Grammar m1-3 + Key (Edited 2aug2021

รป
ุ
ส แกรมม ่า
มัธยม
พร้อมแบบฝึกหัด
สารบัญ
เรื่อง หน้า
Chapter 1
Countable noun & uncountable noun 1-2
แบบฝึกหัดที่ 1-3 3-5
Chapter 2
Verb to be 6-8
Chapter 3
This & That 12
Chapter 4
These & Those 16
Chapter 5
Some & Any 20-21
Chapter 6
Few & Little 25
Chapter 7
How much & How many 29
Chapter 8
There is & There are 33
สารบัญ(ต่อ)
Chapter 9
Much & Many 37
Chapter 10
Have & Has 41-43
Chapter 11
Do & Does 47
Chapter 12
Wh-Questions 51-53
Chapter 13
Comparison 57-59
Chapter 14
Present Simple Tense 63
Chapter 15
Present Continuous Tense 67-68
Chapter 16
Present Perfect tense 72-73
Chapter 17
Present Perfect Continuous tense 77-78
Chapter 18
Past Simple Tense 82-83
Chapter 19
Past Continuous Tense 87-88
Chapter 20
Wh-Questions 92-93
Chapter 21
Past Perfect Continuous Tense 99-100
Chapter 22
If – Clauses 106-109
Chapter 23
Part of speech : Noun 116
Part of speech : Pronoun 120

Part of speech : Verb 124-125
Part of speech : Adjective 129

Part of speech : Adverb 133

Part of speech : Preposition 137-138

Part of speech : Conjunction 142-144

Part of speech : Interjection 148-149

เฉลย
Chapter 1
COUNTABLE NOUN & UNCOUNTABLE NOUN
1. COUNTABLE NOUN
การทําให้ นามเอกพจน์
เปนพหูพจน์
a princess
มีอยู่หลายรู ปแบบ ดังนี
คํานามทีเติม s ได้เลย
คํานามทีเติม es
(ลงท้าย s, sh, ch, x, z, o)
คํานามทีต้องเปลียน y = ies
princesses คํานามทีต้องเปลียน f/fe = ves
or คํานามทีเปลียนรู ปไปเลย
3 pricesses คํานามทีทังในรู ปเอกพจน์
และพหูพจน์ ทีเขียนเหมือนกัน
***หน้ า y เปนสระ เติม s ได้เลย
เช่น boys
Countable Noun (นามนับได้) มีอยู่ 2 รูป คือ

นามเอกพจน์ (Singular Noun) และนามพหูพจน์ (Plural Noun)
Singular Noun Plural Noun

คือ คํานามที่มีเพียงสิ่งเดียว คือ คํานามที่มีมากกว่า 1 สิ่ง มักไม่มี
คนเดียว อันเดียว ตัวเดียว โดยจะมี Article (a, an)นําหน้าเมื่อไม่เจาะจง
a, an เมื่อพูดถึงคํานามทั่วๆไป มักจะเติม s, es ลงท้ายคํานาม
เช่น a princess, a castle เป็นต้น เช่น princesses, crowns
ถ้าเป็นการเจาะจง จะใช้ the นําหน้า **ถ้าพหูพจน์มี the นําหน้าแสดงว่าเป็น
เช่น the prince, the crown, นามพหูพจน์ที่ชี้เฉพาะ
the king เป็นต้น เช่น The Doors
English By Tinglish 1
Chapter 1
2. UNCOUNTABLE NOUN
Uncountable Nouns คือคํานามที่นับไม่ได้นามประเภทนี้

มักจะเป็นนามที่หมายถึงสิ่งที่เป็นเนื้อเดียวกัน
หรือเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้ไม่ได้
และนามนับไม่ได้นี้ แม้บางครั้งจะนับเม็ดได้ แต่ไม่มีใคร
กระทําดังกล่าว จึงถือว่าเป็นคํานามที่นับไม่ได้ เช่น rice
คํานามที่นับไม่ได้จะไม่มีรูปพหูพจน์ และเราไม่สามารถใช้
a, an two หรือ six..............วางหน้าคําเหล่านี้
คํานามที่นับไม่ได้ที่พบบ่อย food อาหาร meat เนื้อ
bread ขนมปัง rice ข้าว butter เนย jam แยม เป็นต้น
Examples
A cup of = 1 ถ้วย
I want some bread. A glass of = 1 แก้ว
(ฉันอยากได้ขนมปัง) A bottle of = 1 ขวด
The soup in red cup is mine. A cone of = 1 กรวย (กรวยไอติม)
(ซุปในถ้วยสีแดงนั่นคือของฉัน) A spoon of = 1 ช้อน
Can I have a cup of coffee? A kilo of = 1 กิโล
(ฉันขอกาแฟสักหนึ่งถ้วยได้ไหม)
A slice of = 1 ชิ้น
**เราสามารถเปลี่ยนคํานามนับไม่ได้ให้เป็นนามนับได้ A piece of = 1 ชิ้น
โดยการใส่ภาชนะให้ หรือแบ่งเป็นชิ้นอย่างชัดเจน เช่น
A bowl of = 1 ถ้วย
**
A plate of = 1 จาน
cup = a cup of coffee
A jar of = 1 เหยือก
glass = a glass of milk
bottle = a bottle of water A bag of = 1 ถุง
cone = a cone of ice-cream A bar of = 1 แท่ง
spoon = a spoon of salt
kilo = 2 kilos of sugar
slice = a slice of bread
piece = a piece of cake
Exercise 1
Chapter 1
คําชี้เเจง : เติม C ลงในช่องว่างที่กําหนดให้ หากเป็นคํานามที่นับได้
และเติม U สําหรับคํานามที่นับไม่ได้
1. apple 2. rice 3. bread
4. honey 5. meat 6. hat
7. bag 8. fan 9. tomatoes
10. pizza 11. cherries 12. milk
Exercise 2
Chapter 1
คําชี้เเจง : เปลี่ยนคํานามในรูปเอกพจน์(singular) ให้เป็นพหูพจน์(plural)
โดยเขียนลงในช่องว่างที่กําหนดให้
1. tree 2. pillow
................ ................
3. toy 4. door
................ ................
5. box 6. lemon
................ ................
7. bus 8. monkey
................ ................
Exercise 3
Chapter 1
คําชี้เเจง : เติมคํานามลงในช่องว่างให้เหมาะสมกับ a partitive noun ที่กําหนดให้
tea water chocolate ice-cream meat

salt pizza honey milk flour
1. A cup of ..........................
2. A piece of ........................
3. A bar of ........................
4. A spoon of ........................
5. A kilo of ........................
6. A jar of ........................
7. A glass of .......................
8. A cone of ........................
9. A bag of .......................
10. A bottle of ......................
Chapter 2
VERB TO BE
verb to be ซึ่งประกอบด้วย is, am, are ในรูปของปัจจุบัน verb to be แปลว่า "เป็น" "อยู่"
หรือแปลว่า "คือ" ดังนั้น verb to be จึง เป็นกริยาที่สําคัญที่สุดในภาษาอังกฤษ
เพราะเป็นกริยาที่บอกว่าสิ่งสิ่งนี้หรือคนนี้ "เป็น" อะไร, "คือ" อะไร หรือ "อยู่" ที่ไหน
**verb to be มีการเปลี่ยนรูปตามคํานามที่เป็นประธาน (subject) มีการใช้กันอยู่สองแบบ
คือ แบบเอกพจน์ (singular) is, am และแบบพหูพจน์ (plural) คือ are
1. ใช้กับคําสรรพนาม และคํานาม subject singular plural veb to be
I am
I am a girl.
You are
(ฉันเป็นเด็กผู้หญิง)
She is in the room. examp He is
(เขาอยู่ในห้อง) les She is

You are my best friend. It is
(คุณคือเพื่อนสนิทของฉัน) We are
Jane is my younger sister. are
They
(เจนคือน้องสาวของฉัน)
ชือคน สั ตว์
Mike and Jay are here with me. สิ งของ 1 อย่าง is
(ไมค์และเจย์อยู่ที่นี่กับฉัน)
ชือคน สั ตว์
สิ งของ are
มากกว่า 1 อย่าง
2. ใช้วางหน้าคําคุณศัพท์ (adjective)
เพื่อบอกสภาพ คําคุณศัพท์ (adjective)
คือคําที่บอกลักษณะ สภาพ ของคํานาม
I am beautiful. เช่น fat = อ้วน
(ฉันสวย) skinny = ผอม
She is happy. examp tall = สูง
(เขามีความสุข) les short = เตี้ย
beautiful = สวย
You are so cute.
ugly = ขี้เหร่
(คุณน่ารักมาก)
big = ใหญ่
Jane and Tammy are tall.
small = เล็ก
(เจนและแทมมี่สูง)
happy = มีความสุข
sad = เศร้า
Chapter 2
VERB TO BE
3. ใช้กับโครงสร้างประโยค
passive voice (ประธานถูกกระทํา)
หากอยู่ในรูปอดีต จะเปลี่ยนจาก is am are
เป็น was were เช่น
House is cleaned every day. I was bitten by her dog.
(บ้านถูกทําความสะอาดทุกวัน) examp (ฉันถูกกัดโดยสุนัขของเธอ)
Rice is eaten by me. les Trees were watered by me.
(ข้าวถูกฉันกิน) (ต้นไม้ถูกฉันรดนํ้า)
They are called a genius.
(พวกเขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะ)
That cat is fed by me every day.
(แมวตัวนั้นถูกฉันให้อาหารทุกวัน)
รูปแบบประโยคต่างๆ
verb to be สามารถอยู่ในรูปประโยคต่างๆได้ดังนี้
1. ประโยคบอกเล่า
2. ประโยคปฏิเสธ
3. ประโยคคําถาม (ประเภท Yes/No Question)
** คือคําถามที่ต้องการให้ตอบ Yes หรือ No เท่านั้น
I am a girl.
(ฉันเป็นเด็กผู้หญิง)
examp
She is in the room. les
(เขาอยู่ในห้อง)
You are my best friend.
(คุณคือเพื่อนสนิทของฉัน)
Jane is my younger sister.
(เจนคือน้องสาวของฉัน)
Mike and Jay were here with me yesterday.
(ไมค์และเจย์อยู่ที่นี่กับฉันเมื่อวานนี้)
Chapter 2
VERB TO BE
2. ประโยคปฏิเสธ เปลี่ยนจากประโยคบอกเล่า
เป็นประโยคปฏิเสธ โดยการ
I am not a girl. เติม not ข้างหลัง verb to be
(ฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิง)
She is not in the room.
(เขาไม่อยู่ในห้อง)
You are not my best friend.
(คุณไม่ใช่เพื่อนสนิทของฉัน)
Jane is not my younger sister. รูปย่อของ verb to be + not
(เจนไม่ใช่น้องสาวของฉัน) is not = isn't
Mike and Jay were not here with me yesterday.
(ไมค์และเจย์ไม่ได้อยู่ที่นี่กับฉันเมื่อวานนี้)
are not = aren't
3. ประโยคคําถาม
Am I your best friend? การตอบ

(ฉันเป็นเพื่อนสนิทของคุณหรือไม่) ให้ดูประธาน และ verb to be เช่น
Is she a teacher? Is she a teacher?
(เขาเป็นครูใช่หรือไม่)
= Yes, she is. / No, she isn't
Are you in the room? Are they students?
(คุณอยู่ในห้องหรือไม่)
= Yes, she is. / No, she isn't
Is Jane happy?
(เจนมีความสุขหรือไม่) **ระวัง ถ้าถาม you ต้องตอบ I
Are Mike and Jay here? ถ้าถาม I ต้องตอบ you เช่น
(ไมค์และเจย์อยู่ที่นี่หรือไม่) Am I cute? = Yes, you are.
Are you happy? = Yes, I am
Exercise 4
Chapter 2
VERB TO BE
คําชี้เเจง : เติม verb to be (is, am, are / was, were)
ลงในช่องว่างที่กําหนดให้ ให้เหมาะสมกับประธานในประโยค
1............they happy ?
2. I ........... a woman.
3. She ..............my mother.
4.............he a doctor?
5. ............you hungry?
6.They ............ teachers 10 years ago.
7. we ............. students now.
8. It............. my cat.
9. She ............... my friend 2 years ago.
10. ...............they your dogs?
Exercise 5
Chapter 2
VERB TO BE
คําชี้เเจง : เปลี่ยนประโยคให้อยู่ในรูปประโยคปฏิเสธโดยเขียนลงในช่องว่าง
1. I am happy.
2. She is my English teacher.
3. Jane is my cousin.
4. We were best friends.
5. He is in the room.
6.They were teachers 10 years ago.
Exercise 6
Chapter 2
VERB TO BE
คําชี้เเจง : เปลี่ยนประโยคให้อยู่ในรูปประโยคคําถามโดยเขียนลงในช่องว่าง
1. She is sad.
2. He is your teacher.
3. Jay is your cousin.
4. I am beautiful.
5. She is in the house.
6.They are students.
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
This (นี ) ่ กล้ เปนเอกพจน์
ั สิ งทีอยูใ
ใช้กบ
That (นั น) ั สิ งทีอยูไ่ กล เปนเอกพจน์

ใช้กบ
1. This
This แปลว่า นี่ ใช้ในการพูดถึงสี่งที่เป็นเอกพจน์
ที่อยู่ใกล้หรืออยู่ที่ตัวผู้พูด ใช้กับคํานามที่เป็น
examples เอกพจน์และอยู่ใกล้ๆ โดยมีความหมายว่า นี่/ที่นี่
หรือ ตรงนี้ ซึ่งจะมีความหมายเหมือนกันกับคําว่า
This is a cat. นี่คือแมว
"here"
This is a banana. นี่คือกล้วย
This is an apple. นี่คือแอปเปิล
2. That
ใช้กับคํานามที่เป็นเอกพจน์เช่นเดียวกับ This
examples แต่จะใช้กับสิ่งที่อยู่ไกล โดยมีความหมายว่า
นั่น/ที่นั่น/ตรงนั้น ซึ่งจะมีความหมายเหมือนกัน
That is a dog. นั่นคือสุนัข กับคําว่า "there"
That is a table. นั่นคือโต๊ะ
That is a sharpener. นั่นคือกบเหลา
**บางครั้งมีคํานําหน้าเป็นคําแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น
my (ของฉัน) his (ของเขาผู้ชาย) her (ของเขาผู้หญิง)
This is my cat. นี่คือแมวของฉัน

That is my mother. นี่คือแม่ของฉัน
Exercise 7
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
คําชี้แจง : วงกลม This หรือ That เพื่อให้ประโยคสอดคล้องกับภาพที่กําหนดให้
1. 2.
This / That is an eraser. This / That is a girl.
3. 4.
This / That is a lamp. This / That is a window.
5. 6.
This / That is an elephant. This / That is my scissors.
Exercise 8
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
คําชี้แจง : เติม This / That ลงในช่องว่างให้เหมาะสมกับประโยคและภาพ
1. 2. 3.
.............is a pen. .............is a table. .............is a bird.
4. 5. 6.
.............is a banana. .............is a pineapple. .............is an apple.
7. 8. 9.
.............is a chair. .............is a cat. .............is a dog.
Exercise 9
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
คําชี้แจง : เขียนประโยคโดยใช้ This is / That is ให้เหมาะสมกับคําศัพท์และภาพ
1. cup 2. bowl
3. spoon 4. hat
5. sweater 6. car
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
These
(เหล่านี )
ใช้กับสิ งทีอยู่ใกล้ เปนพหู พจน์
Those ั สิ งทีอยูไ่ กล เปนพหูพจน์

ใช้กบ
(เหล่านั น)
1. These
ใช้กับคํานามที่เป็นพหูพจน์ (มีหลายคน
examples หลายสิ่ง หลายอัน หลายตัว) และอยู่ใกล้ๆ
โดยมีความหมายว่า เหล่านี้
These are cats. เหล่านี้คือแมว
These are bananas. เหล่านี้คือกล้วย
These are apples. เหล่านี้คือแอปเปิล
2. Those
ใช้กับคํานามที่เป็นพหูพจน์เช่นเดียวกับ
examples These (คือใช้กับคําที่มีหลายคน
หลายสิ่ง หลายอัน หลายตัว) แต่จะใช้กับสิ่ง
Those are dogs. เหล่านั้นคือสุนัข ที่อยู่ไกล โดยมีความหมายว่า เหล่านั้น
Those are tables. เหล่านั้นคือโต๊ะ
Those are sharpeners. เหล่านั้น
คือกบเหลา
Exercise 10
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
คําชี้แจง : วงกลม These หรือ Those เพื่อให้ประโยคสอดคล้องกับภาพที่กําหนดให้
1. 2.
These / Those are erasers. These / Those are girls.
3. 4.
These / Those are lamps. These / Those are windows.
5. 6.
These / Those are elephants. These / Those are my scissors.
Exercise 11
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
คําชี้แจง : เติม These / Those ลงในช่องว่างให้เหมาะสมกับประโยคและภาพ
1. 2. 3.
.............are pens. .............are tables. .............are birds.
4. 5. 6.
.............are bananas. .............are pineapples. .............are apples.
7. 8. 9.
.............are chairs. .............are cats. .............are dogs.
Exercise 12
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
คําชี้แจง : เขียนประโยคโดยใช้ These are / Those are ให้เหมาะสม
กับคําศัพท์และภาพ
1. cups 2. bowls
3. spoons 4. hats
5. sweaters 6. cars
Chapter 5
SOME & ANY
มักใช้กับประโยคบอกเล่า มักใช้กับประโยคปฏิเสธ
หรือกับประโยคคําถามบางประโยค และใช้กับประโยคคําถาม
Some กับ Any ใช้กับคํานามที่ไม่ระบุจํานวน

ดังนั้นคํานามต้องอยู่ในรูปพหูพจน์เท่านั้น โดยสามารถใช้ได้ทั้งนามนับได้และนับไม่ได้
Some
มักใช้กับประโยคบอกเล่า
และประโยคคําถามบางประโยค
examples Some ใช้ในประโยคบอกเล่าทั่วไป

เป็นการบอกจํานวนที่ไม่ชัดเจน มีความ
I have some butter. หมายว่าพอมีอยู่บ้าง หรือมีอยู่นิดหน่อย
ฉันมีเนยอยู่บ้าง
I have some milk.
ฉันพอมีนมอยู่บ้าง
I have some sugar.
ฉันพอมีนํ้าตาลอยู่บ้าง
Some มักใช้ในประโยคคําถาม
ที่ต้องการให้ผู้ตอบ ตอบว่า Yes
2. ประโยคคําถามบางประโยค คือการเสนอเเนะหรือการขอร้อง
ประโยคเสนอ
Do you want some milk? ประโยคขอร้อง
คุณต้องการนมสักหน่อยไหม
Can I have some water?
Would you like some cookies?
ฉันขอนํ้าสักหน่อยได้ไหม
คุณต้องการคุกกี้สักหน่อยไหม
Chapter 5
Any
มักใช้กับประโยคปฏิเสธ
และประโยคคําถาม
1. ประโยคปฏิเสธ
*การใช้ Any ในประโยคบอกเล่า เป็นการใช้
Any ใช้ในประโยคปฏิเสธโดยจะมีความหมายว่า ในกรณีพิเศษกับประโยคที่มีความหมายว่า
"เลย" เพื่อเป็นการเน้นความชัดเจนของการปฏิเสธ อะไรก็ได้, ยังไงก็ได้, ใครก็ได้ เช่น
เช่น I don't have any questions. You can call me any time.
ฉันไม่มีคําถามอะไรเลย คุณสามารถโทรหาฉันเวลาไหนก็ได้
I don't have any dogs. You can choose any dresses.
ฉันไม่มีสุนัขสักตัวเลย คุณสามารถเลือกชุดไหนก็ได้
I don't have any sugar.
ฉันไม่มีนํ้าตาลอยู่เลย
2. ประโยคคําถาม
การใช้ Any ในประโยคคําถาม
สามารถใช้นําหน้าคํานามพหูพจน์
Examples ทั้งที่นับได้และนับไม่ได้
Do you have any questions?
คุณมีคําถามอะไรอีกหรือเปล่า
Do you have any pencils?
คํานามนั บได้รูปเอกพจน์ คํานามนั บได้รูปพหู พจน์ คํานามนั บไม่ได้
คุณมีปากกาอีกไหม
Is there any water in the bottle?
มีนํ้าในขวดบ้างหรือเปล่า
ประโยคบอกเล่า a car some cars some milk
ประโยคคําถาม a car any cars any milk
ประโยคปฏิเสธ a car any cars any milk
Exercise 13
Chapter 5
SOME & ANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยวงกลม some / any
1. Those are some / any flowers.
2. We have some / any pizza.
3. I don't have some / any pencils.
4. I don't have some / any questions.
5. Would you like some / any milk?
6. These are some / any honey.
7. Those are some / any elephants.
8. Do you want some / any water?
9. Can I have some / any tea?
10. Do you have some / any brothers?
Exercise 14
Chapter 5
SOME & ANY
คําชี้แจง : เติมเครื่องหมาย เพื่อเลือกคําตอบที่ถูกที่สุด
1. Can I have __________ tea?

some any
2. Would you like __________ coffee?
some any
3. __________ cats are sleeping.
some any
4. Is there __________ milk left?
some any
5. I can see __________ boys playing football.
some any
6. Does she have __________ brothers?
some any
7. I have __________ money.
some any
8. Do you have __________ dogs?
some any
9. I don't have __________ pens.
some any
Exercise 15
Chapter 5
SOME & ANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม some / any ลงในช่องว่าง
1. These are ........................ students.
2. Those are ........................ tigers.
3. Do you have ...................... pencils?
4. I don't have ....................... questions.
5. I don't have ...................... sugar.
6. I would like ...................... honey.
7. Would you like ................ tea?
8. Can I have ................. milk?
9. Can you see .................. lions?
10. Do you have .................. brothers?
Chapter 6
FEW & LITTLE
few / a few / little /a little
เป็นคําบอกปริมาณที่มีความหมายเหมือนกันคือ มีน้อย แต่มีการใช้ที่แตกต่างกัน โดย few กับ
a few ใช้กับคํานามนับได้ ในรูปพหูพจน์ ส่วน little กับ a little ใช้กับคํานามนับไม่ได้
1. ใช้กับนามนับได้
มีความหมายด้านลบ คือมีน้อย แทบจะไม่มีเลย มีความหมายด้านบวก คือมีน้อย แต่ก็ยังพอมี

เช่น อยู่บ้าง เช่น
He has few friends. He has a few friends.

เขาแทบไม่มีเพื่อนเลย
few เขาก็พอมีเพื่อนอยู่บ้างนะ
a few
I have few pens. I have a few pens.
ฉันแทบจะไม่มีปากกาเลย ฉันก็พอมีปากกาอยู่บ้างนะ
2. ใช้กับนามนับไม่ได้
มีความหมายด้านลบ คือมีน้อย แทบจะไม่มีเลย มีความหมายด้านบวก มีน้อย แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง

เช่น เช่น
There is little milk in the glass. There is a little milk in the glass.
แทบไม่มีนมอยู่ในแก้วเลย พอจะมีนมอยู่ในแก้วอยู่บ้าง
I have little money. little I have a little money. a little

ฉันแทบจะไม่มีเงินเลย ฉันพอจะมีเงินอยู่บ้าง
Exercise 16
Chapter 6
FEW & LITTLE
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ few / a few / little / a little
1. There is few / little honey.
2. There are few / little kids.
3. There is a few / little salt.
4. There are few / little bears in the zoo.
5. A few / little dogs are running.
6. There is few / little coffee.
7. There is few / little cake.
8. There are few / little coconuts.
9. There is few / little orange juice.
10. There are few / little trees.
Exercise 17
Chapter 6
FEW & LITTLE
1. There are __________ women.

a few a little
2. There is __________ food on the table.
few little
3. There are __________ sleeping cats.
a few a little
4. There is __________ milk in the bottle.
few little
5. There are __________ boys in the classroom.
a few a little
6. There are __________ coins in my bag.
a few a little
7. I have __________ money.
a few a little
8. She has __________ water.
few little
9. There are __________ pens.
few little
Exercise 18
Chapter 6
FEW & LITTLE
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม a few / a little ลงในช่องว่าง
1. These are ........................ crayons.
2. These are ........................ teeth.
3. There is ...................... snow.
4. I have ....................... luck.
5. Those are ...................... sheep.
6. She needs ................... help.
7. They're having ..................... fun.
8. Give me ...................... more grapes.
9. The girl drank ....................... water.
10. I'll be back in ................... minutes.
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
Much และ Many แปลว่ามากเหมือนกัน แต่การใช้ต่างกัน
How much จะใช้ถามปริมาณ หรือราคา
How many จะใช้ถามจํานวน ว่ามีเท่าไหร่
1. How much ใช้กับนามนับไม่ได้

Uncountable Noun
ใช้เพื่อถามปริมาณ หรือราคา มักจะใช้กับนามที่นับไม่ได้
เช่น sugar , money , coffee , cake, water, honey เป็นต้น
How much money do you have? (คุณมีเงินอยู่เท่าไหร่)
How much sugar do you want? (คุณต้องการนํ้าตาลเยอะแค่ไหน)
How much rice do you eat in the morning? (คุณกินข้าวเยอะแค่ไหนตอนเช้า)
How much milk do you drink a day? (คุณดื่มนมเยอะแค่ไหนต่อวัน)
How much is it? (ราคาเท่าไหร่)
2. How many ใช้กับนามนับได้

Countable Noun
ใช้เพื่อถามจํานวนคํานามนับได้ในรูปเอกพจน์และพหูพจน์
How many sister do you have? คุณมีพี่สาวกี่คน
How many oranges do you want? คุณต้องการส้มกี่ผล
How many dogs are there? มีสุนัขกี่ตัว
How many people are there in your family? คุณมีสมาชิกในครอบครัวกี่คน
How many book do you have? คุณมีหนังสือกี่เล่ม
money (เงิน) = นามนับไม่ได้

***ระวัง ! coin (เหรียญ) = นามนับได้
Exercise 19
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ how much / how many
1. How much / many eggs did you buy ?
2. How much / many coffee did you drink last night ?
3. How much / many girls are there in your group ?
4. How much / many cans of beer do you want ?
5. How much / many time have you got to play ?
6. How much / many stars can you see in the sky ?
7. How much / many sugar would you like ?
8. How much / many money did you pay for the bike ?
9. How much / many hours do you sleep every night ?
10. How much / many water did you drink ?
Exercise 20
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
1. How ______ do you like music?

much many
2. How __________ bees are there on the tree?
much many
3. How __________ glasses of beer would you like?
much many
4. How __________ money does she have?
much many
5. How __________ mice are there in your house?
much many
6. How __________ coins are there in your bag.
much many
7. How __________ sugar do you want?
much many
8. How ______ children are there in the playground?
much many
9. How _______ women are there in the room?
much many
Exercise 21
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม How much / Howmany ลงในช่องว่าง
1. _______ sausages are there in your sandwich?
2. _______students are there in your class?
3. _______cheese is there in the pizza?
4. _______food is there in the bag?
5. _______brothers or sisters have you got?
6. _______water do you drink every day?
7. _______eggs are there in a dozen?
8. _______tomatoes do you need for your salad?
9. _______money do you want?
10. _______beef do we need?
Chapter 8
THERE IS & THERE ARE
There is / There are ความหมายเหมือนคําว่า have / has ที่แปลว่า มี
2 คํานี้มีความหมายที่เหมือนกันแต่ใช้แตกต่างกัน
There is ใช้กับนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ และคํานามนับไม่ได้
There are ใช้กับพหูพจน์
1. There is ใช้กับนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์
และนามนับไม่ได้
There is ใช้เพื่อบอกการมีอยู่ของบางสิ่งบางอย่าง
โดยจะใช้กับคํานามที่นับไม่ได้ เช่น rice, water, cake เป็นต้น และใช้กับคํานามนับได้
ที่เป็นเอกพจน์ เช่น a girl, a dog, an elephant เป็นต้น
There is a boy. (มีเด็กผู้ชายอยู่ 1 คน)
There is an orange in the kitchen. (มีส้ม 1 ลูก อยู่ในครัว)
There is coffee in the cup. (มีกาแฟอยู่ในถ้วย)
There is some cake on the plate. (มีเค้กอยู่บนจาน)
2. There are ใช้กับนามนับได้

ที่เป็นพหูพจน์
There are ใช้เพื่อบอกการมีอยู่ของบางสิ่งบางอย่าง
โดยจะใช้กับคํานามที่นับได้ ที่อยู่ในรูปเอกพจน์ เช่น girls, trees, 5 students เป็นต้น
There are 3 boys. มีเด็กผู้ชายอยู่ 3 คน
There are some oranges in the kitchen. มีส้ม(มากกว่า 1 ลูก) อยู่ในครัว
There are many dogs in the garden. มีสุนัขจํานวนมากอยู่ในสวน
There are many flowers. มีดอกไม้อยู่มากมาย
Exercise 22
Chapter 8
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ there is / there are
1. There is / There are a woman.
2. There is / There are some pencils.
3. There is / There are any leaves.
4. There is / There are an orange.
5. There is / There are one book.
6. There is / There are three balloons.
7. There is / There are a bear.
8. There is / There are a few bees.
9. There is / There are an ant.
10. There is / There are grapes.
Exercise 23
Chapter 8
1. ______ a police car.

There is There are
2. __________ two kids.
There is There are
3. __________ some cherries.
There is There are
4. __________ a monkey.
There is There are
5. __________ a butterfly.
There is There are
6. __________ a few birds.
There is There are
7. __________ many flowers.
There is There are
8. __________ three children.
There is There are
9. __________ a tree.
There is There are
Exercise 24
Chapter 8
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม there is / there are ลงในช่องว่าง
1. .......................a Spanish girl in my class.
2. ...................... a pencil in my schoolbag.
3. ....................... five apples in the basket.
4. ...................... a jumper on the chair.
5. ...................... a spider in the grass.
6. ...................... some children in the house.
7. ...................... six forks next to the plate.
8. ...................... a panda in the zoo.
9. ...................... a few bees at the jar.
10. ...................... some pigs in the field.
Chapter 9
MUCH & MANY
Much / Many แปลว่า มากเหมือนกัน แต่ใช้ต่างกัน
Much = ปริมาณมาก ใช้กับนามนับไม่ได้เสมอ
Many = จํานวนมาก ใช้กับคํานามนับได้ที่เป็นพหูพจน์
1. Much ใช้กับนามนับไม่ได้
Much มีความหมายว่า มาก มักจะใช้กับคํานามที่นับไม่ได้เสมอ เช่น
There is not much time. มีเวลาอยู่ไม่มาก

I like it so much. ฉันชอบมันมาก
I love my sister so much. ฉันรักพี่สาว/น้องสาวของฉันมาก
Thank you so much. ขอบคุณมาก
2. Many ใช้กับนามนับได้
ที่เป็นพหูพจน์
Many มีความหมายว่า จํานวนมาก มักจะใช้กับคํานามที่นับได้

และอยู่ในรูปพหูพจน์
Are there many children? ที่นั่นมีเด็กอยู่เยอะไหม

There are many students. ที่นี่มีนักเรียนจํานวนมาก
There are many pens on the desk. มีปากกาจํานวนมากอยู่บนโต๊ะ
There are't many people in the park. มีผู้คนอยู่ที่สวนไม่มากนัก
Exercise 25
Chapter 9
MUCH & MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ much / many
1. There isn't much / many snow.
2. Are there much / many children?
3. There aren't much / many shops.
4. Is there much / many food left?
5. There aren't much / many lemons.
6. Is there much / many honey?
7. There isn't much / many olive oil.
8. There are too much / many people.
9. There is too much / many noise.
10. I like it so much / many.
Exercise 26
Chapter 9
MUCH & MANY
1. We don't see _____ flowers in winter.

much many
2. My daughter spends too _____ money.
much many
3. There weren't ____ cars in the city yesterday.
much many
4. Thank you so _____ for your help.
much many
5. You didn't drink _____ last night.
much many
6. Do you know _____ people in Spain ?
much many
7. Are there ____different insects species?
much many
8. I don't speak _____ French.
much many
9. She doesn't have _____ time to read.
much many
Exercise 27
Chapter 9
MUCH & MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม much / many ลงในช่องว่าง
1. Jane hasn't got ....................... time.
2. Do you know ................... words in English?
3. He didn't eat ................... meat.
4. There isn't .................. butter in the fridge.
5. How .................. eggs did the hens lay?
6. Samantha has as ................... money as Bruce.
7. How .............. lessons do you have on Mondays?
8. There was too .................... noise in the streets.
9. I cannot see ................... stars in the sky tonight.
10. Do you have ................... friends abroad?
Chapter 10
HAVE & HAS
• เป็นกริยาสําคัญในประโยค แปลว่า มี หรือ รับประทาน
• เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของรูปประโยค Perfect Tense
แยกใช้กับประธานในประโยคดังต่อไปนี้
1. ประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3
ซึ่งได้แก่ He She It หรือ ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียว

ที่ถูก กล่าวถึง ใช้ has เช่น
· He has many pens.
· Dang has a dog.
· Her sister has a doll.
·This cat has a short ear.
2. ประธานที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3
ประธานที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3 ทั้งหมดใช้ have เช่น

·They have big buffaloes.
·The foxes have long ears.
·I have breakfast.
·We have a big farm.
Chapter 10
HAVE & HAS
*** การสร้างประโยคที่มี have, has ให้เป็นประโยคปฏิเสธ ***
ใช้ do, does เข้ามาช่วย โดยให้สอดคล้องกับประธาน คือ
1. ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่ 3
ซึ่งได้แก่ He, She, It คนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียวที่ถูก

กล่าวถึง ใช้ does ตามด้วย not เป็น does not. เช่น
· He does not have brother.
· She does not have money. does not
· It does not have a tail. ใช้รูปย่อเป็น doesn’t
· James does not have any pens.
2. ถ้าประธานเป็นตัวอื่นที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3
ถ้าประธานเป็นตัวอื่นที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3 ใช้ do ตามด้วย not

เป็น do not. เช่น
· They do not have any brothers. Do not
· We do not have any money. ใช้รูปย่อเป็น don' t
· You do not have a tail.
· James and Susan do not have any pens.
*** หมายเหตุ ในประโยคปฏิเสธไม่ว่าประธานจะเป็นพจน์

หรือบุรุษใด ใช้ have ทั้งหมด
Chapter 10
HAVE & HAS
การทําประโยคที่มี have has ให้เป็นประโยคคําถาม ที่ต้องการคําตอบ
Yes/No หรือ Yes/No Questions มีหลักการดังนี้
· เอา do ,does เข้ามาช่วย โดยวางไว้หน้าประประโยค

และต้องอยู่หน้าประธานของประโยค
· ผัน do ,does … ให้สอดคล้องกับประธานของประโยค
· ในประโยคคําถามให้ใช้ have เพียงตัวเดียวเท่านั้น
หลังจบประโยคต้องใส่เครื่องหมายคําถาม เช่น
- We have some money. >>> Do we have money?
- It has a tail. >>> Does it have a tail?
- James and Susan have pens. >>> Do James and Susan have pens?
- He has a big buffalo. >>> Does he have a big buffalo?
กริยา to have หรือ Verb to haveในรูปประโยคSimple Present Tense

มี 2 รูป คือ have และ has แปลว่า มี กิน
จะไม่มีการเติม s หรือ es ที่กริยา have แต่จะเปลี่ยนรูปตามประธานเช่น
I / You / We /
They/The students
/The dogs
Have
Breakfast at home.
He / She / It /
The student/ Has
The dog
Exercise 28
Chapter 10
HAVE & HAS
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ have / has
1. You have / has a lot of money.
2. This tree have /has many flowers.
3. My sister have / has a teddy bear.
4. The butterfly have / has six legs.
5. Ann and Ihave / has a dog.
6. I have / has a headache.
7. This man have / has three cats.
8. The children have / has a pretty smile.
9. The giraffe have / has a long neck.
10. She have / has got long hair.
Exercise 29
Chapter 10
HAVE & HAS
1. Lions ___ big teeth.

have has
2. I ___ a brother.
have has
3. April ___ thirty days.
have has
4. Parrots ___ colourful feathers.
have has
5. We ___ a problem.
have has
6. They___four apples.
have has
7. Do we ___ money?
have has
8. Does she ___ a big buffalo?
have has
9. I don't ___ any brothers.
have has
Exercise 30
Chapter 10
HAVE & HAS
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม have / has ลงในช่องว่าง
1. Jane ............................... five dogs.
2. Bill and Jane ................... a great teacher.
3. The car ................... air conditioning.
4. We .................. a lovely house.
5. Jill .................. a kind friend.
6. You ................... eight correct answers.
7. The house .............. four bedrooms.
8. I .................... no money.
9. They ................... a blue car.
10.The cat ................... brown fur.
Chapter 11
หลักการใช้ DO & DOES
Do = ใช้กับ I , You , We , They หรือใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์
Does = ใช้กับ He , She , It หรือใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์หรือชื่อคน
**Do / Does ยังสามารถทําเป็นประโยคคําถามได้ โดยการวาง Do / Does ไว้ข้างหน้าประโยค
I do the ironing.
ฉันรีดผ้า
I You do the laundry.

You คุณซักผ้า
We ใช้
They
Do Do you have any questions?
คุณมีคําถามอะไรอีกไหม
ชื่อคน/สัตว์(พหูพจน์) Do you want to have lunch?

คุณอยากไปทานข้าวเที่ยงไหม
He does homework.
เขาทําการบ้าน
My mom does the ironing.

แม่ของฉันรัดผ้า He
Does she come from china?
เขามาจากประเทศจีนใช่มั้ย
She ใช้
It
Does
Does Tom like football? ชื่อคน/สัตว์ (เอกพจน์)
ทอมชอบกีฬาฟุตบอลใช่มั้ย
Exercise 31
Chapter 11
DO & DOES
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ Do / Does
1. Do / Does I sing well?
2. Do / Does you play football?
3. I do / does the ironing.
4. Do / Does he like this book?
5. Do / Does she speak English?
6. Do / Does monkeys eat bananas?
7. He do / does homework.
8. Do / Does we play video games?
9. Do / Does you have any questions?
10. Do / Does your teacher live in London?
Exercise 32
Chapter 11
DO & DOES
1. Rebecca ___ drink coffee.

don't doesn't
2. We ___ wear jeans.
don't doesn't
3. These boys ___ play golf.
don't doesn't
4. I ___ like coconut juice.
don't doesn't
5. Your brother ___ smile.
don't doesn't
6. This car ___ run fast.
don't doesn't
7. They ___ go to the cinema.
don't doesn't
8. My mother ___ like rats.
don't doesn't
9. My dog ___ eat apples.
don't doesn't
Exercise 33
Chapter 11
DO & DOES
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม do / does / don't / doesn't
ลงในช่องว่าง
1. ____ you play the guitar? No, I ____
2. ____ your sister like sport ? Yes, she ____
3. ____ we live in a flat ? Yes, we ____
4. ____ he go to school ? No, he ____
5. ____ monkeys eat fruit ? Yes, they ____
6. ____ cows swim well ? No, they ____
7. ____ the cat run very fast ? No, it ____
8. ____ cats like dogs ? No, they ____
9. ____ you wash your car ? Yes, I ____
10. ____ this dog bite ? No, it ____
Chapter 12
WH-QUESTIONS
Who , What , Where, When , Why , How
Wh - questions ก็คือ คําถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh แต่จะมี How พ่วงมาด้วยอีกหนึ่งตัว
คําเหล่านี้มีความหมายต่างกันและการใช้ก็ต่างกัน
Who is your best friend ?

ใครคือเพื่อนสนิทของคุณ
Who
Who is your eldest brother?
ใครคือพี่ชายคนโตของคุณ
Who are they ?

พวกเขาคือใคร
(ใคร) Who is the king of Spain ?

ใครคือพระราชาของประเทศสเปน
What colour are your eyes ?

ตาของคุณสีอะไร
What
What is your favorite color?
สีโปรดของคุณคือสีอะไร
What are you doing?
(อะไร)
คุณกําลังทําอะไร
What fruit do you like?

คุณชอบผลไม้อะไร
Chapter 12
WH-QUESTIONS
Where is your friend ?

เพื่อนของคุณอยู่ที่ไหน
Where Where are my keys ?

กุญแจของฉันอยู่ที่ไหน
Where is Janny ?
(ที่ไหน) เจนนี่อยู่ที่ไหน
Where is she going ?

เขากําลังจะไปที่ไหน
When were you born?

คุณเกิดเมื่อไหร่
When
When will we meet again?
เมื่อไหร่เราจะได้พบกันอีก
When will your father go home?
(เมื่อไหร่)
พ่อของคุณจะกลับบ้านเมื่อไหร่
When will they go to the cinema?

เมื่อไหร่พวกเขาจะไปโรงภาพยนตร์
Chapter 12
WH-QUESTIONS
Why don't they like me?

ทําไมพวกเขาถึงไม่ชอบฉัน
Why
Why do you say that?
ทําไมคุณถึงพูดอย่างนั้น
Why are they smiling?
(ทําไม) ทําไมพวกเขาถึงยิ้ม
Why didn't you come to the party last night?

ทําไมคุณถึงไม่มางานเลี้ยงเมื่อคืนนี้
How have you been ?

คุณเป็นอย่างไรบ้าง
How
How do you go to school?.
คุณไปโรงเรียนอย่างไร
How old is your sister?
(อย่างไร)
พี่สาวคุณอายุเท่าไหร่
How deoes she know that?

เขารู้ได้อย่างไร
Exercise 34
Chapter 12
WH-QUESTIONS
คําชี้แจง : วงกลมข้อที่ถูกต้องและเหมาะสมกับประโยคที่สุด
1. ___ did you leave the party so early ?

A. Who B. What C. Where D. When E. Why F. How
2. ____ is my new shirt ?

3. ____ are you angry with me today ?

4. ____ is that woman over there ?

5. ____ are you going now ?

6. ____ is in the bathroom ?

7. ____ have you been ?

Exercise 35
Chapter 12
WH-QUESTIONS
1. ____ is your name ?

Where What
2. ____ are you from ?
Where Who
3. ____ is your birthday ?
Who When
4. ____ is your favourite singer ?
Who Why
5. ____ do you live ?
When Where
6. ____ is your phone number ?
Who What
7. ____ is your favourite hobby ?
When What
8. Excuse me. ____ is the park ?
How Where
9. ____ will you go home ?
When Who
Exercise 36
Chapter 12
WH-QUESTIONS
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม Who / What / Where / When
/ Why / How ลงในช่องว่าง
1. __________ is the train station?
2. __________ lives here?
3. __________ is he so sad?
4. __________ colour is it?
5. __________ will the film start?
6. __________ is the post office?
7. __________ are you laughing?
8. __________ is your English teacher?
9. __________ long has she been here?
10. __________ can I call him?
Chapter 13
COMPARISON
Comparison คือการเปรียบเทียบ มีด้วยกัน 3 ขั้น คือชั้นธรรมดา(positive degree)
ขั้นกว่า(comparative degree) และขั้นสุด(superlative degree)
Positive Degree
(การใช้คําคุณศัพท์ในการเปรียบเทียบขั้นธรรมดา)
โครงสร้างประโยค : S + V. to be + as adjective as
　เราใช้ as…as ในการเปรียบเทียบของสองสิ่งที่เท่ากันหรือเหมือนกันทุกประการ
โดยคําคุณศัพท์ที่ใช้เปรียบเทียบในขั้นธรรมดานี้จะไม่มีการเปลี่ยนรูปหรือเติมคําใด ๆ
หลัง adjective นั้น ๆ เช่น
Adam is as old as Jane. คํา Adjective ที่เปลี่ยนรูปไปเลย

อดัมอายุพอๆกับเจน เมื่อเกิดการเปรียบเทียบก็มีนะ !
bad - worse - the worse
I am as tall as him. far - farther / further - the farthest / furthest
ฉันสูงพอๆกับเขา good - better - the best
many - more - the most
Jane works as hard as her sister.
เจนทํางานหนักพอๆกับพี่สาว/น้องสาวของเธอ
I am as beautiful as her.
ฉันสวยพอๆกับเธอ
This bag is as expensive as that one.

กระเป๋าใบนี้แพงเท่ากันกับอีกใบหนึ่ง
Chapter 13
COMPARISON
Comparative Degree
(การใช้คําคุณศัพท์ในการเปรียบเทียบขั้นกว่า)
　โครงสร้างประโยคแบบที่ 1 : S + V. to be + adj. +er + than

　การเปรียบเทียบคําคุณศัพท์ขั้นกว่านี้มี 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรกจะมีการเติม -er
ท้ายคําคุณศัพท์ (adjective) นั้น ๆ และตามด้วย than เพื่อเปรียบเทียบว่า
สิ่งหนึ่ง … กว่าอีกสิ่งหนึ่ง เช่น
I am taller than Jessica. Note : บางคําหากลงท้ายด้วย y

ฉันสูงกว่าเจสสิก้า จะต้องเปลี่ยนเป็น i ก่อนเติม -er หรือ -est
เช่น happy - happier
She is older than me.

เขาแก่กว่าฉัน คําพยางค์เดียวมีสระตัวเดียวและตามด้วย
พยัญชนะตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะซํ้าก่อนเติม
My mom work harder than me. –er หรือ –est
เช่น big - bigger
แม่ของฉันทํางานหนักกว่าฉัน
โครงสร้างประโยคแบบที่ 2 : S + V. to be + more + adj. + than

　รูปแบบที่สองจะเติมคําว่า more ไว้ด้านหน้าแล้วตามด้วยคําคุณศัพท์ (adjective) นั้น ๆ
และตามด้วย than เพื่อเปรียบเทียบว่า สิ่งหนึ่ง … กว่าอีกสิ่งหนึ่ง เช่น
She is more beautiful than Jessica. คําพยางค์เดียวลงท้ายด้วย e

เธอสวยกว่าเจสสิก้า ให้ตัด e ทิ้งก่อนเติม – er หรือ – est
เช่น wide - wider
Your bag is more expensive than mine.

กระเป๋าของคุณแพงกว่าของฉัน
Physics is more difficult than Math.

วิชาฟิสิกส์ยากกว่าวิชาคณิตศาสตร์
Chapter 13
COMPARISON
Superlative Degree
(การใช้คําคุณศัพท์ในการเปรียบเทียบขั้นสุด)
　　โครงสร้างประโยคแบบที่ 1 : S + V. to be + the + adj. + est

　　การเปรียบเทียบขั้นสูงสุดนี้มี 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรกจะใช้ the นําหน้า adj.
ที่มีการเติม -est ท้ายคํานั้น ๆ เพื่อเปรียบเทียบว่า สิ่งนั้น … ที่สุด เช่น
She is the tallest girl.

เขาเป็นเด็กผู้หญิงที่สูงที่สุด
I am the shortest girl.

ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่เตี้ยที่สุด
She was the cleverest girl I have ever known.

เธอเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักมา
โครงสร้างประโยคแบบที่ 2 : S + V. to be + the + most + adj.

　รูปแบบที่สอง จะใส่ the most ไว้ด้านหน้า adj. นั้น ๆ เพื่อเปรียบเทียบว่า สิ่งนั้น … ที่สุด เช่น
Jane is the most famous singer.

เจนคือนักร้องที่ดังที่สุด
This car is the most expensive.

รถยนต์คันนี้เเพงที่สุด
I am the most beautiful woman in this world.

ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกนี้
Exercise 37
Chapter 13
COMPARISON
คํา ชี้ แจง : ทํา ให้ ประโยคถู กต้ องโดยขี ดเส้ นใต้
comparative adjectives ที่ เหมาะสมที่ สุ ด
Teddy Bobby Fred
4 y e a rs old 9 years old 5 y ears old

Goo d + ++ Go od + + G oo d +
Be au t ifu l + Beau tiful ++ + Beaut iful ++
1. Teddy is younger / older than Fred.
2. Fred is younger / older than Bobby.
3. Bobby is bigger / smaller than Teddy.
4. Teddy is bigger / smaller than Fred.
5. Teddy is better / worse than Bobby.
6. Fred is better / worse than Teddy.
7. Bobby is uglier / more beautiful than Fred.
8. Booby is uglier / more beautiful than Teddy.
Exercise 38
Chapter 13
COMPARISON
คํา ชี้ แจง : เปลี่ ยนคํา ที่ กํา หนดให้ เป็ นคํา เปรี ยบเที ยบในขั้ นกว่ า
(Comparative Degree)
hot ni ce bad expensi ve l ar ge

happy l ong good bi g tal l smal l
1. 7.
2. 8.
3. 9.
4. 10.
5. 11.
6.
Exercise 39
Chapter 13
COMPARISON
คํา ชี้ แจง : ใช้ ข้ อมู ลที่ กํา หนดให้ แล้ วตอบคํา ถามลงในช่ องว่ าง
Teddy Bobby Fred
4 y e ars o ld 9 yea rs old 5 y ears o ld

Go o d + + + Go od + + G oo d +
Be au tifu l + Beaut ifu l ++ + Beaut ifu l ++
1. Who is the best?
2. Who is the oldest?
3. Who is the worst?
4. Who is the youngest?
5. Who is the most beautiful?
Chapter 14
PRESENT SIMPLE TENSE
โครงสร้าง : S. + V.1(s/es)
Present Simple Tense คือประโยคที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ

เช่น ฉันว่ายนํ้าทุก ๆ วัน โดยรูปประโยคของ Present Simple Tense
ประธานจะผันตามคํากริยา
ประธานเอกพจน์ คํากริยาเป็นเอกพจน์ โดยเติม s/es
เช่น My mom cooks some food for me.
ประธานพหูพจน์ คํากริยาเป็นพหูพจน์ โดยคงเดิมไม่ต้องเติม s/es
เช่น They enjoy playing the football.
รูปประโยคของ Present Simple Tense
ประโยคบอกเล่า S + V.1… He plays guitar very well.
S + V.to be + not… I am not your servant.

ประโยคปฏิเสธ He does not watch television
S + V. to do + not… at home.
V.to be + S …? Is she your sister ?

ประโยคคําถาม
Do they play football every
V. to do + S…?
evening?
Exercise 40
Chapter 14
คําชี้แจง : เปลี่ยนคํากริยาที่กําหนดให้ในวงเล็บให้อยู่ในรูป
Present Simple Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. She .................... (walk) to the cinema.
2. My brother ................. (come) to school.
3. We .................... (play) football.
4. I always .................... (play) tennis.
5. They .................... (drink) coffee.
6. Jane doesn't ...................(go) to the market.
7. He doesn't ................ (dance) on the floor.
8. Jim .................... (talk) to his friends.
9. My dog ................. (run) away.
10. She often...................... (read) books.
Exercise 41
Chapter 14
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้คํากริยาที่เหมาะสม
1. We drink / drinks tea every day.
2. Frank study / studies biology.
3. This duck have / has beautiful colours.
4. Many shops close / closes at seven o'clock.
5. A woman never say / says her age.
6. The gardener cut / cuts the grass.
7. Storks fly / flies south in winter.
8. She go / goes to the beach in summer.
9. My father travel / travels to Spain twice a year.
10. The cat catch / catches the mouse.
Exercise 42
Chapter 14
1. My mother ____ on Sundays.

work works
2. We ____ the answers.
write writes
3. It ____ grass.
eat eats
4. I ____ more ice cream.
want wants
5. She never ____ chess.
play plays
6. They ____ to school.
walk walks
7. He ____ a bus.
drive drives
8. Monkeys ____ a lot of noise.
make makes
9. This girl ____ Italian.
speak speaks
Chapter 15
PRESENT CONTINUOUS TENSE
โครงสร้าง : S. + is/am/are + V.ing
การใช้ Present Continuous Tense
1. ใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์หรือการกระทําในปัจจุบันที่กําลังดําเนินอยู่และยัง
ไม่จบลง (จะจบลงในอนาคต) โดยอาจพบคําบอกเวลา (Adverbs of time) ปรากฏ
อยู่ในประโยคด้วย เช่น now, at the moment, right now เป็นต้น
ตัวอย่าง
I am studying at Chulalongkorn University.
(ฉันกําลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
Palm is trying to lose weight now.
(ปาล์มกําลังพยายามลดนํ้าหนักอยู่ตอนนี้)
2. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทําที่กําลังเป็นกระแสหรือเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น
These day, most people are favoring healthy food.
(ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่กําลังนิยมอาหารเพื่อสุขภาพ)
Chapter 15
3. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทําที่กําลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีการเตรียมและ
วางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอนแล้ว และมักพบคําบอกเวลา (Adverbs of time)
เช่น tonight, this evening, tomorrow, next week เป็นต้น
I am meeting my parent tonight.
(ฉันจะพบกับพ่อแม่ในคืนนี้)
Cherprang and Pun are going on holiday next week.
(เฌอปรางและปัญจะไปพักร้อนสัปดาห์หน้า)
รูปประโยคของ Present Continuous Tense
S + is/am/are
ประโยคบอกเล่า My sister is playing violin.
+ V.ing…
S + is/am/are The students are

ประโยคปฏิเสธ
+ not + V.ing… not studying Science.
Is/Am/Are + S
ประโยคคําถาม Is it raining at the moment ?
+ V.ing…?
Exercise 43
Chapter 15
คําชี้แจง : เปลี่ยนคําที่กําหนดให้ในวงเล็บให้อยู่ในรูป
Present Continuous Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. They are ____________. (read)
2. She is ____________. (sing)
3. We are ____________. (draw)
4. It is ____________. (fly)
5. My father is ___________. (drive)
6. She is ___________. (eat)
7. Pam is ___________. (play)
8. We are ___________. (ride)
9. I am ___________. (walk)
10. You are ___________. (write)
Exercise 44
Chapter 15
คําชี้แจง : เปลี่ยนประโยคที่กําหนดให้อยู่ในรูป Present Continuous Tense
1.This man drinks tea.
2. I have breakfast.
3. We run in the park.
4. Butterflies fly very high.
5. They look at the picture.
6. Jane talk to her friends.
7. My mother sleeps.
Exercise 45
Chapter 15
คํา ชี้ แจง : เปลี่ ยนประโยคที่ กํา หนดให้ อยู่ ในรู ปประโยคคํา ถาม
ของ Present Continuous Tense
Chapter 16
PRESENT PERFECT TENSE
โครงสร้าง : S. + have/has + V.3
การใช้ Present Perfect Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในอดีต และดําเนินต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และมีแนว

โน้นที่จะดําเนินต่อไปได้อีกในอนาคต เช่น
I have had a lot of toys.
ฉันมีของเล่นมากมาย (และอาจจะมีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)
2. ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมายังปัจจุบัน เช่น

It has stopped raining.
ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)
3. ใช้พูดถึง เหตุการณ์หรือการกระทําที่เกิดขึ้นซํ้าๆกัน ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างอดีต

และปัจจุบัน โดยมักใช้คําว่า many/several times, a lot of times, …times,
again and again, over and over และอื่นๆ เช่น
I’ve read this book more than 3 times.
(ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มามากกว่าสามรอบแล้ว)
Chapter 16
4. ใช้กับเหตุการณ์ที่ เพิ่งสิ้นสุดลง โดยไม่ระบุเวลา ซึ่งมักใช้กับ just, already และ
yet เช่น yet มักใช้ในประโยคปฏิเสธ ส่วน just
I haven’t finished my homework yet. และ already นั้น มักจะใช้กันในประโยค
บอกเล่า โดยวางไว้อยู่หน้ากริยาหลัก
(ฉันยังทําการบ้านของฉันไม่เสร็จเลย)
5. ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งมักใช้กับ just, recently,

lately และอื่นๆ
The meeting has just started. (การประชุมเพิ่งจะเริ่มขึ้น)
6. ใช้กับ since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา)

I have been here since I was about 15 years old.
ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 15 (ปัจจุบันฉันก็ยังคงอยู่ที่นี่)
รูปประโยคของ Present Perfect Tense
S + have / has
ประโยคบอกเล่า You have talked to her.
+ V.3…
S + have / has
ประโยคปฏิเสธ You have not talked to her.
+ not + V.3…
Have / Has + S + V.3?

Have you talked to her?
ประโยคคําถาม Wh + have / has + S + V.3?
Who What Where When Why How
Where has she slept?
Exercise 46
Chapter 16
Present Perfect Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. It ___ _____ a lot. (rain)
2. We _____ _____ tennis. (not play)
3. I ____ _____ my keys. (lose)
4. Who ___ he _____ recently? (meet)
5. Why _____ you _____ me? (not call)
6. Paul ___ _____ an accident. (have)
7. My sister ___ already _____ to bed. (go)
8. She _____ _____ that book yet. (not read)
9. They ____ _____ for a long time. (walk)
10. Where ____ you _____ this week? (be)
Exercise 47
Chapter 16
คําชี้แจง : เปลี่ยนประโยคที่กําหนดให้อยู่ในรูป Present Perfect Tense
1. Someone eat my apple.
2. Oh no ! I break a window.
3. My sister starts a new job recently.
4. I write my English essay.
5. I lose all my money.
6. I buy some new shoes and a hat.
7. They live here for a long time.
Exercise 48
Chapter 16
ของ Present Perfect Tense
1. You have painted the kitchen door.
2. Your brother have done the shopping.
3. Janny has ever touched a spider.
4. You have ever ridden on an elephant.
5. We has ever flown in a helicopter.
6. Bill has turned off the radio.
7. You have ever cooked for your parents.
Chapter 17
PRESENT PERFECT CONTINUOUS TENSE
โครงสร้าง : S. + have/has + been + V.ing
การใช้ Present Perfect Continuous Tense
1. ใช้เหมือนกับ present perfect tense (เหตการณ์ที่เกิดในอดีต ดําเนินมาถึง

ปัจจุบัน และต่อเนื่องไปในอนาคต) แต่เป็นการเน้นว่าทําต่อเนื่อง
2. กริยาที่นํามาเติม ing ให้อ้างอิง present continuous tense เสมอ
เปรียบเทียบระหว่าง present perfect

กับ present perfect continuous
present perfect
It has rained for three hours.
ฝนตกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง (ประโยคนี้เป็นแบบธรรมดา ไม่เน้น)
present perfect continuous

It has been raining for three hours.
ฝนตกเป็นเวลา 3 ชั่วโมง (ประโยคนี้ผู้เขียนอยากให้เห็นภาพว่า ฝนตกแบบไม่ขาด
สายต่อเนื่องมาจนบัดนี้)
Chapter 17
tense นี้ใช้บอกกล่าวเหตุการณ์ทเี่ กิดขึ้นในอดีต ดําเนินมาถึงปัจจุบัน

(อย่างต่อเนื่อง) และน่าจะดําเนินต่อไปอีกในอนาคต
Examples You’ve been watching TV since 9 o’clock.

คุณดูทีวี (ไม่ทําอย่างอื่นเลย) ตั้งแต่ 9 โมงเช้า (นี่มันเที่ยงแล้ว)
She’s been dancing for 3 hours.

หล่อนเต้นรําเป็นเวลา 3 ชั่วโมงรวด (แบบว่าหางเครื่องน้อย ต้องเต้นตลอด)
They haven’t been watching TV since 9 o’clock.
พวกเขาไมได้ดูทีวี (ไม่ทําอย่างอื่นเลย) ตั้งแต่ 9 โมงเช้านะ (ดูเมื่อกี้เอง)
How long have you been waiting for me?

คุณคอยผมนานแค่ไหน
I’ve been waiting for you for 3 hours.
ฉันคอยคุณ 3 ชั่วโมง (นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนเลย)
รูปประโยคของ Present Perfect Continuous tense
S. + have/has + been
ประโยคบอกเล่า I’ve been walking for two hours.
+ V.ing
S. + have/has + not
ประโยคปฏิเสธ I haven’t been walking for
+ been + V.ing
two hours.
Have / Has + S Has a boy been playing games

+ been + V.ing? for 4 hours?
ประโยคคําถาม
Wh + have / has + S
What have you been doing
+ been + V.ing?
Who What Where When Why How
for two hours.
Exercise 49
Chapter 17
Present Perfect Continuous Tense
โดยเติมลงในช่องว่าง
1. What ____ you ____ ______? (cook)
2. ____ you ____ ______ in the pool? (swim)
3. It ____ ____ ______ all day. (rain)
4. Who ____ ____ ______ here? (sleep)
5. We ______ ____ ______ cards. (not play)
6. She ____ ____ ______ around. (run)
7. John ____ ____ _______ beer. (drink)
8. I ______ ____ _______ books. (not read)
9. ____ they ____ _______ all night? (drive)
10. Who ____ ____ _______ today? (smoke)
Exercise 50
Chapter 17
คําชี้แจง : เปลี่ยนประโยคที่กําหนดให้อยู่ในรูป
1. I study all morning.
2. Are you taking photos?
3. The dogs is barking.
4. She dances for 4 hours.
5. He doesn't smoke lately.
6. It snowed for 2 days.
7. We don't drink alcohol.
Exercise 51
Chapter 17
ของ Present Perfect Continuous Tense
1. Is he working all day?
2. Why are you crying?
3. Who is eating the cakes?
4. What are you doing all day?
5. Is she running for 2 hours?
6. Are children watching TV for two hours?
7. Are you waiting here for long?
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
โครงสร้าง : S. + V.2
การใช้ Past Simple Tense
1. Past Simple Tense ใช้ในเหตุการณ์ในอดีตที่จบไปแล้ว หรือ ใช้บอกในเรื่อง

ที่เป็นกิจวัตรประจําในอดีต หรือเคยไปที่ไหนในอดีตมาแล้ว
****สังเกตง่าย ๆ ว่ามักจะมีการระบุช่วงเวลาไว้ด้วยว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่
Example
They came here yesterday.

(พวกเขามาที่นี่เมื่อวานนี้)
He left home ten minutes ago.

(เขาออกจากบ้านเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว)
I bought a new phone two days ago.

(ฉันซื้อโทรศัพท์ใหม่มาเมื่อ 2 วันก่อน)
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
2. ใช้พูดถึงนิสัยหรือกิจวัตรที่เคยทําในอดีต หรือการบอกว่าใครเคยทําอะไร
เคยไปไหนในอดีตมาแล้ว และเหตุการณ์นั้นจบลงแล้ว
Example
We cooked every day last year.

(พวกเราทําอาหารกันทุกวันเมื่อปีที่แล้ว)
He always went to office late last month.

(เขาไปสํานักงานสายเสมอเมื่อเดือนที่แล้ว)
I was in London in 2017.

(ฉันอยู่ที่ลอนดอนในปี 2017)
รูปประโยคของ Past Simple Tense
I went to the theme park

ประโยคบอกเล่า S + V.2
yesterday.
S. + did not + V.1 She didn’t come to Thailand

ประโยคปฏิเสธ last year.
Did you see Jane

ประโยคคําถาม Did + S + V.1
at the bank last hour?
Exercise 52
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
Past Simple Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. I ___________ (eat) bananas.
2. My sister ___________ (call) me.
3. It ___________ (rain) outside.
4. We ___________ (go) to school.
5. Ben ___________ (make) noise.
6. They ___________ (come) this way.
7. Did they ___________ (play) badminton?
8. My dog ___________ (run).
9. My cats ___________ (sleep).
10. I ___________ (talk) with my friends.
Exercise 53
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
คําชี้แจง : เปลี่ยนคําที่กําหนดให้ในวงเล็บให้อยู่ในรูปปฏิเสธ
ในโครงสร้าง Past Simple Tense
1. She ____ apples. (eat)
2. My friend ____ me. (call)
3. It _____ outside yesterday. (rain)
4. I _____ to school last week. (go)
5. Paul ______ books 2 days ago. (read)
6. You ______ badminton. (play)
7. My cats ______ outside yesterday. (go)
Exercise 54
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
คําชี้แจง : เปลี่ยนคําที่กําหนดให้ในวงเล็บให้อยู่ในรูปคําถาม
1. I listened to music.
2. She danced ballet.
3. He carried the drinks.
4. Paul watched a documentary.
5. The car stopped at the corner.
6. We enjoyed the game.
7. He went to the cinema yesterday.
Chapter 19
PAST CONTINUOUS TENSE
โครงสร้าง : S + was/were + V.ing
Past Continuous Tenseใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งมีด้วยกัน 3 แบบ คือ
1. เหตุการณ์ที่กําลังเกิดในอดีต เช่น
It was raining yesterday at noon.
(ฝนตกลงมาเมื่อวานตอนเที่ยง)
2. เหตุการณ์ที่กําลังเกิดต่อเนื่องอยู่ในอดีต ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ก่อน แล้วก็มีอีก

เหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก เช่น
I was having a beautiful dream when the alarm clock rang.
(ฉันกําลังฝันดีอยู่เชียว นาฬิกาปลุกก็ดันดังขึ้น)
3. เหตุการณ์กําลังเกิดไปพร้อม ๆ กันในอดีต ไม่มีอันไหนเกิดก่อนเกิดหลัง เช่น

While my mom was cooking, my dad was washing his car.
(ขณะที่แม่กําลังทําอาหาร พ่อก็กําลังล้างรถ)
While, When, as ถือว่าเป็น Key word สําคัญ เช่น

When the police arrived, we were sleeping.
การใช้ While, When, As (ตอนที่ตํารวจมาถึง พวกเรากําลังนอนหลับกันอยู่)
While she was drawing a picture, I came in the room.

(ขณะที่เธอกําลังวาดภาพ ผมก็เข้ามาในห้อง )
Chapter 19
เทคนิคการจํา !
1. ประโยคที่อยู่หลัง while และ as ใช้ past continuous (Subject + was/were

+V.ing) เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ยังจะเกิดต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง เช่น
We were sleeping.
The car was running.
2. ประโยคที่อยู่หลัง when ใช้ past simple (Subject + V.2) เพราะเป็น

เหตุการณ์ที่แทรกเข้ามาสั้น ๆ และจบไปแล้ว พูดง่าย ๆ ว่าเกิดขึ้นแป๊บเดียว เช่น
the police arrived.
the phone rang.
รูปประโยคของ Past Continuous Tense
He was playing football yesterday

ประโยคบอกเล่า S + was/were + V.ing
at 10 am.
S + was/were + not He was not playing football

ประโยคปฏิเสธ yesterday at 10 am.
+ V.ing
Was he playing football yesterday

ประโยคคําถาม Was/Were+ S + V.ing
at 10 am?
Exercise 55
Chapter 19
Past Continuous Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. I ___________ (eat) apples.
2. My sister ___________ (call) to her friend.
3. It ___________ (snow) outside.
4. They ___________ (go) to the cinema.
5. Sally ___________ (make) some cake.
6. She ___________ (come) to my house.
7. John ___________ (play) badminton.
8. My dog ___________ (run).
9. My cats ___________ (sleep).
Exercise 56
Chapter 19
ในโครงสร้าง Past Continuous Tense
1. She ate apples.
2. My friend called me.
3. It rained outside yesterday.
4. I went to school last week.
5. Paul read books 2 days ago.
6. You played badminton last month.
7. My cats went outside yesterday.
Exercise 57
Chapter 19
1. They listened to music.
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
โครงสร้าง : S + + had + V.3
ใช้บอกเหตุการณ์ในอดีตที่สิ้นสุดไปแล้ว ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์เข้ามาแทรกทีหลัง
หมายความว่ามีสองเหตุการณ์ มักจะมีการใช้ when, before, after มาร่วมกับประโยค
1. เหตุการณ์ที่เกิดก่อน (ใช้ Past Perfect Tense)

2. เหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง (ใช้ Past Simple Tense)
เหตุการณ์แรก เหตุการณ์หลัง
คําเชื่อม ความหมาย
ใช้ Past Perfect ใช้ Past Simple
before เขาทําความสะอาดห้อง
He had cleaned his room. he left home.
ก่อนที่จะออกจากบ้าน
The train had left. when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว

ตอนที่เรามาถึงสถานี
ข้อสังเกต
เนื่องจาก 2 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอดีตในเวลาใกล้เคียงกัน และจุดเด่นของ
Past Perfect Tense คือใช้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งซึ่งจบไปแล้วอีกเหตุการณ์
จึงค่อยเกิดขึ้น ดังนั้น เราจึงมักพบคําเชื่อมประโยค เช่น after, already, just,
yet, until, till, as soon as, when, by the time
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
รูปประโยคของ Past Perfect Tense
ประโยคบอกเล่า S + had + V.3 He had cleaned his room.
S + had not + V.3 He had not cleaned his room.

ประโยคคําถาม Had + S + V.3 Had he cleaned his room?
Exercise 58
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
Past Perfect Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. My dad _________ the grass. (cut)
2. I _________ the car. (not wash)
3. ____ she _______ her bike? (ride)
4. The train _______ already. (leave)
5. Sam ___________ us. (not phone)
6. ____ it ________ a lot? (show)
7. We ___________ lunch. (not have)
8. It ___________ some water. (drink)
9. He ___________ a ghost story. (read)
10. _____ she _______ her bed? (make)
Exercise 59
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
คําชี้แจง : เติมคําลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ ในรูป Past Perfect Tense
1. I thought I knew her. I thought I _______
(see) her before.
2. He ___________ (drive) only twice
in his life before the accident.
3. Jenny no longer had her car. She_________
(sell) it.
4. I saw Annabel last week. She ___________
(change) a lot.
Exercise 59
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
5. The new restaurant wasn't open any longer.
It ___________ (close) down.
6. He fed the cat because no-one __________
(feed) it for days.
7. She ____________ (live) in Sweden before
she went to Norway.
8. After we ___________ (eat) the cornflakes,
Henry came in.
9. Jene ______________ (just get) home
when the phone rang.
Exercise 60
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
คําชี้แจง : จับคู่ระหว่าง Past Simple Tense กับ Past Perfect Tense
ให้สอดคล้องกัน
A The man was hit by a red car.
B I saw him at the office.
C The girl was afraid.
D Tom was happy to see John again.
E The dog was really hungry.
F Jenifer was very tired.
Exercise 60
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
She hadn't flown on a plane before.
They hadn't met for a long time.
She hadn't slept at all.
He hadn't left for work.
The driver hadn't seen him.
Mary hadn't fed it since Monday.
Chapter 21
PAST PERFECT CONTINUOUS TENSE
โครงสร้าง : S + had + been + V.ing
Past Perfect Continuous แทบจะไม่ต่างกับ Past perfect ความแตกต่างอยู่ตรงที่

Past Perfect Continuous นั้นมีการเพิ่มรายละเอียดขึ้นอีกนิด โดยโฟกัสกันเน้น ๆ
ทีค
่ วามต่อเนื่องในเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นซึ่งก็มักจะมีคําที่บอกถึงระยะเวลาเข้ามาด้วย
เราใช้ Past Perfect Continuous กับเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้น และ

ต้องการเน้นให้เห็นความต่อเนื่องของเหตุการณ์นั้นที่ได้ดําเนินมา
เรื่อย ๆ ในอดีต
ข้อสังเกต
ในประโยค Past Perfect Continuous มักจะมีคําที่บอกถึงช่วงระยะเวลาเข้ามา
ด้วย เช่น for 2 hours, for 20 years, by the time
*********ประโยคที่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลัง
ต้องอยู่ในรูป Past Simple (Subject + V.2)
Chapter 21
Example
I had been waiting for 2 hours before they arrived.

(ฉันรอมาแล้ว 2 ชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะมาถึง)
My family had been living in Bangkok for 20 years

before we moved to Chiang Mai.
(ครอบครัวฉันอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ 20 ปี ก่อนที่จะย้ายไปเชียงใหม่)
After my friend had been talking on the phone for an hour,

she left the room.
(หลังจากที่เพื่อนฉันคุยโทรศัพท์อยู่เป็นชั่วโมง เธอก็ออกจากห้องไป)
รูปประโยคของ Past Perfect Continuous
ประโยคบอกเล่า S + had + been + V.ing I had been waiting for you.
S + had not been I had not been waiting for you.

+ V.ing
ประโยคคําถาม Had + S + been + V.ing Had you been waiting for me?

Exercise 61
Chapter 21
Past Perfect Continuous Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. The dog _______________.(bark)
2. Someone _______________ grapes.(eat)
3. He ______________ all day.(not work)
4. ___ you ____________ tennis?(play)
5. I _______________ to you.(not talk)
6. ___ it ___________ in the morning?(rain)
7. My dad ______________ clothes.(buy)
8. What ___ you ____________?(cook)
9. Sara ______________ her car.(not drive)
10. Where ___ you _____________?(sleep)

Exercise 62
Chapter 21
คําชี้แจง : เติมคําลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ ในรูป

Past Perfect Continuous Tense
1. We _____________________(sleep)
for 12 hours when he woke us up.
2. They ______________(wait) at the station
for 90 minutes when the train finally arrived.
3. We _______________(look) for her ring for
two hours and then we found it in the bathroom.
4. I ___________________(not work)
for a long time, when it suddenly began to rain.

Exercise 62
Chapter 21
5. How long ___ she ____________(learn)
English before she went to London?
6. Minny caught the flu because she _________
_______(sing) in the rain too long.
7. He __________________(drive) less than
an hour when he ran out of petrol.
8. They were very tired in the evening because
they _____________(help) on the farm all day.
9. I ______________(not work) all day; so I
wasn't tired and went to the disco at night.

Exercise 63
Chapter 21
คําชี้แจง : จับคู่ระหว่าง Past Simple Tense กับ Past Perfect -

Continuous Tense ให้สอดคล้องกัน
A I had been waiting for 2 hours.
B Why was the baby's face so dirty?
C I saw John yesterday.
D It had been raining.
E When I arrived the office.
F They had been studying all day.

Exercise 63
Chapter 21

But he had been running so he was too tired to chat.
She had been working.
He had been eating chocolate.
And the pavement was covered with puddles.
So I was really glad when the bus finally arrived.
So when we met they were exhausted.

Chapter 22
IF CLAUSES
Conditional sentences หรือ if-clause คือ ประโยคเงื่อนไข ประกอบด้วยประโยคย่อย
สองประโยค ประโยคหนึ่งขึ้นต้นด้วยคําว่า If กับอีกประโยคหนึ่งมีหน้าตาเหมือนประโยค
สมบูรณ์ทั่วไป
**ข้อสังเกต! ประโยคสองประโยคนี้สลับที่กันได้
จะยกประโยคไหนขึ้นต้นก็ได้ แล้วแต่การเน้นและความหมาย
1. ZERO Conditional Sentences

ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง
ใช้สําหรับพูดถึงความจริงทั่วไป โดยใช้ present simple ในประโยคทั้งสองประโยค

(ประโยคหนึ่งจะอยู่ในรูปของ if-clause ส่วนอีกประโยคจะอยู่ในรูปของ main-clause)
โครงสร้าง
If + S + V1, S + V1
Examples
If water reaches 100 degrees, it boils.
เมื่ออุณหภูมินํ้าสูงเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส นํ้าจะเดือดเสมอ
If I eat peanuts, I am sick.
ถ้าฉันกินถั่วลิสงฉันจะแพ้
ซึ่งประโยคลักษณะนี้ เราจะใช้คําว่า when (เมื่อ) แทน if ก็ได้

Chapter 22
IF CLAUSES
2. FIRST Conditional Sentences
ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
ใช้สําหรับพูดว่าถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น
โดยใช้ If + present simple แล้วตามด้วย future simple
If + S + V1, S + will/be going to + V1
Examples
If it rains, I won’t go to the park.
ถ้าฝนตก ฉันจะไม่ไปสวนสาธารณะ
If I study today, I‘ll go to the party tonight.
ถ้าวันนี้ฉันอ่านหนังสือ คืนนี้จะไปปาร์ตี้
Zero conditional กับ first conditional ต่างกันตรงที่ใช้กับสถานการณ์คนละประเภท

Zero conditional: If you sit in the sun, you get burned.
(ใครก็ตามที่) นั่งตากแดดจะผิวไหม้
First conditional: If you sit in the sun, you’ll get burned.
ถ้าเธอนั่งตากแดดผิวเธอจะไหม้นะ

Chapter 22
IF CLAUSES
3. SECOND Conditional Sentences
ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต
ใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น
โดยใช้ If + past simple คู่กับ would + infinitive
If + S + V2, …would + infinitive
สังเกต! อนุประโยคที่ต่อหลัง if ถ้าคํากิริยาเป็น verb to be จะใช้ were ได้กับประธานทุกตัว

เช่น If I were you… ถ้าฉันเป็นเธอ… แต่จะใช้ was ตรงตามประธานก็ได้
- ใช้พูดถึงความใฝ่ฝันว่าอยากให้เกิดขึ้นในอนาคต
Examples แต่อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
If I won the lottery, I would buy a big house.

ถ้าถูกล็อตเตอรี่จะซื้อบ้านหลังใหญ่ (ซึ่งคิดว่าคงไม่ถูกล็อตเตอรี่หรอก)
- ใช้พูดถึงเหตการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปไม่ได้เลย
Examples ไม่จริงเลย
If I had his number, I would call him.

ถ้ามีเบอร์เขาฉันจะโทรหาเขา (แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา)

Chapter 22
IF CLAUSES
4. THIRD Conditional Sentences
ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต
ใช้พูดเกี่ยวกับอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ว่าถ้าเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไร
โดยใช้ If + past perfect (subject + had + V3) คู่กับ would have + V3
If + S + had + V3, …would + have + V3
Examples If she had studied, she would have passed the exam.
ถ้าเขาอ่านหนังสือ เขาคงสอบผ่านไปแล้ว
(ซึ่งจริงๆผู้พูดรู้ว่าไม่ได้อ่านและสอบตก)
If I hadn’t eaten so much, I wouldn’t have felt sick.

ถ้ากินไม่มากฉันคงไม่ป่วย (แต่จริงๆฉันกินเยอะ จึงป่วย)
5. MIXED Conditional Sentences

การนํา conditional sentences สองแบบมาผสมกัน
ใช้เวลาพูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นความจริงในอดีตที่มีความสัมพันธ์กับ ปัจจุบัน
Examples
She would be a rich widow now if she’d married him.
เธอคงจะได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐีไปแล้วถ้าเธอแต่งงานกับเขา (ตอนนั้นไม่แต่งกับเขา
ตอนนี้เลยไม่ได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐี)

Exercise 64
Chapter 22
IF CLAUSES
คําชี้แจง : เลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดโดยการทําเครื่องหมาย
1. I will come if I ______________ time.
will have had have
2. If you ______ into Peter, tell him that he owes

me a letter.
ran run had run
3. If he is late, we ____________ without him.
will start would start would have started
4. If you ____________ me, I would have told you.
asked will ask had asked

Exercise 64
Chapter 22
IF CLAUSES
5. Will it be all right if I ________ a friend tonight?
bring brought had brought
6. If he _________ a bit faster, he could have won.
has run had run ran
7. If I hadn’t been so tired, I ______________ up.
would not give

would not have given
will not give
8. If you _____________ to learn a musical instrument,

you have to practice.
want wants wanted

Exercise 65
Chapter 22
IF CLAUSES
1. If it ____________, we will stay at home.
would rain rained rains
2. If you do not know the way, I ______ you up.
pick would pick will pick
3. My mum will bake a cake if you ______ to see us.
came have come come
4. If you __________ harder, you would get better

marks in your tests.
studied will study study

Exercise 65
Chapter 22
IF CLAUSES
5. If I were rich, I __________ around the world.
would travel travel will travel
6. She _________ to the market with us

if she did not have to work.
came would come will come
7. If you __________ us, we would have finished

the work in next to no time.
have helped had helped helped
8. They ___________ gone to the theatre by car

if the weather had been better.
would not have

will not have
don't have

Exercise 66
Chapter 22
IF CLAUSES
คําชี้แจง : เปลี่ยนคําที่กําหนดให้ในวงเล็บให้ถูกต้องโดยอยู่ในรูป
If - Clauses โดยเติมลงในช่องว่าง
1. If he ___________(eat) everything
he _____________(be) ill.
2. The police ____________(arrest) him
if they ________(catch) him.
3. I ____________(be) angry if he ________
(make) more mistakes.
4. If he __________(be) late, we _________
(go) without him.
5. If I ________(lend)you 10 dollars, _______
________(you,give) it back to me?

Exercise 66
Chapter 22
IF CLAUSES
6. If you __________(not like) this one,
I _________(bring) you another one.
7. If I ____________(know) that, I ______
________________(visit) you.
8. I ____________(not drink) that wine
if I ______(be) you.
9. If we _________(have) more rain, our crops
__________________(grow) faster.
10. If you ________(paint) the walls white,
the room _______(be) much brighter.

Chapter 23
PART OF SPEECH
Part of speech แบ่งได้เป็น 8 ชนิด คือ คํานาม คําสรรพนาม คํากริยา คําคุณศัพท์
คํากริยาวิเศษณ์ คําบุพบท คําเชื่อม และคําอุทาน
1. Noun (คํานาม)
Noun (ตัวย่อ n.) คือคําที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ กิจกรรม เหตุการณ์
หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม อย่างเช่น ความสุข
ยกตัวอย่าง noun เช่น
ชื่อคน ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ – Justin, Garfield, Bangkok, Mahidol University
คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ กิจกรรม เหตุการณ์ – woman, cat, pencil, hotel, tennis, wedding
สิ่งที่เป็นนามธรรม – idea, happiness, danger, relationship
Examples
Noun ทําหน้าที่เป็นประธาน (subject)

Susie can write very fast. My father is a doctor.
Noun ทําหน้าที่เป็นกรรม (object)

I bought a new car last month. John rides a bicycle every weekend.
Noun ทําหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็ม (complement)

My cousin is a student. All I want is happiness.
Noun ทําหน้าที่เป็นได้ทั้งประธาน
กรรมและส่วนเติมเต็มในประโยค

Exercise 67
Chapter 23
PART OF SPEECH : NOUN
คําชี้แจง : เติมเครื่องหมาย หน้าคํานาม และเติมเครื่องหมาย
สําหรับคําที่ไม่ใช่คํานาม
agent she
Jane cute
dog hospital
small awake
slowly beside
alley anthem
alternative applicant
adorable punctual

Exercise 68
Chapter 23
คําชี้แจง : วงกลมเฉพาะคํานามให้ถูกต้อง
1. I love red cars.
2. John and Mary went to the supermarket

and bought eggs and cheese.
3. We had pizza for lunch.
4. They never told me that they had

so much money.
5. She's writing an essay on democracy.
6. He had a brilliant idea.
7. The British Library is near King's Cross Station.
8. He has three brothers and ten nieces

and nephews.

Exercise 69
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคําลงในแต่ละช่องให้ตรงกับประเภทของคํานาม
country dog book mountain

state father zoo bus
cinema school train lion
flag mother tiger fox
artist door baby beach
people animals places things

Chapter 23
PART OF SPEECH
2. Pronoun (คําสรรพนาม)
Pronoun คือคําที่ใช้แทน noun อย่างเช่น I, you, he, she, it, we, they
Pronoun มีหลายรูป
ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น เราจะใช้คําว่า he เป็นประธานของประโยค แต่ถ้าใช้
เป็นกรรม เราจะต้องใช้คําว่า him แทน
subjective objective possessive possessive reflexive

pronoun pronoun adjective pronoun pronoun
I Me My Mine Myself
Yourself/
You You Your Yours
Yourselves
We Us Our Ours Ourselves
They Them Their Theirs Themselves
He Him His His Himself
She Her Her Hers Herself
It It Its Its Itself
ความต่างของ adjective และ pronoun แสดงความเป็นเจ้าของก็คือ pronoun

แสดงความเป็นเจ้าของไม่ต้องมี noun ตามหลัง
อย่างเช่น This is my pen. -> This pen is mine.

Exercise 70
Chapter 23
PART OF SPEECH : PRONOUN
คําชี้แจง : แทนที่คํานามด้วยคําสรรพนาม โดยเติมลงในช่องว่างที่
กําหนดให้
1. The man went shopping and bought a shirt.
The shirt were expensive.
2. John and Mary went to the supermarket.
John and Mary bought eggs and cheese.
3. John is my brother. John is older than me.
4. My mom lives in Bangkok but My mom likes to go

camping every weekend.
5. Mr.Peter works at a hospital. Mr.Peter is a doctor.
6. Edin is my cat. Edin is very cute.

Exercise 71
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคําสรรพนามลงในช่องว่างที่กําหนดให้
1. Do you know that man? Do you know______?
2. My friend and I have money. ____can go shopping.
3. Robert and Jo are late. _____should hurry.
4. He gave _____ a gift. I really love it.
5. Pigs are very fat, so ______eat a lot of food.
6. Are you ok? Can I help______?
7. I need to find my books.Where did you put_____?
8. He gave me a box, but _____lost it.
9. My sister isn't here. ______ is at the office.
10. Could you help_____? I have a problem.

Exercise 72
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคําสรรพนาม reflexive pronoun ลงในช่องว่างที่กําหนดให้
1. My sister practice her English by talking to_______.
2. Jane wasn't careful and she cut her finger

by ________ with a knife.
3. My sister and I make up by _________.
4. I drive to the market by _________.
5. My mom wasn't here, so I cooked by _______.
6. Cats can get clean by licking________.
7. Meck and Dada are doing homework_________.
8. My little sister dressed__________.
9. I introduce __________ to my new classmates.
10. She cuts her hair by _________.

Chapter 23
PART OF SPEECH
3. Verb (คํากริยา)
Verb (ตัวย่อ v.) คือคําที่ใช้แสดงการกระทํา สิ่งที่เกิดขึ้น หรือสภาวะ
เช่น eat, feel, is, am, are
Transitive Verb and Intransitive Verb
Transitive Verb คือกริยาที่ต้องมากรรมมารับ มิฉะนั้นจะไม่สามารถสื่อความหมายได้สมบูรณ์

คํากริยาชนิดนี้ ได้แก่ love, like, eat, hit, clean, buy, cut, do, have, make, meet เป็นต้น
ถ้าไม่มีกรรมมารับจะไม่สามารถสื่อความกันได้เป็นที่เข้าใจกัน
Intransitive Verb คือกริยาที่ไม่ต้องมากรรมมารับ ก็สามารถสื่อความหมายได้สมบูรณ์

คํากริยาชนิดนี้ ได้แก่ sit, stand, swim, walk, sleep, fly, run, sing, danceเป็นต้น
Main Verb and Helping Verb
กริยาแท้ (Main Verb) หรือกริยาหลักของประโยค ถ้าในประโยคนั้นๆมีคํากริยาตัวเดียว จะ

ไม่ใช่ปัญหาใดๆ เพราะคํากริยาที่ปรากฎ มันก็คือกริยาหลักของประโยคนั้นเอง เช่น
I walk to school.
ฉันเดินไปโรงเรียน ( walk เป็นกริยาแท้)
กริยาช่วย (Helping Verb) บ้างก็เรียกว่า auxiliary verb หมายถึง คํากริยาที่เป็นตัวเสริมเข้าไป

ร่วมกับกริยาแท้ ให้ถูกต้องตามโครงสร้างของประโยค โดยที่ไม่มีความหมายใดๆ
I am walking to school.
ฉันกําลังเดินไปโรงเรียน ( am เป็นกริยาช่วย ส่วน walk เติม ingเป็นกริยาแท้)
ระวัง ! คําว่า is am are และ have has ถ้าปรากฎลําพังในประโยคจะเป็นกริยาแท้

แต่ถ้าไปเสริมเข้ากับกริยาตัวอื่นจะเป็นกริยาช่วย เช่น
I am a doctor. ผมเป็นหมอ (am เป็นกริยาแท้)

Chapter 23
PART OF SPEECH
3. Verb (คํากริยา)
Regular Verb and Irregular Verb
กริยาปกติ (Regular Verb) คือ คํากริยาที่เติม edต่อท้าย ในช่อง 2 และ 3 ซึ่งเป็นการง่าย

สําหรับผู้เรียน ถ้าจะผันกริยา เพราะแค่เติม edต่อท้าย เช่น
answer answered answered
walk walked walked
play played played
look looked looked
cook cooked cooked
กริยาอปกติ (Irregular Verb) กริยากลุ่มนี้ จะแปลงร่างตัวเอง ในช่อง 2 และ 3 ซึ่งเราต้องจดจํา

ให้ได้ว่า มันแปลงร่างไปยังไง และบางคําก็คงรูปเดิมไว้ เช่น
cut cut cut
hit hit hit
do did done
come came come
swim swam swum

Exercise 73
Chapter 23
PART OF SPEECH : VERB
คําชี้แจง : เติม T ลงในช่องว่างสําหรับ Transitive Verb และ เติม I
ลงในช่องว่างสําหรับ Intransitive Verb
1. She was crying all day long
2. We showed her the photo album.
3. The doctor advised me to exercise regularly.
4. It was raining at that time.
5. She laughed at the joke.
6. She gave a cookie to the child.
7. They slept in the street.

Exercise 74
Chapter 23
คําชี้แจง : ขีดเส้นใต้ระหว่าง Main Verb หรือ Helping Verb
1. They are teachers. Main Verb / Helping Verb
2. I will tell her the truth. Main Verb / Helping Verb
3. I don't know your phone number. Main Verb / Helping Verb
4. Have you done the washing up yet? Main Verb / Helping Verb
5. This book was written in 1950s. Main Verb / Helping Verb
6. I have never seen a lion before. Main Verb / Helping Verb
7. Does your father wake up early ? Main Verb / Helping Verb
8. I have two brothers and a sister. Main Verb / Helping Verb
9. You should definitely see this movie. Main Verb / Helping Verb
10. I do homework every night. Main Verb / Helping Verb

Exercise 75
Chapter 23
คําชี้แจง : เปลี่ยนคํากริยาให้เหมาะกับประโยคในรูปของอดีต
1. I_________(hear) a new song on the radio.
2. I__________(read) three books last week.
3. They________(speak) French to the waitress.
4. I_________(forget) to buy some milk.
5. She_________(have) a baby in June.
6. You_________(lose) your keys last week.
7. They__________swim) 500m.
8. I_________(give) my mother a book for Christmas.
9. At the age of 23, she _________(become) a doctor.
10. I_________(know) the answer yesterday.

Chapter 23
PART OF SPEECH
4. Adjective (คําคุณศัพท์)
Adjective (ตัวย่อ adj.) คือคําที่ทําหน้าที่ขยาย noun หรือ pronoun
เช่นคําว่า big, good, rich, slow
โดยทั่วไป adjective จะอยู่หน้า noun หรือหลัง linking verb

linking verb คือ verb หลักที่ใช้เชื่อมระหว่างประธานกับคําที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประธาน
เช่น is, am, are, feel, seem อย่างเช่นในประโยค This pen is cheap.
Adjective อยู่หน้า noun
My dog has brown ears.

สุนัขของฉันมีหูสีนํ้าตาล
I want to be a good student.

ฉันอยากเป็นนักเรียนที่ดี
Adjective อยู่หลัง linking verb
They are smart.

พวกเขาฉลาด
My house is big and clean.

บ้านของฉันใหญ่และสะอาด

Exercise 76
Chapter 23
PART OF SPEECH : ADJECTIVE
คําชี้แจง : เติมคําคุณศัพท์ (Adjective) ที่กําหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
big clean new old

long small cute dirty
short fat
T-shirt house
T-shirt car
hair car
hair rabbit
house cat

Exercise 77
Chapter 23
คําชี้แจง : ค้นหาคําคุณศัพท์ (Adjective) แล้ววงกลม
book ball yummy slow
long small old girl
mouse car cat circle
fast tall loud find
dilicious cool home box
large home salty cake
hard dog baby school

Exercise 78
Chapter 23
large little tall

short wide
1. Hungry rabbit was too______

to reach the apple.
2. I used a hand lens to see

the______ ant.
3. The fancy peacock spread his

_______feathers.
4. The elephant is very _______.
5. A Giraffe eat leaves from the

_______ trees.

Chapter 23
PART OF SPEECH
5. Adverb (คํากริยาวิเศษณ์)
Adverb (ตัวย่อ adv.) คือคําที่ใช้ขยาย verb, adjective, adverb หรือประโยค
Adverb ส่วนใหญ่จะลงด้วย ly อย่างเช่น quickly, slowly, happily, sadly

แต่ก็มีบางคําที่ไม่ได้ลงท้ายด้วย ly เช่น always, never, very, fast
Adverb ที่ขยาย verb
I always wake up at 6 a.m.

ฉันตื่นตอน 6 โมงเช้าเป็นประจํา
(always ขยายคําว่า wake up)
Adverb ที่ขยาย adjective
He is a very good person.

เขาเป็นคนที่ดีมาก
(very ขยายคําว่า good)
Adverb ที่ขยาย adverb
They work extremely quickly.

พวกเขาทํางานกันเร็วมากๆ
(extremely ขยายคําว่า quickly)

Exercise 79
Chapter 23
PART OF SPEECH : ADVERB
คําชี้แจง : เติมคํากริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคําคุณศัพท์ (Adjective)
ที่กําหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
well dangerous late carefully

quietly perfectly awful
famous slowly angrily
1. She plays tennis very _________.

2. The match finished very_________.
3. Some snakes are__________.
4. They came in the room __________.
5. He is an _________ person.
6. You speak English _________.
7. A tortoise walks _________.
8. She is a _________ singer.
9. He looked at me __________.
10. My dad drives __________.

Exercise 80
Chapter 23
คําชี้แจง : ค้นหาคํากริยาวิเศษณ์ (Adverb) แล้ววงกลม
sadly beautiful yummy sad
long well old good
heavy slowly cat circle
fast tall heavily tell
very hot slow easily box
large happily fastly cake
big dog baby school

Exercise 81
Chapter 23
คําชี้แจง : หาคํากริยาวิเศษณ์ (Adverb) แล้วเปลี่ยนให้เป็นคําคุณศัพท์
(Adjective) ให้ถูกต้อง
1. Joanne is happy. She smiles__________.
2. The boy is loud. He shouts _________.
3. Her English is fluent. She speaks__________.
4. Our mum was angry. She spoke to us ________.
5. My neighbour is a careless driver. He drives ______.
6. The painter is awful. He paints _________.
7. Jim is a wonderful piano player. He plays the piano
_________.
8. This girl is very quiet. She often sneaks out of
the house__________.
9. She is a good dancer. She dances really_________.

Chapter 23
PART OF SPEECH
6. Preposition (คําบุพบท)
Preposition (ตัวย่อ prep.) คือคําที่เอาไว้หน้า noun หรือ pronoun เพื่อเชื่อม noun
หรือ pronoun นั้นกับคําอื่น
ตัวอย่างคําที่สามารถใช้เป็น preposition ได้ เช่น about, after, as, at, before, by,
for, in, into, of, on, to, with, without
1. Prepositions of time
คือ คําบุพบทที่ใช้เชื่อมคําหรือวลีที่เกี่ยวกับเวลา เช่น in, on, at, before, after, until, till,
since, for, during ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
He always gets up before 6 o’clock. (เขาตื่นก่อน 6 โมงเช้าเสมอ)

Don’t talk during the lesson. (อย่าคุยกันในระหว่างบทเรียน)
2. Prepositions of place
คือ คําบุพบทที่ใช้เชื่อมคําหรือวลีเกี่ยวกับสถานที่ ตําแหน่ง เช่น in, on, at, inside, outside,

near, above, behind, around, by (beside), opposite, under, among ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
Paul is standing by Tim. (พอลกําลังยืนอยู่ข้างทิม)

My house is opposite the hospital. (บ้านของผมอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล)

Chapter 23
PART OF SPEECH
6. Preposition (คําบุพบท)
3. Prepositions of direction/movement
คือ คําบุพบทที่ใช้เชื่อมคําหรือวลีในเรื่องเกี่ยวกับทิศทาง เช่น to, into, toward, up, down,

over, through , along, across, from ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
He jumped into the river. (เขากระโดดลงไปในแม่นํ้า)

The walked toward the police station. (พวกเขาเดินตรงไปยังสถานีตํารวจ)
4. Prepositions of manner
คือ คําบุพบทที่ใช้เชื่อมคําหรือวลีในเรื่องเกี่ยวกับการแสดงอาการ บ่งบอกผู้กระทํา วิธีกระทํา

การแสดงความเป็นเจ้าของ การแสดงวัตถุประสงค์ ความเห็น ความสัมพันธ์ เช่น in, by, of,
for, with, to, about ฯลฯ ตัวอย่างเช่น
They are in a hurry. (พวกเขารีบเร่ง) แสดงอาการท่าทาง

This story was written by Jack. (เรื่องนี้เขียนโดยแจค) แสดงผู้กระทําคือแจค

Exercise 82
Chapter 23
PART OF SPEECH : PREPOSITION
คําชี้แจง : เติมคําบุพบท (Preposition) ที่กําหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
The frog is _______ the box. The frog is _______ the box. in
on
next to
under
The frog is _______ the box. The frog is _______ the box.
behind
in front of
The frog is _______ the box. The frog is _______ the box.

Exercise 83
Chapter 23
above, below, behind, in front of, beside
1. The ceiling is _________ your head.
2. The cellar is _________ ground.
3. He is hiding _________ the door.
4. We had a picnic _________ the river.
5. Did you wash __________ your ears?
6. Don't do that __________ the children!
7. It's very cold. The temperature is ______ zero.
8. Joe spends a lot of time ________ the mirror.
9. Jane is older than me. She was a year _______ me
at school.

Exercise 84
Chapter 23
on in at across from
between around next to
1. Jenny lives _________ this street.

2. The Chinese restaurant is ________ the clothes store.
3. There is a great cinema _________ the supermarket
and the drugstore.
4. My house is ____________ the park.
5. There is a shoe store ___________ the corner.
6. I live ___________ Sukhumvit Street.
7. Patrick's work is __________ 65 Sukhumvit Street.
8. Joe's birthday is ___________ December.
9. Jame's soccer classes are _____Mondays and Fridays..
10. Liza's father lives __________ the park,
near the church.

Chapter 23
PART OF SPEECH
7. Conjunction (คําเชื่อม)
Conjunction (ตัวย่อ conj.) คือคําที่ทําหน้าที่เชื่อมคํา วลี หรือประโยคเข้าด้วยกัน เช่น
and, but, while, although
Conjunction สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้ 3 กลุ่มด้วยกัน
1. Coordinating Conjunction
คือคําสันธานที่ใช้เชื่อมคําหรือประโยคสองอันเข้าด้วยกัน โดยสองข้อความที่ถูกเชื่อมนั้นจะต้องมีนํ้าหนัก
หรือความสําคัญเท่ากันครับ เช่น and, yet, but, for, so, nor, neither, or
and ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นไปในทางเดียวกัน (แปลว่า และ)

เช่น I love you and you love me too. (ฉันรักเธอ และ เธอก็รักฉัน)
yet และ but ใช้เชื่อมประโยคที่ขัดแย้งกัน (แปลว่า แต่)

เช่น My brother worked hard but he did not succeed. (พี่ชายของฉันทํางานหนัก
แต่เขาก็ยังไม่ประสบความสําเร็จ)
for ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน (โดย for จะแสดงเหตุ ส่วนตัวผมจะแปลว่าเพราะ)

เช่น He went in, for the door was open. เขาเข้าไป เพราะ ประตูเปิดอยู่ (สังเกต for จะนําหน้า
ประโยคที่เป็นเหตุ)
so ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกัน (โดย so จะแสดงผล แปลว่า ดังนั้น)

เช่น The door was open so he went in. ประตูเปิดอยู่ ดังนั้น เข้าจึงเข้าไป (สังเกต so จะนําหน้า
ประโยคที่เป็นผล)
nor และ neither ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นไปในเชิงปฏิเสธทั้งคู่ (อาจแปลได้ว่า ไม่ทั้งสองอย่าง)

เช่น He nor I was there. เขาและฉัน ไม่ ได้อยู่ที่นี่ (มาจาก He wasn’t there and I weren’t
there.)
or ใช้เชื่อมประโยคที่แสดงทางเลือก (แปลว่า หรือ)

เช่น She wants to watch TV or (to) listen to some music. เธอไปดูทีวี หรือ ไปฟังเพลง
( to หน้า listen อาจละไว้ได้)

Chapter 23
PART OF SPEECH
2. Subordinating Conjunction
คือคําสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคใจความรองเข้ากับประโยคใจความหลัก
เช่น after, because, if, although, before, since, that, unless, until, when, as soon as
after (หลังจาก) เช่น The girl cried after the boy left.
เด็กหญิงร้องไห้ หลังจาก เด็กชายจากไป
because (เพราะว่า) เช่น The boy was absent because he was ill.
เด็กชายขาดเรียน เพราะเขาป่วย
if (ถ้าหาก) เช่น Stay indoors if it rains. อยู่ในร่ม ถ้าหาก ฝนตก
although (ถึงแม้ว่า) เช่น Although it was cold, I went swimming.
ถึงแม้ว่า จะหนาวแต่ฉันก็จะไปว่ายนํ้า
before (ก่อน) เช่น Clean the room before I go. ทําความสะอาดห้อง ก่อน ที่ฉันจะไป
since (ตั้งแต่) เช่น He has been busy since he came. เขายุ่ง ตั้งแต่ เขามา
that (เพราะนั่น) เช่น Hold it up so that everyone can see it.
ชูมันขึ้น เพราะจะทําให้ทุกคนมองเห็นมัน
unless (เว้นแต่) เช่น I’ll be there at nine, unless the train is late.
ฉันจะอยู่ที่นั้นตอนเก้าโมง เว้นแต่รถไฟจะมาสาย
until (จนกระทั่ง) เช่น They did not come until the meeting was half over.
พวกเค้าไม่มา จนกระทั่ง การประชุมผ่านไปเกินกว่าครึ่ง
when (ในขณะที่) เช่น He is impatient when he is kept waiting.
เขาจะหงุดหงิด ในขณะที่ เขาต้องรอ
as soon as (ทันทีที่) เช่น I’ll leave for the funeral as soon as the meeting ends.
ฉันจะออกจากที่นี่เพื่อไปงานศพ ทันทีที่ ประชุมเสร็จ

Chapter 23
PART OF SPEECH
3. Correlative Conjunction
คือคําสันธานที่ต้องใช้คู่กันเสมอ ทําหน้าที่คล้ายๆกับ Coordinating Conjunction คือเชื่อมประโยค

ที่มีความสําคัญเท่ากัน เช่น not only…..but also, either…..or, as…..as, so as to, both…..and
not only…..but also (ไม่เท่านั้น…แต่อีกด้วย)

เช่น Man needs not only food but also shelter. มนุษย์ไม่เพียงแต่ต้องการอาหารเท่านั้น
ยังต้องการที่พักอาศัยอีกด้วย
either…..or (ไม่….หรือ/ก็)
เช่น You can either sleep or eat. คุณไม่ นอนหลับก็ กิน (ประมาณว่าเลือกได้ว่าจะนอน
หรือจะกิน อะไรจะสบายขนาดนั้นว่าไหมครับ)
as…..as (เป็นการใช้เชื่อมประโยคที่แสดงอะไรที่เท่ากัน)
เช่น She runs as fast as I do. เธอวิ่งเร็วเท่าฉัน (นําคําที่เราต้องการเปรียบเทียบใส่ไปใน
ระหว่าง as กับ as จากตัวอย่างใส่คําว่า fast เป็นการเปรียบเทียบความเร็ว)
so as to (เพื่อที่จะ)
เช่น I study hard so as to pass the exam. ฉันเรียนหนัก เพื่อที่จะ ได้สอบผ่าน (to ตาม
ด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่เติม s)
both … and (ทั้ง…และ)
เช่น I enjoy both singing and dancing. ฉันมีความสุขกับการร้องเพลงและการเต้น
Conjunction คําอื่นๆ
due to = เนื่องจาก
because of = เพราะว่า
Owing to = เนื่องจาก
As = เพราะ

Exercise 85
Chapter 23
PART OF SPEECH : CONJUNCTION
คําชี้แจง : เติมคําเชื่อม (Conjunction ) ที่กําหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
and, but, or, so
1. I like English ___________ I like French very much.
2. My brother likes maths ______ he doesn't like history.
3. The children forgot their homework, _________
the teacher was angry with them.
4. Can you read _________ write English words?
5. Are the questions right _______ wrong?
6. Would you like tea ______ hot chocolate for
your breakfast?
7. Our car is old, ________ it drives beautifully.
8. It was very warm, ________ we all went swimming.

Exercise 86
Chapter 23
and, because, but, or, so
1. I've got a brother __________ a sister.
2. It was very sunny last Sunday, _________
we went to the beach.
3. Would you like meat _______ vegetables for lunch?
4. He likes football _______ he doesn't like basketball.
5. We aren't going to the bank __________ it is closed.
6. We can go to the beach ________ to the mountain.
I don't really mind.
7. It is rainy today, ___take your umbrella and your boots.
8. I didn't buy the new shoes___________ I didn't have
any money.

Exercise 87
Chapter 23
คําชี้แจง : ขีดเส้นใต้คําเชื่อม (Conjunction ) ที่ถูกต้อง
1. We stayed inside (because / because of) the storm.
2. I wanted to stay longer (since / because of) I was
really enjoying the party.
3. Amanda stayed at home (as / due to) her illness.
4. Her lateness was (due to / as) a terrible traffic jam.
5. (Since / Owing to) flights are cheaper in the winter,
we decided to travel then.
6. (As / Because of) She hated cats, she wasn't happy
when her husband bought three.
7. John didn't go to work, (owing to / as) his illness.
8. (Because / Due to)Lucy was very tired, she went
to bed early.
9. (Because / Owing to) his late night, John missed
his train.

Chapter 23
PART OF SPEECH
8. Interjection (คําอุทาน)
คือคําพูดที่พูดออกไปด้วยอารมณ์ต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะนั้น
เช่น ดีใจ เสียใจ หรือ โกรธ เป็นต้น
รูปแบบของการอุทาน มี 2 ชนิด คือ
1. การอุทานที่เป็นคําเดียวโดดๆ หรือเป็นกลุ่มคํา (วลี)
1. ประหลาดใจ 5. เหยียดหยาม
- Oh! (โอ) = โอ! ออ! โอ้โฮ! - Dam! (แด็ม) = สมนํ้าหน้า!
- Indeed (อินดีด) = จริงๆ! แท้จริง! - Pooh! (พู่) = ชึ!
- Wow (เวา) = โอ้โฮ! - Bosh! (บ็อช) = เหลวไหล!
2. เศร้าใจ 6. ติเตียน
- Alas! (อะแล็ส) = โอย! ตายจริง! - Fie! (ไฟ) = เชอะ! ถุย!
- Ah! (อา) (= อา! โอย!
- Alack! (อะแล็ค) = อนิจจา!
7. เตือนให้ระวัง
3. ดีใจ - Hark! (ฮ้าค) = ฟัง!
- Hurrah (ฮูรา) = ไชโย! - Hush! (ฮัช) = อย่าทําเสียงดัง!
- Ha! (ฮา) = ฮา!
- Bravo! (บราโว) = ไชโย!
8. เรียกหรือทักทาย
- Ho! (โฮ) = ฮ้า!
- Hello (เฮ็ลโล) = สวัสดี!
4. รังเกียจ - Hullo (ฮะโล) = ฮัลโหล!
- Ugh! (อุฮ) = ทุด! ถุย!

Chapter 23
PART OF SPEECH
8. Interjection (คําอุทาน)
2. คําอุทานที่เป็นกลุ่มคํา
Well done! (เว็ล ดัน) = เยี่ยมไปเลย!

Just my luck! (จัสท มาย ลัค) = โชคของผมแท้ๆ!
Oh dear me! (โอ เดียร์ มี) = โอ่ ได้โปรดเถอะ!
What a pity! (ว็อท อะ พิททิ) = ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนั้น
What a mess! (ว็อท อะ เมส) = มันช่างสับสนอะไรอย่างนั้น
How cold this room is! (ฮาว โคลด ธิส รูม อีส) = ห้องนี้ช่างหนาวอะไรอย่างนั้น!
How strong he is! (ฮาว สตรอง ฮี อีส) = เขาช่างแข็งแรงอะไรอย่างนั้น!
There they are! (แธร์ เธย์ อาร์) = พวกเขาอยู่ที่นั่นเอง
There goes the bus! (แธร์ โกส เธอะ บัส) = รถโดยสารไปโน่นแล้ว
นอกจากนี้ประโยคอุทาน ยังใช้เพื่อการอวยพร หรือแสดงความยินดีได้อีกด้วย เช่น

Long live the King. (ลอง ลีฟ เธอะ คิง) = ขอจงทรงพระเจริญ
God save you. (กอด เซฟว ยู) = ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ

Exercise 88
Chapter 23
PART OF SPEECH : INTERJECTION
คําชี้แจง : เติมคําอุทาน (Interjection) ที่กําหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
Oh! Ah! Hush! Yippee,

Bah Eww! Oops! Oh,
Well, Of course
1. __________Thank God!
2. _________I didn’t see you were hiding here.
3. _______ I’ll help you.
4. _______ We have won the match.
5. __________ I felt bad hearing that.
6. ________ Now that’s what I call a good shot
7. ________That show was so gory.
8. ___________ Don’t make a noise.
9. _________I can’t believe you lost my favourite book.
10. ___________what did he say?

Exercise 89
Chapter 23
คําชี้แจง : ขีดเส้นใต้เฉพาะคําอุทาน (Interjection) ให้ถูกต้อง
1. Hi, I’m glad that you could make it to my party.
2. Wow! You look great tonight.
3. That was the best performance that I have ever seen, bravo!
4. I can’t believe you broke my favorite toy, bah.
5. Hmm, I wonder where I put my keys and wallet?
6. Eureka, I’ve struck gold!
7. “Shoo, go away!” shouted the woman when she saw the cat
licking milk from her cereal bowl.
8. I guess that’s the end of the movie, darn.
9. Stop! You should always wear a helmet when riding a bike.
10. Yippee, I made this picture all by myself.

Exercise 90
Chapter 23
Wow, Seriously, Goodness, Yay,

Yippee, Incredible, Bingo, Oops!
Oh, Well, Of course
1. ______________, why didn’t you hold the door for me?
2. ______________, I’m so happy that you decided to visit
this summer.
3. ______________! How can you possibly agree with that
point of view?
4. ______________! You just gave me a great idea.
5. I can’t believe that I finally got an A on a project,
____________!
6. ______________, my favorite author is doing a reading
at the local library.
7. This is my first new car,_______________.

KEY
Exercise 1
Chapter 1
คําชี้เเจง : เติม C ลงในช่องว่างที่กําหนดให้ หากเป็นคํานามที่นับได้
และเติม U สําหรับคํานามที่นับไม่ได้
1. apple 2. rice 3. bread
C U U
4. honey 5. meat 6. hat
U U C
7. bag 8. fan 9. tomatoes
C C C
10. pizza 11. cherries 12. milk
U C U
English By Tinglish
Exercise 2
Chapter 1
คําชี้เเจง : เปลี่ยนคํานามในรูปเอกพจน์(singular) ให้เป็นพหูพจน์(plural)
โดยเขียนลงในช่องว่างที่กําหนดให้
1. tree 2. pillow
trees
................ pillows
................
3. toy 4. door
toys
................ doors
................
5. box 6. lemon
boxes
................ lemons
................
7. bus 8. monkey
buses
................ monkeys
................
English By Tinglish
Exercise 3
Chapter 1
คําชี้เเจง : เติมคํานามลงในช่องว่างให้เหมาะสมกับ a partitive noun ที่กําหนดให้
tea water chocolate ice-cream meat

salt pizza honey milk flour
1. A cup of ..........................
tea
pizza
2. A piece of ........................
chocolate
3. A bar of ........................
4. A spoon of ........................
salt
5. A kilo of ........................
meat
6. A jar of ........................
honey
7. A glass of .......................
milk
8. A cone of ........................
ice-cream
9. A bag of .......................
flour
10. A bottle of ......................

water
English By Tinglish
Exercise 4
Chapter 2
VERB TO BE
คําชี้เเจง : เติม verb to be (is, am, are / was, were)
ลงในช่องว่างที่กําหนดให้ ให้เหมาะสมกับประธานในประโยค
Are
1............they happy ?
2. I ...........
am a woman.
is
3. She ..............my mother.
4.............he
Is a doctor?
Are
5. ............you hungry?
6.They ............
were teachers 10 years ago.
are students now.

7. we .............
is
8. It............. my cat.
was
9. She ............... my friend 2 years ago.
10. ...............they
Are your dogs?
English By Tinglish
Exercise 5
Chapter 2
VERB TO BE
คําชี้เเจง : เปลี่ยนประโยคให้อยู่ในรูปประโยคปฏิเสธโดยเขียนลงในช่องว่าง
1. I am happy.
I am not happy.
2. She is my English teacher.
She isn't my English teacher.
3. Jane is my cousin.
Jane is my cousin.
4. We were best friends.
We were best friends.
5. He is in the room.
He is in the room.
6.They were teachers 10 years ago.
They were teachers 10 years ago.
English By Tinglish
Exercise 6
Chapter 2
VERB TO BE
คําชี้เเจง : เปลี่ยนประโยคให้อยู่ในรูปประโยคคําถามโดยเขียนลงในช่องว่าง
1. She is sad.
Is she sad?
2. He is your teacher.
Is he your teacher?
3. Jay is your cousin.
Is Jay your cousin?
4. I am beautiful.
Am I beautiful?
5. She is in the house.
Is she in the house?
6.They are students.
Are they students?
English By Tinglish
Exercise 7
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
คําชี้แจง : วงกลม This หรือ That เพื่อให้ประโยคสอดคล้องกับภาพที่กําหนดให้
1. 2.
This / That is an eraser. This / That is a girl.
3. 4.
This / That is a lamp. This / That is a window.
5. 6.
This / That is an elephant. This / That is my scissors.
English By Tinglish
Exercise 8
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
คําชี้แจง : เติม This / That ลงในช่องว่างให้เหมาะสมกับประโยคและภาพ
1. 2. 3.
That That This

.............is a pen. .............is a table. .............is a bird.
4. 5. 6.
This That
.............is a pineapple.
That
.............is a banana. .............is an apple.
7. 8. 9.
That
.............is a chair. This
.............is a cat. That
.............is a dog.
English By Tinglish
Exercise 9
Chapter 3
DEMONSTRATIVE
(THIS & THAT)
คําชี้แจง : เขียนประโยคโดยใช้ This is / That is ให้เหมาะสมกับคําศัพท์และภาพ
1. cup 2. bowl
That is a cup. This is a bowl.
3. spoon 4. hat
This is a spoon. That is a hat.
5. sweater 6. car
That is a sweater. This is a car.
English By Tinglish
Exercise 10
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
คําชี้แจง : วงกลม These หรือ Those เพื่อให้ประโยคสอดคล้องกับภาพที่กําหนดให้
These / Those are erasers. These / Those are girls.
3. 4.
These / Those are lamps. These / Those are windows.
5. 6.
These / Those are elephants. These / Those are my scissors.
English By Tinglish
Exercise 11
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
คําชี้แจง : เติม These / Those ลงในช่องว่างให้เหมาะสมกับประโยคและภาพ
1. 2. 3.
Those Those These

.............are pens. .............are tables. .............are birds.
4. 5. 6.
These These Those

.............are bananas. .............are pineapples. .............are apples.
7. 8. 9.
Those These These

.............are chairs. .............are cats. .............are dogs.
English By Tinglish
Exercise 12
Chapter 4
DEMONSTRATIVE
(THESE & THOSE)
คําชี้แจง : เขียนประโยคโดยใช้ These are / Those are ให้เหมาะสม
กับคําศัพท์และภาพ
1. cups 2. bowls
Those are cups. These are bowls.
3. spoons 4. hats
These are spoons. Those are hats.
5. sweaters 6. cars
Those are sweaters. These are cars.
English By Tinglish
Exercise 13
Chapter 5
SOME & ANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยวงกลม some / any
1. Those are some / any flowers.
2. We have some / any pizza.
3. I don't have some / any pencils.
4. I don't have some / any questions.
5. Would you like some / any milk?
6. These are some / any honey.
7. Those are some / any elephants.
8. Do you want some / any water?
9. Can I have some / any tea?
10. Do you have some / any brothers?
English By Tinglish
Exercise 14
Chapter 5
SOME & ANY
1. Can I have __________ tea?

some any
2. Would you like __________ coffee?
some any
3. __________ cats are sleeping.
some any
4. Is there __________ milk left?
some any
5. I can see __________ boys playing football.
some any
6. Does she have __________ brothers?
some any
7. I have __________ money.
some any
8. Do you have __________ dogs?
some any
9. I don't have __________ pens.
some any
English By Tinglish
Exercise 15
Chapter 5
SOME & ANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม some / any ลงในช่องว่าง
some
1. These are ........................ students.
some tigers.
2. Those are ........................
any
3. Do you have ...................... pencils?
any
4. I don't have ....................... questions.
any
5. I don't have ...................... sugar.
some
6. I would like ...................... honey.
some tea?
7. Would you like ................
some milk?
8. Can I have .................
any lions?
9. Can you see ..................
any
10. Do you have .................. brothers?
English By Tinglish
Exercise 16
Chapter 6
FEW & LITTLE
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ few / a few / little / a little
1. There is few / little honey.
2. There are few / little kids.
3. There is a few / little salt.
4. There are few / little bears in the zoo.
5. A few / little dogs are running.
6. There is few / little coffee.
7. There is few / little cake.
8. There are few / little coconuts.
9. There is few / little orange juice.
10. There are few / little trees.
English By Tinglish
Exercise 17
Chapter 6
FEW & LITTLE
1. There are __________ women.

a few a little
2. There is __________ food on the table.
few little
3. There are __________ sleeping cats.
a few a little
4. There is __________ milk in the bottle.
few little
5. There are __________ boys in the classroom.
a few a little
6. There are __________ coins in my bag.
a few a little
7. I have __________ money.
a few a little
8. She has __________ water.
few little
9. There are __________ pens.
few little
English By Tinglish
Exercise 18
Chapter 6
FEW & LITTLE
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม a few / a little ลงในช่องว่าง
a few
1. These are ........................ crayons.
a few
2. These are ........................ teeth.
a little
3. There is ...................... snow.
a little luck.
4. I have .......................
a few sheep.
5. Those are ......................
a little help.
6. She needs ...................
a little fun.
7. They're having .....................
a few
8. Give me ...................... more grapes.
a little water.
9. The girl drank .......................
a few minutes.
10. I'll be back in ...................
English By Tinglish
Exercise 19
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ how much / how many
1. How much / many eggs did you buy ?
2. How much / many coffee did you drink last night ?
3. How much / many girls are there in your group ?
4. How much / many cans of beer do you want ?
5. How much / many time have you got to play ?
6. How much / many stars can you see in the sky ?
7. How much / many sugar would you like ?
8. How much / many money did you pay for the bike ?
9. How much / many hours do you sleep every night ?
10. How much / many water did you drink ?
English By Tinglish
Exercise 20
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
1. How ______ do you like music?

much many
2. How __________ bees are there on the tree?
much many
3. How __________ glasses of beer would you like?
much many
4. How __________ money does she have?
much many
5. How __________ mice are there in your house?
much many
6. How __________ coins are there in your bag.
much many
7. How __________ sugar do you want?
much many
8. How ______ children are there in the playground?
much many
9. How _______ women are there in the room?
much many
English By Tinglish
Exercise 21
Chapter 7
HOW MUCH & HOW MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม How much / Howmany ลงในช่องว่าง
1. _______
How many sausages are there in your sandwich?
How many
2. _______students are there in your class?
How much
3. _______cheese is there in the pizza?
How much
4. _______food is there in the bag?
How many
5. _______brothers or sisters have you got?
How much
6. _______water do you drink every day?
How many
7. _______eggs are there in a dozen?
How many
8. _______tomatoes do you need for your salad?
How much
9. _______money do you want?
How much
10. _______beef do we need?
English By Tinglish
Exercise 22
Chapter 8
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ there is / there are
1. There is / There are a woman.
2. There is / There are some pencils.
3. There is / There are any leaves.
4. There is / There are an orange.
5. There is / There are one book.
6. There is / There are three balloons.
7. There is / There are a bear.
8. There is / There are a few bees.
9. There is / There are an ant.
10. There is / There are grapes.
English By Tinglish
Exercise 23
Chapter 8
1. ______ a police car.

There is There are
2. __________ two kids.
There is There are
3. __________ some cherries.
There is There are
4. __________ a monkey.
There is There are
5. __________ a butterfly.
There is There are
6. __________ a few birds.
There is There are
7. __________ many flowers.
There is There are
8. __________ three children.
There is There are
9. __________ a tree.
There is There are
English By Tinglish
Exercise 24
Chapter 8
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม there is / there are ลงในช่องว่าง
There is
1. .......................a Spanish girl in my class.
There is a pencil in my schoolbag.

2. ......................
There are five apples in the basket.

3. .......................
There is a jumper on the chair.

4. ......................
There is a spider in the grass.

5. ......................
There are some children in the house.

6. ......................
There are six forks next to the plate.

7. ......................
There is a panda in the zoo.

8. ......................
There are a few bees at the jar.

9. ......................
There are some pigs in the field.

10. ......................
English By Tinglish
Exercise 25
Chapter 9
MUCH & MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ much / many
1. There isn't much / many snow.
2. Are there much / many children?
3. There aren't much / many shops.
4. Is there much / many food left?
5. There aren't much / many lemons.
6. Is there much / many honey?
7. There isn't much / many olive oil.
8. There are too much / many people.
9. There is too much / many noise.
10. I like it so much / many.
English By Tinglish
Exercise 26
Chapter 9
MUCH & MANY
1. We don't see _____ flowers in winter.

much many
2. My daughter spends too _____ money.
much many
3. There weren't ____ cars in the city yesterday.
much many
4. Thank you so _____ for your help.
much many
5. You didn't drink _____ last night.
much many
6. Do you know _____ people in Spain ?
much many
7. Are there ____different insects species?
much many
8. I don't speak _____ French.
much many
9. She doesn't have _____ time to read.
much many
English By Tinglish
Exercise 27
Chapter 9
MUCH & MANY
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม much / many ลงในช่องว่าง
much
1. Jane hasn't got ....................... time.
many words in English?

2. Do you know ...................
much
3. He didn't eat ................... meat.
much butter in the fridge.

4. There isn't ..................
many eggs did the hens lay?

5. How ..................
much
6. Samantha has as ................... money as Bruce.
many lessons do you have on Mondays?

7. How ..............
much noise in the streets.

8. There was too ....................
many
9. I cannot see ................... stars in the sky tonight.
10. Do you have ...................

many friends abroad?
English By Tinglish
Exercise 28
Chapter 10
HAVE & HAS
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ have / has
1. You have / has a lot of money.
2. This tree have /has many flowers.
3. My sister have / has a teddy bear.
4. The butterfly have / has six legs.
5. Ann and I have / has a dog.
6. I have / has a headache.
7. This man have / has three cats.
8. The children have / has a pretty smile.
9. The giraffe have / has a long neck.
10. She have / has got long hair.
English By Tinglish
Exercise 29
Chapter 10
HAVE & HAS
1. Lions ___ big teeth.

have has
2. I ___ a brother.
have has
3. April ___ thirty days.
have has
4. Parrots ___ colourful feathers.
have has
5. We ___ a problem.
have has
6. They___four apples.
have has
7. Do we ___ money?
have has
8. Does she ___ a big buffalo?
have has
9. I don't ___ any brothers.
have has
English By Tinglish
Exercise 30
Chapter 10
HAVE & HAS
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม have / has ลงในช่องว่าง
has
1. Jane ............................... five dogs.
have
2. Bill ang Jane ................... a great teacher.
has
3. The car ................... airconditioning.
have
4. We .................. a lovely house.
has
5. Jill .................. a kind friend.
have
6. You ................... eight correct answers..
has four bedrooms.

7. The house ..............
have
8. I .................... no money.
have
9. They ................... a blue car.
has
10.The cat ................... brown fur.
English By Tinglish
Exercise 31
Chapter 11
DO & DOES
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้ Do / Does
1. Do / Does I sing well?
2. Do / Does you play football?
3. I do / does the ironing.
4. Do / Does he like this book?
5. Do / Does she speak English?
6. Do / Does monkeys eat bananas?
7. He do / does homework.
8. Do / Does we play video games?
9. Do / Does you have any questions?
10. Do / Does your teacher live in London?
English By Tinglish
Exercise 32
Chapter 11
DO & DOES
1. Rebecca ___ drink coffee.

don't doesn't
2. We ___ wear jeans.
don't doesn't
3. These boys ___ play golf.
don't doesn't
4. I ___ like coconut juice.
don't doesn't
5. Your brother ___ smile.
don't doesn't
6. This car ___ run fast.
don't doesn't
7. They ___ go to the cinema.
don't doesn't
8. My mother ___ like rats.
don't doesn't
9. My dog ___ eat apples.
don't doesn't
English By Tinglish
Exercise 33
Chapter 11
DO & DOES
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม do / does / don't / doesn't
ลงในช่องว่าง
Do you play the guitar?

1. ____ No, I ____
don't
Does your sister like sport ?

2. ____ does.
Yes, she ____
3. ____
Do we live in a flat ? Yes, we ____
do.
4. ____
Does he go to school ? No, he doesn't
____
Do monkeys eat fruit ?

5. ____ do.
Yes, they ____
Do cows swim well ?

6. ____ don't
No, they ____
Does the cat run very fast ?

7. ____ No, it doesn't
____
8. ____
Do cats like dogs ? No, they ____
don't
9. ____
Do you wash your car ? Yes, I ____
do.
10. ____
Does this dog bite ? No, it ____
doesn't
English By Tinglish
Exercise 34
Chapter 12
WH-QUESTIONS
คําชี้แจง : วงกลมข้อที่ถูกต้องและเหมาะสมกับประโยคที่สุด
1. ___ did you leave the party so early ?

2. ____ is my new shirt ?

3. ____ are you angry with me today ?

4. ____ is that woman over there ?

5. ____ are you going now ?

6. ____ is in the bathroom ?

7. ____ have you been ?

English By Tinglish
Exercise 35
Chapter 12
WH-QUESTIONS
1. ____ is your name ?

Where What
2. ____ are you from ?
Where Who
3. ____ is your birthday ?
Who When
4. ____ is your favourite singer ?
Who Why
5. ____ do you live ?
When Where
6. ____ is your phone number ?
Who What
7. ____ is your favourite hobby ?
When What
8. Excuse me. ____ is the park ?
How Where
9. ____ will you go home ?
When Who
English By Tinglish
Exercise 36
Chapter 12
WH-QUESTIONS
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยเติม Who / What / Where / When
/ Why / How ลงในช่องว่าง
1. __________
Where is the train station?
2. __________
Who lives here?
3. __________
Why is he so sad?
4. __________
What colour is it?
5. __________
When does the film start?
Where
6. __________ is the post office?
7. __________
Why are you laughing?
8. __________
Who is your English teacher?
9. __________
How long has she been here?
10. __________
When can I call him?
English By Tinglish
Exercise 37
Chapter 13
COMPARISON
คํา ชี้ แจง : ทํา ให้ ประโยคถู กต้ องโดยขี ดเส้ นใต้
comparative adjectives ที่ เหมาะสมที่ สุ ด
Teddy Bobby Fred
4 y e a rs old 9 years old 5 y ears old

Goo d + ++ Go od + + G oo d +
Be au t ifu l + Beau tiful ++ + Beaut iful ++
1. Teddy is younger / older than Fred.
2. Fred is younger / older than Bobby.
3. Bobby is bigger / smaller than Teddy.
4. Teddy is bigger / smaller than Fred.
5. Teddy is better / worse than Bobby.
6. Fred is better / worse than Teddy.
7. Bobby is uglier / more beautiful than Fred.
8. Bobby is uglier / more beautiful than Teddy.
English By Tinglish
Exercise 38
Chapter 13
COMPARISON
คํา ชี้ แจง : เปลี่ ยนคํา ที่ กํา หนดให้ เป็ นคํา เปรี ยบเที ยบในขั้ นกว่ า
(Comparative Degree)
hot ni ce bad expensi ve l ar ge

happy l ong good bi g tal l smal l
1. hotter than 7. longer than
2. nicer than 8. better than
3. worse than 9. bigger than
4. more expensive than 10. taller than
5. larger than 11. smaller than
6. happier than
English By Tinglish
Exercise 39
Chapter 13
COMPARISON
คํา ชี้ แจง : ใช้ ข้ อมู ลที่ กํา หนดให้ แล้ วตอบคํา ถามลงในช่ องว่ าง
Teddy Bobby Fred
4 y e ars o ld 9 yea rs old 5 y ears o ld

Go o d + + + Go od + + G oo d +
Be au tifu l + Beaut ifu l ++ + Beaut ifu l ++
1. Who is the best?

Teddy is the best.
2. Who is the oldest?
Bobby is the oldest.
3. Who is the worst?

Fred is the worst.
4. Who is the youngest?

Teddy is the youngest.
5. Who is the most beautiful?
Bobby is the most beautiful.
English By Tinglish
Exercise 40
Chapter 14
คําชี้แจง : เปลี่ยนคํากริยาที่กําหนดให้ในวงเล็บให้อยู่ในรูป
Present Simple Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
walks (walk) to the cinema.

1. She ....................
comes (come) to school.
2. My brother .................
play
3. We .................... (play) football.
play
4. I always .................... (play) tennis.
drink
5. They .................... (drink) coffee.
go
6. Jane doesn't ...................(go) to the market.
dance (dance) on the floor.
7. He doesn't ................
talks
8. Jim .................... (talk) to his friends.
runs
9. My dog ................. (run) away.
reads
10. She often...................... (read) books.
English By Tinglish
Exercise 41
Chapter 14
คําชี้แจง : ทําให้ประโยคถูกต้องโดยขีดเส้นใต้คํากริยาที่เหมาะสม
1. We drink / drinks tea every day.
2. Frank study / studies biology.
3. This duck have / has beautiful colours.
4. Many shops close / closes at seven o'clock.
5. A woman never say / says her age.
6. The gardener cut / cuts the grass.
7. Storks fly / flies south in winter.
8. She go / goes to the beach in summer.
9. My father travel / travels to Spain twice a year.
10. The cat catch / catches the mouse.
English By Tinglish
Exercise 42
Chapter 14
1. My mother ____ on Sundays.

work works
2. We ____ the answers.
write writes
3. It ____ grass.
eat eats
4. I ____ more ice cream.
want wants
5. She never ____ chess.
play plays
6. They ____ to school.
walk walks
7. He ____ a bus.
drive drives
8. Monkeys ____ a lot of noise.
make makes
9. This girl ____ Italian.
speak speaks
English By Tinglish
Exercise 43
Chapter 15
Present Continuous Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
reading
1. They are ____________. (read)
singing
2. She is ____________. (sing)
drawing
3. We are ____________. (draw)
flying
4. It is ____________. (fly)
driving
5. My father is ___________. (drive)
eating
6. She is ___________. (eat)
playing
7. Pam is ___________. (play)
riding
8. We are ___________. (ride)
walking
9. I am ___________. (walk)
writing
10. You are ___________. (write)
English By Tinglish
Exercise 44
Chapter 15
คําชี้แจง : เปลี่ยนประโยคที่กําหนดให้อยู่ในรูป Present Continuous Tense

This man is drinking tea.
I am having breakfast.

We are running in the park.

Butterflies are flying very high.
They are looking at the picture.

Jane is talking to her friends.
My mother is sleeping.
English By Tinglish
Exercise 45
Chapter 15
ของ Present Continuous Tense

Is this man drinking tea?
Am I having breakfast?

Are we running in the park?

Are butterflies flying very high?
Are they looking at the picture?

Is Jane talking to her friends?
Is my mother sleeping?
English By Tinglish
Exercise 46
Chapter 16
Present Perfect Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
1. It ___
has _____
rained a lot. (rain)
haven't _____
2. We _____ played tennis. (not play)
have_____
3. I ____ lost my keys. (lose)
has he _____
4. Who ___ met recently? (meet)
haven't you _____

5. Why _____ called me? (not call)
has_____
6. Paul ___ had an accident. (have)
has already _____

7. My sister ___ gone to bed. (go)
hasn't _____
8. She _____ read that book yet. (not read)
have _____
9. They ____ walked for a long time. (walk)
have you _____

10. Where ____ been this week? (be)
English By Tinglish
Exercise 47
Chapter 16
คําชี้แจง : เปลี่ยนประโยคที่กําหนดให้อยู่ในรูป Present Perfect Tense
1. Someone eat my apple.

Someone has eaten my apple.
2. Oh no ! I break a window.
Oh no ! I have broken a window.
3. My sisters start a new job recently.

My sister has started a new job recently.
4. I write my English essay.

I have written my English essay.
5. I lose all my money.
I have lost all my money.
6. I buy some new shoes and a hat.

I have bought some new shoes and a hat.
7. They live here for a long time.

They have lived here for a long time.
English By Tinglish
Exercise 48
Chapter 16
ของ Present Perfect Tense
1. You have painted the kitchen door.

Have you painted the kitchen door?
2. Your brother have done the shopping.
Have your brother done the shopping?
3. Janny has ever touched a spider.

Has Janny ever touched a spider?
4. You have ever ridden on an elephant.

Have you ever ridden on an elephant?
5. We has ever flown in a helicopter.
Has we ever flown in a helicopter?
6. Bill has turned off the radio.
Has Bill turned off the radio?
7. You have ever cooked for your parents.
Have you ever cooked for your parents?
English By Tinglish
Exercise 49
Chapter 17
โดยเติมลงในช่องว่าง
1. What ____
have you ____ ______? (cook)
been cooking
Have you ____

2. ____ been ______
swiming in the pool? (swim)
3. It ____ ____raining
has been ______ all day. (rain)
4. Who ____ ____

has been ______ here? (sleep)
sleeping
haven't ____
5. We ______ been playing
______ cards. (not play)
has been
6. She ____ ____running
______ around. (run)
has ____
7. John ____ been drinking
_______ beer. (drink)
haven't been
8. I ______ ____ reading
_______ books. (not read)
Have they ____
9. ____ been_______
driving all night? (drive)
has been
10. Who ____ ____ smoking
_______ today? (smoke)
English By Tinglish
Exercise 50
Chapter 17
คําชี้แจง : เปลี่ยนประโยคที่กําหนดให้อยู่ในรูป
1. I study all morning.

I have been studying all morning.
2. Are you taking photos?
Have you been taking photos?
3. The dogs is barking.

The dogs have been barking
4. She dances for 4 hours.

She has been dancing for 4 hours.
5. He doesn't smoke lately.
He hasn't been smoking lately.
6. It snowed for 2 days.
It has been snowing for 2 days.
7. We don't drink alcohol.
We haven't been drinking alcohol.
English By Tinglish
Exercise 51
Chapter 17
ของ Present Perfect Continuous Tense
1. Is he working all day?

Has he been working all day?
2. Why are you crying?

Why have you been crying?
3. Who is eating the cakes?

Who has been eating the cakes?
4. What are you doing all day?

What have you been doing all day?
5. Is she running for 2 hours?
Has she been running for 2 hours?
6. Are children watching TV for two hours?

Have children been watching TV for two hours?
7. Are you waiting here for long?
Have you been waiting here for long?
English By Tinglish
Exercise 52
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
Past Simple Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
ate
1. I ___________ (eat) bananas.
called
2. My sister ___________ (call) me.
rained
3. It ___________ (rain) outside.
went
4. We ___________ (go) to school.
made
5. Ben ___________ (make) noise.
came
6. They ___________ (come) this way.
played
7. Did they ___________ (play) badminton?
ran
8. My dog ___________ (run).
slept
9. My cats ___________ (sleep).
talked
English By Tinglish
Exercise 53
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
1. She ____ apples. (eat)

She ate apples.
2. My friend ____ me. (call)

My friend called me.
3. It _____ outside yesterday. (rain)

It rained outside yesterday.
4. I _____ to school last week. (go)

I went to school last week.
5. Paul ______ books 2 days ago. (read)
Paul read books 2 days ago.
6. You ______ badminton. (play)
You played badminton.
7. My cats ______ outside yesterday. (go)
My cats went outside yesterday.
English By Tinglish
Exercise 54
Chapter 18
PAST SIMPLE TENSE
1. I listened to music.
Did I listen to music?

Did she dance ballet?

Did he carry the drinks?

Did Paul watch a documentary?

Did the car stop at the corner?
Did we enjoy the game?

Did we go to the cinema yesterday?
English By Tinglish
Exercise 55
Chapter 19
Past Continuous Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
were eating
1. I ___________ (eat) apples.
2. My sister ___________
was calling (call) to her friend.
3. It ___________
was snowing (snow) outside.
were going
4. They ___________ (go) to the cinema.
5. Sally ___________
was making (make) some cake.
6. She ___________
was coming (come) to my house.
7. John ___________
was playing (play) badminton.
8. My dog ___________
was running (run).
9. My cats ___________
were sleeping (sleep).
10. I ___________
were talking (talk) with my friends.
English By Tinglish
Exercise 56
Chapter 19
1. She ate apples.

She wasn't eating apples.
2. My friend called me.

My friend wasn't calling me.
3. It rained outside yesterday.

It wasn't raining outside yesterday.
4. I went to school last week.

I wasn't going to school last week.
5. Paul read books 2 days ago.

Paul wasn't reading books 2 days ago.
6. You played badminton last month.
You weren't playing badminton last month.
7. My cats went outside yesterday.

My cats weren't going outside yesterday. .
English By Tinglish
Exercise 57
Chapter 19
1. They listened to music.

Were they listening to music?

Was she dancing ballet?

Was he carrying the drinks?

Was Paul watching a documentary?

Was the car stoping at the corner?
Were we enjoying the game?

Was he going to the cinema yesterday?
English By Tinglish
Exercise 58
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
Past Perfect Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
had cut
1. My dad _________ the grass. (cut)
2. I hadn't
_________
washed the car. (not wash)
3. ____
Had she _______
ridden her bike? (ride)
4. The train _______

had left already. (leave)
5. Sam ___________
hadn't phoned us. (not phone)
6. ____ showed
Had it ________ a lot? (show)
7. We ___________
hadn't had lunch. (not have)
8. It ___________
had drunk some water. (drink)
9. He ___________
had read a ghost story. (read)
10. _____
Had she _______
made her bed? (make)
English By Tinglish
Exercise 59
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
คําชี้แจง : เติมคําลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ ในรูป Past Perfect Tense
had seen
1. I thought I knew her. I thought I _______
(see) her before.
had driven
2. He ___________ (drive) only twice
in his life before the accident.
3. Jenny no longer had her car. She_________

had sold
(sell) it.
had changed
4. I saw Annabel last week. She ___________
(change) a lot.
Exercise 59
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
5. The new restaurant wasn't open any longer.
had closed
It ___________ (close) down.
6. He fed the cat because no-one __________

had fed
(feed) it for days.
7. She ____________
had lived (live) in Sweden before
she went to Norway.
8. After we ___________
had eaten (eat) the cornflakes,
Henry came in.
9. Jene ______________
had just got (just get) home
when the phone rang.
English By Tinglish
Exercise 60
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
A The man was hit by a red car.
B I saw him at the office.
C The girl was afraid.
D Tom was happy to see John again.
E The dog was really hungry.
F Jenifer was very tired.
Exercise 60
Chapter 20
PAST PERFECT TENSE
C She hadn't flown on a plane before.
D They hadn't met for a long time.
F She hadn't slept at all.
B He hadn't left for work.
A The driver hadn't seen him.
E Mary hadn't fed it since Monday.
English By Tinglish
Exercise 61
Chapter 21
Past Perfect Continuous Tense โดยเติมลงในช่องว่าง
had been barking

1. The dog _______________.(bark)
had been eating
2. Someone _______________ grapes.(eat)
3. He ______________
hadn't been working all day.(not work)
Had you been

4. ___ playing
____________ tennis?(play)
hadn't been talking to you.(not talk)
5. I _______________
Had it ___________
6. ___ been raining in the morning?(rain)
7. My dad ______________
had been buying clothes.(buy)
8. What ___
had you been
____________?(cook)
cooking
9. Sara ______________
hadn't been driving her car.(not drive)
10. Where ___

had youbeen
_____________?(sleep)
sleeping
English By Tinglish
Exercise 62
Chapter 21
คําชี้แจง : เติมคําลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ ในรูป

Past Perfect Continuous Tense
had been sleeping

1. We _____________________(sleep)
for 12 hours when he woke us up.
had been waiting

2. They ______________(wait) at the station
for 90 minutes when the train finally arrived.
had been looking

3. We _______________(look) for her ring for
two hours and then we found it in the bathroom.
4. I ___________________(not
hadn't been working work)
for a long time, when it suddenly began to rain.
English By Tinglish
Exercise 62
Chapter 21
had she been

5. How long ___ learning
____________(learn)
English before she went to London?
had been
6. Minny caught the flu because she _________
singing
_______(sing) in the rain too long.
had been driving

7. He __________________(drive) less than
an hour when he ran out of petrol.
8. They were very tired in the evening because
they _____________(help)
had been helping on the farm all day.
9. I ______________(not
hadn't been working work) all day; so I
wasn't tired and went to the disco at night.
English By Tinglish
Exercise 63
Chapter 21

A I had been waiting for 2 hours.
B Why was the baby's face so dirty?
C I saw John yesterday.
D It had been raining.
E When I arrived the office.
F They had been studying all day.
English By Tinglish
Exercise 63
Chapter 21

C But he had been running so he was too tired to chat.
E She had been working.
B He had been eating chocolate.
D And the pavement was covered with puddles.
A So I was really glad when the bus finally arrived.
F So when we met they were exhausted.
English By Tinglish
Exercise 64
Chapter 22
IF CLAUSES
1. I will come if I ______________ time.
will have had have
2. If you ______ into Peter, tell him that he owes

me a letter.
ran run had run
3. If he is late, we ____________ without him.
will start would start would have started
4. If you ____________ me, I would have told you.
asked will ask had asked
English By Tinglish
Exercise 64
Chapter 22
IF CLAUSES
5. Will it be all right if I ________ a friend tonight?
bring brought had brought
6. If he _________ a bit faster, he could have won.
has run had run ran
7. If I hadn’t been so tired, I ______________ up.
would not give

would not have given
will not give
8. If you _____________ to learn a musical instrument,

you have to practice.
want wants wanted
English By Tinglish
Exercise 65
Chapter 22
IF CLAUSES
1. If it ____________, we will stay at home.
would rain rained rains
2. If you do not know the way, I ______ you up.
pick would pick will pick
3. My mum will bake a cake if you ______ to see us.
came have come come
4. If you __________ harder, you would get better

marks in your tests.
studied will study study
English By Tinglish
Exercise 65
Chapter 22
IF CLAUSES
5. If I were rich, I __________ around the world.
would travel travel will travel
6. She _________ to the market with us

if she did not have to work.
came would come will come
7. If you __________ us, we would have finished

the work in next to no time.
have helped had helped helped
8. They ___________ gone to the theatre by car

if the weather had been better.
would not have

will not have
don't have
English By Tinglish
Exercise 66
Chapter 22
IF CLAUSES
คําชี้แจง : เปลี่ยนคําที่กําหนดให้ในวงเล็บให้ถูกต้องโดยอยู่ในรูป
If - Clauses โดยเติมลงในช่องว่าง
had eaten
1. If he ___________(eat) everything,
would have been

he _____________(be) ill.
wll arrest
2. The police ____________(arrest) him
catch
if they ________(catch) him.
3. I ____________(be)
would be made
angry if he ________
(make) more mistakes.
had been
4. If he __________(be) would have
late, we _________
gone
_______(go) without him.
lend
5. If I ________(lend)you will you
10 dollars, _______
give
________(you,give) it back to me?
English By Tinglish
Exercise 66
Chapter 22
IF CLAUSES
don't like
6. If you __________(not like) this one,
will bring
I _________(bring) you another one.
had known
7. If I ____________(know) would
that, I ______
have visited
________________(visit) you.
would not drink

8. I ____________(not drink) that wine
were
if I ______(be) you.
had had
9. If we _________(have) more rain, our crops
would have grown
__________________(grow) faster.
paint
10. If you ________(paint) the walls white,
will be
the room _______(be) much brighter.
English By Tinglish
Exercise 67
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมเครื่องหมาย หน้าคํานาม และเติมเครื่องหมาย
สําหรับคําที่ไม่ใช่คํานาม
agent she
Jane cute
dog hospital
small awake
slowly beside
alley anthem
alternative applicant
adorable punctual
English By Tinglish
Exercise 68
Chapter 23
คําชี้แจง : วงกลมเฉพาะคํานามให้ถูกต้อง
1. I love red cars.
2. John and Mary went to the supermarket

and bought eggs and cheese.
3. We had pizza for lunch.
4. They never told me that they had

so much money.
5. She's writing an essay on democracy.
6. He had a brilliant idea.
7. The British Library is near King's Cross Station.
8. He has three brothers and ten nieces

and nephews.
English By Tinglish
Exercise 69
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคําลงในแต่ละช่องให้ตรงกับประเภทของคํานาม
country dog book mountain

state father zoo bus
cinema school train lion
flag mother tiger fox
artist door baby beach
people animals places things
father dog country book

mother lion mountain bus
artist tiger state train
baby fox zoo flag
cinema door
school
beach
English By Tinglish
Exercise 70
Chapter 23
คําชี้แจง : แทนที่คํานามด้วยคําสรรพนาม โดยเติมลงในช่องว่างที่
กําหนดให้
1. The man went shopping and bought a shirt.

It
The shirt were expensive.
2. John and Mary went to the supermarket.

They
John and Mary bought eggs and cheese.
He
3. John is my brother. John is older than me.
She
4. My mom lives in Bangkok but My mom likes to go
camping every weekend.
He
5. Mr.Peter works at a hospital. Mr.Peter is a doctor.
It
6. Edin is my cat. Edin is very cute.
English By Tinglish
Exercise 71
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคําสรรพนามลงในช่องว่างที่กําหนดให้
him
1. Do you know that man? Do you know______?
We
2. My friend and I have money. ____can go shopping.
They
3. Robert and Jo are late. _____should hurry.
me a gift. I really love it.
4. He gave _____
they
5. Pigs are very fat, so ______eat a lot of food.
6. Are you ok? Can I help______?

you
them
7. I need to find my books.Where did you put_____?
I
8. He gave me a box, but _____lost it.
She
9. My sister isn't here. ______ is at the office.
me
10. Could you help_____? I have a problem.
English By Tinglish
Exercise 72
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคําสรรพนาม reflexive pronoun ลงในช่องว่างที่กําหนดให้
herself
1. My sister practice her English by talking to_______.
2. Jane wasn't careful and she cut her finger

herself with a knife.
by ________
ourselves
3. My sister and I make up by _________.
myself
4. I drive to the market by _________.
myself
5. My mom wasn't here, so I cooked by _______.
itselves
6. Cats can get clean by licking________.
themselves
7. Meck and Dada are doing homework_________.
herself
8. My little sister dressed__________.
myself to my new classmates.

9. I introduce __________
herself
10. She cuts her hair by _________.
English By Tinglish
Exercise 73
Chapter 23
คําชี้แจง : เติม T ลงในช่องว่างสําหรับ Transitive Verb และ เติม I
ลงในช่องว่างสําหรับ Intransitive Verb
I
1. She was crying all day long
T
2. We showed her the photo album.
T
3. The doctor advised me to exercise regularly.
I
4. It was raining at that time.
I
5. She laughed at the joke.
T
6. She gave a cookie to the child.
I
7. They slept in the street.
English By Tinglish
Exercise 74
Chapter 23
คําชี้แจง : ขีดเส้นใต้ระหว่าง Main Verb หรือ Helping Verb
1. They are teachers. Main Verb / Helping Verb
2. I will tell her the truth. Main Verb / Helping Verb
3. I don't know your phone number. Main Verb / Helping Verb
4. Have you done the washing up yet? Main Verb / Helping Verb
5. This book was written in 1950s. Main Verb / Helping Verb
6. I have never seen a lion before. Main Verb / Helping Verb
7. Does your father wake up early ? Main Verb / Helping Verb
8. I have two brothers and a sister. Main Verb / Helping Verb
9. You should definitely see this movie. Main Verb / Helping Verb
10. I do homework every night. Main Verb / Helping Verb
English By Tinglish
Exercise 75
Chapter 23
คําชี้แจง : เปลี่ยนคํากริยาให้เหมาะกับประโยคในรูปของอดีต
heard
1. I_________(hear) a new song on the radio.
read
2. I__________(read) three books last week.
3. They________(speak)
spoke French to the waitress.
forgot
4. I_________(forget) to buy some milk.
had
5. She_________(have) a baby in June.
lost
6. You_________(lose) your keys last week.
swam
7. They__________swim) 500m.
gave
8. I_________(give) my mother a book for Christmas.
became
9. At the age of 23, she _________(become) a doctor.
knew
10. I_________(know) the answer yesterday.
English By Tinglish
Exercise 76
Chapter 23
big clean new old

long small cute dirty
short fat
dirty T-shirt new house
clean T-shirt big car
short hair small car
long hair cute rabbit
old house fat cat
English By Tinglish
Exercise 77
Chapter 23
คําชี้แจง : ค้นหาคําคุณศัพท์ (Adjective) แล้ววงกลม
book ball yummy slow
long small old girl
mouse car cat circle
fast tall loud find
dilicious cool home box
large home salty cake
hard dog baby school
English By Tinglish
Exercise 78
Chapter 23
large little tall

short wide
short
1. Hungry rabbit was too______
to reach the apple.
2. I used a hand lens to see

little ant.
the______
3. The fancy peacock spread his

wide
_______feathers.
large
4. The elephant is very _______.
5. A Giraffe eat leaves from the

tall
_______ trees.
English By Tinglish
Exercise 79
Chapter 23
คําชี้แจง : เติมคํากริยาวิเศษณ์ (Adverb) และคําคุณศัพท์ (Adjective)
ที่กําหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
well dangerous late carefully

quietly perfectly awful
famous slowly angrily
well
1. She plays tennis very _________.
late
2. The match finished very_________.
dangerous
3. Some snakes are__________.
quietly
4. They came in the room __________.
awful
5. He is an _________ person.
perfectly
6. You speak English _________.
slowly
7. A tortoise walks _________.
famous singer.
8. She is a _________
angrily
9. He looked at me __________.
carefully
10. My dad drives __________.
English By Tinglish
Exercise 80
Chapter 23
คําชี้แจง : ค้นหาคํากริยาวิเศษณ์ (Adverb) แล้ววงกลม
sadly beautiful yummy sad
long well old good
heavy slowly cat circle
fast tall heavily tell
very hot slow easily box
large happily fastly cake
big dog baby school
English By Tinglish
Exercise 81
Chapter 23
คําชี้แจง : หาคํากริยาวิเศษณ์ (Adverb) แล้วเปลี่ยนให้เป็นคําคุณศัพท์
(Adjective) ให้ถูกต้อง
1. Joanne is happy. She smiles__________.

happily
loudly
2. The boy is loud. He shouts _________.
fluently
3. Her English is fluent. She speaks__________.
angrily
4. Our mum was angry. She spoke to us ________.
carelessly
5. My neighbour is a careless driver. He drives ______.
awfully
6. The painter is awful. He paints _________.
7. Jim is a wonderful piano player. He plays the piano
wonderfully
_________.
8. This girl is very quiet. She often sneaks out of
quietly
the house__________.
well
9. She is a good dancer. She dances really_________.
English By Tinglish
Exercise 82
Chapter 23
behind the box.

under the box. The frog is _______
The frog is _______ in
on
next to
under
The frog is________ on
in front of the box. The frog is _______ the box.
behind
in front of
in
The frog is _______ the box. next to the box.
The frog is _______
English By Tinglish
Exercise 83
Chapter 23
above, below, behind, in front of, beside
above
1. The ceiling is _________ your head.
below
2. The cellar is _________ ground.
behind the door.
3. He is hiding _________
4. We had a picnic _________

beside the river.
behind
5. Did you wash __________ your ears?
in front of the children!
6. Don't do that __________
7. It's very cold. The temperature is ______

below zero.
8. Joe spends a lot of time in
________
front of the mirror.
above me
9. Jane is older than me. She was a year _______
at school.
English By Tinglish
Exercise 84
Chapter 23
on in at across from
between around next to
on
1. Jenny lives _________ this street.
next to the clothes store.
2. The Chinese restaurant is ________
between the supermarket
3. There is a great cinema _________
and the drugstore.
across from
4. My house is ____________ the park.
around
5. There is a shoe store ___________ the corner.
on
6. I live ___________ Sukhumvit Street.
at
7. Patrick's work is __________ 65 Sukhumvit Street.
in
8. Joe's birthday is ___________ December.
on
9. Jame's soccer classes are _____Mondays and Fridays..
across from the park,
10. Liza's father lives __________
near the church.
English By Tinglish
Exercise 85
Chapter 23
and, but, or, so

and
1. I like English ___________ I like French very much.
but he doesn't like history.
2. My brother likes maths ______
so
3. The children forgot their homework, _________
the teacher was angry with them.

and
4. Can you read _________ write English words?
or
5. Are the questions right _______ wrong?
or
6. Would you like tea ______ hot chocolate for
your breakfast?
but
7. Our car is old, ________ it drives beautifully.
so
8. It was very warm, ________ we all went swimming.
English By Tinglish
Exercise 86
Chapter 23
and, because, but, or, so
and
1. I've got a brother __________ a sister.
so
2. It was very sunny last Sunday, _________
we went to the beach.

or
3. Would you like meat _______ vegetables for lunch?
but he doesn't like basketball.
4. He likes football _______
because it is closed.
5. We aren't going to the bank __________
or
6. We can go to the beach ________ to the mountain.
I don't really mind.
so
7. It is rainy today, ___take your umbrella and your boots.
because I didn't have
8. I didn't buy the new shoes___________
any money.
English By Tinglish
Exercise 87
Chapter 23
คําชี้แจง : ขีดเส้นใต้คําเชื่อม (Conjunction ) ที่ถูกต้อง
1. We stayed inside (because / because of) the storm.
2. I wanted to stay longer (since / because of) I was
really enjoying the party.
3. Amanda stayed at home (as / due to) her illness.
4. Her lateness was (due to / as) a terrible traffic jam.
5. (Since / Owing to) flights are cheaper in the winter,
we decided to travel then.
6. (As / Because of) She hated cats, she wasn't happy
when her husband bought three.
7. John didn't go to work, (owing to / as) his illness.
8. (Because / Due to)Lucy was very tired, she went
to bed early.
9. (Because / Owing to) his late night, John missed
his train.
English By Tinglish
Exercise 88
Chapter 23
Oh! Ah! Hush! Yippee,

Bah Eww! Oops! Oh,
Well, Of course
Oh!
1. __________Thank God!
Oops!
2. _________I didn’t see you were hiding here.
3. Of course, I’ll help you.

_______
Yippee, We have won the match.

4. _______
Oh!
5. __________ I felt bad hearing that.
Ah!
6. ________ Now that’s what I call a good shot
7. ________That
Eww! show was so gory.
Hush!
8. ___________ Don’t make a noise.
9. _________I
Bah, can’t believe you lost my favourite book.
Well,
10. ___________what did he say?
English By Tinglish
Exercise 89
Chapter 23
คําชี้แจง : ขีดเส้นใต้เฉพาะคําอุทาน (Interjection) ให้ถูกต้อง
1. Hi, I’m glad that you could make it to my party.
2. Wow! You look great tonight.
3. That was the best performance that I have ever seen, bravo!
4. I can’t believe you broke my favorite toy, bah.
5. Hmm, I wonder where I put my keys and wallet?
6. Eureka, I’ve struck gold!
7. “Shoo, go away!” shouted the woman when she saw the cat
licking milk from her cereal bowl.
8. I guess that’s the end of the movie, darn.
9. Stop! You should always wear a helmet when riding a bike.
10. Yippee, I made this picture all by myself.
English By Tinglish
Exercise 90
Chapter 23
Wow, Seriously, Goodness, Yay,

Yippee, Incredible, Bingo, Oops!
Oh, Well, Of course
Goodness
1. ______________, why didn’t you hold the door for me?
Wow
2. ______________, I’m so happy that you decided to visit
this summer.
Seriously
3. ______________! How can you possibly agree with that
point of view?
Bingo
4. ______________! You just gave me a great idea.
5. I can’t believe that I finally got an A on a project,

Incredible
____________!
Yay
6. ______________, my favorite author is doing a reading
at the local library.

Yippee!
7. This is my first new car,_______________.
English By Tinglish

Grammar m1-3 + Key (Edited 2aug2021

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

Grammar m1-3 + Key (Edited 2aug2021

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

รป

Part of speech : Pronoun 120

Part of speech : Adjective 129

Part of speech : Adverb 133

Part of speech : Preposition 137-138

Part of speech : Conjunction 142-144

Part of speech : Interjection 148-149

Countable Noun (นามนับได้) มีอยู่ 2 รูป คือ

Singular Noun Plural Noun

Uncountable Nouns คือคํานามที่นับไม่ได้นามประเภทนี้

1. apple 2. rice 3. bread

4. honey 5. meat 6. hat

7. bag 8. fan 9. tomatoes

10. pizza 11. cherries 12. milk

tea water chocolate ice-cream meat

10. A bottle of ......................

1. ใช้กับคําสรรพนาม และคํานาม subject singular plural veb to be

(เขาอยู่ในห้อง) les She is

Am I your best friend? การตอบ

3. She ..............my mother.

6.They ............ teachers 10 years ago.

7. we ............. students now.

9. She ............... my friend 2 years ago.

10. ...............they your dogs?

2. She is my English teacher.

4. We were best friends.

6.They were teachers 10 years ago.

3. Jay is your cousin.

5. She is in the house.

6.They are students.

That (นั น) ั สิ งทีอยูไ่ กล เปนเอกพจน์

This is my cat. นี่คือแมวของฉัน

This / That is an eraser. This / That is a girl.

This / That is a lamp. This / That is a window.

This / That is an elephant. This / That is my scissors.

.............is a pen. .............is a table. .............is a bird.

.............is a banana. .............is a pineapple. .............is an apple.

.............is a chair. .............is a cat. .............is a dog.

Those ั สิ งทีอยูไ่ กล เปนพหูพจน์

These / Those are erasers. These / Those are girls.

These / Those are lamps. These / Those are windows.

These / Those are elephants. These / Those are my scissors.

.............are pens. .............are tables. .............are birds.

.............are bananas. .............are pineapples. .............are apples.

.............are chairs. .............are cats. .............are dogs.

Some กับ Any ใช้กับคํานามที่ไม่ระบุจํานวน

examples Some ใช้ในประโยคบอกเล่าทั่วไป

ประโยคบอกเล่า a car some cars some milk

ประโยคคําถาม a car any cars any milk

ประโยคปฏิเสธ a car any cars any milk

1. Those are some / any flowers.

2. We have some / any pizza.

3. I don't have some / any pencils.

4. I don't have some / any questions.

5. Would you like some / any milk?

6. These are some / any honey.

7. Those are some / any elephants.

8. Do you want some / any water?

9. Can I have some / any tea?

10. Do you have some / any brothers?

1. Can I have __________ tea?

1. These are ........................ students.

2. Those are ........................ tigers.

3. Do you have ...................... pencils?