Professional Documents
Culture Documents
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์
+โพสต์เมือ
่ วันที่ : 9 ต.ค. 2552
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ ต
.....
นักวิทยาศาสตร์ไม่มโี อกาสทีจ
่ ะเข ้าไปดูการทำงานของเอนไซม์ภาในเซลล์ได ้ จึงต ้อง
(คลิกเพือ
่ ดูภาพขนาดใหญ่)
แผนภาพจำลองแสดงโครงสร ้างสามมิตข
ิ องเอนไซม์ชนิดหนึง่ ประกอบด ้วยพอลิเพปไทด์ทม
ี่ ้วนกันเป็ น
ก ้อน
ึ ษาการทำงานของเอนไซม์ภายนอกเซลล์ ซงึ่ มีเงือ
ศก ่ นไขบางประการทีแ่ ตกต่างจาก
ึ
การศกษาการทำงานของเอนไซม์ภายในเซลล์ เอนไซม์ทก ุ ชนิดทำงานในเซลล์ แต่
หลายชนิดยังสามารถทำงานนอกเซลล์ทม
ี่ ส
ี ภาพใกล ้เคียงกับภายในเซลล์
ปั จจุบน
ั นักวิทยาศาสตร์สามารถสกัดเอนไซม์ทค ี่ อ
่ นข ้างบริสท
ุ ธิไ์ ด ้หลายร ้อย ชนิด
บางชนิดอยูใ่ นรูปของผลึกทีเ่ ป็ นสารบริสท
ุ ธิ์ จากการศก ึ ษาโครงสร ้างและสว่ นประกอบ
ของเอนไซม์ชนิดต่างๆ ทำให ้สามารถกล่าวได ้ว่า เอนไซม์เป็ นสารพอลิเพปไทด์หลาย
สาย และมักจะมีไอออนของโลหะหรือโมเลกุลทีไ่ ม่ใช โ่ ปรตีนอยูด ่ ้วย เอนไซม์จะมีมวล
โมเลกุล 10,000 ถึงมากกว่า 1 ล ้าน และมีสมบัตเิ ป็ น คะตะลิสต์ (catalyst)
อัตราการทำงานของเอนไซม์จะขึน ้ อยูก
่ บ
ั ระดับอุณหภูม ิ โดยทั่วๆ ไปอัตราการทำงาน
ของเอนไซม์ตา่ งๆ จะมีลักษณะดังกราฟ
กราฟแสดงอัตราการทำงานของเอนไซม์ทอ
ี่ ณ
ุ หภูมต
ิ า่ งๆ
การ เปลีย
่ นแปลงรูปร่างของโปรตีนอันเนือ
่ งจากความร ้อน ถ ้าความร ้อนไม่สงู จนเกินไป และเมือ
่ ความร ้อน
ลดลงจนมีระดับปกติ โปรตีนจะคืนกลับสูส ่ ภาพเดิมได ้อีก
เนือ
่ งจากเอนไซม์เป็ นโปรตีนจึงมีสมบัตเิ หมือนโปรตีนทั่วๆ ไป คือ มักจะเส ยี สภาพที่
อุณหภูมส ิ งู และนอกจากนีย้ ังคงสภาพเป็ นโปรตีนได ้ในชว่ ง pH ทีจ
่ ำกัดเท่านัน
้ เรา
สามารถศก ึ ษาความสมั พันธ์ระหว่างอัตราการทำงานของเอนไซม์กบ ั pH ได ้ดังกราฟ
กราฟแสดงอัตราการทำงานของ
เอนไซม์ท ี่ pH ต่างๆ
สมบ ัติของเอนไซม์
การย ับยงเอนไซม์
ั้
ปฏิกริ ย
ิ าเคมีในเซลล์ทเี่ ป็ นกระบวนการต่อเนือ ่ งกัน ได ้แก่ การหายใจของเซลล์ซ งึ่
เป็ นกระบวนการเปลีย ่ นแปลงของสารอินทรียบ ์ างชนิดกลาย เป็ นสารชนิดอืน่ ๆ ต่อ
เนือ่ งกันหลายขัน้ ตอน ฉะนัน ้ เมือ
่ ขัน
้ ตอนใดขัน
้ ตอนหนึง่ ถูกยับยัง้ กระบวนการหายใจก็
จะหยุดชะงัก ไม่สามารถดำเนินต่อไปได ้
ทีม
่ าข ้อมูล :
สรุปชวี วิทยา ม.ปลาย โดย นิพนธ์ ศรีนฤมล
(คลิกเพือ
่ ดูภาพขนาดใหญ่)
แสดงการทำงานของเอนไซม์
กราฟแสดงการทำงานของเอนไซม์ทไี่ ด ้รับซับสเตรตทีม
่ ค
ี วามเข ้มข ้นต่างๆ
(คลิกเพือ
่ ดูภาพขนาดใหญ่)
ขณะเอนไซม์จับกับซับสเตรต รูปร่างของเอนไซม์เปลีย
่ นแปลงไป หลังปฏิกริ ย
ิ ารูปร่างของเอนไซม์ก็กลับ
มาเหมือนเดิมอีก
เอนไซม์ไคโมทริปซินสลายพันธะของฟี นล
ิ อะลานีน ทริปซินสลายพันธะของไลซีน
แสดงสูตรโครงสร ้างของกรดซักซินก
ิ และกรดมาโลกนิก
ในการแปรสภาพของกรดซก ั ซนิ ก
ิ เอนไซม์ซก ั ซน
ิ ก
ิ ดีไฮโดรจีเนสทำหน ้าทีส
่ ลายพันธะ
ั ิ
ของไฮโดรเจนของกรดซกซนิ กให ้กลายเป็ นกรดฟูมริก แต่ถ ้าเอนไซม์นรี้ วมกับกรดมา
โลนิก ก็จะไม่มโี อกาสรวมตัวกับกรดซก ั ซน
ิ ก
ิ ดังนัน้ กรดมาโลนิกจึงทำหน ้าทีย่ ับยัง้
การทำงานของเอนไซม์นี้
จากความรู ้เกีย
่ วกับตัวยับยัง้ เอนไซม์ เราสามารถค ้นหาลำดับขัน
้ ตอนของกระบวนการ
หายใจของคนถึงขัน ่ ึ
้ ผลิตผลสุท ้ายออกมา ซงอธิบายเป็ นหลังการได ้ดังนี้
ถ ้าสาร A สาร B และสาร C เป็ นสารทีเ่ กิดขึน้ ในบางขัน
้ ตอนของกระบวนการหายใจ
ตามลำดับ และมีเอนไซม์เป็ นตัวเร่งปฏิกริ ยิ า ดังสมการ
และด ้วยขัน
้ ตอนทีย ั ซอน
่ งุ่ ยากซบ ้ นักชวี เคมีจงึ สามารถทราบลำดับของปฏิกริ ย
ิ าต่างๆ
ในการหายใจของเซลล์สงิ่ มีชวี ต ิ ได ้อย่างครบถ ้วน