Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 21

วัสดุในชีวต


ประจําวัน
01 พอลิ เ มอร์ คื อ อะไร

02
พอลิเมอร์
ประเภทของพอลิ เ มอร์

(POLYMER) สมบั ติ ท างกายภาพ


03 ของพอลิ เ มอร์

การใช้ป ระโยชน์ ข องวัส ดุ


04 ประเภทพอลิ เ มอร์
พอลิ เ มอร์ (POLYMER) คื อ อะไร ?
คื อ สารประกอบที มี โ มเลกุ ล ขนาดใหญ่ เ กิ ด จากโมเลกุ ล
เดี ยวจํา นวนมากมายึ ด ต่ อ กั น ด้ ว ย "พั น ธะโคเวเลนต์ "
โมเลกุ ล เดี ยว เรี ย กว่ า มอนอเมอร์ (MONOMER)

MONOMER + MONOMER+MONOMER+...---> (POLYMER)


*
ประเภทของพอลิ เ มอร์

พิจารณาจากแหล่ rrre
งกําเนิด
สามารถจําแนกพอลิเมอร์ออกเปน 2 ประเภท คือ
1. พอลิเมอร์ธรรมชาติ (NATURAL POLYMER)
เปนพอลิเมอร์ทีเกิดขึนเองตามธรรมชาติ โดยสิงมีชวี ต
ิ ผลิตขึน
โดยอาศัยกระบวนการทางเคมีต่าง ๆ ทีเกิดขึนภายในเซลล์ และสะสม
ไว้ใช้ประโยชน์ เช่น แปง ไกลโคเจน เซลลูโลส เส้นใยพืช โปรตีน ยาง
ธรรมชาติ DNA
hd_i-il.tt

กรด อะ โน

ไอโซน น ก โคส
วค โอไท
รี
นิ
ลู
มิ
ลี
ด์
ประเภทของพอลิ เ มอร์
พิจารณาจากแหล่งกําเนิด
สามารถจําแนกพอลิเมอร์ออกเปน 2 ประเภท คือ
2. พอลิเมอร์สง
ั เคราะห์ (SYNTHETIC POLYMER)
เปนพอลิเมอร์ทีเกิดจากการสังเคราะห์โดยมนุษย์ การสังเคราะห์
พอลิเมอร์เกิดจากการนําสารมอนอเมอร์จาํ นวนมากมาทําปฏิกิรยา
เคมีภายใต้สภาวะทีเหมาะสม ทําให้มอนอเมอร์เหล่านันเกิดพันธะเคมี
ต่อกันกลายเปนพอลิเมอร์ โดยผ่านกระบวนการ พอลิเมอร์ไรเซชัน
(POLYMERIZATION)
ประเภทของพอลิ เ มอร์

พิจารณาจากแหล่งกําเนิด
สามารถจําแนกพอลิเมอร์ออกเปน 2 ประเภท คือ
2. พอลิเมอร์สง
ั เคราะห์ (SYNTHETIC POLYMER)
มอนอเมอร์ทีนิยมนํามาสังเคราะห์เปนพอลิเมอร์ คือ สารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนทีเปนผลพลอยได้จากการกลันนํามันดิบและการแยก
แก๊สธรรมชาติ เช่น เอทิลีน สไตรีน โพรพิลีน ไวนิลคลอไรด์
พอลิเมอร์สงั เคราะห์ทีพบเห็นในชีวต
ิ ประจําวัน เช่น พลาสติก
ยางสังเคราะห์ เส้นใยสังเคราะห์ พอ เอ น พอ ไว ลคลอไร
↓ ↓
เอ น
ลิ
ลิ
ทิ
นิ
ทิ
ลี
ลี
ด์
ประเภทของพอลิ เ มอร์
พิจารณาตามชนิดของมอนอเมอร์ทีเปนองค์ประกอบในโมเลกุล
สามารถจําแนกพอลิเมอร์ออกเปน 2 ประเภท คือ

-

1. ฮอมอพอลิเมอร์ หรือ พอลิเมอร์เอกพันธุ์ (HOMOPOLYMER)


เปนพอลิเมอร์ทีประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดเดียวกันทังหมด เช่น
enrsrrsetr

พอลิเอทิลีน เปนพอลิเมอร์ทีมีมอนอเมอร์เปนเอทิลีนทังหมด
แปง เปนพอลิเมอร์ทีประกอบด้วยมอนอเมอร์ทีเปนกลูโคสทังหมด
ประเภทของพอลิ เ มอร์

พิจารณาตามชนิดของมอนอเมอร์ทีเปนองค์ประกอบในโมเลกุล
สามารถจําแนกพอลิเมอร์ออกเปน 2 ประเภท คือ
2. โคพอลิเมอร์ หรือ พอลิเมอร์รว่ ม (COPOLYMER)
เปนพอลิเมอร์ทีประกอบด้วยมอนอเมอร์ต่างชนิดกัน
-0
-
-

เช่น โปรตีน ประกอบด้วยมอนอเมอร์ทีเปนกรดอะมิโนต่างชนิดกัน


ประเภทของพอลิ เ มอร์

เปราะ และ แตก ก าย


ง่
หั
แบบทดสอบท้ า ยคาบ
พอลิเมอร์ต่อไปนีประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดใด

พอลิเมอร์ มอนอเมอร์ พอลิเมอร์ มอนอเมอร์

แปง
ก โคส พอลิโพรพิลีน โพร น

พอลิเอทิลีน เส้นใยสัตว์ กรด อะ โน

โปรตีน เซลลูโลส

พอลิสไตรีน เส้นใยพืช

วค โอไท

±

กนดนิวคลีอิก พอลิไวนิลคลอไรด์
CDNAI
พิ
นิ
ลู
ลี
มิ
ลี
ด์
พอ มอ แบบ าง แห / สม

1. แ ง ไ ดห น เปราะ ก าย

1. ด หลอมเหลว ง
t ไล น ไ สามารถ หลอม ห อ เป ยน ป ไ
เพลา น
,
เบ 3.

③ แนก ตาม โครงส าง และ สม

¥
เบอ ง
มอ
พอ แบบ
พอ แบบ เ น

1. แ ง และ เห ยว 1.
ดห นไ ,
ความ เห ยว
หนาแ น และ ด หลอมเหลว
ง หนาแ น และ
ความ
ด หลอมเหลว
1. ความ 2.


3. เป ยน
ปไ าย เ อ เ ม T
ลำ
ร่
ยื
รู
ขึ้
ถ์
กำ
มี
สู
จุ
ง่
หั
รู
จำ
ลิ
จำ
กิ่
ยื
ดำ
สู
จุ
ตํ่
จุ
รู
ง่
มื่
พิ่
ม่
ส้
ม่
ด้
ด้
รื
ด้
ข็
ข็
ลี่
นี
นี
ลี่
บั
บั
ร์
ร์
ติ
ติ
ร์
ยุ่
ยุ่
ร้
น่
น่
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์
ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์มมี ากมายหลายชนิด ทีสําคัญมี 3 ประเภท
ได้แก่ พลาสติก ยาง และเส้นใย
1. พลาสติ ก
อ่อนตัวหรือหลอมเหลวเมือได้รบ
ั ความร้อน
ไม่ผก
ุ ร่อนง่าย
มีความเหนียว ยืดหใยุน
่ ได้
แข็งแรง นําหนักเบา
ทนทานต่อสารเคมี และการสึกกร่อน
เปนฉนวนไฟฟา กันนําได้
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

ถ้าจําแนกพลาสติกตามการเปลียนแปลงของพลาสติกเมือได้รบ

ความร้อนจะจําแนกพลาสติกได้ 2 ประเภท คือ
1. เทอร์มอพลาสติก (THERMOPLASTIC)
-เปนพลาสติกทีมีโครงสร้างแบบเส้นกับแบบกิง
-เมือได้รบ
ั ความร้อนจะอ่อนตัว และเเข็งตัวเมืออุ ณหภูมล ิ ดลง
-เปลียนรูปร่างได้ หรือ ทําให้กลับมาเปนรูปร่างเดิมได้โดยสมบัติของ
พลาสติกไม่เปลียนแปลง
เช่น ทําภาชนะบรรจุอาหาร กล่องโฟม ถุงพลาสติก ท่อพีวซ ี ี ของเล่นเด็ก
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

2. พลาสติกเทอร์มอเซต (THERMOSETTINGPLASTIC)
-เปนพลาสติกทีมีโครงสร้างแบบร่างแห
-ต้องใช้ความร้อน หรือความดันในการขึนรูป
-เมือเเข็งตัวจะเเข็งมาก ทานต่อความร้อนและความดันได้ดก
ี ว่าเท
อร์มอพลาสติก
-ไม่อ่อนตัว เปราะ แตกหักง่าย
-หากได้รบ ั ความร้อนสูง ๆ จะไหม้เปนเถ้าถ่าน
-ไม่สารมถนํากลับมาขึนรูปใหม่ได้
เช่น ทําภาชนะเมลามีน เต้าเสียบไฟฟา
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

โฟม (FOAM) เปนพลาสติกทีผ่านกระบวนการเติมแก๊ส เพือทําให้


เกิดฟองอากาศจํานวนมากแทรกอยูร่ ะหว่างเนือของพลาสติก โฟมจึงมี
นําหนักเบา มีรพ
ู รุนเหมือนฟองนํา
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

2. ยาง (RUBBER) เปนพอลิเมอร์ทีมีคณ ุ สมบัติพเิ ศษ คือ มีความ


ยืดหยุน
่ สามารถยืดออกหรือเปลียนขนาดได้เมือถูกดึงและกลับคืนสู่
สภาพเดิมได้เมือปล่อย ไม่นาํ ไฟฟา ไม่นาํ ความร้อน ทนต่อแรงดึงได้ดี
ยางจึงถูกนํามาใช้ทําผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น รองเท้ายาง ของเล่นเด็ก
ถุงมือยาง ยางรัดของ ยางรถยนต์ โดยยางแบ่งออกเปน 2 ชนิด คือ
ยางธรรมชาติ และ ยางสังเคราะห์
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์
ยางธรรมชาติ (NATURAL RUBBER)
เกิดจากมอนอเมอร์ทีเรียกว่า ไอโซพรีน (ISOPRENE) รวมตัวกันเปนพอลิไอโซพรีน
ได้จากนํายางทีกรีดจากต้นยางพารา ซึงมีลักษณะเปนของเหลวสีขาวคล้ายนม
สมบัติของยางพาราคือ มีความต้านทานแรงดึงสูง เปนฉนวนทีดี ทนต่อการขัดถู
ทนนํา ทนนํามันจากพืชและสัตว์ แต่ไม่ทนนํามันเบนซิน เมือไดรับความร้อนจะเหนียว
อ่อนตัว แต่จะเเข็งและเปราะ ไม่ยด ื หยุน
่ ทีอุ ณหภูมต
ิ ํากว่าอุ ณหภูมห
ิ อ
้ ง ดังนันก่อนนํา
ยางมาทําผลิตภัณฑ์จง ึ ต้องปรับปรุงคุณภาพยางโดยการเติมผงกํามะถันและสารตัวเร่ง
ลงในยางแล้วให้ความร้อน ซึงเรียกว่า วัลคาไนเซชัน(VULCANIZATION) ยางทีได้จะมี
ความยืดหยุน ่ เพิมขึน เหมาะสําหรับนําไปใช้ทําผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ เช่น
สายยางรัดของ ถุงมือยาง เบาะทีนอนยาง
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

ยางสังเคราะห์ หรือ ยางเทียม (SYNTHETIC RUBBER)


เปนยางทีสังเคราะห์ขนจากมอนอเมอร์
ึ ทีได้จากการกลันปโตรเลียม ยางสังเคราะห์มส ี ม
สบัติทนทานต่อนํามัน มีความทนทานต่อการขัดถู มีความยืดหยุน ่ แม้อุณหภูมต
ิ ํา
ตัวอย่างยางสังเคราะห์บางชนิด
พอลิบวิ ทาไดอีน มีมอนอเมอร์ คือ บิวทาไดอีน มีความยืดหยุน
่ กว่ายางธรรมชาติ
นําไปใช้ทํายางรถยนต์
ยางเอสบีอาร์ (SBR หรือ STYRENE BUTADIENE RUBBER) ประกอบด้วยมอนอ
เมอร์ 2 ชนิด คือ สไตรีน และ บิวทาไดอีน มีสมบัติทานต่อการขัดถูสงู มาก แต่ทาต่อ
แรงดึงตํา นําไปใช้ในการทํายางรถยนต์ พืนรองเท้า และสายพาน
ยางเอบีเอส (ABS หรือ ACRYLONITRILE BUTADIENE STYRENE) ประกอบด้วย
มอนอเมอร์ 3 ชนิด คือ บิวทาไดอีน อะคริโลไนไตรล์ และสไตรีน มีสมบัติคล้าย
พลาสติก คือ ไม่ยดื หยุน
่ และสามารถนํามาทําเปนรูปร่างต่าง ๆ ได้ตามแม่แบบ
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

เส้นใย (FIBER) ประกอบด้วยมอนอเมอร์จาํ นวนมากเชือมต่อกันด้วยพันธะเคมีเปน


เส้นยาว มีโครงสร้างทีเหมาะสมต่อการนําไปรีดและปนเปนเส้นด้าย ผลิตภัณฑ์ทีทํามา
จากเส้นใยมีมากมายหลายชนิด เช่น เครืองแต่งกาย เสือผ้า รองเท้า ถุงเท้า ขนแปรง
ต่าง ๆ บางชนิดใช้เส้นใยธรรมชาติ บางชนิดใช้เส้นใยทีสังเคราะห์ขนมา ึ
เส้นใยแบ่งออกเปน 3 ประเภท ดังนี
1. เส้นใยธรรมชาติ แบ่งอกเปน 2 ชนิดคือ
เส้นใยจากพืช คือ เส้นใยทีประกอบด้วยเซลลูโลส ซึงได้จากส่วนต่าง ๆ ของพืช
เช่น เส้นใยจากเปลือกไม้ เช่น ปอ ปาน ฝาย นุน ่ ใยสับปะรด ลินน ิ ใยมะพร้าว เปนต้น
เส้นใยทีได้จากสัตว์ คือ เส้นใยโปรตีนทีได้จากขนสัตว์ เช่น ขนแกะ ขนแพะ
เส้นใยจากรังไหม เปนต้น
ข้อดีของเส้นใยพืช คือ สามารถดูดซับนําได้ดี ระบายอากาศได้ดี ส่วนข้อจํากัด
เมือถูกความชืนจะขึนราได้ง่าย เมือได้รบ ั ความร้อนจะหดตัว
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากพอลิ เ มอร์

2. เส้นใยกึงสังเคราะห์ เปนเส้นใยทีได้จากการนําสารจากธรรมชาติมาปรับปรุง
โครงสร้างให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น การนําเซลลูโลสจากพืชมาทาําปฏิกิรย ิ ากับ
กรดแอซิติก โดยมีกรดซัลฟวริกเข้มข้นเปนตัวเร่งปฏิกิรย ิ า ได้เปนเส้นใยเซลลูโลสแอซี
เตต มีสมบัติคล้ายเซลลูโลสใช้ในการผลิตแผ่นพลาสติก ทําแผงสวิตซ์และหุม ้ สายไฟฟา
เส้นใยเรยอน หรือ ไหมเทียม ซึงมีสมบัติคล้ายขนสัตว์ ไหม ลินน ิ หรือ ฝาย
ข้อดีของเส้นใยกึงสังงเคราะห์ คือ นําหนักเบา ไม่ดด ู ซับความร้อน ดูดซับเหงือได้ดี
3. เส้นใยสังเคราะห์ เปนเส้นใยทีสังเคราะห์ขนจากกระบวนการทางเคมี
ึ เช่น พอลิเอ
ไมด์ หรือ ไนลอน ใช้ในการทําเสือผ้า ถุงเท้า ถุงน่อง ขนของแปรงต่าง ๆ สายกีตาร์
สายเอ็น พอลิเอสเทอร์
ข้อดีของเส้นใยกึ%งสังเคราะห์ คือ ทนต่อจุลินทรีย์ เชือรา และแบคทีเรีย ทนต่อสาร
เคมี ไม่ยบั ง่าย ไม่ดด
ู ซับนํา ซักง่าย แห้งเร็ว

You might also like