Professional Documents
Culture Documents
หมู่ฟังก์ชัน
หมู่ฟังก์ชัน
ชนะกาน
ชื่อ – นามสกุล __________________________________________
ขก า เลขที่ ____
21 ห4อง ____
6 13
โ คา บอน hydroxyl
แอลกอฮอล์ (Alcohol) / /
• สูตรทั่วไป คือ ________________________________________
R OH -
R OH
• Cntkn +1 OH / Cn H แ +20
สูตรโมเลกุล คือ ______________________________________ 2
ประเภทของแอลกอฮอล์ : แบ่งตามโครงสร้าง
* แอลกอฮอล์ปฐมภูมิ
116 0h01
1
°
(primary alcohol)
๒ (secondary
แอลกอฮอล์ทุติยภูมิ
alcohol)
20 116 ohol
แอลกอฮอล์
30 2
ตติยภูมิ
16 0h01
(tertiary alcohol)
R – CH2 – OH
① R ①
CH OH R
1
② 2
อีก 1 พันธะ
R
คาร์บอนที่สร้างพันธะกับคาร์บอนอื่นอีก
- เป็ น แอลกอฮอล์ ท ี ่ ม ี ห มู ่ -OH ต่ อ กั บ
2 พันธะ C อ บ OH
แ ว C อ ก คาร์บอนที่สร้างพันธะกับคาร์บอนอื่นอีก
CH2 แบน
CH2 2
CH2
3 พันธะ
ตัวอย่าง ตัวอย่าง ตัวอย่าง
CH3 – CH2 – OH CH3 CH OH CH3
CH3 CH CH2 OH CH3 CH3 CH3 C OH
CH3 R 3 CH2
CH R CH CH
CH CH3
2 3
R R OH R
R
ตรวจสอบความเข้าใจ
จงระบุประเภทของแอลกอฮอล์ที่กำหนดให้CH
ต่อ3ไปนี้
R
OH OH 3 CH 2
R
cm
µg
K"
(H ( Hz [
Cth CH2 C
☒2 CH 2
g
๚
[µ
CH
]
CH ] "2 OH Ctk [ Hz
OH
[ µ ู µๆ
2
°
ak 0h01 20 ak 0h01 1
°
akohol alcohol
โครงสร4าง การเรียกชื่อสามัญ
CH3 – OH methylalcohol
CH3 – CH2 – OH ethyl alcohol
CH3 – CH2 – CH2 – OH propyl akohol
2) ระบบ IUPAC
หลักการ ง น
¥ห
๒
ตน ตน อ 4
E.net#hy1butanI-d7RpLT-
.
.
a
ลง อ 1
CH3-CH2-CH2-CH2-CH-OH
5
-1-0 /
ง ะ า
pentan
CH3-CH2-CH2-CH-OH
6 5 ใ 3
hexan 3-01
-
CH2-CH3
2 1
5
.
ง
.
^
5- methylheptan -
2- 01
OH
ใ
3 2. 2,4
-
dmethylpentan -
ง -01
OH
1
2
า
3,4 dimethylpentan 2- 01
HO
-
5
6
า
OH
2- ethylcyclohexan -
1- ol
ใ 2
✗นา
☒ CH2 – OH i
propylpentan.no/dt1-ethy1cydopropan-1-d
2- 1 รอ
CH3 – CH2 – CH2 – CH – CH – CH3
i า 3 ะ
CH3
HO CH2CH3
1
2 3
การเกิดไอโซเมอร์โครงสร้างของแอลกอฮอล์
หลักการ
• วาดโซ่หลักที่มี C ยาวมากที่สุดก่อน
สูตรทั่วไปของแอลกอฮอล์
• เปลี่ยนตําแหน่งหมู่ฟังก์ชัน – OH
• หักคาร์บอนจากโซ่หลักออกมาเพื่อเปลี่ยนเป็นหมู่แทนที่
CnH2n+2O หรือ CnH2n+1OH
OH [ [ -0 µ
_ [Hg CH 2-
-
CHTCH [ OH CH 5 -
OH
EI [ C [
Hjcttictpctb Ctb
- _
OH OH
i. 4 isomers เ น alcohol
G- [ [ - OH CH 5
%1- cttz
-
OH
{ CH
g
✓ 5/9 3
✓✓ EEi.co H
✓✓ EE ¢ ¢ _
_
Ea { ✓ EE i -
อH
✓✓ EEEOH q ✓ # 04
⇐
µ ✗ µ อ อ อµ
{ {
. .
✓ ✓ EEE -
E XEEEOH 4L
OH
I %# ✓✓£ ¢ E- อ µ
XGGC -04
✗ อµ [ -
vi. อµ
I
.
.
✓✓ c- c- c- c- c อ i t
✓ ✓ EE c- OH .
E-
µ OH
✗c- { d- ou
- -
% ✗ E- { E- -0 H
t เ
งอ
- e
✓✓ EG G- G- [
ำ
_
0 H า ✗ -
Ed -
oti 4C
{ X -
[ i. อา+
-
t ✓
Ectou
ะ × % -
#
[
'
☐
สมบัติทางกายภาพของแอลกอฮอล์ (physical properties)
1) การละลายนํ้าของแอลกอฮอล์ : โมเลกุลเล็กละลายนํ้าได้ และมีสมบัติเป็นกลาง
• แอลกอฮอล์มีหมู่ฟังก์ชันไฮดรอกซิล (-OH) ดังนั้น จึงสามารถสร้างพันธะไฮโดรเจนกับนํ้าได้
f, 0 N Hะ0 ว
,
t เ ด ttbond
0 - แอลกอฮอล์โมเลกุลเล็ก (C1 – C3) จะละลายน้ำได้ดี
ไม่จำกัด แต่เมื่อแอลกอฮอล์มีโครงสร้างขนาดใหญ่ขึ้น
e การละลายน้ำจะลดลงเนื่องจากมีส่วนที่ไม่มีขั้ว (R)
า
Oy ชอบ
ว เพิ่มขึ้น
ไ ชอบ
แอลกอฮอล์โมเลกุลที่มีขe
นาดเล็ก แอลกอฮอล์โมเลกุลที่มีขนาดใหญ่
• แอลกอฮอล์ที่มีโครงสร้างเป็นกิ่งก้านมากยิ่งขึ้น สามารถช่วยเพิ่มการละลายนํ้าได้มากขึ้น
C = 4
µ °
butan-2-ol 290
Kat
2-methylpropan-2-ol F ละลายได้ดี ☒
×\ ะ
โ ง µ๐
→
km ← Hะ0
ตร ม ล ก เห อน น แ โครงส างไ เห อน น → การ ละลาย าง น ว สวน
ง เยอะ ๆ ละลาย ✓ ละลาย
→
1
.
2) จุดเดือดของแอลกอฮอล์
• เมื่อพิจารณาแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล พบว่าแอลกอฮอล์มีพันธะไฮโดรเจนเพิ่มขึ้นมา
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ประเภทของสาร
๒ แรงลอนดอน ๒ แรงดึงดูดระหว่างขั้ว ๒ พันธะไฮโดรเจน
¥
* แ งแรง ด
*
แอลกอฮอล์ ü ü ü
ไ ว ไถ โบไถ โพ ttbond
• ใน alcohol
จุดเดือดของแอลกอฮอล์สูงกว่าสารประกอบไฮโดรคาร์บอน เนื่องจาก ______________________
แรง ดเห ยว ระห าง
โมเล ล
เ น นธะไฮโดรเจน เ ม น มา แ ใน Hyorocarbon เ ยง แรง ลอนดอน
____________________________________________________________________________________
alcohol V5 Ilcohd กา เ อด ง ก า
แรง ลอนดอน มาก →
ด
le นธะ แรง ลอนดอน
• การพิจารณาแนวโน้มจุดเดือดของแอลกอฮอล์ใช้หลักการเดียวกับไฮโดรคาร์บอน
ในย
- แอลกอฮอล์ทม
ี่ ีโครงสร้างขนาดใหญ่จะมีจุดเดือดสูงกว่าแอลกอฮอล์ที่มีโครงสร้างขนาดเล็ก
2 เยอะ ละ ลาย ยา
- แอลกอฮอล์ที่มีโครงสร้างแบบโซ่ตรงมีจุดเดือดสูงกว่าแอลกอฮอล์ที่มีโครงสร้างแบบกิ่ง
อย ละลาย า าย มาก
1
C
ตัวอย่างแบบฝึกหัด โ
1. จงเปรียบเทียบความสามารถในการละลายน้ำของแอลกอฮอล์ c@ µ อ ละลาย า0 ยาก
°
Cโโ " .
2. จงเปรียบเทียบจุดเดือดของสารต่อไปนี้ C มาก
ด
เ อด มาก แ alcohol เ อด ง ก า hydrocarbad
A C alcohol ,
สารที่กำหนดให้
,
D → โครงสร้างของสาร
โครงส าง LC ]
① A
ขนาด C4 CH3CH2CH2CH2OH /\/\ อ µ
๒
A 17 D
B ด าย ,
แก Ct
☐ CH3CH2CH2CH3 /\/ hydrocarbun
1 ง
② Cเ า โ ตรง
ตรง
^
ๆ C _ ง 04 CH3CH(CH3)CH2OH /\/ 04
④
ยก C 0 >
D Cง CH3CH2CH2OH ~ 04
EญบมEไไกงง ☐ > 5
C → D B→ [ เ อด
→ เ อด า ]
___________________________________________________________________________________
A ง →
t
า ด
___________________________________________________________________________________
ปฏิกิริยาเคมีของแอลกอฮอล์
1. ปฏิกิริยาการเผาไหม้ ดไป าย แ ไ เข า
ฅู๊y ฑื • * ไม่มีเขม่าเกิดขึ้น *
R – OH๓+ 0
Na → R – O-Na+ + ½H2
21 [0h01 ไง H
(g)
ตัวอย่าง 2 2 1 60✗ lde
^
CH3 – CH2 – OH/ + 0 CH CH 0N
④Hz
Na → _________________________________________________
ง
-
r a +
l
สมการ
ล
H2SO4 ว เอง
C C 180 oC
C C + H2O
"
แย า prodwt ทอ +
H OH
→
ห ด ☐
H H
ยกตัวอย่างเช่น ethanol
-
④④
H2SO4
CH3 – CH
C 2 – COH [ HFCH C C + H 2° + H2O
180 oC า
อธิบายการหลุดHของนํ ้า
µ H
OH
-
④ ④
C C C C + H2O
Hม
ตัวอย่างเพิ่มเติ
แขน อ C ②
Nuy
ญื๋
←
^
G-15C H CH # # "
-
OH ยาน →
H2SO4 tmajorproouct ๒
CH3CH2CHCH3
180 oC
อ
แขน c ① M EEEH
ฏmmosorodoct
" +
"
CH 5 # + # ttotn ④
=
←
ร
t H OH
C C
LH 2
µ
C C ของแอลกอฮอล์
C C ตภัณCฑ์หลักCจากปฏิกิริยา dehydration
1. จงทำนายผลิ
H 1.1 H2SO4
C + CH2O + H2O
C C + H2O
180 oC
1.2 H OH
OH
ะCH3CH2CHCHCH3 3 C H2SOCCH
4 H2SOH42SO4 Ctb / Cty
c =
cy
C2T! [ + H2O tm
-
o
180 C 3 o
180 180
C C o C
HCH3 OH
เอกสารประกอบการเรียน เคมี 5 ว33221 จัดทำโดย ครูพลากร จันทร์บูรณ์ 7
ลู
นำ
พั
ร้
กูตั
พั
รุ๋
น้
ฐั๋
รู๋
ว้
ต่
วื๋รุ๋
วุ่
ต่
ต่
มี
กิ
รุ๋
กี่
ลุ
ห้
ฐื๋
รุ๋
รุ๋
รู๋
ฏึ
ฐู่
ยั่
ฎั๋
ถื๋
รุ่
ยั๋
7A HF
-
กรด อน
กรดไร ดร
}
Ha
HB r
กรด แ
4. ปฏิกิริยาการแทนที่ด้วยสารประกอบแฮไลด์ (HX = HCl, HBr, HI)
HI
• แอลกอฮอล์สามารถทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนแฮไลด์ เช่น HCl, HBr, HI
• โดยหมู่ 7 จะเข้าไปแทนที่ – OH ในแอลกอฮอล์ tนดแ Tน
9 กรดแ alleylhalide
ตัวอย่าง 613 r
2) "
+ HCl → ____________________________________________________
+
H 20
1 แขน อต บน
idcohol ⑤ ¥04
zoalcohol
5. ปฏิกิริยาออกซิเดชันของแอลกอฮอล์
R-t-043oakohdp_c.at
k
๒
• แอลกอฮอล์สามารถเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ เมื่อนำไปทำปฏิกิริยากับ Na2Cr2O7/H2SO4 หรือ KMnO4
• ปฏิกิริยาออกซิเดชันในเคมีอินทรีย์ สังเกตได้จากมีออกซิเจนเพิ่มขึ้นมา หรือไฮโดรเจนลดลง
029 H ม
1) แอลกอฮอล์ปฐมภูมิ (primary alcohol) ,
oxwatim
ตัวอย่าง เ ยว
บน เ
ไ อง เ น dldrboxylgrovplarboxyh c)
-11g
1) CH3CH2CH2OH CH งCHะ C 004 ห อ Ctb [ % cm Uarboxylic aci ป ]
______________________________________________________
-
4
2-
P
2) เป ยน โยน
c [ 004
"
แขนเ น ft
________________________________________________
"
ไ เป ยน
C C C C + H2O
H แอลกอฮอล์ทุติยภูมิ คีโตน
ตัวอย่าง
11 ขน
1) OH 2 0
"
oe
CH3 CH
arg
CH2 CH3 ______________________________________
[ Hg -
CHNH
[ -
g
Uetohe
2) = °
____________________________________________
C C C C + H2O
H
ตัวอย่าง
ฌื่
1) OH
H2SO4 → ไม่เกิดปฏิกิริยา
CH3 C CH3
180 oC
CH3
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
• แอลกอฮอล์มีสมบัติเป็นกลาง ดังนั้นแอลกอฮอล์จึงไม่ทําปฏิกิริยากับสารละลายเบส เช่น NaOH,
NaHCO3 และ Na2CO3
ำน กรด แ เก อ กลาง
+ เบส แ →
phenol
ตัวอย่างอนุพันธ์ของฟีนอล
alleehe
ยูจีนอล (eugenol)
พบในใบกานพลู และอบเชย ใช้ BHT (butylated hydroxy
สำหรับฆ่าเชื้อโรค BHA (Butylated hydroxy
toluene) anisole)
ทั้ง BHT และ BHA ใช้เป็นสารกันหืนในอาหารที่มีน้ำมันและไขมันเป็น
องค์ประกอบ
d.แ 1 ไ น "
☐ อ
"
ปฏิกิริยาเคมีที่ควรรู้จักของฟีนอล : ปฏิกิริยาที่ใช้ทดสอบฟีนอล
กรด อน เบส แ
+ 1 0 เบส
อ
→
*
เบา
ใ µ +
ไมโอ ด
1. ฟีนอลมีสมบัตเิ ป็นกรดอ่อน สามารถทําปฏิกิริยาสะเทินกับเบสแก่ ได้เป็นเกลือที่ละลายนํ้าได้
☒ \
ทดสอบ ระห าง บน ยล บ แอลไ
OH วย เบส แ แ เ ยบ บ Na
ปลอก
→
%
€2
-
.ge
→ ป ยา
[ + NaOH
%µ
1 H 20 ไ ไ เพราะ บ
%
แ
OH
C
"
+ Na → E + µ
datd
ฌื C C C C
|
_
กาย ปน
H n
• สูตรทั่วไปของอีเทอร์ คือ __________________________________
R -0 -
น
ตัวอย<างเช<น
โครงสร@าง ชื่อระบบสามัญ
เ ยง ตาม alphabase
๒ ethylmethylether →
propyl
iso
2) ระบบ IUPAC
- กำหนดด้านที่มีจำนวนคาร์บอนมากกว่าเป็นโซ่หลัก และอ่านชื่อเหมือนแอลเคน
- ด้านที่มีจำนวนคาร์บอนน้อยกว่าให้เอาไปรวมกับออกซิเจนและมองว่าเป็นหมู่แทนที่ ที่เรียกว่า alkoxy (-OR)
โดยหมู่แทนที่ จะเรียกชื่อตามจำนวนคาร์บอน แล้วลงท้ายด้วย -oxy เช่น
-OCH methoxy เ น ง
0 3 เรียกว่า ………………………………………………. -OCH2CH3 เรียกว่า ………………………………………….
ethoxy
-OCH 2CH2CH3 เรียกว่า…………………………………….
000 propoxy -OCH(CH3)2 เรียกว่า…………………………………………
isopropoxy
- กำหนดตัวเลขแสดงตำแหน่งของคาร์บอนที่ต่อกับ -OR ให้เป็นตัวเลขที่น้อยที่สุด ำ -
อ .
อ
iso
Cnไง
1 2
แหรก
แบบฝDกหัดการอ<านชื่ออีเทอร6
โครงสร้าง การอ่านชื่ออีเทอร์
nlnf
CH – CH – O – CH – CH
3 2 2 3 nethoxyethane
CH3 – CH –นCnไง
O – CH2 – CH3
3
e
⇒
2- ethoxyiypropane
CH3
isopropm
CH3 – CH2 – CH2 – CH2 – O – CH(CH3)2 1- Isopropoxybutane
4
,
1- methoxy
-
ง -
methylpentane
CH2 – CH3
4 5
°
/ \
[ Hs 1 – methoxycyclohexane
1 →O
1-ethoxypentane
Q
o
โ Hydrocdrbon
สมบัติทางกายภาพของอีเทอร์ g
⑧0 -
R
1. การละลายนํ้าของอีเทอร์
• e
อีเทอร์โมเลกุลเล็ก (C1-C3) ละลายนํ้าได้ เนื่องจากสามารถสร้างพันธะไฮโดรเจนกับนํ้าได้
☒ม ล ก .
เ กๆ 1- 3 Carbond
-
ละลาย นา อย แ 1
one
วน ไ อ ไ ) น กก /
เนื่องจาก____________________________________
& ชอบ มาก
ไ ว
R Hydroarboh
___________________________________________
ฐ
-
°
ไ
-
ไ . = ละลาย
÷
________
นธะ ไฮโดรเจน
Nhtpggprf
③
ด ลอนดอน
แรง ไฮโดรคา บอน น ร ไร
ดก จน -
/
akohd _
"" "
\
แรง ด ระห าง ว ②
m. . . .
EN โ ง ด 5✓✓ เ า ด เ อด มาก อย
gc
→
_ . .
EN โ
alcohol > Ether > hydrocarb.cn
st 5 s+
กา 0
2. จุดเดือดของอีเทอร์
EN
R -
๐ -
R
ง ลบไ
① ②
• อีเทอร์มีแรงลอนดอนและแรงดึงดูดระหว่างขั้วเพิ่มขึ้นมาเมื่อเทียบกับไฮโดรคาร์บอน ดังนั้น
-
อีเทอร์จึงมีจุดเดือดสูงกว่าไฮโดรคาร์บอน ✗ ยงไ
-
นธะไฮโดรเจน
• จุดเดือดของอีเทอร์เพิ่มขึ้นตามขนาดของโครงสร้าง
• เมื่อมีจํานวนคาร์บอนเท่ากัน อีเทอร์มจ นธะ Hydrogen
ี ุดเดือดตํ่ากว่าแอลกอฮอล์ เนื่องจาก__________________
Ether ไ
____________________________________________________________________________________
แ alcohol นธะไรไร เจน
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ประเภทของสาร
แรงลอนดอน แรงดึงดูดระหว่างขั้ว พันธะไฮโดรเจน
อีเทอร์ ü ü (แต่น้อย) -
การเกิดไอโซเมอร์โครงสร้างของอีเทอร์ : CnH2n+2O
กา
l
/
โygeรไไไ
3-1 2-2
2- 2
ไ ไหม CH ] [H 2 CH z OCH ]
อ
c- [
-
c- 0 -
C C- C- 0
-
C- C
%
ก อไ ไ แ ว CH.CH OCH ง
[ EO -
[
d CH, ( H 20 CH
dtlg i. J ISOM lrg
[ 45 [ 4 2 44 [ 0 C4
CHgCH.CH z CH 20 CH g [ Cty
-
o -
c
[ d- C- 0 C- C
ำ
4- 0 [ 4 2- [43
-
CH 5
µ [ µ 20
CH g
-
-
[ Hg [
c- Ei -
o -
c
[ [-0 -
C- [
[ Hg 043
µ
[ E- [ะ 0
t '
CH 3C 42 [
Y 0643
c
-
_
µ CH 3
[4 ง
f
]
tc -0 [ CH ] 0 CH ง
-
i CH 3
ห
Irether
ตัวอย่างที่ 3 จงเขียนไอโซเมอร์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดของสารที่มีสูตรโมเลกุลเป็น C4H10O
0
"⇐ "
ไ ไหม
7 isomers .
เ นไป ไ งหมด
c- c- c- 0 c c- c- 0 c- c
-
-
ก อไ ไ แ ว Ethner [ tb CH CH , 0 CH
[ Eo _
c , 3
d
CHgGHOC.tl ]
akohdd CH 3
CH g [ Hz 0GHz CH
3
i. [ [ i-oHC.EU
-
-
Ctb CH
µ 2 [
YOH
C- { I -
-0 H Ctb
{
ง
i
13 -
ะ
✓ I-i-c-d-o.ci/EEo-cvEEE-Ei-oHxEEEoH
✓ EEE o -
c- c ✓ EEEE 04 Eou
✗
✓ % a- o
-
I i.
✓ E # c
-
c
-
o -
I ะ
✓ { d- -
d-0 H
% Isomers
[ [ -0 c
✓ c-
งหมด
-
เ นไป ไ
c
-
E ✓{ [
-
_
¢→ _
µ
d
✗ i.ci ¢ -
o -
t ✗ E- E- i -
ou
} %
✗ Ei -
o -
c
c- E- d- 04
อ t
c
-
E- E- 04
I
ไ ไป รร ( น นท ]
.
O O
R–C–H R – C – R’
1
hydrocarbon
ตัวอย่าง
แบบฝึกหัดการอ่านชื่อแอลดีไฮด์
โครงสร้าง ชื่อแอลดีไฮด์
O 5- methylhexanal
CH3 – CH(CH3) – CH2 – CH2 – CH2 – C – H
J 1
6 4 3 2
methylpenanal
ะ
CH3 – CH2 – CH2 – CH – C – H
e 3
2-
1
CH3
CH3 O
CH3 – C – C – H
ง . .
2,2 -
Oimethylpropanal
CH3
การเรียกชื่อของคีโทน เจอ อย
Ctb
I [ Hg
1. ระบบสามัญ (common name)
- -
2. ระบบ IUPAC
O
- กำหนดตัวเลขแสดงตำแหน่งคาร์บอนบนโซ่หลัก โดยเริ่มจากฝั่งที่ทำให้ตำแหน่งของหมู่ มีตัวเลข C
น้อยที่สุด
- อ่านชื่อโซ่หลักเหมือนแอลเคน (-ane) แต่ตัด e ตัวท้ายออก จากนั้นระบุเลขตำแหน่งของหมู่ -CO- ตามด้วย คำ
ลงท้าย -one
- ถ้ามีหมู่แทนที่ให้ระบุตามหลักการปกติ คือ ระบุตำแหน่งและอ่านชื่อหมู่แทนที่นั้น
ตัวอย่าง
k
q _
methylheptan -
3- Ohe
CH3
CH3 O
CH3 – C – C – CH3
4 s i
3,3
-
dimethylbutam 2- One
CH3
5 l
2,4 , 5- trimethylhexan
3
เ
.
-
3- one
.
2 4
S
3 g
methylhexan
'
5- 3- one
-
การเกิดไอโซเมอร์โครงสร้างระหว่างแอลดีไฮด์และคีโทน
G- [ - - -
H → CH5CH.ie Hi EH G- [ - ญื๊ [
✗ d- # I า
G- c-
EH →
cy.CH
-
-
H
"
O
[
า
,
CH
3
/
°
1. แอลดีไฮด์และคีโทนโมเลกุลเล็ก สามารถละลายน้ำได้ แต่เมื่อโมเลกุลมีขนาดใหญ่ขึ้น การละลายน้ำจะน้อยลง
\
:O
H H
ะ
'
11
R -
c- H R ไ ชอบ ให น = R เยอะ
Caldehyde ]
Cketone ]
° \
-
H µ
0 ะ
R -
C- ก
2. แอลดีไฮด์และคีโทนมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็นแรงดึงดูดระหว่างขั้ว ดังนั้นจึงมีจุดเดือดสูงกว่า
สารประกอบไฮโดรคาร์บอน แต่มีจุดเดือดต่ำกว่าแอลกอฮอล์ที่มีจำนวนคาร์บอนเท่ากัน
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ประเภทของสาร
แรงลอนดอน แรงดึงดูดระหว่างขั้ว พันธะไฮโดรเจน
แอลดีไฮด์ ü ü -
คีโทน ü ü -
ด เ อด Hydroarbon < aldehydeieetone < alcohol
ปฏิกิริยาเคมีที่สําคัญ ลอนดอน ลอนดอน ลอนดอน
ดค ดรห
.
.
ง ง ด รห า
.
ไฮโดรเจน
ถูกออกซิไดส์
แอลดีไฮด์ กรดอินทรีย์
O O คีโทน ไม่ถูกออกซิไดส์
[O]
R C H R C OH
ใ บ พวก ตาล
1. แอลดีไฮด์ สามารถทำปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกต์ ซึ่งเป็นสารละลายเบสของ
คอปเปอ น เพต
[ 0 บาป ( ไ ไ ไป รร 1 .
R C OH
• หมู่ฟังก์ชัน คือ ___________________________________
-
COOH Carboxyl
Cn H 2h02
• ถ้าส่วน R เป็น hydrocarbon แบบโซ่เปิดและเป็นพันธะเดี่ยว จะได้สูตรโมเลกุลเป็น _____________
การเรียกชื่อกรดคาร์บอกซิลิก
1. การเรียกชื่อระบบสามัญ (common name)
*
โครงสร้าง การเรียกชื่อสามัญ
HCOOH tnc .
อ4 กรดฟอร์มิก (formic acid) ¥ กรด เ า ลาด ของ carboxylicacid
CH3COOH Ctb %
-
-
k
กรดเบนโซอิก (benzoic acid)
i อ เฉพาะ
2. การเรียกชื่อระบบ IUPAC
หลักการเรียกชื่อระบบ IUPAC
hetpanoicacid
t 5 า
CH3(CH2)5COOH aa
J 3
CH3CH2CHCH2COOH
4
2 1
3- methylpentanoicactd
CH3
CH3 O
4 3 ะ เ 3,3
-
dimethylbvtanacacid
CH3 – C – CH2 – C – OH
CH3
¥ methyl
CH3 O
เ -
5- methylhex เท แล แ
Y CH3 – CH2 ethyl
5
O
dimethylpentanoicacid
4
3,4
-
3 1
2 OH
*
]
"
*
า
ใ -
ethyt 2- methylbenzacacid
เงย "
4
ง บ แ ใน วง
อเ น
5
สมบัติทางกายภาพของกรดคาร์บอกซิลิก
" d
" "
"" "
1. จุดเดือดและการละลายนํ้าของกรดคาร์บอกซิลิก CP ละลาย าน ก ชอบ า
สูตรโครงสร้างแบบย่อ จุดเดือด (oC) สภาพละลายได้ (g/100 g H2O) Ka า คง การ แตก ว ของ กรด
l |
1
ก
แนวโน้มจุดเดือด ..
. . .. . . . . . .
เ ม ชน
• เมื่อโครงสร้างของกรดคาร์บอกซิลิกใหญ่ขึ้น (จำนวนคาร์บอนเพิ่มขึ้น) จุดเดือดจะ ___________
inri.it/X,H-bond
• เมือ่ จำนวนคาร์บอนเท่ากัน กรดคาร์บอกซิลิกที่มีโครงสร้างแบบโซ่ตรงจะมีจุดเดือดสูงกว่าโครงสร้างแบบกิ่ง
• กรดคาร์บอกซิลิกมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็นพันธะไฮโดรเจนที่เพิ่มขึ้นมา และกรดคาร์บอกซิลิกสามารถสร้าง
พันธะไฮโดรเจนได้มากกว่าแอลกอฮอล์ ดังนั้นกรดคาร์บอกซิลิกจึงมีจุดเดือดสูงกว่าแอลกอฮอล์ แอลดีไฮด์ คีโทน
อีเทอร์ และไฮโดรคาร์บอน ที่มีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน
1 ตน .CH
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ประเภทของสาร
แรงลอนดอน แรงดึงดูดระหว่างขั้ว พันธะไฮโดรเจน
กรดคาร์บอกซิลิก ü ü ü กา
เ ดไ มาก
4
alcohol H bond
-
ตัวอย่างที่ 1 cz
carbox [ง alcohol [3 aldehyde
โครงสร้าง CH3o
COOH CH3CH2CH2OH CH3CH2oCHO
มวลโมเลกุล 60 60 58
จุดเดือด (oC) 118 97 49
ตรวจสอบความเข้าใจ ?
1) จงเปรียบเทียบจุดเดือดของสารที่กำหนดให้ต่อไปนี้ ง
alcohol
2 3 alcohd ( 1 ยาม 1 ใ CH
% 0h4 [ CH× ]
-
___________________________________________________________________________________
CH CH (42 [ 024 > CH [4 42 [4 04 > CH 314 ( CH 1 CH 20 4) CH [02 CH CH3
3 2 ง 2 2 ] ง 2
___________________________________________________________________________________
D. CH3CH2CH2CH2@
ง OH 3
___________________________________________________________________________________
CH [ 42 CH 2C42 CH
ง
< CH 3C 02 CH 3h CH 3C 42C 42 CH 204 L CH CH COOH
3 3 2
___________________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________________
3) พิจารณาสูตรโครงสร้างต่อไปนี้
alcohel
A. CH3CH2CH2ende
COOH [ 4 B. C 5
Rd[ r
C. c
เ ตน D. nydrocarbcn
C5 Cb
จงเรียงลำดับจุดเดือดของสารต่อไปนี้จากต่ำไปสูง
___________________________________________________________________________________
DTCTBTA
___________________________________________________________________________________
2. สมบัติการละลายนํ้าของกรดคาร์บอกซิลิก
④อ กรดคาร์บอกซิลิก สามารถสร้างพันธะไฮโดรเจนกับน้ำได้ 2
R -
[
-
④ _
[9 C4
___________________________________________________________________________________
1. สมบัติความเป็นกรด
CH 3C 00 H 0
f 20
→
ง + ]
ใ บ - +
2. ปฏิกิริยากับโลหะ
ดไปใส
R – COOH + v0
Na ® R – COONa + O
½ H2 ¥ เ น gas
-
( ล สมการ nydrogen
CH g COOH Na CH , ( 00 Nat
IH
t →
z
+ NaOH ® ____________________________________________
CH3CH2COOHsgpcf Ctbl H 2C 00N H 20 a t
น ใส เ า
นใส จะ
LH.CO J
+
ไ เส ยร # 60ะ +420
☐
รั
ซิ
ขุ่
ปู
ที่นำปู
ผ่
ขั
ดู
ที่ติ
ท้
ป็
ม่
ห้
ลื
ถี
ขู่
ตัวอย่างเช่น "
ไป ②
เ มเ า
2 3 ® _____________________________________________
↳ 2 CH COOH + Na CO 2 Ctb COON H 20 + [ 02 1
3 a-
Ht
ctyc 0 [0
สรุปปฏิกิริยาทดสอบความต่างแอลกอฮอล์ ฟีนอลและกรดคาร์บอกซิลิก
สาร Na NaHCO3 NaOH
แอลกอฮอล์(R-OH) ü û û
ฟีนอล(C6H5OH) ü û ü
บ
กรด คา กา
อก
กรดอินทรีย(์ R-COOH) ü ü ü
หมายเหตุ ü คือ ทำปฏิกิริยาได้ และ û คือ ไม่เกิดปฏิกิริยา
ตัวอย่างแบบฝึกหัด
1. จงเขียนผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาที่กำหนดให้ต่อไปนี้
-
1.1 CH3CH2CH2CH2COOH + NaOH ® _______________________________________
CH 3 CH 2 CHICH 2C 00N a H 20 +
-
i
0N a
๘ 1.3 md
| >
t H2
+ 2Na ® ________________________________________
d 0N \
a
②
เทา¢
ำ
ฏ 1.5 1
0N
% อ แ + 211 20
a
+ NaOH ® ____________________________________
GH 50
นอน
2. พิจารณาคู่สารต่อไปนี้ alcoho /
การ 1 นท
บอก alleohol เท อร
ก. CH3COOH และ CH3CH2OH
✓ ข. CH3CH2OCH2CH3 และ CH3CH2CH2CH2OH
ไ ไ ไปไ
- _
_
เอสเทอร์ (ester)
Eorl '
/ & [ 02
O
• R -
1 RCOOR
สูตรโครงสร้างทั่วไป คือ ___________________________
R C OR’
( อ0 lalhoxycarbonyl
• หมู่ฟังก์ชัน คือ ___________________________________
-
]
สมบัติทางกายภาพ
อ ตรง กลาง
%0
H -
[
-
Ctb
3 3
1 3
2. ส่วนใหญ่ไม่ละลายนํ้า ยกเว้น HCOOCH3 และ CH3COOCH3 ที่ละลายนํ้าได้
3. จุดเดือดและจุดหลอมเหลวตํ่ากว่า แอลกอฮอล์ และกรดคาร์บอกซิลิก ที่มีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน
ระห าง า ¥ ไ H bohd
เนื่องจากเอสเทอร์มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็น ____________________________________________
แรง ลอนดอน แรง งด
-
ปฏิกิริยาเคมีที่สําคัญของเอสเทอร์
1. ปฏิกิริยาการเกิดเอสเทอร์ : esterification (จัดเป็นปฏิกิริยาควบแน่น) สาร เ กๆ
มล ก .
ห ด ออก มา
µ
• เมื่อนำกรดคาร์ บอกซิ ลิ กทำปฏิ กิ ริ ยากั บแอลกอฮอล์ ที่อุณหภูมิสูง และมีกรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
ผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ เอสเทอร์ (ส่วนใหญ่มีกลิ่นหอม) และน้ำ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ผันกลับได้
กรดคาร์บอกซิลิก + แอลกอฮอล์
H+ , ∆ เอสเทอร์ + นํ้า
O O
H+ , ∆
R – C – OH + H – O – R’ R – C – O – R’ + H2O
ester water
carboy alcol
1) O
H2SO4 , ∆
CH3 – CH2 – C –C)
OH + O
HO – CH2 – CH3 CH 3 CH 2 [ =
00 (42 Ctbt Hz 0
2) O ←
H2SO4 , ∆
CH3 – CH – CH2 – C – ☐
OH + CH3 – CH2 – CH2 – OHO [ Hgl CH 2
GOOCHCHEH 51 H 20
CH3 CH 3
3)
° H2SO4 , ∆ ( 00143
0
+ CH3OH |
2- + H 20
0 OH
_
①
4) [ 00
H+ , ∆ Ctb
O+ 0
CH3COOH ,
\ -
+ 4 ขอ
/
0 OH
|
5) ""°° ②
<
-
1 + HN
( CH g) 2 CHCOOH
+ HOCH 2 CH 3
H+ , ∆
(CH3)2CHCOOCH
| 2CH3 + H2O
6)
H+ , ∆
+
CH 3K H 2) 3C 004 HOCHKH 3) 2 |
CH3(CH2)3COOCH(CH3)2 + H2O
¥ 7)
H+ , ∆
OYOH + + H2O
เ อ |
"
ซึ่งเรียกปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสเอสเทอร์ที่ใช้เบสตัวเร่งปฏิกิริยาว่า ______________________________
Saponlflcation
• ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสเป็นปฏิกิริยาตรงข้ามกับปฏิกิริยา esterification
ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของเอสเทอร์ : เมื่อใช้กรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
๒ O
R – C – O – R’ + H2O H+ ,∆
O
R – C – OH + R’ – OH
c
2) O v
H+ , ∆
(CH3)2 – CH – C –1 O – CH3 + H2O
1 [ CH
-
% 04 + HGCH 3
CCH g) 2C HC =
00 H c
3) v
H+ , ∆
/ + H2O 1 I OH + HO
4) ""
+ H2O H+ ,∆ %µ
%µ #Grbox "
|
c
IOH
H0
l H+ , ∆ 1
+
+ H2O
ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของเอสเทอร์ : เมื่อใช้เบสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
• ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสเอสเทอร์ที่ใช้เบสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เรียกว่า _____________________________
Saponitication
เก อ การ บอก 1 ล ๓ ( เก อ ของ คนบอก กา และ alcohol
• ผลิตภัณฑ์ที่ได้ คือ _______________________________________________________________
กลไกหรือขั้นตอนในการเกิดปฏิกิริยา
ขั้นที่ 1 O O
R – C – O – R’ + H2O OH- R – C – OH + R’ – OH
นก รบ
oster
ไ (กรดคาร์บอกซิลิก) (แอลกอฮอล์)
ขั้นที่ 2 (เป็นปฏิกิริยาระหว่างกรดคาร์บอกซิลิกกับเบส)
O O
e.
R – C – OH + NaOH → R – C – O- Na+ + H2O
(เกลือคาร์บอกซิเลต หรือเกลือของกรดคาร์บอกซิลิก)
O
ตัวอย่าง การเขียนปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของ CH3CH2 – C – O – CH2 – CH3 เมื่อใช้เบสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
CHHH 2C
=
|
0 0 [H 2C Hง + H 20 โรง
_
hhhthppplgT.lt HOCH 2 [ Hg
CH 3 [H 2 [ =
00 โ4
µ
+ →
งCHกhlhppgg hht
[4 H 20
ผ ต ณ ด าย
1) O
CH3 – C –/ O – CH2 – CH3 + H2O NaOH CH 3C =
00N a + HOCH 2 443
c
2) O v
NaOH
(CH3)2 – CH – C /– O – CH3 + H2O +
④1 3) [ HC =
00Na HOCH 3
c
3) เบส v
+ H2O OH-
+ Hoh
/ |
0 Na
เ o -
4. เหตุใดยาแอสไพรินที่เก็บไว้นานจึงมีกลิ่นน้ำส้มสายชู จงอธิบายโดยเขียนสมการเคมีและระบุชื่อปฏิกิริยาที่
เกี่ยวข้อง
โครงสร้างแอสไพริน
เหตุผล _____________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________________
ปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้อง : ___________________________________________________________________
สมการเคมี
ไ อง เ ยน ไ
µg
H2SO4 →
+0 .
OH +
/ benzin
_
benzokacid
2) O
2C OOH Na 509
H2SO4 →
CH3 – CH2 – C – O-Na+ + 0
+
[ Hg CH =
Ab -
CH 2- EOH + Nas 04
ำ
น
ไฮโด เจน
dcohol
c OCH 2C Hg
0N a
eiteit 04
Na OH
alcohol
+ H 20 il Ctbctl 20 H -
\
OCH 3
OCH g
เ ดป เก อ การบอก
eter (ไ ยา ) เล ๓
อ 0N a อµ
เก อ คา บอก เจต
+ HCI →
+ Nacl
'
'
0 [ Hg
OCH 3
RCOOR’
d 2 Ceth )
จน c- →
0 00
_
0 °
เอ เอ ต
ชื่อในระบบ IUPAC
ปปง
"
" " "" " othanoate
กรด ๗บอก etnyl
µ
0 1
O
CH3 – CH2 – O 1– C – CH2 – CH2 – CH3 ethylbutanoate
it
เ น อส .
/ pheyl benzoate
\ \
"
methylsalicylate
Ctb 0 -
I Methyl benzoate
_
Ectb I.
Phenyl ethanoate
OH
ตัวอย่างแบบทดสอบ
1. สาร A ละลายน้ำได้ดี เมื่อทำปฏิกิริยากับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ในขณะ
ที่สาร B ไม่ทำปฏิกิริยากับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต แต่ทำปฏิกิริยากับโลหะโซเดียมเกิดฟองแก๊ส เมื่อให้ A ทำ
ปฏิกิริยากับ B เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ C พร้อมกับการสูญเสียน้ำ 1 โมเลกุล ข้อใดผิด
1) สูตรโครงสร้างของ A และ B ที่เป็นไปได้ คือ CH3CH2CO2H และ (CH3)2CHOH ตามลำดับ
2) ผลิตภัณฑ์ C ละลายน้ำได้ดี
3) C ไม่ทำปฏิกิริยาทั้งกับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตและโลหะโซเดียม i
4) เมื่อนำ C ไปทำปฏิกิริยากับสารละลายกรดจะเกิดปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสกลับมาเป็น A และ B
8. สารชนิดต่าง ๆ ทดสอบได้ผลดังนี้
สาร การละลายน้ำ การฟอกสีโบรมีนในที่มืด โลหะโซเดียม สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์
A ไม่ละลาย ไม่ฟอก ฟองแก๊ส ละลาย
B ไม่ละลาย ไม่ฟอก ฟองแก๊ส ไม่ละลาย
C ไม่ละลาย ไม่ฟอก ไม่มีปฏิกิริยา ไม่ละลาย
ข้อใดผิด
1) แอลกอฮอล์ A ละลายน้ำได้
2) สารประกอบ B มีคาร์บอนทั้งหมด 5 อะตอม
3) ปฏิกิริยาจะเกิดได้ดีต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นกรดหรือเบส
4) สารประกอบ B ละลายในเบสได้น้อยกว่าละลายในน้ำบริสุทธิ์
5) สารตั้งต้นเตรียมได้จากปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันระหว่างกรดกับแอลกอฮอล์โดยมีกรดซัลฟิวริกอยู่ด้วย
ข้อใดผิด
1) มีหมู่ฟังก์ชันเอสเทอร์ในโมเลกุล
2) สารละลายในน้ำเปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากน้ำเงินเป็นแดง
3) ทำปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสในกรดได้ผลิตภัณฑ์เป็น และ CH3COOH
3) CH2=CHOCH2CH2CH3 4) CH2=CHCH2CH2CH2OH
13. ข้อสรุปเกีย่ วกับสมบัติของสาร I – III ต่อไปนี้ ข้อใดถูกต้อง
CH3CH2CH2OH CH3CH2COOH CH3CH2CH2CH2CH3
I II III
1) จุดเดือดของสารเรียงลำดับดังนี้ II > I > III
2) ความสามารถในการละลายน้ำของสารเรียงลำดับดังนี้ I > III > II
3) สารที่สามารถทำปฏิกิริยากับโซเดียมได้ คือ I ส่วนสารที่สามารถทำปฏิกิริยากับสารละลายเบเนดิกต์ได้
ตะกอนสีแดงอิฐ คือ II
4) สารที่สามารถแยกออกจากน้ำได้ โดยไม่ต้องใช้ตัวทำละลายอื่นสกัด คือ I และ III
OH
OH O
3) 4) C – OH
OH O
C – OH
O
¥
"
× เรา รอ
""
1 0 → Y
10 ส1 ทอ hydrolysls ใน เบส
19. สาร X มีสูตรโมเลกุล C9H10O3 ทำปฏิกิริยากับสารละลาย NaOH แล้วแยกส่วนที่เป็นเกลือมาทำให้เป็นกรด
arbox
[
ด้วยสารละลาย HCl ได้สาร Y ซึ่งเป็นของแข็ง สาร Y 1 mol ทำปฏิกิริยาพอดีกับ Na 2 mol ให้แก๊ส H2 1 mol
. e s
2 .
OH OCH3 064
'
2N a
O O
3) 4)
COH COCH
1 2CH2OH
×
OCH2CH3 #④
ไ ใ ester
a.
H2SO4
21. สาร A + เอทานอล ® สาร B + H2O
H2SO4
สาร B + H2O ® กรดแอซีติก + สาร C
สาร A, B และ C ควรมีโครงสร้างเป็นอย่างไร
22. จากปฏิกิริยาต่อไปนี้
H2SO4
A + เมทานอล ® B + H2O
O
H2SO4
B + H2O ® CH3 – CH2 – C – OH + C
C + Na ® D
A, B, C และ D ควรมีโครงสร้างเป็นอย่างไร
• หมูฟ
่ ังก์ชัน คือ __________________________
amino group R NH2
• สูตรทั่วไป คือ ___________________________
R NH -
k H หายไป ละ 1 ว จน หมด
การจัดประเภทของเอมีน
เอมีนปฐมภูมิ (1o amine) เอมีนทุติยภูมิ (2o amine) เอมีนตติยภูมิ (3o amine)
“N สร้างพันธะกับ R 1 พันธะ” “N สร้างพันธะกับ R 2 พันธะ” “N สร้างพันธะกับ R 3 พันธะ”
สูตรทั่วไป คือ R – NH2 สูตรทั่วไป คือ R – NH – R’ สูตรทั่วไป คือ R N R’
ตัวอย่างเช่น R - -
H ตัวอย่างเช่น R -
-
R R - -
R
R’’
ฏ๊
NHน CH CH
'
R 1 R
CH3 – NH – CH2CH3 ตัวอย่างเช่
CH3 – NH2 NH2
2 µ3 หาย หมด
CH3 CH3
NH2 NH2 CH3 – N – CH2CH3 N
R
N R
'
1
H
N
CH3 – NH2 ไ
NH CH CH
CH3 – NHNH–2 CH2CH3
R R'
NH2 CH3 1
CH3
1
CH2 CH3
3
CH2 CH
___________________________________
pentan 3- amine -
bvtan 2- amme
____________________________________ -
แบบฝึกหัดการอ่านชื่อเอมีน
โครงสร้าง ชื่อในระบบ IUPAC ของเอมีน
เ
CH3 – (CH2)5 – NH2
เ
hexan -
1- amlne
3
CH3 – CH – CH2 – NH2
L 1
2- methylpropan -
1- amme
CH3
CH3
ำ
methylp.ro pan
3
CH3 – C – NH2 2- 2- amme
-
CH3
CH2 – CH3 2 1
CH2 – CH3
6
ง เ น
เอไมด์ (amide)
4
O
Lnjttt
• หมูฟ amlde
่ ังก์ชัน คือ __________________________
• สูตรทั่วไป คือ ___________________________
RCONH 2 R C
NH 2
H หายไป จน หมด same
การจัดประเภทของเอไมด์
O
O
เอไมด์ปฐมภูมิ (1 amide) o
เอไมด์ทุติยภูมิ (2o amide) เอไมด์ตติยภูมิ (3o amide)
O CO NH OH O
C N R’ 2 O
R C NH2 R C NH R’ R C N R’
R’’ ตัวอย่างเช่นOH C C N R’
ตัวอย่างเช่น R’’
O ตัวอย่างเช่น R’’
O
C NH CH2CH2CH3 O CH3
CH3 CH2 C NH2
CH3 CH2 C N CH3
ตัวอย่าง
O
O 1 2 3 9
3
H2N C CH2 CH2 CH CH3
CH3 CH2 C NH2
2 1
CH2 CH3
5
_________________________________
propanamide ____________________________________________
e- methylhexanamlde
แบบฝึกหัดการอ่านชือ
่ เอไมด์
โครงสร้าง ชื่อในระบบ IUPAC ของเอไมด์
× ะ i
pentanamde
4 2
O
1 5 6
ใ
O
3 l
2- ethylbutanamde
CH2
CH3
O
2 1
☐ฑื
.
Hbond ไ
.
@
.
ญื่ @ µ µ
✓
.
/
มาร
f
ลลนา ☐ _
2 @
สมบัติทางกายภาพของเอมีนและเอไมด์ อย ลง
พันธะไฮโดรเจน
1. การละลายนํ้า : เอมีนและเอไมด์เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีขั้ว และสามารถเกิดพันธะไฮโดรเจนกับน้ำได้
ดังนั้น เอมีนและเอไมด์ที่มีจำนวนอะตอมคาร์
H
O Hบอนน้Nอย ๆ จึงละลายน้ำได้ดี แต่ความสามารถในการละลายน้ำจะ
ลดลงเมื่อมีจำนวนคาร์Rบอนอะตอมเพิ
C ม่ ขึ้น C R
2. จุดเดือดและจุดหลอมเหลว : เอมีN นและเอไมด์
H มีแOรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็น_____________________
นธะไฮโดรเจน
H
ดังนั้น จึงมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสู งกว่พัานสารประกอบไฮโดรคาร์
ธะไฮโดรเจน บอน
strongerthm พันธะไฮโดรเจน ส าง นธะไฮโดรเจน ไ มาก ๆ
ระห าง ม ลก Hbmd แ ง
A amlne CH 1
แรง มาก
H พันธะไฮโดรเจน ย H
① H แตร O H N
① แ งแรง !
N C C R
R H N H R
N H O
H R Hbond ด เ อด 1 หลอมเหลว "
-
H พันธะไฮโดรเจน ก า Hydrocazrbon
f
amldl
§ N
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
_
ไ
-
Hbond 1
ประเภทของสาร
แรงลอนดอน แรงดึงดูดระหว่างขั้ว พันธะไฮโดรเจน
ü
เอมีน ü ü
am ne
(ยกเว้น R-N-R’R’’)
ü
เอไมด์ ü ü
amlde (ยกเว้น R-CONR’R’’)
มาก ก า
กรณีที่เปรียบเทียบจุดเดือดของเอมีนและเอไมด์ : จุดเดือดของเอไมด์ _____________ จุดเดือดของเอมีน
L แบบ าวกระโดด
ตัวอย่าง
เอมีน จุดเดือด (oC) เอไมด์ จุดเดือด (oC)
butan-1-amine [4 77 propanamide C3 213
pentan-1-amine C5
104 butanamide C9 216
Hexan-1-amine [6 132 pentanamide [5 225
น
ระไรออ า แรง
.
0 ้
โ ¥
๓
-
-
ค สามารถ ใน การ ง ด e- ( EN )
ก า แอลกอฮอล์
กรณีที่เปรียบเทียบจุดเดือดของเอมีนและแอลกอฮอล์ : จุดเดือดของเอมีน _________
.
-
-
ตัวอย่างเช่น R -
-4 R
-8 ฮํ๋µ ( N) EN ก า⑨
8 8t
สรุปการเปรียบเทียบจุดเดือดของสารประกอบอินทรีย์
เอไมด์ > กรดคาร์บอกซิลิก > แอลกอฮอล์ > เอมีน > แอลดีไฮด์ , คีโทน , เอสเทอร์ , อีเทอร์ > ไฮโดรคาร์บอน
ตัวอย่างที่ 1 จงเรียงลำดับจุดเดือดของสารต่อไปนี้จากน้อยไปมาก
(A) = CH3CH2COOH คา
e-
บอก
(B) = CH3CH2CH2OH alcohol
(C) = CH3CH2CH2NH2 _
amme (D) = CH3CH2CH2CH3 hydroarbas
___________________________________________________________________________________
D →
C → B A→
___________________________________________________________________________________
(C) = CH3COCH3 ¢ำ ๙ ตน
_
- -
2.1 สารใดบ้างที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเป็นพันธะไฮโดรเจน
-
___________________________________________________________________________________
,
A B D
,
2.2 จงเรียงลำดับจุดเดือดของสารจากมากไปน้อย
___________________________________________________________________________________
D) A) B > C
2.3 สารใดบ้างที่ละลายน้ำและแสดงสมบัติเป็นเบส
___________________________________________________________________________________
B
___________________________________________________________________________________
นคร โ al 0h01
ตน [
สมบัติทางเคมีของเอมีนและเอไมด์
amme → เบส
1. เอมีนมีสมบัติเป็นเบส ส่วนเอไมด์มีสมบัติเป็นกลาง
amide → กลาง
• เอมีนสามารถรับโปรตอนจากน้ำได้ ดังสมการ
④ ใ ไอ tt าย ลบ
บ µ R – NH2 + H2O
+
R – NH + + OH-
บ ปร ๙
3 บ บอก
ใน "
ตอน
# [H 3 [ 42N H
02 + H2O ____________________________________________________________
เช่น CH3CH2NH 0N +
ก
6 บเบา ตอน
O ไ ไ → กลาง
R NH CT -
R – NH – R + HCl ® _______________________________________________
Nt R -
H 2 CT
Dte
R – N – R + HCl ® ________________________________________________ r -
+ a.
k
R
ตัวอย่างเช่น
ไทย N 0
CH 3
R-EN-RR-I-NHR.IN
-
ง
-
ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์ H d
-
1
g
2 amine
°
→ 1
30
°
→ 2
amme
R -
O -
NH
ห ด
2
O g
te
ห ด
ตัวอย่าง § -04 NH
3
H 20
" +
O
∆ µ
ำ
"
-
µ +
④
CH3 – C –/ OH + NH3
-
NH 2
NH -
R
R -
NH 2
2) การเตรียม secondary amide จากกรดคาร์บอกซิลิกกับ primary amine
O f 04 , + H
O
R – C –/ OH + H2N – R’ ∆ R – C – NH – R’ + H2O
sg y H R
'
(amide)
-
เ อม น
ตัวอย่าง
O
cty-C-NH.CH [ [ 4g + H 20
ส4
∆
CH3 – C –, OH + H2N – CH2 – CH3
Carbox amine
R -
NH
-
CH3 dg
แบบฝึกหัดการสังเคราะห์เอไมด์
1) O i
ะ
∆ NH
CH3 – CH2 – C – OH + NH3 CH 5 [ 4 [ C- 2
+ H 20
2) O
∆ ( 4 j [4- [ 4 %④ 14 [43
CH3 – CH – CH2 – C – OH + CH3CH2NHCH3 =
{ บาง อ42
CH3
3) INH -143
+ CH3NH02 ∆ + H 20
4)
∆ + H 20
CH3CH2COOH +
CH 3GHz CONH
6) CH2COOH CH 2
∆ C =
0
NH
NH2 2
"
น
แยก = °
°
เ
ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของเอไมด์
ou
กลไกหรือขั้นตอนการเกิดไฮโดรไลซิสเอไมด์ (ในภาวะกรด)
1. ตัวอย่างการเกิด hydrolysis ของ primary amide กรด
4
04
NH3 + H+ → NH4+
2. ตัวอย่างการเกิด hydrolysis ของ secondary amide f เ ยน สมการ
ใ ไ
¥ เอ น เ น เบส อน hydrolysls
ขั้นที่ 1 O O
H+
ขั้นที่ 2
9/1
R – C – NH – R’ + H2O R – C – OH + R’– NH2
04 4 เบส กรด
R’– NH2 bt + H+ → R’ – NH3+
เก อ แอมโมเ ย
3. ตัวอย่างการเกิด hydrolysis ของ tertiary amide ม
แบบฝึกหัด
จงเขียนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของเอไมด์ในสภาวะกรด
1) O N43 N 44
CH3 – CH2 – C –yNH2
+ H2O
H+
CH 5C [
I '
4 + NH
โ
ำ อ
\
04
O N N 43 4
2) 4 ะ→
☒ C/
– NH – CH3 % 0H
เค
+ H2O H+ NH ง -
[ 4g
สปา น i +
.
O
3)
NH /– C – CH3 N4
N
☒
dl
+ H2O H+ .CH 3 -04 +
" F 42→ Ny \
กลไกหรือขั้นตอนการเกิดไฮโดรไลซิสเอไมด์ (ในภาวะเบส)
โ แบก ป ยา อ
1. ตัวอย่างการเกิด hydrolysis ของ primary amide "" "
ขั้นที่ 1 O 604 O
164 OH-
R – C – NH2 + H2O R – C – OH + NH3
ขั้นที่ 2 O O
~
R – C – OH0 + OH- → R – C – O- + H2O
กรด + เบส ไ เก อ
บอก น ต
2. ตัวอย่างการเกิด hydrolysis ของ secondary amide
ขั้นที่ 1 O " O
' -
OH R – C – OH + R’– NH
R – C –1 NH – R’ + H2O 2
µ
ขั้นที่ 2 O O
420
/ + OH- → R – C – O- + H2O
R – C – OH
สรุปการเกิดไฮโดรไลซิสเอไมด์ในสภาวะเบส
OH-
เอไมด์ + H2O เกลือคาร์บอกซิเลต + แอมโมเนียหรือเอมีน
จงเขียนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของเอไมด์ในสภาวะกรด เบส
zs
1) O
H
CH3 – CH2 ๆ– C – NH2 OH- C 45C42 % 0
+ H2O Nlg
-
\
+
06
-
O เก อ ค บ อา เจต
2) H
Cy– NH – CH3 § _
o
-
Y [4 N 42
+ H2O OH- \
+
3-
_
O
3) 4 N42
NH/– C – CH3
,
04
/ + H2O OH- \
OI [ 43 +
_
แบบฝึกหัดปฏิกิริยาของเอไมด์
1. โพรพานาไมด์ มีโครงสร้างดังแสดง
R c
1.1 เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาการสังเคราะห์โพรพานาไมด์
ภาวะเบส
2.1 เขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาการเตรียมแอเซตามีนที่อุณหภูมิสูง N4
0 ศ๋ 04
NH 2 y
⇒ +420
+
04 0
04
04
2.2 เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสของแอเซตามิโนเฟนทั้งในภาวะกรดและภาวะเบส
ภาวะกรด H
04 N4
2 04
4+
N
/ H 20
+ +
\
µ _
°
04 0
04
N 42
N
43
+
+ 4 ง
04
04
I/
N
+ H 20
เ ง +
0
04 0
04
04 -
o
+0 าง
+ H 20
๐
0
B
อ
3. จากปฏิกิริยาเคมีต่อไปนี้ R -
% 04 NH 2- R
A + H2O → B + H2NCH2CH3 64 า [ 4- +
Ntiiy
n g re zo sa ze
เบส
ก. สาร B คือเอมีน ×
Y N4
แอมโมเ ย
"
5. สารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่ง มีโครงสร้างดังต่อไปนี้
am เปe
เ น กลาง
⑤ อ4
~ อ4
y → *
ln _
N
42 ⇐
4
ญ
1บ
0 11 ะ
9
ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง เกี่ยวกับปฏิกิริยาของสารประกอบนี้ Nส
1) เกิดปฏิกิริยา เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากแดงเป็นน้ำเงินได้ ×
ไ ม ว
2) เกิดปฏิกิริยาการเติม กับโบรมีนจะได้ผลิตภัณฑ์เป็น C4H7NOBr2 ✗ อง เ น นธะ
ใคร ไอ ส
+ เป็ไร
-
1) OH 2) NHCH2CH2CH2CH2NH2
HOOCCH2CCH2COOH HOOCCH2CCH2COOH
COO-H3N+CH2CH2CH2CH2NH2 COOH
3) O-H3N+CH2CH2CH2CH2NH2 4) OH
HOOCCH2CCH2COOH HOOCCH2CCH2CONHCH2CH2CH2CH2NH2
COOH COOH
ตัวเลือก A B C
1) CH3CONH2 (CH3CH2)2NH CH3(CH2)4CH2OH
2) C6H5CONH2 CH3CH2OH CH3COOC2H5
3) CH3CH2CH2OH HCONH2 CH3COC6H5
4) C6H5OH CH3CH2CH2CO2H CH3COOC2H5
O O
3) 4)
HN OH O NH2
C C NH2 OH
NH2 OH
OH C OH C
3) 4)
O O
O CCH2CH3 C NH CH2CH2CH3