Professional Documents
Culture Documents
ONET6403
ONET6403
ONET6403
64) 1
23 Aug 2021
2. พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) 10010 = 10100
2
ข) (−4)5 = √24
5
4
3 4 1 −3
ค) √( 1 )
< ( )
27 27
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ค) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 4. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
𝑥 1 12
3. กาหนดให้ (34 ∙ 24 ) = 24 ข้อใดถูกต้อง
1. 0 ≤ 𝑥 < 14 2. 14 ≤ 𝑥 < 12 3. 1
2
≤ 𝑥 < 1
4. 1 ≤ 𝑥 < 2 5. 2 ≤ 𝑥 < 4
4. กาหนดให้ 𝐴 = {5,6,7}
𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 เป็ นจานวนคี่ที่มากกว่า 2 แต่นอ้ ยกว่า 8 }
และ 𝐶 = { 𝑥 | 𝑥 = 3𝑛 − 2 เมื่อ 𝑛 ∈ {1, 2, 3} }
(𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 คือเซตในข้อใด
1. {5} 2. {1,2} 3. {1,4}
4. {3,5,6} 5. {5,6,7}
2 O-NET (มี.ค. 64)
9. อัครกูเ้ งินจากสถาบันการเงินแห่งหนึง่ กาหนดชาระหนีท้ งั้ หมดในอีก 3 ปี ขา้ งหน้า มีอตั ราดอกเบีย้ 6% ต่อปี
โดยคิดดอกเบีย้ แบบทบต้นทุก 6 เดือน ถ้าตลอด 3 ปี นอี ้ คั รไม่ได้กเู้ งินเพิม่ และไม่มีการชาระเงิน เมือ่ ครบ 3 ปี มียอด
เงินกูพ้ ร้อมดอกเบีย้ ที่ตอ้ งชาระเป็ นเงิน 11,940.52 บาท แล้วอัครกูเ้ งินกี่บาท
1. 11,940.52 (1.01)−18 2. 11,940.52 (1.01)−3 3. 11,940.52 (1.03)−6
4. 11,940.52 (1.03)−2 5. 11,940.52 (1.06)−6
11. ฟั งก์ชนั แสดงความสูงของต้นไม้ตน้ หนึง่ (มีหน่วยเป็ นเมตร) ในช่วงอายุตงั้ แต่ 5 ปี ถึง 10 ปี เป็ นฟั งก์ชนั เชิงเส้น
ถ้าต้นไม้นเี ้ มื่ออายุ 10 ปี สูงกว่าเมื่ออายุ 5 ปี อยู่ 7.5 เมตร แล้วต้นไม้นเี ้ มื่ออายุ 9 ปี สูงกว่าเมื่ออายุ 6 ปี อยูก่ ี่เมตร
1. 2.25 เมตร 2. 3 เมตร 3. 4.5 เมตร
4. 5.5 เมตร 5. 6 เมตร
14. บริษัทจาหน่ายเครือ่ งใช้ไฟฟ้าแจกรางวัลท่องเทีย่ ว 1 จังหวัด จาก 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ อุบลราชธานี และภูเก็ต
โดยให้ลกู ค้ากรอกแบบฟอร์มลุน้ รางวัลที่แนบมากับเครือ่ งใช้ไฟฟ้า พร้อมทัง้ เลือกจังหวัดทีต่ อ้ งการเพียง 1 จังหวัด
เมื่อครบกาหนดวันที่ระบุ พนักงานรวบรวมแบบฟอร์มที่ลกู ค้าส่งเข้ามาได้ขอ้ มูลดังตาราง
16. ร้านขนมแห่งหนึง่ ขายเค้ก 8 ชนิด เป็ นเค้กผลไม้ 4 ชนิด และเค้กอื่นๆ 4 ชนิด โดยจัดแสดงเค้กชนิดละ 1 ชิน้
ในตูก้ ระจกสองชัน้ ชัน้ บนวางเค้กเป็ นแถวได้ 4 ชนิด และชัน้ ล่างวางเค้กเป็ นแถวได้ 4 ชนิด ผูจ้ ดั การต้องการให้
พนักงานจัดแสดงเค้กในตู้ โดยให้วางเค้กผลไม้ไว้ที่ชนั้ บนและวางเค้กอื่นๆ ไว้ที่ชนั้ ล่าง ถ้าพนักงานจัดแสดงเค้ก
อย่างสุม่ แล้วความน่าจะเป็ นที่พนักงานจะจัดแสดงเค้กได้ตรงตามที่ผจู้ ดั การต้องการเท่ากับเท่าใด
1 1 1 1 1
1. 840 2. 420 3. 70 4. 48 5. 35
20
15
10
5
0 กิจกรรม
อ่านหนังสือ ถ่ายภาพ ดูภาพยนตร์
พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) จานวนนักเรียนที่อา่ นหนังสือในเดือนที่ 3 เป็ นสามเท่าของเดือนที่ 2
ข) กิจกรรมทีม่ ีจานวนนักเรียนลดลงมากที่สดุ ในเดือนที่ 4 เมื่อเทียบกับเดือนที่ 1 คือ กิจกรรมถ่ายภาพ
ค) ในเดือนที่ 1 มีนกั เรียนดูภาพยนตร์นอ้ ยกว่า 10 คน แต่ในเดือนที่ 2 มีนกั เรียนดูภาพยนตร์มากกว่า 15 คน
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ค) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 4. ข้อความ ก) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
6 O-NET (มี.ค. 64)
19. การสอบครัง้ หนึง่ มีขอ้ สอบ 8 ข้อ ข้อละ 5 คะแนน คะแนนสอบของนักเรียน 11 คน แสดงด้วยแผนภาพลาต้นและใบ
ดังนี ้ 1 0 5 5
2 0 5
3 0 0 0 0 5 5
การเปรียบเทียบค่าเฉลีย่ เลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมของข้อมูลชุดนี ้ ตรงกับข้อใด
1. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = มัธยฐาน = ฐานนิยม
2. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต < มัธยฐาน < ฐานนิยม
3. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต < ฐานนิยม และ ฐานนิยม = มัธยฐาน
4. มัธยฐาน < ค่าเฉลีย่ เลขคณิต และ ฐานนิยม = มัธยฐาน
5. ฐานนิยม < มัธยฐาน < ค่าเฉลีย่ เลขคณิต
คะแนนสอบวิชาที่ 1
คะแนนสอบวิชาที่ 2
6 8 10 12 14 16 18 20
ข้อใดถูกต้อง
1. พิสยั ของคะแนนสอบวิชาที่ 2 เท่ากับ 3 คะแนน
2. มัธยฐานของคะแนนสอบวิชาที่ 1 เท่ากับ 12.5 คะแนน
3. ควอร์ไทล์ที่ 1 ของคะแนนสอบวิชาที่ 1 เท่ากับ 12 คะแนน
4. เปอร์เซ็นไทล์ที่ 75 ของคะแนนสอบวิชาที่ 2 เท่ากับ 16 คะแนน
5. พิสยั ระหว่างควอร์ไทล์ของคะแนนสอบวิชาที่ 1 มากกว่าวิชาที่ 2
O-NET (มี.ค. 64) 7
24 26 28 30 32 34 36 38
1.
24 26 28 30 32 34 36 38
2.
24 26 28 30 32 34 36 38
3.
24 26 28 30 32 34 36 38
4.
24 26 28 30 32 34 36 38
5.
24 26 28 30 32 34 36 38
1.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
2.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
3.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
4.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
5.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
8 O-NET (มี.ค. 64)
เฉลย
1. 4 9. 3 17. 4 25. 30
2. 5 10. 4 18. 5 26. 14
3. 2 11. 3 19. 3 27. 603
4. 4 12. 3 20. 5 28. 35
5. 2 13. 2 21. 1 29. 34
6. 5 14. 1 22. 1 30. 6
7. 4 15. 4 23. 1 31. 12
8. 2 16. 3 24. 5 32. 300
แนวคิด
1. กาหนดให้ 𝑎 และ 𝑏 เป็ นจานวนจริงที่มากกว่า 1 ถ้า √𝑏 เป็ นรากที่ 6 ของ 𝑎 แล้วข้อใดถูกต้อง
1 1 1
1. 𝑎 = 𝑏 12 2. 𝑎 = 𝑏6 3. 𝑎 = 𝑏3
4. 𝑎 = 𝑏3 5. 𝑎 = 𝑏12
ตอบ 4
6
√𝑏 เป็ นรากที่ 6 ของ 𝑎 แปลว่า (√𝑏) = 𝑎
1 6
(𝑏 )2 = 𝑎
𝑏3 = 𝑎
2. พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) 10010 = 10100
2
ข) (−4)5 = √24
5
4
3 4 −
ค) √( 1 ) < ( 1 ) 3
27 27
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ค) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 4. ข้อความ ก) และ ข) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
ตอบ 5
2
ก) 10010 = 10100 ข) (−4)5 = √24
5
𝑥 1 12
3. กาหนดให้ (34 ∙ 24 ) = 24 ข้อใดถูกต้อง
1. 0 ≤ 𝑥 < 14 2. 14 ≤ 𝑥 < 12 3. 1
2
≤ 𝑥 < 1
4. 1 ≤ 𝑥 < 2 5. 2 ≤ 𝑥 < 4
ตอบ 2
𝑥 1 12
(34 ∙ 24 ) = 24
𝑥 12 1 12
(34 ) ∙ (24 ) = 24
33𝑥 ∙ 23 = 24
33𝑥 ∙ 8 = 24
33𝑥 = 31
3𝑥 = 1
1 1 1 1 1 1
𝑥 = 3 → เนื่องจาก 3
อยูร่ ะหว่าง 4
กับ 2
ดังนัน้ 4
≤ 𝑥 < 2
4. กาหนดให้ 𝐴 = {5,6,7}
𝐵 = { 𝑥 | 𝑥 เป็ นจานวนคี่ที่มากกว่า 2 แต่นอ้ ยกว่า 8 }
และ 𝐶 = { 𝑥 | 𝑥 = 3𝑛 − 2 เมื่อ 𝑛 ∈ {1, 2, 3} }
(𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 คือเซตในข้อใด
1. {5} 2. {1,2} 3. {1,4}
4. {3,5,6} 5. {5,6,7}
ตอบ 4
จานวนคี่ที่มากกว่า 2 แต่นอ้ ยกว่า 8 จะมี 3, 5, 7 ดังนัน้ 𝐵 = { 3, 5, 7 }
เมื่อ 𝑛 = 1, 2, 3 จะได้ 3𝑛 − 2 = 1, 4, 7 ดังนัน้ 𝐶 = { 1, 4, 7 }
ดังนัน้ (𝐴 ∪ 𝐵) − 𝐶 = ({ 5, 6, 7 } ∪ { 3, 5, 7 }) − { 1, 4, 7 }
= { 3, 5, 6, 7 } − { 1, 4, 7 }
= { 3, 5, 6 }
ตอบ 4
ลาดับเลขคณิต คือ ต้องบวกเพิ่มทีละเท่าๆ กัน
สมมุติให้บวกเพิ่มทีละ 𝑘 จะได้ลาดับ 𝑎, 𝑏 , 𝑐 , 𝑑
คือ 𝑎, 𝑎+𝑘 , 𝑎 + 2𝑘 , 𝑎 + 3𝑘
ก) 𝑎 = 𝑏 + 𝑐 − 𝑑
𝑎 = (𝑎 + 𝑘) + (𝑎 + 2𝑘) − (𝑎 + 3𝑘)
𝑎 = 2𝑎 + 3𝑘 − 𝑎 − 3𝑘
𝑎+𝑐 𝑎+𝑏+𝑐
ข) 𝑏 = 2
ค) 𝑑 = 3
𝑎+(𝑎+2𝑘) 𝑎+(𝑎+𝑘)+(𝑎+2𝑘)
𝑎+𝑘 = 𝑎 + 3𝑘 =
2 3
2𝑎+2𝑘 3𝑎+3𝑘
𝑎+𝑘 = 𝑎 + 3𝑘 =
2 3
𝑎 + 3𝑘 = 𝑎+𝑘
9. อัครกูเ้ งินจากสถาบันการเงินแห่งหนึง่ กาหนดชาระหนีท้ งั้ หมดในอีก 3 ปี ขา้ งหน้า มีอตั ราดอกเบีย้ 6% ต่อปี
โดยคิดดอกเบีย้ แบบทบต้นทุก 6 เดือน ถ้าตลอด 3 ปี นอี ้ คั รไม่ได้กเู้ งินเพิม่ และไม่มีการชาระเงิน เมือ่ ครบ 3 ปี มียอด
เงินกูพ้ ร้อมดอกเบีย้ ที่ตอ้ งชาระเป็ นเงิน 11,940.52 บาท แล้วอัครกูเ้ งินกี่บาท
1. 11,940.52 (1.01)−18 2. 11,940.52 (1.01)−3 3. 11,940.52 (1.03)−6
4. 11,940.52 (1.03)−2 5. 11,940.52 (1.06)−6
ตอบ 3
12
กู้ 𝑃 บาท คืน 11,940.52 บาท
ดอกเบีย ้ ทบต้
น ทุ
ก 6 เดือน คือปี ละ = 2 งวด
6
6%
ดอกเบีย้ 6% ต่อปี = 2 = 3% ต่องวด → 𝑟 = 0.03
ปี นี ้ 3 ปี หน้า
ผ่านไป 3 ปี คิดเป็ น 3 × 2 = 6 งวด → 𝑛=6
จากสูตรมูลค่าเงิน จะได้ มูลค่าใน 3 ปี หน้า = 𝑃(1 + 𝑟)𝑛
11,940.52 = 𝑃(1 + 0.03)6
11,940.52
(1.03)6
= 𝑃
11,940.52(1.03)−6 = 𝑃
O-NET (มี.ค. 64) 15
11. ฟั งก์ชนั แสดงความสูงของต้นไม้ตน้ หนึง่ (มีหน่วยเป็ นเมตร) ในช่วงอายุตงั้ แต่ 5 ปี ถึง 10 ปี เป็ นฟั งก์ชนั เชิงเส้น
ถ้าต้นไม้นเี ้ มื่ออายุ 10 ปี สูงกว่าเมื่ออายุ 5 ปี อยู่ 7.5 เมตร แล้วต้นไม้นเี ้ มื่ออายุ 9 ปี สูงกว่าเมื่ออายุ 6 ปี อยูก่ ี่เมตร
1. 2.25 เมตร 2. 3 เมตร 3. 4.5 เมตร
4. 5.5 เมตร 5. 6 เมตร
ตอบ 3
ให้ 𝑥 แทนอายุ (ปี ) และ 𝑓(𝑥) แทนความสูง
โจทย์ให้ 𝑓 เป็ นฟั งก์ชนั เชิงเส้น ดังนัน้ 𝑓(𝑥) ต้องอยูใ่ นรูป 𝑓(𝑥) = 𝑎𝑥 + 𝑏
10 ปี สูงกว่า 5 ปี อยู่ 7.5 เมตร → 𝑓(10) − 𝑓(5) = 7.5
(𝑎(10) + 𝑏) − (𝑎(5) + 𝑏) = 7.5
10𝑎 + 𝑏 − 5𝑎 − 𝑏 = 7.5
5𝑎 = 7.5
𝑎 = 1.5
ดังนัน้ 9 ปี สูงกว่า 6 ปี อยู่ = 𝑓(9) − 𝑓(6)
= (𝑎(9) + 𝑏) − (𝑎(6) + 𝑏)
= 9𝑎 + 𝑏 − 6𝑎 − 𝑏
= 3𝑎
= 3(1.5) = 4.5
16 O-NET (มี.ค. 64)
14. บริษัทจาหน่ายเครือ่ งใช้ไฟฟ้าแจกรางวัลท่องเทีย่ ว 1 จังหวัด จาก 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ อุบลราชธานี และภูเก็ต
โดยให้ลกู ค้ากรอกแบบฟอร์มลุน้ รางวัลที่แนบมากับเครือ่ งใช้ไฟฟ้า พร้อมทัง้ เลือกจังหวัดทีต่ อ้ งการเพียง 1 จังหวัด
เมื่อครบกาหนดวันที่ระบุ พนักงานรวบรวมแบบฟอร์มที่ลกู ค้าส่งเข้ามาได้ขอ้ มูลดังตาราง
16. ร้านขนมแห่งหนึง่ ขายเค้ก 8 ชนิด เป็ นเค้กผลไม้ 4 ชนิด และเค้กอื่นๆ 4 ชนิด โดยจัดแสดงเค้กชนิดละ 1 ชิน้
ในตูก้ ระจกสองชัน้ ชัน้ บนวางเค้กเป็ นแถวได้ 4 ชนิด และชัน้ ล่างวางเค้กเป็ นแถวได้ 4 ชนิด ผูจ้ ดั การต้องการให้
พนักงานจัดแสดงเค้กในตู้ โดยให้วางเค้กผลไม้ไว้ที่ชนั้ บนและวางเค้กอื่นๆ ไว้ที่ชนั้ ล่าง ถ้าพนักงานจัดแสดงเค้ก
อย่างสุม่ แล้วความน่าจะเป็ นที่พนักงานจะจัดแสดงเค้กได้ตรงตามที่ผจู้ ดั การต้องการเท่ากับเท่าใด
1 1 1 1 1
1. 840 2. 420 3. 70 4. 48 5. 35
ตอบ 3
จานวนแบบทัง้ หมด : ทุกตาแหน่งในตูแ้ ตกต่างกัน → เรียงเค้ก 8 ชนิด ในตาแหน่งทีแ่ ตกต่างกัน จะเรียงได้ 8! แบบ
จานวนแบบที่สนใจ : เรียงเค้กผลไม้ 4 ชนิด ที่ชนั้ บน จะเรียงได้ 4! แบบ
18 O-NET (มี.ค. 64)
20
15
10
5
0 กิจกรรม
อ่านหนังสือ ถ่ายภาพ ดูภาพยนตร์
พิจารณาข้อความต่อไปนี ้
ก) จานวนนักเรียนที่อา่ นหนังสือในเดือนที่ 3 เป็ นสามเท่าของเดือนที่ 2
ข) กิจกรรมทีม่ ีจานวนนักเรียนลดลงมากที่สดุ ในเดือนที่ 4 เมื่อเทียบกับเดือนที่ 1 คือ กิจกรรมถ่ายภาพ
ค) ในเดือนที่ 1 มีนกั เรียนดูภาพยนตร์นอ้ ยกว่า 10 คน แต่ในเดือนที่ 2 มีนกั เรียนดูภาพยนตร์มากกว่า 15 คน
จากข้อความ ก) ข) และ ค) ข้างต้น ข้อใดถูกต้อง
1. ข้อความ ก) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 2. ข้อความ ข) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้
3. ข้อความ ค) ถูกต้องเพียงข้อเดียวเท่านัน้ 4. ข้อความ ก) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
5. ข้อความ ข) และ ค) ถูกต้องเท่านัน้
ตอบ 5
O-NET (มี.ค. 64) 19
19. การสอบครัง้ หนึง่ มีขอ้ สอบ 8 ข้อ ข้อละ 5 คะแนน คะแนนสอบของนักเรียน 11 คน แสดงด้วยแผนภาพลาต้นและใบ
ดังนี ้ 1 0 5 5
2 0 5
3 0 0 0 0 5 5
การเปรียบเทียบค่าเฉลีย่ เลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมของข้อมูลชุดนี ้ ตรงกับข้อใด
1. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = มัธยฐาน = ฐานนิยม
2. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต < มัธยฐาน < ฐานนิยม
3. ค่าเฉลีย่ เลขคณิต < ฐานนิยม และ ฐานนิยม = มัธยฐาน
4. มัธยฐาน < ค่าเฉลีย่ เลขคณิต และ ฐานนิยม = มัธยฐาน
5. ฐานนิยม < มัธยฐาน < ค่าเฉลีย่ เลขคณิต
ตอบ 3
เขียนข้อมูลเป็ นตัวๆ ออกมา โดยใช้หลักแรกเป็ นหลักสิบ แต่หลักทีเ่ หลือทางขวาเป็ นหลักหน่วย จะได้
10 , 15 , 15 , 20 , 25 , 30 , 30 , 30 , 30 , 35 , 35 → 11 จานวน
ค่าเฉลีย่ เลขคณิต = 10+15+15+20+25+30+30+30+30+35+35
11
=
275
11
= 25 คะแนน
𝑁+1 11+1
มัธยฐาน = ตัวที่ 2 = ตัวที่ 2 = ตัวที่ 6 = 30 คะแนน
ฐานนิยม = ข้อมูลที่ซา้ มากที่สดุ = 30 คะแนน
ดังนัน้ ค่าเฉลีย่ เลขคณิต < มัธยฐาน = ฐานนิยม
คะแนนสอบวิชาที่ 1
คะแนนสอบวิชาที่ 2
6 8 10 12 14 16 18 20
ข้อใดถูกต้อง
1. พิสยั ของคะแนนสอบวิชาที่ 2 เท่ากับ 3 คะแนน
2. มัธยฐานของคะแนนสอบวิชาที่ 1 เท่ากับ 12.5 คะแนน
20 O-NET (มี.ค. 64)
24 26 28 30 32 34 36 38
1.
24 26 28 30 32 34 36 38
2.
24 26 28 30 32 34 36 38
3.
24 26 28 30 32 34 36 38
4.
24 26 28 30 32 34 36 38
5.
24 26 28 30 32 34 36 38
ตอบ 1
จากแผนภาพกล่อง 1 ม.ค. 2560 ที่กาหนดให้ จะได้ min, Q1, Q2, Q3, max คือ 25, 27, 31, 32, 34 ปี ตามลาดับ
วันที่ 1 ม.ค. 2562 คือผ่านไป 2 ปี พนักงานเก่าทัง้ 9 คน จะมีอายุเพิ่มขึน้ คนละ 2 ปี ทกุ คน
O-NET (มี.ค. 64) 21
ดังนัน้ min, Q1, Q2, Q3, max ของพนักงานเก่าทัง้ 9 คน จะเพิ่มขึน้ 2 ปี ทกุ ค่า ได้เป็ น 27, 29, 33, 34, 36 ปี
จากนัน้ มีพนักงานใหม่เพิ่ม 2 คน ซึง่ มีอายุ 26 ปี และ 35 ปี
26 ปี น้อยกว่า min ของพนักงานเก่า (27 ปี ) ดังนัน ้ min ใหม่จะเปลีย่ นจาก 27 ปี เป็ น 26 ปี
35 ปี ยังไม่เกิน max ของพนักงานเก่า (36 ปี ) ดังนัน ้ max จะยังเป็ น 36 ปี เท่าเดิม
Q 2 เดิมคือ 33 ปี แสดงว่าพนักงานที่อยูต ่ าแหน่งตรงกลาง มีอายุ 33 ปี (Q2 = Med)
เนื่องจาก 26 < 33 < 35 ดังนัน้ พนักงานใหม่ 2 คน จะมีอายุคร่อมหน้าคร่อมหลังคนที่อยูต่ รงกลาง
ทาให้คนตรงกลาง จะยังคงมีตาแหน่งอยูต่ รงกลางเหมือนเดิม ดังนัน้ Q2 ใหม่ จะยังเป็ น 33 ปี เหมือนเดิม
พิจารณาตัวเลือก จะเห็นว่าข้อที่ min = 26 ปี max = 36 ปี และ Q2 = 33 ปี จะตรงกับข้อ 1
หมายเหตุ : อันที่จริง แผนภาพในข้อ 1 ยังคลาดเคลือ่ นจากที่ควรจะเป็ นเล็กน้อย
เนื่องจาก 26 ปี น้อยกว่า Q1 เดิม (= 29 ปี ) ดังนัน้ Q1 ใหม่ จะน้อยลงเล็กน้อย จะไม่เท่าเดิมเหมือนข้อ 1
และ 35 ปี มากกว่า Q 3 เดิม (= 34 ปี ) ดังนัน ้ Q3 ใหม่ จะมากขึน้ เล็กน้อย จะไม่เท่าเดิมเหมือนข้อ 1
แต่ถา้ ต้องให้เดาเกณฑ์ทใี่ ช้วดั ว่าข้อไหนเป็ นไปได้มากที่สดุ ก็คงจะเป็ นข้อ 1
1.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
2.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
3.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
4.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
5.
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ตอบ 1
พิสยั ระหว่างควอร์ไทล์ หาได้จากสูตร Q3 − Q1
ตาแหน่งของ 𝑄𝑟 จะอยู่
ข้อมูลมี 11 จานวน ดังนัน้ Q1 อยูต่ วั ที่ 14 ∙ (11 + 1) = 3
3
ตัวที่ 𝑟4 ∙ (𝑁 + 1)
Q 3 อยูต
่ วั ที่ 4 ∙ (11 + 1) = 9 (คือตัวที่ 3 นับจากท้าย)
ดังนัน้ หาพิสยั ระหว่างควอร์ไทล์ของแผนภาพในแต่ละข้อได้จากสูตร ตัวที่ 3 จากท้าย − ตัวที่ 3 จากหัว
1. 7 − 3 = 4 2. 9 − 4 = 5 3. 8 − 3 = 5
4. 9 − 2 = 7 5. 9 − 2 = 7
22 O-NET (มี.ค. 64)
∑(𝑦𝑖 −𝑦̅)2
ข้อมูลชุดที่ 2 มี 10 ตัว : √
𝑛−1
108
= √10−1 = √12 → สัมประสิทธิ์การแปรผัน =
√12
𝑦̅
=
√12
√2
= √6
∑(𝑧𝑖 −𝑧̅)2
ข้อมูลชุดที่ 3 มี 15 ตัว : √
𝑛−1
= √
112
15−1
= √8 → สัมประสิทธิ์การแปรผัน =
√8
𝑧̅
=
√8
1
= √8
ซึง่ ในข้อมูลชุดเดิม คือระหว่าง 120 กับ 130 → มัธยฐานเดิม = 120 +2 130 = 125
ดังนัน้ ถ้าเพิ่ม 125 จะเข้าไป มันจะไปแทรกอยูต่ าแหน่งตรงกลางพอดี
90 , 110 , 120 , 120 , 120 , 125 , 130 , 130 , 140 , 140 , 150
ซึง่ จะทาให้ มัธยฐานใหม่ = 125 เท่าเดิม
4. ผลรวมข้อมูลเดิม = 90 + 110 + 120 + 120 + 120 + 130 + 130 + 140 + 140 + 150 = 1250
ดังนัน้ ค่าเฉลีย่ เลขคณิตเดิม = 1250
10
= 125
ถ้าเพิม่ 125 เข้าไป จะได้ผลรวมข้อมูลใหม่เพิ่มเป็ น 1250 + 125 = 1375
1375
แต่ขอ้ มูลจะเพิ่มเป็ น 11 จานวน จะได้ ค่าเฉลีย่ ใหม่ = 10+1 = 125 เท่าเดิม
∑(𝑥𝑖 −𝑥̅ )2
5. โจทย์ให้ขอ้ มูลเป็ นกลุม่ ตัวอย่าง → ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 𝑠 = √ 𝑛−1
∑(𝑥𝑖 −125)2
= √ 10−1
(𝑥̅ = 125 จากข้อก่อนหน้า)
(90−125)2 +(110−125)2 +(120−125)2 + … +(150−125)2
= √ 9
ถ้าเพิม่ 125 เข้าไปอีกตัว ตัวเศษจะเพิ่มขึน้ (125 − 125) = 0 → คือตัวเศษเท่าเดิม
2
เนื่องจาก 6 อยูต่ าแหน่งตรงกลาง จึงมีขอ้ มูลที่นอ้ ยกว่า 6 ได้แค่ 2 ตัว ดังนัน้ ทัง้ 2 ตัวที่นอ้ ยกว่า 6 ต้องเป็ น 5 ทัง้ คู่
→ จะได้ขอ้ มูลทัง้ 5 คือ 5 , 5 , 6 , ___ , ___
พิสยั = 7 แสดงว่า ข้อมูลมากสุด − ข้อมูลน้อยสุด = 7
ข้อมูลมากสุด − 5 = 7
ข้อมูลมากสุด = 12
เครดิต
ขอบคุณ ข้อสอบ จาก อ. ปิ๋ ง GTRmath
ขอบคุณ เฉลยละเอียด จาก อ. ศิลา สุขรัศมี
ขอบคุณ คุณ ธนพล สาราญรืน่
และ คุณ Chonlakorn Chiewpanich
และ คุณ Pawarit Karusuporn ที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร