Lab Ee 10

You might also like

Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 9

นาย ธีรภัทร พูนศิริ 63010310122

Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)

การทดลองที1่ 0
PhototransistorSensor
7.1 วัตถุประสงค์
1. เพือ ึ ษาเข ้าใจหลักการท างานของเซนเซอร์ตรวจจับ
่ ให ้นักศก
แสง (Photo Transisitor)

7.2 อุปกรณ์
1. ตัวต ้านทาน 7.5kΩ, 30 kΩ
2. Photo Transistor เบอร์ T5400S
3. Multimeter
4. หัวแร ้ง
5. Power Supply 0 – 30 V

7.3 ทฤษฎี
LDR ต ัวต้านทานไวแสง
ในอุปกรณ์อเิ ลกทรอนิกสป ์ ระเภทไวต่อแสง หรือ
เปลีย ่ นแปลงการทา งานของตวัมนั เอง ตามปริมาณของแสง มีอย
หู่ ลายอยา่ ง. ต ้งัแต่LDR ( light dependent resistor ) โฟโตโว
ลตาอิกเซล ( photovoltaic cell ) ซงจ่ ึ่ ายแรงดนัออกมา ได ้เมือ ่
ได ้รับแสง , โฟโต ้ไดโอด ( photodiode ) โฟโต ้ ทรานซส ิ เตอร์ (
phototransistor ) ไปจนถึงเอสซอ ี าร์ ทีท่ างานด ้วยแสง (
LASCR - light activated sillicon controlled rectifier ) ซงึ่
ใชห ้ลกัการของสารก่งตวั ึ นา ท ้งัน ้นั .อุปกรณ์ประเภทนที ี้ ม
่ ี
โครงสร ้าง และ ลักษณะการทา งานง่ายทีส ่ ด
ุ ก็เห็นจะไดแ้ก่ LDR
เพราะไม่ไดใชห ้ ้ลกัการของรอยต่อ พี - เอน็ เหมือนกนัแบบอืน ่ ๆ ที่
ได ้กล่าวมาแลว ้เลยจึงจะนา มาเล่าสูก ่ นั ฟั งก่อน อิมพีแดนซข ์ อง
วงจร RC และเฟสของแรงดนั เทียบกบั เฟสของกระแสกา หนด
ไดด ้งัน ี้
Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)

โครงสร้าง
ตัว LDR วา่ ทีจ ่ ริงแลว ้มีเรียกกนัอกี หลายชอ ื่ เชน ่ โฟโตค ้อนดกั
ตีฟเซล( photoconductive cell ) หรือ ตัวต ้านทาน ไวแสง (
LSR - light sensitive resistor ) สว่ นใหญ่จะทา ดว ้ยสาร
แคดเมียมซลัไฟด์ ( CdS ) หรือไม่กแ ็ คดเมียมซน ี ไิ นด์( CdSe )
ึ่ ้งัสองตวันก็ี้ เป็ นสารประเภทก่งตวั
ซงท ึ นา เอามาฉาบ ลงบนแผน่
เซรามิกทีใ่ ชเ้ป็นฐานรองแลว ้ต่อขาจากสารทีฉ ่ าบ ไวอ ้อกมา

โครงสร ้าง LDR

รูปร่างของมนัจะเห็นไดในรู ้ ปที1 ่ สว่ นทีข ่ ดเป็ นแนวเล็กๆสด ี า


นนั่ แหละ ทีท ่ า หนา ้ทีเ่ ป็ นตวั ตา ้นทานไวแสงและแนวสด ี า น ้นัจะ
แบ่งพนทีื้ ข
่ องตวัมนัออกเป็ น 2 ขา ้ง ซงถา ึ่ ้ดูของจริงจะเห็นวา่ ออก
ี องน ้นั เป็ นตวันา ไฟฟ้ าทีท
สท ่ า หนา ้ทีส ั ผสั กบั ตวัตา ้นทานไว
่ ม
แสง เป็ นทีส่ า หรับต่อขาออกมา ภายนอก หรือเรียกวา่ อิเล็กโทรด
ทีเ่ หลือก็จะเป็ นฐานเซรามิกและอุปกรณ์สา หรับห่อหุม ้ มนั ซงมี ึ่
ได ้หลายแบบ
Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)

สมบ ัติทางแสง

การท างานของ LDR ก็งา่ ยๆ เพราะวา่ มนั เป็ นสารก่งตวั นา
เวลามีแสงตกกระทบลงไปก็จะ ถ่ายทอดพลงังาน ใหก ้ บั สาร ที่
ฉาบอยูท ่ า ใหเ้กด
ิ โฮลกบัอเิ ล็กตรอนวงิ่ กนั พล่าน.การทีม
่ โี ฮลกบั
ี้
อิเล็กตรอนอิสระนมากก็ เท่ากบั ความตา ้นทานลดลงนนั่ เองยงิ่
ความเขม ้ของแสงทีต ่ กกระทบมาก เท่าไรความตา ้นทานก็ยงิ่ ลด
ลงมากเท่าน ้นั

กราฟแสดงความไวต่อแสงความถีต
่ า่ ง ๆ ของ LDR ท ้งั 2 แบบ เมือ

เทียบกบัความไวของตาคน

ในสว่ นทีว่ า่ แสงตกกระทบน ้นั มิใชว่ า่ จะเป็ นแสงอะไรก็ได ้


เฉพาะแสงในชว่ งความยาวคลืน ่ ประมาณ 4,000 อังสตรอม ( 1 อ
งัสตรอม เท่ากบั 10 - 10 เมตร ) ถึงแระมาณ 10,000 อังสตรอม
เท่าน ้นั ทีจ
่ ะใชได ้ ้( สายตาคนจะเห็นได ้ในชว่ งประมาณ 4,000
อังสตรอม ถึง 7,000 อังสตรอม ) ซงึ่ คิดแลว ้ก็เป็ นชว่ งคลืน ่ เพียง
แคบ ๆ เมือ ่ เทียบกบัการทา งาน ของอุปกรณ์ไวแสง ประเภทอืน ่ ๆ
แต่ถงึ อยา่ งไรแสงในชว่ งคลืน ่ นก็ี้ มอ ี ยใู่ นแสงอาทิตย์แสงจาก

หลอดไฟแบบไสและแสงจากหลอด ฟลูออเรสเซนต์ ด ้วย หรือ ถ ้า
จะคิดถึงความยาวคลืน ่ ที่ LDR จะตอบสนองไวทีส ่ ด
ุ แลว ้ ก็มอ ี ยหู่
ลาย ความยาวคลืน ่ โดยทวั่ ไป LDR ทีท ่ า จากแคดเมียมซ
ลัไฟด์จะไวต่อแสงทีม ่ ค ี วามยาวคลืน ่ ในชว่ ง
Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)
5,000 กวา่ องัสตรอม. ซงเราจะเห็ ึ ่ นเป็ นสเี ขียวไปจนถึงสเี หลือง
สา หรับ บางตวัแลว ้ ความ ยาวคลืน ่ ทีไ่ วทีส่ ด
ุ ของมันใกล ้เคียงก
บัความยาวคลืน ่ ทีไ่ วทีส ่ ดุ ของตาคนมาก( ตาคนไวต่อความ ยาว
คลืน่ ประมาณ 5,550 องัสตรอม )จึงมกัจะใชท ้ า เป็ นเครือ ่ งว
ดัแสง ในกลอ ้งถ่ายรูป ถา ้ LDR ท าจาก แคดเมียมซล ี ไิ นดก์ ็จะ
ไวต่อความ ยาวคลืน ่ ในชว่ ง 7,000 กวา่ องัสตรอม ซงไปอยใู ึ่ ่น
ชว่ ง อินฟราเรดแล ้ว

ท าเป็ นเครือ
่ งว ัดแสง

ในรูปข่างล่าง เป็ นวงจรเครือ่ งวดัแสงแบบง่ายจริงๆ LDR ที่


็้
ใชกควรจะมี อตัราสว่ นของค่า ความตา ้นทาน ระหวา่ งไม่ม ี
แสงกบั มีแสงมากๆ หน่อยเวลาใชต ้อ ้งระวงัอยา่ ใหเ้ขม็ มิเตอร์
ตีเกิน สเกลของแพงมาเสย ี้ น่าเจบ็ ใจตวัเอง
ี ง่ายๆ อยา่ ง นมนั
เครือ
่ งวดัแสงแบบง่ายทีส
่ ด

่ ดัแปลงใหดขี้ นแลว
อีกวงจรหนึง่ ในรูป เป็ นวงจรทีด ึ้ ้ดดยเอาออ
ปแอมป์ เบอร์741 เขา ้มาชว่ ยทา ใหไวข ้ นึ้ มากจะเอา ดิจต
ิ อลม
ลัตม
ิ เิ ตอร์มาต่อแทนแบบเข็มก็ได ้แต่ตอ ้งระวงัแสงจาก LED จะไป
กวนการท างานของ LDR

วงจรเครือ
่ งวดัแสงทีป ึ้
่ รับปรุงขนแลว ้
Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)
์ างานด้วยแสง
สวิตซท

การใช ้ LDR ทา งานในวงจรปิ ดเปิ ดสวติซเ์ ราก็จะใชเ้พย ี ง2



อยา่ งเท่าน ้นั คือ มีแสง หรือไม่ม ี แสง.โดย ทวั่ ไปเราจะใชว ้ธิเอา
มาอนุกรมกบั ตวัตา ้นทานตวัหน่ึงแลว ้ต่อเป็ นวงจรแบ่งแรงดนั ออก
มาตามรูป อยา่ งในรูป จะทา งานดงันคื ี้ อถา ้มีแสงสวา่ ง LDR จะ
มีความต ้านทานต ่า ท าให ้ แรงดนั สว่ นใหญ่มาตกคร่อม R1 เสย ี
หมด แรงดนั เอาตพ์ ุต จึงสูงเกือบเท่าแรงดนัไฟเลยงและถา ี้ ้ไม่ มี
แสง LDR จะมีความตา ้นทานสูงแรงดนั สว่ นใหญ่จะไปตกที่ LDR
แรงดนั เอาตพ์ ุต จึงเกือบเป็ น 0 โวลต์
หลักการใช ้ LDR ในวงจรปิ ดเปิ ดสวิตซ ์

ในรูปข่างบน ( ข)วงจรจะทา งาน ในทางตรงขา ้ม เพียงแต่สลบั


ทีร่ ะหวา่ ง LDR กบั R 1 เวลามี แสงสวา่ ง เอาตพ์ ุตก็จะเกือบ
เป็ น 0 โวลต์เวลาไม่มแี สงสวา่ งเอาตพ์ ุตก็เกือบเท่าแรง
ดนัไฟเลยงจะี้ เห็นไดว ้า่ กลบักบักรณีแรก

Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)
ตวัอยา่ งวงจรควบคุมสวิตซโ์ ดยรีเลยจ์ะทา งานเมือ ่ ไม่มแี สงสวา่ ง

ท ้งั 2 กรณีจะมีวงจรทีต ่ อ ่ ออกไปสา หรับจบั สญ ั ญาณวา่ มี


แสงสวา่ งหรือไม่.แลว ้นา ไปควบคุม สวิตช ์ อีกทีให ้ ท างานใน
กรณีทต ึ่ เลยจ์ะทา งาน
ี่ ้องการ. ในรูปข่างบน เป็ นตวัอยา่ งวงจรซงรี
เมือ ึ่
่ ไม่ม ี แสงสวา่ ง ซงถา ี้
้เราไม่ตอ ้งการแบบนและอยากให ้รี
เลย์ทา งาน เมือ
่ มีแสงสวา่ งก็เพียงแต่สลบั ที่ ระหวา่ ง LDR ก
บัความตา ้นทานปรับค่าได ้100 kW เท่าน ้นั

ี งเมือ
วงจรเตือนภยัเป็ นเสย ่ มีแสงสวา่ งกระทบ LDR

ในรูปข่างบน ก็เป็ น ตวัอยา่ งวงจรอีกอนั หน่ึงทา งานเมือ่ มี


แสงสวา่ ง ตวัอยา่ งอืน ่ ๆ ก็ไดแ้กว่ งจร จับควันไฟ, วงจรกะพริบ
เพือ่ ความปลอดภยัเมือ ่ มีรถยนตแ์ ลน ึ่
่ ผา่ นมา. ซงโดยหลกัการแล
ว ้ไม่ยาก คงจะนา ไปดดัแปลงใชก ้ นัได ้
Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)
4 การทดลอง
4.1 ทดลองวงจร Photo Transistor
1. ใชมั้ ลติมต
ิ เตอร์วดั ความต ้านทานของ Photo
Transistor ใสภาวะมีแสงแลว ้บนั ทึกค่า ความต ้านทานทีไ่ ด ้
ความต ้านทานของ Photo Transistor ในสภาวะมีแสง
6000000โอห์ม 2. ใชมั้ ลติมต ิ เตอร์วด
ั ความต ้านทานของ Photo
Transistor ใสภาวะไม่มแ ี สง เอามือกา Photo Transistor ไว ้
แลว ้บนั ทึกค่าความตา ้นทานทีไ่ ด ้
ความต ้านทานของ Photo Transistor ในสภาวะไม่มแ ี สง ...
435โอห์ม 3. วิเคราะห์ผลการวัดความต ้านทานทีไ่ ด ้จาก ข ้อ
1 และ2
การทำงานของ Photo Transister เมือ
่ มีแสงน ้อยให ้ R มาก แสง
มากให ้ R น ้อย

1. น า Photo Transisitor มาต่อวงจร ดงัรป


Photo
Transistor

15 V

2. วดักระแสทีไ่ หลผา่ น Photo Transistor เมือ ่ มีแสง


และไม่มแ ี สงแลว ้บนั ทึกค่า Iมีแสง =0
Iไม่มแี สง = 2.30 mA

3. วิเคราะห์ผลการวัดความต ้านทานทีไ่ ด ้จาก ข ้อ 5


การทำงานของ Photo Transister เมือ ่ มีแสงน ้อยให ้ I มาก แสง
มากให ้ I น ้อย
Mahasarakham University
Faculty of Engineering
ปฏิบัติการเครื่องมือวัดและการวัดทางไฟฟ้า (0307 204)
(Electrical Engineering Laboratory)

4. น า Photo Transisitor มาต่อวงจร ดงัรป


Photo
Transistor
15 V
30k

5. วดัคา่ ความต่างศกัยไ์ฟฟ้ าทีต


่ กค่อม ความตา ้นทาน
30k เปรียบเทียบกบัความร ้อนที่ ใหก ้ บั Thermistor
แลว ้บนั ทึกค่าดงัตาราง
ในสภาวะที่ Photo Transistor มีแสงและไม่มแ ี สงแลว ้บนั
ทึกค่า
Vมีแสง = 15.0 V
Vไม่มแี สง = 65.2mV
6. วิเคราะห์ผลการวัดความต ้านทานทีไ่ ด ้จาก ข ้อ 8
การทำงานของ Photo Transister เมือ ่ มีแสงน ้อยให ้ V น ้อย แสง
มากให ้ V มาก

5. สรุปผลการทดลอง
กรณีท ี่ 1 R
ไม่มแ
ี สง>มีแสง
กรณีท ี่ 2 I
ไม่มแ
ี สง >มีแสง
กรณีท ี่ 3 V
ไม่มแ
ี สง < มีแสง

You might also like