Professional Documents
Culture Documents
การใช้งานเหล็กกล้าไร้สนิมที่อุณหภูมิสูง ss
การใช้งานเหล็กกล้าไร้สนิมที่อุณหภูมิสูง ss
้
การใชงานสเตนเลสที
อุณหภูมส
ิ งู
(Stainless Steels at High Temperatures)
ผูแ
้ ปล
ึ ษาเท่านน
Sant De’ Cielo (ทรงธรรม) เพือการศก ั
หมวดวัสดุกบ ้
ั การใชงานเล่
ม 18
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ยูโร อีนอ
๊ ก (Euro Inox)
Aperam
• ผู ้ผลิตสเตนเลสของทวีปยุโรป www.aperam.com
• สมาคมพัฒนาสเตนเลสแห่งชาติ
Outokumpu
• สมาคมพัฒนาอุตสาหกรรมโลหะผสม
www.outokumpu.com
Cedinox
www.cedinox.es
Centro Inox
www.centroinox.it
ConstruirAcier
www.construiracier.fr
Industeel
www.industeel.info
Nickel Institute
www.nickelinstitute.org
SWISS INOX
ISBN 978-2-87997-064-6 www.swissinox.ch
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
1
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
1 บทนํา (Introduction)
2
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
3
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ตารางที 1 ส่วนประกอบทางเคมีของเฟอร์รต
ิ ก
ิ ทนความร ้อน [6]
4
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
5
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
*เกรดทีมีการจดลิขสิทธิ
สเตนเลสดูเพล็ กซ ์ (Duplex stainless steel) มี จากผลการวิจั ย ล่ า สุ ด ยืน ยั น ว่า เกรดดูเ พล็ ก ซ์ส ามารถ
โครงสร ้างผสมระหว่างเฟอร์ไรต์และออสเทนไนต์ และมี รั ก ษาความแข็ ง แรงไว ้ได ้น อ ้ ยกว่ า ออสเทนนิ ต ิก เมือ
ความแข็ งแรง ณ จุดคราก (Yield strength) ในช่วง เปรียบกันในช่วงอุณหภูมส ิ งู อย่างไรก็ตามความแข็งแรง
550 ถึง 690 เมกะพาสคาลในสภาวะอบอ่อน ซึงสูงกว่า ของดูเพล็กซ์ทเหลื
ี ออยูย่ งั คงใกล ้เคียงกับออสเทนนิตก ิ
ออสเทนนิ ต ิ ก และเฟอร์ ร ิ ต ิ ก เกรดอย่ า งมีนั ยสํ าคั ญ ในช่วงอุณ หภูมท ิ เกิ
ี ด เพลิง ไหม ้ [11] ดัง นั นอุณ หภูม ิ
อย่างไรก็ตามถึงแม ้ว่า ดูเพล็กซ์จะมีความแข็งแรงสูงที สูงสุดทีใช ้งานจึ งขึนกับความต ้องการทางสมบัตเิ ชิงกล
อุ ณ ห ภู มิ ห อ
้ ง แ ต่ ก ลั บ มี ปั ญ ห า ด า้ น ค ว า ม เ ป ร า ะ (เช่น ท่อความดัน) และปั จจัยอืน ๆ ทีต ้องพิจารณา
(Embrittlement) และสมบัตเิ ชิงกลโดยเฉพาะอย่างยิง
ความเหนียว (Toughness) ทีลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมือ
ใช ้งานทีอุณหภูมส ิ งู เป็ นเวลานาน สเตนเลสดูเพล็กซ์จงึ
ไม่ เ หมาะสมต่ อ การใช ้งานทีอุ ณ หภู ม ิสู ง โดยทั วไป
อุณหภูมก ิ ารใช ้งานทีเหมาะสมไม่ควรเกิน 300 ᵒC
6
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
7
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
8
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
เมือพิจารณาผลการทดสอบจะสามารถสังเกตเห็ น การ
กระจายตัวของข ้อมูล แม ้แต่กับวั สดุท ีผลิตขึนพร ้อมกั น
ดังนั นความแข็งแรงต่อการคืบและการแตกร ้าวทีได ้จาก
การคํานวณอาจมีความไม่น่าเชือถือ ความคลาดเคลือน
จะมีคา่ อยูใ่ นช่วง + 20 % ของความเค ้น ความแตกต่าง
9
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ั (Short term
4.3 ความแข็ งแรงต่อแรงดึงระยะสน
tensile strength)
ตังแต่อดีตกระบวนการทดสอบทีใช ้ในการศึกษาสมบัตท ิ ี ค่า ทีได ้อาจมีค่ า มากถึง ห ้าถึง หกเท่ า ของค่ า ขีด จํ า กั ด
อุณ หภูม ิสูง ของโลหะและโลหะผสมเป็ นการทดสอบ ความแข็งแรงจากการคืบ (Limit creep strength) และ
ความแข็งแรงในระยะสัน (Short term tensile testing) มีค่ า เกิน กว่ า ค่ า ประมาณ (Over evaluate) ความ
ทั งสิน และถึง แม ้การทดสอบนี ถู ก แทนทีสํ า หรั บ การ สามารถในการรับแรงตลอดช่วงเวลาระยะยาว อย่างไรก็
ออกแบบด ้วยการทดสอบการคืบและการแตกร ้าวในระยะ ตามค่าความแข็ งแรงทีอุณ หภูมส ิ ูงยั งคงมีป ระโยชน์ใ น
ยาว (Long term creep and rupture) แต่การทดสอบ การทดสอบความต ้านทานต่อ แรงกระทําทีเกินชัวคราว
ความแข็ ง แรงทีอุ ณ หภู ม ิส ูง (High temperature (Momentary overload) และมีรวมอยูใ่ นบางข ้อกําหนด
tensile test) ยั ง คงเป็ นข ้อมูล ทีสํ า คั ญ สํ า หรั บ การ (Specification)
ประเมินเบืองต ้น
สําหรับทีอุณหภูมม
ิ ากกว่า 550 ᵒC ค่าความแข็งแรงและ
การทดสอบความแข็งแรงทีอุณหภูมส ิ ูงนั นคล ้ายคลึงกับ ความแข็ ง แรง ณ จุ ด ครากจะไม่ ส ามารถใช ้เพื อการ
การทดสอบทีอุณหภูมห ิ ้อง โดยทัวไปชินงานจะถูกล ้อม ออกแบบ
รอบด ้วยเตาความต ้านทานไฟฟ้ า (Electric resistance
furnace) เพื อรั ก ษาระดั บ อุ ณ หภู ม ิใ ห ้คงทีตามความ
ต ้องการตลอดระยะเวลาทีรับแรง ซึงอัตราการทดสอบ
หรือ อั ต ราการเปลียนแปลงความเครีย ด (Rate of
testing, or strain rate) คือส่วนสําคัญทีต ้องพิจารณา
[3]
คว า ม แ ข็ งแ ร ง ห รื อ ค ว า ม ต า้ น ท า น แ ร ง ดึ ง สู ง สุ ด
(Tensile strength or ultimate strength) คือความ
เค ้นทีต ้องใช ้ในการดึงชินงานจนกว่า จะเกิด การแตก
เป็ น 2 ชิน การทดสอบแรงดึงทําได ้โดยการจับชินงาน
ด ้วยเครืองมือและดึงชินงานด ้วยแรงทีค่อยๆเพิมขึนจน
เกิดการแตกหัก ความแข็งแรงของวัสดุสามารถแสดง
ในรู ป ความต ้านทานแรงดึง สู ง สุ ด ในหน่ ว ย N/mm2
หรือ MPa
ความแข็งแรงสามารถทดสอบได ้ด ้วยเครืองทดสอบ
ภาพโดย: Acroni, Jesenice (SI)
10
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ในหลายสภาวะการใช ้งานทีมีความไม่แน่นอนของความ
เค ้น อุณหภูมแ ิ ละความแข็งแรงนั น นั บเป็ นสิงสําคัญมาก
ทีโลหะต ้องรั ก ษาความเหนี ยวไว ้ได ้ตลอดอายุก ารใช ้
งาน และความเสีย หายจะต ้องไม่เ กิด ขึนโดยไม่ม ก ี าร
เตือ น สํ าหรั บ ในอุต สาหกรรมนํ ามัน และปิ โตรเคมีเ ช่น
ท่อ ภายใต ้ความดั น สู ง นั น จะต ้องการความเหนี ย วใน
ระยะยาวทีสูง ในกรณีดังกล่าวการแตกร ้าวทีใกล ้จะเกิด ู เลือกใช ้ใน
มีปัจจัยมากมายทีเข ้ามาส่งผลเมือวัสดุถก
สามารถตรวจสอบได ้จากการบวมตัวของท่อ [3] สิงแวดล ้อมทีเป็ นอุตสาหกรรม
ภาพโดย : Centro Inox, Milan (I)
4.5 การล้าจากความร้อน (Thermal fatigue)
11
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
2
คือหน่วยในระบบ “SI system” หรือในภาษาฝรังเศส “Système International d’Unités”
12
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ความแข็งแรงทีอุณหภูมส ิ งู ของโลหะผสมออสเทนนิตก ิ
ทนความร ้อนสามารถเพิมขึนได ้ด ้วยกระบวนการแปรรูป
เย็น (Cold working) เช่น การรีด (Rolling) อย่างไรก็
ตามความแข็งแรงทีเพิมขึนจะคงอยูไ่ ด ้จนถึงอุณหภูมต
ิ ก
ผลึกใหม่ (Crystallization Temperature) เท่านั น
ภาพที 3 แสดงอิทธิพลของอุณหภูมท ิ มี
ี ต ่อสมบัตท ิ าง
แรงดึงของสเตนเลส 1.4310 (301) ทีผ่านกระบวนการ
แปรรูปเย็น โดยทัวไปผลิตภัณฑ์ทผ่ี านการขึนรูปเย็นจะมี โครงสร ้างจุลภาคของเหล็กกล ้าจะถูกทดสอบด ้วยกําลังขยายสูง
ภาพโดย : Acroni, Jesenice (SI)
ความต ้านทานต่อการคืบตํ าซึงเกิดขึนทีอุณหภูมส ิ งู กว่า
อุณหภูมกิ ารตกผลึกใหม่ของโลหะเล็กน ้อย
ระหว่างการใช ้งานทีอุณหภูมส
ิ งู เป็ นเวลานาน ประโยชน์
ทีได ้จากกระบวนการแปรรู ป เย็ น จะเสีย ไปและความ
แข็งแรงต่อการแตกร ้าวจากความเค ้นอาจจะลดลงจนตํ า
กว่าความแข็งแรงในสภาพอบอ่อน [25]
13
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
วัสดุบ างชนิด อาจเกิดการเปลียนแปลงหลั งจากการใช ้ สํา หรั บ การใช ้งานเป็ นระยะเวลานานทีอุณ หภูมส
ิ ูง ซึง
งานหลายร ้อยหรือหลายพันชัวโมง โดยเกิดความเปราะ เฟสดังกล่าวสามารถทําให ้สลายตัวได ้โดยการให ้ความ
ขึนแทนทีความแกร่ง หรือ ความเหนีย ว ซึงปั ญหาหลั ก ร ้อนสูงกว่า 1000ᵒC [12]
เกิดจากการรวมตัวของเฟสทีมีความแข็ง เปราะ และไม่
มีสมบัตแิ ม่เหล็กเรียกว่า “ซิกม่าเฟส (Sigma phase)” ในช่วงอุณหภูมริ ะหว่าง 400 ถึง 500 ᵒC สเตนเลส
ทีเกิดขึนในช่วงอุณหภูมริ ะหว่าง 500-980 ᵒC [15] และ เฟอร์รกิ ติก มีแนวโน ้มทีจะแยกตั ว ออกเป็ น 2 เฟสทีมี
สามารถเกิด ขึนได ้ทั งในเฟอร์ร ิต กิ ออสเทนนิ ต กิ หรือ ปริมาณโครเมียมสูงและตํา ซึงอัตราการเกิดปฏิกริยาจะ
ดูเพล็กซ์สเตนเลส โดยการเกิดจะขึนอยูก ่ ับทังอุณหภูม ิ สูงสุดทีอุณหภูม ิ 475 ᵒC จึงถูกเรียกว่า “การเปราะที
และเวลา อุณหภูม ิ 475 ᵒC (475 ᵒC Embrittlement)” เฟอร์รต ิ ก
ิ
ทีมีปริมาณโครเมียม 11% เป็ นเกรดทีมีความอ่อนไหว
เกรดเฟอร์รต ิ ก
ิ ทีมีโครเมียมตําบางชนิด สามารถเกิดการ ต่อปรากฏการณ์นน ี ้อยทีสุด และมีขอบเขตทีโลหะผสม
รวมตัวของเฟสซิกม่าได ้ทีอุณหภูมเิ พียง 480 ᵒC หากถูก ปริม าณโครเมียมที 17% ในขณะทีวัส ดุทมี ี โครเมียม
ถูกใช ้งานเป็ นระยะเวลานาน ซึงนอกเหนือจากอุณหภูม ิ 25% ซึงรวมไปถึงสเตนเลสดูเพล็กซ์นันมีความเสียงต่อ
แล ้ว เวลาทีทําให ้เกิดการรวมตัวของซิกม่าเฟสยังขึนอยู่ การเกิดปั ญหาข ้างต ้นเป็ นอย่างมาก [23]
กั บ องค์ป ระกอบทางเคมีแ ละกระบวนการผลิต (เช่น
ปริมาณการแปรรูปเย็น) และเราจะพบว่าความเปราะจาก สํ า หรั บ ทีอุณ หภูม ส
ิ ูง นั น ปรากฎการณ์ ห นึงทีสามารถ
ซิกม่าเฟสจะเกิดขึนอย่างรวดเร็วถ ้าได ้รับการแปรรูปเย็น เกิดขึนได ้คือการโตของเกรน (Grain growth) ซึงเป็ น
ผลให ้ความแข็ ง แรงต่อ การคืบ สู ง ขึนแต่ก็ ทํ า ให ้ความ
การรวมตัวของซิกม่าเฟสสามารถยับยังโดยสมบูรณ์ด ้วย เหนียวลดลงไปในขณะเดียวกัน อย่างไรก็ตามถึงแม ้การ
การเติมนิกเกิลในปริมาณทีเพียงพอ และในกรณีทวัี ส ดุ เปลียนแปลงของโครงสร ้างอาจะทํ าให ้วัสดุมส ี มบัตแ
ิ ย่
ถูกใช ้ในสภาพแวดล ้อมซึงสามารถเกิดการรวมตั วของ ลง แต่การเปลียนแปลงนั นสามารถยอมรับได ้ตราบเท่าที
ซิกม่าเฟสได ้นั น จําเป็ นอย่างมากทีต ้องมีการประเมินว่า มีการเฝ้ าระวังและพิจารณาในระหว่างการใช ้งานและการ
ความเปราะตลอดช่วงอายุการใช ้งานของส่วนประกอบ ซ่อมบํารุงตามแผนงาน (Maintenance shutdown) [2]
นั นจะสู ง แค่ ไ หน รวมถึง อิท ธิ พ ลใดที อาจส่ ง ผลต่ อ
สมรรถภาพในการใช ้งาน ซึงโดยทัวไปความเปราะจะไม่
เป็ นปั ญหาเมือวัสดุอยู่ ณ อุณหภูมใิ ช ้งาน (ยกเว ้นกรณีท ี
มีค วามล ้าจากความร ้อนมาเกียวข ้อง) แต่จะกลายเป็ น
ปั ญหาร ้ายแรงทีอุณหภูมห ิ ้อง [19] เพราะทีอุณหภูมส ิ ูง
นั นวั ส ดุ ม ีค วามเหนี ย วและความแกร่ ง สู ง ทํ า ให ้เฟสที
สเตนเลสออสเทนนิต ก ิ บางชนิด อาจสูญเสียความ
เกิดขึนนั นไม่เป็ นปั ญหาสําคัญ แต่เฟสเหล่านีจะน่าเป็ น
เหนีย วอย่า งมาก หรือ เกิด ความเปราะหลั งการใช ้
ห่วงเมือชินส่วนนั นเย็นตัวลงมาทีอุณหภูมห ิ ้อง
งานอย่างยาวนานทีอุณหภูมส ิ งู ปานกลาง (500-900
นอกจากซิก ม่า เฟสแล ้วเฟสอืน ๆ ทีสามารถพบได ้คือ ᵒC) เนืองจากเกิด การรวมตัวของซิกมาเฟส [25]
ไชเฟส (chi phase) และเลฟส์เฟส (Laves-phase) ซึง ดัง นั นการใช ้งานโลหะผสมกลุ่ม เหล็ ก -โครเมีย ม-
กรณีของเลฟส์เฟสนั นสามารถช่วยเพิมความแข็งแรงต่อ นิก เกิล ควรจํ า กั ด ในช่ว งอุณ หภู ม ค
ิ งทีและ ไม่อ ยู่
การคืบ ทีอุ ณ หภู ม ิสู ง ได อ
้ ีก ด ว้ ย อย่า งไรก็ ต ามความ ในช่วงอุณหภูมท ิ เกิ
ี ดการรวมตัวของเฟสซิกม่า
เปราะของสารประกอบกึงโลหะนั นนั บ เป็ นปั ญ หาหลัก
14
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
(1) สัน (Short) = วินาทีถงึ นาที, ปานกลาง (Medium) = นาทีถงึ ชัวโมง, ยาว (Long) = วันถึงเดือน
15
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
6 ความต้านทานการก ัดกร่อนทีอุณหภูมส
ิ ง
ู
(Resistance to high-temperature corrosion)
16
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
17
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
18
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ความต ้านทานการเกิด ซั ล ฟิ เดชั นมีค วามสั ม พั น ธ์กั บ นอกเหนื อ จากปั จจั ย ทางด ้านเวลา อุณ หภูมแ ิ ละความ
ปริมาณโครเมียมเช่นเดียวกัน เหล็กทีไม่มก ี ารเติมโลหะ เข ้มข ้นแล ้ว ซัลฟิ เดชันยังขึนอยูก ่ ับรูปแบบของซัลเฟอร์
ผสมสามารถเกิด การเปลียนเป็ นซัลไฟต์ส เกลได ้อย่าง ทีม ีอ ยู่ ไม่ ว่ า จะเป็ น ซั ล เฟอร์ ไ ดออกไซด์ (Sulphur
รวดเร็ ว ในขณะทีเหล็ ก ทีมีก ารเติมโครเมีย มจะมีค วาม dioxide, SO2) ไอของซัลเฟอร์ (Sulphur vapour)
ต ้านทานการเกิดซัลฟิ เดชันเพิมขึน สํ าหรับธาตุชนิดอืน ไฮโดรเจนซัลไฟต์ (Hydrogen sulphide, H2S) หรือใน
ทีสามารถเพิมการปกป้ องต่อ การเกิด ซัล ฟิ เดชันได ้แก่ รูปของแก๊สเชือเพลิง (Fuel gas) เนืองจากแก๊สเผาไหม ้
ซิลคิ อน อลูมเิ นียม และไทเทเนียม (Combustion gas) มักจะมีส่วนผสมของสารประกอบ
ซัลเฟอร์ ซึงปกติแล ้วซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะอยู่ในรูป
สารประกอบซัล ไฟต์ห ลายชนิด สามารถพบได ้ในแก๊ส ของออกซิไดซิงแก๊ส โดยพบร่ว มกับ คาร์บ อนมอนอก
เชือเพลิงและแก๊ส ในกระบวนการผลิตอืนๆ สารเหล่านี ไซด์ (CO) คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไนโตรเจน (N2)
ส่ง ผลเสียอย่า งมากต่อ อายุก ารใช ้งานของชินส่ว น ซึง และออกซิเจน (O2) ส่วนเกิน
ปั จจัยทางจลนพลศาสตร์ (Kinetic) ทําให ้ซัลไฟต์ทอยูี ่
ในสภาวะไม่ ส มดุ ล สามารถเกิด และโตขึนได ้ภายใต ้ โดยทัวไปออกไซด์ปกป้ องจะสร ้างขึนโดยขึนกับสภาพ
เงือนไขการเกิดออกซิเดชัน และถึงแม ้การเกิด ซัลไฟต์ แวดล ้อม ซึงอัตราการกัดกร่อนอาจมีคา่ เท่ากับในอากาศ
ในช่วงแรกจะถูกปกคลุมด ้วยออกไซด์ใ นภายหลั งหรือ หรืออาจมีค่ามากกว่าเล็กน ้อย อย่างไรก็ตามความต ้าน
อาจละลายไป แต่การเกิด ขึนในช่วงแรกของซัล ไฟต์ก็ ทานของสเตนเลสต่อ แก๊ส เผาไหม ้จะมีค ่า เพิมขึน เมือ
ส่ ง ผลให ้ชั นออกไซด์ม ีค วามสามารถในการปกป้ อง ปริมาณโครเมียมเพิมขึน
ลดลงเนื องจากออกไซด์ฟิ ล์ม มีช ่อ งว่ า งหรือ รอยแตก
เกิดขึน
19
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
20
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
* ทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 900 ᵒC
21
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
การกัดกร่อนจากแก๊สฮาโลเจนเกิดจากการทําปฏิก ริยา
ระหว่ า งโลหะกั บ คลอไรด์ ฟลู อ อไรด์ หรือ ไฮโดรเจน
แฮไลด์ เช่น ไฮโดรเจนคลอไรด์ (HCl) และไฮโดรเจน
ฟลูออไรด์ (HF) เป็ นต ้น โดยทัวไปฮาโลเจนหรือ สาร
ประกอบฮาโลเจนสามารถสร ้างความเสียหายได ้ในเฟส
ของแก๊ส หรือ ในรูป สารประกอบของเกลือ หลอมเหลว
(molten salt) ซึงเกลือ สามารถทํ าให ้เกิด ขีโลหะ
(Slag) และการแตกสลาย (Disintegration) ของชัน
ฟิ ลม
์ ออกไซด์ ในขณะทีฮาโลเจนในรูปของแก๊สสามารถ
แทรกซึมเข ้าสู่เ นือโลหะได ้โดยไม่ทํ าให ้เกิด ความเสีย
หายกับชันฟิ ลม
์ ดังนั นการออกซิเดชันเพือสร ้างฟิ ลม ์ จึง
ไม่เป็ นประโยชน์ในกรณีนี
สําหรับบรรยากาศแบบออกซิไดซ์ทมี ี ทงคลอไรด์
ั ออกซิ
เจนนั น โมลิบดินัมและทังสเตนส่งผลเสียต่อ ความต ้าน
ทานของโลหะผสมต่อการกัดกร่อนจากคลอไรด์
22
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ื
7 ความสามารถในการขึนรูปและความสามารถในการเชอม
(Formability and Weldability)
การขึนรูปร ้อนควรทําในช่วงอุณหภูมท ิ กํ
ี าหนดในตาราง เชือม MIG (Gas metal arc welding, GMAW) โดยใช ้
ที 11 ซึงเหล็ก กล ้าทนความร ้อนสามารถขึนรูปเย็นได ้ อาร์กอนบริสท
ุ ธิเป็ นแก๊สปกคลุม และการเชือมใต ้ฟลักซ์
เช่น เดีย วกั บ เหล็ ก กล ้าออสเทนนิต ิก อืน ๆ แต่ป ริมาณ (Submerged arc welding, SAW)
ไนโตรเจนทีสูงทําให ้ความแข็งแรงเชิงกล (Mechanical
strength) ของเหล็กกล ้ากลุม ่ ดังกล่าวสูงขึน และแรงที กระบวนการทางความร ้อนหลั ง การขึนรูป ร ้อนหรือ เย็น
ใช ้ในการขึนรูปย่อมต ้องสูงตามมา นอกจากนีความแข็ง หรือ การเชือม อาจไม่ จํ า เป็ นหากวั ส ดุ ต อ
้ งสั ม ผั ส กั บ
(Hardness) ทีสูง ของเหล็ ก กล ้าออสเทนนิ ต ก ิ และ อุณหภูมส ิ ูงระหว่างการใช ้งาน อย่างไรก็ต ามหากความ
ความสามารถในการเพิมความแข็ ง จากความเครีย ด ร ้อนดังกล่าวไม่เพียงพอ วิธกี ารทีเหมาะสมทีสุดคือการ
(Strain hardening) จํ าเป็ นต ้องถูกยกมาพิจารณาด ้วย อบอ่อ นเพือละลายเฟส (Solution annealing) สําหรับ
เสมอระหว่างตัดแต่ง (Machining) สเตนเลสออสเทนนิ ต ิก และการอบอ่ อ น (Soft
annealing) สําหรับสเตนเลสเฟอร์รต ิ ก
ิ
เหล็ ก กล ้าชนิ ด นี มีค วามสามารถในการเชือมทีดีแ ละ
สามารถใช ้เชือมด ้วยกระบวนการดังนี : การเชือมด ้วย ช่วงอุณหภูมท
ิ เหมาะสมถู
ี กแสดงไว ้ในตารางที 11
ลวดเชือมหุ ้มฟลักส์ (Shielded metal arc welding)
การเชือมแก๊ส (Gas shielded welding) เช่น การเชือม
ทังสเตน (Gas tungsten arc welding, GTAW, TIG)
การเชือมพลาสมา (Plasma arc welding, PAW) การ
* ดี
(*) อย่างมีเงือนไข
23
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ิ ําหรับกรรมวิธท
ตารางที 11 อุณหภูมส ี างความร ้อน [6]
* เย็นตัวในอากาศเย็น
กระบวนการทาง
ความร ้อนหลังการขึน
รูปร ้อนหรือเย็นมักจะ
เป็ นส่วนหนึงของ
ขันตอนการผลิต
ภาพโดย : Butting,
Knesebeck (D)
24
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
25
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ั
9 การออกเพือต้านทานการเกิดออกซเิ ดชน
(Design for oxidation resistance)
ความน่ า เชือถื อ ของโลหะผสมสํ า หรั บ การใช ้งานที แต่ ก็ ส ามารถทดสอบในแก๊ส กั ด กร่ อ นแบบผสม เช่น
อุณหภูมส ิ งู ขึนอยูก
่ ับความสามารถในการสร ้างชันออก H2/H2S หรือ CO/CO2 หรือ O2/SO2 ได ้เช่นเดียวกัน
ไซด์ท ีต่อเนือง (Continuous) แน่ น หนา (Compact)
และมีการเติบโตของออกไซด์อย่างช ้าๆ เพือช่วยป้ องกัน การเก็บ ข ้อมูล ของจลนพลศาสตร์ข องการออกซิเ ดชัน
การเกิดออกซิเดชันและการกัดกร่อนทีอุณหภูมส ิ งู นอก อาจอยูใ่ นรูปของนํ าหนั ก ทีเปลียนแปลงไป หรือ ใช ้การ
จากนีชันออกไซด์ดังกล่าวจํ าเป็ นต ้องมีความเสถียรทัง วิเคราะห์ความหนาของชันสเกล (Scale) ทีเปลียนไปได ้
ท า ง เ ค มี ท า ง ก ล ร ว ม ถึ ง ท า ง อุ ณ ห พ ล ศ า ต ร์ เช่นเดียวกัน ซึงนํ าหนั ก ทีเปลียนแปลงอย่างต่อเนือง
(Thermodynamic) เพือสมบัตก ิ ารปกป้ องทีดี ซึงโลหะ สามารถวิเคราะห์ได ้จากเทคนิค “Thermo-gravimetric
ผสมทีเหมาะสมต่อการใช ้งานในบรรยากาศแบบออกซิ analysis (TGA)” และข ้อมูล ดังกล่าวมีประโยชน์อย่าง
ไดซ์ต ้องสามารถสร ้างชันฟิ ล์มออกไซด์ทติ ี ดแน่ น ของ ยิงในการวิเ คราะห์ป ริมาณเนื อโลหะทีทํ า ปฏิก ริย าและ
อลูมเิ นียม (Al2O3) โครเมียม (Cr2O3) หรือซิลก ิ า (SiO2) เปลียนเป็ นออกไซด์รวมถึงสามารถใช ้เปรียบเทียบโลหะ
ได ้เป็ นอย่างดี ้ ีก ด ้วย อย่า งไรก็ ต ามหลั ก เกณฑ์สํ า คั ญ
ทีต่ า งกั น ได อ
ทีสุดสําหรับการต ้านทานการเกิดออกซิเดชันของวัสดุก็
วิธพ
ี นฐานในการประเมิ
ื นความต ้านทานการเกิดออกซิเด คือสมบัตเิ ชิงกลทีเหลืออยูข ่ องวัสดุนันหลังการใช ้งาน
ชัน คือการทดสอบวัสดุในสภาพแวดล ้อมทีต ้องการและ
ติด ตามการเปลียนแปลงทางจลนพลศาสตร์ (Kinetic) สําหรับข ้อมูลการแตกหักจากการคืบ (Creep rapture)
และวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ทเกิ ี ดจากการออกซิไดซ์และตัว ทีทดสอบในบรรยากาศแบบเฉือย (Inert atmosphere)
เนือวัสดุเอง ซึงแม ้ทัวไปการทดสอบนิยมทําในอากาศ จะไม่ส ามารถใช ้ได ้ในการออกแบบเมือวั ส ดุ ถู ก ใช ้ใน
บรรยากาศทีเกิดการออกซิเดชันอย่างรุนแรง [25]
26
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
27
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
11 การใชง้ าน (Application)
การใช ้งานโดยทัวไปสามารถแบ่งออกได ้เป็ นสองกลุ่ม
กลุม
่ แรก คือชินส่วนทีต ้องผ่านเตาและได ้รับการเปลียน ออสเทนนิตก
ิ
แปลงความร ้อนหรือ สมบั ต ิเ ชิง กล (Thermal and
mechanical shock) กระทั น หั น เช่น ถาด (Tray) 1.4301 (304) มีความต ้านทานการกัดกร่อนและ
ชินส่ ว นจั บ ยึด (Fixture) โซ่ส ายพาล (Conveyor การออกซิเดชันในบรรยากาศได ้ดี
chain) สายรัด (Belt) และชินส่วนทีสํ าหรับการชุบแข็ง
(Quenching fixture) 1.4401 (316) มีส มบั ต เิ ชิง กลทีดีก ว่า 1.4301
(304) และ 1.4541 (321) และมีความต ้านทานใน
กลุม่ ที 2 คือ ชินส่วนทีต ้องอยูใ่ นเตาซึงไม่ต ้องสัมผัสกับ สารเคมีบางชนิด เช่น กรดไขมันทีอุณหภูมส ิ งู และ
การเปลียนแปลงทางความร ้อนหรือ สมบัตเิ ชิงกลอย่าง
สารละลายกรดซัลฟิ วริกแบบอ่อนได ้
รวดเร็ว เช่น คานคํ า (Support beam) ผิว ของเตา
(Hearth plates) ท่อสําหรับการเผาไหม ้ (Combustion
1.4541 (321) และ 1.4550 (347) สามารถใช ้
tubes) ท่อรัศมี ท่อเรเดียน (Radiant tubes) หัวเผา
งานได ้ในกรณี ท ีไม่ ส ามารถทํ า ความสะอาดด ้วย
(Burner) เทอร์โมเวลล์ (Thermowells) ลูกกลิงและไม ้
คํ าราง (Roller and skid rail) ลูก กลิงลํ าเลีย ง สารเคมีหลังการเชือมได ้ เช่น ในท่อไอนํ า (Stream
(Conveyor roll) คานลําเลียง (Walking beam) หม ้อ line) ท่อความร ้อนยิงยวด (Super heater tube)
ฆ่าเชือแบบหมุน (Rotary retort) เครืองฆ่าเชือแบบ แ ล ะ ร ะ บ บ ไ อ เ สี ย ใ น เ ค รื อ ง ย น ต์ แ บ บ ลู ก สู บ
หลุม (Pit-type retorts) อุปกรณ์ลดเสียง (Muffler) (Reciprocating engines) และกังหันแก๊สทีทํางาน
อุปกรณ์แลกเปลียนความร ้อน (Recuperator) และพั ด ทีอุณหภูมใิ นช่วง 425 ถึง 850 ᵒC
ลม เป็ นต ้น นอกจากนียังมีการใช ้งานอืนๆเช่น หม ้อต ้ม
(Boiler) หลอดปฏิกริยา (Reaction vessel) ระบบไอ 1.4948 (304H) คือ สเตนเลสทีปรับปรุงความ
เสีย (Exhaust system) และกังหันแก๊ส (Gas turbine)
ต ้านทานการคืบ จาก 1.4301 (304) รวมถึง มี
ทีต ้องการความแข็งแรงและความต ้านทานการเกิดออก
ปริมาณคาร์บอนตํ าเพือการใช ้งานทีสูงถึง 800 ᵒC
ซิเดชันเป็ นอีกกลุม่ การใช ้งานซึงสเตนเลสทนความร ้อน
มีความได ้เปรียบในการใช ้งานอย่างมาก ในอากาศแห ้ง รวมถึงสามารถใช ้งานในระบบหล่อ
เย็ น แบบโซเดีย ม (Sodium cooled fast
อย่างไรก็ตามเกรดทีออกแบบเพือต ้านทานการเกิดการ aggregates) ท่อ ลํ า เลีย ง (Pipeline) รวมถึง ท่อ
กัดกร่อ นจากสารละลายก็สามารถใช ้งานเป็ นสเตนเลส
ความดัน (Pressure vessel)
ทนความร ้อนได ้เช่นเดียวกัน [3, 22, 32, 33]
1.4878 (321H) คือ สเตนเลสทีปรับปรุงความ
ต ้านทานความร ้อนจาก 1.4541 (321) โดยมี
ปริ ม าณคาร์ บ อนสู ง สุ ด เพิ มขึ นเล็ ก น อ
้ ย ซึงช่ ว ง
อุณหภูมก ิ ารใช ้งานสู งสุดทีแนะนํ าสํ าหรับเกรดนีใน
อากาศแห ้งคือ 800 ᵒC นอกจากนียั ง มีเ กรดที
ปรับปรุงจาก 1.4541 เช่น 1.4941 ซึงรวมอยูใ่ น EN
10028-7 และ ASTM A240 ตัวอย่างการใช ้งานของ
เกรด 1.4878 คือ เตาอบอ่ อ นแบบระฆั ง ควํ า
(Annealing bell) กระบอกลดเสียง (Muffler)
กล่อ งชุบแข็ง (Hardening box) ในขณะทีเกรด
1.4941 สามารถใช ้เป็ นท่อ ความดั น (Pressure
vessel) และหม ้อไอนํ า (Stream boiler)
28
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
1.4828 สามารถใช ้งานได ้ถึงอุณหภูม ิ 950 ถึง 1.4841 เป็ นเกรดทีพั ฒนาจาก1.4845 โดยเพิม
1000 ᵒC ในอากาศแบบแห ้ง สํ าหรับ การใช ้งาน ปริมาณซิลคิ อนเพือปรับปรุงความต ้านทานการเกิด
ในช่วงอุณหภูม ิ 600 ถึง 900 ᵒC อาจทําให ้วัสดุเกิด ออกซิเดชัน อย่างไรก็ตามเกรดนีมีความอ่อนไหวต่อ
ความเป ราะได ้ ควา มได เ้ ปรี ย บ ข องเกรดนี คื อ การเกิด ความเปราะมากกว่ าเกรด 1.4845 และ
สามารถใช ้งานได ้ทังทีอุณหภูมแิ ละแรงกระทําทาง ส่ว นมากใช ้กั บ กลไกแขวนลอยความร ้อนยิงยวด
กลสูง ตัวอย่างการใช ้งานได ้แก่ ชินส่วนรองรับ ท่อ (Super heater suspension) หม ้ออบอ่อ น
ในเตา เตาแบบระฆังควํ า (Annealing bell) เตาชุบ (Annealing pot) และตะแกรงอีน าเมล
แข็งแบบกล่อง (Hardening box) และหม ้ออบอ่อน (Enameling grate)
(Annealing pot)
1.4845 ใช ้งานได ้ในอุณหภูมส ิ งู ถึง 1100 ᵒC ใน
1.4833 (309S) และ 1.4845 (310S) เป็ นวัสดุ อากาศแห ้ง แต่มค ี วามเสียงต่อการเกิดความเปราะ
ระดับสูงขึนเนืองจากมีปริมาณนิกเกิลและโครเมียม เมือใช ้งานในช่วงอุณหภูม ิ 600 ถึง 900 ᵒC นอก
สูง เกรด 1.4845 (310S) มีประโยชน์ในกรณีทวัี สดุ จากนียังมีวัสดุทปรั ี บปรุงเพือเพิมความต ้านทานการ
ต ้องสั ม ผั ส กั บ ความร อ ้ นและเย็ น ตั ว ลงเป็ นช่ ว งๆ คืบ จาก 1.4845 เช่น 1.4951 ซึงถูก รวมไว ้ใน
เนืองจากสามารถสร ้างชันสเกลทีติดแน่ นมากกว่า มาตรฐาน EN 10028-7 และ ASTM A240 และมี
เกรด 1.4833 (309S) อย่างไรก็ต ามทัง 2 เกรด ตั ว อ ย่ า ง ก า ร ใ ช ง้ า น เ ช่ น เ ต า อุ ต ส า ห ก ร ร ม
ส า ม า ร ถ ใ ช ง้ า น สํ า ห รั บ ชิ น ส่ ว น เ ช่ น ผ นั ง เ ต า (Industrial furnace) หม ้อต ้มแบบมีรอยประสาน
(Furnace lining) แผ่ น กั นในหม ้อต ้ม (Boiler (Seam boiler) และโรงงานปิ โตรเคมี (Petroleum
baffle) ปลอกเทอร์โ มคั ป เปิ ล (Thermocouple processing plants)
well) อุปกรณ์ให ้ความร ้อนในห ้องเครืองเครืองบิน
(Aircraft cabin heater) และผนั ง หั ว เผาใน 1.4854 ใช ้งานได ้ในอากาศทีอุณหภูมส ิ งู สุด 1150
เครืองยนต์ไอพ่น (Jet engine burner liner) เป็ น ᵒC แต่การใช ้งานทีอุณหภูมต
ิ ํากว่า 950 ᵒC อาจทํา
ต ้น ให ค
้ วามเหนี ย ว (Impact toughness) ที
อุณหภูมหิ ้องลดลงได ้
1.4835 ถูกใช ้งานอย่างมากในบรรยากาศไฮโดร
เจนหรือ ไนโตรเจน แต่ไ ม่ส ามารถใช ้งานในสภาพ
แวดล ้อมแบบคาร์บูไ รเซชันได ้ สํ า หรั บ อุณ หภูม ทิ ี
เหมาะสมต่อการใช ้งานอยูใ่ นช่วง 850 ถึง 1100 ᵒC
ในขณะทีอุณหภูม ิ 600 ถึง 850 ᵒC อาจทําให ้ความ
แกร่ง (Impact toughness) ทีอุณหภูมห ิ ้องลดลง
ตัวอย่างการใช ้งานคือ วัสดุสํ าหรับ ก่อสร ้างเตาและ
การติด ตั งในอุต สาหกรรมปิ โตรเลียม (Petroleum
installation)
29
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
เฟอร์รต
ิ ก
ิ
1.4512 (409) ถู ก ใช ้งานอย่า งแพร่ ห ลาย 1.4742 มีค วามต ้านทานการเกิด สเกลทีดีก ว่ า
เนืองจากมีส มบัตท ิ เกี
ี ยวข ้องกับการผลิต ทีดี กล่าว 1.4724 และสามารถใช ้งานได ้ในบรรยากาศแบบ
คือ มีส มบั ต ก ิ ารเชือมและการขึนรู ป ทีดี และหาได ้ รีด วิ ซิงซั ล เฟอร์ไ ด ้โดยไม่ม ีปั ญหา อย่างไรก็ ต าม
ง่ายอีกด ้วย สํ าหรับการใช ้งานทีอุณหภูมส ิ ูงทีเป็ นที เกรดนีมีปัญหาความเปราะทีอุณหภูม ิ 475 ᵒC และมี
รู ้จั ก กั น ดีข องเกรดนี คือ ในระบบไอเสียรถยนต์ ซึง ปั ญหาเกรนหยาบทีอุณหภูมต ิ ํ ากว่า 950 ᵒC นอก
อุณหภูมข ิ องชินส่วนในเครืองฟอกไอเสีย (Catalytic จากนี ซิก ม่า เฟสอาจเกิด ขึนได ้หลั ง การใช ้งานใน
convertor) จะสูงกว่า 550 ᵒC นอกจากนียังมีการใช ้ ระยะยาวทีอุณหภูมป ิ ระมาณ 650 ᵒC เกรดนีมีการใช ้
งานเป็ นตัวนํ าไอเสีย (Exhaust ducting) และตัว งานเป็ นข อ ้ ต่ อ (Fitting) ชินส่ว นสํ า หรั บ ขนส่ ง
เก็บเสียง (Silencer) ในกังหันแบบแก๊ส (Transport element) ท่อ และหม ้อในเตาอบ
อุณหภมิ 700 ถึง 1000 ᵒC
1.4016 (430) และ 1.4510 (439) ใช ้งานใน
ระบบแลกเปลียนความร ้อน (Heat exchanger) ถัง 1.4762 มีป ริมาณโครเมีย มสูง ทีสุด และมีค วาม
นํ าร ้อน (Hot water tank) เครืองควบแน่ น ต ้านทานบรรยากาศแบบแก๊ส รีด วิ ซิงซัล เฟอร์มาก
(Condenser) และชินส่วนของเตา ทีสุด เช่น กั น อย่างไรก็ต ามเกรดนี มีค วามอ่อ นไหว
ต่อความเปราะเช่นเดียวกับเกรด 1.4742 โดยซิกมา
1.4749 (446) ใช ้งานเตาอุ ต สาหกรรม เฟสรวมตั วได ้เมือใช ้งานระยะยาวทีอุณหภูมใิ นช่วง
(Industrial furnace) เครืองเป่ า (Blower) ระบบไอ 600 ถึง 800 ᵒC ตัวอย่างการใช ้งานของเกรดนีคือ
เสีย ชินส่วนเตา กล่อ งอบอ่อน (Annealing box) หั ว เผาถ่า น (Coal burner) และแผ่ น ลํ า เลีย ง
ผนั งเตาอบ และท่อไพโรมิเตอร์ (Pyrometer tube) (Conductor strip) ในหม ้อต ้มไอนํ าความร ้อน
ยิงยวด (Stream boiler super heater) ทีใช ้งาน
1.4713 เหมาะสมอย่ า งมากต่ อ การใช ้งานที
ในช่วงอุณหภูม ิ 800 ถึง 1150 ᵒC
อุณหภูมริ ะหว่าง 550 ถึง 800 ᵒC เนืองจากไม่มก ี าร
รวมตัวของเฟสทีมีความเปราะ อย่างไรก็ตามเกรดนี
ใช ้ได ้กับบรรยากาศกัดกร่อนระดับกลางเท่านั นเนือง
จากมีป ริม าณโครเมียมค่อ นข ้างตํา แต่ก็มส
ี มบั ต ท
ิ ี
ทนต่อ การกั ด กร่อ นจากออกซิไ ดซิงซัล เฟอร์ไ ด ้ดี
ส่วนใหญ่การใช ้งานคือ เตาอบแบบระฆังควํ า และ ิ ก
มาร์เทนซต ิ
ท่อหุ ้มไพโรมิเตอร์ (Pyrometer sheath tubes)
1.4006 (410) เป็ นสเตนเลสสําหรับการใช ้งาน
1.4724 เป็ นสเตนเลสทีเหมาะต่อ การใช ้งานที ทัวไป เช่น วาล์ลไอนํ า (Stream valve) เพลาปั ม
อุณหภูมส ิ งู ทีมีโครเมียม 13 % สามารถใช ้งานใน (Pump shaft) โบล์ทและชินส่วนจิปาถะทีต ้องการ
บรรยากาศแบบออกซิไ ดซิงซั ล เฟอร์ และไม่ ม ี ความต ้านทานการกัด กร่อ นและความแข็งแรงปาน
ปั ญหาร ้ายแรงจากความเปราะ ตั วอย่างการใช ้งาน กลางทีอุณหภูมต ิ ํากว่า 500 ᵒC
เช่ น รา ง ตะแ กรง แล ะท่ อ หุ ม้ เทอร์ โ มคั ปเ ปิ ล
(Thermocouple sheath tube)
30
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
้ า่ ย (Cost considerations)
12 การพิจารณาค่าใชจ
ปั จจัยบางอย่างทีมีผลต่ออายุการใช ้งานคือการเลือกใช ้ สํ า หรั บ มุม มองด ้านการแข่ ง ขั น การเลือ กใช ้วั ส ดุต ้อง
โลหะผสม (Alloy selection) การออกแบบ (Design) พิจ ารณาบนพืนฐานของความคุ ้มค่ า ด ้านราคา (Cost
การบํารุงรักษา (Maintenance procedure) การควบคุม effectiveness) ดังนั นตัวเลือกทีดีทสุ ี ดมักจะเป็ นวัสดุทมี ี
อุณหภูมแ ิ ละเตา (Furnace and temperature control) ราคาตําทีสุดทีตอบสนองต่อการออกแบบนั น อย่างไรก็
บรรยากาศ การปนเปื อนในสภาพแวดล ้อมหรือแรงทีต ้อง ตา ม วั ส ดุ ร าค าแพ งที มี ค วามน่ า เชื อถื อ สู ง (Great
รับ (Workload) อุบัตเิ หตุ จํ านวนกะการทํางาน วัฏจักร Reliability) อาจถูก เลือ กใช ้สํ า หรับ ชินส่ว นเฉพาะใน
อุณหภูม ิ และแรงกระทําเกิน (Overloading) ซึงชินส่วน ระบบทีมีคา่ ใช ้จ่ายสูงหรือมีความเสียหายร ้ายแรงในกรณี
ทีผลิต จากโลหะธาตุผ สมสูง อาจใช ้งานได ้นานหลาย ทีต ้องปิ ดซ่อมบํ ารุง (Maintenance shutdown) ดังนั น
เดือน หรือหลายปี ขึนอยูก ่ ับเงือนไขการใช ้งานนั น ดังนั น ความรู ้เรืองความสามารถในการใช ้งานของวั ส ดุ จ ึง มี
การเลือ กใช ้เหล็ ก กล ้าทนความร ้อนจะต ้องพิจ ารณา ประโยชน์ อ ย่า งมากในการตั ด สิน ใจเลือกใช ้วั ส ดุอ ย่าง
สมบัตท ิ งหมดที
ั เกียวข ้องกับเงือนไขการใช ้งานนั น เพือ ถูกต ้อง [25]
ความคุ ้มค่าสูงสุ ด ทางเศรษฐศาสตร์ต ลอดอายุก ารใช ้
งาน โลหะผสมทนความร ้อนมีให ้เลือกใช ้งานทังแบบตีขนรู
ึ ป
(Wrought) และแบบหล่อ (Cast form) ซึงในบางกรณี
การประเมินอายุ (Life Expectancy) ควรจะวั ดจาก อาจมีการใช ้ทังสองรูปแบบร่วมกัน อย่างไรก็ตามสมบัต ิ
จํ านวนวัฏจั กร (Cycle) มากกว่าจํ านวนชัวโมง โดย และราคาของวั ส ดุทั งสองรูป แบบจะแตกต่างกั น ถึง แม ้
เฉพาะอย่างยิงหากชินงานถูก ทํ า ให ้เย็ น ตั ว ลง ซึงการ สมบัตท
ิ างเคมีจะมีความคล ้ายคลึงกันมาก
เปลียนชินส่วนทังหมดหลังการใช ้งานเป็ นจํานวนหลาย
วัฏจั กรอาจะคุ ้มค่ากว่า การต ้องหยุดการทํ างานอย่าง
ยาวนาน (Extensive shutdown) เนื องจากความ
เสียหายภายในเตา สําหรับโซ่หรือสายรัดทีผ่านวัฏจักร
การเปลียนแปลงจากอุณ หภูม ห ิ ้องไปทีอุณ หภูม สิ ูง ไป
หลายครังต่อหนึงกะ (Several times a shift) จะมีอายุ
การใช ้งานได ้สันกว่าชินส่วนทีใช ้งาน ณ อุณหภูม ค ิ งที
ในขณะที ชินส่ ว นที ผ่ า นการคาร์บ ู ไ รซิงในเตาจะไม่
สามารถใช ้งานได ้นานเท่า ชินส่ว นทีใช ้ในการอบอ่อ น
แบบปกติ [16]
31
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
13 บทสรุป (Summary)
จะเห็ น ได ้ว่ า การเลือ กใช ้ชนิ ด ของโลหะผสมให ้ชาญ หากกระทบต่อการทํ างานปกติเพียงเล็กน ้อย ในขณะที
ฉลาดในการใช ้งานทีอุณหภูม ส ิ ูง นั นเป็ นสิงทีซับ ซ ้อน บางการใช ้งานการบํา รุง รัก ษาและซ่อ มแซมต ้องมีก าร
และไม่ควรดําเนินการโดยไม่มค ี วามรู ้ ซึงหลักฐานต่าง ๆ วางแผนอย่างระมัด ระวัง และสามารถทํ าได ้ในช่วงการ
ได ้แสดงให ้เห็นว่าการเลือกใช ้วัสดุไม่ใช่สงที ิ ง่าย เนือง ซ่อมบํารุงประจําปี เท่านั น ดังนั นการเลือกใช ้งานวัสดุจงึ
จากโลหะผสมในอุด มคติท ีสามารถตอบสนองต่อ ทุก ต ้องทําอย่างระมัดระวังเป็ นพิเศษในกรณีเหล่านี
ความต ้องการและการใช ้งานเป็ นสิงทียังไม่ถก ู ค ้นพบใน
ปั จจุบัน [3] การเลือกใช ้วัสดุสําหรับการใช ้งานทีอุณหภูมส ิ งู ต ้องการ
ความรู ้อย่างลึก ซึงในเงือนไขการใช ้งาน เช่น อุณหภูม ิ
ธรรมชาติท ซัี บซ ้อนของการกัดกร่อ นทีอุณหภูมส ิ ูงและ แ ล ะส่ ว น ผ ส ม ข อ ง แ ก๊ ส ร ว ม ถึ ง อุ ณ ห ภู มิ ข อ ง วั ส ดุ
การขาดวิธกี ารทดสอบมาตรฐานทําให ้เป็ นไปไม่ได ้หรือ นอกจากนี ความรู ้เกียวกั บ วั ส ดุ ท ีถู ก ใช ้ก่ อ นหน า้ และ
อย่างน ้อยก็ไม่มค
ี วามถูกต ้องในการนํ าเสนอข ้อมูล การ สมรรถภาพในการใช ้งานรวมถึงสาเหตุในความเสียหาย
กัดกร่อน ของวั ส ดุนั นนั บ เป็ นข ้อมูลทีเป็ นประโยชน์อ ย่างมากใน
การเลือกใช ้เกรดทีเหมาะสม [26]
ความต ้องการความต า้ นทานการกั ด กร่ อ นขึนอยู่ กั บ
ี ารก่อสร ้างทีนํ ามาใช ้ ในบางโรงงาน
กระบวนการและวิธก
ชินส่วนอาจสามารถบํ ารุง รัก ษา ซ่อ มแซม หรือเปลียน
32
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
14 ภาคผนวก (Appendix)
้ อเป็ นแนวทางเท่านั น [6]
ข ้อมูลในตารางนีสามารถใชเพื
(1)
ตารางที 12 สมบัตก
ิ ารคืบแสดงค่าเฉลียโดยประมาณของความแข็งแรงต่อการแตกหักทีอุณหภูมส
ิ งู
(1)
ข ้อมูลในวงเล็บได ้จากการเทียบบัญญัตไิ ตรยางค์ของเวลาและ / หรือความเค ้น
33
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
(1)
ตารางที 13 สมบัตก
ิ ารคืบแสดงค่าเฉลียโดยประมาณของความแข็งแรงต่อการยืดตัว 1 % ทีอุณหภูมส
ิ งู
(1)
ข ้อมูลในวงเล็บได ้จากการเทียบบัญญัตไิ ตรยางค์ของเวลาและ / หรือความเค ้น
34
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
ตารางที 14 สมบัตท
ิ างกายภาพของเหล็กกล ้าทนความร ้อน
(1)
แม่เหล็กดูดติดเล็กน ้อยเมือผ่านการขึนรูปเย็น
35
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
15 เอกสารอ้างอิง (Reference)
[1] Stainless Steel - High Temperature Resistance; available at
http://www.azom.com/article.aspx?ArticleID=1175
[3] ASM International, Stainless Steels at High Temperatures, Course 18, 1994
[4] Cunat, P.-J., The Euro Inox Handbook of Stainless Steel, Materials and Application Series,
Volume 1, 2002
[5] Itoh, I., et al., Development of Ferritic Stainless Steel Foil as Metal Support for Automotive
Catalytic Converter, Nippon Steel Technical Report No.64, 1995
[6] EN 10095: Heat resisting steels and nickel alloys, CEN – European Committee for
Standardization, 1999
[7] Our offer for automotive exhaust: a range of tailored solutions; retrieved in June 2012 from
http://www.aperam.com/uploads/stainlesseurope/Brochures/200807_Exhaustoffer_GB_241ko
[11] Schedin, E., Ivarsson, B., Andersson, M., Lindstrom, R., Duplex stainless steel in fire,
Proceedings of Stainless Steel Science and Market 2011 Conference, Como, Italy
[12] ASM Specialty Handbook, Stainless Steels, edited by J.R. Davis, ASM International, 1994
[13] EN 10028-7:2007 - Flat products made of steels for pressure purposes - Part 7: Stainless steels
[14] Nickel Institute, Publication Nr. 266, Heat and corrosion resistant castings: Their engineering
properties and applications
[16] Lai, G.Y., Heat-Resistant Materials for Furnace Parts, Trays and Fixtures, Heat Treating, Vol.4,
ASM Handbook, ASM International, 1991, p.510-518
[18] Atlas Steels, The Atlas Steels Technical Handbook of Stainless Steels, available at
http://www.atlassteels.com.au/documents/Atlas_Technical_Handbook_rev_July_2010.pdf
[19] Nickel Institute, Better high temperature strength than other grades, Stainless Steel Focus, July,
2009, p.30-33
36
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
[23] Cunat, P-J, Working with stainless steels, Euro Inox, 2nd edition, 2009
[25] ASM Specialty Handbook, Heat-Resistant Materials, edited by J.R. Davis, 1997
[29] Leffler, B., Stainless – Stainless Steels and Their Properties, available at
http://static.gest.unipd.it/esercizi/IIP_pmmi/acciai_inox.pdf
[32] Wegst, C., Wegst, M., Stahlschlüssel, Verlag Stahlschlüssel Wegst, 2004
37
การใช้ งานสเตนเลสทีอุณหภูมิสงู - Stainless Steels at High Temperatures
38