Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 244

Chapter 701 ผีหน้ าตาแบบนีเ้ หรอ?

หลี่ซางอิ๋นนั้นเป็ น ‘นักแสดงที่เป็ นที่นิยมที่สุด’ ของสถาบันฝันร้าย


รอบตัวเขามีบรรยากาศของความบ้าคลัง่ ที่ไม่จาํ เป็ นต้องปลอมแปลง
ขึ้น เขาเพียงแค่ปล่อยให้ตวั เองเหมือนบ้าคลัง่ ไปเพื่อให้ตวั ละครนั้น
มีชีวติ ขึ้นมา ยืนอยูใ่ นเงามืดที่ทางเข้าโรงแรม เขาสวมชุดหญิงท้องที่
เขาเจอในตึกหลังหนึ่งแล้วดึงเอาอุปกรณ์แต่งหน้าจากกระเป๋ าคาด
เอวที่สวมเอาไว้ตลอดเวลาออกมา เพียงแค่ปาดพูก่ นั ไม่กี่ครั้งเขาก็ดู
ต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้ นเชิง
ด้วยรู ปลักษณ์นุ่มนวลโดยธรรมชาติและมีเครื่ องสําอางช่วย ถึงเขา
จะยังผมสั้น หลี่ซางอิ๋นก็ดูคล้ายผูห้ ญิงแล้ว
ไม่มีวกิ ผม ฉันคงต้องใช้หมวกแทน
เขาวิง่ เข้าไปในตึกข้าง ๆ หาผ้าปูเตียงผืนหนึ่งมาแล้วม้วนมันเป็ น
ก้อนกลมและยัดเข้าไปใต้เสื้ อเชิ้ตของเขา ไม่สนใจว่าผ้าปูเตียงนัน่ จะ
สกปรกแค่ไหน
ตอนที่เขาเตรี ยมตัวเสร็ จแล้ว หลี่ซางอิ๋นก็กลับไปยังทางเข้าโรงแรม
เขามองจางจิงจิ่วที่อยูด่ า้ นในโรงแรมด้วยหางตา หลังจากปรับ
อารมณ์แล้ว เขาก็ร้องออกมาด้วยนํ้าเสี ยงแหบแห้งพร้อมนํ้าตา “คุณ
ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันทําของหาย”
เสี ยงของเขานั้นต่างไปจากก่อนหน้า ฟังคล้ายเสี ยงผูห้ ญิงมากขึ้น
จางจิงจิ่วที่ยงั เรี ยนการแสดงอยู่ เมื่อได้ยนิ เสี ยงร้องขอความ
ช่วยเหลือ เขาก็รีบวางโทรศัพท์ลง
ผูเ้ ข้าชมคนหนึ่งเหรอ? เขาคิดว่าในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะได้ลงมือ
แล้ว เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปยังทางเข้า
เห็นจางจิงจิ่วติดกับ หลี่ซางอิ๋นก็ถอยกลับเข้าไปในตรอกระหว่าง
โรงแรมและตึกข้าง ๆ ทันที เขายืนลึกอยูใ่ นตรอกดังนั้นคนด้านนอก
จึงมองเห็นแค่เงาของเขาเท่านั้น
“มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?” จางจิงจิ่วเห็นคนแอบอยูใ่ นตรอก เขา
คิดว่าเป็ นเพราะคนผูน้ ้ นั ก็คล้ายหวังตั้นที่ทาํ เหมือนทุกอย่างที่ตน
เห็นที่บา้ นผีสิงนั้นเป็ นผี
“ฉันทําบางอย่างที่สาํ คัญมากหาย คุณช่วยฉันหาหน่อยได้ไหม?” มัน
ก็ยงั เป็ นเสี ยงน่าสงสารของผูห้ ญิงที่พดู ออกมา แต่วา่ สี หน้าของหลี่
ซางอิ๋นในตอนนั้นกลับดูชวั่ ร้ายมาก หลังจากเขาเลิกเสแสร้ง นี่กค็ ือ
สี หน้าจริ ง ๆ ของเขา
“แน่นอนครับ” ถึงแม้วา่ จางจิงจิ่วจะสงสัย เขาก็ยงั คิดว่าไม่มีอะไรน่า
เป็ นห่วงเพราะว่านี่ยงั อยูใ่ นพื้นที่ของพวกเขา เขาเข้าไปในตรอกและ
สังเกตเห็นท้องที่นูนขึ้นมาของหลี่ซางอิ๋นเมื่อเข้าไปใกล้มากขึ้น
คนท้อง?
หน้าหนึ่งของคู่มือพนักงานวาบผ่านเข้ามาในใจของจางจิงจิ่ว เพราะ
คํานึงถึงความปลอดภัย คนท้องนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบ้าน
ผีสิง
ถ้าไม่ใช่ผเู ้ ข้าชม ก็คงเป็ นพนักงานเก่าที่นี่…
จางจิงจิ่วชะลอฝี เท้าลง เขารู ้ดีวา่ ‘สิ่ งนั้น’ ที่รับบทบาทนักแสดงใน
บ้านผีสิงอันที่จริ งคืออะไร
เมื่อเห็นผูช้ ายคนนั้นเดินช้าลง ดวงตาของหลี่ซางอิ๋นก็หรี่ ลง และเขา
ก็ยงิ่ ระแวดระวังมากขึ้น พวกเขาทั้งคู่ต่างสงสัยว่าอีกฝ่ ายนั้นเป็ นผี
และทั้งคู่กเ็ ริ่ มแสดงท่าทางประหลาดเพราะเรื่ องนั้น
“ฉันปวดท้องมาก คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันทําของหายแถว ๆ
นี้” หลี่ซางอิ๋นยังใช้เสี ยงปลอมพูดต่อ
“คุณทําอะไรหายเหรอครับ?” จางจิงจิ่วนั้นเกือบจะแน่ใจแล้วว่าเขา
กําลังรับมือกับพนักงานเก่า ดังนั้นความคิดที่ผเู ้ ข้าชมแกล้งปลอมตัว
มาหลอกเขานั้นจึงไม่เคยผ่านเข้ามาในใจเลย ถึงแม้วา่ เขาจะกลัว แต่
เมื่อคิดถึงว่าเขายังต้องทํางานอยูใ่ นบ้านผีสิงอีกนาน เขาย่อมต้อง
สร้างความสัมพันธ์อนั ดีกบั รุ่ นพี่ของตน ดังนั้นเขาจึงกดความกลัว
เอาไว้ ไม่วงิ่ หนีไป
ได้ยนิ คําตอบของจางจิงจิ่ว สี หน้าของหลี่ซางอิ๋นก็ทะมึนมากขึ้น
เวลาที่คนทัว่ ไปพบเจอคนท้องพูดว่าปวดท้องและเธอกําลังมองหา
บางอย่างอยูใ่ นบ้านผีสิง ไม่ใช่วา่ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาก็คือโทร
เรี ยกรถพยาบาลหรื อว่าติดต่อเจ้านายหรื อยังไง?
แต่วา่ ผูช้ ายคนนี้กลับคิดจริ งจังเหมือนอยากจะช่วยเขาหาของที่
หายไปอย่างจริ งใจ
“ฉันทําบางอย่างที่สาํ คัญหาย เขาอยูก่ บั ฉันมาเก้าเดือน ฉันกําลังจะ
ได้พบเขาแล้วในไม่ชา้ แต่วา่ ฉันบังเอิญทําเขาหายไป” หลี่ซางอิ๋น
‘ครํ่าครวญ’ หนักกว่าเดิม
ได้ยนิ คําบรรยายที่มากพอให้จางจิงจิ่วขนลุกเกรี ยว เขางึมงําอยูใ่ นใจ
งั้น ของสําคัญที่เธอทําหายก็คือลูกเธอแล้วไม่ใช่อะไรอื่น!
จางจิงจิ่วเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋ าและกดปุ่ มบนวิทยุสื่อสารอย่าง
เงียบ ๆ แต่วา่ ไม่มีใครตอบเลยว่าเขาควรจะทําอย่างไร ดังนั้นเขาจึง
ได้แต่พ่ งึ พาตัวเองแล้ว
ถ้าเธอไม่ใช่คนบ้าที่แอบเข้ามาในบ้านผีสิง อย่างนั้นเธอก็น่าจะเป็ น
พนักงานเก่าที่เจอปัญหาเข้า ถึงแม้วา่ ฉันจะเป็ นคนใหม่ที่นี่ อย่าง
น้อยที่สุดฉันก็ผา่ นอะไร ๆ มากับบอสเฉินตั้งมาก ดังนั้นฉันจะไม่
ยอมให้พนักงานเก่าดูถูกเอาได้
เมื่อคิดกลับไปถึงประสบการณ์ในเมืองหลี่วา่ นของเขา จางจิงจิ่วก็
ตัดสิ นใจได้
ไม่วา่ มันจะน่ากลัวแค่ไหน ก็คงไม่น่ากลัวไปกว่าเมืองหลี่วา่ นหรอก
ใช่ไหม?
เพราะคิดอย่างนี้อยูใ่ นใจ จางจิงจิ่วจึงเดินเข้าไปหา ‘คนท้อง’ และ
อาสาช่วยเหลือ “ไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ผมจะช่วยคุณตามหาเขา”
การที่เขาเดินเข้าไปช่วยอย่างไม่ลงั เลทําให้หลี่ซางอิ๋นเริ่ มตระหนก
สิ่ งต่าง ๆ ไม่เป็ นไปตามที่คาด ผูช้ ายคนนี้เป็ นผีจริ ง ๆ ใช่ไหม?
ขณะที่จางจิงจิ่วเข้าไปใกล้เขามากขึ้น หลี่ซางอิ๋นก็รีบปรับอารมณ์
เขาพยายามที่จะพลิกสถานการณ์ให้เหนือกว่าอีกครั้งและจะได้ตกั
ตวงข้อมูลที่มีประโยชน์จากจางจิงจิ่ว
“คุณทําหายแถว ๆ นี้ใช่ไหมครับ?” จางจิงจิ่วถาม แสงนั้นสลัว ใน
เมื่อเขาเชื่อว่าอีกฝ่ ายคือผี เขาก็ไม่คิดจะเปิ ดไฟ แต่เขาสอดมือไว้ใน
กระเป๋ า กําวิทยุสื่อสารเอาไว้ เพื่อให้สามารถเรี ยกบอสเฉิ นขอความ
ช่วยเหลือได้เมื่อเกิดความจําเป็ นขึ้น
“ใช่ ฉันฝันถึงเขาทุกคืน เขาบอกว่าเขาหนาวมาก เขาอยากจะขึ้น
นอนบนเตียง แบ่งความอบอุ่นของผ้าห่ม…”
“เอาละ เอาละ คุณหยุดได้แล้ว” จางจิงจิ่วยักไหล่อย่างอับจน “ผมจะ
ช่วยคุณหาเขา อย่างไรซะผมก็ไม่มีอะไรทําอยูพ่ อดี”
คําตอบของจางจิงจิ่วทําให้หลี่ซางอิ๋นอึ้งไปอีกครั้ง ผูช้ ายคนนั้นไม่ได้
ถูกเรื่ องสยองขวัญของเขาทําให้กลัวแต่วา่ สัญญาจะช่วยเขาแก้ปัญหา
ผูช้ ายคนนี้ไม่ปกติจริ ง ๆ !
หลี่ซางอิ๋นรู ้สึกเหมือนตัวเองเจอเข้ากับความลับสุ ดท้ายของบ้านผีสิง
ของเฉินเกอ ที่นี่น้ นั เป็ นที่นิยมขนาดนี้กเ็ พราะว่าไม่มีนกั แสดงของ
เขาคนไหนเป็ นคนจริ ง ๆ เลยสักคน!
ขณะที่จางจิงจิ่วเข้ามาใกล้มากขึ้น ทั้งร่ างของหลี่ซางอิ๋นก็เกร็ งเขม็ง
ขึ้น เขาอยากจะยืนยันให้ได้มากกว่านี้ เขาเงยหน้าที่แต่งเอาไว้ข้ ึน
พวกเขาสบตากัน และจางจิงจิ่วก็ตวั สัน่ แต่เขาก็ยงั แน่วแน่ใน
ความคิดก่อนหน้า สิ่ งที่อยูต่ รงหน้าเขานั้นเป็ นพนักงานเก่าของบ้าน
ผีสิงนี่แน่นอน
“พี่สาวไม่ตอ้ งห่วงนะครับ ไม่วา่ คุณจะทําอะไรหาย ผมก็จะช่วยคุณ
หา ถ้าพวกเราหาเขาไม่เจอวันนี้ พวกเราก็หาต่อพรุ่ งนี้ อย่างไรพวก
เราก็มีเวลาตั้งมาก” จางจิงจิ่วบังคับให้ตวั เองสงบใจลง
ได้ยนิ อย่างนั้น ม่านตาหลี่ซางอิ๋นก็สนั่ ระริ ก เขาหมายถึงอะไรกัน?
พวกเรามีเวลาตั้งมากมาย? หลังจากคุณได้ยนิ คนท้องเล่าเรื่ องสยอง
ขวัญ ก็ยงั ตอบว่าพวกเรามีเวลามากมาย? นี่เป็ นเพราะว่าฉันถูกมอง
ออกแล้ว หรื อว่าเขาคิดจะทําร้ายฉัน? นัน่ ไม่น่าใช่– นี่เป็ นแค่การเข้า
ชมบ้านผีสิงเท่านั้น
ระยะห่างระหว่างทั้งสองหดสั้นลง แสงไฟสลัว พวกเขาดูเหมือนจะ
มีจุดประสงค์ในการเข้าใกล้อีกฝ่ าย ทั้งสองคนล้วนต้องการพิสูจน์
บางอย่าง
“ไม่ตอ้ งห่วง ผมมาช่วยคุณ” จางจิงจิ่วเดินเข้าไปที่ขา้ งตัวหลี่ซางอิ๋น
เขามองใบหน้าของหลี่ซางอิ๋นเหมือนพยายามจดจําใบหน้าของคนผู ้
นี้เอาไว้เพื่อที่จะได้ไปร้องเรี ยน ‘เธอ’ กับบอสเฉิ นหลังเลิกงาน
หลี่ซางอิ๋นเองก็มองจางจิงจิ่วอย่างละเอียด นี่เป็ นการพบเจอกับสิ่ ง
เหนือธรรมชาติเป็ นครั้งแรกในชีวติ ของเขา และเขาก็ตอ้ งการจดจํา
เอาไว้วา่ ผีน้ นั ดูเป็ นอย่างไร
Chapter 702 ติดอยู่ระหว่ างผู้ชายสองคน
ยืนอยูใ่ นตรอกมืด ๆ จางจิงจิ่วและหลี่ซางอิ๋นต่างมองกันและกัน ไม่
มีใครพูดอะไร พวกเขาไม่เคยมีปฏิสมั พันธ์กบั ผีโดยตรงมาก่อน และ
บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็ นประหลาดและกระอักกระอ่วน
จางจิงจิ่วกระแอมครั้งหนึ่ง เขาเคยทํางานขายมาก่อน ดังนั้นบุคลิกภาพ
ของเขาจึงเปิ ดเผยมากกว่าหลี่ซางอิ๋น เขารู ้วา่ พวกเขาไม่สามารถยืน
อยูอ่ ย่างนี้กนั ทั้งวันได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสิ นใจดําเนินบทสนทนาต่อ
“ไม่ตอ้ งกังวลนะครับ คุณบอกผมได้ไหมว่าเขาหน้าตาแบบไหน?
อย่างขนาด หรื อความยาว หรื อว่าเขามีลกั ษณะพิเศษอย่างไร?”
“อธิบายถึงเขาให้คุณฟัง? ขนาด ความยาว และลักษณะพิเศษ?” หลี่
ซางอิ๋นอึ้งไปกับคําถามของจางจิงจิ่ว นี่เป็ นคําถามที่คนเป็ น ๆ ควร
ถามเหรอ?
เขาก็แค่สร้างเรื่ องขึ้นมาเท่านั้นเอง เขาไม่คิดว่าผูช้ ายคนนี้จะจริ งจัง
กับมันขนาดนั้น แต่ในเมื่อเรื่ องนี้มนั หมุนไปทางนั้นแล้ว หลังจาก
ลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง หลี่ซางอิ๋นก็พดู “ใบหน้าของเขาพร่ ามัว และเขาก็
เต็มไปด้วยเลือด เขาเอาแต่ร้องไห้ บอกว่าหนาวแค่ไหน”
“ได้ มันอาจจะลําบากหน่อยถ้าหน้าตาของเขาพร่ ามัว” จางจิงจิ่วกุม
คางและพูดออกมาอย่างจริ งจัง “ถ้าเขาบอกว่าเขาหนาวมาก อย่างนั้น
เขาน่าจะอยูใ่ นตูเ้ ย็น แต่ถา้ เป็ นอย่างนั้น เลือดของเขาก็น่าจะแข็งไป
แล้ว ดังนั้นความเป็ นไปได้จึงไม่สูงนัก ให้ผมคิดดูก่อนว่าจะมีที่ไหน
ที่ทาํ ให้เขารู ้สึกหนาวได้ โอ้ ใช่แล้ว! ห้องเก็บศพที่โรงพยาบาล! ลูก
ของคุณอาจจะแอบเข้าไปในโรงพยาบาล ผมคิดว่าคุณควรลองไปดู
ที่นนั่ คอยฟังเสี ยงร้องไห้เอาไว้– ห้องที่มีเสี ยงร้องไห้ดงั ที่สุดน่าจะ
เป็ นที่ที่ลูกของคุณแอบอยู”่
“นี่คุณจริ งจังเรอะ?” หลี่ซางอิ๋นนั้นเคยมัน่ ใจในฝี มือแต่งหน้าและ
การแสดงของตัวเองมาก เขาเป็ นนักแสดงที่ดีที่สุดของสถาบันฝัน
ร้าย แต่วา่ เขาเริ่ มสงสัยในตัวเองเมื่ออยูต่ ่อหน้าจางจิงจิ่ว ผูช้ ายคนนี้
ให้ความร่ วมมือกับเรื่ องเล่าของเขาอย่างสุ ดความสามารถแต่วา่ นัน่
กลับกระตุน้ ความสงสัยในหัวใจของหลี่ซางอิ๋นขึ้นมาว่าเขามองทุก
อย่างออกและพยายามชักนําเขาไปยังห้องเก็บศพ
จางจิงจิ่วนั้นไม่ได้คิดอะไรอย่างที่หลี่ซางอิ๋นกําลังคิดเลย เขาพยัก
หน้า “หากเขาไม่อยูท่ ี่โรงพยาบาล อย่างนั้นก็ไม่ตอ้ งห่วง อย่างไร
เสี ยที่นี่กใ็ หญ่แค่น้ ีเอง ในที่สุดแล้วผมแน่ใจว่าคุณจะได้เจอกับเขา”
หลี่ซางอิ๋นไม่เข้าใจเลยว่าเขากําลังถูกผีปลอบใจอยูไ่ ด้อย่างไร– จะ
อธิบายความรู ้สึกนี้อย่างไรดี? มันค่อนข้างน่ากลัวอยูบ่ า้ ง และก็น่า
ตื่นเต้นมาก
“ขอบคุณ ฉันคิดว่าฉันจะไปที่นนั่ เดี๋ยวนี้” เสี ยงของหลี่ซางอิ๋นสัน่
เขาซ่อนตัวเองอยูใ่ นเงาก้มหน้าตํ่าเพื่อซ่อนลูกกระเดือก
“ไม่เป็ นไรครับ อย่างไรเสี ยพวกเราก็เป็ นครอบครัวกันแล้ว” จางจิงจิ่ว
คิดว่าผีตนนี้ค่อนข้างสุ ภาพและรู ้วา่ นี่เป็ นวิธีการแสดงความขอบคุณ
ของเธอ ดูเหมือนว่าพนักงานคนอื่น ๆ ของบ้านผีสิงก็ไม่ได้เข้าถึงยาก
อย่างที่เขาคิดทีแรก
“พวกเราเป็ นครอบครัว? คุณหมายความถึงอะไร?” หัวใจของหลี่
ซางอิ๋นเต้นรัวเร็ ว ผีตนนี้กาํ ลังจะฆ่าเขาแล้วผนึกวิญญาณของเขา
เอาไว้ในบ้านผีสิงเพื่อผูกมัดให้เขาอยูท่ ี่นี่ไปตลอดกาลเหมือนกันงั้น
หรื อ?
“ตอนนี้ พวกเรายังไม่คุน้ เคยกันเพราะว่านี่เป็ นการพบกันครั้งแรก
ของพวกเรา แต่หลังจากพวกเราทํางานด้วยกันนานเข้า พวกเราย่อม
รู ้จกั กันและกันดีข้ ึน” จางจิงจิ่วเค้นรอยยิม้ ประหลาดขึ้นบนหน้า
“ทํางานด้วยกันนานไป?” หัวใจของหลี่ซางอิ๋นหดตัวแน่น และเขาก็
กําหมัดแน่น! จุดประสงค์ที่แท้จริ งเผยออกมาแล้ว! ดังนั้น ตลอดเวลา
มานี้ ผีตนนี้กเ็ พ่งเล็งเขาเอาไว้! ผูช้ ายที่มีรอยยิม้ ประหลาดคนนี้น้ นั
มองการปลอมตัวของเขาออกและต้องการให้เขาอยูท่ ี่บา้ นผีสิงนี่ไป
ตลอดกาล!
เหงื่อไหลชุ่มเครื่ องสําอางที่บนหน้าผากของเขา หลี่ซางอิ๋นรู ้วา่
พนักงานบ้านผีสิงธรรมดา ๆ จะไม่เข้าหาเขาและพูดเกี่ยวกับการ
ร่ วมงานกันในอนาคตของพวกเขาเมื่อพบเจอเข้ากับคนแปลกหน้าที่
กําลังท้องในบ้านผีสิง
ยิง่ หลี่ซางอิ๋นคิด เขาก็ยงิ่ รู ้สึกไม่สบายใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไม
เขาถึงรู ้สึกไม่ดีต้ งั แต่กา้ วเท้าเข้ามาที่นี่ ที่นี่มีผสี ิ งจริ ง ๆ !
“พวกเราค่อยคุยกันตอนนั้นแล้วกัน” หลี่ซางอิ๋นรี บร้อนจะกลับออกไป
“โรงพยาบาลอยูท่ างซ้ายมือนะครับ!” จางจิงจิ่วมองหลี่ซางอิ๋นรี บ
ร้อนจากไปแล้วก็เกาจมูก “นี่ฉนั พูดอะไรล่วงเกินเธอไปหรื อเปล่า?
มันเหมือนว่าฉันทําอะไรสักอย่างผิดไป”
ก่อนที่หลี่ซางอิ๋นจะเดินออกไปลับตา วิทยุสื่อสารในกระเป๋ าของจาง
จิงจิ่วก็ดงั ขึ้น เขารี บดึงมันออกมา
“จิงจิ่ว คุณเรี ยกหาผมมีอะไรหรื อเปล่า?” เสี ยงของเฉิ นเกอดังออกมา
จากวิทยุ
“มีพนักงานเก่าที่นี่มาหาผมและถามคําถามผม แต่ไม่ตอ้ งห่วง พวก
เรามีปฏิสมั พันธ์กนั ค่อนข้างดีที่เดียว”
“พนักงานเก่ามาหาคุณ?” เฉินเกองุนงง “พนักงานธรรมดาจะไม่ออก
จากตึกของตัวเองนะ ถ้าไม่มีที่สิงสถิต พวกเขาจะอ่อนแอลงเรื่ อย ๆ
แล้ววิญญาณสี เลือดทั้งสองตนนัน่ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพวก
เขาก็สญ ั ญากับผมว่าจะไม่เป็ นฝ่ ายออกไปตามหาผูเ้ ข้าชมด้วยตนเอง
จิงจิ่ว คนผูน้ ้ นั ที่คุณเจอหน้าตาแบบไหน?”
“เป็ นผูห้ ญิงท้องคนหนึ่ง…”
“เอาละ ผมเข้าใจแล้ว นัน่ ไม่ใช่พวกเรา เป็ นอีกฝ่ ายที่แทรกซึ มเข้ามา
ในที่ของพวกเรา”
“พวกเราควรจะทํายังไงดีครับ?” จางจิงจิ่วตื่นตระหนก เขาไม่คิดจริ ง ๆ
ว่าคนท้องคนนั้นจะไม่ใช่พนักงานบ้านผีสิง
“คุณก็เคยเห็นผีกบั สัตว์ประหลาดที่ในจิ่วเจียงตะวันออก เมื่อโลกนี้มี
แสงสว่าง ย่อมมีความมืด ถ้ามีคนอย่างผมที่ยดึ มัน่ ในความยุติธรรม
ก็ยอ่ มต้องมีคนที่มีความชัว่ ร้ายอยูใ่ นหัวใจ แต่ไม่ตอ้ งห่วง ไม่วา่ จะ
เป็ นใคร ถ้าพวกเขากล้าสร้างปัญหาที่ในบ้านผีสิงของผม พวกเขาก็
ควรจะเตรี ยมสนุกกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวติ ได้เลย”
“เข้าใจแล้วครับ” จางจิงจิ่วบรรยายหน้าตาของหญิงท้องอย่างละเอียด
ให้เฉินเกอฟังก่อนจะวางสาย

เฉินเกอยืนอยูต่ รงทางแยก เก็บวิทยุสื่อสารลงไป ตอนแรกที่ได้ยนิ
จางจิงจิ่งรายงาน เขาคิดว่าเงาส่ งลูกน้องออกมา แต่ยงิ่ ฟัง เขาก็ยงิ่ รู ้สึก
ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง หญิงท้องนัน่ น่าจะเป็ นคนเป็ น ๆ ปลอมตัว
มา
มีนกั แสดงมืออาชีพจากบ้านผีสิงอื่นแทรกซึมเข้ามาในกลุ่ม พวกเขา
ตามนักไลฟ์ สตรี ม หวงหลาง เข้ามาและเพื่อสร้างเอฟเฟ็ คท์ บางคนก็
แกล้งทําตัวเป็ นผี
“หวังว่าฉันจะกังวลไปเอง” บ้านผีสิงนั้นเป็ นฐานทัพของเฉินเกอ
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถละเลยอะไรเกินไปได้ ส่ วนเรื่ องความ
ปลอดภัย เฉินเกอติดต่อถงถงและให้เขาปลุกผีท้ งั หมดในฉากขึ้นมา
ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถระบุตาํ แหน่งผูเ้ ข้าชมที่สงสัยได้เร็ วที่สุด
เท่าที่จะทําได้
เสี ยงหัวเราะและเสี ยงร้องไห้กอ้ งอยูใ่ นเมืองเล็กนี้ เงาปี นป่ ายออก
จากกําแพงและมุมต่าง ๆ วิญญาณที่ซ่อนตัวอยูต่ ื่นขึ้น และพวกเขาก็
เริ่ มออกมาเดินไปตามถนน แค่ไม่กี่วนิ าที เฉินเกอก็ได้รับข้อความ
จากถงถงและมือกรรไกร
ถงถงเจอผูช้ ายคนนั้นแล้ว แต่วา่ มือกรรไกรทําได้ดีกว่า เขาบอกเฉิน
เกอว่าเขากําลังตามชายคนนั้นอยู่ ผูช้ ายคนนั้นน่าสงสัยมากไม่เหมือน
ผูเ้ ข้าชมทัว่ ไป
“รอก่อน พวกเราจะลงมือพร้อมกันเมื่อฉันไปถึง” เฉินเกอมองเวลา
บนโทรศัพท์ของเขา ยังพอมีเวลาก่อนที่การเข้าชมครั้งนี้จะจบลง

หลี่ซางอิ๋นโยนชุดคนท้องกับผ้าปูเตียงเข้าไปในห้องมัว่ ๆ ห้องหนึ่ง
แล้วก็เบียดตัวเองไปยังทางออกในใจโดยไม่ลา้ งเครื่ องสําอางออก
เขาไม่กล้าทําเสี ยงอะไรมากนักเพราะไม่อยากดึงดูดสิ่ งเหนือ
ธรรมชาติ เขาโทรหาเพื่อนของเขา แต่วา่ ไม่มีใครรับสายเหมือนกับ
เขาอยูใ่ นอีกโลกหนึ่งที่แยกออกมา
ตอนที่การเข้าชมกําลังจะหมดเวลาลง เมืองเล็กก็เปลี่ยนเป็ นน่ากลัว
ขึ้นและมืดขึ้น ถนนที่ควรจะว่างเปล่าเต็มไปด้วยเงา หมอกรอบ ๆ
เมืองหนาขึ้น และก็ยงั ได้กลิ่นเลือดอยูใ่ นหมอกนัน่
“มันเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องฉันอยู”่ หลี่ซางอิ๋นเกาหลังคอ เขา
รู ้สึกกระวนกระวายและไม่สบายใจ พอมีลมพัดเขาก็มกั จะหันหลัง
ไปมอง “มีคนอยูข่ า้ งหลังฉัน!”
หลังจากวิง่ ไปถนนหนึ่ง หลี่ซางอิ๋นจู่ ๆ ก็เพิ่มความเร็ ว เขาเปิ ดไฟ
ฉายบนโทรศัพท์แล้วส่ องไปด้านหลังตัวเอง ในหมอก มีชายแปลก
หน้าในชุดคลุมยาวถือกรรไกรใหญ่เล่มหนึ่งไล่ตามหลังเขามา
“ฉันรู ้อยูแ่ ล้ว!” หลี่ซางอิ๋นยังค่อนข้างใจเย็น เขารู ้วา่ แสงจากโทรศัพท์
คงจะเผยตําแหน่งของเขาออกมา ดังนั้นเขาจึงปิ ดมันลงทันที “ฉันเคย
มาที่ตึกนี้มาก่อน หลังจากผ่านประตูหน้าเข้าไป ก็สามารถกระโดด
ออกจากหน้าต่างด้านหลังได้ ฉันจะใช้โอกาสนี้สลัดตัวประหลาด
นัน่ ทิ้ง”
นัน่ เป็ นความคิดที่ดี แต่เมื่อเขาเริ่ มวิง่ ไปข้างหน้า เขาก็ชะงัก
ที่มุมถนน มีผชู ้ ายคนหนึ่งสวมชุดคลุมแบบหมอ มีโซ่พนั ตัวเอาไว้
ลากค้อนหน้าตาน่ากลัวเดินตรงเข้ามาหาเขาช้า ๆ
Chapter 703 กลัวจนหายป่ วย
ถ่ายรู ป ไลฟ์ สตรี มในบ้านผีสิง เฉิ นเกอให้อภัยได้ มันยังอยูใ่ นขอบเขต
ที่ยอมรับได้ อย่างไรเสี ย มันก็นบั เป็ นวิธีหนึ่งในการโฆษณาบ้านผีสิง
ของเขา
แต่วา่ ปลอมตัวมาหลอกคนของเขานั้นลํ้าเส้นเกินไปแล้ว
สําหรับเฉินเกอ นี่เป็ นการกระทําอันมุ่งร้ายและควรได้รับการลงโทษ
บ้านผีสิงนั้นเป็ นทุกอย่างที่เฉินเกอมี และเมื่อจํานวนผูเ้ ข้าชมเพิม่ ขึ้น
ก็มีคนเข้ามาสร้างปั ญหา ถ้าเขาเผยจุดอ่อนออกไปเพียงสักครั้งก็คง
จะเท่ากับเชื้อเชิญปัญหาเข้ามามากขึ้นในอนาคต
เมืองหลี่วา่ นนั้นเป็ นฉากระดับ 3.5 ดาว ตั้งอยูร่ ะหว่างฉากระดับสาม
ดาวและสี่ ดาว เฉินเกอนั้นเพิ่งปลดล็อกฉากนี้ และเขาก็ยงั ไม่ได้สาํ รวจ
มันละเอียดนัก ดังนั้นความยากจึงยังไม่ได้สูงขนาดนั้น อันที่จริ ง ฉาก
เมืองหลี่วา่ นยังมีขมุ สมบัติลึกลับอีกมากมายรอให้เฉิ นเกอสํารวจ
อย่างเช่นหมอกที่ดูเหมือนจะปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าและ
ยังภารกิจลับที่ติดมากับฉากอีก
เขาต้องการเวลาอีกมากเพื่อที่จะทําความเข้าใจกับฉากนี้ได้ครบถ้วน
และเวลาก็เป็ นสิ่ งที่เฉินเกอขาดแคลนที่สุดตอนนี้
ถ้ามีเวลาว่างมากพอ ฉันต้องทําฉากนี้ให้สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ ฉันต้อง
จัดการกับปัญหาตรงหน้าก่อน
เฉินเกอสวมชุดคุณหมอนักเจาะกะโหลกและยืนอยูท่ ี่ทางแยก– นัน่
เป็ นเส้นทางที่ผเู ้ ข้าชมต้องใช้หากจะออกจากฉาก
เครื่ องแบบหมอเปื้ อนเลือดนั้นชัดเจนอยูใ่ นหมอก และยังเสี ยงครู ด
ของโซ่ที่ลากไปบนพื้น เฉินเกอเดินออกมาจากหมอก ภายใต้หน้ากาก
ที่ทาํ จากหนังมนุษย์ ดวงตาเย็นชาคู่หนึ่งจับจ้องหลี่ซางอิ๋นอย่างเงียบ ๆ
มันไม่ใช่สายตาที่เป็ นของคนเป็ น– มันเต็มไปด้วยความเย็นเยียบที่
บรรยายออกมาไม่ได้
หลายปี ที่เขาทํางานอยูท่ ี่สถาบันฝันร้าย หลี่ซางอิ๋นเคยพบกับนักแสดง
มืออาชีพมากมาย และเขาก็ยนื ยันได้วา่ สายตาที่กาํ ลังจับจ้องเขาอยูน่ ้ นั
ไม่ได้เกิดจากการแสดงอันสมจริ ง ดวงตาคู่น้ นั เหมือนเคยพบ
ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและฝันร้ายมากมายมาแล้ว
เครื่ องสําอางบนใบหน้าของเขานั้นเละเทะ เมื่ออยูใ่ นสถานการณ์น้ ี
หลี่ซางอิ๋นก็รู้วา่ เขาจนมุมแล้ว การวิง่ เตลิดไปอย่างไร้จุดหมายนั้นมี
แต่จะท้าทายผูช้ ายคนนี้ ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือยอมแพ้อย่า
ดิ้นรน ด้วยวิธีน้ นั เขาอาจจะรอดชีวติ ไปโดยที่ยงั เหลือเศษเสี้ ยว
ความภาคภูมิใจเอาไว้ได้
“คุณเป็ นพนักงานบ้านผีสิงใช่ไหม?” หลี่ซางอิ๋นเค้นรอยยิม้ ขึ้นมา
บนใบหน้า “ผมยอมแพ้ คุณช่วยพาผมกลับออกไปได้ไหม?”
“คุณเป็ นหนึ่งในผูเ้ ข้าชมเหรอ?” เสี ยงของเฉิ นเกอดังมาจากใต้หน้ากาก
เสี ยงของเขาแหบราวกับกําลังเคี้ยวบางอย่างที่แข็ง ๆ อยูใ่ นปาก
“ใช่ ผมลงชื่อในใบยินยอมก่อนที่จะเข้ามา ชื่อของผมคือ…”
ก่อนที่หลี่ซางอิ๋นจะทันพูดจบ เฉินเกอก็ตดั บทเขา “ผูเ้ ข้าชมวันนี้ไม่
มีคนท้อง กล้องวงจรปิ ดของพวกเรามองเห็นทุกอย่างชัดเจน พวกเรา
ไม่อนุญาตให้คนท้องเข้าบ้านผีสิง ดังนั้นคุณย่อมไม่ใช่หนึ่งในผูเ้ ข้า
ชมของพวกเรา” เฉินเกอพูดอย่างมัน่ ใจเหมือนกําลังพูดความจริ ง
“คนท้อง? ใครท้อง? ผมเป็ นผูเ้ ข้าชม ผมยอมแพ้แล้ว ดังนั้นช่วยนํา
ผมออกไปเดี๋ยวนี้” หลี่ซางอิ๋นเริ่ มตื่นตระหนก ผูช้ ายคนนี้ดูเหมือนว่า
จะไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ เขาเอาแต่บอกว่าหลี่ซางอิ๋นเป็ นคนท้อง และ
นัน่ ก็เป็ นข้ออ้างที่จะใช้บีบให้เขาอยูท่ ี่นี่ต่อ
“คุณไม่ใช่คนท้อง? ผมเห็นทุกอย่างชัดเจนกับตาตัวเอง คุณสวมชุด
คลุมท้องและยังมีเสี ยงสู งกับใบหน้าสวย ๆ นัน่ ไม่มีผเู ้ ข้าชมคนไหน
ที่พวกเราต้อนรับให้เข้าฉากที่หน้าตาเหมือนคุณ” เฉิ นเกอเดินเข้าไป
หาหลี่ซางอิ๋นช้า ๆ ลากค้อนไปด้วย “พูด อันที่จริ งแล้วคุณเป็ นใคร?”
“ผมชื่อหลี่ซางอิ๋น! ผมลงชื่อในใบยินยอม และใช่ เมื่อกี้น้ ีผมแกล้ง
ทําเป็ นคนท้อง!” หลี่ซางอิ๋นสัมผัสได้วา่ เรื่ องราวนั้นหลุดจากการ
ควบคุมไปแล้ว เขารี บพูดความจริ ง กลัวว่าผูช้ ายคนนี้จะลงมือกับเขา
ถ้าเขาอธิบายตัวเองช้าเกินไป
เฉินเกอหยุด และจากนั้นก็ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ยอมพูด
ความจริ ง ถ้าอย่างนั้น ก็มีวธิ ีการโน้มน้าวอันดับถัดไป”
ได้ยนิ คําพูดของเฉินเกอ หลี่ซางอิ๋นก็สติหลุด “แต่วา่ ผมกําลังบอก
ความจริ งกับคุณนะ! ผมเป็ นผูเ้ ข้าชม! ปล่อยผมออกไป!”
“ผมไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ถ้าคุณบอกความจริ งผม ผมก็จะไม่ทาํ ให้
คุณยุง่ ยากเกินไป แต่ถา้ คุณยังยืนกรานที่จะโกหกผม อย่างนั้นผมก็
ต้องจัดการกับคุณเหมือนที่ผมจัดการกับพวกหัวขโมยน่าสงสารพวก
นั้น” จู่ ๆ เฉินเกอก็เร่ งฝี เท้า เขายกค้อนขึ้นแล้วพุง่ เข้าใส่ หลี่ซางอิ๋น
“พูด! คุณเป็ นใคร!”
ค้อนที่ปกคลุมไปด้วยหนามขยายใหญ่ข้ ึนในสายตาของหลี่ซางอิ๋น
เขาไม่ได้อยากยืนอยูท่ ี่นี่ตอบคําถามเฉิ นเกอ แต่วา่ คําถามหนึ่งผุดขึ้น
ในใจเขา– ทําไมค้อนเหล็กนี่ถึงเต็มไปด้วยหนามและรอยเลือด?
ค้อนกระแทกเข้ากับหน้าต่างที่อยูข่ า้ งตัวหลี่ซางอิ๋น ปูนแตกออก หลี่
ซางอิ๋นผงะถอยไป เทียบกับ ‘หมอ’ ที่ขวางทางเขาอยูน่ ้ นั ตอนนี้เขา
รู ้สึกว่าชายแปลกหน้าในชุดคลุมยาวด้านหลังเขานั้นน่ารักขึ้นมาทันที
สมองของหลี่ซางอินนั้นทํางานต่างไปจากคนทัว่ ไป กระทัง่ ในเวลา
นี้ เขาก็ยงั คงมีจิตใจกระจ่าง เขาหันกลับ และก่อนที่มือกรรไกรจะ
จับตัวเขาทัน เขาก็กระแทกผ่านประตูขา้ งตัวไปแล้ว เขาตั้งใจจะหนี
ออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง
เฉินเกอย่อมไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้ เขาสัง่ ให้เขาขวางหน้าต่างนัน่
ไว้แล้วและให้มือกรรไกรคุมประตูดา้ นหลัง เขาเรี ยกพนักงานที่วา่ ง
อยูท่ ้ งั หมดมาแล้วก้าวเข้าไปในตึกพร้อมกัน

“พวกเขาไปไหนแล้ว? ทําไมโทรศัพท์ถึงใช้การไม่ได้?” ชายลามกที่
ชอบโชว์ร่างกายตัวเองเดินออกมาจากห้องตรงมุมหนึ่ง เขาถือโทรศัพท์
เอาไว้แล้วบ่นอย่างโกรธ ๆ “บ้านผีสิงนี่มนั บ้าอะไรกัน? ไม่มีพนักงาน
สักคน ฉันไม่เชื่อหรอก ฉันคาดหวังไว้ต้ งั ขนาดไหนก่อนจะมาที่นี่”
ผลักประตูเปิ ดแล้วเขาก็กา้ วเท้าลงไปที่ถนน เมืองเต็มไปด้วยหมอก
“หมอกนี่มาตั้งแต่ตอนไหน?” ผูช้ ายคนนั้นเหลือบมองนาฬิกา “การ
เข้าชมกําลังจะจบลงในหนึ่งหรื อสองนาที ฉันกําลังจะเสี ยค่าเข้าชม
ห้าสิ บไปเปล่า ๆ”
เขาก้มหน้าลง เริ่ มค้นหาเป้าหมาย เขาแอบเห็นเงาในหมอกวูบวาบ
ผ่านไป แต่วา่ เขาสนใจเฉพาะที่มีรูปร่ างเหมือนผูห้ ญิง
“ในตึกนี่มีแสงออกมา ดังนั้นน่าจะมีคนอยูข่ า้ งใน” ผูช้ ายคนนั้นเล็ง
เป้าหมายได้ในไม่ชา้ ตอนที่เขาเดินผ่านห้องหนึ่ง เขาก็เห็นคนผูห้ นึ่ง
ในชุดคลุมท้องนัง่ อยูบ่ นโซฟา
“ผีทอ้ ง? นัน่ จะต้องเป็ นอะไรที่แปลกใหม่” ผูช้ ายคนนั้นหัวเราะลามก
เขากระโดดเข้าไปทางหน้าต่างและเริ่ มปลดกระดุมเสื้ อโค้ตของเขา
ดึงเสื้ อโค้ตออก เขารอให้นกั แสดงกรี ดร้อง แต่วา่ ผ่านไปหลายวินาที
ห้องก็ยงั คงเงียบ
“เกิดอะไรขึ้น?” เขาก้มหน้าลงไปและเห็นหลี่ซางอิ๋นในชุดคลุมท้อง
ไถลลงไปกับโซฟาช้า ๆ เขามีน้ าํ ลายฟูมปาก และร่ างกายของเขา
กระตุกเรื่ อย ๆ เขาดูเหมือนกําลังจะลาโลกแล้ว
“หลี่ซางอิ๋น?” ผูช้ ายคนนั้นใบหน้าซีดเผือด แต่ก่อนที่เขาจะตระหนัก
ได้วา่ เกิดอะไรขึ้น เงาบิดเบี้ยวแขนขาขาดก็เริ่ มปรากฏขึ้นจากตรงมุม
ห้อง “นี่มนั อะไรกัน? นี่มนั เชี่ยอะไร? หยุด! อย่าเข้ามาใกล้นะ!”
ตอนที่ทุกอย่างเงียบลงไปอีกครั้ง เฉิ นเกอก็หยุดบันทึกวิดีโอบน
โทรศัพท์ของเขาและเดินออกมาจากห้องนอน
“พนักงานบ้านผีสิงพุง่ เข้าไปเพื่อช่วยตอนที่ไอ้คนทุเรศนี่กาํ ลังจะจู่
โจมผูเ้ ข้าชม” หลังจากบันทึก ‘หลักฐาน’ เรี ยบร้อยแล้ว เฉิ นเกอก็
เดินออกจากห้อง เขาออกจากฉากไปหารถเข็นมา
“พอมีฉากใหม่แล้วก็เหมือนว่ารถเข็นสองสามคันนี่จะไม่พอแฮะ”
เฉินเกอให้ถงถงบอกให้พนักงานคนอื่น ๆ ส่ งผูเ้ ข้าชมออกมาที่ทางเข้า
ฉาก
Chapter 704 ผมอยู่ตรงนี้
เสี ยงความเคลื่อนไหววุน่ วายไหลเข้าหูเขา และผิวของเขาก็รู้สึกถึง
ความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ซ่ ึงเขาเหมือนจะไม่ได้สมั ผัสมานาน มี
คนจับมือเขาเอาไว้แน่น และความรู ้สึกที่เหมือนกําลังตกเหวลงไป
เรื่ อย ๆ ในที่สุดก็หายไป เปลือกตาหนักเหลือเกินนั้นขยับช้า ๆ เปิ ด
เป็ นช่องเล็ก ๆ
“หมอ! เขาไม่เป็ นไรใช่ไหม? มันเป็ นเรื่ องปกติที่พวกเราจะเป็ นลม
ตอนที่เข้าบ้านผีสิง แต่วา่ ไม่มีใครในพวกเราหมดสติไปนานขนาดนี้
มาก่อน! เป็ นไปได้ไหมว่าเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว!” เสี ยงคุน้ เคย
ดังเข้าหัวเขา มันเหมือนมีคนกําลังเรี ยกเขาอยูท่ ี่ริมขอบสรวงสวรรค์
สติของเขากลับคืนมาอย่างช้า ๆ และความทรงจําของเขาก็กลับมาสู่
สมอง
ฉันกําลังเข้าชมบ้านผีสิง ใช่ ฉันจําได้แล้วตอนนี้
หวังตั้นพยายามลืมตาทั้งสองข้างขึ้น ถึงแม้วา่ เขาจะพยายามอย่างที่สุด
แล้ว สิ่ งเดียวที่เขาทําได้กค็ ือลืมตาขึ้นนิดเดียว
หยางเฉิ น? ประธานองค์กรนักศึกษา? รุ่ นพี่ปีสี่ ? ทําไมถึงมีคนเยอะ
ขนาดนี้… หวังตั้นอยากพูด แต่วา่ ริ มฝี ปากซี ดเผือดของเขานั้นขยับ
ไม่ไหว
“เอิ่ม… น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ ไม่ตอ้ งห่วง จากประสบการณ์ของ
พวกเราแล้ว เขาน่าจะตื่นขึ้นในไม่ชา้ แล้ว” หมอกระแอมแห้ง ๆ “อย่า
มามุงอยูร่ อบ ๆ ถอยไปหน่อย! ให้มีอากาศหมุนเวียน”
หมอและพนักงานสวนสนุกขอให้คนอื่น ๆ ถอยออกไปอย่างสุ ภาพ
หวังตั้นมองไปทางเสี ยงพวกนั้น ตอนนี้เขานอนอยูต่ รงด้านหน้าบ้าน
ผีสิง และรอบ ๆ ตัวเขานั้นก็คือผูเ้ ข้าชมที่มามุงดูเหตุการณ์ พวกเขา
ยังพูดคุยกันเอง บางคนยังยกโทรศัพท์ข้ ึนถ่ายรู ป บางคนกําลังถ่าย
วิดีโอ และยังมีอีกหลายคนกําลังไลฟ์ ลงออนไลน์
ฉันคิดว่าหมดสติต่อไปน่าจะดีกบั ตัวฉันมากกว่า หวังตั้นพยายามหัน
หน้าหนีไปอีกข้าง เขาไม่อยากจะขึ้นหน้าหนึ่งออนไลน์จากการหมด
สติอยูท่ ี่บา้ นผีสิง ดวงตาของเขาขยับนิด ๆ แต่ที่ปลายหางตา หวังตั้น
พบว่าเขาไม่ได้โดดเดี่ยวเลย
ผูเ้ ข้าชมสิ บคนถูกวางเรี ยงไว้อย่างเป็ นระเบียบที่ยกพื้นหน้าบ้านผีสิง
และใบหน้าของพวกเขาล้วนคุน้ เคย พวกเขาเข้าไปที่นนั่ ด้วยกัน และ
ตอนนี้ ก็มานอนอยูเ่ คียงข้างกัน บางทีนี่อาจจะเป็ นการรวมพลังกัน
ของคนในกลุ่ม เห็นเพื่อนร่ วมทีมแล้ว หวังตั้นก็ไม่รู้สึกแย่กบั ตัวเอง
อีกต่อไป และเขาก็หลับตาลงช้า ๆ อย่างน้อยที่สุด ฉันก็ได้เป็ นวีรบุรุษ
อยูห่ ลายนาที…
คลื่นความร้อนรุ นแรง แต่วา่ ก็ไม่พอที่จะขัดขวางความต้องการของผู ้
เข้าชม ฉากระดับ 3.5 ดาวเปิ ดสู่ สาธารณะเป็ นครั้งแรก และผูเ้ ข้าชม
ทั้งสิ บคนก็หมดสติ นี่อธิบายได้แค่วา่ ยอดเยีย่ มไปเลย
“เชี่ย! ขอบคุณที่ฉนั ไม่บา้ ทําตามแรงกระตุน้ ของตัวเองแล้วพุง่ ตัวเข้า
ไป นัน่ น่าจะเป็ นการตัดสิ นใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวติ ฉันแล้ว!”
“ฉากใหม่นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว! ฉันได้ยนิ บอสเฉินบอกว่านี่เป็ นแค่
ขั้นเริ่ มต้นสู่ ฉากระดับสี่ ดาว และความยากของมันก็อยูร่ ะหว่างฉาก
ระดับสามดาวและสี่ ดาวเองนะ!”
“ถ้าปิ ศาจมีชื่อแซ่ มันต้องแซ่เฉิ นแน่ ๆ !”
“บอสเฉิน เพื่อน! มีคุณอยูต่ รงนี้ สวนสนุกนิวเซนจูรี่กเ็ รี ยกได้วา่ ได้
ฟื้ นฟูสู่ยคุ ที่สอง คุณอยากจะพูดคุยแบ่งปันไหมว่าคุณทําอย่างนี้ได้
อย่างไร?”
เฉิ นเกอผลักรถเข็นออกมาแล้วถูกผูเ้ ข้าชมล้อมเอาไว้ เขาไม่คิดว่า
การจัดการกับผูเ้ ข้าชมทั้งสิ บคนเลยจะทําให้เป็ นเรื่ องใหญ่ขนาดนี้
“อย่างแรกเลย ผมยินดีที่บา้ นผีสิงได้รับการต้อนรับจากทุก ๆ คน
บ้านผีสิงนี่เป็ นทุกอย่างที่พอ่ กับแม่ของผมเหลือเอาไว้ให้ผม และนี่ก็
เป็ นโครงการตลอดชีวติ ของผม ผมพูดได้เท่านี้แหละครับ”
เฉินเกอหาลุงซูเจอในฝูงชน เขาตัดสิ นใจใช้โอกาสนี้เผยแพร่ ชื่อเสี ยง
ของฉากระดับ 3.5 ดาวออกไป และในเวลาเดียวกัน ยังโฆษณาถึงฉาก
ระดับสี่ ดาวที่กาํ ลังจะเปิ ดตัว แต่วา่ เขาก็ตอ้ งประหลาดใจ ผลลัพธ์
นั้นดีกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ผูเ้ ข้าชมนั้นตื่นเต้นที่เขาถูกล้อมเอาไว้ได้
“บอสเฉิน! พวกเรารู ้วา่ การสร้างบ้านผีสิงมันไม่ง่าย การตามหาแรง
บันดาลใจ เขียนเรื่ องราว ออกแบบอุปกรณ์ประกอบฉาก… คุณต้อง
เผชิญหน้ากับเรื่ องยุง่ ยากมากมายใช่ไหม? ความเชื่อแบบไหนกันที่
ทําให้คุณผ่านทั้งหมดนี้มาได้?”
เห็นประกายตาของเหล่าผูเ้ ข้าชมแล้วเฉิ นเกอก็พบว่ามันยากที่จะ
ปฏิเสธพวกเขา “ผมทุ่มเทให้กบั บ้านผีสิงมาก ตั้งแต่การสร้างฉาก
ต้อนรับผูเ้ ข้าชม ความคาดหวังและความสนุกนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอื่น ๆ
จะสามารถมองเห็นได้ ดังนั้น ความยากที่คุณพูดถึงนั้นก็เทียบกับ
อะไรไม่ได้จริ ง ๆ ความรู ้สึกรับผิดชอบวางลงมาบนบ่าของผม และ
ผมก็บอกตัวเองว่า ผมต้องทําบ้านผีสิงให้ดีที่สุดเท่าที่ผมทําได้ ดังนั้น
ไม่วา่ จะไปที่ไหน ผมก็จะคิดเรื่ องนี้ในใจเสมอ เพราะอย่างนั้น มัน
จึงกลายมาเป็ นส่ วนหนึ่งในชีวติ ของผมไปแล้ว”
ได้ยนิ คําตอบของเฉินเกอ ผูเ้ ข้าชมบางคนก็อดพยักหน้าไม่ได้ มีแค่
คนที่ทุ่มเททุกอย่างลงไปในสิ่ งที่ทาํ ที่จะสามารถสร้างฉากมหัศจรรย์
มากมายเช่นนี้ได้
“ทางนี้หน่อยครับ! บอสเฉิน! ผมเป็ นผูเ้ ข้าชมจากซิ นไห่! เมื่อครึ่ ง
ชัว่ โมงก่อน สถาบันฝันร้ายที่มีชื่อเสี ยงที่สุดของซินไห่บอกว่าพวกเขา
มาที่นี่เพื่อเรี ยนรู ้และพูดคุยเรื่ องการเข้าชมฉากกับคุณ คุณมีความเห็น
เรื่ องนี้อย่างไรครับ?”
“สถาบันฝันร้าย?” บอสเฉินให้สญ ั ญาณขอทางจากคนรอบ ๆ และ
เขาก็ช้ ีไปยังหลายคนที่นอนอยู่ “พวกเขามา แต่วา่ ไม่ได้มาเพื่อพูดคุย
อย่างเป็ นมิตรแน่นอน ในเรื่ องนั้น ผมเองก็รู้สึกเสี ยดายเช่นกัน ต่อไป
ถ้ามีโอกาส ผมจะลองไปเยีย่ มชมสถาบันฝันร้ายด้วยตนเอง พูดคุย
เรื่ องพวกนั้นกับพวกเขา”
“บอสเฉิน! ผมเห็นจากบนแพลตฟอร์มหนึ่งว่าหวงหลางนั้นไลฟ์
สตรี มอยูใ่ นบ้านผีสิง และผมก็เห็นคุณในไลฟ์ ด้วย! คุณบอกพวกเรา
โดยละเอียดได้ไหมว่าอันที่จริ งแล้วเกิดอะไรขึ้น? ครอบครัวผมเก้า
คนและแมวอีกหนึ่งอยากรู ้เรื่ องนี้จะตายแล้ว!”
“คุณสามารถติดตามในสตรี มของผมได้วา่ รายละเอียดเป็ นอย่างไร
ผมจะพูดเรื่ องนั้นในอนาคต”
“บอสเฉิ น ยังมีข่าวลือบนออนไลน์วา่ บ้านผีสิงของคุณมีผสี ิ งจริ ง ๆ
นัน่ จริ งหรื อเปล่าครับ?”
“แน่นอนว่าไม่จริ ง โลกนี้ไม่มีผเี สี ยหน่อย ทุกอย่างเป็ นเพียงแค่ข่าว
ลือ ถ้าคุณไม่เชื่อผม คุณสามารถบอกมาได้เลยว่าใครบอกข่าวลือนัน่
กับคุณ ผมจะไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง” รอยยิม้ ของเฉินเกอยังคง
อบอุ่นเหมือนเคย เขาปฏิบตั ิกบั ทุกคนด้วยท่าทางแบบเดียวกัน “เอา
ละครับ ผมยังต้องกลับไปทํางานต่อ ถึงแม้วา่ ผมจะเป็ นเจ้าของบ้านผี
สิ ง แต่ผมก็เป็ นหนึ่งในพนักงาน และนี่กย็ งั เป็ นเวลาทํางานอยู”่
ด้วยข้ออ้างนั้น ในที่สุดเฉินเกอก็หลุดออกจากวงล้อมผูเ้ ข้าชม เขา
ถอนหายใจโล่งอกหลังจากเข้าไปในบ้านผีสิงได้ “หลอกผูเ้ ข้าชมสิ บ
คนจนหมดสติ นัน่ น่าจะเพียงพอที่จะทําให้ผคู ้ นสนใจและได้รับ
ความนิยมบ้าง หวังว่าผูอ้ าํ นวยการลัว่ จะสามารถกดความเห็นด้านลบ
จากเรื่ องคราวนี้ได้ไม่ให้มนั ถูกคนอื่นเอาไปใช้ผดิ ๆ”
เฉิ นเกอนั้นเตรี ยมวิธีการอันเฉียบขาดในการโฆษณาบ้านผีสิงและ
สวนสนุกเอาไว้อย่างหนึ่ง ถ้ามันไปได้สวย มันก็จะตัดปัญหาเรื่ อง
สวนสนุกแห่งอนาคตที่กาํ ลังจะเปิ ดไปได้ แต่วา่ ถ้ามันถูกใช้ผดิ ๆ ก็
จะกลายเป็ นปัญหาของตนเองแทน
เมื่อไหร่ กต็ ามที่ฉากใหม่เปิ ดขึ้น ก็จะเกิดความวุน่ วาย และนัน่ ก็เป็ น
ผลลัพธ์ที่เฉินเกอต้องการ เพราะอย่างนั้น เขาถึงได้นาํ เอาวิญญาณสี
เลือดสองตนกลับมาจากเมืองหลี่วา่ น เฉินเกอวิง่ เหยาะ ๆ กลับไปที่
ฉาก ไปหาหญิงไร้หวั เพื่อปลอบประโลมเธอก่อนที่จะไปยัง
โรงพยาบาลเอกชนเมืองหลี่วา่ นหารองเท้าส้นสู งสี แดง
อันที่จริ ง โชคของรองเท้าส้นสู งสี แดงนั้นก็ไม่ดีนกั แรกเลยเธอสู ญเสี ย
พลังทั้งหมดไประหว่างการต่อสู ก้ บั หญิงหิ วโหย จากนั้นเธอก็ได้รับ
บาดเจ็บเพราะการต่อสู ข้ องเงา จางหยา และคุณหมอเกา การบาดเจ็บ
ทับซ้อนกัน ตอนนี้เธอแทบจะเหลือแต่เปลือกนอกแล้ว
“ดูเหมือนว่าคุณจะอารมณ์ดีทีเดียว” เฉินเกอนัง่ ลงที่หน้าห้องเก็บศพ
แล้วพิจารณารองเท้าส้นสู งสี แดงในมือ “คุณทําได้ดีมากเลยคราวนี้
ถ้าคุณชอบ คุณจะกลับมาที่นี่เมื่อไหร่ กไ็ ด้นะ บ้านผีสิงของผมเปิ ดรับ
คุณเสมอ”
พลังพิเศษของรองเท้าส้นสู งสี แดงคือคําสาป และนัน่ ก็คล้ายกับเงา
หลังจากนําเธอกลับมาที่บา้ นผีสิง เขา ร่ วมกับพนักงานคนอื่น ๆ ของ
ที่นี่กท็ าํ สัญญากับเธอ หลังจากเธอช่วยพนักงานทั้งหมดกําจัดคําสาป
แล้ว เฉิ นเกอก็จะปล่อยให้เธอจากไป
รองเท้าส้นสู งสี แดงนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อในตัวเฉิ นเกอ
และทุกวันเธอก็พยายามหาทางเปลี่ยนคําสาปของเงา คําสาปส่ วน
ใหญ่ในตัวจางจิงจิ่วและมือกรรไกรนั้นถูกชําระล้างไปแล้ว แต่ความ
ยากที่แท้จริ งนั้นก็คือคําสาปในร่ างของซู่อิน เขาต้องทนทุกข์ทรมาน
เป็ นอย่างยิง่ ถ้าไม่เพราะเขาได้พฒั นาไปเป็ นวิญญาณสี เลือด เขาก็คง
จะหายตัวไปแล้วด้วยความทรมานจากคําสาป
ผลักเปิ ดประตูหอ้ งเก็บศพเข้าไป เฉินเกอก็เดินไปที่เตียงผูป้ ่ วยที่อยู่
ลึกที่สุดในห้อง บนเตียงนั้นมีตลับเทปที่ปกคลุมไปด้วยจุดสี เทาเข้ม
ที่ดูราวกับแผลถลอก
“พักผ่อนให้ดี ทุกอย่างไม่เป็ นไร ฉันอยูต่ รงนี้” เฉิ นเกอวางรองเท้า
ส้นสู งข้าง ๆ ตลับเทปแล้วนัง่ ลงข้างเตียงอยูส่ ิ บนาทีก่อนจะกลับ
ออกไป
Chapter 705 เอีย๋ นต้ าเหนียน : พลังทีแ่ ข็งแกร่ งทีส่ ุ ดของกึง่ วิญญาณ
สี เลือด
บางทีการหมดสติของผูเ้ ข้าชมทั้งสิ บคนอาจจะน่ากลัวเกินไปสักนิด
ตลอดทั้งเช้า ไม่มีใครกล้าท้าทายเมืองไร้นามอีกเลย ทุกคนยอมติด
อยูท่ ี่ฉากระดับตํ่าอย่างว่าง่าย
ผูเ้ ข้าชมรอบ ๆ บ้านผีสิงเริ่ มสงบลงเป็ นลําดับ เฉิ นเกอรู ้สึกว่าบางที
สักวันหนึ่ง ผูเ้ ข้าชมก็จะเคยชินที่ได้เห็นคนหมดสติอยูแ่ ถว ๆ ทางเข้า
บ้านผีสิง
บ่ายสอง มีคนที่อา้ งว่ามาจากสถาบันฝันร้ายมาถามหาเฉิ นเกอ พวกเขา
ลากเพื่อนร่ วมงานกลับขึ้นรถไป หนึ่งในนั้นเป็ นฝาแฝดคู่หนึ่งที่มา
ขอโทษเฉินเกอด้วยตัวเอง เฉินเกอยอมรับคําขอโทษของพวกเขา
อย่างใจกว้างมากและสัญญาว่าเขาจะไปเยีย่ มถ้ามีโอกาสในอนาคต
หลังจากคนจากสถาบันฝันร้ายกลับไปแล้ว นักศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์
จิ่วเจียงก็มา พวกเขาส่ วนใหญ่เป็ นเพือ่ นของหวังตั้น เมื่อได้ยนิ ว่าเพือ่ น
ของพวกเขาหมดสติไปอีกแล้ว พวกเขาก็มาดูหลังจากเลิกชั้นเรี ยน
“นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่– เดี๋ยวเขาก็ฟ้ื นแล้ว” เฉิ นเกอสรุ ปหลังจากตรวจดู
ร่ างกายของหวังตั้น อันที่จริ ง หวังตั้นนั้นตื่นนานแล้ว ในฐานะผูเ้ ข้า
ชมรุ่ นพี่ ความสามารถของเขาในการทนรับความหวาดกลัวทาง
จิตใจนั้นดีกว่าผูเ้ ข้าชมคนอื่น ๆ มา เมื่อรู ้วา่ เฉินเกอให้โอกาสเขาได้
รักษาหน้า ไม่ชา้ หวังตั้นก็ ‘ฟื้ น’ ขึ้นมา
“หวังตั้น ในที่สุดนายก็ฟ้ื นแล้ว!”
“นายกล้าท้าทายฉากระดับ 3.5 ดาวจริ ง ๆ เหรอเนี่ย? ขอชมเชยเลย!”
นักศึกษาจากวิทยาลัยเข้าไปล้อมหวังตั้น และพวกเขาก็ไม่คิดว่าการ
หมดสติอยูใ่ นบ้านผีสิงของเฉินเกอนั้นเป็ นอะไรที่น่าอับอาย อันที่
จริ ง พวกเขารู ้สึกว่าพวกเขาต้องพลาดอะไรไปแน่ ๆ หากไม่มาหมด
สติอยูท่ ี่นี่ เหมือนมีบางอย่างหายไปจากชีวติ มหาวิทยาลัย
“ไม่ถึงกับพ่ายแพ้ท้ งั หมด” หวังตั้นเค้นรอยยิม้ ขึ้นมาบนใบหน้าซี ด
เซียว เขานอนอยูก่ ลางฝูงชนแล้วถูกมองอย่างประหลาดใจราวกับ
เป็ นทหารหาญ “ผมเจอกุญแจของฉากระดับ 3.5 ดาว!”
หวังตั้นขยับหันไปทางเฉินเกอ เขายกมือขึ้น “บอสเฉิ น ครั้งหน้าผม
จะทําสําเร็ จ!”
“ฉากพวกนี้สร้างเอาไว้ให้พวกคุณทุกคนได้สมั ผัสและเคลียร์ฉาก
ดังนั้นผมย่อมต้องยินดีตอ้ นรับพวกคุณกลับมาอยูแ่ ล้ว” เฉิ นเกอนั้น
ชอบใช้เวลากับนักศึกษาพวกนี้– นี่ทาํ ให้เขารู ้สึกอ่อนเยาว์ลง หวังตั้น
และแฟนสาวของเขานั้นมีนกั ศึกษาคนอื่น ๆ พาไป หลังจากที่พวก
เขาหายลับไปจากสายตาเฉิ นเกอ พวกเขาก็เข้าไปล้อมหวังตั้นอีกครั้ง
“หวังตั้น ฉากระดับสามจุดห้าดาวนี่ขา้ งในดูเป็ นยังไง? น่ากลัวแค่ไหน?”
“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องอธิบายความน่ากลัวในเมื่อผูเ้ ข้าชมทั้งสิ บคน
ล้วนหมดสติจากการเข้าชม” หวังตั้นยังอ่อนแรง และขาของเขาก็
เหมือนแป้งเปี ยก “ฉากใหม่เป็ นเมืองเล็ก ๆ แต่วา่ พื้นที่ใหญ่อยูน่ ะ
ฉันเชื่อว่าผูเ้ ข้าชมเข้าพร้อมกันได้ยสี่ ิ บคนเลย ที่นนั่ เต็มไปด้วยกับดัก
และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป เมืองก็เปลี่ยนตามไปด้วย
ตัวเอง”
“เมืองเปลี่ยนด้วยตัวเอง?” หยางเฉินหยิบสมุดจดออกมาแล้วเริ่ ม
เขียน “ความยากเพิ่มขึ้นอีก?”
“ใช่! หมอกไหลไปตามถนน สัญญาณโทรศัพท์ถูกขัดขวาง และ
นักแสดงก็ปรากฏตัวออกมาเต็มถนนเลย”
“พูดอีกอย่างหนึ่ง ถ้าจะเคลียร์ฉากใหม่นี่ พวกเราต้องลงมือให้เร็ วและ
หาคําใบ้ให้เจอมากที่สุดเท่าที่จะทําได้ก่อนที่ความยากจะเพิม่ ขึ้น”
หยางเฉินจดทุกอย่างที่หวังต้้นพูดลงไปในสมุด นี่เป็ นข้อมูลอันมีค่า
ที่หวังตั้นเสี่ ยง ‘ชีวติ ’ ได้มา
“ใช่ นอกเหนือจากนั้นแล้ว ผมยังได้ขอ้ มูลที่สาํ คัญมากมาระหว่าง
การเข้าชม” หวังตั้นคิด “เรื่ องทางออก ผมเจอสามคําใบ้ พวกมันคือ
ตูเ้ ย็นที่มุมห้องครัว ห้องเก็บศพที่ทา้ ยโรงพยาบาล และก็ตูใ้ นห้อง
ดังนั้น ถ้าพวกเราลองกันครั้งหน้า พวกเราก็แค่ตอ้ งให้ความสนใจ
กับตูเ้ ย็น ตูต้ ่าง ๆ และห้องเก็บศพ”
“ได้ มีอย่างอื่นที่พวกเราต้องให้ความสนใจไหม?”
“มีอีกอย่างหนึ่ง ฉันไม่แน่ใจเรื่ องนี้นะ แต่ฉนั เชื่อว่ามันเป็ นความ
จริ ง” หวังตั้นลังเล “เมื่อคิดถึงขนาดของฉากและความเป็ นไปได้ที่
จะเกิดอุบตั ิเหตุ บอสเฉินมีเขตปลอดภัยให้ในฉาก มันอยูต่ รงกลาง
เมือง เป็ นโรงแรม”
“เขตปลอดภัย?”
“ใช่ เจ้าของโรงแรมเป็ นชายวัยกลางคน ตอนนี้พอฉันมาคิด ๆ ดู เขา
ไม่ได้อยูต่ ่อหน้าพนักงานคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาไม่จาํ เป็ นต้องโกหก
ผม” หวังตั้นให้คาํ แนะนําสําคัญอีกข้อหนึ่ง
“นี่สาํ คัญมากเลย มันอาจจะเป็ นเครื่ องช่วยชีวติ ” หยางเฉิ นจดมันลง
ไปแล้ววงสี แดงเอาไว้เหมือนข้อมูลสําคัญอื่น ๆ
เฉินเกอมองส่ งเหล่านักศึกษาเดินออกไปก่อนที่จะหันมาหาผูเ้ ข้าชม
ที่เหลือ “ผูช้ ายในชุดเสื้ อคลุมยาวคนนี้ละเมิดกฎหมาย ฉันควรจะรอ
ให้ตาํ รวจมาพาตัวเขาไป”
ยังมีผเู ้ ข้าชมอยูเ่ ยอะเกินกว่าที่เขาจะเรี ยกตํารวจได้ เฉิ นเกอรอจนถึง
ห้าโมงเย็นตอนที่สวนสนุกกําลังจะปิ ดให้บริ การและโทรหาหลี่ซาน
เป่ าและบอกเขาทุกอย่าง ระหว่างนี้ ผูเ้ ข้าชมสองสามคนก็ค่อย ๆ รู ้สึก
ตัวขึ้น สภาพของจางเฟิ งนั้นค่อนข้างแย่ แต่เขาก็ฟ้ื นขึ้นมาหลังจากที่
เฉินเกอส่ งเขาเข้าไปที่หอ้ งเก็บศพใต้ดินครู่ เดียว ความรู ้สึกอายตัวเอง
ทําให้เขาปลีกตัวกลับออกไปโดยไม่พดู อะไรสักคํา
ชิโนซากิและผูช้ ่วยของเขานั้นก็ทาํ ท่าประหลาดเช่นกัน หลังจาก
พวกเขาฟื้ นขึ้นมา พวกเขาก็นงั่ อยูข่ า้ ง ๆ บ้านผีสิงเหมือนกําลังรอ
เฉินเกอ หกโมงสี่ สิบ หลังจากส่ งผูเ้ ข้าชมกลุ่มสุ ดท้ายลับไป ตอนที่
เฉินเกอเตรี ยมจะปิ ดประตู ชิโนซากิกบั ผูช้ ่วยของเขาก็วงิ่ เข้ามา
“บอสเฉิน!” ชิโนซากิโขยกเขยกเข้ามาหา ผมของเขายุง่ เหยิง และสี
หน้าของเขากระวนกระวาย ดูไม่เหมือนผูเ้ ชี่ยวชาญอะไรเลย
“มีอะไรให้ผมช่วยหรื อครับ?” เฉินเกอนั้นค่อนข้างประทับใจในตัว
ชิโนซากิ
“ผมเจอต้นฉบับการ์ตูนในบ้านผีสิงของคุณ” ชิโนซากิดึงต้นฉบับ
ออกมาจากกระเป๋ า ตอนที่เขาหมดสติไป เขากํากระดาษแผ่นนี้เอาไว้
ในมือแน่น “ผมขอพบคนวาดได้ไหม? ผมชื่นชมเขามาก และผมก็มี
เรื่ องสําคัญอยากจะคุยกับเขา”
“คุณอยากพบเขา?” เฉินเกอรู ้ดีเลยว่าเป็ นเอี๋ยนต้าเหนียนที่วาดต้นฉบับ
นี่
“ใช่ครับ! ผมอยากจะร่ วมมือกับเขาเผยแพร่ งานของเขาไปให้ทวั่ โลก
อัจฉริ ยะอย่างนี้ไม่ควรแอบซ่อนอยูใ่ นบ้านผีสิง!” ชิโนซากิตื่นเต้น
มันนานหลายปี แล้วที่เขาไม่ได้พบผลงานที่ส่งผลต่อเขาลึกซึ้งอย่างนี้
ทุก ๆ หน้านั้นเป็ นศิลปะ และพวกมันก็มีอารมณ์อนั ไม่เหมือนใคร
วาดโลกแห่งความจริ งผ่านสายตาอันประหลาดและเหนือธรรมชาติ
“ตามผมมาสิ ศิลปิ นคนนี้เป็ นคนแปลก ๆ และผมก็รับรองไม่ได้วา่
เขาอยากจะพบคุณหรื อเปล่า” เฉินเกอให้ถงถงติดต่อเอี๋ยนต้าเหนียน
และนําชิโนซากิและผูช้ ่วยของเขากลับเข้าไปในชั้นใต้ดิน
หลังจากได้รับอนุญาตจากเอี๋ยนต้าเหนียน เขาก็ตดั สิ นใจจัดการ
ประชุมเล็ก ๆ “นักวาดอยูใ่ นห้องนอนนี่ เขาไม่ชอบคนแปลกหน้า
เพราะงั้นพวกคุณก็คุยกันผ่านม่านได้ไหม?”
ชิโนซากิน้ นั เป็ นนักวาดการ์ตูนที่มีชื่อเสี ยงและรู ้ทุกอย่างในวงการนี้
กระทัง่ ผูช้ ่วยของเขาก็ยงั ดูเป็ นมืออาชีพ พวกเขามีสตูดิโอของตัวเอง
และยังมีระบบการทํางานที่เพียบพร้อม
เฉินเกอเองก็คอยสังเกตอยูใ่ นตอนแรก แต่หลังจากที่เขาแน่ใจแล้วว่า
ชิโนซากิน้ นั ต้องการร่ วมงานกับเอี๋ยนต้าเหนียนอย่างจริ งใจ และเขา
ยังปรารถนาจะช่วยเอี๋ยนต้าเหนียนเผยแพร่ งานของเขาออกสู่ สายตา
คนทั้งโลก เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับออกมา
นี่เป็ นช่วงเวลาที่เอี๋ยนต้าเหนียนสามารถไขว่คว้าความฝันตลอดชีวติ
ของเขามาได้ ดังนั้นเฉินเกอย่อมไม่อยูร่ บกวน เขายืนเฝ้าอยูน่ อกห้อง
ประมาณครึ่ งชัว่ โมงให้หลัง โทรศัพท์เครื่ องดําของเฉินเกอจู่ ๆ ก็สนั่
เขาเปิ ดมันดูอย่างสงสัยและเห็นว่ามีการอัพเดทเพิม่ ขึ้นมาในแถบ
พนักงาน
ในส่ วนของเอี๋ยนต้าเหนียน พลังพิเศษที่เดิมเป็ นเครื่ องหมายคําถาม
ตอนนี้น้ นั เปลี่ยนไปเป็ นสี เทา มันยังใช้การไม่ได้ แต่วา่ เฉิ นเกอ
สามารถอ่านรายละเอียดได้
“ความปรารถนาเป็ นจริ ง : พลังที่แข็งแกร่ งที่สุดของกึ่งวิญญาณสี
เลือด! ความปรารถนาในหัวใจของคุณจะผลิดอกออกผล ใช้ได้
สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทุกการใช้จะทําให้จาํ นวนหน้าในหนังสื อ
การ์ตูนลดลงหนึ่งหน้าอย่างถาวร!
“ชีวติ ของฉันคือการ์ตูน : ทุกหน้าคือความทรงจําของฉัน สัญญาที่
ฉันรักษาเอาไว้ไม่ได้จะถูกฉี กขาด โยนทิ้งไปในอากาศ ให้ปลิวไป
กับสายลม…”
Chapter 706 สั ญญาทีบ่ อสเฉินให้ ไว้
“ความปรารถนาในหัวใจจะสัมฤทธิ์ผล? เดี๋ยวก่อนนะ ไม่มีจาํ กัดเวลา
และยังไม่มีบอกด้วยว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหนความปรารถนาถึง
จะเป็ นความจริ ง การใช้แต่ละครั้งจะใช้หนังสื อการ์ตูนหนึ่งหน้างั้น
เหรอ? พลังที่แข็งแกร่ งที่สุดของกึ่งวิญญาณสี เลือดไม่ได้ทรงพลัง
เท่าที่ฉนั คาดเอาไว้” เฉินเกออ่านข้อมูลพลังพิเศษของเอี๋ยนต้าเหนียน
อย่างจริ งจัง “ถ้าฉันมีความปรารถนาในใจ ฉันก็จะเติมเต็มมันด้วย
สองมือของตัวเอง ใช้ชีวติ ของคนอื่นทําความฝันของฉันเนี่ยนะ ต่อ
ให้มนั เป็ นจริ งขึ้นมา ความฝันนัน่ ก็จะเปลี่ยนไปเป็ นไร้ความหมาย”
อ่านคําบรรยายบนโทรศัพท์เครื่ องดําแล้วเฉินเกอก็รู้สึกได้ถึงความ
เศร้าโศกเบื้องหลัง ต้าเหนียนวาดโลกอันประหลาดและผิดธรรมดา
ด้วยปากกาของเขา แต่ในเวลาเดียวกัน โลกนัน่ ก็อาจจะมองได้วา่
บริ สุทธิ์ที่สุด และใสสะอาดที่สุด มันถูกคนอื่นเรี ยกว่าเหนือธรรมชาติ
ก็เพียงเพราะว่ามันไม่ได้เป็ นส่ วนหนึ่งของความจริ ง
เฉินเกอเก็บโทรศัพท์ลงไปและไม่นานหลังจากนั้น ชิโนซากิและ
ผูช้ ่วยของเขาก็ออกมาจากห้องพร้อมกับถุงใบใหญ่ พวกเขาดูตื่นเต้น
“คุยกันเป็ นอย่างไรบ้างครับ?” เฉินเกอถาม
“คนอย่างอาจารย์เอี๋ยนเนี่ยเป็ นศิลปิ นจริ ง ๆ เป็ นเกียรติและเป็ นโชคดี
ของผมโดยแท้ที่มีโอกาสร่ วมงานกับเขา” ชิโนซากิน้ นั เป็ นชายผู ้
ภาคภูมิใจในตัวเองและมันก็ไม่ใช่เรื่ องง่ายที่จะให้เขายอมรับอะไร
เช่นนี้
“เอี๋ยนต้าเหนียนใช้เวลาทั้งชีวติ ในการวาดและเขียนการ์ ตูน เขาเป็ น
คนตรงไปตรงมาและไม่รู้จกั เล่ห์เหลี่ยม ผมหวังว่าคุณจะร่ วมมือกับ
เขาอย่างจริ งใจและไม่ใช้กลอุบายใต้โต๊ะอะไรนะครับ” เฉิ นเกอยืน
อยูก่ ลางทางเดินมืด เขายังสวมชุดคุณหมอชุ่มเลือดอยู่ และโซ่กล็ าก
อยูบ่ นพื้นเป็ นทางในความมืด
“เข้าใจแล้ว คุณไม่ตอ้ งห่วงเรื่ องนั้น” หน้าผากของชิโนซากิมีเหงื่อ
เย็น ๆ ผุดพราวออกมา ประสบการณ์ในบ้านผีสิงก่อนหน้านี้ของเขา
ย้อนกลับมา ความทรงจํานัน่ คงจะหลอกหลอนเขาไปชัว่ ชีวติ
“ผมดีใจที่ได้ยนิ อย่างนั้นนะ ผมหวังว่าพวกคุณสองคนคงจะร่ วมมือ
กันได้เป็ นอย่างดี นอกจากนั้นแล้ว หากเป็ นไปได้ ผมอยากให้คุณพูด
ถึงบ้านผีสิงจิ่วเจียงตะวันตกบนการ์ตูนที่ตีพิมพ์ อย่างไรเสี ย เอี๋ยนต้า
เหนียนก็ยงั นับเป็ นพนักงานของผม” เฉิ นเกอพูดออกไปง่าย ๆ
“ไม่มีปัญหา พวกเราควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” ชิโนซากินนั้น
คุน้ เคยกับโลกธุรกิจ แต่เขาไม่สามารถอธิบายความหวาดกลัวของ
เขาในตัวชายหนุ่มผูน้ ้ ีได้ หลังจากส่ งชิโนซากิและผูช้ ่วยของเขากลับไป
เฉินเกอก็ไปคุยกับเอี๋ยนต้าเหนียน
เอี๋ยนต้าเหนียนส่ งผลงานของเขาให้สตูดิโอของชิโนซากิ และพวก
เขาจะตีพิมพ์การ์ตูนสองเรื่ องในไม่ชา้ – ผูเ้ ช่าปิ ศาจ และโรงเรี ยนแห่ง
ปรโลก
ผูเ้ ช่าปิ ศาจนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวติ ของเอี๋ยนต้าเหนียนเอง
ขณะที่โรงเรี ยนแห่งปรโลกนั้นเป็ นผลงานใหม่ใช้โรงเรี ยนมัธยมมู่
หยางเป็ นฉากหลัง ทั้งสองเรื่ องจะได้ลงในเวบไซต์การ์ตูนที่เป็ นที่
รู ้จกั ทัว่ โลกเป็ นตอน ๆ ผูเ้ ขียนนั้นใช้ชื่อเอี๋ยนต้าเหนียน และแบ่ง
ค่าลิขสิ ทธิ์ระหว่างเอี๋ยนต้าเหนียนกับสตูดิโอของชิโนซากิคนละครึ่ ง
จากการคาดเดาของชิโนซากิแล้ว เอี๋ยนต้าเหนียนนั้นน่าจะสามารถ
อยูอ่ ย่างสุ ขสบายได้แน่นอนในอนาคต
“เงินเป็ นต้นกําเนิดของบาปมากมาย ต้าเหนียนนั้นใสซื่อเกินกว่าจะ
จัดการกับเงินจํานวนมากได้ เพื่อรักษาความหลงใหลในศิลปะของ
เขาเอาไว้ ฉันไม่ควรปล่อยให้เขาถูกเงินล่อลวงไป ฉันคิดว่าฉันคง
ต้องดูแลค่าลิขสิ ทธิ์ให้เขาไปก่อนตอนนี้”
เมื่อชื่อเสี ยงของเอี๋ยนต้าเหนียนโด่งดังขึ้น กึ่งวิญญาณสี เลือดตนนี้
อาจจะกลายมาเป็ นหนึ่งในเสาหลักของบ้านผีสิง หลังจากจัดการ
เรื่ องเอี๋ยนต้าเหนียน เฉินเกอก็อารมณ์ดีข้ ึน เขาเดินออกไปจากบ้านผี
สิ ง ซูวา่ นกับเสี่ ยวกู่กลับไปแล้วหลังจากทําความสะอาด แต่วา่ มือ
กรรไกรกับจางจิงจิ่วยังอยู่
“พวกนายสองคนทําได้ดีมากวันนี้ แต่กย็ งั พัฒนาได้อีก” เฉินเกอดึง
โทรศัพท์ของเขาออกมาดูโน้ตที่จดเอาไว้ “มือกรรไกร นายมี
พรสวรรค์เรื่ องนี้ แต่วา่ นายยังไม่ได้ใช้มนั ออกมาอย่างเต็มศักยภาพ
ตอนที่พวกเราทําให้ผเู ้ ข้าชมจนมุมได้ก่อนหน้านี้ ทําไมเขาถึงเลือกที่
จะวิง่ ไปทางนายรู ้ไหม? ก็เพราะว่าเขามองเห็นจุดอ่อนของนายที่เขา
สามารถฉวยโอกาสได้
“จิงจิ่ว นายไม่จาํ เป็ นต้องรี บร้อน ยังมีหลายอย่างที่พนักงานบ้านผีสิง
ต้องเรี ยนรู ้ นายทําความคุน้ เคยกับความมืด และนัน่ ก็กา้ วหน้าขึ้นมาก
ทีเดียว ค่อย ๆ ทําและใช้เวลาไป ฉันจะไปที่โรงแรมและเล่นเป็ น
เจ้าของโรงแรมดูสกั ครั้ง บางทีปฏิสมั พันธ์ระหว่างฉันกับผูเ้ ข้าชม
อาจจะทําให้คุณมีแรงบันดาลใจอะไรได้”
หลังจากคุยกับพนักงานใหม่สองคนแล้ว เฉินเกอก็แนะนําบางอย่าง
ให้พวกเขาได้อ่านก่อนที่จะให้เลิกงานได้
“ภารกิจเมืองหลี่วา่ นสําเร็ จแล้ว แต่ยงั มีจุดที่ไม่สมบูรณ์” เฉิ นเกอรอ
จนพระอาทิตย์ตกดินก่อนที่จะคว้ากระเป๋ าสะพายหลังเรี ยกแท็กซี่ ไป
ยังถํ้ามังกรขาว ตอนที่เขาไปถึงที่อุโมงค์ ท้องฟ้าก็มืดไปแล้ว
“หัวใจของเงาที่จางหยากับคุณหมอเกาแบ่งกันไปมันหายไปแล้ว แต่
ว่าผีทารกยังมีชีวติ อยู่ ภารกิจระดับสี่ ดาวนี่ยากกว่าภารกิจเมืองหลี่วา่ น
มากแน่นอน หลังจากมันคลอดออกมามันก็จะมาจัดการกับฉันแล้ว
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือหามันให้เจอก่อนที่มนั จะคลอด”
ผีทารกน่าจะเป็ นวิญญาณสี เลือดชั้นสู ง และวิญญาณสี เลือดที่น่ากลัว
ยิง่ กว่าจางหยา
“หากฉันไม่สามารถหยุดยั้งมันก่อนที่จะถือกําเนิดได้ อย่างนั้นฉันก็
ได้แต่หวังว่าจางหยาจะมีความก้าวหน้าอะไรขึ้นมา”
ทั้งสองฝ่ ายล้วนทํางานแข่งกับเวลา และความสงบในตอนนี้น้ นั อันที่
จริ งแล้วเป็ นสภาพก่อนพายุจะมา เฉินเกอหลับตาลง มือแตะที่ผนัง
และมุ่งหน้าลึกเข้าไปในถํ้า เขาเรี ยกชื่อตัวเองอยูใ่ นใจ เมื่อเขาเรี ยก
ครบสี่ สิบสี่ ครั้ง อากาศรอบตัวเขาก็เริ่ มอึดอัด และรอบหัวใจเขาก็
ราวกับจะเย็นเยือกขึ้นมา
“แกรอดชีวติ กลับมาได้?”
ได้ยนิ เสี ยงคุน้ เคย ดวงตาของเฉินเกอก็ลืมขึ้นช้า ๆ “เธอน่าจะคุน้ เคย
กับการเปลี่ยนแปลงในจิ่วเจียงตะวันออกได้มากกว่าผม เงาถูกกินไป
แล้ว”
เงาของแมงมุมยักษ์น้ นั ชะโงกอยูเ่ หนือตัวเฉินเกอ ที่ดา้ นบนอุโมงค์
แขนขาใหญ่โตคืบคลานออกมาจากความมืด และแมงมุมตัวหนึ่งก็
ห้อยตัวอยูเ่ หนือหัวเฉินเกอ
“เงาถูกกินไปแล้ว? โดยใครกัน?” ร่ างท่อนบนของแมงมุมนั้นเป็ น
เด็กชายคนหนึ่ง นี่เป็ นลูกชายของหญิงในอุโมงค์ และเขาก็คือเจ้าของ
ที่แท้จริ งของภารกิจระดับสามดาว ที่ในอุโมงค์
“นัน่ ไม่สาํ คัญ สิ่ งสําคัญก็คือพวกเราดูเหมือนจะสร้างปั ญหาใหญ่
ขึ้นมา” เฉินเกอเล่าให้เขาฟังเรื่ องผีทารก เขาต้องการลากวิญญาณสี
เลือดตรงหน้าเขาตนนี้เข้าไปยุง่ เกี่ยวในเรื่ องนี้ดว้ ย ถ้อยคําของเฉิ น
เกอยืนยันความสงสัยของเด็กชาย ยิง่ ฟัง ใบหน้าของเขาก็ยงิ่ ทะมึน
ขึ้น สังหารเฉิ นเกอตอนนี้น้ นั ไม่ได้ประโยชน์อะไร
“ฉันพาเธอกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว และฉันก็หวังว่าพวกเราจะได้
ร่ วมมือกันอีกครั้งในอนาคต” หลังจากพูดทุกอย่างที่ตอ้ งพูดแล้ว
เฉินเกอก็ปล่อยแม่ของเด็กชายออกจากหนังสื อการ์ตูนและถอย
กลับไป
เดินออกจากอุโมงค์แล้วเฉินเกอก็เดินไปตามถนนถึงครึ่ งชัว่ โมงกว่า
จะเรี ยกรถได้ เขาแบกกระเป๋ าขึ้นรถไปยังโรงพยาบาลจิตเวชร้างที่
จิ่วเจียงตะวันตก เฉิ นเกอกระโดดข้ามกําแพงอย่างง่ายดายเข้าไปยัง
หอผูป้ ่ วยสาม เขางัดประตูเปิ ดเข้าไปในทางเดินที่เต็มไปด้วยหมอน
และที่นอน
“เหมินหนาน?” เปิ ดหนังสื อการ์ตูนแล้วเฉิ นเกอก็เรี ยกเหมินหนาน
ออกมา เงาสี แดงปรากฏที่ขา้ งตัวเฉินเกอ เมื่อเหมินหนานเห็นโถง
ทางเดินที่คุน้ เคยเขาก็รู้สึกถึงฝ้านํ้าตาร้อน ๆ บนดวงตา
“ยินดีตอ้ นรับกลับบ้าน” เฉินเกอบิดขี้เกียจ เขารู ้สึกสบายอย่าง
ประหลาดในสถานที่แปลก ๆ เช่นนี้ บางทีอาจจะเป็ นเพราะเขามา
ที่นี่บ่อยครั้งเกินไปแล้ว
“นี่เป็ นบ้านผม ไม่ใช่บา้ นคุณ!” เหมินหนานบ่นเบา ๆ ในฐานะ
วิญญาณสี เลือดตนหนึ่ง เขารู ้สึกว่าเขาควรจะทําตัวมีศกั ดิ์ศรี กว่านี้
แต่เมื่อไหร่ กต็ ามที่มองเฉินเกอ เขาก็รู้สึกอยากจะอาละวาดขึ้นมา
Chapter 707 หนังสยองขวัญนี่สร้ างยังไงนะ?
“ใช่ ใช่ ยังไงเธอก็เป็ นวิญญาณสี เลือดน่ะนะ” เฉินเกอยักไหล่ขณะ
เดินเข้าไปในห้องโถง
“เฮ้! คุณกําลังวางแผนจะทําอะไรน่ะ? ผมกลับมาแล้วนะ!” เหมินหนาน
กระวนกระวาย เขามีความรู ้สึกว่าเฉินเกอพาเขากลับบ้านอย่างมี
จุดประสงค์แอบแฝง ในใจเขา เฉินเกอเป็ นคนแบบนั้น
เฉินเกอยืนนิ่งอย่างประหลาดใจและพูดออกมาตามจริ ง “ในเมื่อฉันก็
มาอยูท่ ี่นี่แล้ว เธอจะไม่เชิญฉันไปดูหลังประตูหน่อยเหรอ?”
“คุณ…” เหมินหนานเองก็ไม่รู้จะบอกเฉิ นเกออย่างไรดี ในเมื่อเขา
เป็ นคนเป็ นคนแรกที่ขอเข้าไปด้านหลังประตู “ตอนเที่ยงคืน ประตู
เปิ ดได้แค่หนึ่งนาทีเท่านั้น ดังนั้นคุณก็อยูใ่ นประตูผมได้แค่นาทีเดียว
ถ้าคุณอยูน่ านกว่านี้ คุณก็ตอ้ งรอจนกว่าจะถึงวันพรุ่ งนี้ถึงจะกลับ
ออกไปได้”
“แค่นาทีเดียว?” เฉิ นเกอไม่ตอ้ งการรบกวนเหมินหนานเกินไป “ถ้า
อย่างนั้นก็ได้ ยังมีโอกาสอีกมากในอนาคต ทางที่ดีเธอไปซ่อม
หน้าต่างก่อน ฉันไม่รบกวนเธอแล้ว”
“อย่างนั้นผมไปได้แล้วใช่ไหม?” เหมินหนานมองเขาอย่างระแวดระวัง
เหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเฉินเกอจะจู่ ๆ ใจดี
“ไปเถอะ เธอช่วยฉันมาหลายครั้ง ต่อไปถ้าเธอเจอปัญหาอะไรที่แก้
ไม่ได้กม็ าหาฉันได้ทุกเวลา”
“นัน่ ไม่มีทาง ตราบใดที่ผมไม่ตอ้ งเข้าไปยุง่ เกี่ยวอะไรกับคุณผมก็จะ
ไม่เจอปัญหาอะไรทั้งนั้น” เหมินหนานบ่นเบา ๆ
“นัน่ อาจจะไม่จริ งก็ได้ เงาที่พวกเราฆ่าไปก่อนหน้านี้น้ นั เป็ นแค่หุ่น
ชักใยของวิญญาณสี เลือดชั้นสู ง ถ้าพวกเราไม่ฆ่าตัวจริ งของมัน
อย่างนั้นวิญญาณสี เลือดชั้นสู งนัน่ ก็จะมายุง่ กับพวกเราแน่นอน”
“วิญญาณสี เลือดชั้นสู ง?” ใบหน้าของเหมินหนานซีดลงและดวงตา
ของเขาก็เบิกกว้าง เขาคิดว่าเงานัน่ เป็ นปิ ศาจที่น่ากลัวที่สุดแล้ว แต่วา่
มันกลับยังมีร่างหลักอีก
“ร่ างจริ งของปิ ศาจนัน่ เรี ยกว่าผีทารก สร้างขึ้นจากคําสาปและความ
อาฆาตแค้น มันผูกพยาบาทมาก ดังนั้นเธอต้องระวังตัว” จากนั้นเฉิน
เกอก็กลับออกไป เดินออกจากหอผูป้ ่ วยสามแล้วเฉินเกอก็พลิกหน้า
หนังสื อการ์ตูนพลางคิดถึงสิ่ งที่ยงั ไม่ได้ทาํ
“ฉันเป็ นคนรักษาคําพูด ฉันยังไม่ได้เริ่ มทําตามสัญญาที่ให้ไว้กบั จาง
เหวินอวี้ โอเปอเรเตอร์สายด่วนฆ่าตัวตายเลย เมื่อไหร่ ที่ฉนั ช่วยเขา
ทําตามความปรารถนาก่อนตายของเหยือ่ ฆ่าตัวตายสําเร็ จ เขาก็จะ
ช่วยฉันตอบแทน” เฉินเกอนั้นมีกาํ ลังคนจํากัด ตามหาผีทารกซึ่ ง
อาจจะอยูท่ ี่ไหนก็ได้ในจิ่วเจียงนั้นยากมาก แต่วา่ จางเหวินอวี้น้ นั ต่าง
ไป เขาแบกรับวิญญาณสัมภเวสี ของเหยือ่ ฆ่าตัวตายทั้งหมดที่เขาเคย
มีปฏิสมั พันธ์ดว้ ยเอาไว้ เขาต้องช่วยคนทั้งหมดเพื่อเป็ นการไถ่บาป
แต่เพราะอย่างนั้น เหล่าวิญญาณสัมภเวสี ที่ติดอยูก่ บั เขาก็ยงั มอบพลัง
ของพวกเขาให้
จางเหวินอวี้น้ นั เป็ นวิญญาณสี เลือดที่พิเศษออกไป และกระทัง่ เฉินเกอ
ก็ไม่รู้เลยว่าเขามีพลังแค่ไหน เฉินเกอนั้นแค่คิดถึงกําลังคนที่เพิ่มมาก
ขึ้นเพื่อการตามหาคนผูห้ นึ่ง
“ฉันช่วยทําตามความปรารถนาของผูช้ ายที่ป่วยภาวะโนบิตะ-ไจแอ้นท์
ไปเรี ยบร้อยแล้ว ตามที่พวกเราตกลงกันไว้ ฉันสามารถขอความ
ช่วยเหลือเขาได้ครั้งหนึ่ง” เฉิ นเกอดึงโทรศัพท์ออกมากดหมายเลขที่
เขาจดจําเอาไว้ หลังจากเสี ยงสัญญาณดังสามครั้ง สายก็ถูกรับ แต่วา่
ไม่มีเสี ยงทักทายเขา
“ผมจะช่วยคุณทําตามความปรารถนาของเหยือ่ ให้เร็ วที่สุดเท่าที่ทาํ
ได้ แต่วา่ เมื่อเร็ ว ๆ นี้ผมเจอกับปัญหายุง่ ยากมากเรื่ องหนึ่งและคิดว่า
คุณน่าจะช่วยผมได้” เฉินเกอพูดเข้าประเด็นและบอกสิ่ งที่เขาต้องการ
ออกไป
“คุณต้องการให้ผมทําอะไร?” เสี ยงแหบ ๆ ของจางเหวินอวี้ดงั ผ่าน
โทรศัพท์มา
“ผมต้องการตามหาเด็กที่ยงั ไม่เกิดคนหนึ่ง ผมเคยเห็นหน้าเขา และ
อีกเดี๋ยวผมจะส่ งภาพวาดใบหน้าเขาให้คุณ” เฉินเกอให้เอี๋ยนต้าเหนียน
วาดรู ปใบหน้าของเด็กที่หน้าอกของเงานัน่ ที่น่าจะเป็ นหน้าตาของผี
ทารก
“ถึงผมจะรู ้วา่ เขาหน้าตายังไง แต่เขายังไม่เกิด แล้วผมจะรู ้ได้ยงั ไงว่า
เขาอยูท่ ี่ไหน?”
“คุณเป็ นวิญญาณสี เลือด คุณน่าจะมีวธิ ีการของคุณ”
ทั้งสองฝ่ ายเงียบไปก่อนที่ในที่สุดจางเหวินอวี้จะพูด “ได้ ผมจะ
พยายามดู”
“ร่ างหลักของเด็กคนนั้นคือผีทารก มันน่าจะเป็ นวิญญาณสี เลือดขั้น
สู งและยังอันตรายมาก ดังนั้นคุณต้องระมัดระวังระหว่างการค้นหา”
หลังจากจัดการเรื่ องนั้น เฉินเกอก็เปลี่ยนเรื่ อง “ก่อนหน้านี้ คุณบอก
ความปรารถนาของวิญญาณสัมภเวสี ให้ผมสามอย่าง ผมทําสําเร็ จไป
แล้วสอง– ผูป้ ่ วยภาวะโนบิตะ-ไจแอ้นท์ และผูป้ ่ วยมะเร็ งที่ตายบน
ทางรถไฟ แต่วา่ ความปรารถนาที่สามยุง่ ยากเล็กน้อย”
“ความปรารถนาที่สาม?”
“ครับ นักเขียนที่ตอ้ งการให้ผลงานของเขาได้ทาํ หนัง” เฉิ นเกอนั้น
เป็ นเจ้าของบ้านผีสิง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการทําหนัง
มันยากที่จะทําตามความปรารถนานี้ “คุณบอกความปรารถนาของ
วิญญาณสี เลือดตนอื่นได้ไหม? ผมจะลองช่วยพวกเขาก่อน”
“พวกนั้นไม่สาํ คัญ วิญญาณของนักเขียนนัน่ ทรงพลังมากและผมก็
ควบคุมเขาได้อย่างลําบาก หากพวกเราไม่จดั การกับความปรารถนา
ของเขาให้เร็ วที่สุด ผมก็อาจจะถูกเขากลืนกินไปได้” จางเหวินอวี้พดู
อย่างจนปั ญญา “คุณต้องช่วยเขาเติมเต็มความปรารถนา นัน่ เป็ นหนึ่ง
ในเหตุผลที่ผมมาหาคุณ”
“งั้นก็ได้ ผมจะพยายามหาทางดู” หลังจากวางสาย เฉิ นเกอก็เดินไป
ตามถนนอย่างไร้จุดมุ่งหมาย
“ไม่เป็ นไร ทิ้งเรื่ องการตามหาผีทารกให้จางเหวินอวี้ แต่วา่ การถ่าย
หนังนี่กย็ งุ่ ยากจริ ง ๆ” เฉินเกอดึงโทรศัพท์ของเขาออกมา และจู่ ๆ
เขาก็คิดออก “หนังสยองขวัญก็ยงั คงเป็ นหนัง ถึงแม้วา่ ฉันจะไม่มี
ความเกี่ยวข้อง มันก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งจิ่วเจียงไม่มี”
เขาพิมพ์ลงไปในแถบค้นหา– กองถ่ายผีสิง ปรากฏการณ์เหนือ
ธรรมชาติตอนถ่ายหนัง– และก็เจอบางอย่างเข้าจริ ง ๆ
“นักเขียนบทที่มีชื่อเสี ยงตายจากอุบตั ิเหตุกลางดึก เป็ นแผนการตลาด
อันชาญฉลาดหรื อว่าเป็ นอะไรที่น่าขนลุกยิง่ กว่านั้น? นี่เป็ นอุบตั ิเหตุ
ครั้งที่เจ็ดระหว่างการถ่ายทํา ‘ดวงตาข้างซ้าย’ เบื้องหลังคือเหตุการณ์
เหนือธรรมชาติจริ ง ๆ หรื อ?”
เมื่อเปิ ดเข้าไปดู เฉินเกอจึงได้พบว่าบทความถูกลบไปแล้ว เขาเปลี่ยน
คําค้นหาก่อนที่จะพบข้อมูลที่เขาต้องการ
ดวงตาข้างซ้ายนั้นเป็ นชื่อหนังสยองขวัญ แต่วา่ ระหว่างการถ่ายทํา
นั้นเกิดอุบตั ิเหตุข้ ึนหลายครั้ง ครั้งแรกเลยคือการตายจากอุบตั ิเหตุ
ของนักเขียนบทที่อยากเปลี่ยนบทที่เขียน จากนั้นจู่ ๆ นักแสดงนํา
หญิงก็เกิดเสี ยสติข้ ึนมา และการหายตัวไปของนักแสดงนําชาย
หลังจากเปลี่ยนนักแสดงแล้ว ในที่สุดหนังก็ถ่ายทําได้จนเสร็ จ แต่วา่
ก่อนที่จะเปิ ดตัว กองถ่ายก็ถูกเพลิงไหม้ เสื้ อผ้าและอุปกรณ์ประกอบ
ฉากถูกเผาเป็ นเถ้าไปหมด
หลายคนพูดว่านี่เป็ นแค่แผนการตลาดจนกระทัง่ ผูก้ าํ กับหายตัวไป
และจากนั้นข่าวก็ถูกปิ ด ในที่สุด หนังเรื่ องนี้กไ็ ม่ได้เปิ ดตัว จนถึง
ตอนนี้ ยังไม่มีใครได้ดูหนังนัน่ เลย ยังมีข่าวซุบซิบบนออนไลน์ แต่
ว่าส่ วนใหญ่แล้วเป็ นข่าวปลอม
“กระทัง่ บทก็ยงั ถูกเผาไปด้วย นี่น่าสนใจทีเดียว” ความสนใจของ
เฉินเกอถูกกระตุน้ แล้ว เขาเรี ยกแท็กซี่กลับไปบ้านผีสิงแล้วก็วงิ่ เข้า
ไปในห้องพักพนักงานทันที เขาจดโน้ตไว้ขณะค้นหาทุกอย่างที่หา
ได้เกี่ยวกับ ดวงตาข้างซ้าย เขาวุน่ วายอยูจ่ นกระทัง่ ตีสอง และในที่สุด
ก็เจอข้อมูลที่มีประโยชน์หลายชิ้น
“นักแสดงนําหญิงที่เสี ยสติไปยังมีชีวติ อยู่ ตอนนี้พกั อยูท่ ี่โรงพยาบาล
จิตเวชจิ่วเจียง
“กองถ่ายครั้งหนึ่งเคยใช้ภูเขาหยงหลิงจิ่วเจียงตะวันตกเป็ นฉาก
“บทเดิมที่กองถ่ายใช้น้ นั ไม่ใช่นกั เขียนบทเขียนขึ้นมาแต่เป็ นผูก้ าํ กับ
เจออยูใ่ นโรงเรี ยนร้างแห่งหนึ่งในจิ่วเจียงตะวันตก
“ว่ากันว่า ผูก้ าํ กับไม่ได้หายตัวไป แต่วา่ เขาถูกขังอยูใ่ นหนัง”
Chapter 708 สอบถามซึ่งหน้ า
“ผูก้ าํ กับถูกขังเอาไว้ในหนัง ฮึ? นี่ตอ้ งเป็ นเรื่ องผี” เฉินเกอรู ้สึกเหมือน
ว่านี่อยูใ่ นสายงานของเขา ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยมันไปเฉย ๆ เขาเงย
หน้าขึ้นมองนาฬิกาที่บนผนัง ตีสองครึ่ งแล้ว “ต่อให้เรี ยกแท็กซี่ ไป
เขาหยงหลิงก็ใช้เวลาครึ่ งชัว่ โมง ตอนนี้ไม่ทนั แล้ว ดังนั้นฉันควรจะ
ไปดูวนั พรุ่ งนี้
“มีเวลาไม่พอ เวลาอันจํากัดของโรงเรี ยนแห่งปรโลกนั้นกําลังจะ
หมดแล้วแต่วา่ ฉันยังไม่มีวญ ิ ญาณสี เลือดที่ไปกับฉันได้ตอนนี้ จะ
ปล่อยให้เป็ นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ฉันควรจะไปที่กองถ่าย ถ้าเป็ นไป
ได้ ช่วยนักเขียนคนนั้นเติมเต็มความปรารถนาของเขาโดยเร็ วที่สุด
เท่าที่จะเป็ นไปได้ หวังว่านัน่ จะช่วยโน้มน้าวให้โอเปอร์เรเตอร์สาย
ด่วนเข้าร่ วมกับบ้านผีสิงของฉันได้”
หลังจากเตรี ยมทุกอย่างแล้ว เฉินเกอก็ปิดโทรศัพท์ และเป็ นครั้งแรก
ในช่วงหลังมานี้ที่เขาได้เข้านอนเร็ ว แปดโมงครึ่ งเช้าวันรุ่ งขึ้น เฉิน
เกอก็ตื่นขึ้นเพราะมีคนเคาะกระจก เขาลืมตาพร่ ามัวขึ้นและได้ยนิ
เสี ยงเสี่ ยวกู่ดงั มาจากนอกหน้าต่าง
“บอสน่าจะออกไปข้างนอกอีกแล้วเมื่อคืนนี้ รอที่ประตูแหละ”
“ทําไมบอสถึงออกไปข้างนอกกลางคืนบ่อยขนาดนั้น?” เป็ นจางจิง
จิ่วถาม เขาสงสัยเกี่ยวกับเฉิ นเกอมากทีเดียว
“ฉันอธิบายแบบนี้แล้วกัน แอพแชทที่พวกเราใช้ประจําน่ะมีการนับ
ก้าวในชีวติ ประจําวัน และเมื่อไหร่ กต็ ามที่ฉนั มาถึงที่นี่ในตอนเช้า
บอสก็เดินไปแล้วประมาณหมื่นก้าวอ่ะ” นํ้าเสี ยงเสี่ ยวกู่สงบ “แต่วา่
วันนี้ค่อนข้างแปลก ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ บอสเพิง่ เดินไปแค่
สามพันก้าวเท่านั้น ฉันสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรื อเปล่า”
“ถ้าบอสได้ยนิ นายพูดอย่างนั้น เขาจะถลกหนังนายทั้งเป็ น” เสี ยง
ของซูวา่ นดังตามมา พนักงานทั้งหมดดูเหมือนจะมาถึงแล้ว
“ฉันไม่เคยทําร้ายร่ างกายพนักงานของตัวเอง ฉันรู ้สึกเจ็บปวด
เหมือนกันนะพอได้ยนิ เธอคิดอย่างนั้น” เฉินเกอลุกขึ้นจากเตียง ดึง
ม่านหนาเปิ ดออก แล้วเปิ ดหน้าต่าง “อย่างมากที่สุดฉันก็แค่ตดั เงิน
เท่านั้น”
“บอส!” ทั้งสี่ คนยืนอยูข่ า้ งหน้าต่าง– พวกเขาดูเหมือนจะรออยูน่ าน
แล้วทีเดียว
“รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปเปิ ดประตูให้พวกนาย” เฉินเกอมองโทรศัพท์
ของตัวเอง แปดโมงสี่ สิบแล้ว เขาหลับไปเร็ วมากจนลืมตั้งนาฬิกา
ปลุก เปิ ดประตูบา้ นผีสิงแล้วเฉินเกอก็ไล่พนักงานทั้งสี่ คนเข้าไปใน
ห้องแต่งตัวแล้วช่วยพวกเขาแต่งหน้าทีละคน
“ในเมื่อพวกนายอยูท่ ี่นี่กนั ครบ ฉันก็อยากจะประชุมเช้าเสี ยหน่อย
ตอนที่พวกเราแต่งหน้ากันเนี่ย” เฉินเกอแต่งหน้าให้พนักงานอย่าง
เชี่ยวชาญ บางคนอาจจะถึงกับสงสัยว่าเขาไม่ใช่ชายแท้เมื่อเห็นลีลา
สะบัดแปรงแต่งหน้าของเขา “ซูวา่ น เสี่ ยวกู่ พวกนายสองคนเป็ น
พนักงานอาวุโส คอยดูแลสองฉากด้านบน บ้านผีสิงของเราตอนนี้
แบ่งระดับความยากออกเป็ นหลายดาว และผูเ้ ข้าชมหลายคนก็ไม่
ต้องการทดลองฉากที่ยากขึ้นไป ดังนั้น พวกนายจึงมีหน้าที่สาํ คัญ
ที่สุดเพราะเป็ นหน้าเป็ นตาของบ้านผีสิงและยังมีอิทธิพลต่อความ
ประทับใจแรกของผูเ้ ข้าชมของพวกเราด้วย”
“บอสไม่ตอ้ งห่วง ให้เป็ นหน้าที่ผมกับพี่ซูวา่ นเอง” เสี่ ยวกู่ตบหน้าอก
สัญญา บุคลิกสดใสเหมือนพระอาทิตย์ของเขานั้นบ่งบอกว่าเขานั้น
ผูกมิตรกับทุกคนได้โดยง่าย
“มือกรรไกรกับจางจิงจิ่ว พวกนายสองคนดูแลฉากใต้ดิน ฉันต้องการ
ให้พวกนายทําตามที่ได้รับมอบหมาย ถ้าเกิดอุบตั ิเหตุอะไรขึ้นกับผู ้
เข้าชมให้ติดต่อฉันทันที” เฉินเกอสบตากับมือกรรไกรและจางจิงจิ่ว
“ฉากใต้ดินใหญ่มาก ดังนั้นพวกนายสองคนต้องพัฒนาการแสดง
ของพวกนายนะ”
“เข้าใจแล้วครับ” มือกรรไกรกับจางจิงจิ่วนั้นเคยผ่านเมืองหลี่วา่ นมา
พร้อมเฉินเกอ ดังนั้นจึงรู ้ได้ถึงสิ่ งที่เขาไม่ได้พดู ออกมา
“อย่างสุ ดท้าย ฉันจะให้ซูวา่ นถือกุญแจสํารองของบ้านผีสิงอย่างเป็ น
ทางการ ถ้าเกิดว่าฉันไม่อยูข่ ้ ึนมา ก็ให้ดาํ เนินงานไปตามหน้าที่ที่ฉนั
มอบหมายให้พวกนาย” เฉินเกอส่ งกุญแจสํารองให้กบั ซูวา่ นและมอง
ไปยังเด็กสาวที่ในกระจก “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉากบนดิน ให้ถามซูวา่ น
ถ้าซูวา่ นจัดการไม่ได้ ให้ไปหาผูอ้ าํ นายการสวนสนุก ผูอ้ าํ นวยการ
ลัว่ อย่าไปหาคนอื่น และห้ามเชื่อใจใครอื่น”
ก่อนที่ซูวา่ นจะตอบรับ เฉินเกอก็ลุกขึ้นยืน “ฉันจะไปจัดการกับฉาก
ใต้ดิน ตอนนี้ มือกรรไกรกับจางจิงจิ่วมากับฉัน ฉันยังมีหลายอย่าง
ต้องสอนพวกนาย”
หลังจากเฉินเกอกับอีกสองคนเดินไปแล้ว เสี่ ยวกูกพ็ บว่าซูวา่ นยัง
เหม่อมองเข้าไปในกระจก “พี่ ไปกันได้แล้ว ผูเ้ ข้าชมกําลังจะมากัน
แล้ว”
“หื ม อืม” ซูวา่ นกํากุญแจในมือตัวเองแน่นเหมือนเธอกลัวว่าจะเธอ
จะบังเอิญทําของสําคัญมากชิ้นนี้หายไป
เฉินเกอนําจางจิงจิ่วและมือกรรไกรเข้าไปใต้ดินและไปหยุดอยูท่ ี่
หน้าห้องหนึ่งที่หอ้ งเก็บศพใต้ดิน เขาเคาะประตูแล้วก็มีชายชราใน
ชุดกาวน์สีขาวเดินออกมา ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเส้นผมสี ขาว แต่
เขากลับมีแผ่นหลังเหยียบตรงราวกับต้นสนที่หยัดยืนหันหน้าสู่ หน้า
ผา
“สุ ภาพบุรุษชราผูน้ ้ ีคือเว่ยจิ่วฉิน เขาเป็ นหมอที่ดีที่สุดของบ้านผีสิง
ของพวกเรา ถ้าฉันไม่อยูใ่ นบ้านผีสิงและพวกนายเจอปัญหาอะไรที่
แก้ไขไม่ได้ มาหาเขา เขาจะช่วยพวกนาย” หมอเว่ยนั้นชราที่สุดและ
มีประสบการณ์ที่สุด นิสยั ของเขาไม่มีตรงไหนให้ตาํ หนิได้ และเขา
ยังเป็ นหนึ่งในไม่กี่คนในบ้านผีสิงที่สามารถรับมือกับวิกฤติได้อย่าง
ยอดเยีย่ ม
“ทําไมจู่ ๆ เธอก็พดู เรื่ องนี้ข้ ึนมาล่ะ?” หมอเว่ยรู ้สึกเหมือนมีบางอย่าง
ผิดปกติไป
“ไม่มีอะไรครับ แค่เผือ่ เอาไว้”
“ถ้าเธอมีอะไรที่ทาํ ให้กงั วลต้องบอกฉันนะ! ฉันอยูท่ ี่นี่อย่างสุ ขสบาย
และยังมีโอกาสได้พบเจอเพือ่ นเก่า ๆ และสัง่ สอนพวกเขาอย่างที่เคย
ทําด้วย” หมอเว่ยนั้นไม่ใช่คนชอบพูดเล่น แต่เขาก็ทาํ เพื่อให้เฉิ นเกอ
อารมณ์ดีข้ ึน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” เฉิ นเกอตีสีหน้าปกติ หลังจากผูเ้ ข้าชมเริ่ มเข้า
ฉาก เขาก็นาํ มือกรรไกรกับจางจิงจิ่วเดินไปทัว่ ชั้นใต้ดินและแนะนํา
ตัวพวกเขาให้กบั พวกผีส่วนใหญ่
ริ มฝี ปากของมือกรรไกรกับจางจิงจิ่วอ้าค้างหลังจากได้ ‘เดินชม’ จน
ทัว่ มีนกั เรี ยน ครู หมอ ผูป้ ่ วย และ ‘ผูค้ น’ แบบอื่น ๆ อยูท่ ี่นี่ มันเป็ น
เมืองใต้ดินจริ ง ๆ
“สิ่ งที่พวกนายเห็นเป็ นแค่ส่วนหนึ่งของฉากใต้ดินเท่านั้น ที่นี่น้ นั
กว้างขวางมาก พ่อกับแม่ของฉันใช้เวลาเป็ นสิ บปี สร้างที่นี่ข้ ึนมา”
เฉินเกอแบ่งปันความลับกับมือกรรไกรและจางจิงจิ่วมากขึ้นก่อนที่
จะส่ งพวกเขากลับไปที่ฉากเมืองหลี่วา่ น
“มีแค่คนที่ฉนั ผ่านประสบการณ์เป็ นตายมาด้วยฉันถึงจะอนุญาตให้
เป็ นพนักงานของฉันได้ คัดเลือกได้ยากมากทีเดียว” เฉินเกอพยายาม
อย่างที่สุดที่จะฝึ กมือกรรไกรกับจางจิงจิ่ว เมื่อพวกเขาสามารถดูแล
ที่นี่ได้ดว้ ยตัวพวกเขาเองแล้ว เขาก็จะมีเวลาไปจัดการเรื่ องอื่น ๆ
มากขึ้น
ออกจากฉากมาแล้วเฉินเกอก็ถูกลุงซูเรี ยกไปหาตอนที่เดินออกมาที่
ปากทางเข้าบ้านผีสิง “เฉินเกอ ผูอ้ าํ นวยการลัว่ ตามหาแกอยู”่
“ตามหาผม?”
“ใช่ ระวังด้วย มีคนนอกหลายคนอยูใ่ นห้องทํางานของเขา” ลุงซู
กระซิบเตือนเขาก่อนจะไปทํางานต่อ เฉินเกอวิง่ ไปที่ตึกสํานักงาน
และตอนที่เขาผลักประตูเปิ ดเขาก็ได้ยนิ เสี ยงหัวเราะลัน่ ทันที
ผูอ้ าํ นวยการลัง่ ที่ตรงกลางกําลังพูดคุยสนุกสนานกับชายวัยกลางคน
ผูห้ นึ่งอยู่ คนที่เห็นอาจจะคิดว่าพวกเขาเป็ นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กนั มา
นานถึงได้ดูสนิทสนมกัน
“เสี่ ยวเฉิ น มานัง่ สิ ” ผูอ้ าํ นายการลัว่ มีท่าทีเป็ นมิตรกับเฉินเกอ เขาลุก
ขึ้นยืนแล้วเดินไปหา ตอนที่เขาหันหลังให้กบั ชายวัยกลางคน เขาก็
ทําไม้ทาํ มือแต่วา่ เพิม่ เสี ยงขึ้น “นี่คือซี อีโอไป๋ ฉันแนะนําเธอกับเขา
ก่อนแล้ว เขามีบางอย่างอยากคุยกับเธอแน่ะ”
“ซี อีโอไป๋ ?” เฉินเกอเข้าใจได้ในทันทีวา่ นี่ไม่ใช่การมาเยือนอย่าง
เป็ นมิตร
“ไม่จาํ เป็ นต้องมีพิธีรีตองหรอก– พวกเราเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว
ครั้งนี้ ฉันมาเป็ นตัวแทนคนบางคน ดังนั้นก็จะไม่พดู อ้อมค้อม” ซีอี
โอไป๋ พูดพร้อมยิม้ “ก่อนหน้านี้มีคนจากบ้านผีสิงในซินไห่มาที่นี่
และพนักงานของพวกเขาทั้งหมดก็ถูกทําให้ตกใจกลัวจนต้องเข้า
โรงพยาบาล เจ้านายของพวกเขาเป็ นเพื่อนของฉัน ดังนั้นเขาก็เลยให้
ฉันมาถามเธอหน่อย
“ว่าเธอทําอย่างนั้นได้ยงั ไงบอสเฉิ น?
“คนพวกนั้นเป็ นนักแสดงมืออาชีพของบ้านผีสิงที่อยูใ่ นงานนี้มา
อย่างน้อยก็หา้ ปี พวกเขายังเก่งกาจที่สุดเท่าที่หาได้แล้วด้วย”
“ซีอีโอไป๋ คุณมาที่นี่เพราะเรื่ องนี้เหรอครับ?” เฉินเกอคิดก่อนจะหัน
ไปหาซีอีโอไป๋ “บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่พวกเขาพูดก็ได้
ผมเองไม่คิดว่าบ้านผีสิงของผมจะน่ากลัวขนาดนั้นนะครับ ความทน
ต่อความสยองขวัญของแต่ละคนก็ต่างกันไป คุณลองเข้าไปดูบา้ นผี
สิ งของผมด้วยตัวคุณเองดูไหมครับ ซี อีโอไป๋ ?”
Chapter 709 ไม่ โดดเดีย่ วอีกต่ อไปแล้ ว (1+2+3)
ถึงซีอีโอไป๋ จะพยายามทําเหมือนตัวเองเข้าอกเข้าใจแค่ไหน เมื่อเขา
ได้ยนิ คําเชื้อเชิญอย่างใจกว้างจากเฉิ นเกอ ใบหน้าของเขาก็ยงั เปลี่ยน
เป็ นสี เขียวคลํ้า เฉิ นเกอนั้นไม่ใช่คนที่จะมามัวประดิษฐ์ประดอยคํา
เขาชอบพูดตรงเข้าประเด็นมากกว่า
ถ้าคุณคิดว่าบ้านผีสิงของผมมีปัญหา อย่างน้อยที่สุด คุณก็ตอ้ งเข้าไป
สัมผัสมันด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่งก่อนถึงจะมีสิทธิ์ติเตียนอะไร
เป็ นธรรมดาที่ซีอีโอไป๋ จะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเฉินเกอ แกพูด
เล่นหรื อไง? กระทัง่ นักแสดงบ้านผีสิงมืออาชีพยังเป็ นลมไปหลังจาก
เข้าชม ถ้าฉันรับคําเชิญนี่ ก็ไม่ใช่รับคําเชิญไปตายหรื อไง?
“ผมมีเรื่ องสําคัญที่ตอ้ งไปดูตอนบ่ายนี้น่ะ แต่ถา้ ต่อไปมีโอกาส ผม
ต้องรับข้อเสนอนี้ของคุณแน่ ๆ” ซีอีโอไป๋ หัวเราะกระอักกระอ่วน
หลังจากปฏิเสธเฉินเกอแล้วท่าทีของเขาก็ไม่ได้ดูร้ายกาจอย่างก่อน
หน้า
“แย่จงั เลยนะครับ ถ้าต่อไปคุณได้มา คุณต้องบอกผมก่อนนะครับ
ผมจะให้บริ การคุณเป็ นพิเศษเลย” การบริ การเป็ นพิเศษของบ้านผีสิง
ของเฉินเกอนั้นมอบประสบการณ์อนั พิเศษ ผูเ้ ข้าชมหนึ่งคนเข้าฉาก
ระดับ 3.5 ดาว สํารวจเมืองหลี่วา่ นพร้อมกับผูเ้ ข้าชมอีกเก้าคนที่
แสดงโดยพนักงานของบ้านผีสิง
“ตอนนี้ยงั ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องนั้นแล้วกัน” ซีอีโอไป๋ รู ้สึกเหมือนว่าถ้า
เขายังคุยเรื่ องนี้ต่อไป สถานการณ์กจ็ ะไม่เข้าทางเขาแล้ว เขาดึง
โทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ ากดหมายเลข “เสี่ ยวชวง ทําไมนายไม่พา
ซางอิ๋นมาที่นี่ล่ะ? ไม่มีอะไรหรอก ทั้งผูอ้ าํ นวยการลัว่ และเฉินเกอ
เป็ นคนมีเหตุผล พวกเขาไม่ทาํ อะไรนายหรอก”
สองสามนาทีต่อมา เสี ยงฝี เท้าก็ดงั มาจากด้านนอกประตู ฝาแฝดคู่
หนึ่งพยุงหลี่ซางอิ๋นเข้ามาในห้องทํางานของผูอ้ าํ นวยการลัว่ เฉิ นเกอ
เคยเห็นคนกลุ่มนี้มาก่อนแล้ว พวกเขาล้วนเป็ นพนักงานของสถาบัน
ฝันร้าย
“ผูช้ ายคนนี้ดูคุน้ ๆ นะครับ ถ้าผมจําไม่ผดิ เขาเคยมาบ้านผีสิงของผม
มาก่อน” เฉินเกอจําหลี่ซางอิ๋นได้ต้ งั แต่เห็นแวบแรก หลี่ซางอิ๋นนั้น
ไม่กล้ามองเฉินเกอ เขาไปนัง่ ที่มุมห้องด้วยการพยุงจากฝาแฝด
“ซางอิ๋น บอกเฉินเกอสิ วา่ เธอเห็นอะไรในบ้านผีสิง” ซี อีโอไป๋ ดู
เหมือนจะเข้าควบคุมสถานการณ์ได้อีกครั้ง ทุกคนในห้องหันไป
มองหลี่ซางอิ๋น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว เมื่อเขานึก
ถึงสิ่ งที่เกิดขึ้นวันนั้น ร่ างกายของเขาก็สนั่ อย่างควบคุมไม่ได้ และ
ความกลัวที่กน้ บึ้งดวงตาของเขาก็กระจ่างราวกับกลางวัน
“เป็ นเขาแหละ!” หลังจากพ่นสามคํานี้ออกมาอย่างไร้ตน้ สายปลาย
เหตุ ริ มฝี ปากของหลี่ซางอิ๋นก็เปลี่ยนเป็ นสี ม่วงขณะที่เขาหอบเอา
อากาศเข้าไปอย่างกระหาย “ผี! มีผอี ยูใ่ นบ้านผีสิง! ที่นนั่ มีผสี ิ ง!”
“นี่หมายความว่ายังไงน่ะ? ไม่ใช่วา่ มันเป็ นเรื่ องธรรมดาอย่างที่สุด
เหรอที่บา้ นผีสิงจะมีผ?ี ” เฉินเกอเอนตัวพิงพนักโซฟา และถอน
หายใจอย่างจนปัญญา
“แต่วา่ ที่นนั่ มีผจี ริ ง ๆ ! บ้านผีสิงของเขามีผสี ิ งจริ ง ๆ ! ผีท้ งั หมดล้วน
เป็ นของจริ ง! คนเป็ น ๆ ไม่สามารถสร้างความรู ้สึกแบบนั้นได้
หรอก!” จิตใจของหลี่ซางอิ๋นค่อย ๆ กระจ่างขึ้น และถ้อยคําของเขา
ก็เต็มไปด้วยความแหลมคมอีกแบบหนึ่ง
“สถาบันฝันร้ายสร้างความรู ้สึกแบบนั้นไม่ได้ แต่นนั่ ไม่ได้หมายความ
ว่าคนอื่นจะทําไม่ได้” เฉินเกอหมดความอดทนแล้ว นํ้าเสี ยงของเขา
ไม่มีความให้เกียรติใดเหลืออยู่ ดวงตาของเขานั้นมองหลี่ซางอิ๋น
เหมือนมองขยะไร้ค่าชิ้นหนึ่ง “คุณควรจะใช้เวลาพัฒนาตัวเองให้
มากขึ้นแทนที่จะพยายามฉุดคนอื่นลงตํ่า ต่อให้บา้ นผีสิงของผมปิ ด
ตัวไป ผูเ้ ข้าชมก็ไม่ไปบ้านผีสิงของคุณหรอก”
“ไม่! ผมยืนยันได้วา่ สิ่ งเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์! นัน่ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่จะ
เกิดได้จากคนเป็ น ๆ !” ดวงตาของหลี่ซางอิ๋นแดงกํ่า
“ผมเข้าใจว่าคุณรู ้สึกยังไงนะ ในฐานะนักแสดงมืออาชีพของบ้านผี
สิ ง คุณอยากจะไปก่อเรื่ องให้กบั บ้านผีสิงอื่น แต่ทา้ ยที่สุดแล้ว คุณ
กลับเป็ นคนที่หมดสติไปเอง คุณสูญเสี ยความภาคภูมิใจทั้งหมดไป
ดังนั้นคุณจึงคิดเรื่ องโง่ ๆ นี่พยายามกอบกูศ้ กั ดิ์ศรี เล็ก ๆ น้อยที่คุณ
เหลืออยู”่ การวิเคราะห์ของเฉินเกอนั้นมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ
“ผมเป็ นพนักงานที่บา้ นผีสิงมาห้าปี ดังนั้นผมถึงรู ้เรื่ องบ้านผีสิง
มากกว่าที่คุณรู ้ ผมเข้าใจเป็ นอย่างดีวา่ ในอุตสาหกรรมนี้น้ นั มีระดับ
เพดานสู งแค่ไหน…”
หลี่ซางอิ๋นยังต้องการพูดต่อ แต่วา่ เฉิ นเกอตัดบทเขา “ห้าปี นับว่านาน
จริ ง ๆ เหรอ? พ่อกับแม่ของผมเริ่ มต้นทําบ้านผีสิงเคลื่อนที่มาตั้งแต่
สิ บกว่าปี ก่อน ผมเติบโตขึ้นมาโดยมีของประกอบฉากพวกผีและ
สัตว์ประหลาดเป็ นของเล่น ตอนที่คุณยังแก้ผา้ เรี ยนสะกดคํา ผมก็รู้
วิธีการติดตั้งหุ่นแล้ว”
เฉินเกอลุกขึ้นยืน “ผมมองไม่เห็นเหตุผลของการพูดคุยครั้งนี้ เพดาน
ที่คุณพูดถึงนัน่ น่าจะเป็ นเพดานในมุมมองของคุณ หรื อพูดอีกอย่าง
หนึ่ง นัน่ เป็ นเพดานจํากัดของคุณ ไม่ใช่ของผม”
“ไม่จาํ เป็ นต้องทําแบบนี้ เฉินเกอ คุณไว้หน้าผมสักนิดไม่ได้หรื อ
ไง?” ซีอีโอไป๋ ลุกขึ้นยืนตัวตรง เขารู ้สึกว่าตัวเองไว้หน้าเฉินเกอมาก
แล้ว “ซางอิ๋นยังเด็ก และเขาก็ไม่รู้วธิ ีการพูดจา เอาแบบนี้เป็ นไง?
ทําไมคุณไม่เรี ยกนักแสดงทั้งหมดที่รับผิดชอบหลอกเขาออกมา นัน่
น่าจะตอบคําถามทั้งหมดได้ในทีเดียว”
เฉินเกอหันกลับไปมองผูอ้ าํ นวยการลัว่ หลังจากสบตากัน เขาก็หยุด
ยืนนิ่ง “ซางอิ๋น คุณอ้างว่าบ้านผีสิงของผมมีผจี ริ ง ๆ อย่างนั้นคุณ
บอกผมอย่างละเอียดได้ไหมว่าคุณไปเจอเข้ากับผีนนั่ ที่ไหน และผี
ตนนั้นหน้าตาเป็ นยังไง?”
เขาเดินไปหาหลี่ซางอิ๋น หรี่ ตาลง ทุก ๆ ก้าวของเขานั้นทําให้หลี่
ซางอิ๋นโซเซถอยหลังไปจนกระทัง่ จนมุมอยูด่ า้ นหลังโซฟา
“คุณกลัวผมเหรอ? หรื อเพราะคุณคิดว่าผมก็เป็ นผีเหมือนกัน?”
หลังจากทําภารกิจทดลองที่โทรศัพท์เครื่ องดําให้มาสําเร็ จไปหลาย
ภารกิจ เฉินเกอก็ถูกฝึ กจนรอบ ๆ ตัวนั้นมีบรรยากาศอันพิเศษแบบ
หนึ่ง
“ผมจํานักแสดงคนอื่นได้ไม่ชดั นักเพราะว่าความทรงจําของผมมัน
วุน่ วายอยูบ่ า้ ง แต่วา่ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่โรงแรมที่ผมจําได้
ชัดเจน! เขาไม่ใช่คนเป็ น ๆ !” หลี่ซางอิ๋นพูดผ่านไรฟัน “คุณกล้าพา
เขามาเจอผมที่นี่ไหมล่ะ?”
“ที่โรงแรม!? ชายวัยกลางคน?” เฉินเกอขมวดคิ้ว จากที่ผชู ้ ายคนนี้
บรรยาย เขาดูเหมือนจะพูดถึงจางจิงจิ่ว แต่ปัญหาก็คือ… ทําไมผูช้ าย
คนนี้ถึงแน่ใจมากว่าจางจิงจิ่วเป็ นผี? ในฐานะพนักงานใหม่ จางจิงจิ่ว
บางครั้งยังถูกเฉินเกอทําให้ตกใจกลัว แล้วเขาจะไปสร้างความรู ้สึก
ว่าเขาเป็ นผีได้ยงั ไง?
นี่มนั แผนการบ้าอะไรกัน? เฉินเกอไม่เข้าใจเลย
“คุณไม่กล้าใช่ไหมล่ะ? เพราะว่าไม่มีคนแบบนั้นที่บา้ นผีสิงของคุณ!
ผมพูดถูกใช่ไหม?” หลี่ซางอิ๋นตะโกนดวงตาเป็ นประกายกล้า สมอง
ของเขานั้นเติบโตมาในวิถีทางที่ต่างไปจากคนธรรมดา และวิธีการ
คิดของเขานั้นก็เอนเอียงไปในทางสุ ดโต่ง “อย่าได้คิดว่าคุณจะไปเอา
ใครมัว่ ๆ มาแทนเขานะ ผมมีรูปของเขาอยู!่ ”
หลี่ซางอิ๋นใช้มือสัน่ ๆ ของตัวเองดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ า เขา
แตะเปิ ดอัลบั้มรู ปที่เขาถ่ายรู ปจางจิงจิ่วเอาไว้ นี่เป็ นรู ปที่หลี่ซางอิ๋น
ถ่ายเอาไว้ตอนที่เขาอยูใ่ นชุดหญิงท้องก่อนที่จะไปคุยกับจางจิงจิ่ว
“ถูกแมวดึงลิ้นไปแล้วหรื อยังไง? ทําไมถึงลังเล? รู ปนี่ชดั มาก ผม
ต้องการให้คุณพาคนคนนี้มาที่น่ีเดี๋ยวนี้!” หลี่ซางอิ๋นเชื่อว่าเขาเตรี ยม
ตัวมาพร้อม เขารู ้สึกขอบคุณที่ตวั เองได้ถ่ายรู ปนี้เอาไว้ก่อน โชคไม่
ดี เขามีแค่รูปของจางจิงจิ่ว หลังจากที่เขาวิง่ หนีอย่างรี บร้อน การ
ถ่ายรู ปเอาไว้เป็ นหลักฐานก็ไม่ได้ผา่ นเข้ามาในความคิดเขาอีกเลย
“คุณพูดเองนะ คุณทํางานที่บา้ นผีสิงมาห้าปี แล้ว คุณก็ควรจะรู ้วา่ มัน
มีกฎห้ามถ่ายรู ปในบ้านผีสิง ผมจะเก็บรู ปนี่ไว้ และอีกไม่กี่วนั ผมจะ
ไปที่สถาบันฝันร้ายด้วยตัวเองเพื่อขอคําอธิบาย” เห็นรู ปแล้วเฉิ นเกอ
กลับรู ้สึกโล่งอกแทน
“อย่าพยายามเปลี่ยนเรื่ อง!” หลี่ซางอิ๋นเสี ยงดังขึ้น จากมุมมองของ
เขา เขาเป็ นฝ่ ายถูกต้องแน่นอน
“อย่างนั้นก็รอที่นี่” เฉินเกอหันกลับออกไปจากห้องทํางานของ
ผูอ้ าํ นวยการลัว่ เขาไปที่บา้ นผีสิงรับตัวจางจิงจิ่วที่กาํ ลังศึกษาการ
แสดงอยู่
“เอาขวดนํ้ายาล้างเครื่ องสําอางไปด้วย พวกเรากําลังจะไปเจอเพื่อน
เก่า” เฉินเกออธิบายให้จางจิงจิ่วฟังสั้น ๆ ระหว่างทาง และฝ่ ายหลังก็
เข้าใจทุกอย่างได้เกือบจะทันที เคาะประตูแล้วเฉิ นเกอก็พาจางจิงจิ่ว
เข้าไปในห้องทํางานของผูอ้ าํ นวยการลัว่ และตอนที่พวกเขาก้าวเท้า
เข้าไป อุณหภูมิในห้องก็เหมือนจะลดลงไป
“นี่คือนักแสดงในรู ป จางจิงจิ่ว” ทุกคนหันไปหาจางจิงจิ่วที่ยงั มีการ
แต่งหน้าฝี มือเฉินเกออยู่ กระทัง่ ยืนอยูใ่ นห้องทํางานที่สว่างจ้า สบตา
กับเขาก็ยงั ให้ความรู ้สึกหวาดกลัวมาก
“ผมต้องขอโทษที่หลอกคุณเมื่อวันนั้น ผมไม่คิดว่าคุณจะขี้กลัวขนาด
นั้น ผมต้องขออภัยอย่างสุ ดซึ้ งจริ ง ๆ” จางจิงจิ่วเดินเข้าไปหาหลี่ซาง
อิ๋น แต่เมื่อฝ่ ายหลังเห็นเขาเดินเข้าไปหา เขากลับกรี ดร้องออกมา
เหมือนเด็กผูห้ ญิงแล้วกระโดดหนีไป
“ไม่! อยูห่ ่าง ๆ นะ! นี่มนั แหละ! เขาเป็ นผี! เขาเป็ นผีจริ ง ๆ นะ!”
“ไม่ตอ้ งสนใจเขา” เฉินเกอส่ งขวดนํ้ายาล้างเครื่ องสําอางให้จางจิงจิ่ว
“ไปล้างเครื่ องสําอางออกซะ เดี๋ยวฉันแต่งให้นายใหม่ทีหลัง”
“ได้ครับ” และจางจิงจิ่งก็ทาํ อย่างที่ถูกบอกให้ทาํ หลังจากถอดเสื้ อ
คลุม เขาก็เปลี่ยนไปเป็ นอีกคนหนึ่งในทันที ตัวเขาไม่มีอะไรน่ากลัว
เขาดูเหมือนพนักงานออฟฟิ ศคนหนึ่งที่พบได้ทวั่ ไป
“ไม่ใช่วา่ นักแสดงที่สถาบันฝันร้ายก็แต่งหน้าเหรอ?” จางจิงจิ่ววาง
ขวดนํ้ายาล้างเครื่ องสําอางลงตรงหน้าพนักงานทั้งสามคนจาก
สถาบันฝันร้าย
เมื่อความจริ งกระจ่างอยูต่ รงหน้าพวกเขาแล้ว ฝาแฝดคู่น้ นั ก็รีบลุก
ขึ้นขออภัย “พวกเราเสี ยใจมาก การแต่งหน้าของบ้านผีสิงของคุณ
สุ ดยอดมาก ๆ พวกเราวูว่ ามเกินไป พวกเราต้องขออภัยด้วย”
“ไม่ตอ้ งขอโทษหรอก ผมแน่ใจว่ามีหลายอย่างที่พวกเราสามารถ
เรี ยนรู ้ได้จากกันและกัน ผมสัญญาว่าจะไปเยีย่ มสถาบันฝันร้ายไม่ชา้
ก็เร็ ว”
พนักงานจากสถาบันฝันร้ายสัมผัสได้ถึงความโกรธที่แผ่ออกมาจาก
เฉินเกอ หลังจากขอโทษซํ้า ๆ พวกเขาก็รีบปลีกตัวออกไปเร็ วที่สุด
เท่าที่จะทําได้ ซี อีโอไป๋ ดูกระอักกระอ่วนและนัง่ อยูท่ ี่เดิมอย่างอับ
อาย แต่เขาก็ยงั พยายามรักษาท่าทีเอาไว้
“เสี่ ยวเฉิ น ตอนนี้มีแค่น้ ีแหละ เธอกลับไปได้เลย” ใบหน้าของ
ผูอ้ าํ นวยการลัว่ เต็มไปด้วยรอยยิม้ พึงพอใจ เขาดูเหมือนจะมีหลาย
อย่างที่อยากจะ ‘พูดคุย’ กับซีอีโอไป๋
“ได้ครับ” เฉินเกอรู ้วา่ ผูอ้ าํ นวยการลัว่ เตรี ยมจะเชือดซี อีโอไป๋ แต่
พวกเขาไม่มีใครพูดอะไร ระหว่างทางกลับ เฉิ นเกอพบว่าจางจิงจิ่ว
ก้มหน้าตํ่าเหมือนมีบางอย่างในใจ
“จิงจิ่ว ถ้านายมีอะไรอยูใ่ นใจก็พดู ออกมาได้เลย พวกเราผ่านความเป็ น
ความตายมาด้วยกัน ดังนั้นคุณบอกผมได้ทุกเรื่ อง” เสี ยงของเฉิ นเกอ
อบอุ่น เขาสามารถทําให้คนอื่นนั้นมีกาํ ลังใจขึ้นมาถ้าเขาตั้งใจจะทํา
“ผมสร้างปั ญหาให้คุณอีกแล้วใช่ไหม? ผมรู ้สึกไร้ประโยชน์มากเลย
ผมหลอกผูเ้ ข้าชมได้ไม่ดี และยังลดค่าเฉลี่ยความน่ากลัวรวมของบ้าน
ผีสิงของพวกเรา แล้วคราวนี้ ผมยังสร้างปั ญหาใหญ่ให้คุณอีก” เสี ยง
ของจางจิงจิ่วเจื่อน “ตั้งแต่เด็ก ผมก็มกั จะสร้างปั ญหาให้ครอบครัว
เพราะแม่ของผม ผมก็เลยทุ่มความไม่พอใจทั้งหมดใส่ พอ่ เชื่อว่ามัน
เป็ นความผิดของเขา แต่ตอนนี้ ผมรู ้แล้วว่ามันเป็ นแค่หนทางง่าย ๆ
ให้ผมหนีจากการถูกกล่าวโทษ มองกลับไปแล้ว ผมเป็ นคนที่แย่
เป็ นลูกที่แย่”
“หลายวันมานี้ ผมมองคุณอยูใ่ นบ้านผีสิง คุณพยายามเรี ยนรู ้อย่าง
หนัก แต่ผมรู ้สึกว่ามีบางอย่างรั้งคุณเอาไว้ คุณทําให้ผมรู ้สึกว่าคุณขัง
ตัวเองเอาไว้ในกรงเล็ก ๆ”
ยืนอยูใ่ นตึกสํานักงาน เฉินเกอมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของ
เขากวาดมองทั้งสวนสนุก
“ทุกคนล้วนมีช่วงเวลาอ่อนแอและสู ญเสี ย แต่วา่ ทุกคนก็ยงั มีเสน่ห์
ของตัวเองเช่นกัน ตอนนี้ สิ่ งที่คุณต้องทําก็คือปลดโซ่ที่รอบหัวใจ
คุณ และปล่อยตัวตนแท้จริ งของคุณออกมา เมื่อถึงเวลา คุณก็จะได้
กลับไปซิ นไห่พบพ่อของคุณ บางอย่างนั้นอย่าปล่อยทิ้งไว้ไม่พดู จะ
ดีกว่า คุณจะรู ้สึกดีข้ ึนหลังจากนั้น”
เฉินเกอตบบ่าจางจิงจิ่ว “ลองมองดูสิ พนักงานที่ผมสามารถพึ่งพาได้
ก็มีแค่พวกคุณไม่กี่คน ต่อไป ผมวางแผนจะให้คุณเปิ ดสาขาให้ผม
ในต่างเมือง และถึงตอนนั้น คุณก็ตอ้ งควบคุมดูแลหลายอย่างเลย
นะ”
“ขอบคุณครับ”
“ไม่ตอ้ งขอบคุณผมหรอก ผมมีพนักงานแค่ไม่กี่คน และผมก็ปฏิบตั ิ
กับทุกคนเหมือนเป็ นครอบครัวของผม” เฉิ นเกอพาจางจิงจิ่วกลับไป
ที่บา้ นผีสิง เขาให้จางจิงจิ่วกลับไปสวมบทเจ้าของโรงแรมเหมือนเดิม
ขณะที่เขากลับไปที่หอ้ งพักพนักงานเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับดวงตา
ข้างซ้ายเพิ่ม เขาวางแผนจะลงมือคืนนี้
“โรงเรี ยนแห่งปรโลกจะถึงเส้นตายวันมะรื นนี้ ไม่วา่ จางหยาจะตื่น
ขึ้นมาหรื อไม่ ฉันก็ตอ้ งไปทําภารกิจนี้ หรื อไม่อย่างนั้นภารกิจก่อน
หน้าก็จะเสี ยเปล่าไปหมด” เฉินเกอมองเงาของตัวเองแล้วก็เหม่อ
ลอยไปครู่ หนึ่ง จากนั้นเขาก็หยิบปฏิทินบนโต๊ะขึ้นมา “วันนี้เป็ น
วันที่หนึ่งมิถุนายน กําลังจะถึงเทศกาลวันหยุดแล้ว และสวนสนุก
นิวเซนจูรี่กก็ าํ ลังจะเปิ ดในไม่ชา้ ฉันมีเวลาเหลือไม่มากนักแล้ว
จางหยายังจําศีล และซู่อินได้รับบาดเจ็บสาหัส มันอันตรายสําหรับ
เขามากที่จะไปท้าทายภารกิจระดับสี่ ดาว โรงเรี ยนแห่งปรโลก เฉิ น
เกอเข้าใจทุกอย่าง แต่วา่ เขาไม่มีทางเลือก ถ้าเขาปล่อยโรงเรี ยนแห่ง
ปรโลกไป เขาก็นบั ว่าสู ญเสี ยมากมาย
“ฉันควรจะไปลองดู หวังว่าฉันจะรอดชีวติ กลับมาได้” ดวงตาของ
เขาขยับไปทางรู ปที่มุมโต๊ะ และเฉินเกอก็ส่ายหน้าเบา ๆ นี่เป็ นรู ป
ครอบครัว พ่อกับแม่ของเขายืนอยูต่ รงกลาง– แม่ของเขาดูเหมือนจะ
กอดอะไรสักอย่างเอาไว้ พ่อของเขาชี้ไปที่บา้ นผีสิงด้านหลังพร้อม
รอยยิม้ กว้างบนใบหน้า และเฉินเกอยืนอยูค่ นเดียวที่ดา้ นข้าง
เฉินเกอหรี่ ตา มองเห็นว่าแม่ของเขากําลังกอดลูกสาวของ
ผูอ้ าํ นวยการลัว่ วิญญาณที่ไม่ได้ต่างไปจากวิญญาณพิทกั ษ์ เอาไว้
“เพราะอะไรสักอย่าง ฉันรู ้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่ลูกในไส้ของพวก
เขา” เฉิ นเกอวางรู ปกลับลงไปบนโต๊ะ และเขาก็บงั เอิญมองเห็น
ประโยคหนึ่งเขียนเอาไว้ที่ดา้ นหลังรู ป ‘หนึ่งมิถุนายน สุ ขสันต์วนั
เกิดนะไอ้ตวั ยุง่ ’
“คู่สามีภรรยาที่ทาํ ตัวเองหายตัวไป ตอนนี้ใครกันแน่ที่เป็ นไอ้ตวั ยุง่
ตัวจริ ง?” เฉินเกอถอนหายใจและปรับอารมณ์พาตัวเองกลับไปทํางาน
ระหว่างมื้อกลางวัน เฉินเกอให้พนักงานทั้งสี่ คนพักขณะที่ตวั เองอยู่
รับหน้าที่แทนพวกเขา ครึ่ งชัว่ โมงให้หลัง ทั้งสี่ คนกลับมา พวกเขา
ซุบซิบกันเหมือนคุยอะไรกันอยู่
“พวกนายช้าไปสี่ นาทีเต็ม ๆ ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว หรื อไม่อย่างนั้นฉัน
จะหักเงินพวกนาย” เฉิ นเกอเตือนพวกเขาด้วยนํ้าเสี ยงเข้มงวด พอได้
ยิน ทุกคนก็วงิ่ กลับไปที่ตาํ แหน่งของตัวเอง
“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องเข้มงวดกับพวกเขากว่านี้” เฉินเกอกลับไปที่
ห้องพักพนักงานเรี ยบเรี ยงข้อมูลของตัวเอง จากนั้นเขาก็ไล่รายชื่อ
พนักงานทั้งหมดที่เขาสามารถพาไปด้วยได้ กองถ่ายดวงตาข้างซ้าย
นั้นเป็ นแค่ชิมลาง การทดสอบแท้จริ งคือโรงเรี ยนแห่งปรโลก
หลังจากคิดแล้ว เฉินเกอก็วางแผนที่ดูมีเหตุมีผลมากขึ้น เมื่อเขา
ออกไปจากห้องพักพนักงาน พระอาทิตย์กต็ กดินแล้ว สวนสนุกปิ ด
ตอนหกโมงเย็น หลังจากส่ งผูเ้ ข้าชมกลุ่มสุ ดท้ายออกไปแล้ว เฉินเกอ
ก็ปิดประตู
“ขอบคุณสําหรับวันนี้ พวกนายกลับบ้านได้แล้ว” เฉินเกอมีเรื่ องต้อง
ทํา ดังนั้นจึงเร่ งให้พนักงานกลับ
“บอส คุณคิดจะออกไปข้างออกอีกแล้วใช่ไหมคืนนี้?” เสี่ ยวกู่ดู
เหมือนจะอ่านใจเฉินเกอได้
“ต่อให้ฉนั อธิบายไปนายก็ไม่เข้าใจหรอก ไม่วา่ ยังไง มันก็เป็ นเรื่ อง
งาน” เฉินเกอเร่ งให้พวกเขากลับ มือกรรไกรกับจางจิงจิ่วนั้นไม่ได้
คิดมาก ซูวา่ นดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กไ็ ม่ได้พดู
ออกมา
พระอาทิตย์ตกดินสาดแสงไปยังชิงช้าสวรรค์ เสี ยงหัวเราะจางหายไป
และเฉินเกอก็ยนื อยูท่ ี่ทางเข้าคนเดียว เขามองสวนสนุกรอบตัวอยูค่ รู่
หนึ่งก่อนที่จะกลับไปที่บา้ นผีสิง “ได้เวลาลงมือหลังจากท้องฟ้ามืด
สนิท”
กลับไปที่หอ้ งพักพนักงาน เฉินเกอนอนลงบนเตียง ดวงตาของเขา
เอาแต่มองไปทางรู ปบนโต๊ะ นี่เป็ นวันเกิดแรกที่เขาไม่มีพอ่ กับแม่ให้
ใช้เวลาด้วย
“ฉันควรจะไปซื้ อเค้กให้ตวั เองไหม? แต่เงินซื้อเค้กซื้อหุ่นได้ครึ่ งตัว
เลยนะ” เฉินเกอตบหน้าตัวเองเบา ๆ และบิดขี้เกียจก่อนที่จะเอื้อมมือ
เข้าไปใต้เตียง “กระเป๋ าฉันอยูไ่ หนเนี่ย? เจ้าแมวลากมันไปไหนฮึ?”
เฉินเกอมองไปใต้เตียง ไม่มีกระเป๋ า กระทัง่ เสี่ ยวเซียวกับเจ้าแมวขาว
ก็หายไปด้วย
“เจ้าแมวนี่ฉลาดขึ้นมาแล้วเดี๋ยวนี้! มันสัมผัสได้วา่ ฉันกําลังจะเอามัน
ไปด้วยดังนั้นจึงซ่อนกระเป๋ าให้ห่างจากฉัน” นอกจากเฉิ นเกอ ก็มีแค่
เจ้าแมวขาวและเสี่ ยวเซียวที่เข้ามาในห้องพักพนักงาน ดังนั้นความ
สงสัยของเฉินเกอจึงตกไปอยูก่ บั เจ้าแมวทันที เฉินเกอถืออาหารแมว
เอาไว้เปิ ดประตูแล้วหาไปทัว่ ๆ ฉากบนดินของบ้านผีสิง แต่วา่ เขา
หาเจ้าแมวขาวไม่เจอ
“มันลงไปใต้ดินเหรอ? มันกล้าไปที่นนั่ คนเดียวทั้งที่ข้ ีกลัวขนาด
นั้น?” ผลักเปิ ดประตูเหล็กเข้าไปใต้ดิน เฉินเกอก้าวเข้าไปในอุโมงค์
ที่เหมือนจะนําไปสู่ ความมืด เขาเดินไปได้ไม่กี่กา้ วก็รู้สึกว่ามี
บางอย่างไม่ถูกต้อง ที่นี่เงียบเกินไปสักหน่อยแล้ว
“เสี่ ยวเซียว? เหล่าโจว?” เขาเรี ยกชื่อพนักงานสองสามคน แต่วา่ ไม่มี
การตอบรับ เฉินเกอเดินไปตามถนนมืดสลัวคนเดียว สลัว ทึบทึม
กดดัน และแคบ มันเหมือนเส้นทางที่เฉินเกอเลือกให้ตวั เอง ไม่มี
แสงไฟที่รอบตัว และเขาก็กา้ วยาว ๆ เข้าไปในความมืดด้วยตัวเอง
เขาเดินผ่านหน้าต่างพัง ๆ ที่ให้ความรู ้สึกถึงสถานการณ์น่ากลัว
ด้านหลังเขานั้นเป็ นโลกแห่งความมืด และตรงหน้าเขานั้นเป็ นหุบ
เหวแห่งความมืดมิด
เดินผ่านห้องเรี ยนว่างเปล่า ในที่สุดเฉินเหอก็ไปหยุดอยูใ่ นฉาก
โรงเรี ยนมัธยมมู่หยาง เขายืนอยูท่ ี่นนั่ คนเดียว มองทางแยกถนน
ตอนที่เขาตัดสิ นใจจะเลี้ยวไปทางไหน โทรศัพท์ของเขาจู่ ๆ ก็สนั่
พอดึงมันออกมา เขาก็เปิ ดข้อความออกอ่าน เป็ นข้อความจากถงถง
“บอส สุ ขสันต์วนั เกิดครับ!”
ก่อนที่เฉิ นเกอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทางแยกที่เขายืนอยูน่ ้ นั ก็สว่าง
ขึ้นจากลูกไฟผี มีเสี ยงตูมดังขึ้นแล้วประตูหอ้ งนํ้าที่ขา้ งตัวเขาก็ถูก
ผลักเปิ ดและหุ่นนักเรี ยนกลุ่มหนึ่งก็เบียดเสี ยดกันออกมาในมือถือ
กระดานดําแผ่นหนึ่งเอาไว้!
กระดานดําของห้องเรี ยนปิ ดตายนั้นถูกดึงออกมาจากตัวแขวนและมี
รู ปวาดเอาไว้บนนั้น มันเป็ นรู ปของหุ่นตัวเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งเริ งร่ าอยู่
ในนั้น พวกมันมีสีหน้าและท่าทางที่ต่างกันไป และที่ยนื อยูต่ รงกลาง
พวกเขานั้นเป็ นผูช้ ายคนหนึ่งลากค้อนเหล็กเอาไว้
บางทีดว้ ยความสามารถด้านการวาดรู ปอันจํากัด– พวกเขาจึงไม่
สามารถวาดผูช้ ายที่ตรงกลางออกมาได้เหมือนนัก กลับกัน พวกเขา
เขียนคําเอาไว้รอบตัวเขามากมาย คําอย่างเช่น สดใส มีคุณธรรม ใจดี
สุ ภาพ และทั้งหมดนั้นมีลูกศรชี้ไปยังชายที่อยูต่ รงกลาง หลังจาก
พวกเขาเห็นเฉิ นเกอ พวกเขาก็หนั กลับพร้อม ๆ กัน อยากจะให้เขา
เห็นอีกด้านของกระดานดํา
พวกเขาไม่สามารถร่ วมมือกันได้ดีนกั ดังนั้นหุ่นบางตัวจึงบิดแขน
และหัวร้อยแปดสิ บองศา พวกเขายังอยูใ่ นท่าประหลาดตอนที่ให้เขา
ดูอีกด้านของกระดานดําที่เขียนไว้วา่ – “สุ ขสันต์วนั เกิด!”
สองคํานี้เขียนด้วยชอล์กหลายสี นักเรี ยนของโรงเรี ยนมัธยมมู่หยาง
ยิม้ ให้เขาด้วยรอยยิม้ ประหลาด บางคนต้องการเข้ามาใกล้ ๆ กับเฉิน
เกอแต่วา่ คนอื่นคิดว่าผลงานของพวกเขาจะดูน่าประทับใจกว่าถ้าอยู่
ห่าง ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงอยูน่ ิ่ง ๆ เพราะความเห็นต่างกัน ไม่ชา้ หุ่น
ทั้งกลุ่มก็ลม้ ใส่ กนั แต่วา่ ความตั้งใจและความพยายามของพวกเขา
นั้นเข้าใจได้อย่างชัดเจน
เสี ยงกระแอมแห้ง ๆ ดังมาจากทางเดินทางซ้าย ลูกไฟผีน้ นั เปลี่ยนไป
อีกทางหนึ่ง และเหลือทางเดินด้านซ้ายเพียงทางเดียว เสี ยงเพลงครื ด
คราดดังมากจากส่ วนลึกของฉาก มันยังมีเสี ยงหัวเราะน่ากลัวและ
เสี ยงครื ดคราดดังแทรกมาด้วย หมอหลายคนจากห้องเก็บศพใต้ดิน
ผลักรถเข็นออกมาช้า ๆ
“Happy birthday to you, happy birthday to you…”
รถเข็นนั้นเต็มไปด้วยการ์ดอวยพรวันเกิดที่ลว้ นทําจากวัสดุที่แตกต่าง
กัน บ้างก็ทาํ จากบันทึกประวัติผปู ้ ่ วย บางอันเป็ นแผ่นพับโฆษณา
และบางอันยังฉีกออกมาจากเสื้ อผ้าและผ้าปูเตียง ถึงแม้วา่ วัสดุจะ
ต่างกันไป แต่ลายมือส่ วนใหญ่น้ นั เหมือนกัน ผีปากกาน่าจะช่วย
พวกเขาส่ วนใหญ่เขียนความปรารถนาดีของแต่ละคนลงในนั้น
ที่ตรงกลางรถเข็นนั้นเป็ นวัตถุชิ้นหนึ่งที่สูงราวสี่ ช้ นั ทําจากพวกของ
จําลองและโคลน มันดูเหมือนเค้ก
ที่ริมขอบเค้กนั้นตกแต่งด้วยนํ้าตาลไอซิ่ งได้อย่างโดดเด่น มีแค่เอี๋ยน
ต้าเหนียนผูเ้ ปี่ ยมพรสวรรค์นนั่ แหละถึงจะมีความสามารถในการทํา
ให้ไอซิ่ งหน้าเค้กดูเหมือนเลือดกําลังไหลลงมาได้
“เฉินเกอ สุ ขสันต์วนั เกิด” หมอหลายคนจอดรถเข็นที่ตรงหน้าเฉิน
เกอ เอี๋ยนต้าเหนียน เหล่าโจว และคนที่เหลือเดินออกมาจากด้านหลัง
รถเข็น ไป๋ ชิวหลินมีเครื่ องเล่นเทปอยูบ่ นฝ่ ามือ และเทปเปื้ อนเลือดที่
ด้านในนั้นก็กาํ ลังเล่นเพลงที่สดใสร่ าเริ งอยูเ่ บา ๆ
“พวกคุณ…” เฉิ นเกอมอง ‘คน’ ทั้งหมดที่ตรงหน้าเขา
“ชู่ ไม่ตอ้ งพูด จุดเทียนแล้วอธิษฐานซะ” เว่ยจิวฉิ นโบกมือไปด้านหลัง
และเจ้าแมวขาวที่ตวั ใหญ่กว่าแมวธรรมดามากก็เดินออกมาจาก
ห้องเรี ยน คาบกระเป๋ าสะพายหลังเอาไว้ในปาก มันคืนกระเป๋ าให้
เฉินเกอ เปิ ดกระเป๋ าแล้วเขาก็เห็นเสี่ ยวเซียวกําลังกอดเทียนหลายเล่ม
ที่ห่ออยูใ่ นกระดาษเอาไว้
“งั้นเธอก็มาอยูต่ รงนี้นนั่ เอง” เฉินเกอหยิบเสี่ ยวเซี ยวขึ้นมาวางเธอ
เอาไว้บนไหล่ของเขา เขาถือเทียนทํามือหลายเล่มเอาไว้แล้วพูด
“ใครบอกพวกคุณว่านี่เป็ นวันเกิดผม?”
“เป็ นผูช้ ายคนนั้นที่เธอพามาเจอพวกเราเมื่อเช้านี้ พวกเขาบอกว่านี่
เป็ นพนักงานหญิงคนนั้นบอกพวกเขามา”
“เข้าใจแล้ว” เฉินเกอพยักหน้า เขาพลิก ‘เทียน’ ที่ในมือตัวเอง “ต้อง
จุดมันเหรอ?”
“แน่นอนสิ มันเป็ นพิธีกรรม เธอจุดเทียนจํานวนเท่าอายุของเธอ
ไม่อย่างนั้นสิ่ งที่เธออธิษฐานจะไม่เป็ นจริ ง” ผูอ้ าวุโสเว่ยพูดอย่าง
จริ งจัง เฉินเกอพยักหน้า เขาดึงไฟแช็กออกมาจากกระเป๋ า จุดเทียนที
ละเล่มแล้ววางพวกมันลงบนเค้ก แสงอบอุ่นขับไล่ความหนาวเย็น
พวกผีน้ นั กลัวแสงและไฟเป็ นที่สุด แต่วา่ ไม่มีใครในพวกเขาหนี
หน้าออกไป
“บอส ได้เวลาอธิษฐานแล้ว!”
“อธิษฐานเลย! อธิษฐาน!”
“เธอคิดว่าบอสจะอธิษฐานว่าอะไร?”
“ชู่ ถ้าเขาบอกพวกเรา คําอธิษฐานก็จะไม่มีทางเป็ นจริ ง”
เขากวาดตามองใบหน้าของพนักงานของเขา และเฉินเกอก็ขยี้ตา เขา
อธิษฐานเงียบ ๆ จากนั้นก็เป่ าเทียนทั้งหมด ฉากใต้ดินกลับไปมืดมิด
ลงอีกครั้ง แต่วา่ ความเงียบนั้นแตกกระจายไปแล้ว พนักงานทั้งหมด
มารวมตัวกัน บางคนร้องเพลง บางคนหัวเราะ เหมือนครอบครัวจริ ง ๆ
“ขอบคุณนะครับ” เฉินเกอยืนอยูใ่ นความมืด ถึงแม้วา่ เขาจะเป็ น
มนุษย์เป็ น ๆ เพียงคนเดียวในบ้านผีสิง เขาก็ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเลย
จิตใจดีและงดงามนั้นไม่ได้ถูกรู ปลักษณ์น่ากลัวภายนอกทําลายไป
เขาเห็นความจริ งใจของ ‘คน’ เหล่านี้ สิ่ งที่คนเป็ นในทุกวันนี้ไม่ให้
ค่ามันนัก ความภาคภูมิใจที่ทาํ ให้พวกเขาหยัดยืนตรง และความใจดี
ที่สลักอยูใ่ นจิตวิญญาณของพวกเขา
“นี่เป็ นความโชคดีของผมที่ได้พบพวกคุณทุกคน”
งานเลี้ยงดําเนินต่อไปในยามคํ่าคืน จนเที่ยงคืนเฉินเกอถึงนึกได้วา่
เขามีเรื่ องสําคัญต้องทํา เขาคว้ากระเป๋ าสะพายหลังและยัดเจ้าแมว
ขาวเข้าไปในกระเป๋ าก่อนที่มนั จะรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้น “มา ราตรี น้ ีเพิ่ง
เริ่ มต้น ขั้นต่อไป พวกเราจะไปข้างนอกกัน!”

เดินออกมาจากฉากใต้ดิน เฉินเกอแบกกระเป๋ าหนักอึ้งกลับไปที่
ห้องพักพนักงาน
ตอนที่เขาเปิ ดประตู เขาก็อ้ ึงไปครู่ หนึ่ง
มีเค้กจริ ง ๆ วางเอาไว้บนโต๊ะของเขา ข้าง ๆ กันนั้นเป็ นการ์ดและลูก
กุญแจดอกหนึ่ง
เฉินเกอเดินเข้าไปหยิบการ์ด มันเขียนไว้ดว้ ยลายมืองดงามของซูวา่ น
“บอส ฉันไม่คิดว่าฉันจําเป็ นต้องมีกญุ แจสํารองเพราะฉันเชื่อว่าคุณ
จะอยูใ่ กล้ ๆ เสมอ ฉันจะคืนกุญแจนี่ให้คุณ และสุ ดท้าย สุ ขสันต์วนั
เกิด! ฉันขอให้คุณใช้ชีวติ ทุกวันอย่างมีความสุ ข!”
Chapter 710 เค้ กวันเกิด
วางการ์ดลงแล้วเฉินเกอก็หยิบลูกกุญแจจากบนโต๊ะขึ้นมามองเงียบ ๆ
หลังจากพ่อกับแม่ของเขาหายตัวไป ผูเ้ ข้าชมที่บา้ นผีสิงก็ลดลงอย่าง
มากเรื่ อย ๆ ทําให้บา้ นผีสิงต้องเผชิญกับการเกือบจะต้องปิ ดตัวลง
ในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุด ซูวา่ นเลือกที่จะอยูต่ ่อ เธอเป็ นพนักงานที่
ได้รับคัดเลือกจากพ่อกับแม่ของเฉินเกอเพียงคนเดียวที่เลือกจะอยู่
ต่อจนถึงที่สุด
“เป็ นไปได้ไหมว่าเด็กคนนั้นสัมผัสได้ถึงบางอย่าง?” เฉิ นเกอเก็บลูก
กุญแจไปและเปิ ดกล่องเค้ก เทียบกับกล่องแล้ว เค้กที่ดา้ นในนั้นเรี ยก
ได้วา่ เป็ นหายนะ ที่ตรงกลางนั้นยุบ และยังมีจุดดํา ๆ จากการอบ
นานเกินไป ทั้งก้อนดูโงนเงนเหมือนแค่แตะก็จะถล่มลงมา
แต่กย็ งั มองเห็นความตั้งใจของผูอ้ บได้ เธอใช้ครี มปาดไปทัว่ หน้า
เค้กพยายามปกปิ ดตําหนิที่เกิดขึ้น และในระหว่างนั้นเค้กคงจะแบะ
ออก ดังนั้นครี มจึงเป็ นทั้งการตกแต่งและเป็ นกาวยึดทั้งหมดเอาไว้
ด้วยกัน มันซึมลึกเข้าไปในเนื้อเค้ก แค่มองดูเค้กนี่ ภาพซูวา่ นอบมัน
ก็ปรากฏขึ้นในใจเฉินเกอ
“ไม่แปลกใจเลยที่เธอเป็ นพนักงานของฉัน กระทัง่ อบเค้กก้อนหนึ่ง
ก็ยงั มอบความรู ้สึกพรั่นพรึ งได้” หยิบมีดที่อยูใ่ นกล่องขึ้นมา เฉิน
เกอตัดชิ้นเล็ก ๆ ออกมาใส่ ปาก “หื ม เนื้อเค้กยังสยดสยองยิง่ กว่า
ด้านนอกแข็งกระด้างเกินไป และที่ดา้ นในยังไม่สุก เหนียวติดฟัน
และยังมันเลี่ยนมาก อย่างที่คิดเลย นี่น่าจะเป็ นเพราะว่าอบที่อุณหภูมิ
ตํ่านานเกินไป ไม่อย่างนั้นด้านนอกก็คงไม่ไหม้และด้านในก็คงสุ กดี
เดี๋ยวก่อนนะ เธอใช้แป้งขนมปัง? เธอไม่รู้หรื อไงว่าอบเค้กก็ตอ้ งใช้
แป้งเค้ก?”
ถึงแม้วา่ เฉินเกอจะวิจารณ์มนั ยับ เขาก็ยงั กินเค้กเกือบครึ่ งก้อนเข้าไป
อย่างรวดเร็ ว เห็นเฉินเกอมีความสุ ขมากเจ้าแมวขาวก็สงสัย แต่พอ
มันชะโงกเข้าไปหาเค้ก มันก็ถูกดันกลับเข้าไปในกระเป๋ า “ครี มไม่ดี
ต่อตัวแก เมื่อถึงวันเกิดของแก ฉันจะทําเค้กอาหารแมวให้แทน”
เฉินเกอไม่สนใจการดิ้นรนประท้วงของเจ้าแมว เฉิ นเกอเช็ดปาก หิ้ว
กระเป๋ าออกไปจากห้องพักพนักงาน งานเลี้ยงวันเกิดใช้เวลาไปพัก
หนึ่ง แต่นนั่ ก็ไม่ได้กินเวลาแผนการคืนนี้ของเฉินเกอนัก เขาค้นหา
ทุกอย่างที่ทาํ ได้เกี่ยวกับดวงตาข้างซ้ายแล้ว และเขาก็วางแผนจะไป
ดูสกั หน่อยในคืนนี้
ออกจากสวนสนุกนิวเซนจูรี่แล้วเฉินเกอก็รออยูท่ ี่ริมถนนอยูเ่ ป็ น
นานแต่วา่ ไม่มีแท็กซี่ผา่ นมาเลยสักคัน คนขับแท็กซี่ ในจิ่วเจียงดู
เหมือนจะเห็นพ้องต้องกัน– อย่าไปที่สวนสนุกนิวเซนจูรี่หลังเที่ยง
คืน และอย่ารับผูโ้ ดยสารจากที่นนั่
“โชคไม่ดี รถเมล์ของฉันตอนนี้ติดอยูห่ ลังประตูในเมืองหลี่วา่ น”
หลังจากเดินไปอีกสองถนน ในที่สุดเฉินเกอก็ได้เจอแท็กซี่ คนั หนึ่ง
หลังจากขึ้นรถ เขาก็บอกที่อยู่ “คุณครับ ผมต้องการไปที่บา้ นพักตาก
อากาศเขาหยงหลิงครับ”
“เขาหยงหลิง?” คนขับงุนงงไปครู่ หนึ่ง “มีบา้ นพักตากอากาศที่นนั่
ด้วย?”
“ทําไมคุณไม่เปิ ด GPS ดูล่ะครับ?” เฉิ นเกอนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
- นัน่ เป็ นสิ่ งที่ในอินเตอร์เนตบอกมา
“ชื่อเต็มของที่นนั่ ล่ะ?” คนขับรถพิมพ์คาํ ว่าเขาหยงหลิง แต่วา่ GPS
นั้นไม่แสดงสถานที่ที่เรี ยกว่าเป็ นบ้านพักตากอากาศเขาหยงหลิง
“ชื่อเต็ม…” เฉินเกอหรี่ ตา เขามองสองสามชื่อที่ปรากฏขึ้นบน GPS–
สถานีเติมนํ้ามันเขาหยงหลิง ตลาดดอกไม้เขาหยงหลิง ฮอลิเดย์วลิ ล่า
เขาหยงหลิง “อย่างนั้นพวกเราไปฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิง”
“หื อ? คุณเลือกปลายทางง่าย ๆ อย่างนี้เลย?” คนขับรถมองเฉิ นเกอ
ผ่านกระจกมองหลัง เขารู ้สึกเหมือนคุน้ ๆ หน้าเฉินเกอ และเรื่ องผีที่
เล่ากันอยูใ่ นกลุ่มเพื่อนฝูงของเขาก็ผา่ นเข้ามาในใจ ติดเครื่ องยนต์
แล้วพวกเขาก็ออกรถไป ประมาณครึ่ งชัว่ โมง แสงไฟในเมืองก็เริ่ ม
ห่างหายไป มีเงาใหญ่โตอยูท่ ี่ปลายถนน และนัน่ ก็น่าจะเป็ นภูเขา
หยงหลิงจิ่วเจียงตะวันตก
ตามที่ GPS บอก แท็กซี่ น่าจะไปถึงที่หมายในไม่ชา้ แล้ว คนขับกํา
พวงมาลัยรถไว้แน่น เขาเปิ ดปากจะพูดคุยกับเฉินเกออยูห่ ลายครั้ง
แต่ทุกครั้งเขาก็ยอมแพ้ในนาทีสุดท้าย เขาไม่รู้จริ ง ๆ ว่าทําไม - บาง
ทีผชู ้ ายที่เบาะหลังนี่อาจจะดูเข้าถึงยากเกินไป
หลังจากแท็กซี่ข้ ึนเขามา แสงไฟรอบ ๆ พวกเขาก็หายไปหมด ผูค้ น
น้อยนักที่จะมาที่นี่ตอนกลางคืน ดังนั้นที่นี่จึงดูเวิง้ ว้างว่างเปล่า
หลังจากขับต่อไปอีกประมาณห้านาที GPS บนโทรศัพท์ของคนขับ
ก็บอกว่า “พวกเรามาถึงปลายทางแล้ว”
รถจอดอยูบ่ นถนน และรอบด้านพวกเขาก็มีแค่ความมืด บางครั้งยัง
มองเห็นเงาพร่ ามัวของกิ่งก้านต้นไม้แกว่งไกวอยูใ่ นความมืดและ
เสี ยงใบไม้ขยับไปตามสายลม มือของคนขับที่กาํ พวงมาลัยรถอยูน่ ้ นั
ชุ่มไปด้วยเหงื่อ และใบหน้าของเขาก็ซีด ‘การเดินทาง’ ครั้งนี้ไม่ใช่
เรื่ องสนุกของเขาเลยสักนิด
“พวกเรามาถึงแล้ว GPS บอกว่าที่นี่คือฮอลิเดย์วลิ ล่าภูเขาหยงหลิง”
คนขับหันหน้ากลับไปมองเฉิ นเกออย่างกระอักกระอ่วน เปลือกตา
ของเขากระตุกไม่หยุด เขากลัวว่าคนน่าสงสัยที่เบาะหลังนี่จะจู่ ๆ ก็
ดึงอาวุธออกมายึดรถของเขาไป
“นี่คือฮอลิเดย์วลิ ล่า? ไม่มีตึกอะไรเลย นี่มนั ที่ร้างชัด ๆ ” ด้วยดวงตา
หยินหยางของเขา เฉินเกอสามารถมองเห็นในความมืดได้ เขาพบว่า
พวกเขาถูกป่ าล้อมเอาไว้ “คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้โกหกผม? คุณขับ
รถพาผมมาที่ไหนก็ไม่รู้ตอนกลางดึก?”
“ทําไมคุณถึงมาสงสัยผมได้เล่า? คุณครับ ผมก็ตาม GPS มาเนี่ย
แหละ!” คนขับรถเปิ ดไฟทุกดวงขึ้น แต่แสงไฟก็ยงั ไม่สามารถขับไล่
ความหวาดกลัวในใจของเขาได้
“งั้นก็ได้” เฉินเกอจ่ายค่าโดยสาร คว้ากระเป๋ าแล้วลงจากรถ เขาเปิ ด
ไฟฉายที่บนโทรศัพท์ เขาเดินไปตามถนนและเห็นทางเล็ก ๆ ที่มีพมุ่
ไม้โตลํ้าเข้ามาบังมุ่งหน้าตัดผ่านป่ านี้ไป “ฉันต้องเข้าไปลึกอีกงั้น
เหรอ? ฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิงอยูข่ า้ งในนัน่ ? ทําไมมันถึงรู ้สึก
เหมือนว่าที่นี่ร้างมานานแล้วล่ะ?”
เฉิ นเกอหันกลับไปหวังจะถามคนขับรถเรื่ องนี้ แต่ตอนที่หนั กลับไป
นั้นเขาก็เห็นคนขับรถเลี้ยวรถแล้วเร่ งความเร็ วลงเขาไปเท้าเหยียบนิ่ง
อยูบ่ นคันเร่ ง
“ที่นี่น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ในเมื่อพึ่งพาคนอื่นไม่ได้ เฉินเกอก็ตอ้ งเชื่อในตัวเอง เขายกโทรศัพท์
ขึ้นแล้วเดินไปตามทาง เขาเดินอยูส่ องสามนาทีก่อนที่ตรงหน้าจู่ ๆ
จะเปิ ดกว้างออก เฉินเกอมองเห็นกําแพงเตี้ย ๆ แถวหนึ่งและสิ่ งก่อสร้าง
ที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตาสองสามหลัง
“ฮอลิเดย์วลิ ล่า? ใครจะมาที่นี่เพื่อใช้เวลาวันหยุดกัน? ที่นี่ดูเหมือนบ้าน
ผีสิงของฉันมากกว่าอะไรทั้งนั้น” วันหยุดนั้นมีไว้เพื่อผ่อนคลาย ไม่ใช่
เพื่อให้หวั ใจวาย ยิง่ เฉิ นเกอเดินเข้าไปหาที่นนั่ เขาก็ยงิ่ งุนงง
“ตําแหน่งถูกบันทึกเอาไว้ใน GPS แต่มนั เหมือนว่าที่นี่จะถูกคน
หลงลืมไปนานแล้ว ฉันอยากรู ้วา่ มันยังเปิ ดบริ การอยูห่ รื อเปล่า”
ถนนเต็มไปด้วยหลุมและรอยแตก ต้นไม้ที่ดา้ นข้างนั้นรกและ
ระเกะระกะ พวกมันต้องการการดูแลให้ดีกว่านี้มาก ๆ
กําแพงนั้นก็มีเถาวัลย์ไต่ และยังบังตัวอักษรที่บนกําแพงไปหมด
เฉิ นเกอหาดูอยูน่ านกว่าจะเจอทางเข้าวิลล่าที่อยูห่ ่างไปประมาณสิ บ
เมตร บนประตูเหล็กสนิมกรังนั้นมีป้ายเขียนเอาไว้วา่ ห้ามเข้า และที่
ข้าง ๆ กันนั้นเป็ นตูจ้ ดหมายทําจากไม้สีน้ าํ ตาลเข้ม
“ทุกวันนี้ยงั มีคนใช้ตูจ้ ดหมายอยูอ่ ีกหรื อ?” ป้ายไม้และตูจ้ ดหมายนั้น
เป็ นงานทํามือทั้งคู่ ชิ้นงานนั้นหยาบและยังไม่เข้ากันกับรู ปแบบของ
ที่นี่เลยสักนิด
“ตัวอักษรที่บนป้ายนั้นอ่านง่ายและลวดที่มดั มันเอาไว้บนประตูน้ นั
ยังไม่มีสนิมขึ้น ดังนั้นนี่จะเป็ นของใหม่” เฉินเกอพยายามดึงประตู
เหล็กเปิ ด บานพับลัน่ เสี ยงดังและเมื่อเขาผลักแรงขึ้น ประตูเหล็กก็
ล้มลงไปตามแรงของเขา
Chapter 711 ภารกิจพิเศษอีกภารกิจหนึ่ง!
TL note : ท้ายตอนที่แล้วแปลผิด ประตูไม่ได้ลม้ แต่เปิ ด เปิ ดออก
ต้องขออภัยผูอ้ ่านด้วย (แก้ไขในตอนก่อนหน้าแล้วจะมาลบโน้ตนี้
ในภายหลัง)
“มันไม่ได้ลอ็ ก?” เฉินเกอผลักเปิ ดประตูเหล็กให้กว้างขึ้น ตรงหน้า
เขาคือตึกสองชั้นที่มีสถาปัตยกรรมอันประหลาด มันยากที่จะ
จินตนาการว่ามีสถานที่เช่นนี้อยูก่ ลางป่ า “กล่องจดหมายอันใหม่ถูก
ติดไว้ที่บนประตู และด้านหลังประตูเป็ นถังสี แดงเต็มไปด้วยนํ้าดื่ม
และยังมีผา้ ที่ซกั ตากเอาไว้ อย่างนั้นก็ตอ้ งมีคนอาศัยอยูท่ ี่นี่”
เพราะกลัวว่าจะทําให้ ‘ชาวบ้าน’ ที่นี่ตกใจกลัว เขาจึงรออยูส่ ิ บวินาที
และเมื่อเฉินเกอกําลังจะยอมแพ้ ประตูตึกใกล้ ๆ กันก็ถูกผลักเปิ ด ไม่
มีใครพูดอะไร และหลังจากสื่ อสารกันด้วยความเงียบ เสี ยงแหบแห้ง
ก็ดงั มาจากด้านหลังประตู “คุณมาหาใคร?”
จากนํ้าเสี ยงเพียงอย่างเดียวนั้นเป็ นไปไม่ได้เลยที่จะบอกอายุคนพูด
เฉินเกอมองตึกนั้นจากไกล ๆ และไม่คิดจะเข้าไปใกล้ตึกนั้นอย่าง
วูว่ าม เมื่อชาวบ้านธรรมดาเห็นคนแปลกหน้าอยูใ่ นอาณาเขตบ้าน
ของตนในตอนกลางดึก ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาน่าจะเป็ นการเปิ ด
ไฟและไม่เปิ ดประตู แต่วา่ เจ้าของเสี ยงกลับมีการกระทําที่ไม่ปกติ
หลังจากลังเลอยูส่ ิ บวินาที เขาก็ผลักประตูเปิ ดกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย
“ผมขอโทษด้วยนะครับ แต่วา่ ที่นี่คือฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิงหรื อ
เปล่า?” เฉินเกอสุ ภาพมาก ไม่วา่ จะเป็ นเวลาไหน ไม่วา่ เขาจะเจอเข้า
กับอะไร เขาเชื่อว่าความสุ ภาพสามารถเปิ ดประตูหลายบานได้
“มีอะไรให้ผมช่วย?” คนผูน้ ้ นั ไม่ได้ตอบคําถามเฉินเกอตรง ๆ แต่
จากนํ้าเสี ยงของเขา เขายืนยันคําตอบแล้ว
“เรื่ องเป็ นแบบนี้ครับ เพื่อนของผมบอกว่าเขาพักอยูท่ ี่ฮอลิเดย์วลิ ล่า
เขาหยงหลิงและบอกให้ผมมาหาเขาคืนนี้ แต่วา่ GPS ของผมหา
ตําแหน่งจากชื่อนั้นไม่ได้ ดังนั้นผมจึงมาถามทาง” เฉินเกอไม่ได้
โกหก เขามาหาเพือ่ นจริ ง ๆ แต่เมื่อคนที่อยูห่ ลังประตูได้ยนิ คําตอบ
ของเฉินเกอ ก็มีเสี ยงกลืนนํ้าลายดังมาให้ได้ยนิ “เพื่อนของคุณกําลัง
พักอยูท่ ี่ฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิง?”
เสี ยงของชายคนนั้นแปลกไป เหมือนลําคอของเขาแห้งผาก และเขา
ก็พึมพําออกมาได้ไม่ชดั เจนนัก
“ใช่ครับ คุณรู ้ไหมว่าฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิงอยูท่ ี่ไหน?” เฉินเกอ
ก้าวเท้าไปข้างหน้าสองสามก้าว ให้ความสนใจในชายที่หลังประตู
“รู ้สิ เพราะว่าคุณอยูท่ ี่ฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิงแล้ว” ตอนที่ผชู ้ าย
คนนั้นได้ยนิ เสี ยงฝี เท้าเฉิ นเกอใกล้เข้าไป เขาก็ปิดประตูลงอีกครั้ง
“ฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิงนั้นสร้างขึ้นบนหมู่บา้ นที่อยูบ่ นเขาหยง
หลิง ตอนนั้น เกิดเรื่ องบางอย่างขึ้นที่นี่ และชาวบ้านส่ วนใหญ่กย็ า้ ย
ออกไป หลังจากนั้น เพราะเหตุผลบางอย่าง ฝ่ ายการจัดการก็ถูกบีบ
ให้ตอ้ งทิ้งฮอลิเดย์วลิ ล่าไปด้วยเหมือนกัน และผมก็เป็ นคนเดียวที่
เหลืออยูด่ ูแลที่นี่”
ผูช้ ายคนนั้นหยุดก่อนที่จะพูดต่อผ่านประตู “ผมเป็ นผูอ้ าศัยคนเดียว
ที่นี่ คุณคงจะถูกเพื่อนหลอกเอาแล้ว เขาไม่ได้อยูท่ ี่นี่”
“ไม่น่าเป็ นอย่างนั้นนะครับ” เฉิ นเกอพูดต่ออย่างเรี ยบ ๆ “นานมาแล้ว
มีกองถ่ายมาถ่ายหนังที่นี่ และเขาก็เป็ นหนึ่งในคนของกองถ่าย เขา
เชิญผมมาที่นี่คืนนี้เพราะว่าเขาบอกว่าเขาเจอบางอย่างที่สาํ คัญ”
“หยุดพูด มันดึกแล้ว ระวังคําพูดของคุณด้วย” ผูช้ ายคนนั้นตัดบท
เฉินเกออย่างรวดเร็ ว เขาไม่ตอ้ งการให้เฉิ นเกอพูดต่อ
ปฏิกิริยาประหลาดนี้เป็ นสิ่ งที่เฉิ นเกอกําลังรออยู่ แทนที่จะหยุด เขา
พึมพํากับตัวเองต่อ “ผมเกรงว่ามันจะเป็ นเพราะกองถ่ายของเขาที่นี่
เปลี่ยนไปเป็ นฮอลิเดย์วลิ ล่า ผมได้ยนิ มาว่าเกิดเรื่ องแปลก ๆ หลาย
อย่างขึ้นตอนที่พวกเขาถ่ายหนัง หนังนัน่ ผมคิดว่า มันน่าจะชื่อ…
ดวงตาข้างซ้าย?”
“หยุดพูด!” ผูช้ ายคนนั้นผลักประตูเปิ ดออกและเขาก็ดูค่อนข้างวิตก
กังวล ตอนนี้เมื่อประตูเปิ ดออกกว้าง เฉินเกอถึงได้เห็นผูพ้ ดู ชัดเจน
ขึ้น ผูช้ ายตรงหน้าเขาอายุราวสี่ สิบปี รู ปร่ างเตี้ยและยังหลังค่อมอย่าง
รุ นแรง ใบหน้าของเขาซีดขาว และที่น่าสงสัยที่สุดก็คือดวงตาของ
เขาทั้งคู่ปิดอยู–่ เขาเป็ นชายตาบอดคนหนึ่ง เฉินเกอโบกมือเบา ๆ
ตรงหน้าชายคนนั้น และฝ่ ายหลังก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย “ผมต้อง
ขอโทษด้วยจริ ง ๆ ผมไม่ได้คิดจะล่วงเกินอะไร ผมแค่พดู ตามที่
เพื่อนของผมเคยบอกผม”
“เพื่อนของคุณบอกว่าเขาเป็ นหนึ่งในกองถ่าย? เขาหน้าตายังไง?”
ผูช้ ายคนนั้นดูเหมือนจะใจเย็นลงแล้ว
“เขาหน้าตายังไง?” เฉิ นเกองุนงง ชายตาบอดคนหนึ่งถามหน้าตา
ของคนอื่น นัน่ ฟังดูไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ หลังจากตรองอยูค่ รู่ หนึ่ง
เฉินเกอก็บอกรู ปร่ างหน้าตาของหลี่ซางอิ๋นออกไป
ผูช้ ายคนนั้นขมวดคิ้วก่อนที่จะรอให้เฉิ นเกอเข้าไปในตึก “อย่ามัวยืน
อยูต่ รงนั้น เข้ามา”
ในตึกนั้นมืด สวิตช์ไฟที่ผนังถูกเอาออกไป และเหลือเพียงแค่แป้น
ของมันเท่านั้น ผูช้ ายคนนี้ดูเหมือนจะคุน้ เคยกับความมืดไปแล้ว เขา
ก้าวยาว ๆ เข้าไปในห้องนัง่ เล่นและนัง่ ลงบนโซฟา เขาไม่ได้กระแทก
ถูกอะไรเลยในระหว่างทาง เจอเข้ากับชายตาบอดที่ดูประหลาดตอน
อยูท่ ี่ไหนก็ไม่รู้อย่างนี้ ถ้าเป็ นคนอื่นก็คงไม่กล้าตามเข้าไป แต่วา่ เฉิ น
เกอนั้นเป็ นข้อยกเว้น
“ผมไม่รู้วา่ เพื่อนของคุณบอกอะไรคุณ แต่วา่ มีอย่างหนึ่งที่ผมแน่ใจ–
คุณถูกหลอก” ผูช้ ายคนนั้นยืน่ มือออกมาคลําหาแก้วพลาสติกที่บน
โต๊ะ เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วยกขึ้นจิบ
“ทําไมคุณถึงคิดว่าผมจะเชื่อคุณไม่เชื่อเพื่อนผม?” เฉิ นเกอสังเกต
เห็นว่ามือของชายคนนี้สนั่ นิด ๆ ตอนที่เขาหยิบแก้วขึ้นมา
“กองถ่ายดวงตาข้างซ้ายจะไม่กลับมา ที่นี่น่ะเป็ นต้นกําเนิดของฝัน
ร้ายของพวกเขา หลังจากหนีเอาชีวติ รอดไปได้หวุดหวิด พวกเขาจะ
กลับมากันทําไม?” เสี ยงของผูช้ ายคนนั้นกลับมาเป็ นปกติและสงบ
ลงแล้ว
“พี่ชาย เหมือนว่าคุณจะรู ้รายละเอียดภายในบางอย่าง” เฉิ นเกอนัง่ อยู่
ตรงข้ามชายคนนั้น ในห้องมีแสงสว่างเล็กน้อย แสงจันทร์ส่องเข้ามา
จากหน้าต่าง เกิดเป็ นแสงสลัวส่ องมาที่โต๊ะกาแฟ
“ผมเป็ นแค่ยามคนหนึ่ง ผมเองก็ไม่มีเงื่อนงําเหมือนกันว่าเกิดอะไร
ขึ้นกับกองถ่าย แต่วา่ ผมรู ้วา่ บ้านเลขที่ 744 เขาหยงหลิงนั้นถูกทําลาย
ไม่เหลือซากเพราะว่าเคยถูกใช้เป็ นฉากถ่ายหนังของพวกเขา” ผูช้ าย
คนนั้นมีดวงตาปิ ดสนิท แต่วา่ ใบหน้าของเขาหันมาหาเฉิ นเกอ
“หลังจากที่ที่นี่กลายมาเป็ นฮอลิเดย์วลิ ล่า เจ้าของก็สร้างโรงละคร
ส่ วนตัวทับที่ตรงนั้นที่ครั้งหนึ่งเคยเป็ นบ้านเลขที่ 744…”
ตอนที่ผชู ้ ายคนนั้นพูดถึงโรงละคร โทรศัพท์เครื่ องดําในกระเป๋ าของ
เฉินเกอจู่ ๆ ก็สนั่ เฉินเกอสงสัย ทําไมถึงมีขอ้ ความเข้าโทรศัพท์
เครื่ องดําในเวลาอย่างนี้กนั ?
เขาดึงโทรศัพท์ออกมาแตะเปิ ดข้อความใหม่
“ขอแสดงความยินดี ผูเ้ ป็ นที่ชื่นชอบของเหล่าวิญญาณ ที่คน้ พบ
ภารกิจระดับสองดาว– เรื่ องราวของดวงตาข้างซ้าย!
“ภารกิจนี้ประกอบด้วยสามส่ วน กรุ ณาไปให้ถึงโรงละครคนตายใน
อีกครึ่ งชัว่ โมงนี้และสนุกไปกับหนังยาวเต็มเรื่ อง!
“หลังจากภารกิจส่ วนนี้สาํ เร็ จแล้ว จึงจะมอบภารกิจส่ วนถัดไปให้!”
อ่านข้อความบนจอแล้ว เฉินเกอก็หรี่ ตา “มีความผิดพลาดอะไรใช่
ไหมเนี่ย? ทําไมถึงไม่ใช่โรงละครส่ วนตัวล่ะ?”
“เฮ้ คุณกําลังฟังผมอยูห่ รื อเปล่า?” ผูช้ ายคนนั้นเรี ยกเฉิ นเกอ
“ขอโทษทีครับ ผมแค่อ้ ึงไป พูดต่อเลยครับ” เฉิ นเกอเหลือบมอง
เวลาและเก็บโทรศัพท์ลงไป
“สิ่ งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นค่อนข้างน่ากลัว จะตอนเช้าหรื อตอนเย็น
เมื่อไหร่ กต็ ามที่เข้าไปข้างใน โรงละครก็ให้ความรู ้สึกน่าขนลุกอย่าง
ประหลาด แขกหลายคนก็บอกว่าตอนที่พวกเขากําลังดูหนังอยู่ พวก
เขาเห็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับหนังอยูใ่ นหนังด้วย”
Chapter 712 โรงละครส่ วนตัว
“คุณหมายความถึงอะไรน่ะ?” เฉินเกอกําลังจะต้องไปที่โรงละคร
ส่ วนตัวนัน่ แล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากรู ้ให้มากเท่าที่จะรู ้ได้
“ผูท้ ี่มาพักหลายคนเลือกที่จะใช้โรงละครตอนกลางคืน และพวกเขา
ทั้งหมดก็เจอเข้ากับฉากพิเศษนี้ในหนัง เป็ นเด็กสาวคนหนึ่ง เธออายุ
ราวยีส่ ิ บปี มีผมยาวสี ดาํ และใบหน้าพร่ ามัว
“เดิมที แขกก็ไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่านัน่ เป็ นเงาของพนักงานหรื อ
มีบางอย่างผิดไปกับตัวม้วนเทป จนกระทัง่ ครอบครัวสี่ คนครอบครัว
หนึ่งมาพักที่นี่ ตอนที่ลูกสาวคนเล็กของพวกเขาก้าวเท้าเข้าไปใน
โรงละคร เธอก็เริ่ มร้องโวยวายเสี ยงดัง เมื่อไม่มีทางเลือก คนภรรยา
ก็อุม้ ลูกสาวออกไป เหลือไว้แค่สามีกบั ลูกชาย
“วันนั้นพวกเขาดูหนังอะนิเมชัน่ แต่หนังเล่นไปได้ครึ่ งทาง เด็กชายจู่ ๆ
ก็หนั ไปถามพ่อของเขา ‘ทําไมถึงมีพสี่ าวคนนั้นยืนอยูต่ รงมุมบันได
ล่ะ?’
“ผูช้ ายคนนั้นไม่ได้คิดมาก แต่หลังจากนั้นครู่ หนึ่ง เด้กชายก็ถามอีก
‘ทําไมพีส่ าวคนนั้นถึงเอาแต่มองพวกเรา?’
“คําถามไม่จบไม่สิ้นจากเด็กทําให้ผชู ้ ายคนนั้นรําคาญ แต่ในเมื่อพวก
เขาอยูใ่ นที่สาธารณะ เขาก็กดความโมโหเอาไว้แล้วเตือนให้ลูกชาย
เขาอยูเ่ งียบ ๆ
“ลูกชายถูกเข้าใจผิด แต่เขาก็เงียบลงหลังจากนั้น แต่วา่ ไม่นาน ประมาณ
ยีส่ ิ บนาทีให้หลัง เด็กชายจู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีเหตุผล นี่ทาํ ให้
ผูช้ ายคนนั้นประหลาดใจมาก เขาพยายามปลอบลูกชายของเขา แต่วา่
เด็กชายเอาไว้ซุกหน้าตัวเองลงที่อกเขา และไม่ยอมหยุดร้องไห้
“พ่อของเด็กชายเริ่ มสังเกตว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาพบว่าลูกชาย
ของเขากลัวที่จะเงยหน้าขึ้นมาเหมือนมีบางอย่างน่ากลัวมากอยูบ่ นจอ
“เขาจําเอาไว้ แล้วหลังจากหนังจบลง เขาก็อุม้ ลูกชายกลับไปหาภรรยา
และจากนั้นก็กลับไปที่โรงละครเพื่อค้นหาความจริ ง…”
เรื่ องราวพาเฉินเกอดํ่าดิ่งลงไป แต่จู่ ๆ ผูช้ ายคนนั้นก็หยุดพูด “คนพ่อ
เจออะไรเหรอครับ?”
“พ่อของเด็กชายหายตัวไป กล้องวงจรปิ ดบันทึกภาพเขาเข้าไปใน
โรงละครคนเดียว แต่เขาไม่เคยกลับออกมา”
“คนทั้งคนจะหายไปอย่างนั้นได้อย่างไร? คุณไม่ได้ลอ้ ผมเล่นใช่
ไหม?” เฉินเกอลุกขึ้นยืน “โรงละครนัน่ อยูท่ ี่ไหน? ผมอยากจะไปดู
ด้วยตาตัวเอง”
ได้ยนิ อย่างนั้น ริ มฝี ปากผูช้ ายคนนั้นก็สนั่ เขาตั้งใจจะหลอกให้เฉิ น
เกอกลับออกไป แต่ผชู ้ ายตรงหน้าเขากลับสนใจมากขึ้นไปอีก
หลังจากได้ฟังเรื่ องผี
“ไม่ ไม่มีทาง!”
“ถ้าคุณไม่ยอมนําทาง อย่างนั้นผมก็จะไปเอง อย่างไรเสี ย ที่นี่กใ็ หญ่
แค่น้ ี” เฉินเกอคว้ากระเป๋ าสะพายหลังของตัวเอง เขามองชายตรงหน้า
ไม่วา่ วิลล่าจะถูกทิ้งร้างหรื อไม่กต็ าม เขาก็ไม่คิดว่าฝ่ ายการจัดการจะ
ทิ้งชายตาบอดเอาไว้เป็ นยาม
“ผมไม่เข้าใจจริ ง ๆ นะ ทําไมคุณถึงดึงดันที่จะไปที่นนั่ ให้ได้? คุณ
พูดก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอว่ามาหาเพือ่ นที่นี่?” ผูช้ ายคนนั้นเริ่ ม
กระวนกระวายและพยายามจะห้ามเฉิ นเกอ
“ใช่ ผมมาที่นี่เพื่อหาเพื่อน ก่อนที่เขาจะหายตัวไป ข้อความสุ ดท้ายที่
เขาส่ งให้ผมบอกว่า– ฉันอยูท่ ี่ฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิง” เฉินเกอพูด
อย่างจริ งใจและมัน่ ใจแบบที่ไม่มีใครบอกได้เลยว่าเขากําลังโกหก
“เพื่อนของคุณหายตัวไปที่นี่?” ผูช้ ายคนนั้นเงียบไป มือของเขากุม
กันแน่น และเขาก็ตดั สิ นใจได้หลังจากลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง “ได้ ผมจะพา
คุณไปที่นนั่ แต่ถา้ เพื่อนของคุณไม่อยูท่ ี่นนั่ พวกเราก็จะกลับออกมา
ทันที”
“ขอบคุณครับ” เฉิ นเกอตรงเข้าไปช่วยพยุงชายคนนั้น แต่เมื่อเขาแตะ
ลงที่ผวิ ของชายคนนั้น ชายคนนั้นก็ผลักเขาออกอย่างแรง เขาเหมือน
นกขี้ตกใจ เฉินเกอไม่คิดว่าจะเจอปฏิกิริยารุ นแรงเช่นนี้ “ผมขอโทษ
ครับ ผมแค่อยากช่วยพยุงคุณเท่านั้น”
“ไม่เป็ นไร ผมเดินเองได้” ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนในความมืด ถึงแม้วา่
ดวงตาของเขาจะปิ ดอยู่ มันก็เหมือนกับเขาสามารถมองเห็นรอบด้าน
ได้ชดั เจนดี เขาเดินในห้องอย่างชํานาญ คว้าไม้เท้านําทางที่ขา้ ง
ประตูแล้วเดินออกไป เฉินเกอตามหลังเขาไป ทั้งสองคนเดินผ่านตึก
ประหลาดหลายหลัง
“คนที่ออกแบบที่นี่น่าจะไม่ได้คิดถึงการใช้พ้นื ที่อย่างเหมาะสมใช่
ไหม?”
“คุณจะไปรู ้อะไร? มันเป็ นศิลปะ”
“ผมไม่เข้าใจจริ ง ๆ นัน่ แหละ คุณอยากอธิบายให้ผมฟังไหม?”
ผูช้ ายคนนั้นไม่ได้อยูใ่ นอารมณ์อยากพูดคุย เขารี บเดิน เขาคุน้ เคยกับ
บริ เวณนี้และเดินเร็ วกว่าที่เฉินเกอคิดเอาไว้ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทั้ง
สองคนก็มาหยุดอยูห่ น้าตึกสองชั้นที่ถูกปิ ดผนึกเอาไว้
ุ แจ แต่วา่ มี
“ที่นี่คือโรงละครส่ วนตัว ทางเข้าถูกปิ ด และผมก็ไม่มีกญ
หน้าต่างเล็ก ๆ ที่บนชั้นสอง คุณมองเข้าไปข้างในได้
“ได้ ขอบคุณครับ ผมจะไปดูรอบ ๆ ก่อน” เฉิ นเกอเดินไปที่ประตู
หันกลับมาและเห็นผูช้ ายคนนั้นยังยืนอยูต่ รงนั้น “คุณมีอะไรต้องไป
ทําหรื อเปล่า? คุณอยากให้ผมเดินไปส่ งคุณกลับก่อนไหม?”
“ไม่เป็ นไร” ผูช้ ายคนนั้นมีความรู ้สึกว่าบางอย่างเลวร้ายกําลังจะ
เกิดขึ้น เขายืนอยูท่ ี่เดิมอยูน่ านก่อนจะหันกลับ แต่วา่ ก่อนที่เขาจะ
เดินออกไปก้าวแรก ก็มีเสี ยงกระแทกดังมาจากด้านหลังเขา
ปัง!
ความเงียบยามคํ่าคืนแตกกระจาย เสี ยงกระแทกที่แทบจะทําให้แก้ว
หูเขาฉี กดังขึ้น เขาสะดุง้ อย่างตกใจ ไม้เท้าหลุดออกจากมือเขา
“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” มือของเขาคลําหาไปในความมืด
อย่างมืดบอด เขากําลังตื่นตระหนก ตอนนั้นเอง มืออบอุ่นข้างหนึ่งก็
เอื้อมมาจับเขาให้อยูน่ ิ่ง ๆ แล้วพยุงเขาขึ้น
“มีคนอื่นอยูท่ ี่นี่!” เฉินเกอช่วยพยุงเขาลุกและนํ้าเสี ยงของเขาก็ชา้
และปลอบประโลม
“เป็ นไปไม่ได้! ไม่มีทาง!” ผูช้ ายคนนั้นโซเซถอยไป เขาร้อนรน
ร่ างกายของเขาสัน่ ไม้เท้าถูกเตะไปไกล ริ มฝี ปากเปลี่ยนเป็ นสี ม่วง
“คุณจะรู ้ได้ยงั ไงในเมื่อคุณมองอะไรไม่เห็นเลย?” เมฆดําลอยมาบัง
ดวงจันทร์ เฉินเกอพยุงชายคนนี้เอาไว้ดว้ ยมือหนึ่ง และอีกมือถือค้อน
หน้าตาน่ากลัวเอาไว้ เขายืนอยูข่ า้ งชายคนนั้นแล้วจ้องมองดวงตาที่
ปิ ดสนิท ถ้ามีคนมาเห็นเข้า พวกเขาก็คงคิดว่านี่เป็ นฉากสยองขวัญ
“ถ้ามีคนอื่นอยูท่ ี่นี่ อย่างนั้นก็แย่แล้ว! นี่เที่ยงคืนแล้ว ซึ่งหมายความ
ว่ามันอาจจะกลับมา!” ผูช้ ายคนนั้นดูรีบร้อนขึ้นมาทันที จากนํ้าเสี ยง
และสี หน้าของเขา เฉินเกอเชื่อว่าเขาไม่ได้โกหก
“อย่าตื่นตระหนก ใจเย็น” เฉินเกอมองโทรศัพท์ ภารกิจทดลองนั้น
ให้เวลาเขาเตรี ยมตัวแค่ครึ่ งชัว่ โมง ถ้าเขาปล่อยให้ชายคนนี้เดิน
กลับไปเอง อย่างนั้นก็อาจจะเกิดอุบตั ิเหตุได้ “พวกเราสองคนทางที่
ดีกอ็ ยูท่ ี่นี่ก่อน เผือ่ เอาไว้”
เฉินเกอหยิบไม้เท้าแล้วส่ งคืนให้ พยุงเขาเอาไว้ ทั้งสองคนเข้าไปใน
โรงละครส่ วนตัว ดูจากสภาพยํา่ แย่ภายนอกแล้วก็ไม่คิดว่าด้านในจะ
สะอาดอย่างน่าประหลาดใจเหมือนยังได้รับการทําความสะอาดทุก
วัน
เฉินเกอตรวจดูอุปกรณ์ฉายหนังที่บนโต๊ะ แทบจะไม่มีฝนเลย
ุ่ รักษา
ความสะอาดได้ในระดับนี้ ย่อมไม่ใช่ฝีมือของคนตาบอดคนหนึ่ง
มองดวงตาของชายคนนี้ที่ยงั ไม่ลืมขึ้นเลยตั้งแต่ที่พวกเขาพบกัน
เฉินเกอก็กาํ ค้อนแน่น
“ตอนนี้พวกเราก็อยูใ่ นโรงละครแล้ว คุณรู ้วธิ ีเปิ ดเครื่ องนี่ไหม?”
Chapter 713 เพื่อนร่ วมโต๊ ะ
“ทําไมคุณถึงถามอย่างนั้น?” ผูช้ ายคนนั้นถือไม้เท้าเอาไว้และอยากจะ
รักษาระยะห่างจากเฉินเกออยูบ่ า้ ง แต่วา่ เขาอ่อนแรงเกินไปและไม่
สามารถดิ้นหนีได้
“เพื่อนของผมหายตัวไปในโรงละครนี่ ดังนั้นผมจึงอยากจะย้อน
รอยเท้าเขาและดูวา่ จะเจอเงื่อนงําอะไรไหม” เฉิ นเกอพูดด้วยนํ้าเสี ยง
สบาย ๆ ขณะยืนอยูใ่ นความมืดและกวาดตามองไปทัว่ โรงละคร ที่
นัง่ หลายแถวนั้นสูงไม่เท่ากัน มองไปแล้วก็เหมือนเงามากมายกําลัง
ยืนหรื อไม่กน็ งั่ อยู่
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ? คุณมาที่นี่ตอนตีสองและต้องการให้ผมเปิ ด
หนังให้คุณดู?” ถึงจะไม่มีข่าวลือน่ากลัวพวกนั้น ผูช้ ายคนนี้กไ็ ม่
อยากเชื่อว่าจะมีคนธรรมดาคนไหนทําตัวเหมือนเฉินเกอ มาที่โรง
ละครร้างในตอนกลางดึกเพื่อดูหนัง
“ผมไม่ได้บา้ และรู ้ดีวา่ ผมกําลังทําอะไรอยู”่ เฉินเกอส่ องไฟฉายบน
โทรศัพท์ไปที่อุปกรณ์ต่าง ๆ “ถ้าคุณไม่สะดวก ทําไมคุณไม่สอนผม
ล่ะว่าต้องทํายังไงแล้วให้ผมทําเอง?”
เฉินเกอนั้นเป็ นคนที่ขยันเรี ยนรู ้ เขาจะไม่ยอมเสี ยโอกาสที่จะเรี ยนรู ้
เรื่ องใหม่ ๆ และนัน่ ก็เป็ นเหตุผลให้เขาครอบครอง ‘ทักษะ’ หลาย
อย่าง
“คุณจําเป็ นต้องไตร่ ตรองสิ่ งที่คุณจะทําให้มาก ๆ สิ่ งที่ผมบอกคุณ
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่นิทาน– มันคือความจริ ง” เปลือกตาของเขาสัน่ –
ผูช้ ายคนนี้มีสติรู้ตวั อยูเ่ สมอ เขาวางไม้เท้าลงที่ดา้ นข้างแล้วเริ่ มยืน่
มือออกไปคลําที่บนโต๊ะอย่างมืดบอด จากนั้นเขาก็ขยับช้ามาก ๆ
และไม่มีใครรู ้วา่ เขากําลังจะทําอะไร เฉิ นเกอยืนมองเขาอยูข่ า้ ง ๆ
และยิง่ เขามองชายคนนี้ เขาก็ยงิ่ รู ้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
มือของเขานั้นคล่องแคล่วเกินไป ดวงตาของเขาปิ ดอยู่ แต่เขารู ้วา่
อุปกรณ์และปุ่ มต่าง ๆ อยูต่ รงไหน และสถานการณ์เช่นนี้อธิบายได้
เพียงแค่สองแบบ
หนึ่งคือก่อนที่เขาจะตาบอด หรื อกระทัง่ หลังจากเขาตาบอด เขามาที่
โรงละครนี้เป็ นประจํา กระทําสิ่ งเดียวกันซํ้า ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป
การกระทํานี้กก็ ลายไปเป็ นความทรงจําของกล้ามเนื้อ และเขาก็
สามารถเปิ ดใช้เครื่ องมือพวกนี้ได้อย่างราบรื่ นแม้วา่ ดวงตาจะปิ ด
ความเป็ นไปได้ที่สองก็คือเขาไม่เคยตาบอดเลยตั้งแต่ตน้
หลังจากเขาต่อวงจรทั้งหมด เขาก็คลําหาแหล่งกําเนิดพลังสําหรับ
เครื่ องเล่น เขาพยายามอยูห่ ลายครั้งแต่กเ็ ปิ ดไม่ได้ “สวิตช์เปิ ดไฟ
หลักอยูท่ ี่ช้ นั สอง คุณช่วยไปเปิ ดให้ผมได้ไหม?”
“ชั้นสอง?” เฉินเกอยกค้อนขึ้นแล้วเดินออกไปจากโรงละคร เขาเดิน
ขึ้นบันไดไปที่ช้ นั สอง แต่วา่ เขาไม่ได้เข้าไป แต่ยนื อยูท่ ี่บนบันได
มองไปที่ทางเข้าโรงละคร
ประมาณห้าวินาทีให้หลัง ใบหน้าของชายคนนั้นก็โผล่ออกมาจาก
ในโรงละคร เขาหยุดฟังเสี ยง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีเสี ยงอะไร
แปลก ๆ อะไร จู่ ๆ เขาก็วงิ่ เข้าไปในความมืด เสี ยงฝี เท้าสองเสี ยง
ก้องอยูใ่ นความมืด ก่อนที่ชายคนนั้นจะหนีพน้ ก็มีคนกดไหล่ของ
เขาเอาไว้
“คุณจะทิ้งผมไว้ที่นี่คนเดียวได้ยงั ไง?” เสี ยงของเฉินเกอดังเข้าไปใน
หูชายคนนั้นและฝ่ ายหลังก็สะดุง้ ด้วยความตกใจเหมือนถูกสายฟ้า
ฟาด “ผมหาสวิตช์ไฟหลักไม่เจอ ไปด้วยกันนะครับ”
เฉินเกอช่วยพยุงชายคนนั้นขึ้นไปที่ช้ นั สองแล้วเปิ ดสวิตช์
เกิดเสี ยงระเบิดตามมา ไฟทั้งหมดในโรงละครกะพริ บอยูค่ รู่ หนึ่ง
“ผมแค่อยากดูหนังที่นี่แล้วตามหาเพื่อนที่หายตัวไป แค่น้ นั เอง ถ้า
คุณยังจะขัดขวางผม ผมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อว่าคุณมีความ
เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเพื่อนผม”
หลังจากเปิ ดไฟแล้ว เครื่ องฉายหนังก็เริ่ มทํางานเอง ผูช้ ายคนนั้นเปิ ด
ช่องใส่ มว้ นเทป หลังจากทุกอย่างถูกใส่ เข้าที่แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นพูด
“คุณสามารถเลือกหนังที่จะดูได้ดว้ ยตัวเอง แต่วา่ ผมขอเตือนคุณเป็ น
ครั้งสุ ดท้าย– อย่าเลือกหนังสยองขวัญ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่ อง
ร้ายแรงขึ้น”
ดูหนังในโรงละครนั้นเป็ นภารกิจส่วนแรกของดวงตาข้างซ้าย ตอนนี้
ตีสองแล้ว ถ้าเขาไม่ทาํ ภารกิจนี้ให้เสร็ จโดยเร็ ว เขาอาจจะไม่สามารถ
ทําภารกิจสําเร็ จได้ในคืนนี้ เพราะมีความคิดนี้อยูใ่ นใจ เฉิ นเกอจึง
กวาดตามองรายชื่อหนังทั้งหมด และเขาก็ต้ งั ใจจะเลือกหนังที่ส้ นั ที่สุด
โทรศัพท์เครื่ องดําแค่ตอ้ งการให้นงั่ ดูหนังที่นี่ และมันไม่ได้ระบุ
ชนิดของหนังเอาไว้เป็ นพิเศษ
เฉินเกอนั้นไม่ได้คิดจะเพิม่ ความยากให้กบั ภารกิจ เขามองหาหนัง
ศิลปะแนวอบอุ่น หรื ออะนิเมชัน่ แต่เมื่อเขาคลิกไปบนรายชื่อหนัง
เขาก็พบว่าไม่มีเรื่ องไหนที่เล่นได้เลย มันบอกว่าหนังแต่ละเรื่ องนั้น
ไม่มีอยู่ และต้องการดูให้ดาวน์โหลดใหม่อีกครั้ง หลังจากค้นอยูพ่ กั
หนึ่ง เฉินเกอก็พบว่ามีแค่หนังสยองขวัญเท่านั้นที่เล่นได้
เชื่อมโยงเรื่ องนี้เข้ากับสิ่ งที่ชายคนนั้นพูดก่อนหน้า เฉิ นเกอก็เริ่ มสงสัย
มีคนอยูเ่ บื้องหลังเรื่ องนี้ หรื อว่ามีบางอย่างทําลายไฟล์หนังอื่น ๆ ไป?
เมื่อตรวจดูรายชื่อหนังแล้ว เขาก็พบเรื่ องประหลาดอีกจุดหนึ่ง เฉิน
เกอเปิ ดบ้านผีสิง เขามักจะดูหนังสยองขวัญมองหาแรงบันดาลใจ แต่
เขากลับไม่รู้จกั หนังในรายชื่อสักเรื่ องเลย
หนังสยองขวัญเหล่านี้น้ นั ต่างไปจากที่อยูบ่ นท้องตลาด ทั้งผูก้ าํ กับ
และผูอ้ าํ นวยการสร้างของหนังพวกนี้น้ นั มีชื่อเหมือนกัน
เฉินเกอคลิกหนังเรื่ องหนึ่งแล้วจําชื่อผูก้ าํ กับเอาไว้
ฉางกู? นัน่ เป็ นชื่อจริ งหรื อชื่อในวงการกันนะ?
“คุณเลือกหนังได้หรื อยัง?” มือของผูช้ ายคนนั้นยังสัน่ อยูต่ ลอด
สภาพรอบด้านไม่ได้เปลี่ยน แต่เขากลับดูไม่สบายใจมากขึ้น เหมือน
ยิง่ เขาอยูท่ ี่นี่นานเข้าแล้วจะมีบางอย่างตามเขากลับบ้าน
“อืม ผมจะเลือกหนังที่ส้ นั ที่สุด” หนังสยองขวัญส่ วนใหญ่น้ นั ยาว
ประมาณหนึ่งชัว่ โมงครึ่ ง แต่เฉิ นเกอเจอเรื่ องหนึ่งที่ยาวแค่ยสี่ ิ บห้า
นาที ชื่อของหนังเรื่ องนั้นก็คือ ‘เพื่อนร่ วมโต๊ะ’
ยังมีเวลาอีกห้านาทีกว่าภารกิจจะจบลง หนังเริ่ มฉาย และแสงไฟใน
โรงละครก็สลัวลงขณะภาพพร่ ามัวปรากฏขึ้นบนจอ
“ยังไงผมก็มองอะไรไม่เห็นอยูด่ ี ดังนั้นเลยคิดจะกลับไปก่อน ที่เป็ น
หมายเลขโทรศัพท์ของผม หลังจากคุณดูจบก็โทรหาผม แล้วผมจะ
กลับมาเก็บกวาดที่นี่” ชายคนนั้นพ่นตัวเลขชุดหนึ่งออกมา หลังจาก
เฉินเกอบันทึกเลขพวกนั้นแล้วเขาก็กดโทรออก เสี ยงสัน่ ดังมาจาก
ในกระเป๋ าของชายคนนั้น เขาไม่ได้โกหก
ด้วยประสบการณ์การรับมือกับผูเ้ ข้าชมที่หวาดกลัว เฉินเกอนั้นแน่ใจ
ว่าความกลัวของชายคนนั้นไม่ได้เสแสร้งขึ้นมา หลังจากรู ้อย่างนั้น
แล้วเขาก็ยงิ่ ไม่ยนิ ดีจะปล่อยผูช้ ายคนนี้กลับออกไป เขาต้องรู ้เรื่ อง
ภายในบางอย่าง แต่เขาไม่ยอมบอกเรื่ องพวกนั้นกับเฉิ นเกอ
“ไม่จาํ เป็ นต้องรี บร้อนออกไปหรอก พวกเราสองคนควรจะอยูด่ ว้ ยกัน
ไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็ช่วยดูแลกันและกันได้” เฉินเกอรั้งชาย
คนนั้นเอาไว้แล้วกดเขาลงกับที่นงั่ อย่างหนักแน่น เมื่อคิดถึงความ
ปลอดภัย เฉินเกอก็เลือกที่นงั่ ที่ใกล้กบั ทางออกที่สุด
“ขอบคุณนะครับ แต่…”
“ชู่ หนังเริ่ มฉายแล้ว”
ดูหนังสยองขวัญในโรงละครนั้นเป็ นประสบการณ์ที่ต่างไปจากดูที่
บ้าน ความรู ้สึกของการถูกความมืดห้อมล้อมเอาไว้และอยูท่ ี่นนั่ ด้วย
ตนนั้นไม่สามารถลอกแบบไปไว้ที่บา้ นได้
หัวใจเต้นอยูข่ า้ งหู และจากนั้นก็เสี ยงหายใจหนัก ๆ ดวงตาดวงหนึ่ง
ปรากฏขึ้นบนจอช้า ๆ และจากม่านตาสี ดาํ นั้นมองเห็นเงาของผูห้ ญิง
คนหนึ่ง กล้องถอยออกช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เบนไปทางโต๊ะเขียนหนังสื อ
ตัวหนึ่ง นาฬิกาปลุกที่บนนั้นบอกเวลาบ่ายสี่ โมงครึ่ ง ที่นอกหน้าต่าง
เมฆดําและลอยตํ่า
พายุกาํ ลังจะมา
หนังเล่าเรื่ องจากมุมมองบุรุษที่หนึ่ง และผูช้ มก็มองเห็นสิ่ งที่ตวั
ละครหลักเห็น
“ชิวเหมย!”
มีคนเรี ยกชื่อนี้ซ้ าํ ๆ อยูท่ ี่ช้ นั ล่าง กล้องขยับอีกครั้ง ตัวละครหลักลุก
จากเตียงและเดินไปที่หน้าต่าง เธอเปิ ดหน้าต่างแล้วดูเหมือนจะ
ชะโงกหน้าออกไป บนจอแสดงสิ่ งที่อยูด่ า้ นล่าง
เด็กหญิงในเสื้ อแจ็กเกตสี แดงคนหนึ่งกําลังโบกมือให้ตวั ละครหลัก
Chapter 714 จุดที่โลกซ้อนทับกัน
“ชิวเหมย ออกไปเล่นกัน!” เด็กหญิงที่ดา้ นล่างโบกมือให้อย่าง
กระตือรื อร้น รอยยิม้ บนใบหน้าของเธอนั้นสดใสและตื่นเต้นเหมือน
เพิ่งมีบางอย่างที่ดีมาก ๆ เกิดขึ้นกับเธอ ตัวละครหลักไม่ตอบ บนจอ
แช่ภาพเดิมเอาไว้หนึ่งวินาทีเต็ม ๆ แสดงให้เห็นถึงความว่างเปล่า
และความเย็นชา ก่อนที่ตวั ละครหลักจะขยับไปปิ ดหน้าต่าง
ความรู ้สึกมืดมนนั้นไม่ได้สลายหายไปหลังจากที่หน้าต่างถูกปิ ด
กลับกัน มันคืบคลานอยูร่ อบ ๆ ตัวละครหลัก มันยากที่จะบอกว่าผู ้
กํากับจับความรู ้สึกเช่นนี้มาไว้ในจอได้อย่างไร แค่ความรู ้สึกของ
การกลัวที่แคบ ๆ และถูกขังเอาไว้คนเดียวก็ทาํ ให้หนังสั้นเรื่ องนี้
ดีกว่าเรื่ องอื่น ๆ ในท้องตลาดเป็ นอย่างมากแล้ว
ห้องเล็ก ๆ นี่ราวกับกรงขัง และหลังจากที่หน้าต่างถูกปิ ด มันก็ราว
กับนํ้าทะเลเย็นเยือกถูกเทเข้ามาในห้องแล้วท่วมทับตัวละครหลักให้
จมลงไป กล้องหมุนไปรอบ ๆ ห้องอย่างไร้จุดหมายก่อนที่เสี ยงของ
เด็กหญิงคนเดิมจะดังมาจากข้างหลัง
“ชิวเหมย! ชิวเหมย!” กล้องค่อย ๆ หันกลับไป ใบหน้าของเด็กผูห้ ญิง
แนบติดอยูก่ บั กระจก เธอกดหน้าแนบกระจกแน่นจนเครื่ องหน้า
ของเธอบิดเบี้ยวเกินจะจดจําได้– มันราวกับเธอพยายามจะใช้ใบหน้า
ของตัวเองแทรกผ่านกระจกเข้ามา
“ชิวเหมย ออกไปเล่นกัน!” สี แดงของเสื้ อแจ็กเกตนั้นสะดุดตา และ
มันก็ขดั กันอย่างประหลาดกับท้องฟ้าสี เทาที่เป็ นพื้นหลัง ตัวละคร
หลักอาศัยอยูช่ ้ นั ที่สี่ ตอนที่เธอมองออกไปก่อนหน้านี้ เด็กหญิงคนนี้
ยืนอยูบ่ นพื้นชัด ๆ
แต่วา่ กับปรากฏการณ์ประหลาดนี้ ตัวละครหลักกลับดูไม่ตกใจ มัน
เหมือนเธอชินชาไปแล้ว กล้องขยับไปทางอื่นอย่างสงบ ในเมื่อหนัง
เรื่ องนี้เล่าจากมุมมองของตัวละครหลัก กล้องจึงแทนการมองเห็น
ของตัวละครหลัก กวาดตามองผ่านโต๊ะรก ๆ และเสื้ อผ้าสกปรก
เกลื่อนพื้นไปหยุดอยูท่ ี่ประตูหอ้ งนอน
“ชิวเหมย ออกไปเล่นกัน!” ใบหน้าของเด็กหญิงยังแนบติดอยูก่ บั
กระจกหน้าต่าง เสื้ อแจ็กเกตสี แดงนั้นก็แผ่อยูบ่ นกระจกจนแสงที่
ส่ องผ่านมันมาเปลี่ยนเป็ นสี แดงไปด้วย ลมหายใจของเธอเริ่ มแรง
ขึ้น และจู่ ๆ ตัวละครหลักก็คว้ากรรไกรที่บนโต๊ะขึ้นมาชูข้ ึนสู ง
ในเมื่อนี่เป็ นมุมมองบุรุษที่หนึ่ง มันจึงทําให้คนดูรู้สึกว่าตัวละคร
หลักกําลังจะใช้กรรไกรแทงตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ วมากและยากที่
จะตามการเปลี่ยนแปลงทัน
ปึ้ ง!
ประตูหอ้ งนอนถูกกระแทกเปิ ด และชายวัยกลางคนผูห้ นึ่งก็พงุ่ เข้า
มา เขาคว้าข้อมือของตัวละครหลักเอาไว้แล้วฉวยเอากรรไกรไป
“ลูกกําลังจะทําอะไร?” กล้องหันไปทางด้านข้างแล้วหมุน ตัวละคร
หลักถูกผลักลงไปที่ขา้ งโต๊ะ
“ชีวติ ของแม่ของลูกกับพ่อก็ไม่ง่ายแล้ว ลูกช่วยเลิกทรมานพวกเรา
เสี ยทีได้ไหม?”
ผูช้ มมองไม่เห็นสี หน้าบนใบหน้าของตัวละครหลัก แต่พวกเขาก็
รับรู ้สภาพตอนนี้ของตัวละครหลักได้จากท่าทีและสี หน้าของชายวัย
กลางคน มนุษย์น้ นั พิเศษ และความเชื่อมโยงเช่นนี้กด็ ูเหมือนจะ
ถ่ายทอดอยูใ่ นตัวทุกคน
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” เสี ยงฝี เท้ารี บร้อนมาถึง และหญิงวัยกลางคนผู ้
หนึ่งก็กา้ วเร็ ว ๆ เข้ามาในห้อง เธอดูโทรม และเมื่อสายตาของเธอจับ
ไปที่ตวั ละครหลัก เธอก็หน้าแดงกํ่าขึ้นในพริ บตา โดยไม่ได้พดู
อะไร เธอเบียดตัวเองผ่านสามีไปโอบตัวละครหลักเข้ามากอดแน่น
“ลูกเห็นเธออีกแล้วเหรอ?” ผูห้ ญิงคนนั้นหันหน้าหากล้อง แต่ผชู ้ มรู ้
ว่าเธอกําลังพูดกับตัวละครหลัก จากมุมนี้ ผูช้ มเห็นรายละเอียดสี
หน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ บนใบหน้าของมารดาได้ชดั เจน มีความเจ็บปวด
กระวนกระวาย วิตกกังวล… แต่ที่มากกว่านั้น คือเจ็บปวดใจ
ถึงจะไม่มีการตอบสนองจากตัวละครหลัก ตัวแม่กร็ ู ้คาํ ตอบแล้ว
และเธอก็กอดตัวละครหลักแน่นเข้าอีก
“ทําไมลูกถึงเป็ นคนที่ถูกลงโทษ? พวกเราจะทําอะไรกับภาวะเจ็บป่ วย
นี้ได้บา้ ง?” กล้องขยับออกจากมารดาและหันไปที่ทอ้ งฟ้าด้านนอก
หน้าต่าง เมฆดําลอยตํ่าอยูบ่ นฟ้าเหมือนกําลังจะหล่นลงมาครอบคลุม
โลกเอาไว้ ด้วยตาปิ ดลงช้า ๆ และโรงละครก็กลับไปสู่ ความมืด
ผูช้ ายคนนั้นดูกระวนกระวายมาก ขาของเขาเบียดชิดกันและเขาก็ถาม
เฉินเกอเบา ๆ “ทําไมไม่มีเสี ยงแล้วล่ะ? เครื่ องฉายหนังเสี ยเหรอ?”
ก่อนที่เฉินเกอจะทันตอบ เสี ยงดนตรี ประหลาดก็วนอยูใ่ นห้อง ดวงตา
กะพริ บก่อนที่จะเปิ ดออกอีกครั้ง กล้องขยับ และตัวละครหลักก็นอน
อยูบ่ นเตียงของเธอ ข้าง ๆ กันนั้นเป็ นพ่อกับแม่ของเธอและผูช้ ายคน
หนึ่งที่ผชู ้ มไม่เคยเห็นมาก่อนยืนอยู่
ผูช้ ายคนนี้กม้ ตัวลง และเขาก็ยนื หันหลังให้ตวั ละครหลัก ในเมื่อหนัง
ถ่ายจากมุมมองตัวละครหลัก ก็เหมือนกันกับตัวละครหลัก ผูช้ มก็
ไม่ได้เห็นใบหน้าของชายคนนั้น
“คุณหมอคะ เหวินอวี้ป่วยเป็ นอะไรกันแน่? ทําไมเธอถึงเอาแต่พดู ว่า
เธอเห็นสิ่ งประหลาดพวกนั้น?” แม่ของตัวละครหลักนั้นมีความเป็ น
ห่วงฉายอยูบ่ นใบหน้า
“ใช่ คุณหมอ เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวผมครับ?”
“ผมไม่ใช่หมอครับ เป็ นแค่คนที่ทาํ วิจยั เรื่ องนี้มาบ้าง ตอนนี้ยงั ไม่ตอ้ ง
เป็ นห่วง ผมพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่ าว ๆ แล้ว” ผูช้ ายคนที่ถูกเรี ยก
ว่าหมอนั้นมีเสี ยงที่เฉินเกอคุน้ เคย นี่เป็ นความรู ้สึกประหลาดเพราะว่า
เฉินเกอไม่คิดว่าจะมีคนรู ้จกั ของเขาคนไหนเคยเล่นหนังมาก่อน
หมอทําท่าให้พอ่ กับแม่นงั่ ลง “สถานการณ์ของเธอค่อนข้างพิเศษ
และผมจะเล่าแนวความคิดเบื้องต้นของผมให้พวกคุณฟัง”
หมอดึงกระดาษจดสี ดาํ ออกมาจากกระเป๋ า “คุณน่าจะรู ้วา่ มนุษย์เรา
อาศัยอยูใ่ นมิติที่สามใช่ไหม?”
พ่อกับแม่ส่ายหน้า พวกเขาไม่รู้เลยว่าคุณหมอกําลังจะพูดถึงอะไร
หมอพลิกหน้ากระดาษจดและเจอหน้าที่เขาฉีกออกมาจากหนังสื อ
เล่มอื่น “พูดให้ง่ายก็คือ มิติที่สามนั้นคือโลกนี้ที่พวกเราเหล่ามนุษย์
ครอบครองอยู่ มีความยาว ความกว้าง และความสู ง มิติที่สี่น้ นั เพิม่
เวลา เข้าไปจากพื้นฐานของมิติที่สาม อันที่จริ ง เงื่อนไขที่ขดั ขวาง
พวกเราเข้าไปในมิติที่สี่กค็ ือ ‘เวลา’ เพราะการมีอยูข่ องเวลา มนุษย์
ในมิติที่สามจึงถูกบังคับให้ตอ้ งเลือกตัวเลือกเดียวในแต่ละครั้ง และ
ตัวเลือกที่ถูกเลือกนี้กเ็ ป็ นตัวเลือกที่แยกออกมาต่างหากโดยสมบูรณ์
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ประสบการณ์แต่ละครั้งของมนุษย์น้ นั คือโลก
สามมิติที่แยกออกจากกัน และถ้าคุณเอาโลกสามมิติท้ งั หมดมาวาง
เอาไว้บนแกนเวลา อย่างนั้นคุณก็จะสามารถสร้างโลกสี่ มิติได้”
ไม่เพียงแค่พอ่ แม่ของตัวละครหลักจะงุนงงกับถ้อยคําของหมอ กระ
ทัง่ เฉินเกอที่เป็ นผูช้ มก็ถูกชักนําเข้าไปในวงเวียนนั้นด้วย แต่วา่ ชาย
ตาบอดที่ขา้ งเขาจู่ ๆ ก็เงียบและสงบลง
“แล้วนัน่ เกี่ยวอะไรกับภาวะเจ็บป่ วยของลูกสาวของฉันคะ?” คนแม่
นั้นไม่ได้ให้ความสําคัญกับทฤษฎีของหมอมากนัก เธอแค่ตอ้ งการ
รักษาลูกสาวของเธอ
“ผมจะบอกคุณอีกครั้ง ลูกสาวของคุณไม่ได้ป่วย มีอุบตั ิเหตุเกิดขึ้น
บนโลกนี้มากมายในแต่ละวันจากเรื่ องเล็กขนาดการชนกันของ
อะตอมถึงเรื่ องใหญ่อย่างการขยายตัวของอวกาศ และยังมีหลายสิ่ งที่
พวกเรายังอธิบายไม่ได้…”
“หมอครับ ทําไมคุณไม่แค่บอกพวกเราตรง ๆ ลูกสาวของพวกเราจะ
ดีข้ ึนหรื อเปล่า? ต้องใช้ยาแบบไหน? สภาพการเงินครอบครัวของ
พวกเราไม่ดีนกั แต่เพื่อลูกสาวของพวกเรา พวกเรายอมทําอะไรก็ได้”
พ่อของเด็กสาวตัดบทเขา พวกเขาแสดงได้เหมือนจริ งจนไม่รู้สึกว่า
นี่เป็ นหนังแต่วา่ เป็ นบันทึกเหตุการณ์จริ ง
“ลูกสาวของคุณไม่ได้ป่วย ดวงตาของเธอก็แค่ประสบอุบตั ิเหตุ”
หมอยังคงหันหลังให้ตวั ละคร “โลกสามมิติที่เรี ยงอยูบ่ นแกนเวลา
บางครั้งก็ซอ้ นทับกัน และลูกสาวของคุณ ฉางเหวินอวี้ นั้นอยูต่ รงที่
ที่สองโลกซ้อนทับกัน ดังนั้น เธอจึงมองเห็นสิ่ งที่คุณมองไม่เห็น!”
หนังยังเล่นต่อ เฉิ นเกอมาที่นี่เพื่อภารกิจ แต่วา่ เขากลับจมดิ่งลงไป
กับเนื้อหาของหนัง
ทําไมหมอกับพ่อแม่ของเธอเรี ยกชื่อตัวละครหลักว่าฉางเหวินอวี้?
แต่วา่ ผีที่นอกหน้าต่างเรี ยกเธอว่าชิวเหมย? แล้วก็ สิ่ งที่หมอคนนี้
อธิบายน่าสนใจทีเดียว ฉันคิดว่าฉันควรจะจํามันเอาไว้ ถึงแม้วา่ จะ
ไม่ค่อยเข้าใจนัก มันอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต
Chapter 715 มองเห็นด้ วยดวงตาข้ างซ้ ายของฉัน
ในหนัง พ่อแม่ของตัวละครหลักนั้นไม่ให้น้ าํ หนักกับถ้อยคําของหมอ
มากนักและความไม่พอใจในดวงตาของพวกเขาก็ปิดบังไว้ไม่ได้
“เชื่อผมเถอะครับ ลูกสาวของคุณไม่ได้ป่วยจริ ง ๆ สิ่ งที่เกิดขึ้นกับ
ดวงตาของเธอก็เป็ นแค่อุบตั ิเหตุ ถ้าเป็ นไปได้ ผมก็อยากจะพาเธอไป
เมืองซินไห่กบั ผม ที่ผมสามารถตรวจเธอให้ละเอียดกว่านี้ได้” ผูช้ าย
คนนั้นดูไม่เหมือนนักต้มตุ๋น เขาดูจริ งใจมาก แต่โชคไม่ดี พ่อกับแม่
ไม่เชื่อสิ่ งที่เขาพูด
“ถ้ามีโอกาส ฉันจะพาเธอไปค่ะ แต่วา่ เหวินอวี้ยงั ต้องไปโรงเรี ยน”
แม่ปฏิเสธเขาอ้อม ๆ หมอถอนหายใจ เขาส่ งนามบัตรของตัวเองให้
แม่ของเด็กแล้วลุกขึ้นยืนเตรี ยมจากไป ตลอดกระบวนการนี้ หมอ
หันหลังให้ตวั ละครหลักอยูต่ ลอดเวลาและใบหน้าของเขาก็ถูกปิ ดบัง
เอาไว้
หลังจากประตูปิดลงและหมอจากไปแล้ว แม่กบ็ ่นเบา ๆ “ฉันสงสัย
อยูแ่ ล้วว่าทําไมเขาถึงมาตรวจเหวินอวี้ให้ฟรี ๆ เขาเป็ นนักต้มตุ๋น
หลังจากพวกเราไปถึงซินไห่ เขาก็จะเริ่ มคิดเงินเราต่าง ๆ นานา”
“ฉันเองก็สงสัยความน่าเชื่อถือของหมอคนนั้น บางทีเขาอาจจะ
ไม่ได้เป็ นหมอด้วยซํ้า แต่วา่ มันต้องมีเหตุผลเบื้องหลังการป่ วยนี่ นี่
ไม่เคยเกิดขึ้นกับเหวินอวี้มาก่อน แล้วจู่ ๆ เธอจะป่ วยได้ยงั ไง?”
“คุณพูดถูก เด็กคนนี้เป็ นปกติดีมาตลอดหลายเดือนมานี้ แต่จู่ ๆ คืน
นั้น ไม่สิ ตั้งแต่ตอนบ่ายที่เธอกลับมาจากโรงเรี ยน เธอก็ทาํ ตัวแปลก
ไป”
ใบหน้าของพ่อและแม่มีรอยย่นลึก และนํ้าเสี ยงของพวกเขาก็แฝงไป
ด้วยความเจ็บปวดหัวใจ กล้องบันทึกทุกอย่างเอาไว้อย่างเรี ยบเฉย
และมันก็ให้ความรู ้สึกว่าตัวละครหลักกําลังจับตามองทุกอย่างโดย
ไม่แสดงอารมณ์ใดสักนิด ดวงตาค่อย ๆ ปิ ดลง และเสี ยงดนตรี
ประหลาดก็ดงั ขึ้นอีกครั้ง
ต่างไปจากการดูหนังสยองขวัญที่บา้ น ระบบเสี ยงในโรงละครนั้น
เป็ นระบบเสี ยงรอบทิศทาง มันทําให้รู้สึกเหมือนว่าเสี ยงฝี เท้านั้นดัง
มาจากระยะไกล หรื อมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยูร่ อบ ๆ ตัวผูช้ ม ผู ้
กํากับทุ่มเทกับหนังสั้นเรื่ องนี้มาก และนัน่ ก็เห็นได้จากแค่ระบบ
เสี ยงอย่างเดียวด้วยซํ้า
เพลงประกอบนั้นมีเสี ยงหัวใจเต้นและเสี ยงหายใจหนัก ๆ ผสานอยู่
เหมือนบางคนกําลังดิ้นรนอยูใ่ นฝันร้าย ทุกอย่างมืดสนิท และมีคน
ดิ้นรนเอาชีวติ รอด แต่วา่ ไม่สามารถคว้าอะไรมาพยุงตัวไว้ได้เลย
เมื่อผูช้ มจมลงไปกับสภาพยํา่ แย่ของตัวละครหลักและกลั้นหายใจไว้
เสี ยงกริ่ งแหลมก็ดงั ตัดเพลงประกอบออกมา เปลือกตากระตุก ตัว
ละครหลักดูเหมือนจะตื่นแล้ว และเธอก็ลืมตาพร่ ามัวขึ้น
บนจอปรากฏฉากใหม่ กล้องไม่ได้อยูใ่ นห้องนอนอีกต่อไปแล้วแต่
เป็ นศูนย์กวดวิชาที่ดูเรี ยบง่ายแห่งหนึ่ง แสงอาทิตย์ส่องลงมาที่ตวั
ละครหลักผ่านทางหน้าต่าง และกล้องก็จบั อยูท่ ี่เงาของเด็กสาวที่
ทอดยาวอยูบ่ นพื้น เธอเอนตัวแนบโต๊ะแถวสุ ดท้ายในชั้นเรี ยน และ
ศีรษะของเธอก็ยงั หนักไปด้วยความง่วงงุน
หนังฉายมาได้หนึ่งในสามแล้ว และฉันก็เพิง่ เห็นแค่เงาของตัวละคร
หลัก ผูก้ าํ กับเก่งมากทีเดียว
เฉินเกอเคยเห็นเงามากมายในชีวติ และในมุมมองเยีย่ งมืออาชีพของ
เขา เงาในหนังนั้นธรรมดาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
แสงอาทิตย์ทาํ ให้เส้นประสาทในหัวเธอของเธอตึงเขม็ง และเสี ยง
พัดลมหมุนก็ดงั น่ารําคาญอยูใ่ นหูเธอ และยังมีเสี ยงพลิกเปิ ด
หน้ากระดาษและยังเสี ยงดนตรี เพี้ยน ๆ จากหูฟังราคาถูกของ
นักเรี ยนโต๊ะใกล้ ๆ
การถ่ายฉากยาวต่อเนื่องแสดงให้เห็นทุกอย่างในห้องเรี ยน ความ
ร่ วมมือกันของผูก้ าํ กับ ตากล้อง และนักแสดงนั้นไร้ที่ติ
ปัง!
ในตอนนี้ที่ผชู ้ มกําดื่มดํ่าไปกับความรู ้สึกสงบ ความสงบนัน่ จู่ ๆ ก็
แตกกระจายออก ประตูถูกผลักเปิ ด และเด็กผูห้ ญิงที่มีทรงผม
ประหลาดก็พงุ่ เข้ามาในห้อง
“เหอชิวเหมย! เงียบ อย่ารบกวนนักเรี ยนคนอื่น!” ผูช้ ายสวมแว่นผม
ตั้งสั้นเดินตามหลังเด็กหญิงมา เขาถือโทรศัพท์ไว้ในมือข้างหนึ่งและ
ตําราเรี ยนอยูใ่ นมืออีกข้าง ผูช้ ายคนนั้นน่าจะเป็ นอาจารย์สอนพิเศษ
และเขายังดูคุน้ เคยกับนักเรี ยนที่เพิง่ เข้ามา
“ค่ะ ๆ” เด็กหญิงผมแดงเคี้ยวหมากฝรั่งอยูใ่ นปากและพึมพําตอบรับ
อาจารย์ผชู ้ ายรู ้นิสยั เด็กหญิง ดังนั้นจึงแค่ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเคือง ๆ
ปาดเหงื่อออกจากใบหน้าแล้วปรบมือเบา ๆ “ทุกคน สนใจผมหน่อย
ได้ไหมครับ? นี่เป็ นนักเรี ยนใหม่ที่จะเข้ามาเรี ยนกับพวกเราวันนี้
เหอชิวเหมย เพราะเหตุผลทางด้านครอบครัว เธอก็เลยหยุดเรี ยนไป
หนึ่งปี และเธอก็มาที่นี่เพื่อเรี ยนตามให้ทนั ผมหวังว่าพวกเราทุกคน
จะช่วยเธอนะ”
อาจารย์แนะนําตัวอย่างง่าย ๆ และให้เธอนัง่ ที่ดา้ นหลังห้อง บังเอิญ
ว่า เธอเลือกที่จะนัง่ ข้าง ๆ ตัวละครหลัก และดังนั้นจึงกลายมาเป็ น
เพื่อนร่ วมโต๊ะกัน กล้องซูมเข้าไปยังเหอชิวเหมย เด็กหญิงมีผมสี แดง
ซีด เธอเอนตัวพิงกําแพงแล้วโยนกระเป๋ าลงบนโต๊ะอย่างไม่สนใจ
“เธอมองอะไร?” เด็กหญิงสังเกตเห็นตัวละครหลักมองมาที่เธอ นิสยั
ของเธอนั้นร้อนเหมือนไฟ ไม่ใช่วา่ เธอเป็ นคนไม่ดี แต่วา่ เธอมีแนวโน้ม
ที่จะทําเหมือนหาเรื่ องคนอื่นอย่างไม่ต้ งั ใจมากกว่า พอถูกเด็กหญิง
ตะคอกใส่ กล้องที่แทนสายตาของตัวละครหลักก็เบนออกไป แต่ครู่
ต่อมา กล้องก็หนั กลับไปยังเหอชิวเหมยอีกครั้ง เห็นได้ชดั เจนว่าตัว
ละครหลักนั้นสนใจเพื่อนร่ วมโต๊ะคนใหม่ของเธอ
กริ่ งดัง และเมื่ออาจารย์ออกไปจากห้อง ตัวละครหลักกําลังจะลุกขึ้น
ตอนที่ชิวเหมยจู่ ๆ ก็ผดุ ลุกขึ้น เธอตบหนังสื อบนโต๊ะอย่างเกรี้ ยว
กราด พ่นหมากฝรั่งในปากออกมา แล้วก็หนั ไปหาตัวละครหลัก
ดวงตาเกรี้ ยวกราดของเธอและยังอารมณ์ร้อนวูว่ าม ทั้งหมดที่ผชู ้ ม
คิดก็คือเธอเป็ นพวกอันธพาลและกําลังจะรังแกตัวละครหลัก
เด็กหญิงชื่อชิวเหมยอ้าปากพูด “เธอเข้าใจที่เหล่าเฉาพูดก่อนหน้านี้
ไหม? ทําไมฉันถึงไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิดอ่ะ?”
ตัวละครหลักส่ ายหน้า และนี่กเ็ ป็ นครั้งแรกที่ผชู ้ มได้ยนิ เสี ยงเธอ
“ฉัน… หลับ…”
“ทําไมคนที่ดูเป็ นเด็กเรี ยนถึงได้เป็ นเด็กไม่ดีล่ะเนี่ย? ไม่ได้เรื่ องเลย
อ่ะ!” ชิวเหมยกวาดตามองรอบห้องและก็ตอ้ งอารมณ์เสี ย ไม่มี
นักเรี ยนคนไหนในชั้นเรี ยนที่ดูน่าเชื่อถือเลย “กําลังจะสอบแล้ว แล้ว
ถ้าฉันสอบตกอีกครั้งฉันก็ตอ้ งเสี ยเวลาไปอีกปี นึง แล้วอย่างนี้ฉนั จะ
เรี ยนจบเมื่อไหร่ กนั ฮะ?”
“เธอ… อยากเรี ยนจบขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่มีใครอยากแก่หรอก แต่วา่ ฉันก็ไม่อยากถูกทําเหมือนเป็ นเด็ก
แล้วเหมือนกัน เธอไม่เข้าใจหรอก แต่วา่ ฉันต้องเรี ยนจบปี นี้ให้ได้”
ชิวเหมยยัดหนังสื อทั้งหมดเข้ากระเป๋ าและหยิบสมุดจดของตัวเอง
ขึ้นมาอ่านทบทวน ท่าทีต้ งั อกตั้งใจเรี ยนนี้ขดั กับรู ปลักษณ์ภายนอก
ของเธอ แต่วา่ มันก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็ นการแสดงของนักแสดง
นักเรี ยนเดินออกไปจากห้อง และชิวเหมยก็ยงิ่ มายิง่ หงุดหงิด ใน
ที่สุดเธอก็ตบสมุดจดลงที่โต๊ะอีกครั้งทําเหมือนกับว่าทําแบบนี้แล้ว
ความรู ้ในนั้นจะแตกกระจายและดูดซับได้ง่ายขึ้นอย่างนั้น
“ชิ สงสัยฉันคงต้องเริ่ มจริ งจังตั้งแต่วนั พรุ่ งนี้” หลังจากชิวเหมยเก็บ
ของ เธอก็เดินออกไปจากห้องเรี ยนคนเดียว กล้องถ่ายตามหลังชิว
เหมยไปก่อนที่มนั จะขยับตามชิวเหมยออกไปจากห้องเหมือนกัน
“คุณเฉา พวกเราก็เป็ นเพื่อนบ้านกันมาหลายปี คุณช่วยฉันหน่อย
ไม่ได้เหรอคะ?”
เสี ยงของหญิงชราคนหนึ่งดังมาจากตรงมุมบันได กล้องกดลงไป
และมันก็เห็นหญิงชราคนหนึ่งที่มีผมสี เทาจับแขนคุณเฉาอยู่ เธอ
พยายามจะยืน่ ตะกร้าที่มีผา้ สี ดาํ คลุมเอาไว้ให้คุณเฉา
“ร่ างกายของฉันก็แย่ลงไปทุกวันและฉันก็ไม่รู้เลยว่าพ่อของชิวเหมย
จะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไหร่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน เธอจะทํายังไง
ถ้าเป็ นอย่างนี้ต่อไป ฉันเกรงว่าเธอจะกลายเป็ นเหมือนพ่อของเธอ”
“คุณป้าเหอ เก็บของของคุณไว้เถอะครับ ผมจะพยายามสอนชิวเหมย
อย่างเต็มที่ แต่วา่ การเรี ยนน่ะไม่ใช่อะไรที่ทาํ ได้สาํ เร็ จด้วยความ
พยายามฝ่ ายเดียว ผมรับรองกับคุณป้าไม่ได้จริ ง ๆ แต่ผมสัญญาว่าจะ
ช่วยคุณป้าดูแลเธอให้ดีที่สุดเท่าที่ทาํ ได้” คุณเฉาไม่รับตะกร้าของ
หญิงชรา
“ขอบคุณนะคะคุณเฉา” หญิงชรากลับออกไปหลังจากขอบคุณคุณ
เฉาซํ้า ๆ ฝ่ ายหลังขมวดคิว้ ขณะมุ่งหน้าขึ้นบันไดมา ตัวละครหลัก
ต้องการทําตัวปกติที่สุดเท่าที่ทาํ ได้ แต่ตอนที่เธอลุกขึ้นมา เธอก็
กระแทกเข้ากับบางอย่างด้านหลังเธอ
กล้องหมุน และใบหน้าของชิวเหมยก็ปรากฏขึ้นเต็มจอ!
ฉากนี้ทาํ ให้คนดูนึกได้วา่ ภาพที่บนจอนั้นคือภาพเริ่ มต้นของหนัง
เรื่ องนี้
“แอบฟังคนอื่นคุยกันสนุกไหม?” ชิวเหมยพูดอย่างเย็นชา “นัน่ เป็ น
ย่าของฉันเอง ยายแก่หวั รั้น”
“มัน… ดูเหมือนว่าคุณย่าจะดีกบั เธอมาก”
“ก็แค่ภายนอกเท่านั้นแหละ เธอไม่รู้หรอกว่าคุยกับย่ามันยากแค่ไหน
ให้ฉนั บอกเธอนะ ฉันดูแลตัวเองได้ดีอยูแ่ ล้ว เดิมที แผนการก็คือ
หยุดเรี ยนและหางานทําเพื่อเลี้ยงดูพวกเราทั้งสองคน แต่วา่ ย่าไม่ยอม
เอาแต่ดึงดันว่าฉันต้องเรี ยนให้จบก่อน ฉันถูกบังคับให้ตอ้ งรับปาก
เธอก็เห็นว่าย่าดื้อแค่ไหน และฉันก็เลยมาอยูต่ รงนี้ไง” ชิวเหมยดึง
กระจกเล็ก ๆ ออกมาส่ องหน้าตัวเอง ถ้าไม่เพราะท่าทีแค้นเคืองโลก
นี้นิด ๆ นัน่ ละก็ เธอคงจะเป็ นเด็กสาวที่งดงามคนหนึ่งเหมือนกัน
ทันทีที่ชิวเหมยดึงกระจกออกมา กล้องก็ถอยไปด้านหลังทันที มันให้
ความรู ้สึกเหมือนว่าตัวละครหลักกลัวที่จะมองเห็นตัวเองในกระจก
“เป็ นอะไรน่ะ?” ชิวเหมยสังเกตเห็นปฏิกิริยาประหลาดของเด็กหญิง
“เธอเองก็แปลกเหมือนกัน ให้ฉนั บอกเธอนะ อย่าเล่าให้ใครฟังว่าย่า
ของฉันมาที่โรงเรี ยน”
“ได้…” หลังจะหยุดไปครู่ หนึ่ง ตัวละครหลักก็เสริ ม “เธออยากเรี ยน
จบให้เร็ ว ๆ เพื่อที่จะได้ออกไปหางานทําเพื่อเลี้ยงดูยา่ ของเธอ?”
ชิวเหมยเก็บกระจกลงไปแล้วเอนตัวเข้ามาใกล้จอมากขึ้นและผลัก
ตัวละครหลักเบา ๆ “เธอเป็ นใครจะมาสนใจเรื่ องของฉันฮะ? อย่าง
เดียวที่เธอต้องสนใจก็คือปากของเธอ”
ชิวเหมยคว้ากระเป๋ าของตัวเองแล้วเดินลงบันไดไป ตอนที่เด็กสาว
สองคนเดินผ่านกัน ตัวละครหลักก็กระซิ บเบา ๆ “เธอไม่ห่วงย่า
ไม่ได้หรอกนะ ย่าเธอกําลังจะตายแล้วในไม่ชา้ ”
“เธอพึมพําอะไรของเธอ?” ชิวเหมยได้ยนิ ที่เธอพูดไม่ชดั หรื อไม่ก็
ไม่ได้คิดจะฟัง
กล้องยังจับอยูท่ ี่ชิวเหมยตอนที่เธอเดินจากไป ตัวละครหลักพึมพํา
ออกมาอีกครั้งแต่ชดั เจน “เธอจะไม่ได้ดูแลย่าเธอหรอก ดวงตาข้าง
ซ้ายของฉันมองเห็นทุกอย่าง”
Chapter 716 มาเล่นกันเถอะ! (1+2)
กล้องขยับจากชิวเหมยไปยังหญิงชราที่ถือตะกร้าอยู่ แสงสุ ดท้ายของ
พระอาทิตย์ส่องลงต้องร่ างหญิงชรา และตอนที่เธอเดินจากไป กล้อง
ก็จบั จ้องอยูท่ ี่เงาของเธอที่ดูเหมือนจะถูกตัดขาดครึ่ ง
เห็นรอยตัดนี้ เฉินเกอก็ตวั สัน่ อยูใ่ นที่นงั่ เขาไม่รู้เลยว่าผูก้ าํ กับถ่าย
ฉากนี้ได้อย่างไร เพื่อนร่ วมโต๊ะ ตามรายละเอียดในรายชื่อหนัง มัน
ถูกถ่ายไว้ต้ งั นานมาแล้ว ตอนนั้น สเปเชียลเอฟเฟ็ กต์ไม่ได้ดีเท่าทุก
วันนี้ แต่วา่ ภาพในหนังกลับดูเหมือนจริ งเท่าที่จะเป็ นได้
เป็ นไปได้ไหมว่านี่ไม่ใช่สเปเชียลเอฟเฟ็ กต์?
เงาของคนผูห้ นึ่งนั้นเชื่อมโยงกับชีวติ ของคนผูน้ ้ นั อย่างลึกซึ้ ง หรื อ
อย่างน้อยที่สุด นัน่ ก็เป็ นสิ่ งที่เฉินเกอเชื่อ
ดวงตาข้างซ้ายของตัวละครหลักสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลง
ของเงาของคนเป็ นผูห้ นึ่งใช่ไหม? ตอนที่หนังเรื่ องนี้เริ่ ม พ่อกับแม่
ของตัวละครหลักมีเงาหรื อเปล่านะ?
ภาพก่อนหน้าของหนังแวบผ่านเข้ามาในใจของเฉิ นเกอ พ่อกับแม่
ของตัวละครหลัก และกระทัง่ หมอ พวกเขาไม่มีใครมีเงา แต่นนั่ ก็
อาจจะเป็ นเพราะสภาพอากาศเลวร้ายที่นอกหน้าต่าง
ตอนที่หนังเริ่ ม ท้องฟ้ามืดและเป็ นเมฆฝนสี เทาหนาก็บดบังดวง
อาทิตย์ ดังนั้นมันจึงเป็ นเรื่ องธรรมดาอย่างที่สุดที่จะไม่เห็นเงาของ
คนบางคน หลังจากชิวเหมยและหญิงชราจากไป ตัวละครหลักก็
กลับบ้านของตัวเอง เธอดึงกุญแจออกมาเปิ ดประตู
“เหวินอวี้? นัน่ ลูกเหรอ? ทําไมถึงกลับบ้านช้าขนาดนี้ล่ะวันนี้?” แม่
ของเหวินอวี้รีบร้อนออกมาจากห้องครัว สี หน้าบนใบหน้าของเธอ
เมื่อมองเห็นเหวินอวี้น้ นั ผสมผสานกันระหว่างความเศร้าและอารมณ์
ประหลาดที่เฉินเกออธิบายไม่ได้ ไม่วา่ อย่างไร มันก็ต่างไปจากที่พอ่
แม่ทวั่ ไปจะทักทายลูกตัวเอง– เฉิ นเกอสังเกตได้กห็ ลังจากที่จมดิ่งลง
ไปในหนังขนาดนี้แล้ว
ตัวละครหลักไม่ตอบสนอง เมื่อเธอก้าวเข้าไปในบ้านของเธอ มัน
เหมือนกับเธอเดินเข้าไปในทะเล การเคลื่อนไหวของเธอกลายเป็ น
ฝื ดฝื น และกระทัง่ ลมหายใจของเธอก็ยงั ไม่สมํ่าเสมอ เธอผลักเปิ ด
ประตูหอ้ งนอนของตัวเองแล้วก็เบียดตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ ว
“เด็กคนนี้…”
“ฉันไปขอความเห็นจากผูเ้ ชี่ยวชาญบางคนและฉันเชื่อว่าลูกสาวของ
เราน่าจะป่ วย” พ่อของตัวละครหลักวางหนังสื อพิมพ์ลง เขาชี้ไปที่
หัวของตัวเองแล้วพูดต่อด้วยนํ้าเสี ยงกระซิ บเบา ๆ “ฉันติดต่อหมอ
แล้ว สุ ดสัปดาห์น้ ีฉนั จะพาเขามาที่นี่ให้ตรวจดูลูกของเรา”
“ต้องจ่ายเท่าไหร่ น่ะ?”
“ตอนนี้การรักษาลูกของเราสําคัญกว่า เธอคงไม่อยากให้ลูกเป็ น
อย่างนี้ต่อไปหรอกใช่ไหม?”
เสี ยงพ่อกับแม่ของเธอดังมาจากด้านนอกประตูแต่วา่ ตัวละครหลัก
ไม่ได้สนใจว่าพวกเขากําลังพูดอะไรกันอยู่ กล้องที่แทนมุมมองของ
ตัวละครหลักนั้นขยับจากพ่อแม่ของเธอไปที่เพดาน จากนั้นหน้าจอ
ก็เปลี่ยนเป็ นสี ดาํ ตัวละครหลักหลับตาลงอีกแล้ว
“หนังนี่ดูเหมือนจะเป็ นบันทึกเนื้อหาบางอย่าง แต่ถา้ ทั้งหมดนี่เป็ น
เรื่ องจริ ง เส้นเวลาก็ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง” เฉินเกอชนไหล่กบั ชาย
ตาบอด “คุณคิดว่ายังไง?”
“ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ถ้าคุณดูจบแล้ว พวกเราก็กลับออกไปให้เร็ ว
ที่สุดเท่าที่ทาํ ได้ ผมไม่อยากอยูท่ ี่นี่ต่อแม้แต่นาทีเดียว พี่ชาย จาก
สําเนียงพูดของคุณ คุณดูเหมือนจะไม่ใช่คนเลวร้าย คุณช่วยปล่อย
ผมไป เลิกทรมานผมได้ไหม?” แผ่นหลังของชายตาบอดนั้นเปี ยก
ชุ่ม เขาเอาแต่หลับตาเอาไว้ แต่จากเสี ยงของเขา ใครก็บอกได้วา่ เขา
กลัวแค่ไหน
“หนังเล่นไปครึ่ งเรื่ องแล้ว ผมแน่ใจว่าเดี๋ยวมันก็จบแล้ว อดทนอีก
นิดนะครับ” เฉินเกอหันกลับไปที่จอตอนที่มนั สว่างขึ้นอีกครั้ง
เหมือนเดิม ยังเป็ นภาพที่ถ่ายจากมุมมองของตัวละครหลัก มันยังคง
บันทึกสิ่ งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับชิวเหมย
ตัวละครหลักนั้นเป็ นเด็กสาวพูดน้อย เธอน้อยครั้งที่จะเปิ ดปากพูด
อะไร และถ้าเธอไม่ตอ้ งพูดได้เธอก็จะทําอย่างนั้น นิสยั ของชิวเหมย
นั้นตรงกันข้ามกับตัวละครหลักอย่างสิ้ นเชิง เธอเหมือนหนังสื อที่
เปิ ดเอาไว้และน้อยครั้งนักที่จะคิดมากกับสิ่ งที่คนอื่นพูด
เธอเป็ นเด็กวูว่ ามและมักจะทําสิ่ งต่าง ๆ โดยไม่ไตร่ ตรองถึงผลที่จะ
ตามมา แต่วา่ อย่างที่พดู กันว่าสิ่ งที่ตรงกันข้ามกันมักจะดึงดูดกัน
เมื่อพวกเธอใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร
หลักและชิวเหมยก็แน่นแฟ้นขึ้นเรื่ อย ๆ ถึงแม้วา่ พวกเธอจะเป็ นขั้ว
ตรงข้ามกันในด้านนิสยั พวกเธอก็กลายมาเพื่อนสนิทกัน
ที่น่าประหลาดใจกว่านั้น การเรี ยนของพวกเธอทั้งคู่กด็ ีข้ ึนเรื่ อย ๆ
และนี่กเ็ ป็ นสิ่ งที่กระทัง่ คุณเฉาไม่ได้คาดคิดเอาไว้ เดิมที เขาก็แค่ทาํ
ตามที่เพื่อนบ้านเก่าแก่ของเขาขอร้อง แต่เขาก็ตอ้ งประหลาดใจ
นักเรี ยนหญิงทั้งสองคนที่เคยเรี ยนแย่ที่สุดในชั้นเรี ยนของเขานั้น
‘เปลี่ยนไป’ อย่างมากหลังจากที่มาเป็ นเพื่อนร่ วมโต๊ะกัน
สี สนั บนจอนั้นให้ความรู ้สึกสว่างไสวมากขึ้น และสไตล์ของหนังก็ดู
เหมือนจะเปลี่ยนไปด้วย มันอาจจะเป็ นหนังสยองขวัญแต่วา่ เฉินเกอ
รู ้สึกเหมือนกําลังดูหนังแนวการก้าวข้ามผ่านวัย
ผูก้ าํ กับนั้นมีหลายสไตล์– ไม่เลวเลย
เฉินเกอจดจําความคืบหน้าของหนังเอาไว้ มันผ่านมาประมาณแปด
สิ บเปอร์เซ็นต์แล้ว นอกจากผีที่เขาเห็นตอนต้นของหนัง ส่ วนที่
เหลือของหนัง นั้นไม่มีกระทัง่ จุดที่ส่อถึงความน่ากลัว อย่าว่าแต่ผี
จริ ง ๆ เลย
หนังสยองขวัญที่ไม่มีผ?ี
หนังสยองขวัญในท้องตลาดนั้นมักจะต้องนําเสนอ ‘ตัวตนลึกลับ’
และตัวตนลึกลับนี้กม็ กั จะถูกใช้สร้างความรู ้สึกน่าสงสัยและน่า
หวาดกลัวในหัวใจของคนดู แต่วา่ หนังเรื่ องนี้ดูเหมือนจะเป็ น
ข้อยกเว้น มันถ่ายทําจากมุมมองของตัวละครหลักเพียงอย่างเดียว
และเธอก็ไม่ได้เห็นอะไรที่ดูน่ากลัวโดยแท้จริ ง
เฉินเกอรู ้สึกว่าผูก้ าํ กับนั้นทําอย่างนี้เพื่อบางอย่างที่น่าสยดสยอง เขา
รู ้วา่ หนังเรื่ องนี้ไม่ได้เรี ยบง่ายแบบนั้น เมื่อหนังใกล้จะจบ เขาก็รู้สึก
เหมือนสิ่ งที่น่ากลัวอย่างแท้จริ งกําลังจะมาถึงแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างชิวเหมยและตัวละครหลักนั้นใกล้ชิดกันขึ้น
เรื่ อย ๆ แต่มีบางอย่างที่ตอ้ งพูดถึง ระหว่างช่วงเวลาที่ชิวเหมยและตัว
ละครหลักกลายมาเป็ นเพือ่ นกัน เสี ยงหัวเราะสนุกสนานของชิวเหมย
นั้นปรากฏขึ้นในหนังหลายต่อหลายครั้ง แต่วา่ ตัวละครหลักนั้นไม่
เคยหัวเราะ ไม่เลยสักครั้งเดียว
เหลือเวลาอีกเพียงสั้น ๆ ก่อนที่การสอบปลายภาคจะมาถึง ด้วยผล
การเรี ยนตอนนี้ของชิวเหมย การเรี ยนจบนั้นไม่ใช่ปัญหาแล้ว เธอยัง
มีเพื่อนดี ๆ ที่โรงเรี ยน เธอกําลังจะทําตามที่เธอสัญญาไว้กบั ย่าสําเร็ จ
และนี่น่าจะเป็ นช่วงเวลาที่มีความสุ ขที่สุดในชีวติ ของชิวเหมย
แต่วา่ ถึงแม้วา่ ชิวเหมยจะมีความสุ ข ในฐานะผูช้ ม เฉินเกอนั้นมอง
เห็นความกระวนกระวายที่ซ่อนอยูด่ า้ นหลังความสุ ขนั้นผ่านมุมมอง
ของตัวละครหลัก เงาของย่าของชิวเหมยนั้นสั้นลงเรื่ อย ๆ ความกังวล
ที่พอ่ แม่ของตัวละครหลักแบกรับเอาไว้กห็ นักขึ้นเรื่ อย ๆ และอัตราเร็ ว
ของการเปลี่ยนแปลงระหว่างแต่ละฉากก็เพิ่มขึ้นเรื่ อย ๆ และคงที่ข้ ึน
เรื่ อย ๆ เหมือนตัวละครหลักนั้นจู่ ๆ ก็กะพริ บตาบ่อย ๆ ขึ้นมา
ยังมีพายุลูกใหญ่ซ่อนอยูใ่ ต้ชีวติ อันสงบสุ ข และมันก็จะลากทุกคนที่
อยูใ่ กล้ ๆ ลงไปในหุบเหวลึกที่แสนสิ้ นหวัง หลังจากการสอบปลาย
ภาค ในงานเลี้ยงของห้อง ชิวเหมยและตัวละครหลักนั้นอยูด่ ึกมาก
กว่าจะกลับ กลางคืนเงียบสงัดอย่างผิดปกติ ชิวเหมยฮัมเพลงอยูใ่ น
คอ ความปรารถนาที่ใหญ่ที่สุดในช่วงสองสามเดือนที่ผา่ นมานี้น้ นั
สําเร็ จแล้วและเธอก็อดจะอารมณ์ดีข้ ึนไม่ได้
“เพื่อนร่ วมโต๊ะ ทําไมเธอถึงไม่พดู อะไรเลยล่ะ? พวกเราในที่สุดก็
ผ่อนคลายได้แล้ว พวกเราไม่ตอ้ งไปเจอหน้าเหล่าเฉาทุกวีท่ ุกวันแล้ว”
ชิวเหมยกอดตัวละครหลักดึงเธอเข้าไปใกล้ ๆ กล้องถ่ายชิวเหมยจาก
ระยะใกล้ เด็กหญิงย้อมผมของเธอกลับมาเป็ นสี ธรรมชาติ ก็คือสี ดาํ
และเธอก็ดูสวยน่ารักขึ้น หลังจากนั้นครู่ หนึ่ง ตัวละครหลักก็เบน
สายตาออก เธอก้มหน้าลง และกล้องก็จบั ภาพความมืดซึ่งดูราวกับ
ถนนนี้ไม่มีปลายทาง
“เธอไม่ได้ดูมีความสุ ขนัก” ใบหน้าของชิวเหมยเบียดเต็มหน้าจออีก
ครั้ง ตัวละครหลักมองชิวเหมยเงียบ ๆ ไม่พดู อะไรสักคํา และจากนั้น
เธอก็ออกเดินไปของเธอเอง
“เพราะครอบครัวของเธอเหรอ? ฉันว่าฉันไม่เคยได้ยนิ เธอพูดถึง
พวกเขาเลย” ชิวเหมยวิง่ ตามเธอมา “อันที่จริ ง ครอบครัวของฉันก็น่า
รําคาญเหมือนกัน พ่อของฉันตอนนี้อยูใ่ นคุกและย่าก็เป็ นคนเลี้ยง
ฉัน ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะใช้แซ่ตามย่า”
ตัวละครหลักนั้นไม่ได้ชา้ ลงหรื อว่าหยุดเดิน ชิวเหมยตามหลังเธอมา
ติด ๆ จนกระทัง่ ไปถึงทางแยก บ้านของชิวเหมยนั้นอยูท่ างซ้าย และ
บ้านของตัวละครหลักอยูท่ างขวา– ตรงนี้เป็ นจุดที่พวกเขามักจะ
แยกกันเสมอ
“เหวินอวี้? เกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี่ยวันนี้?” ตัวละครหลักไม่หยุดตอบ
เธอเดินไปตามถนนต่อ และถึงจุดหนึ่ง เธอก็หนั มาบอกชิวเหมย
เรี ยบ ๆ “อันที่จริ ง นัน่ ไม่ใช่ชื่อฉัน”
“นัน่ ไม่ใช่ชื่อเธอ?” ชิวเหมยอยากจะถามรายละเอียด แต่ตวั ละครหลัก
ก็หนั หลับเดินต่อไปแล้ว เพราะสภาพแวดล้อมอันแตกต่างที่เธอเติบโต
ขึ้นมา ชิวเหมยมีนิสยั ที่ต่างไปเทียบกับเด็กหญิงรุ่ นราวคราวเดียวกัน
เธอไม่อาจไม่สนใจตัวละครหลักและตามหลังเธอไปต่อ เธอวิง่ ตาม
ตัวละครหลักไปและร้องเรี ยก
แสงจากริ มถนนนั้นน้อยลงเรื่ อย ๆ ในที่สุดเด็กหญิงทั้งสองคนก็ไป
หยุดอยูท่ ี่หน้าอพาร์ทเม้นท์เก่า ๆ แห่งหนึ่ง ตึกนี้น้ นั ตั้งอยูใ่ นส่ วนที่
ห่างไกลที่สุดของเมือง ทั้งตึกนั้นมืดเหมือนไม่มีใครอาศัยอยูท่ ี่นี่เลย
“เหวินอวี้? บ้านเธอ… อยูท่ ี่นี่เหรอ?” ยังคงไม่มีคาํ ตอบ ตัวละครหลัก
จู่ ๆ ก็วงิ่ ขึ้นบันไดไป เธอดึงกุญแจออกมาจากกระเป๋ า และหลังจาก
ลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ชิวเหมยก็ตามเธอไป ในทางเดินไม่มีไฟ ชิวเหมย
เหยียบลงไปบนเศษขยะบนทางเดินและเกือบจะลื่นล้มไปหลายครั้ง
ประตูหอ้ งเปิ ดออก และตัวละครหลักเดินเข้าไป แสงไฟในห้องนัง่ เล่น
ไม่ได้เปิ ด และม่านหนาหนักก็ถูกดึงปิ ดเอาไว้ ทั้งห้องนั้นจมอยูใ่ น
ความมืด แต่ในสภาพเช่นนี้ ในกล้อง ประตูหอ้ งครัวก็ถูกดึงเปิ ดออก
และแม่ของตัวละครหลักก็เดินออกมาจากในนั้น
“เหวินอวี้ นัน่ ลูกเหรอ? ทําไมวันนี้ถึงกลับดึกนัก?” เสี ยงคุน้ เคย
สภาพแวดล้อมอันคุน้ เคย รู ปร่ างคุน้ ตาที่ยนื อยูใ่ นความมืดนั้นไม่ใช่
ใครนอกจากแม่ของตัวละครหลัก
ภาพนี้น้ นั ดูธรรมดาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วในตอนกลางวัน แต่เมื่อ
มันเกิดขึ้นกลางคืน มันก็ทาํ ให้ผชู ้ มรู ้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายเป็ น
ถ้อยคําออกมาไม่ได้
“ฉันจะไม่กลับมาที่นี่แล้ว” เสี ยงของตัวละครหลักเริ่ มเปลี่ยนไป
คราวนี้ เธอไม่วงิ่ เข้าไปซ่อนในห้องนอนของเธอแต่วา่ ยืนอยูใ่ น
ห้องนัง่ เล่น
“เหวินอวี้! เธอพูดกับใครน่ะ?” ชิวเหมยยืนอยูท่ ี่ทางเข้า มองเข้าไป
ในห้องนัง่ เล่นมืด ๆ ใบหน้าของเธอซีดขาว มันเหมือนเธอกําลัง
มองเห็นภาพที่ต่างไปจากที่ตวั ละครหลักเห็น “ที่นี่เก่ามาก เครื่ อง
เรื อนก็พงั ไปหมดแล้ว กระเบื้องปูพ้นื ยังแตก เหวินอวี้ เธอมาทํา
อะไรที่นี่? กลับบ้านกันดีไหม?”
“กลับบ้าน?” ตัวละครหลักเอื้อมมือไปจับมือชิวเหมยก่อนที่จะดึง
เธอเข้าไปในห้อง “แต่วา่ … พวกเราอยูบ่ า้ นแล้วไง!”
แสงไฟบนหน้าจอค่อย ๆ สลัวลงจนกระทัง่ มันกลายเป็ นความมืด ผู ้
กํากับนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง บางทีอาจจะเป็ น
เพราะว่าเขาเองก็ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน
เสี ยงกรี ดร้องก้องไปในความมืด ดวงตาเปิ ดลืมขึ้น และตัวละครหลัก
ก็ยงั คงนอนอยูบ่ นเตียงในห้องนอนของเธอ กล้องมองออกไปนอก
หน้าต่าง นอกหน้าต่าง เมฆดําและลอยตํ่า
ภาพนี้น้ นั เหมือนกับตอนเริ่ มแรกของหนัง ที่ขา้ งนอกหน้าต่างนัน่
เป็ นท้องฟ้าเดียวกัน มันทําให้รู้สึกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้น้ นั
เป็ นแค่ฝันร้าย ตัวละครหลักมองไปที่นาฬิกาบนโต๊ะ เธอดึงโทรศัพท์
ของเธอออกมาอ่านข้อความ และจากนั้นเธอก็ลากร่ างกายเหนื่อยล้า
ของตนเข้าไปในห้องนํ้า
เธอเอาแต่กม้ หน้าตํ่า ดังนั้นกล้องจึงมองเห็นแค่พ้นื หลังจากเธอ
แปรงฟันและล้างหน้า โทรศัพท์กเ็ ริ่ มสัน่ กล้องขยับไปมาและตัว
ละครหลักก็ดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ า
“เหวินอวี้ คืนนี้เธออยากไปดูหนังไหม? เป็ นการฉลองที่เธอกําจัดยัย
บ้านัน่ ไปได้”
“ชิวเหมยไม่เลวเลยนะ เธอไม่เคยรังแกฉันสักครั้ง”
“เป็ นเพราะว่าเธอใจดีเกินไปเหล่าเฉาถึงให้ยยั นัน่ มานัง่ กับเธอ เธอรู ้
ไหมว่าพ่อกับแม่ของยัยนัน่ อยูใ่ นคุกทั้งคู่? ใครจะไปรู ้วา่ ยัยนัน่ ไปทํา
อะไรเข้าถึงได้หายตัวไป? ไม่วา่ ยังไง เธอก็ไม่ตอ้ งเอาตัวเองไปติดอยู่
กับยัยนัน่ แล้ว”
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว” มือของตัวละครหลักจับโทรศัพท์แน่นขึ้น “แล้ว
ก็ เพื่อนร่ วมโต๊ะ หลังจากดูหนังคืนนี้แล้ว เธออยากมาเล่นที่บา้ นฉัน
ไหม? ฉันจะให้เธอดูอะไรที่น่าสนใจมาก”
“ได้ ไม่มีปัญหา!”
“งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ” หลังจากวางสาย ตัวละครหลักก็เงยหน้าขึ้นช้า ๆ
กล้องขยับไปทางกระจก และนี่กเ็ ป็ นครั้งแรกที่ผชู ้ มได้มีโอกาสเห็น
ใบหน้าของตัวละครหลักตั้งแต่หนังเริ่ มมา
ร่ างกายผอมบาง เสื้ อผ้ากะรุ่ งกะริ่ ง และผมสี ดาํ ยาว– ตัวละครหลักนั้น
มีใบหน้าที่เหมือนเย็บขึ้นจากชิ้นส่ วนของผูห้ ญิงหลาย ๆ คน ผูห้ ญิง
ทั้งหมดมีเครื่ องหน้าต่างกัน แต่วา่ ดวงตาข้างซ้ายของพวกเธอนั้นดู
เหมือนกัน
ดวงตาข้างซ้ายที่ทาํ ให้ผชู ้ มรู ้สึกเหมือนมันเป็ นเข็มยาวเล่มหนึ่ง และ
มันก็เย็บใบหน้ามากมายนัน่ เข้าด้วยกัน
ตอนที่ 717

กล้องจับนิ่งอยู่บนกระจกตรงหน้าตัวละครหลัก– มันเหมือนตัวละคร
หลักนัน้ กาลังพิจารณาตัวเองที่ในกระจกอยู่เหมือนกัน บทจบเริ่มต้นขึน้
และกล้องที่หมายถึงมุมมองของตัวละครหลักก็หยุดอยู่ท่หี น้ากระจก

ผูห้ ญิงที่ในกระจกเอือ้ มมือไปลูบไล้ใบหน้าที่ในกระจกช้า ๆ ขณะที่รา่ ง


ของเธอค่อย ๆ เอนเข้าไปหากระจก ทัง้ จอฉายภาพผูห้ ญิงที่ในกระจก
และดังนัน้ ผูช้ มจึงมองเห็นได้ชดั เจนมากขึน้ ตอนที่เส้นผมของตัวละคร
หลักแหวกออก ผูห้ ญิงที่ในกระจกก็เผยดวงตาข้างซ้ายของเธอออกมา

ตอนนีด้ วงตาข้างซ้ายของเธอค่อย ๆ ขยายขนาดขึน้ ช้า ๆ แล้วจู่ ๆ กล้อง


ก็ถกู ดึงถอยหลัง!

กล้องดูเหมือนจะละทิง้ มุมมองของตัวละครหลัก กล้องยังถอยออกไป


เรื่อย ๆ มันจับภาพแผ่นหลังของตัวละครหลักและผูห้ ญิงที่ในกระจก
เอาไว้
ตอนที่กล้องถอยออกไป ตัวละครหลักที่ยืนอยู่ท่หี น้ากระจกก็หนั ร่าง
กลับมาแล้วมองเข้าไปในกล้อง ใบหน้าของเธอนัน้ ซีดขาวราวกับ
กระดาษและต่างไปจากเงาสะท้อนของเธอที่ในกระจกโดยสิน้ เชิง

ในตอนนีเ้ อง สิ่งที่นา่ กลัวที่สดุ ก็เกิดขึน้

ตอนที่ตวั ละครหลังหันกลับมา ผูห้ ญิงที่ในกระจกยังอยู่ในท่าเดิม เธอ


ไม่ได้ขยับ!

เธอกับตัวละครหลักมองไปทางกล้องและเผยสีหน้าที่แปลกประหลาด
ไปกว่านีไ้ ม่ได้แล้ว

เสียงดนตรีจู่ ๆ ก็ถกู ตัดทิง้ และจอก็มืดไป อาจจะเพราะโรงละคร


ส่วนตัวนีไ้ ม่ถกู ใช้งานมานานแล้ว กระทั่งหลังจากหนังจบแล้ว แสงไฟ
ในโรงละครก็ไม่ได้กลับมาเปิ ดอัตโนมัติ และรอบด้านก็ยงั คงถูกความ
มืดโอบล้อม
ความมืดทาให้เกิดความกระวนกระวาย เฉินเกอยังอยู่ในที่น่งั ของตัวเอง
และไม่ได้ขยับตัวไปไหน เขาจับจ้องอยู่ท่จี อ เขาพอจะมีความคิดคร่าว
ๆ แล้วเกี่ยวกับหนังที่เขาเพิ่งดู ผูก้ ากับใช้วิธีการย้อนอดีตในตอนกลาง
เรื่องเพื่อแสดงให้เห็นถึงความทรงจาของตัวละครหลัก

‘ดวงตาข้างซ้าย’ นัน้ เป็ นของเด็กหญิงที่ช่ือว่าเหวินอวี ้ แต่สิ่งที่ควบคุม


ร่างของเธอนัน้ ไม่ใช่ตวั เหวินอวีเ้ อง ผูก้ ากับนัน้ เลือกที่จะเน้นเพียงส่วน
เดียว ตอนเริ่มต้นของหนัง ผีผหู้ ญิงเอาแต่เรียกตัวละครหลักว่าชิวเหมย
ซึง่ หมายความตัง้ แต่นนั้ มา ดวงวิญญาณในร่างของตัวละครหลักนัน้
เปลี่ยนไปเป็ นชิวเหมยแล้ว

พ่อกับแม่และหมอที่ปรากฏขึน้ ทีหลังล้วนเป็ นผี หรือบางทีพวกเขา


อาจจะอยู่ในโลกที่มองเห็นได้เฉพาะผ่านดวงตาข้างซ้าย นั่นสามารถ
อธิบายได้ว่าทาไมเหวินอวีถ้ ึงทาตัวห่างเหินกับพ่อและแม่อย่างนัน้ ใน
ความจริงแล้ว พวกเขาก็ไม่ใช่ครอบครัวของเธอ แต่ว่าเป็ นวิญญาณ
สัมภเวสีของครอบครัวเหวินอวี ้
ที่กลางเรื่องนัน้ น่าจะเป็ นความทรงจาของชิวเหมย มันอธิบายว่าชิว
เหมยเปลี่ยนไปเป็ นเหวินอวีไ้ ด้อย่างไร หลังจากความทรงจาจบลง หนัง
ก็กลับสูค่ วามเป็ นจริง ชิวเหมยนัน้ นัดกับเพื่อน หลังจากดูหนังคืนนัน้
เธอก็เชิญ ‘เพื่อน’ ของเธอไปที่ ‘บ้าน’ ของเธอ และวงจรก็เริ่มต้นขึน้ อีก
ครัง้

ฝันร้ายยังไม่ถกู ทาลาย และเด็กสาวคนถัดไปที่ถกู ลิขิตให้ตอ้ งสืบทอด


ดวงตาข้างซ้ายก็คงจะเป็ นเพื่อนของชิวเหมย

ผีท่นี ่ากลัวที่สดุ และน่าสยองที่สดุ ในหนังนัน้ ไม่ใช่ใครอื่นนอกไปจากตัว


ละครหลัก นี่ยงั เป็ นหนังเรื่องแรกที่เฉินเกอได้ดทู ่ถี ่ายทาจากมุมมองของ
ผี

นอกจากนัน้ ยังมีสว่ นหนึ่งในหนังที่สะดุดความสนใจของเฉินเกอ ตอนที่


หนังกาลังจะจบลง วิธีการถ่ายทาจู่ ๆ ก็เปลี่ยนไป มันเปลี่ยนจาก
มุมมองบุคคลที่หนึง่ ไปเป็ นมุมมองบุคคลที่สาม ในตอนนัน้ ยังไม่มีคน
อื่นอยู่ในห้อง เป็ นไปได้ไหมว่ากล้องตัวสุดท้ายนัน้ ถ่ายจากมุมมองของ
ผูช้ ม?
ทัง้ ตัวละครหลักและผีท่ีในกระจกหันมามองผูช้ มที่นอกจอ เฉินเกอจา
ได้ชดั าเจนว่าดวงตาข้างซ้ายของพวกเธอเปิ ดขึน้

มันเหมือนพวกเธออาจจะคลานออกมาจากจอตอนไหนก็ได้

กระทั่งเฉินเกอเองก็ยงั หัวใจเต้นเร็วขึน้ เล็กน้อยหลังจากดูหนังจบ มัน


อาจจะเกินไปหากจะพูดว่าเขากลัว– เขาก็แค่รูส้ กึ ขนลุกเล็กน้อยเท่านัน้
เปิ ดกระเป๋ าสะพายหลังแล้วเฉินเกอก็ปล่อยเจ้าแมวขาวออกมา เขาเกา
หัวมันแล้วใจก็สงบลงช้า ๆ

ความสยองขวัญในหนังนัน้ สร้างขึน้ จากผูก้ ากับ นี่ต่างไปจากเรื่องผีใน


ชีวิตจริงโดยสิน้ เชิง หากมีโอกาส ฉันก็อยากจะนั่งคุยกับผูก้ ากับคนนี ้

จอมืดไปสามนาทีได้แล้ว แต่ว่าโทรศัพท์เครื่องดาไม่ได้มีขอ้ ความแจ้งว่า


ภารกิจสาเร็จ อันที่จริง เฉินเกอก็ไม่รูเ้ หมือนกันว่ามีอะไรผิดไปตรงไหน
หรือเป็ นเพราะว่าหนังสัน้ เกินไป ดังนัน้ โทรศัพท์เครื่องดาก็เลยไม่ให้
ผ่าน?

เขาลุกขึน้ มองไปยังจอมืดสนิท จากนัน้ ก็มีความเป็ นไปได้อ่นื ปรากฏขึน้


ในใจเขา

หรือเป็ นเพราะว่าหนังยังไม่จบ?

หนังนัน้ ยาวแค่ย่สี ิบนาที แต่ถา้ ผีหนีออกมาจากหนังอย่างนัน้ หนังก็ยงั


ไม่จบจริง ๆ กลิ่นราจาง ๆ อวลอยู่ในโรงละครส่วนตัว มองไปรอบ ๆ
แถวของที่น่งั นัน้ ก็คล้ายกับป้ายหลุมศพที่ตงั้ เอาไว้ ยิ่งเขามอง มันก็ย่งิ
น่ากลัว

เด็กสาวกับ ‘ดวงตาข้างซ้าย’ น่าจะซ่อนอยู่ท่ไี หนสักแห่งในโรงละครนี ้

เฉินเกอนัน้ มาที่น่ีเพื่อทาภารกิจที่โทรศัพท์เครื่องดามอบให้ให้สาเร็จ
และหากหนังไม่จบ อย่างนัน้ ภารกิจของเขาก็ไม่มีทางสาเร็จ
ฉันควรจะรอจนพระอาทิตย์ขนึ ้ ไหม?

เฉินเกอนัน้ เป็ นคนใจเย็นและมีสติ เขารูจ้ กั จุดอ่อนและจุดแข็งของ


ตัวเอง จางหยายังจาศีลอยู่ และก็ไม่รูว้ ่าเธอจะตื่นขึน้ มาเมื่อไหร่ ซูอ่ ิน
นัน้ ถูกทิง้ เอาไว้ในบ้านผีสิงให้รองเท้าส้นสูงสีแดงรักษา ตอนนี ้ พนักงาน
ที่แข็งแกร่งที่สดุ ที่เฉินเกอมีอยู่กบั ตัวก็คือไป๋ ชิวหลิน

ด้วยความช่วยเหลือของซู่อิน ไป๋ ชิวหลินได้กินหัวใจของซยงฉิงและ


พัฒนาไปเป็ นกึ่งวิญญาณสีเลือด แต่วา่ เนือ้ แท้แล้วเขาก็ยงั เป็ น
วิญญาณที่ถกู ผลักดันจนกลายไปเป็ นวิญญาณสีเลือด ในการต่อสูข้ อง
จริงนัน้ เขาย่อมไม่สามารถเอาชนะกึ่งวิญญาณสีเลือดของแท้ท่เี ต็มไป
ด้วยความอาฆาตแค้นได้

ดวงตาข้างซ้ายดูเหมือนจะทรงพลังทีเดียว ถ้าเธอจู่ ๆ ตัดสินใจปรากฏ


ตัวขึน้ เจ้าแมวขาวกับฉันคงไม่สามารถรับมือกับมันได้
เฉินเกอนัน้ ระมัดระวังอยู่เสมอ ถ้าไม่จาเป็ นจริง ๆ เขาก็ไม่อยากเอาชีวิต
ตัวเองไปเสี่ยง

ชายตาบอดเงยหน้าขึน้ ถามเฉินเกอ “พี่ชาย มันเงียบนานแล้วนะ ผมว่า


หนังน่าจะจบแล้วใช่ไหม? ผมไปได้แล้วหรือยัง?”

“ในเมื่อคุณเรียกผมว่าพี่ อย่างนัน้ ผมก็ไม่ออ้ มค้อมและบอกความจริง


กับคุณ ผีผหู้ ญิงที่ในหนังที่พวกเราเพิ่งดูไปน่ะหนีออกมาสูโ่ ลกจริง”

“ผีหนีออกมาจากหนัง?” ปฏิกริยาของชายตาบอดนัน้ ดูกระวนกระวาย


มากขึน้ มาก

“ไม่ตอ้ งตื่นตระหนกไป ผมมีข่าวดีกบั ข่าวร้ายบอกคุณด้วย” เฉินเกอยื่น


มือเข้าไปในกระเป๋ าสะพายหลังและพลิกเปิ ดหนังสือการ์ตนู

“คุณยังมีอารมณ์พดู เล่นอีกได้ยงั ไงเนี่ย?” ชายตาบอดขดตัวอยู่ในที่น่งั


ของตัวเอง– เห็นได้ชดั เจนว่าเขากลัวจริง ๆ “งัน้ บอกข่าวร้ายผมก่อน”
“ข่าวร้ายก็คือผีผหู้ ญิงตนนัน้ ดูอนั ตรายมาก และเธอก็ดเู หมือนกาลัง
มองหาตัวตายตัวแทน พวกเราก็โชคร้ายพอที่จะมาเจอเธอเข้าพอดี”
เฉินเกอบอกสิ่งที่เขาวิเคราะห์ได้ออกไปอย่างสงบ

“โชคร้ายคือผมถูกบังคับต่างหากเล่า? พี่ชาย อย่าอยู่ท่นี ่ีต่อเลย รีบ


ออกไปกันเถอะนะ?” ถ้าเขาไม่รูว้ ่าเขาไม่มีทางสูช้ นะ ชายตาบอดก็คง
ใช้ไม้เท้าของเขาสูต้ ายกับเฉินเกอไปแล้ว

“หนีตอนนีก้ ็ชา้ ไปแล้ว ดวงตานั่นมองเห็นพวกเราสองคนแล้ว ดังนัน้ เธอ


คงไม่ปล่อยพวกเราไปง่าย ๆ”

“ดีจริง” ชายตาบอดทิง้ ตัวกลับลงไปกับที่น่งั ของตนเองอย่างอ่อนแรง


“อย่างนัน้ สิ่งที่เรียกว่าข่าวดีของคุณล่ะ?”
“ข่าวดีก็คือผมเรียกเพื่อนของผมหลายคนมาร่วมวงกับพวกเรา และ
พวกเราก็ได้เปรียบในด้านจานวนอย่างเห็นได้ชดั ” เสียงพลิก
หน้ากระดาษดังเข้าหูชายตาบอด และเฉินเกอก็ขานชื่อทีละชื่อ

กลิ่นเน่าเปื่ อยจาง ๆ อวลเต็มโรงละคร อันที่จริง กลิ่นนั่นแรงพอที่จะ


กลบกลิ่นราจาง ๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้าด้วย

“คุณได้กลิ่นอะไรไหม? มีบางอย่างกาลังมา!” ชายตาบอดอ้าปากค้าง


อย่างตกใจ

“นั่งอยู่ตรงนัน้ แล้วอย่าตื่นตระหนกไป พยายามอย่าไปล้มใส่ใคร” เฉิน


เกอนัน้ พลิกหน้าหนังสือการ์ตนู ไปถึงหน้าสุดท้ายแล้ว

“พวกนัน้ คือเพื่อนของคุณเหรอ? พวกเขามาถึงตอนไหนน่ะ? พวกเขาอยู่


ในห้องนีแ้ ล้วเหรอ? ทาไมผมถึงไม่ได้ยินเสียงเปิ ดประตูเลยล่ะ?” ไม่มี
ใครตอบทาถามของชายตาบอด ถ้าเขาลืมตาขึน้ มา เขาก็อาจจะหมด
สติไปตรงนัน้ เลย ความเงียบและว่างเปล่าในโรงละครนัน้ ตอนนี ้
กลายเป็ นอึกทึกไปหมดแล้ว

เด็กชายที่มีกลิ่นเหม็นเน่าถูกชายแขวนคอผลักไปที่มมุ ห้องและเขาก็ลบู
ท้องพร้อมกับสีหน้าเศร้าสร้อย พวกนักเรียนจากห้องเรียนปิ ดตาย
โรงเรียนมัธยมมู่หยางวิ่งไปทั่วอย่างสนุกสนาน เหล่าโจวใช้สีหน้าจริงจัง
‘หลอก’ ให้ตว้ นเยว่น่งั เก้าอีเ้ ดียวกับเขาที่ดา้ นหลังโรงละคร พวกเขานั่ง
ห่างไปจากคนอื่นที่เหลือ

ผูอ้ าวุโสเว่ยและหมอคนอื่น ๆ ยืนอยู่ดา้ นหลังชายตาบอด พวกเขา


ปรึกษากันเบา ๆ ในกลุม่ ถึงความเป็ นไปได้ในการทาการผ่าตัดเพื่อช่วย
ให้ชายคนนีม้ องเห็นได้อีกครัง้ และบางครัง้ ศัพท์เฉพาะทางก็หลุด
ออกมาจากปากพวกเขา

ผีนา้ นั่งอยู่ท่แี ถวหน้า เธอถูกสังเวยเพื่อทาการฝังเมล็ดพันธุ์ และนี่ก็ครัง้


แรกใน ‘ชีวิต’ ของเธอที่ได้เข้ามาในโรงละคร ดังนัน้ เธอจึงมีความอยากรู ้
อย่างเห็นในทุกอย่าง ถ้าเธอสามารถคลานเข้าไปในจอได้เธอก็คงทาไป
แล้ว
เอี๋ยนต้าเหนียนเป็ นคนสุดท้ายที่ออกมาจากหนังสือการ์ตนู เขานั่งอยู่ท่ี
มุมหนึ่งอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจนัก ผีปากกากอดเสี่ยวเซียวเอาไว้และ
พวกเธอก็น่งั อยู่ขา้ ง ๆ เขา เฉินหย่าหลินนัน้ ดูเหมือนจะมีคาถาม
เกี่ยวกับการ์ตนู ของเขา

“วันนีเ้ ป็ นวันเกิดผม ดังนัน้ ผมจึงเลีย้ งหนังทุกคน ผมคิดว่านี่อาจจะนับ


ได้วา่ เป็ นสิทธิ์พิเศษของพนักงาน โรงหนังนี่อาจจะเล็กไปนิด แต่ผมหวัง
ว่าพวกคุณจะไม่ถือสา ตอนที่พวกเรามีเงินมากพอ ผมจะเช่าโรง
ภาพยนตร์ไอแม็กซ์ทงั้ โรงให้ทกุ คนได้สนุกกัน” เฉินเกอลุกขึน้ แล้วเดินไป
ทางห้องฉายหนัง ไป๋ ชิวหลินกับผูอ้ าวุโสเว่ยตามหลังเขาไปติด ๆ

ชายตาบอดนั่งอยู่กบั ที่อย่างเชื่อฟั ง เขารูว้ ่ามีหลายอย่างอยู่รอบตัวเขา


แต่ว่าในใจเขานัน้ มีความรูส้ กึ ประหลาดที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
เขาอ้าปาก ยื่นมือออกไปแตะที่น่งั ที่น่าจะเป็ นของเฉินเกอ หลังจาก
สัมผัสได้ว่าไม่มีใครอยู่ตรงนัน้ เขาก็หบุ ปากลงอย่างว่าง่าย เขาไม่กล้า
ขยับหรือว่าถามอะไร
“พวกคุณอยากดูหนังเรื่องไหน?” เฉินเกอเปิ ดรายชื่อหนัง เขามาที่น่ีเพื่อ
ทาภารกิจให้สาเร็จ แต่มนั ต่างไปสาหรับพนักงานที่บา้ นผีสิง โดยเฉพาะ
พวกนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมมู่หยางที่ออกมาจากสิ่งของที่พวกเขา
สิงอยู่ได้แค่ระยะสัน้ ๆ ดังนัน้ พวกเขาจึงปล่อยโอกาสนีเ้ สียเปล่าไปไม่ได้
แน่ ๆ

ไปดูหนังนัน้ เป็ นประสบการณ์ธรรมดามาก ๆ ของคนทั่วไป แต่สาหรับ


นักเรียนพวกนี ้ ถ้าไม่เพราะเฉินเกอ พวกเขาก็คงไม่มีประสบการณ์เช่นนี ้
อีก ในรายชื่อมีหนังผีไม่ก่ีเรื่อง แต่ว่านั่นก็ทาให้เกิดการถกเถียงร้อนแรง
ในกลุม่ พนักงานแล้ว ในที่สดุ ส่วนใหญ่ก็ออกเสียงเลือกหนังที่ช่ือว่า
‘นาม’ มันดูเหมือนจะเป็ นหนังเกี่ยวกับชื่อของใครสักคน เฉินเกอมอง
หน้าปก ผูก้ ากับก็ยงั คงเป็ นฉางกู และใบหน้าของตัวละครที่เหลือนัน้ ดู
คล้ายกับเหวินอวีก้ ว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์

“เอาละ กลับไปที่น่ งั ของพวกคุณก่อน อย่าเดินไปทั่วหลังจากหนังเริ่ม


ฉาย แล้วก็คอยดูรอบ ๆ ตัวด้วย อาจจะมีคนที่เกินมาปรากฏตัว
เพราะว่าโรงละครนี่มีผีสิง”
มองโรงละครที่เต็มไปด้วยพวกผีแล้ว เฉินเกอก็รูส้ ีกเหมือนว่ามันน่าตลก
ที่พดู อะไรแบบนัน้

ผีกลุม่ หนึ่งดูหนังสยองขวัญในโรงหนัง ฉันว่ามันจะเหมือนเป็ นการดูสาร


คดีชีวิตตัวเองหรือเปล่า

พนักงานทาตามที่เฉินเกอบอก พวกเขากลับไปยังที่น่งั อย่างรวดเร็ว


และพวกเขาก็ยงั ใจดีพอที่จะทิง้ ที่น่งั ว่างตรงกลางเอาไว้สองที่

“ทาไมพวกคุณถึงเว้นที่ว่างสองที่ตรงนัน้ ไว้ละ่ ?”

เฉินเกอกดปุ่ มเล่น และเพลงประกอบก็ดงั ออกมาจากทุกมุมของโรง


ละคร ดนตรีวนเวียนอยู่ในหูของพวกเขาและมันก็สร้างความรูส้ กึ ว่า
พวกเขาอยู่ท่นี ่ีกนั จริง ๆ ถึงแม้ว่าโรงละครนี่จะค่อนข้างเก่า อุปกรณ์
ล้วนเป็ นระดับยอดเยี่ยม อย่างไรเสีย ครัง้ หนึ่งมันก็เคยใช้บริการแขก
ในฮอลิเดย์วิลล่าระดับไฮเอนด์มาก่อน
เสียงดนตรีดงั คลอไปกับภาพบนจอ เหล่าพนักงานที่ไม่เคยสัมผัสโลก
เช่นนีแ้ ละพนักงานที่จากไปก่อนที่จะได้มีช่วงเวลาเช่นนีล้ ว้ นรูส้ กึ ตื่นเต้น
เสียงร้องและเสียงอุทานก้องอยู่ในหมูผ่ ชู้ ม– เสียงที่พวกเขาทานัน้ ยังน่า
กลัวยิ่งกว่าเสียงประกอบของตัวหนังเองเสียอีก

พวกเขาจะถูกหนังทาให้กลัวไหมนะ? ปกติแล้วเป็ นพวกเขาที่หลอกให้


คนอื่นกลัว

เฉินเกอไม่ได้กงั วลเรื่องนัน้ นัก– เขาแค่อยากให้ภารกิจที่โทรศัพท์เครื่อง


ดาให้มาสาเร็จโดยเร็วที่สดุ

เฉินเกอขยับไปทางที่น่ งั ที่พนักงานเว้นไว้ให้เขา และให้ไป๋ ชิวหลินนั่งถัด


จากเขาขณะที่ชายตาบอดนั่งอยู่ท่อี ีกด้านของเขา เขาได้รบั ภารกิจนี ้
เพราะความช่วยเหลือจากชายตาบอด อย่างน้อยที่สดุ ที่เขาทาได้ก็คือ
รับรองความปลอดภัยของชายคนนี ้
“พี่ชาย… คุณกลับมาแล้วเหรอ?” ชายตาบอดถูกเฉินเกอพยุงไปนั่งที่
กลางโรงละคร ขาของเขาสั่นและมันเหมือนเขากาลังเดินอยู่บนสาย
ไหมแทนที่จะเป็ นพืน้ อันมั่นคง

“อืม ตอนนีไ้ ม่มีอะไรแล้ว คุณปลอดภัยมาก ๆ ไม่ตอ้ งกังวลอะไรแล้ว”


เฉินเกอกอดเจ้าแมวขาวไว้ “คุณอยู่ท่นี ่ีดหู นังได้โดยไม่ตอ้ งห่วงอะไร
หลังจากหนังเรื่องนีจ้ บ ผมจะพาคุณกลับไปเอง”

“คุณแน่ใจเหรอว่าตอนนีม้ นั ปลอดภัยแล้ว? หัวใจผมเต้นเร็วมากและจู่


ๆ ผมก็รูส้ กึ ถึงความเย็นเหมือนถูกยัดเข้าไปในตูเ้ ย็นเลย” ชายตาบอด
กอดไม้เท้าของตัวเองไว้และเปลือกตาของเขาก็กระตุกซา้ ๆ มันเหมือน
เขาสูญเสียการควบคุมกล้ามเนือ้ ดวงตา และพวกมันก็จะลืมเปิ ดขึน้
เมื่อไหร่ก็ได้

“คุณคิดไปเอง” เฉินเกอปลอบชายตาบอดอีกสองสามคา มือหนึ่งเขา


เกาคางเจ้าแมวขาว แผ่นหลังทิง้ พิงไปกับเบาะ เขาสนุกไปกับหนังอย่าง
สุขสบายเต็มที่
“เป็ นไปไม่ได้! ผมไม่ได้คิดไปเอง! คุณแน่ใจเหรอว่าเพื่อนของคุณอยู่ท่นี ่ี
กันหมด? ทาไมผมถึงรูส้ กึ ว่าที่น่ีมนั น่ากลัวและหลอนกว่าตอนแรก?”
ลมหายใจเย็น ๆ ลอดออกมาจากริมฝี ปากของชายตาบอด “พี่ชาย คุณ
ฟั งผมอยู่หรือเปล่า? คุณไม่รูส้ กึ ไม่สบายใจเลยสักนิดเหรอ?”

“ผมสุขสบายกว่านีไ้ ม่ได้แล้ว อันที่จริง ถ้าเป็ นไปได้ ผมก็อยากจะสั่ง


ขนมอย่างนา้ โค้กกับป๊ อบคอร์นมากิน” ความคิดนีผ้ ่านเข้ามาในใจเฉิน
เกอก่อนหน้านีจ้ ริง ๆ ในเมื่อพวกเขามาที่น่ีเพื่อเฉลิมฉลอง อาหารและ
เครื่องดื่มก็ควรจะมี แต่เมื่อคิดถึงสภาพจิตใจของคนส่งอาหารแล้ว เฉิน
เกอก็ทงิ ้ ความคิดนัน้ ออกไปจากใจ “เป็ นจิตใจของคุณเล่นตลกกับตัว
คุณแล้ว ผ่อนคลายแล้วก็จะดีเอง”

หนังเริ่มฉายอย่างเป็ นทางการ แต่วา่ บรรยากาศนัน้ ต่างไปจากก่อนหน้า


อย่างสิน้ เชิง แสงและเสียงนัน้ ไม่ได้เปลี่ยนไป– สิ่งเดียวที่เปลี่ยนก็คือ
ผูช้ ม
เฉินเกอนัน้ จมดิ่งไปกับหนังที่ฉาย เขาผสานข้อมูลทัง้ หมดที่เขาได้มา
จากการค้นหาดวงตาข้างซ้ายบนออนไลน์ และหนังที่เขาได้ดคู ืนนีแ้ ละ
เงื่อนงาบางอย่างก็เผยตัวเองออกมา

หนังเรื่อง ดวงตาข้างซ้าย นัน้ ถูกทาลายไปแล้ว แต่วา่ โรงละครส่วนตัวนี ้


เก็บผลงานอื่น ๆ ของผูก้ ากับ ฉางกู เอาไว้และผลงานทัง้ หมดนัน้ มี
บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับดวงตาข้างซ้าย

ทาไมผูก้ ากับคนนีถ้ ึงได้หมกมุ่นอยู่กบั ดวงตาข้างซ้าย นี่จงั เลย?

เนือ้ เรื่องส่วนหนึ่งของ เพื่อนร่วมโต๊ะ ผ่านเข้ามาในใจเฉินเกอ พ่อของเห


วินอวีค้ รัง้ หนึ่งเคยเรียกชื่อเต็มของเธอ และชื่อของเด็กหญิงคนนัน้ ก็คือ
ฉางเหวินอวี–้ เธอใช้แซ่เดียวกันกับฉางกู

เป็ นไปได้ไหมว่าเด็กหญิงที่มีดวงตาข้างซ้ายนัน้ เป็ นพี่สาวน้องสาวของ


ฉางกู?
ใน เพื่อนร่วมห้อง ที่บา้ นของเหวินอวี ้ บางครัง้ ก็จะเห็นพ่อกับแม่หรือว่า
หมอ แต่ว่าไม่มีตวั ละครอื่นที่จะเป็ นฉางกูได้

ถ้าฉางกูนนั้ เป็ นสมาชิกในครอบครัวของฉางเหวินอวีจ้ ริง อย่างนัน้ มันก็


อธิบายได้ว่า ระหว่างการถ่ายทา ฉางกูยงั มีชีวิตอยู่ แต่เพราะเหตุผล
บางอย่าง เขาไม่ได้ปรากฏขึน้ มาในฉาก

จู่ ๆ เฉินเกอก็นกึ ถึงฉากสุดท้ายของ เพื่อนร่วมโต๊ะ

ตอนที่มีการเปลี่ยนมุมมอง เป็ นไปได้ไหมว่าชิวเหมยกับผีท่ใี นกระจก


ไม่ได้กาลังมองมายังผูช้ มแต่เป็ นฉางกูท่อี ยู่หลังกล้อง?
ตอนที่ 718

ความแตกต่างระหว่าง นาม กับ เพื่อนร่วมโต๊ะ นัน้ เห็นได้ชดั เจนตัง้ แต่


ฉากแรก หนังเรื่องนีน้ นั้ ถ่ายทาจากมุมมองบุคคลที่สาม ความแตกต่าง
ระหว่างหนังสองเรือ่ งนัน้ มากจนดูไม่เหมือนว่าเป็ นผลงานของผูก้ ากับ
คนเดียวกัน

เพื่อนร่วมโต๊ะนัน้ ตอนเริ่มต้นนัน้ เน้นไปที่ทอ้ งฟ้าอันมืดครึม้ บ้านที่


เหมือนกรงขัง และสัตว์ประหลาดที่อาจจะปรากฏตัวขึน้ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่
นาม นัน้ เริ่มต้นอย่างอบอุ่นมาก กาแฟถ้วยหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะ และที่
ข้างกันนัน้ เป็ นสมุดและอุปกรณ์การเรียนกองหนึง่

กล้องค่อย ๆ กวาดไปข้างหน้าและในที่สดุ มันก็ไปจับอยู่ท่สี มุดจดซึง่


เป็ นไดอารี่เล่มหนึ่ง บนปกนัน้ เขียนชื่อหนึ่งเอาไว้ดว้ ยปากกาสีแดง– ชิว
เหมย

คราวนีต้ วั ละครหลักเป็ นชิวเหมย?


เฉินเกอรูว้ ่าหนังสยองขวัญสองสามเรื่องนีน้ ่าจะเกี่ยวข้องกันในสักทาง
หนึ่ง การคาดเดาก่อนหน้าของเขาว่าหนังแต่ละเรื่องบันทึกเรื่องราวของ
เหยื่อจากดวงตาข้างซ้าย แต่ความจริงดูเหมือนจะต่างไปจากที่เขาคิด
เอาไว้

“เหวินอวี!้ เหวินอวี!้ ” มีเสียงเคาะประตูไม่หยุด หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง


กาลังเรียกชื่อเหวินอวี ้ และเสียงของผูห้ ญิงคนนัน้ ก็ตา่ งไปจากเสียงแม่
ของเหวินอวีใ้ นเพื่อนร่วมโต๊ะอย่างชัดเจน

“ถ้าคนที่อยู่ดา้ นนอกประตูไม่ใช่แม่ของเหวินอวี ้ แล้วทาไมเธอถึง


เรียกชื่อเหวินอวี?้ ”

กล้องหมุน เด็กหญิงคนหนึ่งที่กาลังเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงกระโดดลง
จากเตียง เธอวิ่งไปที่โต๊ะ ยัดไดอารี่เล่มนัน้ ลงไปในลิน้ ชักและล็อกมันไว้
หลังจากจัดการทัง้ หมดนี่แล้วเธอก็ไปเปิ ดประตู
“หนูกาลังทาอะไรอยู่ในห้องน่ะ? ตอนที่เรียกหนูตอบช้ามาก” กล้องขยับ
ไปยังผูห้ ญิงที่นอกประตู เธอมีรูปร่างใหญ่ อาจจะใหญ่กว่าเหวินอวี ้
สองคนรวมกันเสียอีก เธอแต่งหน้าหนาและมีกลิ่นควันติดตัว “ฉันได้ยิน
จากหัวหน้าว่าเธอจะออกจากงาน?”

“ค่ะพี่ฟาง ฉันมีเรื่องต้องไปทา” เด็กสาวเงยหน้าขึน้ มองกล้อง นักแสดง


นัน้ หน้าตาน่ารักมาก และเธอยังดูคล้ายกับเหวินอวีใ้ นเพื่อนร่วมโต๊ะ
เธอเหมือนดอกไม้ท่บี ริสทุ ธิ์ แต่หลังจากมองเธอนานเข้า ก็เหมือนมี
บางอย่างแปลก ๆ

“ที่เธอบอกว่าจะกลับไปโรงเรียนน่ะเหรอ? ไปเรียนภาคค่า?” พี่ฟาง


เบียดตัวเข้าไปในห้องโดยไม่ขอ “เธอรูไ้ หมว่าทุกวันนีง้ านหายากแค่
ไหน? เธอมีโอกาสดีขนาดนีแ้ ล้วทาไมยังไม่พอใจอีก?”

“พี่ฟาง ขอบคุณสาหรับความช่วยเหลือนะคะ สักวันฉันจะพาพี่ไปเลีย้ ว


ข้าวสักมือ้ ” เหวินอวีไ้ ม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาในห้องของตัวเอง
“รอทาไมเล่า?” พี่ฟางการอบข้อมือ้ เหวินอวีเ้ บา ๆ แต่ว่าแน่นหนา “ครัง้
ก่อนฉันแนะนาหลานให้เธอใช่ไหม? เธอคิดว่ายังไงบ้าง? เด็กนั่นชอบ
เธอมากเลย ฉันว่าเธอคงจะเรียกมันว่ารักแรกพบได้… อย่าผลักฉันสิ!
เฮ้! เปิ ดประตูนะ!” ประตูกระแทกปิ ดและพี่ฟางก็บน่ พึมพาอยู่ขา้ งนอก
ประตูครูห่ นึ่งก่อนที่จะยอมแพ้แล้วเดินจากไป

“หนวกหูชะมัด” เหวินอวีแ้ ตะดวงตาข้างซ้ายอย่างไม่รูต้ วั และเธอก็หนั


ไปทางโต๊ะ เธอวางโทรศัพท์ลง จากนัน้ ก็เก็บของและหนังสือทัง้ หมดบน
โต๊ะลงกระเป๋ า ตอนที่เธอเก็บของ กล้องก็จบั ภาพไปที่โทรศัพท์ของเธอ
และหน้าจอก็แสดงให้เห็นสิ่งที่กาลังดูอยู่ก่อนหน้านี ้

“โรงเรียนที่สอนภาคค่าที่จ่ิวเจียงมีท่ไี หนบ้าง? มหาวิทยาลัยเอกชนจิ่


วเจียงที่จ่วิ เจียงตะวันตกเป็ นอย่างไรบ้าง?”

ข้างใต้คาถามของเธอมีคาตอบอยู่สองสามคน
บ้านเก่าฉันอยู่ท่นี ่ี: “ขอบคุณที่เชิญ ฉันมาจากฟิ ลิปินส์ เพิ่งลงเครื่องที่
สนามบิน ฉันเรียนจบจากวิทยาลัยการเดินเรือและการบินนานาชาติ
ฉันขอแนะนาว่าอย่าเรียนภาคค่าที่จ่วิ เจียง มีปัญหาเยอะแยะเกินไป
และยังไม่ได้มีประโยชน์นกั จ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วเข้าเรียน
มหาวิทยาลัยเอกชนในซินไห่ดีกว่า”

เขตการศึกษาที่สามเฉิงเต๋อ “ถ้าเจ้าของโพสต์อยากรูเ้ กี่ยวกับเขต


การศึกษาที่สามให้มากขึน้ ให้คลิกที่โปรไฟล์ฉนั ได้เลยนะ เขตการศึกษา
เฉิงเต๋อนัน้ เป็ นมหาวิทยาลัยที่ยอดเยี่ยมในจิ่วเจียง พวกเราสามารถ
ช่วยให้คณ ุ เข้าสู่วงสังคมชัน้ สูงได้ พวกเรายังมีระบบการศึกษาแบบ
ดัง้ เดิม และช่วยให้นกั ศึกษาของพวกเรานัน้ ดึงศักยภาพของตนเอง
ออกมาได้มากที่สดุ …”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “โรงเรียนภาคค่าในจิ่วเจียงมีอยู่หลายที่ และคุณสนใจ


ที่ท่ไี ม่น่าเชื่อถือที่สดุ ฉันแนะนาคุณฟรี ๆ อย่างหนึ่งนะ– สมัครเรียน
ภาคค่าที่โรงเรียนที่คณ ุ ต้องการได้เลย แต่หลีกเลี่ยงมหาวิทยาลัยเอกชน
จิ่วเจียง”
ภายใต้สามคาตอบนัน้ มีบทสนทนาระหว่างเหวินอวีก้ บั คนที่ไม่มีอยู่จริง

เจ้าของโพสต์: “ทาไมฉันถึงไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียงไม่ได้?
ที่น่นั เป็ นมหาวิทยาลัยหลอกลวงเหรอ?”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “ที่น่นั ไม่ได้หลอกลวงแบบนัน้ คุณจะได้ใบรับรอง


การศึกษาตราบใดที่คณ ุ มีชีวิตรอดมาเรียนจนจบได้ คุณไปได้ขอ้ มูลของ
ที่น่ีมาจากที่ไหน? เท่าที่ฉนั รู ้ มหาวิทยาลัยนี่น่าจะปิ ดตัวลงในไม่ชา้
แล้ว”

เจ้าของโพสต์: “ฉันมีบตั รนักศึกษาของที่น่ี ชื่อของฉันเขียนอยู่บนนัน้


ดังนัน้ ฉันน่าจะเป็ นอดีตนักเรียนที่น่นั ”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “เป็ นไปไม่ได้”


เจ้าของโพสต์: “จริง ๆ ฉันไม่ได้โกหกคุณ ฉันจาไม่ได้ว่าฉันเห็นอะไรที่
นั่น แต่ตงั้ แต่นนั้ ฉันก็ออกจากที่น่นั มา ดวงตาข้างซ้ายของฉันมองเห็น
สิ่งที่ฉนั ลืมไม่ลง”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “ฉันไม่มีเวลาฟั งนิทานของเธอหรอก ไปก่อนนะ”

เจ้าของโพสต์: “ฉันไม่ได้แต่งเรื่องขึน้ นะ!”

เจ้าของโพสต์: “นี่? คุณยังอยู่ไหม?”

เจ้าของโพสต์: “เอาละ ดูเหมือนคุณจะไปแล้ว ฉันกาลังบอกความจริง


คุณ ตัง้ แต่ท่ฉี นั ออกจากที่น่นั มา ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปโดยสิน้ เชิง ที่
นั่นเปลี่ยนชีวิตฉันไป และตอนนีฉ้ นั ก็อยากกลับไปที่น่นั เพื่อหาความ
จริง”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “ความจริงนั่นสาคัญเหรอ?”
เจ้าของโพสต์: “โอ้ คุณยังอยู่”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “ถ้าคุณไม่ได้โกหก อย่างนัน้ ก็มีอีกเหตุผลที่คณ


ุ ไม่ควร
ไปที่น่นั ”

เจ้าของโพสต์: “ทาไม?”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “คุณรูไ้ หมว่ามหาวิทยาลัยนี่ยงั มีอีกชื่อหนึ่ง?”

เจ้าของโพสต์: “ชื่อไหน?”

คนที่ไม่มีอยู่จริง: “มันยังถูกเรียกว่า โรงเรียนแห่งปรโลก”

เห็นแล้วเฉินเกอก็ผดุ ลุกขึน้ จากที่น่งั ม่านตาของเขาหดแคบลงขณะ


เพ่งมองบนจอ
โรงเรียนแห่งปรโลก!

ข้อความบนโทรศัพท์สะท้อนอยูใ่ นดวงตาของเขา เฉินเกอไม่คิดว่าจะมา


เจอเข้ากับเงื่อนงาของโรงเรียนแห่งปรโลกระหว่างทาภารกิจดวงตาข้าง
ซ้าย เขาเข้าใจว่าคานัน้ หมายถึงอะไร โรงเรียนแห่งปรโลกนัน้ เป็ นฉาก
ระดับสี่ดาว– มันหมายถึงอย่างน้อยที่สดุ ต้องมีวิญญาณสีเลือด
ระดับสูง!

ฉางเหวินอวีน้ าดวงตาข้างซ้ายออกมาจากโรงเรียนแห่งปรโลก? ทาไม


เธอถึงได้มีบตั รนักเรียนของที่น่นั ได้?

ดวงตาข้างซ้ายนัน้ อาศัยอยู่ในร่างของฉางเหวินอวี ้ แต่ว่าดวงวิญญาณ


ที่ควบคุมร่างกายนัน้ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ฉางเหวินอวีต้ วั จริงนัน้ หายตัวไป
แล้ว– บางทีดวงวิญญาณของเธออาจจะสลายไปแล้ว

ตามบทนาของหนัง โรงเรียนแห่งปรโลกนัน้ เป็ นมหาวิทยาลัยเอกชน


ตอนที่เหวินอวีไ้ ด้รบั ดวงตาข้างซ้ายมา เธอน่าจะยังอายุไม่ถึง แล้วเธอ
ไปที่มหาวิทยาลัยนั่นได้ยงั ไง? ถ้าเธอไปปรากฏตัวที่น่นั โดยบังเอิญ
อย่างนัน้ เธอหนีออกมาได้ยงั ไง?

เดิมที เฉินเกอนัน้ ดูหนังเพราะว่าโทรศัพท์เครื่องดาบอกให้เขาดู แต่


หลังจากที่มีการพูดถึงโรงเรียนแห่งปรโลก ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป

นี่น่าจะไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ– แค่การเปลี่ยนแปลงดวงตาข้างซ้ายนัน้ ก็
ทาให้เกิดฉากระดับสองดาวแล้ว แล้วโรงเรียนแห่งปรโลกทัง้ โรงเรียนจะ
น่ากลัวแค่ไหน?

เฉินเกอคิดกลับไปถึงคาแนะนาของโรงเรียนแห่งปรโลกบนโทรศัพท์
เครื่องดา มีภารกิจก่อนหน้าเก้าภารกิจ รวมทัง้ จางหยาเองก็เป็ นหนึ่งใน
นัน้

เวลาอันจากัดของภารกิจนีน้ นั้ กาลังจะหมดแล้ว บางทีหนังเรื่องนี ้


อาจจะมีขอ้ มูลบางอย่างที่ฉนั ควรต้องรู ้
เฉินเกอดูหนังต่อ บนจอ โทรศัพท์ท่ถี กู ทิง้ เอาไว้บนโต๊ะจู่ ๆ ก็ส่นั มีสาย
เรียกเข้า และหมายเลขผูโ้ ทรเข้ามานัน้ ก็ประหลาดมาก– คนที่ไม่มีอยู่
จริง

TL note: ในต้นฉบับใช้คาว่า มหาวิทยาลัย สลับไปมากับคาว่า


โรงเรียน ทัง้ ที่พดู ถึงสถานที่เดียวกัน จึงมีคานีส้ ลับกันไปมาเรื่อย ๆ
พยายามปรับให้คงที่แล้วแต่อาจจะมีหลุดบ้างต้องขออภัยผูอ้ ่าน
ล่วงหน้าด้วย
Chapter 719 ใครในห้ อง
โทรศัพท์ในหนังสัน่ ชิวเหมยหยุดจัดของแล้วหยิบโทรศัพท์ข้ ึนมา
เธอรับสายโดยไม่ดูหมายเลขโทรเข้า “ฮัลโหล นัน่ ใครคะ?”
“พวกเราเพิ่งคุยกันบนอินเตอร์เนต ผมเห็นคุณทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้
บนหน้าส่ วนตัว ดังนั้นจึงโทรมา” เสี ยงของผูช้ ายคนหนึ่งดังมาจาก
อีกปลายสาย คนผูน้ ้ ีน้ นั ดูเหมือนยังไม่แก่ชรานัก เสี ยงของเขานั้นยัง
ฟังดูเหมือนเป็ นหนุ่มอยู่
“พวกเราเพิ่งคุยกันบนอินเตอร์เนต?” ชิวเหมยดึงโทรศัพท์ออกมาดู
หน้าจอ “คุณคือคนที่ไม่มีอยูจ่ ริ ง!”
“นัน่ เป็ นชื่อออนไลน์ของผม”
“ทําไมคุณถึงตั้งชื่ออย่างนั้น?”
“นัน่ ไม่สาํ คัญ สิ่ งสําคัญก็คือผมต้องคุยกับคุณ” ชายหนุ่มคนนั้นลด
เสี ยงลงราวกับว่าการทําเช่นนั้นจะทําให้เสี ยงของเขาดูเป็ นผูใ้ หญ่
และลึกลับมากขึ้น
“เบอร์ที่ฉนั ทิ้งเอาไว้บนหน้าส่ วนตัวน่ะเป็ นเบอร์จริ ง แล้วมันจะน่า
ประหลาดใจตรงไหนที่นายโทรมา? นายโทรหาเด็กสาวคนอื่น ๆ ด้วย
เบอร์ของพวกเธอมาก่อนใช่ไหม แล้วก็ลงท้ายด้วยการถูกหลอก?”
เหวินอวี้ไม่คิดจริ งจังไปกับชายหนุ่มด้วย
“ผมโทรหาคุณด้วยโทรศัพท์ของคนที่ตายไปแล้วการที่คุณสามารถ
รับสายนี้ได้แสดงว่าสิ่ งที่คุณพูดมีบางส่ วนเป็ นเรื่ องจริ ง”
“นายมีวธิ ีการพิสูจน์คาํ พูดของคนอื่นที่ประหลาดดีนะ” ท่าทีของเหวิน
อวี้เย็นชาขึ้นกว่าเดิม น่าแปลก เธอไม่ได้ประหลาดใจกับสิ่ งที่ชายหนุ่ม
พูด “ว่ามาสิ โทรหาฉันมีอะไร?”
“ผมแค่อยากจะช่วยชีวติ คุณเฉย ๆ – ผมกลัวว่าคุณจะได้ทาํ ภารกิจฆ่า
ตัวตาย” เสี ยงของชายหนุ่มไม่ได้แก่แต่กลับฟังเหมือนเขาผ่านอะไร ๆ
ในชีวติ มาเยอะ
“ภารกิจฆ่าตัวตาย?”
“ทําไมคุณถึงจะอยากกลับไปในเมื่อคุณหนีออกมาได้แล้ว? ผมรู ้วา่
คุณจําหลายอย่างไม่ได้ แต่คุณได้เคยคิดไหมว่าความทรงจําเหล่านั้น
คือสิ่ งที่คุณใช้แลกกับการหนีออกมา?” ชายหนุ่มพยายามโน้มน้าว
เธอ “เพื่อที่จะหนีออกมา ความทรงจําของคุณถูกยึดไป แต่วา่ เพื่อที่
จะได้รับความทรงจําที่หายไปกลับคืนคุณยินดีที่จะกลับไป คุณเคย
ได้ยนิ อะไรที่โง่กว่านี้อีกไหมบนโลกนี้?”
“ฉันไม่ได้จะกลับไปตามหาความทรงจําของฉัน ฉันจะไปที่นนั่ เพื่อ
ตามหาคน” เหวินอวี้ปลดล็อกลิ้นชักและมองสมุดจดที่ในนั้น “เหวิน
อวี้เป็ นชื่อของร่ างนี้ แต่วา่ นัน่ ไม่ใช่ชื่อของฉัน”
ปลายนิ้วของเธอไล้ไปตามปกของสมุด และมันก็ลูบผ่านชื่อชิวเหมย
“ผมไม่สนใจว่าคุณจะกลับไปทําอะไร แต่ผมไม่แนะนําให้กลับไปที่
นัน่ จําเอาไว้! อย่ากลับไปที่นนั่ !” มีเสี ยงบางอย่างหนัก ๆ ถูกลากดัง
มาจากอีกปลายสายโทรศัพท์ จากนั้นโทรศัพท์กถ็ ูกตัดไปอย่างรี บร้อน
“ฉันรู ้วา่ ที่นนั่ อันตรายมาก แต่บางอย่างมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้” ตัวละคร
หลักจัดเอกสารที่หวั เตียงและจากนั้นก็ข้ ึนไปนอนบนเตียง กอด
โทรศัพท์เอาไว้ เธอพยายามติดต่อคนที่ไม่มีอยูจ่ ริ ง แต่ไม่มีการตอบ
กลับ
“ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนี้ที่ฉนั เจอบนออนไลน์ ล้วน
บอกว่าเป็ นมหาวิทยาลัยเอกชนและสร้างขึ้นโดยผูบ้ ริ จาคคนหนึ่ง
แต่วา่ ตามรู ปที่บนออนไลน์แล้ว ขนาดของมันนั้นใหญ่กว่าโรงเรี ยน
ทัว่ ไป มันยังใหญ่กว่ามหาวิทยาลัยทัว่ ไปด้วย”
เหวินอวี้วางแผนจะไปดูที่มหาวิทยาลัยนี้ เธอดึงกระดาษกับปากกา
ออกมาจดข้อมูลทั้งหมดที่เธอพบในโทรศัพท์
“บางรู ปนั้นมีลายนํ้าติดเอาไว้ ดังนั้นน่าจะไม่ใช่ของปลอม แต่ทาํ ไม
รู ปอื่น ๆ ถึงดูประหลาดขนาดนี้?”
บางทีอาจจะเป็ นเพราะมุมกล้องหรื อว่าเพราะลักษณะของตึก แต่วา่
ในบางรู ป ไม่วา่ จะถ่ายตอนกลางวันหรื อกลางคืน ในห้องก็มืดสลัวดู
น่ากลัว เด็กสาวปิ ดไฟหัวเตียงเหลือไว้แค่โคมไฟข้างเตียง เธอนอน
อยูบ่ นเตียงและเริ่ มรวบรวมข้อมูล เห็นเด็กสาวบนจอแล้ว เฉินเกอก็
นึกถึงตัวเอง ก่อนที่จะเริ่ มภารกิจแต่ละครั้ง เขาก็มกั จะรวบรวมและ
วิเคราะห์ขอ้ มูลเหมือนเหวินอวี้
“เรื่ องผีนี่ทาํ ให้ฉนั นึกถึงตัวเองมาก” เวลาผ่านไป และเหวินอวี้กค็ ่อย ๆ
ผลอยหลับไปบนเตียง ปากกาหลุดออกจากมือของเธอตกลงไปที่พ้นื
มันกลิ้งไปไกลจนกระทัง่ ไปหยุดอยูท่ ี่หน้าประตูหอ้ งนํ้า
เธอทํางานตอนกลางวันและอ่านหนังสื อตอนกลางคืน เหวินอวี้
เหนื่อยมาก และเธอก็หลับสนิทมาก กล้องถูกดึงถอย และมันก็ไป
จับอยูท่ ี่เหวินอวี้ที่กาํ ลังหลับ มันยากที่จะบอกว่าผูก้ าํ กับต้องการทํา
อะไร เขาถ่ายเหวินอวี้ที่กาํ ลังหลับยาวเป็ นสิ บวินาที
พนักงานของเฉินเกอนั้นไม่ได้ออกมาดูหนังบ่อยนัก พวกเขามอง
หน้าจอด้วยความสงสัยอย่างเปิ ดเผย พวกเขาจดจ่อและพยายามไล่
ตามจังหวะของผูก้ าํ กับ พยายามเข้าใจมุมมองของเขา
“ฉันยอมรับว่าเด็กสาวคนนี้ค่อนข้างน่ารัก แต่ไม่ใช่วา่ ฉากนี้จะยาว
ไปสักหน่อยหรื อไง?” ในที่สุดไป๋ ชิวหลินก็พดู ออกมา “ตอนที่เธอ
ลืมตา รอบตัวเธอมีบรรยากาศของความอาฆาตแค้น แต่วา่ น่าแปลก
หลังจากที่เธอหลับตาลง บรรยากาศแบบนั้นกลับหายไปหมดเลย”
“ผูก้ าํ กับเก่งมาก จากหนังสั้นเรื่ องก่อนหน้านี้ของเขา ผมรู ้วา่ เขาไม่
ถ่ายอะไรที่ไม่มีประโยชน์ ต้องมีจุดประสงค์อะไรสักอย่าง” เฉิ นเกอ
รออย่างอดทน และหลังจากนั้นครู่ หนึ่ง เขาก็พบบางอย่าง “ที่มุมล่าง
ซ้ายของจอ ใช่! นัน่ ตรงที่ปากกากลิ้งไปหยุดอยูเ่ มื่อกี้น้ ี”
ประตูหอ้ งนํ้าถูกเปิ ดทิ้งเอาไว้ และปากกาก็ไปหยุดอยูต่ รงนั้น แสง
เดียวในห้องนั้นมาจากโคมไฟข้างเตียง เพราะมุมกล้อง จึงเห็นได้วา่
ห้องนํ้านั้นไม่ได้มืดสนิท และมีลาํ แสงอ่อนจางสายหนึ่งกระทบที่
กระจกในห้องนํ้า
หนังดูเหมือนจะหยุดไปเมื่อตัวละครหลักหลับสนิทแต่เมื่อมองไป
แล้ว ความรู ้สึกไม่ถูกต้องบางอย่างกลับเพิ่มขึ้น เหตุผลก็เพราะฉาก
นั้นไม่ได้นิ่งจริ ง ที่มุมจอ ในห้องนํ้า มีบางอย่างเคลื่อนไหว!
ภาพบนจอนั้นดูอบอุ่น– แสงสี เหลืองนวล ผ้าห่มนุ่มฟู และคนงาม
หลับใหล แต่วา่ เมื่อมองไปที่ตรงมุมจอและเห็นสิ่ งที่กาํ ลังเกิดขึ้นใน
ห้องนํ้า ความแตกต่างนี้ทาํ ให้คนดูขนลุก
ในห้องนํ้าสลัว ผูห้ ญิงคนหนึ่งในชุดแดงยืนอยูห่ น้ากระจก เธอบิด
คอไปมาแต่ดวงตากลับจับจ้องเขม็งอยูท่ ี่กล้อง!
ใบหน้านัน่ ซ่อนอยูใ่ นความมืด และเมื่อผูช้ มมองไป มันก็รู้สึกเหมือน
ใบหน้านัน่ กําลังจับจ้องที่พวกเขาผ่านหน้าจอ
“ฉันรู ้แล้วว่าต้องมีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”
ไม่วา่ หนังจะมีบรรยากาศอบอุ่นแค่ไหน แต่ถึงที่สุดแล้วมันก็ยงั เป็ น
หนังสยองขวัญ ปากกาที่บนพื้นนั้นขยับได้ดว้ ยตัวเอง ผูห้ ญิงที่ใน
ห้องนํ้านั้นหายไปจากกระจกแล้ว และยังมองเห็นได้วา่ ผูห้ ญิงชุด
แดงคนนั้นเดินเข้าไปในห้อง
ส่ วนใหญ่ของจอนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง สิ่ งเดียวที่เปลี่ยนแปลง
ก็คือเงาสะท้อนของกระจกในห้องนํ้า
ห้องเช่าก็ใหญ่แค่น้ ี ไม่มีหอ้ งนัง่ เล่นและเตียงก็อยูต่ ิดกับห้องนํ้า ภาพ
บนจอยังคงอบอุ่น แต่บางครั้งก็มีเสี ยงแปลก ๆ
ปากกากลิ้งไปบนพื้น และจิ้งจกที่บนกําแพงก็ไต่หนี แสงไฟจากโคม
ไฟข้างเตียงก่อให้เกิดเงา แต่วา่ เงานัน่ ไม่ได้เป็ นของเจ้าของห้องที่
กําลังหลับอยู่
กระดาษที่บนโต๊ะพลิกและล็อกของลิ้นชักก็ขยับเหมือนมีคนพยายาม
เปิ ดมัน
ครู่ ต่อมา ทุกอย่างก็กลับไปเงียบสงบ แต่จากนั้นภาพที่น่ากลัวที่สุดก็
ปรากฏขึ้น
หมอนบนเตียงยุบลงเหมือนมีคนนอนลงที่ขา้ ง ๆ ตัวละครหลัก
Chapter 720 นามของเขา
ภายใต้แสงสลัว มีเงาปรากฏที่บนกําแพง แต่วา่ ในห้องนี้มีคนอยูแ่ ค่
คนเดียว สองข้างกายของเหวินอวี้น้ นั ยุบย่นลงไปขณะที่เส้นผมของ
เธอสยายออกเป็ นแพ– มันเหมือนมีบางอย่างกดอยูบ่ นร่ างของเธอ
“ชิวเหมย ชิวเหมย… ชิวเหมย!” เหวินอวี้จู่ ๆ ก็สะดุง้ ตื่น เธอหอบ
หายใจเข้าและมองไปรอบ ๆ สี หน้าสับสน แสงสลัวจากโคมไฟข้าง
เตียงส่ องไปทัว่ ห้อง ทําให้มนั มีบรรยากาศที่ดูเป็ นกันเอง เครื่ องเรื อน
ส่ วนใหญ่ลว้ นอยูใ่ นที่ที่มนั ควรอยู–่ ไม่มีร่องรอยของการมีคนอื่นอยู่
ในห้องนี้ดว้ ย
“เรื่ องที่แย่ยงิ่ กว่าฝันร้ายก็คือตื่นขึ้นมากลางดึกและพบว่าคํ่าคืนยังอีก
ยาวนาน” เหวินอวี้หยิบเอกสารที่บนเตียงขึ้นมาและมองไปรอบ ๆ
“ปากกาไปไหนแล้วล่ะ?”
เธอลงจากเตียงไปเก็บปากกาที่ตกไปไกล จากนั้นเธอก็เก็บปากกา
และกระดาษเข้าไปในแฟ้มที่ในกระเป๋ า
“ได้เวลากลับไปนอนแล้ว พอพระอาทิตย์ข้ ึนฉันก็จะไปดูที่โรงเรี ยน
นัน่ ”
ปี นกลับขึ้นเตียงแล้วเหวินอวี้กป็ ิ ดโคมไฟข้างเตียง พอห้องจมลงสู่
ความมืด กล้องก็จบั ภาพผูห้ ญิงชุดแดงกําลังยืนอยูห่ น้ากระจกใน
ห้องนํ้าได้
ตอนที่ไฟดับไป เธอก็เดินออกมาจากห้องนํ้าอีกครั้ง เธอยังอยูใ่ น
ห้อง แต่ในเมื่อตอนนี้หอ้ งนั้นจมอยูใ่ นความมืด ดังนั้นจึงไม่มีใคร
เห็นเธอ
วิธีการที่หนังเรื่ องนี้พดู ถึงผีน้ นั น่าสนใจทีเดียว บางทีบา้ นผีสิงของ
ฉันอาจจะได้แรงบันดาลใจ มอบความรู ้สึกแปลกใหม่ให้ผเู ้ ข้าชม
ผ่านการใช้ความแตกต่างอย่างชาญฉลาดนี้
ความปรารถนาอยากเจอผูก้ าํ กับของเฉิ นเกอนั้นเพิ่มมากขึ้น ถ้าเขา
ร่ วมมือกับผูก้ าํ กับ เฉินเกอรู ้สึกว่าเขาสามารถเพิ่มระดับความสยอง
ของบ้านผีสิงของเขาขึ้นไปสู่ ระดับใหม่ได้
หน้าจอมืด– จนแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่วา่ นี่กท็ าํ ให้ผชู ้ มได้
จินตนาการไปอย่างกว้างไกล เพราะทุกคนรู ้วา่ ในความมืด นอกจาก
ตัวละครหลักที่หลับอยูน่ ้ นั ยังมีผชี ุดแดงอยูด่ ว้ ย ทั้งฉากนั้นถูกถ่าย
เอาไว้แบบม้วนเดียวจบ ไม่มีการตัดต่อ และนัน่ ก็ทาํ ให้หนังเรื่ องนี้
นั้นให้ความรู ้สึกเหมือนจริ ง
หลายวินาทีให้หลัง ฉากนี้กจ็ บลง และพระอาทิตย์กข็ ้ ึน ทุกอย่างใน
ห้องยังเหมือนเดิม ตัวละครหลักไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติไป
เหมือนกับความทรงจําจากเมื่อคืนนั้นอันที่จริ งเป็ นเพียงแค่ฝันร้าย
“ฉันละเหงื่อตกแทนเด็กนัน่ เลย” เหล่าโจวตบหน้าอกตัวเองเบา ๆ
“นายยังมีเหงื่อออกได้ดว้ ยเหรอ?” ต้วนเยว่กลอกตาใส่ เขา
“ถ้าเธอไม่เชื่อฉันอย่างนั้นลองจับฝ่ ามือฉันดูสิ?” เหล่าโจวกางมือให้
ต้วนเยว่แต่วา่ ฝ่ ายหลังนั้นมองมุกเก่า ๆ นี่ออกและเธอก็ปัดมือข้างนั้น
ทิ้ง
พนักงานล้วนอินไปกับหนัง มีแค่เฉิ นเกอที่คิดถึงอย่างอื่น เขาได้ดู
เพื่อนร่ วมโต๊ะ มาก่อน และหลังจากเทียบ เพื่อนร่ วมโต๊ะ กับ นาม
เขาก็พบเรื่ องน่าสงสัยมากมาย
“ตัวละครหลักทั้งสองเรื่ องถูกเรี ยกว่า เหวินอวี้ ดังนั้นพวกเธอน่าจะ
เกี่ยวข้องกับดวงตาข้างซ้าย แต่วา่ ความแตกต่างก็คือ ใน เพื่อนร่ วม
โต๊ะ ตัวละครหลักยังเรี ยนมัธยม แต่ใน นาม ตัวละครหลักทํางาน
แล้ว หนังทั้งสองเรื่ องนี้ถ่ายทอดช่วงเวลาที่ต่างกันในชีวติ ของตัว
ละครเดียวกัน
ตามข้อมูลของดวงตาข้างซ้ายในเพื่อนร่ วมโต๊ะ ร่ างของเหวินอวี้
น่าจะมีดวงวิญญาณของเด็กสาวหลายคนใช้มาก่อนแล้ว แต่นนั่
หมายความว่ารายละเอียดหลายอย่างไม่เข้ากับในเรื่ อง นาม
ตอนเริ่ มเรื่ อง ชื่อที่บนสมุดบันทึกของตัวละครหลักก็คือชิวเหมย แต่
เมื่อผีผหู ้ ญิงปรากฏตัวขึ้นและกดร่ างของตัวละครหลักลงไป ชื่อที่ถูก
เรี ยกกลับเป็ นชื่อชิวเหมย
ิ ญาณที่ติดอยูใ่ นร่ างของเหวินอวี้ดูเหมือนจะเป็ นชิวเหมย
ตอนนี้วญ
เหมือนกัน
ตอนจบของเพื่อนร่ วมโต๊ะ ชิวเหมยนั้นรับโทรศัพท์จากเพื่อนร่ วมโต๊ะ
คนใหม่ของเธอ และเธอก็เชิญเพื่อนของเธอไปที่บา้ น ดังนั้นพูดตาม
ทฤษฎีแล้ว วังวนใหม่ได้เริ่ มต้นไปแล้ว แต่วา่ หลังจากดูเรื่ องนาม
เฉินเกอก็พบว่าเรื่ องราวไม่ได้เรี ยบง่ายอย่างนั้น
ชิวเหมยดูไม่เหมือนว่าจะหาแพะรับบาปและดําเนินวังวนนั้นต่อ ผ่าน
มาหลายปี แล้ว เธอก็ยงั ทนรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอจากดวงตาข้าง
ซ้ายเพียงคนเดียว
หนังสองสามเรื่ องนี้ที่ถ่ายทําเกี่ยวกับดวงตาข้างซ้ายนั้นดูเหมือนจะมี
เหวินอวี้เป็ นตัวเอก แต่ความจริ งแล้ว ตัวละครหลักคือชิวเหมยที่
ควบคุมร่ างของเหวินอวี้ ร่ างกายคือเหวินอวี้ แต่วา่ ดวงวิญญาณคือ
ชิวเหมย
เฉิ นเกอพบว่าตั้งแต่ตน้ ของเรื่ องนาม ถึงแม้วา่ เขาจะไม่ได้เป็ นอัจฉริ ยะ
ทางด้านการถ่ายทํา แต่เขาเป็ นคนที่ให้ความสนใจกับรายละเอียด เขา
มีดวงตาคู่หนึ่งที่สามารถมองผ่านเปลือกนอกเข้าไปเห็นความจริ ง
หนังดําเนินต่อไป ห้องนี้ในตอนเช้านั้นสว่างไสวและสะอาด ใครจะ
คิดว่าที่นี่จะเป็ นที่อยูอ่ าศัยของผีตนหนึ่งกัน? ตัวละครหลักส่ งใบลา
ออกไปแล้ว เมื่อถึงวันใหม่ เธอก็ไม่จาํ เป็ นต้องไปทํางานแต่วา่ หิ้ว
กระเป๋ าที่เต็มไปด้วยเอกสารต่าง ๆ ขึ้นรถประจําทางไปยังจิ่วเจียง
ตะวันตกตามที่อยูท่ ี่เธอได้มาจากออนไลน์
“นี่คือมหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียงนัน่ เหรอ?” หลังจากหามาตลอดทั้ง
เช้า ในที่สุดเหวินอวี้กไ็ ปถึงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง “ฉันกําลังหา
โรงเรี ยน แต่ทาํ ไมที่อยูท่ ี่เจอบนอินเตอร์เนตถึงกลายเป็ นโรงพยาบาล
ไปได้?”
ตึกที่รอบ ๆ ดูค่อนข้างเก่า ถึงแม้เหวินอวี้จะเป็ นคนจิ่วเจียง เธอก็ไม่รู้
เลยว่ามีโรงพยาบาลแบบนี้อยูใ่ นจิ่วเจียงด้วย
“เข้าไปได้ไหมน่ะ?” เหวินอวี้พยายามเปิ ดประตูและพบว่าประตูถูก
ล็อกจากด้านใน เธอเอนตัวแนบกระจกและมองเข้าไปในโรงพยาบาล
กระเบื้องเงาวับ เก้าอี้ไม่มีฝนุ่ ผนังยังขาวและใหม่ นอกจากความเงียบ
อันประหลาดแล้วที่นี่กด็ ูไม่ต่างไปจากโรงพยาบาลทัว่ ไปเลย
“โรงพยาบาลนี่ไม่มีกระทัง่ ชื่อ ฉันตรวจดูบนออนไลน์ไม่ได้ต่อให้
อยากจะดูกต็ าม”
เหวินอวี้เดินไปที่อีกด้านของโรงพยาบาล และที่ประตูดา้ นหลัง ผูช้ าย
สวมผ้าปิ ดปากและเสื้ อคลุมสี ขาวคนหนึ่งกําลังเดินออกมา
“คุณหมอคะ คุณช่วยหนูหน่อยได้ไหม?” เหวินอวี้วงิ่ เข้าไปหา แต่
หลังจากที่หมอคนนั้นได้ยนิ เสี ยงเธอ แทนที่เขาจะหยุดเขากลับเดิน
เร็ วขึ้นกว่าเดิม
“คุณหมอคะ?” เหวินอวี้งุนงงกับปฏิกิริยาเช่นนี้ และเธอก็ออกวิง่ ไป
ดักหน้าเขาเอาไว้ ผูช้ ายคนนั้นคํารามอย่างหมดความอดทน เขา
เกือบจะหันตัวไปทางอื่นแต่เหมือนเขาตระหนักได้ถึงบางอย่าง ทั้ง
ร่ างของเขาแข็งทื่อ เขาจ้องมองเหวินอวี้อย่างพิจารณา
ผูช้ ายคนนี้สูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิ บเซนติเมตร รู ปหล่อและร่ าง
สู งใหญ่ แต่วา่ ระหว่างคิ้วของเขาดูหมองคลํ้า สายตาของเขาเย็นเยียบ
และยังมีบรรยากาศรอบตัวที่เหมือนบอกคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้เขามาก
เกินไป
เหวินอวี้รู้สึกกระอักกระอ่วนกับท่าทีของเขา หลังจากนั้นครู่ หนึ่งเธอ
ถึงได้ถาม “หวัดดีค่ะ หนูมาที่นี่เพื่อสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนจิ่ว
เจียง หนูเอาเอกสารที่ตอ้ งใช้มาด้วยแต่วา่ หามหาวิทยาลัยไม่เจอ แต่
ว่าที่อยูท่ ี่หนูได้มามันพาหนูมาที่นี่”
“มหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียง?” ดวงตาของหมอคนนั้นไม่ขยับไป
จากใบหน้าของเหวินอวี้ “มหาวิทยาลัยนัน่ ปิ ดตัวไปแล้ว ทางที่ดีเธอ
ไปหาที่เรี ยนที่อื่นเถอะ”
จากนั้นหมอคนนั้นก็หนั เตรี ยมจากไป เหวินอวี้เกาหัวและจากนั้นก็
ร้องออกไปอย่างลังเลอยูน่ ิด ๆ “รอเดี๋ยวค่ะ พวกเราเคยเจอกันที่ไหน
มาก่อนไหมคะ?”
หมอคนนั้นเดินห่างออกไปเหมือนไม่ได้ยนิ เธอ
“ใบหน้าของคุณคุน้ ตามากค่ะ หนูแน่ใจว่าหนูเคยเจอคุณมาก่อน!”
เหวินอวี้วงิ่ ตามเขาไป “คุณชื่ออะไรคะ?”
ถูกเหวินอวี้ตามมาไม่ลดละ ในที่สุดหมอคนนั้นก็หยุดเท้าและกล้อง
ก็ขยายใบหน้าของเขาให้ชดั ขึ้น คิว้ ของเขาขมวดเข้าหากัน หมอคน
นั้นมองเหวินหวี้ และเขาก็พึมพําออกมาเบา ๆ “ฉันชื่อฉางกู”
Chapter 721 โกหก
ได้ยนิ คําตอบแล้ว เฉินเกอก็เพ่งสายตามองพิจารณาชายคนนี้เพิ่ม ชื่อ
ของผูก้ าํ กับก็คือฉางกูเหมือนกัน ดูเหมือนว่าหนังพวกนี้จะบันทึก
เหตุการณ์ที่เขาได้ประสบมา
มองใบหน้าของชายในหนังแล้วเฉินเกอก็เกาคางตัวเอง ในหนัง เขา
ให้ตวั เองหน้าตาดี ดูไว้ตวั ซึ่งทําให้ฉนั เข้าใจผูช้ ายคนนี้ในมุมมอง
ใหม่ ๆ
หลังจากพิจารณาใบหน้าของชายคนนี้อยูน่ าน เฉินเกอก็รู้สึกเหมือน
เขาดูคุน้ ตาอย่างประหลาด จู่ ๆ เขาก็หนั ไปมองชายตาบอดที่นงั่ อยู่
ข้างเขา รู ปร่ างของสองคนนี้คงแตกต่างกันมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่
บรรยากาศสิ้ นหวังที่รอบดวงตานั้นเหมือนกันอย่างน่าตกใจ และ
เครื่ องหน้าบางชิ้นยังคล้ายกันด้วย
พวกเขาเป็ นคนคนเดียวกันใช่ไหม?
บนจอ ฉางกูร่างสู ง หน้าตาหล่อเหลา และนิ่งเฉย แต่วา่ ชายตาบอด
ข้างเฉินเกอนั้นชรา น่าเกลียด และขาดสารอาหารเหมือนป่ วยด้วย
โรคร้ายแรง
ตามข่าวลือที่บนอินเตอร์เนต ฉางกูน่าจะตายไปในกองเพลิงหรื อถูก
ขังเอาไว้ในหนังของตัวเอง…
เฉินเกอคิดกลับไปถึงข้อมูลที่เขาเจอบนออนไลน์ และดวงตาของเขา
ก็ตกลงที่ดวงตามืดบอดของชายข้างตัวที่หลับแน่น
เป็ นไปได้ไหมว่าเขาเป็ นคนสร้างข่าวลือพวกนั้นขึ้นมาเอง? เขา
ต้องการหายตัวไปจากสายตาของสาธารณะชน?
เฉินเกอกอดเจ้าแมวขาวเอาไว้พลางพิจารณาทุกอย่างอย่างสงบ ไม่วา่
ชายตาบอดจะเป็ นฉางกูหรื อไม่ มันก็ไม่สาํ คัญ อย่างไรเสี ย เขาก็จบั
จองโรงละครส่ วนตัวนี่เอาไว้แล้ว ในหนัง ฉางกูน้ นั ตัวสู งใหญ่ ต่าง
ไปจากชายตาบอดข้างตัวเฉิ นเกอโดยสิ้ นเชิง ถ้าไม่เพราะเฉิ นเกอนั้น
ให้ความสนใจกับรายละเอียด เขาก็คงเชื่อมโยงมันไม่ได้
หนังยังดําเนินต่อ เหวินอวี้ตามฉางกูไป บางทีมนั อาจจะเป็ น
สัญชาตญาณของผูห้ ญิงหรื ออะไรสักอย่าง แต่วา่ เธอรู ้สึกว่าฉางกูผนู ้ ้ ี
นั้นสําคัญกับเธอมาก แต่วา่ เห็นได้ชดั ว่าฉางกูน้ นั จงใจรักษาระยะห่าง
กับเหวินอวี้ จากปฏิกิริยาหลายอย่างของเขา มันไม่ใช่เพราะเขาเกลียด
เธอ
สี หน้าของเขาตอนที่มองเหวินอวี้น้ นั ประหลาดมาก ส่ วนใหญ่แล้ว
มันเหมือนมองคนแปลกหน้า แต่บางครั้ง มันกลับปรากฏร่ องรอย
อ่อนโยนออกมา ทั้งสองคนยืนอยูท่ ี่ประตูหลังโรงพยาบาลพูดคุยกัน
พวกเขาเพิ่งคุยกันได้ไม่กี่คาํ ตอนที่มีเสี ยงฝี เท้าดังมา และชายวัย
กลางคนค่อนข้างอ้วนคนหนึ่งก็วงิ่ ออกมา
เห็นเขาแล้ว ฉางกูกถ็ อดเสื้ อคลุมของเขาออก โยนมันไปด้านข้าง
และจากนั้นก็วงิ่ เข้าไปในตรอกใกล้ ๆ ไม่วา่ เหวินอวี้จะร้องเรี ยกเขา
เท่าไหร่ เขาก็ไม่หนั กลับมา
“เธอเห็นผูช้ ายผอม ๆ สู ง ๆ คนหนึ่งวิง่ มาทางนี้ไหม?” หลังจากชาย
วัยกลางคนคนนั้นออกมาจากประตูหลัง สายตาของเขาก็จบั จ้องไป
ยังเสื้ อคลุมสี ขาวที่บนพื้น
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
“ผูช้ ายคนนั้นเป็ นหัวขโมย ทําผิดซํ้าแล้วซํ้าเล่า! เขามักจะแอบเข้าไป
ในโรงพยาบาลของเรา!” ชายวัยกลางคนคํารามลอดไรฟัน
“หัวขโมย? เขา… เขาไม่ใช่หมอเหรอคะ?” เหวินอวี้มองเสื้ อคลุมที่
ชายคนนั้นหยิบขึ้นมาแล้วเธอก็ตกใจ
“อย่าไปเชื่อคําพูดที่ออกจากปากเขา ผูช้ ายคนนั้นเป็ นหัวขโมย เป็ น
คนขี้โกหก แล้วยังเป็ นบ้าด้วย เพื่อความปลอดภัย เธออยูใ่ ห้ห่างจาก
เขาจะดีกว่า” ชายวัยกลางคนเตือนแล้วก็จะเดินกลับไป
“รอเดี๋ยวค่ะ” เหวินอวี้ร้ ังเขาเอาไว้ “หนูมาที่นี่เพื่อสมัครเข้า
มหาวิทยาลัย คุณเคยได้ยนิ ชื่อมหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียงไหมคะ? ที่
อยูบ่ นออนไลน์ที่หนูได้มาพาหนูมาที่นี่”
“เคยมีมหาวิทยาลัยตั้งอยูท่ ี่นี่มาก่อน แต่วา่ มันทิ้งร้างไปนานแล้ว
ใบปลิวที่เธอเห็นน่าจะเป็ นของเมื่อหลายปี ก่อน” ชายวัยกลางคนดู
ค่อนข้างเป็ นมิตร เขาหยุดเพื่อตอบคําถามของเหวินอวี้
“ทิ้งร้างไปแล้ว? อย่างนั้น คุณรู ้ไหมคะว่าทําไมมันถึงกลายเป็ นแบบ
นั้น?” ในที่สุดเหวินอวี้กพ็ บคนที่เชื่อถือได้ ดังนั้นเธอจึงถามต่อ
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจ แต่วา่ เธอน่าจะรู ้เรื่ องมากขึ้นถ้าไปที่เขาหยงหลิง
ตอนนั้นมหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียงแยกออกเป็ นสองวิทยาเขต วิทยา
เขตปกติและโรงเรี ยนภาคคํ่า” เขาไม่ได้ปิดบังข้อมูลอะไรและบอก
ทุกอย่างที่รู้ออกมา “วิทยาเขตปกติสาํ หรับนักศึกษาที่สาํ เร็ จการศึกษา
แล้ว และโรงพยาบาลของเราก็เป็ นส่ วนหนึ่งของวิทยาเขตนี้ มันไม่ได้
ต่างไปจากมหาวิทยาลัยปกติ
“การเปิ ดโรงเรี ยนภาคคํ่าน่ะเป็ นการตัดสิ นใจที่ผดิ จิ่วเจียงก็ใหญ่แค่
นี้ ดังนั้นจึงมีจาํ นวนนักเรี ยนที่ไปเรี ยนได้จาํ กัด นักเรี ยนจากพื้นที่อื่น
ข้างนอกก็นอ้ ยครั้งที่จะข้ามเมืองมาเพื่อเข้าเรี ยนมหาวิทยาลัยเอกชน
ที่ไม่ได้มีชื่อเสี ยงมากนัก เมื่อมีนกั เรี ยนน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่จึงไม่ได้
ใช้งาน ดังนั้นฝ่ ายการจัดการจึงเปลี่ยนมันไปเป็ นโรงเรี ยนภาคคํ่า
“วิทยาเขตภาคคํ่าอยูต่ ิดกับวิทยาเขตปกติ แต่วา่ มันใกล้กบั เขาหยงหลิง
มากกว่า โรงเรี ยนภาคคํ่าของมหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียงนั้นเน้นรับ
สมัครผูใ้ หญ่ที่อยากจะศึกษาต่อและพวกหนุ่มสาวที่อยากจะกลับไป
เรี ยนต่อหลังจากหยุดเรี ยนไป”
หลังจากหมอคนนี้อธิบาย เขาก็เดินเข้าไปในเงาเพื่อไม่ให้แสงแดด
สาดส่ องใส่ “ฉันก็จาํ รายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่วา่ เธอสามารถอ่าน
ข้อมูลพวกนี้ได้ในห้องเอกสารของโรงพยาบาล ตอนนี้พวกเรามีคน
ไม่มาก ดังนั้นฉันจะพาเธอไปที่นนั่ แล้วกัน”
“คุณจะพาหนูไปที่หอ้ งเอกสาร?” เหวินอวี้มองโรงพยาบาลที่วา่ งเปล่า
ด้านในสะอาดมากและเงียบมากเหมือนไม่มีใครอยูเ่ ลยสักคน “ได้
ค่ะ…”
ก่อนที่จะทันพูดจบ เหวินอวี้กย็ กมือขึ้นปิ ดดวงตาข้างซ้าย เมื่อครู่ น้ ีจู่ ๆ
มันก็เหมือนมีเข็มจิ้มลูกตาของเธอซึ่งไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว
“หนูขอโทษนะคะ แต่วา่ หนูรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หนูจะกลับมาใหม่
วันหลัง แต่กต็ อ้ งขอบคุณมากนะคะสําหรับความช่วยเหลือ” เหวิน
อวี้ยงั กุมอยูท่ ี่ดวงตาของเธอแล้วกล่าวขอบคุณหมอตรงหน้า
“ยินดี ๆ” ชายวัยกลางคนยิม้ แล้วหันกลับเข้าไปในโรงพยาบาล
“บนโลกนี้กย็ งั มีคนดี ๆ อยูม่ าก” เหวินอวี้มองเข้าไปในตรอกแคบ
บางอย่างไม่ถูกต้อง มันบ่ายแล้ว แต่ไม่มีใครอยูแ่ ถวนี้เลย มันเหมือน
คนที่นี่รู้วา่ ควรจะอยูห่ ่างจากตรงนี้
“โรงเรี ยนภาคคํ่าก็อยูแ่ ค่น้ ีแล้ว แต่ในเมื่อหมอไม่ได้ให้ตาํ แหน่งที่อยู่
แน่นอนมา ฉันก็คงต้องเดินหาต่อ” เพราะความสงสัยบางอย่าง เหวิน
อวี้เดินเข้าไปในตรอก หลังจากที่เดินเข้าไปไม่กี่กา้ วก็มีคนเรี ยกชื่อ
เธอจากตรงมุม
“เธอไม่ตอ้ งหาต่อหรอก– เธอหาโรงเรี ยนนัน่ ไม่เจอ” ฉางกูเอนตัว
พิงกําแพงอยู่ หมอวัยกลางคนเพิ่งบอกเหวินอวี้วา่ ฉางกูน้ นั เป็ นคน
โกหกและเป็ นคนเสี ยสติ ดังนั้นตอนที่เธอเห็นฉางกูปรากฏตัวขึ้น
เธอก็กลัวที่จะต้องเข้าใกล้เขา
อย่างไรเสี ย ผูช้ ายคนนี้กไ็ ม่ได้ดูน่าเชื่อถือกว่าหมอวัยกลางคน และ
สิ่ งที่เฉินเกอกูทาํ ก่อนหน้านี้กน็ ่าสงสัยจริ ง ๆ
เห็นท่าทางของเหวินอวี้เปลี่ยนไป ฉางกูกห็ รี่ ตาแล้วเดินเข้าไปหาเธอ
“เจ้าสิ่ งนั้นที่ออกมาจากโรงพยาบาลเมื่อกี้ มันบอกอะไรเธอ?”
“เจ้าสิ่ งนั้น?” เมื่อฉางกูเดินเข้าไปหาเธอ เหวินอวี้กก็ า้ วเท้าถอยไป
ก้าวหนึ่ง “เขาบอกว่าคุณเป็ นขโมย”
“เธอจะเชื่อผีหรื อว่าเชื่อคนเป็ น ๆ?” ฉางกูยนื อยูต่ รงหน้าเหวินอวี้
และเขาก็ดูคล้ายกับเหวินอวี้มาก
“ผี?”
“ใช่ ผีที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตอนกลางวัน” ฉางกูบีบเหวินอวี้จน
มุม “มันบอกเธอใช่ไหม ว่าฉันเป็ นขโมย เป็ นคนโกหก แล้วก็เป็ น
คนบ้า?”
เหวินอวี้คิดว่าฉางกูน่ะน่ากลัวมาก แต่เธอก็ยงั พยักหน้า
“มันเชิญเธอเข้าไปในโรงพยาบาลใช่ไหม?” เหวินอวี้คิด หมอคนนั้น
เสนอจะพาเธอเข้าไปในห้องเก็บเอกสาร
“โชคดี ที่เธอไม่ได้ตามเข้าไป ถ้าเธอตามเข้าไป เธอก็คงไม่สามารถ
หนีออกมาทั้งเป็ นได้หรอก” ฉางกูส่งบันทึกการรักษาแผ่นหนึ่งให้
เหวินอวี้ บนนั้นมีรูปขาวดําของหมอคนนั้นอยู่
Chapter 722 แลกเปลีย่ นดวงตา
ฉางกูเล่าเรื่ องที่น่ากลัวมาก ๆ ให้เหวินอวี้ฟัง หมอคนก่อนหน้านี้โดย
ทางเทคนิคแล้วเขาโกหกเหวินอวี้ แต่วา่ เขาก็หลุดรายละเอียดที่
สําคัญมากออกมาสองอย่าง
อย่างแรก โรงพยาบาลนั้นปิ ดตัวลงเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้
และไม่มีใครรู ้เหตุผลที่แท้จริ ง ที่น่าสงสัยก็คือ หลังจากโรงพยาบาล
ปิ ดตัวไปแล้ว คนที่อยูใ่ กล้ ๆ นี่กย็ งั เห็นโรงพยาบาลทําการตามปกติ
มีคนเดินไปเดินมาทั้งกลางวันกลางคืน
สอง หมอคนนี้เองก็น่าสงสัย เขาต่างไปจากผีทวั่ ๆ ไป เขาสามารถ
เคลื่อนไหวได้ในตอนกลางวันและยังไม่กลัวแสงอาทิตย์ ฉางกูน้ นั
ไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าหมอคนนั้นเป็ นตัวตนแบบไหนกันแน่–
เขาแค่บอกเหวินอวี้วา่ สิ่ งนั้นหรื อคนผูน้ ้ นั ที่ทาํ ให้ดวงตาข้างซ้ายของ
เธอเจ็บปวดน่าจะมาจากมหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียง
คําอธิบายระหว่างวิทยาเขตปกติกบั วิทยาเขตภาคคํ่าของหมอคนนั้น
ก็เป็ นความจริ ง แต่วธิ ีการเข้าไปในวิทยาเขตร้างนั้นไม่ใช่เข้าลึกไป
ในภูเขาหยงหลิง
ฉางกูน้ นั เหมือนเป็ นคนที่มีความผิดติดตัวหนีคดี พอเขาพูดถึงตรงนี้
เขาก็หนั หลังกลับจากไป ทิ้งเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งเอาไว้ให้เหวิน
อวี้และบอกเธอว่า ถ้าเธอต้องการไปมหาวิทยาลัยเอกชนจิ่วเจียง
ตอนกลางคืน ก็ให้เธอโทรศัพท์ไปที่เบอร์น้ ี
ฉากนั้นจบลงที่ตรงนี้ ภาพสะดุดเล็กน้อย และเมื่อภาพกลับมา
ท้องฟ้าในฉากก็มืดแล้ว
มีคนตัดเนื้อหาส่ วนหนึ่งออกไป หรื อว่าคนที่ในหนังไม่ตอ้ งการให้
ฉันเห็นสิ่ งที่เกิดขึ้นระหว่างนั้น?
ในความมืด เหวินอวี้ถือโทรศัพท์กบั กระเป๋ าสะพายหลังเอาไว้ มอง
ไปตามตรอก เธอหยุดอยูท่ ี่โรงพยาบาลเดียวกับเมื่อเช้านี้ เธอกดโทร
และกระซิบสองคําก่อนที่จะตัดสายอย่างรวดเร็ ว “มาแล้ว”
สิ บนาทีให้หลัง หน้าต่างทางซ้ายของโรงพยาบาลก็ถูกผลักเปิ ดจาก
ด้านใน และหมอร่ างผอมสู งคนหนึ่งในชุดเสื้ อคลุมสี ขาวก็โบกมือ
ให้เหวินอวี้ หลังจากเหวินอวี้แอบเข้าไปในโรงพยาบาลแล้ว หมอ
คนนั้นก็ให้เธอเปลี่ยนไปใส่ ชุดพยาบาลจากนั้นก็นาํ เธอออกจากห้อง
ภาพที่เห็นหลังจากนั้นแปลกมาก และมันก็มีความเป็ นผูก้ าํ กับฉางกู
อยูเ่ ต็มไปหมด
ในโรงพยาบาล ผูค้ นเต็มไปหมด บางคนกําลังรอหมอ บางคนกําลัง
รอรับยา มีผปู ้ ่ วยที่มีเฝื อกอยูท่ ี่ขาเดินผ่านไปช้า ๆ และทุกอย่างก็ดู
เหมือนโรงพยาบาลทัว่ ไป ความแตกต่างเดียวก็คือไม่มีไฟดวงไหน
เปิ ดเลย ผูป้ ่ วยและหมอทุกคนเคลื่อนไหวอยูใ่ นความมืด ความมืดดู
เหมือนจะไม่ได้มีผลกระทบกับพวกเขามากนัก พวกเขาดูไม่เหมือน
เป็ นส่ วนหนึ่งของโลกที่มีชีวติ เงาเคลื่อนไปในความมืดราวกับฉาย
ให้เห็นถึงอีกโลกที่ต่างไป
“มาตรงนี้” หมอนําเหวินอวี้เข้าไปในห้องผ่าตัดจากนั้นก็ลอ็ กประตู
“ตอนนี้ คุณก็บอกฉันได้แล้วใช่ไหมคะถึงวิธีที่จะเข้าไปในโรงเรี ยน
นัน่ ?” เหวินอวี้ถอดผ้าปิ ดปากออกแล้วสู ดลมหายใจลึก หมอผูช้ ายก็
ถอดผ้าปิ ดปากของตัวเองเช่นกัน และเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉาง
กู เขาคว้าแขนเหวินอวี้และนําเธอไปที่โต๊ะผ่าตัด
โต๊ะผ่าตัดดูต่างไปจากโต๊ะผ่าตัดทัว่ ไป เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย
ว่ามีไว้ทาํ การผ่าตัดชนิดใดแน่
“วิธีเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้กค็ ือแก้จากต้นตอ และนัน่ ก็คือ…” ฉางกู
หยิบมีดผ่าตัดคมกริ บขึ้นมาจากถาด “เอาดวงตาข้างซ้ายของเหวินอวี้
ออกและหาเจ้าของใหม่ให้มนั ”
เสี ยงของฉางกูน้ นั น่ากลัว และมันก็ทาํ ให้เหวินอวี้ผงะถอยไปจน
กระแทกเข้ากับโต๊ะที่ดา้ นหลัง “คุณจะควักตาฉันออกไป?”
“มันคือดวงตาของเหวินอวี้ เธอไม่ใช่เหวินอวี้ เธอเป็ นเหยือ่ ที่ถูกกัก
เอาไว้ในร่ างนี้ ฉันจะคืนอิสระให้เธอ แต่ฉนั ต้องการความร่ วมมือ
จากเธอด้วย”
“หมอคนนั้นพูดถูก คุณมันบ้าไปแล้ว!” เหวินอวี้คว้ากระเป๋ าตัวเอง
แล้วมุ่งหน้าไปยังประตู “ฉันจะกลับออกไปเดี๋ยวนี้!”
“ถึงเธอจะเห็นเงาที่ดา้ นนอกนัน่ แล้วก็ยงั ไม่เชื่อฉันอีกเหรอฮึ? เงา
พวกนั้นทําเหมือนพวกเขายังมีชีวติ เป็ นปกติ ฉันแน่ใจว่าเธอเห็น
พวกเขาชัดกว่าที่ฉนั เห็น ดังนั้นเธอน่าจะ…”
“คุณไม่ใช่ฉนั คุณจะรู ้ได้ยงั ไงว่าฉันเห็นอะไร?”
เหวินอวี้ไปถึงประตูแต่ถูกฉางกูขวางเอาไว้ “ฉันไม่ใช่เธอ แต่วา่ ฉัน
คุน้ เคยกับเจ้าของร่ างแท้จริ งของเธอ! ฉันเป็ นพี่ชายของเหวินอวี้!”
ได้ยนิ คําประกาศนี้ เหวินอวี้กน็ ิ่งไป เธอมองฉางกูอยูน่ านมากก่อนที่
จะพูดขึ้น “แต่ฉนั ไม่เคยได้ยนิ เหวินอวี้พดู ถึงว่าเธอมีพี่ชายเลยสักครั้ง”
คําตอบของเธอนั้นเป็ นการยืนยันทางอ้อมว่าเธอไม่ใช่เหวินอวี้
“เธอมองเห็นคนตายด้วยดวงตาข้างซ้ายของเธอ และฉันเชื่อว่าเธอ
เห็นคนตายทั้งหมดที่บา้ นนัน่ แล้ว ก่อนที่เหวินอวี้จะเสี ยสติไป ฉัน
เป็ นคนพาเธอหนีเอง” ฉางกูหงุดหงิด ตอนที่เขากําลังจะอธิบาย
ความจริ งทั้งหมด หนังก็ถูกตัดไป
หนังสยองขวัญถูกตัดไปตอนที่อยูใ่ นโรงละครมืด ๆ ตอนตีสามนั้น
ย่อมบ่งบอกได้วา่ มีบางอย่างที่น่ากลัว แต่ไม่มีคนดูคนไหนหวาดกลัว
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ? เทปถูกตัดเหรอ? บอส!”
“นี่เป็ นโรงหนัง ไม่ใช่อินเตอร์เนตคาเฟ่ แถวโรงเรี ยนเสี ยหน่อย ใจ
เย็นน่า”
“แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นอ้ะ?”
เหล่าพนักงานถกเถียงกัน มีเพียงคนเดียวที่ไม่สนุกสนาน และนัน่ ก็
คือชายตาบอดที่ขา้ ง ๆ ฟางหยวน เสี ยงแหลม ๆ ก้องไปมาในโรง
ละคร และสายลมเย็นก็พดั มา แต่วา่ ชายตาบอดนั้นอยูท่ ่าเดิม ศีรษะ
ก้มตํ่า เหมือนเขาหลับไปแล้ว
พวกเขารออยูส่ ามนาทีเต็มกว่าหนังจะกลับมาฉาย แต่วา่ ฉากก็
เปลี่ยนไปอีกครั้งแล้ว และภาพยังชัดขึ้นกว่าเดิมด้วย มันทําให้รู้สึก
เหมือนหนังถูกเปลี่ยนไปเป็ นอีกเรื่ องหนึ่ง
“ไม่มีใครอยูใ่ นห้องฉายหนังแต่วา่ หนังที่พวกเรากําลังดูอยูเ่ ปลี่ยนไป
ด้วยตัวเอง ผูท้ ี่ซ่อนอยูใ่ นโรงละครนี่น่าจะรู ้สึกเหมือนถูกคุกคาม
และจงใจปิ ดบังบางอย่างเอาไว้” ยิง่ พวกเขาอยากซ่อน เฉิ นเกอก็ยงิ่
อยากจะขุด จากมุมมองของเขา มีแค่รู้ทุกอย่างเขาถึงจะสามารถหา
ต้นกําเนิดของปั ญหาและช่วยพวกเขาแก้ปัญหาได้
หนังเปลี่ยนไปฉายภาพบ้านใหญ่โตหลังหนึ่ง เหวินอวี้นอนแผ่อยูท่ ี่
โต๊ะกินข้าว ศีรษะของเธอมีผา้ พันแผลพันเอาไว้ และมันก็รัดแน่นอยู่
บนดวงตาข้างซ้ายของเธอ ชายหนุ่มที่หลังโก่งนิด ๆ นัง่ อยูท่ ี่โต๊ะด้วย
ใบหน้าของเขาก็มีผา้ พันแผลพันเอาไว้เช่นกัน และมันก็พนั แน่นอยู่
บนดวงตาข้างซ้ายเหมือนกันด้วย
ผูช้ ายคนนั้นมองเหวินอวี้เงียบ ๆ หลายวินาทีให้หลัง ผ้าพันแผลรอบ
ดวงตาข้างซ้ายของเหวินอวี้กช็ ุ่มไปด้วยเลือด เลือดซึ มออกมาบน
ผ้าพันแผลสี ขาวเหมือนดอกไม้เลือดกําลังคลี่บาน
“นี่เป็ นสัปดาห์ที่สองหลังจากการเปลี่ยนดวงตาแล้ว ทําไมมันถึงยัง
ไม่ได้ผล? พวกเราเป็ นพี่นอ้ งโดยสายเลือดและมีเลือดหมู่เดียวกัน–
ทําไมถึงมีความต่อต้านของร่ างกายเยอะขนาดนี้?” ผูช้ ายคนนั้นเริ่ ม
กระวนกระวาย และเมื่อใดก็ตามที่มีเลือดซึ มออกมาจากเบ้าตาของ
เหวินอวี้ ผ้าพันแผลรอบใบหน้าของเขาก็จะชุ่มไปด้วยเลือดเหมือน
ดวงตาของเขานั้นตอบรับสัญญาณบางอย่างที่เหวินอวี้ส่งออกมา
รอบดวงตานั้นมีเส้นประสาทมากมายและมันก็ทาํ ให้ชายคนนี้
เจ็บปวดอย่างสุ ดแสน
ร่ างกายของเขาสัน่ และมือของเขาก็กาํ ขอบโต๊ะแน่น “ความเจ็บปวด
นี่รุนแรงกว่าเมื่อวาน บาดแผลไม่มีท่าทีจะฟื้ นฟูเลยสักนิด! ปั ญหา
คืออะไรกันแน่?”
เขาเปิ ดตูท้ ี่ในห้องนัง่ เล่นซึ่งเต็มไปด้วยเครื่ องมือแพทย์นานาชนิด
ตอนที่เขาค้นไปทัว่ เหวินอวี้กย็ งั อยูท่ ี่โต๊ะนัน่ ไม่กระดุกกระดิก
เหมือนเธอทําวิญญาณหลุดหายไป
Chapter 723 เธอจะออกมาไหม?
ผูช้ ายคนนั้นค้นทัว่ ตู ้ ดวงตาของเขามองเห็นแค่ขา้ งเดียว ความเจ็บปวด
พุง่ ตรงเข้าสมองของเขา และกริ ยาของเขายิง่ มาก็ยงิ่ ควบคุมไม่ได้
แขนของเขาถูกอะไรไม่รู้บาด เกิดเป็ นแผลยาวดูน่าขนลุก
เลือดไหลลงไปตามแขนของเขาก่อนที่จะหยดลงบนพื้นกระเบื้อง
สะอาด ภาพของผูห้ ญิงชุดแดงคนหนึ่งปรากฏขึ้นในแอ่งเลือด เลือด
เริ่ มเปลี่ยนไปเหมือนมีคนกําลังเขียนอักษรเลือด
“ด้วยวิธีการของแก แกไม่มีวนั หาทางไปโรงเรี ยนนัน่ เจอ แกทํา
ล้มเหลวแล้ว แกโกหกฉัน แกให้อิสระฉันไม่ได้ และตอนนี้ชีวติ ของ
แกก็กาํ ลังนับถอยหลังเพราะเรื่ องนั้นแล้ว”
ความเจ็บปวดรุ มเร้าชายหนุ่มมากขึ้น ของในตูห้ ล่นลงพื้น เขาหลับตา
และโลกก็มืดลง ร่ างของเขากระแทกเข้ากับเครื่ องเรื อน และแขนของ
เขาก็กวัดไกวไปมาอย่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เขาดูเหมือนกําลังจะ
จมนํ้า ยาและอุปกรณ์อื่น ๆ กระจายเต็มพื้น ชั้นหนังสื อล้มลงมา
และตําราหลายเล่มที่เกี่ยวกับดวงตาก็หล่นลงมาที่ขา้ งเท้าของเขา
“ของเหลวในดวงตาซึมออกมา ขอบแผลเปื่ อยยุย่ เส้นประสาทกําลัง
จะตาย และความไวแสงลดลง มันกระทบกับดวงตาเดิมของฉันด้วย
มันเหมือนมีบางอย่างสู ก้ บั มันอยู่ และมันก็ลืมตายากขึ้นเรื่ อย ๆ !”
ดวงตาของชายผูน้ ้ นั ปิ ดแน่น เขาเป็ นเพียงคนเดียวในห้อง แต่เขาตะโกน
สุ ดเสี ยงเหมือนกําลังพูดกับคนอื่น “แต่เธอไม่ตอ้ งห่วง ตราบใดที่ฉนั
ยังมีชีวติ อยู่ มันก็มีโอกาสที่จะดีข้ ึนได้!”
ดวงตานั้นเป็ นหน้าต่างของจิตใจ เมื่อดวงตาของคนผูห้ นึ่งลืมเปิ ด
ไม่ได้ โลกที่ดา้ นในก็กลายเป็ นมืดดํา ผูช้ ายคนนั้นราวกับสัตว์ร้ายสัก
ตัว ร้องคํารามจากความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทัว่ ร่ างจนกระทัง่ ล้ม
ลงด้วยความอ่อนแรงและหมดสติไปที่ขา้ ง ๆ โต๊ะกินข้าว
แสงที่ในห้องกะพริ บและสลัวลง ห้องดูเหมือนจะเปลี่ยนไป รอยเลือด
ที่บนพื้นเปลี่ยนเป็ นสี น้ าํ ตาลเข้มเหมือนสะเก็ดแผลแห้ง ๆ ในความ
เงียบสงัดนี้ ผูห้ ญิงสวมเสื้ อคลุมสี แดงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในห้อง
เธอดูต่างไปจากเหวินอวี้ แต่วา่ กลับไปคล้ายกับชิวเหมยจากในเรื่ อง
เพื่อนร่ วมโต๊ะ ผูห้ ญิงคนนี้เดินไปยืนอยูร่ ะหว่างชายหนุ่มกับเหวินอวี้
เงียบ ๆ เธอหยิบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่ตกลงมาจากชั้นหนังสื อขึ้นมา
ปกมีเลือดเปื้ อน และเมื่อพลิกเปิ ดหน้าปก ที่หน้าแรกนั้นมีชื่อหนึ่ง
เขียนเอาไว้ดว้ ยสี แดง– ชิวเหมย
ครึ่ งแรกของสมุดบันทึกนั้นเขียนด้วยปากกาสี ดาํ แต่วา่ ครึ่ งหลังเป็ น
สี แดงทั้งหมด เธอพลิกไปที่สองสามหน้าสุ ดท้าย
สามสิ บพฤศจิกายน : ผูห้ ญิงในชุดแดงคอยมารบกวนการผ่าตัด
เหมือนกับหากเปลี่ยนดวงตาแล้วเธอจะหายไปตลอดกาล ดูเหมือนว่า
ฉางกูจะไม่ได้โกหกฉัน– ในที่สุดฉันก็จะหนีพน้ จากการทรมานของ
ผีตนนี้
หนึ่งธันวาคม : ผูห้ ญิงในชุดแดงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง หลายปี ก่อน ก็
เป็ นเธอที่ลากฉันเข้ามาในร่ างเหวินอวี้ให้ฉนั กลายเป็ นเหวินอวี้คน
ต่อมา เธอไม่ใช่เพือ่ นฉัน ถึงแม้วา่ เธอจะอยูใ่ กล้ ๆ ฉัน
สองธันวาคม : การผ่าตัดเสี่ ยงเกินไปและนัน่ ก็ยงั ไม่นบั การรบกวน
จากสิ่ งเหนือธรรมชาติดว้ ย เหมือนคนบ้า เธอเอาแต่พยายามจะหยุด
การผ่าตัดนี้ มันเหมือนว่าวิธีการของฉางกูจะสามารถหยุดความ
เจ็บปวดทั้งมวลได้จริ ง ๆ
สามธันวาคม : ตราบใดที่ผยี งั อยูท่ ี่นี่ การผ่าตัดก็ไม่สามารถดําเนิน
ไปได้ตามปกติ ดังนั้นพวกเราจึงทําได้แค่ขงั เธอไว้ ฉันไม่พดู กับเธอ
มาหลายปี แล้ว ดังนั้นคราวนี้ ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องเล่นเกมกับเธอ
เสี ยหน่อย
สี่ ธนั วาคม : การผ่าตัดสําเร็ จ ผีร้ายชุดแดงที่เอาแต่ตามฉันนั้นหายไป
แล้ว แต่วา่ ฉันก็ไม่เคยคิดว่ามันจะหายไปด้วยวิธีการเช่นนี้ หลังจาก
ผ่าตัด ฉันกลายไปเป็ นวิญญาณสี เลือดตนใหม่
ห้าธันวาคม : ครั้งแรกที่ฉนั เชื่อถือใครสักคนนอกเหนือไปจากย่าของ
ฉัน ฉันก็สูญเสี ยอิสรภาพของตนเองและกลายไปเป็ นแพะรับบาป
ครั้งที่สองที่ฉนั เชื่อถือคนอื่น ฉันสู ญเสี ยกระทัง่ เปลือกที่ฉนั ซ่อนตัว
อยู่ แล้วตอนนี้ฉนั จะทําอะไรได้? เชื่อเขาเป็ นครั้งที่สาม? หรื อว่า…
บันทึกจบลงที่ตรงนี้ ผูห้ ญิงในชุดแดงวางสมุดกลับลงไป เธอเอนตัว
ไปด้านข้าง มองพิจารณาฉางกู เส้นผมสี ดาํ ของเขาไหวขึ้นนิด ๆ ราว
กับมีลมเป่ า ดวงตาข้างขวาของผูห้ ญิงคนนี้น้ นั แดงกํ่า แต่วา่ ดวงตา
ข้างซ้ายนั้นเป็ นโพรงสี ดาํ กระทัง่ เธอกลายไปเป็ นวิญญาณสี เลือด
เธอก็ไม่สามารถฟื้ นฟูดวงตาข้างซ้ายของเธอได้
แสงที่ในห้องสลัวลงอีก และเสี ยงลูกแก้วกระทบกันก็ดงั มาจากบน
เพดาน เสี ยงนํ้าดังมาจากในห้องนํ้า และปากกาก็กลิ้งไปบนพื้น มีด
ปอกผลไม้บนโต๊ะกาแฟขยับได้ดว้ ยตัวเอง มือซี ดขาวข้างหนึ่งเอื้อม
ออกมาจากใต้เสื้ อสี แดงและผูห้ ญิงคนนั้นก็จบั ใบมีดเอาไว้ดว้ ยสอง
นิ้ว
เธอยืนอยูต่ รงหน้าชายที่หมดสติและชูมีดให้แกว่งไกวอยูเ่ หนือศีรษะ
เขา เล็งไปยังดวงตาข้างขวาของเขาซึ่ งไม่ได้มีผา้ พันแผลหุม้ อยู่ ตอน
ที่เธอกําลังจะปล่อยนิ้ว จู่ ๆ เธอก็หยุดเหมือสัมผัสถึงบางอย่างที่ใน
ห้องได้
เธอหันกลับ และเส้นผมของเธอก็แยกออก ตรงที่ควรเป็ นลูกตาของ
เธอที่กลวงเปล่านั้นมองตรงเข้ามาในกล้อง เหมือนเธอกําลังมองมาที่
ผูช้ มที่หน้าจอ ในโรงเริ่ มมีการเคลื่อนไหวประหลาด– มีเสี ยงฝี เท้า
แทรกเข้ามาในเสี ยงเพลง
มีเสี ยงประหลาดดังอยูใ่ นบ้านที่บนจอด้วยเหมือนกัน มันดังมาจาก
ส่ วนลึกของตู ้ จากใต้เตียง และจากด้านหลังประตู มันดังต่อเนื่อง
เรื่ อย ๆ และยังสร้างความรู ้สึกเหมือนมีเสี ยงแบบเดียวกันนั้นเกิดขึ้น
ในชีวติ จริ งด้วย!
หูของแต่ละคนนั้นบอกไม่ได้อีกต่อไปแล้วว่าเสี ยงมาจากบนจอหรื อ
ว่าด้านหลังตัวเอง
แสงไฟจู่ ๆ ก็กะพริ บ และผูห้ ญิงที่อยูใ่ กล้จอ เธอเคลื่อนไหวไม่ชา้
เลย เธอดูเหมือนกําลังยืนนิ่งอยู่ แต่หนึ่งนาทีให้หลัง ตอนที่เฉินเกอ
เพ่งตามองอีกครั้ง ระยะห่างระหว่างเธอกับหน้าจอก็หดลงมากขึ้น!
ความประหลาดที่ในจอและนอกจอเริ่ มซ้อนทับกันช้า ๆ และมันก็
สร้างความรู ้สึกประหลาดในหมู่ผชู ้ ม มันเหมือนกับว่าพวกเขากําลัง
จมเข้าไปในหนัง กลายเป็ นส่ วนหนึ่งของมัน หรื อหน้าจอหนังนั้น
ค่อย ๆ กลายเป็ นส่ วนหนึ่งของชีวติ จริ งอย่างช้า ๆ และผีที่ดา้ นในนั้น
ก็จะออกมาจริ ง ๆ
เสี ยงเพลงดังขึ้น และมันก็เหมือนมีคนเป่ าลมเข้าไปในหูพวกเขาทุก
คน
ผูห้ ญิงคนนั้นมาถึงที่ขอบจอแล้ว และแสงไฟในโรงละครก็สลัวที่สุด
เท่าที่พวกเขาเคยเห็น เบ้าตากลวงเปล่านั้นแนบติดอยูก่ บั จอ และ
ความว่างเปล่านัน่ ก็จบั จ้องตรงมาที่ผชู ้ มที่หน้าจอ
มีดปอกผลไม้ที่มีเลือดชุ่มเล็งออกมาข้างนอกและกลิ่นเลือดก็กาํ จาย
ไปทัว่ โรงละครที่ปิดทึบ แรกเลย เป็ นเสี ยงที่ซอ้ นทับกัน ต่อมาก็
กลิ่นเลือด ตอนที่ผชู ้ มรู ้สึกสับสนกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น วิญญาณสี
เลือดก็แนบตัวติดกับหน้าจอ
เลือดเหนียว ๆ ไหลย้อยลงไปตามหน้าจอและซึ มออกมาบนยกพื้นที่
ด้านหลังจอ ตอนที่ผชู ้ มรู ้สึกตัว ใบหน้าน่ากลัวนัน่ ก็โผล่ออกมาจาก
หน้าจอแล้ว!
เพลงประกอบนั้นถึงจุดสําคัญพอดี เหมือนคันศรถูกรั้งตึง กลิ่นเลือด
หนาหนัก และฉากที่น่ากลัวที่สุดในโรงหนังในที่สุดก็มาถึง
ผีจากในหนังคลานออกมาจากจอ! เรื่ องผีกลายเป็ นจริ งแล้ว!
ลมหายใจของเขาเปลี่ยนเป็ นกระชั้น และเฉิ นเกอก็กาํ ที่พกั แขนแน่น
ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดเปลี่ยนไปเป็ นสี แดงทันที!
“วิญญาณสี เลือดจากในหนังออกมาแล้ว!” เขาผุดลุกขึ้นและในเวลา
เดียวกับที่วญ
ิ ญาณปรากฏ เขาก็ร้องเสี ยงดัง “จับเธอไว้! อย่าปล่อยให้
เธอหนีกลับเข้าไปในหนังได้!”
Chapter 724 คนอ่อนโยนอย่ างคุณ
การปรากฏตัวของวิญญาณสี เลือดในภารกิจระดับสองดาวนั้นเป็ น
สิ่ งที่เฉินเกอก็ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่มีทางเลือก
พนักงานทั้งหมดที่เขาสามารถพึ่งพาได้ลว้ นอยูก่ บั เขา ไป๋ ชิวหลิน
และผีน้ าํ ทั้งคู่เป็ นกึ่งวิญญาณสี เลือด และด้วยความช่วยเหลือจาก
พนักงานคนอื่น ๆ รั้งวิญญาณสี เลือดจากในหนังเอาไว้ยอ่ มไม่เป็ น
ปัญหา
เฉินเกอนั้นก็แค่ตอ้ งการรั้งวิญญาณสี เลือดเอาไว้ครู่ หนึ่ง ร่ างกายของ
เขาเอนไปทางชายตาบอดข้างตัว เขามีแผนการอยูใ่ นใจแล้ว
พนักงานล้วนตื่นเต้นเป็ นอย่างมากที่เจอเข้ากับเรื่ องเช่นนี้ - นี่เป็ น
ความตื่นเต้นที่ไม่ใช่หนังสามมิติทวั่ ไปจะสามารถลอกเลียนแบบ
ออกมาได้ กลิ่นเลือดกระจายอยูใ่ นโรงละครส่ วนตัวปิ ดทึบ และ
เสี ยงคํารามตํ่าในไม่ชา้ ก็เปลี่ยนไปเป็ นเสี ยงร้องโหยหวน
เลือดไหลลงมาตามหน้าจอ และผูห้ ญิงในชุดแดงก็เดินออกมา เสี ยง
เลือดหยดไม่ได้หยุดลง เธอหันหน้าที่ดวงตาข้างหนึ่งหายไปมาและ
ดวงตาข้างที่เหลืออยูก่ จ็ บั จ้องอยูท่ ี่หญิงสาวที่นงั่ อยูแ่ ถวหน้าที่เงย
หน้าขึ้นช้า ๆ นํ้าและเลือดเปรอะเปื้ อนอยูบ่ นเสื้ อผ้าของเธอ และผม
เปี ยก ๆ ของเธอก็แนบติดกับผิวซีด ๆ ผ่านม่านผมก็จะมองเห็น
ประกายของดวงตาที่บวมอืดจากการแช่อยูใ่ นนํ้านานเกินไป!
ที่นงั่ เปี ยกชุ่ม และแอ่งนํ้าบนพื้นก็ขยายกว้างออกไป พวกเธอคนหนึ่ง
อยูบ่ นยกพื้น อีกคนอยูด่ า้ นล่าง
สําหรับฝ่ ายหนึ่ง นี่เป็ นการดูหนังครั้งแรกของเธอ และจิตใจอันเรี ยบ
ง่ายของเธอก็กาํ ลังทําความเข้าใจในแนวทางของศิลปะชิ้นนี้ อีกฝ่ าย
กําลังงุนงงเพราะนี่เป็ นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับผูช้ มเช่นนี้ เธอมอง
กลับมาด้วยสี หน้าสับสน เหมือนสงสัยว่าอันที่จริ งแล้วเธอยังอยูใ่ น
หนังใช่หรื อไม่
ดวงตาของผูห้ ญิงในชุดแดงในที่สุดก็ขยับไปจากผีน้ าํ แต่ตอนที่เธอ
เห็นผูช้ มที่เหลือในโรงละคร ความงุนงงของเธอก็ยงิ่ เพิม่ ขึ้น ด้านหลัง
ผีน้ าํ นั้นเป็ นคุณหมอแถวหนึ่ง เสื้ อกาวน์สีขาวของพวกเขานั้นปลิว
ไหวอยูใ่ ต้ที่นงั่ และนอกจากความเมินเฉยแล้วก็ไม่มีสีหน้าอื่นใดให้
สังเกตเห็นได้
ถัดจากหมอเป็ นชายที่สวมกางเกงยีนส์เก่า ๆ มือข้างหนึ่งยัดเอาไว้ใน
กระเป๋ าขณะที่อีกข้างยกขึ้นขวางหน้าเฉิ นเกอเอาไว้ และที่น่าประหลาด
ยังมีมืออีกข้างพาดอยูบ่ นไหล่เขาด้วยท่วงท่าสบาย ๆ
เสี ยงกรี ดร้องส่ วนใหญ่น้ นั มาจากเหล่านักเรี ยนที่ในห้อง พวกเขาก่อ
ความวุน่ วายใหญ่โต แต่วา่ นัน่ ก็แค่แสดงไปอย่างนั้น ยิง่ พวกเขาเสี ยง
ดัง พวกเขาก็ยงิ่ เข้าใกล้หน้าจอไปเรื่ อย ๆ
ผูเ้ ข้าชมแถวสุ ดท้ายลุกขึ้นยืน และพวกเขาก็ดูประหลาดยิง่ กว่า ใน
มุมทางซ้ายมือดูเหมือนจะมีคู่รักคู่หนึ่ง ใบหน้าของผูช้ ายนั้นขาว และ
ผูห้ ญิงดูบอบบางเหมือนเธอจะหมดสติไปเมื่อไหร่ กไ็ ด้ กลับกัน ชาย
ร่ างอ้วนสู งสองเมตรเบียดตัวอยูท่ ี่อีกมุมหนึ่ง และเขาก็พยายามเก็บ
กลิ่นเหม็นของตัวเองเอาไว้อย่างสุ ดความสามารถ ถัดจากชายร่ าง
อ้วนเป็ นชายร่ างผอมสู งที่มีเชือกคล้องอยูร่ อบคอ คราวนี้ ผูช้ มนั้น
แตกต่างกันออกไปจนผูห้ ญิงในชุดแดงนิ่งอึ้งไปครู่ ส้ นั ๆ หลังจาก
ออกจากจอมา
มี ‘ทุกคน’ อยูท่ ี่นี่ เฉินเกอจึงใจเย็นเป็ นที่สุด ตั้งแต่ที่ผหู ้ ญิงคนนั้น
ปรากฏตัว เขาก็มองตามเธอด้วยดวงตาหยินหยาง ให้ความสนใจ
อย่างเต็มที่ ไม่ชา้ เขาก็พบว่าตอนที่ผหู ้ ญิงคนนี้ออกจากจอมา สี แดง
บนชุดของเธอก็ซีดลงเล็กน้อย และเห็นได้ชดั ที่สุดที่ตรงรอบหัวใจ–
เลือดที่ตรงนั้นเกือบจะแห้งและหายไป
วิญญาณสี เลือดตนนี้ดูเหมือนจะสามารถปลดปล่อยพลังเต็มที่ของ
เธอได้ตอนที่อยูใ่ นหนังเท่านั้น เมื่อเธอออกมา พลังของเธอก็ลดลง
เป็ นอย่างมาก
เมื่อเข้าใจเช่นนี้ เฉิ นเกอก็มนั่ ใจมากขึ้น อย่างไรเสี ย นี่กเ็ ป็ นแค่ฉาก
ระดับสองดาว
ผีน้ าํ และไป๋ ชิวหลินเผชิญหน้ากับผูห้ ญิงโดยตรงขณะที่ผตี นอื่น ๆ
นั้นช่วยกันขวางหน้าจอเอาไว้ ตอนที่การต่อสู ก้ าํ ลังจะเริ่ มขึ้นนั้น
เฉินเกอก็ยกค้อนที่อยูใ่ นมือข้างหนึ่งและหันไปหาชายตาบอดที่นงั่
อยูข่ า้ งเขา
“ฉางกู หนังเก่า ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงตาข้างซ้ายยังอยูท่ ี่นี่ ดูเหมือนว่า
คุณกับชิวเหมยจะล้มเหลวในการตามหาเหวินอวี้ตวั จริ ง” ทุกคําของ
เฉินเกอนั้นแทงเข้าหัวใจของฉางกูเหมือนเล็บแหลม ๆ เปลือกตา
ของเขากระตุก และเขาก็กม้ หน้าตํ่าลงไปอีก
“พวกเราคุยเรื่ องนี้กนั ได้อย่างเป็ นมิตร อันที่จริ ง ผมกําลังตามหา
โรงเรี ยนผีนนั่ และผมก็มีหนทางแล้ว” เฉินเกอนั้นเป็ นคนเปิ ดเผย ใน
สถานการณ์ที่ยงั ตัดสิ นอะไรไม่ได้ เขาก็แบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ
โรงเรี ยนแห่งปรโลกและแสดงให้เห็นว่าเขายินดีให้ความร่ วมมือ
“ฉางกู หลังจากดูหนังที่คุณกํากับแล้ว ผมรู ้วา่ คุณเป็ นคนฉลาดและมี
พรสวรรค์ แต่ดูคุณตอนนี้สิ
“คุณยอมแพ้แล้วเหรอ? คุณยินดีแอบซ่อนตัวอยูใ่ นฮอลิเดย์วลิ ล่าร้าง
ต่อไปจนตลอดชีวติ ที่เหลืออย่างนี้เหรอ? จนกระทัง่ ตายคุณก็หา
เหวินอวี้ไม่พบ? คุณยอมผิดสัญญากับชิวเหมยแล้วเหรอ?
“คุณทุ่มเทชีวติ ให้กบั การทํางาน และหนังพวกนี้ลว้ นเป็ นส่ วนหนึ่ง
ของชีวติ คุณ ผมอินไปกับหนังของคุณ และผมก็รู้สึกเสี ยใจกับสิ่ งที่
เกิดขึ้นกับคุณ ผมเข้าใจความเจ็บปวดของคุณ และผมก็ดูออกว่า
ทําไมคุณถึงได้ทิ้งชีวติ ของคุณแล้วตอนนี้
“ผมเข้าใจคุณ และเพราะอย่างนั้น ผมอยากจะร่ วมมือกับคุณ ตอนนี้
ยังไม่ใช่เวลาจะมายอมแพ้!”
ตอนที่ดูหนัง เฉินเกอก็พอจะเข้าใจกระบวนการทั้งหมด เขาเล็งไปที่
จุดอ่อนในหัวใจของฉางกูและพยายามทําลายเปลือกนอกที่เย็นชา
ของเขา
“วิญญาณของเหวินอวี้ยงั หาไม่เจอ บางทีเธออาจจะยังติดอยูใ่ นโรงเรี ยน
ร้างนัน่ ผมแน่ใจว่าร่ างกายของเธอนั้นแย่ลงไปทุกวัน ร่ างกายที่ไม่มี
ดวงวิญญาณจะเป็ นอย่างไรเล่า? ผมไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ
สองคนหลังจากนั้น แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมแน่ใจ มันยังไม่สายเกินไป
ทุกอย่างยังแก้ไขได้!”
ฉางกูเริ่ มหวัน่ ไหวแล้ว เฉิ นเกอเห็นโอกาสนี้และเสริ ม “คุณรู ้ไหมว่า
ทําไมผมถึงตามหาโรงเรี ยนนัน่ ?”
เขาก้มลงไปมองเข้าไปตรงดวงตาฉางกู “ผมเป็ นเจ้าของบ้านผีสิงที่
สวนสนุกนิวเซนจูรี่จิ่วเจียงตะวันตก ประมาณหกเดือนก่อน พ่อกับ
แม่ของผมหายตัวไป และมีร่องรอยมากมายบ่งชี้วา่ พวกเขาไปที่
โรงเรี ยนนัน่ !”
เปลือกตาของฉางกูกระตุกกว่าเดิม หน้าอกของเขากระเพื่อมไม่เป็ น
จังหวะ และในที่สุดเขาก็ถามคําถามกลับมา “พ่อกับแม่ของคุณไปที่
โรงเรี ยนนัน่ จริ งเหรอ?”
“ใช่ และเพื่อตามหาพวกเขา ผมไปที่โรงเรี ยนมัธยมมู่หยาง โรงเรี ยน
เอกชนจิ่วเจียงตะวันตก วิทยาลัยแพทย์จิ่วเจียง และที่อื่น ๆ ผม
รวบรวมเงื่อนงําบางส่ วนได้” เฉินเกอแบ่งปั นประสบการณ์ของเขา
ถ้าประสบการณ์ของฉางกูน้ นั เป็ นเรื่ องเล่า อย่างนั้นประสบการณ์
ของเฉินเกอก็เป็ นตํานาน
เฉิ นเกอบอกทุกอย่างออกไปให้ฉางกูฟังเหมือนเด็กที่แสนซื่อตรงคน
หนึ่ง ไม่โกหกเลยสักคํา หลังจากได้ฟังเรื่ องของเฉินเกอ ฉางกูกร็ ู ้สึก
ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขานั้นไม่ควรค่าให้พดู ถึงด้วยซํ้า และยังไม่มี
เหตุผลให้เขาต้องยอมแพ้
“พวกเราร่ วมมือกันได้ นัน่ เป็ นสถานการณ์ได้กบั ได้ ลองคิดดู”
เฉินเกอลุกขึ้น ลากค้อนเดินออกไปจากที่นนั่ ไปที่ยกพื้น ตรงหน้า
ผูห้ ญิงคนนั้น เขาโยนค้อนไปข้าง ๆ ยกแขนขึ้น และพูดพร้อมกับ
ดวงตาที่อ่อนโยน “วิญญาณทั้งหมดที่เคยครอบครองดวงตาข้างซ้าย
ล้วนสู ญเสี ยตัวตนและเปลี่ยนไปเป็ นสัตว์ประหลาด แต่วา่ คุณเป็ น
ข้อยกเว้นเดียว ตลอดหลายปี มานี้ คุณคงทุกข์ทรมานอยูค่ นเดียวเงียบ ๆ
“คุณเองก็เป็ นเหยือ่ คนหนึ่ง แต่วา่ คุณก็เป็ นวีรสตรี ดว้ ย
“ตอนที่ความโชคร้ายหล่นใส่ ใครคนหนึ่ง ความมืดดําในหัวใจของ
พวกเขาก็จะสาปแช่งโลกนี้ สิ่ งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่ความสงสาร
แต่วา่ คือคนที่เข้าใจ
“แต่วา่ คนที่อ่อนโยนนั้นเลือกที่จะทนรับทุกอย่างเงียบ ๆ ช่วยปกปิ ด
บาดแผลของโลกที่ไม่สมบูรณ์แบบและตอบคืนความโชคร้าย
เหล่านั้นด้วยความเมตตาและความอบอุ่น”
เฉินเกอเดินขึ้นไปบนยกพื้นและไปหยุดอยูไ่ ม่ห่างจากผูห้ ญิงคนนั้น
“ไม่วา่ คุณจะยอมรับหรื อไม่ คุณก็เป็ นคนที่อ่อนโยนอย่างนั้นคน
หนึ่งนะ ชิวเหมย”
Chapter 725 พนักงานทีห่ าได้ ยาก
ไม่วา่ จะเป็ นตอนที่ยงั มีชีวติ อยูห่ รื อตายไปแล้ว นี่เป็ นครั้งแรกที่ชิว
เหมยได้รับคําชื่นชมเช่นนี้ พ่อกับแม่ของเธอติดคุกตั้งแต่เธอยังเด็ก
และก็เป็ นย่าของเธอที่ดูแลเธอมา เพราะขาดความเอาใจใส่ และความ
รักจากพ่อแม่ต้ งั แต่ยงั เด็ก นิสยั ของชิวเหมยจึงต่างไปจากคนอื่นอยู่
เสมอมา เธอเป็ นคนตรงไปตรงมา และบางครั้งอาจจะบอกว่าเธอป่ า
เถื่อนและไร้มารยาท
เมื่อเธออายุมากขึ้น นิสยั ของเธอก็โตขึ้น เมื่อเธอตัดสิ นใจจะบอกลา
ตัวเองในอดีตและพยายามดูสกั ครั้งในชีวติ เธอก็เจอกับเหวินอวี้
ก่อนที่ดอกไม้จะทันได้คลี่บาน มันก็ถูกตัดออกมาเสี ยก่อน แต่เพราะ
ความลําบากในสมัยเด็ก ชิวเหมยจึงไม่ได้พา่ ยแพ้ไปในทันที เธอยัง
รักษานิสยั ของเธอเอาไว้ได้ และนัน่ เป็ นเหตุผลให้เฉินเกอชื่นชมเธอ
หลังจากได้ดูหนังของฉางกู เฉินเกอก็ยงั ไม่เข้าใจนักว่าทําไมเหวินอวี้
ถึงได้รับคัดเลือกเข้าไปที่โรงเรี ยนแห่งปรโลกและยิง่ ไม่รู้เลยว่าดวงตา
ข้างซ้ายปรากฏขึ้นมาได้ยงั ไง เขาไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเหวินอวี้
กับพี่ชายของเธอว่าเป็ นอย่างไร แต่เขารู ้ดีวา่ เรื่ องทั้งหมดนี้ ชิวเหมย
เป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์ที่ไม่ควรถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องที่สุด
ผูช้ มประหลาดปรากฏตัวในโรงละคร และที่ประหลาดกว่าผูช้ มทั้ง
กลุ่มก็คือชายหนุ่มที่ยงั มีชีวติ อยูท่ ี่เดินขึ้นมาบนยกพื้น ดวงตาข้างขวา
ของชิวเหมยลืมขึ้นช้า ๆ ดวงตาแดงกํ่านั้นบ่งบอกความสับสน เธอ
ได้รับการปลอบโยนจากถ้อยคําของชายคนนี้ แต่บางอย่างมันก็
ไม่ได้เหมาะกับเธอนัก
ตอนที่เธอบิดคอมองไปรอบ ๆ ชิวเหมยจ้องฉางกูที่นง่ั อยูท่ ี่นง่ั ตรง
กลาง เหมือนกับสัมผัสได้ถึงบางอย่าง ฉางกูเงยหน้าขึ้นทั้งที่กม้ หน้า
ตํ่ามาโดยตลาด เหมือนเขาตัดสิ นใจแล้ว เขาถอนหายใจเบา ๆ
เปลือกตาของเขาสัน่ และในที่สุดฉางกูกล็ ืมตาขึ้น
“เธอเป็ นใคร?” ดวงตาข้างซ้ายของฉางกูน้ นั มีขนาดใหญ่เท่าดวงตา
ของคนทัว่ ไป แต่วา่ รอบลูกตานั้นมีวงแหวนสี แดงล้อมอยู่ ดวงตา
ข้างขวาของเขาซึ่งควรจะปกติ กลับดูน่ากลัวกว่า ม่านตาเหมือนจะ
ละลายหายไปและสิ่ งเดียวที่เหลืออยูก่ ค็ ือลูกตาที่มีรอยแตกพาดผ่าน
ไปทัว่
“ดวงตาข้างซ้ายของฉันคือดวงตาของเหวินอวี้ แต่วา่ การผ่าตัดไม่
สําเร็ จ ดวงตาข้างนี้จึงมองเห็นแค่สีที่ต่างออกไปจากธรรมดา
บางครั้งฉันก็มองเห็นบางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็นได้เพียงผ่าน ๆ”
ตอนที่ฉางกูพดู เขาก็มองตรงไปยังชิวเหมยที่ตรงหน้าจอ หลังจาก
ผ่าตัดไม่สาํ เร็ จ พลังของดวงตาข้างซ้ายก็เหลืออยูเ่ พียงบางส่ วน
“ดวงตาข้างขวาของฉันนั้นบอดไปแล้ว และฉันก็ไม่สามารถบอก
เหตุผลชัดเจนได้วา่ ทําไม บางทีมนั อาจจะเป็ นคําสาปของดวงตาข้าง
ซ้าย” ฉางกูไออย่างหนักก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง แต่หลังจากลืมตา
ขึ้นเพียงแค่ไม่กี่วนิ าที ดวงตาข้างซ้ายของเขาก็เริ่ มมีเลือดไหลออกมา
“ดูเหมือนว่าการคาดเดาของฉันจะถูกต้อง” เฉิ นเกอยังยืนอยูบ่ นยกพื้น
ระหว่างเขากับชิวเหมยนั้นห่างกันแค่ไม่กี่กา้ ว
“ไม่วา่ คุณจะถูกหรื อไม่กไ็ ม่สาํ คัญแล้ว” เป็ นนานกว่าฉางกูจะหยุดไอ
“ผมร่ วมมือกับคุณได้ แต่คุณคิดว่าผมจะเชื่อสิ่ งที่คุณพูดได้ยงั ไง?”
เฉินเกอนั้นกลัวว่าฉางกูจะไม่ยอมพูดคุยมากกว่า ตราบใดที่มีโอกาส
เขาก็ยงั คิดจะเป็ นเพื่อนกับคนผูน้ ้ ี เขาดึงโทรศัพท์ออกมา เฉิ นเกอ
อ่านข่าวท้องถิ่นของจิ่วเจียงออกมาดัง ๆ “ผมไม่จาํ เป็ นต้องโกหกคุณ
นี่เป็ นข่าวที่ยนื ยันคําอ้างของผมได้ ถ้าคุณยังไม่เชื่อผม คุณค้นใน
ออนไลน์เองเกี่ยวกับบ้านผีสิงของผมก็ได้”
เฉินเกอแสดงความจริ งใจ แต่วา่ ฉางกูกไ็ ม่เชื่อเขาโดยง่าย คนผูน้ ้ ีที่อาศัย
ข่าวอาชญากรรมยืนยันตัวตนของตนเองย่อมไม่ใช่คนธรรมดา ๆ
ร่ วมมือกับคนผูน้ ้ ีกเ็ หมือนผูกมิตรกับเสื อ– อาจจะถูกกินในครู่ ถดั มา
ก็ได้
“ถ้าคุณยินดีร่วมมือ คุณสามารถกลับไปบ้านผีสิงกับผมได้เลยวันนี้
ทุกประโยคที่ผมพูดเป็ นความจริ ง” เวลานับถอยหลังของโรงเรี ยน
แห่งปรโลกกําลังจะหมดลงแล้วและเฉินเกอก็กลัวจะพลาดมันไป
“นี่เป็ นประโยชน์กบั พวกเราทั้งสองคน ผมจะให้เวลาคุณทั้งเช้าเพื่อ
คิดดู ผมจะกลับมาอีกทีคืนพรุ่ งนี้
“สภาพของเหวินอวี้น้ นั น่าจะไม่ดีนกั ผมเป็ นห่วงพ่อกับแม่ผมเหมือน
กัน อันที่จริ ง พวกเราก็มีเป้าหมายเดียวกัน แต่วา่ ผมไม่เคยบังคับให้
คนอื่นต้องทําสิ่ งที่พวกเขาไม่อยากทํา ถ้าคุณตกลง อย่างนั้นผมก็จะ
กลับมาอีกทีคืนพรุ่ งนี้แล้วแบ่งปันทุกอย่างที่ผมรู ้กบั คุณ”
ยืนอยูบ่ นยกพื้น ในดวงตาของเฉิ นเกอมีความอ้างว้างที่บรรยายออกมา
ไม่ได้ “พวกเราเป็ นคนแบบเดียวกันไม่มีใครช่วยพวกเราได้แล้วบน
โลกนี้นอกจากตัวพวกเราเอง”
เห็นความโดดเดี่ยวในดวงตาของเฉิ นเกอ ฉางกูกก็ มุ ดวงตาที่มีเลือด
ไหลเอาไว้ มองไปยังห้องที่เต็มไปด้วยผี เขารู ้สึกเหมือนเป็ นพวก
เดียวกับเฉินเกอขึ้นมา “ให้ผมคิดดูก่อน…”
“ไม่มีปัญหา นี่เป็ นความปรารถนาอย่างจริ งใจของผมที่จะช่วยคุณ
เพราะว่าผมรู ้วา่ การช่วยคุณก็คือการช่วยตัวผมเอง” เฉินเกอนั้นเป็ น
พวกที่คิดถึงภาพรวม และนัน่ ก็สะท้อนออกมาในวิธีการคิดของเขา
“เหวินอวี้และโรงเรี ยนนัน่ เป็ นสิ่ งที่คุณเป็ นกังวลถึงที่สุด ผมรู ้วา่ ผม
มาเยือนที่นี่อย่างกะทันหันไปสักหน่อย และผมก็เข้าใจความสงสัย
และระแวงของคุณที่มีต่อผม เพื่อลดช่องว่างระหว่างพวกเรา ผมยินดี
ให้วญ
ิ ญาณสี เลือดตนนี้ตามผมกลับบ้าน ผีน้ นั อ่านใจคนเก่งที่สุด
คุณสามารถให้เธอคอยจับตามองผมอย่างใกล้ชิดและดูวา่ ผมโกหก
คุณหรื อเปล่า”
“คุณยินดีให้ผตี ามคุณกลับบ้าน?” นี่เป็ นครั้งแรกในชีวติ ที่ฉางกูเจอ
กับคําร้องขอเช่นนี้
“ถ้าคุณเป็ นห่วงความปลอดภัยของชิวเหมย ผมสามารถขอให้เพื่อน
ผมคนหนึ่งอยูท่ ี่นี่เป็ นตัวประกันก็ได้” เฉินเกอคิดว่าเขาไม่ใช่คนไม่
มีเหตุผล สําหรับทุกฝ่ ายที่เกี่ยวข้อง นี่เป็ นการกระทําที่ยตุ ิธรรมที่สุด
แล้ว
“ให้เพื่อนของคุณอยูท่ ี่นี่เป็ นตัวประกัน?” ฉางกูตวั สัน่ ถ้าพวกเขาอยู่
ที่นี่จริ ง ๆ ก็ยากที่จะบอกแล้วว่าใครกันแน่ที่เป็ นตัวประกัน “ไม่
จําเป็ น ผมเชื่อคุณ”
ฉางกูอยากจะพูดบางอย่างแต่วา่ เฉินเกอหันไปหาชิวเหมยแล้ว
“ครั้งแรกที่คุณเชื่อใจคนอื่น คุณสู ญเสี ยอิสระของตัวเอง ครั้งที่สองที่
คุณเชื่อคนอื่น คุณสู ญเสี ยชีวติ วันนี้ คุณได้รับตัวเลือกครั้งที่สาม”
เฉินเกอนั้นเป็ นแค่คนธรรมดา ยืนอยูต่ ่อหน้าชิวเหมย เขากลับไม่มี
ท่าทีหวาดกลัว เสี ยงของเขานั้นทรงพลังและอบอุ่น
“มาสิ ผมจะช่วยให้คุณเห็นอีกด้านหนึ่งของโลก” เฉินเกอเปิ ดหนังสื อ
การ์ตูน ตอนที่เด็กสาวยังลังเลอยู่ ก่อนที่เธอจะทันเข้าใจสถานการณ์
เธอก็ถูกดึงเข้าไปในหนังสื อแล้ว ชิวเหมยไม่ได้ต่อต้าน ตอนที่เฉิ นเกอ
ปิ ดหนังสื อการ์ตูน โทรศัพท์เครื่ องดําก็สนั่
เฉินเกอดึงมันออกมาดูขอ้ ความใหม่
“ขอแสดงความยินดี ผูเ้ ป็ นที่ชื่นชอบของเหล่าวิญญาณที่คน้ พบ
วิญญาณสี เลือดหายาก– ชิวเหมย!
“ชิวเหมย (วิญญาณสี เลือด): เธอเปลี่ยนไปเป็ นวิญญาณสี เลือดเพราะ
เหตุผลพิเศษและไม่ได้มีความอาฆาตแค้นมากนัก เธอครอบครอง
พลังของวิญญาณสี เลือดเฉพาะเมื่ออยูใ่ นภาพยนตร์ หลังจากออกจาก
ภาพยนตร์ พลังของเธอจะลดลงเป็ นอย่างมากและเธอก็ไม่สามารถ
ใช้พลังพิเศษของตัวเองได้
“พลังพิเศษของชิวเหมย: ??? (จะปลดล็อกหลังจากเป็ นพนักงานของ
บ้านผีสิงอย่างเป็ นทางการ)”
หลังจากอ่านข้อความแล้วเฉินเกอก็ประหลาดใจ ชิวเหมยเป็ นวิญญาณ
สี เลือดที่พิเศษมากจริ ง ๆ
ไม่ใช่วา่ พนักงานพิเศษเช่นนี้คือสิ่ งที่ฉนั กําลังมองหาหรอกเหรอ?
เฉินเกอเก็บโทรศัพท์แล้วโบกมือให้ฉางกูดว้ ยท่าทางดีใจมาก
ฉางกูที่นงั่ อยูก่ ลางโรงละครกุมดวงตาข้างซ้ายที่มีเลือดไหลเอาไว้
ในตอนนั้นเขารู ้สึกเหมือนตัวเองพลาดอะไรบางอย่างไป
Chapter 726 ผมจะไปคุยกับพวกเขา
ฉางกูตกลงร่ วมมือกับเฉิ นเกอ และพวกเขาก็ทาํ ข้อตกลงคร่ าว ๆ
หลังจากสัญญาว่าจะมาหาใหม่อีกครั้งคืนถัดไป เฉินเกอก็ผลักเปิ ด
ประตูโรงละครส่ วนตัว ท้องฟ้าด้านนอกสว่างขึ้นแล้ว ทันทีที่เฉิน
เกอก้าวเท้าออกจากโรงละคร โทรศัพท์เครื่ องดําก็สนั่ อีกครั้ง
“ขอแสดงความยินดี ผูเ้ ป็ นที่ชื่นชอบของเหล่าวิญญาณ คุณดูหนังใน
โรงละครแห่งซากจบ ขอแสดงความยินดีที่ทาํ ภารกิจระดับสองดาว
ส่ วนแรก– ดวงตาข้างซ้าย สําเร็ จ!
“สําหรับภารกิจส่ วนที่สอง ตามหาพี่ชายของเหวินอวี้ ฉางกู และ
ได้รับความชื่นชอบจากเขา!
“ขอแสดงความยินดี ผูเ้ ป็ นที่ชื่นชอบของเหล่าวิญญาณที่ทาํ ภารกิจ
ส่ วนที่สองสําเร็ จ
“สําหรับภารกิจส่ วนที่สาม เดินทางไปยังโรงพยาบาลจิตเวชจิ่วเจียง
เพื่อให้เห็นสี สนั ของความฝันของเหวินอวี้ดว้ ยตัวคุณเอง!
“คําเตือน! ภารกิจนี้มีปัจจัยที่ไม่แน่นอนหลายอย่าง หลังจากทําภารกิจ
สําเร็ จ จะได้รับความชื่นชอบจากเหวินอวี้ ชิวเหมย และฉางกูมากขึ้น!
จะสามารถปลดล็อกฉากระดับสองดาว โรงละครคนตายและอุปกรณ์
ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทําภาพยนตร์!”
เห็นข้อความบนโทรศัพท์เครื่ องดํา ความปรารถนาจะทําภารกิจระดับ
สองดาวให้สาํ เร็ จของเฉินเกอก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น นอกจากจะมอบ
ฉากระดับสองดาวใหม่ให้เขาแล้ว เขายังได้อุปกรณ์ที่มีประโยชน์อีก
มากมาย ก่อนหน้านี้ เขาสัญญากับพนักงานรับโทรศัพท์สายด่วนฆ่า
ตัวตายว่าจะช่วยเขาถ่ายหนังเรื่ องหนึ่งให้เสร็ จ ตอนนี้ เขามีผกู ้ าํ กับ
และนักแสดงแล้ว และหลังจากทําภารกิจสําเร็ จ เขาก็จะมีอุปกรณ์ที่
จําเป็ นด้วย
“ถึงแม้วา่ ภารกิจทดลองนี้จะค่อนข้างซับซ้อน แต่รางวัลก็ดีงามตาม
ไปด้วย ฉันอยากรู ้วา่ ปั จจัยที่ไม่แน่นอนที่โทรศัพท์เครื่ องดําเตือน
หมายถึงอะไร?” เฉิ นเกอนั้นเข้าใจกฎของภารกิจที่โทรศัพท์เครื่ องดํา
ให้อยูแ่ ล้ว– รางวัลนั้นเป็ นสัดส่ วนกับระดับของอันตราย
“สี สนั ของความฝันของเหวินอวี้? ความฝันของคนเรามีสีดว้ ยเหรอ?”
คําอธิบายของภารกิจนั้นค่อนข้างประหลาด เฉินเกอบอกไม่ได้ดว้ ย
ซํ้าว่าเหวินอวี้ในภารกิจคือเหวินอวี้ในชีวติ จริ งหรื อว่าวิญญาณของ
เหวินอวี้
“เอาเถอะ ฉันแน่ใจว่าถึงที่สุดแล้วทุกอย่างก็จะกระจ่าง ไม่จาํ เป็ นต้อง
คิดให้มากไป คืนพรุ่ งนี้ ฉันจะพาฉางกูไปเยีย่ มเหวินอวี้ดว้ ยกัน” เฉิ น
เกอไม่คิดที่จะกลับคํา ไม่วา่ จะเป็ นชิวเหมยหรื อเหวินอวี้ เขาเห็น
คุณค่าของทั้งสองคน
ด้วยคํายืนกรานของฉางกู เฉิ นเกอนําพนักงานทั้งหมดของเขากลับ
ออกมาจากฮอลิเดย์วลิ ล่าเขาหยงหลิง เขาเดินอยูน่ านกว่าจะเรี ยก
แท็กซี่ได้คนั หนึ่งที่ยอมรับเขาขึ้นรถ
เฉิ นเกอไม่รู้สึกเหนื่อยถึงแม้วา่ จะไม่ได้หลับเลยสักวินาที การปรากฏ
ตัวของดวงตาข้างซ้ายทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับภารกิจระดับสี่
ดาว โรงเรี ยนแห่งปรโลก และความคิดหนึ่งก็ผดุ ขึ้นในใจเขา ด้วย
สถานการณ์ตอนนี้ จางหยางนั้นยังไม่ตื่นขึ้นก่อนที่ภารกิจโรงเรี ยน
แห่งปรโลกจะหมดเวลาแน่ ๆ เมื่อไม่มีเธอ ความยากของภารกิจก็
เพิม่ ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เฉิ นเกอนั้นลังเลอยูว่ า่ เขาควรจะเสี่ ยงดีหรื อไม่ สวนสนุกแห่งอนาคต
กําลังจะเปิ ดแล้ว ถ้าไม่มีฉากน่าตื่นเต้นใหม่ ๆ ความนิยมของสวน
สนุกนิวเซนจูรี่ที่เพิง่ มีมาก็อาจจะถูกสวนสนุกแห่งใหม่แย่งชิงไป
เขาพยายามอย่างหนักก็เพื่อวันนี้ และตอนนี้กเ็ ป็ นโอกาสสุ ดท้ายแล้ว
“ถ้าฉันสามารถหาข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับโรงเรี ยนแห่งปรโลกได้ระหว่าง
ทําภารกิจดวงตาข้างซ้าย อย่างนั้นฉันก็จะไปดูรอบ ๆ โรงเรี ยนผีนนั่
ก่อนที่เวลาจะหมดลง” ยอมแพ้โดยไม่ได้ไปดูสถานที่ดว้ ยซํ้านั้นเป็ น
สิ่ งที่เฉินเกอทําไม่ได้
เฉินเกอเอนหลังพิงเบาะ มองไปยังเงาของตัวเองและก็จมลึกไปใน
ภวังค์ เขากลับไปถึงสวนสนุกนิวเซนจูรี่ตอนแปดโมงเช้า เขาเพิ่งเข้า
ประตูไปก็เห็นคนสองคนเดินอยูห่ น้าทางเข้าบ้านผีสิงของเขา
“ลุงซู? จิงจิ่ว? พวกคุณสองคนมาเช้านะวันนี้” เฉิ นเกอวางกระเป๋ าลง
ที่เก้าอี้ไม้และเก้าอี้กล็ นั่ เอี๊ยดจากนํ้าหนักกดทับ
“แกออกไปข้างนอกคนเดียวอีกแล้วเมื่อคืนนี้?” ลุงซูมองเก้าอี้ที่ดู
เหมือนจะพังลงไปเมื่อไหร่ กไ็ ด้
“ผมแค่ออกไปวิง่ ตอนเช้า” เฉิ นเกอแก้ตวั ง่าย ๆ
“วิง่ กับกระเป๋ าหนักขนาดนั้นน่ะนะ?” ลุงซูถอนหายใจอย่างจนปัญญา
“แกไม่ใช่เด็กหนุ่ม ๆ แล้วนะ หยุดเสี ยเวลาเปล่ากับกิจกรรมกลางคืน
ได้แล้ว ทางที่ดีกห็ าเมียสักคนมาทําให้ชีวติ ของแกเข้ารู ปเข้ารอยสักที”
“ลุงซู ลุงคงไม่ได้มาเช้าป่ านนี้เพือ่ แนะนําคู่หมายให้ผมนะ?” เฉิ นเกอ
มองเงาตัวเองแล้วก็ปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้า
“ฉันไม่ได้วา่ งขนาดนั้น” ลุงซูถอนหายใจ “เมื่อกี้น้ ี ฉันได้รับโทรศัพท์
จากผูอ้ าํ นวยการลัว่ เมื่อคืน คนจากสถาบันฝันร้ายซิ นไห่เปิ ดกระทู ้
หลายกระทูบ้ นกระดานสนทนาใหญ่ที่สุดบนออนไลน์เกี่ยวกับบ้าน
ผีสิงของแก พวกเขาตั้งคําถามเรื่ องความปลอดภัยของบ้านผีสิงของ
แก และกระทูก้ ไ็ ด้รับความนิยมเร็ วมาก ผูอ้ าํ นวยการลัว่ เชื่อว่ามีคน
ของสวนสนุกแห่งอนาคตอยูเ่ บื้องหลังเรื่ องนี้แน่”
“สถาบันฝันร้าย? พวกเขาอีกแล้ว? ผมยังไม่ทนั เรี ยกร้องให้พวกเขา
ออกมาอธิบาย และพวกเขาก็ยงั มาหาเรื่ องเราแล้ว?” เสี ยงของเฉิ นเกอ
นั้นแฝงอันตรายไว้
“แกคิดจะทํายังไง? ใจเย็นก่อนนะ! อย่าทําอะไรวูว่ าม!” ลุงซูหยุด
เฉินเกอไว้ทนั ที
“ผูอ้ าํ นวยการลัว่ ให้ฉนั มาที่นี่แต่เช้าเพื่อเตือนแก บอกให้แกเก็บตัว
เงียบ ๆ อย่าปล่อยให้พวกเขาเอาเปรี ยบแกได้ หลังจากพวกเราผ่าน
การเปิ ดตัวของสวนสนุกแห่งอนาคตไปได้ ทุกอย่างก็ไม่เป็ นไรแล้ว”
“พวกเราทําอะไรเปิ ดเผยเสมอ จะมีอะไรที่พวกเขาจะเอาเปรี ยบเรา
ได้กนั ?”
“แกพูดไม่ผดิ แต่วา่ พวกเราก็รับรองไม่ได้วา่ พวกเขาจะไม่เล่นวิธี
สกปรกและแต่งเรื่ องขึ้นมา” ลุงซูตอ้ งการให้เฉินเกอระมัดระวังให้
มากขึ้น
“ลุงพูดออกมาเองนะ ลุงซู พวกเขาลดตัวลงตํ่าไปเพื่อสร้างปัญหาให้
พวกเรา ถ้าเป็ นอย่างนั้น ผมคิดว่าพวกเราก็ควรจะใช้วธิ ีการที่ต่าง
ออกไปรับมือกับปั ญหานี้” เฉินเกอคว้ากระเป๋ าหนังอึ้งแล้วมองเข้า
ไปข้างใน
“แกคิดจะทําอะไร?” ลุงซูรู้สึกไม่ดี
“ในเมื่อพวกเขาต้องการหาข้อบกพร่ องของเราทั้งที่มนั ไม่มี อย่างนั้น
ผมก็จะไปจัดการพวกเขาซะ ทีน้ ีกจ็ ะไม่มีใครมาหาเรื่ องพวกเราอีก
ใช่ไหม?” เฉินเกอตอบเหมือนว่าความจริ งก็เป็ นอย่างนี้
“จัด.. จัดการพวกเขา?” ลุงซูกา้ วเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง เหมือนเขา
ได้ยนิ ที่เฉินเกอพูดไม่ชดั และอยากจะฟังให้ชดั เจน
“ง่ายจะตาย ผมจะไปที่ซินไห่วนั นี้” เฉินเกอตบไหล่ลุงซู “ไม่ตอ้ ง
ห่วง ตอนนี้มีรถไฟระหว่างเมือง ไปกลับก็แค่สองชัว่ โมงเท่านั้น ผม
จะกลับมาก่อนมืด”
“แกคิดจริ ง ๆ หรื อว่าฉันเป็ นห่วงเรื่ องนั้น?” ลุงซูผลักแขนเฉินเกอทิ้ง
“นี่เป็ นปั ญหาทางธุรกิจ อย่าได้ทาํ ให้มนั กลายเป็ น…”
“ไม่ตอ้ งห่วง ให้ผมจัดการเอง ผมจะไม่ทิ้งหลักฐานเอาไว้”
“หลักฐานอะไร? แกอย่าไปสร้างเรื่ องนะ!”
หลังจากปลอบลุงซูแล้ว เฉินเกอก็หนั ไปหาจางจิงจิ่ว “จิงจิ่ว ทําไม
นายถึงมาเช้านักล่ะวันนี้?”
“บอส ผมจะมาลางานวันหนึ่งครับ” จางจิงจิ่วดึงโทรศัพท์ออกมา มี
ข้อความบนนั้น “พ่อของผมเข้าโรงพยาบาล ผมอยากไปเยีย่ ม”
“ไม่มีปัญหา” เฉิ นเกอตอบตกลงอย่างง่ายดาย “ถ้าฉันจําไม่ผดิ นาย
เคยบอกว่าพ่อของนายอยูท่ ี่เมืองซินไห่”
“ครับ”
“อย่างนั้นก็ยอดเยีย่ มเลย ฉันจะไปซิ นไห่กบั นาย พวกเราจะนับมัน
เป็ นการไปดูงาน” สายตาของเฉินเกอย้ายจากทั้งสองคนไปที่ขอบฟ้า
“หลังจากพวกเรารอดพ้นจากการเปิ ดตัวสวนสนุกแห่งอนาคตไปได้
และไม่มีอะไรให้ตอ้ งห่วงแล้ว พวกเราก็สามารถคิดถึงการเปิ ดสาขา
ที่ซินไห่ได้ คนที่นนั่ น่าจะดีใจที่ได้รู้วา่ ในที่สุดพวกเขาก็จะได้สมั ผัส
กับความหมายที่แท้จริ งของคําว่าสยองขวัญแล้ว”
Chapter 727 เขามาแล้ ว
“เฉิ นเกอ แกแน่ใจเหรอว่าแกอยากไปซิ นไห่?” ลุงซูยงั กังวล
“ผูอ้ าํ นวยการลัว่ เคยบอกผมว่าพวกเราต้องมองภาพรวม การไปซินไห่
ครั้งนี้มีสองจุดประสงค์– เตือนสถาบันฝันร้าย และทําความเข้าใจตลาด
ให้ดีข้ ึน” เฉินเกอพูดท่าทางจริ งจัง “มันไม่มีอะไรครับ ไม่ตอ้ งห่วง”
เปิ ดประตูแล้วเฉิ นเกอกับจางจิงจิ่วก็เข้าไปในบ้านผีสิง
“รอฉันที่นี่ ฉันต้องไปที่ฉากใต้ดินหยิบของบางอย่าง” เฉินเกอให้
พนักงานส่ วนใหญ่กลับไปประจําที่เดิมและเก็บเอาไว้เพียงแค่ไม่กี่
ตนที่เขาไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่อย่างเช่น รองเท้าส้นสู งสี แดง ผี
ผูห้ ญิงไร้หวั และชิวเหมย เขาไม่ได้ทาํ ไปเพื่อแก้แค้นสถาบันฝันร้าย
เขาแค่เป็ นห่วงว่าวิญญาณสี เลือดอาจจะสร้างปัญหาให้กบั บ้านผีสิง
ของเขาเมื่อเขาไม่อยู่
เพื่อประโยชน์ของความสมดุล เฉินเกอจึงพากลุ่มของเอี๋ยนต้าเหนียน
กับซู่อินไปด้วย
“ค้อนนี่น่าจะไม่ผา่ นจุดรักษาความปลอดภัยไปได้ ดังนั้นฉันต้องทิ้ง
มันเอาไว้ที่นี่” หลังจากเอาค้อนออกไป กระเป๋ าก็เบามากจนเฉิ นเกอ
ต้องทําความคุน้ เคยอยูค่ รู่ หนึ่ง กลับไปที่ดา้ นบนแล้วเฉินเกอกับจาง
จิงจิ่วก็รอให้พนักงานคนอื่น ๆ มาถึงและเฉินเกอก็ช่วยพวกเขาแต่งหน้า
ก่อนที่จะออกไป
ห้าโมงเช้า เฉินเกอกับจางจิงจิ่วก็ข้ ึนรถไฟมุ่งหน้าไปยังเมืองซินไห่
ทั้งสองเมืองนั้นอยูต่ ิดกัน แต่วา่ อุณหภูมิน้ นั ต่างกันมาก อุณหภูมิเฉลี่ย
ของซินไห่น้ นั สู งกว่าของจิ่วเจียงเพราะเหตุผลบางอย่างที่เฉิ นเกอไม่
อยากพูดถึง
“จิงจิ่ว นายไปเยีย่ มพ่อของนายได้เลย” เฉิ นเกอยัดซองแดงใส่ มือจาง
จิงจิ่ว “ใช้นี่ซ้ือของให้ท่านด้วย ฉันคงไม่ได้ไปเป็ นเพื่อนนายนะ ถ้า
มีอะไรก็โทรหาฉัน”
ก่อนที่จางจิงจิ่วจะทันได้ปฏิเสธเขา เฉิ นเกอก็คว้ากระเป๋ าสะพาย
หลังวิง่ ออกจากสถานีรถไฟไปแล้ว เฉินเกอโบกแท็กซี่ และบอกให้
ขับไปยังที่อยูข่ องสถาบันฝันร้ายที่เขาพบบนออนไลน์
ไม่เหมือนบ้านผีสิงของเฉินเกอ สถาบันฝันร้ายนั้นตั้งอยูบ่ นถนนที่มี
การค้าพลุกพล่านที่สุดในเมืองซินไห่ ในฐานะบ้านผีสิงที่เก่าแก่ที่สุด
และมีชื่อเสี ยงที่สุดของซินไห่ พวกเขาเช่าตึกทั้งหลัง
บังเอิญที่ตอนที่ผรู ้ ับเหมาออกแบบถนนการค้าเส้นนี้น้ นั มีจุดบกพร่ อง
เล็กน้อย มีตึกเล็ก ๆ หลังหนึ่งที่ถูกตึกสู งเสี ยดฟ้าล้อม ทําให้เกิดสภาพ
ที่ตึกนี้ไม่เคยได้รับแสงอาทิตย์เลยไม่วา่ จะเป็ นเวลาไหนของวัน
หลายคนปฏิเสธที่จะเช่าตึกซึ่ง ‘ไม่เคยพบเห็นแสงตะวัน’ ในที่สุด
มันก็ถูกเลือกให้กลายเป็ นที่ต้ งั ของสถาบันฝันร้าย พวกเขาเช่าตึกฝั่ง
ที่ไม่มีโอกาสสัมผัสแสงอาทิตย์ได้น้ ีในราคาที่ถูกมากและเปลี่ยนมัน
ไปเป็ นบ้านผีสิงที่ใหญ่ท่ีสุดในซินไห่
ตึกข้างที่ได้รับแสงอาทิตย์บา้ งเป็ นบางครั้งนั้นมีร้านอาหารและร้านค้า
ตั้งอยูม่ ากมาย ขณะที่อีกข้างนั้นมีหน้าต่างที่ปิดไว้ตลอดเวลา หนึ่งหยิน
หนึ่งหยาง ในที่สุดมันก็กลายไปเป็ นจุดสําคัญของเมืองซินไห่และยัง
เป็ นที่นิยมมากในออนไลน์
แต่นนั่ ก็หลายปี มาแล้ว ความนิยมของบ้านผีสิงนั้นลดลง และมีคน
มาที่สถาบันฝันร้ายน้อยลงไปเรื่ อย ๆ พวกเขาพยายามปรับปรุ งสิ่ ง
ใหม่ ๆ แต่วา่ มันก็ไม่ได้ทาํ ให้ความนิยมที่ลดลงนั้นชะลอได้
หลังจากจ่ายค่าโดยสารแล้วเฉินเกอก็ยนื อยูท่ ี่ทางเข้าถนนการค้า มี
พาหนะมากมาย และตึกก็สูงเสี ยดฟ้า ถึงแม้วา่ จะเป็ นวันทํางาน ที่นี่ก็
ยังมีคนเต็มไปหมด
“คนพวกนี้ไม่ตอ้ งทํางานหรื อยังไง?” เฉิ นเกอที่แบกกระเป๋ าสะพาย
หลังเก่าโทรมและไม่ได้ดูปกตินกั นั้นโดดเด่นสะดุดตาอยูใ่ นถนน
การค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองใหญ่น้ ี แต่วา่ เฉิ นเกอก็ไม่ได้สนใจเรื่ องนั้น
เทียบกับรู ปลักษณ์แล้ว เขาให้ความสนใจที่จิตใจของคนมากกว่า
เฉินเกอเดินไปตามแผนที่ที่บนโทรศัพท์ของเขา ไม่ชา้ ก็เจอสถาบัน
ฝันร้าย ตั้งอยูท่ ี่มุมเงียบ ๆ มุมหนึ่งของถนนการค้า คนที่ตรงนี้นอ้ ยลง
มาก
ก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ เฉินเกอก็เห็นพนักงานหลายคนยืนอยูท่ ี่ทางเข้า
ตะโกนผ่านลําโพงเสี ยงดัง
“ประสบการณ์บา้ นผีสิงแบบสี่ มิติ! ประสบการณ์สยองขวัญที่สุดใน
ชีวติ ของคุณ! บ้านผีสิงมาตรฐานระดับโลก– สถาบันฝันร้าย– เริ่ ม
เปิ ดภาคการศึกษาใหม่พร้อมกับเสี ยงกรี ดร้อง!
“ประสบการณ์ที่สถาบันฝันร้ายนั้นผสานเอาบ้านผีสิง ห้องปิ ดตาย
การสํารวจ และการตอบโต้เสมือนจริ งเอาไว้! มันเป็ นสวนสนุกใน
ร่ มแห่งใหม่! มีเพียงแค่สติปัญญาอันเฉียบแหลม ความกล้าหาญ และ
สมรรถภาพร่ างกายอันยอดเยีย่ ม คุณถึงจะรอดชีวติ ออกมาได้!
“ในด้านการออกแบบ อุปกรณ์ประกอบฉาก ฉาก และการแต่งหน้า
พวกเราล้วนยอดเยีย่ มกว่าบ้านผีสิงอื่น ๆ ในท้องตลาด!”
พนักงานตะโกนสุ ดเสี ยง แต่วา่ มีผเู ้ ข้าชมเพียงไม่กี่คนที่สนใจ กระทัง่
ต่อให้มีคนหยุดดูอย่างอยากรู ้อยากเห็น พวกเขาก็จะจากไปในไม่กี่
วินาทีให้หลัง
“คุณครับ คุณอยากมาลองท้าทายบ้านผีสิงของพวกเราดูไหม?”
พนักงานสังเกตเห็นเฉินเกอมาสักครู่ ใหญ่แล้ว เขาเห็นเฉินเกอยืนอยู่
ที่เดิมนานแล้วแต่เห็นเสื้ อผ้าที่ดูไม่ทนั สมัยนักของเฉินเกอ เขาก็ไม่
รี บร้อนตรงเข้ามาทักทาย เขาไม่คิดว่าเฉิ นเกอจะเป็ นผูเ้ ข้าชมได้
“บ้านผีสิงของพวกคุณน่ากลัวจริ ง ๆ น่ะเหรอ?” เฉิ นเกอสงสัย
ถึงแม้วา่ ศีลธรรมของพวกเขาจะตกตํ่า สถาบันฝันร้ายก็คงต้องมี
อะไรบางอย่างที่โดดเด่น ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงไม่สามารถเป็ น
บ้านผีสิงที่ใหญ่ที่สุดในซิ นไห่ได้
“คุณคงไม่เชื่อหรอกต่อให้ผมบอกว่ามันน่ากลัว– ทางที่ดีที่สุดคือคุณ
ต้องไปสัมผัสด้วยตัวคุณเอง” พนักงานพยายามขาย แต่บางทีอาจจะ
กลัวว่าเฉินเกอจะผละไปเขาจึงรี บเสริ ม “ผมบอกได้แค่วา่ บ้านผีสิง
มาตรฐานระดับโลกไม่ใช่เรื่ องตลก บ้านผีสิงของพวกเราน่ะ สามสิ บ
สามเปอร์เซ็นต์ของผูเ้ ข้าชมขอยอมแพ้ และอัตราการเคลียร์ฉากได้ก็
แค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น และยังมีสถิติสูงสุ ดของการเข้าแถวรอถึง
สามชัว่ โมงแต่วา่ ยอมแพ้ภายในสามนาทีดว้ ย”
“อัตราการเคลียร์ฉากได้คือสิ บเปอร์เซ็นต์เท่านั้น?”
“จริ ง ๆ ครับ ผมไม่โกหกคุณ ความสยองขวัญที่ดา้ นในสถาบันฝัน
ร้ายของพวกเราไม่ใช่ความน่ากลัวพื้น ๆ แต่เป็ นการสํารวจลึกเข้าไป
ในจิตใจของมนุษย์” พนักงานพูดอย่างวางท่า “คุณว่ายังไงดีครับ?
คุณอยากจะเข้าไปสัมผัสประสบการณ์หน่อยไหม? ในเมื่อนี่เป็ นวัน
ธรรมดา ก็เลยมีโปรโมชัน่ ปกติค่าตัว๋ สองร้อย แต่วา่ วันนี้แค่ร้อย
แปดสิ บครับ”
“แพงขนาดนั้น?” เฉินเกออดไม่ได้ที่จะเปรี ยบเทียบ สําหรับบ้านผีสิง
ของเขา ผูเ้ ข้าชมต้องซื้อตัว๋ เข้าสวนสนุกก่อน แต่วา่ สถาบันฝันร้ายนั้น
มีเพียงแค่บา้ นผีสิงให้เข้าเท่านั้น ต่อไป ตอนที่ฉนั ขยายสาขามายัง
ซิ นไห่ ฉันต้องเพิม่ ค่าตัว๋ ตามคุณลักษณะของพื้นที่
เฉินเกอยังคิดอยูแ่ ต่วา่ พนักงานเริ่ มหมดความอดทน “คุณภาพสมกับ
ราคาครับ บ้านผีสิงของพวกเราต้องมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้
คุณได้อย่างแน่นอน”
“เอาละถ้างั้นก็ขอตัว๋ ใบหนึ่ง” เฉินเกอเข้าไปในบ้านผีสิง การตกแต่ง
ภายในได้บรรยากาศ ห้องขายตัว๋ นั้นตกแต่งเหมือนเป็ นสถานที่
ลงทะเบียนของนักเรี ยนใหม่ และลิฟท์เข้าฉากก็ตกแต่งเป็ นประตู
โรงเรี ยน และยังมีรูปภาพกับโปสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่ องผีติดอยูบ่ น
กําแพง
ก่อนที่จะเข้าฉากจริ ง ๆ บรรยากาศก็นาํ มาก่อนแล้ว– สถาบันฝันร้าย
นี่ไม่ธรรมดาทีเดียว
ตอนที่เฉินเกอเข้าไปในนั้น ก็มีผเู ้ ข้าชมคนอื่นอีกสองคนอยูใ่ นห้อง
และพวกเขาก็ดูเหมือนจะรออยูน่ านแล้ว
“ขอโทษด้วยนะคะ จํานวนผูเ้ ข้าชมน้อยที่สุดต่อครั้งคือห้าคนค่ะ
รบกวนคุณรออีกสักนิดได้ไหมคะ?” พนักงานผูห้ ญิงที่ในห้องขายตัว๋
บอกเฉินเกอ “ทําไมคุณไม่ลงชื่อก่อนล่ะคะ? พอพวกเรามีคนครบ
พวกเราก็จะเริ่ มการเข้าชมได้ทนั ที”
“ได้ครับ” เฉินเกอดึงบัตรประจําตัวออกมาแล้วเดินไปที่หอ้ งขายตัว๋
พนักงานที่ดา้ นในก้มหน้าลง แต่เมื่อเห็นบัตรของเฉินเกอเธอก็เงย
หน้ามองขึ้นมาทันที
“เฉิ นเกอ?”
Chapter 728 เข้ าบ้ านผีสิงพร้ อมกับเครื่ องเล่นเทป?
“มีปัญหาอะไรหรื อเปล่า?” เฉินเกอดึงเงินสองร้อยออกมาวางบน
เคาน์เตอร์ พนักงานขายตัว๋ รี บเรี ยกสติตวั เองและพูด “ขอโทษทีค่ะ
ฉันแค่คิดว่าชื่อของคุณคุน้ มากเลย เหมือนเพื่อนคนหนึ่งของฉัน”
“งั้นเหรอ?” เฉินเกอยยิม้ อ่อนและไม่ได้ซกั ไซ้ต่อ พนักงานทํางาน
เร็ วขึ้นอย่างเห็นได้ชดั และแค่ไม่กี่วนิ าทีกล็ งทะเบียนเสร็ จ ตัว๋ ของ
สถาบันฝันร้ายค่อนข้างน่าสนใจ– มันเป็ นจดหมายแนะนําตัว และ
ชื่อของเฉินเกอก็เขียนอยูบ่ นนั้น
“ถือจดหมายแนะนําตัวกับเอกสารเอาไว้แล้วกรุ ณาต่อแถว เมื่อจํานวน
ผูเ้ ข้าชมครบห้าคนพวกเราก็จะเริ่ มการเข้าชมได้ค่ะ” หลังจากช่วย
เฉินเกอลงทะเบียน พนักงานก็ดูไม่ค่อยดีนกั มือของเธอกดอยูบ่ นท้อง
เธอรี บร้อนออกจากห้องขายตัว๋ ไป เฉิ นเกอหิ้วกระเป๋ าไปต่อหลังผู ้
เข้าชมอีกสองคน เขาดูผอ่ นคลายมากราวกับกลับมาบ้านของตัวเอง
อย่างนั้น
“พี่ชาย คุณมาคนเดียวเหรอ?” ที่ยนื อยูก่ ่อนหน้าเขานั้นเป็ นคู่รัก มือ
ของพวกเขาสอดประสานกันอยูแ่ ละพวกเขาก็ดูค่อนข้างกระวนกระวาย
“ใช่ ผมค่อนข้างเบื่อน่ะ เลยมาเดินเล่นเสี ยหน่อย”
“คุณกล้ามากแน่ ๆ ที่มาที่นี่คนเดียว ที่นี่น่ากลัวมาก ผมเพิ่งคุยกับแฟน
ว่าถ้ามีคนไม่ครบ อย่างนั้นพวกเราก็จะยอมแพ้ดีกว่า” ผูช้ ายนั้นสู ง
ประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิ บเซนติเมตรและสวมชุดสี ดาํ กับแว่นตาหนา
เขาดูใจดีและเป็ นมิตร
“แต่ไม่ใช่วา่ คุณก็จะเสี ยเงินค่าตัว๋ ไปเปล่า ๆ เหรอ?” เฉินเกอไม่ค่อย
เข้าใจ
“มันดีกว่าถ้าเทียบกับการวิง่ ออกมาพร้อมนํ้าตาหลังจากถูกหลอกให้
กลัว!” ผูช้ ายคนนั้นคิดว่าคําถามของเฉิ นเกอค่อนข้างประหลาด “เพื่อน
ของผมเคยมาบ้านผีสิงนี่ก่อนแล้ว และมันก็น่ากลัวมาก หลังจากนี้
พวกเราเกาะกลุ่มกันไว้น่าจะดีกว่า”
“ได้” เฉินเกอเองก็มีบา้ นผีสิง ดังนั้นเขาจึงไม่ประมาทศัตรู มันต้องมี
เหตุผลให้สถาบันฝันร้ายประสบความสําเร็ จมาในอดีต คนผูช้ ายดู
ค่อนข้างขี้ขลาด เขาเอาแต่บอกแฟนสาวถึงความน่ากลัวของบ้านผี
สิ งนี่ แฟนสาวของเขาก็ให้ความร่ วมมือเต็มที่– แค่คาํ อธิบายของเขา
ก็ทาํ ให้ใบหน้าของเธอซีดเผือดแล้ว
พวกเขารออยูอ่ ีกหลายนาทีก่อนที่ผหู ้ ญิงอายุประมาณยีส่ ิ บปี คนหนึ่ง
กับนักเรี ยนอีกสามคนจะเดินเข้ามา พวกเขาดูเหมือนไม่รู้จกั กัน
นักเรี ยนสามคนคุยกับเองและดูค่อนข้างตื่นเต้น หนึ่งในนั้นบอกว่า
เขาเคยมาบ้านผีสิงนี่มาก่อนแล้วและยอมแพ้ตอนผ่านไปได้ครึ่ งทาง
เพราะว่ามันน่ากลัวเกินไป
ผูเ้ ข้าชมหญิงนั้นดูธรรมดา และยังไม่มีอะไรโดดเด่น– เธอเป็ นคนที่
กลืนหายไปในฝูงชนได้ง่าย ๆ เธอไม่พดู มากนักและยืนอยูท่ ี่ตรงมุม
คนเดียว
“มีผเู ้ ข้าชมครบแล้ว ทุกคนตามฉันมาค่ะ” พนักงานที่วงิ่ ไปเข้าห้องนํ้า
ก่อนหน้านี้ออกมาจากทางเดินพนักงาน เธอถือกระเป๋ านักเรี ยนสี แดง
ใบเก่ากับกล่องเก็บของสี น้ าํ เงินหลายกล่องมาด้วย “กรุ ณาอย่าใช้
โทรศัพท์ตอนที่คุณอยูใ่ นบ้านผีสิง พวกเราจะเตรี ยมอุปกรณ์ให้แสง
สว่างที่จาํ เป็ นให้ อย่าวิง่ หรื อว่าพยายามยุยงให้เกิดการต่อสู ท้ ี่ในบ้าน
ผีสิง อย่าแตะต้องตัวนักแสดง และแน่นอนว่า นักแสดงก็จะไม่แตะ
ต้องตัวคุณ”
พนักงานพูดกฎต่าง ๆ ของบ้านผีสิงออกมาอย่างรวดเร็ วก่อนที่จะ
เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋ าและดึงไฟฉายเล็ก ๆ ออกมา “ตอนนี้ กรุ ณา
เข้าแถวและรับไฟฉายของคุณไปค่ะ”
ตอนที่คู่รักที่ดา้ นหน้าเดินผ่านไป พนักงานก็ส่งไฟฉายให้พวกเขา
ทันที แต่ตอนถึงคราวเฉินเกอ พนักงานยกมือห้ามเขาเอาไว้ “คุณคะ
คุณทิ้งกระเป๋ าเอาไว้ขา้ งนอกได้ไหมคะ? พวกเราจะคืนมันให้หลังจาก
ที่คุณเข้าชมเสร็ จแล้ว”
ิ ญาณสี เลือดสี่ ตนอยูใ่ นกระเป๋ าสะพายหลังของ
เฉินเกอส่ายหน้า มีวญ
เขา และเขาก็กงั วลว่าทั้งตึกนี่จะแย่เอาหากเกิดอุบตั ิเหตุอะไรขึ้น
“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่วา่ นัน่ เป็ นกฎ ฉันหวังว่าคุณจะให้
ความร่ วมมือกับพวกเรา” พนักงานยืนยัน
“คุณกลัวว่าผมจะเอาของผิดกฎเข้าไป? ไม่เป็ นไร ผมสามารถเปิ ด
กระเป๋ าให้คุณตรวจสอบได้” เทียบกับพนักงานของสถาบันฝันร้าย
เฉินเกอนั้นดูมีเหตุมีผลมากกว่า เขาเปิ ดกระเป๋ าของเขาต่อหน้ากลุ่ม
คน “ผมอ่านกฎของคุณหมดแล้ว ผมไม่ได้รับอนุญาตให้นาํ เชื้อเพลิง
ของมีคม และอุปกรณ์ถ่ายวิดีโอเข้าไปในบ้านผีสิงของคุณ อย่างที่
คุณเห็น ไม่มีของแบบนั้น”
ทุกคนมองเข้าไปในกระเป๋ าของเฉิ นเกอ และสี หน้าของพวกเขาก็
เปลี่ยนเป็ นสงสัยช้า ๆ
“ของพวกนี้มนั อะไรกัน?” รองเท้าส้นสู งสี แดงสด และตุก๊ ตาน่ารัก
นั้นอาจจะเข้าใจได้วา่ เป็ นงานอดิเรกประหลาดของเขา แต่วา่ เครื่ อง
เล่นเทปนี่คือ? ไว้เรี ยนภาษาอังกฤษเหรอ? แต่วา่ เขามาบ้านผีสิง
ทําไมถึงเอาของพวกนี้มาด้วย?
สายตาของผูเ้ ข้าชมคนอื่น ๆ ที่มองเฉินเกอเปลี่ยนเป็ นประหลาด และ
สมองของพนักงานก็เต็มไปด้วยเครื่ องหมายคําถาม
“อันที่จริ ง ก็ไม่มีของอันตรายอะไร แต่วา่ …” พนักงานหยิบเครื่ อง
เล่นเทปขึ้นมา เธอสงสัยว่าอาจจะมีกล้องตัวเล็ก ๆ อยูใ่ นของสิ่ งนี้
พนักงานกดปุ่ มเล่น เทปหมุน และก็มีเสี ยงแทรกดังขึ้น มันดูเหมือน
จะเป็ นเครื่ องเล่นเทปธรรมดา ๆ จริ ง ๆ
“คุณหมายความว่ายังไง? ในบ้านผีสิงของคุณนี่ผมเอาเครื่ องเล่นเทป
เข้าไปก็ไม่ได้ง้ นั เหรอ? ไม่มีกฎแบบนั้นตอนที่ผมไปบ้านผีสิงอื่น!”
เฉินเกอเถียงอย่างมัน่ ใจ
“แต่วา่ จุดสําคัญก็คือไม่มีใครคิดจะพกของอย่างนี้ไปด้วยตอนที่ไป
บ้านผีสิง” หลังจากลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง พนักงานก็วางเครื่ องเล่นเทป
กลับเข้าไปในกระเป๋ าและตรวจดูของอื่น ๆ ในช่องด้านในกระเป๋ า
พนักงานพบหนังสื อการ์ตูนสยองขวัญวาดด้วยมือและปากกาลูกลื่น
ที่ถูกเทปใสพันเอาไว้
“คุณเป็ นนักเขียนการ์ตูนเหรอ?”
“ผมดูไม่เหมือนเหรอ?” เฉินเกอไม่ได้ปฏิเสธหรื อว่ายอมรับ เขาแค่
มองพนักงานเงียบ ๆ
พนักงานไม่รู้วา่ จะตอบอย่างไร เธอเก็บทุกอย่างเข้าไปในกระเป๋ าแล้ว
ส่ งคืนเฉินเกอ “รับจดหมายแนะนํากับไฟฉายแล้วเข้าไปข้างในค่ะ”
เธอค้นในกระเป๋ าอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนที่จะเจอไฟฉายสี แดงอันหนึ่งแล้วส่ ง
ให้เฉิ นเกอ ไฟฉายนี่ดูคล้ายกับไฟฉายของคนอื่น แต่วา่ ของเฉินเกอ
เป็ นสี แดงขณะที่ของคนอื่นเป็ นสี เขียวทั้งหมด
หลังจากเดินผ่านประตูนิรภัย ผูเ้ ข้าชมทั้งหมดก็เข้าไปในลิฟท์
“ในอีกสิ บวินาที ฝันร้ายของคุณจะเริ่ มต้นขึ้น ถ้าคุณทนไม่ไหวแล้ว
และต้องการยอมแพ้ คุณแค่ตอ้ งร้องบอกใส่ กล้อง” พนักงานมองผู ้
เข้าชมเดินเข้าไปในลิฟท์และจากนั้นก็ช้ ีไปที่จดหมายแนะนําตัวที่
ทุกคนในกลุ่มถือเอาไว้ เธอพูดพร้อมรอยยิม้ ประหลาดบนใบหน้า
“คราวนี้จาํ นวนผูเ้ ข้าชมค่อนข้างน้อย เพื่อให้สมดุลกับความยากของ
พวกเรา ฉันจะบอกใบ้คุณเพิ่ม– ลองคิดดูนะคะ ว่าฝันร้าย ที่จริ งแล้ว
คืออะไร?”
พนักงานกดปุ่ มลิฟท์ ประตูปิด และลิฟท์กเ็ ริ่ มเคลื่อนขึ้นไป
“ฉุยหมิง นายเคยมาที่นี่มาก่อน นายรู ้ไหมว่าความลับเบื้องหลังจดหมาย
แนะนําตัวนี่คืออะไร?” นักเรี ยนคนหนึ่งถามเด็กชายข้าง ๆ เขา
“อย่าอ่าน ตอนที่เริ่ มเข้าฉากนายมองปลายเท้าตัวเองเอาไว้” ฉุยหมิง
นั้นดูเป็ นเด็กวัยรุ่ นขี้อายอายุสิบแปดคนหนึ่ง
“มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?” นักเรี ยนคนอื่น ๆ นั้นไม่อยากเชื่อ
เขาพยายามเปิ ดจดหมายแนะนําตัว แต่วา่ เพิ่งแกะได้ครึ่ งทางตอนที่
ไฟในลิฟท์ดบั ลง!
ความมืดที่จู่ ๆ ก็มาเยือน และลิฟท์จู่ ๆ ก็เต็มไปด้วยเสี ยงกรี ดร้อง
จากนั้น แสงไฟสี เขียวก็ปรากฏขึ้นจากผนังทั้งสี่ ดา้ นของลิฟท์
Chapter 729 ชมรมถ่ ายรู ป
ในลิฟท์ไม่มีจอบอกว่าพวกเขาอยูท่ ี่ช้ นั ไหนแล้ว ภายใต้แสงเรื องรอง
สี เขียว ใบหน้าตื่นตระหนกของผูเ้ ข้าชมนั้นดูค่อนข้างน่ากลัว พวก
เขาดูเหมือนเป็ นผีที่กลับมาในวันที่เจ็ดหลังความตาย
“ในเมื่อไม่มีพนักงานมากับพวกเรา ใครจะช่วยอธิบายได้ไหมว่านี่
หมายถึงการเข้าชมเริ่ มต้นอย่างเป็ นทางการแล้วใช่ไหม?” ผูช้ ายคนที่
เดินอยูด่ า้ นหน้าถาม เขามาพร้อมกับแฟนสาว ดังนั้นจึงตัดสิ นใจว่า
เขาไม่ควรยอมแพ้ง่ายเกินไป
“เหล่าฉุยเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ถ้าคุณมีคาํ ถามอะไร ถามเขาได้” เด็กที่
ตัวเตี้ยที่สุดในสามคนดึงแขนฉุยหมิง คนแรกนั้นดูเหมือนจะไม่
สะทกสะท้านกับความน่ากลัว แต่วา่ ร่ างกายของเขานั้นซื่อสัตย์กว่า
มาก ลิฟท์เคลื่อนที่ต่อไปและผูเ้ ข้าชมหลายคนก็หนั ไปหาฉุยหมิง
เด็กหนุ่มนั้นตัวสู งกว่าเพื่อน ผิวของเขาขาวมาก และเขาก็หน้าแดง
จากการตกเป็ นจุดสนใจ “พวกเรายังไม่ถือว่าเข้าฉากอย่างเป็ น
ทางการ ลิฟท์จะเปิ ดออกส่ งพวกเราเข้าไปในฉาก สถาบันฝันร้ายมี
ทั้งหมดหกชั้น แต่ละชั้นมีเรื่ องราวของตนเอง ส่ วนลิฟท์จะเปิ ดออก
ชั้นไหนนั้นเป็ นการสุ่ ม”
“ครั้งก่อนเธอมาชั้นไหน?” ชายในชุดดําถาม
“ผมก็บอกแน่ไม่ได้ ตัวเลขชั้นนั้นเขียนไว้ที่ในทางเดิน แต่วนั นั้น ผม
ยอมแพ้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในทางเดินด้วยซํ้า” ฉุยหมิงดูเป็ นเด็ก
ซื่อสัตย์คนหนึ่ง เขาตอบทุกคําถามที่คนอื่นถามเขา
“ไม่กล้าเข้าไปในทางเดิน? นี่เป็ นเพราะว่ามีนกั แสดงซ่อนตัวอยูใ่ น
ทางเดินเหรอ?” เมื่อเฉินเกอพูด เขาก็มีบรรยากาศของผูเ้ ชี่ยวชาญ
ฉุยหมิงพยักหน้า “มีพนักงานทํางานที่นี่เยอะมาก และพวกเขาก็ทาํ
หน้าที่ได้ดี ทางเดินเป็ นที่หนึ่งที่พวกเขาให้ความสนใจ นอกจากมัน
จะจําเป็ นมาก ๆ พวกเราควรจะหลีกเลี่ยงที่นนั่
“เข้าใจแล้ว” เฉินเกอหันไปมองเด็กนักเรี ยนทั้งสาม เวลาผ่านไป
บรรยากาศในลิฟท์กร็ าวกับจะหายใจไม่ออก เด็กสามคนเบียดตัวเข้า
หากันและมันก็เป็ นฉุยหมิงที่ดูข้ ีอายที่ดูมีสติที่สุด
“ตามความเข้าใจของผม การเข้าชมสถาบันฝันร้ายนั้นอาจจะยาวถึง
สองชัว่ โมงได้ หลังจากนี้ คงมีหลายส่ วนที่พวกเราต้องร่ วมมือกัน”
เฉินเกอมองเพื่อนร่ วมทีม “ผมชื่อเฉิ นเกอ ให้ผมเรี ยกพวกคุณที่เหลือ
ยังไงดีครับ?”
“พวกเราเป็ นเพื่อนร่ วมชั้นกัน เขาชื่อฉุยหมิง นี่หลี่ป๋อ และผมแซ่กวั่
ดังนั้นเรี ยกผมว่าเสี่ ยวกัว่ ก็ได้” ในนักเรี ยนทั้งสามคน ฉุยหมิงนั้นตัว
สู งและขี้อายที่สุด หลี่ป๋อนั้นร่ างใหญ่กว่า และเขาก็ดูน่ารักทีเดียว
เสี่ ยวกัว่ นั้นผอมมากและเตี้ยที่สุดในหมู่พวกเขา เขาค่อนข้างพูดเก่ง
ถึงแม้วา่ จะดูข้ ีอายเท่า ๆ ฉุยหมิงก็ตาม
“ผมชื่อหลี่หยวน และนี่แฟนผมเอง เซว่ลี่” หลังจากคู่รักแนะนําตัว
แล้ว ทุกคนก็หนั ไปหาผูห้ ญิงที่ยนื อยูต่ รงมุมเงียบ ๆ ผูห้ ญิงคนนั้นดู
เหมือนเธอเพิ่งเลิกกับแฟนมาและยังทําใจไม่ได้ ดวงตาของเธอนั้น
แดงและฉํ่านํ้าตา และเธอก็อาจจะมาที่นี่เพียงเพื่อระบายอารมณ์
อารมณ์ของเธอดูไม่ค่อยมัน่ คง หวังว่าเธอจะไม่หมดสติไปในบ้านผี
สิ งนะ
เฉิ นเกอมองผูห้ ญิงคนนั้นด้วยดวงตาหยินหยาง ตอนที่เขาส่ งบัตร
ประจําตัวของตนเองให้พนักงาน เขาก็จาํ พนักงานของสถาบันฝันร้าย
เอาไว้แล้ว ตอนที่พนักงานส่ งของให้เขา เขาก็ถูกจงใจทําให้แตกต่าง
จากคนอื่น เฉินเกอสังเกตเห็นเรื่ องนั้นชัดเจน แต่วา่ เขาก็ใจดีพอที่จะ
ไม่ทาํ ให้เรื่ องวุน่ วายขึ้น
ตอนนี้เมื่อมีคนแปลกหน้าอยูใ่ นกลุ่มด้วย ความคิดแรกของเฉินเกอก็
คือสงสัยว่าอันที่จริ งแล้วเธอเป็ นพนักงานของสถาบันฝันร้าย
เขามองเธออยูน่ านแต่ไม่สามารถพบร่ องรอยของเครื่ องสําอางบน
ใบหน้าของเธอ หากสมมติวา่ เธอเป็ นพนักงานที่นี่จริ ง ๆ ก็หมายความ
ว่าเธอเป็ นนักแสดงที่ไม่ได้อาศัยการแต่งหน้าพิเศษ
หลังจากจดรายละเอียดเหล่านี้ไว้ในใจแล้ว เฉินเกอก็หยุดให้ความ
สนใจกับเธอต่อ
ตึ้ง!
ลิฟท์สนั่ และผูเ้ ข้าชมทั้งหมดก็คว้าราวที่ตรงผนังเอาไว้ หลายวินาที
ให้หลัง ประตูกเ็ ปิ ดออกช้า ๆ และกลิ่นเหม็นประหลาดก็ลอยเข้ามา
ในพื้นที่แคบ ๆ เทียบกับความเป็ นธรรมชาติที่บา้ นผีสิงของเฉินเกอ
แล้ว กลิ่นนี่มีความเป็ นสารเคมี และมันยังติดอยูใ่ นจมูกของผูเ้ ข้าชม
ประตูลิฟท์เปิ ดออกสู่ โลกแห่งความมืด
“พวกเราควรจะออกไปไหม?”
“พี่ฉุย นี่เป็ นชั้นที่นายมาเมื่อครั้งก่อนไหม?”
“มันดูไม่เหมือนอย่างนี้นะ ตอนที่ประตูเปิ ดเมื่อครั้งก่อน มันเปิ ดเข้า
ไปที่หอ้ งโถงใหญ่ที่จดั เลี้ยงต้อนรับนักเรี ยนใหม่”
“นี่… ทําไมที่นี่มนั ถึงมืดขนาดนี้?”
“มีใครอยูไ่ หม?” เสี่ ยวกัว่ คว้าแขนฉุยหมิงขณะที่ขยับไปทางประตู
ลิฟท์ชา้ ๆ เขาเปิ ดไฟฉายและกําลังจะส่ องไฟออกไปข้างนอกตอนที่
หัวหัวหนึ่งจู่ ๆ ก็โผล่ออกมาจากด้านหนึ่งของประตู
เสี ยงกรี ดร้องก้องในลิฟท์ทนั ที นักเรี ยนทั้งสามคนเกาะกลุ่มกันแน่น
และหลี่หยวนกับเซว่ลี่กก็ อดกันแน่น ผูห้ ญิงเงียบ ๆ ก็ผงะไปด้านหลัง
ก้าวหนึ่ง และหลังของเธอก็กระแทกเข้ากับผนังลิฟท์ ทั้งกลุ่ม มีเพียง
เฉิ นเกอที่ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนเขาคิดเอาไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่ อง
แบบนี้ข้ ึน
หลังจากเสี ยงกรี ดร้องจางไป เจ้าของหัวก็กดเปิ ดไฟที่ในทางเดิน ไฟ
สี เขียวในลิฟท์ดบั ลงและโคมไฟเพดานแบบโบราณในทางเดินก็
ส่ องสว่างขึ้น ไฟกะพริ บดับ ๆ ติด ๆ สายไฟโผล่ออกมา และแสงก็
ดึงให้เงาของเหล่าผูเ้ ข้าชมดูยาวขึ้น
“พวกเธอเป็ นนักเรี ยนใหม่?” พนักงานที่ดา้ นนอกลิฟท์ยนื อยูใ่ ต้แสง
ไฟ เขาสวมเครื่ องแบบของโรงเรี ยนที่ไม่เข้ารู ปเอาเสี ยเลย “ผมขอดู
จดหมายแนะนําตัวของคุณได้ไหม?”
หลังจากตรวจตัว๋ พนักงานก็ทาํ ท่าทางประหลาด “พวกเราไม่มี
นักเรี ยนใหม่มานานมากแล้ว มีข่าวลือบอกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย บอก
ว่าที่นี่มีผสี ิ ง แต่นนั่ ล้วนเป็ นข่าวลือมุ่งร้ายที่คู่แข่งของเรากุข้ ึน ที่นี่
เป็ นแค่โรงเรี ยนธรรมดา ๆ เท่านั้น”
หลี่หยวนและเซว่ลี่เป็ นคู่แรกที่เข้าลิฟท์มา ดังนั้นตอนที่ออกจาก
ลิฟท์ พวกเขาก็อยูด่ า้ นหน้าเช่นกัน ตอนที่ท้ งั สองคนกําลังจะก้าวเท้า
ออกไป จู่ ๆ ก็มีเสี ยงดังอยูข่ า้ งหูพวกเขา “อย่าไป! หนีไป! อย่าไปที่
นัน่ !”
เซว่ลี่น้ นั กลัวแทบตายแล้วและเธอก็กรี ดร้องวิง่ ออกจากลิฟท์ไป ผู ้
เข้าชมคนอื่น ๆ ก็ทาํ ตามไปด้วย ตอนที่ทุกคนออกมาจากลิฟท์แล้วก็
มักจะมีใครสักคนหันกลับไปดูเสมอ ที่ผนังด้านในของลิฟท์น้ นั มี
ใบหน้าสี เขียวซีดที่กาํ ลังกรี ดร้อง โชคร้าย ผูเ้ ข้าชมนั้นออกจากลิฟท์
ไปแล้ว ประตูลิฟท์สีแดงเลือดที่ตกแต่งด้วยสายไฟประหลาดก็ปิด
ลงช้า ๆ เสี ยงกรี ดร้องของผูช้ ายคนหนึ่งก้องอยูใ่ นลิฟท์ที่วา่ งเปล่า
“เครื่ องฉายภาพสามมิติ?” เฉินเกอมองไปที่ใบหน้านั้น มันดูเหมือน
จริ งมาก แต่วา่ ดวงตาค่อนข้างว่างเปล่าและมองไปที่จุดเดียวเท่านั้น
นี่น่าจะเป็ นการตั้งค่าของโปรแกรม ถ้ามีคนยืนอยูต่ รงนั้นมันก็จะน่า
กลัวมาก แต่โชคไม่ดี ในเมื่อไม่มีใครอยูต่ รงนั้น มันก็ดูประหลาด
“ดูสิ มักจะมีคนพยายามทําลายชื่อเสี ยงของเรา แต่วา่ พวกเราอันที่
จริ งแล้วก็เป็ นโรงเรี ยนธรรมดา ๆ เลย” รุ่ นพี่ในชุดเครื่ องแบบนํา
นักเรี ยนใหม่เดินลึกเข้าไปในทางเดิน “โรงเรี ยนจัดงานเลี้ยงต้อนรับ
ให้พวกเธอทุกคน พวกเธอควรจะไปถ่ายรู ปแล้วก็ส่งรายงานตรวจ
ร่ างกายของพวกเธอก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ไปที่งานเลี้ยงต้อนรับ
ที่ช้ นั สาม”
หลังจากเดินไปได้ไม่กี่กา้ ว รุ่ นพี่คนนั้นก็หยุด เขาผลักเปิ ดประตูหอ้ ง
ที่ดา้ นข้าง “เข้ามาถ่ายรู ปก่อน”
คํา ‘ชมรมถ่ายภาพ’ เขียนเอาไว้บนประตูไม้ พื้นที่ดา้ นในนั้นกว้าง
กว่าที่คิดเอาไว้ อุปกรณ์ถ่ายรู ปหลายชิ้นถูกทิ้งเอาไว้ที่ตรงมุม และมี
เครื่ องฉายภาพอยูท่ ี่กลางห้องกําลังฉายภาพยนตร์อยู่
Chapter 730 ความสยองต่ อเนื่อง
“มา ไปยืนหน้าฉากสิ ” รุ่ นพี่ในชุดเครื่ องแบบที่ไม่พอดีหยิบกล้อง
โพลารอยด์ข้ ึนมาจากโต๊ะและเร่ งให้ผเู ้ ข้าชมทั้งหมดไปยืนทางซ้าย
ของเครื่ องฉาย “นับสามแล้วพูด ชีส นะ”
รุ่ นพี่กดปุ่ มถ่ายรู ป นิ้วของเขาไม่ได้ขยับออกจากแฟลชเลย ดังนั้น
แฟลชจึงกะพริ บต่อเนื่อง ในห้องมืด แฟลชสว่างจ้าจนมองอะไรไม่
เห็น และผูเ้ ข้าชมทั้งหมดก็ยกมือขึ้นมาบังตาตัวเองเอาไว้
“เอาละ รู ปเรี ยบร้อยแล้ว ฉันจะไปดูวา่ หมอมาถึงแล้วหรื อยัง พวกเธอ
ก็แจกรู ปพวกนี้ให้แต่ละคน คําแนะนําสุ ดท้าย อย่าแตะต้องอะไรใน
ห้องนี้”
ตอนที่รุ่นพี่พดู อย่างนั้น กล้องก็ยงั คง ‘คาย’ ภาพออกมา เขาสุ่ มหยิบ
รู ปใบหนึ่งขึ้นมา ยัดมันเข้าไปในกระเป๋ าและออกไปหลังจากวาง
กล้องกลับไปบนโต๊ะ
อุณหภูมิของเครื่ องปรับอากาศในห้องนั้นเย็น ลมพัดไล้ผวิ กายนอก
ร่ มผ้าของผูเ้ ข้าชม เด็กหนุ่มที่ชื่อฉุยหมิงกับหลี่ป๋อนั้นเดินไปทางโต๊ะ
ด้วยกัน พวกเขาหยิบรู ปขึ้นมาจากพื้น “พวกเราทางที่ดีกท็ าํ ตามที่เขา
แนะนํา มีภารกิจไขปริ ศนาหลายอย่างในโรงเรี ยนร้างนี่และเงื่อนงําก็
มักจะซ่อนอยูใ่ นอุปกรณ์ประกอบฉากเล็ก ๆ แบบนี้”
ฉุยหมิงนั้นมีประสบการณ์มาก่อน ครั้งก่อน เขาข้ามขั้นตอนการเก็บ
รวบรวมและวิเคราะห์อุปกรณ์ประกอบฉากเหล่านี้ ดังนั้นสุ ดท้าย
แล้วเขาก็ได้แต่ยอมแพ้ หยิบรู ปขึ้นมาแล้วฉุยหมิงก็ส่งพวกมันให้
เพื่อนร่ วมทีมตอนที่จู่ ๆ เขาก็ชะงัก “ทําไมถึงมีรูปเกินมา?”
ฉุยหมิงยืนอยูถ่ ดั จากเฉิ นเกอที่อยูด่ า้ นหลังกลุ่ม เฉินเกอนั้นยังไม่ได้
รู ป แต่วา่ มีรูปอยูใ่ นมือของฉุยหมิงสามใบ ไม่นบั ของเขาเองกับเฉิน
เกอ ก็ยงั มีเกินมารู ปหนึ่ง
“รู ปนัน่ น่าจะมีปัญหาแล้ว! บ้าชะมัด! ดูนี่สิ!” หลี่หยวนกรี ดร้องตอน
ที่ช้ ีไปที่รูปที่ตวั เองถือเอาไว้ “มีคนเกินมาในรู ปหมู่!”
ตอนที่ผเู ้ ข้าชมคนอื่นได้ยนิ อย่างนั้น พวกเขาก็กม้ ลงไปมองรู ปของ
ตัวเอง และพวกเขาก็ตกใจที่พบว่ามีคนที่เกินมายืนอยูถ่ ดั จากเซว่ลี่
ตอนที่พวกเขาถ่ายรู ป เธอสวมเครื่ องแบบของสถาบันฝันร้าย
ใบหน้าของเธอซีด และเธอก็จอ้ งตรงเข้ามาในกล้องขณะที่ศีรษะ
ของเธอเอนพิงอยูบ่ นไหล่ของเซว่ลี่
“นี่มนั ! แต่วา่ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยนะ!” เซว่ลี่ปัดไหล่ตวั เองรัว ๆ เธอ
ดูเป็ นผูห้ ญิงที่มีการศึกษาที่ไม่เคยปล่อยให้ตวั เองสบถหยาบคาย
เฉิ นเกอมองรู ป “รู ปนี่ไม่ได้ถูกดัดแปลง หรื อพูดอีกอย่างหนึ่ง นักแสดง
ที่ซ่อนอยูใ่ นห้องก่อนหน้าแล้วแอบออกมาตอนที่รูปถูกถ่าย”
เป็ นรุ่ นพี่คนนั้นที่เลือกตําแหน่งให้พวกเขายืนตอนที่ถ่ายรู ป สี ของ
กําแพงด้านหลังพวกเขานั้นต่างไปจากส่ วนอื่นที่เหลือ เมื่อมองใกล้ ๆ
แล้วก็บอกได้วา่ ตรงจุดนั้นโป่ งนูนออกมาเล็กน้อย
“ฉันไม่อยากอยูท่ ี่นี่ต่อแล้ว ไปกันเถอะ” เซว่ลี่กอดหลี่หยวนเอาไว้แน่น
“อย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียว ฟังคําแนะนําของพนักงานจะ
ปลอดภัยที่สุด” ฉุยหมิงเตือน “ไม่วา่ ฉากจะน่ากลัวแค่ไหน คุณก็จะ
ไม่เจออะไรที่น่ากลัวเกินไป แต่ถา้ คุณหลุดออกไปจากเรื่ องราวที่วาง
เอาไว้ คุณอาจจะไปเจอเข้ากับผีและสัตว์ประหลาดอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่
ในฉากอื่นและถึงตอนนั้นคุณก็จะได้รู้ความหมายที่แท้จริ งของคําว่า
สิ้ นหวัง”
“ได้” เซว่ลี่พิงอยูก่ บั ไหล่ของหลี่หยวน เธอรี บโยนรู ปทิ้งไป เธอกลัว
เกินกว่าจะถือมันเอาไว้ ดวงตาของเธอกวาดมองรู ปที่ฉายอยูบ่ นจอ
เซว่ลี่ไม่เคยดูหนังเรื่ องนี้มาก่อน นักแสดงหลักนั้นเป็ นนักเรี ยน พวก
เขามีป้ายชื่อชมรมถ่ายรู ปติดอยูแ่ ละหนังนัน่ ก็ถ่ายทําในห้อง “เดี๋ยว
ก่อนนะ มาดูหนังนี่สิ นี่มนั แปลกเหมือนกันนะ”
ทุกคนหันไปดูหนัง นักเรี ยนที่ในหนังกําลังทําความสะอาดห้องขณะ
ที่นกั เรี ยนคนหนึ่งเจอวิดีโอเทปเก่า ๆ ที่ดา้ นหลังตูใ้ บหนึ่ง พวกนักเรี ยน
มามุงดู พวกเขาดูสงสัยและตัดสิ นใจจะดูวา่ มีอะไรอยูใ่ นเทปนี่
หนังไม่มีเสี ยง– มันเหมือนพวกเขากําลังดูหนังเงียบอยู่ ต้องขอบคุณ
ที่บรรดานักแสดงนั้นมีทกั ษะการแสดงที่ดีและพวกเขาก็อธิบายเนื้อ
เรื่ องผ่านสี หน้าและการกระทําได้ ในหนัง นักเรี ยนวางเทปในเครื่ อง
เล่นเทป และก็เกิดภาพประหลาดตามมา ผูเ้ ข้าชมในบ้านผีสิงยืนอยู่
ในห้องของชมรมถ่ายภาพและดูหนังเกี่ยวกับนักเรี ยนชมรมถ่ายภาพ
ดูหนัง อยูใ่ นห้องเดียวกัน
สถานที่ซอ้ นทับกัน และกระทัง่ มุมของหนังยังคุน้ เคย มีเพียงคนดู
เท่านั้นที่เปลี่ยนไป ความคล้ายคลึงเช่นนี้น้ นั สามารถนําไปสู่ ภาพ
หลอนทางจิตใจ หลังจากปรับเครื่ องเล่นแล้ว หนังก็เริ่ มเล่น มันดู
เหมือนจะเป็ นเทปบันทึกกิจกรรมที่โรงเรี ยนจัด
บันทึกนั้นสั้นมาก ยาวเพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น หลังจากหนังจบ เด็ก
นักเรี ยนก็เล่นมันซํ้าหลายครั้ง และพวกเขาก็เริ่ มทะเลาะกัน ในเมื่อ
เป็ นหนังเงียบ ผูช้ มจึงบอกไม่ได้วา่ พวกเขากําลังทะเลาะกันเรื่ อง
อะไร หลังจากการทะเลาะนั้นยุติลง พวกเขาก็เริ่ มเล่นเทปอีกครั้ง
ตอนที่เทปหมุนไปได้สี่สิบสี่ วนิ าที นักเรี ยนคนหนึ่งก็กดปุ่ มหยุด นิ้ว
ของเขาชี้ไปที่ทางเดินที่มุมจอและพูดบางอย่างด้วยสี หน้าที่แข็งทื่อ
อย่างหวาดกลัว
หนังขยายภาพขึ้นมา และผูเ้ ข้าชมก็ได้เห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนที่โรงเรี ยนจัดกิจกรรมบางอย่าง มีเงาเงาหนึ่งวูบผ่านทางเดินไป
นักเรี ยนทะเลาะกันอีกครั้ง บางทีอาจจะเพราะมีบางคนไม่เห็นด้วย
คิดว่านัน่ เป็ นแค่ความผิดพลาดของเทปบันทึก การทะเลาะของพวก
เขาไปถึงไหนไม่รู้ แล้วนักเรี ยนก็ออกไปจากห้องทีละคนสองคน
เหลือไว้แค่นกั เรี ยนคนที่เป็ นคนแรกที่พบเงานัน่
นักเรี ยนคนนั้นเล่นเทปซํ้าหลายครั้งเหมือนพยายามพิสูจน์อะไร
บางอย่าง น่าประหลาด ตอนที่เขาเล่นเทปซํ้า เงาร่ างคนในทางเดินก็
ชัดเจนขึ้นเรื่ อย ๆ จนกระทัง่ ในที่สุดก็มองเห็นหน้าของคนผูน้ ้ นั ได้
มันเหมือนกับว่าคนที่ในทางเดินนั้นขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น ตอนที่
เขาเล่นซํ้าเป็ นครั้งที่สาม ก็สามารถมองเห็นใบหน้าซีดเผือดของ
ผูห้ ญิงที่มีเลือดเปื้ อนเปรอะยืนอยูใ่ นทางเดิน
ความสนใจของผูช้ มนั้นถูกดึงเข้าไปในหนังมากขึ้น จุดสนใจของ
หนังนั้นขยับไปมาระหว่างนักเรี ยนและเทปบันทึกและเครื่ องเล่นที่
อยูบ่ นจอ ในที่สุด ในการเล่นซํ้าครั้งที่หา้ ใบหน้าที่ทางเดินก็ชดั เจน
ที่สุด!
สี หน้าบิดเบี้ยวนัน่ ทําให้นกั เรี ยนรู ้สึกไม่ดี และมันก็ทาํ ให้หวั ใจของ
ผูช้ มนั้นเหมือนถูกความกลัวบีบรัดเข้ามา นักเรี ยนที่ในหนังเริ่ มตัว
สัน่ เขาพยายามเล่นเทปเป็ นครั้งที่หกด้วยมือสัน่ ๆ นัน่
เป็ นอีกครั้ง เทปถูกหยุดที่วนิ าทีที่สี่สิบสี่ แต่วา่ ครั้งนี้ เงาในทางเดิน
หายไป นักเรี ยนเกาหัวและเอนตัวเข้าไปใกล้หน้าจอมากขึ้น เขามอง
ทางเดินที่มุมจอใกล้ ๆ จากนั้น จอที่แขวนอยูบ่ นกําแพงก็เลื่อนหลุด
และใบหน้าน่าสยองก็ปรากฏอยูบ่ นผนังด้านหลังหน้าจอ!
ปัง!
ก่อนที่ผชู ้ มจะมีโอกาสกรี ดร้อง ประตูหอ้ งชมรมถ่ายภาพก็ถูกผลัก
เปิ ดและรุ่ นพี่กก็ รี ดร้องสุ ดเสี ยง “เร็ ว! วิง่ ! ฉันบอกพวกเธอแล้วว่า
อย่าแตะต้องอะไรในห้องนี้ไม่ใช่เหรอ!”
ก่อนที่ผเู ้ ข้าชมจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เซว่ลี่กร็ ู ้สึกว่าถูกผลักศีรษะ
เธอหันกลับไปดูและใบหน้าที่ควรจะอยูใ่ นหนังกลับมาปรากฏที่
ด้านหลังเธอ!
“อ๊า!” สติของเธอพังทลาย เซว่ลี่ลากหลี่หยวนวิง่ ออกจากห้องเร็ ว
ที่สุดเท่าที่เธอจะทําได้ นี่ทาํ ให้ความวุน่ วายกระจายไปทัว่ ทั้งกลุ่มที่
เหลือ มีเพียงเฉินเกอที่ยงั ยืนอยูก่ บั ที่ถือกระเป๋ าเอาไว้ ศึกษาเครื่ อง
ฉายที่บนผนังที่ดา้ นหลังห้องชมรมถ่ายภาพ
“พวกเขาคนหนึ่งดึงประตูเปิ ดเพื่อดึงดูดความสนใจของผูเ้ ข้าชม
ขณะที่อีกคนแอบออกมาจากทางเดินของพนักงาน จังหวะเวลานั้น
ไร้ที่ติ นี่ทาํ ได้กต็ ่อเมื่อมีการฝึ กซ้อมหลายต่อหลายครั้ง สถาบันฝัน
ร้ายนี่ประมาทไม่ได้เลยเหมือนกัน”

You might also like