Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 21

แผนการจัดการเรียนรูที่ 3

รายวิชาพื้นฐาน ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6


Unit 3 Followers of Fashion เวลา 4 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/1 ปฏิบัติตามคําแนะนําในคูมือการใชงานตางๆ คําชี้แจง คําอธิบาย และคํา
บรรยายที่ฟงและอาน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/2 อานออกเสียงขอความ ขาว ประกาศ โฆษณา บทรอยกรอง และบทละครสั้น
(skit) ถูกตองตามหลักการอาน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/3 อธิบายและเขียนประโยคและขอความใหสัมพันธกับสื่อที่ไมใชความเรียงรูปแบบ
ตางๆ ที่อาน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไมใชความเรียงรูปแบบตางๆ ใหสัมพันธ
กับประโยคและขอความที่ฟงหรืออาน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/4 จับใจความสําคัญ วิเคราะหความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก
การฟงและอานเรื่องที่เปนสารคดีและบันเทิงคดี พรอมทั้งใหเหตุผลและ
ยกตัวอยางประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 ม.6/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องตางๆ ใกลตัว
ประสบการณ สถานการณ ขาว/เหตุการณ ประเด็นที่อยูในความสนใจของ
สังคม และสื่อสารอยางตอเนื่องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.2 ม.6/2 เลือกและใชคําขอรอง ใหคําแนะนํา คําชี้แจง คําอธิบายอยางคลองแคลว
มาตรฐาน ต 1.2 ม.6/5 พูดและเขียนบรรยายความรูสึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่อง
ตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และขาว/เหตุการณอยางมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.3 ม.6/1 พูดและเขียนนําเสนอขอมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตุการณ เรื่อง
และประเด็นตางๆ ตามความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 1.3 ม.6/2 พูดและเขียนสรุปใจความสําคัญ/แกนสาระที่ไดจากการวิเคราะหเรื่อง กิจกรรม
ขาว เหตุการณ และสถานการณตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 1.3 ม.6/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ และเหตุการณ
ทั้งในทองถิ่น สังคม และโลก พรอมทั้งใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ
มาตรฐาน ต 2.1 ม.6/1 เลือกใชภาษา น้ําเสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และ
สถานที่ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจาของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 ม.6/1 อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกตางระหวางโครงสรางประโยค ขอความ สํานวน
คําพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาตางประเทศและภาษาไทย
มาตรฐาน ต 3.1 ม.6/1 คนควา/สืบคน บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขอมูลที่เกี่ยวของกับ
กลุม สาระการเรียนรูอื่นจากแหลงเรียนรูตางๆ และนําเสนอดวยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ม.6/1 ใชภาษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองที่เกิดขึ้นในหองเรียน
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
มาตรฐาน ต 4.2 ม.6/1 ใชภาษาตางประเทศในการสืบคน/คนควา รวบรวม วิเคราะห และสรุปความรู/
ขอมูลตางๆ จากสื่อและแหลงการเรียนรูตางๆ ในการศึกษาตอและประกอบ

2. เปาหมายการเรียนรู (Learning Outcomes / Enduring Understanding)


2.1 พูดอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่มีอิทธิพลตอการเลือกเสื้อผาที่สวมใส
2.2 เขียนบทความบรรยายเครื่องแตงกายชิ้นโปรด

3. สิ่งที่ตองรูและปฏิบัติได (Important to know and to do)


3.1 ออกเสียง สะกดคํา บอกความหมายของคําศัพทหรือวลีเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกาย แลวนําไปใช
ไดถูกตอง
3.2 อภิปรายเกี่ยวกับแฟชั่นในปจจุบันที่ชื่นชอบและไมชอบ แลวพูดแสดงความคิดเห็นที่มีตอการเขา
ทํางานในวงการแฟชั่นไดถูกตอง
3.3 อานบทอานเกี่ยวกับการแนะนําหลักสูตรแฟชั่นในวิทยาลัย Fairfield แลวจับใจความสําคัญ และ
เลือกประโยคที่หายไปเติมลงในบทอานไดถูกตอง
3.4 จับคูคําศัพทกับความหมายที่ถูกตองตามบริบท (context) ในบทอานได
3.5 จับคูคําศัพทเกี่ยวกับเครื่องแตงการกับภาพใหสัมพันธกัน
3.6 เขียนสวนเติมหนาคํา (Prefixes) และสวนเติมทายคํา (Suffixes) เพื่อสรางคําศัพทใหมที่เหมาะสม
กับประโยคไดถูกตอง
3.7 เลือกวงกลมลอมรอบคําศัพทที่เหมาะสมกับประโยคไดถูกตอง
3.8 ศึกษาตัวอยางประโยคและหลักการใชรูปกริยาที่แสดงอนาคต แลวสรุปหลักการใช ตอบคําถาม
เขียนรูปกริยาอนาคตที่ถูกตองลงในชองวาง และเลือกวงกลมลอมรอบรูปกริยาที่ทําใหประโยคได
ใจความสมบูรณ
3.9 ระบุขอมูลจากการฟงบทสนทนาไดถูกตอง
3.10 ดูโฆษณาแลวอภิปรายวาเครื่องแตงกายชิ้นใดเปนชิ้นโปรดไดถุกตอง
3.11 อานตัวอยางบทความในนิตยสาร แลวเขียนเครื่องหมายวรรคตอนลงในตําแหนงที่ถูกตองได

4. สิ่งที่ควรคาแกการเรียนรู (Worth being familiar with)


อิทธิพลที่สงผลตอแฟชั่นเครื่องแตงกาย
5. คําถามสําคัญ (Essential Questions)
5.1 Which course is taught in a college of fashion? Do you think the students in the college
need to be fashionable themselves? Why? Why not?
5.2 Do you want to be in trend all the time or wear only what you have? Why?
5.3 You are asked to write a short article “My Favorite Piece of Clothing” for a fashion
magazine, how will you organize your writing?
1. What item will you write about? Why is it your favorite?
2. What information will you give to describe the item?
- What does it look like-the shape, the size, the color?
- Where did you buy it and how much was it?
- How often do you wear it? On what occasion do you wear it?
3. What general thing do you want to say about it?

6. สิ่งที่นักเรียนตองไดรับการพัฒนา
6.1 ทักษะกระบวนการ
- กระบวนการกลุม
- กระบวนการคิด
- กระบวนการเรียนรูดวยตนเอง
6.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค
- ซื่อสัตยสุจริต
- มีวินัย
- ใฝเรียนรู
- มุงมั่นในการทํางาน
6.3 สมรรถนะสําคัญของผูเรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity)
- ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity)
- ความสามารถในการแกปญหา (Problem-Solving Capacity)
- ความสามารถในการใชทักษะชีวิต (Capacity for Applying Life Skills)

7. ผลงานที่ไดจากการเรียนรูแ ละปฏิบัติ
7.1 การพูดอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่มีอิทธิพลตอการเลือกเสื้อผาที่สวมใส
7.2 ผลงานเขียนบทความบรรยายเครื่องแตงกายชิ้นโปรด
8. การวัดและประเมินผล (Evaluation)

สิ่งที่ตองการวัดและประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑการวัด


และประเมิน และประเมิน และประเมิน
ความรูและทักษะดานคําศัพท
สิ่งที่ตองรูและปฏิบัติได
3.1 ออกเสียง สะกดคํา บอกความหมายของ ตรวจสอบอยาง กิจกรรม A, D, ปฏิบัติไดใน
คําศัพทหรือวลีเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกาย ไมเปนทางการ E, F, G ระดับดี-ดีมาก
แลวนําไปใชไดถูกตอง
3.2 อภิปรายเกี่ยวกับแฟชั่นในปจจุบันที่ชื่นชอบ การใหโจทย กิจกรรม A ปฏิบัติไดใน
และไมชอบ แลวพูดแสดงความคิดเห็นที่มีตอ หรือประเด็น ระดับดี-ดีมาก
การเขาทํางานในวงการแฟชั่นไดถูกตอง ปญหาที่ให
นักเรียนขบคิด
3.4 จับคูคําศัพทกับความหมายที่ถูกตองตาม สังเกต/พูดคุย กิจกรรม D ปฏิบัติไดใน
บริบท (context) ในบทอานได ระดับดี-ดีมาก
3.5 จับคูคําศัพทเกี่ยวกับเครื่องแตงการกับภาพ ทดสอบยอย กิจกรรม E ตอบถูก 10 ขอ
ใหสัมพันธกัน จาก 11 ขอ
3.6 เขียนสวนเติมหนาคํา (Prefixes) และสวน ทดสอบยอย กิจกรรม F ตอบถูก 7 ขอ
เติมทายคํา (Suffixes) เพื่อสรางคําศัพทใหม จาก 8 ขอ
ที่เหมาะสมกับประโยคไดถูกตอง
3.7 เลือกวงกลมลอมรอบคําศัพทที่เหมาะสมกับ ทดสอบยอย กิจกรรม G ตอบถูก 7 ขอ
ประโยคไดถูกตอง จาก 8 ขอ
ความสามารถและทักษะการอาน
สิ่งที่ตองรูและปฏิบัติได
3.3 อานบทอานเกี่ยวกับการแนะนําหลักสูตร ตรวจสอบอยาง กิจกรรม B, C ปฏิบัติไดใน
แฟชั่นในวิทยาลัย Fairfield แลวจับใจความ ไมเปนทางการ ระดับดี-ดีมาก
สําคัญ และเลือกประโยคที่หายไปเติมลงใน
บทอานไดถูกตอง
สิ่งที่ตองการวัดและประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑการวัด
และประเมิน และประเมิน และประเมิน
ความรูและทักษะทางไวยากรณ
สิ่งที่ตองรูและปฏิบัติได
3.8 ศึกษาตัวอยางประโยคและหลักการใชรูป ทดสอบยอย - กิจกรรม H - ตอบถูก 7 ขอ
กริยาที่แสดงอนาคต แลวสรุปหลักการใช จาก 8 ขอ
ตอบคําถาม เขียนรูปกริยาอนาคตที่ถูกตอง - กิจกรรม I - ตอบถูก 7 ขอ
ลงในชองวาง และเลือกวงกลมลอมรอบรูป จาก 8 ขอ
กริยาที่ทําใหประโยคไดใจความสมบูรณ
ความสามารถและทักษะการฟง
สิ่งที่ตองรูและปฏิบัติได
3.9 ระบุขอมูลจากการฟงบทสนทนาไดถูกตอง ทดสอบยอย กิจกรรม J ตอบถูกทุกขอ
ความสามารถและทักษะการเขียน
สิ่งที่ตองรูและปฏิบัติได
3.10 ดูโฆษณาแลวอภิปรายวาเครื่องแตงกาย การใหโจทย กิจกรรม L ปฏิบัติไดใน
ชิ้นใดเปนชิ้นโปรดไดถูกตอง หรือประเด็น ระดับดี-ดีมาก
ปญหาที่ให
นักเรียนขบคิด
3.11 อานตัวอยางบทความในนิตยสาร แลวเขียน ทดสอบยอย กิจกรรม M ตอบถูกทุกขอ
เครื่องหมายวรรคตอนลงในตําแหนงที่
ถูกตองได
สิ่งที่นักเรียนไดรับการพัฒนา สังเกต สอบถาม แบบบันทึกผล แสดงออกถึง
- เจตคติตอการเรียนรู และบันทึกขณะ การจัดการเรียนรู การพัฒนาใน
- ทักษะกระบวนการ นักเรียนปฏิบัติ ระดับดี-ดีมาก
- คุณลักษณะอันพึงประสงค กิจกรรม
- สมรรถนะสําคัญของผูเรียน การเรียนรู
การนําเสนอทั้ง
การพูดและ
การเขียน
เปาหมายการเรียนรู
ความสามารถและทักษะการพูด
- พูดอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่มีอิทธิพลตอการเลือก ลงมือปฏิบัติ/ - กิจกรรม K - ปฏิบัติไดใน
เสื้อผาที่สวมใส โครงงาน ระดับดี-ดีมาก
- แบบประเมิน - คะแนนเมื่อ
การพูด เทียบกับเกณฑ
สิ่งที่ตองการวัดและประเมิน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑการวัด
และประเมิน และประเมิน และประเมิน
ความสามารถและทักษะการเขียน
- เขียนบทความบรรยายเครื่องแตงกายชิ้นโปรด ลงมือปฏิบัติ/ - กิจกรรม N - ปฏิบัติไดใน
โครงงาน ระดับดี-ดีมาก
- แบบประเมิน - คะแนนเมื่อ
การเขียน เทียบกับเกณฑ

9. สาระการเรียนรู
9.1 คําศัพท (Vocabulary)
- aspect (n) a part of the character or nature of something (แงมุม, ดาน)
- assignment (n) a piece of work that is given to someone as part of their job or
studies (งานที่ไดรับมอบหมาย)
- be worth it (phr) have value (คุมคา, มีคา)
- certificate (n) a paper that states certain fact (ประกาศนียบัตร ซึ่งไมจําเปนตองเปนใบ
แสดงวุฒิการศึกษา)
- comment (n) something that a person or people said (คําพูด, ความคิดเห็น)
- course (n) sets of lessons (คอรสเรียน, หลักสูตร)
- demanding (adj) difficult, needing a lot of skill, patience, effort, etc (ยาก, ตองทุมเทมาก)
- diploma (n) a document which may be awarded to a student who has completed
a course of study by a university or college, or by a high school in
the United States (ประกาศนียบัตร ที่แสดงวาสําเร็จการศึกษา)
- educational (adj) concerned with or related to education (เกี่ยวกับการศึกษา, ที่ใหความรู)
- exhibition (n) a public event at which pictures, sculptures, or other objects of
interest are displayed, for example at a museum or art gallery (งาน
แสดงศิลปะ, นิทรรศการ)
- fit (v) be the right size and shape (ขนาดพอดี)
- glamorous (adj) more attractive, exciting, or interesting than ordinary people or things
(หรูหรา, มีเสนห, ดึงดูดใจ)
- prospectus (n) a detailed document produced by a company, college, or school,
which gives details about it (หนังสือแนะนํา)
- provided that (conj) if, or only if (ถา)
- qualifications (n) the official documents or titles you have that show your level of
education and training (วุฒิ, คุณวุฒิ)
- range (n) a variety of things of a particular type (ขอบขาย, ความหลากหลาย)
- sandals (n) light shoes that you wear in warm weather, which have straps
instead of a solid part over the top of your foot (รองเทาแตะ, รองเทาที่
มีสายคาดหรือสานดานบน
- spectator (n) someone who watches something, especially a sports event (ผูชมกีฬา)
- technique (n) a particular way of doing something (เทคนิค, วิธีการ)
- theoretical (adj) based on ideas rather than experience (ในทางทฤษฎี, ตามตํารา)
9.2 การออกเสียง (Pronunciation)
certificate /sərˈtɪfɪkət/ lecturer /ˈlektʃərər/ tracksuit /ˈtræksuːt/
9.3 โครงสรางทางไวยากรณ (Grammar)
Talking about the future
9.4 หนาที่ทางภาษา (Functions of the Language)
- Speaking to express your opinions about influence on clothing
- Writing to describe a favorite piece of clothing
9.5 วัฒนธรรม(Culture)
อธิบายใหนักเรียนฟงวา ทุกๆหนวยการศึกษาอยางวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย จะแจก
หนังสือแนะนําหรือแผนพับแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรที่เปดสอน ซึ่งชวยใหนักเรียนที่
สนใจไดเลือกวาตองการเขาเรียนในแผนกใดและเรียนอะไรบาง อยางไรก็ตามวิทยาลัยในบทความนี้
เปนองคกรสมมติเทานั้น
9.6 กลวิธีการเรียนรู (Learning Strategies)
- Reading for specific details
- Listening for specific details
9.7 ความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น
- กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี
- กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ

10. สื่อและแหลงเรียนรู
10.1 หนังสือเรียน BRIDGE Student Book 6 Unit 3
10.2 หนังสือแบบฝกหัด BRIDGE Workbook 6 Unit 3
10.3 ซีดีบันทึกเสียง Audio CD BRIDGE 6 Unit 3
10.4 พจนานุกรมอังกฤษ - อังกฤษ
11. การจัดกิจกรรมการเรียนรู
11.1 ขั้นนําเขาสูบทเรียน (Warm up)
- ครูนําภาพเสื้อผา แบบและสีตางๆ มาใหนักเรียนทั้งชั้นดู แลวพูดถาม–ตอบเรื่องแฟชั่น
เครื่องแตงกายกับนักเรียน ดังนี้
T: Do you like these clothes?
What style of clothes do you like to wear the most? Why?
Are you interested in studying fashion design? Why? / Why not?
Learning Link
ครูแจงจุดประสงคการเรียนรูโดยใหนักเรียนทุกคนอานกรอบ Learning Link หนา 21
เพื่อใหนักเรียนทราบวานักเรียนตองรูและปฏิบัติกิจกรรมใดบางใน Unit 3 ดังนี้
- คําและวลีที่ใชพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกาย
- พูดอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่มีอิทธิพลตอเครื่องแตงกายที่บุคคลทั่วไปสวมใส
- เขียนบทความบรรยายเครื่องแตงกายชิ้นโปรด
- พูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณในอนาคต
Pre-reading
A Discuss these questions with a friend.
- กอนทํากิจกรรมขอ A ครูซักถามความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกายและอาชีพ
นักออกแบบเครื่องแตงกายจากนักเรียนทั้งชั้น พรอมทั้งถามตอวามีนักเรียนคนใดที่สนใจจะ
เขาเรียนในโรงเรียนออกแบบเครื่องแตงกายบางหรือไม จากนัน้ ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน
ผลัดกันพูดอภิปรายคําถามในกิจกรรมขอ A ขณะที่นักเรียนกําลังทํากิจกรรมคู ครูควรพูดย้ําให
นักเรียนพยายามใหเหตุผลประกอบความคิดเห็นของตนเองใหมากที่สุดเทาที่จะทําได
เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมคูเสร็จแลว ครูเรียกใหนักเรียนแตละคูออกมาพูดรายงานความคิดเห็น
ของคูตนเองใหเพื่อนๆ ฟงหนาชั้นเรียน
11.2 ขั้นนําเสนอความรู (Presentation)
Reading Link
B Read the college prospectus below to find out qualifications are needed for
full-time and part-time courses.
- ใหนักเรียนทุกคนอานชื่อเรื่องและดูภาพหนังสือเชิญชวน (prospectus) ใหเขาเรียนหลักสูตร
แฟชั่นเครื่องแตงกายในวิทยาลัย Fairfield ในกิจกรรมขอ B แลวครูถามคําถามตอไปนี้
T: What is the title of the college prospectus? (Fairfield College of Fashion.)
What subject do the students in Fairfield College study? (Fashion.)
Who are the people in the picture? (Students in Fairfield College.)
What is the building in the picture? (Fairfield College.)
- จากนั้นใหนักเรียนทุกคนอานยอหนาที่ 1 ซึ่งเปนบทเกริ่นหรือบทนํา (Introduction) ของ
หนังสือเชิญชวน แลวครูถามนักเรียนวา What is the purpose of the first paragraph?
(คําตอบ: To persuade interested students to attend fashion course in Fairfield
College.)
- ใหนักเรียนทํางานกลุมๆ ละ 3 – 4 คนอานหนังสือเชิญชวนในกิจกรรมขอ B อยางเร็ว แลว
ตอบคําถามที่วา คุณสมบัติใดจําเปนสําหรับผูเขาเรียนในหลักสูตรแฟชั่นเครื่องแตงกายแบบ
เต็มเวลาและแบบไมเต็มเวลา โดยนําเสนอคําตอบออกมาในรูปแผนผังความคิด (mind
mapping) ที่กําหนดให ครูย้ําเตือนใหนักเรียนอานเพื่อคนหาขอมูลเฉพาะที่เปนคําตอบ
เทานั้น

แผนผังความคิด

Qualifications for Fashion Course in Fairfield College

Part-time Courses Full-time Course

having a high
Evening Wear Design Color in Fashion school diploma
or a similar
qualification

interested persons interested persons

Over age 18 Over age 18


on September on September

- เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมออกมานําเสนอ
แผนผังความคิดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่จําเปนสําหรับผูเขาเรียนในหลักสูตรแฟชั่นเครื่องแตงกาย
แบบเต็มเวลาและแบบไมเต็มเวลาหนาชั้นเรียน แลวครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น
อีกครั้ง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
C There are six sentences missing from the brochure you read. Can you put the
sentences below in the right place?
- ใหนักเรียนทุกคนอานหนังสือเชิญชวนใหเขาเรียนหลักสูตรแฟชั่นเครื่องแตงกายในวิทยาลัย
Fairfield ในกิจกรรมขอ B อีกครั้ง แลวจึงอานประโยค A – F ในกิจกรรมขอ C ซึ่งถูกตัด
ออกมาจากหนังสือเชิญชวนในกิจกรรมขอ B ใหนักเรียนแตละคนพิจารณาวาประโยค
เหลานั้นควรถูกวางใหตรงกับหมายเลขใด (1 – 6) ในหนังสือเชิญชวนในกิจกรรมขอ B ครู
แนะนําใหนักเรียนสังเกตตัวแนะ (clue) ในประโยคที่อยูกอนและหลังหมายเลข และสังเกตวา
ประโยคที่ถูกตัดออกมาและเนื้อความใน หนังสือ เชิญชวนนั้นอยูในรูปประโยค Direct
Speech หรือคําสรรพนามบุรุษที่ 1 หรือไม เพื่อชวยใหนักเรียนเลือกวางประโยคในตําแหนง
ที่ถูกตองได
- หลังจากนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ครูสุมเรียกนักเรียนบางคนบอกคําตอบและตัวแนะที่
นักเรียนใชเปนแนวทางในการเลือกคําตอบนั้น แลวครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น
อีกครั้ง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
- ครูอาจจะถามคําถามตอไปนี้เพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนทั้งชั้นอีกครั้ง

Comprehension Link
Ask the following questions to check students’ general understanding of the prospectus. Remind
students to look at the missing sentences for answers as well as the main text.
1. Where is Fairfield College? (in the heart of the beautiful English countryside)
2. How long are the courses? (one to three years)
3. Are the part-time courses available in the morning? (No, only in the evenings and on
weekends)
4. What do the full-time courses include apart from theoretical and practical lessons? (field trips)
5. Why are the comments from students included in the text? (They help students decide if
Fairfield College is the right college for them.)
6. Who is already working as an assistant to a designer? (Patricia)
Vocabulary Link
D March the words from the brochure with their meaning.
- ใหนักเรียนทั้งชั้นอานคําสั่งและคําศัพทขอ 1 – 12 ในกิจกรรมขอ D แลวชวยกันบอก
ความหมายของคําศัพทที่นักเรียนรูจัก แลวครูอธิบายใหนักเรียนฟงวา นักเรียนควรจะคนหา
ความหมายของคําศัพทที่นักเรียนไมทราบจากบริบทแวดลอมในหนังสือเชิญชวนในกิจกรรม
ขอ B และแนะนําใหนักเรียนเริ่มตนทํากิจกรรมขอ D โดยใหนักเรียนแตละคนจับคูคําศัพท
กับความหมายที่นักเรียนมั่นใจวาถูกตองเปนลําดับแรก และเตือนนักเรียนวา คําศัพทบางคํา
มีหลายความหมาย ตัวอยางเชน heart ซึ่งมีความหมายวา หัวใจ จิตใจ ศูนยกลาง เปนตน
ดังนั้นนักเรียนจึงควรจับคูความหมายกับคําศัพทตามบริบทแวดลอมของหนังสือเชิญชวนใน
กิจกรรมขอ B จึงจะถูกตองที่สุด
- เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ใหนักเรียนทุกคนชวยกันอานคําศัพทและความหมายที่คดิ
วาเปนคําตอบทีละขอ แลวครูเฉลยคําตอบที่ถูกตอง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
E Match the items of clothing to the picture below.
- ใหนักเรียนทุกคนอานคําสั่งและคําศัพทขอ 1 – 11 ในกิจกรรมขอ E แลวชวยกันบอก
ความหมายของคําศัพทที่นักเรียนรูจัก และจับคูคําศัพทกับภาพใหสัมพันธกัน นักเรียน
อาจจะสับสนความหมายระหวาง blouse และ shirt ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจวา blouse จะ
สวมใสโดยผูหญิงเทานั้น และกระตุนใหนักเรียนนึกถึงคําศัพทเกี่ยวกับเครื่องแตงกายคําอื่นๆ
ที่นักเรียนรูจัก ตัวอยางเชน boot, hat, skirt และ coat เปนตน แลวตรวจคําตอบพรอมกับ
นักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
F Use the word in capitals at the end of each sentence to make a word that fits in the
space in the same sentence.
- กอนทํากิจกรรมขอ F ครูควรทบทวนการสรางคําศัพท (Vocabulary Building) โดยใชสวน
เติมทายคํา (Suffixes) ดังนี้
สวนเติมทายคํา (Suffixes) คือ คําที่นาํ มาเติมทายคําตางๆ แลวเกิดเปนคําใหมและเปลี่ยน
ชนิดของคํา (Part of Speech) ของคํานั้น แบงออกเปน 2 ประเภทคือ
Suffix เปนสวนที่นํามาเติมทายคํา (คํากริยา คุณศัพท คํานาม) เพื่อทําใหเกิดคําใหมและแสดงหนาที่
คํา (part of speech) ตางๆ กัน เชน
1. adjective-forming suffixes (suffixes ที่ทําใหเกิด “คําคุณศัพท”)
-able, -ible; concerning, having (มี) เชน acceptable (ที่ยอมรับได)
-al, -ial; concerning; related to (เกี่ยวของกับ) เชน related to mental
-an, -ean, -ian; belonging of (ของ, เปนของ) เชน American
-ant, -ent; causing (ทําใหเกิด) เชน pleasant
-ese; belonging to (มีถ่นิ กําเนิด) เชน Japanese
-ful; causing (เต็มไปดวย) เชน careful, wonderful, beautiful
-ic, -ical; connected with (เกี่ยวกับ) เชน connected with atomic
-ive, -ative, -itive; having the quality of (มีคุณลักษณะ) explosive
-ous, -eous, -ious; causing (เปนเหตุให) dangerous famous
2. noun-forming suffixes (suffixes ที่ทําใหเกิด “คํานาม") เชน
-age; activity เชน courage (ความกลาหาญ)
-al; action เชน arrival (การมาถึง)
-ance, -ence; action, state or quality เชน importance (ความสําคัญ)
-ation, -tion, -ion; action, state เชน condition examination (การสอบ)
-hood; state or time of being (ภาวะ เปน) เชน monkthood, (สมณเพศ), childhood (วัยเด็ก)
-ic, -ics; arts and sciences (ศิลปะ ศาสตร) เชน physics (วิชาฟสิกส)
-ing; action (การกระทํา) เชน running (การวิ่ง)
-ism; idea, principles or teachings (หลักการ คําสอน) เชน Buddhism (พุทธศาสนา)
-ity; state, condition, quality (สภาพ คุณภาพ) เชน ability (ความสามารถ) necessity (ความ
จําเปน)
-logy, -ology; principles or teaching (ศาสตร วิชา) biology (ชีววิทยา)
-ment; result of (ผลของการกระทํา) management (การจัดการ)

- จากนั้นใหนักเรียนทุกคนศึกษาประโยคขอ 1 – 8 ในกิจกรรมขอ F และพิจารณาหนาที่ของ


คําที่ตองเติมลงในประโยคนั้นๆ แลวเขียนคําศัพทที่ถูกตองลงในชองวางใหประโยคสมบูรณ
โดยครูวิเคราะหประโยคขอที่ 1 เปนตัวอยางใหนักเรียนทั้งชั้นดู ดังนี้
1. Lynn is a fantastic designer although she doesn’t actually have any
_____________. QUALIFY
ครูถามนักเรียนวา นักเรียนตองเติมคําชนิดใดลงในชองวางในประโยคขอที่ 1 โดยแนะ
ใหนักเรียนดูคําศัพทที่อยูหนาชองวาง นั่นคือ any ซึ่งเปนคําบอกปริมาณมักวางไวหนา
คํานามนับไดพหูพจน ดังนั้นจึงตองเปลี่ยน qualify ใหเปนคํานามนับไดพหูพจน คําตอบที่
เปนไปไดคือ qualifications เปนตน
- จากนั้นครูเตือนนักเรียนวา สําหรับกิจกรรมนี้นักเรียนจะตองเขียนคําศัพทที่ถูกตองตามชนิด
ของคําลงในชองวางของแตละประโยค และชี้ใหนักเรียนเห็นวา นักเรียนควรจะสังเกตดวยวา
คําศัพทคําใดหรือประโยคใดมีความหมายในเชิงบวกหรือความหมายในเชิงลบ
- ครูสุมเรียกนักเรียนบางคนบอกคําตอบและชนิดของคําจนครบทุกขอ แลวตรวจ
คําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้นอีกครั้ง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
- จากนั้นใหนักเรียนทุกคนอานกรอบ Hints ในกิจกรรมขอ F พรอมครู และจดบันทึกคําศัพท
ทั้งหมดในกิจกรรมขอ F ลงในสมุดเพื่อทบทวนตอไป
G Circle the words that complete the sentences correctly.
- นักเรียนควรทํากิจกรรมขอ G ดวยตนเอง แลวครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น และ
อธิบายความแตกตางในแงความหมายระหวางตัวเลือกทั้งสองเทาที่จําเปน (ดูเฉลยคําตอบ
ทายเลม)

brochure: an information leaflet/booklet


catalog: usually detailing a range of goods for sale
certificate: a paper that states certain facts
degree: a qualification from a university or college
well-trained: has the training to do a job
well-qualified: has the formal qualifications to do a job
borrow: take something from somebody temporarily
lend: give something to somebody temporarily
wear: to have clothes on
put on: to get dressed in clothes
audience: people watching a movie, show, concert, etc.
spectators: people watching some sort of event, etc.
quality: measure of how good something is
quantity: measure of how much of something there is
match: go together with other things in terms of color, style, etc.
fit: be the right size
Grammar Link
- ครูถามนักเรียนทั้งชั้นเกี่ยวกับรูปกริยา Future Tenses แบบตางๆ ที่นักเรียนเคยเรียนมาแลววา
มีแบบใดบาง (คําตอบ: the Future, the Future Continuous, the Future Perfect และ the
Future Perfect Continuous) และบอกใหนักเรียนชวยกันแตงประโยคตัวอยาง Future Tenses
แตละแบบ แลวครูเขียนประโยคตัวอยางเหลานั้นใหนักเรียนดูบนกระดาน พรอมทั้งแจกใบ
ความรูเกี่ยวกับการใชรูปกริยา Future Tenses ที่ครูตรียมไวใหกับนักเรียนทุกคนเพื่อทบทวน
โครงสรางประโยค Future Tenses แตละแบบ
- จากนั้นครูถามนักเรียนวา นักเรียนทราบวิธีพูดถึงอนาคตวิธีอื่นๆ บางหรือไม (คําตอบ: be
going to, the Simple Present และ the Present Continuous) พรอมทั้งบอกใหนักเรียนชวยกัน
ยกตัวอยางประโยคของคําตอบอีกครั้ง แลวครูเขียนประโยคตัวอยางเหลานั้นใหนักเรียนดูบน
กระดาน
- ใหนักเรียนทุกคนศึกษาหลักไวยากรณใตกรอบ Grammar Link หนา 25 และตอบคําถามดวย
ตนเองหรือเปนคู แลวครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น พรอมทั้งอธิบายใหนักเรียนเขาใจ
ชัดเจนยิ่งขึ้นถาจําเปน (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
- ใหนักเรียนแตละคนคิดตัวอยางประโยคโดยใชรูปกริยา Future Tenses แบบตางๆ ครูอาจ
กระตุนความคิดของนักเรียนทั้งชั้นโดยถามคําถามตอไปนี้ เชน What are you going to do
tomorrow?; What day will it be tomorrow?; What will you be doing at seven o’clock this
evening? เปนตน
- จากนั้นใหนักเรียนทุกคนศึกษาโครงสรางทางไวยากรณและตัวอยางประโยคเพิ่มเติมในหัวขอ
Grammar Reference Unit 3 หนา 144 – 145 แลวซักถามประเด็นที่ยังสงสัยกับครู ครูตอบ
คําถามของนักเรียน และบอกใหนักเรียนแตละคนทํากิจกรรมขอ H ดวยตนเองตอไป
11.3 ขั้นฝกปฏิบัติ (Practice)
H Complete the following sentences using a suitable future form to the verbs in
parentheses. More than one answer may be possible.
- กอนทํากิจกรรมขอ H ครูเขียนคําศัพทตอไปนี้บนกระดาน แลวสุมเรียกนักเรียน 3 คน
ออกมาเขียนประโยครูป Future Tenses ที่ถูกตองบนกระดานใหเพื่อนๆ ดู พรอมทั้งบอกครู
ดวยวาประโยคที่เขียนนั้นเปนรูป Future Tenses แบบใด
1. John / wait / there / at nine o’clock tonight
(คําตอบที่เปนไปได: John will be waiting there at nine o’clock tonight.)
(คําตอบที่เปนไปได: the Future Continuous)
2. we / live / here / By 2015 / for nine years
2.1 (คําตอบที่เปนไปได: By 2015 we will have lived here for nine years.)
(คําตอบที่เปนไปได: the Future Perfect)
2.2 (คําตอบที่เปนไปได: By 2015 we will have been living here for nine
years.)
(คําตอบที่เปนไปได: the Future Perfect Continuous)
3. the game / begin / in five minutes
(คําตอบที่เปนไปได: The game will begin in five minutes.)
(คําตอบที่เปนไปได: the Future)
- จากนั้นครูและนักเรียนทั้งชั้นชวยกันสรุปหลักการใชรูป Future Tenses แบบตางๆ อีกครั้ง
- ใหนักเรียนแตละคนเขียนรูปกริยา Future Tenses ที่ถูกตองลงในชองวางขอ 1 – 8 ใน
กิจกรรมขอ H โดยครูแนะนําใหนักเรียนพยายามคิดถึงรูปกริยา Future Tenses ที่เปนไปได
ทั้งหมดของแตละขอกอน แลวจึงสังเกตคําสําคัญที่ชวยบงบอกใหนักเรียนตัดสินใจไดวาควร
ใช Future Tenses แบบใดในประโยคนั้น ตัวอยางคําสําคัญเชน next year, By the time we
arrive in the city center, next Saturday, next month, in a few minutes เปนตน
- ครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น และใหนักเรียนชวยกันบอกคําสําคัญที่ชวยแสดง
คําตอบในแตละขอ (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
I Circle the correct form of the verb in the sentences.
- ใหนักเรียนแตละคนเลือกวงกลมรูปกริยา Future Tenses ที่ถูกตองในกิจกรรมขอ I ครูย้ําให
นักเรียนคิดและเลือกรูปกริยาที่เหมาะสมที่สุดในแตละขอ โดยสังเกตคําสําคัญและระวัง
เกี่ยวกับความหมายของประโยคดวย ครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น และให
นักเรียนชวยกันบอกคําสําคัญที่ชวยแสดงคําตอบในแตละขอ (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
Extra Link
- นักเรียนควรฝกแตงประโยค Future Tenses แบบตางๆ ดวยตนเอง ครูควรสังเกตวา นักเรียน
สามารถแตงประโยค Future Tenses แบบตางๆ ไดเร็วเพียงใด
Listening Link
J You will hear four people talking about fashion. Choose from the list (a-e) the
sentence that best describes what they say. Use the letters only once. Be careful
because there is one extra letter that you do not need to use.
- กอนทํากิจกรรมขอ J ครูอธิบายใหนักเรียนทั้งชั้นฟงวา จุดประสงคของกิจกรรมนี้คือ การฟง
เพื่อจับคูผูพูดกับความคิดเห็นใหสัมพันธกัน และย้ําใหนักเรียนตั้งใจฟงแถบบันทึกเสียงและ
ฟงผูพูดพูดใหจบถึงแมนักเรียนจะทราบคําตอบแลวก็ตาม พรอมทั้งเตือนนักเรียนวา มี
ตัวเลือก 1 ตัวเลือกที่จะไมถูกเลือก ครูแนะนําใหนักเรียนจดตัวเลือก 2 ตัวเลือกไวกรณีที่
นักเรียนไมมั่นใจในคําตอบ หลังจากฟงแถบบันทึกเสียงครั้งที่ 2 จบแลว และเมื่อนักเรียนฟง
แถบบันทึกเสียงครั้งที่ 3 นักเรียนจะไดตัดสินใจเลือกคําตอบที่ถูกตองเพียงคําตอบเดียว
- จากนั้นใหนักเรียนทั้งชั้นอานกรอบ Hints ในกิจกรรมขอ J ตามครู แลวอานประโยค a – e
เพื่อจับประเด็นที่ผูพูดแตละคนกําลังพูด ดังนี้
a. The speaker likes to wear fashionable colors.
b. Comfort is an important aspect of clothing.
c. The speaker’s parents do not approve of his/her appearance.
d. Clothes should say something about who you are.
e. The cost of following fashion amazes the speaker.
- กอนที่ครูจะเปดแถบบันทึกเสียงใหนักเรียนทั้งชั้นฟง ครูอธิบายใหนักเรียนฟงวา นักเรียนจะ
ไดยินบุคคล 4 คนพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกาย 3 ครั้ง แลวจึงเลือกวาประโยค a – e
ประโยคใดบรรยายสิ่งที่ผูพูดพูดไวไดถูกตองที่สุด
- ครูเปดแถบบันทึกเสียงใหนักเรียนฟงตอเนื่อง 2 ครั้งเพื่อจับใจความสําคัญ และเมื่อครูเปด
แถบบันทึกเสียงรอบที่ 3 ใหครูหยุดแถบบันทึกเสียงสวนที่แสดงคําตอบ เพื่อชวยใหนักเรียน
ตรวจคําตอบกอนที่จะเฉลยคําตอบที่ถูกตอง ดังนี้
Speaker 1 Throw it out and buy another one? Not me! I don’t have that sort of
money to throw away!
Speaker 2 For me there’s something that’s much more important, and that’s
feeling comfortable in what I choose to wear.
Speaker 3 …your clothes, hair style, and so on are a really important way to
express who you are.
Speaker 4 Like, the other day I dyed my hair, right? You should have heard
the fight we had about that one!
- ครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคําตอบและ Audioscript ทายเลม)
Teaching Link
- ครูควรสนับสนุนใหนักเรียนทุกคนไดฟงรายการวิทยุหรือรายการโทรทัศนภาคภาษาอังกฤษ
เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาส เพื่อพัฒนาทักษะการฟงและแสดงใหนักเรียนเห็นระดับภาษาที่ใชพูดได
กวางขึ้น รวมทั้งฟงการขึ้นเสียงสูง-ต่ําที่ถูกตอง และถาเปนไปได ครูอาจทดลองอัดเสียงของ
นักเรียนระหวางทํากิจกรรม เพื่อใหนักเรียนไดฟงการพูดออกเสียงภาษาอังกฤษของตนเอง
Speaking Link
K Here are a number of things that may influence us when choosing the clothes we
wear. Working with a partner, look at the list and decide how each might affect us.
Then decide which two you think are the most important. Don’t forget to give
reasons for your choices.
- กอนทํากิจกรรมขอ K ใหนักเรียนทุกคนอานกรอบ Hints พรอมครู โดยครูพูดย้ําใหนักเรียน
ฟงวา ในกิจกรรมนี้นักเรียนจะตองผลัดกันพูดแสดงความคิดเห็น ไมควรพูดอยูฝายเดียว ควร
ใหโอกาสคูของตนไดพูดแสดงความคิดเห็นดวย และขณะพูด นักเรียนจะตองใชสํานวนที่
กําหนดใหในกิจกรรมขอ K ประกอบการพูดดวย
- ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนศึกษาปจจัยที่มีอทิ ธิพลตอการเลือกเสื้อผามาสวมใสจากกิจกรรมขอ
K แลวตัดสินใจเลือก 2 ปจจัยที่มีความสําคัญมากที่สุด พรอมทั้งบอกเหตุผลในการเลือก 2
ปจจัยนั้น โดยครูเสนอแนะแนวทางการสนทนาในการพูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนี้
ตัวอยางที่ 1
Student A: Would you like to start?
Student B: Yes. What things influence you when choosing the clothes you wear?
Student A: I think__________and___________ influence me when choosing
the clothes I wear because___________________________.
Student B: I agree with you.
ตัวอยางที่ 2
Student A: May I start? ______________and___________ influence me when
choosing the clothes I wear.
Student B: I see what you mean, but I’m not sure that I agree with you.
Student A: What do you think?
Student B: I think that ________and_______are the most important __________
because______________________________.
- เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ครูสุมนักเรียน 2 – 3 คูออกมาพูดหนาชั้นเรียน
Writing Link
L Look at the following advertisement.
- ใหนักเรียนทั้งชั้นดูภาพโฆษณาและอานตัวอักษรที่พิมพดวยตัวหนาในกิจกรรมขอ L แลว
ตอบคําถามตอไปนี้
1. Where is the advertisement from? (A monthly fashion magazine for
teenagers.)
2. What is the magazine looking for? (Articles about a favorite piece of clothing.)
- จากนั้นครูซักถามนักเรียนตอวา นักเรียนเคยอานนิตยสารแฟชั่นเชนนี้บางหรือไม โดยครูถาม
คําถามแลวใหนักเรียนพูดอภิปรายคําตอบ ตัวอยางคําถาม เชน Are you used to read the
fashion magazine? / What do you think of fashion magazines if you are influenced
by them? / Do you think the fashions shown are realistic, affordable or practical?
และ What is your favorite piece of clothing? Why? เปนตน
11.4 ขั้นนําไปประยุกตใช (Production)
M Now look at an article that has been written for the magazine. Can you put in the
periods, commas, and capital letters?
- กอนเริ่มทํากิจกรรมขอ M ครูทบทวนความรูเดิมเกี่ยวกับการใชเครื่องหมายวรรคตอน
(Punctuation) ไดแก จุดหรือเครื่องหมายมหัพภาค (Full Stop / Period) และเครื่องหมาย
จุลภาค (,) (Comma) และการใชตัวอักษรตัวใหญ (Capital Letter) ดังนี้

หลักการใชเครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation)
จุดหรือเครื่องหมายมหัพภาค (Full Stop / Period)
1. ใชเมื่อจบประโยคบอกเลา ประโยคคําสั่ง ประโยคขอรอง และประโยคปฏิเสธ เชน
I am studying English. They didn’t go to Chonburi last week.
Be quiet. Don’t go away.
2. ใชจุดหลังคํายอ เชน
a.m. = ante meridiem B.A. = Bachelor of Arts
Co. = Company Dr. = Doctor
การใชตัวอักษรตัวใหญ (Capital Letter) และการใชเครื่องหมายจุลภาค (,) (Comma)
1. คําขึ้นตนคําแรกของประโยคจะตองขึ้นตนดวยตัวอักษรตัวใหญเสมอ เชน
You are my friend.
2. ชื่อเฉพาะหรือนามเฉพาะ ไดแก ชื่อคน ชื่อสัตว (ที่ตั้งชื่อใหมัน) ชื่อสถานที่ ชื่อเรียกทางภูมิศาสตร
(ภูเขา แมน้ํา ลําคลอง ปา อาว น้ําตก) เชน
John’s dog, Sam, is brown.
Dusit Zoo is in Bangkok.
Samutprakarn is on the coast of the Gulf of Thailand.
3. ชื่อวันในสัปดาห ชื่อเดือน ชื่อวันสําคัญ ชื่อวันเทศกาล เชน
Visakha Bucha Day Loy Kratong Festival,
Chinese New Year There are thirty days in June.
4. คําสรรพนาม ‘I’ (ฉัน) ตองเขียนดวยตัวอักษรตัวใหญเสมอ
5. คําขึ้นตนและคําลงทายจดหมาย
Dear Sir, Yours sincerely,
- จากนั้นใหนักเรียนแตละคนอานบทความในกิจกรรมขอ M และเขียนเครื่องหมายวรรคตอน
และตัวอักษรพิมพใหญลงในตําแหนงที่ถูกตอง แลวตรวจคําตอบกับเพื่อนขางเคียง จากนั้น
ครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
N Read the hints before you write you own article using the article outline given.
(140-160 words)
- ในกิจกรรมขอ N ครูอธิบายใหนักเรียนทั้งชั้นฟงวา นักเรียนจะไดฝกเขียนบทความดวย
ตนเองโดยใชแนวคิดจาก Article Outline เปนตัวชวยในการทํากิจกรรม
- กอนเริ่มทํากิจกรรมขอ N ใหนักเรียนทุกคนอานบทความในกิจกรรมขอ M อีกครั้ง แลวพูด
อภิปรายวาขอความใดเปนหัวขอเรื่อง (Topic) บทนํา (Introduction) เนื้อหา / ขอความ
สนับสนุน (Body / Supporting Details) และบทสรุป (Conclusion) ดังนี้

Topic My Favorite Piece of Clothing


Introduction For somebody like me, who loves clothes, it’s hard to decide
which piece of clothing is my favorite. However, I do have one
piece of clothing that I love – my denim jacket.
Body / Supporting Details - My jacket isn’t new. In fact, it’s quite old. I bought it two years
ago when I was on vacation in Chicago. It’s very faded now, but
I think it looks nicer that way.
- I probably wear my jacket at least three times a week. The
great thing about it is that I can wear it with anything. It looks
good with jeans or shorts, but it’s also fine with dressy clothes
too. I almost always wear my jacket when I go out with my
friends.
Conclusion I don’t know what I’m going to do when my jacket gets too old
to wear – I’ll have to buy a new one, I suppose!

- จากนั้นใหนักเรียนทุกคนรวมกันศึกษา Article Outline ในกิจกรรมขอ N และเปรียบเทียบกับ


การวิเคราะหบทความในกิจกรรมขอ M ที่วิเคราะหไว ดังนี้
ยอหนาที่ 1 แนะนําสิ่งนักเรียนจะเขียน
ยอหนาที่ 2 และ 3 เขียนบรรยายวา สิ่งนั้นนักเรียนซื้อมาจากที่ใดเมื่อใด และใช
สวมใสเมื่อใดและที่ใด
ยอหนาที่ 4 สรุป โดยเขียนบรรยายเรื่องทั่วๆ ไปเพื่อเปนการจบบทความ
- เพื่อชวยใหนักเรียนเขียนยอหนาที่ 2 และ 3 ได ครูใหนักเรียนคิดหัวขอเรื่องที่จะเขียนเปน
ลําดับแรก แลวตอบคําถามในกรอบ Hints เพื่อใชเปนรายละเอียดของยอหนาที่ 2 และ 3
ตอไป
- ใหนักเรียนทุกคนอานกรอบ Hints ในกิจกรรมขอ N แลวครูเตือนนักเรียนวา นักเรียนไม
จําเปนตองเขียนบทความเฉพาะแตขอเท็จจริงเทานั้น นักเรียนสามารถเขียนบทความจาก
จินตนาการของตนเองได นักเรียนเขียนรายละเอียดของบทความโดยการตอบคําถามใน
กรอบ Hints
- เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อนอานบทความของตนเองใหเพื่อน
ฟง แลวชวยกันตรวจและปรับแกไขใหถูกตอง
- ครูสุมเรียกนักเรียน 2 – 3 คนอานบทความใหเพื่อนๆ ฟง
- ครูตรวจงานเขี ยนของนักเรีย นทุก คน แล วอ านออกเสียงตั วอยา งผลงานเขียนที่ดีที่สุดให
นักเรียนทั้งชั้นฟงหรือติดผลงานนั้นไวหนาชั้นเรียน
- ครูสามารถดูหัวขอการเขียนเพิ่มเติมจากหัวขอ Composition Exercises ทายเลม
11.5 ขั้นสรุป (Wrap up)
- ครูนําเสนอคําถามสําคัญบนกระดาน แลวนํานักเรียนทั้งชั้นอานและทําความเขาใจคําถาม
1) นักเรียนทั้งชั้นชวยกันตอบคําถามจากความเขาใจและความทรงจํา
2) นักเรียนทั้งชั้นเปดหนังสือเรียนเพื่อศึกษาเพิ่มเติมและตรวจสอบความแมนยําอีกครั้ง
3) ครูชวยเสริม เพิ่มเติม และสรุป
4) นักเรียนแตละคนบันทึกเนื้อหาสําคัญลงสมุดเปนการบานเพื่อไวอางอิงและทบทวน
ความรูตอไป

12. กิจกรรมเสนอแนะ และขอมูลเพิ่มเติมสําหรับครู


- ใหนักเรียนทุกคนทําแบบฝกหัดใน BRIDGE Workbook 6 Unit 3
- ใหนักเรียนฝกการเขียนเพิ่มเติมโดยเลือกหัวขอจาก Composition Exercises ดังนี้
- ใหนักเรียนเขียนบทความลงในนิตยสารวัยรุนเลมหนึ่งโดยชื่อเรื่องของบทความนั้นวา
แฟชั่นเครื่องแตงกายในอีก 20 ปขางหนาที่วัยรุนนิยมสวมใส (140 – 160 คํา)
- ใหนักเรียนจินตนาการวา นักเรียนไดทํากิจกรรมรวมกับนางแบบแฟชั่นเปนเวลา 1 วัน
และเขียนบทความเลาถึงกิจกรรมในวันนั้นลงในนิตยสารของโรงเรียน (140 – 160 คํา)
13. ความคิดเห็นของผูบริหารสถานศึกษาหรือผูท ี่ไดรับมอบหมาย

……………………………………………………………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ.……………………………………………
( )
ตําแหนง…………………………………………….

14. บันทึกผลการจัดการเรียนรู/ ปญหาอุปสรรค/ขอเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุง

……………………………………………………………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ.……………………………………………
( )
ตําแหนง…………………………………………….

You might also like