Download as docx, pdf, or txt
Download as docx, pdf, or txt
You are on page 1of 9

ข้อสอบสำหรับติว ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชั้น ป.

4-6

คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. วิทยาศาสตร์ หมายถึงอะไร
ก. ความรู้ที่แสดงหรือพิสูจน์ได้ว่าถูกต้องเป็นความจริง
ข. ความรู้ที่ได้จากการสังเกตและค้นคว้าจนได้เป็นหลักฐานและ
เหตุผล
ค. ความรู้ที่ได้จากการศึกษาปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า
ถูกต้องแล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ และหมวดหมู่
ง. ถูกทุกข้อ
2. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “ การสังเกต การตั้งปัญหา การตั้ง
สมมติฐาน การทดลอง และการสรุปผล”
ก.วิธีการทางวิทยาศาสตร์
ข. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ค. เจตคติทางวิทยาศาสตร์
ง. ไม่มีข้อใดถูก

3.กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ข้ันตอนใดที่จะนำไปสู่การสรุปผลและการ
ศึกษาต่อไป
ก. การรวบรวมข้อมูล
ข. การตั้งสมมติฐานและการออกแบบการทดลอง
ค. การสังเกต
ง. การหาความสัมพันธ์ของข้อเท็จจริง

4. ข้อใดไม่ใช่ประสาทสัมผัสทั้ง 5
ก. หู จมูก
ข. ผิวกาย ตา
ค. ปาก ตา
ง. หู ลิ้น
5. ข้อใดไม่ใช่ข้ันตอนของ “ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์”
ก. การแก้ปญ ั หา
ข. การตั้งสมมติฐาน
ค. การทดลอง
ง. การสรุปและแปลความหมาย
6. ข้อใดไม่เป็นวิทยาศาสตร์
ก. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
ข. น้ำเกิดจากก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจนรวมตัวกัน
ค. แม่เหล็กขั้วเดียวกันเกิดแรงผลักกัน
ง. คนทำดี ตายแล้วจะได้ข้ึนสวรรค์
7. สมมติฐานทางวิทยาศาสตร์จะเปลี่ยนเป็นทฤษฎีได้เมื่อใด
ก . ทดสอบแล้วเป็นจริงทุกครั้ง
ข. เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
ค. มีเครื่องมือพิสูจน์
ง. อธิบายได้กว้างขวาง
8. การสังเกตของนักวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดสิง่ ใดเป็นอันดับแรก
ก. สมมติฐาน
ข. การทดลอง
ค. ปัญหา
ง. กฎ
9. ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ถ้าหากผลการทดลองที่ได้จากการ
ทดสอบสมมติฐาน ไม่สอดคล้องกับสมมติฐานจะต้องทำอย่างไร
ก. สังเกตใหม่
ข. ออกแบบการทดลองใหม่
ค. ตั้งปัญหาใหม่
ง. เปลี่ยนสมมติฐาน
10. ข้อใดไม่ใช่คุณลักษณะของบุคคลที่มีเจตคติทางวิทยาศาสตร์
ก. เป็นคนมีเหตุผล
ข. เป็นคนช่างสังเกต
ค. เป็นคนอยากรู้อยากเห็น
ง. เป็นคนละเอียดรอบคอบ
11. ตั้มชิมน้ำต้มจืดแล้วได้รสเค็ม ใช้ทักษะใด
ก. การสังเกต
ข. การจำแนกประเภท
ค. การวัด
ง. การใช้จำนวน
12. แบงค์แยกแอปเปิลกับฝรั่งออกจากกองผลไม้ ใช้ทักษะใด
ก. การจำแนกประเภท
ข. การวัด
ค. การสื่อความหมายข้อมูล
ง. การพยากรณ์

13. โอมเห็นท้องฟ้ามีเมฆครึ้มจึงพกร่มติดตัวก่อนออกจากบ้าน เพราะคิดว่า


ฝนน่าจะตก ใช้ทักษะใด
ก. การสื่อความหมายข้อมูล
ข. การหาความสัมพันธ์ของสเปซกับเวลา
ค. การพยากรณ์
ง. การสร้างแบบจำลอง
14. ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้มาอย่างไร
ก. การสังเกต
ข. การตั้งปัญหาและการตั้งสมมุติฐาน
ค. การทดลองและสรุปผล
ง.ถูกทุกข้อ
15. ในการออกแบบการทดลองจะต้องยึดอะไรเป็นหลัก
ก. ข้อเท็จจริง
ข. สมมติฐาน
ค.ปัญหา
ง.ข้อมูล
16. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการตั้งสมติฐาน
ก. การคาดคะเนคำตอบของปัญหาอย่างมีเหตุผล
ข. ข้อเท็จจริงที่ได้จากการสังเกตหรือทดลอง
ค. สิง่ ที่เป็นข้อปฏิบัติหรือหลักปฏิบัติ
ง. สิ่งที่ได้รับการยอมรับว่าถูกต้องอย่างมีเหตุผล
17. ข้อใดเรียงลำดับขั้นตอนของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้ถูกต้อง
ก. การตั้งสมมุติฐาน การตั้งปัญหา การทดลอง และสรุปผล
ข. การสังเกต การตั้งปัญหา การทดลอง การตั้งสมมุติฐาน
ค. การสังเกต การตั้งปัญหา การตั้งสมมุติฐาน การทดลอง และ
การสรุปผล
ง. การตั้งสมมุติฐาน การสังเกต การตั้งปัญหา การทดลอง และ
การสรุปผล
18. ความหมายของ "วิทยาศาสตร์" ข้อใดถูกต้อง และครอบคลุมมากที่สุด
ก. เป็นวิชาที่มีการสังเกต การทดลอง และสรุปผล
ข. เป็นวิชาที่ว่าด้วยการค้นพบความจริงในธรรมชาติ
ค. เป็นวิชาที่อธิบายปรากการณ์ต่าง ๆ ของธรรมชาติ
ง. เป็นวิชาที่ว่าด้วยการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ค้นคว้า
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
19. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับความหมายของวิทยาศาสตร์
ก. คำว่าวิทยาศาสตร์ ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Science
ข. Science ในภาษาละติน แปลว่า ความรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ
ค. วิทยาศาสตร์ คือองค์ความรู้ที่มีแบบแผนพิสูจน์ได้
ง. ถูกต้องทุกข้อ
20. ข้อใดเป็นความหมายของใครงงานที่ถูกต้องที่สุด
ก. โครงงาน คือการค้นหาคำตอบจากคำถาม
ข. โครงงาน คือการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิง่ หนึ่งหรือหลายสิ่ง
โดยใช้กระบวนการศึกษาอย่างเป็นระบบ
ค. โครงงานคือการค้นค้นความรู้ใหม่จากการตั้งสมมุติฐานโดยไม่นำ
ความรู้เดิมมาใช้ประกอบการค้นคว้าเลย
ง. โครงงานเป็นการทำงานแบบกลุ่มร่วมกันอภิปรายหาข้อสรุป
21. หัวข้อเรื่องโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ดีควรได้มาโดยวิธีใด
ก. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ
ข. การสนทนากับผู้รู้
ค. ปัญหาที่พบ
ง. การอ่านหนังสือ
22. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับการวางแผน
ก. แผนอาจเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ข. การปฏิบัติงานบางเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องวางแผนก็ได้
ค. บางครั้งอาจไม่ต้องปฏิบัติตามแผนก็ได้
ง. วางแผนไว้อย่างไรควรปฏิบัติการอย่างนั้น
23. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเค้าโครงย่อยของโครงงานวิทยาศาสตร์
ก. งบประมาณที่ใช้
ข. ชื่อโครงงาน
ค. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ง. ชื่อผู้ทำใครงงาน
24. ในการสรุปผลการทดลองจะต้องยึดสิ่งใดเป็นหลัก
ก. วัตถุประสงค์
ข. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ค. ตัวแปร
ง. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
25. โครงงานวิทยาศาสตร์มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดสิง่ ใดมากที่สุด
ก. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ข. แนวทางในการประยุกต์ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค. เจตคติที่ดีต่อกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ง. ความรู้และประสบการณ์ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์
26. ข้อใดไม่ใช่คุณค่าของโครงงานวิทยาศาสตร์
ก. ช่วยให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ข. ส่งเสริมให้สมาชิกในกลุ่มมีคุณธรรม
ค. ทำให้โรงเรียนมีช่ อื เสียงเป็นที่รู้จัก
ง. ช่วยให้ผู้สอนกับผู้เรียนได้ทำงานร่วมกัน
27. ข้อมูลที่ได้จากการทดลองที่มีการควบคุมจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจ
อย่างไร
ก. สมมุติฐานนั้นถูกต้องหรือไม่
ข. ทฤษฎีที่กำหนดนั้นถูกต้องหรือไม่
ค. ข้อมูลที่รวบรวมได้น้ันใช้ได้เพียงใด
ง. ปัญหาที่คิดขึ้นถูกต้องเพียงใด
28. โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง "การศึกษาการตัดใบถั่วที่มีผลกระทบต่อ
การเจริญเติบโตและผลผลิต"
จัดเป็นโครงงานประเภทใด
ก. สำรวจ
ข. ทดลอง
ค. ทฤษฎี
ง. สิ่งประดิษฐ์

29. ข้อใดต่อไปนี้เป็นการอธิบายถึงผลการทดลอง
ก. เตรียมหลอดทดลอง 2 หลอด
ข. สารละลายชนิดนี้คือกรดอินทรีย์
ค. เทสารละลายจากขวดลงในหลอดทดลอง
ง. สารผสมเปลี่ยนไปเป็นสีแดงขุ่น และเกิดฟองแก๊สขึ้นเล็กน้อย
30. "ปุ๋ยบางชนิดที่มีผลต่อการเจริญเติบใตของผักบุ้งจีน" ตัวแปรต้นหรือ
ตัวแปรอิสระคืออะไร
ก. ผักบุ้งจีน
ข. แสงแดด
ค. การเจริญเติบโตของผักบุ้งจีน
ง. ปุ๋ย
31. หากต้องการจะตรวจดูเชื้อแบคที่เรียควรใช้เครื่องมือชนิดใดจึงจะ
เหมาะสมที่สุด
ก. แว่นขยาย
ข. กล้องจุลทรรศน์
ค. กล้องส่องทางไกล
ง. กล้องโทรทรรศน์
32. ข้อใดเป็นใครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสำรวจ
ก. สมุนไพรไล่แมลง
ข. สมุนไพรไล่ยุง
ค. การสำรวจพืชสมุนไพรในชุมชน
ง. ทฤษฎีโลกกลมโลกแบน
33. ใครงงานที่มีการออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาผลของตัวแปรอิสระที่มี
ผลต่อตัวแปรตาม ควบคุมตัว
แปร อื่น ๆ ที่มีผลต่อการทดลอง เรียกใครงงานชนิดใด
ก. โครงงานสำรวจ
ข. โครงงานทดลอง
ค. โครงงานสิง่ ประดิษฐ์
ง. โครงงานทฤษฎี
34. หากเราต้องการศึกษากังหันนาเกลือโดยทำกังหันลมแล้วนำมาทดลอง
หมุนกังหันที่มีแขนต่างกัน เรา
ต้องศึกษาใครงงานชนิดใด
ก. โครงงานสำรวจ
ข. ใครงงานทดลอง
ค. โครงงานสิง่ ประดิษฐ์
ง. โครงงานทฤษฎี
35. โครงงานประกอบด้วยส่วนใดบ้าง
ก. หัวข้อโครงงาน
ข. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ค. วิธีดำเนินการ
ง. ถูกทุกข้อ
36. ถ้าต้องการศึกษาว่าดินชนิดใดเหมาะแก่การปลูกข้าวโพด ตัวแปรต้น
ควรเป็นข้อใด
ก. ชนิดของดิน
ข. พันธุ์ขา้ วโพด
ค. ปุย๋
ง. การเจริญเติบโตของข้าวโพด
37. วิธีการใดที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกัน แก้ไขผลกระทบอันเนื่องมา
จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ก. ศึกษาหาความรู้ในเรื่องนั้นๆ อย่างเข้าใจและนำไปใช้ให้ก่อเกิด
ประโยชน์อย่างแท้จริง
ข. ศึกษาทดลองมากขึ้น
ค. รักษาสภาวะแวดล้อมให้อยู่ในสมดุล
ง. ศึกษาและสังเกตปรากฎการณ์ต่าง ๆ รอบตัว
38. การตั้งชื่อโครงงานควรมีลักษณะอย่างไร
ก. ตั้งให้มีจำนวนคำมากและไพเราะ
ข. ตั้งให้ส้ันกระชับและคล้องจอง
ค. ตั้งให้ส้ันกระชับเข้ากับเนื้อเรื่อง
ง. ตั้งแบบใดก็ได้ตามที่เราชอบ
39. ส่วนใดของใครงงานที่กล่าวขอบคุณบุคลากรหรือหน่วยงานต่าง 1 ที่มี
ส่วนช่วยให้โครงงานสำเร็จ
ก. บทคัดย่อ
ข. คำนำ
ค. กิตติกรรมประกาศ
ง. วัตถุประสงค์
40. ส่วนใดของใครงงานที่อธิบายรายละเอียดของการทำโครงงาน หลักการ
และทฤษฎีสนับสนุนรวมถึงผล
การทดลอง
ก. คำนำ
ข. สรุป
ค. เนื้อเรื่อง
ง. กิตติกรรมประกาศ
41. การควบคุมสิง่ อื่น ๆ นอกเหนือจากตัวแปรอิสระเป็นทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ใด
ก. ทักษะการตั้งสมมุติฐาน
ข. ทักษะการควบคุมตัวแปร
ค. ทักษะการตีความและลงข้อสรุป
ง. ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
42. การกำหนดความหมายและขอบเขตของคำต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสมมุติฐาน
เป็นทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ใด
ก. ทักษะการตั้งสมมุติฐาน
ข. ทักษะการควบคุมตัวแปร
ค. ทักษะการตีความและลงข้อสรุป
ง. ทักษะการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ

You might also like