Professional Documents
Culture Documents
แบบทดสอบท้ายกิจกรรม
แบบทดสอบท้ายกิจกรรม
1. ผู้กำกับภาพยนตร์มีบทบาทหน้าที่อย่างไรในกระบวนการผลิตภาพยนตร์
ผู้กำกับภาพยนตร์ คือผู้ที่มีหน้าที่กำกับในขัน
้ ตอนการสร้างภาพยนตร์ โดยผู้
กำกับภาพยนตร์มีหน้าที่สร้างจินตนาการจากบทหนัง แล้วถ่ายทอดความคิด
ทางด้านศิลปะออกมาตามแบบที่ตนเองต้องการ และเป็ นคนสั่งฝ่ ายอื่น ๆ ใน
กองถ่าย อย่างเช่น ฝ่ ายผู้กำกับภาพ ผู้กำกับการแสดง ฝ่ ายเทคนิค นักแสดง
ออกมาอยู่ในองค์ประกอบทางศิลป์ ที่ตนเองต้องการบนแผ่นฟิ ล์มหรือในระบบ
ดิจิตอล
2. ผู้กำกับภาพยนตร์ที่ดีต้องคุณสมบัติอย่างไร
ชอบและมีความสนใจในศาสตร์ภาพยนตร์ คุณสมบัตินีอ
้ าจเป็ นเหตุผลให้ใคร
หลายคนตัง้ ให้ผู้กำกับภาพยนตร์เป็ นอาชีพในฝั นเลยทีเดียว แต่อีกข้อที่ไม่ควร
ขาด คือการเป็ นนักเล่าเรื่องเล่าเรื่อง โดยเฉพาะการเล่าเรื่องด้วยภาพ
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.1.2
1. หัวใจสำคัญของการกำกับภาพยนตร์ประกอบด้วยปั จจัยด้านใดบ้าง
หัวใจของการกำกับภาพยนตร์ก็คือการที่ผู้กำกับภาพยนตร์ตีความจากบท
ภาพยนตร์ให้เป็ นภาพโดยมีเป้ าหมายคือต้องการสร้างความหมายสร้าง
อารมณ์ให้กับผู้ชมหรือบางครัง้ อาจะเกิดอุปสรรคในการทำงานที่ไม่เอื้อต่อ
การกำกับภาพยนตร์ ณ ขณะนัน
้ ผู้กํากับภาพยนตร์อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการ
สื่อสารหรือวิธีการบางอย่างเพื่อให้ได้ผลเป็ นไปตามที่ตัวเองต้องการเช่นผู้
กำกับอาจจะต้องเปลี่ยนบทหรือเปลี่ยนวิธีการเล่าแบบใหม่เพื่อให้ได้ผลซึ่ง
กรณีแบบนีผ
้ ู้อำนวยการสร้าง (Producer) จำเป็ นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกผู้กำกับ
ให้เหมาะสมกับบทภาพยนตร์เพราะผู้กำกับภาพยนตร์แต่ละคนมีความถนัดที่
แตกต่างกันมีหลาย ๆ ครัง้ ที่หลังจากผู้กำกับภาพยนตร์อ่านบทภาพยนตร์แล้ว
ไม่เกิดแรงบันดาลใจในการที่จะถ่ายทอดออกมาเป็ นภาพยนตร์หรืออาจไม่
ตรงกับแนวทาง (Style) ของผู้กำกับภาพยนตร์คนนัน
้ ก็อาจจะปฏิเสธงานหรือ
อาจจะมีการปรับบทภาพยนตร์ครัง้ ใหญ่ซึ่งขึน
้ อยู่กับผู้ควบคุมการผลิต
(Producer) ว่าจะยอมปรับตามผู้กำกับภาพยนตร์หรืออาจจะเปลี่ยนผู้กำกับ
ภาพยนตร์เป็ นคนอื่นที่เข้ากับบทภาพยนตร์นไี ้ ปในทิศทางเดียวกันได้มากกว่า
2. หากผู้กำกับภาพยนตร์ไม่เข้าใจบทบาทของตัวเองแล้วจะทำให้เกินปั ญหา
ใดบ้าง
จะทำให้เงินออกมาใช้เวลานานกว่าเดิมการที่ผู้กำกับไม่เข้าใจว่าหน้าที่ของตัว
เองคืออะไร ทำให้การทำงานไม่ได้ตามที่วางไว้ รวมไปถึงการควบคุมของ
ทำงานของกองถ่ายที่อาจจะเกิดปั ญหา
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.2.1
1. ให้นักศึกษาอธิบายบทบาทหน้าที่ของผู้กำกับภาพยนตร์ในขัน
้ ตอนการเตรี
ยมงานมาโดยละเอียด
ผู้ช่วยผู้กำกับ จะมีบทบาทสำคัญช่วงผลิต บางคนอาจจะเข้ามามีส่วนร่วม
ตัง้ แต่ก่อนหน้านัน
้ แต่หน้าที่หลักๆ อยู่ที่การจัดการช่วงถ่ายทำให้สำเร็จตาม
เวลาที่กำหนดไว้ ผู้ช่วยผู้กำกับจะต้องเข้าใจที่มาที่ไปของแต่ละฉาก เข้าใจสิ่ง
ที่ผู้กำกับต้องการ สิ่งที่ผู้กำกับวางแผนไว้ คอยจัดการให้ทุกฝ่ ายในกองทำ
หน้าที่ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในบางครัง้ การถ่ายทำอาจวางอยู่ในตารางที่
แน่นมาก เนื่องด้วยงบประมาณหรือข้อจำกัดอื่นๆ ทำให้ช้าไม่ได้ ช่วงถ่ายทำ
จึงเป็ นช่วงที่มีความเครียดและกดดันสูง ผูช
้ ่วยผู้กำกับจะเป็ นคนที่จัดการช่วง
นีใ้ ห้เป็ นไปอย่างลุล่วง
2. ให้นักศึกษาอธิบายขัน
้ ตอนการทำงานของผู้กำกับภาพยนตร์ในขัน
้ ตอน
การเตรียมงานมาโดยละเอียด
ผู้กำกับจะรวบรวมทีมงานซึ่งคนแรกๆที่จะต้องมีคือผู้ประสานงานระหว่างสตู
ดิโอ/โปรดิวเซอร์ กับ ผู้จัดการกองถ่าย, นักออกแบบ, ผู้จัดการหาสถานที่,
ช่างภาพและผู้ช่วยผู้กำกับ
สร้างวิสัยทัศน์ให้กับภาพยนตร์และสื่อสารกับทีมงาน ให้ทุกคนรับรู้ถึงสิ่งที่จะ
สื่อผ่านภาพยนตร์ ซึ่งช่วยให้สามารถแยกแยะสี, สถานที่และการจัดกรอบใน
อุดมคติของคุณได้ รวมถึงอ้างอิงภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่สร้างแรงบันดาลใจให้
คุณ
พูดคุยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของคุณกับทีมคุณแบบรายบุคคล วิสัยทัศน์ของคุณมี
ผลต่อทุกแผนกที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นหากคุณพูดว่า“ ฉันอยากให้ตัว
ละครนัน
้ รู้สึกโดดเดี่ยว” มันจะส่งผลต่อการเลือกเลนส์, แสงและเลือกดนตรี
ประกอบ เรียนรู้ภาษาที่ใช้ของทุกแผนกเพื่อให้คุณสามารถสื่อสารสิ่งที่คุณ
ต้องการจากพวกเขาได้สำเร็จ
ทำการคัดเลือกนักแสดงซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้หลาย
อย่างในช่วงนี ้ ก่อนที่คุณจะคัดเลือกนักแสดง สิ่งสำคัญคือพวกเขาต้องเข้าใจ
เรื่องราวที่คุณกำลังจะทำเป็ นหนัง พวกเขาควรเป็ นคนที่คุณไว้วางใจในการรับ
บทบาทจากคุณอย่างเต็มความสามารถและเต็มใจทำงานกับคุณ
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.2.2
1. ให้นักศึกษาอธิบายบทบาทหน้าที่ของผู้กำกับภาพยนตร์ในขัน
้ ตอนการถ่าย
ทำภาพยนตร์มาโดยละเอียด
คอยแนะนำนักแสดงในแต่ละฉาก โดยบอกถึงวิธีที่คุณต้องการจะสื่อ รวมถึง
ชมและให้กำลังใจพวกเขาในการแสดง เพื่อให้พวกเขาแสดงออกมาได้อย่าง
เต็มที่อย่างที่คุณคาดหวังไว้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกแผนกทำงานอย่างเต็มที่ คุณเป็ นคนที่คุ้นเคยกับทุก
ส่วนของการผลิตหนังมากที่สุด ดังนัน
้ คุณต้องแน่ใจว่าทุกแผนกกำลังทำงาน
ร่วมกันเพื่อทำให้หนังเรื่องนีอ
้ อกมายอดเยี่ยม
2. ให้นักศึกษาอธิบายขัน
้ ตอนการทำงานของผู้กำกับภาพยนตร์ในขัน
้ ตอน
การถ่ายทำภาพยนตร์มาโดยละเอียด
รักษาวิสัยทัศน์ของคุณให้มั่นคงไม่โลเลและตรวจสอบกับทุกแผนกอย่างต่อ
เนื่องตัง้ แต่ฝ่ายผลิตไปจนถึงนักแสดงเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจากพวกเขา
เพื่อเปลี่ยนวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ของคุณออกมาโลดเล่นผ่านหน้าจอ
3. ให้นักศึกษายกตัวอย่างปั ญหาที่จนเกิดขึน
้ ในขัน
้ ตอนการถ่ายทำภาพยนตร์
พร้อมวิธีแก้ปัญหามาโดย
ละเลียด
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.2.3
1. ให้นักศึกษาอธิบายบทบาทหน้าที่ของผู้กำกับภาพยนตร์ในการทำงานกับ
นักแสดงมาโดยละเอียด
หน้าที่ของผู้กำกับภาพยนตร์ในการทำงานกับนักแสดงการทำงานของผู้กำกับ
ภาพยนตร์ร่วมกับนักแสดงนัน
้ เป็ นขัน
้ ตอนที่จะต้องวิเคราะห์สังเคราะห์และมี
ความจากบทภาพยนตร์แล้วลงรายละเอียดในส่วนของตัวละครในบท
ภาพยนตร์ซึ่งตัวละครเหล่านีจ
้ ะโลดแล่นในภาพยนตร์ผ่านนักแสดงที่มี
คุณสมบัติ (Character) หลายประการเหมือนหรือคล้ายคลึงตัวละครที่อยู่ใน
บทภาพยนตร์เช่นรูปร่างหน้าตาน้ำเสียงบุคลิกการแต่งกายเป็ นต้นผู้กำกับ
ภาพยนตร์จะต้องเป็ นผู้คัดเลือกนักแสดงด้วยตัวเองตลอดจนพูดคุยแลก
เปลี่ยนทัศนะมุมมองของนักแสดงผ่านตัวละครนัน
้ ๆ จนเข้าสู่กระบวนการ
ถ่ายทำภาพยนตร์ผู้กำกับก็มีบทบาทเป็ นอย่างมากในการกำกับการเล่นของ
นักแสดงซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจกันทัง้ ผู้กำกับและนักแสดงด้วยดังนัน
้ ผู้กำกับ
จึงมีบทบาทเป็ นอย่างมากในกระบวนการผลิต
2. นักแสดงในภาพยนตร์สามารถจําแนกได้กี่ประเภทอะไรบ้าง
ภาพยนตร์จนสมารถจำแนกการทำงานร่วมกับนักแสดงออกเป็ น 3 รูปแบบ
คือการทำงานร่วมกับนักแสดงหลักและการทำงานร่วมกับนักแสดงสมทบ
และนักแสดงแทน
3. จงอธิบายความหมายของคำว่า“ Stand in” และ“ Double” ในขัน
้ ตอน
การกำกับนักแสดงมาโดยละเอียดกษายกตัวอย่างปั ญหาที่จะเกิดขึน
้ ในขัน
้
ตอนการถ่ายทำภาพยนตร์พร้อมวิธีแก้ปัญหามาโดยละเอียด
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.2.4
1. ผู้กำกับภาพยนตร์จะต้องทำหน้าที่กับบุคลากรภาพยนตร์ตำแหน่งใดบ้าง
ในการทำงานขัน
้ ตอนหลังการผลิตจงอธิบายมาโดยละเอียด
2. เสียงที่จะนำมาตัดต่อในกระบวนการหลังผลิตประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
จงอธิบาย
ในส่วนของแผนกเสียงนัน
้ จะประสานงานจากงานตัดต่อหลังจากที่ตัดต่อเสร็จ
แล้วแผนกเสียงก็จะมีการตรวจสอบเสียงสนทนา (Dialogue) ส่วนไหนที่มี
ปั ญหาอาจจะมีการซ่อมพากย์ใหม่อาจจะนัดนักแสดงมาทำการลงเสียงใหม่
ตามเสียงที่มีปัญหานอกจากนัน
้ จะมีการนำเสียงบรรยากาศ (Ambien) ที่
บันทึกมาจากกระบวนการถ่ายทำมาตัดต่อให้สอดคล้องกับภาพหากไม่
สมบูรณ์ก็จะมีการตัดต่อเสียงเอฟเฟค (Effect) ที่มาจากไฟล์เสียงที่เก็บไว้ใน
ฐานข้อมูล (Audio Library) เช่นเสียงบรรยากาศเสียงในป่ าเสียงในเมืองเสียง
สัตว์ร้องเสียงนกร้องหรือเสียงฝนตกเสียงแก้วแตกเสียงปื น ฯลฯ นอกเหนือ
จากนัน
้ อาจจะต้องมีการบันทึกเสียงใหม่ที่ตรงตามความต้องการมากกว่าทีมี
อยู่ในฐานข้อมูลเช่นต้องการเสียงแก้วแตกแบบใหม่เสียงเดินแบบใหม่หรือ
เสียงเครื่องไม้เครื่องมือปะทะกันเรียกการบันทึกสดของเสียงเหล่านีว้ ่า Foley
ซึ่งแผนกเสียงจะใส่เสียงหลายแบบหลายครัง้ เพื่อให้ผู้กำกับภาพยนตร์ไปเลือก
ใช้ในขัน
้ ตอนหลังจากนัน
้ ได้
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.3.1
1. ให้นักศึกษายกตัวอย่างว่าผู้กำกับภาพยนตร์จะต้องทำงานร่วมกับบุคลากร
ภาพยนตร์ในหน่วยเทคนิคพิเศษฝ่ ายหรือแผนกงานใดบ้างพร้อมอธิบาย
การทำงานของแต่ละฝ่ าย
2. นักศึกษาคิดว่านอกเหนือจากเทคโนโลยีภาพยนตร์ในบทเรียนแล้ว
เทคโนโลยีใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงานของผู้กำกับในหน่วยเทคนิค
พิเศษยกตัวอย่างพร้อมอธิบายมาโดยละเอียด
ในปั จจุบันด้วยความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างมีความง่าย
และสะดวกขึน
้ ในขัน
้ ตอนในการถ่ายทําเทคนิคพิเศษ (Special Effects) สามารถ
ลดขัน
้ ตอนในการทำงานบางอย่างได้ทำให้ประหยัดเวลาและงบประมาณที่สำคัญ
คือได้คุณภาพที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเดิมเช่นขัน
้ ตอนที่เรียกว่าฟเฟค (Deep fake)
ซึ่งเป็ นการน่าเอาใบหน้าของนักแสดงไปใส่แทนใบหน้าของนักแสดงอีกคนซึ่ง
ทำได้เหมือนจริงมากรวมไปถึงการประมวลผลการเคลอนไหวเสียงก็สามารถ
ทำได้อย่างเหมือนจริงและแม่นยำเช่นการเอานักแสดงที่เสียชีวิตไปแล้วมาสร้าง
ใบหน้าเขาขึน
้ มาโดยใส่ข้อมูลให้คอมพิวเตอร์ได้ร้จ
ู ักใบหน้านักแสดงได้ครบทุกมุม
มองแล้วสามารถใช้ระบบอัจฉริยะ (Artificial Intelligence) หรือ Ai ในการ
ประมวลผลให้ใบหน้าเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและเหมือนจริงซึ่งหากเทคโนโลยี
การถ่ายทำยังการพัฒนาที่ไม่หยุดยัง้ เพื่อนำมาสนับสนุนการทำงานให้สะดวก
สบายด้วยเงื่อนไขของเวลางบประมารและคุณภาพอันจะสร้างภาพได้ตาม
จินตนาการที่ไม่ปิดกัน
้ ของผู้กำกับภาพยนตร์
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.3.2
1. ให้นักศึกษาอธิบายเหตุผลว่าเพราะเหตุใดผู้กำกับภาพยนตร์ถึงจำเป็ นต้อง
ทำงานร่วมกับกับหน่วยอุปกรณ์พิเศษ (Special Equipment Unit)
หากผู้กำกับภาพยนตร์และผู้กำกับภาพต้องการมุมภาพที่แปลกออกไปอาจะต้อง
ใช้อุปกรณ์ในการควบคุมกล้องเพื่อความสะดวกในการทำงานเช่นไม้กันสัน
้
(Steady Cam) กล้องจะยึดติดกับช่างภาพให้คนช่างภาพเคลื่อนกล้องได้อย่าง
อิสระไม่มีการสั่นสะเทือนซึ่งปั จจุบันนีม
้ ีการผลิตออกมาได้สะดวกสบายและมีน้ำ
หนักที่เบามากยิ่งขึน
้ และสามารถทำให้ผู้ถา่ ยภาพมีความสะดวกสบายและไม่
แบกน้ำหนักจนมากเกินไป ก็ต้องมาติดต่อกับหน่วยอุปกรณ์พิเศษ เพื่อจะใช้
อุปกรณ์
2. นักศึกษายกตัวอย่างอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องยนต์กลไกของหน่วยอุปกรณ์
พิเศษ (Special Equipment Unit) พร้อมอธิบายการทำงานมาโดยละเอียด
1. ให้นักศึกษาอธิบายว่าเหตุผลใดบ้างที่ผู้กำกับภาพยนตร์จะต้องใช้นักแสดง
แทน (Double)?
นั่นเป็ นเพราะว่า การทำงานกับผู้ที่มีความสามารถเฉพาะตัวเช่นการขับรถ
ผาดโผนหรือนักดิ่งภูเขา (Wing suit Flying) เป็ นความสามารถเฉพาะตัวของ
ผู้ที่แสดงซึ่งกรณีนักแสดงหลักไม่สามารถทำแบบนัน
้ ได้ก็จำเป็ นต้องอาศัยผู้
แสดงแทนที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญจริงส่วใหญ่ฉากเหล่านีจ
้ ะเป็ นการ
ถ่ายทำที่เป็ นภาพไกลหรือภาพกว้าง (Long Shot) ที่ไม่ต้องการให้เห็นใบหน้า
นักแสดงชัดเจนหรือกรณีที่เห็นใบหน้านักแสดงชัดเจนอาจต้องนำภาพนักแส
ดงจริงๆไปแทนที่ภาพนักแสดงผาดโผนเหล่านัน
้ ได้ประเภทศิลปะการต่อสู้ซึ่ง
เป็ นทักษะความสามารถพิเศษที่นักแสดงจริงหลายครัง้ ไม่สามารถทำได้และ
ไม่มีเวลาที่จะซ้อมให้ได้ขนาดนัน
้
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.3.4
หน่วยที่สองคือทีมผู้สร้างภาพยนตร์ที่แยกกันซึ่งได้รับมอบหมายให้ถา่ ยทำ
ช็อตหรือซีเควนซ์ของการผลิต แยกจากหน่วยหลักหรือหน่วย "แรก" ยูนิตที่สองมัก
จะถ่ายพร้อมกันกับยูนิตอื่นหรือยูนิตอื่น ทำให้ขน
ั ้ ตอนการถ่ายทำของการผลิตเสร็จ
สิน
้ เร็วขึน
้
หน้าที่ของหน่วยที่สองแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วภาพยนตร์หน่วยแรก
คีย์ละครใบหน้าเพื่อใบหน้าระหว่างหลักนักแสดง มีการใช้หน่วยที่สองบ่อยครัง้ สอง
วิธีคือ:
แบบทดสอบท้ายกิจกรรมที่ 10.4.1
2. จากข้อความ“ การแก้ปัญหาโดยการปรับเปลี่ยนบทนัน
้ ควรเป็ นทางเลือก
สุดท้ายหลังจากที่พยายามแก้ปัญหาทางอื่นจนหมดหนทางเท่านัน
้ ” เหตุใด
ถึงกล่าวเช่นนัน
้ ให้นักศึกษาอธิบายถึงเหตุผลดังกล่าว?
1. ให้นักศึกษาบอกคุณสมบัติของผู้กำกับภาพยนตร์ที่พึงประสงค์วา่ จะต้องมี
คุณสมบัติอย่างไร?
มีความรู้รอบด้าน
ผู้กำกับที่ดีย่อมต้องรู้ “วิธี” การกำกับให้ออกมาดี ถึงแม้ผู้กำกับอาจจะไม่ต้อง
ทำทุกอย่างด้วยตัวเองแต่การมีความรู้ทางเทคนิคในด้านต่างๆ เช่น การจัดไฟ
หรือการเฟรมกล้องรวมถึงรู้วิธีการใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการทำ ก็จะทำให้
คนในทีมทำงานได้ง่ายขึน
้
มีทักษะการสื่อสารที่ดี
ผู้กำกับเป็ นอาชีพที่ต้องสื่อสารกับคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะกับนักแสดง ทีมงาน
ในกองถ่าย รวมถึงนักลงทุนที่อยู่เบื้องหลัง ทักษะการสื่อสารให้ความเข้าใจ
ทุกคนตรงกันจึงเป็ นอีกทักษะที่สำคัญไม่แพ้กัน
มีความคิดสร้างสรรค์
การจะเป็ นผู้กำกับโดยปราศจากความคิดสร้างสรรค์นน
ั ้ เป็ นไปไม่ได้ ผู้กำกับ
ต้องมีทงั ้ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการเปลี่ยน
เรื่องราวบนหน้ากระดาษให้กลายเป็ นภาพเคลื่อนไหวชวนให้คนดูร้ส
ู ึกอยาก
ติดตาม
กล้าตัดสินใจ
การสร้างภาพยนตร์ขน
ึ ้ มาเรื่องหนึ่งไม่ได้ทำกันง่ายๆ บางครัง้ เราอาจจะเจอ
อุปสรรคระหว่างทางที่ไม่ร้ว
ู ิธีแก้ หรือเจอทางเลือกที่ไม่สามารถชีข
้ าดได้ว่า
ทางเลือกไหนเป็ นทางเลือกที่ดีกว่า เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี ้ ทักษะการตัดสิน
ใจด้วยความรวดเร็วและแน่วแน่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะความลังเล
อาจส่งผลให้ไม่สามารถทำตามเดดไลน์ได้ทันจนส่งผลกระทบเป็ นโดมิโน่
มีความเป็ นผู้นำ
ทุกคนในกองถ่ายจะมองผู้กำกับในฐานะผู้นำทีม ผู้กำกับจึงควรคุ้นเคยกับ
การกระจายงานและออกคำสั่งให้ใครทำอะไร ไม่ว่าจะกับนักแสดงเพื่อให้พวก
เขาสามารถแสดงได้ออกมาสมจริง และกับทัง้ ทีมงานในกองถ่ายเพื่อให้งาน
ออกมาดีที่สุด
2. จากข้อความที่วา่ “กระบวนผลิตภาพยนตร์ถึงมีการเตรียมการรัดกุมมา
อย่างดีก็ยังมีโอกาสเกิดปั ญหาต่าง
กำหนดเวลาเข้าออกงานและประกาศให้แน่ชัด
หลายต่อหลายครัง้ อาจจะไม่ได้มีการกำหนดให้แน่ชัด
พูดคุยทันที
อย่ารอจนคุณรู้สึกโกรธและรำคาญใจจากปั ญหานีจ
้ นรู้สึกปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว
เพราะนั่นหมายความว่าคนอื่นๆในทีมอาจจะทนไม่ได้แล้วก็เป็ นได้ พูดคุยเพื่อ
รับรู้ถึงปั ญหาที่มาสายทันทีเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลาย ทำให้เข้าใจว่า
เวลาที่ควรพร้อมสำหรับทำงานคือเวลาเข้างาน และหาทางออกของปั ญหา
ร่วมกันหากมีเหตุผลที่ดีเพียงพอ นอกจากนีก
้ ารเรียกคุยยังทำให้ทีมงานที่มา
สายรู้ด้วยว่าผู้กำกับอย่างคุณไม่ได้ปล่อยปละละเลย