Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 4

1 50320459 Thermodynamics

Homework-Chapter 4 First Law of Thermodynamics of Closed Systems


1. อุปกรณ์ลูกสูบ-กระบอกสูบชุดหนึ่งในตอนเริ่มต้นลูกสูบวางบนตัวหยุด ภายในกระบอกสูบบรรจุออกซิเจนมวล
0.5 kg ที่มีความดัน 100 kPa และมีอุณหภูมิ 25°C จงหาปริมาตรกระบอกสูบขณะที่ลูกสูบหยุดนิ่งอยู่บนตัวหยุด
และคำนวณว่าจะต้องถ่ายเทความร้อนให้กับอากาศภายในกระบอกสูบเป็นปริมาณเท่าไรจึงจะทำให้ลูกสูบเริ่ม
เคลื่อนที่ขึ้น ถ้าลูกสูบจะยกขึ้นจากตัวหยุดได้ต่อเมื่อมีความดัน 500 kPa และสมมติว่าออกซิเจนเป็นก๊าซอุดมคติ

O2
100 kPa, 25oC, Heat
0.5 kg
วิธีทำ จาก Table A-1 จะได้ค่าคงที่ของอากาศ R = 0.2598 kPa.m3/kg.K
คำนวณปริมาตรของกระบอกสูบขณะที่ลูกสูบอยู่บนตัวหยุด จากสมการสภาวะของก๊าซอุดมคติ
mRT1 (0.5kg )(0.2598kPa  m 3 / kg  K )(298K )
V= = = 0.387 m 3
P1 100kPa
หลังจากมีการถ่ายเทความร้อน อุณหภูมิในสภาวะสุดท้ายของอากาศจะเป็น
PV1 = P2V → T = P2 T = (5)(298K ) = 1, 490K
2
T1 T2 P1 1
กำหนดให้อากาศในกระบอกสูบเป็นระบบ เขียนสมการสมดุลพลังงานของระบบปิด
E in − E out = E system
Net energy transfer Change in int ernal , kinetic ,
by heat , work , and mass potential , etc .energies
Qin = U = m(u 2 − u 1 )  mCv (T2 − T1 )
T +T 298K + 1, 490K
จาก Table A-2(b) สำหรับอากาศที่อุณหภูมิเฉลี่ย 1 2 = = 894K จะได้
2 2
Cv,avg = Cv,@894K = 0.8128 kJ/kg.K
ดังนั้น
Qin = (0.5 kg )(0.8128 kJ / kg  K )(1, 490 − 298)K = 484.4 kJ

Group no.  Student Members: 1. Name: ID:


2. Name: ID:
3. Name: ID:
4. Name: ID:
5. Name: ID:
2 50320459 Thermodynamics

2. ไอร้อนยวดยิ่งของสารทำความเย็น 134a ที่มีอุณหภูมิ 30°C และความดัน 0.6 MPa ถูกทำให้เย็นในอุปกรณ์


กระบอกสูบ-ลูกสูบโดยกระบวนการอุณหภูมิคงที่ จนกระทั่งกลายเป็นสารสองสถานะที่มีคุณภาพไอ 50% สารทำ
ความเย็นมีมวล 5 kg และระหว่างกระบวนการนี้มีความร้อนที่ถูกดึงออก 500 kJ
(a) จงหาปริมาตรตอนเริ่มต้นและตอนสุดท้าย และหางานทีจ่ ำเป็นสำหรับกระบวนการ
(b) พล็อตเส้นทางของกระบวนการบนแผนภาพ T-v

2 1

วิธีทำ ให้สสารภายในอุปกรณ์ลูกสูบ-กระบอกสูบเป็นระบบและไม่มีมวลเข้าออกจึงเป็นระบบปิด
State 1: จากตารางคุณสมบัติของ R-134a Table A-13
P1 = 0.6MPa
T1 = 30 C  v1 = 0.035984 m 3
/ kg , u1 = 249.22kJ / kg

ปริมาตรระบบในตอนเริ่มต้น V1 = mv1 = (5kg )(0.035984m3 / kg) = 0.17992 m3


State 2: จากตารางคุณสมบัติของ R-134a Table A-11 ที่อุณหภูมิ 30 oC


3 3
T2 = 30 C v f = 0.0008421m / kg , v g = 0.026622m / kg
x 2 = 0.5 u f = 92.93kJ / kg , u fg = 153.22kJ / kg

Group no.  Student Members: 1. Name: ID:


2. Name: ID:
3. Name: ID:
4. Name: ID:
5. Name: ID:
3 50320459 Thermodynamics

v 2 = v f + x 2v fg = 0.0008421 + (0.5)(0.026622 − 0.0008421) = 0.013731m3 / kg


ปริมาตรระบบในตอนสุดท้าย V2 = mv 2 = (5kg )(0.013731m3 / kg ) = 0.068655 m3
u2 = u f + x 2u fg = 92.93 + (0.5)(153.22) = 169.54kJ / kg
สมดุลพลังงานสำหรับระบบปิด
−Qout + Win = U = m(u2 − u1 )
Win = (5kg )(169.54 − 249.22)kJ / kg + 500kJ = 101.6kJ

Group no.  Student Members: 1. Name: ID:


2. Name: ID:
3. Name: ID:
4. Name: ID:
5. Name: ID:
4 50320459 Thermodynamics

3. A 25-kg steel tank initially at –10oC is filled up with 100 kg of milk at 30oC. The milk and the
steel come to a uniform temperature of 5oC in a storage room. How much heat transfer is needed
for this process?
ถังเหล็กใบหนึ่งมีมวล 25-kg ตอนเริ่มต้นอยู่ที่ –10oC ถูกนำมาบรรจุนม 100 kg ที่มีอุณหภูมิ 30oC นมและถัง
เหล็กเข้าสู่อุณหภูมิสม่ำเสมอของห้องเก็บที่ 5oC ความร้อนที่ถ่ายเทที่เกิดขึ้นในกระบวนการนี้เป็นเท่าไร
วิธีทำ
ถังเหล็กและนมเป็นระบบปิดที่มีปริมาตรคงที่ ดังนั้นจึงไม่มี Boundary work สมดุลพลังงานของระบบ
E in − E out = E system
Net energy transfer Change in int ernal , kinetic ,
by heat , work , and mass potential , etc .energies
Q = U = msteel (u 2 − u 1 )steel + m milk (u 2 − u 1 )milk
 msteel Cv ,steel (T2 − T1 )steel + m milk Cv ,milk (T2 − T1 )milk
จาก Table A-2(b) Solids สำหรับ Steel จะได้ Cv,steel = 0.500 kJ/kg.K
จาก Table A-2(c) Foods สำหรับ Milk จะได้ Cv,milk = 3.79 kJ/kg.K
แทนค่าปริมาณต่าง ๆ ในสมการสมดุลพลังงาน จะได้
 kJ   kJ 
Q = ( 25kg )  0.500  ( 5 − ( −10) ) K + ( 100 kg )  3.79  ( 5 − 30 ) K
 kg  K   kg  K 
= −9, 287.5 kJ
ดังนั้น ในกระบวนการนี้เกิดความร้อนที่ถ่ายเทออกจากระบบ 9,287.5 kJ

Group no.  Student Members: 1. Name: ID:


2. Name: ID:
3. Name: ID:
4. Name: ID:
5. Name: ID:

You might also like