Professional Documents
Culture Documents
E 0 B 980 e 0 B 88 Be 0 B 895
E 0 B 980 e 0 B 88 Be 0 B 895
E 0 B 980 e 0 B 88 Be 0 B 895
{x | x เป็ นสระในภาษาอังกฤษ }
อ่านว่า เซตของ x โดยที่ x เป็ นสระในภาษาอังกฤษ
{x | x เป็ นเดือนแรกและเดือนสุ ดท้ายของปี }
อ่านว่า เซตของ x โดยที่ x เป็ นเดือนแรกและเดือนสุ ดท้ายของปี
เครื่ องหมาย “ | ” แทนคำว่า โดยที่
ในการเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิกนั้นจะใช้จุดสามจุด ( . . . ) เพื่อแสดงว่ามีสมาชิกอื่น ๆ
ซึ่ งเป็ นที่เข้าใจกันทัว่ ไปว่ามีอะไรบ้างที่อยูใ่ นเซต เช่น
{1, 2, 3, . . ., 10} สัญลักษณ์ . . . แสดงว่ามี 4, 5, 6, 7, 8 และ 9 เป็ นสมาชิกของเซต
{วันจันทร์ , อังคาร, พุธ, . . ., อาทิตย์ } สัญลักษณ์ . . . แสดงว่ามีวนั พฤหัสบดี วัน
ศุกร์ และวันเสาร์ เป็ นสมาชิกของเซต
3. สัญลักษณ์ แทนเซต
ในการเขียนเซตโดยทัว่ ไปจะแทนเซตด้วยอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น A, B, C
และแทนสมาชิกของเซตด้วยตัวพิมพ์เล็ก เช่น a, b, c เช่น
A = {1, 4, 9, 16, 25, 36} หมายถึง A เป็ นเซตของกำลังสองของจำนวนนับหกจำนวน
แรก
4. สมาชิกของเซต
จะใช้สญ ั ลักษณ์ “ ” แทนคำว่าเป็ นสมาชิกหรื ออยูใ่ น เช่น
A = {1, 2, 3, 4}
จะได้วา่ 1 เป็ นสมาชิกของ A หรื ออยูใ่ น A เขียนแทนด้วย 1 A
3 เป็ นสมาชิกของ A หรื ออยูใ่ น A เขียนแทนด้วย 3 A
คำว่า “ไม่เป็ นสมาชิกของ” หรื อ “ไม่อยูใ่ น” เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ “ ” เช่น
5 ไม่เป็ นสมาชิกของ A หรื อไม่อยูใ่ น A เขียนแทนด้วย 5 A
7 ไม่เป็ นสมาชิกของ A หรื อไม่อยูใ่ น A เขียนแทนด้วย 7 A
สำหรับเซต A ซึ่ งมีสมาชิก 4 ตัว เราจะใช้ n(A) เพื่อบอกจำนวนสมาชิกของเซต A นัน่
คือ n(A) = 4
5. สับเซต
1. เซต A เป็ นสับเซตของเซต B ก็ต่อเมื่อ สมาชิกทุกตัวของเซต A เป็ นสมาชิกของเซต B
เขียนแทนด้วย A B
2. เซต A ไม่เป็ นสับเซตของเซต B ก็ต่อเมื่อ มีสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งตัวของเซต A ที่ไม่เป็ น
สมาชิกของเซต B เขียนแทนด้วย A B
6. เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)
ในการเขียนเซตแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก จะต้องกำหนดเซตขึ้นมาหนึ่งเซตเรี ยกว่า
เอกภพสั มพัทธ์ เขียนแทนด้วย U โดยมีขอ้ ตกลงว่า เมื่อกล่าวถึงสมาชิกของเซตใด ๆ จะไม่กล่าวถึง
สิ่ งอื่นที่นอกเหนือจากสมาชิกในเอกภพสัมพัทธ์
ตัวอย่างที่ 1 กำหนด U = {x | x เป็ นพยัญชนะในภาษาไทย} และ
A = {x | x เป็ นพยัญชนะในภาษาไทย 3 ตัวแรก}
จงเขียนเซต A แบบแจกแจงสมาชิก
วิธีทำ U = {ก, ข, ค, . . ., ฮ}
A = {ก, ข, ค}
ตัวอย่างที่ 2 กำหนด U = {1, 2, 3, . . . } และ B = {x | x เป็ นจำนวนนับที่นอ้ ยกว่า 5}
จงเขียนเซต B แบบแจกแจงสมาชิก
วิธีทำ U = {1, 2, 3, . . . }
B = {1, 2, 3, 4}
U
A 1 6
3 2
5 4 8 B
8. ยูเนียน
บทนิยาม ยูเนียนของเซต A และเซต B คือเซตที่ประกอบด้วยสมาชิกของ
เซต A หรื อของเซต B หรื อทั้งสองเซต
ยูเนียนของเซต A และเซต B เขียนแทนด้วย A B
และสัญลักษณ์ยเู นียนของเซต A และเซต B คือ
A B = {x | x A หรื อ x B หรื อ x เป็ นสมาชิกของทั้งสองเซต}
9. อินเตอร์ เซกชัน
บทนิยาม อินเตอร์เซกชันของเซต A และเซต B คือเซตที่ประกอบด้วยสมาชิก
ที่อยูท่ ้ งั ในเซต A และเซต B อินเตอร์เซกชันของเซต A และเซต B
เขียนแทนด้วย A B
สัญลักษณ์อินเตอร์เซกชันของ A และ B คือ
A B = {x | x A และ x B }
A B = { x | x A และ x B
10. คอมพลีเมนต์
บทนิยาม คอมพลีเมนต์ของเซต A คือ เซตของทุกสมาชิกใน
เอกภพสัมพัทธ์ U ที่ไม่อยูใ่ น A เขียนแทน
คอมพลีเมนต์ของเซต A ด้วย A/
สัญลักษณ์คอมพลีเมนต์ของเซต A คือ
A/ = {x | x U และ x A}
คอมพลีเมนต์ ของเซตที่
ข้ อที่ เซตที่กำหนดให้ เอกภพสั มพัทธ์ (U)
กำหนดให้
1 A = {1, 2, 3, 5} U = {1, 2, 3, . . . , 10} A = {4, 6, 8, 9, 10}
/
11. ผลต่ าง
บทนิยาม ผลต่างของเซต A และเซต B คือ เซตของทุกสมาชิก
ของเซต A ที่ไม่เป็ นสมาชิกของเซต B เขียนแทน
ผลต่างของเซต A และ B ด้วย A – B
สัญลักษณ์ผลต่างของเซต A และเซต B คือ
A – B = {x | x A และ x B}
ผลต่างของเซต A และเซต B คือเซตที่มีสมาชิกทุกตัวอยูใ่ นเซต A แต่ไม่อยูใ่ นเซต B
สาระการเรียนรู้
จำนวนสมาชิกของเซตจำกัด
จำนวนสมาชิกของเซตจำกัด A ใด ๆ จะเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ n(A) ซึ่ งสามารถแยก
โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกของเซตจำกัดได้ดงั นี้
1. ถ้า A และ B เป็ นเซตจำกัด จำนวนสมาชิกของเซต A B หรื อ n(A B) จะหาได้จาก
A B A B = {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7}
1 2 5 7 n(A B) = 7
3 4 6
จากแผนภาพ A B C = {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8}
n(A B C) = 8
ตัวอย่ างที่ 4 นักเรี ยนชั้น ม. 5 โรงเรี ยนแห่งหนึ่ง จำนวน 100 คน ได้รับรางวัลเรี ยนดี 20 คน
ได้รับรางวัลมารยาทดี 30 คน ในจำนวนนี้ได้รับรางวัลทั้งสองประเภท 10 คน
จงหา
1. จำนวนนักเรี ยนทั้งหมดที่ได้รับรางวัล
2. จำนวนนักเรี ยนที่ไม่ได้รับรางวัล
วิธีทำ ให้ A แทน เซตของนักเรี ยนที่ได้รับรางวัลเรี ยนดี
B แทน เซตของนักเรี ยนที่ได้รับรางวัลมารยาทดี
จากโจทย์จะได้ n(A) = 20 , n(B) = 30 , n(A B) = 10
จาก n(A B) = n(A) + n(B) + n(A B)
แทนค่า n(A B) = 20 + 30 – 10
= 40
จำนวนนักเรี ยนที่ไม่ได้รับรางวัล = 100 – 40 = 60
จำนวนนักเรี ยนทั้งหมดที่ได้รับรางวัล = 40
แบบฝึ กทักษะ
คำชี้แจง ให้นกั เรี ยนเติมคำตอบลงในช่องว่างแต่ละข้อต่อไปนี้ให้ถูกต้องสมบูรณ์
1. กำหนดแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ และจำนวนสมาชิก
U ในเซตให้ จงหา
A B 1.1 n(A) = ……………………………………..
21 5 31 1.2 n(B) = ……………………………………..
1.3 n(A B) = ………………………………
1.4 n(A B) = ………………………………
2. กำหนดแผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ และจำนวนสมาชิก
U ในเซตให้ จงหา
A B 2.1 n(A) = …………… 2.2 n(B) = ……….….
13 6 12 2.3 n(C) = …………... 2.4 n(A B) = ……
5 2 3 2.5 n(A C) = …….. 2.6 n(B C) = ……
2.7 n(A B C) = ………………………..
10 C 2.8 n(A B C) = ………………………..
3. นักเรี ยนชั้น ม. 4 โรงเรี ยนแห่งหนึ่งมี 300 คน ชอบเรี ยนฟิ สิ กส์ 150 คน ชอบเรี ยนเคมี
200 คน และชอบเรี ยนทั้งฟิ สิ กส์และเคมี 110 คน จงหา
3.1 นักเรี ยนที่เรี ยนฟิ สิ กส์วิชาเดียว มี …………… คน
3.2 นักเรี ยนที่เรี ยนเคมีวิชาเดียว มี ………………. คน
3.3 นักเรี ยนที่ไม่เลือกเรี ยนทั้งสองวิชา มี ………………… คน