงามเอาไว้ได้ราวกับนางเพิ่งมีอายุเพียงยี่สิบปีปลายๆเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าสาหรับสตรีแล้วนั้นการที่พวกนางสามารถบ่มเพาะพลังได้
รวดเร็วมากเพียงใดมันจะทาให้พวกนางสามารถคงความอ่อนเยาว์ของ
ผิวพรรณเอาไว้ได้เป็นอย่างมาก
หลินหมิงสามารถรับรู้เรื่องนี้ได้จากเหล่าผู้อาวุโสสาวสวย
งดงามทั้งหลายของเขา ร่างของหญิงสาวผู้มาใหม่นั้นใช่ว่าหลินหมิงจะ
ไม่เคยพบมาก่อนแม้มันจะเป็นเพียงการพบกันเพียงครั้งเดียวแต่หลินห
มิงสามารถจดจาใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้านี้ได้เป็นอย่างดี นั้นก็
เพราะว่านางมีความงามที่เพียงพอที่จะทาให้หลินหมิงจดจาได้ เทียบ
กับหมิงเยี่ยนแล้วนางยังคงด้อยกว่าอยู่แต่ถึงอย่างนั้นนางกลับมีสัดส่วน
ที่เหนือกว่าสตรีทั่วไปนั้นคือหน้าอกและสะโพกที่ราวกับถูกสรรสร้าง
ขึ้นมาเพื่อรองรับอารมณ์ของเหล่าบุรุษ
" ผู้อาวุโสซิ่นเชียน จะเป็นคนนากลุ่มพวกเจ้าในคราวนี้ "
ผู้อาวุโสซิ่นเชียนหรือผู้อาวุโสสาวที่หลินหมิงพบตอนที่เขาได้
เข้ามาภายในสานักวังจันทราครั้งแรก ( ตอนที่ 156-157 ) ใบหน้าของ
นางบิดเบี้ยวเล็กน้อยเมื่อมองเห็นร่างของหลินหมิง ในครั้งแรกที่นาง
พบกับหลินหมิงนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันทาให้นางที่เพิ่งกลายเป็นผู้
อาวุโสของสานักนั้นถึงกับลาบากด้วยเรื่องของหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อย
และครั้งล่าสุดหลังจากที่หลินหมิงได้ก่อเรื่องสังหารผู้อาวุไปจานวนมาก
มันก็ทาให้นางต้องรับงานภาระของผู้อาวุโสที่ถูกหลินหมิงสังหารไปอีก
เป็นจานวนไม่ใช่น้อย
หลินหมิงจ้องมองไปที่เรือนร่างของผู้อาวุโสสาวที่ไม่ได้สวมชุด
ผู้อาวุโสภายในสานักเหมือนกับในตอนแรกที่เขาพบ เสื้อผ้าของผู้
อาวุโสซิ่นเซียนในตอนนี้เป็นชุดที่เหมาะสาหรับการเคลื่อนไหวและการ
ต่อสู้ มันคงเป็นสิ่งที่ยากลาบากสาหรับนางหากนางสวมใส่ชุดของผู้
อาวุโสสานักออกไปทาภารกิจ
ชุดที่นางสวมใส่นั้นเป็นชุดที่เปิดเผยเนื้อหนังของนางอยู่ไม่น้อย
รวมกับสัดส่วนอันเย้ายวนอันหน้าหลงไหลแล้วมันถึงกับทาให้น้าลาย
ของหลินหมิงไหลออมาเล็กน้อย อาจเป็นเพราะว่าในครั้งแรกที่หลินห
มิงพบกับนางนั้นในตอนนั้นเขามั่วแต่สนใจแม่สาวน้อยหลิวฉวนยูร์และ
ยังคงอยู่ในอารมณ์โกรธเคืองมันจึงทาให้เขาไม่ได้ทันสังเกตนางมากนัก
ตอนที่ 260
การเดินทางสารวจบริเวณชายแดนนั้นอาศัยเพียงรถม้าเพื่อยัง
เมืองที่อยู่ใกล้ชายแดนมากที่สุดซึ่งใช้เวลาจากเมืองหลวงราวหนึ่ง
สัปดาห์หลังจากนั้นกลุ่มของหลินหมิงล้วนแล้วแต่ต้องใช้การเดินเท้า
สารวจต่อจากนั้น แน่นอนว่าในช่วงระยะเวลาเจ็ดวันนี้หลินหมิงไม่
แม้แต่ได้รับโอกาสอันดีงามที่จะได้เพลิดเพลินกับหมิงเยี่ยนเลยแม้แต่
น้อย เพราะมันมีสายตาของบุรุษรุ่นเยาว์ทั้งห้าที่จ้องมองที่หลินหมิง
ด้วยความอิจฉา ไม่เพียงเท่านั้นสายตาของผู้อาวุโสซิ่นเซียนยังคงจ้อง
มองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาแปลกๆ
" นี้ไม่ใช่ว่านางก็เป็นของเจ้าแล้วอย่างนั้น ? "
หมิงเยี่ยนอดที่จะเย้าหยอกสามีจอมลามกของนางผู้นี้ไปไม่ได้
แม้นางจะเข้าใจสายตาของผู้อาวุโสซิ่นเซียนที่จ้องมองที่หลินหมิงนั้น
ไม่ได้เป็นสายตาเชิงชู้สาวแต่อย่างใด
ภายใต้การนาทางของผู้อาวุโสซิ่นเซียนนั้นดูเหมือนว่านางจะ
มีควาสามารถในการใช้ค่ายกลเช่นเดียวกันแต่มันแตกต่างไปจากหมิง
เยี่ยนและผู้อาวุโสซูหลิ่งโดยสิ้นเชิง ความสามารถใช้ค่ายกลของนางนั้น
เป็นเพียงค่ายกลตรวจสอบที่เรียบง่ายเป็นอย่างมาก
ผู้อาวุโสซิ่นเซียนใช้สายตาอย่างดุร้ายมองไปที่หลินหมิงและห
มิงเยี่ยนที่พูดกล่าวกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าภารกิจนี้จะเป็นภารกิจ
สารวจชายแดนที่ค่อนข้างยากที่จะประสบปัญหาใดๆ แต่ถึงอย่างนั้น
มันก็ไม่สมควรที่พวกเขาจะประมาทเช่นนี้ เทียบกับชายหนุ่มรุ่นเยาว์
ทั้งห้าคนแล้วพวกเขามีความตื่นตัวตลอดเวลาอีกทั้งทุกการก้าวเท้า
ของเขายังคงเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
หากไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของหลินหมิงแล้วนางอาจ
ตะโกณด่าท้อเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไปแล้ว ในเรื่องที่หลินหมิงสามารถก้าว
เข้าสู่ระดับปราญช์ได้นั้นยังคงไม่เป็นที่เปิดเผยมากนักเช่นเดียวกันกับผู้
อาวุโสซิ่นเซียนที่ยังคงไม่รับรู้ในเรื่องนี้ ดังนั้นแล้วนางจึงเพียงคาดคิด
ว่าหลินหมิงนั้นมีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดเพียงเท่านั้นซึ่งมัน
เทียบเท่ากับนาง แต่หากเทียบความแข็งแกร่งแล้วนางนั้นย่อมเป็นรอง
หลินหมิงอยู่หลายขั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างน้อยที่สุดตัวนางเองที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดนั้น
ย่อมไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์
ขั้นสูงสุดได้หลายสิบคนเช่นเดียวกันกับหลินหมิงนี้ยังคงไม่นับรวมถึง
ผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์อีกจานวนไม่น้อยที่ตายภายใต้มือของเด็ก
หนุ่มคนนี้ ดังนั้นแล้วนางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้หลินหมิง
ทาตามใจชอบ
การเดินทางสารวจเป็นไปอย่างเชื่องช้าไม่ใช่เพราะความเร็ว
ของพวกเขาอ่อนด้อย กระทั่งเหล่าชายหนุ่มอายุเกือบสามสิบทั้งห้านี้
ล้วนเป็นผู้ที่มีพลังระดับจอมยุทธ์เช่นเดียวกันกับหมิงเยี่ยนอีกทั้ง
ท่วงท่าการก้าวเท้าของพวกเขาล้วนเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมไม่น่าสงสัยว่า
ทาไมพวกเขาถึงได้รับความหวังจากแม่ทัพโจว แต่สิ่งที่ทาให้การสารวจ
เป็นไปอย่างเชื่องช้านั้นก็เพราะค่ายกลของผู้อาวุโสซิ่นเซียน
พวกเขาจาเป็นที่จะต้องใช้ค่ายกลในการสารวจโดยรอบเพื่อ
หากว่าฝ่ายศัตรูมีการซุ่มซ่อนพร้อมกับอาพรางพลังเอาไว้แต่ถึงอย่าง
นั้นด้วยฝีมือการใช้ค่ายกลของผู้อาวุโสซิ่นเซียนนั้นนางไม่ได้มี
ความสามารถเพียงพอที่จะใช้มันในระยะยาว การใช้ค่ายกลในการ
สารวจไม่จาเป็นที่จะต้องใช้พลังปราณจานวนมาก แต่มันกลับใช้พลัง
จิตในการตรวจสอบไปไม่ใช่น้อยดังนั้นแล้วมันเป็นไปไม่ได้สาหรับนางที่
จะใช้ค่ายกลสารวจอยู่ตลอดเวลา
" ผู้อาวุโส ผู้เยาว์มีความคิดเสนอท่าน "

เสียงของหมิงเยี่ยนดังขึ้นเมื่อนางพบว่าการเดินทางในครั้งนี้ใช้
เวลามากจนเกินไป นางมองไปที่สีหน้าของผู้อาวุโสซิ่นเซียนในตอนนี้ที่
เริ่มมีอาการเหนื่อยล้าออกมาอย่างชัดเจนหลังจากผ่านไปราวสองชั่ว
ยามแล้ว
" หืม เจ้ามีอะไร พวกเรายังไม่สามารถพักกันได้ในตอนนี้หรอก
นะ ! "
ในสายตาของนางนั้นแม้ว่าหลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งที่น่า
เหลือเชื่อแต่สาหรับสตรีข้างกายของหลินหมิงนั้นไม่ใช่ นางย่อมอยาก
ที่จะอาศัยจังหวะในการเดินทางอย่างยาวนานจนทาให้สตรีนางนี้อ่อน
แรงลง เมื่อนั้นหลินหมิงย่อมต้องเอยความให้หยุดสารวจ และนางอาจ
ได้รับโอกาสสั่งสอนหลินหมิง แน่นอนว่านางไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ
ในการทาเช่นนี้เลยเพียงแต่ลาพังความพึงพอใจจากผลลัพธ์ก็นับว่าเกิน
พอแล้ว
" ผู้เยาว์ไม่ได้ต้องการเช่นนั้น ผู้เยาว์เพียงเห็นท่านใช้ค่ายกล
เป็นเวลานานแล้วหากท่านต้องการพัก... "
ผู้อาวุโสซิ่นเซียนยิ้มเยาะแท้จริงแล้วสตรีนางนี้กลับมีความคิด
ปัญญาไม่เลว อาศัยโอกาสเห็นว่านางใช้พลังสมาธิในการควบคุมค่าย
กลไปมากและจึงหาโอกาสพักเช่นนี้
" กับเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ? เจ้าใช้สิ่งใดในการมองว่าข้า
รู้สึกเหนื่อยล้ากัน "
เมื่อได้รับคาตอบเช่นนี้หมิงเยี่ยนไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีกอันที่จริง
แล้วนางต้องการเสนอตัวช่วยแบ่งบันภาระในนการใช้ค่ายกลสารวจ
ด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยสามารถของนางการใช้ค่ายกลสารวจตลอด
ยาวนานนับวันก็ไม่อาจเรียกได้ว่ามีปัญหาหากนางไม่เบื่อเสียก่อน
อย่างไรเสียนางนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางด้านค่ายกลที่แม้แต่ผู้อาวุโส
ภายในอาณาจักรนภายังคงเอียงอายหากพวกเขาเทียบกับนาง
แต่เมื่อนางได้เห็นท่าทีของผู้อาวุโสซิ่นเซียนเช่นนี้จิตใจของนาง
เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ต้องไม่ลืมว่าสถานะเดิมของนางคือใคร องค์
หญิงลาดับที่สามของอาณาจักรนภาที่บิดาของนางภาคภูมิใจมากที่สุด
ในบรรดาบุตรทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงการพูดกล่าวเช่นนี้ของผู้อาวุโสซิ่น
เซียนกระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์อาจตายได้ในช่วงพริบตาหาก
บิดาของนางรับรู้เข้า !
หนึ่งชั่วยามผ่านไป
ในตอนนี้แม้แต่เหล่าชายหนุ่มทั้งห้าก็สามารถสัมผัสได้ถึง
ความผิดแปลกของผู้อาวุโสซิ่นเซียนที่เริ่มมีเหงือผุดขึ้นที่หน้าผากของ
นางแต่มีหรือที่พวกเขาจะกล้าว่ากล่าวสิ่งใดออกไป ภายในใจของผู้
อาวุโสซิ่นเซียนรู้สึกปั่นป่วนไปเล็กน้อยอันที่จริงแล้วนางไม่คาดคิดว่า
หญิงสาวที่งดงามเช่นหมิงเยี่ยนนางนี้จะมีความอดทนมากเพียงพอที่จะ
เดินทางยาวถึงสามชั่วยามยังคงไม่แสดงถึงความอ่อนล้าลงเลยแม้แต่
น้อย
กลับกันแล้วในตอนนี้หมิงเยี่ยนกลับแนบชิดกับหลินหมิงพร้อม
เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์โดยรอบราวกับคู่รักที่ออกเที่ยวชมความงาม
ของธรรมชาติด้วยกันเพียงเท่านั้น
' บัดซบ เหตุใดมันถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ ? หรือว่าข้าต้องหยุด
พัก ? '
" ผู้อาวุโสท่านต้องการหยุดพักแล้ว ? "
เสียงของหลินหมิงที่ดังขึ้นระงับความคิดดังกล่าวก่อนหน้านี้
ของนางไปในบัดดล นางมองไปที่มบหน้าของหมิงเยี่ยนที่ไม่ปรากฎ
แม้แต่คราบเหงื่อบนใบหน้าของนางเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วหญิง
สาวนางนี้กลับยังคงใบหน้าอันงดงามไว้เช่นเดิมไม่แตกต่างจากในตอน
แรกเสียด้วยซ้า แม้หญิงสาวนางนี้นางจะไม่ได้ลงมือใช้ค่ายกล
เช่นเดียวกันกับนางแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเทียบกับเหล่าบุรุษทั้งห้าในกลุ่ม
ที่เหลือแล้วใบหน้าของพวกเขาปรากฎสีหน้าหอบหายใจขึ้นมาแล้ว
หมิงเยี่ยนมองไปที่ฉากตรงหน้าของนางด้วยการยิ้มเยาะ
สาหรับนางนางยินดีที่จะตอบแทนบุคคลที่ทาดีกับนางด้วยเช่นฉิงเชี่ยน
ภรรยาของหลินหมิง แต่หากผู้ใดที่คิดร้ายต่อนางแล้วนางยินดีที่จะ
ตอบแทนพวกเขาอย่างเหมาะสมด้วยเช่นเดียวกัน มันไม่มีทางที่องค์
หญิงเช่นนางจะยอมปล่อยให้ผู้คนที่ดูถูกไปโดยง่าย
แน่นอนว่าหากเป็นในอดีตการเดินทางที่ใช้ระยะเวลายาวนาน
เช่นนี้มันอาจทาให้นางเกิดปัญหาได้ แต่หลังจากร่วมรักกับหลินหมิงไป
แล้วไม่เพียงแต่ระดับพลังของนางที่ได้รับการพัฒนาแต่ร่างกายของนาง
ด้วยเช่นเดียวกัน
" ผู้อาวุโส ผู้เยาว์เองก็พอมีความสามารถในการใช้ค่ายกลอยู่
บ้าง เช่นนั้นแล้วผู้เยาว์เพียงต้องการการชี้แนะสักเล็กน้อยหากท่านให้
โอกาส "
ผู้อาวุโสซิ่นเซียนจ้องมองไปที่หมิงเยี่ยนที่ยังคงประดับรอยยิ้ม
สดใสเอาไว้บนใบหน้าของนาง แน่นอนว่าในตอนนี้สาหรับนางแล้วมัน
ถึงใกล้ขีดจากัดเต็มที แม้ว่านางจะยังไม่รู้ว่าหญิงสาวนางนี้ต้องการสิ่ง
ใดก็ตาม
หรือนางอาจคิดเคารพในตัวข้าอยู่บ้าง ?
" ย่อมได้ คาดไม่ถึงว่าเจ้าที่มีอายุน้อยเพียงนี้ไม่เพียงแต่จะมี
ความแข็งแกร่งที่น่าพอใจแต่กลับมีความรู้เรื่องค่ายกลอยู่บ้าง เช่นนั้น
เจ้าสามารถลงมือได้ข้าสามารถชี้แหนะให้เจ้าแก้ไขหากเจ้าผิดพลาดใน
ส่วนใด "
" รบกวนท่านแล้ว "
หลินหมิงแทบจะระเบิดอารมณ์ขันออกมาไม่ได้ดูเหมือน
ภรรยาของเขานางนี้จะมีความเคียดแค้นที่ไม่สามารถปล่อยค้างได้
มองไปที่ร่างของหมิงเยี่ยนที่เดินไปหาผู้อาวุโสซิ่นเซียนด้วยความมั่นใจ
กระดานค่ายกลของนางถูกนาออกมา ในจังหวะนี้ผู้อาวุโสซิ่นเซียน
กาลังว่ากล่าวคาแนะนา แสงพลันส่องประกายที่กระดานค่ายกลของห
มิงเยี่ยนพร้อมกับค่ายกลสารวจที่ทางานขึ้นอย่างง่ายดาย
ดวงตาของผู้อาวุโสซิ่นเซียนเบิกกว้างด้วยความตกใจแม้จะเป็น
ค่ายกลสารวจอย่างง่ายแต่ถึงอย่างนั้นมันย่อมต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร
ในการเรียกใช้มัน แต่หญิงสาวตรงหน้านางกลับใช้มันออกเพียงแค่ชั่ว
พริบตา

ตอนที่ 261
ผู้อาวุโสซิ่นเซียนถึงกับหมดคากล่าวใดๆเมื่อได้เห็น
ความสามารถในการใช้ค่ายกลของหมิงเยี่ยน ในตอนแรกนางเพียงคิด
ว่าหญิงสาวผู้นี้นั้นเป็นเพียงหญิงสาวที่มีพรสวรรค์อยู่บ้างและได้รับ
ความช่วยเหลือบางอย่างจากหลินหมิงจนทาให้สามารถบ่มเพาะได้
อย่างก้าวกระโดดเช่นนี้ แต่แท้จริงแล้วมันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นหนทาง
ของการเป็นผู้ใช้ค่ายกลนั้นไม่ใช้สิ่งที่ใครก็สามารถเป็นได้
พวกเขาทุกล้วนต้องมีพลังสมาธิที่ยอดเยี่ยมเพื่อทาความเข้าใจ
อักษจารึกและรูปแบบการทางานของค่ายกล อย่างน้อยที่สุดหลินหมิง
ไม่นับว่ามีความสามารถในด้านนี้เลยแม้แต่น้อย ผู้ใช้ค่ายกลนั้นส่วน
ใหญ่จะมีอายุสี่สิบปีขึ้นไป นั้นเพราะช่วงอายุสามสิบถึงสี่สิบปีนั้น
สาหรับเผ่าพันธ์มนุษย์นั้นเป็นช่วงที่การบ่มเพาะของพวกเขาล้วนมาถึง
ทางตันแล้ว เมื่อเป็นัช่เ นนี้พวกเขาเหล่านั้นจะหันไปมุ่งเน้นศึกษาตารา
ค่ายกลแทน
แน่นอนว่ามันยังคงมีรุ่นเยาว์บางคนที่เริ่มต้นด้วยการศึกษาใช้
ค่ายกลแต่ถึงอย่างนั้นมันจะทาให้พวกเขาเสียเวลาการบ่มเพาะในช่วง
ที่เหมาะสมที่สุดไปดังนั้นแล้วมันจึงไม่ค่อยมีใครทาเช่นนี้มากนัก เมื่อ
ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาไม่มากพอแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะ
สามารถทาความเข้าใจรูปแบบค่ายกลได้มากมายเพียงใดย่อมไม่
สามารถใช้พวกมันออกมาได้ปราศจากพลังลมปราณที่มากเพียงพอ
ด้วยความสามารถของหญิงสาวในระดับนี้นางยังคงมี
ความสามารถใดที่จะกล่าวแนะนาหญิงสาวตรงหน้าได้กัน ? กลับกัน
แล้วมันอาจเป็นนางเองเสียมากกว่าที่ต้องการคาแนะนา ใบหน้าของผู้
อาวุโสซิ่นเซียนเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว
" ขอบคุณผู้อาวุโสที่ให้ผู้เยาว์ได้แสดงฝีมือเล็กน้อย "
หมิงเยี่ยนหันไปกล่าวกับผู้อาวุโสซิ่นเซียนจากเจ็บแสบ ด้วยคา
กล่าวเช่นนี้มันไม่ได้ต่างอะไรไปจากการตบหน้านางเลยแม้แต่น้อย
เวลาผ่านล่วงเลยไปอีกราวครึ่งชั่วยามจนมาถึงในตอนที่
ตะวันเริม่ลับขอบฟ้า ด้วยการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบแทบจะทั้งวัน
ของกลุ่มหลินหมิงแต่พวกเขากลับไม่พบร่องรอยของผู้คนจาก
อาณาจักรนภาเลยแม้แต่นอ้ ย มีบ้างที่พวกเขาพบเจอสัตว์อสูรที่มีพลัง
ระดับก่อเกิดแต่สิ่งเหล่านั้นไม่แม้แต่จะเป็นปัญหาใดๆกับกลุ่มของพวก
เขาที่ล้วมีแต่ผู้เชี่ยวชาญระดับจอมยุทธ์ด้วยกันทั้งสิ้น
ในตอนนี้หน้าที่ในการหาเสบียงสาหรับยามเย็นจึงตกเป็นของ
เหล่าชายหนุ่มทั้งห้า แน่นอนว่าพวกเขาแต่ละคนไม่ได้รับอนุญาตให้นา
อาหารติดตัวไปด้วยนั้นก็เพราะว่านี้ถือเป็นการฝึกเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง
ในบรรดาการสารวจครั้งนี้ผู้อาวุโสซิ่นเซียนนั้นล้วนใช้ค่ายกลสารวจไป
ไม่น้อยเช่นเดียวกันกับหมิงเยี่ยน ดังนั้นแล้จึงเหลือเพียงพวกเขาทั้งห้า
กับหลินหมิงที่ยังคงไม่ได้ทาสิ่งใด
แต่ถึงอย่างนั้นมันมีหรือที่พวกเขาจะกล้ามากพอที่จะให้หลินห
มิงออกหาเสบียงเพื่อพวกเขา ? ในรบรรยากาศของกลุ่มในตอนนี้ล้วน
เต็มไปด้วยความกดดันที่มองไม่เห็นจากหญิงสาวงามทั้งสอง สาหรับ
หลินหมิงแล้วนั้นมันอาจไม่เป็นปัญหาใดแต่สาหรับกลุ่มชายหนุ่มทั้งห้า
พวกเขารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนเมื่อมองไปที่การแสดงออกต่อกันของผู้
อาวุโสซิ่นเซียนและสาวงามหมิงเยี่ยน
" ผู้อาวุโส เช่นนั้นพวกข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อน "
กลุ่มของชายหนุ่มทั้งห้าหลังจากเติมเต็มพลังงานให้กับท้อง
เสร็จสิ้นพวกเขาไม่คิดจะอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้อีกต่อไป
เช่นเดียวกันกับหมิงเยี่ยนที่ยิ้มเยาะอย่างพึงพอใจพร้อมกับหันกายไป
ทางหลินหมิงพร้อมกับจากไป
ในค่าคืนอันเงียบสงบร่างของชายหนุ่มทั้งหลายล้วนหลับสนิท
อย่างอ่อนล้า แม้พวกเขาจะไม่ได้พบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลาบาก
อันใดมากนักแต่การที่ต้องเดินเท้าสารวจอย่างยาวนานเช่นนี้มันก็
นับเป็นเรื่องที่หนักหนาอยู่พอสมควร เพียงแต่ว่าในกลางดึกนั้นกลับมี
ร่างของคนผู้นี้หนึ่งทะยานออกมาจากกลุ่มของหลินหมิงพร้อมกับพุ่ง
หายเข้าไปภายในป่า
" พวกเจ้าออกมาได้แล้ว ! "
ร่างของหญิงสาวที่งดงามจจดเป็นที่น่าตกตาของบุรุษที่ออกมา
จากกลุ่มของหลินหมิงนั้นกลับเป็นร่างของหมิงเยี่ยนที่ในตอนนี้เบื้อง
หน้าของนางปรากฎร่างของชายสูงอายุสองคนในชุดคลุมดาโผล่
ออกมา พร้อมกับก้มหัวเคารพให้กับหมิงเยี่ยน
" องค์หญิงท่านปลอดภัยดีใช่หรือไม่ขอรับ "
ในก่อนหน้านี้ระหว่างการเดินทางหมิงเยี่ยนนางได้วางแผนทุก
อย่างเอาไว้ตั้งแต่ต้นเมื่อนางได้ยินว่ามีการเคลื่อนของผู้คนจาก
อาณาจักรนภาแล้ว แน่นอนว่านางไม่ได้มีความคิดที่จะกลับอาณาจักร
นภาในตอนนี้ดังนั้นแล้วนางเพียงแค่ต้องการส่งสารไปหาบิดาของนาง
ว่านางยังคงปลอดภัยดีอยู่เพียงเท่านั้น
" อืม..ข้าไม่เป็นไร พวกเจ้าจงนาจดหมายฉบับนี้กลับไปกับบิดา
ของข้า "
" หมายความว่าองค์หญิงยังคงไม่กลับไปอย่างนั้น ? "
ร่างของชายสูงอายุสั่นวูบหน้าที่ของพวกเขาคือการพาตัวองค์
หญิงผุ้นี้กลับไปหาองค์จักรพรรดิแม้ว่าพวกเขาจะทาตามคาสั่งของนาง
โดยการนาจดหมายนี้กลับไป แต่มีหรือที่องค์จักรพรรดิจะพอใจกับ
ผลลัพธ์เช่นนี้เป็นที่รู้กันดีว่าองค์หญิงสามผู้นี้เป็นที่โปรดปรานขององค์
จักรพรรดิมากเพียงใดหากเขารู้ว่าพวกเขาได้พบตัวนางแต่ไม่ได้นาพา
กลับมาด้วยอย่างน้อยที่สุดชีวิตของพวกเขาคงต้องพบกับความพิการ
แล้ว !
" อืม ข้ามีเรื่องอีกเล็กน้อยที่ต้องจัดการที่นี้เอาไว้เมื่อทุกอย่าง
เสร็จสิ้นข้าจะกลับไปเอง "
" หรือท่านเป็นกังวลกับเรื่องพวกมันเหล่านั้นพวกข้าทั้งสอง
สามารถลงมือจัดการพวกมันให้ท่านได้ในตอนนี้ ! "
ชายสูงอายุทั้งสองที่ได้ติดตามหมิงเยี่ยนมาอยู่ช่วงใหญ่นับแต่
การเดินทาง สิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้ก็คือดูเหมือนว่าทางเหล่าผู้คนภายใน
กลุ่มของนางนั้นจะยังคงไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนของนางเลยแม้แต่น้อย แต่
พวกเขาก็ยังคงไม่เข้าใจว่าองค์หญิงสามผู้นี้ต้องการทาสิ่งใด
" ไม่ ! นั้นไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้าที่จาเป็นจะต้องรับรู้พวกเจ้ามี
หน้าที่เพียงนาจดหมายนี้ไปส่งให้กับบิดาของข้าก็เพียงพอ "
" องค์หญิงโปรดอภัยในยามนี้องค์จักรพรรดิได้สั่งให้ค้นหาตัว
ท่านและพากลับไป "
ใบหน้าของชายสูงอายุทั้งสองเต็มไปด้วยความตรึงเครียด
ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจาเป็นที่จะต้องตัดสินใจใช้กาลังเขาหักหามการ
ตัดสินขององคฺ์หญิงสามแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาอาจได้รับโทษจาก
การทาร้ายนางไปบ้างแต่มันคงไม่เท่ากับการที่พวกเขาปล่อยนางไป
ในตอนนี้
ร่างของชายสูงอายุทั้งสองลุกขึ้นและระเบิดพลังปราณระดับ
จอมยุทธ์ขั้นสูงสุดออกมา หมิงเยี่ยนในตอนนี้ถอยหลังไปสองสามก้าว
นางรู้ดีว่าพวกเขาทั้งสองนี้ล้วนไม่กล้าทาอันตรายนาง แต่การทาให้
นางหมดสตินั้นย่อมเพียงพอที่ทาให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายในการพา
ตัวนางกลับไป
หากเป็นเช่นนั้นแล้วไม่ใช่ว่านางอาจไม่ได้พบเจอกับเจ้าตัวลา
มากของนางอีกต่อไป ? มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่นางจะได้มีโอกาส
กลับมาที่อาณาจักรนี้อีกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงในเรื่องนั้นต่อจากนี้หลังจาก
ที่นางกลับไปบิดาของนางคงจัดเตรียมเหล่าผู้เชี่ยวชาญจานวนมากไว้
คุ้มครองนางจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกอีกต่อไปแล้ว
" เฮอะ ! เฒ่าชราใกล้ลงโลงเช่นพวกเจ้าถึงกับมีความกล้ามาก
พอที่จะทาร้ายสตรีของข้า ? "
เสียงอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นมาจนหมิงเยี่ยนสะดุ้งโหยด้วยความ
ตกใจ เพียงพริบตาเดียวหลังจากสิ้นเสียงดังกล่าวร่างของหลินหมิง
พลันโผล่ออกมาอยู่เบื้องหน้าคั้นระหว่างนางและชายสูงอายุทั้งสอง
เอาไว้ หมิงเยี่ยนตกใจจนหัวใจแทบจะทะลักออกมาเป็นไปได้หรือไม่ว่า
เจ้าตัวลามากของนางอาจได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก่อนหน้านี้ หากเป็น
เช่นนั้นแล้วเขาจะทาอย่างไรเมื่อรู้ว่านางคือองค์หญิจากอาณาจักรศัตรู
? เดิมทีแล้วนางเพียงตังใจจะบอกกล่าวกับหลินหมิงในคราวหลังเมื่อ
นางพร้อม
" พวกมันเป็นใครกัน ? "
ได้ยินเสียงของหลินหมิงที่ดังขึ้นต่อมาหมิงเยี่ยนถอนหายใจ
ออกด้วยความโล่งอกไปเฮือกใหญ่
" เจ้าเด็กหาที่ตายนี้ ! "
เสียงของชายสูงอายุทั้งสามสบถออกมาอย่างโกรธเคือง
ประโยคก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองล้วนไม่มีใครฟังผิดพลาดที่เด็กหนุ่ม
ผู้นี้กล้ากล่าวว่าองค์หญิงสามผู้นี้เป็นของมัน โดยไม่รอช้าร่างของชาย
สูงอายุทั้งสองกระโจนเข้าหาหลินหมิงพร้อมบดขยี้ให้ร่างกายแหลก
ละเอียดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หมิงเยี่ยนนางยังคงไม่ทันกล่าวห้ามใดๆการต่อสู้ของผู้ที่มีพลัง
ระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดสองคนกับเจ้าตัวลามากของนางก็เริ่มขึ้นแล้ว

ตอนที่ 262
หากมองเพียงรูปลักษณ์ของหลินหมิงแล้วแม้ว่าหลินหมิงจะมี
อายุ 17 ปีแต่เนื่องจากเขาได้ฝึกฝนทักษะเกราะศักดิ์สิทธ์รวมกับการ
หลอมหลวมเปลวเพลิงทมิฬหลังจากเข้าสู่ระดับปราญช์มันทาให้รูปร่าง
ของหลินหมิงนั้นดูเหมือนชายหนุ่มอายุราว 20-21 ปี แน่นอนว่าด้วย
ช่วงอายุของชายหนุ่มเพียงเท่านี้มันสมควรไม่ใช่ปัญหาอันใดกับเฒ่า
ชราทั้งสองเช่นพวกเขาที่มีพลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุด !
อย่างมากอีกฝ่ายสมควรมีเพียงระดับพลังในระดับก่อเกิดขั้น
ปลายเพียงเท่านั้นมีหรือที่มันจะเป็นปัญหาสาหรับพวกเขา ? แน่นอน
ว่าแม้เด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นเพียงเด็กหนุ่มอ่อนแอ่ที่พวกเขาล้วนไม่ต้องให้
ความสาคัญก็ย่อมได้ แต่ด้วยคากล่าวของเด็กหนุ่มผู้นี้ก่อนหน้า ที่กล้า
กล่าวถึงองค์หญิงเป็นสตรีของมันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยผ่านได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามดวงชะตาของเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องหมอดดับลง
ในวันนี้ !
แรงอัดที่ฝ่ามือของเฒ่าชราทั้งสองเต็มไปด้วยพลังงานที่พวก
เขามั่นใจว่าไม่เพียงแต่จะสามารถปลิดชีวิตของหลินหมิงลงได้ใน
ทีเดียว แต่มันยังคงเพียงพอที่จะทาให้ร่างของหลินหมิงหายเป็นฝุ่น
ควันภายในพริบตาเดียว
" ตาย !! "
เสียงคารามอย่างเยือกเย็นที่เปล่งออกมานั้นทาให้ร่างของเฒ่า
ชราทั้งสองล้วนตกใจนั้นก็เพราะว่ามันสมควรเป็นคากล่าวของหนึ่งใน
พวกเขาทั้งสองแต่ในตอนนี้มันกลับกลายเป็นคากล่าวของเด็กหนุ่มตรง
หน้าที่แม้จะเผชิญหน้ากับพวกเขามันยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอัน
ลึกลับ ในใจเฒ่าชราทั้งสองบังเกิดความรู้สึกสับสนอันยากเกินกว่าจะ
อธิบาย แต่อย่างไรก็ตามภายในความคิดของพวกเขาไม่มีทางที่เด็ก
หนุ่มเช่นนี้จะมีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถทาอันตรายพวกเขา
ได้อย่างแน่นอน
ต่อให้เป็นอัจฉริยะอย่างองค์หญิงสามก็ไม่เพียงพอที่จะทาร้าย
พวกเขา !
ปัง !!
เสียงฝ่ามือของพวกเขาปะทะเข้ากับร่างของหลินหมิงแต่ถึง
อย่างนั้นพวกเขาไม่ได้รู้สึกเหมือนกับว่าฝ่ามือของพวกเขากระทบกับ
ร่างเนื้อของมนุษย์แต่มันกลับเป็นภูผาเหล็กที่ไม่มีวันสั่นคลอนเสีย
มากกว่า
หลินหมิงตวัดมือออกไปเพียงคราเดียวร่างของเฒ่าชราทั้งสอง
ในชุดคลุมดาล้วนปลิวลอยกลับไปพร้อมกับอาการเจ็บปวดจนกระอัก
เลือดออกมากองใหญ่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการ
สะบัดมือของหลินหมิงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น !
แต่เดิมในตอนที่หลินหมิงมีความสามารถในระดับจอมยุทธ์ขั้น
สูงสุดนั้นเขาได้สังหารผู้เชี่ยวชายระดับจอมยุทธ์มานับสิบนับร้อย ไม่
ต้องพูดถึงเฒ่าชราที่แก่เฒ่าเช่นนี้แล้วนี้ยังคงไม่รวมถึงการที่หลินหมิง
ก้าวเข้าสู่ระดับปราญช์แล้วตัวตนระดับจอมยุทธ์มันจะเป็นสิ่งอื่นใดไป
ได้อีกนอกจากมดตัวเล็กที่สร้างความราคาญให้แก่เขาเพียงเล็กน้อย
เท่านั้น
" อั่กก ! "
ร่างของพวกเขาทั้งสองค่อยๆลุกขึ้นมาด้วยความยากลาบาก
พร้อมกับจ้องมองไปยังหลินหมิงด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ การที่พวก
เขาจะได้รับบาดเจ็บเช่นนี้หากไม่ใช่ผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ก็ไม่ใช่เรื่อง
ที่จะสามารถทาได้ !
" ปะ...เป็นไปได้อย่างไรกัน ! "
พวกเขาทั้งสองล้วนแล้วแต่ไม่ทันมองเห็นการโจมตีของหลินห
มิงเสียด้วยซ้าว่าลงมือเมื่อใด ทันใดนั้นไม่ทันรอให้เฒ่าชราทั้งสองได้มี
เวลาคิดเรื่องราวอันต่อไป เสียงเท้าของหลินหมิงดังขึ้นหนึ่งเก้าจนทา
ให้ร่างกายของพวกเขาทั้สองสั่นสะท้าน แม้จะเป็นเรื่องที่จะยอมรับแต่
พวกเขาทั้งสองล้วนไม่ใช่คู่มือของเด็กหนุ่มผู้นี้เลยแม้แต่น้อย
" เดียวก่อน ! "
ร่างของหลินหมิงที่กาลังเดินอย่างสบายใจหมายปลิดชีวิตเฒ่า
ชราทั้งสองถูกหยุดลงด้วยมือทั้งสองข้างของหมิงเยี่ยนจากด้านหลัง
หลินหมิงเต็มไปด้วยความสับสนอันที่จริงแล้วแม้ว่าเขาจะอยู่กับนางมา
ไม่นานแต่ก็พอจะรู้นิสัยใจคอของนางอยู่บ้างมันไม่มีทางที่ภรรยาของ
เขานางนี้จะปล่อยให้ผู้คนที่กล้าคิดจะลงมือกับนางได้มีชีวิตอยู่อย่าง
สงบสุขดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงคิดสังหารเฒ่าชราทั้งสองนี้
" อา...แท้จริงแล้วข้าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านถึงไม่กลับไปกับ
พวกข้า นั้นเพราะว่าท่านกาลังถูกควบคุมตัวโดยมันผู้นี้ ! "
หลินหมิงขมวดคิ้วลงดูเหมือนว่าในตอนนี้เขาเริ่มจะทาความ
เข้าใจสิ่งต่างๆได้เล็กน้อยแล้ว พร้อมกับมองไปยังร่างของหมิงเยี่ยนที่
ก้มศรีษะต่าไม่กล้ามองหน้าหลินหมิง
" แต่ท่านไม่จาเป็นจะต้องกังวลไป มันผู้นี้จะไม่มีโอกาสคุมตัว
ท่านได้อีกแล้วเพราะว่าผู้ที่นาการติดตามท่านในครั้งนี้คือท่านแม่ทัพวู่
.... "
สิ้นเสียงของเฒ่าชราร่างของเขาล้มลงด้วยอาการบาดเจ็บ
สาหัสจนยากที่จะฟื้นขึ้นมาโดยง่าย แต่กลับกันแล้วในตอนนี้
สถานการณ์กลับเลวร้ายลงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนับร้อยเท่า เพราะเบื้อง
หน้าของหลินหมิงในตอนนี้สัมผัสได้ถึงตัวตนระดับสูงที่พุ่งทะยานมาที่
เขาด้วยความเร็วอันน่าตื่นตระหนก !
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจหลังจากที่หลินหมิงสัมผัสได้ถึงพลังปราณ
ของคนผู้นี้ในระยะใกล้ร่างของเขาพลันปรากฎตัวต่อหน้าหลินหมิง ร่าง
ของชายสูงอายุราว 60 ปี ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหมัดกล้ามเนื้ออัน
ใหญ่โตพร้อมกับร่องรอยบาดแผลตามร่างกายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง พร้อม
กับอ่อร่าที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวของชายผู้นี้หลินหมิงคิดเห็นว่ามัน
ไม่ได้ด้อยไปกว่าแม่ทัพใหญ่ทั้งสองที่เขาเคยเผชิญหน้ามาเลยเสียด้วย
ซ้านั้นหมายความว่าชายผู้นี้คือผู้ทรงพลังระดับปราญช์ขั้นสูงสุด !
หลินหมิงรีบดึงร่างของหมิงเยี่ยนหลบด้านหลังของเขาในทันที
สายตาของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่จ้องมองร่างของเฒ่าชราทีบาดเจ็บหมดสติ
ทั้งสองที่พื้นพร้อมกับจ้องมองที่หลินหมิงและหมิงเยี่ยน ก่อนที่หัว
สมองของหลินหมิงจะทันได้คิดสิ่งใดร่างของชายผู้นี้กลับโค้งหัวลง
เคารพอย่างอ่อนน้อมพร้อมกับเสียงของเขาที่กล่าวออกมาจนทาให้
หลินหมิงตื่นตะลึง
" องค์หญิงสามข้าได้รับหน้าที่ให้นาพาท่านกลับอาณาจักร "
ร่างกายของหมิงเยี่ยนสั่นหวูบในตอนนี้นางไม่มีทางปิดบัง
สถานะของนางต่อหลินหมิงได้อย่างแน่นอน นางไม่สามารถมองเห็น
ใบหน้าของหลินหมิงในยามนี้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมือของนางยังคงกาไปที่
ขอบชายเสื้อของหลินหมิงอย่างแน่นหนา
" เจ้ากลับเป็นองค์หญิงจากอาณาจักรนภา ? "
เสียงกล่าวเรียบเฉยของหลินหมิงทาให้หมิงเยี่ยนใจสั่นหวูบ
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าตัวลามกของนางผู้นี้อาจคิดที่จะทอดทิ้งนางแล้ว
แม้ว่าก่อนหน้านี้นางและหลินหมิงจะมีความสัมพันธ์กันหนาแน่นแต่
ด้วยสถานะของนางที่เป็นองค์หญิงของอาณาจักรศัตรูมันจะเป็นไปได้
อย่างไรที่หลินหมิงจะยอมรับเรื่องนี้โดยง่าย
" อา.... "
แม้หมิงเยี่ยนนางจะไม่ได้ตอบสิ่งใดออกไปแต่ในตอนนี้หลินห
มิงล้วนแล้วแต่แน่ใจแล้ว เขาไม่เคยเห็นหน้าตาของแม่ทัพจาก
อาณาจักรนภามาก่อนแต่ด้วยคากล่าวก่อนสิ้นสติของเฒ่าชราที่โดน
เขาเล่นงานสมควรกล่าวได้ว่าตรงหน้าของเขาในยามนี้คือผู้ที่มีอานาจ
ระดับสูงจากอาณาจักรนภานั้นก็คือแม่ทัพวู่ !
เมื่อเห็นหลินหมิงไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีกหมิงเยี่ยนนางหันไปมอง
ทางแม่ทัพวู่ที่กาลังจ้องมองคาดเดาความสัมพันธ์ของนางกับหลินหมิง
มันคงไม่ดีเป็นอย่างแน่นอนหากนางเปิดเผยความสัมพันธ์ของนางและ
หลินหมิงในยามนี้ท้ายที่สุดแล้วหลินหมิงจะจบลงด้วยความตายเพียง
เท่านั้น !
" ขะ...ข้า "
หมิงเยี่ยนที่เตรียมตัวกล่าวคาแก้ตัวใดๆฝืนใจกลืนคากล่าว
เหล่านั้นลงคอไปจนหมดสิ้น นางเหลือบมองไปที่หลินหมิงเป็นครั้ง
สุดท้ายพร้อมกับคากล่าวขอโทษที่ออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างของนาง
ค่อยๆเดินออกมาจากเบื้องหลังของหลินหมิง
หมับ !
ในระหว่างนั้นข้อมือของนางถูกจับเอาไว้โดยมือของหลินหมิง
จนทาให้ดวงตาของนางเบิกกว้างเช่นเดียวกันกับแม่ทัพวู่ที่หรี่ตาลงอ
ย่างเย็นเยือก
" นั้นเจ้าคิดจะไปที่ใดกัน "
หมิงเยี่ยนตื่นตะลึงหลังจากที่ได้ยินเสียงของหลินหมิงฉุดรั้งร่าง
ของนางเอาไว้ สายตาของนางพลันเงยขึ้นมองไปยังใบหน้าของหลินห
มิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
" สถานที่ที่เจ้าสมควรอยู่นั้นมีเพียงแค่ข้างกายของข้าเท่านั้น
ไม่สาคัญว่าเจ้าจะเป็นองค์หญิงหรือเทพองค์ใดก็ตามแต่ หากมีผู้ใดคิด
นาเจ้าไปจากข้าแล้วละก็ลองถามง้าวในมือของข้าก่อน !!! "
ร่างของหมิงเยี่ยนถูกฉุดรั้งไปเบื้องหลังของหลินหมิงดังเดิม
ตั้งแต่ที่นางได้ยินเรื่องที่หลินหมิงเคยหาญกล้าต่อต้านแม่ทัพใหญ่ทั้ง
สองของอาณาจักรแห่งนี้เพียงเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับภรรยาของ
เขาอย่างฉิงเชี่ยนในตอนนั้นนางต้องยอมรับว่านางยังคงมีความปักใจ
เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่สาหรับในตอนนี้เมื่อได้เห็นการกระทาของ
หลินหมิงในวันนี้นางล้วนแล้วแต่แน่ใจ
ประโยคคาถามของนางที่เคยกล่าวถามหลินหมิงก่อนหน้านี้พัน
ลอยเข้ามาในหัวสมองของนาง ' หากเปลี่ยนจากฉิงเชี่ยนเป็นข้าแล้ว
เจ้ายังคงทาเช่นเดียวกัน ? ' นี้คือประโยคที่นางเคยกล่าวกับหลินหมิง
หยาดน้าตาใสๆไหลลงมาจากดวงตาของนางด้วยความรู้สึกอันเอ่อล้น
ในตอนนี้นางรู้สึกเหมือนเป็นสตรีที่มีความสุขในโลกล้า

ตอนที่ 263
เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนระดับสูงตรงหน้าอีกทั้งยังเป็นแม่ทัพ
ของอาณาจักรนภาที่มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับแม่ทัพโจวและแม่
ทัพฉิน หลินหมิงนาง้าวทมิฬออกมาจากภายในจิตวิญญาณของเขาเพื่อ
เตรียมรับในทันที เช่นเดียวกันกับแม่ทัพวู่ในยามนี้เขาสามารถมองเห็น
การกระทาของหลินหมิงและหมิงเยี่ยนตั้งแต่เริ่มต้น ในตอนนี้แม้แต่
บุคคลภายนอกก็ย่อมมองออกว่าองค์หญิงสามผู้นี้มีใจให้กับหลินหมิง
ไม่น้อย
" น่าเสียดาย...หากเพียงแค่เจ้าไม่ได้เัดที
กิ ่อาณาจักรแห่งนี้แล้ว
ละก็ข้าคิดว่าแม้แต่องค์จักรพรรดิก็คงเห็นชอบเรื่องความสัมพันธ์ของ
เจ้าและองค์หญิง "
ในตอนนี้แม่ทัพวู่มองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาประเมิณอย่าง
รอบคอบไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดลูกน้องของเขาทั้งสองก่อนหน้านี้
ถึงได้พ่ายแพ้ให้กับหลินหมิงผู้นี้แท้จริงแล้วชายหนุ่มที่ดูมีอายุเพียงยี่สิบ
ปีผู้นี้กลับสามารถก้าวเข้าสู่ในระดับปราญช์ได้แล้ว ! หากนับดูจาก
ความสามารถและพรสวรรค์เช่นนี้เกรงว่าแม้แต่ตัวเขาในอดีตก็ยังคง
ด้อยกว่าหลายเท่านัก นั้นหมายความว่าในอนาคตเด็กหนุ่มผู้นี้จะต้อง
เติบโตเป็นผู้ทรงพลังที่อาจเหนือกว่าระดับปราญช์ !
หมิงเยี่ยนนางราวกับเพิ่งตื่นจากความฝันหลังจากที่ได้ยิน
ประโยคกล่าวของแม่ทัพวู่ในตอนนี้รอบตัวของแม่ทัพวู่ปรากฎอ่อร่าฆ่า
ฟันออกมาจนทาให้บรรยากาศโดยรอบถึงกับเย็นเยือก
" ท่านแม่ทัพข้ายินดีกลับไปกับท่านในตอนนี้ ท่านห้ามลงมือ
อันใดอีก ! "
หมิงเยี่ยนนางรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของหลินหมิงหลังจากที่ผ่าน
ประสบการณ์การต่อสู้ด้วยกันมาแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงเร็วเกินไป
สาหรับหลินหมิงที่จะเผชิญหน้ากับแม่ทัพวู่ผู้นี้ หากนับกันแล้วไม่
เพียงแต่หลินหมิงจะเป็นรองในด้านความแข็งแกร่ง ประสบการณ์
ทักษะ ความสามารถ ทุกสิ่งอย่างเหล่านี้ล้วนแต่ไม่สามารถเทียบกับแม่
ทัพวู่ผู้นี้ที่ผ่านศึกสมรภูมิมาอย่างโชกโชน
" ไม่ใช่ว่าข้ากล่าวไปแล้วหรืออย่างไรว่า ข้าไม่ยินยอมให้เจ้า
จากไป ! "
หลินหมิงสบถออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับจ้องไปยังร่าง
ของหมิงเยี่ยน หากเขาต้องเสียนางไปในยามนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้
เลยที่เขาจะสามารถได้พบกับนางอีกครั้ง
" ข้าดีใจมากนะที่เจ้ายินยอมทาเพื่อข้าขนาดนี้ แต่ว่าเจ้าไม่
สามารถสู้กับเขาได้หรอกในยามนี้.... "
" ขออภัยองค์หญิงแม้ว่าท่านจะตัดสินใจติดตามกลับไป
โดยง่ายแล้วแต่ข้าล้วนไม่มที างปล่อยให้รุ่นเยาว์ที่มีความสามารถเช่นนี้
ของศัตรูให้หลุดพ้นจากไปได้ไม่เช่นนั้นแล้วอาณาจักรของเราใน
อนาคตย่อมประสบความสูญเสียอย่างหนัก "
หมิงเยี่ยนร่างกายสั่นหวูบพร้อมกับพุ่งตัวไปยืนบังหน้าของ
หลินหมิงเอาไว้
" หนีไปซะ เจ้ารีบหนีไป ! "
ค่ายกลจานวนมากของนางถูกนาออกมาใช้เพื่อคัดขว้างแม่
ทัพวู่ในยามนี้ ขอเพียงแต่หลินหมิงรอดพ้นไปจากสถานการณ์ในตอนนี้
ได้แม้ว่าความน่าจะเป็นโอกาสที่นางจะได้พบกับหลินหมิงอีกครั้งจะมี
น้อยแต่มันยังคงดีกว่าการที่ไม่มีโอกาสเลย
" ขออภัยองค์หญิง ! "
เพล้ง !
พริบตาเดียวร่างของแม่ทัพวู่เคลื่อนกายเข้ามาอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับค่ายกลทั้งหมดของหมิงเยี่ยนที่ถูกทาลายลงอย่างง่ายดาย
" หลินหมิง ! "
ร่างกายของหลินหมิงตอบสนองอย่างรวดเร็วตั้งแต่พลังปราณ
ภายในร่างของเขาล้วนระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งเกราะแสงสีทองอ
รามลงมาประทับร่างของหลินหมิงเอาไว้พร้อมกับพลังกายภายในร่าง
ของเขาหลินหมิงที่เพิ่มพูนขึ้นมาหลายส่วนพร้อมกันนั้นดวงตาของ
หลินหมิงปรากฎสายฟ้าสีขาว
" จิตสายฟ้า ! "
พลังปราณของหลินหมิงที่เพิ่มขึ้นพรวดพราดจนทาให้
แม้แต่อม่ทัพวู่ที่ผ่านประสบการณ์ต่อสู้มาไม่น้อยยังคงขมวดคิ้ว
หนัก พลังปราณที่เอ่อล้นทะลักออกมาอย่างร่างของหลินหมิงก่อตัว
รูปร่างเป็นสายฟ้ากลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ทันใดนั้นสติของหลินหมิงพลัน
รู้สึกเหมือนดับหวูบลงไป
ภายในจิตวิญญาณของหลินหมิงสัตว์วิญญาณพยัคฆ์ขาว
ในตอนนี้ดวงตาของมันตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตาพร้อมกับจ้องมองมาที่
หลินหมิง ในก่อนหน้านี้ในตอนนี้ที่หลินหมิงในพบมันในครั้งแรกเขาก็
รู้สึกได้ถึงความกดดันและความแข็งแกร่งของพยัคฆ์ขาวตนนี้เป็นอย่าง
มาก แต่เทียบกับในตอนที่มันได้สติตื่นขึ้นมาแล้วมันเป็นอะไรที่
มากมายหลายเท่านัก
" เฮอะ ! ไอหนูแกต้องการหาที่ตายหรืออย่างไรถึงได้เข้าสู้กับผู้
ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นสูงสุดเช่นนั้น "
ไม่คาดคิดสัตว์วิญญาณพยัคฆ์ขาวกลับเป็นฝ่ายเริ่มพูดกล่าวกับ
หลินหมิงก่อน
" ข้าเพียงแต่ต้องการปกป้องสตรีของข้าเอาไว้เพียงเท่านั้น "
" แม้ว่ามันจะไม่มีโอกาสที่จะสาเร็จก็ตามที่ "
ดวงตาของหลินหมิงและพยัคฆ์ขาวสอดประสานกันโดยยากที่
จะคาดเดาความคิดของอีกฝ่าย หากนับกันตามความเป็นจริงแล้วการ
ที่ผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นเริ่มต้นกับผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นสูงสุด
สู้กันเช่นนี้มันนับได้ว่าเป็นความโง่เขลาโดยแท้จริง ไม่สาคัญว่าคนผู้นั้น
จะเป็นอัจฉริยะมากเพียงใดลาพังแค่การต่อสู้ข้ามขั้นในระดับปราญ
ชเพียงหนึ่งขั้นก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากเย็นราวกับปฎิหารย์แล้ว
" ไม่มีสิ่งใดล้วนแล้วแน่นอน ยกเว้นเพียงแต่ข้าถอดใจไม่ลงมือ
นั้นจะเท่ากับโอกาสเป็นศูนย์โดยแท้จริง ! "
คาตอบของหลินหมิงกล่าวออกมาอย่างเชื่อมั่น หากศัตรูเป็นผู้
ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นกลางแล้วหลินหมิงอาจมีความหวังเพียง
พอที่จะชนะได้อยู่สักสองหรือสามส่วนแต่สาหรับระดับปราญช์ขั้น
สูงสุดนั้นเขาไม่คิดว่าจะสามารถชนะได้โดยง่ายมันอาจมีโอกาสเพียง
หนึ่งในล้านหรืออาจมากกว่านั้น แต่นั้นย่อมเพียงพอแล้วหากแลกกับ
การที่เขาจะได้อยู่ร่วมกับหมิงเยี่ยนต่อไป
" เฮอะ ! ช่างเป็นเด็กน้อยที่ดื้อรัน แต่ก็นับเป็นคาตอบที่ไม่เลว
เอาเป็นว่าเพื่อเห็นแก่คาตอบที่เจ้าทาให้ข้าพึงพอใจข้าจะช่วยเหลือเจ้า
สักเล็กน้อยก็แล้วกัน "
สิ้นเสียงของสัตว์วิญญาณพยัคฆ์ขาวสติของหลินหมิงกลับมา
อีกครั้ง พลังปราณของหลินหมิงในตอนนี้ยังคงเอ่อล้นออมาอย่างไม่
หยุดหย่อนพร้อมกับกลุ่มก้อนสายฟ้าก้อนหน้านี้ที่ค่อยๆเปลี่ยแปลง
รูปร่าง
" นั้นมันอะไรกัน ! "
หมิงเยี่ยนตื่นตระหนกกับภาพตรงหน้าเป็นอย่างมากไม่เว้น
แม้แต่แม่ทัพวู่ที่มีประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างมากมาย เมื่อเห็นภาพ
ตรงหน้าร่างของเขาที่เคยทะยานเพื่อหวังปลิดชีวิตหลินหมิงพลันหยุด
แข็งลงอย่างช่วยไม่ได้
โฮรกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!
เสียงคารามที่กู่ร้องออกมาอย่างก้องกังวานดังไปทั่วทั้งพื้นที่ใน
ยามนี้แม้แต่ผู้อาวุโสซิ่นเซียนและชายหนุ่มทั้งห้าก็ล้วนแต่ได้สติตื่น
ขึ้นมา ในใจของผู้คนที่ได้ยินเสียงคารามของกลุ่มก้อนสายฟ้าที่เปลี่ยน
รูปร่างจนเสร็จสิ้นกลายรูปร่างเป็นพยัคฆ์ขาวลอยอยู่บนท้องฟ้าที่แปร
เปลี่ยนเป็นมืดมิด
" สวรรค์ นะ..นั้นคือสัตว์วิญญาณ ? "
แม่ทัพวู่อดที่จะตื่นตะลึงไปไม่ได้แต่เดิมแล้วการผูกพันธ์กับสัตว์
วิญญาณนั้นล้วนแล้วแต่จะต้องเป็นผู้ที่มีพลังระดับปราญช์ช่วงกลาง
เป็นอย่างน้อย และถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นพวกเขาล้วนไม่สามารถ
แสดงออกได้ถึงพลังของสัตว์วิญญาณได้เทียบเท่ากับหลินหมิงเช่นนี้
อีกทั้งดูจากรูปร่างของสัตว์วิญญาณของหลินหมิงแล้วมันสมควรเป็น
สัตว์วิญญาณระดับสูงที่ไม่น่าจะสมควรผูกพันธ์กับเผ่าพันธ์มนุษย์เลย
แม้แต่น้อย
" องค์หญิงโปรดถอยไปก่อน "
โดยไม่ประมาทอีกต่อไปร่างของแม่ทัพวู่ปลดปล่อยพลังงาน
ทั้งหมดออกมาจากภายในร่างกายของเขา เช่นเดียวกันกับสัตว์
วิญญาณของแม่ทัพวู่ราชสีห์ปีกทองที่ปรากฎกายออกมา รูปร่างของ
มันล้วนเกือบจะปรากฎสมบูรณ์แต่มันยังคงมีร่องรอยรูปลักษณ์ที่บาง
เบาไปบ้างแต่ความแข็งแกร่งของมันล้วนเหนือกว่าสัตว์วิญญาณของผู้
อาวุโสเป่ยหมีโลหิตหลายสิบเท่าด้วยกัน
รวมกับพลังปราณของแม่ทัพวู่ที่มีพลังระดับปราญช์ขั้นสูงสุด
ในตอนนี้แม้สัตว์วิญญาณของหลินหมิงจะมีปรากฎตัวที่เด่นชัด แต่มัน
ยังคงขาดพลังล่อเลี้ยงที่มากเพียงพอให้มันสามารถแสดงพลังอานาจ
ทั้งหมดออกมาได้

ตอนที่ 264
ทางก้านของผู้อาวุโสซิ่นเซียนและกลุ่มของชายหนุ่มทั้งห้าคน
ในยามนี้เมื่อพวกเขาแหงนหน้ามองขึ้นไปยังท้องฟ้าพบกับร่างของ
พยัคฆ์ขาวที่งดงามราวกับสัตว์บนสรวงสวรรค์ ดวงตาของพวกเขาที่จะ
ล้นทะลักออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ด้วยการปรากฎของพยัคฆ์
ขาวตนนี้มันถึงกับทาให้ทั่วท้องฟ้าโดยรอบเริ่มแปรปรวนไปด้วยเสีย
ฟ้าผ่า
" ผู้อาวุโส คุณชายหลิน และแม่นางหมิงเยี่ยน ไม่ได้อยู่ที่นี้ "
ใบหน้าของผู้อาวุโสซิ่นเซียนปั้นยากขึ้นอีกครั้งเดิมทีแล้วนาง
ตั้งใจจะจากไปในทันที ไม่ต้องพูดกล่าวสิ่งใดอีกด้วยการปรากฎตัวของ
พยัคฆ์ขาวอันน่าเกรงขามเช่นนี้มันเพียงพอที่จะคุกคามชีวิตน้อยๆของ
นางและรุ่นเยาว์เหล่านี้ให้หายไปได้โดยง่าย
" พวกเจ้าถอยกลับไปซะ และรายงานเรื่องนี้ไปยังแม่ทัพโจว
ด้วย ! "
ผู้อาวุโสซิ่นเซียนแม้ใจจริงนางจะยากทอดทิ้งหลินหมิงและห
มิงเยี่ยนพร้อมจากไปในทันทีแต่มีหรือที่การกระทาของนางเช่นนั้นจะ
ได้ผลดีกับตัวนาง อย่างน้อยที่สุดนางจะถูกต้องข้อสงสัยโดยแม่ทัพโจว
และผู้อาวุโสจานวนมากภายในอาณาจักร กลุ่มชายหนุ่มทั้งห้าพวกเขา
ไม่ต้องรอช้าอันใดอีกพวกเขาได้ตระเตรียมตัวจากไปนานแล้วหากไม่มี
คาสั่งจากผู้อาวุโสซิ่นเซียนพวกเขาก็คิดจะจากไปอยู่ดี ลาพังเพียงแค่
บรรยากาศแรงดันโดยรอบในตอนนี้มันก็ถึงกับทาให้พวกเขาหายใจ
ลาบากแล้ว !
" ไม่ใช่ว่านี้เป็นภารกิจสารวจง่ายๆเพื่อแนะนารุ่นเยาว์ อาา..
เป็นเพราะเจ้าเด็กนั้นแท้ๆข้าถึงได้ต้องวุ่นวายเช่นนี้ ! "
ในใจของผู้อาวุโสซิ่นเซียนนั้นไม่อาจคิดเป็นอื่นได้ว่าพยัคฆ์ขาว
ที่ปรากฎนี้ย่อมมีส่วนมาจากหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อย ภารกิจสารวจเช่นนี้
ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงกลุ่มเดียว มันได้มีการสารวจก่อนหน้านี้มาไม่น้อย
แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นโชคร้ายอันใดมันจะเหมาะสมกับในตอนที่นาง
นาพากลุ่มออกสารวจกัน ! แน่นอนว่ามันไม่ใช่โชคแต่ย่อมเป็นเพราะ
หลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย
ร่างของผู้อาวุโสซิ่นเซียนท้อประกายสั่นกลัวเล็กน้อย แต่ถึง
อย่างนั้นนางเลือกเดินเข้าไปยังทิศทางที่มีร่างของพยัคฆ์ขาวปรากฎตัว
อยู่
.....
แม่ทัพวู่ยังคงขมวดคิ้วหนักนั้นก็เพราะว่าในยามนี้แม้เขาจะ
เรียกสัตว์วิญญาณของเขาออกมาแล้วแต่มันกลับไม่สามารถแสดงพลัง
ได้อย่างเต็มที่เหมือนเช่นเคย นั้นก็เพราะว่าเมื่อราชสีห์ปีกทองของเขา
ได้พบกับร่างของพยัคฆ์ขาวตรงหน้ามันกลัวหัวหดราวกับลูกแมวเชื่อง
!
สาหรับราชสีห์ปีกทองของเขามันสมควรเป็นสัตว์วิญญาณที่มี
ระดับสูงอยู่ไม่ใช่น้อย อย่างน้อยที่สุดสัตว์วิญญาณของผู้อาวุโสเป่ยก็
ย่อมไม่สามารถเทียบกับได้เลย นั้นหมายความว่าสัตว์วิญญาณของเด็ก
หนุ่มตรงหน้านี้มีระดับที่สูงส่งเป็นอย่างมาก เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว
ราชสีห์ปีกทองไม่สมควรที่จะหวาดกลัวมากมายเช่นนี้
มันก็เหมือนกับมนุษย์ที่เกิดในตระกูงเรืองอานาจด้วยกันทั้งคู่
แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีพลังสูงกว่าตนแต่มีหรือที่พวกเขาเหล่านั้นจะยอมรับ
เคารพโดยง่ายหากความแตกต่างกันไม่ได้มากมายจนไม่อาจหยั่งถึง
แม้ว่าในใจของแม่ทัพวู่ผู้นี้จะต้องการรีบพาองค์หญิงสามกลับ
อาณาจักรโดยเร็วเมื่อพบเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้น
ภายในใจของเขากู่ร้องขึ้นมาว่าเขาไม่อาจปล่อยผ่านเด็กหนุ่มผู้นี้ไปได้
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยสัญชาติญาณเลือดนักสู้ของเขามันหาไม่ได้ง่ายนักที่
เขาจะได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ทาให้เขาถึงกับจิตใจหวั่นเกรงเช่นนี้
ดวงตาของหลินหมิงท้อประกายสายฟ้าสดใสพร้อมกับทั่วร่าง
ของเขาที่เต็มไปด้วยพลังงานอันบ้าคลั่งไม่เพียงแต่พลังปราณของ
หลินหมิงจะเพิ่มขึ้นจนเข้าสู่ระดับปราญช์ขั้นที่สองแต่มันยังทะลวงเข้า
ไปสู่ระดับปราญช์ขั้นที่สาม อีกทั้งยังเป็นระดับปราญช์ขั้นที่สามระดับ
สูงสุดอีกด้วย เดิมทีแล้วด้วยทักษะจิตสายฟ้ามันสมควรทาให้เขา
กลายเป็นนักสู้ระดับปราญช์ขั้นที่สองชั่วกลางเพียงเท่านั้น
" หึ เจ้าหนูเจ้านับว่าโชคดีอยู่บ้างที่สัตว์วิญญาณของศัตรูเป็น
ราชสีห์ปีกทอง นับได้ว่าในยามนี้ศัตรูล้วนใช้พลังออกมาได้ราว 6-7
ส่วนเท่านั้น "
เสียงของพยัคฆ์ขาวดังขึ้นภายในจิตใจของหลินหมิง หลินหมิง
พยักหน้ารับรู้แม้ว่ามันจะเป็นเพียงพลังเพียง 6-7 ส่วนของแม่ทัพวู่แต่
มันยังคงน่าหวั่นเกรงมากสาหรับหลินหมิงในยามนี้ ง้าวทมิฬของ
หลินหมิงในตอนนี้ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังงานสายฟ้าจนมีแสงสายฟ้า
ไหลผ่านไปทั่ว
" ข้าคิดเห็นว่าเจ้าควรรีบลงมือเสียแต่ตอนนี้ อย่างไรเสีย
ร่างกายของเจ้าในยามนี้ไม่สามารถทนรับพลังนี้เอาไว้ได้นานนัก "
หลินหมิงพยักหน้ารับพร้อมกับตั้งกระบวนท่าง้าวที่เขาได้
ศึกษามา ดวงตาของแม่ทัพวู่หรี่ลงพร้อมกับอาวุธของเขาที่นาออกมา
ตั้งท่วงท่าเตรียมจู่โจม
' เขาเองก็เป็นผู้ใช้ง้าว ? '
หลินหมิงปรากฎดวงตาแปลกใจมันหาได้ยากนักที่ในยุคสมัยนี้
จะมีคนเลือกใช้อาวุธเป็นง้าวเช่นเดียวกันกับเขา เพียงพริบตาเดียว
หลินหมิงกับมามีสมาธิดังเดิม พร้อมกับสืบทอดก้าวออกไปหนึ่งครั้ง
ร่างของหลินหมิงทะยานเข้าหาร่างของแม่ทัพวู่ราวกับลูกศร
เคล้งง !!
เสียงของคมง้าวที่ฟาดฟันกันดังสนั่นไปทั่วทั้งพื้นที่พร้อมกับ
เกิดการระเบิดขึ้นโดยมีจุดกึ่งกลางเป็นที่ที่ทั้งสองปะทะกัน
เคล้ง เคล้ง เคล้ง
แม่ทัพวู่รู้สึกแปลกใจเดิมทีแล้วเขาไม่เพียงสมควรได้เปรียบ
เรื่องพลังปราณแต่ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของเขานั้นแม้แต่แม่
ทัพโจว และแม่ทัพฉินจากอาณาจักรแห่งนี้ก็ไม่สมควรที่จะเทียบได้ ยิ่ง
ไปกว่านั้นก็คือเพลงยุทธ์ง้าวของอีกฝ่ายกับสามารถต้านทานเพลงยุทธ์
ของเขาเอาไว้ได้อย่างสูสี
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ยังคงเยาว์วัย
เป็นอย่างมาก ! หลินหมิงรู้สึกแขนของเขาหนักอึ้งเหมือนโดนภูเขา
หล่นทับทุกเขาที่เขาปะทะกับแม่ทัพวู่ผู้นี้แต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงกัดฟัน
ฝืนทนต่อไป
หมิงเยี่ยนในตอนนี้นางหลบออกมามองดูอยู่ในที่ห่างไกล
ออกมาหลายร้อยเมตรแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยลาพังเพียงแรงระเบิด
จากการปะทะของหลินหมิงและแม่ทัพวู่มันเพียงพอที่จะทาให้นางตก
ตายได้โดยง่าย สายตาของนางแสดงออกถึงความไม่อยากจะเชื่อฉาก
ตรงหน้านี้มันไม่เหมือนกับการต่อสู้ระหว่างเด็กหนุ่มที่มีอายุ 17 ปีกับ
แม่ทัพใหม่ของอาณาจักรที่มากประสบการณ์ แต่มันเหมือนกับการ
ต่อสู้ระหว่างแม่ทัพด้วยกันเองเสียมากกว่า
ทางด้านสัตว์วิญญาณที่หลินหมิงและแม่ทัพวู่เรียกออกมานั้น
พวกมันล้วนแตกต่างจากการต่อสู้ของพวกเขาโดยสิ้นเชิง เป็นฝ่าย
พยัคฆ์ขาวเพียงฝ่ายเดียวที่ไล่ต้อนอีกฝ่ายที่ไม่แม้แต่จะมีจิตใจนึกสู้
ราชสีห์ปีกทองอาศัยเพียงความเร็วของมันในการหลบเลี่ยง
สายฟ้าจากพยัคฆ์ขาวไปมา ความหวังของมันมีเพียงแค่ให้เจ้านายของ
มันสามารถเอาชนะหลินหมิงได้โดยเร็ว แม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงแค่
สัตว์วิญญาณที่ไร้ซึ่งชีวิตโดยแท้จริงแต่หากพวกมันถูกฆ่าลงไปแล้วมัน
จะทาให้พลังของพวกมันลดลงไปอยู่ไม่น้อยและย่อมต้องใช้เวลา
ยาวนานในการฟื้นฟู
" บัดซบ ! "
แม่ทัพวู่สบถออกมาอย่างหัวเสียหากเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจเป็น
ฝ่ายสัตว์วิญญาณของเขาที่พ่ายแพ้ก่อนที่จะสามารถเอาชนะหลินหมิง
ได้ ดวงตาของแม่ทัพวู่ชายแววสังหารออกมาอย่างเปี่ยมล้นพร้อมกับ
ง้าวในมือของเขาที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาเพิ่มขึ้นอีก ! เห็นได้ชัดว่า
แม่ทัพผู้นี้ไม่ต้องการที่จะยืดเยื้อศึกนี้ออกไป เช่นเดียวกันกับหลินหมิง
เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาค่อยๆเริ่มหนักขึ้นมากทุกที พร้อมกับ
กล้ามเนื้อของเขาในยามนี้ที่ราวกับมันจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
" สมควรแล้วที่เหตุใดองค์หญิงถึงได้นึกชมชอบเจ้า ขอเพียงเจ้า
ไม่ได้มีสายเลือดอยู่ที่อาณาจักรแห่งนี้กระทั่งตาแหน่งจักรพรรดิคน
ต่อไปก็สมควรเป็นของเจ้าแล้ว น่าเสียดายๆ "
แม่ทัพวู่กล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเศร้าสลดเล็กน้อยมันหาได้
ยากยิ่งที่จะได้พบกับรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถสะท้านสวรรค์เช่นนี้ แต่
ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงอ่อนเยาว์จนเกินไป แม่ทัพวู่อาศัยพลังที่
ระเบิดออกมาเต็มสิบส่วนพร้อมกับง้าวของเขาที่ในตอนนี้ถูกเสริมเข้า
ด้วยทักษะบางอย่าง
" ผ่าปัฐพี !! "
สิ้นเสียงกล่าวของแม่ทัพวู่ง้าวของเขายกขึ้นเหนือหัวตั้งแต่
เมื่อใดก็มิอาจทราบได้หลินหมิงไม่แม้แต่จะกระพริบตาก็ยังคงไม่อาจ
มองตามได้ทัน เพียงชั่วพริบตาเดียวง้าวของแม่ทัพวู่พลันปรากฎขึ้น
ตรงหน้าอาศัยเพียงปฎิกริยาตอบสนองพร้อมกับสมองที่สั่งหารคิด
อย่างรวดเร็ว อาศัยเพียงการหลบหนีคงไม่พ้นต้องทิ้งอวัยวะบางส่วน
และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดย่อมเป็นบาดเจ็บสาหัส
ด้วยอาวุธของแม่ทัพวู่ผู้นี้คือง้าวที่มีระยะโจมตีกว้างขว้าง
หลินหมิงตวัดง้าวของเขายกขึ้นมาตั้งรับอย่างไม่มีทางเลือก ในทันทีที่
ง้าวทั้งสองปะทะกันอีกครั้งร่างกายของหลินหมิงพลันรู้สึกเหมือนกับว่า
มีระเบิดเกิดขึ้นในร่างกาย ผิวหนังตามร่างกายของเขามีเลือดพุ่ง
ออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ตอนที่ 265
ราวกับท้องฟ้าทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่คมง้าวของแม่ทัพวู่ใน
ยามนี้ หากไม่ใช่ว่าหลินหมิงได้รับการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่ง
ขึ้นด้วยเกราะศักดิ์สิทธ์และเปลวเพลิงทมิฬแล้วร่างกายของหลินหมิง
ในยามนี้คงได้กลายเป็นกองเลือดภายในพริบตา
ตึง !
เข่าข้างหนึ่งของหลินหมิงกระแทกลงพื้นดินที่แยกออกเป็นห
ลุ่มอย่างรุนแรง มือทั้งสองข้างของเขาในยามนี้ยกขึ้นประคองง้าวทมิฬ
เพื่อหวังต้านคมง้าวนี้ของแม่ทัพวู่เอาไว้ให้ได้ แม้แต่ในยามนี้ดวงตาของ
หลินหมิงยังคงปรากฎเลือดแดงสดไหลออกมาอย่างไม่มีหยุด หาก
ปล่อยเช่นนี้ต่อไปแม้ว่าหลินหมิงจะมีความทานทนมากเพียงใดเกรงว่า
ก็คงต้องสิ้นเลือดหมดตายไปก่อนอยู่ดี
แม่ทัพวู่แม้จะรู้สึกมีความไม่เชื่อกับภาพตรงหน้าตัวเขาที่เป็น
แม่ทัพมาอย่างยาวนานการโจมตีนี้นับได้ว่าเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุด
ของเขามันเพียงพอที่จะปัดเป่าร่างของผู้เชี่ยวชาญระดับปราญช์ขั้น
ปลายทั่วไปให้หายไปได้ในพริบตาเสียด้วยซ้า
ตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่ได้มีความคิดเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับมี
ความสามารถแฝงเร้นที่เหนือล้ามากถึงเพียงนี้ แต่สิ่งที่เหนือล้ายิ่งกว่า
พลัง ทักษะ ของเขานั้นย่อมเป็นความเด็ดเดี่ยวและความกล้าหาญ จะ
หารุ่นเยาว์คนใดได้บ้างที่หาญกล้าเพียงพอที่จะต่อต้านเขาได้ถึงเพียงนี้
แม้กระทั่งเหล่าเฒ่าชราหลายคนก็ยังคงส่ายหน้าหนีด้วยความหวั่น
เกรง
" หลินหมิง ! "
หัวใจของหมิงเยี่ยนเย็นเยียบขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าใน
ตอนแรกนางยังคงมีความหวังว่าหลินหมิงอาจเอาชัยจากแม่ทัพวู่ได้ใน
ตอนแรกแต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางคาดหวังเอาไว้ทั้งหมดมันยังคงห่างไกล
ความเป็นจริงอยู่มาก ไม่เพียงแต่หลินหมิงไม่สามารถรับมือกับ
กระบวนท่านี้ของแม่ทัพวู่ได้เพียงเท่านั้น ร่างกายของเขาในยามนี้ล้วน
มาถึงขีดจากัดที่ไม่สามารถทานทนได้ต่อไป แม้จะสามารถรอดพ้นจาก
กระบวนท่านี้ไปได้น้อยที่สุดย่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสใช้เวลารักษา
ตัวนับเดือน เลวร้ายที่สุดย่อมไม่พ้นความตายที่รออยู่เบื้องหน้า
เสียงของหมิงเยี่ยนที่ตะโกณลั่นออกมาไม่แม้แต่จะเข้าหูของ
หลินหมิงในยามนี้สติของเขาค่อยๆพล่าเลื่อนลงพร้อมกับดวงตาที่หนัก
อึ้งพร้อมจะปิดลงทุกเมื่อ มือของเขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นคลอนและไม่
สามารถประคองง้าวของเขาที่ต้านรับเอาไว้ได้อย่างมั่นคงอีกต่อไป
ระยะห่างระหว่างคมง้าวของแม่ทัพวู่ค่อยยุ่นระยะเข้ามาสู่ร่างกายของ
หลินหมิงเลื่อยๆ พร้อมกับบริเวณพื้นเท้าของหลินหมิงที่ระเบิด
ออกเป็นหลุมลึกลงไปเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
" ตาย ! "
เสียงประกาศเย็นเหยียบออกมาจากปากของแม่ทัพวู่ในยามนี้
เขาไม่สนใจแล้วว่าหลินหมิงจะมีพรสวรค์ที่น่าตื่นตกใจเพียงใด หาก
เพียงแต่เด็กหนุ่มผู้นี้ได้รับโอกาศฝึกฝนอีกสักสี่ห้าปีผลลัพธ์มันอาจ
เปลี่ยนไปจนเขาไม่สามารถประเมิณได้ก็เป็นได้ แต่เรื่องเหล่านั้นไม่
สาคัญอีกต่อไปแล้วการโจมตีครั้งนี้ของเขาเพียงพอที่จะดับลมหายใจ
ของหลินหมิงอย่างแน่นอน !
คลืนนนนนน !
เสียงระเบิดดังขึ้นราวกับท้องฟ้าถล่มพร้อมกับร่างของหลินห
มิงที่ถูกกลืนหายไปในกองระเบิดและฝุ่นควันภาพสุดท้ายที่หมิงเยี่ยน
ได้เห็นคือร่างของหลินหมิงที่ลอยออกไปอย่างไร้น้าหนักแต่ถึงอย่างนั้น
เขายังคงถือง้าวในมืออยู่อย่างไม่ปล่อยวาง แม่ทัพวู่อดที่จะชื่นชมใน
หัวใจสูข้ องเด็กหนุ่มผู้นี้ไปไม่ได้ ร่างสัตว์วิญญาณพยัคฆ์ขาวกลายเป็น
ประกายแสงพร้อมกับจางหายไปในทันที
ราชสีห์ปีกทองเช่นเดียวกันตัวมันได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่น้อย
ปีกข้างหนึ่งของมันถูกลาแสงสายฟ้าทาลายลงไปจนยากแก่การฟื้นฟู
เห็นไ

You might also like