Professional Documents
Culture Documents
สัปดาห์ที่ 2 โครงสร้างอะตอมและผลึก3
สัปดาห์ที่ 2 โครงสร้างอะตอมและผลึก3
สัปดาห์ที่ 2 โครงสร้างอะตอมและผลึก3
ม ห า วิ ท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี ร า ช ม ง ค ล สุ ว ร ร ณ ภู มิ
1
โครงสร้างอะตอม
2
เลขอะตอมและมวลอะตอม
3
สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
เมื่อ A = เลขมวล (Mass number)
= p+n
**เลขมวล เลขมาก
● กำรบอกปริมำณสำรอำจบอกเป็ น โมล
สารปริมาณ 1 โมล จานวน 6.02 x 1023 อะตอม จะมีมวลเท่ากับ
26
มวลอะตอมของธาตุนัน้
* เหล็กปริมำณ 1 โมล จำนวน 6.02 x 1023 อะตอม มีมวล เท่ำกับ 55.847 กรัม
Fe
55.85
6
Ex 1 ให้หำ ก) ทองแดง 1 อะตอมมีมวลกี่กรัม 29
Solution : ทองแดงปริมำณ 1 โมล จำนวน 6.02 x 1023 อะตอม มีมวล 63.54 กรัม
ก) ทองแดง 1 อะตอมมีมวล =
63.54
6.02 10 23
= 1.05 10 − 22
g ◄
6.02 1023
ข) ทองแดงมวล 1 กรัม มีจำนวน
63.54
= 9.47 1021 atoms ◄
7
Ex 2 โลหะผสมทีม่ ที องแดง 75 % โดยนา้ หนัก และ นิกเกิล 25 % โดยนา้ หนัก
ให้หา % อะตอมของ ทองแดงและ นิกเกิล
จำนวนโมลของทองแดง =
75 g
= 1.1803mol
63.54 g / mol
จำนวนโมลของนิกเกิล =
25 g
= 0.4260mol
58.69 g / mol
E = h
(nu ) = Frequency of the Photon
h = Planck ' s Cons tan t = 6.63 x 10 −34 joule. sec ond (J.s ) 9
แบบจำลองไฮโดรเจนอะตอมของ Bohr
Niels Henrik Bohr in 1913
Using Hydrogen Spectrum Data
(Bohr Equation)
10
E = h
c =
c
=
hc
E =
2 2 me 4 13.6
E = − 2 2 = − 2 ev (n = 1, 2, 3, 4, 5,....)
n h n
e = electron ch arg e
m = electron mass
n = principal quantum number
1.00 eV = 1.60 x 10 −19 J .
11
ภาพ กลุ่มหมอกอิเล็กตรอน
ของไฮโดรเจนอะตอม
ภาพ สเปกตรัมระดับพลังงานของไฮโดรเจนอะตอม
12
Ex 4 ให้คำนวณหำพลังงำนของโฟตอนที่มีควำมยำวคลื่น 121.6 nm ในหน่ วย
1eVและ Joule ( h = 6.63 x 10-34J.s , 1 eV = 1.6 x 10-19 J )
Solution hc
E =
E =
(6.63 10 −34
)(
J .s 3.00 108 m / s )
121.6 10−9 m
= 1.63 10 −18 J ◄
E = (1.63 10 −18
J )
1eV
−19 = 10.2eV ◄
1.60 10 J
13
3.2 เลขควอนตัมของอิเล็กตรอนในอะตอม
Principal quantum
n number
n = 1, 2, 3, 4,… All positive integers
14
3.3 โครงสร้ำงทำงอิเล็กทรอนิกส์ที่มีหลำยอิเล็กตรอนในอะตอม
1 2(12) = 2 s2
2 2(22) = 8 s2 p6
3 2(32) = 18 s2 p6 d10
6 2(62) = 72 s2 p6.....
7 2(72) = 8 s2 ……
15
ภาพ แสดงขนาดอะตอมในหน่ วยนาโนเมตร
16
การจัดอิเล็กตรอนในอะตอมทีม่ ีหลายอิเล็กตรอน
17
Ex 6 .ให้จดั อิเล็กตรอนของธำตุต่อไปนี้ ก) เหล็ก ข) ซำมำเรียม
s2
p6
Solution: ก) เหล็ก ( Z =26 ) d 10
26
f 14
Fe 55.85
กำรจัดอิเล็กตรอน ;
2 2 6 2 6 2 6
1s 2s 2 p 3s 3 p 4s 3d
18
Ex 7 .ให้จดั อิเล็กตรอนไอออนของ
เหล็กต่อไปนี้ Fe2+ , Fe3+ s2
p6
d 10
Solution: 26
f 14
Fe
55.85
2 2 6 2 6 2 6
กำรจัดอิเล็กตรอนของ Fe (26) ; 1s 2 s 2 p 3s 3 p 4 s 3d
กำรจัดอิเล็กตรอนของ Fe2+ (24); 1s 2 2 s 2 2 p 6 3s 2 3 p 6 3d 6
19
Ex 8 .ให้จดั อิเล็กตรอนของธำตุต่อไปนี้ s2
p6
ข) ซำมำเรียม
d 10
f 14
Solution: 62
ข) ซำมำเรียม
Sm
150.4
กำรจัดอิเล็กตรอน ;
2 2 6 2 6 2 10 6 2 10 6 2 6
1s 2 s 2 p 3s 3 p 4s 3d 4 p 5s 4d 5 p 6s 4 f
20
3.4 โครงสร้ำงทำงอิเล็กทรอนิกส์และควำมไวในกำรเกิดปฏิกิริยำ
• สมบัติทางเคมีของอะตอม ของธาตุ ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการท า
ปฏิกริ ิยาของอิเล็กตรอนทีอ่ ยูใ่ นวงโคจรนอกสุด
• แก๊สเฉื่อย (Noble gas) ธาตุในกลุ่ม 8A (ยกเว้น He )
- มีเสถียรภาพมากทีส่ ุด ทาปฏิกริ ิยากับธาตุอนื่ ๆ น้อยทีส่ ุด
- ธาตุในกลุ่มนีไ้ ด้แก่ Ne, Ar, Kr, Xe , Rn มีการจัดอิเล็กตรอนแบบ s2p6
21
ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างอะตอมกับสมบัติทางเคมีบางประการ
ของโลหะกับอโลหะ
โลหะ อโลหะ
1. จำนวนอิเล็กตรอนที่โคจรวงนอกสุด 1. จำนวนอิเล็กตรอนที่โคจรวงนอกสุด
ไม่เกิน 3 อิเล็กตรอน อย่ำงน้อย 4 อิเล็กตรอน
2. เกิด cations เนื่องจำกสูญเสีย อิเล็กตรอน 2. เกิด anions โดยกำรรับอิเล็กตรอน
3. มีคำ่ Electronegativity ต่ำ 3. มีคำ่ Electronegativity สูง
22
4. ชนิดของพันธะ
● กำรพันธะระหว่ำงอะตอมเพื่อลดพลังงำนศักย์ไฟฟ้ ำ
● พันธะเคมีระหว่ำงอะตอมแบ่งออกเป็ น 2 กลุ่ม ได้แก่
พันธะปฐมภูมิ ( Primary bonds) และ พันธะทุติยภูมิ ( secondary bonds)
23
พันธะปฐมภูมิ ( Primary bonds)
1) พันธะไอออนิก
● จ่ำยและรับอิเล็กตรอน
2) พันธะโควำเลนต์
● ใช้รบั อิเล็กตรอนร่วมกัน
3) พันธะโลหะ
● ใช้อิเล็กตรอนร่วมกัน แต่
อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้อย่ำงอิสระ
24
พันธะทุติภมู ิ ( Seondary bonds)
1) พันธะทีเ่ กิดจากขัว้ ถาวร ( Permanent dipole bonds)
25
5. พันธะไอออนิก
− Z1Z 2e 2
Fattractive =
4 a 2
− nb
Frepulsive = n +1
a
27
Ex 9 แรงดึงดูดระหว่ำงคู่ไอออน Mg2+ กับ S-2 มีค่ำเท่ำกับ 1.49x10-8 N
ให้หำรัศมีของ Mg2+ rS = 0.184nm 2−
Solution:
− Z1Z 2e 2
Fattractive =
4 a 2
28
พลังงานระหว่างพันธะไอออนิก
1s1electron
H● + H● H●
● H
อะตอม อะตอม โมเลกุล
พันธะโควาเลนต์ในโมเลกุลของไฮโดรเจน 30
พันธะโควาเลนต์ในอะตอมคู่อน่ื ๆ
Fluorine(F) 1s22s22p5 F + F F F F F
Oxegen(O) 1s22s22p4 O + O O O O O
Nitrogen(N) 1s22s22p3 N + N N N N N
31
32
พันธะโควาเลนต์ของคาร์บอน
s2
p6
d 10
f 14
กำรจัดอิเล็กตรอนของ C (6) ; 1s 2 2 s 2 2 p 2
33
อะตอมคำร์บอนที่จดั รูป sp3 พันธะโควำเลนต์ของ tetrahedral sp3
เกิดโครงสร้ำงรูป tetrahedral เป็ นโครงสร้ำงของเพชร 34
พันธะโควาเลนต์ของคาร์บอน
● พันธะโควำเลนต์ของมีเทน เป็ นแบบ sp3
● พลังงำนพันธะโควำเลนต์ระหว่ำง อะตอม ของมีเทนค่อนข้ำงสูง 1650 kJ/mol
● พลังงำนพันธะโควำเลนต์ระหว่ำง โมเลกุล ของมีเทนมีค่ำต ่า
CH 4
35
สำรประกอบไฮโดรคำร์บอนพันธะเดี่ยว มวลโมเลกุลเพิ่ม จุดหลอมตัวจะเพิ่ม
สำรประกอบไฮโดรคำร์บอนหลำยพันธะ
36
Benzene (C6H6)
37
7. พันธะโลหะ
● พันธะโลหะอะตอมจะอยู่ชิดกันมำก โครงสร้ำงผลึกมีลกั ษณะแน่ นอน
เช่น ทองแดง ทองคำ เงิน และ อะลูมินัม เป็ นต้น
38
8.พันธะทุติยภูมิ
● พลังงำนของพันธะทุติยภูมิมีค่ำน้ อย 4 – 42 kJ/mol
● เมือ่ ประจุแยกจำกกัน จะเกิดขัว้ ไฟฟ้ ำของอะตอม ทำให้เกิดโมเมนต์ทำงไฟฟ้ ำ
= qd
39
พันธะทุติภมู ิ ( Seondary bonds)
1) พันธะทีเ่ กิดจากขัว้ แปรผัน ( Fluctuating dipole
bonds)
ลบ
บวก
● กำรที่อิเล็กตรอนโคจรในลักษณะที่ไม่สมมำตร 40
2) พันธะทีเ่ กิดจากขัว้ ถาวร ( Permanent dipole
bonds)
41