Professional Documents
Culture Documents
TIS 540 2545m - มาตรฐานออกซิเจนทางการแพทย์
TIS 540 2545m - มาตรฐานออกซิเจนทางการแพทย์
TIS 540 2545m - มาตรฐานออกซิเจนทางการแพทย์
540–2545
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม
ออกซิเจนการแพทย์
1. ขอบข่าย
1.1 มาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรมนีค้ รอบคลุมเฉพาะออกซิเจนการแพทย์ เท่านัน้
2. บทนิยาม
ความหมายของคำทีใ่ ช้ในมาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรมนี้ มีดงั ต่อไปนี้
2.1 ออกซิเจนการแพทย์ ซึง่ ต่อไปในมาตรฐานนีจ้ ะเรียกว่า “ออกซิเจน” หมายถึง ออกซิเจนทีอ่ ยูใ่ นสภาวะก๊าซหรือ
ของเหลว มีสตู รเคมี O2 สำหรับใช้ในการแพทย์
3. คุณลักษณะทีต่ อ้ งการ
3.1 ลักษณะทัว่ ไป
ในสภาวะก๊าซ ไม่มกี ลิน่ ไม่มสี ี ในสภาวะของเหลว ไม่มกี ลิน่ มีสฟี า้ อ่อน
3.2 คุณลักษณะทีต่ อ้ งการทางฟิสกิ ส์และทางเคมี
ให้เป็นไปตามทีก่ ำหนดในตารางที่ 1
–1–
มอก. 540–2545
–2–
มอก. 540–2545
4. การบรรจุ
4.1 ภาชนะทีใ่ ช้บรรจุออกซิเจนต้องสะอาด และใช้บรรจุออกซิเจนเท่านัน้
4.2 ภาชนะบรรจุทเ่ี ป็นท่อ (cylinder) ให้เป็นไปตาม มอก. 359
ในกรณีเป็นท่อทีใ่ ช้แล้ว ให้ตรวจสภาพท่อตาม มอก. 358
4.3 สี ท่อบรรจุออกซิเจนให้ใช้สเี ขียวมรกต ส่วนคอและไหล่ให้ใช้สขี าว ตาม มอก. 87
4.4 ข้อต่อท่อบรรจุออกซิเจน ให้เป็นไปตาม มอก. 1095
4.5 ภาชนะบรรจุที่เป็นถังเก็บออกซิเจนเหลว ให้เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ถังเก็บก๊าซเหลว
(ในกรณีทย่ี งั มิได้มกี ารประกาศกำหนดมาตรฐานดังกล่าว ให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างผูซ้ อ้ื กับผูข้ าย)
4.6 ให้มวี สั ดุหมุ้ ห่อข้อต่อท่อบรรจุออกซิเจน เพือ่ ป้องกันสิง่ สกปรกเข้าไปในข้อต่อ และเพือ่ แยกท่อทีย่ งั ไม่ได้ใช้งาน
ออกจากท่อทีใ่ ช้แล้ว และให้มชี อ่ื หรือเครือ่ งหมายการค้าของผูบ้ รรจุทว่ี สั ดุหมุ้ ห่อด้วย
5. เครือ่ งหมายและฉลาก
5.1 ทีภ่ าชนะบรรจุออกซิเจนทุกหน่วยหรือทีฉ่ ลากทีต่ ดิ อยูก่ บั ภาชนะบรรจุออกซิเจนทุกหน่วย อย่างน้อยต้องมีเลข
อักษรหรือเครือ่ งหมาย แจ้งรายละเอียดต่อไปนีใ้ ห้เห็นได้งา่ ย ชัดเจนและไม่ลบเลือน
5.1.1 ในกรณีทเ่ี ป็นท่อบรรจุออกซิเจน
(1) เครือ่ งหมายกากบาทสีแดงล้อมรอบด้วยวงกลมสีแดงบนส่วนไหล่ และคำว่า “ออกซิเจนการแพทย์”
และสูตรเคมี “O2” โดยใช้อกั ษรสีขาวทีต่ วั ท่อ ขนาดสูงไม่ตำ่ กว่า 1 ใน 8 ของเส้นผ่านศูนย์กลาง
ของท่อ
(2) ชือ่ ผูท้ ำหรือโรงงานทีท่ ำ หรือเครือ่ งหมายการค้าทีจ่ ดทะเบียน และชือ่ ผูจ้ ดั จำหน่าย พร้อมสถานทีต่ ง้ั
(3) รหัสรุน่ ทีท่ ำ
(4) ปริมาตรของออกซิเจนเป็นลูกบาศก์เดซิเมตรทีค่ วามดัน 0.1 เมกะพาสคัล และความดันของออกซิเจน
ทีบ่ รรจุ เป็นเมกะพาสคัล ทีอ่ ณุ หภูมิ 27 องศาเซลเซียส ± 2 องศาเซลเซียส
(5) ข้อความหรือเครือ่ งหมายแสดงคำเตือนว่า “ห้ามใช้สารหล่อลืน่ กับข้อต่อ” และคำแนะนำการเก็บและ
การเคลือ่ นย้ายอย่างปลอดภัยสำหรับผูใ้ ช้
5.1.2 ในกรณีทเ่ี ป็นถังเก็บออกซิเจนเหลว
(1) คำว่า “ออกซิเจนการแพทย์” และสูตรเคมี “O2” โดยใช้อกั ษรสีดำ
(2) ข้อความหรือเครือ่ งหมายแสดงคำเตือน เช่น ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามทำให้เกิดประกายไฟ ห้ามนำสารไวไฟ
เข้าใกล้
ในกรณีทใ่ี ช้ภาษาต่างประเทศ ต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยทีก่ ำหนดไว้ขา้ งต้น
หมายเหตุ ผู้ทำหรือโรงงานที่ทำ หมายถึง ผู้ทำและผู้บรรจุในรายเดียวกัน หรือผู้บรรจุที่รับออกซิเจนจากผู้อื่น
มาบรรจุ
6. การชักตัวอย่างและเกณฑ์ตดั สิน
6.1 การชักตัวอย่างและเกณฑ์ตดั สินให้เป็นไปตามภาคผนวก ก.
–3–
มอก. 540–2545
7. การวิเคราะห์
7.1 ข้อกำหนดทัว่ ไป
7.1.1 ให้ใช้วิธีวิเคราะห์ที่กำหนดในมาตรฐานนี้หรือวิธีอื่นที่ให้ผลเทียบเท่า แต่ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งให้ใช้วิธีที่
กำหนดในมาตรฐานนีเ้ ป็นวิธตี ดั สิน
7.1.2 หากมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอืน่ น้ำกลัน่ และสารเคมีทใ่ี ช้ตอ้ งมีความบริสทุ ธิเ์ หมาะสำหรับใช้ในการวิเคราะห์
7.2 การวิเคราะห์ความชืน้
7.2.1 เครื่องมือ
เครือ่ งมือวิเคราะห์ปริมาณความชืน้ ดังรูปที่ 1
7.2.2 สารเคมี
7.2.2.1 คาร์บอนไดออกไซด์แข็ง
7.2.2.2 แอซีโทนหรือเอทานอล
7.2.3 วิธวี เิ คราะห์
7.2.3.1 ผ่านก๊าซตัวอย่างเข้าทางท่อนำก๊าซเข้า ด้วยอัตรา 1 ลูกบาศก์เดซิเมตรต่อนาที ถึง 5 ลูกบาศก์เดซิเมตร
ต่อนาที เติมแอซีโทนหรือเอทานอลลงในภาชนะทรงกระบอก ประมาณครึง่ หนึง่ ของความสูง
7.2.3.2 ค่อยๆ เติมคาร์บอนไดออกไซด์แข็งชิน้ เล็กๆ พร้อมทัง้ คนตลอดเวลา จนกระทัง่ สังเกตเห็นละออง
ไอน้ำเกิดทีผ่ วิ นอกของภาชนะทรงกระบอก A ตรงปลายท่อนำก๊าซเข้า อ่านอุณหภูมทิ นั ที
7.2.3.3 ทำซ้ำโดยปล่อยให้อณ ุ หภูมสิ งู ขึน้ จนกระทัง่ ละอองไอน้ำหายไป แล้วปฏิบตั ติ ามข้อ 7.2.3.2 ซ้ำจน
ได้คา่ อุณหภูมคิ งที่ อุณหภูมทิ อ่ี า่ นได้ตอ้ งต่ำกว่าหรือเท่ากับ-40 องศาเซลเซียส จึงจะถือว่ามีปริมาณ
ความชืน้ ไม่เกิน 0.12 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร
–4–
มอก. 540–2545
7.3 การวิเคราะหความเปนกรดหรือความเปนดาง
7.3.1 เครือ่ งมือ (ดูรปู ที่ 2)
7.3.1.1 หลอดแกวรูปทรงกระบอกจำนวน 3 หลอด ขนาดเสนผานศูนยกลางภายใน 30 มิลลิเมตร สูง
ประมาณ 180 มิลลิเมตร พรอมจุกปด เฉพาะหลอดแกวหลอดที่ 2 มีจกุ ยางซึง่ เจาะรูใสหลอดนำกาซ
เขาขนาดเสนผานศูนยกลางภายใน 0.5 มิลลิเมตร ยาวเกือบถึงกนหลอด และมีหลอดนำกาซออก
ซึง่ ตอกับเครือ่ งวัดปริมาณกาซ
7.3.1.2 เครือ่ งวัดปริมาณกาซ
7.3.2 สารละลายและวิธเี ตรียม
7.3.2.1 สารละลายกรดไฮโดรคลอริก 0.01 โมลตอลูกบาศกเดซิเมตร
7.3.2.2 สารละลายเมทิลเรดอินดิเคเตอร รอยละ 0.5 โดยน้ำหนัก
ละลายเมทิลเรด 0.5 กรัม ในน้ำกลัน่ 100 ลูกบาศกเซนติเมตร
–5–
มอก. 540–2545
หนวยเปนมิลลิเมตร
รูปที่ 2 เครือ่ งมือวิเคราะหความเปนกรดหรือความเปนดาง
(ขอ 7.3.1 และขอ 7.4.1)
7.4 การวิเคราะหสารออกซิไดส
7.4.1 เครื่องมือ
หลอดแกวรูปทรงกระบอก เชนเดียวกับขอ 7.3.1.1 หลอดที่ 1 และหลอดที่ 2
7.4.2 สารเคมี สารละลายและวิธเี ตรียม
7.4.2.1 กรดเกลเชียลแอซีตกิ ความหนาแนน 1.049 กรัมตอลูกบาศกเซนติเมตร
–6–
มอก. 540–2545
7.4.2.2 สารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์-น้ำแป้ง
ละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์ 0.75 กรัม ในน้ำกลัน่ 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร ต้มให้เดือด เติมน้ำแป้ง
(ละลายแป้ง 0.5 กรัม ในน้ำกลัน่ 35 ลูกบาศก์เซนติเมตร) ลงไปจนหมดพร้อมทัง้ คนสม่ำเสมอ
ต้มให้เดือดอีก 2 นาทีถงึ 3 นาที ปล่อยให้เย็น
ทดสอบความไวของสารละลาย โดยนำสารละลายมา 15 ลูกบาศก์เซนติเมตร เติมกรดเกลเชียลแอซีตกิ
0.05 ลูกบาศก์เซนติเมตรและไอโอดีน 0.5 มิลลิโมลต่อลูกบาศก์เดซิเมตร 0.25 ลูกบาศก์เซนติเมตร
สารละลายต้องเปลีย่ นเป็นสีนำ้ เงิน
7.4.3 วิธวี เิ คราะห์
เติมสารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์-น้ำแป้ง ซึง่ เตรียมขึน้ ใหม่ๆ 50 ลูกบาศก์เซนติเมตรและกรดเกลเชียล
แอซีตกิ 0.2 ลูกบาศก์เซนติเมตร ลงในหลอดแก้วทัง้ สอง แล้วผ่านก๊าซตัวอย่าง 5 ลูกบาศก์เดซิเมตร
ลงไปในหลอดแก้วหลอดที่ 2 สีของสารละลายในหลอดแก้วหลอดที่ 2 ต้องเหมือนกับสีของสารละลาย
ในหลอดแก้วหลอดที่ 1 จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบ การทดสอบนีค้ วรกระทำในทีซ่ ง่ึ ไม่มแี สงสว่างมาก
เกินไป
7.5 การวิเคราะห์ความบริสทุ ธิ์
ให้ใช้เครือ่ งมือวิเคราะห์ความบริสทุ ธิท์ ก่ี ำหนดต่อไปนี้ หรืออาจใช้เครือ่ งมือวิเคราะห์ความบริสทุ ธิอ์ น่ื ทีเ่ ทียบเท่า
ซึง่ ต้องแสดงค่าในช่วงร้อยละ 99 ถึงร้อยละ 100 ได้ละเอียดอย่างน้อย 0.1 ในกรณีทม่ี ปี ญ ั หาให้ใช้วธิ วี เิ คราะห์ท่ี
กำหนดต่อไปนีเ้ ป็นวิธตี ดั สิน
7.5.1 เครือ่ งมือวิเคราะห์ความบริสทุ ธิ์ ตัวอย่างดังแสดงในรูปที่ 3
–7–
มอก. 540–2545
–8–
มอก. 540–2545
–9–
มอก. 540–2545
ภาคผนวก ก.
การชักตัวอย่างและเกณฑ์ตดั สิน
(ข้อ 6.1)
ขนาดรุน ขนาดตัวอยาง
หนวยภาชนะบรรจุ หนวยภาชนะบรรจุ
1 ถึง 30 1
31 ถึง 60 2
ตั้งแต 60 ขึ้นไป 3
–10–
มอก. 540–2545
ภาคผนวก ข.
ข้อแนะนำในการเก็บและเคลื่อนย้าย
ข.1 การเก็บท่อออกซิเจน
ข.1.1 ต้องกำหนดสถานทีเ่ ก็บให้แน่นอน และสถานทีเ่ ก็บนัน้ ต้องเป็นทีแ่ ห้งและอากาศถ่ายเทได้ดี ถ้าเก็บนอก
อาคารต้องมีทร่ี องรับและหลังคากันแดดกันฝน
ข.1.2 ห้ามเก็บท่อใกล้วตั ถุไวไฟ เช่น น้ำมัน ไข สารทีไ่ หม้ไฟได้ หรือใต้เพลาเครือ่ งจักร หรือสถานทีซ่ ง่ึ น้ำมัน
สามารถหยดลงบนท่อ ลิน้ หรือส่วนประกอบอืน่ ๆ ของท่อได้
ข.1.3 ไม่ควรเก็บท่อออกซิเจนไว้ในห้องเดียวกับทีผ่ ลิตอะเซทิลนี หรือใกล้กบั ท่อบรรจุกา๊ ซอะเซทิลนี หรือก๊าซอืน่ ๆ
ทีไ่ หม้ไฟได้ ถ้าจำเป็นต้องเก็บห้องเดียวกัน ต้องเก็บให้หา่ งจากกันอย่างน้อย 6 เมตร หรือมิฉะนัน้ ให้กน้ั
ด้วยผนังกันไฟ ซึง่ มีอตั ราการต้านไฟอย่างน้อย 30 นาที สูงอย่างน้อย 1.50 เมตร
ข.1.4 ไม่ควรให้อณ ุ หภูมขิ องท่อสูงถึง 50 องศาเซลเซียส เพราะความดันในท่อจะเพิม่ ขึน้ ตามอุณหภูมทิ ส่ี งู ขึน้
ห้ามเก็บท่อไว้ใกล้เตาไฟ เครือ่ งกระจายความร้อนและแหล่งให้ความร้อน
ข.1.5 ต้องมีวธิ ปี อ้ งกันมิให้ทอ่ ล้ม เช่น มีสายรัด
ข.1.6 ต้องไม่ให้ทอ่ ได้รบั การกระทบกระแทกอย่างแรง ซึง่ อาจทำให้ตวั ท่อ ลิน้ หรืออุปกรณ์นริ ภัยอืน่ ๆ เสียหายได้
ไม่ควรเก็บท่อใกล้ลฟิ ต์ ทางเดิน หรือสถานทีม่ กี ารเคลือ่ นย้ายวัตถุหนักๆ ไปมา เพราะอาจกระแทกหรือ
ตกทับท่อได้
ข.1.7 ต้องปิดฝาครอบลิน้ ให้แน่นอยูเ่ สมอ เว้นแต่ในขณะใช้งาน
ข.1.8 ห้ามบุคคลทีไ่ ม่เกีย่ วข้องเข้าไปในบริเวณทีเ่ ก็บท่อ
ข.1.9 ควรเก็บท่อให้ใช้ได้ตามลำดับก่อนหลังทีไ่ ด้รบั มา
ข.1.10 ควรแยกท่อเปล่าและท่อมีกา๊ ซอยูเ่ ต็มออกจากกัน ท่อเปล่าควรปิดลิน้ และฝาครอบลิน้ ให้สนิท และทำเครือ่ ง
หมายไว้เพือ่ ป้องกันมิให้สบั สน
ข.1.11 ห้ามเก็บท่อไว้ในทีช่ น้ื ใกล้เกลือ หรือสารเคมีกดั กร่อน เพราะจะทำให้ทอ่ เป็นสนิม และฝาครอบลิน้ ติดแน่น
กับท่อ
ข.1.12 ห้ามสูบบุหรีห่ รือทำให้เกิดประกายไฟในบริเวณใช้งาน
ข.2 การเคลือ่ นย้ายท่อออกซิเจน
ข.2.1 ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้กระเทือนหรือกระแทก ห้ามโยนท่อ และต้องปิดฝาครอบลิน้ ให้แน่น
อยู่เสมอ
ข.2.2 พาหนะบรรทุกออกซิเจนต้องมีสายรัดท่อไว้ให้แน่น ควรมีทย่ี ดึ ให้มน่ั คงเพือ่ ไม่ให้หล่น และท่อควรจะตัง้ ตรง
ข.2.3 พาหนะทีใ่ ช้ขนส่งท่อต้องมีขอ้ ความ “ก๊าซอันตราย” ให้เห็นได้อย่างชัดเจน
–11–
มอก. 540–2545
ข.3 การเก็บและการเติมออกซิเจนเหลว
ข.3.1 ถังเก็บออกซิเจนเหลว ไม่ควรตั้งในบริเวณที่เสี่ยงต่ออันตรายจากการถูกชน หรือใกล้เคียงกับบริเวณ
ก่อสร้าง เสาไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงไฟฟ้า หรือใกล้เคียงกับบริเวณทีม่ เี ชือ้ เพลิง ตัวอย่างสถานทีต่ ง้ั ถังเก็บ
ออกซิเจนเหลว ดังแสดงในตารางที่ ข.1
ข.3.2 บริเวณทีต่ ง้ั ถังเก็บออกซิเจนเหลวต้องมีรว้ั สูงไม่นอ้ ยกว่า 2 เมตรล้อมรอบ กันไม่ให้บคุ คลทีไ่ ม่เกีย่ วข้อง
เข้าไป
ข.3.3 การเติมออกซิเจนเหลวทุกครัง้ ต้องกระทำโดยผูช้ ำนาญการด้วยความระมัดระวัง เพือ่ ป้องกันอันตรายซึง่
อาจเกิดขึ้นได้
ข.3.4 พาหนะขนส่งออกซิเจนเหลวต้องมีตวั อักษรระบุคำว่า “ออกซิเจนเหลว” และ “ก๊าซอันตราย” อย่างชัดเจน
ในทีซ่ ง่ึ สังเกตเห็นได้งา่ ย
ตารางที่ ข.1 ตัวอย่างสถานทีต่ ง้ั ถังเก็บออกซิเจนเหลว
(ข้อ ข.3.1)
–12–