Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 702

กำเนิดเทพมำร

ตอนที่ 1
บนโลกที่คนส่วนใหญ่นั้นนับถือและให้ความเคารพกันแต่เพียง ‘
ความแข็งแกร่ง ‘ โดยมิได้คานึงถึงความผิดชอบชั่วดีของตัวบุคคลผู้
นั้น อาจกล่าวได้ว่าหากแม้มีคนกระทาความผิด แต่หากมันเป็นผู้ทมี่ ี
ความแข็งแกร่งและอานาจที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่เกรงกลัว
ของผู้คนแล้ว ความผิดของพวกมันเหล่านี้ล้วนเปรียบเสมือนสาย
ลมบางเบาที่พร้อมจะพัดพาความผิดชอบเหล่านี้ไปจากความคิด
ผู้คนโดยในทันที
กลับกันหากมีบุคคลที่ไร้ซงึ่ อานาจ พลัง และ ความแข็งแกร่ง
แล้วละก็ตัวมันย่อมถูกกล่าวขานเรียกโดยทั่วกันว่า ขยะไร้ค่า เพราะ
แม้ขยะบางประเภทยังอาจพอนามาแสวงหาผลประโยชน์ได้บาง
เล็กน้อยแต่กลับบุคคลที่ออ่ นแอแล้วนั้นย่อมไม่เป็นที่ต้องการของ
ใครแม้แต่คนเดียวไม่เว้นแม้กระทั่งผู้คนในตระกูลของตนเอง
ในสวนแห่งหนึ่งอันเป็นทีต่ ั้งของตระกูลหลิน มีร่างของเด็กหนุ่ม
อายุราว 15 ปีคนหนึ่งกาลังถูกทุบตีโดยเด็กหนุม่ อีกคนหนึ่งซึ่งดูอายุ
ไม่ต่างจากกันมากนัก เด็กหนุ่มผู้ที่ออกแรงหมัดและเท้าทุบตีเด็ก
หนุ่มอีกคนซึ่งดูอ่อนแอและบอบบางเสียยิ่งกว่าสตรี แต่มันก็ไม่ได้มี
การออมมือแต่อย่างใด กลับลงมือกระทาการออกหมัดและเท้าอย่าง
หนักหน่วงทุกทวงท่าราวกับปรารถนาจะเข่นฆ่ากัน
“ เจ้าขยะไร้ค่า เพียงเท่านี้เจ้าก็ถึงกับหมดแล้วอย่างนั้นรึ สม
แล้วที่ถูกกล่าวว่าเป็นเพียงขยะไร้ค่า ฮ่าๆๆ ”
“ นายน้อย นายหญิงให้ข้ามาเรียกท่านเจ้าคะ ”
“ ท่านแม่อย่างนั้นรึ เอาเป็นว่าวันนี้พอเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน เจ้า
น่าจะดีนะที่ได้เป็นคู่ฝึกซ้อมให้แก่ข้าผู้นี้ฮ่าๆคราวหน้าก็ให้มันทนมือ
ทนเท้าของข้าให้มากกว่านี้หน่อยละ ฮ่าๆ ”
ผ่านไปเพียงชั่วครู่หลังจากที่ตัวของเด็กหนุ่มพยายามเรียกสติ
และฝืนร่างกายลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผูท้ ี่ทุบตีมันจากไป
แล้ว เด็กหนุ่มผู้นหี้ าใช่คนรับใช้หรือทาสภายในตระกูลหลินแห่งนี้
แต่อย่างใดกลับกันฐานะของเขานั้นคือหนึ่งในนายน้อยของตระกูล
หลินนาม ‘ หลินหมิง ‘ และผู้ที่ทุบตีมันเมื่อสักครู่นนั้ อาจ
เปรียบเสมือนน้องชายของมันแม้จะต่างมารดากันก็ตามที่ แต่ตัว
ของหลินหมิงนั้นไม่ได้รับการเคารพจาก หลินชู น้องชายต่างมารดา
ของมันเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วตัวของเขานั้นไม่แม้แต่เพียง
หลินชูที่ถูกนับว่าเป็นน้องเท่านั้นแม้แต่บิดาของเขาก็ยังไม่เห็นค่า
ของตัวเขาแต่อย่างใด
ตัวเขานั้นนับได้ว่าเป็นบุตรที่เกิดจากมารดาของเขาที่เป็นภรรยา
ลาดับที่สามของบิดาของเขาจากบรรดาภรรยาน้อยใหญ่กว่าสิบคน
โดยตามจริงแล้วนั้นสถานะของเขานั้นย่อมต้องเหนือกว่า หลินชู ผู้
ที่ทุบตีมันเมื่อสักครู่เสียอีก เพียงแต่ว่าเมื่อเขาเกิดมานั้นไม่เพียงแต่
จะต้องเสียมารดาโดยไม่เพียงแม้แต่จะได้พบเจอหน้ากัน ซ้าตัวเขา
ยังเป็นคนที่ถูกกล่าวว่าเป็นเพียงขยะไร้ค่า ไม่พลังปราณใดๆเลยใน
ร่างกาย ซึ่งมันหาได้ยากมาก อาจเรียกได้ว่าหาสุ่มคนมาจานวน
หนึ่งแสนคนก็อาจจะไม่พบบุคคลที่ไร้ความสามารถเช่นเขา
มันจึงทาให้สถานะของหลินหมิงในตอนนี้แม้จะไม่ใช่ทาสแต่ก็มิ
อาจขัดขืนคากล่าวของพี่ หรือ น้อง ร่วมสายเลือดของมันแต่อย่าง
ใด เพราะบิดาของมันนั้นตั้งแต่จาความได้เมื่อเขาถูกพบว่าเป็น
ตัวตนที่ไร้ค่า ไร้ความสามารถนับตั้งนั้นก็ถูกกลั่นแกล้งโดยเสมอมา
และไม่มีทที ่าว่าบิดาของเขาจะเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด
และหน้าที่ของหลินหมิงเมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั้นก็คือการเป็นคู่
ซ้อมต่อสู้ให้กบั น้องต่างสายเลือดของมัน หลินชู แม้ตัวของหลินห
มิงจะรู้แต่แล้วอยู่แล้วว่าหลินชู นั้นตัวมันแม้จะอายุน้อยกว่าเขาอยู่
หนึ่งปีเต็มแต่มันไม่ได้เป็นขยะไร้ค่าอย่างเขา หลินชูผู้นี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์
ที่มีความสามารถในระดับพลังปราณเริ่มต้นขั้น 7 และโดดเด่นเป็น
อันดับสาม จากบรรดาบุตรของบิดามันทั้งหมด
ดังนั้นตัวเขาที่ไร้ซึ่งพลังใดๆย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินชูอย่าง
แน่นอน แต่ด้วยความหวังในใจของหลินหมิงก็คือการที่อย่างน้อย
เขาอาจจะสามารถโจมตีใส่หลินชูตอบกลับได้เพียงสักหนึ่งครั้งก็
นับว่าพอใจมากแล้ว แต่เรื่องที่หลินหมิงหวังไว้นั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น
เลยแม้แต่ครั้งเดียวจากการที่เขาต้องเป็นคู่ซ้อมให้กว่าหลินชูกว่า
ร้อยครั้ง และผ่านสถานการณ์ที่เฉียดตายมากว่าสิบครั้ง
หลินหมิงพยายามฝืนร่างกายของเขาเพื่อกลับไปยังบ้านของเขา
และนั้นย่อมไม่ใช่จวนหลักของตระกูลหรือแม้กระทั่งจวนอื่นๆแต่
อย่างใด มันเป็นเพียงบ้านที่ถูกปล่อยร้างไว้ที่ป่าท้ายสวนของตระกูล
เท่านั้น และสถานที่แห่งนีม้ ันย่อมนับได้ว่าแย่เสียยิ่งกว่าที่พักของ
เหล่าคนรับใช้เสียอีก
เพราะว่าแม้สถานะโดยแท้จริงของหลินหมิงคือหนึง่ ในนายน้อย
แห่งตระกูลหลิน แต่บรรดาคนรับใช้ล้วนรับรู้ถึงเรื่องที่นายน้อยผู้นี้
เป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งพลังปราณเป็นอย่างดี แม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่ได้
ทาการกลั่นแกล้งหลินหมิงแต่อย่างใดแต่ก็ไม่มีใครที่คิดจะช่วยเหลือ
หลินหมิงแต่อย่างใดเช่นเดียวกัน เพราะว่ามิเช่นนั้นแล้วพวกเขา
อาจจะโดนนับรวมว่าเป็นพวกเดียวกันกับขยะไร้ค่าก็ได้
เมื่อหลินหมิงมาถึงที่บ้านของเขาที่อยู่ท้ายสวนของตระกูลอย่าง
ยากลาบากด้วยระยะทางที่ห่างกันอยู่ไม่ใช่น้อย หากถามว่าเมื่อเป็น
เช่นนี้เหตุใดตัวเขาถึงไม่คิดหลบหนีออกจากตระกูลแห่งนี้เสีย นั้นก็
เพราะหากตัวเขาคิดออกไปยังนอกตระกูลแล้วละก็คงไม่พ้นถูกรังแก
กลั่นแกล้งอีกเช่นเดียวกัน ซ้ามันอาจจะรุนแรงเสียยิ่งกว่านี้ด้วยซ้า
ไปเพราะฉะนั้นแล้วตัวเลือกของเขาจึงมีเพียงต้องอาศัยอยู่ในที่แห่ง
นี้เพียงเท่านั้น
สาหรับตัวเขาที่อายุ 15 ปี และต้องทนความยากลาบากเช่นนี้
มาเกือบ 10 ปีมีหลายครั้งที่เขาต้องร้องไห้ออกมาจนมิอาจหลับนอน
ได้ หรือแม้กระทั่งคิดฆ่าตัวตาย แต่ด้วยความหวังเดียวก่อนตายของ
เขาก็คือการได้แก้แค้นบุคคลที่กลั่นแกล้งรังแกเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็
ยังดี
หลินหมิงทิ้งตัวลงนอนอย่างอ้อนล้าบาดแผลจากการถูกทุบตี
โดยหลินชูนั้นหากเป็นคนปกติทั่วไปอาจต้องพักฟื้นเพียง 2-3 วันแต่
สาหรับตัวของเขาที่ร่างกายอ่อนแอนั้นอาจต้องพักราวสัปดาห์จึงจะ
เริ่มหายดี
“ ขอเพียงแค่ข้ามีพลังเท่านั้น..ข้าจะเอาคืนพวกมันอย่างสาสม

ตอนที่ 2
หลังจากที่หลินหมิงล้มตัวลงบนเตียงอย่างอ้อนล้า แม้ว่าหากคน
อื่นได้เห็นเตียงของเขาแล้วนั้นพวกเขาเหล่านั้นอาจไม่คิดเช่นนั้น
เพราะเตียงที่หลินหมิงอาศัยหลับนอนนั้นเป็นเพียง เตียงไม้แข็งๆที่
แค่ดูภายนอกก็ย่อมรู้แล้วว่าหากต้องนอนหลับพักผ่อนอยู่บนเตียง
เช่นนี้ย่อมมิต่างอะไรจากการทรมาณตนเองในยามดึก
หน้าที่ของหลินหมิงในตระกูลหลินแห่งนี้เขาไม่ใช่ข้ารับใช้จึง
ไม่ได้มีหน้าที่อะไรมากมาย อาจกล่าวได้ว่าหน้าที่ของเขามีเพียงเป็น
ที่ระบายอารมณ์ให้แก่ญาติพี่น้องต่างแม่ หรือแม้กระทั่งเหล่าภรรยา
ของบิดาของเขาเองก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นหากเขาต้องใช้เวลากว่า
สัปดาห์ในการพักฟื้นตัวแล้วละก็มันก็จะไม่มีใครสนใจเขาแต่อย่าง
ใด เปรียบเสมือนกับตัวตนที่มีก็ได้ไม่มีก็ไม่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในวันนี้ที่หลินหมิงออกไปเป็นคู่ซ้อมให้กับ หลินชูนั้นไม่เพียงแต่
เขาจะหวังว่าจะสามารถโต้ตอบใส่อีกฝ่ายได้บ้างแม้เพียงเล็กน้อย
เท่านั้น เขายังหวังว่าบิดาของเขาจะหันมาสนใจในตัวของเขาบ้าง
เพราะเนื่องจากในวันนี้นั้นเป็นวันที่เขามีอายุครบ 15 ปี แม้ว่าใน
ความเป็นจริงในทุกๆปีทผี่ ่านมานั้นตัวเขาก็ไม่ได้รับความสนใจใดๆ
เช่นในวันนี้ก็ตามที่ แต่ในส่วนลึกของจิตใจมันก็อดไม่ได้ที่จะ
คาดหวังว่าจะได้รับความอบอุ่นจากบิดาของเขาบ้างแม้เพียง
เล็กน้อยก็ตามที่
หลินหมิงหลับตาลงเพื่อทาการพักผ่อนตนเอง เขาไม่ต้องเป็น
ห่วงในเรื่องอาหารการกินของตนเองแต่อย่างใดแม้ว่าจะไม่มีข้ารับ
ใช้มาคอยปรนเปรอปณิบัติเช่นเดียวกันกับญาติพี่นอ้ งของเขา แต่
รอบๆบ้านของเขานั้นยังเต็มไปด้วยพืชพรรณผลไม้ต่างๆมันจึงทา
ให้เขาไม่อดตาย แม้จะขาดสารอาหารจาพวกเนื้อไปก็ตามนั้นจึง
เป็นเหตุทาให้ร่างกายของหลินหมิงนั้นอ่อนแอ่เป็นอย่างมาก
เนื่องจากเขาไม่ได้รับสารอาหารที่จาเป็นมากพอ
ภายในห้วงความคิดของหลินหมิงยามหลับไหลหลินหมิงพลัน
คิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ตัวเขาในอดีตที่เคยด่าท้อสาบแช่ง
ผู้ที่กาหนดชะตาของเขาให้ต้องเป็นเช่นนี้ น้าตาของความเศร้าสลด
เสียใจในโชคชะตาของตนเองที่ไหลออกมาไม่เคยหยุดย่อนเป็นเวลา
เกือบห้าปีจนมันแปลเปลีย่ นเป็นสีแดงฉาน ความรู้สึกเศร้าเสียใจ
ต่างๆพลันเปลี่ยนเป็ความโกรธแค้น สิ่งที่เขาพบเจอนั้นมันสมควร
แล้วหรือที่เด็กหนุ่มวัยเช่นเขานั้นสมควรได้รับ
หากแม้ตัวเขาได้มีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองได้อย่างเช่นคนอื่นตัว
เขาจะไม่ลังเล และจะทุ่มตนสุดความสามารถเพื่อพัฒนาตนและจะ
ไปล้างแค้นกับผู้ที่กระทากับเขาเช่นนี้
ภายในจิตใจของหลินหมิงในขณะที่เขากาลังราพึงถึงเหตุกาณ์ที่
ผ่านมานับแต่ในอดีตอย่างโกรธแค้นพลันเกิดเรื่องประหลาดภายใน
จิตใจของเขา ตัวของหลินหมิงทีก่ ระทาการหลับตาอยู่นั้นพลันรู้สึก
ได้ว่าในร่างกายของเขามีบางอย่างกาลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไป
หลินหมิงลองเพ่งสมาธิสารวจภายในจิตใจของตนเองเพื่อสืบหา
ความประหลาดที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา แม้ว่านี้จะเป็นหนึ่ง
ในสิ่งที่เขาทาเป็นประจาอยู่แล้วก็ตามที่เพื่อหวังว่าอย่างน้อยตัวเขา
นั้นอาจเกิดปฏิหารย์ขึ้นมาบ้างแม้ว่านับแต่อดีตจะไม่เคยเกิดเรื่อง
ดังเช่นที่เขาหวังก็ตามที่
ภายในจิตของหลินหมิงนัน้ ต้นเถียนของเรียกได้ว่ามันสมบูรณ์ดี
ทุกประการ แต่มันขาดซึ่งพลังงานในการหมุนวนไปทั่วร่าง มิว่าเขา
จะทาเช่นไรพลังงานภายในร่างของเขามันก็ไม่เคยมีเลยแม้แต่เศษ
เสี้ยว แต่แล้วเขาก็พบสิ่งที่ต่างออกไปจากอดีตภายในเขาพบว่ามี
พลังงานแปลกประหลาดสีดาทมิฬ มันคล้ายคลึงกับเปลวเพลิง
เพียงแต่ว่ามันมีสีดา !
เพียงแค่หลินหมิงทาการจ้องมองไปที่เพลิงทมิฬทีก่ าลังลุกโชน
อยู่ภายในต้นเถียนของเขานั้นมันก็ทาให้เขารู้สึกเกิดอาการ
หวาดกลัวขึ้นมา นับตัง้ แต่ตัวของหลินหมิงที่เคยตัง้ เป้าไว้ว่าจทา
การแก้แค้นนั้นตัวเขามิเคยเกรงกลัวต่อความตายแต่อย่างใด หาก
ความตายของเขาสามารถทาให้เขาแก้แค้นได้เขาก็จะไม่เสียเวลาคิด
เลยแม้แต่น้อย
แต่เปลวเพลิงทมิฬข้างหน้าของหลินหมิงนีม้ ันอาจกล่าวได้ว่ามัน
มีความน่ากลัวเสียยิ่งกว่า ความตาย ! สีดาของเปลวเพลิงทมิฬนี้
ราวกับว่ามันเป็นหลุมดาที่มีความลึกไม่สิ้นสุด แม้ว่าตัวของหลินห
มิงจะไม่รู้สึกถึงความร้อนใดๆของเปลวเพลิงทมิฬนี้ แต่เขากลับรู้สึก
เย็นเยือกไปทั่วร่างแทนเสียอย่างนั้น
หลินหมิงที่เกิดอาการหวาดกลัวครอบงาภายในจิตใจนั้นเขา
กาลังทาการออกจากสมาธิเพื่อหลีกหนีความน่ากลัวของเปลวเพลิง
นี้ เพียงแต่ว่าในระหว่างนั้นตัวเขากลับเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
หลินหมิงก้าวเท้าออกไปด้วยความมุ่งมั่นแววตาของความ
หวาดกลัวที่เคยปรากฎอยู่ในดวงตาของเขาเมื่อครู่พลันอันตรธาน
หายไปราวกับว่าตัวเขาเปลี่ยนแปลงเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ความแน่ว
แน่ที่หวังจะแก้แค้นของเขานั้นมันมีค่ามากเสียยิ่งกว่าความ
หวาดกลัวต่อสิง่ ใดๆ !
ราวกับว่าเปลวเพลิงทมิฬนั้นรับรู้สิ่งที่หลินหมิงกาลังจะทา เปลว
เพลิงของมันลุกขึ้นมาอย่างโชติช่วงภายในต้นเถียนของเขาแม้ว่า
หลินหมิงจะไม่อาจรู้ได้ว่ามันกาลังคิดเช่นใด ดีใจ ตกใจ ตื่นเต้น ยิ้ม
เยาะ เยาะเย้ย ? เพียงแต่ว่าในเวลานี้นั้นตัวเขาไม่สนใจถึงสิ่งที่คน
หรือมันผู้ใดคิดแต่อย่างใด
‘ ข้าต้องการพลัง ! ’
เมื่อมาถึงในระยะที่มือของเขาสามารถเอื้อมสัมผัสเปลวเพลิง
ทมิฬนี้ได้หลินหมิงไม่รอช้าแต่อย่างใด เมื่อปลายนิ้วของเขาเข้ามา
ภายในเปลวเพลิงทมิฬนี้ เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดภายนอกแต่อย่างใด
เพียงแต่ว่าจิตใจของเขานั้นกลับเป็นอีกเรื่องหนึง่
ภาพของการถูกทารุณในอดีตถูกฉายซ้าภายในหัวของหลินหมิง
ราวกับว่ามันจะเป็นแรงกระตุ้นให้เขาสามารถก้าวข้ามผ่านความ
เจ็บปวดภายในจิตใจของเขาไปได้ เปลวเพลิงทมิฬราวกับว่ามัน
ต้องการแผดเผาดวงวิญญาณของเขาให้หายไปในบัดดล
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก !
แม้ว่าหลินหมิงจะเคยพบกับสถานการณ์ที่ถูกทารุณทรมาณมา
มากมายเพียงแต่การจู่โจมของเปลวเพลิงทมิฬหากเทียบกับเรื่องที่
เขาพบเจอมานับแต่อดีตนั้นราวกับว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นเกิดขึ้น
จากการที่ถูกทารกทุบตี !เปลวเพลิงทมิฬจากเดิมทีอ่ ยู่ที่ปลายนิ้ว
ของหลินหมิงนั้นค่อยๆลุกลามภายในร่างกายของเขาอยู่เรื่อยจนใน
ที่สุดไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดร่างของหลินหมิงภายในจิตใจก็
ถูกอาบไปด้วยเปลวเพลิงทมิฬไปเสียแล้ว

ตอนที่ 3
ราวกับว่าอวัยวะภายในของเขากาลังถูกบีบรัดอย่างรุนแรง
ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเปลวเพลิงสี
ดาครอบคลุมทั้งร่างกายของหลินหมิงไปแล้วแต่มันไม่มีทที ่าว่าจะ
ผ่อนลงแต่อย่างใดความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้นยังคงอยู่
ในตอนนี้นั้นหลินหมิงได้ออกมาจากการทาสมาธิเพื่อเข้าไปภาย
ใสจิตใจของเขาแล้วไม่ใช่ว่าตัวเขาต้องการล้มเลิกความตั้งใจแต่
อย่างใดเพียงแต่เพราะความเจ็บปวดเช่นนี้มันยากเกินกว่าที่เขาจะ
คงสมาธิภายในจิตใจของเขาเอาไว้ได้ และถึงแม้ว่าหลินหมิงจะทา
การออกมาภายนอกจิตใจแล้วเขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอยู่เช่นเดิม
เพียงแต่ว่าร่างกายแท้จริงของเขานั้นไม่ได้มีเปลวเพลิงทมิฬปกคลุม
อยู่นี้จึงเป็นแค่ความแตกต่างเดียวในระหว่างที่เขาอยู่ภายในจิตใจ
กับตัวของเขาในตอนนี้
ผิวหนังตามร่างกายของหลินปรากฎเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาจน
ทาให้บางส่วนระเบิดออกมาเป็นเลือด ดวงตาของหลินหมิงในตอนนี้
ที่เคยเป็นสีฟ้าสดใสค่อยๆถูกย้อมไปด้วยสีแดงเลือดอันเกิดมาจาก
เลือดของเขานั้นเอง แม้ว่าตัวเขาจะตะโกณร้องอย่างเจ็บปวด แต่
ตัวเขานั้นรู้ดีว่าไม่มีทางทีค่ นในตระกูลแม้แต่คนเดียวจะได้ยินเสียง
เขา พื้นที่บ้านของเขานั้นนอกเสียจากมันจะตั้งอยู่ไกลจากจวนของ
ตระกูลมากแล้วนั้นบรรดาคนในตระกูลโดยทั่วไปล้วนไม่มีใครอยาก
เข้าใกล้พืนที่บ้านของเขามากนักเพราะพวกเขากลัวว่าจะโดนหาว่า
เป็นพวกเดียวกันกับขยะไร้ค่า
สามวันผ่านไป
ในสามวันที่ผ่านมานี้หลินหมิงได้ฝืนทนความเจ็บปวดจนมีหลาย
ครั้งที่ภายในความคิดของเขาก็ความคิดที่จะฆ่าตัวตายเพื่อหลีกหนี
ความเจ็บปวดเช่นนี้ไป แต่สิ่งเหล่านั้นย่อมเกิดเพียงอารมณ์ชั่วครู่
เท่านั้น
‘ ข้าจะยังไม่ยอมตายง่ายเพียงเท่านี้ ’
ภายในสามวันมานี้เนื่องจากเขาต้องทนความเจ็บปวดตลอดวัน
ตลอดคืนโดยในช่วงวันแรกนั้นเขาได้ตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บ
จวบจนกระทั่งเสียงของเขาค่อยๆแหบพล่าและหมดสติไปใน
บางครั้งเพียงแต่ว่าไม่นานตัวของหลินหมิงก็จะรู้สกึ ตัวขึ้นมาเอง
ในทันทีเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากเปลวเพลิงทมิฬ
สามวันสามคืนที่หลินหมิงต้องผ่านมาขอบตาของเขาในตอนนี้
ม่วงคล้าอย่างเห็นได้ชัดซึง่ มันเป็นอาการของคนที่ขาดการพักผ่อน
หลับนอน แม้ว่าในตอนนีค้ วามเจ็บปวดทั่วร่างกายของหลินหมิงจะ
จางหายไปแล้วเพียงแต่ในตอนนี้ตัวของเขานั้นไม่มีเรียวแรงเหลือ
พอที่จะกระทาการใดๆ เรี่ยวแรงของเขาที่แต่เดิมมีเพียงน้อยนิดอยู่
แล้วนั้นได้ถูกใช้ไปกับการอดทนฝืนกลั้นความเจ็บปวดที่ผ่านมา
แถมเขายังต้องอดข้าวเป็นเวลาถึงสามวันยังดีที่ว่าตัวของหลินหมิง
นั้นด้วยความที่กระหายน้าเป็นอย่างมากในช่วงเวลาสามวันก่อน
หน้ามันทาให้เขาต้องกลากลืนดื่มเลือดของตนเองลงไปเพื่อประทั่ง
ชีวิตจนกระทั่งในที่สุดวันที่สี่นี้ตัวของหลินหมิงก็ได้หลับหมดสติไป
อย่างอ่อนล้าไปถึงหนึ่งวันเต็ม
หลังจากได้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายเต็มที่มาหนึ่งวันเต็มแล้วนั้น
หลินหมิงรู้สึกได้ในทันทีวา่ ร่างกายของเขาในตอนนี้รู้สึกเบาสบาย
มากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า ร่างกายของเขาไม่เคยรู้สึกดีเช่นนี้
มาก่อนราวกับว่าตัวเขาในตอนนี้ได้รับพรจากสวรรค์ให้เกิดใหม่
อย่างใดอย่างนั้น หลินหมิงไม่รอช้ารีบเข้าสมาธิเพื่อสารวจภายใน
จิตใจของตนเองอีกครั้งแม้ว่ามันจะมีโอกาสที่เขาจะต้องพบเจอ
เปลวเพลิงทมิฬเช่นนั้นอีกและมันอาจจู่โจมเขาดังเช่นที่ผ่านมาแต่
ส่วนลึกในจิตใจของหลินหมิงนั้นมันบอกว่าเปลวเพลิงทมิฬนั้นไม่ได้
เป็นอันตรายต่อเขาอีกต่อไป
เมื่อหลินหมิงเข้ามาภายในจิตใจของตนเองแล้วนั้นก็อดที่จะยิ้มที่
มุมปากไม่ได้ หยดน้าตาทีไ่ ม่เคยไหลออกมานานเสียหลายปีบัดนีม้ ัน
ได้ไหลอาบแก้มของเขาทัง้ สองข้างด้วยความปิติยนิ ดี เพราะว่า
ในตอนนี้ภายในต้นเถียนของเขานั้นไม่ได้ปราศจากพลังใดๆอีก
ต่อไป มันถูกปกคลุมไปด้วยไอพลังปราณรูปแบบสีดาของเปลว
เพลิงทมิฬที่ตอนนี้ได้สลายตนเองในรูปแบบของเปลวเพลิง
แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานให้กับเขา
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่รู้เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ
สิ่งใด แต่ตัวเขาในตอนนี้หาได้สนใจในสิ่งเหล่านั้นไม่เพราะในตอนนี้
ความหวังของเขานั้นได้ถกู จุดประกายขึ้นมาแล้ว ความหวังที่จะได้
ทาการล้างแค้นคนที่เคยกระทาสิ่งใดกับเขาเอาไว้ ! หลินหมิงรีบทา
การสารวจพลังปราณทมิฬภายในร่างกายของเขาอย่างถี่ถ้วนอีก
ครั้ง
‘ พลังปราณเริ่มต้น ขั้น 4 ! ‘
แม้ว่าด้วยระดับพลังปราณเพียงเท่านี้มันอาจไม่สามารถนาไป
เปรียบเทียบได้กบั หลินชูที่อ่อนวัยกว่าเขาหนึ่งปีแต่กลับมีพลังปราณ
เริ่มต้นขั้น 7 แต่นั้นเป็นเพราะว่าหลินชูนั้นได้ถูกกล่าวว่าเป็นหนึ่งใน
อัจฉริยะของตระกูล แถมยังเป็นลาดับที่สามอีกด้วย และสองอันดับ
แรกนั้นเป็นบุตรของภรรยาลาดับที่หนึ่งและสองของบิดาของเขาซึ่ง
มีอายุมากกว่าหลินชูโดยพวกเขาทั้งคู่นั้นมีพลังไกลเคียงกันในระดับ
พลังปราณเริ่มต้นขั้น 8 ด้วยวัย 16 ปี
หากหลินชูได้รับความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องมันย่อมเป็นไปได้ว่า
ตัวของหลินชูอาจเหนือล้าเสียยิ่งกว่าพวกเขาเหล่านั้นในวัย
เดียวกัน แต่สาหรับหลินหมิงนั้นตัวเขารู้สึกพอใจในพลังปราณของ
เขาในตอนนี้อยู่มากในตอนแรกนั้นตัวเขาคิดว่าอาจจะต้องเริ่มนับ
หนึ่งที่ระดับพลังปราณเริ่มต้นขั้น 1เสียด้วยซ้าไป
แม้ว่าหลินหมิงในตอนนี้จะมีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 4 แต่หากให้
เขาไปสู้กับเหล่าญาติพี่น้องของเขาที่มีระดับพลังไล่เลี่ยกันตัวเขาก็
มั่นใจอย่างแน่นอนว่าตัวเขาจะต้องพ่ายแพ้ เพราะถึงแม้ว่าตัวของ
หลินหมิงในตอนนี้จะมีพลังปราณที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับปกติของ
คนทั่วไปในวัยเพียงเท่านี้แต่เขายังขาดซึ่งประสบการณ์และวิชา
ยุทธ์ต่างๆที่จะใช้ระหว่างการต่อสู้ และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะ
สามารถหาทักษะเหล่านั้นจากภายในตระกูล
เพราะหากคนในตระกูลนั้นได้ล่วงรู้เกี่ยวกับพลังของเขา
ในตอนนี้นั้นสถานะของเขาย่อมไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่าย บรรดา
เหล่าญาติพี่น้องที่แต่เดิมหากนับสถานะโดยการเป็นภรรยาของบิดา
ของพวกเขาเหล่านั้นนับได้ว่าหลินหมิงนั้นอยู่ในระดับต้นๆ หากเป็น
เช่นนั้นพวกมันเหล่านั้นอาจต้องก้มหัวให้ความเคารพแก่หลินหมิง
เช่นนั้นหรือ ? แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้นั้นพวกเขาเหล่านั้นย่อมไม่มที าง
ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อคิดเห็นเช่นนี้แล้วหลินหมิงก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าตัวเขานั้น
ต้องออกจากตระกูลไปสักระยะเพื่อทาการฝึกฝนตนและพัฒนา
ตนเองให้แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าบรรดาเหล่าญาติพี่น้องของเขา และ
เมื่อนั้นหากเขาต้องการกลับมาแก้แค้นมันย่อมไม่สายเกินไป
แม้ว่าแต่เดิมนั้นตัวของหลินหมิงอาจคาดหวังเพียงแค่การทุบตี
คืนอีกฝ่ายเพียงครั้งสองครั้งสักคราเพียงแต่ว่าในยามนี้ตัวเขากลับ
ประสบวาสนายิ่งใหญ่ที่ผอู้ ื่นไม่เคยได้พบเจอมาก่อนทาให้ตนเอง
ได้รับพลัง และสามารถทีจ่ ะพัฒนาตนเองต่อไปได้ตราบใดที่ตัวเขา
ยังไม่ละซึ่งความพยายาม เมื่อเป็นเช่นนี้ความหวังจากการทุบตี
เพียงครั้งสองครั้งมีหรือจะเพียงพอกับโอกาศที่ราวฟ้าดินประทาน
ให้ หลินหมิงนั้นตระเตรียมของทุกอย่างภายในบ้านร้างของตน
อย่างรวดเร็วเพราะของดั้งเดิมที่ตวั เขามีนั้นมีเพียงเล็กน้อยมิอาจ
เทียบบรรดาผู้พี่หรือน้องร่วมสายเลือดได้เลยแม้แต่ส่วนเดียวซ้าข้าว
ของบางส่วนยังมิอาจสามารถใช้งานได้ หรืออาจอยู่ในสภาพที่เก่า
ทรุดโทรมตัวเขานั้นก็มิได้นาไปแต่อย่างใด
ร่างของเด็กหนุ่มที่เคลื่อนที่ออกจากที่ตั้งตระกูลหลินนั้นใบหน้า
ของเขานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า พร้อมกับความมั่นใจ
ที่มากเกินกว่าเด็กวัยเดียวกันอยู่หลายส่วน หลินหมิงนั้นย่อมรู้ดีว่า
แม้ตัวเขาจะออกมาจากตระกูลหลินแห่งนี้แล้ว แต่ภายนอกนั้นย่อม
มิแตกต่างจากภายในตระกูลของเขาสักเท่าไหร่เพราะผู้คนนั้นย่อม
เคารพนับถือแต่เพียงผู้ที่มีอานาจและพลังกาลังเพียงเท่านั้น หาก
ผู้ใดแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นเพียงสักครานั้นย่อมเกิดความ
เสียหายแก่ชีวิตต่อคนผู้นั้นมิใช่น้อย เพราะผู้คนทั้งหลายพร้อมที่จะ
เหยียบย้าซ้าเติมเพื่อให้ตนเองได้ก้าวสูงขึ้นแม้เพียงสักครึ่งขั้นก็
ตามแต่
หลินหมิงที่ออกมาจากตระกูลแล้วนั้นไม่ได้ตรงไปยังภายในตัว
เมืองที่มีสานักเปิดรับฝึกสอนชาวยุทธ์แต่อย่างใดแต่กลับมุง่ หน้า
ออกไปทางด้านประตูเมืองและไปยังป่าภายนอกเมืองในยามดึก
เพราะตัวของหลินหมิงนัน้ รู้ดีว่าแม้ตัวเขาในยามนี้จะเรียกได้ว่าไม่
อ่อนแอ่ อาจอยู่ในระดับกลางๆเหลือบไปสูงเล็กน้อยหากเทียบกับ
คนในวัยเดียวกัน แต่หากสานักที่เปิดสอนเหล่านั้นย่อมล้วนเต็มไป
ด้วยยอดฝีมือจานวนมาก ซ้ายังมีบุตรของผู้ที่เรืองอานาจในเมืองอยู่
ไม่ใช่น้อย หากประสบโชคร้ายตัวเขาอาจพบเจอกับเหล่าญาติพี่
น้องในตระกูลก่อนวันเวลาที่ตัวเขาจะได้ตระเตรียมพร้อมนั้นย่อม
ไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่

ตอนที่ 4
เป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่หลินหมิงหลบหนีออกจาก
มาจากตระกูลหลินมาอาศัยอยู่ที่บริเวณชายป่าไม่ห่างไกลจากตัว
เมืองมากเท่าใดนัก ทีห่ ลินหมิงมาอาศัยในป่าแห่งนี้ก็เพราะว่าตัวเขา
นั้นจะได้ฝึกฝนในการเอาชีวิตรอดจากสัตว์อสูรที่อยู่ภายในป่าแห่งนี้
และเนื่องจากว่าตัวเขานั้นไม่ได้เข้าไปส่วนลึกภายในป่าดังนั้นแล้ว
โอกาสที่หลินหมิงจะต้องรับมือกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งก็นับได้ว่ามี
เพียงน้อยนิด
แต่แม้ว่าหลินหมิงจะใช้เวลากว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาในการเอาชีวิต
รอดจากสัตว์ที่มีระดับแตกต่างจากเขาไม่มากเท่าใดนักบางส่วน เขา
กลับพบว่าพลังปราณในร่างกายของเขานั้นกลับไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาขึ้นเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าตัวเขานั้นย่อม
รู้ดีว่าการฝึกฝนตนของชาวยุทธ์นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ย่อมต้อง
สมควรมีความก้าวหน้าบ้างเป็นอย่างน้อยถึงแม้จะไม่ได้มีการก้าว
ข้ามขอบเขตก็ตามที่
ในการเอาชีวิตรอดในป่าแห่งนี้นั้นมันทาให้หลินหมิงได้รับรู้ถึง
ความอ่อนแอ่ของตนเองอย่างเด่นชัด เพราะว่าแม้ตัวเขาในยามนี้
จะต้องพบเจอกับสัตว์อสูรที่มีระดับพลังปราณขั้นเริ่มต้นขั้นที่สี่ใน
ระดับเดียวกันกับเขา ตัวของหลินหมิงในตอนนี้ยังไม่มีความมั่นใจ
ว่าจะชนะมันได้เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่รับมือและเอาชีวิตรอดจาก
สัตว์อสูรประเภทนี้ก็นับได้ว่าเต็มกลืนแล้วสาหรับหลินหมิงในตอนนี้
และหากเมื่อใดที่เขาจะต้องพบเจอกับสัตว์อสูรที่มพี ลังมากการ
ตัวเขาพลังเปลวเพลิงสีดาในต้นเถียนของเขาจะตอบสนองต่อสิ่งที่
เป็นอันตรายต่อตัวเขาในทันที ทาให้ตัวของหลินหมิงนั้นสามารถ
หลบหนีจากการปะทะของสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าได้ แต่ถึงอย่าง
นั้นเขาก็จะต้องรับมืออย่างยากลาบากกับสัตว์อสูรที่มีพลังปราณ
ระดับเดียวกันกับเขาอยู่ดเี พราะดูเหมือนว่าหากเป็นสัตว์อสูรเหล่านี้
เปลวเพลิงสีดานั้นจะไม่มกี ารตอบสนองแต่อย่างใด
‘ บัดซบเจ้าเปลวเพลิงสีดามันกลับมีเงื่อนไขที่แปลกประหลาด
เช่นนี้ด้วย ‘
ในวันนี้นั้นหลังจากที่หลินหมิงทาการบ่มเพาะพลังราวนับ
สัปดาห์แล้วเขาก็พบว่าตัวเขาไม่ได้มีการพัฒนาใดๆเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าเขาจะสามารถสังหารสัตว์อสูรขั้นเริ่มต้นระดับสามไปได้ก็
ตามที่ ตัวเขาจึงได้ตัดสินใจทาสมาธิเพื่อเข้าไปตรวจสอบยังภายใน
ต้นเถียนของเขาอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เขาได้พลังมานั้นตัวเขาไม่มี
ความคิดเลยแม้แต่น้อยที่จะทาสมาธิเพื่อเข้าไปสารวจภายในจิตใจ
ของตนเองอีกครั้ง จากบทเรียนในคราวที่เปลวเพลิงทมิฬได้มอบแก่
เขาในคราวนั้นยังคงฝั่งใจเขาเป็นอย่างมาก
แต่ในตอนนี้นั้นตัวของหลินหมิงไม่มที างเลือกแต่อย่างใด
เพราะว่าเขาไม่สามารถบ่มเพาะพัฒนาตนเองได้เลยในช่วงสัปดาห์
ที่ผ่านมา และเมื่อเขาเข้ามาสารวจภายในจิตใจของตนเองอีกครั้งก็
ต้องพบกับความแปลกประหลาดที่เปลวเพลิงทมิฬได้มอบไว้ให้แก่
ตัวของเขาเอง เปลวเพลิงทมิฬราวกับตอบรับการกลับมาของหลินห
มิงแม้ว่าตัวมันจะอาศัยอยู่ภายในก็ตามที่
แต่เมื่อมันเห็นหลินหมิงปรากฎขึ้นดวงไฟของเปลวเพลิงทมิฬก็
ลุกโชติชวงคลุมร่างของหลินหมิงเอาไว้แต่ว่ามันไม่ได้ให้ความรู้สึก
ทรมานดังคราวที่แล้ว และมันไม่ได้เพิ่มพลังฝึกตนของเขาแต่อย่าง
ใดด้วยแต่หลินหมิงกับพบว่าสมองของเขากาลังได้รับข้อมูล
บางอย่างที่ตัวเขาเองนั้นไม่เคยได้รับรู้มาก่อนซึ่งมันย่อมต้องเกิดจาก
เปลวเพลิงทมิฬนี้อย่างแน่นอน
อย่างแรกที่เขาพบนั้นก็คือทักษะต่อสู้ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
มากที่สุดในยามนี้ชื่อทักษะของมันก็คือ ทักษะเพลิงทมิฬ ตัวของ
หลินหมิงนั้นแม้ว่าจะไม่มพี ลังในอดีตแต่เขาก็พอรู้ชื่อทักษะบ้าง
เล็กน้อยจากบรรดาเหล่าญาติพี่น้องของเขาที่ชอบโอ้อวด แข่งขัน
ตนต่อบิดาของพวกเขา แต่หลินหมิงไม่เคยได้หลินชื่อทักษะเปลว
เพลิงทมิฬนี้มาก่อน ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นทักษะที่ใช้
ร่วมกันกับเปลวเพลิงภายในต้นเถียนของเขาอย่างแน่นอน
ตัวทักษะเปลวเพลิงทมิฬนี้กล่าวถึงควบคุมพลังปราณธาตุยิน
พร้อมกับเปลวเพลิงทมิฬภายในร่างกายของผู้ใช้ควบคู่ไปกับโจมตี
กล่าวคือหลินหมิงในตอนนี้สามารถใช้เปลวเพลิงทมิฬนี้ในการเพิ่ม
พลังโจมตีของเขาขึ้นได้อย่างมหาศาลแต่มันก็ยังขึน้ อยู่กับความ
แข็งแกร่งของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน
หลินหมิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ในตอนนี้เขาก็ได้มีทักษะเป็น
ของตนแถมมันย่อมสมควรเป็นทักษะเฉพาะติดตัวของเขาที่คนอื่น
ไม่มี หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องเป็นคนที่มีเปลวเพลิงทมิฬในต้นเถียนเช่น
เขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพลังของทักษะนี้จะอยู่ในระดับใดแต่ว่ามันไม่
สมควรอ่อนด้อยแต่อย่างใด เพราะอย่าลืมว่าเปลวเพลิงทมิฬนี้ได้
สร้างปฎิหารย์ในการฟื้นฟูให้หลินหมิงกลับมาใช้พลังปราณได้อีก
ครั้งพร้อมกับมอบพลังปราณให้อย่างก้าวกระโดดจนอยู่ในระดับ
เริ่มต้นขั้นที่ 4
แต่เมื่อเขาค้นพบข้อมูลส่วนต่อมามันก็ทาให้หลินหมิงอดที่จะ
รู้สึกขมวดคิ้วเขาหากันอย่างรุนแรงพร้อมกับความกังวลเป็นอย่าง
มากที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา เพราะว่าตามข้อมูลที่หลินหมิงได้
รับมานั้นตัวเขาจะไม่สามารถทาการพัฒนาตนเองได้ดังเช่นผู้อื่น
หากแต่ตัวเขาจะต้องพึ่งพาอาศัยสตรี ! แถมตัวของหลินหมิงยัง
ต้องกระทาการร่วมรักกับเหล่าสตรีเพื่อทาให้ตัวของเขานั้น
พัฒนาขึ้นไปได้
หากเป็นเหล่าคุณชายหรือบรรดาญาติพี่น้องของเขาหากได้เรื่อง
เหล่านี้พวกเขาเหล่านั้นต่างย่อมต้องอยากได้เงื่อนไขนี้ของหลินหมิง
จนน้าลายแทบจะไหลออกมาจนหมดปาก เหตุเพราะว่าตัวพวกเขา
ที่มีสถานะร่ารวยการหาหญิงสาวมาบ่าเร่อทุกชั่ววันนั้นมิใช่เรื่อง
ยากเย็นแต่อย่างใดอาจลาบากเพียงแค่การร่วมรักกับพวกนางเพียง
เท่านั้น
แต่สาหรับหลินหมิงนั้นมันไม่ใช่เขาไม่ได้มีสถานะสูงส่งเช่นนั้น
ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นคุณชายตระกูลหลินแต่ตัวเขาภายนอกนั้นนับ
แทบที่จะไม่มีใครล่วงรู้ถึงตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย ซ้าสถานะ
ภายในก็ยังนับได้ว่าเท่าเทียมกับบ่าวไพร่ซ้าร้ายอาจแย่กว่าเสียด้วย
ซ้าไป
หลินหมิงออกมาจากสมาธิด้วยอาการท้อแท้หากให้เขาเพียร
พยายามพัฒนาตนดั่งเช่นผู้อื่นตัวหลินหมิงนั้นมั่นใจอยู่หลายส่วนว่า
ตัวของเขานั้นย่อมไม่ได้เลวร้ายด้วยความเพียรของตน แต่กลับ
เงื่อนไขเช่นนี้มันก็อดไม่ได้ที่จะทาให้หลินหมิงหนักใจ
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้มันก็ยากเกินกว่าที่จะทาให้ตวั ของหลินห
มิงที่ประสบพบเจอกับความยากลาบากมามากมายต้องยอมแพ้
หากเป็นเช่นนี้ตัวมันขอเพียงแค่ว่าสามารถหาเงินจานวนหนึ่งเพื่อ
นาไปใช้ในการเข้าหอนางโลมก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ลาพังเศษ
ชิ้นส่วนจากการล่าสัตว์อสูรของหลินหมิงในตอนนีก้ ็น่าจะเพียงพอ
ให้ตัวเขาสามารถพบเจอกับประสบการณ์ผู้ใหญ่ได้แล้ว
แต่มันยังมีความเสี่ยงที่ว่าหอนางโลมนั้นเป็นสถานที่ที่ผู้คน
มากมายต่างเข้า-ออกกันไม่เว้นหน้า นั้นรวมไปถึงบรรดาญาติพี่น้อง
ของเขาด้วยเช่นกันหากต้องประสบพบเจอพวกมันเข้าแล้วละก็มันก็
คงจะยังไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนักในตอนนี้
ในขณะที่ตัวของหลินหมิงกาลังนั่งขบคิดเรื่องราวต่างๆอยู่นั้น
ทันใดนั้นหูของเขาก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ไม่ไกล
จากเขามากเท่าใดนัก หลินหมิงรีบหันควับไปด้วยความตื่นตระหนก
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหากพลั้งเผลอในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรแห่ง
นี้นั้นหากผิดพลาดเพียงชั่ววินาทีนั้นย่อมหมายถึงภัยร้ายถึงชีวิตได้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานัน้ ตัวเขาเฝ้าระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ราวกับว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินป่าแห่งนี้ หนึ่งเพราะว่านี้
เป็นการล่าสัตว์อสูรพร้อมกับฝึกตนของเขาเพียงลาพังนั้นย่อมเป็น
เรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องคอยดูแลความปลอดภัยของตนเอง
ตลอดเวลา
แต่มันกลับเรื่องที่ไม่คาดคิดเมื่อเขาเผลอตัวคิดเรื่องราวการ
ฝึกฝนของตนเพียงเล็กน้อยกลับมีเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาถึงตัวเขา
เสียแล้ว
เมื่อเขาหันมามองทางเสียงฝีเท้าที่เขาได้ยิน ภาพตรงหน้ามันทา
ให้เขาตกใจเป็นอย่างมากมันไม่ใช่เพราะว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา
คือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง แต่มันคือภาพของหญิงสาวผู้งดงามราวกับ
เทพธิดาที่ถูกประทานลงมาจากสรวงสวรรค์ แม้คากล่าวนี้ตัวของ
หลินหมิงนั้นคิดว่ามันอาจจะเกินกว่าที่เขาคิดไปอยู่บ้างเพราะ
เนือ่ งจากที่ตั้งแต่เล็กนั้นเขาต้องอาศัยอยู่ที่ตระกูลหลินเรื่อยมา
จนเรียกได้ว่าไม่ได้ออกจากตระกูลมานานหลายปีนนั้ จึงเป็นเหตุ
ให้เขาไม่ค่อยพบเจอผู้คนมากเท่าใดนัก แต่ก็พอรู้เรื่องราวต่างๆ
ภายในเมืองจากการพูดคุยกันของบรรดาญาติพี่น้องหรือกระทั่งคน
รับใช้
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็มีความมั่นใจอยู่หลายส่วนว่าหญิงสาว
ที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ตัวตนของนางล้วนย่อมต้องไม่ธรรมดา
อย่างแน่นอน อ่อร่าบรรยากาศที่แผ่ออกมารอบตัวนางนั้นแค่เพียง
หลินหมิงที่อยู่ใกล้กว่าสิบเมตรก็สามารถทาให้เขาขนลุกขึ้นมาได้
ในทันที
หญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ดูจากภายนอกแล้วนางสมควรมีอายุ
มากกว่าหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อย อาจราวสัก 5-6 ปี นั้นย่อม
หมายความว่านางนั้นสมควรมีอายุราว 20 ต้นๆเท่านั้นแต่ตัวนาง
กลับมีบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ หญิงสาวผู้งดงามนั้นดู
เหมือนว่าจะรู้อยู่แล้วว่าตรงหน้านางนั้นมีคนอยู่แต่ก็อดไม่ได้ที่จะ
เลิกคิ้วด้วยความตกใจเล็กน้อย
เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้นถึงแม้ว่าในป่าชั้นนอกแห่งนี้สัตว์
อสูรไม่อาจถือได้ว่าแข็งแกร่งแต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีคนรุ่นเยาว์คนใด
ที่เข้ามาภายในที่แห่งนี้เพียงลาพังอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงเหล่า
อัจฉริยะของบรรดาตระกูลต่างๆพวกเขาเหล่านั้นล้วนถูกอบรบอยู่
ภายในตระกูลอย่างเข้มงวด ไม่มีทางออกมาเพียงลาพังอย่าง
แน่นอน
“ เด็กน้อยเจ้ามาทาสิ่งใดในที่แห่งนี้กัน ไม่รู้รึว่าสถานที่แห่งนี้
เป็นที่ใดหากเจ้าต้องการเข้ามาเพื่อหาพืชพรรณผลไม้แล้วละก็ข้า
คาดว่าเจ้าคงมาผิดที่เสียแล้ว ”
น้าเสียงของหญิงสาวผู้งดงามเต็มไปด้วยความนุ่มนวล เพียง
ของเสียงของนางนั้นก็เพียงพอที่จะทาให้เหล่าชายหนุ่มแทบจะสยบ
อยู่ใต้เท้าของนาง ! ยิ่งไปกว่านั้นรอยยิ้มที่มมุ ปากของนางเมื่อ
กล่าวยังเพิ่มเสน่ห์ในตัวนางขึ้นไปอีกหลายขั้นพร้อมกับทาให้หัวใจ
ของหลินหมิงถึงกับสั่นไหว !
ชุดที่นางใส่อยู่เป็นชุดรัดรูปสีขาวยาวลงมาถึงบริเวณขาซึ่ง
ครอบคลุมทุกส่วนบนร่างกายของนางแต่ถึงอย่างนัน้ มันกลับทาให้
กระชับเผยเรื่องราวอันแสนเย้ายวนออกมา แต่ที่หลินหมิงตกใจนั้น
ไม่เพียงแต่ความงามของนางเพียงเท่านั้น เรื่องที่น่าตกใจอีกอย่างก็
คือทางที่นางเพิ่งเดินจากออกมานั้นเห็นได้ชัดว่ามันเป็นเขตของป่า
ชั้นกลางซึ่งเหล่าสัตว์จะแข็งแกร่งกว่าบริเวณชั้นนอกอย่างเทียบไม่
ติด แต่ถึงอย่างนั้นเสื้อผ้าของนางกลับไม่มีร่องรอยเปื้อนเลยแม้แต่
น้อย
มันจึงอดที่จะทาให้หลินหมิงคิดไปไม่ได้ว่าแม่นางผูง้ ดงามคนนี้
คือเทพธิดาที่ลงมาเที่ยวชมผืนป่าหรืออย่างไรกัน
“ ขะ..ข้ามาที่นี้เพื่อทาการฝึกฝนตน ”
หลินหมิงไม่กล้าตอบความเท็จแก่นางแต่อย่างด้วยสายตาของ
นางที่จับจ้องมาที่เขาใตอนนี้มันราวกับว่านางสามารถอ่านความคิด
ของเขาได้ทุกอย่าง
“ ฮ่าๆ อาศัยเพียงพลังขั้นเริ่มต้นระดับ 4 ของเจ้านะรึ ข้าคิด
ว่าเจ้าประเมิณตนเองสูงไปแล้ว แม้ว่าสัตว์อสูรในทีน่ ี้จะอ่อนแอ แต่
มันก็เพียงพอที่จะสามารถเอาชีวิตของเจ้าได้อย่างง่ายดาย ”
เมื่อถึงตรงนี้หลินหมิงสัมผัสได้ถึงน้าเสียงของนางที่ราวกับจะยิ้ม
เยาะในความไม่ประมาณตนของเขาหลินหมิงจึงไม่คิดจะพูดกล่าว
อันใดกับนางอีก
“ พี่สาว ข้าเกรงว่าเรื่องนี้นั้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านแต่อย่าง
ใด ข้าขอให้ท่านเดินทางโดยปลอดภัย ”
หญิงสาวผู้งดงามถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นางเพียงเอย
ปากพูดด้วยความหวังดีแม้นางจะรู้ดีว่าคากล่าวของนางที่พูด
ออกไปนั้นจะดูเหยียดหยามเด็กหนุ่มผู้นี้อยู่บ้างแต่อย่างไรก็ตามเด็ก
หนุ่มผู้นี้ไม่เห็นค่าชีวิตของมันแล้วอย่างนั้นรึ ?
“ โฮ่ ในเมื่อเจ้ามีความมั่นใจขนาดนั้นข้าเองก็อยากดูหน่อยสิ
ว่าเจ้าจะทาอะไรได้บ้าง ”

ตอนที่ 5
เมื่อได้ยินคากล่าวของหญิงสาวผู้งดงามหลินหมิงก็พอสัมผัส
ความรู้สึกโกรธเกรี้ยวเล็กๆในคาพูดของนางเพียงแต่ว่าทันทีที่นาง
กล่าวจบนั้น บรรยากาศโดยรอบตัวของนางกลับเปลี่ยนไปโดย
สิ้นเชิงแม้ว่าในตอนแรกนั้นหลินหมิงจะคิดว่าบรรยากาศรอบตัวของ
นางนั้นยามที่เดินมาหาเขานั้นก็นับว่าเป็นอะไรที่น่าหวาดหวันยิ่ง
แล้ว แต่กลับในตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถนามาเปรียบเทียบกัน
ได้เลยแม้แต่น้อย
“ พะ..พี่สาว ท่านคิดจะ...ทาอะไร ”
หลินหมิงกล่าวถามด้วยความยากลาบากแต่เขาไม่มีความคิดที่
จะหนีนางในตอนนี้แม้แต่น้อย เพราะถึงแม้เขาจะออกตัวหนี
ในตอนนี้มันก็เป็นไปไม่ได้เลยสาหรับเขาที่จะหนีจากหญิงสาวผู้
งดงามตรงหน้านี้ไปได้
“ ข้าเพียงแค่อยากจะขอชมว่าเจ้ามีความสามารถดั่งที่เจ้า
กล่าวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ก็เท่านั้น ไม่ต้องเป็นห่วงหากเจ้ามี
ความสามารถมากพอข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะปลอดภัยและข้ายินดี
มอบของขวัญเล็กๆน้อยๆให้เพื่อเป็นค่าเสียเวลาในการฝึกของเจ้า
แต่ถ้าเกิดความสามารถของเจ้านั้นผิดดั่งที่กล่าวมาจนทาให้ข้าต้อง
ผิดหวังแล้วละก็เจ้าก็เพียงแค่ต้องระวังอาการเจ็บตัวที่จะเกิดขึ้น
เพียงเท่านั้น
หากในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่เจ้ามีความสามารถเป็นเพียงผู้ที่
อ่อนแอ ไร้ซึ่งความสามารถเช่นนั้นแล้วข้าขอบอกเลยว่าชีวิตของ
เจ้านั้นอาจต้องจบลงวันนี้เพียงเท่านั้น ”
‘ บัดซบ ’
ตัวของหลินหมิงนั้นเพิ่งออกจากตระกูลได้ไม่นานและไม่ค่อยได้
ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมภายนอกมากเท่าไหร่นัก มันจึงทาให้เขาลืมคิดไป
ว่า ความหยิ่งทะนงของบรรดาผู้ที่แข็งแกร่งนั้นย่อมมิยอมให้ใครมา
กล่าวหรือพูดจาล้อเลียนได้โดยง่าย และหากตัวมันจะเรียกร้อง
ความเป็นธรรมจากในป่าแห่งนี้ก็ย่อมไม่มที าง ไม่แน่ว่าบางทีหาก
สถานกาณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในเมืองตัวของเขาก็อาจมีชะตากรรมที่ไม่
ต่างกัน
ดูจากลักษณะของนางและพลังของนางแล้วนั้นสมควรเรียกได้
ว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในระดับที่เขาไม่สามารถหยั่งได้ ดังนั้นสถานะของ
นางภายในเมืองย่อมต้องสูงส่งอยู่ไม่ใช่กระทั่งนางอาจเป็นถึงศิษย์
อันดับหนึ่งของสานักใหญ่ใดสานักหนึ่งหรือกระทัง่ ลูกหลานของ
ตระกูลใหญ่ ไม่ว่าจะทางใดนับเป็นเรื่องเลวร้ายทั้งสิ้นสาหรับหลินห
มิงในตอนนี้
“ ไม่ต้องห่วงข้าไม่คิดจะลงมือกับเจ้าก่อนแต่อย่างใด ข้าจะให้
เจ้าได้โชวความสามารถอย่างเต็มที่แต่เมื่อใดที่ข้าคิดเห็นว่า
ความสามารถของเจ้ามันช่างต่าต้อยจนทาให้ข้ารู้สึกเบื่อแล้วละก็
เมื่อนั้นคือเวลาที่เจ้าจะต้องเตรียมรับมือกับข้าอย่างจริงจัง ”
หลินหมิงถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความตรึงเครียด แค่
บรรยากาศโดยรอบนี้ที่แผ่ออกมาจากตัวนางนั้นก็ทาให้เขาหายใจ
และเคลื่อนไหวได้อย่างยากลาบากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นโอกาศรอด
ชีวิตของเขาในตอนนี้มีเพียงแค่ต้องสู้เท่านั้น หลินหมิงฉายแววตา
มุ่งมั่นขึ้นมาในทันทีที่เขาตัดสินใจได้
หลินหมิงกัดฟันพุ่งเข้าหาหญิงสาวผู้งดงามในทันที กาปั้นขวา
ของเขาถูกง้างออกไปพร้อมกับเกร็งพลังปราณไว้ที่หมัดนี้ของเขา
หลินหมิงเชื่อว่าหญิงสาวผู้งดงามนางนี้คงดูถกู เขาอยู่ในใจอยู่ไม่ใช่
น้อย ซึ่งมันเป็นธรรมดาของบรรดาเหล่าอัจฉริยะที่มักจะไม่เห็นค่า
ของตัวตนที่ต่ากว่าพวกเขาและนั้นคือจุดอ่อนอย่างหนึ่งซึง่ นาพา
ไปสู่ความประมาณของพวกเขาเหล่านั้น
หมัดของหลินหมิงที่ถกู ล่อหลอมไปด้วยพลังปราณของเต็มที่ของ
เขานั้นถูกชกออกไปแบบเต็มเหนี่ยว แต่ตวั เขายังไม่ได้ใช้ซึ่งทักษะที่
ได้มาจากเปลวเพลิงทมิฬแต่อย่างใดเพราะเขาอยากเก็บมันเอาไว้
เป็นความลับ และจะใช้มันในยามจาเป็นหรือยามที่เขาสามารถ
ปกป้องดูแลตนเองได้แล้วเท่านั้น
เสียงหมัดของหลินหมิงทีก่ ระแทกเข้าใส่เป้าหมายอย่างจัง แต่
แล้วตัวเขาก็ต้องตื่นตระหนกครั้งใหญ่เพราะว่าหมัดของเขานั้นไม่
เพียงไม่สามารถสร้างบาดแผลให้แก่หญิงสาวผู้งดงามนางนี้ได้
เท่านั้น แต่หมัดของเขายังไปไม่ถึงตัวนางเสียเลยด้วยซ้าไป !
“ กาแพงปราณ ! ”
“ โฮ่ ดูเหมือนเจ้าจะมีความรู้อยู่บ้าง แต่นั้นไม่ทาให้ข้าพอใจ
ขึ้นมาหรอกนะ แล้วอีกอย่างเจ้าคิดว่าหมัดเปล่าๆของเจ้าที่ไร้ซึ่ง
ทักษะใดๆจะสามารถโจมตีข้าได้ ? นี้เจ้ากาลังดูถูกข้าอยู่รึไงหรือ
เจ้าจะบอกว่าการโจมตีเมื่อสักครู่นี้คือเต็มที่ของเจ้าแล้วอย่างนั้นรึ
ฮ่าๆ ”
สิ่งที่หมัดของหลินหมิงกระทบนั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่ากาแพงปราณ
ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ที่จะสามารถใช้กาแพงปราณได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่
อยู่ในขอบเขตของระดับจอมยุทธ์ขึ้นไปเท่านั้น ! ซึง่ นี้เป็นเพียง
ระดับขั้นต่าของนางเพียงเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วการที่ผู้คนจะ
สามารถรับมือกับผู้ที่มีระดับการฝึกตนที่มากกว่านัน้ นับเป็นเรื่องที่
ยากมาก อาจต้องพึ่งพาทักษะ ประสบการณ์เพื่อทดแทนในส่วน
ของระดับพลังแต่การที่จะให้รับมือกับผู้ที่มีพลังมากกว่าถึง 2 ชั้น
นั้นนับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย !
หญิงสาวผู้งดงามนางนั้นคิดว่าหลินหมิงนั้นเป็นเพียงลูกหลาน
ของสามัญชนธรรมดาหากนางคิดฆ่าแกงอย่างไรก็ไม่เสียหาย แถม
ด้วยสถานะอันสูงส่งของนางภายในเมืองนั้นนับได้ว่าเป็นรองคน
เพียงหยิบมือเดียวแล้วนางจะต้องมีอะไรที่จะต้องหวั่นเกรง
จริงอยู่ว่าในตอนนี้นั้นหลินหมิงนั้นไม่ได้มีทักษะต่อสู้ใดๆเลย
นอกจาก ทักษะเปลวเพลิงทมิฬ แต่ด้วยพื้นฐานของเขาแล้ว
หลังจากที่ได้รับการกระตุน้ จากเปลวเพลิงทมิฬมันทาให้ร่างกายของ
เขานั้นเหนือกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปคนอื่นอยู่หลายขุม นั้นจึงเป็นเหตุให้
เขาสามารถเอาชีวิตรอดในป่าแห่งนี้ได้แม้จะต้องเจอสัตว์อสูรที่มี
ระดับพลังเท่ากันกับเขา
‘ ไม่มที างเลือก ’
แม้ว่ามันจะดูเร็วไปนักสาหรับหลินหมิงที่จะตัดสินใจทักษะเพียง
อย่างเดียวที่เขามีอยู่นั้นก็คือทักษะเพลิงทมิฬ ที่เพิ่งได้รับมาไม่นาน
นี้ แต่หากตัวเขานั้นรู้ดีว่าหมัดที่เขาปล่อยออกไปก่อนหน้านี้นั้นเป็น
หมัดทีด่ ีที่สุดของเขาแล้ว และยังเป็นช่วงเวลาที่ดที ี่สุดด้วยเช่นกัน
พร้อมกับที่หากเขาปล่อยเวลาไปมากกว่านี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก
เพราะที่ยืนอยู่ได้ในตอนนี้ก็นับได้ว่าลาบากเหลือทนแล้ว
หญิงสาวผู้งดงามด้วยการที่นางมีประสบการณ์ในการต่อสู้มา
มากมายเมื่อเห็นนัยตาของหลินหมิงที่ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถ
ตัดสินใจอะไรบ้างอย่างอย่างแน่วแน่ได้ก็พลันนึกนับถือในตัวเด็ก
หนุ่มผู้นี้อยู่ไม่ใช่น้อย เพียงแต่ว่ามันคนละเรื่องกันกับการที่เด็กผู้นี้
พูดจาไม่แยแสกับนางก่อนหน้านี้
พลันทันใดนั้นร่างของหลินปรากฎคลื่นพลังปราณที่เต็มไปด้วย
ความร้อนแผ่ออกมาจากร่างของเขาราวกับว่ามันเป็นพลังปราณที่
จะสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่งอย่าง
‘ ความร้อน ? ‘
หญิงสาวผู้งดงามในตอนนี้ถึงกับตาเบิกกว้างอย่างสุดขีด ไม่ใช่
ว่านางไม่สามารถทนรับมือกับความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวของ
หลินหมิงได้ เพียงแต่ว่าภาพตรงหน้าของนางในตอนนี้ก็คือร่างของ
หลินหมิงที่กาลังพุ่งเข้าโจมตีใส่นางอีกครั้ง ด้วยกาปั้นข้างขวาข้าง
เดิมแต่ที่เปลี่ยนไปก็คือกาปั้นข้างนี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิงสีดาอัน
หน้ากลัวปกคลุมอยู่ มันมืดหมนครอบคลุมไปทั่วทั้งมือของหลินหมิง
จนไม่สามารถมองเห็นมือของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
นางที่เป็นผู้ฝึกตนทีม่ ากประสบการณ์ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้
เห็น หรือได้ยินเรื่องราวอันใดที่บอกว่ามีทกั ษะที่สามารถปลดปล่อย
เปลวเพลิงสีดาเช่นนี้ได้มนั จึงทาให้นางแปลกประหลาดใจเป็นอย่าง
มากที่ลูกหลานชาวบ้านธรรมดาเช่นนี้จะสามารถมีทักษะที่แปลก
ประหลาดเช่นนี้ได้
ปัง !!
เสียงหมัดกระทบกับกาแพงปราณดังสนันยิ่งกว่าครั้งแรกหลาย
เท่า เพียงแต่ว่ามันก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะสามารถทาลายกาแพง
ปราณของผู้ที่มีระดับถึงจอมยุทธ์ลงได้อย่างง่ายๆ
“ นี้เจ้า..... ”
ไม่ทันทีห่ ญิงสาวผู้งดงามจะได้กล่าวอะไรหลังจากที่นางตกละลึง
อยู่พักใหญ่ แม้ว่ากาแพงปราณของนางจะไม่ถูกทาลายแต่นางรู้ดีถึง
อนุภาพของหมัดสีดานี้ของเด็กหนุ่มผู้นมี้ ันสมควรมีพลังไม่น้อยไป
กว่าผู้ที่มีระดับพลังขั้นเริ่มต้นระดับสูง หรืออาจถึงขั้นระดับก่อเกิด
ขั้นต้นเลยเสียด้วยซ้าไป !
“ ย๊ากก ! ”
หลินหมิงไม่ในตอนนี้ไม่คิดอะไรมากมายในตอนนี้หากหนึ่งหมัด
ของเขาไม่สามารถทาลายกาแพงปราณของนางได้ แต่นั้นไม่ได้
หมายความว่าสิบหมัดหรือร้อยหมัดของเขาจะไร้ผล เปลวเพลิงสี
ดาปรากฎขึ้นมาในกามือข้างซ้ายของหลินหมิงเช่นเดียวกันกับอีก
ข้างพร้อมกับที่หลินหมิงระดมกาปั้นต่อยไปที่กาแพงปราณของนาง
อย่างต่อเหนื่อง
ปัง ! ปัง ! ปัง !
ผ่านไปชั่วครู่หญิงสาวผู้งดงามราวกับว่านางเพิ่งหายจากอาการ
ตื่นตะลึงเห็นได้ชัดว่าเจ้าหนุ่มนี้หวังใช้จังหวะที่นางตกใจ เข้าโจมตี
นางในทันทีหากเป็นผู้ที่มพี ลังใกล้เคียงกันกับนางแล้วละก็คงไม่พ้น
อาการบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว นางรีบระเบิดพลังปราณผลักร่างของ
หลินหมิงให้กระเด็นกลับไปในทันที
อั่กกก
หลินหมิงที่กาลังจู่โจมอยูน่ ั้นไม่คิดว่านางจะสามารถตั้งสมาธิได้
อย่างรวดเร็วเช่นนี้ นั้นแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์การต่อสู้ที่
มากกว่าตัวเขาอยู่หลายขั้นเลยทีเดียว
“ แฮ่ก ๆ ๆ ”
หลังจากที่หลินหมิงรั่วหมัดไปนับสิบหมัด มันทาให้เขารับรู้เลย
ในทันทีว่า ทักษะเพลิงทมิฬนี้มันกินพลังปราณของเขาไปมากเสีย
เหลือเกิน เปลวเพลิงสีดาในมือทั้งสองข้างของเขาค่อยๆลดขนาดลง
เรื่อยๆจนค่อยๆเผยให้เห็นกาปั้นทั้งสองข้างของเขา หลินหมิงมอง
ไปยังหญิงสาวผู้งดงามอย่างไม่วางตาเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าความต่าง
ชั้นของผู้ที่มีระดับการฝึกตนมากกว่า 2 ชั้นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถ
หาอะไรมาเปรียบได้
ในขณะที่หลินหมิงกาลังนึกเศร้าใจที่ชะตากรรมของเขาช่างเล่น
ตลกกับตัวเขายิ่งนัก ในเมื่อในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสที่จะได้ไปแก้
แค้นเหล่าญาติพี่น้องและพวกคนที่ดูถูกเขาทั้งหลาย แต่กลับต้องมา
จบชีวิตลงในวันนี้โดยที่ยงั ไม่ทันได้ทาอะไรเลย ใบหน้าของหญิง
สาวผู้งดงามก็เปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ออกมาจาก
ปากของนาง
“ ฮ่าๆๆๆๆๆ ”
“ เด็กน้อยเจ้าช่างทาให้ข้าพอใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ”
แต่ถึงนางจะพูดอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคิดว่าชีวิตของเขานั้นยังไง
เสียก็อาจไม่พ้นความตายอยู่ดี
“ ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า......เจ้าจงมาเป็นศิษย์ของข้าหรือ
ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องได้รับโทษที่ล่วงเกินก่อนหน้านีแ้ น่นอนว่าที่หาก
เจ้ามาเป็นศิษย์ข้านั้นข้าพร้อมยินดีสนับสนุนเจ้าในทุกอย่าง.... ”
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวพร้อมกับมองหน้าของหลินหมิงที่
ในตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน ในตอนแรกนางจะฆ่าข้าอย่างเห็น
ได้ชัด แล้วตอนนี้จะรับข้าเป็นศิษย์ แต่ตัวนางอายุก็ไม่น่าจะห่างจาก
ข้ามากแล้วนางจะ....
“ เจ้าคงคิดว่าข้าอายุไม่ต่างจากเจ้าย่างงั้นสิ...เฮ้อ...ไม่เข้าใจ
จริงๆเจ้านี้อยู่อาศัยที่ใดมาถึงได้ไม่รู้จักข้ากันเช่นนั้นข้าจะเอยนาม
ของข้าที่เป็นอาจารย์ของเจ้าให้ได้รับรู้เอาไว้ ”
‘ บัดซบข้ารับนางเป็นอาจารย์แต่เมื่อใดกัน ’
“ ข้า จูหนิงเอ๋อ หัวหน้าสมาคมนักปรุงยา แห่งเมืองฟานชู ”
เมื่อได้ยินชื่อของนางหลินหมิงก็พลันนึกเรื่องราวทุกอย่างได้
ในทันที ตัวเขาที่ไม่ได้ออกจากตระกูลหลินนั้นย่อมรู้เพียงข่าวคราว
บ้านเมืองเล็กน้อย และรวมถึงบุคคลสาคัญต่างๆในเมืองแต่ไม่ได้
รับรู้ถึงใบหน้าของบุคคลเหล่านั้นแต่อย่างใด
แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อของนางนั้นมันทาให้หลินหมิงถึงกับตาเบิก
กว้างเพราะว่าสถานะของในเมืองนั้นย่อมเป็นอะไรที่สูงส่งจนแทบ
จะไม่มีใครกล้าล่วงแม้กระทั่งตระกูลหลินของเขาที่เป็นตระกูลใหญ่
ยังต้องให้ความเคารพ และ หญิงสาวนามจูหนิงเอ๋อผู้นี้ที่ดารง
ตาแหน่งหัวหน้าสมาคมนักปรุงยานั้น ไม่ใช่ว่านางเป็นอัจริยะรุ่น
เยาว์ แต่ในความเป็นจริงแล้วนางมีอายุราว 30 ปีเข้าไปแล้วแต่นาง
กลับมีใบหน้าทีง่ ดงามไม่ต่างจากสาววัยรุ่นเลยแม้แต่น้อย
และชื่อเสียงของนางในเมืองนั้นก็นับได้ว่าดีอยู่บ้างหากเทียบกับ
บรรดาขุมอานาจอื่นๆ หลินหมิงจึงมีความคิดเอนเอียงที่จะตอบ
รับคากล่าวของนาง ขืนมันกล่าวปฎิเสธไปนั้นอาจเป็นจุดจบของ
ชีวิตของมันอย่างแท้จริงก็เป็นได้เพียงแต่ว่าตัวเขาย่อมต้องแน่ใจ
ก่อนว่านางต้องการอะไรจากตัวเขากันแน่
“ ฮ่าๆ เจ้าไม่ต้องทาหน้าสงสัยหรอก ”
‘ บัดซบนี้นางอ่านใจข้าได้หรืออย่างไร ’
“ ที่ข้าเสนอให้เจ้ามาเป็นศิษย์ส่วนตัวเพียงคนเดียวของข้านั้นก็
เพราะว่าเจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าเห็นว่าสมควร ”
“ เพราะเปลวเพลิงสีดาของข้า ? ”
หลินหมิงกล่าวถามออกไปอย่างตรงไปตรงมาเพราะตัวเขาไม่ได้
แสดงอะไรที่น่าตื่นตะลึงให้นางดูเลยนอกจากทักษะเพลิงทมิฬ
“ ถูกต้อง ด้วยทักษะเปลวเพลิงที่เจ้ามีอยู่มันย่อมส่งเสริมให้เจ้า
สามารถเป็นนักปรุงยาอัจฉริยะเช่นข้าได้ไม่ยาก....หรือแม้หากเจ้า
ต้องการฝึกฝนบ่มเพาะพลังเจ้าก็ยังจาเป็นจะต้องใช้ ยาบ่มเพาะ
จานวนไม่น้อยหากเจ้าได้เป็นนักปรุงยานั้นหนทางในการบ่มเพาะ
ของเจ้าล้วนต้องเปิดกว้างออกในทันที..ยิง่ ไปกว่านั้นข้ายินดีที่จะสั่ง
สอนทักษะต่อสู้ให้เจ้าเมื่อข้าคิดว่าเจ้ามีความพร้อมแล้ว...เป็น
อย่างไรบ้างละ ”
หน้าตาของหญิงสาวผู้งดงามในตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เปลวเพลิงสีดาที่ปล่อยออกมาจากหมัดของหลินหมิงที่นางสัมผัสได้
นั้นมันมีความบริสุทธ์อย่างมาก และมันเต็มไปด้วยพลังงานซึ่งเป็น
คุณสมบัติที่เหมาะสมสาหรับนักปรุงยา หากจะบอกว่าคนที่จะ
สามารถเป็นนักปรุงยาได้นั้นจะต้องมี่พลังปราณธาตุไฟในร่าง นั้น
อาจนับได้ว่ามีหลายคนที่สามารถเป็นได้
เพียงแต่ว่าหากเปลวไฟในร่างของคนเหล่านั้นมีความบริสุทธ์ไม่
เพียงพอการที่จะเป็นนักปรุงยาได้นั้นย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เพราะว่ามันจะทาให้ ยา ที่พวกเขาทาขึ้นนั้นเสื่อมคุณภาพลงไป
อย่างมหาศาลนั้นจึงเป็นเหตุให้มีคนที่สามารถเป็นนักปรุงยาได้น้อย
มากแม้จะมีคนที่มีพลังปราณธาตุไฟในร่าง เทียบกับเปลวเพลิงของ
หลินหมิงแล้วนั้นความบริสุทธ์ของเปลวเพลิงนั้นเป็นอะไรที่นางไม่
เคยผมมาก่อนถึงขนาดทีว่ ่าเปลวเพลิงของนางยังมีความบริสุทธ์
น้อยกว่าของเด็กหนุ่มผู้นีเลยเสียด้วยซ้าไป

ตอนที่ 6
ในความเป็นจริงแล้วสาหรับหญิงสาวผู้งดงามผู้นี้นางไม่เคยรับ
ใครเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางมาก่อนเลยแม้แต่คนเดียวไม่ใช่ว่า
เพราะภายในเมืองฟานชูของเขานั้นไม่มีผู้ที่มีพรสวรรค์หรือมุ่งมั่นใน
ด้านนี้แต่อย่างใด กลับกันผู้ที่มีเปลวไฟบริสุทธ์อยู่ภายในเมืองนั้นก็
ใช่ว่าจะไม่มีแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะว่าบุคคลที่มุ่งมั่นในแนวทางการปรุงยานั้นล้วน
จะต้องมีทรัพย์สมบัติคอยส่งเสริมเพื่อพัฒนาทักษะเป็นที่แน่นอนว่า
การก้าวไปสู่ตาแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาเช่นเดียวกันกับนาง
นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งนั้นเป็นสิ่งที่นางย่อมรู้ดี ทรัพย์สมบัติที่นางได้ใช้
ไปกว่าจะมาถึงจุดนี้นั้นอาจนับได้ว่าใกล้เคียงกับกึ่งหนึ่งจานวน
ทรัพย์สมบัติของตระกูลใหญ่เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นจึงมีแต่บรรดาเหล่าชนชั้นสูงภายในเมืองที่มากไป
ด้วยทรัพย์สินเท่านั้นที่จะเพียงพอต่อการสนับสนุนเหล่าบุตรหลาน
ให้พัฒนาทักษะของตน แต่ถึงเป็นเช่นนั้นนางก็ไม่คิดจะสั่งสอนพวก
เขาเหล่านั้นแต่อย่างใดเพราะหากพวกเขาเหล่านั้นประสบ
ความสาเร็จแล้วก็อาจเปรียบเทียบได้ว่าการที่อาจารย์สอนศิษย์ที่
เป็นบัณฑิตอยู่แล้วนั้นการประสบความสาเร็จจึงเป็นเรื่องธรรมดา
แต่หากนางรับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ที่ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นเพียง
สามัญชนธรรมดาแต่เพียงแค่เปลวเพลิงสีดาของเขานั้นก็เพียง
พอที่จะทดแทนในส่วนของบรรดาบุตรหลานตระกูลใหญ่ได้อย่าง
เกินพอ อีกทั้งทักษะในการควบคุมเปลวเพลิงของเด็กหนุ่มผู้นกี้ ็จัด
ได้ว่ายอดเยี่ยมในวัยเพียงเท่านี้สาหรับในสายตาของนาง
เพราะว่าในตอนที่เด็กหนุ่มผู้นี้ทาการโจมตีใส่นางนั้น เขากระทา
การเพียงรีดเร้นลมปราณมาไว้ที่บริเวณกามือเท่านั้นซึ่งนั้นใช้เวลา
เพียงชั่วอึดใจเดียว ซึ่งนี้กเ็ ป็นอีกหนึ่งในทักษะที่จาเป็นของเหล่านัก
ปรุงยาด้วยเช่นกัน แถมพลังการต่อสู้ของทักษะเปลวเพลิงสีดาของ
เด็กหนุ่มผู้นกี้ ็นับได้ว่าร้ายกาจยิ่งอาจเป็นไปได้ว่ามันอาจเป็นหนึ่งใน
ทักษะโบราณที่สาบสูญและถูฏส่งทอดลงมาถึงเด็กหนุ่มผู้นี้
แต่หญิงสาวผู้งดงามไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นความสนใจของนางมี
เพียงการที่นางจะทายังไงให้เด็กหนุ่มผู้นี้พัฒนาทักษะปรุงยาอย่าง
ก้าวกระโดดโดยที่นางแทบจะลืมคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไปเสีย
แล้ว
“ ผู้อาวุโส ข้าต้องขออภัยที่เสียมารยาทต่อท่านก่อนหน้านี้แต่
ข้ายังไม่เข้าเหตุใดท่านจึงรับข้าเป็นศิษย์ ”
หลินหมิงเปลี่ยนคาพูดที่มตี ่อ จูหนิงเอ๋อในทันทีที่เขารู้ถึง
เบื้องหลังที่แท้จริงของนางหากเขาพลั้งปากทาให้นางอารมณ์เสีย
ขึ้นมาอีกนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องดีนัก สิง่ ที่เขาต้องตระหนักในตอนนี้ก็คือ
เหตุใดนางถึงรับเขาเข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางกัน แต่ดูเหมือนว่า
หลินหมิงจะไม่สามารถหาเหตุผลได้เสียแล้ว
“ เรื่องนั้นเจ้าไม่จาเป็นต้องรู้ รู้เพียงแต่ว่าข้านั้นสามารถพัฒนา
ตัวเจ้าไปได้มากกว่าที่เจ้าเป็นอยู่นี้อย่างมากและหากเจ้าไปกับข้า
เจ้าก็ไม่จาเป็นต้องกังวลเรื่องครอบครัวของงเจ้าข้ายินดีช่วยเหลือ
พวกเขาเหล่านั้นเช่นเดียวกัน ”
จูหนิงเอ๋อนั้นนางคิดว่าที่หลินหมิงมีอาการลังเลนัน้ อาจเป็น
เพราะว่าตัวมันนั้นอาจเป็นห่วงครอบครัวสามัญชนของเขา
“ ผู้อาวุโส ข้าฮั่วหมิง เป็นเพียงเด็กกาพร้าปราศจากบิดา
มารดาอาศัยชีวิตเพียงลาพังนับว่าเป็นบุญของข้าที่ได้ผู้อาวุโสรับ
เป็นศิษย์ ”
หลินหมิงกล่าวโป้ปดชื่อของเขาแก่นางไปหากเขาแสดงตัวว่า
เป็นคุณชายหลินจากตระกูลหลินนั้นเรื่องราวคงจะยุ่งยากมากขึ้น
กว่าเดิมเป็นแน่ จูหนิงเอ๋อเมื่อได้ยินคากล่าวและท่าทีที่เปลี่ยนไป
ของหลินหมิงก็ยิ้มอย่าพอใจ
“ จากนี้ไปเจ้าต้องเรียกหาข้าว่า อาจารย์ ”
“ ขอรับท่านอาจารย์ ”
“ เอาล่ะทีนี้เจ้าก็ตามข้ามาดูเนื้อตัวของเจ้าสิช่างสกปรกยิ่งนัก
ข้าคงไม่สามารถทาการสอนสั่งเจ้าได้ในสภาพเช่นนี้เพราะมันช่าง
บรรทอนใจข้ายิ่งนัก ”
จูหนิงเอ๋อกล่าวร่ายไม่หยุดพร้อมกับเดินนาหลินหมิงเข้ากลับสู่
ตัวเมือง โดยที่ทางไม่มีทที ่าสนใจอาการสับสนของหลินหมิง
ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย สิง่ ที่นางกาลังคิดอยู่ภายในใจตอนนี้มีเพียง
เรื่องวิธีการที่จะทาให้ศิษย์ของนางผู้นี้ประสบความสาเร็จโดยเร็ว
ที่สุดเพียงเท่านั้น และเมือ่ นั้นชื่อเสียงของนางก็จะขจรจายไปทั่วทั้ง
เมืองและบรรดาเมืองข้างเคียงอย่างแน่นอน
หลินหมิงเดินเข้ามาในตัวเมืองฟานชูในก่อนหน้านี้ที่เขาออกมา
จากตระกูลหลินนั้นด้วยความตั้งมั่นที่จะพัฒนาฝึกฝนตนทาให้เขา
ไม่ได้สงั เกตบริเวณโดยรอบมากนัก แม้ว่าเมืองฟานชูแห่งนี้จะนับได้
ว่าอยู่ไกลจากเขตเมืองหลวงแต่ความเจริญภายในก็นับได้ว่าไม่ด้อย
กว่ากันไปมากนัก แถมเนือ่ งด้วยเป็นเมืองที่อยู่ขอบชานเมืองจึงทา
ให้เป็นเมืองหน้าด่านคอยรับมือศัตรู
ดังนั้นแล้วตระกูลส่วนใหญ่ที่มาตั้งรกรากที่นี้ล้วนแต่มีความ
แข็งแกร่งยิ่งเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องคอยทาศึกอยู่บ่อยครั้ง
และหนึ่งในตระกูลเหล่านัน้ ก็คือตระกูลหลิน
ภาพสาวสวยวัยแรกรุ่นย่างเท้าเก้าเดินเข้ามาภายในเมืองที่เต็ม
ไปด้วยผู้คนนั้นตราตรึงอยู่ในใจบุรุษหนุ่มแทบจะทุกคน แม้จะดูเป็น
สาวสวยวัยเยาว์แต่พวกเขาเหล่านั้นล้วนต้องรู้ถึงเบื้องหลังที่แท้จริง
ของนางจึงทาให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ตัวนางมากนัก จูหนิงเอ๋อ
เดินเข้าตัวเมืองอย่างสบายอารมณ์ใบหน้าของนางปรากฎรอยยิ้มอยู่
ตลอดทางที่นางก้าวผ่านเพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทาให้หัวใจของ
บุรุษหนุ่มทั้งหลายถึงกับชุ่มช่าราวกับว่ารอยยิ้มนี้สามารถยืดอายุ
ของพวกเขาได้อีกเป็นพันๆปี
ส่วนทางด้านหลินหมิงที่เดินตามหลังจูหนิงเอ๋อมานั้นตัวเขาได้
รักษาระยะห่างระหว่างเขากับนางเป็นอย่างดีเพราะในตอนนี้นั้นตัว
เขาไม่สมควรทาตัวโดดเด่นจนมากเกินไป ถึงแม้ว่าในตอนแรก
อาจารย์สาวสวยของเขาจะหันกลับมามองด้วยสายตาเคืองๆ แต่
เมื่อนางทาความเข้าใจอะไรหลายๆอย่างนางก็ไม่ได้ว่าอะไร
จากสภาพของหลินหมิงทีใ่ นตอนนี้เสื้อผ้ามีร่องรอยขาดอยู่ทั่ว
ร่าง ซ้าทั่วร่างยังเปราะเปรื้อนไปด้วยคราบฝุ่นอยู่เต็มไปหมดมันจึง
เป็นเครื่องอาพรางตัวได้อย่างนี้สาหรับหลินหมิงในตอนนี้เพราะว่า
สาหรับบรรดาคนแถวนี้ที่สายตาของพวกเขาล้วนจดจ้องไปที่
เทพธิดาที่กาลังปรอยยิ้มอยู่ในตอนนี้ตัวตนของเขาล้วนไม่มีค่าให้
มองแต่อย่างใด
หลินหมิงใช้เวลาเดินตามหลังอาจารย์สาวสวยของเขาอยู่สักพัก
เพียงไม่นานบรรดาเหล่าผู้คนที่เคยหลายล้อมอยู่ตามทางก็คอยๆ
หายไป เพราะว่าในตอนนี้นั้นตัวเขาได้เข้าสู่เขตสมาคมนักปรุงยา
แล้ว ในส่วนของทางด้านสมาคมนักปรุงยานั้นพื้นที่ถูกแบ่งออกเป็น
สองส่วนใหญ่ๆหนึ่งนั้นก็คือพื้นที่สาหรับตั้งร้านค้าขายโอสถจานวน
มากที่เหล่าผู้อาวุโสจากสานักได้ทาการปรุงออกมา
และในส่วนอีกพื้นที่หนึ่งนัน้ ก็คือพื้นที่สาหรับเหล่าผู้อาวุโสที่ใช้
สาหรับเวลาพักผ่อนหรือกระทั่งตอนปรุงยาด้วยเช่นกันอาจกล่าวได้
ว่าพื้นที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเหล่าผู้อาวุโสของสานักและไม่อนุญาติ
ให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในได้
และแน่นอนว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังอยู่ในพื้นที่สว่ นที่สองซึง่
เป็นพื้นที่เฉพาะสาหรับเหล่าผู้อาวุโสแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยัง
สามารถพบเห็นบรรดารุ่นเยาว์เช่นวัยเดียวกับเขาหรือมากกว่า
จานวนไม่น้อยภายในพื้นที่แห่งนี้ อาจารย์สาวของหลินหมิง
ในตอนนี้นางยิ้มเยาะชอบใจกับใบหน้าของหลินหมิงที่ตอนนี้ดูสนใจ
พื้นที่โดยล้อมนี้เป็นอย่างมากเพราะหากเทียบกันแล้วแม้ว่าความ
แข็งแกร่งทางด้านการต่อสู้ของสมาคมนักปรุงยาจะเป็นรองตระกูล
ใหญ่แต่ในเรื่องความมั่งคั่งแล้วนั้นเรียกได้ว่าสมาคมแห่งนี้เป็น
อันดับหนึ่งในเมืองแห่งนี้
รวมกับพื้นที่แห่งนีซ้ ึ่งถือเป็นพื้นสาหรับเหล่าผู้อาวุโสด้วยแล้ว
นั้น ดังนั้นสิ่งก่อสร้างต่างๆจึงถูกสร้างมาด้วยความประณีตงดงาม
จนทาให้หลินหมิงที่เคยอยู่ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินอดทึง่
ไม่ได้
“ เจ้าไม่ต้องสับสนไปที่เจ้าเห็นเด็กวัยเดียวกันกับเจ้าก็เพราะว่า
พวกมันเหล่านั้นล้วนเข้ามาด้วยเหตุผลเดียวกันกับเจ้านั้นก็คือการ
เข้าเป็นศิษย์ของเหล่าผู้อาวุโส แต่ถึงอย่างนั้นสถานะของเจ้าล้วน
สูงส่งกว่าพวกมันอยู่หลายขุมแม้ว่าพวกมันจะมาจากตระกูลที่มี
ชื่อเสียงแต่เรื่องเหล่านั้นสามารถทดแทนได้ด้วยตาแหน่งศิษย์
ส่วนตัวของหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา ”
จูหนิงเอ๋อกล่าวออกมาอย่างภูมิใจนางไม่อยากให้หลินหมิงต้องก
ระวนกระวายมากนัก และนางจาเป็นต้องให้หลินหมิงรับรู้ถึงสถานะ
ของตัวเขาในตอนนี้เพื่อที่ว่าตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้จะได้ไม่ถกู รังแกโดย
เด็กหนุ่มที่มาจากตระกูลเหล่านั้นโดยง่าย มิเช่นนั้นมันอาจเป็นการ
ขัดขวางการก้าวหน้าของหลินหมิงซึ่งนางไม่ยอมให้มีปัจจัยเสี่ยง
ใดๆเข้ามารบกวนศิษย์คนเดียวของนางผู้นี้แน่
“ ขอรับอาจารย์ ”
หลินหมิงกล่าวรับคาของอาจารย์สาวสวยด้วยน้าเสียงเคารพ
มากยิ่งขึ้น ในตอนนี้นางเดินอยู่ไม่ห่างไกลจากเข้ามากนักเพื่อแสดง
ให้ผู้ที่เห็นว่าเด็กหนุ่มสภาพซ่อมซอผู้นี้มีความสาคัญกับนาง จึงเป็น
เหตุให้หลินหมิงเริ่มเชื่อใจในตัวของอาจารย์สาวสวยผู้นี้มากยิ่งขึ้น
“ เอาล่ะในตอนนี้สิ่งแรกที่เจ้าต้องทาก็คือชาระร่างกายของเจ้า
ซะ ข้าไม่อาจทนสอนเจ้าในสภาพเช่นนี้ได้แน่ ”
หลินหมิงที่ได้ยินคากล่าวของอาจารย์สาวสวยของเขาเสร็จก็ไม่
ทันได้ตั้งตัวอะไรแต่อย่างใด มือนุ่มนิ่มชวนน่าสัมผัสได้ออกแรงดึง
ร่างเขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลางที่ดูโดดเด่นกว่าพืน้ ที่โดยรอบเป็น
อย่างมากซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านั้นต้องเป็นสถานทีอ่ ยู่อาศัยของนาง
เป็นแน่
เพียงแต่ว่าในตอนนี้หลินหมิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านั้นเลยแม้แต่
น้อย หรือแม้กระทั่งที่กาลังชุนกระชากเขาอยู่ในตอนนี้มีมากน้อย
เพียงใดเขาก็มิอาจรับรู้ได้สิ่งเดียวที่เขารับรู้ก็คือสัมผัสที่บริเวณอัน
ข้อมือของเขา และกลิ่นหอมโชยจากร่างของอาจารย์สาวผู้งดงาม
เมื่อหลินหมิงก้าวเข้าสู่ภายในตานักของนางนั้นเรียกได้ว่าความ
หรูหราภายนอกจากที่เข้ามองเข้ามานั้นก็นับได้ว่าหาใดเปรียบ
เพียงแต่ว่าภายในนี้กลับมีความหรูหราสวยงามยิ่งกว่าภายนอกเสีย
อีก อาจเป็นเพราะว่าอาจารย์สาวของเขานั้นเป็นสตรีจึงเป็นเหตุ
สิ่งก่อสร้างภายในและภายนอกถูกออกแบบและตกแต่งอย่าง
สวยงามต่างจากบิดาของเขาที่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องพวกนี้มากเท่า
นัก ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของพวกผู้นาทั่วไป
หลินหมิงนั้นหลังจากก้าวเข้าสู่ตาหนักของอาจารย์สาวสวยคน
ใหม่ของเขาแล้วนั้นพวกเขาก็เรียกได้ว่าแทบจะแยกจากกันในทันที
เพราะนางสั่งให้บรรดาคนรับใช้ภายในตานักให้ช่วยนาตัวของเขา
ไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยคุยกัน
หากเป็นการอาบน้าล้างตัวตามปกตินั้นหลินหมิงก็ไม่คิดหนักใจ
อะไรแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเมื่อมาถึงที่ห้องอาบน้าที่มีขนาด
กว้างขวางเกินกว่าห้องปกติทั่วไปอยู่มาก มันเป็นสถานที่เปิดโล่ง
แจ้งแต่ก็มีรั้วสูงคอยกั้นเอาไว้อย่างดีเยี่ยมและถึงจะไม่มีรั้วไม้กัน
เอาไว้ก็ตามเขาก็คิดว่าไม่น่าจะมีใครที่คิดเบื่อชีวิตขนาดมาแอบส่อง
ยังตาหนักของหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา
คนรับใช้ที่เป็นคนนาทางเขามามีอยู่ด้วยกันสองคนและทั้งสอง
คนนั้นล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตางดงามแม้หากเมื่อเทียบ
พวกนางกับบอาจารย์สาวสวยของเขาแล้วความงามของพวกนาง
อาจนับได้ว่าธรรมดาแต่หากเปรียบเทียบตามมาตรฐานทั่วไปแล้ว
นั้นความงามของพวกนางเหนือกว่าหญิงสาวทั่วไปอยู่หลายส่วน
“ ขะ..ข้าขอบคุณพวกท่านทั้งสองมากที่นาทางข้า ข้าคงไม่
รบกวนอะไรพวกท่านอีกเชิญพวกท่านตามสบายเถอะ ”
หลินหมิงในใจตอนนี้รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมากเพราะว่า
แม่นางทั้งสองคนนี้เมื่อมายังถึงห้องอาบน้าแล้วนั้นพวกนางไม่มที ี
ท่าว่าจะกลับไปเลยแม้แต่น้อยซ้าพวกนางยังเข้ามาในห้องอาบนี้
พร้อมกับเขาเสียอีก !
“ นายหญิงสั่งพวกข้าเอาไว้ว่าให้ดูแลท่านเป็นอย่างดี ฉะนั้น
คุณชายไม่ต้องเกรงใจแต่อย่างใด ”
เมื่อได้ฟังคากล่าวเสียงเรียบของแม่นางทั้งสอง หัวใจของหลินห
มิงก็พลันเต้นรั่วยิ่งกว่าตอนที่เขาสู้กับสัตว์อสูรเสียอีก พวกนางทั้ง
สองจะร่วมอาบน้าพร้อมข้า ? ทางด้านหญิงสาวทั้งสองนั้นแม้พวก
นางจะยังไม่รู้สถานะที่แท้จริงของหลินหมิงแต่พวกนางก็ไม่กล้าเสีย
มารยาทแต่อย่างใด
เดิมทีพวกนางทัง้ สองพี่นอ้ งนั้นเป็นเด็กกาพร้า และชะตากรรม
คงไม่พ้นต้องตกไปเป็นแก่เหล่าผู้มีชาติตระกูลเพียงแต่เคราะห์ที่
พวกนางทั้งสองนั้นได้รับการอุปการะจากจูหนิงเอ๋อร์ และนายหญิง
ของพวกนางนั้นเรียกได้วา่ ดูแลพวกนางดีเสียยิ่งกว่าบรรดาคนรับใช้
ของเหล่าผู้มีอิทธิผลอื่นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นแล้วสาหรับพวกนาง
สองพี่น้องนั้นนายหญิงของพวกนางเปรียบเสมือนเทพธิดาที่ลงมา
ประทานพรให้และพวกนางพร้อมทาทุกวิธีทางเพื่อทดแทนบุญคุณ
แม้ว่าต้องแลกกับการที่จะต้องเสียความบริสุทธ์ที่แสนสาคัญของ
หญิงสาวให้กับชายแปลกหน้าที่พวกนางไม่เคยรู้จักก็ตาม แต่ในเมื่อ
ชายผู้นี้เป็นคนที่นายหญิงของพวกนางให้การยอมรับมีหรือที่พวก
นางทั้งสองจะทาให้นายหญิงต้องผิดหวัง

ตอนที่ 7
แววตาของหญิงสาวสองพี่น้องที่มองมาทีห่ ลินหมิงนั้นเต็มไป
ด้วยความมุ่งมัน่ และเด็ดเดียว จนทาให้ตัวเขาแทบจะทาอะไรไม่ถูก
ในสถานการณ์ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าอาจารย์สาวสวยของ
เขาจะต้อนรับเข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางด้วยการมอบหญิงสาว
สองพี่น้องเป็นของขวัญแด่เขา
‘ อึก ‘
หลินหมิงกลืนน้าลายลงไปก้อนใหญ่ลงคอคาพูดที่จะกล่าวปฎิ
เสธใดๆตอนนี้ล้วนไม่สามารถออกมาจากปากราวกับว่าเขา
กลายเป็นคนใบ้ไปแล้วในตอนนี้ เบื้องหน้าของหลินหมิงหญิงสาวทั้ง
สองที่ค่อยๆปลดเปลื้องผ้าคลุมกายของพวกนางทีละส่วนอย่าง
เชื่องช้ามันช่างเป็นภาพที่กระตุ้นใจเหล่าชายหนุ่มเป็นอย่างยิ่ง
ผิวขาวเรียบเนียบอันแสนผุดผ่องค่อยเผยให้เห็นแก่สายตา
หลินหมิงไปทีละส่วน ไม่เพียงแต่ตอนนี้หลินหมิงจะราวกับเป็นใบ้แต่
ในตอนนี้เขาแทบจะขยับร่างกายไปไหนไม่ถูกไปเสียแล้ว หญิงสาว
ทั้งสองอายุของพวกนางนั้นใกล้เคียงกันโดยคนพี่นั้นอายุราว 17 ปี
คนน้อง 16 ปีซึ่งนั้นหมายความว่าพวกนางทั้งนั้นล้วนมีอายุ
มากกว่าหลินหมิงและยังเป็นช่วงเวลาที่หญิงสาวกาลังผลิบานอย่าง
เต็มที่
หญิงสาวสองพี่น้องเมื่อเห็นสายตาของหลินหมิงทีจ่ ้องมาที่พวก
นางนั้นก็พลันเกิดความเอียงอายขึ้นมาในทันทีแม้วา่ พวกนางจะ
ไม่ได้มีฐานะในตาหนักแห่งนี้แต่อย่างใดก็ตามพวกนางล้วนไม่เคย
ถูกบังคับหรือให้กระทาการใดๆเช่นนี้มาก่อน
ร่างสตรีทั้งสองในสภาพเปลือยกายปรากฎสู่สายตาของหลินห
มิงผิวขาวของพวกนางราวกับว่ามันเป็นดังกระจกที่สะท้อนแสงแต่
ถึงมันจะเป็นเช่นนั้นมันกลับช่างดูนุ่มนวลและน่าสัมผัสยิ่งนัก ขาทั้ง
สองของพวกนางบิดกันเป็นเกลียวเพื่อบดบังพื้นทีส่ งวนของหญิง
สาวพร้อมกับแขนทั้งสองข้างที่กอดรัดหน้าอกของพวกนางเอาไว้
พวกนางใช่เวลาทาใจเพียงชั่วครู่หลังจากที่ปลดเปลืองเสื้อผ้า
ของพวกนางเรียบร้อย พวกจึงค่อยๆทาใจลืมความอายที่เกิดขึ้น
ภายในใจและเดินตรงไปหาหลินหมิง
“ ขะ..ข้า..ว่า ”
“ ไม่เป็นไรเจ้าคะคุณชาย พวกเรานั้นยินดีรับใช้คุณชายจากใจ
จริงแต่หากคุณชายรังเกียจพวกเรานั้น.... ”
หญิงสาวผู้พี่กล่าวประโยคสุดท้ายด้วยวาจาปนเศร้าเล็กน้อย
หลินหมิงแม้จะทาอะไรไม่ถูกกับสถานการณ์เช่นนี้แต่เขาก็พอเข้าใจ
สถานการณ์ของพวกนางอยู่บ้างในตอนนี้ไม่มากก็น้อย
“ เหตุใดข้าจะรังเกียจพวกท่านทั้งสองได้กัน ”
หญิงสาวสองพี่น้องเมื่อได้ฟังคากล่าวของหลินหมิงพวกนาง
กลับรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยตามความคิดของพวกนางนั้นฐานะ
ของหลินหมิงย่อมไม่ธรรมดาเพราะว่านับตั้งแต่ที่พวกนางรับใช้จูห
นิงเอ๋อร์มาพวกนางยังไม่เคยเห็นนายหญิงของพวกนางพาผู้ชายเข้า
ตาหนักของนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ดังนั้นแล้วเมื่อพวกนางลองคาดการณ์ดูสิ่งเดียวที่นายหญิงของ
พวกนางต้องการนั้นก็คือ ศิษย์ ที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือใคร
และพวกนางก็พอจะคาดเดาจะสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของ
นายหญิงได้ว่าหลินหมิงนัน้ อาจได้รับการอบรบเป็นศิษย์ส่วนตัว
เพียงหนึ่งเดียวของนายหญิงของนาง
ดังนั้นแล้วด้วยฐานะของหลินหมิงเช่นนี้แต่เขากลับปฎิบัตกิ ับ
พวกนางอย่างอ่อนโยน แม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ว่าหลินหมิงนั้น
อาจมาจากตระกูลต่าต้อยแต่เรื่องในอดีตนั้นไม่สาคัญแต่อย่างใด
สถานะปัจจุบันของเขาล้วนไม่ต้องเกรงกลัวใครในสมาคมนักปรุงยา
แห่งนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้พวกนางทั้งสองกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันทีที่อย่าง
น้อยพวกนางได้เสียความบริสุทธ์ของพวกนางให้แก่ชายหนุ่มผู้นี้
ทางด้านหลินหมิงนั้นเขาคิดเห็นแล้วว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงจาก
สถานการณ์เช่นนี้ได้เป็นอย่างแน่นอน แถมเมื่อมีร่างกายของหญิง
สาวสวยทั้งสองอยูต่ รงหน้ามีหรือที่เขาจะสามารถทานทนเอาไว้ได้
นาน
“ เช่นนั้นพวกข้าทั้งสองขอเสียมารยาทนะเจ้าคะ ”
หญิงสาวสองพี่น้องเคลื่อนไหวไปทางด้านข้างของหลินหมิงไป
กันคนละด้านพร้อมกับค่อยปลดเปลื้องเสื้อผ้าของหลินหมิงออกไปที
ละชิ้น สภาพของหลินหมิงในตอนนี้แม้จะเปราะเปื้อนไปด้วยฝุ่นจาก
การที่เขาฝึกฝนภายในป่ามานับสัปดาห์
แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อขนาดสมส่วนหญิงสาว
ทั้งสองล้วนจ้องมองไปยังร่างกายของหลินหมิงอย่างไม่วางตาพร้อม
กับสายตาของพวกนางที่เริ่มเกิดความกังวลขึ้นมาในทันทีเมื่อ
สายตาของพวกนางเลื่อนลงมาที่ด้านล่าง
“ ยะ...ใหญ่ ”
“ มะ..ไม่น่าเชื่อ ”
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงเมื่อเห็นแววตาของทั้งสองสาวที่มองมา
ที่ท่อนล่างของเขา ก็พลันทาให้เขาเกิดความสงสัยในความเป็นจริง
แล้วขนาดท่อนโลกของเขาไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ใหญ่ดังเช่นพวกนาง
กล่าวอาจกล่าวได้ว่าขนาดของมันนั้นล้วนอยู่ในเกณฑ์ปกติสาหรับ
บุรุษทั่วไป แต่เมื่อหลินหมิงก้มลงมามองเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง
ดังเช่นหญิงสาวพี่น้องทั้ง
‘ มันใหญ่ขึ้น ! ตั้งแต่เมือ่ ใดกัน ’
‘ หรืออาจเป็นเพราะทักษะเพลิงทมิฬ ? ’
หลินหมิงสะบัดหัวไล่ความสับสนออกไปสิ่งที่เขาต้องให้ความ
สนใจในตอนนี้ก็คือหญิงสาวสองคนตรงหน้าเขาในตอนนี้ นี้ไม่
เพียงแต่จะเป็นโอกาศที่เขาจะได้ลิ้มลองหญิงสาวเป็นครั้งแรกแต่
หากมันยังเป็นโอกาศในการพัฒนาพลังของเขาด้วยเพราะด้วย
เงื่อนไขข้อจากัดของทักษะเพลิงทมิฬนั้นทาให้เขาไม่สามารถฝึกฝน
ได้ดังเช่นคนทั่วไป
หลินหมิงกางเขนออกพร้อมกับรวบพวกนางทัง้ สองมาไว้แนบ
กายอย่างอบอุ่น ผิวเนียนนุ่มของหญิงสาวยามกระทบกับผิวของเขา
มันทาให้รู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกปลุกกระตุ้นด้วยพลังงาน
บางอย่าง
“ ไม่ต้องกังวล ข้าจะทาอย่างอ่อนโยนที่สุด ”
“ เจ้าคะ ”
แม้ว่านี้มันจะเป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกันก็ตามที่ แต่หลินห
มิงตั้งใจเอาไว้ว่าจะตั้งทาให้ดีที่สุดไม่แน่บางทีเขาอาจจะทากับพวก
นางอีกในอนาคตเช่นนั้นแล้วเขาควรจะทาให้พวกนางประทับใจ
เอาไว้เสียตั้งแต่แรก มือทัง้ สองข้างของหลินหมิงค่อยๆเคลื่อนที่ไป
บนผิวเรียบเนียนของหญิงสาวสองพี่น้องด้วยความตื่นเต้น พร้อม
กับเสียงครางเบาๆของพวกนางในยามที่ตอนนี้มือของหลินหมิงนั้น
เลื่อนลงมาที่บริเวณต้นขาอ่อนของพวกนาง
หลินหมิงค่อยๆลูบไล้จากบริเวณเหนือหัวเข่าขึ้นมาจนถึงจุด
บริเวณอันตรายของหญิงสาว หลินหมิงพบว่านอกจากเสียงหายใจ
หอบอย่างรุนแรงของสองสาวพี่น้องนั้นบริเวณจุดอับของหญิงสาว
ของพวกนางก็ตอบรับต่อการจู่โจมของเขาได้อย่างดีเยี่ยมมันอาจ
เป็นเพราะว่าพวกนางยังไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆมาก่อน มันจึงอด
ไม่ได้ที่พวกนางจะรู้สึกตื่นเต้นซึ่งหลินหมิงเองก็เช่นเดียวกัน
“ อ้าา ~~~ ”
น้าใสๆค่อยๆไหลออกมาจากร่องรักของหญิงสาวพี่น้องเรื่อยๆ
เมื่อหลินหมิงนามือไปสัมผัสดูพวกนางทั้งสองก็ถึงกับสะดุ้งถ้าหาก
ว่าร่างกายของพวกนางทั้งสองยังคงมีเรี่ยวแรงดังเช่นในตอนแรก
พวกนางทั้งสองคงกระโจนออกจากการโจมตีของหลินหมิงที่ไม่ให้
พวกนางได้หยุดพักไปแล้ว
นิวชี้ทั้งสองข้างของหลินหมิงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วตาม
สัญชาตญาณของชายหนุ่มแม้ว่าหลินหมิงจะยังไม่มีเคยมี
ประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อนเลยกตาม แต่ตวั เขากลับพบว่าเขามี
ความรู้สึกว่าส่วนของร่างกายของหญิงสาวที่น่าจะเป็นจุดอ่อนมัน
จึงทาให้หลินหมิงสามารถสยบสองสาวพี่น้องได้อย่างง่ายดาย
‘ มันอาจเป็นเพราะทักษะของข้า ? ‘
เกี่ยวกับเรื่องนั้นหลินหมิงยังไม่คิดจะเก็บมาคิดในตอนนี้ หญิง
สาวคนพี่นางเริ่มรู้สึกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางคงหมดแรงภายใน
เวลาไม่นาน แต่นางก็ยังคงไม่มีเรี่ยวแรงหนีออกจากอ้อมกอดของ
บุรุษหนุ่มคนนี้อยู่ดีและต่อให้แม้ว่านางจะมีเรี่ยวแรงอยู่ก็ตามในใจ
ของนางก็คิดว่าบางทีนางอาจไม่ต้องการจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม
ที่นางเพิ่งได้พบหน้าวันนี้ไปก็ได้
แม้จะดูว่านางเป็นคนใจง่ายแต่สาหรับหญิงสาวสาหรับใช้อย่าง
พวกนางนั้นการที่บริการเจ้านายถือเป็นเรื่องปกติ แต่สาหรับ
เจ้านายที่กระทากับทาสรับใช้อย่างอ่อนโยนเช่นนี้นั้นหาได้ยากยิ่ง
เพราะฉะนั้นแล้วนางจึงมีความรู้สึกที่ไม่อยากจะจากอ้อมกอดอัน
แสนอบอุ่นนี้ไป
มือขาวเรียบเนียนของหญิงสาวผู้พี่คว้าจับไปที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงพร้อมกับเริ่มทาการเคลื่อนไหวในทันที ในตอนนี้นาง
ต้องการจะให้หลินหมิงผ่อนจังหวะลงบ้าง หญิงสาวคนน้องเห็นการ
กระทาของพี่สาวก็พอจะเข้าใจความคิดซึ่งกันและกันขึ้นมาในทันที
นางใช้มือของนางเคลื่อนไหวลูบไล้ตามร่างกายของหลินหมิงไปทั่ว
ทันใดนั้นหญิงสาวคนพี่ทที่ าการจัดการตัดกาลังของหลินหมิงที่
ทวนมังกรก็ต้องพบกับสิ่งที่น่าตกใจ
‘ มะ..ไม่น่าเชื่อ..มันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว ‘
เดิมทีขนาดของทวนมังกรของหลินหมิงนั้นนับเป็นปัญหาที่น่า
หนักใจสาหรับพวกนางเป็นอย่างมาก พวกนางเคยได้ยินเหล่าหญิง
สาวที่นี้เคยเล่ามาว่าการที่หญิงสาวเช่นพวกนางนัน้ เวลาเสียความบ
ริสุทธ์ครั้งแรกมันเป็นอะไรที่จะปวดเป็นอย่างมาก ยิ่งโดยเฉพาะ
เหล่าบุรุษที่มีขนาดทวนขนาดใหญ่ด้วยแล้วละก็มันคงไม่สามารถ
พรรณนาออกมาเป็นคาพูดได้เลย
แม้ว่าในตอนแรกนางจะพอทาใจกับขนาดทวนของหลินหมิงได้
แล้ว แต่มันกลับใหญ่ขึ้นอกเมื่อพลันนึกถึงเรื่องเล่าในอดีตนางก็เริ่ม
มีความลังเลขึ้นมา เพียงแต่ว่าก่อนที่นางจะได้ทันตัดสินใจอะไรนาง
ก็ถูกหลินหมิงจู่โจมประกบปากอย่างดูดดืม่ ไปเสียแล้ว
“ อื้อ~~~~~~ ”

ตอนที่ 8
สัมผัสอันนุ่มนวลละมุนลิน้ ภานในปากของนางนั้นทาให้นางรู้สึก
หายใจได้อย่างยากลาบากมากยิ่งขึ้น เรี่ยวแรงที่แต่เดิมนั้นแทบจะ
ไม่เหลืออยู่แล้วพลันหายไปสิ้นไปแทบหมด
มือทั้งสองข้างของนางต้องโอบร่างของหลินหมิงไว้พร้อมกับเอน
ร่างอันไร้เรี่ยวแรงซบบนร่างของหลินหมิงด้วยเช่นกัน ลิ้นที่อยู่
ภายในปากของนางนั้นยังคงเคลื่อนไหวไปมาอย่างบ้าคลั่งโดยที่นาง
ไม่สามารถตอบรับได้ทันได้เลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้พี่นั้นนางเริ่มที่จะหายใจได้อย่าง
ลาบาก และถึงขีดจากัดของนางแล้วจึงละปากออกจากนางพร้อม
กับก้มลงพรมจูบไซร้คอของนางอย่างแผ่วเบา แต่มันก็ทาให้นาง
ครางเสียงหลงออกมาแบบไม่เห็นจังหวะ
หญิงสาวคนน้องในตอนนีน้ างราวกับว่าตัวตนของนางถูกลบไป
เพราะตอนนี้หนึ่งชายและพี่สาวของนางนั้นกาลังเล้าโลมกันจนไม่มี
ที่ว่างให้นางเขาไปเสียแล้ว แต่นางกลับมีความรู้สึกแปลกที่ได้เห็น
พี่สาวสุดที่รักของนางกาลังถูกเล้าโลมโดยหลินหมิง
นางบิดตัวไปมาอย่างเอียงอายพร้อมบริเวณร่องรักของนางที่ดู
เหมือนจะตอบสนองภาพตรงหน้าได้ดีเกินไป ในตอนนี้ร่องของนาง
พลันมีความรู้สึกแปลกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นิ้วมือของนางพลัน
ขยับไปเองอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ อ้าา~~~~ ”
เสียงครางของหญิงสาวผู้น้องทาให้หลินหมิวละความสนใจของ
คนพี่ เพราะว่าภาพตรงหน้าของเขาในตอนนี้คือหญิงสาวผู้น้องคน
นี้กาลังทาการใช้นิ้วแหย่เข้าไปบริเวณร่องรักของนางพร้อมกับจ้อง
มองมาที่พวกเขาด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
หลินหมิงค่อยๆเคลื่อนที่ออกจากหญิงสาวผู้พี่ไปหาสาวคนน้องที่
ตอนนี้กาลังใช้นิ้วกับร่องของนางอย่างเมามันส์
“ คะ...คุณชาย.. อ้า~~ ”
หลินหมิงก้มลงพรมจูบไปทั่วร่างของนางอย่างร้อนแรง พร้อม
กับทวนมังกรของเขาที่รู้สึกว่าจะไม่สามารถอดทนอดกลั้นได้อกี
ต่อไป ทวนมังกรของหลินหมิงตอนนี้จ่ออยู่ที่บริเวณทางเข้าร่องรัก
ของหญิงสาวเตรียมพร้อมที่จะเข้าจู่โจมในทันที
“ ดะ..เดียวเจ้า..อ้าาา~~~~~ โอ้ยยย ”
ก่อนที่นางจะได้กล่าวอะไรต่อหลินหมิงก็เริ่มลงมือไปเสียแล้ว ใน
ตอนแรกนางเพียงต้องการให้หลินหมิงเล้าโลมนางเหมือนกับพี่สาว
แต่นางไม่ได้คิดเลยว่าหลินหมิงจะไม่สามารถอดกลัน้ ได้แล้วลงมือจู่
โจมนางทันที
แม้ทวนมังกรขนาดใหญ่ของหลินหมิงจะค่อยๆแทงทะลวงเข้าไป
ภายในร่องของหญิงสาวอย่างช้าๆ แต่นางก็รู้สึกว่ามันเป็น
ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากร่องรักของนางหลังจากที่
หลินหมิงแทงทวนมังกรของเขาเข้าไปในร่างของนางได้ครึ่งท่อน
ราวกับว่าทวนของเขานั้นกาลังจะถูกหลอมละลายภายในร่างกาย
ของหญิงสาวผู้นี้
หลินหมิงเห็นน้าตาของหญิงสาวที่ไหลออกมาจากความเจ็บปวด
ที่นางได้รับเพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกแต่อย่างใด
เสียงครางของนางมันทาให้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกันกับนางแม้ว่านางจะรู้สึกเจ็บเป็นอย่างมากเพียงแต่
ว่านางกลับพบว่านางพลันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้น
มันเป็นความรู้สึกเสี่ยวซ่านไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะบริเวณร่องรัก
ของนางนั้น
ที่ถูกจู่โจมโดยทวนมังกรขนาดใหญ่เมื่อทวนแท่งนีค้ ่อยๆดันเข้า
มาลึกขึ้นเรื่อยนางก็พลันรู้สึกเสียวมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
“ อ้าา~~~ ”
หลินหมิงพบว่าเขาไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว น้าขาว
ขุ่นจานวนมากพุ่งทะลักเข้าไปภายในร่องของหญิงสาวจนนางไม่
อาจทนรับไว้ได้ไหวเช่นเดียวกัน จึงทาให้น้าใสๆของหญิงสาวพลัน
ออกมาเป็นจานวนมากจากการเสร็จกิจไปสองรอบในคราวเดียว
‘ มะ..มันจบแล้วสินะ ’
นางนั้นเคยได้ยินมาว่าแม้บุรุษจะนิยมมีสตรีข้างกายหลายคนแต่
พวกเขานั้นล้วนไม่สามารถทาสงครามในยามดึกกับพวกนางได้ทกุ
คนอันที่จริงแล้วบุรุษส่วนใหญ่นั้นล้วนสามารถปลดปล่อยออกมาได้
เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เพียงแต่ว่าในขณะที่นางกาลังคิดเช่นนั้นนางพบว่ามีบางอย่างที่
ผิดปกติไป
‘ ทาไมขนาดของเขาไม่ลดลง? ’
แม้ว่าจะมีบุรุษบางคนที่สามารถกระทาศึกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง
เพียงแต่พวกเขาล้วนต้องใช้เวลาพักฟื้นตัวก่อนนางไม่เคยได้ยินมา
ก่อนว่าจะมีใครที่สามารถทาได้ติดต่อกัน
ก่อนที่นางจะได้พักผ่อนหลินหมินก็พลันแทงทวนมังกรเข้าไปลึก
ยิ่งกว่าเดิม ร่องของนางนัน้ ตอดรัดทวนของเขาแน่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับว่ามันต้องการรีดเร้นน้าจากร่างกายของเขาไปอีก
นางรู้สึกได้ว่าภายในร่องของนางนั้นเต็มไปด้วยน้าของนางและ
น้าขาวขุ่นของหลินหมิง หลินหมิงพบว่าเขาไม้สามารถดันทวนของ
เขาเข้าไปได้ลึกมากไปกว่านี้เพราะตอนนี้ทวนของเขาได้ทะลวงเข้า
ไปสู้ส่วนที่ลกึ ที่สุดเสียแล้ว
หลินหมิงเริ่มกระทาการขยับทวนภายในร่องรักของนางอย่าง
เชื่องช้าเพราะว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ถนัดนักเนื่องจากร่อง
รักของนางมันตอดรัดแน่นมากจนเกินไป
“ ขะ..ข้าไม่ไหว..แล้วเจ้าคะ ”
แม้ว่าเดิมทีหญิงสาวจะสามารถรองรับความต้องการของเหล่า
บุรุษได้มากกว่าหนึ่งครั้งแต่นั้นเป็นเพราะขนาดปกติของบุรุษล้วน
ด้อยกว่าหลินหมองอยู่หลายขั้นอาจเรียกได้ว่าหากเทียบกับของ
หลินหมิงแล้วนั้น บุรุษทั่วไปอาจเปรียบได้ว่าเสมือนไร้ซึ่งทวนมังกร
เลยทีเดียว
หลินหมิงเมื่อได้ยินคากล่าวของนางก็พลันค่อยๆถอนทวนมังกร
ของเขาออกมาเขาไม่ต้องการให้ความประทับใจในครั้งแรกของ
หญิงสาวเป็นไปในทางทีเลวร้าย ถึงแม้ว่าเขาจะยังรู้สึกว่ายังไม่
สามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่
แต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอย่างน้อยหญิงสาวผู้นี้ได้ตกเป็นของเขา
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการที่เขาจะร่วมรักกับนางในครั้งหน้านั้นก็
ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
เสียงครางหอบอย่างหนักของหญิงสาวพร้อมกับน้าจานวนมาก
ที่ค่อยๆไหลออกมาจากร่องรักของหญิงสาวเพียงแต่ใบหน้าของนาง
ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อเห็นเช่นนี้หลินหมิงจึงไม่มีเรื่อง
อะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไปเขาจึงทาการจูบนางพร้อมกับลูบศรีษะ
ของนางอย่างแผ่วเบาและหันหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป

ตอนที่ 9
หลินหมิงหลังจากจัดท่าวางของหญิงสาวผู้นอนให้นางได้หลับ
นอนได้อย่างสบายตัวหลังจากที่นางต้องทนรับศึกหนักกับทวนมังกร
ของเขาอย่างหนักหน่วงจนร่างกายของนางถึงขีดจากัด
หญิงสาวผู้พี่นั้นนางนั้นได้ดูทุกท่วงท่าลีลาระหว่างที่น้องสาว
ของนางได้ร่วมรักกับบุรุษผู้นี้ ใบหน้าของนางแดงซ่านเมื่อนางพลัน
คิดว่าได้ชะตากรรมของนางคงมิได้ต่างจากน้องสาวของนางที่นอน
หมดสติไปแล้วมากนัก
ตึกๆ
เสียงย่างก้าวของหลินหมิงพร้อมกับเสียงจังหวะหัวใจที่สั่นไหว
อย่างไม่เป็นจังหวะ หัวสมองพลันนึกถึงเสียงครางของน้องสาว
แม้ว่าจะดูเจ็บปวดอย่างมาก แต่ใบหน้าของนางกลับเต็มเปี่ยมไป
ด้วยความสุขอย่างที่ขนาดนางเป็นพี่ยังไม่เคยได้เห็นมาก่อน
เมื่อเป็นเช่นนี้นางจึงไม่คิดจะต่อต้านหลินหมิงแต่อย่างใด เพราะ
อย่างไรเสียนนางเชื่อว่าหลินหมิงย่อมต้องลงแรงไปมากพอตัวจาก
การร่วมรักกับน้องสาวของนาง ด้วยวัยของหลินหมิงในสายตาของ
นางนั้นเขายังดูเยาวัยกว่าพวกนางสองพี่น้องเสียอีกนางจึงคิดว่า
บุรุษหนุ่มผู้นี้คงไม่อาจทาได้อย่างหนักหน่วเช่นเดียวกันกับนองของ
นางเป็นแน่
แต่ว่าสิ่งที่นางคิดมาก่อนล้วนพลันกลับพลิกพลันโดยสิ้นเชิง
หลินหมิงพุ่งเข้าประกบปากนางอย่างดูดดื่มเสียยิ่งกว่าน้องสาวของ
นางมือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้เขี่ยยอดประทุมของนางราวกับ
ต้องการจะเด็ดออกมาเชยชม
“ ยะ..อย่า..บีบแรงสิเจ้าคะ..อ้าา~ ”
เป็นเพราะก่อนหน้านี้นั้นตัวเขายังไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆมา
ก่อนมันจึงทาให้เขายังไม่สามารถลงมือได้อย่างถนัดน่วงมากนัก แต่
กลับในตอนนี้นั้นแม้เขาเพิ่งมีประสบการณ์มาเมื่อครู่เพียงแต่
อารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่มันจึงทาให้หลินหมิงจู่โจมนางอย่างหนัก
หน่วง
เนินอกสีชมพูของหญิงสาวนั้นดูใหญ่กว่าของน้องสาวของนาง
อยู่มากพอสมควรและก่อนหน้านี้นั้นเนื่องจากหลินหมิงยังคงตื่นเต้น
จากการใช้ทวนมังกรแทงทะลวงเข้าร่องรักของหญิงสาวผู้น้องเขา
จึงไม่ได้จดจ่อกับส่วนอื่นของร่างกายหญิงสาวมากนัก
สัมผัสเนียนนุ่มพร้อมกับแรงเด้งกลับมาจากการที่เมื่อเขากด
สัมผัสลงบนยอดปะทุมมันเป็นความรู้สึกที่ทาให้ร่างกายของหลินห
มิงเบาสบาย ร่างกายเนื้อทั้งสองทีต่ อนนี้นอนชิดติดกันโดยหลินหมิง
เป็นฝ่ายคร่อมและเล้าโลมร่างกายส่วนต่างๆของนางอย่างหื่น
กระหาย
เสียงครางกระเส้าออกมาอย่างไม่ขาดหายของหญิงสาวกระตุ้น
ความเป็นชายของหลินหมิงขึ้นมาอย่างไม่รู้จบ สาหรับนางแล้ว
ในตอนนี้ร่างกายของนางไม่สามารถตอบสนองต่อการเล้าโลมของ
หลินหมิงได้อย่างทันท่วงทีมีเพียงเสียงครางของนางเท่านั้นที่ยังคง
ตอบสนองอย่างต่อเนื่อง
“ ขะ..ไม่ไหว..แล้วเจ้าคะ ”
หญิงสาวผู้พี่นอนแผ่อย่างหมดแรงแต่นางยังไม่คิดจะล้มเลิก
ในตอนนี้แต่อย่างใดที่นางกล่าวออกไปนั้นไม่ใช่ให้หลินหมิงหยุดลง
มือแต่อย่างใด แต่นางรู้สึกว่าที่บริเวณร่องรักของนางนั้นเริ่มที่จะมี
ความรู้สึกแปลกๆ และนางก็เข้าใจดีว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะสามารถ
คลายทุกข์ของนางได้ในตอนนี้นั้นก็คือทวนมังกรของบุรุษหนุ่ม
หลินหมิงเองก็เข้าใจความหมายในสิ่งที่นางต้องการเช่นกัน แต่
ถึงแม้ว่านางจะเอยห้ามให้เขาหยุดดังเช่นน้องสาวของนางเขาก็คิด
ว่าเขาก็ยังคงไม่อาจห้ามใจให้หยุดลงได้ง่ายนัก
ทวนมังกรของหลินหมิงค่อยๆแทงทะลวงเข้าไปในร่องรักของ
หญิงผู้พี่อย่างบ้าคลั่ง เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากร่อง
เพียงแต่ว่าไม่นานเลือดเหล่าล้วนต้องจางลงไปเพราะมีน้าใสๆ
จานวนมากไหลออกมาจากร่องรักของนางด้วยเช่นกัน
“ โอ้ยยย ซี๊ดดดดกด~~~~ ”
ร่างกายของหญิงสาวกระตุกถี่ขึ้นเรื่อยๆ ภายในร่องของหญิง
สาวนั้นมันดูนุ่มละมุนเสียยิ่งกว่าน้องสาวของนางแต่ถึงอย่างนั้นมัน
ก็ยังคงคับแน่นไม่ต่างกันมากนัก
หากเป็นดังเช่นในตอนแรกหลินหมิงคงต้องปล่อยน้าออกมาเป็น
จานวนมากไปแล้วเมื่อเขานาทวนมังกรแทงทะลวงเข้าไปได้สุดลา
เพียงแต่ในตอนนี้หลินหมิงยังคงสามารถอดทนเอาไว้ได้ หลินหมิงยัง
ไม่ต้องการให้การร่วมรักของเขาจบเร็วมากนัก
เขาแทงทะลวงทวนมังกรเข้าไปจนสุดและนามันค้างไว้เช่นนั้น
อยู่เพียงชั่วครู่เพียงให้เวลานางในการพักฟื้นตัวสักน้อยหลังจากจึง
เริ่มทาการขยับเอวอย่างช้าๆ
“ มะ..ไม่ไหว..แล้วเจ้าคะ... อ้าาา~~ ”
เพียงผ่านไปได้ไม่กลี่ มหายใจหญิงสาวผู้พี่ก็ไม่สามารถทนต่อ
ทวนมังกรอันยิ่งใหญ่ของหลินหมิงได้อีกต่อเช่นเดียวกันกับหลินหมิง
ที่ปลดปล่อยอารมณ์ราคะออกมาเต็มร่องของหญิงสาว
ภาพของสาวงามพี่น้องนอนหมดสภาพโดยที่ส่วนล่างของพวก
นางนั้นล้วนเปราะเปรื้อนไปด้วย น้าขาวขุ่นจานวนมากของหลินห
มิง มันทาให้อารมณ์ของเขาแทบจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งเพียงแต่ว่า
เขาก็คิดได้ว่าควรจะพอแค่นี้เสียก่อน
เพราะหากฝืนบังคับพวกนางมากจนเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อ
อนาคตความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกนางสองพี่น้องด้วยเช่นกัน
ส่วนทางด้านสองสาวนั้นพวกนางไม่คิดเลยว่าจะถูกบุรุษหนุ่มที่อ่อน
เยาว์กว่านางจะดูเหมือนจะไร้ซึ่งประสบการณ์จัดการพวกนางสอง
พี่น้องภายในช่วงเวลาไม่นาน
หากเป็นการร่วมรักระหว่างบุรุษและสตรีทั่วย่อมต้องกินเวลา
อย่างน้อยครึ่งชั่วยาม แต่ถึงอย่างนั้นพวกนางกลับพบว่ามันเป็น
ความสุขที่มากที่สุดที่ชีวติ นี้พวกนางเคยได้รับมากและนั้นไม่ใช่เป็น
เพียงเพราะความอ่อนโยนของบุรุษหนุ่มผู้นี้เท่านั้นแต่นั้นเป็นเพราะ
ขนาดทวนของเขาที่สามารถสยบสตรีทั้งหลายได้เพียงชั่วเวลาไม่
นาน
หญิงสาวคนน้องนางเริ่มรู้สึกว่าเรี่ยวแรงเริ่มกลับจึงค่อยๆลุก
อย่างเชื่องช้าเพื่อมาทาความสะอาดให้กับหลินหมิง เมื่อนางกาลัง
ทาความสะอาดร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงอยู่นนั้ จนมาถึงส่วนที่
เขาใช้ในการการาบพวกนางสองพี่น้องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบจาก
การรบอันร้อนแรง
กลิ่นอันร้อนแรงบวกกับสัมผัสน้าข่าวขุ่นที่อยู่เต็มภายในท้อง
ของนางในตอนนี้ ยังคงสามารถทาให้นางรู้สึหเสียวร่างกายอย่าง
บอกไม่ถูก
“ ข้าขออนุญาตินะเจ้าคะ ”
ไม่ทันทีห่ ลินหมิงจะทันได้กล่าวอะไร หญิงสาวคนน้องเริ่มทา
ความสะอาดทวนมังกรของหลินหมิงอย่างร้อนแรงเพียงแต่สิ่งที่นาง
ใช้ทาความสะอาดนั้นก็คือปากของนาง
ในความเป็นจริงแล้วสตรีนั้นจะไม่ทาเช่นนี้กับเหล่าบุรุษมิว่าจะ
เป็นใครก็ตามเพราะพวกเขาเหล่านั้นคิดเห็นว่าไม่เป็นเรื่องอัน
สมควรและสาหรับเหล่าบุรุษนั้นสตรีก็เปรียบเสมือนที่ระบาย
อารมณ์เพียงเท่านั้นจึงไม่มีใครคิดทาเช่นนี้มาก่อน
เพียงแต่สาหรับหญิงสาวผู้น้องนั้นนางในตอนนี้ได้ปล่อยตัวไป
ตามสัญชาตญาณของนาง นางจึงไม่อาจคิดได้ด้วยหลักเหตุผลแต่
อย่างใด
แม้ว่าสาสัมผัสภายในปากของหญิงสาวจะไม่สามารถเทียบได้
กับร่องของพวกนางที่คับแน่นและร้อนแรงยิ่งกว่าแต่มันกลับให้
ความรู้สึกเสียงที่ต่างกันเพราะว่าภายในปากของนางนั้นยังมีลิ้นของ
นางที่ตวัดรอบทวนของเขาไปมาจนสร้างความสุขให้เขาได้อย่างไม่
หยุดย่อน
จนกระทั่งเขาต้องปล่อยน้าขาวขุ่นจานวนมากออกมากอีกครั้ง
แต่คราวนี้พวกมันทั้งหมดล้วนถูกดูดกลืนไปโดยหญิงสาวผู้น้องโดย
ที่ใบนางราวกับว่านางได้รับประทานอาหารเลิศรวจากสวรรค์อย่าง
ใดอย่างนั้น

ตอนที่ 10
หลินหมิงหลังจากทาศึกสงครามร่วมรักกับหญิงสาวสองพี่น้อง
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบไปหาอาจารย์สาวของเขา อาจกล่าวได้
ว่าที่เขาสามารถปลดปล่อยความบริสุทธ์ของตนได้นั้นทั้งหมดล้วน
เป็นเพราะนาง หลินหมิงจึงมีความประทับใจในตัวอาจารย์สาวสวย
ของเขาอยู่ไม่ใช่น้อย
เพราะเรือ่ งในคราวนี้ไม่เพียงเขาจะสามารถได้ร่วมรักกับหญิง
สาวถึงสองคนในคราวเดียว แต่มันยังคงทาให้ระดับการบ่มเพาะ
ของเขาพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิมที่ในตอนแรกเขาอยู่ใน
ระดับปราณขั้นต้น ขั้นที่สี่แต่ในตอนนี้หลังจากผ่านเรื่องราวอัน
ร้อนแรงมาแล้วมันทาให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของขั้นที่ห้าระดับ
ปราณเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงพบว่าไม่ใช่เพียงพลังปราณในร่างกาย
ของเขาที่มีการเปลี่ยนแปลง ร่างกายของเขาล้วนมีความแข็งแกร่ง
มากขึ้นเช่นเดียวกัน
หลินหมิงเดินมาตามทางที่หญิงสาวพี่น้องได้บอกกล่าวเขาเอาไว้
ก่อนที่เขาจะจากพวกนางไปเดิมทีพวกนางต้องเป็นคนนาทางหลินห
มิง แต่เนื่องจากสภาพร่างกายของพวกนางในตอนนี้นั้นการจะให้
เดินเหินในทันทีนั้นคงจะยังเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ หลินหมิงจึงให้พวก
นางบอกทางให้แก่เขาก็เพียงพอ
หลินหมิงมาหยุดยืนที่หน้าห้องที่ดูมีขนาดกว้างขวางใหญ่โต มัน
อาจใหญ่กว่าห้องที่บรรดาเหล่าลูกพี่น้องเขาอาศัยอยู่ในตระกูลหลิน
นั้นถึงสี่ห้าเท่าเลยทีเดียว กลิ่นหอมโชยของหญิงสาว ผสมกับกลิ่น
ยาโอสถหลากชนิดจานวนมากลอยฟุ้งอยู่เต็มห้องหลังจากที่หลินห
มิงได้เขามาแล้วนั้นเขาพลันกวาดสายตาไปรอบๆ
ภายในห้องของอาจารย์สาวสวยของเขานั้นยังคงประกอบไป
ด้วยห้องย่อยไปอีก 3 ห้องด้วยกันแต่เขายังไม่สามารถทราบได้ว่า
ห้องเหล่านั้นไว้ใช้ทาอะไร
“ เร็วกว่าที่ข้าคิดอีกนะเนี่ย ”
หลินหมิงพลันหันไปสบตากับเจ้าของเสียงอันนุ่มนวลซึ่งมันจะ
เป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากอาจารย์สาวสวยของเขานั้นเอง เมื่อ
หลินหมิงได้เห็นนางนั่งยิ้มเยาะอย่างมีความสุขบนโต๊ะทางานขนาด
ใหญ่ของนางที่มีเอกสารและตาราจานวนมากอยู่เขาก็รู้ในทันทีว่า
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการของนางเพื่อที่จะผูกมัดเขาเอาไว้
แต่ถึงนางจะไม่ทาเช่นนี้หลินหมิงก็ไม่ได้คิดจะหนีจากไปไหนอยู่
แล้ว เขาต้องการที่จะพัฒนาตนเองให้รวดเร็วที่สุดดังนั้นเขาย่อม
ต้องมีผู้สนับสนุนที่ทรงอานาจ และด้วยอาจารย์สาวสวยของเขา
นางนับได้ว่าไม่ด้อยไปกว่าใครในเมืองนี้แม้แต่บิดาของเขาก็ตาม
“ ข้าขอขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส ”
จูหนิงเอ๋อนั้นนางรู้เป็นอย่างดีว่าหลินหมิงเพิ่งจะผ่านเกตุการณ์
ใดมา ด้วยตัวนางแม้จะนับได้ว่าอ่อนเยาว์สาหรับตาแหน่งประมุข
แต่นั้นเป็นเพราะความอัจริยะและความสามารถในการคิดอ่านที่เกิน
กว่าวัยของนางไปหลายขัน้ จึงทาให้นางสามารถรักษาตาแหน่งนี้
เอาไว้ได้หลายปี
“ ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าแล้วไม่ใช่รึ ”
“ ขอรับท่านอาจารย์ ”
หลินหมิงสามารถทาความเข้าใจกับคาพูดของอาจารย์สาวสวย
ของเขาได้ในทันที นางมิใช่ต้องการเพียงหยอกล้อหลินหมิงเล่น
เพียงเท่านั้นเห็นได้ชัดว่านางตั้งความหวังไว้กับตัวเขามากเพียงใด
มิเช่นนั้นนางคงไม่รับเขาที่สภาพดูไม่ต่างจากเด็กสามัญชนมาเป็น
ศิษย์ส่วนตัว
นางยังต้องการให้หลินหมิงได้ผ่อนคลายลงจากความกังวล ซึ่ง
นั้นนับเป็นเรื่องปกติสาหรับเด็กสามัญชนธรรมดาทัว่ ไปที่มโี อกาศ
ได้รับหนทางในการก้าวหน้าอย่างไม่สิ้นสุดนั้นจึงเป็นเหตุให้พวกเขา
เหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะเกิดความประหม่าและความกังวลภายในจิตใจ
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วนัน้ ตัวเขาไม่ได้มีความคิดเหล่านั้นในหัว
เลยแม้แต่น้อย แรงกดดันจากการที่เขาต้องทนทุกข์มาตั้งแต่เด็กนั้น
เป็นประสบการณ์ชั้นยอดที่ทาให้เขาสามารถรับกับสถานการณ์ที่
ยากลาบาก
อีกอย่างบรรยากาศโดยรอบตัวนางในตอนนี้ต่างจากตอนที่นาง
หมายจะเอาชีวิตของเขาในครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง ในตอนนั้นหลินหมิ
งหากเขาสามารถหนีนางได้แล้วละก็เขาคงไม่มีความคิดลังเลเลย
แม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้กลิ่นหอมโชยอันอบอวลของอาจารย์สาว
สวยที่อยู่ภายในห้อง
รวมกับท่าทางของนางทีด่ ูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นปฎิปักษ์ต่อเขา
อีกต่อมันจึงทาให้หลินหมิงไม่อยากที่จะจากอาจารย์สาวสวยคนนี้ไป
เลย อาจเรียกได้เพียงเขาได้อยู่ใกล้นาง ชมใบหน้าของนาง เชยชม
กลิ่นหอมหวนจากร่างกายของนางก็เพียงพอที่จะทาให้เขาแทบจะ
หันหลังกลับไปหาหญิงสาวสองพี่น้องอีกครั้ง !
“ เอาล่ะต่อจากนี้ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีหนทางของการเป็นนัก
ปรุงยาแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่เจ้ามีเปลวเพลิงที่แตกต่างจากคนอื่น
แล้วจะทาให้เจ้าประสบความสาเร็จ
เจ้าย่อมต้องอาศัยความมั่นเพียรเป็นอย่างมากในการศึกษา
เพราะเจ้าย่อมไม่มีพื้นฐานดั่งเดิมของนักปรุงยาแต่เจ้ายังมีข้อ
ได้เปรียบตรงที่ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าสามารถควบคุมเปลว
เพลิงของเจ้าได้อย่างชานาญ
ฉะนั้นขอเพียงแค่เจ้าศึกษาหาความรู้หนทางสู้การเป็นนักปรุงยา
เช่นข้าหรืออาจเหนือกว่าข้าย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ”
“ ท่านอาจารย์ตัวข้าไม่ได้สนใจเพียงทักษะปรุงยา ทางด้านวร
ยุทธ์ข้าเองก็..."
ก่อนที่หลินหมิงจะพลันได้กล่าวอะไรอาจารย์สาวสวยของเขายก
มือขึ้นห้ามพร้อมกับยิ้มให้เขาเล็กน้อย เพียงแค่นี้มันก็แทบจะทาให้
เขาอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าจู่โจมหากไม่มีเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่
สามารถโจมตีนางได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ เรื่องที่เจ้ากังวลข้าย่อมรับรู้ หนทางแห่งบุรุษส่วนใหญ่แล้ว
นั้นจะมุ่งสู่การเป็นนักรบเรื่องนั้นข้าย่อมเข้าใจดี และด้วยตานักของ
ข้าแห่งนี้แม้จะเป็นสถาบันนักปรุงยาแต่มันหาได้มีเพียงตาราปรุงยา
อย่างเดียวเท่านั้น

เจ้าสามารถที่จะฝึกฝนตารายุทธ์ต่างๆได้แต่นั้นเมื่อข้าเห็นว่าเจ้า
สามารถเข้าใจพื้นฐานของศาสตร์แห่งการปรุงยาได้ในระดับหนึ่ง
เท่านั้น ”
แม้ว่าตัวของหลินหมิงจะไม่อาจเรียนรู้ทักษะอื่นๆได้เนื่องจาก
เปลวเพลิงสีดาในร่างกายของเขาแต่เขานั้นค้นพบว่าเงื่อนไข
เหล่านั้นล้วนจากัดเพียงทักษะโจมตี หากเป็นทักษะเสริมกายา หรือ
ทักษะที่ส่งเสริมความสามารถเฉพาะตัวนั้นเขาย่อมสามารถที่จะ
เรียนรู้ได้
และหลินหมิงยังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากไม่ต้องสงสัยเลยว่าตา
ราวรยุทธ์ภายในสานักที่ยิ่งใหญ่เช่นสมาคมนักปรุงยานั้นย่อมเป็น
อะไรที่ไม่ธรรมดา
“ ข้าจะตั้งใจมั่นศึกษาพื้นฐานศาสตร์แห่งการปรุงยาเพื่อไม่ให้
อาจารย์ผิกหวัง ”
“ ฮ่าๆ ดีมากๆ ”
อาจารย์สาวสวยหัวเราะร่าอย่างมีความสุข แม้ว่าบุคคลิกของ
นางจะดูขัดต่อภาพลักษณ์ที่เปรียบดั่งราชินี แต่เรื่องเพียงเท่านี้ก็ไม่
สามารถบรรทอนคนามงามของนางลงได้เลยแม้แต่น้อย
“ ที่จริงข้าเองก็อยากสั่งสอนเจ้าเสียแต่วันนี้ แต่ตัวข้านั้นใน
สองสัปดาห์จะต้องเดินทางเพื่อออกทาธุระยังเมืองหลวง แต่เจ้าไม่
ต้องข้าได้เตรียมอาจารย์ที่จะสั่งสอนเจ้าแทนข้าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
และความสามารถของนางก็เทียบเท่าเหล่าผู้อาวุโสชั้นยอดเลย
ทีเดียวในแง่ของทักษะการปรุงยาที่สาคัญนางจัดได้ว่าเปรียบเสมือน
มือขวาของข้าเลยทีเดียว
แต่อย่างไรเสียข้าได้สั่งคนไปบอกกล่าวแก่นางแล้วในเวลา
กลางวันพรุ่งนี้นางถึงจะสามารถมาหาเจ้าได้ในระหว่างนี้เจ้าก็อาศัย
อยู่ตานักแห่งนี้และข้าอนุญาติให้เจ้าเข้าให้หอสมุดของตาหนักข้าได้
แต่ข้าไม่แนะนาให้เจ้าออกไปภายนอก เจ้าคงรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ส่วน
ใหญ่ล้วนมีแต่สตรีเพศการที่บุรุษเช่นเจ้ามาอาศัยนั้นอาจก่อให้เกิด
เหตุบางอย่างได้ ”
หลินหมิงใช้เวลาพูดคุยกับอาจารย์สาวชั่วครู่แล้วจึงค่อยออกมา
จากห้องของนาง แล้วจึงตรงไปที่ห้องของเขาในทันทีเพราะเขาอด
ไม่ได้ที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เขาได้รับโอกาศมาในตอนนี้

ตอนที่ 11
เช้าวันรุ่งขึ้นหลินหมิงตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชินจากการที่เขา
จะต้องคอยถูกรบกวนตั้งแต่เช้าจากบรรดาพี่น้องต่างแม่ ในค่าคืที่
ผ่านมานั้นนับได้ว่าเป็นคืนที่เขาได้หลับสบายมากที่สุดในรอบหลาย
ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
ความรู้สึกแข็งแกร่ง ความกังวล ความเคร่งเครียดจากที่ต้องอยู่
ภายในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรเพียงลาพังราวกับว่าเรื่องทุกอย่าง
เป็ยเพียงความฝัน เมื่อวานนี้ก่อนเข้านอนหลินหมิงได้ใช้เวลาใน
การศึกษาตาราเกี่ยวกับวิธีการปรุงยาเองอยู่บ้าง
เพราะเขาไม่ต้องการให้อาจารย์สาวสวยต้องผิดหวัง ถึงแม้เขา
จะเข้าใจดีว่าการทาความใจเกี่ยวกับตาราปรุงยานั้นย่อมไม่ใช่เรื่อง
ง่ายแต่อย่างใดแต่เมื่อเขาได้ลองศึกษาดูเพียงคราวๆ เขากลับพบว่า
มีหลายสิ่งทีภ่ ายในตารานั้นไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนและ
เขาไม่สามารถที่จะทาความเข้าใจกับมันได้
ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นขั้นตอนสาคัญมนการปรุงยาที่จะอธิบาย
วิธีการและกลักขั้นตอนต่างๆที่หลินหมิงพอจะสรุปได้ว่าก็คือการ
ปรุงยานั้นแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลักๆนั้นก็คือการกลั่น และการ
หลอมรวมโดยในขั้นแรกนักปรุงยาจะต้องทาการกลั่นวัตถุดิบต่างๆ
โดยใช้เปลวเพลิงของพวกเขา
และแน่นอนพวกเขาย่อมต้องควบคุมเปลวเพลิงในระดับที่
เหมาะสม และถ้ามันเป็นเปลวเพลิงที่มีความบริสุทธ์มากมันก็ยิ่งทา
ให้คุณค่าของวัตถุดิบจากการกลั่นนั้นสูงยิ่งขึ้นตามไปด้วย และใน
ขั้นต่อมาคือการหลอมรวมโดยจะนาเอาพลังงานจากวัตถุดิบที่ได้
จากการกลั่นในตอนแรกมาทาการหลอมรวมกัน
โดยในขั้นตอนนี้หลินหมิงพบว่ามันช่างยากโดยแท้จริงเพราะไม่
เพียงแต่จะต้องควบคุมระดับเปลวเพลิงที่เหมาะสมยังต้องมีสายตา
ที่เฉียบแหลมในการหาจังหวะช่วงเวลาที่เหมาะสมในการหลอมรวม
อาจการได้ว่าหากทิ้งระยะเวลาจากช่วงการกลั่นไว้เป็นเวลานานก็
จะทาให้พลังงานรั่วไหล
แต่หากทาการหลอมรวมในทันทีมันก็เป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป
เพราะระดับพลังงานยังไม่เสถียร อีกทั้งยังต้องมีความชานาญใน
การจัดลาดับการหลอมรวมเพื่อเกิดความสูญเสียพลังงานให้น้อย
ที่สุดอีกด้วย
หลินหมิงใช้เวลาในการรับประทานอาหารเช้าเพียงลาพังในตอน
แรกเขาคาดหวังว่าหญิงสาวสองพี่น้องจะเป็นคนมาดูแลเขา แต่เขา
กลับต้องผิดหวังเพราะว่าคนรับใช้ที่นาอาหารมาให้เขาบอกว่าพวก
นางทั้งสองตอนนีก้ าลังนอนจับไข้และคงไม่หายในเร็ววันหลินหมิง
ใช้เวลาที่เหลือในการอ่านทาความเข้าใจตาราปรุงยาต่อไปเพื่อรอ
อาจารย์ที้จะมาสอนแทนจนกระทั่งในช่วงบ่าย

“ คุณชายเจ้าคะ..ผู้อาวุโสมาแล้วเจ้าคะ ”
เสียงข้ารับใช้หญิงสาวดังขึ้นทาให้หลินหมิงรู้ในทันทีว่าอาจารย์
ชั่วคราวของเขานั้นได้มาถึงแล้ว หลินหมิงรู้มาจากอาจารย์สาวสวย
ของเขาว่าคนที่จะมาทาการสอนแทนเขานั้นก็คือผู้อาวุโสซูหลิ่ง
นางเป็นครที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอาจารย์สาวของเขานั้นคือ
ราว 30 กว่าปี แต่ถึงอย่างนั้นนางนับว่าเป็นอัจริยะทางด้านการปรุง
ยาที่หาตัวจับได้ยากแม้วา่ นางจะไม่มีพรสวรรค์ทางด้านวรยุทธ์มาก
เท่าไหร่นักก็ตามที่
หลินหมิงก้าวออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว เขามีประสว
การณ์ที่ไม่ค่อยดีนักในตอนที่เขาทาให้อาจารย์สาวของเขาต้องโกรธ
เคืองและเขาจะพยายามไม่ให้เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นอีกเพื่อลด
อุปสรรคที่จะขัดขวางทางก้าวหน้าของเขา
เมื่อหลินหมิงก้าวเขามาภายในห้องเขาก็พบกับหญิงสาวใบหน้า
งดงาม ผิวของนางขาวพุดผ่องแลดูเรียบจนชวนน่าสัมผัสไม่เพียง
เท่านั้นขนาดสัดส่วนตามร่างกายของนางสามารถบ่งบอกได้อย่าง
ชัดเจนว่านางเป็นหญิงที่มีรูปร่างสมบูรณ์จนอยู่ในระดับเดียวกันกับ
อาจารย์สาวสวยของเขา !
เพียงแค่เหล่าได้เพียงมองสัดส่วนโค้งเว้าตามร่างกายของหญิง
สาวผู้นี้ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทาให้พวกเขาเหล่านั้นตกต้องอยู่
ภายใต้อาณัติของนางอย่างไม่มีเงื่อนไข เดิมทีหลินหมิงคิดว่า
อาจารย์สาวสวยของเขาเป็นข้อยกเว้นเดียวที่ทาให้นางเอาชนะ
กาลเวลาและยังดูงดงามราวกับหญิงสาววัยรุ่น
แต่กลับหญิงงามตรงหน้าที่มีอายุไม่ต่างจากอาจารย์สาวของเขา
มากนักนางก็ยงั คงมีใบหน้าที่งดงามไม่ปรากฎร่องรอยที่มักเกิดขึ้น
ตามกาลเวลาเลยแม้แต่น้อย จนเขาอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเป็นไปได้
หรือไม่ว่ามันจะมีโอรถที่ทาให้ร่างกายของพวกนางไม่เคลื่อนไหว
ตามกาลเวลา ?
“ เจ้าเองงั้นรึ ”
น้าเสียงแรกของหญิงสาวดังขึ้นพร้อมตัวของหลินหมิงที่พลันตัง้
สติเบิกคิดเรื่องฟุ้งซ่านทุกอย่าง น้าเสียงของนางดูดุดันและน่าเกรง
ขามถึงแม้ว่าอาจารย์สาวสวยของเขาจะบอกว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งผู้นี้จะ
ไร้พรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้แต่เมื่อเขาลองประเมิณดูคราวๆความ
แข็งแกร่งของนางนั้นน่าจะประมาณขั้นกลางของระดับก่อเกิดซึ่ง
ระดับพลังเพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทาให้เขาบอกลาวันพรุ่งนี้ไป
อย่างง่ายดาย
“ ขอรับ..ข้าฮั่วหมิงขอรบกวนผู้อาวุโสโปรดสอนสั่ง ”
หลินหมิงก้มลงเคารพด้วยความนอบน้อมและไม่ลมื ที่จะเปลี่ยน
แซ่เดิมของเขาเหมือนกับตอนที่เขาได้บอกกล่าวแก่อาจารย์สาวสวย
สายตาของผู้อาวุโสซูหลิ่วกวาดมองหลินหมิงอย่างพิจรณาราวกับ
ว่านางสามารถตรวจสอบเขาได้ทุกอย่างเพียงแค่การมอง
“ ฮึ่ม เอาเถอะข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประมุขคิดเช่นไรที่นาเจ้ามา
เป็นศิษย์ส่วนตัวแต่นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องของข้าอยู่แล้ว ยูร์เอ๋อเจ้าเข้า
มาได้แล้ว ”
สิ้นเสียงของนางหลินหมิงก็หันกลับไปมองตามเสียงฝีเท้าที่ค่อย
ก้าวเข้ามาภายในห้องนี้ กลับกลายเป็นหญิงสาวทีง่ ดงามราวกับ
เทพธิดาอีกองค์หนึ่งในชีวิตนี้เขาเคยเห็นหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้
เพียงแค่สามคนด้วยกันและทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นภายในสองวัน
“ ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์ ”
หญิงสาวทีม่ าใหม่ก้มหัวคาราวะให้กับอาวุโสซูหลิ่งกริยาท่าทาง
ของนางช่างงดงามและดูสูงส่งความงามของหญิงสาวที่
เปรียบเสมือนเทพธิดาทั้งสามสาหรับหลินหมิงแล้วพวกนางนั้นต่าง
มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป อาจารย์สาวสวยของเขานางดูเป็นคน
ร่างเริงและไม่ค่อยถือตัว
อาวุโสซูหลิ่งนั้นหากดูเพียงผิวเพินนางออกไม่ต่างจากสตรีที่เข้า
มาใหม่แต่ด้วยอายุและวุฒิภาวะที่มากกว่าของนางจึงทาให้นางดู
เหมือนเป็นคนที่เจ้าระเบียบและเคร่งครัดตามกฎ ส่วนสตรีคน
สุดท้ายนางเปรียบเสมือนราชินีน้าแข็งที่ไม่มีวันถูกหลอมละลาย
กริยาท่าทางแม้แต่ในตอนที่นางยืนอยู่ห่างเจ้าเขาไปไม่ไกลนักหลินห
มิงยังสัมผัสได้ถึงอ่อร่าอันสูงส่งที่แผ่ออกมาจากตัวนาง พร้อมกับ
สายตาของนางที่มองมาที่หลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความดูถูกเห็นได้
ชัดว่านางพอจะทราบเรื่องราวของเขามาบ้าง
“ นี้คือศิษย์ส่วนตัวของข้า หลิวฉวนยูร์ ”
‘ หลิว ! หนึง่ ในตระกูลใหญ่เช่นเดียวกันกับตระกูลหลิน มิน่า
นางถึงได้มีทีท่ายะโสโอหังเช่นนี้ ’
“ งั้นในวันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าเกี่ยวกับพื้นฐานในการปรุงยา
ส่วนเจ้ายูร์เอ๋อข้าอยากให้เจ้าลองปรุงยาระดับ 3 ให้ข้าจะเป็นอะไร
ก็ได้ ”
นักปรุงยานั้นแบ่งออกเป็น 10 ระดับด้วยตามระดับของโอสถที่
พวกเขาสามารถปรุงได้และแน่นอนว่ามันยังถูกแบ่งย่อยลงไปอีก
สามระดับตามความบริสุทธ์ของโอสถนั้นก็คือระดับขั้นเริ่มต้น ขั้น
กลาง และขั้นสูงรวมเป็นทั้งหมด 30 ขั้น
นักปรุงยาส่วนใหญ่นั้นจะสามารถปรุงยาในระดับสอง หรืออาจ
ระดับสามนั้นย่อมเป็นเรื่องปกติแต่สาหรับหญิงสาวผู้มาใหม่เห็นได้
ชัดว่านางอายุไล่เลี่ยกับเขานั้นจึงเป็นเหตุผลให้หลินหมิงได้แต่ตะลึง
งันกับความสามารถของหลิวฉวนยูร์

ตอนที่ 12
ไม่เพียงแต่นางจะมีพรสวรรค์ในด้านการปรุงยาสัมผัสจากพลัง
ปราณที่แผ่ออกมาจากตัวนางราวกับว่านางกาลังต้องการที่จะข่ม
เหงหลินหมิง สายตาของนางที่จ้องมองมาที่หลินหมิงเต็มไปด้วย
ความดูถูกและเหยียดแรงกดดันนี้มันอาจเรียกได้ว่ามากกว่าของ
หลินชู น้องชายต่างแม่ที่เขามักจะเป็นคู่ซ้อมให้ในคราวที่อยู่ที่
ตระกูลหลินนั้นแสดงว่าหญิงสาวตระกูลหลิวผู้นยี้ ่อมมีพลังไม่ต่าไป
กว่าระดับเจ็ดปราณเริ่มต้น !
หลิวฉวนยูร์ตอบรับคาจากอาจารย์ของนางอย่างว่าง่ายการที่คน
ส่วนใหญ่จะก้าวมาถึงที่ในตาแหน่งนักปรุงยาระดับสามนั้นพวกเขา
อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการศึกษา และบ่มเพาะประสบการณ์ของ
พวกเขาแต่หญิงสาวอายุ 15 นางนี้นางกลับพยักหน้าคาบอกกล่าว
ของอาจารย์ของนางราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่นางทาอยู่ทุก
วันอย่างใดอย่างนั้น
แน่นอนว่าหลินหมิงย่อมต้องรู้จักชื่อของหลิวฉวนยูร์ไม่ใช่เพียง
เพราะพรสวรรค์ของนางที่นับได้ว่าหาตัวจับได้ยากทั้งในเรื่องของ
การต่อสู้และทางด้านการปรุงยา แต่นางยังเป็นถึงคู่หมั้นของ
น้องชายร่วมสายเลือดของเขาหลินชูอีกด้วย แต่หลินหมิงนั้นรู้ดีว่า
การหมั้นในครั้งนี้ดูเหมือนว่าตัวของหญิงสาวนั้นไม่ได้เต็มใจแต่เป็น
ทางด้านผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลเป็นคนตกลงกัน ซึ่งมันเห็นได้จาก
การที่หลินชูนั้นมักจะกลับมาจากตระกูลหลิวด้วยใบหน้าโกรธเป็น
ฝืนเป็นไฟ จนมันต้องมาระบายที่เขา
หลิวฉวนยูร์นางเดินไปนัง่ ยังจุดที่ห่างออกจากหลินหมิงพอ
สมควร แม้ว่านางจะเป็นคนที่เย่อยิ่งแต่นางยังคงให้ความเคารพ
อาจารย์ของนางเป็นอย่างมาก หลินหมิงไม่ได้เก็บท่าทางของหลิวฉ
วนยูร์มาสนใจมากนักเช่นเดียวกันกับอาวุโสซูหลิ่งทีด่ ูเหมือนว่านาง
จะชินชากับพฤติกรรมเช่นนี้ของศิษย์นางไปเสียแล้ว
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยในแต่ละวันนั้นหลินหมิงได้เพียง
รับคาสอนจากอาวุโสซูหลิ่งรวมถึงการที่เขาได้ถามบางเรื่องที่ยังไม่
เข้าใจ ต่างจากหลิวฉวนยูร์ที่ดูเหมือนว่าบทเรียนของนางนั้นจะเน้น
ไปในด้านการปฏิบัติแสดงให้เห็นได้ชัดว่านางมีพื้นฐานในด้านการ
ปรุงยาที่ดีเลิศ ซึ่งขาดเพียงประสบการณ์ที่ต้องคอยให้ผู้อาวุโส
ชี้แนะในบางจุด
“ เอาล่ะ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ทดลองปรุงยาเป็นครั้งแรกแน่นอน
ว่าเจ้าไม่ต้องเคร่งเครียดไปกับมันมากนักเนื่องจากเจ้าพึ่งใช้เวลา
เรียนรู้มาได้ไม่นานนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด วัตถุประสงค์
แท้จริงของข้าคือต้องการให้เจ้าได้ลองปฎิบัติจริงดูบ้างเพียงสักครั้ง

ได้ยินคาของผู้อาวุโสซูหลิ่งหลินหมิงแทบกระโดดโห่ร้องด้วย
ความดีใจหลายวันที่ผ่านมาเขาได้เก็บความอดกลั้นในการที่จะได้
ปรุงยาไว้อย่างมาก ยิ่งการที่เขาได้เห็นหลิวฉวนยูรป์ รุงยาในแต่ละ
วันที่เป็นถึงอย่างระดับจานวนราวๆ 4-5 ขวดในแต่ละวันมันทาให้
เขาแทบจะกักเก็บน้าลายในปากไม่ให้ไหลออกมาไปไม่ได้
ด้วยยาระดับที่นางปรุงขึน้ ในแต่ละวันนั้นมีทั้งยาทีช่ ่วยในการบ่ม
เพาะ ยาที่ช่วยในการรักษาบาดแผล หรือกระทั่งยาแก้พิษ โดยส่วน
ใหญ่แล้วผู้คนมักจะศึกษาไปทางด้านเดียวเสียมากกว่าและนั้นย่อม
ต้องเป็นโอสถประเภทบ่มเพาะแต่กลับหญิงสาวที่อายุเท่าเขานาง
กลับมีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อจนหลินหมิงไม่อาจทราบได้ว่า
นางไปนาเวลามาจากไหนในการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้
วัตถุดิบจานวนมากรวมถึงหม้อปรุงยาถูกนาออกมาจากแหวน
มิติที่ส่วมอยู่บนนิ้วเรียวงามของผู้อาวุโสซูหลิ่ง หลินหมิงพอจะจา
ลักษณะของโอสถที่เขาจะต้องปรุงได้ว่ามันจะต้องใช้วัตถุดิบใดบ้าง
และจากที่เขาเห็นวัตถุดิบที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งนาออกมานั้นย่อมเป็น
วัตถุดิบสาหรับทายาบ่มเพาะระดับหนึ่ง
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงยาบ่มเพาะระดับหนึ่งแต่ราคาของมันก็นับ
ได้ว่าไม่ถกู นักมันเหมาะสาหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้มีตระกูลหนุนหลัง
หรือมีฐานะที่ร่ารวยโดยราคาของมันอยู่ที่ราวๆ 100 เหรียญตาม
ความบริสุทธ์ของยาที่สามารถปรุงได้โดยที่รายได้ของคนทั่วไปที่เป็น
ชาวยุทธ์นั้นจะอยู่ที่ 3000 เหรียญ แต่หากเทียบกันกับยาของแม่
นางหลิวฉวนยูร์ที่เป็นระดับสามแล้วละก็ราคาขั้นต่าของมันล้วน
เริ่มต้นที่ 1500 เหรียญเป็นอย่างน้อยเห็นได้ชัดว่ามันมีช่องว่าง
ขนาดใหญ่ระหว่างนักปรุงยาในแต่ละระดับชั้น
“ เนื่องจากนี้เป็นครั้งแรกของเจ้าดังนั้น ข้าจะให้คาแนะนาเจ้า
ในส่วนของช่วงเวลาการกลั่นวัตถุดิบ ”
“ ขอรับผู้อาวุโส ”
“ เอาล่ะเช่นนั้นเจ้านาหม้อปรุงยานี้ไปพร้อมกับวัตถุดิบเหล่านี้
หลังจากนั้นก็เริ่มทาการเรียกเปลวไฟของเจ้าออกมาได้แล้ว ”
หลินหมิงรับของทั้งหมดมาวางเรียงข้างตัวเพื่อให้ง่ายแก่การ
หยิบจับมีเพียงหม้อปรุงยาเท่านั้นที่ถูกตั้งเอาไว้ที่ดา้ นหน้าของเขา
หลินหมิงหลับตาลงเพื่อทาการเรียกสมาธิเข้าสู่ต้นเถียนของเขาอีก
ครั้งในตอนนี้เขาไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆเกี่ยวกับภายในต้นเถีย
นของเขาอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าในยามดึกนั้นในช่วงที่เขาหลับนอน
อยู่เขากลับพบว่าตัวเขาเปรียบเสมือนได้เข้ามาภายในโลกที่คล้ายๆ
ภายในต้นเถียนของเขาที่โลกแห่งนั้นหลินหมิงสามารถทาความ
เข้าใจทักษะเปลวเพลิงของเขาได้อย่างต่อเนื่องจนทาให้รู้สึกเคยชิน
กับเปลวเพลิงสีดานี้เป็นอย่างมากราวกับว่ามันเป็นสหายสนิทของ
เขาเพียงคนเดียวในโลกใบนี้
หลินหมิงลืมตาขึ้นช้าๆด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลิวฉวนยูร์หันมามองที่หลินหมิงด้วยสายตาปนดูถกู ยิ่งกว่าเดิมใน
สายตาของนางนั้นตัวตนของหลินหมิงไม่นับว่าเหมาะสมกับการได้
ตาแหน่งศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคมนักปรุงยาที่ขนาดนางยังไม่
เหมาะสม แต่กลับเด็กหนุม่ บ้านนอกผู้นี้แล้วมันกลับได้เป็น ? นี้ไม่ใช่
แปลว่านางนั้นด้อยกว่ามันหรอกหรือ ?
เปลวเพลิงสีดาทมิฬค่อยๆปกคลุมมือทั้งสองข้างของหลินหมิงอ
ย่างช้าๆราวกับว่ามันต้องการกลืนกินมือของหลินหมิงให้หายไป สี
หน้าของผู้อาวุโสซูหลิ่งเปลี่ยนเป็นตะลึงงันเช่นเดียวกันกับหลิวฉวน
ยูร์หลังจากที่พวกนางได้เห็นเปลวเพลิงของหลินหมิง แต่กลับหลินห
มิงนั้นเขาไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใดเขาสามารถที่จะควบคุม
เปลวเพลิงทมิฬนี้ได้อย่างใจนึก
ปัญหาเดียวในตอนแรกทีเ่ ขามีก็คือการที่มันกินพลังปราณไป
มาก แต่เมื่อเขายกระดับพลังปราณมาอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นที่ห้า
ระดับเริ่มต้นนั้นจึงทาให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบน้อยลงอย่างเห็นได้
ชัด
“ ผู้อาวุโสข้าต้องทาสิ่งใดต่อไป ”
เสียงของหลินหมิงพลันเรียกสติของซูหลิ่งให้หายจากอาการตก
ตะลึงโดยพลัน เช่นเดียวกันกับอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงนาง
เองก็ยังไม่เคยเห็นเปลวเพลิงสีดาทมิฬเช่นนี้มาก่อน มันถึงขนาดทา
ให้นางตกอยู่ในความกลัวไปชั่วขณะหลังจากได้เห็นเปลวเพลิงสีดา
ที่ดูไร้จุดสิ้นสุดนี้ อีกทัง้ ความบริสุทธ์ของเปลวเพลิงชนิดนับได้ว่ามัน
ไม่มีอะไรที่จะสามารถมาเปรียบเทียบได้เรียกได้ว่ามันเป็นเปลวเพลิง
ที่ปราศจากมลทินร้อยเปอร์เซ็นต์ !
หลินหมิงค่อยๆทาการกลัน่ วัตถุดิบต่างๆตามลาดับขั้นตามที่ผู้
อาวุโสซูหลิ่งเป็นคนบอกเดิมทีตัวเขาคิดว่าเพียงแค่ขั้นตอนการกลั้น
นั้นก็ยากยิ่งสาหรับเขาแล้วแต่มันหาได้เป็นปัญหาสาหรับเขาไม่
พลังงานของวัตถุดิบต่างๆถูกกลั่นออกมาอย่างบ้าคลั่งและรวดเร็ว
มันต่างจากตาราที่เขาอาจโดยสิ้นเชิง โดยปกติแล้วเพียงแค่ขั้นตอน
การกลั่นวัตถุดิบนัน้ ย่อมตกกินเวลากว่าครึ่งชั่วยามหากเป็นมือใหม่
เช่นหลินหมิงแต่ขั้นตอนการกลั่นวัตถุของหลินหมิงเกือบจะเสร็จ
ภายในเวลาเพียงแค่ชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป
ด้วยความเร็วขนาดนี้มันอาจเรียได้ว่าใกล้เคียงกันกับนางที่อยู่ใน
ตาแหน่งผู้อาวุโสแม้ว่าตัวของหลินหมิงจะได้เปรียบในเรื่องของการ
ที่เขาไม่ต้องคอยสังเกตจังหวะในการกลั่นวัตถุดบิ ต่างๆ รวมถึง
ลาดับขั้นที่นางจะเป็นคนคอยตรวจสอบให้แต่มันก็ยังถือได้ว่าเป็น
ความเร็วที่น่าตกใจ จนถึงขนาดที่ว่าหลิวฉวนยูร์ยงั ไม่อาจสามารถ
ทาได้ด้วยความเร็วเท่านี้นางนั้นถือเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงแต่ถึง
อย่างนั้นนางต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งก้านธูปครึ่งในการจัดการ
ขั้นตอนการกลั่นวัตถุดิบ
สีสันของพลังงานบริสุทธ์จานวนมากภายในหม้อปรุงยาของ
หลินหมิงมันทาให้เขาอดที่จะดีใจไปไม่ได้ เขาไม่ได้หันไปสังเกต
อาการของหญิงสาวทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่หลิวฉวนยูร์
ที่ในตอนแรกนางรักษาระยะห่างจากหลินหมิง นางถึงกับต้องค่อยๆ
ขยับร่างกายเข้ามาใกล้ๆเพื่อพิจรณาถึงสิ่งที่หลินหมิงกาลังทาอยู่
พลังงานต่างๆจากวัตถุดบิ คอยๆถูกหลอมรวมโดยหลินหมิงโดย
ที่มีผู้อาวุโสซูหลิง่ คอยแนะนาด้วยอาการตื่นเต้น การดาการใน
ขั้นตอนนี้ค่อยๆเป็นไปอย่างเชื่องช้าเพราะหลินหมิงยังคงไม่คุ้นชิน
เกี่ยวกับพลังงานต่างๆว่าเป็นของวัตถุดิบชนิดใด อาจเรียกได้ว่าใน
ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชานาญเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับพบว่าพลังงานที่ได้จากการกลั่น
วัตถุดิบเหล่านั้นไม่มที ีท่าว่าจะลดลงไปเลยแม้แต่นอ้ ยราวกับว่า
ในตอนนี้พวกมันล้วนถูกผูกมัดเอาไว้โดยเปลวเพลิงสีดาของเขานั้น
จึงเป็นเหตุให้หลินหมิงไม่รีบร้อนและดาเนินการต่อไปด้วยความใจ
เย็น
ผู้อาวุโสหลิ่งแอบยิ้มชื่นชมหลินหมิงภายในจิตใจหากเป็นคน
ธรรมปกติโดยทั่วไปพวกเขาจะกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนนี้มากและ
มักจะเร่งจนทาให้พลังงานเกิดการเสียความสมดุลซึ่งนางเองก็เป็น
หนึ่งในนั้นเห็นได้ชัดว่าทาไมประมุขสมาคมนักปรุงยาถึงได้รับเด็ก
หนุ่มผู้นี้มาเป็นศิษย์ส่วนตัวของนางไม่เพียงแต่เขาจะมีเปลวเพลิงที่
น่าอัศจรรย์อีกทั้งสมาธิของเขาล้วนอยู่ในระดับที่สูงเลยทีเดียวสิ่ง
เดียวที่เขาขาดในตอนนี้ก็คือประสบการณ์และความรู้พื้นฐานเพื่อรอ
วันที่เติบโตจนมีความสามารถในระดับนางหรือสูงกว่าเสียด้วยซ้าไป

ตอนที่ 13
ครึ่งชั่วยามผ่านไปในที่สุดการปรุงยาครั้งแรกของหลินหมิงก็
สิ้นสุดลงด้วยการประสบความสาเร็จอย่างสวยงาม มันเป็นโอสถ
สาหรับบ่มเพาะระดับหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่ามันอยู่ในขั้นสูงเลยทีเดียว
สาหรับการปรุงยาครั้งแรกแล้วได้ผลรับเช่นนี้นับได้ว่าตัวตนของ
หลินหมิงในสายตาของซูหลิ่งนั้นเด็กหนุ่มผู้นี้นับได้ว่าเป็นอัญมณี
โดยแท้จริง
“ เยี่ยม เยี่ยม สมแล้วที่เจ้าเป็นคนที่ท่านประมุขยอมรับ ”
“ แฮ่กๆ..ขะ..ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่ชี้แนะ ”
หลินหมิงนั้นหลังจากใช้เปลวเพลิงสีดาไปเกินกว่าหนึ่งชั่วยาม
เขาพบว่าพลังปราณในร่างกายของเขาสูญหายไปกว่าครึ่งนั้นจึง
เป็นเหตุให้เขาเกิดอาการเหนื่อยอ่อน ผู้อาวุโสซูหลิง่ เห็นอาการของ
หลินหมิงนางเองก็พอเข้าใจอยู่บ้างสาหรับนักปรุงยาที่มีเปลวเพลิงที
แสนวิเศษเช่นนี้การที่มันกินพลังงานมากกว่าเปลวเพลิงทั่วไป 2-
3 เท่านั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดาแต่นางไม่ได้รู้เลยว่าในการปรุงยานั้น
เปลวเพลิงของหลินหมิงได้ช่วยเขาเอาไว้เป็นอย่างมาก
หลิวฉวนยูร์ที่ได้เห็นภาพของอาจารย์ของนางยิ้มมีความสุข
ให้กับหลินหมิง นางพลันเกิดความรู้โกรธเกรี้ยวขึ้นมาภายในจิตใจ
บรรดาคนรุ่นเยาว์ที่อายุไล่เลี่ยกันกับนางนับได้ว่าหาคนที่มี
ความสามารถเทียบเคียงนางนั้นแทบจะนับได้ด้วยมือข้างเดียว ใน
ตอนแรกนางเพียงคิดว่าหลินหมิงเป็นเพียงเด็กบ้านนอกที่ประมุข
สมาคมนักปรุงยาหวังจะชุบเลี้ยงเพื่อเพิมพูนชื่อเสียงของนาง
แต่กลับกลายเป็นว่ามันกลายเป็นเพชรในตมเสียนี้ อีกทั้ง
พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มทีอ่ ายุเท่านางผู้นี้ดูเหมือนว่าจะสูงส่งยิ่งกว่า
นางไปหลายขุมจนไม่อาจสามารถนาไปเทียบกันได้เลยทีเดียว
“ ข้าเพียงช่วยเหลือเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เอาล่ะดูเหมือนว่า
ในวันนี้เจ้าจะเหนื่อยพอสมควรดังนั้นแล้วในวันนี้กพ็ อเท่านี้ก็แล้ว
กัน และข้าจะบอกข่าวแก่ท่านประมุขเรื่องความสาเร็จของเจ้าด้วย
เพราะฉะนั้นในตอนที่นางกลับมาเจ้าก็รอรับรางวัลจากนางเสียล่ะ มี
เรื่องไม่กี่อย่างหรอกที่จะทาให้นางนั้นมีความสุขและแน่นอนว่าเรื่อง
ของเจ้านับเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอนข้ามั่นใจ ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งค่อยๆก้าวเดินออกไปจากห้องด้วยรอยยิ้มที่เต็ม
เปี่ยมไปด้วยความสุขพร้อมกับหลิวฉวนยูร์ การทีม่ ีอัจริยะเกิดใน
สมาคมนั้นย่อมเป็นเรื่องทีด่ ีกว่าการที่ได้รับอัจริยะทั้งหลายที่มีฐานะ
จากตระกูลต่างๆเพราะในท้ายที่สุดพวกเขาเหล่านั้นส่วนใหญ่ล้วน
แต่ไม่ได้อยู่ทสี่ มาคม อีกทัง้ การปรากฎขึ้นของหลินหมิงที่เป็น
อัจฉริยะนั้นเป็นการการันตีว่าสมาคมจะไม่ขาดแลคนรุ่นเยาว์จาก
คนในของสมาคมที่มีความสามารถ
“ ข้าไม่ยอมแพ้เจ้าแน่ ! ”
หลิวฉวนยูร์กล่าวคาออกไปกระซิบข้างหูของหลินหมิงหากเขา
ไม่นึกถึงคาพูดในความหมายของนางนี้นับได้ว่าเป็นประสบการณ์
อย่างดีเยี่ยมในการที่มีสาวงามเช่นคุณหนูจากตระกูลหลิวมากระซิบ
ข้างหูอีกทั้งยังได้ดมกลิ่นกายของนางในระยะชิดใกล้
หลินหมิงล้มตัวลงอย่างอ่อนล้าพร้อมถุงเงินจานวน 100 เหรียญ
ที่ผูอาวุโสซูหลิ่งเป็นนามาให้เขาโดยนางอ้างว่านี้เป็นส่วนแบ่งจาก
การที่นางจะนายาขวดนี้ของเขาออกขาย โดยนางบอกว่าด้วยการที่
มันเป็นโอสถคุณภาพสูงราคาของมันย่อมอยู่ที่
ประมาณ 150 เหรียญเป็นอย่างน้อย นี้นาเป็นเงินสะสมก้อนแรก
ของเขาแม้ว่ามันจะเป็นจานวนไม่มากก็ตามที่ แต่เขาเชื่อมั่นว่าหาก
ให้เวลาเขาเติบโตขึ้นเรื่อยๆแน่นอนว่าการที่เขาจะทาให้บิดาของ
เขาและบรรดาญาติต้องเสียใจกับสิ่งที่ทาในอดีตได้อย่างแน่นอน
หลินหมิงกลับเข้ามาพักผ่อนภายในห้องของตนเองเขาไม่เคยคิด
มาก่อนเลยว่าเปลวเพลิงสีดาของเขานั้นไม่เพียงแต่มันจะเป็นทักษะ
ที่ใช้ในการต่อสู้ชั้นยอดจนยากแก่การที่จะสรรหาทักษะอื่นมา
เปรียบเทียบแต่มันยังสามารถช่วยเขาในขั้นตอนการปรุงยาอีกด้วย
ในระหว่างที่หลินหมิงกาลังนอนพักอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงของหญิงสาว
ที่คุ้นเคย
“ คุณชายเจ้าคะ ผู้อาวุโสซูหลิ่งให้ข้ามาดูแลคุณชายเจ้าคะ ”
ซึ่งมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหญิงสาวผู้พี่ที่เขาได้เคยร่วมรัก
กับนางมาก่อนนั้นเองหลังจากในครั้งนั้นไม่น่าเชื่อว่านางต้องพักฟื้น
ไปร่วมสามวัน เมื่อนางก้าวเข้ามาภายในห้องนางก็พบกับบุรุษผู้ที่
ช่วงชิงเอาความบริสุทธ์ของนางไปใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความ
เขินอาย ในความเป็นจริงแล้วตรงบริเวณร่องรักของนางนั้นยังคงไม่
หายจากอาการบาดเจ็บที่ถูกหลินหมิงเข้าเล่นงานนางจึงอ้างว่าไม่
สบายทั้งทีจริงแล้วนางหายป่วยเสียตั้งแต่วันแรกแล้วนางกลัวว่า
หลินหมิงจะกระทาการจู่โจมนางอีก
แต่ในเมื่อนี้เป็นคาสั่งของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่เปรียบเสมือนดังมือ
ขวาของประมุขนางจึงมิอาจทาสิ่งใดได้ แต่ลึกๆในใจของนางนั้น
นางยังคงแอบดีใจที่ได้เจอกับหลินหมิงอีกครั้ง
“ เจ้านั้นเอง ”
หลินหมิงเมื่อเห็นนางเขาจึงอดที่จะไม่คิดไปถึงเรื่องราวที่เขากับ
นางได้ร่วมรักกับนางและน้องสาวของนางไปไม่ได้ ใบหน้าของหญิง
สาวแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูเมื่อนางได้เห็นบุรุษที่นางได้มอบหัวใจ
และร่างกายจ้องมองมาที่นางด้วยสายตาเร่าร้อน
“ เจ้ายังเจ็บอยู่งั้นรึ ”
หลินหมิงยิ้มขึ้นอย่างสนุกสนานพร้อมกับเดินไปโอบร่างกายของ
นางเอาไว้เพื่อสูดดมกลิ่นของหญิงสาวในระยะใกล้ชิด แล้วประคอง
นางให้นั่งลงบนเตียงข้างๆเขา หัวใจของหญิงสาวพลันเต้นระรั่วขึ้น
เรื่อยๆนางรู้สึกดีที่ได้ยินถ้อยคาที่หลินหมิงเอยถามความรู้สึกของ
นาง
นางยอมรับว่าในคืนแรกหลังจากการร่วมรักกับนางและหลินห
มิงนั้นนางแทบจะนอนไม่หลับเลย เพราะนางยังคงรู้สึกถึงทวนมังกร
ของหลินหมิงในตอนที่เขาใช้มันแทงทะลวงเข้าสู่ตัวนางเพียงแค่
นางคิดเช่นนั้นร่องของนางก็พลันเกิดอาการกระตุก ความเสียวซ่าน
ค่อยๆไหลผ่านไปทั่วร่างและในตอนนี้อ้อมกอดของหลินหมิงที่ยังคง
โอบกอดนางไว้ดว้ ยความอบอุ่นมันทาให้นางนึกถึงเรื่องราวในครั้ง
นั้นอีกครั้ง
แม้ว่าในตอนแรกนางจะรู้สึกกลัวที่จะโดนหลินหมิงจู่โจมแต่
ในตอนนี้นางไม่สามารถอดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้ว นางพุ่งเข้า
ประกบปากกับหลินหมิงอย่างดูดดื่มร่องของนางค่อยๆเปรอะเปรื้อน
ไปด้วยคราบน้าใสๆที่ค่อยๆไหลซึมออกมาจากชุดของนาง นาง
ต้องการทวนมังกรของเขาอย่างแท้จริงแม้ว่ามันจะเป็นความ
เจ็บปวดแต่อย่างไรก็ตามนางกลับรู้สึกว่านางมีความสุขเป็นอย่าง
มากจากที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิง
ลิ้นทั้งสองกาลังพัวพันกันอยู่ภายในช่องปากอย่างโหยหาการที่
หลินหมิงต้องอยู่กบั ผู้อาวุโสซูหลิ่ง และหลิวฉวนยูร์ที่เปรียบดั่ง
เทพธิดาผู้งดงามทั้งสองมันทาให้เขาต้องอดกลั้นอารมณ์เป็นอย่าง
มาก เช่นเดียวกันกับหญิงสาวนางมีความต้องการแรงกล้าที่จะได้รับ
อ้อมกอดอันอบอุ่นของหลินหมิงและเหนือกว่านั้นก็คือทวนมังกร
ของเขา
มือของนางพลันล่วงเข้าไปที่ทวนมังกรที่กาลังผงาดพร้อม
จัดการศัตรูเสื้อผ้าของหลินหมิงถูกถอดออกอย่างว่องไว มือทัง้ สอง
ข้างของนางลูบไล้ไปที่ทวั่ ร่างของหลินหมิง และทีบ่ ริเวณทวนมังกร
อย่างร้อนแรง
“ เจ้ามีอารมณ์มากขนาดนี้เชียว ? ”
หลินหมิงอดที่จะหยอกล้อนางไปไม่ได้ในตอนแรกหน้าเต็มไป
ด้วยความเขินอายจนเขาไม่คาดคิดว่านางจะมีความกล้าลงมือกับ
เขาก่อนเช่นนี้
“ ข้ายังคงจาความสุขที่ท่านมอบให้กับข้าได้ ได้โปรดทากับข้า
อีกครั้ง ”
หญิงสาวผลักร่างของหลินหมิงให้นอนราบกับเตียงและขึ้นคร่อม
หลินหมิงเอาไว้ แม้ว่าในตอนนี้นางจะรู้สึกตัวดีแต่นางรู้สึก
เหมือนกับว่านางต้องการที่จะให้หลินหมิงนั้นมอบความสุขให้แก่
นางอย่างไม่รู้จบ
ตอนที่ 14
หญิงสาวกาลังอยู่ในท่าขึน้ คร่อมร่างของหลินหมิงที่นอนราบอยู่
บนเตียง โดยมีทวนมังกรของเขากาลังจ่ออยู่ที่บริเวณทางเข้าของ
ร่องรักของหญิงสาวแม้วา่ นางจะยังสามารถจดจาความเจ็บปวดใน
ครั้งจากการที่ได้เสียความบริสุทธ์ให้แก่หลินหมิงได้เป็นอย่างดีก็
ตามที่ ในความเป็นจริงแล้วนั้นนางพบว่าร่างกายของนางปรากฎ
เรื่องประหลาดอยู่อย่างหนึ่งหลังจากที่นางได้ร่วมรักกับหลินหมิง
แล้วนั้น
ร่องรักของนางที่สมควรฉีกขาดจากขนาดทวนที่ใหญ่เกินมาตร
ปกติของหลินหมิง แต่มันกลับค่อยๆฟื้นสภาพเช่นในตอนแรกเมื่อ
มันเป็นเช่นนี้นางไม่รู้ว่าจะนางสมควรจะเศร้าใจหรือดีใจดีแน่นอน
ว่าการที่ขนาดร่องรักของนางนั้นยงคงกลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้นั้น
จะทาให้นางลดโอกาศที่จะถูกหลินหมิงทอดทิ้งดังเช่นสาวใช้คน
อื่นๆ บรรดาเหล่าชนชั้นสูงจานวนมากเมื่อเขาเล่นกับสาวใช้คน
เดิมๆย่อมเกิดอารมณ์เบื่อหน่ายและหนึ่งในนั้นก็เกิดมาจากการที่
ร่องรักของพวกนางนั้นมีขนาดกว้างขึ้นจนทาให้พวกเขารู้สึกหลวม
แต่หากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่านางจะต้องทนความเจ็บปวดราวกับ
ว่านางเพิ่งเสียความบริสุทธ์ในครั้งแรกทุกครั้งที่นางทาการหลินหมิง
เมื่อเห็นหญิงสาวมีทีท่าอาการกังวลตัวเขานั้นไม่ใช่คนที่ดีอะไร
มากมายนักแต่เขานั้นย่อมพอเข้าใจความรู้สึกของนางบ้างแม้จะไม่รู้
ว่าร่องรักของนางในตอนนี้อยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมดังเช่นในตอน
แรก
มือทั้งสองข้างของหลินหมิงลูบไล้บริเวณต้นขาของนางอย่าง
แผ่วเบาเพื่อให้นางคลายความกังวลภายในจิตใจ แต่ดูเหมือนว่า
สาหรับตัวของหญิงสาวนัน้ มันจะส่งผลมากยิ่งกว่านั้น ความรู้สึก
เสียวซ่านเริ่มปะทุขึ้นมาจากการที่หลินหมิงลูบไล้บริเวณต้นขาของ
นางและเกือบเหลือมล่าเข้าจุดอันตราย
เรี่ยวแรงที่บริเวณต้นขาที่คอยค้าย้าร่างกายค่อยๆหมดลงพร้อม
กับร่างกายของนางที่อยู่เหนือบริเวณทวนมังกรของหลินหมิงที่
ค่อยๆตกลงมาตามธรรมชาติ
“ อะ..อร้าาา~~~~ งง ”
เพื่อแค่ส่วนปลายของทวนมังกรที่ทะลุเข้าสู่ร่างกายของนางมัน
ก็ทาให้นางถึงกับครางเสียงหลง แต่มันกลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด
อย่างที่นางคิดแน่นอนว่าที่บริเวณร่องรักของนางนั้นยังคงมีรอย
เลือดสีแสดงเผยออกมาให้เห็นนางไม่เข้าใจเหมือนกันทาไมว่าร่อง
รักของนางถึงสามารถสมานตัวได้เช่นนี้แต่นางเชื่อว่าทั้งหมดนีต้ ้อง
เป็นเพราะหลินหมิง
เช่นเดียวกันหลินหมิงรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่ร่องรักของ
หญิงสาวนั้นยังคงรู้สึกคับแน่นดังเช่นในตอนแรกอีกทั้งมันยังคงมี
รอยเลือดสีแดงสดให้เห็นออกมาราวกับว่านางเพิ่งจะได้เสียความบริ
สุทธ์เป็นครั้งแรก
“ อ้าา~~~~ ”
เสียงครางอย่างเย้าย้วนยังคงครางออกมาอย่างไม่หยุดจากปาก
ของหญิงสาวแม้ว่าในตอนนี้ทวนของหลินหมิงจะไม่ได้แทงทะลุเข้า
ไปแต่เพียงแค่ส่วนหัวของมันที่ทะลุเข้าไปก็เห็นได้ชัดว่ามันสามารถ
ทาให้นางมีความสุขมากเพียงใด ทางด้านของหญิงสาวเมื่อนาง
คิดเห็นว่านางไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดดั่งเช่นในตอนแรกอีกต่อไป
แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
นางค่อยๆทิ้งร่างกายของนางลงอย่างช้าพร้อมกับปล่อยให้ร่อง
รักของนางกลืนกลินทวนมังกรของหลินหมิงและซึมซับความเสียว
ซ่านที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของนางที่กาลังเพิ่มขึ้นเรื่อยจากการที่
ทวนมังกรของหลินหมิงกาลังแทงทะลุเข้ามา
หลินหมิงมีความรู้สึกว่าร่องรักของหญิงสาวนั้นดูเหมือนว่ามันจะ
สามารถตอบสนองต่อทวนมังกรของเขาได้มากกว่าในครั้งที่แล้ว
อย่างที่ไม่ติด ด้วยขนาดร่องอันคับแคบและมันยังคงทาการบีบรัด
ทวนมังกรของเขาอย่างหนาแน่นจนเป็นเหตุขนาดที่หญิงสาวทิง้
ลาตัวลงมายังสามารถเจาะทะลวงไปได้อย่างยากลาบาก
น้าใสๆของหญิงสาวค่อยๆไหลพรั่งพรู่ออกมาเรื่อยไหลไป
บริเวณตามต้นขาของนางอย่างเซ็กซี่ จนในที่นางก็รู้สึกได้ว่าทวน
ของหลินหมิงได้เข้ามาสู่จุดที่ลึกทีส่ ุดของร่องรักของนางแล้ว
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุขและสะใจอย่างที่นางไม่เคยทา
มาก่อนพร้อมกับน้าไหลจานวนมากที่ไหลออกมาจากปากของนาง
อย่างหยุดไม่อยู่
บริเวณท้องอันราบเรียบของหญิงสาวถึงกับโป่งพ่องขึ้นมา
เล็กน้อย นางค่อยๆขยับร่างกายขึ้นลงพร้อมกับโยกสะโพกไปด้วย
เพื่อซึมซับความเสียวซ่านที่มากล้นเช่นนี้ หลินหมิงเองในตอนนนี้
เขาเริ่มมีความสุขอันร้อนแรงขึ้นภายในจิตใจ เมื่อเขาได้เห็นใบหน้า
อันเปี่ยมสุขของหญิงสาวที่กาลังควบทวนมังกรของเขาอยู่หลินหมิง
นามือทั้งสองข้างจับไปทีบ่ ริเวณเอวของนางพร้อมกับยกตัวนางขึ้น
เล็กน้อยแล้วจับนางกดลงมา
“ อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~~~~ ”
แน่นอนว่านางแทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยตรงกันข้ามนางกลับ
รู้สึกมีความสุขเสียมากกว่า เมื่อหลินหมิงเห็นเช่นนั้นจึงไม่มีทที ่าว่า
จะหยุดเลยแม้แต่น้อยเขาดึงร่างของหญิงสาวลงมากอดอย่างรัด
แน่นแล้วประกบปากอย่างดูดดืม่ โดยทีบ่ ริเวณช่วงล่างของเขาและ
นางยังคงทาการขยับตามจังหวะอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ มะ..ไม่ไหวแล้วเจ้า ค่าา ~~~~ อร้าาาาาาางางง~~~~ ”
ผ่านไปไม่นานหลินหมิงก็ต้องปลดปล่อยน้าขาวขุ่นจานวนมาก
เข้าสู่ภายในร่างกายของนาง พร้อมกับที่ตัวนางได้ปล่อยน้าใสๆ
ออกมาจากร่องรักเป็นจานวนกี่ครั้งแล้วก็ไม่อาจนับได้
หลินหมิงนาทวนมังกรออกมจากร่างกายของหญิงสาว แต่ถึง
อย่างนั้นก็ที่เขาจะได้ทาอะไรทวนมังกรของเขากลับถูกขว้าอย่าง
รวดเร็วโดยมือของหญิงสาวที่ดูจากทีท่าของนางนั้นไม่ต้องบอกเลย
ว่านางหมดสภาพจนไม่นา่ จะทาต่อไหวแล้ว
“ ขะ..ข้าจะทาความสะอาดให้เองเจ้าคะ ”
หญิงสาวนั้นในตอนที่ร่วมรักครั้งแรกแน่นอนว่าในช่วงท้ายนั้น
นางยังคงพอมีสมติที่จะเห็นน้องสาวของนางใช้ปากทาความสะอาด
ให้แก่หลินหมิงอย่างร้อนแรง และนั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะ
เกิดความรู้สึกเช่นนั้นบ้างนางมีความรู้สึกว่าทวนมังกรแท่งนี้ของ
หลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาเลย ไม่เพียงแต่มันจะมีขนาด
ใหญ่โตกว่าทวนของบุรุษอื่น
แต่กลิ่นอายของมันที่แผ่ออกมานั้นแม้จะมันจะดูอับ และดูกลิ่น
แรงไปบ้างแต่มันก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ของนางได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นนางจึงอยากลิ้มลองรสชาติของมันดูสักครั้ง
“ จ๊วบ...อื้มมมม ”
เสียงที่เกิดขึ้นภายในปากของหญิงสาวมันช่างเร้าร้อนกระตุ้น
อารมณ์ของชายหนุ่มถ้าหากในก่อนหน้านี้หลินหมิงไม่ได้ทาการ
ปลดปล่อยอารมณ์ไปแล้วหนึ่งครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่าเขาจะเข้าจู่
โจมนางในทันทีเลยหรือไม่ ภายในปากของนางนั้นยังคงเต็มไปด้วย
ความรู้สึกนุ่มลื่นผสมกับการที่นางใช้ลิ้นโลมเลียทวนมังกรของเขา
อย่างหื่นกระหาย ทักษะในการใช้ปากของนางนั้นเรียกได้ว่ายอด
เยี่ยมกว่าน้องสาวของนางอย่างเทียบไม่ติด
หญิงสาวพบว่าน้าขาวขุ่นของหลินหมิงนั้นมันมีรสชาติที่น่า
อัศจรรย์เป็นอย่างมากแม้ว่ามันจะเหนียวจนทาให้รู้สึกกลืนลงคอได้
อย่างยากลาบากก็ตามที่ หลินหมิงปล่อยให้นางได้รับน้าขุ่นขาวของ
เขาไปอีกครั้งจนท่วมปากของนางเพื่อไม่ให้เกิดอารมณ์ค้างคา

ตอนที่ 15
วันต่อมาหลินหมิงยังคงเข้ารับการสอนจากผู้อาวุโสซูหลิ่งท่าที
ของนางที่มีต่อหลินหมิงนัน้ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าในตอนแรก
นางจะไม่มีความคิดในแง่ร้ายเท่ากับศิษย์ของนางหลิวฉวนยูร์
แต่นางก็คิดว่าตัวของหลินหมิงนั้นไม่มีความเหมาะสมสาหรับ
ตาแหน่งศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคมนักปรุงยา
แต่หลังจาหที่นางได้เห็นพรสวรรค์อันมากล้นของหลินหมิงนั้น
นางก็พลันต้องเปลี่ยนความคิดทุกอย่างไปในทันทีไม่ต้องสงสัยเลย
ว่าในอนาคตเด็กหนุ่มผู้นี้จะสามารถก้าวหน้าไปได้อย่างไม่มีที่สนิ้ สุด
ด้วยพรสวรรค์ของเขาและมันย่อมทาให้สมาคมได้รับผลประโยชน์
อย่างมหาศาล
ผิดกับอาจารย์หลิวฉวนยูร์นางมีความรู้สึกขัดแย้งขึ้นมาภายใน
จิตใจในตอนแรกนางแสดงออกถึงความดูถกู ทีม่ ีต่อหลินหมิงอย่าง
ชัดเจนเพียงแต่ยังไม่ทันถึงวันเขากลับแสดงความสามารถอันน่าตก
ตะลึงมันจึงเป็นเรื่องที่นางยากจะยอมรับ
”วันนี้ข้าจะสอนในเรื่องของสมุนไพรและวัตถุดิบต่างๆ แน่นอน
ว่าสาหรับนักปรุงยานั้นสิ่งที่จาเป็นไม่ใช่เพียงความสามารถและ
พรสวรรค์ในการปรุงยาเท่านั้นเจ้ายังจาเป็นต้องมีความสามารถใน
การแยกแยะคุณภาพของวัตถุดิบอย่างเด่นชัด
สาหรับนักปรุงยาที่เชี่ยวชาญมากพวกเขาทุกคนล้วนมีสิ่งนี้ ใน
วันนี้ข้าจะให้เจ้าและยูร์เอ๋อร์เข้าไปในป่ารอบนอกเพื่อตามหา
สมุนไพรที่ข้ากาหนดเอาไว้ให้ ”
หลินหมิงรับใบรายชื่อสมุนไพรและวัตถุที่จาเป็นมาจากผู้
อาวุโสซูหลิ่ง หลินหมิงสามารถจดจาสมุนไพรบางอย่างได้เห็นได้ชัด
ว่ามันเป็นสมุนไพรสาหรับปรุงยาระดับหนึ่ง ในส่วนของหลิวฉวนยูร์
นั้นนางได้รับรายชื่อสมุนไพรที่ต่างกันซึ่งเขาเดาว่ามันคงเป็น
สมุนไพรระดับสองหรือไม่กก็อาจเป็นระดับสามเลยก็เป็นได้
แน่นอนว่าหลิวฉวนยูร์นางไม่ได้รับรายชื่อมสมุนไพรมากเท่ากับ
หลินหมิง ในบริเวณป่ารอบนอกนั้นแน่นอนมันมีสมุนไพรระดับ1-
3 อยู่แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะหาสมุนไพรระดับสามได้ ส่วน
สมุนไพรระดับอื่นๆนั้นต้องเข้าไปในป่าส่วนกลางหรือชั้นใน หรือ
หากโชคดีก็มีโอกาสได้พบเจอในบริเวณป่าชั้นนอกก็เป็นได้แม้ว่ามัน
จะมีโอกาสน้อยมากก็ตามที่
หลิวฉวนยูร์นางรับใบรายชื่อสมุนไพรจากอาจารย์ของนางด้วย
ท่าทีเฉยเมย นี้เป็ยภารกิจที่นางเคยได้รับจากมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่
ครั้งดังนั้นนางจึงเข้าใจดีว่าอาจารย์ของนางนั้นเพียงต้องการให้นาง
แนะนาหลินหมิงเพียงเพียงเท่านั้น
“ ข้าให้เวลาพวกเจ้าถึงเพียงช่วงเย็นเท่านั้นแม้ว่าพวกเจ้าจะไม่
สามารถหาสมุนไพรและวัตถุดิบต่างๆได้ครบถ้วนพวกเจ้าก็ต้อง
กลับมาในทันที ”
ในป่าในเวลากลางคืนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เหล่าสัตว์อสูรจาก
บริเวณชั้นกลางอาจหลุดออกมายังป่าชั้นนอกเพื่อหาเหยื่อแม้ว่า
พวกมันจะมีจานวนและไม่แข็งแกร่งมากเท่ากับสัตวอสูรอื่นๆที่ทา
การล่าอยู่ภายในชั้นกลางแต่พวกมันก็นับได้ว่าแข็งแกร่งจนอยู่ใน
ระดับจุดสูงสุดของปราณเริ่มต้นหรือไม่ก็อาจก้าวข้ามไปจนถึงขั้น
ปราณก่อกาเนิด
หลิวฉวนยูร์ด้วยการที่นางเป็นสตรีงามอันดับต้นๆของเมืองด้วย
ความงามของนางตั้งแต่วยั เยาว์นั้นนางถูกคาดการณ์ว่ามนอนาคต
นางอาจมีความงดงามที่ยิ่งกว่าจูหนิงเอ๋อประมุขของสมาคมนักปรุง
ยาเสียอีกนั้นจึงเป็นเหตุให้บิดาของนางหรือประมุขผู้นาตระกูลหลิว
เห็นค่าความสาคัญของนางเป็นอย่างมาก
และการที่เขาให้นางได้หมั้นหมายกับหลินชูทมี่ ีพรสวรรค์ที่เรียก
ได้ว่าไม่เป็นรองใครในรุ่นเยาว์ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม แทบ
ตระกูลหลินยังเป็นตระกูลใหญ่ที่ไม่น้อยหน้สตระกูลหลิวเลยแม้แต่
น้อย
ดังนั้นนอกจากคู่หมั้นของนางหลินชูที่นางรู้สึกไม่หน้าตั้งแต่ครั้ง
แรกนางไม่เคยออกไปกับบุรุษอื่นใดเพียงลาพังเช่นนี้เลยแม้แต่ครั้ง
ในความเป็นจริงแล้วนางเพียงแค่เคยได้คุยกับหลินชูเป็นการลาพัง
เท่านั้นที่สวนถายในตระกูลดังนั้นนี้นับเป็นครั้งที่นางได้ออกไปข้าง
นอกกับบุรุษ
หลินหมิงและหลิวฉวนยูร์ทั้งสองต่างตกลงกันว่าจะไปตระเตรียม
ข้าวของสาหรับเก็บสมุนไพนในครั้งนี้แล้วจึงไปเจอกันที่นางประตู
เมืองเลยทีเดียว
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขาแทบจะอดไม่ได้ที่จะนาเรื่องราวที่
เขาได้ออกเดินป่ากับคู่หมัน้ ของน้องชายเขาหลินชู ไปบอกแก่มัน
เพื่อเยาะเย้ยเพียงแค่เขาจินตนาการภาพของหลินชูอยู่ภายในใจมัน
ก็สร้างความสะใจให้แก่เขาอยู่ไม่น้อย
โดยที่หลินหมิงไม่ทันได้สงั เกตใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงามอย่าง
หลิวฉวนยูร์ที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เลยแม้แต่น้อย
หลิวฉวนยูร์เป็นฝ่ายที่เดินจากออกไปก่อนในความเป็นจริงแล้ว
สาหรับนางการเตรียมตัวสาหรับเดินป่าเก็บสมุนไพรในครั้งนาได้ว่า
แทบจะไม่มีความจาเป็นเลยแม้แต่น้อย
เนื่องด้วยนางเองก็มีแหวนมิติทมี่ ีราคาแพงเกินกว่าที่คนธรรมดา
ทั่วไปจะอาจหวังและภายในนั้นยังมีอุปกรณ์ช่วยเหลือนางต่างๆ
อย่างนับไม่ถ้วน
“ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บวัตถุดิบไป ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งกล่าวพร้อมกับยื่นแหวนมิติวงหนึ่งให้เขาหลินหมิง
ทราบดีว่ามันเป็นแหวนมิติที่มีคุณภาพนะดับต่าซึ่งต่างจากของ
หลิวฉวนยูร์
“ นี้เป็นเพียงสิ่งที่ข้าให้เจ้ายืมใช้ก่อนเพียงเท่านั้น หากเจ้า
ต้องการได้มันเจ้าเพียงต้องประพฤติตัวให้ดีแล้วอาจารย์ของเจ้า
ย่อมมอบเป็นของขวัญให้แก่เจ้าโดยง่าย ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งแม้ว่านางจะประทับใจในตัวของหลินหมิงค่อน
ข้างมากแต่นางก็ไม่ต้องการให้สิ่งของเขาโดยง่ายนักเพราะนั้นจะ
เป็นการทาให้เขาขาดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง นั้นเป็นสิ่ง
ที่อัจิฉริยะจากตระกูลใหญ่นั้นประสบพบเจอพวกเขาจะเฉยชาจาก
ความประสบความสาเร็จเล็กน้อยๆ
จนเป็นเหตุให้พวกเขาไม่สามารถพัฒนาตนได้อย่างเต็มที่ตาม
ความสามารถและพรสวรรค์ที่พวกเขาเหล่านั้นควรมี
“ ผู้เยาว์ขอขอบพระคุณผู้อาวุโส ”
หลินหมิงรับแหวนมิตมิ าด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข เมื่อคิดถึงในอดีต
เขาไม่สามารถคิดได้เลยว่าจะสามารถก้าวมาอยู่จุดนี้ได้

ตอนที่ 16
ครึ่งชั่วยามต่อมาอันเป็นเวลาที่หลินหมิงได้นดั หมายกับหลิวฉวน
ยูร์ที่ประตูหน้าเมือง เมื่อหลินหมิงมาถึงก็พบว่านางอยู่ที่หน้าประตู
เมืองเสียแล้ว จากในความคิดของเขาหลินหมิงไม่คิดว่านางจะเป็น
คนที่ตรงต่อเวลาขนาดนี้โดยเฉพาะในการมากับตัวเขาในครั้งนี้
“ ข้าต้องขออภัยที่ทาให้..คุณหนูฉวนยูร์รอนานพอดีข้าเพิ่ง
ตระเตรียมสาภาระเสร็จ ”
“ ฮึ..พวกบ้านนอกก็อย่างนี้แหละนะ ”
หลิวฉวนยูร์ไม่ได้กล่าวอะไรต่อกับหลินหมิงมากมายนางเดิน
นาหน้าหลินหมิงไปเหมือนกับไม่ได้ให้ความสนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงจึงทาได้เพียงยักไหลอย่างพร่อนปรนกับอารมณ์ของแม้
เทพธิดาสาวผู้นี้ ในระหว่างทางนั้นหลินหมิงไม่ได้กล่าวพูดคุยใดๆ
กับนางอีกเลยหรืออาจกล่าวให้ถูกต้องก็คือนางจงใจเว้นระยะห่าง
กับหลินหมิงค่อนข้างมากจนไม่สามารถพูดคุยกันได้
เมื่อมาถึงที่ป่ารอบนอกพวกเขายังคงไม่พบเจอร่องรอยของสัตว์
อสูรเลยนี้นับเป็นข่าวดีอย่างมาก แต่สาหรับหลิวฉวนยูร์นั้นนางต่าง
ออกไปโดยสิ้นเชิงนางไม่ได้มีความกังวลใดๆเมื่อนางเข้ามาในป่า
แห่งนี้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าของและกริยาท่าทางต่างๆราวกับว่า
นางเพียงมาเดินเล่นในป่าที่เต็มไปด้วยสัตวอสูรเพียงเท่านั้น
เนื่องด้วยบริเวณป่ารอบนอกแห่งนี้เจ้าถิ่นหรือสัตวอสูรที่มีพลัง
ปราณมากที่สุดจะอยู่ในระดับ 7 ขั้นปราณเริ่มต้นเท่านั้นซึ่ง
เปรียบเทียบกับตัวนางทีม่ ีพลังระดับ 7 ขั้นสูงสุดนัน้ นับเป็นเรื่องง่าย
มากที่นางจะสามารถเดินเล่นในป่าแห่งนี้ได้อย่างสบายใจเพราะหาก
ในสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการที่นางต้องพบเจอกับสัตว์อสูร
ระดับ 7 ขั้นสูงสุดของปราณเริ่มต้นเช่นเดียวกันกับนางแม้ว่านางจะ
ไม่สามารถเอาชนะได้แต่นั้นย่อมไม่นบั รวมถึงการหลบหนีของนาง
หลิวฉวนยูร์เริ่มทาภารกิจของนางด้วยความตั้งใจโดยไม่ลมื
เหลือบมามองหลินหมิงด้วยสายตาเหยียดหยาม แน่นอนว่านาง
มั่นใจในเรื่องการเก็บเกี่ยวสมุนไพรของนางอยู่หลายส่วนทักษะนี้
ไม่ได้เป็นทักษะที่วัดกันด้วยพรสวรรค์ดั่งเช่นในการปรุงยาแต่มัน
ต้องใช้ทักษะการสังเกต และประสบการณ์อย่างมากในการค้นหา
สมุนไพรเหล่านี้กับตัวของหลินหมิงพึ่งได้ศึกษาเล่าเรียนการปรุงยา
มาไม่นานดังนั้นไม่มีทางที่นางจะด้อยกว่าเขาในด้านนี้
หลินหมิงสังเกตพืชพรรณสมุนไพรรอบตัวด้วยความใจเย็น ใน
ก่อนหน้านี้ที่เขาเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้เขาไม่ได้มีเวลามากนักในการ
สารวจตรวจสอบเหล่าพืชพรรณเพราะลาพังเพียงแค่เขาต้องเอา
ชีวิตรอดภายในป่าจากเหล่าสัตว์อสูรมันก็นับได้ว่ายากเย็นยิ่งแต่
สาหรับตอนนี้ไม่เพียงแต่พลังปราณในร่างกายของเขาจะพัฒนา
อย่างก้าวกระโดดจนมาอยู่ในจุดสูงสุดขั้นที่ห้าของปราณเริ่มต้น แต่
ร่างกาย รวมถึงประสาทสัมผัสของเขาต่างๆล้วนเฉียบแหลมขึ้นจน
ไม่อาจเทียบก่อนหน้านี้ได้เลยแม้แต่น้อย
ในคราวที่แล้วหลินหมิงใช้การตอบสนองที่ว่องไวของเปลวเพลิง
สีดาในการตรวจสอบเหล่าอสูรที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเขา เขา
จึงคิดว่าเขาสามารถใช้เปลวเพลิงสีดาในต้นเถียนตรวจสอบพืช
พรรณสมุนไพรที่เขาต้องการได้เช่นเดียวกัน
เพราะครั้งที่แล้วนั้นการที่เปลวเพลิงสีดาตอบสนองนั้นมันเป็นไป
ตามกลไลปกติของมันไม่ได้เกี่ยวกับสิง่ ที่หลินหมิงต้องการเลยแม้แต่
น้อย ดังนั้นหากเขาสามารถควบคุมเปลวเพลิงสีดาเพื่อตรวจสอบ
พลังงานโดยรอบเขาก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถหาสมุนไพรที่อยู่ใกล้
ตัวของเขาได้โดยง่าย
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลินหมิงไม่รอช้าเขานั่งลงเพื่อทาสมาธิและทา
การแผ่จิตเข้าสู่ภายในต้นเถียนอีกครั้งเปลวเพลิงสีดาภายในต้นเถีย
นราวกับว่ามันรับรู้ความต้องการของหลินหมิง เปลวเพลิงสีดา
ค่อยๆแผ่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกันกับร่างกายของหลินหมิง
ที่ค่อยแผ่อ่อร่าแปลกประหลาดออกมา
หลิวฉวนยูร์ในตอนนี้นางสามารถหาสมุนไพรระดับสามได้สาม
ต้นแล้วโดยใช้เวลาเพียงสองก้านธูปนี้นับว่าเป็นเรือ่ งที่น่ายินดีโดย
แท้จริง การหาสมุนไพรนั้นสิ่งที่สาคัญอีกอย่างนั้นก็คือโชคและดู
เหมือนว่าในวันนี้นางจะมีมันเสียด้วยโดยปกตินั้นหากนางต้องการ
หาสมุนไพรระดับสามสักสามต้นนางอาจต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่ว
ยามเลยทีเดียว
สาหรับการปรุงยาระดับสามที่อาจารย์ของนางมักให้ฝึกฝนนั้น
การเก็บสมุนไพรของนางสามต้นนี้แน่นอนว่าย่อมไม่เพียงพอต่อการ
ปรุงยาแม้แต่ขวดเดียว แต่ที่นางสามารถปรุงยาได้ถึงวันละ4-5 ขวด
นั้นเป็นเพราะว่าที่สมาคมนักปรุงยานั้นแน่นอนว่าจะต้องมีสวน
สมุนไพรที่เอาใช้สาหรับนักปรุงยาอยู่และสวนของอาจารย์ของนาง
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นนับเป็นขุมสมบัตโิ ดยแท้จริง เหล่าผู้อาวุโสส่วน
ใหญ่ของสมาคมนั้นมักจะมีสวนสมุนไพรเป็นของตัวเองแต่สวนของ
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นไม่อาจเทียบได้กบั ผู้อาวุโสคนอื่นได้เลยแม้แต่น้อย
นางมั่นใจถึงขนาดที่ว่าสวนของผู้อาวุโสซูหลิ่งเพียงคนเดียวอาจ
มีมูลค่าเท่ากับหนึ่งในสี่ของทรัพย์สมบัตินางทัง้ ตระกูลเลยทีเดียว
ดังนั้นทางตระกูลหลิวจึงให้ความเคารพแก่ผู้อาวุโสซูหลิ่งเป็นอย่าง
มากไม่ใช่เพียงเพราะนางเป็นนักปรุงยาระดับสูงอย่างเดียวเพียง
เท่านั้นแต่ในแง่ของทรัพย์สมบัตินั้นนางนับได้ว่ามีมากล้น การที่ให้
หลิวฉวนยูร์เข้าไปศิษย์นางจึงเป็นการการันตีได้ว่าหลิวฉวนยูร์จะไม่
ขาดซึ่งวัตถุดบิ ในการพัฒนาเลยแม้แต่น้อย
แต่สาหรับหลิวฉวนยูร์แล้วนางยังคงมีความสงสัยบางอย่างใน
จิตใจเพราะว่าหากในเมื่อสวนของผู้อาวุโสซูหลิ่งยังมีคุณค่า
มากมายขนาดนี้นางไม่อาจประเมิณได้เลยว่าสวนของประมุข
สมาคมนักปรุงยาจะมีค่ามากเพียงใดแต่นางก็ได้แต่เก็บความสงสัย
เหล่านั้นเอาไว้ภายในใจ หลิวฉวนยูร์นางถึงกับขมวดคิ้วเมื่อนางจ้อง
มองไปที่ร่างของหลินหมิงที่กาลังนั่งสมาธิอยู่
‘ นี้เขากาลังทาอะไรอยู่กัน ’
นางไม่เข้าใจถึงสิ่งที่หลินหมิงกาลังอยู่เลยแม้แต่นอ้ ย ในความ
เป็นจริงแล้วหากหลินหมิงทาการหยิบหญ้าขึ้นมาแล้วกล่าวอ้างว่านี้
เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเขายังคงดูฉลาดมากกว่านี้ แต่แล้วทันใดนั้น
นางพลันนึกได้ถึงแผนการณ์ที่นางได้เตรียมเอาไว้ก่อนที่จะเข้ามา
ภายในป่าแห่งนี้รอยยิ้มแห่งเทพธิดาของนางในตอนนี้แทบจะ
แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายของปีศาจโดยที่หลินหมิงไม่ได้รับรู้
ความคิดของเทพธิดาสาวผู้นี้เลย
ตอนที่ 17
ผ่านไปสักพักหลินหมิงเริม่ ที่จะสามารถแยกแยะพลังงานโดย
รอบตัวของเขาได้แล้วเนื่องจากว่าเขาได้เคยปรุงยามาก่อนแล้วใน
ก่อนหน้านี้มันจึงทาให้เขาสามารถที่จะแยกแยะพลังงานของ
สมุนไพรและวัตถุดิบต่างๆของส่วนผสมโอสถระดับหนึ่งได้
หลินหมิงลืมตาขึ้นมาเขาใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วยามในการจับ
สัมผัสของพลังงาน แต่นนั้ มันย่อมคุ้มค่ากับการที่เขาไม่ต้องเสียเวลา
สุ่มหามันในแต่ละที่ หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อยที่เมือ่ เขาลืมตาขึ้นมา
ก็พบว่าเขาไม่เห็นหลิวฉวนยูร์แล้ว อาจเป็นไปได้ว่านางได้ตระเวณ
เก็บสมุนไพรและวัตถุดิบโดยรอบนี้จนหมดจึงทาการย้ายไปที่อื่น?
อย่างไรเสียหลินหมิงไม่ได้สนใจแม่เทพธิดาสาวผู้เอาแต่ใจคนนี้
มากนัก การที่มีนางอยู่ใกล้ๆเขามันกลับทาให้เขารู้สึกอันตรายอย่าง
บอกไม่ถูก หลินหมิงเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วตามสัมผัส
พลังงานที่คาดว่าน่าจะเป็นส่วนผสมของวัตถุดิบที่เขาตามหา
หนึ่งชั่วยามต่อมาในตอนนี้หลินหมิงสามารถเก็บเกีย่ วสมุนไพร
ได้เกือบครบตามจานวนยอดที่ผู้อาวุโสซูหลิ่งได้ให้เอาไว้ การหา
สมุนไพรต่างๆของหลินหมิงเป็นไปอย่างราบรื่นราวกับว่าเขาเป็น
ผู้เชี่ยวชาญในการเก็บสมุนไพรเหล่านี้แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็
เข้าใจดีว่าหากเป็นคนธรรมดาทั่วไปย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเก็บ
สมุนไพรเหล่านี้เพราะส่วนใหญ่แล้วนั้นพวกมันจะอาศัยร่างของ
ต้นไม้และพืชพรรณที่มีขนาดสูงกว่าบดบังตนเองเอาไว้
ในหนึ่งชั่วยามนี้เขาก็ยังไม่ได้พบร่องรอยของหลิวฉวนยูร์เลย
แม้แต่น้อยอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ค่อยได้ขยับออกไปไกลจากจุด
เดิมมากนักเทียบกับนักเก็บสมุนไพรคนอื่นพวกเขาเหล่านั้นอาจต้อง
ตระเวณไปทั่วป่าเพื่อตามหาสมุนไพรเหล่านี้
หลินหมิงไม่คิดว่านางจะกลับไปก่อนเขาเห็นได้ชัดว่าอาจารย์
ของนางนั้นต้องการให้นางมาเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลเขา เพราะฉะนั้น
หากนางกลับไปก่อนโดยทิ้งเขาไว้ในป่าเมื่ออาจารย์ของนางรู้เขานั้น
ย่อมไม่ใช่ผลดีสาหรับตัวนางมากนักต้องไม่ลืมว่าแม้สถานะของผู้
อาวุโสซูหลิ่งจะด้อยกว่าอาจารย์สาวสวยของเขา แต่นางยังนับได้
ว่าเป็นผู้ที่มีอานาจไม่เปนรองใครในสมาคมนักปรุงยาแห่งนี้หากไม่
รวมประมุขสมาคม
แต่แล้วจู่ๆหลินหมิงก็พลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายประหลาดเปลว
เพลิงสีดาภายในต้นเถียนของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง ในการเข้าป่า
รอบนอกคราวที่แล้วหลินหมิงได้ใช้การสั่นไหวของเปลวเพลิงสีดา
ในหลบหลีกสัตว์อสูรที่คาดว่าน่าจะมีพลังมากกว่าเขาแต่มันเห็นได้
ชัดว่าเปลวเพลิงสีดานี้ตอบสนองเพียงแค่เหล่าสัตว์อสูรเพียงเท่านั้น
ไม่งั้นเขาคงไม่มีโอกาศได้พบเจออาจารย์สาวสวยเป็นแน่
“ กรี๊ดดดดด ”
ในขณะที่หลินหมิงกาลังตัง้ ท่าหลบหนีไปให้ไกลจากสัมผัสอันน่า
กลัวนั้นเสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาวที่แสนคุ้นหูกด็ ังขึ้นระงมไปทั่ว
‘ หรือว่าจะเป็นนาง ? บัดซบเอย ‘
หลินหมิงสะบดอย่างรุนแรงในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ใช่คนดี
อะไรขนาดนั้นแน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงชีวิตของเขาย่อมสาคัญที่
สุดแต่ว่าหากเขาทิ้งนางไปตอนนี้นั้นย่อมสร้างปัญหาที่ใหญ่หลวง
ให้แก่เขาในอนาคตไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากตระกูลหลิวเป็นปฎิปกั ษ์
ต่อเขาแล้วมันก็ไม่ง่ายนักที่สมาคมนักปรุงยาจะรับมือโดยง่ายอีกทัง้
เขายังไม่แน่ใจความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสมาคม
หลินหมิงกัดฟันแน่นพร้อมกับทยานร่างพุ่งเข้าไปในป่าที่ลึก
ยิ่งขึ้นตามเสียงกรี๊ดร้องของหญิงสาวพร้อมกับอาการสั่นไหวของ
เปลวเพลิงสีดาที่ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยภายในต้นเถียนของเขา
ใช้เวลาเพียงไม่นานเมื่อหลินหมิงเข้ามาถึงภาพที่เห็นตรงหน้า
มันแทบจะทาให้เขาหยุดหายใจพื้นที่เป็นหลุมเป็นบ่อจานวนมาก
จากการต่อสู้ ไม่สิมันอาจเรียกได้ว่าเกิดจากการกระทาอยู่ฝ่ายเดียว
ภาพของหญิงสาวที่ดูงดงามราวกับเทพธิดาในตอนแรกกาลังหลบ
หลีกการไล่ล่าจากสัตว์อสูรที่มีรูปร่างคล้ายลิง แต่ขนาดลาตัวของ
มันนั้นมีขนาดใหญ่กว่าลิงธรรมดากว่าสิบเท่า อีกทัง้ มันยังมีเขาสอง
ข้างที่เสริมรูปลักษณ์ความน่ากลัวของมันยิง่ ขึ้นไปอีก
‘ นั้นมันวานรสองเขา ‘
แน่นอนว่าหลินหมิงย่อมต้องรู้จักวานรสองเขาเพราะมัน
เปรียบเสมือนราชาของป่ารอบนอกแห่งนี้โดยแท้จริงมันไม่ได้มีพลัง
ปราณเพียงขั้นเจ็ดของระดับปราณเริ่มต้นแต่มันมีพลังอยู่ที่จุดสูงสุด
ของขั้นปราณเริ่มต้น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม่เทพธิดาสาวผู้เอา
แต่ใจจะไม่สามารถรับมือกับมันได้ เนื้อตัวของนางนั้นในตอนนี้เต็ม
ไปด้วยฝุ่นโคลนจากการกลิ้งหลบหลีกการโจมตีของวานรสองเขา
เห็นได้ชัดว่าเจ้าสัตว์อสูรหน้าลิงตัวนี้มันยังไม่ได้คิดจัดการกับ
เทพธิดาสาวผู้เอาแต่ใจ มันต้องการเพียงหยอกล้อกับเหยื่อของมัน
อย่างสนุกสนานเพียงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้วความต่างระหว่าง
จุดสูงสุดปราณเริ่มต้นกับขั้นที่เจ็ดของนางนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่
สามารถนามาเปรียบเทียบกันได้
สภาพของหลิวฉวนยูร์ในตอนนี้นางเต็มไปด้วยความอ่อนล้า
แม้ว่านางจะเพิ่งรับมือกับวานรสองเขามาเพียงหนึ่งก้านธูปหรือาจ
มากกว่านั้นเพียงเล็กน้อยแต่นี้ย่อมเป็นการต่อสู้ที่พลังของคู่ต่อสู้นาง
มากกว่าจนไม่อาจเทียบได้กะบี่ในมือของนางที่เป็นของขวัญจาก
บิดา ใบดาบเป็นสีน้าเงินอมฟ้าแผ่กลิ่นอายความเย็นยะเยือกออกมา
แน่นอนว่ามันย่อมกะบี่ทอี่ ยู่ในระดับสูง กะบี่หลอมเหมันต์ ในความ
เป็นจริงแล้วเพียงแค่นางชักกะบี่เล่มนี้ขึ้นมาศัตรูตรงหน้านั้นล้วนแต่
จะถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
แต่กลับวานรสองเขาตนนี้การวาดกะบี่ของนางนั้นทาได้เพียง
อย่างมากเป็นรอยแผลเล็กๆราวกับรอยขวนของลูกแมวน้อยอย่าง
ใดอย่างนั้น ในขณะที่นางกาลังจ่มอยู่กับความสิ้นหวังพร้อมกับหมัด
ขนาดนับตันของวานรสองเขาที่ค่อยๆเข้าสู่ร่างของนาง นางมั่นใจ
เลยว่าหมัดนี้ของเจ้าสัตว์อสูรตนนี้จะสามารถบดขยี้ร่างของนางให้
หายไปในพริบตาจนเหลือแต่กองเลือด !
ปังงงงงงงงงง !
เสียงปะทะดังก้องไปทั่วป่าพร้อมกับสายลมที่สั่นไหวไปทั่ว
เช่นเดียวกัน หลิวฉวนยูร์นางไม่กล้าลืมตามองสิ่งทีเ่ กิดขึ้นในขณะที่
นางกาลังหลับตาอยู่นั้นนางเพียงได้ยินเสียงหมัดของวานรสองเขา
ปะทะเข้ากับอะไรสักอย่างเข้าอย่างจัง ใจของนางเต้นอย่างไม่เป็น
จังหวะเมื่อนางค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับวานรสองเขาที่ดูแปลกใจ
กับการโจมตีของมันทีถ่ ูกหยุดเอาไว้ได้โดยมนุษย์ตวั เล็กๆคนหนึ่ง
เท่านั้น
“ จะ..เจ้า ”
หลิวฉวนยูร์นางรู้สึกงุนงงกับภาพตรงหน้าเป็นอย่างมากภาพ
ของบุรุษที่นางไม่เคยแม้แต่จะชอบหน้า ภาพของบุรุษที่นางทาตัว
หยิ่งยะโสใส่เขาไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม อีกทัง้ นางยังว่างแผนจะล่อ
สัตว์อสูรเพื่อให้พวกมันเข้าไปโจมตีเขาแต่กลับเป็นนางเสียเองที่ต้อง
รับเคราะห์กรรมนี้ คาพูดทุกอย่างล้วนจุกอยู่ในอกของนางภาพของ
บุรุษที่ตอนนี้ใช้แขนทั้งสองข้างที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงสีดาอัน
น่าสะอิดเอียนและน่าหวาดกลัวเข้ารับการโจมตีจากหมัดของวานร
สองเขา
บุรุษที่มีพลังปราณเพียงแค่จุดสูงสุดขั้นที่ห้าของปราณเริ่มต้น
กลับหาญกล้าเข้ารับการโจมตีจากวานรสองเขาเพื่อช่วยชีวิตนาง
นั้นก็คือหลินหมิงนั้นเอง
ตอนที่ 18
อั๊กก !
บริเวณพื้นใต้เท้าของหลินหมิงเกิดรอยราวขึ้นมาในทันทีจาก
การที่เขาเข้ารับหมัดของวานรสองเขา หมัดของวานรสองเขาหมัด
นี้แทบจะทาให้แขนทั้งสองข้างของเขาแหลกสลายไปใน
พริบตาเดียวหากไม่ได้มีเปลวเพลิงสีดาคลุมเอาไว้รวมกับการที่
ร่างกายของเขามีการพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมากจากเดิม
แต่เดิมนั้นหลังจากที่หลินหมิงได้รับเปลวเพลิงสีดาในครั้งแรก
ร่างกายของเขาก็มีการพัฒนาที่น่ากลัวการคนทั่วไปหลายเท่ายิ่งกับ
ในตอนนี้ที่เขาได้ผ่านการร่วมรักกับหญิงสาวมาถึงสองครั้งมันไม่
เพียงแต่ทาให้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นแต่ร่างกายของเขา
ยังคงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันแม้ว่าในครั้งล่าสุดที่เขาทาการร่วมรักกับ
หญิงสาวผู้พี่พลังของดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยคืบหน้าก็ตามที่ มันเป็น
เพียงแค่การพัฒนาเล็กๆน้อยๆหากเทียบกับในตอนแรก
ซึ่งหลินหมิงได้แต่คิดว่าเขาอาจต้องร่วมรักกับหญิงสาวไม่ซ้า
หน้า หรือต้องเป็นหญิงสาวที่ยังคงมีพรหมจรรย์เท่านั้นที่จะทาให้
เขาสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดเช่นในตอนแรก
หลินหมิงกัดฟันอย่างรุนแรงพร้อมกับกลั้นเลือดไม่ให้ทะลักออก
จากปากพร้อมกับคว้าร่างของหลิวฉวนยูร์ที่อยูด่ ้านหลังแล้ว
กระโดดถอยหลังไปเพื่อตัง้ หลัก
หลิวฉวนยูร์นางรู้สึกงุนงงและสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้าไป
หมด หากเป็นในสถานการณ์ปกติการที่มีบุรุษมาแตะต้องตัวนาง
เช่นนี้มันผู้นั้นย่อมต้องมีจุดจบภายใต้กะบี่ของนางเป็นแน่
“ หนีไป ”
“ หะ ? ”
“ ข้าบอกให้หนีไปไงเล่า !! ”
หลินหมิงสบถเสียงด้วยอารมณ์ดุดันจากสถานการณ์ตรงหน้าไม่
ว่าเขาจะเลือกทางไหนมันย่อมเป็นหนทางทีย่ ากลาบากและ
อันตรายต่อชีวิตเขาทั้งสิ้น แม้ว่าสภาพของหลินหมิงหลังจากรับ
หมัดของวานรสองเขามาแม้ไม่อาจเรียกได้ว่าสาหัสแต่มันก็ยังอยู้ใน
จุดที่เรียกได้ว่าย่าแย่
แขนทั้งสองข้างของเขาแทบจะด้านชาจนไม่รู้สึกพร้อมกับ
ร่องรอยเลือดที่ปริแตกออกมาจากแขนจานวนเล็กน้อย หากเขาต้อง
รับการโจมตีแบบเมื่อกี้นี้อกี โชคดีที่สุดก็คือการที่เขาต้องเสียแขนทั้ง
สองข้างไปร้ายทีสุดก็คือชีวิตของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นสภาพของหลิวฉวนนั้นดูแย่กว่าหลินหมิงเสียอีก
ไม่ใช่บาดแผลภายนอกแต่เป็นสภาพการต่อสู้หลิวฉวนยูร์นั้นนางได้
หลบหลีกจากวานรสองเขามาเป็นเวลานานจนทาให้พลังและ
เรี่ยวแรงแทบจะไม่เหลือ
“ ไปสิ !! ”
ตราบใดที่หลิวฉวนยูร์หลบหนีไปได้หนทางหลบหนีของหลินหมิง
ก็ใช่ว่าจะเป็นศูนย์ แต่หลินหมิงคิดผิดพลาดไปอยู่อย่างหนึ่ง
หลิวฉวยยูร์นางไม่ได้ขยับเขยือนร่างกายไปไหนเลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ว่าเพราะร่างกายของนางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขนาดนั้นแต่มันเป็น
เพราะว่านางที่เกิดมาในตระกูลใหญ่และถูกเลี้ยงดูอย่างดีนั้นไม่เคย
ต้องได้รับความลาบากและการต่อสู้ที่ยากเช่นนี้
อีกทั้งการที่มีคนตวาดขึ้นเสียงกับนางนั้นนี้ย่อมเป็นครั้งแรกใน
ชีวิตของนางเพราะขนาดบิดา มารดาของนางยังไม่เคยเลยแม้แต่
ครั้งเดียว ในตอนนี้นางมีอารมณ์ที่ยากจะอธิบายอยู่ในใจมากมาย
ทาไมเขาถึงช่วยนาง ? ทาไมเขาถึงกล้าพูดจากับนางอย่างนี้ ?
แต่สิ่งที่ทาให้นางก้าวขาไม่ออกจริงๆก็คือภาพของวานรสองเขา
ที่กาลังเข้าจู่โจมอีกครั้งด้วยพละกาลังที่เหนือกว่าในตอนแรกอย่าง
เทียบไม่ตดิ ! นางกลัวจนไม่อาจก้าวเดินได้ในตอนแรกนางเพียง
รับมือการหยอดล้อจากวานรสองเขาเท่านั้นแต่เห็นได้ชัดว่า
ในตอนนี้มันไม่มีอารมณ์หยอกล้อกับนางแล้ว
“ โธ่เว้ย ! ”
เมื่อเห็นนางนั่งนิ่งเช่นนี้พร้อมกับร่างของวานรสองเขาที่พุ่งเข้า
มาด้วยความเร็วสูง หลินหมิงไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้อีกต่อไป
ในเมื่อตอนนี้หนทางของเขามีทางเดียวเท่านั้นก็คือ.......
“ ย๊ากก ”
ร่างของหลินหมิงพุ่งเข้าหาวานรสองเขาสร้างความแปลกใจ
ให้กับมันเป็นอย่างมากแม้ว่ามันจะไม่ได้มีสมองทีช่ าญฉลาดเช่น
มนุษย์แต่มันก็สามารถรับรู้ได้ว่าหากเป็นมนุษย์โดยทั่วไปใน
สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาเหล่านั้นคงรีบวิ่งหนีโดยไม่คิดชีวิตและ
นั้นจะทาให้มันสามารถไล่ฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและด้วยสติปัญญาของมันทา
ให้มันไม่สามารถตอบนสนองต่อการกระทาอันแปลกประหลาดของ
หลินหมิงได้
หลินหมิงหลบหมัดของวานรสองเขาได้อย่างฉิวเฉียด รอยเลือด
เป็นเส้นตรงปรากฎบนแก้มได้ซ้ายของเขา แต่ถึงอย่างนั้นร่างของ
หลินหมิงยังคงพุ่งต่อไปพร้อมกับหมัดทั้งสองที่คลุมไว้ด้วยเปลว
เพลิงสีดา
ปังง ! ปังงง !! ปังงง
เสียงหมัดของหลินหมิงชกเข้าที่ลาตัวของวานรสองเขาอย่างบ้า
คลั่งมันเป็นช่วงเวลาเพียงเสียงวินาทีเท่านั้นทีวานรสองเขาไม่
สามารถตั้งสติได้ และหลินหมิงได้ใช้โอกาสนี้ในการเอาชีวิตรอดของ
เขา
“ นะ..นี้เขา..บ้าไปแล้ว ! ”
หลิวฉวนยูร์นางสับสนเรือ่ งราวไปหมด หลินหมิงสมควรเป็นผู้ที่
มีพลังขั้นห้าของปราณเริ่มต้นเท่านั้นแต่เหตุใดหมัดของเขาถึงใดมี
ความรุนแรงเช่นนี้ ! ซึ่งนางไม่ได้รู้เลยว่าหากหลินหมิงไม่ได้รับ
บาดเจ็บจากการโจมตีก่อนหน้าหมัดของเขาในตอนนี้อาจสร้าง
บาดแผลสาหัสให้แก่วานรสองเขาไปแล้ว
ช่วงเสียววินาทีผ่านไปวานรสองเขานั้นอย่างไรเสียตัวมันนั้นถือ
ได้ว่าเป็นราชาของป่ารอยนอกอย่างแท้จริงไม่มีท่าทีมันจะถูกจัดการ
ลงได้ง่าย หมัดขวาของมันหวดเข้าเต็มท้องของหลินหมิงโดยพลัน !
“ อุกกก ! ”
ร่างของหลินหมิงปลิวกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร พร้อมกับ
กระอักเลือดออกมาคาโต หลินหมิงรู้สึกราวกับว่ากระดูดในร่างกาย
ของเขานั้นถูกบดละเอียดยับจากการโจมตีนี้เพียงแต่ว่า..
‘ ยัง..ยังไม่จบ ’
ร่างของหลินหมิงพลันดีดตัวเขาหาวานรสองเขาอีกครั้งเปลว
เพลิงสีดาที่เคยปกคลุมบริเวณที่มือทั้งสองข้างของเขาค่อยๆปกคลุม
ส่วนอื่นไปด้วยแม้จะเบาบางกว่าก็ตามที่
ปัง !
หมัดของหลินหมิงชกเข้าไปที่เต็มหน้าของวานรสองเขาจนทาให้
ร่างของมันเซถอยหลังไปเล็กน้อย หลินหมินรีดเร้นพลังปราณทุก
หยดภายในร่างขีดจากัดของเขตต่างๆล้วนถูกทาลายเส้นเลือด
ประสาททุกเว้นล้วนปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ภาพของวานรสองเขาที่เปรียบดั่งราชาของป่ารอบนอกกับภาพ
ของมนุษย์ที่มีเปลวเพลิงสีดาอันน่ากลัวปกคลุมตามร่างกายกาลัง
เข้าโรมรันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งสองฝ่ายต่างแลกมันกันโดยที่
ไม่มีทที ่าว่าฝ่ายใดจะตั้งรับทั้งสองทาเพียงหลบหลีกการโจมตีบ้างใน
บ้างครั้งแล้วสวนกลับไป
ยิ่งเวลาผ่านไปหลินหมิงเริ่มที่จะสามารถหลบหลีกการโจมตีของ
วานรสองเขาได้มากยิ่งขึ้นต่างจากมันที่เป็นเพียงสัตว์อสูรที่มี
สติปัญญาต่า ความโกรธเกรี้ยวจากการโดนโจมตีมนุษย์ตัวกระจ้อย
ทาให้มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนสิ่งใด
ผ่านไปครบชั่วเวลาหนึ่งก้านธูปร่างของวานรสองเขาก็ล้มลง
กลายเป็นร่างไร้ชีวิตนอนแน่นิ่งไป ร่างของหลินหมิงยังคงเต็มไป
ด้วยเลือดเต็มร่างกายอาจกล่าวได้ว่าราวกับหลินหมิงได้ไปอาบฝน
เลือดมาอย่างใดอย่างนั้น
หลิวฉวนยูร์ในระหว่างทีห่ ลินหมิงกาลังแลกหมัดกับวานรสอง
เขาอยู่นั้นนางถึงกับทาอะไรไม่ถูก นางคิดรังแกคนที่แข็งแกร่งขนาด
นี้? อีกทั้งเขายังมีพรสวรรค์ในทุกๆด้านที่เหนือกว่านางอย่างเห็นได้
ชัด แต่ทาไมเขาถึงเข้ามาช่วยนางกันละ
หัวใจของนางสั่นไหว นางได้รับคากล่าวชมจากบุรุษมามากมาย
แต่มันไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ทาให้นางสามารถรู้สึกได้เช่นนี้ ถึงแม้นาง
จะไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่นางไม่สามารถปล่อยให้
หลินหมิงตายได้

ตอนที่ 19
หลิวฉวนยูร์หัวใจของนางแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นร่างที่เต็มไปด้วย
บาดแผลของหลินหมิงล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ด้วยตาทั้งสองข้าง
ของเขาล้วนปิดสนิท นางรีบวิ่งไปหาหลินหมิงในทันที
“ เจ้า..ได้ยินข้ารึเปล่า..ห้ามหลับเชียวนะลืมตาขึ้น..ฮือออ ”
จากบาดแผลของหลินหมิงในตอนนี้นางไม่สามารถพาเขา
กลับไปรักษาที่เมืองได้ทันอย่างแน่นอน ด้วยสภาพของนางที่เป็นอยู่
ในตอนนี้ทาให้นางไม่อาจเคลื่อนไหวได้สะดวก และมันอาจมีปัญหา
ระหว่างทางอย่างเช่นการต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร ซึ่งต่อให้พวก
มันจะเป็นสัตว์อสูรขั้นหนึง่ ของปราณเริ่มต้นมันก็สามารถจัดการ
นางได้อย่างง่ายดาย
สถาพของหลินหมิงในตอนนี้นั้นสาหัสมาก อาจเรียกได้ว่าประตู
แห่งความตายลอยอยู่ข้างหน้าเขาเพียงคืบเดียวเท่านั้น บาดแผล
ปรากฎทั่วทุกแห่งตามร่างกายของหลินหมิง หากเป็นนางในอดีต
นางคงไม่กล้าแม้แต่จะคิดเขามาใกล้คนสภาพเช่นนี้
แต่ว่าทันใดก็มีเสียงฝีเท้าของคนมุ่งหน้ามาทางของหลินหมิ
งเพียงแต่ว่าหลิวฉวนยูร์นางนั้นไม่สามารถรับรู้สิ่งใดๆได้เลย
ในตอนนี้นางพยายามฝืนร่างกายเพื่อค่อยๆแบกร่างของเขาแต่มัน
กลับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ นี้มันเกิดอะไรขึ้น ! ”
เสียงของสตรีผู้ทรงอานาจและแสนคุ้นเคยปรากฎในโสด
ประสาทมันราวกับเสียงสวรรค์ที่มาประทานพรให้แก่นาง ทั้งชีวิต
นางไม่เคยรู้สึกขอบคุณสวรรค์มากเท่านี้มาก่อนเลย คนที่มาถึงก็คือ
อาจารย์ของนางผู้อาวุโสซูหลิ่ง
“ ท่านอาจารย์ ! ช่วยด้วย..ฮั่วหมิงเขา..เขา ”
หลิวฉวนยูร์พยายามอธิบายเรื่องราวต่างๆแต่มันเป็นเพราะ
ในตอนนี้นางไม่อาจอดกลั้นหยาดน้าตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
อันหลากหลาย มันจึงทาให้ผู้อาวุโสซูหลิ่งไม่อาจเข้าใจได้ง่ายนัก แต่
ถึงอย่างนั้นเมื่อนางสารวจไปรอบๆนางพบกับซากของวานรสองเขา
ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แม้ว่านางจะยังไม่เข้าใจว่าวานรสองเขา
ถูกจัดการได้อย่างไรก็ตาม
นางจัดการห้ามเลือดของหลินหมิงให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นางออกมาตรวจสอบหลินหมิงและหลิวฉวน
ยูร์ ในความเป็นจริงแล้วนางเพียงต้องการมาให้คาแนะนาหลินหมิง
สักเล็กน้อยเพราะนางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะสามารถประสบ
ความสาเร็จในการเก็บเกี่ยวตั้งแต่ครั้งแรก
โอสถจานวนมากปรากฎออกมาจากแหวนมิติสีเขียวมรกตของ
นาง ทุกชิ้นล้วนเป็นโอสถระดับสูงที่ใช้สาหรับการรักษาบางขวดนั้น
อาจมีราคานับหลายหมื่นเหรียญ แต่เงินเหล่านั้นล้วนไม่อาจเทียบ
ได้กับชีวิตของหลินหมิง
“ เมื่อกลับไปข้าเชื่อว่าเจ้าย่อมมีคาอธิบายในเรื่องนี้ ”
ผูอ้ าวุโสกล่าวขึ้นอย่างลอยๆในขณะที่นางกาลังทาการรักษาอยู่
น้าเสียงของนางเต็มไปด้วยอานาจ ผู้อาวุโสซูหลิ่งนางรู้ดีเกี่ยวกับ
สถานการณ์เช่นนี้ดี มันย่อมไม่ใช่เรื่องปกติมันไม่มที างที่วานรสอง
เขาจะเข้าโจมตีพวกเขาทั้งสองในช่วงเวลานี้อย่างแน่นอนอีกทั้ง
บริเวณที่พวกเขาอยู่มันยังไม่ใช่เขตแดนของวานรสองเขาที่อยู่ส่วน
ลึกสุดของป่ารอบนอก
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลินหมิงพลันค่อยๆได้สติตื่นขึ้นมาร่างกาย
ของเขายังคงรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วตัว และยังรู้สึกปวดหัวอยู่เล็กน้อย
หลินหมิวพยายามหวนนึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาเขาจาได้เพียงแค่ว่าได้
เข้าต่อสู้กับวานรสองเขาอย่างสุดขีดกาลัง และเขาก็หมดสติไปใน
ที่สุด
‘ นี้ห้องของข้า ? ’
“ อะ..คุณชาย...ท่านพี่คุณชายได้สติแล้ว ! ”
เสียงของหญิงสาวดังขึ้นข้างๆไม่ห่างจากเขามากนักเมื่อเขาหัน
ไปมองก็พบกับหญิงสาวสองพี่น้องที่เขาได้ช่วงชิงความบริสุทธ์ไป
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเดินเข้ามาภายในห้องของเขาอย่าง
รวดเร็ว
“ พวกเจ้าหลบไปก่อน ”
“ เจ้าคะ ”
เป็นผู้อาวุโสซูหลิ่งที่เข้ามาด้วยความรวดเร็วในช่วงเวลาสัปดาห์
ที้ผ่านมาเป็นนางที่ได้ลงมือทาการรักษาหลินหมิงเองทั้งสิ้น หาก
ไม่เช่นนั้นหลินหมิงคงต้องจบชีวิตไปนานแล้ว หญิงสาวผู้พี่และน้อง
ต่างหลีกทางให้กบั ผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างรวดเร็วโดยที่มีร่างของหญิง
สาวที่ยืนข้างหลังด้วยสีหน้าเศร้าสลด
“ เจ้ารู้สึกเป็นเช่นไรบ้างรู้สึกมีความผิดปกติสิ่งใดกับร่างกาย
หรือไม่ ”
“ ข้ายังคงรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายอยู่เพียงเล็กน้อย ”
“ อืมนั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องเป็นห่วงร่างกายของเจ้า
ฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ข้าคาดคิดไว้มาก อีกทัง้ การที่เจ้ารู้สึกเจ็บปวด
ตามร่างกายเพียงเล็กน้อยแค่นี้นั้นย่อมถือเป็นเรื่องดีนัก ”
หลินหมิงเข้าใจคากล่าวของนางดี จากสภาพของเขาในครั้ง
ล่าสุดที่เขายังคงมีสติอยู่มนั แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถ
มีชีวิตรอดมาได้ อีกทั้งเขายังสามารถฟื้นคืนสติได้เพียงชั่วเวลาเพียง
สัปดาห์เดียวด้วยสภาพปางตาย
“ ขะ..ข้าขอโทษ ”
“ พวกเจ้าทั้งสองออกไปก่อน ”
หญิงสาวสองพี่น้องนั้นได้ถูกผู้อาวุโสซูหลิง่ ไล่ออกไปก่อน เมื่อ
พวกนางได้เห็นหลินหมิงได้สติพวกนางก็เบาใจลงไปมากเมื่อเทียบ
กับสภาพในตอนแรกที่พวกนางได้เห็นหลินหมิงทีผ่ ู้อาวุโสซูหลิ่งพา
มาพวกนางแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ เอาล่ะ ยูร์เอ๋อร์ได้อธิบายเรื่องราวให้ข้าฟังแล้ว ”
หลิวฉวนยูร์ยืนจ้องมองมาทางหลินหมิงด้วยท่าทีสานึกผิดอย่าง
สุดใจ
“ เจ้าควรรู้ว่าการที่พวกเจ้าได้พบวานรสองเขานั้นไม่ใช่เรื่อง
บังเอิญ แต่เป็นเพราะยูร์เอ๋อได้วางแผนโปรยผงล่อสัตว์อสูรไปทาง
เจ้าแต่ด้วยความไม่ชานาญกอปรกับการที่บริเวณนั้นอยู่ในส่วนลึก
ของป่าแต่ถึงอย่างนั้นก็นบั ได้ว่าเป็นโชคร้ายที่พวกเจ้าได้เจอวานร
สองเขาอยู่ดี ”
“ ข้าไม่ได้ตั้งใจข้าเพียงต้องการให้เจ้สประสบปัญหาเพียง
เล็กน้อยจากสัตว์อสูร.. ”
“ พอ ! ข้าบอกให้เจ้าพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
ผู้อาวุโสกล่าวขัดหลิวฉวนยูร์มันเห็นได้ชัดว่าจากเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นนี้ทาให้ความสัมพันธ์ของสองเทพธิดาต่างบุคคลิกเริ่มมีรอย
ร้าว
“ ฮั่วหมิงหากเจ้าต้องการให้นางชดใช้ก็กล่าวมาแม้นางจะไม่
เต็มใจชดใช้แต่เรื่องนี้ทางสมาคมของเราย่อมไม่ยอมเป็นแน่แท้ว่า
อีกฝั่งจะเป็นตระกูลหลิวก็ตาม ! ”
หลินหมิงแน่นอนว่าเขาย่อมต้องรู้สึกโกรธแค้นหลิวฉวนยูร์เป็น
อย่างมาก เขาเอาชีวิตเข้าช่วยนางแต่กลับกลายเป็นว่าเป็นางที่จง
ใจทาร้ายเขา? หากเขารู้เช่นนี้เขายังต้องเข้าไปช่วยเหลือนางอีก
หรือไม่ ? ก็แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมเป็นไปตามเดิมเพราะไม่เช่นนั้น
เขาคงต้องมีปัญหากับตระกูลหลิวเป็นแน่
“ ข้าไม่ต้องการสิ่งใดผู้อาวุโส อย่างไรเสียนางนั้นย่อมไม่ตงั้ ใจ
ให้เกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ข้าจึงไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากไปกว่านี้ ”
การมีปัญหากับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลิวในตอนนี้มันอาจ
ส่งผลทาให้ตระกูลหลินของเขาได้รู้ตัวตนของเขาและเมื่อเป็น
เช่นนั้นการที่เขาต้องรับมือกับตระกูลใหญ่สองตระกูลย่อมไม่ใช่เรื่อง
ง่าย เขาจาเป็นต้องมีความแข็งแกร่งที่มากเพียงพอที่จะปกป้อง
ตัวเองได้เสียก่อน
“ ฮึ่ม ! หากเจ้าว่าเช่นนั้นก็ตามใจเจ้าแต่ข้าได้แจ้งเรื่องนี้ไปกับ
ท่านประมุขแล้ว หากท่านกลับมาเมื่อใดข้าคิดว่าเรื่องนี้คงไม่จบ
เพียงเท่านี้ แต่ในวันนี้เจ้าจงพักผ่อนรอท่านประมุขกลับมาและข้า
จะมาดูอาการของเจ้าอยู่เรื่อยๆ ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งก้าวออกไปจากห้องเหลือเพียงหลิวฉวนยูร์อยู่
ภายในห้องกับหลินหมิงเพียงสองคน
ตอนที่ 20
ภายในห้องที่เหลือเพียงหลินหมิงและหลิวฉวนยูร์เต็มไปด้วย
ความอึดอัด นางยังคงไม่ได้จากไปแม้ว่าอาจารย์ของนางผู้อาวุโสซู
หลิ่งจะออกไปแล้วก็ตามที่
“ ข้าอยากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น..หากเจ้าต้องการสิ่งใดให้ข้า
ชดใช้เจ้าสามารถบอก.... ”
“ ข้าต้องการพักผ่อนในตอนนี้ ”
หลินหมิงยังไม่ต้องการพูดคุยกับนางในความจริงแล้วเขารู้สึก
ตกใจกับเรื่องที่นางวางแผนเอาไว้เช่นเดียวกันและมันยังมีความ
เป็นไปได้ที่นางอาจแสร้งทาเป็นเศ้ราเสียใจเพื่อลดโทษความผิดของ
นางแม้ว่านั้นจะโอกาสต่าก็ตามที่
“ หากเจ้าว่าอย่างนั้นข้าก็จะไม่รบกวนเจ้า ”
หลิวฉวนยูร์ออกไปจากห้องด้วยสีหน้าเศร้าสลดเช่นในตอนแรก
นางคาดไว้อยู่แล้วว่ามันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ทุกคนอภัยในเรื่อง
นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลินหมิงที่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยนาง
หลินหมิงหลับตาลงเพื่อพักผ่อนจากความอ่อนล้าจนในที่สุดเขา
ก็เผลอหลับลงไป
หลินหมิงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆหลังจากที่เขาสัมผัสได้ถงึ
ความรู้สึกแปลกๆตามร่างกายของเขา หลินหมิงเมือ่ ลืมตาเต็มตื่น
เขาก็พบหญิงสาวอายุราวสามสิบปลายๆกาลังใช้ผ้าเช็ดทาความ
สะอาดร่างกายส่วนต่างๆให้กับเขาอยู่
นางเป็นหญิงสาวทีม่ ีรูปร่างแตกต่างจากเทพธิดาทั้งสามของ
หลินหมิงอยู่เล็กน้อยในเรื่องความงามนั้นนางเป็นรองอย่างไม่ต้อง
สงสัยเพียงแต่ว่าด้วยรูปร่างและหุ่นของหญิงสาวสูงวัยนางนี้สมควร
เรียกได้ว่ามันช่างยั่วยวนใจเหล่าชายหนุ่มของเขาได้อย่างมาก
ยอดภูเขาคู่งามที่ประดับที่ทรวงอกของหญิงสาวมันใหญ่ล้น
ออกมาจนเขารู้สึกสงสารเสื้อผ้าที่นางใส่อยู่เล็กน้อย รวมกับรูปร่าง
ของนางค่อนข้างมีน้ามีนวลไม่ได้พร้อมเรียวเช่นเทพธิดาทั้งสามมัน
จึงเป็นความงดงามของหญิงสาวในอีกรูปแบบที่น่าชื่นชม
“ คุณชายตื่นแล้วรึเจ้าคะ ”
“ อ่า ”
“ ผู้อาวุโสได้สั่งให้ข้ามาเป็นคนคอยดูแลปรนณิบัติท่าน..หาก
ท่านต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมสามารถเรียกใช่ข้าได้เลยเจ้าคะ ”
หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวสองพี่น้องไม่ได้เป็นคนมา
ดูแลเขาทั้งที่ในตอนแรกตอนที่เขาตื่นขึ้นมามันเห็นได้ชัดว่าเป็นพวก
นางที่คอยดูแลเขาในช่วงระหว่างที่เขาไม่ได้สติอยู่
‘ พวกนางอาจเหนื่อยล้าจากการเฝ้าข้ามาเป็นเวลานาน ? ‘
หญิงสาวสูงวัยยังคงทาการเช็ดตัวให้กับหลินหมิงต่อไป โดย
ในตอนนี้นางได้ยกโค้งร่างกายของนางขึ้นเพื่อทาความสะอาดแขน
อีกข้างหนึ่งของหลินหมิง ยอดภูเขาทั้งสองนางในตอนนี้อยู่ไม่ห่าง
จากใบหน้าของเขามากเท่าใดนัก
รวมกับกลิ่นอายของหญิงสาวที่ดูเหมือนว่าหลินหมิงจะตอบรับ
กับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยมพวกมันจึงกลายเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์
ของเขา หลินหมิงนามืออีกข้างที่ว่างอยู่จากการทาความสะอาดของ
หญิงสาวสูงวัยสัมผัสเข้าที่หน้าอกของนาง
“ อ๊าาา~~~~~ ”
หญิงสาวสูงวัยสะดุ้งตัวเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าหน้าอกคู่ใหญ่นี้เป็น
จุดอ่อนไหวของนาง ใบหน้าของนางปรากฎสีแดงระเรื่ออย่างไม่อา
จอดกลั้นได้นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะมีอารมณ์หลังจากที่เขา
ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้
ตัวนางนั้นเป็นหญิงสาวรับใช้ภายในสมาคมมีหน้าที่ดูแลแขก
ที่มาเยี่ยมด้วยเหตุที่นางมีประสบการณ์ในการดูแลแขกมามากมายผู้
อาวุโสซูหลิ่งจึงได้ให้นางทาหน้าที่ในการดูแลหลินหมิง แน่นอนว่า
นางย่อมเคยผ่านเรื่องราวการร่วมรักกับบุรุษมาแล้ว แต่นางก็ยังอด
แปลกใจไม่ได้อยู่ดี
หลินหมิงยังคงใช้มือลูบไล้หน้าอกของนางเมื่อเห็นว่านางไม่ได้มี
ทีท่าตอบโต้แต่อย่างใด เขารู้ดีว่าสถานะของเขาในตอนนี้ภายใน
สมาคมนั้นล้วนต้องเป็นทีเ่ คารพต่อบรรดาข้ารับใช้ในที่แห่งนี้เป็น
อย่างมากอีกทั้งมันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่บุรุษนั้นจะต้องการ
ระบายอารมณ์ต่อบรรดาสาวใช้ เพียงแต่ว่าในก่อนหน้านี้นั้นที่ตานัก
แห่งนี้นั้นล้วนแต่ไม่มีผู้ชายและหญิงสาวสูงวัยนั้นนางเป็นคนของผู้
อาวุโสซูหลิ่ง
หลินหมิงค่อยๆประคองร่างของนางขึ้นมาบนเตียงของเขาโดยที่
ในขณะนี้เขากาลังอยู่ในท่ากอดรัดหญิงสาวสูงวัยจากด้านหลัง
พร้อมกับลูบคลายอดภูเขาอวบอิ่มของนางอย่างสนุกสนาน แต่ถึง
อย่างไรหญิงสาวสูงวัยนั้นสมกับที่นางเคยมีประสบการณ์เช่นนี้มา
บ้างแล้ว นางยังคงมีสมาธิและตั้งใจเช็ดตัวให้หลินหมิงจากบริเวณ
ต้นขาไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ
“ อ๊าา~~ ....อย่าบีบแรงสิเจ้าคะ ”
“ เจ้าไม่ชอบอย่างนั้นรึ ? ”
“ ปะ...เปล่าเจ้าคะ ”
หญิงสาวสูงวัยตอบอย่างกล้าๆกลัวๆปกติแล้วนั้นจาก
ประสบการณ์ในอดีตของนางบุรุษมักไม่มีการเล้าโลมกับสตรีเช่นนี้
มันจึงทาให้นางมีความรู้สึกแปลกๆ หลินหมิงยื่นใบหน้าเข้าไปที่
บริเวณซอกคอของนางแล้วทาการสูดดมอย่างหื่นกระหายจนถึง
ตอนนี้เขาแทบจะลืมความรู้สึกเจ็บปวดก่อนหน้าไปเกือบทั้งหมด
“ อ๊าา~~~~~ มันรู้สึกแปลกๆนะเจ้าคะ ”
มือข้างหนึ่งของหลินหมิงเริ่มเคลื่อนไหวเข้าสู่จุดยุทธศาสตร์ของ
หญิงสาว สัมผัสเปียกแฉะที่ปลายนิ้วของเขาสามารถบ่งบอกได้
อย่างนี้ว่านางมีอารมณ์ตอบสนองต่อเขามากเพียงใด
“ ไม่คิดเลยว่าแม้เจ้าจะมีอายุมากขนาดนี้จะยังมีอารมณ์มาก
เช่นนี้ ”
“ มะ...ไม่ใช่นะเจ้าคะ..เพราะคุณชา...อ๊าาาาา...ซี๊ดดดด..ยะ..
อย่าแหย่เข้าไปลึกเจ้าคะ ”
ในตอนนี้หญิงสาวสูงวัยถูกจู่โจมจากทุกด้านโดยหลินหมิงร่องรัก
ของนางนั้นถูกนิ้วมือข้างหนึ่งของหลินหมิงแหย่ไปมากอย่างซุกซน
ส่วนอีกข้างนั้นยังคงอยู่ทยี่ อดประทุมทันของนางอันเป็นส่วนที่นางมี
ความรู้สึกไวต่อสัมผัสเป็นอย่างมาก มือข้างนั้นของหลินหมิงยังคง
บีบคลึงหน้าอกของนางอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยพร้อมกับริมฝีปากของ
หลินหมิงที่โหมกระหน่าเข้าสูดดมและโลมเลียซอกคอและใบหูของ
นาง
“ ชะ...ช้าก่อนเจ้าคะ...ขะ..เริ่มรู้สึกว่าจะ....
อ๊าาาาาาาา~~~~~ ”
หลังจากต้องทนการเล้าโลมจากหลินหมิงมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง
นางก็ไม่สามารถอดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปน้ารักได้ไหลพุ่งออกมา
จากร่องรักของนาง จากการที่นางนั้นถูกเล้าโลมโดยหลินหมิงเพียง
อย่างเดียวเท่านั้น หากเป็นปกติแล้วนางสามารถรับมือกับทวน
มังกรของเหล่าบุรุษได้โดยไม่เสร็จด้วยซ้าไป
“ เจ้าไม่คิดจะทาให้ข้าบ้างอย่างนั้นรึ ”
เสียงเรียกของหลินหมิงดังที่ข้างหูของนางมันทาให้นางได้สติมัน
นานมากแล้วที่นางไม่ได้ปล่อยน้ารักของนางออกมา มันจึงทาให้
นางเผลอตัวไปกับความสุขจากการปลดปล่อยไปชั่วครู่
นางรู้ดีถึงสิ่งทีห่ ลินหมิงต้องการสื่อออกมามือของนางเข้าปลด
กางเกงของหลินหมิงออกมาเพื่อที่นางจะได้ทาสิ่งที่นางมั่นใจ ทักษะ
ในการบาเร่อบุรุษของนางนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมจนเหล่าบุรุษบาง
คนยังไม่ทันได้เสียบทวนมังกรของพวกเขา พวกเขาเหล่านั้นก็ต้อง
สิ้นฤทธิ์ไปเสียแล้ว แต่แล้วนางก็ต้องตกใจกับขนาดทวนมังกรของ
หลินหมิง
“ มะ......ไม่..น่าเชื่อ ”
ขนาดของมันใหญ่เกินกว่าทวนมังกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ตดิ มือ
ของนางค่อยๆเอื้อมไปจับเข้าที่ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างช้าๆ
‘ มันแข็ง..แล้วก็ใหญ่มาก..แถมยังอุ่น..ไม่สิร้อนเลยต่างหาก ‘
“ โอ้ยย..อ๊าา~~~..เบาๆเจ้าคะ ”
ในระหว่างที่หญิงสาวสูงวัยกาลังอยู่ในห้วงแห่งความคิดนางก็
ถูกหลินหมิงเข้าจู่โจมอีกครั้งเพื่อเรียกสติของนาง ยอดปะทุมถันของ
นางยังคงถูกบีบไปมาอย่างสนุกสนาน นางจะไม่ยอมง่ายๆแต่เพียง
เท่านี้อย่างแน่นอนขอเพียงแค่นางสามารถสยบทวนมังกรแท่งนี้ลง
ได้ไม่ว่ามันจะมีขนาดใหญ่-เล็กเพียงใดเรื่องนั้นย่อมไม่เกี่ยวกัน
มือทั้งสองของนางลูบไล้ไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างเร้า
ร้อน ทักษะของนางนั้นเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าหญิงสาวสองพี่น้องไป
มากนัก นางมีการเว้นจังหวะและเร่งจังหวะไปพร้อมๆกันมันทาให้
เขารู้สึกเสียวซ่านเป็นอย่างมาก
เมื่อหญิงสาวสูงวัยเริ่มสังเกตเห็นน้าขาวขุ่นของหลินหมิงนาง
เริ่มยิ้มออกมาอย่างมีชัย มันไม่มีทางที่นางจะถูกสยบโดยเด็กหนุ่ม
แต่โดยง่ายอยู่แล้วแต่นางต้องยอมรับว่าทักษะของคุณชายผู้นี้เรียก
ได้ว่าเหนือล้ากว่าบุรุษอื่นไปมากนัก ขนาดเขายังไม่ได้ใช้ทวนมังกร
แท่งยักษ์นี้ก็สามารถสร้างความสุขให้แก่นางอย่างไม่เคยพบมาก่อน

ตอนที่ 21
หญิงสาวสูงวัยยังคงใช้มอื ทั้งสองข้างของนางบีบรัดเพื่อรีดเร้น
น้าขาวขุ่นของหลินหมิงให้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกันกับ
หลินหมิงที่กาลังเล่นสนุกกับร่างกายของนาง
“ ข้าจะเสร็จแล้ว ”
“ อ๊าา~~~..ข้าด้วยเจ้าคะะะ ”
น้ารักของหญิงสาวสูงวัยถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้งไม่ห่างจาก
ช่วงเวลาแรกมากเท่าใดมันจึงทาให้ร่างกายของนางเริ่มไร้ซึ่ง
เรี่ยวแรง หลินหมิงเองก็ได้ปลดปล่อยน้าขาวขุ่นพุ่งตรงเข้าสู่ร่างกาย
ของหญิงสาวจนรางกับว่านางเพิ่งได้ไปบ่อน้ารักของเขามา
‘ มันมีกลิ่นฉุนมาก..แถมยังเหนียวแต่มันกลับมีรสชาติดีจนน่า
อัศจรรย์ ’
“ อ๊าา~~~ แฮ่กๆ ”
“ เอาล่ะงั้นเรามาต่อกันดีกว่า ”
คากล่าวของหลินหมิงทาให้นางตื่นตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ มัน
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสาหรับบุรุษที่จะปลดปล่อยน้ารักออกมาได้
ถึงสองครั้งในเวลาติดๆกันแต่เมื่อนางหันกลับมองยังร่างของหลินห
มิงที่ดูเหมือนว่าเขาจะปราศจากซึ่งความเหนื่อยล้าโดยสิ้นเชิง
“ ดะ..เดียวก่อน...เจ้าคะ..ข้าไม่สามารถ...ว๊ายย ”
ก่อนที่นางจะได้กล่าวอะไรหลินหมิงได้พลิกร่างกายของนางให้
นอนหงายราบบนเตียงโดยมีทวนมังกรจ่อที่ร่องรักของนางเตรีย
ใเผด็จศึก
“ ขะ..ข้าว่าเราน่าจะพักกัน...โอ้ยยยยยย...มะ...มันใหญ่ไปเจ้า
คะ...เอาออกไปก่อนนน....ขะ..ข้ารับม่าย..ไหวววว...ซี๊ดดดดดด....
อ๊าาาาาาาา ”
แม้ว่าหญิงสาวสูงวัยจะเคยผ่านประสบการณ์มามากแต่เมื่อนาง
ได้เจอกับทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังแทงทะลุเข้าไปยังตัวนาง
มันก็ทาให้นางรู้สึกได้ว่าโพร่งของนางนั้นกาลังฉีกขาด ทวนมังกร
ของหลินหมิงนั้นเพิ่งจะแทงทะลุเข้าไปได้เพียงสามส่วนซึ่งนางไม่
อาจคาดคิดถึงตอนที่มันแทงทะลวงเข้ามาจนสุด
“ มะ..ไม่..อึกกก..อ๊าาาาาาาาาาาา~~~~~ ”
ใบหน้าของหญิงสาวสูงวัยในตอนนี้ลิ้นของนางห้อยออกมาจาก
ปากพร้อมกับน้าลายของนางที่ค่อยๆไหลออกมาเป็นจานวนมาก
พร้อมกับดวงตาของนางที่เหลือกมองขึ้นด้านบนไปตามธรรมชาติ
ราวกับว่านางใกล้จะหมดสติไปแล้วจากการที่หลินหมิงแทงทะลวง
เข้ามาสุดลา
ร่องรักของหญิงสาวสูงวัยนั้นหากเปรียบเทียบกับหญิงสาวสองพี่
น้องนั้นร่องของรักอาจไม่คับแน่นเท่าแต่ด้วยขนาดของทวนมังกร
ของหลินหมิงเขาเชื่อว่าต่อให้ร่องของหญิงสาวจะหลวมมากเพียง
เขาก็ยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้
แต่ร่องของหญิงสาวสูงวัยนั้นจะดูมีความยืดยุ่นมากกว่ามันจึง
ทาให้เขาสามารถแทงทะลวงได้โดยง่ายกว่าหญิงสาวสองพี่น้อง
น้ารักใสๆของหญิงสาวค่อยๆไหลออกมาอีกครั้ง ราวกับว่า
ร่างกายภายในของนางนั้นเกิดคลื่นระเบิดแต่นางไม่อาจปฏิเสธได้ว่า
มันให้ความรู้สุขสมแก่นางได้อย่างมาก
“ เจ้ารู้เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ”
“ แฮ่กๆๆ..ขะ..ข้าขอพัก..ก่อนเจ้าคะ.. ”
นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเสียท่าให้กับคุณชายตรงหน้า
ที่อายุยังน้อยถึงเพียงนี้ หลินหมิงยิม้ ให้เล็กน้อยกับท่าทีอันน่ารักของ
หญิงสาวสูงวัยเขาก้มลงประปากของนางอย่างนิ่มนวลเขายังไม่
ต้องการให้นางหมดสติไปตอนนี้แต่ก็ไม่ต้องการให้นางได้พัก
เช่นเดียวกัน
“ อื้มมมมมม~~~~ ”
ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มขยับอย่างช้าตามจังหวะระรอกคลื่น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็กลับทาให้หญิงสาวแทบจะระเบิดน้ารักของนาง
อีกครั้ง เมื่อหลินหมิงเห็นว่านางเริ่มมีความรู้สึกเคยชินและผ่อน
คลายลงเขาจึงค่อยๆทาการเร่งจังหวะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนหน้านี้กับ
หญิงสาวสองพี่น้องนั้นเขายังไม่อาจโจมตีพวกนางได้อย่างรุนแรง
มากนักเพราะพวกนางยังคงขาด.ึ่งประสบการณ์ไม่เช่นนั้นแล้วพวก
นางคงหมดสติภายในช่วงเวลาไม่นาน
“ อะ อะ อะ โอ้ยย..รู้สึกเสียวไปหมดเลยเจ้าคะ ”
หญิงสาวสูงวัยนางเริ่มรู้สึกได้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเริ่มทุเลา
ลงแต่มันกลับแทนที่ดว้ ยความรู้สึกเสียงซ่านมและความสุขสมจาก
การโดนหลินหมิงจู่โจม
“ งั้นข้าจะเร่งขึ้นอีก ”
หลินหมิงรู้สึกพอใจเป็นอย่างเข้าเร่งจังหวะเข้าซัดร่างของหญิง
สาวสูงวัยจนร่างกายของนางกระตุกถี่อยู่บ่อยครั้งอันเป็นสัญญาณ
ว่านางได้ปลดปล่อยน้ารักออกมาเป็นจานวนมาก แต่ถึงอย่างนั้น
เสียงครางของนางก็ยังคงดังสร้างอารมณ์ให้เขาอยู่อย่างต่อเหนื่อง
มันเห็นได้ชัดว่านางจะไม่หมดสติไปง่ายๆแม้ว่าเรี่ยวแรงของนางจะ
หมดลงไปแล้วก็ตาม
“ อ๊าาาาาาา~~~~~~~~~ ”
น้าขาวขุ่นถูกปลดปล่อยเข้าสู่โพร่งร่องรักของนางเข้าไปเต็มท้อง
หลินหมิงนาทวนมังกรของเขาออกเพราะว่าเขาต้องการให้น้ารักทั้ง
ของเขาและนางได้ระบายออกมา
“ เป็นอย่างไรบ้างล่ะ ”
“ ขะ..ข้าขอเป็นข้ารับใช้คุณชายตลอดไป~~ ”
“ งั้นข้าคงต้องไปบอกผู้อาวุโสซูหลิ่งแล้วละนะ ”
ด้วยขนาดทวนมังกรของหลินหมิงที่จู่โจมนาง ทาให้นางคิดว่า
นางคงไม่สามารถบริการชายใดได้อีกร่องรักของนางนั้นในตอนนี้
เรียกได้ว่าเบ่งบานออกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันกลายเป็นร่องที่
มีไว้สาหรับคุณชายคนนี้คนเดียวเพียงเท่านั้น
“ แต่ว่ามันยังไม่จบหรอกนะ ”
“ เอ๊ะ ! ”
หลินหมิงพลิกร่างของนางให้หันกลับมานอนคว่าโดยที่ยกส่วน
สะโพกของนางให้โค้งตั้งขึ้นมาโดยมีเข่าทั้งสองข้างตั้งชั้นเอาไว้
“ คะ..คุณชายยัง..มะ..ไม่พอใจอีกรึเจ้าคะ ”
“ โฮ่ จากมุมนี้ข้าสามารถตรวจสอบร่องของเจ้าได้เป็นอย่างดี
ไหนดูสิยังคงมีอะไรอยู่ข้างไหนบ้างน้า~ ”
“ อย่าเอานิ้วแหย่เล่นสิเจ้าคะ..อ๊าา~~ ”
“ ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอารมณ์ตองสนองที่ดีเยี่ยมเลยนะ ”
หลินหมิงเริ่มรู้สึกได้ว่าร่องรักของนางเริ่มจะปลดปล่อยน้าใสๆ
ออกมาอีกครั้ง มันทาให้เขายากที่จะอดกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไปทวน
มังกรของหลินหมิงเข้าประจาการและเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง
“ โอ้ววว ”
“ ซี๊ดดดดดด! อ้าาา~~~~ทาไม..มันถึงใหญ่เหมือนเดิมเลยเจ้า
คะ..แบบนี้มัน อ๊าาาาา~~~ ”
ปัป ปัป ปัป ปัป ปัป ปัป
เสียงเนื้อมนุษย์ทั้งสองกระทบกันอย่างร้อนแรงด้วยการที่นาง
เป็นหญิงสาวที่ไม่อาจเรียกได้ว่าผอมเพรียวแต่ไม่ถงึ ขั้นอวบ สะโพก
ของนางนั้นราวกับว่ามันถูกสรรสร้างให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับ
อารมณ์ของเหล่าบุรุษ
“ ทะ...ท่านี.้ .มัน...รู้สึกว่าเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมอีกเจ้าคะ ”
หลินหมิงยังคงร่วมรักกับหญิงสาวสูงวัยในท่านี้อย่างยาวนานจน
เขาปลดปล่อยน้าขาวขุ่นไปถึงสามครั้ง
“ อ๊า~~ ”
ร่างกายของหญิงสาวนั้นเรียกได้ว่าอาบไปด้วยน้ารักอย่าง
แท้จริงโดยเฉพาะบริเวณร่องรักของนาง หญิงสาวสูงวัยนอนคว่า
หน้าลงด้วยความอ่อนล้าจากท่วงท่าการร่วมรักของหลินหมิง
“ เอ๊ะ..คุณชาย..จะทาอะไรเจ้าคะ..ตรงนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ...อึก
กกกกก..อ๊าาาาา~~~ ”
“ ดูเหมือนว่ารูก้นของเจ้ายังบริสุทธ์อยู่นะ ”
“ มะ..ไม่..ไหว......แล้ว ”
หลินหมิงยังคงกระแทกดุน้ เข้าไปยังก้นของนางอย่างร้อยแรง
โดยที่เขาไม่ได้สงั เกตเลยว่านางนั้นได้หมดสติไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
ไปเสียแล้วแต่ถึงอย่างนั้นนางจะยังคงร้องเสียงครางอย่างไม่ขาด
สาย

ตอนที่ 22
วันถัดมาหลินหมิงตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นราวกับว่าบาดแผล
ที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องโกหก ผู้อาวุโสซูหลิ่งแทบจะไม่เชื่อสายตาของ
นางเอง แน่นอนว่านางได้จัดตัวยาและสมุนไพรระดับสูงจานวนมาก
เพื่อทาการรักษาหลินหมิงแต่มันย่อมไม่น่าส่งผลดีถึงเพียงนี้ นี้อาจ
เป็นเพราะพรสวรรค์หรือทักษะติดตัวของเขาเปลวเพลิงสีดาที่นาง
เองก็ไม่อาจทาความเข้าใจเกี่ยวกับมันได้มากนัก
“ ผู้อาวุโสข้ามีเรื่องที่จะกล่าวขอสักเล็กน้อย ”
ในห้องรับรองใหญ่ของตานักประมุขสมาคมนักปรุงยานั้นไม่ได้มี
เพียงแต่หลินหมิงกับผู้อาวุโสซูหลิง่ เท่านั้นยังมีสาวสูงวัยที่หลินหมิง
ได้ร่วมรักกับนางไปเมื่อวานนี้อย่างเร่าร้อน การเดินและการนั่งต่างๆ
ของนางเห็นได้ชัดว่านางยังไม่สามารถขยับตัวได้อย่างถนัดนัก และ
ยังมีหลิวฉวนยูร์ศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสนั่งอยู่ข้างๆโดยนางเหลือบ
มองมาที่หลินหมิงเป็นระยะ
“ อืม..ซื่อโฉวนางได้บอกกล่าวข้าเกี่ยวกับเรื่องนีแ้ ล้วตัวข้านั้น
ย่อมไม่มีเรื่องขัดข้องแต่อย่างใดและดูเหมือนว่านางจะเต็มใจข้าจึง
ไม่มีเรื่องขัด อีกทัง้ เจ้าเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บการที่ได้นาง
เอาไว้ดูแลร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว ”
“ ขอขอบพระคุณผู้อาวุโส ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งพอจะเข้าใจเรื่องราวบางอย่างอาจเป็นไปได้ว่า
หลินหมิงนั้นมีความชอบพอในลักษณะของ ซื่อโฉวข้ารับใช้ของนาง
การที่นางเสียข้ารับใช้สาวไปสักคนสองคนหรือนับสิบคนนั้นย่อม
ไม่ใช่เรื่องที่มีความหมายแต่อย่างใดกลับกันการสร้างความ
ประทับใจ และความปลอดภัยให้หลินหมิงนั้นย่อมเป็นเรื่องสาคัญ
ยิ่งกว่า
“ อีกเรื่องหนึ่งท่านประมุขนั้นยังคงไม่สามารถเดินทางกลับมา
ได้เนื่องจากติดประชุมยาวที่เมืองหลวงดังนั้นท่านจึงให้ข้าเป็นคน
ดูแลเจ้าไปอีกสักระยะ ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของหลิวฉวนยูร์สดใสขึ้นมาเล็กน้อยหาก
เป็นตามกาหนดการเดิมจูหนิงเอ๋อร์นั้นต้องกลับมาในวันพรุ่งนี้และ
หากเป็นเช่นนั้นโอกาศที่นางจะได้อยู่กับหลินหมิงก็นับได้ว่าน้อยนิด
“ ในวันพรุ่งนี้จะมีการจัดการประลองกันระหว่างศิษย์ของเหล่า
ผู้อาวุโสภายในสมาคมซึ่งในเรื่องนี้ท่านประมุขต้องการให้เจ้าเข้า
ร่วมด้วยแน่นอนว่าการประลองนั้นมีสองประเภทนัน้ ก็คือการ
ประลองการปรุงยา และการประลองยุทธ์แต่ในส่วนของงาน
ประลองปรุงยานั้นได้จบลงไปแล้วในระหว่างที่เจ้าไม่ได้สติและผุ้
ชนะก็คือยูร์เอ๋อร์ ”
หลินหมิงคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่หลิวฉวนยูร์นนั้ เป็นผู้ชนะ
ไปหากผู้อาวุโสซูหลิง่ กล่าวว่าหลิวฉวนยูร์ไม่ได้ชนะอันดับหนึ่งนั้น
ถือจะเป็นเรื่องแปลกสาหรับหลินหมิงการที่จะปรุงยาระดับสามด้วย
วัยเพียง 15 ปีนั้นย่อมเกินกว่าสามัญสานึกคนธรรมดาทั่วไปอยูม่ าก
นักเช่นนั้นแล้วคนที่จะสามารถเอาชนะนางได้ต้องเป็นนักปรุงยาที่
สามารถปรุงยาระดับ 4 ได้หรืออย่างน้อยต้องปรุงยาระดับ 3 ขั้นสูง
เท่านั้น
“ ข้าคิดเห็นว่าในเมื่อเจ้าหายดีจากอาการบาดเจ็บจึงสมควรใช้
โอกาสนี้ในการสั่งสมประสบการณ์ และเพิ่มชื่อเสียงให้กับตัวเจ้า ”
“ ขอรับท่านผู้อาวโส ”
แน่นอนว่าหลนหมิงย่อมต้องการเข้าร่วมการจัดแข่งในครั้งนี้
ตั้งแต่ที่เขาได้รับพลังมานัน้ เขายังไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่เป็นมนุษย์เลย
หากไม่นับอาจารย์สาวสวยของเขามันจึงทาให้เขาประเมิณพลังของ
ตัวเองกับรุ่นเยาว์โดยทั่วไปได้อย่างยากลาบากแน่นอนว่าตัวของ
หลินหมิงนั้นรู้ดีว่าเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทัว่ ไปมากนักแต่
เขาก็ยังไม่สามารถคาดคะเนเปรียบเทียบกับรุ่นเยาว์คนอื่นได้
“ ขะ..ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะพักต่ออีกสักหน่อย ”
หลินหมิงได้ยินคากล่าวของหลิวฉวนยูร์นั้นทาให้ตวั เขารู้สึก
งงงวยเป็นอย่างมาก นางรู้สึกเป็นห่วงเขา? อีกทั้งปฎิกริยาของผู้
อาวุโสซูหลิ่งนั้นแตกต่างไปจากเมื่อวานที่นางแสดงออกอย่างเห็นได้
ชัดว่านางมีความรู้สึกโกรธเกรี้ยวต่อหลิวฉวนยูร์มากเพียงใด แต่
ในตอนนี้นางแสดงท่าทีเอ็นดูหลิวฉวนยูร์ดงั่ เช่นก่อนหน้านี้หรืออาจ
มากกว่า
“ ข้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆขอบใจแม่นางที่เป็นห่วง ”
หลิวฉวนยูร์รู้สึกเอียงอายจนหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อผู้
อาวุโสซูหลิ่งเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มชอบใจออกมา
‘ มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ระหว่างสองเทพธิดานางนี้ ? ’
หลินหมิงแยกจากผู้อาวุโสซูหลิ่งมายังห้องที่เอาไว้ใช้สาหรับ
ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ ในก่อนหน้านี้นั้นอาจารย์สาวสวยของเขาบอก
ว่าตัวเขายังไม่ต้องสนใจในการทักษะเหล่านี้มากนัก แต่ในตอนนี้
นางอนุญาติให้เขาได้ฝึกฝนด้วยตนเองไปก่อน
การฝึกฝนด้วยตนเองนั้นแม้ดูเป็นหนทางทีย่ ากลาบากกว่าการที่
มีอาจารย์มาฝึกสอนแต่มันสามารถสร้างประสบการณ์ในการพัฒนา
และด้านการคิดของผู้ฝึกให้เติบโตได้ อาจารย์สาวสวยของเขาจึง
ตั้งใจให้เขาได้ฝึกฝนตนและจะชี้แนะในส่วนที่สาคัญเท่านั้นเพื่อที่จะ
ไม่ได้เป็นการขว้างกั้นขีดจากัดของเขา
หลินหมิงทาสมาธิเพื่อตรวจสอบพลังงานภายในร่างกายพลัง
ปราณในร่างกายของเขาในตอนนี้เลื่อนขึ้นมาเป็นขั้นที่หกของ
ปราณเริ่มต้นหลังจากที่ได้ผ่านการร่วมรักกับซื่อโฉว หญิงสาวรับใช้
ของผู้อาวุโสซูหลิ่งทีต่ อนนี้กลายเป็นสาวใช้ของเขาเป็นที่เรียบร้อย
เขาจึงสามารถสรุปได้ว่าเขาจะต้องร่วมรักกับหญิงสาวที่ไม่ซ้า
เท่านั้นถึงจะสามารถรับพลังงานจานวนมากได้ แต่หากเขาร่วมรัก
กับพวกนางซ้าก็จะได้เพียงพลังงานส่วนเล็กๆเท่านั้น
แม้ว่าพลังงานที่เขาจะได้จากการร่วมรักกับนางนั้นจะสามารถ
ทาให้เขาทะลุก้าวเข้าสู่ขั้นที่หกของปราณเริ่มต้นแต่พลังงานเหล่านี้
ยังไม่มากเท่ากับตอนที่เขาได้จากการร่วมรักกับหญิงสาวสองพี่น้อง
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขาจะต้องเป็นคนช่วงชิงความบริสุทธ์ของพวก
นางเพื่อที่จะได้รับพลังงานอย่างเต็มที่
วัดต่อมา
หลินหมิงในตอนนี้อยู่ที่ลานประลองกว้างของสมาคมนักปรุงยา
โดยมีรุ่นเยาว์จานวนมากอยู่ไม่ห่างจากเขาไปมากนัก บนที่นั่งของ
เหล่าผู้อาวุโสหลินหมิงเห็นผู้อาวุโสซูหลิ่งที่นงั่ อยู่ตรงกลาวด้วย
ตาแหน่งนั้นมันแสดงได้วา่ นางนั้นมีอานาจเพียงเป็นรองแค่อาจารย์
สาวสวยของเขา แต่เขากลับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่หลิวฉวนยูร์ไป
ยืนอยู่ใกล้ๆผู้อาวุโสซูหลิง่ อาจเป็นไปได้ว่านางไม่ต้องการเข้า
แข่งขันครั้งนี้ ?
รุ่นเยาว์ที่เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสนั้นถูกจากัดอายุให้ไม่เกิน 18 ปี
แต่ถึงอย่างนั้นจานวนของพวกเขาโดยรอบนั้นก็มมี ากกว่ายี่สิบคน
โดยที่ส่วนใหญ่แล้วนั้นพวกเขาจะมีอายุใกล้เคียง 18 ทั้งสิ้นพลังงาน
ที่พวกเขาแผ่ออกมาเพื่อกดดันแสดงให้เห็นว่าคนที่มีพลังต่าสุดนั้นก็
พลังถึงขั้นที่เจ็ดของปราณก่อตั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดหลิวฉวน
ยูร์จึงไม่ได้เข้าร่วมงานประลองครั้งนี้
นางแม้จะถูกจัดว่าเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากทั้งในด้านการ
ปรุงยาและวรยุทธ์แต่ด้วยช่วงอายุของนางกับรุ่นเยาว์เหล่านี้มัน
ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเอาชนะพวกเขาไปได้ สายตาจานวน
มากต่างมองมาที่หลินหมิงข่าวของประมุขสามคมนักปรุงยาที่รับ
ศิษย์ส่วนตัวเขามานั้นแม้ว่านางจะไม่ได้ทาการประกาศแต่ข่าวใหญ่
เช่นนี้ย่อมไม่อาจพ้นหูพวกเขาไปได้
ด้วยวัยของหลินหมิงกับพลังขั้นหกปราณเริ่มต้นมันอาจถูกมอง
ว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะแม้ว่าจะด้อยกว่าหลิวฉวนยูร์แต่นั้นย่อมไม่
เพียงพอต่อการเป็นศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคม ผู้เข้าแข่งขัน
ทั้งหมดนั้นมีทงั้ สิ้น 24 คนและมันเป็นการประลองหนึ่งต่อหนึ่งซึ่งไม่
อนุญาติให้มีการเอาชีวิตกันหากเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สามารถทาการ
ต่อสู้ได้ผู้อาวุโสที่เป็นกรรมการจะเข้าทาการหยุดโดยทันที
ผู้อาวุโสซูหลิ่งเนื่องจากนางไม่ได้ส่งศิษย์เข้าแข่งในครั้งนี้นางจา
ทาหน้าที่ในการจับฉลากคู่ประลอง โดยในคู่แรกนั้นเป็นคู่ที่น่าจับตา
มองเป็นอย่างมากเพราะว่าเป็นการประลองของ หลินหมิง ศิษย์
ส่วนตัวของประมุขสมาคม
ฮั่วหมิง(หลินหมิง ) - ลู่คง
หลินหมิงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเขาแทบจะอดใจรอไปไม่ไหว
การที่เขาได้เป็นคู่แรกนั้นย่อมไม่มีอะไรที่เยี่ยมไปกว่านี้ ลู่คงนั้นจัดได้
ว่าเป็นศิษย์ที่มีพลังขั้นที่แปดของปราณเริ่มด้วยอายุเพียง 18 ปีด้วย
พลังขนาดนี้เขาสามารถจัดให้อยู่ในระดับหนึ่งในห้าของการ
ประลองตั้งแต่ก่อนเริ่ม
หลินหมิงก้าวขึ้นบนเวทีโดยปราศจากความกังวลใดๆ
เช่นเดียวกับลู่คง ลู่คงนั้นแม้ว่าตัวมันจะไม่ได้มีพรสวรรค์ในการปรุง
ยาที่ดีเลิศมากนักจากการที่มันสามารถปรุงยาระดับสองเริ่มต้นได้
และผลสาเร็จนั้นอยู่ราวๆ 6 ใน 10 ซึ่งนั้นนับเป็เกณฑ์ธรรมดา
ทั่วไปของศิษย์ผู้อาวุโสในสมาคมแต่หากเป็นด้านการต่อสู้แล้วละก็
ตัวเขานั้นเชื่อมันว่าอยู่ในระดับสูงอย่างแน่นอน
อีกทั้งคู่ต่อสู้ของเขายังเป็นเพียงขั้นที่หกปราณเริ่มต้นที่อ่อนด้อย
กว่าเขาไปถึงสองขั้นไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่า ฮั่วหมิงคนนี้เป็นคนที่รุ่น
เยาว์ทุกคนต้องการประลองด้วยเพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าจะ
สามารถเอาชนะได้อย่าง่ายดาย
“ น้องหมิงด้วยนี้เป็นการประลองที่มีจุดประสงค์เพื่อแสดง
ความสามารถในตัวของแต่ละคน ข้านั้นในบางทีอาจจะไม่สามารถ
รั้งพลังที่เหมาะสมจนเจ้าเจ็บตัวข้าคงต้องขอโทษเจ้าเอาไว้ด้วย ”
ลู่คงกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ ตัวเขานั้นไม่มีความคิดที่จะ
พ่ายแพ้การประลองในครั้งแรกนี้เลยแม้แต่น้อย เขาคิดเพียงแต่ว่า
วิธีที่จะสามารถเอาชนะหลินหมิงได้อย่างสวยงามเพียงเท่านั้น
“ ข้าก็เช่นกัน บางทีข้าอาจทาให้พี่ชายบาดเจ็บข้าคงต้องข้อ
อภัยท่านด้วย ”

ตอนที่ 22
ลู่คงได้ยินคากล่าวของหลินหมิงก็แทบอดกลั้นหัวเราะเอาไว้
ไม่ได้ มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนสาหรับการที่ผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถ
เอาชนะผู้ที่เหนือกว่าสองขั้นเช่นนี้เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเป็นอัจฉริยะ
ที่หาได้ยากยิ่งและมีการฝึกฝนทักษะในระดับสูง
เสียงกรรมการดั่งลั่นไปทัว่ ทั้งเวทีอันเป็นสัญญาณเตือนผู้อาวุโส
ทุกคนต่างจับตามองมาทีห่ ลินหมิงพร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้
อาวุโสซูหลิ่งทีก่ าลังเฝ้าดูด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในความเป็นจริงแล้ว
นางอาจไม่ต้องเข้าร่วมการประลองนี้ก็ยังได้เพราะศิษย์ของนาง
ไม่ได้เข้าร่วม แต่ที่นางมานั้นย่อมเป็นเพราะหลินหมิง
จากเรื่องราวที่ได้ฟังจากหลิวฉวนยูร์ความสามารถที่สามารถ
เอาชนะสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งเกินกว่ามนุษย์ในระดับเดียวกัน
แม้ว่าพวกมันจะมีสติปญ
ั ญาที่ด้อยกว่าแต่นั้นคือวานรสองเขาที่อยู่
จุดสูงสุดของลมปราณเริ่มต้น นางจึงอยากเห็นความแข็งแกร่งของ
หลินหมิงด้วยตาของนางเอง
ร่างของลู่คงพุ่งเข้าหลินหมิงด้วยความเร็วอันน่าตกใจ พร้อมกับ
เคลื่อนไหวไปรอบๆตัวของหลินหมิงเขาต้องการแสดงความเร็วอัน
เป็นจุดเด่นของเขาให้บรรดาผู้อาวุโสดู และหากมันเป็นที่ยอมรับ
โดยเหล่าผู้อาวุโสเขาอาจได้รับการสนับสนุนที่ดีเยีย่ ม ผู้เยาว์ทุกคน
ต่างล้วนเข้าใจการกระทาของลู่คงดีหากเป็นพวกเขาย่อมลงมือไม่
ต่างกัน
“ เอาล่ะนะ ”
ลู่คงส่งเสียงร้องเตือนหลินหมิงเพื่อที่เข้าจะแสดงความรุนแรง
ของหมัดนี้ของเขา แม้ว่าหลินหมิงจะสามารถตอบสนองได้ทันเขาก็
เชื่อว่าหลินหมิงจะไม่สามารถรับหมัดนี้ได้
ทักษะวรยุทธ์ หมัดพสุธา เป็นหนึ่งในทักษะของลู่คงมันเป็น
ทักษะที่เสริมพละกาลังร่างกายของเขาได้เป็นอย่างมากราวกับว่า
หมัดนี้ของเขาเป็นหมัดที่เกิดจากกลุ่มก้อนหินก้อนหกพุ่งเข้าชนร่าง
ของเป้าหมาย
กรรมการการแข่งขันเหลือบมองไปที่ผู้อาวุโสซูหลิง่ เล็กน้อย
ขนาดตัวเขาที่เป็นผู้อาวุโสเช่นเดียวกันก็คิดว่าหลินหมิงไม่สามารถ
ที่จะรับมือกับหมัดนี้ได้โดยง่ายแม้ว่ามันจะไม่อาจนับว่าเป็นทักษะ
ระดับสูงแต่อย่างน้อยหมัดย่อมเป็นทักษะระดับ 2 จากบรรดาทักษะ
ทั้งหมด 9 ระดับ
การที่ครอบครองทักษะจานวนมากนั้นไม่ใช่เครื่องหมายที่บ่ง
บอกถึงความสามารถของคนเหล่านั้นแต่เป็นการทาความใจใน
ทักษะเหล่านั้นต่างหาก มันเห็นได้ชัดว่าลู่คงมีความสามารถในการ
ทาความเข้าใจในทักษะระดับสองอย่างหมัดพสุธาได้เป็นอย่างดีแต่
ถึงอย่างนั้น....
ปัง !
เสียงหมัดที่รุนแรงของลู่คงถูกหยุดเอาไว้โดยชายหนุ่มร่างเล็ก
กว่าอย่างง่ายดายโดยมือข้างเดียวอีกทั้ง เด็กหนุ่มคนนี้ดูเหมือนว่า
จะไม่ได้ใช้ทักษะใดๆในการรับการโจมตี ทั่วทั้งลานประลองเต็มไป
ด้วยความตื่นตะลึงไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าผู้อาวุโส
‘ อ่ารุนแรงใช่เล่นเลยนะเนี่ย ’
แต่ถึงแม้ว่าหลินหมิงจะคิดอย่างนั้นแต่มันไม่สามารถเทียบกับ
หมัดของวานรสองเข้าที่เขาได้กาลังเข้าแลกหมัดจนเกือบตาย
มาแล้ว ด้วยการที่หลินหมิงก้าวมาสู่ขั้นที่หกลมปราณเริ่มต้น
ร่างกายและความแข็งแกร่งของเขาล้วนถูกพัฒนาขึ้นมาจากก่อน
หน้านี้อย่างมหาศาลดังนั้นแล้วหากไม่ใช่หมัดที่อยูใ่ นระดับเดียวกับ
วานรสองเขานั้นคงสามารถโค้นเขาลงได้ยาก
ลู่คงกระหน่าหมัดเข้าจู่โจมหลินหมิงอย่างต่อเหนื่อง ทางด้าน
หลินหมิงเองก็ใช่การหลบหลีกหรือใช้การตั้งรับพลัดกันไปบ้างใน
บางครั้ง เพราะว่าเขายังคงไม่อาจตอบสนองต่อความเร็วของลู่คงได้
อย่างทันทวงที
ปังงง !
คราวนี้ทั่วทั้งลานประลองถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เพราะว่า
แทนที่จะเป็นเสียงหมัดของลู่คงเข้าปะทะร่างของหลินหมิงกลับเป็น
หมัดของหลินหมิงที่พุ่งเข้าใส่ลู่คงอย่างง่ายดายโดยอาศัยจังหวะที่ลู่
คงนั้นกาลังสับสนและระส่าระสายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากลู่คง
สามารถตั้งสมาธิกับการต่อสู้แน่นอนว่าหลินหมิงไม่อาจสามารถ
เอาชนะได้ง่ายเช่นนี้ด้วยการที่เขาไม่อาจตามความเร็วของลู่คงได้
ทัน
ผู้อาวุโสซูหลิ่งยิม้ ออกมาอย่างชอบใจพร้อมกับหลิวฉวนยูร์ที่
แสดงออกถึงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด เหล่าผู้อาวุโสจานวนมากต่าง
ลอบประเมิณความแข็งแกร่งของหลินหมิง รวมถึงบรรดารุ่นเยาว์
ทั้งหลายเดิมทีพวกเขาคิดว่าหลินหมิงจะเป็นหมูในอวยให้พวกเขา
รอเชือดเพื่อเป็นโชว์การแสดงความสามารถของพวกเขาแต่
ในตอนนี้ทุกอย่างล้วนกลับกันโดยสิ้นเชิง
เสียงของผู้อาวุโสซูหลิ่งดังขึ้นเพื่อคลี่คลายสถานการณ์สับสน
กรรมการผู้คุมก็เหมือนกับว่าตัวเขาเพิ่งได้ตื่นจากฝันอันแปลก
ประหลาด ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ใบหน้าล้วนเบ่งบานการที่ท่านประมุข
รับศิษย์ที่มีความสามารถเช่นนี้เข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวย่อมเป็นเรื่องดี
ต่อสมาคมอย่างไม่ตกสงสัย
“ หลินเสี่ยวต้า - กงหยาน ”
‘ หลินเสี่ยวต้า ? ’
หลินเสี่ยวต้านั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในพี่ชายของเขาแต่แม่ของ
หลินเสี่ยวต้านั้นเป็นภรรยาลาดับที่ห้าแต่ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ของ
มันที่อยู่ในระดับจุดสูงสุดขั้นแปดปราณเริ่มต้นด้วยวัย 18 ปีมันจึง
ถูกเรียกได้ว่าเป็นรุ่นเยาว์อันดับสองของตระกูล
‘ ฮ่าๆๆ ไม่คิดเลยว่าโอกาสที่จะได้แก้แค้นจะมาถึงเร็วเช่นนี้..โอ้
ไม่สิข้าคงไม่สามารถจัดการเจ้าอย่างรุนแรงได้มากนักแต่ก็ไม่เป็นไร
ข้าคงต้องเตรียมวิธีอื่น..... ’
หลินเสี่ยวต้านั้นเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสฟางซิ่นนางนั้นได้ว่าเป็น
มือซ้ายของอาจารย์สาวสวยของเขา และตัวมันนั้นยังนับได้ว่ามัน
ตัวเต็งของการแข่งขันครั้งนี้
“ โอ๋..ข้าต้องขอโทษด้วยที่มาช้า ”
เสียงของสาวที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนต่อบบุรุษดังขึ้นที่บริเวณ
ที่นั่งของเหล่าผู้อาวุโสหลินหมิงเหลือบมองขึ้นไปภาพที่เห็นมันเกือบ
ทาให้ตัวของเขาแข็งค้าง เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่านางปรุงยาที่เป็นสตรี
นั้นพวกนางต้องมีความลับในการคงความงามของพวกนางเอาไว้
อย่างแน่นอนเพราะว่าภาพของหญิงสาวสวยผู้งดงามราวกับ
เทพธิดาอีกองค์ลงมาจุตินางสวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยหัวไหล่ราวกับว่า
นางต้องการที่จะให้บุรุษทั้งหลายตกเป็นทาส
“ ฮึ่ม..เจ้ายังทาอะไรตามใจเช่นเคยเลยนะ ”
“ ข้าเพียงแค่มาช้านิดหน่อยเท่านั้นเอง..อย่างน้อยข้าก็ยังมาทัน
ดูศิษย์ของข้า ”
ที่นั่งด้านบนของเหล่าผู้อาวุโสในตอนนี้ถูกดึงดูดความสนใจ
อย่างแรงกล้าภาพของเทพธิดาทั้งสามกาลังนั่งมองดูการประลอง
นั้นช่วยปลุกกระตุ้นอารมณ์ความกระหายในชัยชนะของเหล่าบุรุษ
ได้มากเหลือล้น
“ นั้นหรอศิษย์ของท่านประมุข..น่าสนใจจริงๆ ”
หลิวฉวนยูร์มองไปทีห่ ลินเสี่ยวต้าด้วยสายตารังเกียจ มันเป็น
เพราะมีตัวของหลินเสี่ยวต้าอยู่ภายในสมาคมแห่งนี้และฐานะของ
มันนั้นนับได้่าไม่
ว่ ต่าต้อยไปกว่าสักเท่าใดมันจึงเป็นเหตุให้หลิน
เสี่ยวต้าผู้นี้ชอบใช้โอกาสนาพาน้องชายของมันหลินชูเข้ามาพบนาง
อยู่บ่อยครั้งจนนางรู้สึกราคาญใจ
คู่ต่อสู้ของหลินเสี่ยวต้านั้นนับได้ว่าแข็งแกร่งอยู่ไม่น้อยอาจจัด
ได้ว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับลู่คงหรืออาจเหนือกว่าเพียงเล็กน้อย
ร่างของกงหยานพุ่งเข้าโจมตีด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกะบี่ใน
มือของเขาที่ถูกนาออกมาจากแหวนมิติอย่างรวดเร็วสาหรับผู้ที่
อ่อนแอ่กว่าการโจมตีก่อนย่อมได้เปรียบกว่าเพราะพวกเขาคงไม่
สามารถทนรับการโจมตีของผู้ที่มีพลังมากกว่าได้นานมากนัก
สาหรับการต่อสู้ครั้งนี้นั้นไม่ได้มีข้อกาหนดว่าห้ามใช้อาวุธ ดังนั้น
มันจึงไม่ผิดกฎการประลองแต่ในการประลองของหลินหมิงนั้นลู่คง
ประมาณจนเกิดไปเพียงเท่านั้น
“ [ ค่ายกลคลื่นสมุทร ] ”
ทักษะการต่อสู้ระดับสองถูกเรียกใช้อีกครั้งในงานประลองครั้งนี้
ค่ายกลคลื่นสมุทรนั้นเป็นทักษะระดับ 2 ของกงหยานที่เอาไว้ใช้รวม
กับกะบี่ ทวงท่าการฟันแทงของกงหยานั้นจู่โจมหลินเสี่ยวต้าอย่าง
ต่อเหนื่อง
มันเป็นเรื่องยากมากในการรบเพลงกะบี่นี้แม้ว่าจะเป็นหลิน
เสี่ยวต้าก็ตามที่เพลงกะบีข่ องกงหยานที่จู่โจมอยู่นนั้ ค่อยๆกดดันการ
เคลื่อนไหวของหลินเสี่ยวต้า หากแม้เป็นเวลาไปเนิน่ นานกว่านี้เขา
คงไม่อาจรับมือได้อีกต่อไป
“ โฮ่..นี้มันเกือบจะเป็นทักษะระดับ 3 ได้เลยนะเนี่ยเจ้าหนูนี่ก็
น่าสนใจไม่น้อย ”
“ ดูเจ้าไม่เป็นห่วงศิษย์ตัวเองเลยนะ ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งและผู้อาวุโสฟางซิ่นยังคงพูดคุยกันเล่นโดยไม่ได้
สนใจสถานการณ์การต่อสู้นี้เลยวักเท่าใด
“ ก็นะ..ยังไงเดียวเจ้าศิษย์โง่ของข้ามันก็สามารถเอาชนะได้อยู่
แล้วล่ะ ”
ตาแหน่งรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาคมนักปรุงยาแห่งนี้ไม่ได้
ได้มาโดยเส้นสายตระกูลของหลินเสี่ยวต้าแต่มันมาจากความ
แข็งแกร่งของเขาโดยแท้จริง
“ [ คลื่นระเบิดสุริยัน ] ! ”
หลินหมิงขมวดคิ้วเข้าหากันหลังจากที่ได้ยนิ ชื่อทักษะจากปาก
ของหลินเสี่ยวต้า ประกายแสงของพลังงานสีทองถูกรวมเอาไว้ที่ฝ่า
มือของหลินเสี่ยวต้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับจังหวะทีเ่ ขาไม่สามารถ
หลบเลี่ยงจากค่ายกลคลื่นสมุทรได้อีกต่อไป
“ ทักษะระดับ 3 ! ”
ผู้อาวุโสบางคนนั้นอาจไม่รู้จักถึงทักษะค่ายกลคลื่นสมุทรของ
กงหยานแต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่รู้จักทักษะของหลินเสี่ยวต้า [
คลืน่ ระเบิดสุริยัน ] ไม่ใช่มันเป็นเพราะทักษะระดับ 3 ธรรมดาๆมัน
จัดว่าอยู่ในทักษะระดับ 3 ขั้นสูงและเป็นหนึ่งในทักษะประจา
ตระกูลหลิน !
เสียงระเบิดเล็กๆเกิดในทันทีที่สองทักษะปะทะกันแน่นอนว่ามัน
ย่อมเป็นทางฝั่งของหลินเสี่ยวต้าที่ชนะในการประลองครั้งนี้ ร่าง
ของกงหยานนั้นกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวแม้วา่ จะมีกรรมการ
มาสกั้นกัดการโจมตีให้เขาแล้วกผ้ตามที่มันแสดงให้เห็นถึงความน่า
กลัวของทักษะจากตระกูลหลินได้อย่างมาก !
‘ ฮึประกายแสงเช่นนั้นข้าจะดับมันด้วยเพลิงของข้า ! ’

ตอนที่ 24
หลังจากสิ้นสุดการประลองระหว่างหลินเสี่ยวต้ากับกงหยานไป
แล้วนั้นการประลองในคู่นั้นเรียกได้ว่าไม่อาจดึงดูดความสนใจได้
มากเท่ากับสองคู่แรก อีกทั้งยังมีผู้เข้าแข่งจานวนมากพากันยอมแพ้
ในการแข่งขันครั้งนี้แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะสามารถเอาชนะใน
รอบแรกมาได้ก็ตามที่
เป้าหมายของการแข่งครั้งนี้สาหรับศิษย์ทั้งหลายของผู้อาวุโสแต่
ละคนก็คือการแสดงความสามารถพวกเขาไม่ได้หวังซึ่งชัยชนะ
ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และในการประลองครั้งพวกเขาล้วนใช้
ความสามารถที่มีอย่างเต็มที่ พวกเขาจึงไม่อยากทีจ่ ะสร้างความอับ
อายในการพ่ายแพ้ให้แก่ตนนเอง
เท่ากับว่าในตอนนี้ในลายประลองกลับกลายเป็นว่าเหลืออยู่
เพียงสองคนเท่านั้นตาแหน่งตัวเต็งอย่างกงหยานและลู่คงต่างแพ้ไป
เสียตั้งแต่รอบแรกมันจึงทาให้การแข่งครั้งนี้มาถึงจุดสิ้นสุดโดยเร็ว
“ น้องหมิงเจ้ายังต้องการสู้กับข้า ? ”
หลินเสี่ยวต้ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่หลินหมิงยังไม่ได้ถอนตัว
ออกจากการแข่งครั้งนี้ แม้ว่าตัวของหลินหมิงจะจัดได้ว่าแข็งแกร่ง
อยู่มากแม้จะมีพลังปราณเพียงขั้นที่หกปราณเริ่มต้นแต่การจะต่อกร
กับเขาที่มีพลังปราณระดับจุดสูงสุดขั้นที่หก และยังมีทักษะประจา
ตระกูลอย่าง [ คลื่นระเบิดสุริยัน ]
“ รบกวนพี่ชายโปรดสั่งสอน ”
ทางด้านผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นแม้ว่านางจะไม่ได้ดูการแข่งขันใน
รอบแรกของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของเขาย่อม
เป็นที่แน่นอนว่ามันย่อมไม่เพียงพอต่อการเอาชนะศิษย์ของนางได้
“ ข้าไม่เข้าใจจริงว่า ฮั่วหมิงคิดการอันใดอยู่หรือว่าเขาจะไม่
สามารถประเมิณพลังคู่ต่อสู้ได้รึอย่างไรกัน
“ แล้วเจ้าไม่คิดว่าเขาอาจมั่นใจในการประลองครั้งนี้บ้างรึ ”
ทางฝั่งผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นนางไม่ได้ตอบกลับผู้อาวุโสซูหลิง่
สาหรับนางแล้วงานประลองครั้งนี้ควรจบลงด้วยชัยชนะของศิษย์
เป็นแน่
“ ฮั่วหมิง - หลินเสี่ยวต้า ”
หลินหมิงพุ่งเข้าจู่โจมหลินเสี่ยวต้าในทันทีที่เสียงประกาศของ
กรรมการดังขึ้น แต่ว่าสาหรับหลินเสี่ยวต้านั้นมันได้เตรียมพร้อม
เอาไว้อยู่แล้ว หมัดของหลินหมิงดูเรียบง่ายมากซะจนหลินเสี่ยวต้า
สับสนหมัดดูเป็นหมัดที่ไร้ถึงทักษะใดๆ
ปัง !
เสียงปะทะระหว่างหมัดของหลินหมิงกับฝ่ามือของหลินเสี่ยวต้า
ดังไปทั่วสนามประลองพร้อมกับสีหน้าของผู้อาวุโสที่เต็มไปด้วย
ความตื่นเต้นแม้ว่านี้จะเป็นการประลองสาหรับผู้ที่มีพลังปราณ
เริ่มต้นก็ตามที่หลินเสี่ยวต้ามีความรู้สึกแปลกประหลาดที่ฝ่ามือที่เข้า
รับการโจมตีของหลินหมิง ฝ่ามือเขารู้สึกด้านชาไปเล็กน้อย
‘ เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ’
หลินเสี่ยวต้าคิดว่าแต่เดิมนั้นเขาคงจะสามารถเอาชนะหลินหมิง
ได้ไม่ยากนักแต่ในตอนนีห้ มัดของหลินหมิงที่ปราศจากทักษะใดๆ
กาลังจู่โจมเขาอย่างบ้าคลั่ง มันจึงจาเป็นที่เขาจะต้องสวนกลับไป
เสียบ้าง
ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้หมัดอย่างหลินหมิงกับฝ่ามือของ
หลินเสี่ยวต้า เสียงหมัดของหลินหมิงเข้าปะทะกับฝ่ามือของหลิน
เสี่ยวต้าอีกครั้งด้วยความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ปัง !
ร่างของทั้งสองถอยหลังออกห่างจากบริเวณจุดปะทะไปหลาย
ก้าวแต่ถึงอย่างนั้นเห็นได้ชัดว่าการปะทะเมื่อสักครู่นี้เป็นทางฝ่าย
ของหลินหมิงที่ได้เปรียบเพราะร่างของเขากระเด็นถอยไปใกล้กว่า
เล็กน้อย หลินหมิงแสยะยิม้ มุมปากด้วยความพอใจด้วยพละกาลัง
ร่างกายของเขสในตอนนี้มันสมควรไม่ต่าไปกว่าผู้ที่มีพลังขั้นเก่า
ปราณเริ่มต้นเขาจึงได้เปรียบหลินเสี่ยวต้าเป็นอย่างมากแต่นี้ย่อม
เป็นเพราะทักษะ [ คลื่นระเบิดสุริยัน ] ยังไม่ถูกนาออกมาใช้
ร่างทั้งสองยังคงเข้าปะทะกันอย่างต่อเหนื่องโดยที่สหี น้าของทั้ง
สองนั้นดูต่างกันโดยสิ้นเชิงหลินเสี่ยวต้ารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาไม่สามารถเอาชนะหลินหมิงได้แน่นอนหากเป็นเช่นนี้ต่อไปแม้ว่า
การโจมตีของหลินหมิงจะดูเรียบง่ายแต่มันเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว
เกินไป
ทางด้านหลินหมิงนั้นเขาคิดว่าในตอนนี้หลินเสี่ยวต้านั้นรับมือ
ง่ายยิ่งกว่าลู่คงที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วเสียอีก หลินเสี่ยวต้า
ต้องการที่จะใช้ทักษะของเขาแต่หากเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่พ้นถูก
หัวเราะเยาะ ผู้ที่มีพลังระดับจุดสูงสุดขั้นแปดต่อสูอ้ ย่างสุดกาลังโดย
ใช้ทักษะระดับ 3 จัดการผู้ที่มีพลังขั้น 6 แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั ดีกว่า
ที่เขาจะมาแพ้ลงในตรงนี้
ประกายแสงสีทองถูกรวมรวบเอาไว้ที่ฝ่ามือของหลินเสี่ยวต้า
การที่เขาประกาศเตือนหลินหมิงไปเมื่อสักครู่นั้นเพียงหวังที่จะลด
ความอับอายลงบ้างเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้ทากานเตือนฝ่ายตรง
ข้ามก็เข้าโจมตีแล้ว กลับกันหลินหมิงแทบจะกั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
สิ่งที่เขากังวลมาโดยตลอดก็การจู่โจมแบบฉับพลันของทักษะของ
หลินเสี่ยวต้าแต่ในตอนนีม้ ันกลับโยนความได้เปรียบทิ้งไปเสียแล้ว
ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีดาทมิฬได้ลกุ โชนที่กาปั้นข้างขวาของ
หลินหมิงเปลวเพลิงที่ทาให้ขนาดเหล่าผู้อาวุโสรู้สึกหนาวไปจนถึง
ขั้วหัวใจ
เสียงร้องอุทานของเหล่าผู้อาวุโสยังคงดังต่อไปพร้อมกับพวกเขา
ที่ลอบประเมิณระดับของทักษะของหลินหมิงนั้นย่อมไม่ต่าไปกว่า
ทัดษะระดับ 3
“ ยูร์เอ๋อร์นั้นรึสิ่งที่เจ้าบอก ”
“ เจ้าคะอาจารย์ ”
“ ซูหลิ่งนี้เจ้ารู้เกี่ยวกันทักษะแปลกประหลาดนั้นด้วย ? ”
ผู้อาวุโสฟางซิ่นจากตอนแรกที่นางมั่นใจว่าจะต้องเป็นศิษย์ของ
นางที่ได้รับชัยชนะแต่หลังจากที่ได้เห็นทักษะของหลินหมิงแล้วนั้น
มันทาให้นางเริ่มรู้สึกกังวล
“ ข้าเพียงรู้มาจากศิษย์ข้าเล็กน้อย...มันก็แค่เป็นทักษะที่เขาใช้
จัดการวานรสองเขาเพียงเท่านั้น ”
‘ ฮ่าๆ ไอ้ลูกเต๋าเสี่ยวต้าข้าไม่รู้จะขอบคุณความโง่ของเจ้าเช่น
ไรดีเลย โอ้ข้าอาจาเป็นต้องส่งของขวัญผ่านเจ้าไปหาคุณป้าห้าผ่าน
ใบหน้าของเจ้า? หรือท่อนแขนที่หักแล้วของเจ้าดี ’
หลินหมิงมีความมั่นใจเป็นอย่างมากหากเขาต้องปะทะอย่างซึ่ง
หน้ากับหลินเสี่ยวต้าแม้ว่ามันจะใช้ทักษะ [ คลื่นระเบิดสุริยัน ] ก็
ตามที่แต่ว่าในระหว่างที่หลินหมิงกาลังวางแผนทีจ่ ะจัดการหลิน
เสี่ยวต้าอย่างไรดีนั้นก็ปรากฎร่างของหญิงสาวผู้งดงามลงมาอยู่
ระหว่างระยะห่างของเขากับหลินเสี่ยวต้า
“ หยุดมือ ! การประลองจบเพียงเท่านี้ ! ”
‘ หะ ? ’
เป็นผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ลงมายุติการประลอง ทุกสายตาล้วนจับ
จ้องมาที่นางอย่างไม่อาจละสายตาไปได้
“ นี้เป็นเพียงการประลองเพื่อให้พวกเจ้าแสดงความสามารถ
และพรสวรรค์พวกเจ้าทั้งสองนั้นทาให้ข้าและเหล่าผู้อาวุโสท่านอื่น
พอใจมาก ดังนั้นรางวัลของพวกเจ้าทั้งสองคือ เม็ดยาระดับ 6 กับ
เงินจานวน ห้าหมื่นเหรียญ ”
ทุกคนเมื่อได้ยินคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงและความอิจฉาแน่นอนว่าสาหรับผู้อาวุโสนั้นเงินห้าหมื่น
เหรียญนั้นอาจไม่เยอะมากเท่าใดนักแต่เม็ดยาระดับ 6 นั้นราคาของ
มันนั้นมีค่าไม่สามารถประเมิณได
เพราะมันเป็นยาเม็ดไม่ใช่ยาประเภทของเหลวดังเช่นทั่วไปมัน
จึงทรงผลได้มากกว่าหลายเท่าอีกทั้งมันยังคงเป็นยาระดับ 6 ที่หาได้
ยากยิ่งอาจมีเพียงประมุขและผู้อาวุโสซูหลิ่งเท่านั้นที่สามารถเตรียม
ของรางวัลเช่นนี้ได้ หลินหมิงรู้สึกอยากทักท่วงกับผู้อาวุโสฟางซิ่น
หากเขารู้เช่นนี้เขาจะไม่เสียเวลาหยอกล้อกับหลินเสี่ยวต้าอยู่นาน
สองนาน
“ ฮั่วหมิง มาหาข้า ”
เป็นเสียงของผู้อาวุโสซูหลิ่งที่กล่าวเรียกชื่อของเขา ผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นนั้นได้มอบรางวัลให้แก่ศิษย์ของนางเป็นที่เรียบร้อย หลินหมิง
เหลือบมองสีหน้าของหลินเสี่ยวต้าที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่าง
ปิดไม่มิดหากมันสามารถดูดซับเม็ดยานี้จนหมดสิ้นก็มีความเป็นไป
ได้อย่างมากทีม่ ันจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตขั้นที่ 9
‘ ไอ้ลูกเต๋าเสี่ยวต้าวันนี้โชคดีไป..ยังไงซะข้าก็ได้รู้วา่ มันอยู่ที่
สมาคมนักปรุงยาเช่นเดียวกันเอาไว้หาโอกาสอื่นก็ย่อมได้ ’

ตอนที่ 25
หลินหมิงเดินขึ้นมาหาผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วยสีหน้าเซ็งแซ่ ถึงแม้ตัว
เขาจะพอรู้ถึงสาเหตุที่ผู้อาวุโสทั้งสองนั้นเข้าขัดจังหวะการต่อสู้ใน
ครั้งนี้ดีนั้นก็คือพวกนางทั้งสองนั้นอาจประเมิณดูแล้วว่ามีความ
เป็นไปได้สูงที่ตัวเขาจะสามารถเอาชนะในการประลองครั้งนี้ซึ่งเรื่อง
นั้นมันอาจทาให้ตัวของเขาได้มีปัญหากับทางตระกูลหลินดังนั้นแล้ว
พวกนางจึงพยายามลดความเสี่ยงจากอันตรายทั้งหมดที่จะเกิด
ขึ้นกับตัวเขา
ผู้อาวุโสซูหลิ่งยิม้ ให้หลินหมิงอย่างสดใสเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของ
นางมันทาให้หลินหมิงเกือบลืมเหตุการณ์ที่เขาได้พลาดโอกาสทอง
ในการแก้แค้นไปในทันที ผู้อาวุโสซูหลิ่งได้ยื่นแหวนมิติวงหนึ่งให้แก่
เขามันเป็นแหวนมิติเพียงระดับกลางเท่านั้นแต่มันก็มีราคาขั้นต่า
ราวสองหมื่นเหรียญเข้าไปแล้ว
“ ภายในนั้นมีรางวัลที่เจ้าสมควรได้รับอีกทั้งยังมีแก่นของวานร
สองเขาซึ่งเจ้าเป็นคนจัดการไปมันย่อมสมควรเป็นของเจ้าด้วย
เช่นเดียวกัน ”
ยาบ่มเพาะระดับ 6 ทั่วไปนั้นไม่อาจเทียบได้กับยาบ่มเพาะ
ระดับ 3 ของหลิวฉวนยูร์ได้เลยราคาของมันนั้นอาจถูกประเมิน
เริ่มต้นด้วยราคาขั้นต่าถึงหมื่นเหรียญแต่ถงึ อย่างนัน้ รางวัลที่หลินห
มิงได้มานั้นเป็นยาเม็ดซึ่งราคาของมันต้องไม่ต่ากว่าสามหมื่น
เหรียญอย่างน้อยที่สุด
หลินหมิงสัมผัสไปที่ตัวแหวนเพื่อตรวจสอบสิ่งของภายในชิ้น
แรกนั้นเป็นแก่นแท้ของวานรสองเขาที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่มัน
แผ่ออกมาด้วยอานาจบริสุทธ์แก่นแท้สัตว์อสูรนั้นสามารถใช้ในการ
ปรุงยาได้เช่นเดียวกันแต่ผู้ที่จะใช้มันนั้นต้องมีความสามารถอย่าง
มากเพราะการควบคุมพลังของสัตว์อสูรแม้ว่ามันจะตายไปแล้วย่อม
ยากกว่าการควบคุมพลังงานจากสมุนไพรอย่างเทียบไม่ตดิ
ถัดมาเป็นเม็ดยาขนาดเล็กหลินหมิงรู้ดีว่าเม็ดยานี้ไม่ได้มี
ประโยชน์ต่อเขาเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะสามารถสัมผัสได้ถึง
พลังงานที่แผ่ซ่านออกจากมัน แต่ด้วยเงื่อนไขของทักษะเปลวเพลิง
ของเขามันจึงทาให้เขาไม่สามารถบ่มเพาะได้อย่างเช่นคนทั่วไป
และสิ่งของอย่างสุดท้ายนัน้ เป็นเงินห้าหมื่นเหรียญด้วยจานวนเงิน
เท่านี้มันสามารถบ่งบอกได้ถึงสถานะของสมาคมนักปรุงยาว่าร่ารวย
เพียงใดที่สามารถแจกจ่ายรางวัลเหล่านี้ได้
“ ขอขอบพระคุณผู้อาวุโส ”
“ ไม่เป็นไรนั้นย่อมเป็นรางวัลที่เจ้าสมควรได้รับอยู่แล้ว..ถึง
อย่างนั้นข้าคาดไม่ถึงเลยว่าไม่เพียงแต่เจ้าจะมีพรสวรรค์ทางด้าน
การปรุงยาที่เป็นเลิศในด้านวรยุทธ์ของเจ้านั้นอาจเรียกได้ว่าไม่เป็น
รองใครเช่นเดียวกัน ”
ผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นชื่นชอบหลินหมิงเป็นอย่างมากในอนาคตนาง
ได้วาดฝันเกี่ยวกับสมาคมนักปรุงยาแห่งนี้ว่าจะสามารถพัฒนาไปได้
อย่างไร้ขีดจากัดหากมีรุ่นเยาว์เช่นนี้
“ ผู้อาวุโสข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องสักเล็กน้อย ”
“ อืม..ว่ามาสิ ”
“ ข้านั้นต้องการเรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับการใช้อาวุธเพียงแต่ว่าข้า
นั้นยังคงไร้ซึ่งประสบการณ์ จึงอยากได้รับคาแนะนาสักเล็กน้อย ”
หลินหมิงนั้นรู้ดีว่าความแข็งแกร่งนั้นมีด้วยกันหลายรูปแบบ
ไม่ใช่เพียงแต่ในด้านพลังปราณเท่านั้น มันยังมีทางด้านทักษะต่างๆ
และอาวุธซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ การที่เขา
สามารถใช้อาวุธได้แน่นอนว่ามันย่อมสามารถเพิ่มพลังทาลายของ
การโจมตีของเขาได้หลายเท่าเพียงแต่ว่าเขายังไม่สามารถตัดสินใจ
ได้ว่าอาวุธในรูปแบบใดที่เหมาะสมกับตัวเขา
การเลือกอาวุธให้เหมาะสมกับตัวบุคคลนั้นเป็นเรื่องที่จาเป็น
อย่างมากไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเหล่านั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาอย่าง
ยาวนานในการเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะของอาวุธนั้นๆ
“ อืมม..นั้นสินะดูจากรูปลักษณ์ของเจ้าถึงแม้ว่าจะดูผอมเพรียว
แต่มีกาลังมาก..ข้าคิดว่ากะบี่คงไม่เหมาะสมสาหรับเจ้าสักเท่าไหร่...
เจ้าสนใจอาวุธประเภทขวาน หรือ ทวน หรือไม่กง็ า้ วหรือไม่ อ่าจริง
สิยูร์เอ๋อร์ข้าจะให้เจ้าพาฮั่วหมิงไปที่คลังเก็บสรรพาวุธของตานัก ใน
เมื่อเจ้าเคยได้รับคาอธิบายจากข้าด้วยเช่นกันแล้วอาวุธภายในนั้น
เจ้าล้วนคุ้นเคยกับมันมากพอตัว ”
“ ขะ..ข้าอย่างนั้นรึ ”
“ ใช่นะสิหรือเจ้าจะปฎิเสธพอดีว่าข้าเพิ่งนึกว่าได้ว่าข้ามีธุระ
ต้องคุยกับฟางซิ่นสักเล็กน้อยข้าจึงไม่อาจให้คาแนะนากับฮั่วหมิงได้
ดังนั้นแล้วเจ้าย่อมเหมาะสมที่สุด ”
“ ศิษย์ไม่ปฎิเสธเจ้าคะ ”
หลินหมิงรู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับการกระทาของผู้อาวุโสซูหลิ่งและ
หลิวฉวนยูร์ ในความเป็นจริงแล้วนางสมควรกีดกั้นหลิวฉวนยูร์ให้
ห่างจากตัวเขาให้มากที่สุดไม่ใช่รึอย่างไร หลังจากที่เกิดเหตุการณ์
เช่นในอดีตมาแล้ว อีกทั้งหลิวฉวนยูร์ยังคงตอบรับคาอย่างว่าง่าย
แม้ว่านี้จะเป็นภายในสมาคมนักปรุงยาแต่หลินหมิงคงต้องเพิ่ม
ความระมัดระวังตัวยามอยู่ใกล้แม่เทพธิดาตัวน้อยผู้นี้
‘ หรือว่าข้าสมควรที่จะกล่าวปฎิเสธ ’
แต่ในตอนนั้นสายตาของเขาเหลือบไปเห็นร่างของหลินเสี่ยวต้า
ที่มองมาที่เขา หลินหมิงจึงพลันเกิดความคิดดีดีขึ้นมา
“ โอ้..ข้าต้องขอขอบคุณม่นางหลิวเป็นอย่างมาก ”
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้หลิวฉวนยูร์ นางไม่เข้าใจว่า
ทาไมหลินหมิงถึงได้ทาเช่นนี้นางคิดว่าหลินหมิงนั้นย่อมยังต้องมี
ความโกรธเคืองในตัวนางอยู่แต่เมื่อเห็นหลินหมิงแสดงออกเช่นนี้
ใบหน้าของนางจึงผันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อย หลิน
เสี่ยวต้ามองภาพตรงหน้าถึงกับขมวดคิ้วไม่เพียงแต่ฮั่วหมิงผู้นี้
เกือบจะสามารถเอาชัยชนะไปจากเขาได้แต่มันยังคิดแย่งน้องสะใภ้
ของเขาไปอีก
หลินหมิงแสยะยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นทีท่าไม่พอใจของหลินเสี่ยวต้า
เขานั้นย่อมรู้จักหลินเสี่ยวต้าดีมันเป็นคนอารมณ์ร้อน หากเมื่อใดที่
เขาสามารถยั่วยุคนโง่ผู้นี้จนมันไม่อาจทนได้มันจะเป็นฝ่ายตรงมาหา
เรื่องเขาเองและเมื่อนั้นเขาจะได้มีเหตุผลในการจัดการเจ้าโง่ผู้นี้โดย
ไม่ต้องรับโทษ
“ เช่นนั้นขอเชิญแม่นางโปรดนาทาง ”
“ อะ..อืม ”
แม้แต่ผู้อาวุโสซูหลิ่งยังรู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของ
หลินหมิง อาจเป็นไปได้วา่ คนผู้นี้มีความกระหายที่จะเรียนรู้จนลืม
เลือนสิ่งที่เกิดขึ้นไปเสียหมดแล้ว หลินเสี่ยวต้าได้แต่มองไปที่หลินห
มิงและหลิวฉวนยูร์ที่เดินเคียงคู่กันไป มันไม่เคยมีใครทาให้เขารู้สึก
อารมณ์เสียมากเช่นนี้มาก่อนหากไม่ติดว่าหลินหมิงนั้นเป็นศิษย์
ส่วนตัวของประมุขสมาคมเขาคงไม่ลังเลที่จะจัดการหลินหมิงไป
แล้ว

ตอนที่ 26
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะไม่สามารถที่จะจัดการกับหลิน
เสี่ยวต้าได้ แต่เมื่อเขาได้เห็นใบหน้าบิดเบียวของมันนั้นก็นับว่าเป็น
เรื่องที่ไม่เลว หากเขาทาการโจมตีใส่หลินเสี่ยวต้านั้นแม้ว่าโอกาสที่
เขาจะชนะนั้นย่อมมีมากกว่าอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นมันอาจไม่
สามารถสร้างความพอใจได้เท่ากับการทรมานใจหลินเสี่ยวต้าไป
เรื่อยๆเช่นนี้
" มีเรื่องอะไรอย่างนั้นรึ ? "
หลิวฉวนยูร์นั้นนางสังเกตอาการที่ผิดแปลกไปของหลินหมิง
เช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ตอนที่นางได้อธิบายความจริงออกไปเห็นได้
ชัดว่าหลินหมิงนั้นมีความโกรธเคืองในตัวนางจนแทบไม่อยากจะ
เห็นหน้า เพียงแต่ในตอนนี้ท่าทีของหลินหมิงนั้นเปลี่ยนไปโดย
สิ้นเชิงราวกับว่านางได้สร้างเรื่องที่พึงพอใจให้แก่เขาเป็นอย่างมาก
ทั้งๆที่นางยังไม่ได้ทาอะไร
" ไม่มีอะไรหรอกข้าเพียงตื่นเต้นไปก็เท่านั้น "
หลินหมิงเองก็แทบจะลืมความโกรธเคืองต่อตัวเทพธิดาน้อยคน
นี้ไปแล้วเสียจริงๆ ประกอบด้วยที่ผ่านมานั้นนางได้ปฎิบัตติ ัวต่อเขา
ดีมากและดูเหมือนว่านางจะมีความรู้สึกสานึกผิดอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ถึง
อย่างนั้นเขาก็ไม่อาจวางใจได้มากนัก
หลิวฉวนยูร์ได้เดินนาทางหลินหมิงมาจนถึงที่ตานักของผู้
อาวุโสซูหลิ่งแน่นอนว่านางมีสถานะค่อนข้างสูงในตานักแห่งนี้ รวม
กับขื่อเสียงและความอัจฉริยะของนางอันเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ทาให้
่คนนั
ผ้ ้นให้ความเคารพในตัวนางเป็นอย่างมากแม้กระทั่งคนที่มีอายุ
มากกว่าตัวนางก็ตามที่ แต่อาจมียกเว้นอยู่เพียงคนหนึ่ง..
" ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าจะได้รับความเคารพมากมายเช่นนี้ ? "
" นั้นเพราะว่าข้าเป็นถึงศิษย์ของผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างไรล่ะ..จริงสิ
อีกเดียวไม่นานเจ้าก็คงไม่ต่างจากข้าสักเท่าไหร่นักหรอก "
ในระหว่างทางนั้นเป็นหลินหมิงที่คอยชวนนางคุยตลอดทางมัน
จึงทาให้นางไม่รู้สึกอึดอัดดั่งเช่นก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่านางจะไม่วา
มารถเข้าใจได้จริงๆว่าเหตุใดหลินหมิงถึงได้อารมณ์ดีเช่นนี้ บรรดา
เหล่าข้ารับใช้ภายในตานักนั้นล้วนมีแต่สตรีเพศเช่นเดียวกับตานัก
ของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิง
อีกทั้งตัวตานักเองยังคงมีความคล้ายคลึงอย่างน่าประหลาดใจ
มันอาจบ่งบอกได้ว่าเทพธิดาผู้งดงามทั้งสองนางนี้มคี วามสัมผัส
ใกล้ชิดมากเพียงใด
" เอาล่ะ..ถึงแล้ว "
หลิวฉวนยูร์ได้เดินนาทางหลินหมิงมาถึงที่หน้าประตูห้องโถง
ใหญ่ที่ถูกวางรูปแบบด้วยอาคมที่บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้
รูปแบบอาคมนั้นเป็นสิ่งทีไ่ ม่สามารถทาลายได้โดยง่ายหากไม่ใช่ผู้ที่
สามารถใช้อาคมได้ในระดับเดียวกัน การที่จะสามารถก้าวผ่าน
อาคมได้นั้นจาเป็นต้องรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการปลดล็อคอาคมที่ผู้สร้าง
เป็นคนกาหนดขึ้น หากไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเหล่านั้นอาจเกิด
อันตรายถึงชีวิตขึ้นอยู่กับระดับของอาคม
หลิวฉวนยูร์ค่อยๆทาการแก้กระดานอาคมไปด้วยสีหน้า
ตามปกติ แต่ดูเหมือนว่านางจะมีความสุขมากกว่าปกติจากสายตา
ของหลินหมิงซึ่งมันอาจเป็นเพราะว่านางคงไม่ได้ถกู ให้เข้ามาห้อง
โถงนี้บ่อยมากนักแม้ว่านางจะเป็นศิษย์ก็ตามที่ รอเวลาเพียฃไม่นาน
ประตูห้องโถงถูกเปิดออก
กลิ่นอายของความกดดันถูกแผ่ออกมาจากภายในห้องจน
เหลือล้น มันทาให้หลินหมิงรู้สึกจนรู้ซู่วไปชั่วขณะ แต่เพียงไม่นาน
เขาก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ ร่างหนุ่มสาวเดินเข้ามาภายในห้อง
ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันเห็นได้ชัดว่าอาวุธภายในห้องเหล่านี้นั้นล้วน
เป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดา
" เอาล่ะ..ในความเป็นจริงแล้วหากเจ้าเลือกอาวุธประเภทกะบี่
ข้าเองก็สามารถแนะนาเจ้าได้แต่ส่วนเรื่องอาวุธประเภทอื่นข้าเองก็
ยังไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับมันมากนักหรอกนะ "
หลินหมิงคงแปลกใจมากถ้านางสามารถให้คาแนะนากับเขาได้
ครบทุกประเภทอาวุธด้วยวัยเพียงเท่านี้การที่นางสามารถใช้เวลาใน
การเรียนรู้ทักษะการปรุงยาและการต่อสู้นั้นนับได้ว่าเกินกว่า
ขีดจากัดด้านอายุของนางไปมากแล้ว หลินหมิงกวาดสายตามอง
อาวุธที่อยู่ตามชั้น มันถูกจัดแบ่งประเภทไว้อย่างเหมาะสม
หลิวฉวนยูร์เมื่อเห็นท่าทีของหลินหมิงที่ราวกับเด็กได้เห็นขนม
หวานก้อนโต มันทาให้นางเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา นางปล่อย
ให้หลินหมิงได้ทาการลองสัมผัสเหล่าอาวุธประเภทต่างๆอย่างพอใจ
เพราะนี้ก็เป็นวิธีเดียวกันกับที่อาจารย์ของนางใช้ แน่นอนว่ากะบี่
หลอมเหมันต์ของนางที่ใช้ต่อสู้กับวานรสองเขานางก็ได้มาจากที่
แห่งนี้แม้ว่าทางตระกูลของนางต้องเสียข้าใช้จ่ายเป็นจานวนไม่ใช่
น้อยแต่สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นเขาไม่จาเป็นต้องเสียอะไรเนื่องจาก
เขาเปรียบเสมือนเป็นบุคคลภายในสมาคมแล้ว
' กะบี่มนั เบาเกินไปข้าไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้มากนัก อาจเป็น
อย่างที่ผู้อาวุโสได้กล่าวไว้จริงๆ '
หลินหมิงไล่สายตาไปยังอาวุธประเภทขวาน ทวน และง้าว ถึง
อย่างนั้นเขายังคงคิดว่าอาวุธประเภทขวานนั้นไม่ค่อยเหมาะสมกับ
เขามากนัก สิ่งที่เขาสนใจจริงๆก็คืออาวุธประเภททวน และง้าว ทั้ง
ทวนและง้าวนั้นเรียกได้วา่ มันเป็นอาวุธที่มีระยะโจมตีค่อนข้างกว้าง
และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย
จนกระทั่งสายตาของหลินหมิงเหลือบมองไปเห็นทวนเล่มหนึง่
ด้ามจับของมันเป็นสีดาเงาแต่ใบมีดของมันนั้นกลับมีสีเงินส่อง
ประกายอีกทั้งที่บริเวณด้ามจับของมันยังคงมีลวดลายอะไร
บางอย่างที่เขาไม่สามารถทาความเข้าใจได้
' หนัก '
มันเป็นอาวุธที่ค่อนข้างหนักหากเทียบกับกะบี่ในก่อนหน้า แต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงก็พอใจกับน้าหนักของมัน ถึงแม้ว่าขนาดความ
ยาวของมันจะดูขัดกับตัวของเขาที่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถกวัด
แกว่งได้ แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถกวัดแกว่งได้อย่างสบาย
" ข้าว่ามันออกจะดูขัดๆกับรูปร่างของเจ้าแต่ถ้ามันอาจเข้ากันได้
ดีกับเปลวเพลิงสีดาของเจ้า "
" เอ้านี่ "
หลิวฉวนยูร์ส่งตาราบางอย่างมาให้กับหลินหมิง
" สิ่งนี้คือ ? "
" นั้นคือตาราทักษะพื้นฐานการใช้ทวน แน่นอนว่ามันย่อม
แตกต่างจากตาราทั่วไปอย่างเทียบไม่ตดิ เพราะอย่างนั้นเมื่อใดที่เจ้า
สามารถทาความเข้าใจได้หมดแล้วก็ให้นามาคืนด้วย "
หลินหมิงออกมาจากห้องโถงพร้อมกับหลิวฉวนยูรด์ ้วยความ
ตื่นเต้นเขามีความกระหายที่จะอยากทดลองอาวุธใหม่นี้ของเขา
โดยเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีบางสิ่งที่ต้องทาก่อน
" จริงสิข้ารบกวนเวลาของเจ้ามาก็ไม่ใช่น้อย... งัน้ เอานี้ถือเป็น
ของตอบแทนจากข้าแล้วกัน "
หลิวฉวนยูร์นางนั้นได้ถูกหลินหมิงจับข้อมือของนางเอาไว้ นี้อาจ
เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นางได้ถูกบุรุษจับมือแต่นางไม่ได้มีทีท่าไม่
พอใจแต่อย่างใดกลับกันนางรู้สึกว่ามือของหลินหมิงนั้นเต็มไปด้วย
ความรู้สึกอบอุ่นอันน่าแปลกประหลาก
" นี้..มัน ? "
เมื่อนางสามารถตั้งสติได้นางจึงสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งของเล็กๆที่
หลินหมิงได้ส่งเข้ามาภายในมือของนางมันก็คือเม็ดยาระดับ 6 !
แน่นอนว่าสาหรับหลินหมิงแล้วนั้นมันไม่ได้มัประโยชน์อันใดสาหรับ
เขา และเขาก็ไม่ได้มปี ญั หาในเรื่องเงินแต่อย่างใดและยิ่งด้วยการที่
เขาเป็นศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์สาวสวยเขาจึงสมควรที่จะมีสถานะ
ไม่จาดแคลนแต่อย่างใด

เว็บธัญวาลัยมันมีปัญหานะทาให้ไม่สามารถจัดรูปแบบได้ แล้วก็
งงๆกับระบบใหม่อยู่อาจยากสักเล็กน้อยแต่แจ้งเรื่องไปแล้วแต่ไม่มี
การตอบกลับเบยย ไม่รู้จะทายังไง อ่อแล้วเรื่องนี้ไปทาการลงที่
fictionloog แล้วนะ แปะลิงค์ระบบใหม่ไม่เป็น ชื่อเรื่องเดิมรูปเดิม
เลยจ้า

ตอนที่ 27
หลินหมิงจากมองโดยไม่ได้เห็นสีหน้าของหลิวฉวนยูร์ที่เต็มไป
ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แน่นอนว่าถึงเป็นนางเม็ดยาระดับ 6 นี้ก็
นับได้ว่าไม่อาจสามารถหามาได้ง่ายๆแต่หลินหมิงกลับให้นางให้
ง่ายๆเช่นนี้เพียงแค่นางมาช่วยนาทางและชี้แนะเขาเพียงเล็กน้อย
อาจเป็นไปได้ว่าเขาเริ่มที่จะมีความรู้สึกชอบพอในตัวนาง?
ด้วยการให้สิ่งของเช่นนี้มนั เป็นเรื่องธรรมดาที่ทางฝ่ายชายจะ
เป็นคนจัดหามาเพื่อซื้อใจทางฝ่ายหญิง และนางก็ได้รับมาจาก
ตระกูลหลินเป็นจานวนไม่ใช่น้อยแต่ถึงอย่างนั้นไม่สามารถ
เปรียบเทียบกับเม็ดยาเม็ดนี้ของหลินหมิงได้ ไม่ใช่ว่าสิ่งของที่
ตระกูลหลินส่งมานั้นมีค่าด้อยกว่าแต่มันเป็นเพราะความรู้สึกของ
นางที่มีต่อหลินชูนั้นด้อยกว่าทางฝั่งของหลินหมิงแบบเทียบไม่ติด
กลับกันทางด้านฝั่งของหลินหมิงที่จากมานั้นไม่ได้รู้เลยว่าตัวเขา
ได้สร้างความลาบากใจให้แก่เทพธิดาน้อย ตัวเขาเพียงแค่คิดแต่ว่า
การที่เขาให้เม็ดยาระดับ 6 แก่หลิวฉวนยูร์เพื่อเป็นเครื่อง
บรรณาการให้นางรู้สึกพอใจในตัวเขา นางจะได้ไม่ต้องวางแผนกลั้น
แกล้งเขาอีก การรับมือกับเหล่าบุรุษเช่นเดียวกันกับเขานั้นหลินหมิ
งมองว่ามันเป็นเรื่องทีง่ ่ายกว่าสตรี
เพราะอย่างน้อยตัวเขาได้คลุกคลีอยู่กับด้านมืดของเหล่าพี่น้อง
ต่างแม่ ได้เห็นนิสัยของเหล่าชนชั้นสูงทั้งหลาย แต่สาหรับหลินหมิง
แล้วนั้นสตรีไม่ว่าจะวัยใดพวกนางล้วนมีความอันตรายที่ซ่อนอยู่
และเขายังคงไม่อาจตรวจสอบมันได้โดยง่ายดังนั้นแล้วเขาจึงจาเป็น
ที่จะต้องลดความเสี่ยงเหล่านั้นลงไป
หลินหมิงเก็บทวนและตาราทักษะเข้าสู่แหวนมิติที่ได้จากผู้
อาวุโสเขาแทบจะรอให้อาจารย์สาวสวยของเขากลับมาไม่ไหว เขา
ไม่อาจเดาได้เลยว่าเมื่อนางกลับมานั้นนางจะทาสีหน้าอย่างไรใน
เมื่อตอนที่นางไม่อยู่เขาก็ได้สร้างชื่อเสียงไปพอสมควรและเป็นที่รู้
กันในตอนนี้ว่าเขาถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นเยาว์ที่อายุไม่เกิน 18
ปี ด้วยอายุเพียง 15 เท่านั้น เช่นนั้นแล้วในฐานะที่นางเป็นอาจารย์
นางสมควรให้รางวัลเขาไม่น้อยไปกว่าผู้อาวุโสซูหลิ่ง ?
หลินหมิงกลับเข้ามาภายในตานักของอาจารย์สาวสวยในตอนนี้
นั้นเหล่าข้ารับใช้ภายในตานักเริ่มมีความคุ้นชินกับตัวเขามาก
พอสมควร พวกนางจึงทาความเคารพเขาในทันทีที่เห็นหลินหมิง
หลินหมิงเดินตรงไปที่ลานฝึกของสานักในทันทีด้วยความตื่นเต้น
แต่ว่าในระหว่างทางนั้นเองหลินหมิงก็พลันชนเขาเห็นให้กับบางสิ่ง
บางอย่างที่นุ่มจนมันแทบจะให้หลินหมิงหลับฝันกลางวันไปได้
ในทันที
" ขอโทษเจ้าคะคุณชาย "
หน้าอกขนาดภูเขาใหญ่ลูกโตยังคงไม่หญกล้านาตนเปรียลเทียบ
ของนางนั้นเป็นสิ่งที่หลินหมิงจาได้ดีอาจกล่าวว่าเพียงแค่เขากลับ
ตาจับหน้าอกของหญิงสาวเขาก็สามารถแยกแยะได้วางหน้าอกคู่ใด
เป็นของนางแต่น่าเสียดายที่ไม่มีการทดสอบเช่นนัน้ ให้หลินหมิงได้
ทดลอง ร่างของหญิงสาวสูงวัยมองมาที่หลินหมิงด้วยความเป็น
กังวลเล็กน้อย นางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก หญิงสาวรับใช้ที่
หลินหมิงได้ขอมาจากผู้อาวุโสซูหลิ่งนางก็คือซื่อโฉวนันเอง
เพียงแค่หลินหมิงได้เห็นหน้านางมันก็อดไม่ได้ที่จะทาให้เขานึก
ถึงเรื่องราวอันร้อนแรงระหว่างเขาและนาง ซื่อโฉวนางเองย่อม
สังเกตเห็นใบหน้าของหลินหมิงที่แสดงออกมาด้วยการที่นางมีอายุ
มามากจึงมีประสบการณ์ในการสังเกตในเรื่องนี้อยู่ไม่ใช่น้อย
" คะ..คุณชาย "
นางไม่คาคิดเลยว่าหลินหมิงจะมีอารมณ์จากการเพียงได้สัมผัส
หน้าอกของนางอาจเป็ยเพราะว่าเขายังเป็นเด็กหนุ่มวัยร้อนแรงแต่
ถึงอย่างนั้นเมื่อครั้งล่าสุดเขาก็ได้ใช้ร่างกายระเบิดอารมณ์ของเขา
ไปอย่างเต็มที่แล้วไม่ใช่หรือ ? มันสมควรที่เขาจะต้องพักผ่อนไป
อย่างน้อยราวสัปดาห์
หลินหมิงล้มเลิกความคิดในการฝึกของเขาไปในทันที เขาก็ไม่รู้
เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามีความต้องการมากเช่นนี้จนมัน
สามารถบดบังเป้าหมายของเขาไปเพียงแต่อย่างน้อยการร่วมรักกับ
หญิงสาวก็ถือเป็นการพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาด้วยเช่นกันใน
เรื่องนี้หลินหมิงจึงไม่ค่อยเป็นกังวลมากนะ
หลินหมิงพยักหน้าให้หญิงสาวรับใช้สูงวัยซื่อโฉวเป็นเชิงให้นาง
ตามเขามา นางตรงข้ามกับหลินหมิงแม้นางจะมากประสบการณ์แต่
นางก็ยังคงรู้สึกปวด แสบตามร่องรักและรูก้นของนางที่ถูกหลินหมิง
ทะลวงเข้าไป แน่นอนว่ามันทาให้นางมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมา
ก่อนแต่เพียงนางต้องการพักผ่อนสักเพียงเล็กน้อยก่อนเท่านั้น
หลินหมิงเดินจูงมือนางเข้าตรงไปยังภายในห้องของเขา โดยทีไม่
ต้องถามทางด้านซื่อโฉวเลยแม้แต่น้อย เมื่อมาถึงภายในห้องของ
เขาหลินหมิงเริ่มทาการใช้มือทั้งสองข้างเคลื่อนไหวไปตามส่วน
ต่างๆของร่างกายของนางอย่างบ้าคลั่ง แต่มันเห็นได้ชัดว่าหลินหมิง
มีความรู้สึกที่ดีต่อหน้าอกขนาดภูเขายังต้องเอียงอายคู่นี้
" อ้าา~~~บะ...เบาๆ..เจ้าคะ... "
ซื่อโฉวนางรู้สึกตกใจไปไม่น้อยที่เห็นหลินหมิงจู่โจมนางหื่น
กระหาย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นสัญญาณที่ดตี ่อตัวนางว่าเด็ก
หนุ่มมผู้นี้อาจไม่ทิ้งจากนางไปง่ายนัก ไม่เหมือนดังบุรุษผู้อื่นที่เมื่อ
เขาได้ลิ้มลองเหล่าหญิงสาวเดิมๆนั้นพวกเขาจะเริ่มเกิดความรู้สึก
เบื่อหน่าย
หน้าอกของนางถูกขย้าและบีบนวดอย่างรุนแรงพร้อมกับใบนาง
ของหลินหมิงที่เข้าจู่โจมบริเวณซอกคอของนางจนทาให้นางแทบ
จะไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนอีกต่อไป นางจาเป็นที่จะต้องเอนร่างของนาง
พิ่งไว้กับเด็กหนุ่มผู้หื่นกระหายคนนี้อย่างช่วยไม่ได้และแน่นอนว่า
มันย่อมเข้าทาง ทางได้เด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก
" อื้มมมม~~~~~ "
ปากของหลินหมิงเข้าประกบปากของนางอย่างดูดดื่ม ลิ้นที่ผัว
พันภายในปากนางนั้นมันทาให้นางรู้ได้ว่านางไม่อาจต่อกรต่อบุรุษ
หนุ่มผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย การเคลื่อนไหวของเขาทั้งรวดเร็วจนนาง
ไม่สามารถตามจับจังหวะได้ทัน หลินหมิงประคองร่างของนางไปที่
เตียงโดยยังคงไม่ได้ทาการหยุดจู่โจมแต่อย่างใด
" คะ...คุณชายเจ้าคะ..ข้ายังไม่หายจากคราวก่อนได้โปรดให้ข้า
บริการท่านด้วยสิ่งอื่นได้รึไม่เจ้าคะ "
ร่องรักของนางนั้นแม้ว่านางจะแปลกใจที่มันค่อยๆฟื้นตัว
หลังจากที่นางถูกหลินหมิงใช้ทวนมังกรแทงทะลวงอย่างหนักหน่วง
แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ใช้เวลาอันสั้นในการฟื้นฟู จนถึงตอนนี้มัน
ยังทาให้นางไม่สามารถเดินได้อย่างปกติมากนัก
" งั้นข้าคงต้องช่วยเจ้าสักเล็กน้อย "
" คะ..คุณชาย..จะทาอะไรเจ้าคะ.... อ้าา~~~~~ ตะ...ตรงนี้..มะ
..มัน..สกปรก..เจ้าคะ..อ้าาาา "
หลินหมิงทาการให้หัวของมุดเข้าไปใต้เสื้อระหว่างขาของนาง
จากนั้นทาการใช้ลิ้นโลมเลียร่องสวาทของนางจากบริเวณรอบนอก
ก่อน มันย่อมเป็นเรื่องแปลกมากสาหรับซื่อโฉวทีบ่ ุรุษกระทาเช่นนี้
พวกเขาเหล่านั้นสมควรที่จะหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเกินกว่าจะมาทา
อะไรเช่นนี้แค่เพียงการเล้าโลมนางยังแทบไม่เคยได้จากบุรุษเลย
แม้แต่ครั้งเดียว
แต่สาหรับหลินหมิงแล้วนัน้ ทุกอย่างราวกับว่ามันเป็นไปตาม
สัญชาตญาณของเขา เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อเขาทาเช่นนี้แล้วนาง
จะมีความรู้สึกเช่นไรเพียงแต่ว่ามันสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเขา
ได้เป็นอย่างดีเท่านั้นก็เพียงพอ กลิ่นฉุนๆเล็กน้อยที่แผ่ผสมกับกลิ่น
กายของหญิงสาวมันสร้างความตื่นเต้นแปลกๆให้แก่เขาแน่นอนว่า
ทันทีที่ลิ้นของหลินหมิงสัมผัสไปที่ร่องสวาทของนางน้าใสๆของนาง
ก็เริ่มเดินในทันที
" เจ้าถึงกับเสร็จเลยอย่างนั้นรึ "
จนในที่สุดนางก็ไม่อาจอั้นไหวน้ารักใสๆของนางจานวนมากได้
ไหลออกมาอย่างพรั่งพรูเต็มใบหน้าของหลินหมิง ซื่อโฉวนั้นรู้สึกตื่น
ตระหนกในทันทีนางอาจโดนทาโทษอย่างร้ายแรงจากการที่นางไม่
อาจระงับอารมณ์ของนางได้ในครั้งนี้
" ขะ..ข้า..โทษ..เจ้าคะคุณชาย "
" ตาเจ้าทาให้ข้าบ้าง "
" จะ..เจ้าคะ ? "
ซื่อโฉวนางรู้สึกสับสนเล็กน้อยในความเป็นจริงแล้วคุณชายหนุ่ม
ผู้นี้สมควรโกรธในตัวนางไม่ใช่เช่นนั้นหรอกหรือ ? แต่ท่าทีของเขา
ในตอนนี้ไม่ได้ต่างจากตอนแรกเลยแม้แต่น้อย เมือ่ เห็นดังนั้นนางไม่
กล้าขัดใจหลินหมิงแต่อย่างใด นางยื่นใบหน้าไปใกล้ๆกับท่อนทวน
มังกรที่เพิ่งปรากฎออกมาอย่างสง่างาม
สิ่งที่นางต้องทาในตอนนีค้ ือบรรทอนกาลังของหลินหมิงลงให้
ได้มากที่สดุ นางเชื่อว่าแม้ว่าในครั้งล่าสุดหลินหมิงจะใช้ร่างกายของ
นางระเบิดอารมณ์ไปเป็นจานวนมากจนนางสิ้นสติไปเพียงแต่เมื่อดู
จากอารมณ์ของเขาในตอนนี้แล้วนั้นมันอาจเรียกได้ว่านางอาจ
ประสบชะตากรรมที่ไม่ต่างจากอดีตหรือไม่ก็นักกว่าเพราะร่างกาย
ของนางในตอนนี้ล้วนไม่ได้สมบูรณ์ดั่งเช่นก่อนหน้า
ลิ้นของนางทาการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างร้อนแรง
เสียง จ๊วบ จ๊วบ ดังขึ้นอย่างต่อเหนื่องมันอาจกล่าวได้ว่าเพียงแค่
หนุ่มสาวได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นนี้มันอาจทาให้พวกเขามีอารมณ์เกิดขึ้น
ได้ในทันที มือของนางเองก็ไม่ได้อยู่เฉยนางทาการใช้มันลูบไล้ลูก
บอลกลมสองอันของหลินหมิงอย่างเย้ายวน นางต้องการให้มันผลิต
น้าขาวขุ่นออกมาให้มากที่สุด
" อ่า...ดูเหมือนว่าเจ้าจะทาได้ดีขึ้นไม่ใช่น้อย "
ทักษะของนางนั้นเรียกได้ว่าถูกพัฒนาไปโดยทีน่ างไม่รู้ตัวถึง
อย่างนั้นในตอนนี้นางเพียงแต่ต้องทาให้หลินหมิงรู้สึกเพลิดเพลิน
มากที่สุดเพียงเท่านั้นทันใดนั้นนางก็พลันคิดบางอย่างขึ้นมาได้
" โอ้ "
" ชอบรึไม่เจ้าคะ "
นางจาได้ว่าหลินหมิงนั้นชอบพอในหน้าอกขนาดภูเขาของนาง
ลูกนี้มากเพียงนางทาการประกบมันเข้ากับทวนมังกรของหลินหมิง
แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลถึงนางด้วยเช่นกันด้วยหน้าอกของนางที่
ค่อนข้างไว้ต่อสัมผัสมันทาให้นางสามารถรับรู้ได้ถึงความร้อนของ
ทวนมังกรที่แผ่ออกมา
" ขยับมันอย่างนั้นละ "
" อมมันเข้าไปด้วย "
หลินหมิงรู้สึกชื่นชอบในทักษะนี้ของนางเป็นอย่างมากมันอาจ
เป็นทักษะเฉพาะตัวสาหรับหญิงสาวที่สามารถใช้ได้เพียงไม่กี่คน
เท่านั้นด้วยขนาดหน้าอกของพวกนางและด้วยขนาดทวนมังกรของ
เขาอาจเรียกได้ว่าหน้าอกของนางคู่นี้มีไว้เพื่อบริการเขาโดยเฉพาะ
เท่านั้น
ตอนที่ 28
เพียงไม่นานหลินหมิงก็อาจรับมือกับอนุภาพขนาดหน้าอกเนียน
นุ่มของซื่อโฉวได้อีกต่อไปน้าขาวขุ่นจานวนถูกปลดปล่อยออกมา
ท่วมปากของนางจนนางไม่สามารถรับได้ไว้ แน่นอนว่านางชื่นชอบ
รสชาติน้ารักของหลินหมิงแต่เดิมอยู่แล้วหลังจากที่นางได้ลิ้มลองไป
ในครัง้ แรกดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะพยายามกลืนมันลง
ไปทั้งหมด
ร่างกายของนางกระตุกเล็กน้อยจากการดื่มกลืนน้ารักของหลินห
มิงเพียงเท่านั้นร่องสวาทของนางตอนนี้นางรู้สึกได้ว่ามันแฉะเสียยิ่ง
กว่าในตอนที่ร่างกายของนางต้องเปียกปอนไปด้วยฝนเสียอีก
หลินหมิงผลักร่างของนางลงบนเตียอย่างไม่รอช้าทวนมังกรของ
เขาเตรียมเข้าประจาการจู่โจมทุกชั่วขณะ
" อึกก อ้าา~~~เบา..เบาก่อนเจ้า..ค่ะ..โอ้ยย..อะ...อะ~~~ ..เร็ว
ไปแล้วเจ้าค่ะ "
หลังจากที่หลินหมิงทาการเสียบทวนมังกรเข้าไปในตัวของซื่อโฉ
วนางไม่รู้ดีว่าในตอนนี้นางคงไม่พ้นชะตากรรมเดิมนางทาได้เพียง
นอนรอรับความสุขที่ได้จากกการร่วมรักในครั้งนี้เพียงเท่านั้น เป็น
อีกครั้งที่หลินหมิงต้องแปลกใจร่องของนางนั้นสมควรฉีกขาดอย่าง
มากจากการร่วมรักกับเขาในครั้งแรกแต่ในตอนนี้มันราวกับว่ามัน
สามารถฟื้นฟูตนเองเหมือนกับในตอนของหญิงสาวผู้พี่
แม้ว่ามันอาจไม่เรียกได้วา่ สามารถฟื้นฟูกลับมาในสภาพดั่งเช่น
สาวบริสุทธ์เพียงแต่ว่ามันก็ใกล้กับในตอนแรกที่เขาได้ทาการร่วมรัก
กับนาง ความรู้สึกตอดรัดและการตอบสนองภายในร่องสวาทของ
นางนั้นดีเยี่ยทจนไม่น่าเชื่อ มันทาการบีบรัดทวนของเขาตามจังหวะ
การเข้าออกจนหลินหมิงไม่อาจระงับอารมณ์เอาไว้
หน้าอกขนาดภูเขาคู่งามกระเพือมขึ้นลงพร้อมกับเสียงครางกระ
เส้ายิ่งทาให้กระตุ้นอารมณ์ของหลินหมิงมากยิ่งขึน้ ไป หลินหมิงโน้ม
ร่างของเขาลงไปกดทับร่างกายของนางเอาไว้พร้อมกับทาการโลม
เลียยอดปทุมถันของนางอย่างหื่นกระหาย
" ยะ..อย่ากัด..โอ้ยยย..อ้าาา~~~~~ "
ด้วยการที่หน้าอกของนางเป็นจุดไวต่อการสัมผัสและนางยังคง
หลินหมิงจู่โจมอย่างต่อเหนื่องมันทาให้นางไม่อาจสามารถรับมือกับ
หลินหมิงได้โดยง่าย น้ารักของนางพรั่งพรูเต็มไปภายในร่องสวาท
เพียงแต่ว่ามันสามารถไหลผ่านช่องว่างระหว่างทวนของหลินหมิงอ
อกได้เล็กน้อย แน่นอนว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นานนางก็สัมผัสได้ว่า
หลินหมิงได้ระเบิดน้ารักของเขาออกมาเป็นจานวนมากด้วยเช่นกัน
" อร้าาาาาางง~~~~~ ดะ..เดียว...อะ~~..อะ..ก่อน..เจ้าคะ "
ราวกับว่าหลินหมิงไม่ได้หมดแรงลงไปเลยแม้แต่น้อยจากการ
ปลดปล่อยอารมณ์ในครั้งสาหรับซื่อโฉวแล้วนางมองว่าหลินหมิง
อาจมีความสามารถจนถึงขนาดที่ว่าเขาอาจสามารถทากับหญิงสาว
ได้อย่างไม่มีขีดจากัดแน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางอาจต้องตก
ตายไปเพราะความสุขสมที่มากล้นจนเกินไปก็เป็นได้
หลินหมิงยังคงขยับเอวอย่างถี่ ท้องของนางโป่งพ่องขึ้นมาจาก
การที่มันไม่สามารถเก็บน้ารักจากเด็กหนุ่มและนางได้ เสียงแจะ
แจะ ยังคงดังต่อเหนื่องจากภายในร่องสวาทของนางทุกครั้งที่หลินห
มิงทาการแทงทะลวงทวนมังกรเข้ามามันจะมีน้ารักกระเด็นออกมา
ภายนอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เวลาผ่านไม่เนิ่นนานจนนางไม่อาจรู้ได้ว่านางได้ทาการร่วมรัก
กับหลินหมิงไปมากน้อยเพียงใด นางรู้สึกจุกแน่นที่ช่วงท้องจนแทบ
จะพูดไม่ออกแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีครางเล็กน้อยออกมาจากปาก
ของนางโดยที่นางไม่สามารถควบคุมได้
" โฮ ดูว่าข้าและเจ้าจะปลดปล่อยอารมณ์ดันไปเยอะไม่ใช่เล่น
เลย "
" แฮ่กๆๆ "
หลินหมิงหยุดจังหวะแทงทะลวงร่องสวาทของนางอย่างพอใจ
มันอาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้มันถึงขีดจากัดที่ภายในร่องของนางนั้น
สามารถรับน้ารักได้แล้วมันจึงทาให้เข้าไม่สามารถขยับทวนเข้าออก
ได้อีก ซื่อโฉวนางไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเช่นนี้มาก่อนอาจเป็นครั้งแรกที่
นางได้เรียนรู้เกี่ยวกับคาว่าสุขเจียนตาย
หลินหมิงนาทวนมังกรของเขาออกมาในทันที น้ารักจานวนมาก
จากเขาและนางพุ่งออกมาราวกับเขือนแตกพร้อมกับร่างของนางที่
โก่งตัวโค้งและกระตุกถี่หยิบอันเป็นเหตุจากการที่นางได้ปลดปล่อย
น้ารักจานวนมากออกมาภายนอก มันจึงทาให้นางเสร็จหลายครั้ง
ภายในเวลาอันสั้น สีหน้าของนางในตอนนี้เรียกได้ว่าย่าแย่กว่า
คราวที่แล้วแต่มันยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมที่มากขึ้น
เช่นเดียวกัน
หลังจากการปลดปล่อยน้ารักจานวนมากจากภายในร่องสวาท
ซื่อโฉวนางถึงกับหมดสติไปอีกครั้งมันคงแปลกมากสาหรับหลินหมิ
งหากนางยังคงมีสติอยู่เพราะเขาเองก็ไม่อาจนับได้ว่าทากับนาง
เสร็จสิ้นไปทั้งหมดกี่ครั้ง เขาได้ทาการเปลี่ยนร่วมรักกับนางหลาย
ท่าจนสร้างความพอใจให้กับมากล้นถึงเพียงนั้นตัวของหลินหมิง
ยังคงรู้สึกว่าเขายังคงสามารถทาเช่นนี้กับสตรีได้อีก
แน่นอนว่าเขาย่อมอยากรู้ขีดจากัดของตนเองเป็นอย่างมาก มัน
อาจเป็นเพราะว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าคนปกตินั้นจึงทาให้
เขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ได้มากเช่นนี้ ? แน่นอนว่านั้นย่อม
ไม่ใช่มีนักรบมากมายที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาแต่พวกเขาเหล่านั้น
ล้วนไม่อาจเสพสมกับสตรีได้ยาวนานเท่ากับหลินหมิงการเสร็จกิจ
ของเหล่าบุรุษนั้นมันก็คือการปลดปล่อยปราณหยางของเหล่าบุรุษ
ปราณหยางอาจเรียกได้ว่าเป็นปราณที่เกิดมาพร้อมกับบุรุษทุก
คนขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ไม่ว่าพวกเขา
เหล่านั้นจะมีปราณหยางเข้มข้นมากเพียงใดแต่เขาก็ไม่อาจทา
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงได้ยกเว้นแต่พวกเขาจะมีปราณหยางบริ
สุทธ์ แน่นอนว่าหลินหมิงเองคิดว่าตัวเขามีปราณหยางบริสุทธ์ด้วย
เช่นเดียวกัน
หากพูดให้ถูกเขาคิดว่าเปลวเพลิงทมิฬนี้ทาให้เขามีปราณหยา
งบริสุทธ์ เขาไม่ค่อยรู้เรื่องของปราณหยางบริสุทธ์เท่าไหร่นักเพราะ
มันเป็นดั่งตานานที่เคยมีแต่ในอดีตผู้ที่ครอบครองปราณหยางบริ
สุทธ์นั้นถูกเล่าขานว่าพวกเขาสามารถมอบความสุขให้แก่หญิงสาว
ได้ไม่มีที่สิ้นสุดและไม่เพียงเช่นนั้นปราณหยางบริสุทธ์ยังส่งผลกับ
ปราณหยินในร่างของหญิงสาวได้อย่างเหมาะสม
หลินหมิงทาความสะอาดร่างกายของตนเองพร้อมกับสวมใส่
เสื้อผ้า สาหรับซื่อโฉวนัน้ จะมีหญิงสาวรับใช้นางอื่นเป็นคนทาการ
ดูแลนาง หากถามว่าแล้พวกนางจะรู้ได้อย่างไร เสียงครางของซื่อ
โฉวดั่งลั่นแทบจะทั้วทั้งตานักนั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครได้
ยิน หลินหมิงก้าวออกมาจากห้องพร้อมกับตรงไปยังห้องของหญิง
สาวรับใช้ที่ไม่ห่างไกลจากเขา
" เอ๊ะ..คะ..คุณชาย "
แน่นอนว่านี้ย่อมเป็นห้องของหญิงสาวสองพี่น้อง แม้ว่าหลินห
มิงระเบิดอารมณ์ไปมากกับซื่อโฉวจนเขารู้สึกพอใจแต่เขาไม่
ต้องการให้พวกนางสองพี่น้องนั้นคิดว่าเขาลืมพวกนางไปแล้ว
แน่นอนว่าพวกนางย่อมเป็นหนึ่งในคนที่ได้ยินเสียงการร่วมรักของ
เขาและซื่อโฉว
พวกนางสองพี่น้องรู้สึกตกใจที่เห็นหลินหมิงเข้ามาภายในห้อง
ด้วยการที่ห้องของพวกนางนั้นถูกจัดเอาไว้ไม่ใกล้กบั ห้องของหลินห
มิงมากนักทาให้พวกนางสามารถได้ยินเสียงครางของหญิงสาวอย่าง
ชัดเจน
" นี้พวกเจ้ามีอารมณ์จากการฟังเพียงเท่านั้น ? "
หลินหมิงอาจคิดไปเองเพียงแต่ว่าหญิงสาวที่ผ่านการร่วมรักกับ
เขานั้นดูเหมือนว่าพวกนางจะมีความตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้มาก
ขึ้น
" มะ..ไม่..ใช่นะเจ้าคะ "
หลินหมิงยิ้มให้กบั ท่าทีเอียงอายของหญิงสาวสองพี่น้องแม้ว่า
พวกนางจะยังไม่ได้มีลีลาที่เร้าร้อนดั่งเช่นซื่อโฉวแต่ความบริสุทธ์ไร้
เดียงสาของพวกนางก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ของบุรุษได้ไม่
น้อยหน้าไปกว่ากัน พวกนางทั้งสองบิดตัวอย่างเอียงอายเพิ่อบดบัง
ร่องสวาทใต้เสื้อผ้าที่ตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยน้ารัก
หลินหมิงพุ่งเข้าไปหาพวกนางทั้งสองแล้วทาการกอดรัดร่างของ
พวกนางทั้งสองเอาไว้ ผิวเนียนนุ่มของหญิงสาวรวมกับกลิ่นกลาย
ของสาววัยผลิบ่านนั้นไม้ว่าชายใดย่อมไม่สามารถต้านทานได้
" คะ..คุณชายไม่เหนื่อยรึเจ้าคะ "
พวกนางรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยจากที่ฟังเสียงครางของหญิงสาว
เป็นเวลานานแม้พวกนางจะรู้ดีถึงความผิดปกติทางอารมณ์ของ
หลินหมิงที่มากกว่าบุรุษอื่นแต่การร่วมรักอย่างต่อเนื่องนานถึงหนึ่ง
ชั่วยามนั้นนับเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน
" งั้นข้าจะแสดงให้พวกเจ้าทั้งสองดู "
แขนทั้งสองข้างของหลินหมิงเริ่มทาการขยับไปตามส่วนของ
ร่างกายพวกนางอย่างเร้าร้อน ริมฝีปากของหลินหมิงบดเข้ากับ
หญิงสาวผู้พี่อย่างโหยหา พวกนางทั้งสองนั้นรอวันที่จะได้ทาเช่นนี้
กับหลินหมิงมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะหญิงสาวคนน้อง
" อื้มมมมม~~~~~ "
จากการที่หญิงสาวคนน้องไม่สามารถต่อต้านอารมณ์ความ
ต้องการได้อีกต่อไปเสื้อผ้าของนางถูกปลดออกอย่างรวดเร็วพร้อม
กับการที่นางขึ้นคร่อมพร้อมกับนาทวนมังกรเสียบเข้าไปในทันที
" อึกกก อ๊ายยยย~~~~~~ "
ร่องกระชับแน่นของหญิงสาวนั้นตอดรัดแน่นเสียยิ่งกว่าร่อง
สวาทของซื่อโฉวอย่างเทียบไม่ตดิ ร่องของนางราวกับว่าเป็นร่อง
สวาทที่ยังไม่เคยผ่านการเสียความบริสุทธ์มาแต่อย่างใด หญิงสาว
คนน้องไม่ได้ขยับร่างกายของนางมากนักหลังจากที่นางเสียบทวน
มังกรของหลินหมิงเข้าไปสุดลา
นางนาร่างกายของนางเข้าถูไถ่กับกล้ามเนื้อของหลินหมิงไปมา
พร้อมกับส่วนล่างของนางที่เคลื่อนไหวไปมาเป็นวงกลม หญิงสาวผู้
พี่เองก็ไม่น้อยหน้านางยังคงแลกลิ้นภายในปากของหลินหมิงอย่าง
ร้อนแรง เพียงแค่นางได้ผ่านการร่วมรักกับเขามาเพียงสองครั้ง
ทักษะการจูบของนางนั้นอาจเรียกได้ว่าเหนือกว่าซือ่ โฉวเสียอีก
อารมณ์ของหลินหมิงถูกกระตุ้นขึ้นเรื่อยๆอย่างห้ามไม่อยู่
" อ้า~~~ มะ..มันกระตุกอยู่ภายในร่องใหญ่เลยเจ้าคะ..
อ้าาาา~~~ "
แน่นอนว่าความอดทนของพวกนางนั้นย่อมต่ากว่าซื่อโฉวเป็น
อย่างมากเห็นได้จากการที่หญิงสาวคนน้องเพียงแค่นางเสียบทวน
มังกรเข้าร่องสวาทของนางนั้นน้ารักใสๆของนางก็พลันถูกระเบิด
ออกในทันที และในตอนนี้เพียงแค่นางขยับอย่างช้าๆร่างกายของ
นางก็ยังคงกระตุกถี่อย่างไม่หยุดย่อน
" ตะ..ตาข้าบ้างสิ..เจ้าทานายเกินไปแล้ว "
" อ้า~~ "
หญิงสาวผู้พี่เป็นคนขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงแทนนางยังคง
ขยับทวนมังกรเข้าหาอย่างช้าๆอาจเป็นเพราะว่านางยังคงตราตรึง
กับความเจ็บปวด แต่หลินหมิงไม่รอช้าการที่นางทาเช่นนี้มันทาให้
เขารู้สึกราคาญใจหลินหมิงจับเอวของนางแล้วส่งร่างของนางลงไป
ในทันที สาหรับของพวกนางที่ตอดรัดแน่นเช่นนี้เพียงแค่พวกนาง
ทาการขยับเล็กน้อยมันก็สามารถเรียกน้ารักจากเขาได้ไม่ยาก
" รับไป !"
" อ้าาาาาาาาาาาา~~~~~ "
หลินหมิงจับร่างของพวกนางทั้งสองมานอนซ้อนกันโดยมีร่าง
ของหญิงสาวผู้พี่อยู่ด้านล่าง ร่องสวาทสองร่องพร้อมกับรูก้นคับ
แน่นช่างเป็นภาพที่ทาให้หลินหมิงรู้สึกเร้าร้อน หลินหมิงแทงทวน
มังกรเข้าไปที่ร่องของหญิงสาวคนน้องที่อยู่ด้านบน
" อ้าาาาาา~~~~~~~ "
" ขะ..ข้าด้วยเจ้าคะ "
หญิงสาวผู้พี่ร้องของต่อหลินหมิงอย่างอ้อนวอนเมือ่ ได้เห็น
ใบหน้าของน้องสาวที่ถูกกระทาในท่านี้ แน่นอนว่าหลินหมิงย่อม
ตอบสนองในทันที หลินหมิงแทงทวนเข้าไปภายในร่องสวาทของ
หญิงสาวผู้พี่พร้อมกับทาการขยับเอวไปมา
" อะ อะ อะ อะ อะ ~~~~ "
" ทะ..ท่านพี่ "
หลินหมิงใช้มือทั้งสองข้างทาการสารวจร่องสวาท และรู้ก้นของ
หญิงสาวผู้น้องเพื่อไม่ให้นางต้องรู้สึกว่างงาน
" อ้าา~~รูนั้น~~~มะ..ไม่ได้เจ้าคะ อ้าาาา~~~ "
หลินหมิงได้ปลดปล่อยอารมณ์ของเขาอีกครั้งเขาไปเต็มร่อง
สวาทของหญิงสาวผู้พี่พร้อมกับพวกนางทัง้ สองทีป่ ล่อยน้ารัก
ออกมาเป็นจานวนมากอย่างหยุดไม่อยู่
ตอนที่ 29
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้หลินหมิงยังคงใช้เวลา
เรียนรู้และสะสมประการณ์จากผู้อาวุโสซูหลิ่งอย่างต่อเนื่อง จนทา
ให้เขาสามาารถปรุงยาระดับโดยด้วยตนเองได้อย่างไม่ขาดตก
บกพร่อง และดูเหมือนว่าท่าทีของหลิวฉวยยูรท์ ี่มีต่อเขาจะดีขึ้น
อย่างเห็นได้ชัดเขาเริ่มมีความมั่นใจแล้วว่านางคงไม่มีความคิดที่จะ
วางแผนเล่นงานเขาอีก
ในวันนี้เป็นวันที่หลินหมิงว่างจากการฝึกสอนเพราะผู้อาวุโสซู
หลิ่งนั้นนางไม่ว่างในวันนี้แต่ก่อนที่นางจะไปนางได้กล่าวกับตัวเขา
ว่าอาจารย์สาวสวยของเขานั้นจะกลับมาในวันนี้
แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นหลินหมิงได้ทาการฝึกฝน
เกี่ยวกับทักษะการใช้ทวน แต่เขาพบว่ามันเป็นเรื่องมากที่จะทา
ความเข้าใจเกี่ยวกับมันอาจเป็นเพราะว่าตัวเขานั้นไม่เคยได้ฝึกใช้
อาวุธเหล่านี้มาก่อนและยังไม่เคยได้ฝึกฝนตาราใดๆ
แต่เขาย่อมคาดการณ์ในเรื่องนี้เอาไว้แล้วด้วยการที่มันเป็นตารา
ที่ได้จากตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งมันไม่มีทางที่จะเป็นธรรมดา และ
การที่มันเป็นเช่นนี้ความยากในการฝึกฝนมันล้วนต้องไม่ใช่เรื่องง่าย
หลินหมิงที่กาลังฝึกเพลงทวนตามตาราทักษะอยู่นั้นพลันได้กลิ่น
หอมโชยเข้าสู่จมูก มันเป็นกลิ่นที่ทาให้ตัวเขารู้สึกสบายและคุ้นเคย
จนทาให้ตัวเขาแทบจะหลับไหล
" ไม่เลวหนิ..เพียงไม่ถึงเดือนตัวเจ้ากับก้าวหน้าได้ถงึ เพียงนี้ "
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มความงามของนาง
ที่ไม่เป็นรองเทพธิดาอย่างผู้อาวุโสซูหลิ่งและหลิวฉวนยูร์รวมถึงผู้
อาวุโสฟางซิ่นแล้วนั้นมีเพียงแค่อาจารย์สาวสวยของเขาเท่านั้น
จูหนิงเอ๋อนางได้รับข่าวสารเกี่ยวกับหลินหมิงมาไม่น้อยในช่วงที่
นางไม่อยู่ แม้นางจะรู้ว่าเด็กหนุ่มนั้นมีพรสวรรค์ที่เรียกได้ว่าหาได้
ยากยิ่งแต่นี้มันก็ยงั เกินกว่าที่นางได้คาดการณ์เอาไว้มาก ไม่เพียงแต่
จะสามารถปรุงยาระดับ 1 ระดับสูงภายในขั้นแรกได้เขายังสามารถ
เอาชนะวานรสองเขาสัตวอสูรขั้นสูงสุดปราณเริ่มต้นด้วยพลังปราณ
เพียงขั้นห้า
แล้วหลังจากนั้นก็สามารถพัฒนาตนเองขึ้นมาจนมาถึงขั้นที่หก
ปราณเริ่มต้น และเอายังเกือบเอาชนะหลินเสี่ยวต้าได้ !
" หืม..เจ้าเลือกทวนงัน้ รึไม่เลว....งั้นวันนี้ข้าจะขอทาหน้าที่ใน
ฐานะอาจารย์สักหน่อยก็แล้วกัน "
จูหนิงเอ๋อกล่าวออกไปพร้อมกับแผ่บรรยากาศกดดัน หลินหมิง
นั้นเข้าใจจุดประสงค์ของนางดี ทวนของหลินหมิงชี้ลงพื้นและทา
การเอียงขึ้นตามรูปแบบการวางท่าที่เขาได้เรียนรู้มา
ร่างของหลินหมิงทยานไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทวนของเขาที่
แทงเขาจุดตายของนางในทันที กับการต่อสู้กับผูแ้ ข็งแกร่งเช่นนาง
นั้นหลินหมิงรู้ดีว่าเขาไม่ควรประมาทเลยแม้แต่น้อยไม่เช่นนั้นแล้ว
มันจะเป็นเขาเสียเองที่จะต้องเจ็บตัว
เสียงทวนของหลินหมิงปะทะเข้ากับบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะถึง
ตัวอาจารย์สาวสวยของเขา โล่พลังปราณ มันเป็นสิ่งเดียวกับใน
ตอนแรกที่หลินหมิงได้เจอกับนาง แม้ว่าหลินหมิงจะแข็งแกร่งขึ้นมา
มากแต่โล่พลังปราณของนางนั้นดูไม่มที ีท่าว่าจะถูกทาลายแต่อย่าง
ใด
เปลวเพลิงสีดาลุกโชนอย่างน่าสะพรันพรึงที่บริเวณมือทั้งสอง
ข้างของหลินหมิงพร้อมกับลุกลามไปที่บริเวณทวนของเขาอย่าง
รวดเร็ว พลังกาลังของหลินหมิงล้วนต่างจากเดิมออไปโดยสิ้นเชิง
เคล้ง เคล้ง !
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เพียงพอที่จะสามารถทาลายโล่พลังปราณ
ของนางลงไปได้ความต่างชั้นของพวกเขายังคงมีมากเกินไป
หลินหมิงหยุดมือในทันทีที่ได้ยินเสียงของอาจารย์สาวสวยของ
เขา ใบหน้าของนางนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่านางจะเป็นคนที่ยิ้มร่าอยู่แล้วเพียงแต่ว่าในตอนนี้หลินหมิง
รู้สึกได้ว่ามันต่างจากเดิมไปมาก
" แม้ว่าทักษะทวนของเจ้าจะยังไม่อาจเรียกได้ว่าใช้ได้แต่
เนื่องจากเจ้าทีเวลาฝึกฝนมันไม่นานก็นบั ได้ว่าไม่เลว... ตามข้ามา "
อาจารย์สาวสวยของหลินหมิงเดินนาเขาออกไปจากลานฝึกตรง
ไปยังห้องทางานของนาง นี้เป็นเพียงครั้งที่สองที่หลินหมิงได้เข้ามา
ภายในห้องแห่งนี้ อาจารย์สาวสวยของเขาเดินหยิบหาของ
บางอย่างโดยให้หลินหมิงเฝ้ารอ
" เอ้านี้ "
ตาราทักษะอีกอย่างถูกส่งมอบมาให้แก่หลินหมิง [ ก้าววายุ ]
เพียงแค่ชื่อตาราทักษะมันก็ถึงกับทาให้มือไม้ของหลินหมิงสั่นเทาไป
ด้วยความตื่นเต้น ตาราทักษะแต่ละอันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้
แต่ที่ยากไปกว่านั้นก็คือการตามหาตาราเหล่านี้
ตาราทักษะนั้นอาจมีเพียงเฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นที่มีเอาไว้
ครอบครอง สาหรับผู้ฝึกยุทธ์โดยทั่วไปที่ไม่ได้มฐี านะนั้นพวกเขา
อาจมีโอกาศได้ฝึกตาราทักษะพื้นฐานต่างๆเพียเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้นมูลค่าของตาราทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมิณ
ราคาได้ โดยเฉพาะตาเล่มนี้ตัวตารานั้นถูกขีดเขียนไว้ก้วยอักษรที่
ทรงพลังเพียงแค่หน้าปกของมันก็แผ่รังสีความแข็งแกร่งของผู้เขียน
ออกมาได้อย่างเด่นชัด
" ตารานั้นข้าให้เจ้านาไปฝึกฝนหากเจ้ามีอะไรสงสัยก็สามารถ
นามาถามข้าได้..ส่วนนี้ "
ของอีกอย่างที่อาจารย์สาวสวยให้แก่เขามานั้นก็คือแหวนมิติ
แม้ว่านางจะเห็นว่าเขามีแหวนมิติอยู่แล้วก็ตามแต่สิ่งของเหล่านี้
นางตั้งใจให้เป็นรางวัลแก่หลินหมิงอยู่แล้ว ไม่เพียงเท่านั้นภายใน
แหวนมิตินั้นประกอบไปด้วยสมุนไพรจานวนมากมายนับไม่ถ้วน
" ข้าไม่คิดจะให้ยาบ่มเพาะใดๆแก่เจ้าหรอกนะหากเจ้าต้องการ
มันเจ้าเพียงแต่จะต้องปรุงมันขึ้นเองเท่านั้น..ด้วยวัตถุดิบภายใน
แหวนนั้นมันก็มีมากพอให้เจ้าสามารถฝึกฝนได้อย่างไม่มีขีดจากัด "
หลินหมิงไม่อาจประเมิณความร่ารวยของอาจารย์สาวสวยของ
เขาได้เลยแม้แต่น้อย สมุนไพรเหล่านี้อาจมีมูลค่ารวมกันถึงหนึ่งแสน
เหรียญเป็นอย่างน้อยแต่นางกลับสามารถแจกจ่ายได้โดยง่าย?
และด้วยการที่นางทาเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยในการฝึกฝนทักษะ
ของเขามันยังเป็นการให้เขาฝึกฝนตนโดยที่ไม้ได้รับสิ่งใดง่าย
จนเกินไปไม่เช่นนั้นแล้วพื้นฐานของเขาจะไม่แข็งแกร่งมากพอและ
จะต้องพบกับจุดตีบตันในภายภาคหน้าโดยเร็ว
" อืมงั้นเจ้าก็ไปได้แล้ว..เดียวข้ามีธุระที่จะต้องทาอีก "
หลินหมิงจากอาจารย์แสนสวยของเขาไปด้วยรอยยิ้มแห่งความ
เปี่ยมสุขเขามั่นใจว่าหากเขาสามารถฝึกฝนทักษะพื้นฐานการใช้
ทวนและทักษะ [ ก้าววายุ ] ที่เป็นทักษะการเคลื่อนไหวที่เขาขาด
ไปแล้วนั้นมันจะทาให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หลินหมิงตัดสินใจว่าเขาสมควรจะฝึกฝนทักษะทวนและการ
เคลื่อนไหวภายในป่ารอบนอก เพราะการที่เขาฝึกอยู่ตอนนี้นั้นดู
เหมือนว่ามันจะไม่ส่งผลกับตัวเขามากนักและการที่หลินหมิง
สามารถพัฒนาพลังปราณขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั้นทาให้ร่างกายของ
เขายังไม่ค่อยคุ้นชินดังนั้นเขาจึงจาเป็นที่จะต้องใช้การต่อสู้เพื่อปรับ
สภาพร่างกายของเขา

ตอนที่ 30
ในระหว่างที่หลินหมิงได้เดินออกไปจากนมาคมนักปรุงยาเพื่อทา
การฝึกฝนนั้นเขาไม่ได้รู้เลยว่าการเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ถูกจับ
ตาดูอยู่ภายใต้กลุ่มคนกลุม่ หนึ่ง
" มันออกไปนอกสมาคม ! "
" ข้าจะรีบไปบอกนายท่านพวกเจ้าตามมันไว้ "
กลุ่มคนที่เป็นหนึง่ ในศิษย์ของสมาคมนักปรุงนานั้นแม้ว่าพวก
เขาเหล่านี้จะไม่ได้มีผู้อาวุโสต่างๆคอยชี้แหนะเป็นการส่วนตัว หรือ
ก็คือพวกเขาเป็นศิษย์ภายนอกที่ไม่ค่อยมีฐานะสูงมากเท่าไหร่
สามารถราเรียนทักษะได้อย่างจากัด ด้วยสถานะเช่นนี้ย่อมไม่แปลก
ที่พวกเขาเหล่านี้จะคอยเกาะแข่งเกาะขาผู้ที่มีสถานะสูงกว่าเพื่อที่
เพื่อว่าตนจะมีโอกาศได้รับสิ่งตอบแทนบางอย่าง
สาหรับพวกเขาเหล่านี้แล้วพวกเขาไม่ได้คาดหวังในการเป็น
ศิษย์ส่วนตัวของเหล่าผู้อาวุโสมากนักการเป็นเพียงศิษย์สายใยและ
ได้รับทรัพยากรจากสานักนั้นก็เป็นสิ่งที่เกินคาดฝันสาหรับพวกเขา
" นายท่าน ! ฮั่วหมิงมันกาลังทาการออกไปยังนอกสานักขอรับ
"
" ว่าไงนะ "
ชายผู้ได้รับรายงานจากศิษย์ภายนอกนั้นส่งยิ้มออกมาอย่างชั่ว
ร้ายเมื่อได้ยินเช่นนี้ ตัวเขาซึ่งแต่เดิมได้รับความเคารพเป็นอย่าง
มากในสมาคมไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้อาวุโสหรือจากเหล่าศิษย์ด้วยกัน
แต่เรื่องราวมันราวกับพลิกฝ่ามือเพียงชั่ววัน
คนผู้นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากหลินเสี่ยวต้าภายหลังการ
ประลองนั้นท่าทีของผู้อาวุโสทั้งหลายเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดด้วย
ความที่มีคลื่นลูกใหม่อนาคตไกลที่มากกว่าตัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
อีกทั้งเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ได้สงั กัดตระกูล หรือพรรคใดๆมันจึงกล่าวได้ว่า
เด็กหนุ่มผู้นี้จะต้องเป็นบุคคลสาคัญของสานักในภายภาคหน้าอย่าง
แน่นอน
" พวกเจ้าทาดีมากเดียวต่อจากนี้ข้าจะเป็นคนจัดการเอง...เอ้านี้
...แล้วก็อย่าได้นาเรื่องนี้ไปบอกใครไม่งั้นละก็.. "
ถุงเงินจานวนหนึ่งพันเหรียญนั้นมีราคาเทียบเท่ากับหนึ่งในสาม
ของรายได้รายเดือนของชาวยุทธ์ทั้วไป เทียบกับพวกเขาที่ยัง
เยาว์วัยอยู่นั้นเงินก้อนนี้นบั เป็นเงินจานวนมหาศาล
" ข้าและสหายไม่บอกใครแน่ขอรับ "
" ยิ่งข้าปล่อยมันเอาไว้นานเท่าใดก็คงจะยิ่งกาจัดมันได้ยากเย็น
ยิ่งขึ้น แต่ขาดไม่ถึงเลยว่าจะมีโอกาสดีงามมาโดยเร็วเช่นนี้ ฮ่าๆๆ "
ชัวะ !
เสียงฟาดกะบี่ของหลินหมิงเข้าใส่ร่างของสัตว์อสูรขั้น 6 ปราณ
เริ่มต้นในตอนนี้สาหรับพวกมันเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาในการล่าของ
หลินหมิงแต่อย่างใด สัมผัสโดยรอบของหลินหมิงถูกแผ่ออกไปอย่าง
กว้างขวาง แม้ว่าในครั้งล่าสุดที่เขาร่วมรักกับหญิงสาวนั้นจะดู
เหมือนว่ามันมีการส่งผลที่น้อยลงเรื่อยๆมันจึงไม่ได้ทาให้ระดับของ
เขาหยุดอยู่ที่ขั้น 6 เช่นเดิม
แต่ในส่วนของประสาทสัมผัสของหลินหมิงนั้นได้รับการ
พัฒนาขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก ในตอนแรกหลินหมิงนั้นใช้เปลว
เพลิงทมิฬของเขาในการตรวจสอบสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งและ
สามารถทาอันตรายต่อตัวเขาได้
และในครั้งต่อมาหลินหมิงสามารถใช้มันตรวจสอบพลังงาน
โดยรอบเพื่อค้นหาสมุนไพร ทักษะทั้งสองอย่างนี้ของหลินหมิงนั้น
ล้วนถูกพัฒนาขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมากและเขายังไม่ต้องใช้สมาธิ
มากเท่าเดิมในการใช้พวกมัน
กรรร !
สัตว์อสูรที่ล้อมรอบหลินหมิงอยู่ในตอนนี้มที ั้งหมดสี่ตัวแต่พวก
มันได้ตายไปแล้วหนึ่งตัว พวกมันเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 ทั้งสิ้นภายใต้
วงล้อมเช่นนี้หลินหมิงกลับไม่ได้มีความรู้สึกกังวลแต่อย่างใดด้วย
ประสาทสัมผัสของเขาในตอนนี้มันทาให้เขาเปรียบเสมือนมีดวงตา
อยู่ข้างหลัง
' ความกดดัน ' ' เป้าหมาย '
ทั้งสองสิ่งนี้เป็นตัวที่คอยพัฒนาตัวเขาได้อย่างดีเยี่ยทภายใต้
ความคิดของหลินหมิง แม้ว่าเขาจะฝึกฝนการใช้ทวนมาเป็นเวลา
กว่าสัปดาห์ แต่นั้นมันเป็นการฝึกการใช้ท่วงท่าไม่ได้เป็นการใช้จริง
การใช้งานจริงนั้นในความคิดของหลินหมิงนั้นมันสามารถทาให้ตัว
เขาเกิดความคิดพลิกแพงและทาความเข้าใจในตัวทักษะภายใต้แรง
กดดัน
ด้วยความกดดันและความอันตรายนั้นจะเป็นสิ่งที่ทาให้มนุษย์
ก้าวข้ามขีดจากัดของตนเองได้ ถึงแม้ว่ามันจะดูเสี่ยงแต่สาหรับ
หลินหมิงที่ผ่านการทรมานมาตั้งแต่เด็กหลังจากการที่เขาได้รับเปลว
เพลิงสีดานี้มันทาให้เขารู้สึกเคยชินไปเสียแล้ว
' อ่า..พวกมันไม่เพียงพอ '
การเข้ามายังป่าภายนอกของหลินหมิงนั้นสัตว์อสูรระดับ 6 นั้น
เป็นตัวตนที่เขาต้องหลีกเลี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ภายในเวลาหนึ่ง
เดือนพวกมันทั้ง 4 ตัวกลับกลายเป็นร่างไร้วิญญาณภายใต้เพลง
ทวนของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นสาหรับหลินหมิงในตอนนี้ความแข็งแกร่งของ
พวกมันนั้นไม่ได้สร้างความกดดันให้แก่เขามากนัก หลินหมิงยังคง
ตรงเข้าไปยังส่วนลึกภายในป่ารอบนอกจนเกือบเข้าไปยังเขตป่าชั้น
กลาง ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขายังไม่เพียงพอที่จะเข้าไปยัง
บริเวณนั้น ภายในป่าชั้นกลางระดับความอันตรายย่อมแตกต่างจาก
ป่าภายนอกอย่างเทียบไม่ติด
สัตว์อสูรที่เปรียบดั่งราชาเช่นวานรสองเขาอาจเป็นได้เพียงเหยื่อ
อันโอชะภายในป่าชั้นกลาง พวกมันสามารถเป็นได้เพียงผู้ถูกล่า
เท่านั้น
หลินหมิงใช้เวลาอยู่ริมเขตป่ารอบนอกเพียงเวลาชั่วครู่เขาก็
สามารถสัมผัสได้ถงึ แรงกดดันที่มากกว่าสัตว์อสูรสีต่ ัวก่อนหน้านี้
แบบเทียบไม่ติด
' พยัคฆ์สามตา '
กรรร
สัตว์อสูรรูปแบบคล้ายเสือเพียงแต่ว่ามันมีดวงตาที่สามเพิ่มเข้า
มาและมันยังมีขาาดตัวทีใ่ หญ่กว่าราวครึ่งเท่า หลินหมิงได้เรียนรู้
มากมายเกี่ยวกับสัตว์อสูรของป่ารอบนอกที่สามารถคุกคามชีวิต
ของเขาได้ แน่นอนว่าพยัคฆ์สามตานี้ย่อมเป็นหนึ่งในนั้น
ไม่ใช่พลังของมันที่เป็นภัยคุกคามต่อเขาแต่เป็นในเรื่องความเร็ว
ต่างหาก ด้วยพลังระดับแปดปราณเริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องยากต่อการ
รับมือของเขามากนักแต่มันเป็นสัตวอสูรที่โดดเด่นในเรื่องความเร็ว
ไม่เหมือนวานรสองเขาที่โดดเด่นในเรื่องกาลัง
พยัคฆ์สามตาราวกับว่ามันได้เห็นเหยื่ออันโอชะที่สามารถทาให้
ท้องของมันอิ่มไปได้ในวันนี้ กับพลังของมนุษย์เพียงขั้น 6 นั้นไม่ได้
ต่างจากกระต๋ายตัวน้อยๆในสายตาของมัน พยัคฆ์สามตากระโจน
เข้าหาหลินหมิงด้วยความเร็วที่น่าตื่นตระหนก !
แต่หลินหมิงนั้นสามารถรับรู้ได้อยู่ก่อนหน้าแล้วทวนของเขานั้น
ไม่เพียงแต่มันจะเป็นอาวุธที่สามารถโจมตีได้ในระยะไกล แต่มันยัง
สามารถโจมตีได้รอบตัว ! ไม่ว่าพยัคฆ์สามตาจะพยายามโจมตี
หลินหมิงมากเพียงใดมันก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆให้แก่
เขาได้
แน่นอนว่าในตอนนี้หลินหมิงเพียงใช้พยัคฆ์สามตาตัวนี้ในการ
ฝึกฝนสาหรับเขาเพียงเท่านั้น การโจมตีของมันไม่ได้หนักหน่วงมันมี
ความเร็วเป็นจุดเด่น ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นหลินหมิงก็สามารถ
ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มันทาให้พยัคฆ์สามตาตัวนี้รู้สึกหงุดหงิด
เวลาผ่านสองก้านธูปร่างของพยัคฆ์สามตาตอนนี้กลายเป็นร่าง
ไร้วิญญาณไปไหนที่สุด เนื่องจากหลินหมิงไม่สามารถเรียนรู้ใดๆ
จากมันได้อีกต่อไป มันโจมตีหลินหมิงอย่างบ้าคลั่งจนมันไม่ทันได้
สนใจการตั้งรับของตนเอง มันเพียงคิดว่าด้วยพลังระดับหลินหมิง
นั้นสมควรไม่น่าจะนับมือกับมันได้นาน นั้นจึงเป็นเหตุให้มัน
กลายเป็นศพนอนแน่นิ่งในตอนนี้
ทันใดนั้นหลินหมิงพลันได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจานวนหนึ่งตรง
มาทางเขา มันไม่แปลกที่จะมีคนอยู่ในป่ารอบนอกแห่งนี้ มันเป็นจุ
มทรัพย์สาหรับนักสู้ระดับทั่วไป แต่ที่นางแปลกก็คอื พวกเขาเหล่านี้
ตรงมาที่หลินหมิงอย่างเห็นได้ชัด !
จนในที่สุดหลินหมิงก็สามารถเห็นกลุ่มคนเหล่านี้ มันทาให้เขา
ขมวดคิ้วลงด้วยความคิด
' ตระกูลหลิน ! '
กลุ่มคนนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สวมเครื่องแบบที่บง่ บอกสังกัด
ของตนแต่หลินหมิงสามารถจดจาใบหน้าของพวกเขาได้ พวกเขา
เหล่านี้เป็นคนจากตระกูลหลินอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขามีด้วยกัน
ทั้งหมด 5 คนและคนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นมีพลังในระดับปราณก่อตั้ง
ขั้นแรก !

ตอนที่ 31
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนพวกเขาเหล่านี้เป็นคนจากตระกูล
หลินและยังเป็นลูกน้องของหลืนเสี่ยวต้าแม้ว่าพลังของพวกมันจะมี
ผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดและที่เป็นเป็นผู้ที่มีพลังขั้น 8 สามมคนและ
ขั้น 9 อีกหนึ่งคนแต่ดว้ ยอายุของพวกมันที่ดูคราวๆประมาณยี่สิบ
เกือบสามสิบเข้าไปแล้วทาให้พวกมันไม่ได้มีสถานะสูงส่งแต่อย่างใด
ในตระกูล
แน่นอนว่าพวกมันเฝ้าติดตามหลินหมิงมาเป็นเวลานาน
นับตั้งแต่ที่หลินหมิงเข้ามายังป่าภายนอก แต่เมื่อพวกมันได้เห็น
หลินหมิงทาการต่อสู้จึงไม่ได้เข้าไปขัดขวางแต่อย่างใดด้วย
ความสามารถของหลินหมิงที่แสดงออกมาในตอนที่เขาสู้กับอสูร
ระดับ 6 นั้นมันทาให้พวกเขาทั้ง 5 เกิดความกังวลเล็กน้อย
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาทั้งห้าจะกลัวว่าจะไม่อาจเอาชนะหลินหมิง
ได้ แต่สิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลนั้นก็คือการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ แม้ว่ามันจะ
เป็นบริเวณปากในสุดของป่ารอบนอกที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมาแต่มัน
ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะขึ้นเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการต่อสู้ของพวก
เขา
กลุ่มคนทั้งห้านี้นั้นเป็นคนที่หลินเสี่ยวต้าเป็นคนสั่งการให้มา
จัดการกับหลินหมิง ในความคิดของพวกเขานั้นหลินหมิงสมควรที่
จะมีความเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากในการต่อสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ
การรับมือกับอสูรระดับ 8 อย่างพยัคฆ์สามตา
" พวกเจ้าต้องการอะไร "
สาหรับโลกแห่งนี้ที่ผู้แข็งแกร่งคือผู้อยู่รอดนั้น เรื่องเหล่านี้เป็น
เรื่องที่สามารถเกิดได้ทุกวันสาหรับผู้ที่แข็งแกร่งพวกเขาสามารถทา
สิ่งใดกับผู้ที่อ่อนแอกว่าได้ตราบใดที่ไม่มีคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวก
เขาเหล่านั้น
กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งห้านั้นไม่ได้ตอบคาถามของหลินหมิงพวกมัน
ทั้งห้าทาการโอมรอบปิดกั้นทางหนีของหลินหมิงเอาไว้ หลินหมิงนั้น
ไม่สามารถตรวจสอบตัวตนของพวกเขาก่อนหน้านี้ได้เลยมันอาจ
เป็นเพราะพวกเขาปิดกั้นพลังเอาไว้ ?
กับคู่ต่อสู้ที่มีพลังขั้น 7 และ 8 ถึงอย่างละสองคนและยังมีผู้ที่มี
พลังขั้นก่อเกิดอีกคนสถานการณ์เช่นนี้หากเป็นคนอื่นพวกเขาคงได้
ต่อรอวันดูงานศพของตนเองในร่างไร้วิญญาณ แต่สาหรับหลินหมิง
แล้วนั้นมันต่างออกไป
' มันยิ้ม ? '
รอยยิ้มของหลินหมิงสร้างความแปลกประหลาดใจให้แก่พวกมัน
ทั้งห้า กับผู้ที่มีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 6 นั้นไม่มที างเป็นไปได้ที่จะ
สามารถเอาชนะพวกมันทั้งห้าได้ไม่ต้องพูดถึงสภาพของเด็กหนุ่มผู้นี้
ที่เพิ่งทาการต่อสู้มาอย่างยากลาบากในสายตาของพวกมัน
กะบี่ ดาบ ถูกชักออกมาจากกลุ่มคนทั้งห้าเป็นสัญญาณว่าการ
ต่อสู้ในครั้งนี้พวกเขาจะไม่มีทางปล่อยให้หลินหมิงมีชีวิตกลับไป
โดยง่าย
เคล้ง เคล้ง !
เสียงทวนของหลินหมิงสะบัดปะทะเข้ากับการโจมตีจากสองชาย
ฉกรรจ์หลินหมิงใช้การหมุนควงทวนเป็นวงกลมในการโต้กลับการ
โจมตีครั้งนี้
' บ้าเอย มันมีแรงมากเช่นนี้ ? '
สัมผัสด้านชาที่บริเวณมือทาให้พวกมันทั้งสองถึงกับตะลึงงัน
หากดูจากรูปร่างของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีผู้นี้ก็ดูไม่กายาเหนือกว่าเด็ก
วัยเดียวกันเท่าไหร่นักแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีพลังกายอย่าง
มหาศาล !
ที่เหลืออีกสามคนไม่รีรอพวกเขาจะต้องจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด !
หลินหมิงหลับตาทาสมาธิเพียงชั่วครู่ ในตอนนี้เขาสามารถ
สื่อสารกับเปลวเพลิงทมิฬได้ราวกับแขนขาส่วนหนึ่งของร่างกาย
เปลวเพลิงสีดาอันน่าหวาดกลัวลุกโชนขึ้นที่บริเวณมือและลาม
ไปที่ทวนเขาอย่างรวดเร็วแม้ว่านี้จะเป็นทักษะโจมตีเพียงอย่างเดียว
ที่หลินหมิงมีแต่เขาก็มั่นใจในทักษะนี้ของเขาเป็นอย่างมาก มัน
สมควรมีระดับที่เกินกว่า [ คลื่นระเบิดสุรยัน ] ของหลินเสี่ยวต้าเสีย
อีก !
ภายใต้ความตกตะลึงในความน่ากลัวของเพลิงสีดาทวนของ
หลินหมิวถูกตวัดอย่างรวดเร็วไปที่ศรีษะของชายคนหนึ่งในกลุ่มคน
ทั้งห้า
ชัวะ !
แม้ว่านี้จะเป็นการฆ่าคนครั้งแรกของหลินหมิงแต่เขาไม่ได้มี
ความลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาไม่แม้แต่จะกะพริบตาเสียด้วยซ้าเขา
ต้องการมองไปที่ใบหน้าทีเ่ ต็มไปด้วยความหวาดกลัวก่อนตายของ
มัน !
" น้องสี่ ! เจ้า ! "
หลินหมิงจู่โจมอีกครั้งอย่างรวดเร็วสาหรับหลินหมิงแล้วนั้น
นักรบระดับพลังเพียงขั้นที่ 8 นั้นไม่ใช่ปัญหาสาหรับเขาเลยแม้แต่
น้อยในตอนนี้
ฉึก !
เสียงทวนแทงทะลุร่างชายคนหนึ่งในกลุ่มคนทั้งห้าการที่พวก
เขาตั้งวงล้อมเช่นนี้มันง่ายต่อหลินหมิงที่จะทาการโจมตีไปที่พวกมัน
ทีละคนโดยที่พวกมันไม่อายสามารถเคลื่อนที่มาช่วยเพื่อนของมัน
เอาไว้ได้ทัน กอปรกับด้วยการที่พวกมันนั้นยังคงเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงทีไ่ ด้เสียคนในกลุม่ ไปอย่างรวดเร็วคนแรกเพียงไม่กี่อึดใจ
ต่อมาพวกมันกลับต้องเสียคนที่สองเสียแล้ว
" ไอ้ตัวบัดซบ ! ข้าจะฆ่าเจ้า ! "
กลุ่มคนทั้งสามที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้นโจมตีเข้าหาหลินหมิ
งอย่างพร้อมเพรียง
ปัง !
หลินหมิงนั้นพอที่จะสามารถทนรับการโจมตีของผู้ที่มีพลังระดับ
9 ทั้งสองคนได้อยู่บ้างแต่สาหรับผู้ที่พลังขั้นก่อเกิดนั้นพลังของมัน
เหนือกว่าสองคนนี้และเขามากเกินไป
อัก !
ร่างของหลินหมิงไถลไปห้าก้าวจากการใช้ทวนรับกะบี่ในมือของ
ผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิด ความห่างระหว่างผู้ที่มีพลังขั้นก่อเกิดกับขั้น
9 ปราณเริ่มต้นนั้นมีมากเกินไป
ประสาทของหลินหมิงถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง พร้อมกับตัวเขาที่
พลันเริ่มคิดถึงวิธีทางเอาชนะ ในระหว่างที่ยังคงรับมือกับกะบี่ของ
อีกฝ่าย
เคล้ง เคล้ง เคล้ง !
หลินหมิงรับมือกับการโจมตีของผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดอย่าง
ต่อเนื่องจนกล้ามเนื้อของเขารู้สึกเกร็งจนปวดไปหมด หลินหมิงใช้
แรงปะทะดีดตัวถอยห่างออกมาเพื่อสร้างระยะห่าง แต่กะบี่ของอีก
ฝ่ายนั้นกลับตามมาอย่างรวดเร็ว !
' ไอ้โง่ '
คราวนี้หลินหมิงไม่ได้ตั้งรับอีกต่อไปทวนของหลินหมิงทาการ
แทงสวนเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย แน่นอนว่ามันย่อมเป็นทวนของเขา
ที่สามารถแทงทะลุอีกฝ่ายได้ก่อนด้วยระยะการโจมตีที่ไกลกว่า และ
อีกฝ่ายยังโกรธและประมาทในตัวเขามากจนเกินไป
ข้อได้เปรียบนี้ของหลินหมิงนี้นั้นหลินหมิงคิดว่ามันอาจเปรียบได้
ดังไผ่ลับของเขาเลยทีเดียวไม่ว่าเขาจะต้องรับมือกับใครแต่มันจะ
เป็นเรื่องยากมากที่อีกฝ่ายจะประเมิณระดับพลังความสามารถของ
หลินหมิงได้อย่างถูกต้อง
ฉึก !
การสิ้นชีวิตของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุม่ มันทาให้พวกมันหน้า
ขาวซีด เพียงแต่หลินหมิงเองก็ได้รับบาดเจ็บจากกะบี่ที่ถกู ฟาดลง
มาบริเวณช่วงหัวไหล่ด้านซ้ายของเขาด้วยเช่นกัน
ในขณะที่พวกมันทั้งสองกาลังคิดที่จะเข้าโจมตีหลินหมิงอีกครั้ง
พวกมันได้เห็นรอยยิม้ ที่เปรียบดังมัจจุราชมารอรับพวกมัน
" ดะ...ได้....โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย "
หลินหมิงก้าวไปหาพวกมันทั้งสองอย่างช้าๆโดยไม่สนใจทีท่า
อ้อนวอนของพวกมันทั้งสองเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าเมื่อทันทีที่
หลินหมิงยืนอยู่ไม่ห่างจากพวกมันมากเท่าใดนัก ก็มีร่างของชายคน
หนึ่งปรากฎขึ้นมาทิศทางที่เขาจากมานั้นเป็นทางส่วนลึกของป่านั้น
ย่อมเป็นป่าชั้นกลาง
เมื่อหลินหมิงได้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนเขาถึงขมวดคิ้ว
พร้อมกับอารมณ์อันรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในหัวใจของเขา
' หลินฮ่าว ! '
ชายวันกลางคนผู้นี้ก็คือผู้นาตระกูลหลินคนปัจจุบันและยังเป็น
บิดาของเขาอีกด้วย

ตอนที่ 32
สาหรับหลินหมิงแล้วนั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นบิดาของเขา แต่
ความรู้สึกของเขานั้นตั้งแต่เด็กบิดาโดยสายเลือดของเขานั้นแทบจะ
ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเช่นนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหลิน
ฮ่าวผู้นี้จะจาเขาไม่ได้แม้ว่าจะเป็นลูกแท้ก็ตามที่ ในความคิดของ
หลินหมิงนั้นเขามีความมั่นใจอยู่หลายส่วนว่าทุกคนในตระกูลล้วน
ย่อมไม่อาจจดจาเขาได้เป็นอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เพียงรูปลักษณที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ความแข็งแกร่งของเขา
ในตอนนี้มันมากเกินกว่าคาอธิบายใดๆ ภายในหนึ่งเดือนสามารถ
พัฒนาจากผู้ไร้พลังก้าวขึ้นมาถึงขั้น 6 ปราณเริ่มต้นเช่นนี้แล้วเหล่า
ผู้คนที่เรียกขานตนเองว่าเป็นอันฉริยะนั้นล้วนอาจต้องเต็มไปด้วย
ความอับอายเมื่อเทียบกับหลินหมิง
" ท่านผู้นา ! "
" ชะ..ช่วยพวกข้าด้วยขอรับ "
พวกมันรู้สึกมีความหวังในการรอดชีวิตขึ้นมาในทันที ตัวตน
อย่างหลินฮ่าวนั้นไม่สามารถพบเจอได้โดยง่ายแม้ว่าตระกูลหลินจะ
ไม่ได้มีทรัพย์สมบัตทิ ี่มากเหมือนดั่งสมาคมนักปรุงยา แต่ที่พวกเขา
สามารถคานอานาจกับสมาคมเอาไว้ได้นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นเพราะ
หลินฮ่าวผู้นี้ !
หลินหมิงตั้งแต่จาความได้เขาเพิ่งเคยได้พบหน้าของบิดาเพียง
สองสามครั้งเท่านั้นและครั้งสุดท้ายก็คือในตอนที่ผลการทดสอบ
ออกมาว่าเขาเป็นเพียงคนไร้ซึ่งพรสวรรค์ใดๆและถูกกล่าวขานว่า
เป็นเพียงขยะ
ความแข็งแกร่งของบิดาของเขานั้นเรียกได้ว่าไม่ได้น้อยไปกว่า
อาจารย์สาวสวยของเขาเลยแม้แต่น้อยหรือมันอาจมากกว่าเสียด้วย
ซ้าไป !
" พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี้ "
" พะ..พวกข้า..เพียงแค่ออกมาล่าสัตว์อสูรแล้วหลังจากนั้น..... "
" ...... "
สายตาของหลินฮ่าวที่มองไปที่ร่างของชายทั้งสองคนมันแทบจะ
ทาให้พวกเขาตายลงเพราหยุดหายในทันทีพวกเขามีความรู้สึกว่า
ไม่สามารถปิดกั้นการกระทาของพวกเขาได้แม้ว่าจะโกหกไปก็ตามที่
มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะสามารถคนที่ดารงตาแหน่งประมุขตระกูล
อันยิ่งใหญ่ ด้วยตาแหน่งนี้ทันย่อมเป็นเครื่องหมายการันตีได้เป็น
อย่างดีว่าไม่เพียงแต่จะสีความสามารถในการสู้รบแต่ในด้านอื่นๆ
เขาย่อมเหนือกว่าคนทั่วไปอยู่หลายขุม
ชายทั้งสองถึงกับสั่นไปด้วยความกลัวและไม่กล้าที่จะกล่าวอะไร
อีก
" ข้าคงต้องขอให้เจ้าปล่อยพวกเขาทั้งสองไป..หลังจากนี้ข้าจะ
เป็นคนสืบสวนและลงโทษพวกเขาเอง "
" ปล่อย ? "
ฉัวะะะ !!!
ศรีษะทั้งสองของร่างกายทั้งสองที่สะบัดขาดออกจากร่างภายใน
ที่เดียวโดยที่ใบหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง หลินฮ่าว
รู้สึกคิ้วกระตุกขึ้นมาในทันทีตัวเขาย่อมพอจะรับรู้เรื่องราวคร่าวๆได้
บ้างแต่ถึงอย่างนั้นการปล่อยให้คนในตระกูลถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตา
มันอาจทาให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย
แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุม่ ผูน้ ี้กลับกล้าหักหน้าเขาอย่างไม่มีชิ้นดี
แม้แต่ประมุขตระกูลอื่นยังไม่อาจกล้าทาเช่นนี้
" ท่านจะให้ข้าปล่อยไอพวกบัดซบที่คิดจะสังหารข้างั้นหรอ ?
ข้าไม่ใช่ทารกที่สามารถรังแกได้โดยง่ายหรอกนะแล้วก็เป็นเพราะ
พวกบัดซบนี้จู่โจมข้าก่อนแล้วทาไมข้ายังจะต้องปราณีพวกมัน ? "
การที่หลินหมิงทาเช่นนี้ไม่เพียงแต่เขาจะรู้สึกพอใจที่ได้แก้แค้น
พวกมันทั้งห้าคนที่หมายเอาชีวิตเขา แต่มันยังสามารถหักหน้าบิดา
ที่ไม่เคยใส่ใจบุตรของตนได้เป็นอย่างดีคนนี้อีกด้วย
หลินหมิงอยากจะรู้จริงๆว่าหากเขาบอกไปว่าตัวเขานั้นเป็นบุตร
ของตัวมัน มันยังจะกล่าวขอชีวิตพวกมันเหล่านั้นอีกหรือไม่ แม้ว่า
มันจะมีโอกาศที่บิดาผู้แสนน่าชิงชังคนนี้จะลืมตัวตนของเขาไปเสีย
แล้ว
" ข้าบอกให้เจ้าปล่อยพวกเขา.... "
" ข้าก็บอกเหตุผลท่านไปแล้ว "
ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่กระพริบ ความกดดันทีแ่ ผ่ออกมาจาก
ร่างชายวัยกลางคนผู้นี้กลับมีมากกว่าอาจารย์สาวสวยของเขาอย่าง
ไม่ต้องสงสัย
ปัง !!!!!
เพียงแค่หลินหมิงกระพริบตาไปชั่วหวูบร่างของเขาพลันถูก
กระแทกชนกับโขนหินอย่างรุนแรงตนเกิดไปรอยยุบลงไปพร้อมกับ
เลือดจานวนมากที่ออกมาจากปากเขาอย่างหยุดไม่อยู่ แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่ได้ประมาณเลยแม้แต่น้อยแต่เขาไม่สามารถมองการ
เคลื่อนไหวของชายวัยกลางคนผู้นี้ได้จริงๆ
และถึงแม้ว่าหลินหมิงจะสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ
ชายผู้นี้ได้เขาก็ไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะสามารถหลบ
หลีกการโจมตีนี้ได้
" นี้คือโทษฐานที่เจ้ากล้าแม้แต่กระทั่งสังหารคนที่มาจากตระกูล
เดียวกัน "
"!"
หลินหมิงรู้สึกสับสนและตืน่ ตะลึงมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่บิดาของ
เขาจะสามารถจดจาตัวเขาได้หากคิดในความเป็นจริงแล้วบิดาของ
เขาผู้นี้ควรเป็นผู้ที่มีโอกาสต่าที่สุดที่สามารถจดจาเขาได้
" เจ้านึกว่าข้าจะจาเจ้าไม่ได้ ? "
อั่ก !
หลินหมิงค่อยๆนาร่างออกมาจากโขนหินอย่างยากลาบากแม้ว่า
เขาจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแต่เพียงการโจมตีที่ผ่านมา
นั้นมันทาให้เขาแทบหมดสติ กระดูกภายในของเขาราวกับว่ามันถูก
บดละเอียดโดยการทุบเพียงครั้งเดียว
" คะ..ใคร...เป็นคน..ตะ..กูล..เดียวกับ..พวกแก "
เพลิงสีดาลุกโชนขึ้นมาอย่างน่ากลัวเขาไม่คาดคิดเลยว่าบิดาผู้
น่าชิงชังผู้นี้จะสามารถจดจาเขาได้และด้วยสภาพเช่นนี้เขาไม่อาจ
รอดเงื้อมมือของชายผู้นี้เป็นแน่
" ช่างเป็นลูกบัดซบโดยแท้ "
ปัง !!
เสียงร่างของหลินหมิงถูกส่งเข้ากระทบกับโขนหินอีกครั้งเลือด
จานวนมากไหลออกมาตามผิวหนังของเขาอย่างน่าหวาดกลัว
แม้ว่าเขาจะมีเปลวเพลิงทมิฬในตอนนี้แต่มันเหมือนกับว่าเปลว
เพลิงของเขาในตอนนี้แทบจะไม่สามารถช่วยเขาได้เลยแม้แต่น้อย
หัวสมองของหลินหมิงในตอนนี้รู้สึกขาวโพน เขาแทบไม่มีความรู้สึก
ใดๆแล้วในตอนนี้
แต่ว่าทันใดนั้นเขาก็พลันได้กลิ่นหอมโชย มันเป็นกลิ่นที่ทาให้
เขาสามารถเรียกสติกลับมาได้โดยในทันที เบื้องหน้าของเขา
ในตอนนี้ปรากฎร่างของหญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดายืนบังร่าง
ของเขาที่แทบจะลุกขึ้นยืนไม่ไหว
" นี้ท่านคงไม่คิดสังหารศิษย์ของข้าหรอกใช่หรือไม่ ? "

ตอนที่ 33
จูหนิงเอ๋อร์นั้นหลังจากที่นางได้แยกจากหลินหมิงแล้วนั้น นางได้
เข้าหาหรือกับผู้อาวุโสต่างๆเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนที่นางไม่อยู่
มันพอจะทาให้นางทราบได้ว่าดูเหมือนว่าศิษย์ของนางผู้โดดเด่นคน
นี้จะไปก่อเรื่องให้กับตระกูลหลินเขาเสียแล้ว
ทุกคนต่างรู้สึกถึงนิสยั ธาตุแท้ของหลินเสี่ยวต้าไปไม่มากก็น้อย
มันทาให้นางประเมินได้วา่ ศิษย์ของนางนั้นอาจได้รับอันตรายจาก
เรื่องนี้ นางจึงรีบติดตามหลินหมิงในทันทีที่ได้ทราบว่าหลินหมิงได้อ
อกไปยังภายนอกสานัก
แต่นางไม่ได้คาดเลยว่านางจะต้องเจอกับผู้นาตระกูลหลิน หลิน
ฮ่าวแม้ว่านางจะถูกจับตามองว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งในรอบ
ร้อยปีของเมืองแต่เมืองเทียบกับหลินฮ่าวที่สะสมประการณ์มาอย่าง
ยาวนานและพลังของนางย่อมเป็นรองชายผู้ไม่นี้ราวครึ่งขั้น หาก
ต้องเกิดการสู้กันนางไม่มคี วามมั่นใจเลยว่าจะสามารถเอาชนะได้
แต่สิ่งหนึ่งที่นางมั่นใจคือหลินฮ่าวผู้นี้คงไม่นาตระกูลหลินเข้ามา
เสี่ยงเพียงเพราะเด็กคนเดียวอย่างแน่นอนเพราะถึงแม้ว่าหลินฮ่า
วจะสามารถเอาชนะนางได้แต่แล้วอย่างไรเล่า มันไม่มีทางที่เขาจะ
สามารถชนะนางได้โดยไม่เสียหายแต่อย่างใด
" เจ้าเป็นอาจารย์ของมันงั้นรึ ? "
เสียงรายเรียบของหลินฮ่าสราวกับว่าเขาไม่ได้แยแสต่อการ
ปรากฎตัวของนางเลยแม้แต่น้อยบรรยากาศที่ผู้ที่แข็งแกร่งอันดับ
ต้นๆของเมืองมาประจันหน้ากันเช่นนี้มันอาจเพียงพอที่จะทาให้คน
ธรรมดาถึงแก่ขีวิตเพียงแค่ว่าไม่สามารถทนรับแรงกดดันของพวก
เขาได้
" เจ้าเด็กนี้เป็นศิษย์ของข้าอย่างแน่นอน ด้วยพรสวรรค์ของเขา
มันเพียงพอที่จะทาให้เขาเติบโตได้เหนือกว่าข้าเสียอีก "
จูหนิงเอ๋อนั้นนางไม่ได้รับรู้ว่าหลินหมิงนั้นเป็นบุตรของหลินฮ่า
วนางเพียงคาดการณ์จากศพที่อยู่ได้รอบซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นคน
จากตระกูลหลิน คนพวกนนี้น่าจะเป็นคนที่หลินเสี่ยวต้าจ้างวาน
พวกมันมาจัดการกับหลินหมิงแต่มันกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันเข้า
หลินฮ่าวนั้นบังเอิญพบเจอหลินหมิงสังหารคนภายในตระกูลจึงคิด
ล้างแค้นเพื่อไม่ทาให้ตระกูลเสื่อมเสีย นั้นคือสิ่งทีน่ างคิดซึ่งหากมอง
โดยทั่วไปมันย่อมเป็นเช่นนั้น
หลินฮ่าวมองมายังร่างของหลินหมิงที่อาบไปด้วยเลือดด้วย
สายตาครุ่นคิด
" หืม..เอาเถอะยังไงซะข้าก็ได้สั่งสอนมันไปบ้างแล้ว... "
หลินฮ่าวกล่าวจบพร้อมกับหันหลังทาท่าเดินจากไป มันทาให้จูห
นิงเอ๋อนางรู้สึกผ่อนคลายลงเป็นอย่างมากเพียงแต่ว่า..
" ดะ....เดียว..ก่อน..มะ..มาทุบ..ตีข้า...ละ..แล้วหนี... "
" เจ้าพูดบ้าอะไรเนี่ยจะยืนไม่ไหวแล้วไม่ต้องพูดแล้ว.. "
หลินฮ่าวหยุดชะงักเล็กน้อยเพียงแต่เขาไม่ได้หันกลับมามองแต่
อย่างใด
" อีก 6 เดือน.. แล้วข้าจะรอดูพัฒนาการของเจ้า "
จูหนิงเอ๋อร์นางไม่ได้สนใจในคากล่าวของหลินฮ่าวมากนัก นาง
รีบนาร่างของหลินหมิงทีแ่ ทบจะไร้สติจากไปในทันที นางไม่คิดเลย
ว่าศิษย์ของนางคนนี้จะมีความบ้าหรือโง่ถึงขนาดกล้ากล่าวเช่นนั้น
กับประมุขของตระกูลหลินอย่างหลินฮ่าว
แต่ที่นางสงสัยจริงๆก็คือท่าทีของหลินฮ่าวด้วยระดับฝีมือของ
หลินฮ่าวนั้นแม้ว่าหลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกนับสิบ
เท่ามันก็ไม่สามารถเทียบได้กับหลินฮ่าวได้เลยแม้แต่น้อย การ
สังหารหลินหมิงสาหรับหลินฮ่าวที่มากไปด้วยประสบการณ์นั้นไม่
ต่างอะไรจากกาจัดมดตัวหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้นศิษย์ของนางก็ยังคงสามารถรอดชีวิตมาได้จาก
บุคคลเช่นนั้นถึงแม้ว่านั้นอาจจะเป็นเพราะว่านางสามารถเข้าไป
ช่วยได้ทันก็ตาม แต่เมื่อดูจากบาดแผลของหลินหมิงแล้วนั้น
บาดแผลส่วนใหญ่เป็นเพียงบาดแผลภายนอกราวกับว่าหลินฮ่าวผู้
นั้นจงใจไม่สร้างความเสียหายภายในให้แก่หลินหมิงมากนัก การที่ผู้
ที่มีพรสวรรค์ได้รับความเสียหายภายในนั้นมันย่อมส่งผลร้ายแรงต่อ
อนาคตของพวกเขา
พวกเขาจะไม่สามารถพัฒนาตนได้อย่างที่ควรจะเป็นอันเหตุให้
ขีดจากัดของพวกเขานั้นต้องลดลงมา นักปรุงยาเองก็ไม่เป็น
ข้อยกเว้นการบาดเจ็บภายในจะทาให้พวกเขาไม่สามารถปรุงยาได้
อย่างง่ายดายนัก สาหรับเวลาของเหล่าอัจฉริยะนั้นอาจกล่าวได้ว่า
ทุกวินาทีนั้นมีค่าเป็นอย่างมาก
ตรงจุดเดิมที่จูหนิงเอ๋อร์จากหลินฮ่าวยังคงจ้องมองไปยังร่างของ
นางที่โอมอุ้มร่างของหลินหมิงจากไปด้วยอารมณ์ซบั ซ้อน
ฟุบ !
กลุ่มคนจานวนหนึ่งปรากฎขึ้นพร้อมคุกเข่าทาความเคารพให้กับ
หลินฮ่าวด้วยเกียรติสงู สุด
" ท่านประมุขพวกข้าหาคุณชายสามโดยรอบแล้วไม่พบเห็นเลย
ขอรับ "
คนพวกนี้คือกลุ่มคนที่หลินฮ่าวไว้ใจมากที่สุดภายในตระกูล
ตั้งแต่ที่หลินหมิงหลบหนีออกจากตระกูลไปหลินฮ่าวได้ให้พวกเขา
ออกตามหาหลินหมิงไปทัว่ เมืองถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถพย
แม้แต่ร่องรอยของหลินหมิงได้
จนเป็นเหตุให้หลินฮ่าวตกลงมือทาการหาบุตรชายที่ไม่ได้เรื่อง
ของเขาด้วยตัวเอง แต่เมื่อเขาได้พบเจอบุตรชายของเขาแล้วนั้นเขา
พบว่าบุตรชายคนนี้ได้เปลี่ยนไปมากราวกับเป็นคนละคนไม่เพียงแต่
จะมีพลังขั้น 6 ปราณเริ่มต้นเป็นอย่างน้อยแต่เขายังสามารถจัดการ
ผู้ที่มีพลังมากกว่าถึง 5 คนแถมหนึ่งในนั้นยังมีคนที่มีพลังระดับก่อ
เกิดอีกด้วย
แต่เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่บุตรชายของเขาคนนี้กล้าแข็งขืน
ต่อเขา ? มันนานมากแล้วที่มีคนกล้าปฎิบตั ิต่อเขาเช่นนี้ แววตาของ
หลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังจากที่หลินฮ่าวสามารถ
สัมผัสได้ ไม่ใช่การเกลียดขังเพียงตัวเขาเท่านั้นแต่เป็นทุกคนภายใน
ตระกูลเลยก็ว่าได้เขาจึงคิดจะสั่งสอนหลินหมิงให้รู้จักเคารพคนที่
เป็นบิดาเสียบ้างแล้วค่อยนาตัวกลับไปที่ตระกูล
' หึ..น้องหญิงเจ้าคงไม่ต้องเป็นห่วงไอลูกบ้านั้นแล้วล่ะนะ '
หลินฮ่าวแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าด้วยอารมณ์หลากหลายภายในใจ
โดยไม่ได้สนใจกลุ่มคนรอบข้างที่กาลังคุกเข่าให้กับอยู่ที่กาบังเต็มไป
ด้วยความงุนงง
" ไม่ต้องตามหามันแล้ว...พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว "
แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะมีความสงสัยที่ตรงกันว่าศพของพวกที่
นอนตายอยู่นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ศพทั้งห้านี้พวกเขาหลายคน
สามารถจดจาได้บ้างด้วยที่พวกมันนั้นเป็นคนภายในตระกูลหลิน
เช่นเดียวกันแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้โดดเด่นแต่ในเมือ่ อยู่ภายใน
ตระกูลเดียวกันก็ย่อมเคยพบเห็นมาบ้าง

ตอนที่ 34
ผ่านไปเพียงสามวันเท่านั้นหลินหมิงในตอนนี้ค่อยๆรู้สึกตัว
ขึ้นมาอย่างช้าๆ แม้ดูจากภายนอกบาดแผลของเขาอาจจะหนัก
พอๆกับตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บจากวานรสองเขาในครั้งก่อน
เพียงแต่ว่าบาดแผลภายในของเขานั้นหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ อีกทั้ง
สมดุลพลังกายในตัวของเขายังคงเพิ่มขึ้นแต่ก่อนหน้านี้มันจึงทาให้
เขาสามารถฟื้นตัวขึ้นมาภายในเวลาอันสั้น
จูหนิงเอ๋อร์ อาจารย์สาวสวยของหลินหมิงเป็นคนที่เขาพบหน้า
ในยามนี้ ใบหน้าของดูปราศจากความกังวลใดๆ มันทาให้หลินหมิ
งคิดในใจว่าอาจารย์สาวสวยผู้นี้ไม่กงั วลใจเกี่ยวกับตัวเขาเลยบ้าง
เช่นนั้นหรือ? แต่หากคิดในอีกมุมหนึง่ หากนางไม่ได้มีความเป็น
กังวลเกี่ยวกับตัวเขานางคงไม่ได้ออกตามหาเขาด้วยตัวเอง และการ
ที่นางมีสีหน้าคลายกังวลนั้นอาจเป็นเพราะว่านางสามารถรับรู้ได้ถึง
พลังฟื้นฟูของหลินหมิงทีน่ ่ากลัวจนเกินไป
" เฮ้อ..อย่างที่ซูหลิ่งกล่าวเจ้ามีพลังการฟื้นตัวที่ยอดเยี่ยมแต่นั้น
ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถไปก่อความวุ่นวายเช่นนี้อยู่
เรื่อยๆ...ยังดีที่ในคราวนี้หลินฮ่าวผู้นั้นไม่ได้ทาอะไรเจ้าไม่เช่นนั้น
แล้วแม้ตัวข้าเข้าช่วยก็คงเป็นไปได้ยากที่เจ้าจะมีชีวิตรอด "
หลินหมิงเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดบิดาผู้นา่ ชิงชังนั้นถึง
ปล่อยเขารอดชีวิตกลับมา แต่ในเรื่องนั้นหลินหมิงคิดว่าอาจเป็น
เพราะอาจารย์สาวสวยของเขาเพราะว่าถึงแม้ว่านางจะกล่าวว่า
หากหลินฮ่าวต้องการชีวิตเขานางคงไม่สามารถรับประกันชีวิตเขา
ได้เหมือนกัน แต่ด้วยภาพลักษณ์ของผู้นาตระกูลหลินที่ยิ่งใหญ่นนั้ มี
หรือที่เขาจะยอมบาดเจ็บหรือสู้รบกับนางเพียงเพราะตัวตนอย่าง
เขา ?
" ในเรื่องนี้ข้าได้สืบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือ
ของหลินเสี่ยวต้า ! "
มันไม่ต่างจากที่หลินหมิงคาดการณ์เอาไว้เสียแต่แรก แต่เขาไม่
คิดว่าหลินเสี่ยวต้าจะเป็นคนที่มีความอดกลั้นต่าถึงเพียงนี้ และเขา
ยังไม่ได้ระมัดระวังตัวในตอนที่ออกไปภายนอกสมาคม ต้องยอมรับ
ว่าเขามั่วแต่ตื่นเต้นดีใจกับการได้ฝึกฝนพัฒนาตนจนลืมประเมิน
สถานการณฺ์รอบด้าน
" แล้วท่านจะทาเช่นไร "
หลินหมิงค่อยๆลุกขึ้นชันตัวผิงขอบเตียงเพื่อให้คุยกับอาจารย์
สาวสวยของเขาได้อย่างถนัด เขาไม่คิดว่านางจะกล้าลงมือกับหลิน
เสี่ยวต้า เพราะถึงแม้ว่านางจะรู้ว่าเป็นฝีมือของมันเพียงแต่ว่านาง
คงไม่ยินยอมที่จะมีเรื่องกับตระกูลหลินโดยตรงเช่นนี้
" ในตอนนี้นั้นหลินเสี่ยวต้าได้ถูกปลดออกจากตาแหน่งศิษย์ของ
ผู้อาวุโซฟางซิ่นเป็นที่เรียบร้อย...และทางตระกูลหลินก็ได้หารือกับ
ข้าในเรื่องนี้ให้ยุติความบาดหมางนี้ลงเพียงเท่านี้เพราะยังไงซะฝ่าย
ที่สูญเสียมากทีส่ ุดก็คือฝ่ายนั้น "
" อืมม "
" ข้ารู้ว่าเจ้าอาจไม่พอใจอยู่บ้าง...แต่มันยังคงมีโอกาสสาหรับ
เจ้าอยู่ "
ในความเป็นจริงแล้วหลินหมิงไม่ได้ไม่พอใจผลลัพธ์ในคราวนี้
เลยแม้แต่น้อย การที่หลินเสี่ยวต้าถูกปลดออกจากตาแหน่งศิษย์ของ
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อตัวมันไปไม่มากก็
น้อย อีกทั้งความสัมพันธ์ของตระกูลหลินและสมาคมนั้นก็อาจเริ่ม
ปรากฎรอยร้าวขึ้นมา ซึ่งที่จริงแล้วหลินหมิงยังผิดหวังเล็กน้อยที่
ไม่ได้ไปแสดงตนต่อหน้าหลินเสี่ยวต้าว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ เขาแทบ
จะอดที่จะไปเจอหน้ามันไม่ไหว
" อย่างไรหรือ ?..ท่านอาจารย์ "
" เจ้าจาได้รึไม่คากล่าวของหลินฮ่าวก่อนจากไป "
หลินหมิงห้วนนึกถึงคากล่าวของหลินฮ่าวในช่วงก่อนที่สติของ
เขาจะหมดลงไปพร้อมกับทาท่าครุ่นคิด
" อีก.. 6 เดือน "
" ใช่นั้นคือโอกาสของเจ้าอย่างแท้จริง !...ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
จะมีการทดสอบรุ่นเยาว์ในเมืองฟานชูแห่งนี้ซึ่งมันถูกจัดขึ้นทุกๆ 1
ปีโดยจะมีขุนผลจากเมืองหลวงมาทาการคัดเลือก "
หลินหมิงจมอยู่ในห้วงความคิดเมืองฟานชูแห่งนี้เป็นหนึ่งใน
อาณาเขตของอาณาจักรวายุคราม และด้วยการเป็นเมืองรอบ
นอกนั้นทาให้เมืองแห่งนีต้ ้องเผชิญหน้ากับศัตรูต่างอาณาจักรอยู่
บ่อยครั้ง ซึ่งนั้นทาให้ภายในเมืองแห่งนี้ย่อมมีความแข็งแกร่งมาก
อยู่ไม่ใช่น้อยเห็นได้จากอาจารย์สาวสวยของเขาและบิดาของเขา
เป็นต้น
แต่ถึงอย่างนั้นการถูกคัดเลือกจากขุนผลในเมืองหลวงนั้นเป็น
ความหวังสาหรับคนรุ่นเยาว์โดยมากเพราะแม้ว่าพวกเขาจะมี
สถานะทางตระกูลที่ดี แต่ถึงอย่างไรซะทางเมืองหลวงนั้นกล่าวได้ว่า
เป็นที่ฝึกฝนสาหรับอัจฉริยะรุ่นเยาว์โดยแท้จริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
บิดาของเขาและอาจารย์สาวสวยของเขาก็คือหนึ่งในศิษย์เก่า
สถานที่แห่งนั้น
" โอ้ "
" แม้ว่าอายุของเจ้าจะยังน้อยไปอยู่มากและระดับพลังของเจ้า
ยังคงต่ากว่าที่ระดับคนทีท่ ั่วไปที่จะสามารถผ่านการทดสอบไปได้แต่
ตัวข้านั้นรู้ดีว่าด้วยระดับของเจ้าในตอนนี้ผู้ที่มีพลังขั้นที่ 8 ก็คงจะ
ไม่ใช่คู่มือเจ้าอีกต่อไป ดังนั้นข้าจึงเห็นว่านี้เป็นโอกาสดีสาหรับตัว
เจ้าเป็นอย่างมาก "
" ศิษย์เข้าใจแล้วขอรับ "
" เอาล่ะงั้นเจ้าก็จงมั่นฝึกเสียให้มากเวลา 6 เดือนอาจดูมากแต่
มันก็น้อยเช่นเดียวกัน "
ก่อนที่อาจารย์สาวสวยของเขาจะจากไปนางให้คาแนะนากับ
หลินหมิงเล็กน้อยเกี่ยวกับทักษะ [ ก้าววายุ ] ที่นางได้ให้แก่หลินห
มิง เดิมทีนางตั้งใจที่จะให้หลินหมิงตั้งใจศึกษาด้วยตนเองแต่เมื่อ
นางได้เห็นนิสัยส่วนหนึ่งของศิษย์นางผู้นี้ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเป็น
คนที่ไม่มีความกลัวต่อสิ่งใด ซึ่งมันอาจทาให้เขาพบเจอกับอันตราย
เช่นนี้อีก
ดังนั้นนางจึงเลือกให้เขาพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็วแต่ไม่มากจน
เกิน นางจะให้เพียงแนวทางสาหรับการพัฒนาเท่านั้นพร้อมกับ
สนับสนุนในเรื่องต่างๆตามสมควรนี้คือสิ่งที่ทาให้อัฉริยะสามารถ
เติบโตไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แน่นอนว่าที่ไม่เคยรับ
ศิษย์ใดมาก่อนเหตุใดจึงสามารถเรียนรู้เรื่องเหล่านี้
นั้นก็เพราะว่าครั้งหนึ่งนางเองก็เคยมีสถานะใกล้เคียงกับหลินห
มิง และนางก็ได้เข้ารับเลือกการทดสอบเพื่อไปฝึกฝนตนที่เมือง
หลวง มีหลายคนที่เรียกที่แห่งนั้นว่าสวรรค์ปแห่งการฝึกฝนแต่มันก็
เป็นนรกได้เช่นเดียวกัน การแก่งแย่ง การแข่งขัน การเอาชนะ ล้วน
เป็นสิ่งที่ผู้ที่สามารถผ่านการคัดเลือกนั้นย่อมมีในตัวตนของพวกเขา
และพวกเขาจะไม่ยอมตกอยู่เบื้องล่างโดยนั้นเป็นเหตุให้พวกเขา
สามารถพัฒนาตนได้อย่างต่อเหนื่อง
' เอาล่ะ '
ภายในลานฝึกหลังจากหลินหมิงได้รับคาแนะนาจากอาจารย์
สาวสวยของเขาหลินหมิงไม่รีรออีกต่อไป หลินหมิงใช้เวลาทั้งวันทา
ความใจเกี่ยวกับทักษะ [ ก้าววายุ ] หลินหมิงรับรู้ได้ว่าตัวเขา
สามารถรับรู้แรงลมโดยรอบตัวและต้องใช้ลมเหล่านี้ในการ
เคลื่อนไหว หลินหมิงพยายามรับรู้การเคลื่อนที่ของ ลม ในรูปแบบ
ต่างๆ
หลังจากหลินหมิงเริ่มจับจุดบางอย่างได้นั้นมันทาให้หลินหมิงรู้
ว่าทักษะนี้เป็นทักษะที่ดมี ากเพียงใด มันไม่ใช่ทักษะประเภทที่ต้อง
ใช้พลังปราณจานวนมากในการเคลื่อนที่ แต่มันใช้พลังธรรมชาติ
เป็นตัวคอยเสริมในการเคลื่อนของตนเอง มันทาให้เขาสามารถ
เคลื่อนที่ได้อย่างสงบ
หลินหมิงสามารถพบได้วา่ มันเริ่มมีการแลกเปลี่ยนพลังงานที่พื้น
ใต้เท้าของเขาเข้ามาสู่ภายในร่างกายเพื่อทาให้ร่างกายของเขา
เคลื่อนที่
ฟุบ !
หลังจากผ่านไปสองชั่วยามแม้ว่ามันอาจไม่เรียกได้ว่าสาเร็จใน
วิชานี้แต่มันก็เป็นก้าวเล็กๆที่ทาให้ตัวเขาพัฒนาขึ้นไปอย่างมาก
ความเร็วของหลินหมิงในตอนนี้อาจเพิ่มขึ้นราวเกือบ 10
เปอร์เซ็นต์แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทาความเข้าใจในเนื่อหาของมัน
ได้ทั้งหมดและยังคงไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มทีก่ ็ตาม
หลินหมิงใช้เวลาฝึกถึงจนช่วงเวลาค่าเขาจึงกลับไปที่ห้องของ
เขาพร้อมกับร่างของหญิงสาวสามคนที่ปรากฎตัวอยู่ภายในห้อง
ของเขา

ตอนที่ 35
ร่างของหญิงสาวทั้งสามกาลังนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อยเพื่อรอ
การกลับมาของหลินหมิง หลังจาหที่พวกนางได้รว่ มรักกับหลินหมิง
แล้วนั้นมันเป็นสิ่งที่ทาให้พวกนางมีความสุขเป็นอย่างมาก พวกนาง
จึงคาดหวังว่าหลินหมิงจะมอบความสุขเช่นนี้ให้แก่พวกนางไปใน
ทุกๆวัน
แน่นอนว่าแม้ในช่วงแรกพวกนางจะมีอาการเจ็บจากการที่ร่อง
สวาทของพวกนางถูกจู่โจมอย่างน่ากลัวแต่มันก็ยงั ฟื้นตัวได้ และดู
เหมือนว่ามันจะฟื้นตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆหลังจากร่วมรักกับคุณชายของ
พวกนางคนนี้
" คุณชาย ! "
" พวกเจ้า ? "
หลินหมิงนั้นแต่เดิมเขาตั้งใจจะใช้เวลาในช่วงกลางคืนนี้ศึกษา
ตาราเกี่ยวกับทักษะปรุงยาเพิ่มสักเล็กน้อยเพื่อที่จะทาให้อาจารย์
สาวสวยของเขาได้พอใจ แต่เมื่อได้เห็นภาพของสามสาวที่นั่งรอการ
กลับมาของเขาด้วยสายตาคาดหวังในบางสิ่งบางอย่างมันแทบจะ
ทาให้หลินหมิงสะบัดกาหนดการในตอนแรกทิ้งไปในทันที
ในตอนนี้เพียงแค่เขาเห็นหน้าพวกนางหรือคิดถึงพวกนางทั้ง
สามคนนี้มันก็ยากที่จะทาให้เขาไม่หวนคิดถึงถึงช่วงเวลาอันแสนเร่า
ร้อนกับพวกนาง อวัยวะของหลินหมิงที่ส่วนล่างมีการตอบสนองดี
ยิ่งกว่าส่วนใดในร่างกาย มันแทบจะตอบสนองในทันทีที่ในใจของ
หลินหมิงพลันคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น
" ข้านึกว่าพวกเจ้าต้องใช้เวลาพักตัวสักหน่อย ? หรือว่าพวก
เจ้าหายเจ็บแล้ว ? "
" ในตอนนี้พวกข้าทั้งสามนั้นรู้สึกดีมากขึ้นแล้วเจ้าคะ...หาก
คุณชายต้องการให้พวกข้าปรนณิบัติรับใช้พวกข้าก็พร้อมเจ้าคะ "
เป็นซื่อโฉวที่เป็นคนกล่าวตอบรับคาของหลินหมิง โดยมีหญิง
สาวสองพี่น้องพยักหน้าตอบรับอย่างไม่มีทที ่าปฎิเสธ มันราวกับว่า
ในตอนนี้ไม่ใช่ทางตัวของหลินหมิงที่ต้องการการปรณนิบัติแต่
กลับกันเมื่อดูจากท่าทางของหญิงสาวทั้งสามแล้วพวกนางคง
คาดหวังในตัวหลินหมิงอยู่ไม่ใช่น้อย
" อ่า งั้นข้าจะให้พวกเจ้าทาตามใจชอบแล้วกัน "
หลินหมิงเมื่อเดินไปนัง่ ที่เตียงพร้อมกับกล่าวออกมาและดูท่าที
ของพวกนางไปด้วย. มันเห็นได้ชัดว่าพวกนางมีท่าทีตอบสนองทีท่ า
ให้เขาอดที่จะยิ้มไปไม่ได้มันราวกับว่าพวกนางเป็นหญิงสาวตัวน้อย
ที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นขนมหวานแสนอร่อยจนพวกนางตาเป็นประกายไม่
เว้นแม้แต่ซื่อโฉวทีส่ มควรผ่านประสบการณ์มาพอสมควร
หญิงสาวสองพี่น้องเข้าประกบบริเวณระหว่างขาของหลินหมิง
ทั้งสองข้างโดยที่ในตอนนีซ้ ื่อโฉวได้ขึ้นมาที่เตียงและเริ่มทาการ
เล้าโลมไปที่บริเวณใบหน้าใบหูของหลินหมิงอย่างเร้าร้อน
หญิงสาวสองพี่น้องพวกนางทาการปลดเสื้อผ้าส่วนล่างของ
หลินหมิงออกด้วยความรวดเร็ว ทวนมังกรขนาดใหญ่ปรากฎต่อ
หน้าพวกนางอีกครั้ง เช่นเดียวกันกับหลินหมิงไม่ต้องสงสัยเลยว่า
พวกนางจะมีอารมณ์ความต้องการมากเพียงใด
มันถึงขนาดที่ว่าเมื่อพวกนางได้เห็น และได้ดมกลิ่นอบอวนของ
ทวนมังกรแท่งนี้แล้วนั้นมันถึงกับทาให้ภายในร่องสวาทของพวก
นางรู้สึหเกิดอาการปั่นปวนขึ้นมาในทันที เมื่อพวกนางทั้งสองค่อยๆ
ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงอย่างเชื่องช้าผิดกับ
ทางด้านซื่อโฉวแต่ว่ามันก็กระตุ้นอารมณ์ของหลินหมิงได้เป็นอย่าง
ดี
ทักษะการปรนณิบัติเหล่าบุรุษนั้นเป็นสิ่งที่หญิงสาวควรมี
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ทักษะของพวกนางทั้งสามคนนี้หลินหมิงเชื่อว่า
หากมีชายใดได้เจอการลูบไล้ทวนมังกรของเฟล่าบุรุษพวกเขา
เหล่านั้นคงต้องเสียน้าขาวขุ่นเป็นจานวนมากภายในเวลาไม่นาน
เพราะพวกนางไม่ได้ใช้การลูบไล้ธรรมดาๆ แต่มอื อีกข้างหนึ่ง
ที่ว่างอยู่ของพวกนางนั้นกาลังสัมผัสไปที่ร่องสวาทที่เปียกแฉะไป
ด้วยน้ารักใสๆของหญิงสาวมันจึงทาให้พวกนางครางออกมาอย่าง
ไม่หยุดปาก
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกนางทาไปทั้งหมดนี้นั้นไม่ได้เกิดมาจากการ
ฝึกฝนหรือการเรียนรู้แต่อย่างใดแต่มันเป็นเพียงสัญชาตญาณการ
ตอบสนองโดยธรรมชาติของพวกนางเท่านั้นพวกนางแทบจะไม่
รู้สึกตัวเลยว่าพวกนางกาลังทาอะไรลงไปอยู่บ้าง พวกน่งรู้เพียงแค่
ว่าพวกนางจะต้องตักตวงเวลาแห่งความสุขนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สดุ
ลิ้นของหญิงสาวสองพี่น้องเริ่มตะวัดไปที่ทวนมังกรของหลินห
มิงพร้อมกับมือของพวกนางที่ไล่สัมผัสไปที่บริเวณส่วนที่เหลือ
" อ้า~~ ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะเก่งขึ้นไม่...อื้มมมม~~~ "
เมื่อหลินหมิงเอยปากพูดไปได้เพียงไม่กี่คาริมฝีปากของเขาก็ถูก
ซื่อโฉวประกบเข้าให้อย่างเร้าร้อน ร่างกายอันแสนนุ่มนวลของหญิง
สาวประกบชิดร่างของหลินหมิง มันทาให้หน้าอกขนาดภูเขาใหญ่ยัง
อายแนบชิดร่างของหลินหมิงด้วยเช่นกัน
การจู่โจมในครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาเพราะว่ามันเป็นศึกษา
ภายในปากของหลินหมิงลิ้นของนางเข้าพัวพันกับลิ้นของหลินหมิง
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังนับได้ว่าเป็นผู้ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย
" อ้า ~~!! "
มือของหลินหมิงนั้นเคลื่อนไหวไปเองโดยธรรมชาติเข้สสัมผัส
เข้ากับหน้าอกขนาดใหญ่ของนางอย่างเต็มมือ สัมผัสเนียนนุ่มนีม้ ัน
ยากที่จะทาให้หลินหมิงปล่อยมือไปจากมัน หลินหมิงบีบนวด
หน้าอกของซื่อโฉวไปมาพร้อมกับเสียงครางของนางที่ดังเล็ดรอด
ออกมาจากการประกบปากของเขาและนาง
เพียงไม่นานก็ดูเหมือนว่าซื่อโฉวจะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
นางถอดปากออกมาด้วยความเหนื่อยหอบเช่นเดียวกันกับหลินหมิง
ที่ไม่สามารถทนต่อการเล้าโลมของหญิงสาวทัง้ สามนี้ได้อีกต่อไป น้า
ขาวขุน่ จานวนมากถูกปล่อยออกมาเต็มใบหน้าและร่างกายของ
หญิงสาวสองพี่น้อง แต่มนั ดูเหมือนว่าพวกนางไม่มีทีท่ารังเกียจใดๆ
เลยแม้แต่น้อย
ราวกับว่าหากเป็นไปได้พวกนางนั้นกลับต้องการอาบน้าที่เต็มไป
ด้วยน้ารักของหลินหมิงเลยก็ว่าได้
" เดียวพวกข้าทาความสะ่อาดให้เจ้าคะ "
จ๊วบบ จ๊วบบ
เสียงที่เกิดจากการใช้ปากของหญิงสาวทั้งสองดูดกลืนน้ารักของ
เขาไปอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับร่างของพวกนางทั้งสองพี่น้องที่กระตุก
ขึ้นมาพร้อมกันอันเป็นสัญญาณว่าพวกนางนั้นก็ไดเมาถึงขีดจากัด
แล้วเช่นกัน น้ารักใสๆได้ถูกระเบิดออกมาจากการที่พวกนางดูดกลืน
น้ารักของหลินหมิงไปเพียงเท่านั้น
ร่างของหญิงสาวสองพี่น้องถึงกับนั่งลงขาอ่อนลงไปด้วยความ
เหนื่อยจากการเสร็จอันเป็นโอกาศของซื่อโฉวที่จะได้ร่วมรักกับ
คุณชายของนางเสียที ซื่อโฉวขึ้นคร่อมร่างของหลินหมิงพร้อมกับ
นารูสวาทของนางเข้าคลุมทวนมังกรของหลินหมิงในทันที
" อ้าาาาาาาา~~~~~ "
หากเป็นหญิงสาวโดยทั่วไปคงไม่มีใครคิดกล้ามาเช่นนี้ การนา
ทวนมังกนขนาดใหญ่เช่นนี้เสียบเข้าไปในทันทีนั้นไม่ต้องสงสัยเลย
ว่ามันจะสามารถสร้างความเจ็บปวดมากเพียงใดแต่สาหรับซื่อโฉว
นั้นราวกับว่าสมองของนางถูกตัดขาดทางด้านอารมณ์ความ
เจ็บปวดไปเสียแล้ว
" สะ...เสียว...เสียวมากเลยเจ้าคะ...อ้าา~~~ "
นางขึ้นคร่อมพร้อมกัขยับร่างกายอย่างรวดเร็วจนหลินหมิงแทบ
จะสามารถปลดปล่อยน้ารักของเขาออกได้ในทันทีภายในเวลาไม่
นานหลังจากที่เขาได้ปล่อยไปในครั้งแรก
และแล้วในที่สุดระเบิดขาวขุ่นของหลินหมิงก็ถกู ปลดปล่อย
ออกมาในที่สุดพร้อมกับร่างของซื่อโฉวที่แทบจะเป็นลมหมดสติไป
อันเป็นเพราะว่านางทาอะไรที่มันเกินขีดจากัดของตัวเองไปมาก
นั้นเอง

ตอนที่ 36 NC 18+
หลังจากการร่วมรักระหว่างหลินหมิงและซื่อโฉวไปแล้วทาให้
หญิงสาวรู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปในทันทีแม้ว่าที่ผ่านมานางจะเคยทา
กับหลินหมิงได้นานมากกว่านี้เพียงแต่ว่าเพราะคราวนี้นั้นนางทุ่มสุด
ตัวเสียตั้งแต่ตอนแรกจนเป็นเหตุให้ไม่สามารถรับมือกับหลินหมิงได้
นานดั่งก่อนหน้า
" คุณชายเจ้าคะช่วยทากับพวกเราด้วยเถอะเจ้าคะ "
หลินหมิงให้ไปตามเสียงก็พบกับร่างของหญิงสาวสองพี่น้อง
นอนเรียงอยู่พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างของพวกนางแหวกร่องสวาท
เพื่อเปิดทางให้กับหลินหมิงเข้าจู่โจมได้โดยง่าย
สาหรับหลินหมิงที่แทบจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อยแม้ว่า
เขาจะปลดปล่อยน่ารักออกมาภายในเวลาไม่นานจานวนติดๆกัน
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้มันก็ทาให้เขากระโจนเข้าหาพวกนางทั้งสองใน
ทัน เริ่มจากหญิงสาวคนพี่ที่โดนจู่โจมก่อนเป็นคนแรก
" อ้าา~~...ลึกกสุดๆไปเลยเจ้าคะ "
เสียงร้องครางของหญิงสาวดังออกมาในทันทีที่หลินหมิงเสียล
ทวนมังกรของเขาเข้าไปแน่นอนว่ามันเข้าไปได้ยากลาบากกว่าของ
ซื่อโฉวอยู่ไม่ใช่น้อยถึงแม้ว่านางจะเคยร่วมรักกับหลินหมิงมาแล้วก็
ตามที่
" ดูเหมือนว่าเจ้าจะเสร็จแล้ว ? "
หลินหมิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพียงแค่เขาเสียบทวนมังกรของ
เขาเข้าไปได้ไม่นานหญิงสาวคนนี้ก็ถึงกับกระตุกขึน้ มาในทันทีพร้อม
กับหลินหมิงทีส่ ามารถสัมผัสได้ว่าภายในร่องของนางในตอนนี้กาลัง
เปียกแฉะแบบสุดๆ
" จะ..เจ้าคะ "
" แต่เจ้าคงไม่คิดว่ามันจะจบง่ายๆเช่นนี้หรอกใช่ไหม ? "
หญิงสาวผู้พี่สะดุ้งตัวเล็กน้อยหลังจากที่นางได้เห็นการร่วมรัก
อันแสนเร้าร้อนของหลินหมิงกับซื่อโฉวมันก็เป็นเรือ่ งธรรมดาที่มัน
จะทาให้นางรู้สึกเกิดอารมณ์ร่วมเป็นอย่างมาก
" ดะ..เดียวเจ้าคะ...อ้าาา~~~ มะ...มัน...ไว..ไป..แล้วเจ้าคะ..
อร้างงง "
" คุณชายได้โปรดทามันกับข้าด้วย "
หญิงสาวผู้น้องรู้ดีว่าหากนางกล่าวเช่นนั้นกับผู้เป็นนาย
โดยทั่วไปแล้วเท่ากับว่านางกาลังขัดความสุขของพวกเขา และมัน
อาจทาให้นางถูกทาโทษได้แต่สาหรับหลินหมิงนั้นนางไม่คิดว่าเขา
จะเป็นคนอย่างนั้น
" อ่า...ได้สิ "
หลินหมิงใช้นิ้วมือสองนิ้วเข้าจู่โจมหญิงสาวผู้น้องในขณะที่กาลัง
เพลิดเพลินอยู่กับคนพี่ เสียงครางของหญิงสาวทั้งสองยังคงกระตุ้น
อารมณ์ของหลินหมิงได้อย่างดีเยี่ยม
" อ้า~~~มะ...ไม่น่า..เชื่อ..เพียงแค่นิ้ว..ของคุณชาย..ข้าก็เสร็จ...
แล้ว...อร้างงงง~~~ "
" ขะ..ข้า..มะ..ไม่ไหว..แล้วววว...อ้าาาาาา~~~จะ..ระเบิดแล้ว
เจ้าคะ...อร้างงง~~~ "
น้ารักของหลินหมิงถูกปลดปล่อยเข้าใส่หญิงสาวคนพี่ไปอย่าง
ท่วมท้น พร้อมกับร่างของนางที่กระตุกถี่ขึ้นมาในทันทีเช่นเดียวกัน
" เอาล่ะ ต่อไปก็ตาเจ้าแล้วละนะ "
" ตะ..แต่ข้าเพิ่งจะ..สะ...ว้ายย ! "
ไม่ทันทีห่ ญิงสาวผู้น้องจะได้พักเหนื่อยหอบนางถูกหลินหมิง
บังคับให้เปลี่ยนจากท่านอนหงายมาเป็นท่าสุนัข พร้อมกับทวน
มังกรที่เข้าจู่โจมนางจากด้านหลังในทันที
" อึกกกก...อ้าาาา~~~ "
ภายในร่องของนางนั้นอาจไม่ต่างจากพี่สาวของนางมากเท่าใด
แต่เห็นได้ชัดว่าภายในร่องของนางนั้นมีการตอบสนองต่อทวนมังกร
ของหลินหมิงได้อย่างดีเยีย่ ม
" หรือว่าเจ้าชอบท่านี้ ? "
" อ้า~~ มะ..มันเข้าไปลึก...มากเจ้าคะ "
" งั้นข้าจะขยับละนะ "
หลินหมิงเริ่มทาการขยับสะโพกเข้าออกอย่างรวดเร็วด้วยการที่
พวกนางสองพี่น้องนั้นต่างจากซื่อโฉวหลินหมิงยังคงไม่สามารถจู่
โจมพวกนางได้อย่างเต็มกาลังมากนักแต่ถึงอย่างนัน้ หากผ่านไปใน
อนาคตเขาเชื่อว่าพวกนางย่อมต้องตอบสนองต่อเขาได้ดียิ่งกว่าเดิม
อย่างมาก
เพราะเมื่อดูจากอดีตที่ผ่านมานับได้ว่าพวกนางนั้นพัฒนาการ
รับมือกับทวนมังกรของเขาได้รวดเร็วเป็นอย่างมากไม่ใช่เพียงแค่
พวกนางเท่านั้นแม้แต่ซื่อโฉวเองก็ด้วยเช่นกัน
" อ้าาา~~~ ระ..แรง..แรง..เลย..เจ้าคะ "
หลินหมิงทาการขย้าก้อนเนื้อที่บริเวณแก้มก้นของนางไปด้วย
เพื่อทาให้นางรู้สึกผ่อนคลาย แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าประสาท
สัมผัสทั้งหมดของนางในตอนนี้จะดูเหมือนว่ามันถูกนาไปรวมที่จุด
เดียวนั้นก็คือร่องสวาทของนางเสียแล้ว
" นะ..นายท่าน ? "
เป็นซื่อโฉวที่เริ่มกลับมามีสติขึ้นอีกครั้ง หลินหมิงรู้สึกแปลกใจ
กลับคาเรียกของนางที่เปลี่ยนจากคุณชาย เป็น นายท่าน ไปทั้งที่
ก่อนหน้านี้ยังเรียกเขาว่าคุณชายอยู่แท้ๆอาจเป็นเพราะว่านาง
ยอมรับตัวเขาอย่างเต็มใจแล้ว ?
หลินหมิงไม่รอช้าดึงนางเข้ามาประกบปากอย่างดูดดื่ม
" อื้อออออ~~~~~ "
สัมผัสนุ่มนวลที่บริเวณริมฝีปากของนางมันทาให้นางถึงกับได้
สติขึ้นมาเต็มตาเพราะไม่อย่างนั้นนางอาจจะต้องหมดสติไปอีกครั้ง
จากการจู่โจมของนายท่านของนางผู้นี้
" มะ...ไม่ไหว...แล้วเจ้าคะ...อร้างงงงง~~~ "
หญิงสาวคนน้องไม่สามารถทนรับมือกับทวนมังกรของหลินหมิง
ได้อีกต่อไปเมื่อน้ารักของเขาได้พุ่งเข้าสู่ตัวนางจนแทบจะทะลัก
ออกมา
หลินหมิงใช้เวลาอีกสักพักในการจู่โจมซื่อโฉวที่เพิ่งได้สติขึ้น
พร้อมกับวนไปจัดการหญิงสาวสองพี่น้องอีกคนละรอบจนพวกนาง
ต้องนอนหลับหมดสติไปจริงๆด้วยความอ่อนล้า แต่มันกลับตรงข้าม
กลับหลินหมิงที่ราวกับว่าการร่วมรักกับพวกนางนัน้ เป็นการฟื้นฟู
ความเหนื่อยล้าไปเสียอย่างนั้น
หลินหมิงจัดการทาความสะอาดร่างกายให้แกพวกนางเล็กน้อย
เพื่อให้พวกนางสบายตัวถึงอย่างไรพวกนางทั้งสามก็ได้ชื่อว่าเป็น
หญิงสาวของเขาแล้วการดูแลพวกนางเสียบ้างก็ถือเป็นหน้าที่ของ
บุรุษเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นหลินหมิงออกมาภายนอกตรงเข้าไปสู่ตวั เมือง
แน่นอนว่ามันย่อมมีความเสี่ยงทีว่าความลับของตัวเขาอาจถูก
เปิดเผยไปโดยบิดาของเขาแล้วนั้นหลินหมิงจึงตัดสินใจใส่ผ้าคลุม
ปิดบังใบหน้าเล็กน้อย
ภายในตัวเมืองยามดึกนั้นเป็นสถานที่ที่แปลกตาสาหรับหลินห
มิง เพราะว่ามันช่างแตกต่างกลับตอนกลางวันราวกับว่าสถานที่
แห่งนี้เป็นคนละเมืองกันเลยทีเดียว ผู้คนที่สญ
ั จรไปมาโดยรอบแม้
จะมีไม่มากเท่ากับตอนกลางวันแต่มันก็กลับดูรู้สึกมีชีวิตชีวาไปอีก
แบบเช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุบังเอิญหรือไม่อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่นั้นที่ออกมา
ภายนอกในยามนี้ล้วนแล้วแต่ปิดบังตัวตนแท้จริงของตนเอาไว้
ทั้งสิ้นนั้นจึงเป็นเหตุให้หลินหมิงไม่ค่อยสะดุดตานักเดิมทีเขาเพียง
ต้องการออกมาเดินเล่นเพียงเท่านั้น
หลินหมิงเดินไปตามทางด้วยความสนใจอย่างไรเสียเขาก็เป็น
เพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่เคยได้รับประสบการณ์เช่นนี้
" นี้เจ้า ! "
ทันใดนั้นหลินหมิงได้ยนิ เสียงเรียกตรงมาที่เขาอย่างเห็นได้ชัด
จากน้าเสียงนั้นเห็ยได้ชัดว่ามันเป็นเสียงของหญิงสาวอย่างไม่ผิด
อย่างแน่นอนและหลินหมิงยังคงคุ้นเคยกับมันเพียงแต่ว่าตัวเขากลับ
นึกไม่ออก
" เจ้าเป็นใคร ? "
หลินหมิงเอยถามเจ้าของเสียงที่คลุมหน้าตัวเองเช่นเดียวกันกับ
เขาดูจากขนาดตัวของนางแล้วนางสมควรมีอายุไม่ต่างจากเขามา
เท่าใด จนในที่สุดเมื่อหลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมโชย
จากตัวหญิงสาวมันก็แทบจะทาให้หลินหมิงนึกถึงตัวตนของนาง
ออกขึ้นมาโดยแทบไม่ต้องมองไปที่รูปร่างของนางอีกต่อไป
" ฉวนยูร์ ? "
" ชู่วว ! อย่าส่งเสียงดังสิตามมานี้เลย ! "
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางจะต้องเป็นหลิวฉวนยูร์อย่างแน่นอน นาง
จับข้อมือของหลินหมิงพร้อมกับลากเขาเดินไปตามทางจนมาถึง
สถานที่เป็นที่ลับสายตาคน

ตอนที่ 37
หลินหมิงที่ถกู มือเนียนนุ่มลากมาที่ลับตาคนมันก็อดไม่ได้ที่จะทา
ให้หัวใจของเขาเต้นระทึกขึ้นมากลิ่นหอมหวนของหญิงสาวผู้งดงาม
ราวกับเทพธิดานางนี้ยังคงลอยล่องเข้าสู่ประสาทของเขาอย่างต่อ
เหนื่อง จนมันแทบจะทาให้หลินหมิงลืมนึกไปเลยว่ามนอดีตที่ผ่าน
นั้นนางได้วางแผนร้ายกับเขาเอาไว้
เมื่อมาถึงจุดที่ไม่มีผู้คนสังเกตเห็นหลิวฉวนยูร์ก็หยุดพร้อมกับหัน
มามองที่หลินหมิงแม้ว่าหลินหมิงจะไม่สามารถสังเกตเห็นใบหน้า
ของนางในยามนี้ได้แต่เขากลับรู้สึกได้ถงึ ความไม่พอใจที่แผ่ออกมา
จากตัวของนาง มันอาจเรียกได้ว่านี้เป็นหนึ่งในทักษะที่ดีเลิศของ
เขาเลยก็ว่าได้หากเป็นเรื่องหญิงสาวแล้วละก็หลินหมิงมีความมั่นใจ
อยู่หลายส่วนว่าเขาจะไม่แพ้บุรุษผู้ใด
" เจ้าออกมาทาอะไรตอนดึกเช่นนี้กัน ? "
น้าเสียงที่กล่าวออกมาของนางนั้นปนไปด้วยความไม่พอใจอย่าง
เห็นได้ชัดซึ่งหลินหมิงผู้เชี่ยวชาญในเรื่องสตรียังคงไม่สามารถทา
ความเข้าใจในจุดนี้ได้
" ข้าเพียงแค่ออกมาเดินเล่นเพียงเท่านั้น....แล้วเจ้าละหรือว่า
เจ้าจะแอบตามข้ามา ? "
ประโยคหลังหลินหมิงถามออกด้วยน้าเสียงหยอกเย้าเพื่อทาให้
นางคลายความตรึงเครียดลงไปบ้างเพียงแต่ว่าท่าทีของนางนั้น
เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
" บะ..บ้าใครจะแอบตามเจ้าออกมากัน..ขะ..ข้าก็แค่..แค่ออกมา
เดินเล่นเหมือนกันก็เท่านัน้ "
" หืมมมม "
"เดียวเถอะแล้วนี้เจ้าจะทาท่าสงสัยไปทาไมกัน..จริงๆแล้วมัน
ควรเป็นข้าที่ต้องสงสัยในตัวเจ้ามากกว่าไม่ใช่รึ "
" สงสัยข้า ? "
หลินหมิงรู้สึกสับสนกับอาการท่าทีของฉวนยูร์เล็กน้อย เพียงแต่
ว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกนางสักเล็กน้อยแม้ว่าจะไม่ได้เห็น
ใบหน้าของนางเพียงแต่ว่าการแสดงท่าทีของนางในตอนนี้นับว่า
ต่างจากปกติโดยทั่วไปโดยสิ้นเชิง
" ก็จริงๆแล้วเจ้าคงออกมาเที่ยวราตรีดั่งเช่นบุรุษอื่นล่ะสิ...ทั้งๆ
ที่..... "
แน่นอนว่าแต่เดิมนั้นหลินหมิงย่อมมีเป้าที่การเที่ยวราตรีหรือหอ
นางโลมบางสักครั้ง แต่เมื่อเขาได้ออกมาเห็นบรรยากาศภายในเมื่อ
ยามดึกมันก็ทาให้เขารู้สึกผ่อนคลายจนลืมเรื่องพวกนั้นไปเสียสนิท
" ข้าเพียงแค่ออกมาสูดอาการภายนอกเล่นเพียงเท่านั้นจริงๆ..
หากเจ้าไม่เชื่อข้ายินดีให้เจ้าพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการของเจ้า "
" พิสูจน์ ? "
หลินหมิงเริ่มสับสนแล้วว่าในตอนนี้นางรู้สึกกับเขาอย่างไรกันแน่
ไม่ใช่ว่านางเกลียดเขามากเช่นนั้นหรือ ? หรือเป็นเพราะของรางวัล
ที่เขาให้แก่นางไปจะทาให้นางรู้สึกดีกับตัวเขาขึ้นมา ?
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่อาจทาความเข้าใจกับเหตุผลเหล่านั้นแต่
การได้พูดคุยกับหญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดาและได้สูดดมกลิ่น
ของนาง ฟังเสียงไพเราะของนางก็นับได้ว่าเป็นทางฝ่ายของเขาที่
คุ้มค่า
" เจ้าแน่ใจนะว่าจะให้ข้าพิสูจน์ได้ "
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับเปิดผ้าคลุมเผยให้เห็นใบหน้าอัน
งดงามราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ผิวพรรณอันงดงามเนียนนุ่ม
สะท้อนกับแสงจันทร์ยิ่งส่องประกายให้เห็นชัดถึงความงามของนาง
มากยิ่งขึ้นไปอีก
" แน่นอน "
" งั้นเจ้าก็หลับตาลง....ข้าบอกให้หลับตาลงอย่างไรเล่า "
หลินหมิงหลับตาลงไปอย่างช่วยไม่ได้แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจ
ว่านางไม่ได้มีความคิดร้ายต่อเขาอีกต่อไปเพียงแต่ว่ามันก็อดไม่ได้ที่
หลินหมิงจะหวาดระแวง
หลินหมิงสัมผัสได้ว่าผ้าคลุมของเขาค่อยๆถูกเปิดออกโดยมือ
ของหญิงสาว โดยที่เขาไม่ได้เห็นใบหน้าของนางยามนี้ที่ขึ้นสีแดงระ
เรื่อ นางมองไปที่ใบหน้าของหลินหมิงด้วยความเปี่ยมสุข ในความ
จริงแล้วหลังจากที่นางได้รับของจากหลินหมิงมันทาให้หัวใจของ
นางรู้สึกผองโตจนนางแทบจะนอนไม่หลับ ความรูส้ ึกอบอุ่นในหัวใจ
ของนางนั้นมันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จนดึกวันนี้ที่นางนอนไม่หลับนางพลันเห็นร่างของบุรุษส่วมผ้า
คลุมออกจากตานักของประมุขสมาคมซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่านั้น
จะต้องเป็นหลินหมิงอย่างแน่นอน นางจึงรีบแอบตามไปอย่าง
โดยเร็ว
การเที่ยวราตรีของบุรุษนั้นอาจเป็นเรื่องทั่วไปในยามที่พวกเขา
รู้สึกเบื่อหน่ายกับภรรยาของเขาเหล่านั้นหรือแม้กระทั่งเหล่าบุรุษวัย
เยาว์ที่ใช้เวลากลางวันในกลางขัดเกลาบ่มเพาะฝีมือในยามดึกก็คือ
ช่วงเวลาผ่อนคลายของพวกเขาเช่นเดียวกัน
หลิวฉวนยูร์จ้องมองใบหน้าของหลินหมิงด้วยความพึงพอใจ
แม้ว่าใบหน้าของหลินหมิงจะงดงามจดจัดได้ว่าเป็นบุรุษงาม แต่ถึง
อย่างนั้นหากเทียบกับบุรุษที่เคยเข้ามาหวังหมายปองในตัวนางแล้ว
นั้นนับได้ว่าหลินหมิงนั้นเป็นรองอยู่หลายคนเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นมนสายตาของนางใบหน้าของหลินหมิงก้ยังคง
มอบความสุขให้แก่นางได้มากเสียยิ่งกว่าบุรุษเหล่านั้นรวมกันเสีย
อีก
" ข้าลืมตาได้แล้วหรือยัง ? "
" ยังข้ายังเตรียมตัวไม่เสร็จเลย "
เมื่อหลินหมิงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานเพียงแต่ว่ามันยังคงไม่เกิด
อะไรขึ้นเขาจึงได้กล่าวถามนางดูแต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการสร้าง
ความไม่พอใจให้แก่นางเข้าไปอีก
หลิวฉวนยูร์ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆกับใบหน้าของหลินห
มิงนางสามารถสูดดมกลิน่ กายของหลินหมิงได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกันกับหลินหมิงเขาไม่กล้าเปิดสายตามองออกอย่าง
แน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นที่เข้ามาในจมูก
ของเขากลิ่นกายของหญิงสาวที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
จุ๊บบ
สัมผัสเนียนนุ่มทีป่ ากของหลินหมิงทาให้เขาตาสว่างขึ้นมา
ในทันที ภาพที่เห็นคือภาพของหญิงสาวผู้งดงามกาลังประกบปาก
เข้าอยู่ด้วยใบหน้าของนางที่ขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด
ริมฝีปากเนียนนุ่มของนางราวกับว่ามันสามารถทาให้ร่างกาย
ของหลินหมิงลอยคว้างไปในอากาศได้เลยทีเดียว
ลิ้นของหลินหมิงเริ่มตอบสนองไปตามธรรมชาติและดูเหมือนว่า
นางจะไม่มีทีท่าต่อต้านด้วยเช่นเดียวกัน ร่างทั้งสองค่อยๆโอบกอด
กันอย่างเชื้องช้าราวกับว่าในโลกใบนี้มีเพียงพวกเขาทั้งสอง
มือของหลินหมิงโอบกอดไปที่แผ่นหลังของนางสัมผัสเนียนนุ่มที่
มือมันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยมยิ่งกว่าหญิงสาวสองพี่น้องเสียอีก
เช่นเดียวหลิวฉวนยูร์ก็กาลังโอบกอดหลินหมิงไว้ดว้ ยสีหน้าเปี่ยมสุข
ลิ้นทั้งสองยังคงพัวพันกันไปมาราวกับว่าพวกมันไม่ต้องการแยก
จากกัน
อื้ออออออออ~~~~~~~~~~~
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดที่ร่างทั้งสองยังคงกอดชิดติดกัน
จนกระทั่งหลิวฉวนยูร์ไม่อาจสามารถหายใจได้อย่างถนัดนางจึงถอน
ปากออกมาด้วยความเสียดายแต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยงั คงกอดหลินห
มิงเอาไว้พร้อมกับเอาหน้าซุกลงที่แผ่นอกของหลินหมิงด้วยความ
เอียงอาย
" แล้วการทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง "
" นี้เจ้ายังถามถึงเรื่องนั้นอีกหรอ "
นางค่อยๆเงยนางมองหลินหมิงอีกครั้งด้วยความขวยเขินตั้งแต่
เกิดนี้เป็นครั้งแรกที่นางถูกโอบกอดอย่างใกล้ชิดโดยบุรุษ แต่มันก็
เป็นความอบอุ่นที่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยเช่นเดียวกัน นางมี
ความรู้สึกว่าอยากให้ช่วงเวลาหยุดลงเพียงเท่านี้
ดวงตาของชายหญิงทั้งสองที่สบตากันอีกครั้งราวกับว่าต่างรับรู้
อารมณ์ของอีกฝ่าย หลังจากนั้นการประกบปากอันร้อนแรงก็เริ่มขึ้น
อีกครั้งพร้อมกับมือทั้งสองข้างของทั้งสองคนที่โอบกอดร่างของอีก
ฝ่ายเอาไว้อย่างแนบแน่น

ตอนที่ 38
ร่างของหลินหมิงและหลิวฉวนยูร์ค่อยๆแยกจากกันอย่างช้าๆ
โดยทียังคงมีร่องรอยของการจูบอันเร้าร้อนของพวกเขาเป็นน้าลาย
ยืดออกมาเป็นทางยาวระหว่างริมฝีปากทั้งสอง หลิวฉวนยูร์นั้น
แม้ว่าสาหรับนางนี้จะเป็นการจูบเพียงครั้งแรกก็ตามแต่นางสามารถ
ทาให้หลินหมิงพอใจได้มากกว่าการจูบกับหญิงสาวที่ผ่านเป็นอย่าง
มาก
" แฮ่ก ๆ ๆ "
เสียงหอบหายใจอ่อนๆของหลิวฉวนยูร์รวมกับกริยาท่าทางของ
นางในตอนนี้มันทาให้หลินหมิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหัวใจเต้นโครม
ครามจนแทบจะระงับร่างกายของตัวเองเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป แต่
ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องพยายามควบคุมตนเองเอาไว้ แน่นอนว่า
ในตอนนี้หลินหมิงเริ่มเข้าใจความรู้สึกที่นางมีต่อเขาได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกันกับหลิวฉวนยูร์ด้วยเช่นกัน
ร่างทั้งสองยังคงโอบกอดกันอย่างหลวมๆไม่แยกจากกันไปไหน
แม้ว่าหลินหมิงจะปราถนาในสิ่งที่มากกว่านี้แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องดี
นักหากเขาจะทาเช่นนั่นหากนางเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาดังเช่น
ซื่อโฉวและหญิงสาวสองพี่น้องในตอนนี้หลินหมิงคงไม่มีการรีรอที่
จะเข้าทาการจู่โจมแม่นางเทพธิดาสาวสวยผู้นี้ในทันที เพียงแต่ว่า
ฐานของนางนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
หากหลินหมิงทาการเข้าจู่โจมนางในทันทีนั้นมันอาจเป็นการ
สร้างความไม่พอใจให้กับตัวนางเสียมากกว่าต้องเข้าใจว่าแม้ว่านาง
จะมีความรู้สึกที่ดีต่อหลินหมิงแต่นางคงไม่ยอมเป็นเพียงเครื่องบา
เร่อของเขาเพียงเท่านั้นอย่างแน่นอน หลินหมิงก้มลงมองใบหน้าอัน
งดงามพร้อมกับสูดดมกลิน่ หอมของหญิงสาวเอาไว้โดยไม่ให้มีการ
เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์สาหรับเขาช่วงเวลาเช่นนี้นั้นมันช่าง
หากได้ยากยิ่ง
" อะ..อืม..ข้าไม่เป็นไรแล้ว "
จากการที่นางต้องโดนหลินหมิงจ้องมองเป็นเวลานานมันก็ทาให้
หลิวฉวนยูร์รู้สึกเอียงอายขึ้นมาจนนางแทบจะไม่กล้าสบตากับ
หลินหมิงนางค่อยๆผลักร่างของหลินหมิงให้แยกจากตัวนางด้วย
ความเสียดายอยู่ในใจ นางไม่สามารถกระทาการใดๆไปได้มากกว่า
นี้ด้วยชื่อเสียงของตระกูลนางด้วยการกระทาเช่นนี้หากมีคนรับรู้เข้า
มันอาจทาให้ชื่อเสียงของตระกูลนางนั้นต้องเสื่อมเสียยิ่งนางได้ชื่อ
ว่าเป็นคู่หมั้นของหลินชูอยู่แล้วด้วย
" เจ้าต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ "
หลิวฉวนยูร์รวบรวมความกล้าขึ้นมาสบตากับหลินหมิงอีกครั้ง
นางมีความตั้งใจแน่วแน่มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกภายในใจของ
นางที่ค้างคามานานกับหลินหมิง แต่ในเมื่อนางได้ทาการใกล้ชิดและ
จูบกับหลินหมิงไปแล้วมันก็เหมือนกับเป็นการปัดเป่าความรู้สึก
เหล่านั้นทิ้งไปจนหมดสิ้นไปเสียแล้ว
" แต่พวกเราแค่จูบกันเพียง... "
" หรือเจ้าจะปฎิเสธ ? "
น้าเสียงเย็นเรียบดังสวนขึ้นมาก่อนที่หลินหมิงจะทันได้กล่าว
อะไรแม่เทพธิดาสาวสวยผู้นี้ยังคงมีนิสัยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ในสายตาของหลินหมิง
" ไม่แน่นอน !...เมื่อถึงวันนั้นข้าจะทาให้เจ้ากลายเป็นของข้าทั้ง
กายและใจเชียวล่ะ "
นางไม่คาดคิดว่าหลินหมิงจะตอบนางกลับมาด้วยความรู้สึก
มั่นคงน้าเสียงของหลินหมิงนั้นเต็มไปด้วยความมัน่ ใจอย่างมาก นาง
รู้ดีว่าการที่หลินหมิงจะรู้สึกชอบพอกับนางนั้นเท่ากับว่าตัวของ
หลินหมิงนั้นอาจต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหลิน ! แต่ถึงอย่างนั้นนาง
ก็คาดหวังว่าหลินหมิงจะตอบรับความรู้สึกของนางด้วยความรู้สึก
จากใจอย่างแท้จริงแล้วมันก็เป็นเช่นนั้น
ด้วยสถานะของหลินหมิงในตอนนี้นั้นอาจเรียกได้ว่าสูสีกับหลินชู
ที่เป็นคู่หมั้นของนางเพียงแต่ว่าพื้นเพดังเดิมของหลินหมิงนั้นใน
สายตาของนางนั้นเขาเป็นเพียงสามัญชนนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่บิดา
ของนางจะยอมรับในตัวของหลินหมิง ดังนั้นทางเดียวที่หลินหมิงจะ
สามารถเอาชนะใจบิดาของนางได้นั้นก็คือการแสดงความแข็งแกร่ง
ของเขาออกมาให้เป็นที่ประจักษ์
สาหรับการประลองภายในสมาคมนั้นไม่ได้เปิดให้
บุคคลภายนอกเข้าชมมากเท่าที่ควรนั้นจึงเป็นเหตุให้ชื่อเสียงของ
หลินหมิงนั้นยังคงไม่มากพอ และหากเมื่อดูจากภายนอกนั้นหลินห
มิงเป็นเพียงบุคคลที่มีพลังเพียงขั้นที่ 6 เท่านั้นแน่นอนว่ามันไม่ได้
เรียกว่าต่าต้อยกลับกันมันก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจระดับหนึ่งเพียง
เท่านั้น มันยังคงไม่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่บิดานางได้
มากเท่าที่ควร
" ฮึ่ม...แล้วข้าจะคอยดู..หากเจ้าทาสาเร็จมิว่าจะเป็นเรื่องใดข้าก็
จะยินยอมตามเจ้าอย่างไม่มีข้อแม้ "
นางพูดออกมาด้วยน้าเสียงจริงจังแต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดไม่ได้ที่
นางจะรู้สึกอายกับคากล่าวของนางที่กล่าวออกไป แน่นอนว่านาง
ย่อมเป็นหนึ่งในคนที่รู้ความสามารถของหลินหมิงดีกว่าใคร นางรู้ดี
ว่าตัวของหลินหมิงนั้นมีศกั ยภาพพอที่จะสร้างความตื่นตะลึงให้กับ
ผู้คนได้อย่างแน่อน หลินหมิงแทบจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นแทบไม่
ไหวเมื่อเขาพลันจินตการถึงยามค่าคืนที่มีเพียงเขาและนางอยู่ร่วม
ชายคาเตียงเดียวกันและร่วมขับร้องบรรเลงเพลงรักไปด้วยกันอย่าง
ยาวนานเมื่อถึงยามนั้นเขาตั้งใจจะไม่ให้นางได้พักไปทั้งคืนเลย
ทีเดียว
" เจ้าตัวร้ายนี้เจ้ากาลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ข้ารู้นะ ฮึ่มม "
หลิวฉวนยูร์หยิกแขนของหลินหมิงเล็กน้อยด้วยความมั่นไส้ และ
มันยังเป็นการกลบเกลื่อนความอายของนางไปในตัวอีกด้วย
" ข้าเพียงแค่แทบจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วเท่านั้น "
จุ๊บบ
ริมฝีปากของนางประกบเข้ากับหลินหมิงอีกครั้งแต่ในครั้งนี้ไม่ได้
มีการแลกลิ้นดังเช่นที่ผ่านมาเป็นการจูบเพียงเวลาไม่นานเพียง
เท่านั้น
" งั้นนี้เป็นของรางวัลเล็กน้อย "
ร่างทั้งสองยังคงโอบกอดกันโดยไม่แยกจากกันเลยตั้งแต่ต้น ถึง
นางจะกล่าวว่านี้เป็นรางวัลสาหรับหลินหมิงแต่หลินหมิงกับรู้สึกว่า
นี้มันเป็นการทรมานเสียมากกว่าเพราะว่าการที่นางทาเช่นนี้มันยิ่ง
ทาให้ตัวของหลินหมิงนั้นระงับอารมณ์ได้ยากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
" ดูเหมือนว่าข้ายังคงต้องการอีกสักเล็กน้อย "
" ในตอนนี้เจ้าสามารถรับผลประโยชน์ได้เพียงเท่านี้ หากเจ้า
ต้องการเพิ่มเจ้าเพียงแค่ต้องรีบแสดงความสามารถออกมาเพียง
เท่านั้น....ข้าคงต้องไปแล้ว...หากเจ้าไม่ทาตามที่พดู ข้าไม่ปล่อยเจ้า
ไว้แน่ "
" แน่นอนข้าจะทาตามที่ว่าที่ภรรยาของข้ากล่าวอย่างแน่นอน
"
" จะ...เจ้า...ข้าจะไปแล้ว แล้วก็อย่ากลับดึกมากนักล่ะ "
ท้ายประโยคที่นางกล่าวออกมานั้นแฝงไปด้วยความนัย
บางอย่างซึ่งหลินหมิงเองก็เข้าใจเป็นอย่างดี ในความเป็นจริงแล้ว
หลิวฉวนยูร์เองนางก็ยงั ไม่ได้ต้องการจากหลินหมิงไปในตอนนี้
เพียงแต่ว่าหากนางใช้เวลาอยู่ใกล้กับหลินหมิงไปมากกว่านี้นางคง
ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไปเช่นเดียวกันนางจึงต้องตัดใจ
จากหลินหมิงมาก่อน
หลินหมิงมองร่างของหลิวฉวนยูร์จากไปด้วยได้รอยยิ้มพร้อมกับ
ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจในตอนนี้หลินหมิงมีเป้าหมายอีกอย่างต้องทา
เพิ่มเติมเสียแล้ว เขาต้องนาแม่เทพธิดาสาวผู้นี้มาครอบครองให้ได้
แน่นอนว่าการที่เขาสามารถครอบครองนางได้มันก็เหมือนเป็นการ
ตบหน้าตระกูลหลินเข้าให้อย่างจัง เขาอยากจะบันทึกภาพการจูบ
อันดูดดื่มของเขาและนางเอาไว้แล้วส่งไปให้หลินชูดู ไม่ต้องสงสัย
เลยว่ามันคงแทบจะกระอักออกมาเป็นสายเลือด หญิงสาวทีม่ ันใช้
เวลาตามจีบอยู่นานการได้พูดคุยและเห็นหน้านั้นคือสิ่งที่ตัวมันได้
มากที่สุดแล้วจากตัวนางไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแตะต้องตัวนางเลย
หลินหมิงเดินออกมายังสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนอีกครั้งในตอนนี้
สายตาของหลินหมิงกวาดตามองก็พบว่าส่วนใหญ่ร้านโดยรอบจะ
เป็นหอนางโลมที่เปิดตอนรับเหล่าบุรุษที่เดินเที่ยวไปมาตามระแวก
นี้เป็นเสียมาก โดยรองลงมาก็คือร้านสุราที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความ
นิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกัน
หลินหมิงเสาะหาหอนางโลมสักแห่งเพื่อที่เขาจะสามารถ
ปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างคาจากแม่เทพธิดาสาว มันคงเป็นไปไม่ได้
สาหรับตัวของหลินหมิงทีจ่ ะปล่อยให้อารมณ์มันค้างคาเอาไว้เช่นนี้
แต่แล้วทันใดนั้นสายตาของหลินหมิงก็เหลือบมองไปเห็นร่างของ
บุคคลที่เขาคุ้นเคย

ตอนที่ 39
ในระหว่างที่หลินหมิงกาลังกรอกตามองไปยังบริเวณร้านค้า
ต่างๆสายตาของเขาเหลือบมองไปเห็นร่างที่คุ้นเคย หลินหมิงแอบ
ติดตามนางไปที่หอนางโลมแห่งหนึ่ง เป้าหมายของหลินหมิงนั้น
เปิดเผยใบหน้าออกมาอย่างชัดเจนมันเป็นใบหน้าของหญิงสาวทีม่ ี
อายุราว 30 ปี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงเรียกได้ว่ามีความงามอยู่ไม่
น้อยด้วยของนางในวัยนี้
เพราะหากไม่เช่นนั้นแล้วนางคงไม่ได้เป็นภรรยาของประมุข
ตระกูลใหญ่นั้นก็คือตระกูลหลิน หรือนางก็คือมารดาของหลิน
เสี่ยวต้านั้นเอง การที่หญิงสาวมาที่หอนางโลมนัน้ ไม่ใช่เรื่องแปลก
ตามากนักแต่ส่วนใหญ่แล้วพวกนางจะเป็นผู้มีฐานะค่อนข้างสูง การ
ที่เหล่าบุรุษไม่สามารถตอบรับความต้องการของหญิงสาวได้อย่าง
พอเพียงจึงเป็นเหตุให้พวกนางต้องหาที่ระบายความใคร่ของตนเอง
ยิ่งสาหรับหญิงสาวตระกูลใหญ่ที่เหล่าบุรุษมักจะมีภรรยาน้อย
ใหญ่อยู่เป็นจานวนมากมันจึงเป็นเรื่องยากที่สามีของพวกนางจะ
มอบความรักให้แก่พวกนางได้ทุกวัน แต่ถึงอย่างนัน้ ก็ใช่ว่าพวกนาง
จะสามารถไปมีอะไรกับบุรุษอื่นได้ การที่พวกนางมาที่หอนางโลม
นั้นแน่นอนว่าพวกนางต้องใช้สตรีเพศเดียวกันในการระบายความ
ใคร่ของพวกนางออกไป
ดังนั้นเหล่าสาวบริการภายในหอนางโลมไม่เพียงแต่พวกนางจะ
มีทักษะที่คอยใช้บริการเหล่าบุรุษพวกนางยังคงต้องมีทักษะในการ
มอบความสุขให้แก่สตรีดว้ ยเช่นเดียวกัน มารดาของหลินเสี่ยวต้า
ภรรยาอันดับที่ห้าของบิดาของเขานั้นชื่อว่า เหม่ยฮวา นางเองก็
เป็นหนึ่งในคนที่หลินหมิงมีความแค้นเคืองอยู่มากไม่ใช่น้อย
เช่นเดียวกัน
หลินหมิงมองร่างของเหม่ยฮวาที่เดินตรงเข้าไปพร้อมกับหญิง
สาวรับใช้อีกสองคนที่น่าจะมาจากตระกูลหลินแน่นอนเรื่องราว
เช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาสาหรับสตรีพวกนางจึงไม่ตอ้ งสวมใส่
หน้ากากปิดบังตัวตนแต่หากพวกนางต้องการเสพสุขกับเหล่าบุรุษ
แล้วนั้นย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลินหมิงตรงไปยังหอนางโลมที่เหม่
ยฮวาตรงเข้าไปหญิงสาวรับใช้ที่อยู่หน้าร้านกล่าวต้อนรับหลินหมิง
ด้วยน้าเสียงสุภาพ จากสายตาของนางแม้ว่าหลินหมิงจะมีผ้าคลุม
ปกปิดเอาไว้อยู่แต่เมื่อดูจากเสื้อผ้าแล้วนางก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าตัว
ของหลินหมิงนั้นย่อมมีฐานะพอสมควร
" ยินดีต้อนรับคุณชายเจ้าคะ "
หลินหมิงรู้สึกประทับเล็กน้อยกับหญิงสาวใช้ของหอนางโลมแห่ง
นี้ พวกเขาใช้หญิงสาวที่หน้างดงามในการเรียกลูกค้ารวมกับกริยา
ท่าทางของนาง และเสื้อผ้าอันบางเบาที่นางส่วมใส่อยู่มันสามารถ
ส่งเสริมอารมณ์ของเหล่าบุรุษได้ดียิ่ง
หลินหมิงไม่เสียเวลาก้าวเข้าไปข้างในในทันทีไม่เช่นนั้นเขาอาจ
คลาดสายตากับเหม่ยฮวาก็เป็นได้เนื่องด้วยหอนางโลมที่เปิดในยาม
ดึกนั้นมีจานวนไม่ใช่น้อยทาให้ผู้คนนั้นไม่ได้มีมากมายภายในหอ
นางโลมแห่งนี้ มันจึงทาให้เมื่อหลินหมิงเข้ามาก็พบเหม่ยฮวา
ในทันที แล้วทันใดนั้นก็ที่หลินหมิงจะได้ทาสิง่ ใดมีหญิงสาวรับใช้
เดินมาที่ทางด้านของหลินหมิงอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงจ้องมองไปที่เหม่ยฮวาซึ่งดูเหมือนว่านางกาลังทาการ
พูดคุยกับหญิงสาวอีกคนซึ่งดูเหมือนว่านางจะมีฐานะค่อนข้างสูงใน
ที่แห่งนี้ ซึง่ หลินหมิงเดาว่านางเป็นเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้เพียง
ไม่นานร่างของเหม่ยฮวาและหญิงสาวรับใช้สองคนรวมถึงหญิงสาว
ที่หลินหมิงคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของหอนางโลมก็เดินไปในบริเวณ
ด้านหลังร้าน มันทาให้หลินหมิงแปลกใจเล็กน้อย
หากดูจากคร่าวๆแล้วหอพักต่างนั้นภายในหอนางโลมแห่งนี้
สมควรจะอยู่ที่บริเวณชั้นสองไม่ใช่หรือแล้วเหตุใดนางถึงได้เดินไปที่
บริเวณด้านหลังร้านกันเหล่า หญิงสาวรับใช้ที่เตรียมการต้อนรับ
หลินหมิงอยู่นั้นไม่เห็นท่าทีตอบสนองของหลินหมิงจึงทาการเรียก
หลินหมิงอีกทีหนึง่ หลินหมิงตัดสินใจรวบร่างของนางเข้ามากอด
เอาไว้ในทันทีโดยไม่หันให้นางได้ตั้งสติ
" ว้ายย ! ดะ...เดียวก่อนสิเจ้าคะ...ตรงนี้ไม่ได้เจ้าคะ...ได้โปรด
ขึ้นไปที่ชั้นสองก่อน..โอ้ยยอย่าบีบแรงเจ้าคะ "
หลินหมิงเข้าจู่โจมหญิงสาวรับใช้จากทางด้านหลังเพื่อไม่ให้นาง
ได้หลบหนีสัมผัสจากเสื้อผ้าเบาบางนั้นมันแทบจะทาให้หลินหมิง
รู้สึกราวกับว่าพวกนางไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแต่อย่างใด ถึงอย่างนั้นมันก็
มอบความสุขแบบแปลกประหลาดให้เขาเช่นเดียวกัน เสียงคราง
ของหญิงสาวร้องดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อมือข้างหนึ่งของหลินหมิงล่วงเข้า
ไปที่บริเวณร่องสวาทของนาง
" ดะ..ได้โปรด..หยุดก่อน..เจ้าคะ...อ้า~~~~~ "
เสียงครางที่ดังของหญิงสาวรับใช้ทาให้หญิงสาวที่หลินหมิงคาด
ว่าจะเป็นเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้ปรากฎตัวขึ้นมาจากด้านหลัง
ร้านที่นางหายเข้าไปพร้อมกับเหม่ยฮวาในตอนแรก
" คุณชายได้โปรดปล่อยมือก่อนเจ้าคะ หากคุณชายลงมือตรงนี้
เกรงว่ามันอาจทาให้ลูกค้าท่านอื่นนั้นไม่พอใจท่าอย่างไรขอเชิญ
คุณชายด้านบนข้าจะเตรียมสาวงามไปปรนนิบัติทา่ นในทันที "
ดูเหมือนว่านางจะมีประสบการณ์เช่นนี้อยู่มากไม่ใช่น้อยใน
สายตาของหลินหมิงนางกล่าวออกมาโดยไม่มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น
ซึ่งหากมองในความเป็นจริงแล้วบุรุษวัยเยาว์ที่กาลังคึกคะนองและ
กาลังมีความมั่นใจในตนเองการที่พวกเขาลงมืออุกอาจนั้นอาจเป็น
เรื่องธรรมดาที่พวกนางพบเจอโดยทั่วไป
หลินหมิงเหลือบมองไปทีห่ ญิงสาวเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้นาง
สมควรมีอายุราว 20 ปลายๆเพียงเท่านั้นแต่ถึงอย่างนั้นคงไม่ต้อง
สงสัยเลยว่านางนั้นได้ผ่านเหล่าบุรุษมามากพอสมควรเลยทีเดียว ดู
ได้จากการที่นางรับมือกับเขาด้วยความเยือกเย็น หลินหมิงปล่อยมือ
จากหญิงสาวรับใช้ไปนางเกือบจะเสร็จภายในเวลาไม่นานหลังจาก
ที่หลินหมิงเข้าจู่โจมนางนั้นเป็นเหตุทาให้นางนั่งลงด้วยความ
เหนื่อยอ่อน แต่เมื่อนางได้เห็นสายตาของหญิงสาวที่เป็นเจ้าของหอ
นางโลมแห่งนี้แล้วนางจึงค่อยๆฝืนร่างกายแล้วจากไป
" แล้วหากข้าไม่พอใจในตัวพวกนางที่เจ้าเลือก ? "
" เช่นนั้นข้ายินดีพาคุณชายไปเลือกหญิงสาวทีท่ ่านต้องการ "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงราบเรียบโดยไม่มีความกังวลแต่
อย่างใด ดูได้จากการที่นางสามารถไล่หญิงสาวรับใช้คนแรกให้
ออกไปรวมถึงการที่นางสามารถพูดคุยกับคนระดับสูงอย่างเหม่
ยฮวาได้แล้วนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่านางจะต้องเป็นเจ้าของแห่งนี้
อย่างแน่นอน
" งั้นข้าต้องการเจ้า ! "
" ............. "
หญิงสางเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้นางชื่อเหลียนเย่อิ๋งนางนั้น
เคยเป็นหญิงสาวรับใช้เช่นนางอื่นมาก่อนแต่เพราะว่าเจ้าของคน
เก่านั้นถูกใจในตัวนางมากจึงยกทรัพย์สมบัติให้แก่นางก่อนที่จะเสีย
ไปนั้นจึงเป็นเหตุให้นางได้รับกิจการนี้มาดูแล การที่นางมีอายุถึง 28
ปีแล้วนั้นมันทาให้ความงามของนางลดลงนางไม่มคี วามกล้า
เพียงพอในการบริการเหล่าบุรุษดั่งเช่นในอดีตและถึงแม้นางจะมี
ความกล้ามากเพียงพอแต่ต้องเข้าใจว่าบุรุษนั้นนิยมชมชอบเพียง
สตรีที่อยู่ในวัยแรกแย้มเสียมากกว่า
ดังนั้นนางจึงไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใดๆกับบุรุษมาเป็นเวลานนาน
หลายปีแล้วนั้นแต่ในตอนนี้กลับกันบุรุษในผ้าคลุมนี้กับเอยกล่าวจะ
ตัวเขาจะต้องการนาง ? แม้ว่าจะปกปิดใบหน้าเอาไว้อยู่แต่เมื่อดู
จากมือและผิวหนังส่วนอืน่ ๆนางสามารถสรุปได้ว่าบุรุษคนนี้น่าจะมี
อายุวัยเยาว์มากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องการมีอะไรกับนาง ?
" ข้าเกรงว่าข้าอาจทาให้ท่านต้องผิดหวัง "
" เจ้าจะไม่บริการข้าอย่างนั้นหรือ "
" ไม่ใช่เจ้าคะ "
" งั้นข้าก็ไม่มีอะไรที่ต้องผิดหวัง "
นางรู้สึกสับสนไปหมดบุรษุ หนุ่มผู้นี้ช่างมีความคิดที่แปลก
ประหลาดมากในสายตาของนาง สาหรับหญิงสาวรับใช้ก่อนหน้านี้
นางเป็นเพียงหญิงสาวทีม่ ีอายุ 18 ปีเท่านั้นเหตุใดเขาถึงไม่เรียกร้อง
หานางต่อเล่า หัวใจของนางรู้สึกพองโตขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมีบุรุษ
กล่าวต้องการในตัวนางแม้ว่านางจะมีอายุแล้วก็ตามที่
" งั้นขอเชิญคุณชายด้านบน "
นางเดินนาหลินหมิงไปทีช่ ั้นสองของร้านที่ซึ่งเป็นห้องพัก
แน่นอนว่ามันยังคงมีลูกค้าอื่นอยู่เพียงแต่ภายในห้องพักเหล่านั้นถูก
ลงอาคมเก็บเสียงเอาไว้จึงทาให้เหมือนราวกับว่าห้องเหล่านั้นเป็น
เพียงห้องว่างเปล่าไม่มีผู้ใดอยู่ หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างกายของ
เหลียนเย่อิ๋ง แม้ว่านางจะมีอายุมากแล้วก็ตามที่แต่ในสายตาของ
หลินหมิงนั้นความงามของนางก็ยังคงไม่น้อยไปกว่าซื่อโฉวของเขา
เลยทีเดียว
หน้าอกอวบอิ่มของนางนัน้ แม้จะเป็นรองซื่อโฉวอยูค่ รึ่งขั้นแต่ผิว
เรียบเนียนและสัดส่วนโค้งว้าวที่ที่มากว่ามันสามารถดึงดูดอารมณ์
ของเขาได้เป็นอย่างมาก หลินหมิงไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของเหล่า
บุรุษอื่นมากเท่าไหร่แต่สาหรับเขามันอาจเป็นไปได้ขอเพียงแค่เป็น
ผู้หญิงเขาก็สามารถค้นพบความงามของนางได้
หลินหมิงเข้ามายังภายในห้องที่ถกู จัดเตรียมไว้อย่างเรียบง่าย
เตียงนอนตัวเดียวพร้อมกับแสงไฟอ่อนๆรวมถึงกลิน่ หอมอะไร
บางอย่างที่เข้าสู่โสดประสาทซึ่งมันสามารถกระตุน้ อารมณ์ของเหล่า
บุรุษได้เป็นอย่างดี

ตอนที่ 40
" ข้าเหลียนเย่อิ๋งยินดีรับใช้คุณชายเจ้าคะ "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงที่มีความมั่นใจเต็มที่เรือนร่างของ
หญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าบางเบา รวมถึงอารมณ์ที่ค้างคามาจาก
หลิวฉวนยูร์มันทาให้ทวนมังกรของหลินหมิงตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว
เหลียนเย่อิ๋งลงไปนอนที่เตียงด้วยความรวดเร็วนางรู้ดีจาก
ประสบการณ์ที่ผ่านมาเหล่าบุรุษวัยเยาว์นั้นมีต้องการอันร้อนแรง
และพวกเขาจะจู่โจมนางอย่างรวดเร็ว
นางไม่ได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าตนเองออกในทันทีการที่บุรุษนั้นได้
ปลดเปลื้องเสื้อผ้าเหล่าสตรีนั้นเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่นางได้รับรู้
มาจากประสบการณ์ความตื่นเต้น และความอยากรู้อยากเห็นนั้น
เป็นสิ่งที่มีในตัวของบุรุษวัยเยาว์เช่นนี้
หลินหมิงเปิดผ้าคลุมออกให้นางเห็นหน้าซึ่งแน่นอนว่าเหลียน
เย่อิ๋งนั้นนางคงไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาแม้ว่าเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็น
ศิษย์ส่วนตัวของประมุขสมาคมนักปรุงยาก็ตามที่เพียงแต่ว่าในเวลา
ที่ผ่านมานั้นเขายังไม่เคยปรากฎให้บุคคลภายนอกเห็นเลยอาจมี
เพียงข่าวหลุดลอยออกไปเรื่องการรับศิษย์ส่วนตัวของประมุข
สมาคมนักปรุงยาแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงไม่รู้ใบหน้า
ของหลินหมิงอยู่ดี
หลินหมิงค่อยๆเคลื่อนกายเข้าหาร่างของเหลียนเย่อิ๋งพร้อมกับ
ตรงเข้าที่ส่วนล่างของนางในทันที หลินหมิงเอื้อมมือไปสัมผัสที่
บริเวณร่องสวาทของนางภายใต้เสื้อผ้าที่ปกคลุมอยู่แล้วทาการใช้
นิ้วเขี่ยไปมา
" อ้าาา~~~~~ คะ...คุณชาย..จะ..ทาอะไรเจ้าคะ "
เหลียนเย่อิ๋งนางไม่เข้าใจการกระทาของหลินหมิงปกติแล้วบุรุษ
จะเข้าจู่โจมโดยการเสียบทวนมังกรของพวกเขาในทันทีไม่ใช่หรือ ?
แน่นอนในตอนนี้หลินหมิงมีแผนที่เขาวางเอาไว้ในใจแล้วเขา
ต้องการให้หญิงสาวนางนี้เป็นของเขาแล้วเขาจะได้สอบถามถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับเหม่ยฮวา
หลินหมิงยื่นใบหน้าเข้าไปภายใต้เสื้อผ้าที่ปกคลุมร่องสวาทที่ไม่
มีการปิดบังโดยชุดชั้นในที่ถูกหลินหมิงปลดออกไปอย่างรวดเร็วโดย
ที่นางแทบจะไม่ทันรู้สึกตัว กลิ่นที่ออกมาจากร่องสวาทของนางนั้น
เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างแรงทีเดียว หลินหมิงใช้นิ้วเพื่อเขี่ยดูภายในโพรง
ร่องสวาทของนางก็พบว่านางน่าจะผ่านบุรุษมากไม่น้อยเลยทีเดียว
" ตะ...ตรงนั้น...มะ..มัน...ไม่...ได้นะเจ้าคะ...มะ...มันสกปรก
..อิย๊าาา~~~~ "
ลมหายใจของหลินหมิงทีอ่ ยู่ใกล้กับบริเวณร่องสวาทของนางนั้น
ทาให้นางรู้สึกแปลกประปลาด จนกระทั่งเมื่อหลินหมิงสอดลิ้นเข้า
ไปโลมเลียที่บริเวณร่องสวาทของนางนั้นนางถึงกับร้องครางเสียง
หลงออกมา แม้ว่านางจะผ่านบุรุษมาไม่ใช่น้อยแต่นางยังไม่เคยเจอ
บุรุษคนใดที่ทากับนางเช่นนี้มาก่อน ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะใช้
ทวนมังกรเข้าโจมตีแล้วมันก็จบลงอย่างรวดเร็วโดยที่ส่วนใหญ่นั้น
นางยังคงมีอารมณ์ค้างคาอยู่
" ซี๊ดดดดดดดดดด~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ สะ....เสียว...
สุด...สุดไปเลยเจ้าคะ อ้าาาาาา~~~~~~~~ "
" ขะ...ข้า...จะ..ไม่ไหวแล้ว.....ชะ.ช้าลงหน่อยเจ้าคะ "
แต่ในตอนนี้ที่ลิ้นของหลินหมิงตวัดไปมาอย่างร้อนแรงที่บริเวณ
ร่องสวาทของนางมันแทบจะทาให้นางระเบิดอารมณ์ออกมาเพียง
เวลาในไม่นาน หลังจากที่หลินหมิงตวัดโลมเลียบริเวณโดยรอบ
อย่างทั่วถึงลิ้นของเขาสอดเข้าไปที่บริเวณข้างโพรงร่องสวาทของ
นางเป็นเป้าหมายต่อไป
" ยะ...อย่า....เจ้า..คะ...ขะ...เข้าไป..ไม่..ได้นะ...อู้วววว~~~~~~
"
ถึงแม้นางจะกล่าวเช่นนั้นมือทั้งสองข้างของนางกลับกดศรีษะ
ของหลินหมิงราวกับว่าไม่อยากให้แยกจากไปไหน หลินหมิง
สามารถสัมผัสได้ว่าน้ารักใสๆของนางเริ่มที่จะค่อยออกมาพร้อมกับ
ร่างของนางที่เริ่มกระตุกถี่ขึ้นจึงลงมือตวัดลิ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นไป
อีก
" พะ...พอ..ก่อน..เจ้าคะ...ขะ..ข้าจะ...ออกแล้ว..คุณชาย..ออก
แล้วววว อร้างงงงงงง~~~~~~~~~ "
น้ารักใสๆจานวนมากถูกระเบิดออกมาเพียงแค่นางโดนเล้าโลม
จากบุรุษหนุ่มคนนี้เพียงเท่านั้นแม้ว่านางจะเคยร่วมเสพสมกับบุรุษ
มามากแต่ไม่เคยมีครั้งใดเลยทีมันจะทาให้นางมีความสุขได้มาก
เท่านี้ น้ารักของนางแน่นอนว่าตอนนี้เปราะเปรื้อนเต็มใบหน้าของ
หลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับจัดการเลียมันเข้าไปในปาก
ภายในเวลาไม่นาน
" แฮ่กๆๆ ขอโทษเจ้าคะ "
เหลียนเย่อิ๋งนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเหนื่อยอ่อน หลินหมิง
ค่อยๆเคลื่อนกายมาทับร่างของนางเอาไว้แล้วเริ่มทาการจู่โจมที่
บริเวณร่างกายของนางเป็นเป้าหมายต่อไป เนินอกขนาดรองครึ่ง
ขั้นของซื่อโฉวนั้นเป็นเป้าหมายสาคัญในการโจมตีของหลินหมิงครั้ง
นี้ เสื้อผ้าของนางถูกปลดออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความชานาญของ
หลินหมิง
" ซี๊ดดดดด~~~~~~~ ขะ..ขะ...ข้า...ขอ..พักเจ้าคะ...ยะ..อย่า
เพิ่ง.....โอ้ย...อย่าดูดแรงสิเจ้าคะ..."
หลินหมิงใช้ปากดูดยอดปทุมถันของนางอย่างรุนแรงจนนางรู้สึก
เจ็บปวดพร้อมกับมือของเขาที่เข้าบีบจับหน้าอกขนาดใหญ่ได้อย่าง
เต็มมือด้วยการที่นางเพิ่งจะเสร็จไปมันจึงทาให้เหลียนเย่อิ๋งไม่มีแรง
ในการต่อต้านหลินหมิงแต่อย่างใดหน้าอกของนางโดนจู่โจมอย่าง
หนักหน่วงเสียยิ่งกว่าร่องสวาทในตอนแรกของนางเสียอีก
นางเริ่มรู้สึกว่าร่องสวาทของนางเริ่มมีปฎิกริยาตอบสนองขึ้นมา
อย่างรวดเร็วอีกครั้งแม้ว่านางจะเพิ่งเสร็จไปเพียงเวลาไม่นาน การจู่
โจมของบุรุษหนุ่มคนนี้รวดเร็วและรุนแรงมากแต่ถึงอย่างนั้นมันก็
สร้างความสุขให้แก่นางอย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน
" โอ้ยย..ยะ..อย่ากัด..สิเจ้าคะ..ขะ...เหนื่อย..แล้ว...พะ..พอก่อน...
อื้ออออออออ~~~~~~~ "
หลินหมิงจัดการเข้าประกบปากของนางต่อไปเพื่อให้นางไม่
สามารถส่งเสียงร้องใดๆได้อีกแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั คงมีเสียงคราง
เล็ดรอดออกมาอยู่ดีมือทัง้ สองข้างของหลินหมิงยังคงบีบนวดไปที่
หน้าอกขนาดใหญ่ของนางไปด้วย จนในที่สุดหลินหมิงก็สามารถ
สัมผัสได้ของเหลียนเย่่งนั
อิ่ ้นกระตุกถี่ขึ้นมาอีกครั้งเขาจึงถอนปาก
ออกมา
" อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~~~~~~~~~~~~~ "
น้ารักใสๆพวยพุ่งออกมาจากร่องสวาทของนางมากยิ่งกว่าใน
ตอนแรกเสียอีกพร้อมกับร่างของนางที่โก่งโค้งขึ้นมาชั่วขณะ
" มะ..ไม่..ไหว...แล้ว....ดะ..ได้โปรด..หยุดก่อน..แฮ่กๆๆ "
เหลียนเย่อิ๋งนางไม่ยากเชือ่ เลยว่าเพียงแค่เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป
นางก็หมดแรงลงเสียแล้ว ทักษะของเด็กหนุม่ ผู้นี้นา่ กลัวจนเกินไป
" เจ้ายังไม่ท่านได้บริการข้าเลยแม้แต่น้อยแต่เจ้ากลับบอกกล่าว
ให้ข้าพอเสียแล้ว "
แม้ว่านางจะรู้สึกผิดกับหลินหมิงแต่จะทาอย่างไรได้ในตอนนี้นาง
เสร็จไปแล้วถึงสองครั้งเพียงเวลาไม่นานนั้นมันทาให้ร่างกายของ
นางอ่อนล้าอย่างแท้จริง หลินหมิงปลดเสื้อผ้าของตนเองจนเผยให้
เห็นขนาดทวนมังกรที่ยงิ่ ใหญ่กว่าทวนใดๆของเหล่าบุรุษ เมื่อ
เหลียนเย่อิ๋งนางได้เห็นขนาดทวนมังกรของหลินหมิงนางถึงกับกลืน
น้าลายลงไปอึกใหญ่
ขนาดของมันนั้นใหญ่ยิ่งกว่าทวนใดๆที่นางเคยพบเจอมาแม้ว่า
ร่องสวาทของนางจะถูกใช้งานมามากแต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่รับมือ
กับทวนขนาดใหญ่เช่นนี้ เหลียนเย่อิ๋งนางเริ่มฝืนร่างกายเพื่อที่จะ
ขยับหลบหนีไปจากหลินหมิง หากนางโดนจู่โจมด้วยทวนมังกรแท่ง
นี้นางคงเป็นบ้าไปแน่ๆ
ในขณะที่นางกาลังคลานหันหลังให้กบั หลินหมิงนัน้ นางไม่ได้รู้ตัว
เลยว่านางได้พลาดท่าเข้าให้เสียแล้ว หลินหมิงคร่อมนางจากทาง
ด้านหลังโดยที่นางไม่สามารถเคลื่อนกายไปในได้อีกเนื่องจากโดนน้า
ของหลินหมิงกดทับพร้อมกับทวนมังกรของหลินหมิงที่จ่อเข้า
ประจาการ
" มะ....ไม่..ไม่ได้นะ..มันใหญ่เกินไปเจ้าคะ..ข้ารับมันไม่ไหวหรอก
..อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา~~~~~~~ "
หลินหมิงไม่สนใจคาพูดของเหลียนเย่อิ๋งทวนมังกรของเขาเสียบ
เข้าร่องสวาทของนางจะทางด้านหลังในทันที พร้อมกับเสียงคราง
ลั่นของนางที่ดังออกมา ภายในร่องของนางนั้นแม้ว่าจะเคยผ่านการ
ใช้งานมาแล้วก็ตามที่แต่ด้วยขนาดทวนที่ใหญ่เกินกว่าปกติมันก็ยัง
ทาให้หลินหมิงเข้าไปได้อย่างยากลาบาก
" ละ..ลึก..ลึก...ไป..แล้ว อ้าาาาา~~~~ "
" ยะ...อย่า..เพิ่งขยับ.....โอ้ยยย.....หะ...หัวสมอง...ข้าโล่งไป
หมดแล้ว.....อ้าาาาา~~~~~~~ "
หลินหมิงขยับเอวกระแทกทวนมังกรเข้าสู่ภายในร่องของนาง
อย่างต่อเหนื่องจนทาให้เหลียนเย่อิ๋งรู้สึกหัวสมองของนางนั้นขาวโผ
ลนไปหมด แม้ว่าในตอนแรกนางจะรู้สึกเจ็บปวดจากการที่ร่อง
สวาทของนางต้องรับมือกับทวนมังกรที่ขนาดใหญ่เกินธรรมดา
เพียงแต่ว่าภายในเวลาไม่นานความรู้สึกเหล่านั้นกับแปรเปลี่ยนเป็น
ความเสี่ยวซ่านยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
" เป็นอย่างไรบ้างละ "
" ขะ..ข้าไม่ร.ู้ ..จะ..เจ้าคะ...อร้างงงงงง~~~~~~~~ "
การที่นางโดนทวนมังกรขนาดใหญ่เพียงนี้เข้าโจมตีมันทาให้นาง
ไม่สามารถรับมือกับมันได้ร่องสวาทของนางตอบสนองในทันทีเพียง
เวลาไม่นานน้ารักใสๆของนางเริ่มถูกขับออกมาอีกครั้งเป็นครั้งที่
สามพร้อมกับที่นางสามารถสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงเองก็
เริ่มมีการสั่นไหวแล้วเช่นเดียวกัน
" เตรียมตัวรับไป ! "
" อ...ออก..มาเลย..เจ้าคะ...อร้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง
~~~~~~~~ "
น้ารักของหลินหมิงถูกระเบิดเข้าไปในโพรงร่องสวาทของเหลียน
เย่อิ๋งจนท้องของนางบวมขึ้นมาหน่อยๆ อารมณ์ที่ค้างคาจากหลิวฉ
วนยูร์นั้นมันมากพอที่ทาให้ในครังนี้เป็นการปล่อยน้ารักของเขาใน
จานวนที่มากที่สุดเลยก็วา่ ได้
" ดะ...เดียว..ทาไมมันยังแข็ง..อยู่...อ้าาาาาา ~~~~~~~~ "
หลินหมิงเริ่มเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้งแน่นอนว่าหลินหมิงนั้น
สามารถทาเช่นนี้กับหญิงสาวได้อย่างไม่รู้จบในความคิดของเขา
เหลียนเย่อิ๋งเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของนางเริ่มไร้เรี่ยวแรงแรงทั้งหมด
ของนางในตอนนี้มีไว้เพียงเพื่อประคองสติรับรู้ความเสียวซ่านที่
เกิดขึ้นและส่งเสียงครางตอบออกไปตามธรรมชาติเพียงเท่านั้น
" ต่อจากนี้ไปข้าเป็นนายของเจ้าตกลงหรือไม่ ? "
" อะ...อะ...อะ..อ้าา..ตะ...ตก..ลง..เจ้าคะ....ขะ..ข้า..ยิน..ดี..ทา
ตามทุก...อย่าง อ้าา ~~~~~~~~ "
เหลียนเย่อิ๋งนั้นแน่นอนว่านางไม่เคยมีความสุขมากเช่นเท่านี้มา
ก่อน รวมกับการเล้าโลมและทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นีแล้วมัน
สามารถสร้างความสุขให้แก่หญิงสาวได้อย่างไม่รู้จบ เพราะดู
เหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่มีคาว่าเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่ต้น
เรี่ยวแรงของเขาที่โจมตีนางนั้นยังคงเท่าเดิมไม่เปลีย่ นแปลง
หลังจากผ่านไปอีกเพียงชั่วครู่หลินหมิงก็ระเบิดน้ารักออกมาอีกครั้ง
" อร้างงงงงงงงง ~~~~~~~~~~~~~~ "
หลินหมิงนาทวนมังกรออกมาจากตัวนางในใจของเขายังคงมี
ความคิดที่อยากจะทาต่ออยู่เหมือนกันเพียงแต่ว่าหากเป็นเช่นนั้น
อาจทาให้เขาไม่สามารถสอบถามนางในเรื่องของเหม่ยฮวาได้หลินห
มิงจึงได้ตดั ใจในเรื่องนี้ไปก่อน

ตอนที่ 41
เหลียนเย่อิ๋งนางรู้สึกราวกับว่านางเพิ่งได้เดินทางผ่านสรวง
สวรรค์มาอย่างใดอย่างนั้น ความรู้สึกอุ่นๆภายในท้องของนางนั้น
เป็นหลักฐานได้อย่างเด่นชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความฝัน การ
ร่วมรักของนางและเด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้มันแทบจะทาให้ร่างกาย
ของนางระเบิดออกมาด้วยการที่มันไม่สามารถกักเก็บความสุขได้
อย่างเพียงพอ
แม้ว่าในตอนแรกนางจะพยายามต่อต้านคัดคืนจากการโดน
เสียบโดยทวนมังกรของเด็กหนุ่มแต่ในตอนนี้นางยินยอมพร้อมใจที่
จะร่วมรักกับหลินหมิงอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป มันไม่ได้มีความรู้สึก
เจ็บดังที่นางคาดคิดเอาไว้มันอาจเป็นเพราะอารมณ์ความสุขที่มาก
ล้นยิ่งกว่านั้นกลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บปวดของนางออกไปจนสิ้น
เมื่อนางเริ่มค่อยๆปรับลมหายใจได้อย่างปกตินางก็เหลือบไปมองดู
หน้าเด็กหนุ่มที่จัดการนางอย่างร้อนแรง
ในตอนแรกนั้นนางไม่ได้มเี วลาในการมองหน้าเด็กหนุ่มคนนี้ได้
อย่างชัดเจนเท่าไหร่นักเนื่องจากว่าความรู้สึกของนางนั้นกาลังจด
จ่ออยู่กับความเสี่ยวซ่านที่เกิดขึ้น ใบหน้าที่นางเห็นก็คือใบหน้าของ
เด็กหนุ่มผู้งดงามคนหนึ่งที่สามารถชวนให้เหล่าสตรีหลงไหลได้อย่าง
ง่ายดายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเขาสามารถบ่งบอกได้อย่างดีว่า
สถานะของเขานั้นย่อมต้องไม่ธรรมดา
" นายท่าน.... "
เหลียนเย่อิ๋งนางตัดสินใจที่จะมอบกายและใจให้แก่เด็กหนุ่มผู้
มอบความสุขอันร้อนแรงให้แก่นางผู้ดีไปอย่างหมดใจ นางไม่ยินดี
แน่นอนหากว่านางจะไม่ได้ทาการร่วมรักกับเด็กหนุม่ คนนี้อีกต่อไป
เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถมอบความสุขในการร่วมรักให้แก่
นางได้มากเช่นนี้ นางไม่เชื่อว่าจะมีบุรุษคนใดที่มีความสามารถ
เช่นนี้อีก นางมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความ
รักอย่างที่นางไม่เคยทามาก่อน
หลินหมิงเองก็สามารถสัมผัสได้เช่นเดียวกันแน่นอนว่าเป้าหมาย
ของเขาในขั้นต้นนั้นถือว่าประสบผลสาเร็จไปอย่างงดงาม การที่เขา
สามารถทาให้หญิงสาวตกเป็นของเขาทั้งกายและใจหลังจากที่พวก
นางได้ลิ้มลองทวนมังกรของเขาแล้วนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากที่พวก
นางจะสามารถหักห้ามใจได้
" ในตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้วดังนั้นเจ้ายินดีเชื่อฟังข้าทุกอย่าง
หรือไม่ "
" เจ้าคะ "
แม้ว่านางจะสามารถรับรู้ได้ว่าการที่หลินหมิงทาการร่วมรักกับ
นางนั้นอาจแฝงไว้ด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่างแต่ถึงอย่างนั้นแล้ว
อย่างไรเล่า? ตราบใดที่นางยังคงสามารถอยู่ใกล้ชิดกับเขาและยังคง
ได้มีโอกาสร่วมรักกับเด็กหนุ่มผู้นี้อีกครั้งนั้นนับเป็นเรื่องที่น่าพอใจ
มากสาหรับนาง
สาหรับหลินหมิงนั้นหากเขาเห็นว่านางมีทีท่าไม่เชื่อฟังแล้วละก็
คงไม่มีทางเลือกนอกจากจะลงมือเข้าจู่โจมนางอีกสักครั้งสองครั้ง
บทเพลงอันเร้าร้อนเมื่อครู่นั้นยังคงขับกล่อมในโสทประสาทของนาง
จนยากจะลืมเลือน
อื้อมมมมมมมมมมม ~~~~~~~~
หลินหมิงก้มลงไปประกบปากนางอีกครั้งเพื่อเป็นรางวัลสาหรับ
ความภักดีของนาง และดูเหมือนว่านางจะพอใจมากสาหรับรางวัล
เช่นนนี้ เหลียนเย่อิ๋งนั้นนางไม่คาดคิดเลยว่าด้วยร่างกายวัยอายุ 28
ปีจะสามารถสร้างความพอใจให้กับหลินหมิงได้เป็นอย่างมาก ผ่าน
ไปชั่วครู่หลินหมิงจึงทาการถอนปากออกมา
" นี้เป็นรางวัลเล็กๆน้อยๆ......เจ้ามีอะไรที่ต้องการอีกอย่างนั้นรึ
"
เมื่อหลินหมิงสังเกตเห็นว่านางมีท่าทีกระอักกระอวนเล็กน้อย
ราวกับว่านางมีความต้องการในใจอะไรบางอย่างอยู่จึงกล่าวถาม
ออกไปโดยตรง
" ข้าอยากให้นายท่านเรียกข้าว่า เย่อิ๋ง ได้หรือไม่ "
นางกล่าวออกไปด้วยความรู้สึกเอียงอายแม้ว่านางจะรู้สถานะ
ความสัมพันธ์ของนางกับหลินหมิงดีแต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดไม่ได้ที่ใจ
ของนางจะคิดเรื่องความสัมพันธ์หนุ่มสาวกับหลินหมิงแม้ว่าตัวนาง
จะมีอายุมากกว่าพอสมควรก็ตาม
" อ่า ได้สิ เย่อิ๋ง "
หลินหมิงตอบกลับไปอย่างง่ายๆสาหรับเขาแล้วเรื่องเพียงนี้ถือ
ว่าไม่ได้เป็นคาขอที่มากเกินไปแต่อย่างใด แต่สาหรับบุรุษอื่นแล้วมัน
อาจตรงข้ามกันเลยก็ว่าได้ เหลียนเย่อิ๋งนางรู้สึกหัวใจพองโตราวกับ
ว่านางได้กลับไปเป็นสาววัยแรกรุ่นอีกครั้ง
" งั้นข้ามีเรื่องจะถามเล็กน้อย "
" ได้เลยเจ้าคะ ข้ายินดีตอบในทุกเรื่องเลยเจ้าคะ "
หลินหมิงได้กล่าวถามในเรื่องของเหม่ยฮวาไปตามตรงซึ่งผิดกับ
ทีหลินหมิงคาดคิดเอาไว้ในตอนแรกว่าเหลียนเย่อิ๋งคงจะต้องมี
ความรู้สึกกังวลในการตอบคาถามของเขาอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะ
อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงภรรยาของประมุขตระกูลใหญ่อย่าง
ตระกูลหลินที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่นางกลับตอบคาถามของ
หลินหมิงออกมาอย่างว่าง่ายพร้อมกับเล่าเรื่องราวของ เหม่ยฮวา
ออกมาจนหมดสิ้นทุกอย่างที่นางรู้
หลินหมิงเมื่อเห็นว่าเหลียนเย่อิ๋งนั้นมีความรู้สึกต่อตัวเขามากอยู่
ไม่ใช่น้อยไม่เช่นนั้นนางคงไม่กล้าตอบคาถามที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต
เช่นนี้จึงได้จัดการมอบความสุขให้แก่นางไปอีกชุดจนนางหลับไป
ด้วยสีหน้าที่เปียมไปด้วยความสุข
หลินหมิงเดินออกมาจากห้องและตรงไปที่ชั้นล่างรอยยิ้มมุมปาก
ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของหลินหมิงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจากเรื่องที่
หลินหมิงรับรู้มาจากเหลียนเย่อิ๋งนั้นมันสามารถทาให้เขาแก้แค้น
เหม่ยฮวามารดาของหลินเสี่ยวต้าได้โดยง่ายเลยทีเดียว
หลินหมิงที่ค่อยๆเดินลงมาจากชั้นสองนั้นเนื่องจากเขาไม่
ต้องการให้หญิงสาวรับใช้นางใดได้เห็นตัวเขา และตรงไปที่ด้านหลัง
ร้านที่ที่เหม่ยฮวาเข้าไปในตอนแรก หลินหมิงเดินไปตามทางเดินสัก
พักก็พบกับประตูลบั ตามที่เหลียนเย่อิ๋งได้บอกกล่าวกับเขาเอาไว้
แน่นอนว่าภายในห้องนี้นั้นคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้แต่เนื่องจาก
เหลียนเย่อิ๋งได้ให้กญ
ุ แจกับหลินหมิงเอาไว้เรียบร้อยปัญหาเหล่านั้น
จึงหมดสิ้นไปในทันที
หลินหมิงไขกุญแจปลดลอคออกไปพร้อมกับบานประตูที่ค่อยๆ
เปิดออกจนเผยให้เห็นทุกคนที่อยู่ภายในแน่นอนว่าต้องมีเหม่ยฮวา
และหญิงสาวรับใช้ของนางอีกสองคนอย่างแน่นอแต่ดูเหมือนว่าจะ
ยังมีคนอื่นอีกหนึ่งคนและคนคนนั้นยังเป็นบุรุษอีกด้วย
ภาพที่หลินหมิงเห็นนั้นตรงกับคาบอกกล่าวของเหลียนเย่อิ๋งทุก
ประการเหม่ยฮวานั้นมีความต้องการทางเพศที่สูงจนไม่อาจระงับได้
ด้วยสตรีทั่วไปดังนั้นแล้วทางออกเดียวก็คือบุรุษและต้องเป็นบุรุษ
วัยเยาว์เท่านั้นด้วย เด็กหนุ่มในสภาพถูกปิดหูปิดตานั้นกาลังถูก
บังคับให้มีอะไรกับเหม่ยฮวาที่นอนอยู่บนเตียง และดูเหมือนว่าการ
เข้ามาภายในห้องของหลินหมิงนั้นผู้คนภายในห้องนั้นจะไม่ได้มกี าร
รับรู้แต่อย่างใด
เนื่องจากเพราะมันเป็นห้องที่มีขนาดกว้างอีกทั้งตัวประตูยังคง
ห่างจากเตียงที่ร่างทั้งสี่อยู่ไปไกลพอสมควรหลินหมิงแอบสอดส่องดู
พฤติกรรมของเหม่ยฮวาด้วยความสนใจ มันต้องกล่าวว่าในตอนนี้
นางกาลังบังคับขืนใจเด็กหนุ่มผู้นั้นอยู่โดยมีสตรีรับใช้ทั้งสองของ
นางเป็นคนใช้กาลังผลักดันจังหวะของเด็กหนุ่ม
" ข้าไม่ไหวแล้วขอรับ "
" ไม่ได้ข้ายังไม่พอใจเลยแล้วเจ้ากลับกล่าวเช่นนี้ "
" แต่ว่ามัน...โอ้ยยย "
เสียงเฆี่ยนตีจากหนึ่งในหญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวาหวดเข้าไป
ทีเด็กหนุม่ เข้าอย่างจัง เพื่อเป็นการเตือนไม่ให้เขาหยุด
" พวกเจ้าพอแล้วรู้สึกว่ามันจะไม่สามารถทาอะไรได้แล้ว..
จัดการเอามันซะ "
สิ้นเสียงของเหม่ยฮวาร่างของหญิงสาวรับใช้คนหนึ่งก็จัดการบิด
คอเด็กหนุ่มผู้นั้นอย่างโหดเ**้ยม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนางทั้ง
สองนั้นจะต้องเป็น่ผูฝึกยุทธ์อย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นจากการ
ประเมิณของหลินหมิงความแข็งแกร่งของพวกนางทั้งสองนั้นไม่ได้
อยู่ในระดับที่เกินมือเขาเพราะว่าพวกนางมีระดับพลังอยู่ที่ขั้นที่ 8
และ 9 ปราณเริ่มต้นเท่านั้น
และหลังจากที่หลินหมิงได้ร่วมรักกับเหลียนเย่อิ๋งไปเมื่อสักครู่ที่
ผ่านมามันทาให้พลังปราณในร่างกายของเขาเกิดพัฒนาขึ้นจนทา
ให้เขามีพลังในระดับ 7 ปราณเริ่มต้นในตอนนี้หากไม่ใช่นักสู้ระดับ
ปราณก่อเกิดนั้นย่อมไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดสพหรับหลินหมิง

ตอนที่ 42
" หึ...ไหนนางว่าเด็กหนุ่มคราวนี้หน่วยก้านดีกันนี้มันยังไม่
สามารถทาให้ข้าพอใจได้แต่เพียงนิด "
เหม่ยฮวานางกล่าวออกมาอย่างอารมณ์เสียด้วยการที่นางมี
ฐานะค่อนข้างสูงจึงเป็นเรื่องยากหากนางจะทาการร่วมรักกับบุรุษ
อื่นอย่างออกนอกหน้าไม่เช่นนั้นแล้วนางคงถูกหลินฮ่าวสังหารเป็น
แน่หากเขารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
" นายหญิงงั้นให้ข้าไปพาหญิงสาวมาปรนนิบัตทิ ่าดีหรือไม่ "
" ไม่ต้องพอแล้วเสียเวลาเปล่าๆเอาเป็นว่าวันนี้พวกเรากลับกัน
ได้แล้ว "
" งั้นให้ข้าช่วยปรนนิบัติให้ท่านได้หรือไม่ "
เสียงของหลินหมิงดังขึ้นทาให้ร่างของหญิงสาวทั้งสามคนตื่นตัว
ขึ้นมาในทันทีหากมีคนรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วละก็ชชีวิตของ
พวกนางทั้งสามคงจบสิ้นไปในทันทีอย่างแน่นอน
" เจ้าเป็นใครกันเข้ามาได้ยังไง "
" ไม่ต้องสนใจฆ่ามันซะ "
เหม่ยฮวานั้นนางไม่สนใจว่าหลินหมิงจะสามารถเข้ามาด้วยวิธี
ใดในตอนนี้นางต้องทาการกาจัดหลินหมิงไปโดยเร็วที่สุดเพื่อความ
ปลอดภัยของตัวนาง หญิงสาวรับใช้ทั้งสองคนทีม่ ีระดับพลังขั้น 8
และ 9 นั้นไม่ใช่เรื่องยากที่คนวัยเยาว์เช่นหลินหมิงจะรับมือจากการ
ประเมิณของเหม่ยฮวาแล้วนั้นไม่ว่าหลินหมิงจะมีความแข็งแกร่ง
มากเพียงใดเขาก็ยังคงไม่สามารถเอาชีวิตรอดไปจากหญิงสาวรับใช้
ทั้งสองของนางได้
เนื่องจากว่าเมื่อดูผิวเผินจากนอกอายุของหลินหมิงนั้นสมควร
อยู่ที่ราวๆ 15 - 16 ปีการที่จะต่อกรกับผู้ที่พลังขั้น 8 และ 9 นั้น
ย่อมแสดงว่าเขาก็ต้องมีระดับพลังขั้น 9 เป็นอย่างน้อยซึ่งเรื่องนั้น
มันย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ การจู่โจมของหญิงสาวทั้งสองนั้นอาศัย
ความเร็วเข้าจู่โจมหวังจัดการปลิดชีวิตหลินหมิงภายในทีเดียว
ปังง !!
เสียงหมัดของหลินหมิงกระทบเข้าไปร่างของหญิงสาวผู้ที่พลัง
ระดับ 9 จนนางกระเด็นชิดติดกาแพงพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
ที่มุมปาก ช่วงเวลานั้นเองที่หญิงสาวรับใช้อีกคนหันความสนใจไป
มองเพื่อนของนางที่แข็งแกร่งกว่าถูกโจมตีอย่างไม่คาดคิดเพียงหมัด
เดียวกลับสามารถโค่นผู้ที่มีพลังระดับ 9 ได้แม้ว่าจะอาศัยช่วงเวลา
ที่เพื่อนของนางไม่ทันระวังตัวก็ตามที่
ปัง !!
เสียงหมัดของหลินหมิงเข้ากระทบร่างของหญิงสาบรับใช้อีกคน
จนนางกระเด็นติดกาแพงและมีสภาพไม่ต่างจากเพื่อนของนางเลย
ในตอนแรก หลินหมิงมีความลังเลเล็กน้อยว่าจะทาอย่างไรกับพวก
นางทั้งสองจะฆ่า หรือปล่อยเอาไว้ดีหลินหมิงจัดการชกเข้าไปที่ท้อง
ของพวกนางอีกครั้งอย่างเต็มแรกจนพวกนางกระอั่กเลือดออกมา
กองใหญ่พร้อมกับสติที่ดบั ลงไปและดูเหมือนว่าจะไม่สามารถตื่น
ขึ้นมาโดยง่าย
" อ่า ที่นี้ก็เหลือแค่พวกเราแล้วละนะ "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปหาเหม่ยฮวาด้วยสีหน้าหื่น
กระหาย เหม่ยฮวานางรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้อยู่ไม่ใช่
น้อยเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์มากเช่นนี้สมควรที่นางจะต้องรู้จักบ้าง
ไม่ใช่หรืออย่างไร หญิงสาวรับใช้ที่มีพลังระดับ 8 และ 9 ถูกจัดการ
ลงโดยง่ายด้วยเด็กหนุม่ คนเดียวอย่างนั้นแล้วพลังของเขาก็สมควร
ไม่ต่ากว่าปราณก่อเกิด !
" จะ...เจ้าคิดจะทาอะไร "
" ก็บอกแล้วไงว่าข้าแค่จะมาปรนนิบัติท่านเท่านั้นเอง "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเดินไปที่เตียงเตะเอาร่างไร้วิญญาณของ
เด็กหนุ่มที่ถูกสังหารทิ้งลงเตียงไปอย่างไม่แย่แส สีหน้าของเหม่
ยฮวานั้นเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
" ยะ..อย่าเข้ามานะ ! "
หลินหมิงก้าวเดินจนไปหยุดที่ปลายเตียงสายตาของหลินหมิงก
วาดมองที่เรือนร่างของเหม่ยฮวาไปทั่วร่างด้วยสายตาหื่นกระหาย
อย่างปิดไม่มิด ถึงแม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่มีอายุมากแต่ด้วย
ฐานะของนางนั้นจาเป็นที่นางจะต้องดูแลตนเองอยู่สม่าเสมอ ผิว
เรียบเนียนของนางนั้นแม้จะยังไม่อาจเทียบเท่าอาจารย์สาวสวย
ของเขาแต่มันก็ด้อยกว่าราวกับหนึ่งขั้นเท่านั้น
รวมกับเรือนร่างที่สมวัยของผู้ใหญ่ อวัยทุกส่วนล้วนพัฒนาจน
มาถึงในระดับสุดยอดของหญิงสาวหน้าอกและสะโพกของนางนั้น
ราวกับว่ามันถูกสรรสร้างขึ้นมาเพื่อมาบาบัดความใคร่ให้กับบุรุษ
โดยเฉพาะแต่หน้าเสียดายที่นางไม่ค่อยได้รับความพอใจจากบุรุษ
มากเท่าใดนัก
เหม่ยฮวานางนั้นรู้สึกไม่คุ้นหน้าหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย นางไม่
อยากเชื่อว่าจะมีผู้เยาว์คนใดที่มีความสามารถมากถึงเพียงนี้แต่นาง
กลับไม่รู้จักเขา ? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง
ชีวิตของนางในตอนนี้ล้วนถูกแขวนอยู่บนเส้นดาย นางพยายามใช้
ความคิดเพื่อค้นหาทางออกในเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถแต่ถึง
อย่างนั้นกับคนที่วามารถเอาชนะคนรับใช้ทั้งสองของนางได้ภายใน
พริบตาแล้วนางจะสามารถทาอะไรได้อีก
" ขะ..ขอละเจ้าอย่าได้นาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ใด..หากเจ้าต้องการ
เงินหรือสิ่งใดข้าจะจัดหามาให้เจ้าอย่างแน่นอน... "
เหม่ยฮวานางครุ่นคิดถึงคาพูดหลินหมิงก่อนหน้านี้ แม้ว่านางจะ
อายุมากพอสมควรและความงามของนางก็ลดถอยไปตามเวลาแต่
มันก็อาจเป็นไปได้ว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้อาจจะให้ความสนใจในตัวนาง
เมื่อคิดเห็นเช่นนั้นนางก็พลันเกิดรอยยิ้มเล็กน้อยหากนางวามารถ
จัดการสยบบุรุษหนุ่มผู้นี้ด้วยการร่วมรักเมื่อนั้นเขาคงจะสิ้นแรงไป
ไม่ใช่น้อยแล้วเมื่อนั้นมันอาจเป็นโอกาสของนางก็ได้ใครจะรู้
" หรือ..หะ..หากเจ้าต้องการร่วมรักกับข้า... "
เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้วยน้าเสียงยั่วย้วนอย่างไรเสียการร่วม
รักกับบุรุษหนุ่มนั้นก็เป็นที่ชื่นชอบสาหรับนางอยู่แล้ว และยิ่งหาก
นางสามารถทาให้เด็กหนุ่มมากความสามารถเช่นนี้ต้องอยู่ใต้อาณัติ
ได้มันก็คงจะดีไม่ใช่น้อยแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยาก แต่ถึงอย่างนั้น
การทาให้เขาอ่อนแรงลงเพื่อที่นางจะสามารถหาโอกาสหรือ
แม้กระทั่งถ่วงเวลาเพื่อให้หญิงสาวรับใช้ทั้งสองฟืน้ ขึ้นมาโจมตีเด็ก
หนุ่มคนนี้ก็ย่อมได้
มือทั้งสองข้างนางลูบไล้ไปที่ต้นขาของนางเพื่อยั่วย้วนหลินหมิง
พร้อมกับนร่างกายอันเปลื่อยเปล่าของนางด้วยเช่นกัน แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่ได้มีความลังเลที่เข้าโจมตีนางเลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของนางอยู่บ้างแต่สิ่งนั้นจะ
เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบุรุษคนนั้นไม่ใช่เขาทั้งนั้นแม้ว่าคาคืนนี้หลินหมิงจะ
ผ่านการร่วมรักมามากพอสมควรทั้งกับหญิงสาวสองพี่น้อง ซื่อโฉว
และล่าสุดเหลียนเย่อิ๋งแต่เขาก็ยังคงไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าใน
เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

ตอนที่ 43
หลินหมิงจ้องมองไปยังเรือนร่างของเหม่ยฮวาด้วยความพอใจ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีความหลงไหลในตัวนางมากเท่าไหร่นักแม้ว่า
นางจะมีความงามที่เทียบเท่าซื่อโฉวหรืออาจมากกว่าเพียงเล็กน้อย
แต่เรื่องราวในอดีตที่นางและบุตรของนางหลินเสี่ยวต้าได้กระทาต่อ
หลินหมิงนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทาให้เขาลืมได้โดยง่าย
" เอางั้นก็ได้.. "
หลินหมิงกล่าวออกไปด้วยน้าเสียงราบเรียบพร้อมกับรอยยิ้มที่
มุมปาก เหม่ยฮวาตัวนางนั้นไม่ได้รู้เลยว่าตัวนางในอนาคตอันใกล้นี้
จะต้องประสบพบเจอกับชะตากรรมอันใด แต่ที่แน่นอนก็คือหลินห
มิงนั้นคงไม่ยอมปล่อยมือจากนางไปโดยง่ายอย่างแน่นอน หลินหมิ
งก้มลงมองไปที่ร่องสวาทของเหม่ยฮวาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะว่าร่องสวาทของนางนั้นถูกผ่านการใช้งานมามากเกินไป
สาหรับเรื่องนั้นแล้วด้วยขนาดทวนมังกรของเขาไม่อาจนับได้ว่าเป็น
ปัญหา
ปัญหาสาหรับหลินหมิงในตอนนี้ก็คือการที่ดูเหมือนว่าร่องสวาท
ของนางในตอนนี้จะมีคราบน้ารักไหลปนออกมาแม้ว่าจะเป็นจานวน
เล็กน้อย แต่นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการหลินหมิงต้องการจู่โจมนาง
อย่างรุนแรงให้นางได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดและความรุนแรงฉะนั้น
แล้วหลินหมิงจะไม่ทาการเล้าโลมนางดั่งเช่นสาวอื่นที่ผ่านมาแน่ๆ
เสื้อผ้าของหลินหมิงถูกปลดออกอีกครั้งพร้อมกับร่างกายของ
หลินหมิงที่ก้าวขึ้นสู่เตียงเดียวกับเหม่ยฮวาอย่างรวดเรียว เหม่ยฮวา
นางมองไปยังเรือนร่างของบุรุษหนุ่มผู้นี้ซึ่งสร้างความพอใจให้กับ
นางไม่ใช่น้อยด้วยรูปร่างหน้าตาของเขานั้นอาจกล่าวได้ว่าบุรุษ
หนุ่มคนนี้คือหนึ่งในบุรุษงามอย่างไม่ต้องสงสัย
ร่างกายกาย่าสมส่วนจนนางแทบจะอดใจไม่ไหวทีจ่ ะเข้าไป
สัมผัสสักเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนางมองต่าลงมาเรื่อยๆมันก็ทา
ให้นางหน้าซีดขึ้นมาในทันทีพร้อมกับเสียงกลืนน้าลายลงไปอึกใหญ่
ด้วยความยากลาบากใจ
" นะ...นั้น..มันของจริง...หรอสวรรค์.... "
แม้ว่านางจะร่วมรักกับบุรุษที่อยู่ในวัยเยาว์เป็นส่วนใหญ่แต่ใช่
ว่านางจะไม่เคยร่วมรักกับบุรุษที่อยู่วัยเดียวกับนาง ดังนั้นแล้วนาง
สามารถประเมิณทวนมังกรแท่งนี้ของหลินหมิงได้เป็นอย่างดีว่ามัน
จะต้องเป็นอันดับหนึ่งในโลกล้านี้อย่างแน่นอน ไม่มีบุรุษผู้ใดที่
สามารถมีทวนได้ขนาดใหญ่เท่านี้และคงไม่มีสตรีใดที่สามารถรับมือ
ทวนมังกรของเขาได้โดยง่ายอย่างแน่นอน
เมื่อถึงตรงนี้ความลาบากใจเริ่มปรากฎขึ้นมาภายในจิตใจของ
เหม่ยฮวา นางเริ่มคิดว่าความคิดที่ผ่านมาของนางนั้นอาจผิดพลาด
เสียแล้ว แม้ว่าร่องสวาทของนางจะมีขนาดกว้างกว่าตอนที่นางยัง
เยาว์วัยแต่มันไม่มีทางรับมือกับทวนมังกรขนาดนั้นได้อย่างแน่นอน
" ขะ...ข้าว่า..ข้าเปลี่ยนใจหากเจ้าต้องการเงินหรือทรัพย์......
ว๊ายยยยย !! "
หลินหมิงไม่ต้องการให้นางพูดกล่าวอะไรอีกต่อไปเสียงที่เขา
อยากได้ยินนั้นก็คือเสียงกรีดร้องของหญิงสาวผู้นี้เพียงเท่านั้นทวน
มังกรของหลินหมิงอัดกระแทกเข้าไปยังร่องสวาทของนางอย่างสุด
แรง จนท้องของนางโป่งพ่องขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับอาการ
จุกจนนางแทบจะพูดไม่ออก
ด้วยการทะลวงอันหนักหน่วงเหม่ยฮวาสามารถรับรู้ได้ถึงภายใน
ร่องของนางที่ฉีกขาดอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกเจ็บแสบบริเวณร่องรัก
ของนางเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นบุรุษหนุ่มผู้นกี้ ไ็ ม่มีทที ่าว่าจะ
ล้มเลิกแต่อย่างใดกลับกันนางกลับรู้สึกว่าทวนมังกรภายในร่างกาย
ของนางเริ่มขยับตัวขึ้นทันทีที่มันสามารถทะลวงเข้าไปภายใน
ร่างกายของนางได้
" ดะ..ดะ..เดียว...ม่ายยยยยยยยยยยย ~~~~~~ "
" ฮ่าาๆๆๆๆ ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบมันหรอกหรือการร่วมรักกับบุรุษ
วัยเยาว์เช่นข้า ? ข้ายินดีร่วมรักกับเจ้าไปชั่วข้ามคืนเจ้าคิดเห็นว่า
อย่างไรบ้างละ หรือหากเจ้าต้องการมากกว่านั้นข้าเองก็ไม่ว่าอะไร
หรอกนะ "
หลินหมิงเริ่มทาการขยับสะโพกของเขาอย่างบ้าคลั่งแบบทีไม่
เคยทามาก่อน เสียงเนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างรุนแรงดังไปทั่วห้อง
นั้นสามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าจากจู่โจมของหลินหมิงในครั้งนี้
นั้นรุนแรงมากเพียงใด
" พะ...พอ...ข้า....ขอร้อง อิย๊าาาาาาาาาา ~~~~~~ "
น้าลาย น้าตา จานวนมากไหลพรั่งพรูออกมาจากปากและตา
ของนางตามลาดับเหม่ยฮวานางรู้สึกราวกับว่าภายในท้องของนาง
นั้นกาลังมีการะเบิดที่รุนแรงเกิดขึ้น นางสามารถสัมผัสได้เป็นอย่าง
ดีว่าทวนมังกรที่อยู่ภายในตัวนางตอนนี้นั้นมันได้ขยายใหญ่ขึ้นเสีย
ยิ่งกว่าในตอนแรกเสียอีก น้ารักของนางเริ่มเดินในทันทีพร้อมกับ
ร่างของนางที่กระตุกถี่อย่างหยุดไม่อยู่แต่น่าเสียดายที่น้ารักใสๆของ
นางนั้นยังคงไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้เนื่องจากมันไม่สามารถ
ผ่านช่องว่างอันคับแคบที่ตอนนี้มีทวนมังกรของหลินหมิงเสียบค้าง
เอาไว้อยู่
" นี้เจ้าเสร็จแล้ว ? ดูเหมือนข้าจะทาให้เจ้าพอใจได้มากละสิ ?
เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าลิ้มลองต่อเลยแล้วกัน "
หลินหมิงไม่สนใจร่างกายของเหม่ยฮวาที่ยังคงกระตุกอยู่อย่างไม่
หยุด มือข้างหนึ่งของเขาตบไปที่บริเวณแก้มก้นของนางเพื่อให้นาง
คลายจากอาการกระตุกนี้เพราะมันทาให้เขาเคลื่อนไหวได้ลาบาก
" เห้...หากเจ้ายังไม่หยุด ข้าก็ไม่สามารถมอบความสุขให้เจ้าได้
อย่างถนัดนักนะรู้ไหม "
เพี้ยะะะ !!
" อ้าาา อ้าาาา ม่ายยยย พ..พอ..หยุดดด...ที... "
แม้ว่าเหม่ยฮวานางจะไม่ค่อยรู้สึกถึงบริเวณก้นของนางที่ถูกตบ
ตีโดยหลินหมิงอันเป็นเพราะว่าความรู้สึกที่เกิดที่บริเวณร่องสวาท
ของนางนั้นมันมีมากกว่าจนไม่อาจนามาเปรียบเทียบกันได้ นางรู้สึก
ได้ว่านางได้ปลดปล่อยน้ารักของนางออกมาโดยแทบจะไม่หยุดยั้ง
แต่มันก็ไม่สามารถออกไปได้ดังนั้นแล้วท้องของนางจึงค่อยๆขยาย
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
" โอ้..ดูเหมือนว่าข้าก็จะเสร็จแล้วเช่นเดียวกัน เจ้าดีใจหรือไม่ ?
งั้นหรองั้นก็เตรียมรับไป "
" เอ้า !!! "
" ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อร้างงงงงงงงงงง
~~~~~~~~~~~ "
เทียบกับน้ารักของนางที่ไหลออกมาอย่างต่อเหนื่องแล้วการ
ปลดปล่อยน้ารักของหลินหมิงเพียงครั่งเดียวนั้นอาจเรียกได้ว่ามันมี
จานวนเทียบเท่ากับน้ารักของนางเลยก็ว่าได้ มันจึงทาให้ท้องของ
นางโป่งพ่องขึ้นมาราวกับว่ามันจะแตกออก
" ขะ...ขอร้อง..เอา..ออกไป..ก่อนนน "
นางต้องการให้น้ารักพวกนี้ออกไปจากร่างกายของนางโดยเร็วที่
สุดแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับติดตรงที่ทวนมังกรของหลินหมิงยังคง
เสียบร่องสวาทของนางเอาไว้มันจึงทาให้น้ารักนั้นค่อยๆซึมออกไป
ช้าๆเพียงเท่านั้น หลินหมิงมองไปยังร่างของเหม่ยฮวาด้วยความ
พึงพอใจคราบน้าตาและน้าที่ปรากฎที่บนใบหน้าของนางนั้นทาให้
เรียกได้ว่าสภาพของนางในตอนนี้แทบจะไม่เรื่อร่องรอยของผู้ที่มี
ตาแหน่งภรรยาของประมุขตระกูลใหญ่เลยแม้แต่นอ้ ย
หลินหมิงจาใจดึงทวนมังกรของเขาออกมาก่อนน้ารักของเหม่
ยฮวานั้นมีมากเกินไปมันทาให้เขาไม่สามารถขยับได้อย่างถนัด ผิด
กับหญิงสาวที่ตอนนี้ดูเหมื่อนว่านางกาลังเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
เมื่อนางเห็นว่าหลินหมิงถอนทวนมังกรออกไปแล้วนางถอนหายใจ
ออกเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกพร้อมกับเสียงลมหายใจอันหนักอึ้ง
ของนางในช่วงเวลาต่อมา
นางเพิ่งร่วมรักกับหลินหมิงไปเพียงไม่นานแต่ราวกับว่านางนั้น
ได้เสพสุขกับเหล่าบุรุษนับร้อย ไม่สิต่อให้เป็นพันเป็นหมื่นนางก็เชื่อ
ว่าพวกเขาเหล่านั้นคงไม่อาจทาให้นางมีสภาพเช่นนี้ได้ น้ารักขอ
นางไหลออกมาอย่างไม่หยุดย่อนพร้อมกับน้ารักอุ่นๆของหลินหมิ
งเองเช่นเดียวกัน นางอาจคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจบลงเพียงเท่านี้
ด้วยมาตรฐานธรรมดาของเหล่าบุรุษ
" เจ้าพร้อมต่อแล้วสินะ "
" มะ..หมายความ..ว่า...ไง "
" ก็อย่างนี้ไง "
อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา~~~~~~~~~~~~~~
หลินหมิงเสียบทวนมังกรเข้าไปในร่องสวาทของนางอีกครั้ง
แม้ว่ามันจะยังคงมีร่องรอยน้ารักจากก่อนหน้าจนทาให้เมื่อหลินหมิง
ขยับสะโพกของเขาจะทาให้เกิดเสียง กระเฉาะ ของน้าออกมาแต่ถึง
อย่างนั้นหลินหมิงก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้แต่อย่างใดเขายังคงแทง
ทะลวงเหม่ยฮวาต่อไปทัง้ อย่างนั้น
หลินหมิงจับให้ร่างของเขาเป็นฝ่ายนอนหงายลงโดยมีร่างของ
นางกดทับ เขาไม่ต้องการให้นางคุ้นชิดกับท่าเดิมๆโดยปกติแล้วท่า
นี้นั้นจะเป็นทวงท่าที่ให้เหล่าสตรีเป็นผู้นาแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิ
งก็กระแทกยกเอวของเขาพร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่จับเอว
ของนางเอาไว้พร้อมกับโยกร่างของนางขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเหม่ยฮวาในตอนนี้นางไม่มีเรี่ยวแรงเหลือในการ
ประคองร่างอีกต่อไปนางล้มลงทับร่างของหลินหมิงด้วยความ
เหนื่อยอ่อนแต่ถึงอย่างนัน้ ทวนมังกรกับมือของหลินหมิงทีย่ ังคงบีบ
จับที่ก้นของนางก็ยังคงจู่โจมนางต่อไปอย่างไม่หยุด นางสามารถ
รู้สึกได้ว่าด้วยการร่วมรักในท่านนี้มันทาให้ทวนมังกรของหลินหมิ
งแทบจะจะทะลุหน้าท้องด้านหน้าของนางออกมา
" อะ อะ อะ อ๊ะ อ๊าาาาาาา "
" ดะ..ได้โปรด...อะ อะ..ข้า...อ๊ะ~~มะ..ไม่ อ๊ะ~~ อ๊ะ~~ ไหว..
แล้ว "
เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้วน้าเสียงเหนื่อยอ่อนพร้อมกับอ้อนวอน
หลินหมิงอย่างสุดกาลัง แม้ว่าในภายหลังนางจะเริ่มไม่รู้สึกถึงความ
เจ็บปวดแต่มันแทนที่ดว้ ยความเสียวซ่านแล้วก็ตามแต่ถึงอย่างนั้น
การรับมือกับทวนมังกรขนาดนี้ด้วยจังหวะอันเร้าร้อนนั้นมันทาให้
ร่างกายของนางรับภาระมากเกิน นางคิดว่าต่อจากไปนี้นางคงไม่
สามารถหาความสุขกับบุรุษอื่นใดได้อีกต่อไป และถึงแม้ว่าบุรุษ
หนุ่มคนนี้จะไม่นาความลับของนางไปป่าวประกาศแต่หากเมื่อวันใด
ที่หลินฮ่าวสามีของนางเกิดมีความรู้สึกต้องการในตัวนางเมื่อนั้นก็
คงเป็นคราวจบสิ้นชีวิตของนางเช่นกัน
" เอาไปอีกกกก ! "
" อร้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ~~~~~~~~~~~~ "
หลินหมิงปล่อยน้ารักจานวนมากเข้าสู่ร่องสวาทของนางอีกครั้ง
จนแทบจะทาให้ร่างกายส่วนล่างของหญิงสาวในตอนนี้ราวกับว่า
มันถูกอาบไปด้วยน้ารัก หลินหมิงถอนทวนมังกรออกอีกครั้งพร้อม
กับผลักร่างของนางจากการที่นางคร่อมตัวของเขาเอาไว้อยู่
ในตอนนี้เหม่ยฮวานางแทบจะไม่สามารถประคองสติของตนเองได้
อีกต่อไปนางไม่อาจคาดคิดได้ว่านี้เป็นฝันที่นางได้ขนึ้ สวรรค์หรือ
นรกกันแน่
เพียะะ !!!
เสียงตบฉากใหญ่ที่ก้นของนางนั้นได้เรียกสติของนางให้ตื่น
ขึ้นมาจากการกลับไหลพร้อมกับทวนมังกรของหลินหมิงที่เข้าจู่โจม
ใส่ร่างกายของนางซ้าแล้วซ้าเล่า และเมื่อนางใกล้หมดสติเมื่อใด
นางก็จะถูกบุรุษหนุ่มผู้นี้ปลุกขึ้นมาเสมอ
ตอนที่ 44
ร่างของหญิงสาวที่ทั่วร่างของนางนั้นเปราะเปรื้อนไปด้วยน้ารัก
จานวนมากของบุรุษราวกับว่านางได้ผ่านการร่วมรักกับบุ่รุษมานับ
ร้อย พร้อมกับเสียหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงผสมกับเสียงคราง
อันเป็นจังหวะซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ว่านางจะอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว
นั้นทางฝ่ายของบุรุษหนุ่มเพียงคนเดียวที่ทาการร่วมรักกับนางอย่าง
ยาวนานนั้นไม่ได้มที ีท่าว่าจะให้นางได้พักเลยแม้แต่น้อย
" อ๊าา อ๊าาา อ๊าาาา อ๊าาาาา ~~~~~~~~~ พ...พอ...อร้างงงง "
เสียงครางกระเส้าของนางยังคงดังอย่างต่อเหนื่องแต่ถึงอย่างนั้น
นางก็ยังคงพยายามเอยคากล่าวขอร้องให้หลินหมิงได้หยุดลงเสียที
หรืออย่างน้อยในตอนนี้นางขอเพียงได้มีโอกาสพักผ่อนเสียหน่อยก็
ยังดีแม้ว่ามันจะเป็นความหวังอันหริบหรี่ก็ตามที่
" ถึงแม้เจ้าจะขอร้องให้ข้าหยุดแต่ภายในร่องสวาทของเจ้านั้นดู
เหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นนะ "
หลินหมิงที่กาลังขยับสะโพกอย่างรุนแรงตั้งแต่เริ่มนั้นสามารถ
สัมผัสภายในร่องของเหม่ยฮวาได้เป็นอย่างดีว่ามันได้ทาการ
ตอบสนองต่อทวนมังกรของเขาได้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆครั้งที่หลินห
มิงทาการโยกสะโพกร่องของนางก็จะเกิดการขยับตัวไปโดย
ธรรมชาติด้วยเช่นกัน
หลินหมิงไม่รู้ว่าตัวเขานั้นได้ปลดปล่อยน้ารักไปกี่ครั้งแล้วมัน
อาจมากกว่าสิบหรือยี่สิบแต่เขาไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นเลยที่เขามั่นใจ
แน่นอนก็คือเหม่ยฮวานั้นจะต้องปล่อยน้ารักมามากกว่าเขาจนตัว
เขาไม่อาจเทียบติดอย่างแน่นอน เมื่อภายในร่องสวาทของนางนั้น
ในตอนนี้ถูกอัดไปด้วยน้ารักของเขาและนางจนมันไม่อาจระบาย
ออกมาได้ทันอีกต่อไป แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงจะใช้วิธีการรอให้
ร่องสวาทของนางได้ปลดปล่อยน้าออกมาเพียงแต่ว่าเขาคิดว่ามัน
เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์และมันยังทาให้นางได้พักอีก
ด้วย
" ...พอ..แล้ว..ใช่ไหม....ขอบคุณ...นะ..นายท่าน "
หลินหมิงไม่ได้บอกกล่าวให้นางเรียกตัวเขาว่านายท่านดังเช่น
เหลียนเย่อิ๋งเพียงแต่ว่าเมื่อเหม่ยฮวานั้นได้ถกู หลินหมิงจู่โจมอย่าง
บ้าคลั่ง มันทาให้หัวสมองของนางต้องพลันคิดถึงวิธีต่างๆ
เพื่อที่จะให้เขาได้หยุดจู่โจมนางนางพยายามทาทุกวิธีทางไม่ว่าจะ
ขอร้องอ้อนวอน หรือแม้กระทั่งสัญญาว่าจะยอมเชื่อฟังเด็กหนุ่มผู้นี้
แต่มันก็ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถสร้างความพอใจให้กับ
เขาได้มากนัก
จิตใจของนางเริ่มถูกแปรเปลี่ยนไปทีละนิดจากการที่โดนหลินหมิ
งกระแทกทวนมังกรอย่างยาวนานในจิตใจของนางเริ่มยอมรับในตัว
ของบุรุษหนุ่มผู้นี้ แรกเริ่มสาหรับนางแล้วบุรุษวัยเยาว์นั้นอาจ
เปรียบเสมือนสิ่งบาเร่อความใคร่ของนางเพียงเท่านั้นแต่ในตอนนี้
ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลับกันโดยสิ้นเชิง นางไม่สามารถ
โต้ตอบใดๆกับหลินหมิงได้ แต่แม้ว่านางจะเหนื่อยมากเพียงใดแต่
กลับรู้สึกว่ามันช่างเป็นความสุขที่เยี่ยมยอดจนไม่อาจบรรยายได้
แม้ว่านางในตอนนี้จะต้องการให้หลินหมิงหยุดจู่โจมแต่นั้นเป็น
เพราะนางเหนื่อยจากการเสพสาลักความสุขที่มากเกินไป ไม่ใช่ว่า
นางไม่ต้องการให้หลินหมิงทาเช่นนี้อีก
" เจ้าก็รู้ว่ามันยังไม่พอหรอกนะ เอ้า..อี๊บบบบบบบบบ ! "
" ม่ายยยยย รูนั้นมัน อ๊าาาาาาา ฉีกหมดแล้ววววววว ดะ..ได้
โปรดเอาออกมาาาา "
แน่นอนว่าทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้ไม่ได้เสียบเข้าไปที่
ร่องสวาทของนางอีกต่อไปแต่หลินหมิงเสียบเข้าไปที่รูก้นของนาง
แทนต่างหาก ด้วยความที่รูก้นนี้ไม่เคยถูกใช่งานใดๆมาก่อนเลยมัน
จึงทาให้ขนาดของมันคับแคบเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิง
ก็ยัง่งแรกจากสะโพกจนสุ
ส่ ดกาลังส่งทวนของเขาแทงทะลุเข้าไปสุด
จนนางร้องเสียงโหยหวนออกมา
รูก้นของนางนั้นคับแคบกว่าร่องสวาทของนางอย่างเทียบไม่ติด
แต่อย่างนั้นหลินหมิงพบว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายนัก
เพราะว่าภายในรูก้นของนางนั้นปราศจากน้ารักของนางที่ทาหน้าที่
เปรียบเสมือนตัวล่อลื่น แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจเหมาะสมยิ่งกว่า
ก็เป็นได้ไม่ใช่หรือ ?
" โอ้ววว เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้างละกับก้นของเจ้าในตอนนี้ "
" อ๊าาาาา~~~~~~~ มะ...มันใช้ไม่ได้แล้ว...ดะ..ได้โปรดดด...
นะ..นายท่าน..เอา..ออก...ปายยยย "
ถึงแม้ว่าเหม่ยฮวาในตอนนี้นางจะถูกจู่โจมจากทางรูทวารแต่ดู
เหมือนว่าร่างกายของนางยังคงตอบสนองได้ดีอยู่เช่นเคย เห็นได้
จากร่างกายของนางที่ยังคงกระตุกถี่พร้อมกับน้ารักใสๆของหญิง
สาวที่ยังคงไหลออกมาอย่างไม่หยุดย่อนไม่ต่างจากในตอนที่หลินห
มิงจู่โจมนางที่ร่องสวาทของนางเลย
" เจ้าเป็นเพียงทาสของข้าแต่กลับกล้าออกคาสั่งข้างั้นรึนังร่าน !
"
เพี๊ยะะ !!
หลินหมิงตบฉากใหญ่เข้าไปที่แก้มก้นของนางจนในตอนนี้ที่
บริเวณก้นของนางนั้นจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นรอย
แดงเต็มไปหมดจากการทีน่ างได้ถูกหลินหมิงตบตี แต่ถึงจะเป็น
เช่นนั้นเหม่ยฮวาในตอนนี้นั้นดูเหมือนว่านางจะไม่ได้สนใจในการ
กระทาเช่นนี้ของหลินหมิงเลยแม้แต่น้อยกลับกันดูเหมือนว่านางจะ
ชื่นชอบมันเสียมากกว่าจากการที่ร่างกายของนางมักจะกระตุกอย่าง
รุนแรงขึ้นมาเมื่อถูกตบตี พร้อมกับใบหน้าของนางที่ปรากฎริ้วรอย
แห่งความสุขขึ้นมาเรื่อยๆ
" อ้าา ใช่ ข้ามันร่าน ได้โปรดแรงๆเลยนายท่านนน "
ตับ ตับ
เสียงก้อนเนื้อกระทบกันอย่างรุนแรงด้วยการที่นางมีสะโพกอัน
ใหญ่เหมาะแก่การรองรับของบุรุษมันจึงสร้างความพอใจให้แก่
หลินหมิงได้มากไม่ใช่น้อย ตัวของเหม่ยฮวาในตอนนี้นางไม่ได้เอ่ย
ปากขอร้องให้หลินหมิงหยุดอีกต่อไป ในตอนนีน้ างเพียงตั้งใจรับ
ความสุขที่ได้จากหลินหมิงเพียงเท่านั้น
" เจ้ามันร่านเกินเยียวยาจริงๆ ขนาดโดนทุบตียังแสดงสีหน้ามี
ความสุขเช่นนี้ "
" อร้างงงงงงงง "
หลินหมิงจัดการปล่อยน้ารักเข้าไปในรูก้นของนางจนมันแทบ
ทะลักออกมาด้วยตาของนางเบิกกว้างออกด้วยความสุขอย่างปิดไม่
มิด พร้อมกับสติของนางที่ค่อยๆหมดลงดูเหมือนว่านี้จะเป็น
ขีดจากัดของนางแล้วจริงๆมันไม่น่าตกใจเลยทีนางหมดสติลงเช่นนี้
หลินหมิงนั้นเองก็คาดไม่ถึงว่านางจะสามารถอดทนมาได้มากถึง
เพียงนี้เช่นเดียวกัน
" แล้วพวกเจ้าจะอยู่อย่างนั้นอีกนานไหม ? "
" !! "
หลินหมิงกล่าวขึ้นมาลอยๆแต่กลับมีร่างสองร่างสะดุ้งขึ้นมา มัน
เป็นร่างของหญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวานั้นเองในระหว่างที่หลินห
มิงได้ใช้เวลาร่วมรักกับนายหญิงของพวกนางนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่
ยาวนานมากและเมื่อพวกนางพลันได้สติขึ้นมาก็ตอ้ งตกใจกับภาพที่
เห็นตรงหน้า นางหญิงของพวกนางที่ไม่เคยพอใจกับบุรุษผู้ใดกับ
เอยปากครางเสียงหลงอย่างมีความสุขแบบที่พวกนางไม่เคยเห็นมา
ก่อน
และยิ่งพวกนางได้เห็นขนาดทวนมังกรในจังหวะทีห่ ลินหมิงนา
สะโพกขยับออกมันทาให้พวกนางหน้าสีเผือกไปด้วยอารมณ์
หลากหลาย มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีหญิงใดที่มสามารถรับมือกับทวน
ขนาดใหญ่เท่านี้ได้ไม่ใช่หรือ แต่ดูเหมือนว่านายหญิงของพวกนาง
นั้นจะไม่ได้แสดงทีท่าความเจ็บปวดแต่อย่างใดเลย เมื่อพวกนาง
สังเกตไปทีใบหน้าของนายหญิงของพวกนางพวกนางกลับพบเพียง
ใบหน้าของหญิงสาวที่เหนื่อยอ่อนแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเปี่ยมไป
ด้วยความสุข
พวกนางถึงกับทาอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้แน่นอนว่า
หากเป็นในสถานการณ์ปกติพวกนางสมควรเข้าช่วยเหลือนายหญิง
ด้วยการโจมตีหลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ในเมือ่ นายหญิงของ
พวกนางแสดงสีหน้าพึงพอใจมากถึงเพียงนี้แล้วพวกนางจะสมควร
ทาสิ่งใดได้กันเล่า
" ขะ ...ข้า "
พวกนางทั้งสองเริ่มมีอาการรนรานอย่างเห็นได้ชัดจากการที่
พวกนางได้เห็นบทรักอันเร้าร้อนของนายหญิงพวกนางกับเด็กหนุม่
ตรงหน้าไม่เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
พวกนางทั้งสองเป็นเพียงหญิงสาววัย 20 ต้นๆเพียงเท่านั้นการที่
พวกนางได้เห็นบทรักอันร้อนแรงเช่นนี้มันทาให้ร่องสวาทของพวก
นางถึงกับคันมุมมิบ พร้อมกับสัมผัสเปียกแฉะที่เกิดขึ้น

ตอนที่ 45
หญิงสาวรับใช้ทั้งสองของเหม่ยฮวานั้นพวกนางล้วนเป็นคนที่
เหม่ยฮวาไว้ใจในตัวพวกนางเป็นอย่างมากไม่เช่นนั้นแล้วด้วยฐานะ
ของเหม่ยฮวานั้นไม่มีทางที่นางจะให้ผู้ติดตามที่มีพลังเพียงขั้นที่ 8
และขั้นที่ 9 ปราณเริ่มต้นมาทาหน้าที่ปกป้องตัวนาง นางเพียง
ต้องการคนที่ไว้ใจได้เพียงเท่านั้นและบรรดาผู้ที่แข็งแกร่งในตระกูล
หลินนั้นล้วนมีฐานะที่ไม่ธรรมดาและพวกเขาอาจหาทางเอาเปรียบ
นางได้ในภายหลังนั้นจึงเป็นเหตุให้เหม่ยฮวาเลือกพวกนางทั้งสอง
หลินหมิงมองไปที่หญิงสาวรับใช้ทั้งสองด้วยความพึงพอใจเขา
สังเกตเห็นมาตัง้ แต่แรกแล้วว่าพวกนางนั้นได้สติตนื่ ขึ้นมาตั้งแต่
เมื่อใด แต่ในเมื่อไม่มีทที ่าว่าจะเข้าจู่โจมเขาแต่อย่างใดดังนั้นมันก็
ไม่มีความจาเป็นใดๆที่เขาจะต้องลงมือกับพวกนางอีก หลินหมิง
สารวจมองไปที่เรือนร่างของพวกนางด้วยสายตาหื่นกระหายแบบ
ปิดไม่มิดจนทาให้หญิงสาวทั้งสองนั้นรู้สึกทั่วร่างสัน่ สะท้านไม่ใช่
เพราะความกลัวต่อสายตาของหลินหมิงแต่เป็นอารมณ์อะไร
บางอย่างที่พวกนางไม่อาจเข้าใจได้เช่นกัน
สัดส่วนโค้งว้าวของเรือนร่างของพวกนางนั้นแม้ว่าจะดูด้อยกว่า
เหม่ยฮวาอยู่เพียงเล็กน้อยแต่นั้นย่อมเป็นเพราะอายุของพวกนาง
นั้นยังเพียง 20กว่าปีเพียงเท่านั้นดังนั้นแล้วพวกนางจึงเหนือกว่าใน
ด้านความงามและผิวพรรณที่ยังดูพุดพ่องอยู่เฉยเคย
" พวกเจ้าชื่ออะไร ? "
" ขะ...ข้า..หาน..จิงหนิง..เจ้าคะ "
" ขะ..ข้าจู..เวยเหลียน..เจ้าคะ "
หญิงสาวทั้งสองตอบออกมาด้วยน้าเสียงกังวลพร้อมกับใบหน้า
ของพวกนางที่แดงซ่านระเรื่อขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นเดินเข้ามาใกล้
พวกนาง ด้วยระยะใกล้ชิดเพียงนี้พวกนางสามารถสังเกตถึงขนาด
ทวนมังกรของหลินหมิงได้อย่างเด่นชัดไม่เพียงแต่มันจะมีรูปร่างที่
อวบกว่าทวนอื่นๆมันยังมีขนาดยาวกว่าอีกด้วย กลิ่นฉุนหน่อยลอย
มาตามลมเข้าสู่ปลายจมูกของพวกนางทั้งจิงหนิง และจูเวยเหลียน
นั้นพวกนางต่างรู้ดีว่ากลิน่ นี้สมควรเป็นของสิ่งใดแต่ถึงอย่างนั้นใน
ใจของพวกนางกลับปราถนากลิ่นเหล่านี้โดยที่พวกนางไม่อาจห้าม
ใจ
หานจิงหนิงนั้นเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างผอมเพรียวหากเมื่อเทียบ
กับเหม่ยฮวาแล้วพวกนางอาจเรียกได้ว่าค่อนข้างผอมแต่ถึงนางนั้น
บริเวณอวัยวะตรงหน้าอกของนางนั้นที่ดูผิดธรรมชาติจากรูปร่าง
ของนางไปบ้าง นางคือหญิงสาวที่มีพลังปราณขั้น 9 ปราณเริ่มต้น
ซึ่งจากการคาดเดาของหลินหมิงนั้นพวกนางทั้งสองนั้นอาจเป็น
หญิงสาวที่ถกู เหม่ยฮวาเก็บมาเลี้ยงดังนั้นพวกนางจึงต้องเคารพเชื่อ
ฟังเหม่ยฮวาแต่สิ่งเหล่านัน้ หลินหมิงหาได้สนใจไม่
ในความเป็นจริงแล้วสาหรับทุกคนในตระกูลหลินนัน้ หลินหมิง
ล้วนแล้วแต่มีความแค้นกับพวกเขาด้วยทั้งหมดทุกคน แม้ว่าเขาจะ
ไม่ได้ถกู ทุกคนกลั่นแกล้งก็ตามที่แต่สายตาดูถกู เหยียดหยามนั้นเป็น
สิ่งที่เขาต้องเผชิญตลอดเวลาหลายปีนั้นเป็นสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืม
และการแก้แค้นเล็กน้อยๆของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนี้แม้ว่าเหม่
ยฮวานั้นจะไม่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเพราะหลินหมิงนั้นไม่
ต้องการเปิดเผยออกไป
เพราะมันจะทาให้ความปลอดภัยของตัวเขานั้นน้อยลง ไม่มี
อะไรสามารถรับประกันได้ว่าเมื่อนางได้รับรู้ตัวตนของเขาแล้วนั้น
นางจะไม่บ้าคลั่งหรือคิดแก้แค้นเขา หากเปรียบเทียบกับสภาพของ
เหม่ยฮวาในตอนนี้เรียกได้ว่านางตกอยู่ภายใต้อาณัติของเขาเกือบ
ร้อยเปอร์เซ็นต์ สาหรับหญิงสาวรับใช้ทั้งสองหานจิงหนิงและจูเวย
เหลียนนั้นสาหรับการสังหารพวกนางนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
และเขาก็ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อยหากเขาจาเป็นต้องสังหารใคร
ก็ตาม
เพราะว่าในเรื่องนี้นั้นหลินหมิงได้ทาใจมาตั้งแต่แรกแล้ว หาก
เขาจะทาการสังหารหญิงสาวทั้งสองคนนี้สู้เอาพวกนางมาเป็น
เครื่องบาเร่ออีกทั้งพวกนางยังสามารถช่วยเขาในการพัฒนา
ขอบเขตพลังได้อีกด้วยดังนั้นหลินหมิงจึงไม่ได้ทาการสังหารพวก
นางทิ้งเสียตั้งแต่ตอนแรก
" ดะ...เดียว..จะทาอะไรเจ้าคะ...ไม่..ดะ..ได้อ๊าา "
หลินหมิงใช้มือข้างหนึ่งเข้าไปสารวจโพรงร่องสวาทของหานจิง
หนิงตอนนี้กาลังแฉะได้ที่ ร่างกายของหญิงสาวสั่นไปด้วยความ
เสียวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมือสากๆของหลินหมิงนั้นทันทีที่เข้า
สัมผัสกับร่องสวาทของนางนั้นมันทาให้ร่างกายของหานจิงหนิงสั่น
กระตุกขึ้นมาในทันที
" โห..ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีอารมณ์จากการดูการแสดงการร่วมรัก
ระหว่างข้ากับนายหญิงของเจ้า ? ไหนมาให้ข้าดูของเจ้าหน่อยสิ "
" มะ..ไม่ได้...อย่า...อิย๊าาาาา ~~~~~ "
ไม่ทันที่จูเวยเหลียนนางจะได้ตอบสนองได้ทันมืออีกข้างของ
หลินหมิงได้ล่วงเข้ามาผ่านเสื้อผ้าของนางอย่างรวดเร็วราวกับว่า
ในตอนนี้นางไม่ได้มีอาภรณใดๆปิดบัง สัมผัสที่ร่องสวาทของนางนั้น
ตื่นตัวขึ้นมาไม่ต่างจากหานจิงหนิงน้ารักใสๆของพวกนางทั้งสอง
ค่อยๆพรั่งพรู่ออกมาเรื่อยๆ
แม้ว่าพวกนางจะรู้ดีว่าเรื่องอย่างนี้มันไม่เป็นการสมควรแต่จะ
ทาอย่างไรได้ในเมื่อตอนนี้เมื่อพวกนางอยู่ต่อนางหลินหมิงนั้นราว
กับว่าเรี่ยวแรงของพวกนางทั้งสองนั้นถูกเสกให้อันตฐานหายไปใน
บัดดล
" ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทั้งสองคงอยากให้ข้าปรนนิบัติพวกเจา
ด้วย แน่นอนว่าข้านั้นสามารถทาให้พวกเจ้ามีความสุขเช่นนาย
หญิงของเจ้า ขอเพียงแค่นับแต่นี้ไปให้พวกเจ้าถือว่าตัวข้าเป็นนาย
ของพวกเจ้าแล้วข้าจะมอบความสุขให้พวกเจ้าบ่อยๆ "
" มะ..ไม่...อร้างงงงงงง ~~~~~~ "
" เจ้าว่าไงนะข้าฟังไม่ค่อยถนัดเลย "
หานจิงหนิงนั้นนางพยายามกล่าวฝืนความสุขที่เกิดขึ้นที่ร่อง
สวาทของนางแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็กลับใช้นิ้วของเขาแทงทวน
ร่องสวาทของนางเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม แตกต่างจากเพื่อนสาวของ
นางจูเวยเหลียนนั้นนางมีท่าทีตอบสนองในท่าทีดีกบั คาพูดของ
หลินหมิง สาหรับนางแล้วการขัดขืนหลินหมิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนักใน
ความคิดของนางไม่ว่าจะในเรื่องของความแข็งแกร่งนางล้วน
แล้วแต่ไม่มีทางเอาชนะหลินหมิงได้ดังนั้นนางเพียงได้แต่ทาตามคา
กล่าวของหลินหมิงไปไม่เช่นนั้นนาอาจถูกจู่โจมอย่างรุนแรงเหมือน
นายหญิง
" ดะ...ได้โปรด..นายท่านข้ายินยอมท่านทุกอย่าง "
" นี้เจ้า ! "
" ตัดสินใจได้ดีดังนั้นในตอนนี้ข้าคงต้องทาโทษเพื่อนของเจ้าเสีย
หน่อย..อ่อแต่หากเจ้าปราถนาจะให้ข้าปรนนิบัติเจ้าก่อนก็ได้นะถือ
ว่าเป็นรางวัลสาหรับการตัดสินใจของเจ้า "
" เอ่อ..มะ..ไม่ดกี ว่าเจ้าคะ "
หลินหมิงไม่ได้สนใจกับท่าทีของจูเวยเหลียนมากนักเขาหันมา
สบสายตากับหานจิงหนิงที่มองไปที่เพื่อนสาวของนางด้วยท่าท่า
โกรธกริ้ว หลินหมิงทาการดึงร่างของนางขึ้นมาพร้อมกับดันให้นาง
หันหลังให้เขาโดยที่ร่างกายของนางนั้นแนบชิดติดกาแพง ใน
ท่วงท่านี้หลินหมิงได้ทาการส่งทวนมังกรของเขาเข้าสู่ร่องสวาทของ
นางจากทางด้านเข้าไปอย่างสุดลาโดยที่หานจิงหนิงนั้นนางไม่
สามารถขัดขืนได้เลยแม้แต่น้อย
" อ๊าาาาาาาา มะ มันลึกกกเกินไป ฉีกกกหมดแล้วว ดะ ได้
โปรดดด "
แม้ว่าหลินหมิงจะลงมือเบากว่าในตอนที่เขาเข้าจู่โจมเหม่ยฮวา
แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงครางออกมาอย่างสุดเสียง พร้อมกับ
พยายามออกแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากการโจมตีนี้ แต่ดูเหมือนว่าสิ่ง
เหล่านั้นจะเป็นการกระทาที่เปล่าประโยชน์ หลินหมิงเมื่อสอดทวน
มังกรของเขาเข้าไปในร่องสวาทของนางนั้นก็พบว่ามันมีขนาด
คับแคบอยู่พอสมควรอาจเป็นไปได้ว่านางนั้นไม่ได้ผ่านผู้ชายมามาก
นักแม้ว่าความบริสุทธ์ของนางจะถูกช่วงชิงไปแล้ว
หลินหมิงดึงร่างของจูเวยเหลียนเข้ากอดพร้อมกับประกบปาก
นางอย่างดูดดื่ม แม้ว่าเขาจะปลดปล่อยน้ารักไปเป็นจานวนมากใน
วันนี้แต่เขายัคงรู้สึกได้ว่าเขาสามารถกระทากับพวกนางไปได้อย่าง
ไม่หยุดหย่อน จูเวยเหลียนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็พลันถูกหลินหมิง
ประกบปากไปนั้นแม้ว่าในตอนแรกนางจะพยายามขัดขืนแต่เมื่อ
ผ่านไปสักพักร่างกายของนางก็พลันไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืนนางจึงทา
ได้เพียงปล่อยให้ลิ้นของหลินหมิงเข้าพัวพันภายในปากของนาง
อย่างหื่นกระหาย
เช่นเดียวกันกับหานจิงหนิงในตอนนี้นางไม่ได้มีทที ่าขัดขืนต่อ
หลินหมิงอีกต่อไป ทวนมังกรที่ยังคงอัดกระแทกร่องสวาทของนาง
ส่งให้ร่างของนางแนบชิดติดกาแพงนั้นมอบความรู้สึกเปี่ยมสุขแบบ
ที่นางไม่เคยเป็นมาก่อน
" ข้า......จะเสร็จแล้ววววเจ้าคะะะ อร้างงงงงงงงงงงงงงงง "
น้ารักของหลินหมิงจานวนมากได้เข้าสู่ภายในร่างกายของนาง
อย่างท่วนถ้นหลินหมิงดึงทวนมังกรของเขาออกมาส่งผลให้ร่างกาย
ของจิงหนิงที่ไร้ซึ่งสิง่ ค้ายันนั่งฟุบลงที่พื้นด้วยความหมดแรง
" ทาความสะอาดมันซะ "
" จะ..เจ้าคะนายท่าน "
จิงหนิงนางไม่กล้ากล่าวต่อต้านใดๆกับหลินหมิงอีกต่อไปเมื่อนึก
ถึงภาพนายหญิงของพวกนางแล้วนั้น สภาพของนางเช่นนี้เรียกได้
ว่าดูดีกว่านายหญิงของนางแบบเทียบไม่ติด มือทัง้ สองข้างของนาง
ที่กาลังจะเอื้อมมือไปเพื่อสัมผัสชะล้างคราบน้ารักที่เปราะเปรื้อนบ
นทวนมังกรของหลินหมิงนั้นถูกหลินหมิงกล่าวขัดขึ้นมาเสียก่อน
" เดียว..ใช้ปากของเจ้า "
นางรู้สึกสับสนในคากล่าวของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้
นางไม่สามารถทาสิ่งใดได้นอกจากทาตามคาสั่งเท่านั้น หลินหมิ
งหันกลับไปนั่งลงที่เตียงโดยยังคังประกบปากอย่างดื่มด่ากับจูเวย
เหลียนต่อไปและให้จิงหนิงนั้นใช้ปากทาความสะอาดทวนมังกรของ
เขา
จิงหนิงนั้นนางจะริมฝีปากแตะไปที่คราบน้ารักทีละน้อยด้วย
ความเอียงอาย หลินหมิงจึงใช้มือข้างหนึ่งของเขากดศรีษะของนาง
ส่งผลให้ทวนมังกรเข้าไปเต็มปากของนางจนทะลุลงไปถึงลาคอ
" อื้ออออออออ..~~~~~~~~~~ "
หลินหมิงจับศรีษะของนางค้างไว้สักพักจากนั้นจึงปล่อยออก จิง
หนิงสาลักออกมาอย่างรุนแรงแต่ถึงอย่างนั้นรสชาติของน้ารักของ
หลินหมิงนั้นเป็นสิ่งที่นางไม่สามารถทาใจให้ลืมได้ นางพยายามจะ
เข้าไปทาความสะอาดมันอีกครังเพียงแต่ในตอนนี้หลินหมิงได้ใช้
ทวนมังกรของเขาแทงกระแทกเข้าไปใส่เพื่อนสาวของนางเข้าไป
เสียแล้ว
ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยามในตอนนี้หลินหมิงกาลังนอนพักผ่อนอย่าง
สบายใจหลักจากที่เขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปเป็นจานวนมาก โดย
ที่มีร่างของหญิงสาวสองคนกาลังใช้ปากทาความสะอาดทวนมังกร
ของเขาอยู่ซึ่งพวกนางก็คือหญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวานั้นเอง
หลินหมิงใช้เวลาหนึ่งชั่วยามที่ผ่านมาในการร่วมรักอย่างหนักหน่วง
กับพวกนางทั้งสองจนทาให้พวกนางทั้งสองนี้กลายเป็นของเขาโดย
สมบูรณ์ พวกนางยินดีทาความสะอาดทวนมังกรให้แก่เขาอย่างว่า
ง่ายอาจกล่าวได้ว่าเป็นทางฝ่ายพวกนางที่ขอร้องเขาเสียมากกว่า

ตอนที่ 46
หลินหมิงกลับออกมาจากหอนางโลมของเหลียนเย่อิ๋งในเวลา
เกือบเช้าโดยที่เข้าไปลืมทีจ่ ะให้ของขวัญแก่เหม่ยฮวาอีกสักครั้งก่อน
จากลาในตอนที่นางตื่นขึ้นมา โดยนับต่อจากนี้นนั้ เหม่ยฮวานั้นอาจ
กล่าวได้ว่านางได้กลายเป็นเครื่องบาเร่อส่วนตัวของเขาโดยสมบูรณ์
ไปเสียแล้ว หอนางโลมของเหลียนเย่อิ๋งนั้นจะเป็นสถานที่ที่เขานัด
เจอกับนาง แต่มันจะไม่ใช่เร็วๆนี้อย่างแน่นอน
เพราะแม้ว่าในตอนแรกการทรมานนางด้วยการข่มขืนเหม่ยฮวา
นั้นอาจเป็นเรื่องที่ทาให้เขาพึงพอใจเมื่อได้เห็นใบหน้าของนาง
เพียงแต่ในตอนนี้ที่จิตใจของนางเปลี่ยนไปการที่ทรมานให้นางไม่
สามารถลิ้มรสความสุขจากการร่วมรักกับบุรุษนั้นเป็นอะไรที่
น่าสนใจยิ่งกว่า
หลินหมิงกลับมาพร้อมกับทาสมาธิเพื่อปรับพลังลมปราณใน
ร่างกาย หลังจากที่เข้าได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวไปเป็นจานวน
มากในคาคืนนี้มันทาให้ในที่สุดระดับพลังปราณของเขาในตอนนี้ก็
ก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดขั้นที่ 7 ปราณเริ่มต้น หลินหมิงรู้ดีว่ายิ่งเมื่อเขา
แข็งแกร่งขึ้นมาเพียงใดการที่เขาจะสามารถพัฒนาไปได้ต่อนั้นยิง่
ยากยิ่งขึ้น
ในค่าคืนนี้ไม่เพียงเขาได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวไปถึงสี่คนแต่
นั้นเพียงพอสาหรับการที่เขาสามารถพัฒนาตนจากขั้นที่ 6 มาเป็น
ขั้น 7 ปราณเริ่มต้นเพียงเท่านั้นหลินหมิงไม่อยากคิดถึงอุปสรรคใน
ตอนที่เขาเข้าสู่ลมปราณระดับก่อเกิดเมื่อนั้นเขาคงบ่มเพาะพลังได้
ยากยิ่งกว่าในตอนนี้แบบเทียบไม่ติด
เมื่อในตอนนี้หลินหมิงมีพลังจุดสูงสุดขั้นที่ 7 ปราณเริ่มต้นแล้ว
นั้นมันทาให้เขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการรับมือกับผู้ที่มีพลัง
ระดับปราณก่อเกิด และการประลองในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้มันคง
ไม่อาจนับได้ว่าเป็นปัญหาสาหรับหลินหมิงอีกต่อไป หลังจากใช้
เวลาพักใหญ่ในการปรับพลังลมปราณในร่างกายหลินหมิงจึงนา
ตารา [ ก้าววายุ ] ที่ได้มาจากอาจารย์สาวสวยของเขานามาศึกษา
ต่อแม้ว่าหลินหมิงจะทราบดีว่าการทาความเข้าใจเกี่ยวตาราทักษะ
พวกนี้นั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งแต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงผิดหวังไม่
น้อยที่ไม่สามารถพบความก้าวหน้าใดๆในทักษะนี้
หลินหมิงใช้เวลาศึกษาจนกระทั่งถึงในช่วงบ่ายหลินหมิงจึงได้ทา
การไปหาอาจารย์สาวสวยของเขาเพราะดูเหมือนว่านางจะต้องการ
ทราบความก้าวหน้าของเขาในทุกๆวัน เมื่อมาถึงภายในห้องทางาน
ห้องนางหลินหมิงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อดูดเอากาอาศสดชื่น
ที่อบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของหญิงสาว ราวกับว่ากลิ่นหอมนี้มนั
สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนของเขาให้หาย
เป็นปลิดทิ้ง
" ศิษย์มาแล้วขอรับท่านอาจารย์ "
" อ่อ..อืมมานี้สิ...ไม่เลวดูเหมือนว่าเจ้าจะพัฒนาขึ้นมามาก
ทีเดียวถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีใดก็ตาม...แล้วข้ามีเรื่องที่ต้อง
บอกให้แก่เจ้าด้วย "
" ในวันพรุ่งนี้เจ้าจะต้องออกไปทาภารกิจ ! "
สาหรับเหล่าขุมอานาจดั่งเช่นสมาคมนักปรุงยาหรือบรรดา
ตระกูลใหญ่ต่างๆแล้วนั้นรายได้ส่วนหนึ่งของพวกเขานั้นย่อมได้มา
จากภารกิจที่ถูกว่าจ้าง โดยภารกิจเหล่านี้แต่ละฝ่ายนั้นมีการจัดแบ่ง
ที่แตกต่างกันออกไปโดยสมาคมนักปรุงยานั้นศิษย์ที่เป็นศิษย์ส่วนตัว
ของผู้อาวุโสนั้นภารกิจจะถูกคัดเลือกโดยอาจารย์ของพวกเขาเองไม่
เพียงแต่นี้จะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับสมาคมมันยังเป็นหนทางใน
การพัฒนาตนให้กับศิษย์ของพวกเขาอีกด้วย
แต่สาหรับศิษย์ที่ไม่ใช่ศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสแล้วนั้นพวกเขา
จะต้องเลือกภารกิจกันเอาเองโดยที่ภารกิจทั้งหลายนั้นจะถูกจากัด
ขีดขั้นต่าของระดับพลังที่ผู้รับภารกิจจะต้องรวมถึงคุณสมบัติอื่นๆที่
ผู้ว่าจ้างต้องการ รางวัลที่ได้จากภารกิจนั้นจากหนึ่งในสามจะต้อง
เป็นของศิษย์อีกทั้งยังได้คะแนนไปแลกวัตถุดิบในการบ่มเพาะหรือ
แม้กระทั่งยาเพียงแต่ว่าภารกิจเหล่านี้นั้นถูกจากัดให้ทาเอาเพียงได้
แค่คนละ 1 เดือนต่อครั้งเท่านั้นยิ่งภารกิจที่มีความอันตรายมากผล
ตอบรับก็ยิ่งสูงมากเช่นเดียวกันและทุกคนต้องทาภารกิจต่อปีหนึ่งไม่
น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปีไม่เช่นนั้นพวกเขาจะถูกไล่ออก
แต่สาหรับศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสนั้นพวกเขาไม่ได้ถูกข้อจากัด
ในเรื่องการปฎิบัติภารกิจ ภารกิจเหล่านี้นอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน
บททดสอบที่เหล่าผู้อาวุโสจงใจมอบให้แก่พวกเขาเพื่อทดสอบ
ความสามารถดังนั้นแล้วพวกเขามีโอกาสที่จะได้ทาภารกิจมาก หรือ
น้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้อาวุโสและพวกเขาไม่ได้มีแต้มแลกดังเช่นศิษย์
อื่นๆเพราะหากเมื่อพวกเขาปฎิบัติภารกิจสาเร็จคงไม่ต้องพูดถึงว่า
ของรางวัลที่เขาได้จากผู้อาวุโสนั้นจะมากเพียงใดดังนั้นแล้วสาหรับ
แต้มแลกนั้นมันนับได้ว่าเป็นสิ่งน้อยนิดจนไม่อาจนามาเทียบกันได้
จูหนิงเอ๋อส่งม้วนกระดาษที่เขียนเนื้อหาภารกิจส่งมาให้แก่เขา
หลินหมิงเปิดอ่านทันทีด้วยความตื่นเต้น เนื้อหาของภารกิจนั้น
เกี่ยวกับการตรวจสอบบริเวณชายแดนเมืองที่ดูเหมือนว่าจะมีกอง
กาลังแปลกๆเกิดขึ้นเข้าโจมตีหมู่บ้านต่างๆ หากดูตามเนื้อหาแล้ว
นั้นด้วยพลังของเขาในตอนนี้มันอาจกล่าวได้ว่าไม่เหมาะสม เพราะ
เนื่องด้วยที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นที่ชายแดนนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้น
จากกลุ่มโจรที่มีอานาจหรือไม่ก็กองกาลังจากอาณาจักรอื่นที่เข้ามา
ก่อกวนซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วสาหรับผู้ที่พลังขั้น 7 ปราณเริ่มต้น
นั้นนับว่าเป็นอะไรที่เกิดตัวเกิดไป
" ไม่ต้องเป็นห่วงภารกิจนี้ข้าไม่ได้ส่งเจ้าไปเพียงลาพัง...เข้ามา
"
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างหญิงสาวคนหนึ่งปรากฎตัว
ขึ้นมา มันทาให้หลินหมิงถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะผิวพรรณของ
หญิงสาวที่เรียบเนียนขาวผุดพ่องดังเช่นหิมะขาว ดูหนุ่มละมุนราว
กับปุ่ยเมฆสัดส่วนโค้งว้าวตามร่างกายของนางที่ดแู ล้วช่างยั่วย้วน
อารมณ์ของเหล่านั้นและที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือใบหน้าที่งดงามที่
เทียบเท่ากับเทพธิดาทั้งสีท่ ี่อยู่ในใจเขาตอนนี้ !
" คาระวะท่านประมุข "
หญิงสาวผู้มาใหม่เมื่อหลินหมิงดูจากภายนอกแล้วนั้นอายุของ
นางนั้นอาจประมาณเพียง 20 ต้นๆเพียงเท่านั้น แต่หลินหมิงไม่
สามารถตรวจสอบพลังของนางได้เป็นไปได้ว่าอย่างน้อยแม่นางผู้
งดงามผู้นี้จะต้องมีพลังไม่น้อยกว่าขั้นก่อเกิดเข้าไปแล้ว
" ฮั่วหมิง..นี้ หลัวฉิงเชี่ยน "
' หลัว...ฉิงเชี่ยน ? '
แม้ว่าหลินหมิงจะเพิ่งเข้าสมาคมนักปรุงยาได้ไม่นานแต่มันไม่มี
ทางที่เขาจะไม่เคยได้ยินชื่อของ หลัวฉิงเชี่ยนเป็นแน่หากผู้คนกล่าว
ว่าหลินเสี่ยวต้านั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์ที่อายุมไม่
เกิน 18 ปี หลัวฉิงเชี่ยนนี้นางอาจกล่าวได้ว่าเป็นศิษย์ที่มีความ
อัจฉริยะมากที่สุดในสมาคม
ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้มีผู้อาวุโสใดๆรับเป็นศิษย์ส่วนตัวแต่นางถือ
ว่าเป็นศิษย์สายนอกจานวนน้อยนิดของอาจารย์สาวสวยของเขา
ด้วยวัยของนางที่มีอายุเพียง 20 ปีแต่นางกลับมีระดับพลังถึงขั้น 3
ปราณก่อเกิดหากเปรียบเทียบกับหลินเสี่ยวต้าแล้วนั้นตัวตนของเขา
ยังคงไม่สามารถนามาเปรียบกับหญิงสาวนางนี้ได้เพราะถึงแม้ว่า
หากหลินเสี่ยวอายุครบ 20 ปีแต่มันคงไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นจนถึง
ระดับเดียวกันกับนางในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน
กริยาท่าทางของหลัวฉิงเชี่ยนนั้นเต็มไปด้วยความเคารพในตัว
อาจารย์สาวสวยของเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาจารย์สาวสวยของ
เขานั้นมีส่วนในการพัฒนาอันน่ากลัวของหญิงสาวผู้นี้เนื่องด้วยแต่
เดิมแล้วนั้นตระกูลหลัวยังไม่อาจนับเป็นตระกูลใหญ่เช่นเดียวกับ
ตระกูลหลินและตระกูลหลิว แต่ถงึ อย่างนั้นนางกลับมีความสามารถ
ที่ล้าลึกเสียยิ่งกว่ารุ่นเยาว์จากบรรดาตระกูลใหญ่
" เจ้าคงทราบเกี่ยวกับภารกิจที่ข้าได้ส่งคนไปแจ้งแล้วสินะ ? "
" เจ้าคะ "
" งั้นก็ดีดงั นั้นแล้วข้าจะอธิบายภารกิจนี้ให้พวกเจ้าฟังอีกครั้ง...
หน้าที่ของพวกเจ้าทั้งสองมีเพียงเข้าตรวจสอบความวุ่นวายที่
เกิดขึ้นบริเวณชายแดนเมืองหากพบเห็นว่าปัญหาเหล่านั้นไม่เกินมือ
ของพวกเจ้าข้ายินดีให้พวกเจ้าจัดการได้โดยในทันที...แต่หาก
ปัญหาที่พวกเจ้าพบนั้นมีความอันตรายต่อชีวิตพวกเจ้าก็จงรีบ
กลับมารายงานให้กับข้า "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนกล่าวพยักหน้ารับคาจูหนิงเอ๋อร์อย่าง
ว่าง่ายด้วยการที่มีผู้ที่พลังปราณขั้น 3 ปราณก่อเกิดนั้นอาจเรียกได้
ว่าความปลอดภัยของพวกเขาอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่าง
ใดเพราะหากพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งเข้ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่พวก
เขาจะทาการหลบหนี
" อีกสามวันจะถึงวันที่พวกเจ้าจะต้องออกเดินทางดังนั้นให้พวก
เจ้าไปเตรียมให้เรียบร้อย "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนกล่าวพูดคุยสอบถามเกีย่ วกับภารกิจ
อีกเพียงเล็กน้อยจึงทาการออกมาจากห้องของนาง ด้วยพลังของ
หลินหมิงในตอนนี้เขามีความมั่นใจอยู่หลายส่วนในการที่จะทา
ภารกิจในครั้งนี้ หลัวฉิงเชี่ยนหันมามองน้องหลินหมิงในตอนที่พวก
เขาได้ออกมาจากห้องของอาจารย์สาวสวย
" ศิษย์น้องนี้คงเป็นภารกิจแรกของเจ้าดังนั้นหากเจ้ามีปัญหาอัน
ใดสามารถปรึกษากับข้าได้ "
แน่นอนว่าหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมีความรู้สึกในแง่ดีต่อหลินหมิง
เพราะว่าเนื่องจากนางและหลินหมิงนั้นล้วนมีฐานะแต่เดิมนั้นไม่ดี
เทียบเท่ากับรุ่นเยาว์จากบรรดาตระกูลใหญ่โดยเฉพาะกับหลินหมิง
นางเข้าใจดีว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คงต้องพบเจอกับความลาบากมากกว่า
นาง
" ขอบน้าใจศิษย์พี่ "

แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงจะรู้สึกเศร้าใจที่จะต้องออกไปทา
ภารกิจในที่ห่างไกลมันทาให้เขาไม่สามารถพบเจอหญิงสาวของเขา
ไปเป็นเวลานานแต่ถึงอย่างนั้นอย่างน้อยเขาก็ยังได้พบเจอหญิงงาม
เช่นหลัวฉิงเชี่ยนในแต่ละวันของการทาภารกิจนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่
ไม่เลวนัก

หลัวฉิงเชี่ยน

ตอนที่ 47
หลินหมิงได้รับคาแนะนาต่างๆในการเตรียมตัวจากศิษย์พี่สาว
สวยของเขาถึงแม้ว่านางจะมีอายุและความแข็งแกร่งที่มากกว่าเขา
แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ให้ความรู้สึกกดดันกับตัวเขาเลยแม้แต่
น้อยกลับกันเมื่อหลินหมิงอยู่ใกล้ๆนางตัวเขากลับรูส้ ึกผ่อนคลายเสีย
มากกว่า
จวบจนตอนเย็นเมื่อหลินหมิงตระเตรียมสัมภาระส่วนหนึ่งเสร็จ
เรียบร้อยเขาจึงได้เดินทางไปยังตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งเพื่อไปหา
หลิวฉวนยูร์ ด้วยระยะห่างจากสองตานักที่ไม่ห่างกันมากนักทาให้
หลินหมิงใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึง หลินหมิงนึกสงสัยเล็กน้อยว่า
แม่เทพธิดาน้อยของเขานั้นจะได้รับภารกิจเช่นเดียวกับเขาด้วย
หรือไม่ถึงอย่างไรเสียนางก็เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสซูหลิ่งด้วย
เช่นกัน
เมื่อหลินหมิงมาถึงที่ตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งนั้นเขาก็แปลกใจ
เล็กน้อยเมือบรรดาคนรับใช้ต่างๆไม่ได้มีใครเข้ามาสอบถามในการ
มาเยือนของเขาในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อยราวกับว่าพวกเขาถูกออก
คาสั่งเอาไว้ หลินหมิงไม่สนใจกับความผิดปกติเล็กน้อยนี้เขาเดินเข้า
ไปยังสวนหลังตานักที่ที่หลิวฉวนยูร์ชอบอาศัยอยู่
หลินหมิงเดินเข้ามาภายในสวนจนกระทั่งเจอร่างของหญิงสาวที่
เขาตามหาอันที่จริงแล้วสวนแห่งนี้นั้นถูกสงวนเอาไว้โดยผู้อาวุโสซู
หลิ่งไม่ให้ผู้ใดได้เข้ามายกเว้นเพียงศิษย์ของนาง ถึงอย่างนั้นหลินห
มิงก็เคยได้รับการสอนจากนางมาช่วงเวลาหนึ่งเช่นเดียวกันนั้นอาจ
ทาให้บรรดาเหล่าข้ารับใช้ไม่ได้ตรงเข้าห้ามหลินหมิงก็เป็นได้
หลินหมิงเดินตรงไปหาหลิวฉวนยูร์ด้วยย่างก้าวทีแ่ ผ่วเบาหาก
เป็นเมื่อก่อนมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเคลื่อนไหวเช่นนี้ นี้ต้อง
ขอบคุณอาจารย์สาวสวยของเขาที่มอบทักษะ [ ก้าววายุ ] มาให้
เขาถึงแม้ว่าหลินหมิงจะทาความเข้าใจมันได้เพียงเล็กน้อยแต่เห็นได้
ชัดว่ามันก็มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งไม่ใช่น้อย
" ว้ายย "
หลินหมิงเข้าสวมกอดของหลิวฉวนยูร์จากทางด้านหลังของนาง
ในตอนนี้เนื่องจากหลินหมิงพอจะทราบความรู้สึกของแม่เทพธิดา
สาวผู้นี้ที่มีต่อเขาแล้วเขาจึงกล้ากระทาเช่นนี้ หลิวฉวนยูร์ร้อง
ออกมาอย่างตกใจพร้อมกับแสดงท่าทางขัดขืนออกมาแต่เมื่อนาง
เหลือบไปมองเห็นเป็นร่างของหลินหมิงนั้นเรี่ยวแรงขัดขืนของนางก็
ค่อยๆน้อยลงไป
" เจ้าตัวร้ายเจ้ากล้าทาเช่นนี้เชียวรึ "
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับออกแรงหันตัวไปเผชิญหน้ากับ
หลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงกอดนางไม่ปล่อยให้หลุด
ออกจากอ้อมแขนของเขา
" ข้าแทบนอนไม่หลับเมื่อคืนนี้นั้นย่อมเป็นเพราะความผิดของ
เจ้าดังนั้นแล้วข้าต้องการของขวัญปลอบประโลมเสียหน่อย "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับยืน่ ริมฝีปากเข้าใกล้หลิวฉวนยูร์แต่ถึง
อย่างนั้นเขาก็ถูกนางหยุดเอาไว้เสียก่อน แน่นอนว่าหลิวฉวนยูร์เอง
นั้นในคืนที่ผ่านมานางแทบจะนอนไม่หลับเช่นเดียวกันนางแทบไม่
อยากคิดว่าเมื่อนางหลับลงไปแล้วนางตื่นขึ้นมาหากเรื่องราว
ทั้งหมดเป็นเพียงความฝันนั้นคงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากสาหรับนาง
แต่อย่างไรเสียการที่หลินหมิงมาหานางในตอนนี้นั้นเท่ากับเป็นการ
ตอกย้าแล้วว่านางไม่ได้ฝนั ไปจริงๆ
" หืม...ข้ารู้หรอกนะว่าเมื่อคืนเจ้าไปทาสิ่งใดมาดังนั้นแล้วเจ้ายัง
กล้ากล่าวขอของขวัญจากข้าทั้งที่เจ้ารู้ว่าเจ้าไปทาสิ่งใดมา "
หลินหมิงหลั่งเหงื่อออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคากล่าวของหลิวฉ
วนยูร์ดูเหมือนว่าแม่เทพธิดาสาวสวยผู้นี้จะมีความสามารถที่รอบ
ด้านเสียจริง หลินหมิงทาการปล่อยนางออกจากอ้อมแขนเปลี่ยนไป
เป็นการจับมือนางอย่างอบอุ่นแทน หลินหมิงกล่าวเรื่องที่เขาต้องไป
ทาภารกิจให้กับนางฟังในขณะที่ทั้งสองเดินจับมือคุยกันอย่างอบอุ่น
หลิวฉวนยูร์นางมีท่าทีเสียใจเล็กน้อยเมื่อนางรู้ว่าหลินหมิงต้อง
ไปทาภารกิจ ในการทาภารกิจในที่ห่างไกลนั้นย่อมใช้เวลาไปไม่ใช่
น้อยดังนั้นแล้วนั้นย่อมหมายความว่านางจะไม่สามารถเห็นหน้า
หลินหมิงไปหลายวันเมื่อคิดถึงมันก็ทาให้ใจของนางสั่นไหว
" เจ้าตัวร้ายเจ้าต้องรีบกลับมานะ "
หลิวฉวนยูร์นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงแงงอนแม้ว่านางจะไม่
ต้องการให้หลินหมิงจากไปแต่นางจะทาอย่างไรได้ หลินหมิงใช้เวลา
เปี่ยมสุขกับหลิวฉวนยูร์อยู่พักใหญ่การได้พูดคุยกับแม่เทพธิดาสาว
สวยผู้นี้ช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าการที่เขาได้ร่วมรัก
กับหญิงสาวเมื่อคืนนี้เสียอีก
หลังจากที่ได้กล่าวพูดคุยกับหลิวฉวนยูร์อยู่พักใหญ่ทาให้เขาได้รู้
ว่านางไม่ได้มภี ารกิจที่ต้องไปทาในที่ห่างไกลเช่นเดียวกันกับเขา
อาจเป็นไปได้ว่าเรื่องของภารกิจในที่ห่างไกลนั้นทางตระกูลของนาง
คงไม่ยอมส่งตัวนางให้ออกไปทาภารกิจเหล่านั้นตามความคิดของ
หลินหมิง หลินหมิงกลับออกมาจากตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งตัว
ความรู้สึกชุมชื่นหัวใจมันคงไม่ดีมากนักหากเขาจะอยู่ที่นั้นนานมาก
เกินไป
สามวันผ่านไปในที่สุดก็ถงึ กาหนดการของวันที่เขาต้องไปทา
ภารกิจหลินหมิงยืนอยู่หน้าตานักของอาจารย์สาวสวยของเขาโดย
ข้างข้างเขามีร่างของหลิวฉิงเชี่ยน การเดินทางในครั้งนี้จะเป็นการ
เดินทางโดยใช้รถม้าด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากชายแดนนั้นจึง
เป็นเหตุว่าพวกเขาจะต้องใช้รถม้าในการเดินทางครั้งนี้
พวกเขาอาจต้องใช้เวลาราว 3 วันในการเดินทางไปยังชายแดน
อีกทั้งยังต้องสารวจพื้นที่โดยรอบอีกด้วย ท่าทางของหลิวฉิงเชี่ยน
นั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจมันเห็นได้ชัดว่าแม่สาวสวยผู้นี้มี
ประสบการณ์ในการทาภารกิจมามากพอสมควรเพราะว่านางไม่ได้ที
ท่าตื่นเต้นหรือตื่นตระหนกเหมือนตัวของหลินหมิง
หลังจากกล่าวลาอาจารย์สาวสวยของเขาเป็นที่เรียบพวกเขาก็
ได้ขึ้นรถม้าพร้อมกับออกเดินทางในทันที โดยในส่วนของคนขับรถ
ม้านั้นเป็นคนจากสมาคมที่ทาหน้าที่นี้ ภายในรถม้านั้นในตอนแรก
หลินหมิงคิดว่าเขาอาจต้องเผชิญหน้ากับความอึดอัดเนื่องจาก
ภายในนั้นจะประกอบไปด้วยเขาและหลัวฉิงเชี่ยนเพียงเท่านั้น
เพียงแต่ว่ามันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่หญิงสาวผู้งดงามผู้นี้กลับมีอัธ
ยาสัยที่ดีเกินกว่าที่หลินหมิงคิดเอาไว้นางเป็นกล่าวพูดคุยกับหลินห
มิงอย่างสบายเพื่อช่วยสลายบรรยากาศอึดอัดเหล่านั้น นางได้
สอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาและการสอนของอาจารย์พร้อมทั้ง
แลกเปลี่ยนความรู้กันเล็กน้อย
" ไม่น่าเชื่อว่าศิษย์น้องอายุเพียงเท่านี้กลับมีความสามารถทั้งใน
ฐานะนักปรุงยาและนักสูอ้ ีกด้วย "
เมื่อหลัวฉิงเชี่ยนนางได้ฟงั เรื่องราวของหลินหมิงนางก็อดตะลึง
ในความสามารถของเด็กหนุ่มผู้นี้ไปไม่ได้ นางย่อมเป็นหนึ่งที่รู้ดีว่า
การฝึกฝนทักษะการปรุงยาโดยปราศจากผู้สนับสนุนนั้นเป็นเรื่องที่
ยากมากดังนั้นแล้วบรรดารุ่นเยาว์ที่มีฐานะปานกลางลงมาจึงไม่
ค่อยมีสิทธิ์ในการเรียนรู้ทักษะเหล่านี้เท่าใดนัก
หลินหมิงเองก็รู้สึกแปลกใจในความแข็งแกร่งของหญิงสาว
เช่นเดียวกันจากการพูดคุยกับนางทาให้เขารู้ว่าตระกูลหลัวนั้นเป็น
เพียงตระกูลพ่อค้าที่มีฐานะระดับปานกลางเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่าง
นั้นนางก็ยังสามารถฝึกฝนตนจนเป็นหน้าเป็นตาของคนในตระกูล
แน่นอนว่าแม้นางจะไม่ได้เป็นหนึ่งในศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสแต่
ตาแหน่งศิษย์สายของประมุขสมาคมนั้นก็อาจนับได้ว่าเป็นตาแหน่ง
ที่สูงพอสมควรอีกทั้งการที่นางได้รับคากล่าวว่าเป็นศิษย์ที่มี
พรสวรรค์มากที่สุดในสมาคมนั้นเป็นเรื่องที่ทาให้ชื่อเสียงของนาง
มากยิ่งขึ้นไปอีก

ตอนที่ 48
หวิวทิวทัศน์ที่แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆในขณะที่รถม้าได้เคลื่อนผ่าน
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนต่างใช้เวลาพูดคุยและเสพสุขกับ
ทัศนียภาพนี้อย่างเพลิดเพลิน จนในที่สุดรถม้าของพวกก็หยุดรถที่
บริเวณแหล่งชุมชนแห่งหนึ่งแม้ว่าตามเป้าหมายของภารกิจของ
พวกเขานั้นจะเป็นการสารวจชายแดนที่ไกลกว่านี้อีกมาก
แต่ถึงอย่างนั้นการสารวจและสอบถามข้อมูลจากบริเวณ
โดยรอบนั้นก็เป็นสิ่งที่อาจทาให้ภารกิจของพวกเขาสะดวกมาก
ยิ่งขึ้น แหล่งชุมชนแห่งนี้นั้นเมื่อหลินหมิงมองออกไปเขาสามารถ
พบเห็นเพียงบ้านจานวน 20-30 เรือนประมาณนั้นและมันยังไม่
สามารถเทียบได้กับบ้านที่มีขนาดเล็กในเมืองฟานชูเลยแม้แต่น้อย
ผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ต่างมองมาที่รถม้าทีม่ ายังหมูบ่ ้านของพวก
เขาด้วยความสนใจ จากการแสดงออกพวกเขาดูเหมือนว่าหมู่บ้าน
แห่งนี้นั้นจะไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าใดนักแม้ว่ามันจะอยู่ห่างจากตัว
เมืองไม่ใกล้มากเท่าใดนัก หลินหมิงและหลัวฉิงเชีย่ นก้าวลงมาจาก
รถม้า หลังจากที่พวกเขาได้ปรึกษาเกี่ยวกับภารกิจในครั้งนี้พวกเขา
ตัดสินใจที่จะพักค้างคืนที่แห่งนี้ก่อนเพื่อพยายาามรวบรวมข้อมูล
เมื่อหลินหมิงมองสารวจไปบริเวณรอบเขาก็พบกับผู้คนใน
หมู่บ้านจานวนไม่น้อย แต่พวกเขาเหล่านี้ต่างล้วนอ่อนแอ่ด้วยกัน
ทั้งสิ้นหลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าหากพวกเขาต้องประสบพบ
เจอกับสัตว์อสูรขึ้นมาแล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร ด้วยนี้
เป็นครั้งแรกที่หลินหมิงได้ออกมายังภายนอกเมือง
หลินหมิงไม่เคยประสบพบเจอกับชาวบ้านตามนอกเมืองมาก่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยได้ยินมาบ้างว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีการอยู่อาศัยที่
ค่อนข้างลาบากแต่นี้มันก็เกินกว่าที่หลินหมิงได้คาดคิดเอาไว้ เพียง
ไม่นานก็มีร่างของชายชราคนหนึ่งเดินมาทางของหลินหมิงซึ่งอาจดู
เหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ได้รับความเคารพจากคนในหมู่บ้านแห่งนี้
" ไม่ทราบว่าพวกท่านทั้งสองมีธุระสิ่งใดกันหรือถึงได้มายัง
หมู่บ้านแห่งนี้ "
ชายชราเหลือบมองไปที่ใบหน้าของหลัวฉิงเชี่ยนเพียงชั่วครู่มันก็
ทาให้เขาถึงกับชะงักไปชัว่ ครู่ เช่นเดียวกันกับเหล่าบุรุษภายใน
หมู่บ้านแห่งนี้ที่เหลือบสายตามองมาที่ร่างของหญิงสาวที่ประกอบ
ไปด้วยความงามราวกับเทพธิดาจากสวรงสวรรค์ แต่ถึงอย่างเพียง
ไม่นานชายชราผู้นี้ก็สามารถตั้งสติได้
" พวกข้าทั้งสองนั้นมีความประสงค์ที่จะขอพักอาศัยที่นี้เพียง
หนึ่งคืน........ "
หลินหมิงปล่อยให้นางจัดการในเรื่องการพูดคุยกับชายชราผู้นี้ถึง
อย่างไรเสียหลัวฉิงเชี่ยนนัน้ นางก็มีประสบการณ์ในการทาภารกิจ
เช่นนี้มาก่อนดังนั้นแล้วนางจึงสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่าง
คล่องแคล่ว
" อ่อ..เป็นเช่นนี้เองพวกท่านทั้งสองมาทาภารกิจสินะ..เช่นนั้น
ขอเชิญพวกท่านทั้งสองหากไม่รังเกียจพวกท่านสามารถมาพักที่
บ้านของข้าได้ "
ชายชรากล่าวออกมาด้วยความยินดีหลังจากที่เขาได้ยินว่า
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมาทาภารกิจ ซึ่งมันทาให้หลินหมิง
และหลัวฉิงเชี่ยนนั้นมีความคิดว่าชายชราผู้นี้อาจรู้อะไรบางสิ่ง
บางอย่างเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้ก็เป็นได้ หลังจากนั้น
พวกเขาทั้งหมดได้เข้ามาภายในบ้านของชายชราซึ่งดูเหมือนว่า
บ้านของเขานั้นจะเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่บ้านแห่งนี้
ท่าทางของชายชราผู้นี้นั้นดูแปลกประหลาดสักเล็กน้อยใน
ความคิดของหลินหมิง เขาดูมีความสุข ? และตืน่ เต้นอันน่าแปลก
ประหลาดมันก็เป็นไปได้วา่ พวกเขาอาจไม่ได้เจอกับผู้คนจากภายใน
เมืองมานานจึงมีความรู้สึกเช่นนี้ ?
" ผู้อาวุโสข้าไม่ค่อยเห็นบุรุษภายในหมู่บ้านแห่งนี้สักเท่าไหร่ "
สมกับที่นางเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทาภารกิจนางสามารถ
มองเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆทีห่ ลินหมิงได้มองข้ามไป เมื่อ
หลินหมิงหวนนึกย้อนกลับไปมันก็เป็นตามที่นางกล่าวเอาไว้บรรดา
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ที่เขาเห็นนั้นส่วนใหญ่จะสตรีและ
เด็กเล็ก
" พวกเขาออกไปทาการล่าสัตว์ภายนอกหน่ะ..เพิง่ ออกไปก่อนที่
พวกท่านมาได้ไม่นานนี้เอง "
" เป็นเช่นนั้น ? "
" ใช่แล้ว...เกี่ยวกับภารกิจของพวกท่านนั้นในความเป็นจริงแล้ว
ข้าก็ไม่ค่อยรู้สิ่งใดมากนักรู้แต่เพียงว่าไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าที่
บริเวณหมู่บ้านที่ห่างไกลนั้นได้ถูกโจมตีซึ่งนั้นอาจเป็นภารกิจที่พวก
ท่านทั้งสองได้รับมอบหมายมา "
" ท่านพอจะทราบหรือไม่ว่าหมู่บ้านแห่งนั้นถูกผู้ใดเข้าโจมตี "
" เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่นกั ...อาจเป็นไปได้ว่าพวกมัน
จะเป็นโจรป่าในระแวกนี้จากคาบอกกล่าวของพวกที่ออกไปทาการ
ล่านั้นพวกเขาได้บอกข้าเอาไว้ว่าพวกเขาได้บังเอิญพบพวกมัน..แต่
ดูเหมือนว่าเนื่องจากหมู่บา้ นของพวกเรานั้นอยู่ใกล้กับตัวเมืองมาก
เกินไปจึงทาให้พวกมันไม่ค่อยกล้าลงมือ "
หากเป็นเพียงโจรป่านั้นนับว่าภารกิจนี้ไม่ได้เกินฝีมอื ของพวก
เขาทั้งสองคนแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สมควรจะต้อง
เตรียมตัวอย่างดีพร้อมเทียบกับเหล่าโจรป่านั้นพวกเขาเป็นรอง
เพียงอย่างเดียวก็คือในเรื่องของความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมแต่
ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปได้ถ้าหากพวกเขามีคนนาทาง
" ข้าอยากขอรบกวนผู้อาวุโสในเรื่องของตาแหน่งที่แน่ชัดของ
พวกโจรป่าเหล่านั้น...ถึงแม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ว่าพวกมัน
อาจจะไม่ได้อยู่ในระแวกนั้นแล้วแต่อย่างน้อยเพื่อความมั่นใจมันก็
ไม่มีอะไรเสียหายใช่หรือไม่ ? "
" โอ้..เรื่องนั้นย่อมไม่มปี ญ
ั หาอย่างแน่นอนข้าจะรีบหาคนนาทาง
ให้แก่พวกท่านโดยเร็ว "
" ไม่เป็นไรพวกข้าตัดสินใจที่จะออกเดินทางอีกครั้งในพรุ่งนี้อยู่
แล้วเพราะว่าในตอนนี้มันก็ใกล้ค้ามืดแล้ว "
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนใช้เวลากล่าวคุยกับชายชราอีกเพียง
เล็กน้อยจึงทาการขอตัวไปจัดวางขอสัมภาระเสียก่อน มันยังดีที่
ถึงแม้ว่าบ้านแห่งนี้จะมีขนาดเล็กน้อยแต่อย่างน้อยมันก็ยังมีห้อง
ว่างเพียงพอสาหรับพวกเขาคนละห้องไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงก็ไม่
มั่นใจว่าตนเองจะสามารถหักห้ามใจได้มากเพียงใด

ตอนที่ 49
ค่าคืนในวันแรกของหลินหมิงได้ผ่านพ้นไปอย่างยากลาบากด้วย
การที่เขาต้องพยายามหักห้ามใจตนเองไม่ให้นึกถึงหญิงสาวผู้งดงาม
อย่างหลัวฉิงเชี่ยนที่ห้องของนางอยู่ติดกับเขา อาจเป็นเพราะว่าใน
หลายวันที่ผ่านมานี้ตัวเขาได้ใช้เวลาร่วมรักกับหญิงสาวมาเป็น
เวลานานจนทาให้ตัวของหลินหมิงนั้นอดที่จะไม่คิดถึงภาพ
เหตุการณ์เหล่านั้นไปไม่ได้
ในช่วงเช้านัน้ หลินหมิงตืน่ มาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อนจากการที่
เขาไม่สามารถข่มใจให้หลับลงได้โดยง่าย ในตอนนี้ตัวของหลินหมิง
เริ่มมีความคิดเสียแล้วว่าตัวเขาต้องรีบทาภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้น
โดยเร็วไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าเขาจะสามารถทนกับ
สภาพเช่นนี้ไปได้นานเท่าใด แตกต่างกับหลินหมิงหลัวฉิงเชี่ยนนั้น
นางยังคงมีสภาพที่ดีกว่าตัวของหลินหมิงอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่า
นางไม่ได้คิดมากในเรื่องทีจ่ ะต้องหลับนอนค้างคืนต่างถิ่นกับบุรุษอื่น
เท่าใดนักแม้ว่ามันจะเป็นคนละห้องแต่ถึงอย่างไรมันก็ได้ชื่อว่าอาศัย
อยู่ที่บ้านเรือนหลังเดียวกัน
หลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนตื่นมาพร้อมกับผมหน้าของชายชรา
คนเดิมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม มันแสดงให้เห็นว่าแม้ว่ากลุ่มโจรที่
ออกอาละวาดหมู่บ้านภายรอบนอกขอบชายแดนนั้นจะไม่เคยมา
โจมตีพวกเขาแต่มันก็ทาให้พวกเขากังวลไปไม่น้อยเลยทีเดียว ที่
ข้างๆร่างของชายชราในตอนนี้ปรากฎร่างของหญิงสาววัยใสทีเต็ม
เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันสดใสอาจกล่าวได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเพียง
พอที่จะทาให้ผู้คนนั้นยิ้มออกได้โดยง่าย
เมื่อเด็กสาวเห็นหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนเด็กสาวมองพวกเขา
ด้วยความสนใจและความตื่นเต้นจนขนาดที่ทาให้หลินหมิงคิดว่า
เพียงแค่นางได้พบเจอกับเขาชาวเมืองเช่นพวกเขานางก็ดีใจถึง
เพียงนี้เชียว ?
" พวกท่านทั้งสองมาพอดี...นี้อย่างไรคนที่จะนาทางพวกท่านทั้ง
สอง "
หลินหมิงพร้อมกับหลิวฉิงเชี่ยนหันมองไปโดยรอบแต่พวกเขา
กลับไม่พบใครอื่นที่น่าจะเป็นคนนาทางให้แก่พวกเขาได้
" พี่ชาย..พี่สาวข้านี้แหละคนนาทาง "
" หะ ? "
เด็กสาวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ราว
กับจะบอกว่า ' เชื่อในตัวข้าเถอะ ' จากคากล่าวของเด็กสาวมัน
ถึงกับทาให้หลินหมิงและหลิวฉิงเชี่ยนชะงักงันไปในทันทีไม่ใช่ว่าคน
ที่จะนาทางให้พวกเขานั้นสมควรเป็นหนึ่งในกลุ่มของบุรุษที่ไปออก
ล่าที่บังเอิญไปพบเจอพวกโจรเหล่านั้นไม่ใช่หรือ ? แต่เมือพวกเขา
หันกลับมองไปที่ชายชราก็ไม่พบว่าชายชราผู้นี้จะมีท่าทีปฎิเสธแต่
อย่างใด ทั้งสองมองหันมองหน้ากันด้วยความสับสนอาจเป็นไปได้
ว่าแม่สาวตัวน้อยคนนี้อาจมีความชานาญในพื้นที่แถวนี้เนื่องจาก
นางเป็นคนถิ่นนี้แต่อย่างไรเสียนางจะไม่อายุน้อยเกินไปหน่อยหรือ
เมื่อดูจากรูปร่างของนางแล้วนั้นนางสมควรมีอายุราว 10 ปี หรือ
น้อยกว่านั้น
" เอ่อ..ผู้อาวุโสท่านจะบอกว่าเด็กสาวผู้นี้เป็นคนนาทาง ? "
" ใช่แล้ว ! "
คาตอบของชายชราเป็นการยืนยันอย่างแน่ชัดแม้ว่าพวกเขาทั้ง
สองจะยังคงมีความสงสัยว่าเหตุใดเด็กสาวผู้นี้ถึงได้เป็นผู้นาทาง
ให้แก่พวกเขา ทั้งสองเพียงได้รับคายืนยันอีกครั้งจากชายชราว่าเด็ก
สาวผู้นี้มีความสามารถในการนาทางให้แก่พวกเขาแน่นอน
" ข้าชื่อ..เสี่ยวยู้ "
เมื่อเห็นท่าทีที่มั่นใจเช่นนี้ของเด็กสาวพวกเขาทั้งสองถอน
หายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปฎิ
เสธเด็กสาวผู้ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเช่นนี้ และเมื่อพวกเขาออกมา
จากหมู่บ้านก็พบว่าบุรุษที่ทาการไปออกล่าสัตว์ปา่ นั้นยังคงไม่
กลับมา ? ดังนั้นแล้วนี้อาจเป็นเหตุให้คนนาทางของพวกเขาจาเป็น
จะต้องเป็นเด็กสาวผู้น่ารักนางนี้
" ถึงแม้ว่านางจะดูเด็กไปอยู่บ้าง..แต่บิดาของนางนั้นเป็นผู้เชียว
ชาญในเรื่องการเดินป่าในระแวกนี้แล้วอีกอย่างนางเองย่อมเป็หนึ่ง
ในคนที่เห็นกลุ่มโจรจากการที่ในครั้งนั้นนางได้ติดตามบิดาออกไป
ด้วย.. "
เมื่อหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนได้รับคาอธิบายจากชายชราใน
ระหว่างที่เขารอเด็กสาวไปกล่าวคาทักทายจากบรรดาผู้คนใน
หมู่บ้าน ซึ่งดูเหมือนว่าเด็กสาวจะเป็นที่นิยมไม่น้อยในหมู่บ้านแห่งนี้
" พี่ชาย พี่สาวข้าพร้อมแล้ว ! "
ตามแผนการณ์ที่พวกเขาทั้งสองได้ตกลงนัดหมายกันเอาไว้นั้นก็
คือพวกเขาจะทาการตรวจสอบความแข็งแกร่งของกลุ่มโจรนี้
เสียก่อนแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยทาการลงมือเพราะถึงแม้ว่าพวกมัน
เหล่านี้จะเป็นเพียงโจรตามชายแดนแต่มันก็เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจ
พลันตัวมาจากนักรบเก่าที่มีความแข็งแกร่งก็เป็นได้ ในครั้งนี้พวก
เขาและเด็กสาวได้ออกเดินทางกันด้วยเท้ามันคงไม่ดีนักหากพวก
เขาใช้รถม้าในการเดินทาง
" พี่ชาย พี่สาวพวกท่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างนั้นหรือ ? เช่นนั้น
แล้วพวกท่านจะต้องแข็งแกร่งมากเลยใช่รึเปล่า ? ในเมืองของพวก
ท่านมีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต ? พวกท่านเคยเห็น.... "
หลากหลายสารพัดคาถามที่เด็กสาวถามออกมาด้วยความสนใจ
ดูเหมือนว่าแม่สาวน้อยผูน้ ี้จะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นไป
เสียหมดแต่ถงึ อย่างนั้นมันก็ยังคงทาให้นางดูน่ารักไปอีกแบบ
เช่นเดียวกันด้วยความใส่ซื่อของนาง หลัวฉิงเชีย่ นนางถึงกับต้อง
นาเอาขนมบางอย่างออกมาจากแหวนมิติของนางเพื่อทาให้ปาก
ของแม่สาวน้อยนี้หยุดลงเสียมากไม่เช่นนั้นแล้วหากพวกเขาอาจ
ต้องเหนื่อยจากการตอบคาถามของแม่สาวน้อยผู้นี้จนไม่อาจ
เดินทางต่อไปได้
" ว้าว ! มันอร่อยมาก ! "
หลินหมิงและหลิวฉิงเชี่ยนถึงกับอมยิ้มให้กับท่าทางของแม่สาว
น้อยผู้นี้ ดูเหมือนว่าแผนการณ์ของหลิวฉิงเชี่ยนจะประสบผลสาเร็จ
อย่างสวยงาม เพราะว่าในตอนนี้เด็กสาวกาลังใช้เวลาอย่างมี
ความสุขกับขนมของนางถึงขนาดที่ว่าหากพวกเขาไม่เตือนนางเด็ก
สาวก็อาจหลงลืมถึงหน้าที่ของนางไปแล้ว
ใช้เวลาในการเดินราวหนึ่งชั่วยามร่างของเด็กสาวของพวกเขาก็
หยุดลงไม่ใช่เป็นเพราะนางเหนื่อยแต่นั้นเป็นเพราะดูเหมือนว่าพวก
เขาจะมาถึงแล้ว เบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้ก็คือถ้าแห่งหนึ่งที่
ถูกบดบังเอาไว้ด้วยต้นไม้เถาวัลย์เต็มไปหมดทีบ่ ริเวณทางเข้า หาก
พวกเขาเดินผ่านถ้าแห่งนี้พวกเขาอาจไม่รู้เลยว่าที่ตรงนี้นั้นเป็น
ทางเข้าไปยังถ้าภายในและนั้นย่อมเหมาะสมสาหรับการเป็นที่ฐาน
ของเหล่าโจร
หลัวฉิงเชี่ยนดึงร่างของเด็กสาวที่เดินนาทางมาโดยตลอดไปอยู่
ด้านหลัง พร้อมกับนางที่พยายามตรวจสอบคนที่อยู่ภายในซึ่งดู
เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลดีสักเท่าไหร่นัก และการเข้าไปยังฐานของ
พวกมันที่ดูเหมือนว่าจะมีทางเข้าเพียงทางเดียวนั้นคงไม่ใช่ความคิด
ที่ดีสักเท่าไหร่นักดังนั้นแล้วหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนจึงตัดสินใจที่
จะใช้เวลาเฝ้ารอกลุ่มสมากชิกของเหล่าโจรที่จะเข้าหรือออกมาจาก
ถ้าแห่งนี้ เพียงแต่ว่าในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองกาลังนัดหมาย
วางแผนกันอยู่นั้นร่างของเด็กสาวข้างกายของพวกเขาก็ได้วิ่งตรง
เข้าไปภายในถ้าไปเสียแล้ว

ตอนที่ 50
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการณ์ที่พวกเขาวางไว้คงต้องทิ้งมันไป
เสียแล้ว การที่แม่สาวตัวน้อยพุ่งตรงเข้าไปยังภายในถ้าที่คาดว่าจะ
มีกลุ่มโจรอยู่นั้นทาให้พวกเขาทั้งสองตกใจแม้ว่ามันจะมีตัวเลือก
อย่างการที่ปล่อยเด็กสาวเอาไว้เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนั้นกลุ่มโจร
ภายในเหล่านั้นก็คงรีดเค้นสอบถามข้อมูลต่างๆจากตัวแม่สาวน้อย
และนั้นอาจรวมถึงเรื่องของพวกเขาด้วย และหากเป็นเช่นนั้นมัน
ย่อมเป็นไปได้มากว่ากลุม่ โจรเหล่านี้อาจจะทาการเคลื่อนไหวเพื่อทา
การหลบหนีหรือพวกมันอาจเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะ
เกิดขึ้น
ดังนั้นแล้วตัวเลือกของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนนั้นในตอนนี้มี
เพียงแค่ทางเดียวนั้นก็คือพวกเขาต้องรีบตามแม่นาวสาวตัวน้อย
กลับมาโดยเร็วก่อนที่กลุม่ โจรจะรู้ตัว เมื่อทั้งสองเข้ามาภายในถ้านั้น
พวกเขากลับไม่พบร่องรอยของแม่สาวตัวน้อยมันจะเป็นไปได้
อย่างไรก็ในเมื่อพวกเขาตามหลังนางมาไม่ห่างมากนักรวมกับ
ความเร็วของพวกเขาที่เหนือกว่านางอยู่มากโขแล้วมันเป็นไปไม่ได้
ที่พวกเขาจะไม่สามารถพบร่องรอยของแม่สาวตัวน้อย
ความรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างแปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น
ภายในใจของทั้งสองคน พวกเขาสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแปลก
ประหลาดภายในถ้าแห่งนี้ แม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะไม่อยู่ในส่วน
ลึกของถ้ามากเท่าใดนักแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงกลับไม่พบร่องรอยที่
แสดงถึงการคงอยู่ของกลุม่ คน ในความรู้สึกของหลินหมิงที่แห่งนี้
นั้นจากเปลวเพลิงทมิฬในร่างกายของเขาสามารถสัมผัสได้ถงึ ความ
อันตรายภายในถ้าแห่งนี้
แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่อันตรายที่เกิดจากกลุ่มโจรโดยทั่วไปมัน
อาจเป็นอะไรที่น่ากลัวจนไม่อาจเทียบกันได้ ถึงแม้ว่าชายชราที่ดู
เหมือนจะเป็นหัวหน้าหมูบ่ ้านได้บอกกล่าวพวกเขามาว่าที่แห่งนี้นั้น
สมควรเป็นฐานของกลุ่มโจรแต่หลินหมิงคิดว่ามันต้องไม่ใช่อย่าง
แน่นอน
" ฮิ ฮิ ฮิ... "
เสียงหัวเราะพลันดังขึ้นมาจากภายในาถ้าเนื่องจากมันเกิดการ
สะท้อนเสียงไปมาหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนจึงไม่สามารถจับต้น
ทางของเสียงได้ เพียงแต่ว่าเสียงที่เปล่งออกมานั้นย่อมเป็นเสียง
ของสตรีและมันไม่ใช่เสียงของเด็กสาวตัวน้อยเสียวยู้อย่างแน่นอน
บรรยากาศโดยรอบตัวของหลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนค่อยๆ
เปลี่ยนไปพวกเขารู้ได้ถึงความหนาวเย็นที่กระทบเข้ากับผิวหนังของ
พวกเขา พร้อมกับประสาทสัมผัสที่ราวกับบอกพวกเขาว่าในตอนนี้
ได้มีสายตาจ้องมองพวกเขาอยู่
" อึกก ! "
อยู่ทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง
โดยทันทีพร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจเมื่อครู่ที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
เพียงแต่คราวนี้มันต่างกันเล็กน้อยเพราะพวกเขาสามารถรับรู้ได้ว่า
ต้นทางของเสียงนั้นมาจากทิศเนื่องด้วยในตอนนี้ร่างของเจ้าของ
เสียงหัวเราะนั้นได้ปรากฎขึ้นมาอย่างกระทันหันโดยที่พวกเขาไม่ทัน
ได้รู้ตัวเลย หากมองดูภายนอกนางเปรียบเสมือนสตรีสาวอื่นเช่น
ทั่วไปทีม่ ีผิวพรรณ์งดงามสดใสราวกับไข่มุก ดวงตาสีฟ้าที่ดูเหมือน
ราวกับได้สีของทะเลมาแต่งแต้มพร้อมกับจ้องมาทีพ่ วกเขา
หากเป็นเช่นในสถานการณ์ปกติหลินหมิงคงต้องยืนอึ่งในความ
งามของแม่สาวสวยคนนี้เพราะว่าความงามของนางนั้นไม่ใช่
เพียงพอต่อการล่มเมืองเพียงเท่านั้นนางอาจสามารถสยบโลกได้ทั้ง
ใบด้วยความงามที่ดูราวกับถูกสวรรค์สรรสร้างมาอย่างประณีต
แน่นอนที่หลินหมิงไม่ทาเช่นนั้นก็เพราะว่าแม้หญิงสาวตรงหน้าจะมี
ความงามที่มากกว่าหญิงสาวทั้งหมดที่เขาเคยเจอไม่เว้นแม้กระทั่ง
เหล่าเทพธิดาสาวในใจของเขาแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางย่อมเป็น
คนที่ปลดปล่อยบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ออกมา
เทียบกันกับอาจารย์สาวสวยของเขาหรือแม้กระทั่งบิดาของ
หลินหมิงพวกเขาไม่แม้แต่จะสามารถถูกนามาเปรียบเทียบได้กับ
ความแข็งแกร่งของแม่สาวนางนี้และเมื่อเป็นเช่นนั้นหากนางเพียง
ต้องการชีวิตของเขาและหลัวฉิงเชี่ยนมันอาจยากเพียงแค่นาง
ตัดสินกระดิกนิว้ เพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของหญิงสาวผู้
นี้ก็นับได้ว่าแปลกประหลาดจากหญิงสาวอื่นอยู่ไม่ใช่หน้าอกขนาด
ซื่อโฉวของเขายังต้องพ่าย แต่นั้นเป็นเพราะบนศรีษะของนางกลับ
ปรากฎเขาสองข้าง ? ทันใดนั้นสายตาของหลินหมิงเหลือบไปเห็น
ร่างของเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวผู้น่ากลัวนางนี้
" ข้า..ช่วยนาพวกเขามาให้แก่ท่านแล้วดังนั้นได้โปรดปล่อยพ่อ
ของข้า... "
เสี่ยวยู้กล่าวพูดคุยกับหญิงงามด้วยท่าทีเศร้าสร้อยไม่แสดงให้
เห็นถึงความร่าเริงก่อนหน้าอีกต่อไปมาถึงตรงนีห้ ลินหมิงและ
หลัวฉิงเชี่ยนก็เริ่มพอจะเข้าใจสถานการณ์ของตนเองขึ้นมาบ้าง แต่
พวกเขาก็ไม่อาจทาความเข้าใจตัวตนของหญิงสาวตรงหน้านี้ได้อยู่
ดีมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนแข็งแกร่งเช่นนี้จะหลุดรอดสายตาจน
ไม่มีผู้ใดพบเห็นแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะลึกลับแต่มันย่อมไม่เกินมือ
ผู้เชี่ยวชาญภายในเมือง
" หืมม..เจ้ากล้าต่อรองกับข้า ? "
" ก็ท่าน..บอกกับข้า.. "
" มันตายไปแล้ว... "
การพูดของหญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ดูเย็นชาราวกับว่านางไม่ได้
แยแสต่อสิ่งใดนางยังคงจ้องมองมาทีห่ ลินหมิงและหลัวฉิงเชี่ยนดู
รอยยิ้มแต่มันไม่ใช่รอยยิม้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรมันเป็นรอยยิ้มที่
ราวกับเด็กที่ได้เห็นอาหารจานโอชะ เสี่ยวยู้ถึงกับเข่าทรุดนั่งพับขา
อย่างอ่อนแรกในวันนั้นนางเพียง ในความเป็นจริงแล้วในวันที่นาง
และบิดารวมถึงกลุม่ ของคนในหมู่บ้านที่ทาการออกล่าสัตว์ป่านั้น
นางไม่ได้พบเจอกับกลุม่ โจรแต่อย่างใดแต่สิ่งที่นางพบนั้นกลับนาง
กลัวยิ่งกว่านั้นมาก มันคือภาพของผู้คนที่ล้มตายนอนไร้สติสภาพ
ของพวกเขาแต่ละคนล้วนตายอย่างอนาถในแบบที่ว่าแม้แต่บุรุษ
หลายคนยังคงไม่สามารถอดทนต่อภาพตรงหน้าได้และแน่นอนฝีมือ
ทั้งหมดนี้ย่อมเกิดจากเพียงหญิงสาวผู้งดงามคนนีค้ นเดียวเท่านั้น
เมื่อนางพบเจอกลุ่มของชาวบ้านที่มาโดยบังเอิญแน่นอนว่า
เสี่ยวยู้นั้นได้เห็นภาพของคนใกล้ชิดตกตายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่า
ใบไม้ร่วงพวกเขาไม่ได้มีบาดแผลภายนอกแต่อย่างใดแต่ทั้งหมดนั้น
ล้วนเกิดขึ้นจากบาดแผลภายในจิต ร่างกายของพวกเขาล้วนสูบ
ผอมไปทันทีจนถึงขนาดบางร่างถึงกับแหกเผือกไปไม่ต้องสังสัยเลย
ว่าก่อนที่พวกเขาจะตายนั้นจะต้องได้รับความทรมานมากถึง
เพียงใด
แต่นับว่าโชคดีบิดาของนางนั้นยังนับได้ว่ามีความแข็งแรงอยู่
บางเขาจึงไม่ได้สิ้นชีพไปไหนในทันทีแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคง
อ่อนแอ่กว่าที่จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้แต่ถงึ อย่างนั้นอย่างไร
เสียเขาก็เป็นบิดาของนางการที่จะให้ทิ้งบิดาแล้วเอาชีวิตรอดนั้นตัว
เด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นนี้คงไม่ยอมอย่างแน่นอนนางจึงได้เอยปาก
ร้องขอชีวิตบิดาของนางแลกกับการที่หญิงสาวนั้นสามารถใช้งาน
อย่างไรก็ได้ซึ่งดูเหมือนว่าหญิงสาวผู้งดงามก็ดูเหมือนจะตกลง แต่
ถึงอย่างนั้นในวันนี้นางกลับบอกว่าบิดาของนางตายแล้ว ?
" นี้เจ้า..เป็นตัวอะไรกัน ? "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงปั่นยากกับสภาพที่ถูกแรง
กดดันจากอีกฝ่ายเช่นนี้มันสามารถบอกได้เป็นอย่างดีว่าตัวนางนั้น
ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แถมด้วยจากรูปลักษณ์ของ
หญิงสาวผู้นี้มันไม่อาจเรียกได้อย่างเต็มปากว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็น
มนุษย์นางอาจเป็นคนจากเผ่าอื่น ?
" ข้าไม่สนใจเจ้าหรอกนะ "
อั่กกก
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวพร้อมกับหันไปทางหลัวฉิงเชี่ยนเล็กน้อย
เพียงแค่นางมองไปทีหลัวฉิงเชี่ยนร่างของหลัวฉิงเชี่ยนถึงกับ
กระเด็นติดกาแพงพร้อมกับกระอั่กเลือดออกมากองใหญ่จนหมดสติ
ไปในทีเดียว หลินหมิงแทบจะตาข้างเขาไม่สามารถแม้แต่จะ
มองเห็นการโจมตีเมื่อสักครู่กับตัวตนในระดับนี้นางสามารถจัดการ
พวกเขาโดยไม่กระดิกนิ้วก็ยังได้ ? หญิงสาวผู้งดงามมองมาที่หลินห
มิงด้วยความสนใจสายตาของนางนั้นอาจทาให้บุรุษเคลิ้มจนตกอยู่
ในภวังค์แต่ในสถารณ์เป็นตายเช่นนี้ในหัวของหลินหมิงแทบจะว่าง
เปล่าเพราะมันมีทางใดเลยทีเขาจะสามารถรอดชีวิตออกไปจาก
สถานการณ์นี้ได้
ตอนที่ 51
มันแตกต่างจากคราวที่หลินหมิงต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์สาว
สวยรือบิดาของเขาแม้ว่าหลินหมิงจะยังคงไม่อาจเอาชนะพวกเขา
ได้อย่างแน่นอนเช่นเดียวกันแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพอทาสิ่งใดได้
บ้างแต่เมื่อเทียบกับในสถารณ์ตอนนี้แค่ลาพังขยับตัวก็เรียกได้ว่า
ยากเกินทนอีกทั้งหลัวฉิงเชี่ยนที่มีพลังมากกว่าหลินหมิงก็กลับพ่าย
ไปในพริบตาเดียว
" ท่านพ่อ....พี่ชายข้า..ขอโทษ..ฮึกๆ "
เสียงของเสี่ยวยู้ดังขึ้นด้วยความสานึกผิดนางนั่งร้องไห้จน
เหนือยอ่อนและหมดสติลงไปแต่หลินหมิงไม่สามารถรับรู้หรือได้ยิน
เพราะสมาธิของเขาในตอนนี้ล้วนจนจ่ออยู่กับการกระทาของหญิง
สาวผู้งดงามตรงหน้าอย่างเดียวเพียงเท่านั้น เปลวเพลิงสีดาทมิฬ
พลันลุกขึ้นมาที่ปลายมือของเขาแน่นอนว่าหลินหมิงยังไม่ทันได้ทา
การเรียกมันออกมาแต่อย่างใดหรืออาจเป็นไปได้ว่ามันอาจรับรู้ถึง
อันตรายที่อยู่ตรงหน้าจึงปรากฎขึ้นเพื่อช่วยเหลือเขา ?
เมื่อเปลวเพลิงทมิฬปรากฎขึ้นบรรยากาศโดยรอบตัวของหลินห
มิงนั้นก็นบั ได้ว่าเบาลงไปมากจนเขาสามารถเริ่มที่จะขยับได้แต่มัน
ยังคงไม่เพียงพอสาหรับการต่อสู้หรือแม้กระทั่งหลบหนี หญิงสาวผู้
งดงามมองเปลวเพลิงสีดาทมิฬด้วยนัยตาเบิกกว้างราวกับว่านาง
นั้นได้เคยเห็นเปลวเพลิงนี้มาก่อนอย่างใดอย่างนั้น
" หรือว่าเจ้า.... "
รอยยิ้มมุมปากปรากฎขึ้นบนใบหน้าเรียวงามของหญิงสาว
หลินหมิงไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันมีความหมายเช่นไรแต่อย่างนั้นมัน
ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดสี าหรับตัวเขาอย่างแน่นอน
ตึก..ตึก...
เสียงก้าวเท้าของหญิงสาวผู้งดงามตรงมาทางหลินหมิงอย่าง
เห็นได้ชัดแม้ว่านางจะก้าวเดินอย่างเชื่องช้าแต่มันก็ทาให้ใจของ
หลินหมิงนั้นสั่นไหวราวกับเสียงกองศึก
' ต้องรีบหนี ! '
ส่วนลึกภายในจิตใจของหลินหมิงได้ทาการสั่งให้ตวั เขารีบหนี
ออกไปจากสถานที่แห่งนีโ้ ดยเร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ดีว่ามัน
ไม่มีทางหนีไปได้หากหญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ไม่ต้องการให้เขาหลบหนี
จนในที่สุดร่างของหญิงสาวผู้งดงามก็ได้หยุดลงตรงหน้าห่างจาก
หลินหมิงเพียงสามก้าวความกดดันที่ออกมาจากตัวนางนั้นทาให้
หลินหมิงได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่าจนแทบจะลงไป
มอบคลานกับพื้น หากเป็นผู้ที่มีพลังเพียงขั้นที่ 7 โดยทั่วไปพวกเขา
อาจถูกบดละเอียดจากแรงกดดันที่ออกมาจากตัวของนางไปแล้ว
สติของหลินหมิงค่อยๆดับวูบลงไปโดยทีย่ ังไม่ทันได้รับรู้ว่าเกิดสิ่ง
ใดขึ้นภาพที่เห็นภาพสุดท้ายของเขาก็คือภาพของหญิงสาวผู้งดงาม
กาลังจ้องมองมาที่เขาที่กาลังล้มลงหมดสติไป
อึกก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใดหลินหมิงพลันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็
พบกับอาการปวดหัวอย่างหนักมันอาจเป็นความเครียดสะสม
หลินหมิงภวนาว่าให้เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ฝันแต่เมื่อเขา
ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าความหวังของเขาต้องแตกสลาย ในตอนนี้ร่าง
ของหลินหมิงได้นอนแผ่อยู่บนเตียงแห่งหนึ่งโดยที่ร่างกายส่วนบน
ของเขาล้วนเปลื่อยเปล่าออกหมด
" ในที่สุดเจ้าก็ตื่นเสียที... "
หลินหมิงหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างของหญิงสาวผู้งดงาม
ตามเดิมเพียงแต่ว่าสถานที่โดยรอบของเขาในตอนนี้ดูเหมือนราวกับ
ว่าตัวเขาไม่ได้อยู่ในถ้าก่อนหน้านี้อีกต่อไปมันเปรียบเสมือนเป็น
เพียงห้องนอนขนาดใหญ่ซึ่งมันไม่น่าจะมีได้ภายในถ้าเช่นนั้นแล้ว
ในตอนนี้เขาอยู่ที่ใด ?
ขยับตัวไม่ได้ ?
ที่บริเวณข้อมือข้อเท้าของหลินหมิงนั้นถูกล็อคเอาไว้ที่มุมเตียง
ทั้งสี่ด้านแม้ว่าหลินหมิงจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไปอย่าง
มากแต่เขาก็กลับไม่สามารถทาลายโซ่ที่พันธนาการเขาอยู่ในตอนนี้
ลงได้ หลินหมิงรู้สึกว่าเรี่ยวแรงภายในร่างกายถูกลดถอนลงไปเป็น
จานวนมากอีกทั้งเขายังไม่สามารถวบรวมพลังปราณได้อีกไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าทั้งหมดนี้จะต้องเป็นเพราะโซ่พันธนาการเหล่านี้
" ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่ "
ในตอนนี้บรรยากาศโดยรอบตัวของหญิงสาวผู้งดงามนั้นได้หาย
สิ้นไปหมดแล้วแต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกตกค้างจากครั้งก่อนก็ยังคง
สร้างความกังวลให้กับหลินหมิงได้ไม่น้อยดังนั้นแล้วหลินหมิงจึง
เลือกกล่าววาจาให้สุภาพที่สุดกับหญิงสาวผู้งดงาม
" ไม่ต้องกังวลข้าไม่ได้คิดจะสังหารเจ้าดังเช่นพวกมดปลวกที่
ผ่านมาข้าเพียงต้องการให้เจ้าช่วยเหลือข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแล้ว
ข้าจะปล่อยเจ้ากับเพื่อนของเจ้าไปอย่างโดยดี "
หญิงสาวผู้งดงามกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่หลินหมิงไม่
อาจคาดเดาได้ว่าคากล่าวของนางนั้นจะเป็นไปตามความหมายนั้น
หรือนางเพียงแค่ต้องการหลอกใช้เขาดังเช่นเสี่ยวยู้ ร่างของหญิง
สาวค่อยๆเคลื่อนกายเข้าหาหลินหมิงที่นอนอยู่บนเตียงหลินหมิง
สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าภายในห้องแห่งนี้นั้นต้องเป็นห้องที่
อยู่อาศัยของนางเนื่องจากภายในห้องแห่งนี้มกี ลิ่นหอมหวนของ
หญิงสาวอบอวนอยู่เต็มไปหมด
" นี้ท่าน.... "
หญิงสาวผู้งดงามในตอนนี้นางเคลื่อนกายเขาหาหลินหมิงในท่า
นั่งคร่อมร่างของหลินหมิงเอาไว้ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั มีส่วนผิวหนัง
ของหญิงสาวที่สมั ผัสกับผิวหนังของหลินหมิง มันเนียนนุ่มจนทาให้
จิตใจของหลินหมิงแทบจะล่องลอยพร้อมกับรอยยิม้ ซุกซนของหญิง
สาวผู้นี้แล้วหลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้เลยว่านางต้องการสิ่งใดกัน
แน่
" ข้าเพียงต้องการพลังงานหยางมาฟื้นฟูร่างกายของข้าเพียง
เท่านั้น..ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าจะมีพลังงานเหล่านั้นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
จนไม่อาจเทียบได้กับพวกที่ผ่านเลยแม้แต่น้อย "
หลินหมิงหน้าซีดเผือกไปในทันทีที่ได้ยินคากล่าวของหญิงสาวผู้
งดงามนางกล่าวว่านางต้องการพลังงานหยาง ? จากความรู้ที่ผ่าน
มานั้นแม้ว่ามันจะมีทักษะวิชาที่เกี่ยวกับพลังงานหยินและหยางของ
หญิงสาวอยู่บ้างแต่ทกั ษะเหล่านั้นมักจะใช้ร่วมกันกับสามีภรรยา
ของตนเพียงเท่านั้นดังนั้นแล้วจากการที่นางได้กล่าวออกมานั้นนาง
ได้ดูดซับพลังงานหยางของบุรุษไปเป็นจานวนมาก
ดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงพอจะคาดเดาตัวตนของนางได้อยู่บ้างว่า
นางอาจเป็นเผ่าพันธ์อื่นที่ไม่ใช่มนุษย์เนื่องจากรูปลักษณที่แตกต่าง
กัน รวมกับความสามารถในการดูดพลังงานหยางของบุรุษนางอาจ
เป็นเฝ่าพันธ์โบราณที่หาได้ยากยิ่งอย่างเผ่าซัคคิวบัสที่ปรากฎกันแต่
ตานานเล่าขานกันปากต่อปากเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิง
กับพบสิ่งที่นางแปลกประหลาดใจจากกลิ่นหอมหวนของหญิงสาวที่
แผ่ออกมาตัวของหลินหมิงสามารถสัมผัสได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ยังคงมี
ความบริสุทธ์อยู่ ?
อ้าา
นิ้วมือเรียวงามของนางลูบไล้ไปบนเรือนร่างของหลินหมิงที่
เปลือยเคลื่อนตัวไปสู่บริสว่ นล่างพร้อมกับเสื้อผ้าส่วนล่างของหลินห
มิงที่ค่อยๆหายวับไป
" นี้มัน... "
ทวนมังกรขนาดใหญ่ได้ประกาศตนเป็นเจ้าสรรพวุธต่อหน้าหญิง
สาวผู้งดงามจนทาให้ใบหน้าของนางนั้นถึงกับเต็มไปด้วยความตื่น
ตระหนก นิ้วมือของนางเคลื่อนเข้าหาทวนมังกรของหลินหมิงตาม
สัญชาติญาณ
" ฮิ ฮิ เจ้านี้ช่างยอดเยี่ยมโดยแท้จริงดูเหมือนว่าเจ้าจะมี
พลังงานหยางที่มากเกินกว่าที่ข้าจะคาดคิดเอาไว้เสียอีก "
หลังจากที่นางกล่าวจบนางเคลื่อนตัวไปที่บริเวณส่วนล่างของ
ร่างกายหลินหมิงพร้อมกับใช้ปากของนางเข้าโลมเลียทวนมังกรของ
หลินหมิงอย่างหื่นกระหาย เพียงแค่สัมผัสจากนิ้วมือของหญิงสาว
นั้นมันก็แทบจะเพียงพอทาให้หลินหมิงต้องระเบิดน้ารักของเขา
ออกมาแต่นี้นางกลับใช้ปากของนางจู่โจมทวนมังกรของเขาอย่าง
รวดเร็วแล้วมีหรือที่หลินหมิงจะสามารถอดทนได้ไหว ?
น้ารักของหลินหมิงจานวนมากถูกระเบิดออกมาแต่ถึงอย่างนั้น
มันก็ถกู หญิงสาวผู้งดงามจัดการจนหมดเกลี้ยงไปในพริบตานางใช้
ลิ้นของนางตวัดเลียทุกส่วนบนร่างกายของหลินหมิงทีม่ ีคราบน้ารัก
ของเขาเกาะติดอยู่ ใบหน้าพอใจอย่างมากปรากฎขึ้นบนหน้าเรียว
งามของนาง
" ยะ...เยี่ยม อ้าาา มันช่างยอดเยี่ยมมมมม ~~~~~ "
หญิงสาวผู้งดงามยังคงตวัดโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอ
ย่างต่อเหนื่องนางค่อยๆเคลื่อนไหวร่างกายของตนเองให้อยู่ในท่าที่
นางสามารถดูดกลืนทวนของหลินหมิงได้ง่ายที่สดุ ทาให้ในตอนนี้
นางได้อยู่ในทางที่กาลังใช้ริมฝีปากเข้าอมทวนมังกรของหลินหมิง
โดยที่บริเวณร่างกายของนางนั้นได้หันไปทางด้านหลินหมิง !

ตอนที่ 52
หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสกาลังใช้ริมฝีปากอวบอิ่มโลมเลียทวน
มังกรของหลินหมิงอย่างไม่ได้สนใจรอบข้าง ในความเป็นจริงแล้ว
นางไม่จาเป็นต้องใช้วิธีเช่นนี้ในการดูดพลังหยางจากบุรุษก็ย่อมได้
เหมือนกับที่นางได้ดูดพลังหยางมาจากกลุ่มบิดาของเสี่ยวยู้ แต่ด้วย
ขนาดและกลิ่นอันหอมหวนที่ถูกปล่อยออกมาจากทวนมังกรของ
หลินหมิงนั้นมันทาให้ต่อมประสาทการรับรู้กลิ่นของเผ่าซัคคิวบัส
ที่อนข้
่ค่ างไว้ทาให้นางไม่อาจหักห้ามใจตนเองได้
และยิ่งเมื่อนางได้ลิ้มลองสัมผัสน้ารักของหลินหมิงมันแทบจะทา
ให้นางขาดสติไปแน่นอนว่านางไม่เคยมีประสบการณ์กับเหล่าบุรุษ
ใดๆมาก่อนที่ผ่านมานั้นนางทาแค่เพียงดูดพลังหยางจากร่างกาย
ของพวกเขาเหล่านั้นออกมาเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้
ร่างกายของนางกลับตอบรับทวนมังกรแท่งนี้ไปโดยธรรมชาติ
หลินหมิงสามารถรับรู้ได้ถงึ ลิ้นของหญิงสาวที่ดูเหมือนว่ามันจะมี
ขนาดยาวกว่าของเผ่ามนุษย์รวมถึงสัมผัสนุ่มนิม่ ภายในปากของ
นางนั้นแทบจะทาให้เขาต้องตกอยู่ในภวังค์แห่งความสุข เมื่ออยู่ใน
ท่วงท่านี้ที่บริเวณใบหน้าของหลินหมิงนั้นอยู่ไม่ห่างจากบริเวณ
บั้นท้ายของหญิงสาวต่างเผ่ามากเท่าไหร่นัก ทาให้เขาสามารถ
สังเกตเห็นถึงร่องสวาทของนางที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีน้ารักใสๆ
ซึมออกมาจากเสื้อผ้าของนางอย่างไม่ขาดสาย
กลิ่นหอมที่บริเวณร่องสวาทของนางปล่อยออกมามันถึงกับทา
ให้ร่างกายของหลินหมิงรูส้ ึกเบาสบายหากเขาไม่ได้โดนพันธนาการ
เอาไว้เช่นนี้แล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงสาวซัคคิวบัสนางนี้คงต้อง
โดนเขาจู่โจมไปแล้ว
" อ้าา "
เสียงครางของหลินหมิงออกมาอย่างมีความสุขหลังจากที่เขาได้
ปล่อยน้ารักออกมาอีกครั้งเพียงแต่ในครั้งนี้ไม่มีน้ารักของเขาแม้แต่
หยดเดียวที่สามารถออกมาจากปากของหญิงสาวได้ สีหน้าตื่นเต้น
และดีใจปรากฎอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวซึ่งดูเหมือนว่านางคงจะ
ไม่มีความรู้สึกว่าจะเพียงพอเลยแม้แต่น้อยกับการที่นางได้ดื่มด่ากับ
น้ารักของหลินหมิง
เทียบกันกับพลังหยางที่นางได้เคยดูดกลืนมาก่อนนางนี้ทั้งหมด
นั้นมันแทบจะไม่สามารถนับมาเปรียบเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย
เอื้ออก
เสียงกลืนน้ารักลงไปอึกใหญ่พร้อมกับเสียงอีกหลายอึกที่ดัง
ออกมาจากลาคอของหญิงสาวเห็นได้ชัดว่าปริมาณน้ารักของหลินห
มิงที่ปลดปล่อยออกมานั้นมีจานวนมากเกินกว่าทีผ่ ่านภายในปาก
ของนางนั้นจะสามารถรองรับได้ทั้งหมดดังนั้นนางจึงต้องทาการ
กลืนพวกมันส่วนหนึ่งลงไปก่อน
หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงบริเวณร่องสวาทของนางที่อยู่
บริเวณใบหน้าของเขาที่ค่อยๆมีอุณหภูมสิ ูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับน้า
รักใสๆของหญิงสาวทีซ่ ึมผ่านเสื้อผ้าของนางออกมาราวกับเขื่อน
แตก เมื่อเห็นเช่นนี้หลินหมิงจึงเริ่มมีความคิดดีดีขึ้นมา
" นะ..นี้เจ้า..ทาอะไรหน่ะ..อ้าาา...เอาหน้าของเจ้าออกไปให้ห่าง
เดียวนี้ ! "
หลินหมิงในตอนนี้ได้ยื่นใบหน้าของเขาเข้าไปสูดดมกลิ่นกาย
ของหญิงสาวอย่างใกล้ชดิ เมื่อได้เห็นอาการพอใจของหญิงสาวที่มี
ต่อทวนมังกรของเขาแล้วนั้นหลินหมิงไม่มีความรู้สึกกลัวว่านางจะ
ลงมือสังหารเขาอีกต่อไป และถึงแม้ว่านางจะกล่าวเช่นนั้นแต่นาง
ริมฝีปากของนางยังคงโลมเลียทวนมังกรของเขาต่อไปพร้อมกับ
เสียงครางสั่นเครื่อที่หลุดออกมาจากปากของนาง
แผล๊บบบ
" อร้างงงงงงงงงงงงงงงง ~~~~~~~~~~~ "
ทันใดนั้นเมื่อลิ้นของหลินหมิงตรงเข้าสัมผัสกับเสื้อผ้าเบาบางที่
ขวางกั้นร่องสวาทของนางเอาไว้ เสียงครางลั่นของหญิงสาวเผ่าซัค
คิวบัสดังลั่นออกมาพร้อมกับน้ารักของหญิงสาวที่พงุ่ แรงออกมาเสีย
ยิ่งกว่าครั้งก่อน เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหญิงสาวผู้งดงามคนนี้คงไม่เคย
มีประสบการณ์ใดๆกับบุรษุ มาก่อนอย่างแน่นอน
" จะ...จะ..เจ้า อ้าา อ้าา~~~~~ ยะ..อย่าเลีย...มะ...ไม่ได้.. อร้า
งงงงง "
ดูเหมือนว่าร่างกายของหญิงสาวนั้นจะมีการตอบสนองที่ดีหญิง
กว่าหญิงสาวมนุษย์โดยทัว่ ไปแบบเทียบไม่ติดร่างกายของของนาง
สั่นกระตุกถี่ขึ้นพร้อมกับน้ารักของนางที่ยังคงพุ่งออกมาโดยไม่มีที
ท่าว่าจะหยุดหย่อนลงไปเลยแม้แต่น้อย หลินหมิงเว้นจังหวะให้นาง
พักหายใจหลังจากที่เขาใช้ลิ้นตวัดโลมเลียที่ร่องสวาทของนางจน
ทาหญิงสาวต้องปล่อยน้ารักออกมาถึงสองครั้งติดกัน
" นะ..นี้เจ้า..ทาอะไรลงไป..ทาไมร่างกายของข้าถึงได้รู้สึกร้อน...
"
ในตอนนี้อาจเรียกได้ว่านี้เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัส
นั้นได้ละความสนใจจากทวนมังกรของหลินหมิงนางหันร่างกลับมา
โดยที่ตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาท้่งห่างจากกันไม่มากนัก นางยังคง
หวาดกลัวกับการจู่โจมของหลินหมิงอย่างไม่คาดคิดจึงทาให้นาง
ตัดสินใจไม่ให้ร่องสวาทให้แก่หลินหมิงอีก
" แล้วท่านรู้สึกดีหรือไม่ ? "
หญิงสาวเต็มไปด้วยความครุ่นคิดนางไม่เคยมีอาการเสร็จสมที่
รุนแรงเช่นนี้มาก่อนมันเป็นความสุขที่มาเกินกว่าทีน่ างจะอธิบายได้
เมื่อรวมกับกลิ่นหอมที่มาจากทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นี้แล้วนางจึง
ไม่อาจปฎิเสธได้อย่างเต็มปากว่านางไม่มีความสุข ร่องสวาทของ
นางยังคงสั่นกระตุกเล็กน้อยหลังจากที่โดนหลินหมิงโลมเลียเข้าราว
กับว่าร่องสวาทของนางนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งในร่างกายของนางอีก
ต่อไปมันมีความต้องการในการที่จะโดนหลินหมิงจู่โจมอีกรั้ง !
" ท่านจะรู้สึกกังวลไปทาไมกันเล่าข้านั้นมีพลังอ่อนแอ่กว่าท่าน
ตั้งมากมายอีกทั้งข้ายังโดนพันธนาการอยู่...ดังนั้นเป้าหมายของข้ามี
เพียงทาให้ท่านพึงพอใจให้มากที่สุดเพียงเท่านั้น "
หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสเมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงนางก็พลัน
คิดขึ้นได้ไม่มีเหตุผลใดที่นางจะต้องกังวลกับเด็กหนุม่ ผู้นี้
" หากเจ้าทาให้ข้าพอใจแล้วละก็ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่สังหารเจ้า
ทิ้งอย่างแน่อน "
หญิงสาวซัคคิวบัสกล่าวพร้อมกับหันใบหน้าเข้าหาทวนมังกร
ของหลินหมิงอีกครั้งในความเป็นจริงแล้วจุดประสงค์ของนาง
ในตอนนี้คือการที่นางอยากให้หลินหมิงใช้ลิ้นของเขาจู่โจมนางอีก
ครั้ง
" เช่นนั้นท่านสมควรปลดเปลื้องเสื้อผ้าของท่านออกเสียก่อน
ไม่เช่นนั้นเกรงว่าข้าจะไม่สามารถทามันได้อย่างถนัด "
หญิงสาวซัคคิวบัสไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ในตอนนี้นางสนใจเพียง
ความสุขที่หลินหมิงจะมอบให้แก่นางเพียงเท่านั้น ร่างกายเปลือย
เปล่าปรากฎสู่สายตาของหลินหมิง มันราวกับเป็นภาพจินตรกรรม
อันงดงามทีถ่ ูกสรรสร้างขึ้นโดยเทพเจ้าความงามของนางนั้นอาจ
กล่าวได้ว่าล้วนไม่มีที่ติแต่อย่างใด กลีบร่องสวาทสีชมพูอ่อนแสดง
ให้เห็นถึงพรหมจรรย์ของหญิงสาวที่ยังคงไม่สูญเสียไป
หญิงสาวสามารถสัมผัสได้ว่าทวนมังกรของหลินหมิงนั้นมีอาการ
สั่นกระตุกหลังจากที่นางได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกจนหมด
ไปเรียบร้อยแล้วพร้อมกับมีน้ารักของหลินหมิงที่ค่อยๆไหลออกมา
นางจึงเข้าทาการโลมเลียพวกมันอีกครั้งอย่างนึกเสียดาย
" อ๊าาาา อ๊าาาา อ๊าาา "
ลิ้นของหลินหมิงเข้าโลมเลียที่กลีบสีชมพูของหญิงสาวด้วย
ความร้อนแรงเสียงครางสนั่นของหญิงสาวราวกับว่านางต้องการให้
ผู้คนได้รับรู้ถึงความสุขของนางในขณะนี้ มันแตกต่างจากตอนนี้ที่
ลิ้นของเด็กหนุ่มได้โลมเลียร่องสวาทของนางในตอนแรกผ่านเสื้อผ้า
ของนาง ในตอนนี้นางสามารถรับรู้ได้ถึงลิ้นของหลินหมิงอย่าง
ชัดเจน
" มะ...มันเข้าไป..อู้ววว..สะ...สุดยอดด...เจ้า..ชะ..ช่างยอดเยี่มม
อ๊าาาา อ๊าาา ~~~~~~ "
เมื่อหลินหมิงส่งลิ้นเข้าไปสารวจโพร่งร่องสวาทของหญิงสาว
เพียงไม่นานน้ารักจานวนมากของนางก็ไหลพรั่งพรู่ออกมาต้อนรับ
ลิ้นของหลินหมิงอีกครั้ง ร่างกายของหญิงสาวสั่นกระตุกอย่าง
รุนแรงพร้อมกับน้ารักของหลินหมิงที่ได้ปะทุขึ้นมาเข้าสู่ภายในปาก
ของเช่นเดียวกัน
" พะ..พอก่อน....ขะ..ข้าเหนื่อย "
เมื่อหญิงสาวกล่าวเช่นนีห้ ลินหมิจึงไม่สามารถทาสิ่งใดได้แม้ว่า
หากเป็นในสถานการณ์ปกติหลินหมิงคงเข้าจู่โจมต่ออย่างไม่ลังเล
เพียงแต่ว่าในตอนนี้นางได้ย้ายสะโพกของนางให้หา่ งจากใบหน้า
ของหลินหมิงไปเสียแล้ว

ตอนที่ 53
หญิงสาวซัคคิวบัสหลบหนีมานอนหอบบนเตียงข้างกายหลินห
มิงไม่รู้ว่าอาจเป็นสัญชาตญานของเผ่าซัคคิวบัสที่ดีกว่าเผ่ามนุษย์ที่
ทาให้นางให้ตัดสินใจเช่นนี้ หรืออาจเป็นเพราะนางอาจรู้สึกมี
ความรู้แปลกๆกับทวนมังกรของหลินหมิงที่ไม่ว่านางจะรีดเค้นมัน
ไปมากเพียงใดมันกลับไม่มีทีท่าว่าจะหดลงไปเลยแม้แต่น้อย จาก
การโลมเลียของหลินหมิงมันทาให้ร่างกายของนางรู้สึกเหนื่อยอ่อน
อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมันไม่ใช่ความรู้สึกทรมานอย่างการเหนื่อย
ล้าปกทั่วไป แต่มันคือความเหนื่อยล้าจากการเสพสุขมากจนเกินไป
มากกว่าในความคิดของหญิงสาว
นางมองดูใบหน้าของหลินหมิงที่แม้จะเค้าโครงใบหน้าของบุรุษ
รูปงามแต่มันก็ยงั ไม่อาจนับได้ว่าเป็นบุรุษรูปงามทีห่ าได้ยากยิ่งอีก
ทั้งด้วยหน้าตาผิวพรรณของเด็กหนุ่มผู้นดี้ ูแล้วสาควรมีอายุราว 15-
16 ปีเพียงเท่านั้นแต่เขากลับมีความสามารถในเรื่องนี้อย่างช่าชอง
? เผ่าซัคคิวบัสของนางนั้นหากคนทั่วไปได้ยินชือ่ แล้วอาจต้องนึก
ถึงเรื่องของคนในเผ่าที่มีความสามารถในเรื่องทางเพศระดับสูงใน
การดูดซับพลังหยางจากเหล่าบุรุษ แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่า
เผ่าพันธ์ของนางจะมีความสามารถเช่นนั้นอย่จริงแต่ส่วนใหญ่พวก
เขาจะไม่ใช่วิธีการร่วมรักในการดูดพลังหยาง
เผ่าพันธ์ซัคคิวบัสของนางนั้นสามารถทาการดูดพลังหยางจาก
เหล่าบุรุษที่อ่อนแอ่กว่าตนได้ในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆยิ่ง
เป้าหมายมีความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นกันเพียงใดผลลัพธ์ของการดูด
พลังก็ยิ่งแสดงผลได้ดียงิ่ ขึ้นมากเท่านั้น และนั้นเป็นวิธีที่นางได้ใช้
กับกลุม่ ของชาวบ้านที่เผลอเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ สาหรับตัวนางนั้น
เป็นเพียงผู้ที่เหลือรอดไม่กี่คนของเผ่าพันธ์เนื่องจากความแข็งแกร่ง
ที่มากจนเกินไปทาให้เผ่าพันธ์อื่นนั้นเกรงกลัวพวกเขาเหล่านั้นจึงได้
ทาการรวมกลุ่มเข้าโจมตีเผ่าพันธ์ของนางเมื่อพันปีก่อน
ใช่แล้วเผ่าพันธ์ซัคคิวที่เป็นดั่งตานานนั้นมีอายุขัยที่มากกว่า
เผ่าพันธ์อื่นอย่างเทียบไม่ติดและนางเองก็มีอายุไม่น้อยไปกว่า 1500
ปี ดังนั้นแล้วพวกนางจึงมีเวลาในการพัฒนาฝึกฝนที่มากกว่า
เผ่าพันธ์นอื่น หลังจากผ่านการต่อสู้เมื่อพันปีก่อนร่างกายของนาง
ต้องเข้าสู่ภาวะหลับไหลเนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้
นางไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเผ่าพันธ์ของนางเป็นเช่นไรบ้างในตอนนี้ที่
นางสามารถทาได้ในตอนนนี้มีเพียงฟื้นกาลังตัวของนางให้ได้มากที่
สุดแต่ในเรื่องนั้นดูเหมือนว่าจะมีความยากลาบากเล็กน้อยเนื่องจาก
ในยุคนี้ที่นางได้ตื่นมาหลังจากหลับไหลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
ผู้คนล้วนอ่อนแอ่กว่าในอดีตกันอย่างเทียบไม่ติดขนาดในตอนนี้นาง
ที่ไม่ได้มีพลังที่สามารถเทียบเท่าได้กับก่อนหน้า
แม้ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปแต่พลังหยางของพวกเขา
ล้วนไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับบุรุษในอดีตที่นางได้เคยดูดซับมา
เลยแม้แต่น้อยนั้นจึงทาให้การฟื้นตัวและพลังของนางเป็นไปได้
เชื่องช้า แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าพันปีที่ผ่านมานั้นเกิดอะไรขึ้นมาบ้างแต่
นางยังคงไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของนางให้กับใครได้รู้มิเช่นนั้น
แล้วชีวิตของนางอาจอยู่ตกในอันตรายอีกครั้ง
เพราะนางยังคงไม่สามารถรับรู้สถานการ์ณและความแข็งแกร่ง
ของคนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดีนักแต่จากการที่นางได้ดูกลืนพลังหยาง
ของเหล่าบุรุษที่ผ่านทางมาล้วนแล้วแต่มีกระทัง่ ชาวบ้านและพวกที่
ดูเหมือนจะเป็นนักรบของเผ่ามนุษย์จึงพอทาให้นางดูความทรงจา
ของพวกเขาเหล่านั้นบางส่วนและสามารถประเมิณความแข็งแกร่ง
ของเผ่ามนุษย์ได้
สาหรับสหายร่วมเผ่าพันธ์ของนาง นางไม่อาจตั้งเป้าความหมาย
ไว้สูงนักหลังจากที่พวกนางทั้งหมดต้องรับศึกหนักเช่นนั้นมันแทบ
จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตรอดจากสงครามไม่สิไม่อาจเรียกได้ว่า
เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์แม้ว่าเผ่าซัคคิวบัสจะมีความแข็งแกร่งที่
มากกว่าเผ่าอื่นแต่ถึงอย่างนั้นจานวนของคนในเผ่าพันธ์ก็นับได้ว่า
น้อยกว่าเผ่าอื่นด้วยเช่นกันไม่ต้องกล่าวในกรณีนี้ที่แทบจะทุกเผ่า
ร่วมมือกันเข้าโจมตีพวกนาง
แต่ยังนับว่าเป็นโชคดีของนางที่ดูเหมือนว่านางจะได้พบกับบุรุษ
หนุ่มทีม่ ีพลังหยางกล้าแกร่งพลังหยางของเขานั้นมีมากเสียยิ่งกว่า
บุรุษใดที่นางเคยพบเจอมา ทั้งที่เมื่อดูจากภายนอกแล้วเขาดูเป็น
บุรุษรุ่นเยาว์ที่มีอายุราว 15-16 ปีเพียงเท่านั้นอีกทั้งเปลวเพลิงสีดา
ทมิฬที่เขาได้ใช้ออกมานั้นทาให้นางรู้สึกคุ้นเคยแม้ว่านางจะเคยจา
ได้ว่าเคยเห็นมาก่อนแต่นางกลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ใด
แต่แน่นอนว่าเปลวเพลิงสีดานี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกทีด่ ีต่อนางเลย
แม้ว่านางจะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าบุรุษหนุ่มผูน้ ี้แบบที่ไม่
สามารถเปรียบเทียบกันได้แต่ถึงอย่างนั้นภายในจิตใจของนางถึงกับ
ต้องสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเปลวเพลิงสีดาทมิฬเช่นนี้ ด้วยการที่
เผ่าพันธ์ของนางนั้นจะมีประสาทสัมผัสที่ค่อนข้างดีในการ
ตรวจสอบพลังหยางนางจึงสามารถสัมผัสพลังหยางของบุรุษหนุ่มผู้
นี้ได้อย่างชัดเจน
ยิ่งในตอนที่เขาได้ใช้เปลวเพลิงสีดาอันนั้นออกมาราวกับว่า
ภายในถ้านั้นถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นหอมจากพลังงานหยางของเขา
มันแทบจะทาให้นางรู้สึกเคลิ้มราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ดังนั้นแล้ว
นางจึงตัดสินใจที่ไม่สังหารบุรุษหนุ่มผู้นีทิ้ง แน่นอนว่าการดูดซับ
พลังงานหยางนั้นสามารถทาได้หลายวิธีและหนึ่งในนั้นคือการดูด
ซับจากน้ารักของเหล่าบุรุษ แต่วิธีนี้นั้นเผ่าพันธ์ของนางมักใช้กับ
บุรุษที่พวกนางถูกใจเพียงเท่านั้น
และดูเหมือนว่าความคาดหลังของตัวนางทีม่ ีต่อเด็กหนุ่มนั้นจะ
ไม่เสียเปล่ากลิ่นหอมที่บริเวณทวนมังกรของเขานั้นนางสามารถ
สัมผัสได้ตงั้ แต่ที่มันยังคงไม่ปรากฎตัวออกมา แค่เพียงกลิ่นที่ส่งออก
มานั้นมันก็สามารถบ่งบอกถึงความบริสุทธ์ของพลังหยางจากเด็ก
หนุ่มได้เป็นอย่างดี
แต่เรื่องที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อนางได้ทาการปลดปล่อย
ทวนมังกรของเขาให้เผยออกสู่โลกแล้วนั้น กลับกลายเป็นว่าทวน
ของเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นมีขนาดยิ่งใหญ่กว่าทวนทั่วไปแบบเทียบกันไม่
ติด ด้วยขนาดที่ใหญ่ของมันมันคงสามารถทะลวงประตูของหญิง
สาวให้แหลกเละโดยง่ายภายในทีเดียว
ราวกับร่างกายของนางนั้นถูกสั่งการโดยธรรมชาติแน่นอนว่า
แม้ว่านางจะมีอายุยืนยาวมากว่า 1500 ปีแต่ถึงเช่นนั้นนางยังคงไม่
เคยมีประสบการณ์เช่นใดกับบุรุษมาก่อนแต่ในตอนนี้แม้แต่นางเอง
ยังคงรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหวของนางนั้นดูเป็นธรรมชาติเสียยิ่งกว่า
พวกพ้องของนางที่โชกโชนไปด้วยประสบการณ์
เมื่อลิ้นของนางเข้าทาการโลมเลียสัมผัสน้าเหนียวข้นที่ไหล
ออกมาจากทวนมังกรของเด็กหนุม่ ถึงกับทาให้ร่างกายของนางสั่น
สะท้านไปด้วยความรู้สึกแปลกๆร่องสวาทของนางพลั่นรู้สึกมี
อาการตื่นตัวขึ้นในทันที เพียงไม่นานนางก็ตดั สินใจได้ว่าสิ่งที่นาง
จะต้องทาในตอนนี้มีเพียงแค่ปล่อยตัวไปตามสัญชาติญานและลิ้ม
รสความสุขเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ

ตอนที่ 54
แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะอยู่ในสภาพที่ถูกพันธนาการเอาไว้อยู่
แต่เขายังคงสามารถเอียงคอมองภาพของสาวสวยเผ่าซัคคิวบัสที่
กาลังนอนแผ่ร่างบนเตียงข้างกายเขาด้วยสภาพเปลื่อยเปล่า
หน้าอกขนาดไซด์มหึมากาลังทาการเคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างไม่หยุด
หย่อนตามจังหวะการหายใจอย่างเหนื่อยหอบของหญิงสาว
ผิวพรรณที่ขาวเรียบเนียนในตอนนี้ปรากฎสีชมพูบางขึ้นมาบาง
จุดจากอาการเหนื่อยล้าพร้อมกับคราบเหงื่อใสๆที่ออกมาจากรูขุม
ขนของหญิงสาวผู้งดงามมันทาให้ในตอนนี้เสน่ห์ทมี่ ีอยู่ในตัวของ
หญิงสาวนั้นทีม่ ากจนเกินกว่าชายใดจะห้ามใจยิ่งมากขึ้นไปอีก หาก
บุรุษใดเมื่อได้เห็นภาพของนางที่กาลังนอนด้วยสภาพเช่นนี้พวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่หมดไฟไปแล้วพวกเขาก็ยังต้องลุกขึ้นสู้
กับภาพตรงหน้าอย่างสุดฤทธิ์
เมื่อหลินหมิงได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าตัวเขาจะผ่านการ
ร่วมรักกับหญิงสาวมามากแต่มันก็ยงั คงไม่สามารถเปรียบเทียบกับ
หญิงสาวตรงหน้านี้ได้ เสียงกลืนน้าลายลงคอเฮือกใหญ่ด้วยความ
เสียดายที่ไม่อาจทาตามใจตนเองของหลินหมิงกระตุ้นให้หญิงสาว
หันมามองในตัวของเขา ถึงนางจะไม่มีประสบการณ์กับบุรุษมาก่อน
แต่เมื่อได้เห็นแววตาของหลินหมิงเช่นนี้มีหรือที่นางจะไม่สามารถ
คาดเดาได้
หญิงสาวเหลือบมองไปทีท่ วนมังกรของหลินหมิงด้วยความลังเล
ใจไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการที่จะไม่ทาการร่วมรักกับเด็กหนุ่มผู้นดี้ ้วย
พลังหยางที่บริสุทธ์มากถึงเพียงนี้และดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่
สะทกสะท้านกับการที่นางดูดพลังหยางของเขาไปเลยแม้แต่น้อยซึ่ง
หากเป็นคนธรรมดานั้นพวกเขาอาจตกตายไปหลายรอบแล้วก็
เป็นได้ หากพวกพ้องของนางยังคงอยู่นั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันอาจ
เกินการต่อสู้เพื่อแย่งชิงตัวเด็กหนุ่มคนนี้
แต่ปัญหาสาหรับนางในตอนนี้ก็คือขนาดทวนมังกรของเขาที่ไม่
ว่าจะดูอย่างไรแล้วมันก็ใหญเกินกว่าที่นางจะสามารถรับมือได้ไหว
อันที่จริงในความคิดของนางมันสมควรกล่าวได้อีกอย่างว่ามันจะมี
สตรีนางใดที่สามารถรับมือกับทวนมังกรเช่นนี้ได้ไหวจริงๆนะหรือ ?
แต่แล้วทันใดนั้นหญิงสาวก็พลันมีความคิดดีดีขึ้นมานางรีบลุกขึ้น
จากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วหายวับไปในทันทีโดยทีห่ ลินหมิงไม่ทัน
จะได้เห็นการเคลื่อนไหวของนางเลยเสียด้วยซ้า
เพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจต่อมาหญิงสาวปรากฎมาในห้องของนาง
อีกครั้งเพียงแต่ในคราวนี้นางไม่ได้ปรากฎมาเพียงลาพัง แต่ยังมีร่าง
ของสาวน้อยวัยใสที่กาลังทาสีหน้างุนงงซึง่ นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก
เสี่ยวยู้นั้นเองหลินหมิงไม่รู้ว่าในตอนนี้หลัวฉิงเชี่ยนนเป็นอย่างไร
บ้างแต่ในเมื่อเสี่ยวยู้นั้นยังคงมีชีวิตอยู่นั้นก็แสดงว่ามีโอกาสอย่าง
มากที่หลัวฉิงเชี่ยนยังคงมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกัน
หลินหมิงมองไปที่หญิงสาวซัคคิวบัสด้วยความสับสนเขาไม่
เข้าใจเลยจริงๆว่าในตอนนี้นางกาลังตั้งใจทาสิ่งใด เทียบกับอาการ
ของหลินหมิงในตอนนี้เสี่ยวยู้นั้นแตกต่างออกไป เมื่อนางถูก
เคลื่อนย้ายมาอย่างรวดเร็วเข้ามาภายในห้องแห่งนี้นางเต็มไปด้วย
ความสับสนแต่เมื่อนางได้เห็นร่างของหลินหมิงที่กาลังเปลื่อยเปล่า
อยู่แม้ว่านางจะเป็นเพียงเด็กที่อายุไม่ถึง 10 ปีกต็ ามแต่นางก็พอรู้
เรื่องราวและความอับอายที่เป็นพื้นฐานอยู่บ้าง
" ข้าจะให้เจ้าร่วมรักกับนางซะ ! "
จากความคิดของนางหญิงสาวผู้งดงามนั้นหากนางมีความกังวล
ในเรื่องขนาดทวนมังกรของหลินหมิงนั้นทางออกก็ง่ายเพียงนิด
เดียวเท่านั้น นางเพียงแค่ต้องดูการร่วมรักของเขากับสตรีอื่นและยัง
โชคดีที่นางยังไม่ได้สังหารทั้งเสี่ยวยู้และหลัวฉิงเชี่ยน
เหตุที่นางไม่เลือกหลัวฉิงเชี่ยนนั้นเป็นเพราะว่านางต้องการรู้ว่า
หากเป็นสตรีที่ยังเป็นเด็กเช่นเสี่ยวยู้นั้นทวนมังกรของหลินหมิงนั้น
จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อแม่สาวน้อยนางนี้บ้างแน่นอนว่าในเรื่อง
ความอดทนนั้นเด็กสาววัยไม่ถึง 10 ปีนางนี้ยอ่ มมีความอดทนที่
น้อยกว่าอย่างไม่อาจเทียบ และหากนางไม่สามารถทนได้หญิงสาวผู้
งดงามนางก็จะเปลี่ยนเป็นหลัวฉิงเชี่ยนในภายหลังก็ย่อมได้
เสี่ยวยู้เมื่อได้ยินคากล่าวของหญิงสาวผู้งดงามก็ตนื่ ตะลึงไป
ในทันทีแน่นอนว่านางเข้าใจในความหมายเหล่านั้น แน่นอนด้วย
ความใสซื่อและยังเยาวัยของนางทาให้นางยังคงไม่อาจรับรู้ถึง
กระบวนการการ่วมรักต่างๆของบุรุษกับสตรี แต่อย่างน้อยนางก็พอ
รู้ได้ว่าทั้งบุรุษและสตรีนั้นจะต้องทาการหลับนอนด้วยกัน ทาการ
ประกบปากซึ่งกันและกันและเปลื่อยเปล่าต่อนหน้ากันและกัน
" นะ..นี้ท่านหมายความว่าอย่างไร ? "
" ก็ตามที่ข้าพูดหากเจ้าไม่ทาเช่นนั้นข้าก็จะสังหารเด็กสาวนางนี้
รวมถึงเพื่อนของเจ้าด้วย "
" พะ..พี่ชายข้าไม่เป็นไรหรอก..นี้ถือว่าเป็นโทษของข้าที่ทาให้
พวกท่านต้องมาพบเจออันตราย "
เด็กสาวกล่าวออกมาด้วยท่าทีสานึกผิด แต่ที่หลินหมิงกังวลนั้น
ไม่ใช่เรื่องความคิดของเด็กสาวแต่เป็นความคิดภายในใจของหญิง
สาวผู้งดงามต่างหาก แต่ถึงเป็นเช่นนั้นในสภาพของหลินหมิง
ในตอนนี้ก็ไม่สามารถทาสิง่ ใดได้อยู่ดีเขาจาเป็นจะต้องทาตามคา
กล่าวของหญิงสาวผู้งดงามอย่างเลี่ยงไม่ได้
" ข้าเกรงว่าข้าคงไม่อาจสามารถทามันได้อย่างถนัด..เนื่องจาก
มันยังคงมีสงิ่ พันธนาการ.. "
เคร้งง
เพียงหญิงสาวผู้งดงามดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวโซ่พันธนาการที่รั้ง
ร่างของหลินหมิงเอาไว้กพ็ ลันสลายหายไปในทันที
" ทีนี้ก็เรียบร้อยแล้วสินะ "
หลินหมิงจ้องมองไปที่เสี่ยวยู้แน่นอนว่าหลินหมิงยังคงมี
ความเห็นใจเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวของเด็กสาว หญิงสาวผู้งดงามใช้
สายตาจ้องมองไปที่เสี่ยวยู้ราวกับต้องการให้นางดาเนินการโดยเร็ว
ที่สุด เสี่ยวยูก้ ้าวขึ้นมาบนเตียงด้วยความกังวลนางซึ่งยังเป็นเด็ก
สาวไร้ซึ่งประสบการณ์ใดๆกลับต้องมาเสียความบริสุทธ์ของนางใน
วันนี้เสียแล้ว
ร่างเล็กๆของหญิงสาวสั่นไปด้วยความกังวลอย่างปิดไม่มดิ
หลินหมิงทาการโอบร่างกายของเด็กสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเป
ลื่อยเปล่าของเขา สัมผัสไออุ่นที่ออกมาจากตัวของหลินหมิงทาให้
เสี่ยวยู้ถึงกับตาเบิกกว้าง นางไม่คิดว่านางจะได้รับการให้อภัย
หลังจากที่นางได้กระทากาลงไปเช่นนั้นแต่ถึงอย่างนั้นหากย้อนไปได้
นางก้คงต้องทาอย่างนี้อย่างเดียวเพียงเท่านั้น
หยดน้าตาใสๆของเด็กสาวไหลอาบแก้มเนียนนุม่ ของนางไม่ว่า
จะด้วยเพราะเหตุใดเมื่อนางได้อยู่ใกล้หลินหมิงเช่นนี้นางรู้สึก
เหมือนกับว่าตัวเองได้อยูใ่ นที่ที่ปลอดภัยสาหรับเด็กสาวที่เสียพ่อที่
เป็นพึ่งพาไปเป็นธรรมดาที่นางจะต้องเกิดความรู้สึกเช่นนี้ นางพยัก
หน้าให้หลินหมิงหนึ่งครั้งเป็นเชิงว่านางพร้อมกับสาหรับเรื่องอย่าง
ว่าแล้ว
หลินหมิงประคองร่างของเด็กสาวให้นอนหงายลงบนเตียงอย่าง
แผ่วเบาพร้อมกับทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกอย่าง
เชื่องช้า ถึงเสี่ยวยู้จะเป็นเพียงเด็กสาววัยที่ยังใบผลิบานเหมือนกับ
บรรดาๆสาวของเขาที่ผ่านมาแต่ด้วยความความสดใสในวัยนี้ของ
นางนั้นกลับมีเสน่ห์ไปอีกแบบในสายตาของหลินหมิง ผิวเนียบนุ่ม
ลื่นสีชมพูอ่อนปรากฎเผยสู่สายตาของหลินหมิงท่ามกลางความ
เอียงอายของเด็กสาว
ร่องสวาทของเด็กที่ยังคงเป็นกลีบสีชมพูดสดกับผิวหนังเปล่ง
ปลังของเด็กสาวมันช่างรูส้ ึกเร้าอารมณ์ของหลินหมิงไปอีกแบบหนึ่ง
หากเป็นในสถานการณ์ปกติหลินหมิงก็ต้องขอทาการเล้มโลม ทุก
ส่วนของร่างกายของนางเสียก่อน แต่ในตอนนี้นั้นยังคงมีสายตาของ
หญิงสาวผู้งดงามจ้องมองเขาราวกับเป็นเชิงให้เขาลงมือเสียที
หลินหมิงขึ้นไปคร่อมร่างของเสี่ยวยู้พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งลูบ
ไปที่ศรีษะไล่ลงมาที่ใบหน้าของหน้าเพื่อให้นางคลายความกังวล
สาหรับหญิงสาวที่จะต้องเสียความบริสุทธ์ครั้งแรกไปนั้นเป็น
ธรรมดาที่พวกนางจะกังวลจนมีอาการเกร็งขึ้นมานั้นจะทาให้การ
ร่วมรักของพวกเขานั้นยากขึ้นไม่ต้องสงสัยสาหรับตัวของเด็กสาว
ในวัยเพียงเท่านี้ความกังวลของนางอาจมากกว่าหญิงสาวโดยทั่วไป
อย่างเทียบไม่ตดิ
เสี่ยวยู้นางไม่กล้ามองถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นลาพังเพียงตอนนี้ที่นาง
ต้องเปลื่อยเปล่าประกบชิดร่างกับหลินหมิงนางนั้นก็รู้สึกอายจนเกิด
กว่าจะรับไหวอยู่แล้ว มือเล็กทัง้ ๆสองข้างถูกยกขึ้นมาปิดใบหน้า
ของนางเอง โดยที่ในตอนนี้นางไม่รู้เลยว่าทวนมังกรแท่งใหญ่ของ
หลินหมิงนั้นกาลังจดจ่อทีร่ ่องสวาทของนางอยู่
นางสามารถรู้สึกได้แค่เพียงผิวหนังสัมผัสที่บริเวณร่องสวาทของ
นางกับเนื้อหนังบางส่วนของหลินหมิงแต่ถึงอย่างนั้นที่บริเวณ
ส่วนล่างของนางก็เริ่มมีปฎิกริยาขึ้นมาหลังจากที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงเริ่มที่จะทาการบุกทะลวงเข้าไปอย่างเชื่องช้า
ด้วยร่องสวาทของเด็กสาวเช่นนี้มันเป็นธรรมดาทีม่ ันจะมีขนาด
คับแคบกว่าหญิงสาวทั่วไปหลินหมิงจึงจาเป็นต้องลงมืออย่าง
เชื่องช้า เขารู้สึกได้ถึงอาการเกร็งไปทั่วทั้งร่างกายของเด็กสาว
ดังนั้นหลินหมิงจึงทาการใช้ลิ้นของเขาโลมเลียไปที่บริเวณหน้าอกคู่
เล็กน้อยสีชมพูของนาง
" อ๊าา อ๊าาา พี่ชาย..มะ..ไม่ได้นะ...อ๊าา "
เสียงครางของเด็กสาวครางออกมาหลังจากที่บริเวณส่วนปลาย
ทวนของหลินหมิงเริ่มแทงทะลวงเข้าไปพร้อมกับลิน้ ของหลินหมิงที่
กาลังเล่นอยู่กับยอดปทุมถันของนาง แม้ว่านางจะไม่สามารถบอก
ได้ว่าความรู้สึกเช่นนี้เป็นเช่นไรแต่อย่างน้อยมันย่อมไม่ใช่ความรู้สึก
ทรมาน แม้ว่าที่บริเวณส่วนล่างของนางจะเริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
บ้างแต่ถึงอย่างนั้นมันกลับถูกแทนทีด่ ้วยความเสี่ยวซ่านจากบริเวณ
หน้าอก และร่องสวาทของนางไปในทันทีนางเริ่มยกมือทั้งสองข้าง
ออกจากใบหน้าแล้วเปลี่ยมาเป็นการกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้
แทน
หลินหมิงเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทาการเสียบดุ้นเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม
สัมผัสภายในร่องของนางนั้นคับแคบและเนียนนุ่มยิ่งกว่าสาวคนใด
อาจเป็นเพราะนางยังคงเด็กอยู่ เลือดสีแดงสดไหลอาบออกมาจาก
บริเวณร่องสวาทของเด็กสาวแต่ถึงอย่างนั้นนางกลับไม่ส่งเสียงใดๆ
นอกจากเสียงครางกระเส้าเพียงเท่านั้น
" มะ..มันเข้ามาอยู่ในร่าง..กายแล้ว..อ๊าาาาา อ๊าาามัน..แน่น..
ใหญ่เกินไปแล้ว อ๊าาาา..รู้สึกอุ่น อ๊าาาาา ~~~~~~~~~ "
น้ารักใสๆของนางพุ่งออกมาเป็นจานวนมากไม่แพ้กับหญิงสาว
โดยทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงกอดหลินหมิงเอาไว้แน่นยิ่ง
กว่าเดิมอีกทั้งขาทั้งสองข้างของนางยังคงถูกยกขึ้นมาคล้องเกี่ยวกัน
ไหวราวกับไม่ต้องการให้หลินหมิงแยกจากไปไหน
ด้วยขนาดสภาพร่องที่คับแน่นเช่นนี้หลินหมิงเองก็ไม่อาจหัก
ห้ามใจตนเองได้มากนักเขาค่อยๆทาการดันทะลวงดุ้นของเขาเข้าไป
จนสุดโพร่งของเด็กสาว สีหน้าของนางนั้นสามารถบ่งบอกได้เป็น
อย่างดีถึงอาการจุกที่อยู่ภายในท้อง
" ฉี่..ข้า...จะออกมา..อีกแล้วพี่ชาย...อ๊าาาาาา ~~~~~~~~~~ "
" มะ..มันไม่ยอมหยุด...อร้างงงง ~~~~~~~~~ "

ตอนที่ 55
ด้วยการที่ยังเป็นเด็กสาววัยสดใสอยู่นั้นการที่เสี่ยวยู้นางจะต้อง
มาเสียความบริสุทธ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบถึงจิตใจของเด็กสาว แต่
หากดูจากใบหน้าของนางแล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสี่ยว
ยู้ไม่สามารถรับรู้ได้ว่านางได้ปลดปล่อยน้ารักของนางออกมา
มากมายกี่ครั้ง แต่ตราบใดที่ทวนมังกรของหลินหมิงยังคงอยู่ภายใน
ร่องสวาทของนางนั้นน้ารักของนางก็จะยังคงไหลออกมาอย่างไม่
หยุดหย่อน
" อ๊าา พะ..พี่ชาย..ของ..พี่ชายมัน...กระตุก อ๊าาาาาาาาาาาา
~~~~~~~~ "
ในจังหวะนั้นเองนี้ก็เป็นขีดจากัดของหลินหมิงแล้วเช่นกันกับ
การที่ต้องรับมือกับร่องสวาทที่คับแน่นแบบนี้หากเป็นตัวของหลินห
มิงที่ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์ร่วมรักกับสตรีใดมาก่อนนั้นเขาอาจ
ต้องเสร็จสมไปในตั้งแต่ตน้ ไปแล้ว เสี่ยวยู้ในตอนนี้ถึงกับครางเสียง
หลงเมื่อนางสัมผัสได้ว่ามีของเหลวอุ่นๆถูกปลดปล่อยเข้ามาภายใน
ตัวนางด้วยจานวนที่เยอะมาก
ร่างกายของเด็กสาวที่บอบบางและร่องสวาทที่ยังเติบโตไม่
สมบูรณ์พร้อมนั้นไม่อาจรองรับน้ารักของหลินหมิงเอาไว้ได้ทั้งหมด
ทาให้ท้องของเด็กสาวถึงกับโป่งโพ่งราวกับมันจะแตกออกในทันที
หลินหมิงดึงทวนมังกรของเขาออกเมื่อเห็นเช่นนี้น้ารักจานวนมาก
ไหลพุ่งทะลักออกมาจากร่องสวาทของเสี่ยวยู้แบบหยุดไม่อยู่
" อร้างงงงงงงงง ~~~~~~ "
หลังจากผ่านไปเพียงชั่วครู่คลื่นน้าทะลักที่ออกมาจากร่องสวาท
ของเด็กสาวก็หยุดลงพร้อมกับร่างกายของนางที่เหนื่อยอ่อนแบบ
เต็มที่จนหลับสนิทไป ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้มีร่างของหญิง
สาวผู้งดงามจ้องมองการร่วมรักของพวกเขาอย่างไม่กระพริบตา
สายตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงมั่นชัดเจนว่าด้วยร่อง
สวาทของเด็กสาวเช่นเสี่ยวยู้นั้นการรับมือกับทวนมังกรขนาดใหญ่
เช่นนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวนางนี้กลับทนได้
และยังคงส่งเสียงออกมาด้วยความเปี่ยมสุข ?
ใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงามถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูอ่อน
พร้อมกับยืนบิดข้างไขว้กนั เมื่อนางได้เห็นบทรักที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่า
มันจะเป็นเพียงชั่วเวลาเพียงไม่นานแต่มันกลับทาให้นางมี
ความรู้สึกแปลกๆที่บริเวณร่องสวาทของนางด้วยเช่นกัน มันจะ
เป็นไปได้รึเปล่าว่านางเองก็สามารถรับมือกับทวนมังกรแท่งนี้ได้ ?
หญิงสาวพลันจินตนาการนึกถึงในตอนนี้ที่นางนอนหงายร่างให้
เด็กหนุ่มเข้าจู่โจมด้วยทวนมังกรเพียงแค่นางจินตนาการได้ไม่นาน
ร่างกายของนางก็พลันรู้สึกสั่นสะท้านไปทัว่ ร่าง ต่อมานางสามารถ
สัมผัสได้ว่ามีสายตาของเด็กหนุ่มที่จ้องมาที่นางด้วยความสงสัย
หญิงสาวผู้งดงามดูสภาพร่างกายของเด็กหนุ่มที่ร่วมรักกับเด็ก
สาวมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีอาการเหนื่อยล้าแต่อย่างใดกลับกัน
เมื่อดูจากสายตาที่เขาจ้องมองมาที่นางนั้นนางสามารถสัมผัสได้ว่า
อารมณ์ของเขากาลังพุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
" เอาล่ะ..นะ..นี้ถือเป็นโชคดีของเจ้า..ขะ..ข้ายินให้เจ้าร่วมรักกับ
ข้าได้..แน่นอนว่าหากเจ้าทาให้ข้าพึงพอใจได้ข้าจะมีรางวัลให้เจ้า
อย่างงาม "
หลินหมิงแทบจะอยากตะโกนออกไปในทันทีว่ารางวัลที่เขา
ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ย่อมเป็นร่างกายของหญิงสาวผู้งดงาม
ตรงหน้าโดยแท้จริงดูจากสัดส่วนโค้งว้าวตามร่างกายเปลื่อยเปล่า
พร้อมกับผิวขาวเรียบเนียนนี้แล้วมันสามารถกระตุน้ อารมณ์ของ
หลินหมิงให้ตื่นตัวได้ไม่รู้จบ
หญิงสาวผู้งดงามเดินมาทีเตียงพร้อมกับนอนหงายร่างเพื่อเป็น
การเชื้อเชิญให้หลินหมิงเข้ามาจู่โจมนางได้ตามสบายเพราะ
ในตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าแม้ว่าขนาดทวนมังกรของหลินหมิงจะมี
ขนาดใหญ่แต่มันคงไม่สร้างความเจ็บปวดให้แก่นางมากนักเพราะ
ขนาดเด็กสาวที่อ่อนแอ่ก็ยังคงสามารถรับมือกับมันได้
หลินหมิงมองไปที่ร่างของหญิงสาวผู้งดงามด้วยความหื่น
กระหาย และเมื่อเขาได้เห็นท่าทีเชื้อเชิญของหญิงสาวมีหรือที่
หลินหมิงคิดจะรีรอหลินหมิงกระโดดเข้าหาร่องของนางในทันทีที่
นางอนุญาติ ริมฝีปากของหลินหมิงเข้าดูดดมยอดปทุมถันพร้อมกับ
มือทั้งสองที่เข้าสัมผัสลูบไล้ผิวหนังเนียนนุ่มที่บริเวณหน้าอกของ
นาง
" อ๊าา...ดะ...เดียวสิ...อ๊าาา..นะ..นี้เจ้า..ทาอะไร..อ๊าาาาาาาาา
~~~~~ "
หญิงสาวผู้งดงามนางรู้สึกตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยเมื่อได้เห็นการ
กระทาของหลินหมิงที่เข้าจู่โจมนางเช่นนี้ในตอนแรกนางบอกให้เข้า
ทาการร่วมรักกับนางไม่ใช่หรอแล้วเหตุใดเขาถึงได้เข้ามาดูดยอด
ปทุมถันของนางราวกับเป็นเด็กน้อยเช่นนี้ อีกทัง้ มือทั้งสองข้างของ
เด็กเด็กหนุม่ ยังคงเคลื่อนไหวอย่างซุกซนไปทั่วร่างกายของนาง แต่
แม้ว่านางจะตกใจแต่ภายในใจของนางกลับรู้สึกได้ถึงความสุขที่
กาลังเพิ่มขึ้น
สัมผัสรสชาติที่ปลายลิ้นของหลินหมิงที่สมั ผัสยอดปทุมถันของ
หญิงสาวนั้นมันช่างเป็นผิวเนียนนุ่มราวกับว่ามันจะสลายไปในทันที
หากเขาทามันรุนแรงเกินไป กลิ่นหอมเย้ายวนที่แผ่ออกจากตัวของ
นางในตอนนี้หลินหมิงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน หลินหมิงทา
การใช้มือข้างหนึ่งไล่ลูบไล้ลงไปจากบริเวณหน้าทองไล่ถึงบริเวณต้น
ขาเข้าสู่จุดลับของหญิงสาว..
" นะ...นี้เจ้า..พะ..พอ..อื้ออออออออออ~~~~~~~~~ "
หญิงสาวผู้งดงามไม่สามารถกล่าวตอบโต้ใดๆได้เพราะในตอนนี้
ริมฝีปากของนางได้ถูกหลินหมิงเข้าประจูบอย่างดูดดื่มอย่างไม่ทัน
ตั้งตัวอีกทั้งมือข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มก็บุกเข้าสารวจโพร่งร่องสวาท
ของนางอย่างอุกอาจ หลินหมิงสามารถสัมผัสได้ว่าในตอนนี้หญิง
สาวผู้งดงามนางนี้ดูเหมือนว่านางจะมีอารมณ์ตอบสนองที่ดียิ่งกว่า
หญิงสาวโดยทั่วไปนั้นอาจเป็นเพราะจุดเด่นเรื่องเผ่าพันธ์ของนาง ?
ก็เพราะว่าในตอนนี้ที่บริเวณโพร่งร่องของนางนั้นเต็มไปด้วยน้ารัก
ใสๆที่ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตกทั้งที่นางเพียงแค่โดนเล้าโลมพียง
เท่านั้น
ริมฝีปากของหญิงสาวนั้นให้ความรู้สึกที่ดีเยี่ยมรสชาติภายใน
ปากของนางนั้นราวกับผลไม้จากสวรงสวรรค์ ลิ้นของหลินหมิงเข้า
ทาการสารวจทุกซอกมุมภายในปากของนางพร้อมกับผัวพันลิ้นของ
นางจนนางไม่อาจตามการเคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ทัน แม้ว่า
ในตอนแรกนางจะมีท่าทีขัดขืนเพียงแต่ในตอนนี้หญิงสาวในตอนนี้
เพียงตั้งใจจดจ่อรับความสุขที่หลินหมิงถ่ายถอดมาให้แก่นางเท่านั้น
" อ๊าา..ขะ..หายใจ..ไม่.. "
ไม่สามารถรับรู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดที่หลินหมิงทาการแลกลิ้น
ประกบปากกับหญิงสาวอย่างเพลิดเพลิน หลินหมิงทาการถอนริม
ฝีปากของเขาออกมาเพื่อให้นางได้หอบหายใจเสียก่อนใบหน้าของ
หญิงสาวในตอนนี้กาลังเหนื่อยอ่อนอย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับท่าที
องอาจในตอนแรกที่หลินหมิงพบเจอแล้วนั้นราวกับว่าในตอนนี้นาง
ได้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
" ขะ...ข้าทนไม่ไหว...แล้วเสียบมัน..เข้ามา "
แม้ว่าในตอนแรกหลินหมิงจะตั้งใจเล้าโลมหญิงสาวจนเหนื่อย
จนไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแล้วหลังจากนั้นจึงค่อยทาการจู่โจมนางแต่เมื่อได้
ยินคาขอของหญิงสาวผู้งดงามเช่นนี้แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นคาสั่งเช่น
ในตอนแรก แต่หลินหมิงกลับพบว่าตัวเขาไม่สามารถขัดขืนคากล่าว
ของนางได้ ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าจดจ่ออยู่กับบานประตูคู่กลีบ
ชมพูของนางเพื่อทาการรอเข้าจู่โจมทุกชั่วขณะ

ตอนที่ 56
ใบหน้าของหญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์
ความต้องการทวนมังกรของหลินหมิงอย่างแรงกล้า นางพยายาม
เร่งเร้าให้หลินหมิงเสียบทวนมังกรเข้ามาภายในตัวของนางได้
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนี้หลินหมิงไม่มีทางที่จะขัดใจสาวสวยเช่น
นางได้ เพียงแค่ปลายทวนมังกรของหลินหมิงกลีบบัวสีชมพูสดของ
นางสัมผัสเนียนนุ่มทีป่ ลายทวนที่ถกู ส่งมาหาหลินหมิงในทันที
ทวนมังกรของหลินหมิงตืน่ ตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนี้ขนาด
เพียงแค่เขาใช้ทวนมังกรจดจ่อที่ปากทางเข้าเพียงเท่านั้นเสน่ห์ของ
หญิงสาวนางนี้เป็นที่แน่นอนว่าไม่มีหญิงใดสามารถนามาเปรียบได้
แม้กระทั่งอาจารย์สาวสวย หรือหลิวฉวนยูร์เองก็ตามที่ แต่ถึงอย่าง
นั้นร่องสวาทของนางยังคงให้ความรู้สึกดีมากกว่าหญิงสาวที่ผ่านมา
เสียอีก
หากเปรียบแล้วร่องสวาทของหญิงสาวที่มีขนาดเล็กเช่นเสี่ยวยู้
นั้นด้วยการที่มันมีขนาดเล็กมันจึงสามารถบีบรัดทวนมังกรของบุรุษ
ได้อย่างแน่นพร้อมกับให้ความรู้สึกชวนเพลิดเพลิน แต่กลับหญิง
สาวผู้งดงามนางนี้เมื่อหลินหมิงส่งทวนมังกรส่วนปลายหัวเข้าไป
ร่องสวาทของนางนั้นไม่ได้มีขนาดคับแน่นเช่นเด็กสาวแต่ถึงอย่าง
นั้นราวกับว่าร่องสวาทของนางนั้นถูกสรรสร้างขึ้นเพื่อรองรับ
อารมณ์บุรุษโดยเฉพาะ
ภายในร่องสวาทของนางนั้นเต็มไปด้วยผิวหนังเนียนนุ่มอีกทั้งดู
เหมือนว่ามันจะสามารถปรับขยายขนาดของตัวมันเองได้ นี้อาจเป็น
หนึ่งในความสามารถของเผ่าพันธ์ของนาง ?เทียบกันแล้วกับเสี่ยวยู้
แม้ว่าร่องของเด็กสาวจะคับแน่นกว่าแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่อง
สวาทของสาวสวยนางนี้เป็นผู้เหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
" อ๊าาาา.. มะ..มัน..เข้า..มาแล้วววว ~~~~~~~ "
ร่องสวาทของนางกาลังคลายตัวพร้อมกับบีบรัดอีกครั้งตาม
จังหวะการกระแทกเอวของหลินหมิง แน่นอว่าในเรื่องนี้นางเองคง
ไม่ได้ตงั้ ใจทาอย่างแน่นอนแต่มันคงเป็นเพราะสัญชาติญานของ
เผ่าพันธ์ในตานานอย่างเผ่าซัคคิวบัส เสียงครางลั่นสนั่นของนาง
ยังคงดังระงมเพียงแค่หลินหมิงส่งทวนมังกรเข้าไปจนสุดลา
" อู้วว "
" อร้างงง..ยะ...ยอดมาก...แน่นไป..หมดเลย "
น้ารักใสๆของนางเริ่มไหลผ่านออกมาจากบริเวณร่องรักของนาง
มันเป็นเรื่องยากมากสาหรับหญิงสาวที่จะสามารถรับมือกับทวน
มังกรของหลินหมิงและยิง่ ในตอนนี้หลินหมิงอยู่ในอารมณ์ที่มากกว่า
ที่ผ่านมาแบบเทียบไม่ติด สายตาของหลินหมิงจ้องมองไปที่
ผิวหนังเปลื่อยเปล่าพร้อมกับใบหน้าเปี่ยมสุขของหญิงสาวที่กาลัง
ครางออกมาอย่างมีความสุขหน้าอกคู่งามกาลังกระเพื่อมขึ้นลง
อย่างช้าๆอย่างเย้ายวนตามจังหวะการกระแทกทีห่ ลินหมิงกระแทก
เอวของเขา
หลินหมิงเริ่มรู้สึกว่าตัวเขาในตอนนี้เริ่มจะไม่สามารถอดกลั้นใจ
ได้ไหวอีกต่อไปจังหวะการกระแทกของหลินหมิงเริ่มเปลี่ยนไปอีก
ครั้ง มันเร็วขึ้นจนหญิงสาวครางสนั่นแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคง
เร่งจังหวะขึ้นไปอีก
" อ๊าา อ๊าาา อ๊าาา มะ...ไม่...เร็ว..ไป..อ๊าาาาาาาา ~~~~ ด...
เดียววว "
หญิงสาวพยายามกล่าวหยุดหลินหมิงที่ตอนนีก้ าลังส่งทวนมังกร
เข้าจู่โจมร่องสวาทของนางอย่างร้อนแรง แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่า
คากล่าวของนางกลับทาให้อารมณ์ของเด็กหนุ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในตอนแรกนางเพียงแค่นึกว่าหลังจากที่หลินหมิงได้ปลดปล่อย
อารมณ์ไปเป็นจานวนมากในตอนแรกที่นางได้ดูดกลืนน้ารักของเขา
อีกทั้งเด็กหนุ่มผู้นี้เพิ่งผ่านการร่วมรักมาก่อนหน้ากับเด็กสาวมา
หมาดหากเป็นคนธรรมดาโดยทั่วไปพวกเขาอาจจะต้องตกตายไป
เสียแต่ตอนแรก แต่ในตอนนี้อารมณ์ของเด็กหนุ่มผู้นี้กลับพุ่งสูงขึ้น
เสียยิ่งกว่าในตอนที่เขาร่วมรักกับเด็กสาวเสียอีก
หัวสมองของนางเริ่มรู้สึกขาวโผลนหากเป็นในตอนแรกนางคง
สามารถใช้กาลังของนางผลักร่างของเด็กหนุ่มที่แสนอ่อนแอ่นี้ให้
กระเด็นออกไปได้ในทันทีเพียงบแต่ว่าในตอนนี้ร่างกายของนางกลับ
รู้สึกอ่อนแรงลงอย่างน่าประหลาด ใบหน้าของหลินหมิงก้มลงเข้า
ซบหน้าอกของหญิงสาวเพื่อทาการดูดดมยอดปทุมถันของนางอีก
ครั้ง
ในตอนนี้ร่างกายของหญิงสาวพลันสั่นสะท้านไปด้วยความเสียว
ทั่วร่างแม้ว่าในตอนนี้นางจะไม่มีความร้สึกเจ็บปวดมากเท่าใดนักแต่
ถึงอย่างนั้นการที่เด็กหนุม่ จู่โจมนางอย่างรุนแรงเช่นนี้มันทาให้นาง
ไม่สามารถรับมือได้ แต่ถงึ อย่างนั้นนางเองก็ยังคงมีความรู้สึกเหนื่อย
ล้าอย่างน่าประหลาดเดิมทีด้วยระดับพลังของนางนั้นการที่นางไม่
ต้องหลับนอนเป็นเวลาหลายวันก็ยังคงไม่สามารถทาสิ่งใดนางได้แต่
กลับสถานการณ์ในตอนนี้เพียงทวนมังกรของเด็กหนุ่มเข้าจู่โจมนาง
ยังไม่ทันถึงหนึง่ ก้านธูปนางก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปเสียอย่างนั้น
เสียงครางหอบของนางยัคงดังต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนาง
สามารถสัมผัสได้ถงึ แสดงความหวังเมื่อทวนมังกรของเด็กหนุ่ม
เริ่มทาการสั่นไหวภายในร่องสวาทของนางอย่างรุนแรงอันเป็น
สัญญานตัวของเด็กหนุม่ นั้นกาลังจะปลดปล่อยอารมณ์ของเขาออก
มาแล้ว น้ารักจานวนมากถูกปลดปล่อยเข้ามาใส่ภายในตัวนางจน
นางคิดว่าด้วยจานวนน้ารักที่มากถึงเพียงนีม้ ันอาจเพียงพอในการ
ใช้อาบร่างกายของนางไปทั่ว
สัมผัสอุ่นๆเกิดขึ้นที่ภายในท้องร่างกายของหญิงสาวรู้สึกราวกับ
ว่าพลังงานที่หดหายไปเมือ่ ครั้งพันปีก่อนเริ่มกลับคืนมาอย่างไม่น่า
เชื่อแม้ว่าจะยังไม่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์พร้อมกับแต่อย่างนั้นมันก็
ยังฟื้นคืนเร็วเกินกว่าที่จะสามารถคาดคิดเอาไว้ได้ หญิงสาวมี
รอยยิ้มบนใบหน้าขึ้นมาในทันทีนางเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเด็ก
ของเด็กหนุ่มทีย่ ังคงคร่อมร่างของนางโดยที่ริมฝีปากของเขากาลัง
โลมเลียซอกคอและทั่วร่างของนางอยู่
ในที่สุดหลังจากที่นางต้องทนเหนื่อยอ่อนกับทวนมังกรของ
หลินหมิงเป็นเวลานานมันก็ดูเหมือนว่าจะสิ้นสุดลง เด็กหนุ่มหยุด
จังหวะการกระแทกเอวของเขา หญิงสาวผู้งดงามนางคิดว่านางคง
ไม่อาจปล่อยเด็กหนุ่มผู้นี้ไปโดยง่ายนางไม่เคยได้รับความสุข
มากมายเช่นนี้มาก่อนอีกทั้งดูเหมือนว่าเขาจะเป็นบุรุษที่ไม่ได้รับ
ผลกระทบจากการดูดกลืนพลังหยางของนางเลยเสียด้วยซ้า แต่ว่า
ทันใดนั้นนางพลันมีความรู้สึกแปลกๆภายในร่องสวาทของนาง
' มะ..มันยังแข็งอยู่ ! "
สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นซีดเสียวขึ้นมาในทันทีแม้ว่านาง
จะรู้ว่าหลินหมิงนั้นมีความแปลกประหลาดทีม่ ากกว่าบุรุษโดยทั่วไป
แต่อย่างนั้นแบบนี้มันจะไม่มากเกินไปอย่างนั้นหรือ นางไม่สามารถ
นับได้อย่างแน่ชัดว่าเด็กหนุ่มปลดปล่อยอารมณ์ไปมากกี่ครั้งแล้วมัน
อาจมากกว่าสิบแต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มผู้นกี้ ลับยังคงมีความต้องการ
ในการร่วมรักกับนางอีก
" นะ..นี้..ข้าว่าเราพัก....อ๊าาาาาาาาาาาาาา ~~~~~~~~ "
ทวนมังกรของหลินหมิงถูกกระแทกเข้ามาสุดลาอีกครั้งในก่อน
หน้านี้หลินหมิงเพียงแค่ทาการขยับทวนมังกรออกเพียงเล็กน้อย
เพื่อให้น้ารักของเขาและนางได้ระบายออกเพื่อที่เขาจะสามารถขยับ
ได้อย่างถนัด หลินหมิงไม่ยอมถอนทวนมังกรของเขาออกโดยง่าย
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าการที่เขานาทวนมังกรออกมาก่อนนั้นมันจะ
สามารถระบายน้ารักได้ดีกว่าถึงอย่างนั้นสัมผัสเนียนนุ่มภายในร่อง
สวาทของหญิงสาวนางนีม้ ันทาให้เขารู้สึกไม่อยากแยกจาก
" อ๊ะ อ๊ะ อ๊าา ทะ..ทาไม..มันแข็ง..กว่าเดิมอีก...อ๊าาา..ข้าไม่ไหว..
แล้ววววว ~~~~~~ "
" อื้อออออออออออออ~~~~~~~~~~~ "
ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงไปอีกอีกครั้งอย่างร้อนแรงโดยเด็ก
หนุ่มในตอนนี้เสียงครางของนางได้ส่งผ่านออกมาอย่างยากลาบาก
รสชาติภายในปากของนางนั้นนางไม่อาจรับรู้ได้อย่างแน่ชัด
เนื่องจากหัวสมองของนางในตอนนี้ราวกับว่าไม่สามารถทางานได้
อีกต่อไป ยอดปทุมถันของนางโดนบีบนวดโดยมือของหลินหมิงไป
มาอย่างสนุกมือ
เสียงปะทะกันระหว่างเนือ้ ที่บริเวณช่วงล่างค่อยๆรุนแรงขึ้น
เรื่อยๆพร้อมกับร่างกายของหญิงสาวที่สั่นกระตุกขึน้ มาแบบไม่หยุด
หย่อน ความเสียวสะท้านไปทั่วทัง้ ร่างกายเนื่องจากในตอนนี้นางได้
โดนเด็กหนุม่ ผู้นี้จู่โจมอย่างร้อนแรงร่างกายของนางทุกส่วนถูก
สารวจและลุกคืบจนราวกับว่ามันไม่ใช่ร่างกายของนางอีกต่อไป
น้ารักของนางระเบิดออกมาเป็นจานวนมากไปต่างจากในตอนที่
หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับเสี่ยวยู้แต่ถงึ อย่างนั้นหลินหมิงยังคงไม่
มีความคิดที่จะละมือไปจากร่างของหญิงสาวผู้งดงาม ในตอนนี้
หญิงสาวสติของนางเริ่มพลางมั่วไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดแต่ใน
ท้องของนางนั้นเต็มไปด้วยน้ารักจานวนมากจนมันแทบจะระเบิด
ออกมา
สติของนางดับวูบไปหลายต่อหลายครั้งแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อนาง
ตื่นขึ้นมานางก็พบว่านางยังคงต้องส่งเสียงครางออกมาอย่างต่อเหนื่
งแม้กระทั่งในตอนที่นางหมดสติไป นางเริ่มมีความคิดว่าหากปล่อย
ให้เด็กหนุ่ม่นี
ผ้ ้กระทาการจู่โจมนางเช่นนี้ต่อไปนางอาจต้องตกตาย
ไปด้วยการไม่สามารถรับความสุขที่มากล้นนี้ได้
" นะ...นี้..ขะ..ข้า..ขอร้อง..เอา..มันออกก่อน...ข้ารู้สกึ แน่น.. "
หญิงสาวกล่าวด้วยน้าเสียงอ้อนวอนอย่างที่นางไม่เคยทามาก่อน
แต่จะทาอย่างไรได้เล่าในตอนนี้สภาพของนางไม่ตา่ งจากหญิงสาว
ทั่วไปที่ไร้กาลังมันอาจจะแย่เสียยิ่งกว่าด้วยซ้าไป เมื่อหลินหมิงได้
ยินคากล่าวของนางหลังจากที่ผ่านมาเป็นเวลานานเป็นครั้งแรก
นอกจากเสียงคราง หลินหมิงจึงทาการหยุดพร้อมกับปล่อยให้น้ารัก
จานวนมากไหลทะลักออกมาจากร่องสวาทของนางราวกับเขื่อน
แตก
ภายในท้องของหญิงสาวรู้สึกเบาสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แน่นอนว่ามันเป็นความสุขที่มากล้นจนแทบจะทาให้นางเฉียดตาย
ร่างกายของหญิงสาวหอบเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อนาง
เหลือบมองไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงก็ยังคงพบว่ามันยังคง
แข็งตัวอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
นางรีบพลิกกลายคลานเข้าไปหาหลินหมิงในทันทีเมื่อเห็นเช่นนี้
ริมฝีปากของนางเข้าโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างชานาญ
คราบน้ารักของหลินหมิงถูกชาระล้างลงไปในปากของหญิงสาว
อย่างรวดเร็วพร้อมกับที่หญิงสาวผู้งดงามยังคงทาการโลมเลียต่อไป
มันคงไม่ดีนกั หากนางปล่อยให้หลินหมิงเข้าจู่โจมนางอีกครั้งดังนั้น
นางจึงจาเป็นต้องทาเช่นนี้แม้ว่าในตอนนี้นางรู้สึกอยากจะนอน
หลับไหลไปสักพันปีอกี ครั้ง
มือของเด็กหนุม่ ที่แสนซุกซนเข้าลูบไล้สารวจเรือนร่างของนาง
ไปมาอย่างไม่หยุดหย่อนนางไม่เข้าใจเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีอารมณ์
ความต้องการมากเพียงใดนี้ขนาดเขาปลดปล่อยอารมณ์กับนางไม่
ตั้งมากมายจนนางแทบสิน้ สติแต่มันเห็นได้ชัดว่าเขายังคงมีอารมณ์
ความต้องการอย่างเต็มเปี่ยม
จนสุดท้ายแล้วเมื่อนางเผลอตัวไปเด็กหนุ่มก็ได้เข้าจู่โจมนางอีก
ครั้งจนนางเป็นลมหมดสติไปจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของนางก็
ยังคงถูกเป็นทีบ่ าเร่อความใคร่ของเด็กหนุ่มไปอย่างยาวนาน

ตอนที่ 57
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามเผ่าซัคคิวบัสที่กาลังนอนหงายไร้ซึ่งสติ
ด้วยสภาพเปลื่อยเปล่าถูกแต่งแต้มไปด้วยน้ารักของหลินหมิง
จานวนมากโดยเฉพาะที่บริเวณร่องสวาทของนางนั้นมันอาจเรียกได้
ว่าในตอนนี้มันการเป็นแอ่งน้าขนาดย่อมๆไปแล้ว หลินหมิงไม่
สามารถรู้ได้ว่าเขาได้ใช้เวลาในการร่วมรักกับแม่สาวผู้ร้อนแรงนาง
นี้ไปนานมากเพียงใดแต่มนั ย่อมมากกว่าการร่วมรักกับเหล่าสตรีที่
ผ่านมาของเขาแบบเทียบไม่ติดสังซึ่งมันสามารถสังเกตได้จาก
หลักฐานตรงหน้าโดยง่าย
หญิงสาวผู้งดงามถึงกับหมดสติไปก่อนครึ่งทางที่หลินหมิงร่วม
รักกับนางเสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นเสียงครางคร่าาครวญของนางก็
ยังคงถูกส่งออกมาจากปากแม้ว่านางจะหมดสติไปแล้วก็ตาม
แน่นอนด้วยเวลาที่หลินหมิงใช้ร่วมรักกับหญิงสาวผู้งดงามนั้นมัน
เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากดังนั้นไม่แปลกที่สาวน้อยที่นอนหลับ
หมดสติไปตอนแรกจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นการร่วมรักอันแสน
ร้อนแรงที่สามารถเทียบกันกับในตอนที่หลินหมิงทากับนางได้
ดังนั้นเด็กสาวจึงรีบทาเป็นแกล้งหลับไม่ได้สติต่อไปไม่ใช่
เพราะว่านางไม่ต้องการให้หลินหมิงทาเช่นนั้นกับนางอีกแต่
ในตอนนี้นางยังเด็กและเหนื่อยเกินกว่าจะรับมือเขาได้ไหว และเมื่อ
ได้เห็นหลินหมิงในสภาพที่กาลังจู่โจมหญิงสาวผู้งดงามที่แข็งแกร่ง
จนกระทั่งหมดสติไปจิตใจของนางก็เริ่มมีความกังวลว่านางจะโดน
แบบเดียวกันหรือไม่
หลังจากที่หลินหมิงใช้ร่างของหญิงสาวผู้งดงามจนพอใจเขาก็
ล้มตัวลงไปกอดร่างเนียนุม่ ของนางเอาไว้พร้อมกับหลับไปทัง้ อย่าง
นั้นโดยไม่สนใจคราบรักที่เขาได้ก่อขึ้น
หญิงสาวผู้งดงามนางตื่นขึ้นมาพร้อมกับสภาพเหนื่อยอ่อนอย่าง
สุดแรง สัมผัสด้านช้าบริเวณช่วงล่างของนางนั้นเป็นหลักฐานชิ้นดี
ว่าเด็กหนุ่มได้ใช้ร่างกายของนางไปมากเพียงใด นางรู้สึกอบอุ่นที่
บริเวณร่างกายเมื่อนางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับร่างของเด็กหนุ่มที่
ยังคงกอดนางเอาไว้อย่างแนบแน่น นี้ขนาดเขาใช้ร่างกายของนาง
ไปมากมายเพียงนี้แล้วยังคงมาเอาเปรียบนางเช่นนี้กระทั่งในเวลา
หลับนอน
เมื่อคิดนางก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแม้กระทั่งในการต่อสู้พันปี
ก่อนมันยังไม่อาจไม่ร้อนแรงเทียบเท่ากับการจู่โจมของเด็กหนุ่มที่
ผ่านมา นางยังคงปล่อยตัวให้เด็กหนุม่ กอดนางเอาไว้เช่นนั้นพร้อม
กับจ้องมองใบหน้าของหลินหมิงในยามหลับหากเมื่อดูเช่นนี้ใบหน้า
ของเขาช่างดูไร้เดียงสาไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยเยาว์ทั่วไป แตกต่าง
จากสีหน้ามุ่งมั่นที่จะจู่โจมร่างของนางไปโดยสิ้นเชิง
นางจ้องมองร่างของหลินหมิงด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขมันอาจเป็นไป
ได้ว่าในตอนนี้ดวงใจของนางนั้นเริ่มมีความปราถนาต่อเด็กหนุ่มผู้นี้
อย่างแรงกล้าจนไม่อาจแยกจากได้ นางกอดร่างของเด็กหนุ่มเอาไว้
พร้อมกับตั้งใจที่จะหลับนอนต่อไปทั่งอย่างนี้เพียงแต่ทันใดนั้นก็มี
เสียงที่มาทาลายความสุขของนางลง
" เอ๊ะ "
เสียวยู้ไม่อาจทราบได้ว่านางหลับลงไปได้อย่างไรท่ามกลางเสียง
ร่วมรักของหลินหมิงและหญิงสาวผู้งดงามมันอาจเป็นเพราะความ
เหนือยล้า เมื่อนางตื่นขึ้นมานางเห็นการกระทาของหญิงสาวผู้
งดงามทุกอย่างในตอนแรกนางเพียงคิดตั้งใจจะปลุกหลินหมิงขึ้นมา
เพื่อให้ทาการหลบหนี
มันเป็นไปไม่ได้สาหรับหลินหมิงที่กระทาการรุนแรงกับหญิงสาว
ที่ทรงอานาจเช่นนั้นแล้วจะสามารถรอดชีวิตไปได้ในสายตาของเด็ก
สาว แต่ภาพตรงหน้านั้นมันช่างแตกต่างจากที่นางคิดเอาไว้มากจน
นางต้องส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ หญิงสาวผู้งดงามหันหน้า
มามองเด็กสาวด้วยความไม่พอใจหากเป็นในอดีตนางคงไม่ลังเลที่
จะสังหารชีวิตของเด็กสาวตัวน้อยนางนี้เพียงแต่ว่าในตอนนี้หัวใจ
ของนางได้ถูกเด็กหนุ่มผู้นคี้ รอบครองเอาไว้มันจึงทาให้นางไม่อยาก
ทาให้เขาไม่พอใจ ยังดีที่นางยังไม่ได้ทาการสังหารเพื่อนของเขา
ที่มาด้วยกันไม่เช่นนั้นแล้วนางไม่อาจคาดคิดถึงความโกรธของเด็ก
หนุ่มได้
อืมม...
เสียงของหลินหมิงส่งเสียงออกมาพร้อมกับท่าทีขยับตัวเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นมือทัง้ สองข้างของเขาก็ยังโอบกอดร่างของหญิงสาว
ผู้งดงามเอาไว้อย่างนั้น หญิงสาวผู้งดงามละความสนใจจากเด็กสาว
พร้อมกับจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มทีม่ อบความสุขให้แก่นางได้อย่าง
มากล้น หากเผ่าพันธ์ของนางยังคงอยู่นางเชื่อว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เพียง
คนเดียวอาจสามารถสยบพวกพ้องของนางได้ทั้งเผ่าพันธ์ก็เป็นได้
" เจ้าตื่นแล้วอย่างนั้นรึ.. "
" พะ..พี่ชาย.. "
หลินหมิงตื่นขึ้นมาพร้อมกับได้ยินเสียงต้อนรับสดใสจากหญิง
สาวต่างวัย ภาพตรงหน้าของเขาก็คือภาพของสองสาวที่กาลังนอน
อยู่บนเตียงเดียวกันกับเขาโดยที่ร่างของหญิงสาวผูง้ ดงามนั้นยังคง
อยู่ในอ้อมกอดของเขา หลินหมิงรู้สึกแปลกใจกับน้าเสียงของหญิง
สาวผู้งดงามเล็กน้อย แน่นอนว่าการร่วมรักที่ผ่านมาหลินหมิงแทบ
จะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ไม่เช่นนั้นเขาคงอาศัยจังหวะที่หญิง
สาวผู้งดงามกาลังสิ้นสติอยู่หลบหนีไปแล้ว
" อ่า..."
หลินหมิงคลายอ้อมกอดจากหญิงสาวผู้งดงามในทันทีที่เขาตั้ง
สติได้ แม้ว่าจะผ่านการร่วมรักกันมาหมาดๆแต่ยงั ไม่ได้เป็นการรันตี
ว่านางจะไม่สังหารเขาทิ้ง ดังนั้นในตอนนี้หลินหมิงเลือกหนทางที่จะ
หลีกเลี่ยงไม่ให้นางพอใจเสียดีกว่า
หญิงสาวผู้งดงามลุกขึ้นพร้อมกับสัมผัสไอร้อนที่เกิดที่บริเวณ
ผิวหนังของนางและหลินหมิงรวมถึงเสี่ยวยู้นางจัดการปัดเป่าคราบ
น้ารักไปอย่างหมดจดแม้ว่าในใจนางจะนึกเสียดายที่ไม่ได้ดูดกลืน
พวกมันเหล่านั้นแต่อย่างไรก็ตามเมื่อนางคิดถึงการร่วมรักที่ผ่านมา
นั้นนับได้ว่านางได้รับมันมามากจนเกินพอไปแล้ว
ในตอนนี้หญิงสาวผู้งดงามกาลังจดจ้องมาที่หลินหมิงด้วย
ความคิด แม้ว่าในตอนแรกเป้าหมายของนางนั้นก็คือการฟื้นฟู
ร่างกายและพลังหลังจากการหลับไหลพันปีที่แต่เดิมนางนั้น
คาดการณ์เอาไว้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานหลายปีในการดูดซับ
พลังหยางจากบุรุษเพียงแต่ในตอนนี้เพียงแค่เด็กหนุ่มเพียงคนเดียว
กลับทาให้เป้าหมายหลายปีของนางนั้นสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วอีกทั้ง
ดูเหมือนว่าในตอนนี้นางสามารถรู้สึกได้ว่านางแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่า
ในอดีตเสียอีก
นางไม่มีความคิดที่จะแยกจากหลินหมิงไปอย่างแน่นอนดังนั้น
แล้วทางเลือกของนางก็คือพันธนาการเด็กหนุ่มผู้นี้เอาไว้เพื่อให้เขา
เป็นเครื่องสนองตัณหาให้แก่นาง แน่นอนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ย่อมไม่มี
ทางขัดขืนกับพลังที่กลับมาดั่งเช่นอดีตของนาง เพียงแต่เมื่อนาง
พลันนึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นและใบหน้าไร้เดียงสาตอนหลับของ
หลินหมิงแล้วนั้นนางก็พลันตัดทางเลือกนี้ทิ้งไปอย่างไม่ลังเล
" เอ่อ...ท่านผู้อาวุโส..แล้วท่านจะ..."
" ข้าตัดสินใจแล้ว ! "
ในขณะที่หลินหมิงกาลังจะกล่าวเพื่อสอบถามว่านางจะปล่อย
พวกเขาหรือไม่ทันใดนั้นเสียงของหญิงสาวผู้งดงามก็พลันดังตอบ
ขึ้นมาด้วยน้าเสียงแน่วแน่ นางจ้องมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาที่
แตกต่างกับในตอนแรกมันเป็นสายตาที่เขารู้สึกคุ้นเคยมากเพราะ
มันเป็นสายตาเดียวกันกับสายตาของเหล่าหญิงสาวที่หลินหมิงผ่าน
การร่วมรักมาด้วย
" ต่อจากนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย ! "
หลินหมิงตกใจเป็นอย่างมากกับคากล่าวของหญิงสาวผู้งดงาม
แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลินหมิงนั้นไม่สามารถกล่าวโต้แย้งใดๆกับนาง
ได้เพราะว่าความแข็งแกร่งของนางที่มากกว่าเขาแบบเทียบไม่ติด
และดูเหมือนว่าในตอนนี้นางจะสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่ง
กลับมาได้แล้วดังนั้นหลินหมิงจึงได้แต่ก้มหน้าตอบตกลงนางไปทั้ง
อย่างนั้น
สาหรับหญิงสาวผู้งดงามนั้นแน่นอนว่านางมีความเคียดแค้นกับ
เผ่าพันธ์ต่างๆที่เคยรวมกลุ่มกันเข้าโจมตีเผ่านางแต่ถึงอย่างนั้นด้วย
ระยะพันปีที่ผ่านมาพวกมันเหล่านั้นย่อมตกตายไปจนหมดสิ้นอาจ
เหลือไว้แต่เพียงลูกหลานเท่านั้น แน่นอนว่าหากนางเจอพวก
ลูกหลานพวกมันเหล่านั้นนางอาจทาการสั่งสอนพวกมันสักเล็กน้อย
ด้วยพลังของนางในตอนนี้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าในอดีต

ตอนที่ 58
ในตอนนี้หลินหมิงไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากต้องให้หญิงสาวผู้
งดงามนางนี้ติดตามเขาไปแม้ว่าจะไม่รู้ว่านางมีเป้าหมายอะไรก็
ตามที่ หากเป็นบุรุษอื่นพวกเขาคงต้องก้มหัวกราบคุกเขาเพื่อให้ได้
หญิงสาวผู้นี้มายืนเคียงข้างแต่พวกเขาคงไม่ได้รับรู้เลยว่านอกจาก
ความงามภายนอกแล้ว ความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ภายในของนางนั้น
อาจมากเพียงพอต่อการสั่นไหวอาณาจักรหนึ่งได้อย่างสบายๆ
" ท่านผู้อาวุโสแล้วสหาย... "
ยังไม่ทันที่หลินหมิงจะได้แล้วจบร่างของหลัวฉิงเชี่ยนก็ปรากฎ
ตรงหน้าของเขาด้วยสภาพสมบูรณ์เพียงแต่ว่าในตอนนี้นางกาลังอยู่
ในสภาพหลับไหล
" ข้าทาให้นางหมดสติเอาไว้อีกไม่กี่ชั่วยามนางก็คงฟื้น..และข้า
ได้ลบความทรงจาของนางก่อนหน้านี้ไปแล้ว "
แน่นอนว่าเมื่อหญิงสาวผู้งดงามนางนี้นางตั้งใจจะติดตามเขาไป
มันจะเป็นปัญหาได้หากหลัวฉิงเชี่ยนนาเรื่องนี้ไปบอกกล่าวแก่คน
อื่น หลินหมิงช้อนร่างของหลัวฉิงเชี่ยนขึ้นมาเพื่อเตรียมออกไปจาก
ถ้าแห่งนี้ สาหรับในส่วนภารกิจของพวกเขานั้นคงนับได้ว่ามันอาจ
เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยเพราะหญิงสาวผู้งดงามเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด
นี้ขึ้นและการที่นางติดตามเขาไปก็นับได้ว่าปัญหาแนวชายดายก็จะ
หมดไปเช่นเดียวกัน
แต่ยังคงมีเรื่องน่าแปลกใจอีกอย่างก็คือเสี่ยวยู้เองนางก็ต้องการ
จะติดตามหลินหมิงไปเช่นเดียวกัน สาหรับนางในตอนนี้แม้ว่านาง
จะมีความคุ้นเคยกับคนในหมู่บ้านค่อนข้างมากแต่ครอบครัวของ
นางที่เหลือเพียงแต่บิดาในตอนแรกก็ได้ตายไปแล้วดังนั้นนางจึง
ตัดสินใจที่จะติดตามหลินหมิง
ในส่วนของการเดินทางกลับเสี่ยวยู้กล่าวว่าพวกเขาคงไม่
สามารถใช้รถม้าในตอนแรกได้อีกเพราะในตอนนี้คนในหมู่บ้านคง
จะทาการสังหารคนขับรถม้าและทาลายหลักฐานทิง้ ไปหมดแล้ว
ดังนั้นพวกเขาเหลือเพียงทางเดียวนั้นก็การเดินเท้ากลับ หลินหมิง
ได้ทาการตรวจสอบพลังของเขาในตอนนี้เนื่องจากว่าเขาได้ทาการ
ร่วมรักกับเสี่ยวยู้และหญิงสาวเผ่าซัคคิวบัสไปนั้นแม้ว่าเขาจะพอรู้
ว่ามันอาจไม่เพียงพอต่อการยกระดับของเขาแต่ถึงอย่างไรก็ตาม
พวกนางทั้งสองนั้นยังนับได้ว่าเป็นหญิงสาวบริสุทธ์ดังนั้นมันอาจ
เพียงพอสาหรับการก้าวข้ามไปปราณเริ่นระดับ 8 ได้
แต่เมื่อหลินหมิงทากาสารวจตรวจสอบพลังภายในร่างของเขาก็
ถึงกับตื่นตะลึง ไม่ใช่ว่าเพราะว่ามันไม่ได้เพิ่มขึน้ แต่เพราะว่ามัน
เพิ่มขึ้นอย่างมากจนน่าตกใจต่างหาก ในตอนนี้ระดับพลังปราณของ
เขาคือจุดสูงสุดขั้น 3 ปราณก่อเกิด ! การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้
เกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาข้ามคืน หากผู้อื่นรู้เขาพวกเขาคงได้ตาย
ในทันทีด้วยความตกใจ และความอิฉา
สาหรับในเรื่องนี้หลินหมิงคาดว่ามันเป็นเพราะความแข็งแกร่ง
ของหญิงสาวผู้งดงาม ก่อนหน้านี้ที่หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับ
หญิงสาวที่ผ่านมานั้นหญิงสาวเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคนธรรมดา
ทั้งสิ้นยกเว้นเพียงผู้รับใช้ของป้าห้าของเขาเพียงเท่านั้นแต่เนื่องจาก
พวกนางนั้นไม่ได้มีความบริสุทธ์และความแข็งแกร่งของพวกนาง
ยังคงไม่อาจนามาเปรียบกับหญิงสาวผู้งดงามได้
ซึ่งเรื่องนี้หลินหมิงสามารถรับรู้ได้จากความรู้ที่ถูกส่งผ่านจาก
เปลวเพลิงทมิฬภายในต้นเถียนของเขา เมื่อเขาได้ก้าวเข้าสู่
ขอบเขตพลังระดับใหม่แน่นอนว่าเขายังคงได้ความสามารถใหม่
เช่นเดียวกันหนึ่งในนั้นก็การที่เขาสามารถยกระดับหญิงสาวที่ทากา
ร่วมรักกับเขาได้ด้วยเช่นกันแต่ดูเหมือนว่ามันจะส่งผลอย่างมาก
เฉพาะในครั้งแรกเท่านั้นซึ่งมันก็ตรงกับเงื่อนไขของเขาเช่นเดียวกัน
และมันยังมีทักษะโจมตีใหม่ที่เขาได้รับมาด้วยเช่นกันแต่เดิมนั้น
หลินหมิงมีจุดเด่นในเรื่องความแข็งแกร่งทางร่างกายที่มากกว่านักสู้
ทั่วไป แต่เขายังคงขาดซึ่งทักษะต่างๆรวมถึงการเคลื่อนไหวด้วย
และเมื่อหลินหมิงได้ได้ทาความเข้าใจทักษะใหม่นี้รอยยิ้มมุมปาก
ของเขาปรากฎขึ้นมาในทันที
[ ดรรชนีเพลิง ]
มันเป็นทักษะโจมตีที่จะทาการรวบรวมเปลวเพลิงของเขาเอาไว้
ที่ปลายนิ้วแล้วทาการบีบอัดพวกมันอย่างหนาแน่น แน่นอนว่า
หลินหมิงยังคงไม่สามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพของมันแต่หากลอง
เปรียบเทียบกับความแข็งแกร่งที่เปลวเพลิงทมิฬได้มอบให้กับเขาใน
ตอนที่เป็นนักสู้ปราณเริ่มต้นแล้วนั้นมันก็ต้องเป็นทักษะที่ไม่ธรรมดา
อย่างแน่นอน
" หืม..นี้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างนั้นหรือ ? "
เสียงของหญิงสาวผู้งดงามดังขึ้นในจังหวะที่หลินหมิงกาลัง
ตรวจสอบร่างกายของตนเอง นางไล่สายตามองดูไปทั่วร่างของ
หลินหมิง แน่นอนว่าแม้วา่ นางจะมีชีวิตมาอย่างยาวนานนางก็ยังคง
ไม่เคยเห็นความก้าวหน้าที่รวดเร็วเพียงชั่วข้ามคืนเช่นนี้ รอยยิ้มมุม
ปากปรากฎขึ้นที่ใบหน้าของหญิงสาวนางตัดสินใจแล้วว่าเด็กหนุ่มผู้
นี้นั้นมีคุณค่ามากเพียงพอ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์
ที่แสนอ่อนแอ่แต่เขากลับมีพัฒนาการที่รวดเร็วเช่นนี้ได้ไม่แน่ว่าบาง
ทีเขาอาจจะเติบโตก้าวหน้าขึ้นมาเคียงข้างนางได้
เมื่อนางคิดถึงภาพเหล่านั้นหัวใจของหญิงสาวพลันรู้สึกพ่องโต
ขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยไม่ได้สินหลินหมิงที่สับสนกับท่าที
ของหญิงสาวเป็นอย่างมาก
" ต่อจากนี้เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโสแล้ว..ให้เรียกข้าว่า..ซื่อ
เฟย.. "
ในตอนนี้หากหลินหมิงต้องการแก้แค้นบรรดาญาติพี่น้องตระกูล
หลินของเขาโดยใช้หญิงสาวเผ่าซัคคิวบัส ซื่อเฟยนางนี้แล้วละก็
เรื่องราวมันคงง่ายเพียงแค่ราวกับพลิกฝ่ามือ เพราะแม้ว่าต่อให้เป็น
ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลินที่มบี ิดาของเขาเป็นประมุขหลินหมิงก็
เชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะหญิงสาวนางนี้ได้ แต่นั้นเป็น
กรณีที่นางยอมร่วมมือกับเขาโดยดีแต่หากนางไม่พอใจที่เขาไปทา
การเหมือนสั่งนางเช่นนั้นเรื่องราวของเขาคงจบลงได้ไม่สวยนัก
หลินหมิงตัดใจจากเรื่องจากความช่วยเหลือของนางทิ้งไปในเมื่อ
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอที่จะประกาศตนได้ว่าเป็น
อันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์ ดังนั้นแล้วหนทางที่เขาจะได้ซัดปากบรรดา
ลูกพี่น้องอย่างหลินเสี่ยวต้าและคนอื่นในอีก 6 เดือนข้างหน้ามันคง
เป็นเรื่องง่าย เรื่องที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดก็คือเขาจะไปอธิบายเรื่อง
ที่เขามีสตรีติดตามกลับมาถึง 2 คนกลับแม่เทพธิดาของเขาหลิวฉ
วนยูร์อย่างไรเนี่ยสิ
หากเป็นเสี่ยวยู้นั้นอาจไม่เป็นปัญหามากนักแต่ซื่อเฟย นี้คงเป็น
ปัญหาหนักอย่างใหญ่หลวงแม้ว่านางจะกล่าวว่านางสามารถปลอม
แปลงปิดบังเขาบนศรีษะนางให้เหมือนกับมนุษย์ไปได้แต่ด้วยความ
งามของนางนั้นมันอาจเพียงพอที่ทาให้ทั้งเมืองต้องฆ่าฟันกันเพื่อยื้อ
แย่งตัวแม่สาวคนนี้

ตอนที่ 59
หญิงสาวผู้งดงามหรือซื่อเฟยนั้นได้สอบถามถึงเส้นทางที่หลินห
มิงจะไปแล้วนางได้ทาการแยกตัวจากไป โดยนางอ้างว่านางจะลอง
ไปตรวจสอบที่ดินแดนเดิมที่เป็นที่อยู่ของเผ่าพันธ์นาง แน่นอนว่า
หลินหมิงไม่อาจคาดเดาได้ว่าที่อยู่ของเผ่าพันธ์ที่เป็นตานานในอดีต
นั้นอยู่ในที่แห่งใด แต่ในเมื่อมันไม่เคยปรากฎในตาราหรือคาบอก
เล่าแต่อย่างใดมันอาจเป็นไปได้ว่าสถานที่แห่งนั้นย่อมอยู่ไกลหรือ
อันตรายจนเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะเอื้อมถึง
หลัวฉิงเชี่ยนนางตื่นขึ้นมาหลังจากที่ซื่อเฟยจากไปแล้วนาง
พยายามทาความเข้าใจสถานการณ์แม้ว่าจะยังคงรู้สึกมึนหัวอยูบ่ ้าง
ซึ่งหลินหมิงก็ได้กล่าวไปว่าพวกเขาได้จัดการกลุ่มโจรภายในถ้าจน
หมดไปแล้วแต่เนื่องจากนางได้รับพิษจึงทาให้สลบไม่ได้สติไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องขอบคุณทักษะที่รุนแรงของซื่อเฟยซึ่งดูเหมือนว่า
มันจะทาให้หลัวฉิงเชี่ยนไม่สามารถจนจาเรื่องราวต่างๆได้มากนัก
หลินหมิงใช้เวลากว่าสองวันในการเดินทางกลับเข้ามาภายใน
เมืองหน้าที่ในการรายงานภารกิจแก่อาจารย์สาวสวยนั้นหลินหมิ
งยกมันให้แก่ศิษย์พี่สาวขอเขาอย่างไม่ลังเล ในขณะที่ตัวของหลินห
มิงนั้นได้ตรงไปทีต่ านักผู้อาวุโสซูหลิ่งเป็นอันดับแรก
ร่างของเทพธิดาสาวสวยหลิวฉวนยูร์แย้มยิม้ ขึ้นทันทีเมื่อได้เห็น
หลินหมิง มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมากว่าในก่อนหน้านี้นางมี
ความเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวของหลินหมิงมากเพียงใดและนั้นมันทา
ให้หลินหมิงรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา
" เจ้าตัวร้าย..เจ้าไม่บาดเจ็บกลับมาใช่หรือไม่.."
หลิวฉวนยูร์กล่าวพร้อมกับจ้องมองสารวจร่างของหลินหมิงอ
ย่างถี่ถ้วนหากเป็นในทีห่ ลับตาคนนางคงอดใจห้ามไม่ไหวที่จะพุ่ง
เข้ามากอดหลินหมิงไปแล้ว แน่นอนว่าเมื่อสายตาของนางเหลือบ
มองเห็นร่างของหญิงสาวตัวน้อยที่อยู่ข้างกายของหลินหมิงมัน
ถึงกับทาให้ตัวของหลินหมิงหลัง่ เหงื่อเย็นออกมาเล็กน้อย
หลังจากกล่าวพูดคุยกับหลิวฉวนยูร์อย่างพอใจหลินหมิงกลับไป
ที่ห้องของเขาที่มีซื่อโฉวคอยต้อนรับเขาอย่างดีเยี่ยมเขาฝากให้นาง
จัดการเรื่องของเสี่ยวยู้ด้วย แน่นอนว่าสถานะของเด็กสาวนั้นย่อม
ไม่เป็นอย่างอื่นนอกจากข้ารับใช้ฝึกหัด
" คุณชายเจ้าคะ..คือว่า... "
เมื่อเห็นท่าทีของซื่อโฉวทีก่ าลังยืนบิดตัวด้วยความเอียงอาย
พร้อมกับพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะกล่าวอะไรบางอย่าง
ออกมาหลินหมิงก็พอรับรู้ความต้องการของนางจากสีหน้าและการ
กระทาได้ เพียงแต่ว่านี้มันยังไม่อาจใช่เวลาที่เหมาะสมนักดังนั้น
หลินหมิงจึงทาการส่งสัญญาณให้นางรอไปก่อน
หลินหมิงออกมาจากตานักอีกครั้งพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่หอนาง
โลมของเหลียนเย่อิ๋งแน่นอนว่าสาหรับพลังในตอนนี้ของหลินหมิง
การร่วมรักกับหญิงสาวธรรมดานั้นมันอาจไม่เพียงพอที่จะทาให้เขา
สามารถก้าวหน้าได้มากนักแต่ที่เขามาที่แห่งนี้นั้นเพราะต้องการ
ทดสอบอะไรบางอย่างเพียงเท่านั้น
ร่างของหญิงสาวต้อนรับคนเดิมกับครั้งก่อนที่หลินหมิงได้มาเป็น
ครั้งแรกเมื่อนางได้เห็นหน้าของหลินหมิงนั้นท่าทีของนาง
เปลี่ยนเป็นกระวนกระวายในทันที นางทาการเชิญหลินหมิงเข้าไป
ภายในอย่างด้วยกริยาท่าทางอันงดงามพร้อมกับตัวนางที่เป็นคน
เดินนาให้กับหลินหมิงเอง เมื่อเข้ามาภายในร้านหญิงสาวพนักงาน
ต้อนรับที่เดินนาทางหลินหมิงหันไปเรียกหญิงสาวอีกคนพร้อมกับ
ทาการกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
อาจมันเป็นนี้ยังคงอยู่ในเวลาที่ยังคงไม่ค่ามืดมากนักผู้คนภายใน
หอนางโลมจึงค่อนข้างบางตาไปอยู่มาก เพียงไม่นานก็ปรากฎร่าง
ของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยสัดส่วนโค้งเว้าอันแสนเย้ายวนหน้าอกคู่
งามที่ปรากฎกายนาร่างของหญิงสาวนั้นราวกับว่ามันต้องการ
ประกาศตนเป็นอันดับหนึง่ เหนือสิ่งอื่นใด
" นายท่าน..มีอะไรให้ข้ารับใช้อย่างนั้นหรือ ? "
หญิงสาวผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากเจ้าของหอนางโลมแห่ง '
เหลียนเย่อิ๋ง ' นี้นั้นเองนางเดินเข้ามาพร้อมกับยึดแขนข้างหนึ่งของ
หลินหมิงโดยไม่ได้สนใจความห่างอายุระหว่างพวกเขาเลยแม้แต่
น้อย นางได้ทาการสั่งบรรดาคนภายในร้านเอาไว้อย่างทั่วถึงว่า
เมื่อใดที่พบเห็นหลินหมิงนั้นให้ทาการต้อนรับเขาอย่างดีที่สุดพร้อม
กับแจ้งนางโดยทันที นางเดินนาหลินหมิงไปยังบริเวณห้องลับหลัง
ร้านที่เดิมนั้นเป็นห้องที่ปา้ ห้าของเขามักจะใช้อยู่เป็นประจา
" อา...นายท่าน..ข้าคิดถึงท่านมากเหลือเกิน..ได้โปรดลงโทษ
ทาสผู้ซื่อสัตย์คนนี้ "

เหลียนเย่อิ๋ง
เหลียนเย่อิ๋งกล่าวในขณะที่ร่างของพวกเขากาลังพัวพันกันอยู่
บนเตียง ใบหน้าของหญิงสาวเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้เต็มไปด้วยสี
หน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจของนางค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้สูดดม
กลิ่นกายของหลินหมิง นิ้วมือของนางลูบไล้สมั ผัสไปที่บริเวณเเสื้อ
ผ้าของหลินหมิงทีก่ าลังปกปิดร่างกายของเขา พร้อมกับค่อยๆทา
การปลดมันออกด้วยสีหน้าหื่นกระหายอย่างปิดไม่มดิ
" เดียวสิ..เอาไว้หลังจากที่เจ้าทางานให้ข้าเสร็จสิ้นเสียก่อน "
" อา.... "
เหลียนเย่อิ๋งกล่าวครางออกมาด้วยความเสียดายอย่างสุดใจ ใคร
จะไม่นึกกันเล่าว่าเจ้าของหอนางโลมผู้แสนยั่วยวนนางนี้จะมี
อารมณ์หื่นกระหายมากมายเช่นนี้ ด้วยงานของนางที่ต้องพบปะ
ผู้คนและเหล่าบุรุษเป็นจานวนมากนั้นนางสมควรทีจ่ ะต้องมีความ
อดทนเป็นอย่างมากไม่ใช่เช่นนั้นหรือ ? แต่มันเพราะเด็กหนุ่มตรง
หน้าที่นางเรียกว่านายท่านนั้นได้ทาให้นางให้ความอดทนของนาง
หมดสิ้นไปตั้งแต่ท่เขาได้
ี ทาการร่วมรักกับนาง
" นายท่านต้องการให้ข้าทาสิ่งใดอย่างนั้นหรือเจ้าคะ "
น้าเสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกระรือร้นเห็นได้ชัดว่านาง
มีอารมณ์ความต้องการมากเพียงใด เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วหลินหมิงจึง
ตัดสินใจให้รางวัลแก่นางสักเล็กน้อยทวนมังกรของเขาเผยออกมา
ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับว่านางได้กลับกลายเป็นหญิง
สาววัยแรกรุ่นอีกครั้ง
นางจ้องมองไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงด้วยร่างกายสั่นเทาที่
บริเวณร่องสวาทของนางแทบจะมีปฎิกริยาในทันทีที่ทวนมังกรของ
หลินหมิงปรากฎกายออกมา แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงยังคงไม่
อนุญาติให้นางทาสิ่งใดดังนั้นนางจึงทาได้แต่หักห้ามใจตนเองเอาไว้
ก่อน
" ข้าอนุญาติให้เจ้าโลมเลียได้เท่านั้น "
หญิงสาวไม่รอช้าริมฝีปากของนางเข้าดูดกลืนทวนมังกรของ
หลินหมิงอย่างรีบเร่ง ลิ้นที่อยู่ภายในปากขอนางนั้นเข้าทาการโลม
เลียทวนมังกรของหลินหมิงอย่างหื่นกระหาย กลิ่นอบอวนที่แผ่
ออกมาจากทวนมังกรของหลินหมิงนั้นทาให้ร่องสวาทของนางพลัน
ตื่นตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิมน้าใสๆเริ่มไหลออกมาจากร่องสวาทของนาง
" ข้าต้องให้เจ้าติดต่อไปหา เหม่ยฮวา ให้ข้าสักหน่อย "
" อ้า....ถ้าเรื่องนั้นเกรงว่าข้าจะไม่จาเป็นต้องทาสิ่งใดหรอกเจ้า
คะ.... "
หญิงสาวกล่าวกับหลินหมิงพร้อมกับทาการก้มลงไปดูดอมทวน
มังกรของหลินหมิงต่อ หลินหมิงไม่เข้าใจคากล่าวของนางเท่าใดนัก
เพียงแต่ว่าทันใดนั้นประตูห้องก็ถกู เปิดออกโดยมีรา่ งของหญิงสาว
ทั้งสามก้าวเข้ามาภายในห้องด้วยสภาพบิดตัวอย่างเอียงอายไม่
ต่างกัน

ตอนที่ 60
ในค่าคืนที่เหม่ยฮวาได้โดนหลินหมิงเข้าจู่โจมอย่างรุนแรงนั้นมัน
ทาให้จิตใจของนางแปลงเปลี่ยนไปในทันทีแม้ว่ามันจะไม่ได้มีผลต่อ
นิสัยเย่อยิ่งและอวดตัวของนางมากเท่าใดนักกับคนอื่นแต่เมื่อนางได้
อยู่ต่อหน้าหลินหมิงนางได้แปรเปลี่ยนราวกับเป็นแมวเชื่องตัวน้อยๆ
ของหลินหมิงไปในทันที
เหลียนเย่อิ๋งนางไม่ได้สนใจการปรากฎตัวของหญิงสาวทั้งสามผู้
มาใหม่แต่อย่างใดนางยังคงทาการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิ
งต่อไป ภาพตรงหน้าของเหม่ยฮวาและสองข้ารับใช้สาวนั้นทาให้
พวกนางทั้งสามพลันสีหน้าเปลี่ยนแดงระเรื่อ หลังจากค่าคืนในครั้ง
นั้นเหม่ยฮวานางได้สง่ คนมาคอยเข้าหอนางโลมแห่งนี้และให้
รายงานแก่นางในทันทีที่พบเห็นหลินหมิง
นั้นจึงเป็นเหตุให้นางมาถึงสถานที่แห่งนี้โดยเร็วในทันทีที่นาง
ทราบข่าว และนางยังได้พาข้ารับใช้ทั้งสองคนมาด้วยเพื่อที่ว่านาง
จะอาจสร้างความพอใจให้แก่เด็กหนุม่ ผู้นี้เป็นที่แน่นอนจากในครั้ง
ก่อนว่าบทรักอันร้อนแรงของเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นเกินกว่าที่สตรีนางเดียว
จะรับไหว
" นะ..นายท่านได้โปรดให้ข้าได้ปรนณิบัติท่านด้วย.. "
น้าเสียงของเหม่ยฮวาเต็มไปด้วยความขอร้องอ้อนวอนจากใจ
จริงหากหลินหมิงนาไปเล่าให้คนภายนอกฟังนั้นเขาอาจโดนหาว่า
เป็นพวกไม่สมประกอบในทันที หญิงสาวรับใช้ทั้งสองหานจิงหนิง
และจูเวยเหลียนนั้นแม้ว่าพวกนางจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอาจ
เป็นเพราะว่าพวกนางนั้นยังไม่กล้าที่จะทาอะไรมากนักต่อหน้านาย
หญิงของพวกนางแต่เมื่อดูจากสภาพแล้วอารมณ์ของพวกนางนั้นก็
คงไม่ต่างจากเหม่ยฮวาไปมากสักเท่าใด
เมื่อเห็นทวนมังกรของหลินหมิงทีก่ าลังถูกโลมเลียโดยเหลียน
เย่อิ๋งนั้นเหม่ยฮวาในใจของนางนั้นแทบอยากจะพุ่งเข้าไปแย่งมัน
ในทันทีหากไม่ติดตรงที่สายตาของเด็กหนุ่มที่กาลังจ้องมองมาที่นาง
อยู่
" อ่า...พวกเจ้ามาพอดีข้ากาลังตามหาพวกเจ้าอยู่เหมือนกัน "
" นายท่านมีสิ่งใดอยากให้ข้าทาหรือเจ้าคะ..โปรดบอกกล่าวมา
ข้านั้นยินดีรับฟังทุกอย่างขอเพียงแค่นายท่านมอบความสุขให้แก่ข้า
..อ๊าา "
หลินหมิงทาการเรียกพวกนางทั้งสามเข้าไปหา มือซุกซนของ
หลินหมิงเข้าล่วงไปทีจุดลับของเหม่ยฮวาอย่างรวดเร็วและรุนแรง
เมื่อนางเข้ามาภายในระยะ
อ๊าาาาาาาาา~~~~~~
เสียงครางสนั่นของเหม่ยฮวาร้องขึ้นมาอย่างตกใจพร้อมกับน้า
ใสๆเป็นจานวนมากที่กาลังพรั่งพรู่ออกมาจากร่องสวาทของนาง
เหม่ยฮวานางแกล้งทาเป็นไร้เรี่ยวแรงปล่อยร่างกายของนางให้
ประกบร่างกายของหลินหมิงอย่างแนบเนียน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
เด็กหนุ่มผู้นี้นั้นสามารถมอบความสุขให้นางได้มากเพียงใดเพียงแค่
การจู่โจมเมื่อสักครู่มันก็ดีกว่าที่นางได้ร่วมรักกับหลินฮ่าวอย่างเทียบ
ไม่ติด
" เจ้านี้มันช่างร่านเสียจริง "
" อ๊าา..ก็เพราะนายท่านนั้นแหละ..ได้โปรดมอบ..ความสุขให้แก่
ข้า "
หลินหมิงทาการผลักร่างของเหม่ยฮวาลงอย่างรุนแรงพร้อมกับ
นาทวนมังกรของเขาออกมาจากปากของเหลียนเย่อิ๋งแม้ว่าใบหน้า
ของนางจะปรากฎความเสียดาย แต่มันก็เพียงไม่นานเพราะหลินห
มิงทาการรวบร่างของนางเข้ามากอดอย่างรวดเร็วพร้อมกับทาการ
ไซร้คอของนางจนนางแทบจะเป็นรอยแดงไปทั่วร่าง
เหม่ยฮวานางรีบปลดเสื้อของนางออกอย่างรวดเร็วราวกับว่า
นางรุ้ว่าหลินหมิงคิดจะทาสิ่งใด ลมหายใจของนางนั้นเต็มไปด้วย
ความหนักหน่วง พร้อมกับภายในใจของนางที่กาลังร่าร้องให้หลินห
มิงนาทวนมังกรของเขาเสียบเข้ามาภายในตัวของนาง
หลินหมิงเหลือบสายตาไปมองร่างของเหม่ยฮวาอย่างสมเพชใน
ใจ ทวนมังกรของเขาทาการเข้าจู่โจมในทันทีแบบไม่มีเยื้อใยแต่
อย่างใดสาหรับหญิงสาวอื่นนั้นหลินหมิงอาจทากับพวกนางอย่าง
ค่อยเป็นค่อยไปแต่สาหรับหญิงสาวนางนี้แล้วนั้นตัวเขาไม่
จาเป็นต้องทาเช่นนั้น ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าจู่โจมเหม่ยฮวา
ในทันทีพร้อมกับเสียงครางลั่นสนั่นไปทั่วห้องที่แม้แต่หญิงสาวรับใช้
ทั้งสองทีก่ าลังมองนายหญิงของพวกนางนั้นก็พลันตกใจไปด้วย
" อร้างงงงง...นะ...นาย..ท่านไม่...ใช่รูนั้น อ๊าาาา "
ทวนมังกรของหลินหมิงทีเ่ ข้าจู่โจมเหม่ยฮวานั้นไม่ได้เข้าจู่โจม
ภายในร่องสวาทของนางเหมือนแต่ก่อนแต่ในคราวนี้หลินหมิงได้
การเสียบเข้าไปในรูทวารของนาง แน่นอนว่าสาหรับรูทวารเช่นนี้
นั้นมันย่อมไม่มีบุรุษใดที่คดิ ทาเช่นหลินหมิงมาก่อนดังนั้นแล้วขนาด
ของมันอาจเรียกได้ว่าคับแน่นพอๆกับร่องสวาทของหญิงสาวบริ
สุทธ์หรืออาจมากกว่าเสียด้วยซ้าไป แต่ถึงอย่างนัน้ การเสียบเข้าไป
ภายในรูทวารนั้นก็ยังคงนับได้ว่ายากกว่าร่องสวาทเป็นอย่างมาก
ด้วยเช่นกันเพราะมันไม่ได้มีน้าล่อลื่นเหมือนภายในร่องสวาท
แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงส่งทวนมังกรของเขาเข้าไปสุดลา
จนทาให้เหม่ยฮวาถึงกับลืมหายใจไปชั่วครู่ หญิงสาวทั้งสามที่เหลือ
มองไปที่เหม่ยฮวาด้วยความตกใจเห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นอาจมี
ความแค้นเคืองอะไรบางอย่างกับภรรยาลาดับที่หา้ ของตระกูลหลิน
นางนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกนางจะต้องสนใจในตอนนี้
เพราะตอนนี้พวกนางได้แต่หวังว่าเมื่อใดจะเป็นโอกาสสาหรับพวก
นางบ้าง
" จะ... ออก..แล้ว !! อร้างงงงงง ~~~~~~~~~~ "
แม้ว่านางจะโดนเสียบเข้าจากรูทวารแต่ถึงอย่างนั้นน้ารักภายใน
ร่องสวาทของนางนั้นก็ยังคงตื่นตัวและไหลออกมาเป็นจานวนมาก
ไม่ต่างกัน สภาพของนางในตอนนี้ไม่สามารภค้าจุนร่างกายส่วนบน
ของนางได้อีกต่อไปแต่นางก็ยังคงโก่งบั้นท้ายของนางให้หลินหมิง
เข้าจู่โจมอย่างต่อเหนื่องต่อไป
เพียงไม่นานหลังจากที่หลินหมิงได้รับการเล้าโลมมาจากเหลียน
เย่อิ๋งก่อนหน้านี้น้ารักจานวนมากของเขาก็ถูกปลดปล่อยเข้าสู่
ภายในตัวเหม่ยฮวาไปเต็มรูทวารของนาง นางหอบหายใจอย่าง
เหนื่อยอ่อนดวยการที่นี้เป็นครั้งแรกที่นางได้ถูกจู่โจมบริเวณรูทวาร
แม้ว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดแต่มันก็ให้ความสุข
แก่นางมากเช่นเดียวกัน
หลินหมิงพลิกร่างของเหม่ยฮวามาให้นอนหงายในทันทีโดยไม่ให้
นางพักแต่อย่างใดทวนมังกรของเขาเข้าจู่โจมไปที่ร่องสวาทของ
นางในทันทีจนนางรู้สึกจุกจนแทบจะส่งเสียงครางออกมาไม่ได้
หลินหมิงใช้เวลาร่วมรักกับเหม่ยฮวาค่อนข้างนานดูเหมือนว่าหญิง
สาวนางนี้จะมีความสามารถในการอดทนรับศึกหนักกับเขามากกว่า
ในคราวที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงต้องหมดสติไปหลังจากที่
โดนหลินหมิงกระหนาซัดน้ารักเข้าไปจนท่วมร่องสวาท
หญิงสาวทั้งสามเพียงแค่ได้มองการร่วมรักตรงหน้าร่องสวาท
ของพวกนางก็เกิดอาการคันแปลกๆ แม้ว่าหญิงสาวรับใช้ทั้งสองจะ
เคยเห็นบทรักเช่นนี้มาก่อนนหน้าแต่ในตอนนั้นพวกนางต้องแกล้ง
ทาเป็นไม่ได้สติจึงไม่อาจสังเกตได้อย่างเด่นชัด เทียบกันแล้วกับ
เหลียนเย่อิ๋งนางนั้นนึกว่าในตอนที่หลินหมิงร่วมรักกับนางนั้นนับได้
ว่าร้อนแรงเสียยิ่งกว่าอื่นใดแต่เมื่อนางได้เห็นภาพตรงหน้าบทรัก
ของนางก็ไม่อาจนาไปเปรียบเทียบได้เลยแม้แต่น้อย
หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างไร้สติของเหม่ยฮวาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หากนางกรีดร้องมากกว่านี้นั้นมันก็อาจทาให้เขาพอใจมากกว่านี้แต่
กลับกันแล้วดูเหมือนว่าหญิงสาวนางนี้จะเสพติดความเจ็บปวดจน
เขาไม่รู้ว่าจะทรมานนางไปเพื่อเหตุใด เหลียนเย่อิ๋งเป็นลาดับต่อไปที่
เข้ามาหาหลินหมิงนางเข้าประกบปากกับหลินหมิงอย่างร้อนแรง
โดยที่นางตั้งใจจะมอบความสุขให้หลินหมิงไม่แพ้เหม่ยฮวา
หากนางต้องพ่ายแพ้สตรีที่ยังคงอ่อนวัยกว่านางเช่นหญิงสาวรับ
ใช้ทั้งสองนี้นางก็ยังคงพอทาใจได้ แต่กลับหญิงสาวเช่นเหม่ยฮวาที่
มีอายุมากเสียยิ่งกว่านางนั้น นั้นเป็นเรื่องที่นางไม่อาจยอมรับได้ลิ้น
ของนางเป็นฝ่ายเข้ารุกไปในปากของหลินหมิงอย่างร้อนแรง
เพียงแต่ว่าด้วยการโต้กลับของหลินหมิงนั้นทาให้ร่างกายของนาง
พลันรู้สึกว่านางกลับเป็นฝ่ายโดนรุกเร้าเสียเอง
นางผลักร่างของหลินหมิงลงพร้อมกับนาร่องสวาทของนั้นคร่อม
ทวนมังกรของหลินหมิงในขณะที่พวกกเขาทั้งสองยังคงประกบปาก
กันอยู่ แน่นอนว่าสาหรับนางที่อาศัยอยู่กินในหอนางโลมแห่งนีม้ า
แทบทั้งชีวิตดังนั้นแล้วนางย่อมมีความมั่นใจในทักษะการปรนนิบัติ
บุรุษอยู่มากพอสมควร

ตอนที่ 61
แรกเริ่มเดิมทีนั้นเป้าหมายของหลินหมิงที่มายังหอนางโลมของ
เหลียนเย่อิ๋งก็เพื่อหวังทดสอบความสามารถใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับมา
จากการยกระดับอย่างก้าวกระโดด แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่การ
ทดลองใช้ทักษะ [ ดรรนีเพลิง ] แต่อย่างใด มันเป็นความสามารถ
ที่ว่าเมื่อเขาได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวแล้วนั้นจะสามารถทาให้
พวกนางพัฒนาขึ้นไปได้ดว้ ยเช่นเดียวกัน
แม้ว่ามันจะมีกรณีของหญิงสาวผู้งดงามเผ่าซัคคิวบัสอย่างซือ
เฟยแล้วนั้นแต่ด้วยความสามารถของเผ่านางที่สามารถดูดซับ
พลังหยินของบุรุษมาพัฒนาตนเองได้นั้นมันจึงทาให้หลินหมิงไม่
สามารถทาความเข้าใจความสามารถใหม่ของเขาได้อย่างเด่นชัด
และหากจะให้เขาทาการร่วมรักกับซื่อโฉวหรือหญิงสาวรับใช้สองพี่
น้องพวกนางทั้งสามก็ล้วนแต่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์แต่อย่างใด
ดังนั้นแล้วในบรรดาหญิงสาวที่หลินหมิงเคยร่วมหลับนอน
ทั้งหมดจึงมีเพียงแค่หญิงสาวรับใช้ของเหม่ยฮวาเพียงเท่านั้นที่
สามารถเป็นตัวทดสอบความสามารถใหม่นี้ให้กับเขาได้
เหลียนเย่อิ๋งในตอนนี้นางได้ถอนปากออกจากหลินหมิงเป็นที่
เรียบร้อย พร้อมกับสมาธิของนางที่กาลังจดจ่ออยู่กับการขึ้นควบ
ทวนมังกรของหลินหมิง มันคงไม่ดีแน่หากนางยังคงปล่อยตัว
ประกบปากกับหลินหมิงเช่นนั้นต่อไปเพียงแค่การจู่โจมด้วยปาก
ของเด็กหนุ่มผู้นมี้ ันก็สามารถทาให้หญิงสาวเสร็จได้โดยง่ายซึ่งนาง
คงไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน
" ดีหรือไม่เจ้าคะ "
" แรงขึ้นอีกสิ "
นางค่อยๆทาการขยับสะโพกไปอย่างช้าๆก่อนในตอนแรกนี้ถือ
ว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคหนึ่งที่นางได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์การใช้
ชีวิตภายในหอนางโลมแห่งนี้ การที่นางทาเช่นนี้นั้นมันสามารถทา
ให้บุรุษนั้นรู้สึกมีความต้องการทางอารมณ์เพิ่มขึ้นพวกเขาจะ
พยายามเร่งรัดนางให้ทาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก
" เห็นทีว่าข้าคงต้องมาทีนี้บ่อยๆเสียแล้ว "
" อ๊าา..ซี๊ดดดดดดด...ชะ..เช่นนั้น..ข้ายินดีรับใช้..นะนาย..ท่าน
เสมอเจ้าคะ.. "
เหลียนเย่อิ๋งด้วยการที่ในตอนนี้นางเริ่มทาการขยับเร่งจังหวะมัน
ทาให้นางไม่สามารภกล่าวออกมาได้อย่างปกติลาพังเพียงแค่ทวน
มังกรของหลินหมิงที่อยู่ภายในตัวนางตอนนี้ด้วยขนาดของมันก็
เพียงพอแล้วที่นางจะทรงตัวได้อย่างยากลาบาก
สัมผัสภายในร่องสวาทของนางในตอนนี้มันสัมผัสที่นางได้แต่
ใฝ่ฝันในช่วงหลายวันที่ผ่านมาหลังจากที่เด็กหนุ่มผู้นี้ได้จากไป
แม้ว่านางจะต้องการทราบว่าเด็กหนุ่มผู้นี้นั้นเป็นใครมาจากไหน
เพียงแต่ว่าหากอาศัยเพียงแค่หน้าตาเช่นนี้เกรงว่ามันคงเป็นเรื่อง
ยากเกินกว่าที่นางจะสามารถสืบค้นข้อมูลของเด็กหนุ่มผู้นี้ ดังนั้น
แล้วเมื่อนางได้พบหลินหมิงอีกครั้งนางจึงตั้งใจว่าจะปรนนิบัติเขาให้
อย่างดีที่สุด เพื่อที่จะสร้างความพอใจให้กับหลินหมิงได้มากที่สุด
จนในตอนนี้ร่องสวาทของนางเริ่มออกอาการตอบสนองต่อทวน
มังกรของหลินหมิงอย่างรวดเร็ว น้าใสๆจานวนมากกาลังพรั่งพรู่
ออกมาเป็นสัญญาณว่านางได้เสร็จสมไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นนางก็
ยังคงฝืนร่างกายขยับสะโพกของนางต่อไป
" ซี๊ดดดดด~~~~~~~ นะ...นายท่านนนนน ดะ..ดูดแรงไปแล้ว
เจ้าคะ อร้ายย "
หลินหมิงที่ในตอนแรกกาลังนอนอย่างสบายมองดูร่างของ
เหลียนเย่อิ๋งควบทวนมังกรของเขาอยู่นั้น เมื่อได้เห็นเต้านมขนาด
ใหญ่คู่งามของหญิงสาวทีก่ าลังเคลื่อนที่ขึ้นลงตามจังหวะการควบ
ของนางนั้นก็พลันเกิดความต้องการในเต้านมของหญิงสาว หลินห
มิงทาการชันตัวขึ้นมาพร้อมกับใช้ปากเข้าเด็ดดมยอดปทุมถันของ
นางจนทาให้เหลียนเย่อิ๋งถึงกับชะงักไปชั่วครู่ แม้ว่านางจะเป็นหญิง
สาวที่มั่นใจในทักษะการปรนเปร่อบุรุษแต่เมื่อนางต้องเป็นฝ่ายถูก
กระทาเช่นนี้นั้นมันนับเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ใช่
กระทั่งแม้แต่หญิงสาวอื่นใดพวกนางล้วนแล้วแต่ไม่เคยได้พบกับ
ประสบการณ์เช่นนี้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วมันย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
ที่พวกนางจะไม่สามารถอดทนต่อการเล้าโลมของหลินหมิงได้
ลิ้นของหลินหมิงที่เข้าทาการสัมผัสที่ยอดปทุมถันของนางนั้นทา
ให้นางรู้สึกเสี่ยวซ่านไปทัว่ ร่างจนแทบจะทาให้ร่างกายของนาง
หงายหลังล้มลงไปอย่างเหนื่อยอ่อนหากไม่ใช่เพราะว่ามีมือของเด็ก
หนุ่มที่โอบกอดนางเอาไว้จากด้านหลังแล้วละก็นางคงล้มลงไปแล้ว
มือทั้งสองข้างของนางทาการตอบรับการเล้าโลมของหลินหมิงอย่าง
ดีเยี่ยมนางโอบกอดศรีษะของหลินหมิงเอาไว้ราวกับว่านางไม่
ต้องการที่จะแยกจากบุรุษหนุ่มผู้นี้อีกต่อไป
น้ารักของหลินหมิงเริ่มทาการปะทุขึ้นมาหลังจากที่เข้าได้ทาการ
เด็ดดมยอดกลีบบัวของหญิงสาวแม้ว่าในตอนนี้เหลียนเย่อิ๋งนางจะ
เบาจังหวะการขยับสะโพกของนางลงไปแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยัคง
สร้างความเสียวซ่านให้แก่หลินหมิงได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
" อร้างงงงง ~~~~~~~~~~ "
น้ารักอันแสนอบอุ่นที่ได้พุ่งเข้ามาสู่ตัวของนางนั้นทาให้เหลียน
เย่อิ๋งครางสนั่นไปทั่วห้อง ริมฝีปากของนางในตอนนี้ถูกทาให้
เปราะเปรื้อนไปด้วยคราบน้าลายที่กาลังไหลออกมาจากปากของ
นาง มันแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านางมีความสุขมากเพียงใด
จากการที่ได้ร่วมรักกับหลินหมิง
หลินหมิงยังคงกอดหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับทาการโลมเลียไปทั่ว
ร่างของนาง ผิวเนียนนุ่มของหญิงสาววัยสามสิบนัน้ แม้ว่าจะไม่อาจ
เทียบหญิงสาววัยแรกรุ่นได้ แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวทีต่ ้อง
ทาหน้าที่ปรนเปรอบุรุษเช่นนางแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนางจะ
ด้อยกว่าหญิงสาววัยแรกรุ่นไปบ้างแต่สาหรับหลินหมิงนั้นปัญหาใน
ส่วนนั้นนับเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เขาแทบจะไม่ได้นามันมาใส่ใจ
เนื่องจากในตอนนี้หญิงสาวกาลังไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจากการที่นางได้
โดยหลินหมิงปล่อยน้ารักเข้ามาภายในร่องสวาทดังนั้นแล้วการขย่ม
ของนางจึงหยุดไป แต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยังคงใช้สองมือของเขา
จับเอวของนางเอาไว้พร้อมกับให้นางทาการขยับร่างอย่างต่อเหนื่อง
ไปเช่นเคย
หลินหมิงใช้เวลาในการร่วมรักกับเหลียนเย่อิ๋งไม่แพ้กับเหม่ยฮวา
เลยในตอนแรกแต่หากพูดถึงหญิงสาวที่ให้ความสุขกับเขา นั้นย่อม
เป็นแม่หญิงสาวเจ้าของหอนางโลมแห่งนีไ้ ม่เพียงแต่นางจะมีทักษะ
ในการปรนนิบัติอันน่าพอใจแต่นางยังคงมีจิตใจหึดสู้ไม่แพ้ใคร
จึงทาให้ในตอนนี้บนเตียงนอนภายในห้องนั้นถูกแต่งแต้มไปด้วย
หญิงสาววัยสามสิบสองคนที่กาลังนอนไร้สติเต็มไปด้วยคราบน้ารัก
ของหลินหมิง เมื่อหลินหมิงหันไปมองหญิงสาวรับใช้ทั้งสองของเหม่
ยฮวา จิงหนิง และจูเวยเหลียนในตอนนี้พวกนางทัง้ สองกาลังนั่งขา
พับด้วยความไร้เรี่ยวแรง
พวกนางเคยคิดว่าการที่พวกนางได้รับบทลงโทษจากตระกูล
อย่างการถูกทุบตีนั้นนับเป็นเรื่องที่ทรมานเป็นอย่างมากแต่ในตอนนี้
การที่ให้พวกนางทั้งสองทาการดูบทรักอันร้อนแรงของเด็กหนุ่มกับ
หญิงสาวสองอย่างยาวนานนั้นเรื่องเหล่านั้นมันจะเป็นอะไรไปได้ ?
ที่บริเวณระหว่างขาของพวกนางแน่นอนว่าในตอนนี้มันย่อมเกิด
แอ่งน้าขนาดย่อมขึ้นมา
พวกนางทั้งสองมองไปทีห่ ลินหมิงด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างสุด
ความสามารถแม้ว่าพวกนางจะสามารถบรรเทาอารมณ์ของพวก
นางได้ด้วยตนเอง แต่มันไม่อาจเปรียบเทียบได้เลยแม้แต่น้อยกับ
ทักษะของเด็กหนุม่ ผู้นี้ ในตอนนี้เมื่อพวกนางทั้งสองได้เห็นหลินหมิง
กาลังนั่งมองมาที่พวกนางด้วยร่างกายเปลื่อยเปล่าอยู่นั้นมันทาให้
พวกนางไม่อาจหักห้ามใจเอาไว้ได้อีกต่อไป
พวกนางทั้งสองเคลื่อนตัวเข้าหาหลินหมิงอย่างรวดเร็วในเมื่อ
ในตอนนี้นายหญิงของพวกนางและเจ้าของหอนางโลมแห่งนี้อย่าง
เหลียนเย่อิ๋งนั้นได้รับความสุขจนพวกนางทั้งสองพอใจไปแล้ว
ดังนั้นมันสมควรเป็นคราวของพวกนางบ้างไม่ใช่เช่นนั้นหรือ ?
เมื่อพวกนางทั้งสองเห็นว่าหลินหมิงไม่ได้มีการโต้ตอบต่อการ
เคลื่อนไหวของพวกนางมันอาจเป็นไปได้ว่าเด็กหนุม่ ผู้นี้อาจเหนื่อย
อ่อนจากการร่วมรักมาก่อนหน้านี้แม้ว่าพวกนางจะรู้ดีว่าเด็กหนุ่ม
คนนี้มีความสามารถในการ่วมรักที่เรียกได้ว่าไม่อาจมีบุรุษใดมา
เปรียบได้แต่ถึงอย่างนั้นเพียงไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมานั้นเขาก็ได้
ปลดปล่อยน้ารักออกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วดังนัน้ แล้วมันจึงเป็น
เรื่องธรรมดาที่เขาอาจไม่มีอารมณ์ในการร่วมรักกับพวกนางต่อ
หญิงสาวพุ่งเข้าไปหาทวนมังกรอย่างรวดเร็วริมฝีปากของหญิงสาว
ทั้งสองเข้าโลมเลียเพื่อหวังฟื้นฟูกาลังให้กับทวนมังกรแท่งนี้
แม้ว่าพวกนางจะสามารถขึ้นควบทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
ดั่งเช่นเหลียนเย่อิ๋งแต่เกรงว่าพวกนางทั้งสองคงไม่มีความอดทนอด
กลั้นมากพอในการรับมือเช่นนาง ดังนั้นแล้วความหวังเดียวของ
พวกนางนั้นก็คือการที่ให้บุรุษหนุ่มคนนี้เกิดอารมณ์และเข้าจู่โจม
พวกนาง หลินหมิงมองไปที่การกระทาของหญิงสาวรับใช้ทั้งสอง
อย่างพอใจมันเป็นที่แน่นอนว่าในตอนนี้พวกนางอาจเชื่อฟังเขามาก
เสียยิ่งกว่าเหม่ยฮวานายหญิงของพวกนาง หรือถ้าไม่เป็นอย่างนั้น
เขาก็ยังคงควบคุมเหม่ยฮวาแทนเสียก็ย่อมได้
ด้วยการที่พวกนางได้ประสบการณ์จากการมองดูบทรักมาอย่าง
ยาวนานนั้นมันทาให้ฝีมือในการโลมเลียทวนมังกรของหลินหมิงนั้น
ค่อนข้างดีเยี่ยม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คงไม่อาจนาไปเทียบกับเหลียน
เย่อิ๋งได้ หลินหมิงทาการรวบร่างของจูเวยเหลียนขึ้นมาในอ้อมกอด
ของเขาพร้อมกับทาการไซร้คอและโลมเลียไปทั่วร่างของนาง
เสื้อผ้าของนางนั้นถูกปลดออกอย่างรวดเร็วราวกับว่านางไม่ได้สวม
ใส่อะไรอยู่ก่อนหน้า ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นนางก็ยังคงปล่อยตัวไปตาม
อารมณ์ไม่ได้ทาการขัดขืนหลินหมิงแต่อย่างใด เสียงครางกระเส้า
ของนางมันทาให้จิงหนิงที่เป็นเพื่อนของนางนั้นรู้สึกมีความกังวล
ขึ้นแน่นอนหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปมันอาจจบลงด้วยการที่
หลินหมิงนั้นทาการร่วมรักกับเพื่อนสาวของนางอย่างยาวนาน
เช่นเดียวกันกับก่อนหน้า ซึ่งนั้นนับเป็นเรื่องที่นางไม่สามารถอดใจ
รอได้นัก เห็นได้ชัดว่านี้อาจเป็นการกลั่นแกล้งของเด็กหนุ่มที่ในครั้ง
อดีตนั้นนางได้ทาการขัดขืนเขา เมื่อนึกถึงตรงนี้ความเสียใจปรากฎ
ขึ้นภายในใจของนาง
" อ๊าา..ดีมากเลยเจ้าคะ.."
ตอนที่ 62
หานจิงหนิงไม่นางไม่อาจปล่อยให้เรื่องราวปล่อยไปเกินเลยได้
มากกว่านี้ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่อาจทาให้นางและจูเวยเหลียนต้อง
โกรธเคืองกันแต่ในตอนนี้นางทรมานจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
เช่นเดียวกัน นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดพร้อมกับจ้องมองไปที่
ร่างของเด็กหนุ่มที่กาลังโอบกอดรัดเพื่อนสาวของนางอย่างนัวเนีย
" นะ..นายท่าน..ได้โปรดทากับข้าด้วย "
เมื่อหลินหมิงได้ยินคากล่าวของจิงหนิงนั้นเขาหยุดการเล้าโลม
กับจูเวยเหลียนไว้ก่อนพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างของจิงหนิงที่เต็มไป
ด้วยความหื่นกระหายอย่างเด่นชัด เสื้อผ้าของนางในตอนนี้กาลังถูก
ปลดออกด้วยตัวของนางเอง นางทาเช่นนี้เพื่อทาการเชื้อเชิญให้
หลินหมิงเข้าจู่โจมกับนาง บริเวณร่องสวาทของนางเมื่อหลินหมิง
เหลือบไปมองนั้นหลินหมิงพบกับน้าตกขนาดเล็กเกิดขึ้น
แน่นอนว่านางเองย่อมเห็นสายตาของหลินหมิงที่จ้องมองมาที่
เรือนร่างเปลื่อยเปล่่าของนางด้วยสายตาเร้าร้อน เพียงแค่สายตา
ของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่ราวกับต้องการจะกลืนกินตัวนางไปทั้งตัวนั้นก็
เพียงพอที่จะทาให้ร่างกายของนางนั้นเกิดการตอบสนองอย่าง
โดยง่าย นางจงใจไม่ได้ปิดบังส่วนใดของร่างกายเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่ามันจะน่าอายสาหรับที่ต้องทาเช่นนี้ต่อหน้าบุรุษแต่ในยามนี้
นางไม่มีทางเลือกใดอีกต่อไปแล้ว
จูเวยเหลียนเมื่อนางเห็นเพื่อนของนางกระทาการเช่นนี้นางเองก็
ไม่คิดจะยอมแพ้เช่นเดียวกัน นางเรียนรู้วิธีสร้างความสุขจากก่อน
หน้าไม่น้อย ริมฝีปากของนางเข้าทาการโลมเลียแผ่นอกเปลื่อย
เปล่าของหลินหมิงเพื่อทาการเรียกความสนใจของเขาให้กลับมาที่
ตัวนาง แม้ว่านี้จะเป็นความต้องการส่วนหนึ่งที่มาจากตัวของนางก็
ตามที่ จิงหนิงลุกขึ้นมาพร้อมกับนาร่างของนางแนบชิดติดกับร่าง
ของหลินหมิงในอีกด้านอย่างไม่ยอมแพ้
สัมผัสเนียนนุ่มของผิวหญิงสาววัยยี่สิบนั้นนับได้วา่ กาลังอยู่ช่วง
ที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง เต้านมของพวกนางแม้จะไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่น
เหลียนเย่อิ่งและเหม่ยฮวาถึงอย่างนั้นไม่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่ามันมี
ขนาดเล็กแต่อย่างใดกลับกันแล้วมันค่อนข้างมีขนาดใหญ่พอตัวแต่
หากเมื่อนาไปเทียบกับหญิงสาวสองคนก่อนหน้านีท้ ี่หน้าอกของ
พวกนางนั้นเปรียบกับระดับสุดยอดของหญิงสาวแล้วนั้นพวกนาง
จึงดูด้อยกว่า
หลินหมิงหันไปสัมผัสสูดดมกลิ่นกลายของหญิงสาวทั้งสองคน
อย่างเต็มปอด แม้ว่าเขาจะร่วมรักกับเหลียนเย่อิ๋งและเหม่ยฮวามา
อย่างร้อนแรงแต่มันก็ไม่ได้ทาให้อารมณ์ราคะของเขาลดลงไปเลย
แม้แต่น้อย
ลิ้นของพวกนางเข้าเป็นฝ่ายรวมพลังเข้าจู่โจมไปในปากของ
หลินหมิง มือทั้งสองข้างของหลินหมิงนัน้ ต่างบีบคลึงเต้านมพวก
นางอย่างละข้างจนพวกนางกลัวว่ามันอาจแตกคามือเด็กหนุ่มผู้นี้ไป
เสียก็เป็นได้
แม้ว่าในตอนนี้อารมณ์ของพวกนางจะมาถึงขีดจากัดจนแทบจะ
ไม่อาจห้ามใจได้ไหวแต่มหี รือที่พวกนางจะกล้ากล่าวคาขอใดๆกับ
หลินหมิงหากเมื่อใดที่พวกนางคนใดคนหนึ่งบอกกล่าวเช่นนั้น
ออกไปมันอาจทาให้พวกนางต้องหมดสิทธ์ในการร่วมรักกับเด็ก
หนุ่มก็เป็นได้ ดังนัน้ แล้วพวกนางจึงตั้งใจปล่อยตัวไปตามการ
เคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มผูน้ ี้ แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ร่องรักเปลื่อย
เปล่าของพวกนางนั้นจะเห็นได้ว่าพวกนางได้ทาการขยับเอว
เล็กน้อยเพื่อถูไถมันไปกับต้นขากาย่าของหลินหมิง
" นะ...นายท่าน..ยอดเยี่ยมม ที่สดุ ดซีด๊ ดดด "
หลินหมิงทาการจัดท่าให้พวกนางเพื่อที่ว่าในตอนนี้เขาจะได้จู่
โจมใส่พวกนางเสียที ซึ่งในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกนางทั้งสองจะมี
อารมณ์ความต้องการมากไม่แพ้กัน ดังนั้นแล้วเขาจึงคิดที่จะทาการ
จู่โจมพวกนางทั้งสองคนพร้อมกันไปเลย ร่างของจูเวยเหลียน
ในตอนนี้ถูกจัดให้นอนหงายหน้าโดยมีร่างของจิงหนิงนอนคว่ากด
ทับเอาไว้ ร่องสวาทของพวกนางถูกหันเข้าหาหลินหมิงตามทวงท่า
ที่เข้าได้จัดเตรียมเอาไว้
" เอาเลยเจ้าคะ "
" ได้โปรดนามันเข้ามาเร็วๆ เจ้าคะ "
หญิงสาวทั้งสองที่กาลังนอนรอการจู่โจมของหลินหมิงอยู่นั้น
พวกนางไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อใดที่พวกนางจะถูกจู่โจมเพราะพวก
นางไม่อาจมองเห็นได้ ทวนมังกรของหลินหมิงเสียบเข้าไปที่ร่อง
สวาทของจูเวยเหลียนที่อยู่ด้านล่างร่างกายของนางพลันกระตุก
ขึ้นมาในทันที แน่นอนว่าจิงหนิงนั้นเมื่อนางได้เห็นสีหน้าของเพื่อน
นางก็พลันรู้สึกอิจฉาขึ้นมา แต่ความรู้สึกเหล่านั้นคงอยู่ได้เพียงไม่
นานเมื่อนางพบว่าในตอนนี้ร่องสวาทของนางก็ได้ถูกเติมเต็มไปด้วย
ทวนมังกรของหลินหมิงแล้ว
หลินหมิงทากาารสลับเสียบทวนมังกรของเขาเข้าร่องสวาทของ
พวกนางทั้งสองสลับไปมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกนางทั้งสั่น
กระตุกขึ้นมาเรื่อยๆในจังหวะที่พวกนางได้ถูกจู่โจมน้ารักใสๆ
จานวนมากไหลพรั่งพรู่ออกมาจากร่องสวาทของพวกนางมากกว่า
ก่อนหน้านี้แบบเทียบไม่ตดิ
" อร้างงงงงง ~~~~~~~~~ "
" แรงๆ เลยเจ้าคะ ซี๊ดดดดดดดดดดดด "
หน้าอกของหญิงสาวทีก่ าลังถูกกดทับด้วยกันนั้นกาลังถูก
สั่นคลอนด้วยร่างกายของพวกนางทั้งสองที่กาลังสัน่ ไหวไปตาม
จังหวะการกระแทกของหลินหมิง ยอดปทุมถันของพวกนางทั้งสอง
ต่างเสียดสีกันจนเกิดความเสียวซานที่บริเวณหน้าอก
" โอ้ยย.. รูก้น..ของข้าาาา~~~~ "
" อร้างงงง~~~~~ "
ในตอนนี้ไม่ใช่เพียงร่องสวาทของพวกนางเท่านั้นที่ได้รับการจู่
โจมจากหลินหมิวรูทวารของพวกนางในตอนนี้ก็ถกู รวมเป็น
เป้าหมายของหลินหมิงเข้าไปด้วย นิ้วมือของหลินหมิงเข้าล่วง
สารวจโผร่งรักของหญิงสาวที่ตอนนี้ได้รับการพักจากการรับมือจาก
ทวนของเขา
" ฉะ..ฉีกกก..หมดแล้ว~~~..เบาลงหน่อยเจ้าคะ "
" ซี๊ดด..มะ.มันลึกไปแล้วเจ้าคะ "
ด้วยทวนขนาดใหญ่ของเด็กหนุ่มผู้นี้เมื่อมันได้เข้ามาภายในตัว
ของพวกนางนั้นมันแทบจะทาให้ร่างกายของพวกนางแทบจะสิ้นสติ
แม้ว่าพวกนางจะได้เห็นการร่วมรักที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน
หน้า แต่เมื่อต้องมารับมือด้วยตนเองแล้วมันช่างเป็นเรื่องที่หนัก
หนากว่ากันมาก
รูทวารของพวกนางถูกแหวกออกกว้างเสียจนพวกนางกังวลว่า
มันอาจไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ดั้งเดิม แต่อย่างไรเสียในตอนนี้
พวกนางทาได้เพียงส่งเสียงครางและรับความสุขที่ได้จากนายท่าน
หนุ่มของพวกนางเท่านั้น
หลินหมิงใช้เวลาร่วมรักกับพวกนางน้อยกว่าที่ร่วมรักกับเหม่
ยฮวาหรือเหลียนเย่อิ๋งด้วยการที่พวกนางยังคงจัดว่าอยู่ในวัยสาว
ดังนั้นพวกนางจึงไม่มีความอดทนเท่าหญิงสาววันสามสิบสองคน
ก่อนหน้า อีกทั้งเมื่อพวกนางต้องรับมือกับทวนมังกรของหลินหมิง
แล้วนั้นการที่พวกนางทาได้ถึงเพียงนี้นั้นนับว่ายอดเยี่ยมแล้ว
หลินหมิงทาการตรวจสอบร่างกายของหญิงสาวทัง้ สองคนระดับ
พลังของพวกนางล้วนก้าวหน้าขึ้นมาในทันทีหลังจากที่บทเพลงรัก
ของเขาจบลง จูเวยเหลียนในตอนแรกนางมีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 8
แต่ในตอนนี้นางได้ก้าวข้ามพัฒนามาเป็นผู้มีพลังปราณก่อเกิดขั้น 2
ในทันที เช่นเดียวกันกับจิงหนิงที่ก่อนเดิมมีพลังปราณเริ่มต้นขั้น 9
ตอนนี้ก็ได้ก้าวมาเป็นปราณก่อเกิดขั้น 3 เช่นเดียวกันกับเขา
หลินหมิงมองผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างพอใจ หากเป็นเช่นนี้เขา
อาจสร้างก่อกาลังสตรีที่แข็งแกร่งขึ้นมาก็ย่อมได้ดว้ ยความสามารถ
เช่นนี้ แต่เป็นที่แน่นอนว่าหญิงสาวที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ส่วนใหญ่พวก
นางล้วนมีสังกัดของตนอยู่แล้วดังนั้นมันอาจไม่ง่ายนัก
" นะ..นายท่านน~~ ข้าจะทาความสะอาดให้เจ้าคะ "
เหลียนเย่อิ๋งตื่นขึ้นมาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อนแบบสุดๆนางใช้
ปลายลิ้นตวัดเลียคราบน้ารักของหลินหมิงที่เปราะเปรื้อนทวนมังกร
ของเขาเพื่อที่จะทาให้หลินหมิงพอใจมากที่สุด แน่นอนว่าเพียงไม่
นานเหม่ยฮวาก็พลันได้สติขึ้นมาด้วยสภาพไม่ต่างกัน นางรีบลุกเข้า
หาทวนมังกรของหลินหมิงอย่างรวดเร็วพร้อมกับใชลิ้นของนางเข้า
โลมเลียอย่างเร้าร้อน
หลินหมิงทาการส่งน้ารักเข้าไปในตัวของเหม่ยฮวาและเหลียน
เย่อิ๋ง จนกระทั่งเกือบเช้าใบนางของหญิงสาวสองนางนั้นเต็มไปด้วย
ความพอใจอย่างมาก น้ารักที่ท่วมภายในท้องของนางนั้นเป็นสัญ
ลักษณแห่งความสุขที่เกิดขึ้นภายในค่าคืนนี้ และพวกนางยังคง
แราถนาที่จะได้รับมันเช่นนี้ตลอดไป

ตอนที่ 63
หลินหมิงกลับมายังห้องพักของตนเองด้วยสภาพสุขใจอย่างล้น
พ้น แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเขาได้เห็นซื่อโฉวทีก่ าลังรอเขาอยู่ภายในห้อง
ด้วยแรงปราถนามีหรือว่าตัวของเขาจะปล่อยให้หญิงสาวเช่นนี้เกิด
อารมณ์ค้างคา หลินหมิงทาการเข้าจู่โจมพร้อมกับหลับนอนกับนาง
ไปทั้งอย่างนั้นจนกระทั่งถึงช่วงเช้า
น่าเสียดายว่าความสามารถที่สามารถเพิ่มระดับพลังของหญิง
สาวได้จากการร่วมรักกับตัวเขานั้นจะมีผลเพียงแค่ผู้ที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์
เพียงเท่านั้นไม่เช่นนั้นแล้ว ซื่อโฉว หรือหญิงสาวสองพี่น้องนั้นคงได้
กลายเป็นหนึ่งในกองกาลังที่เขาสามารถใช้งานได้ไปแล้ว แม้ว่า
ในตอนนี้จะมีเพียงหญิงสาวรับใช้สองคนของเหม่ยฮวาอย่างจิงหนิง
และจูเวยเหลียนแม้ว่าพวกนางจะไม่ค่อยมีฐานะมากเท่าใดนัก
ภายในตระกูลหลิน แต่มันก็เพียงพอสาหรับการสืบหาข่าว
เล็กๆน้อยๆได้ อีกทั้งเขายังมีเหม่ยฮวาที่ตอนนีน้ างเปรียบเสมือน
กลายเป็นทาสบาเร่อรักของเขาไปแล้ว
แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจนักหากนางได้รับรู้ตัวตนของเขาหรือว่าหาก
เขาต้องการทาให้นางทาในสิ่งที่เสียหายต่อตระกูลหลินนั้นนางจะมี
ปฎิกริยาตอบกลับเช่นไร แต่อย่างน้อยถ้าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
อย่างอื่นมันก็ไม่มีทางทีห่ ญิงสาวผู้เป็นภรรยาลาดับที่ห้าของประมุข
ตระกูลหลินนางนี้จะปฎิเสธเขา
จนกระทั่งถึงในยามเช้าเมื่อหลินหมิงรู้สกึ ตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าซื่อ
โฉวนางได้จากไปจากอ้อมแขนของเขาเสียแล้ว คราบสงครามเพลง
รักอันร้อนแรงเมื่อคืนนี้ก็ได้ถูกทาความสะอาดจนหมดสิ้นไปอย่าง
รวดเร็วราวกับว่ามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อหลินหมิงได้ทาภารกิจส่วนตัวในยามเช้าจนเสร็จสิ้น หลินห
มิงได้ตดั สินใจว่าจะไปที่ลานฝึกของตานักหลังจากที่เขาได้ก้าว
ขึ้นมาในระดับปราณก่อเกิดนั้น ขอบเขตหลายอย่างของเขาล้วน
พัฒนาขึ้นมากกว่าแต่ก่อนแบบก้าวกระโดดอีกทั้งความสามารถของ
เปลวเพลิงทมิฬนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะพัฒนาขึ้นมาด้วย
เช่นเดียวกัน
ร่างกายของหลินหมิงที่แต่เดิมมีความแข็งแกร่งทีม่ ากกว่ามนุษย์
ธรรมดาโดยทั่วไปแบบเทียบไม่ตดิ ในตอนนี้หลินหมิงคาดว่าต่อให้
เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝกึ ทักษะเกี่ยวกับการเสริมพลังร่างกายของตนเอง
พวกเขาเหล่านั้นก็อาจไม่สามารถเทียบกับร่างกายของเขาในตอนนี้
ได้ แน่นอนว่านั้นย่อมยกเว้นผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกฝนทักษะจนถึงระดับสูง
หรือผู้ที่มีขอบเขตพลังมากกว่าตัวเขา
แต่เมื่อหลินหมิงกาลังจะตรงไปยังลานฝึกประจาตาหนักก็มีร่าง
ของหญิงสาวผู้งดงามมาปรากฎตรงหน้า หลินหมิงแปลกใจกับการ
ปรากฎตัวขึ้นของหญิงสาวนางนี้ นางไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากผู้
อาวุโสฟางซิ่นแต่เดิมนั้นนางเป็นอาจารย์ของหลินเสี่ยวต้าฃูกพี่
ลูกน้องของเขา แม้ว่าตัวของหลินหมิงจะค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็น
ความหวังของสมาคมนักปรุงยาแต่การที่หญิงสาวผู้งดงามนางนี้
ต้องเสียศิษย์ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถอย่างหลินเสี่ยวต้าส่วน
หนึ่งนั้นย่อมเป็นเพราะตัวของหลินหมิงอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเป็น
เช่นนี้มันอาจเป็นไปได้ว่ามันอาจทาให้หญิงสาวผู้นี้เกิดความไม่
พอใจขึ้นเสียก็ได้
หลินหมิงจ้องมองไปที่ใบหน้างดงามของผู้อาวุโสฟางซิ่นมันคง
ไม่เชื่อเรื่องง่ายนักหากนางต้องการที่หาเรื่องหรือทาอันตรายเขา
เพราะอย่างไรเสียในตอนนี้เขาก็ยังคงอยู่ที่ตาหนักของอาจารย์สาว
สวยและอีกอย่างนางคงไม่ต้องการเสียรุ่นเยาว์ที่เป็นความหวังของ
สมาคมไป
" คารวะผู้อาวุโส ไม่ทราบท่านมีเรื่องอะไรกับข้างั้นหรือ ? "
ใบหน้าของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างปกติหลินหมิงไม่อาจ
แน่นักว่าภายในใจของหญิงสาวผู้นี้คิดการณ์เช่นไรเอาไว้ ถึงแม้
สถานะของนางภายในสมาคมจะด้อยกว่าผู้อาวุโสซูหลิ่งและ
อาจารย์สาวสวยของเขาแต่ความแข็งแกร่งของนางนั้นเลื่องลื่อว่า
เป็นรองเพียงแค่อาจารย์สาวสวยของเขาเพียงเท่านั้น
" ข้ามีเรื่องที่จะกล่าวกับเจ้าเล็กน้อย..รบกวนการฝึกเจ้าไม่มาก
หรอก "
นางออกเดินนาไปในทันทีโดยไม่รับฟังคากล่าวใดๆของหลินหมิง
มันจึงทาให้หลินหมิงไม่มที างเลือกในเมื่อหญิงสาวนางนี้จงใจกล่าว
เช่นนี้หากเขาไม่ยอมตามไปก็อาจไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนัก
หลินหมิงเดินตามผู้อาวุโสฟางซิ่นไปจากด้านหลังพร้อมกับ
สายตาของเขาที่จ้องมองไปที่สัดส่วนของว้าวของนางจากด้านหลัง
เมื่อนางทาการเคลื่อนไหนสัดส่วนบริเวณสะโพกของนางนั้น
เคลื่อนที่ได้อย่างลงตัว รวมกับเสื้อผ้าของนางที่ค่อนข้างรัดรูปมันจึง
เผยให้รูปร่างของนางได้อย่างชัดเจน
เกียวกับเสน่ห์ของนางนั้นนางไม่ได้มีเสน่ห์ในแบบเดียวกัน
อาจารย์สาวสวยของเขาหรือผู้อาวุโสซูหลิ่งกระทั่งหลิวฉวนยูร์ที่เป็น
สาวงามประเภทไม่สนใจบุรุษมากนักสายตาของพวกนางทั้งสามที่
มองที่บุรุษนั้นล้วนเต็มไปด้วยความเย็นชา ยกเว้นแต่เพียงตัวของ
เขาเพียงเท่านั้น
แต่สาหรับหญิงสาวที่กาลังเดินนาหน้าหลินหมิงอยูใ่ นตอนนี้
ใบหน้าของนางนั้นมักถูกปกคลุมด้วยรอยยิ้มอันอ่านยากของนางอยู่
ตลอดเวลา มันจึงทาให้ผู้คนไม่สามารถคาดคิดได้ว่านางคิดอาจเช่น
ไรอยู่
" หืม..เหตุใดเจ้าจึงทาหน้าตาเช่นนั้นเล่า..."
เมื่อนางเหลือบหันมามองหลินหมิงนั้นทาให้หัวใจหลินหมิงหล่น
วูบนั้นเพราะว่าเมื่อสักครู่นั้นหลินหมิงกาลังสารวจร่างกายของหญิง
สาวผู้นี้จากด้านหลัง หากนางรู้เข้านั้นไม่รู้เลยว่าหลินหมิงจะโดน
เช่นไรบ้าง แต่เมื่อเห็นว่านางนั้นกาลังเข้าใจผิดอยู่หลินหมิงจึงเส
แสร้งทาเป็นกังวลไปตามน้า
" อันที่จริงแล้วข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยข้าสักเล็กน้อยเพียง
เท่านั้น "
" ข้างั้นรึ ? "
หลินหมิงเต็มไปด้วยความสับสนแน่นอนว่าแม้ว่าพลังของเขา
ในตอนนี้จะพัฒนาขึ้นมาแต่มันคงไม่ได้ดีพอในขนาดที่จะช่วยเหลือ
หญิงสาวนางนี้ หรือแม้จะทาได้เขาอาจเหมาะสมพอสาหรับ
ตาแหน่งคนใช้ของนางเพียงเท่านั้น
เพียงไม่นานเมื่อหลินหมิงหันไปโดยรอบก็พบว่าในตอนนี้เขาได้
ออกมาจากเขตของตาหนักอาจารย์สาวสวยไปเสียแล้ว อาจเป็น
เพราะว่าสายตาของเขานั้นมั่วแต่จดจ้องอยู่กับสะโพกของหญิงสาว
มากจนเกินไปโดยไม่ได้รบั รู้รอบข้าง สัมผัสแรงกดดันถูกปล่อย
ออกมาในทันทีจากตัวของหญิงสาวพร้อมกับอาคมที่ถูกกางขึ้น
ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้
ตอนที่ 64
ด้วยการที่เขตอาคมซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของ
หญิงสาวตรงหน้าหลินหมิง แม้ว่าหลินหมิงจะไม่สามารถรับรู้ได้
อย่างแน่ชัดว่าเขตอาคมเช่นนี้สามารถทาสิ่งใดได้บ้างแต่อย่างหนึ่งที่
แน่นอนจากที่เขาคิดนั้นก็คืออาคมนี้สามารถป้องกันการมองเห็น
จากภายนอกได้ เพราะแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่นอกอาณาเขต
ของตานักอาจารย์สาวสวยแต่มันยังไม่อาจเรียกได้ว่าไกลจนพ้น
ระยะสายตา และด้วยตาแหน่งของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นคนทั่วไปเมื่อ
เห็นนางนั้นย่อมตกก้มหัวหรือแสดงความเคารพ
แต่ในตอนนี้ทุกคนที่อยู่ใกล้บริเวณแห่งนี้ล้วนปฎิบตั ิเหมือนกับว่า
ไม่มีสงิ่ ใดอยู่ในตาแหน่งทีพ่ วกเขายืนอยู่นั้นจึงเป็นข้อสรุปเดียวที่
หลินหมิงจะสามารถคาดเดาได้ หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของผู้
อาวุโสที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้สายตาของเขาได้
เปลี่ยนไปจากตอนแรกทีค่ อยแทะโลมนางเปลี่ยนเป็นสายตาจริงจัง
ในทันที
ในสายตาของผู้อาวุโสสาวสวยคนนี้นั้นจ้องมองมาที่หลินหมิง
ด้วยแววตาจริงจังนี้เป็นครั้งแรกที่หลินหมิงได้เห็นสายตาของนาง
เช่นนี้ นี้แสดงว่าเรื่องที่นางต้องการให้เขาช่วยนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่
ไม่ธรรมดาหากตัวตนระดับนางที่มีความแข็งแกร่งระดับเท่าเทียม
กับอาจารย์สาวสวยของเขาที่เขาไม่สามารถยั้งวัดระดับของพวก
นางทั้งสองนี้ได้ แต่อย่างน้อยหลินหมิงก็เชื่อว่าพวกนางทั้งสองอาจ
อยู่ในขั้นสูงสุดของปราณระดับจอมยุทธ์เป็นอย่างน้อย และด้วย
ปัญหาที่ทาให้หญิงสาวนางนี้เป็นกังวลได้ถึงขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลย
ว่ามันย่อมเป็นอันตรายต่อชีวิตเขาอย่างแท้จริง
" ไม่ต้องกังวล..ข้าคิดว่าบางทีมันคงไม่อันตรายถึงกับชีวิต "
หลินหมิงได้ยินคากล่าวของนางเขาพลันแถบอยากตอบปฎิเสธ
คาขอร้องของนางไปในทันทีหากไม่ติดว่าในตอนนี้ที่บริเวณพืนดิ
ภายในอาคมนั้น เกิดอักษรประหลาดที่หลินหมิงไม่สามารถทาความ
ใจได้มันค่อยปรากฎขึ้นจากจุดศูนย์กลางหลังจากนั้นก็แผ่ขยาย
ออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงสว่างจ้าจนหลินหมิงต้องนามือมา
ปิดบังเอาไว้
หลินหมิงถึงกับลืมหายใจไปชั่วครู่ภาพตรงหน้าของเขาในตอนนี้
มันไม่ใช่อาณาเขตของสมาคมนักปรุงยา หรือกระทั่งเมืองฟานชูมัน
เป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันเป็นป่ารกร้างที่มีขนาด
กว้างใหญ่สัมผัสแรงกดดันนี้อาจเรียกได้ว่ามันมากกว่าป่ารอบนอก
ของเมืองฟานชูแบบเทียบกันไม่ติด เปลวเพลิงสีดาภายในต้นเถียนข
องหลินหมิงถึงกับลุกพร้อมกับเกิดการสั่นไหวขึ้นในทันทีที่หลินหมิ
งลืมตาขึ้น
" ข้าแนะนาว่าเจ้าไม่ควรส่งเสียงดัง หรือทาอะไรที่เป็นจุดสนใจ
มากนัก "
หลินหมิงหันไปมองตามเสียงก็พบกับร่างของผู้อาวุโสสาวที่
ใบหน้าของนางยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอยู่เช่นเดิม
" ผู้อาวุโสนี้คือที่ใด ? "
" ป่ามรณะ "
เขากล่าวเสียงเรียบเฉยของผู้อาวุโสสาวสวยเพียงแต่ด้วยคา
กล่าวนี้มันทาให้หลินหมิงถึงกับตัวแข็งค้าง ป่ามรณะ? เพียงแค่ชื่อนี้
มันก็สามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าป่าแห่งนี้มีความอันตรายมาก
เพียงใด แน่นอนว่าชื่อเสียงของป่ามรณะนั้นเป็นที่รู้จักโดยทั่วกันถึง
ความอันตรายของมัน ถึงขนาดที่ว่ามันถูกจัดได้วา่ เป็นหนึ่งในสถาน
ที่สุดยอดอันตราย แต่ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านัน้ ก็คือการที่เขามา
ปรากฎอยู่ที่แห่งนี้ได้ต่างหาก
แม้ว่าหลินหมิงจะไม่แน่ใจว่าระยะทางจากเมืองฟานชูมาถึงที่ป่า
มรณะแห่งนี้นั้นมีระยะทางมากน้อยเพียงใด เพียงแต่ว่าระยะทาง
ของมันนั้นย่อมไกลเกินกว่าระยะทางที่เขาเดินทางไปทาภารกิจเมื่อ
เร็วๆนี้กันแบบเทียบไม่ตดิ แต่หญิงสาวตรงหน้าของเขากลับพาเขา
มายังสถานที่แห่งนีด้ ้วยเวลาเพียงชั่วอึดใจ
" ตามข้ามา.. "
ผู้อาวุโสสาวสวยกล่าวออกมาพร้อมกับร่างของนางที่หันหลัง
เดินไปในทันทีโดยที่นางไม่คิดจะอธิบายสิ่งใดเพิ่มเติม หลินหมิงได้
แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อย เกี่ยวกับความเอาแต่ใจของบรรดา
เหล่าชนชั้นสูงนั้นแม้ว่าตัวของเขาจะมีประสบการณ์มามากจาก
บรรดาญาติพี่น้อง แต่หากเทียบกันกับหญิงสาวที่เป็นชนชั้นสูง
รอบตัวเขาอย่างอาจารย์สาวสวย ผู้อาวุโสซูหลิง่ หรือผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นนางนี้ พวกนางล้วนกระทาการแต่ละอย่างโดยไม่สนใจสิ่งใด
อย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกันญาติพี่น้องของเขาพวกเขาเหล่านั้น
ยังคงมีความเกรงกลัวในบิดา หรือมารดาของพวกเขา
เกือบครึ่งชั่วยามที่พวกเขาได้ออกเดินมาจากจุดเริ่มต้นแม้ว่ามัน
จะมีสัตว์อสูรมาขัดขวางทางพวกเขาอย่างเช่นกระทิงสองขา มัน
เป็นสัตวอสูรที่มีความชานาญในการต่อสู้ค่อนข้างมากซึ่งมัน
แข็งแกร่งกว่าวานรสองเขาที่หลินหมิงเคยกาจัดลงได้แบบเทียบไม่
ติด แม้ว่าในตอนนี้หลินหมิงจะแข็งแกร่งขึ้นมามากแล้วแต่เขาก็
ยังคงไม่อาจยั้งวัดระดับพลังของสัตว์อสูรตนนี้ได้ มันอาจเป็นไปได้
ว่าความแข็งแกร่งของมันนั้นอาจมีมากถึงในระดับ 7 หรือกระทั่ง 8
ในปราณก่อเกิด แต่เขายังคงไม่สามารถการันตีได้อย่างแน่ชัดเพราะ
เขายังไม่สามารถที่จะได้เห็นความสามารถของมัน
กระทิงที่ยืนสองขาพร้อมกับการตั้งท่าต่อสู้แบบไม่มีช่องโหว์แต่
อย่างใด หมัดกล้ามที่ปูดพ่องขึ้นบริเวณทั่วผิวหนังของมันนั้น
สามารถบ่งบอกได้ถึงความแข็งแรงของมันเป็นอย่างดีขนาดที่ว่าตัว
ของหลินหมิงนั้นยังคงไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับมันด้วยความ
แข็งแกร่งอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับถูกสังหารลงเพียงชั่ว
พริบตาโดยที่หลินหมิงไม่อาจทาความเข้าใจได้ ร่างของมันค่อยๆล้ม
ลงพร้อมกับรอยแบ่งครึ่งจากบริเวณศรีษะไล่ลงมากจนกระทั่งร่าง
ของมันทุกแยกออกมจากกัน
หากเป็นในยามปกติหลินหมิงคงต้องขอสารวจซากซบของเจ้า
กระทิงตัวนี้อย่างไม่ต้องสงสัยแม้ว่าเขาไม่มีปัญหาในเรื่องเงิน แต่
ซากศพของมันที่มีความแข็งแกร่งระดับปราณก่อเกิดในระดับสูงนั้น
ล้วนมีค่าอย่างไม่ต้องสงสัยแต่มันติดเพียงว่าหญิงสาวผู้กาจัดมันลง
นั้นได้เดินจากไปในทันทีราวกับว่าร่างของอสูรตนนี้เป็นเพียงฝุ่น
ละอองไม่ควรค่าที่นางจะให้ความสนใจ

ตอนที่ 65
หลายชั่วยามผ่านไปหลินหมิงยังคงเดินตามร่างของหญิงสาว
เบื้องหน้าของเขาโดยไม่กล้าละสายตาไปจากนาง ซึ่งแม้ว่าหากเป็น
โดยปกติแล้วด้วยความงามของนางและรูปร่างที่เรียกได้ว่าถูกสรร
สร้างขึ้นมาเพื่อยั่วยวนบุรุษโดยจริงนั้นจะทาให้เขายากที่จะข่มใจละ
สายตาจากนางไปได้ เพียงแต่ว่าในตอนนี้หลินหมิงหาได้มองร่าง
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นเช่นนั้นไม่
หลินหมิงจ้องไปที่นางอย่างไม่คลาดสายตาเพื่อที่ว่าเขาจะไม่
ผลัดหลงกันกับนาง แม้ว่าด้วยทางเดินที่ผ่านมาของพวกเขานั้นจะ
เจออุปสรรคอย่างสัตว์อสูรอยู่เป็นระยะและระดับของพวกมันก็เรียก
ได้ว่าหากหลินหมิงต้องเผชิญหน้ากับพวกมันเพียงตัวใดตัวหนึ่งก็
อาจต้องใช้พลังต่อสู้เป็นตายกับพวกมันเป็นแน่ แต่ด้วยความ
แข็งแกร่งของผู้อาวุโสสาวนั้นทาให้เขาไม่ต้องพบเจอกับปัญหา
เช่นนั้น
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลอดทางที่ผ่านมานั้น
นางลงมือจัดการกับศัตรูตรงหน้าด้วยความฉับไว โดยที่หลินหมิ
งแทบจะยังไม่ทนั ได้เห็นการเคลื่อนไหวของนางด้วยซ้าไป มันแสดง
ให้เห็นว่าแม้ว่านางจะมีความแข็งแกร่งในระดับที่น่าเกรงขามแต่
นางก็ยังคงไม่กล้าที่จะแสดงพลังในระดับที่สามารถเป็นเป้าหมาย
สายตาได้อย่างเด่นชัด
จนทในที่สุดเมื่อพวกเขาเดินทางมาอย่างยาวนานร่างของผู้
อาวุโสสาวตรงหน้าของหลินหมิงก็มีการหยุดเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก
หลินหมิงสังเกตร่างของนางที่ยืนนิ่งพร้อมกับแหงนคอสังเกตภาพ
เบื่องหน้าที่ตอนนี้เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวของ
หญิงสาวนางนี้จะต้องมีจดุ ประสงค์ที่เกียวกับภูเขาไฟลูกนี้
แม้ว่าบริเวณป่าโดยรอบที่หลินหมิงได้เดินมาตลอดทางนั้นมัน
สร้างแรงกดดันให้กับตัวเขาค่อนข้างมาก แต่หากเมื่อเทียบกับภูเขา
ไฟที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้มันก็คงเรียกได้ว่ามันเป็นแรงกดดันที่
ถูกเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ ที่บริเวณยอดภูเขาไฟนั้นมีร่องรอยควัน
ปรากฎอยู่แสดงให้เห็นถึงสภาพของภูเขาไฟลูกนี้ที่ยังคงไม่ดับสนิท
" ผู้อาวุโสพวกเราจะขึ้นไปยังยอดเขาแห่งนั้น ? "
" ชูว ! "
หลินหมิงถึงกับเงียบเสียงไปในทันทีเมื่อได้เห็นท่าทางของหญิง
สาวในตอนนี้ ใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยความตรึงเครียดแบบที่
เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ร่างของหลินหมิงถูกกระชากไปด้วยสัมผัสนุ่ม
นิ่มที่บริเวณฝ่ามือแม้ว่ามันจะเป็นความรู้สึกเพียงชั่วครู่แต่มันก็
เพียงพอให้หลินหมิงเคลิม้ ฝันไปได้ในทันที
ร่างของหลินหมิงและฟางซิ่นนั้นพุ่งเข้ามาหลบหลังต้นไม้โดยที่
หลินหมิงเองยังไม่แน่ใจนักว่าเกิดเหตุใดขึ้น ด้วยความแข็งแกร่ง
ของหญิงสาวนางนี้ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือที่นางจาเป็นจะต้องกังวล ?
ทันใดนั้นเมื่อหลบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ได้สกั พักก็พลันปรากฎเสียง
ฝีเท้าคนเดินออกมาจากพุ่มไม้
" หัวหน้าข้าบอกแล้วว่าท่านกังวลมากเกินไป "
" แต่หายากเหมือนกันนะ ที่สัญชาตญานของหัวหน้าจะ
ผิดพลาด "
กลุ่มคนที่เดินออกมานั้นมีอยู่ด้วยกันทัง้ หมดห้าคนอีกทั้งทัง้ ห้า
คนนั้นล้วนเป็นสตรีด้วยกันหมดทัง้ สิ้น แต่ถึงอย่างนั้นความ
แข็งแกร่งของพวกนางแต่ละคนที่อยู่ต่อหน้าหลินหมิงนั้นแน่นอนว่า
ย่อมเหนือกว่าเขาแบบไม่ต้องสงสัย แม้ว่าเขาจะไม่สามารถประเมิณ
ความแข็งแกร่งของพวกนางทั้งห้าได้อย่างเด่นชัด แต่หากประเมิณ
คราวๆจากการที่พวกนางสามารถเข้ามาถึงภายในสถานที่แห่งนี้
ด้วยสภาพสมบูรณ์นั้นพวกนางแต่ละคนล้วนจะต้องมีความ
แข็งแกร่งไม่ต่ากว่าปราณขั้นจอมยุทธ์ระดับต้น
และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าหัวหน้านั้นดู
เหมือนว่าจะมีความแข็งแกร่งที่เรียกได้ว่าอาจเทียบเท่ากับผู้อาวุโส
สาวของเขาเลยทีเดียว หากเมื่อสักครู่นี้ผู้อาวุโสฟางซิ่นเคลื่อนไหว
ตัวช้ากว่านี้ไปเพียงนิดเดียวอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาคงถูกจับได้ไป
แล้ว
หัวหน้ากลุ่มโจรสาว
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้เต็มไปด้วยความตรึงเครียด
เมื่อเห็นท่าทางของกลุ่มสตรีสาวทั้งห้าที่กาลังจะเดินขึ้นไปยังไป
บริเวณยอดเขาแห่งนี้ แม้ว่านางจะยังไม่แน่ใจได้อย่างเด่นชัดว่า
กลุ่มของหญิงสาวทั้งห้านี้มีเป้าหมายเดียวกันกับนางหรือไม่
เป้าหมายของนางนั้นอยู่บนยอดเขาภูเขาไฟลูกนี้มันคือ บงกช
เหมันต์ ทีม่ ีคุณสมบัตสิ ามารถส่งเสริมความก้าวหน้าให้แก่นางได้
อย่างมหาศาล
ด้วยเปลวเพลิงของนางทีเ่ ป็นเปลวเพลิงที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึง
กันนี้ จึงไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อนางได้รับบงกชเหมันต์มาความ
แข็งแกร่งของนางเรียกได้ว่าคงพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดและยัง
เป็นการเปิดขอบเขตพลังของนางให้สามารถก้าวขึ้นไปยังระดับ
ต่อไปได้อีกด้วย ด้วยเปลวเพลิงของนางที่เป็นรูปแบบปราณเย็นซึ่ง
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเปลวเพลิงที่มีความบริสุทธ์ค่อนข้างมากแต่ถึง
อย่างนั้นมันก็ยังไม่เหมาะสมสาหรับการปรุงยาดังนัน้ แล้วในเรื่อง
ของการปรุงยานางจึงเป็นรองอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงและผู้
อาวุโสซูหลิ่งค่อนข้างมาก

และหากนางได้ครอบครองบงกชเหมันต์นี้มันมีความเป็นไปได้
อย่างสูงว่ามันจะสามารถกลบของด้อยของเปลวเพลิงของนางลงไป
ได้ ด้วยลักษณะของมันที่อยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่เต็มไปด้วยปราณห
ยินเช่นนี้ มันจึงไม่ใช่บงกชเหมันต์ธรรมดาอีกต่อไป
ดังนั้นแล้วนางไม่ยินดีที่จะเสียมันไปอย่างแน่นอนแม้ว่ากลุ่มของ
หญิงสาวทั้งห้านี้จะอาจยังไม่รับรู้เรื่องของบงกชเหมันต์บนยอดเขา
แต่เมื่อดูท่าทีแล้วพวกนางทั้งห้านี้กาลังจะขึ้นไปบนยอดเขาโดยแน่
และมันไม่มีทางที่หญิงสาวที่เป็นหัวหน้ากลุม่ แห่งนีจ้ ะไม่สามารถ
สัมผัสได้ถงึ มัน
หลินหมิงพลันแทบจะลืมหายใจเมื่อเขาพบว่าเพียงกระพริบตา
ต่อมาร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นก็พลันหายไปจากตรงหน้าของเขา
นางพุ่งเข้าไปหากลุ่มหญิงสาวทั้งห้าด้วยความรวดเร็วฝ่ามือของ
นางถูกเรียกใช้ออกมาเป้าหมายของนางก็คือการลอบจู่โจมคนกลุ่ม
นี้และสังหารคนในกลุ่มไปให้ได้อย่างน้อยสักคนหนึ่ง
หากดูจากความแข็งแกร่งแล้วนางน่าจะมีความแข็งแกร่ง
เหนือกว่าหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มสักเล็กน้อยแต่หากเมื่อคานึงถึงเหล่า
สมาชิกที่เหลือที่แม้ว่าระดับพลังของพวกนางจะค่อนข้างแตกต่าง
กับหัวหน้าของพวกนางแต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสาหรับนาง
นั้นก็คือการประสานงาน และด้วยความสนิทสนมของคนภายใน
กลุ่มที่สามารถกล่าวพูดคุยกับหัวหน้าได้อย่างสบายใจเช่นนี้ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าพวกนางคงเป็นกลุ่มที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน
บรึ้มม !
ระเบิดหิมะของผู้อาวุโสฟางซิ่นส่งผลให้หญิงสาวทัง้ ห้าพลันแตก
กระจายออกในทันที ร่างของนางพุ่งเข้าหาหญิงสาวคนหนึ่งภายใน
กลุ่มพร้อมกับฝ่ามือขนางที่ประทับเข้าฝ่าท้องของหญิงสาวผู้นั้นเข้า
ไปอย่างจัง เพียงแต่มันน่าเสียดายตรงที่ว่าหัวหน้ากลุ่มของนางนั้น
สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วนางเข้ามาสกัดการโจมตีของผู้
อาวุโสฟางซิ่นได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับเข้าระงับปราณเย็นที่กาลัง
ลุกลามไปทัว่ ชีพจรของหญิงสาวภายในกลุ่มนาง
แม้ว่าจะยังไม่สามารถคร่าชีวิตได้แต่มันก็เพียงพอที่จะทาให้
หญิงสาวนางนี้ไม่สามารถใช้พลังไปได้อีกอย่างน้อยก็สักสองสามวัน
ซึ่งมันทาให้ศัตรูของนางลดลงไปด้วย คนภายในกลุ่มหญิงสาว
สามารถตั้งตัวได้อย่างว่องไวพวกนางเข้ามารวมกลุ่มกับหัวหน้า
พวกนางอย่างรวดเร็ว พร้อมเข้าดูอาการเพื่อนของพวกนาง
ร่างของหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มพุ่งเข้าหาผู้อาวุโสฟางซิ่นที่กาลัง
เตรียมการหลบถอย ด้วยสถานการณ์ที่เป็นเช่นนี้ด้วยความเร็วของ
นางนั้นมันสามารถทาให้นางสามารถต่อสู้กับหัวหน้ากลุ่มหญิงสาวผู้
นี้ได้ตัวต่อตัวเนื่องจากหญิงสาวที่เหลือไม่อาจตามมาได้ทันและพวก
นางยังคงต้องระวังเพื่อนของพวกนางที่ได้รับบาด
แต่โดยที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ได้รับรู้เลยว่าแผนการณ์ของนางนั้น
ได้ถูกอ่านออกโดยหญิงสาวหัวหน้ากลุ่มเสียแล้ว ในตอนนี้มีร่างของ
หญิงสาวสองคนภายในกลุ่มพุ่งตรงเข้าหาหลินหมิงตามคาสังที่พวก
นางได้รับมาจากหัวหน้าพวกนาง

ตอนที่ 66
ถึงแม้ว่าด้วยระดับของหัวหน้ากลุ่มของหญิงสาวจะด้อยกว่า
ทางด้านของผู้อาวุโสฟางซิ่นเล็กน้อย แต่เนื่องจากการที่พวกนางทั้ง
สองเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับสูงด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งในเรื่องของการ
ต่อสู้นั้นไม่อาจวัดได้จากเพียงระดับพลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ดังนั้นแล้วจึงไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่ชัดว่าผู้ใดจะเป็นฝ่าย
ชนะ และเมื่อเป็นเช่นนี้การต่อสู้ของหญิงสาวทั้งสองย่อมต้องใช้
เวลาอยู่พอสมควร
ที่บริเวณร่างของหญิงสาวที่ล้มลงนอนไม่ได้สติจากการโจมตี
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นมีเพื่อนสาวคนหนึ่งของนางกาลังดูแลรักษา
บาดแผลของนางอย่างใกล้ชิด โดยที่อีกสองคนที่เหลือนั้นกลับพุ่ง
ตรงมาที่ตาแหน่งที่หลินหมิงอยู่อย่างเห็นได้ชัด หลินหมิงทยานถอย
หนีไปในทันทีเมื่อเป็นเช่นนี้ ลาพังเพียงแค่พวกนางคนใดคนหนึ่งนั้น
เขาย่อมไม่สามารถเอาชนะได้อยู่แล้ว นี้ย่อมไม่ต้องพูดถึงในยามนี้ที่
พวกนางทั้งสองพุ่งเข้ามาหาเขา
แม้ว่าระยะห่างของพวกเขาในตอนแรกจะห่างกันอยู่พอสมควร
แต่ด้วยระดับพลังที่แตกต่างกันมากจนเกินอีกทั้งหลินหมิงยังไม่ได้
เชี่ยวชาญทักษะประเภทเคลื่อนไหวดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้มีจุดเด่น
ในเรื่องความเร็วแต่อย่างใด ด้านหน้าและด้านหลังของหลินหมิง
ปรากฎหญิงสาวสองคนภายในเวลาไม่นาน
หลินหมิงถึงกับนึกเศร้าโศรกอยู่ในใจตัวเขาเพิ่งจะเคยพบกับ
สถานการณ์ที่ยากลาบากเช่นนี้มานับไม่ถ้วนหลังจากได้รับพลังมา
ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเผชิญหน้ากับอาจารย์สาวสวยในครั้งแรก บิดา
ของเขาหลินฮ่าว หรือแม้กระทั่งแม่ซัคคิวบัสสาวสวยอย่างซือเฟย
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวตนทีเ่ ขายังไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าระดับของหญิงสาวทั้งสองจะอ่อนแอกว่าคนเหล่านั้นที่กล่าว
มาแต่ระดับพลังของพวกนางก็ยังคงเรียกได้ว่ามากกว่าหลินหมิ
งแบบเทียบไม่ติด
โดยเฉพาะกับการที่พวกนางทั้งสองมีระดับพลังอยู่ในขั้นปราณ
จอมยุทธ์ที่เป็นกาแพงขนาดใหญ่ที่แม้แต่ผู้ที่มีพลังระดับปราณก่อ
เกิดขั้น 9 ก็ยังคงไม่สามารถนาไปเปรียบเทียบกันได้ พวกนางจ้อง
มองมาที่หลินหมิงด้วยสายเฉียบคม แน่นอนว่าแม้ว่าพวกนางจะ
สามารถรับรู้ถึงความแข่งแกร่งของหลินหมิงได้อย่างชัดเจน ดังนั้น
แล้วการที่พวกนางจะจัดการกับหลินหมิงนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ
ของพวกนางเพียงเท่านั้น
หลินหมิงมองไปที่ร่างของหญิงสาวทั้งสองคนเนื่องจากในตอน
แรกพวกเขานั้นอยู่ห่างกันค่อนข้างไกลดังนั้นแล้วหลินหมิงจึงไม่
สามารถสังเกตเห็นพวกนางได้อย่างเด่นชัด พวกนางทั้งสองเป็น
หญิงสาวทีม่ ีอายุราวยี่สิบปลายๆ สัดส่วนโค้งว้าวของหญิงสาวทุก
ส่วนล้วนถูกพัฒนาเติบโตมาจนเต็มที่ และหากเมือ่ ดูจากผิวพรรณ
และเครื่องแต่งกายของพวกนางแล้วนั้นจะสามารถบอกได้ในทันที
เลยว่าเบื้องหลังของพวกนางนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
" ข้าจัดการเอง "
เสียงของหญิงสาวด้านหลังของหลินหมิงดังขึ้นพร้อมกับเสียง
จังหวะการก้าวเท้าของนางที่เข้ามาหาหลินหมิงอย่างช้าๆ ด้วย
ระดับพลังของหลินหมิงในตอนนี้เขายังไม่เคยได้ทดสอบมันเลย
หลังจากเลื่อนระดับขึ้นมาและเขายังไม่แน่ใจว่าพลังของเขา
ในตอนนี้มันจะเพียงพอที่จะสามารถทาลายกาแพงปราณของผู้ที่มี
ระดับพลังขั้นจอมยุทธ์ได้หรือไม่
หลินหมิงก้าวท้าวพุ่งไปยังด้านข้างเพื่อหลบเลี่ยงจาก
สถานการณ์วิกฤตแต่มีหรือหญิงสาวจะปล่อยให้เขารอดพ้นไปได้
นางพุ่งตัวด้วยความเร็วทีน่ ่าตกใจเพียงชั่วพริบตาเบื้องหน้าหลินห
มิงปรากฎฝ่ามือของหญิงสาวที่กาลังจะปะทะกับร่างของเขา หลินห
มิงฝืนร่างกายเบี่ยงข้อเท้าหลบการโจมตีของนางพร้อมกับเรียกทวน
ของเขามาจากแหวนมิติ
ปังง
เสียงปะทะระหว่างฝ่ามือของหญิงสาวกับทวนมังกรของหลินหมิ
งส่งให้ร่างของเขาถอยหลังไปหลายก้าว พร้อมกับอาการชาที่
บริเวณข้อมือ ใบหน้าของหญิงสาวปรากฎความแปลกใจเพียง
เล็กน้อยแน่นอนว่าการโจมตีเมื่อสักครู่นี้หากเป็นผูท้ ี่มีระดับพลัง
ปราณก่อเกิดระดับ 3 ทั่วไปคงตกตายไปแล้ว
หลินหมิงควงทวนมังกรเพื่อเข้าโจมตีหญิงสาวกลับโดยไม่ลังเล
เพียงแต่ว่าในสายตาของนางนั้นการโจมตีของผู้ที่มีระดับพลังเพียง
ขั้นปราณก่อเกิดนั้นยังไม่มีค่าพอให้อยู่ในสายตาของนาง นางเงื้อฝ่า
มือขึ้นอีกครั้งเพื่อทาการโจมตีแลกกับหลินหมิง
" [ ดรรชนีเพลิง ] ! "
ทักษะของหลินหมิงที่เพิ่งได้รับมาใหม่ที่นาออกมาใช้เป็นครั้ง
แรกพร้อมกับเปลวเพลิงสีดาที่ลุกโชนขึ้นที่บริเวณปลายนิ้วของ
หลินหมิง การฟาดทวนในครั้งแรกนั้นเป็นเพียงตัวหลอกล่อเพื่อให้
นางลดการระวังตัวลง ปราณเพลิงสีดาทมิฬถูกรวบรวมเอาไว้ที่
ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางของหลินหมิงที่เรียงชิดติดพร้อมกับชี้
เป้าหมายไปที่หญิงสาวอย่างรวดเร็ว
สาแสงเพลิงสีดาพุ่งตรงออกไปอย่างรวดเร็วจากปลายนิ้วของ
หลินหมิงพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของหญิงสาวพร้อมกับร่างของหลินหมิงที่
ปะทะเข้ากับฝ่ามือของนางเข้าอย่างจัง
เพล้ง !
เสียงเกราะพลังปราณปริแตกสร้างความประหลาดใจให้กับหญิง
สาวเป็นอย่างมากลาแสงสีดาที่ถูกอัดแน่นไว้ด้วยพลังปราณพุ่งเข้า
หาร่างของนางที่บริเวณท้องของนางโดยที่นางไม่สามารถหลบเลี่ยง
ได้ทันอย่างแน่นอน ราวกับคมมีดที่ถกู อาบไปด้วยเพลิงร้อนระอุ
แม้ว่าแผลที่บริเวณร่างกายของนางจะมีรูปรากฎบนร่างเพียง
เล็กน้อย
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ปราณในร่างกายของนางนั้นล้วนสับสนไป
หมดจากการโจมตีของหลินหมิง หญิงสาวและหลินหมิงต่างกระอั่ก
เลือดออกมากองใหญ่แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นทางฝ่ายหลินห
มิงที่ยังคงสมบูรณ์มากกว่า เพื่อนของนางที่มองการต่อสู้จาก
ด้านหลังหลินหมิงนั้นไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้น นาง
เห็นแค่เพียงเพื่อนของนางนั้นเข้าทาการแลกหมัดกับหลินหมิงอย่าง
ซึ้งหน้า
ซึ่งหากเป็นกรณีทั่วไปแล้วมันเป็นไปได้หรือที่ผู้ที่มพี ลังปราณ
ระดับก่อเกิดเช่นเด็กหนุม่ ผู้ที่จะสามารถทาลายเกราะพลังปราณให้
แตกลงได้ ? นางเตรียมเข้าทาการพุ่งไปหาเพื่อนของนางเพื่อทา
การช่วยเหลือเพียงแต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว หลินหมิงทะยาน
ร่างไปที่เพื่อนของนางพร้อมกับทวนของเขาที่จ่อไปที่คอของเพื่อน
สาวนางในทันที
" หยุดอยู่ตรงนั้น ! "
เสียงตะโกณของหลินหมิงยังคงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจาก
การโจมตีเมื่อสักครู่ ร่างของหญิงสาวถึงกับชะงักไม่กล้าพุ่งตัวเข้าไป
หาเพื่อนของนาง
ตอนที่ 67
" ลี่เซียน !....เจ้าห้ามทาอะไรนางไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเอา
ไหวแน่ "
" หมิงเลี่ยน..ขะ..ข้า..ไม่ตอ้ ง..สนใจข้า... "
หญิงสาวที่ถกู หลินหมิงเข้าจู่โจมด้วยดรรชนีเพลิงนั้นมีชื่อว่าลี่
เซียนในตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหน่วงจากบาดแผล
ภายใน ใบหน้าของนางซีดเผือกจากการที่ปราณหยินของหลินหมิง
ได้เข้าแทรกปราณในร่างกายของนางมันทาให้นางไม่สามารถ
ควบคุมลมปราณได้อย่างปกติอีกต่อไป
หมิงเลี่ยนเพื่อนของนางนัน้ มองภาพตรงหน้าด้วยความโกรธ
แค้นแม้ว่านางจะไม่ทราบแน่ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้สามารถเอาชนะ
เพื่อนของนางได้อย่างไร แต่เมื่อดูจากสภาพของเขาในตอนนี้แล้ว
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถทาการต่อสู้ต่อไปได้อีก ปัญหาเดียว
สาหรับนางก็คือเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งหนัก เขาใช้เวลาเพียงไม่
นานหลังจากการปะทะกันทะยานร่างพุ่งตรงเข้าไปหาลี่เซียนพร้อม
กับนาทวนจ่อไว้ที่คอของลี่เซียนก่อนที่นางจะพลันได้เคลื่อนไหวเสีย
อีก
เมื่อเห็นใบหน้าของลี่เซียนที่อยู่ในสภาพย่าแย่หมิงเลี่ยนไม่
สามารถทาสิ่งใดได้อีกนอกจากข่มอารมณ์ความโกรธเอาไว้พร้อมกับ
ถอยระยะออกมาจากหลินหมิง ในขณะเดียวกันหลินหมิงเริ่มทาการ
โคจรลมปราณเพื่อรักษาบาดแผลแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะ
สามารถรักษะให้หายได้ในทันทีก็ตาม
" เอาอย่างนี้ไหม หากเจ้าปล่อยเพื่อนข้าไปข้ารับรองได้ว่าพวก
ข้าจะไม่ติดตามล่าเจ้าต่อไปอีก "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงที่ข่มความโกรธเกรี้ยวภายในใจ
สภาพของลี่เซียนในตอนนี้นางหมดสติลงไปแล้วดังนั้นนางจึงไม่
สามารถรีรออะไรได้อีก แม้ว่าภายนอกบาดแผลมันจะดูเล็กขนาด
ราวเท่ากับหัวนิ้วชี้เพียงเท่านั้นแต่เมื่อดูจากอาการทรมานของเพื่อน
นางแล้วเห็นได้ชัดว่าในตอนนี้เพื่อนของนางกาลังตกอยู่ในอันตราย
อย่างแท้จริง
" ไม่ ! "
หลินหมิงกล่าวตอบปฎิเสธเสียงแข็งแบบที่ไม่ต้องคิดเขาไม่คิดว่า
เมื่อเขาปล่อยหญิงสาวนามลี่เซียนคนนี้แล้วชีวิตของเขาจะ
ปลอดภัยดังที่หญิงสาวกล่าว มันไม่มีอะไรทีส่ ามารถรับประกันได้
เขาจะสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้หากเขาปล่อยนางไป
" นี้เจ้า ! งั้นข้ายินมอบทรัพย์สมบัติในแหวนมิตขิ องข้าทั้งหมด
ให้แก่เจ้า "
" ไม่ ! "
หมิงเลี่ยนนางแทบอยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ใจจะ
ขาด แต่นางไม่สามารถใจร้อนได้ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของเพื่อนนางตก
อยู่ในกามือของเด็กหนุ่ม
" แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด "
" ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออก "
" !! "
ในขณะที่หมิงเลี่ยนกาลังจะกล่าวแทรกคากล่าวของหลินหมิงมือ
ของหลินหมิงที่กาลังกาทวนเหนือคอของลี่เซียนก็พลันคอยๆตกลง
ไปจดใบมีดที่บริเวณปลายทวนสัมผัสกับบริเวณคอของลี่เซียน
ใบหน้าของหมิงเลียนซีดไม่ต่างจากเพื่อนของนางในตอนนี้ นาง
เข้าใจความหมายของหลินหมิงดีว่าเด็กหนุ่มคนนี้ตอ้ งการอะไรจาก
นาง
มันเป็นเรื่องธรรมดาของบุรุษที่มักนิยมชมชอบสตรีงดงามและ
ยิ่งเป็นสตรีที่มีความแข็งแกร่งแล้วนั้นยิ่งทาให้คุณค่าในตัวของพวก
นางเหล่านั้นสูงยิ่งขึ้นไปอีก และนางเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น
นางไม่เคยสนใจบุรุษแต่อย่างใดไม่ใช่เพียงแค่นางเท่านั้นเพื่อน
ทั้งหมดภายในกลุ่มของนางก็ล้วนแล้วแต่ไม่คิดสนใจบุรุษดังนั้นแล้ว
พวกนางจึงทาการร่วมกลุ่มด้วยจุดประสงค์เดียวกันนั้นก็คือเพื่อ
แสดงพลังของสตรีที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าบุรุษ
มือของหมิงเลี่ยนเลื่อนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองอย่างด้วยอา
กาสั่นเทามันเป็นไปไม่ได้ที่ในตอนนี้จะมีคนมาช่วยนางจาก
สถานการณ์เช่นนี้ เรือนร่างเปลื่อยเปล่าของนางค่อยๆถูกเผยให้
หลินหมิงได้เฉยชมทีละส่วน เนินอกขนาดพอดีพร้อมกับเอวรูปร่าง
โค้งว้าวอันเป็นสรีระที่เหมาะสมสาหรับผู้ฝึกยุทธ์
หมิงเลี่ยนางไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างของนางถูก
ปลดออกหมดเรียบร้อยนางจ้องมองไปที่หลินหมิงด้วยความโกรธ
แค้นยิ่งกว่าเดิม แม้วา่ บุรุษนั้นจะมีอารมณ์เช่นนี้เป็นเรื่องปกติใน
สายตาของนางเพียงแต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้มันจะมีใครบ้างเล่าที่
มีความคิดเลวร้ายเช่นเด็กหนุ่มผู้นี้
หลินหมิงจ้องมองไปที่เรือนร่างของนางด้วยสายตาเร้าร้อนแม้ว่า
มือของนางจะปกปิดบริเวณส่วนลับของนางอยู่แต่เมื่อหลินหมิงดู
จากท่าทางของหญิงสาวผู้นี้แล้วมันเป็นไปได้ว่านางอาจจะยังไม่เคย
มีความสัมพันธ์ใดๆกับบุรษุ มาก่อน หลินหมิงทาการเรียกให้นางเดิน
เข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ
หมิงเลี่ยนมองไปที่ทวนของหลินหมิงแม้ว่านางจะมั่นใจในเรื่อง
ของความเร็วของนางอยู่พอสมควรแต่มันเป็นไปได้อย่างมากว่าเมื่อ
นางโจมตีเด็กหนุม่ คนนี้ทวนของเขาคงต้องตกลงไปทะลุคอของลี่
เซียนอย่างแน่นอน
" หันหลัง "
เมื่อนางก้าวมาอยู่ในระยะทาการของหลินหมิงร่างของหญิงสาว
พลันหันกลับไปด้วยสายตาขืนขม นางจาเป็นจะต้องรีบทาให้ทุก
อย่างจบลงได้ไวที่สดุ นางเคยได้ยินมาว่าบุรุษนั้นแม้ว่าจะมีอารมณ์
ค่อนข้างรุนแรงแต่พวกเขาไม่สามารถอดทนกับการร่วมรักกับหญิง
สาวได้นานมากนัก และเมื่อใดที่พวกเขาเสร็จกิจเมื่อนั้นพวกเขาจะ
อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ่อย่างมากและเมื่อนั้นคือโอกาศที่นางรอคอย
หลินหมิงทาการปลดเสื้อผ้าของตนเองพร้อมนาทวนมังกรของ
เขาออกมาเผชิญหน้ากับร่องสวาทสีชมสดที่ปราศจากมลทินใดๆ
หลินหมิงผลักร่างของนางลงไปให้อยู่ในท่าเข่าและมือสองข้างยัน
พื้นเอาไว้ ทวนมังกรของหลินหมิงทาการเขี่ยบริเวณร่องสวาทของห
มิงเลี่ยนเพื่อเตรียมพร้อมบุกทะลวง
" อ้า..จะ...ทา..อะไรก็รีบทา "
สัมผัสแปลกที่เกิดขึ้นบริเวณร่องสวาทของนางนั้นทาให้นาง
เผลอครางออกมาโดยไม่รู้เพียงชั่วแวบหนึ่ง หลินหมิงเองก็ไม่คิดจะ
รีรอเช่นเดียวกัน หากเป็นสถานการณ์ปกติหลินหมิงคงต้องทาการ
โลมเลียและสารวจร่างกายอันสมบูรณ์พร้อมของหญิงสาวเสียก่อน
แต่ในตอนนี้เขาต้องรีบเผด็จศึกนางให้โดยเร็วเพราะเขาไม่อาจรู้ได้
ว่านางอาจมีแผนอะไรอย่างอื่นซ่อนเอาไว้อีก
ทวนมังกรของหลินหมิงเสียบทะลุผ่านเยื่อพรหมจรรย์ของนาง
เข้าไปอย่างบ้าคลั่งเลือดสีแดงสดปรากฎขึ้นที่บริเวณร่องสวาทของ
นางพร้อมกับเสียงครางสนั่นของหมิงเลี่ยน นางไม่เคยคิดมาก่อน
เลยว่ามันจะเจ็บถึงเพียงนี้
" โอ้ยย...บะ..เบาๆ อ๊าาา ~~~~~ "
" นะ...นี้..มันใหญ่เกินไปแล้ว..โอ้ยย "
นางครางออกมาเสียงสนั่นนางไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าทวน
มังกรของบุรุษนั้นจะมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ เนื่องจากในตอนแรกนั้น
นางไม่ทันได้เห็นขนาดของมัน ดังนั้นแล้วนางจึงรับรู้ได้จากเพียง
ร่องสวาทของนางเพียงเท่านั้น ในตอนนี้ท้องของนางราวกับว่ามัน
กาลังจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
แท่งเนื้อร้อนที่กาลังค่อยๆมุ่งทะลุทลวงเข้ามาภายในตัวนางทา
ให้นางเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ เรี่ยวแรงบริเวณแขนของนางที่เคย
ใช้ค้ายันพื้นนั้นค่อยๆหมดลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
สวบบบบ !
" อร้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ~~~~~~ "
จนในที่สุดเมื่อหลินหมิงสามารถนาทวนมังกรของเขาแทง
ทะลวงเข้ามาสุดลาแล้วนางครางออกมาด้วยเสียงยาว ใบหน้าของ
นางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างแท้จริง ในตอนนี้นางเริ่มคิดแล้ว
ว่านี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ด้วยทวนมังกรของเด็กหนุ่มคน
นี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะสามารถรับมือกับมันได้อีกต่อไป เพียง
เท่านี้ร่างกายของนางก็ราววกับว่ามันจะถูกระเบิดออกอยู่แล้ว
" พะ..พอๆ..ขะ..ข้าไม่เอาแล้ว...เอาออกไป....ดะ...เดียวนั้นเจ้า...
อ๊าาา อ๊าาา ~~~~ "
หลินหมิงทาการขยับเอวต่อไปโดยไม่สนทีท่าของหมิงเลี่ยน
ในตอนนี้เขาจาเป็นที่จะต้องสยบหญิงสาวผู้นี้เสียก่อนเพื่อความ
ปลอดภัยของตัวเขาเอง หมิงเลี่ยนในตอนนี้อยู่ในสภาพคลานต่าติด
พืน้ โดยที่สะโพกของนางนั้นยกขึ้นเพื่อรับการโจมตีจากหลินหมิง
หลินหมิงในตอนนี้ได้ปล่อยทวนจากมือของเขาพร้อมกับทาการ
ใช้สองข้างบีบหนวดแก้มก้นของนางพร้อมกับใช้มันเป็นฐานในการ
ขยับเอวของเขา หมิงเลี่ยนนางพยายามคลานหนีออกไปให้ห่างจาก
หลินหมิงอย่างสุดแรงหากเป็นในยามปกติเพียงแค่ฝ่ามือเดียวนางก็
คงสามารถซัดหลินหมิงให้กระเด็นไปได้หลายเมตรเพียงแต่ว่า
ในตอนนี้ทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังเสียบร่องสวาทของนางอยู่
นั้นราวกับว่าพวกมันทั้งสองไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และ
ยังคงมีมือของเด็กหนุ่มทีค่ อยดึงฉุดร่างของนางเอาไว้ไม่ให้คลานหนี
ไปไหน

ตอนที่ 68
" แฮ่ก ๆ อร้างงงง~~~~~~~~ "
เสียงหอบหายใจอย่างหนักพร้อมกับเสียงครางสนั่นของหมิง
เลี่ยนยังคงดังลั่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง จังหวะการขยับของ
เด็กหนุ่มตอนนีก้ าลังทาการจู่โจมนางอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของนาง
เริ่มรู้ชา ? จนมันอาจไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคตนางอาจไม่สามารถใช้ร่องสวาทของ
นางได้อีกต่อไปแล้วก็เป็นได้
ไม่รู้ว่าผ่านมาเนินนานเพียงใดแต่หลินหมิงก็ยงั คงไม่มีทที ่าว่าจะ
หยุดทาการร่วมรักกับนางลง น้ารักใสๆของหญิงสาวได้ไหลออกมา
จากร่องสวาทของนางผสมกับคราบเลือดที่เกิดจากการเสียความบริ
สุทธ์ เรือนร่างทุกซอกมุมของนางในตอนนี้ถูกสารวจไปทั่วร่างราว
กับว่าร่างกายนี้ไม่ได้เป็นของนางอีกต่อไป
บริเวณซอกคอของนางนั้นยังคงถูกไซร้ราวกับว่ามันเป็นขุมสมับ
ติที่เด็กหนุม่ ตามหา ลิ้นของเขาที่กาลังทาการเลียไปที่ต้นคอของนาง
มันทาให้ร่างกายของนางรู้สึกเบาสบายแต่ถึงอย่างนั้นมือของเขา
กลับลงมือด้วยการกระทาที่แตกต่างมืองของเด็กหนุม่ เข้าบีบหนวด
หน้าอกของนางราวกับต้องการให้มันระเบิดออก
นางชักไม่แน่ใจในตนเองแล้วในตอนนี้นางได้ตกอยู่ในนรกหรือ
สวรรค์กันแน่ในตอนแรกนางเจ็บปวดเป็นอย่างมากจากการที่ต้อง
เสียความบริสุทธ์ในครั้งแรก และด้วยความขนาดทวนมังกรที่ใหญ่
ผิดมนุษย์อื่นของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันแทบจะทาให้นางแทบสิ้นใจ
เพียงแต่ว่าเมื่อผ่านมาสักระยะหนึ่งความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับ
เริ่มทุเราลงอย่างน่าประหลาดทั้งๆที่เด็กหนุม่ ก็ยังคงจู่โจมนางอยู่
ตลอด ซ้ามันอาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆต่างหาก สัมผัสความสุขที่เกิดขึ้น
ทาให้มือทั้งสองข้างของนางเผลอรวบร่างของหลินหมิงทีก่ าลัง
คร่อมร่างของนางเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว
ในตอนนี้นางอาจลืมไปแล้วเสียว่าเหตุใดที่นางต้องมาทาการ
ร่วมรักกับหลินหมิงเช่นนี้ นางครางตอบรับหลินหมิงอย่างเต็มเสียง
โดยไม่มีทีท่าเอียงอาย ราวกับว่าในตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกที่อด
กลั้นเอาไว้ได้ระเบิดออกมา น้ารักภายในร่องสวาทของนางเริ่ม
พรั่งพรู่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆแต่ถึงอย่างนั้นมันยังคงไม่งา่ ยนักที่พวกมัน
จะออกมาหากไม่ได้รับอนุญาติจากหลินหมิง
" พอ พอๆ ก่อน อ๊าาา "
นางพยายามกล่าวเพื่อให้หลินหมิงแต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล
การเสร็จสมของสตรีนั้นไม่ได้ต่างจากบุรุษมากนักเมื่อพวกนางได้ทา
การปปลดปล่อยน้ารักออกมานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่พวกนางอ่อนแอ
และเกิดความรู้สึกอ่อนล้า แต่ที่จริงแล้วโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นเหล่า
สตรีจะไม่ได้รับความปราถนาจากบุรุษมากเท่าที่พวกนางต้องการ
เมื่อนางเริ่มรู้สึกหลังจากผ่านมาหลายชั่วอึดใจที่นางแทบจะเป็น
ลมไม่ได้สติจากการจู่โจมของเด็กหนุ่มพร้อมกับน้ารักที่แสดงว่านาง
ได้เสร็จสมไปเป็นจานวนมาก ทวนมังกรของหลินหมิงเริ่มมีการสั่น
กระตุกจากภายในร่องสวาทของนางมันอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก
สาหรับหญิงสาวที่ต้องปล่อยให้บุรุษอื่นปล่อยน้ารักของพวกเขาเข้า
สู่ร่างกายของพวกนาง
แต่สาหรับหมิงเลี่ยนในตอนนี้นี้เปรียบเสมือนเสียงระฆังช่วยชีวิต
จากสวรงสวรรค์ นางพยายามฝืนร่างกายอย่างสุดขีดตอบสนองต่อ
อารมณ์ของหลินหมิงที่เดินทางมาถึงจุดสุดยอดแล้ว
" อร้างงงงงงง ~~~~~~~~ "
น้ารักจานวนมากของหลินหมิงถูกระเบิดออกเข้าใส่ตัวของนาง
จนมันท่วมร่องสวาทของนาง ใบหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์
หลากหลายยากจะอธิบาย แต่แล้วนางกลับต้องแปลกใจเมื่อนาง
พบว่าทวนมังกรของหลินหมิงยังคงอยูภ่ ายในตัวของนางแถมมัน
ยังคงมีขนาดใหญ่อยู่เท่าเดิม มันกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรเล่า ?
นางไม่สามารถรับมือกับเด็กหนุ่มไปได้มากกว่านี้แล้ว ในจังหวะที่
หลินหมิงกาลังจะเริ่มขยับสะโพกอีกครั้งหมิงเลี่ยนตัดสินใจรวบรวม
แรงของนางที่มีทั้งหมดในตอนนี้กล่าวกับหลินหมิง
" ดะ..ได้โปรด ตอนนี้ข้านั้นได้ตกเป็นของเจ้าแล้ว ดังนั้นข้าไม่มี
ความคิดที่จะทาร้ายเจ้าหรอกนะ เจ้ายังคงคิดว่าข้าในสภาพเช่นนี้
จะเป็นอันตรายต่อเจ้า ? "
นางกล่าวออกมาพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ลูบไปทีใ่ บหน้าของ
หลินหมิง สายตาของนางไม่ได้เต็มเปียมไปด้วยความเย่อยิ่งที่
แสดงออกต่อหลินหมิงในตอนแรก มันกลับกลายเป็นสายตาของ
หญิงสาวทีม่ องมายังทีบ่ ุรุษของพวกนางแม้ว่ามันจะยังไม่ถงึ ขั้น
หญิงสาวของหลินหมิงแต่นี้อาจเรียกได้ว่ามันอาจเป็นแนวโน้มทีด่ ี
" อืมม ก็ได้แต่ข้าคงต้องขอสิ่งค้าประกันสักเล็กน้อย "
อื้มมมมม ~~~~~~
หลินหมิงกล่าวจบก็กม้ ลงไปพรหมจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มของหมิง
เลี่ยน มันเป็่นการจูบที่แตกต่างจากในช่วงที่พวกเขาได้ทาการร่วม
รักกันแม้ว่ามันจะไม่ได้ร้อนแรงเท่า แต่มันก็เพียงพอทาให้หัวใจของ
หญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ในคาวมคิดของนางในตอนนี้
แม้ว่านางจะยังคงไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นหญิงสาวของหลินหมิงอย่าง
แน่นอน แต่อย่างน้อยในสายตาของนางหลินหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายนัก
" ฮิฮิ พอแล้ว...จริงสิลี่เซี่ยนเจ้าช่วยไปดูนางให้ข้าหน่อยได้ไหม
"
หมิงเลี่ยนกล่าวด้วยน้าเสียงอ่อนโยนที่นางกล่าวให้หลินหมิง
หยุดนั้นส่วนหนึง่ ก็เพราะนางเกรงว่าเด็กหนุ่มคนนีอ้ าจจู่โจมนางเข้า
อีกทีก็เป็นได้ เมือ่ ดูจากขนาดทวนมังกรของเขาที่ยังคงแข็ง
ตัวอย่างเช่นเดิม และนางยังคงเกรงว่านางจะไม่สามารถห้ามใจ
ตัวเองเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน
หลินหมิงหลังจากจูบกันหมิงเลี่ยนจนพอใจเขาจึงละตัวออกจาก
นางพร้อมกับไปดูอาการของลี่เซี่ยน เมื่อมองจากภายนอกนั้นมันดู
เป็นเพียงบาดแผลเล็กๆเพียงเท่านั้น เนื่องจากหลินหมิงไม่ได้มี
ประสบกาณ์ในด้านการรักษาเลยแม้แต่น้อยดังนั้นภาระทั้งหมดจึง
ต้องมาที่หมิงเลี่ยนอย่างไม่ต้องสงสัย
ยังดีที่เนื่องจากคราวนี้พวกนางต้องออกเดินทางมายังป่ามรณะที่
ขึ้นชื่อในเรื่องความอันตราย ดังนั้นแล้วพวกนางจึงได้เตรียมโอสถ
รักษารวมถึงสิ่งของจาเป็นอื่นๆเป็นจานวนมาก หมิงเลี่ยนทาการ
ตรวจสอบร่างกายของลี่เซี่ยนด้วยความยากลาบาก ด้วยการที่
ในตอนนี้นางอยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อนจนแทบจะล้มนอนลงไปเพื่อ
พักผ่อนร่างกายใจจะขาด
แต่ด้วยการที่เป็นเช่นนี้นางจึงจาเป็นต้องให้หลินหมิงประคอง
ร่างของนางเอาไว้ แต่มือซุกซนของเขากลับสัมผัสไปทั่วร่างเปลื่อย
เปล่าของนางในขณะที่นางกาลังตรวจสอบร่างกายเพื่อนของนาง
เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงใช้ร่างกายของนางไม่พอใจอีกหรืออย่างไร ?
นางไม่ได้มีทีท่ารังเกียจต่อการกระทาของหลินหมิงดังเช่นในตอน
แรกนางปล่อยให้หลินหมิงทาตามอาเภอใจกับร่างกายของนางได้
อย่างตามใจชอบเพราะว่าตัวนางเองก็สามารถเสพความสุขจาก
สัมผัสของเด็กหนุม่ ผู้นี้ได้เช่นเดียวกัน
" เสร็จแล้วอย่างนั้นรึ ? "
" อืม.~~ อ๊าา "
ด้วยการที่นางต้องฝืนร่างกายในสภาพเหนื่อยอ่อนรวมกับ
บาดแผลภายในของลี่เซี่ยนที่เรียกได้ว่าค่อนข้างหนักมันจึงทาให้ห
มิงเลี่ยนอ่อนล้าอย่างสุดขีด แถมน่ายังคงต้องอดทนต่อการเล้าโลม
ของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ตลอดการรักษาอีก ร่างของนางหลับลงไป
ภายในอ้อมกอดของหลินหมิงอย่างเหนื่อยล้าในที่สดุ
ในตอนนี้หากหลินหมิงต้องการสังหารพวกนางทั้งสองคนนี้ทิ้ง
นั้นคงเป็นเรื่องง่ายเสียยิ่งกว่าอะไรดี แต่เมื่อดูจากท่าทางของหมิง
เลี่ยนปฎิบัติต่อเขาแล้วนัน้ มันเป็นไปได้มากว่านางคงไม่ได้มีความ
คิดร้ายต่อเขาอีกต่อไป ในตอนนี้ภายในใจของหลินหมิงไม่ได้นึก
โกรธเหล่ากลุ่มหญิงสาวทัง้ ห้านี้มากเท่าใดนัก แต่เป็นผู้อาวุโสสาว
ของเขาต่างหาก หากไม่ใช่เป็นเพราะนางเขาคงไม่ต้องมาพบเจอกับ
อันตรายเช่นนี้ แล้วนางยังคงกล้าทิ้งเขาเอาไว้เพียงลาพังอีก
ต่างหาก ไม่แน่ว่าเขาคงต้องคิดหาทางเอาคืนผู้อาวุโสสาวสวยนางนี้
บ้างเสียแล้ว

ตอนที่ 69
ร่างของหญิงสาวผู้งดงามวัยยี่สิบปลายๆความงดงามของพวก
นางที่ถูกพัฒนาจนมาถึงจุดสูงสุดของเหล่าสตรี พวกนางทั้งสอง
กาลังนอนไร้ซึ่งสติด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง ลี่เซี่ยนแม้ว่านางจะได้รับ
การรักษาจากหมิงเลี่ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ดูเหมือนว่านางจะ
ยังคงไม่สามารถฟื้นคืนสติได้เร็วๆนี้
แตกต่างกับหญิงสาวอีกคนหมิงเลี่ยนกาลังนอนหลับในอ้อมกอด
ของหลินหมิงด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขในตอนนี้หลินหมิงได้ทาความ
สะอาดร่างกายของนางพร้อมกับแต่งกายให้นางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คงไม่ดีนักหากเขายังคงปล่อยให้หญิงสาวอยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่า
ต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นแล้วหลินหมิงเองก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเขาจะ
ไม่ลงมือจู่โจมนางอีกครั้ง
หลินหมิงทาการตรวจสอบพลังปราณในร่างกายของเขาก็พบว่า
หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บมาพอสมควรจากการต่อสู้กับลี่เซี่ยน
ในตอนนี้สภาพพลังปราณในร่างกายของเขาเริ่มกลับมาเสถียรและ
กาลังอยู่ในช่วงพัฒนาหลังจากร่วมรักกับหมิงเลี่ยน อาจเป็นไปได้ว่า
เขาคงสามารถก้าวไปสู่ขั้นต่อไปหรือระดับปราณก่อเกิดขั้น 4 ได้ใน
เร็วๆนี้
เมือเทียบกับหญิงสาวที่ได้รับน้ารักของเขาไปแล้วนั้นหมิงเลี่ยนดู
เหมือนว่านางจะประสบความสาเร็จในการพัฒนาอย่างงดงามยิ่ง
กว่า เนื่องจากหลินหมิงไม่อาจตรวจสอบพลังนางได้เลยทาให้เขาไม่
สามารถระบุพลังของนางได้อย่างเด่นชัดแต่พลังในร่างกายของนาง
ที่กาลังพัฒนาขึ้นนั้นมันเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนขนาดที่
คนอื่นมาเห็นพวกเขาอาจตกใจจนสิ้นชีพไปเลยก็เป็นได้
หลินหมิงมองไปที่ร่างของหญิงสาวอีกคนลี่เซียนแน่นอนว่าหาก
ในตอนนี้หลินหมิงทาการร่วมรักกับนางในตอนนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ที่
หญิงสาวจะสามารถขัดขืนเขาได้ แต่ด้วยสภาพอาการบาดเจ็บของ
นางในตอนนี้มันคงไม่เหมาะนักหากเขายังคงคิดทาเรื่องเช่นนั้นกับ
หญิงสาว ถึงอย่างไรเสียในตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหมิง
เลี่ยนก็เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นพัฒนามันคงจะดีกว่าถ้าหากเขาแสร้ง
ปฎิบัติตัวเป็นบุรุษที่ดี ไม่เช่นนั้นแล้วความสัมพันธ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมันก็
พร้อมที่จะถูกทาลายได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
หลินหมิงยังคงนอนพักอย่างสบายใจโดยที่ภายในอ้อมกอดของ
เขายังคงมีร่างของหมิงเลี่ยน ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่หมิงเลี่ยนก็ได้สติ
ขึ้นมาจากความเหนื่อยล้า นางมองหลินหมิงด้วยสีหน้าเอียงอาย
ด้วยอายุของนางในตอนนี้มันชัดเจนว่านางค่อนข้างมีอายุมากกว่า
เด็กหนุ่มคนนี้อยู่พอตัว แต่ถึงอย่างนั้นการที่นางยังคงได้รับอ้อมกอด
อย่างอบอุ่นในยามที่นางหลับนั้น มันทาให้หัวใจนางอบอุ่นราวกับได้
ย้อนเวลาไปเป็นหญิงสาววัยเยาว์อีกครั้ง
นางเหลือบมองไปที่ลีเซี่ยนในตอนนี้สีหน้าของนางคลายกังวลลง
ไปมาก เนื่องจากดูเหมือนว่าในตอนนี้เพื่อนของนางดูเหมือนจะพ้น
จากขีดอันตรายไปแล้ว นางแอบลอบหวันอยู่ในใจทักษะของหลินห
มิงนั้นเป็นทักษะประเภทใดกันที่ขนาดสามารถทาให้ผู้ที่มีพลังปราณ
ระดับจอมยุทธ์บาดเจ็บสาหัสได้ถึงเพียงนี้ แม้วา่ มันจะเป็นเพราะ
ความประมาทของเพื่อนนางส่วนหนึ่งทีม่ ั่นใจว่าหลินหมิงไม่สามารถ
โจมตีฝ่ากาแพงปราณได้ก็ตาม
หลินหมิงและพวกนางได้ทาการพูดคุยกันเพื่อสอบถามเรื่องราว
ของแต่ละฝ่ายภาพตรงหน้าที่ปรากฎนี้มันราวกับคู่รักที่เพิ่งผ่านการ
ค่าคืนอันแสนเร้าร้อนของพวกเขามา ในส่วนของหลินหมิงเขาบอก
ไปถามความจริงทั้งหมดที่เขาถูกลากมารวมถึงฐานะของเขาแต่
ยังคงเก็บเรื่องที่เขาเป็นคนตระกูลหลินเอาไว้เสียก่อน
แต่สาหรับหมิงเลี่ยนแล้วนั้นมันเป็นอะไรที่น่าตกใจยิ่งกลุ่มของ
พวกนางทั้งห้าแน่นอนว่าหลินหมิงคาดการณ์เอาไว้จากความ
แข็งแกร่งในวัยเพียงเท่านี้ของพวกนางแน่นอนว่าฐานะของพวก
นางย่อมต้องไม่ธรรมดา แต่เขาก็ยังอดตกใจไม่ได้นั้นก็เพราะแท้จริง
แล้วพวกนางเป็นเหล่าผู้อาวุโสจากสานักเพลิงศักดิ์สิทธ์ที่เขาหมาย
จะทดสอบเข้าในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้
แม้ว่าเมื่อดูจากความแข็งแกร่งของพวกนางสี่คนนั้นยังคงไม่อาจ
เรียกได้ว่าอยู่ในระดับผู้อาวุโสอย่างเต็มปากแต่ด้วยความสามารถ
เมื่อเทียบกับอายุแล้วมันจึงทาให้พวกนางได้รับตาแหน่งนี้มาอย่าง
ง่ายดาย อีกทั้งหัวหน้ากลุ่มของพวกนางก็ยงั เป็นคนที่มีความ
แข็งแกร่งในระดับจุดสูงสุดขั้นจอมยุ่ทธ์อีกด้วย ดังนั้นแล้วแม้ว่าจะ
เป็นภายในสานักฐานะของพวกนางที่มหี ัวหน้าสาวคอยค้าจุนอยู่ก็
นับได้ว่าไม่น้อยหน้าใคร
" เจ้าก็จะเข้าร่วมการทดสอบ ? "
" ใช่แล้ว "
หมิงเลี่ยนแทบจะเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่แรกเริ่มเดิมทีนางคิด
ว่าหลินหมิงและหญิงสาวที่ทาการต่อสู้กับหัวหน้าของพวกนางนั้น
อาจเป็นคนต่างอาณาจักร แต่เมื่อได้รู้ความจริงแล้วความกังวล
เหล่านั้นก็พลันหายไปในพริบตาหากนางมีความสัมพันธ์กับบุรุษ
ที่มาจากอาณาจักรอื่นที่อาจเป็นศัตรูแล้วนั้นแน่นอนว่ามันย่อมเกิด
ความลังเลในใจนางไม่น้อย
เกี่ยวกับการทดสอบที่จะเข้าร่วมสานักนั้นแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะ
เข้ามาด้วยวัย 18 ปีหรือมากกว่านั้นแต่เมื่อดูจากความสามารถของ
หลินหมิงแล้วนั้นมันไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ที่
นางแปลกใจก็คือการที่ตัวตนระดับผู้อาวุโสของสานักนักปรุงยาไม่
รู้จักหัวหน้าของนาง ?
ซึ่งในส่วนนี้หลินหมิงคาดการณ์นั้นอาจเป็นเพราะตัวของผู้
อาวุโสสาวของเขานั้นไม่ค่อยได้เข้าไปยังเมืองหลวงเท่าใดนัก ซึ่ง
ตามความเป็นจริงแล้วนั้นการประชุมเมื่อครั้งก่อนที่อาจารย์สาว
สวยของเขาเข้าร่วมแน่นอนว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นย่อมต้องเดินทางไป
ด้วยเช่นเดียวกันแต่ด้วยนิสัยของนางที่เบื่อกับการทาอะไรเช่นนี้จึง
ทาให้นางปฎิเสธไป แตกต่างจากผู้อาวุโสซูหลิ่งที่มีจุดเด่นในเรื่อง
ของทักษะการปรุงยาดังนัน้ แล้วการประชุมที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงนั้น
นางจะเดินทางไปพร้อมกับอาจารย์สาวสวยของเขาในเฉพาะเรื่องที่
เกี่ยวกับทางเพียงเท่านั้น
ในขณะนั้นเหมือนกับหมิงเลี่ยนนางเพิ่งค้นพบความแปลก
ประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวของนาง พลังในร่างกายของนางพัฒนาขึ้น
? แต่เดิมนางเพิ่งจะก้าวขึ้นสู่ในระดับปราณจอมยุทธ์มาไม่นาน
เพียงแต่ว่าในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าในร่างกายของนางนั้นพลังปราณ
ถูกเลื่อนระดับเป็นปราณจอมยุทธ์ขั้น 2 แถมยังเป็นระดับสูงสุดอีก
ด้วย นางรู้สึกสับสนกับความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น
เมื่อนางพลันสังเกตเห็นใบหน้าของหลินหมิงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
พร้อมกับอาการตกตะลึงของนางที่พบว่าระดับพลังปราณของเด็ก
หนุ่มคนนี้ก็เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน
ปราณก่อเกิดขั้น 4 !
เพียงแค่ชั่วเวลาไม่นานหลังจากที่นางหลับไม่ได้สติไประดับ
ความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มคนนี้และนางกลับเพิ่มขึ้น นางลอบ
ตรวจสอบพลังอีกครั้งแต่แล้วผลก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ด้วยใบหน้าที่
เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเด็กหนุ่มผู้นไี้ ม่ต้องสังสัยเลยว่านี้เป็น
ความสามารถของเขา ?
" ฮึ่มมม ไม่เพียงแต่เจ้าจะมีทักษะที่ร้ายกาจ เจ้ายังสามารถ
พัฒนาตนได้ด้วยความสามารถที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เจ้าคงต้องมี
อะไรกับสตรีมามากมายแล้วสินะ "
เมื่อนางได้รับคาอธิบายจากหลินหมิงหมิงเลี่ยนนางกล่าวออกมา
ด้วยน้าเสียงแงงอน นางไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดนางจึงทาเช่นนี้
แต่เมื่อนางขบคิดใหม่อีกทีดูในตอนที่เด็กหนุ่มผู้นี้เข้าทาการร่วมรัก
กับนางมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่นางจะสามารถรับมือกับ
เด็กหนุ่มคนนี้ได้อย่างลาพัง อาจเป็นว่านางอาจต้องยืมกาลังจาก
เพื่อนสาวของนาง ?
แต่ในจังหวะที่หลินหมิงกาลังพูดคุยย้อหลอกกันอยูน่ ั้นกลับ
ปรากฎร่างของหญิงสางที่แบกร่างของหญิงสาวอีกคนไว้ที่หลังของ
นาง นางจ้องภาพตรงหน้าด้วยสีนหน้าไม่อยากจะเชื่อ
" หมิงเลี่ยน นี้เจ้าทาอะไรอยู่ ! "
" หวางเฟย ! "
หญิงสาวที่ถกู เรียกว่าหวางเฟยนั้นคือหนึ่งในกลุ่มของหมิงเลี่ยน
นั้นเองนางได้ทาการักษาให้ฉีหลิน เพื่อนสาวของนางที่ได้รับ
บาดเจ็บหนักจากการโจมตีของผู้อาวุโสฟางซิ่น นางออกเดินทาง
ตามหาเพื่อนของนางที่ออกมาตามล่าเด็กหนุม่ ตามคาบอกของ
หัวหน้าพวกนางด้วยความเป็นห่วงลังจากที่นางคิดว่าเพื่อนของนาง
นั้นใช้เวลามากจนเกินไป
แต่ภาพตรงหน้านั้นมันแทบจะทาให้หวางเฟยพุ่งเข้าไปตบเพื่อน
ของนางสักทีสองทีพร้อมกับสังหารเด็กหนุม่ คนนี้เสีย ลีเซียน
บาดเจ็บ ? ฉีหลินได้รับบาดเจ็บแต่หมิงเลี่ยนกลับมาเสวนากับศัตรู
เช่นนี้อย่างสบายอารมณ์ ? อารมณ์ความโกรธของนางพุ่งขึ้น
แน่นอนว่านางไม่ตั้งใจจะสังหารเพื่อนของนางอย่างแน่นอนมัน
เป็นไปได้ว่านางอาจถูกล่อหลวงด้วยกลวิธบี างอย่าง ด้วยความ
แข็งแกร่งของนางที่อยู่ในระดับจุดสูงสุดปราณจอมยุทธ์ขั้นหนึ่งแล้ว
นั้นแม้แต่หมิงเลี่ยนจะเข้าขัดขวางนางไม่ให้สังหารเด็กหนุ่มตรงหน้า
ก็คงนับได้ว่าเป็นเรื่องยาก

ตอนที่ 70
หมิงเลี่ยนเต็มไปด้วยความตะลึงค้างแม้ว่านางจะเตรียมใจไว้
แล้วมันคงเป็นเรื่องยากทีจ่ ะอธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้กับ
เพื่อนของนางฟัง แต่ในตอนนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนับว่าเลวร้าย
กว่าที่นางคาดการณ์เอาไว้มาก
กะบี่ของหวางเฟนถูกนาออกมาจากแหวนมิติของนางอย่าง
รวดเร็ว แสดงให้เห็นว่านางจะความต้องการที่จะฆ่าฟันอย่างรุนแรง
แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่านางจะมีพลังมากกว่าหมิงเลี่ยนแต่มัน
ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเอาชนะหากนางไม่เอาจริงเสียแต่เริ่ม
หมิงเลี่ยนในตอนนี้แม้ว่าจะได้รับการพัฒนาพลังปราณแบบก้าว
กระโดด จนเหนือกว่าหวางเฟยไปแล้วเพียงแต่ว่าด้วยการร่วมรักที่
หนักหน่วงเกินไปของหลินหมิงที่แม้ว่านางจะได้นอนพักฟื้นร่างกาย
มาชั่วครู่ แต่อาการเหนื่อยล้าเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะไม่หายไปโดยง่าย
แม้ว่าหลินหมิงจะมีพลังปราณก่อเกิดขั้น 4 แล้วก็ตามแต่เขาก็
ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้สาหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับจอมยุทธ์ แม้ว่าเทียบความ
แข็งแกร่งแล้ว หวางเฟยอาจแข็งแกร่วพอๆกับลีเซี่ยนที่เขาจัดการ
ลงไป แต่เรื่องเหล่านั้นย่อมเป็นเพราะความประมาเกินไปของลี
เซี่ยน หากนางทุ่มสุดตัวเพื่อสังหารเขาดั่งเช่นหวางเฟยในตอนนี้มี
หรือที่เขาตะสามารถเอาชนะนางได้ ?
ขนาดเขารับมือเพียงแค่ฝ่ามือเดียวที่ไร้ซึ่งทักษะกระบวนท่า
หลินหมิงก็บาดเจ็บสาหัสมากแล้ว หลินหมิงจับทวนของเขาขึ้นมา
พร้อมกับพุ่งตัวไปรับมือกับหวางเฟย ด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่านของ
นาง หญิงสาวผู้นี้ไม่ได้มีการกักเก็บพลังไว้แต่อย่างใด พลังเต็มที่
ของผู้ที่พลังจอมยุทธ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่สามารถนามาล้อเล่นกันได้
เคร้งงง ! เคร้งง !
เสียงปะทะกันระหว่างกะบี่ของหวางเฟยและทวนของหลินหมิง
ดังขึ้นอย่างต่อเหนื่อง แรงกระแทกที่เกิดขึน้ จากการปะทะส่งผล
บริเวณมือทั้งสองข้างของหลินหมิงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ข้อมือ
ของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หลินหมิง
ไม่สามารถเทียบแรงกับหวางเฟยได้เลยแม้ว่าเขาจะใช้งานเพลิง
ทมิฬแล้วก็ตามที่
แต่มันก็ยังนับเป็นโชคดีของหลินหมิงอยู่บ้างนั้นเพราะว่าด้วย
ความโกรธของหวางเฟยนั้นทาให้การโจมตีของนางค่อนข้างคาด
เดาได้ง่ายและดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ใช้กระบวนท่ากะบี่ของนางใน
การโจมตีในสภาวะที่ขาดสติเช่นนี้ หมิงเลี่ยนมองเหตุการณ์ตรงหน้า
ด้วยสีหน้าปั้นยาก นางพยายามฝืนลุกร่างกายอย่างยากลาบาก
ความเจ็บปวดที่บริเวณระหว่างขายังคงส่งผลแม้วา่ จะผ่านมาเนิน
นานแล้วก็ตาม
" ข้าคิดว่าท่านคงมีเรื่องเข้าใจอะไรผิด... อั่กก ! "
" หุบปาก ! "
หลินหมิงพยายามกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่เสียเปรียบเช่นนี้
ตัวของหลินหมิงในตอนนีไ้ ม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถรับมือกับหวาง
เฟยไปได้อีกนานเพียงใด จากการที่ต้องรับมือกับนางมาเป็นเวลา
เพียงไม่นานมันก็แทบจะทาให้เรี่ยวแรงที่ถือทวนของเขาแทบจะ
หมดสิ้นลง แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของหลินหมิงจะไม่เป็นผลหญิง
สาวในตอนนี้ไม่รับฟังคาพูดใดๆของหลินหมิงเลยแม้แต่น้อย
เป้าหมายเดียวของนางนั้นก็คือชีวิตของหลินหมิงเพียงเท่านั้น
ปังงงง !
เสียงฟาดกะบี่ของนางอย่างสุดกาลังปะทะเข้ากับทวนของ
หลินหมิงอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าคราวนี้มันจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่
ผ่านมา ร่างของหลินหมิงถูกส่งไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่
อยู่ด้านหลังเขาในตอนแรกหลายก้าวจนเป็นรอยแหว่ง หลินหมิงก
ระอั่กเลือดออกมาคาโตพร้อมกับอาการความเจ็บปวดจนแทบจะสิ้น
สติ
" ตาย ! "
ร่างของหวางเฟยพุ่งเข้ามาหาหลินหมิงด้วยความรวดเร็วเพื่อ
หวังปลิดชีวติ เขา สายตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเลือดเย็น
ปังง !
เสียงปะทะเกิดขึ้นเพียงแต่ว่าหนึ่งในนั้นไม่ได้เกิดขึนจากฝีมือ
ของหลินหมิงแต่เป็นหมิงเลี่ยนที่เข้ามารับการโจมตีแทนหลินหมิ
งร่างของนางถูกส่งให้ลอยไปไกลด้วยในสภาพของนางที่อ่อนแอ่
เช่นนี้แม้ว่าจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมา แต่นางก็ยังคงไม่
สามารถฝืนความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดจากการโจมตีของ
หวางเฟยได้จึงทาให้นางหมดสติลงไป
ทางด้านหวางเฟยนั้นใช่ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย นางรู้สึกจุก
พร้อมกับเลือดที่กาลังกองรวมกันภายในลาคอของนาง แต่ถึงอย่าง
นั้นนางก็ยังคงไม่มีความคิดที่จะล้มเลิกในการสังหารเด็กหนุ่มแต่
อย่างใด นางเงยหน้าเพื่อมองหาเป้าหมายเดิมของนางอีกครั้ง
"!"
แล้วนางก็ต้องแปลกใจเมือ่ นางพบว่าหลินหมิงในตอนนี้ได้พุ่ง
เข้ามาหานางเสียแล้วในจังหวะที่นางปะทะกับหมิงเลี่ยนอยู่นั้น เหตุ
ใดเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่คว้าโอกาศนั้นนี้ไปกันเล่า นางสัมผัสได้ถงึ ความ
แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเด็กหนุ่มคนนี้พุ่งเข้ามาหานางโดย
ปราศจากทวนของเขาเช่นในตอนแรก ที่บริเวณระหว่างนิ้วชี้และ
กลางของเขาถูกชี้มายังร่างของนาง
มันเป็นพลังที่ถกู ควบแน่นคลื่นพลังที่แผ่ออกมานั้นทาให้ลาง
สังหรณ์ของนางสั่นเตือนในทันที ' หลบ ' แต่ด้วยระยะขนาดนี้และ
อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมันคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะตอบสนองได้ทัน
กะบี่ของนางถูกยกขึ้นมากันเบื้องหน้าของเอาไว้ตามสัญชาติญาณ
[ ดรรชนีเพลิง ]
ทักษะนี้ค่อนข้างกินพลังปราณของหลินหมิงไปมาก แม้ว่าเขาจะ
ใช้ไปเพียงแค่สองครั้งแต่มันก็แทบจะทาให้พลังปราณในร่างของเขา
แห้งเหือดลงในทันที คลื่นพลังสีดาที่น่าหวาดหวั่นพุ่งเข้าหากะบี่
ของหวางเฟยที่เตรียมรับมืออยู่ก่อนแล้ว เมื่อพวกมันปะทะกันร่าง
ของหวางเฟยถูกส่งกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวและดูไม่มที ีท่าว่า
จะหยุดลงโดยง่าย
เลือดที่ตกค้างอยู่ที่ลาคอของนางในตอนแรกถูกส่งออกมาจาก
ปากของนางอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพูดถึงกาแพงปราณในตอนนี้
แม้แต่กะบี่ของนางก็เกรงว่าจะไม่สามารถรับมือกับพลังเช่นนี้ได้ไหว
ความรู้สึกแปลกใจและความโกรธเกี้ยวผสมกันจนทาให้นางแทบ
เป็นบ้า
" ย้าห์ ! "
น่าคารามออกมาพร้อมกับกะบี่ของนางที่ตวัดคลื่นพลังของ
หลินหมิงทิ้งไป สภาพของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
อย่างแท้จริง พลังปราณในร่างกายของนางลดลงจนอยู่ในระดับที่
อาจไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว ซึ่งมันทาให้กาแพงปราณของผู้ฝึก
ยุทธ์ระดับจอมยุทธ์อย่างนางหายไปด้วยเช่นเดียวกัน
แต่แล้วทันใดนั้นกลับมีฝา่ มือหนึ่งปะทะกับช่วงท้องของนางเข้า
อย่างจัง ร่างของนางถูกส่งถอยหลังพร้อมกับดวงตาของนางที่แทบ
จะปิดสนิท แต่นางยังคงเห็นร่างของเด็กหนุ่มทีก่ าลังเดินมาหานาง
ด้วยสภาพที่น่าสมเพชน้อยกว่านางสักเล็กน้อยเท่านั้น

ตอนที่ 71
แม้ว่าหลินหมิงจะได้รักษาบาดแผลจากการต่อสู้กับลีเซี่ยนใน
ตอนแรกมาก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นบาดแผลที่เกิดจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้น
จอมยุทธ์นั้นยังคงเป็นอะไรที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในทันที แล้ว
ในตอนนี้เขายังต้องได้รับบาดเจ็บจากการจู่โจมแบบบ้ากระหน่าของ
หวางเฟยอีก
ตามความเป็นจริงแล้วในความคิดของหลินหมิงนั้นหากหญิง
สาวผู้นี้ยอมรับฟังคากล่าวของเขาหรือแม้กระทั่งเพื่อนของนาง
อย่างหมิงเลี่ยนเรื่องราวทุกอย่างคงไม่จบเช่นนี้ ทั้งหมดนั้นเป็น
เพราะนิสัยของนาง ? หลินหมิงนั้นมีความคุ้นเคยกับอารมณ์ของ
พวกเหล่าชนชั้นสูงดี พวกคนเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะมี
อารมณ์ไม่ต่างจากหญิงสาวตรงหน้าเขามากนัก
อย่างเช่นแม่เทพธิดาน้อยอย่างหลิวฉวนยูร์ของเขาที่ในตอนแรก
นางยังเกือบวางแผนสังหารเขาได้ หรือกระทั่งผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เข้า
จู่โจมกลุ่มของหญิงสาวทัง้ ห้านี้แบบไม่มีการไต่ถาม ซึ่งถ้าพูดกัน
ตามความจริงแล้วมันต้องเป็นนางที่เป็นคนผิดที่ลงมือก่อนแต่ถงึ
อย่างนั้นในโลกใบนี้ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสินผิดถูก
หวางเฟยมองมาที่หลินหมิงด้วยสายตาเคียดแค้นหากหมิงเลี่ยน
ไม่ได้ทาการจู่โจมในจังหวะที่นางไม่คาดฝันแน่นอนว่าเขาที่ต้องนอน
หมดสภาพเช่นนี้ย่อมไม่ใช่นางอย่างแน่นอน แม้ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
ได้ทาการหลอกหลวงเพื่อนสาวของนางด้วยวิธีใด จากเดิมที่กลุ่ม
พวกนางนั้นทุกคนล้วนเป็นสตรีที่ค่อนข้างเกลียดเหล่าบุรุษแต่นี้
เพื่อนของนางกลับเข้าช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนนี้โดยที่ตัวเองยอมได้รับ
บาดเจ็บ ?
" เฮ้ออ ~ "
หลินหมิงถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนพร้อมกับ
เสื้อผ้าของเขาที่ค่อยถูกปลดออกทีละชิ้น หวางเฟยที่กับตาเบิกกว้าง
เมื่อเห็นการกระทาของหลินหมิง แม้ว่านางจะเป็นสาวบริสุทธ์อยู่แต่
นางก็พอจะเข้าใจความหมายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับนางในอนาคต
อันใกล้นี้
" จะ...เจ้า ! "
นางกล่าวออกมาอย่างยากลาบากลาพังเรี่ยวแรงของนาง
ในตอนนี้แค่เพียงทาการพูดกล่าวยังคงไม่สามารถทาได้อย่างถนัด
นัก หลินหมิงนั้นไม่อยากเสียเวลามากนักแน่นอนว่าที่เขาต้องทา
เช่นนี้นั้นก็เพราะว่าเขาต้องการรักษาอาการบาดเจ็บส่วนตัวของเขา
ด้วยส่วนหนึง่ อีกทั้งการที่เขาทาการร่วมรักกับนางนั้นอาจเป็น
หนทางที่จะทาให้นางยอมรับเขาดั่งเช่นหมิงเลี่ยนก็เป็นได้
หลินหมิงนามือไปลูบไล้เรือนร่างของหญิงสาวที่มีความงาม
คล้ายกับหมิงเลี่ยน แต่ดว้ ยนิสัยของนางนั้นมันทาให้หลินหมิงคิดว่า
หวางเฟยนั้นยังคงมีเสน่หน์ ้อยกว่าหมิงเลี่ยนสักเล็กน้อย ร่างของ
นางสั่นไหวพร้อมกับทาการพยายามฝืนตัวขยับร่างกายให้ห่างจาก
หลินหมิง โดยที่มันเป็นไปไม่ได้
" อะ...เอา..ออกไป "
หน้าอกของนางนั้นถูกบีบคลึงโดยมือของหลินหมิงอย่างบ้าคลั่ง
นางไม่เคยต้องรู้สึกอับอายเท่านี้มาก่อนในชีวิตร่างของเด็กหนุ่มที่
นางแสนจะเกลียดชั่งขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้อีกทั้งริมฝีปากของ
เขากาลังเข้าโลมเลียไปที่ซอกคอของนางราวกับว่ามันเป็นอาหาร
จารโอชะ
" มะ..ไม่..อย่า... "
อุณหภูมิในร่างกายของหวางเฟยค่อยๆร้อนขึ้นมาโดยที่นางเองก็
ไม่ทันรู้ตัวพร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นภายในใจ
ของนางเอง แม้ว่านางจะพยายามขัดขืนอย่างเต็มความสามารถแต่
ด้วยสภาพของนางในตอนนี้นั้นมันเพียงพอให้นางทาได้แค่ส่งเสียง
ออกมาเท่านั้น
มือข้างหนึ่งของหลินหมิงละออกจากหน้าอกของหวางเฟยพร้อม
กับเคลื่อนไหวไปตามร่างกายไปยังส่วนลับของหญิงสาวที่ไม่เคย
เปิดเผยต่อผู้ใด นิ้วมือของหลิมหมิงเข้าทาการเขี่ยบริเวณปากถ้าที่ดู
เหมือนว่าในตอนนี้นางเองก็เริ่มจะมีอารณ์ขึ้นมาเพราะหลินหมิง
สามารถสัมผัสได้ถงึ น้ารักของหญิงสาวที่กาลังแฉะเยิ้มอยู่ที่ร่อง
สวาทของนาง
" ถึงปากท่านจะกล่าวไม่..แล้วเหตุใดที่ส่วนนี้ของท่านจึงเป็น
เช่นนี้เล่า "
" ไม่...ข้าไม่ร.ู้ ...ออกไปจากตัวข้า "
" อ้าาา ~~~ ไม่...อย่าจับ....อ้าาา "
ในที่สุดหวางเฟยนางก็เริ่มทนไม่ไหวต่อการเล้าโลมของหลินหมิ
งเสียงครางอันแสนเซ็กซีอ่ อกมาจากปากของหญิงสาวผิดกับในตอน
แรก ใบหน้าของแดงซ่านอาจด้วยความอายหรืออาจเป็นความโกรธ
เสื้อผ้าของนางค่อยๆถูกปลดออกทีละชิ้นเพื่อให้หลินหมิงได้เฉยชม
สาหรับตัวของหวางเฟยนั้นหลินหมิงคิดว่าเขาคงอาจจะไม่
สามารถปราบพยศแม่สาวคนนี้ได้ดั่งเช่นหมิงเลีย่ น ด้วยนิสัยของ
นางที่แสดงออกมานั้นนางมีความเกลียดต่อบุรุษมากจนเห็นได้ชัด
" อื้ออออออ~~~~~~ จ๊วบบบบบ อ้าาาา ~~~~~ "
หลินหมิงก้มลงประกบปากของหวางเฟยอย่างเร้าร้อนสัมผัสนิ่ม
นวลที่ริมฝีปากของหญิงสาวนั้นทาให้อารมณ์ของหลินหมิงพลุ
พล่านขึ้นมาเรื่อย ด้วยการที่มันเป็นประสบการณ์เพียงครั้งแรกของ
นาง หวางเฟยไม่อาจตอบสนองต่อการรุกล้าของหลินหมิงได้ ลิ้น
ของหลินหมิงที่ส่งเข้ามาภายในปากของนางเข้าทาการผัวพันลิ้น
ของนางจนนางไม่อาจตามได้ทัน
ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างกาลังจ่ออยู่ที่ปล่อง
ทางเข้าร่องสวาทของนาง โดยไม่ต้องใช้ความคิดอื่นแต่อย่างใดนาง
สามารถจินตนาการได้ในทันทีว่าสิ่งทีก่ าลังจ่ออยู่นี้คืออะไร นาง
พยายามดิ้นอย่างสุดแรงแต่ด้วยรสจูบของเด็กหนุม่ ผู้นี้มันกลับทาให้
เรี่ยวแรงของนางพลันหายไปเสียยิ่งกว่าเดิม
" ม่ายยยยยยยยยยยยย~~~~~~~~~~ "
เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากร่องสวาทแสดงให้เห็นถึงความบ
ริสุทธ์ของนางที่ได้ถกู ช่วงชิง ทวนมังกรของหลินหมิงที่เข้ามาสู่ตัว
นางนั้นไม่เพียงทาให้นางรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเพียงเท่านั้นแต่
ภายในใจของหวางเฟยนั้นก็ราวกับถูกค้อนทุบบดละเอียดไป
เช่นเดียวกัน
สัมผัสอบอุ่นที่บริเวณร่องสวาทของสาวบริสุทธ์นั้นเป็นอะไรที่
ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งมันยังเป็นความบริสุทธ์ของสาว
งามที่บุรุษทั่วอาณาจักรต่างอยากได้มาครอบครอง หลินหมิงที่เสียบ
ทวนมังกรของเขาเข้าไปภายในร่องสวาทของหวางเฟยอย่างลาบาก
กาลังเสพสุขกับร่องของหญิงสาวที่ทาการตอบรับเข้าดียิ่งกว่า
เจ้านายของมัน
ร่องสวาทของนางสั่นกระตุกพร้อมกับเกิดการขยายตัวและหด
ตัวเป็นจังหวะ พร้อมกับเสียงครางอ่อนๆของนางหลินหมิงค่อยทา
การแทงทะลวงเข้าไปพร้อมกับพรหมจูบหญิงสาวไปด้วย เรี่ยวแรง
ที่เคยพยายามขัดขืนในตอนนี้หายไปหมดสิ้น
ร่างกายของนางราวกับไม่ใช่ของนางอีกต่อไปแม้วา่ นางจะมี
ความรู้สึกโกรธเกลียดการกระทาของหลินหมิงเป็นอย่างมาก แต่
ความรู้สึกสุขสมที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ก็เป็นอะไรที่นางไม่
สามารถปฎิเสธไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน
หลินหมิงค่อยๆทาการขยับสะโพกไปอย่างช้าๆเนื่องจากขนาด
ร่องสวาทของหวางเฟยนั้นยังคงคับแน่นอยู่มากแม้ว่าหลินหมิงจะ
ขยับอย่างช้าๆมันก็เพียงพอที่จะทาให้เขาเพลิดเพลินกับมันจนแทบ
จะสามารถจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา แต่ทางฝั่งของหวางเฟย
นั้นนางไม่สามารถอดกลัน้ อารมณ์เอาไว้ได้น้ารักของหญิงสาวไหล
ออกมาเป็นจานวนมากในในขณะที่นางกาลังโดนข่มขืนเช่นนี้

ตอนที่ 72
ร่องสวาทของหวางเฟยที่กาลังถูกจู่โจมอย่างโหด้ายด้วยทวน
มังกรขนาดผิดธรรมดาของหลินหมิงฉีกขาดจนเลือดอาบ หวางเฟ
ยนางได้แต่ส่งเสียงครางออกมาพร้อมกับศรีษะของนางเองที่ส่ายไป
มาอย่างไม่เป็นจังหวะมันยากที่จะยอมรับว่าการกระทาของเด็กหนุ่ม
ผู้นี้มันสามารถสร้างความรู้สึกสุขสมแบบที่นางไม่เคยได้สัมผัสมา
ก่อน
หลังจากผ่านไปเนิ่นนานจิตใจของหวางเฟยแล้วเริ่มการ
เปลี่ยนแปลงเสียงครางจากในตอนแรกของนางที่พยายามข่มกลั้น
เอาไว้กลายเป็นเสียงครางที่ออกมาจากปากของนางเองอย่าง
สุดเสียง ความเจ็บปวดทุกอย่างล้วนค่อยๆจางหายไปแต่มันกลับ
แทนที่ด้วยความเสียวซ่าน
" แม่สาวร่านสวาทแม้เจ้าจะกล่าวปฎิเสธข้าอยู่ตลอดแต่เหตุใด
ร่องสวาทของเจ้าถึงได้ตอดรัดข้าแน่นยิ่งขึ้นเช่นนี้กัน "
ปัป ปัป ปัป
หลินหมิงกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงล้อเลียนเมื่อเขาหวนนึก
สภาพในตอนแรกที่เขาได้เจอกับนาง คงไม่มีใครคาดคิดว่าหญิงสาว
ที่มีท่าทีเช่นนั้นกาลังนอนอ้าขารับความสุขจากบุรุษที่นางต้องการ
จะสังหารเช่นนี้ ตาของนางเริ่มพร่ามั่วจากการจู่โจมของหลินหมิง
จนแทบสิ้นสติหากไม่เป็นเพราะว่าหลินหมิงได้ทาการกระตุ้นไม่ให้
นางได้หมดสติไปนั้นนางคงหลับไปเสียตัง้ นานแล้ว
หลินหมิงหลังจากที่สอดใส่ทวนมังกรของเขาใส่ร่องสวาทของ
หวางเฟยเป็นเวลาก็ได้เวลาที่เขาจะทาการปลดปล่อยน้ารักเข้าสู่
ภายในตัวของหญิงสาว ตาของหวางเฟยเหลือกขึ้นทันทีหลังจาก
ได้รับน้ารักจานวนมากของหลินหมิงสัมผัสอุ่นภายในท้องเป็นเครื่อง
แสดงให้เห็นชัดเจนว่านางได้ตกเป็นของบุรุษหนุ่มคนนี้ไปเสียแล้ว
หวางเฟยหลังจากที่นางได้รับน้ารักของหลินหมิงไปนั้นนางก็ได้
หมดสติลงไป เมื่อนางตืน่ ขึ้นมาก็พบว่าอาการบาดเจ็บตามร่างกาย
ของนางนั้นล้วนหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของนั้นเป็น
เครื่องตอกย้าเป็นอย่างดีว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความฝัน
" อ้า อย่างนั้นแหละ..ท่านทาได้ดีมากใช้ลิ้นเลียไปด้วย "
ภาพที่อยู่ตรงหน้าของนางในตอนนี้ก็คือหมิงเลี่ยนเพื่อนสาวของ
นางกาลังใช้ปากของตนเองเขาทาการโลมเลียทวนมังกรของบุรุษ
อย่างหื่นกระหาย นางไม่เคยเห็นหรือได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนแม้ว่า
ในตอนแรกนางจะคิดว่าเพื่อนของนางนั้นอาจโดนบุรุษหนุ่มคนนี้ขืน
บังคับแต่เมื่อดูจากสีหน้าแล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
ใบหน้าของหมิงเลี่ยนในตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขแบบที่นาง
เองที่เป็นเพื่อนยังไม่เคยได้เห็นมาก่อน
" ข้าจะเสร็จแล้ว ~~~~~~~ "
" อ้าาา ~~~~~ มันช่างเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยม "
หมิงเลี่ยนนางดูดกลืนน้ารักของหลินหมิงที่นางอุตสาเป็นคนรีด
เร้นออกมาอย่างลาบากจนหมดเกลี้ยงแม้ว่านี้จะเป็นครั้งแรกที่นาง
จะต้องทาอะไรเช่นนี้ก็ตาม สัมผัสน้ารักของหลินหมิงที่อยูภ่ ายใน
ลาคอของนางทาให้ร่างกายของนางร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้งหากไม่ติด
ว่านางยังคงมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณร่องสวาทอยู่รวมถึงการที่มี
เพื่อนๆของนางนอนรายล้อมไม่ได้สติอยู่นางคงขอให้หลินหมิงช่วย
ปลดเปลื้องอารมณ์ของนางไปอีกรอบแล้ว
" ดูเหมือนว่าเพื่อนของท่าน จะได้สติแล้วนะ "
หมิงเลี่ยนได้ยินคากล่าวของหลินหมิงก็หันไปพบกับหวางเฟ
ยที่มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ หมิงเลี่ยนนางเป็นคน
เดินเข้าไปคุยกับหวางเฟยตามที่ได้คุยกันกับหลินหมิงเอาไว้ แม้ว่า
หากกล่าวตามความจริงฝ่ายที่เป็นฝ่ายผิดนั้นจะเป็นฝ่ายเด็กหนุ่มที่
ผู้อาวุโสของเขาเข้าโจมตีก่อน แต่แล้วอย่างไรเล่าในเรื่องนี้เขาไม่ได้
เป็นคนเห็นด้วยกับมันเสียหน่อย
หลินหมิงเคลื่อนตัวมาพร้อมกอดร่างของหญิงสาวทั้งสองเอาไว้
ทั้งสองข้าง ก่อนหน้านี้หมิงเลี่ยนนั้นได้รู้เรื่องที่หลินหมิงได้ทาการ
ร่วมรักกับเพื่อนสาวขอนางแล้วแต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความ
โกรธต่อเขาที่ลงมือข่มขืนเพื่อนของนาง ใบหน้าของหมิงเลี่ยนเต็ม
ไปด้วยความสุขยามอยู่ในอ้อมกอดของหลินหมิง แตกต่างจากหวาง
เฟยที่พยายามดิ้นด้วยแรงเล็กน้อยราวกับว่านางเองก็ไม่ได้ต้องการ
จะจากอ้อมกอดเด็กหนุ่มคนนี้ไป
เกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมาแม้ว่ามันจะเป็นไปตามความจริงดังที่หมิง
เลี่ยนว่าแต่ตามแผนการณ์ที่หัวหน้าของพวกนางวางไว้คือการ
จับกุมตัวเด็กหนุ่มคนนี้เพื่อเข้าทาการต่อรองกับผู้อาวุโสสาวของเขา
แต่นี้มันก็เป็นเวลานานมากแล้วที่พวกนางแยกจากกับหัวหน้าอาจ
เป็นไปได้ว่าการต่อสู้นั้นคงจะจบไปแล้ว
ฉีหลิน - หวางเฟย - ลีเซีย่ น - หมิงเลี่ยน

" รู้ไหมที่จริงแล้วท่านไม่จาเป็นต้องเสี่ยงอันตรายอย่างการเข้า
มายังป่าแห่งนี้เพื่อแสวงหาสมบัติในการพัฒนาตนหรอกนะ "
หวางเฟยเหงยนางมองหลินหมิงด้วยความสนใจซึ่งมันตรงกับ
ที่หมิงเลี่ยนได้กล่าวเขาฟังเอาไว้ แม่หญิสาวร่านสวาทผู้นี้นั้นสิ่งที่
นางสนใจมีเพียงแสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าบุรุษดังนั้นแล้ว
นางจึงเป็นคนที่แสวงหาความแข็งแกร่งอย่างไม่สิ้นสุด
" แค่เพียงท่านมาเป็นสตรีของข้าแค่เท่านั้น "
" เจ้าคิดว่าข้าโง่เช่นนั้นรึ "
ประโยคต่อมาทาให้หวางเฟยถึงกับตั้งสติได้เด็กหนุม่ คนนี้คิดว่า
นางโง่หรืออย่างไร แม้ว่านางจะเป็นฝ่ายเสียความบริสุทธ์ให้แก่เขา
ไปแต่มันใช่ว่านางจะยอมเป็นสตรีของเขาแต่โดยง่าย ด้วยสถานะ
และความงามของนางนั้นมีบุรุษมากด้วยฐานะจานวนมากที่พร้อม
จะสนับสนุนความแข็งแกร่งของนางให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นโดยแลกกับ
การได้นางเป็นภรรยา แล้วเช่นนั้นเด็กหนุ่มเช่นเขาจะสามารถ
เปรียบเทียบกับพวกเขาเหล่านั้นได้ ?
หลินหมิงใช้มือข้างที่อ้อมกอดหวางเฟยกระชับร่างของหญิงสาว
ให้แนบชิดติดตัวเขามากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าหลินหมิงพอจะเข้า
ความคิดอ่านของนางอยู่บ้าง
" งั้นท่านลองตรวจสอบสตรีของข้า โอ้ไม่สิเพื่อนของท่านดูสิ "
หมิงเลี่ยนขวยเขินเล็กน้อยเมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงหัวใจ
ของนางในตอนนี้มอบให้เด็กหนุ่มผูท้ ี่นางเพิ่งเคยเห็นนางครั้งแรกไป
แล้วอย่างหมดใจ
เมื่อหวางเฟยลองตรวจสอบพลังของหมิงเลี่ยนตามคาแนะนา
ของหลินหมิงนั้นนางก็พลันตื่นตระลึงแน่นอนว่านางย่อมรู้
ความสามารถของเพื่อนสาวนางเป็นอย่างดี หมิงเลี่ยนที่เพิ่งจะก้าว
ขึ้นมาในระดับปราณจอมยุทธ์ระดับ 1 แต่ตอนนี้นางอยู่ในระดับสอง
แล้ว มันแตกต่างจากการพัฒนาด้วยทรัพย์สมบัติไปอย่างสิ้นเชิง
เพราะการใช้สิ่งของเหล่านั้นแม้ว่าจะพัฒนาความแข็งแกร่งได้แต่
พื้นฐานของพวกเขาจะไม่มั่นคง
แต่กับหมิงเลี่ยนในตอนนีก้ ล่าวได้ว่าพื้นฐาน โครงสร้างพลัง
ปราณในร่างกายของนางดีเยี่ยมเสียยิ่งกว่าคนที่มีพลังปราณจอม
ยุทธ์ในระดับเดียวกันมาอย่างยาวนาน แม้แต่นางก็ยังคงไม่สามารถ
เปรียบเทียบได้
" ไม่จริง.. "
" ท่านเองก็เช่นเดียวกัน "
ไม่รอช้าหวางเฟยนางรีบทาการตรวจสอบพลังในร่างกายของ
นางโดยทันที พลังปราณของข้ากาลังพัฒนา ? หัวใจของนางเต้นระ
รั่วไปด้วยความตื่นเต้น แม้ว่านางจะไม่เชื่อคากล่าวของเด็กหนุ่มใน
ตอนแรกแต่เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งที่ถูกพัฒนาขึ้นของหมิงเลี่ยน
และตัวนางเองมันจึงไม่สามารถที่นางจะกล่าวปฎิเสธได้ แม้ว่านาง
จะยังคงมีพลังปราณจอมยุทธ์ระดับ 1 อยู่แต่ในตอนนี้มันกาลัง
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็วอีกไม่นาน นางคงสามารถ
ก้าวทะลวงเข้าสู่ปราณจอมยุทธ์ระดับ 2 ได้อย่างแน่นอน
หากเป็นสถานการณ์ปกตินางอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือ
กระทั่งเป็นปีเพื่อก้าวมาสูจ่ ุดนี้ กระทั่งทรัพย์สมบัติวิเศษทั้งหลายก็
ไม่เคยปรากฎว่าจะมีสิ่งใดที่สามารถทาได้ถึงเพียงนี้ ตาของหวาง
เฟยเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ถูก
พัฒนาขึ้นมันสามารถบ่งบอกได้ว่าขอบเขตในอนาคตของนาง
ในตอนนี้ถูกเปิดกว้างออกจนอาจจะเหนือกว่าหัวหน้าของนางก็
เป็นไปได้ในอนาคต
" นี้เจ้าจะทาอะไร ! "
หวางเฟยตื่นจากภวังค์ความคิดเมื่อนางสัมผัสได้ถงึ มือข้างหนึ่งที่
กาลังลุกล้าที่หน้าอกของนาง นางแทบอยากจะทุบตีเจ้าเด็กหนุ่มผู้
นี้ให้ตายคามือ แต่เมื่อคิดดูแล้วความแข็งแกร่งของนางที่พัฒนาขึ้น
มาได้นั้นล้วนเป็นเพราะเขานางจึงยังคงยั้งมือเอาไว้ก่อน
" แล้วเจ้าไม่คิดจะตอบแทนสามีของเจ้าบ้างเลยรึ "
เสื้อผ้าของนางที่เพิ่งถูกสวมใส่ถูกปลดออกอีกครั้งพร้อมกับทวน
มังกรของหลินหมิงที่จ่อเข้าร่องสวาทของนางทุกชั่วขณะ หวางเฟย
บ่นอุบออกมาโดยที่จงใจให้หลินหมิงได้ยินเขาเพิ่งทาการจู่โจมนาง
ไปไม่นาน อีกทั้งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพื่อนของนางเองก็คงไม่ต่างกัน
แล้วเหตุใดเขาจึงมีอารมณ์เหลือมากล้นขนาดนี้ได้กัน ?
นางรู้สึกว่าถึงนางขัดขืนเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ไปก็คงไม่มีความหมาย
ใด สู้นางฝืนใจรับความสุขที่เด็กหนุม่ คนนี้สร้างสมให้แก่นางไม่
ดีกว่าเช่นนั้นหรือ และนางคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
เป็นสามีของนางอย่างแท้จริงไม่เพียงแต่เขาจะสามารถเปิดอนาคต
อันไร้ขอบเขตในการฝึกตนให้แก่นางได้แต่ทักษะการสร้างความสุข
ของเขาช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่า
หลินหมิงก้มลงไปยังบริเวณส่วนลับของหญิงสาวเผยให้เห็กลีบ
บัวสีชมพูอ่อนที่ยังคงเปราะเปรื้อนคราบเลือดสีแดงสดสักเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงส่งกลิ่นที่นางเฉยชมออกมาให้หลินหมิงได้
สัมผัส หลินหมิงแหวกขาของหวางเฟยออกพร้อมกับลิ้นของเขาที่
ตวัดโลมเลียร่องสวาทของนางอย่างหื่นกระหาย
" อูยยย ซี๊ดดดดดด จะ...เจ้า..ทาอะไร....อ๊าาาาา มันสกปรก
อ๊าาาาาา "
ทั่วร่างของหวางเฟยสั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่าน เดิมที
แล้วบุรุษนั้นไม่ควรทาสิ่งที่ไม่สมควรเช่นนี้กับเหล่าสตรีไม่ใช่หรือ
หากเป็นบุรุษโดยทั่วไปนัน้ พวกเขาล้วนมองเหล่าสตรีเป็นเพียงที่บา
เร่อกามไม่ต้องพูดถึงการใช้ลิ้นของเด็กหนุ่มทีก่ าลังทาให้นางอยู่
ในตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นนางที่มีความงามไม่น้อยหน้าใครแต่หากนาง
เอยปากบอกให้เหล่าบุรุษกระทาการโลมเลียร่องสวาทของนาง
เช่นนี้มันก็คงไม่มีใครคิดจะทาเช่นกัน
" เป็นอย่างไรบ้างภรรยาข้า "
" ยะ ยอดเยี่ยมที่สุดเลย สามีข้า อ๊าาาาาาา ~~~~~~~~~ "
หวางเฟยกล่าวตอบหลินหมิงไปในทันทีในตอนนี้นางคิดว่านาง
คงไม่สามารถคาดเด็กหนุ่มคนนี้ไปได้อีกแล้ว ทางด้านหมิงเลี่ยนเมื่อ
เห็นหลินหมิงสนุกกับเพื่อนของนาง นาเองก็ทาการแหวกขาออก
เผยให้เห็นร่องสวาทสีชมพูอ่อนไม่ต่างจากหวางเฟยเพื่อให้หลินหมิง
ได้เฉยชมเช่นเดียวกัน
" ท่านพี่ได้โปรดทามันกับข้าด้วย ~~~~~ "
หมิงเลี่ยนนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงออดอ้อน ซึ่งหลินหมิ
งเองก็ไม่ขัดใจนางอยู่แล้วหลินหมิงทาการตวัดลิ้นโลมเลียร่องสวาท
อันงดงามของหญิงสาวทัง้ สองสลับไปมาจนพวกนางระเบิดน้ารัก
ออกมาเป็นจานวนมากแล้วจากนั้นเป็นทางฝั่งของหวางเฟยที่ดูด
เหมือนว่านางไม่สามารถระงับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไปนางพุ่ง
ขึ้นคร่อมร่างหลินหมิงพร้อมกับเสียบทวนมังกรของหลินหมิงเข้ายัง
ไปตัวของนาง
ผ่านไปเนิ่นนานในตอนนี้หลินหมิงหลับพร้อมกับร่างกายของ
หวางเฟยและหมิงเลี่ยนทีเ่ ปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข พวก
เขาตัดสินใจพักกันสักเล็กน้อยในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าร่างของหญิง
สาวทั้งสองคือ ฉีหลิน และลี่เซี่ยนที่หมดสติไปดูเหมือนว่าพวกนาง
จะได้สติขึ้นมาแล้ว

ตอนที่ 73
ฉีหลินหมิงมองไปยังหวางเฟย และหมิงเลี่ยนที่ยงั คงอยู่ในอ้อม
กอดของบุรุษแปลกหน้าด้วยความประหลาดใจ แต่ลีเซี่ยนนั้นนาง
กลับแปลกใจยิ่งกว่าในก่อนหน้าที่นางจะหมดสติไปไม่ใช่ว่านางสู้
เอาเป็นเอาตายกับบุรุษหนุ่มคนนี้ไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดในตอนนี้
เพื่อนของนางทั้งสองคนถึงได้มีปฎิกริยาเช่นนี้กับเด็กหนุ่มคนนี้ได้
กัน
ทางฝั่งของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยนั้นนางรีบเข้าไปอธิบาย
เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหญิงสาวทัง้ สองมีท่าทีแปลก
ใจเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหมิงเลี่ยนและ
หวางเฟยจะเล่าเกี่ยวกับบทเพลงรักของเขาเสียมากกว่า ใบหน้า
ของหญิงสาวทั้งสองคนนั้นเต็มไปด้วยสีแดงระเรื่อ
ด้วยความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันระหว่างหญิงสาวของพวกนางนั้น
ทาให้หมิงเลี่ยนและหวางเฟยสามารถกล่าวออกไปได้อย่างไม่ขวย
เขินมากนัก ในความเป็นจริงแล้วพวกนางทั้งสองย่อมต้องการให้ฉี
หลินและลีเซี่ยนได้ทาการร่วมรักกับหลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน แต่
นางก็เข้าใจดีว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักด้วยสิ่งล่อลวงอย่างจาก
พัฒนาขอบเขตพลังปราณหลังจากร่วมรักกับเด็กหนุ่มนั้นแม้ว่ามัน
จะล่อตาล่อใจพวกนางทั้งสองเพียงแต่ว่ามันย่อมแลกมาด้วย
ความบริสุทธ์ของพวกนางเช่นเดียวกัน
และอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือท่วงท่าบรรเลงเพลงรักของเด็กหนุ่มผู้นี้
ที่เพื่อนของนางทั้งสองเล่ากล่าวด้วยความตื่นเต้นและความสุขเสีย
ยิ่งกว่าในประเด็นแรก ใบหน้าของหมิงเลี่ยน และหวางเฟยนั้นราว
กับว่าพวกนางได้ขึ้นไปเสพสุขบนสรวงสวรรค์มาแล้วนั้นทาให้ทั้งฉี
หลิน และลีเซียนสับสนไปหมด
ถ้าหากเป็นเพียงเฉพาะหมิงเลี่ยนนั้นพวกนางคงไม่มีความลังเล
เท่านี้เพราะว่าภายในกลุ่มของพวกนางนั้นอาจกล่าวได้ว่าหมิงเลี่ยน
นั้นมีความเกลียดชังต่อบุรุษน้อยที่สุด กลับกันแล้วหญิงสาวทีม่ ี
ความเกลียดชังต่อบุรุษมากที่สุดย่อมเป็นหวางเฟยที่กาลังบรรยาย
ความสุขที่นางได้รับด้วยสีหน้าภูมิใจ
เนื่องจากในตอนนี้อาการของฉีหลินและลีเซียนรวมถึงหวางเฟย
นั้นดีขึ้นมาแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจออกตามหาหัวหน้าสาวของพวก
นางกับผู้อาวุโสฟางซิ่น ที่แขนสองข้างของหลินหมิงที่ประกบไป
ด้วยร่างของหญิงสาวสองคนนั้นก็คือหวางเฟยและหมิงเลี่ยนอย่าง
แนบชิดจนกระทั่งตัวหลินหมิงเองยังรู้สกึ อายไม่ใช่น้อย โดยมีลีเซียน
และฉีหลินเหลือบมองการกระทาทุกอย่างด้วยใบหน้าแดงระเรื่อทั้ง
คู่
เมื่อพวกเขามาถึงยังจุดทีไ่ ด้แยกจากกับผู้อาวุโสฟางซิ่นและ
หัวหน้าของกลุ่มหญิงสาว พวกเขาสามารถเห็นร่องรอยการปะทะ
การต่อสู้ของผู้ที่พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดนั้นช่างเป็นอะไรที่
เลวร้ายเกินกว่าที่หลินหมิงคาดการณ์เอาไว้มาก ต้นไม้หลายสิบต้น
ถูกหักโค่นลงมาราวกับพวกมันเป็นเพียงกิง่ ก้านของใบอ่อนอย่างใด
อย่างนั้น
พื้นที่ป่าโดยรอบราวกับว่าเพิ่งเกิดศึกสงครามระหว่างกองทัพ
ขนาดย่อมๆ เพียงแต่ไม่ได้มซี ากศพเหล่าทหารประดับเอาไว้เพียง
เท่านั้น แม้แต่กลุ่มของหญิงสาวทัง้ สี่นี้พวกนางยังต้องอึ้งกับภาพ
ตรงหน้าที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าพวกนางไม่ได้รับรู้ถึงความสามารถของ
หัวหน้าพวกนางเพียงแต่ว่าพวกนางไม่เคยเห็นหัวหน้าต้องลงมือ
หนักถึงเพียงนี้
เพียงแค่มองซากจากบริเวณการต่อสู้นี้มันก็เพียงพอให้พวกเขา
จินตนาการได้ว่าหากพวกเขาคนใดคนหนึ่งยังอยู่ในบริเวณในยามที่
ปีศาจทั้งสองตนนี้กาลังสูก้ ันชีวิตของพวกเขาคงไม่ได้ต่างไปจาก
ใบไม้ที่พร้อมถูกลมแรงปลิวพัดให้หายไปได้อย่างง่ายดาย
หลินหมิงพลันได้ยินเสียงฝีเท้าตรงมาที่พวกเขาด้วยความเร็วที่
น่าตกใจ ไม่ต้องสงสัยว่าคนที่กาลังมาหาพวกเขาในตอนนี้ย่อมเป็น
หนึ่งในสองปีศาจที่สร้างมหันตภัยนี้ขึ้น แต่หลินหมิงอวยพรในใจให้
เป็นหัวหน้าของเหล่ากลุม่ หญิงสาวเสียมากกว่า เพราะว่าอย่างน้อย
หัวหน้าของพวกนางยังคงต้องเชื่อฟังคากล่าวของหญิงสาวทั้งสี่อยู่
บ้าง
เทียบกันแล้วหากเป็นผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าคา
กล่าวของเขาจะมีผลหรือไม่นางคงพุ่งเข้าจู่โจมสังหารหญิงสาวทั้งสี่
คนนี้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องไต่ถามแต่อย่างใด หลินหมิงเร่งพลัง
ปราณขึ้นมาพร้อมนาตัวมายืนบังหน้าหญิงสาวทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
ลี่เซียนและฉีหลินมองการกระทาของหลินหมิงด้วยความแปลก
ใจแน่นอนว่านางย่อมรู้ถึงความคิดและการตัดสินใจเช่นนี้ของหลินห
มิงอยู่บางส่วน ในใจของพวกนางทั้งสองเริ่มมองบุรุษหนุ่มคนนี้ไป
ในแนวทางที่ดีขึ้นมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่พวกนางจะสามารถหา
บุรุษที่มีความแข็งแกร่งที่เหนือล้า
แต่มันยากตรงที่ว่าบุรุษเหล่านั้นล้วนปราถนาเพียงร่างกายของ
พวกนางเพียงเท่านั้น พวกเขาไม่ยินดีที่จะยอมสูญเสียชีวิตของตน
เพื่อเข้าแลกดังเช่นเด็กหนุ่มตรงหน้าพวกนางนี้อย่างแน่นอน
นับว่าฟ้ายังคงเป็นใจอยู่บ้างเมื่อร่างที่ปรากฎขึ้นนั้นเป็นร่างของ
หัวหน้ากลุ่มของเหล่าหญิงสาวที่อยู่ในสภาพเหนื่อยอ่อน พร้อมกับ
บาดแผลตามร่างกายของนางอยู่แทบทุกหนแห่ง เสื้อผ้าของนางนั้น
มีบาดส่วนที่ขาดหลุดไปจนเผยให้เห็นผิวขาวเรียบเนียนชวนสัมผัส
ถึงแม้ว่านางจะมีอายุมากแล้วก็ตามที่
ฟ่งซื่อเซียนหรือหัวหน้ากลุ่มของหญิงสาวมองไปทีส่ มาชิกใน
กลุ่มนางด้วยสีหน้าแปลกใจ แน่นอนว่าตามแผนการณ์ที่นางได้วาง
เอาไว้นั้นนางได้สั่งให้นาตัวของหลินหมิงมเพื่อทาการต่อรองกับ
หญิงสาวที่แข็งแกร่งเสียยิง่ กว่าปีศาจคนนั้น ด้วยความแข็งแกร่ง
ของนางที่ยังคงเป็นรองเล็กน้อยนางยังคงคาดว่านางจะสามารถ
ต่อสู้กับหญิงสาวคนนั้นได้อย่างพอสูสีอยู่บ้างด้วยความมั่นใจในกล
ยุทธ์และทักษะ
แต่มันกลับกลายเป็นว่าตัวนางนั้นยังคงด้อยกว่าทุกกระบวนท่า
ไปเสียอย่างนั้น ยังดีที่นางยังคงพอรับมือได้อยู่บ้างแต่มันก็เป็นเพียง
การต่อสู้เพื่อประหวิงเวลาให้เหล่าสมาชิกของนางทาการจับกุมตัว
เด็กหนุ่มมา แต่คาดไม่ถึงว่าสมาชิกของนางกลับต้องใช้เวลานานถึง
เพียงนี้แล้วอีกทั้งในตอนนี้สมาชิกของนางสองคนยังคงกอดรัดแขน
ของหนุ่มเอาไว้ราวกับของรักของห่วง ?

ตอนที่ 74
" นี้มันหมายความว่าเช่นไร "
ฟ่งซือเซียนหรือหัวหน้ากลุ่มหญิงสาวกล่าวถามออกมาด้วย
น้าเสียงโกรธเคืองเทียบกันการที่นางต้องทนรับมือกับผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเป็นเวลาอย่างยาวนานแล้ว แต่สมาชิกของนางที่เหลือกลับใช้
เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะว่านางยังคงมีไผ่
ตายลับสาหรับใช้หลบหนีไม่แน่ว่าบ้างทีนางอาจได้กลายเป็นศพ
ประดับป่าแห่งนี้ไปแล้วก็ได้
" ท่านผู้อาวุโส มันก็เพียงแค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อยเท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้วข้าไม่ได้มสี ่วนในการโจมตีพวกท่านเลยแม้แต่
น้อย แต่กลับเป็นผู้อาวุโสของฝ่ายข้าที่ลงมือโดยไม่ไต่ถามข้าเลยสัก
คา นาซ้าในตอนนี้ข้ายังคงถูกทิง้ เอาไว้เช่นนี้ "
ฟ่งซือเซียนในตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บมามากดังนัน้ แล้วนางจึง
ไม่อยากคิดเรื่องอันใดให้ร่างกายได้รับภาระไปมากกว่านี้ นางจึง
ปล่อยผ่านเรื่องของหลินหมิงเอาไว้ก่อนแน่นอนว่าหากนางทาการ
สังหารเด็กหนุ่มผู้นี้ลงตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอันใดแม้ด้วยสภาพของ
นางที่เป็นเช่นนี้ เพียงแต่ว่ามันจะไม่เกิดประโยชน์อันใดกับกลุ่มของ
นางมากนัก
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความสาคัญกับหญิงสาวคน
นั้นเช่นไรแต่ในความคิดของฟ่งซือเซียนนั้นนางคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
อาจเป็นศิษย์ที่มีระดับค่อนข้างสูงเนื่องจากระดับพลังและอายุของ
เขา แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวผู้นั้นกลับกล้าปล่อยให้เด็กหนุ่มผู้นี้ให้
อยู่คนเดียวในป่าเช่นนี้โดยง่าย หรือมันอาจเป็นไปได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้
จะไม่ค่อยมีความสาคัญกับหญิงสาวผู้นั้นมากนัก
" เฮ้อ ช่างมันเถอะ "
" หัวหน้าแล้วเรื่องสมบัตพิ วกเราจะทาเช่นไรกันดี "
ในส่วนของเรื่องบงกชเหมันต์นั้นหลินหมิงไม่ได้รับรู้เรื่องแต่อย่าง
ใดเขาเพียงแค่พอจะคาดเดาได้ว่าบนยอดเขาที่พวกเขาได้พบกัน
ครั้งแรกนั้นย่อมมีสมบัตทิ มี่ ีคุณค่าหาใดเปรียบไม่เช่นนั้นแล้วตัวตน
ระดับผู้อาวุโสสาวสวยของเขาคงไม่มีท่าที่เช่นนั้น
เป็นทางฝั่งของลีเซียนทีก่ ล่าวถามขึ้นเดิมทีเป้าหมายของกลุ่ม
พวกนางนั้นย่อมไม่ต่างจากผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นก็คือการได้รับบงกช
เหมันต์ เพื่อทาการยกระดับให้กับหัวหน้ากลุม่ ของพวกนางเอง
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ทั้งหมิงเลี่ยนและหวางเฟยกับลืมเป้าหมาย
เหล่านั้นไปเสียแล้ว หากไม่ได้ยินคากล่าวของลีเซียนนั้นพวกนางคง
ลืมไปแล้วด้วยว่านางเข้ามายังป่าแห่งนี้ด้วยเหตุใด
" เรื่องนั้นค่อยว่ากัน ถึงอย่างไรเสียก็ไม่ใช่เพียงข้าเท่านั้นที่ได้รับ
บาดเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว "
ฟงซือเซียนออกเดินนามายังจุดที่น่าจะปลอดภัยเพื่อหลบซ่อน
ตัวและรักษาบาดแผลของนาง แต่มันยังคงไม่ห่างไปจากภูเขามาก
นักเนื่องจากบาดแผลของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่ดูเหมื่อนจะได้รับ
บาดเจ็บน้อยกว่านางพอสมควรเป็นไปได้ว่านางอาจอาศัยจังหวะ
นั้นฉวยนาบงกชเหมันต์ไปครอบครองเสียก่อนดังนั้นแล้วนางจึง
จาเป็นจะต้องอยู่ในระแวกนี้เพื่อเฝ้าสังเกตการ
หน้าที่การรักษาฟ่งซือเซียนนั้นตกเป็นของลีเซียนและฉีหลินไป
ในทันทีเพราะเมื่อมายังถึงจุดหลบซ่อนแล้วหวางเฟยและหมิงเลี่ยน
ก็พลันเข้านั่งประกบชิดหลินหมิงโดยที่พวกนางทั้งสองแทบจะไม่ได้
สนใจอาการบาดเจ็บของหัวหน้าพวกนางเลย
" นี้มันเกิดอะไรขึ้นในตอนที่ข้าไม่อยู่กัน ? "
ฟ่งซือเซียนกล่าวถามกับหญิงสาวทั้งสองที่กาลังรักษาบาดแผล
ให้แก่นาง นางเคยคิดว่าหญิงสาวภายในกลุ่มนางทั้งหมดนั้นล้วน
แล้วแต่มีความเกลียดชังบุรุษจนแทบไม่อยากจะเข้าใกล้ โดยเฉพาะ
หวางเฟยแต่ในตอนนี้ทั้งหวางเฟยและหมิงเลี่ยนกับนั่งเอาอกเอาใจ
บุรุษหนุ่มตรงหน้าราวกับเป็นภรรยาของเขา ?
" คือว่าเรื่องมันเป็นเช่นนี้... "
ลีเซียนและฉีหลินกล่าวอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับหัวหน้า
พวกนางฟัง แต่พวกนางก็ยังคงอายเกินกว่าจะเล่าเรื่องการร่วมรัก
ของหญิงสาวที่พวกนางได้รับฟังมา ดังนั้นแล้วฟ่งซือเซียนจึงรับรู้
เพียงแต่ว่าหลินหมิงนั้นมีวิธีการแปลกประหลาดทีส่ ามารถทาให้
ผู้คนสามารถพัฒนาขอบเขตพลังของตนได้ภายในเวลาอันสั้น
เมื่อนางสังเกตไปที่หมิงเลีย่ นและหวางเฟยก็ดูเหมือนว่าทุกอย่าง
จะเป็นไปตามที่ฉีหลินและลีเซียนกล่าว ไม่เพียงแต่พลัง
ความสามารถของทั้งสองจะเพิ่มขึ้นมาหนึ่งขั้นเป็นอย่างน้อยแต่
ในตอนนี้พวกนางทั้งสองยังคงมีพื้นฐานระดับพลังในร่างกายที่เรียก
ได้ว่ายอดเยี่ยม ด้วยพืน้ ฐานที่ยอดเยี่ยมของพวกนางเช่นนี้ทันเป็น
การรันตีได้อย่างดีเยี่ยมว่าเส้นทางฝึกยุทธ์ของหญิงสาวทั้งสองนี้จะ
ยังไม่จบลงเพียงแค่ระดับจอมยุทธ์
โดยไม่ทันที่ฉีหลินและลีเซียนที่กาลังอึกอักกับวิธีการที่หลินหมิง
ใช้ในการพัฒนาให้กับเพื่อนสาวทั้งสองพวกนาง ฟ่งซือเซียนที่เต็ม
ไปด้วยความใคร่รู้รวมกับนางเองก็ติดอยู่ในระดับจุดสูงสุดปราณ
จอมยุทธ์มาอย่างยาวนานและยังคงไม่มที ่าทีว่าจะสามารถทะลวงไป
ได้โดยง่าย ดังนั้นแล้วในเมื่อความหวังที่จะได้บงกชเหมันต์ดูเหมือน
จะเลือนร่าง แต่อย่างน้อยนางยังคงมีความหวังตรงหน้านี้อยู่
เพราะหากเมื่อใดนางสามารถทะลวงพลังไประดับปรมาจารย์ได้
แล้วแน่นอนว่าหญิงสาวผู้นั้นก็ย่อมไม่ใช่คู่มือของนางอีกต่อไปและ
การแย่งชิงบงกชเหมันต์คงง่ายขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย นางลุกขึ้น
พร้อมกับก้าวเข้าหาหลินหมิงอย่างรวดเร็ว
" ท่านมีเรื่องอันใดกับข้าอย่างนั้นหรือ ? "
" เห็นว่าเจ้าทีวิธีที่สามารถพัฒนาขอบเขตพลังของผู้อื่นได้
ภายในช่วงเวลาไม่นาน....ข้าเองก็สนใจอยู่เหมือนกันแน่นอนว่าข้า
ย่อมไม่ขอให้เจ้าทาให้อย่างเสียเปล่าข้ายินดีมอบทรัพย์สมบัติ
จานวนมากให้แก่เจ้าได้ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกไปหากเปรียบเทียบแล้วแม้วา่ นางจะต้อง
เสียสมบัติล้าค่าอย่างบงกชเหมันต์เพื่อเข้าแลกมันก็ยังคงเรียกได้ว่า
คุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะว่าสมบัติอย่างบงกชเหมันต์นั้นแม้ว่ามัน
จะสามารถเพิ่มระดับพลังปราณในร่างกายได้แต่การที่ใช้สมบัติ
เหล่านี้นั้นมันจะทาให้ขีดจากัดในอนาคตของผู้ใช้ค่อยๆลดลง
เนื่องจากการก้าวข้ามอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีพื้นฐานที่ดีพอ
" หัวหน้าพวกข้าว่ามันคงไม่.... "
" ไม่เป็นไรแม้ว่าข้าจะไม่ได้นาสมบัติอันใดมมากนักแต่มันก็
น่าจะเพียงพอสาหรับการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่านี้ "
ฉีหลินและลีเซียนพยายามกล่าวอธิบายแต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้
จะไม่ทันเสียแล้ว สาหรับทรัพย์สมบัติระดับผู้อาวุโสของสานักใน
เมืองหลวงที่ผู้คนทั้งหลายต่างหมายปองนั้นแม้ว่านางจะกล่าวว่า
ในตอนนี้นางจะมีสมบัติตดิ ตัวเพียงเล็กน้อยแต่นั้นอาจเปรียบเทียบ
ได้กับทรัพย์สมบัติครึ่งหนึง่ ของตระกูลขนาดกลางเลยทีเดียว !
" ถ้าเช่นนั้นพวกข้าทั้งสองคงไม่รบกวนท่าน "
เป็นหมิงเลี่ยนและหวางเฟยที่กล่าวขึ้นพวกนางทั้งสองลุกขึ้น
พร้อมกับนาร่างของฉีหลินและลีเซียนจากตามไปด้วย โดยไม่ลืมส่ง
สายตาหวานเยิ้มมาให้หลินหมิงเป็นการส่งท้าย หากพวกนางไม่ติด
ว่าร่างกายส่วนล่างยังคงไม่ฟื้นตัวดีพอไท่เช่นนั้นแล้วพวกนางทั้ง
สองคงย่อมมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้
การที่พวกนางทาเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทาให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีต่อ
พวกนาง แต่มันยังทาให้หัวหน้าสาวของพวกนางนั้นต้องตกอยู่
ฐานะเดียวกัน และเมือ่ เป็นเช่นนั้นด้วยฐานะของหัวหน้าไม่แน่ว่า
พวกนางอาจได้ใกล้ชิดเด็กหนุ่มผู้นมี้ ากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ตอนที่ 75
โดยไม่คาดฝันว่าหลินหมิงจะได้มีโอกาศอันแสนล้าค่าเช่นนี้
แน่นอนว่าตัวของหลินหมิงสามารถรับรู้ได้ว่าฟ่งซือเซียนนางคงยัง
ไม่รู้ถึงวิธกี ารที่จะทาให้นางได้รับความแข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นแล้วนาง
คงไม่มีท่าทีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นโดยไร้ซงึ่ ความกังวล
เช่นนี้
หญิงสาวที่เหลือทั้งสี่ออกไปจากบริเวณที่หลินหมิงและฟ่งซือ
เซียนอยู่เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสาหรับฉีหลินและลีเซียนพวกนาง
อาจคัดค้านอยู่บ้างในตอนแรก แต่เมื่อนึกถึงความก้าวหน้าที่จะ
ได้รับของหัวหน้าสาวพวกนางมันอาจเรียกได้ว่าคุ้มค่า ?
แม้จะเป็นในเมืองหลวงของอาณาจักรผู้ที่มีพลังปราณในระดับ
ใกล้เคียงกับหัวหน้าสาวของพวกนางก็นับได้ว่าหายากยิ่ง และพวก
เขาทุกคนล้วนต้องการที่จะทะลวงไปสู่ระดับต่อไปนั้นก็คือระดับปรม
จารย์ และเมื่อเป็นเช่นนั้นฐานะที่สูงส่งของพวกเขาในตอนแรกก็คง
เพิ่มพูนขึ้นมาโดยไม่สามารถเทียบได้กบั ในตอนแรก
แม้จะเป็นแค่เพียงการก้าวเพิ่มระดับเพียงหนึ่งขั้นแต่นั้นเป็นการ
ก้าวข้ามจากระดับจอมยุทธ์ไประดับปรมาจารย์ที่แสนยากเย็น หาก
เป็นในสถานการณ์ปกติพวกเขาอาจต้องใช้เวลาหลายปี หรือกระทั่ง
สิบปี หรือไม่ก็ไม่อาจก้าวข้ามได้แม้จะติดอยู่ในระดับจอมยุทธ์มา
อย่างยาวนาน และเมื่อมีโอกาศดีงามเช่นนี้มีหรือที่พวกนางทั้งสอง
จะกล้าขัดความก้าวหน้าของหัวหน้า
ถึงแม้มันจะต้องแลกด้วยความบริสุทธ์ของหญิงสาวแต่แล้ว
อย่างไรเล่าในเมื่อเพื่อนสาวทั้งสองคนของพวกนางในตอนนี้กลับ
กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ผิวพรรณพวก
นางดูกระชับขึ้นมาทันทีหลังจากที่พวกนางไม่ได้พบเจอเพียงไม่นาน
รวมถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปราวกับว่าพวกนางทั้งสองได้กลับไปเป็นสตรี
วัยแรกรุ่นอีกครั้ง
" เอาล่ะ..แล้วข้าต้องทาอย่างไรบ้าง "
ฟ่งซือเซียนกล่าวถามออกมาด้วยความเร่งเร้าแม้ว่านางจะไม่ได้
ติดอยู่ในระดับจอมยุทธ์ขนั้ สูงสุดมาอย่างยาวนานแต่นางก็รู้ใน
ความสามารถของตนเองดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่นางจะสามารถ
ก้าวข้ามขอบเขตนี้ไปได้
" หากจะว่ายากมันยาก..หากจะว่าง่ายมันก็ง่าย ทั้งหมเล้วน
ขึ้นอยู่กับตัวท่าน "
" เจ้าหมายความว่าเช่นไร ? "
" ในกระบวนการนั้นแน่นอนว่าข้าย่อมสัมผัส แตะเนื้อต้องตัว
ท่านและมันย่อมไม่ได้ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย หากท่านไม่ยินดีในเรื่อง
นี้ข้าเกรงว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ หรือหากแม้ว่าท่านมีการขัดขืนแม้
เพียงเล็กน้อยมันก็อาจส่งผลกระทบกับตัวข้าและท่านได้ "
ฟ่งซือเซียนครุ่นคิดเพียงชั่วครู่เมื่อฟังคากล่าวของหลินหมิง นาง
คิดว่ามันก็ฟังดูเป็นคากล่าวที่สมเหตุสมผลวิธีการที่สามารถทาให้
ระดับพลังพื้นฐานก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วหากมีใครได้รับรู้เรื่องนี้
เข้าเด็กหนุ่มผู้นี้คงสามารถเป็นผู้อาวุโสของอาณาจักรที่มีฐานะสูงส่ง
ยิ่งกว่าได้อย่างสบายๆ เช่นนั้นแล้วมันสมควรที่จะต้องมี
กระบวนการที่ยุ่งยากอยูบ่ ้าง
แม้ว่านางจะไม่ต้องการให้บุรุษมาแตะต้องตัวนางแต่แล้วอย่างไร
เล่า กับเด็กหนุ่มที่อายุราวกับรุ่นลูกเช่นนี้เขาจะยังมีความคิดอ่านใด
กับหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าเช่นนางได้อีก ?
" เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ถือในเรื่องการแตะเนื้อต้อง
ตัวข้า ดังนั้นแล้วเจ้ารีบลงมือได้แล้ว "
" เช่นนั้นขอเชิญท่านมานั่งลงตรงนี้ "
ฟ่งซือเซียนนั่งลงบนโขนหินตามที่หลินหมิงกล่าวอย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแต่นางจะสนใจความแข็งแกร่งที่จะถูกพัฒนาขึ้นแต่นาง
ยังคงสนใจวิธีการของเด็กหนุ่มผู้นี้ มันจะเป็นไปได้หรือไม่ว่านางจะ
สามารถเรียนรู้มันจากเด็กหนุ่ม ?
" เชิญท่านหลับตาลงแล้วทาใจให้สงบ ข้าต้องกล่าวย้าอีกครั้งว่า
หากท่านมีท่าทีขัดขืนมันจะทาให้กระบวนการล้มเหลวซึ่งร้ายแรง
ที่สุดมันอาจส่งผลกระทบถึงความก้าวหน้าในอนาคตของท่านและ
ข้าเอง "
ฟ่งซือเซียนพยักหน้ารับคาด้วยท่าทีจริงจังกับวิธีการที่สุดแสน
วิเศษเช่นนี้แน่นอนว่ามันย่อมมาพร้อมกับความเสีย่ งในความคิด
ของหญิงสาว นางหลับตาลงพร้อมกับทาใจให้สงบตามคากล่าวของ
หลินหมิง ทันใดนั้นนางสามารถรับรู้ได้ถึงมือของเด็กหนุ่มที่สัมผัสมา
ที่ร่างกายของนาง
หลินหมิงใช้มือของเขาลูบไล้บริเวณต้นขาของฟ่งซือเซียนจาก
ด้านหลังไล่ขึ้นจนถึงบริเวณช่วงท้องของนางอย่างเชื่องช้า ใบหน้า
ของหญิงสาวพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่นางยังคงไม่กล้า
แสดงอาการขัดขืน นี้มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
' มันนุ่มมาก ! '
ผิวพรรณของหญิงสาวนั้นนุ่มลื่นมือจนหลินหมิงแทบจะไม่อยาก
ละมือออกจากร่างกายของนาง เขาค่อยๆเลื่อนมืออยู่ที่บริเวณต้นขา
ของนางเป็นเวลายาวนานเพื่อทาการเร้าอารมณ์หญิงสาว จากนั้นก็
เลื่อนขึ้นมาที่บริเวณหน้าอก
หมับ
" อ้าา ~~~~ "
" ท่านต้องทาตัวให้สบายกว่านี้ ไม่เช่นนั้นแล้วแม้วา่ มันจะสาเร็จ
แต่มันอาจไม่ให้ผลลัพธ์ดงั ที่ท่านต้องการ "
ฟ่งซือเซียนนางครางออกมาในทันทีที่หลินหมิงใช้มอื คว้าจับ
หน้าอกของนางอย่างรุนแรง ลมหายใจของนางค่อยๆเปลี่ยนเป็น
รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงออกแรงบีบนวด
หน้าอกของนางอยู่เรื่อยๆ
สัมผัสเต็มไม้เต็มมือที่ฝ่ามือของหลินหมิงนัน้ อาจเปรียบเทียบได้
กับหญิงสาวของเขาอย่างซื่อโฉวเลยทีเดียว หรือไม่มันก็อาจดีเยี่ยม
ยิ่งกว่าเพราะว่าผิวพรรณของนางนั้นค่อนข้างเนียนนุ่มราวกับสัมผัส
ที่เขาได้รับจากหลิวฉวนยูร์ หลินหมิงชะโงกคอไปใกล้คอของนาง
เพื่อทาการสูดดมกลิ่นของหญิงสาวอย่างเต็มปอด
อ้าาาาาา
แน่นอนว่าฟ่งซือเซียนเองนางก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจ
ของเด็กหนุ่มทีก่ าลังรดต้นคอของนางอยู่ ที่บริเวณยอดปทุมถันของ
นางในตอนนี้กาลังโดนบีบ คลึงอย่างรุนแรงขึ้นจากฝ่ามือของเด็ก
หนุ่มนางรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะครางออกมาใจจะขาด มันเป็น
วิธีการเช่นใดกันถึงได้ทรมานเช่นนี้
ไม่สิหากเรียกทรมานคงไม่ถูกนักเพราะว่านางเริ่มสัมผัสได้ว่า
ในตอนนี้ร่างกายของนางเริ่มเบาหวิว เรี่ยวแรงในร่างกายเริ่มเลือน
หาย และพลันเกิดความรู้สึกแปลกๆที่บริเวณช่วงท้องนี้มันอาจ
แสดงได้ว่านางได้ประสบความสาเร็จในกระบวนการของเด็กหนุ่ม
ไปก้าวหนึ่ง ?
หลินหมิงย้ายร่างมาอยู่ที่ด้านของหญิงสาวเมื่อมองไปที่ใบหน้า
ของนางในตอนนี้ที่ปรากฎสีแดงอมชมพูไปทั้งใบหน้าไม่ต้องสงสัย
เลยว่านางอดทนมากเพียงใด แม้ว่าเขาจะต้องการกล่าวให้นาง
สามารถส่งเสียงครางออกมาได้แต่เมื่อทาเช่นนั้นตัวเขาอาจโดน
สงสัยเข้าให้ก็เป็นได้
" ผู้อาวุโสข้ามีข่าวร้ายที่จะต้องกล่าวกับท่านสักเล็กน้อย "
" อ้า แฮ่กๆ ~~~~ มะ..มีเรื่องอันใดอย่างนั้นรึ "
นางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงยากลาบากในตอนนี้ร่างกายของ
นางรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่ามัน
เป็นความรูส้ ึกที่ดีเยี่ยมเสียยิ่งกว่าในตอนที่นางสามารถก้าวข้าม
ระดับขอบเขตพลังเสียอีก
" เนื่องจากระดับพลังของท่านที่หากกับข้ามากจนเกินไป ไม่
เหมือน แม่นางหวางเฟยและแม่นางหมิงเลี่ยนข้าเกรงว่าข้าอาจต้อง
สัมผัสไปที่ร่างกายของท่านโดยตรง "
ฟ่งซือเซียนในหัวสมองของนางเริ่มเบาหวิว เมื่อคิดถึงสภาพ
ของนางในตอนนี้มันคงเรียกได้ว่าวิธีการของเด็กหนุ่มผู้นี้นั้น
สามารถได้ผลจริงนี้ขนาดว่ามันยังคงไม่สาเร็จนางก็สามารถได้รับ
ความสุขมากถึงเพียงนี้
" อะ..อืม...เอาสิ "
หลินหมิงลงมือปลดเสื้อผ้าของฟ่งซือเซียนออกด้วยความ
ชานาญแต่เขาไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด เรือนร่างงามสง่าปรากฎสู่
สายตาของเขาจนหลินหมิงแทบจะพุ่งเข้าไปจู่โจมหญิงสาวผู้นี้เสีย
ในตอนนี้เลย
" ข้าจะดาเนินการในขั้นต่อไป ขอท่านโปรดทาใจสงบให้
มากกว่านี้ "
" อร้างงงงง ~~~~~ "
หลินหมิงกล่าวจบก็ทาการใช้ริมฝีปากของเขาเข้าโลมเลียยอด
ปทุมถันจนฟ่งซือเซียนไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้ นางครางร้องออกมา
เสียงดัง แต่เมื่อนางพลันได้สติหลังจากผ่านไปชั่วครู่นางรีบเก็บเสียง
ของตนเองลงแต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของนางยังคงส่ายไปมาด้วย
ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นที่บริเวณยอดปทุมถันของนาง
" ท่านทาได้ดีมาก...หากท่านยังคงสามารถอดทนได้เช่นนี้ต่อไป
ระดับปรมาจารย์คงไม่ใช่เป้าหมายที่เกินฝันอีกต่อไป "
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบบบ
หลินหมิงกล่าวออกมาพร้อมกับก้มลงไปดูดเลียหน้าอกของฟ่
งซือเซียนต่อ นางเองเมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงก็พลันตั้งใจ
มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะมีความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นจน
ยากอธิบาย แน่นอนว่านางไม่คิดว่านี้จะเป็นการลวนลามของเด็ก
หนุ่ม
ในโลกใบนี้นั้นเหล่าบุรุษหากพวกเขามีอารมณ์ความปราถนาใน
สตรีพวกเขาจะใช้ทวนมังกรของพวกเขาเข้าเสียบร่องสวาทของ
พวกนางนั้นคือการระบายอารมณ์ของพวกเขา ไม่มีใครที่จะทาการ
เล้าโลมหญิงสาวดัง่ เช่นหลินหมิงและมันไม่เคยถูกกล่าวถึงมาก่อน
หลังจากดื่มด่ากับหน้าอดเนียนนุ่มอยู่พักใหญ่หลินหมิงสามารถ
รับรู้ลมหายใจของหญิงสาวที่แรงขึ้นเรื่อย รอยยิ้มมุมปากปรากฎขึ้น
อย่างชั่วร้ายซึ่งมันไม่ได้สมวัยของเขาในตอนนี้เลย หลินหมิงย่อนตัว
ลงโดยที่ศรีษะของเขาในตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกับช่วงเอวของนาง
ร่องสวาทสีชมพูสดแสดงถึงการที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานมา
ก่อนแม้ว่านางจะมีอายุมากถึงเพียงนี้แล้วก็ตามที่ หลินหมิงใช้มือทั้ง
สองข้างลูบไล้ที่บริเวณต้นขาของนางอีกครั้งเพื่อให้นางได้ผ่อน
คลาย
" ท่านสามารถแหวกข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่ "
ในตอนนี้สภาพของฟ่งซือเซียนั้นเรียกได้ว่านางแทบจะไม่
สามารถคุมสติได้อยู่อีกต่อไป นางปฎิบัตติ ามคากล่าวของหลินหมิง
ไปในทันทีโดยที่ยังไม่ตระหนักถึงความเหมาะสม ร่างกายของหลินห
มิงเข้าแทรกบริเวณช่องว่างระหว่างขาของฟ่งซือเซียน
แผล๊บบ
" อร้างงงงง ~~~~~ "
" นะ...นีม้ ัน ..... อร้างงงงงงงงงงง ~~~~~~~~ "
เมื่อลิ้นของหลินหมิงตวัดโดนไปที่ร่องสวาทของหญิงสาว
ร่างกายของนางสั่นไหวอย่างรุนแรงไปในทันที พร้อมกับที่บริเวณ
ร่องสวาทของนางเริ่มมีปฎิกริยาเกิดขึ้น น้ารักใสๆของหญิงสาวเริ่ม
ทยอยไหลออกมาทีละน้อย
หลินหมิงยังคงตวัดลิ้นต่อไปไม่สนใจเสียงร้องของหญิงสาวที่
ยังคงดั่งระงมอู่ในตอนนี้ ในส่วนของฟ่งซือเซียนนั้นแม้ว่านางจะ
สามารถรับรู้ได้ว่าที่บริเวณส่วนลับของหญิงสาวของนางนั้นกาลัง
ถูกล่วงล้าแต่แล้วอย่างไรเล่า กับความสุขที่กาลังเกิดขึ้นในตอนนี้มี
หรือที่นางจะต้องปฎิเสธมัน มือทั้งสองข้างของหญิงสาวเผลอตัวกด
ลงไปที่ศรีษะของหลินหมิงเพื่อไม่ให้ลิ้นของเด็กหนุม่ แยกจากไป
" อ๊าาา ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม ลิ้นของเจ้า ~~~~ อู้วววว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~ "
ในตอนนี้นางแทบจะลืมเรื่องการพัฒนาระดับพลังของนางไปเสีย
แล้วกับความสุขที่กาลังเกิดขึ้นนี้ราวกับว่านางได้ขึ้นไปอยู่บนสรวง
สวรรค์ นางไม่สามารถอดทนได้นานนักกับการจู่โจมโดยใช้ลิ้นของ
หลินหมิงร่างกายของนางสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับน้ารักจานวน
มากที่ไหลออกมาจนแฉะเยิ้มไปทั่ว
" อร้างงงงงงงงงงงง ~~~~~~~ "

ตอนที่ 76
" แฮ่กๆ ~~~ "
เสียงหอบหายใจอันแสนเย้ายวนของฟ่งซือเซียนกระตุ้นอารมณ์
ของหลินหมิงจนเขาแทบจะไม่อาจอดกลั้นได้ไหวอีกต่อไป เสื้อผ้า
ของเขาถูกปลดออกอย่างรวดเร็วทวนมังกรของหลินหมิงโดยเผย
ออกมาอีกครั้ง แต่เนื่องจากหญิงสาวยังคงหลับตาอยู่นางจึงไม่
สามารถรับรู้ได้
" อ้าปากของท่านสิ "
ฟ่งซือเซียนปฎิบตั ิตามอย่างว่าง่ายแม้ว่าตัวของหญิงสาว
ในตอนนี้จะรู้สึกเหนื่อยอ่อนเสียยิ่งกว่าการต่อสู้เสี่ยงตายของนางใน
เร็วนี้ แต่นางยังคงนึกถึงรสชาติความสุขที่นางได้รับเมื่อชั่วครู่ที่ผ่าน
มา นางไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต ถึงขนาดว่าให้รวม
ความสุขทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตของนางเข้าด้วยกันมันก็อาจไม่
สามารถเปรียเทียบกับความรู้สึกเมื่อครู่ได้
หลินหมิงส่งทวนมังกรของเขาเข้าไปในปากของนางอย่างช้าๆ
ท่าทีของหญิงสาวพลันเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกเมื่อสัมผัสได้ว่ามีสงิ่
แปลกประหลาดเข้ามาภายในปากของนาง เพียงแต่ว่าไม่นานนางก็
ปล่อยตัวไปตามจังหวะของหลินหมิง
สัมผัสที่ลิ้นของนางได้รับนั้นมันเยี่ยมยอดเสียยิง่ กว่าอาหารเลิศ
ใดๆที่นางเคยได้รับมา แม้ว่ามันจะมีกลิ่นอบหน่อยๆแต่มันกลับทา
ให้ร่างกายของนางรู้สึกเบาหวิวอย่างน่าประหลาดอารมณ์ความรู้สึก
แปลกประหลาดเหมือนเมื่อชั่วครู่กลับมาอีกครั้ง ใบหน้าของฟ่งซือ
เซียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อนางคิดว่าจะได้รับความสุขเช่นนั้น
อีก
" ใชลิ้นของท่านเลียมันไปรอบๆ "
" อ๊าา อย่างนี้รึ แผล๊บบ แผล๊บบ "
ลิ้นเนียนุ่มที่สมั ผัสไปทีท่ วนมังกรของหลินหมิงราวกับว่านาง
ต้องการโลมเลียและกลืนกินทวนมังกรของหลินหมิงไปทั้งหมด
" อย่าให้มันโดนฟันละ โอ้ววอย่างนั้นละ อมมันเข้าไปทั้งหมด "
จ๊วบบ จ๊วบบ
" ข้าขอถามได้รึไม่ว่าของวิเศษนี้คือสิ่งใด ? "
ฟ่งซือเซียนด้วยการที่นางยังคงไม่ได้ลืมตาขึ้นมาตามคาบอกของ
หลินหมิง และนางยังคงเป็นสาวบริสุทธ์อยู่นางจึงไม่มีประสบการณ์
ในเรื่องนี้ นางอยากรู้ว่าแท่งอวบแข็งนี้ที่นางกาลังทาการโลมเลียมัน
อย่างเอร็ดอร่อยนี้คือสิ่งใด ไม่เพียงแต่มันจะให้รสชาติที่ดีเยี่ยมเสีย
ยิ่งกว่าอาหารจารสวรรค์แต่กลิ่นของมันก็ยงั คงส่งผลให้ร่างกายนาง
เบาสบาย
" อีกเพียงชั่วครู่ท่านก็จะได้รู้เอง "
เมื่อเวลาผ่านไปสักพักฟ่งซือเซียนนางสัมผัสได้ว่าทวนมังกรที่
กาลังอยู่ในปากของนางมีอาการสั่นกระตุกอย่างแปลกประหลาด
และดูเหมือนว่ามันกาลังขยายตัวขึ้น ? หลินหมิงจับศรีษะของเธอ
พร้อมกับทาการโยกมันอย่างบ้าคลั่งเพื่อทาการปลดปล่อยน้ารักเข้า
ไปในปากของหญิงสาว
' โอ้ววว~~~~ '
" แค่ก แค่ก แค่ก "
" ท่านต้องกลืนมันลงไปทัง้ หมด "
รสชาติน้าเหนียวข้นที่อยู่ภานในปากของฟ่งซือเซียนทาให้
ร่างกายของนางสั่นกระตุกขึ้นอีกครั้ง และในทันทีที่นางได้กลืนน้ารัก
ของหลินหมิงลงไป ที่บริเวณร่องสวาทของนางพลันมีการ
ตอบสนองขึ้นในทันที น้ารักใสๆจานวนมากถูกปล่อยออกมาจาก
ร่องสวาทของหญิงสาวอีกครั้ง จนนางแทบจะเป็นลมไม่ได้สติไป
ด้วยความเหนื่อยอ่อน
เนื่องจากจานวนน้ารักของหลินหมิงทีม่ ากจนเกินไปมันจึงทาให้
หญิงสาวไม่สามารถรับมันเอาไว้ได้ทั้งหมด ดังนัน้ นางจึงต้องใช้มือ
ทั้งสองข้างประคองน้ารักที่ล้นออกมาจากภายในปากและทาการ
ดูดกลืนพวกมันลงไป
" เอาล่ะทีนี้ท่านสามารถลืมตาได้แล้ว "
ฟงซื่อเซียนนางรีบลืมตาตื่นขึ้นมาในทันทีเพื่อที่นางจะได้ทราบ
ว่าของวิเศษอันใดที่สามารถทาให้นางมีความสุขได้มากมายเช่นนี้
แต่แล้วเมื่อนางได้เห็นภาพตรงหน้าใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็น
ตะลึงค้าง
" นี้เจ้า..ให้ข้าทา...กับสิ่งนี้ ! "
เนื่องจากว่ามันเป็นอวัยวะส่วนล่างมันจึงไม่ใช่เรื่องเหมาะแต่
อย่างใดที่เด็กหนุ่มมาทาเรื่องเช่นนี้กับนาง แม้ว่ามันจะให้ความ
เพลิดเพลินกับนางได้มากแต่ว่าเรื่องเช่นนี้นั้นไม่เคยมีผู้ใดคิดทามา
ก่อน
" ข้ายังใช้ลิ้นของข้าทาให้ท่านเลย...ไม่ต้องกังวลใช่ว่าข้าจะ
หลอกท่านเสียหน่อยแน่นอนว่านี้ย่อมเป็นหนึ่งในกระบวนการ..ท่าน
คงเห็นผลลัพธ์ได้จากหมิงเลี่ยนและหวางเฟยแล้วไม่ใช่รึ "
" แล้วข้าต้องทาอย่างไรต่อ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวพร้อมกับมองไปยังทวนมังกรของหลินหมิงตรง
หน้าที่ยังคงมีคราบน้ารักของเขาเปราะเปรื้อนอยู่ในใจของนางนั้น
หากนางไม่ได้รับรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออวัยวะของบุรุษหนุ่มนางคงพุ่ง
เข้าไปโลมเลียคราบเหล่านั้นจนสะอาดไปแล้ว
" ท่านก็แค่เพียงปล่อยตัวไปตามสบายอีกครั้ง..นึกถึงตอนที่ข้าม
อบความสุขให้แก่ท่านสิคราวนี้มันจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สามารถ
มอบความสุขให้แก่ท่านในแบบที่ครั้งก่อนหน้าเทียบไม่ติด "
ในใจของฟ่งซือเซียนพลันเผลอคล้อยตามคาพูดของหลินหมิง
จนอยู่ในห้วงพวัง สัมผัสความสุขที่ได้รับก่อนหน้านี้เทียบไม่ติด ?
แล้วเหตุนี้มันจะยังคงมีสงิ่ ที่เรียกว่าสวรรค์ได้อีกหรือหากสิ่งที่เด็ก
หนุ่มผู้นี้กล่าวเป็นความจริง โดยที่นางไม่ทันได้รู้สกึ ตัวหลินหมิงเข้า
พลักร่างของหญิงสาวลงนอนราบกับพื้นพร้อมกับจ่อทวนมังกรของ
เขาเอาไว้ที่ร่องสวาทของนาง
อื้มมมมม ~~~~~~~~
ริมฝีปากของหลินหมิงประกบเข้ากับริมฝีปากของฟ่งซือเซียน
อย่างร้อน เกิดการปะทะกันระหว่างลิ้นทั้งสองภายในปากของหญิง
สาวแน่นอนว่าย่อมเป็นฝ่ายของฟ่งซือเซียนที่พ่ายแพ้ไปอย่างหมด
รูป นางได้แต่ปล่อยตัวไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวภายในปากของ
นาง หัวสมองของหญิงสาวเริ่มเกิดอาการเบาหวิวขึ้นมาอีกครั้งมือ
ทั้งสองข้างของนางเผลอลูบไล้ไปที่บริเวณแผ่นหลังขาวเรียบเนียน
แต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว
" โอ้ยย ! นะ..นีม้ ัน..เจ้าทาอะไร "
ทันใดนั้นนางรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่บริเวณร่อง
สวาทของนาง ในตอนนี้แม้แต่เด็กสาวย่อมต้องรู้ว่าจะเกิดชะตา
กรรมใดขึ้นกับตนเอง ในก่อนหน้านี้นางได้เห็นขนาดทวนมังกรที่
ใหญ่ผิดมนุษย์ของหลินหมิงไปแล้วแต่เนื่องจากนางมัวแต่หลงอยู่กับ
รสชาติน้ารักของเด็กหนุ่มจึงไม่ทันระวังตัว
" อ๊าา อ๊าา มันใหญ่เกินไป เอาออกไป ลึกไปแล้วววว "
ฟ่งซือเซียนกล่าวคาร้องออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนหน้าส่ายหน้า
พร้อมกับพยายามบิดร่างด้วยความเจ็บปวดเพียงแต่ว่าไม่นานหลัง
จากนั้นนางเริ่มรู้สึกได้่ว่าความเจ็บปวดของนางเริ่มหายไปอย่าง
ปลิดทิ้งและมันกลับถูกเติมเต็มด้วยอารมณ์ความสุขที่มากล้นแทน
หลินหมิงในตอนนี้กาลังพรหมจูบไปที่บริเวณต้นคอเรียบเนียนของ
หญิงสาวอย่างหื่นกระหาย
" นี้รู้ไหมหากท่านปล่อยตัวตามมสบายท่านจะรู้สึกดีมากกว่านี้
อีกนะ "
" อะ อ๊า อ๊าา ตะ..แต่ว่าแบบนี้มัน "
" ใช่แล้วข้ากาลังทาให้ท่านเป็นสตรีของข้าอย่างไรเล่า "
หลินหมิงกล่าวออกมาพร้อมกับในตอนนี้ที่เขาเริ่มขยับทวนมังกร
อย่างเชื่องช้า สาหรับหญิงสาวนั้นพวกนางมีความต้องการที่ต่างกัน
ออกไปอย่างเช่นเหม่ยฮวา หรือป้าห้าของเขานั้นเห็นได้ชัดว่านางมี
อารมณ์ความต้องการในการร่วมรักที่ค่อนข้างรุนแรงเทียบกับหญิง
สาวที่ไม่เคยผ่านบุรุษใดมาก่อนแน่นอนว่าประสบการณ์ครั้งแรก
ของพวกนางหลินหมิงจะต้องสร้างความประทับใจไว้ให้มากเสีย
หน่อย
" ตะ..แต่ว่า..ข้าอายุมากกว่าเจ้า.."
" เรื่องอายุไม่สาคัญดูจากเรือนร่างของท่านสิมันช่างเย้ายวนข้า
เสียตั้งแต่แรกเห็น...ขอเพียงท่านตอบตกลงเพียงเท่านั้นข้ายินดีมอบ
ความสุขให้กับท่านเช่นนี้ไปอย่างยาวนาน "
" เป็นเช่นไรบ้างล่ะแม่สาวน้อย "
หลินหมิงกล่าวออกมาเพือ่ ลดความกังวลใจของฟ่งซือเซียน
แน่นอนว่าในตอนนี้นางไม่ได้มีความรู้สึกกังวลในเรื่องที่ต้องทาการ
ร่วมรักกับหลินหมิง แต่มันกลับกลายเป็นความกังวลในเรื่องของ
อายุที่ห่างกัน
" ขะ..ข้ารู้สึกแปลกๆ..ทวนของเจ้ามันเต็มท้องข้าเลย ~~~~~~
"
" สาวน้อยไม่รู้รึว่าตอนนี้ข้าเป็นสามีของเจ้าแล้ว เจ้าสมควร
เรียกข้าว่าท่านพี่ "
" ทะ..ท่านพี่ อร้างงงงงงง ~~~~~ "
หลินหมิงกระแทกเอวแบบรุนแรงขึ้นในทันทีที่ได้ยนิ คากล่าวของ
ฟ่งซือเซียน ใบหน้าของหญิงสาวในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความสุข
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบุรุษจะสามารถสร้างความสุขให้กับ
หญิงสาวได้มากเพียงนี้ไม่สิมันอาจเป็นเพราะสามีของนางคนนี้ก็ได้
" ข้าจะบ้าตายอยู่แล้วท่านพี่..อ้าาาาา "
หลินหมิงใช้มือจับเอวทั้งสองข้างเพื่อทาการกระแทกเอวอย่าง
เต็มกาลังร่างกายของหญิงสาวสั่นกระตุกแบบถี่หยิบพร้อมกับน้ารัก
ที่ไหลออกมาจากโพร่งสวาทของนางราวกับเขื่อนแตก ในจังหวะ
เดียวกันหลินหมิงก็ปลดปล่อยน้ารักของเขาจานวนมากเข้าสู่โพร่ง
ร่องของหญิงสาวเข้าไปเช่นเดียวกัน
ผ่านไปราวครึ่งก้านธูปร่างของสตรีและชายหนุ่มยังคงกอดรัดกัน
อย่างเหนียวแน่นไม่จากกันไปไหน ทีบ่ ริเวณร่องสวาทของฟ่งซือ
เซียนนั้นยังคงถูฏเสียบเอาไว้โดยทวนมังกรของหลินหมิงโดยนาง
กล่าวว่าไม่อยากให้นามันออกไป แต่ด้วยการที่เป็นครั้งแรกของ
หญิงสาวนางก็เหนื่อยเกินกว่าจะรับมือกับสามีหนุ่มคนนี้ของนางได้
ไหวแล้ว
" ท่านพี่ ฮิฮิ พอก่อนเจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวกับหลินหมิงทีก่ าลังระดมพรหมจูบไปทั่ว
ร่างกายของนาง แน่นอนว่านางย่อมรู้สึกดีกับรสจูบของสามีนางแต่
นางเกรงว่านางจะมีอารมณ์เกิดขึ้นมา
" ท่านจะไม่ทิ้งข้าจริงๆนะเจ้าคะ "
นางกล่าวพร้อมกับสบตาของหลินหมิงด้วยความเอียงอาย
ในตอนนี้หัวใจของนางโดยถูกจองที่เอาไว้โดยเด็กหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว
เสียแล้ว ด้วยอายุที่มากกว่าเป็นอย่างมากของนางแม้นางจะพอใจ
กับการที่เขาดูเหมือนจะยังชื่นชอบเรือนร่างของนางอยู่เพียงแต่เมื่อ
เปรียบเทียบกับสาววัยแรกรุ่นนางจะยังคงสามารถสู้กับสตรีเหล่านั้น
ได้ ?
" เช่นนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดูเอง "
และแล้วการจู่โจมของหลินหมิงก็เริ่มขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียง
ครางของหญิงสาวที่ดังระงมไปทั่ว จนหญิงสาวทั้งสี่คนที่อยู่ห่าง
ออกไปไม่สามารถข่มตาหลับลงนอนได้เมื่อได้ยินเสียงเช่นนี้
ตอนที่ 77
เช้าวันต่อมาหลินหมิงตื่นขึ้นพร้อมกับสัมผัสเนียนนุ่มของ
ร่างกายฟ่งซือเซียนที่ยังคงกอดแนบชิดกับร่างกายของเขา เมื่อ
หลินหมิงเหลือบมองไปทีน่ างก็พบว่านางนั้นตื่นมาก่อนเขาแล้ว
" อรุณสวัสดิ์เจ้าคะ ท่านพี่ "
" อื้มมมมม อ้าาา ~~~~~~~ "
เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของหญิงสาวในยามเช้าพร้อมกับร่างกายเป
ลื่อยเปล่าของนาง หลินหมิงพุ่งเข้าไปประกอบปากนางอย่างดูดื่ม
โดยไม่รอช้า เนื่องจากค่าคืนที่ผ่านมานั้นแม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรก
ของหญิงสาวแต่นางก็ตอบสนองต่อเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่านาง
จะรู้สึกเหนื่อยอ่อนจนมากเพียงใดแต่นางยังคงพยายามประคองสติ
เพื่อทาให้หลินหมิงมีความสุขได้มากที่สุด และค่าคืนของพวกเขาจบ
ลงที่หลินหมิงได้ปลดปล่อยน้ารักใส่ตัวนางไปถึงห้าครั้ง
หากไม่ใช่เพราะว่าตัวของหลินหมิงเห็นว่านางไม่สามารถรับได้
ไหวอีกต่อไปมีหรือที่หลินหมิงจะต้องการหยุดเพียงเท่านี้ ?
" พอแล้วเจ้าคะ..ฮิฮิ ทั้งๆที่เมื่อคืนท่านพี่ก็ได้ระบายอารมณ์ไป
มากขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่ท่านกลับยังมีความต้องการที่ละโมบ
เช่นนี้
ฟ่งซือเซียนกล่าวพร้อมกับใช้มือลูบไปที่ใบหน้าของหลินหมิง
ด้วยความรักใคร่ ค่าคืนที่ผ่านมาที่สามีหนุ่มผู้นี้ได้มอบให้แก่นางนั้น
ย่อมเป็นค่าคืนที่ราวกับว่านางได้อยู่ความฝันที่เปี่ยมไปด้วยสุขจน
นางแทบไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นสามีของนางกลับไม่มี
ทีท่าว่าจะเพียงพอเพียงเท่านี้
จากที่นางได้ยินมาจากหญิงสาวและคากล่าวของผู้อื่นบุรุษนั้น
สมควรมีความสามารถในการร่วมรบบรรเลงเพลงรักกับหญิงสาว
อย่างมากได้เพียงหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่หรือ แต่นี้เมื่อคืนนี้นางได้รับน้ารัก
ของสามีไปถึงห้าครั้งและนางเองยังคงไม่แน่ใจว่าตนเองได้เสร็จไปกี่
ครั้งเนื่องจากนางไม่สามารถนับมันได้
" ของเช่นนี้หากน้องหญิงยังไหวแล้วละก็ข้าสามารถมอบ
ความสุขให้แก่เจ้าได้อย่างไม่รู้จบ "
" พอแล้วเจ้าคะ ข้ายังรู้สึกเหนื่อยอยู่เลย อย่างน้อยขอเพียงให้
ข้าได้พักสักหน่อย "
ทั้งสองทาการชาระล้างเนื้อตัวพร้อมกับใส่เสื้อผ้าเพื่อออกมาพบ
กับหญิงสาวที่เหลือ เมื่อพวกนางทั้งสี่ได้เห็นหัวหน้าของพวกนางอีก
ครั้ง ใบหน้าตกตะลึงปรากฎขึ้นในทันทีราวกับว่าหัวหน้าของพวก
นางนั้นได้รับพรจากสวรรค์ให้สามารถย้อนวัยกลับไปในวัยสาวได้
อีกครั้ง ผิวหนังของนางดูชุ่มช่าและเนียนนุ่มเสียจนพวกนางยังต้อง
อาย
ฉีหลิน และลีเซียนในตอนแรกพวกนางยังคงกังวลเกี่ยวกับกา
ตัดสินใจของพวกนางแต่เมื่อได้เห็บภาพตรงหน้าแล้วความกังวล
ของพวกนางยังคงมีค่าใดอีก ? ไม่เพียงแต่หัวหน้าของพวกนางไม่มี
ทีท่าเคืองโกรธแต่ใบหน้าของนางนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขชนิด
ที่พวกนางอยู่ด้วยมาอย่างยาวนานยังไม่เคยพบเห็น ทั้งหมดนี้
เกิดขึ้นจากฝีมือหนุ่มน้อยผู้นี้ ?
สาหรับหวางเฟยและหมิงเลี่ยนนั้นแน่นอนว่าเมื่อพวกนางได้รับ
ความสุขของหญิงสาวแล้วนั้นสภาพในตอนแรกของพวกนางทั้ง
สองไม่ต่างจากฟ่งซือเซียนมากเท่าใดเพียงแต่ว่าในค่าคืนที่ผ่านมาที่
พวกนางต้องทนฟังเสียงร่าร้องบทเพลงรักที่เกิดขึ้นมันทาให้พวก
นางไม่สามารถหลับลงได้อย่างง่ายดาย มันจึงทาให้พวกนางมีสภาพ
แย่ลงเล็กน้อย
" หัวหน้าพลังของท่าน......... "
ได้ยินคากล่าวของฉีหลินทุกคนพลันให้ความสนใจไปที่ฟ่งซือ
เซียนแม้แต่ตัวของหญิงสาวนั้นก็ได้ลืมเรื่องนี้ไปเสียนานแล้ว
แม้ว่าฉีหลินจะไม่สามารถสัมผัสพลังที่แน่ชัดได้แต่กย็ ังคงสามารถ
รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาของหัวหน้านางแบบก้าว
กระโดด
ฟ่งซือเซียนทาสมาธิอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับส่ง
จิตเพื่อเข้าไปทาการสารวจต้นเถียนภายใน พริบตาเดียวนางลืมตา
ตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขยิ่งกว่าเคย หญิงสาวทั้งสี่แน่นอนว่า
พวกนางสามารถคาดเดาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้บ้างเพียงแต่ว่าพวก
นางยังคงต้องการรับรู้ว่าหัวหน้าพวกนางก้าวหน้ามากเพียงใด
" น้องหญิงมันเป็นเช่นไร "
" ฮิฮิ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านพี่จริงๆ ในที่สุดข้าก็สามารถ
ก้าวข้ามระดับจอมยุทธ์ได้แล้ว ! "
สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงแม้จะรู้ความสามารถ
ของหลินหมิงกันอยู่แล้ว แต่ใครบ้างเหล่าจะไม่ตื่นเต้นกลับ
สถานการณ์เช่นนี้สามารถก้าวผ่านระดับจอมยุทธ์ไปสู่ระดับ
ปรมาจารย์ได้เพียงชั่วเวลาข้ามคืนเช่นนี้แล้วเหล่าปรมาจารย์ที่
ฝึกฝนมานับสิบปีนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าไร้ค่าหรอกหรือ ?
เนื่องจากในที่นี้ทุกคนล้วนมีพลังที่น้อยกว่าฟ่งซือเซียนดังนั้น
แล้วพวกนางจึงไม่สามารถทาการตรวจสอบพลังของนางได้ ดังนั้น
แล้วจึงมีแต่ตัวของนางเองเพียงเท่านั้นที่สามารถรับรู้ความ
เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เพียงการก้าวข้ามระดับอย่างธรรมดา
ทั่วไป ในตอนนี้พื้นฐานพลังระดับปรมาจารย์ของนางเองก็ถูก
ก่อสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์จนน่าตกใจ
ในเรื่องนี้ด้วยลาพังอายุของนางเพียงเท่านี้นางไม่อาจคาดฝันได้
เลยว่าในอนาคตนางจะสามารถพัฒนาไปได้มากเพียงใด
สีหน้าของฉีหลินและลีเซียนพลันแปรเปลี่ยนไปแน่นอนว่าใน
ตอนแรกแม้พวกนางจะได้ยินคากล่าวอ้างมาจากหมิงเลี่ยนและ
หวางเฟย แต่พวกนางยังคงไม่ปักเชื่อใจนัก เทียบกับภาพตรงหน้านี้
แล้วพวกนางยังคงสามารถหาคากล่าวปฎิเสธใดได้อีก พวกนางทั้ง
สองมองไปที่หลินหมิงด้วยสายตาอยากเดาอารมณ์
" ท่านพี่แล้วจากนี้ไปท่านจะทาเช่นใดต่อ... "
ฟ่งซือเซียนกล่าวถามหลินหมิงด้วยน้าเสียงอบอุ่น แน่นอนว่า
เมื่อนางได้รับการพัฒนาอย่างก้าวหน้าเช่นนี้แล้วสาหรับบงกช
เหมันต์นั้นย่อมไม่ได้สาคัญกับนางมากนัก ที่นางเป็นกังวลในตอนนี้
คือการที่นางจะต้องจากลาสามีหนุ่มของนางต่างหาก
" อันที่จริงแล้วข้าเองก็มีเรื่องที่จะให้พวกท่านช่วยสักเล็กน้อย "
ฟ่งซือเซียนตาเป็นประกายในทันที หมิงเลี่ยนและหวางเฟยก็
เช่นเดียวกันในตอนี้พวกนางทั้งสองเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากแล้วที่
บริเวณส่วนล่าง รวมกับการที่ต้องฟังเสียงครางระงมทั้งคืนที่ผ่านมา
มีหรือที่พวกนางจะสามารถอดกลั้นไว้ได้นาน เช่นเดียวกันกับฉีหลิน
และลีเซียนตาของพวกนางเต็มไปด้วยประกายความหวังบางอย่าง
" ท่านพี่โปรดกล่าวมาไม่ว่าท่านต้องการสิ่งใดข้ายินดีหามามอบ
ให้ กระทั่งบงกชเหมันต์บนยอดเขานี้ในตอนนี้มันก็ไม่ได้เกินมือข้า
เลยแม้แต่น้อย "
" น้องหญิงเรื่องที่ข้าจะรบกวนเจ้านั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
เท่านั้นสาหรับเจ้าในตอนนี้ "
" ข้ายินดีทาตามขอของท่านทุกเรื่องเจ้าคะ "
" ข้าก็เพียงต้องการมอบบทเรียนให้กับคนผู้หนึ่งก็เท่านั้นเอง "

ตอนที่ 78
ในตอนนี้หลังจากที่ร่วมรักกับฟ่งซือเซียนแล้วนั้นระดับพลังของ
หลินหมิงล้วนถูกพัฒนาขึ้นมาอีกครั้งอย่างน่าตกใจจนอยู่ในระดับ
ปราณก่อเกิดขั้นที่ 6 แล้วด้วยระดับพลังในตอนนี้แม้แต่ผู้ที่มีพลัง
ระดับจุดสูงสุดปราณก่อเกิดก็อาจไม่ใช่คู่มือของเขาแต่ถึงอย่างไร
หลินหมิงก็คงยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผู้ทมี่ พี ลังปราณจอม
ยุทธ์อย่างฉีหลิน และลีเซียนที่มกี ระทั่งปราณจอมยุทธ์ระดับหนึง่ ได้
อยู่ดี
ฟ่งซือเซียนนั้นสามารถเข้าใจในความหมายของสามีหนุ่มของ
นางได้อย่างทันที แม้ว่าสามีของนางจะมีอายุที่อยู่ในวัยหนุ่มซึง่ ส่วน
ใหญ่แล้วผู้คนในวัยอย่างสามีนางนั้นการที่พวกเขาจะมีอารมณ์คึก
คะนองปราถนาในเรือนร่างของหญิงสาวที่สวยงามล้วนไม่ใช่เรื่อง
แปลก ถึงอย่างนัน้ มันก็ไม่มีใครที่จะนิยมชมชอบสตรีที่มีอายุ
มากกว่าหลายสิบปีเช่นนี้
พวกเขามีความเชื่อกันว่าการที่พวกเขามีอารมณ์หรือแสดง
ความต้องการให้กับหญิงสาวที่มีอายุกว่าตนเองมากกว่าหลายปีนั้น
มันเปรียบเสมือนว่าพวกเขายังคงไม่เติบโต มันเหมือนกับว่าพวก
เขายังคงต้องการความรักความเอ็นดูจากมารดาอยู่อย่างใดอย่างนั้น
แต่กับสามีนางนั้นเขาไม่สนใจในเรื่องเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าการร่วมรักที่ผ่านมาของสามีนาง ย่อมไม่เกิดจาก
ผลประโยชน์ที่เขาปราถนาในตาแหน่งของนางอย่างแน่นอน
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาจะยังคงสามารถบรรเลงเพลงรักที่เร้าร้อนเช่นนั้น
ได้ ?
ไม่เพียงแต่จะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับสามีหนุม่ นี้ยังคงเป็น
โอกาศดีสาหรับนางในการล้างตาหญิงสาวผู้นั้น แม้ว่านางจะรู้สึกไม่
พอใจสักเล็กน้อยที่หญิงสาวผู้นั้นจะได้รับความสุขเช่นเดียวกันกับ
นาง และด้วยความงามของหญิงสาวผู้นั้นอาจกล่าวได้ว่าแม้ในยาม
นี้นางก็ยังคงไม่สามารถนาไปเปรียบเทียบได้
" น้องหญิงเจ้าจะกังวลไปทาไมกันเล่า แม้ว่านางจะมีความงาม
มากกว่าเจ้าแต่มีหรือที่นางจะสามารถมอบความสุขให้ข้ามากได้เท่า
เจ้าแล้วเช่นนี้เจ้ายังคงมีเรื่องอันใดที่ต้องกังวลอีก "
" เจ้าคะ ! "

ฟ่งซือเซียนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมกับกอดรัดแขน
ของหลินหมิงเอาไว้อย่างหนาแน่น
แม้ว่าหลินหมิงจะกล่าวเช่นนั้นออกไปแต่เป็นที่แน่นอนว่าผู้
อาวุโสฟางซิ่นคงไม่ปรากฎตัวออกมาในเร็วนี้ ด้วยเพราะบาดแผลที่
นางได้รับจากฟ่งซือเซียนด้วยแม้นางจะอาจเรียกได้ว่าเป็นฝ่ายมีชัย
เหนือฟ่งซือเซียนแต่มันก็ย่อมแลกมาด้วยความลาบากอยู่ไม่ใช่น้อย
และตามความเห็นของฟ่งซือเซียนทีก่ ล่าวกับหลินหมิงนั้นเป็นไปได้
ว่านางอาจต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่ถึง 2-3 วันเป็นอย่างน้อย
สาหรับฟ่งซือเซียนแล้วนัน้ การที่นางได้รับการพัฒนาอย่างก้าว
กระโดดจากการร่วมบรรเลงเพลงรักกับหลินหมิงนัน้ ทาให้ร่างกาย
ของนางเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล บาดแผลทุกอย่างล้วนฟื้นตัว
ขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจจะเหลือเพียงก็แต่ร่องสวาทของนาง
เพียเท่านั้นทียังคงมีความรู้สึกเจ็บแสบอยู่บ้าง
" ชะ...เช่นนั้น..ท่านสามารถมอบความสุขให้กับข้าอีกครั้งได้
หรือ "
" ขะ...ข้าก็ด้วย "
หวางเฟยและหมิงเลี่ยนกล่าวออกมาพวกนางเป็นกังวลกับ
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้หัวหน้าของพวกนางได้ตกลงอย่าง
เป็นหมั้นเป็นหมายว่าให้หลินหมิงเป็นสามี แล้วเช่นนี้พวกนางทั้ง
สองยังจะสามารถเป็นภรรยาของเขาต่อไปได้ ? สาหรับฟ่งซือเซียน
นางไม่มีความคิดที่จะยกสามีของนางผู้นี้ให้กับใครเป็นแน่
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัย 15 ปีแต่แล้วอย่างไรเล่าด้วยลี
ล่าท่วงท่าของเขานางมั่นใจว่าแม้แต่นางโลคีชั้นสูงยังคงต้องมอบ
กราบสามีของนางเป็นแน่ ไม่เพียงเท่านั้นด้วยพรสวรรค์และความ
แข็งแกร่งของเขาก็เรียกได้ว่าอัจริยะอย่างแท้จริงได้อย่างไม่อายใคร
และนี้ยังไม่รวมถึงความสามารถแปลกประหลาดทีส่ ามารถเพิ่ม
ขีดจากัดความสามารถของผู้คนได้ แล้วมันจะยังคงมีเรื่องอันใดน่า
อายที่นางจะรับเด็กหนุ่มเป็นสามีกันเหล่า
แต่หากเมื่อนางลองคิดใตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนดูแล้วนัน้ ภาพของ
ค่าคืนวานอันแสนร้อนแรงกลับเข้ามาในห้วงความคิดของนางอีก
ครั้ง มันคงเป็นไปไม่ได้สาหรับนางที่จะสามารถทาให้สามีนางพอใจ
ได้โดยง่ายขนาดที่ว่านางพยายามอดกลั้นฝืนทนอย่างสุด
ความสามารถแต่มันเห็นได้ชัดว่าสามีหนุ่มของนางนั้นยังคงมี
อารมณ์ความต้องการที่มากล้นเหลือจริงๆ
เช่นนั้นแล้วหญิงสาวสมาชิกในกลุ่มของนางล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี
ที่สุดสาหรับการแบ่งเบาภาระการมอบความสุขให้กับหลินหมิงไม่ใช่
เช่นนั้นหรือ
" พวกเจ้าทั้งสองไม่ต้องกังวลเกียวกับข้าอย่างไรเสียพวกเจ้าทั้ง
สองก็ขึ้นชื่อว่าได้เป็นภรรยาของเขาแล้วดังนั้นพวกเจ้าสมควรมอบ
ความสุขให้แก่สามีให้มากที่สุด "
ได้ยินเช่นนั้นทั้งหวางเฟยและหมิงเลี่ยนตาพลันแสดงสีหน้ายินดี
ขึ้น แม้ว่าพวกนางจะรู้ว่าพวกนางอาจต้องเป็นภรรยาที่มีลาดับ
ความสาคัญน้อยกว่าหัวหน้าพวกนาง ซึ่งหากเป็นบุรุษโดยทั่วไป
แล้วคงยากที่พวกนางจะได้รับความสุขจากสามีแต่เด็กหนุ่มผู้นไี้ ม่สิ
สามีของพวกนางหาได้ใช่คนธรรมดาอย่างนั้นไม่ ไม่เพียงแต่พวก
นางจะไม่ขาดความสุขที่ได้รับจากเขาแต่มันกลับตรงกันข้ามเสีย
มากกว่า
" เช่นนั้นมือเช้านี้ของข้าคงเป็นภรรยาทั้งสามแล้ว "
" ขะ..ข้าขอดูด้วยได้ไหมเจ้าคะ "
" ขะ..ด้วยเจ้าคะ "
ฉีหลินและลีเซียนกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงตะกุกตะกักพวกนาง
ยังคงไม่แน่ใจนักสาหรับการที่จะยอมพลีกายและตกเป็นหญิงสาว
ของเด็กหนุ่มผู้นี้ แม้วา่ เมื่อดูจากรูปร่างภายนอกเขาจะดูงดงามมี
ราศีแต่นั้นเป็นเพียงความงามของบุรุษที่สามารถหาได้ไม่ยากนัก จุด
ที่พวกนางทั้งสองสนใจจริงๆนั้นคือความสามารถของเขาต่างหาก
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความสามารถเชิงต่อสู้อย่างเช่นระดับพลัง
หรือทักษะแต่เป็นความสามารถที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครที่
สามารถเพิ่มขีดจากัดให้กับหญิงสาวผ่านทางการร่วมรัก และการ
มอบความสุขให้กับหญิงสาวต่างหาก ดังนั้นแล้วพวกนางจึงอยาก
เห็นสิ่งเหล่านี้แม้ว่ามันจะดูน่าอายไปบ้างก็ตามที่
ฟ่งซือเซียนพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจตัวนางยังคงรู้สึกอ่อนล้า
บริเวณช่วงล่างอยู่เลยและคงไม่สามารถปรนนิบัตสิ ามีได้แต่ถึงอย่าง
นั้นไม่ใช่ว่าท่วงท่าที่บุรุษของนางได้ใช้ในค่าคืนที่ผ่านมานั้น
จาเป็นต้องใช้เพียงร่องสวาทของหญิงและทวนของบุรุษเพื่อหา
ความสุขไม่
ฟ่งซือเซียนเกาะแขนนาสามีของนางเข้าไปยังรังรักที่นางและ
เขาได้ร่วมบทเพลงกันในคืนที่ผ่านมาอีกครั้งโดยมีร่างของหญิงสาว
อีกสี่คนตามมาติดๆ

ตอนที่ 79
หลายชั่วยามผ่านไป
หลินหมิงกาลังนอนอย่างสบายใจด้วยร่างกายเปลื่อยเปล่าอยู่บน
ตักของฟ่งซือเซียน พร้อมกับร่างของหมิงเลี่ยนและหวางเฟยที่
กาลังนอนหลับด้วยใบหน้าอันพึงพอใจโดยที่เรื่อนร่างของพวกนาง
ทั้งสองในตอนนี้ถกู ปกคลุมด้วยผ้าพื้นบางคนละชิดเพียงเท่านั้น อีก
ทั้งที่บริเวณส่วนล่างของพวกนางทั้งสองยังคงปรากฎหลักฐานแห่ง
ความสุขที่พวกนางได้รับจากหลินหมิงอย่างท่วมท้น
พวกนางไม่มีความสงสัยเลยว่าในตอนนี้ชีวิตของพวกนางทั้ง
สองคงไม่สามารถขาดเด็กหนุ่มผู้นี้ไปได้แล้ว ลีลาความสุขที่เขาได้
มอบให้แก่พวกนางนั้นมันช่างยอดเยี่ยมเสียยิ่งกว่าในครั้งแรกอย่าง
ไม่ต้องสงสัย อาจเป็นเพราะที่บริเวณร่องสวาทของพวกนางนั้นเริ่ม
ที่จะสามารถปรับตัวได้อย่างน่าตกใจและมันทาให้ความเจ็บปวด
ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในตอนที่ศูญเสียพรหมจรรย์ในครั้งแรกราวกับ
เป็นเรื่องโกหกไปในทันที
" น้องหญิงแล้วเจ้าไม่สนใจบ้างเช่นนั้นรึ "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับเอิ้อมมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าของฟ่งซือ
เซียนที่เป็นที่หนุนศรีษะของเขาในตอนนี้ นางยังคงไม่สามารถที่จะ
ร่วมรักกับหลินหมิงได้ในตอนนี้ไม่ใช่ว่าเพราะนางไม่ต้องการ
เพียงแต่ว่าหากเป็นเช่นนั้นนางคงได้หลับไม่ได้สติไปหลายวันเป็นแน่
" แน่นอนว่าข้าย่อมต้องการความรักจากท่านพี่เพียงแต่ตัวข้าใน
ยามนี้ยังคงต้องการพักฟื้นอีกสักเล็กน้อยและหากข้าได้ร่วมบทเพลง
กับท่านแล้วละก็ข้าเกรงว่าแผนการณ์ของท่านพี่อาจต้องล้มเหลว
"
" งั้นก็ช่างเรื่องนั้นมันเสีย "
" โปรดอย่าได้กล่าวเช่นนั้นตัวข้าเองนั้นก็ยังคงมีความแค้นเคือ
ยงกับหญิงสาวผู้นั้นอยู่ และด้วยนางเองก็เช่นเดียวกันดังนั้นแล้ว
หากข้าอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมเกรงว่าเมื่อนางมาถึงแม้ข้าจะได้รับ
ความก้าวหน้าจากท่านมาแล้วก็อาจเกิดเรื่องผิดพลาดได้เจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนอบอุ่นในหัวใจให้กับสามีหนุ่มของนางผู้นี้เขากระทั่ง
กล้าทิ้งแผนการณ์รวบหัวรวบหางหญิงสาวสูงศักดิน์ างนั้นเพียงเพื่อ
ต้องการหาความสุขจากนางที่ตกเป็นของเขาแน่นอนอยู่แล้ว
โดยที่ไม่ได้ใส่ใจสายตาของหญิงสาวอีกสองคนที่อยูภ่ ายในที่แห่ง
นี้ ฉีหลิน และลีเซียนแน่นอนว่าพวกนางอยู่ตั้งแต่หลินหมิงได้กระทา
การร่วมรักกับเพื่อนสาวของนางอย่างร้อนแรง ถึงพวกนางจะเคยได้
ยินคากล่าวเล่าจากเพื่อนมาก่อนหน้าแต่เมื่อได้เห็นของจริงแล้วนั้น
มันเกินกว่าที่จินตานาการของพวกนางทั้งสองคาดเอาไว้มาก
' มันใหญ่เกินไปไม่ใช่หรือ ? ' ' เหตุใดหมิงเลี่ยนกระทั่งหวางเฟ
ยถึงได้มีทีท่าความสุขเช่นนั้น ? '
พวกนางสับสนกับบทรักอันร้อนแรงของหลินหมิงมากเห็นได้
อย่างชัดเจนว่าทวนมังกรของเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่สิ่งทีส่ ตรีสามารถ
ต่อกรได้เลยแม้แต่น้อยอีกทั้งมันยังคงมีคุณสมบัติอนั ่าเหลือเชื่อนั้นก็
คือความไม่เสือมถอยลงเลยแม้แต่น้อย พวกนางได้ยินเสียงครางร้อง
ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของเพื่อนสาวทั้งสองแบบที่ไม่เคยพบเห็น
หลังจากที่ได้เห็นบทรักอันแสนยาวนานเช่นนี้แล้วร่องสวาทของ
พวกนางทั้งสองพลันเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดจะว่าอาการมัน
ก็ไม่เชิง มันเป็นความรูส้ ึกแปลกประหลาดที่ราวกับร่างกายรู้สึกไม่
สบายอุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุพร้อมกับ
ลมหายใจที่หนักหน่วงด้วยเช่นเดียวกัน
" งั้นหลังจากจบเรื่องนี้ข้าจะมอบความสุขให้แก่เจ้าไปอย่าง
ยาวนานเลยน้องหญิงของข้า "
" ฮิฮิ ขอจะรอเจ้าคะ...เพียงแต่ก่อนหน้านั้นดูเหมือนว่าจะมีผู้คน
ที่ต้องการให้ท่านพี่ช่วยบรรเทาทุกข์ให้เสียแล้วเจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างของฉีหลิน
และลีเซียนนางมั่นใจอยู่แล้วว่ามันคงไม่มีสตรีใดในโลกนี้ที่สามารถ
ทนเห็นบทรักนี้โดยไม่มีอารมณ์เกิดขึ้นขนาดนางเองที่ได้รับมันมา
เมื่อค่าคืนวานนี้แท้ๆยังแทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยูเ่ ลย
" ขะ..ข้าไม่ไหวแล้วหัวหน้า ร่างกายข้ามันรู้สึกแปลกๆ ได้โปรด
ช่วยข้าด้วย "
" ข้าเองก็ไม่ไหวแล้วเจ้าคะ มันร้อนรุ่มไปหมดจะหายใจยังรู้สึก
ลาบากเลยเจ้าคะ "
หลินหมิงจ้องมองไปที่ร่างของหญิงสาวทั้งสองที่ยังคงนั่งพับขา
ด้วยท่าทีไร้ซึ่งเรี่ยวแรง พวกนางใช้มือทั้งสองโอบกอดร่างของ
ตนเองเพื่อต้องการบรรเทาความทรมานที่เกิดขึ้นแต่ดูเหมือนว่ามัน
จะไม่เป็นผลนัก
" เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านพี่ ด้วยหน้าตาของพวกนางนั้น
เรียกได้ว่างดงามไม่แพ้หมิงเลี่ยนหรือหวางเฟยที่ได้ตกเป็นของท่าน
ไปแล้ว พวกนางทั้งสี่ลว้ นเป็นบุปผางามที่บุรุษทัง้ หลายล้วนใฝ่ฝัน
"
" เจ้าเองก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กนั ....งั้นข้าคงต้องช่วยเหลือพวกนางสัก
หน่อย "
หลินหมิงเดินมาทางฉีหลินและลีเซียนพร้อมกับประคองร่างพวก
นางทั้งสองให้ขึ้นไปนั่งบนโขนหินที่ห่างกันไม่มากนัก หลินหมิงทา
การลูบไล้จากบริเวณข้อเท้าของพวกนางทั้งสองอย่างเชื่องช้าผ่าน
ขาเรียวงามจนกระทั่งขึ้นมาถึงต้นขาร่างกายของหญิงสาวสั่นไปมา
ด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย เพียงแต่ว่าในตอนนี้พวกนางรู้ดีขึ้น
เมื่อยามที่หลินหมิงได้สัมผัสไปที่เรือนร่างของพวกนาง
ขาทั้งสองข้างของหญิงสางทั้งสองถูกแหวกออกโดยที่พวกนาง
ยังคงไม่ทันได้รู้สึกตัวหลินหมิงก้มไปมองก็พบว่าร่องสวาทของพวก
นางนั้นแฉะเยิ้มราวกับทารักที่ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะของตนเองใน
ยามดึกได้ หญิงสาวทั้งสองเมื่อพลันรู้สึกตัวใบหน้าของพวกนางเต็ม
ไปด้วยความแดงซ่าน แต่ถึงเช่นนั้นพวกนางทั้งสองก็ยังคงปล่อย
กายให้หลินหมิงทาตามอาเภอใจพร้อมกับรับมือกับความสุขที่ได้
จากหลินหมิง
" งั้นเริ่มจากเจ้าก่อนก็แล้วกัน "
เป็นฉีหลินที่หลินหมิงได้กล่าวกับนางศรีษะของหลินหมิงเข้าใกล้
มาสู่จุดอันตรายของหญิงสาวจนนางแทบไม่กล้าเปิดตามอง
แผล็บบ
" อ้าาาาาาา ~~~~~ นะ...นี้มัน...ยอดเยี่ยมจริงๆเจ้าคะ "
เมื่อเจอกับการตวัดลิ้นโลมเลียร่องสวาทฉีหลินถึงกับครางร้อง
เสียงหลง เพียงแค่ในตอนที่ลิ้นของหลินหมิงยังไม่ทันได้สัมผัสมี
เพียงแค่ลมหายใจของเขาที่ยังคงจ่อรดร่องสวาทของนางอยู่นั้นมัน
ก็แทบจะทาให้นางอดทนไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ที่นาง
โดนเขาโลมเลียร่องสวาทราวกับจะทาความสะอาดมันเสียหมด
ถึงแม้จะได้ดูทว่ งท่าบทรักเช่นนี้มาก่อนหากแต่เมือ่ เทียบกับของ
จริงแล้วนั้นนางรู้ได้ทันทีว่านางประเมินตัวของหลินหมิงต่าไป นี้
อาจเรียกว่าเป็นหนึ่งในท่วงท่าของเขาที่สามารถมอบความสุขให้กับ
หญิงสาวนางแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าหากนางได้รับท่วงท่า
อย่างอื่นเล่า
" ลิ้น..ของท่าน...เข้าไปลึกมาก....อู้วววว ~~~~~~~~ "
เมือเห็นเช่นนี้มีหรือที่ลีเซียนางจะสามารถทนได้กระทั่งเพื่อน
ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับนางในตอนแรกยังแปรเปลี่ยนไปได้เสีย
ขนาดนี้เพียงแค่ท่วงท่าเดียว นางก็เหมือนกับยอมตกเป็นของเจ้า
เด็กหนุ่มนี้เสียแล้ว ในตอนนี้นางแทบจะทนรอไม่ไหวอีกต่อไปสัมผัส
ความสุขใดกันที่สามารถทาให้เพื่อนนางเป็นเช่นนี้ได้กัน
" ได้โปดรดทามันกับข้าด้วย.... "
เนื่องจากลิ้นของหลินหมิงยังคงตวัดอยูก่ ับร่องสวาทของฉีหลิน
ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่สามารถทามันกับลีเซียนได้แต่ถึงอย่างนั้นมือ
ข้างหนึ่งของหลินหมิงก็ได้ล้วงเข้าที่ร่องสวาทของนางอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับนิ้วสองนิ้วของเขาที่เข้าไปสารวจโพร่งร่องสวาท
" อ้าาา ~~~~~~~~~ "
มันจงจะเกินไปหน่อยสาหรับหญิงสาวแรกบริสุทธ์ที่ต้องทน
รับมือกับสองนิ้วในทีเดียวแต่ถึงอย่างนั้นลีเซียนนางก็ยังคงจับท่อน
แขนของหลินหมิงเอาไว้โดยไม่หันแขนของเขาห่างออกไปไหน
" ระ...เร็วไปแล้ว...อ้าาา อ้าาา ไม่ไหวแล้ว "
หญิงสาวทั้งสองปลดปล่อยน้ารักใสๆออกมาจากร่องสวาทของ
พวกนางเป็นจานวนมาก และไหลงมาที่ขาพวกนางอย่างเย้ายวน
" เอาละที่นี้ก็ตาพวกเจ้าบ้างแล้ว "
ฉีหลิน และลีเซียนยังไม่ทันหายเหนื่อยจากการเสร็จสมพวกนาง
ทั้งสองถูกทาให้กลายเป็นเครื่องบาเร่อของหลินหมิงไปเสียแล้ว
" แบบนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ "
" อาา..ดีมากตวัดลิ้นของเจ้าอย่างนั้นละ ใช้มือลูบมันด้วย "
พวกนางทั้งสองไม่อยากจะเชื่อว่าต้องทาอะไรเช่นนี้ขนาดเหล่า
หญิงสาวโลคียังคงไม่ต้องมาทาอะไรเช่นนี้ แต่เมื่อผ่านไปเพียงชั่วครู่
พวกนางกลับรู้สึกว่าทวนมังกรของหลินหมิงนั้นได้สร้างความโหย
หาให้กับพวกนางอย่างบอกไม่ถกู รสชาติที่ลิ้นของพวกนางยามได้
สัมผัสมันแทบจะทาให้ทั้งร่างกายหลอมละลายไปด้วยความรู้สึก
ร้อนรุ่น กลิ่นคาวที่แผ่ออกมานั้นแม้จะไม่เรียกได้วา่ หอมหวญแต่มัน
กลับสร้างความเพลิดเพลินให้กับพวกนางอย่างน่าประหลาด

ตอนที่ 80
ฉีหลินกับลีเซียนในตอนแรกนางพวกนางคิดคาดหวังในตัวของ
หลินหมิงเพื่อการยกระดับอันก้าวกระโดดของตนเอง เพียงแต่
ในตอนนี้สภาพของพวกนางไม่แตกต่างจากทาสกามอารมณ์ของ
หลินหมิงไปแล้ว ลิ้นของพวกนางที่กาลังโลมเลียทวนมังกรของ
หลินหมิงไปทัง้ แท่ง หากไม่ใช่บุรุษที่มีขนาดทวนมังกรใกล้เคียงกับ
เขามันคงเป็นไปได้ยากทีจ่ ะทาเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยขนาดทวน
ปกติโดยทั่วไปเพียงแค่มนั ต้องรับมือกับลิ้นของสตรีเพียงหนึ่งก็
นับว่าเต็มกลืนแล้ว
ทวนมังกรแท่งอวบถูกหญิงสาวทั้งสองลูบไล้สัมผัสและโลมเลีย
กระทั่งนาไปถูทีใบหน้าพวกนางอย่างไม่มีความอาย สิ่งนี้
เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ของพวกนางไปแล้ว เมือ่ หวนคิดถึงเพื่อน
สาวของพวกนางทั้งสองอย่างหมิงเลี่ยนและหวางเฟยหญิงสาวทั้ง
สองรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย ด้วยการที่พวกนางจะต้องตกเป็นของ
เด็กหนุ่มผู้นี้ในไม่ช้าแต่สถานะของพวกนางอาจด้อยกว่าเพื่อนสาว
ทั้งสอง
เพราะด้วยการที่พวกนางนั้นมาทีหลัง อีกทั้งสาหรับลีเซียนนาง
ยังเคยกระทั่งทาร้ายหลินหมิงมาก่อน เช่นนี้แล้วพวกนางยังจะได้รับ
ความสุขเท่ากับเพื่อนสาวทั้งสองอีกหรือ ไม่ต้องกล่าวถึงหัวหน้า
พวกนางอย่างฟ่งซือเซียนด้วยสถานะของนางนั้นเรียกได้ว่าสูงส่ง
อย่างยิ่งในตอนนี้เรียกได้ว่าแม้แต่ในเมืองหลวงตอนนี้ก็สามารถหา
คนขัดใจนางได้ยากยิ่งแล้ว แล้วยิ่งการที่ได้เห็นหลินหมิงให้ความ
เอาใจใส่หัวหน้าพวกนางดีเกินหน้าใครอื่นเช่นนี้เป็นที่ชัดเจนว่า
หัวหน้าพวกนางนั้นมีความสาคัญต่อหลินหมิงมากกว่าพวกนาง
" อ้าปากสิ...ข้าจะไม่ไหวแล้ว "
ฉีหลินและลีเซียนทาตามอย่างว่าง่ายพวกนางสามารถสัมผัสได้
ว่าทวนมังกรของหลินหมิงมีการสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมกับตัว
ทวนที่ดูเหมือนจะมีขนาดขยายใหญ่ขึ้นอยู่ชั่วขณะ น้ารักจานวน
มากของหลินหมิงได้พุ่งทะยานลอยเข้าสู่ภายในปากของหญิงสาว
ทั้งสองพร้อมกับเรือนร่างของพวกนางก็ยังคงประดับไปด้วยน้ารัก
ของหลินหมิงด้วยเช่นเดียวกัน
หญิงสาวทั้งสองเพียงได้สมั ผัสน้ารักของหลินหมิงร่างกายของ
พวกนางพลันรู้สึกตื่นตัวขึน้ มา
' นี้มันยาวิเศษใดกัน ! '
พวกนางอาจพอคาดเดาได้ว่าน้าที่พวกนางดื่มกลืนลงไปนั้นคือ
สิ่งใดเพียงแต่ว่าหากคิดถึงรสชาติและสิ่งที่พวกนางได้รับในตอนนี้
มันสมควรเรียกได้ว่าน้าทีม่ าจากเจ้าทวนมังกรของบุรุษได้อีกหรือ
ด้วยน้ารักของหลินหมิงการที่น้าศักดิ์สิทธ์หรือโอสถต่างๆทีต่ ่างล้วน
ได้รับคากล่าวอ้างว่าเป็นน้าที่มีคุณค่าและรสอันโอชะแต่หากเทียบ
กับน้ารักของเด็กหนุ่มผู้นสี้ ิ่งเหล่านั้นจะยังสามารถนามาเปรียบได้
อีกอย่างนั้นหรือ
หลินหมิงขึ้นไปคร่อมร่างของฉีหลินเอาไว้พร้อมกับค่อยๆนาทวน
ของเขาเข้าไปในร่างของนาง รสชาติความของหญิงสาวบริสุทธ์นั้น
มันไม่ใช่แค่เพียงร่องสวาทของพวกนางเท่านั้นแต่มันยังคงเป็น
ท่าทางของพวกนางที่ยังคงตอบสนองต่อบุรุษได้ไม่ดีนัก แต่ถงึ อย่าง
นั้นมันกลับทาให้หญิงสาวเหล่านั้นดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีกแบบ
" มะ...มันค่อยๆเข้า..มาแล้วววว "
เนื้อเยื่อพรหมจรรย์ของนางค่อยๆถูกทาลายลงอย่างเชื่องช้าแต่
ใบหน้าของหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความสะใจ เพียงแค่ส่วนปลาย
ทวนสามารถมุดเข้ามาที่ร่องสวาทได้ฉีหลินก็แทบจะไม่สามารถ
บรรยายความสุขที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใด
หัวหน้าของนาง หมิงเลี่ยนและหวางเฟยนั้นถึงได้มที ีท่าต่อหลินหมิง
เช่นนี้
" ซี๊ดดดดด ~~~~ แน่นท้องไปหมดเลย... "
" ข้าจะขยับมันแล้วนะ "
เมื่อหลินหมิงสามารถส่งทวนมังกรเข้ามาจนสุดผนังร่องสวาท
เขาไม่รอช้าทาการขยับสะโพกในทันทีพร้อมมือทั้งสองข้าของเขาที่
เข้าไปลูบไล้ยังเรือนร่างของฉีหลิน
" จากนี้ไปเจ้าเป็นหนึ่งในภรรยาของข้าแล้ว "
" เจ้าคะ...ขะ..ข้า..มีความสุขเหลือเกิน..."
หลินหมิงขยับสะโพกไปอย่างเชื่องช้าเพื่อค่อยๆลิ้มสัมผัสรสชาติ
ของร่องสวาทบริสุทธ์นี้แต่ถึงอย่างนั้นร่องสวาทของฉีหลินก็ยังคงไม่
สามารถอดกลั้นน้ารักของตนเองเอาไว้ได้ ทุกครั้งที่หลินหมิงทาการ
กระแทกทวนเข้าไปในร่องสวาทของนางจะสามารถได้ยินเสียงน้า
กระเฉาะอันเป็นเสียงน้ารักของหญิงสาว
" ขะ..ข้าเองก็อยากได้ของท่านเหมือนกันเจ้าคะ "
เป็นลีเซียนที่กล่าวออกมาหลังจากที่นางต้องทนดูหลินหมิงร่วม
รักกับเพื่อนนางไปได้เพียงชั่วครู่ หากนางไม่ทาเช่นนี้อาจเกรงได้ว่า
นางอาจต้องรอไปอย่างยาวนานจนกว่าจะถึงรอบของนาง หลินหมิง
พลันได้ความคิดดีดีขึ้นมาได้ร่างของหญิงสาวทั้งสองถูกจับให้นอน
คว่ากับพื้นพร้อมกับส่วนบั้นท้ายของพวกนางที่ถูกยกขึ้นมา
ด้วยการที่ร่างกายของหญิงสาวทั้งสองนัน้ ถูกจัดวางให้ไม่ห่างกัน
มากนักมันทาให้หลินหมิงง่ายต่อการที่จะสลับจู่โจมใส่พวกนางทีละ
คน สาหรับฉีหลินนั้นนางไม่ได้มีความรู้สึกโกรธเคืองต่อเพื่อนนางลี
เซียนเลยสักน้อยอันที่จริงแล้วมันกลับเป็นตรงกันข้ามแน่นนอว่า
นางย่อมปราถนาในการร่วมรักกับหลินหมิงอย่างแรงกล้าแต่หาก
ปล่อยให้เขาจู่โจมนางทั้งอย่างนั้นต่อไปนางคงไม่สามารถรับมือกับ
เขาได้อย่างยาวนาน
เทียบกันแล้วหากนางได้ลเี ซียนเขามาช่วยแบ่งเบาความสุขที่
กาลังจะเกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ว่านางจะสามารถร่วมรักกับเขาได้นานขึ้น
อย่างนั้นหรือ
ด้วยการที่อยู่ในสภาพเช่นนี้มันทาให้หญิงสาวทั้งสองไม่สามารถ
มองดูได้ว่าใครกันที่จะเป็นฝ่ายโดนจู่โจมจากหลินหมิง จึงทาให้เกิด
ความรู้สึกตื่นเต่นกับพวกนางเล็กน้อย
" อร้างงงงงง ยะ...ยอดเยีย่ ม...จริงๆด้วย "
เป็นลีเซียนที่ถกู หลินหมิงเข้าเปิดบริสุทธ์เสียก่อนอย่างรวดเร็ว
หลินหมิงไม่ได้ค่อยทาการเสียบทวนเข้าไปดั่งเช่นในคราวของฉีหลิน
แต่เขาเสียบมันเข้าไปในทันที มันทาให้หญิงสาวหน้ามืดไปชั่วขณะ
เลยทีเดียสัมผัสแน่นทีท่ ้องเป็นเครื่องบ่งบอกอย่างแน่ชัดว่าทวน
มังกรของเด็กหนุม่ ผู้นี้มีขนาดใหญ่เพียงใด
" มาอีกแล้วว ~~~~~ "
ฉีหลินที่กาลังใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกายอยู่ได้ไม่นานทวน
มังกรของหลินหมิงก็กลับเข้ามาจู่โจมใส่ร่องสวาทของนางอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าในครั้งนี้หลินหมิงได้จู่โจมขึ้นอย่างหนักหน่วง เสียงก้อน
เนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างเร้าร้อนพร้อมกับเสียงครางของหญิงสาว
หลินหมิงยังทาการสลับจูโ่ จมร่องสวาทของฉีหลินและลีเซียนไป
อย่างยาวนานจนกระทั่งเขาระเบิดน้ารักใส่ร่องสวาทของพวกนาง
ไปคนละหนึ่งครั้งด้วยสภาพของหญิงสาวทั้งสองทีเ่ หนื่อยอ่อนแบบ
สุดๆ พวกนางไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ต้องรับมือกับหลินหมิงจะทาให้
พวกนางเหนื่อยได้ถึงเพียงนี้
แค่พวกนางต้องทนรับน้ารักของหลินหมิงเพียงแค่หนึ่งครั้งมันก็
แทบจะทาให้พวกนางจะบ้าตายไปด้วยความสุข แล้วเหตุใดหัวหน้า
ของพวกนางถึงสามารถทามันได้ทั้งคืนเพียงคนเดียวกัน เมื่อคิดได้
เช่นนี้พวกนางทั้งสองไม่มคี วามลังเลที่จะยื้อแย่งตาแหน่งของ
หัวหน้าพวกนางไปไม่เช่นนั้นแล้วหากกลับกันเป็นฝ่ายพวกนางทั้ง
สองที่โดนจู่โจมทั้งคืนคงเรียกได้ว่าพวกนางอาจไม่สามารถทาอะไร
ได้ไปอีกหลายวัน
ในตอนนี้หลินหมิงกลับไปมาอยู่ในสภาพนอนหนุนตักของฟ่งซือ
เซียนอีกครั้งพร้อมกับที่บริเวณช่วงล่างของเขานั้นได้รับการ
ปรนนิบัติจากฉีหลินและลีเซียนอย่างต่อเหนื่อง แม้ว่าพวกนางทั้ง
สองจะปฎิเสธที่จะร่วมรักกับเขาต่อไปเนื่องจากสภาพร่างกายของ
พวกนางที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บได้ไม่นานแต่พวกนางยังคง
ยินดีที่จะปรนนิบัติหลินหมิงด้วยท่วงท่านี้

ตอนที่ 81
สามวันผ่านไป
ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้แน่นอนว่าหลินหมิงและกลุ่มหญิงสาว
ทั้งห้านั้นไม่ได้ออกห่างไปจากบริเวณเขาอันเป็นที่ตั้งของบงกช
เหมันต์ วันคืนแต่ละวันของหลินหมิงและหญิงสาวทั้งห้าดาเนินไป
อย่างไม่มีความเบื่อหน่ายแม้ว่ากิจวัตรประจาวันของพวกเขาจะไม่
ค่อยต่างจากเดิมในแต่ละวันและส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้เวลาในการ
ขับร้องบทเพลงรักกันเสียส่วนใหญ่ก็ตาม
ในตอนนี้หลังจากที่หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับหญิงสาวทั้งห้า
แล้วไม่น่าเชื่อว่าพลังปราณของเขาในตอนนี้จะก้าวกระโดดจนมา
อยู่ในจุดสูงสุดปราณก่อเกิดระดับ 6 ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมัน
สมควรจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งกว่านี้แม้ว่าหญิงสาวที่เขาทาการ
ร่วมรักด้วยทั้งห้าคนจะมีระดับพลังในขั้นจอมยุทธ์ทั้งหมดก็ตาม
ซึ่งทั้งหมดนีม้ ันเกิดขึ้นได้เพราะหญิงสาวซัคคิวบัสที่เขาได้ร่วม
รักกับนางก่อนหน้ามันทาให้พื้นฐานพลังของหลินหมิงนั้นเรียกได้ว่า
เกินพอสาหรับปราณก่อเกิดแล้วในตอนนี้ เมื่อหวนคิดกลับไปเมื่อ
ยามเขากลับไปที่สมาคมปรุงยาไม่สิเมื่อยามที่เขาได้กลับไปที่เมือง
ฟานชูแล้วยังจะมีรุ่นเยาว์คนใดที่มีความสามารถเทียบเท่ากับเขาได้
อีก
ขนาดศิษย์พี่สาวสวยของเขาอย่างหลัวฉิงเชี่ยนที่ได้รับการ
ขนานว่าเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุดในรุ่นเยาว์ก็ยังคงไม่
สามารถเปรียบเทียบได้ เทียบกับนางที่มีระดับปราณก่อเกิดระดับ 3
ด้วยอายุ 20 ปีหากเทียบกับหลินหมิงในตอนนีท้ มี่ ีอายุเพียง 15 ปี
มันเห็นได้ชัดระหว่างนางและหลินหมิงมีช่องว่างขนาดใหญ่เกินขึ้น
เพียงระยะเวลาไม่นาน
" ท่านพี.่ ..ข้าสัมผัสได้ถึงตัวนางแล้วเจ้าคะ "
เป็นฟ่งซือเซียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทีอ้อนน้อมและอ่อนหวาน
แบบทุกทีเช่นเดียวกันกับหญิงสาวที่เหลือทั้งสี่อย่างหมิงเลี่ยน หวาง
เฟย ลีเซียนและฉีหลิน พวกนางทั้งสี่ได้ตกเป็นของหลินหมิงทั้งกาย
และใจไปแล้วเช่นเดียวกันกับหัวหน้าพวกนาง
หลินหมิงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์แม้ว่าความสุขที่ได้รับจากหญิง
สาวทั้งห้านี้ในสามวันที่ผา่ นมันจะเป็นอะไรที่เขาไม่อยากให้มัน
เลิกราเพียงแต่เมื่อหวนคิดถึงรสชาติสาวงามอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
ขนาดรวมความงามของหญิงสาวทั้งห้าคนนี้เข้าไว้ด้วยกันก็อาจ
เพียงพอแค่สูสีเพียงเท่านั้น
หลินหมิงและกลุ่มหญิงสาวทั้งห้าเดินทางมาหยุดอยู่ที่บริเวณ
ทางขึ้นเขาเพียงไม่นานหลินหมิงก็ได้พบกับร่างหญิงสาวที่แสน
คุ้นเคยอีกครั้ง ใบหน้าเรียวงามพร้อมกับผิวหนังอันเรียบเนียน
สะท้อนแสงแดดในยามเช้าจนเกิดประกายแสงเจิดจ้าสัดส่วนโค้ง
ว้าวของนางนั้นยังเป็นอะไรที่สามารถดึงดูดตาของหลินหมิงได้ทกุ
ครั้งอย่างไม่มีเบื่อ หากจะมีใครที่สามารถหันเหสายตาของเขาจาก
เรือนร่างของหญิงสาวผู้นี้ก็อาจมีเพียงแค่หญิงสาวซัคคิวบัสอย่าง
ซือเฟยหรือเหล่าแม่เทพธิดาที่เหลืออย่างอาจารย์สาวสวย หลิวฉวน
ยูร์และศิษย์สาวสวยของเขาเท่านั้น
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเมื่อได้
เห็นหลินหมิงอยู่ในกลุ่มของหญิงสาวทัง้ ห้า นางไม่คิดมาก่อนว่าใน
ตอนแรกนางจะถูกซ้อนแผน การต่อสู้ระหว่างนางกับหัวหน้าของ
กลุ่มหญิงสาวนี้เป็นแค่การถ่วงเวลาเท่านั้น และนางคงไม่สามารถ
ปล่อยให้หลินหมิงตกอยู่ในอันตรายได้ไม่เช่นนั้นแล้วแม้ว่าจะด้วย
ฐานะของนางแต่ประมุขสมาคมหรืออาจารย์ของเจ้าเด็กผู้นี้คงไม่
ปล่อยเรื่องนี้ไปโดยง่าย
" เอาล่ะข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งหมดหากพวกเจ้ายอมส่งเด็ก
หนุ่มคนนั้นคืนมาแต่โดยดี "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ได้สังเกตท่าทางของเหล่าหญิงสาวเลยว่านาง
ปฎิบัติตัวกับหลินหมิงเช่นไร อาจเป็นเพราะความกังวลภายในใจ
ของนางจึงทาให้นางไม่ทันได้สังเกต
" ไว้ชีวิต ? น่าขัน...เจ้ากล่าวอย่างกับว่าด้วยระดับของเจ้านั้นจะ
สามารถเอาชีวิตของพวกข้าได้ "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นถึงกับสับสนหญิงสาวผู้นี้นางได้รับแรง
กระทบกระเทือนจากการต่อสู้ครั้งก่อนจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว
หรืออย่างไร จริงอยู่ที่ว่าในการต่อสู้ครั้งก่อนนั้นแม้นางจะได้รับ
บาดเจ็บมาเช่นเดียวกันแต่นั้นคงไม่สามารถเทียบได้กับหัวหน้าของ
กลุ่มหญิงสาวทั้งห้านี้ บาดแผลที่นางได้รับส่วนใหญ่เป็นเพียง
บาดแผลเล็กน้อยแต่นางต้องใช้เวลาพักฟื้นพลังปราณในร่าง
ต่างหาก
แล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้นหรือนางจะมั่นใจเมื่อมีกลุ่มสมาชิกสาวมา
เพิ่มอีกสี่คน ? สาหรับการต่อสู้ของผู้ที่อยู่จุดสูงสุดขั้นจอมยุทธ์
ด้วยกันแล้วนั้นขนาดผู้ทมี่ ีพลังปราณจอมยุทธ์ระดับ 7 ยังคงเข้ามา
แทรกแทรงได้ยากแล้วนีน้ ับประสาอะไรกับปราณจอมยุทธ์เริ่มต้น
" เจ้าคงลืมบาดแผลที่ข้าฝากไว้ ? หรือหากเจ้ามั่นใจว่ามีตัว
ประกันแล้วจะทาให้ข้ามีความลังเลแล้วละก็ข้าขอบอกเลยว่าเจ้าคิด
ผิด...ทางเลือกของพวกเจ้ามีเพียงสองหนึ่งคือพวกเจ้าต้องปล่อยตัว
เด็กหนุ่มนั้นแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า..สองหากพวกเจ้าปฎิเสธข้าก็
พร้อมจะบดขยี้พวกเจ้าทั้งหมดลงตรงนี้เสีย "
เดิมทีหลินหมิงเองก็มีความแค้นเคืองกับผู้อาวุโสฟางซิ่นอยู่ไม่
น้อยไม่เพียงแต่นางจะเป็นอาจารย์ของศัตรูของเขาอย่างหลิน
เสี่ยวต้านางยังเป็นคนขัดขวางการแก้แค้นของเขา ซึ่งหาก
ไม่เช่นนั้นแล้วหลินเสี่ยวต้ามันคงไม่ได้มีโอกาสหายใจดั่งเช่นทุกวันนี้
อย่างโดยง่าย ซ้านางยังเป็นคนพาเขาเข้ามายังภายในป่ามรณะแห่ง
นี้ที่เต็มไปด้วยความอันตรายและนางยังคงกล้าปล่อยเขาไว้ตาม
ลาพัง
" บาดแผล ? เจ้าฝันไปหรือเปล่า...แหกตาของเจ้าดูสิว่าส่วนใด
ของร่างกายข้าที่ปรากฎร่องรอยบาดแผลของเจ้ากัน...แน่นอนว่าข้า
ไม่ได้มีจิตใจโหดเ**้ยมเช่นเจ้าหรอกนะ...ข้ายินดีปล่อยให้เจ้ามีชีวิต
ต่อไปไม่ว่าเจ้าจะเลือกต่อสู้กับข้าหรือจะหนีเสียแต่ในตอนนี้....แต่ข้า
ไม่ได้ปล่อยเจ้าไปโดยง่ายหรอกนะเอาไว้อีกไม่นานเดียวเจ้าก็จะ
เข้าใจ "
ฟ่งซือเซียนกล่าวออกมาพร้อมกับเหลือบไปยิม้ ให้หลินหมิง
เล็กน้อย นางต้องยอมรับจริงๆเมื่อได้มาเห็นเรือนร่างของหญิงสาวค่่
แค้นนี้ขนาดนางที่เป็นสตรียังคงที่จะอดชื่นชมไปไม่ได้ไม่แปลกใจที่
สามีหนุ่มของนางจะมีอารมณ์กับหญิงสาวผู้นี้ แต่แล้วอย่างไรเล่าใน
ท้ายที่สุดนางเชื่อว่าต่อให้เป็นหญิงสาวทีม่ ีจิตใจกล้าแข็งเพียงใด
หากต้องเจอกับลีลาเล้าโลมของเด็กหนุม่ เข้าไปแล้วพวกนางก็ยากที่
จะลืมเลือนนี้ยังไม่รวมถึงทวนมังกรขนาดใหญ่และท่วงท่าอันสุด
แสนเร้าร้อนต่างๆไม่มที างที่สตรีใดจะอดใจไว้อย่างแน่นอน
แล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นมีหรือที่สามีของนางจะให้ความสาคัญกับ
นางน้อยกว่า ? แน่นอนว่าไม่แม้ว่าหญิงสาวจะมีความงามมากกว่า
แล้วอย่างไรเล่าเห็นได้ชัดว่าสามีของนางเองก็มีความโกรธเคืองใน
ตัวของหญิงสาวอยู่ไม่ใช่น้อยดังนั้นแล้วในอนาคตหญิงสาวผู้นี้ก็อาจ
เป็นเพียงทาสสาวบาเร่อรักของสามีนางเพียงเท่านั้น
" หาที่ตาย ! "
สีหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเปลี่ยนเป็นโกรธกริ้วพร้อมกับร่างของ
นางที่พุ่งเข้าหาฟ่งซือเซียนด้วยความเร็วชนิดที่ว่าไม่มีคนใดที่เหลือ
สามารถมองตามได้ทันยกเว้นฟ่งซือเซียนเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 82
ทางฝ่ายของฟ่งซือเซียนนางไม่ได้ตื่นตระหนกกับความเร็วเช่นนี้
ของผู้อาวุโสฟางซิ่นอีกต่อไปในสายตาของนางตอนนี้แล้วแม้ว่าการ
เคลื่อนที่ของหญิงสาวจะรวดเร็วแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่นางจะ
สามารถจัดการลงได้ เมื่อฝ่ามือของทั้งสองเข้าปะทะกันคลื่น
พลังงานแผ่กระจายออกมาจากทั้งสองจนเกือบทาให้หลินหมิงต้อง
ล้มลงหากไม่ใช่เพราะเขาได้รับการคุ้มครองจากหญิงสาวสี่คนที่
เหลือ
แม้แต่พวกนางเองในสถานการณ์เช่นนี้พวกนางก็ไม่สามารถที่
จะเข้าไปมีส่วนร่วมได้เลยแม้แต่น้อยลาพังเพียงแรงปะทะในครั้ง
แรกของทั้งสองมันก็เต็มกลืนพวกนางแล้ว ดังนั้นแล้วพวกนาง
ตัดสินใจพาหลินหมิงหลบหนีออกไปยังจุดที่ปลอดภัยดีกว่านี้
เสียก่อนถึงแม้ว่าหัวหน้าพวกนางจะมีพลังเหนือล้ากว่าในตอนนี้แต่
มันไม่ใช่ว่านางจะสามารถเอาชนะได้โดยเร็ว
คาพูดยั่วยุของฟ่งซือเซียนในตอนแรกนั้นย่อมเป็นหนึ่งใน
แผนการณ์ของนาง นางต้องการให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นพุ่งตรงเข้าจู่โจม
นางแต่เพียงผู้เดียวไม่เช่นนั้นแล้วเหล่าสมาชิกกลุ่มของนางอาจตก
เป็นหมายเสียแทนดั่งเช่นในตอนแรก
" ทั้งที่เจ้ากล้าพูดจาใหญ่ในตอนแรก..แล้วไหนเล่าข้ายังไม่ได้
รู้สึกอะไรจากการโจมตีของเจ้าเลย..ไม่สิมันอาจทาให้ข้ารู้สึกคันๆอยู่
บ้าง "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนางรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากด้วยฐานะของนาง
นั้นผู้ที่กล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้จุดจบของพวกเขาเหล่านั้นก็คืออนาคตที่
ถูกดับสิ้นในทันที เพียงแต่กับหญิงสาวตรงหน้านีท้ ั้งที่นางตั้งใจจะ
สังหารให้ได้โดยเร็วพลังของนางถูกเรียกใช้ออกมาไม่น้อยกว่าแปด
ส่วนเข้าไปแล้วถึงอย่างนัน้ หญิงสาวตรงหน้านางก็ยังคงสามารถ
รับมือได้อย่างสบาย
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่ตอบกลับคากล่าวของฟ่งซือเซียนนางจับไปที่
แหวนมิติทดี่ ูจากภายนอกก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นแหวนมิติ
ระดับสูงแส้สีดาที่เรียกออกมาอยู่ในมือของนางเพียงการสะบัดแส้
ครั้งเดียวในตอนที่นางเรียกออกมามันถึงกับทาให้อากาศถูก
แบ่งแยกออก เกิดรอยเฉือนที่บริเวณต้นไม้ที่ห่างไกลออกไป
' นั้นมันอาวุธอะไรกัน ! '
หลินหมิงถึงกับตะลึงค้างกับภาพตรงหน้าบรรยากาศรอบตัวของ
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกลับแผ่แรงกดดันขึ้นมากกว่าเดิมแบบเทียบไม่ติด
ลาพังเพียงแค่ตัวแส้นั้นก็บ่งบอกได้ทันทีว่ามันมีความอันตราย
เพียงใดและเมื่อมันได้ผู้ใช้ที่เป็นระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดด้วยแล้ว
เป็นไปได้หรือไม่ว่าฟ่งซือเซียนของเขาจะอาจพ่ายแพ้ ?
" ในตอนนี้ทางเลือกของเจ้าเหลือเพียงหนึ่ง....นั้นก็คือความตาย
!"
ผู้อาวุโสฟางซิ่นสะบัดแส้ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อการจู่โจม
ในครั้งนี้หลินหมิงไม่สามารถมองออกได้ทันว่านางโจมตีมากี่ครั้งแต่
มันปรากฎคลื่นพลังที่แหวกอากาศออกเป็นจานวนมากพุ่งเข้าหา
ร่างของฟ่งซือเซียนอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของฟ่งซือเซียน
เปลี่ยนเป็นจริงจังกะบี่ของนางถูกนาออกมาตั้งแต่ตอนที่นางได้เห็น
แส้ของผู้อาวุโสฟางซิ่นแล้ว
แน่นอนว่ากะบี่ของนางเองก็เป็นอาวุธระดับชั้นยอดที่หาได้ยาก
ยิ่งเพียงแต่เมื่อเทียบกันกับแส้ของหญิงสาวตรงหน้าแล้วมันกลับ
ด้อยกว่าอย่างน้อยหนึ่งขัน้
เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง !
ฟ่งซือเซียนระบากะบี่ของนางเพื่อใช้ปัดป้องคลื่นพลังเหล่านั้น
ด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ว่าอากาศโดยรอบ
พลันแปรเปลี่ยนโดยฉับพลันอุณหภูมิลดต่าลงจนนางรู้สึกหายใจ
ลาบากเล็กน้อย ร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นปรากฎขึ้นพร้อมกับแส้ของ
นางที่เต็มไปด้วยเพลิงสีฟา้ ที่แผ่ความเย็นออกมาอย่างน่าประหลาด
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้เต็มไปด้วยความกระหาย
เลือดแส้ในมือของนางถูกสะบัดในระยะประชิดเพียงแค่คลื่นพลัง
จากระยะไกลของแส้อันนี้ก็เรียกได้ว่ามีพลังทาลายมหาศาลแล้วยิ่ง
ในตอนนี้ที่ฟ่งซือเซียนต้องรับมือกับมันในระยะประชิดอีกทั้งยังมี
ปราณเพลิงสีฟ้าของหญิงสาวเพิ่มอนุภาพยิ่งขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่าง
นั้นใบหน้าของฟ่งซือเซียนกลับไม่มีความกังวลแต่อย่างใดนางยิ้ม
ออกมาด้วยทีท่าเปี่ยมสุข
เนื่องจากนางเคยปะทะกับคนผู้นี้มาครั้งหนึ่งแล้วและแน่นอนว่า
นี้คือพลังสูงสุดของฝ่ายตรงข้ามที่ทาให้นางพ่ายแพ้ไปในครั้งก่อน
เพียงแต่ว่าในตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว
" ตาย ! "
เสียงตะโกณต่าของผู้อาวุโสฟางซิ่นหากเป็นสถานการณ์ปกติมัน
คือประกาศิตสั่งตายฝ่ายตรงข้ามในทันที
" ปังง ! "
แส้ของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่เดิมนางตั้งใจว่าการจู่โจมในครั้งนี้อย่าง
น้อยก็ย่อมทาให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในตอนนี้แส้
ของนางกลับถูกปัดกระเด็นให้หลุดมือไปอย่างง่ายดาย ยังไม่ทันได้
หายตกใจฝ่ามือของฟ่งซือเซียนอัดเข้ามาเต็มท้องจนร่างของนาง
กระเด็นไปหลายเมตรพร้อมกับสาลักเลือดออกมากองใหญ่
' ได้เช่นไรกัน ! '
ร่างกายของนางนั้นรู้หนักอึ้งจนแทบจะลุกไม่ขึ้นอีกต่อไป
เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดล้วนพลันหายไปในพริบตาทั้งหมดล้วนเกิดขึ้น
จากการโจมตีเพียงครั้งเดียว !
" ก็อย่างที่บอกข้าไม่คิดสังหารเจ้าหรอก.... "
อึกก
กะบี่ของฟ่งซือเซียนนาไปจ่อไว้ที่บริเวณต้นคอของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นอย่างรวดเร็ว นี้นับเป็นการต่อสู้ที่แสดงถึงความต่างชั้นระหว่างผู้
ที่มีระดับพลังจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดกับปราญช์โดยแท้จริง แม้ว่าผู้
อาวุโสฟางซิ่นจะมีอาวุธที่เหนือล้ายิ่งกว่าแต่พลังปราณนางนั้นไม่
สามารถนามาเทียบกันได้แม้ว่ามันจะเป็นความห่างกันเพียงแค่
ระดับเดียวก็ตามที่
" นะ...นี้..มัน..ได้อย่างไรกัน....ระดับปราญช์...เจ้าก้าวข้ามผ่าน
มันมาได้อย่างไรในเวลาช่วงสั้นๆ !! "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่เพียงแต่จะโกรธที่พ่ายแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้
แต่ศัตรูตรหน้านางทั้งที่ในตอนแรกยังมีความอ่อนด้อยมากกว่านาง
แท้ๆแต่เพียช่วงเวลาแค่ 3 วันหญิงสาวตรงหน้านี้กลับสามารถ
ทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์ได้แม้แต่พลังปราณของนางในตอนนี้ก็คง
ต้องใช้เวลาหลายปีในการทะลวง
" ข้าไม่จาเป็นจะต้องตอบเจ้า..แต่ข้าขอให้คาแนะนาอะไรดีดีสัก
หน่อยก็แล้วกัน...หากต่อจากนี้เจ้าทาตัวดีดีแล้วละก็เจ้าก็อาจได้รับรู้
มันกระทั่งก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดเดียวกับข้า..... "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นยังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรต่อไปสติของนางก็ดับ
วูบลงไปเนื่องจากการโจมตีที่บริเวณสันคอของฟ่งซือเซียน
" ท่านพี่ข้าทาสาเร็จแล้วเจ้าคะ ~~ "
สีหน้าของฟ่งซือเซียนกลับแปรเปลี่ยนไปในทันทีจากหน้าตา
จริงจังในการต่อสู้ในตอนนี้ใบหน้าของนางปรากฎรอยยิ้มอ่อนหวาน
ชนิดที่ว่ารอยยิ้มนี้ของนางถูกสร้างมาเพื่อสามีหนุ่มของนางเพียงคน
เดียวเท่านั้น
ตอนที่ 83
ผู้อาวุโสฟางซิ่นค่อยรู้สึกตัวขึ้นอย่างช้าโดยไม่ได้รวู้ ่าตนนั้นหมด
สติไปนานมากเพียงใดนางยังคงมีอาการรู้สึกมึนหัวและอ่อนล้าไป
ทั้งร่างกาย นี้เป็นเรื่องที่ตอกย้าได้เป็นอย่างดีว่าความห่างชั้น
ระหว่างนางกับหัวหน้ากลุ่มของหญิงสาวเหล่านั้นแต่ต่างกันมาก
เพียงใด เพียงแค่นางต้องทนรับการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
มันกลับทาให้ร่างกายของนางต้องบอมช้าถึงเพียงนี้ ผ่านไปได้ไม่
นานนางเริ่มปรับสภาพสายตาของตนเองใหม่อีกครั้ง
ภาพตรงหน้าของนางในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะทาให้นางตะลึงค้าง
ความสับสน ความโกรธทุกๆอย่างล้วนเกิดขึ้นมาโดยทันทีเมื่อนางได้
เห็นภาพของหลินหมิงที่กาลังนัวเนียแนบชิดกับศัตรูคู่แค้นของอย่าง
แนบชิด ทั้งที่นางพยายามช่วยชีวิตเจ้าเด็กหนุ่มนี้แต่ตอนท้ายมัน
กลับได้รับความสุขเช่นนี้ ?
อีกทั้งมันยังมีสงิ่ ของแปลกประหลาดที่นางคุ้นเคยดีอยู่ไม่ไกล
จากร่างทั้งสองที่กาลังแนบชิดกันอย่างเร้าร้อน มันมีลักษณะคล้าย
ดอกบัวตูมเพียงแต่ว่ามันกลับมีสีฟ้าสว่างพร้อมกับไอพลังความเย็น
ที่แผ่ออกมาถึงขนาดที่นางอยู่ใกล้จากมันพอสมควรก็ยังคงสามารถ
สัมผัสได้โดยง่าย
' บงกชเหมันต์ !! '
แม้แต่สมบัติล้าค่าที่นางหมายตายังถูกช่วงชิง
" อ้าาา~~~ ท่านพี.่ ..ดูเหมือนว่านางจะได้สติแล้วนะเจ้าคะ "
หลินหมิงเองก็รับรู้อยู่ก่อนหน้านั้นแล้วว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นได้
ฟื้นสติขึ้นมาสักพักเพียงแต่ว่าสัมผัสอันเร้าร้อนที่เขากาลังได้รับจาก
ฟ่งซือเซียนมันทาให้เขาไม่อยากละมือออกห่างจากหญิงสาวผู้นี้เสีย
เท่าไหร่ ฟ่งซือเซียนเลียริมฝีปากอย่างเย้ายวนมาให้กับหลินหมิง
พร้อมกับหันมาจ้องที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นด้วยสายตายิม้ แย้ม
" เจ้า !.... "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่รู้จะสรรหาคาพูดใดมากล่าวกับหลินหมิง
ในตอนนี้อาจเป็นเพราะว่าเมื่อนางได้รับความพ่ายแพ้ไปแล้วเด็ก
หนุ่มผู้นี้จึงจาเป็นที่จะยอมตามน้าอีกฝ่ายเพื่อเอาชีวิตรอด ? แต่แล้ว
เหตุใดเด็กหนุ่มถึงไม่มหี วีแ่ หววความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยหญิง
สาวผู้นั้นเป็นถึงผู้ที่มีพลังระดับปราญช์แต่เขากลับโอบกอดหญิง
สาวเอาไว้ราวกับนางเป็นสตรีของเขาเสียอย่างนั้น
ในสายตาของฟางซิ่นนางมองเพียงว่าฟ่งซือเซียนนัน้ อาจมี
รสนิยมชมชอบในตัวของหลินหมิงแต่ด้วยฐานะของนางแม้ว่าจะ
เป็นในก่อนหน้านี้เด็กหนุม่ อย่างเช่นหลินหมิงก็ยังคงไม่มีค่าเพียงพอ
ให้เป็นคู่ครองของนางได้ แต่สายตาของหญิงสาวกลับตรงข้ามกับ
ความคิดของนางเสียอย่างนั้น
" เอาล่ะตามที่ข้าได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้หวังว่าเจ้าคงยังไม่ลืม
สินะ "
" จะฆ่าก็ฆ่า...จะทรมานแล้วเจ้าจะรอช้าอยู่ทาไมกัน... "
ฟ่งซือเซียนยิ้มพร้อมกับเดินมาหาฟางซิ่นในตอนนี้ฟางซิ่นแม้ว่า
นางจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อยแต่ด้วยโซ่ตรวนลงอาคมที่มัดมือ
และข้อเท้าของนางเอาไว้อยู่มันจึงทาให้นางไม่สามารถใช้พลัง
ปราณได้อย่างปกติในตอนนี้พลังปราณของนางอาจลดเหลือเพียง
อยู่ในระดับก่อเกิดระดับกลางหรือไม่ก็อาจต่ากว่านั้นจากสภาพ
ร่างกายของนาง
" คิคิ...ท่านพี่ดูเหมือนว่านางจะต้องการบทลงโทษของท่านเสีย
แล้ว "
คราวนีเ้ ป็นหลินหมิงที่เดินเข้ามาหาผู้อาวุโสฟางซิ่นพร้อมกับ
จ้องมองเรือนร่างของนางด้วยสายตาเร้าร้อนอย่างปิดไม่มิด
" ก็อย่างที่ภรรยาของข้ากล่าวก่อนหน้านี้...ผู้อาวุโสฟางซิ่นข้า
ไม่ได้มีความคิดจะสังหารท่านหรอกนะ...หากท่านยอมทาตามข้า
เพียงเล็กๆน้อยๆไม่เพียงแต่ข้าจะไว้ชีวตท่าน...สมบัติที่อยู่ตรงหน้า
ท่านนี้ก็อาจตกเป็นของท่านก็ได้หากท่านทาให้ข้าพอใจ "
" อย่ามาพูดเสียให้ยาก...คนอย่างข้าทาไมต้องฟังคาจากเจ้า "
แม้ว่าสิ่งล่อตาล่อใจอย่างบงกชเหมันต์จะถูกหลินหมิงวางล่อไว้
แต่ด้วยนิสัยที่ยะโสจนเกินไปทาให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นปฎิเสธแบบไม่
ต้องคิด ขนาดที่สมาคมจูหนิงเอ๋อร์หรืออาจารย์ของเจ้าหนุ่มนี้ยังคง
ไม่กล้ากล่าวสั่งอะไรกับนางมากมายแล้วเรื่องอะไรนางจะต้องตก
เป็นเบี้ยล่างของเด็กหนุ่มเช่นนี้กัน
อุกกกก
หมัดของฟ่งซือเซียนต่อยเข้าไปเต็มท้องจนตัวของฟางซิ่นงอ
ขนาดตอนที่นางอยู่ในสภาพพร้อมที่สุดนางก็ยังไม่สามารถรับมือกับ
หญิงสาวผู้นี้ได้แล้วในตอนนี้หมัดนี้ทนี่ างได้รับอาจเรียกได้ว่าเป็น
ความรู้สึกเจ็บปวดมากทีส่ ุดตั้งแต่นางเกิดมาในชีวิตเลยก็ไม่เกินไป
ในตอนนี้นางรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก
" งั้นก็คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันอีก..... "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับร่างของเขาที่โน้มตัวเข้าหาผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นที่กาลังนอนขดตัวอยู่ มือของเขาเข้าลูบไล้สัมผัสที่บริเวณต้นขา
เรียวงามเป็นอันดับแรก ตั้งแต่แรกที่แผนการณ์นี้ถูกวางไว้หญิงสาว
ผู้นี้ก็เหมือนจะตกเป็นของหลินหมิงอันเป็นที่แน่นอน ผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นพยายามจะขัดขืนแต่นางจะเอาเรี่ยวแรงจากไหนเล่านางทาได้
แค่เพียงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อดิ้นให้หลุดพ้นจากมืออันน่ารังเกียจของ
เด็กหนุ่ม
สัมผัสผิวเรียบเนียนพร้อมกับกลิ่นหอมที่แผ่ออกมามันทาให้
อารมณ์ของหลินหมิงพุ่งขึ้นสูงในทันทีมือของเขาพุ่งเข้าไปภายใน
เสื้อผ้าจนสัมผัสเข้ากับบริเวณต้นขาพร้อมกับค่อยเคลื่อนที่เข้าไปลึก
ยิ่งกว่าเดิมอย่างเชื่องช้า
" เจ้าเด็ก...ชั่ว..นี้เจ้าคิดจะทาอะไร "
" ก็บทลงโทษของท่านอย่างไรเล่า "
หลินหมิงเข้าเล้าโลมเรือนร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นอย่างบ้าคลั่ง
ในตอนนี้มือของเขาราบกับว่ามันไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป มันเคลื่อนที่
ไปเองตามธรรมาชาติโดยที่หลินหมิงแทบจะไม่ทันได้รู้สึกตัวเลยเสีย
ด้วยซ้ามือของหลินหมิงเลื่อนขึ้นมาบีบขย้าหน้าอันนุ่มนิ่มของหญิง
สาวแต่เขายังคงปล่อยมือข้างหนึ่งลูบไล้ทบี่ ริเวณต้นขาของนางไป
ตามเดิม
ศรีษะของหลินหมิงพุ่งเข้าไปหาบริเวณซอกคอของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเพื่อดมกลิ่นกายอมหอมหวนของนาง ร่างกายของหญิงสาวผู้นี้
ถูกสรรสร้างมาอย่างสมบูรณ์โดยแท้จริงขนาดความงามของฟ่งซือ
เซียนที่ได้รับการพัฒนาจากการร่วมรักกับเขามาหากมาเทียบกับผู้
อาวุโสฟางซิ่นแล้วมันก็ยงั คงน้อยกว่าอยู่หลายขั้น
สตรีเดียวที่เขารู้จักและมีความงามที่มากกว่านี้นั้นก็คือแม่สาว
ซัคคิวบัสแต่นางเป็นตัวตนในระดับสูงจนเกินไปและเขายังคงไม่อาจ
คาดเดาความคิดของหญิงสาวผู้นั้นได้โดยง่าย เทียบกันแล้วหากเขา
สามารถทาให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นเป็นทาสกามอารมณ์ของเขาได้ไม่ใช่
ว่าเขาจะได้มีโอกาสเล่นบทรักกับนางอย่างหน่าใจทุกวันเช่นนั้นหรือ
?
" ปะ...ปล่อยข้า...ออกไป.. "
ชายใดที่คิดจะทาตามคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นในยามนี้มันผู้
นั้นคงได้ถูกกล่าวสรรเสริญจากบรรดาบุรุษทั่วโลกว่ามันผู้นั้นจะต้อง
เป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกใบนี้อย่างไม่อาจมีใครเทียบได้ซึ่งหลินหมิง
แน่นอนว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้น
หลินหมิงรู้สึกนับถือหญิงสาวผู้นี้เล็กน้อยหลังจากที่ผ่านการ
เล้าโลมมาได้สักช่วงเวลาหนึ่งดูเหมือนว่านางยังคงมีจิตใจที่กล้า
แกร่งเช่นเดิมต่างจากหญิงสาวที่ผ่านมาแค่เพียงพวกนางได้รับการ
เล้าโลมเช่นนี้พวกนางคงหมดแรงอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมกับอ่อน
วอนให้เขามอบความสุขให้กับพวกนางไปแล้ว

ตอนที่ 84
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเปลี่ยนเป็นสีหน้าปั้นยากขึ้นมานาง
พยายามขมกลั้นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากหลินหมิงเพียงแต่ไม่
รู้ว่าเหตุใดนางถึงไม่สามารถระงับมันลงได้เลยแม้แต่น้อย จนในที่สุด
มือของเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ก็ได้ล่วงเข้ามายังภายในเสื้อผ้าของนางมือ
ของเขาลูบคลาบริเวณหน้าอกของนางอย่างบ้าคลั่งราวกับเด็กทารก
ที่ได้อยากดื่มนมจากเต้าของมารดา
" ข้าจะฆ่าเจ้า... "
" ด้วยเหตุใดกันเล่า ? ทั้งๆที่ข้ากาลังทาให้ท่านมีความสุขแต่
ท่านกลับคิดสังหารข้า ? โอ้วหน้าอกของท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ..
ข้าคงต้องขอดูมันแบบตรงๆเสียหน่อย "
" ไม่ ม่ายยยยยย "
แคว๊กกก
เสื้อของผู้อาวุโสฟางซิ่นถูกฉีกขาดออกอย่างง่ายดายด้วยน้ามือ
ของหลินหมิง เรือนร่างอันงดงามที่เพียงปกติที่เขาได้จดจ้องมันก็
ยากที่จะระงับอารมณ์เอาไว้ แต่ตอนนี้เรือนร่างเปลื่อยเปล่าของผู้
อาวุโสสาวคนนี้มันกลับงดงามเสียยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้
มาก ผิวของนางขาวเรียบเนียนอมชมพูเล็กน้อยเสริมกับท่าทางขัด
ขืนพร้อมกับใบหน้ายามโกรธปนเสียใจอย่างนี้หลินหมิงเองก็คิดว่า
มันไม่เลวนัก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือหน้าอกโค้งงามที่กาลังรอคอยให้หลินหมิงได้
สัมผัสมันแม้ว่ามันจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตที่สามารถเทียบได้กับซื่อ
โฉวหรือเหม่ยฮวาแต่มันก็นับได้ว่าใหญ่เกินกว่าหญิงสาวธรรมดา
ทั่วไปอยู่มากอีกทั้งด้วยรูปร่างสัดส่วนของมันคงอาจเรียกได้ว่าดีกว่า
ของหญิงสาวก่อนหน้าทีม่ ีขนาดใหญ่กว่าเสียอีก เพราะด้วยผิวอัน
น่าสัมผัสของเทพธิดานางนี้มันทาให้ทั่วทัง้ ร่างของนางเนียนนุ่มราว
กับปุยเมฆ
ผู้อาวุโสฟางซิ่นพยายมนามือทั้งสองข้างที่ถกู มัดอยู่เพื่อนามาบด
บังเรือนร่างของนางแต่มันไม่มีประโยชน์แต่อย่างใดมือของเจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นี้ว่องไวเสียยิ่งกว่าตอนที่เขาได้ต่อสู้เสียอีก มือทั้งสองข้าง
ของนางถูกปัดออกพร้อมกับถูกตรึงเอาไว้ที่เหนือศรีษะอย่างรวดเร็ว
" หากอาจารย์เจ้ารู้เรื่องนี้แล้วละก็เจ้าไม่มีทางรอดไปอย่าง
แน่นอนแม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่นาง
ต้องการ แต่เจ้าคิดว่าเมื่อเจ้ากล้าทาเรื่องเช่นนี้แล้วเจ้าจะยัง
สามารถรอดไปได้โดยง่าย "
" ท่านเองก็ทราบดีด้วยสถานะของภรรยาข้าอย่างฟ่งซือเซียน
นั้นมีหรือที่ท่านอาจารย์จะกล้าล่วงเกิน...ทางที่ดีข้ายินดีให้โอกาส
ท่านอีกครั้งหากท่านมีความคิดกลับใจที่น่าพอใจอย่างเช่นยินยอม
เป็นข้ารับใช้ของข้า...แน่นอนว่าหากท่านทามันได้ดีข้าอาจเปลี่ยน
สถานะท่านมาเป็นหนึ่งในภรรยาข้าแต่แน่นอนว่าท่านยังคงต้องด้อย
กว่าน้องหญิงอยู่ดนี ะ "
ฟ่งซือเซียนที่ในตอนนี้นางเป็นขับจับขึงแขนของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นเอาไว้ นางไม่ได้มปี ฎิกริยาที่ไม่พอใจกับคากล่าวของหลินหมิง
สาหรับคากล่าวที่ว่าสามีของนางนั้นจะเปลี่ยนหญิงสาวผู้นี้เป็น
ภรรยา นางรู้ดีว่านั้นเป็นเพียงคาหยอกล้อแม้นางจะเพิ่งรู้จักสามี
ของนางได้ไม่นานแต่ในช่วงเวลาหลายวันมานี้นางไม่เคยออกห่าง
จากเขาเลยไม่ว่าจะยามใดก็ตามมันจึงทาให้นางได้รับรู้นิสัยของ
หลินหมิงมาบ้าง
หลินหมิงเริ่มกระบวนการเล้าโลมเรือนร่างของผู้อาวุโสสาวอีก
ครั้งลิ้นของหลินหมิงทาการเลียที่บริเวณช่วงท้องของหญิงสาวอย่าง
เชื่องช้าพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่เปลี่ยนจากการลูบไล้มาเป็นการ
เกาที่โดยใช้ปลายเล็บของเขาขวนไปที่บริเวณต้นขาของนางอย่าง
เยื่องช้า ร่างของผู้อาวุโสฟางซิ่นพลันเกร็งแข็งตรึงขึ้นมาในทันที
นางพยายามจะออกแรงขัดขืนอย่างเต็มที่ไม่เพียงแต่ว่านาง
ในตอนนี้นางจะไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะสู้กับเด็กหนุ่มผู้นี้ ถึงต่อให้นาง
มีแต่หญิงสาวผู้ที่เพิ่งสามารถเอาชนะนางมาได้อย่างง่ายดายนั้นก็
ยังคงอยู่ที่นี้อยู่ดี
" เป็นเช่นไรท่านเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างล้วใช่ไหม "
" น่ารังเกียจ ! "
แม่สาวผู้นี้ช่างมีความอดทนอย่างแท้จริง หลินหมิงยิม้ ออกมา
ด้วยร้อยยิ้มเจ้าเล่ห์กับตัวเขาที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทาให้หญิงสาวมี
ความสุขนั้นการที่ได้รับคากล่าวเช่นนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้
หลินหมิงเริ่มลงมือด้วยท่วงท่าต่อไปมือทั้งสองข้างของเขาเข้าบีบ
นวดที่หน้าอกของนางอย่างรุนแรงพร้อมกับใช้ริมฝีปากโลมเลีย
ในความคิดของผู้อาวุโสฟางซิ่นนางคิดว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันต้อง
ผิดปรกติไปแล้วแน่ๆ ด้วยสภาพเช่นนี้นางคงหนีไม่พ้นการโดน
ข่มขืนจากตัวของเด็กหนุม่ เพียงแต่ว่าในตอนนี้มันกาลังทาสิ่งใดกัน
? หรือว่ามันอาจจะยังเด็กเกินไปเกินกว่าที่จะรู้ว่าเรื่องราวการร่วม
รักของหญิงสาวต้องทาเช่นไร แล้วสิ่งที่มันกาลังทาอยู่นี้คืออะไรกัน
ร่างกายของนางสั่นไปมาด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างที่ไม่
เคยพบมาก่อนนางไม่อาจยอมรับได้จริงๆว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มผู้นี้กาลัง
ทานั้นมันทาให้นางเกิดความสุขขึ้นมาจนนางแทบจะอดกลั้นเสียง
ครางของนางเอาไว้ไม่ไหว เทียบกันแล้วในตอนนีน้ างยินยอมที่จะให้
หลินหมิงนาทวนมังกรของบุรุษนั้นเสียบเข้ามาภายในตัวของนาง
เลยเสียดีกว่าเรื่องทุกอย่างจะได้จบโดยเร็วเพราะอย่างไรแล้วนางก็
คงจะหนีชะตากรรมนั้นไม่พ้น
" ถึงท่านจะกล่าวปฎิเสธแต่ดูนี้สิยอดบัวบนหน้าอกของท่านกลับ
ตั้งชันราวกับเสาค้ายัน...รู้ไหมว่ามันหมายถึงว่าทากาลังมีความสุข
อย่างมากอยู่อย่างไรเล่า "
" หะ...หุบปา....อื้ออออออออออออ~~~~ "
หลินหมิงพุ่งเข้าประกบปากกับนางในทันทีดวงตาของผู้อาวุโส
ฟางซิ่นเบิกกว้างด้วยความตกใจจูบแรกของนางที่คาดหวังว่าจะไม่
มอบให้กับผู้ใดในตอนนี้มนั ถูกช่วงชิงไปแล้ว หลินหมิงยังคงไม่ทา
การสอดลิ้นเข้าไปเพราะว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นพยายามข่มปาก
ตัวเองอย่างหนาแน่นแต่สัมผัสนิ่มนวลที่บริเวณริมฝีปากของนางก็
เพียงพอที่จะทาให้เขาเพลิดเพลินแล้ว
เนื่องจากผู้อาวุโสฟางซิ่นหลังจากที่ผ่านอาการตื่นตกใจไปได้
นางพยายามส่ายหน้าหนีไปมาเพื่อหลุดพ้นจากการจูบของหลินหมิง
หลินหมิงจึงไม่มที างเลือกนอกจากเปลี่ยนทาการไซร้ซอกคอของ
นางแทน มือของหลินหมิงเลื่อนลงมาอย่างช้าๆจากบริเวณหน้าอก
ของนางผ่านหน้าท้องจนมาถึงส่วนลับของหญิงสาว
ร่องสวาทของนางในตอนนี้แน่นอนว่ามันแฉะเยิ้มไปด้วยน้ารัก
ใสๆของนางเอง แต่ทา่ ทีของนางในตอนนี้ยังคงปฎิเสธหลินหมิงอ
ย่างเห็นได้ชัด หลินหมิงไหลตัวลงไปตรงทีบ่ ริเวณส่วนลับของหญิง
สาวด้วยท่วงท่านี้หลินหมิงมั่นใจว่ามันจะทาให้ความตั้งใจของผู้
อาวุโสสาวต้องทลายลงในไม่ช้า ขนาดฟ่งซือเซียนที่โดนท่วงท่านี้
เข้านางยังคงไม่อาจปฎิเสธได้เลย
" นะ...นี้เจ้าจะทาอะไร.... "
เมื่อนางเห็นว่าการจู่โจมของเด็กหนุ่มหยุดลงพร้อมกับร่างกาย
ของเขาที่เคลื่อนที่ไปที่บริเวณส่วนล่างของนาง ในตอนแรกนางคิด
ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้อาจคิดจัดการนางเสียแล้ว เพียงแต่สิ่งที่อยู่หน้าโพร่ง
สวาทของนางในตอนนี้กลับไม่ใช่ทวนมังกรของบุรษุ แต่กลับเป็น
ใบหน้าของเขา !
" มันช่างสวยงามไม่แพ้เรือนร่างของท่านเลยจริงๆ "
" นะ...นี้เจ้า...เอานิ้วออก...ไปนะ...อ้าาาา~~~~ "
หลินหมิงยิ้มออกมาในทันทีดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสาวคนนี้คงใกล้
ถึงขีดจากัดแล้ว เรือนร่างของนางในตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อเล็กน้อย
แต่มันไม่ได้ทาให้เสน่ห์ของนางลดลงแต่อย่างใดกลับกันกลิ่นหอม
โชยจากร่างกายของนางกลับเด่นชัดเสียยิ่งกว่าในตอนแรกมันจึง
กระตุ้นอารมณ์ของหลินหมิงได้ดยี ิ่งขึ้นกว่าเดิม

ตอนที่ 85
ผู้อาวุโสฟางซิ่นหอบหายใจเหนื่อยอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยแม้
นางจะไม่ได้ลงไปมองดูอกี ต่อไปว่าหลินหมิงจะทาเช่นไรต่อไป แต่
นางสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าของเขาในตอนนี้อยู่ใกล้
กับร่องสวาทของนางมากด้วยลมหายใจของเขาที่กาลังรดอยู่บน
ร่องสวาทของนางเพียงแค่นี้มันก็เพียงพอทาให้ร่างกายของนางสั่น
สะท้าน นี้ยังไม่รวมถึงนิ้วของเด็กหนุ่มที่กาลังแหวกร่องสวาทของ
นางไปมาราวกับว่ามันเป็นของเล่น
" ข้าคงต้องชืมรสชาติมันเสียหน่อย "
หลินหมิงกล่าวออกมาอย่างสนุกสนานผิดกับผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
เมื่อลิ้นของหลินหมิงได้เข้าสัมผัสที่บริเวณร่องสวาทของนางร่างกาย
ของนางสั่นกระตุกอย่างรุนแรงช่วงท้องของนางถึงกับโค้งงอขึ้นมา
พร้อมกับน้ารักของนางที่กาลังไหลออกมาอย่างไม่หยุด
นี้มันคือส่วนที่สกปรกที่สดุ ของร่างกายไม่ใช่หรือแล้วเหตุใดเจ้า
เด็กนี้มันถึงได้ทาเช่นนี้อย่างมีความสุขกัน ? แม้นางจะพยายามคบ
คิดแต่ลิ้นของหลินหมิงทีก่ าลังตวัดไปมาพร้อมกับสอดเข้ามาภายใน
โพร่งนั้นทาให้หัวสมองของนางเริ่มขาวโพลน
" อ้าาา อ้าา ซี๊ดดดดด ~~~~~~~ "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองนั้นได้เผลอครางออกไปอย่างเย้า
ยวนนี้ยิ่งเป็นการทาให้อารมณ์ของหลินหมิงนั้นพุ่งขึ้นไปอีก ลิ้นของ
หลินหมิงที่อยู่ภายในโพร่งสวาทตวัดไปมาอย่างไม่มีความรังเกียจน้า
รักของนางเลยแม้แต่น้อย นางเริ่มไม่สามารถรับรู้ได้แล้วว่าในตอนนี้
กาลังเกิดสิ่งใดขึ้นกับตัวนางนี้หรือความสุขที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
กล่าวไว้ก่อนหน้า
เวลาผ่านไปราวชั่วครึ่งก้านธูปที่เจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ทาการโลมเลีย
ร่องสวาทของนางจนตอนนี้ที่บริเวณนั้นกลายเป็นแอ่งน้าขนาด
ย่อมๆไปแล้วด้วยน้ารักของนางเอง
" แฮ่ก...แฮ่ก "
นางไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองได้ปลดปล่อยน้ารักออกมาเป็นจานวนกี่
ครั้งมันมากและรวดเร็วจนกว่าที่นางจะสามารถนับได้อีกทัง้ ด้วย
สภาพเช่นนี้นางยังคงที่จะสามารถประคองสติเอาไว้ได้ก็นับว่าเต็ม
กลืนแล้ว
" ถึงขั้นนี้แล้วข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่ท่านก็แล้วกันตัวเลือกมี
เพียงจะยอมเป็นข้ารับใช้ของข้าแต่โดย.... "
" ไม่ ! "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นตอบกลับอย่างไม่ลังเลนางยังต้องกังวลอะไรอีก
กับเด็กหนุม่ ที่ไร้น้ายาเช่นนี้แม้ว่าความสามารถเมื่อครู่ของเขาจะ
สามารถเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมันสามารถทาให้นางมีความสุขอย่างที่
ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่กับเด็กหนุ่มที่มีความสามารถเพียงเท่านี้และยัง
ไม่รู้เรื่องการร่วมรักยังมีอะไรที่นางต้องเป็นกังวล
นางเริ่มมั่นใจขึ้นมาแล้วว่าเจ้าเด็กหนุ่มนี้เรียนรู้แต่วิธีแปลก
ประหลาดกับการหาความสุขในเรือนร่างของหญิงสาวมันอาจเป็น
เพราะต้นกาเนิดของเขาเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาจึงขาดความรู้
พืน้ ฐานเหล่านี้ไปก็เป็นได้
" งั้นในเมื่อท่านเลือกเช่นนั้นก็เตรียมรับมือบทลงโทษจากข้า....
หากท่านจะขอร้องมันก็อาจสายเกินไปแล้ว "
หลินหมิงค่อยๆทาการปลดเปลื้องเสื้อผ้าตนเองออกในใจของผู้
อาวุโสฟางซิ่นเริ่มเป็นกังวลหรือว่าเจ้าเด็กหนุ่มจะไม่ได้โง่อย่างที่ข้า
คิด ? แต่แล้วสายตาของนางเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่อยู่บริเวณ
ระหว่างขาของเด็กหนุ่ม
" นะ...นั้นมัน....อะไร.... "
สวรรค์ทวนมังกรของเขาจะใหญ่เกินไปแล้ว !
มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่นางจะสามารถรับมือกับทวน
ขนาดเช่นนี้ขนาดสาวโลคีที่มากด้วยประสบการณ์ก็ยังคงต้องส่าย
หน้าในความคิดของนาง
" เจ้า....จะบ้าไปแล้วหรอ...มันใหญ่สียขนาดนัน้ นี้เจ้าเป็นตัว
อะไรกันแน่...มันไม่สามารถเข้าไปได้หรอกเอามันออกไปใกล้ๆนะ...
ไม่งั้น.... "
หลินหมิงไม่สนใจคาพูดของนางทวนมังกรของเขาเตรียมจอที่
บริเวณทางเข้าพร้อมกับเขี่ยไปมาจนร่างกายของนางสั่นสะท้านไป
ด้วยความกังวล ไม่ใช่เพียงเพราะขนาดของมันที่ใหญ่จนเกินไปแต่
มันเป็นเพราะตรงที่ทวนมังกรจ่ออยู่นั้นมันไม่ใช่ร่องสวาทของนาง
" ดะ...เดียวนั้น...โอ้ยยยย..มะ....ไม่....เอา...ออกไป..อึกกกกกกก
"
ทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้กาลังเสียบเข้ามาที่บริเวฯรู
ทวารของผู้อาวุโสฟางซิ่นเมื่อส่วนปลายของทวนมังกรของหลินห
มิงสามารถทะลวงเข้าไปได้อย่างยากลาบากหลินหมิงทาการหยุดมัน
เอาไว้เล็กน้อยพร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นที่
เต็มไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด
" จะ...เจ้าโง่...เจ้าทาอะไรของเจ้า..เพียงแค่นี้เจ้าก็ยังไม่รู้...ที่เจ้า
เสียบ....โอ้ยยยยยยยยยย "
หลินหมิงแทงทะลวงส่งทวนมังกรของเขาเข้าไปจนสุดลารูทวาร
ของนางในตอนนี้กลายเป็นช่องทางเดินสาหรับทวนมังกรของหลินห
มิงไปแล้ว มันถูกเปิดกว้างออกจนเพียงแค่มองจากภายนอกก็
สามารถรู้ได้ว่ามันคงไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติอีก
" ข้ารู้อยู่แล้วล่ะ...รู้ไหมยิ่งท่านยิ่งพูดมากเพียงใดข้าก็จะยิ่งลง
มือหนักขึ้น..ทางที่ดีข้าขอแนะนาว่าให้ท่านส่งเสียงครางออกมาแทน
เสียดีกว่า "
ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสฟางซิ่นสามารถรับรู้ได้หรือไม่ใบหน้าของนาง
ในตอนนี้แข็งค้างไปเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับดวงตาของนางที่เลือน
ลอย แต่เพียงแค่หลินหมิงขยับทวนมังกรของเขาออกมาพร้อมกับ
ดันมันเข้าไปใหม่อีกครั้งเสียงครางของนางก็ดังตามมาในทันทีพร้อม
กับสติของนางที่เริ่มกลับคืนมา
ภายในรูทวารของนางนั้นแน่นอนว่ามันย่อมคับแน่นเป็นอย่าง
มากและมันยังไม่สามารถเข้าไปได้อย่างเหมือนกับร่องสวาทที่มีน้า
รักและส่วนเนื้อที่อ่อนตัวกว่า หลินหมิงยกขาทัง้ สองข้างของนาง
ขึ้นมาผาดบ่าพร้อมกับค่อยเร่งๆจังหวะในทันที เสียงเนื้อทั้งสอง
ปะทะกันอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงครางกระเส้าของผู้อาวุโสฟาง
ซิ่นดังอย่างต่อเหนื่องแบบไม่หยุด ดูเหมือนว่าในตอนนี้สติของนาง
จะหลุดไปแล้วอย่างแท้จริง เหลือแต่เพียงสัญชาติญาณที่ยังคงส่ง
เสียงตอบสนอง
" เอาเตรียมรับไป ! "
หลังจากผ่านไปไม่นานหลินหมิงก็มาถึงขีดจากัดเนื่องจากเขาเอง
ก็มีอารมณ์มาเสียตั้งแต่ตอนเล้าโลมร่างกายของนางอันงดงามนี้แล้ว
อีกทั้งภายในรูทวารที่คับแน่นและขยับได้ยากเช่นนี้มันก็
เปรียบเสมือนที่รีดน้าดีดนี ี้เอง หลินหมิงส่งทวนเข้าไปภายในส่วนลึก
ที่สุดค้างเอาไว้พร้อมกับน้ารักของเขาที่กระหน่าซัดเข้าไปเต็มรูทวาร
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความเลือนลอยที่บริเวณริม
ฝีปากของนางจะเห็นคราบน้าลายออกมาเป็นจานวนมาก
ฟ่งซือเซียนเดินมาทางหลินหมิงอย่างรู้งานนางทาการโลมเลีย
ทาความสะอาดทวนมังกรของหลินหมิงด้วยท่วงท่าระดับสูงจน
หลินหมิงแทบจะระเบิดอารมณ์ไปอีกครั้ง ผ่านไปได้ไม่นานผู้อาวุโส
ฟางซิ่นราวกับเพิ่งตื่นจากฝันแต่เมื่อนางได้่นภาพตรงหน้
เ าและ
ความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณรูทวารทาให้นางรู้ได้ว่ามันไม่ใช่ความ
ฝันแต่อย่างใด
" ดูเหมือนว่าท่านจะพร้อมต่อยกสองแล้วสินะ "
หลินหมิงที่กาลังนอนทับร่างกายของผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าวอย่าง
ไม่แยแส ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งเสร็จใส่รูทวารของนางไปได้ไม่นานไม่ใช่
หรอแล้วเหตุใดเด็กหนุ่มผูน้ ี้ถึงกล่าวราวกับว่าเขายังคงสามารถทา
กับนางได้อีกกัน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อหวนนึกกลับไปแม้ว่ามันจะ
ค่อนข้างเจ็บปวดแต่นางกลับรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมา
ก่อนขนาดที่ว่าการเล้าโลมของหลินหมิงในครั้งแรกก็ยังคงไม่
สามารถเทียบได้
" รู้ไหมว่าหากข้าเสียบเข้าไปที่ร่องสวาทของท่าน...มันจะให้
ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเสียอีก "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความตกใจ นี้มันยังคงมีอะไรที่
สามารถทาให้รู้สึกดียิ่งกว่าเมื่อครู่นี้อีกหรือ เมื่อนางเหลือบมองไป
เห็นร่างของฟ่งซือเซียนทีน่ ั่งคล้อยหลับด้วยสภาพเปลื่อยเปล่าที่
บริเวณร่องสวาทของนางนั้นมีคราบน้ารักจานวนมากอยู่ ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าคากล่าวของเจ้าเด็กหนุ่มไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงเวลาที่รอให้ผู้อาวุโสฟางซิ่นตื่นนั้นแน่นอนว่าฟ่งซือเซียน
เองนางก็มีอารมณ์ขึ้นมาเช่นเดียวกันมันจึงช่วยไม่ได้ที่หลินหมิงจะ
ดูแลภรรยาผู้แสนใจดีของเขาคนนี้เสียหน่อย
" จริงหรือ ? "
แม้ว่านางจะรู้คาตอบอยู่แล้วก็ตามที่แต่นางก็อดสงสัยไปไม่ได้
หลินหมิงไม่ตอบพร้อมกับก้มลงประกบปากของนางนี้เป็นครั้งที่สอง
แล้วที่ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงเพียงแต่ว่าในครั้งนี้มันแตกต่าง
ออกไปลิ้นของเขาสอดใส่เข้ามาภายในปากของนางพร้อมกับเข้าผัว
พันลิ้นของนางอย่างเร้าร้อนมือของนางที่ได้รับการปลดปล่อยก็ไม่
อาจทราบได้เคลื่อนไว้เข้ารวบกอดร่างของเด็กหนุ่มอย่างไม่มีการ
ขวยเขินหรือปฎิเสธ
หากนางรู้ว่าเด็กหนุ่มสามารถทาให้นางมีความสุขได้มากเช่นนี้มี
หรือที่นางจะปฎิเสธ นางคงไม่มที างปล่อยให้หญิงสาวคนอื่นเข้ามา
ใกล้ตัวของเด็กหนุม่ คนนี้นอย่างแน่นอน
" ข้า...อยากให้เจ้าเสียบมา...ที่ร่องสวาทของข้า...ได้หรือเปล่า "
มันอาจเป็นฉากเฝ้ารอของเหล่าบุรุษที่พวกเขาได้แต่เผ้อฝัน
หลินหมิงอมยิ้มเล็กน้อยให้ท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้อาวุโสสาวแม้ว่า
ความสวยสง่าอันสูงส่งจากหายไปแต่มันกลับแทนที่ด้วยความน่ารัก
แบบหญิงสาวแทน
" งั้นท่านคงลืมไปแล้วละมั้งว่าต้องเรียกข้าว่าอย่างไร "
" นะ...นายท่าน...นีท้ ี่เจ้า....นายท่านกล่าวว่าหากข้าสามารถทา
ให้ท่านพอใจได้ท่านจะให้ข้าเป็นภรรยานั้นจริงหรือไม่ "
" นี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านแล้วละนะ "
ทวนมังกรของหลินหมิงเข้าสอดใส่มาที่ร่องสวาทของผู้อาวุโส
ฟางซิ่นอย่างเชื่องช้า เลือดสีแดงสดไหลอาบลงมาแต่มันก็ถกู เจือง
จางลงโดยทันทีด้วยน้ารักใสๆของหญิงสาว นางรู้สึกได้ทันทีเมื่อ
ทวนมังกรของหลินหมิงเข้ามาจดสุดแท่งภายในท้องของนางรู้สึก
เติมเต็มราวกับว่านางไม่ตอ้ งกินอาหารใดอีกไปหลายปีได้ พร้อมกับ
ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นอยู่ภายในและภายนอกที่ร่างของนางกาลัง
แนบชิดกับร่างของหลินหมิง

ตอนที่ 86
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกอดรัดร่างของหลินหมิงอย่างแนบแน่นนางไม่
ต้องการที่จะเสียความรู้สึกอันล้าค่าเช่นนี้ไป แม้ว่านางจะรู้เจ็บปวด
จากการที่เนื้อเยื่อพรหมจรรย์ถูกทาลายแต่มันยังคงไม่อาจเทียบได้
กับในตอนที่เด็กหนุ่มเสียบทวนของเขาเข้ามาภายในรูทวารของนาง
ดังนั้นแล้วนางจึงสามารถพอตั้งสติกับทวนมังกรที่อยู่ภายในโพร่ง
สวาทของนางตอนนี้ได้
" ข้ารู้สึกแปลกๆ...เจ้าคะนายท่านน อ้าาา~~~~~~ "
หลินหมิงทาการขยับไปอย่างเชื่องช้าเพื่อลิ้มรสชาติของร่อง
สวาทของสาวงามผู้นี้ นี้อาจเป็นการร่วมรักกับหญิงสาวที่เขาอาจ
เรียกได้ว่ามีความสุขมากที่สุดด้วยร่างกายอันงดงามและสัดส่วน
และคุณภาพของร่องสวาทที่ตอบสนองตอดรัดทวนมังกรของเขา
อย่างดีเยี่ยมอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าจะมีหญิงสาวอย่างสาวซัคคิวบัสซือ
เฟยเพียงแต่ว่าในตอนนั้นหลินหมิงไม่อาจลงมือกระทาตามใจได้
อย่างถนัดใครจะรู้กันเล่าว่าหาเขาลงมือทาสิ่งที่นางไม่ชอบใจขึ้นมา
ชีวิตของเขาอาจจบลงไปแล้วก็ได้ แต่กลับผู้อาวุโสสาวคนนี้เขา
สามารถลงมือกับนางได้อย่างเต็มที่
" นี้เจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดซือเซียนถึงได้มีความก้าวหน้าแบบ
กระทันหัน "
" อู้ววว~~~~ ขะ...ข้าไม่สนใจ...เรื่องนั้นแล้วเจ้าคะ...นายท่าน
ลงมือต่อเถอะเจ้าคะ "
หลินหมิงอมยิ้มให้กับท่าทีของผู้อาวุโสสาวไม่น่าเชื่อว่านางจะ
สามารถเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ ใบหน้าของนางแสดงสี
หน้าขอร้องอ้อนวอนอย่างเต็มที่เพื่อให้หลินหมิงลงมือมอบความสุข
ให้แก่นางโดยไม่สนใจอื่นใด
" เจ้ากลับกลายเป็นนางร่านสวาทไปเสียแล้ว....เอาเถอะถึงเจ้า
จะไม่อยากรู้แล้วแต่ข้าก็จะบอกไว้ให้นั้นก็เพราะว่านางได้ร่วมรักกับ
ข้าเหมือนที่เจ้ากาลังได้รับอยู่ในตอนนี้อย่างไรเล่า "
" จะ...จริงหรือเจ้าคะ ! "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นแม้จะไม่สามารถสัมผัสพลังของฟ่งซือเซียนได้
อย่างแม่นยาแต่อย่างน้อยพลังของหญิงสาวผู้นั้นย่อมไม่ต่ากว่า
ระดับปราญช์อย่างแน่นอนและเมื่อดูจากภายนอกเพียงอย่างเดียวก็
รับรู้ได้ว่านางสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับปราญช์ด้วยรากฐานที่มั่นคงยิ่ง
มันเป็นการการันตีได้อย่างดีว่าในอนาคตเส้นทางบ่มเพาะของนาง
จะไม่จบลงอย่างรวดเร็วในตอนแรกนางนึกว่าหญิงสาวอาจได้รับ
สมบัติวิเศษอะไรสักอย่างแต่มันกลับกลายเป็นว่าหญิงสาวได้รับ
ความสุขเช่นนี้จนสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์ด้วยสภาพยอด
เยี่ยม
" ใช่แล้ว...และเจ้าก็มีโอกาศเช่นเดียวกันกับนางเพียงแต่ว่า
ผลลัพธ์ของมันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของข้า ถ้าเจ้าสามารถทาให้
ข้าพึงพอใจได้มากเพียงพอลาพังเพียงระดับปราญช์นั้นมันก็ง่าย
เพียงเจ้าคว้ามันเท่านั้น "
" เจ้าคะ...ข้าจะทาอย่างเต็มที่ "
เมื่อนางกล่าวจบนายน้อยหนุ่มคนใหม่ของนางเริ่มทาการขยับ
เอวในจังหวะที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อหวนนึกกลับไปแม้ว่านางจะไม่มี
ประสบการณ์ในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะชอบพอในเสียงครางใน
ยามที่ร่วมรักดังนั้นแล้วนางจึงไม่มีการปิดกลั้นเสียงแต่อย่างใด
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วนางจะไม่สามารถทาได้อยู่แล้วก็ตามที่
" อ๊าา อ๊าา ระ..แรงมาก...เลยเจ้าคะ....ข้ารู้สึกขาวโพลนไปหมด
"
ร่างกายของนางสั่นไหวไปตามจังหวะการขยับของหลินหมิง
หน้าอกของนางที่กาลังกระเพื่อมขึ้นลงตกเป็นเป้าหมายลาดับต่อไป
ในทันที หลินหมิงก้มลงไปเด็ดดมยอดบัวของนาง ผู้อาวุโสฟางซิ่น
แทบจะไม่สามารถรับมือกับความเสียวซ่านที่เกิดขึน้ นี้ได้ เพียงแค่
ความสุขจากการที่ร่างกายของนางได้แนบชิดกับร่างของเด็กหนุ่ม
มันก็ทาให้นางสุขใจจนแทบจะบ้านี้ยังต้องเจอกับการเล้าโลมของ
เด็กหนุ่มพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่กาลังจู่โจมร่องสวาทของนาง
อย่างต่อเหนื่องอีก
เพียงผ่านไปไม่นานนางเริ่มไม่รู้สึกรับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
ตอนนี้โพร่งส่วนล่างทั้งสองของนางถูกทะลวงจนเป็นรูกว้างจนนาง
ไม่สามารถมั่นใจได้ว่ามันจะกลับไปใช้งานได้อย่างปกติหรือไม่ แต่
แล้วอย่างไรเล่าเทียบกับความสุขที่กาลังเกิด ณ ตอนนี้มันเรียกได้
เลยว่ามันสมควรเป็นความสุขที่สตรีทั้งหลายต้องใฝ่ฝันอย่าง
แน่นอน
ทั่วทั้งร่างกายของนางในตอนนี้ถูกหลินหมิงเข้าสารวจโลมเลีย
ไปทุกซอกจุดจนเขาอาจจะรู้มันดีเสียยิ่งกว่านางทีเ่ ป็นเจ้าของร่างไป
เสียแล้ว ที่บริเวณโพร่งสวาทของนางนั้นมีน้ารักไหลออกมาอย่างไม่
หยุดหย่อนอันเป็นหลักฐานแสดงว่านางได้เสร็จสมไปเป็นจานวน
มากอย่างไม่ต้องสงสัย
" ว้าย นะ..นายท่านนี้มันอะไรกันเจ้าคะ "
หลินหมิงพลิกร่างกลับมาให้ตัวเขานอนหงายโดยมีร่างของผู้
อาวุโสขึ้นคร่อมพร้อมกับทวนมังกรของเขาที่ยังคงเสียบคาร่อง
สวาทของนางเอาไว้อยู่
" ตาเจ้าทาให้ข้ามีความสุขบ้างแล้วอย่างไรละ "
" ตะ...แต่ว่าข้า...ทามันไม่เป็นเจ้าคะ "
ใบหน้าของผู้อาวุโสสาวเต็มไปด้วยความกังวลด้วยความที่นาง
ไร้ซึ่งประสบการณ์และไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้สักเท่าไหร่ มันคงจะ
เป็นไปได้ยากที่นางจะสามารถทาให้เด็กหนุ่มผู้นมี้ คี วามสุขนางไม่ได้
กังวลว่าผลจากการร่วมรักระหว่างนางกับเขาจะไม่เพียงพอให้นาง
ก้าวสู่ระดับปราญช์แต่นางเกรงว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วฐานะของนาง
คงจะเป็นได้เพียงสาวรับใช้ของเขา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วด้วย
ฐานะเช่นนั้นนางจะยังคงได้รับความสุขเช่นนี้เทียบเท่ากับเหล่าหญิง
สาวอื่นที่เป็นภรรยาของเขาหรือ
หลินหมิงลูบไล้ไปที่ต้นขาของนางอย่างแผ่วเบาเพื่อให้นางได้
ผ่อนคลายลง เพียงสัมผัสที่ปลายมือของเด็กหนุ่มผู้นี้ที่เข้าสัมผัส
ร่างกายของนางมันแทาให้ร่างกายของนางสั่นสะท้านราวกับว่าเขา
มีเวทย์มนต์ใดสักอย่าง
" เจ้าเพียงแค่เริ่มขยับไปอย่างช้า.....จากนั้น... "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นทาตามคากล่าวของหลินหมิงอย่างว่าหงาย
สะโพกของนางขยับไปอย่างเชื่องช้าพร้อมกับจังหวะขึ้นลงของนาง
ตามคากล่าวของหลินหมิงต่อมา แม้ว่ามันจะไม่เร้าร้อนเช่นกับใน
ตอนก่อนหน้าแต่นางเองก็ชอบพอความรู้สึกน่่มนวลเช่นนี้นางปล่อย
ตัวไปตามความสุขที่เกิดขึ้น พร้อมกับโน้มตัวลงไปหาร่างเปลื่อย
เปล่าของหลินหมิง แผ่นอกกายาที่ดูสมส่วนใบหน้าของเขาที่ไม่อาจ
เรียกได้ว่างดงามที่สดุ แต่ในสายตาของนางเขาเป็นบุรุษที่ยอดเยี่ม
ที่สุดอย่างแน่นอน
นางเริ่มเรียนรู้จากการกระทาของหลินหมิงลิ้นของนางตวัดโลม
เลียร่างกายของเด็กหนุ่มด้วยความเสน่ห์หา ใบหน้าของนางแดง
ซ่านเต็มไปด้วยความตืน่ เต้น นางแทบไม่อยากจะแยกจากเด็กหนุ่ม
คนนี้อีกต่อไปแล้วเมื่อคิดได้เช่นนั้นจังหวะสะโพกของนาง
เปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นมา
" อ้าา~~~ ข้ารักท่านเจ้าคะ ~~~~~~ "
เพียงไม่นานนางสามารถสัมผัสได้ถงึ ทวนมังกรที่อยู่ในร่างกาย
ของนางนั้นเริ่มมีการสั่นกระตุกดังเช่นในตอนแรกที่เขาได้ปลดปล่อย
น้ารักของเขาออกมา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความยินดีอย่างยิ่งนี้
เท่ากับว่านางจะได้ตกเป็นสตรีของเขาอย่างแท้จริงแล้ว
" ปล่อย..มาเลยเจ้าคะ อร้างงงงงงงงงง~~~~~ "
เมื่อน้ารักของหลินหมิงเข้ามาเต็มภายในท้องของนางนางรู้สึก
เหนื่อยจนเกินกว่าจะทาสิ่งใดได้อีกต่อไป ทวนมังกรของเขายังคงอยู่
ภายในร่างกายของนาง นางทิ้งร่างลงบนร่างกายของหลินหมิงด้วย
สีหน้าเปี่ยมสุขแม้จะยังคงรู้สึกเสียดายที่การร่วมรักของนางจะต้อง
จบลงแต่นางก็เหนื่อยเกินกว่าจะทาสิ่งใดได้แล้วอีกทั้งตัวของเด็ก
หนุ่มที่ทาการส่งน้ารักมาภายในรูทวารของนางมาแล้วหนึ่งครั้งและ
กับซือเซียนภรรยาที่น่าอิจฉาของเขาและล่าสุดกับร่องสวาทของ
นางมันคงเป็นไปได้ยากทีเ่ ขาจะยังคงมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่
เทียบกับบุรุษคนอื่นเด็กหนุ่มผู้นี้สมควรเรียกได้ว่ายอดบุรุษอย่าง
ไม่ต้องสงสัย หากเป็นบุรุษอื่นตามที่นางได้ยินมาพวกเขาใช้เวลาใน
การร่วมรักโดยที่สตรียังไม่ทันได้ปลดปล่อยอารมณ์ความสุขเลยเสีย
ด้วยซ้าไป แต่นางในตอนนี้ปลดปล่อยน้ารักออกไปไม่รู้กี่ครั้งเข้าไป
แล้ว
" เอ๊ะ ! "
ทันใดนั้นนางสัมผัสได้ว่ามือของหลินหมิงกาลังเข้าสัมผัสที่
บริเวณบั้นท้ายของนาง ทวนมังกรที่อยู่ภายในร่างกายของนางนั้เริ่ม
มีการขยับอย่างเชื่องช้าอีกครั้ง
" นะ...นายท่าน...นีท้ ่าน อร๊ายยยยย~~~~~~ "
ร่างกายของนางถูกพลิกอีกครั้งในตอนนี้นางอยู่ในสภาพนอน
คว่าโกงบั้นท้ายที่ยังคงมีทวนมังกรของเขาเสียบร่องสวาทของนาง
อยู่ ในตอนนี้เองนางเริ่มคิดได้แล้วว่าเหตุใดศัตรูของนางอย่างฟ่
งซือเซียนและหญิงสาวทัง้ สี่นั้นถึงได้ยินยอมให้นางได้ร่วมรักกับสามี
ของพวกนาง ไม่ใช่ว่าพวกนางต้องการทรมานนางเพียงแต่ว่าเด็ก
หนุ่มผู้นี้กลับมีความต้องการที่ไม่สิ้นสุดต่างหาก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านล่วงเลยผ่านไปนานมากเพียงใด สภาพของนาง
ในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ารักของหลินหมิงไปทั่วทั้งร่าง มีหลาย
ครั้งที่สติของนางถึงกับดับวูบไปแต่เมื่อนางตืน่ ขึ้นมานางก็พบว่า
ร่างกายของนางยังคงถูกใช้งานเป็นที่บาเร่ออารมณ์อย่างไม่หยุด
หย่อน นางไม่ต่อต้านหลินหมิงแต่อย่างใดแม้ว่านางจะพยายาม
ตอบสนองหลินหมิงให้ได้มากทีสุดแต่เรื่องนั้นมันยากเย็นจนเกินไป
นางทาได้เพียงประคองสติของส่งเสียงครางออกมาเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 87
ภายหลังจากที่หลินหมิงได้ทาการร่วมรักกับผู้อาวุโสฟางซิ่น
อย่างยาวนานจนนางหมดสติไปเหล่าหญิงสาวที่เหลือทั้งสี่ หมิง
เลี่ยน ลีเซียน ฉีหลิน หวางเฟยพวกนางเองก็ต่างไม่ยอมแพ้เมื่อเป็น
เช่นนั้นแล้วหลินหมิงจึงได้ทาการมอบความสุขให้กับพวกนางทั้งสี่
จนพวกนางสุขสมใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นผู้อาวุโสฟางซิ่นเป็นคนที่ได้รู้สึกตัวก่อนใครอื่นเมื่อ
นางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายของหลินหมิงได้หายไปจากนาง
เสียแล้ว เมื่อนางมองไปก็พบว่าในตอนนี้หลินหมิงกาลังหลับอย่างมี
ความสุขท่ามกลางเหล่าหญิงสาวทั้งห้าคน ในตอนนี้นางเข้าใจแล้ว
ว่าเหตุใดฟ่งซือเซียนผู้นี้ถงึ ยอมให้เหล่าสมาชิกของนางเป็นภรรยา
ของหลินหมิง นั้นก็เพื่อการรับมือกับพลังงานอันมากล้นของเด็ก
หนุ่มนั้นเอง
ทันใดนั้นนางสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานประหลาดภายใน
ร่างกายของนาง นางทาสมาธิเพื่อทาการสารวจภายในร่างกายของ
นางในทันที
' นี้มัน ! '
ดวงตาของนางด้วยความตกตะลึง
' ปราญช์ระดับ 1 ขั้นสูงสุด ! '
ไม่เพียงแต่จะสามารถทะลวงมาสู่ระดับปราญช์ได้อย่างง่ายดาย
เพียงคืนเดียวแต่ในตอนนี้นางกลับอยู่จุดสูงสุดของระดับหนึ่งแห่งป
ราญช์
" ข้าบอกแล้วใช่ไหม.... ถือว่าเป็นของขวัญเล็กน้อยสาหรับเจ้าที่
เป็นข้ารับใช้ของข้าแล้ว "
เมื่อนางได้ยินเสียงของหลินหมิงนางรีบลืมตาตื่นขึน้ มาพร้อมกับ
จ้องมองไปที่ใบหน้าของเขาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ ในตอน
แรกที่นางได้ยินนั้นนางยังคงไม่อาจเชื่อได้แต่เมื่อผลลัพธ์ที่อยู่
ตรงหน้านางเช่นนี้แล้วมันจะยังปฎิเสธได้อย่างไรอีก ไม่เพียงแต่จะ
สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปราญช์ได้อย่างง่ายดายแต่พื้นฐาน
พลังปราญช์ในร่างกายของนางนั้นเรียกได้ว่ามั่นคงอย่างมาก
" นายท่าน.. "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นกล่าวเรียกหลินหมิงอย่างไม่มีอาการขวยเขิน
ด้วยความสามารถของเด็กหนุ่มและท่วงท่าที่เขาได้มอบความสุข
ให้แก่นาง นางสาบานกับตนเองเลยว่าจะทาทุกอย่างเพื่อที่ให้เขา
เลื่อนฐานะของนางขึ้นมาให้ได้อย่างแน่นอน ในขณะที่นางกาลังพุ่ง
เข้ากอดเพื่อหวังแนบชิดร่างกายของหลินหมิงอีกครั้งก็มีเสียงหนึง่
ดังขึ้นมาเสียก่อน
" เจ้าเป็นแค่ข้ารับใช้ไม่ใช่หรอ...แล้วเหตุใดถึงได้กล้าทาตัว
เช่นนี้ในขณะที่เจ้านายของเจ้ายังไม่ได้กล่าวกัน อ่อจริงสิเท่ากับว่า
ตอนนี้ข้าที่เป็นภรรยาของเขาก็เป็นนายของเจ้าด้วยใช่หรือ
ไม่เช่นนั้นแล้ว.... "
" ฝันไปเสียเถอะ ! "
ฟ่งซือเซียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับขัดจังหวะของผู้อาวุโสฟางซิ่นได้
อย่างน่าเจ็บใจ แม้ว่าในตอนนี้นางจะมั่นใจได้เลยว่าความสามารถ
ของนางในตอนนี้จะเหนือกว่าหญิงสาวคนนี้ไปแล้วเพียงแต่ว่าหาก
นางลงมือทาอะไรหญิงสาวคนนี้มันคงสร้างความไม่พอใจให้กับ
หลินหมิงเป็นอย่างมาก หลินหมิงยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับรวบร่างของ
พวกนางทั้งสองมาไว้ในอ้อมกอดทั้งสองข้างของเขา
ด้วยร่างกายเปลื่อยของพวกนางทั้งสองมันแทบจะทาให้หลินหมิ
งลุกขึ้นจู่โจมพวกนางอีกครั้งหากไม่ใช่ว่าฟ่งซือเซียนนั้นได้กล่าวขัด
เสียก่อน
ในตอนนี้ที่หญิงสาวทัง้ หมดได้ตื่นขึ้นมาใบหน้าของพวกนางเต็ม
ไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย นั้นก็เพราะว่าพวกนางได้ออกมาจาก
เมืองหลวงมาหลายวันแล้วมันคงไม่ดีนกั หากพวกนางยังคงใช้ชีวิต
อยู่ที่นี้ต่อไป
" ท่านพี.่ ..ไว้ข้าจัดการเรื่องทุกอย่างที่เมืองหลวงแล้วข้าจะไปหา
ท่านโดยเร็วที่สุดเจ้าคะ "
ฟ่งซือเซียนแม้ว่านางจะเจ็บใจที่ต้องปล่อยให้หลินหมิงอยู่กบั
ศัตรูคู่แค้นเช่นนี้แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับไปเมืองหลวง
แล้วกลับมาหาหลินหมิงทีเ่ มืองฟานชูโดยเร็วที่สุดเท่านั้น
" ฮิฮิ พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ารับรองเลยว่าข้าจะดูแลนาย
ท่านของข้าอย่างดีเยี่ยมทุกช่วงเวลาเลยล่ะ "
กับหญิงสาวที่เหลือทั้งสี่นนั้ พวกนางไม่ได้มีความรู้สึกเคืองอะไร
ในตัวของผู้อาวุโสฟางซิ่นมากนักในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว
นั้นหมายความว่าไม่ช้าก็เร็วหญิงสาวผู้นี้ย่อมต้องเป็นหนึ่งในภรรยา
ของเจ้าเด็กหนุ่มนี้อย่างแน่นอน และไม่ว่าเขาจะมีสตรีเพิ่มอีกสักกี่
คนนั้นก็ย่อมไม่ใช่ปัญหาสาหรับพวกนางมากนักเพราะว่าด้วย
เรี่ยวแรงและอารมณ์ที่มากมายของเขาสตรีทั้งหลายเหล่านั้นก็คงไม่
อาจรับมือมันได้ไหวหรอก
จะมีเพียงหัวหน้าของพวกนางเท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีความขุ่น
เคืองกันเล็กน้อยนั้นอาจเป็นเพราะว่าด้วยความงดงามของผู้อาวุโส
สาวคนนี้ มันจึงทาให้นางรู้สึกอิจฉาและด้วยการที่เป็นหญิงสาววัย
เดียวกันมีความสามารถใกล้เคียงกันพวกนางจึงไม่มีทีท่าว่าจะยอม
ให้แก่กันเพียงเท่านั้น ซึ่งหากดูไปแล้วนี้อาจเป็นเพียงการทะเลาะกัน
ราวกับเด็กเสียอย่างนั้นมากกว่า
หลินหมิงจูบลากับหญิงสาวทั้งห้าพร้อมกับกล่าวลาพวกนางไป
เท่ากับว่าในตอนนี้เหลือเพียงเขาและผู้อาวุโสฟางซิ่นในป่าแห่งนี้
เพียงเท่านั้น
" เอ้านี้สมบัติที่เจ้าอยากได้ "
หลินหมิงส่งบงกชเหมันต์ให้กับผู้อาวุโสฟางซิ่นอย่างง่ายดายราว
กับมันเพียงก้อนหินไร้ค่า นางรับมันมาอยู่ในมือด้วยอาการสับสน
จริงว่าด้วยระดับพลังของนางในตอนนี้มันอาจไม่สามารถช่วยเสริม
ให้นางทะลวงไปยังปราญช์ระดับ 2 ในทันทีแต่มันสามารถปรับแต่ง
เปลวเพลิงน้าแข็งของนางให้เหมาะสมและทาให้นางกลายเป็นนัก
ปรุงยาเต็มตัวได้
" แต่ว่า...นี้มันข้าว่านายท่านน่าจะเป็นคนใช้มันมากกว่านะเจ้า
คะ "
" เพียงไม่นานเจ้าก็เริ่มไม่เชื่อฟังข้าเสียแล้ว...เฮ้อ "
" ได้เจ้าคะ ข้ายินดีรับมันเจ้าคะ ! "
นางมองบงกชเหมันต์ในมือของนางด้วยแววตาเป็นประกายการ
ออกมาครั้งนี้เรียกได้ว่านางได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลไม่ว่าจะ
เป็นการทะลวงพลังอันน่าตื่นตะลึงและยังคงได้รับสมบัติที่เหมาะสม
กับเปลวเพลิงของนางที่หาได้ยากยิ่งอีก ทีส่ าคัญที่สุดก็คือการที่นาง
ได้กลายเป็นสตรีของเขา
" นายท่าน...คือว่าพลังปราณหยินในบงกชเหมันต์นี้มันมีมาก
จนเกินไปและข้าเกรงว่าข้าอาจปรับแต่งมันได้ไม่ดีหากไม่รบกวนข้า
อยากให้ท่านช่วยเหลือข้า.. "
" ได้สิ "
เดิมทีที่นางพาตัวหลินหมิงมาที่นี้ก็เพื่อการเก็บเกี่ยวบงกช
เหมันต์และการปรับแต่งมันเนื่องจากไอปราณหยินที่แผ่ออกมาจาก
ตัวของมันในปริมาณมากจนเกินไปหากผู้ที่ต้องการจะนามันมาไม่ได้
มีปราณหยางที่บริสุทธ์มากพอหรือมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอพวก
เขาอาจต้องเจอกับอันตรายที่ส่งผลต่ออนาคตอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาในส่วนนั้นได้ถกู ตัดไปแล้วเนื่องจากว่าฟ่งซือเซียนได้
เป็นคนนามันมาด้วยตัวของนางเอง ระดับปราญช์นั้นถือว่าไม่เป็น
ปัญหาใดสาหรับการนาบงกชเหมันต์มา เหลือเพียงการปรับแต่งมัน
เท่านั้นที่ยังคงเป็นปัญหาสาหรับนางอยู่
ในตอนนี้ผู้อาวุโสฟางซิ่นได้ทาการเริ่มดูดซับบงกชเหมันต์
ในทันทีนางแทบอดใจรอไม่ไว้ถึงผลลัพธ์ที่กาลังจะเกิดขึ้น เพียงแต่
ว่าท่วงท่าที่กาลังดูดซับของนางนั้นอาจแปลกประหลาดไปจากผู้อื่น
สักหน่อย เนื่องด้วยในตอนนี้นางได้กลับมาอยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่า
อีกครั้งพร้อมกับที่ด้านหลังของนางนั้นถูกอ้อมกอดอันอบอุ่นของเด็ก
หนุ่มกอดรัดเอาไว้อย่างแนบแน่น ที่สาคัญที่สุดคือทวนมังกรของเขา
ที่ถูกส่งเข้ามาอยู่ภายในตัวนาง
" นายท่านข้าเกรงว่าแบบนี้มันจะทาให้ข้าดูดซับ...อร้างงงง "
" รู้ไหมนี้เป็นวิธีทที่ ี่ดีสุดแล้วดูดพลังงานที่เจ้าได้ดูดซับไปสิ มันบ
ริสุทธ์ราวกับว่ามันไม่สญ ู เสียพลังงานไปเลยแม้แต่นอ้ ยแถมเจ้า
ยังคงได้รับความสุขเช่นนี้อีก แล้วเจ้าไม่พอใจเช่นนั้น ? "
ในตอนแรกผู้อาวุโสฟางซิ่นนางไม่ได้รับรู้เลยว่าด้วยการที่หลินห
มิงอ้อมกอดนางจากด้านหลังจนนางรู้อบอุ่นพร้อมกับทาการร่วมรัก
กับนางในท่วงท่านี้จะเป็นการช่วยเหลือของเขา จนเมื่อนาง
ตรวจสอบดูก็พบว่ามันเป็นจริงทุกประการพลังงานภายในตัวของ
นางที่ดูดซับมาจากบงกชเหมันต์ถกู กลั่นด้วยความเร็วอันน่า
ประหลาดใจ แม้ว่ามันอาจต้องใช้เวลาไปบ้างเนื่องจากเดิมที
มันเป็สมบัติที่ต้องใช้เวลาดูดซับค่อนข้างนานอาจกินเวลาไปถึงสอง
ถึงสามวัน แล้วเมื่อนางต้องทนรับมือกับการจู่โจมของหลินหมิงไป
ด้วยมันจึงยิ่งทาให้การดูดซับเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า
เป็นเวลาสัปดาห์หนึ่งเต็มๆที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นได้ใช้เวลาดูดซับ
บงกชเหมันต์พร้อมกับการที่หลินหมิงได้ใช้ร่างกายของนางเป็นที่บา
เร่อความใคร่ไปเต็มๆเจ็ดวันด้วยกัน ด้วยเรือนร่างของหญิงสาวที่
งดงามดั่งเทพธิดาเช่นนี้แล้วมีหรือที่หลินหมิงจะรู้สกึ พอใจโดยง่าย
?
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นที่โดนการจู่โจมของหลินหมิงมาตลอดเจ็ดวัน
ในตอนนี้นางพบว่าร่างกายของนางล้วนถูกฟื้นสมบูรณ์จนอยู่ใน
สภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุดบริเวณร่องสวาทและรูทวารที่เคยถูกจู่โจม
ล้วนฟื้นฟูขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกันมันทาให้เวลาที่นางได้ทาการร่วม
รักกับหลินหมิงนั้นร่องสวาทของนางจึงยังคับแน่นอยู่เช่นเคย นาง
จึงไม่ต้องมีความกังวลว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเบื่อนางไปเนื่องจากร่อง
สวาทของนางอาจหลวมเกินไปเพราะถูกใช้งานไปมาก
" นายท่านข้าว่ามันถึงเวลาที่พวกเราสมควรกลับได้แล้ว
เช่นเดียวกัน...เดิมทีพวกเราจากมาโดยไม่ได้บอกใครก่อนโดยเฉพาะ
ท่านป่านนี้อาจารย์ของท่านคงได้ออกตามหาท่านไปทั่วแล้ว "
" ข้ายังรู้สึกกลืนกินเจ้ายังไม่หน่าใจเลยเหตุใดเราไม่อยู่กันนาน
กว่านี้เสียหน่อยเหล่า "
หลินหมิงกล่าวพร้อมกับไซร้คอของฟ่งซือเซียนไปมาอย่างเคลิม
เคลิ้ม
" ฮิฮิ..พอแล้วเจ้าคะ...ใช่ว่าเมื่อกลับไปแล้วนายท่านจะไม่ได้ทา
กับข้าเสียหน่อยข้านั้นยินดีปรนเปร่อให้กับท่านทุกเมื่อเจ้าคะ "

ตอนที่ 88
หลินหมิงปรากกฎตัวขึ้นพร้อมกับผู้อาวุโสฟางซิ่นที่หน้าตานัก
ของอาจารย์สาวสวยด้วยอาคมที่ฟางซิ่นได้ใช้เช่นเดียวกันกับใน
ตอนแรกที่นางได้พาเขาไป แม้ว่ามันจะเป็นอาคมที่ดูสะดวกสบาย
เพียงแต่ว่าการที่จะใช้มันได้ย่อมต้องใช้ทรัพย์สมบัติจานวนไม่น้อย
อีกทั้งมันยังขึ้นอยู่กับระยะทางที่ตั้งระบุเอาไว้อีกด้วย
ผู้อาวุโสฟางซิ่นนั้นไม่ได้มที ีท่าความรู้สึกเสียดายกับทรัพย์สิน
เพียงเท่านี้สักเท่าไหร่นัก ด้วยจานวนของมันทีน่ างต้องเสียในการ
เดินทางไปกลับสองรอบพร้อมกับพาหลินหมิงไปด้วยมันทาให้นาง
ต้องใช้สมบัติเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่หากเมื่อเทียบกับสิง่ ที่นาง
ได้รับมาในตอนนี้ทรัพย์สินที่เสียไปล้วนคุ้มค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
" นายท่านหากท่านมีสงิ่ ใดต้องการใช้ข้ารับใช้เพียงแค่ท่านมา
หาข้าที่ตานักของข้าหรือเพียงส่งคนมาแจ้งข่าวแก่ข้า ข้านั้นจะรีบ
ไปหาท่านโดยเร็วที่สุด "
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นเต็มไปด้วยความยิ้มแย้มนางพลัน
เคลื่อนตัวหายไปจากสายตาของหลินหมิงอย่างรวดเร็วหลังจากที่
นางกล่าวจบ ด้วยศักยภาพของนางในตอนนี้อาจเป็นไปได้ว่านาง
อาจสามารถเทียบเคียงกับอาจารย์สาวสวยของเขาได้แล้ว ? หลินห
มิงไม่ทันได้คิดสิ่งใดต่อเพียงไม่นานหลังจากที่เขาปรากฎตัวขึ้น
บรรดาสาวใช้ในตานักของอาจารย์สาวสวยรีบพุ่งมาหาเขาด้วย
ความรวดเร็วพร้อมกับอาการร้อนรน
" คุณชาย...ท่านอยู่ที่นี้เองรึเจ้าคะ ท่านประมุขตามหาท่านอยู่
เจ้าคะขอเชิญท่านรีบไปเถอะเจ้าคะ "
ดูจากใบหน้าที่รีบร้อนของสาวใช้ผู้นี้แล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่า
อาจารย์สาวสวยของเขานั้นคงเป็นกังวลในเรื่องนี้มากเพียงใด
ภายในห้องของจูหนิงเอ๋อร์สีหน้าของหัวหน้าสมาคมนักปรุงยา
ในตอนนี้เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ภายใน
สมาคมล้วนถูกออกคาสั่งให้ออกตามหากตัวศิษย์ของนางอย่าง
ห้ามปฎิเสธใดทัง้ นั้น นางอุตส่าตามหาศิษย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
กับที่นางได้ตั้งเป้าหมายไว้และเมื่อดูจากการพัฒนาอันก้าวกระโดด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องเป็นอัจฉริยะที่เหนือล้ายิ่งกว่า
ผู้ใด นางกระทั่งวาดฝันไว้ว่าในอนาคตเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่ทาให้
สมาคมนักปรุงยาแห่งนี้นนั้ เจริญรุ่งเรื่องถึงขีดสุด
" ท่านประมุขออกอนุญาติเจ้าคะ "
ในขณะที่นางกาลังขบคิดเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่เด็กหนุ่มน่าจะ
ไป นางกระทั่งคิดไปว่าศิษย์ของนางอาจถูกตระกูลหลินจู่โจมอีกครั้ง
? แต่ด้วยความแข็งแกร่งของตัวนางยังคงไม่เพียงพอที่จะรับมือกับ
ประมุขตระกูลหลินอีกทั้งในคราวนี้ยังไม่มีใครเห็นเขาออกไปจาก
ภายในสมาคมแม้แต่คนเดียว ทันใดนั้นเมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาความ
กังวลที่สะสมมาตลอดหลายวันนี้ราวกับถูกปัดเป่าให้หายไปราวกับ
เป็นเรื่องตลก
หญิงสาวรับใช้เดินออกจากห้องในทันทีที่นางนาทางหลินหมิง
มาถึง หลินหมิงแทบจะสรรหาคามาพูดในตอนนี้ไม่ออกเลยทีเดียวดู
จากความวุ่นวายในระหว่างที่เขาได้เดินทางมายังห้องของนางก็
เพียงพอที่จะรับรู้ได้ว่านางเป็นกังวลมากเพียงใด
" นี้เจ้าหายไปไหนมาหลาย........สวรรค์ ! มะ...ไม่นา่ เชื่อ "
ในขณะที่จูหนิงเอ๋อร์กาลังเตรียมตะโกณด่าท้อศิษย์ของนาง นาง
พลันสัมผัสได้ถงึ พลังงานในร่างกายของเขาที่แข็งแกร่งขึ้นกว่า
เมื่อก่อนแบบเทียบไม่ติด ดวงตาของนางเบิกกว้างเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงแม้ว่านางจะเคยเห็นอัจฉริยะมามากมายทั้งในเมืองแห่งนี้
หรือกระทั่งเมืองหลวง แต่ไม่มีใครที่สามารถทาให้นางต้องตื่นตะลึง
เช่นนี้มาก่อน
" นี้เจ้าระดับก่อเกิดแล้ว ? แถมยังระดับ 7 !! "
ในก่อนหน้านี้ที่เขาไปภารกิจกับศิษย์พี่ของเขาหลัวฉิงเชี่ยนนั้น
เขาเป็นคนให้นางเป็นคนบอกกล่าวเรื่องการทาภารกิจแก่อาจารย์
สาวสวยดังนั้นแล้วนางจึงไม่ยังได้รับรู้พลังของเขาหลังจากในตอน
นั้น คากล่าววาจารที่เคยคิดด่าท้อกลับแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใส
และเสียงหัวเราะอย่างน่าหลงไหลอันเป็นเอกลักษณ์ประจาตัวนาง
" ที่แท้เจ้ากลับไปแอบฝึกตนจนก้าวกระโดดเช่นนี้ มิน่าเหล่าแต่
เจ้ารู้ไหมคราวหน้าเจ้าไม่จาเป็นต้องทาเช่นนี้หากเจ้าต้องการ
สถานที่เงียบสงบในการฝึกแล้วละก็ข้าสามารถสั่งให้ทุกคนใน
สมาคมห้ามเข้าไปรบกวนในลานฝึกของตานัก "
ผู้อาวุโสฟางซิ่นหน้าเดินวนรอบตัวของหลินหมิงพร้อมกับ
สารวจร่างกายที่ดูแข็งแรงผิดกับอายุวัย 15 ปีของเขาหากเทียบกัน
แล้วด้วยการที่เขาอายุเพียงเท่านี้การที่เขาสามารถบรรลุถึงระดับ
ปราณเริ่มต้นขั้นที่ 8 หรือ 7 ได้มันย่อมเป็นเรื่องที่นา่ พอใจอย่างมาก
แล้ว แต่ในตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถก้าวไปสู่ระดับก่อเกิดได้
แต่เขากลับสามารถบรรลุได้ถึงระดับก่อเกิดระดับปลายอย่างระดับ
7 ภายในช่วงเวลาไม่กี่เดือน !
เช่นนี้แล้วรุ่นเยาว์ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะทั้งหลายอย่าง
บรรดาบุตรที่แสนภาคภูมิใจทั้งหลายของตระกูลหลินหรือกระทั่ง
สาวน้อยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อย่างหลิวฉวนยูร์แม้แต่ศิษย์ที่
มีพรสวรรค์มากที่สุดของนสานักอย่างหลัวฉิงเชี่ยนก็ยังไม่สามารถ
นามาเปรียบได้
" ไม่สิๆ จะดีกว่าหากเจ้าได้สถานที่เงียบสงบอย่างแท้จริงเอา
เป็นว่าข้าจะสร้างหอฝึกให้แก่เจ้าเป็นการส่วนตัวแน่นอนว่ามันอาจ
อยู่ไกลไปสักเล็กน้อยแต่เรื่องความสะดวกนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล แล้ว
ทักษะที่ข้าให้ไปเจ้าศึกษามันไปถึงไหนแล้วข้าสามารถแนะนาเจ้าได้
สักเล็กน้อยนะหากเจ้ายังมีเรื่องสงสัย.......... "
บรรดาคากล่าวของอาจารย์สาวสวยของหลินหมิงกล่าวออกมา
อย่างไม่หยุดพร้อมกับการที่นางยังคงสารวจร่างกายของหลินหมิ
งต่อไป ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความก้าวหน้าอันน่าทึ่งนี้อาจเป็นไป
ได้ว่าเขาได้รับโอกาศที่ฟ้าได้ประทานมาให้อย่างเช่นสมบัติต่างๆ
เพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านั้นแน่นอนว่าสามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์ก้าวหน้า
ได้แต่ในอนาคตของพวกเขาจะถูกจากัดเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกันหาก
พวกเขาใช้มันมากจนเกินไปหรือใช้สมบัติที่ไม่เหมาะสมกับระดับ
ของพวกเขา
แต่หลังจากที่นางตรวจสอบดูแล้วพลังงานก่อเกิดในร่างของ
หลินหมิงนั้นล้วนถูกสร้างมาอย่างมั่นคงเสียยิ่งกว่าผู้บ่มเพาะในระ
นับนี้มานานนับปีเสียอีก ดังนั้นแล้วนางจึงไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้
แม้ว่านางจะยังคงอยากจะรู้ว่ามันเป็นสมบัติใดที่สามารถนาความ
วิเศษณ์เช่นนี้มาได้แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้สาคัญสักเท่าไหร่หากเทียบ
กันศิษย์ของนางที่เป็นความหวังในตอนนี้
หลินหมิงไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือราคานแต่อย่างใดนั้นไม่ใช้เพราะว่า
เขาชอบฟังผู้อื่นพูดกล่าวแต่มันเป็นเพราะในยามนี้เขาสามารถสูด
ดมกลิ่นกายของอาจารย์สาวสวยในระยะใกล้ชิดได้ ดังนั้นมันจึงไม่มี
อะไรที่เขาจะต้องปฎิเสธนาง และหลินหมิงยังคงไม่แก้ไขความใจผิด
ของนางที่คิดว่าเขาไปเก็บตัวฝึกฝนมาด้วยเพราะว่าถึงเขาบอก
ความจริงไปทุกอย่างมันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมายนัก
" คิค.ิ ..ถือว่าเจ้าได้ดีมากไม่ผิดหวังที่ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์...ต่อจาก
นี้เจ้าจะได้รับเงินจานวนสองหมื่นเหรียญทุกเดือนพร้อมกับเม็ดยา
บ่มเพาะระดับ 4 "
ดวงตาของหลินหมิงเป็นประกายแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีปัญหาเรื่อง
เงินในตอนนี้เพียงแต่ว่าการมีมันสะสมเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
เทียบกับเงินจานวนนี้แม้ว่ามันจะน้องกว่ารางวัลชนะการแข่งขัน
ของเขาในครั้งที่ได้มาห้าหมื่นเหรียญพร้อมกับเม็ดยาบ่มเพาะระดับ
6 แต่เขาสามารถรับมันได้ตลอดทุกเดือน ! เพียงแค่เงินจานวนหนึ่ง
หมื่นเหรียญนั้นก็เรียกได้วา่ มากจนเกินพอเทียบกับระดับก่อเกิด
ทั่วไปพวกเขาสามารถหาเงินได้เพียงเดือนละ 3 พันเหรียญเพียง
เท่านั้น อีกทั้งเขายังได้รบั เม็ดยาบ่มเพาะระดับ 4 ซึ่งแน่นอนว่ามัน
จะต้องเป็นระดังสูงและราคาของมันก็คงอยู่ที่ราวๆ หนึง่ หมื่น
เหรียญ
" ขอบพระคุณท่านอาจารย์ "
" นี้ถือเป็นสิ่งตอบแทนสาหรับผลงานของเจ้า แล้วก็ข้าแนะนา
ว่าเจ้าไม่ควรโหมฝึกเสียจนมากเกินไปอย่างไรเสียในตอนนี้เจ้าก็มี
เงินไว้ใช้อยู่พอตัว เจ้าก็ควรผ่อนคลายเสียบ้างไม่เช่นนั้นแล้ว
ร่างกายเจ้าจะรับภาระหนักจนเกินไป...แล้วก็รับนีไ้ ปด้วย "
จูหนิงเอ๋อร์ส่งป้ายหยกสีเขียวที่มีสัญลักษณ์ของสมาคมนักปรุง
ยาด้วยสัญลักษณ์นี้เพียงแค่คนทั่วไปมองเห็นพวกเขาอาจต้องสั่น
เทาไปด้วยความกังวลเพราะว่ามันไม่ใช่เพียงป้ายสาหรับผู้อาวุโส
ของสมาคมนักปรุงยาทั่วไปแต่มันหมายถึงป้ายทีม่ ีตาแหน่งสูง
รองลงมาจากตาแหน่งประมุขสมาคมอันมีเพียงแต่เดิมเพียงสองนั้น
ก็คือผู้อาวุโสซูหลิ่งและผูอ้ าวุโสฟางซิ่นเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 89
หลังจากที่หลินหมิงใช้เวลาพูดคุยกับอาจารย์สาวสวยอย่าง
ยาวนานอันที่จริงแล้วมันเป็นเพียงแค่การพูดคุยอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น
และมีบ้างที่หลินหมิงจะตอบเป็นครั้งคร่าวแม้ว่าเมื่อดูจากภายนอก
แล้วอาจารย์สาวสวยของเขาผู้นี้จะดูเป็นคนที่ไม่ใช่คนเงียบครึมแต่
การที่นางพูดกล่าวกับหลินหมิงเช่นนี้นั้นย่อมเป็นเพราะว่านางมี
ความรู้สึกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกเลยต่างหาก
ในตอนแรกนั้นแม้ว่านางจะรับหลินหมิงเข้าเป็นศิษย์ส่วนตัว
แล้วแต่ป้ายหยกนั้นนางยังไม่มีความคิดที่จะให้หลินหมิงถือครอง
ด้วยป้ายที่แสดงถึงสถานะอันสูงส่งของสมาคมนักปรุงยาหากใคร
เห็นเขาว่าผู้ถือเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มีพลังปราณระดับเริ่มต้นพวก
เขาอาจล้มลงพื้นแล้วหัวเราะจนแทบขาดใจตายก็เป็นได้ แต่
ในตอนนี้แม้ว่าป้ายหยกส่วนใหญ่ของเหล่าตระกูลหรือผู้ที่มีอานาจ
นั้นส่วนใหญ่ล้วนถูกถือครองโดยผู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่างน้อยก็
ระดับจอมยุทธ์ขึ้นไป
เพียงแต่ว่าตัวของหลินหมิงในวัยเท่านี้กับประสบผลสาเร็จอย่าง
งดงามในการบ่มเพาะพลังและเมื่อเขาสัญจรไปที่ใดและผู้คนได้
พบว่าเขาถือครองป้ายหยกของนางอยู่นั้นเท่ากับว่าเป็นการ
ประกาศความแข็งแกร่ง ความเจริญรุ่งเรืองของสมาคมในอนาคต
ไปด้วย
ในตอนแรกหลินหมิงคิดจะไปหาแม่เทพธิดาตัวน้อยของเขา
หลิวฉวนยูร์แต่เมื่อเขาไปถึงหน้าตานักของผู้อาวุโสซูหลิ่งก็ได้รับ
คาตอบจากบรรดาสาวใช้ว่าพวกนางทั้งสองได้ออกไปฝึกฝนตน
ภายนอก หลินหมิงกลับมายังห้องของเขาโดยทีม่ ีการต้อนรับจาก
หญิงสาวจานวนมากภายในห้อง
หญิงสาวสองพี่น้อง ซื่อโฉว กระทั่งเสี่ยวยู้ ทันทีที่พวกนางรู้ว่า
หลินหมิงกลับมาแล้วพวกนางรีบเตรียมตัวพร้อมต้อนรับคุณชาย
ของพวกนางในทันทีแม้วา่ พวกนางอยากจะวิ่งออกไปหาเขาในทันที
แต่ด้วยฐานะของพวกนางนั้นการทาเช่นนั้นคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่
นัก
" พี่ชายกลับมาแล้ว ! "
เป็นหญิงสาวตัวน้อยเสี่ยวยู้ที่กระโดดเข้ากอดหลินหมิงด้วย
ใบหน้าสดใสของเด็กวัยไม่ถึงสิบปี จากเดิมที่นางเคยเป็นเด็กซุกซน
จากหมู่บ้านแถวชายแดนจนสามารถพบร่องรอยคราบสกปรกตาม
ร่างกายของนางได้อยู่ทั่วไป แต่ในตอนนี้นางกลับถูกทาความสะอาด
จนเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ผิวพรรณพุดพ่องของนางสว่าง
กระจางชัดขึ้นมากกว่าเดิมจนสามารถรู้สึกได้ถึงสัมผัสอันเบาสบาย
ที่เกิดหากได้จับต้องผิวของเด็กสาวผู้นี้
หลินหมิงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนล้าด้วยการประสบ
เหตุการณ์ที่อันตรายต่อชีวิตในช่วงเวลาไม่นานนี้มนั แทบจะทาให้
เขารู้สึกเหมือนกาลังถูกกลั่นแกล้งจากสรวงสวรรค์ เมื่อเขาลองหวน
นึกถึงภาพของคนในตระกูลหลินต่างๆที่เคยดูถูกกลั่นแกล้งเขาเอาไว้
หากพวกเขาได้รับรู้ความจริงแล้วนั้นใบหน้าของพวกเขาจะเป็นเช่น
ไรกัน
นี้ยังไม่รวมถึงผู้สนับสนุนของเขาอย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือฟ่
งซือเซียนพร้อมกับกลุ่มของนางเพียงแค่หญิงสาวสองคนแรกที่มี
พลังระดับปราญช์ทั้งคู่การที่ตระกูลหลินจะต้องเป็นศัตรูกับพวกนาง
ทั้งสองแม้จะเป็นบิดาของเขาก็ไม่น่าจะรับมือพวกนางทั้งคู่ได้ไหว
" มีเรื่องอะไรรึเจ้าคะ "
หญิงสาวคนพี่กล่าวออกมาในตอนนี้หญิงสาวทั้งสามไม่รวม
เสี่ยวยู้ที่กาลังนอนกอดหลินหมิงอยูก่ าลังนวดบรรเทาความเหนื่อย
ล้าให้กับคุณชายของพวกนาง แม้ว่าพวกนางจะไม่รู้ว่าหลินหมิงไป
ทาสิ่งใดมาในช่วงเวลาหลายวันมานี้เพียงแต่ในระหว่างที่หลินหมิ
งถูกเรียกเข้าไปคุยกับประมุขสมาคมนั้นได้เกิดคากล่าวบอกต่อกัน
มาปากต่อปากว่าในตอนนี้ศิษย์ของประมุขสมาคมได้ก้าวสู่ระดับก่อ
เกิดแล้ว ! แถมยังเป็นระดับ 7 อีกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้นย่อมมีผู้อาวุโสจานวนมากเข้าไปถาม
จูหนิงเอ๋อร์แต่พวกนางที่เป็นเพียงสาวใช่นั้นจึงไม่สามารถรับรู้ได้
เพียงแต่ว่าหากคิดดูแล้วว่าในเมื่อผู้อาวุโสทั้งหลายภายในตานักแห่ง
นี้ได้เข้าไปถามแล้ว และยังคงไม่ข่าวแก้ไขแต่อย่างใดนั้นไม่ใช่คา
กล่าวเหล่านั้นล้วนเป็นจริง ? อีกทั้งดูเหมือนว่าประมุขสมาคมใน
วันนี้นางจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเสียด้วยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นางแทบจะ
พลิกเมืองตามหาศิษย์
" ไม่มีอะไรหรอก อ่า ในตอนนี้ข้าอยากได้การปรนนิบัติมากกว่า
การนวดเสียแล้วสิ ไม่ใช่ว่าข้าหายไปนานแล้วพวกเจ้าคงรังเกียจข้า
ไปแล้วหรอกนะ "
" ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นเจ้าคะ "
.ใบหน้าของหญิงสาวสองพี่น้องเต็มไปด้วยความเอียงอาย ส่วน
ซือโฉวนั้นแววตาของนางเต็มไปด้วยประกายในทันทีน่าเสียดายที่
สาวน้อยอย่างเสี่ยวยู้หลับไปแล้วไม่งนั้ หลินหมิงคงได้สอนท่วงท่า
อะไรใหม่ๆให้กับสาวน้อยผู้นี้เสียหน่อย
หลังจากหลินหมิงใช้เวลาพักผ่อนอย่างยาวนานภายในห้องของ
ตนเองโดยมีหญิงสาวปรนนิบัติรับใช้ตั้งแต่เย็นจนกระทั่งช่วงสาย
ของวันใหม่ หลินหมิงลุกขึ้นออกมาจากห้องด้วยสภาพสมบูรณ์ทั้ง
กายใจแม้ว่าหญิงสาวเหล่านี้จะไม่ได้มีความงามที่สามารถเทียบได้
กับผู้อาวุโสฟางซิ่นหรือเหล่าสมาชิกของฟ่งซือเซียนแต่ทักษะการ
ปรนนิบัติของพวกนางเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เนื่องจากพวกนางมีฐานะเป็นเพียงสาวใช้ที่ต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้
ตั้งแต่เด็ก แถมยังเมื่อพวกนางได้ผ่านการร่วมรักกับหลินหมิงมีหรือ
ที่พวกนางจะไม่นาเอาสิ่งนั้นมาใช้เพื่อให้นายของพวกนางมี
ความสุข
ในตอนนี้ทุกคนในตานักล้วนมองมาทีห่ ลินหมิงด้วยสายตาที่
เปลี่ยนไปแต่เดิมในตอนทีห่ ลินหมิงมายังสถานที่แห่งนี้พวกนางอาจ
มองว่าหลินหมิงเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่โชคดีเท่านั้นเพียงแต่วันนี้พวก
นางได้รู้แล้วว่าความสามารถในตัวของเด็กหนุ่มผู้นยี้ อดเยี่ยม
เพียงใด กระทั่งเหล่าบรรดาสาวใช้ของหลินหมิงในตอนนี้พวกนาง
เรียกได้ว่ามีฐานะดียิ่งกว่าสาวใช้ทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความ
แข็งแกร่งของหลินหมิงในตอนนี้มันเป็นการการันตีได้เป็นอย่างดีว่า
ในอนาคตนั้นเขาจะต้องได้ตาแหน่งสูงภายในสมาคมหรือกระทั่ง
ได้รับการสืบทอดตาแหน่งต่อจากประมุขก็เป็นได้
แต่เรื่องใหญ่นั้นกลับไม่ได้มีเพียงแค่ความแข็งแกร่งของหลินหมิ
งเพียงอย่างเดียวในไม่ช้านานได้เกิดความลือแพร่สะพัดไปอย่าง
รวดเร็วถึงการก้าวข้ามระดับสู่ขอบเขตปราญช์ของผู้อาวุโสฟางซิ่น
อีกทั้งในตอนนี้นางกระทั่งสามารถปรุงยาได้ด้วยเปลวเพลิงของนาง
ที่มีความบริสุทธ์ ด้วยข่าวทั้งสองนี้หากบรรดาขั้วอานาจต่างๆ
ภายในเมืองได้รับรู้พวกเขาคงได้แต่หวาดกลัวในความแข็งแกร่ง
ของสมาคมนักปรุงยา
หลินหมิงตัดสินใจจะใช้เวลาในช่วงนี้เสพสุขกับการพักผ่อนให้
เต็มที่ ในตอนนี้บรรดาสาวใช้ของเขาได้ถูกจู่โจมจนหมดแรงไม่อาจ
รับมือได้ไหว ผู้อาวุโสฟางซิ่นในตอนนี้คงหมกหมุน่ อยู่กับการศึกษา
พลังระดับปราญช์ของนางและทักษะการปรุงยา เช่นนั้นแล้วมัน
ย่อมเหลือเพียงสถานที่แห่งเดียวเท่านั้น

ตอนที่ 90
เป้าหมายของหลินหมิงไม่ใช่ที่ใดอื่นนอกเสียจากหอนางโลมของ
เหลียนเย่อิ๋ง ไม่เพียงแต่เขาต้องการที่จะให้หญิงสาวเจ้าของหอนาง
โลมนางนี้ช่วยปรนบัติแต่หากเขาไปที่หอนางโลมของนางแน่นอนว่า
เขาต้องพบกับป้าห้าของเขาหรือเหม่ยฮวานั้นเอง เมื่อครุ่นคิดถึง
หญิงสาวสูงวัยคนนี้ที่นางกลายเป็นสาวร่านนิยมชมชอบในรสชาติ
บทเพลงรักของเขาจนกลายเป็นทาสไปเสียอย่างง่ายดาย เช่นนั้น
แล้วในช่วงที่เขาไม่อยู่หลายวันนี้เป็นไปได้หรือไม่วา่ หญิงสาวคนนี้
อาจคลั่งเสียจนแทบบ้าตายไปแล้ว ?
เพียงแต่ว่าในระหว่างทางที่หลินหมิงกาลังจะไปหอนางโลมอยู่
สายตาของเขาพลันพบกับเรือนร่างของหญิงสาวที่คุ้นเคยซึ่งดู
เหมือนว่านางจะสังเกตเห็นเขาด้วยเช่นเดียวกัน หญิงสาวเดินเขา
มาหาหลินหมิงพร้อมกับร้อยยิ้มอันสดใสเสียจนเขาเคลิ้มลืมสติไป
ชั่วขณะไม่ว่าเขาจะมีประสบการณ์กับสตรีมามากเพียงใดแต่ดู
เหมือนว่าเสน่ห์ของหญิงสาวผู้นี้ก็ยังสามารถส่งผลกระทบกับเขาได้
" ศิษย์น้อง..เป็นเจ้าจริงๆด้วย "
เป็นหลัวฉิงเชี่ยนหญิงสาวที่งดงามราวกับเทพธิดาอีกคนหนึ่งที่
หลินหมิงเคยพบเจอมา เนื่องจากนางไม่ได้เป็นศิษย์หลักของผู้
อาวุโสคนใดในสมาคมดังนั้นแล้วเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้เห็นนาง
ภายนอกสมาคม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงเล็กน้อย
พร้อมกับร้อยยิ้มโค้งเรียวที่ผุดขึ้นมา
" ไม่น่าเชื่อจริงเชียว...เพียงไม่เจอกันเพียงไม่ถึงเดือนเจ้ากลับ
พัฒนาขึ้นเช่นนี้ "
" ผู้น้องได้ดีเช่นนี้เพราะส่วนหนึ่งมาจากคาสอนของศิษย์พี่
เช่นเดียวกัน "
หลัวฉิงเชี่ยนนางไม่ได้รู้สกึ อิจฉากับตาแหน่งและสถานะของ
หลินหมิงแต่อย่างใด กลับกันนางกับรู้สกึ ว่ามันเป็นความรู้สึกที่น่า
ภูมิใจเสียมากกว่าเนื่องจากเดิมทีนั้นแม้ว่านางจะมีตระกูลหนุนหลัง
อยู่ แต่ตระกูลขอนางเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าขนาดกลางที่ไม่ได้สนใจ
ในเรื่องวิถีรบ ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องยากมากสาหรับนางในการที่
จะสามารถพัฒนาตนเองได้แม้ว่านางจะมีพรสวรรค์ก็ตามที
หากไม่ใช่ว่านางได้รับโอกาศจากประมุขสมาคมนักปรุงยาที่
ยอมรับนางเป็นศิษย์ทั่วไปแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่านางในตอนนี้คงไม่
อาจก้าวขึ้นระดับก่อเกิดได้อย่างแน่นอน แต่กลับกันเด็กหนุม่ อายุ
15 ปีผู้นี้ที่ไร้ซึ่งผู้หนุนหลังใดๆเขาเป็นเพียงเด็กหนุม่ สามัญที่ประมุข
สมาคมนาตัวมา และด้วยเช่นนั้นเขาสมควรที่จะขาดความรู้พื้นฐาน
ต่างๆสาหรับวิถีนักรบต่างจากผู้ที่มีตระกูลหนุนหลังอื่นๆที่ได้รับการ
สอนตั้งแต่ยังเด็ก
แต่ในตอนนี้เขากลับพัฒนาจนถึงในระดับที่อัจฉริยะอย่างนาง
ยังคงต้องอายหากถูกกล่าวเรียกเช่นนั้นแม้นางจะยังสัมผัสพลังที่แน่
ชัดของหลินหมิงไม่ได้แต่จากข่าวลือที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ภายในสมาคมนั้นกล่าวไว้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีพลังก่อเกิดระดับ 7 ซึ่ง
หากแม้มีความผิดเพี้ยนไปบ้างความแข็งแกร่งของเขาก็ย่อมต้อง
มากกว่านางที่อยู่ในระดับก่อเกิดนระดับ 3 อยู่ดี ซึ่งนั้นก็นับเป็น
เรื่องที่น่าตื่นตะลึงไม่น้อยไปกว่ากันหากเทียบกับอายุของเขา
ในตอนนี้
" คิคิ เจ้านี้กล่าวยอผู้อื่นเก่งเสียจริง แล้วเจ้ามาเดินเที่ยวภายใน
เมืองเช่นนั้นหรือ "
" ใช่แล้วขอรับข้าเพิ่งออกจากการเก็บตัวฝึกฝน และยังได้รับ
คาแนะนาจากท่านอาจารย์ให้มาพักผ่อนเสียบ้างจึงว่าเดินชม
ภายในเมืองเสียหน่อย "
หลัวฉิงเชี่ยนกล่าวกับหลินหมิงอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากนาง
และหลินหมิงนั้นได้เคยมีประสบการณ์การไปทาภารกิจร่วมกันมา
ก่อนนางจึงมีความคุ้นเคยกับเด็กหนุม่ ไม่น้อย อีกทัง้ ด้วยสถานะของ
เด็กหนุ่มที่ประสบชะตากรรมที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่านางแต่เขากลับไม่
มีสายตาของคาว่าท้อถอยเลยแม้แต่น้อยนั้นจึงทาให้นางรู้สึกดีกับ
หลินหมิง เทียบกับเหล่าคุณชายจานวนมากที่เข้าหานางเพียงเพราะ
ประสงค์หวังในเรือนร่างที่แสดงออกมาจากสายตาของพวกเขา
อย่างเด่นชัดแล้ว การคุยกับเด็กหนุม่ ผู้นี้ยังเป็นอะไรที่สบายใจนาง
กว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
" เช่นนั้นแล้วในฐานะศิษย์พี่ ข้าเองยินดีจะเป็นคนนาเที่ยวชมดี
หรือไม่ "
" โอ้ หากได้นางสตรีงามเช่นท่านเป็นคนนาเที่ยวชมไหนเลยข้า
จะปฎิเสธได้ "
หลินหมิงตัดใจจากหอนางโลมของเหลียนเย่องิ๋ ในทันทีเมื่อ
สถานการณ์เป็นเช่นนี้ แม้จะเป็นเพียงการเดินเล่นพูดคุยกัน แต่
เช่นนั้นมันก็ทาให้หลินหมิงรู้สึกพอใจไม่ใช่น้อยการที่ได้เดินเล่น
พูดคุยกับสาวงามอย่างหลัวฉิงเชี่ยนนางนี้นั้นอาจเป็นความฝันของ
บุรุษหลายคนที่ไม่อาจเป็นจริงดังนั้นแล้วหลินหมิงย่อมต้องทาตาม
ความฝันเหล่านั้นแทนบุรุษที่ไม่มีโอกาส
หลัวฉิงเชี่ยนจากที่นางได้รับรู้มานั้นหลินหมิงเป็นเพียงเด็กหนุ่ม
สามัญที่ประมุขพบเขาโดยบังเอิญอีกทั้งเขายังไม่ญาติหรือ
ครอบครัวแต่อย่างใดซึ่งมันเป็นไปได้ว่าเขายังคงไม่เคยได้เห็น
สถานที่ต่างๆในเมืองแห่งนี้มากนัก
หลัวฉิงเชี่ยนหัวเราะชอบใจอย่างงดงามเล็กน้อยเมือ่ ได้ยินคา
กล่าวของหลินหมิง แม้ว่านางจะเคยได้รับคาชมมามากมายจาก
เหล่าบุรุษแต่หากเทียบกับคากล่าวที่ออกมาจากปากของศิษย์น้อง
ของนางผู้นี้นั้นนางรู้ดีว่านี้เป็นเพียงคาหยอกล้อของเขาเพียงเท่านั้น
ที่นางได้รับมาตลอดในช่วงที่ทาภารกิจด้วยกัน
ร่างทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างเชื่องช้าหากบุคคลภายนอกมองดู
พวกเขาแล้วละก็พวกเขาคงได้แต่คิดว่าทั้งคู่นี้เป็นคู่หมั้นกันอย่าง
แน่นอน หลัวฉิงเชี่ยนทาหน้าที่ในการแนะนาเมืองได้อย่างน่าชื่นชม
กระทั่งสถานที่บางแห่งทีห่ ลินหมิงไม่คาดคิดว่าจะมี กระทั่งร้าน
เล็กๆที่หากเขาทาการเดินผ่านนั้นอาจไม่พบเจอหญิงสาวผู้นี้ก็
สามารถแนะนาได้อย่างไม่ยากเย็น
ไม่รู้ว่าเวลาแห่งความสุขนี้ผ่านไปนานเพียงใดหลินหมิงพลัน
สังเกตสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปในทันทีของหญิงสาวพร้อมกับร่างของ
นางที่หยุดเดินลงจ้องมองไปยังเบื้องหน้า
" ช่างบังเอิญเสียจริง ที่ข้าได้พบเจ้าเช่นนี้ "
ปรากฎกลุ่มชายสามคนโดยที่คนที่อยู่ตรงกลางนั้นอายุราว25ปี
ใบหน้าของเขาเรียกได้ว่างดงามที่อยู่ในระดับเดียวกันกับหลินหมิง
หรือไม่ก็อาจมากกว่าโดยมีชายหนุ่มวัยไม่ต่างกันมากอีกสองคน
ประกบข้างทาหน้าที่เหมือนเป็นคนคุ้มกันให้กับเขาอยู่ ไม่ต้องสงสัย
ว่าชายหนุ่มผู้นี้ย่อมต้องเป็นคนที่มาจากตระกูลที่มฐี านะพอสมควร
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่กล้ากล่าวกับหลัวฉิงเชี่ยนโดยง่ายเช่นนี้
" ยินดีที่ได้พบคุณชายหยางเจ้าคะ "
แท้จริงแล้วชายหนุ่มวัย25ปีผู้นี้คือบุตรของผู้นาตระกูลเหยียน
อันเลื่องชื่อแม้ว่าตระกูลของพวกเขาจะยังคงไม่สามารถเทียบได้กบั
ตระกูลหลินหรือตระกูลหลัว แต่ก็นับได้ว่าพวกเขามีความแข็งแกร่ง
ในระดับต้นๆของเมืองได้เช่นเดียวกัน มันจึงไม่น่าแปลกใจนักที่
หลัวฉิงเชี่ยนแสดงที่ท่ากังวลเช่นนี้ ทั้งที่ชายหนุ่มผูน้ ี้มีระดับเพียงก่อ
เกิดระดับ 2 ซึ่งอ่อนแอ่กว่านางเสียอีก
สายตาของเหยียนหยางจ้องมองไปยังเรือนร่างของหลัวฉิงเชี่ยน
อย่างหื่นกระหายเล็กน้อยแล้วจึงรีบเปลี่ยนสายตาอย่างรวดเร็วเมื่อ
เขาเหลือบมองไปเห็นหลินหมิง เกิดความไม่พอใจขึ้นมาสายตาของ
เขาในทันทีหากไม่ใช่ว่าเขายังต้องรักษาภาพพจน์อันดีงามต่อหน้า
หลัวฉิงเชี่ยนแล้วละก็เหยียนคงไม่ลังเลที่จะสั่งสอนเจ้าเด็กหนุ่มที่ไม่
เจียมตัวผู้นี้เสีย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใครมาจากที่
ใด แต่เรื่องนั้นหาได้เป็นเรื่องสาคัญไม่เพราะว่ามันย่อมไม่ใช่ผู้ที่มี
อานาจหรือความแข็งแกร่งอะไรมากนักไม่เช่นนั้นเขาคงต้องพอรู้จัก
มันบ้าง
" ไม่รู้ว่าเจ้าชมชอบการเดินเที่ยวเช่นนี้ เช่นนั้นแล้วขอเพียงเจ้า
บอกกล่าวข้าพร้อมยินดีอีกทั้งยังสามารถจัดหาสิ่งของตามที่เจ้า
ต้องการได้ "
" ต้องคุณ คุณชายมากเจ้าคะแต่ข้าเพียงแค่มาเที่ยวชมพร้อมกับ
ศิษย์น้องของข้าเพียงเท่านั้น ไม่ได้นิยมชอบเป็นพิเศษแต่อย่างใด "
เหยียนหยางเหยียดยิม้ ออกมาอย่างเจ้าเล่ห์เขารู้ว่าที่หลัวฉิง
เชี่ยนกล่าวเช่นนี้เป็นเพราะว่านางคงไม่ต้องการให้เขาได้โอกาศใน
การเข้าใกล้นางด้วยสถานการณ์แบบนี้ในอนาคต
" แต่ดูเหมือนว่าศิษย์น้องของเจ้าจะเหนื่อยเสียแล้วสิ เอาเป็นว่า
ข้าเองก็ไม่ได้เที่ยวเล่นชมเมืองมาเสียนานคงจะดีไม่น้อยหากได้สตรี
งามมาเดินชมเคียงข้าง "
แต่เดิมนั้นเหยียนหยางนัน้ ได้พยายามทุกวิถที างในการคว้าตัว
ของหลัวฉิงเชี่ยนเพียงแต่ว่านางได้หลบเลี่ยงเขาด้วยการอาศัย
ภายในสมาคมนักปรุงยาหรือกระทั่งหลบซ่อนภายในตระกูลแล้ว
บอกกล่าวว่ายังคงอยู่ภายในสมาคมแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถ
ทาอะไรได้มากมาย แล้วในเมื่อเขาได้รับโอกาสดีงามเช่นนี้แล้วมี
หรือเขาจะปล่อยผ่านไปโดยง่ายนี้นับเป็นโอกาสดีที่เหล่าบุรุษที่
หมายปองนางนั้นต่างเฝ้าคอย
เหยียนหยางจ้องมองไปทีห่ ลินหมิงด้วยดวงตาข่มขู่ กับเด็กหนุ่ม
ที่ดูอ่อนแอ่เช่นนี้เขาเชื่อว่าอีกไม่นานมันคงได้วิ่งหนีไปด้วยความ
กลัวหากมันกล้าทาให้เขาเกิดความไม่พอใจขึ้นมา
" พี่ชายเหตุใดท่านถึงกล่าวโป้ปดเช่นนั้นเล่า ท่านเห็นข้ามีเหงื่อ
งั้นรึ ? หรือเห็นข้าหอบ ? หากท่านต้องการให้ศิษย์พี่ของข้าเที่ยว
ชมเช่นเดียวกันข้าคิดว่าบางทีท่านอาจต้องรอนานเสียนับปี ท่านก็รู้
การได้เดินเคียงข้างสาวงามเช่นนี้มีหรือที่บุรุษเหล่าจะเหนื่อยได้ "

ตอนที่ 91
สายตาของเหยียนหยางและผู้ติดตามทั้งสองจ้องมองไปที่ใบหน้า
ของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีตรงหน้าพวกเขาหลังจากที่ได้ยินคากล่าวของ
เด็กหนุ่ม พวกเขากระทั่งคิดว่าหูพวกเขาอาจฟาดไปจนทาให้การฟัง
ของพวกเขาเมื่อครู่เกิดการพลิกพลาด แต่เมื่อได้เห็นท่าทีมั่นของ
เด็กหนุ่มเช่นนี้มันแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไม่ได้เข้าใจสิ่งใด
ผิดพลาด
' บัดซบ เจ้าสวะนี้มันไม่รู้หรืออย่างไรว่ากาลังกล่าววาจากับใคร
'
แม้กระทั่งงหลัวฉิงเชี่ยนนางก็ยังตื่นตระหนกกับคากล่าวและ
ท่าทีของหลินหมิง กับเด็กหนุ่มทีม่ ีพื้นเพเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา
ที่มีฐานะต่าต้อย ถึงแม้วา่ เขาจะได้รับโอกาสความก้าวหน้าเช่นนี้แต่
พวกเขาก็ยังคงมีความหวาดกลัวต่อผู้ที่มีอานาจมากกว่าพวกเขาใน
อดีตอยู่ดี นางเข้าใจดีว่าหลินหมิงนั้นอาจมีความมั่นใจในพลังของ
ตนเองแน่นอนว่าด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ไม่มีทางที่รุ่นเยาว์
คนใดสามารถเทียบเคียงเขาได้ กระทั่งผู้ที่มีอายุ 20-30ปีนั้นก็ยังคง
ไม่สามารถหาคนเทียบเด็กหนุ่มนี้ได้อย่างง่ายดายนัก
แต่ถึงแม้ว่าศิษย์น้องของนางผู้นี้จะมีความแข็งแกร่งที่น่าตื่น
ตะลึงเพียงแต่ว่าด้วยอานาจของตระกูลหยางนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่
สามารถมองข้ามไปได้ อย่างน้อยๆบรรดาเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์
ต่างๆก็ไม่มีใครที่จะคิดสร้างปัญหากับตระกูลหยางโดยง่ายเช่นนี้
อย่างแน่นอน
" เมื่อกี้เจ้าว่าอย่างไรนะ ? เจ้าอาจยังไม่รู้ว่าข้าคือใคร ข้าคือเห
ยียนหยาง หากเจ้าเชื่อฟังข้าแต่โดยดีข้ารับรองได้ว่าอนาคตของเจ้า
ย่อมต้องรุ่งโรจน์กว่าที่เจ้าเป็นอยู่ในตอนนี้ "
เหยียนหยางแทบบ้าคลั่งเมื่อเขามองไปที่ใบหน้าของเด็กหนุม่ ที่
ปราศจากความหวาดกลัว กระทั่งคากล่าวของเขาที่ถูกกล่าวออกไป
เมื่อสักครู่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะยังไม่มที ่าทีเปลี่ยนแปลง
" ด้วยความสามารถของพี่ชาย ? ข้าเกรงว่ามันคงทาให้ข้า
เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ศิษย์พี่ข้าว่าพวกเราไปชมที่อื่นกัน
ต่อเถอะ "
เส้นเลือดปูดโปนของเหยียนหยางสามารถมองเห็นได้จาก
ภายนอกแล้วในตอนนี้กระทั่งเหล่าคนรับใช้ทั้งสองของหยางเหยียน
ก็ยังไม่เคยพบเด็กหนุ่มคนเด็กที่กล้าสามหาวได้เท่านี้ ด้วยการที่พวก
เขาติดตามเหยียนหยางมานานพวกเขาสามารถบอกได้ทันทีว่า
อนาคตของเด็กหนุ่มผู้นี้ได้จบสิ้นแล้ว
" ดีดี...สงสัยว่าข้าคงต้องให้คาแนะนาแก่เจ้าสักเล็กน้อย รู้ไหม
ว่าไม่เคยมีใครทาให้ข้าโกรธมากเท่านี้มาก่อนรับรองเลยว่าหลังจาก
นี้เจ้าจะได้รับคาแนะนาดีดีจากข้าจนเจ้าต้องขอร้องอ้อนวอน "
คนรับชายทั้งสองคนยื่นห่างออกมาด้านข้างด้วยระดับพลังของ
พวกเขาทั้งสองคนคือพลังปราณก่อเกิดระดับ 5 ด้วยอายุเพียงยี่สิบ
ปลายๆความสามารถของพวกเขาถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง
หลัวฉิงเชี่ยนในตอนนี้แม้ว่านางจะอยากเขาไปห้ามปราบการต่อสู้ที่
กาลังจะเกิดขึ้นนี้แต่นางคงไม่สามารถทามันได้แล้ว ด้วยคนรับใช้ทั้ง
สองของเหยียนหยางพวกเขาคงไม่ให้นางเคลื่อนไหวใดๆแต่โดยง่าย
นางคงได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างไปตามสถานการณ์
" งั้นข้าก็ขอกล่าวเช่นเดียวกัน ข้าเองก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่
พี่ชายเขามาขัดขวางการเที่ยวชมของข้าเช่นนี้ เช่นนั้นแล้วข้าคง
ต้องให้บทเรียนแก่ท่านเล็กน้อยเพื่อที่ว่าในอนาคตท่านจะได้ไม่ทา
ตัวเช่นนี้อีก "
เมื่อคากล่าวของหลินหมิงสิ้นสุดราวกับว่ามันเป็นฝางเส้น
สุดท้ายของเหยียนหยางที่เขาจะสามาระงับอารมณ์เอาไว้ได้ เดิมที
นั้นเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเลือดร้อนอยู่แล้วแต่เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใด
มากนักที่กล้ายั่วยุเขาเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มผู้นี้ พลังปราณระดับก่อ
เกิดขั้นสองถูกระเบิดออกมาอย่างไม่ปิดบัง เหยียนหยางคาดหวังที่
จะได้เห็นสีหน้าความสิ้นหวังของหลินหมิงแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่
เป็นเช่นนั้น
ท่าทีของหลินหมิงนั้นไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆกับพลังปราณ
ของเหยียนหยางที่ปลดปล่อยออกมาราวกับมันเป็นเพียงลมพัดผ่าน
หน้าเขาไปเพียงเท่านั้น ในตอนนี้หลินหมิงลดระดับพลังของเขาลง
เหลือเพียงขั้นที่ 8 ปราณเริ่มต้นเพียงเท่านั้น มันจึงทาให้เหยียน
หยางมองหลินหมิงราวกับเหยื่อที่รอถูกเชือด เหยียนหยางเริ่มเข้าใจ
แล้วว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้มันอาจมั่นใจในพรสวรรค์ของมันจนหลงลืม
ตนไปแน่นอนว่าด้วยอายุของเจ้าเด็กนี้กับระดับพลังของมันตัวของ
เหยียนหยางไม่สามารถเทียบกันได้เลย
ร่างของเหยียนหยางพุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วการที่เขาต้อง
โดนเด็กหนุม่ กล่าวสามหาวใส่ต่อเนื่องกันเช่นนี้มีหรือที่เขาจะยอมให้
มันเกิดขึ้นต่อไปอีก เพียงชั่วครู่ระยะห่างระหว่างเด็กหนุ่มและเห
ยียนหยางถูกหล่นระยะมาอย่างน่าตื่นตระหนกแน่นอนว่าต่อให้คู่
ต่อสู้ของเหยียนหยางนั้นคือหลินเสี่ยวต้าที่มีพลังระดับ 8 ขั้นเริ่นต้น
ระดับสูงสดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเขาด้วยหมัดนี้เพียงหมัดเดียว
ปัง !
เสียหมัดกระแทกของเหยียนหยางทาให้เขาสับสนหมัดที่เขาชก
ออกไปเมื่อครู่แม้มันจะไม่ใช่พลังเต็มสิบส่วนซึ่งมันเป็นเพราะว่าเขา
ยังคงไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ตายอย่างโดยง่าย เมื่อเริ่มการ
ปะทะกันเกิดขึ้นในตอนนี้เริ่มมีเหล่าฝูงชนให้ความสนใจในการต่อสู้
ครั้งนี้มากขึ้นเรื่อยๆและเมื่อพวกเขาได้เห็นเหยียนหยางสีหน้าของ
พวกเขาบ่งบอกได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน
ร่างของหลินหมิงหยุดอยูท่ ี่เดิมหลังจากรับมือกับหมัดของเหยียน
หยาง ใบหน้าของเขาไม่ได้ปรากฎสีหน้าความเจ็บปวดอย่างที่ควร
จะเป็นแต่มันกลับเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
แม้ว่าตัวของเหยียนหยางไม่ถูกนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะแต่ด้วย
ฐานะของตระกูลเขาแน่นอนว่าเขาย่อมมีพื้นฐานในด้านการต่อสู้ที่
ค่อนข้างดีและยังมีโอกาสได้รักทักษะต่อสูต้ ่างๆ ดังนั้นต่อให้คู่ต่อสู้
ของเขาอยู่ในระดับเดียวกันเขาก็มีความมั่นใจอยู่พอสมควรว่าจะไม่
แพ้โดยง่าย กลับกันแล้วถ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่มีพลังต่ากว่านั้นย่อมไม่ต้อง
กล่าวถึง
" ดูเหมือนเจ้าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง "
" พี่ชายเองก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คนไร้ค่าไปเสียทีเดียว "
เหยียนหยางพุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้งอย่างไม่รอช้าเขาไม่สนแล้วว่า
เจ้าเด็กนี้จะเป็นเช่นไรต่อไปคนที่กล้ากล่าวเช่นนี้กบั เขา มันต้องตาย
สถานเดียวเท่านั้น หมัดขวาของเขาถูกปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว
และทรงพลังยิ่งกว่าในครั้งแรกบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ในระดับเริ่มต้นที่อยู่
ในบริเวณนั้นถึงกับแตกตืน่ ไปด้วยความหวาดกลัว ไม่ต้องสงสัยเลย
ว่าหากพวกเขาที่มีระดับพลังเพียงปราณเริ่มต้นหากต้องรับมือกับ
หมัดนี้ร่างของพวกเขาคงถูกแปรเปลี่ยนเป็นเศษเนื้อในทันที
อ๊าาาากกกกกกกกกกก
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นพวกเขารู้สึกชื่นชมในตัวเด็กหนุ่มที่
สามารถรับมือกับหมัดเช่นนั้นแล้วยังมีชีวิตส่งเสียร้องออกมาได้
เพียงแต่ว่าเขาได้ไปหาเรื่องผิดคนเสียแล้ว ในขณะที่ทุกคนกาลังคิด
เช่นนั้นอยู่ภายในใจกลับมีร่างที่ลอยปลิวไปไกลหลายสิบก้าวจน
กาแพงเข้าไป ร่างนั้นที่สมควรเป็นร่างของเด็กหนุ่มเพียงแต่ว่ามัน
กลับกลายเป็นร่างของคุณชายตระกูลหยางเสียอย่างนั้น
" ข้าขอถอนคาพูดแล้วกัน...สงสัยว่าเมื่อครู่ข้าจะผิดพลาดไปเอง
พี่ชายท่านเป็นคนไร้ค่าโดยจริง "
บรรดาเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังไม่หายจากอาการตกตะลึงเมื่อพวกเขา
ได้ยินคากล่าวเช่นนี้ของเด็กหนุ่ม มันทาให้พวกเขารู้สึกอับอาย
ขึ้นมา หากคุณชายตระกูลหยางผู้นี้ที่สามารถก้าวเข้าสู่ปราณเริ่มต้น
ได้เป็นเพียงสวะไร้ค่าแล้วพวกเขาจานวนมากที่อยู่ที่นี้เหล่า ทุก
สายตาล้วนจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มที่พวกเขาไม่คุ้นตา

ตอนที่ 92
ร่างของเหยียนหยางที่ถูกซัดกระเด็นจนตาเหลือกค้างไร้ซึ่งสติ
ภายในชั่วพริบตาส่งผลให้โดยรอบกลายเป็นนิ่งสงัดในทันที เห็นได้
ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ย่อมมาจากคู่ต่อสู้ของเขาที่เป็นเพียงเด็กหนุ่ม
อายุ 15 ปีเพียงเท่านั้นแต่เขากลับสามารถเอาชนะเหยียนหยางที่มี
พลังก่อเกิดขั้น 2 ได้
" สวรรค์ ! "
" นะ..นี้ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่ "
แม้แต่คนรับใช้ชายฉกรรจ์ทั้งสองของเหยียนหยางที่คอยคุ้มเชิง
หลัวฉิงเชี่ยนไม่ให้เข้าไปทาการแทรกแทรงยังตะลึงค้างและไม่อาจ
ตอบสนองไปช่วยนายของพวกเขาได้ทัน
" นะ... นี้เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทาสิ่งใดลงไป เจ้ากล้าลงมือกับนาย
น้อยรับรองได้ว่าครอบครัวของเจ้า... "
ในขณะที่คนรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้าไปดูอาการของเหยียนหยาง
แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บจนกระทั่งถึงแก่ชีวิตแต่อย่างน้อยด้วย
บาดแผลเช่นนี้มันย่อมใช่เวลารักษาอย่างน้อยก็ร่วมหลายเดือนและ
มันยังส่งผลถึงความก้าวหน้าในอนาคตของเขาที่ลดลงอย่างไม่ต้อง
สงสัย ส่วนทางด้านคนรับใช้อีกคนหนึ่งนั้นได้กล่าวข่มขู่หลินหมิงอ
ย่างชัดเจนหากเป็นในสถานการณ์ปกติเขาคงลงมือที่จะจู่โจมเจ้า
เด็กนี้แทนนายน้อยไปแล้ว
แต่ในตอนนี้ด้วยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าเด็ก
หนุ่มผู้นี้ต้องมีพลังระดับก่อเกิดอย่างแน่นอน แม้ว่ามันอาจยังไม่
แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเขาที่มีพลังระดับก่อเกิดระดับ 5 แต่แล้ว
อย่างไรเล่าตัวตนของผู้ฝึกยุทธ์อายุ 15 ปีที่มีพลังระดับก่อเกิดเพียง
เท่านี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องมีเบื้องหลังทีไ่ ม่
ธรรมดาอย่างแน่นอน ในใจของพวกเขาสั่นคลอนไปด้วยความ
หวาดกลัว
" กลับเป็นเช่นนั้นไปเสียได้พวกพี่ชายก็เห็นว่าข้าเพียงป้องกัน
ตัวเพียงเท่านั้น แต่ข้าไม่คาดคิดว่านายน้อยของพวกพี่ชายนั้นกลับ
อ่อนแอถึงเพียงนี้.... "
" นี้เจ้าหากเจ้ายัง.... "
ในขณะที่คนรับใช้ของเหยียนหยางกาลังจะกล่าวตอบโต้หลินหมิ
งกลับไปเพราะไม่เช่นนั้นแล้วไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของนายน้อยของ
พวกเขาจะเสียชื่อที่สาคัญไปกว่านั้นคือชื่อเสียและบทลงโทษของ
พวกเขาทั้งสอง พวกเขาทั้งสองพลันเห็นสิ่งของบางอย่างที่ตกมา
จากที่คาดเอวของเด็กหนุ่ม ด้วยสถานการณ์อันเงียบเฉียบก่อนหน้า
มันจึงทาให้ทุกคนสามารถได้ยินเสียงนีไ้ ด้อย่างชัดเจน
" เฮ้อ~~ ป้ายนี้มันอะไรกันข้าว่ามันช่างเกะกะข้าเสียจริง ศิษย์
ข้าเกรงว่าท่านคงต้องพาข้าไปร้านเครื่องประดับสักหน่อยไม่เช่นนั้น
ข้าคงได้โดนท่านอาจารย์บ่นเอาเป็นแน่ "
" คิคิ เรื่องนั้นย่อมไม่มีปญ
ั หาแต่อย่างใด "
ใบหน้าของคนรับใช้ทั้งสองซีดเผือกราวกับว่าระบบเลือดใน
ร่างกายของพวกเขาหยุดทางานไปในทันทีที่ได้เห็นสิ่งของที่หล่น
มาก แท้จริงแล้วสิ่งนัน้ คือป้ายหยกที่จูหนิงเอ๋อร์ได้ให้ติดตัวไว้กับ
หลินหมิง แน่นอนว่าเรื่องป้ายที่ตกพื้นไปนั้นย่อมไปเพียงความตั้งใจ
ของหลินหมิงซึ่งหลัวฉิงเชี่ยนนั้นสามารถรับรู้ได้จากใบหน้าอันยิ้ม
แย้มของศิษย์น้องของนาง ไม่เพียงเท่านั้นกระทัง่ คนทั่วไปที่ยืนชม
เหตุการณ์อยู่พวกเขาส่วนใหญ่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้
เพียงรอโอกาสที่จะเปิดตัวอย่างสวยงามเช่นนี้
แม้ว่าตระกูลเหยียนนั้นจะมีอานาจค่อนข้างมากภายในเมืองแต่
หากเทียบกับสมาคมนักปรุงยาแล้วพวกเขาไม่สามารถนาไปเปรียบ
ได้เลยแม้แต่น้อยทั้งในด้านความมั่งคั่งและความแข็งแกร่งในเมือง
แห่งนี้อาจมีเพียงตระกูลหลินเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นที่มีอานาจ
เพียงพอที่จะเปรียบกับพวกเขาได้ แล้วเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับเป็นผูถ้ ือ
ครองป้ายหยกอันเป็นสัญลักษณ์ของประมุขสมาคมนักปรุงยา ด้วย
ภาพตรงหน้าที่เห็นพวกเขาสามารถใตร่ตรองได้อย่างรวดเร็วด้วย
การที่ว่าเคยมีข่าวลือเรื่องที่ประมุขสมาคมนักปรุงยานั้นได้เปิดรับ
ศิษย์ส่วนตัวเป็นคนแรกอีกทั้งคนผู้นั้นกลับไม่ได้ฐานอานาจใดเลยมา
ก่อน
มันจึงทาให้ผู้คนไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้มากนักอีกทั้งดูเหมือนว่า
ประมุขสมาคมนักปรุงยาจะปิดเรื่องนี้ไว้อย่างสนิท แต่เมื่อวันนี้กลับ
มีข่าวลือออกมาว่าศิษย์ของนางนั้นเป็นผู้ที่มีพลังระดับก่อเกิดด้วย
วัยเยาว์เดิมทีหากได้ยินคากล่าวเช่นนี้มีหรือที่คนทั่วไปจะเชื่อได้ แต่
เมื่อได้เห็นภาพเด็กหนุม่ ตรงหน้าพวกเขาแล้วมันจะมีสิ่งใดที่จะ
สามารถปฎิเสธได้อีก
" เมื่อกี้พี่ชายจะกล่าวอะไรนะ "
" คุณชาย..ได้โปรดให้อภัยพวกเรา พวกข้านั้นโง่เขลาจนไม่ทัน
ได้สังเกตว่าแท้จริงแล้วท่านเป็นผู้ใด... "
ท่าทีของคนรับใช้ทั้งสองรีบเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน ด้วย
ฐานะของเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าแม้แต่นายน้อยของพวก
เขาก็ยังคงไม่มีสิทธ์นาไปเทียบ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในวัย
เพียงเท่านี้นับได้ว่าตัวตนของเด็กหนุ่มผู้นี้คือความหวังของสมาคน
นักปรุงยาโดยแท้จริงแล้วเมื่อเป็นเช่นนั้นทางสมาคมไม่สิอาจารย์
ของเขาจะยอมให้มีเรื่องที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่ออัจฉริยะของนาง
งั้นหรือ เมื่อเป็นเช่นนี้การคุกเข่าอ้อนวอนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สดุ
พวกเขาได้แต่หวังว่าเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้คงจะมีเมตตายอมมองผ่าน
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไป หากไม่เช่นนั้นแล้วในอนาคตตระกูลเหยียนคงไม่
อาจอยู่เมืองนี้ได้โดยง่าย
" เดิมทีแล้วนีม้ ันย่อมเป็นความคิดข้าส่วนหนึ่งทีพ่ ลั้งมือจนทา
ร้ายนายน้อยของพวกพี่ชาย...เอาเช่นนี้ดีไหมข้าจะไปแจ้งเรื่องกับ
ท่านอาจารย์ของข้าเพราะข้าเองก็มีเงินติดตัวไปมากกลัวว่าจะไม่
อาจชดใช้ให้พวกท่านได้..... "
" ไม่เป็นไรขอรับคุณชายเรื่องนี้คุณชายหาได้มีส่วนผิดไม่เลย
ขอรับ เป็นทางฝั่งของพวกข้าเองเสียมากกว่าที่ต้องเป็นฝ่ายชดใช้
ให้คุณชายเสียเวลา "
คนรับใช้ทั้งสองกล่าวพร้อมกันโดยไม่ทันต้องคิด มีหรือที่พวก
เขาจะกล้าให้หลินหมิงชดใช้หากพวกเขาทาเช่นนั้นไม่ใช่ว่าตระกูล
เหยียนคงต้องเตรียมการรับมือกับจูหนิงเอ๋อร์ประมุขแห่งสมาคมนัก
ปรุงยาเป็นแน่ หลินหมิงได้ไปหาหลัวฉิงเชี่ยนพร้อมกับเดินจากไป
ท่ามกลางผู้คนที่แหวกทางให้ แน่นอนว่าแผนการณ์นี้นนั้นเป็นส่วน
หนึ่งความคิดอาจารย์สาวสวยของเขาหากนางต้องการเปิดตัว
หลินหมิงอย่างทั่วไปแม้มนั จะสามารถสร้างความตื่นตาได้ไม่น้อยแต่
หากเทียบกับสถานการณ์เช่นนี้ที่ดูปลุกเร้าใจและสั่นคลอนอารมณ์
ได้มากกว่า
" ศิษย์น้องเจ้าช่างรังแกผู้อื่นได้ยอดเยี่ยมเสียจริง ไม่ใช่ว่าข้าเอง
ก็คงไม่พ้นมือเจ้าหรอกหรือ "
" ข้ามีหรือจะกล้ารังแกศิษย์พี่ที่งดงามเช่นท่านได้ "
หลัวฉิงเชี่ยนนางรู้สึกสบายใจอย่างมากในตอนนี้ไม่เพียงแต่เห
ยียนหยางจะได้รับบาดเจ็บจนไม่อาจมาก่อกวนนางได้อีกต่อไป
เพราะถึงแม้เขาจะหายดีแล้วมีหรือที่เขายังจะกล้ากลับมาหานางอีก
? แน่นอนว่านั้นย่อมเป็นเรื่องยากเพราะท้ายที่สุดแล้วตระกูลของ
เขาก็คงไม่ยอมให้ทาเช่นนั้นไม่เช่นนั้นคงได้เป็นปัญหากับเจ้าศิษย์
น้องของนางคนนี้
เดิมทีหลินหมิงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเผยความแข็งแกร่งของ
ตนเองแต่ในเมื่อนี้เป็นความต้องการของอาจารย์สาวสวยของเขามี
หรือที่เขาจะปฎิเสธลงได้ เพราะเมื่อเป็นเช่นนี้มันอาจเป็นไปได้ว่า
หลินเสี่ยวต้าหรือรุ่นเยาว์ในตระกูลหลินคนอื่นคงหลีกเลี่ยงการต่อสู้
กับเขาอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยหากเป็นเช่นนั้นเขาคงสามารถยิ้ม
เยาะหลินเสี่ยวต้าได้อย่างสมใจแม้จะไม่ได้อัดมันสัง่ สองสามหมัดก็
ตามที
" ข้าคงต้องไปแล้ว หากเจ้ามีเรื่องให้ข้าช่วยเหลือแล้วละก็เจ้า
สามารถมาหาข้าได้ที่ร้านค้าตระกูลข้า "
หลินหมิงแยกจากกับหลัวฉิงเชี่ยนในช่วงเวลาเกือบเย็นของวัน
การใช้ชีวิตสบายกับหญิงสาวงดงามเช่นนี้ราวกับว่าจิตใจของเขาได้
พักผ่อนยาวนานนับสิบปี

ตอนที่ 93
" พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกับข้างั้นรึ ? "
หลินหมิงกล่าวถามออกไปอย่างเลื่อนลอยเมื่อเขาเดินมาถึงจุดที่
ปลอดผู้คนพอสมควร ไม่นานหลังจากนั้นปรากฎร่างหญิงสาวสอง
คนที่แสนคุ้นตา หญิงสาวทั้งสองคนนี้ก็คือหานจิงหนิงและจูเวย
เหลียนที่เป็นสาวรับใช้ของป้าห้าหรือเหม่ยฮวามารดาของหลินเสียว
ต้า ในความเป็นจริงแล้วหลินหมิงสามารถรับรู้ได้ถึงตัวตนของพวก
นางทั้งสองที่ตดิ ตามเขามาตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับเหยียนหยาง
" แล้วพวกเจ้าทั้งสอง ไม่สินายหญิงของพวกเจ้าคงคิดมี
ความคิดแก้แค้นแทนบุตรอย่างนั้นรึ "
หลินหมิงยิ้มออกไปด้วยรอยยิ้มเ**้ยมด้วยการที่เขาได้เปิดเผย
ตัวออกไปเช่นนี้มันไม่มที างที่หญิงสาวทัง้ สองคนนีจ้ ะไม่ล่วงรู้ถึง
ฐานะของเขาที่เป็นศิษย์ของประมุขสมาคมนักปรุงยา และยังเป็น
ต้นเหตุที่ทาให้หลินเสี่ยวต้าต้องออกจากสมาคมนักปรุงยา
สารหรับหญิงสาวทั้งสองรู้ดีว่าพวกนางทั้งสองนั้นไม่ใช่แม้แต่
ตัวตนที่จะไม่เปรียบได้กับเด็กหนุ่มผู้นกี้ ล่าวกันตามความจริงแม้
พวกนางทั้งสองคนจะช่วยกันรุมเข้าสู้เหยียนหยางเพียงคนเดียว
พวกนางเองก็ยังคงไม่มีความมั่นใจที่จะสามารถเอาชนะได้ด้วย
ระดับพลังของพวกนางทีแ่ ม้จะเพิ่มขึ้นจากการร่วมรักกับเด็กหนุม่
คนนี้แล้วก็ตาม
" หาใช่เป็นเช่นนั้นเจ้าคะ คุณชาย....พวกเราเพียงสืบตามหา
คุณชายตามคาสั่งของนายหญิงทีห่ วังจะพบหน้าท่านเจ้าคะ "
" เป็นเช่นนั้น ? แล้วนางอยู่ที่ไหนเล่าในตอนนี้ "
หลินหมิงไม่ได้คิดแต่แรกอยู่แล้วว่าเหม่ยฮวานั้นจะมีความโกรธ
เคืองเขาหลังจากรับรู้เรื่องราวถึงขั้นเอาชีวิต หากเป็นโดยทั่วไปตัว
ของเขาย่อมต้องตกเป็นเป้าหมายของหญิงสาวผู่นีเ้ พียงแต่ว่า
ในตอนนี้นายหญิงแห่งตระกูลหลินผู้ร่านสวาทคนนี้มีหรือที่จะกล้า
ทาสิ่งใดให้หลินหมิงไม่พอใจ เพียงแค่ในครั้งล่าสุดที่นางได้ร่วมรัก
กับหลินหมิงใบหน้าของนางนั้นบ่งบอกอย่างดีว่านางดีความสุขมาก
เพียงใด รวมกับอารมณ์ความต้องการที่มากล้นของหญิงสาวผู้นี้มัน
ทาให้นางไม่สามารถขาดตัวของหลินหมิงไปได้
" เชิญคุณชายตามพวกข้ามาเจ้าคะ "
แม้แต่จูเวยเหลียน และหานจิงหนิงพวกนางยังคงปรากฎใบหน้า
สีแดงระเรื่อขึ้นมาให้เห็นไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อพวกนางสามารถพาเด็ก
หนุ่มคนนี้ไปหานายหญิงของพวกนางและเมื่อเกิดการขับร้องเพลง
รักระหว่างนายหญิงกับเด็กหนุ่มเมื่อใด นั้นย่อมหมายความว่าพวก
นางเองก็มีโอกาศที่จะได้รับมันเช่นเดียวกัน
หลินหมิงก้าวเข้ามาภายในโรงเตี้ยใแห่งหนึ่งทีไ่ ร้ซึ่งผู้คนเห็นได้
ชัดว่าด้วยความที่เมืองฟานชูแห่งนี้ค่อนข้างเจริญรุ่งเรืองแต่กลับไม่
มีคนเข้าพักที่โรงเตี้ยมแห่งนี้นั้นก็เพราะว่าเหม่ยฮวาได้ทาการจอง
ที่นี้เอาไว้เสียหมดแล้ว หลินหมิงข่มยิม้ ในใจเอาแทบไม่อาจ
จินตนาการภาพของเหม่ยฮวาในตอนนี้ที่ไม่ได้ร่วมรักกับเขามานาน
นับสัปดาห์
" นายหญิง พวกข้าพาคุณชายมาแล้วเจ้าคะ "
เมื่อหลินหมิงเข้ามาภายในห้องชั้นบนสุดของโรงเตีย้ มแห่งนี้
ปรากฎร่างของหญิงสาววัยสามสิบปลายๆในสภาพหอบหายใจ
อย่างหนักหน่วงทั่วเรือนร่างของนางแผ่อุณหภูมิร้อนออกมาพร้อม
กับเสียงหายใจอันแหบแห้ง หญิงสาวผู้นี้คือเหม่ยฮวานั้นเองนาง
เฝ้าอดใจรอเพื่อที่จะได้ทาการร่วมรักกับหลินหมิงมาอย่างยาวนาน
จนนางแทบจะสิ้นใจขาด
เมื่อนางได้เห็นใบหน้าของหลินหมิงดวงตาของนางเป็นประกาย
ราวกับว่านางสามารถย้อนอายุกลับไปเป็นหญิงสาววัยแรกรุ่นได้อีก
ครั้งอย่างใดอย่างนั้น
" นายท่าน.. ข้าเฝ้ารอนายท่านมาหลายวันเลยเจ้าคะ ได้โปรด
มอบความสุขให้กับข้ารับใช้ผู้นี้... "
" เจ้าย่อมน่าจะรู้ถึงตัวตนข้าแล้วไม่ใช่รึ ? "
เหม่ยฮวาเป็นดั่งที่หลินหมิงคาดการณ์เอาไว้แม้ว่าด้วยฐานะของ
หลินเสี่ยวต้าจะทาให้นางมีอานาจในตระกูลด้วยพรสวรรค์ของบุตร
นางเพียงแต่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่อาจเทียบได้กบั ความสุขที่เด็กหนุม่
ผู้นี้ได้มอบให้กบั นาง
" ข้าไม่ได้สนใจเรื่องนั้นหรอกเจ้าคะ แต่อย่างน้อยข้าขอเพียง
นายท่านได้โปรดอย่าลงมือกับบุตรข้าจนเกินไปเช่นนั้นแล้วข้าก็จะ
ยังสามารถคงอานาจบางส่วนในตระกูลหลินเอาไว้ได้และหากนาย
ท่านมีสิ่งใดให้ข้าช่วยข้าก็พร้อมเสมอเจ้าคะ "
เหม่ยฮวานั้นนางได้ไตร่ตรองเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วนางไม่อาจ
คาดความสุขที่ได้รับจากหลินหมิงเช่นเดียวกันนางก็ไม่อยากที่จะ
สูญสิ้นอานาจภายในตระกูลไปหากเกิดเรื่องระหว่างบุตรชายของ
นางกับเด็กหนุม่ ผู้นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้ผู้ใดจะเป็นคนที่
ได้รับความเสียหายมากทีส่ ุด ดังนั้นแล้วนางจึงเสนอตัวเลือกในการ
ใช้อานาจของนางที่พร้อมจะเข้าช่วยเหลือหลินหมิงได้ทุกเมื่อ
" สมเป็นทาสร่านสวาทของข้า....เอาเป็นว่าข้อเสนอของเจ้าก็
นับว่าไม่เลว...เอาเป็นว่าในตอนนี้ข้าเองก็มีปัญหาเล็กน้อยกับ
ตระกูลเหยียนแต่ข้าก็คร้านเกิดกว่าจะลงมือด้วยตัวเอง เช่นนั้นแล้ว
ข้าจะขอทดสอบเจ้าเสียหน่อยหากเจ้าสามารถทาผลงานได้น่า
ประทับใจข้าเช่นนั้นแล้วเรื่องบุตรของเจ้าข้าก็อาจมองผ่านมันไปได้
บ้าง....แน่นอนว่าสิ่งที่เจ้าต้องทามีเพียงสร้างความลาบากเล็กๆน้อย
ให้กับตระกูลเหยียนคงไม่ต้องให้ข้าบอกหรอกมั้งว่าเจ้าสมควรทาสิ่ง
ใด "
" ข้าทราบดีเจ้าคะ ข้าจะไม่ทาให้นายท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
"
เหม่ยฮวาตอบกลับด้วยน้าเสียงมั่นใจแม้ว่าตระกูลเหยียนจะเป็น
ตระกูลที่ค่อนข้างมีอานาจแต่ด้วยเงื่อนไขของหลินหมิงนั้นมีเพียง
สร้างความลาบากให้กับตระกูลเหยียนสักเล็กน้อยใช่ว่าจะให้โค่นล้ม
เสียหน่อย เช่นนี้ก็นับได้วา่ นางก็พอมีทางอยู่บ้าง
" เอาไว้ข้าจะรอดูผลงานของเจ้าก็แล้วกัน....งั้นในตอนนี้ข้า
สมควรให้รางวัลแก่ทาสร่านสวาทคนนี้เสียหน่อย "
" ได้เลยเจ้าคะข้าพร้อมแล้วเจ้าคะ ข้ารับรองได้ว่าข้าจะทาให้
ท่านมีความสุขจนกว่าท่านจะพอใจ "
เหม่ยฮวากล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นขีดสุดเมื่อนางเห็นร่าง
ของหลินหมิงล้มลงนอนทีเ่ ตียงอย่างสบายตัว นางก็พอเข้าใจได้ว่า
เด็กหนุ่มต้องการให้นางทาสิ่งใด นางเคลื่อนไหวร่างกายไปคร่อม
ร่างของหลินหมิงเอาไว้พร้อมกับเสื้อผ้าของนางที่ถกู ปลดออกทีละ
ชิ้นอย่างรวดเร็ว
" อ้าาา ~~ เพียงแค่ได้กลิ่นของนายท่านข้าก็แทบจะเสร็จแล้ว "
เสื้อผ้าของหลินหมิงถูกปลดออกอย่างเชื่องช้าเนื่องจากเหม่
ยฮวากาลังสูดดมร่างของหลินหมิงไปทั่วร่างในขณะที่นางกาลังปลด
เปลื้องเสื้อผ้าของหลินหมิง ด้วยความที่แต่เดิมนั้นนางเป็นเพียงฝ่าย
ที่ต้องรับมือจากหลินหมิงอยู่ฝ่ายเดียวนางจึงไม่ค่อยได้มีโอกาส
เช่นนี้นัก
นางลูบไล้ไปที่ร่างเปลื่อยเปล่าของหลินหมิงพร้อมกับเสียง
หายใจอันหนักหน่วงร่องสวาทของนางถูกทิ้งลงอย่างเชื่องช้าค่อยๆ
เข้าครอบคลุมทวนมังกรของหลินหมิงที่พร้อมจะพิชิตเหล่าสตรีทุก
คน
" อ้าาาา ~~~~~~ แน่นนไปหมดเลยยยย ~~ นี้แหละที่ข้า
ต้องการร อร้างงงง ~~~~~~~~ "
หลินหมิงมองดูร่างกายของเหม่ยฮวาทีก่ าลังโยกสะโพกของนาง
เพื่อเก็บเกี่ยวความสุขที่กาลังขึ้นอย่างพอใจ เพียงในตอนที่ทวน
มังกรของหลินหมิงได้เสียบแทงทะลุโพรงสวาทของนาง น้ารัก
จานวนมากของนางก็พุ่งแตกออกมาในทันทีและมันยังคงออกมา
เรื่อยอย่างไม่หยุดหย่อน
หานจิงหนิง และจูเวยเหลียนพวกนางได้แต่ยืนบิดตัวกับภาพ
ตรงหน้าแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแต่นายหญิงของพวกนางเท่านั้นที่
ต้องการทวนมังกรของเด็กหนุ่มคนนี้พวกนางเองก็ไม่ต่างกัน เพียง
แค่พวกนางทั้งสองมองดูร่างของนายหญิงที่กาลังควบทวนมังกรนี้
อยู่น้ารักในโพรงสวาทของพวกนางก็ถึงกับเริ่มตื่นตัวขึ้นมาแล้วจาก
การมองเพียงเท่านั้น
หลินหมิงดึงร่างของหญิงสาวทั้งสองมาโดยไม่ใส่ใจเหม่ยฮวา
พวกนางทั้งสองประกบข้างในอ้อมกอดหลินหมิง ริมฝีปากอันเร้า
ร้อนของหลินหมิงเข้าทาการจู่โจมในทันทีจนพวกนางแทบจะสิ้น
เรี่ยวแรงนี้แม้อาจไม่ใช่ในสิ่งที่พวกนางปราถนามากที่สุด แต่มันก็ทา
ให้พวกนางแทบเคลิ้มจนราวอยู่ในกับความฝัน เสื้อผ้าของพวกนาง
ถูกปลดออกตั้งแต่เมื่อใดโดยไม่รู้ตัวร่างของพวกนางที่กาลังแนบเนื้อ
สัมผัสร่างของหลินหมิงทาให้อารมณ์ของพวกนางร้อนผ่าว
พวกนางโอบรัดร่างของหลินหมิงเอาไว้ขาทั้งสองข้างถูกไขว้
หนีบขาของหลินหมิงราวกับไม่อยากแจกจากเขาไปไหน เหม่ยฮวา
ไม่ได้สนใจในพฤติกรรมของหญิงสาวรับใช้ทั้งสองของนางแม้ว่า
นางเองก็ปราถนาในรสชาติจูบอันร้อนแรงของหลินหมิง แต่
ในตอนนี้มันจะยังมีสิ่งใดที่สามารถเทียบเท่าได้กับทวนมังกรที่กาลัง
อยู่ภายในร่างของนางอีกกัน

ตอนที่ 94
หนึ่งเดือนต่อมาภายในคฤหาสน์ตระกูลเหยียน บรรดาผู้คน
ระดับสูงในตระกูลถูกเรียกให้ประชุมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่
กาลังเกิดขึ้น ขนาดเหล่าผู้อาวุโสประจาตระกูลที่เก็บตัวฝึกวิชาอยู่
พวกเขาก็ยังถูกเรียกออกมาโดยไม่มีข้อแม้ ใบหน้าของทุกคนเต็มไป
ด้วยความเคร่งเครียด
" ท่านประมุข นี้มันเกิดเรื่องเช่นใดขึ้นกันแน่ ! "
" หากเดิมทีการที่ตระกูลของเราจะได้รับการตอบโต้จากสมาคม
นักปรุงยานั้นเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้...และพวกข้าก็ไม่คิดว่า
มันจะสร้างความเสียหายแก่ตระกูลมากเท่าใดนัก..... "
" เงียบลงก่อน ! "
ชายอายุกลางคนกล่าวหยุดคากล่าวต่างๆจากบรรดาผู้อาวุโสที่
กาลังต่างถกเถียงกันอยู่ภายใน เพียงแค่คากล่าวของเขาเพียงคา
เดียวก็สามารถสยบคนทีน่ ี้ลงได้ทงั้ หมด ไม่ต้องสงสัยว่าเขาก็คือ
ประมุขตระกูลเหยียน เหยียนจ้าวนั้นเองและเขาจะนับได้ว่าเป็น
บิดาของเหยียนหยางที่ไปมีเรื่องกับหลินหมิง เดิมทีนั้นทางตระกูลเห
ยียนไม่คาดว่าการที่นายน้อยของพวกเขาได้กระทาการก่อเรื่องกับ
ศิษย์ของประมุขสมาคมนักปรุงยานั้นจะส่งผลกระทบใดร้ายแรงต่อ
ตระกูลมากนัก
นั้นก็เป็นเพราะแต่เดิมนั้นพวกเขามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูล
ใหญ่อย่างตระกูลหลิวดัง่ พี่น้องบุตรของเขาและรุ่นเยาว์ที่มาก
ความสามารถภายในตระกูลต่างล้วนนับได้ว่าเป็นสหายของบุตร
ประมุขตระกูลหลิน แล้วด้วยในสถานการณ์ที่ผู้คนต่างรู้ดีว่าสามคม
นักปรุงยานั้นได้มีความขัดแย้งอะไรบางอย่างขึ้นกับตระกูลหลินจน
ถึงกับขับไล่หลินเสี่ยวต้ารุ่นเยาว์ที่มีความอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก
ออกจากสมาคมอย่างไม่เห็นหน้าตระกูลหลิน
เช่นนี้แล้วมันสมควรกล่าวได้ว่าการกระทาของบุตรเขาย่อม
แสดงถึงว่าพวกเขาเลือกที่จะอยู่ฝ่ายตระกูลหลิน เพียงแต่ว่าในหนึ่ง
เดือนที่ผ่านมาพวกเขากลับไม่ได้รับความช่วยเหลือใดจากตระกูล
หลินเลยแม้แต่น้อยกระทัง่ การพบปะพูดคุยระหว่างรุ่นเยาว์ทั้งสอง
ตระกูลก็อาจกล่าวได้ว่าทัง้ หมดล้วนแต่ไม่เกิดขึ้นทัง้ สิ้น เมื่อบรรดา
เหล่าสานัก หรือตระกูลอื่นสามารถสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็
กลายเป็นว่าในตอนนี้ตระกูลเหยียนถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวไร้ซึ่ง
หนทางคบค้าสมาคมกับขุมอานาจอื่นไปเสียแล้ว
ซ้าร้ายไปกว่านั้นบางขุมอานาจเมื่อได้เห็นดาวงดวงใหม่ที่กาลัง
จะเฉิดฉายในไม่นานของสมาคมนักปรุงยาอย่างหลินหมิงนี้จึงนับว่า
เป็นโอกาสดีของพวกเขาที่จะสามารถสร้างผลงานให้เป็นที่น่าพอใจ
กับเด็กหนุม่ หรือตัวสมาคมนักปรุงยาเช่นนี้แล้วตระกูลเหยียนจึง
ประสบพบเจอกับการจู่โจมยามที่คนภายในตระกูลออกไปทาภารกิจ
หรือฝึกตนภายนอก กระทั่งการซื้อของของคนในตระกูลเหยียนเวลา
นี้ยังนับได้ว่ายากยิ่งบรรดาร้านค้าต่างๆได้หลบเลี่ยงที่จะทาการค้า
ขายกับผู้ที่มาจากตระกูลเหยียน หรือหากจะทาการค้าขายแน่นอน
ว่าพวกเขาจะโก่งราคาจนถึงขีดสุด
" แม้ข้าเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเช่นใดตระกูลหลินถึงได้เมินเฉยต่อ
ตระกูลของพวกเรา อีกทั้งข้าก็ไม่สามารถติดต่อกับคนภายในตระกูล
หลินได้เลยดัง่ ที่ผ่านมา........ "
" ไม่จริง.... "
ในความเป็นจริงแล้วแม้ว่าด้วยพลังของหลินหมิงทีแ่ สดงออกมา
ในตอนนี้จะเป็นการการันตีถึงความยิ่งใหญ่ในอนาคตของสมาคมนัก
ปรุงยาแต่มันก็ยังไม่สามารถนับได้ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งที่
เหนือกว่าตระกูลหลิน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีรุ่นเยาว์จานวนมากที่
ล้วนเป็นอัจฉริยะ บรรดาผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลหลินนั้นล้วน
แข็งแกร่งจนอาจเทียบเท่าได้กับประมุขตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่ยงิ่ ไป
กว่านั้นก็คือความแข็งแกร่งของประมุขตระกูลหลิน หลินฮ่าวที่เป็น
ที่เลืองลือโดยทัว่ กันว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแห่งนี้ ดังนั้น
แล้วขอเพียงตระกูลหลินยืนยัดที่จะติดต่อคบหากับตระกูลเหยียนดัง่
เดิมมีหรือที่บรรดาขุมอานาจอื่นจะกล้าทาอะไรพวกเขา ?
" ท่านประมุขเช่นนั้นแล้วพวกเราสมควรทาสิ่งใดกันต่อไป... "
แม้ว่าตระกูลเหยียนจะมีความแข็งแกร่งที่ไม่ยาเกรงตระกูลใด
ภายในเมืองแต่หากต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้แม้แต่ตระกูลใหญ่
อย่างตระกูลหลิวมันก็เกินกว่าที่จะรับมือได้ไหว !
" ข้าไม่คิดว่าเราจะมีทางให้เลือกมากนัก.....และทีข่ ้าเพียงพอจะ
คิดได้ก็มีเพียงการที่พวกเราจะต้องไปกล่าวกับประมุขสมาคมนัก
ปรุงยาเสียหน่อย ! "
ประกายในดวงตาของเหยียนจ้าวว้าวโรจน์ด้วยสถานการณ์
ในตอนนี้อีกเพียงไม่นานตระกูลเหยียนที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพ
บุรุษมาอย่างยาวนานคงจะต้องจบสิ้นลง แต่มีหรือที่เขาจะยอมให้
มันจบสิ้นลงแต่โดยง่าย แน่นอนว่าไม่ด้วยตัวเขาที่เป็นประมุข
ตระกูลนั้นย่อมมีความมั่นในระดับความแข็งแกร่งตนเองที่อยู่ใน
ระดับจุดสูงสุดขั้นจอมยุทธ์ แม้ว่าตัวเขาจะไม่รู้ว่าความแข็งแกร่ง
ของประมุขสามคมนักปรุงยานั้นมีมากน้อยเพียงใดเนื่องจากนางไม่
เคยได้เผยฝีมือตนให้ใครเห็นมากนักไม่เหมือนกับหลินฮ่าวที่ผ่านการ
ศึกกับอาณาจักรอื่นจนมีชื่อเสียงเลื่องลื่อแต่กลับประมุขสาวคนนี้
แล้วนางมีชื่อเสียงในด้านการปรุงยาเสียมากกว่า
ทุกคนภายในตระกูลเหยียนมองไปทีป่ ระมุขของพวกเขาด้วย
สายตาที่ไม่ต่างกัน แน่นอนว่าพวกเขาเองย่อมไม่สามารถรอดทนกับ
สถานการณ์ในตอนนี้ได้อีกต่อ การที่รับการดูถูกเหยียดหยามกันถึง
เพียงนี้สู้ให้พวกเขาสู้ตายไปเลยเสียดีกว่า
" ท่านประมุขเกิดเรื่องขึ้นแล้วขอรับ !!! "
ใบหน้าของคนรับใช้ที่วิ่งเข้ามาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและ
ความหวาดกลัว ทั่วร่างของเขาสั่นระริกราวกับว่าเพิ่งตกน้าแล้ว
ขึ้นมาพบเจอสายลมอันหนาวเหน็บ
" มีเรื่องใด......... "
" ข้าต้องขออภัยที่เสียมารยาท...เพียงแต่ว่าศิษย์ของข้านั้นดู
เหมือนว่าเขาจะเพิ่งสานึกตนได้ว่าสิ่งที่ทากับบุตรชายท่านนั้นเป็น
สิ่งผิดเขาจึงร้อนใจอยากมาเพื่อกล่าวโทษ "
แววตาว้าวโรจน์แต่เดิมของเหยียนจ้าวแปรเปลี่ยนไปในทันทีที่
เห็นร่างของกลุ่มคนจานวนมากเดินเข้ามาภายในห้องโถงตระกูล ไม่
ต้องบอกก็รู้ว่าน้าเสียงเรียบเฉยที่กล่าวมานั้นเป็นของผู้ใดและถึงจะ
กล่าวเช่นนั้นแต่มันเห็นได้ชัดว่านางจงใจใช้ถ้อยคาเพียงเพื่อ
ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดของพวกเขาเพียงเท่านั้น !
" สมาคมนักปรุงยา ! "
เหยียนจ้าวเมื่อได้เห็นจูหนิงเอ๋อร์ด้วยสายตาตนเองแล้วความ
มั่นใจก่อนหน้านี้ของเขาพลันหายไปในพริบตาไม่ใช่่าเขาเกรงกลั
ว่ ว
ที่จะต้องตกตายหากต้องทาการสู้รบเพียงแต่ว่าเขากลัวว่าถ้าเกิดเขา
ต้องสู้กับหญิงสาวผู้นี้จริงๆแล้วละก็คงเป็นฝ่ายตระกูลเหยียนทีถ่ ูก
ทาลายภายในชั่วเวลาไม่นาน ไม่เพียงความสามรถของประมุขสาว
ที่ตัวเขาไม่อาจสามารถประเมิณได้ ที่เคียงข้างมาคู่กับนางนั้นเห็นได้
ชัดว่าเป็นตัวตนระดับสูงของสมาคมนักปรุงยาแม้ว่าแรงกดดันที่
ออกมาจากตัวของหญิงสาวคนนที่สองนั้นจะด้อยกว่าประมุข
สมาคมแต่มันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลาพังเพียงหญิงสาวนางนี้
เพียงคนเดียวก็สามารถจัดการเขาและผู้อาวุโสที่ได้อย่างสบายแล้ว
ในตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสของสามคมนักปรุงยาต่างมาเยือนกันที่
ตระกูลเหยียนอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด ไม่เพียงแต่ในเร็วนี้ทางสมาคม
จะพบดวงดาวที่เฉิดฉายดวงใหม่แต่ผู้อาวุโสสาวสวยขวัญใจบุรุษ
อย่างผู้อาวุโสฟางซิ่นก็สามารถพบความก้าวหน้าได้อย่างก้าว
กระโดดเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าหลินหมิงเองก็ย่อมต้องมาด้วยตัวเขาไม่คาดคิดเลยว่า
ด้วยการกระทาของเขานั้นจะสามารถส่งผลให้ตระกูลเหยียนตกต่า
ลงได้ถงึ เพียงนี้ แน่นอนว่าแต่เดิมนั้นตัวเขาไม่ได้มีความแค้นเคือง
อะไรต่อตระกูลเหยียนมากนักเพียงแต่ด้วยผลเช่นนี้มันสามารถทา
ให้ตระกูลหลินนั้นไร้พันธมิตรที่เข็มแข็งอย่างตระกูลเหยียนไป อีกทั้ง
แน่นอนว่าคนภายในตระกูลหลินย่อมต้องเกิดความคิดแตกแยกจาก
ผลเช่นนี้
" ที่แท้ก็เป็นประมุขสมาคมนักปรุงยานี้เอง กลับเป็นพวกข้าเสีย
มากกว่าที่เสียมารยาทไม่ได้กล่าวออกไปต้อนรับพวกท่าน "
ในใจของตระกูลเหยียนทุกคนต่างสั่นผวาโดยทั่วไปแล้วผู้คนจะ
ไม่มีใครทราบถึงความแข็งแกร่งของสมาคมนักปรุงยามากนักพวก
เขาอาจคิดเพียงแต่ว่าตัวสมาคมนั้นเป็นเพียงขุมอานาจที่มีทรัพย์
สมบัตมิ ากกว่าผู้อื่นแต่ในเรื่องของความแข็งแกร่งแล้วนั้นพวกเขา
อาจเป็นรองขุมอานาจอื่น แต่ภาพตรงหน้าทาให้ทุกคนในตระกูลเห
ยียนนั้นเข้าใจดีถึงความน่ากลัวของสมาคมนักปรุงยาลาพังเพียง
เหล่าอาวุโสที่ปรากฎตัวตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้ก็นับได้ว่าโดยรวม
แล้วเหนือกว่าผู้อาวุโสของตระกูลพวกเขาไปอย่างน้อยสองขั้น
จูหนิงเอ๋อร์นั้นนางไม่ได้รวมผลผู้อาวุโสมาเพื่อทาลายตระกูลเห
ยียนแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพราะด้วยศิษย์ของนางเอง เดิมทีทาง
สมาคมนั้นเน้นการพัฒนาไปที่ด้านการปรุงยาเสียมากกว่าความ
แข็งแกร่งดังนั้นแล้วผู้คนภายในจึงไม่มีคนที่ได้แสดงออกถึงความ
แข็งแกร่งของตนเท่าใดนัก แต่ในตอนนี้หลินหมิงได้เป็นประกาย
ความหวังอนาคตของสมาคมเช่นนี้แล้วพวกเขาจึงไม่อาจปล่อยให้
เด็กหนุ่มคนนี้ตกอยู่ในอันตรายได้ ดังนั้นแล้วการที่พวกเขาได้แสดง
ถึงอานาจความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสมาคมนั้นมันก็เพียงพอต่อ
การที่ขุมอานาจอื่นจะกล้าคิดทาสิ่งใดต่อหลินหมิง
ตอนที่ 95
ด้วยร่างของหญิงสาวผู้งดงามทั้งสองราวกับเทพธิดาลงมาจุติยัง
โลกมนุษย์ มันสมควรทาให้เหล่าชายชาตรีตระกูลเหยียนรู้สึกเคลิ้ม
ฝัน เพียงแต่ว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาทาได้แค่เพียงเหลือบ
มองไปยังเรือนร่างของหญิงสาวทั้งสองคนนี้เพียงไม่ชั่วครู่พร้อมกับ
ก้มหน้าหลบในทันที ทั้งหมดที่พวกเขาทาเช่นนี้ก็เพราะว่าพวกเขา
กังวลว่าตนเองอาจทาเรื่องที่เสียหายต่อตระกูลไปมากกว่านี้ มีเพียง
เหยียนจ้าวกับผู้อาวุโสสี่หา้ คนเท่านั้นที่พอจะข่มกลั้นความรู้สึกที่
เกิดขึ้นได้
" ประมุขเหยียน ท่านรู้หรือไม่ข้ามีเหตุผลมากมายที่เพียงพอจะ
ลบตระกูลท่านนหรือทาให้ตระกูลของท่านตกต่าลงไปมากกว่านี้
....... "
เพียงได้ยินประโยคกล่าวเริ่มต้นเช่นนี้แม้แต่เหยียนจ้าวเองใจ
ของเขายังสั่นผวา ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ที่พวกเขาไร้ซึ่งผู้คุมครอง
อย่างตระกูลหลินไป มันไม่ใช่เรื่องยากนักสาหรับสมาคมนักปรุงยาที่
จะถอนรากถอนโคนตระกูลของเขา
" ไม่เพียงแต่บุตรของท่านจะคอยรังควานศิษย์ชั้นยอดของพวก
ข้าอย่างหลัวฉิงเชียนอย่างเลิกรา...นี้ขนาดศิษย์ของข้าเองก็ยังไม่พ้น
เช่นเดียวกันหากไม่ใช่ว่าศิษย์ของข้าพอมีความแข็งแกร่งอยู่บ้างเขา
คงตกตายไปแล้ว "
" มะ...ไม่ใช่อย่างนั้น..บุตรของข้าเขาเพียงโงเขลาจนเกินกว่าจะ
รับรู้ตัวตนของศิษย์ของท่านได้...หากเรื่องนี้ทาให้ทา่ นไม่พอใจ
ตระกูลเหยียนของข้ายินดีส่งตัวเหยียนหยางเพื่อให้ท่านลงโทษเขา
ได้ตามสมควร แต่ได้โปรดท่านเห็นแก่ตระกูลของข้าบ้าง "
ทุกคนที่อยู่ภายในห้องโถงนั้นสามารถเข้าใจคากล่าวกัดฟันของ
เหยียนจ้าวได้เป็นอย่างดี เขายินยอมที่จะส่งบุตรชายของตนไปโดย
ที่แม้จะรู้ว่าบุตรของเขานั้นอาจต้องเผชิญหน้ากับความตายหรือสิ่ง
ที่เลวร้ายกว่านั้น เพียงแต่ว่าหากเทียบกับความสาคัญของคนใน
ตระกูลจานวนมากแล้วนี้เป็นสิ่งที่หวั หน้าตระกูลอย่างเขา
จาเป็นต้องทา แม้ว่าถึงมันจะไม่ทาให้ตระกูลของเขากลับมามีหน้ามี
ตาเช่นเดิมแต่หากมันเพียงพอสาหรับการรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้
ก็นับว่าคุ้มค่า
" โห....ท่านประมุขข้าคิดเห็นว่าถึงแม้เราจะนาตัวของเหยียน
หยางมาก็ไม่ได้นับว่ามีประโยชน์อะไรต่อทางเรามากนัก........ "
จูหนิงเอ๋อร์มองมาที่ผู้อาวุโสฟางซิ่นด้วยความแปลกใจเดิมที
หญิงสาวคนนี้แม้จะดารงตาแหน่งของผู้อาวุโสสมามคมเป็นรอง
เพียงนางและซูหลิ่งแต่นางมักไม่เคยให้ความร่วมมือใดๆเลยกับ
สมาคม กล่าวได้ว่านางมักมีนิสัยที่ชอบทาตามใจตนเองมากกว่าการ
ที่นางมาร่วมในการเยือนตระกูลเหยียนครั้งนี้ก็นับว่าแปลกมากแล้ว
แต่นี้นางกระทั่งออกกล่าวเสนอความเห็นด้วย ?
" แล้วเจ้าคิดว่าข้าสมควรทาเช่นใด "
" ประมุขเหยียน ข้าได้ยินมาว่าท่านเองก็มีบุตรสาวที่งดงามอยู่
คนหนึ่งไม่ใช่อย่างนั้นรึ "
เหยียนจ้าวพลันได้ยินคากล่าวของผู้อาวุโสฟางซิ่นก็อยู่ใน
สถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาพอจะคาดเดาถึงสิ่งที่หญิงสาวเจ้า
เล่ห์ผู้นี้วางแผนแล้วไม่มากก็น้อย แต่หากให้เทียบกับบุตรชายของ
เขาอย่างเหยียนหยาง และบุตรีของเขาอย่างเหยีนจิวหลินแล้วละก็
บุตรีของเขาย่อมมีค่ากว่าเป็นไหนๆ ไม่ใช่เพราะว่านางมีระดับพลัง
ที่แข็งแกร่งที่จริงแล้วนางเป็นเพียงหญิงสาววัย 18 ปีที่มีระดับพลัง
เพียงปราณเริ่มต้นขั้น 6 แต่นางไม่เคยทาเรื่องเดือดร้อนสิ่งใดให้กับ
ตระกูลเลยแม้แต่น้อยอีกทั้งนางยังคอยพยายามช่วยเหลืองานของ
เขาในฐานะหัวหน้าตระกูลอยู่เสมอ
ดังนั้นแล้วเหยียนจ้าวจึงไม่อยากให้บุตรีที่ตนเองรักนั้นต้องตกอยู่
ในความยากลาบาก ขนาดบรรดาเหล่าบุตรที่แสนภาคภูมิใจของ
ตระกูลหลินแสดงที่ท่าชื่นชอบในตัวบุตรของเขา เหยียนจ้าวเองก็
ยังคงพยายามหลีกเลี่ยงได้มาจนถึงทุกวันนี้
" เรื่องนั้น..ข้าเกรงว่า.."
" ประมุขเหยียนท่านลองไตร่ตรองดูก่อน...หากพวกข้านั้นทา
ตามคากล่าวที่ให้นาตัวบุตรชายของท่านไปลงโทษตามสมควร...
แล้วตระกูลท่านจะรอดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างนั้นหรือ?
แน่นอนว่าไม่กลับกันแล้วมันอาจเลวร้ายกว่าเดิมเสียด้วยซ้าไป...แต่
หากท่านเพียงยอมให้บุตรีของท่านมาเป็นอนุของศิษย์เอกของเรา
แล้วแน่นอนว่าแม้จะเป็นเพียงตาแหน่งอนุแต่มีหรือที่ใครจะกล้าทา
สิ่งใดกับตระกูลท่านได้อีก "
จูหนิงเอ๋อร์แน่นอนว่านางย่อมเห็นด้วยกับความคิดเช่นนี้ของผู้
อาวุโสฟางซิ่น แม้ว่าฐานะของตระกูลเหยียนในตอนนี้จะตกต่าลงไป
มากแต่พวกเขาก็ยังคงมีคุ้มกาลังที่แข็งแกร่งอยู่ ส่วนทางด้าน
หลินหมิงนั้นเขาพอจะคาดเดาความคิดของผู้อาวุโสสาวคนนี้ได้ ที่
นางทาเช่นนี้เห็นได้ชัดว่านางต้องการเรียกความสนใจจากเขามา
บ้างที่นางอาจปราถนาในตาแหน่งภรรยาของเขามากกว่าสถานะขา
รับใช้สาวซึ่งถึงแม้ว่าสาหรับหลินหมิงในตอนนีท้ ั้งสิง่ อาจดูแตกต่าง
กันที่คาเรียกหาเพียงเท่านั้นก็ตาม
" ท่านพ่อ....ข้าไม่เป็นไรเจ้าคะ "
" จิวเอ๋อร์.... "
เหยียนจิวหลินหรือบุตรสาวของเหยียนจ้าวนางได้รับฟังบท
สนทนามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว มีหรือที่ทั้งตระกูลเกิดเรื่องวุ่นวาย
ใหญ่ถึงเพียงนี้แล้วนางจะไม่รับรู้ อันที่จริงแล้วคนที่ไม่สนใจเรื่อง
ในตอนนี้ภายในตระกูลคงอาจมีเพียงพี่ชายของนางที่อับอายจนเกิน
กว่าจะออกมาพบเจอหน้าคนในตระกูลอีก
" ข้านั้นเป็นเพียงหญิงสาวที่ไม่มีความสามารถที่โดดเด่นอะไรแต่
อย่างใด...หากท่านประมุขและผู้อาวุโสไม่รังเกียจแล้วละก็ข้าขอ
สัญญาว่าจะปรนนิบัติรับใช้คุณชายอย่างเต็มความสามารถเจ้าคะ
ขอเพียงอย่าได้ทาอะไรกับตระกูลของข้าอีกต่อไป "
หลินหมิงจ้องมองที่เรือนร่างของเหยียนจิวหลินอย่างพินิจ
เคราะห์ นางอาจไม่จัดได้ว่างดงามเทียบเคียงกับอาจารย์สาวสวย
หรือผู้อาวุโสฟางซิ่นแต่นางก็เป็นรองเพียงแค่หนึ่งขั้นหรืออาจเพียง
ครึ่งขั้นเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยที่บรรดาญาติพี่น้องของเขาต่างหมาย
ปองหญิงงามผู้นี้
ในสายตาของหลินหมิงนัน้ หญิงสาวผู้นี้เต็มไปด้วยแน่วแน่เห็น
ได้ชัดว่านางเต็มใจที่ยอมเสียสละตนเองไม่ว่ามากน้อยเพียงใดเพื่อ
ตระกูลและบิดาของนาง นับว่าเหยียนจ้าวยังคงมีวาสนาอยู่บ้างที่
แม้บุตรชายของเขาจะไม่เอาไหนแต่สวรรค์ก็ยังเห็นใจมอบบุตรีที่ล้า
ค่ายิ่งผู้นี้มาให้เขา เพียงชั่วครู่ที่ทุกคนกาลังครุ่นคิดกับสถานการณ์
ตรงหน้าของพวกเขา ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลเหยียนได้หันไป
พยักหน้าให้กับคนของเขาที่มีพลังระดับก่อเกิดระดับ 5 แน่นอนว่า
ชายหนุ่มผู้นี้ย่อมล่วงรู้ถงึ ความหมายที่ผู้อาวุโสต้องการจะสื่อกับเขา
เป็นอย่างดี
" คุณชายฮั่ว...แม้ว่าคุณหนูของพวกเราจะกล่าวตอบตกลงไป
แล้วก็ตาม...แต่ข้าขอเป็นตัวแทนคนจากตระกูลเหยียนเพื่อขอ
ทดสอบฝีมืออันเลื่องลือของท่านว่ามากพอที่จะดูแลคุณหนูได้
หรือไม่ "
ทางฝั่งของสมาคมนักปรุงยานั้นไม่มีใครคัดค้านใดกับคาพูดของ
ชายหนุ่มผู้นี้เลยแม้แต่น้อย กลับกันแล้วในฝั่งของคนตระกูลเหยียน
มีบ้างคนกระทั่งกลัวจนแทบจะวิ่งหนีไปเสียให้พ้น ในสถานการณ์
เช่นนี้ยังมีคนที่กล้ากล่าววาจาเช่นนี้ได้มันไม่กลัวว่าทั้งตระกูลจะลบ
หายไปหรืออย่างไร
" เรื่องนั้นย่อมไม่มีปญ
ั หาแต่อย่างใด ข้าย่อมยินดีแสดง
ความสามารถของข้าเล็กๆน้อยๆได้ให้พวกท่านพอใจได้ "

หากเป็นคนปกติทั่วไปได้ยินคาพูดเหล่านี้เข้าพวกเขาคงได้
หัวเราะจนกลิ้นไปกับพื้นเด็กหนุ่มอายุ 15 ปีกล้ากล่าวว่าจาเช่นนี้
โดยไม่ยาเกรงใดๆกับผู้ทพี่ ลังก่อเกิดระดับ 5 แต่สาหรับเด็กหนุ่มผู้นี้
นั้นเขามีสิทธ์ที่จะทาเช่นนี้ได้ทั่วทัง้ ตระกูลต่างรู้กันดีว่าเหยียนหยาง
นั้นถูกเด็กหนุ่มผู้นี้จัดการมาอย่างง่ายดายถ้าอย่างนั้นแล้วระดับพลัง
ต่าสุดของเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณปราณก่อเกิดขั้น 4 หรือกระทั่งขั้น
ที่ 5
" เช่นนั้นคุณชายเตรียมรับมือ "
ที่เขาทาเช่นนี้นั้นก็เพราะว่าอย่างน้อยตระกูลเหยียนก็ยังคง
รักษาชื่อเสียงตนเองไว้ได้บ้าง โดยไม่ถูกกล่าวว่าพวกเขายอมขาย
คุณหนูเหยียนจิวหลินเพื่อเอาชีวิตรอด
ชายหนุ่มตระกูลเหยียนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเมื่อเห็นท่าที
ของหลินหมิงแน่นอนว่าในตอนที่เขาประกาศให้หลินหมิงรับมือนั้น
เขาจงใจปลดปล่อยระดับพลังของตนเองออกมาทั้งหมดเพื่อหวัง
ข่มขู่ให้หลินหมิงกังวลสักเล็กน้อยแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
เลยแม้แต่น้อย ท่าทีของหลินหมิงยังคงมีทีท่าสบายๆราวกับว่าการ
ต่อสู้ในครั้งนี้มันถูกตัดสินแล้วอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มไม่รีรอช้าอีกต่อไปแม้ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ว่า
หลินหมิงจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาที่อยู่ในระดับ 5 แล้วก็ตาม
แต่แล้วมันอย่างไรกันเล่าคุณชายหนุ่มผู้นี้จะไม่ประมาทคู่ต่อสู้ไป
อย่างนั้นหรือ กะบี่ของเขาที่แนบลาตัวอยู่ในตอนแรกไม่ได้ถกู นา
ออกมาใช้ในทันที มันปรากฎในจังหวะที่เขาใช้ช่วงเวลาเพียงชั่ว
พริบตามายืนตรงหน้าหลินหมิงนี้เป็นท่วงท่าที่เขาคิดจะใช้จัดการ
กับหลินหมิงในครั้งนี้ !
แม้ว่าหลินหมิงจะสามารถตามความเร็วของเขาได้ท่านแต่ใน
เรื่องกระบวนท่าของกะบีเ่ ล่มนี้เขามั่นใจได้ว่าด้วยการที่หลินหมิง
ไม่ได้เตรียมรับมือตั้งแต่ก่อนหน้ามันจะต้องทาให้เด็กหนุ่มผู้นี้พลาด
พลั้งได้อย่างแน่นอน
อึก
จังหวะนั้นเองในขณะที่ชายหนุ่มกาลังจะใช้ท่วงท่ากะบี่ของเขา
สัมผัสหนาวเย็นที่ปลายคอของเขาเกิดขึ้นไปตามสัญชาตญาณ
พร้อมกับอาการเจ็บปวดเล็กน้อยที่เกิดขึ้น เมื่อเขาก้มลงไปมองดูก็
พบสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น ในตอนนี้นิ้วมือทั้งห้าของหลินหมิงจอ
มาที่คอของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีกทัง้ ยังคงมีรอยเลือดอยู่บริเวณ
ที่คอของเขาซึ่งมันเป็นแผลเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเพียงแต่ว่าหากเขาไม่
หยุดยั้งตัวก่อนแล้วละก็ใครจะคาดคิดได้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น !
เรี่ยวแรงที่กากะบี่หายไปในฉับพลันเขาไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดสิ่ง
ใดขึ้นท่วงท่าของเขาที่ใช้ไปเมื่อครู่ล้วนเกือบจะสมบูรณ์แบบขาดแต่
เพียงกะบี่ของเขาที่ยังไม่ทันได้ฟาดฟันเพียงเท่านั้นแต่การ
เคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มผูน้ ี้กลับเหนือกว่าเขาจนราวกับว่าพวกเขา
อยู่กันคนละมิติกันเลย ด้วยพลังระดับปราณก่อเกิดระดับ 5 แต่ยัง
พ่ายแพ้ภายในช่วงเวลาอึดใจเดียวท่วงทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยความ
ตื่นตะลึงโดยเฉพาะตระกูลเหยียน

ตอนที่ 96
ลาพังแค่เพียงข่าวของหลินหมิงทีส่ ามารถเอาชนะเหยียนหยางที่
มีพลังระดับ 3 ขั้นก่อเกิดได้ก็เพียงพอที่จะสร้างความปั่นป่วนไปได้
ทั่วเมืองแต่ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงยังคงสามารถที่จะเอาชนะชาย
หนุ่มทีม่ ีพลังระดับ 5 ขั้นก่อเกิดได้เพียงชั่วพริบตาเดิมทีพวกเขา
คาดเดากันว่าความแข็งแกร่งของหลินหมิงน่าจะอยู่ที่ระดับ 4 ไม่ก็
ระดับ 5 แต่ในตอนนี้ระดับพลังของเขาต้องมีอย่างน้อยถึงระดับ 6 !
" สวรรค์นี้เขาอายุเพียง 15 ปีเองนะ !!! "
แน่นอนว่าในตอนแรกบรรดาคนจากตระกูลเหยียนหรือกระทั่ง
บุคคลภายนอกจะมีบางส่วนที่ไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้แต่จากวันนี้ไปมันคง
ไม่ใช่อีกต่อไปแล้วโดยเฉพาะกับทุกคนในตระกูลเหยียนที่ได้เห็น
ภาพตรงหน้าอย่างเด่นชัด บรรดาเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเหยียน
ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกหากพวกเขาวางแผนผูกสัมพันธ์กบั เด็ก
หนุ่มผู้นี้ก่อนหน้าไม่ต้องสงสัยเลยว่าตระกูลเหยียนของพวกคงเรือง
อานาจมากแน่ๆในอนาคต เพียงแต่ว่าในตอนนี้การที่คุณหนูของ
พวกเขาต้องไปเป็นอนุของเด็กหนุม่ ผู้นี้มันก็อาจไม่ใช่เรื่องแย่นัก
สาหรับความคิดของคนหลายคนในที่นี้เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่ง
ของหลินหมิง
" ท่านหญิง นี้เป็นความคิดเห็นของข้าเองที่ใช้ให้เขาเข้าทดสอบ
ศิษย์ของท่านหากมันทาให้ท่านไม่พอใจ ชายชราผู้นี้พร้อมยอมรับ
โทษโดยไม่โกรธเคือง "
" เรื่องเพียงแค่นี้ข้าไม่ได้คิดอันใดมากอยู่แล้ว ดีเสียอีกยังที่อย่าง
น้อยมันก็ยังทาให้ศิษย์ของข้าได้แสดงพลังส่วนหนึง่ ออกมา "
จูหนิงเอ๋อร์พอใจในสถานการณ์ตอนนี้มากนางหันไปพยักหน้าให้
หลินหมิงหนึ่งที่เพื่อปล่อยเรื่องที่เหลือให้หลินหมิงสามารถจัดการได้
ทั้งหมด แน่นอนว่าในอนาคตนี้ศิษย์ของนางคนนี้ย่อมต้องรับช่วงต่อ
จากนางไปอย่างแน่นอนดังนั้นแล้วนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างหนึ่ง นั้นก็
คือการตัดสินใจผู้ที่มีอานาจนั้นจะต้องมั่นใจและตัดสินใจได้อย่าง
เฉียบขาดปราศจากความลังเลใดๆ
" ท่านประมุขตระกูลเหยียน และผู้อาวุโสทุกท่านตัวข้านั้นเป็น
เพียงเด็กหนุ่มทีย่ ังไร้ซึ่งประสบการณ์ ด้วยเหตุการณ์ที่นายน้อยของ
พวกท่านได้ล่วงเกินต่อศิษย์พี่ของข้าแน่นอนว่ามันทาให้ข้าไม่พอใจ
เป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นตัวข้าเองก็ทราบดีว่าข้านั้นได้ทาเกิน
กว่าเหตุไปไม่ใช่น้อยจนทาให้พวกท่านทั้งหมดที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราว
ต้องเดือดร้อนไปด้วย.... "
" เช่นนั้นแล้วหากพวกท่านมีความเป็นกังวลว่าคุณหนูของพวก
ท่านจะได้รับความลาบากแล้วละก็ตัวข้าขอสัญญาด้วยเกียรติของ
ข้าเลยว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน "
สิ่งที่หลินหมิงกล่าวออกไปทาให้ผู้คนทั้งหลายในตระกูลเหยียน
ตกตะลึงด้วยการที่เด็กหนุม่ คนนี้มีสถานะสูงจนเสียยิ่งกว่าเหล่าผู้
อาวุโสหรืออาจแม้กระทั่งประมุขของพวกเขาในตอนนี้แต่เด็กหนุ่ม
คนนี้ก็ยังคงรักษาท่าทีนอบน้อมต่อพวกเขา ซึ่งมันหาได้อย่างยิ่ง
สาหรับคนวัยเยาว์เช่นเดียวกันหลินหมิง ด้วยการที่หลินหมิงกล่าว
เช่นนี้ออกไปไม่เพียงแต่จะทาให้บรรดาเหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลเห
ยียนคลายความกดดันลงไปในทันที แต่มันยังเป็นการรับประกัน
ความรุ่งโรจน์ในอนาคตของตระกูลเหยียนอีกด้วยเพราะจากคาพูด
ของเด็กหนุ่มเมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้มีท่าทีว่าจะนาคุณหนูของพวกเขา
ไปเพื่อเป็นนางบาเร่อแต่เขายังกล่าวให้ความสาคัญคุณหนูของพวก
เขาเสียด้วยซ้าไป
" จิวเอ๋อร์ ข้าไม่เพียงแต่จะไม่สามารถมอบความสุขให้กับเจ้าได้
แต่ยังช่วงชิงอนาคตของเจ้าไป..... "
" ท่านพ่อนี้เป็นทางที่ข้าได้เลือกแล้ว ไม่ใช่เป็นความผิดของท่าน
แต่อย่างใดอีกอย่างด้วยความสามารถของคุณชายผู้นี้ข้าอาจสุข
สบายเสียยิ่งกว่าท่านพ่ออีกนะเจ้าคะ... "
เหยียนจิวหลินนางกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงล้อเล่นเพื่อไม่ให้เห
ยียนจ้าวต้องเป็นกังวลแต่ถึงอย่างนั้นน้าเสียงสุดท้ายของนางกลับ
สั่นเครือ สาหรับหญิงสาวการที่ต้องตกเป็นของบุรษุ ที่ไม่เคยรู้จักกัน
มาก่อน อีกทั้งยังด้วยสถานการณ์เช่นนี้นางไม่สามารถคาดเดาได้
เลยว่านางจะต้องประสบชะตากรรมใด
" ท่านอาจารย์ ข้าขออาศัยอยู่ที่นี้สัก 2-3 วันได้หรือไม่ "
" ย่อมได้ข้ากล่าวไปแล้วว่าเรื่องนี้ข้าจะให้เจ้าจัดการเอง เอา
เป็นว่าเจ้าสามารถทาทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการได้ไม่ว่าสิ่งใด แล้ว
เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการฝึกมากไปนักเจ้าสมควรผ่อนคลายเสีย
ให้มากกว่านี้เจ้าอาจอยู่ที่นานมากเท่าใดก็ได้ตามทีเ่ จ้าพอใจ "
จูหนิงเอ๋อร์และบรรดาผู้อาวุโสส่วนใหญ่ต่างกลับไปที่สมาคม
ในทันทีเหลือเพียงผู้อาวุโสบางส่วนที่นางได้เหลือเอาไว้เพื่อทาการ
คุ้มครองหลินหมิง ถึงแม้ว่ามันจะไม่จาเป็นมากนักก็ตามที่ ตระกูล
คงกลายเป็นคนโงไปในทันทีถ้าหากพวกเขาคิดใช้โอกาสนี้ในการ
สังหารหลินหมิง เพราะนั้นจะทาให้ตระกูลของพวกเขาถึงจุดจบ
อย่างแน่นอนด้วยสมาคมนักปรุงยาในตอนนี้ไม่เพียงมีแต่เด็กหนุ่มผู้
นี้เท่านั้น ยังมีประมุขและหญิงสาวผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับ
เดียวกันอีกหนึง่ คนเพียงแค่หญิงสาวสองคนนี้พวกนางทั้งสองก็อาจ
กวาดล้างตระกูลเหยียนให้หายสิ้นไปอย่างง่ายดายแล้ว !
ภายไปราว 2 ชั่วยามหลังจากที่เหตุการณ์วุ่นวายทุกอย่างจบลง
บรรดาเหล่าผุ้อาวุโสของสมาคมนักปรุงยาได้รับทีพ่ ักอย่างดีภายใน
ตระกูลเหยียน ในขณะที่หลินหมิงกาลังพูดคุยกล่าวกับเหยียนจ้าว
ทางฝั่งของเหยียนจิวหลินที่อยู่ภายในห้องของนางในตอนนี้เต็มไป
ด้วยความประหม่า แม้ว่านางจะเป็นคนตัดสินใจเองก็ตามแต่มัน
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้แท้จริงแล้วเขาคงมีความโกรธแค้น
ต่อตัวพี่ชายของนางอยู่และนางคงไม่พ้นรับเคราะห์แทน แต่ถงึ
อย่างนั้นคากล่าวในช่วงก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น
ทันใดนั้นประตูห้องของนางที่ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับ
ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาภายในห้อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
นี้คือหลินหมิงอย่างแน่นอน นางไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าภายใต้
ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจางๆ ทีด่ ูสุขุมนี้มีความคิดเช่นใดแฝง
เอาไว้อยู่
" เจ้ากังวลอย่างนั้นรึ ? "
หลินหมิงเดินเข้ามาหาจิวหลินพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย แน่นอน
ว่าสาหรับหญิงสาวที่เกิดในตระกูลสูงศักดิ์นั้นมันหาได้ยากยิ่งที่พวก
นางจะมีความกล้าตัดสินใจดั่งเช่นหญิงสาวผู้นี้ มือของหลินหมิง
คว้าจับมือของนางในทันทีที่เขาเข้ามาใกล้ตัวนาง
" คะ..คุณชาย "
แม้ว่านางจะมีอายุมากกว่าหลินหมิงถึง 3 ปีแต่ด้วยความไร้
เดียงสาของนางมันทาให้ในตอนนี้นางดูกลายเป็นเด็กในสายตาของ
หลินหมิงเสียมากกว่า จิวหลินนางไม่สามารถปฎิเสธใดๆต่อการ
กระทาของหลินหมิงได้ไม่เช่นนั้นแล้วตระกูลของนางคงต้องตกไป
อยู่ในสถานะลาบากเช่นเดิม อันที่จริงแล้วในก่อนหน้านี้ได้มีผู้อาวุโส
จานวนไม่น้อยเข้ามาพูดคุยกับนางให้ปรนนิบัติหลินหมิงอย่างดี
เยี่ยมที่สุด แต่นางยังคงด้อยประสบการณ์จนเกินกว่าจะทาสิ่งใดได้
และถึงแม้ว่านางจะพอรู้เรื่องราวก็ตามที่แต่ร่างกายของนางแข็งทื่อ
ไปหมดแล้วนางจะยังคงทาสิ่งใดได้อีก ร่างของนางถูกจูงมาที่เพียง
นอนของนางโดยที่ไม่สามารถเลี่ยงได้แต่อย่างใด
" คุณชายแล้วเรื่องท่านพ่อของข้าและตระกูลของข้า ท่านจะไม่
ทาสิ่งใดกับพวกเขาจริงๆใช่ไหมเจ้าคะ "
จิวหลินรีบกล่าวเพื่อทาลายคลายกังวล นางเพียงหวังว่าอย่าง
น้อยหลินหมิงคงชะงักแล้วหันมาพูดคุยกับนางเสียหน่อยเพื่อว่านาง
จะได้พอมีเวลาทาใจก่อน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นร่างของ
นางถูกโอบกอดอย่างแนบแน่นโดยที่ร่างขอนางกาลังนอนคร่อม
ด้านบนร่างของหลินหมิง สัมผัสไออุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวของหลินห
มิงในตอนนี้มันทาให้ร่างกายของนางเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก นี้
อาจเป็นการตอบสนองโดยธรรมชาติของชายหญิง ?
" ข้าบอกพวกเจ้าไปแล้วว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้น แต่หากเจ้า
ทาให้ข้าไม่พอใจนั้นก็คงเป็นเรื่องหนึ่ง "
" ขะ..ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เจ้าคะ "

ไม่ทราบด้วยเหตุใดในยามนี้ที่นางได้อยู่ภายในอ้อมกอดของ
หลินหมิงมันทาให้นางรู้สกึ อบอุ่นอย่างไม่ถกู มือของหลินหมิงที่
กาลังลูบไล้แผ่นหลังของนางอย่างเชื่องช้านางกลับพบว่านางไม่ได้มี
ความรู้สึกรังเกียจหลินหมิงดังเช่นที่ควรจะเป็น กลับกันแล้วร่างกาย
ของนางกลับรู้สึกพอใจต่อการสัมผัสเช่นนี้ของหลินหมิงเสียมากกว่า
" ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว..เจ้าสมควรเรียกข้าว่าท่านพี่ไม่ใช่
เช่นนั้นหรือน้องหญิง "
" เจ้าคะ..ทะ...ท่านพี.่ ..อื้มมม~~ "
ริมฝีปากของนางถูกช่วงชิงพร้อมกับลิ้นของหลินหมิงทีต่ วัดเข้า
พัวพันภายในปากของนาง มันไม่ได้เป็นรสจูบที่ร้อนแรงดั่งเช่นที่
หลินหมิงชอบใจจู่โจมเหล่าสตรีกลับกันแล้วแม้ว่าจะมีการจู่โจมเข้า
ไปภายในปากของจิวหลิน แต่มันเป็นอย่างจู่โจมอย่างเชื่องช้า
สาหรับหญิงสาวผู้นี้แล้วหลินหมิงมีความรู้สึกอยากทะนุถนอมนาง
เอาไว้เป็นดั่งสมบัตลิ าค่าส่วนตัวของเขาเอง
จิวหลินนางไม่ค่อยเข้าใจในการกระทาของหลินหมิงเสียเท่าไหร่
แน่นอนว่าการจูบเช่นนี้นับว่าเป็นการเริ่มของการร่วมรักระหว่าง
ชายหญิง เพียงแต่ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่ใช้เวลามากเกินไปเช่นนั้น
หรอสาหรับการเล้าโลมเช่นนี้ หากเป็นบุรุษโดยทัว่ ไปแล้วพวกเขา
คงไม่รอช้าหากได้รับโอกาสอันดีงามที่สามารถเฉยชมร่างกายของ
นางได้อย่างสบายใจเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจ
แต่อย่างใดเทียบกันแล้วการที่หลินหมิงกระทากับนางอย่างอ่อนโยน
เช่นนี้มันทาให้นางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ

ตอนที่ 97
ในความรู้สึกของจิวหลินรสจูบของหลินหมิงเพียงพอที่จะทาให้
ความรู้สึกที่บริเวณส่วนลับของนางถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างรุนแรง
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเพียงแค่การจูบกับบุรุษจะมีความสุขที่
เพียงนี้อีกทั้งดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเชี่ยวชาญในเรื่องการมอบ
ความสุขให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก หลังจากที่นางถูกช่วงชิงริม
ฝีปากจนกระทั่งนางเริ่มรู้สึกเหนื่อยหอบ เด็กหนุ่มได้เปลี่ยนจากการ
จูบอันแสนดูดดื่มมาโลมเลียที่บริเวณต้นคอและใบหน้าของนางแทน
" ขะ..ข้าไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อนเลยเจ้าคะ อ้าา~~~~~~ "
นางแทบจะเกือบลืมไปแล้วมันสมควรเป็นฝ่ายนางไม่ใช่หรอที่
จะต้องทาให้หลินหมิงมีความสุขเพียงแต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่า
หลินหมิงกาลังทาให้นางมีความสุขเสียมากกว่า เสื้อผ้าของนางถูก
ปลดออกอย่างรวดเร็ราวกับว่ามันไม่เคยมีมาก่อนเรือนร่างของนาง
ถูกเผยให้เห็นแก่สายตาของหลินหมิงที่จ้องมาด้วยสายตาหื่น
กระหายแบบไม่ปกปิด ลาพังเพียงแค่สัมผัสที่ผ่านจากเสื้อผ้ามาก็
แทบจะทาให้นางบ้าคลั่งจนจะตายอยู่แล้วเมื่อต้องเจอกับสัมผัส
โดยตรงเช่นนี้ร่างกายของนางบิดไปมาด้วยความเสียวซ่านที่กาลัง
เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยอดปถุมถันที่เบ่งบานสีชมพูดสดใสถูกหลินหมิงเข้าเด็ดดมอย่าง
โหยหา ด้วยขนาดหน้าอกของนางมันคงเรียกได้ว่าเป็นขนาดตาม
มาตรฐานทั่วไปของหญิงสาว และด้วยวัยของนางที่อยู่ในวัย 18 ปี
แล้วมันคงไม่สามารถเติบโตไปได้มากกว่านี้มากนักแต่ถึงอย่างนั้น
มันก็คงเรียกได้ว่างดงามเพราะมันดูเข้ากับรูปร่างเพรียวบางของ
นางเองเป็นอย่างดี
" ท่าน...พี่จะทาอะไรเจ้าคะ "
นางรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นหลินหมิงเคลื่อนตัว
ลงไปที่บริเวณส่วนล่างของนาง ในตอนแรกนางเพียงคิดว่าหลินห
มิงอาจหมดความสนใจในตัวนางไปแล้วก็ได้ เพียงแต่ว่าเมื่อได้เห็น
สายตาของหลินหมิงนางก็รู้ได้ว่าวันนี้นางคงไม่รอดมือของเด็กหนุม่
ได้อย่างแน่นอน
" ข้าก็แค่จะสารวจมันเสียหน่อย "
" ตะ...แต่ว่า...มันสกปรกนะเจ้าคะ "
จิวหลินน่าอับอายกับการกระทาของหลินหมิงเป็นอย่างมาก
สาหรับโพร่งสวาทที่ใบหน้าของหลินหมิงจ้องมองอย่างไม่ระวางตา
แน่นอนว่านี้เป็นอวัยวะสาคัญที่ใช้มอบความสุขให้กับบุรุษแต่มันคง
ไม่มีบุรุษคนใดที่คิดจะทาการสารวจมันอย่างแน่นอนเพราะไม่
เพียงแต่มันจะเป็นช่องทางที่ใช้รับมือกับทวนของบุรุษแต่มันยังเป็น
ช่องทางสาหรับขับถ่ายของเสียภายในร่างกาย แล้วมันจะยังมีบุรุษ
คนใดกล้าทาเช่นนั้นอีก ? นั้นก็คือบุรุษตรงหน้านางนี้อย่างไรเล่า !
" ไม่เห็นเป็นอะไรเลยข้าว่ามันออกจะงดงาม ไม่ว่าจะส่วนไหน
ของเจ้าข้าก็ชอบมันทั้งหมดนั้นแหละ "
จิวหลินไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มผู้ที่จะเติบใหญ่มีอานาจ
บารมีในอนาคตจะทาเช่นนี้ เพียงแค่เขาทาการเล้าโลมร่างกายของ
นางเมื่อสักครู่ก็นับว่าแปลกประหลาดมากแล้ว ลมหายใจของหลินห
มิงที่กาลังรดที่ปากโพร่งร่องสวาทชุ่มช่าไปด้วยน้ารักเล็กน้อยของ
นางที่ไหลออกมาตอนถูกเล้าโลมและมันยังคงไหลออกมาอย่างช้าๆ
เรื่อยๆ นางพยายามใช้มือทั้งสองข้างเพื่อค้ายันไม่ให้หลินหมิงได้เข้า
ไปใกล้โพร่งสวาทของนางไปมากกว่านี้
แม้ว่านางจะรู้สึกพอใจกับความกล่าวชมของหลินหมิงจนแทบ
ล่องลอยแต่สาหรับส่วนทีน่ ่าอายของหญิงสาวเช่นนี้ฃมันไม่ใช่สิ่งที่
คนทั่วไปสมควรได้รับคาชื่นชมไม่ใช่อย่างนั้นหรือ แล้วหากอาจารย์
ของเด็กหนุ่มผู้นี้ล่วงรู้เข้าไม่ใช่ว่าทั้งตระกูลของนางอาจต้องพบเจอ
กับความหายนะอีกรอบเนื่องจากมันเป็นการเสียศักดิ์ศรีของบุรุษ
อย่างเห็นได้ชัด
หลินหมิงไม่ได้สนใจอาการต่อต้านด้วยเรี่ยวแรงเล็กน้อยของจิว
หลินเพียงแค่นี้ นิ้วมือของเขาเข้าทาการแหวกโพร่งร่องสวาทสีชม
พูดสดเพื่อเข้าไปดูภายในร่องที่ไม่เคยผ่านการใช้งานใด แน่นอนว่า
มันมีกลิน่ ที่ทาให้เขารู้สึกอยากจะพุ่งเข้าจู่โจมอนุสาวคนนี้ของเขา
แผ่ออกมาด้วย
" ท่านพี่พอเถอะเจ้าคะ...อ้าาา~~~~~~~~ "
แม้ว่าจิวหลินจะรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรแต่นางก็ยังคงรู้สึกมี
ความสุขเมื่อหลินหมิงกาลังทาการใช้นิ้วมือของเขาเข้าสารวจโพร่ง
สวาทของนางอย่างหน่าใจ ผ่านไปไม่นานเสียงครางสนั่นของนางดั่ง
ขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อนางสัมผัสได้ว่าร่องสวาทของนางนั้นถูกสัมผัส
โดยสิ่งที่ลนื่ ฉ่า เมื่อนางหันลงไปมองก็พบว่าหลินหมิงกาลังทาการ
โลมเลียร่องสวาทของนางอย่างร้อนแรง ในตอนนี้น้ารักของนางราว
กับเขื่อนที่มีรอยร้าวและเริ่มที่จะแตกออกทุกเมื่อ ร่างกายของนาง
สั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
" ซี๊ดดด....ท่านพี่....ท่านยอดเยี่ยมที่สดุ เลยเจ้าคะ....
อ้าาา~~~~~~~~~~ "
เทียบกับในตอนแรกแล้วในตอนนี้นางรู้สึกมีความสุขมากที่ได้
เป็นอนุของหลินหมิงด้วยบทเพลงและท่วงท่าทีห่ ลินหมิงได้มอบ
ให้แก่นาง มันทาให้นางรู้สึกมีความสุขจนแทบคลั่งอีกทั้งเขายังใช้
ลิ้นของเขาเพียงเพื่อตวัดโลมเลียโพรงร่องสวาทของนางอย่างไม่มีที
ท่ารังเกียจใดๆ มือทั้งสองข้างนางกดหัวของหลินหมิงราวกับไม่
ต้องการให้มันออกห่างไป เมื่อหลินหมิงส่งเข้าไปภายในร่างกายของ
นางแข็งตรงในทันทีพร้อมกับน้ารักจานวนมากที่ทะลักออกมาจน
หลินหมิงต้องรีบถอยออกมาตั้งหลักเสียก่อน
" เป็นเช่นไรบ้างน้องหญิง "
" แฮ่กกๆ ขะ...ข้าแทบจะบ้าตายอยู่แล้วเจ้าคะ ไม่น่าเชื่อว่าท่าน
พี่จะมีท่วงท่าที่แปลกประหลาดเช่นนี้ด้วย "
" ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรเล่าว่าข้าจะทาให้เจ้ามีความสุขและจะ
ไม่ทาให้เจ้าต้องพบเจอกับความลาบาก "
ในตอนนี้จิวหลินนางเริ่มเชื่อใจหลินหมิงอย่างหมดใจ จากที่นาง
เคยได้ยินมาการที่สตรีเช่นนางจะเสร็จสมดดั่งเช่นเมื่อสักครู่ได้เป็น
เรื่องที่ยากมากกระทั่งการร่วมรักกับบุรุษส่วนใหญ่กจ็ ะจบลงด้วย
การที่อารมณ์ของพวกนางจะต้องค้างคา เพียงแต่ในตอนนี้นางได้
ผ่านการเสร็จสมโดยที่ยังไม่ทันได้รับมือกับทวนมังกรเลยเสียด้วยซ้า
ไป หากจะกล่าวว่าสามีของนางผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการมอบ
ความสุขให้กับสตรีก็คงไม่เกินไป
" ทะ...ท่านพี่ข้า..อยากทาให้ท่านมีความสุขบ้างเจ้าคะ...ดะ...ได้
โปรดใส่มันเข้ามาเถอะเจ้าคะ "
การที่หลินหมิงได้มอบความสุขให้แก่นางมากมายเช่นนี้ นางมี
ความรู้สึกว่านางคงต้องเป็นภรรยาที่แย่แน่ๆที่ต้องให้บุรุษเคยบาเร่อ
ปรนนิบัติมอบความสุขให้แทนที่จะเป็นฝ่ายนางเองเสียมากกว่า
แม้ว่าในตอนนี้นางจะรู้สึกเหนื่อยจากการที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อสักครู่
หลินหมิงขึ้นครอมร่างของจิวหลินพร้อมกับทวนมังกรของที่จ่อเข้า
โพร่่ของนางเพี
งึ้ ยงแต่ว่านางยังคงไม่ได้เห็นขนาดของมันเนื่องจาก
หลินหมิงกาลังนอนทับร่างของนางอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วสตรีนางนี้คงมี
ความกังวลและเกร็งจนเกินไปจนทาให้เขาสามารถร่วมรักได้อย่าง
ยากลาบากอย่างแน่นอน
" โอ้ยย "
เพียงแค่ส่วนปลายทวนของหลินหมิงที่เสียบเข้ามันก็ทาให้ร่าง
ของจิวหลันผลันสั่นสะท้าน ความรู้สึกเจ็บปวดทีก่ าลังเกิดขึ้นเป็น
เครื่องหมายบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าในตอนนี้นางกาลังสูญเสีย
พรหมจรรย์ให้กับเด็กหนุ่มผู้นี้ไปแล้ว เพียงแต่ว่าในขณะที่นางกาลัง
ฝืนทนอยู่นั้นนางกลับพบว่าทวนมังกรของหลินหมิงที่กาลังสอดใส่
เข้ามาภายในร่างกายของนางนั้นกลับไม่มีทที ่าว่ามันจะหยุดลงอันที่
จริงแล้วด้วยขนาดของบุรุษโดยทั่วไปมันจะไม่สามารถทาให้สตรี
รู้สึกเจ็บปวดมากเท่าใดนัก
นางกัดฟันแน่นพร้อมกับความรู้สึกคับแน่นภายในร่องสวาทของ
นางตอนนี้ ร่างกายของนางราวกับว่าถูกอัดแน่นไปด้วยอะไร
บางอย่างจนทาให้นางรู้สึกจุกจนแทบจะพูดไม่ออก เหตุใดนางกลับ
รู้สึกเช่นนี้ได้ ? ทันใดนั้นในจังหวะที่หลินหมิงได้ยกร่างของตนเอง
ขึ้นเพื่อที่จะจู่โจมจิวหลินได้ง่ายขึ้น นางก็พลันเหลือบไปเห็นทวน
มังกรขนาดใหญ่ตรงที่กาลังเสียบร่องสวาทของนางอยู่
ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นซีดเสียวในทันทีดว้ ยขนาดของทวน
มังกรของหลินหมิงที่กาลังใส่เข้ามาในตัวนางจนถึงตอนนี้มันอาจ
เรียกได้ว่ายังไม่ถึงหนึ่งในสี่ส่วนเลยเสียด้วยซ้าไป
หลินหมิงค่อยๆริ้มรสร่องสวาทคับแน่นอันนี้อย่างเชื่องช้าทวน
มังกรของเขาค่อยเคลื่อนตัวเข้าสู่ภายในร่องสวาทของจิวหลินพร้อม
กับมือของเขาที่เข้าลูบไล้เรือนร่างอันแสนยั่วยวนของนางไปอย่าง
เพลิดเพลิน ผ่านไปเพียงไม่นานจิวหลินนางเริ่มไม่รู้สึกถึงความ
เจ็บปวดแน่นอนว่านางยังคงรู้สึกที่ความคับแน่นภายในท้องอยู่บ้าง
จากการที่ทวนมังกรของหลินหมิงได้เข้ามาสุดโพร่งของนางจนใน
ตอนแรกนางแทบสิ้นสติไป
" อ๊า....ทะ....ท่านพี.่ ... "
ดวงตาของนางลอยค้างนางแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทวนมังกร
ขนาดใหญ่ถึงเพียงนั้นกาลังอยู่ภายในร่างกายของนางเองในตอนนี้
ความรู้สึกอบอุ่นราวกับร่างกายค่อยๆถูกหลอมละลายกลายเป็น
หนึ่งเดียวกับเด็กหนุม่ ที่ร่างของนางแนบชิดด้วยเป็นความรู้สึกสุข
สมที่ยากจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ หากเปรียบเทียบกับ
ความสุขในตอนที่นางถูกเล้าโลมแล้วนั้นในตอนนี้มนั เป็นความสุขที่
มากกว่าหลายสิบเท่า !
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริเวณร่องสวาทของนางในตอนนี้
กลายเป็นเขือนที่แนวกั้นถูกพังทลายไปอย่างสมบูรณ์น้ารักจานวน
มากไหลออกมาโดยไม่มีทที ่าว่าจะหยุดหย่อน

ตอนที่ 98
" ท่านพี่ ข้ารักท่านที่สุดเลยเจ้าคะ ซี๊ดดดดด~~~ "
ร่างกายของจิวหลินสั่นกระเพื่อมช้าอันเป็นจังหวะเดียวกับที่
หลินหมิงเข้าจู่โจมนาง นางรู้ดีว่าหลินหมิงนั้นตั้งใจที่จะทาอ่อนโยน
กับนางเช่นนี้เนื่องจากเป็นครั้งแรก แต่ถึงแม้มันจะเป็นเพียงขยับ
อย่างช้านางก็รู้สึกแทบจะหมดสติไปในทันทีที่ทวนมังกรของหลินห
มิงถูกอัดกระแทกเข้ามาภายในร่างกาย
ในตอนนี้นางไม่หลงเหลือความเสียใจใดๆที่ได้เป็นอนุของหลินห
มิงอีกต่อไปกลับกันแล้วนีเ้ หมือนเป็นพรจากสวรรค์ที่ทาให้นางได้
พบสามีที่สามารถมอบความสุขให้กับนางได้มากมายถึงเพียงนี้
" น้องหญิง เจ้ารู้ไหมว่าหากข้าเร่งจังหวะมันขึ้นอีกเจ้าจะรู้สึกดี
ยิ่งกว่าเดิมจนเทียบไม่ติดเชียว "
" อ๊ะ...อ้าา~~ ตะ...แต่...ว่าแค่น.ี้ .อ้าา~~ ข้าก็แทบไม่ไหวแล้วนะ
เจ้าคะ "
หลินหมิงค่อยๆเร่งจังหวะขึ้นอย่างเชื่องช้าเพื่อให้จิวหลิน
สามารถปรับตัวกับจังหวะได้เสียก่อนไม่เช่นนั้นแล้วนางคงได้หมด
สติไปในทันที
" อู้ววว~~~~~~ ซี๊ดดดดดด "
รสจูบอันร้อนแรงของหลินหมิงเข้าสัมผัสที่บริเวณเรือนร่างของ
นางไปทั่วร่าง ลาพังเพียงแค่ความรู้สึกเสี่ยวซ่านจากส่วนล่างมัน
แทบจะทาให้นางหลงลืมไปเสียว่าในตอนนี้นางกาลังอยู่ภายในห้อง
ของนางหรือบนสวรรค์กันแน่ ขาเรียวงามของนางถูกแหวกออก
กว้างขึ้นเรื่อยนางเข้าใจความหมายดีว่าต่อจากนี้นางอาจต้องตาย
ไปเลยก็ได้ แต่นางจะไม่มีความรู้สึกเสียใจแต่อย่างใดเพราะอย่าง
น้อยนางก็ได้ตายด้วยความสุขที่มากล้นจนเกินไป !
ปั๊บ ปั๊บ ปับ๊
" อ้า อ้า อ้า อ้า ~~~~~ "
เสียงก้อนเนื้อทั้งสองกระทบกันอย่างรุนงแรงพร้อมกันด้วยกับ
เสียงครางของจิวหลินที่ดังระงมอย่างต่อเนื่อง ลาพังเพียงทวนมังกร
ขนาดใหญ่ของสามีของนางก็เพียงพอที่ทาให้ร่องสวาทของนางนั้น
อาจใช้งานไม่ได้ไปหลายวัน แล้วนี้นางยังคงต้องรับมือกับท่วงท่าอัน
เร้าร้อนถึงเพียงนี้อีก ไม่ใช่ว่าต่อจากนี้ไปร่องสวาทของนางคงไม่
อาจใช้งานได้อีกแล้วหรือ ? แต่ถึงอย่างนั้นสัมผัสความสุขที่เกิดขึ้น
มันได้บดบังความกังวลเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น
ดวงตาของจิวหลินในตอนนี้เหลือกขึ้นบนนพร้อมกับใบหน้าของ
นางที่สั่นไปมา นางเริ่มรู้พอใจกับจังหวะอันเร้าร้อนของหลินหมิ
งมากขึ้นเรื่อยในตอนนี้นางคงมีชีวิตไม่ได้หากต้องปราศจากบทรัก
อันเร้าร้อนเช่นนี้ หลังจากผ่านการจากจู่โจมอันหนักหน่วงไปราว
10 นาทีเต็มทวนมังกรภายในร่างกายของจิวหลินเริ่มมีอาการสั่น
ไหวเกินขึ้น
ของเหลวเหนียวข้นจานวนมากถูกปลดปล่อยเข้าใส่ภายในตัว
ของนางราวกับว่ามันต้องการรักษาเขื่อนที่แตกออกของนางใหม่อีก
ครั้งด้วยจานวนน้าที่เท่าเทียมกัน ความอบอุ่นภายในท้องของนาง
จากน้ารักของหลินหมิงเป็นเครื่องหมายแสดงชัดเจนเป็นอย่างดีว่า
ในตอนนี้นางได้ตกเป็นของหลินหมิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
" แฮ่ก ๆ...ขะ..ข้านับเป็นภรรยาที่บกพร่องอย่างแท้จริงไม่
เพียงแต่จะไม่สามารถทาให้ท่านพี่มีความสุขได้ กลับเป็นฝ่ายข้าเสีย
เองที่ได้รับความสุขจนมากล้นนี้อยู่ฝ่ายเดียว "
ในใจของนางในตอนนี้นางคิดว่าหลินหมิงเป็นสามีของนางอย่าง
แท้จริงด้วยกายและกระทั่งใจของนางที่มอบให้แก่หลินหมิงไปหมด
สิ้น แต่ถึงอย่างนั้นบทรักเมื่อครู่ที่ผ่านมาแม้ว่านางจะได้ลิ้มรสน้ารัก
ของหลินหมิงไปแล้วแต่นางกลับมีความรู้สึกว่าสามีของนางนั้น
ยังคงได้รับความสุขไม่เพียงพอ
" เช่นนั้นน้องหญิงก็มาปรนนิบัติข้าต่อเสียสิ "
" แต่ว่าท่านพี่เพิ่งเสร็จไปไม่ใช่หรือเจ้าคะ ...อีกอย่างข้า
ในตอนนี้แม้จะอยากจะมอบความสุขให้ท่านพี่อีกครั้งแต่เกรงว่าด้วย
เรี่ยวแรงในตอนนี้มันคงเป็นเรื่องยากเกินตัวเจ้าคะ "
" มันใช่ว่าจะมีวิธีเดียวที่น้องหญิงสามารถปรนนิบัติข้าได้เสีย
หน่อย เจ้าจาที่ข้าได้เล้าโลมเจ้าในตอนแรกได้หรือไม่ ในตอนนี้หาก
น้องหญิงอยากมอบความสุขให้แก่ข้าเจ้าลองใช้ปากของเจ้าเข้าโลม
เลียทวนมังกรของข้าดูเสียสิ "
ทวนมังกร และร่องสวาทนั้นทั้งสองสิง่ นี้ล้วนเป็นสิง่ ที่เอาไว้ใช้ใน
การขับของเสียออกจากร่างกาย แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่เรื่อง
เหมาะสมแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นนางเองก็ยังคงได้รับการเล้าโลม
จากหลินหมิงอย่างไม่รังเกียจแต่อย่างใดแล้วนางจะสามารถปฎิเส
ธลงได้ ?
" ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เจ้าคะ "
หลินหมิงนอนหลังพิงกาแพงโดยมีร่างเปลือยเปล่าของจิวหลิน
อยู่ด้านข้างโดยที่ศรีษะของนางในตอนนี้กาลังจ่อเข้าใกล้ทวนมังกร
ของเขาเข้าไปทุกทีๆ กลิน่ หอมรัญจวนที่นางไม่เคยได้รับจากดอกไม้
ชนิดใดมาก่อนลอยล่องเข้าสู่โพร่งจมูกของนางทาให้ร่างกายของ
นางรู้สึกเบาสบาย
' กลิ่นทวนของท่านพี่ช่างหอมอะไรเยี่ยงนี้ '
มือทั้งสองข้างของนางเอือ้ มจับทวนมังกรของหลินหมิงอย่างไม่มี
ความรังเกียจ ด้วยขนาดทวนมังกรของหลินหมิงในตอนนี้แม้ว่ามัน
จะเพิ่งผ่านศึกรบกับนางมาไม่นานแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีท่าทีอ่อน
กาลังลงได้เลยแม้แต่น้อย
" เจ้าเพียงใช้ลิ้นของเจ้าตวัดโลมเลียมันรอบ แล้วก็ลองดูดกลืน
น้าพวกนี้ลงไปเสียสิ "
จิวหลินที่หัวสมองกาลังขาวโพลนจากความเหน็ดเหนื่อยและ
ทวนมังกรของหลินหมิงตรงหน้าทาตามคากล่าวอย่างว่าง่าย ลิ้น
ของนางเข้าสัมผัสไปที่ทวนมังกรของหลินหมิงที่มีคราบน้ารัก
เปราะเปรื้อนอยู่เต็มไปหมด เพียงสัมผัสจากลิ้นของนางในครั้งแรก
มันถึงกับทาให้ร่างกายของนางสั่นสะท้าน
' รสชาตินี้มันอะไรกัน !!! '
ด้วยรสชาติเช่นนี้แม้แต่อาหารหรูจากตระกูลหรือโอสถทิพย์
ต่างๆนางยังคงเชื่อว่าพวกมันเหล่านั้นก็คงไม่สามารถเทียบได้กบั น้า
รักของสามีนางตรงหน้านี้ จิวหลินทาการโลมเลียไปด้วยความ
กระหายเสียงดังจวบจาบเกิดขึ้นเนื่องจากนางพยายามที่จะดูดกลืน
ทวนมังกรของหลินหมิงไปเสียทั้งหมดแต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ไปมันจึง
ทาให้นางไม่สามารถนาทวนมังกรของหลินหมิงเข้าไปทั้งหมดได้
" เป็นเช่นไรบ้างน้องหญิงชอบมันหรือไม่ "
" เจ้าคะ ! "
จิวหลินนางอาจลืมไปเสียแล้วว่าความตั้งใจเดิมของนางคือการ
ทาให้หลินหมิงมีความสุขแต่ในตอนนี้นางกลับเป็นฝ่ายหาความสุข
อย่างเต็มที่จากทวนมังกรของหลินหมิงเสียแทน หากคนในตระกูล
เหยียนมาเห็นภาพนี้เขาพวกเขาคงได้ตื่นตระหนกทีค่ ุณหนูผู้
เรียบร้อยของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปมากถึงเพียงนี้
สองวันผ่านไปหลินหมิงใช้เวลาภายในตระกูลเหยียนหากจะ
กล่าวให้ถูกคือภายในห้องของจิวหลินเสียส่วนใหญ่จะมีบ้างที่เขาจะ
ออกมากินข้าวและพบหน้าผู้อาวุโสจากสมาคมนักปรุงยาและ
ตระกูลเหยียน แน่นอนว่าเมื่อทางฝั่งตระกูลเหยียนได้เห็นใบหน้า
ของคุณหนูของพวกเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึง ! เดิมทีแม้ว่า
ด้วยคากล่าวของหลินหมิงที่ให้คามั่นว่าจะไม่ทาให้คุณหนูของพวก
เขาต้องลาบากแต่ถึงอย่างนั้นการที่คุณหนูของพวกเขาต้องแต่งงาน
กับบุรุษที่ไม่เคยพบหน้าแทบยังเป็นได้เพียงอนุทั้งทีเ่ กิดในตระกูลสูง
ศักดิ์อย่างตระกูลเหยียนเช่นนี้แล้วนางจะยังคงมีความสุขได้อีก ?
แต่ภาพตรงหน้าของพวกเขาในตอนนี้ก็คือภาพรอยยิ้มสดใส
เคียงคู่มากับหลินหมิงอย่างแนบชิ้น ผิวพรรณของนางดูเปล่งปลัง
และมีชีวิตชีวามากขึ้นมากว่าเมื่อก่อนจนพวกเขาแทบจะจาไม่ได้
อีกทั้งเมื่อพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังปราณในร่างกายของ
คุณหนูของพวกเขาที่ในตอนแรกมีเพียงจุดเริ่มต้นของระดับ 6
ปราณเริ่มต้นแต่ในตอนนี้มันกลับก้าวกระโดดไปสู่จุดสูงสุดของ
ระดับที่ 7 ภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น !!
ทั้งหมดนี้ย่อมไม่ใช่เกิดขึ้นจากตัวของนางเองอย่างแน่นอนเป็นที่
กันดีว่าแม้พลังของนางจะไม่อาจเรียกได้ว่าย่าแย่แต่ก็ไม่ได้ถึงกับ
ยอดเยี่ยมมันเป็นเพียงพลังระดับกลางๆเท่านั้นหากเทียบกับเหล่า
อัจฉริยะจากตระกูลใหญ่อื่นๆ อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้มีความฝักใฝ่ใน
หนทางการบ่มเพาะมากเสียเท่าใด ดังนั้นแล้วนี้อาจเป็นไปได้ว่า
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะสามีของนาง !!
ลาพังเพียงแค่การก้าวกระโดดก็เพียงพอที่จะทาให้ผู้อาวุโสทั้ง
สองฝ่ายตะลึงค้างแต่นี้ระดับพลังของจิวหลินยังคงเรียกได้ว่ามันมี
พื้นฐานที่ดีในระดับที่พวกเขาบางคนยังต้องอับอาย เทียบกับหลิน
เสี่ยวต้า หรือหลิวฉวนยูร์แล้วนางอาจจะยังเป็นรองอยู่บ้างเล็กน้อย
แต่นางมีข้อได้เปรียบตรงที่พลังพื้นฐานในร่างกายของนางนั้นมั่นคง
เป็นอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถประเมิณได้เลยว่าหากนางหันมา
สนใจวิถีการต่อสู้แล้วละก็นางจะสามารถก้าวหน้าไปได้ถึงเพียงใด

ตอนที่ 99
หลินหมิงใช้เวลาภายในตระกูลร่วมกับจิวหลินเป็นเวลา 5 วัน
เต็มโดยตลอดห้าวันที่ผ่านมานี้ไม่มีคนในตระกูลเหยียนคนใดที่มี
ความเคืองแคลงใจต่อหลินหมิงอีกต่อไป ด้วยการที่คุณหนูของพวก
เขาดูเหมือนว่านางจะได้รับความสุขเสียยิ่งกว่าความสุขอื่นใดที่นาง
ได้รับมาทั้งชีวิตนี้นั้นคือสีหน้าของจิวหลินที่ผู้คนภายในตระกูลเห
ยียนสามารถเห็นได้ชัด ไม่เพียงเท่านั้นเด็กหนุ่มผู้นี้คือผู้ที่มอบ
ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ให้กับคุณหนูของพวกเขาอีกด้วย
ข่าวการที่คุณหนูตระกูลเหยียนอย่างจิวหลินได้เป็นอนุของ
หลินหมิงได้ถกู แพร่กระจายไปอย่างกว้างขว้างพร้อมกับข่าวเรื่อง
ของการที่หลินหมิงสามารถโค่นผู้ที่มีพลังปราณระดับก่อเกิดระดับ 5
ลงได้เพียงชั่วพริบตา หากเป็นปกติแล้วนี้คงเป็นความอับอายอย่าง
ที่สุดของตระกูลเหยียนทีต่ ้องพ่ายให้กับเด็กหนุม่ วัย 15 ปีภายใน
ตระกูลตนเองเพียงแต่ว่าหลินหมิงในตอนนี้นับได้วา่ เป็นส่วนหนึ่ง
ของพวกเขาไปแล้วเช่นเดียวกัน
ดังนั้นแล้วไม่เพียงแต่จะไม่ปิดบังตระกูลเหยียนกลับเป็นผู้
แพร่กระจายข่าวนี้ไปด้วยเสียเองอีกต่างหาก เมื่อหวนนึกถึงการ
กระทาต่างที่ผ่านมาหลินหมิงไม่คาดคิดเลยว่าตระกูลหลินจะยังคง
นิ่งเฉยกับสถานการณ์ในตอนนี้เดิมทีแล้วหลินหมิงกลับปราถนาเสีย
อย่างเต็มที่ว่าพวกเขาอาจก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายให้กับสมาคม
นักปรุงยาเสียอีก เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้วทุกอย่างคงเข้าทางเขา
พอดี
ด้วยขุมกาลังของสมาคมนักปรุงยาในตอนนี้อาจเรียกได้ว่า
เพียงพอกับการต่อกรตระกูลหลินหรือแม้กระทัง่ แข็งแกร่งยิ่งกว่า
ดังนั้นแล้วมันจึงเหลือเพียงเหตุจูงใจที่ทาให้ขุมอานาจทั้งสองเข้า
ปะทะกันแต่น่าเสียดายทีด่ ูเหมือนว่าตระกูลหลินจะยังคงไม่ให้ความ
สนใจกับเรื่องของเขามากเท่าใด ?
' ทั้งๆที่หลินฮ่าวล่วงรู้ตัวตนของข้าแล้ว แต่เขากลับไม่ลงมือทา
อะไร... '
นี้คือความเป็นจริงที่น่ากังวลสาหรับหลินหมิงมากทีส่ ุดในส่วน
ของเหล่าอัจฉริยะอย่างลูกพี่น้องของเขาทั้งหลายนั้นพวกเขา
เหล่านั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของหลินหมิงอีกต่อไปลาพังเพียงแค่ผู้ที่มี
ระดับพลังระดับ 5 ขั้นก่อเกิดก็ยังคงไม่ใช่คู่มือของเขานับประสา
อะไรกับผู้ที่มีพลังยังไม่ถึงระดับก่อเกิด
หลินหมิงกาลังนั่งอยูภ่ ายในหอฝึกส่วนตัวที่อาจารย์สาวสวยได้
สร้างมันไว้ให้สาหรับหลินหมิงเพียงผู้เดียวโดยเฉพาะ ในช่วงเวลา
หนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาแม้ว่าระดับพลังของหลินหมิงจะยังคงไม่
พัฒนาขึ้นมาเพียงแต่ว่าในด้านทักษะของเขากลับเติบโตอย่าง
รวดเร็วแทน ตามการคาดเดาของหลินหมิงแล้วนั้นยิ่งระดับพลัง
ของเขาแข็งแกร่งมากเพียงใดการที่จะพัฒนาก้าวสู่ขอบเขตใหม่นั้น
เขาก็จาเป็นที่จะต้องมีการร่วมรักกับหญิงสาวที่มีความแข็งแกร่ง
และหากพวกนางยังคงมีความบริสุทธ์นั้นจะทาให้เขาได้รับ
ผลประโยชน์อย่างมากทีส่ ุด
โดยในตอนนี้แม้ว่าหลินหมิงจะผ่านการร่วมรักกับจิวหลินมาแต่
ระดับพลังของเขาก็ยังคงที่อยู่ที่จุดสูงสุดปราณก่อเกิดระดับ 7
เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าหากตัวเขาต้องการที่จะพัฒนาก้าวสู่ขอบเขต
ใหม่เขาจาเป็นจะต้องทาการร่วมรักกับหญิงสาวทีม่ ีพลังระดับ
มากกว่าเขาเป็นอย่างน้อย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หาจะหญิงสาว
ที่มีพลังระดับแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น
ในตอนนี้ทักษะ [ ก้าววายุ ] ของหลินหมิงได้รับการพัฒนาอย่าง
ต่อเนื่องแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะว่าหลินหมิงนั้นมีการเรียนรู้ที่
เหนือกว่าคนทั่วไป แต่มันเป็นเพราะว่าเขาได้รับการชี้แหนะจาก
อาจารย์สาวสวยของเขาที่ดูเหมือนว่านางจะเอาใส่ใจเขาเป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้นหลินหมิงยังคงได้รับคาชี้แนะจากผู้อาวุโสฟางซิ่นอีก
ด้วย แน่นอนว่าสาหรับหญิงสาวสองคนนี้พวกนางทั้งสองล้วนเป็น
อาจารย์ที่เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายได้แต่ใฝ่ฝันแต่ในตอนนี้เท่ากับว่า
หลินหมิงได้รับการสั่งสอนจากพวกนางทั้งสองคนพร้อมกันแล้วมี
หรือที่การพัฒนาของเขาจะเป็นไปอย่างเชื่องช้าไปได้ ?
ทันใดนั้นหลินหมิงสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงเท้าของคนที่เข้ามา
ภายในหอฝึกนี้ สาหรับหอฝึกแห่งนี้นั้นมีไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้
สามารถเข้ามาได้ แม้กระทั่งผู้อาวุโสอื่นก็ไม่ใช่สทิ ธ์ที่จะใช่สถานที่
แห่งนี้ในการฝึกตน ริมฝีปากของหลินหมิงเผยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส
พร้อมกับยกเลิกการทาสมาธิในทันที
" ข้าแทบจะอดใจรอที่จะเจอเจ้าไม่ไหว หากไม่ใช่เพราะว่าท่าน
อาจารย์สั่งห้ามไม่ให้ออกนอกเมืองแล้วละก็ข้าคงออกไปตามหาเจ้า
เสียนานแล้ว "
เรือนร่างของสตรีทีแสนคุ้นเคยปรากฎสู่สายตาของหลินหมิง
ร่างของหญิงสาววัยสดใสที่ราวกับว่าเป็นประติมากรรมชั้นยอดจาก
สรวงสวรรค์ แม้ว่านางจะเป็นเพียงหญิงสาววัย 14 แต่ความงดงาม
ของนางก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่ได้เป็นรองใครเลยแม้แต่น้อย กระทั่งไม่
แน่ว่าหากเมื่อนางเติบโตขึ้นกว่านี้อีกเพียง 2-3 ปี นางอาจได้ครอง
ตาแหน่งสาวที่งามที่สดุ ในเมืองแห่งนี้ไปก็ย่อมได้
" ฮึ่ม...เจ้าตัวร้ายไม่ใช่ว่าเจ้าคงหลงลืมข้าไม่แล้วหรอกหรือ ? ได้
ข่าวมาว่าเจ้าได้ตบแต่งอนุงามเช่นคุณหนูตระกูลเหยียนแล้ว เช่นนี้
ข้าจะยังคงอยู่ในสายตาของเจ้าอีก ? "
หลินหมิงอมยิ้มเล็กน้อยให้กับคากล่าวของหญิงสาวที่เอาแต่ใจผู้
นี้ นางไม่ใช่ใครอื่นใดนอกเสียจากคุณหนูผู้เอาแต่ใจแห่งตระกูลหลิว
หลิวฉวนยูร์ ไม่เพียงแต่นางจะมีความงามที่นางประทับใจสาหรับ
หลินหมิงแต่นางอาจกล่าวได้ว่านางเป็นเพียงสตรีเพียงคนเดียวที่
มอบความรักให้กับเขาโดยที่นางยังไม่เคยได้รับการร่วมรักกับเขา
เลยแม้แต่น้อย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้หลังจากที่หลินหมิงได้กลับมาจาก
ทาภารกิจพร้อมกับผู้อาวุโสฟางซิ่นเขาไม่ได้พบเจอหน้านางเลย
เนื่องจากนางออกไปทาภารกิจพร้อมกับผู้อาวุโสซูหลิ่ง แม้ว่าหลินห
มิงจะไม่รู้ว่าพวกนางออกไปทาภารกิจใดแต่มันคงไม่ใช่ภารกิจ
ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะว่าไม่เพียงแต่มันจะใช้เวลานานหลาย
เดือนแต่ผลลัพธ์ที่ออกมาในตอนนี้คือแม่สาวน้อยผู้เอาแต่ใจคนนี้
กลับมีพลังปราณที่ก้าวกระโดดจนมาถึงจุดสูงสุดพลังปราณเริ่มต้น
ระดับ 8 เสียแล้วจากเดิมที่นางอยู่ในจุดสูงสุดของระดับ 7 การก้าว
ข้ามระดับ 1 ขั้นเต็มภายในช่วงเวลาไม่กี่เดือนนีน้ ับได้ว่าเป็นเรื่องที่
น่าตกใจยิ่ง แม้ว่ามันจะไม่สามารถนาไปเปรียบกับการพัฒนาของ
ตัวเขาเองได้ก็ตามที่
หลินหมิงเดินเข้าไปหาร่างของหลิวฉวนยูร์พร้อมกับโอบกอดนาง
อย่างอบอุ่นสาหรับหลิวฉวนยูร์แล้วนั้นนางได้มอบหัวใจของนางให้
หลินหมิงไปแล้ว และนางก็ยังคงรู้ดีว่าหลินหมิงคงไม่ได้มีสตรีเพียง
แค่นางคนเดียวอย่างแน่นอนในอนาคตซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่อง
ธรรมดาสาหรับบุรุษอยู่แล้ว แล้วยิ่งสาหรับหลินหมิงที่มี
ความสามารถเพียงพอที่จะกล่าวอ้างได้ว่าเขาคือรุ่นเยาว์ที่ยอดเยี่ยม
ที่สุดในเมืองหรือกระทั่งในอาณาจักรแห่งนี้
" เช่นนั้นพวกเราไปที่ตระกูลเจ้าตอนนี้เลยดีไหม...ไม่สิข้าอาจ
ต้องไปบอกกล่าวเรื่องนี้กบั ท่านอาจารย์และผู้อาวุโสซูหลิ่งเสียก่อน
"
หลินหมิงรู้ดีว่าแม่สาวน้อยคนนี้คงไม่ได้โกรธเคืองเขามากนัก
เนื่องจากว่านางไม่ได้มีท่าทีปฎิเสธเขาแต่อย่างใด สาหรับหลิวฉวน
ยูร์แล้วนั้นนางเพียงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่นางไม่ได้ตบแต่งเป็นสตรี
คนแรกของหลินหมิง ในตอนแรกนางตั้งใจว่าจะแสดงท่าทีเอาแต่ใจ
อย่างถึงที่สุดเพื่อเป็นการสั่งสอนหลินหมิงเสียบ้าง เพียงแต่ว่าไม่รู้
ด้วยเหตุใดเมื่อยามที่นางได้อยู่ภายในอ้อมกอดของหลินหมิงเช่นนี้
แล้วความคิดเหล่านั้นพลันหายสิ้นไปในทันที
" ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ หาก
ข้าไม่ได้มาเห็นกับตาเช่นนี้แม้แต่ข้าก็คงไม่สามารถเชื่อได้... "
" แล้วเจ้ารู้หรือเหตุใดข้าถึงได้พัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดเช่นนี้
"
ร่างขอบหลิวฉวนยูร์ถูกอ้อมกอดอย่างแนบแน่นยิ่งกว่าใบหน้า
ของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ นางรู้สึกมีความสุขเป็นอย่าง
มากที่ได้เห็นการพัฒนาอันน่่าตื่นตะลึงเช่นนี้ของหลินหมิง แน่นอน
ว่ามันย่อมเพียงพอให้บรรดาผู้อาวุโสหรือกระทั่งบิดาของนางต้อง
ครุ่นคิด ด้วยการที่แต่นางนั้นได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของหลินชูแต่นั้น
เป็นสิ่งที่นางไม่ได้ยอมรับมาตั้งแต่ต้นและนางก็ปฎิเสธอย่างเรื่อยมา
แล้วหากในตอนนี้นางเผยความสัมพันธ์ของนางกับหลินหมิงให้กับ
บิดาของนางรู้แล้วไม่ใช่ว่าพวกเขาคงยินดีที่จะยกเลิกเรื่องหมั้นของ
นางไปในทันทีหรอกหรือ ?
" เจ้าจาได้หรือไม่....ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าหากข้าสามารถ
พัฒนาตนมาได้จนถึงในระดับที่น่าตกตะลึงไม่ว่าสิ่งใดเจ้าก็จะ
ยินยอมทาตามอย่างไม่มขี ้อแม้... "
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลิวฉวนยูร์รีบนาใบหน้าซุกลงไปทีแ่ ผงอกของ
หลินหมิงอย่างเอียงอาย แน่นอนว่านางสามารถจาคากล่าวของนาง
ที่ได้กล่าวออกไปได้ เพียงแต่ว่าในตอนนั้นนางไม่คาดฝันว่าหลินห
มิงจะสามารถพัฒนาตนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

ตอนที่ 100
หลิวฉวนยูร์ที่แต่เดิมนางมีลักษณะของสตรีอันสูงศักดิ์ด้วย
ความสาเร็จในวัยเพียงเท่านี้ของนางทุกคนไม่สามารถประเมิณได้
เลยว่าในอนาคตน่าจะประสบความจาเร็จมากเพียงใด ไม่แน่ว่านาง
อาจกลายมาเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งและมีความสามารถดั่งเช่นจูห
นิงเอ๋อร์ หรืออาจกระทั่งเหนือกว่านั้นเพียงแต่ว่าในตอนนี้หญิงสาว
ผู้นี้กลับมีท่าทีผดิ ไปราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
หลิวฉวนยูร์ในอ้อมกอดของหลินหมิงในตอนนี้นางเหมือนกับลูก
กระต่ายน้อยอันแสนน่ารักที่ไร้เขี้ยวพิษใดๆ ผิดกับตอนที่นางไม่ได้
อยู่ต่อหน้าหลินหมิงโดยสิน้ เชิง สาหรับบุรุษโดยทั่วไปแล้วหากพวก
เขาคาดหวังว่าจะได้รับโอกาสเช่นนี้ดั่งเช่นหลินหมิงพวกเขาคงไม่
สามารถแม้แต่นาไปฝันได้เพราะพวกเขาคงไม่สามารถจินตนาการ
ถึงภาพเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน ขนาดคู่หมั้นของนางหลินชูยังมีโอกาส
พบนางเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
" งั้นข้าก็สามารถ...ขออะไรเจ้าในตอนนี้ได้เลยสินะ "
หลินหมิงก้มลงกระซิบข้างหูของหลิวฉวนยูร์ด้วยน้าเสียงเจ้าเล่ห์
ทาให้ร่างกายของนางสั่นไหวเล็กน้อยในตอนนี้หากหลินหมิงกล่าว
คาขอสิ่งใดกับนางมีหรือที่นางจะปฎิเสธลงได้ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคา
กล่าวของนางในก่อนหน้านี้เพียงแต่ว่าหากนางปฎิเสธไปแล้ว นาง
เป็นกังวลว่าจะทาให้หลินหมิงไม่พอใจเสียมากกว่า
" ข้าเพียงล้อเจ้าเล่นเท่านั้น...ฮ่าๆ "
" เอ๊ะ ! "
หลิวฉวนยูร์เมื่อได้ยินคากล่าวของหลินหมิงมันทาให้นางพลัน
เกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นมาโล่งใจ โกรธเคือง หรือกระทั่ง
เสียดาย
" เจ้าตัวร้า.....อื้มมม~~~~~~~~~~~~ "
ไม่ทันที่นางจะได้กล่าวว่าตอบโต้หลินหมิงสัมผัสริมฝีปากของ
เขาได้ประกบเข้ากับริมฝีปากของนางอย่างร้อนแรงแม้ว่านางจะ
เป็นเพียงหญิงสาวบริสุทธ์และยังคงเยาว์วัยแต่นางเคยได้รับ
ประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้วจากหลินหมิง ดังนั้นแล้วนางจึง
สามารถรับมือกับเขาได้ดพี อสมควร มือทั้งสองข้างของนางเริ่ม
เคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณเข้าเคลื่อนที่สอดเข้าไปใต้วงแขน
และกอดร่างของหลินหมิงเอาไว้อย่างแนบแน่น
ลิ้นของหลินหมิงกาลังเข้าผัวพันลิ้นของหลิวฉวนยูรอ์ ย่างเร้า
ร้อนแต่ถึงอย่างนั้นหลินหมิงก็ยงั คงรู้สึกแปลกใจไปไม่ได้ที่แม่สาว
น้อยเอาแต่ใจผู้นี้ยังคงตอบสนองเขาได้ดีถึงเพียงนี้
การจูบอันแสนเร้าร้อนดาเนินไปอย่างยาวนานท่ามกลางอารมณ์
ความรู้สึกของทั้งสองที่เอ่อล้นออกมา จนกระทั่งเป็นทางฝ่ายหลิวฉ
วนยูร์ที่เริ่มรู้สึกหายใจติดขัดนางจึงค่อยๆผลักตัวออกจากหลินหมิง
ด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
" ขะ...ข้าต้องกลับไปหาท่านอาจารย์แล้ว..."
เสียงของหลิวฉวนยูร์เต็มไปด้วยความตะกุตะกักในตอนนี้นาง
เริ่มไม่มีความมั่นใจแล้วว่าหากนางได้อยู่ใกล้ชิดกับหลินหมิงเช่นนี้
ต่อไปอีกไม่แน่ว่าอาจเป็นนางเองที่ทนความรู้สึกทีม่ ีในภายในไม่ไหว
เสียก่อน
" สาหรับคาขอของข้านั้นเอาเป็นว่าข้าขอให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้า
ตลอดไป.... "
คากล่าวขอหลินหมิงที่ส่งผ่านออกมาในจังหวะที่หลิวฉวนยูร์
กาลังวิ่งจากไปร่่างของนางหยุดชะงักเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่
ปรากฎขึ้นที่ริมฝีปากโค้งงาม
แม้ว่าจะหลินหมิงจะยังคงอยากใช้เวลาร่วมกับหลิวฉวนยูร์ต่อ
อีกสักเล็กน้อยเพียงแต่ว่ามันคงไม่ดีนกั หากเขาทาอะไรตามใจกับ
นางจนมากเกินไป เพราะถึงอย่างไรเสียสาหรับแม่สาวน้อยผู้นี้นั้น
เห็นได้ชัดว่านางมีใจให้เขาอยู่ไม่ใช่น้อยและมันคงเป็นเรื่องของเวลา
เท่านั้นที่นางจะตกเป็นของเขา
วันเวลาผ่านไปอย่างสงบสุขจนกระทั่งใกล้ถึงช่วงเวลาของงาน
ประลองรุ่นเยาว์ภายในเมือง ในตอนนี้เหลือเวลาเพียง 3 วันก่อนที่
งานประลองจะเริ่มต้นขึ้น ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยความคึกคัก
อย่างเห็นได้ชัดเพราะว่ามันไม่ใช่งานประลองธรรมดาทั่วไป มันเป็น
งานประลองที่รุ่นเยาว์จากหลากหลายขุมอานาจต่างมาร่วมตัวกัน
เพื่อแสดงศักยภาพของตนเพื่อหวังเข้าสู่สานักภายในเมืองหลวง
หรือกระทั่งเหล่ารุ่นเยาว์ที่ไม่ได้สังกัดตระกูลใหญ่หรือสานักใหญ่
อื่นๆพวกเขาก็ยังคงมีความหวังว่าอย่างน้อยความสามารถของพวก
เขาอาจพอเข้าตาผู้อาวุโสจากทางเมืองหลวงบ้าง เพราะว่าในงาน
ประลองครั้งนี้แน่นอนว่ามันเป็นงานประลองที่อาศัยทักษะการต่อสู้
ดังนั้นแล้วระดับพลังจึงเป็นเรื่องสาคัญเพียงแต่ว่าหากพวกเขา
สามารถแสดงความสามารถอย่างอื่นขึ้นมาจนสามารถเรียกความ
สนใจจากบรรดาผู้อาวุโสได้ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีหนทางในการ
เข้าร่วมสานักเลยเสียทีเดียว
ภายในสมาคมนักปรุงยาหลินหมิงและเหล่าผู้อาวุโสจานวนมาก
กระทั่งอาจารย์สาวสวยของเขาต่่างมารวมกันที่ห้องโถง สาหรับ
ข่าวการพัฒนาอันน่าตกตะลึงของหลินหมิงนั้นไม่เพียงแต่มันจะเป็น
ข่าวที่สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองแห่งนี้กระทั่งภายในเมืองหลวงบรรดา
เหล่าผู้อาวุโสก็แทบไม่อยากเชื่อเมื่อได้ยินข่าวเช่นนี้ แต่เมื่อพวกเขา
ได้ยินผลงานของหลินหมิงที่ม่ ่ไ เพียงแต่สามารถเอาชนะผู้ที่มีพลัง
ปราณก่อเกิดได้ถึง 2 คนและหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้ที่มีพลังปราณก่อ
เกิดระดับ 5
หากเป็นชัยชนะในครั้งแรกพวกเขายังอาจพอเข้าใจได้ว่าอาจ
เป็นเพียงข่าวลือที่สร้างขึ้นแต่มันกลับมีครั้งที่สองเกิดขึ้น และที่
สาคัญที่สุดก็คือการที่พวกเขาได้ยินจากผู้อาวุโสชั้นสูงจากสานักที่
เป็นคนรายงานเรื่องนี้เองมันจึงทาให้ไม่มีความข้องเคืองใจอีกต่อไป
...
" ผู้อาวุโสจากเมืองหลวงเดินทางมาถึงแล้วเจ้าคะ "
ร่างของหญิงสาวทั้งห้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันแข็งแกร่งเพียง
พอที่จะทาให้ทุกคนสั่นไหวไปชั่วขณะโดยเฉพาะหญิงสาวที่อยู่ตรง
กลาวความแข็งแกร่งของนางอาจเรียกได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับ
ประมุขของพวกเขาเลยทีเดียว อีกทั้งหญิงสาวสี่คนที่เหลือแม้ว่า
พวกนางจะมีความแข็งแกร่งที่น้อยกว่าพอสมควรเพียงแต่ว่าเมื่อดู
จากใบหน้าและวัยของพวกนางแล้วผู้อาวุโสบางคนกลับเกิด
ความรู้สึกอายขึ้นมา
ใบหน้าของผู้อาวุโสทุกคนภายในตระกูลเต็มไปด้วยความยินดี
พวกเขารู้ดีว่าไม่ง่ายนักที่ผู้อาวุโสจากเมืองหลวงจะเดินทางมาเช่นนี้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะรับหลินหมิงเข้าสู่เมือง
หลวงโดยเร็วทีส่ ุดสาหรับการประลองที่ถูกจัดขึ้นนั้นแน่นอนว่ามัน
ไม่มีปญ
ั หาใดๆกับหลินหมิงเลยแม้แต่น้อยอาจกล่าวได้ว่าแม้ว่าตัว
ของหลินหมิงจะไม่เข้าทาการประลองเขาก็ยังคงได้สิทธ์ที่จะเข้าร่วม
สานักอยู่ดี
ใบหน้าของผู้อาวุโสฟางซิ่นแตกต่างจากบรรดาผู้อาวุโสคนอื่น
อย่างเห็นได้ชัด นี้เป็นอีกครั้งที่จูหนิงเอ๋อร์รู้สึกแปลกใจที่ผู้อาวุโส
ฟางซิ่นมาเข้าร่วมการต้อนรับเช่นนี้ ผู้อาวุโสฟางซิ่นเมื่อได้เห็น
ใบหน้าของบรรดาผู้อาวุโสจากเมืองหลวงใบหน้าของนางกระตุก
ด้วยความไม่พอใจ แน่นอนว่าผู้อาวุโสจากเมืองหลวงทั้งห้าคนนี้
ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากกลุ่มของฟ่งซือเซียนัน้ เอง

You might also like