AM111 การบริหารองค์การยุคโลกาภิวัตน์

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 10

ข้อสอบปลายภาค หลักสูตร ศิลปศาสตรบัณฑิต

สาขาวิชา ศิลปการจัดการ ภาคการศึกษาที่ 2/2564


วิชา การบริหารองค์กรยุคโลกาภิวฒ
ั น์ (AM 111) คะแนนเต็ม 60 คะแนน
สอบวันที่ เวลา
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ จีรพรรณ์ จันทร์วิเชียร

ชื่อนักศึกษาผู้สอบ
รหัสประจาตัวนักศึกษา

คาสั่ง
1. ให้นักศึกษาทาข้อสอบลงในสมุดคาตอบที่แนบมาพร้อมกับข้อสอบชุดนี้
2. กาหนดเวลาสอบ 3 ชั่วโมง (ไม่เกิน 3 ชม.)
3. ห้ามนาข้อสอบและกระดาษคาตอบ ออกนอกห้องสอบ
4. งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดในระหว่างสอบ
5. เข้าห้องสอบช้ากว่า 30 นาที หมดสิทธิ์เข้าห้องสอบ
6. หากพบผู้สอบทุจริตปรับตกทันที

คาชี้แจง
ข้อสอบประเภท อัตนัย มีจานวน 1 ตอน จานวนรวม 2 ข้อ
ข้อสอบประเภท ปรนัย มีจานวน 1 ตอน จานวนรวม 60 ข้อ
รวมข้อสอบทั้งสิ้น จานวน 10 หน้า
2

ข้อสอบปลายภาค
วิชา การบริหารองค์กรยุคโลกาภวัฒน์ (AM 111)
-------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 1 จงอ่านโจทย์ให้ละเอียด และตอบคาถามให้ตรงตามโจทย์ และครบถ้วนทุกข้อ (รวม 30 คะแนน)

ข้อที่ 1 การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อการ


ดาเนินงานของหน่วยงาน องค์กรธุรกิจ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจทั่วโลก รวมทั้งการดารงชีวิตของผู้คนในช่วงการ
แพร่ ร ะบาดของโรคติดเชื้อไวรั ส โคโรนา (COVID-19) ที่ทุกคนต้องใช้เวลาส่ ว นใหญ่อยู่ที่บ้านอันเป็นผลมาจาก
มาตรการจากัดช่วงเวลาการออกนอกบ้านของภาครัฐ ไปจนถึงการ Work from Home ที่ให้พนักงานส่วนใหญ่
ปฏิบัติหน้าที่จากที่พักอาศัยตามแนวปฏิบัติที่หลายประเทศทั่วโลก ที่กาลังดาเนินการเพื่อป้องกันการติดและการแพร่
ระบาดของเชื้อ COVID-19 (20 คะแนน)
คาถาม ในสภาวการณ์ดังกล่าวข้างต้น หากท่านเป็นผู้บริหาร หน่วยงาน องค์กรธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ ท่านจะ
มีวธี ีการบริหารจัดการองค์กรอย่างไร เพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรธุรกิจดาเนินงานต่อไปได้ภายใต้การเปลี่ยนแปลง
ของสังคมโลกที่สาคัญ ครั้งนี้
เงื่อนไขสาคัญในการตอบ วิธีการบริหารจัดการองค์กรของท่าน จะต้องสอดคล้องกับแนวคิด ทฤษฎีทางการ
บริหารจัดการที่ได้เรียนหรือท่านที่ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมมา ห้าม copy จาก internet มาตอบ ขอให้นักศึกษา
เรียบเรียงเป็นองค์ความรู้ของตัวท่านเอง (ตอบไม่น้อยกว่า 1.5 หน้า A4)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อที่ 2 จากองค์ความรู้ที่นักศึกษาได้รับจากการเรียนหรือจากการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เกี่ยวกับการบริหารองค์กร
ในยุ ค โลกาภิวั ฒ น์ ในศตวรรตที่ 21 ยุ ค แห่ ง เปลี่ ยนแปลง หรื อ ที่ เ รี ย กว่า ยุ ค สมั ย ใหม่ นั้ น ท่ า นคิ ด ว่ า จะสามารถ
ประยุกต์ใช้หลักการบริหารจัดการกับการทางานของท่าน หรือการใช้ชีวิตในประจาวันของท่านได้หรือไม่ อย่างไร
อธิบายให้เข้าใจและเห็นภาพชัดเจน (10 คะแนน)
เงื่อนไขการตอบ ให้นักศึกษาเรียบเรียงตามองค์ความรู้ของตัวท่านเอง ห้าม copy จาก internet มาตอบ (ตอบไม่
น้อยกว่า 1 หน้า A4)
3

ตอนที่ ๒ จงเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด โดยทาเครื่องหมาย  ลงในข้อที่เลือกบนกระดาษคาตอบ ก ข ค ง (30 คะแนน)

1. Frederick W Taylor ได้สรุปแนวคิดที่สาคัญในการบริหารแบบวิทยาศาสตร์ไว้ 4 ประการ


ยกเว้นข้อใด
ก. การปรับปรุงระบบการผลิต ด้วยการหาวิธีที่ดีที่สุด (One best way)
ข. การคัดเลือกและจัดบุคคลเข้าทางานอย่างเป็นระบบ (Put the right man to the right job)
ค. การจูงใจด้านการเงิน โดยให้ค่าตอบแทนเป็นสัดส่วนกับผลผลิตของแต่ ละบุคคล
ง. ไม่แบ่งงานกันทาระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติการ
2. ทฤษฎีการบริหารงานของรัฐ (The Theory of the Administration of the state) ซึ่งมีองค์ประกอบของการ
บริหารสาคัญ 5 ประการ (POCCC) เป็นผลงานของใคร
ก. Frederick W Taylor ข. Henri Fayol
ค. Henry L. Gantt ง. Luther Gulick และ Lyndall Urwick
3. ใครเป็นบิดาของการบริหารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management )
ก. Frederick W Taylor ข. Henri Fayol
ค. Henry L. Gantt ง. Luther Gulick และ Lyndall Urwick
4. การทากาหนดการโดยอาศัยเวลาแทนการใช้ปริมาณงาน เป็นแนวคิดของใคร
ก. Frederick W Taylor ข. Henri Fayol
ค. Henry L. Gantt ง. Luther Gulick และ Lyndall Urwick
5. องค์ประกอบของการบริหารสาคัญ 5 ประการ (POCCC) ที่สะท้อนถึงหน้าที่ หรือกระบวนการบริหาร
ข้อใดไม่ใช่ความหมายของตัว C
ก. (Conceptual) ข. (Commanding)
ค. (Coordinating) ง. (Controlling)
6. องค์ประกอบของการบริหารสาคัญ 5 ประการ (POCCC) ที่สะท้อนถึงหน้าที่ หรือกระบวนการบริหาร
ตัว C ตัวสุดท้ายหมายถึงข้อใด
ก. (Conceptual) ข. (Commanding)
ค. (Coordinating) ง. (Controlling)
7. “POSDCORB” เป็นอักษรย่อของกระบวนการบริหารเป็นผลงานของใคร
ก. Frederick W Taylor ข. Henri Fayol
ค. Henry L. Gantt ง. Luther Gulick และ Lyndall Urwick
8. “POSDCORB” เป็นอักษรย่อของกระบวนการบริหาร อักษร C ย่อมาจากคาว่าอะไร
ก. (Conceptual) ข. (Commanding)
ค. (Coordinating) ง. (Controlling)
4

9. หนังสือ ชื่อ Principles of Scientific Management เป็นผลงานเขียนของใคร


ก. Frederick W Taylor ข. Henri Fayol
ค. Henry L. Gantt ง. Luther Gulick และ Lyndall Urwick
10. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารแบบวิทยาศาสตร์
ก. มีการเน้นที่การเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพ
ข. ไม่สนใจเรื่องความชานาญเฉพาะทางในการเพิ่มผลผลิต
ค. ปรับปรุงเครื่องมือ วิธีการและสภาพการทางาน
ง. เงินเท่านั้นเป็นรางวัลที่กระตุ้นคนงานให้เพิ่มผลผลิต หรือทาให้ผลผลิตต่า
11.การบริหารที่เน้นการเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพของการทางานเป็นแนวคิดการบริหารยุคใด
ก. ยุคการบริหารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
ข. ยุคมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations)
ค. ยุคการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Science Management)
ง. ยุคการบริหารเชิงระบบ (Systematic Approach Management)
12. หลักการที่สาคัญของ Frederick W. Taylor ว่าด้วยการนาเอาหลักการด้าน วิทยาศาสตร์มาใช้ใน
การจัดการนั้น มีอยู่ 4 ข้อ ยกเว้นข้อใด ?
ก. มีการคัดเลือกพนักงาน ฝึกอบรมพนักงาน และพัฒนาพนักงานอย่างมีหลักเกณฑ์
ข. แบ่งงานและความรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกันระหว่างฝ่ายจัดการและคนงาน ใครถนัดทางใดก็มุ่งสู่
ทางนั้น
ค. ศึกษาลักษณะองค์ประกอบของงานแต่ละคนในลักษณะของการมีหลักการวิธีการรวม ทั้งมีการ ทดสอบ
ทดลอง เพื่อให้ได้สิ่งที่เป็นหลัก
ง. พนักงานในโรงงานต้องมีทักษะและความสามารถที่จะช่วยเหลือกันได้ หากพนักงาน ผู้ใดไม่สามารถ
ปฏิบัติงานได้
13. ความสาคัญของการทางานขึ้นอยู่กับคนที่ปฏิบัติงานด้วย เพราะคนมีชีวิตจิตใจ มีความคิดต้องการ
การยอมรับ ต้องการกาลังใจในการทางาน เป็นแนวคิดการบริหารยุคใด
ก. ยุคการบริหารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
ข. ยุคมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations)
ค. ยุคการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Science Management)
ง. ยุคการบริหารเชิงระบบ (Systematic Approach Management)
14. การศึกษาของ Hawthorne ได้ชี้ให้เห็นว่ายังมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากที่มีความสาคัญต่องาน นอกจากเงิน
และสภาพการทางาน เป็นแนวคิดการบริหารยุคใด
ก. ยุคการบริหารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
ข. ยุคมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations)
ค. ยุคการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Science Management)
ง. ยุคการบริหารเชิงระบบ (Systematic Approach Management)
5

15. แนวความคิดการบริหารแบบระบบราชการ (Bureaucracy) เป็นแนวคิดการบริหารยุคใด


ก. ยุคการบริหารแบบวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)
ข. ยุคมนุษยสัมพันธ์ (Human Relations)
ค. ยุคการบริหารเชิงพฤติกรรมศาสตร์ (Behavioral Science Management)
ง. ยุคการบริหารเชิงระบบ (Systematic Approach Management)
16. ใครเป็นบิดาแนวความคิดการบริหารแบบระบบราชการ (Bureaucracy)
ก. Mary Parker Follett ข. Rensis Likert
ค. Max webber ง. Abraham Maslow
17. ใครเป็นเจ้าของทฤษฎีระดับขั้นความต้องการ (Need Hierarchy) ของมนุษย์
ก. Mary Parker Follett ข. Rensis Likert
ค. Max webber ง. Abraham Maslow
18. ถ้าหาก นศ.มาสอบเข้าเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ความต้องการของท่านอยู่ลาดับขั้นใดของมาสโลว์
ก. ความต้องการความปลอดภัย (Safety Needs)
ข. ความต้องการทางสังคม (Social Needs)
ค. ความต้องการยกย่องชื่อเสียง (Esteem Needs)
ง. ความต้องการบรรลุถึงศักยภาพของตน (Self-actualization)
19. ใครเป็นเจ้าของทฤษฎี X และ ทฤษฎี Y
ก. Adam Smith ข. Frederick W Taylor
ค. Harry L. Gantt ง. Douglas McGregor
20. การจัดรูปแบบองค์การที่มีการควบคุมและ ติดตามผู้ปฏิบัติงาน อย่างใกล้ชิด สอดคล้องกับทฤษฎีใด
ก. ทฤษฎี X ข. ทฤษฎี Y
ค. ทฤษฎี Z ง. ทฤษฎีการจูงใจสองปัจจัย
21. การจัดรูปแบบองค์การที่มีการให้ความไว้วางใจ และให้อิสระแก่ผู้ปฏิบัติงาน สอดคล้องกับทฤษฎีใด
ก. ทฤษฎี X ข. ทฤษฎี Y
ค. ทฤษฎี Z ง. ทฤษฎีการจูงใจสองปัจจัย
22. องค์การที่รวมศูนย์อานาจไว้ที่ผู้บริหาร เป็นรูปแบบที่สอดคล้องกับแนวคิดที่เน้น การควบคุมและติดตามการทา
งานของผู้ปฏิบัติงานโดยผู้บริหาร และสอดคล้องกับทฤษฎีใด
ก. ทฤษฎี X ข. ทฤษฎี Y
ค. ทฤษฎี Z ง. ทฤษฎีการจูงใจสองปัจจัย
23. ใครเป็นเจ้าของทฤษฎี 2 ปัจจัย (Two Factors Theory)
ก. Douglas McGregor ข. Frederick Herzberg
ค. Frederick W. Taylor ง. Henri Fayol
6

24. ข้อใดอธิบายเกี่ยวข้องกับผู้นาได้ตรงที่สุด
ก. ผู้นาจะเกิดขึ้นได้เมื่อได้รับการแต่งตั้งหรือมีการมอบหมายอย่างเป็นชัดเจน
ข. ผู้นาจะเกิดขึ้นได้เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารระดับสูงสุด
ค. ผู้นาคือ บุคคลที่บังคับบุคคลอื่นได้
ง. ผู้นา คือความสามารถในการนาไปสู่เป้าหมาย
25. ข้อใดที่ไม่ใช่เป็นคุณลักษณะเด่นของผู้นา
ก. เชื่อมั่นในตนเอง ข. รอบรู้ในงาน
ค. สืบทอดโดยกาเนิด ง. ซื่อสัตย์มีจริยธรรม
26. ข้อใดเป็นพฤติกรรมของผู้นาที่มุ่งผลผลิตหรือมุ่งงาน
ก. การตัดสินใจที่เกี่ยวกับการทางาน ข. กาหนดเป้าหมายการทางาน
ค. ใช้วิธีจูงใจ ง. การจัดแบ่งงาน
27. การคิดแบบใดที่จะสามารถแก้ไขปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนได้
ก. การคิดแบบสังเคราะห์ ข. การคิดแบบสร้างสรรค์
ค. การคิดแบบบูรณาการ ง. การคิดแบบกลยุทธ์
28. สิทธิตามกฎหมายซึ่งใช้ทรัพยากรสาหรับการทางานให้บรรลุวัตถุประสงค์เรียกว่าอะไร
ก. อานาจ ข. อานาจหน้าที่
ค. ความรับผิดชอบ ง. ภารกิจ
29. หลักการบริหารที่เน้นคนและขวัญกาลังใจในการทางานคือทฤษฎีใด
ก. คลาสสิก ข. นีโอคลาสสิก
ค. สมัยใหม่ ง. สังคมวิทยา
30. ข้อใดกล่าวถึงความจาเป็นที่ต้องมีการปฏิรูประบบราชการได้ถูกต้อง
ก. ความล่าช้า ข. ความไม่มีประสิทธิภาพ
ค. การไม่ยืดหยุ่น ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
31. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของประสิทธิภาพ (Efficiency) ถูกต้องที่สุด
ก. ผลผลิตเพิ่มขึ้นและปัจจัยเพิ่มขึ้น
ข. ผลผลิตที่ได้เท่าเดิมแต่ปัจจัยนาเข้าลดลง
ค. ผลผลิตลดลงแต่ปัจจัยนาเข้าเพิ่มขึ้น
ง. ผลผลิตเท่าเดิมแต่ปัจจัยเพิ่มขึ้น
32. การวัดผลการปฏิบัติงาน (Performance Measurement) สิ่งที่จะต้องนาไปเปรียบเทียบท่านคิดว่าข้อใดถูกต้อง
ที่สุด
ก. ปัจจัยนาเข้า ข. เป้าหมาย
ค. กระบวนการ ง. วิสัยทัศน์
7

33. ข้อใดกล่าวถึงประโยชน์การติดตามผลการปฏิบัติงานไม่ถูกต้อง
ก. เพิ่มความสาคัญของผู้บังคับบัญชา ข. ปรับปรุงการกาหนดนโยบายการทางาน
ค. ช่วยให้มองเห็นภาพรวมการทางานทั้งระบบ ง. สร้างขวัญกาลังกับผู้เกี่ยวข้อง
34. ข้อใดกล่าวถึงกระบวนการจัดทาแผนกลยุทธ์ขององค์การได้ถูกต้องที่สุด
ก. การจัดทาแผนกลยุทธ์เป็นหน้าที่ของผู้บริหารระดับสูง
ข. การจัดทาแผนกลยุทธ์ทุกคนในองค์การต้องมีส่วนรวม
ค. การจัดทาสอนกลยุทธ์ในองค์การขนาดเล็กไม่จาเป็นต้องดาเนินการ
ง. การจัดทาแผนกลยุทธ์ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์เป็นผู้รับผิดชอบจัดทา
35. “ร้อยละของนักศึกษาที่จบในระดับปริญญาตรีของหลักสูตรศิลปการจัดการ ในปีการศึกษา 22564” ข้อความนี้
กล่าวถึงตัวชี้วัดตามข้อใด
ก. ตัวชี้วัดปัจจัยนาเข้า ข. ตัวชี้วัดผลผลิต
ค. ตัวชี้วัดผลลัพธ์ ง. ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ
36. ผู้บริหารระดับสูงจะใช้ทักษะด้านใดมากที่สุด
ก. ทักษะด้านเทคนิค (Technical Skill) ข. ทักษะด้านมนุษย์ (Human Skill)
ค. ทักษะด้านความคิด (Conceptual Skill) ง. ทักษะการสื่อสาร (communication skill)
37. การบริหารเชิงระบบ คือ ปัจจัยนาเข้า (input) กระบวนการ (process) ผลผลิต (output) และผลลัพธ์
(Outcome) อาจารย์จีรพรรณ์ จันทร์วิเชียร จัดการเรียนการสอน อยู่ในส่วนใด
ก. Input ข. Process
ค. Output ง. Outcome
38. จานวนนักศึกษาของหลักสูตรศิลปการจัดการที่จบการศึกษาปริญญาตรี ในปีการศึกษา 2564 อยู่ในส่วนใดของ
การบริหารเชิงระบบ
ก. Input ข. Process
ค. Output ง. Outcome
39. นักศึกษาหลักสูตรศิลปการจัดการที่จบการศึกษา ในปีการศึกษา 2564 สามารถสอบเรียนต่อระดับปริญญาโทใน
หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิตได้ทุกคน อยู่ในส่วนใดของการบริหารเชิงระบบ
ก. Input ข. Process
ค. Output ง. Outcome
40. หากท่านจะสร้างทีมงานในองค์กรหรือมหาวิทยาลัยเพื่อจัดทากิจกรรม/โครงการใดๆ ให้สาเร็จ กระบวนการแรก
ที่จะดาเนินการน่าจะเป็นข้อใด
ก. การสลายพฤติกรรมของคนในทีม
ข. การระดมความคิดเพื่อวางแผนทางาน
ค. การสร้างการปฏิสัมพันธ์ในทีม
ง. การประเมินผลงานของทีม
8

41. ข้อใดไม่ใช่เป็นลักษณะของทีมที่ประสบผลสาเร็จ
ก. มีความเป็นหนึ่งเดียว ข. จัดการด้วยตนเองและพึ่งตนเอง
ค. รับงานที่ชอบมาทาเพียงคนเดียว ง. ขนาดของกลุ่มที่พอเหมาะ
42. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์องค์กร
ก. ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ การวิเคราะห์ศักยภาพขององค์กร การกาหนดวิสัยทัศน์ การร่วม
ดาเนินการ การควบคุม และการร่วมประเมินผล
ข. ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ การกาหนดวิสัยทัศน์ การร่วมวางแผนดาเนิน การร่วมดาเนินการ การ
ร่วมประเมินผล และการร่วมปรับปรุงพัฒนา
ค. ประกอบ 6 ขั้นตอน ได้แก่ การวิเคราะห์ศักยภาพขององค์กร การกาหนดวิสัยทัศน์ การร่วมวางแผน
ดาเนินการ การร่วมดาเนินการ การร่วมประเมินผล และการร่วมปรับปรุงพัฒนา
ง. ประกอบ 6 ขั้นตอน ได้แก่ การกาหนดวิสัยทัศน์ การร่วมวางแผนดาเนินการ การร่วมดาเนินการ
การควบคุม การร่วมประเมินผล และการร่วมปรับปรุงพัฒนา
43. ทักษะการคิดเป็นตัวดึงเอาทักษะด้านใด มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด
ก. ทักษะด้านความรู้ (Technical Skill) ข. ทักษะด้านคน (Human Skill)
ค. ทักษะด้านมโนทัศน์ (Conceptual Skill) ง. ถูกทุกข้อ
44. ผู้บริหารองค์กรยุคใหม่จาเป็นต้องคิดทุกวันเพื่อให้เกิดงานสร้างสรรค์ และเหตุที่ต้องคิดเพราะอะไร
ก. จาเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทางาน ข. เพื่อให้สามารถทางานได้ทันตามเวลากาหนด
ค. เพื่อนาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ ง. ถูกทุกข้อ
45. ผู้บริหารองค์กรจาเป็นต้อง มีความรู้ ความคิด มีปัญญาและมีวิสัยทัศน์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยอะไร
ก. การเข้าร่วมประชุมสัมมนา ข. การศึกษาและเรียนรู้
ค. การร่วมอภิปรายกับคนอื่น ง. ถูกทุกข้อ
46. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนาศักยภาพบุคลากรบนพื้นฐาน Competency
ก. เลือกหัวข้อ Competency ที่ควรได้รับการพัฒนา
ข. กาหนดพฤติกรรมที่องค์กรคาดหวังที่ครอบคลุม Competency
ค. กาหนดหัวข้อที่จะนามาใช้ในการประเมิน Competency
ง. กาหนดแนวทางการพัฒนาและฝึกอบรม
47. ข้อใดไม่ใช่ความสาคัญของวิสัยทัศน์
ก. กาหนดทิศทางที่จะดาเนินชีวิตหรือกิจกรรมขององค์กร
ข. เป็นแผนปฏิบัติที่แสดงให้เห็นวิธีการที่มุ่งสู่จุดหมายชัดเจน
ค. กระตุ้นให้สมาชิกทุกคนมีความผูกพัน มุ่งมั่นปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ
ง. กาหนดมาตรฐานองค์กร
9

48. ข้อใดเป็นสมการของคาว่า วิสัยทัศน์


ก. V (Vision)= I (Image) + A (Action) ข. V (Vision)= I (Inspiring)+A (Action)
ค. V (Vision)=I (Inspiring) - A (Action) ง. V (Vision) = I (Image) - A (Action)
49. ส่งสัญญาณให้รู้ว่า “ถ้าคุณเปลี่ยนความเชื่อเดิมแล้ว...ก็จะ.” เป็นผู้นาการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใด
ก. การมีอิทธิพลอย่างอุดมการณ์ (Idealized Influence or Charisma Leadership :II :CL)
ข. การสร้างแรงบันดาลใจ (Inspirational Motivation : IM)
ค. การกระตุ้นทางปัญญา (Intellectual Stimulation : IS)
ง. ตระหนักถึงความเป็นปัจเจกบุคคล (Individualized Consideration : IC)
50. “ไม่เป็ น ไร เราจะทาหรื อ ไม่ ลู กพี่ก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ ว ” เป็นภาวะผู้ นาแบบแลกเปลี่ ยน (Transactional
Leadership) รูปแบบใด
ก. ภาวะผู้นาโดยเสน่หา (Charismatic leadership process)
ข. ภาวะผู้นาแบบปล่อยตามยะถากรรม (Laissez-Faire: LF)
ค. การบริหารแบบวางเฉย (Management-By-Exception: MBE)
ง. การให้รางวัลตามสถานการณ์ (Contingent Rewards: CR)
51. “ถ้ า คุ ณ ท าได้ ต ามที่ ต กลงไว้ คุ ณ ก็ จ ะได้ ร างวั ล ” เป็ น ภาวะผู้ น าแบบแลกเปลี่ ย น (Transactional
Leadership) รูปแบบใด
ก. ภาวะผู้นาโดยเสน่หา (Charismatic leadership process)
ข. ภาวะผู้นาแบบปล่อยตามยะถากรรม (Laissez-Faire: LF)
ค. การบริหารแบบวางเฉย (Management-By-Exception: MBE)
ง. การให้รางวัลตามสถานการณ์ (Contingent Rewards: CR)
52. ขั้นตอนการบริหารการเปลี่ยนแปลงองค์กรที่มุ่งกระตุ้นให้บุคลากรในองค์กรเกิดความรู้สึกสนับสนุนภารกิจการ
ปรับเปลี่ยนองค์กร และอยากมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่สภาวะที่พึงประสงค์ อยู่ในชั้นตอนใด
ก. “รับรู้” (Awareness) ข. “ศรัทธา” (Passion)
ค. “ศึกษาวิธี (Education)” ง. “มีความสามารถ” (Competence)
53. ขั้นตอนการบริหารการเปลี่ยนแปลงองค์ก รที่มุ่งสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มเป้าหมายและผู้เกี่ยวข้องถึงความ
จาเป็นในการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งสร้างความเข้าใจในความเสี่ยงหรือผลเสียทั้งในระดับองค์กรและบุคคลหากไม่
ดาเนินภารกิจการปรับเปลี่ยนองค์กร อยู่ในชั้นตอนใด
ก. “รับรู้” (Awareness) ข. “ศรัทธา” (Passion)
ค. “ศึกษาวิธี (Education)” ง. “มีความสามารถ” (Competence)
54. ขั้นตอนการบริหารการเปลี่ยนแปลงองค์กรที่มุ่งสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติจริงอันเกิดจากการที่บุคลากรได้
น าความรู้ ความเข้าใจในเรื่ องที่จะดาเนิ นการเปลี่ ยนแปลงไปประยุกต์ใช้จนเกิดทักษะและความมั่นใจว่าตนจะ
สามารถดาเนินการจนประสบความสาเร็จได้ด้วยวิธีการแบบใหม่ อยู่ในชั้นตอนใด
ก. “รับรู้” (Awareness) ข. “ศรัทธา” (Passion)
ค. “ศึกษาวิธี (Education)” ง. “มีความสามารถ” (Competence)
10

55. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของหลักธรรมาภิบาลตามการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance)


ก. หลักความโปร่งใส ข. หลักความสานึกรับผิดชอบ
ค. หลักการมีส่วนร่วม ง. หลักการกระจายอานาจ
56. การแปลงวิ สั ย ทั ศ น์ แ ละกลยุ ท ธ์ข ององค์ ก ารให้ อ อกมาเป็ น ตั ว ชี้วั ดต่ า ง ๆ และผลั ก ดั น ตั ว ชี้ วั ด เหล่ า นั้นให้
ตอบสนองต่อเป้าหมายที่เป็นคุณค่าความสาเร็จของการบริหารองค์กรเชิงกลยุทธ์ใน 4 ด้าน สอดคล้องกับข้อใด
ก. Balanced Scorecard ข. Key Performance Indicators
ค. Benchmarking ง. Quality Control
57. จากข้อ 181 เชิงกลยุทธ์ใน 4 ด้าน ยกเว้นข้อใด
ก. คุณค่าด้านการเงิน (Finance)
ข. คุณค่าด้านลูกค้า (Customer)
ค. คุณค่าด้านบริการ (Service)
ง. คุณด่าด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning & Growth)
58. แนวคิดการควบคุมคุณภาพของ W. Edward Deming ด้วยวงจรเดมมิ่ง (Deming Circle : PDCA)
“การเปรียบเทียบผลการดาเนินงานกับเป้าหมายที่กาหนดไว้ โดยนาข้อมูลก่อนการดาเนินงานและหลังการดาเนิน
งานมาเปรียบเทียบกัน “ อยู่ในขั้นตอนใดของวงจร
ก. P ข. D ค. C ง. A
59. การนาวิธีการแก้ไขปัญหาที่ได้ผลหรือประสบสาเร็จมากาหนดเป็นมาตรฐานเพื่อถือปฏิบัติต่อไป
แต่ถ้าไม่ได้ผลก็นาไปพิจารณาวางแผนปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อยู่ในขั้นตอนใดของวงจร
ก. P ข. D ค. C ง. A
60. เมื่อท่านเป็นผู้นาองค์กร ควรให้หลักธรรมข้อใดปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา
ก. อิทธิบาท 4 ข. สังคหวัตถุ 4
ค. ฆราวาสธรรม 4 ง. พรหมวิหาร 4

ขอให้นักศึกษาทุกท่านโชคดีในการสอบ
อาจารย์ จีรพรรณ์ จันทร์วิเชียร

You might also like