Professional Documents
Culture Documents
สังคม 55 เฉลย
สังคม 55 เฉลย
สังคม 55 เฉลย
เฉลยข้อสอบวิชาสังคมศึกษาปีการศึกษา 2555
ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ ข้อ คาตอบ
1 5 11 5 21 3 31 3,5 41 5
2 1 12 1 22 4 32 4 42 1
3 1 13 5 23 3 33 4 43 3
4 1 14 1 24 2 34 5 44 4
5 4 15 4 25 3 35 2 45 5
6 3 16 1 26 5 36 4 46 3
7 5 17 1 27 3 37 1 47 1
8 2 18 4 28 1 38 4 48 2
9 3 19 5 29 3 39 1 49 3
10 4 20 1 30 3 40 3 50 5
ข้อ 1. เฉลยข้อ 5
จุดมุ่งหมายสูงสุด พรำหมณ์-ฮินดู (โมกษะ)
พุทธ (นิพพำน)
คริสต์ (อำณำจักรพระเจ้ำ)
อิสลำม (พระอัลเลำะห์)
ซิกข์ (กำรยึดมั่นใน “ธรรม”)
ข้อ 2. เฉลยข้อ 1
ศาสนาพราหมณ์มีประวัติความเป็นมาโดยย่อดังนี้
- ศำสนำพรำหมณ์เป็นศำสนำดั้งเดิมของชำวอำรยัน ไม่มีองค์ศำสดำผู้ก่อตั้งศำสนำ เป็นศำสนำที่
ก่อตั้งขึ้นจำกลัทธิบูชำธรรมชำติ ชำวอำรยันยกย่องธรรมชำติว่ำเป็นเทพเจ้ำ มีกำรเซ่นสรวงบูชำและสวดอ้อนวอน
เพื่อให้เทพเจ้ำคุ้มครอง และยึดถือเรื่องวรรณะ.
- ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดูมีควำมเชือ่ ในเรื่องพระเจ้ำสร้ำงโลก และเชือ่ ว่ำโลกต้องประกอบด้วย
พรำหมณ์-คัมภีร์พระเวท-วรรณะ ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดูแบ่งได้ 3 ยุค คือ
12
ข้อ 3. เฉลยข้อ 1
พิธีศีลศักดิ์สิทธิข์ องชาวคริสต์มี 7 ประการ
1. ศีลล้ำงบำป - ทำครั้งเดียวเพื่อเข้ำเป็นคริสต์ชน แล้วจึงมีสิทธิ์รับศีลอื่น
2. ศีลกำลัง - ยืนยันตัวเองในควำมเป็นคริสต์ชนและมั่นใจต่อพระเจ้ำโดยไม่เปลี่ยนแปลง
3. ศีลมหำสนิท - ระลึกถึงชีวิตและคำสอนของพระเยซู พิธีมิซซำ
4. ศีลแก้บำป - สำรภำพบำปเพื่อเป็นกำรเริม่ ต้นทำควำมดีหลังจำกกำรยอมรับควำมผิดพลำด
5. ศีลเจิมคนไข้ - ให้สติกำลังใจแก่คนไข้ที่เจ็บหนัก
6. ศีลสมรส - ต้องทำต่อหน้ำบำทหลวง
7. ศีลอนุกรม - บวชเป็นบำทหลวง
ศีลล้ำงบำป (Baptism) หรือศีลจุ่มเป็นศีลทีส่ ำคัญทีส่ ุด ต้องทำเป็นพิธีแรกก่อนที่จะรับศีลอื่น ๆ ต่อไป และ
รับเพียงครั้งเดียวไม่ต้องรับซ้ำอีก ผู้ได้รับศีลล้ำงบำปแล้วถือเป็นบริสทุ ธิ์และหลุดพ้นจำกบำปที่ตดิ ตัวมำแต่กำเนิด
ซึ่งสืบทอดมำจำกบำปของอดัมและอีวำบบรรพบุรุษคู่แรกของมนุษย์ กำรทำพิธีศีลจุ่มหรือศีลล้ำงบำป ใช้วิธี
ประพรมด้วยน้ำหรือจุ่มตัวลงในบ่อน้ำจนมิดศีรษะเฉพำะนิกำยโรมันคำทอลิก บำทหลวงจะใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์เทบน
ศีรษะไม่นิยมจุม่ ตัวในน้ำ
13
ข้อ 4. เฉลยข้อ 1
หลักปฏิบัติในศาสนาอิสลาม 5 ประการ สรุปลักษณะที่แตกต่างกันได้ดังนี้
1. ปฏิญำณตน - เป็นหัวใจของอิสลำม
2. ละหมำด - กำรนมัสกำรต่อพระเจ้ำทั้งทำงร่ำงกำย-จิตใจ
3. ถือศีลอด - เพื่อฝึกฝนร่ำงกำย-จิตใจให้อดทน และให้เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์
4. ซะกำต - เพื่อขัดเกลำจิตใจให้สะอำด ลดควำมเห็นแก่ตัว
5. ฮัจญ์ - เพื่อแสดงควำมจงรักภักดี และให้ระลึกถึงควำมเสมอภำคของมนุษย์
ข้อ 5. เฉลยข้อ 4
พระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์มีหลักการที่สอดคล้องกันดังนี้
1) เกิดจำกควำมอยำกรูค้ วำมจริงที่อยู่เบื้องหลังปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติ
2) ศรัทธำในกฎเกณฑ์ของธรรมชำติ
3) เชื่อมั่นในศักยภำพทำงปัญญำของมนุษย์
4) มีทั้งหลักกำรบริสุทธิ์และหลักกำรประยุกต์
5) เน้นหลักเหตุผล
6) มนุษย์ คือ ผลิตผลของธรรมชำติ ไม่ใช่ผลงำนสร้ำงสรรค์ของพระเจ้ำ.
ข้อ 6. เฉลยข้อ 3
อนาคาริก ธรรมปาละ เป็นคนศรีลังกำ เดิมชื่อ ดอน เดวิด พัฒนำป่ำอิสิปตนมฤคทำยวัน ให้เป็นพุทธสถำน
สำคัญ เรียกร้องให้พุทธคยำ กลับมำอยู่ในควำมดูแลของชำวพุทธ รัฐบำลอินเดีย ยังได้นำสัญลักษณ์ของ
พระพุทธศำสนำได้แก่ หัวสิงห์สี่หวั ของพระเจ้ำอโศก กลำยเป็น สัญลักษณ์ประจำชำติของอินเดีย ธรรมจักรที่ฐำน
ก็ปรำกฏอยู่ในธงชำติของอินเดียอีกด้วย
ข้อ 7. เฉลยข้อ 5
พุทธศาสนสุภาษิต ที่ควรจา
1) จิตต ทนฺต สุขาวห (จิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมำให้)
2) น อุจฺจาวจ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ(บัณฑิตย่อมไม่แสดงอำกำรขึ้นๆ ลงๆ)
3) นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต (คนที่ไม่ถูกนินทำไม่มีในโลก)
4) โกธ ฆตฺวา สุข เสติ(ฆ่ำควำมโกรธได้ย่อมอยู่เป็นสุข)
5) ปฏิรูปการี ธุรวา อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธน(คนขยันเอำกำรเอำงำนกระทำเหมำะสมย่อมหำทรัพย์ได้)
6) วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา(เกิดเป็นคนควรจะพยำยำมจนกว่ำจะประสบควำมสำเร็จ)
14
ข้อ 8. เฉลยข้อ 2
อุโบสถศีลหรืออุโบสถ คือ ศีลที่รักษำในวันอุโบสถ ซึ่งหมำยถึงวันธรรมสวนะหรือวันพระ ศีลอุโบสถมี 8 ข้อ
เรียกทั่วไปว่ำ ศีล 8 เป็นศีลที่อุบำสก (ชำยชำวพุทธ) และอุบำสิกำ (หญิงชำวพุทธ) ข้อปฏิบัติในกำรควบคุมกำย
และวำจำให้ดียิ่งขึ้น มี 8 ประกำร คือ
1. เว้นจำกกำรฆ่ำสัตว์ตดั ชีวิต
2. เว้นจำกกำรลักขโมย
3. เว้นจำกกำรมีเพศสัมพันธ์ (ประพฤติพรหมจรรย์)
4. เว้นจำกกำรพูดเท็จ
5. เว้นจำกกำรดื่มสุรำเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งควำมไม่ประมำท
6. เว้นจำกกำรบริโภคอำหำรในเวลำวิกำล (เลยเที่ยงไปแล้ว)
7. เว้นจำกกำรฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูกำรละเล่นมหรสพ และกำรประดับตกแต่งด้วยกำรทัดทรงดอกไม้
และลูบไล้ทำด้วยเครื่องหอม
8. เว้นจำกกำรนอนบนที่นอนอันสูงใหญ่ (ที่หรูหรำสะดวกสบำย)
ข้อ 9. เฉลยข้อ 3
สติปัฏฐาน การตั้งสติกาหนดพิจารณาสิ่งทั้งหลายให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ได้แก่
1) กำยำนุปัสสนำ เช่น วิธีอำนำปำนสติ กำรกำหนดอิรยิ ำบถ กำรสร้ำงสัมปชัญญะ
2) เวทนำนุปัสสนำ เช่น ขณะนั่งนำนๆ ถ้ำมีอำกำรเจ็บ ปวด เมื่อยก็ให้รู้ทันเวทนำหรือควำมรูส้ ึกนั้นๆ
3) จิตตำนุปัสสนำ เช่น ขณะนี้จติ เรำเป็นอย่ำงไร มีควำมรัก โลภ โกรธ หรือหลง ให้รู้ทันว่ำจิตเช่นนั้นๆ กำลัง
เกิดขึ้น
ประเภทของจิตที่ปรากฏในหลักสติปัฏฐาน มีดังนี้
1. จิตมีรำคะ คือ จิตยินดีในกำม ฝักใฝ่ในเรื่องสวย ๆ งำม ๆ
2. จิตมีโทสะ คือ ใจร้อน ขี้หงุดหงิด มีอำรมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่ำยแต่หำยเร็ว
3. จิตมีโมหะ คือ จิตลุม่ หลง ไม่รเู้ ท่ำทันตำมควำมเป็นจริง โง่เขลำ งมงำย
4. จิตวิตกกังวล คือ คิดฟุ้งซ่ำน คิดมำก คิดเล็กคิดน้อย
5. จิตเศร้ำหมอง คือ จิตหดหู่ ไม่สบำยใจ มีอำรมณ์หมกมุ่นกับควำมทุกข์
15
4.จะต้องให้รำษฎรมีสิทธิเสมอภำคกัน ไม่ใช่ให้พวกเจ้ำมีสิทธิยิ่งกว่ำรำษฎรเช่นที่เป็นอยู่
5.จะต้องให้รำษฎรได้มีเสรีภำพ มีควำมเป็นอิสระ เมื่อเสรีภำพนีไ้ ม่ขดั ต่อหลัก 4 ประกำรดังกล่ำวข้ำงต้น
6.จะต้องให้กำรศึกษำอย่ำงเต็มที่แก่รำษฎร
ประเทศอำเซียนกับสำขำกำรผลิตสินค้ำและบริกำรตำมควำมถนัด 8 อำชีพเสรีในอำเซียน
1. พม่ำ : สำขำผลิตภัณฑ์เกษตรประมง 1. วิศวกรรม
2. มำเลเซีย : สำขำผลิตภัณฑ์ยำงและสิ่งทอ 2. กำรสำรวจ
3. อินโดนีเซีย : สำขำยำนยนต์และผลิตภัณฑ์ไม้ 3. สถำปัตยกรรม
4. ฟิลิปปินส์ : สำขำอิเล็กทรอนิกส์ 4. แพทย์
5. สิงคโปร์ : สำขำเทคโนโลยีสำรสนเทศและสุขภำพ 5. ทันตแพทย์
6. ไทย : สำขำกำรท่องเที่ยวและกำรบิน 6. พยำบำล
7. เวียดนำม : สำขำโลจิสติกส์ 7. บัญชี
8. กำรบริกำร/กำรท่องเที่ยว
ตัวเลือกข้อ 1 ปรับปรุงระบบเศรษฐกิจของประเทศตำมแนวทำงเสรีของระบบทุนนิยมจึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
กำรขยำยตัวทำงเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชำชำติ (GDP) เพิ่มสูงขึ้นในปี ค.ศ. 1992 – 1993 และเกิด
ชนชั้นกลำงในสังคมจนจำนวนมำก คือ ผลที่เกิดจำกกำรปฏิรูปประเทศ