Professional Documents
Culture Documents
คณิต 2.1 หน่วย2 - จำนวนจริง
คณิต 2.1 หน่วย2 - จำนวนจริง
คณิต 2.1 หน่วย2 - จำนวนจริง
มัธยมศึกษาปที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑
หนวยการเรียนรูที่ 2
จํานวนจริง
ตัวชี้วัด
• เขาใจจํานวนจริงและความสัมพันธของจํานวนจริง และใชสมบัติของจํานวนจริงในการแกปญหาคณิตศาสตรและปญหาในชีวิตจริง (ค 1.1 ม.2/2)
ควรรูกอนเรียน
1. 29 จํานวนตรรกยะ 2. -3.52
จํานวนใดบางที่เปน
จํานวนตรรกยะ 3. 0.642642642... 4. 𝛑𝛑
จํานวนตรรกยะ
จํานวนเต็ม
ที่ไมใชจํานวนเต็ม
𝟕𝟕
5. 3.14 6.
𝟐𝟐𝟐𝟐
จํานวนเต็มลบ ศูนย จํานวนเต็มบวก
7. 6.78778777877778...
-1, -2, -3, ... 0 1, 2, 3, ... 8. 𝟐𝟐
ควรรูกอนเรียน
ความสัมพันธของเศษสวนกับทศนิยม
1) การเขียนเศษสวนใหอยูในรูปทศนิยม
เศษสวน หารตัวเศษดวยตัวสวน ผลหารจะอยูในรูปทศนิยม
15
เชน เขียนใหอยูในรูปทศนิยมได โดยนํา 4 ไปหาร 15 ดังนี้
4
3. 7 5
4 1 5. 0 0
12
30
28
20
15
20 ดังนั้น 4
เขียนใหอยูในรูปทศนิยมได 3.75
0
ควรรูกอนเรียน
ความสัมพันธของเศษสวนกับทศนิยม
2) การเขียนทศนิยมใหอยูในรูปเศษสวน
เลขโดดเดิมไมใสจุดทศนิยม
เมื่อ n คือ จํานวนตําแหนงของทศนิยมนั้น
𝟏𝟏𝟏𝟏𝐧𝐧
81 81
เชน 0.81 = 2 =
10 100
81
ดังนั้น 0.81 เขียนใหอยูในรูปเศษสวนได
100
0.7 7 7 ...
7 9 7. 0 0 0 7
ใหนักเรียนเขียน จะได = 0.777...
9 63 9
ใหอยูในรูปทศนิยม เรียก 0.777... วาทศนิยมซํ้า
70
(repeating decimal)
63
70
63
7
การเขียนเศษสวนในรูปทศนิยมซํ้าและการเขียนทศนิยมซํ้าในรูปเศษสวน
1. การเขียนเศษสวนใหอยูในรูปทศนิยมซํ้า
a
เศษสวนที่อยูในรูป ที่ a และ b เปนจํานวนเต็ม โดยที่ b ≠ 0 สามารถเขียนใหอยูในรูป
b
ทศนิยมไดโดย นําตัวสวนไปหารตัวเศษ
1
เชน เขียนใหอยูในรูปทศนิยมไดโดยนํา 2 ไปหาร 1
2
0. 5
2 1. 0 1
10 นั่นคือ = 0.5
2
0
การเขียนเศษสวนในรูปทศนิยมซํ้าและการเขียนทศนิยมซํ้าในรูปเศษสวน
1. การเขียนเศษสวนใหอยูในรูปทศนิยมซํ้า
1
เชน เขียนใหอยูในรูปทศนิยมไดโดยนํา 9 ไปหาร 1
9
0 1 1 1 ...
จะเห็นวา ถาหารตอไปเรื่อย ๆ
9 10
9 จะได 1 โดยไมมีที่สิ้นสุด
10
9
10
9 1
นั่นคือ = 0.111...
1 9
การเขียนเศษสวนในรูปทศนิยมซํ้าและการเขียนทศนิยมซํ้าในรูปเศษสวน
1. การเขียนเศษสวนใหอยูในรูปทศนิยมซํ้า
การเขียนทศนิยมซํ้า สามารถเขียนโดยใชสัญลักษณ . เขียนไวเหนือเลขโดดที่ซํ้า ดังนี้
ซึ่งทําใหการเขียนทศนิยมซํ้าศูนยใหอยูในรูปเศษสวนนั้นทําไดงายและรวดเร็วขึ้น ดังนี้
𝟓𝟓
𝟎𝟎. 𝟓𝟓̇ เขียนในรูปเศษสวนไดเปน
𝟗𝟗
นั่นคือ ทศนิยมซํ้า 1 ตําแหนงและซํ้าในตําแหนงที่ 1 เมื่อเขียนในรูปเศษสวนจะมีตัวสวนเทากับ 9
และตัวเศษเทากับเลขโดดที่เปนตัวซํ้า
𝟔𝟔𝟔𝟔
𝟎𝟎. 𝟔𝟔̇ 𝟏𝟏̇ เขียนในรูปเศษสวนไดเปน
𝟗𝟗𝟗𝟗
นั่นคือ ทศนิยมซํ้า 2 ตําแหนงและซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 1 เมื่อเขียนในรูปเศษสวนจะมีตัวสวนเทากับ 99
และตัวเศษเทากับเลขโดดที่เปนตัวซํ้า
𝟓𝟓𝟓𝟓𝟓𝟓
̇ 𝟖𝟖̇
𝟎𝟎. 𝟓𝟓𝟕𝟕 เขียนในรูปเศษสวนไดเปน
𝟗𝟗𝟗𝟗𝟗𝟗
นั่นคือ ทศนิยมซํ้า 3 ตําแหนงและซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 1 เมื่อเขียนในรูปเศษสวนจะมีตัวสวนเทากับ 999
และมีตัวเศษเทากับเลขโดดที่เปนตัวซํ้า
การเขียนเศษสวนในรูปทศนิยมซํ้าและการเขียนทศนิยมซํ้าในรูปเศษสวน
2. การเขียนทศนิยมซํ้าใหอยูในรูปเศษสวน แบงไดเปน 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 2 ทศนิยมซํ้าที่ไมใชทศนิยมซํ้าศูนย การเขียนทศนิยมซํ้าที่ไมไดซํ้าตั้งแตทศนิยมตําแหนงที่ 1
จะมีวิธีการดังตัวอยางตอไปนี้
ตัวอยางที่ 5 จงเขียน 0.31̇ ใหอยูในรูปเศษสวน
วิธีทํา ให N = 0.31̇ = 0.3111... ..... (1)
(1) x 10 ; 10N = 3.111... ..... (2)
(1) x 100 ; 100N = 31.111... ..... (3)
(3) – (2) ; 100N – 10N = (31.111...) – (3.111...)
90N = 28
28 14
N = =
90 45
แต N = 0.31̇
14
ดังนั้น 0.31̇ =
45
การเขียนเศษสวนในรูปทศนิยมซํ้าและการเขียนทศนิยมซํ้าในรูปเศษสวน
2. การเขียนทศนิยมซํ้าใหอยูในรูปเศษสวน แบงไดเปน 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 2 ทศนิยมซํ้าที่ไมใชทศนิยมซํ้าศูนย
ขอสังเกตเพิม่ เติม
1. การเขียนทศนิยมซํ้าใหอยูในรูปทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 1
ทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 2 ×10 จะได ทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 1
ทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 3 × 100 จะได ทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 1
ทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 4 × 1,000 จะได ทศนิยมซํ้าที่ซํ้าตั้งแตตําแหนงที่ 1
จํานวนจริง
จํานวนตรรกยะ จํานวนอตรรกยะ
จํานวนตรรกยะ
จํานวนเต็ม
ที่ไมใชจํานวนเต็ม
a
จํานวนตรรกยะ หมายถึง จํานวนที่เขียนไดในรูป โดยที่ a และ b เปนจํานวนเต็ม และ b ≠ 0
b
สามารถเขียนจํานวนตรรกยะในรูปทศนิยมไดและเปนทศนิยมซํ้า
4) สมบัติการแจกแจง
สมบัติ
กําหนดให a, b และ c แทนจํานวนจริงใด ๆ
a × (b + c) = (a × b) + (a × c)
และ (b + c) × a = (b × a) + (c × a)
สมบัติของจํานวนจริง
ตัวอยางที่ 6 จงหาผลลัพธในแตละขอตอไปนี้
11 3 2
1) − − 5.3 + 2) × 12.4
25 25 5
2 11 3
1) 5−
2) × 12.4− 5.3 +
25 25
2 11 3 2 11 3
วิวิธธีทีทําํา × 12.4 =
5− 25 − 5.3 + 255
× (10
= + 2.4)− + − 5.3 (สมบัติการเปลี่ยนหมูสําหรับการบวก)
25 25
2 = 2 8
= × 10 + − × 2.4− 5.3 (สมบัติการแจกแจง)
5 5 25
= =
4 + 0.96 -0.32 − 5.3
= 4.96 = -5.62
รากที่สองและการหารากที่สองของจํานวนจริง
กําหนดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีพื้นที่ 49 ตารางหนวย รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปนี้มีความยาวของแตละดานเทากับกี่หนวย
ให รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีความยาวดานละ a หนวย
จากสูตร พื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยaมจัหนตวุรยัสเทากับ ความยาวดาน × ความยาวดาน
จะได a×a = 49
หรือ a2 = 49
การหาคาของ a จากสมการ a2 = 49 คือ การหาจํานวนซึง่ ยกกําลังสองแล้ วเท่ากับ 49
เรียกจํานวนที่ยกกําลังสองแลวเทากับ 49 วาเปนรากที่สองของ 49
เนื่องจาก 72 = 49 และ (−7)2 = 49
ดังนั้น 7 และ -7 เปนรากที่สองของ 49
แตความยาวดานของรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสจะตองไมเปนจํานวนลบ วิธีเขียนรากที่สองที่เปนบวกของ 49 อีกวิธีหนึ่ง สามารถ
นั่นคือ รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปนี้มีความยาวดานละ 7 หนวย เขียนโดยใชเครื่องหมายกรณฑ ( )
เชน รากที่สองที่เปนบวกของ 49 เขียนแทนดวย 49
นั่นคือ 7
รากที่สองและการหารากที่สองของจํานวนจริง
บทนิยาม
ให a แทนจํานวนจริงบวกใด ๆ หรือศูนย รากที่สองของ a คือ จํานวนจริงที่ยกกําลังสองแลว
เทากับ a เขียนแทนดวยสัญลักษณ a , - a
จากบทนิยาม จะไดวา
1. ถา a เปนจํานวนบวกใด ๆ รากที่สองของ a คือ จํานวนจริงที่ยกกําลังสองแลวเทากับ a
ใชสัญลักษณ a แทนรากที่สองที่เปนบวกของ a
ใชสัญลักษณ − a แทนรากที่สองที่เปนลบของ a
จากบทนิยามที่วารากที่สองของ a คือ จํานวนจริงที่ยกกําลังสองแลวเทากับ a
ทําใหสรุปไดวา ( a)2 = a และ (− a)2 = a
2. ถา a = 0 รากที่สองของ a เทากับ 0 ทั้งนี้เพราะ 02 = 0
3. ถา a เปนจํานวนลบใด ๆ จะหารากที่สองของ a ไมได ทั้งนี้เพราะไมมีจํานวนจริงใด ๆ ที่ยกกําลังสองแลวจะไดจํานวนลบ
รากที่สองและการหารากที่สองของจํานวนจริง
ตัวอยางที่ 7 จงหารากที่สองของจํานวนในแตละขอตอไปนี้
1) 4 2) 6
1) 6
2) 4
วิธีทํา รากที่สองของ 64 คือ จํานวนจริงที่ยกกําลังสองแลวเทากับ 64
จะได รากที่สองที่เปนบวกของ 64 คืคืออ 2 6
และ รากที่สองที่เปนลบของ 64 คือ --26
ดังนั้นรากที
รากที่ส่สองของ
องของ46คืคืออ2, 6-2, - 6
รากที่สองของจํานวนบวกใด ๆ จะเปน
จํานวนตรรกยะหรือจํานวนอตรรกยะก็ได
รากที่สองและการหารากที่สองของจํานวนจริง
ตัวอยางที่ 8 จงหาวาจํานวนในแตละขอตอไปนี้เปนรากที่สองของจํานวนใด
1
1) - 2) 0.5 3) - 8.3
2
1 2) 0.5 3) - 8.3
1) -
2 วิธีทํา เนื่องจาก 0.52 = 0.25 วิธีทํา เนื่องจาก − 8.3
2
= 8.3
1 2 1
วิธีทํา เนื่องจาก − = ดังนั้น 0.5 เปนรากที่สองของ 0.25
2 4 ดังนั้น - 8.3 เปนรากที่สองของ 8.3
1 1
ดังนั้น - เปนรากที่สองของ
2 4
รากที่สองและการหารากที่สองของจํานวนจริง
ตัวอยางที่ 9 จงหารากที่สองที่เปนบวกของ 32 และ −3 2
วิธีทํา รากที่สองที่เปนบวกของ 32 เทากับ 3
แตรากที่สองที่เปนบวกของ 32 เขียนแทนดวย 32
ดังนั้น 32 = 3
รากที่สองที่เปนบวกของ (−3)2 เทากับ 3
แตรากที่สองที่เปนบวกของ (−3)2 เขียนแทนดวย (−3)2
ดังนั้น (−3)2 = 3
นั่นคือ รากที่สองที่เปนบวกของ 32 และ −3 2 เทากับ 3
รากที่สองและการหารากที่สองของจํานวนจริง
จากตัวอยางที่ 9 จะเห็นวา
32 = 3 = 3
(−3)2 = 3 = −3
บทนิยาม
ให a แทนจํานวนจริงใด ๆ จะไดวา
a2 = a
เมื่อ a คือ คาสัมบูรณของ a
การหารากที่สอง
1) การหารากทีส่ องโดยการแยกตัวประกอบ
= 6x 2 y 4 2
ดังนั้น 36x 4 y 8 = 6x 2 y 4 2
= 6x 2 y 4
= 6x 2 y 4
การหารากที่สอง
1) การหารากทีส่ องโดยการแยกตัวประกอบ
ตัวอยางที่ 12 จงหาผลลัพธของ - 441 + 961− 12.25
49
วิธีทํา - 441 + 961 − 12.25 = − 212 + 312 −
4
7 2
= −21 + 31 −
2
7
= -21 + 31 −
2
= -21 + 31 − 3.5
= 6.5
7 8
50 อยูระหวางสองจํานวนนี้
การหารากที่สอง 2) การหารากที่สองโดยการประมาณคา
𝟑𝟑
ปริมาตรของลูกบาศก = (ความยาวดาน)
บทนิยาม
ให a แทนจํานวนจริงใด ๆ รากที่สามของ a คือ จํานวนจริงที่ยกกําลังสามแลวเทากับ a
เขียนแทนดวยสัญลักษณ 𝟑𝟑 𝐚𝐚
7 3
= 4
343 7
ดังนั้น รากที่สามของ 64
คือ 4
การหารากที่สาม
1) การหารากทีส่ ามโดยการแยกตัวประกอบ
3
ตัวอยางที่ 17 จงหาคาของ 27a3b3 เมื่อ a และ b แทนจํานวนจริงใด ๆ
วิธีทํา เนื่องจาก 27a3b3 = (3 × 3 × 3) × (a × a × a) × (b × b × b)
= (3ab)(3ab)(3ab)
= (3ab)3
นั่นคือ รากที่สามของ 27a3b3 = 3ab
3
ดังนั้น 27a3 b 3 = 3ab
การหารากที่สาม
2) การหารากทีส่ ามโดยการประมาณคา
3
12 อยูระหวางสองจํานวนนี้
2+3
ขั้นที่ 2 คาเฉลี่ยของ 2 กับ 3 = = 2.5
2
เนื่องจาก (2.5)3 = 15.625 ซึ่งมีคามากกวา 12
ดังนั้น 2<
3
12 < 2.5
2 2.5 3
3
12 อยูระหวางสองจํานวนนี้
การหารากที่สาม
2) การหารากทีส่ ามโดยการประมาณคา
ตัวอยางที่ 18 จงหารากที่สามของ 12 โดยการประมาณคาใหใกลเคียงทศนิยมสามตําแหนง
2 + 2.5
วิธีทํา ขั้นที่ 3 คาเฉลี่ยของ 2 กับ 2.5 = = 2.25
2
เนื่องจาก (2.25)3 ≈ 11.39 ซึ่งมีคานอยกวา 12
ดังนั้น 2.25 <
3
12 < 2.5
2 2.25 2.5 3
3
12 อยูระหวางสองจํานวนนี้
2.25 + 2.5
ขั้นที่ 4 คาเฉลี่ยของ 2.25 กับ 2.5 = = 2.375
2
เนื่องจาก (2.375)3 ≈ 13.40 ซึ่งมีคามากกวา 12
ดังนั้น 2.25 <
3
12 < 2.375
= 3.5, -3.5
เนื่องจาก r เปนความยาวรัศมี จึงใชเฉพาะจํานวนบวก
ดังนั้น แกวใบนี้มีรัศมียาวประมาณ 3.5 เซนติเมตร
การนําความรูเกี่ยวกับจํานวนจริงไปใชในชีวิตจริง ความรูเรื่องจํานวนจริง
สามารถนํามาประยุกตใชใน
ตัวอยางที่ 22 กลองทรงลูกบาศกมีความจุ 1,728 ลูกบาศกนิ้ว จะสามารถ
การหาคําตอบโจทยปญหาได
บรรจุลูกบาลที่มีเสนผานศูนยกลาง 15 นิ้ว ไดหรือไม เพราะเหตุใด
1,728 นิ ้ว3