วรรณกรรมพิจารณ์

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 18

แบบฝึกวรรณกรรมพิจารณ์ ระดับชั้น ม.

๑ – ๓

คำชี้แจง
๑. กำหนดเวลาที่ใช้ในการสอบ ๙๐ นาที
๒. ชุดข้อสอบประกอบด้วย
๒.๑ ข้อสอบมีทั้งหมด ๒ ตอน คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน
๒.๒ กระดาษคำตอบ
๓. ให้นักเรียนทำข้อสอบ ซึ่งมีทั้งหมด ๒ ตอน คะแนนต็ม ๑๐๐ คะแนน โดยให้เขียน
ตอบลงในกระดาษคำตอบ ระบุชอื่ – นามสกุลนักเรียนสังกัดโรงเรียน และเครือข่ายลงบน
หัวกระดาษคำตอบ เขียนด้วยลายมือที่อา่ นง่าย ชัดเจน ใช้เวลาสอบตามที่กำหนด โดย
สามารถดูบทอ่านวรรณคดีได้
๔. ห้ามทำข้อสอบจนกว่าจะถึงเวลาสอบ
๕. ห้ามนำข้อสอบออกนอกห้องสอบ
ตอนที่ ๑
คำชีแ้ จง ให้เ ลื อ กคำตอบที่ ถูกต้องทีส่ ุด แล้วทำเครื่องหมาย x ลงในช่องบนกระดาษคำตอบ (๖๐ คะแนน)
อ่านบทความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อที่ ๑ – ๒
ยโสธรพื้นที่ทางภาคอีสานเมื่อ ๔๐ ปีก่อน มีสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งชาวบ้านทำมาหากินด้วยการทำ
ไร่เกษตรกรรม เมื่อไม่นานมานี้เกิดปัญหาภัยแล้งเข้าควบคุมทำให้ชาวบ้านเริ่มอพยพไปยังพื้นที่ดินดำน้ำชุ่ม แต่
บางครอบครัวที่ไม่ได้อพยพตามไปก็หันมาเปลี่ยนอาชีพเป็นการหาของป่า และล่าสัตว์ป่าตามฤดูกาล
คูนเด็กน้อยที่อาศัยกับพ่อแม่ มียี่สุ่นและบุญหลายผู้เป็นน้องสาวอยู่กระท่อมหลังเล็ก แต่พวกเขาก็มี
ความสุขถึงแม้หมู่บ้านที่เขาอยู่อาศัยทุกวันนี้จะเริ่มเปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อน เพราะเริ่มมีพ่อค้าแม่ค้าเพื่อนบ้าน
ที่เข้ามาค้าขายในหมู่บ้าน ทำให้พวกเด็ก ๆ ดูตื่นเต้นกับชาวกุลาและพวกคนเวียดนาม วันหยุดจากการเรียน
คูนกับเพื่อนจะพากันไปเล่นในโคกในป่าตามท้องไร่ท้องนาตามประสาเด็กชนบท อาหารการกินอยู่ของพวกเขา
คือสัตว์ทตี่ ้องไปหามาจากในป่า เช่น พังพอน นกคุ้ม งูสิง หรือปลาร้าที่เป็นอาหารหลักของชาวบ้านที่หาง่าย
ที่สุดและสามารถถนอมไว้ได้นาน และเมื่อได้อาหารใดมาชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันจึงต้องแบ่งปันอาหารกันอยู่เสมอ
ถึงจะอยู่ด้วยกันได้นาน วิถีชีวิตเหล่านี้ดำเนินไปได้ด้วยวิญญาณ ศิลปวัฒนธรรมของชาวอีสานที่ส่งผลมาสู่
ปัจจุบัน ที่ยังปรากฏให้เห็นคือความชื่อเรื่องผีสางเทวดาที่ชาวบ้านให้ความศรัทธา
เมื่อความแห้งแล้งคืบคลานเข้ามาจนครอบครัวของคูนต้องดิ้นรนออกเดินทางไปยังแม่น้ำชี เพื่อหาปลา
มาไว้ทำอาหารและแลกข้าวปลาอาหารชาวบ้านเพื่อเก็บไว้กินได้หลายปี เกวียนคือพาหนะในสมัยนั้นที่ใช้สัญจร
ไปยังทีต่ ่าง ๆ เมื่อทุกคนพร้อมเรื่องราวการผจญภัยของคูน ครอบครัว และเพื่อนบ้านก็เริ่มต้นขึ้น เจอ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ในระหว่างการเดินทาง สภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และหากินง่าย ๆ ฉบับของชาวบ้านที่ไป
ไหนก็ไม่อดตายอย่างแน่นอน เพราะรูจ้ ักการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี
เสียงน้ำไหลได้ยินแล้วสดชื่นในหัวใจ คูนและรอบครัวดีใจกันยกใหญ่ที่จะได้กินปลาแม่น้ำกันสักที และ
จะได้เล่นแม่น้ำชีที่เปรียบเหมือนสายเลือดของชาวอีสานที่คอยไหลเลี้ยงชีวิตริมสองฝั่ง ทุกคนเมื่อลงจากเกวียนก็
พากันเตรียมอุปกรณ์หาปลา เมื่อได้ปลามาผู้หญิงก็พากันทำอาหาร ที่เหลือก็ถนอมไว้ทำปลาแห้งบ้าง ปลาร้า
บ้าง พวกเด็ก ๆ ก็สนุกกับอาหารที่กินได้เต็มที่ พ่อแม่ และเพื่อนบ้านต่างก็มีความสุขที่ได้ออกมาเจอแหล่ง
อาหารที่อุดมสมบูรณ์
หลายวันแล้วที่จากบ้านมา ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน ผ่านหมู่บ้านใดก็เอาปลาเข้าไปแลกอาหารกับ
ชาวบ้านตามเส้นทางที่ผ่าน เมื่อมาถึงบ้านก็ได้แจกจ่ายอาหารที่หามาได้กับเพื่อนบ้าน และไม่กี่วันต่อมาก็มีงาน
หมอลำที่วัดเป็นปกติที่ชาวอีสานชอบอยู่กับความสนุกสนานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ทิ้งและแยกออกจาก
กันไม่ได้ และความเป็นลูกอีสานกับชาวอีสานก็ยังคงดำรงให้ลูกหลานรุ่นต่อไปให้เห็นกัน หากทุกคนยังช่วยกัน
รักษาเอกลักษณ์ความเป็นอีสานไว้ตลอดไป
ลูกอีสาน ผู้แต่ง : คำพูน บุญทวี
๑. ข้อความต่อไปนี้เป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. เป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เพราะมีการใช้ถ้อยคำภาษาที่ไพเราะ งดงาม ลีลา จังหวะ และมีพลัง
ในการนเสนอ
ข. เป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เพราะผู้เขียนมีเจตนาสร้างสรรค์ความจรรโลงใจและความ เพลิดเพลิน
สร้างภาพพจน์ให้ผู้อ่านมองเห็นภาพและเพลิดเพลินไปกับจินตนาการ
ค. ไม่เป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เพราะไม่ได้เสนอความคิดหรือเนื้อหาแปลกใหม่ และใช้สำนวนภาษา
ที่เข้าใจยาก
ง. ไม่เป็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เพราะผู้อ่านไม่ได้รับความบันเทิง ข้อคิด คติธรรมในการดำเนินชีวิต
จากการอ่าน
๒. ข้อใดวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดของเรื่องไม่ถูกต้อง
ก. แสดงให้เห็นถึงการเล่นคำเล่นความให้สละสลวยลึกซึ้ง กินใจ
ข. ให้คุณค่าทางความคิด ด้านวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ความชื่อเรื่องผีสางเทวดาที่ชาวอีสานให้
ความศรัทธา
ค. ให้ข้อคิดว่า ความเป็นลูกอีสานกับชาวอีสานก็ยังคงดำรงให้ลูกหลานรุ่นต่อไปให้เห็นกัน หากทุกคน
ยังช่วยกันรักษาเอกลักษณ์ความเป็นอีสานไว้ตลอดไป
ง. แสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างระหว่างชุมชุนเมืองกับชุนชนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทมีความแตกต่างกัน
อ่านบทความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อที่ ๓ - ๔
ขณะประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมอิ่มตัว” เพราะพ่อแม่สร้างเกราะคุ้มกันและไม่เตือนลูกว่ากำลังต้องเจอ
กับการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่ต่างประเทศพ่อแม่จะสอนให้ลูกเอาตัวรอดในสงครามการอยู่รอดสมัยใหม่
เพราะการ “ตาย” ในความหมายของยุคใหม่นี้ คือ การเสียโอกาสนั่นเอง
ในปัจจุบัน AI ฉลาดเท่ากับเด็กอายุ ๖ ขวบเท่านั้น แต่ที่ AI ชนะมนุษย์ในปัจจุบันเนื่องจาก AI
คิดได้เร็วกว่ามนุษย์ถึง ๓๐,๐๐๐ เท่า ที่น่าสนใจ คือ ภายในปี ๒๐๔๕ ที่จะถึง AI จะเกิด Singularity
หรือ AI จะมีความฉลาดเท่ามนุษย์ นั่นแปลว่า ไม่มีทางที่มนุษย์จะแข่งขันได้ชนะในเรื่องความถูกต้อง

๓. ข้อใดให้ความหมายของ “สังคมอิ่มตัว” ได้ดีที่สุด


ก. กาญจนาช่วยแม่ขายขนมปังตอนเลิกเรียน
ข. ปิยะนุชแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกได้รางวัลที่ ๑
ค. กิติคุณประดิษฐ์หุ่นยนต์ช่วยปิดไฟในบ้านได้สำเร็จ
ง. มานิตให้พี่สาวช่วยออกแบบโมเดลรถยนต์
๔. ข้อใดตีความได้ถูกต้อง
ก. โอกาส คือ สิ่งที่มีค่าที่สุดที่เราควรคว้าไว้
ข. การเสียโอกาส เปรียบได้กับการตาย
ค. โอกาสเป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างจํากัด
ง. อย่ารอโอกาส แต่ควรสร้างโอกาส
ชีวิตคิดบวก สู้โควิด
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด - ๑๙ ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งด้านจิตใจ สังคม
เศรษฐกิจ เรื่องงาน รวมไปถึงเรื่องปากท้องและเงินทอง แต่อยากให้ทุกคนลองมองว่า ในทุกเหตุการณ์ที่เรามองว่าเป็น
วิกฤติ “ย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ” เรามาลองเปลี่ยนมุมมองกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด - ๑๙ ครั้งนี้
กันดีกว่า เพราะอาจจะทำให้เรามีพลังใจสู้กับวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และเป็นจุดเปลี่ยนเพื่อให้เราได้ปรับทัศนคติในมุมใหม่
เข้าใจโลกปัจจุบันมากขึ้น รวมถึงเพื่อเตรียมตัวตั้งรับเมื่อสถานการณ์เช่นนี้กลับมาใหม่อีกครั้ง
พัฒนาแนวทางการทำงานที่ดีกว่ามีเวลาพัฒนาศักยภาพตัวเอง จากสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เราอาจใช้เวลา
ทบทวนแนวทางการทำงานของตัวเอง ด้วยการเพิ่มศักยภาพในการใช้เทคโนโลยี ยุค ๕G ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การ
นำนวัตกรรมต่างๆ อาทิ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มต่างๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการ
ทำงานให้มากขึ้น รวมถึงการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม เช่น การลงเรียนออนไลน์ตาม
ความสนใจและความชอบของตัวเอง เพิ่มประสบการณ์ให้มากขึ้น และสามารถเพิ่มเป็นช่องทางการหารายได้เสริมได้
ปรับวิถีชีวิตใหม่/มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เรามีโอกาสใส่ใจ ดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้ง
ทางด้านสุขภาพกาย และจิตใจ ใช้เวลาออกกำลังกาย หรือหางานอดิเรกต่าง ๆ ทำ เช่น การอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง
เป็นต้น เพื่อรักษาสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรงอยู่เสมอ รวมถึงสังเกตตัวเองว่ามีอาการป่วยหรือไม่ หากมีควรรีบพบแพทย์
โดยด่วนเพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด - ๑๙ รวมถึงภาวะเครียด ซึมเศร้าที่อาจจะแฝงมาโดยที่ เราไม่รู้ตัว
รูจ้ ักการวางแผนทางการเงิน เราทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา ยิ่งในสถานการณ์การ
แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด- ๑๙ ทำให้หลายคนขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากเกิดข้อจำกัดในเรื่องของรายได้
ฉะนั้นเราควร มีการวางแผนในการใช้จ่ายเงิน ควรวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทให้ชัดเจน อาทิ
• ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ เป็นต้น
• ค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เช่น ค่ายา ค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ เป็นต้น
ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและฟุ่มเฟือยออก รวมถึงชะลอการสร้างหนี้ใหม่เพื่อลดภาระการใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้น
และหากเราเริ่มเก็บออมเงินวันละเล็กน้อยเพื่ออนาคต และเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ซึ่งเทคนิคการออมแต่ละคนก็ขึ้นกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป เช่น การหยอดกระปุก ฝากประจำธนาคาร ซื้อพันธบัตร
รัฐบาล ซื้อประกันแบบสะสมทรัพย์ การซื้อสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร การนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวม เช่น RMF SSF
รวมถึงการออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งเหมาะกับคนที่มีอาชีพอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ เพื่อแก่ตัวไป
จะได้มีเงินออมใช้ในวัยเกษียณ
ที่มา : https://www.nsf.or.th/node
๕. ข้อใดกล่าวถึงข้อความต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
ก. ข้อความข้างต้นใช้ภาษาโน้มน้ามใจในการเชิญชวนให้คิดถึงผลดีของการเปลี่ยนมุมมองความคิด
ข. ข้อความข้างต้นใช้ถ้อยคำภาษาที่เข้าใจง่าย และเป็นเรื่องที่สามารถปฏิบัติได้จริง
ค. ถ้าปฏิบัติตามคำเชิญชวนของข้อความข้างต้นแล้วจะเกิดผลดี
ง. ข้อความข้างต้นกล่างถึงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด – ๑๙
อ่านบทความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อที่ ๖ - ๘

ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน ผู้หญิงควรมีส่วนในความรับผิดชอบหรือ


การแสดงบทบาทในสังคมควบคู่ไปกับผู้ชายในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งในทางกายภาพนั้นผู้หญิงอาจมีความแตกต่างจากผู้ชาย
แต่หากกล่าวถึงเรื่องความคิด ความสามารถจะเห็นว่าผู้หญิงก็สามารถทำงานออกมาได้ดีเทียบเท่าผู้ชาย

๖. บทความนี้ควรตั้งชื่อเรื่องว่าอะไร
ก. บทบาทหน้าที่ของผู้หญิง
ข. ความสามารถของผู้หญิง
ค. ความเท่าเทียมกันทางสังคม
ง. ผู้หญิงเก่งไม่แพ้ผู้ชาย
๗. ข้อใดคือสาระสําคัญของบทความนี้
ก. ผู้หญิงสามารถคิดและสร้างสรรค์ได้เท่ากับผู้ชาย
ข. ผู้ชายอาจคิดได้ไม่เท่าผู้หญิงในบางเรื่อง
ค. ร่างกายผู้หญิงอาจแพ้ผู้ชาย แต่ความคิดผู้หญิงสามารถชนะผู้ชายได้
ง. ผู้หญิงเริ่มเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น
๘. ข้อใดแสดงให้เห็นศักยภาพของผู้หญิงได้ชัดเจนที่สุด
ก. ประธานนักเรียนโรงเรียนนี้เป็นผู้หญิง
ข. โปรเจคนี้อัจฉราได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าทีม
ค. ผลโหวตการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผู้ที่ชนะ คือ ผู้หญิง
ง. วิลาสินี ชนะการประกวดพูดโต้วาทีระดับประเทศ
“การนินทา เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสังคม เมื่อเราถูกนินทาให้เราคิดไว้เสมอว่า การนินทาเหมือนการจุดไฟ
เผาน้ำในทะเล ต่อให้จุดไฟลุกลามใหญ่แค่ไหน แต่น้ำก็ยังคงไหลต่อไปไม่มีทางติดไฟ ไฟจะเผาทำลายก็ลุกไหม้ได้เพียง
ผิวน้ำ ไม่สามารถไหม้ถึงใต้ผิวน้ำได้”

๙. ข้อความนี้สรุปได้อย่างไร
ก. การไม่นินทาคือสิ่งที่ดีที่สุด
ข. อย่าโกรธผู้ที่นินทาว่าร้ายเรา
ค. การให้อภัยต่อผู้อื่น
ง. การวางเฉยและปล่อยไปตามเวลา
อ่านบทความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อที่ ๑๐ - ๑๑

“พวกเราทุกวันนี้เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กันหรืออย่างไร ที่ว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแปนั้นใช้ไม่ได้แล้วหรือ ยกตัวอย่าง


ง่าย ๆ เช่น การปล่อยให้ชาวประมงจับปลาในฤดูวางไข่ เขารู้กันทั่วโลกแล้วว่ามีผลร้ายเพราะเป็นเหตุให้ปลาสูญพันธุ์ใน
เวลาอันรวดเร็ว กฎหมายลงโทษก็มี แต่ไม่มีใครเหลียวแล กฎหมายข้อนั้น ฉีกทิ้งเลยดีไหม ต่อไปนี้ใครทำได้ทำไป
มือใครยาวสาวได้สาวเอา บ้านเมืองไม่ใช่ของใครคนเดียว”

๑๐. ข้อใดคือจุดประสงค์ของผู้เขียนข้อความต่อไปนี้
ก. วิงวอนไม่ให้ชาวประมงจับปลาในฤดูวางไข่
ข. ตำหนิเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่
ค. เสนอแนะให้เลิกใช้กฎหมายที่ใช้บังคับไม่ได้ผล
ง. ตักเตือนประชาชนให้รู้จักเคารพกฎหมาย
๑๑. ข้อใดให้ความหมายของ “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” ได้ดีที่สุด
ก. ต่างคนต่างฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์ใส่ตัว หรือพรรคพวกของตน โดยไม่คำนึงถึงคนอื่น ๆ
เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว
ข. ทำการสองอย่างพร้อม ๆ กันซึ่งอาจล้มเหลวทั้งสองอย่าง
ค. หาผลประโยชน์ใส่ตนโดยขูดรีดผู้อื่น
ง. แสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงทุน
ธรรมดาคนเราที่บวชเรียนอยู่ในสมณเพศนั้น มักจะปรากฏว่ามีตนเกิดขึ้นสองตน คือตนหนึ่งเป็นตนแห่งโลก ที่
สมภารกร่างมักจะแสดงให้ประจักษ์แก่คนทั้งหลาย อีกตนหนึ่งนั้นคือตัวเองในฐานะที่เป็นสมณะอยู่ห่างจากโลก ตนทั้ง
สองนี้ย่อมจะพูดจาทักถามกันอยู่เสมอ
ไผ่แดง : ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

๑๒. ข้อใดคือจุดประสงค์ของผู้เขียน
ก. ความละอายใจต่อบาป
ข. รู้จักผิดชอบชั่วดีและความรู้สึกที่ยังมีกิเลสครอบงำ
ค. มุ่งให้สร้างแต่ความดี
ง. ความมีสติและสมาธิ
อ่านบทความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อที่ ๑๓ - ๑๕
สถานการณ์ฝุ่นพิษในประเทศไทย ยังเป็นปัญหาความไม่เป็นธรรมทางสุขภาพที่เราทุกคนหายใจในอากาศ
เดียวกัน แต่ได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน เนื่องจากความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงข้อมูลและความรู้
ทั้งนี้ก็ยังพบปัญหาความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันโดยเฉพาะหน้ากาก N-๙๕ และเครื่องฟอก
อากาศที่มีราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้และค่าครองชีพของประชาชนทั่วไป และความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับ
ชนบท ที่คนในกรุงเทพฯหรือในเมืองใหญ่ได้รับการเอาใจใส่จากรัฐมากกว่าคนในต่างจังหวัดหรือในอำเภอรอบนอก
โดยเฉพาะคนชายขอบของสังคมที่ไม่ได้รับการดูแลหรือตกเป็นจำเลย

๑๓. ข้อใดคือสาระสําคัญของบทความนี้
ก. ความไม่เป็นธรรมทางสุขภาพที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำ
ข. สาเหตุของการเกิดฝุ่น คือ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์
ค. การป้องกันฝุ่นเบื่องต้น คือ การใส่หน้ากาก N-๙๕
ง. คนต่างจังหวัดเสียเปรียบคนในเมืองหลวง
๑๔. ข้อใดจุดประสงค์ของผู้เขียน
ก. เสียใจ
ข. เสียดสี
ค. ให้ข้อคิด
ง. ตักเตือน
๑๕. ข้อใดให้ความหมายของ “คนชายขอบ” ได้ดีที่สุด
ก. กลุ่มคนที่อาศัยอยู่พื้นที่ห่างไกลจากเมือง
ข. กลุ่มคนที่อาศัยอยู่บริเวณระหว่างเขตรอยต่อระหว่างสองจังหวัด
ค. กลุ่มคนที่มีชีวิตอยู่กึ่งกลางหรือ ห่างไกลจากศูนย์กลางทั้งในทางภูมิศาสตร์และ สังคมวัฒนธรรม
ในทางภูมิศาสตร์
ง. กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดซึ่งหากไกลจากเมืองหลวงของประเทศ
อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคำถามข้อ ๑๖ - ๒๐
“การที่ไม่มีใครเกลียดนั้นเสียเวลามากนัก โดยมากมักจะเสียเงินด้วย เพราะผู้ที่ไม่มีใครเกลียดจะต้องเป็น
คนไม่มีอัฐติดตัวเลย จึงจะไม่มีอิจฉา หรือมิฉะนั้นถ้าพบใครจะต้องยื่นธนบัตรให้เสียทุกรูปทุกนามไปและมีเรือ
แพ ช้าง ม้า วัว ควาย ไว้ให้คนอื่นยืมทั่วโลก”

๑๖. ผู้เขียนต้องการจะเน้นเรื่องใด
ก. คนเราต้องมีคนเกลียดบ้าง
ข. คนเราต้องไม่มีคนเกลียดเลย
ค. การให้ยืมเงินทำให้คนเกลียด
ง. ต้องเป็นคนมีเงินจึงจะไม่มีคนเกลียด
๑๗. คนที่ไม่มีคนเกลียดนั้นจะต้องเป็นคนแบบใด
ก. คนขยัน
ข. คนมีใจโอบอ้อมอารี
ค. คนไม่มีเงินติดตัวเลย
ง. คนไม่มีความอิจฉา
๑๘. “อัฐ” ในข้อความนี้หมายถึงอะไร
ก. เงิน
ข. แปด
ค. คดี
ง. กระดูก
๑๙. ข้อความนี้สรุปได้ว่าความเกลียดเกี่ยวข้องกับสิ่งใดมากที่สุด
ก. เวลา
ข. อุปนิสัย
ค. การมีเงิน
ง. ความอิจฉา
๒๐. ข้อความนี้จัดอยู่ในประเภทใด
ก. คำว่ากล่าว
ข. คำสั่งสอน
ค. คำชมเชย
ง. คำปลุกใจ

เพื่อโค้งเคียวเรียวเดือนและเพื่อนโพ้น เพื่อไผ่โอนพลิ้วพ้อล้อภูผา
เพื่อเรืองข้าวพราวแพร้วทั่วแนวนา เพื่อขอบฟ้าขลิบทองรองอรุณ ฯ
ขอบฟ้าขลิบทอง : อุชเชนี

๒๑. คำประพันธ์ในวรรคใดหมายถึง “ความใฝ่ฝันและความหวังอันเป็นจริง”


ก. วรรคแรก (เพื่อโค้งเคียวเรียวเดือนและเพื่อนโพ้น)
ข. วรรคสอง (เพื่อไผ่โอนพลิ้วพ้อล้อภูผา)
ค. วรรคสาม (เพื่อเรืองข้าวพราวแพร้วทั่วแนวนา)
ง. วรรคสี่ (เพื่อขอบฟ้าขลิบทองรองอรุณ ฯ)
พระท่านสร้างคางคกไว้รกโลก อับเฉาโชคชื่อชนผิดคนเขา
ดินระเหิดเริดหาค่าไม่เบา เสรีเจ้าแพงซึ้งถึงชีวา
ขอบฟ้าขลิบทอง : อุชเชนี

๒๒. จากบทประพันธ์ผู้ประพันธ์กล่าวถึงเรื่องใด
ก. เรื่องโชคลาภ
ข. เรื่องเสรีภาพ
ค. เรื่องคางคก
ง. เรื่องความเชื่อ
การเกิดต้องเจ็บปวด ต้องร้าวรวดและทรมา
ในสายฝนมีสายฟ้า ในผาทึบมีถ้ำทอง
มาเถิดมาทุกข์ยาก มาบั่นบากกับเพื่อนพ้อง
อย่าหวังเลยรังรอง จะเรืองไรในชีพนี้
ก้าวแรกที่เราย่าง จะสร้างทางในทุกที่
ป่าเถื่อนในปฐพี ยังมีไว้รอให้เดิน
— เพียงความเคลื่อนไหว, หน้า 108-109

๒๓. ข้อใดคือจุดประสงค์ของผู้ประพันธ์
ก. ความเป็นธรรมด้านต่าง ๆ ของสังคม
ข. เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ค. การดำเนินชีวิต
ง. การประพฤติปฏิบัติตน

ชั่วเหยี่ยวกระหยับปีกกลางเปลวแดด ร้อนที่แผดก็ผ่อนเพลาพระเวหา
พอใบไม้ไหวพลิกริกริกมา ก็รู้ว่าวันนี้มีลมวก
เพียงความเคลื่อนไหว : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

๒๔. จากบทประพันธ์ “ลมวก” หมายถึง


ก. สับเปลี่ยน
ข. แปรปวน
ค. ย้อนกลับ
ง. หมุนเวียน
เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม ใจตาม
เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน
อุตส่าห์พยายาม การกิจ
เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าง อย่าท้อทำกิน

๒๕. คำประพันธ์ข้างต้นมีเนื้อหาสั่งสอน เด่นชัดในด้านใด


ก. ความเพียร
ข. ความอดทน
ค. ความอดกลั้น
ง. ความพอเพียง

ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป

๒๖. จากข้อความ ข้อใดเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด


ก. เลืข้ออกทำความดี
จากข้อความ หรืบอัตความชั
ใดเป็นแนวปฏิ ิที่ดีที่ส่วุดให้เหมาะสมกับโอกาส
ข. เลือกทำความดีที่เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคลเท่านั้น
ค. พยามยามปกปิดความดีและความชั่วของตนและผู้อื่นไว้เสมอ
ง. ยึดมั่นในการทำความดีอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ

ที่ปากคลองกองฟืนไว้ดื่นดาษ เกลื่อนกลาดเรียงรายทั้งซ้ายขวา
ถึงบางขวางข้างซ้ายชายชรา ไขคงคาขังน้ำไว้ทำเกลือ
หรือบ้านนี้ที่เขาว่าตำรารั่ว ช่างปั้นน้ำเป็นตัวน่ากลัวเหลือ
ดูครึ้มครึกพฤกษาลดาเครือ ล้วนรกเรื้อรำเริงเป็นเซิงซุ้ม

๒๗. คำประพันธ์ข้างต้นไม่สะท้อนถึงสิ่งใด
ก. อาชีพ
ข. วิถีชีวิต
ค. การศึกษา
ง. สภาพบ้านเรือน
ทุ่งเหลืองพลิ้วรวงทอง ผลงานของพวกชาวนา
โน้มรวงย้อยระย้า กว่าจะได้มาเปิบกิน
เหงื่อโทรมทั่วกายา หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน
สำนึกเป็นอาจินต์ กินทิ้งขว้างช่างน่าอาย

๒๘. จากคำประพันธ์ข้างต้น ผู้แต่งมีจุดประสงค์ใด


ก. ให้ทุกคนเห็นคุณค่าของข้าว
ข. ชี้ให้เห็นความทุกข์ของชาวนา
ค. ให้ทุกคนสงสารชาวนาที่ยากจน
ง. ชี้ให้เห็นความสวยงามของข้าวในนา

“ไม่มีสมบัติอันใดของมนุษย์ที่จะมีคุณค่าเท่ากับเวลา ไม่มีความมั่งคั่งอันใดของมนุษย์ที่จะดีเท่ากับการมี
เวลาเป็นของตนเอง และไม่มีทรัพย์อันใดที่เราควรจะประหยัดเท่ากับเวลา”

๒๙. ข้อใดแสดงความคิดเห็นไม่เหมาะสมกับข้อความ
ก. ความมั่งคั่งสามารถจะนำมาซื้อเวลาให้กับชีวิตของเราได้
ข. เวลาควรเป็นสิ่งควบคุมให้มนุษย์รู้จักใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ค. เวลาเปรียบเสมือนสมบัติชนิดหนึ่งของมนุษย์ที่ไม่ต้องแสวงหา
ง. ผู้ที่ใช้เวลาอย่างประหยัดจะส่งผลทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง

ไม้ค้อมมีลูกน้อม นวยงาม
คือสัปปุรุษสอนตาม ง่ายแท้
ไม้ผุดั่งคนทราม สอนยาก
ดัดก็หักแหลกแล้ ห่อนรื้อโดยตาม

๓๐. ใครนำแนวคิดที่ได้จากบทร้อยกรองไปปฏิบัติได้เหมาะสม
ก. แก้ว ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพี่เรื่องการเล่นเกมเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
ข. บอม ไม่ขัดต่อคำสอนของครูเรื่องการเรียนเพราะเชื่อว่าครูหวังดีต่อศิษย์
ค. บอย ทำงานโดยไม่ฟังข้อเสนอแนะของกลุ่มเพราะคิดว่างานตนเองดีกว่า
ง. กิฟ๊ ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนโดยไม่ฟังคำเตือนของผู้ปกครอง
ตอนที่ ๒
คำชี้แจง อ่านข้อความที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามต่อไปนี้ โดยเขียนลงในกระดาษคำตอบที่กำหนดให้
(๔๐ คะแนน)
วันเข้ากรุง
เมืองนี้มีรถมากจริง เพิ่งเห็นรถติดเป็นครั้งแรกในชีวิต แกคิดขณะยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์ ไม่นึกว่าจะมีรถ
มากขนาดนี้ ติดกันตั้งแต่เช้าตรู่ แกอายุ ๖๓ มาเมืองหลวงเป็นครั้งแรกในชีวิต ตื่นแต่เช้าตรู่และแต่งตัวรอ ลูก
สัพยอกว่า “พ่อตื่นเต้นหรือ?” ครั้งแรกของทุกอย่างก็ต้องตื่นเต้นไม่ใช่หรือ? ตื่นเต้นตั้งแต่เตรียมกระเป๋าเดินทาง
ยืมชุดสูท ซื้อรองเท้าคู่ใหม่ จัดของอยู่หลายวันก่อนเดินทาง ทิ้งงานบ้าน ปิดร้าน นั่งรถไฟชั้นสามมา ๒๐
ชั่วโมง ถึงกรุงเทพฯ แล้วลูกมารับพาพ่อไปที่ห้องพัก เพื่อนร่วมห้องของลูกกลับไปต่างจังหวัด จึงมีเตียงให้แก
นอน
ลูกชายพาพ่อขึ้นรถเมล์ คนแน่นรถ แกสังเกตว่าหลายคนมองลูกด้วยความแปลกใจแต่บางคนก็ยิ้ม ไม่
ทุกวันที่พวกเขาเห็นคนสวมชุดครุยขึ้นรถเมล์ แกหวังเพียงว่าชุดครุยจะไม่ยับเพราะเบียดเสียดกัน ระยะทางจากที่
พักไปมหาวิทยาลัยห่างกันแค่สองป้ายรถเมล์แกบอกว่า “แค่นี้เดินไปก็ได้” แต่ลูกบอกว่า “ขาพ่อไม่ดี ขึ้นรถเมล์
ดีกว่า” ลูกเข้ากรุงเมื่อ ๕ ปีก่อนเพื่อมาเรียนต่อเกือบจะต้องสละสิทธิ์แล้ว หากมิใช่เพราะได้รับทุนการศึกษา
อาศัยข้าวก้นบาตรต่อชีวิตจนเทอมสุดท้าย งานวิทยานิพนธ์หนักมากจึงมาเช่าห้องอยู่กับเพื่อน แกไม่เคยส่งเสียลูก
สักบาทเดียว ลูกหาเงินมาเรียนเองโดยตลอด วันที่ลูกบอกว่าเรียนจบแล้ว ลูกบอกว่าจะไม่เข้าร่วมพิธีรับปริญญา
เพราะจะได้ประหยัดเงิน แกบอกว่า “ครั้งนี้อย่าประหยัดเลย ขอสักครั้งเถอะลูก”
หน้ามหาวิทยาลัยมีคนมากมาย ดอกไม้กับรอยยิ้ม เสียงหัวเราะกับเสียงนับ “๑ - ๒ - ๓” ตอนถ่ายรูป
แกสวมสูทที่ยืมมาจากกำนัน ใส่แล้วรู้สึกแปลก ๆ เป็นอีกครั้งแรกในชีวิต ลูกยืมกล้องถ่ายรูปเก่าจากเพื่อนคนหนึ่ง
วานให้เพื่อน ๆ ถ่ายรูปคู่กับพ่อหน้าคณะที่เรียน ครั้นหลังเที่ยง ลูกกับเพื่อน ๆ เข้าไปรอในหอประชุม แกนั่งรอ
ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างนอก เสียงคุยของคนกลุ่มใหญ่ลอยมาแผ่ว ๆ แกมองไปรอบตัว ที่นี่ร่มรื่นดีไม่เคยฝันว่าวันหนึ่ง
ลูกของแกจะไต่มาถึงจุดนี้ได้ แกลุกขึ้นเมื่อเสียงคนของคนเงียบลง เห็นขบวนรถแล่นเข้ามา ผู้คนยืนสำรวม
ใจเต้นแรงขึ้นเมื่อรถยนต์แล่นไปที่หน้ามุขของหอประชุม แกจ้องตาไม่กะพริบ เห็นคนคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถ
แต่ภาพนั้นถูกคนบัง เห็นเงาร่างนั้นก้าวเข้าไปในหอประชุมเพียงแวบหนึ่ง ภาพนั้นก็ถูกคนบังอีก แกประนมมือ
ขึ้นเหนือหัว ลูกออกจากหอประชุมตอนเกือบเย็น แกถามลูก “จะได้รูปเมื่อไร? ทันพ่อกลับไหม?” “พ่อจะกลับ
เมื่อไรครับ?” “พรุ่งนี้เย็น” “ไม่ทันหรอกพ่อ ร้านบอกว่าต้องใช้เวลาอาทิตย์หนึ่ง แล้วผมจะส่งไปให้ทันทีที่ได้”
“เสียดาย นึกว่าจะเอากลับไปพร้อมกัน” “พ่ออยากดูวัดพระแก้วไหม? หรือวัดอรุณฯ? ยักษ์วัดแจ้ง หรือจะดูพระ
นอนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พ่อไม่เคยมากรุงเทพฯ” “ไม่ล่ะ”
ไม่ได้มาเที่ยว มาเพื่อดูลูกในชุดครุย ถ่ายรูปคู่กับพระองค์ และถ้าโชคดีได้เห็นพระพักตร์สักแวบก็พอใจแล้ว เข้า
กรุงครั้งนี้ก็สมหวังทั้งสองอย่าง ถึงจะเห็นแค่เงาร่างพระองค์เพียงแวบเดียวก็เป็นบุญแล้ว พรุ่งนี้ได้เวลากลับบ้าน
ลูกวิ่งมาที่สถานีรถไฟ ยื่นถุงกระดาษให้พ่อ แกดึงสิ่งของภายในถุงออกมา เป็นรูปถ่าย กรอบรูปเป็นไม้เรียบ ๆ
ไม่มีลวดลาย “ไหนว่าเสร็จไม่ทันไง” “ผมขอร้องเจ้าของร้านช่วยเร่งให้เมื่อคืน บอกเขาว่าพ่อจะเอารูปกลับ
ต่างจังหวัดไปติดฝาบ้าน พูดเท่านี้เขาก็รับปาก ทำเสร็จจนได้” รถไฟเคลื่อนออกจากสถานี มือจับรูปถ่ายในมือ
และครุ่นคิดไปตลอดทาง จะติดบนฝาผนังที่หน้าบ้าน หรือบนกำแพงห้องนอน หรือบนขื่อตำแหน่งใต้พระบรม
ฉายาลักษณ์… เดี๋ยวก็รู้
วินทร์ เลียววาริณ

พิจารณาข้อความในเนื้อเรื่องต่อไปนี้ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง ถ้าเป็นจริงให้ให้ระบาย ⚫ ลงในช่อง จริง ถ้าไม่จริง


ให้ระบาย ⚫ ลงในช่อง ไม่จริง
ข้อ ข้อความ จริง ไม่จริง
๑ เมืองกรุงมีรถจำนวนมาก รถติด และติดกันตั้งแต่เช้าตรู่
๒ สัพยอก หมายถึง หยอกเย้า
๓ นั่งรถไฟชั้นสามมา ๑๐ ชั่วโมง ถึงกรุงเทพฯ แล้วลูกมารับพาพ่อไปที่
ห้องพัก
๔ ระยะทางจากที่พักไปมหาวิทยาลัยห่างกันแค่สองป้ายรถเมล์
๕ ลูกเข้ากรุงเมื่อ ๔ - ๕ ปีก่อนเพื่อมาเรียนต่อเกือบจะต้องสละสิทธิ์
๖ ลูกหาเงินมาเรียนเองโดยตลอด โดยที่แกไม่เคยส่งเสียเลยแม้แต่บาท
เดียว
๗ ขบวนรถแล่นเข้ามา ผู้คนยืนสำรวม ใจเต้นแรงขึ้นเมื่อรถยนต์แล่นไปที่
หน้ามุขของหอประชุม
๘ “ถ้าโชคดีได้เห็นพระพักตร์สักแวบก็พอใจแล้ว” เป็นคำพูดของลูกที่พูด
กับพ่อ
๙ ลูกยื่นถุงกระดาษให้พ่อ แกดึงสิ่งของภายในถุงออกมา เป็นรูปถ่าย
กรอบรูปเป็นลายไม้สีน้ำตาล ไม่มีลวดลาย
๑๐ พ่อเอารูปติดที่ฝาผนัง
"คุณทองแดง"
คุณทองแดง มีลักษณะพิเศษต่างจากลูกสุนัขตัวอื่น คือ มีสายสร้อยรอบคอครึ่งเส้น มีถุงเท้าขาวทั้ง ๔ ขา
มีหางม้วนขดเป็นวง ปลายหางมีดอกสีขาว และมีจมูกแด่น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลย
เดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงค้นในหนังสือพบว่า "คุณทองแดง" มีลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์บาเซนจิ ซึง่
เป็นสุนัขพันธุ์โบราณ มีถิ่นกำเนิดทางแอฟริกาใต้ นิยมใช้งานในการล่าสัตว์ แต่คุณทองแดงมีขนาดตัวใหญ่กว่าสุนัข
พันธุ์บาเซนจิทั่วไป พระองค์จึงทรงเรียกคุณทองแดงว่า เป็นสุนัขพันธุ์ไทยซูเปอร์บาเซนจิ จากก่อนหน้านี้ทรงเรียกว่า
เป็นสุนัขพันธุ์เทศ
มีลักษณะพิเศษทั้งด้านกายภาพและอุปนิสัย แสนรู้ เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขทรงโปรดของพระองค์ท่านที่มี
ชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ประทับใจของประชาชนชาวไทยทุกคน เป็นสุนัขทรงเลี้ยงตัวที่ ๑๗ ติดตามถวายงานรับใช้
พระองค์ท่านทุกครั้ง ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ใด จึงได้รับการตั้งฉายาว่าเป็น "สุนัขประจำรัชกาล"
พระราชนิพนธ์ "เรื่องทองแดง" เป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีที่สุดของประเทศในปี พ.ศ.๒๕๔๕
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงพระราชทานพระบรมรา
ชานุญาตให้จัดพิมพ์อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.๒๕๔๗ ในรูปแบบลายเส้นการ์ตูนโดยใช้ชื่อ "ทองแดงฉบับการ์ตูน"

พิจารณาข้อความในเนื้อเรื่องต่อไปนี้ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง ถ้าเป็นจริงให้ให้ระบาย ⚫ ลงในช่อง จริง ถ้าไม่จริง


ให้ระบาย ⚫ ลงในช่อง ไม่จริง
ข้อ ข้อความ จริง ไม่จริง
๑ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ทรงเรียกคุณทองแดงว่า เป็นสุนัขพันธุ์เทศ
๒ พระราชนิพนธ์ "เรื่องทองแดง" เป็นหนังสือรูปแบบลายเส้นการ์ตูนโดย
ใช้ชื่อ "ทองแดงฉบับการ์ตูน"
๓ คุณทองแดง เป็นสุนัขทรงเลี้ยงตัวที่ ๑๐ ติดตามถวายงานรับใช้
พระองค์ท่านทุกครั้ง ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ใด จึงได้รับการ
ตั้งฉายาว่าเป็น "สุนัขประจำรัชกาล"
๔ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ทรงค้นในหนังสือพบว่า "คุณทองแดง" มีลักษณะ
คล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์บาเซนจิ
๕ พระราชนิพนธ์ "เรื่องทองแดง" เป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีที่สุดของ
ประเทศในปี พ.ศ.๒๕๕๔
๖ คุณทองแดงมีสายสร้อยรอบคอครึ่งเส้น มีถุงเท้าขาวทั้ง ๔ ขา
๗ พระราชนิพนธ์ "เรื่องทองแดง" ให้จัดพิมพ์อีกครั้งหนึ่งในปี
พ.ศ.๒๕๕๗
๘ สุนัขพันธุ์บาเซนจิ ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์โบราณ มีถิ่นกำเนิดทางยุโรป
๙ คุณทองแดงมีหางม้วนขดเป็นวง ปลายหางมีดอกสีขาวขุ่น
๑๐ สุนัขพันธุ์บาเซนจิ นิยมใช้งานในการล่าสัตว์
กระดาษคำตอบ วรรณกรรมพิจารณ์ ม.๑ – ๓
ชื่อ....................................................................................สกุล....................................................................................
ชั้น.............................โรงเรียน.........................................................เครือข่าย.............................................................

ตอนที่ ๑
คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด แล้วทำเครื่องหมาย x ลงในช่องบนกระดาษคำตอบ
(ข้อละ ๒ คะแนน รวม ๖๐ คะแนน)

ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
๑ ๑๖
๒ ๑๗
๓ ๑๘
๔ ๑๙
๕ ๒๐
๖ ๒๑
๗ ๒๒
๘ ๒๓
๙ ๒๔
๑๐ ๒๕
๑๑ ๒๖
๑๒ ๒๗
๑๓ ๒๘
๑๔ ๒๙
๑๕ ๓๐

You might also like