Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 240

บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด

วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ISBN : 978-616-92301-0-6
พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม พ.ศ.2558
พิมพ์ครั้งที่ 2 : มิถุนายน พ.ศ.2558
ราคา 250 บาท

บรรณาธิการเล่ม : วิสูตร แสงอรุณเลิศ


ศิลปกรรมและออกแบบปก : จ๊อบ ควอลิตี้
พิสูจน์อักษร : อัศวพร แสงอรุณเลิศ

พิมพ์โดย
บริษัท อุ๊คบี จ�ากัด
เลขที่ 1104/207-209 หมู่บ้านโนเบิลพัฒนาการ
ถนน พัฒนาการ แขวง สวนหลวง
เขต สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ 0 2187 2666 โทรสาร 0 2187 2700
E-Mail : Writer@ookbee.com
Homepage : http://Pod.ookbee.com

จัดจ�าหน่ายโดย
บริษัท เคล็ดไทย จ�ากัด
เลขที่ 117-119 ถนน เฟื่องนคร เขต พระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์ 0 2225 9536-39 โทรสาร 0 2222 5188

พิมพ์ที่
ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด ภาพพิมพ์
296 ซ.อรุณอมรินทร์ 30 ถ.อรุณอมรินทร์
แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
กรุงเทพฯ 10700

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 โดย วิสูตร แสงอรุณเลิศ ห้ามนำาส่วน


หนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียนแบบ ทำาสำาเนา ถ่ายเอกสาร หรือนำาไปเผยแพร่บน
อินเทอร์เน็ตและเครือข่ายต่าง ๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด ๆ นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์
อักษรจากทางเจ้าของสิทธิ์เท่านั้น
คำ�นำ�ผู้เขียน

80,000 ชั่วโมงคือเวลาที่เราใช้ไปกับ "การทำางาน"


คิดแบบคร่าว ๆ มันกินเวลาถึง 1 ใน 3 ของชีวิต
แต่น่าแปลกที่ "คนส่วนใหญ่"
จัดการกับเรื่องใหญ่ ๆ อย่าง "การทำางาน" ได้ไม่ดีนัก
เขาได้ทำางานที่ไม่รัก อยู่กับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบ
เพื่อให้ได้รายได้ที่ไม่ตอบโจทย์

หนังสือเล่มนี้จะทำาให้คุณกลายเป็น "คนส่วนน้อย"
คุณจะได้ทำางานที่รัก อยู่กับคนที่ชอบ
และได้รายได้ที่ตอบโจทย์
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ทำาได้จริง ไม่ใช่ทฤษฎีชวนฝัน
เพราะผมทำาได้มาแล้ว
และรวบรวมออกมาเป็น
“37 เคล็ดวิชาที่ทำาให้คุณหารายได้เก่งกว่าคน 90%"
ผมสัญญาว่ามันเป็นหนังสือที่เข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง
ไม่เพ้อฝัน ไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจ แต่มีวิธีการให้
ในหนังสือ "มองไกลบนไหล่ยักษ์" ที่ผมเขียนไว้
มีอยู่บทนึง ผมพูดถึงเรื่องของ “3 ด่าน ผ่านแล้วรวย"
ด่านแรก "หาเงินเก่ง" ด่านสอง "เก็บเงินอยู่"
ด่านสาม "รู้ช่องลงทุน"
ถ้าผ่าน 3 ด่านนี้ได้ คุณจะมั่งคั่งอย่างแน่นอน

แต่คนส่วนใหญ่ชอบทำาเท่
อยากเป็น "นักลงทุน" ก่อน เพราะพูดแล้วมันโก้โชว์พาว
คำาถามก็คือ
"แล้วถ้าคุณหาเงินไม่เก่ง จะเอาเงินที่ไหนไปลงทุน?”
หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเริ่มที่ด่านแรก
นั่นคือ สอนให้คุณ "หาเงินเก่ง"

"ไม่มกี ารลงทุนไหนทีจ่ ะคุม้ ค่าทีส่ ดุ เท่ากับการลงทุนในตัวเอง"


วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกไว้แบบนั้น ผมเห็นด้วยมาก ๆ
ปัจจุบันผมสามารถหารายได้ที่เมื่อก่อนต้องใช้เวลาทั้งปี
แต่วันนี้ผมใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็หาได้แล้ว
ผมทำาได้อย่างไร? และคุณจะทำาได้อย่างไร
คำาตอบอยู่ในสิ่งที่ผมกลั่นมาเป็นหนังสือเล่มนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เหมือนอย่างที่ "ซิก ซิกลาร์"
ปรมาจารย์ความสำาเร็จ บอกเอาไว้
"There is no elevator to success
…you have to take the stairs."
ความสำาเร็จไม่มีลิฟต์ คุณต้องขึ้นบันได
ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ และผมจะไม่บอกว่า
"แค่อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณก็สำาเร็จได้"
เพราะสุดท้ายแล้ว "ลงมือทำาคือบิดาของกฎทั้งปวง"

คุณต้องค่อย ๆ ไต่บันไดขึ้นมาเอง
ไม่มีหรอกครับความสำาเร็จชั่วข้ามคืน
ผมเองก็เดินขึ้นบันไดมา
ไม่ใช่จากชั้นล่าง แต่เป็นชั้นใต้ดิน
ถ้าผมทำาได้ คุณก็ต้องทำาได้
ในบทแรกของ "อิสระเรา ราคาเท่าไหร่"
หนังสือเล่มที่ 2 ของผม
ผมตั้งชื่อบทไว้ว่า "บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด"
ประโยคนี้หมายถึง
เมื่อคุณพัฒนาตัวเองขึ้นไปเป็นคนระดับ Top10%
เมื่อนั้น โลกของคุณจะกลับตาลปัตรกับคนส่วนใหญ่
ไม่ต้องวิ่งหางาน มีแต่งานวิ่งเข้าหา
ไม่ต้องต่อรองราคาค่าตัว ยิ่งแพงยิ่งมีคนจ้าง
ไม่ต้องแย่งงานกับใคร เพราะคุณแทบไม่มีคู่แข่งเลย

คนจำานวนมากไปออกันอยู่ข้างล่าง แล้วบ่นว่ารถติด
งานหายาก เงินน้อย โดนตัดราคา งานคือความทุกข์
แต่ผมจะบอกว่า ข้างบนนี้ยังมีที่ว่างอีกเยอะ
ผมจะบอกวิธีขึ้นมาบนนี้ให้ คุณสนใจมั้ยล่ะครับ?

บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ


www.boywisoot.com
facebook fanpage : Boy’s Thought
ส�รบัญ

01. ฉันจะเปลี่ยนโลกนี้ด้วยงานที่ฉันภูมิใจ 10
02. กำาหนด “คุณค่า” ของงานที่ทำา 18
03. ตอบคำาถามเช็คความสำาเร็จ 22
04. 7 คำาถามค้นหางานในฝัน 30
05. หาคนจ่ายเงินให้เราทำางานที่รัก 36
06. เลือกที่ทำางานให้ดี 42
07. ทำาให้คนสนใจรับเราเข้าทำางาน 52
08. เป็นก่อนจะเป็น 58
09. เลือกสนามที่มีโอกาสชนะสูง 62
10. ทำางานให้เหมือนการพักผ่อน 66
11. งานต้องแปลว่าความสุข 72
12. หาเก้าอี้ที่สร้างมาเพื่อเราคนเดียว 78
13. เก่งจริง ตอบโจทย์ ไม่มีใครแทนได้ 88
14. ติดตั้งทักษะความสำาเร็จ 94
15. เก่งให้สมเงินแสน 100
16. เลิกมีข้ออ้าง 110
17. เลิกบ่น แล้วลงมือเปลี่ยนแปลง 118
18. รอคอยวันทำางาน 122
19. ทำาให้ผู้คนมองเห็น 128
20. ฟังเสียงเรียกร้องภายในหัวใจ 132
21. อย่าทำาเหมือนคนส่วนใหญ่ 140
22. เชี่ยวชาญเรื่องเล่า โน้มน้าวเก่ง เจ๋งออนไลน์ 144
23. แก้ปัญหาให้ผู้คน 150
24. ทำาน้อย แต่ได้มาก 154
25. ทำาธุรกิจอย่างมีศิลปะ 158
26. ลงทุนให้ความรู้กับตัวเอง 164
27. ใช้เวลาหลังเลิกงาน สร้างชีวิต 174
28. ต่างฝ่ายต่างพึ่งพา 178
29. อย่าคิดว่าตัวเองเป็นลูกจ้าง 182
30. มั่นใจในตัวเอง 186
31. เตรียมพร้อมอยู่เสมอ 192
32. เตรียมทางเลือก 200
33. อยากได้ ต้องกล้าเสี่ยง 206
34. รู้จักมอบอำานาจให้ผู้อื่น 212
35. ระมัดระวังในการตั้งบริษัท 218
36. ทำางานที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ 224
37. หยุดวิ่งไล่ล่าหาเงิน 228
เคล็ดวิชาที่

ฉันจะ
01
เปลี่ยน โลกนี้
ด้วยงานที่ฉันภูมิใจ

ถึงแม้ผมจะเป็นคนเขียนหนังสือ
“งานไม่ประจำา ทำาเงินกว่า”
หนังสือที่ชื่อเหมือนจะชักชวนให้คน
ลาออกจากงาน

10
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แต่ถ้าใครได้อ่านหรือติดตามในแฟนเพจของผมเป็นประจำา
ก็น่าจะพอรู้ว่า “สาร” ที่ผมพยายาม “สื่อ” มาตลอด
ไม่ใช่การต่อต้านงานประจำา แต่ผมแค่อยากจะบอกว่า
“เราต้องทำาในสิ่งที่รัก” และ “เราต้องรักในสิ่งที่ทำา”
และมันไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางเดียวในชีวิตเท่านั้น
นั่นคือปรัชญาชีวิตที่ผมยึดถือมาตลอด

เรื่องนี้ทำาให้ผมนึกถึง รปภ. หน้าหมู่บ้านของผม


จริง ๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่า
เขาถึงขั้นหลงใหลในหน้าที่ยามเฝ้าหมู่บ้านหรือเปล่า
แต่อาการที่แสดงออกมันก็เข้าข่ายแบบนั้น
มาทำางานตรงเวลา ในเวลางานออกตรวจหมู่บ้านทุกชั่วโมง
จำาชื่อ จำารถลูกบ้านได้หมด ยิ้มแย้มแจ่มใส
เลิกงานยังไปเป็น อปพร.(อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน)

11
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ลุงยามคนนี้ดึงทุกคนในหมู่บ้านเข้าไปใน LINE Group ที่แกตั้งเอง
แล้วคอยแจ้งข่าวหมูบ่ า้ น วันไหนทำาบุญ วันไหนนำา้ จะไม่ไหล ไฟจะดับ
ถ้ามีรางวัล รปภ. ดีเด่น
ผมจะโหวตให้แกได้รางวัลในฐานะที่รักงานที่ทำาจริง ๆ

สิ่งที่ลุงยามคนนี้เป็น ทำาให้ผมนึกถึงปัญหาระดับชาติ
“ทำาไมคนส่วนใหญ่ทำางานที่ตัวเองไม่ได้รัก?”
ผมคิดว่านี่คือคำาถามที่เราน่าจะถกกันจริง ๆ จัง ๆ สักตั้ง
เพราะการที่ประเทศไหนก็ตามมีแต่คนทำางานที่เขาไม่ได้รัก
มันก็ไม่ต่างอะไรกับการกัดกร่อนประสิทธิภาพของประเทศชาติ

12
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าให้ผมถามเองตอบเอง ผมคิดว่ามีสองคำาตอบ
หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำางานอะไร
สอง เขาไม่รู้ว่างานที่ตัวเองทำามีค่าแค่ไหน

เอาล่ะ! ในฐานะที่ผมทำาแต่สิ่งที่รักมาตลอดทั้งชีวิต
(และในฐานะทีผ่ มเป็นลูกบ้านของลุงยามผูห้ ลงใหลและภูมใิ จในงาน)
ผมคิดว่าผมพอช่วยชาติได้ด้วยการแก้ปัญหานี้

ปัญหาแรก ถ้าคุณไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำางานอะไร
วิธีแก้ที่ผมแนะนำาก็คือ “คิดตรงข้าม”
ถ้าไม่รวู้ า่ ชอบงานอะไร งัน้ ลองลิสต์ลกั ษณะงานแบบทีเ่ ราไม่ชอบออกมา
จากนั้นก็ “คิดตรงข้าม” อีกที เท่านี้ก็จะได้ลักษณะงานที่เราชอบทำา

13
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
chan
เช่น ฉันไม่ชอบงานที่ต้องพูดคุยผู้คนเยอะ ๆ ฉันชอบอยู่บ้าน
ฉันไม่ชอบตื่นเช้า ฉันไม่ชอบมีเจ้านายมาสั่ง
พอเราเอามา “คิดตรงข้าม” ก็แสดงว่างานที่ฉันชอบก็คือ
งานทีไ่ ม่ตอ้ งคุยกับคนอืน่ เท่าไร ทำาตอนไหนก็ได้ และต้องเป็นนายตัวเอง

คุณอาจจะยังนึกไม่ออกว่า แล้วตกลงงานนั้นมันคืองานอะไร?
แต่คำาตอบคร่าว ๆ นี้ จะแสดงถึงคุณสมบัติของงานที่คุณฝัน
และมันจะค่อย ๆ พาคุณไปเจองานที่ใช่ในที่สุด
เชื่อผมว่าวิธีนี้เวิร์ค เพราะผมทดลองกับชีวิตตัวเองมาแล้ว
จนได้ทั้งงานที่ชอบและเงินที่ใช่

ปัญหาที่สอง ถ้าคุณไม่รู้ว่างานที่ตัวเองทำาอยู่มันมีค่าแค่ไหน
วิธีแก้ที่ผมแนะนำาก็คือ เราต้องหัดมองภาพให้ใหญ่ขึ้นว่า
เราคือจุด ๆ นึงในสังคมที่มีประโยชน์
เราคือจิ๊กซอว์ที่แม้จะเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็ขาดไม่ได้
และหน้าที่ของเราก็ยิ่งใหญ่กว่าที่คิด

14
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
nge
ผมอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
เมื่อครั้งที่ จอห์น เอฟ เคเนดี้ (JFK) ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
ไปเยือน Kennedy Space Center
ซึ่งกำาลังเตรียมปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่ของโลก
นั่นคือ “ส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์”

วันนั้นมีแม่บ้านทำาความสะอาดคนนึง
ยืนต้อนรับท่านประธานาธิบดีด้วยท่าทางอายๆ
ท่านประธานาธิบดี JFK ก็เลยทักทายไป เพือ่ ไม่ให้ผหู้ ญิงคนนัน้ เขินว่า
“คุณทำางานอะไรที่นี่เหรอครับ?”

รู้มั้ยครับผู้หญิงคนนั้นตอบว่าอย่างไร?
แทนที่จะตอบว่าเธอเป็น “แค่” คนทำาความสะอาด
เธอกลับตอบด้วยท่าทีมั่นใจว่า
“ฉันช่วยอเมริกาส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์ค่ะ”

15
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ครับ! ไม่ว่าวันนี้คุณจะทำางานอะไรอยู่ งานทุกงานมีคุณค่าเสมอ
และถ้าคุณตระหนักในคุณค่าของงาน คุณจะรักและภูมใิ จในงานทีท่ าำ
และถ้าคุณรักและภูมิใจในงานที่ทำา
คุณจะเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วยงานของคุณ

แม่ค้าข้าวแกงที่คิดว่าตัวเองเป็นแค่แม่ค้าขายข้าวแกง
กับ แม่ค้าข้าวแกงที่คิดว่าฉันกำาลังทำาให้ผู้คนอิ่มท้อง มีแรงไปทำางาน
สองคนนี้ย่อมทำาข้าวแกงด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน ผมเชื่ออย่างนั้น

ตลอดทั้งชีวิตผมไม่เคยทำางานที่ผมไม่รักเลย
บางคนบอกผมโชคดี แต่เปล่าเลย ทัง้ หมดทัง้ ปวงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
ผมก็แค่ดื้อดึงที่จะทำาสิ่งที่รักให้ได้
ผมก็แค่ต้องลงมือทำาฝันให้มันเป็นจริงต่างหาก

หาให้เจอครับว่าคุณชอบทำางานอะไร
แม้มันอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อค้นหาคำาตอบก็ตาม
แต่ถ้ายังหาคำาตอบไม่ได้จริง ๆ
พอดีว่าแม่บ้านคนนั้นก็อยู่ไกลซะตั้งอเมริกา
งั้นคุณลองไปนั่งคุยกับลุงยามหน้าหมู่บ้านผมดีมั้ยครับว่า
ทำาไมแกถึงรักงานที่ทำาขนาดนั้น?

16
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
17
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

02
กำหนด คุณค่า
ของงานที่ทำ

ชีวิตคืออะไรที่มากกว่า
การทำางานเพื่อหาเงิน
ได้เงินมาเพื่อซื้อข้าวกิน
กินข้าวเพื่อที่จะได้มีแรง

18
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
มีแรงเพื่อที่จะได้ไปทำางาน
ทำางานเพื่อที่จะได้เงิน
ได้เงินเพื่อที่จะเอามาซื้อข้าวกิน
วนเวียนเป็นวงจรอยู่อย่างนั้น

สิ่งเดียวที่จะทำาลายวงจรซำ้าซากนี้
ก็คือการที่เราเห็น “คุณค่า” ของงานที่เราทำา

19
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ไม่จำาเป็นว่างานนั้นต้องยิ่งใหญ่ระดับเปลี่ยนโลก
ไม่ต้องถึงกับออกไปสำารวจอวกาศ
ไม่ต้องเป็นผู้นำาระดับชาติ
ไม่ต้องเป็นผู้ทรงภูมิเฉลียวฉลาด
และอาจไม่ต้องประกาศให้โลกรู้

แต่ขอแค่ให้เรารู้ว่าเราทำางานนี้ไปทำาไม?
เพื่ออะไร? เพื่อใคร?
งานของเรา “มีความหมาย” กับโลกนี้อย่างไร?

แค่คนกวาดถนน หรือคนทำาให้เมืองสะอาด?
แค่คนขายลูกโป่ง หรือคนถือความฝันของเด็ก ๆ?
แค่คนขายกาแฟ หรือผู้ทำาให้โลกตื่นจากหลับใหล?

แค่คนขายประกัน หรือผู้คุ้มครองอนาคตของผู้คน?
แค่คนทำาขายตรง หรือนักธุรกิจที่สร้างฝันจากมือเปล่า?
แค่พนักงานประจำา หรือผู้อยู่เบื้องหลังความสำาเร็จของบริษัท?
แค่อาสาสมัคร หรือนักเปลี่ยนโลก?

20
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ไม่มีใครกำาหนดคุณค่างานที่เราทำาได้
นอกจากตัวเราเองที่จะเห็นค่าในสิ่งที่เราทำาว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหน

งานไม่ใช่แค่การหาเงินใช้ไปวัน ๆ
มีชีวิตไปเดือน ๆ ผ่านไปอีกปีนึง
เพื่อที่จะมองย้อนกลับมาแล้วพบว่า
“ที่ผ่านมา ฉันทำาอะไรอยู่?”

งานที่มีคุณค่าจึงมากกว่าเรื่องเงินทอง
แต่ต้องตอบเรื่องใจด้วย
งานที่มีคุณค่าไม่ต้องเปลี่ยนโลกทั้งใบหรอกครับ
เปลี่ยนแค่โลกของใครบางคนก็พอ

ยิ่งเห็นคุณค่าของงานที่เราทำาว่า “ยิ่งใหญ่” แค่ไหน


เราก็จะยิ่งทำา “ใหญ่” เท่านั้น
และยิ่งเราทำาใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่ง “สำาเร็จใหญ่” เท่านั้นครับ

21
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

03 ตอบคำถามเช็ค
ความสำาเร็จ
สวัสดีเช้าวันทำางานครับ
ผมอยากให้คุณตอบคำาถามต่อไปนี้

22
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ปัจจุบัน คุณกำาลังรู้สึกว่า...

1. ไม่สนุกกับงาน เงินก็น้อย

2. ไม่สนุกกับงาน แต่เงินเยอะ

3. สนุกกับงาน แต่เงินน้อย

4. สนุกกับงาน แถมรวยด้วย

23
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ต่อไปนี้คือคำาเฉลย
.
.
.
ถ้าคุณตอบข้อ 1 ไม่สนุกกับงาน เงินก็น้อย
แสดงว่าความสามารถในตัวคุณน้อยเกินไป
ต้องรีบพัฒนาตัวเองด่วน เรียนเพิ่ม ทำางานเพิ่ม คบคนเพิ่ม
หรือไม่คุณก็อยู่ผิดที่ ต้องหาที่ที่คุณจะปล่อยแสงได้เต็มที่กว่านี้
บางคนเปลี่ยนที่ทำางาน แล้วรุ่งสุด ๆ ก็มีให้เห็นบ่อยไป

ถ้าคุณตอบข้อ 2 ไม่สนุกกับงาน แต่เงินเยอะ


แสดงว่าคุณเป็นคนเก่ง แต่เริ่มเบื่อ งานนั้นไม่มีอะไรท้าทาย
บางทีคุณอาจต้องออกหาความท้าทายครั้งใหม่
หรือเริ่มลองทำาอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง
เพราะการทำาเพื่อผู้อื่นให้แรงบันดาลใจมากกว่าทำาเพื่อตัวเอง

24
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าคุณตอบข้อ 3 สนุกกับงาน แต่เงินน้อย
แปลว่างานของคุณตอบโจทย์ผู้คนน้อยไปหน่อย
คุณต้องลองหาทางทำาการตลาดให้งานของตัวเองถูกมองเห็น
เพราะผู้คนไม่สนว่าคุณ “เก่ง” แค่ไหน
เขาสนแค่ว่าความเก่งของคุณน่ะ “เกี่ยว” กับเขาแค่ไหน?

ถ้าคุณตอบข้อ 4 สนุกกับงาน แถมรวยด้วย


คุณเจอสนามของคุณแล้ว ยินดีด้วยครับ
คุณเป็นจำานวนแค่ 10% ของคนทั้งโลกที่รำ่ารวยด้วยงานที่รัก
ไม่ใช่เพราะโชคดี แต่คุณเพียรพยายามฝึกฝนและค้นหาจนเจอ
หน้าที่ของคุณคือ “ดึง” คนข้อ 1-2-3 ขึ้นมาเป็นคนแบบคุณให้ได้
เพราะเขาจะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกเหมือนกับคุณ

25
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผมไม่รู้คุณตอบข้อไหนกันบ้างนะครับ
แต่ผมอยากให้ดูอะไรอีกนิด คุณเป็นคนแบบนี้หรือเปล่า
1. ทำางานที่ไม่ชอบ
2. เหนื่อย
3. พักให้สุดเหวี่ยง เพราะเหนื่อยมามาก
4. มีแรงทำางาน
5. กลับไปข้อ 1 อีกครั้ง

26
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แถวบ้านผมเรียกว่าอาการแบบนี้ว่า “วงจรอุบาทว์” ครับ
เพราะมันยากที่จะหลุดบ่วงกรรม
เนื่องจากวนไปวนมาอยู่อย่างนี้ชั่วนาตาปี

ประเด็นจึงอยู่ที่ ถ้าทำางานที่ไม่ชอบ
คุณต้องเอาเวลาพัก เวลาหลังเลิกงาน
เอามาค้นหาว่า “อะไรคืองานที่ฉันชอบ?”
พูดง่าย ๆ คุณต้องยอมเหนื่อยกว่าคนอื่นอีก 100%
คนอื่นพัก แต่คุณยังค้นหา
เพราะอยากหลุดจากวงจรนี้แล้ว

27
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
แต่ถ้าคุณหางานนั้นเจอ
ความเหนื่อยที่เพิ่มขึ้น 100%
จะตอบแทนคุณอย่างสาสม
และมันจะกลายเป็นวงจร “น่ารักอ่ะ”
ดังนี้

1. สนุกกับสิ่งที่ทำา จนไม่รู้จะพักเหนื่อยทำาไม
2. ยิ่งทำามันเก่งขึ้นเรื่อยๆ
3. ยิ่งมีคนสนใจคุณ ค่าตัวยิ่งเพิ่มขึ้น
4. ภูมิใจในตัวเอง
5. กลับไปข้อ 1 อีกครั้ง

28
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าเราอยากได้สิ่งใหม่ ๆ เราก็ต้องทำาสิ่งใหม่ ๆ
ถ้าเราอยากได้สิ่งที่คนอื่นไม่ได้
เราก็ต้องทำาสิ่งมีที่คนอื่นไม่ทำา

อยากอยู่วงจร “อุบาทว์”
หรือวงจร “น่ารักอ่ะ”
คุณเลือกได้ครับ
เพราะชีวิตเป็นของคุณเอง

29
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

04 7 คำถามค้นหา
งานในฝัน
จริงอยู่ที่ว่า “งาน” ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
แต่ก็ต้องยอมรับว่า
คนเราใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตไปกับการทำางาน

30
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เพราะฉะนั้นโจทย์ใหญ่ของชีวิตที่ผมคิดว่าสำาคัญมาก ๆ ก็คือ
“ทำาอย่างไรเราจึงจะมีความสุขในการทำางาน?”

ผมเองมีคนมาปรึกษาปัญหาเรื่องการทำางานเยอะมาก
เยอะจนพบว่าคนจำานวนมากไม่มีความสุขในการทำางาน
ปัญหาของคนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่หางานแบบที่ชอบไม่เจอ
แต่ผมคิดว่าปัญหามันอยู่ที่
“เขาไม่รู้ว่าด้วยซำ้าว่าชอบงานอะไร?”

31
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ซึ่งเอาเข้าจริง ผมไม่ค่อยเชื่อว่าเราไม่รู้ว่าเราชอบงานอะไร
แต่เราไม่เคยนั่งลงถามตัวเองอย่างจริง ๆ จัง ๆ มากกว่า

เอาล่ะ วันนี้ผมจะชวนทุกท่านมาหา “งานในฝัน” กัน


ผมหยิบยืมมาจากหนังสือที่มีชื่อว่า
What Color is Your Parachute?
มันเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 40 ปี
เป็นคู่มือการหางานและการเปลี่ยนงานที่ดีที่สุดในโลก
ผมแนะนำาสุด ๆ ให้ไปหามาอ่าน

32
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
หนังสือเล่มนี้พูดถึงคำาถาม 7 ข้อที่จะทำาให้ค้นพบ “งานในฝัน”
ผมคิดว่าน่าสนใจมาก และคุณต้องตอบมันให้ได้
ดังนี้ครับ

1. เราสนใจเรื่องอะไรบ้าง? อะไรคือความรู้ที่เราชื่นชอบ?

2. เราอยากทำางานกับคนแบบไหน?
และใครคือคนที่เราอยากให้บริการหรือช่วยเหลือ?

3. เรามีทักษะหรือความสามารถแบบไหน?

4. เราชอบทำางานในสภาพแบบไหน?
(เช่น งานนั่งโต๊ะ งานออกข้างนอก งานตอกบัตร งานอิสระ)

5. เราอยากได้รายได้เท่าไหร่? อยากมีความรับผิดชอบในระดับไหน?
ชอบฉายเดี่ยวหรือทำางานเป็นทีม?

6. เราอยากใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบไหน? นอกเมืองหรือในเมือง?
สภาพอากาศเป็นอย่างไร?

7. เป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร?
องค์กรไหนที่มีเป้าหมายสอดคล้องกับเป้าหมายของเรา

33
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ทั้ง 7 คำาถามนี้ตรงเป้าและครอบคลุมทั้งหมดจริง ๆ
ผมลองตอบคำาถามนี้แล้วพบว่า
งานที่ผมทำาอยู่ตรงกับคำาตอบของทั้ง 7 ข้อนี้เลย
ถึงว่าล่ะ ทุกวันนี้ผมก็เลยมีความสุขในการทำางาน

บางคนอ่านแล้วอาจจะบอกว่า
โธ่! ใครก็ต้องการมีชีวิตแบบผม
แต่ทุกคนไม่ได้โชคดีอย่างคุณนี่ครับ คุณบอย

ไม่จริงครับ! สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ไม่เจองานในฝัน
ไม่ใช่เพราะเขาโชคร้าย หางานนั้นไม่ได้
แต่เป็นเพราะเขาไม่เคยนิยามมันอย่างจริง ๆ จัง ๆ

34
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
พวกเขาไม่เคยกำาหนดสเป็คงานแบบที่ต้องการลงไป
พวกเขากำาหนดสเป็คมือถือที่จะซื้อ ละเอียดกว่างานในฝันซะอีก

ตอบคำาถาม 7 ข้อนั้นซะ แล้วเขียนมันลงไป


นั่นคือสเป็คงานในฝันของคุณ
อย่าเลือกทำางานเพียงเพราะมันตอบโจทย์แค่ข้อใดข้อหนึ่ง
เช่น ก็เพราะฉันถนัดงานนี้ ฉันจบมาทางสายนี้
ฉันชอบเงินเดือนเท่านี้ ฉันชอบทำางานใกล้บ้าน ฯลฯ
แต่งานที่คุณจะทำาในชีวิตนี้จะต้องตอบโจทย์ “ทั้ง 7 ข้อนี้”

ตอบให้ชัดเจน นิยามสเป็คให้เคลียร์
ที่เหลือจักรวาลจะช่วยคุณเอง
ตั้งใจทำางานเดิมต่อไป อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง
มองหาทุกโอกาสที่เข้ามา ขอบคุณทุกสิ่งที่มีอยู่
แล้ว “งานในฝัน” กับ “คุณ” จะพบกันในที่สุด

เป็นกำาลังใจให้ทุกคนที่กำาลังค้นหางานในฝันนะครับ

35
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

05
หาคนจ่ายเงิน ให้เรา
ทำางาน
ที่รัก

หนังสือ The E-Myth Revisited


(ฉบับภาษาไทย ชื่อว่า สร้างธุรกิจขั้นเทพ
โดย สนพ. กาบุเมอิบุ๊คส์)
เขียนประโยคเจ็บจี๊ดเกี่ยวกับ “งาน” ไว้ว่า

36
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
งานคือสิ่งที่สะท้อนว่าเราคือใคร
ถ้าเราทำาให้มันยุ่งเหยิง ก็เพราะเราเป็นคนไร้ระเบียบ
ถ้าเราทำางานเสร็จไม่ทันเวลา ก็เพราะเราเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา
ถ้าเรารู้สึกเบื่องาน ก็เพราะเรารู้สึกเบื่อตัวเองอยู่ในใจ
งานจึงไม่ใช่เรื่องอื่นนอกตัวเรา แต่เป็นตัวตนภายในของเรา
เราทำางานออกมาอย่างไร ก็สะท้อนให้เห็นว่าข้างในเราเป็นคนแบบนัน้

ผมว่ามันใช่ยิ่งกว่าใช่
ที่ทำางานนั้นไม่ใช่สถานที่ที่เราแค่มาอยู่ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น
แต่คอื สถานทีอ่ นั ศักดิส์ ทิ ธิท์ เ่ี รามาทำาความฝันของเราทุกคนให้เป็นจริง

ถ้าคุณไม่รู้สึกอย่างนั้น
แสดงว่ามันมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องแล้วล่ะ
เปลี่ยนตัวเอง หรือไม่ก็เปลี่ยนงานซะ
อย่าหลอกตัวเอง อย่าหลอกที่ทำางานอยู่เลย

37
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถ้าเราเหนื่อยและเบื่อกับงาน
สิ่งที่ช่วยเราได้ในระยะสั้นก็คือ “พักผ่อน”
เราอาจนอนตื่นสาย ผ่อนคลายวันหยุด
นอนอุตุดูทีวี หรือหนีไปเที่ยวต่างจังหวัด
เพื่อรีชาร์จตัวเอง

แต่นั่นไม่ใช่การแก้ปัญหา
เพราะพอวันหยุดหมด
ก็ต้องสลดกับวันทำางาน

38
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เราจึงต้องเข้าไปแก้ที่ต้นตอของปัญหาว่า
“อะไรที่ทำาให้เราเหนื่อยและเบื่อกับงาน?”
ไม่อย่างนั้น เราก็จะกลายเป็นคนที่เที่ยวหนัก พักเต็มที่
จะได้ชดเชยกับงานที่ไม่ชอบที่ต้องเผชิญหน้าอีกหลายวัน

ชีวิตแบบนั้น เหมือนจะเที่ยวสนุก แต่จริง ๆ ทุกข์ถนัด


เพราะได้แต่เฮวันศุกร์ สนุกวันเสาร์
เฉาเย็นวันอาทิตย์ โอ๊ย ไม่อยากจะคิดถึงเช้าวันจันทร์

“อะไรที่ทำาให้เราเหนื่อยและเบื่อกับงาน?”
คำาถามนี้ต้องได้รับการตอบ
ถ้าไม่ชอบงาน ต้องเปลี่ยน
ถ้าไม่ชอบคน ต้องเปลี่ยน
ถ้าไม่ชอบตัวเราเอง ต้องเปลี่ยน
ถ้าตอบและแก้ไขได้ ชีวิตจะไม่ต้องรอเสาร์อาทิตย์อีกต่อไป

39
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผมทำางานทุกวัน เหนื่อย แต่สนุกดี
มันสะใจที่งานเสร็จ แล้วเฝ้าดูมันเจริญเติบโต

งานไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตก็จริง
แต่คนส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาชีวิตหมดไปกับการทำางาน
“ทำางาน” จึงไม่ใช่แค่ “ทำาเงิน”
แต่มันต้องให้เราเกินกว่านั้น
“ความภาคภูมิใจในงานที่เราทำา”
ถ้าใครได้สัมผัสสิ่งนี้ จะรู้ว่ามันมีค่ามาก

หาคนจ่ายเงินงาม ๆ จ้างให้คุณทำางานที่คุณรักให้เจอ
แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

ผมเจองานนั้นของผมแล้ว
คุณเจองานนั้นของคุณหรือยัง?

40
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
งานที่ทำาให้เราอยากเด้งลุกจากเตียงทุกเช้า
ไม่ใช่ต้องเด้งจากเตียงเพราะนาฬิกาตะโกนใส่
งานที่สนุกจนเผลอนอนดึกบ่อย ๆ เพราะลืมดูเวลา
ไม่ใช่งานที่ทำาให้เราอยากนอนดึก ๆ
เพราะอยากใช้เวลาส่วนตัวให้คุ้ม
ก่อนต้องตื่นไปรับกรรมในวันทำางาน

คุณเจองานนั้นของคุณแล้วหรือยัง?
ถ้ายัง อย่าหยุดค้นหาครับ
เพราะเมื่อค้นหา เราจะเจอ
เมื่อเราเจองานนั้นที่ใช่
วันนั้นชีวิตจะสนุกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

คุณเจองานนั้นของคุณแล้วหรือยังครับ?

41
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

06 เลือกที่ทำงาน
ให้ดี
เกือบทุกคนล้วนเริ่มทำางาน
ด้วยการเป็นพนักงานบริษัท
และหลังจากนั้น
เราจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิต
ไปกับการทำางานที่บริษัทนี้

42
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เพราะฉะนั้นอย่าเลือกแค่บริษัทที่ตรงสายงานหรือให้เงินดี
แต่จงเลือกบริษัทที่เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้ พัฒนาตัวเอง
หลายบริษัทมีฝึกอบรมให้ฟรี ๆ จ้างวิทยากรค่าตัวแพงมาสอนถึงที่
เราสามารถฝึกเป็นเจ้าของธุรกิจได้ตั้งแต่ยังเป็นแค่ลูกจ้าง
นั่นคือโอกาสทอง

ที่สำาคัญ จงเลือกบริษัทที่มีปรัชญาสอดคล้องกับความเชื่อของเรา
เพราะเราจะทำางานด้วยความรัก สนุก
และทุ่มเทราวกับเป็นบริษัทของตัวเอง

43
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เท่านี้เราก็จะแตกต่างจากคนกว่า 90%
ที่ทนทำางานที่ไม่รัก อยู่ในบริษัทที่ไม่ชอบ
เพื่อให้ได้เงินเดือนที่ไม่พอใช้
แถมเมื่อบริษัทจัดสัมมนา ก็ยังไม่เต็มใจจะฟังอีก

เลือกบริษัทให้ดี
เพราะมันมีผลกับชีวิตคุณจริง ๆ นะครับ

อีกอย่างที่ผมจะบอกก็คือ
ตอนเราไปสัมภาษณ์งาน
บริษัทนั้นเข้มข้นในการคัดเลือกพนักงานเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

44
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แต่ตัวเราเองนั่นล่ะครับ
ที่อาจจะลืมถามตัวเองว่า
“แล้วเราเข้มข้นในการหาบริษัทที่จะพาเราไปสู่ชีวิตที่ดีกว่ามั้ย?”

หลายคนไม่รู้ว่าที่ชีวิตเขายังไม่ไปไหนมาไหน
ทั้งที่ตั้งใจทำางานเต็มที่แล้ว
บางทีคำาตอบมันอาจจะเพราะ “เขาแค่อยู่ไม่ถูกที่”

แน่นอน ถ้าชีวิตมันยังดูแย่ ๆ
อย่าเพิ่งโทษเพื่อน อย่าเพิ่งโทษที่ทำางานเป็นอันดับแรก
ให้สำารวจตัวเองก่อนว่า
เรายังต้องแก้ตรงไหน เพิ่มอะไร ลดอะไร

45
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ต่อเมื่อแก้แล้ว ทำาทุกอย่างแล้ว อะไร ๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น
นั่นจึงค่อยมองดูว่า
เพื่อนร่วมงานของเรานั้น จะช่วยพากันไปถึงฝั่งฝันมั้ย?
บริษัทที่เราทำางานด้วยนั้น จะพาเราไปถึงฝั่งฝันมั้ย?

และต่อไป คือ 10 ข้อที่ผมคิดว่าบริษัทไหนมีอาการแบบนี้


ยากที่จะเจริญก้าวหน้าครับ

46
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
10 สัญญาณหายนะของบริษัทที่
“ทราบแล้วต้องเปลี่ยน!”

1. พนักงานชอบแบ่งแยกเป็นก๊ก จับกลุ่มนินทา
ถ้าเพื่อนร่วมงานคุณเป็นแบบนี้
เขาจะเอาหัวสมองที่ไหนมาคิดเรื่องงานล่ะครับ?
บริษัทเป็นเรื่องของการทำางานเป็นทีม
ถ้าทีมที่คุณอยู่เป็นแบบนี้ คุณเหนื่อยแน่

2. พนักงานใช้ทรัพยากรบริษัทสิ้นเปลือง
ไม่ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของบริษัท
ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าไม่มีใครมีจิตวิญญาณเถ้าแก่เลยครับ
บริษัทแบบนี้รอวันเจ๊ง เพราะมีแต่พนักงานทำางานรอรับเงินเดือน

47
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
3.กฎไม่เป็นกฎ กฎมีไว้อย่างนั้น ไม่มีใครสน
จำาไว้ว่าเมื่อคนหลายคนมาอยู่รวมกัน กฎเป็นเรื่องสำาคัญครับ
บริษัทไหนกฎไม่เข้มงวด พนักงานรู้ว่าฝ่าฝืนได้ ไม่เป็นไร
มาสาย พักเที่ยงนาน กลับบ้านก่อน ก็ไม่มีใครว่า
แบบนี้บริษัทจะคุมคนไม่อยู่ และจะไม่มีใครฟังคำาสั่งใครอีกต่อไป

4.คนท�าผิด แต่ไม่ได้รับการลงโทษ
ผิดก็คือผิด คนเป็นนายต้องกล้าใจร้ายในเวลาที่ควรใจร้าย
บางตำาราถึงกับบอกว่า
เจ้านายที่ยังไม่เคยไล่ใครออก ยังไม่ใช่เจ้านาย
บริษัทก็เหมือนประเทศที่ต้องมีขื่อมีแป
ถ้าคนทำาผิดแล้วยังลอยนวลได้ แบบนั้นบริษัทจะเสียคุณธรรม

5.คนท�าดี แต่ไม่ได้รับการชื่นชม
สำาหรับมนุษย์แล้ว สิ่งที่มากกว่าเรื่องเงินทอง คือ “เกียรติยศ”
คำาชื่นชมจึงเป็นนำ้าทิพย์ชโลมใจชั้นดี
บางคนบอกว่า สังคมแย่เพราะคนดีท้อแท้
ผมว่าบริษัทก็ไม่ต่างกับสังคม

48
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
6.เจ้านายให้หน้าที่ แต่ไม่มอบอ�านาจให้
เป็นปัญหาคลาสสิกตลอดกาลของคนขยันทำางาน
เมื่อได้รับมอบหมายงานมา แต่กลับไม่สามารถตัดสินใจได้เอง
เพราะอำานาจรวมศูนย์อยู่ที่เจ้านาย
บริษัทที่เป็นแบบนี้จึงมักสูญเสียคนขยันทำางานไปในที่สุด

7. เจ้านายตัดสินใจไม่เด็ดขาด
ผู้นำาจำาเป็นต้องตัดสินใจในภาวะคับขัน
และต้องยอมรับถึงผลที่จะตามมา หากตัดสินใจผิดพลาด
การตัดสินใจที่แย่ที่สุดก็คือการไม่ตัดสินใจอะไรเลย
บริษัทแบบนี้ คนสนองนโยบายจะปวดหัวและทำางานไม่ถูก

8. เจ้านายรู้ไม่ทันลูกน้อง
แบบนี้เข้าตำาราถูกลูกน้องตลบหลัง หลอกใช้ เอาเปรียบบริษัท
มากกว่าอำานาจการปกครอง จึงต้องมีไหวพริบรู้ให้ทันด้วย
เพราะถ้าลูกน้องรู้ว่าเจ้านายตามไม่ทัน
บริษัทจะยิ่งโดนเอาเปรียบไปเรื่อย ๆ

49
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
9.เจ้านายไม่มีวิสัยทัศน์
ผู้นำาต้องมองการณ์ไกล เห็นไปในอนาคตว่าอะไรจะเกิดขึ้น
บริษัทที่คิดเล็ก เอาตัวรอดไปเดือนนึงๆ
จึงไม่อาจพาใครให้เจริญก้าวหน้าได้

10.บริษัทไม่มีภารกิจที่ชัดเจน
เมื่อคนหลายคนมาอยู่รวมกัน นอกจากเรื่องกฎระเบียบแล้ว
เรื่องของเป้าหมายก็มีความจำาเป็นไม่น้อย
ถ้าพนักงานไม่รู้ว่าบริษัทนี้เขายกย่องในคุณค่าเรื่องอะไร
เขาอยากช่วยให้ประเทศนี้ โลกนี้ดีขึ้นอย่างไร
บริษัทนั้นก็จะมีแต่พนักงานทำาตาลอย ๆ ไปวัน ๆ

บริษัทที่คุณทำางานอยู่
เข้าข่ายข้อไหนบ้างหรือเปล่าครับ ?

50
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เราไม่ใช่กบเลือกนาย
แต่เป็นคนที่รู้จักเลือกบริษัทและเพื่อนร่วมงาน
ถ้าบริษัทยังไม่เปลี่ยน
ถ้าเพื่อนร่วมงานเรายังไม่เปลี่ยน
เรานั่นล่ะครับที่จำาเป็นต้องเปลี่ยนบริษัท
เปลี่ยนเพื่อนร่วมงานครับ

51
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

07
รับเรา
ทำให้คนสนใจ
เข้าทำงาน

เมื่อเริ่มทำางานใหม่ ๆ
ผมอยู่ในฐานะที่ต้องส่งผลงาน
ไปให้คนอื่นพิจารณา
เมื่อทำางานไประยะนึง
ผมอยู่ในฐานะที่ต้องพิจารณา
ผลงานที่คนอื่นส่งมา
นั่นทำาให้ผมเข้าใจคนทั้งสองมุมนี้

52
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
มันทำาให้ผมรู้ “เทคนิค” ที่จะทำาให้คนสนใจงานของเรา
และผมเอามันมาแบ่งปันให้ทุกคนรู้กันเดี๋ยวนี้ตอนนี้แล้วครับ
“5 อย่างที่ควรรู้ในการเขียนใบสมัครให้คนสนใจเรา”
ผมใช้มันเสมอ และมันทำาให้ผมได้ทั้งงาน
ได้ทั้งออกเกมโชว์ ได้เขียนคอลัมน์ ฯลฯ

53
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
5 ข้อควรรู้ในการเขียนใบสมัคร
1. จำาไว้ว่าคนคัดใบสมัคร อ่านเพื่อคัดออก ไม่ใช่คัดเข้า
เพราะฉะนั้นอย่าเยิ่นเย้อ ให้เข้าประเด็นทันที ประวัติไม่ต้องจัดเต็ม
ไม่ต้องไล่มันหมดว่าเคยไปเข้าค่ายลูกเสือมา ได้ติดเข็มบำาเพ็ญประโยชน์

2. อย่าอายที่จะขายความสามารถตัวเอง
แต่ก็ไม่ต้องเล่าทุกความสามารถ
เอาเจ๋ง ๆ ก็พอ ทำาท่าหกกบได้ เลียข้อศอกได้ แบบนี้ไม่ต้อง
อย่าส่งผลงานมาเป็นกอง ๆ เลือกมาอันเดียวที่คิดว่าเจ๋งจนต้องหยุดอ่าน
คนส่งมาเป็นร้อย คนพิจารณาเขาไม่มานั่งดูผลงานคุณทั้งหมดหรอก
ลองคิดสิว่าถ้าคุณเป็นเขา เจอผลงานหนา ๆ คุณไม่อ่านหรอก

3. ข้อมูลที่เขาต้องการ ต้องใส่ให้ครบทุกที่และรวมอยู่ที่เดียวกัน
ถ้าส่งเป็นไฟล์ เช็คดูอีกทีว่าเปิดไฟล์ได้มั้ย ระวังตายตื้น
ถ้าส่งเป็นอีเมล อย่าส่งเป็นลิงค์มา
เพราะมันแสดงถึงความไม่พิถีพิถัน
ประมาณว่า อ่ะ อยากอ่านเอ็งก็คลิกเข้าไปเองละกัน นี่ผลงานข้า
ทางที่ดีทำาเป็น pdf file ซึ่งเปิดอ่านแล้วไม่มีเพี้ยนตัวอักษร

54
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
4. ถ้าต้องมีรูปตัวคุณแนบมาด้วย ต้องเลือกรูปที่คุณคิดว่าดูดีที่สุด
แสดงความเป็นตัวคุณที่สุด อย่าเอารูปอะไรก็ได้ส่งมา
ความประทับใจครั้งแรกสำาคัญมาก รูปหนึ่งภาพแทนคำานับพัน
หลายบริษัทเลือกคนจากหน้าตาและบุคลิก
(ไม่ได้แปลว่าสวยหล่อ แต่แปลว่าเป็นมิตร)

5. อย่าเรียกร้องความสงสาร เช่น “ถ้าฉันไม่ได้คุณ ฉันแย่แน่”


แต่ต้องเปลี่ยนเป็น “ถ้าคุณไม่ได้ฉัน คุณแย่แน่”
ที่สำาคัญอย่ารอจนวันท้าย ๆ ค่อยส่ง คนคัดใบสมัครก็คือคน
เขามีสิทธิ์เหนื่อย ล้า เบื่อ และมีสิทธิ์สูงที่จะไม่อ่านเลย

55
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
56
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
57
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

08 เป็นก่อน
จะเป็น
คุณต้องคิดและทำาแบบเจ้านาย
ตั้งแต่ยังเป็นลูกน้อง
วันข้างหน้าคุณถึงจะได้เป็นเจ้านาย

58
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
คุณต้องคิดและทำาแบบงานไม่ประจำา
ตั้งแต่ยังทำางานประจำา
วันข้างหน้าคุณถึงจะได้ทำางานไม่ประจำา

คุณต้องคิดและทำาแบบเศรษฐี
ตั้งแต่วันที่ยังไม่มีเงิน
วันข้างหน้าคุณถึงจะได้เป็นเศรษฐี

59
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
สรุปก็คือ
ไม่ว่าคุณจะอยากเป็นอะไรก็ตาม
คุณต้อง “เป็น” ก่อนที่คุณจะเป็นจริง ๆ
ไม่ใช่รอให้ได้เป็นจริง ๆ ก่อน แล้วคุณถึงจะเป็น

ปัญหาก็คือ
คนส่วนใหญ่ทำากลับกัน
เขาจึงไม่เคยได้พบกับอิสรภาพ เงินทอง
หรืออะไรก็ตามที่ต้องการ

60
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เรื่องแบบนี้ต้อง “จ่ายก่อน” แล้วถึง
จะ “ได้รับ”

คุณต้องมีคุณสมบัติที่คู่ควรก่อน
แม้วันนี้จะมองไม่เห็นทางว่า
จะไปถึงจุดที่อยากไปได้อย่างไร

ใช่ครับ! คุณต้องเป็นในสิ่งนั้นก่อน
ก่อนที่มันจะกลายเป็นความจริง

61
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

09
เลือกสนามที่มีโอกาส
ชนะสูง
อยากรวยเหมือนคนอื่นนั้นไม่ผิด
แต่อยากรวยด้วย “วิธีการ” เหมือนคนอื่นนั้น
ผมว่าอันตรายมาก
เพราะเราอาจหลงไปในสนามที่เราไม่ถนัด
กว่าจะรู้ตัว ก็เพลี่ยงพลำ้าไปเยอะ
จนเกินจะถอนตัว

62
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ส่วนตัวผมเองนั้นเลือกสนามที่ผมคิดว่ามีโอกาสชนะสูง
ไม่ใช่สนามยอดฮิตที่เราเห็นคนชนะ รวยเอา รวยเอา
แล้วอยากชนะ อยากรวยแบบเขาบ้าง
โอ้...มันช่างยั่วยวนเหลือเกิน

แต่เราไม่รู้หรอกว่าผู้ชนะนั้นผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงจุดนี้
เพราะเขาไม่ได้เล่าให้เราฟัง
หรือถึงจะเล่าให้ฟัง เราก็ไม่อยากจะฟัง
เพราะความโลภมันปิดหู บังตา

ผมมีความเชื่อว่าเราแต่ละคนมีสนามที่ถนัดไม่เหมือนกัน
ไม่ใช่ทุกคนที่จะรวยจากการเล่นหุ้น
ไม่ใช่ทุกคนที่จะรวยจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
หรือจะเป็นธุรกิจเครือข่าย ขายประกัน ขายของออนไลน์

ทุกอาชีพนั้นดีหมด
แต่ความถนัดในงานไหนเท่านั้นเองที่เหมาะกับเรา
ขอเพียงอย่าเอาความโลภเป็นที่ตั้งในการเลือกอาชีพ
ให้ใช้ความรักเป็นหลักนำาทาง

63
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถามว่า แล้วจะรู้ได้ไงว่าเรามีโอกาสชนะในสนามไหน?
คำาตอบคือก็ต้อง “ลงสนาม” บ่อย ๆ หลาย ๆ สนามที่แตกต่างกัน
เรียนมาอย่าง ไปทำางานอีกอย่าง เดี๋ยวนี้เป็นเรื่องธรรมดาครับ
ช่วงชีวิตของคนคนนึงอาจเปลี่ยนอาชีพไปหลายอาชีพ
เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

อย่างผมเอง ทั้งที่จบทั้งตรีและโทวิศวะจุฬามา
แต่ก็ไปเป็นนักแต่งเพลง ไปเป็นครีเอทีฟรายการวิทยุ
ไปเป็นคนเขียนบทรายการทีวี ไปแข่งเกมโชว์รายการทีวี
ไปเป็นพ่อค้าร้านขายเครื่องประดับ ไปเป็นคนขายของแบกะดิน
ไปทำาธุรกิจเครือข่าย ไปสอบตัวแทนประกันชีวิต
ไปเป็นบรรณาธิการ ไปเป็นนักเขียน
ไปประกวดนักจัดรายการวิทยุ ไปประกวดวงดนตรี ฯลฯ

งานประจำา และงานไม่ประจำา ผมทำามาหมด


ล้มมาเยอะ เจ็บมาแยะ
แต่ผมต้องลุกให้มากกว่าล้มหนึ่งครั้งเสมอ

จนในที่สุดผมก็เจอสนามที่ผมคิดว่าผมมีโอกาสชนะสูง
แล้วมันก็ชนะจริง ๆ

64
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ปัญหาของคนที่ยังไม่เจอตัวเองก็คือ
เขาลองทำาอะไรใหม่ ๆ น้อยเกินไป
เขากลัวการก้าวพลาดมากเกินไป
เขาคุยกับหัวใจตัวเองน้อยเกินไป
เมื่อเจอคนรวยจากสนามอื่น ๆ ก็เลยอยากรวยบ้าง
เพราะเกิดหวั่นไหวไปตามประสาคนใกล้กัน

ไปลองหลาย ๆ สนาม แล้วหาสนามของตัวเองให้เจอสิครับ


เมื่อเจอสนามนั้นแล้ว
คุณจะไม่ต้องแห่ไปขุดทองเหมือนกับคนส่วนใหญ่
เพราะสนามนั้นแหละ
คือ “บ่อทองคำา” ที่คุณขุดเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด

65
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

10ทำงานให้เหมือน
การพักผ่อน
เมื่องานของเรา คือการพักผ่อนอย่างหนึ่ง
เมื่อการพักผ่อนของเรา คืองานอย่างหนึ่ง

66
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เมื่อเส้นแบ่งระหว่างงานกับการพักผ่อนเลือนลางลง
เมื่องานกับการพักผ่อนถูกหลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกัน

เมื่อเรามีความสนุกในการทำางาน
เมื่อการพักผ่อนของเรา
สามารถจุดประกายบางอย่างในการทำางานได้

เมื่อนั้นเราและคนอื่นจะแยกไม่ออกว่า
เรากำาลังทำางานหรือกำาลังพักผ่อนกันแน่?

ครับ! ข้อความข้างบนคือสิ่งที่ผมยึดถือและต้องทำาให้ได้
ไม่ใช่ทุกช่วงของชีวิตหรอกครับที่ทำาได้

แต่ผมก็ชอบที่จะให้งานกับการพักผ่อนคือเรื่องเดียวกัน

67
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ทุกวันนี้การเขียนหนังสือ บรรยาย จัดสัมมนา คืองานของผม
ส่วนการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงคือการพักผ่อน
ซึ่งมันก็ย้อนกลับมาใช้ในงานที่ทำาได้อีก

งานจึงคือการพักผ่อนของผม
การพักผ่อนจึงคืองานของผม

68
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
บางคนมีปฏิทินรวมวันหยุดของปีหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว
เพื่อจะได้วางแผนว่าฉันจะไปเที่ยวไหนดี
คำาถามก็คือ เมื่อจิตโฟกัสไปที่วัน “หยุด”
แล้วชีวิตมันจะ “ก้าว” ไปข้างหน้าได้ยังไง?

งานไม่ใช่เรื่องเครียดเลย ถ้าเราสนุกกับมัน
เมื่อไหร่ที่มีคำาพูดว่า “น่าสนุกว่ะ”
หลุดออกมาจากปากใครสักคน
ตอนที่เขากำาลังจะได้ทำางานอะไรสักอย่าง
ให้รู้ว่าใครคนนั้นกำาลังเจอของเล่นใหม่
เขาไม่ได้เจองาน

69
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
งานกับการพักผ่อนเป็นเรื่องเดียวกันได้ครับ
ผมทำาอยู่ และคุณก็ทำาได้
เพียงแต่ต้องตอบให้ชัด ๆ ว่าคุณชอบทำาอะไร
จะได้เอามันมาทำาเป็นงานและพักผ่อนไปในตัว

จริงอยู่ มันไม่ง่าย ผมเองก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะทำาได้


แต่มันก็คุ้มครับที่เราจะออกตามหา ไขว่คว้า ไล่ล่ามันมาครอง

เช้าแล้วครับ
ได้เวลาออกไปทำางาน...ไม่ใช่สิ!
ได้เวลาออกไปพักผ่อนกันแล้ว ไปเล้ย!

70
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
71
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

11
งานต้องแปลว่า
ความสุข
ชีวิตที่ ไม่สนุก
คือชีวิตที่วิ่งวุ่นทำางานเพื่อหาเงินทั้งวัน
แล้วเอาเงินนั้นมากินใช้เพื่อคลายเครียด
โทษฐานที่ต้องวิ่งวุ่นทั้งวัน
เลยต้องใช้เงินให้คุ้มกับที่เหนื่อย
สรุปแล้วยิ่งทำางานหนัก เงินจึงยิ่งไม่เหลือเก็บ
เพราะมันคือวังวนของการขจัดทุกข์คลายเครียด

72
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ชีวิตที่สนุก
คือชีวิตที่สนุกกับการทำางานทั้งวัน
เมื่อไม่เครียด ก็เลยไม่ต้องกินใช้เพื่อคลายเครียด
และยิ่งแปลกที่เมื่อไม่ใช่ทำางานเพื่อหาเงิน
เงินกลับจะยิ่งตามมาเองจนปฏิเสธก็ไม่ได้
สรุปแล้วยิ่งทำางานหนัก เงินก็ยิ่งเหลือเก็บ
เพราะไม่รู้จะใช้ทำาอะไร เนื่องจากงานที่ทำาอยู่มันก็สนุกอยู่แล้ว
แบบนี้คือวงจรแห่งความสุขและผ่อนคลาย

73
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
อย่างไรก็ตาม
งานที่ทำาแล้วใจบอกว่าใช่ มันไม่เคยหล่นมาจากฟ้า
คนที่เจองานที่ใช่ เขาไม่ใช่ใช้แค่ความโชคดี
แต่ต้องค้นหา ไขว่คว้า ฝึกฝนจนชำานาญ
เพื่อให้งานนั้นเลี้ยงหัวใจและปากท้องได้

มีคนบอกว่า ใช่สิ! ผมมันโชคดี


ชีวิตมีทางเลือกเยอะก็พูดได้สิว่าให้ทำางานที่รัก
ทั้งที่จริง ผมเองก็ฝ่าฟันมาไม่น้อยกว่าจะเจองานที่ใช่
สอบได้ที่หนึ่งของจังหวัด สอบเทียบติดวิศวะจุฬา
แต่มาเป็นนักแต่งเพลงแกรมมี่
ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่จะทำาให้พ่อแม่ยอมรับ

74
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ยิ่งเมื่อในเวลาต่อมา นักแต่งเพลงก็เป็นอาชีพได้ยาก
ผมเลี้ยงตัวเองและครอบครัวไม่ได้ด้วยอาชีพนี้
เหมือนที่แม่เคยเป็นห่วงและห้ามผม
ตั้งแต่วันแรกที่ผมโทรไปบอกว่าจะไม่ทำางานวิศวะ
ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่ผมจะผ่านจุดนั้นมาได้

ผมโชคดีครับ ผมไม่ปฏิเสธ
แต่ผมก็ต่อสู้มาไม่น้อยเพื่อให้ได้ฝันนั้นมาครอบครอง

75
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โชคดีแล้วงอมืองอเท้า
ยอมแพ้ง่าย แกล้งตายบ่อย
แบบนั้นงานในฝันไม่มาหาหรอกครับ

งานต้องแปลว่าความสุข
ไม่ใช่แปลว่าความทุกข์
ผมยืนยันว่ามันเป็นอย่างนั้น

แม้มันจะใช้เวลาค้นหานานแค่ไหนก็ตาม
ผมปรารถนาจะบอกคุณว่า
คุณต้องหา “งานที่ทำาแล้วสนุก” ให้เจอ
แล้วชีวิตทุกวันจะมีคุณค่า
ผมเชื่ออย่างนั้นครับ

76
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
77
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

12
หาเก้าอี้ที่สร้างมาเพื่อ
เราคนเดียว
โลกนี้เป็นเรื่องของ Demand กับ Supply
กฎอมตะของโลกนี้ก็คือ
ใครต้องการมากกว่า “คนนั้นแพ้”

78
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าคุณขายของที่มีความต้องการเยอะ แต่มีอยู่น้อย
ของสิ่งนั้นก็มีค่ามาก มีแต่คนแย่งกันอยากได้
ถ้าคุณขายของที่มีความต้องการไม่เยอะ แถมยังมีขายไปทั่ว
ของสิ่งนั้นก็ด้อยราคา มีแต่คนเฉย ๆ งั้น ๆ

79
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
และถ้ายอมรับความจริงว่า
เราทุกคนก็ล้วนกำาลัง “ขายตัวเอง”
ขายความรู้ ขายความสามารถ ฯลฯ
มันก็น่าคิดว่า “แล้วเราคือของแบบไหน?”

“หาได้ยาก มีแต่คนต้องการ”
หรือ “หาได้ง่าย มีขายไปทั่ว”
แบบไหนที่เราเป็น?

ทุกครั้งที่มีการสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะทีวีหรือนิตยสาร
ผมเองได้รับคำาถามบ่อยมากกับเรื่องที่ว่า
“งานไม่ประจำา ทำาแล้วมันจะมั่นคงเหรอ?”

และผมก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่า
“ความมั่นคงไม่ได้อยู่ที่บริษัท แต่อยู่ที่ตัวเรา”

80
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ยุคนี้คำาว่า “ความมั่นคง” มันออกจะเป็นคำาตกยุคไปแล้ว
บริษัทเอกชนที่ไหนก็ไม่อาจรับรองความมั่นคงในชีวิตไปจนตาย
ผมเองเคยทำางานบริษัทยักษ์ใหญ่
ก็ยังถูกเลย์ออฟพร้อมพนักงานอีกมากมายหลายชีวิต
พนักงานก็ไม่ได้ผิด บริษัทก็ไม่ได้ผิด
แต่สถานการณ์มันบังคับให้ต้องทำาแบบนั้นจริง ๆ

หรือมองไปในระดับโลก
ใครจะคิดว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโนเกียหรือโกดัก จะมีวันนี้?

ความมั่นคงของชีวิตจึงไม่ควรฝากไว้ที่บริษัท
แต่ต้องฝากไว้ที่ “ตัวเราเอง”

81
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถ้าความสามารถของเรามัน “แจ่ม” จริง ๆ
ใคร ๆ ก็ต้องการตัวเราครับ ดีไม่ดีจะแย่งกันด้วยซ�้า
คนแบบนี้ชีวิตไม่ต้องกลัวตกงาน
เผลอ ๆ ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร
เพราะกลายมาเป็นคนสร้างงานเสียเอง

ตรงกันข้าม ถ้าความสามารถเรามันประเภท “งั้น ๆ”


หาที่ไหน เอาใครมาแทนก็ได้
คนแบบนี้ต้องระวังครับ
บริษัทไม่ต้องเจ๊ง เค้าก็อาจจะจ้างเราออกก็ได้

82
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
คนที่มีความสามารถทั่ว ๆ ไป
จึงต้องวิ่งหางาน สมัครงานให้คนอื่นเลือกไปทั่ว
แต่ตัวเองไม่มีสิทธิ์เลือกงานเท่าไหร่
มีอะไรให้ทำาก็ต้องทำา

แต่คนที่มีความสามารถพิเศษ เก่งและเป็นคนดี
งานจะวิ่งมาหาเขา เพราะคนแบบนี้หาไม่ง่าย
แถมเขายังมีสิทธิ์เลือกอีกด้วยว่าจะร่วมงานกับใครดี

ก็อย่างที่ผมบอกนั่นล่ะครับ
โลกนี้มันเป็นเรื่องของ Demand กับ Supply
ใครต้องการมากกว่า “คนนั้นแพ้”

ความสามารถของเรา “แจ่ม” หรือ “งั้น ๆ”


นั่นล่ะครับ ตัววัดความมั่นคงที่แท้จริงของชีวิต

83
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผมจึงคิดว่าความมั่นคงของอาชีพ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่เราทำางานให้บริษัทใหญ่ ๆ หรือเปล่า?
แต่มันขึ้นอยู่กับ “ความยาก” ในการหาคนมาแทนที่เราว่ามีแค่ไหน?

ความยากในที่นี้ หมายถึงการหาคนมาแทนคนอย่างเรา
ซึ่งอาจจะหาไม่ได้เลย มีน้อยมาก ๆ
หรือความยากนั้นอาจจะหมายถึง
หาคนแทนที่เราได้ก็จริง แต่มันยุ่งยาก
วุ่นวาย และราคาแพง
งั้นจ้างเราต่อไปดีกว่า

ผมว่านี่เป็นประเด็นที่น่าคิดมาก ๆ
สำาหรับยุคที่ความมั่นคงในอาชีพต้องทบทวนกันทุกปี

ผมอ่านเจอจากที่ไหนสักแห่ง
บอกไว้ทำานองนี้ครับว่า
“งานธรรมดา ๆ ที่ใครทำาก็ได้ จะถูกจ้างด้วยราคาตำ่าที่สุด
เพียงเพื่อให้คนคนนั้นยังอยู่”

84
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
“แต่งานที่หาใครแทนไม่ได้ จะถูกจ้างด้วยราคาสูงที่สุด
เพื่อรั้งคนคนนั้นไม่ให้ไป”

โอโห! เจ็บแต่จริงครับ

ผมว่าเราลองทบทวนอาชีพการงานของเราสักนิดก็ดีนะครับ
ว่าตำาแหน่งงานที่เราทำาอยู่นั้น
มันถูก “แทนที่” ได้ง่ายหรือเปล่า?
ใครทำาก็ได้หรือเปล่า?
หรือมันต้องเป็นคนอย่างเราเท่านั้น
หรือมันยากที่จะหาคนมาแทนคนที่มีประสบการณ์อย่างเรา

85
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เป็นลูกจ้าง เป็นพนักงาน
ก็ต้องเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง
เก่งสื่อสาร คอนเน็คชั่นเยอะ งานที่มอบหมายเสร็จเร็วและดี
นั่นคือ “ความยาก” อย่างนึงในการหาคนมาแทนที่เรา

หรือแม้แต่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้
ถ้าสินค้าหรือบริการ มันง่ายที่ลูกค้าจะหาคนมาแทน
ไม่นานธุรกิจเราก็สาบสูญได้เหมือนกัน

86
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้า “ง่าย” ที่จะหาคนมาแทนที่
มันก็ “ง่าย” ที่เราจะหล่นร่วงจากเก้าอี้อย่างไม่รู้ตัว
แต่ถ้า “ยาก” ที่จะหาคนแทนที่
มันก็ “ยาก” ที่จะล้มเราจากเก้าอี้
เก้าอี้ตัวที่สร้างมาเพื่อเราคนเดียวเท่านั้น

87
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

13
เก่งจริง ตอบโจทย์
ไม่มีใครแทนได้
ผมรู้จักคนที่มีรายได้ปีละ 1 แสนบาท
ผมรู้จักคนที่มีรายได้เดือนละ 1 แสนบาท
และผมก็รู้จักคนที่มีรายได้วันละ 1 แสนบาท

88
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถามว่า 3 คนนี้ใครเก่งกว่า?
ผมว่าตอบยาก เพราะคนเราไม่มีใครเก่งกว่าใคร
เราแค่เก่งกันคนละเรื่อง คนละอย่าง

คำาถามต่อมาก็คือ
แล้วทำาไมคน 3 คนนี้จึงมีรายได้ต่างกันขนาดนี้?
อันนี้ผมว่าผมพอตอบได้

ผมว่ามีอยู่ 3 คุณสมบัติ
ที่ทำาให้คนเรามีรายได้ต่างกัน

89
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ข้อแรก เราต้อง “เก่งจริง” ในสายงานที่เราทำาอยู่
แทบทุกอาชีพ มีทั้งคนรวยและคนจน
วงการนักเขียนที่ว่าไส้แห้ง ก็ยังมีนักเขียนเงินล้าน
วงการหุ้นที่หลายคนเจ๊ง ก็ยังมีคนรำ่ารวยจากตลาดหุ้น
คำาถามจึงอยู่ที่ว่า “เราเก่งจริงหรือเปล่า?”

ข้อสอง งานที่เราทำา ต้อง “ตอบโจทย์” คนจำานวนมาก


บางครั้งสิ่งที่เราเก่งจริง แต่ตลาดไม่ต้องการ แบบนั้นก็ทำาเงินยาก
เช่น เราอาจนอนหลับเก่ง หัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับปั๊บ
เก่งแบบนี้ ไม่ได้ช่วยตอบโจทย์อะไรคนอื่นเลย
แต่ถ้าเก่งในการมีวิธีให้คนที่นอนไม่ค่อยหลับ หลับได้ง่ายขึ้น
แบบนี้ตอบโจทย์ตลาด

จำาไว้ว่า ผู้คนจะจ่ายเงินให้กับคนที่แก้ปัญหาให้กับเขาได้
ยิ่งสิ่งที่เราทำาสามารถแก้ปัญหาให้คนจำานวนมากเท่าไหร่
เงินทองก็ยิ่งหลั่งไหลมาเท่านั้น

90
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ข้อสาม งานที่เราทำาต้อง “ไม่มีใครทำาแบบเราได้” หรือมีก็น้อยมาก
หลายครั้งเราอาจจะเก่ง ตอบโจทย์ตลาด
แต่ถ้าใครก็ทำาได้ คู่แข่งเกิดขึ้นง่าย ๆ
ใช้บริการของใครก็เหมือนกัน
แบบนั้นรายได้เราจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เพราะมีคนตัดราคา

ถ้าอยากมีรายได้เพิ่ม
ลองพิจารณาดูงานที่เราทำาอยู่สิครับ

1. เราเก่งจริงในสายงานของเรามั้ย?
ถ้าไม่ ก็ต้องพัฒนาความสามารถของตัวเอง

2. งานของเราตอบโจทย์คนหมู่มากมั้ย?
ถ้าไม่ ก็ต้องเปลี่ยนงาน เปลี่ยนสินค้า เปลี่ยนบริการ
เพิ่มคุณค่าให้กับมัน จนกระทั่งแก้ปัญหาคนจำานวนมากได้

3. งานของเรามีคนแทนเราได้ง่าย ๆ มั้ย ใครก็ทำาแบบเราได้ใช่มั้ย?


ถ้าใช่ แปลว่าเรายังดาษดื่น หาได้ทั่วไป
แบบนี้ต้องรู้จักสร้างแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

91
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เก่ง+ตอบโจทย์คนหมู่มาก+หาคนแทนได้ยาก
คือคุณสมบัติทั้ง 3 ที่ทำาให้คน 3 คนที่ผมว่ามา
มีรายได้ต่างกันหลายสิบเท่า

แล้วคุณล่ะครับ
ใน 3 ข้อนี้ มีคุณสมบัติข้อไหนบ้าง?

92
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
93
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

14
ความสำาเร็จ
ติดตั้งทักษะ

ตั้งแต่ผมเข้าใจว่ามนุษย์เราสามารถทำาอะไรก็ ได้
ขอแค่ “ติดตั้ง” ทักษะที่จำาเป็นเท่านั้น
ผมก็ยิ่งสนุกกับการพัฒนาตัวเอง

94
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เราทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
ชีวิตจึงไม่ต่างกับการเคลื่อนที่จากจุด A ไปจุด B
ทุก ๆ วัน เราต่างพยายามไปสู่จุด ๆ นึงเสมอ

ปัญหาก็คือ
คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตา
ที่ทำาให้คนคนนึงไปถึงจุดหมายได้
หรือไม่ก็คิดว่าเป็นเรื่องของพรสวรรค์ที่ต้องเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนส่วนใหญ่ก็เลยหยุดอยู่กับที่ ยืนอยู่ตรงจุด A
เพราะสิ้นหวังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม คนอย่างเราคงไม่มีวันถึงจุด B

แต่ผมบอกได้เลยครับว่า “ไม่จริง”

95
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถ้าคอมพิวเตอร์ต้องลงโปรแกรม
เพื่อให้ใช้งานฟังก์ชันบางอย่างได้
คนเราก็ต้อง “ติดตั้งทักษะ” บางอย่าง
เพื่อให้กลายเป็นคนคนนั้นที่เราต้องการ

อยากเป็นนักพูด ก็ต้องฝึกทักษะการพูดบนเวที
อยากเป็นนักเขียน ก็ต้องฝึกทักษะเขียน
อยากเป็นนักขาย ก็ต้องฝึกทักษะการขาย
อยากรำ่ารวย ต้องฝึกทักษะของคนรวย
นั่นคือ ทำางานหนัก อดออม และเรียนรู้ที่จะลงทุน

ถ้าใครรู้จักผมมาตั้งแต่เด็ก จะรู้ว่าผมพูดไม่เก่ง ขี้อายมาก


วัน ๆ ไม่พูดกับใครเลย จนเป็นเรื่องปกติ
แต่วันนี้ผมพูดต่อหน้าคนเป็นพัน มีคนจ่ายเงินเพื่อฟังผมพูด
คอร์สงานเขียนที่ผมสอน คนเรียนเฮฮาอย่างกับดูตลก
เพราะอะไร? อยู่ ๆ ผมก็ทำาได้เองงั้นหรือ?
เปล่าครับ ผมฝึกและฝึกอย่างหนักต่างหาก

96
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แล้วเรื่องเขียนล่ะ? อยู่ ๆ ผมก็เขียนหนังสือได้ดีเองอย่างนั้นหรือ?
ไม่เลยครับ ก่อนที่ผมจะเป็นนักแต่งเพลงอาชีพที่แกรมมี่
ผมต้องฝึกแต่งเพลงกับครูของผม (พี่แว่น จักราวุธ แสวงผล) อยู่เป็นปี

เรื่องการขาย ยิ่งแล้วใหญ่
คนติสต์ ๆ โลกส่วนตัวสูงอย่างผมเนี่ยนะจะขายของเป็นขึ้นมาเอง?
ไม่เลยครับ ผมไปทำาธุรกิจขายตรงอยู่ตั้ง 2-3 ปี
ขายของให้คนแปลกหน้า เข้าบ้านนู้นออกบ้านนี้มาเป็นร้อยหลัง
ผมถึงมีทักษะการขาย รวมไปถึงเรื่องการตลาดอย่างทุกวันนี้

และผมอยากจะบอกข่าวดีเพิ่มเติมอีกว่า
ถ้าเรา “ติดตั้งทักษะ” แบบเดียวกับคนสำาเร็จที่เราอยากเป็น
เราก็จะสำาเร็จแบบเดียวกับที่เขาสำาเร็จมาก่อนเรา

97
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ขออย่างเดียว
ต้อง “คิดและทำา” ให้เหมือนคนที่เราอยากเป็นจริง ๆ
ส่วนใหญ่ที่ทำาแล้วไม่สำาเร็จ
เมื่อลองกลับไปเช็คดี ๆ จะพบว่ามีบางอย่างที่เราทำาไม่เหมือนเขา
โดยเฉพาะเรื่องวิธีคิด

ทักษะนั้นเป็นเรื่องที่สอนและเรียนรู้กันได้
ผมถึงบอกว่าตอนนี้ผมสนุกมากกับการพัฒนาตัวเอง
อยากเก่งด้านไหน อยากมีทักษะด้านไหน
ก็แค่ไปเรียนรู้เท่านั้นเอง

98
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เรามีชีวิตที่ดีขึ้น
เราเคลื่อนจากจุด A ไปจุด B ได้
ไม่ใช่เพราะโชคช่วย
แต่เพราะเราติดตั้ง “ทักษะแห่งความสำาเร็จ” ต่างหาก

วันนี้คุณจะติดตั้งทักษะอะไรให้ตัวเองดีครับ?

99
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

15 เก่งให้สม
เงินแสน
ผมยินดีจ้างคุณเดือนละหนึ่งแสนบาท
ถ้าคุณพิสูจน์ ให้ผมเห็นว่า
คุณสามารถสร้างรายได้ ให้ผม
เดือนละสองแสนหรือมากกว่า

100
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ฟังเหมือนตลกร้าย แต่คือเรื่องจริง
คนเป็นลูกจ้างไร้คุณภาพไม่เคยเข้าใจความจริงข้อนี้
คุณจะเอาเงินเดือนเท่าไหร่ก็ได้
ถ้าคุณมีความสามารถในการหาเงินให้บริษัทมากกว่าเงินเดือน
เพราะเจ้าของเขา “ทำาธุรกิจ” ไงครับ
เมื่อเป็นธุรกิจก็ต้องมีกำาไร

101
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ลูกจ้างไร้คุณภาพเอาแต่ขอขึ้นเงินเดือน
แต่กลับไม่เคยคิดว่าแล้วเราสร้างรายได้ให้เขาคุ้มมั้ย?

แน่นอน ผมรู้ว่าจะมีคนโอดครวญว่า
นายจ้างบางคนก็เอาเปรียบ ใช้งานเยี่ยงทาส
ฉันได้เงินเดือนไม่คุ้มเลย

ผมตอบเร็วว่า ถ้าไม่คุ้ม งั้นก็ลาออกสิครับ จะทนทำาไม?

พอพูดแบบนี้ คนจำานวนมากจะเงียบ แล้วทนทำางานต่อไป


เพราะอะไร? เพราะไม่แน่ใจไงครับว่าตัวเองจะแน่จริง
บ่นไปงั้น แต่ก็รู้ว่าลาออกไปก็กลัวความลับจะแตก
ว่าเรามีแต่ความเก๋าประสบการณ์ แต่ความรู้ไม่ได้มีเพิ่มเลย

102
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
โลกนี้ถึงมีคนเงินเดือนหมื่นนึงกับหนึ่งล้านบาท
เพราะเขาสร้างคุณค่าให้กับบริษัทแตกต่างกันยังไงล่ะครับ

ผมยินดีจ้างคุณเดือนละหนึ่งแสนบาท
ถ้าคุณพิสูจน์ให้ผมเห็นว่า
คุณสามารถสร้างรายได้ให้ผม
เดือนละสองแสนหรือมากกว่า
นี่คือเรื่องจริงนะครับ
ไม่เชื่อถามนายจ้างดู

ถ้าคุณคิดว่างานที่ “เงินเดือนเป็นแสน” หายาก


ผมก็อยากจะบอกว่าคุณเข้าใจผิด
สิ่งที่หายากคือ
“คนที่มีความสามารถ” เหมาะกับเงินเดือนเป็นแสนต่างหาก

บริษัทมากมายพร้อมจ่ายเงินเดือนหลักแสน
แต่กลับหาคนที่มีคุณสมบัติคู่ควรยากมาก
ในตลาดล้วนมีแต่คนที่อยากได้เงินเดือนเป็นแสน
แต่ความสามารถเหมาะกับเงินเดือนไม่กี่พัน

103
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
อย่าเอาแต่บ่นว่าอยากได้เงินเดือนเป็นแสน
แต่คุณต้องลงมือพัฒนาความสามารถของตัวเอง
ให้คู่ควรกับเงินเดือนจำานวนนั้น

อ้อ! ไม่ต้องกลัวพัฒนาตัวเองฟรี ๆ แล้วบริษัทจะไม่ขึ้นเงินเดือนให้นะครับ


มีบริษัทมากมายต้องการคนทำางานเก่ง ๆ
เขาพร้อมจ่ายหนัก ถ้าคุณเจ๋งจริง
รับรองจะมีแต่คนแย่งตัวคุณไปทำางานให้

คนเก่งมีแต่งานวิ่งหา
ส่วนคนทั่วไปเอาแต่วิ่งหางาน

104
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แรกเริ่ม
การหาเงินเดือนละหมื่น
มันจะช่างยากเย็นเหลือเกิน

ต่อมา เมื่อเราเก่งขึ้น
การหาเงินวันละหมื่น
มันจะเป็นเรื่องที่เราทำาได้สบาย

ต่อต่อมา เมื่อเราเก่งขึ้นอีก
การหาเงินชั่วโมงละหมื่น
มันจะเป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย

105
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
แล้วเราจะมองย้อนกลับไปว่า
ทำาไมตอนนั้นเราจึงใช้เวลาทั้งเดือน
เพื่อหาเงินจำานวนที่วันนี้เราหาได้ภายในหนึ่งชั่วโมง

ขอให้เชื่อผมว่านี่คือเรื่องจริง
และตัวเลขนี้ก็ไม่ใช่เลขรายได้สมมติ
แต่มีคนทำาได้จริงมากมาย
มากกว่านี้ด้วยซำ้า

106
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ทั้งหมดไม่มีอะไรมากไปกว่า
คำาตอบนั้นก็คือ
เพราะเขาเหล่านั้นพัฒนาตัวเองให้เก่งและมีคุณค่าขึ้น
โลกนี้ยุติธรรม
เราจะได้รับผลตอบแทนตามความสามารถเสมอครับ

ปีนี้ ถ้าเรารู้สึกว่าได้เงินน้อยกว่าที่เราอยากได้
ก่อนจะโทษบริษัท โทษที่ทำางาน
ให้ลองถามตัวเองก่อนว่า
“ความสามารถอย่างเรา คู่ควรกับรายได้ที่เราอยากได้มั้ย?”

107
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถ้าตอบแบบไม่โกหกตัวเองว่า
“ใช่! คนอย่างฉันควรได้มากกว่านี้ที่ได้อยู่”
ถ้างั้นก็วางแผน แล้วลาออกซะ หางานใหม่

ที่ทำางานไม่ได้ผิดอะไรนะครับ
แต่เราอาจจะโตเกินกว่าที่จะอยู่ในกระถางนี้แล้ว
ขอบคุณ แล้วจากมาจะดีกว่า

108
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าเราไม่โกหกตัวเอง
ที่สุดแล้วจะมีคนยอมจ่ายให้เราในราคาที่เราคู่ควรเสมอ

เก่งให้สมเงินแสน แล้วเงินแสนจะวิ่งหาคุณ
นี่คือเรื่องจริงครับ

109
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

16 ข้ออ้าง
เลิกมี

บรรทัดต่อไปนี้คือ
5 ข้ออ้างยอดฮิตที่คนชอบใช้ปลอบใจตัวเองว่า
ทำาไมฉันถึงไม่จำาเป็นต้องรำ่ารวย
ทำาไมฉันถึงยังไม่ประสบความสำาเร็จ

110
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
111
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
1. ต้นทุนคนเราไม่เท่ากัน
เอิ่ม..แล้วต้นทุนคนเรามันเคยเท่ากันด้วยเหรอครับ?
หรือกำาลังจะบอกว่าคนต้นทุนน้อยจะไม่มีวันรวยได้เลย
คุณคิดว่าสิ่งนี้จริงมั้ยครับ? ไม่จริงแน่นอน
เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี วันนี้มีทรัพย์หลายแสนล้านบาท
ทั้งที่อดีตพ่อขายหอยทอด ส่วนตัวเองเข็นรถส่งของในตลาด
แบบนี้เจ้าสัวต้นทุนเท่ากับเรามั้ยครับ?
ไม่เท่าแน่นอน แย่กว่าเราอีก แต่เขาก็ทำาได้

112
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
2. ฉันไม่อยากรวย เพราะคนรวยเป็นคนเลว
เอิ่ม..แล้วคนรวยที่เป็นคนดีมีมั้ยครับ?
มีแน่นอน แล้วทำาไมไม่เอาอย่างคนรวยแบบนี้ล่ะครับ?
กองทุนของบิล เกตส์ กับ วอร์เรน บัฟเฟตต์
บริจาคเงินหนึ่งล้านล้านบาทเพื่อช่วยเหลือสังคม
นี่ไงครับ คนรวยที่น่าเอาอย่าง
อย่าให้หนังฮอลลีวู้ดและนิยายหลอกเราว่าคนรวยคือคนเลว
มันก็แค่พล็อตที่ขายดี เพราะทำาให้เรารู้สึกสบายใจ
เราจะได้ไม่อยากเป็นคนรวย เพราะคนรวยมันเลว
ทั้งที่คนจะดีเลวไม่เกี่ยวกับความจนหรือรวยครับ

113
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
3. ฉันไม่อยากรวย เพราะคนรวยไม่มีความสุข ครอบครัว
แตกแยก
เอิ่ม..แล้วคนรวยที่ครอบครัวมีความสุขมีมั้ยครับ?
มีแน่นอน แล้วทำาไมไม่เอาอย่างคนรวยแบบนี้ล่ะครับ?
ครอบครัวคนรวยหลายท่านที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัว
มีความสุขในการใช้ชีวิตมาก กินข้าวพร้อมหน้ากัน
เที่ยวเมืองนอก ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ อยู่บ้านหลังใหญ่
สุขบ้างทุกบ้างตามวิสัยมนุษย์
แต่โดยรวมถือเป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก ๆ

114
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
4. ฉันไม่พร้อม คนอื่นเขามีโอกาสดี ๆ ทั้งนั้น
เอิ่ม..ชีวิตเราไม่เคยเริ่มต้นตอนพร้อมสักครั้งอยู่แล้วนะครับ
ตอนแม่ให้เข้าอนุบาล พร้อมมั้ยครับ? ไม่พร้อม
ตอนจบมาทำางานวันแรก พร้อมมั้ยครับ? ไม่พร้อม
คุณตัน ภาสกรนที เริ่มธุรกิจของตัวเองวันแรก
หนังสือที่หอบหิ้วเอามาขายที่ชลบุรีก็เปียกนำ้าจนพังหมด
แต่เขาก็ฝ่าฝันมาเรื่อย จนวันนี้มีธุรกิจใหญ่โต
เพราะฉะนั้นอย่ารอให้มีโอกาสก่อน อย่ารอให้พร้อมก่อน
เพราะวันนั้นไม่เคยมาถึง

115
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
5. ฉันพอเพียง ขอมีความสุขก็พอ เงินไม่สำาคัญ
เอิ่ม..บางทีอาจต้องถามคนที่บ้าน
เราพอเพียง แต่พวกเขาน่ะพอใช้มั้ย?
เงินสำาคัญนะครับ โดยเฉพาะในยามคับขันของชีวิต เงินสำาคัญที่สุด
ผมอยากให้คุณลองหาโอกาสไปโรงพยาบาลดี ๆ ที่รักษาได้แทบทุกโรค
แล้วคุณจะรู้เลยว่าเงินสำาคัญมาก
คนที่บอกว่าเงินไม่สำาคัญมีสองแบบคือ
มีเงินเยอะมาก กับ ไม่ค่อยมีเงิน
ส่วนใหญ่เป็นแบบหลัง

116
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
117
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

17
แล้วลงมือเปลี่ยนแปลง
เลิกบ่น
เมื่อก่อนเราเคยคิดมั้ยว่า
ทำางานทั้งเดือน เพื่อแลกกับแบงค์พัน 10 กว่าใบ
ทำางานทั้งเดือน แต่ทุกครั้งที่กดเงิน
เห็นเงินในบัญชีเหลือไม่กี่พัน
ทำางานทั้งเดือน แต่ทุกต้นเดือน
ต้องต่อแถวชำาระหนี้บัตรกดเงินสด

118
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ผมว่าเราส่วนใหญ่ไม่เคยคิด
ได้แต่ใช้ชีวิตไหลไปเรื่อยๆ
และเมื่อไม่เคยคิด
ก็ไม่ต้องสงสัยว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

มันไม่ผิด แต่มันต้องมีอะไรไม่ถูกสักอย่าง ที่ชีวิตเราเป็นแบบนี้


กี่ปีแล้วที่เดือนชนเดือน
กี่ใบที่เอาแต่จ่ายขั้นตำ่า
กี่เดือนที่ไม่มีเงินเหลือเก็บ
กี่เย็นที่ฉลองเงินเดือนออก เพื่อที่สัปดาห์แรกเงินเดือนก็หมดแล้ว
ต้องอีกกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี
เราถึงจะเปลี่ยนแปลง?

119
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
งั้นลาออกเลยสินะ?
เปล่า ผมไม่ได้พูดแบบนั้น
แต่ถ้าเงินเดือนน้อย เราต้องหางานพิเศษเพิ่ม
ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องขึ้นเงินเดือน

ถ้าเงินเหลือน้อย เราต้องจ่ายตัวเองก่อน หักเงินเก็บไว้เลย


เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ ไม่ใช่เหลือจ่ายค่อยเอามาเก็บ

ถ้าเป็นหนี้ ต้องรีบสะสาง อย่างสร้างหนี้เพิ่ม


ถ้าใจง่าย ใช้เงินเก่ง แต่หาเงินไม่เก่ง ต้องหักบัตรทิ้งให้หมด

120
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าไม่ชอบชีวิตที่เป็นอยู่
มันย่อมไม่ใช่ดื่มเพื่อลืมความจริง
แต่มีสองวิธี คือ
หนึ่ง เลิกพร�่าบ่น เลิกท�าตัวเป็นเหยื่อ เอาแต่คร�่าครวญ
สอง ลงมือทำาสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำา เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่เคยได้

ชีวิตต้องคิดบ้างว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
และกำาลังจะไปไหนต่อ
ปีนี้จะได้ไม่เหมือนปีที่แล้ว
และปีหน้าจะได้ดีกว่าปีนี้

เพราะชีวิตเราไม่ใช่กระดาษก็อปปี้
ที่กี่ปี ๆ ก็เหมือนกันทุกปี
คิดหน่อยมั้ยครับ?

121
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

18 รอคอย
วันทำงาน

มันไม่ง่ายจริง ๆ ที่เราจะตั้งใจทำางาน
ในเมื่อ 1 ปีมีวันหยุดเยอะเหลือเกิน

122
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
คิดแล้วก็น่าขำานะครับ
เราใช้เวลาฉลองปีใหม่กันนานมาก
ว่ากันตั้งแต่ปีใหม่ฝรั่ง ปีใหม่จีน มาจนปีใหม่ไทย
กว่าจะฉลองเสร็จ ก็คงหมดเดือนเมษา
สรุปเราใช้หนึ่งปีไปแล้ว 5 เดือน
(ธันวา มกรา กุมภา มีนา เมษา)

ถ้ามีใครมาบอกว่าเราเป็นพวกขายแรงงาน เราจะโกรธ
คนอย่างเราขายสมองเว้ย เราขายความคิด
แต่พอเข้าวันแรกของเดือนพฤษภาคม
เราก็หยุดวันแรงงาน ถ้าขืนไม่หยุด มีโกรธแน่

123
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
หรือถ้าวันหยุดไหนตรงกับเสาร์อาทิตย์
เราต้องมีชดเชยวันหยุด
แต่เราไม่เคยชดเชยวันทำางาน

สักพักก็เข้าหน้าฝน เราบ่นว่าเดินทางลำาบาก
ฝนตก เฉอะแฉะ บรรยากาศน่านอนมากกว่าทำางาน
หน้าร้อนทำางานได้ดีกว่า
ทั้งที่เมื่อตอนหน้าร้อน
เรายังบ่น ๆ อยู่เลยว่าร้อนจนไม่มีอารมณ์ทำางาน

ระหว่างนั้นเรายังมีแวะพักวันสำาคัญทางศาสนา
และวันสำาคัญอื่น ๆ อีกประปราย
แต่เราก็ยังบ่นกันว่า เรามีวันหยุดน้อยเกินไป

เผลอแป๊บ ๆ ก็ปลายปี
เราเตรียมตัวฉลองคริสต์มาสกันตลอดเดือนธันวาคม
ทั้งที่เราเป็นเมืองพุทธ
บรรยากาศเดือนธันวารีแล็กซ์ สบาย ๆ
ไม่ค่อยมีใครอยากทำางานกันแล้ว

124
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แล้วมันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้
เราถึงรู้สึกว่าปีนึง ๆ มันผ่านไปเร็วเหลือเกิน
ยังไม่ทันทำาอะไรเลย

ก็นั่นล่ะครับ
ผมถึงบอกว่ามันไม่ง่ายจริง ๆ ที่เราจะตั้งใจทำางาน

มันเหมือนละครที่พักโฆษณาบ่อย
มันเหมือนนักมวยที่ต่อย ๆ อยู่
แล้วสปอนเซอร์ขึ้นมาแจกทอง
กว่าจะตั้งหลักรวบรวมอารมณ์ได้ ก็หมดปี

125
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
พูดแบบไม่ต้องถนอมนำ้าใจ
คนที่ไม่วางแผนชีวิตเลยว่าปีนี้ฉันต้องทำาอะไรให้สำาเร็จบ้าง
จึงแทบไม่มีทางประสบความสำาเร็จในชีวิต
เพราะปัจจัยทั้งภายในและภายนอก
มันจะรุมเร้าจนเราไม่เอาไหนในที่สุด

ครับ! มันไม่ง่ายจริง ๆ ที่เราจะตั้งใจทำางาน


ในเมื่อ 1 ปีมีวันหยุดเยอะเหลือเกิน
แต่ก็ไม่ยาก ถ้าเราจะวางแผนชีวิตบ้าง

126
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
คนทั่วไปรอคอยวันหยุด
คนสำาเร็จรอคอยวันทำางาน
ใครบางคนว่าไว้แบบนั้น
ผมว่ามันใช่เลยครับ!

วางแผนวันหยุดกันมาเยอะแล้ว
วางแผนชีวิตกันบ้าง ผมว่าก็น่าจะดี

127
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

19 ทำให้ผู้คน
มองเห็น
มีคนมากมายรอจ่ายเงินซื้อสินค้าของคุณ
มีคนมากมายรอจ้างให้คุณทำางาน
มีคนมากมายรอจ่ายเงินเดือนสูง ๆ ให้กับคุณ

128
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ติดอยู่ตรง 2 เงื่อนไข

หนึ่ง
สินค้าคุณดีจริงหรือเปล่า?
การบริการของคุณน่ะเจ๋งจริงหรือเปล่า?
ตัวคุณเองน่ะเก่งจริงหรือเปล่า?

สอง
สินค้า บริการ หรือตัวคุณที่ว่าดีจริง
โลกนี้มองเห็นหรือเปล่า?
หรือตัวคุณ หรือสินค้าแอบดีอยู่เงียบ ๆ โลกไม่รู้จัก

ถ้าดีแท้แน่จริง และโลกรู้
เงินจะทะลักเข้าหาคุณราวกับเขื่อนแตก
ผู้คนจะแย่งกันซื้อ แย่งกันจ้างคุณ

129
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เพราะโลกนี้ขาดแคลนของดี
มีแต่ของทั่ว ๆ ไป มีแต่ของประมาณนึง
ถ้าคุณเป็นของดีและทำาตัวให้คนอื่นเห็น
ก็เตรียมบัตรคิวไว้แจกได้เลยครับ

คุณมีหน้าที่แค่นี้เอง
“ทำาตัวให้เจ๋ง” และ “ทำาตัวให้คนมองเห็น”

แน่นอน ผมไม่ได้บอกว่าง่าย
เพราะถ้าง่ายเค้าก็รวยกันทั้งโลกแล้ว
แต่มันมีแค่นี้เองจริง ๆ

เลิกบ่นว่าเงินเดือนน้อย
เลิกบ่นว่าไม่มีคนจ้าง ไม่มีคนซื้อของ
เพราะวิธีแก้ทั้งหมด
ล้วนเริ่มจากตัวเราทั้งสิ้นครับ

130
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
131
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

20
ฟังเสียงเรียกร้อง
ภายใน หัวใจ
เวลาที่วัดด้วยนาฬิกา
ล้วนเป็นเรื่องสมมติเพียงเพื่อ
ให้เรานัดหมายได้ตรงกัน
แต่เอาเข้าจริงแล้ว “เวลา” ที่วัดด้วยใจ
ล้วนเป็นเรื่องของ
“อารมณ์และความรู้สึก” ล้วน ๆ

132
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
รู้สึกดี เวลาก็ผ่านไปเร็ว
รู้สึกแย่ เวลาก็ผ่านไปช้า
เวลาหนึ่งชั่วโมงจึงไม่เคยเท่ากันในความรู้สึก

อัจฉริยะอย่างไอน์สไตน์นั้นรู้เรื่องนี้มานานแล้ว
เขาถึงอธิบายเรื่องเวลาอย่างแฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันว่า
“การวางมือไว้บนเตาร้อนเพียง 1 นาที
ให้ความรู้สึกเหมือนเวลายาวนานกว่า 1 ชั่วโมง
แต่การนั่งกับสาวสวย นาน 1 ชั่วโมง
ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเพียง 1 นาที”

133
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผมพูดเรื่องนี้เพื่ออยากจะให้เราลองถามตัวเองว่า
“เวลาส่วนใหญ่ของเราในแต่ละวัน ผ่านไปเร็วหรือช้า?”
“วันนึง ๆ เราจ้องดูนาฬิกา นับถอยหลังเวลาเลิกงานวันละกี่รอบ?”
“รู้สึกว่าวันเสาร์อาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วมั้ย?”

บางทีคำาตอบของคำาถามเรานี้
มันอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่า
เรากำาลังทำาสิ่งที่ “ใช่” กับหัวใจอยู่หรือเปล่า?

134
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
สำาหรับคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
เวลาของเขาจะผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน
หลายครั้งเขา “ฆ่าเวลา” แก้เบื่อ
ครับ! เขาจะเป็นนักเบื่อมืออาชีพ เพราะไม่รู้จะทำาอะไรดี
และอารมณ์เบื่อนั้นทำาให้เวลายาวนานขึ้นเสมอ

135
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
นั่นก็แย่ไปแบบนึง
แต่ที่แย่ไปอีกแบบก็คือ
สำาหรับบางคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
แต่เวลาของเขาในแต่ละวันก็กลับหมดไปอย่างรวดเร็วอยู่ดี
ทำาไม? ทำาไม? ทำาไมถึงเป็นอย่างนั้นหนอ?

นั่นก็เพราะแต่ละวันเขามัวแต่ทำาตามเสียงเรียกร้องจากภายนอก
ทำานู่นให้หน่อยสิ ทำานั่นให้หน่อยสิ
ไปเที่ยวกันมั้ย? เย็นนี้ไปช้อปปิ้งกันป่ะ? ฯลฯ

เขาไม่เคยฟัง “เสียงเรียกร้องภายในหัวใจ” ของเขาเลย


ว่าชีวิตเขาต้องการอะไรกันแน่
แต่ละวันจึงเหมือนถูกลากไปทางโน้นที ทางนี้ที

136
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
สุดท้ายเวลาแต่ละวันก็เลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว
...แต่ไร้จุดหมาย
เงยหน้ามาอีกที ก็อยู่ที่ปลายชีวิตแล้ว

นั่งคุยกับตัวเองบ่อย ๆ สิครับ
ค้นใจตัวเองว่าจะเอายังไงกับชีวิตในชาตินี้
เรื่อย ๆ? งั้น ๆ? ทั่วไป? ยังไงก็ได้?
หรือเกิดมาแล้วชีวิตนี้ต้องเอาดีให้ได้เว้ย!
เอาแบบไหนดีครับ?

137
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
หาเป้าหมายให้เจอ เขียนมันออกมาว่าชอบทำาอะไร
เพราะเมื่อวันที่เราหาเป้าหมายในชีวิตเจอ
ชีวิตแต่ละวันจะ “มันส์” มาก
ถึงมันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็มากไปด้วยความหมาย

ไม่มีใครอยากมีชีวิตที่วางไว้บนเตาร้อนไปตลอด
หา “สาวสวย” ของเราให้เจอ
แล้วใช้ชีวิตทุกชั่วโมงไปกับเธอสิครับ

138
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แท้จริงแล้วเวลาที่วัดด้วยนาฬิกา
ล้วนเป็นเรื่องสมมติ
แท้จริงแล้วชีวิตก็เป็นเรื่องสมมติ
ถ้าชาติหน้ามีจริง เราอาจลืมสิ่งที่เกิดในชาตินี้ทั้งหมด
แต่อย่างน้อย ในขณะนี้ที่เรายังจำาชีวิตเราได้อยู่
การใช้ชีวิตทุกชั่วโมงทุกนาทีอย่างมีความหมาย
มันก็เป็นอะไรที่ดีไม่ใช่เหรอครับ?

139
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

21
อย่าทำเหมือนคน
ส่วนใหญ่
ทำาเหมือนคนส่วนใหญ่
ได้เหมือนคนส่วนใหญ่
ถ้าไม่ชอบสิ่งที่คนส่วนใหญ่ ได้
เราต้องไม่ทำาเหมือนที่คนส่วนใหญ่ทำา

140
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ไม่มีเงินเก็บ เป็นหนี้ตลอดชีวิต
ทำางานแล้วหยุดไม่ได้ เบื่องานที่ทำา
ไม่มีเวลาออกกำาลังกาย ไม่มีเวลาให้ครอบครัว
อกหักชำ้ารัก เรียกร้องหาความรักจากคนอื่นตลอดเวลา
นั่นคือผลลัพธ์ที่คนส่วนใหญ่เป็น

ทำางานแบบที่คนส่วนใหญ่ทำา มักไม่รวย
กินและนอนแบบที่คนส่วนใหญ่ทำา มักสุขภาพไม่ดี
ลงทุนแบบที่คนส่วนใหญ่ทำา มักให้ผลตอบแทนน้อยหรือขาดทุน
รักแบบที่คนส่วนใหญ่รัก ก็มักเจ็บปวด

แน่นอน ผมไม่ได้หมายถึงเฮ้ย! งั้นสวนทางไปเล้ยยยย


ลาออกเว้ย งานประจำาไม่ทำาแล้ว
กินขยะกันมั้ย ไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ดี
หรือ เฮ้ย! รักแบคทีเรียดีกว่า อกไม่หัก 555+

141
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
แต่ผมหมายถึง
ในเมื่อรูปแบบการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่
มักจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าอยากได้
งั้นเราก็ต้องคอยเล็งจ้องให้ดีว่า
อะไรคือโอกาสที่ซ่อนอยู่ซึ่งคนส่วนใหญ่มองไม่เห็น?
อะไรคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำาตาม ๆ กันทั้งที่มันไม่เวิร์ค?

อะไรคือสิ่งที่คนส่วนน้อยทำาแล้วเวิร์ค
แต่คนส่วนใหญ่กลับต่อต้าน?
อะไรคือพฤติกรรมซึ่งคนส่วนใหญ่คิด พูด ทำา
แล้วมันให้ผลลัพธ์ที่เราไม่อยากได้?
เท่านี้เราก็จะรู้ว่าสิ่งไหนควรทำา สิ่งไหนไม่ควรทำา

เมื่อค้นพบหนทางของคนส่วนน้อยที่ “เหมาะกับเรา”
จงมั่นใจที่จะแตกต่าง
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าใจฝันใหญ่
ในขณะที่คนส่วนน้อยก็ไม่เคยเข้าใจว่า
“ทำาไมคนส่วนใหญ่ฝันเล็กกันจัง?”

142
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ปรับมุมมองเรื่องอาชีพ การงาน
เส้นทางสู่ความสำาเร็จไม่ได้มีถนนสายหลักสายเดียว
ปรับการใช้ชีวิต อาหารการกิน ออกกำาลังกาย
สุขภาพคือสิ่งที่สำาคัญที่สุด
ปรับทัศนคติเรื่องความรัก
ต้องเริ่มจากรักตัวเองก่อน ขาดเขาเราต้องอยู่ให้ได้

ทำาเหมือนคนส่วนใหญ่
ได้เหมือนคนส่วนใหญ่
ถ้าไม่ชอบสิ่งที่คนส่วนใหญ่ได้
เราต้องไม่ทำาเหมือนที่คนส่วนใหญ่ทำา
มันเป็นเหตุและผลกัน
เมื่อเกิดผล ย่อมสืบทราบไปถึงเหตุได้เสมอ

อีกทีนะครับ
ทำาเหมือนคนส่วนใหญ่
ได้เหมือนคนส่วนใหญ่
ถ้าไม่ชอบสิ่งที่คนส่วนใหญ่ได้
เราต้องไม่ทำาเหมือนที่คนส่วนใหญ่ทำา

143
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

22
เชี่ยวชาญเรื่องเล่า
โน้มน้าวเก่ง
เจ๋งออนไลน์
โลกนี้เปลี่ยนไปแล้ว เผื่อใครยังไม่รู้
โลกยุคนี้เป็นโลกของคนตัวเล็ก ๆ
ที่ “ไม่ธรรมดา” ครับ

144
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เคยดูหนังเรื่อง Begin Again มั้ยครับ
หลายคนอาจจะซาบซึ้งกับความรัก ความเหงา
แต่ผมกลับได้ประเด็นเรื่องการตลาดยุคนี้

ไม่เคยมียุคไหนที่โอกาสเปิดกว้างเท่ายุคนี้
เพราะคนธรรมดา ๆ ก็สามารถมีหนทางแห่งความสำาเร็จของตัวเองได้
อยู่ที่เรา “เจ๋งจริง” หรือเปล่า?

“เกร็ตต้า” นางเอกของเรื่องคือศิลปินนักแต่งเพลงตัวเล็ก ๆ
มาพบกับ “แดน” โปรดิวเซอร์ตกอับ
คนตัวเล็ก ๆ สองคนนี้ลงมือทำาอัลบั้ม ทั้งที่ไม่มีแต้มต่อ
พวกเขาทำาแบบนี้ครับ

145
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
1. ในเมื่อไม่มีค่าห้องอัด
งั้นก็เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส
ด้วยการบันทึกเสียงในย่านต่าง ๆ กลางเมืองซะเลย
แค่นี้ก็ทำาให้เพลงชุดนี้มี “เรื่องเล่า” ในการบันทึกเสียง
มากกว่าแค่เข้าห้องอัดหรู ๆ

146
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
2. ในเมื่อไม่มีเงินจ้างนักดนตรี
งั้นก็จ่ายเป็นค่าส่วนแบ่งเมื่อวันที่ขายเพลงได้ซะเลย
เรียกว่าทำางานให้ก่อน แล้วผ่อนจ่ายเป็น Profit Sharing ทีหลัง

3. ในเมื่อต่อรองกับค่ายดนตรีลำาบาก งั้นก็ขายมันเองซะเลย
ในเมื่อช่องทางโปรโมทหรือจำาหน่าย ทำาได้ในโลกออนไลน์

147
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
สรุปว่านี่คือยุคของยักษ์เล็กไล่ยักษ์ใหญ่
ขอเพียงมี “เรื่องเล่า” ให้กับสินค้า
ถ้าไม่มีเงิน ก็หาคนที่จะรับรายได้แบบส่วนแบ่ง
จากนั้นหาช่องทางจัดจำาหน่ายเอง
นี่ล่ะครับ หนทางของคนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ธรรมดาในยุคนี้

148
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ใครยังไม่มีทักษะเหล่านี้ ต้องฝึกฝนด่วน
ทักษะการ “เล่าเรื่อง” ให้น่าสนใจ มีมูลค่าเพิ่ม
ทักษะการ “โน้มน้าว” ผู้คนให้มาร่วมโปรเจ็คท์โดยไม่จ่ายเป็นค่าจ้าง
และทักษะการ “ใช้เครื่องมือออนไลน์” เพื่อทำาการตลาดและการขาย

ทักษะที่ว่ามานี้ ลงทุนน้อยมาก ๆ แต่ผลลัพธ์ของมันมหาศาล


เรียนรู้และฝึกฝนด่วนครับ ของแบบนี้ไม่ได้เป็นเองตั้งแต่กำาเนิด
ทำาไม่ได้ ก็ต้องทำาให้ได้ครับ

149
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

23 แก้ปัญหา
ให้ผู้คน
บรรทัดต่อไปนี้คือ
5 คำาถามที่ถ้าคุณตอบได้
คุณจะขายสินค้าหรือบริการอะไรก็ ได้

150
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
1. คุณคือใคร? ทำาอะไรได้?

2. แล้วคุณแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร?

3. แล้วคุณแก้ปัญหาอะไรได้?

4. แล้วคุณลองหรือยังว่าได้ผลกับคุณ?

5. แล้วมันจะได้ผลกับคนอื่นมั้ย?

ลองถามและตอบอย่างไม่เข้าข้างตัวเอง
มันจะช่วยปรับปรุงสินค้าและบริการของคุณ

151
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถ้าจะเริ่มต้นธุรกิจอะไรสักอย่าง
แทนที่จะถามตัวเองว่า “ทำาอะไรดี? ขายอะไรดี?”
ผมคิดว่าเราน่าจะเริ่มด้วยคำาถามว่า
“ผู้คนมีปัญหาอะไร?”

152
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
จากนั้นถามตัวเองต่อว่า
“แล้วความสามารถของเราจะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้เขาได้บ้าง?”

ครับ! ยิ่งความสามารถของเราแก้ปัญหาให้ผู้คนได้มากเท่าไหร่
เราก็ยิ่งประสบความสำาเร็จมากขึ้นเท่านั้น
เอ้า! ถามตัวเองเร้ววว “ผู้คนมีปัญหาอะไร?
และความสามารถของเราจะช่วยแก้ปัญหาอะไรให้เขาได้บ้าง?”

153
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

24 แต่ได้มาก
ทำน้อย

รู้จัก “กฎ 80/20” อันลือลั่นมั้ยครับ?


กฎนี้คิดค้นโดยนักเศรษฐศาสตร์ชาอิตาเลียน
ชื่อ “วิลเฟรโด ปาเรโต”
เมื่อปี 1906 หรือร้อยกว่าปีที่แล้ว
และยังใช้ ได้จนถึงทุกวันนี้

154
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
อธิบายกฎนี้ง่าย ๆ แบบภาษาผมนะครับ
กฎนี้บอกเราว่า ต้นเหตุเพียง 20% ก่อให้เกิดผลลัพธ์ถึง 80%
ในขณะที่ต้นเหตุถึง 80% ก่อให้เกิดผลลัพธ์เพียง 20% เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น
ลูกค้าเพียง 20% ก่อให้เกิดรายได้ถึง 80% ของบริษัท
ในขณะที่ลูกค้าถึง 80% สร้างรายได้เพียง 20%

155
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
รายการอาหารเพียง 20% ของเมนู ก่อให้เกิดรายได้ถึง 80%
ในขณะที่รายการอาหารถึง 80%
ไม่ค่อยมีคนสั่งและก่อรายได้เพียง 20%

เวลาเพียง 20% ที่เราตั้งใจทำางาน ก่อให้เกิดเนื้องานถึง 80%


ส่วนเวลาอีก 80% เราเหลวไหลเรื่อยเปื่อย จนเกิดงานเพียง 20%

ใครที่เข้าใจประเด็นนี้
เขาผู้นั้นจะใส่ความพยายามถึง 80%
เข้าไปใน 20% ที่เป็นต้นเหตุหลักของความสำาเร็จ
เพื่อให้สำาเร็จมากขึ้น
แน่นอน เขาไม่ทิ้ง 80% ที่เป็นต้นเหตุรอง
เพื่อความหลากหลาย เพื่อความปลอดภัย
และเพื่อคง 80/20 สัดส่วนมหัศจรรย์ที่ว่านี้ต่อไป

156
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ฟังดูง่าย แต่คนส่วนใหญ่กลับตกหลุมพรางนี้
เขาเหล่านั้นพยายามพัฒนาและโฟกัส 80% ที่เป็นสาเหตุรองนั้น
เพียงเพราะเห็นว่า 20% นั้นมันดีอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องใส่ใจมาก
และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดทั้งหมด

ปลากะพงทอดนำ้าปลาขายดีอยู่แล้ว ก็ปล่อย ๆ มันไป


ไปทุ่มเทปั้นเมนูใหม่ที่ยังขายไม่ดี
หันกลับมาดูอีกที ปลากะพงไหม้หมดแล้ว

ลูกค้าเก่าคือของตาย ยังไงก็ได้ยอด
เลยพยายามไปซื้อใจลูกค้าใหม่ซะมากมาย
หันกลับมาอีกที ลูกค้าเก่าบอกว่าเราเปลี่ยนไป เลยย้ายหนีไปแล้ว

ถนัดงานศิลปะ ไม่ถนัดงานด้านตลาด
แทนที่จะหาคนมาช่วย ก็มัวไปฝึกการตลาดเอง จะเอาให้ได้
สุดท้ายเลยแย่ทั้งศิลปะและการตลาด

เรื่องแบบนี้มีให้เห็นมานานครับ และจะยังมีให้เห็นต่อไป
เพราะจะมีคนเพียง 20% เท่านั้นที่เข้าใจและใช้กฏข้อนี้
ในขณะที่คนอีก 80% ยังคงฝ่าฝืนกฎข้อนี้ต่อไป

157
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

25
ทำธุรกิจอย่างมี
ศิลปะ
คนที่ทำาศิลปะให้เป็นธุรกิจ
คนที่ทำาธุรกิจได้อย่างมีศิลปะ
ในโลกนี้่เห็นจะไม่มีใครเกิน
สตีฟ จ็อบส์

158
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เคยดูหนังเรื่อง Jobs มั้ยครับ
ตัวหนังดูแล้วผมเฉย ๆ เพราะมันค่อนข้างราบเรียบไปหน่อย
แต่ผมกลับเห็นอะไรบางอย่างระหว่างดู

ไม่นับเรื่องว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี
ทำาถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง
ผมว่าจ็อบส์ในหนังเรื่องนี้
แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของคนที่จะเป็น
“เจ้าของธุรกิจที่ยิ่งใหญ่”

ว่ากันตั้งแต่เขาไม่พอใจในสิ่งที่โลกนี้มีอยู่
เขามีทักษะในการค้าขายด้วยการเป็นพ่อค้าคนกลาง
เขาหาคนที่หลงใหลในงานมาทำางานให้

159
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ในขณะที่คนอื่นเห็นว่าเป็นขยะ
แต่เขาเห็นว่าเป็นโอกาสทอง

เขามองเห็นช่องว่างทางการตลาด
แทนที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
เขากลับสร้างความต้องการของผู้บริโภคขึ้นมาเอง
“ผู้คนจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องการอะไร ถ้าเขายังไม่รู้ว่ามันมีอยู่”
นี่คือประโยคคมคายจากชายคนนี้

160
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เขารู้จักการสร้างแบรนด์ด้วยการตั้งชื่อบริษัทง่าย ๆ ว่าแอปเปิ้ล
ผลไม้ที่เป็นจุดกำาเนิดของมวลมนุษยชาติ

เขารู้จักดิ้นรนหาแหล่งเงินทุน
เขารู้จักขายฝัน
เขามีความมั่นใจเต็มร้อยว่าถือไพ่เหนือกว่าคนที่จะให้ทุน
ทั้งที่ถ้าเปิดไพ่ดู ไพ่เขาบอดสนิท

เขาพูดต่อหน้าสาธารณะเป็น ดึงความสนใจคนอยู่
เขารู้จักจ้างคนมาทำางานให้ นั่นคือการสร้าง Leverage
เขาเห็นภาพอนาคต ทั้ง ๆ ที่บริษัทยังตั้งอยู่ในโรงรถอยู่เลย
เขาเป็นหัวหน้าที่เด็ดขาด ไม่กลัวลูกน้องเกลียด
จริงจังต่อวิสัยทัศน์และเป้าหมายของบริษัท

161
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
สุดท้ายก็อย่างที่รู้
บริษัทของเขามีมูลค่ามหาศาลในตลาดหลักทรัพย์
สินค้าของบริษัทเขามีคนต่อแถวรอซื้อ
พอรุ่นใหม่ออกมา เปิดตัวสินค้าทีนึง คนเฝ้ารอกันทั้งโลก

บางทีผมเองก็ไม่แน่ใจว่า
เขาเป็นศิลปินที่ทำาธุรกิจ
หรือเป็นนักธุรกิจที่ทำางานศิลปะกันแน่?

แต่ประเด็นที่ผมอยากจะสื่อก็คือ
การเป็นเจ้าของธุรกิจมันไม่ง่ายอย่างที่คนรุ่นใหม่ ๆ คิด

ทักษะทางธุรกิจของจ็อบส์แบบที่ผมว่ามา
ขายของเก่ง หาคนเจ๋ง ๆ มาทำางานให้
รู้จักหาแหล่งเงินทุน รู้จักขายฝัน
เห็นช่องว่างการตลาด
สร้างความต้องการของผู้บริโภคขึ้นมาเอง
มีความมั่นใจ เป็นผู้นำา
มีเป้าหมายและมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน

คุณสมบัติเหล่านี้เรามีแล้วหรือยัง?

162
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
อยากเก่ง อยากรวย อยากดัง อยากยิ่งใหญ่
แต่ไม่อยากฝึกทักษะเหล่านี้
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

บางคนอาจจะบอก
จะมาพูดความจริงอะไรพวกนี้ทำาไมเนี่ย
ดูสิทำาลายความฝันหมดเลย
งั้นก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ
เพราะผมน่ะ “นักทำาลายฝันกลางวัน” เลย

หลายคนเริ่มธุรกิจด้วยความฝันที่สวยงาม
แต่กลับจบลงด้วยความจริงที่เจ็บปวด
เพราะขาดทักษะเหล่านี้
ผมเลยต้องรีบดับฝันไว้ก่อน

ยอมเริ่มต้นด้วยความจริงที่เจ็บหน่อย
แต่ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ เรียนรู้
สุดท้ายจะได้ความฝันที่สวยงามมาครอบครองครับ

163
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

26
ลงทุนให้ความรู้ให้กับ
ตัวเอง
เดือนนี้คุณจ่ายค่าเล่าเรียนไปเท่าไหร่ครับ?

164
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
คนที่เรียนจบมานานแล้ว
เจอคำาถามนี้เข้าไป ผมว่าเกิดอาการงงแน่นอน
เพราะเราคิดว่าการเรียนมันเป็นเรื่องของเด็ก
ผู้ใหญ่ทำางานแล้ว จะต้องไปเรียนอะไรกันอีก

ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดมหันต์!

ผมเห็นคนรอบ ๆ ตัวที่ผมรู้จัก
เขาเหล่านี้ “เรียน” กันแบบไม่มีเหนื่อย
บางคนราวกับกินหนังสือเป็นอาหาร สั่งซื้อจากเมืองนอกมาเป็นตั้ง ๆ
บางคนข้ามนำ้าข้ามทะเลไปเรียนคอร์สแพง ๆ
คนเหล่านี้คือคนที่ทำารายได้มากกว่าคนทั่วไปสิบเท่าหรือมากกว่า

165
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผมรู้ บางคนคิดแบบนี้
ใช่สิ ก็คนพวกนี้รายได้เยอะไง ก็เลยจ่ายค่าเรียนพวกนี้ได้
ส่วนฉันเงินเดือนยังแทบไม่พอใช้
แล้วจะให้ไปจ่ายค่าหนังสือ ค่าสัมมนาเนี่ยนะ?

ไม่อยากจะบอกว่า ก็นั่นล่ะครับ
ที่เงินเดือนไม่พอใช้ เพราะไม่ยอมลงทุนให้ความรู้กับตัวเอง

ถามว่าเดือนนึงหาเงินมาได้ เราจ่ายค่าอะไรบ้าง?
ซื้อเสื้อผ้า ดูหนัง ซื้อป๊อปคอร์น กินข้าวในห้าง เก็บตังค์ไว้เที่ยว
แล้วตรงไหนเอ่ยคือค่าเรียน?

อยู่ดี ๆ คนเราฉลาดขึ้นมาไม่ได้หรอกครับ
เราต้องเรียนรู้

166
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ตอนเด็ก ๆ พ่อแม่จ่ายค่าเล่าเรียนให้
วันนี้ เราต้องจ่ายเองแล้วล่ะครับ

มีหนทางมากมาย สำาคัญคือคุณต้องเรียน
ถ้าไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องจ่ายเป็น “เวลา” ที่จะสนใจเรียน

แต่ถ้ามีตังค์ จงจ่ายเพื่อลงทุนในตัวเอง
ยังไม่ต้องทำาเท่ไปลงทุนในหุ้น ในคอนโด ในทองคำา
หรือในอะไรที่คุณจะได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุน

167
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ลงทุนให้ความรู้กับตัวเองเป็นอันดับแรก
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดครับ

นานมาแล้ว ระหว่างที่ผมขึ้นเวทีเสวนา
มีคำาถามจากคนฟังถามผมขึ้นมาว่า
ทำาไมคนสำาเร็จไม่บอกเคล็ดลับความสำาเร็จฟรี ๆ ไปเลย
ทำาไมต้องขายหนังสือ ต้องคิดค่าสัมมนา
ทำาไมไม่จัดฟรี แจกฟรีไปเลย

ผมว่าเป็นคำาถามที่น่าสนใจ
และสมควรจะนำามาเล่าให้ฟังอีกครั้ง

สมัยที่ผมยังเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย
ตอนนั้นใกล้จะสอบเอ็นทรานซ์แล้ว เลยต้องอ่านหนังสือหนัก
ยิ่งผมสอบเทียบด้วย ยิ่งต้องอ่านหนักกว่าปกติ
ทั้งที่เอาเข้าจริงก็ขี้เกียจนิดหน่อย
แต่ผมก็รู้ว่าถ้าสอบเทียบได้ จะประหยัดเวลาไปเป็นปี
ผมจะจัดการกับความขี้เกียจอย่างไรดีล่ะ?

168
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
วันนั้นสิ่งที่ผมทำาก็คือ ผมบอกกับแม่ว่า
“แม่ไม่ต้องซื้อหนังสือรวมข้อสอบย้อนหลังให้ผมหรอก
ผมจะเอาเงินเก็บของผมไปซื้อเอง”

ผมหมดเงินซื้อหนังสือไปหลายร้อยบาท
ซึ่งถือเป็นเงินเยอะมากสำาหรับผมในตอนนั้น
แต่สิ่งที่ได้คืนกลับมาก็ได้
“เอาวะ! เสียเงินไปแล้ว ต้องอ่านให้สอบติด”

169
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผลลัพธ์ก็คือ ผมสอบเทียบติดวิศวะ จุฬา
เงินไม่กี่ร้อยที่ลงไปนั้น คุ้มค่าจริง ๆ

เล่าเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงตัวผมในปัจจุบัน
วันก่อนผมเพิ่งจะจ่ายเงินเป็นจำานวนเงินเกือบแสนบาท
เพื่อดูสัมมนาออนไลน์ของต่างประเทศที่มีให้ดูเป็นสิบ ๆ ตอน
คุณรู้มั้ยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมคืออะไร?
ครับ! ผมนั่งดูสัมมนาทุกวันเลย เดี๋ยวไม่คุ้ม ฮ่าๆๆ

โทนี่ ร็อบบินส์ บอกไว้นานแล้วว่า


“When you pay , you pay ATTENTION”
แปลว่า ถ้าคุณจ่ายเงิน คุณจะตั้งใจเป็นพิเศษ

170
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
คำาตอบของคำาถามที่จั่วหัวไว้
จึงคือเรื่องราวทั้งหมดที่ผมเขียนมา
ของฟรีไม่ค่อยมีค่าในสายตาเราหรอกครับ

เคยได้หนังสือแจกฟรี แล้วทิ้งไปมั้ยครับ
เคยได้ตั๋วฟรี แล้วไม่ไปดูมั้ยครับ
นั่นล่ะครับ ของฟรีไม่ค่อยมีค่า

เอาเข้าจริง สัมมนาฟรี ความรู้ฟรีก็มีเยอะนะครับ


ถ้าหาดูดี ๆ นั่งฟังฟรีทั้งชีวิตนี้ก็ยังไม่หมด
แต่ก็นั่นแหละครับ บางทีมันก็เป็นข้ออ้างของความไม่สำาเร็จ
ว่าทำาไมไม่แจกฟรีไปเล้ย ถ้าแจกฟรี ฉันสำาเร็จแน่

171
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดลับความสำาเร็จที่ผมจะแบ่งปัน
ตอนท้ายบทความนี้ก็คือ
ถ้าอยากประสบความสำาเร็จเรื่องอะไร
ให้ “จ่าย” ให้กับเรื่องนั้น

ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว
แต่หมายถึงจ่ายเรื่องความตั้งใจและเวลา
ด้วยครับ

และเมื่อคุณจ่ายมากพอ
ความสำาเร็จจะมาหาคุณเอง

172
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
173
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

27
ใช้เวลาหลังเลิกงาน
สร้างชีวิต
8 ชั่วโมงที่ทำางานในออฟฟิศ
ทำาให้เราอยู่รอดไปได้หนึ่งเดือน
แต่เวลาหลังจากเลิกงานที่แต่ละคนเอาไปใช้
นั่นคือเวลาที่ใช้เปลี่ยนชีวิตเรา

174
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ด้วยความเคารพในทุกอาชีพ
แต่มันคือความจริงที่อาจจี้ใจดำา
งานประจำาเปลี่ยนชีวิตได้ยาก
เพราะมันถูกออกแบบมาให้มั่นคงเกินไป
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดจึงหายไปหมด
อีกอย่าง ถ้าไม่หลอกตัวเอง
เพดานงานประจำามันจำากัด

175
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ไม่วันใดก็วันนึง
ทุกคนอยากเป็นเจ้าของอะไรบางอย่าง
ลองถามคนที่ชีวิตเปลี่ยนดูสิครับ
ร้อยละ 99% ล้วนชีวิตเปลี่ยน
เพราะทำาอะไรบางอย่าง “หลังเลิกงาน”

รับงานนอก ทำาของขาย ทำาเครือข่าย ขายประกัน


ลงทุนตลาดทุน ศึกษาภาษา พัฒนาตัวเอง ขายของออนไลน์
อื่น ๆ อีกมากมาย

ผมไม่ใช่ชวนลาออก ไม่ได้บอกงานประจำาไม่ดี
แต่เราน่าจะทำาอะไรเพิ่มหลังจากที่งาน “เลี้ยงชีวิต” จบครบ 8 ชั่วโมง
เพราะเวลาหลังจากเลิกงานที่แต่ละคนเอาไปใช้
คือเวลาที่ใช้ “เปลี่ยนชีวิต” ของเราครับ

176
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
177
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

28 ต่างฝ่ายต่าง
พึ่งพา
อย่าเป็นวงกลมที่อยู่ในวงกลมของคนอื่น

178
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าคนหนึ่งคน เปรียบเหมือนวงกลมหนึ่งวง
ทุกคนก็เหมือนวงกลมที่สวนกันไปมา
บางคนวงกลมเล็ก บางคนวงกลมใหญ่

เมื่อผ่านมารู้จัก ทักทาย สนิทสนม


วงกลมของเราก็เริ่มมีบางส่วนที่ทับซ้อนกัน
แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

ปัญหาก็คือ บางคนกลับทำาตัวเล็กลีบ
เข้าไปเป็นวงกลมเล็ก ๆ ในวงกลมของอีกคน
ให้วงกลมของคนอื่น ครอบคลุมวงกลมของเราทั้งหมด
ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

179
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
บางคนอาจจะนึกไม่ออกว่าผมกำาลังพูดถึงอะไร?

บริษัทที่ฝากอนาคตไว้กับผู้บริหารเพียงคนเดียว
พนักงานที่ฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้กับบริษัท
บริษัทที่มีลูกค้ารายใหญ่รายเดียว
หรือแม่บ้านที่ฝากชีวิตไว้กับสามีที่ทำางานคนเดียว
เหล่านี้คือตัวอย่างของการเอาวงกลมของเรา
เข้าไปอยู่ในวงกลมคนอื่นทั้งวง

อันความสัมพันธ์นั้น
มันมีได้ทั้งแบบ “ต่างฝ่ายต่างพึ่งพา”
และแบบ “พึ่งพิงอีกฝ่ายเพียงฝ่ายเดียวจนแทบจะล้มทับ”

แบบแรกคือวงกลมสองวงที่มาซ้อนกัน
ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ซึ่งกัน ต่างพึ่งซึ่งกัน
แบบที่สองคือวงกลมเล็กที่อยู่ในวงกลมใหญ่
วงกลมเล็กอาจอุ่นใจ แต่ก็เสี่ยงแบบไม่รู้ตัว

ส่วนวงกลมใหญ่เอาเข้าจริงก็อาจจะอึดอัด
ที่ต้องเป็นที่พึ่งของวงกลมเล็กตลอดเวลา

ส่วนตัวผมคิดว่าความสัมพันธ์ที่จะยืนยาวได้นั้น
ระดับของสองฝ่ายต้องเท่า ๆ กัน
นั่นคือต้องไม่มีใครรู้สึกว่าถูกพึ่งพิงมากจนเกินไป
ไม่อย่างนั้นเพียงไม่นาน ความสัมพันธ์อาจล้มพังพาบได้

180
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
อย่าเป็นวงกลมที่อยู่ในวงกลมของใคร
แต่จงเป็นวงกลมที่ซ้อนทับกันบางส่วน
อย่าทำาตัวเป็นวงกลมเล็กลีบ
แต่จงขยายวงกลมของเราออกไป
เพื่อพบกับวงกลมวงใหม่ ๆ
ที่จะมาซ้อนทับกันกับเราอีกบางส่วน

แล้วเราจะรู้สึกควบคุมชีวิตได้
แล้วเราจะไม่เอาชีวิตไปอยู่บนความเสี่ยง
แล้วเราจะไม่รู้สึกว่าฝากชีวิตไว้ที่ใคร
เพราะชีวิตของเรา
ย่อมอยู่ในวงกลมของเราเองครับ

181
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

29
อย่าคิดว่าตัวเอง
เป็นลูกจ้าง
ทัศนคติที่เรามีต่อนายจ้าง
คือเรื่องสำาคัญมากๆ
มันมีผลต่อการวางตัว
และคุณภาพในการทำางาน

182
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
จะว่าไปแล้วผมก็เป็นลูกจ้างมาทั้งชีวิต ไม่ว่าจะประจำาหรือไม่ประจำา
อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยคิดว่าผมเป็นหนี้บุญคุณนายจ้าง
จนต้องไปพินอบพิเทา เอาอกเอาใจ
(แต่ไม่ใช่หมายถึงผมไม่มีนำ้าใจนะ
เทศกาลงานต่าง ๆ ก็ยังมีของขวัญให้กัน)

ผมคิดว่าเราต่างเป็นหนี้บุญคุณกันและกันต่างหาก
นายจ้างให้ค่าจ้าง เราให้ความสามารถ
เราแลกเปลี่ยนกัน ไม่ได้ขอหรือให้กันฟรี ๆ

ด้วยทัศนคติแบบนี้ ผมจึงคิดว่าผมอยู่ในระนาบเดียวกับนายจ้าง
ไม่รู้สึกว่าใครสูงหรือตำ่ากว่า แต่ก็ยังให้เกียรติกันและกัน

183
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ตรงกันข้าม ผมเห็นหลายคนมีทัศนคติที่ว่า
เราเป็นหนี้บุญคุณนายจ้าง
ถ้าไม่มีเขาเราตายแน่
จะทำาอะไรก็อวยนายไปหมดทุกอย่าง
เป็นลูกกระจ๊อก ได้ครับพี่ ดีครับท่านไปวัน ๆ

แบบนั้นนอกจากจะแสดงว่า
ลึก ๆ คุณไม่แน่ใจในความสามารถของตัวเองแล้ว

184
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
งานยังไม่น่าจะออกมามีคุณภาพด้วย
เพราะมัวแต่ทำาเอาใจนายให้พอผ่าน

ทั้งหมดที่เล่ามา
ไม่ได้หมายความว่าให้เนรคุณนายจ้าง
แต่อยากให้คิดว่าเราเพียงแต่ทำาหน้าที่
และบทบาทที่ต่างกัน

ครับ! เราต่างมีบุญคุณต่อกัน

185
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

30 มั่นใจในตัวเอง

สำาหรับคนที่ ไม่มั่นใจในตัวเอง
ผมคิดว่ามีความกลัวสองอย่างที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ
หนึ่ง ประหม่าเวลาต้องไปพบคนเก่ง
คนดัง คนใหญ่คนโต
สอง ประหม่ากลัวว่าตัวเอง
จะทำาอะไรผิดพลาด เสียหน้า

186
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ผมก็เคยเป็นแบบนี้ แต่พอพบวิธีแก้ หายขาดทันที
เลยเอามาแบ่งปัน เผื่อใครจะนำาไปใช้
เพราะการพบปะผู้คนด้วยความมั่นใจ
จะทำาให้เรามีแต่โอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตครับ

เวลาที่ผมต้องพบปะคนเก่ง ๆ คนดัง ๆ คนใหญ่คนโต


เมื่อก่อนผมกลัวมาก ตัวเราดูเล็กลงไปถนัดตา

แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ผมทำาก็คือ
“คิดว่าคนเหล่านี้ก็คือคนเหมือนเรา”
ถ้าไม่ได้กินข้าว เขาย่อมหิว
ถ้าปวดท้องส้วม เขาก็ต้องเข้าห้องนำ้า
ถ้าคนที่เขารักจากไป เขาย่อมเสียใจ

187
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
พอคิดได้แบบนี้
ตัวเขาที่เคยใหญ่ ตัวเราที่เคยเล็ก
ก็กลับมาตัวเท่ากันทันที
เพราะเราต่างก็คือคนเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นจะกลัวไปทำาไม?

หรืออย่างอาการประหม่าว่าตัวเองจะทำาอะไรผิดพลาด
พูดแล้วเปิ่น กลัวจะอายคนอื่น
เหมือนทุกคนจับจ้องมาที่เรา
เมื่อก่อนผมก็เคยเป็น

188
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ผมทำาก็คือ
“คิดว่าเราไม่ได้สำาคัญขนาดนั้นหรอก”
ถ้าเราจะทำาพลาด ทำาเปิ่นจริง จนคนเขานินทา เอาไปแซว
เชื่อสิ ไม่นานเขาก็ลืมแล้ว
เพราะทุกคนมีเรื่องใหม่ ๆ ที่ต้องนินทาอีกเยอะ
เรามันก็แค่เรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตของคนอื่นเท่านั้น
เราไม่ได้สำาคัญขนาดนั้นหรอก
เพราะไม่นานเราและคนอื่น ๆ ก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว

189
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
พอคิดได้แบบนี้
ตัวเราที่เคยคิดว่าสำาคัญ คิดว่ามีสปอตไลต์ส่องตาม
มีแต่คนสนใจจับจ้องนินทาเรา
ตัวเราก็ดูตัวเล็กลงไปถนัดตา
ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรที่เสียหน้าไม่ได้สักนิด

190
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ถ้าเห็นด้วยกับวิธีผมก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ
เพราะตัวเรา ตัวเขานั้น ใหญ่ ๆ เล็ก ๆ ไปตามจิตของเรา
แล้วแต่เราจะให้ค่าความสำาคัญ

ทั้งที่ความจริงแล้ว เราต่างตัวเท่ากัน
ไม่ใช่ตัวใหญ่เท่ากัน
ไม่ใช่ตัวเล็กเท่ากัน
แต่เราต่างไม่มีตัวตนเท่ากันต่างหากครับ

191
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

31
เตรียมพร้อม
อยู่เสมอ

“มั่นใจ” กับ “มั่นใจเกินไป”


ฟังดูคล้ายกัน
แต่เป็นสองอย่างที่ต่างกันสุดขั้ว

192
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
“มั่นใจ” แปลว่า “เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว”
ในขณะที่ มั่นใจ “เกินไป” กลับไม่ได้แปลว่า
เตรียมทุกอย่างไว้ “มากเกินไป”
แต่กลับแปลว่า “ประมาท จนไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย”

คำาถามก็คือ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า
เรา “มั่นใจ” หรือ “มั่นใจเกินไป”?
คำาตอบก็คือไอ้ตอนที่เราคิดว่า “แน่ที่สุด”
เราเตรียมแผนไว้ในกรณีที่ “แย่ที่สุด” แล้วหรือยังล่ะ?

193
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
และในหลายครั้ง
ผมคิดว่าพวกเราใช้ชีวิตแบบมั่นใจเกินไปหน่อย

ยกตัวอย่างเช่น
“คำาถามเรื่องเงิน” ที่เราไม่เคยถามตัวเอง ดังต่อไปนี้
ถ้าวันนี้ตกงานฉับพลัน
เราตอบได้มั้ยว่ามีเงินพอใช้ไปได้กี่เดือน?
ถ้าวันนี้เกิดอุบัติเหตุหรือป่วยกะทันหัน
เราตอบได้มั้ยว่ามีค่ารักษาพยาบาลรึเปล่า?

หรือถ้าวันนี้เราเป็นหัวหน้าครอบครัว
แล้วเกิดจากไปอย่างปัจจุบันทันด่วน
เราตอบตัวเองได้มั้ยว่ามีเงินทิ้งไว้ให้คนข้างหลังเท่าไหร่?
หรือถ้ายังไม่ตาย โชคดีอายุยืน
เราตอบตัวเองได้มั้ยว่าจะเอาเงินที่ไหนใช้ตอนแก่?

194
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
พูดแบบนี้แล้วเหมือนผมมาจากตัวแทนประกัน นักวางแผนการเงิน
แต่ผมถูกถามคำาถามนี้เสมอว่า
กล้าออกมาทำางานไม่ประจำาแบบนี้ มั่นใจมากไปหรือเปล่า?
และถึงไม่ถูกถาม ผมก็ต้องตอบตัวเองให้ได้อยู่ดี
โชคดีที่วันนี้ผมตอบตัวเองได้ เพราะผมเตรียมไว้หมดแล้ว

ผมคิดว่าที่หลายคนไม่ถามตัวเองด้วยคำาถามแบบนี้
ก็เพราะคำาตอบมัน “แทงใจดำา”

195
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
จริง ๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าถ้าตกงาน เราตายแน่
เพราะแค่มีเงินใช้เดือนชนเดือน
จริง ๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเราป่วยหนัก
เราต้องตายแน่ เพราะไม่มีค่ารักษา

จริง ๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเราตาย
คนข้างหลังต้องลำาบากแน่ เพราะเรามีแต่หนี้ทิ้งไว้ให้
จริง ๆ เรารู้อยู่แก่ใจว่าถ้าตอนเราแก่ ๆ
เราก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเอาเงินที่ไหนใช้

เราได้แต่คิดว่า มันคงไม่ใช่เราหรอก
ที่โชคร้ายตกงาน ที่โชคร้ายป่วยหนัก
ที่โชคร้ายตายไว หรือที่โชคร้ายไม่มีเงินใช้ตอนแก่

196
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
แต่คนโชคร้ายทุกคน
ก็เคยคิดเหมือนเรานั่นแหละ
ว่าฉันคงไม่โชคร้ายหรอก

ผมอาจจะชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไปหน่อย เลยแอบห่วงว่า
ถ้ามีเงินซื้อชุดสวย มือถือรุ่นใหม่ อาหารจานแพง เที่ยวเมืองนอก
ก็น่าจะแบ่งเงินมาจัดการกับ “ความมั่นใจเกินไป”
ว่าชีวิตคงไม่โชคร้าย

197
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ถ้ามีเงินเล่นหุ้น ลงทุนทอง
เพื่อได้บอกใคร ๆ แล้วดูเท่ว่าข้าคือนักลงทุน แต่ไม่มีเงินเก็บเลย
ก็น่าจะจัดการส่วนนี้ให้เรียบร้อยก่อน
ถึงมันจะไม่เท่ที่ต้องบอกใคร ๆ ว่าฉันแค่กำาลังเก็บเงิน

มีรายได้หลายทางสิครับ
เก็บเงินทุกเดือนก่อนเอาไปใช้สิครับ
มีเงินเก็บไว้ให้พอใช้หลาย ๆ เดือนสิครับ
ทำาประกันความเสี่ยงไว้สิครับ
เตรียมเก็บเงินไว้ใช้ยามป่วยยามแก่เฒ่าสิครับ

แล้วค่อยออกไปแตะขอบฟ้าด้วยความ “มั่นใจ”
“มั่นใจ” ที่ไม่ใช่ “มั่นใจเกินไป”

เมื่อเตรียมทุกอย่างในกรณีที่มัน “แย่ที่สุด” ไว้แล้ว


ก็ได้เวลาที่เราจะ “แน่ที่สุด” แล้วล่ะครับ

198
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
199
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

เตรียม
32 ทางเลือก
เผื่อไว้เป็นทางรอด

“เงินเดือนของเราคือรายจ่ายของบริษัท”
ถ้าเข้าใจประโยคนี้ ผมว่าเราจะหนาว
หนาวจนต้องเร่งพัฒนาตัวเอง
และตั้งอยู่บนความไม่ประมาท

200
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เงินเดือนนั้นให้ความมั่นคง แต่ก็ทำาให้หลายคนเฉื่อยชา
คนส่วนใหญ่หยุดพัฒนาความสามารถของตัวเองภายในไม่กี่ปี
ทั้งที่ความจริง เมื่อบริษัทจ่ายเงินเรา
สิ่งที่บริษัทคาดหวังก็คือ
“เราต้องทำารายได้ให้เขา มากกว่าที่เขาจ่ายเงินเดือนเรา”

มันไม่ใช่การเอาเปรียบ แต่มันคือความจริงของโลก
เพราะฉะนั้นใครที่ทำาตัวเป็นซอฟท์แวร์เก่า ๆ ไม่อัพเดทตัวเอง
ไม่นาน ก็ต้องถูกเลิกใช้ในที่สุด

และเพราะเงินเดือนนั้นให้ความมั่นคง
มันจึงยิ่งดับเบิ้ลความเสี่ยง
เพราะคนส่วนใหญ่ชอบคิดที่จะฝากชีวิตไว้กับบริษัท
เลยไม่หา “ทางเลือก” ที่จะเป็น “ทางรอด” เมื่อยามคับขัน

201
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ตอนเหตุการณ์ปกติดี ก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ
แต่ตอนที่เกิดวิกฤต คำาถามก็คือ
“ถ้าเราเป็นเจ้าของ เราจะเลือกทำาอะไร?”
คำาตอบคงไม่พ้น “ลดค่าใช้จ่าย”
และเงินเดือนของเราก็คือหนึ่งในค่าใช้จ่าย

202
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ในชีวิตผม มีอยู่สองครั้งที่ผมถูกเลิกจ้าง
เพราะบริษัทเกิดวิกฤต เลยต้องลดค่าใช้จ่าย

โชคยังดีที่ผมมีความสามารถหลากหลาย
และขุดบ่อไว้รอตั้งแต่ยังไม่หิวนำ้า มีรายได้หลายทาง
เลยรอดมาได้แบบหวุดหวิด
บางคนที่ร่วมชะตากรรมเดียวกับผม
จนป่านนี้ ผมไม่แน่ใจว่าชีวิตเขาลุกขึ้นได้หรือยัง

203
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
บริษัทไม่ผิดหรอกครับ เป็นใครก็ต้องทำาแบบนั้น
แต่เราต่างหากที่จะเตรียมตัวอย่างไรไว้ก่อน?

อยากจะง่อย ๆ ทำาอะไรไม่เป็นเลย ไม่มีความสามารถพิเศษ


หรือจะรีบพัฒนาทักษะต่าง ๆ ไปเรียนภาษาเพิ่ม
เรียนพูด เรียนเขียน นู่นนั่นนี่

อยากจะมีรายได้ทางเดียวคือเงินเดือน
หรือจะลงทุน จะหางานพิเศษทำาวันหยุดหรือหลังเลิกงาน
ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราทั้งนั้น

ความมั่นคงไม่ใช่อยู่ที่บริษัท
แต่ความมั่นคงอยู่ที่ตัวเรา

204
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
เมื่อวันที่บริษัทเกิดวิกฤต
เราและครอบครัวต้องไม่วิกฤตตามไปด้วย
ซึ่งทั้งหมดแก้ไขได้ด้วย
“การพัฒนาความสามารถตัวเอง” และ “ต้องมีรายได้หลายทาง”

“เงินเดือนของเราคือรายจ่ายของบริษัท”
ต่อให้อากาศร้อน ๆ แบบนี้
แต่ถ้าใครมัวชะล่าใจ ระวังจะหนาวนะครับ

205
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

33 อยากได้ต้อง
กล้าเสี่ยง
วันก่อนรุ่นพี่ผมคนนึงโทรมา
เราไม่เคยเจอกันมายี่สิบปีแล้ว
ก็เลยได้อัพเดทชีวิตกัน

206
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ปรากฏว่ารุ่นพี่คนนี้ไปทำากิจการร้านอาหารจนโด่งดัง
แถมยังไปเปิดโรงงานทำาเฟอร์นิเจอร์กับรุ่นน้องอีกคนที่ผมก็รู้จัก
สรุปว่าทุกอย่างไปได้สวย

เมื่อได้รู้อย่างนั้น ผมก็ยินดีด้วยปนกับอาการทึ่งเล็กน้อย
เพราะสมัยเรียน ภาพของรุ่นพี่คนนี้ออกจะสำามะเลเทเมา
ส่วนรุ่นน้องที่เปิดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ยิ่งแล้วใหญ่
เพราะสมัยเรียนเป็นขี้เมาระดับชาติ
แต่วันนี้กลับเป็นถึงเจ้าของกิจการ

207
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เรื่องนี้ทำาให้ผมนึกไปถึงเมื่อตอนต้นปี
รุ่นน้องกลุ่มนึงชวนผมไปงานเลี้ยงปีใหม่ของวิศวะ

วันนั้นมีคนมากันประมาณ 40-50 คนได้


รวมรุ่นตั้งแต่ที่จบไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วจนถึงรุ่นปัจจุบัน
จะเรียกว่ารวมระดับมันสมองของประเทศก็พอไหว
เพราะแต่ละคนเรียนเก่ง ๆ กันทั้งนั้น
และมีตำาแหน่งดี ๆ ในบริษัทยักษ์ใหญ่

208
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ช่วงใกล้งานเลิก ผมยืนคุยกับรุ่นพี่คนนึง
เราตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่า “ทำาไมคนเก่ง ๆ ถึงมีอาชีพเป็นลูกจ้าง?”

เพราะนอกจากผมซึ่งทำาอาชีพอิสระ
กับรุ่นพี่คนนี้ซึ่งขายเฟอร์นิเจอร์สุดหรู มีตึกให้เช่า
ใน 40-50 คนนั้นเป็นพนักงานกินเงินเดือนทั้งหมด

เปล่านะครับ
ผมไม่ได้จะบอกว่าอาชีพอิสระหรือเจ้าของกิจการเหนือกว่าลูกจ้าง
เพียงแต่นั่นคือข้อสังเกตที่ผมกับรุ่นพี่ตั้งเป็นคำาถามว่า
“ทำาไมคนเรียนเก่ง ไม่กล้าออกนอกกรอบ?”

209
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
วันนั้นผมแชร์ไอเดียไปว่า
“เพราะคนเรียนเก่งจบมาได้งานดี เงินดี มั่นคง
ก็เลยยากที่จะยอมเปลี่ยนไปทำาอะไรใหม่ ๆ
อารมณ์ประมาณเสียดาย เพราะงานที่ทำาอยู่ก็ดีอยู่แล้ว”

ส่วนรุ่นพี่ผมที่มีกิจการร้อยล้านบอกว่า
“คนเรียนเก่งไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าคิดนอกกรอบ
ส่วนคนเรียนไม่เก่ง ไม่มีอะไรจะเสีย เลยกล้าคิดอะไรใหม่ ๆ”

เขียนมาอย่างนี้ไม่ได้จะชวนให้ทุกคน
“เฮ้ย งั้นอย่าเก่งเลย อย่าตั้งใจเรียน เดี๋ยวจะอดเป็นเจ้าของกิจการ”
เพราะคนไม่เก่งที่ล้มเหลวก็มีถมเถไป

210
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ผมว่าประเด็นอยู่ที่
“ทำาอย่างไรคนเรียนเก่งจะกล้าคิดนอกกรอบ?”
และ “ถ้าเราเรียนไม่เก่ง เราจะเปลี่ยนจุดอ่อนเป็นจุดแข็งอย่างไร?”
เพราะถ้าทำาได้แบบนั้น มันจะเหมือนจรวดติดเทอร์โบ

ถ้าวันนี้คุณเรียนไม่เก่ง
มันย่อมไม่ใช่ข้ออ้างว่าจะทำาให้คุณไม่สำาเร็จในชีวิต
ถ้าวันนี้คุณเรียนเก่ง
ก็ย่อมไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่กล้าออกมาทำาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต

อย่าให้กรอบของการศึกษามาครอบความคิดเรา
เพราะเมื่อเรียนจบแล้ว เราต้องทิ้งแทบทุกอย่าง
แล้วเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่อีกครั้ง ในมหาวิทยาลัยที่ชื่อว่า
“มหาวิทยาลัยชีวิต”

ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ
แต่ทุกคนต้องเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง
ผมเชื่ออย่างนั้นครับ

211
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

34รู้จักมอบอำนาจ
ให้ผู้อื่น
แรกเริ่มเราจะฝากความฝันไว้ ในมือคนอื่น
ด้วยการเป็นลูกจ้าง
เราไม่ค่อยได้คิดอะไรกับชีวิตเท่าไหร่
แต่ละเดือน แต่ละปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

212
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ต่อมาเราจะเริ่มคิดถึงชีวิตและอนาคต
เราจะอยากลาออกมาทำาความฝันด้วยมือตัวเอง
หลายคนจึงออกมาทำางานอิสระ เป็นนายตัวเอง
เปิดร้านกาแฟ ทำาขนมขาย ขายสินค้าออนไลน์
หรืออะไรก็ว่ากันไป

213
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้แหละครับ

จุดตายของคนทำางานอิสระ
หรือธุรกิจที่ทำาคนเดียวก็คือ
ไม่ค่อยไว้ใจใครว่าจะทำาได้ดีเท่าตนเอง
สรุปก็เลยทำาเองซะทุกอย่าง
มันเลยเหมือนต้นบอนไซที่โตได้เท่านั้น

214
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ผมคิดว่าเมื่อวันที่เราอยากเติบโตขึ้น
วันนั้นเราจะต้องย้อนกลับไป
ฝากความฝันไว้ในมือคนอื่นอีกครั้ง
ด้วยการเป็นเจ้าของกิจการที่เชื่อว่า
ลูกน้องของเรา “ทำาได้”

เพราะสองมือเราไม่อาจทำาคนเดียวได้ทุกอย่าง
ความเชื่อมั่นว่าคนอื่นก็ทำาได้ดีไม่แพ้เรา
จึงเป็นสิ่งที่แยกผู้ประกอบการขนาดเล็ก
กับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ออกจากกัน

215
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ความเชื่อมั่นที่เจ้าของกิจการมีต่อลูกน้องจึงสำาคัญมาก
การให้อำานาจลูกน้องแล้วให้แบบไม่สุด
ดึงกลับมาทำาหรือตัดสินใจเอง
จะทำาให้ธุรกิจนั้นไม่มีวันโต
และเจ้าของก็ไม่มีวันหายเหนื่อย

และแน่นอนครับว่าลูกน้องที่ได้อำานาจมาแล้ว
ก็ไม่ควรทำาให้เจ้านายผิดหวัง ในฐานะที่อุตส่าห์วางใจ

216
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ต้นไม้ที่อยากโต ต้องเอามาออกนอกกระถาง
นั่นเป็นเรื่องที่ถูกแล้วครับ
แต่ต้นไม้ที่อยากโตไปไกลกว่านั้น
เราต้องกระจายเมล็ดพันธ์ุ
และต้องเชื่อว่าเมล็ดนั้น
จะงอกงามออกมาสวยไม่แพ้ต้นแม่ของมัน

217
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

35
ระมัดระวังในการ
ตั้งบริษัท
ผมเริ่มจากการทำางานอิสระ
จากนั้นก็มาทำางานประจำา
จากนั้นก็มาทำางานไม่ประจำา
แล้วในที่สุดก็เปิดบริษัทของตัวเอง
มันเป็นบริษัทเล็ก ๆ
ในแบบของผมที่ทำากำาไรไม่เล็ก

218
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ในช่วงเปิดบริษัทใหม่ ๆ
ผมได้เรียนรู้ทั้งจากหนังสือและประสบการณ์ของคนอื่น
ว่าการเปิดบริษัทนั้นไม่ยาก
แต่การจะทำาให้บริษัทอยู่รอดและมีกำาไรนั้นไม่ง่าย

และบรรทัดต่อไปนี้
ผมรวบรวมออกมาได้เป็น
“หายนะ 10 ข้อที่ทำาให้ธุรกิจส่วนตัวไม่ประสบความสำาเร็จ”
เพื่อที่อยากให้ใครก็ตามที่ออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง
ไม่เดินก้าวพลาดเหมือนหลาย ๆ คนที่ล้มลง
และไม่มีโอกาสออกมาเขียนหนังสือบอกคุณแบบนี้

219
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
220
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
หายนะ 10 ข้อที่ท�าให้ธุรกิจส่วนตัวไม่ส�าเร็จ
1. เริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำาสิ่งที่ถนัด
แต่ลืมคิดว่าจะขายสิ่งนั้นยังไง? ที่ไหน?
มีคนต้องการจริงมั้ย?

2. ทำาทุกอย่างด้วยตัวเอง
เพราะอยากประหยัดค่าใช้จ่าย
จึงไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องสำาคัญ

3. จับคนถนัดเหมือน ๆ กันมารวมกันตั้งบริษัท
แทนที่จะเอาคนถนัดคนละด้านมารวมกัน

4. ไม่มีคอนเน็คชั่น
หรือเคยมีแล้วก็ไม่รู้จักขยายคอนเน็คชั่น
จนค่อย ๆ หดหายไปในที่สุด

5. ไม่มีความสามารถในการขาย
ขึ้นชื่อว่าธุรกิจ เราต้องขายให้เป็น
ยังไงคุณก็หนีไม่พ้น

221
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
6. ยังติดนิสัยคิดแบบลูกจ้าง
ยังไม่เข้าควบคุมชีวิตตัวเอง 100%
ทั้งที่เวทีนี้เราต้องผิดชอบเอง 100%

7. มีต้นทุนคงที่สูง เพราะหน้าใหญ่ใจโต
เช่าร้านสวย แต่แพง จ้างพนักงานเยอะ ๆ มาตบยุงเล่น

8. เข้าใจผิดว่าชอบกินกาแฟกับชอบเปิดร้านกาแฟเหมือนกัน
พอเปิดร้านแล้วจึงได้รู้ว่าไม่เหมือนกัน
(ร้านกาแฟเป็นแค่ตัวอย่างครับ ปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ)

222
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
9. ขายสินค้าหรือบริการพื้น ๆ ไม่แตกต่าง
หาที่ไหนก็ได้ ยุคนี้ใครไม่สร้างแบรนด์
ระวังโดนเหยียบแบน

10. ไม่ใส่ใจเรื่องบัญชี
ตัวเลขรายจับรายจ่าย รวมทั้งเรื่องภาษี
รูรั่วเล็ก ๆ ก็จมเรือใหญ่ได้

223
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

36
ทำงานที่ตอบโจทย์
โลกยุคใหม่
ในชีวิตนี้ ผมผ่านงานมาจำานวนหนึ่ง
ทั้งงานประจำาและงานไม่ประจำา
ได้เห็นคนหนุ่มสาวเรียนจบสูงไม่มีงานทำา
ได้เห็นคนตกงานตอนแก่

224
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ได้เคยถูกเลิกจ้าง
ได้เคยมีเงินเยอะ
ได้เคยไม่มีเงินเลย
ได้เห็นการล่มสลายของอาชีพที่ครั้งนึงรุ่งเรือง
และได้เห็นความรุ่งเรืองของอาชีพที่ถูกมองข้าม

และต่อไปนี้คือ 10 คุณสมบัติที่ดีของ “อาชีพ” ในศตวรรษที่ 21


ในทัศนะของผมเองล้วน ๆ ที่ผมจะเก็บไว้สอนลูกสาว
ว่าถ้าเธอจะเลือกอาชีพ
ขอให้มีคุณสมบัติ 10 ข้อนี้ให้ได้มากที่สุด

แต่กว่าลูกผมจะโตก็อีกหลายปี เลยแอบเอามาแบ่งปันกันก่อน
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับสาธารณะ
ยำ้าอีกทีว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

อ้อ! และมันไม่ใช่คุณสมบัติงานในฝันที่ไม่มีอยู่จริง
เพราะงานที่ผมทำาตอบโจทย์นี้ทุกข้อครับ

225
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
10 คุณสมบัติที่ดีของ “อาชีพ”
ในศตวรรษที่ 21
1. เป็นงานที่ใช้ทักษะที่ยืดหยุ่น เอาไปปรับใช้ได้หลายอาชีพ
2. ปลดระวางง่าย ๆ
3. ทำาที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ออฟฟิศไม่ต้องเข้า
4. วัดผลสำาเร็จจากเนื้องาน ไม่ใช่เวลาที่ใช้ไป
5. เป็นงานที่พึ่งระบบ พึ่งตัวเราได้บ้าง แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา

226
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
6. ใช้เวลาน้อย แต่ผลตอบแทนมาก
7. หรือถ้าใช้เวลามากหน่อย ก็ต้องเป็น
passive income
8. ได้พบปะผู้คนหลากหลาย ได้เดินทางบ้าง
ได้อยู่บ้านบ้าง
9. มีขั้นตอน มีผู้คนข้องเกี่ยวน้อยที่สุด
ใช้โลกออนไลน์ให้เป็นประโยชน์
10. เป็นงานที่เปลี่ยนชีวิตผู้คน เปลี่ยนโลก
สร้างความภาคภูมิใจให้ตัวเอง

งานที่คุณทำาอยู่ มีคุณสมบัติข้อไหนบ้างครับ?

227
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เคล็ดวิชาที่

37 หยุดวิ่งไล่ล่า
หาเงิน
หยุดวิ่งไล่ล่าหาเงิน
จากนั้นพัฒนาตัวเอง
เรื่องอะไรบ้างที่เราต้องเก่ง?
ถามตัวเองด้วยคำาถามนี้
เรียนรู้ แล้วลงมือทำา

228
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
ไม่นาน เงินจะวิ่งไล่ล่าหาเรา
จะหนียังไงก็หนีไม่พ้น
เราจะกินไม่ไหว ใช้ไม่หมด ทั้งอนาคตและปัจจุบัน

คำาว่า “หยุดวิ่งไล่ล่าหาเงิน”
ผมไม่ได้หมายถึงให้เลิกทำางาน
แต่ให้เลิกใช้ “เงิน” นำาทาง
เพราะไม่อย่างนั้น เราจะหลงทางในที่สุด
เราจะหลงไปทำาอะไรก็ได้ที่ได้เงิน

229
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
โดยลืมคิดไปว่า
เราไม่มีทางวิ่งไล่ล่าหาเงินไปได้ตลอดชีวิต

เราต้องหยุด หยุดเพื่อคิด
คิดว่าทำาอย่างไร “จะให้เงินเป็นฝ่ายไล่ล่าเรา?”

คำาตอบคือ
เงินจะวิ่งมาหาคนที่คู่ควรกับมัน
เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีเงินล้าน
ก็ทำาตัวให้คู่ควรกับเงินล้านสิครับ

230
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
อย่าบอกนะว่าไม่รู้ต้องทำาอย่างไรถึงจะคู่ควรเงินล้าน
เพราะไม่เคยมียุคไหนที่คนสำาเร็จ
จะออกมาแชร์เคล็ดลับความสำาเร็จเยอะเท่ายุคนี้
หนังสือ คลิปวิดีโอ สัมมนา มีบอกไว้หมด
อยู่ที่เราจะเริ่มพัฒนาตัวเองหรือยัง?

คนธรรมดาวิ่งไล่ล่าหาเงิน
คนสำาเร็จให้เงินวิ่งไล่ล่าแทน
เข้าใจตรงกันนะครับว่าเราต้องเป็นคนแบบไหน?

แล้วพบกันบนท้องฟ้า
บนนั้นรถไม่ติดครับ

231
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ประวัติผู้เขียน

วิสูตร แสงอรุณเลิศ
(บอย)

232
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
 คือเจ้าของแฟนเพจ Boy’s Thought ที่มีคนติดตามนับแสน
 คือเจ้าของบทความ “20 ข้อที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40”
ที่มีคนอ่านและแชร์นับล้านครั้ง
 คือนักเขียน Bestseller เจ้าของหนังสือขายดีในแนวพัฒนาตนเอง
จำาหน่ายไปแล้วเกินแสนเล่ม
 คือผู้เขียนหนังสือระดับปรากฏการณ์อย่าง “งานไม่ประจำา ทำาเงินกว่า”
และ “หนังยางล้างใจ”
 คือผู้เขียนหนังสือขายดีอันดับ 1 อย่าง “อิสระเรา ราคาเท่าไหร่?”
และ “มองไกลบนไหล่ยักษ์”
 คือบรรณาธิการเบื้องหลังความสำาเร็จของหนังสือ Bestseller หลายเล่ม
ให้กับ สนพ.Stock2morrow
 คือวิทยากรให้กับบริษัทชั้นนำา อาทิ pttgc, SCG, AIA, Toyota, ISUZU,
Dupont , L’Oréal, Shell
 คือวิทยากรที่ขึ้นเวทีใหญ่ต่อหน้าผู้คนมาแล้วนับพัน
 คือวิทยากรที่จัดสัมมนา “เขียนไม่กี่คำา ทำาเงินกว่า” คอร์สสอนเขียน
ที่มีผู้เรียนแล้วนับพันคน
 คือนักแต่งเพลงที่เขียนเพลงมาแล้วเป็นร้อยเพลง อาทิ จากคนรักเก่า
ปากไม่ตรงกับใจ
 คือผู้จุดกระแสการตั้งเป้าหมายให้ชีวิต (Goal Setting) โดยร่วมกับ
www.makeTHEdifference.org
 คือนักสร้างแรงบันดาลใจที่เปลี่ยนชีวิตผู้คนด้วยตัวหนังสือและคำาพูด
 ติดตามเขาได้ที่ www.boywisoot.com หรือ facebook fanpage :
Boy’s Thought
 ติดต่อสั่งซื้อสินค้า งานแต่งเพลง งานบรรยาย หรือสอบถามเรื่อง
คอร์สสัมมนา โทร. 091 793 9229

233
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ผลงานอื่น ๆ ของ
บอย วิสูตร

งานไม่ประจ�า ท�าเงินกว่า
หนังสือที่สร้างปรากฏการณ์ Bestseller ต่อเนื่อง
ยาวนานข้ามปี และกลายเป็นเทรนด์ของหนังสือ
คนรุ่นใหม่ ว่าด้วยทัศนคติของคนยุคนี้ที่ต้องการ
ทำางานอิสระ เป็นเจ้านายตัวเอง มาพร้อมกับ
อาร์ตเวิร์คสี่สีสวยงาม ภาษาสั้น กระชับ คมคาย
นี่คือหนังสือที่ บัณฑิต อึ้งรังษี บอกว่า “ผมน่าจะได้
อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ”

234
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
อิสระเรา ราคาเท่าไหร่
ภาคต่อของ “งานไม่ประจำา ทำาเงินกว่า” ที่คมคายไม่แพ้
เล่มแรก กับเนื้อหาและอาร์ตเวิร์คที่เด็ดขาด สีสันจัดจ้าน
กว่าเดิม หนังสือเล่มนี้ชวนคุณตั้งคำาถามถึงราคาของ
อิสรภาพ แต่ไม่ได้ชวนลาออกจากงานประจำาแบบ
สุ่มสี่สุ่มห้า แต่ถามคุณด้วยคำาถามตรงไปตรงมาว่า
“วันนี้คุณพัฒนาตัวเองแล้วหรือยัง?”

235
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
หนังยางล้างใจ
หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตผู้คนมาแล้วมากมาย กับหนังยางเพียง
หนึ่งเส้นและภารกิจที่ท้าทายตลอด 21 วัน ในเล่มว่าด้วย
ประสบการณ์จริงของผู้เขียนที่ผ่านช่วงชีวิตตกตำ่าในทุกด้าน
แต่กลับพลิกชีวิตขึ้นมาได้ด้วย “หนังยาง” บนข้อมือที่คอยมา
ล้างใจ นี่ไม่ใช่หนังสือที่มีไว้อ่านเล่น ๆ แต่มีไว้เปลี่ยนชีวิตของ
คุณ (แถมฟรี! หนังยาง 1 เส้น)

236
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
มองไกลบนไหล่ยักษ์
รวบรวม 36 ขั้นตอนที่จะทำาให้คุณขึ้นเป็น Top10% ของ
สายอาชีพ ไม่ว่าคุณจะทำางานอะไรอยู่ก็ตาม ความโดดเด่น
ของเล่มนี้อยู่ที่ workbook หรือสมุดแบบฝึกหัด เพื่อให้คุณ
ได้อ่าน แล้วลงมือเขียนตอบ เป็นคำาถามง่าย ๆ ที่คุณไม่เคย
ถามตัวเอง แต่ละคำาถามจะพาคุณค้นลึกลงไปถึงคุณค่า
ที่แท้จริงของชีวิต (แถมฟรี! สมุด Workbook)

237
วิสูตร แสงอรุณเลิศ
เมื่อโลกข้างในเปลี่ยน โลกข้างนอกจะเปลี่ยนตาม
(AudioBook)
หนังสือเสียงที่ว่าด้วย 21 เคล็ดลับปรับความคิดให้ชีวิตเจอแต่เรื่องดี
ถือเป็นภาคต่อขยายจากหนังสือ “หนังยางล้างใจ” ประกอบด้วย 21
แทร็คที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องอ่าน ฟังได้เลย
ฟังจบได้ไอเดียใหม่ ๆ ในการทำาให้ชีวิตดีขึ้น ในกล่องประกอบด้วย
ออดิโอซีดี 2 แผ่น (ใช้ฟัง) ความยาวรวม 120 นาที (แถมฟรี! เพลง
ประกอบหนังสือ “หนังยางล้างใจ”)

238
บนท้องฟ้า รถไม่เคยติด
สนใจสินค้า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
หรือสั่งซื้อได้ที่
orderboywisoot@gmail.com
หรือโทร. 091 793 9229

239
วิสูตร แสงอรุณเลิศ

You might also like