ข้ อสอบพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุ ขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 2

ตอนที่ 1 สุ ขศึกษา หน่ วยที่ 3 สร้างเสริ มสุ ขภาพ จานวน 30 ข้อ
จงกา  ทับตัวอักษร ตรงกับตัวเลือกทีต่ ้ องการลงในกระดาษคาตอบ
1. ข้อใดเป็ นสาเหตุสาคัญที่ทาให้แม่น้ าเน่าเสี ย 6. ใครปฏิบตั ิได้ถูกต้องตามหลักสุ ขบัญญัติ
ก. คนตั้งบ้านเรื อนใกล้แม่น้ า แห่งชาติ
ข. คนทิ้งขยะลงในแม่น้ า ก. แจนอาบน้ าวันเว้นวัน
ค. เรื อยนต์มีจานวนเพิ่มขึ้น ข. โจเคี้ยวหมากฝรั่งทุกวัน
2. การกระทาของใครที่เป็ นการช่วยรักษา ค. จิ๋วกินอาหารที่ปรุ งสุ กแล้ว
สิ่ งแวดล้อม 7. การกระทาในข้อใดที่มีผลเสี ยต่อสุ ขภาพ
ก. ป่ านไม่กินเนื้อสัตว์ ก. ล้างมือหลังการขับถ่าย
ข. โป้ งไม่อาบน้ าตอนเย็น ข. กินอาหารวันละ 2 มื้อ
ค. ปอขอร้องให้พ่องดสู บบุหรี่ ค. เดินถนนบนทางเท้า
3. ข้อใดเป็ นการรักษาความสะอาดบริ เวณบ้าน 8. การกินอาหารที่มีแมลงวันตอม มีผลเสี ย
ก. กวาดเศษใบไม้ทุกวัน ต่อสุ ขภาพอย่างไร
ข. รดน้ าต้นไม้ทุกวัน ก. ทาให้เป็ นโรคท้องร่ วง
ค. ทาสี บา้ นทุกวัน ข. ทาให้กินอาหารได้นอ้ ย
4. ข้อใดเป็ นการปฏิบตั ิตนไม่เหมาะสม ค. ทาให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป
ในการดูแลรักษาความสะอาดห้องเรี ยน 9. ข้อใดเป็ นการปฏิบตั ิตนที่ทาให้ครอบครัว
ก. ลบกระดานดาหลังเลิกเรี ยน มีความสุ ข
ข. นาขยะไปทิ้งในที่ทิ้งขยะหลังโรงเรี ยน ก. ลูกชวนพ่อแม่ไปเที่ยวกลางคืน
ค. กวาดขยะในห้องไปไว้นอกห้องเรี ยน ข. ลูกช่วยพ่อแม่ทาความสะอาดบ้าน
5. นักเรี ยนควรเก็บเศษขยะรอบๆ โรงเรี ยน ค. ลูกขอร้องให้พอ่ แม่ซ้ื อของเล่นให้
หรื อไม่ เพราะเหตุใด 10. นักเรี ยนสามารถทาตนเองให้มีสุขภาพจิตดี
ก. ควร เพราะช่วยทาให้โรงเรี ยนสะอาด ได้อย่างไร
ข. ควร เพราะทาให้คุณครู ชมเชย ก. ไม่ยงุ่ เกี่ยวกับผูอ้ ื่น
ค. ไม่ควร เพราะเป็ นหน้าที่ของภารโรง ข. ไม่พูดกับคนที่เกลียด
ค. ไม่อิจฉาริ ษยาผูอ้ ื่น
6
11. ข้อใดเป็ นโรคที่ไม่ได้เกิดจากแมลง 17. เพราะเหตุใดในแต่ละวัน เราจึงต้อง
เป็ นพาหะ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
ก. โรคตาแดง ก. ทาให้รูปร่ างดี
ข. โรคท้องเสี ย ข. ทาให้ร่างกายเจริ ญเติบโต
ค. โรคลมชัก ค. ทาให้ร่างกายปราศจากโรคต่างๆ
12. แนนไม่ชอบทาความสะอาดร่ างกาย จึงทาให้ 18. การกินอาหารหมักดอง ทาให้เกิดผลเสี ย
แนนอาจเป็ นโรคต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด อย่างไร
ก. โรคผิวหนัง ก. ทาให้ทอ้ งเสี ย
ข. โรคไข้หวัด ข. ทาให้ฟันผุ
ค. เหา ค. ทาให้ผวิ หนังแห้ง
13. ข้อใดเป็ นวิธีป้องกันโรคลมชัก 19. การเลือกซื้ ออาหารกระป๋ อง ควรพิจารณา
ก. ไม่ตากแดดจัดๆ จากข้อใด
ข. ไม่ออกกาลังกาย ก. คุณค่าที่ได้รับ
ค. นอนหลับให้มากๆ ข. ปริ มาณ
14. เพราะเหตุใดจึงไม่ควรใช้เสื้ อผ้าร่ วมกับ ค. ราคา
ผูท้ ี่เป็ นโรคผิวหนัง 20. ใครมีสุขนิสัยที่ดีในการกินอาหารร่ วมกับ
ก. ป้ องกันการติดโรค ผูอ้ ื่น
ข. อาจทาให้เสื้ อผ้าเก่าเร็ ว ก. แย้มคุยกับเพื่อนขณะกินอาหาร
ค. อาจทาให้ผวิ หนังคล้ าขึ้น ข. ยักษ์ใช้ชอ้ นของตนตักอาหารให้เพื่อน
15. ถ้าขณะกาลังเรี ยน แล้วนักเรี ยนรู ้สึก ค. ใหญ่ใช้ชอ้ นกลางตักอาหารทุกครั้ง
ปวดศีรษะ นักเรี ยนควรทาอย่างไร 21. ใครจะเกิดความรู ้สึกเศร้ามากที่สุด
ก. นอนหลับในห้องเรี ยน ก. ขวดถูกเพื่อนล้อเลียน
ข. ไปหยิบยามากินเอง ข. ไข่สอบตก
ค. บอกครู ให้ทราบ ค. น้อยทะเลาะกับเพื่อน
16. ถ้าร่ างกายขาดอาหารชนิดใด อาจจะทาให้ 22. ถ้านักเรี ยนเห็นเพื่อนวิง่ หกล้ม นักเรี ยน
ร่ างกายแคระแกร็ น ควรทาอย่างไร
ก. น้ าตาล ข. เผือก ก. หัวเราะเยาะเพื่อน
ค. นม ข. เข้าไปช่วยเหลือเพื่อน
ค. เรี ยกเพื่อนคนอื่นมาดู
7
23. การมีอารมณ์โกรธ ทาให้เกิดผลเสี ย 27. ถ้านักเรี ยนมีเวลาว่างไม่มากนักในการ
ดังต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด ออกกาลังกาย ควรเลือกออกกาลังกาย
ก. ทาให้ปวดศีรษะ ด้วยวิธีใด
ข. ทาให้ไม่มีใครอยากคบ ก. เดินขึ้นลงบันได
ค. ทาให้ผวิ พรรณหมองคล้ า ข. วิง่ รอบสนามโรงเรี ยน
24. เพราะเหตุใดการสวดมนต์จึงช่วยแก้ไข ค. เล่นกีฬากับเพื่อนๆ
ปัญหาความเครี ยดได้ 28. ถ้านัง่ ทางานอยูห่ น้าคอมพิวเตอร์ นานๆ
ก. ทาให้จิตใจสงบ แล้วรู ้สึกปวดตา ควรทาอย่างไร
ข. ทาให้ลืมปัญหา ก. นาถุงน้ าร้อนมาประคบที่ตา
ค. ทาให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาช่วย ข. กรอกลูกตาไปมา
25. ถ้านักเรี ยนมีปัญหาที่ยงั แก้ไขไม่ได้ ค. นัง่ หลับตาสักครู่
ควรทาอย่างไร 29. ใครใช้เวลาว่างให้เป็ นประโยชน์มากที่สุด
ก. ปรึ กษาเพื่อนข้างบ้าน ก. พิมชวนเพื่อนไปเที่ยวผับ
ข. ปรึ กษาพ่อแม่ ข. พิณไปดักจับนกกับเพื่อนๆ
ค. เก็บเงียบไว้คนเดียว ค. พิศปลูกผักสวนครัว
26. ถ้ากินอาหารอิ่มใหม่ๆ แล้วไปออกกาลังกาย 30. การออกกาลังกายในข้อใดที่มีประโยชน์
จะเกิดผลอย่างไร ต่อร่ างกายมากที่สุด
ก. ทาให้จุกเสี ยด ก. ออกกาลังกายในตอนกลางวัน
ข. ทาให้ทอ้ งเสี ย ข. ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ
ค. ทาให้ทอ้ งผูก ค. ออกกาลังกายในเวลาว่างเท่านั้น