Professional Documents
Culture Documents
CH 172 - 189.1
CH 172 - 189.1
วันที่คนซีเหลียงกลับไป ประชาชนเมืองชายแดนทั้งหมดต่างก็
ออกมาส่ งด้วยความยินดีปรี ดา หากไม่ใช่วา่ มีทหารชายแดนรักษา
ความเรี ยบร้อยอยู่ พวกเขาก็คงจะปาก้อนหิ นไข่เน่าออกไปแล้ว ผูค้ น
มองกองทัพใหญ่ซีเหลียงจากไปอย่างรวดเร็ ว มองท้องฟ้าที่มืดครึ้ ม
แล้วก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมาหนึ่งครา ในที่สุดก็ส่งหายนะไปได้
แล้ว หลังจากนี้กส็ ามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุ ขได้แล้ว แต่เมื่อนึกถึง
ญาติพี่นอ้ งที่จากไปในไฟสงคราม จิตใจของพวกเขาก็จมดิ่งลงอีก
ครั้ง
ชัว่ พริ บตาก็ใกล้จะปี ใหม่แล้ว หากเดินทางกลับเมืองหลวงตอนนี้
เช่นนั้นก็ตอ้ งฉลองวันปี ใหม่กลางทาง ได้ไม่คุม้ เสี ยเกินไปแล้ว ไม่สู้
ฉลองปี ใหม่ที่ซีเจียง หลังปี ใหม่ค่อยกลับเมืองหลวง
คนค่อยกลับเมืองหลวงหลังปี ใหม่กไ็ ด้ แต่สาส์นกราบทูลข้อราชการ
กลับไม่ได้ การเจรจาสงบศึกฝั่งนี้สรุ ปผลแล้ว สาส์นกราบทูลหลาย
ฉบับฝั่งนั้นก็ส่งจากเมืองชายแดนซีเจียงไปยังเมืองหลวง
คราวนี้จกั รพรรดิยงเซวียนก็ยงิ่ ดีพระทัย กลางดึกก็ไม่มีอารมณ์นอน
แม้แต่นิดเดียว อ่านสาส์นกราบทูลซ้ าไปซ้ ามา ราวกับว่าจะอ่าน
จนกว่าดอกไม้จะบานออกมาได้ โดยเฉพาะสาส์นกราบทูลของหย่ง
ติ้งโหว ชื่นชมคุณชายสี่ แซ่เสิ่ นออกหน้าออกตา กล่าวว่าที่สามารถ
นาเงินทองและของจานวนมากเช่นนั้นกลับมาจากซีเหลียงได้ลว้ น
แต่เป็ นความคิดของคุณชายสี่ วิเคราะห์ความไม่เหมาะสมในแนวคิด
ก่อนหน้านี้ของตน แล้วยังซึ้งใจที่คนรุ่ นหลังเก่งนาคนรุ่ นก่อน เด็ก
คนนี้จะต้องกลายเป็ นบุคลลสาคัญของราชสานักแน่นอน ดูออกว่า
หย่งติ้งโหวไม่รู้เลยว่าคุณชายสี่ แซ่เสิ่ นที่เขาชอบอกชอบใจเป็ นสตรี
ผูห้ นึ่ง
จักรพรรดิยงเซวียนก็ซาบซึ้งใจอย่างถึงที่สุดเช่นกัน คุณหนูแซ่เสิ่ นผู ้
นี้พดู สิ่ งที่อยูใ่ นใจแทนเขาแล้วจริ งๆ เป็ นจักรพรรดิของแคว้น แม้จะ
ร่ ารวยที่สุดในใต้หล้า แต่ทอ้ งพระคลังที่วา่ งเปล่ากลับทาให้เขา
ลาบากอยูบ่ ่อยครั้ง ที่เขาเกลียดที่สุดก็คือแคว้นแล็กๆ ที่ชายแดน
เหล่านั้น ชอบยัว่ ยุอยูบ่ ่อยๆ แพ้แล้วก็แสร้งร้องไห้ออ้ นวอน ขอ
เสบียงเงินทองไปจากตน สุ ดท้ายแล้วตนก็เสี ยเงินเปล่า
ความจริ งแล้ว จักรพรรดิยงเซวียนไม่อยากให้เลยแม้แต่นิดเดียว รบ
แพ้กต็ อ้ งอยูไ่ ปอย่างซื่อสัตย์ ไม่คิดบัญชียอ้ นหลังกับเจ้าก็ดีเท่าไร
แล้ว ยังกล้ากระโดดโหยงเหยงมาขอของอีก คิดว่าตัวเองเป็ นใคร
ของของข้าไม่ใช่วา่ ลมหอบมาเสี ยหน่อย ด้วยนิสยั ของเขา หากไม่
ยอมพวกเราก็มารบ บรรพบุรุษตระกูลสวีกช็ ิงแผ่นดินบนหลังม้า
เคยกลัวใครที่ไหน คิดจะขอของไม่มีทางเสี ยหรอก
ทว่ากลับค้านขุนนางชั้นผูใ้ หญ่กลุ่มนั้นในราชสานึกไม่ไหว
โดยเฉพาะตาเฒ่าหลายคนนั้นในกรมพิธีการ วันทั้งวันเอาแต่พร่ าบ่น
ข้างหูเขา น้ าใจแคว้นใหญ่บา้ งล่ะ เป็ นจักรพรรดิน่านับถือบ้างล่ะ มี
คุณธรรมต่อผูอ้ ื่นบ้างล่ะ
เหอะ มารดาเขาสิ เขารู ้แค่เพียงท้องพระคลังของเขาว่างลงทุกวันๆ
เขาดารงตาแหน่งฮ่องเต้น้ ีดว้ ยความอันอั้นยิง่ นัก ชิงดินแดนอาศัย
ขุนพล แต่ปกครองดินแดนต้องการขุนนางฝ่ ายบุ๋นเหล่านี้ เขาคงไม่
อาจฆ่าคนเหล่านี้จนหมดได้ ในเมื่อฆ่าไม่ได้ เช่นนั้นก็ทาได้เพียงอัด
อั้นตันใจอยูค่ นเดียว
ตอนนี้คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นพูดความในใจเขาออกมาแล้ว ทาเรื่ องที่เขา
อยากทาแต่ทาไม่ได้สาเร็ จแล้ว เขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร ขุนนางชั้น
ผูใ้ หญ่ท้ งั ราชสานักยังมีความรู ้ไม่เท่าสตรี ผเู ้ ดียว จะให้เขาพูด
อย่างไรดี
สตรี ดีๆ เช่นนี้กต็ อ้ งปูบบาเหน็จ แต่ตนได้พระราชทานบรรดาศักดิ์
นางให้เป็ นจวิน้ จู่แล้ว นี่คือจวิน้ จู่ที่ไม่ได้มีสายโลหิ ตในราชวงศ์คน
แรกนับตั้งแต่สถาปานาแคว้นมา หรื อว่าจะเลื่อนขั้นเสิ่ นหงเซวียน
บิดาของนางดี ฟังว่านางยังมีนอ้ งชายแท้ๆ อยูห่ นึ่งคน แม้วา่ อายุยงั
น้อย แต่กลับพระราชทานตาแหน่งเพียงแค่ในนามให้ได้เหมือนกัน
จักรพรรดิยงเซวียนยินดีปรี ดา อนุมตั ิใบเสนอบันทึกความดีความที่
เสิ่ นผิงยวนส่ งมาทั้งหมด สาหรับคาขอกลับเมืองหลวงหลังปี ใหม่
เขาเองก็เข้าใจอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงแต่สงั่ ด้วยความใส่ ใจว่าไม่ตอ้ ง
รี บ ซ้ ายังบอกเป็ นนัยว่าหลังกลับเมืองหลวงแล้วจะมีบาเหน็จจานวน
มาก
ขึ้นครองราชย์มาหลายปี เพียงนี้ ถือได้วา่ ปี นี้ผา่ นไปอย่างสบายใจ
ที่สุด จักพรรดิอารมณ์ดีแล้ว ชีวิตของขุนนางชั้นผูใ้ หญ่เบื้องล่างย่อม
ต้องดี แม้วา่ พวกเขาจะอิจฉาริ ษยาจงอู่โหวที่โชคดี แต่นนั่ ก็เป็ นสิ่ งที่
เขาใช้ความสามารถแย่งมาได้ดว้ ยตัวเอง
เสิ่ นเวยที่อยูไ่ กลถึงซีเหลียง ปี นี้กผ็ า่ นไปได้ดว้ ยความสุ ขอย่างยิง่ ปี
ใหม่โบราณครื้ นเครงอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่วนั ที่ยสี่ ิ บเดือนสิ บสองก็
เริ่ มครึ กครื้ นแล้ว ไม่เงียบเหงาเหมือนยุคปั จจุบนั
คืนวันที่สามสิ บ เสิ่ นเวย สวีโย่ว ท่านเสิ่ นโหว แม่ทพั อู่เลี่ย หย่งติ้ง
โหวและคนอื่นๆ นัง่ ล้อมโต๊ะทานอาหารค่าด้วยกัน ผักที่เสิ่ นเวยนา
คนไปปลูกก็มีประโยชน์อย่างยิง่ กับข้าวจานวนมากล้วนเป็ นอาหาร
ที่เสิ่ นเวยสอนออกมา เพียงแค่เกี๊ยวก็แบ่งเป็ นไส้หลายชนิดแล้ว มีไส้
กุยช่ายขาวผัดไข่ มีไส้หมูสบั ผัดต้นหอม มีไส้เนื้อแกะผัดเม็ดยีห่ ร่ า
ได้รับความนิยมอย่างยิง่ แม้แต่สวีโย่วที่ปกติเลือกกินยังกินไปหนึ่ง
ชามใหญ่ ยิง่ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงหย่งติ้งโหวและคนอื่นๆ กินไปพลางชม
ไปพลาง บอกว่าอยูท่ ี่เมืองหลวงไม่เคยกินเกี๊ยวที่อร่ อยขนาดนี้มา
ก่อน
กินข้าวเสร็ จแล้วเสิ่ นเวยก็ไปดูผใู ้ ต้บงั คับบัญชาของนาง ในห้องโถง
มีโต๊ะจัดวางอยูห่ ลายสิ บโต๊ะ ทุกคนกาลังดื่มสุ รากินเนื้อเล่นเป่ ายิง
ฉุบ บนใบหน้าแต่ละคนล้วนเปี่ ยมไปด้วยสี หน้าเฉลิมฉลองเทศกาล
เสิ่ นเวยพูดอย่างเรี ยบง่ายไม่กี่ประโยค จากนั้นก็ดื่มสุ ราหนึ่งแก้ว
ร่ วมกับพวกเขา ทุกคนต่างทราบฐานะที่แท้จริ งของนายท่านตนดี
ย่อมไม่มีใครโน้มน้าวให้ดื่มสุ รา
ออกจากห้องโถง เถาฮวาก็รอนางอยูข่ า้ งนอก ในอกกอดดอกไม้ไฟ
กะพริ บตาปริ บๆ มองนาง “คุณชาย ตอนนี้ไปเล่นดอกไม้ไฟได้แล้ว
หรื อยัง”
ในใจเสิ่ นเวยรู ้สึกอบอุ่นอย่างยิง่ ลูกหัวเถาฮวา ตอบอย่างสบาย
อารมณ์ “ไป พวกเราไปเล่นดอกไม้ไฟกัน”
ดอกไม้ไฟโบราณย่อมไม่งดงามละลานตาเท่ายุคปั จจุบนั แม้วา่ จะ
เป็ นเช่นนี้ เถาฮวาก็ยงั คงดีใจอย่างถึงที่สุด ตบมือยิม้ แย้ม รอยยิม้ นั้น
บริ สุทธิ์และงดงาม
เสิ่ นเวยเองก็กาลังยิม้ นางเงยหน้ามองดอกไม้ไฟที่ปะทุออกบน
ท้องฟ้า นึกถึงอีกมิติหนึ่งที่ไกลแสนไกล แม่ของนางจะสบายดี
หรื อไม่ คิดถึงนางเหมือนกับนางหรื อไม่
ตอนที่สวีโย่วออกมาก็มองเห็นเด็กน้อยของเขาอมยิม้ มองท้องฟ้าใน
ยามราตรี พอดี ท่าทางที่มีเพียงหนึ่งในใต้หล้าราวกับจะบินหนีไป
เช่นนั้นทาให้ในใจสวีโย่วบีบแน่นอย่างไม่รู้ตวั เร่ งฝี เท้าเดินเข้าไป
จับไหล่ของนางไว้ หัวใจก็สงบลง
“กลางคืนหนาว ไม่รู้จกั ใส่ เสื้ อเพิม่ ” เขาคลุมเสื้ อคลุมลงบนร่ างเสิ่ น
เวย นิ้วมือที่เรี ยวยาวช่วยนางผูกเชือกอย่างตั้งใจ
เสิ่ นเวยเงยหน้าขึ้น กระทัง่ มองเห็นขนตาของเขาได้อย่างชัดเจน
ความอุ่นขับไล่ความหนาวเหน็บในใจนาง หัวใจที่สงบนิ่งก็บงั เกิด
คลื่นซัดสาด เสิ่ นเวยคิด บางทีชายผูน้ ้ ีอาจจะอยูร่ ่ วมกับนางไปได้
ตลอดชีวิต
ทั้งสองยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กนั ท่าทางหมาะสมเช่นนั้น ชวนให้คน
อิจฉา ชวีไห่กบั หมอหลิวที่ออกมาเดินให้สร่ างเมาเห็นคุณหนูของ
พวกเขากับว่าที่เขยพูดคุยกันอย่างสนิทชิดเชื้อ ในแววตาก็เผยรอยยิม้
คืนนี้เป็ นคืนรวมตัว ออกมานานเพียงนี้ ยังคงคิดถึงบ้างเล็กน้อย
จริ งๆ
กิจกรรมโต้รุ่งส่ งท้ายปี เก่าแต่ไหนแต่ไรเสิ่ นเวยไม่ชานาญ เหลือเวลา
อีกนานกว่าจะเที่ยงคืนนางก็หาวไม่หยุดแล้ว ผ่านไปครู่ หนึ่ง ศีรษะ
นั้นก็ผงกเป็ นไก่จิกข้าวสารแล้ว
ท่านเสิ่ นโหวหัวเราะในใจ เอ่ยปากกล่าว “เจ้าสี่ ยงั เด็ก เป็ นเวลาที่
ร่ างกายกาลังเจริ ญเติบโต กลับไปนอนก่อนเถอะ”
เสิ่ นเวยประหนึ่งถูกยกภูเขาออกจากอก ลุกขึ้นด้วยความดีใจ
“เช่นนั้นข้าขออวยพรปี ใหม่ท่านปู่ ก่อน ขอให้เป็ นปี ที่ดี มีเรื่ องดี
ตลอดปี ”
ท่านเสิ่ นโหวดีใจในใจ แต่ปากกลับโมโห “ไม่แก่สิถึงแปลก” เด็ก
คนนี้กค็ ือต้นเหตุนนั่ เอง
เสิ่ นเวยทาหน้าทะเล้น ประสานมือคารวะกลุ่มคนหนึ่งกลุ่มที่อยู่
โต้รุ่งในห้อง “ทุกท่าน ข้าขอตัวก่อน” เดินไปถึงหน้าประตูกห็ นั หน้า
กลับมา “ท่านปู่ พรุ่ งนี้เช้าจะมาเอาซองแดงที่ท่าน ท่านอย่าลืมล่ะ
อย่าลืมให้เยอะๆ ด้วย”
“เจ้าสี่ นี่” ท่านเสิ่ นโหวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คนที่เหลือต่างก็ยมิ้
น้อยๆ มีลูกหลานที่ปราดเรี ยวเฉลียวฉลาดทั้งยังมีความสามารถ
เช่นนี้ใครบ้างจะไม่ชอบ
เสิ่ นเวยนอนหลับเต็มอิ่ม เช้าวันที่สองก็กระโดดโลดเต้นไปรับซอง
แดง ได้มาเยอะอย่างยิง่ คล้ายเยอะกว่าที่ผใู ้ หญ่ท้ งั หมดเคยให้นางเสี ย
อีก แม้แต่สวีโย่วชายคนนั้นยังให้ตนหนึ่งซอง ซองแดงแบนๆ เบาๆ
เมื่อเปิ ดดู กลับเป็ นตัว๋ เงินหนึ่งหมื่นตาลึง
เสิ่ นเวยตกใจก่อน หมอนี่มีเงินขนาดนี้เลยหรื อ พกตัว๋ เงินมูลค่ามาก
ติดตัว เหตุใดนางถึงไม่เคยสังเกตเห็นเล่า หลังจากนั้นก็ดีใจ ยิง่
ตัดสิ นใจเด็ดเดี่ยวว่าจะเอาทรัพย์สินส่ วนตัวของสวีโย่วมาไว้ในมือ
ให้จงได้
ผ่านวันที่หา้ ไปพวกเขาก็ควรเดินทางกลับเมืองหลวงได้แล้ว เสิ่ นเวย
สวีโย่ว แม่ทพั อู่เลี่ยและหย่งติ้งโหวย่อมต้องกลับไป ท่านเสิ่ นโหวที่
เป็ นขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ที่สูงที่สุดที่ปกครองซีเจียงก็ตอ้ งกลับไป
เช่นกัน ทว่าเสิ่ นเชียนกับหร่ วนเหิงกลับอยูต่ ่อ
ปี ก่อนท่านเสิ่ นโหวยืน่ ฏีกาแล้ว บอกว่าอายุมากแล้ว อยากเกษียณ
กลับเมืองหลวง หลานชายคนโตก็เป็ นผูใ้ หญ่แล้ว สามารถแบ่งเบา
ภาระเขาได้แล้ว
ด้วยเหตุน้ ีกษัตริ ยข์ นุ นางสองคนจึงรู ้กนั ในใจ เสิ่ นเชียนกับหร่ วนเหิ ง
เดิมก็มีคุณูปการอยูแ่ ล้ว หนีไม่พน้ ขุนนางลาดับที่หก บวกกับท่าน
เสิ่ นโหวเกษียณแล้ว ตาแหน่งขุนนางของเสิ่ นเชียนคาดว่ายังเลื่อน
ขั้นได้อีก สาหรับหร่ วนเหิง เห็นแก่ญาติผนู ้ อ้ งของเขาก็ไม่อาจ
ปฏิบตั ิต่อเขาอย่างไม่เป็ นธรรม ยิง่ ไปกว่านั้นราชสานักยังติดหนี้จวน
แม่ทพใหญ่อยูอ่ ีกด้วย
แม้วา่ ตาแหน่งขุนนางอย่างเป็ นทางการจะยังไม่ได้กาหนด แต่ในใจ
ทุกคนก็รู้ดี เสิ่ นเชียนกับหร่ วนเหิงอยูร่ อตาแหน่งขุนนางที่ซีเจียง
ก่อน ตั้งใจฝึ กฝนอยูท่ ี่ซีเจียง มีความสามารถแล้วค่อยกลับเมืองหลวง
แสดงความปรารถนามุ่งมาด
ขามาเสิ่ นเวยนาคนมาสี่ ร้อยกว่าคน ขามาตอนแรกทุกคนต่างก็วิ่งเต้น
สร้างคุณูปการเริ่ มต้นอาชีพ ตอนนี้ถึงเวลากลับแล้ว เสิ่ นเวยย่อมให้
พวกเขามีสิทธิ์เลือกเต็มที่ จะกลับหรื อจะอยูต่ ่อให้ตดั สิ นใจเอาเอง
อยากอยูต่ ่อนางก็จะช่วย อยากกลับนางย่อมพากลับ
สิ่ งทาให้เสิ่ นเวยประหลาดใจก็คือทั้งหมดต่างก็เลือกกลับ ไม่มีใคร
ยอมอยูแ่ ม้แต่คนเดียว คนจานวนมากในกลุ่มพวกเขาทาศึกห้าวหาญ
อาศัยคุณงามความดีกส็ ามารถเป็ นขุนนางระดับเล็กได้แล้ว แต่คาด
ไม่ถึงว่าพวกเขาจะเลือกกลับ จะไม่ให้นางตกใจและซึ้งใจได้อย่างไร
ทุกคนบอกแล้วว่า สนามรบพวกเขาก็ผา่ นมาแล้ว ทหารซีเหลียงก็ฆ่า
มาไม่นอ้ ยเช่นกัน พวกเขามีประสบการณ์เช่นนี้กเ็ พียงพอแล้ว พวก
เขาอยากสร้างคุณปการเริ่ มต้นอาชีพก็เพียงเพื่อมีชีวิตที่ดี ติดตาม
คุณหนูกเ็ ป็ นชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว ไยจะต้องหอบข้าวของออกจากบ้าน
วิ่งไปไกลถึงซีเจียงด้วยเล่า
นอกจากนี้ที่พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดจากสนามรบได้อย่าง
ปลอดภัยก็เป็ นเพราะการปกป้องของคุณหนู คุณหนูไม่อยูซ่ ีเจียง แม้
พวกเขาจะอยูต่ ่อ จิตใจก็จะกระวนกระวาย ไม่สู้ติดตามคุณหนู
กลับไปดีกว่า
กองทหารเด็กฝึ กฝนต่อ โอวหยางไน่ยนื กรานจะไป เสิ่ นเวยจึงทาได้
เพียงทิ้งทหารลับหลายคนไว้ ทว่าหลี่จ้ือกลับโวยวายจะตามนางไป
ด้วย เขาบอกว่าตั้งแต่ที่นางช่วยชีวติ น้องชายน้องสาวเขา นางก็เป็ น
เจ้านายของเขาแล้ว เจ้านายอยูไ่ หน เขาย่อมต้องติดตามไปที่นนั่
นี่ไม่ใช่ก่อความวุน่ วายหรื อ เสิ่ นเวยพูดเกลี้ยกล่อมโน้มนาวอยูน่ านก็
ไม่อาจทาให้หลี่จ้ือเปลี่ยนใจได้ ท้ายที่สุดนางก็ใช้ไม้ตาย “เจ้ายังมี
ความสามารถไม่พอ ติดตามข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อยูฝ่ ึ กฝนที่
จวนโหวต่อดีกว่า”
หลี่จ้ือจึงเลิกยืนกรานจะติดตามนางกลับเมืองหลวง แต่กเ็ อ่ยเงื่อนไข
ว่า ให้นอ้ งชายน้องสาวของเขาตามไปปรนนิบตั ิขา้ งกายนายท่าน
ก่อน เมื่อเขาร่ าเรี ยนจนมีฝีมือแล้วจะไปรับใช้ทนั ที
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 178-1 ระหว่ างทาง
การออกเดินทางในยุคโบราณไม่ง่ายเหมือนยุคปั จจุบนั เพียงแค่เก็บ
ของก็วนุ่ ไปสองวันแล้ว ขามาเสิ่ นเวยเอาเสื้ อผ้ามาเพียงสองชุดใส่
สลับกัน ขากลับเพียงแค่ของส่ วนตัวของนางก็ปาเข้าไปสองคันรถ
แล้ว บวกกับสิ่ งของเงินทองที่ซีเหลียงส่ งมา ทรัพย์สินส่ วนตัวที่ท่าน
เสิ่ นโหวสะสมมาครึ่ งชีวิต ของที่ทหารประชาชนเมืองชายแดนส่ ง
มา ของมากมายมหาศาลรวมกันแล้ว โอ ขบวนรถเรี ยงยาวไปจนถึง
เส้นขอบฟ้า
ขนเงินทองและของมีค่ามากมายเพียงนี้ไปด้วย ความปลอดภัย
ระหว่างทางย่อมต้องให้ความสาคัญ นอกจากกาลังคนของเสิ่ นเวย
กับสวีโย่วแล้ว ท่านเสิ่ นโหวยังเลือกกองกาลังทหารห้าร้อยนายใน
กองทัพมาคุม้ กันส่ งอีกด้วย ขบวนทัพนี้ยงิ่ ใหญ่อย่างยิง่ เสิ่ นเวยคิดว่า
คงจะไม่มีคนโง่ที่ไหนกล้าดักปล้นกลางทาง แต่ใครจะรู ้วา่ ดันเจอคน
โง่เข้าเสี ยแล้ว
เพราะว่าคุม้ กันส่ งของเยอะเพียงนี้ ดังนั้นจึงเดินทางได้ชา้ อย่างถึง
ที่สุด เย็นวันนี้ กองทัพเพิง่ จะตั้งค่ายพัก ยังไม่ทาได้ก่อไฟทาอาหารก็
ถูกลูกธนูที่ไม่รู้วา่ ยิงมาจากไหนจู่โจมเข้าแล้ว
พื้นที่ต้ งั ค่ายกว้างโล่งอย่างถึงที่สุด นอกจากจะมีแม่น้ าอยูไ่ ม่ไกลแล้ว
แม้แต่ตน้ ไม้เป็ นที่กาบังยังไม่มี เจอลูกธนูที่ลอยมาอย่างหนาแน่น ซ้ า
ยังต้องคุม้ กันของบนรถ ทุกคนก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยอย่างเลี่ยง
ไม่ได้
เสิ่ นเวยไม่ได้สนใจ ต่อให้เงินทองจะดี ไหนเลยจะมีค่าเท่าชีวิตคน
“เร็ ว รี บไปซ่อนหลังรถ ใช้รถบัง ตีโต้ตอบ” เสิ่ นเวยตะโกนเสี ยงดัง
หนึ่งครา ดึงชวีไห่และหมอหลิวไปหลบอยูข่ า้ งหลังรถ สัง่ ห้ามพวก
เขาสองคนออกไป ตนคว้าธนูหนึ่งคันจากนั้นก็ยงิ ออกไป ได้ยนิ
เพียงสี ยงลูกธนูแทงเข้าเนื้อเบาๆ ในพุม่ หญ้าตรงหน้าเคลื่อนไหว
เล็กน้อย
เสิ่ นเวยเห็นเหตุการณ์น้ ี ก็ตะคอกเสี ยงดังทันที “ยิงไปในหญ้า พวก
เขาหลบอยูใ่ นพงหญ้า!”
มีที่กาบัง ซ้ ายังหาเป้าหมายเจอแล้ว ความกดดันก็ลดลงไปอย่างมาก
ในชัว่ พริ บตา แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คงไม่กล้าชะล่าใจ ชัยชนะยิง่ ใหญ่ของซี
เจียงใครบ้างไม่รู้ ตลอดการเดินทางพวกเขาเปิ ดเผยฐานะ ระหว่าง
ทางก็มีขนุ นางไม่นอ้ ยเข้ามาคารวะ เหตุใดมาถึงที่นี่กลับมีคนลงมือ
กับพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัวเลยเล่า ไม่กลัวจักรพรรดิลงโทษหรื อ
อย่างไร
ท่านเสิ่ นโหวกับหย่งติ้งโหวเองก็เห็นความผิดปกติแล้ว ทั้งสอง
สบตากับปราดหนึ่ง สี หน้าเคร่ งขรึ มอย่างถึงที่สุด “เสิ่ นโหว หากข้าดู
ไม่ผดิ นี่น่าจะเป็ นลูกธนูของกองทัพ” หย่งติ้งโหวหยิบลูกธนูหนึ่ง
ดอกมาดูอย่างละเอียด แม้วา่ บนลูกธนูจะอาพราง แต่อย่างไรเสี ยหย่ง
ติ้งโหวก็เป็ นคนที่เคยนาทัพมาก่อน ยังคงมองออกในปราดเดียวว่านี่
คือลูกธนูที่ใช้ในกองทัพ
หย่งติ้งโหวยังดูออก ยิง่ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงท่านเสิ่ นโหวที่อยูใ่ นกองทัพมา
ตลอดทั้งปี คนที่สามารถสัง่ การในกองทัพได้ เป็ นกลุ่มอานาจที่อยู่
เบื้องหลังหรื อ ท่านเสิ่ นโหวกับหย่งติ้งโหวหรี่ ตาลงพร้อมกัน ในใจ
มีความรู ้สึกไม่ดี ใครกัน ใครกันที่กล้าถึงเพียงนี้ จงใจหาเรื่ องพวก
เขายังไม่เท่าไร แต่เก็บลูกท้อของจักรพรรดิอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ก็น่า
ใคร่ ครวญอย่างยิง่
เสิ่ นเวยเองก็พบความผิดปกติแล้ว แม้วา่ นางจะไม่รู้จกั ลูกธนูของ
กองทัพ แต่คนกลุ่มนี้ที่โจมตีพวกเขาก็ดูจะฝึ กฝนมาดีเกินไปหน่อย
ความรู ้สึกที่นางสัมผัสได้คุน้ เคยอย่างยิง่ คล้ายกับว่ามาจาก…
กองทัพ
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมาในหัว สี หน้าท่าทางทั้งร่ างของเสิ่ นเวยก็
เปลี่ยน จู่ๆ ก็นึกถึงมือสังหารที่ตนเจอในหมู่บา้ นครั้งนั้น
สัญชาตญาณบอกนางว่าสองเหตุการณ์น้ ีอาจจะเกี่ยวเนื่องกัน
“คุณชายสี่ คุณชายของพวกเราบอกให้ท่านระวังตัว ฝ่ ายตรงข้าม
เหล่านั้นน่าจะมาจากกองทัพ” เจียงเฮยคลาทางมากล่าวกับเสิ่ นเวย
ด้วยสี หน้าจริ งจัง
การคาดเดาในใจเสิ่ นเวยได้รับการยืนยัน มองพุม่ หญ้าตรงหน้าที่ไม่รู้
ว่ามีคนหมอบซุ่มอยูเ่ ท่าไรด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม “ข้ารู ้แล้ว เจ้ารี บ
กลับไปคุม้ กับคุณชายของพวกเจ้าเถอะ”
มาจากกองทัพ ยังซุ่มกาลังอย่างกล้าได้กล้าเสี ยเช่นนั้น จะต้องไม่
กลัวการตรวจสอบเป็ นแน่ แม้วา่ จะตรวจสอบ ก็ไม่อาจพบเจออะไร
ได้ เช่นนั้นก็มีคาอธิบายเพียงอย่างเดียว กองทัพส่ วนตัว ใคร ใครมี
อานาจที่มากถึงเพียงนี้
ตอนนี้คิดหาวิธีรับมือก่อนดีกว่า ฝ่ ายตรงข้ามหมอบซุ่มอยูใ่ นพงหญ้า
ใช้เพียงธนูโจมตี ลูกธนูกย็ งั แน่นขนัดอย่างยิง่ คาดว่าน่าจะมี
ประมาณเกือบสามร้อยคน แต่ใครจะรู ้วา่ นี่คือกาลังคนทั้งหมด
หรื อไม่
ฝั่งเสิ่ นเวยหลบอยูห่ ลังรถคอยตีโต้ตอบ กลับไม่ได้รับบาดเจ็บล้มตาย
มากนัก ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ใครจะรู ้วา่ ฝ่ ายตรงข้ามยังมีกองกาลัง
หนุนอีกหรื อไม่ พวกเขารั้งทัพรอบุกโจมตีเช่นนี้ใช่รอให้ถึงกลางคืน
หรื อไม่ แต่ไม่วา่ จะเป็ นแบบไหนก็ไม่เอื้อผลต่อเสิ่ นเวยทั้งสิ้ น
เดินทางมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้ทุกคนยังไม่ได้กินแม้แต่ขา้ ว คนล้าม้า
เหนื่อย จะสู ้ศตั รู ที่รอซ้ ายามเปลี้ยได้อย่างไร
ไม่ได้ ไม่อาจยืดเยื้อต่อไปได้ ต้องออกโจมตีดว้ ยตัวเองจึงจะถูก ทั้ง
ยังต้องส่ งคนไปขอความช่วยเหลือ
“คุณชาย หากพวกเรายังมีระเบิดมืออยูก่ ค็ งดี” เถาฮวาพึมพาเสี ยงเบา
เสิ่ นเวยตาลุกวาวในชัว่ ขณะ ระเบิดมือยังเหลืออยูอ่ ีกหนึ่งลูก อย่างไร
เสี ยนางก็ทาของชิ้นนี้เป็ นครั้งแรก เก็บหนึ่งลูกไว้เป็ นที่ระลึก แต่วา่
ลูกนี้นางก็ยงั ตัดใจใช้ไม่ลง ใช้ธนูไฟก่อนแล้วกัน หากหลบอยูใ่ นพง
หญ้าไม่ยอมออกมา เช่นนั้นข้าก็จะบังคับให้พวกเจ้าออกมาเอง ข้าไม่
เชื่อว่าพงหญ้าไหม้หมดแล้วพวกเจ้าจะยังหมอบซุ่มได้อีก หากยัง
เป็ นเต่านินจาได้อยูข่ า้ ก็นบั ถืออย่างยิง่
“ทั้งหมดฟังคาสัง่ ใช้ธนูไฟ” เสิ่ นเวยออกคาสัง่ หนึ่งครา นาคนเผา
ธนูไฟลุกโชนยิงออกไป
ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘ตูม้ ’ คราหนึ่ง พุม่ หญ้าแห้งก็มอดไหม้ ชัว่ พริ บตา
ลุกลามเป็ นผืนใหญ่ บนร่ างคนในพุม่ หญ้าติดไฟ พากันปรากฎ
ออกมา
โอ้โห ดีจริ งๆ “เร็ ว ยิงพวกเขา” ฉวยโอกาสตอนที่เขาหนีเอาชีวิต
รอด ฉวยโอกาสตอนที่ศตั รู ลุกลนดับไฟบนร่ าง ทุกคนก็พากัน
เพ่งเล็งเป้าหมาย แต่ละคนยิงธนูสามดอกแล้วจึงคว้าอาวุธวิ่งพุง่ เข้า
ไป เปิ ดฉากการสู ้รบทันที
คนที่หมอบซุ่มอยูใ่ นพุม่ หญ้าไม่ได้มีเพียงสามร้อยคนดัง่ คาด คนข้าง
หลังเห็นข้างหน้าไฟไหม้ ไม่รอให้ธนูไฟยิงเข้ามาตนก็กระโดดออก
มาแล้ว พลางช่วยเพื่อนทหารดับไฟ พลางยิงโต้ตอบฝั่งเสิ่ นเวย
หญ้ารกร้างถูกเผาหมดแล้ว ลุกลามออกไปกว่าสิ บจั้ง ไฟไหม้เยอะ
อย่างอย่างยิง่ แต่เสิ่ นเวยกลับยังไม่วางใจ
ดีแล้ว ฝ่ ายตรงข้ามไม่ได้เปรี ยบแล้ว ประจัญบานระยะใกล้ พวกเรา
มาสู ้รบกับอย่างยุติธรรมสักครั้งเถอะ เสิ่ นเวยไม่เคยคิดว่าฝ่ ายตนที่
ผ่านการฝึ กฝนมาในสนามรบจะเป็ นคู่ต่อสู ้ของฝ่ ายตรงข้ามไม่ได้
“ท่านปู่ ท่านคุมกองกาลัง ข้าจะไปสร้างคุณงามความดีให้ท่านเอง”
เสิ่ นเวยตะโกนดังหนึ่งคราจากนั้นก็ยกดาบหมื่นโลหิ ตวิ่งออกไปฆ่า
แล้ว ยังไม่ลืมสัง่ สอนเถาฮวาเทพสังหารตัวน้อยของนาง “เถาฮวา อีก
ประเดี๋ยวคอยหาโอกาสฆ่าคนให้ได้เยอะๆ คนเหล่านี้น่าราคาญ
เกินไปแล้ว”
เถาฮวาแสยะปากถือเป็ นการตอบรับคุณหนูของนางแล้ว ก็น่าราคาญ
น่ะสิ แม้แต่ขา้ วยังไม่ให้ขา้ กินดีๆ เถาฮวาลูบท้องน้อยๆ ที่แบนเรี ยบ
ตัดสิ นใจฆ่าพวกเขาให้หมด
คนชุดดาที่เพิ่งจะลนลานดับไฟบนร่ างเห็นฝ่ ายตรงข้ามมีเด็กน้อย
บอบบางและเด็กที่ยงั ไม่โตวิง่ ออกมา คนหนึ่งชูดาบใหญ่ คนหนึ่งกา
กระบองเหล็กยาว มุมปากกระตุกไม่หยุด ฝ่ ายตรงข้ามไม่มีคนแล้ว
แม้แต่เด็กอ่อนแอยังส่ งออกมาตายงั้นหรื อ แม้วา่ ก่อนหน้านี้จะ
เสี ยเปรี ยบ แต่เมื่อเห็นสองคนนี้ ท่าทีของชายชุดดาก็เหยียดหยาม
ขึ้นมาทันที
ไม่แปลกที่พวกเขาจะทะนงตน พวกเขาเป็ นคนชั้นยอดที่มาจาก
กองทัพ ตั้งแต่เข้าร่ วมสงครามมาก็ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน แม้วา่ ฝ่ าย
ตรงข้ามจะมาจากกองทัพเหมือนกัน แต่ฝ่ายตนหมอบซุ่มล่วงหน้า
ทั้งยังรอซ้ ายามเปลี้ย จานวนคนก็พอๆ กัน จะยังแพ้ได้อย่างไร
แต่วินาทีถดั มาพวกเขาก็ไม่ทะนงตนอีกแล้ว เด็กอ่อนแอสองคนที่
พวกเขาไม่เห็นอยูใ่ นสายตาเลยนั้น ชัว่ พริ บตาเดียวก็ทาคนบาดเจ็บ
ไปเจ็ดแปดคน ทั้งสองร่ วมมือกันอย่างรู ้ใจ คนหนึ่งทุบ คนหนึ่งฟัน
โจมตีจุดสาคัญทั้งหมด กระบวนท่าแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ผูท้ ี่ถูกเลือก
ก็ร้องโอดครวญ ไม่ถูกทุบกระเด็นก็ถูกฟันเป็ นสองซีก นี่ไหนเลยจะ
เป็ นเด็กอ่อนแอ เห็นชัดๆ ว่าเป็ นเทพสังหารที่ไอสังหารพุง่ ขึ้นฟ้า
สององค์ต่างหาก
“คุณชาย คุณชาย คนเหล่านี้ฆ่าง่ายจริ งๆ” เถาฮวาตะโกนอย่างมี
ความสุ ข ฆ่าง่ายจริ งๆ กระบองของนางยังไม่ทนั จะกวาดออกไป คน
ตรงหน้าก็ลม้ ลงแล้ว รับมือง่ายกว่าทหารซีเหลียงยิง่ นัก
ศึกใหญ่ครั้งสุ ดท้ายเถาฮวาตามคุณหนูของนางไปจับประมุขซีเหลียง
ด้วย นางติดตามอยูข่ า้ งกายคุณหนู แม้แต่โอกาสลงมือยังชิงมาไม่ได้
หลังกลับมาก็ได้ยนิ ทุกคนพูดคุยกันว่าในสนามรบฆ่าสนุกเพียงใด
นางก็ไม่มีความสุ ขแล้ว ทั้งวันเอาแต่ดึงเสื้ อเสิ่ นเวยถามว่าเมื่อไรจะ
พานางไปฆ่าคนอีก เสิ่ นเวยลาบากใจจะแย่อยูแ่ ล้ว สงครามจบสิ้ นลง
แล้ว นางจะไปหาคนที่ไหนมาให้นางฆ่าเล่น เลี้ยงเด็กน้อยที่ชอบฆ่า
คนเล่นน่าปวดหัวจริ งๆ เลย
ตอนนี้ดีแล้ว คนชุดดาเยอะเพียงนี้มาหาถึงหน้าประตู เถาฮวาก็
เหมือนปลาที่กระโจนลงมหาสมุทรไม่ใช่หรื อ ดีใจสุ ดขีด
เสิ่ นเวยได้ยนิ คาพูดของเถาฮวา ก็อยากจะคุกเข่าให้นางจริ งๆ กาลัง
ของคนชุดดาเหล่านี้สูงกว่าทหารซีเหลียงไม่เพียงแค่หนึ่งขั้น เหตุผล
ที่เถาฮวารู ้สึกรับมือง่าย ไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือจากนางหรอกหรื อ
มีทหารรับจ้างเช่นนางคอยปกป้องคุม้ กัน เถาฮวาจะไม่รู้สึกสบาย
ราวกับตีตุ่นได้อย่างไร
คนที่อยากคุกเข่าเช่นเดียวกันยังมีคนชุดดาเหล่านี้ พวกเขาเป็ นคนชั้น
ยอดในกลุ่มคนชั้นยอดรู ้หรื อไม่ เหตุใดพอมาถึงปากเทพสังหารน้อย
ผูน้ ้ ีถึงได้กลายเป็ นคนไร้ประโยชน์เสี ยแล้วเล่า
ฟ้ามืดสนิทแล้ว แต่ใต้แสงสะท้อนของเปลวไฟกลับมองเห็นชัดเจน
มากเป็ นพิเศษ จู่ๆ เสิ่ นเวยก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี การสังหารเป็ นไปได้
ด้วยดี แต่เหตุใดนางถึงรู ้สึกว่าคนชุดดาเหล่านี้คล้ายกาลังถ่วงเวลาไม่
ออกแรงเต็มแรงอยูเ่ ล่า สองฝ่ ายมาจากกองทัพทั้งคู่ กาลังไม่ควร
ต่างกันมากเพียงนี้ เช่นนั้นก็มีเพียงคาอธิบายเดียว พวกเขาไม่ได้ออก
เต็มกาลัง เช่นนั้นพวกเขามีเจตนาอะไรอยู่
“เถาฮวา ถอย” เสิ่ นเวยตัดสิ นใจถอยกลับมาทันที มือยังดึงเถาฮวาที่
ดื้อดึงไม่ยอมไป ไม่มีตนอยูข่ า้ งกายนางไม่วางใจเถาฮวาอย่างยิง่
สาหรับนางแล้วเถาฮวาเป็ นเหมือนญาติ ไม่ยอมให้เกิดความสู ญเสี ย
ใดๆ ได้
“ท่านปู่ ข้าคิดว่าผิดปกติมาก คนชุดดาเหล่านี้คล้ายกาลังรออะไรอยู”่
เสิ่ นเวยเอ่ยความสงสัยในใจตนออกมากับปู่ นาง
“มีอะไรหรื อเจ้าสี่ ” ท่านเสิ่ นโหวรี บถาม แม้แต่หย่งติ้งโหวที่อยูข่ า้ งๆ
ยังมองเข้ามาอย่างตื่นตระหนก
เสิ่ นเวยขมวดคิว้ ชี้สนามรบเล็กๆ ที่กาลังฆ่าฟันกันแล้วกล่าว “ท่าน
ปู่ ท่านไม่คิดว่ากาลังสองฝ่ ายแตกต่างกันมากเกินไปหรื อ ท่านดูสิวา่
พวกเขาป้องกันเป็ นส่ วนใหญ่ คนที่โจมตีเองกลับมีไม่เยอะ” หมอบ
ซุ่ม แต่กลับไม่ออกแรงเต็มกาลัง นี่หมายความว่าอย่างไร
“เจ้าสงสัยว่าพวกเขาตั้งใจถ่วงเวลาหรื อ คิดจะรอให้พวกเราหมด
กาลังหรื อ” หย่งติ้งโหวแย่งกล่าว
เสิ่ นเวยหยักหน้า กล่าว “ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะมีกองกาลังหนุน คน
เหล่านี้เป็ นเพียงกลุ่มสารวจเส้นทาง”
เสิ่ นเวยพูดยังไม่ทนั ขาดคา ท่านเสิ่ นโหวและหย่งติ้งโหวก็หน้า
เปลี่ยนสี พร้อมกัน “แย่แล้ว พวกเขามีกองกาลังหนุนจริ งๆ” ทั้งหมด
ได้ยนิ เสี ยงกีบเท้าม้ารางๆ แล้ว
ม่านตาเสิ่ นเวยหดลงอย่างรวดเร็ ว หัวใจจมดิ่งลงอย่างไม่รู้ตวั หาก
คนที่มาคือกลุ่มของคนชุดดาจริ งๆ เช่นนั้นก่อนหน้านี้คนที่ออกไป
ขอความช่วยเหลือจะออกไปได้หรื อ
“เจ้าสี่ ต้อนคนเข้าไปให้หมด จะต้องฆ่าคนพวกนี้ให้หมดก่อนที่กอง
กาลังหนุนจะมา” ท่านเสิ่ นโหวพลางสัง่ พลางคว้าอาวุธของตัวเอง
ออกมา นัน่ คือดาบหนึ่งเล่ม ดาบที่ตวั ดาบยาวและกว้างหนึ่งเล่ม หย่ง
ติ้งโหวเองก็ชกั กระบี่ล้ าค่าติดตัวออกมา
ก่อนหน้านี้กลัวว่าจะหลงอุบายของฝ่ ายตรงข้าม จึงเหลือกาลังคน
ส่ วนหนึ่งคุม้ กันข้างรถ ตอนนี้มาถึงจุดชี้เป็ นชี้ตาย ใครจะยังสนใจ
ของตายเหล่านั้นอยูอ่ ีก หากพวกเขาคว้าชัยชนะได้ ของย่อมต้อง
ปกป้องไว้ได้ หากสู ้ไม่ได้ ฮ่าๆ คนก็ตายหมดแล้ว ใครจะยังสนใจอีก
ว่าของจะตกอยูใ่ นมือใคร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 178-2 ระหว่ างทาง
กองกำลังทหำรห้ำร้อยนำยบวกกับผูม้ ีฝีมือดีอีกห้ำร้อยคนใต้บงั คับ
บัญชำเสิ่ นเวย บวกกับยอดฝี มือที่หำญกล้ำเหล่ำนั้นของเสิ่ นเวย
ทั้งหมดประชิดเข้ำไป ทุกๆ คนล้วนตำแดงก่ำ ใช้กระบวนท่ำเดียวก็
ฆ่ำศัตรู ได้ไม่ตอ้ งใช้สองกระบวนท่ำอย่ำงสิ้ นเชิง ในใจทุกคนต่ำงก็รู้
ดี ตอนนี้ฆ่ำฝ่ ำยตรงข้ำมให้มำกขึ้นหนึ่งคน โอกำสรอดชีวิตของพวก
เขำก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งส่ วน
เสี ยงกีบเท้ำม้ำค่อยๆ ใกล้เข้ำมำแล้ว รำวกับเหยียบยำ่ หัวใจคนทุกคน
ได้ยนิ เพียงเสี ยงก็รู้แล้วว่ำมีจำนวนไม่นอ้ ย
เสิ่ นเวยไม่ได้ร่วมมือกับเถำฮวำแล้ว แต่แยกสู ้ลำพัง นำงวิ่งไปซ้ำย
แทงไปขวำแปลกประหลำดเสมือนเงำหนึ่งสำย ฟันหนึ่งครั้ง ฟัน
เพียงครั้งเดียว เสิ่ นเวยฆ่ำศัตรู ดว้ ยกำรฟันเพียงครั้งเดียว บนพื้น
โลหิตไหลเป็ นสำยน้ ำ ทว่ำดำบหมื่นโลหิตกลับยิง่ ส่ องแสงเย็นเยียบ
เป็ นประกำย ภำยใต้แสงสะท้อนของเปลวไฟลึกลับไม่อำจคำดเดำ
เหมือนกับเจ้ำนำยของมัน ส่ งกลิ่นอำยแห่งควำมตำยที่ทำให้คน
หำยใจไม่ออก
เสิ่ นเวยก็คือยมทูตที่มำจำกนรกตนนั้น มุมปำกอมยิม้ เย็นยะเยือก
ดวงตำไม่มีควำมอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว นำงคือดำบหนึ่งเล่ม ดำบหนึ่ง
เล่มที่แหลมคมเหนือสิ่ งอื่นใด เก็บเกี่ยวชีวิตคนนับหมื่น
“ระวัง หน้ำไม้” สวีโย่วที่ถูกสองพี่นอ้ งเจียงเฮยเจียงไป๋ คุม้ กันอยู่
ด้ำนหลังพลันตะคอกหนึ่งครำ ตำมมำพร้อมเสี ยงพูดก็คือเสี ยงหน้ำ
ไม้ฝ่ำอำกำศ
“เร็ ว หมอบลง” เสิ่ นเวยตะโกนเสี ยงเฉียบขำด
หน้ำไม้ คืออำวุธฉบับปรับปรุ งของธนู รัศมีกำรยิงไกลขึ้น พลัง
ทำลำยล้ำงแข็งแกรงขึ้น ยุคนี้ อำวุธเช่นหน้ำไม้ไม่แพร่ หลำย มีเพียง
กองทัพเท่ำนั้นจึงจะมีหน้ำไม้ อีกทั้งไม่ใช่ทหำรทั้งหมดที่จะมี
โอกำสสัมผัสหน้ำไม้ คนที่สำมำรถสัมผัสหน้ำไม้ได้ต่ำงก็เป็ นทหำร
หำญของกองกำลังที่เลือกมำฝึ กฝนเป็ นพิเศษ
คนที่เสิ่ นเวยพำมำแต่ไหนแต่ไรล้วนฝึ กฝนมำเป็ นอย่ำงดี ภำยใต้
คำสัง่ ก็หมอบลงพร้อมกัน แม้กองกำลังทหำรห้ำร้อนนำยจะช้ำ
เล็กน้อย แต่กลับนับได้วำ่ รวดเร็ ว มีเพียงชำยชุดดำนั้น รู ้วำ่ เป็ นกอง
กำลังหนุนของตน ก็ดีใจอย่ำงถึงที่สุด กระทัง่ มีคนมองไปยังทิศทำง
ที่หน้ำไม้ยงิ มำ
น่ำเสี ยดำย ลูกธนูไม่แบ่งฝักฝ่ ำย ลูกธนูปักเข้ำไปในเนื้อ ตอนที่เสี ยง
ร้องลัน่ ดังขึ้นสี หน้ำพวกเขำก็มีควำมตกใจที่เหลือเชื่อ
เสิ่ นเวยเองก็ยนื ยันควำมคิดในใจได้แล้ว คนชุดดำเหล่ำนี้เป็ นกลุ่ม
สำรวจเส้นทำงดัง่ คำด ตำยก็ตำย พวกเขำไม่รู้สึกเสี ยดำยอย่ำงสิ้ นเชิง
ใครกัน ใครที่มีเงินมำกถึงเพียงนี้
“ท่ำนปู่ จะทำอย่ำงไร” เสิ่ นเวยถำมท่ำนปู่ ที่หมอบอยูข่ ำ้ งๆ นำงด้วย
เสี ยงเบำ ผูม้ ำเยือนที่ควบคุมหน้ำไม้ลว้ นสวมชุดสี เทำทั้งหมด ใน
แสงไฟเรื อนร่ ำงกำลังกระโดดอยู่ รำวกับนกพิรำบแต่ละตัวๆ เพียง
แค่เห็นท่ำทำงกำรเดินก็รู้แล้วว่ำคนเหล่ำนี้เก่งกว่ำคนชุดดำมำก
ชัว่ แวบเดียวคนชุดเทำก็อยูต่ รงหน้ำแล้ว คงไม่อำจหมอบอยูบ่ นพื้น
ปล่อยให้คนมำทำร้ำยตลอดไปได้กระมัง แต่หน้ำไม้ในมือพวกเขำก็
กดดันจนเสิ่ นเวยไม่มีทำงลุกขึ้นได้ มีแสงไฟส่ อง จะต้องยิงโดน
แน่นอน
เสิ่ นเวยเสี ยดำยอย่ำงอดไม่ได้ เหตุใดถึงไม่ดบั ไฟก่อน นี่เท่ำกับว่ำ
เป็ นกำรเปิ ดเผยตัวอยูใ่ ต้สำยตำของฝ่ ำยตรงข้ำมไม่ใช่หรื อ ทำ
อย่ำงไรจึงจะล่อคนชุดเทำเหล่ำนี้มำสู ้รบระยะประชิดได้ ควำม
เป็ นไปได้ที่ตนจะพำคนคลำนเข้ำไปมีมำกเท่ำไร เสิ่ นเวยกำลังคิด
คำนวณในใจอย่ำงรวดเร็ ว
ท่ำนเสิ่ นโหวจ้องมองข้ำงหน้ำ ในใจคลื่นซัดถำโถม นัน่ คือหน้ำไม้
นัน่ คืออำวุธที่ร้ำยแรงที่สุดในกองทัพ แววตำเขำเจ็บใจอย่ำงถึงที่สุด
เสิ่ นผิงยวนทำสงครำมมำทั้งชีวิต ไม่ตำยในน้ ำมือชำวซีเหลียง หรื อ
ว่ำจะต้องมำตำยในน้ ำมือคนของตัวเอง
ไม่ ไม่มีทำง
ท่ำนเสิ่ นโหวลูบแขนซ้ำย มือทั้งมือเปื้ อนเลือด แขนซ้ำยเขำถูกคนชุด
ดำแทงหนึ่งครำ เขำเม้มปำก แววตำมีควำมเย็นยะเยือกที่ลุ่มลึกสู ง
ตระหง่ำน
ได้ยนิ เพียงสั้นยำวไม่เท่ำกันดังออกมำจำกปำกเขำอย่ำงรวดเร็ ว เสิ่ น
เวยก็เห็นคนหนึ่งกลุ่มหลังรถที่ไม่รู้โผล่ออกมำจำกไหน มือถือคัน
ธนูยงิ ไปยังคนชุดเทำ
หึๆ นำงบอกแล้ว ปู่ นำงเป็ นสุ นขั จิ้งจอกเฒ่ำ จะไม่มีทำงหนีทีไล่ได้
อย่ำงไร
เสิ่ นเวยฉวยโอกำสทำสัญลักษณ์มือกับข้ำงหลัง นำคนคลำนไป
ข้ำงหน้ำอย่ำงรวดเร็ ว ขอเพียงแค่วิ่งไปตรงหน้ำชำยชุดเทำได้ หน้ำ
ไม้ของพวกเขำก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
เมื่อประมือกันฝั่งเสิ่ นเวยก็รู้แล้วว่ำ เมื่อครู่ น้ นั เป็ นเพียงอำหำรเรี ยก
น้ ำย่อย กำรต่อสู ้ที่แท้จริ งเพิง่ จะเริ่ มขึ้น ณ บัดนี้ ตอนนี้ชำยชุดเทำ
คล้ำยผ่ำนกำรฝึ กฝนพิเศษมำ แต่ละคนไม่เพียงแต่มีกำลังหำญกล้ำ
กำรร่ วมมือระหว่ำงกันยังรู ้ใจอย่ำงถึงที่สุด เป็ นครั้งแรกที่เสิ่ นเวยเจอ
ศัตรู ที่ยำกจะรับมือเพียงนี้ สู ้รบด้วยควำมลำบำกยำกเย็น มีคนล้มลง
ไม่ขำดสำย
“หู่โถว!” จู่ๆ ก็มีเสี ยงร้องตะโกนที่เศร้ำโศกดังขึ้น
เสิ่ นเวยหันหน้ำขวับ เห็นเพียงร่ ำงของเสิ่ นหู่โถวกำลังถูกกระบี่ยำว
หนึ่งเล่มแทงทะลุ “หู่โถว!”
เสิ่ นเวยเองก็ร้องตะโกนด้วยควำมเศร้ำโศก ร่ ำงประหนึ่งพำยุหมุน
ดำบหนึ่งเล่มฟันออกไป
คนผูน้ ้ นั ไม่คิดว่ำเสิ่ นเวยจะมำเร็ วเช่นนี้ รู ้สึกเพียงหน้ำอกเจ็บปวด
ควำมพอใจบนใบหน้ำหยุดชะงักไปชัว่ นิรันดร์ เสิ่ นเวยถีบเขำ
ออกไป รับร่ ำงที่ลม้ ลงของเสิ่ นหู่โถว “หู่โถว! หู่โถว!” นำงตะโกน
เสี ยงสะอื้น
เสิ่ นหู่โถวอยำกยิม้ เล็กๆ แต่กลับรู ้สึกลำบำกอย่ำงยิง่ เขำอ้ำปำก แต่
กลับไม่สำมำรถส่ งเสี ยงใดๆ ออกมำได้ มือก็ตกลง ทว่ำเสิ่ นเวยกลับ
เห็นชัดเจนว่ำคำที่เขำต้องกำรพูดคือ ‘ท่ำนป้ำ’
ใช่แล้ว ว่ำกันตำมลำดับรุ่ น เสิ่ นหู่โถวต้องเรี ยกเสิ่ นเวยว่ำป้ำ เด็ก
หนุ่มที่เห็นนำงก็เขินอำยผูน้ ้ ีนอนอยูบ่ นพื้นที่หนำวเย็นเช่นนี้
เสิ่ นเวยรู ้สึกเพียงมีมือข้ำงหนึ่งกำลังบีบหัวใจนำงอย่ำงแรง เจ็บปวด
ยิง่ นัก
พวกเขำไม่ตำยในสนำมรบซีเจียง แต่กลับตำยระหว่ำงทำงกลับเมือง
หลวง อีกแค่ครึ่ งทำงก็ถึงเมืองหลวงแล้ว พวกเขำกลับมำตำยในต่ำง
แดน นำงพำพวกเขำออกมำ แต่กลับไม่สำมำรถพำเขำกลับไปได้
อย่ำงปลอดภัย
เสิ่ นเวยแหงนหน้ำหัวเรำะร่ ำ เสี ยงหัวเรำะโศกเศร้ำและเยือกเย็น
กระทัง่ หัวเรำะจนน้ ำตำนองหน้ำ
“คุณชำย!” มีคนชุดเทำคิดฉวยโอกำสจะจบชีวิตเสิ่ นเวย ถูกพลลับ
หนึ่งของนำงที่คุม้ กันอยูใ่ นควำมมืดมำโดยตลอดสกัดลง
เสิ่ นเวยมองข้ำมแววตำที่เป็ นกังวลของพลลับหนึ่ง จ้องมองคนชุด
เทำที่ลอบโจมตีนำงอย่ำงเย็นยะเยือก กล่ำวคำเว้นคำ “เจ้ำสมควร
ตำย! พวกเจ้ำสมควรตำย!”
ไม่ทนั ได้เห็นว่ำนำงลงมือเช่นไร คนชุดเทำผูน้ ้ นั ก็ลม้ ลงกับพื้นแล้ว
กระทัง่ ปำกที่อำ้ อยูย่ งั ไม่ทนั ได้ปิดลง
เสิ่ นเวยถูกยัว่ โมโหแล้ว นำงใช้กระบวนท่ำทั้งหมดที่มี ขอเพียงแค่
ฆ่ำฝ่ ำยตรงข้ำมให้ตำยได้ นำงก็ไม่สนว่ำตนจะบำดเจ็บหรื อไม่ เอำ
แต่ต่อสู ้ไม่ป้องกัน ในใจมีเพียงควำมคิดเดียว นำงจะฆ่ำคนที่
ขวำงทำงอยูห่ น้ำนำง นำงจะฆ่ำคนที่ทำร้ำยเพื่อนนำงให้ตำย มีเพียง
โลหิตสดที่จะสำมำรถดับควำมเศร้ำโศกในหัวใจนำงได้
เช่นนั้น เข้ำมำสิ หนี้เลือดพวกเรำก็ตอ้ งใช้เลือดมำชดใช้
วิธีกำรต่อสู ้ที่ไม่คิดชีวิตเช่นนี้ของเสิ่ นเวย ต่อให้จะเป็ นคนชุดเทำที่
เห็นควำมเป็ นควำมตำยมำนับไม่ถว้ นก็ยงั อกสัน่ ขวัญหำย
สวีโย่วที่สงั เกตเสิ่ นเวยมำโดยตลอดก็กงั วลอย่ำงถึงที่สุด เด็กโง่คน
นั้น เหตุใดถึงไม่เห็นควำมสำคัญของชีวิตตัวเองเลยเล่ำ เขำสัง่ เจียง
เฮยและคนอื่นๆ สองสำมประโยค เจียงเฮยก็มองน้องชำยเขำปรำด
หนึ่ง วิ่งฆ่ำออกไปคุม้ กันขนำบข้ำงเสิ่ นเวยกับพลลับหนึ่งอย่ำงไม่
ยอมล่ำช้ำ เขำเข้ำใจเป็ นอย่ำงดี เพียงแค่คุณหนูสี่ปลอดภัย คุณชำยก็
ไร้กงั วล
ทหำรคนสนิทที่เหลือก็ปรำกฏตัวอยูข่ ำ้ งกำยท่ำนเสิ่ นโหว เถำฮวำ
และคนอื่นๆ เสิ่ นหู่โถวเพียงคนเดียวก็ทำให้เด็กน้อยเจ็บปวดใจจน
เป็ นเช่นนี้ สวีโย่วไม่กล้ำจินตนำกำรว่ำหำกท่ำนเสิ่ นโหวกับเถำฮวำ
เป็ นอะไรไป เด็กน้อยจะบ้ำคลัง่ ขนำดไหน เด็กน้อยที่ในกระดูกดำดู
เหมือนเย็นชำผูน้ ้ ี อันที่จริ งกลับรักเพื่อนพ้องและอ่อนไหวที่สุด
หัวใจของสวีโย่วเจ็บแปลบ หำกตอนนี้ไม่ได้อยูใ่ นสนำมรบ เขำ
จะต้องกอดนำงเข้ำมำในอ้อมอก เยียวยำบำดแผลทัว่ ทั้งร่ ำงนำงแล้ว
แน่นอน
ตอนที่เยีย่ จ้งหมิ่นนำยอำเภอเมืองหย่งเหอเห็นป้ำยคำสัง่ ในมือคน
โชกเลือดที่กลิ้งตกลงมำจำกม้ำซึ่งวิ่งเข้ำมำในที่วำ่ กำรอำเภอ ก็ตกใจ
จนอกสัน่ ขวัญแขวน สวรรค์ ป้ำยคำสัง่ ที่ประหนึ่งฮ่องเต้
พระรำชทำนด้วยตัวพระองค์เองอันนี้ไหนเลยจะเป็ นป้ำยที่อำเภอ
เล็กๆ ของเขำจะเห็นได้ วันนี้ได้เปิ ดหูเปิ ดตำจริ งๆ
เมื่อได้ยนิ ต่อว่ำจงอู่โหวกับหย่งติ้งโหวที่กำลังกลับเมืองหลวงถูก
โจมตีระหว่ำงทำง ที่เดินทำงมำพร้อมกันยังมีหลำยชำยแท้ๆ ของ
จักรพรรดิ องค์ชำยใหญ่ที่ถูกต้องตำมกฎหมำยผูน้ ้ นั ของจวนจิ้นอ๋ อง
ร่ ำงทั้งร่ ำงก็ไม่รู้จะทำอย่ำงไรดี
ซีเจียงคว้ำชัยชนะยิง่ ใหญ่ จงอู่โหวเข้ำเมืองหลวงรับบำเหน็จ เรื่ องนี้
ใครบ้ำงไม่รู้ เหตุใดถึงมีคนกล้ำคิดจะหำเรื่ องจงอู่โหวเล่ำ นี่ไม่ใช่
เป็ นกำรตบหน้ำจักรพรรดิหรอกหรื อ
แย่แล้ว แย่แล้ว เหตุใดเขำถึงซวยเช่นนี้ เหตุใดถึงมำโจมตีในเขตของ
เขำเล่ำ คนอื่นไม่เท่ำไร แต่หำกคุณชำยใหญ่ผนู ้ ้ นั เป็ นอะไรไป
จักรพรรดิจะยังเก็บเขำไว้อยูห่ รื อ นี่มนั คนโง่ที่ไหนกัน เหตุใดถึง
ได้มำหำเรื่ องเขำเสี ยเล่ำ
ยังคงเป็ นผูใ้ ต้บงั คับบัญชำที่ดึงแขนเขำ เขำจึงตื่นจำกควำมฝัน
“ระดมพล รี บระดมพลไปช่วยเหลือ” เขำกระโดดขึ้นมำทันที
เยีย่ จ้งหมิ่นเป็ นขุนำงฝ่ ำยบุ๋นที่อ่อนแอบอบบำง แต่แม้จะเป็ นเช่นนี้
เขำก็ยงั ขึ้นหลังม้ำอย่ำงสัน่ กลัวตำมคนที่มำขอควำมช่วยเหลือไปยัง
ที่เกิดเหตุอย่ำงรวดเร็ ว ในใจก็ภำวนำ คุณชำยใหญ่อย่ำได้เป็ นอะไร
เลย แม้วำ่ จะเกิดเรื่ อง ก็หวังว่ำจักรพรรดิจะเห็นแก่เขำที่ออกทัพอย่ำง
ไม่ล่ำช้ำแม้แต่วินำทีเดียว ไว้ชีวิตเขำ
ระหว่ำงทำง เยีย่ จ้งหมิ่นฟังว่ำคนที่ถูกส่ งออกมำขอควำมช่วยเหลือมี
สิ บกว่ำคน แต่มีชีวิตรอดเพียงคนนี้คนเดียว หัวใจของเยีย่ จิ้งหมิ่นก็
หวำดกลัว แม่จ๋ำ ไม่ใช่วำ่ เขำไปถึงแล้วคนจะตำยกันหมดแล้วหรอก
นะ มือของเขำสัน่ ระริ ก ไม่กล้ำคิดต่อ
เห็นเงำคนที่ฆ่ำฟันกันท่ำมกลำงแสงไฟมำแต่ไกลๆ เยีย่ จ้งหมิ่นก็มี
จิตใจฮึกเหิมขึ้นมำในชัว่ ขณะ ดี ดีจริ งๆ คุณชำยใหญ่ไม่เป็ นอะไร
รอดแล้ว
“จงอู่โหว คุณชำยใหญ่อดทนไว้ก่อน ข้ำน้อยนำคนมำช่วยแล้ว”
เยีย่ จ้งหมิ่นตะโกนเสี ยงสู ง จู่ๆ ในใจก็ฮึกเหิ มอย่ำงไม่มีตน้ สำยปลำย
เหตุ เขำสะบัดเชือกบังเ**ยนกำลังจะเฆี่ยนม้ำวิ่งเข้ำมำ แต่กลับลืมว่ำ
ตนไม่ชำนำญกำรขี่มำ้ อย่ำงสิ้ นเชิง อีกทั้งยังเผชิญหน้ำกับธนูหน้ำไม้
หนึ่งดอกที่ลอยเข้ำมำ เป้ำอยูท่ ี่ศีรษะของเขำพอดี ผูใ้ ต้บงั คับบัญชำ
ข้ำงกำยดึงเขำหนึ่งครำ ธนูน้ นั ก็เฉียดศีรษะของเขำลอยออกไป
เยีย่ จ้งหมิ่นตกใจจนอกสัน่ ขวัญแขวน เกือบจะตกลงจำกม้ำ
สวีโย่วเห็นเหตุกำรณ์น้ ี มุมปำกกระตุก ใครบอกเขำได้บำ้ งว่ำคนผูน้ ้ ี
วิ่งออกมำจำกไหน มีขนุ นำงชั้นผูใ้ หญ่เช่นนี้ แล้วกองกำลังหนุนที่
เขำพำมำจะเชื่อถือได้หรื อ
ควำมจริ งถูกพิสูจน์ เยีย่ จ้งหมิ่นอ่อนแอก็จริ ง แต่กำลังสู ้รบของ
กองทัพอำเภอหย่งเหอยังแข็งแกร่ งพอใช้ได้ แม้วำ่ จะเทียบคนชุดเทำ
ไม่ได้ แต่กย็ งั มีจำนวนคนเยอะ
คนชุดเทำถูกทหำรที่โกรธแค้นไม่สนชีวิตกลุ่มนี้ของเสิ่ นเวยกำจัดทิ้ง
ไปกว่ำครึ่ งแล้ว ตอนนี้มีกลุ่มกำลังมำเพิม่ สำมถึงห้ำคนล้อมคนเดียว
จะไม่ชนะได้อย่ำงไร แม้วำ่ จะไม่ชนะ แต่กย็ งั ถ่วงเวลำได้
ฝั่งเสิ่ นเวยเห็นว่ำกองกำลังหนุนมำแล้ว ชัว่ ขณะขวัญกำลังใจทหำรก็
ฮึกเหิม ด้วยเหตุน้ ีคนชุดเทำที่ลม้ ลงจึงเพิ่มมำกขึ้น
คนชุดเทำที่เหลืออยูม่ องหน้ำกันปรำดหนึ่ง รู ้วำ่ หน้ำที่ครั้งนี้ลม้ เหลว
แล้ว อยูต่ ่อไปก็เสี ยชีวิตเปล่ำๆ จึงหนีไปเสี ย เอำข่ำวกลับไปบอก
เจ้ำนำย
คนชุดเทำพลำงรบพลำงถอย พยำยำมชิงม้ำหนีไป เสิ่ นเวยมองแผน
ของพวกเขำออก ตอนนี้นำงเคียดแค้นจนคันไม้คนั มือ ไหนเลยจะ
ยอมให้พวกเขำหนีไปได้
“ตั้งใจฟัง พวกเขำจะหนี ล้อมไว้ อย่ำปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คน
เดียว” เสิ่ นเวยตะโกนสัง่ ด้วยควำมโกรธ นำคนวิ่งไปฆ่ำ
คนชุดเทำเห็นว่ำวิง่ หนีไม่มีหวังแล้ว ก็ใช้ฝีมือทั้งหมดที่มีสู้สุดชีวติ
ชัว่ ขณะ กลับสู ้กนั อย่ำงสู สี
ฆ่ำฟันต่อไปอีกพักหนึ่ง อย่ำงไรเสี ยฝังเสิ่ นเวยก็ได้เปรี ยบเรื่ อง
จำนวนคน คนชุดเทำล้มตำยติดต่อกัน แต่ทำ้ ยที่สุดก็ยงั ปล่อยพวก
เขำหนีไปได้สองคน เสิ่ นเวยโมโหจนกระทืบเท้ำ ลำกม้ำหนึ่งตัว
กระโดดขึ้นไปกำลังจะไล่ตำม แต่ถูกสวีโย่วดึงเชือกบังเ**ยนไว้
“ช่ำงเถอะ ดูอำกำรบำดเจ็บของพวกเรำก่อนดีกว่ำ”
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยจึงลงจำกม้ำด้วยควำมคับแค้นใจ
เมื่อตรวจดูแล้ว กองกำลังทหำรห้ำร้อยนำยบำดเจ็บล้มตำยไปเกือบ
ครึ่ ง คนของเสิ่ นเวยตำยไปสิ บกว่ำคน บำดเจ็บก็ยงิ่ มำก แต่โชคดีที่
เสิ่ นหู่โถวไม่เป็ นอะไร แม้วำ่ เขำจะถูกกระบี่ยำวแทงจนไม่น่ำรอด
แต่กไ็ ม่ได้บำดเจ็บตรงจุดสำคัญ หมอหลิวบอกว่ำหำกเขยิบเข้ำมำอีก
ครึ่ งฉื่อก็ช่วยไม่ได้แล้ว โชคดีจริ งๆ
เสิ่ นหู่โถวถูกหมอหลิวป้อนยำเม็ดรักษำชีวิต นิ้วมือของเสิ่ นเวยก็
รู ้สึกได้ถึงลมหำยใจที่รวยริ นของเขำ ดีใจจนตำแดง หู่โถวไม่ตำย ดี
จริ งๆ ดีจริ งๆ
ที่นี่ไม่ควรอยูอ่ ีกต่อไปแล้ว เยีย่ จ้งหมิ่นเองก็พยำยำมเชิญทุกคนไป
พักที่ที่วำ่ กำรอำเภอหย่งเหอ ท่ำนเสิ่ นโหวกับหย่งติ้งโหวต่ำงก็เห็น
ด้วย คนของพวกเขำได้รับบำดเจ็บมำกเกินไป ยำที่นำมำด้วยมีจำกัด
อยูก่ ลำงป่ ำเขำชำนเมืองเช่นนี้จะทำอย่ำงไร ย่อมต้องไปพักที่ที่วำ่ กำร
อำเภอก่อน
กองกำลังทหำรที่เสี ยชีวิตถูกทุกคนฝังไว้ในที่ที่เคยสู ้รบแห่งนี้ ฝั่ง
เสิ่ นเวยก็จุดไฟเผำคนที่เสี ยชีวิต แม้วำ่ จะเป็ นเถ้ำกระดูก นำงก็ตอ้ งพำ
พวกเขำกลับบ้ำนเช่นกัน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น - ตอนที่ 179-1 ส่ งสาร
กว่าทุกคนจะกลับไปถึงที่วา่ การอาเภอเมืองหย่งเหอก็ใกล้ฟ้าสาง
แล้ว ทุกคนต่างก็หิวไส้แทบขาด เหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด
เยีย่ จ้งหมิ่นกระตือรื อร้นอย่างยิง่ และจัดการได้ดีอย่างยิง่ เช่นกัน เขา
ให้คนของตนที่อยูใ่ นเรื อนออกไปจัดแจงที่ให้ท่านเสิ่ นโหวและคน
อื่น ๆ หลังจากนั้นก็พาหมอมาพร้อมคนรับใช้เตรี ยมน้ าร้อนและ
อาหาร ทั้งยังส่ งผูใ้ ต้บงั คับบัญชาไปเชิญหมอในอาเภอมาทั้งหมด
การกระทาทั้งหมดทาให้เสิ่ นเวยอดมองเขามากขึ้นไม่ได้
เสิ่ นเวยเหนื่อยแล้วจริ ง ๆ ตอนที่อาบน้ าแทบจะหลับอยูใ่ นอ่าง โชค
ดีที่เสี่ ยวตี๋ตามเข้าไป มิเช่นนั้นนางจะต้องถูกลมหนาวจนไม่สบาย
เป็ นแน่
เพิ่งจะผ่านศึกใหญ่มา เสิ่ นเวยหิวอย่างยิง่ แต่กลับไม่อยากกินอะไร
ทั้งนั้น ท้ายที่สุดห้องครัวก็ทาบะหมี่ผกั ร้อน ๆ หนึ่งชามให้ เสิ่ นเว
ยจึงยอมกิน
กินบะหมี่เสร็ จแล้ว ความเหนื่อยล้าก็จู่โจมหัวใจ อย่างไรเสี ยเรื่ อง
หลังจากนี้กม็ ีท่านปู่ หย่งติ้งโหว แม่ทพั อู่เลี่ยกับคุณชายใหญ่สวี
จัดการแล้ว ย่อมไม่จาเป็ นต้องให้นางร้อนใจอีก นางหลับสักตื่นหนึ่ง
ก่อนดีกว่า
ท่านเสิ่ นโหวและคนอื่น ๆ รวมตัวปรึ กษาหารื อกันอยูใ่ นห้อง
ทั้งหมดเห็นว่าเรื่ องนี้ใหญ่เกินไปแล้ว ต้องกราบทูลจักรพรรดิ แต่จะ
ส่ งใครไปดีเล่า จากการโจมตีเมื่อคืน ที่พกั ระหว่างการเดินทางของ
พวกเขาตกอยูใ่ นสายตาของคนอื่นมานานแล้ว ฝ่ ายตนอยูใ่ นที่แจ้ง
ฝ่ ายศัตรู อยูใ่ นที่ลบั ใครจะรู ้วา่ คนที่ส่งไปจะเข้าเมืองหลวงได้อย่าง
ปลอดภัยหรื อไม่
สิ่ งที่ทาให้พวกเขายิง่ ว้าวุน่ ใจก็คือ พวกเขาไม่รู้เลยว่าศัตรู คือใคร พูด
กันตามตรง นอกจากจักรพรรดิเองแล้ว ยังมีใครที่กมุ อานาจยิง่ ใหญ่
เช่นนั้นได้อีก แต่จกั รพรรดิไม่มีทางปลดตนลงจากตาแหน่งแน่นอน
เช่นนั้นจะเป็ นใครได้อีก คนหลายคนต่างก็รู้สึกว่าลาคอถูกดาบที่
มองไม่เห็นเล่มหนึ่งจี้อยู่ ไม่ปลอดภัยอย่างถึงที่สุด
“หรื อว่า จะรบกวนคุณชายสี่ วิ่งไปเที่ยวหนึ่ง” แม่ทพั อู่เลี่ยเสนอ
ความคิดเห็นของตน ความสามารถของคุณชายสี่ ผนู ้ ้ ีเขาเห็นมาโดย
ตลอด เขาคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่านางอีกแล้ว รู ้อยูแ่ ก่ใจ
ว่านี่คือสตรี แต่แม่ทพั อู่เลี่ยกลับมองข้ามข้อเท็จจริ งนี้อยูเ่ สมอ ก็
เพราะคุณหนูสี่หา้ วหาญจนไม่เหมือนสตรี จริ ง ๆ นี่นา
เมื่อข้อเสนอนี้เอ่ยออกมา หย่งติ้งโหวก็สนใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้
พูดอะไร กลับมองท่านเสิ่ นโหวแทน “ท่านเสิ่ นโหวคิดเห็นว่า
อย่างไร มีคนที่ดีกว่านี้หรื อไม่”
คุณชายสี่ แซ่เสิ่ นเป็ นหลายชายแท้ ๆ ของจงอู่โหว จะส่ งเขาไปส่ ง
สาส์นหรื อไม่กย็ งั ต้องดูเจตนาของท่านเสิ่ นโหวก่อน คุณชายสี่ แซ่
เสิ่ นมีความสามารถยิง่ นัก ไม่เกรงกลัวสิ่ งใดแต่หากเกิดเรื่ องไม่
คาดคิดเล่า หากมีอุบตั ิเหตุใด ๆ ระหว่างทาง ท่านเสิ่ นโหวจะไม่
เกลียดพวกเขาเหล่านี้จนตายเลยหรื อ
อันที่จริ งท่านเสิ่ นโหวก็ไม่อยากให้หลานสาวของเขาไปเสี่ ยง
อันตรายนี้จากใจจริ ง ที่หลานสาวบ้าคลัง่ เมื่อคืนเขาเห็นกับตา เสี่ ยวตี๋
เองก็รายงานเขาแล้ว บอกว่าบนร่ างคุณหนูมีบาดแผลภายนอกไม่
น้อย เขาทั้งรู ้สึกผิดทั้งปวดใจ นี่คือสตรี ไม่ใช่เด็กซนที่ผิวหยาบหนัง
หนาเสี ยหน่อย
ดูจากเจตนาของหย่งติ้งโห่วก็มุ่งไปที่เจ้าสี่ เช่นเดียวกัน ท่านเสิ่ นโหว
ก็ยงิ่ ไม่กล้าพูดว่าไม่เห็นด้วย แต่จะให้เขาพูดว่าเห็นด้วยกับปาก เขาก็
ไม่ยนิ ดี
ระหว่าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยูก่ เ็ ห็นศีรษะชะโงกออกมา
ตรงหน้าประตู “ท่านปู่ พวกท่านปรึ กษาเสร็ จแล้วหรื อยัง ได้ขอ้ สรุ ป
ว่าอย่างไร” เสิ่ นเวยกระโดดเข้ามา
นางหลับไปไม่ถึงสองชัว่ ยามก็ตื่นแล้ว อันที่จริ งนางไม่วางใจจางสง
เฉียนเป้าผูช้ ่วยเหล่านี้ นางเพิ่งจะไปดูพวกเขามา นอกจากคนที่
บาดเจ็บสาหัสหลายคนนอนหลับสนิทอยูบ่ นเตียงแล้ว สถานการณ์
ของคนที่เหลือก็ดีอย่างยิง่ นางจึงวางใจมาหาท่านปู่
แม่ทพั อู่เลี่ยเห็นเสิ่ นเวย ใบหน้าก็แย้มยิม้ ในชัว่ ขณะ “คุณชายสี่ พวก
เรากาลังปรึ กษาว่าจะส่ งสาส์นไปเมืองหลวงอย่างไรดี ผูช้ ราคิดว่ามี
เพียงคุณชายสี่ ที่จะสามารถทาหน้าที่น้ ีได้ ไม่ทราบว่าคุณชายสี่
คิดเห็นอย่างไร” เหอะ คิดว่าเขามองไม่เห็นความสมัครใจของหย่ง
ติ้งโหวสุ นขั จิ้งจอกเฒ่าผูน้ ้ นั กับท่านเสิ่ นโหวหรื อ เป็ นแม่ทพั
เหมือนกันหมด จะหวาดระแวงถึงเพียงนั้นไปทาไม
เสิ่ นเวยมองปู่ นางตามจิตใต้สานึก แววตาของท่านเสิ่ นโหวกะพริ บ
วาบ ยิม้ บาง ๆ พยักหน้ากล่าว “กาลังหารื อกันอยู่ เจ้าสี่ มนั่ ใจหรื อไม่
เส้นทางนี้ไม่ง่าย!” เขาบอกเป็ นนัย ยังคงไม่อยากให้หลานสาวไป
เสี่ ยงอันตราย มีบุตรหลานมากมายเพียงนี้ ไหนเลยจะถึงคราวที่
หลานสาวคนเล็กของเขาต้องไปเสี่ ยงอันตราย
แสงสว่างหนึ่งสายวาบผ่านดวงตาของเสิ่ นเวยไป นางเข้าใจ
ความหมายแฝงของท่านปู่ แต่นางเองก็มีความคิดของตัวเอง
เหมือนกัน ดูจากการต่อสู ้เมื่อคืน คนที่เสี ยเปรี ยบมากมายเพียงนั้น
ล้วนไม่อาจยอมวางมือยุติเรื่ องราว การเดินทางต่อจากนี้จะต้อง
ยากลาบากอย่างยิง่ พวกเขาคนแค่น้ ีกอ็ ย่าได้คิดจะกลับเมืองหลวง
อย่างปลอดภัยเลย
จะทาอย่างไรดี เช่นนั้นก็มีเพียงไปขอกองกาลังหนุนจากจักรพรรดิ
ให้จกั รพรรดิส่งกองทัพมารับ ส่ งข่าวไม่ได้หนึ่งวัน พวกเขาก็เป็ น
อันตรายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน ดูท่าแล้วยังต้องให้นางวิ่งไปหนึ่งเที่ยว
แล้วจริ ง ๆ
“ได้สิ เช่นนั้นข้าจะวิ่งไปให้!” นึกถึงตรงนี้เสิ่ นเวยก็ตอบอย่างสบาย
ๆ เห็นปู่ นางขมวดคิ้ว ก็รีบกล่าวปลอบ “ท่านปู่ วางใจเถอะ ข้าคิด
แผนรับมือไว้แล้ว ไม่อาจมีอนั ตรายได้แม้แต่นิดเดียว” ความเจ้าเล่ห์
แวบผ่านอยูใ่ นแววตานาง
ไม่ใช่วา่ เสิ่ นเวยชอบยุง่ เรื่ องคนอื่น นางจะไม่สนใจท่านปู่ สุ นขั
จิ้งจอกเฒ่าผูน้ ้ นั ของนางก็ได้ แต่คนร้อยคนนั้นที่นางพามาจะทา
อย่างไร ตายไปสิ บกว่าคนแล้ว นางไม่อยากให้มีใครในพวกเขา
เสี ยชีวิตระหว่างทางอีก เฮ้อ นางน่ะ อันที่จริ งแล้วก็เป็ นห่วง
แม้วา่ ในใจสวีโย่วจะไม่ยนิ ดี แต่กไ็ ม่ได้เอ่ยปากค้าน แม้ในใจเขาจะ
อยากไปพร้อมกับนาง แต่กร็ ู ้ดีวา่ เป็ นไปไม่ได้เด็ดขาด เขาเหมือนกับ
ท่านเสิ่ นโหว หย่งติ้งโหวและคนอื่น ๆ ตกอยูใ่ นสายตาคนอื่นนาน
แล้ว หากเขาอยูข่ า้ งกายเด็กน้อย เกรงว่าจะเป็ นการนาอันตรายมาให้
นางมากกว่าเดิม
“น้องสี่ แซ่เสิ่ น เช่นนั้นให้เจียงเฮยตามเจ้าไปด้วย” ในเมื่อเขาไป
ไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้เจียงเฮยไปเป็ นเพื่อนนางแล้วกัน หากพบอันตราย
จริ ง ๆ ก็ยงั มีคนช่วย
เสิ่ นเวยปฏิเสธทันที “ใครบ้างไม่รู้วา่ เจียงเฮยกับเจียงไป๋ เป็ นทหาร
คนสนิทที่สุดข้างกายท่าน หากเขาไม่อยู่ ไม่ใช่จะทาให้คนอื่นสงสัย
หรื อ ไม่ได้ ๆ ข้าจะไม่พาไปแม้แต่โอวหยางไน่”
“เช่นนั้นเจ้า?” เมื่อทุกคนได้ยนิ นางบอกว่าแม้แต่โอวหยางไน่กจ็ ะไม่
พาไป ชัว่ ขณะก็เป็ นกังวลขึ้นมา
เสิ่ นเวยเองก็จนปัญญาอย่างยิง่ รอยแผลเป็ นนั้นบนหน้าโอวหยางไน่
ชัดเจนมาก พาเขาไปด้วยไม่ใช่ทาให้ดึงดูดสายตาหรอกหรื อ “วางใจ
เถอะ เถาฮวากับเสี่ ยวตี๋ตามข้าไปก็พอแล้ว ข้ามีแผน รับรองว่าพวก
ท่านจะต้องตะลึง” ดวงตาของเสิ่ นเวยกลอกไปมา ท่าทางเจ้าเล่ห์
อย่างถึงที่สุด
ตอนที่เสิ่ นเวยและคนทั้งสองปรากฏตัวอยูห่ น้าคนหลายคนอีกครั้ง
พวกเขาก็ตกตะลึงจริ ง ๆ
เสิ่ นเวยเปลี่ยนเป็ นชุดจอมยุทธ์สตรี ที่คล่องตัว เอวเหน็บกระบี่ล้ าค่า
เล่มงาม แต่งตัวเหมือนจอมยุทธ์หญิงในยุทธจักร เถาฮวากับเสี่ ยวตี๋
เองก็สวมชุดสตรี เช่นเดียวกัน แต่วา่ แต่งเป็ นบ่าวรับใช้ ทั้งสามยืนอยู่
ด้วยกันแล้วก็คือฉากคุณหนูนอ้ ยตระกูลยุทธภพตระกูลใดตระกูล
หนึ่งไม่รู้ฟ้าสู งดินต่าพาสาวใช้ออกจากบ้านท่องยุทธจักร
“นาง นาง…” หย่งติ้งโหวชี้เสิ่ นเวย ตกใจจนพูดไม่ออก
แม่ทพั อู่เลี่ยก้าวขึ้นไปจับไหล่ของเขาอย่างภูมิใจ เอ่ยราวกับสนิท
สนม “หย่งติ้งโหวเองก็คิดไม่ถึงใช่หรื อไม่ คุณชายสี่ ของพวกเราเป็ น
โฉมสะคราญ ตอนแรกข้าเองก็ตกใจ ไม่เป็ นไร ๆ เดี๋ยวก็ชิน”
หลังจากนั้นก็กดเสี ยงต่ากล่าว “เรื่ องนี้เจ้ารู ้ในใจก็พอแล้ว อย่าได้พดู
ออกไปเชียว คุณชายสี่ เป็ นภรรยาที่ยงั ไม่ออกเรื อนของคุณชายใหญ่
ผูน้ ้ นั เฮ้อ ท่านเสิ่ นโหวเนี่ยสอนลูกหลานดีจริ ง ๆ !” เขายังแสร้งทา
เป็ นทอดถอนใจ
“ท่านปู่ เป็ นอย่างไร” เสิ่ นเวยกางแขนหมุนตัวอยูก่ บั ที่หนึ่งรอบด้วย
ความภูมิใจ
ท่านเสิ่ นโหวพยักหน้าช้า ๆ “นี่กลับเป็ นความคิดที่ไม่เลว” แม้วา่
ระหว่างทางจะถูกสกัด แต่ต่อให้เขาคิดจนหัวแตกก็คิดไม่ถึงว่า
คุณชายสี่ ที่มีชื่อเสี ยงเลื่องลือจะเป็ นสตรี
เสิ่ นเวยและคนทั้งสองต่างก็ขี่มา้ เร็ วออกไปไกลแล้ว หย่งติ้งโหวก็ยงั
ไม่ได้สติกลับมา ไอ๊หยาแม่จ๋า คิดอยูเ่ นิ่นนานที่แท้แล้วคุณชายสี่ กค็ ือ
คุณหนูสี่นี่เอง! มิน่าเล่าท่านเสิ่ นโหวถึงไม่ยนิ ดีให้นางไปเสี่ ยง
อันตราย หลานสาวคนเล็กตระกูลใดบ้างที่ไม่น่ารักไม่เป็ นที่โปรด
ปราน ไหนเลยจะยอมให้นางไปเสี่ ยงอันตรายเช่นนี้ได้
ตอนอยูท่ ี่เมืองชายแดนซีเจียงเขาก็วา่ เหตุใดคุณชายใหญ่สวีถึงชอบ
อยูใ่ กล้ ๆ คุณชายสี่ แซ่เสิ่ น ที่แท้แล้วพวกเขาก็เป็ นคู่หมั้นกันนี่เอง!
มิน่าเล่า! มิน่าเล่า!
“คุณหนู นี่เป็ นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดสะอาดที่สุดในเมืองแล้ว ท่าน
ยอมหน่อยเถอะเจ้าค่ะ” เสี่ ยวตี๋ที่ยนื อยูห่ น้าประตูโรงเตี๊ยมหรู อ้ ีโน้ม
น้าวเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด
ส่ วนเสิ่ นเวยคุณหนูนอ้ ยที่ถูกนางเกลี้ยกล่อมกลับมีสีหน้าไม่ยนิ ยอม
ทั้งใบหน้า นางจ้องมองข้างในปราดหนึ่ง ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วย
ความรังเกียจ “ใหญ่ที่สุดสะอาดที่สุดอะไร สกปรกจะตายชัก หนวก
หูจะตายชัก ที่ขา้ มีกค็ ือเงิน สาวใช้เช่นเจ้ากลับพาข้ามาพักที่
โกโรโกโสแบบนี้ ใคร ๆ ก็บอกว่าเจ้าเก่ง ข้าว่ายังเทียบเถาฮวาที่โง่
เขลาไม่ได้ดว้ ยซ้ า คิดว่ากลับไปข้าจะไม่กล้าให้ท่านพ่อลงโทษเจ้า
หรื อ เหอะ!” นางแสดงบทคุณหนูนอ้ ยงี่เง่าเอาแต่ใจที่ใช้
อานาจบาตรใหญ่ไร้เหตุผลได้สมจริ งอย่างยิง่
เสี่ ยวตี๋จนปัญญา “คุณหนูเจ้าค่ะ บ่าวผิดไปแล้ว! ออกมาข้างนอก
ไหนเลยจะเหมือนอยูบ่ า้ น ท่านอยากท่องยุทธจักรไม่ใช่หรื อเจ้าคะ
ท่องยุทธจักรจะไม่อยูโ่ รงเตี๊ยมได้อย่างไร” นางเกลี้ยกล่อมช้า ๆ
บนใบหน้าเสิ่ นเวยแสดงสี หน้าลังเลออกมา บุย้ ปากอยูน่ านจึง
กระทืบเท้ากล่าว “ก็ได้ วันนี้ฝืนใจอยูท่ ี่นี่สกั คืน จาไว้ ข้าขอพักห้อง
ที่ดีที่สุด”
“เจ้าค่ะ ๆ บ่าวทราบแล้ว เชิญเจ้าค่ะคุณหนู พวกเราไปกินอะไรกัน
ก่อน” เสี่ ยวตี๋แสดงท่าทางเหมือนถูกยกภูเขาออกจากอก
เพราะว่าเสี ยงสนทนาของทั้งสองไม่เบา โดยเฉพาะเสิ่ นเวย คุณหนู
น้อยอารมณ์ร้อนไม่ได้ดงั่ ใจอย่างไรเอะอะโวยวายอย่างไร ฉากหน้า
ประตูโรงเตี๊ยมฉากนี้จึงตกอยูใ่ นสายตาคนไม่นอ้ ย พากันตกใจว่านี่
คือคุณหนูตระกูลใด นิสยั เอาแต่ใจจริ ง ๆ ยังจะแต่งออกเรื อนได้อยู่
อีกหรื อ
ตอนที่ 179-2 ส่ งสาร
ตอนที่เสิ่ นเวยและคนทั้งสองเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมก็รู้สึกได้ถึงการ
จ้องมองของสายตาหลายสาย คุณหนูนอ้ ยไม่รู้จกั เขินอายประหม่า
นางรู ้จกั แต่ทาหน้าดุถลึงตากลับไปอย่างโหดเ**้้ยม “มองอะไร ถ้า
ยังไม่หยุดมองข้าจะควักลูกตาเจ้า”
แม้คนจานวนมากจะรู ้สึกว่าคุณหนูผนู ้ ้ ีมีนิสยั ไม่รับแขก แต่เห็นนาง
หน้าตาสะสวย แม้วา่ จะพูดจาข่มขู่โหดร้ายก็ไม่ได้ทาให้คนรู ้สึก
หงุดหงิด อย่างมากก็แค่รู้สึกว่าแม่นางผูน้ ้ ีถูกที่บา้ นตามใจจนเสี ยคน
เพียงแค่เด็กผูห้ ญิงคนหนึ่ง ทั้งยังเป็ นเด็กผูห้ ญิงที่ค่อนข้างมีภูมิหลัง
ใครจะหาเรื่ องนาง
ทว่าโต๊ะริ มราวกั้นชั้นสองข้าง ๆ กลับไม่อยูน่ ิ่ง เย้าแหย่หนึ่ง
ประโยค “แม่นางที่ไหนกาเริ บเสิ บสานยิง่ นัก มาดื่มสุ รากับข้าสัก
แก้วแล้วข้าจะควักลูกตาให้เจ้า”
เสิ่ นเวยหน้าตึงทันที ชักกระบี่ล้ าค่าที่เอวออกมากาลังจะวิ่งไปคิด
บัญชีที่ช้ นั สอง ถูกเสี่ ยวตี๋กอดเอวนางไว้อย่างสุ ดชีวิต “คุณหนูเจ้าคะ
ท่านอย่าได้ลงมือเด็ดขาด ท่านลืมแล้วหรื อว่าครั้งก่อนท่านกรี ดหน้า
คุณหนูสามหมู่บา้ นวัน่ เหมยจนนายท่านลงโทษกักบริ เวณท่านครึ่ งปี
หากท่านก่อเรื่ องข้างนอกอีกนายท่านกับคุณชายคงจะไม่ให้ท่าน
ออกจากบ้านอีกแล้วนะเจ้าคะ”
อะไรนะ กรี ดหน้าผูห้ ญิงงั้นหรื อ แล้วยังกักบริ เวณเพียงแค่ครึ่ งปี ก็
ปล่อยออกมาแล้ว นี่มนั น่ากลัวเพียงใด! ชัว่ ขณะสายตาที่มองเสิ่ นเว
ยของทุกคนก็เปลี่ยนไป อยากจะอยูใ่ ห้ไกลนางอย่างยิง่
“เหอะ วันนี้ขา้ อารมณ์ดี ไม่ทะเลาะกับเจ้าหรอก ถือว่าไว้ชีวิตสุ นขั
เช่นเจ้า” เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงกล่าวไปยังบริ เวณราวกั้นชั้นสอง เดินไป
ยังโต๊ะต้อนรับภายใต้การดึงของเสี่ ยวตี๋
คนที่เอ่ยปากเย้าแหย่เมื่อครู่ ยงั คิดจะพูดอะไรต่อ แต่ถูกคนผูห้ นึ่งข้าง
ๆ กดมือไว้ “น้องรองอย่าก่อเรื่ องเป็ นอันขาด!” ทั้งยังบอกเป็ นนัยให้
เขามองสาวใช้คนนั้น “แม่นางผูน้ ้ นั ดูมีภูมิหลัง ไม่เข้าไปยุง่ จะดีที่สุด
งานหลักของพวกเราสาคัญกว่า”
คนที่ถูกเรี ยกว่าน้องรองผูน้ ้ นั มองลงไปข้างล่าง ชัว่ ขณะหน้าก็เปลี่ยน
สี ท่าทางการเดินของสาวใช้ผนู ้ ้ นั เป็ นยุทธ์มีกาลังภายในชั้นยอด
มิน่าเล่าครอบครัวถึงกล้าปล่อยคุณหนูที่เอาแต่ใจเช่นนี้ออกมาท่อง
ยุทธจักร นี่ยงั แค่ที่เห็น ใครจะรู ้วา่ ในที่มืดยังมีคนติดตามมากน้อย
เพียงใด
ยังคงเป็ นพี่ใหญ่ที่พดู ถูก เพียงแค่เด็กน้อยที่นิสยั ไม่ดีคนหนึ่ง จะ
โต้เถียงกับนางไปทาไม งานหลักสาคัญกว่า
“พี่ใหญ่ ท่านว่าหน้าที่ครั้งนี้แปลกหรื อไม่ พูดว่าต้องการหาคุณชาย
วัยหนุ่มคนหนึ่ง แต่ไม่มีแม้แต่ภาพเหมือน งมเข็มในมาสมุทร พวก
เราจะหาอย่างไร” น้องรองกล่าวบ่น
“อย่าพูดเหลวไหล ในเมื่อนายท่านสัง่ มาเช่นนี้แล้วแสดงว่าต้องมี
เหตุผลของเขาแน่นอน บอกแล้วไม่ใช่หรื อว่า ขอเพียงแค่เจอจะต้อง
รู ้ได้แน่นอนว่าเป็ นคนนี้ เช่นนั้นคุณชายวัยหนุ่มผูน้ ้ ีจะต้องมีความ
พิเศษแน่นอน ให้พวกเราหาก็หาเถอะ จะพูดจาไร้สาระเยอะแยะ
เพียงนี้ทาไม” คนที่มีท่าทางเป็ นพี่ใหญ่ตาหนิเสี ยงต่า
อีกคนหนึ่งก็สงั่ เสี ยงต่าเช่นกัน “ใช่แล้ว พี่ใหญ่นอ้ งรอง พวกเราก็แค่
ตั้งใจหาคุณชายวัยหนุ่มที่หน้าตาโดดเด่นหรื อการกระทาโดดเด่น
เสี ยก็พอ”
น้องรองผูน้ ้ นั บ่นพึมพาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “พวกเราจับตามองที่
โรงเตี๊ยมนี้มาสามวันแล้ว ไหนเลยจะเคยเห็นคุณชายวัยหนุ่มที่โดด
เด่นอะไรนัน่ ไม่ใช่วา่ เบื้องบน…”
ยังพูดไม่ทนั จบก็ถูกพี่ใหญ่ผนู ้ ้ นั ห้ามไว้แล้ว “หุบปาก เจ้าอยากตาย
หรื อไร”
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่พดู ต่อแล้ว
ทว่ามุมปากของเสิ่ นเวยกลับยกขึ้น พวกเจ้าก็หาไปเถอะ ขุดดินสาม
ฉื่อพวกเจ้าก็หาคุณชายวัยหนุ่มที่วา่ ไม่เจอหรอก คอยดูสิวา่ ข้าจะไป
ถึงเมืองหลวงต่อหน้าพวกเจ้าอย่างราบรื่ นได้อย่างไร
เสิ่ นเวยตั้งใจเลือกที่นงั่ ซึ่งไม่ห่างจากสามคนนั้นมาก ชายตามองพวก
เขาอย่างยัว่ ยุปราดหนึ่ง เมื่ออาหารมาส่ งแล้ว เสิ่ นเวยก็เรื่ องมากอยู่
นานกว่าจะหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ กินไปพลาง ซ้ ายังบ่น
นัน่ บ่นนี่ไปพลาง
ด้วยเหตุน้ ี คนที่กินข้าวอยูใ่ นโรงเตี๊ยมต่างก็รู้แล้วว่าคุณหนูเอาแต่ใจ
ผูน้ ้ ีออกเดินทางเพื่อจะตามหาคู่หมั้น ข้างกายคู่หมั้นของนางคล้ายยัง
มีสตรี อีกคนหนึ่งอยูด่ ว้ ย ในใจทุกคนก็จินตนาการถึงฉากผูห้ ญิงสอง
คนแย่งชิงสามีกนั เอ่ยในใจว่า หากตนเป็ นคู่หมั้นชายผูน้ ้ นั ก็คงจะรับ
คู่หมั้นหญิงที่เอาแต่ใจเช่นนี้ไม่ได้ วิ่งหนีไปเหมือนกัน
แสดงละครก็ตอ้ งแสดงให้สมบทบาท เสิ่ นเวยขอห้องใหญ่เพียงแค่
ห้องเดียว เสี่ ยวตี๋กบั เถาฮวาย่อมไม่มีหอ้ งส่ วนตัว บ่าวรับใช้ขา้ งกาย
คุณหนูนอ้ ยไม่รับใช้นายท่านยังคิดจะนอนหลับเต็มอิ่มได้อีกหรื อ
จะเป็ นไปได้อย่างไร
เสิ่ นเวยนอนลงบนเตียง เสี่ ยวตี๋เปิ ดประตูหอ้ งมองซ้ายมองขวาอย่าง
ระมัดระวังทันที ไม่พบอะไรผิดปกติจึงปิ ดประตูถอยกลับมา
“ไม่ตอ้ งระมัดระวังขนาดนั้นหรอก บอกเจ้าแล้วว่าไม่มีอะไร” เสิ่ น
เวยผงกหัวขึ้นมาจากเตียง
เสี่ ยวตี๋ยมิ้ ไม่พดู เป็ นทหารลับ การระมัดระวังเป็ นความเคยชินที่ฝัง
ลึกถึงกระดูกแล้ว
เสิ่ นเวยหาวกล่าว “ไปบอกเสี่ ยวเอ้อร์[1]ว่าขอผ้าห่มอีกสองชุด เถาฮ
วานอนเบียดกับข้าบนเตียง เสี่ ยวตี๋เจ้าก็นอนบนโต๊ะแก้ขดั ไปก่อน
หนึ่งคืนแล้วกัน” นางเองก็อยากให้เสี่ ยวเอ้อร์นอนบนเตียงด้วยอย่าง
ยิง่ แต่เตียงโรงเตี๊ยมแคบเกินไป และเถาฮวาก็ตวั เล็ก ไม่กินที่ มิ
เช่นนั้นก็คงจะเบียดไม่ได้จริ ง ๆ
ตอนที่เสี่ ยวตี๋ออกไปขอผ้าห่ม ก็ถูกทุกคนมองด้วยความเห็นใจ
อากาศหนาวเหน็บ แม้แต่เตียงยังไม่ให้นอน ติดตามเจ้านายเช่นนี้
สาวใช้คนนี้คงจะโชคร้ายไปแปดชัว่ โคตรจริ ง ๆ
มีขอ้ อ้างตามหาคู่หมั้นนี้แล้ว การเดินทางที่เร่ งรัดของเสิ่ นเวยก็ไม่
ดึงดูดความสนใจของใครเลยแม้แต่นิดเดียว ที่น่าสนใจก็คือ คาดไม่
ถึงว่าตลอดการเดินทางนี้เสิ่ นเวยบังเอิญเจอสามคนนั้นที่โรงเตี๊ยมหรู
อี้ถึงสี่ ครั้ง มีอยูค่ รั้งหนึ่งที่เจอสองครั้งในหนึ่งวัน
เสิ่ นเวยกลับไปถึงเมืองหลวงก็ไม่ได้กลับจวนจงอู่โหวทันที แล้วก็
ไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าวัง แม้วา่ ในมือนางจะมีป้ายคาสัง่ ที่สวีโย่วให้นาง
นางนัง่ อยูใ่ นโรงน้ าชาตรงข้ามพระราชวังทั้งวัน ตอนที่ราตรี ยา่ ง
กรายมาถึงจึงไปหาคนติดต่อตามวิธีที่สวีโย่วบอกนาง
เร็ วอย่างยิง่ ในวังก็มีข่าวมา คนที่มานานางเข้าวังคือขันทีอว้ น ๆ คน
หนึ่ง เขายังนาชุดขันทีนอ้ ยมาให้นางด้วยหนึ่งชุด เสิ่ นเวนกระตุกมุม
ปาก แต่ก็ยงั คงสวมอย่างเชื่อฟัง
“คุณชายสี่ ไม่ตอ้ งกลัว อาจารย์ของพวกเราคือศิษย์ของจางกงกง
ประจาองค์จกั รพรรดิ พวกเราสนิทสนมกับคุณชายใหญ่” ขันทีอว้ น
กล่าวกับเสิ่ นเวยอย่างเป็ นมิตร
เสิ่ นเวยพยักหน้ายิม้ แต่กลับไม่ได้พดู อะไร สวีโย่วชายผูน้ ้ นั ก็ไม่อยู่
ใครจะรู ้วา่ พวกเขาสนิทกันหรื อไม่ คนที่สามารถคลุกคลีอยูใ่ นวังได้
จะธรรมดาได้อย่างไร
เพราะว่าเป็ นกลางคืน เสิ่ นเวยเองก็มองทัศนียภาพในพระราชวังไม่
ชัดเจน จึงเลียนแบบท่าทางขันทีอว้ น เก็บไหล่กม้ หัวเดินไปข้างหน้า
เดินไปนานอย่างยิง่ ขันทีอว้ นก็พาเสิ่ นเวยตรงมาถึงด้านนอกห้อง
หนังสื อส่วนพระองค์ ให้เสิ่ นเวยยืนรออยูข่ า้ งนอก ส่ วนเขาเข้าไป
รายงาน
“ฝ่ าบาทอนุญาตให้เจ้าเข้าเฝ้าแล้ว รี บเข้าไปเถอะ” ไม่นานนักขันที
อ้วนก็ออกมา
เสิ่ นเวยตามหลังเขาก้าวเข้าไปในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ ไม่เงย
หน้าขึ้นก็คุกเข่าลงบนพื้น “หม่อมฉันบุตรสาวคนที่สี่แซ่เสิ่ นถวาย
บังคมฝ่ าบาทเพคะ” นางทาความเคารพแบบกองทัพ
เห็นคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่บอบบางร่ างผอมแต่หลังตรงอย่างยิง่ ผูน้ ้ ี ในใจ
จักรพรรดิยงเซวียนก็สะเทือนใจเล็กน้อย คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่แสดง
อานุภาพน่าเกรงขามที่ซีเจียงมีรูปร่ างเปราะบางเช่นนี้ ก็ใช่ เป็ นสตรี
นี่นา หากรู ปร่ างสู งใหญ่กจ็ ะไม่งาม แต่วา่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีกลับ
หน้าตาดีอย่างยิง่ มิน่าเล่าอาโย่วถึงชอบใจ
“ลุกขึ้นพูดเถอะ” จักรพรรดิยงเซวียนนึกได้วา่ นี่คือว่าที่หลานสะใภ้
ของตน สี พระพักตร์กเ็ ป็ นมิตรขึ้นสามส่ วน “เจ้าเข้าวังมาพบเราคน
เดียว หรื อว่าจงอู่โหวและพวกเขา…” ทรงใช้สายพระเนตรไต่ถาม
นาง
“ขอบพระทัยฝ่ าบาท” เสิ่ นเวยลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ล้วง
จดหมายลับออกมาจากในอกแล้วยืน่ ให้ดว้ ยความเคารพนบนอบ
“ทูลฝ่ าบาท บนถนนสาย 4724 เกิดเรื่ องขึ้นเล็กน้อย แต่โชคดีที่
เสี ยหายไม่หนักมาก รายละเอียดทั้งหมดอยูใ่ นจดหมายลับ ฝ่ าบาท
โปรดทอดพระเนตร”
ขันทีใหญ่จางเฉวียนรับจดหมายเข้ามาแล้วส่ งไปถึงพระหัตถ์ของ
จักรพรรดิยงเซวียน จักรพรรดิยงเซวียนทอดพระเนตรมองจดหมาย
ลับที่ประทับตราเรี ยบร้อยปราดหนึ่ง หยิบมีดไม้ไผ่บนโต๊ะมาเปิ ด
จดหมายออก เทจดหมายลับข้างในออกมาอ่าน
“มีอย่างนี้ที่ไหน คาดไม่ถึงว่ายังมีคนกล้าเช่นนี้ดว้ ย” สี พระพักตร์
จักรพรรดิยงเซวียนเปลี่ยนไปฉับพลัน ชัว่ ขณะก็ตบจดหมายลับลง
บนโต๊ะ
เสิ่ นเวยก้มหน้าไม่พดู จา ฝ่ าบาทจะบันดาลโทสะย่อมไม่เกี่ยวกับนาง
หน้าที่ของนางคือส่ งจดหมายลับให้ถึงมือจักรพรรดิยงเซวียนอย่าง
ปลอดภัย ตอนนี้หน้าที่ของนางสาเร็ จลุล่วงแล้ว
“แน่ใจหรื อว่าเป็ นคนในกองทัพ” จู่ ๆ เสิ่ นเวยก็ได้ยนิ จักรพรรดิยง
เซวียนถามเช่นนี้ นางยังตกตะลึง ในจดหมายลับไม่ได้เขียนไว้
หมดแล้วหรื อ ยังจะถามนางทาไมอีก
แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คงตอบอย่างซื่อสัตย์ “ทูลฝ่ าบาท อาวุธที่พวกเขาใช้
คือหน้าไม้ คุณชายใหญ่บอกว่ามีเพียงกองทัพจึงจะมีหน้าไม้ได้ อีก
ทั้งท่านปู่ และหย่งติ้งโหวก็มองออกว่าลูกธนูที่พวกเขาใช้สงั่ ทาใน
กองทัพเพคะ”
จักรพรรดิยงเซวียนพยักพระพักตร์ พระองค์ไม่ได้ตรัสถามต่อ ทว่า
ดวงพระเนตรกลับมีแสงเย็นเยียบแวบผ่าน ซีเจียงเพิ่งจะคว้าชัยชนะ
ยิง่ ใหญ่ ฝั่งพระองค์เพิ่งจะเรี ยกเสิ่ นผิงยวนเข้าเมืองหลวง ระหว่าง
ทางฝั่งนั้นก็เกิดเรื่ อง คนที่ใช้ยงั เป็ นคนในกองทัพ นี่ไม่ได้เป็ นการ
ตบหน้าพระองค์หรอกหรื อ
เหอะ หลบราวกับหนูมาสิ บกว่าปี ยังคิดว่าเขาจะยังหลบต่อไปได้เสี ย
อีก ไม่นึกว่าจะโผล่หวั มาตอนนี้ ยัว่ ยุกนั งั้นหรื อ
เหอะ สิ บกว่าปี ก่อนเรายังไม่กลัวเจ้า ตอนนี้เรามีอานาจใหญ่อยูใ่ น
มือ ย่อมต้องยิง่ ไม่กลัวเจ้าแล้ว
ความคิดของจักรพรรดิยงเซวียนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ ว
“คุณชายใหญ่ไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่” จักรพรรดิยงเซวียนเก็บความ
โกรธบนพระพักตร์ลง คล้ายคนที่ตบโต๊ะเมื่อครู่ ไม่ใช่เขา นี่ทาให้
เสิ่ นเวยชื่นชมอย่างอดไม่ได้
สี หน้าของจักรพรรดิยงเซวียนไม่เหมือนเสแสร้ง เสิ่ นเวยกล่าวใน
ใจ ดูไม่ออกว่าฝ่ าบาทยังคงเป็ นห่วงสวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ้ นั อย่างยิง่
อืม เป็ นห่วงก็ดี อย่างน้อยตอนนี้นางก็สามารถอาศัยบารมีได้ “ทูลฝ่ า
บาท คุณชายใหญ่สบายดีเพคะ เจียงเฮยเจียงไป๋ ข้างกายเขามี
ความสามารถ คุม้ กันคุณชายใหญ่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิด
เดียว”
“เช่นนั้นก็ดี แต่ไหนแต่ไรร่ างกายเขาก็ไม่ค่อยดี มิเช่นนั้นคงไม่ตอ้ ง
อยูบ่ นเขาเป็ นส่ วนใหญ่ หลังจากนี้มีเจ้าดูแลเขา ข้าก็วางใจแล้ว “
จักรพรรดิยงเซวียนอัธยาศัยดีราวกับผูอ้ าวุโสที่อ่อนโยน
แต่เสิ่ นเวยกลับไม่กล้าคิดว่าตัวเองเป็ นชนรุ่ นหลัง ยังคงกล่าวอย่าง
เคารพนบนอบ “เพคะ หม่อมฉันจะพยายามสุ ดความสามารถ”
สาหรับจะพยายามหรื อไม่นนั่ ก็เป็ นเรื่ องในอนาคต ตอนนี้ยงั ต้อง
แสดงท่าทีดี ๆ อยู่
จักรพรรดิยงเซวียนพยักพระพักตร์อย่างพอพระทัย ตรัสต่อ “เจ้าเล่า
เรื่ องที่ผา่ นมาอย่างละเอียดอีกรอบหนึ่ง”
เสิ่ นเวยปฏิบตั ิตามคาสัง่ เล่าตั้งแต่คนชุดดาหมอบซุ่มไปจนถึงคนชุด
เทาในตอนหลัง หลังจากนั้นก็เล่าถึงกองกาลังหนุนของนายอาเภอ
เมืองหย่งเหอ ทั้งยังพูดถึงเยีย่ จ้งหมิ่นในแง่ดีอีกหลายประโยค จาก
มุมมองของเสิ่ นเวย เยีย่ จ้งหมิ่นจะต้องเป็ นขุนนางที่ค่อนข้างมี
ความสามารถแน่นอน
จักรพรรดิยงเซวียนพยักพระพักตร์อีกครั้ง จากนั้นจึงบอกให้เสิ่ นเว
ยออกไป
[1] เสี่ ยวเอ้อร์ คาเรี ยกบริ กรในโรงเตี๊ยม
ตอนที่ 180-1 แอบใช้ ชีวติ ตามใจครึ่งวัน
ยังคงเป็ นขันทีอว้ นที่ส่งเสิ่ นเวยออกจากวัง ในราตรี อนั มืดมิดเสิ่ นเวย
หันหน้ากลับมองกาแพงวังสูง ๆ นัน่ ถอนหายใจในอกยาว ๆ หนึ่ง
ครา ข่าวส่ งถึงมือจักรพรรดิแล้ว ต่อจากนี้น่าจะไม่ใช่เรื่ องของนาง
แล้วสิ นะ
เสิ่ นเวยไปยังบ้านพักในเมืองหลวงของนาง “คุณหนู!” คาดไม่ถึงว่า
เสี่ ยวตี๋กบั เถาฮวาจะรอนางอยูท่ ี่หน้าประตู เมื่อเห็นนางก็เร่ งฝี เท้าเข้า
มาต้อนรับ เห็นนางไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ก็วางใจลง
“คุณหนูหิวหรื อไม่ กับข้าวอุ่นอยูบ่ นเตาแล้ว ประเดี๋ยวก็กินได้แล้ว”
เสี่ ยวตี๋พดู ไม่หยุด ทั้งยังสัง่
เถาฮวา “เจ้าเดินเร็ ว ไปเร่ งครัวหน่อย แล้วดูดว้ ยว่าเตรี ยมน้ าร้อน
เสร็ จแล้วหรื อยัง ประเดี๋ยวคุณหนูจะไปล้างหน้าล้างตา”
ช่วงนี้เสี่ ยวตี๋ฝึกฝนอย่างหนักแล้ว เป็ นทหารลับอยูด่ ี ๆ ก็กลายเป็ น
แม่บา้ นใหญ่ที่มีความสามารถรอบตัว จัดการเรื่ องของเสิ่ นเวยได้อ
ย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
ก่อนหน้านี้ในโรงน้ าชาตรงข้ามพระราชวังก็เอาแต่สงั เกต
สถานการณ์ ไหนเลยจะมีกะจิตกะใจกินอาหาร ทั้งยังอยูใ่ นวังนาน
เพียงนี้ ตอนนี้เสิ่ นเวยยังคงหิ วแล้วจริ ง ๆ อาหารสี่ อย่างที่ครัวนามา
ให้นางกินหมดไปมากกว่าครึ่ ง นางลูบท้องพิงตัง่ นุ่ม ชัว่ พริ บตาก็มี
กาลังวังชาแล้ว รู ้สึกว่านี่จึงจะเป็ นชีวิตของคนปกติ
“คุณหนู พวกเรายังต้องกลับไปอีกหรื อไม่” เสี่ ยวตี๋ถาม
“น่าจะไม่ตอ้ งกลับแล้ว” เสิ่ นเวยเองก็ไม่แน่ใจเล็กน้อย เรื่ องที่ท่านปู่
และคนอื่น ๆ กลับเมืองหลวงจักรพรรดิกไ็ ปจัดการแล้ว นางกลับ
หรื อไม่กลับไม่ได้สาคัญกับสถานการณ์โดยรวม อีกทั้งจักรพรรดิเอง
ก็ไม่ได้บอกให้นางวิ่งไปอีกเที่ยว อากาศหนาวเหน็บเดินทางอยูข่ า้ ง
นอกก็ทรมานอย่างยิง่ เช่นกัน
“เช่นนั้นคุณหนูจะกลับวัดต้าเจวี๋ยเมื่อไร” เสี่ ยวตี๋ถามต่อ
เสิ่ นเวยเพิ่งจะนึกได้วา่ ยังมีเรื่ องนี้อยู่ คิ้วของนางขมวดมุ่น “ไม่รีบ อยู่
ดูในเมืองหลวงก่อน” ฉวยโอกาสตอนที่ท่านปู่ ยังไม่กลับมา นางจะ
รี บไปเดินเล่นดูเมืองหลวงเสี ยหน่อย
“คุณหนู หากพวกเราไม่ตอ้ งกลับไปอีก คุณหนูกไ็ ปที่วดั ต้าเจวี๋ยดีก
ว่า นานเพียงนี้แล้ว หลีฮวาและคนอื่น ๆ น่าจะเป็ นกังวลอย่างยิง่ ”
เสี่ ยวตี๋โน้มน้าว
พวกหลีฮวากังวลกลับเป็ นเรื่ องรองลงมา เสี่ ยวตี๋รู้สึกว่าคุณหนูตาก
แดดตากลมอยูท่ ี่ซีเจียง ใบหน้าและมือต่างก็ดาขึ้นอย่างยิง่ ไม่สู้ถือ
โอกาสพักรักษาช่วงนี้ เลี่ยงไม่ให้กลับจวนโหวแล้วถูกคนเห็นความ
ผิดปกติ แน่นอนว่าอยูท่ ี่บา้ นพักก็สามารถพักฟื้ นได้เหมือนกัน แต่
ในบ้านพักมีเพียงนางกับเถาฮวาผูห้ ญิงสองคน เถาฮวาไม่ตอ้ งเอ่ยถึง
นางมีฐานะเป็ นทหารลับ สื บข่าวฆ่าคนวางเพลิงเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ แต่
งานเช่นการบารุ งร่ างกายให้คุณหนูนางยังทาไม่เป็ นจริ ง ๆ
นึกถึงหลีฮวากับพี่สะใภ้เซียงเหมย ในใจเสิ่ นเวยก็ลงั เลหลายส่ วน
แต่ทา้ ยที่สุดนางก็ยงั โบกมือ “เดี๋ยวค่อยกลับไปแล้วกัน” แรงดึงดูด
ให้เดินเล่นในเมืองหยวงยังคงเยอะกว่าอยูด่ ี
วันที่สอง เสิ่ นเวยสวมชุดบุรุษอีกครั้ง ผ่านการปรับตัวในสงครามที่ซี
เหลียง เสิ่ นเวยแต่งตัวเป็ นชายได้อย่างเป็ นธรรมชาติแล้ว ไม่ตอ้ งพูด
ถึงคนนอก แม้แต่เสี่ ยวตี๋ที่ติดตามอยูข่ า้ งกายนางรู ้ดีวา่ คุณหนูเป็ น
ผูห้ ญิง แต่กย็ งั มีความรู ้สึกคลับคล้ายว่านางเป็ นผูช้ ายชนิดหนึ่ง
เสิ่ นเวยสวมชุดผ้าไหมสี แดงเข้มซ่อนลายตัวหนึ่ง ตรงเอวห้อยหยก
งามหนึ่งชิ้น ปิ่ นหยกที่รวบผมอยูบ่ นศีรษะเองก็เป็ นหยกมันแพะชั้น
ดี บวกกับใบหน้าที่งามดัง่ หยกของนาง โห เป็ นคุณชายที่ร่ ารวยและ
มีสง่าราศีดี ๆ นี่เอง
เสี่ ยวตี๋แต่งตัวเป็ นเด็กรับใช้ ส่ วนเถาฮวาก็อยูว่ า่ ยน้ าเล่นที่สระน้ าให้
บ้านพักไปแล้วกัน
เสิ่ นเวยพาเสี่ ยวตี๋เดินเล่นตรอกซอกซอยในเมืองหลวง ในมือนางถือ
พัดพับได้หนึ่งอัน ท่าทางสง่างามอย่างถึงที่สุด ในที่สุดตอนนี้เสิ่ น
เวยก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดคุณชายวัยหนุ่มเหล่านั้นในโทรทัศน์มกั จะ
ถือพัดพับได้อยูเ่ สมอ แม้วา่ จะเป็ นฤดูหนาวก็ไม่เว้น พัดพับได้เป็ น
อุปกรณ์ประกอบฉากที่ดีจริ ง ๆ ในมือถือมันไว้กไ็ ม่รู้สึกมือว่าง
ไม่ใช่หรื อ
เมืองหลวงคึกคักจริ ง ๆ แม้วา่ จะเป็ นฤดูหนาวที่หนาวเย็นนี้ คนเดิน
ถนนก็เนืองแน่นไม่ขาดสาย เต็มไปด้วยเสี ยงขายของต่าง ๆ นานา
ของเหล่าพ่อค้า ร้านค้าสองฝั่งถนนต่างก็เปิ ดประตูกว้าง มีพนักงาน
ยืนเชิญชวนลูกค้าอยูห่ น้าประตู
ตอนที่เดินผ่านหอโคมแดง เสิ่ นเวยอยากเข้าไปดูจริ ง ๆ ครั้งก่อนเอา
แต่ไล่จบั คนชัว่ สองคนนั้น แม้แต่การจัดวางข้างในก็ยงั ไม่ได้ดู เสิ่ น
เวยสงสัยอย่างยิง่ จริ ง ๆ สงสัยว่าหอโคมแดงยุคโบราณมีการค้าขาย
อย่างไร
น่าเสี ยดายที่เท้านางเพิ่งจะยกขึ้น เสี่ ยวตี๋กด็ ึงนางกลับมาอย่างมือไว
ตาไว “คุณชาย ท่านเดินผิดทางแล้ว ทางนี้ เดินทางนี้” นางดึงแขน
ของเสิ่ นเวยไว้ไม่ยอมปล่อย
เสิ่ นเวยถลึงตาอย่างดุร้ายใส่ เสี่ ยวตี๋ปราดหนึ่ง นางมัน่ ใจว่าเด็กคนนี้
ตั้งใจ นางจะต้องรู ้ความคิดในใจตนเป็ นแน่ เรื่ องนั้นเมื่อคราวก่อน
นางมีส่วนร่ วมตลอดทั้งงาน ข่าวในหอโคมแดงก็เป็ นนางที่สืบ เด็ก
คนนี้ นางเพียงแค่จะเข้าไปหาประสบการณ์ ไม่ได้จะทาอะไรเสี ย
หน่อย
ทว่านางไม่รู้วา่ เสี่ ยวตี๋บ่นในใจ ความกล้าหาญของคุณหนูนบั วันก็
มากขึ้นเรื่ อย ๆ แล้วจริ ง ๆ สถานที่สกปรกเช่นนั้นเป็ นที่ที่สตรี ผดู ้ ี
เข้าไปได้หรื อไร คุณหนูคงจะไม่คิดว่าตนเป็ นผูช้ ายจริ ง ๆ ใช่
หรื อไม่ คุณหนูท่านขี้สงสัยเช่นนี้คุณชายใหญ่สวีรู้หรื อไม่
คุณหนูอาจจะไม่สงั เกตเห็น แต่นางกลับรู ้ต้ งั แต่ที่ออกจาอาเภอเมือง
หย่งเหอแล้ว ข้างกายพวกนางมีคนติดตามอยู่ คนเหล่านี้เป็ นยอด
ฝี มือในกลุ่มทหารลับอย่างไม่ตอ้ งสงสัย ชานาญในการหลบซ่อนตัว
ลมปราณแม้แต่นิดเดียวก็ไม่รั่วหลุด หากไม่ใช่วา่ มีโอกาสบังเอิญเจอ
ครั้งหนึ่งเกรงว่านางเองก็คงไม่สงั เกตเห็น
นางเตรี ยมป้องกันอย่างลับ ๆ อยูเ่ นิ่นนาน แต่กลับพบว่าคนเหล่านี้
ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพวกนาง บางครั้งยังออกมือช่วยแก้ไขปั ญหา
เล็ก ๆ นางจึงรู ้ได้วา่ พวกเขาเป็ นมิตรหาใช่ศตั รู
ผูท้ ี่เป็ นห่วงคุณหนูเช่นนี้ ทั้งยังมีอานาจเช่นนี้ได้ นอกจากท่านโหว
แล้วก็มีคุณชายใหญ่สวี ทหารลับของท่านโหวนางคุน้ เคยเป็ นอย่างดี
เช่นนั้นก็เหลือเพียงคุณชายใหญ่สวีแล้ว นี่เองก็เป็ นเหตุผลที่นางไม่
บอกคุณหนู
“เสี่ ยวตี๋เจ้ามันคนโง่ ยังไม่รีบปล่อยข้าอีก ดูสิวา่ เจ้ากล้านัก ใช่ช่วงนี้
ข้าดีกบั เจ้าเกินไปหรื อไม่” เสิ่ นเวยชายตามองเสี่ ยวตี๋ พัดพับได้กต็ ีลง
บนมือของนาง
เสี่ ยวตี๋แสร้งเจ็บ รี บปล่อยมือออก ตีหน้าหวาดกลัว ทว่าในใจกลับ
จนปัญญาอย่างยิง่ คุณหนูแสดงบทบาทจนติดแล้วหรื อ กลับมาเมือง
หลวงแล้วยังแสดงอีก ก่อนหน้านี้แสดงเป็ นคุณหนูนอ้ ยเอาแต่ใจ
คราวนี้เปลี่ยนเป็ นคุณชายเผด็จการเสี ยแล้ว
เสิ่ นเวยพึงพอใจกับการให้ความร่ วมมือของเสี่ ยวตี๋อย่างมาก กาลัง
คิดว่าจะสัง่ สอนนางอีกสักสองสามประโยค หูกไ็ ด้ยนิ เสี ยงหัวเราะ
เบา ๆ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสี ยงก้องกังวานเสี ยงหนึ่ง “พี่เจียง
ท่านดูสิ คุณชายผูน้ ้ นั น่าสนใจยิง่ นัก”
เสิ่ นเวยหันมองตามเสี ยง เห็นเพียงศีรษะหนึ่งศีรษะโผล่ออกมาจาก
หน้าต่างชั้นสองของเหลาสุ ราข้าง ๆ หอโคมแดง นางสบสายตาที่
เต็มไปด้วยรอยยิม้ คู่หนึ่งเข้าพอดี เสิ่ นเวยโมโหในชัว่ ขณะ เจ้าสิ
น่าสนใจ บ้านเจ้าสิ น่าสนใจ
นางกลอกตา ถลกแขนเสื้ อกาลังจะวิ่งเข้าไปหาเรื่ อง แต่ชวั่ ขณะกลับ
ร้องตะโกนด้วยความดีใจ “เจียงเฉิน พี่เจียงเฉิ นนัน่ ท่านหรื อ! ไม่เจอ
กันนานแล้วจริ ง ๆ ” คนที่ชะโงกตัวอยูข่ า้ งหลังผูน้ ้ นั ไม่ใช่เจียงเฉิ น
สหายเก่าหรื อไร
ไตร่ ตรองเพียงแค่ชวั่ พริ บตา เสิ่ นเวยก็ตดั สิ นใจขึ้นไปพูดคุยเรื่ องใน
อดีตกับเขา ตอนนี้นางเป็ นคุณชาย ไม่ใช่คุณหนูสี่ของจวนจงอู่โหว
เจียงเฉินเห็นเสิ่ นเวยเพื่อนเก่าที่เขาพบตอนอยูช่ นบทกาลังโบกมือยิม้
แย้มให้ตนไม่หยุดราวกับดีอกดีใจอยูท่ ี่ช้ นั ล่างก็ตกใจเช่นกัน นัน่ นาง
หรื อ นางกลับเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไร
ชายฝั่งตรงข้ามมองเจียงเฉินด้วยความสนใจอย่างยิง่ “พี่เจียงรู ้จกั
คุณชายท่านนั้นหรื อ”
เจียงเฉินเก็บสี หน้าประหลาดใจ กล่าวอย่างเฉยเมย “บังเอิญพบก็เท่า
นั้นเอง”
“บังเอิญพบอะไรกันเล่า พี่เจียงเฉินลืมแล้วหรื อว่า พวกเราเป็ นเพื่อน
ร่ วมทุกข์กนั ” เสี ยงที่ไม่พอใจของเสิ่ นเวยดังกังวานขึ้นมา นางผลัก
ประตูเข้ามาเอง “จากกันเมื่อสองปี ก่อน พี่เจียงเฉิ นมีชื่อเสี ยงบารมี
ไม่เสี ยชื่อที่เป็ นปั ญญาชนผูส้ อบเข้าสานักราชบัณฑิตได้เป็ นอันดับ
สาม”
เสิ่ นเวยลากเก้าอี้เข้ามานัง่ ด้วยความเป็ นธรรมชาติอย่างยิง่ จ้องมอง
เจียงเฉินแล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ “หรื อว่าพี่เจียงเฉิ นเป็ นขุนนาง
ชั้นสู งแล้วเลยดูถูกสหายยากจนต่าต้อยเช่นข้า”
บนใบหน้าเจียงเฉิ นเผยความจนปัญญาหลายส่ วน “ก็แค่ราชบัณฑิต
ยากจนคนหนึ่ง ไหนเลยจะเป็ นขุนนางชั้นสู งอะไรนัน่ จะร่ ารวยเงิน
ทองเท่าคุณชายจินได้อย่างไร อ้อจริ งสิ คุณชายจินมาเมืองหลวง
ตั้งแต่เมื่อไรหรื อ”
ตอนที่พดู คาว่าคุณชายจินสามคานี้ เจียงเฉิ นเองก็ยงั รู ้สึกอึดอัด เด็ก
น้อยนิสยั เสี ยคนนี้เคยบอกไว้วา่ เห็นนางใส่ ชุดบุรุษเมื่อไรให้เรี ยกว่า
คุณชายจิน นางชื่อจินโหย่วเฉียน จินที่แปลว่าเงินทอง โหย่วเฉี ยนที่
แปลว่ามีเงินมหาศาล ฟังจากชื่อก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้รักเงินเพียงใด
“ข้าก็วา่ พี่เจียงเฉินไม่ใช่คนอย่างนั้น พวกเราต่างก็ผา่ นความ
ยากลาบากมาด้วยกัน” เสิ่ นเวยยิม้ แย้มเบิกบานทันที “ท่านว่าพวกเรา
สองคนมีวาสนาหรื อไม่ เย็นเมื่อวานข้าเพิ่งมาเมืองหลวง วันนี้
ออกมาก็เจอพี่เจียงเฉินเลย ไม่ใช่วาสนาหรื อไร”
“นัน่ สิ คงเป็ นโชคร้าย!” เจียงเฉินพูดจาเสี ยดสี แต่สายตากลับมอง
ประเมินเสิ่ นเวยอยูเ่ งียบ ๆ เด็กคนนั้นโตแล้ว โตจนเป็ นสตรี ที่
สามารถแต่งงานได้แล้ว นึกถึงเรื่ องที่นางได้รับพระราชทานสมรส
กับคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง เขาก็เป็ นกังวลอย่างมาก คุณชายใหญ่ผู ้
นั้นไม่เพียงแต่สุขภาพไม่คอ่ ยดี สถานะในจวนอ๋ องยังไม่ดีอย่างยิง่
เพียงแค่เขาเป็ นบุตรชายคนโตของภรรยาหลวงแต่กลับไม่ได้เป็ น
ซื่อจื่อก็เห็นอะไรได้หลายอย่างแล้ว เด็กน้อยแต่งเข้าไปจะรับมือได้
หรื อไม่
หลายเดือนก่อนฟังว่านางไปขอพรที่วดั ต้าเจวี๋ย ภายหลังอาจารย์ซูมา
ขอความช่วยเหลือจากเขา เขาจึงรู ้วา่ นางไม่ได้ไปวัดต้าเจวี๋ย แต่ไป
เมืองชายแดนซีเจียงแทน ตอนนั้นเขาเป็ นห่วงจนนอนไม่หลับ
ตอนนี้เห็นเด็กน้อยนอกจากจะดาขึ้นแล้วก็ไม่ได้เป็ นอะไรอีก จิตใจ
ที่เป็ นกังวลก็วางลงได้
หลังจากนั้นเขาก็หลุดหัวเราะในใจ ตนลืมได้อย่างไรว่าเด็กคนนี้
หาญกล้าเพียงใด ตั้งแต่ที่รู้จกั กับนางก็ไม่เคยเห็นนางเสี ยเปรี ยบเลย
นางไปซีเจียง ฝ่ ายที่ประสบหายนะเกรงว่าจะเป็ นซีเหลียงกระมัง ตน
เป็ นกังวลไปเองเสี ยแล้ว
ตอนที่ 180-2 แอบใช้ ชีวติ ตามใจครึ่งวัน
“โชคร้ายอะไรกัน ท่านให้พี่ชายผูน้ ้ ีตดั สิ นสิ เห็นชัด ๆ ว่าข้าช่วย
ท่านออกมาจากรังโจรด้วยชีวิตทั้งหมดที่มี” เสิ่ นเวยตะโกนอย่างไม่
พอใจ หลังจากนั้นก็สาธยายเล่าเรื่ องที่พวกเขาเจอกัน
“ชีวิตทั้งหมดเลยหรื อ” เจียงเฉินปรายตามองเสิ่ นเวย เจ้าเด็กนิสัยเสี ย
อายุนอ้ ยกว่าข้าตั้งกี่ปี เจ้าใช้ชีวิตทั้งหมดที่มี เช่นนั้นข้าจะเป็ นอะไร
เล่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะเข้าไปในรังโจรได้หรื อ ลูกน้องของ
ข้าช่วยข้าออกมาแล้ว ไม่ใช่วา่ เจ้าแหกปากร้องไห้ดึงดูดโจรทั้งหมด
มาหรื อไร”
เจียงเฉินคล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ มองเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยฉุนเล็กน้อยอย่างอด
ไม่ได้ แต่ปากกลับกล่าวอย่างยืนกราน “ไม่ตอ้ งสนใจว่าระหว่างทาง
จะเป็ นอย่างไร สุ ดท้ายแล้วข้าก็ลากท่านวิง่ ออกมาไม่ใช่หรื อ พวกเรา
ไม่มีใครเป็ นอะไรไม่ใช่หรื อ ท่านก็แล้งน้ าใจเกินไปจริ ง ๆ อย่างไร
เสี ยข้าเองก็ช่วยท่านไว้ พ่อข้าส่ งคนมาจับข้ากลับบ้านท่านไม่
เพียงแต่ไม่ช่วย ยังซ้ าเติมทิ้งข้าหนีไปอีก เหอะ!” เสิ่ นเวยประณาม
ด้วยความโกรธแค้น
“เจ้ากับข้าไม่ใช่ญาติไม่ใช่ศตั รู มีสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้พอ่ เจ้าพา
เจ้ากลับบ้าน” เจียงเฉินสุ ขมุ มัน่ คง “จะว่าไปแล้วเหตุใดตอนนี้พอ่ เจ้า
ถึงปล่อยเจ้าออกมาแล้วเล่า ไม่ใช่วา่ หนีออกจากบ้านอีกแล้วนะ”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่ องนี้ เสิ่ นเวยก็ห่อเ**้่ยวในชัว่ ขณะ “ไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อข้าคิดอะไร บรรพบุรุษหลายต่อหลายรุ่ นทาแต่
ค้าขาย มีสิทธิ์อะไรมาบังคับให้ขา้ เรี ยนหนังสื อสอบสร้างตาแหน่ง
ชื่อเสี ยงให้ได้ ข้าฉลาดก็ฉลาดอยูห่ รอก แต่สิ่งที่ขา้ ชอบคือการค้าขาย
สร้างกาไร ใครจะมาทนอ่านหนังสื ออะไรนัน่ ท่านไม่รู้ สองปี
ก่อนหลังข้าถูกจับกลับไป พ่อข้าก็ส่งเด็กรับใช้มาให้ขา้ แปดคน คุม
ข้าอ่านหนังสื อโดยเฉพาะ แม้แต่เข้าห้องน้ ายังต้องมีคนเฝ้าอยูข่ า้ ง
นอก ชีวิตลาบากยิง่ นัก!” เสิ่ นเวยร้องทุกข์ข้ ึนมา
“หึ ๆ ยังดีที่ขา้ ฉลาด ข้าบอกพ่อข้าแล้ว การเรี ยนการสอนในเมือง
หลวงเข้มข้นที่สุด ปราชญ์ชื่อดังก็เยอะ ดังนั้นพ่อข้าจึงอนุญาตให้ขา้
มาเรี ยนในเมืองหลวง แต่วา่ เขาเองก็เจ้าเล่ห์จริ ง ๆ คนที่มาเมือง
หลวงกับข้าล้วนแต่เป็ นคนสนิทของเขาหมดเลย เฮ้อ เห็นหรื อไม่
คนนี้กใ็ ช่เหมือนกัน” เสิ่ นเวยยิม้ อย่างเจ้าเล่ห์ ชายตามองเสี่ ยวตี๋ที่ยนื
อยูข่ า้ ง ๆ ปราดหนึ่ง กล่าวอย่างเคียดแค้น
เสี่ ยวตี๋รู้วา่ ตนควรออกโรงแล้วจึงตีหน้าเศร้า “คุณชายขอรับ ท่านก็
อย่าทาให้ผนู ้ อ้ ยลาบากใจเลย นายท่านหวังดีต่อท่าน” จากนั้นก็มอง
เจียงเฉิน ไหว้วานเขาไม่หยุด “คุณชายเจียง ท่านเป็ นสหายรักของ
คุณชายพวกข้า ต้องโน้มน้าวเขาให้ได้นะขอรับ”
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ เสี่ ยวตี๋ ดวงตากะพริ บวาบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พี่
เจียงเฉิน พี่ชายผูน้ ้ ีคือใครหรื อ แนะนาหน่อยสิ ” เสิ่ นเวยสะกิดเจียง
เฉินเล็กน้อย ท่าทางสนิทสนม
เจียงเฉินกระตุกมุมปาก กล่าว “ผูน้ ้ ีคือสหายที่สานักราชบัณฑิตของ
ข้า แซ่เซี่ย เป็ นผูไ้ ด้รับคัดเลือกพร้อมกันกับข้า”
เสิ่ นเวยแสดงความหน้าหนาของนางออกมาทันที “พี่แท้แล้วก็เป็ น
พี่เซี่ยนี่เอง! น้องแซ่จิน ชื่อจิน
โหย่วเฉียน พ่อข้าชื่อจินฟู่ กุย้ ครอบครัวทาการค้าขาย เลื่อมใสมา
นานแล้ว เลื่อมใสมานานแล้ว” เสิ่ นเวยแสร้งประสานมือคารวะ
เจียงเฉินแทบจะพ่นชาออกมา มีจินโหย่วเฉี ยนก็พอแล้ว ยังมีจินฟู่ กุย้
(ร่ ารวย) ออกมาอีก ใต้เท้าเสิ่ นรู ้หรื อไม่
ทว่าเสิ่ นเวยกลับถลึงตามองเขาอย่างไม่พอใจ “ทาไม ดูถูกชื่อพวกข้า
สองพ่อลูกหรื อ เจ้าอย่าเห็นว่าชื่อนี้ไร้รสนิยม นี่เป็ นชื่อที่ผา่ นการ
คานวณของพระอาจารย์ชื่อดัง ข้าจะบอกอะไรพวกเจ้าให้ เพราะว่ามี
ชื่อพวกข้าสองพ่อลูก การค้าขายในครอบครัวจึงราบรื่ นเช่นนี้ รู ้
หรื อไม่วา่ ปู่ ข้าชื่ออะไร ชื่อจินอิ๋น! (เงินทอง) ตอนนี้ครอบครัวพวก
ข้าก็มีเงินทองไหลมาเทมาทุกวันมิใช่หรื อ” เสิ่ นเวยภูมิอกภูมิใจ
คราวนี้แม้แต่คุณชายแซ่เซี่ยก็แทบจะพ่นชาอย่างอดไม่ได้เช่นกัน
คุณชายน้อยผูน้ ้ ีน่าสนใจจริ ง ๆ
เขาหัวเราะช้า ๆ ท่าทางสง่างามอย่างถึงที่สุด กล่าวด้วยความเป็ น
มิตร “ข้าน้อยแซ่เซี่ย ชื่อเฟย เป็ นสหายของพี่เจียง เพื่อนของพี่เจียงก็
คือเพื่อนของข้าน้อย ยิง่ ไปกว่านั้นคุณชายจินก็เป็ นชายหนุ่มรู ปงามมี
อารมณ์ขนั เช่นนี้ ข้าน้อยก็ยงิ่ อยากเป็ นเพื่อนกับคุณชายจินเสี ยแล้ว”
จากบทสนทนาของคนทั้งสอง เซี่ยเฟยก็สามารถปะติดปะต่อ
เรื่ องราวที่สองคนนี้พบกันได้แล้ว อีกทั้งยังมองออกว่าคุณชายน้อย
แซ่จินผูน้ ้ ีกค็ ือคนที่ไม่หวาดระแวง นึกถึงเจียงเฉิ นที่เคยถูกพัวพันกับ
รังโจร เขาก็ร้องห่มร้องไห้แทน แต่เขาไหนเลยจะรู ้วา่ เรื่ องเล่านี้เป็ น
เพียงเรื่ องที่เสิ่ นเวยและเจียงเฉินแต่งขึ้นมาตามสถานการณ์
เสิ่ นเวยเห็นเซี่ยเฟยผูน้ ้ ีมีท่าทีเป็ นมิตรเช่นนั้นก็เปิ ดปากยิม้ ซื่อ ๆ
อย่างอดไม่ได้ แต่จู่ ๆ กลับได้ยนิ เซี่ยเฟยกล่าวต่อ “ข้าน้อยเพิ่งเคย
พบคุณชายจินครั้งแรก คุณชายจินเลื่อมใสอะไรหรื อ”
รอยยิม้ บนใบหน้าเสิ่ นเวยหยุดชะงักในชัว่ ขณะ เกาศีรษะกล่าวอย่าง
เขินอาย “เอ่อ เอ่อ เวลาปัญญาชนเช่นพวกเราพบปะผูค้ นก็ชอบพูด
เช่นนี้ไม่ใช่หรื อ” ทันใดนั้นก็หวั เราะเยาะตัวเองกล่าว “ไม่ปิดบังพี่
เซี่ย ข้าน่ะ ตั้งแต่เล็กก็ชอบทาการค้า ชอบนับเงินในคลังที่สุด แม้วา่
จะถูกพ่อข้าบังคับให้อ่านหนังสื อมาหลายปี อันที่จริ งความรู ้ใน
สมองก็ยงั มีไม่เยอะ ยังหวังว่าพี่เซี่ยจะให้อภัย” สี หน้าจริ งใจ แต่ใน
ใจกลับกาลังกัดฟันกรอด คนแซ่เซี่ยผูน้ ้ ีดูกร็ ู ้วา่ ไม่ใช่คนดี! เจียงเฉิ นก็
เหมือนกัน เป็ นเพื่อนอะไรกัน นี่ทาให้นางพาลใส่ แม้แต่เจียงเฉิ น
แล้ว
ทว่ามุมปากของเซี่ยเฟยกลับยังคงอมยิม้ กล่าว “ล้อคุณชายจินเล่น
เท่านั้นเอง ขออภัย ขออภัย! อันที่จริ งข้าก็ชอบคนจริ งใจอย่างคุณชาย
จินที่สุด”
“จริ งหรื อ” เสิ่ นเวยเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ ยิม้ อย่างใสซื่อ
จริ งใจยิง่ ขึ้น เจียงเฉินเห็นแล้วมุมปากก็กระตุกทันที หากเด็กนิสัย
เสี ยคนนี้จริ งใจ เช่นนั้นบนโลกนี้กไ็ ม่มีคนเจ้าเล่ห์แล้ว
บทสนทนาต่อมาก็กลมกลืนยิง่ ขึ้นแล้ว หลัก ๆ เป็ นบทสนทนาของ
เสิ่ นเวยกับเซี่ยเฟย เจียงเฉินเพียงแค่นงั่ มองพวกเขาพูดคุยหัวเราะอยู่
ข้าง ๆ
ทั้งสองคนคนหนึ่งพูดจาตรงไปตรงมา กล้าได้กล้าเสี ย พูดจนทาให้
คนสาลักตายด้วยท่าทางจริ งใจ อีกคนหนึ่งพูดจาสบาย ๆ ท่าทางสู ง
สง่า ราวกับฟังเจตนาแฝงนัยไม่ออกอย่างสิ้ นเชิง อีกทั้งยังพยักหน้า
คล้อยตามด้วยความเห็นด้วยอย่างมาก
เหงื่อของเจียงเฉินและเสี่ ยวตี๋ไหลออกมาแล้ว เสี่ ยวตี๋คิดในใจ โชคดี
ที่ไม่พาเถาฮวาออกมา มิเช่นนั้นด้วยท่าทางโง่เขลาของนางจะต้อง
เปิ ดเผยตัวตนของคุณหนูแน่นอน
ทานข้าวเที่ยงเสร็ จแล้ว เซี่ยเฟยก็กล่าวลา เสิ่ นเวยยังแสดงสี หน้า
อาลัยอาวรณ์ท้ งั ใบหน้า “พี่ใหญ่เซี่ย ครั้งหน้าหากมีโอกาสพวกเรา
มารวมตัวกันอีก” ครั้งนี้ เสิ่ นเวยถือเป็ นพี่นอ้ งกับเซี่ยเฟยได้สาเร็ จ
แล้ว
เสิ่ นเวยมองเซี่ยเฟยลงบันได เห็นเขาขึ้นรถม้าหนึ่งคันข้างถนน
ดวงตาหรี่ ลงในชัว่ ขณะ นางมองเจียงเฉิ นปราดหนึ่ง แต่กลับไม่ได้
พูดอะไร
เจียงเฉินรู ้ทนั รี บกล่าว “เชิญมาไม่สูบ้ งั เอิญเจอ คุณชายใหญ่ไปเยีย่ ม
จวนข้าน้อยสักหน่อยเถอะ” เสิ่ นเวยตอบตกลงอย่างยินดี
แม้เจียงเฉินจะอยูใ่ นสานักราชบัณฑิตหลวง แต่กไ็ ม่ใช่บณ
ั ฑิตหลวง
ยาจกจริ ง ๆ หมอนี่มีเงิน ดูจากที่เขาอยูใ่ นเรื อนหลังใหญ่ที่แบ่งเป็ น
สามส่ วนก็รู้แล้ว ศาลาหอสูง ภูเขาจาลองศาลาริ มน้ า ใช้ความคิด
มากมายในการจัดวาง
เมื่อเข้าไปในห้องหนังสื อเสิ่ นเวยก็ครองเก้าอี้ไม้ใหญ่ ๆ ตัวนั้นโดย
พลการ ร่ างพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ “เจียงเฉิ น เหตุใดท่านถึงไม่
แต่งงาน บ้านใหญ่ขนาดนี้เงียบเหงายิง่ นัก!” หมอนี้กอ็ ายุเกินยีส่ ิ บ
แล้ว หน้าตาก็ดี ตัวเขาเองก็เพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่าง เมืองหลวง
นิยมหาเขยหน้าป้ายรายชื่อผูส้ อบติดไม่ใช่หรื อ เหตุใดถึงไม่เอาเขา
ไปเป็ นเขยบ้างเล่า
เจียงเฉินมองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง ถอนใจในใจ เด็กคนนี้แสดงสมจริ ง
ยิง่ นัก เมื่อครู่ ยงั เรี ยกพี่เจียงเฉินไม่หยุดปาก สนิทกันสุ ด ๆ ตอนนี้อา้
ปากก็เรี ยกเจียงเฉิ นแล้ว
“ผลงานยังไม่สร้าง มีครอบครัวได้ดว้ ยหรื อ” เจียงเฉิ นกล่าวช้า ๆ
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะ เป็ นราชบัณฑิตแล้วยังไม่สร้างผลงานอีกหรื อ
เช่นนั้นก็ตอ้ งเข้าคณะเสนาบดีปกครองเมืองหลักเมืองรองจึงจะถือ
ว่าสร้างผลงานแล้วกระมัง เช่นนั้นก็ยงั คงต้องรอ เสิ่ นเวยรู ้สึกว่าเจียง
เฉินไม่ได้พดู ความจริ ง แต่เรื่ องนี้เกี่ยวอะไรกับนาง
“เซี่ยเฟยผูน้ ้ นั มีภูมิหลังอย่างไร” เสิ่ นเวยถามปั ญหาที่นางเป็ นกังวล
เจียงเฉินคิดครู่ หนึ่งจึงกล่าว “น่าจะไม่ต่างจากข้ามากกระมัง ฐานะ
ครอบครัวไม่ต่างกัน ความรู ้กไ็ ม่ต่างกัน ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบใน
สานักราชบัณฑิต คบค้าสมาคมไม่เยอะ ทาไม เขามีอะไรไม่ดีอีก
แล้วหรื อ”
เสิ่ นเวยฟังแล้วก็ส่ายหน้า “บางทีขา้ อาจจะคิดมากไป เพียงแต่เซี่ยเฟย
ผูน้ ้ ีจะต้องเป็ นคนฝึ กยุทธ์แน่นอน” สี หน้าบนใบหน้านางเคร่ งขรึ ม
เล็กน้อย การเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ต้ งั ใจระหว่างที่เขาขึ้นรถเผยให้เห็น
ความจริ งว่าเขาเป็ นยุทธ์ เสิ่ นเวยมักจะรู ้สึกคุน้ ตา คล้ายเคยเห็นที่
ไหนมาก่อน เมื่อคิดดูให้ดี ไม่วา่ อย่างไรก็คิดไม่ออก
ทว่าเจียงเฉินกลับเผยท่าทีสงสัย “ไม่น่าจะใช่ เดือนก่อนเขาเดินไม่
ระวัง ตกลงบันไดลงมา พักรักษาอยูค่ รึ่ งเดือนกว่าจะหายดี” หากเป็ น
ผูฝ้ ึ กยุทธ์ จะหกล้มได้อย่างไร
“ใครจะสนว่าเขาเป็ นหรื อไม่ อย่างไรเสี ยท่านระวังตัวหน่อยก็ดี”
เป็ นเพียงเพื่อนร่ วมงาม คนที่แทบไม่มีความสัมพันธ์เลย ใครจะว่าง
ไปใส่ ใจว่าเขาจะเป็ นยุทธ์หรื อไม่
“ครอบครัวท่านเป็ นอย่างไรบ้าง ปู่ ท่านเจ้าระเบียบหรื อไม่” เสิ่ นเว
ยกล่าวถาม
บนใบหน้าของเจียงเฉินมีรอยยิม้ เหยียดหยาม “จะเป็ นอะไรไปได้อีก
ย่อมต้องตอแยข้าน่ะสิ แม่ผนู ้ ้ นั ของข้าวางแผนร้ายกับท่านลุง เอาแต่
พูดว่าลูกผูน้ อ้ งคือภรรยาที่ยงั ไม่เข้าเรื อนของข้า ถูกท่านปู่ ห้ามไว้ ลุง
ผูน้ ้ นั ของข้าก็ยงั มาหาเรื่ องถึงบ้าน เป็ นปู่ ข้าที่ออกหน้าไล่ออกไป
หลังกลับไปแล้วก็กกั บริ เวณแม่ขา้ เขากลับหวังว่าเขาไปแล้วข้าจะ
เป็ นหัวหน้าตระกูลได้ ข้าไม่รับ ตอนนี้การค้าในครอบครัวมีพรี่ อง
จัดการ” พี่ใหญ่กลายเป็ นคนพิการแล้ว ท่านปู่ เป็ นห่วงเขา ย่อมต้อง
พยายามเลี้ยงดูคนในบ้านพวกเขา พี่รองไม่ใช่ตวั เลือกที่ดีที่สุดหรอก
หรื อ
เสิ่ นเวยไม่ได้พดู ต่อ แต่ละบ้านต่างก็มีปัญหาของตัวเอง เรื่ องในจวน
โหวก็ไม่นอ้ ย และด้วยเหตุน้ ี นางจึงไม่อยากกลับไป หากสามารถอยู่
ที่บา้ นพักไปได้ตลอดก็คงจะดี
ต่อมาเสิ่ นเวยก็เล่าเรื่ องตอนที่นางอยูเ่ มืองชายแดนซีเจียงอย่างง่าย ๆ
ไม่ได้เล่าเรื่ องที่เจอการโจมตีระหว่างทางกลับ เจียงเฉิ นเองก็ไม่ได้
ถามว่าเหตุใดนางถึงกลับมาก่อน เขาคิดในใจ นางไม่พดู เช่นนั้นก็
จะต้องเป็ นเรื่ องที่เขารู ้ไม่ได้แน่นอน
นางอยูใ่ นจวนเจียงเฉินถึงบ่ายแก่ กระทัง่ พระอาทิตย์ตกดินเสิ่ นเว
ยจึงขอตัวออกมา ตอนที่ผา่ นหอโคมแดงเสิ่ นเวยก็ยงั มีแรงกระตุน้
อยากเข้าไปดูอยู่ แต่วา่ คราวนี้ไม่ตอ้ งให้เสี่ ยวตี๋ร้ ังไว้ นางก็ละทิ้งเอง
แล้ว เมืองหลวงมียอดฝี มือซ่อนตัวอยู่ นางไม่อยากยัว่ ยุใครหรื อก่อ
เรื่ องใด ๆ อีก
ขณะที่รถม้าวิ่งไปข้างหน้าต่อ จู่ ๆ เสิ่ นเวยก็ได้ยนิ เสี ยงร้องขอความ
ช่วยเหลือสั้น ๆ หนึ่งครา หลังจากนั้นก็มีเสี ยงของบางอย่างล้ม ยังมี
เสี ยงหัวเราะอนาจารดังขึ้นหลายครา
การตอบสนองของเสี่ ยวตี๋เร็ วอย่างยิง่ หยุดรถม้าไว้ขา้ ง ๆ ทันที
ที่นี่เป็ นตรอกยาว ๆ หนึ่งสาย เป็ นถนนที่เสิ่ นเวยต้องผ่านขากลับ
ตอนนี้ในตรอกจะต้องเกิดเรื่ อง แน่นอนว่าไม่อาจวิ่งต่อได้
เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋สบตากันปราดหนึ่ง ทั้งสองคลาทางเดินไป
ข้างหน้าเงียบ ๆ
ตอนที่ 181-1 วัดต้ าเจวีย๋
“เจ้าวิ่งสิ เจ้าวิ่งต่อสิ ให้อาหารเจ้ากิน ให้เสื้ อผ้าเจ้าใส่ เลี้ยงเจ้าอย่าง
หรู หรา กลับกลายเป็ นเลี้ยงคนเนรคุณเสี ยอย่างนั้น”
“ไม่ใช่เจ้าเก่งนักหรื อ แม้แต่เจ้านายยังถูกเจ้าหลอก ยังคิดว่าเจ้าหัวไว
ไม่นึกว่าเจ้าจะซ่อนความคิดชัว่ ช้า คิดจะหนีหรื อ ในอาณาเขตของ
พวกข้าเจ้าจะวิ่งหนีไปไหนได้” หลังจากนั้นก็มีเสี ยงต่อยหมัดดังตุบ
ตับ
“จุ๊ ๆ ดูเนื้อหนังนี่สิ ดูใบหน้าเล็ก ๆ นี้ ดึงดูดใจจริ ง ๆ ในเมื่อเจ้าไม่
อยากใช้ชีวิตเหนือคนธรรมดา เช่นนั้นวันนี้กร็ ับใช้พวกข้าก่อน หาก
รับใช้พวกข้าดี ไม่แน่วา่ อาจจะยังหาทางรอดให้เจ้าได้จริ ง ๆ ”
ตามมาด้วยเสี ยงตบหน้า
“ใช่แล้ว ๆ พวกข้ายังไม่เคยเล่นกับของสวย ๆ งาม ๆ เช่นนี้เลย ฮ่า
ๆ วันนี้พวกข้าก็ขอลิ้มรสของชั้นดีน้ ีเสี ยหน่อย ฮ่า ๆ ”
เสี ยงหัวเราะที่น่ารังเกียจและหื่นกามแสบแก้วหูยงิ่ นัก ฝ่ ายตรงข้ามที่
ถูกทุบตีและหยอกล้อกลับไม่ส่งเสี ยงใด ๆ ออกมา เห็นได้วา่ เป็ นคน
ที่ด้ือรั้นทีเดียว
นี่มนั ฉากหอนางโลมจับนางโลมที่หลบหนีหรื ออย่างไร เสิ่ นเวยกับ
เสี่ ยวตี๋สบตากันปราดหนึ่ง ทั้งสองตกใจเล็กน้อย หอนางโลมที่ไหน
กันทาตัวกาแหงเช่นนี้
ในเมื่อเจอแล้ว เช่นนั้นก็ช่วยคนเถอะ! เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋คลาทางไป
ข้างหน้าเงียบ ๆ เห็นเพียงชายฉกรรจ์ในชุดจอมยุทธ์สามคนกาลัง
ล้อมสตรี ที่นงั่ ฟุบอยูบ่ นพื้นผูห้ นึ่ง พูดจาลากมกหยาบคาย มีหนึ่งคน
ที่ถอดเสื้ อผ้าออกแล้ว
เสิ่ นเวยส่ งสายตาให้เสี่ ยวตี๋ เสี่ ยวตี๋พยักหน้า ก้มตัวเก็บก้อนหิ นเล็ก
หนึ่งก้อนแล้วซัดออกไป โดนมือคนผูน้ ้ นั ที่ถอดเสื้ อพอดี เขาร้อง
โอ๊ยเจ็บปวด “ใคร! ใคร!”
อีกสองคนที่เหลือก็มองมาทางฝั่งนี้อย่างตื่นตัว “ใคร ออกมา! หลบ
ๆ ซ่อน ๆ ใช่วีรบุรุษลูกผูช้ ายที่ไหนกัน”
เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋เดินออกมาจากความมืด ชายฉกรรจ์สามคนนั้น
เห็นว่าคนที่มายุง่ เรื่ องชาวบ้านเป็ นคุณชายน้อยตระกูลเศรษฐี
จากนั้นก็เห็นว่าคุณชายน้อยพามาเพียงแค่เด็กรับใช้ร่างผอมบางคน
หนึ่งก็วางใจลง
“ข้าว่าคุณชายท่านนี้อย่าได้ยงุ่ เรื่ องชาวบ้านเลยจะดีกว่า มิเช่นนั้น…”
คนผูน้ ้ นั ที่ถอดเสื้ อเมื่อครู่ แค่นเสี ยงหัวเราะเยาะ การข่มขู่ในคาพูด
ชัดเจนอย่างยิง่ สองคนที่เหลือก็กอดอกหัวเราะเยาะเช่นกัน หนึ่งใน
นั้นยังกล่าว “พี่ใหญ่ ดูสิคุณชายน้อยผูน้ ้ ีกผ็ วิ พรรณนุ่มละเอียด
เหมือนกัน หรื อว่าจะ?”
เจตนาร้ายอันโจ่งแจ้งนั้นทาให้เสี่ ยวตี๋โมโหอย่างถึงที่สุด คาดไม่ถึง
ว่ากล้าไม่เคารพคุณหนู สมควรตาย! ร่ างนางราวกับสายฟ้า ชาย
ฉกรรจ์ในชุดชอมยุทธ์รู้สึกเพียงเบื้องหน้าวูบไหว คนที่เอ่ยปาก
หยาบคายผูน้ ้ นั ถูกตัดคอขาดล้มลงกับพื้นแล้ว
“นี่กค็ ือจุดจบของผูท้ ี่ไม่เคารพคุณชายของข้า” เสี ยงที่เย็นยะเยือก
ของเสี่ ยวตี๋ดงั ขึ้น
สองคนที่ยงั เหลืออยูถ่ อยไปข้างหลังสองก้าวใหญ่อย่างระมัดระวัง
ทันที ความตื่นตัวในแววตามากอย่างยิง่ “พวกเจ้าเป็ นใครกันแน่ ดู
ท่าแล้วคุณชายก็คงจะเป็ นผูม้ ีความรู ้ นี่เป็ นเรื่ องในบ้านของพวกข้า
คุณชายทาเป็ นไม่เห็นจะดีกว่า เมื่อครู่ พี่ชายผูน้ ้ ีของข้าเสี ยมารยาท
บ่าวของคุณชายก็ลงโทษเขาแล้ว พวกเราไม่เคยรู ้จกั กันมาก่อน
อย่าได้ผกู อาฆาตต่อกันเลยจะดีกว่า”
เสิ่ นเวยถอนหายใจหนึ่งครา พัดพับได้ในมือตบลงในฝ่ ามือเบา ๆ
ในน้ าเสี ยงมีความคับแค้นแทนผูท้ ี่ได้รับความไม่เป็ นธรรมอย่างถึง
ที่สุด “พ่อหนุ่มกล้าหาญผูน้ ้ ีพดู จามีเหตุผล ข้าเป็ นเพียงคนผ่านทาง
ไม่ได้อยากสร้างปั ญหาจริ ง ๆ ”
สองคนนั้นได้ยนิ เสิ่ นเวยพูดเช่นนี้ กาลังจะประสานมือกล่าวขอบคุณ
ทว่ากลับได้ยนิ เสิ่ นเวยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แม้วา่ ข้าจะไม่อยาก
สร้างปัญญา แต่ปัญหาดันมาหาข้าเอง เจ้าว่าเมืองหลวงใหญ่เพียงนี้
พวกเจ้าไม่ไปจัดการเรื่ องในบ้านที่อื่น ดันวิง่ มาบนถนนที่ขา้ ต้อง
กลับบ้าน ไม่ใช่เป็ นการสร้างความกลุม้ ใจให้ขา้ หรอกหรื อ พวกเจ้า
คิดว่าข้าเป็ นเด็กสามขวบหรื อไร คาพูดของพวกเดนตายเช่นพวกเจ้า
เชื่อได้ดว้ ยหรื อ วันนี้หากปล่อยพวกเจ้าไป ไม่ใช่วา่ ข้าทิ้งหายนะไว้
ให้ตวั เองหรื อ แม้ขา้ จะอายุนอ้ ย แต่กร็ ู ้จกั สานวนคาว่าตัดรากถอน
โคนเหมือนกัน”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา ร่ างก็ขยับก่อน อาวุธชายฉกรรจ์ในชุดจอมยุทธ์
สองคนนั้นยังไม่ทนั ได้ชกั ออกมา ร่ างก็แข็งทื่อล้มลงบนพื้นแล้ว
เสิ่ นเวยมองพัดพับได้ในมือ กล่าวในใจ อาวุธลับนี้ใช้ดีจริ ง ๆ
ที่แท้แล้วพัดพับได้น้ ีกไ็ ม่ได้มีไว้ใช้ประดับเท่านั้น ที่จริ งแล้วมันยัง
เป็ นอาวุธลับชั้นดี ข้างในซ่อนเข็มพิษไว้ เป็ นพืชลูกศรพิษ
“เสี่ ยวตี๋ ไปกันเถอะ” เสิ่ นเวยส่ ายหน้าตะโกนเรี ยกเสี่ ยวตี๋ อารมณ์ไม่
ดีเล็กน้อย ไม่วา่ ใครก็ตามที่ตอ้ งฆ่าคนระหว่างทางกลับบ้านล้วน
อารมณ์ไม่ดีท้ งั สิ้ น
เสี่ ยวตี๋เหลือบมองแม่นางที่หมอบอยูบ่ นพื้น ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พดู
อะไร
“คุณชาย ช่วยด้วย” ใครจะรู ้จู่ ๆ แม่นางบนพื้นผูน้ ้ นั ก็โผเข้ามา
ฉับพลัน คว้าชายเสื้ อของเสิ่ นเวยไว้
เสิ่ นเวยตกตะลึง นี่ไม่ใช่สตรี หรอกหรื อ ก่อนหน้านี้คนผูน้ ้ ีกม้ หน้า
เส้นผมปิ ดบังใบหน้าอยู่ เสิ่ นเวยมองเห็นเพียงเสื้ อผ้าสี ขาวที่เขาสวม
อยู่ บวกกับคาพูดที่ชายฉกรรจ์สามคนนั้น ก็คิดไปเองว่านี่คือสตรี ที่
หนีออกจากหอนางโลมที่ไหนสักแห่ง
แต่ตอนนี้เมื่อแม่นางผูน้ ้ ีเอ่ยปาก เสิ่ นเวยก็พบว่านี่ไหนเลยจะเป็ น
สตรี ชัดเจนว่าเป็ นชายหนุ่มผูห้ นึ่ง
เขา เขาคงไม่ได้หนีออกมาจากหอนายโลมหรอกนะ สี หน้าของเสิ่ น
เวยแปลกประหลาด ก่อนหน้านี้นางยังอยากไปเปิ ดหูเปิ ดตาใน
สถานที่น้ นั อยูเ่ ลย จู่ ๆ ก็มีนายโลมคนหนึ่งส่ งมาถึงหน้านาง แม้แต่
สวรรค์กย็ งั อยากให้นางสมปรารถนางั้นหรื อ
เสิ่ นเวยแอบวิจารณ์เงียบ ๆ อยูใ่ นใจ แต่นางก็ยงั ไม่อยากยุง่ เรื่ องคน
อื่นเช่นนี้ นางกะพริ บตามองคนเลวสามคนนั้นที่กระทาความชัว่ ต่อ
หน้านางอย่างหมดหนทาง ตอนนี้สามคนนั้นตายหมดแล้ว นางเองก็
นับว่าได้ช่วยคนผูน้ ้ ีแล้ว ไม่ใช่ญาติไม่ใช่ศตั รู นางทาถึงขนาดนี้ได้ก็
เมตตามากแล้ว
“ข้าช่วยเจ้าแล้ว ปล่อยมือ” เสี ยงที่เย็นเยียบของเสิ่ นเวยดังขึ้น หัวใจ
ของอันเจียเหอบนพื้นกลับดิ่งลง เขากล้ ากลืนความอัปยศอดสู มา
หลายปี เพียงนี้ หรื อว่าวันนี้จะต้องตายอยูท่ ี่นี่เสี ยแล้ว แต่เขายังมี
่
ความอาฆาตแค้นอยู…
คิดถึงตรงนี้ แววตาของอันเจียเหอก็ปรากฏความหนักแน่น กา
ชายเสื้ อของเสิ่ นเวยแน่นไม่ยอมปล่อย “คุณชายช่วยข้าด้วย!” เขาจะ
ตายไม่ได้ จะตายอยูท่ ี่นี่ไม่ได้ เขายังต้องลากสังขารอันอ่อนแอนี้เพื่อ
ไปแก้แค้นอยู่
เสิ่ นเวยถอนหายใจอีกครั้ง มองคนบนพื้นแล้วกล่าว “ในเมื่อเจ้าหนี
ออกมาได้ เช่นนั้นก็แสดงว่าวางแผนดีแล้ว ตอนนี้คนที่จบั เจ้าก็ตาย
หมดแล้ว เจ้าหลบหนีตามแผนก่อนหน้านี้ของเจ้าก็ได้แล้ว” ดูจากที่
คนผูน้ ้ ีถูกด่าทอแต่กลับไม่ส่งเสี ยงเมื่อครู่ น้ ี ก็รู้แล้วว่าคนผูน้ ้ ีเป็ นคนที่
มีจิตใจหนักแน่น และในใจก็มีแผนการอยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยไม่อยากยุง่
เกี่ยวกับเรื่ องนี้จริ ง ๆ
อันเจียเหอได้ยนิ ประโยคนี้ ในใจก็หวาดกลัวอย่างอดไม่ได้ แต่กลับ
ยิง่ มัน่ ใจที่จะร้องขอต่อ “คุณชายช่วยข้าด้วย!” เขาหลบหนีได้ แต่
ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ เคลื่อนไหวไม่สะดวก ต่อให้หลบหนีกค็ ง
จะต้องถูกหาเจออยูด่ ี แม้คุณชายผูน้ ้ ีตรงหน้าจะอายุไม่มาก แต่ก็เป็ น
คนที่ค่อนข้างมีฝีมือ หากได้เขาเป็ นที่พ่ งึ พิง ไม่แน่วา่ ตนอาจจะยังแก้
แค้นได้ในสักวันหนึ่ง
“คุณชายช่วยข้าด้วย แม้ขา้ จะเร่ ร่อนสกปรก แต่ต้ งั แต่เล็กก็อ่าน
หนังสื อมากมาย ด้านการเล่นพิณหมากล้อมเขียนพูก่ นั ก็ไม่เป็ นรอง
ใคร ส่ วนด้านกลไกการนับเลขก็ชานาญ คุณชายโปรดเมตตา
ช่วยชีวิตข้าสักครั้ง” แม้วา่ ในใจจะรู ้สึกอับอาย แต่อนั เจียเหอกลับ
ยังคงมองเสิ่ นเวยอย่างดื้อรั้น
ตอนที่เสิ่ นเวยได้ยนิ เขาพูดว่าตนอ่านหนังสื อมามากในใจก็หวั เราะ
เยาะแล้ว เป็ นนายโลมต้องฉกฉวยคาชมจากแขก ก็ตอ้ งเรี ยนรู ้
ความสามารถเหล่านี้ไม่ใช่หรื อ อ่านหนังสื อเยอะไปก็ไร้ประโยชน์
นอกจากเอาใจแขกแล้วยังมีประโยชน์อะไรอีก แต่เมื่อได้ยนิ ว่าเขายัง
ชานาญกลไกนับเลข ดวงตาของเสิ่ นเวยก็ลุกวาว นับเลขยังไม่เท่าไร
แต่ผมู ้ ีความสามารถด้านกลไกกลับหากยากจริ ง ๆ
“เสี่ ยวตี๋ ยังไม่รีบพยุงคุณชายผูน้ ้ ีข้ ึนมาอีก” เสิ่ นเวยสัง่ เสี่ ยวตี๋
เสี่ ยวตี๋เข้าใจแล้วว่าคุณหนูตอ้ งการช่วยคน ในที่สุดหัวใจของอันเจีย
เหอก็วางลง ประสาทผ่อนคลาย วินาทีถดั มาก็จมดิ่งอยูใ่ นความดา
มืด
“คุณหนู ไม่เป็ นไร เพียงแค่หมดสติ” เสี่ ยวตี๋องั ลมหายใจตรงจมูก
ของเขาแล้วกล่าว
“เช่นนั้นก็ดี” เสิ่ นเวยลูบอก ท่าทางตกใจ นางตัดสิ นใจจะรับคนผูน้ ้ ี
ไว้อย่างไม่กลัวปั ญหาแล้ว หากเขาตายขึ้นมา ตนก็ช่วยเปล่า
ประโยชน์ไม่ใช่หรื อ
เสิ่ นเวยหวาดระแวงมากขึ้น นางไม่ได้บุ่มบ่ามพาคนกลับไปที่
บ้านพักทันที แต่ส่งไปยังเรื อนเล็กหลังหนึ่งที่ทหารลับพักผ่อนอยู่
โยนคนให้ทหารลับผลัดกันเฝ้า จากนั้นจึงพาเสี่ ยวตี๋กลับบ้านพัก
เสิ่ นเวยเดินเล่นสบายอารมณ์อยูใ่ นเมืองหลวงอยูห่ กเจ็ดวัน ตัวนาง
เองก็หน้าตาดีอยูแ่ ล้ว บวกกับใจป้ ามือเติบ เจ้าของร้านลูกจ้างใน
เหลาสุ ราโรงน้ าชาโรงงิ้วต่าง ๆ ที่มีชื่อในเมืองหลวงต่างก็จาคุณชาย
จินที่ใจป้ าผูน้ ้ ีได้แล้ว ทุกครั้งที่นางปรากฏตัว ลูกจ้างในร้านต่างก็
แย่งกันบริ การ เงินรางวัลที่คุณชายจินให้เยอะอย่างยิง่ จริ ง ๆ โรงน้ า
ชาอวี้ไท่มีลูกจ้างแซ่หลี่คนหนึ่ง เพราะว่าเขาตอบคาถามดี คุณชายจิ
นจึงถือโอกาสตบรางวัลเป็ นเงินหนึ่งแท่ง นี่เท่ากับเงินเดือนเขาทั้งปี
จะไม่ให้ลูกจ้างทุกคนแห่กนั แย่งชิงได้อย่างไร อย่าว่าแต่ลูกจ้าง
แม้แต่เจ้านายเล็ก ๆ ยังอิจฉาตาร้อน
หลังจากคืนนั้นที่เสิ่ นเวยออกมาจากห้องหนังสื อส่ วนพระองค์
จักรพรรดิยงเซวียนก็ประทับอยูเ่ นิ่นนาน สี พระพักตร์ท่ามกลางแสง
และเงามืดสลัวไม่ชดั เจน หลังจากนั้นก็ตรัสหนึ่งประโยค “ออกมา
เถอะ”
จากนั้นจึงมีคนชุดดาผูห้ นึ่งคุกเข่าลงบนพื้นอย่างแปลกประหลาด
จักรพรรดิยงเซวียนตรัสสัง่ หลายประโยค คนชุดดาผูน้ ้ นั บิดตัว
หายไปในห้องราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
คืนนั้นพระตาหนักซีซานมีกองทัพห้าพันนายออกไปเงียบ ๆ
เรื่ องนี้เสิ่ นเวยย่อมไม่รู้ แต่นางเองก็เดาได้ เรื่ องใหญ่เช่นนี้ จักรพรรดิ
ไม่อาจนิ่งเฉย จะต้องวางแผนรับมือแน่นอน ส่ วนจะเป็ นแผนอะไร
นัน่ ก็ไม่ใช่เรื่ องที่เด็กผูห้ ญิงเช่นนางจะทุกข์ใจ
ตอนที่ 181-2 วัดต้ าเจวีย๋
เสิ่ นเวยคาดการณ์วา่ ท่านปู่ ใกล้จะกลับมาแล้ว นางจึงเร่ งรี บไปยัง
วัดต้าเจวี๋ย นางฉวยโอกาสตอนกลางคืนปี นเข้าไปในห้องจาก
หน้าต่างด้านหลังโดยตรง
ซู่เหนียงที่ปลอมตัวเป็ นนางกาลังเตรี ยมจะพัก จู่ ๆ ก็มองเห็นคนผู ้
หนึ่งปี นเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลัง ตกใจจนกรี ดร้อง หลีฮวาที่อยู่
ข้างนอกก็วงิ่ เข้ามาทันที
“เฮ้ย ข้าเอง!” เสิ่ นเวยเห็นซู่เหนียงคว้ากรรไกรใต้หมอนออกมาแล้ว
ในมือหลีฮวาที่วงิ่ เข้ามาก็ถือม้านัง่ อยูจ่ ึงรี บส่ งเสี ยงบอกเป็ นนัย
“คุณหนู!” หลี่ฮวาตกตะลึง ทั้งตกใจทั้งดีใจ ม้านัง่ ในมือหล่นลงแล้ว
ก็ยงั ไม่รู้ตวั ในดวงตามีน้ าตาไหลออกมาเงียบ ๆ
ชัว่ ขณะเสิ่ นเวยรู ้สึกอบอุ่นในใจ ยิม้ แล้วกล่าวปลอบเสี ยงอ่อนโยน
“ร้องไห้ทาไม ข้ากลับมาแล้วไม่ใช่หรื อไร” เป็ นเด็กโง่จริ ง ๆ เลย
“คุณหนู นัน่ ท่านจริ ง ๆ หรื อ” หลีฮวารี บเช็ดน้ าตา ขยับริ มฝี ปาก
พยายามจะยิม้ แต่น้ าตากลับไหลหนักกว่าเดิม “บ่าว บ่าวดีใจ!” ทุก
วันนางนัง่ คุกเข่าหน้าพระพุทธรู ปเป็ นเวลานาน ขอพระคุม้ ครอง
คุณหนูของนางให้กลับมาอย่างปลอดภัย
“พอแล้ว ๆ ดูเจ้าดีใจเข้า เดี๋ยวเถาฮวาก็ขาเจ้าตายหรอก” เสิ่ นเวยยิม้
หยอกล้อ
หลีฮวาประหลาดใจอย่างมาก “เถาฮวาก็มาด้วยหรื อ” หลังจากนั้นก็
ได้สติกลับมา คุณหนูอยูท่ ี่ไหน เถาฮวาก็ยอ่ มต้องอยูท่ ี่นนั่
เสิ่ นเวยบอกเป็ นนัยไปทางหน้าต่างด้านหลัง “ไม่ได้อยูต่ รงนั้นหรื อ”
จากนั้นก็เห็นเถาฮวาปี นเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลังแล้วเช่นกัน เอ่ย
ปากตะโกนด้วยความดีใจ “พี่หลีฮวา”
นายบ่าวหลายคนพบหน้ากันย่อมต้องดีใจอย่างถึงที่สุด เสิ่ นเวยเห็น
ซู่เหนียงที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ ด้วยความเคารพก็กล่าว “เจ้าวางใจ เรื่ องที่
รับปากเจ้าไว้ไม่ผดิ สัญญาแน่นอน ขอเพียงแค่เจ้าปิ ดปากให้สนิท
เงินทองครึ่ งชีวิตก็หนีไม่พน้ หรอก”
ซู่เหนียงแสดงสี หน้าซาบซึ้ง “คุณหนูวางใจ ซู่เหนียงรู ้วา่ สิ่ งใดควร
ไม่ควร” นางหยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “คุณหนูท่านเชิญพักเถอะ เดี๋ยว
ซู่เหนียงไปนอนเบียดกับพี่เซียงเหมย”
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีเหมือนกัน เจ้าก็ถือโอกาสคิดว่าจะ
เอาอย่างไรต่อ ไม่วา่ เจ้าต้องการอะไร ภายในขอบเขตที่เหมาะสมข้า
จะพยายามช่วยเจ้าเต็มที่”
“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ” ซู่เหนียงถอยออกไปอย่างเรี ยบร้อย
เมื่อซู่เหนียงออกไปแล้ว หลีฮวาก็จดั เตียงทันที ของที่ซู่เหนียงเคยใช้
ย่อมไม่อาจให้คุณหนูใช้ได้ หลีฮวาปูเครื่ องนอนใหม่เอี่ยมทั้งชุดลง
บนเตียง จากนั้นก็สงั่ ให้คนต้มน้ าร้อน ยุง่ ตัวเป็ นเกลียว
ยังคงเป็ นเสิ่ นเวยที่ทนดูต่อไปไม่ไหวจึงจับนางไว้ “พอแล้ว ข้ากิน
มาแล้ว ไม่ตอ้ งวุน่ วายขนาดนี้ เอาแค่นอนได้กพ็ อแล้ว มา เล่าเรื่ อง
ของพวกเจ้าในช่วงหลายเดือนมานี้ให้ขา้ ฟังหน่อย”
หลีฮวาวางของในมือลง เล่าชีวิตในวัดต้าเจวี๋ยหลายเดือนมานี้อย่าง
ไม่หยุดปาก
“คุณหนู หลังจากที่ท่านไป พวกบ่าวก็สวดมนต์ทาจิตใจให้สงบอยู่
ในเรื อนเล็กแห่งนี้ตามคาสัง่ ของท่าน ข้าวทุกมื้อมีพี่สาวหลายคน
ผลัดกันไปเอามา บ่าวกับพี่เซียงเหมยต่างก็ออกไปน้อยอย่างยิง่ ซู่
เหนียงผูน้ ้ นั ก็ฉลาด อยูใ่ นห้องคัดคัมภีร์เงียบ ๆ แม้วา่ จะไปจุดธูป
บูชาที่อุโบสถ แต่กส็ วมผ้าคลุมศีรษะมีบ่าวตามไปด้วย ช่วงหลัง
อากาศหนาวขึ้นเรื่ อย ๆ บ่าวก็ปรึ กษากับเจ้าอาวาส สร้างเตาในเรื อน
เล็ก ไว้ใช้ตม้ น้ า ต้มข้าวต้มต่าง ๆ ได้…
…วันคืนผ่านไปอย่างสงบ เพียงแต่เป็ นห่วงคุณหนู คุณหนูไปหลาย
เดือน ไม่มีแม้แต่ข่าวใด ๆ บ่าวร้อนใจยิง่ นัก คุณหนู เหตุใดท่านถึง
ได้ดาเพียงนั้น งานแต่งงานของท่านจัดขึ้นเดือนสาม นี่กเ็ ดือนสอง
แล้ว เหลืออีกไม่กี่วนั จะทาอย่างไร” คุณหนูดาเพียงนี้จะออกเรื อน
ได้อย่างไร หากเจ้าบ่าวรังเกียจจะทาอย่างไร หลีฮวาร้อนใจขึ้นมาใน
ชัว่ ขณะ
เสิ่ นเวยไม่สนใจ นางเองก็ไม่ได้ดาขนาดนั้น แค่ผวิ สี น้ าผึ้งก็เท่า
นั้นเอง ยิง่ ไปกว่านั้นนี่เกี่ยวอะไรกับการแต่งงาน หรื อว่าสวีโย่วหมอ
นัน่ จะกล้ารังเกียจนางเชียวหรื อ
“ยังกล้าว่าข้าด้วยหรื อ เจ้าดูเจ้าก่อน ผอมลงขนาดนี้ เป็ นอะไรไป
ข้าววัดต้าเจวี๋ยไม่อร่ อยหรื อ” เสิ่ นเวยแสยะปากกล่าว
หลีฮวาไหนเลยจะไม่รู้วา่ คุณหนูนางเปลี่ยนเรื่ อง กล่าวอย่างขุ่นเคือง
“คุณหนู ไม่ใช่เพราะบ่าวเป็ นห่วงคุณหนูหรื อไร” คาพูดนี้กลับเป็ น
เรื่ องจริ ง โดยเฉพาะตอนที่ได้ยนิ ญาติโยมที่มาทาบุญในวัดเล่าว่า
สถานการณ์ซีเจียงไม่ดีมากเพียงใด หลีฮวาก็กงั วลจนนอนไม่หลับ
เมื่อหลับตาก็เห็นคุณหนูเลือดโชกไปทัว่ ร่ างยืนอยูต่ รงหน้า
“หลีฮวาคนดี คุณหนูรู้วา่ เจ้าเป็ นเด็กดี ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว
เจ้าก็ไม่ตอ้ งพร่ าถึงแล้ว เร่ งเดินทางหลายสิ บลี้ตอนนี้ขา้ ง่วงแล้ว”
ราวกับต้องการยืนยันคาพูดนาง เสิ่ นเวยยังหาวอีกหนึ่งครา
คาพูดเต็มอกของหลีฮวาไม่อาจพูดต่อไปได้แล้ว รี บจัดแจงให้
คุณหนูพกั ผ่อนดีกว่า “คุณหนู บ่าวจะพาเถาฮวาไปนอนในห้องข้าง
นอก ท่านมีอะไรก็เรี ยกบ่าวนะเจ้าค่ะ” ในใจวางแผนดีแล้วว่าจะ
บารุ งรักษาร่ างกายคุณหนูอย่างไรบ้าง จะต้องให้คุณหนูเป็ นเจ้าสาวที่
สวยที่สุดให้ได้ อืม ซู่เหนียงค่อนข้างมีประสบการณ์ดา้ นนี้ พรุ่ งนี้ไป
ขอคาแนะนาจากนางดีหรื อไม่นะ
เซียงเหมยเห็นซู่เหนียงยืนอยูข่ า้ งนอกประตูก็ประหลาดใจอย่างยิง่ ซู่
เหนียงชิงกล่าวก่อน “คุณหนูกลับมาแล้ว”
เซียงเหมยตกใจ หลังจากนั้นรอยยิม้ ก็ปรากฏขึ้นข้างแก้ม นางเดิน
ผ่านซู่เหนียงกาลังจะไปที่หอ้ งใหญ่ เดินไปได้สองก้าวก็หนั หลัง
กลับมา ถอนหายใจกล่าว “ดึกดื่นคุณหนูเองก็น่าจะเหนื่อยแล้ว
พรุ่ งนี้ขา้ ค่อยไปแล้วกัน” จากนั้นก็ผลักประตูให้ซู่เหนียงเข้าไป
เซียงเหมยมองซู่เหนียงที่สุขมุ สงบนิ่งอยูภ่ ายใต้แสงเทียน ถอน
หายใจหนึ่งคราแล้วกล่าว “คุณหนูกลับมาแล้ว เจ้ามีแผนต่อจากนี้
อย่างไร” แม้วา่ ซู่เหนียงไม่พดู แต่อย่างไรเสี ยเซียงเหมยก็เป็ นสตรี ที่
เคยแต่งงานมาก่อน ไหนเลยจะอ่านสถานการณ์ของซู่เหนียงไม่ออก
ว่าไม่เป็ นดัง่ หวัง ไม่วา่ อย่างไรก็อยูด่ ว้ ยกันมาหลายเดือน อีกทั้งซู่
เหนียงก็รู้ประสา มีมารยาทกับพวกนาง ไม่เคยนาปั ญหามาให้พวก
นาง ดังนั้นนางจึงมีความรู ้สึกผูกพันกับสตรี ที่เหมือนคุณหนูเล็กน้อย
ผูน้ ้ ีอย่างยิง่
ซู่เหนียงส่ ายหน้า บนใบหน้าที่เรี ยบร้อยมีความสับสนหลายส่ วน
นางถูกอาสะใภ้ขายให้หอนางโลม พ่อแม่นางมีนางเพียงคนเดียว เคย
โอบอุม้ อยูใ่ นมือด้วยความรักและโปรดปราน ปี นั้นที่นางอายุได้
แปดปี พ่อก็ป่วยกะทันหัน หลังจากนั้นแม่กต็ ามไป อาสะใภ้ตอ้ งการ
ครอบครองสมบัติของบ้านนางจึงขายนางเสี ย เพราะว่านางหน้าตาดี
พ่อค้าคนกลางโลภเงินจึงขายนางให้หอนางโลม
นางถือได้วา่ เติบโตอยูใ่ นหอนางโลม เคยเห็นเด็กผูห้ ญิงนับไม่ถว้ น
วิ่งหนีถูกจับกลับมาทาโทษเฆี่ยนตี นางหวาดกลัว ทั้งยังชินชาแล้ว
นางจะตายไม่ได้ พ่อนางมีเพียงนาง นางตายแล้ว ครอบครัวนางก็ไม่
เหลือใครแล้ว
ไม่อยากตาย เช่นนั้นก็ตอ้ งใช้ชีวิตให้ดี นางพยายามเรี ยนฉิ นเล่ม
หมากเขียนพูก่ นั จีน เรี ยนรู ้การอ่านสี หน้าคน เรี ยนรู ้วิธีเอาใจแขกผูม้ ี
พระคุณ อายุได้สิบห้าปี ก็รับแขกอย่างเป็ นทางการ นางไม่นบั ว่าเป็ น
สตรี ที่โดดเด่นที่สุดในหอนางโลม แต่กส็ ามารถอยูใ่ นห้าอันดับแรก
ได้ นางคิดคานวณแล้วว่า ถือโอกาสทางานแลกเงินหลาย ๆ ปี ตอนที่
อายุยงั น้อย เมื่อายุมากแล้วก็ไถ่ตวั เอง ซื้อบ้านหลังเล็ก รับ
ลูกบุญธรรม มอบความรักความผูกพันแทนพ่อ
สาหรับการแต่งงาน นางไม่เคยคิดมาก่อน คนเช่นพวกนางไหนเลย
จะยังแต่งงานได้อีก ต่อให้จะเป็ นชาวนาแก่เฒ่าพวกนั้นก็ยงั ดูถูกพวก
นาง แทนที่จะต้องถูกคนรังเกียจ ไม่สู้อยูต่ วั คนเดียวดีกว่า
เดิมคิดว่าชัว่ ชีวิตนี้ของนางจะเป็ นเช่นนี้ แต่มีอยูว่ นั หนึ่ง แขกใจป้ าผู ้
หนึ่งมาไถ่ตวั นาง ขณะที่นางระแวดระวังในใจก็แอบดีใจเล็กน้อย ที่
พักพิงที่ดีที่สุดของสตรี ไม่ใช่การได้แต่งงานกับคนดี ๆ หรอกหรื อ
แขกผูน้ ้ ีสามารถไถ่ตวั นางได้ ก็คงจะต้องมีความรู ้สึกหลายส่ วนต่อ
นางมิใช่หรื อ
แต่เร็ วอย่างยิง่ นางก็ตอ้ งผิดหวัง แขกผูน้ ้ ีเพียงแค่สงั่ ให้นางทาเรื่ อง ๆ
หนึ่ง หลังจากรับปากแล้วจะให้เงินก้อนหนึ่งแก่นางและปล่อยนาง
เป็ นอิสระ นางคิดทั้งคืน ในที่สุดก็ตกลง อิสระมีแรงดึงดูดต่อนาง
อย่างยิง่
แขกผูน้ ้ นั ไม่ได้ให้นางไปทาเรื่ องอันตรายอะไร เพียงแค่ให้นางมา
เป็ นตัวแทนหลายเดือนที่วดั ต้าเจวี๋ย จิตใจที่พะว้าพะวงของนางก็วาง
ลง หลายเดือนนี้เป็ นช่วงเวลาที่สบายใจที่สุดตั้งแต่ที่นางถูกไถ่ตวั มา
บางครั้งนางก็คิดว่าหากได้ใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนาน ๆ ก็คงจะดี
ตอนนี้คุณหนูผนู ้ ้ นั กลับมาแล้ว นางควรจะไปที่ไหนดี
เซียงเหมยเห็นท่าที ในใจก็เกิดความสงสารอย่างไม่อาจเลี่ยง “หาก
เจ้าไม่มีที่จะไปไม่สู้ติดตามคุณหนูของพวกเรา คุณหนูใจดี ไม่เอา
เปรี ยบเจ้าหรอก เจ้าเห็นหลีฮวาหรื อไม่ แม้จะบอกว่าเป็ นสาวใช้ขา้ ง
กายคุณหนู แต่อาหารการกินกลับดีกว่าคุณหนูในตระกูลท้องที่ขา้ ง
นอกเสี ยอีก”
ซู่เหนียงคิดครู่ หนึ่ง เอ่ยปากกล่าว “คนผูน้ ้ นั ที่ไถ่ตวั ข้าบอกว่าจะให้
เงินหนึ่งก้อนแก่ขา้ และปล่อยให้ขา้ เป็ นอิสระ”
เซียงเหมยถอนหายใจ “สตรี อายุนอ้ ยเช่นเจ้า อีกทั้งยังหน้าตาดึงดูด
ความสนใจเช่นนี้ ต่อให้มีเงินก็เก็บไว้ไม่อยูห่ รอก ในสังคมนี้ สตรี
ตัวคนเดียวไม่ได้ใช้ชีวิตง่ายเพียงนั้น”
เห็นซู่เหนียงไม่พดู ต่อ เซียงเหมยก็กล่าว “ดูอย่างข้าสิ เดิมก็มีสามีมี
ครอบครัว ใช้ชีวิตอย่าสงบสุ ข แต่สามีเดินทางไปสอบข้าราชการ จู่
ๆ ก็ถูกคนชอบเข้า สามีผนู ้ ้ นั ของข้าก็มีตาแหน่งชื่อเสี ยง เป็ นซิ่วไฉ
[1] หากไม่ใช่คุณหนูผา่ นทางมาและช่วยข้าออกมาจากคุกที่วา่ การ
ข้ากับลูกสาวก็คงจะกลายเป็ นดินเลนไปแล้ว”
เซียงเหมยเล่าเรื่ องราวในอดีตของตน ซู่เหนียงตกใจจนถลึงตาโต
นางคิดว่าเซียงเหมยเป็ นสตรี ที่จดั การงานได้อย่างมีความสามารถ
ข้างกายคุณหนู ไม่คิดว่านางยังมีเรื่ องราวที่น่าขมขื่นเช่นนี้ดว้ ย ทาให้
นางเกิดความรู ้สึกเห็นอกเห็นใจต่อเซียงเหมยอย่างอดไม่ได้
“หลายปี มานี้พวกเราแม่ลูกติดตามคุณหนู คุณหนูเองก็ไม่ให้พวกเรา
ลงชื่อขายแลกที่ดิน นางบอกว่ารอหาพ่อของลูกสาวเจอแล้วค่อย
ปล่อยพวกเราไป ดูแลเหมือนญาติ แต่พอ่ ของลูกไหนเลยจะหาง่าย
เพียงนั้น ต่อให้หาเจอแล้วอย่างไร อย่างไรเสี ยข้าก็คิดดีแล้ว พวกข้า
แม่ลูกจะติดตามคุณหนูไปชัว่ ชีวิตนี้” แววตาเซียงเหมยอัดอั้น ด้วย
ความสามารถของสามีจะต้องสอบได้ตาแหน่งชื่อเสี ยงแน่นอน สตรี
ที่มีมลทินเช่นตนไหนเลยจะยังคู่ควรกับเขา
ซู่เหนียงเข้าใจเซียงเหมยอย่างถึงที่สุด เหตุการณ์ที่บุรุษก้าวหน้าแล้ว
ทิ้งภรรยาที่เคยลาบากมาด้วยกันนางเห็นที่หอนางโลมมาไม่นอ้ ย
ดังนั้นนางจึงเห็นใจเซียงเหมยกว่าเดิม
“คุณหนูของพวกเราเป็ นนายที่ดีจริ ง ๆ งดงามแล้วยังมีความสามารถ
ปฏิบตั ิต่อบ่าวรับใช้กด็ ี ไม่เคยตบตีด่าทอมาก่อน ขอเพียงแค่เจ้า
จงรักภักดียอมทางาน คุณหนูของพวกเราก็ใจกว้างอย่างยิง่ หากเจ้า
ไม่อยากทางานอย่างการยกชาริ นน้ า กิจการภายใต้ชื่อคุณหนูกม็ ี
เยอะแยะ เจ้าก็สามารถไปทาได้ ในด้านนี้คุณหนูของพวกข้าก็มี
ความคิดก้าวไกลอย่างยิง่ มักจะบอกว่าเรื่ องที่บุรุษทาได้สตรี เช่น
พวกเราก็ทาได้เหมือนกัน อย่าได้ดูถูกเหยียดหยามตนเอง”
“ขอบคุณท่านพี่ ซู่เหนียงรู ้วา่ ท่านหวังดี เพียงแต่ตอนนี้ขา้ ว้าวุน่ ใจอยู่
ให้ซู่เหนียงได้คิดอีกหน่อยเถิด” ซู่เหนียงกัดริ มฝี ปากกล่าวเสี ยงเบา
เซียงเหมยถอนหายใจหนึ่งครา ไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้วจริ ง ๆ