Professional Documents
Culture Documents
แผนการจัดการเรียนรู้ ม.6 Unit 3
แผนการจัดการเรียนรู้ ม.6 Unit 3
1. มาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/1 ปฏิบัติตามคําแนะนําในคูมือการใชงานตางๆ คําชี้แจง คําอธิบาย และคํา
บรรยายที่ฟงและอาน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/2 อานออกเสียงขอความ ขาว ประกาศ โฆษณา บทรอยกรอง และบทละครสั้น
(skit) ถูกตองตามหลักการอาน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/3 อธิบายและเขียนประโยคและขอความใหสัมพันธกับสื่อที่ไมใชความเรียงรูปแบบ
ตางๆ ที่อาน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไมใชความเรียงรูปแบบตางๆ ใหสัมพันธ
กับประโยคและขอความที่ฟงหรืออาน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.6/4 จับใจความสําคัญ วิเคราะหความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก
การฟงและอานเรื่องที่เปนสารคดีและบันเทิงคดี พรอมทั้งใหเหตุผลและ
ยกตัวอยางประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 ม.6/1 สนทนาและเขียนโตตอบขอมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องตางๆ ใกลตัว
ประสบการณ สถานการณ ขาว/เหตุการณ ประเด็นที่อยูในความสนใจของ
สังคม และสื่อสารอยางตอเนื่องและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.2 ม.6/2 เลือกและใชคําขอรอง ใหคําแนะนํา คําชี้แจง คําอธิบายอยางคลองแคลว
มาตรฐาน ต 1.2 ม.6/5 พูดและเขียนบรรยายความรูสึกและแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่อง
ตางๆ กิจกรรม ประสบการณ และขาว/เหตุการณอยางมีเหตุผล
มาตรฐาน ต 1.3 ม.6/1 พูดและเขียนนําเสนอขอมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ ขาว/เหตุการณ เรื่อง
และประเด็นตางๆ ตามความสนใจของสังคม
มาตรฐาน ต 1.3 ม.6/2 พูดและเขียนสรุปใจความสําคัญ/แกนสาระที่ไดจากการวิเคราะหเรื่อง กิจกรรม
ขาว เหตุการณ และสถานการณตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 1.3 ม.6/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ และเหตุการณ
ทั้งในทองถิ่น สังคม และโลก พรอมทั้งใหเหตุผลและยกตัวอยางประกอบ
มาตรฐาน ต 2.1 ม.6/1 เลือกใชภาษา น้ําเสียง และกิริยาทาทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และ
สถานที่ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจาของภาษา
มาตรฐาน ต 2.2 ม.6/1 อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกตางระหวางโครงสรางประโยค ขอความ สํานวน
คําพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาตางประเทศและภาษาไทย
มาตรฐาน ต 3.1 ม.6/1 คนควา/สืบคน บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขอมูลที่เกี่ยวของกับ
กลุม สาระการเรียนรูอื่นจากแหลงเรียนรูตางๆ และนําเสนอดวยการพูดและ
การเขียน
มาตรฐาน ต 4.1 ม.6/1 ใชภาษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองที่เกิดขึ้นในหองเรียน
สถานศึกษา ชุมชน และสังคม
มาตรฐาน ต 4.2 ม.6/1 ใชภาษาตางประเทศในการสืบคน/คนควา รวบรวม วิเคราะห และสรุปความรู/
ขอมูลตางๆ จากสื่อและแหลงการเรียนรูตางๆ ในการศึกษาตอและประกอบ
6. สิ่งที่นักเรียนตองไดรับการพัฒนา
6.1 ทักษะกระบวนการ
- กระบวนการกลุม
- กระบวนการคิด
- กระบวนการเรียนรูดวยตนเอง
6.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค
- ซื่อสัตยสุจริต
- มีวินัย
- ใฝเรียนรู
- มุงมั่นในการทํางาน
6.3 สมรรถนะสําคัญของผูเรียน
- ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity)
- ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity)
- ความสามารถในการแกปญหา (Problem-Solving Capacity)
- ความสามารถในการใชทักษะชีวิต (Capacity for Applying Life Skills)
7. ผลงานที่ไดจากการเรียนรูแ ละปฏิบัติ
7.1 การพูดอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่มีอิทธิพลตอการเลือกเสื้อผาที่สวมใส
7.2 ผลงานเขียนบทความบรรยายเครื่องแตงกายชิ้นโปรด
8. การวัดและประเมินผล (Evaluation)
9. สาระการเรียนรู
9.1 คําศัพท (Vocabulary)
- aspect (n) a part of the character or nature of something (แงมุม, ดาน)
- assignment (n) a piece of work that is given to someone as part of their job or
studies (งานที่ไดรับมอบหมาย)
- be worth it (phr) have value (คุมคา, มีคา)
- certificate (n) a paper that states certain fact (ประกาศนียบัตร ซึ่งไมจําเปนตองเปนใบ
แสดงวุฒิการศึกษา)
- comment (n) something that a person or people said (คําพูด, ความคิดเห็น)
- course (n) sets of lessons (คอรสเรียน, หลักสูตร)
- demanding (adj) difficult, needing a lot of skill, patience, effort, etc (ยาก, ตองทุมเทมาก)
- diploma (n) a document which may be awarded to a student who has completed
a course of study by a university or college, or by a high school in
the United States (ประกาศนียบัตร ที่แสดงวาสําเร็จการศึกษา)
- educational (adj) concerned with or related to education (เกี่ยวกับการศึกษา, ที่ใหความรู)
- exhibition (n) a public event at which pictures, sculptures, or other objects of
interest are displayed, for example at a museum or art gallery (งาน
แสดงศิลปะ, นิทรรศการ)
- fit (v) be the right size and shape (ขนาดพอดี)
- glamorous (adj) more attractive, exciting, or interesting than ordinary people or things
(หรูหรา, มีเสนห, ดึงดูดใจ)
- prospectus (n) a detailed document produced by a company, college, or school,
which gives details about it (หนังสือแนะนํา)
- provided that (conj) if, or only if (ถา)
- qualifications (n) the official documents or titles you have that show your level of
education and training (วุฒิ, คุณวุฒิ)
- range (n) a variety of things of a particular type (ขอบขาย, ความหลากหลาย)
- sandals (n) light shoes that you wear in warm weather, which have straps
instead of a solid part over the top of your foot (รองเทาแตะ, รองเทาที่
มีสายคาดหรือสานดานบน
- spectator (n) someone who watches something, especially a sports event (ผูชมกีฬา)
- technique (n) a particular way of doing something (เทคนิค, วิธีการ)
- theoretical (adj) based on ideas rather than experience (ในทางทฤษฎี, ตามตํารา)
9.2 การออกเสียง (Pronunciation)
certificate /sərˈtɪfɪkət/ lecturer /ˈlektʃərər/ tracksuit /ˈtræksuːt/
9.3 โครงสรางทางไวยากรณ (Grammar)
Talking about the future
9.4 หนาที่ทางภาษา (Functions of the Language)
- Speaking to express your opinions about influence on clothing
- Writing to describe a favorite piece of clothing
9.5 วัฒนธรรม(Culture)
อธิบายใหนักเรียนฟงวา ทุกๆหนวยการศึกษาอยางวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย จะแจก
หนังสือแนะนําหรือแผนพับแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรที่เปดสอน ซึ่งชวยใหนักเรียนที่
สนใจไดเลือกวาตองการเขาเรียนในแผนกใดและเรียนอะไรบาง อยางไรก็ตามวิทยาลัยในบทความนี้
เปนองคกรสมมติเทานั้น
9.6 กลวิธีการเรียนรู (Learning Strategies)
- Reading for specific details
- Listening for specific details
9.7 ความสัมพันธกับกลุมสาระการเรียนรูอื่น
- กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
- กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี
- กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ
10. สื่อและแหลงเรียนรู
10.1 หนังสือเรียน BRIDGE Student Book 6 Unit 3
10.2 หนังสือแบบฝกหัด BRIDGE Workbook 6 Unit 3
10.3 ซีดีบันทึกเสียง Audio CD BRIDGE 6 Unit 3
10.4 พจนานุกรมอังกฤษ - อังกฤษ
11. การจัดกิจกรรมการเรียนรู
11.1 ขั้นนําเขาสูบทเรียน (Warm up)
- ครูนําภาพเสื้อผา แบบและสีตางๆ มาใหนักเรียนทั้งชั้นดู แลวพูดถาม–ตอบเรื่องแฟชั่น
เครื่องแตงกายกับนักเรียน ดังนี้
T: Do you like these clothes?
What style of clothes do you like to wear the most? Why?
Are you interested in studying fashion design? Why? / Why not?
Learning Link
ครูแจงจุดประสงคการเรียนรูโดยใหนักเรียนทุกคนอานกรอบ Learning Link หนา 21
เพื่อใหนักเรียนทราบวานักเรียนตองรูและปฏิบัติกิจกรรมใดบางใน Unit 3 ดังนี้
- คําและวลีที่ใชพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกาย
- พูดอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งที่มีอิทธิพลตอเครื่องแตงกายที่บุคคลทั่วไปสวมใส
- เขียนบทความบรรยายเครื่องแตงกายชิ้นโปรด
- พูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณในอนาคต
Pre-reading
A Discuss these questions with a friend.
- กอนทํากิจกรรมขอ A ครูซักถามความคิดเห็นทั่วไปเกี่ยวกับแฟชั่นเครื่องแตงกายและอาชีพ
นักออกแบบเครื่องแตงกายจากนักเรียนทั้งชั้น พรอมทั้งถามตอวามีนักเรียนคนใดที่สนใจจะ
เขาเรียนในโรงเรียนออกแบบเครื่องแตงกายบางหรือไม จากนัน้ ใหนักเรียนจับคูกับเพื่อน
ผลัดกันพูดอภิปรายคําถามในกิจกรรมขอ A ขณะที่นักเรียนกําลังทํากิจกรรมคู ครูควรพูดย้ําให
นักเรียนพยายามใหเหตุผลประกอบความคิดเห็นของตนเองใหมากที่สุดเทาที่จะทําได
เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมคูเสร็จแลว ครูเรียกใหนักเรียนแตละคูออกมาพูดรายงานความคิดเห็น
ของคูตนเองใหเพื่อนๆ ฟงหนาชั้นเรียน
11.2 ขั้นนําเสนอความรู (Presentation)
Reading Link
B Read the college prospectus below to find out qualifications are needed for
full-time and part-time courses.
- ใหนักเรียนทุกคนอานชื่อเรื่องและดูภาพหนังสือเชิญชวน (prospectus) ใหเขาเรียนหลักสูตร
แฟชั่นเครื่องแตงกายในวิทยาลัย Fairfield ในกิจกรรมขอ B แลวครูถามคําถามตอไปนี้
T: What is the title of the college prospectus? (Fairfield College of Fashion.)
What subject do the students in Fairfield College study? (Fashion.)
Who are the people in the picture? (Students in Fairfield College.)
What is the building in the picture? (Fairfield College.)
- จากนั้นใหนักเรียนทุกคนอานยอหนาที่ 1 ซึ่งเปนบทเกริ่นหรือบทนํา (Introduction) ของ
หนังสือเชิญชวน แลวครูถามนักเรียนวา What is the purpose of the first paragraph?
(คําตอบ: To persuade interested students to attend fashion course in Fairfield
College.)
- ใหนักเรียนทํางานกลุมๆ ละ 3 – 4 คนอานหนังสือเชิญชวนในกิจกรรมขอ B อยางเร็ว แลว
ตอบคําถามที่วา คุณสมบัติใดจําเปนสําหรับผูเขาเรียนในหลักสูตรแฟชั่นเครื่องแตงกายแบบ
เต็มเวลาและแบบไมเต็มเวลา โดยนําเสนอคําตอบออกมาในรูปแผนผังความคิด (mind
mapping) ที่กําหนดให ครูย้ําเตือนใหนักเรียนอานเพื่อคนหาขอมูลเฉพาะที่เปนคําตอบ
เทานั้น
แผนผังความคิด
having a high
Evening Wear Design Color in Fashion school diploma
or a similar
qualification
- เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ใหนักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนกลุมออกมานําเสนอ
แผนผังความคิดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่จําเปนสําหรับผูเขาเรียนในหลักสูตรแฟชั่นเครื่องแตงกาย
แบบเต็มเวลาและแบบไมเต็มเวลาหนาชั้นเรียน แลวครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น
อีกครั้ง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
C There are six sentences missing from the brochure you read. Can you put the
sentences below in the right place?
- ใหนักเรียนทุกคนอานหนังสือเชิญชวนใหเขาเรียนหลักสูตรแฟชั่นเครื่องแตงกายในวิทยาลัย
Fairfield ในกิจกรรมขอ B อีกครั้ง แลวจึงอานประโยค A – F ในกิจกรรมขอ C ซึ่งถูกตัด
ออกมาจากหนังสือเชิญชวนในกิจกรรมขอ B ใหนักเรียนแตละคนพิจารณาวาประโยค
เหลานั้นควรถูกวางใหตรงกับหมายเลขใด (1 – 6) ในหนังสือเชิญชวนในกิจกรรมขอ B ครู
แนะนําใหนักเรียนสังเกตตัวแนะ (clue) ในประโยคที่อยูกอนและหลังหมายเลข และสังเกตวา
ประโยคที่ถูกตัดออกมาและเนื้อความใน หนังสือ เชิญชวนนั้นอยูในรูปประโยค Direct
Speech หรือคําสรรพนามบุรุษที่ 1 หรือไม เพื่อชวยใหนักเรียนเลือกวางประโยคในตําแหนง
ที่ถูกตองได
- หลังจากนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ครูสุมเรียกนักเรียนบางคนบอกคําตอบและตัวแนะที่
นักเรียนใชเปนแนวทางในการเลือกคําตอบนั้น แลวครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น
อีกครั้ง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
- ครูอาจจะถามคําถามตอไปนี้เพื่อตรวจสอบความเขาใจของนักเรียนทั้งชั้นอีกครั้ง
Comprehension Link
Ask the following questions to check students’ general understanding of the prospectus. Remind
students to look at the missing sentences for answers as well as the main text.
1. Where is Fairfield College? (in the heart of the beautiful English countryside)
2. How long are the courses? (one to three years)
3. Are the part-time courses available in the morning? (No, only in the evenings and on
weekends)
4. What do the full-time courses include apart from theoretical and practical lessons? (field trips)
5. Why are the comments from students included in the text? (They help students decide if
Fairfield College is the right college for them.)
6. Who is already working as an assistant to a designer? (Patricia)
Vocabulary Link
D March the words from the brochure with their meaning.
- ใหนักเรียนทั้งชั้นอานคําสั่งและคําศัพทขอ 1 – 12 ในกิจกรรมขอ D แลวชวยกันบอก
ความหมายของคําศัพทที่นักเรียนรูจัก แลวครูอธิบายใหนักเรียนฟงวา นักเรียนควรจะคนหา
ความหมายของคําศัพทที่นักเรียนไมทราบจากบริบทแวดลอมในหนังสือเชิญชวนในกิจกรรม
ขอ B และแนะนําใหนักเรียนเริ่มตนทํากิจกรรมขอ D โดยใหนักเรียนแตละคนจับคูคําศัพท
กับความหมายที่นักเรียนมั่นใจวาถูกตองเปนลําดับแรก และเตือนนักเรียนวา คําศัพทบางคํา
มีหลายความหมาย ตัวอยางเชน heart ซึ่งมีความหมายวา หัวใจ จิตใจ ศูนยกลาง เปนตน
ดังนั้นนักเรียนจึงควรจับคูความหมายกับคําศัพทตามบริบทแวดลอมของหนังสือเชิญชวนใน
กิจกรรมขอ B จึงจะถูกตองที่สุด
- เมื่อนักเรียนทํากิจกรรมเสร็จแลว ใหนักเรียนทุกคนชวยกันอานคําศัพทและความหมายที่คดิ
วาเปนคําตอบทีละขอ แลวครูเฉลยคําตอบที่ถูกตอง (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
E Match the items of clothing to the picture below.
- ใหนักเรียนทุกคนอานคําสั่งและคําศัพทขอ 1 – 11 ในกิจกรรมขอ E แลวชวยกันบอก
ความหมายของคําศัพทที่นักเรียนรูจัก และจับคูคําศัพทกับภาพใหสัมพันธกัน นักเรียน
อาจจะสับสนความหมายระหวาง blouse และ shirt ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจวา blouse จะ
สวมใสโดยผูหญิงเทานั้น และกระตุนใหนักเรียนนึกถึงคําศัพทเกี่ยวกับเครื่องแตงกายคําอื่นๆ
ที่นักเรียนรูจัก ตัวอยางเชน boot, hat, skirt และ coat เปนตน แลวตรวจคําตอบพรอมกับ
นักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
F Use the word in capitals at the end of each sentence to make a word that fits in the
space in the same sentence.
- กอนทํากิจกรรมขอ F ครูควรทบทวนการสรางคําศัพท (Vocabulary Building) โดยใชสวน
เติมทายคํา (Suffixes) ดังนี้
สวนเติมทายคํา (Suffixes) คือ คําที่นาํ มาเติมทายคําตางๆ แลวเกิดเปนคําใหมและเปลี่ยน
ชนิดของคํา (Part of Speech) ของคํานั้น แบงออกเปน 2 ประเภทคือ
Suffix เปนสวนที่นํามาเติมทายคํา (คํากริยา คุณศัพท คํานาม) เพื่อทําใหเกิดคําใหมและแสดงหนาที่
คํา (part of speech) ตางๆ กัน เชน
1. adjective-forming suffixes (suffixes ที่ทําใหเกิด “คําคุณศัพท”)
-able, -ible; concerning, having (มี) เชน acceptable (ที่ยอมรับได)
-al, -ial; concerning; related to (เกี่ยวของกับ) เชน related to mental
-an, -ean, -ian; belonging of (ของ, เปนของ) เชน American
-ant, -ent; causing (ทําใหเกิด) เชน pleasant
-ese; belonging to (มีถ่นิ กําเนิด) เชน Japanese
-ful; causing (เต็มไปดวย) เชน careful, wonderful, beautiful
-ic, -ical; connected with (เกี่ยวกับ) เชน connected with atomic
-ive, -ative, -itive; having the quality of (มีคุณลักษณะ) explosive
-ous, -eous, -ious; causing (เปนเหตุให) dangerous famous
2. noun-forming suffixes (suffixes ที่ทําใหเกิด “คํานาม") เชน
-age; activity เชน courage (ความกลาหาญ)
-al; action เชน arrival (การมาถึง)
-ance, -ence; action, state or quality เชน importance (ความสําคัญ)
-ation, -tion, -ion; action, state เชน condition examination (การสอบ)
-hood; state or time of being (ภาวะ เปน) เชน monkthood, (สมณเพศ), childhood (วัยเด็ก)
-ic, -ics; arts and sciences (ศิลปะ ศาสตร) เชน physics (วิชาฟสิกส)
-ing; action (การกระทํา) เชน running (การวิ่ง)
-ism; idea, principles or teachings (หลักการ คําสอน) เชน Buddhism (พุทธศาสนา)
-ity; state, condition, quality (สภาพ คุณภาพ) เชน ability (ความสามารถ) necessity (ความ
จําเปน)
-logy, -ology; principles or teaching (ศาสตร วิชา) biology (ชีววิทยา)
-ment; result of (ผลของการกระทํา) management (การจัดการ)
หลักการใชเครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation)
จุดหรือเครื่องหมายมหัพภาค (Full Stop / Period)
1. ใชเมื่อจบประโยคบอกเลา ประโยคคําสั่ง ประโยคขอรอง และประโยคปฏิเสธ เชน
I am studying English. They didn’t go to Chonburi last week.
Be quiet. Don’t go away.
2. ใชจุดหลังคํายอ เชน
a.m. = ante meridiem B.A. = Bachelor of Arts
Co. = Company Dr. = Doctor
การใชตัวอักษรตัวใหญ (Capital Letter) และการใชเครื่องหมายจุลภาค (,) (Comma)
1. คําขึ้นตนคําแรกของประโยคจะตองขึ้นตนดวยตัวอักษรตัวใหญเสมอ เชน
You are my friend.
2. ชื่อเฉพาะหรือนามเฉพาะ ไดแก ชื่อคน ชื่อสัตว (ที่ตั้งชื่อใหมัน) ชื่อสถานที่ ชื่อเรียกทางภูมิศาสตร
(ภูเขา แมน้ํา ลําคลอง ปา อาว น้ําตก) เชน
John’s dog, Sam, is brown.
Dusit Zoo is in Bangkok.
Samutprakarn is on the coast of the Gulf of Thailand.
3. ชื่อวันในสัปดาห ชื่อเดือน ชื่อวันสําคัญ ชื่อวันเทศกาล เชน
Visakha Bucha Day Loy Kratong Festival,
Chinese New Year There are thirty days in June.
4. คําสรรพนาม ‘I’ (ฉัน) ตองเขียนดวยตัวอักษรตัวใหญเสมอ
5. คําขึ้นตนและคําลงทายจดหมาย
Dear Sir, Yours sincerely,
- จากนั้นใหนักเรียนแตละคนอานบทความในกิจกรรมขอ M และเขียนเครื่องหมายวรรคตอน
และตัวอักษรพิมพใหญลงในตําแหนงที่ถูกตอง แลวตรวจคําตอบกับเพื่อนขางเคียง จากนั้น
ครูตรวจคําตอบพรอมกับนักเรียนทั้งชั้น (ดูเฉลยคําตอบทายเลม)
N Read the hints before you write you own article using the article outline given.
(140-160 words)
- ในกิจกรรมขอ N ครูอธิบายใหนักเรียนทั้งชั้นฟงวา นักเรียนจะไดฝกเขียนบทความดวย
ตนเองโดยใชแนวคิดจาก Article Outline เปนตัวชวยในการทํากิจกรรม
- กอนเริ่มทํากิจกรรมขอ N ใหนักเรียนทุกคนอานบทความในกิจกรรมขอ M อีกครั้ง แลวพูด
อภิปรายวาขอความใดเปนหัวขอเรื่อง (Topic) บทนํา (Introduction) เนื้อหา / ขอความ
สนับสนุน (Body / Supporting Details) และบทสรุป (Conclusion) ดังนี้
……………………………………………………………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ.……………………………………………
( )
ตําแหนง…………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………….………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ.……………………………………………
( )
ตําแหนง…………………………………………….