Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 19

กฎแห่งความ

โชคดี
The Luckiest Man in The World
Part 2

บัณฑิต อึ้งรังษี

www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 1
Section I
LUCK MAKERS

www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 11
“Our problem isn’t that we expect too much in life,
but that we’re satisfied with too little.”
-- Willis Munson

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราคาดหมายมากเกินไปกับชีวิต
แต่อยู่ที่เราพอใจกับสิ่งที่ยังน้อยเกินไปต่างหาก”
-- วิลลิส มันสัน (นักเขียน)

12 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
Rule 31
คาดหมายให้สูงหน่อย
The Law of Expectation
กฎแห่งความโชคดีที่สำคัญข้อหนึ่งคือ
“กฎแห่งความคาดหมาย” หรือ The Law of Expectation
ซึ่งกล่าวว่า
“Whatever you expect, with confidence, becomes
your own self-fulfilling prophecy.”
“สิ่งที่คุณคาดหมายด้วยความมั่นใจ จะกลายเป็นคำทำนายที่
เป็นจริงด้วยตัวของมันเอง”

Richard Wiseman นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ซึ่งได้ทำวิจัย


อย่างละเอียดในเรื่องโชค ศึกษาคนที่เรียกว่า “โชคดี” และ
ได้เขียนเป็นหนังสือชื่อว่า The Luck Factor
หนึ่งในผลสรุปข้อสำคัญของ Wiseman ก็คือ
“คนโชคดีคาดหมายว่าตนเองจะโชคดี”

ผมขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของผมเอง

www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 13
1
ตัวอย่าง ตอนผมมีโอกาสได้เข้าไปเรียนปริญญาโท
เอกการอำนวยเพลง (Conducting) ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน
ประเทศสหรัฐอเมริกา (ปี ค.ศ. 1995-6) เป็นวิชาเอกที่
เข้ายากมาก เพราะมีชื่อเสียงทางด้านการสอนวาทยกรเป็น
อันดับ Top 3 ของอเมริกาในขณะนั้น ปีหนึ่งรับแค่สองคน
จากผู้สมัคร 200 กว่าคน

เนื่องจากปริญญาโทมีสองปี จึงมีนักเรียนทั้งหมดแค่สี่คน
แน่นอน เมือ่ ผมเข้าไปใหม่ ๆ ก็ยกย่องรุน่ พีแ่ ละอยากเรียนรู้
จากพวกเขา เพราะรู้สึกว่า เขาต้องเก่งมากแน่ อีกทั้งเขา
Rule เป็นคนอเมริกันทั้งคู่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขารู้มากกว่าเราเยอะ
31
ทั้งขนบธรรมเนียม ภาษา ผู้คน วิชาความรู้ และที่สำคัญ
วัฒนธรรมอเมริกัน
รู้สึกตัวว่าตนเองเป็น “บ้านนอก” นิด ๆ
คนหนึง่ นัน้ เรียนจบปริญญาตรีเกียรตินยิ มมาจากมหาวิทยาลัย
Yale ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและมีเกียรติมาก
(บุคคลสำคัญ ๆ ของอเมริกาหลายคน รวมทั้งประธานาธิบดี
George W. Bush ก็จบจากที่นั่น)
โอกาสที่เขาเหล่านั้นจะก้าวหน้าในประเทศของเขาเองมีมาก
กว่าผมมาก
แต่เมื่อรู้จักไปนาน ๆ ก็ได้รู้ว่า ความคาดหมายของเพื่อนร่วม
คณะทั้งสามคน สำหรับผมแล้ว “ธรรมดาเหลือเกิน”
ในความคิดของพวกเขา เป้าหมายที่ “ยิ่งใหญ่” ที่เขาอยากได้

14 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
กันมากที่สุดหลังได้ปริญญาก็คือ มีงานทำ
พวกเขาจะตื่นเต้นกันมากเมื่อได้ยินว่า มีศิษย์เก่าคนไหน
“ได้งานทำ” แล้ว เสมือนเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
(ซึ่งผมมาเรียนรู้ทีหลังว่า ในวงการวาทยกร การ “มีงานทำ”
ก็เป็นความสำเร็จแล้ว เพราะวาทยกรอเมริกัน 99% ตกงาน!)
ผมแปลกใจมาก เพราะแทบไม่เชื่อว่า “ความคาดหมาย”
ของบุคคลที่ถือว่าเป็นมันสมองในมหาวิทยาลัยชั้นนำของ
ประเทศอเมริกาจะ “น่าเบื่อ” ขนาดนี้
ไม่ใช่ว่าผมหยิ่ง หรือคิดว่าผมดีหรือเก่งกว่าเขา เพราะผมไป
อเมริกาแบบไม่มีต้นทุน นอกจากความทะเยอทะยานกับ Rule
ความต้องการแสวงหาโอกาสที่ไม่มีในบ้านของตนเอง 31
ความตั้งใจและ “ความคาดหมาย” ของผมตั้งแต่ออกจาก
ประเทศไทย ก็คือ
“ผมต้องการ ‘พิชิต’ อเมริกาให้ได้”
ผมไม่แค่ต้องการให้ “ได้งาน” เท่านั้น
ผมต้องการ “มีชื่อเสียง”
แค่ทำงานไปวัน ๆ ได้เงินเดือนแบบเลี้ยงตัวไปได้เรื่อย ๆ
สำหรับผมแล้ว “ไม่คุ้ม”
ไม่คุ้มที่จะข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนถึงอเมริกา
ไม่คุ้มกับที่ผมละทิ้งโอกาสมีอาชีพที่ “มั่นคง”
ที่ประเทศของตนเอง
ไม่คมุ้ ทีต่ อ้ งห่างเหินจากครอบครัวไปทำมาหากินประเทศคนอืน่

www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 15
ความคาดหมาย (Expectation) ทีผ่ มมีกบั อาชีพของผมต่างกับ
เพื่อนร่วมชั้นอย่างสิ้นเชิง
ผลหรือครับ?
เหมือนกับว่า “โชค” นั้นเข้าข้างผมตลอดเวลา
ตลอดเวลาที่ผมมีอาชีพอยู่ในอเมริกานั้น ถึงตอนนี้เป็นเวลา
สิบกว่าปีแล้ว ผมได้ตักตวงเอาโอกาสที่อเมริกามีให้ได้มากกว่า
เพื่อนร่วมชั้นหลายเท่า
ได้ทุนที่เพื่อน ๆ ชาวอเมริกันไม่ได้ ได้โอกาสที่เขาไม่ได้
ในขณะที่เพื่อนยังเป็นแค่นักศึกษากันอยู่ ผมได้เดินทางทั่ว
อเมริกาและยุโรปไปทำงาน เข้าคอร์สพิเศษ พบปะผู้คน
Rule และได้รับความสนใจต่าง ๆ จากสื่อของอเมริกา
31
จนถึงตอนนี้ 10 กว่าปีให้หลัง เพื่อน ๆ เหล่านั้นก็ยังกระโดด
จากงานหนึ่งไปอีกงานหนึ่งในระดับเล็ก ๆ พอ ๆ กัน
ไม่ค่อยก้าวหน้าขึ้นเท่าไรนัก
เพราะเป้าหมายของเขาคือแค่ “ขอให้มีงานทำ”
ผมรูว้ า่ ไม่ใช่เป็นเพราะความสามารถทีเ่ ป็นทุนเดิมของผม
มีมากกว่าเพื่อนร่วมคณะคนอื่น
แต่เป็นเพราะ “ความคาดหมาย” ของผมมีมากกว่า!
เมื่อความคาดหมายเราสูง เราจะ “ดึงดูด” สิ่งที่มันตรงกับ
ความคาดหมายของเราเข้ามา

16 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
2
ตัวอย่าง เป็นเรื่องของการได้พบคู่ชีวิตของผม
จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงสังคม วัฒนธรรมของอเมริกา
คนที่ไม่เคยได้ไปอยู่ประเทศนี้นาน ๆ อาจไม่ทราบ
ถ้าท่านใดเคยเป็นนักเรียนนอกในประเทศสหรัฐอเมริกา
ก็จะเห็นคู่ต่างเชื้อชาติเสมอ
เช่น ผู้ชายฝรั่ง-ผู้หญิงเอเชีย หรือผู้ชายผิวดำ-ผู้หญิงฝรั่ง ฯลฯ
แต่ในจำนวนความนิยมแล้ว ต้องบอกว่าผู้ชายเอเชียเป็นที่นิยม
“น้อย” ที่สุดอย่างแน่นอน
ลองคิดดูสิครับ!
ผู้หญิงฝรั่งก็นิยมผู้ชายฝรั่งด้วยกัน
ผู้หญิงเอเชียที่โตที่อเมริกา (ที่เรียกกันว่าพวก ABC หรือ Rule
31
American-Born Chinese -- คนจีนที่โตในอเมริกา)
ก็นิยมผู้ชายฝรั่ง ไม่ยอมเดทผู้ชายเอเชียด้วยกัน
ผู้หญิงผิวดำก็นิยมผู้ชายฝรั่ง
ผู้ชายฝรั่งโชคดีที่สุด เดทได้ทั้งผู้หญิงผิวขาว ผิวดำ และเอเชีย
นั่นทำให้เหลือบุคคลประเภทหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครยอมเดทด้วย
นั่นคือ “ผู้ชายเอเชีย” ครับ!
เมื่อตอนเรียนปริญญาโทอยู่ที่มหาวิทยาลัย ผมมีเพื่อนผู้ชาย
หลายคนที่เป็นพวก ABC เติบโตที่อเมริกา พูดภาษาได้สำเนียง
แบบอเมริกัน ความคิดความอ่านเป็นอเมริกัน

เกร็ดเล็ก ๆ ครับ
เป็นเรื่องพูดกันเล่น ๆ ในหมู่นักศึกษา แต่ส่อให้เห็นถึงการแบ่งสีผิวในอเมริกา
ผู้ชายฝรั่งค่อนข้างจะหลงใหลผู้หญิงเอเชีย จนมีคำกล่าวว่า พวกเขาเป็นโรค “ไข้เหลือง”
(yellow fever) นั่นคือ คลั่งไคล้คนผิวเหลือง!
www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 17
เขาเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายเอเชียชาว ABC เหล่านั้น
หลายคนเติบโตมาด้วย “ปมด้อย”
เพราะนอกจากจะถูกกีดกันเรื่องสีผิวจากทั้งคนผิวขาวและ
คนผิวดำเป็นประจำ
หรือถูกล้อเลียนต่าง ๆ นานา ว่าชือ่ ฟังแล้วตลก (ชือ่ คนจีนฟังแล้ว
ตลกสำหรับคนอเมริกนั ทัว่ ไป)
ผู้หญิงเอเชียชาว ABC ด้วยกันก็ไม่ยอมเดทเขาด้วย!
กลับมาเข้าประเด็นเรื่องคู่ชีวิตผม
ผมต้องยอมรับว่า มีความตัง้ ใจจะมีคชู่ วี ติ เป็นสาวอเมริกนั ตัง้ แต่
สมัยยังเป็นวัยรุ่นแล้ว
และเมื่อได้ไปอยู่อเมริกา ได้ยินเพื่อนเล่าอย่างที่ว่าไว้ข้างบน
Rule
31 ก็เริ่มสังเกตด้วยตนเอง
และก็ได้รู้ว่าเป็นความจริง
มองไปรอบตัว มีแต่ผู้หญิงเอเชียคู่กับผู้ชายฝรั่ง
แทบไม่มีแบบที่ตรงกันข้ามเลย!
และถ้านาน ๆ ทีจะโผล่ออกมาให้เห็นสักคู่หนึ่ง
เมื่อเหลือบไปดูสาวชาวอเมริกันคนนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่เรานักศึกษาเรียกกันว่า without
options คือ “ไม่มีทางเลือกแล้ว!”
หน้าตาไม่สวย อ้วน ไม่ฉลาด ฯลฯ
คนสวย ๆ ที่มีผู้ชายมาให้เลือกเยอะ ๆ ผู้ชายเอเชียก็ไป
แย่งชิงเขามาไม่ได้ จึงต้องยอมรับสาวที่ “ไม่มที างเลือก” มาเป็นคู่

ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นไปด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ชายเอเชียร่างเล็กกว่า ตาหยีกว่า


หรือ ดู “หล่อ” ไม่เท่า ก็คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่บ้านเรานิยมพระเอกนางเอกที่เป็นลูกครึ่ง

18 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
ผมจึงถามตนเองว่า “สรุปแล้ว ผู้ชายเอเชียเป็นชาติที่
‘ด้อยกว่า’ หรือ?”
ทำไมต้องยอมรับ “ของเหลือ”
และก็ตั้งปณิธานตั้งแต่ตอนนั้นว่า ผมอยากจะได้คู่เป็น
ชาวอเมริกันที่ “มีทางเลือก” คือ มีคุณสมบัติดี หน้าตาดี
บุคลิกดี มาจากครอบครัวที่ดี เป็นที่พึงปรารถนา
พูดง่าย ๆ มีคู่แข่งขันแย่งชิง เป็นของมีค่า
ถ้าต้องยอมรับแบบ “ไม่มีทางเลือก” ก็ไม่เอาซะดีกว่า
คนอื่นคิดอย่างไร ผมไม่ทราบ แต่ผมคิดว่าผม “สมปรารถนา”
แล้วในเรื่องคู่ครอง
จริง ๆ แล้ว “เกินความคาดหมาย” ของผมเองด้วยซ้ำ
สำหรับผม เป็นเรือ่ งทีเ่ สมือน “ปาฏิหาริย”์ ทีไ่ ด้เจอคนอย่างแมรี่ Rule
31
ซึง่ เป็นคนอเมริกนั ทีเ่ ติบโตในเอเชีย (เกาหลีใต้) มา 14 ปี จึงทำให้
เข้าใจคนเอเชีย และไม่เห็นว่าเอเชียเป็นวัฒนธรรมทีไ่ กลตัวเกินไป
ทัง้ ยังรักดนตรีและเป็นนักดนตรีอาชีพในระดับฝีมอื พอฟัดพอเหวีย่ งกัน
แต่ที่ว่า “เกินความคาดหมาย” คือ มีทักษะการพูดภาษาไทย
อย่างดีเยี่ยมติดมาด้วย
เรื่องนี้ผม “โชคดี” ด้วยการไม่ยอมรับความคาดหมายที่ด้อย
หรือต่ำตามคนรอบตัว
และไม่ใช่ว่าเราคิดว่าตัวเรามีดี หรือ เราแน่
แต่คุณจะไม่รู้เลยว่าข้อจำกัดของคุณอยู่ที่ไหน
ถ้าคุณไม่ลองคาดหมายสูง ๆ
และคุณจะทำให้ตนเองแปลกใจ!
ผมรับประกัน
www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 19
“If one does not know to which port is sailing,
no wind is favorable.”
-- Seneca
“ถ้าเราไม่รู้ว่าเรือจะไปเข้าที่ท่าไหน ลมทิศไหนก็ไม่ช่วย”
-- ซีนีก้า (4 ปีก่อนคริสตกาล–ค.ศ. 65, นักปราชญ์โรมัน)

“Until you make the unconscious conscious,


it will direct your life and you will call it fate.”
-- Carl Jung
“ถ้าคุณไม่กำหนดทิศทางของจิตใต้สำนึกคุณเอง มันจะนำชีวิตคุณ
และคุณก็จะเรียกมันว่า ‘โชคชะตา’ ”
-- คาร์ล ยุง (ค.ศ. 1875–1961, นักจิตวิทยาคนสำคัญของโลกชาวสวิสต์)

20 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
Rule 32
จงรู้อย่างชัดเจนว่าตนเอง
ต้องการอะไร
Be Very Clear on What You Want
“โชค” ของคุณจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทันที ถ้าคุณเพียงแค่รู้ว่า
คุณต้องการอะไร
เป็นความจริงที่ว่า “โชคดี” จะไม่ค่อยมาเยือนคนที่ ไม่รู้ ว่า
ตนเองต้องการอะไร
หรือ ไม่แน่ใจ ว่าอยากได้แบบไหน
เหตุผลง่าย ๆ จิตใต้สำนึกไม่มีเป้าหมายให้โดน
อาจมีโอกาสดี ๆ เข้ามาจ่ออยู่ตรงหน้าแล้ว
แต่ นึกไม่ถึง หรือ ไม่รู้ ว่าเป็น “โชค”
โชคดีนั้นก็ผ่านเขาไปหาคนอื่น
ลองเปรียบ จิตใต้สำนึก เหมือนกับ คนขับรถผู้ซื่อสัตย์
ที่พร้อมจะรับคำสั่งให้พาเราไปถึงจุดหมายที่ต้องการตลอดเวลา
อย่างจงรักภักดี
ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับคนขับรถ
เราก็จะได้สิ่งที่ต้องการง่ายขึ้น ไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น
ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ชอบไปทำให้จิตใต้สำนึกปั่นป่วน
เพราะความไม่รอู้ ย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร
www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 21
“The moment one definitely commits oneself,
then providence moves too.”
– Goethe

“นาทีที่คุณมีความแน่วแน่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เคลื่อนไหวด้วย”
-- เกอเต้ (กวีเยอรมัน)

22 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
คล้าย ๆ กับว่าคุณขึน้ รถ แล้วบอกคนขับรถว่าให้ไปสยามสแควร์
ขับไปสักพักก็บอกว่าจะไปสนามบิน ต้องเปลี่ยนทิศทาง
ขับไปได้อกี หน่อยก็เปลีย่ นคำสัง่ บอกว่าจะไปอนุสาวรียช์ ยั สมรภูมิ
ทำแบบนี้ก็ไม่มีวันถึงเป้าหมาย
.....................................
เมื่อคุณรูอ้ ย่างชัดเจนว่า คุณต้องการอะไรจากชีวิต และกำลัง
เดินเข้าเป้าหมายไหน จะมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์ เหมือนว่า
“ฟ้า” “สิ่งศักดิสิทธิ์” “จักรวาล” หรือ “พระเจ้า” จะส่ง คน
หรือ สถานการณ์ มาช่วยอย่างสม่ำเสมอ

นั่นเป็นเพราะสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนมีในระบบประสาทของเรา
ซึ่งนักจิตวิทยาเรียกว่า Reticular Activating System Rule
เป็นระบบทีท่ ำให้จติ ใต้สำนึกของเรา ตืน่ ตัว กับสิง่ ทีจ่ ะมาช่วยให้ 32

เราบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึน้
ระบบ Reticular Activating System นี้ เป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมบางครั้งเมื่อตัดสินใจอย่างชัดเจนว่าเราอยากได้สิ่งของ
อะไรบางอย่าง เช่น รถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เราก็จะสังเกตเห็นมัน
อยู่บนท้องถนนตลอดเวลา
เพราะว่าเรา ตื่นตัว กับมันมากขึ้น
ผมมีประสบการณ์กับตนเองครั้งแล้วครั้งเล่าที่ว่า เมื่อผมเอง
ชัดเจนว่าตนเองต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคู่ครอง
งานชนิดที่ต้องการทำ ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการมี หรือจำนวน
รายได้ที่ต้องการในหนึ่งปี ฯลฯ
ก็จะมี คน หรือ สถานการณ์ ถูกส่งเข้ามาในชีวิต นำให้ตนเอง
ได้รับสิ่งนั้นอย่างน่าอัศจรรย์
www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 23
เป็นเพราะผม ตื่นตัว กับโอกาสต่าง ๆ ที่ถูกส่งเข้ามา
เพื่อจะช่วยให้ผมถึงเป้าหมายได้
คนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปก็จะบอกว่า บัณฑิตนี่ “โชคดี” จัง
....................................
วิธีที่ดีที่สุดในการรู้ว่าตนเองต้องการอะไร
คือ การเขียนลงไป
การเขียนจะบังคับให้คุณต้องกำหนดให้มันชัดเจน
การเขียนเป็นวิธีแห่งความสำเร็จที่ทรงพลังมาก
บางครั้งแค่เขียนสิ่งที่ต้องการลงไป ก็เหมือนกับว่าสิ่งนั้นสำเร็จ
ไปครึ่งหนึ่งแล้ว

Rule ที่สำคัญ ทุกสิ่งที่เขียนต้องมีความชัดเจน วัดได้


32 อ่านสิ่งที่คุณเขียนนั้นทุกวัน และวาดภาพในจินตนาการ
เหมือนกับว่าสิ่งนั้นได้สำเร็จแล้ว
และคุณกำลังได้ลิ้มรสมันอยู่
แล้วคุณจะได้พบกับความน่าอัศจรรย์ของ การเขียน และ
การจินตนาการ
เพราะ “การจินตนาการนั้นสำคัญกว่าความรู้” อย่างที่
ไอน์สไตน์ได้กล่าวไว้
ความฝันในชีวิตของผมหลาย ๆ อย่างเป็นความจริงได้ด้วยวิธีนี้
อย่าลืมคำกล่าวของซีนีก้าครับ
“ถ้าเราไม่รู้ว่าเรือจะไปเข้าที่ท่าไหน ลมทิศไหนก็ไม่ช่วย”
ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร “โชค” ที่ไหนก็ไม่ช่วย

24 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
“Understanding your true desires is the key to recognizing
favourable circumstances and extracting the greatest
amount of good luck from them.”
-- Robert Anthony

“ความเข้าใจในความปรารถนาที่แท้จริงของตนเองนั้น
เป็นกุญแจสำคัญในการเล็งเห็นสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย
และ ‘ดึง’ โชคดีออกมาให้มากที่สุด”
-- โรเบิร์ต แอนโธนี่ (นักจิตวิทยาความสำเร็จ)

www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 25
Luck Technique :
คิดและพูดในสิ่งที่ต้องการอย่างสม่ำเสมอ
ยิ่งคุณคิดและพูดในสิ่งที่คุณต้องการ
ในสิ่งที่คุณอยากเป็นมากเท่าไร
สิ่งนั้นยิ่งเป็นจริงเร็วขึ้นเท่านั้น
อย่าคิดหรือพูดถึงในสิ่งที่คุณไม่ต้องการ

26 กฎแห่งความโชคดี www.bunditinspire.com
หน้าคณะดนตรี ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ค.ศ.1994
คอนเสิร์ตกลางแจ้ง กับ วง Utah Symphony Orchestra ปี ค.ศ.1999

www.bunditinspire.com กฎแห่งความโชคดี 27

You might also like