Professional Documents
Culture Documents
คู่มือการสำรวจ
คู่มือการสำรวจ
คู่มือการสำรวจ
บทที่ 1
บทนา
ขั้นตอนการเก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างถาวร
1. ขนาดของแปลงตัวอย่างกับข้อมูลที่ทาการศึกษา
ขนาดของแปลงตัวอย่างและข้อมูลที่ทาการศึกษา แสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ขนาดของแปลงตัวอย่างและข้อมูลที่ทาการศึกษา
รัศมีของวงกลม พื้นที่ หรือ
จานวน ข้อมูลที่ศกึ ษา
หรือความยาว (ม.) ความยาว
0.631 0.0005 เฮกตาร์ 4 วง กล้าไม้
3.99 0.005 เฮกตาร์ 1 วง ลูกไม้และการปกคลุมพื้นที่ของกล้าไม้และลูกไม้
12.62 0.05 เฮกตาร์ 1 วง ไม้ไผ่ หวายที่ยังไม่เลื้อย และตอไม้
17.84 0.1 เฮกตาร์ 1 วง ต้นไม้ และปัจจัยที่รบกวนพื้นที่ป่า
17.84 (เส้นตรง) 17.84 เมตร 2 เส้น ไม้ล้มขอนนอนไพร (Coarse Woody Debris ; CWD)
ที่เส้นผ่าน
รูปร่างและขนาดของแปลงตัวอย่าง แสดงในภาพที่ 1
0.631 เมตร
Intersect line
3.99 เมตร
12.62 เมตร
17.84 เมตร
ภาพที่ 1 รูปร่างและขนาดแปลงตัวอย่าง
5
การเตรียมงานในสานักงาน
ตามที่ได้กาหนดให้การสารวจทรัพยากรป่าไม้ในครั้งนี้ มีรูปแบบวิธีการสารวจเพื่อให้สามารถเก็ บ
รวบรวมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรป่าไม้และสภาพพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งมี อ งค์ ประกอบ ที่
สาคัญและปัจจัยต่างๆ อยู่มากมาย ดังนั้นเพื่อให้การเก็บรวบรวมข้อมู ล ต่ า งๆ มี ค วามเป็ น หมวดหมู่ ง่ า ย
ต่อการวิเคราะห์ประมวลผล ตามวัตถุประสงค์ของการสารวจ จึงได้มีการกาหนดแบบบั น ทึ ก ข้ อ มู ล (Tally
Sheets) สาหรับบันทึกข้อมูลต่างๆ ให้เป็นหมวดหมู่ขึ้นจานวน 12 แบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีรายละเอียดต่างๆ
แตกต่างกันไปตามชนิดของข้อมูลที่ต้องการบันทึกและแบบบันทึก ข้อมูลทั้ง 12 แบบนี้ จั ดเป็ น 1 ชุ ด ส าหรั บ
บันทึกข้อมูลในแปลงตัวอย่าง 1 แปลง และในกลุ่มแปลงตัวอย่าง (Cluster) หนึ่ ง กลุ่ ม ใช้ จ านวน 5 ชุ ด
จากการที่แบบบันทึกข้อมูลมีจานวนมากแบบ และแต่ละแบบมีรายละเอียดที่จ ะต้ อ งบั น ทึ ก แตกต่ า งกั น ไป
ดังนั้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าใจและบันทึกข้อมูลได้อย่างถูกต้อง เป็น ไปในท านองเดี ย วกั น จึ ง ได้
จัดทาคาอธิบายเกี่ยวกับแบบบันทึกข้อมูล และวิธีการบันทึกข้อมูลในแต่ละแบบ ทั้ง 12 แบบไว้ดังนี้
การเดินทางไปจุดศูนย์กลางกลุ่ม แปลงตัวอย่าง
1. เมื่อเดินทางโดยรถยนต์หรือพาหนะอื่นๆ เช่น เรือหรือแพ ถึงบริเวณที่ใกล้ จุ ด ศู น ย์ ก ลางกลุ่ ม
แปลงตัวอย่างมากที่สุด ซึ่งรถยนต์หรือพาหนะอื่นไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ต้อ งอาศั ย การเดิ น เท้ า จุ ด นี้
เรียกว่าจุด Starting Point บันทึกค่าพิกัด UTM ของจุดดังกล่าว ลงใน แบบฯ ที่ 2 หัวเรื่ อ ง GPS Starting
Point ช่อง Easting และ Northing ตามลาดับ พร้อมกับบันทึกหมายเลขระวางแผนที่ที่จุ ด ดั ง กล่ า วตกอยู่ ใ น
แบบที่ 1 หัวเรื่อง Map No. ช่อง Starting Point จากนั้นกาหนดจุดใดๆ เป็นจุดอ้างอิง (Reference Point)
โดยเลือกจุดที่อยู่ในรัศมีไม่ควรเกิน 10 เมตร มีลักษณะเด่น สังเกตได้ง่าย ชัดเจนและมี ส ภาพค่ อ นข้ า ง
ถาวร เช่น ก้อนหินขนาดใหญ่ สะพาน เสาไฟฟ้ า หลั ก กิ โลเมตร ต้ น ไม้ ใ หญ่ เป็ น ต้ น จากนั้ น วั ด
ระยะทางและค่ามุม Azimuth จากจุดอ้างอิงไปยัง Starting Point บันทึกค่ า ลงในแบบฯ ที่ 2 หั ว เรื่ อ ง
Ref. Point Details ถ้าหากเป็นต้นไม้ ให้ ร ะบุ ช นิ ด รหั ส พั น ธุ์ ไ ม้ ขนาดเส้ น รอบวงเพี ย งอก (GBH)
พร้อมกับบรรยายการเดิ น ทางจากจุ ด ที่ พัก (Camp) ถึ ง จุ ด Starting Point ลงในแบบฯ ที่ 1 หั ว เรื่ อ ง
Access Notes (From Camp to Starting Point) หลังจากนั้นจัดเตรียมวัส ดุ อุ ปกรณ์ และสั ม ภาระที่ จ าเป็ น
ในการปฏิบัติงาน ก่อนออกเดินทางจาก Starting Point ให้บันทึ ก เวลาลงในแบบฯ ที่ 2 หั ว เรื่ อ ง Time
ช่องหมายเลข 2 (Leave Car)
2. ออกเดินทางจาก Starting Point ไปยังจุดศูนย์กลางของกลุ่มแปลงตัวอย่าง โดยใช้ เ ครื่ อ ง
GPS และเข็มทิศในการนาทางและตรวจสอบแนวเส้นทาง เทียบกับแผนที่ภูมิประเทศเป็ น ระยะๆ เพื่ อ ให้
แน่ใจว่าเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง โดยให้แผนที่และผู้ใช้อยู่ในแนวทิศเหนือ (ใช้เข็มทิศ) เพื่ อ ป้ อ งกั น การหลง
ทิศและควรพิจารณาลักษณะภูมิประเทศจากแผนที่ภูมิประเทศประกอบ เพื่อเลือกเส้ น ทางเดิ น ที่ เ หมาะสม
เช่นเดินตามลาห้วย ตามสันเขา หรือตัดตรงไปตามทิศทาง ระหว่างเส้ น ทางการเดิ น ให้ สั ง เกตจุ ด เด่ น ที่
สังเกตได้ง่าย เช่น ทางแยก ลานหิน สันเขา ลาห้วย หรื อ ก้ อ นหิ น ขนาดใหญ่ เป็ น ต้ น พร้ อ มบั น ทึ ก
(mark) ค่าพิกัด UTM ของจุ ด ดั ง กล่ า วไว้ ใ นเครื่ อ ง GPS แล้ ว บั น ทึ ก ค่ า ลงใน แบบฯ ที่ 2 หั ว เรื่ อ ง
Navigation Notes และบรรยายการเดินทาง ในหัวเรื่อง Notes (From Starting Point to Cluster Center)
3. เมื่อเดินทางถึงจุดที่ค่าพิกัด UTM ที่อ่านได้จากเครื่อง GPS ตรงกับค่าพิกัดของ กลุ่ม แปลง
ตัวอย่างที่กาหนดไว้ในแผนที่ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ทั้งนี้เนื่องจากการอ่ า นค่ า พิ กั ด ของเครื่ อ ง GPS
เอง แสดงว่าได้เดินทางมาถึงจุดศูนย์กลางของกลุ่มแปลงตัวอย่างแล้ว บันทึกค่าพิกั ด ดั ง กล่ า วลงในเครื่ อ ง
GPS และในแบบบันทึกข้อมูลทุกแบบหัวเรื่อง GPS Plot Centre (Site) พร้อมกับค่าความคลาดเคลื่ อ น
(EPE) โดยดูจากเครื่อง GPS ลงในแบบฯ ที่ 1 ช่อง Comment และบันทึกเวลาที่เดินทางถึงจุดศู น ย์ ก ลาง
ของกลุ่มแปลงตัวอย่าง ในแบบฯ ที่ 2 หัวเรื่อง Time ช่องหมายเลข 3 (Arrive Plot Centre) จากนั้ น ท า
การฝังแท่งเหล็กที่ตาแหน่งจุดศูนย์กลางของกลุ่มแปลงตัวอย่างให้อยู่ต่ ากว่ า ระดั บผิ ว ดิ น ประมาณ 5 ซม.
เพื่อใช้ในการติดตามการ เปลี่ยนแปลงในอนาคต กรณีไม่สามารถฝั ง แท่ ง เหล็ ก เนื่ อ งจากสาเหตุ ต่ า งๆ
เช่น ชั้นล่างเป็นหิน พื้นที่เป็นลานหินหรือเป็นแหล่งน้า ให้พิจารณาบริเวณใกล้เคียงที่สามารถด าเนิ น การได้
29
แล้ววัดมุม พร้อมระยะทางจากตาแหน่งที่ฝังแท่งเหล็กได้ไปยังจุดศูนย์กลางกลุ่ม แปลงตั ว อย่ า ง แล้ ว บั น ทึ ก
ลงในแบบฯ ที่ 1 ช่อง Comment ด้วย
4. วาดแผนที่สังเขปลงในแบบฯ ที่ 1 หัวเรื่ อ ง Sample Plot Location Sketch Map แสดง
เส้นทางการเดินทางจากที่พัก (Camp) ถึงจุดศูนย์กลางของกลุ่มแปลงตัวอย่าง
5. กรณีไม่สามารถเดินทางไปถึงกลุ่ม แปลงตั ว อย่ า งที่ ก าหนด หรื อ ไปถึ ง แล้ ว แต่ ไ ม่ ส ามารถ
ปฏิบัติงานได้เนื่องจากมีอุปสรรคหรือความเสี่ยงภัย เช่น ยานพาหนะเสียหาย ฝนตกหนั ก ไม่ ส ามารถข้ า ม
น้าได้ เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่หวงห้ามเฉพาะ เป็นต้น ให้ระงับการปฏิบัติงานและพิ จ ารณาว่ า จะระงั บเป็ น
การชั่วคราวหรือถาวร พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ แล้วบันทึกลงในแบบฯ ที่ 10
การวางแปลงตัวอย่าง
แปลงตัวอย่างที่ใช้ใ นการเก็บข้อมูลมี ทั้งแปลงตัวอย่างถาวร (Permanent Sample Plot) และ
แปลงตัวอย่างชั่วคราว (Temporary Sample Plot) โดยแปลงตัวอย่ างถาวรจะเก็บข้อมูล ครบทุกหัวข้อ
และมีการติดตามผล ส่วนแปลงตัวอย่างชั่วคราวจะไม่เก็บข้อมูล บางรายการและไม่มีการติดตามผล โดยมี
ขั้นตอนการวางแปลงตัวอย่างดังนี้
1. วางแปลงตัวอย่างรูปวงกลมที่ มี จุ ด ศู น ย์ ก ลางร่ ว มกั น รั ศ มี ต่ า งกั น จ านวน 3 แปลง
คือรัศมี 3.99 12.62 และ 17.84 เมตรตามลาดับ จุดศูนย์กลางของกลุ่มแปลงตั ว อย่ า งที่ ฝั ง แท่ ง
เหล็กจะเป็นจุดศูนย์กลางของแปลงตั ว อย่ า งถาวร หาเศษไม้ ปลายไม้ ที่ อ ยู่ น อกพื้ น ที่ แปลงตั ว อย่ า ง
(ระยะทางมากกว่า 20 เมตรจากจุดศูนย์กลาง) เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกั บข้ อ มู ล ในแปลงตั ว อย่ า ง ท า
เป็นหลักปักไว้ที่จุดศูนย์กลางแล้วใช้เชือกสร้างเป็นวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกันทั้ง 3 แปลง
2. วางแปลงตัวอย่างรูปวงกลมที่มีรัศมีเท่ากันแต่จุดศูนย์กลางต่างกันจานวน 4 แปลง รัศมี 0.631
เมตร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่บนเส้นรอบวงของวงกลมรัศมี 3.99 เมตร ไปตามทิศ หลั ก ทั้ ง 4 ทิ ศ คื อ
ทิศเหนือ (N) ทิศตะวันออก (E) ทิศใต้ (S) และทิศตะวันตก (W)
3. วางแปลงตัวอย่างที่มีลักษณะเป็นเส้นตรง (Transect Line) จานวน 2 เส้ น ความยาวเส้ น ละ
17.84 เมตร ทั้งสองเส้นเริ่มต้นจากจุดศูนย์กลางของแปลงตั ว อย่ า ง ท ามุ ม ตั้ ง ฉากกั น โดยเส้ น ที่ 1
(Transect 1) ได้กาหนดค่ามุม Azimuth ไว้แล้ว เส้นที่ 2 (Transect 2) จะมีค่ามุมเท่ากับเส้น ที่ 1 บวก
90 องศา
4. รัศมีของแปลงตัวอย่างรูปวงกลมกาหนดเป็นค่าของระยะทางตามแนวราบ (Horizontal Length)
ดังนั้นหากพื้นที่มีความลาดชัน (Slope) จะต้องทาการปรับแก้ระยะทาง โดยใช้ เ ข็ ม ทิ ศ วั ด ค่ า ความลาดชั น
แล้วปรับแก้ระยะทางตามตารางเปรียบเทียบระยะทางตามแนวราบกับระยะทาง ตามแนวลาดชั น ดั ง แสดง
ในตารางที่ 3
5. ตาแหน่งจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างชั่วคราว จานวน 4 แปลง ก าหนดให้ ห่ า ง จากจุ ด
ศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างถาวร เป็นระยะทางในแนวราบเท่ า กั บ 50 เมตร ตามทิ ศ หลั ก ทั้ ง 4 ทิ ศ
การหาตาแหน่งจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างชั่วคราวทั้ง 4 แปลง สามารถด าเนิ น การได้ ด้ ว ยการใช้ เ ทป
วัดระยะทางหรือเครื่อง GPS ขึ้นกับสภาพภูมิประเทศ การวางแปลงตัวอย่าง ให้ดาเนินการเช่ น เดี ย วกั บ
การวางแปลงตัวอย่างถาวร ที่จุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่า งชั่ ว คราว ทุ ก แปลงให้ บัน ทึ ก ค่ า พิ กั ด UTM
ลงในเครื่อง GPS และบันทึกลงในแบบฯ ทุกแบบของแต่ละ Plot Site หัวเรื่อง GPS Plot Centre (Site)
30
6. เพื่อความชัดเจนในการบันทึกและรวบรวมแบบบั น ทึ ก ข้ อ มู ล แต่ ล ะชุ ด ได้ ก าหนดอั ก ษรย่ อ
ประจาแปลงตัวอย่างแต่ละแปลง (Plot Site) ไว้ดังนี้
6.1 อักษร C = แปลงตัวอย่างถาวร หรือแปลงที่อยู่ตรงกลาง (Cluster Center)
6.2 อักษร N = แปลงที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ (North)
6.3 อักษร E = แปลงที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออก (East)
6.4 อักษร S = แปลงที่อยู่ทางด้านทิศใต้ (South)
6.5 อักษร W = แปลงที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก (West)
เมื่อเก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างใด ให้บันทึกอักษรย่อประจ าแปลงตั ว อย่ า งนั้ น ๆ ควบคู่ ไ ปกั บ
หมายเลขกลุ่มแปลงตัวอย่าง หัวเรื่อง Cluster # และ Plot Site ในแบบฯ ทุกแบบทุกหน้า
7. เมื่อวางแปลงตัวอย่างเสร็จแล้ว ให้ถ่ายภาพบริเวณจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่า งและสภาพ
ทั่วไปบริเวณแปลงตัวอย่าง จานวน 3-4 ภาพ พร้อมกับบันทึกเลขลาดับม้วนฟิล์มและหมายเลขล าดั บภาพ
เช่น ม้วนที่ 1 ภาพที่ 1–4 ไว้ในแบบฯ ที่ 1 หัวเรื่อง Comment
8. บันทึกค่าความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง (MSL) ของที่ ตั้ ง แปลงตั ว อย่ า งใน หั ว เรื่ อ ง
Elevation Plot Centre (m)
31
ตารางที่ 2 เปรียบเทีย บรัศ มีของแปลงตัวอย่ างรูปวงกลมระหว่างระยะทางตามแนวราบกับระยะทาง
ตามแนวลาดชัน
θ
B
ภาพที่ 2 การปรับแก้ระยะทางตามความลาดชันเป็นระยะทางในแนวราบ
4. การเก็บข้อมูลไม้ยืนต้น (Trees)
4.1 ใช้แบบบันทึกข้อมูลแบบที่ 4
4.2 เก็บข้อมูลในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี 17.84 เมตร
4.3 เลือกวัดเฉพาะต้นไม้ที่มีขนาดเส้นรอบวงเพียงอก (GBH) มากกว่า หรื อ เท่ า กั บ 15
เซนติเมตรขึ้นไป พร้อมระบุว่าวัดด้วยเครื่องมือ (M) หรือการประมาณ (E)
4.4 บันทึกข้อมูลชนิดไม้และรายละเอียดเกี่ยวกับต้นไม้ ดังนี้
4.4.1 ตาแหน่งของต้นไม้ (Position) ทาการวั ด ค่ า มุ ม Azimuth โดยใช้ เ ข็ ม ทิ ศ
ส่องมุมจากจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างไปยังจุด กึ่ ง กลางของต้ น ไม้ พร้ อ มวั ด ระยะทางระหว่ า งจุ ด
ศูนย์กลางของแปลงตัวอย่างถึงจุดกึ่งกลางด้านข้างบริเวณเปลือกนอกของต้นไม้ (ภาพที่ 3)
34
ภาพที่ 3 การวัดมุมและระยะทางของตาแหน่งต้นไม้
การกาหนดจุดอ้างอิงของแปลงตัวอย่าง
การกาหนดจุดอ้างอิงของแปลงตัวอย่างจะมีทั้งภายในและภายนอกแปลงตัวอย่าง ซึ่งจะดาเนินการ
เฉพาะในแปลงตัวอย่างถาวรเท่านั้น เพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงสาหรับติดตามการเปลี่ยนแปลง
1. จุดอ้างอิงภายในแปลงตัว อย่ า ง (Reference Point Inside Plot ; RIP) มี ขั้ น ตอน ด าเนิ น การ
ดังนี้
1.1 เลือกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี 17.84 เมตร ที่เป็นจุดเด่ น
สังเกตได้ง่าย แล้วทาเครื่องหมายจุดอ้างอิงโดยใช้สีสเปรย์พ่นคาว่า “RIP” ตามด้วยหมายเลข Cluster นั้ น ๆ
เช่น “RIP 123” โดยพ่นให้อยู่ในระดับสายตา
1.2 บันทึก คาว่า RIP ในช่อง Remark ของแบบฯ แบบที่ 4 ให้ตรงกับช่ อ งข้ อ มู ล ของ
ต้นไม้ที่เลือก
1.3 บันทึกค่าพิกัดของต้นไม้ที่ถูกเลือก พร้อมบันทึกค่าลงในแบบฯ ที่ 2 ช่อง Comments
1.4 กรณีหาต้นไม้ที่เหมาะสมไม่ได้หรือไม่มีต้นไม้ ให้หาจุดอ้างอิงอื่นๆแทน เช่ น ก้ อ น
หินขนาดใหญ่ หรือใช้ไม้ปักในตาแหน่งที่เหมาะสมแล้วดาเนินการเช่นเดียวกัน
2. จุด อ้ า งอิ ง ภายนอกแปลงตั ว อย่ า ง (Reference Point Outside Plot ; ROP) มี ขั้ น ตอน
ดาเนินการ ดังนี้
2.1 เลือกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ เ ป็ น จุ ด เด่ น สั ง เกตได้ ง่ า ย มี ข นาดเส้ น รอบวงเพี ย งอก
ไม่น้อยกว่า 70 ซม. ที่อยู่นอกแปลงตัวอย่างรูปวงกลมรัศมี 17.84 เมตร และควรอยู่ห่างจากจุ ด ศู น ย์ ก ลาง
ของแปลงตัวอย่างไม่เกิน 50 เมตร ทาเครื่องหมายจุดอ้างอิง โดยใช้สีสเปรย์ พ่น ค าว่ า ROP ตามด้ ว ย
หมายเลข Cluster นั้นๆ เช่น “ROP 123” โดยพ่นให้อยู่ในระดับสายตา
2.2 บันทึกชนิดไม้ ขนาดเส้นรอบวงเพียงอก ค่าพิกัด ค่ามุม Azimuth และระยะทาง
จากจุด ROP ถึงจุดศูนย์กลางของแปลงตัวอย่าง ลงในแบบฯที่ 2 ในช่ อ ง Comment พร้ อ มกั บบั น ทึ ก ค่ า
พิกัดของ ROP ไว้ในเครื่อง GPS ด้วย
2.3 กรณีไม่สามารถหาต้นไม้ที่เหมาะสมได้ ให้ ห าจุ ด อ้ า งอิ ง อื่ น ๆแทน เช่ น ก้ อ นหิ น
ขนาดใหญ่ หรือใช้ไม้ปักในตาแหน่งที่เหมาะสมแล้วดาเนินการเช่นเดียวกัน
38
การดาเนิ นการหลังเสร็จสิ้ นการเก็บข้อมูล
หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานภาคสนามในแต่ละเดือน ให้ตรวจสอบและรวบรวมแบบบั น ทึ ก
ข้อมูลทุกแบบทุกแปลงตัวอย่างที่ปฏิบัติงานในเดือนนั้นๆ ส่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิ ด ชอบด้ า นการประมวลผล
และวิเคราะห์ข้อมูลดาเนินการต่อไป พร้อมนาข้อมูลในเครื่อง GPS บันทึกลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
39
บทที่ 5
การเก็บตัวอย่างพรรณไม้
อุปกรณ์ในการเก็บตัวอย่างพรรณไม้
1. ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ สาหรับเก็ บตั ว อย่ า งพรรณไม้ ข ณะเดิ น ป่ า และขนาด 4 x 6 นิ้ ว
สาหรับดองตัวอย่างขนาดเล็ก เช่น ดอก ผล
2. แผงอัดพรรณไม้ ขนาด 12 x 18 นิ้ว พร้อมด้วยเชือกหรือเข็มขัดสาหรับมัดหรือรัดแผง
3. กระดาษอัดพรรณไม้ โดยอาจใช้กระดาษฟาง กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษลูกฟูก ในการอัด
4. กรรไกรตัดกิ่งไม้ เพื่อใช้ตัด ตกแต่ง ตัวอย่างพรรณไม้
5. ป้า ย (Tag) สาหรับเขียนหมายเลขหรือชื่อพรรณไม้ ผูกติดกับตัวอย่างพรรณไม้
40
6. สมุด บัน ทึก สาหรับบั นทึกรายละเอียดพรรณไม้ที่เก็บ
7. ดินสอดาอย่างดี สาหรับจดบัน ทึก (ไม่ควรใช้ปากกาในการจดบันทึก เพราะสีของหมึก
จะจางหรือซึมได้เมื่อถูกความชื้น )
วิธีเก็บตัวอย่างพรรณไม้
ในการตรวจหาชื่อพรรณไม้ (Identification) นั้น ต้องอาศัยลักษณะต่ าง ๆ ของใบ ดอกและ
ผลเป็นหลักส าคั ญ ส่วนมากตรวจจากส่ว นประกอบต่ าง ๆ ของดอก คือ จานวน ลัก ษณะ ขนาดของ
เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย รังไข่ กลีบดอก กลีบเลี้ ยง และลัก ษณะของผล พืชบางชนิด มีลัก ษณะ
เด่นชัด สามารถตรวจหาชื่อได้เ พียงแต่เห็ นใบ บางชนิด ต้องตรวจถึงดอกด้ว ย บางชนิดต้องอาศัย ทั้งใบ
ดอกและผลด้ว ย ดังนั้นการเก็บตัวอย่างพรรณไม้ จึงต้องพยายามเก็บให้ได้ตั วอย่างที่ส มบูร ณ์ คือ มีครบ
ทั้งใบ ดอกและผล (ภาพที่ 4)
ภาพที่ 5 ลักษณะการเก็บใบ
การเก็บตัวอย่างพรรณไม้ที่มีขนาดใหญ่หรือเห็นว่าจาเป็นต้องแยกชิ้นส่วนของพรรณไม้ อ อกเป็ น
หลายชิ้นส่วน จะต้องเขียนหมายเลขหรือผูกหมายเลขติดกับชิ้นส่วนตัวอย่างทุกชิ้น ด้วยหมายเลขเดียวกั น
เพื่อป้องกันความสับสน และถ้าเป็นไปได้ควรบันทึกภาพของพรรณไม้ไว้ด้วย พร้อมทั้งบั น ทึ ก รายละเอี ย ด
ของพรรณไม้ที่เก็บให้ชัดเจนครบถ้วน (ตามแบบบันทึกข้อมูลแบบที่ 9) จะช่วยให้ ก ารวิ เ คราะห์ ชื่ อ พรรณ
ไม้กระทาได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
43
พรรณไม้ชนิดหนึ่งๆ นั้น ควรเก็บตัวอย่างประมาณ 3 – 8 ชิ้น แล้วแต่กรณี เก็บใส่ถุงพลาสติ ก
เมื่อเวลาเดินสารวจ แล้วนาออกมาอัดในแผงอัดพรรณไม้ทันทีเมื่อมีโอกาส ถ้าเป็นไปได้ค วรรีบด าเนิ น การ
เพื่อที่พรรณไม้จะยังคงความสด เขียวและจัดแต่งง่าย ใบจะเรียบไม่เสียรูปทรง
Dransfield, J. 1979. A Manul of The Rattans of the Malay Peninsular. Forest Department,
Ministry of Primary Industries Malaysia. 270 P.
Veldkamp, J.F. 1987. Survey of Vegetative Characters. Manual of Herbarium Taxonomy Theory
and Practice, UNESCO. MAB Jakata, Indonesia. 74 P.
48
ภาคผนวก