Professional Documents
Culture Documents
05 ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
05 ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ASEAN Socio - Cultural Community
--------------------------------------------------------------------------------
1. พัฒนาการความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียน
นับตั้งแต่ก่อนการก่อตั้งอาเซียนเมื่อปี พ.ศ.2510 นั้น ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ได้มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสังคมและวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้าน
สั ง คม ด้ า นการศึ ก ษา ด้ า นสาธารณสุ ข ด้ า นสารสนเทศ ด้ า นการพั ฒ นาสตรี เด็ ก และเยาวชน
ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการขจัดความยากจน ด้านการพัฒนาชนบท
ด้านการพัฒนาและส่งเสริมสวัสดิการสังคม ด้านการจัดการด้านภัยพิบัติ ด้านแรงงานและด้านอื่นๆ
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. ด้านสังคม ได้มีการกระชับความร่วมมือเพื่อสร้างสันติสุขในภูมิภาค โดยมีความร่วมมือ
กันในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การก่อการร้าย การค้า
อาวุธ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจและคอมพิวเตอร์ รวมทั้งให้ความสําคัญกับการพัฒนาทรัพยากร
มนุษย์เพื่อเป็นกลไกสําคัญในการลดช่องว่างระหว่างประเทศ (สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ,
2555 ค)
2. ด้านการศึกษา ในระดับอุดมศึกษาได้เกิดเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN
University Network : AUN) ซึ่งเป็นแกนหลักในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของภูมิภาค และมีการ
จัดตั้งมูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและนักวิชาการ
ตลอดจนการมี ส่ ว นร่ ว มของประชาชน สร้ า งความตระหนั ก รู้ เ กี่ ย วกั บ อาเซี ย น มี ก ารสนั บ สนุ น
การจัดทําโครงข่ายรองรับทางสังคม เพื่อบรรเทาผลกระทบทางสังคมจากวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งมี
การก่อตั้งองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Ministers of
Education Organization : SEAMEO) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508 (สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ,
2555 ข)
3. ด้านสาธารณสุข มีความร่วมมือด้านการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ.2515
จนถึงปี พ.ศ.2541 และต่อมาได้มีมติให้ ปี พ.ศ.2545 – พ.ศ.2546 เป็นปีแห่งการปลูกจิตสํานึกในการ
ต่อต้านยาเสพติดในอาเซียน และที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วย
การปลอดยาเสพติดอาเซียนในปี พ.ศ.2563 (กระทรวงการต่างประเทศ กรมอาเซียน, 2548)
89
นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตระหนักถึงภัยอันเกิดจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
ของโรคเอดส์ในเอเชียและผลกระทบที่จะมีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ดังนั้น
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2544 จึงได้กําหนดระเบียบวาระ
โดยเฉพาะสําหรับหารือเรื่องโรคเอดส์ (ASEAN Summit Session on HIV/AIDS) และที่ประชุม
ยังได้รับรองปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียนว่าด้วยโรคเอดส์ ปี พ.ศ.2545 – พ.ศ.2548
(7th ASEAN Summit Declaration on HIV/AIDS 2002 – 2005) ด้วย (กรมองค์การระหว่างประเทศ
กองการสังคม, 2548)
4. ด้านสารสนเทศ ได้มีการก่อตั้งสภาบรรณารักษ์ แห่ งภูมิ ภาคเอเชียตะวันออกเฉีย งใต้
(Congress of Southeast Asian Librarians - CONSAL) ขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ.2513
วัตถุประสงค์หลักเพื่อความร่วมมือในระหว่างประเทศสมาชิกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการพัฒนา
ห้องสมุดของแต่ละประเทศ (ประจักษ์ วัฒนานุสิทธิ์, 2555)
5. ด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน เกิดโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ (Ship for
Southeast Asian Youth Program) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมมิตรภาพและความเข้าใจ
อันดีระหว่างเยาวชนญี่ปุ่นและเยาวชนอาเซียนเมื่อปี พ.ศ.2527 (สํานักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและ
พิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ, 2555 : 1)
6. ด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ ม ได้ เ ริ่ ม โครงการความร่ ว มมื อ ด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ มเป็ น ครั้ ง แรกในปี
พ.ศ.2520 และได้จัดทําโครงการสิ่งแวดล้อมของอนุภูมิภาคอาเซียน ระยะที่ 1 (ASEAN Subregional
Environment Programme I : ASEP I) โดยคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ
อาเซียน (การดําเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยภายใต้กรอบอาเซียน, 2555)
7. ด้านอื่นๆ เช่น ความร่วมมือด้านกีฬาซีเกมส์ มหกรรมนาฎศิลป์อาเซียน วรรณกรรมซีไรต์
และดนตรีอาเซียน เป็นต้น
2. การจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9 ปี พ.ศ.2549 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
ผู้นําอาเซียนได้แสดงเจตนารมณ์ในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือในอาเซียน ฉบับที่ 2 (Declaration
of ASEAN Concord II หรือ Bali Concord II) เห็นชอบให้จัดตั้งประชาคมอาเซียนภายในปี
พ.ศ.2563 (ค.ศ.2020) ซึ่งประกอบด้วยประชาคม 3 เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความ
90
• วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรม
ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนมีเป้าหมายหลักคือ การยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกด้าน
ให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความมั่นคงทางสังคม และพร้อมรับมือกับผลกระทบ
อันเนื่องมาจากการรวมตัวทางเศรษฐกิจ ตลอดจนมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน มีสํานึกความเชื่อมโยง
ทางประวัติศาสตร์มรดกทางวัฒนธรรมและมีสํานึกร่วมในอัตลักษณ์ของภูมิภาค เพื่อสร้างให้เกิดสํานึก
91
การเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและมีความรับผิดชอบ อันจะนําไปสู่การสร้างให้ประชาคมอาเซียนเป็นสังคม
แห่งความห่วงใยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยมีแผนงานที่สําคัญ ดังนี้
1. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วยการสนับสนุนการศึกษา สนับสนุนให้ประชาชนใช้ประโยชน์
จากเทคโนโลยี ส ารสนเทศให้ ม ากขึ้ น ตลอดจนสนั บ สนุ น ให้ ป ระชาชนเสริ ม ทั ก ษะในการเป็ น
ผู้ประกอบการให้มากขึ้น
2. ส่งเสริมสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้วยการยกระดับความเป็นอยู่ให้พ้น
จากความยากจน เสริ ม สร้ า งเครื อ ข่ า ยทางสั ง คมเพื่ อ รั บ มื อ กั บ ผลกระทบที่ อ าจเกิ ด ขึ้ น จาก
กระบวนการพัฒนาและการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหาร พัฒนา
ระบบสาธารณสุข และเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชน ต่อต้านยาเสพติดและให้อาเซียนเป็น
สังคมที่พร้อมรับมือกับภัยพิบัติได้
3. ส่งเสริมความยุติธรรมและสิทธิทางสังคมด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิ ตลอดจน
สวัสดิการของประชาชนและแรงงานอพยพ
4. ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการและการป้องกันปัญหามลพิษทาง
สิ่งแวดล้อมข้ามแดน เช่น มลพิษหมอกควันข้ามแดน มลพิษจากของเสียที่มีพิษข้ามแดน เป็นต้น
5. สร้างอัตลักษณ์อาเซียนโดยการส่งเสริมให้ประชาชนอาเซียนเกิดสํานึกร่วมในเอกภาพ
ท่ามกลางความหลากหลาย ส่งเสริมให้ประชาชนอาเซียนเกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกันทั้งในด้าน
วั ฒ นธรรม ประวั ติ ศ าสตร์ แ ละศาสนา ส่ ง เสริ ม ให้ เ กิ ด สํ า นึ ก ร่ ว มในความเป็ น เจ้ า ของมรดกทาง
วัฒนธรรมของอาเซียน และส่งเสริมให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและสินค้าวัฒนธรรม
ของอาเซียน (ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร, 2555 ก)
ในการนี้ เพื่อให้การดําเนินการเป็นไปตามเป้าหมายหลักข้างต้น อาเซียนจึงเน้นการส่งเสริม
ความร่วมมือในด้านสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ เช่น
1. การพัฒนาสังคม โดยการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่อาศัยในถิ่น
ทุรกันดาร และส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของกลุ่มต่างๆ ในสังคม
2. การพัฒนาการฝึกอบรม การศึกษาระดับพื้นฐานและสูงกว่าการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี การสร้างงาน และการคุ้มครองทางสังคม
3. การส่งเสริมความร่วมมือในด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันและควบคุม
โรคติดต่อ เช่น โรคเอดส์ และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
4. การจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
92
• สาระสําคัญของแผนการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ในการมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน คราวประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ 13 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 ได้เห็นพ้องให้จัดทําแผนงานการ
จัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community Blueprint)
เพื่อรองรับการดําเนินมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
แผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ประกอบด้วยความร่วมมือใน 6 ด้าน
ได้แก่ (กระทรวงการต่างประเทศ กรมอาเซียน, 2555 ก)
1. การพัฒนามนุษย์ (human development)
2. การคุ้มครองและสวัสดิการสังคม (social welfare and protection)
3. สิทธิและความยุติธรรมทางสังคม (social justice and rights)
4. ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (environmental sustainability)
5. การสร้างอัตลักษณ์อาเซียน (building an ASEAN identity)
6. การลดช่องว่างทางการพัฒนา (narrowing the development gap)
โดยมีองค์ประกอบย่อยของแต่ละด้าน ดังนี้ (กระทรวงมหาดไทย สํานักบริหารการทะเบียน,
2552)
1. การพัฒนามนุษย์
อาเซียนจะส่งเสริมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยประชาชนเข้าถึง
โอกาสอย่างเที่ยงธรรมในการพัฒนามนุษย์ มีการส่งเสริมและลงทุนในด้านการศึกษาและการเรียนรู้
ตลอดชีวิต การฝึกอบรมและการเสริมสร้างขีดความสามารถ ส่งเสริมนวัตกรรมและการประกอบการ
ส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาศาสตร์เชิงประยุกต์และเทคโนโลยีในการ
ดําเนินกิจกรรมการพัฒนาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ
1.1 ให้ความสําคัญกับการศึกษา
เน้นการบูรณาการด้านการศึกษาให้เป็นวาระการพัฒนาของอาเซียน การสร้างสังคมความรู้
โดยส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กปฐมวัย และ
93
2. การคุ้มครองและสวัสดิการสังคม
อาเซียนมีพันธกรณีในการส่งเสริมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนโดยลด
ความยากจนและส่งเสริมการคุ้มครองและสวัสดิการสังคม การสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคง ปลอดภัย
และปลอดยาเสพติ ด การเตรี ย มความพร้ อ มเรื่ อ งภั ย พิ บั ติ และการจั ด การกั บ ข้ อ กั ง วลเกี่ ย วกั บ
การพัฒนาสุขภาพ
2.1 การขจัดความยากจน
เน้นการแก้ ไขปัญหาความเหลื่อมล้ําในด้านสังคมและเศรษฐกิจระหว่ างประเทศสมาชิ ก
อาเซียน รวมถึงการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals :
MDGs) ของสหประชาชาติในด้านการกําจัดความยากจนและความหิวโหย
2.2 เครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมและความคุ้มกันจากผลกระทบด้านลบจากการรวมตัว
อาเซียนและโลกาภิวัฒน์
ให้ความมั่นใจว่าประชาชนอาเซียนทุกคนได้รับสวัสดิการสังคมและการคุ้มกันจากผลกระทบ
เชิงลบจากโลกาภิวัตน์และการรวมตัว โดยพัฒนาคุณภาพ ความครอบคลุม และความยั่งยืนของ
การคุ้มครองทางสังคม และเพิ่มความสามารถในการจัดการความเสี่ยงทางด้านสังคม
2.3 ส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยด้านอาหาร
ให้ความมั่นใจว่าประชาชนอาเซียนทุกคนมีอาหารเพียงพอตลอดเวลา และให้ความมั่นใจ
ในความปลอดภัยด้านอาหารในประเทศสมาชิกอาเซียน
2.4 การเข้าถึงการดูแลสุขภาพและส่งเสริมการดํารงชีวิตที่มีสุขภาพสมบูรณ์
เน้นการเข้าถึงการรักษาสุขภาพ การบริการทางการแพทย์และยาที่เพียงพอและราคาถูก
และส่งเสริมให้ประชาชนอาเซียนดํารงชีวิตที่มีสุขภาพสมบูรณ์
2.5 การเพิ่มศักยภาพในการควบคุมโรคติดต่อ
เสริมสร้างความพร้อมและประสิทธิภาพในระดับภูมิภาค โดยบูรณาการแนวทางการป้องกัน
การเฝ้าระวัง ควบคุม และการสนองตอบที่ทันเวลาเพื่อแก้ปัญหาโรคติดต่อและโรคติดเชื้ออุบัติใหม่
2.6 รับประกันอาเซียนที่ปลอดยาเสพติด
ลดการเสพยาเสพติดที่ผิดกฎหมายในหมู่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน เยาวชน
และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง โดยเน้นมาตรการป้องกันและส่งเสริมการเข้าถึงวิธีการรักษา การฟื้นฟู
เพื่ อกลับเข้าสู่สั งคมอีกครั้ง และการบริ การหลั งการบําบัดเพื่อให้กลับเข้าสู่สังคมอย่างเต็มที่โดย
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรภาคประชาสังคม
95
2.7 การสร้างรัฐที่พร้อมรับกับภัยพิบัติและประชาคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
เสริมสร้างกลไกให้มีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันและลดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน
ทางสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศสมาชิกอาเซียนอันเกิดจากภัยพิบัติ และร่วมมือกัน
จัดการกับภัยพิบัติฉุกเฉินโดยใช้ความพยายามของรัฐบาล และความร่วมมือในระดับภูมิภาคและ
ระหว่างประเทศ
3. ความยุติธรรมและสิทธิ
อาเซียนมีพันธกรณีในการส่งเสริมความยุติธรรม โดยให้สิทธิของประชาชนสะท้อนอยู่ใน
นโยบายและทุกวิถีของชีวิต ซึ่งรวมถึงสิทธิและสวัสดิการสําหรับกลุ่มด้อยโอกาสและกลุ่มที่อ่อนแอ
เช่น สตรี เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น
3.1 การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการสําหรับสตรี เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
ปกป้องผลประโยชน์ สิทธิ รวมทั้งส่งเสริมโอกาสอย่างเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิต
มาตรฐานการดํารงชีพสําหรับสตรี เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
3.2 การคุ้มครองและส่งเสริมแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน
ส่งเสริมให้นโยบายแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานมีความครอบคลุมและมีการคุ้มครองที่เหมาะสม
ตามกฎหมาย ระเบียบ และนโยบายของแต่ละประเทศสมาชิก และการดําเนินการให้สอดคล้องกับ
ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐาน
3.3 ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจ
ส่งเสริมให้เรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจรวมไว้ในเรื่องที่ภาคธุรกิจต้อง
ดําเนินการเพื่อให้มีส่วนในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศสมาชิกอาเซียน
4. ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
อาเซี ย นจะมุ่ ง สู่ ก ารพั ฒ นาที่ ยั่ ง ยื น รวมทั้ ง ส่ ง เสริ ม สิ่ ง แวดล้ อ มที่ เ ขี ย วและสะอาดโดย
การปกป้องทรัพยากรทางธรรมชาติเพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการจัดการบริหาร
อย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์ดิน น้ํา แร่ธาตุ พลังงาน ความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าไม้ ทรัพยากร
ชายฝั่งและทรัพยากรทางทะเล รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพน้ําและอากาศสําหรับภูมิภาคอาเซียน
อาเซียนจะมีส่วนร่วมในความพยายามของโลก ในการจัดการแก้ปัญหาสิ่งท้าทายสิ่งแวดล้อมโลก
รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและคุ้มครองชั้นโอโซน เช่นเดียวกับการพัฒนาและการปรับใช้
เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมสําหรับการพัฒนาและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
96
4.1 การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก
แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกโดยปราศจากผลกระทบต่อหลักการแข่งขันและการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคม โดยอยู่บนพื้นฐานของหลักความเท่าเทียม ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และหลักการ
ความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่าง โดยสะท้อนถึงสภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
ของประเทศที่แตกต่างกัน
4.2 การจัดการและการป้องกันปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมข้ามแดน
ดําเนินมาตรการและส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เพื่อต่อต้าน
ปัญ หามลพิษจากสิ่ งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงปัญหามลพิษ หมอกควันข้ ามแดน การเคลื่อนย้ายปฏิ กูล
อันตรายข้ามแดน โดยการเสริมสร้างขี ดความสามารถ ส่งเสริมการตระหนั กรับรู้ต่อสาธารณชน
เพิ่มอํานาจการบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และดําเนินการ
ตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษหมอกควันข้ามแดน
4.3 ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน
ทําให้ อาเซียนมีสภาพแวดล้อมเขียวและสะอาด มั่งคั่งด้วยประเพณีวัฒนธรรม เป็นที่ซึ่ง
ค่านิยมและธรรมเนียมปฏิบัติของประชาชนสอดคล้องกลมกลืน และประสานกับธรรมชาติด้วยการที่
ประชาชนมี ค วามรู้ ด้ า นสิ่ ง แวดล้ อ ม เต็ ม ไปด้ ว ยชาติ พั น ธุ์ ท างสิ่ ง แวดล้ อ มและมี ค วามตั้ ง ใจและ
ความสามารถในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาค โดยผ่านทางการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
และการมีส่วนร่วมของประชาชน
4.4 ส่งเสริมเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม
ใช้เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยให้มีผลกระทบ
น้อยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อม
4.5 ส่งเสริมคุณภาพมาตรฐานการดํารงชีวิตในเขตเมืองต่างๆ ของอาเซียน และเขตชุมชน
เพื่อรับประกันว่าเขตเมืองและชุมชนในอาเซียน มีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน รองรับความต้องการ
ของประชาชนในด้านสังคมและเศรษฐกิจได้
4.6 การทําการประสานกันเรื่องนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและฐานข้อมูล
ส่งเสริมความพยายามที่เหมาะสมที่จะประสานนโยบายด้านสิ่ งแวดล้ อมและฐานข้อมู ล
ทีละขั้น โดยคํานึงถึงสภาวะแวดล้อมระดับชาติของประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนการบูรณาการ
ด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและเป้าประสงค์ด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค
4.7 ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรชายฝั่ง และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน
97
สร้างหลักประกันเรื่องสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งว่าจะได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ระบบนิเวศตัวอย่าง พืชและพื้นที่ดั้งเดิมได้รับการคุ้มครอง การดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับการ
จัดการอย่างยั่งยืน และการตระหนักรับรู้และได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลและ
ชายฝั่ง
4.8 ส่งเสริมการจัดการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ
อย่างยั่งยืน
ให้ความมั่นใจว่าความหลากหลายทางชีวภาพที่สมบูรณ์ของอาเซียนจะได้รับการรักษาและ
จัดการอย่างยั่งยืนโดยการเสริมสร้างสภาวะที่ดีทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
4.9 ส่งเสริมความยั่งยืนของทรัพยากรน้ําจืด
ส่งเสริมความยั่งยืนของทรัพยากรน้ําจืด โดยให้ความเชื่อมั่นในเรื่องการเข้าถึงทรัพยากรน้ํา
อย่างเท่าเทียมกัน และคุณภาพที่ได้รับการยอมรับได้ในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการ
ของประชาชนอาเซียน
4.10 การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการต่อผลกระทบ
ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลง
ทางสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ในประเทศสมาชิกอาเซียน โดยดําเนินมาตรการในการบรรเทาและการปรับตัวบนพื้นฐานของหลัก
ความเป็นธรรม ความยืดหยุ่น การมีประสิท ธิภาพและความรับผิดชอบร่วมกัน และแตกต่ างกัน
ตามขีดความสามารถ รวมทั้งสะท้อนสภาวะที่แตกต่างทางสังคมและเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
4.11 ส่งเสริมการบริหารจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน
ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืนและขจัดกิจกรรมที่
ไม่ยั่งยืน รวมถึงการดําเนินการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ที่ผิดกฎหมายและการค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
โดยการเสริมสร้างขีดความสามารถ การถ่ายโอนเทคโนโลยีและส่งเสริมการตระหนักรับรู้และส่งเสริม
การบังคับใช้กฎหมายและธรรมาภิบาล
5. การสร้างอัตลักษณ์อาเซียน
อัตลักษณ์อาเซียนเป็นพื้นฐานด้านผลประโยชน์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็น
ตัวตนร่วมกัน จารีต ค่านิยม และความเชื่อ รวมทั้งความปรารถนาในฐานะประชาคมอาเซียน อาเซียน
จะส่งเสริมให้ตระหนักและมีค่านิยมร่วมกันในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันท่ามกลางความแตกต่าง
ในทุกชั้นของสังคม
98
6. การลดช่องว่างทางการพัฒนา
เสริมสร้างความร่วมมือเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาโดยเฉพาะมิติการพัฒนาด้านสังคม ระหว่าง
ประเทศสมาชิกเก่า 6 ประเทศ และประเทศสมาชิกใหม่ (Cambodia-Laos-Myanmar-Vietnam :
CLMV) และในพื้นที่ของอาเซียนที่ถูกทอดทิ้งและด้อยพัฒนา
3. การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 – พ.ศ.2559) ได้ให้ความสําคัญ
กับการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนไว้ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง
และความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมและวัฒนธรรม ในส่วนของสังคมและวัฒนธรรม แผนพัฒนาฯ
ฉบั บ ที่ 11 ได้ก ล่ า วถึ ง แนวทางการเตรี ย มความพร้ อ มเข้า สู่ ป ระชาคมสัง คมและวั ฒ นธรรมไว้ ใ น
ยุทธศาสตร์เช่นกัน โดยขอนําเสนอส่วนที่สําคัญ ดังนี้ (ทศพนธ์ นรทัศน์, 2555)
99
ยุทธศาสตร์การพัฒนา การเตรียมความพร้อมในการเป็น
ในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม
1. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคนสู่สังคม - สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวัฒนธรรมร่วมกับ
แห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ประชาคมโลก โดยเฉพาะประชาคมอาเซียน เพื่อให้
เกิ ด การไหลเวี ย นทางวั ฒ นธรรมในรู ป แบบการ
แลกเปลี่ ยนเรี ยนรู้ ที่ จะช่ วยลดความเหลื่ อมล้ํ าทาง
ความคิดและค่านิยม และเพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
ประชาคมอาเซียนร่วมกัน
3 . ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ก า ร จั ด ก า ร ด้ า น - การพัฒนาความร่วมมือในกลุ่มอาเซียนเพื่อประโยชน์
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่ ว มกั น โดยเฉพาะความร่ ว มมื อ ในการพั ฒ นาทาง
อย่างยั่งยืน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การลดก๊าซเรือนกระจก
และการปรับตัว รวมทั้งการบริหารจัดการและการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันอย่างยั่งยืน อาทิ ด้าน
ทรัพยากรน้ํา ความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจน
สร้างแนวร่วม เพื่อสร้างอํานาจต่อรองในเวทีระหว่าง
ประเทศด้านการค้า การลงทุนและสิ่งแวดล้อม
100
นอกจากนี้ มีหลายหน่วยงานของภาครัฐที่รับผิดชอบในการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคม
สังคมและวัฒนธรรม ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. คณะทํางานการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับคณะทํางานการเกษตร
และสหกรณ์ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดสัมมนาเรื่องการเตรียมความพร้อมของ
ประเทศไทยเข้ า สู่ ป ระชาคมอาเซี ย นด้ ว ยปรั ช ญาเศรษฐกิ จ พอเพี ย งด้ า นทรั พ ยากรธรรมชาติ
สิ่ ง แวดล้ อ มและการเกษตร เพื่ อ ศึ ก ษารวบรวมข้ อ เท็ จ จริ ง ทั้ ง ประโยชน์ ที่ ป ระเทศไทยจะได้ รั บ
ตลอดจนศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าร่วมประชาคมอาเซียน ที่เกี่ยวข้องกับ
สถานการณ์ปัญหาและผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและด้านการเกษตรกรรม
รวมทั้งแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น (ประชาไท, 2554)
2. สํา นักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้รั บมอบหมายให้รั บผิดชอบ
ด้านการพัฒนามนุษย์ ในหัวข้อการพัฒนาสมรรถภาพของระบบราชการ หรือการสร้างศักยภาพของ
ระบบราชการ (building civil service capability) และด้านสิทธิและความยุติธรรมทางสังคม
ในหัวข้อการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจ (Promoting Corporate Social
Responsibility : CSR) ซึ่งสํานักงาน ก.พ. ได้ดําเนินการมาอย่างต่อเนื่อง (สํานักงานข้าราชการพลเรือน,
2554)
การสร้างศักยภาพของระบบราชการ
สํานักงาน ก.พ. ได้ดําเนินการจัดทํายุทธศาสตร์พร้อมแผนงานโครงการตามแผนการดําเนินงาน
ด้านกิจการพลเรือนอาเซียน พ.ศ.2553 – พ.ศ.2558 (ACCSM Work Plan 2010-2015) โดยส่งให้
ฝ่ายเลขานุการอาเซียนเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมต่างๆ ที่สํานักงาน ก.พ.ได้ดําเนินการภายใต้แผนงาน
ข้างต้น ได้แก่
1) สํานักงาน ก.พ. ในฐานะ ASEAN Resource Center on Leadership Development
ได้ พั ฒ นาแนวทางการสร้ า งผู้ นํ า ในราชการพลเรื อ นของไทยทั้ ง ในด้ า นการสรรหา การพั ฒ นา
การเตรียมความพร้อม การแต่งตั้งและการส่งเสริมคุณธรรมของนักบริหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ปรากฏ
ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
2) สํานักงาน ก.พ. ได้จัดอบรมหลักสูตรต่างๆ อย่างต่อเนื่องสําหรับประเทศสมาชิกอาเซียน
ทั้งในส่วนที่สํานักงาน ก.พ. จัดขึ้นโดยตรง หรือในส่วนที่จัดให้ตามความต้องการของประเทศสมาชิก
เช่น
101
4. กระทรวงศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับปลัดกระทรวงศึกษาธิการของ
ประเทศสมาชิ ก อาเซี ย นและขององค์ ก รรั ฐ มนตรี ก ระทรวงศึ ก ษาธิ ก ารของกลุ่ ม ประเทศเอเชี ย
ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Ministers of Education Organization : SEAMEO) และ
กระทรวงศึกษาธิการยังได้จัดโครงการ Coporate Social Responsibility for Kids ปีแห่งการพูด
อังกฤษในปี พ.ศ.2555 ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศหลักเพื่อ
รองรับการเป็นประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก (ไทยโพสต์, 2555)
5. กระทรวงวัฒนธรรมและกรมประชาสัมพันธ์ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
คณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวัฒนธรรมและสารสนเทศ ครั้งที่ 46 โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิก
อาเซียน 10 ประเทศ และผู้แทนสํานักเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 10 - 12
มกราคม พ.ศ.2555 ณ จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยการประชุม 2 คณะ ได้แก่ การประชุม
คณะอนุกรรมการอาเซียนด้านวัฒนธรรม และการประชุมคณะอนุกรรมการอาเซียนด้านสารสนเทศ
ซึ่งมีการนําเสนอโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ในเรื่องอาเซียน อาทิ โครงการ
ค่ายเยาวชน โครงการส่งเสริมเครือข่ายด้านศิลปวัฒนธรรมระดับประชาชน โครงการอาเซียนทีวี และ
โครงการเว็บไซต์อาเซียน (กระทรวงวัฒนธรรม, 2555 : 4-10)
6. กระทรวงวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี จั ด งานภายใต้ แ นวความคิ ด “120 ปี
กรมวิทยาศาสตร์บริการ แหล่งรวมความเชี่ยวชาญ ร่วมสร้างเศรษฐกิจอาเซียน” เพื่อแสดงให้เห็น
พัฒนาการ ผลงาน และความก้าวหน้าของงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของกรมวิทยาศาสตร์
บริการ ที่พร้อมให้บริการและส่งเสริมสนับสนุนความก้าวหน้าภาคเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ
ที่กําลังก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแสดงให้เห็นการผลักดันให้เกิด
ศูนย์เชี่ยวชาญ ศูนย์ทดสอบเฉพาะทางของกรมวิทยาศาสตร์บริการที่สามารถให้บริการได้อย่างเป็น
รู ป ธรรมสอดคล้ อ งกั บ ความต้ อ งการของผู้ ป ระกอบการไทยควบคู่ กั บ การให้ คํ า ปรึ ก ษาหรื อ
ข้อเสนอแนะทางวิชาการ การช่วยแก้ปัญหา การพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมและถ่ายทอด
เทคโนโลยี รวมทั้งยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน เป็นมิติใหม่การให้บริการด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ส่งเสริมการผลักดันงานบริการด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการพัฒนาภาคการผลิต การค้า และการบริการ เป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพ
การแข่งขันในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์บริการ (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2555)
104
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังได้จัดตั้ง “ศูนย์เชี่ยวชาญด้านวัสดุสัมผัสอาหาร
แห่งเดียวของอาเซียน” (ASEAN Center for Expertise in Food Contact Materials) ซึ่งศูนย์นี้
เป็นห้องปฏิบัติการกลางด้านวัสดุสัมผัสอาหารระดับชาติ เป็นแหล่งอ้างอิงและรับรองทางวิชาการ
ด้านวัสดุสัมผัสอาหารแก่ผู้ประกอบการส่งออกอาหาร ตั้งเป้าพัฒนาเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถ
ในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการเป็นแหล่งผลิตอาหารจํานวนมากสู่ตลาดโลกซึ่งเป็นการ
ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ (กรมวิทยาศาสตร์บริการ, 2553)
7. กระทรวงพั ฒ นาสั ง คมและความมั่ น คงของมนุ ษ ย์ จั ด ทํ า แผนกลยุ ท ธ์ สํ า นั ก งาน
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ.2555 – พ.ศ.2559 เพื่อให้สอดคล้อง
กับยุท ธศาสตร์ ที่ กําหนดไว้ ใ นแผนพั ฒ นาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบั บที่ 11 (พ.ศ.2555 –
พ.ศ.2559) ทั้ ง นี้ สถาบั น การพั ฒ นาสั ง คมได้ มี ก ารจั ด ประชุ ม สั ม มนาหั ว หน้ า หน่ ว ยงานในสั ง กั ด
สํานักงานปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระหว่างวันที่ 3 - 5 ตุลาคม พ.ศ.2554
เพื่อให้หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทราบถึงบทบาท หน้าที่ ภารกิจและผลกระทบ
ที่เกิดจากประชาคมอาเซียน รวมทั้งได้รับทักษะและความรู้ในการนําเสนอ การถ่ายทอด การสอน
งาน การบริหารจัดการบุคลากร และการสร้างเครือข่ายร่วมกันในการปฏิบัติงานแบบบูรณาการ
นอกจากนี้ กระทรวงการพั ฒนาสัง คมและความมั่นคงของมนุ ษ ย์ ยังได้เปิด เวที วิชาการ
“เปิดเสรีอาเซียน ปี 2558 : สังคมไทยก้าวทันการเปลี่ยนแปลง” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ด้านสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนการพัฒนาสังคมและจัดสวัส ดิการในกลุ่มประเทศสมาชิ ก
อาเซียน โดยมีผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
มนุษย์ ผู้นําองค์การบริหารส่วนตําบล แกนนํากลุ่มองค์กร ผู้แทนจากสถาบันการศึกษา และผู้แทน
จากสถานทูตในกลุ่มประเทศอาเซียนเข้าร่วมงาน (สํานักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์ สํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์, 2555)
8. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน
ด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 11 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ระหว่าง
วันที่ 8-9 ธันวาคม พ.ศ.2554 โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดําเนินงานตาม แผนแม่บท
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาเซียน (ASEAN ICT Masterplan 2015 : AIM 2015)
ในปีแรก ซึ่งมีโครงการรองรับการดําเนินงานจํานวน 17 โครงการ เช่น โครงการ ASEAN CIOs
Forum โครงการ ASEAN ICT Awards โครงการความมั่นคงปลอดภัยเครือข่ายคอมพิวเตอร์
(network security) โครงการการนําไอซีทีมาใช้ในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ICT
105
4. ความก้าวหน้าในการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ประเทศสมาชิ กอาเซียนได้ร่วมดําเนินการด้านต่างๆ เพื่อเตรี ยมความพร้อมในการเข้าสู่
ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. การอนุวัติข้อผูกพันภายใต้กฎบัตรอาเซียน (realizing the commitments under the
ASEAN Charter) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ.2551 โดยเฉพาะในเรื่องการยกร่างขอบเขตอํานาจหน้าที่
ขององค์กรต่างๆ ที่จะจัดขึ้น ได้แก่ กลไกสิทธิมนุษยชนอาเซียน คณะกรรมการผู้แทนถาวรประจํา
อาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และคณะมนตรีประสานงานอาเซียน เป็นต้น
2. การฟื้นฟูอาเซียนให้เป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้าง
ความตระหนักรับรู้เกี่ยวกับอาเซียนในหมู่ประชาชน การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและ
ภาคประชาสังคมในการสร้างประชาคมอาเซียน
106
3. การเสริมสร้างการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ สําหรับประชาชนทุกคนในภูมิภาค
โดยส่งเสริมให้การดําเนินความร่วมมือของอาเซียนตอบสนองต่อผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด
โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาท้าทายต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เป็นต้น (สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, 2555 ก)
4. โครงการจับตาอาเซียน (ASEAN Watch) มีวัตถุประสงค์ในการนําเสนอความคืบหน้า
เกี่ยวกับอาเซียน ส่วนหนึ่งของโครงการนี้ได้มีการระดมสมอง แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นและ
กําหนดโจทย์วิจัยเกี่ยวกับอาเซียนออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
1) การวิจัยเพือ่ จุดมุ่งหมายเชิงปฏิบัติ หรือนโยบาย
2) การวิจัยเพือ่ มุ่งเน้นเชิงวิชาการ โดยเป็นการต่อยอดความรู้ไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ
3) การวิจัยเชิงทางเลือก ซึ่งให้ความสําคัญกับกลุ่มคนอื่นๆ ที่ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนเครือข่ายภาคประชาสังคม รวมทั้งมีการจัดทําเว็บไซต์ www.aseanwatch.org เพื่อเผยแพร่
ประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าของโครงการนี้ (ความคืบหน้าโครงการ, 2555)
5. การประชุ ม คณะกรรมการระดั บ ชาติ เพื่ อ ขั บ เคลื่ อ นการศึ ก ษาในอาเซี ย นสู่ ก ารบรรลุ
เป้าหมายการจัดตั้งประชาคมอาเซียน โดยในปี พ.ศ.2553 ที่ประชุมคณะกรรมการระดับชาติ ได้ให้
ความเห็นชอบร่างนโยบายเพื่อดําเนินงานตามปฏิญญาชะอํา-หัวหิน ด้านการศึกษา จํานวน 5 นโยบาย
ดังนี้
นโยบายที่ 1 การเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และเจตคติที่ดีเกี่ยวกับอาเซียน
นโยบายที่ 2 การพั ฒ นาศั ก ยภาพของนั ก เรี ย น นั ก ศึ ก ษาและประชาชนให้ มี ทั ก ษะที่
เหมาะสมเพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
นโยบายที่ 3 การพัฒนามาตรฐานการศึกษาเพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนของนักศึกษาและ
ครูอาจารย์ในอาเซียน
นโยบายที่ 4 การเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดเสรีการศึกษาในอาเซียนเพื่อรองรับการก้าว
สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นโยบายที่ 5 การพัฒนาเยาวชนเพื่อเป็นทรัพยากรสําคัญในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
(สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย, 2555)
6. การพัฒนาเยาวชนอาเซียน มีการดําเนินการโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาเยาวชนเกิดขึ้น
มากมาย เช่น การดําเนินโครงการพัฒนาผู้นําเยาวชนอาเซียน การดําเนินการกีฬามหาวิทยาลัย
107
5. ความคิดเห็นต่อประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
นักวิชาการทั้งของไทยและต่างประเทศหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประชาคม
สังคมและวัฒนธรรมอาเซียนไว้อย่างหลากหลาย ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจอันจะเป็นประโยชน์ต่อการ
เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ดังนี้
รศ.สมหมาย ชินนาค ภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนว่า เป็นเพียงวาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมา
เพื่ออุดมการณ์เสรีนิยมใหม่ที่มุ่งแต่ภาคเศรษฐกิจ โดยเพียงหวังให้สังคมวัฒนธรรมเป็นเครื่องเคียง
ประกอบ เนื่องจากทุกประเทศต้องการความเป็นสมาชิกองค์การระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความเข้มแข็ง
ให้กับประเทศตนโดยไม่ต้องคํานึงถึงการทํางานร่วมกันอย่างจริงจัง
109
จะไม่พลาดโอกาสจากการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน และเพื่อที่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น
จะไม่รุนแรงจนเกินไป
ปัจจุ บัน ประเทศไทยมี ศู นย์ อ าเซี ย นศึก ษาที่ จุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิท ยาลั ย และในโรงเรี ย นที่
เข้าร่วมโครงการ Spirit of ASEAN ศูนย์ลาวศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม ศูนย์อินโดนีเซียศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และศูนย์อินโดจีนศึกษา
(ซึ่งมีศูนย์ย่อยประกอบด้วย ศูนย์กัมพูชา ศูนย์เวียดนาม ศูนย์ลาว ศูนย์เมียนมาร์ และศูนย์มาเลเซีย)
ที่มหาวิทยาลัยบูรพา แต่อย่างไรก็ตามศูนย์บรูไนศึกษา ศูนย์ฟิลิปปินส์ศึกษา ศูนย์สิงคโปร์ศึกษานั้น
ดูเหมือนยังไม่เกิดขึ้นและภาครัฐควรสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยไทยจัดตั้งศูนย์ศึกษาประเทศต่างๆ
ในอาเซียนให้ครบถ้วน และให้ศูนย์เหล่านี้ศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมของไทย
ไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ตาม
แกนของเสาหลั ก ของประชาคมอาเซี ยน นอกจากนี้ ป ระเทศไทยควรจะมีก ารจั ดตั้ ง “สํ านั ก งาน
คลังสมองไทยเพื่อประชาคมอาเซียน” (Thai Think Tank for ASEAN Community) ภายใต้
สํานักงานเลขานุการกรมอาเซียนเพื่อทําหน้าที่ในการประสานงาน สนับสนุนเรื่องงบประมาณในการ
ศึกษาวิจัยและประชาสัมพันธ์เครือข่ายศูนย์ศึกษาต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อให้ประชาชนสามารถ
เข้าถึงข้อมูลจากศูนย์เหล่านี้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากที่สุด (เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2554)
ในด้านของแรงงานนั้น นายไพสิฐ พานิชกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ได้เสนอแนะถึงการปฏิรูปกฎหมายแรงงานว่า จะต้องให้ความสําคัญกับการจ้างแรงงานแบบยืดหยุ่น
เพราะปัจจุบันทั่วโลกลดจํ านวนของการจ้างแรงงานประจําลง แต่ กลับจ้างแรงงานยืดหยุ่น หรื อ
แรงงานนอกระบบมากขึ้น แรงงานในลักษณะนี้จะเป็นการจ้างงานแบบชั่วคราวหรือจ้างตามฤดูกาล
จึงควรมีการจัดระบบสวัสดิการของแรงงานเหล่านี้ ควรให้ความสําคัญกับแรงงานข้ามชาติที่เข้ามา
ทํางานในประเทศไทย ควรมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งออกแรงงานไปต่างประเทศ และควรจัดการ
ระบบการศึกษาที่เอื้อต่อคนทํางานที่จะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อยกระดับตัวเองให้สามารถเข้าไปสู่
การจ้างงานแรงงานแบบใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม การที่จะปฏิรูปกฎหมายแรงงานจะต้องมองในเรื่องของ
ความเป็นธรรมต่างๆ เหล่านี้ด้วย (พิสิษฐ์ ดิษยธนะสิทธิ์, 2555)
ในประเด็นเดียวกันนี้ นายโกวิท บุรพธานินทร์ กรรมการมูลนิธินิคมจันทรวิทุร ได้แสดง
ความคิดเห็นว่า การรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่
โดยกลุ่ ม บุค คลที่ จ ะได้ รั บ ประโยชน์ ม ากที่ สุ ด คือ บุค คลที่ส ามารถเข้ า ถึง โอกาสได้ ม ากที่สุ ด ได้ แ ก่
ผู้มีการศึกษาสูง ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และบุคคลกลุ่มเล็กซึ่งได้แก่เจ้าของกิจการ (เจ้าของทุน)
111
----------------------------------------
113
บรรณานุกรม
สํานักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สํานักงานนโยบายและ
ยุทธศาสตร์, (2555). โครงการสําคัญ. [ออนไลน์]. วันที่คน้ ข้อมูล 27 กุมภาพันธ์
2555. เข้าถึงได้จาก : http://www.bps.m-society.go.th/home
สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2555ก). ASEAN Community. [ออนไลน์]. วันที่ค้นข้อมูล
27 กุมภาพันธ์ 2555. เข้าถึงได้จาก : http://www.bic.moe.go.th/th/index.php?
Option =com_content&view=article&id=191&Itemid=171