Download as pdf or txt
Download as pdf or txt
You are on page 1of 265

ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 177-2 เจรจาสงบศึก

วันที่คนซีเหลียงกลับไป ประชาชนเมืองชายแดนทั้งหมดต่างก็
ออกมาส่ งด้วยความยินดีปรี ดา หากไม่ใช่วา่ มีทหารชายแดนรักษา
ความเรี ยบร้อยอยู่ พวกเขาก็คงจะปาก้อนหิ นไข่เน่าออกไปแล้ว ผูค้ น
มองกองทัพใหญ่ซีเหลียงจากไปอย่างรวดเร็ ว มองท้องฟ้าที่มืดครึ้ ม
แล้วก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมาหนึ่งครา ในที่สุดก็ส่งหายนะไปได้
แล้ว หลังจากนี้กส็ ามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุ ขได้แล้ว แต่เมื่อนึกถึง
ญาติพี่นอ้ งที่จากไปในไฟสงคราม จิตใจของพวกเขาก็จมดิ่งลงอีก
ครั้ง
ชัว่ พริ บตาก็ใกล้จะปี ใหม่แล้ว หากเดินทางกลับเมืองหลวงตอนนี้
เช่นนั้นก็ตอ้ งฉลองวันปี ใหม่กลางทาง ได้ไม่คุม้ เสี ยเกินไปแล้ว ไม่สู้
ฉลองปี ใหม่ที่ซีเจียง หลังปี ใหม่ค่อยกลับเมืองหลวง
คนค่อยกลับเมืองหลวงหลังปี ใหม่กไ็ ด้ แต่สาส์นกราบทูลข้อราชการ
กลับไม่ได้ การเจรจาสงบศึกฝั่งนี้สรุ ปผลแล้ว สาส์นกราบทูลหลาย
ฉบับฝั่งนั้นก็ส่งจากเมืองชายแดนซีเจียงไปยังเมืองหลวง
คราวนี้จกั รพรรดิยงเซวียนก็ยงิ่ ดีพระทัย กลางดึกก็ไม่มีอารมณ์นอน
แม้แต่นิดเดียว อ่านสาส์นกราบทูลซ้ าไปซ้ ามา ราวกับว่าจะอ่าน
จนกว่าดอกไม้จะบานออกมาได้ โดยเฉพาะสาส์นกราบทูลของหย่ง
ติ้งโหว ชื่นชมคุณชายสี่ แซ่เสิ่ นออกหน้าออกตา กล่าวว่าที่สามารถ
นาเงินทองและของจานวนมากเช่นนั้นกลับมาจากซีเหลียงได้ลว้ น
แต่เป็ นความคิดของคุณชายสี่ วิเคราะห์ความไม่เหมาะสมในแนวคิด
ก่อนหน้านี้ของตน แล้วยังซึ้งใจที่คนรุ่ นหลังเก่งนาคนรุ่ นก่อน เด็ก
คนนี้จะต้องกลายเป็ นบุคลลสาคัญของราชสานักแน่นอน ดูออกว่า
หย่งติ้งโหวไม่รู้เลยว่าคุณชายสี่ แซ่เสิ่ นที่เขาชอบอกชอบใจเป็ นสตรี
ผูห้ นึ่ง
จักรพรรดิยงเซวียนก็ซาบซึ้งใจอย่างถึงที่สุดเช่นกัน คุณหนูแซ่เสิ่ นผู ้
นี้พดู สิ่ งที่อยูใ่ นใจแทนเขาแล้วจริ งๆ เป็ นจักรพรรดิของแคว้น แม้จะ
ร่ ารวยที่สุดในใต้หล้า แต่ทอ้ งพระคลังที่วา่ งเปล่ากลับทาให้เขา
ลาบากอยูบ่ ่อยครั้ง ที่เขาเกลียดที่สุดก็คือแคว้นแล็กๆ ที่ชายแดน
เหล่านั้น ชอบยัว่ ยุอยูบ่ ่อยๆ แพ้แล้วก็แสร้งร้องไห้ออ้ นวอน ขอ
เสบียงเงินทองไปจากตน สุ ดท้ายแล้วตนก็เสี ยเงินเปล่า
ความจริ งแล้ว จักรพรรดิยงเซวียนไม่อยากให้เลยแม้แต่นิดเดียว รบ
แพ้กต็ อ้ งอยูไ่ ปอย่างซื่อสัตย์ ไม่คิดบัญชียอ้ นหลังกับเจ้าก็ดีเท่าไร
แล้ว ยังกล้ากระโดดโหยงเหยงมาขอของอีก คิดว่าตัวเองเป็ นใคร
ของของข้าไม่ใช่วา่ ลมหอบมาเสี ยหน่อย ด้วยนิสยั ของเขา หากไม่
ยอมพวกเราก็มารบ บรรพบุรุษตระกูลสวีกช็ ิงแผ่นดินบนหลังม้า
เคยกลัวใครที่ไหน คิดจะขอของไม่มีทางเสี ยหรอก
ทว่ากลับค้านขุนนางชั้นผูใ้ หญ่กลุ่มนั้นในราชสานึกไม่ไหว
โดยเฉพาะตาเฒ่าหลายคนนั้นในกรมพิธีการ วันทั้งวันเอาแต่พร่ าบ่น
ข้างหูเขา น้ าใจแคว้นใหญ่บา้ งล่ะ เป็ นจักรพรรดิน่านับถือบ้างล่ะ มี
คุณธรรมต่อผูอ้ ื่นบ้างล่ะ
เหอะ มารดาเขาสิ เขารู ้แค่เพียงท้องพระคลังของเขาว่างลงทุกวันๆ
เขาดารงตาแหน่งฮ่องเต้น้ ีดว้ ยความอันอั้นยิง่ นัก ชิงดินแดนอาศัย
ขุนพล แต่ปกครองดินแดนต้องการขุนนางฝ่ ายบุ๋นเหล่านี้ เขาคงไม่
อาจฆ่าคนเหล่านี้จนหมดได้ ในเมื่อฆ่าไม่ได้ เช่นนั้นก็ทาได้เพียงอัด
อั้นตันใจอยูค่ นเดียว
ตอนนี้คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นพูดความในใจเขาออกมาแล้ว ทาเรื่ องที่เขา
อยากทาแต่ทาไม่ได้สาเร็ จแล้ว เขาจะไม่ดีใจได้อย่างไร ขุนนางชั้น
ผูใ้ หญ่ท้ งั ราชสานักยังมีความรู ้ไม่เท่าสตรี ผเู ้ ดียว จะให้เขาพูด
อย่างไรดี
สตรี ดีๆ เช่นนี้กต็ อ้ งปูบบาเหน็จ แต่ตนได้พระราชทานบรรดาศักดิ์
นางให้เป็ นจวิน้ จู่แล้ว นี่คือจวิน้ จู่ที่ไม่ได้มีสายโลหิ ตในราชวงศ์คน
แรกนับตั้งแต่สถาปานาแคว้นมา หรื อว่าจะเลื่อนขั้นเสิ่ นหงเซวียน
บิดาของนางดี ฟังว่านางยังมีนอ้ งชายแท้ๆ อยูห่ นึ่งคน แม้วา่ อายุยงั
น้อย แต่กลับพระราชทานตาแหน่งเพียงแค่ในนามให้ได้เหมือนกัน
จักรพรรดิยงเซวียนยินดีปรี ดา อนุมตั ิใบเสนอบันทึกความดีความที่
เสิ่ นผิงยวนส่ งมาทั้งหมด สาหรับคาขอกลับเมืองหลวงหลังปี ใหม่
เขาเองก็เข้าใจอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงแต่สงั่ ด้วยความใส่ ใจว่าไม่ตอ้ ง
รี บ ซ้ ายังบอกเป็ นนัยว่าหลังกลับเมืองหลวงแล้วจะมีบาเหน็จจานวน
มาก
ขึ้นครองราชย์มาหลายปี เพียงนี้ ถือได้วา่ ปี นี้ผา่ นไปอย่างสบายใจ
ที่สุด จักพรรดิอารมณ์ดีแล้ว ชีวิตของขุนนางชั้นผูใ้ หญ่เบื้องล่างย่อม
ต้องดี แม้วา่ พวกเขาจะอิจฉาริ ษยาจงอู่โหวที่โชคดี แต่นนั่ ก็เป็ นสิ่ งที่
เขาใช้ความสามารถแย่งมาได้ดว้ ยตัวเอง
เสิ่ นเวยที่อยูไ่ กลถึงซีเหลียง ปี นี้กผ็ า่ นไปได้ดว้ ยความสุ ขอย่างยิง่ ปี
ใหม่โบราณครื้ นเครงอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่วนั ที่ยสี่ ิ บเดือนสิ บสองก็
เริ่ มครึ กครื้ นแล้ว ไม่เงียบเหงาเหมือนยุคปั จจุบนั
คืนวันที่สามสิ บ เสิ่ นเวย สวีโย่ว ท่านเสิ่ นโหว แม่ทพั อู่เลี่ย หย่งติ้ง
โหวและคนอื่นๆ นัง่ ล้อมโต๊ะทานอาหารค่าด้วยกัน ผักที่เสิ่ นเวยนา
คนไปปลูกก็มีประโยชน์อย่างยิง่ กับข้าวจานวนมากล้วนเป็ นอาหาร
ที่เสิ่ นเวยสอนออกมา เพียงแค่เกี๊ยวก็แบ่งเป็ นไส้หลายชนิดแล้ว มีไส้
กุยช่ายขาวผัดไข่ มีไส้หมูสบั ผัดต้นหอม มีไส้เนื้อแกะผัดเม็ดยีห่ ร่ า
ได้รับความนิยมอย่างยิง่ แม้แต่สวีโย่วที่ปกติเลือกกินยังกินไปหนึ่ง
ชามใหญ่ ยิง่ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงหย่งติ้งโหวและคนอื่นๆ กินไปพลางชม
ไปพลาง บอกว่าอยูท่ ี่เมืองหลวงไม่เคยกินเกี๊ยวที่อร่ อยขนาดนี้มา
ก่อน
กินข้าวเสร็ จแล้วเสิ่ นเวยก็ไปดูผใู ้ ต้บงั คับบัญชาของนาง ในห้องโถง
มีโต๊ะจัดวางอยูห่ ลายสิ บโต๊ะ ทุกคนกาลังดื่มสุ รากินเนื้อเล่นเป่ ายิง
ฉุบ บนใบหน้าแต่ละคนล้วนเปี่ ยมไปด้วยสี หน้าเฉลิมฉลองเทศกาล
เสิ่ นเวยพูดอย่างเรี ยบง่ายไม่กี่ประโยค จากนั้นก็ดื่มสุ ราหนึ่งแก้ว
ร่ วมกับพวกเขา ทุกคนต่างทราบฐานะที่แท้จริ งของนายท่านตนดี
ย่อมไม่มีใครโน้มน้าวให้ดื่มสุ รา
ออกจากห้องโถง เถาฮวาก็รอนางอยูข่ า้ งนอก ในอกกอดดอกไม้ไฟ
กะพริ บตาปริ บๆ มองนาง “คุณชาย ตอนนี้ไปเล่นดอกไม้ไฟได้แล้ว
หรื อยัง”
ในใจเสิ่ นเวยรู ้สึกอบอุ่นอย่างยิง่ ลูกหัวเถาฮวา ตอบอย่างสบาย
อารมณ์ “ไป พวกเราไปเล่นดอกไม้ไฟกัน”
ดอกไม้ไฟโบราณย่อมไม่งดงามละลานตาเท่ายุคปั จจุบนั แม้วา่ จะ
เป็ นเช่นนี้ เถาฮวาก็ยงั คงดีใจอย่างถึงที่สุด ตบมือยิม้ แย้ม รอยยิม้ นั้น
บริ สุทธิ์และงดงาม
เสิ่ นเวยเองก็กาลังยิม้ นางเงยหน้ามองดอกไม้ไฟที่ปะทุออกบน
ท้องฟ้า นึกถึงอีกมิติหนึ่งที่ไกลแสนไกล แม่ของนางจะสบายดี
หรื อไม่ คิดถึงนางเหมือนกับนางหรื อไม่
ตอนที่สวีโย่วออกมาก็มองเห็นเด็กน้อยของเขาอมยิม้ มองท้องฟ้าใน
ยามราตรี พอดี ท่าทางที่มีเพียงหนึ่งในใต้หล้าราวกับจะบินหนีไป
เช่นนั้นทาให้ในใจสวีโย่วบีบแน่นอย่างไม่รู้ตวั เร่ งฝี เท้าเดินเข้าไป
จับไหล่ของนางไว้ หัวใจก็สงบลง
“กลางคืนหนาว ไม่รู้จกั ใส่ เสื้ อเพิม่ ” เขาคลุมเสื้ อคลุมลงบนร่ างเสิ่ น
เวย นิ้วมือที่เรี ยวยาวช่วยนางผูกเชือกอย่างตั้งใจ
เสิ่ นเวยเงยหน้าขึ้น กระทัง่ มองเห็นขนตาของเขาได้อย่างชัดเจน
ความอุ่นขับไล่ความหนาวเหน็บในใจนาง หัวใจที่สงบนิ่งก็บงั เกิด
คลื่นซัดสาด เสิ่ นเวยคิด บางทีชายผูน้ ้ ีอาจจะอยูร่ ่ วมกับนางไปได้
ตลอดชีวิต
ทั้งสองยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กนั ท่าทางหมาะสมเช่นนั้น ชวนให้คน
อิจฉา ชวีไห่กบั หมอหลิวที่ออกมาเดินให้สร่ างเมาเห็นคุณหนูของ
พวกเขากับว่าที่เขยพูดคุยกันอย่างสนิทชิดเชื้อ ในแววตาก็เผยรอยยิม้
คืนนี้เป็ นคืนรวมตัว ออกมานานเพียงนี้ ยังคงคิดถึงบ้างเล็กน้อย
จริ งๆ
กิจกรรมโต้รุ่งส่ งท้ายปี เก่าแต่ไหนแต่ไรเสิ่ นเวยไม่ชานาญ เหลือเวลา
อีกนานกว่าจะเที่ยงคืนนางก็หาวไม่หยุดแล้ว ผ่านไปครู่ หนึ่ง ศีรษะ
นั้นก็ผงกเป็ นไก่จิกข้าวสารแล้ว
ท่านเสิ่ นโหวหัวเราะในใจ เอ่ยปากกล่าว “เจ้าสี่ ยงั เด็ก เป็ นเวลาที่
ร่ างกายกาลังเจริ ญเติบโต กลับไปนอนก่อนเถอะ”
เสิ่ นเวยประหนึ่งถูกยกภูเขาออกจากอก ลุกขึ้นด้วยความดีใจ
“เช่นนั้นข้าขออวยพรปี ใหม่ท่านปู่ ก่อน ขอให้เป็ นปี ที่ดี มีเรื่ องดี
ตลอดปี ”
ท่านเสิ่ นโหวดีใจในใจ แต่ปากกลับโมโห “ไม่แก่สิถึงแปลก” เด็ก
คนนี้กค็ ือต้นเหตุนนั่ เอง
เสิ่ นเวยทาหน้าทะเล้น ประสานมือคารวะกลุ่มคนหนึ่งกลุ่มที่อยู่
โต้รุ่งในห้อง “ทุกท่าน ข้าขอตัวก่อน” เดินไปถึงหน้าประตูกห็ นั หน้า
กลับมา “ท่านปู่ พรุ่ งนี้เช้าจะมาเอาซองแดงที่ท่าน ท่านอย่าลืมล่ะ
อย่าลืมให้เยอะๆ ด้วย”
“เจ้าสี่ นี่” ท่านเสิ่ นโหวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คนที่เหลือต่างก็ยมิ้
น้อยๆ มีลูกหลานที่ปราดเรี ยวเฉลียวฉลาดทั้งยังมีความสามารถ
เช่นนี้ใครบ้างจะไม่ชอบ
เสิ่ นเวยนอนหลับเต็มอิ่ม เช้าวันที่สองก็กระโดดโลดเต้นไปรับซอง
แดง ได้มาเยอะอย่างยิง่ คล้ายเยอะกว่าที่ผใู ้ หญ่ท้ งั หมดเคยให้นางเสี ย
อีก แม้แต่สวีโย่วชายคนนั้นยังให้ตนหนึ่งซอง ซองแดงแบนๆ เบาๆ
เมื่อเปิ ดดู กลับเป็ นตัว๋ เงินหนึ่งหมื่นตาลึง
เสิ่ นเวยตกใจก่อน หมอนี่มีเงินขนาดนี้เลยหรื อ พกตัว๋ เงินมูลค่ามาก
ติดตัว เหตุใดนางถึงไม่เคยสังเกตเห็นเล่า หลังจากนั้นก็ดีใจ ยิง่
ตัดสิ นใจเด็ดเดี่ยวว่าจะเอาทรัพย์สินส่ วนตัวของสวีโย่วมาไว้ในมือ
ให้จงได้
ผ่านวันที่หา้ ไปพวกเขาก็ควรเดินทางกลับเมืองหลวงได้แล้ว เสิ่ นเวย
สวีโย่ว แม่ทพั อู่เลี่ยและหย่งติ้งโหวย่อมต้องกลับไป ท่านเสิ่ นโหวที่
เป็ นขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ที่สูงที่สุดที่ปกครองซีเจียงก็ตอ้ งกลับไป
เช่นกัน ทว่าเสิ่ นเชียนกับหร่ วนเหิงกลับอยูต่ ่อ
ปี ก่อนท่านเสิ่ นโหวยืน่ ฏีกาแล้ว บอกว่าอายุมากแล้ว อยากเกษียณ
กลับเมืองหลวง หลานชายคนโตก็เป็ นผูใ้ หญ่แล้ว สามารถแบ่งเบา
ภาระเขาได้แล้ว
ด้วยเหตุน้ ีกษัตริ ยข์ นุ นางสองคนจึงรู ้กนั ในใจ เสิ่ นเชียนกับหร่ วนเหิ ง
เดิมก็มีคุณูปการอยูแ่ ล้ว หนีไม่พน้ ขุนนางลาดับที่หก บวกกับท่าน
เสิ่ นโหวเกษียณแล้ว ตาแหน่งขุนนางของเสิ่ นเชียนคาดว่ายังเลื่อน
ขั้นได้อีก สาหรับหร่ วนเหิง เห็นแก่ญาติผนู ้ อ้ งของเขาก็ไม่อาจ
ปฏิบตั ิต่อเขาอย่างไม่เป็ นธรรม ยิง่ ไปกว่านั้นราชสานักยังติดหนี้จวน
แม่ทพใหญ่อยูอ่ ีกด้วย
แม้วา่ ตาแหน่งขุนนางอย่างเป็ นทางการจะยังไม่ได้กาหนด แต่ในใจ
ทุกคนก็รู้ดี เสิ่ นเชียนกับหร่ วนเหิงอยูร่ อตาแหน่งขุนนางที่ซีเจียง
ก่อน ตั้งใจฝึ กฝนอยูท่ ี่ซีเจียง มีความสามารถแล้วค่อยกลับเมืองหลวง
แสดงความปรารถนามุ่งมาด
ขามาเสิ่ นเวยนาคนมาสี่ ร้อยกว่าคน ขามาตอนแรกทุกคนต่างก็วิ่งเต้น
สร้างคุณูปการเริ่ มต้นอาชีพ ตอนนี้ถึงเวลากลับแล้ว เสิ่ นเวยย่อมให้
พวกเขามีสิทธิ์เลือกเต็มที่ จะกลับหรื อจะอยูต่ ่อให้ตดั สิ นใจเอาเอง
อยากอยูต่ ่อนางก็จะช่วย อยากกลับนางย่อมพากลับ
สิ่ งทาให้เสิ่ นเวยประหลาดใจก็คือทั้งหมดต่างก็เลือกกลับ ไม่มีใคร
ยอมอยูแ่ ม้แต่คนเดียว คนจานวนมากในกลุ่มพวกเขาทาศึกห้าวหาญ
อาศัยคุณงามความดีกส็ ามารถเป็ นขุนนางระดับเล็กได้แล้ว แต่คาด
ไม่ถึงว่าพวกเขาจะเลือกกลับ จะไม่ให้นางตกใจและซึ้งใจได้อย่างไร
ทุกคนบอกแล้วว่า สนามรบพวกเขาก็ผา่ นมาแล้ว ทหารซีเหลียงก็ฆ่า
มาไม่นอ้ ยเช่นกัน พวกเขามีประสบการณ์เช่นนี้กเ็ พียงพอแล้ว พวก
เขาอยากสร้างคุณปการเริ่ มต้นอาชีพก็เพียงเพื่อมีชีวิตที่ดี ติดตาม
คุณหนูกเ็ ป็ นชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว ไยจะต้องหอบข้าวของออกจากบ้าน
วิ่งไปไกลถึงซีเจียงด้วยเล่า
นอกจากนี้ที่พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดจากสนามรบได้อย่าง
ปลอดภัยก็เป็ นเพราะการปกป้องของคุณหนู คุณหนูไม่อยูซ่ ีเจียง แม้
พวกเขาจะอยูต่ ่อ จิตใจก็จะกระวนกระวาย ไม่สู้ติดตามคุณหนู
กลับไปดีกว่า
กองทหารเด็กฝึ กฝนต่อ โอวหยางไน่ยนื กรานจะไป เสิ่ นเวยจึงทาได้
เพียงทิ้งทหารลับหลายคนไว้ ทว่าหลี่จ้ือกลับโวยวายจะตามนางไป
ด้วย เขาบอกว่าตั้งแต่ที่นางช่วยชีวติ น้องชายน้องสาวเขา นางก็เป็ น
เจ้านายของเขาแล้ว เจ้านายอยูไ่ หน เขาย่อมต้องติดตามไปที่นนั่
นี่ไม่ใช่ก่อความวุน่ วายหรื อ เสิ่ นเวยพูดเกลี้ยกล่อมโน้มนาวอยูน่ านก็
ไม่อาจทาให้หลี่จ้ือเปลี่ยนใจได้ ท้ายที่สุดนางก็ใช้ไม้ตาย “เจ้ายังมี
ความสามารถไม่พอ ติดตามข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อยูฝ่ ึ กฝนที่
จวนโหวต่อดีกว่า”
หลี่จ้ือจึงเลิกยืนกรานจะติดตามนางกลับเมืองหลวง แต่กเ็ อ่ยเงื่อนไข
ว่า ให้นอ้ งชายน้องสาวของเขาตามไปปรนนิบตั ิขา้ งกายนายท่าน
ก่อน เมื่อเขาร่ าเรี ยนจนมีฝีมือแล้วจะไปรับใช้ทนั ที
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 178-1 ระหว่ างทาง
การออกเดินทางในยุคโบราณไม่ง่ายเหมือนยุคปั จจุบนั เพียงแค่เก็บ
ของก็วนุ่ ไปสองวันแล้ว ขามาเสิ่ นเวยเอาเสื้ อผ้ามาเพียงสองชุดใส่
สลับกัน ขากลับเพียงแค่ของส่ วนตัวของนางก็ปาเข้าไปสองคันรถ
แล้ว บวกกับสิ่ งของเงินทองที่ซีเหลียงส่ งมา ทรัพย์สินส่ วนตัวที่ท่าน
เสิ่ นโหวสะสมมาครึ่ งชีวิต ของที่ทหารประชาชนเมืองชายแดนส่ ง
มา ของมากมายมหาศาลรวมกันแล้ว โอ ขบวนรถเรี ยงยาวไปจนถึง
เส้นขอบฟ้า
ขนเงินทองและของมีค่ามากมายเพียงนี้ไปด้วย ความปลอดภัย
ระหว่างทางย่อมต้องให้ความสาคัญ นอกจากกาลังคนของเสิ่ นเวย
กับสวีโย่วแล้ว ท่านเสิ่ นโหวยังเลือกกองกาลังทหารห้าร้อยนายใน
กองทัพมาคุม้ กันส่ งอีกด้วย ขบวนทัพนี้ยงิ่ ใหญ่อย่างยิง่ เสิ่ นเวยคิดว่า
คงจะไม่มีคนโง่ที่ไหนกล้าดักปล้นกลางทาง แต่ใครจะรู ้วา่ ดันเจอคน
โง่เข้าเสี ยแล้ว
เพราะว่าคุม้ กันส่ งของเยอะเพียงนี้ ดังนั้นจึงเดินทางได้ชา้ อย่างถึง
ที่สุด เย็นวันนี้ กองทัพเพิง่ จะตั้งค่ายพัก ยังไม่ทาได้ก่อไฟทาอาหารก็
ถูกลูกธนูที่ไม่รู้วา่ ยิงมาจากไหนจู่โจมเข้าแล้ว
พื้นที่ต้ งั ค่ายกว้างโล่งอย่างถึงที่สุด นอกจากจะมีแม่น้ าอยูไ่ ม่ไกลแล้ว
แม้แต่ตน้ ไม้เป็ นที่กาบังยังไม่มี เจอลูกธนูที่ลอยมาอย่างหนาแน่น ซ้ า
ยังต้องคุม้ กันของบนรถ ทุกคนก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยอย่างเลี่ยง
ไม่ได้
เสิ่ นเวยไม่ได้สนใจ ต่อให้เงินทองจะดี ไหนเลยจะมีค่าเท่าชีวิตคน
“เร็ ว รี บไปซ่อนหลังรถ ใช้รถบัง ตีโต้ตอบ” เสิ่ นเวยตะโกนเสี ยงดัง
หนึ่งครา ดึงชวีไห่และหมอหลิวไปหลบอยูข่ า้ งหลังรถ สัง่ ห้ามพวก
เขาสองคนออกไป ตนคว้าธนูหนึ่งคันจากนั้นก็ยงิ ออกไป ได้ยนิ
เพียงสี ยงลูกธนูแทงเข้าเนื้อเบาๆ ในพุม่ หญ้าตรงหน้าเคลื่อนไหว
เล็กน้อย
เสิ่ นเวยเห็นเหตุการณ์น้ ี ก็ตะคอกเสี ยงดังทันที “ยิงไปในหญ้า พวก
เขาหลบอยูใ่ นพงหญ้า!”
มีที่กาบัง ซ้ ายังหาเป้าหมายเจอแล้ว ความกดดันก็ลดลงไปอย่างมาก
ในชัว่ พริ บตา แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คงไม่กล้าชะล่าใจ ชัยชนะยิง่ ใหญ่ของซี
เจียงใครบ้างไม่รู้ ตลอดการเดินทางพวกเขาเปิ ดเผยฐานะ ระหว่าง
ทางก็มีขนุ นางไม่นอ้ ยเข้ามาคารวะ เหตุใดมาถึงที่นี่กลับมีคนลงมือ
กับพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัวเลยเล่า ไม่กลัวจักรพรรดิลงโทษหรื อ
อย่างไร
ท่านเสิ่ นโหวกับหย่งติ้งโหวเองก็เห็นความผิดปกติแล้ว ทั้งสอง
สบตากับปราดหนึ่ง สี หน้าเคร่ งขรึ มอย่างถึงที่สุด “เสิ่ นโหว หากข้าดู
ไม่ผดิ นี่น่าจะเป็ นลูกธนูของกองทัพ” หย่งติ้งโหวหยิบลูกธนูหนึ่ง
ดอกมาดูอย่างละเอียด แม้วา่ บนลูกธนูจะอาพราง แต่อย่างไรเสี ยหย่ง
ติ้งโหวก็เป็ นคนที่เคยนาทัพมาก่อน ยังคงมองออกในปราดเดียวว่านี่
คือลูกธนูที่ใช้ในกองทัพ
หย่งติ้งโหวยังดูออก ยิง่ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึงท่านเสิ่ นโหวที่อยูใ่ นกองทัพมา
ตลอดทั้งปี คนที่สามารถสัง่ การในกองทัพได้ เป็ นกลุ่มอานาจที่อยู่
เบื้องหลังหรื อ ท่านเสิ่ นโหวกับหย่งติ้งโหวหรี่ ตาลงพร้อมกัน ในใจ
มีความรู ้สึกไม่ดี ใครกัน ใครกันที่กล้าถึงเพียงนี้ จงใจหาเรื่ องพวก
เขายังไม่เท่าไร แต่เก็บลูกท้อของจักรพรรดิอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ก็น่า
ใคร่ ครวญอย่างยิง่
เสิ่ นเวยเองก็พบความผิดปกติแล้ว แม้วา่ นางจะไม่รู้จกั ลูกธนูของ
กองทัพ แต่คนกลุ่มนี้ที่โจมตีพวกเขาก็ดูจะฝึ กฝนมาดีเกินไปหน่อย
ความรู ้สึกที่นางสัมผัสได้คุน้ เคยอย่างยิง่ คล้ายกับว่ามาจาก…
กองทัพ
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมาในหัว สี หน้าท่าทางทั้งร่ างของเสิ่ นเวยก็
เปลี่ยน จู่ๆ ก็นึกถึงมือสังหารที่ตนเจอในหมู่บา้ นครั้งนั้น
สัญชาตญาณบอกนางว่าสองเหตุการณ์น้ ีอาจจะเกี่ยวเนื่องกัน
“คุณชายสี่ คุณชายของพวกเราบอกให้ท่านระวังตัว ฝ่ ายตรงข้าม
เหล่านั้นน่าจะมาจากกองทัพ” เจียงเฮยคลาทางมากล่าวกับเสิ่ นเวย
ด้วยสี หน้าจริ งจัง
การคาดเดาในใจเสิ่ นเวยได้รับการยืนยัน มองพุม่ หญ้าตรงหน้าที่ไม่รู้
ว่ามีคนหมอบซุ่มอยูเ่ ท่าไรด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม “ข้ารู ้แล้ว เจ้ารี บ
กลับไปคุม้ กับคุณชายของพวกเจ้าเถอะ”
มาจากกองทัพ ยังซุ่มกาลังอย่างกล้าได้กล้าเสี ยเช่นนั้น จะต้องไม่
กลัวการตรวจสอบเป็ นแน่ แม้วา่ จะตรวจสอบ ก็ไม่อาจพบเจออะไร
ได้ เช่นนั้นก็มีคาอธิบายเพียงอย่างเดียว กองทัพส่ วนตัว ใคร ใครมี
อานาจที่มากถึงเพียงนี้
ตอนนี้คิดหาวิธีรับมือก่อนดีกว่า ฝ่ ายตรงข้ามหมอบซุ่มอยูใ่ นพงหญ้า
ใช้เพียงธนูโจมตี ลูกธนูกย็ งั แน่นขนัดอย่างยิง่ คาดว่าน่าจะมี
ประมาณเกือบสามร้อยคน แต่ใครจะรู ้วา่ นี่คือกาลังคนทั้งหมด
หรื อไม่
ฝั่งเสิ่ นเวยหลบอยูห่ ลังรถคอยตีโต้ตอบ กลับไม่ได้รับบาดเจ็บล้มตาย
มากนัก ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ใครจะรู ้วา่ ฝ่ ายตรงข้ามยังมีกองกาลัง
หนุนอีกหรื อไม่ พวกเขารั้งทัพรอบุกโจมตีเช่นนี้ใช่รอให้ถึงกลางคืน
หรื อไม่ แต่ไม่วา่ จะเป็ นแบบไหนก็ไม่เอื้อผลต่อเสิ่ นเวยทั้งสิ้ น
เดินทางมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้ทุกคนยังไม่ได้กินแม้แต่ขา้ ว คนล้าม้า
เหนื่อย จะสู ้ศตั รู ที่รอซ้ ายามเปลี้ยได้อย่างไร
ไม่ได้ ไม่อาจยืดเยื้อต่อไปได้ ต้องออกโจมตีดว้ ยตัวเองจึงจะถูก ทั้ง
ยังต้องส่ งคนไปขอความช่วยเหลือ
“คุณชาย หากพวกเรายังมีระเบิดมืออยูก่ ค็ งดี” เถาฮวาพึมพาเสี ยงเบา
เสิ่ นเวยตาลุกวาวในชัว่ ขณะ ระเบิดมือยังเหลืออยูอ่ ีกหนึ่งลูก อย่างไร
เสี ยนางก็ทาของชิ้นนี้เป็ นครั้งแรก เก็บหนึ่งลูกไว้เป็ นที่ระลึก แต่วา่
ลูกนี้นางก็ยงั ตัดใจใช้ไม่ลง ใช้ธนูไฟก่อนแล้วกัน หากหลบอยูใ่ นพง
หญ้าไม่ยอมออกมา เช่นนั้นข้าก็จะบังคับให้พวกเจ้าออกมาเอง ข้าไม่
เชื่อว่าพงหญ้าไหม้หมดแล้วพวกเจ้าจะยังหมอบซุ่มได้อีก หากยัง
เป็ นเต่านินจาได้อยูข่ า้ ก็นบั ถืออย่างยิง่
“ทั้งหมดฟังคาสัง่ ใช้ธนูไฟ” เสิ่ นเวยออกคาสัง่ หนึ่งครา นาคนเผา
ธนูไฟลุกโชนยิงออกไป
ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘ตูม้ ’ คราหนึ่ง พุม่ หญ้าแห้งก็มอดไหม้ ชัว่ พริ บตา
ลุกลามเป็ นผืนใหญ่ บนร่ างคนในพุม่ หญ้าติดไฟ พากันปรากฎ
ออกมา
โอ้โห ดีจริ งๆ “เร็ ว ยิงพวกเขา” ฉวยโอกาสตอนที่เขาหนีเอาชีวิต
รอด ฉวยโอกาสตอนที่ศตั รู ลุกลนดับไฟบนร่ าง ทุกคนก็พากัน
เพ่งเล็งเป้าหมาย แต่ละคนยิงธนูสามดอกแล้วจึงคว้าอาวุธวิ่งพุง่ เข้า
ไป เปิ ดฉากการสู ้รบทันที
คนที่หมอบซุ่มอยูใ่ นพุม่ หญ้าไม่ได้มีเพียงสามร้อยคนดัง่ คาด คนข้าง
หลังเห็นข้างหน้าไฟไหม้ ไม่รอให้ธนูไฟยิงเข้ามาตนก็กระโดดออก
มาแล้ว พลางช่วยเพื่อนทหารดับไฟ พลางยิงโต้ตอบฝั่งเสิ่ นเวย
หญ้ารกร้างถูกเผาหมดแล้ว ลุกลามออกไปกว่าสิ บจั้ง ไฟไหม้เยอะ
อย่างอย่างยิง่ แต่เสิ่ นเวยกลับยังไม่วางใจ
ดีแล้ว ฝ่ ายตรงข้ามไม่ได้เปรี ยบแล้ว ประจัญบานระยะใกล้ พวกเรา
มาสู ้รบกับอย่างยุติธรรมสักครั้งเถอะ เสิ่ นเวยไม่เคยคิดว่าฝ่ ายตนที่
ผ่านการฝึ กฝนมาในสนามรบจะเป็ นคู่ต่อสู ้ของฝ่ ายตรงข้ามไม่ได้
“ท่านปู่ ท่านคุมกองกาลัง ข้าจะไปสร้างคุณงามความดีให้ท่านเอง”
เสิ่ นเวยตะโกนดังหนึ่งคราจากนั้นก็ยกดาบหมื่นโลหิ ตวิ่งออกไปฆ่า
แล้ว ยังไม่ลืมสัง่ สอนเถาฮวาเทพสังหารตัวน้อยของนาง “เถาฮวา อีก
ประเดี๋ยวคอยหาโอกาสฆ่าคนให้ได้เยอะๆ คนเหล่านี้น่าราคาญ
เกินไปแล้ว”
เถาฮวาแสยะปากถือเป็ นการตอบรับคุณหนูของนางแล้ว ก็น่าราคาญ
น่ะสิ แม้แต่ขา้ วยังไม่ให้ขา้ กินดีๆ เถาฮวาลูบท้องน้อยๆ ที่แบนเรี ยบ
ตัดสิ นใจฆ่าพวกเขาให้หมด
คนชุดดาที่เพิ่งจะลนลานดับไฟบนร่ างเห็นฝ่ ายตรงข้ามมีเด็กน้อย
บอบบางและเด็กที่ยงั ไม่โตวิง่ ออกมา คนหนึ่งชูดาบใหญ่ คนหนึ่งกา
กระบองเหล็กยาว มุมปากกระตุกไม่หยุด ฝ่ ายตรงข้ามไม่มีคนแล้ว
แม้แต่เด็กอ่อนแอยังส่ งออกมาตายงั้นหรื อ แม้วา่ ก่อนหน้านี้จะ
เสี ยเปรี ยบ แต่เมื่อเห็นสองคนนี้ ท่าทีของชายชุดดาก็เหยียดหยาม
ขึ้นมาทันที
ไม่แปลกที่พวกเขาจะทะนงตน พวกเขาเป็ นคนชั้นยอดที่มาจาก
กองทัพ ตั้งแต่เข้าร่ วมสงครามมาก็ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน แม้วา่ ฝ่ าย
ตรงข้ามจะมาจากกองทัพเหมือนกัน แต่ฝ่ายตนหมอบซุ่มล่วงหน้า
ทั้งยังรอซ้ ายามเปลี้ย จานวนคนก็พอๆ กัน จะยังแพ้ได้อย่างไร
แต่วินาทีถดั มาพวกเขาก็ไม่ทะนงตนอีกแล้ว เด็กอ่อนแอสองคนที่
พวกเขาไม่เห็นอยูใ่ นสายตาเลยนั้น ชัว่ พริ บตาเดียวก็ทาคนบาดเจ็บ
ไปเจ็ดแปดคน ทั้งสองร่ วมมือกันอย่างรู ้ใจ คนหนึ่งทุบ คนหนึ่งฟัน
โจมตีจุดสาคัญทั้งหมด กระบวนท่าแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ผูท้ ี่ถูกเลือก
ก็ร้องโอดครวญ ไม่ถูกทุบกระเด็นก็ถูกฟันเป็ นสองซีก นี่ไหนเลยจะ
เป็ นเด็กอ่อนแอ เห็นชัดๆ ว่าเป็ นเทพสังหารที่ไอสังหารพุง่ ขึ้นฟ้า
สององค์ต่างหาก
“คุณชาย คุณชาย คนเหล่านี้ฆ่าง่ายจริ งๆ” เถาฮวาตะโกนอย่างมี
ความสุ ข ฆ่าง่ายจริ งๆ กระบองของนางยังไม่ทนั จะกวาดออกไป คน
ตรงหน้าก็ลม้ ลงแล้ว รับมือง่ายกว่าทหารซีเหลียงยิง่ นัก
ศึกใหญ่ครั้งสุ ดท้ายเถาฮวาตามคุณหนูของนางไปจับประมุขซีเหลียง
ด้วย นางติดตามอยูข่ า้ งกายคุณหนู แม้แต่โอกาสลงมือยังชิงมาไม่ได้
หลังกลับมาก็ได้ยนิ ทุกคนพูดคุยกันว่าในสนามรบฆ่าสนุกเพียงใด
นางก็ไม่มีความสุ ขแล้ว ทั้งวันเอาแต่ดึงเสื้ อเสิ่ นเวยถามว่าเมื่อไรจะ
พานางไปฆ่าคนอีก เสิ่ นเวยลาบากใจจะแย่อยูแ่ ล้ว สงครามจบสิ้ นลง
แล้ว นางจะไปหาคนที่ไหนมาให้นางฆ่าเล่น เลี้ยงเด็กน้อยที่ชอบฆ่า
คนเล่นน่าปวดหัวจริ งๆ เลย
ตอนนี้ดีแล้ว คนชุดดาเยอะเพียงนี้มาหาถึงหน้าประตู เถาฮวาก็
เหมือนปลาที่กระโจนลงมหาสมุทรไม่ใช่หรื อ ดีใจสุ ดขีด
เสิ่ นเวยได้ยนิ คาพูดของเถาฮวา ก็อยากจะคุกเข่าให้นางจริ งๆ กาลัง
ของคนชุดดาเหล่านี้สูงกว่าทหารซีเหลียงไม่เพียงแค่หนึ่งขั้น เหตุผล
ที่เถาฮวารู ้สึกรับมือง่าย ไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือจากนางหรอกหรื อ
มีทหารรับจ้างเช่นนางคอยปกป้องคุม้ กัน เถาฮวาจะไม่รู้สึกสบาย
ราวกับตีตุ่นได้อย่างไร
คนที่อยากคุกเข่าเช่นเดียวกันยังมีคนชุดดาเหล่านี้ พวกเขาเป็ นคนชั้น
ยอดในกลุ่มคนชั้นยอดรู ้หรื อไม่ เหตุใดพอมาถึงปากเทพสังหารน้อย
ผูน้ ้ ีถึงได้กลายเป็ นคนไร้ประโยชน์เสี ยแล้วเล่า
ฟ้ามืดสนิทแล้ว แต่ใต้แสงสะท้อนของเปลวไฟกลับมองเห็นชัดเจน
มากเป็ นพิเศษ จู่ๆ เสิ่ นเวยก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี การสังหารเป็ นไปได้
ด้วยดี แต่เหตุใดนางถึงรู ้สึกว่าคนชุดดาเหล่านี้คล้ายกาลังถ่วงเวลาไม่
ออกแรงเต็มแรงอยูเ่ ล่า สองฝ่ ายมาจากกองทัพทั้งคู่ กาลังไม่ควร
ต่างกันมากเพียงนี้ เช่นนั้นก็มีเพียงคาอธิบายเดียว พวกเขาไม่ได้ออก
เต็มกาลัง เช่นนั้นพวกเขามีเจตนาอะไรอยู่
“เถาฮวา ถอย” เสิ่ นเวยตัดสิ นใจถอยกลับมาทันที มือยังดึงเถาฮวาที่
ดื้อดึงไม่ยอมไป ไม่มีตนอยูข่ า้ งกายนางไม่วางใจเถาฮวาอย่างยิง่
สาหรับนางแล้วเถาฮวาเป็ นเหมือนญาติ ไม่ยอมให้เกิดความสู ญเสี ย
ใดๆ ได้
“ท่านปู่ ข้าคิดว่าผิดปกติมาก คนชุดดาเหล่านี้คล้ายกาลังรออะไรอยู”่
เสิ่ นเวยเอ่ยความสงสัยในใจตนออกมากับปู่ นาง
“มีอะไรหรื อเจ้าสี่ ” ท่านเสิ่ นโหวรี บถาม แม้แต่หย่งติ้งโหวที่อยูข่ า้ งๆ
ยังมองเข้ามาอย่างตื่นตระหนก
เสิ่ นเวยขมวดคิว้ ชี้สนามรบเล็กๆ ที่กาลังฆ่าฟันกันแล้วกล่าว “ท่าน
ปู่ ท่านไม่คิดว่ากาลังสองฝ่ ายแตกต่างกันมากเกินไปหรื อ ท่านดูสิวา่
พวกเขาป้องกันเป็ นส่ วนใหญ่ คนที่โจมตีเองกลับมีไม่เยอะ” หมอบ
ซุ่ม แต่กลับไม่ออกแรงเต็มกาลัง นี่หมายความว่าอย่างไร
“เจ้าสงสัยว่าพวกเขาตั้งใจถ่วงเวลาหรื อ คิดจะรอให้พวกเราหมด
กาลังหรื อ” หย่งติ้งโหวแย่งกล่าว
เสิ่ นเวยหยักหน้า กล่าว “ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะมีกองกาลังหนุน คน
เหล่านี้เป็ นเพียงกลุ่มสารวจเส้นทาง”
เสิ่ นเวยพูดยังไม่ทนั ขาดคา ท่านเสิ่ นโหวและหย่งติ้งโหวก็หน้า
เปลี่ยนสี พร้อมกัน “แย่แล้ว พวกเขามีกองกาลังหนุนจริ งๆ” ทั้งหมด
ได้ยนิ เสี ยงกีบเท้าม้ารางๆ แล้ว
ม่านตาเสิ่ นเวยหดลงอย่างรวดเร็ ว หัวใจจมดิ่งลงอย่างไม่รู้ตวั หาก
คนที่มาคือกลุ่มของคนชุดดาจริ งๆ เช่นนั้นก่อนหน้านี้คนที่ออกไป
ขอความช่วยเหลือจะออกไปได้หรื อ
“เจ้าสี่ ต้อนคนเข้าไปให้หมด จะต้องฆ่าคนพวกนี้ให้หมดก่อนที่กอง
กาลังหนุนจะมา” ท่านเสิ่ นโหวพลางสัง่ พลางคว้าอาวุธของตัวเอง
ออกมา นัน่ คือดาบหนึ่งเล่ม ดาบที่ตวั ดาบยาวและกว้างหนึ่งเล่ม หย่ง
ติ้งโหวเองก็ชกั กระบี่ล้ าค่าติดตัวออกมา
ก่อนหน้านี้กลัวว่าจะหลงอุบายของฝ่ ายตรงข้าม จึงเหลือกาลังคน
ส่ วนหนึ่งคุม้ กันข้างรถ ตอนนี้มาถึงจุดชี้เป็ นชี้ตาย ใครจะยังสนใจ
ของตายเหล่านั้นอยูอ่ ีก หากพวกเขาคว้าชัยชนะได้ ของย่อมต้อง
ปกป้องไว้ได้ หากสู ้ไม่ได้ ฮ่าๆ คนก็ตายหมดแล้ว ใครจะยังสนใจอีก
ว่าของจะตกอยูใ่ นมือใคร
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น – ตอนที่ 178-2 ระหว่ างทาง
กองกำลังทหำรห้ำร้อยนำยบวกกับผูม้ ีฝีมือดีอีกห้ำร้อยคนใต้บงั คับ
บัญชำเสิ่ นเวย บวกกับยอดฝี มือที่หำญกล้ำเหล่ำนั้นของเสิ่ นเวย
ทั้งหมดประชิดเข้ำไป ทุกๆ คนล้วนตำแดงก่ำ ใช้กระบวนท่ำเดียวก็
ฆ่ำศัตรู ได้ไม่ตอ้ งใช้สองกระบวนท่ำอย่ำงสิ้ นเชิง ในใจทุกคนต่ำงก็รู้
ดี ตอนนี้ฆ่ำฝ่ ำยตรงข้ำมให้มำกขึ้นหนึ่งคน โอกำสรอดชีวิตของพวก
เขำก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งส่ วน
เสี ยงกีบเท้ำม้ำค่อยๆ ใกล้เข้ำมำแล้ว รำวกับเหยียบยำ่ หัวใจคนทุกคน
ได้ยนิ เพียงเสี ยงก็รู้แล้วว่ำมีจำนวนไม่นอ้ ย
เสิ่ นเวยไม่ได้ร่วมมือกับเถำฮวำแล้ว แต่แยกสู ้ลำพัง นำงวิ่งไปซ้ำย
แทงไปขวำแปลกประหลำดเสมือนเงำหนึ่งสำย ฟันหนึ่งครั้ง ฟัน
เพียงครั้งเดียว เสิ่ นเวยฆ่ำศัตรู ดว้ ยกำรฟันเพียงครั้งเดียว บนพื้น
โลหิตไหลเป็ นสำยน้ ำ ทว่ำดำบหมื่นโลหิตกลับยิง่ ส่ องแสงเย็นเยียบ
เป็ นประกำย ภำยใต้แสงสะท้อนของเปลวไฟลึกลับไม่อำจคำดเดำ
เหมือนกับเจ้ำนำยของมัน ส่ งกลิ่นอำยแห่งควำมตำยที่ทำให้คน
หำยใจไม่ออก
เสิ่ นเวยก็คือยมทูตที่มำจำกนรกตนนั้น มุมปำกอมยิม้ เย็นยะเยือก
ดวงตำไม่มีควำมอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว นำงคือดำบหนึ่งเล่ม ดำบหนึ่ง
เล่มที่แหลมคมเหนือสิ่ งอื่นใด เก็บเกี่ยวชีวิตคนนับหมื่น
“ระวัง หน้ำไม้” สวีโย่วที่ถูกสองพี่นอ้ งเจียงเฮยเจียงไป๋ คุม้ กันอยู่
ด้ำนหลังพลันตะคอกหนึ่งครำ ตำมมำพร้อมเสี ยงพูดก็คือเสี ยงหน้ำ
ไม้ฝ่ำอำกำศ
“เร็ ว หมอบลง” เสิ่ นเวยตะโกนเสี ยงเฉียบขำด
หน้ำไม้ คืออำวุธฉบับปรับปรุ งของธนู รัศมีกำรยิงไกลขึ้น พลัง
ทำลำยล้ำงแข็งแกรงขึ้น ยุคนี้ อำวุธเช่นหน้ำไม้ไม่แพร่ หลำย มีเพียง
กองทัพเท่ำนั้นจึงจะมีหน้ำไม้ อีกทั้งไม่ใช่ทหำรทั้งหมดที่จะมี
โอกำสสัมผัสหน้ำไม้ คนที่สำมำรถสัมผัสหน้ำไม้ได้ต่ำงก็เป็ นทหำร
หำญของกองกำลังที่เลือกมำฝึ กฝนเป็ นพิเศษ
คนที่เสิ่ นเวยพำมำแต่ไหนแต่ไรล้วนฝึ กฝนมำเป็ นอย่ำงดี ภำยใต้
คำสัง่ ก็หมอบลงพร้อมกัน แม้กองกำลังทหำรห้ำร้อนนำยจะช้ำ
เล็กน้อย แต่กลับนับได้วำ่ รวดเร็ ว มีเพียงชำยชุดดำนั้น รู ้วำ่ เป็ นกอง
กำลังหนุนของตน ก็ดีใจอย่ำงถึงที่สุด กระทัง่ มีคนมองไปยังทิศทำง
ที่หน้ำไม้ยงิ มำ
น่ำเสี ยดำย ลูกธนูไม่แบ่งฝักฝ่ ำย ลูกธนูปักเข้ำไปในเนื้อ ตอนที่เสี ยง
ร้องลัน่ ดังขึ้นสี หน้ำพวกเขำก็มีควำมตกใจที่เหลือเชื่อ
เสิ่ นเวยเองก็ยนื ยันควำมคิดในใจได้แล้ว คนชุดดำเหล่ำนี้เป็ นกลุ่ม
สำรวจเส้นทำงดัง่ คำด ตำยก็ตำย พวกเขำไม่รู้สึกเสี ยดำยอย่ำงสิ้ นเชิง
ใครกัน ใครที่มีเงินมำกถึงเพียงนี้
“ท่ำนปู่ จะทำอย่ำงไร” เสิ่ นเวยถำมท่ำนปู่ ที่หมอบอยูข่ ำ้ งๆ นำงด้วย
เสี ยงเบำ ผูม้ ำเยือนที่ควบคุมหน้ำไม้ลว้ นสวมชุดสี เทำทั้งหมด ใน
แสงไฟเรื อนร่ ำงกำลังกระโดดอยู่ รำวกับนกพิรำบแต่ละตัวๆ เพียง
แค่เห็นท่ำทำงกำรเดินก็รู้แล้วว่ำคนเหล่ำนี้เก่งกว่ำคนชุดดำมำก
ชัว่ แวบเดียวคนชุดเทำก็อยูต่ รงหน้ำแล้ว คงไม่อำจหมอบอยูบ่ นพื้น
ปล่อยให้คนมำทำร้ำยตลอดไปได้กระมัง แต่หน้ำไม้ในมือพวกเขำก็
กดดันจนเสิ่ นเวยไม่มีทำงลุกขึ้นได้ มีแสงไฟส่ อง จะต้องยิงโดน
แน่นอน
เสิ่ นเวยเสี ยดำยอย่ำงอดไม่ได้ เหตุใดถึงไม่ดบั ไฟก่อน นี่เท่ำกับว่ำ
เป็ นกำรเปิ ดเผยตัวอยูใ่ ต้สำยตำของฝ่ ำยตรงข้ำมไม่ใช่หรื อ ทำ
อย่ำงไรจึงจะล่อคนชุดเทำเหล่ำนี้มำสู ้รบระยะประชิดได้ ควำม
เป็ นไปได้ที่ตนจะพำคนคลำนเข้ำไปมีมำกเท่ำไร เสิ่ นเวยกำลังคิด
คำนวณในใจอย่ำงรวดเร็ ว
ท่ำนเสิ่ นโหวจ้องมองข้ำงหน้ำ ในใจคลื่นซัดถำโถม นัน่ คือหน้ำไม้
นัน่ คืออำวุธที่ร้ำยแรงที่สุดในกองทัพ แววตำเขำเจ็บใจอย่ำงถึงที่สุด
เสิ่ นผิงยวนทำสงครำมมำทั้งชีวิต ไม่ตำยในน้ ำมือชำวซีเหลียง หรื อ
ว่ำจะต้องมำตำยในน้ ำมือคนของตัวเอง
ไม่ ไม่มีทำง
ท่ำนเสิ่ นโหวลูบแขนซ้ำย มือทั้งมือเปื้ อนเลือด แขนซ้ำยเขำถูกคนชุด
ดำแทงหนึ่งครำ เขำเม้มปำก แววตำมีควำมเย็นยะเยือกที่ลุ่มลึกสู ง
ตระหง่ำน
ได้ยนิ เพียงสั้นยำวไม่เท่ำกันดังออกมำจำกปำกเขำอย่ำงรวดเร็ ว เสิ่ น
เวยก็เห็นคนหนึ่งกลุ่มหลังรถที่ไม่รู้โผล่ออกมำจำกไหน มือถือคัน
ธนูยงิ ไปยังคนชุดเทำ
หึๆ นำงบอกแล้ว ปู่ นำงเป็ นสุ นขั จิ้งจอกเฒ่ำ จะไม่มีทำงหนีทีไล่ได้
อย่ำงไร
เสิ่ นเวยฉวยโอกำสทำสัญลักษณ์มือกับข้ำงหลัง นำคนคลำนไป
ข้ำงหน้ำอย่ำงรวดเร็ ว ขอเพียงแค่วิ่งไปตรงหน้ำชำยชุดเทำได้ หน้ำ
ไม้ของพวกเขำก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
เมื่อประมือกันฝั่งเสิ่ นเวยก็รู้แล้วว่ำ เมื่อครู่ น้ นั เป็ นเพียงอำหำรเรี ยก
น้ ำย่อย กำรต่อสู ้ที่แท้จริ งเพิง่ จะเริ่ มขึ้น ณ บัดนี้ ตอนนี้ชำยชุดเทำ
คล้ำยผ่ำนกำรฝึ กฝนพิเศษมำ แต่ละคนไม่เพียงแต่มีกำลังหำญกล้ำ
กำรร่ วมมือระหว่ำงกันยังรู ้ใจอย่ำงถึงที่สุด เป็ นครั้งแรกที่เสิ่ นเวยเจอ
ศัตรู ที่ยำกจะรับมือเพียงนี้ สู ้รบด้วยควำมลำบำกยำกเย็น มีคนล้มลง
ไม่ขำดสำย
“หู่โถว!” จู่ๆ ก็มีเสี ยงร้องตะโกนที่เศร้ำโศกดังขึ้น
เสิ่ นเวยหันหน้ำขวับ เห็นเพียงร่ ำงของเสิ่ นหู่โถวกำลังถูกกระบี่ยำว
หนึ่งเล่มแทงทะลุ “หู่โถว!”
เสิ่ นเวยเองก็ร้องตะโกนด้วยควำมเศร้ำโศก ร่ ำงประหนึ่งพำยุหมุน
ดำบหนึ่งเล่มฟันออกไป
คนผูน้ ้ นั ไม่คิดว่ำเสิ่ นเวยจะมำเร็ วเช่นนี้ รู ้สึกเพียงหน้ำอกเจ็บปวด
ควำมพอใจบนใบหน้ำหยุดชะงักไปชัว่ นิรันดร์ เสิ่ นเวยถีบเขำ
ออกไป รับร่ ำงที่ลม้ ลงของเสิ่ นหู่โถว “หู่โถว! หู่โถว!” นำงตะโกน
เสี ยงสะอื้น
เสิ่ นหู่โถวอยำกยิม้ เล็กๆ แต่กลับรู ้สึกลำบำกอย่ำงยิง่ เขำอ้ำปำก แต่
กลับไม่สำมำรถส่ งเสี ยงใดๆ ออกมำได้ มือก็ตกลง ทว่ำเสิ่ นเวยกลับ
เห็นชัดเจนว่ำคำที่เขำต้องกำรพูดคือ ‘ท่ำนป้ำ’
ใช่แล้ว ว่ำกันตำมลำดับรุ่ น เสิ่ นหู่โถวต้องเรี ยกเสิ่ นเวยว่ำป้ำ เด็ก
หนุ่มที่เห็นนำงก็เขินอำยผูน้ ้ ีนอนอยูบ่ นพื้นที่หนำวเย็นเช่นนี้
เสิ่ นเวยรู ้สึกเพียงมีมือข้ำงหนึ่งกำลังบีบหัวใจนำงอย่ำงแรง เจ็บปวด
ยิง่ นัก
พวกเขำไม่ตำยในสนำมรบซีเจียง แต่กลับตำยระหว่ำงทำงกลับเมือง
หลวง อีกแค่ครึ่ งทำงก็ถึงเมืองหลวงแล้ว พวกเขำกลับมำตำยในต่ำง
แดน นำงพำพวกเขำออกมำ แต่กลับไม่สำมำรถพำเขำกลับไปได้
อย่ำงปลอดภัย
เสิ่ นเวยแหงนหน้ำหัวเรำะร่ ำ เสี ยงหัวเรำะโศกเศร้ำและเยือกเย็น
กระทัง่ หัวเรำะจนน้ ำตำนองหน้ำ
“คุณชำย!” มีคนชุดเทำคิดฉวยโอกำสจะจบชีวิตเสิ่ นเวย ถูกพลลับ
หนึ่งของนำงที่คุม้ กันอยูใ่ นควำมมืดมำโดยตลอดสกัดลง
เสิ่ นเวยมองข้ำมแววตำที่เป็ นกังวลของพลลับหนึ่ง จ้องมองคนชุด
เทำที่ลอบโจมตีนำงอย่ำงเย็นยะเยือก กล่ำวคำเว้นคำ “เจ้ำสมควร
ตำย! พวกเจ้ำสมควรตำย!”
ไม่ทนั ได้เห็นว่ำนำงลงมือเช่นไร คนชุดเทำผูน้ ้ นั ก็ลม้ ลงกับพื้นแล้ว
กระทัง่ ปำกที่อำ้ อยูย่ งั ไม่ทนั ได้ปิดลง
เสิ่ นเวยถูกยัว่ โมโหแล้ว นำงใช้กระบวนท่ำทั้งหมดที่มี ขอเพียงแค่
ฆ่ำฝ่ ำยตรงข้ำมให้ตำยได้ นำงก็ไม่สนว่ำตนจะบำดเจ็บหรื อไม่ เอำ
แต่ต่อสู ้ไม่ป้องกัน ในใจมีเพียงควำมคิดเดียว นำงจะฆ่ำคนที่
ขวำงทำงอยูห่ น้ำนำง นำงจะฆ่ำคนที่ทำร้ำยเพื่อนนำงให้ตำย มีเพียง
โลหิตสดที่จะสำมำรถดับควำมเศร้ำโศกในหัวใจนำงได้
เช่นนั้น เข้ำมำสิ หนี้เลือดพวกเรำก็ตอ้ งใช้เลือดมำชดใช้
วิธีกำรต่อสู ้ที่ไม่คิดชีวิตเช่นนี้ของเสิ่ นเวย ต่อให้จะเป็ นคนชุดเทำที่
เห็นควำมเป็ นควำมตำยมำนับไม่ถว้ นก็ยงั อกสัน่ ขวัญหำย
สวีโย่วที่สงั เกตเสิ่ นเวยมำโดยตลอดก็กงั วลอย่ำงถึงที่สุด เด็กโง่คน
นั้น เหตุใดถึงไม่เห็นควำมสำคัญของชีวิตตัวเองเลยเล่ำ เขำสัง่ เจียง
เฮยและคนอื่นๆ สองสำมประโยค เจียงเฮยก็มองน้องชำยเขำปรำด
หนึ่ง วิ่งฆ่ำออกไปคุม้ กันขนำบข้ำงเสิ่ นเวยกับพลลับหนึ่งอย่ำงไม่
ยอมล่ำช้ำ เขำเข้ำใจเป็ นอย่ำงดี เพียงแค่คุณหนูสี่ปลอดภัย คุณชำยก็
ไร้กงั วล
ทหำรคนสนิทที่เหลือก็ปรำกฏตัวอยูข่ ำ้ งกำยท่ำนเสิ่ นโหว เถำฮวำ
และคนอื่นๆ เสิ่ นหู่โถวเพียงคนเดียวก็ทำให้เด็กน้อยเจ็บปวดใจจน
เป็ นเช่นนี้ สวีโย่วไม่กล้ำจินตนำกำรว่ำหำกท่ำนเสิ่ นโหวกับเถำฮวำ
เป็ นอะไรไป เด็กน้อยจะบ้ำคลัง่ ขนำดไหน เด็กน้อยที่ในกระดูกดำดู
เหมือนเย็นชำผูน้ ้ ี อันที่จริ งกลับรักเพื่อนพ้องและอ่อนไหวที่สุด
หัวใจของสวีโย่วเจ็บแปลบ หำกตอนนี้ไม่ได้อยูใ่ นสนำมรบ เขำ
จะต้องกอดนำงเข้ำมำในอ้อมอก เยียวยำบำดแผลทัว่ ทั้งร่ ำงนำงแล้ว
แน่นอน
ตอนที่เยีย่ จ้งหมิ่นนำยอำเภอเมืองหย่งเหอเห็นป้ำยคำสัง่ ในมือคน
โชกเลือดที่กลิ้งตกลงมำจำกม้ำซึ่งวิ่งเข้ำมำในที่วำ่ กำรอำเภอ ก็ตกใจ
จนอกสัน่ ขวัญแขวน สวรรค์ ป้ำยคำสัง่ ที่ประหนึ่งฮ่องเต้
พระรำชทำนด้วยตัวพระองค์เองอันนี้ไหนเลยจะเป็ นป้ำยที่อำเภอ
เล็กๆ ของเขำจะเห็นได้ วันนี้ได้เปิ ดหูเปิ ดตำจริ งๆ
เมื่อได้ยนิ ต่อว่ำจงอู่โหวกับหย่งติ้งโหวที่กำลังกลับเมืองหลวงถูก
โจมตีระหว่ำงทำง ที่เดินทำงมำพร้อมกันยังมีหลำยชำยแท้ๆ ของ
จักรพรรดิ องค์ชำยใหญ่ที่ถูกต้องตำมกฎหมำยผูน้ ้ นั ของจวนจิ้นอ๋ อง
ร่ ำงทั้งร่ ำงก็ไม่รู้จะทำอย่ำงไรดี
ซีเจียงคว้ำชัยชนะยิง่ ใหญ่ จงอู่โหวเข้ำเมืองหลวงรับบำเหน็จ เรื่ องนี้
ใครบ้ำงไม่รู้ เหตุใดถึงมีคนกล้ำคิดจะหำเรื่ องจงอู่โหวเล่ำ นี่ไม่ใช่
เป็ นกำรตบหน้ำจักรพรรดิหรอกหรื อ
แย่แล้ว แย่แล้ว เหตุใดเขำถึงซวยเช่นนี้ เหตุใดถึงมำโจมตีในเขตของ
เขำเล่ำ คนอื่นไม่เท่ำไร แต่หำกคุณชำยใหญ่ผนู ้ ้ นั เป็ นอะไรไป
จักรพรรดิจะยังเก็บเขำไว้อยูห่ รื อ นี่มนั คนโง่ที่ไหนกัน เหตุใดถึง
ได้มำหำเรื่ องเขำเสี ยเล่ำ
ยังคงเป็ นผูใ้ ต้บงั คับบัญชำที่ดึงแขนเขำ เขำจึงตื่นจำกควำมฝัน
“ระดมพล รี บระดมพลไปช่วยเหลือ” เขำกระโดดขึ้นมำทันที
เยีย่ จ้งหมิ่นเป็ นขุนำงฝ่ ำยบุ๋นที่อ่อนแอบอบบำง แต่แม้จะเป็ นเช่นนี้
เขำก็ยงั ขึ้นหลังม้ำอย่ำงสัน่ กลัวตำมคนที่มำขอควำมช่วยเหลือไปยัง
ที่เกิดเหตุอย่ำงรวดเร็ ว ในใจก็ภำวนำ คุณชำยใหญ่อย่ำได้เป็ นอะไร
เลย แม้วำ่ จะเกิดเรื่ อง ก็หวังว่ำจักรพรรดิจะเห็นแก่เขำที่ออกทัพอย่ำง
ไม่ล่ำช้ำแม้แต่วินำทีเดียว ไว้ชีวิตเขำ
ระหว่ำงทำง เยีย่ จ้งหมิ่นฟังว่ำคนที่ถูกส่ งออกมำขอควำมช่วยเหลือมี
สิ บกว่ำคน แต่มีชีวิตรอดเพียงคนนี้คนเดียว หัวใจของเยีย่ จิ้งหมิ่นก็
หวำดกลัว แม่จ๋ำ ไม่ใช่วำ่ เขำไปถึงแล้วคนจะตำยกันหมดแล้วหรอก
นะ มือของเขำสัน่ ระริ ก ไม่กล้ำคิดต่อ
เห็นเงำคนที่ฆ่ำฟันกันท่ำมกลำงแสงไฟมำแต่ไกลๆ เยีย่ จ้งหมิ่นก็มี
จิตใจฮึกเหิมขึ้นมำในชัว่ ขณะ ดี ดีจริ งๆ คุณชำยใหญ่ไม่เป็ นอะไร
รอดแล้ว
“จงอู่โหว คุณชำยใหญ่อดทนไว้ก่อน ข้ำน้อยนำคนมำช่วยแล้ว”
เยีย่ จ้งหมิ่นตะโกนเสี ยงสู ง จู่ๆ ในใจก็ฮึกเหิ มอย่ำงไม่มีตน้ สำยปลำย
เหตุ เขำสะบัดเชือกบังเ**ยนกำลังจะเฆี่ยนม้ำวิ่งเข้ำมำ แต่กลับลืมว่ำ
ตนไม่ชำนำญกำรขี่มำ้ อย่ำงสิ้ นเชิง อีกทั้งยังเผชิญหน้ำกับธนูหน้ำไม้
หนึ่งดอกที่ลอยเข้ำมำ เป้ำอยูท่ ี่ศีรษะของเขำพอดี ผูใ้ ต้บงั คับบัญชำ
ข้ำงกำยดึงเขำหนึ่งครำ ธนูน้ นั ก็เฉียดศีรษะของเขำลอยออกไป
เยีย่ จ้งหมิ่นตกใจจนอกสัน่ ขวัญแขวน เกือบจะตกลงจำกม้ำ
สวีโย่วเห็นเหตุกำรณ์น้ ี มุมปำกกระตุก ใครบอกเขำได้บำ้ งว่ำคนผูน้ ้ ี
วิ่งออกมำจำกไหน มีขนุ นำงชั้นผูใ้ หญ่เช่นนี้ แล้วกองกำลังหนุนที่
เขำพำมำจะเชื่อถือได้หรื อ
ควำมจริ งถูกพิสูจน์ เยีย่ จ้งหมิ่นอ่อนแอก็จริ ง แต่กำลังสู ้รบของ
กองทัพอำเภอหย่งเหอยังแข็งแกร่ งพอใช้ได้ แม้วำ่ จะเทียบคนชุดเทำ
ไม่ได้ แต่กย็ งั มีจำนวนคนเยอะ
คนชุดเทำถูกทหำรที่โกรธแค้นไม่สนชีวิตกลุ่มนี้ของเสิ่ นเวยกำจัดทิ้ง
ไปกว่ำครึ่ งแล้ว ตอนนี้มีกลุ่มกำลังมำเพิม่ สำมถึงห้ำคนล้อมคนเดียว
จะไม่ชนะได้อย่ำงไร แม้วำ่ จะไม่ชนะ แต่กย็ งั ถ่วงเวลำได้
ฝั่งเสิ่ นเวยเห็นว่ำกองกำลังหนุนมำแล้ว ชัว่ ขณะขวัญกำลังใจทหำรก็
ฮึกเหิม ด้วยเหตุน้ ีคนชุดเทำที่ลม้ ลงจึงเพิ่มมำกขึ้น
คนชุดเทำที่เหลืออยูม่ องหน้ำกันปรำดหนึ่ง รู ้วำ่ หน้ำที่ครั้งนี้ลม้ เหลว
แล้ว อยูต่ ่อไปก็เสี ยชีวิตเปล่ำๆ จึงหนีไปเสี ย เอำข่ำวกลับไปบอก
เจ้ำนำย
คนชุดเทำพลำงรบพลำงถอย พยำยำมชิงม้ำหนีไป เสิ่ นเวยมองแผน
ของพวกเขำออก ตอนนี้นำงเคียดแค้นจนคันไม้คนั มือ ไหนเลยจะ
ยอมให้พวกเขำหนีไปได้
“ตั้งใจฟัง พวกเขำจะหนี ล้อมไว้ อย่ำปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คน
เดียว” เสิ่ นเวยตะโกนสัง่ ด้วยควำมโกรธ นำคนวิ่งไปฆ่ำ
คนชุดเทำเห็นว่ำวิง่ หนีไม่มีหวังแล้ว ก็ใช้ฝีมือทั้งหมดที่มีสู้สุดชีวติ
ชัว่ ขณะ กลับสู ้กนั อย่ำงสู สี
ฆ่ำฟันต่อไปอีกพักหนึ่ง อย่ำงไรเสี ยฝังเสิ่ นเวยก็ได้เปรี ยบเรื่ อง
จำนวนคน คนชุดเทำล้มตำยติดต่อกัน แต่ทำ้ ยที่สุดก็ยงั ปล่อยพวก
เขำหนีไปได้สองคน เสิ่ นเวยโมโหจนกระทืบเท้ำ ลำกม้ำหนึ่งตัว
กระโดดขึ้นไปกำลังจะไล่ตำม แต่ถูกสวีโย่วดึงเชือกบังเ**ยนไว้
“ช่ำงเถอะ ดูอำกำรบำดเจ็บของพวกเรำก่อนดีกว่ำ”
ด้วยเหตุน้ ีเสิ่ นเวยจึงลงจำกม้ำด้วยควำมคับแค้นใจ
เมื่อตรวจดูแล้ว กองกำลังทหำรห้ำร้อยนำยบำดเจ็บล้มตำยไปเกือบ
ครึ่ ง คนของเสิ่ นเวยตำยไปสิ บกว่ำคน บำดเจ็บก็ยงิ่ มำก แต่โชคดีที่
เสิ่ นหู่โถวไม่เป็ นอะไร แม้วำ่ เขำจะถูกกระบี่ยำวแทงจนไม่น่ำรอด
แต่กไ็ ม่ได้บำดเจ็บตรงจุดสำคัญ หมอหลิวบอกว่ำหำกเขยิบเข้ำมำอีก
ครึ่ งฉื่อก็ช่วยไม่ได้แล้ว โชคดีจริ งๆ
เสิ่ นหู่โถวถูกหมอหลิวป้อนยำเม็ดรักษำชีวิต นิ้วมือของเสิ่ นเวยก็
รู ้สึกได้ถึงลมหำยใจที่รวยริ นของเขำ ดีใจจนตำแดง หู่โถวไม่ตำย ดี
จริ งๆ ดีจริ งๆ
ที่นี่ไม่ควรอยูอ่ ีกต่อไปแล้ว เยีย่ จ้งหมิ่นเองก็พยำยำมเชิญทุกคนไป
พักที่ที่วำ่ กำรอำเภอหย่งเหอ ท่ำนเสิ่ นโหวกับหย่งติ้งโหวต่ำงก็เห็น
ด้วย คนของพวกเขำได้รับบำดเจ็บมำกเกินไป ยำที่นำมำด้วยมีจำกัด
อยูก่ ลำงป่ ำเขำชำนเมืองเช่นนี้จะทำอย่ำงไร ย่อมต้องไปพักที่ที่วำ่ กำร
อำเภอก่อน
กองกำลังทหำรที่เสี ยชีวิตถูกทุกคนฝังไว้ในที่ที่เคยสู ้รบแห่งนี้ ฝั่ง
เสิ่ นเวยก็จุดไฟเผำคนที่เสี ยชีวิต แม้วำ่ จะเป็ นเถ้ำกระดูก นำงก็ตอ้ งพำ
พวกเขำกลับบ้ำนเช่นกัน
ยอดหญิงสกุลเสิ่ น - ตอนที่ 179-1 ส่ งสาร
กว่าทุกคนจะกลับไปถึงที่วา่ การอาเภอเมืองหย่งเหอก็ใกล้ฟ้าสาง
แล้ว ทุกคนต่างก็หิวไส้แทบขาด เหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด
เยีย่ จ้งหมิ่นกระตือรื อร้นอย่างยิง่ และจัดการได้ดีอย่างยิง่ เช่นกัน เขา
ให้คนของตนที่อยูใ่ นเรื อนออกไปจัดแจงที่ให้ท่านเสิ่ นโหวและคน
อื่น ๆ หลังจากนั้นก็พาหมอมาพร้อมคนรับใช้เตรี ยมน้ าร้อนและ
อาหาร ทั้งยังส่ งผูใ้ ต้บงั คับบัญชาไปเชิญหมอในอาเภอมาทั้งหมด
การกระทาทั้งหมดทาให้เสิ่ นเวยอดมองเขามากขึ้นไม่ได้
เสิ่ นเวยเหนื่อยแล้วจริ ง ๆ ตอนที่อาบน้ าแทบจะหลับอยูใ่ นอ่าง โชค
ดีที่เสี่ ยวตี๋ตามเข้าไป มิเช่นนั้นนางจะต้องถูกลมหนาวจนไม่สบาย
เป็ นแน่
เพิ่งจะผ่านศึกใหญ่มา เสิ่ นเวยหิวอย่างยิง่ แต่กลับไม่อยากกินอะไร
ทั้งนั้น ท้ายที่สุดห้องครัวก็ทาบะหมี่ผกั ร้อน ๆ หนึ่งชามให้ เสิ่ นเว
ยจึงยอมกิน
กินบะหมี่เสร็ จแล้ว ความเหนื่อยล้าก็จู่โจมหัวใจ อย่างไรเสี ยเรื่ อง
หลังจากนี้กม็ ีท่านปู่ หย่งติ้งโหว แม่ทพั อู่เลี่ยกับคุณชายใหญ่สวี
จัดการแล้ว ย่อมไม่จาเป็ นต้องให้นางร้อนใจอีก นางหลับสักตื่นหนึ่ง
ก่อนดีกว่า
ท่านเสิ่ นโหวและคนอื่น ๆ รวมตัวปรึ กษาหารื อกันอยูใ่ นห้อง
ทั้งหมดเห็นว่าเรื่ องนี้ใหญ่เกินไปแล้ว ต้องกราบทูลจักรพรรดิ แต่จะ
ส่ งใครไปดีเล่า จากการโจมตีเมื่อคืน ที่พกั ระหว่างการเดินทางของ
พวกเขาตกอยูใ่ นสายตาของคนอื่นมานานแล้ว ฝ่ ายตนอยูใ่ นที่แจ้ง
ฝ่ ายศัตรู อยูใ่ นที่ลบั ใครจะรู ้วา่ คนที่ส่งไปจะเข้าเมืองหลวงได้อย่าง
ปลอดภัยหรื อไม่
สิ่ งที่ทาให้พวกเขายิง่ ว้าวุน่ ใจก็คือ พวกเขาไม่รู้เลยว่าศัตรู คือใคร พูด
กันตามตรง นอกจากจักรพรรดิเองแล้ว ยังมีใครที่กมุ อานาจยิง่ ใหญ่
เช่นนั้นได้อีก แต่จกั รพรรดิไม่มีทางปลดตนลงจากตาแหน่งแน่นอน
เช่นนั้นจะเป็ นใครได้อีก คนหลายคนต่างก็รู้สึกว่าลาคอถูกดาบที่
มองไม่เห็นเล่มหนึ่งจี้อยู่ ไม่ปลอดภัยอย่างถึงที่สุด
“หรื อว่า จะรบกวนคุณชายสี่ วิ่งไปเที่ยวหนึ่ง” แม่ทพั อู่เลี่ยเสนอ
ความคิดเห็นของตน ความสามารถของคุณชายสี่ ผนู ้ ้ ีเขาเห็นมาโดย
ตลอด เขาคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่านางอีกแล้ว รู ้อยูแ่ ก่ใจ
ว่านี่คือสตรี แต่แม่ทพั อู่เลี่ยกลับมองข้ามข้อเท็จจริ งนี้อยูเ่ สมอ ก็
เพราะคุณหนูสี่หา้ วหาญจนไม่เหมือนสตรี จริ ง ๆ นี่นา
เมื่อข้อเสนอนี้เอ่ยออกมา หย่งติ้งโหวก็สนใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้
พูดอะไร กลับมองท่านเสิ่ นโหวแทน “ท่านเสิ่ นโหวคิดเห็นว่า
อย่างไร มีคนที่ดีกว่านี้หรื อไม่”
คุณชายสี่ แซ่เสิ่ นเป็ นหลายชายแท้ ๆ ของจงอู่โหว จะส่ งเขาไปส่ ง
สาส์นหรื อไม่กย็ งั ต้องดูเจตนาของท่านเสิ่ นโหวก่อน คุณชายสี่ แซ่
เสิ่ นมีความสามารถยิง่ นัก ไม่เกรงกลัวสิ่ งใดแต่หากเกิดเรื่ องไม่
คาดคิดเล่า หากมีอุบตั ิเหตุใด ๆ ระหว่างทาง ท่านเสิ่ นโหวจะไม่
เกลียดพวกเขาเหล่านี้จนตายเลยหรื อ
อันที่จริ งท่านเสิ่ นโหวก็ไม่อยากให้หลานสาวของเขาไปเสี่ ยง
อันตรายนี้จากใจจริ ง ที่หลานสาวบ้าคลัง่ เมื่อคืนเขาเห็นกับตา เสี่ ยวตี๋
เองก็รายงานเขาแล้ว บอกว่าบนร่ างคุณหนูมีบาดแผลภายนอกไม่
น้อย เขาทั้งรู ้สึกผิดทั้งปวดใจ นี่คือสตรี ไม่ใช่เด็กซนที่ผิวหยาบหนัง
หนาเสี ยหน่อย
ดูจากเจตนาของหย่งติ้งโห่วก็มุ่งไปที่เจ้าสี่ เช่นเดียวกัน ท่านเสิ่ นโหว
ก็ยงิ่ ไม่กล้าพูดว่าไม่เห็นด้วย แต่จะให้เขาพูดว่าเห็นด้วยกับปาก เขาก็
ไม่ยนิ ดี
ระหว่าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยูก่ เ็ ห็นศีรษะชะโงกออกมา
ตรงหน้าประตู “ท่านปู่ พวกท่านปรึ กษาเสร็ จแล้วหรื อยัง ได้ขอ้ สรุ ป
ว่าอย่างไร” เสิ่ นเวยกระโดดเข้ามา
นางหลับไปไม่ถึงสองชัว่ ยามก็ตื่นแล้ว อันที่จริ งนางไม่วางใจจางสง
เฉียนเป้าผูช้ ่วยเหล่านี้ นางเพิ่งจะไปดูพวกเขามา นอกจากคนที่
บาดเจ็บสาหัสหลายคนนอนหลับสนิทอยูบ่ นเตียงแล้ว สถานการณ์
ของคนที่เหลือก็ดีอย่างยิง่ นางจึงวางใจมาหาท่านปู่
แม่ทพั อู่เลี่ยเห็นเสิ่ นเวย ใบหน้าก็แย้มยิม้ ในชัว่ ขณะ “คุณชายสี่ พวก
เรากาลังปรึ กษาว่าจะส่ งสาส์นไปเมืองหลวงอย่างไรดี ผูช้ ราคิดว่ามี
เพียงคุณชายสี่ ที่จะสามารถทาหน้าที่น้ ีได้ ไม่ทราบว่าคุณชายสี่
คิดเห็นอย่างไร” เหอะ คิดว่าเขามองไม่เห็นความสมัครใจของหย่ง
ติ้งโหวสุ นขั จิ้งจอกเฒ่าผูน้ ้ นั กับท่านเสิ่ นโหวหรื อ เป็ นแม่ทพั
เหมือนกันหมด จะหวาดระแวงถึงเพียงนั้นไปทาไม
เสิ่ นเวยมองปู่ นางตามจิตใต้สานึก แววตาของท่านเสิ่ นโหวกะพริ บ
วาบ ยิม้ บาง ๆ พยักหน้ากล่าว “กาลังหารื อกันอยู่ เจ้าสี่ มนั่ ใจหรื อไม่
เส้นทางนี้ไม่ง่าย!” เขาบอกเป็ นนัย ยังคงไม่อยากให้หลานสาวไป
เสี่ ยงอันตราย มีบุตรหลานมากมายเพียงนี้ ไหนเลยจะถึงคราวที่
หลานสาวคนเล็กของเขาต้องไปเสี่ ยงอันตราย
แสงสว่างหนึ่งสายวาบผ่านดวงตาของเสิ่ นเวยไป นางเข้าใจ
ความหมายแฝงของท่านปู่ แต่นางเองก็มีความคิดของตัวเอง
เหมือนกัน ดูจากการต่อสู ้เมื่อคืน คนที่เสี ยเปรี ยบมากมายเพียงนั้น
ล้วนไม่อาจยอมวางมือยุติเรื่ องราว การเดินทางต่อจากนี้จะต้อง
ยากลาบากอย่างยิง่ พวกเขาคนแค่น้ ีกอ็ ย่าได้คิดจะกลับเมืองหลวง
อย่างปลอดภัยเลย
จะทาอย่างไรดี เช่นนั้นก็มีเพียงไปขอกองกาลังหนุนจากจักรพรรดิ
ให้จกั รพรรดิส่งกองทัพมารับ ส่ งข่าวไม่ได้หนึ่งวัน พวกเขาก็เป็ น
อันตรายเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน ดูท่าแล้วยังต้องให้นางวิ่งไปหนึ่งเที่ยว
แล้วจริ ง ๆ
“ได้สิ เช่นนั้นข้าจะวิ่งไปให้!” นึกถึงตรงนี้เสิ่ นเวยก็ตอบอย่างสบาย
ๆ เห็นปู่ นางขมวดคิ้ว ก็รีบกล่าวปลอบ “ท่านปู่ วางใจเถอะ ข้าคิด
แผนรับมือไว้แล้ว ไม่อาจมีอนั ตรายได้แม้แต่นิดเดียว” ความเจ้าเล่ห์
แวบผ่านอยูใ่ นแววตานาง
ไม่ใช่วา่ เสิ่ นเวยชอบยุง่ เรื่ องคนอื่น นางจะไม่สนใจท่านปู่ สุ นขั
จิ้งจอกเฒ่าผูน้ ้ นั ของนางก็ได้ แต่คนร้อยคนนั้นที่นางพามาจะทา
อย่างไร ตายไปสิ บกว่าคนแล้ว นางไม่อยากให้มีใครในพวกเขา
เสี ยชีวิตระหว่างทางอีก เฮ้อ นางน่ะ อันที่จริ งแล้วก็เป็ นห่วง
แม้วา่ ในใจสวีโย่วจะไม่ยนิ ดี แต่กไ็ ม่ได้เอ่ยปากค้าน แม้ในใจเขาจะ
อยากไปพร้อมกับนาง แต่กร็ ู ้ดีวา่ เป็ นไปไม่ได้เด็ดขาด เขาเหมือนกับ
ท่านเสิ่ นโหว หย่งติ้งโหวและคนอื่น ๆ ตกอยูใ่ นสายตาคนอื่นนาน
แล้ว หากเขาอยูข่ า้ งกายเด็กน้อย เกรงว่าจะเป็ นการนาอันตรายมาให้
นางมากกว่าเดิม
“น้องสี่ แซ่เสิ่ น เช่นนั้นให้เจียงเฮยตามเจ้าไปด้วย” ในเมื่อเขาไป
ไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้เจียงเฮยไปเป็ นเพื่อนนางแล้วกัน หากพบอันตราย
จริ ง ๆ ก็ยงั มีคนช่วย
เสิ่ นเวยปฏิเสธทันที “ใครบ้างไม่รู้วา่ เจียงเฮยกับเจียงไป๋ เป็ นทหาร
คนสนิทที่สุดข้างกายท่าน หากเขาไม่อยู่ ไม่ใช่จะทาให้คนอื่นสงสัย
หรื อ ไม่ได้ ๆ ข้าจะไม่พาไปแม้แต่โอวหยางไน่”
“เช่นนั้นเจ้า?” เมื่อทุกคนได้ยนิ นางบอกว่าแม้แต่โอวหยางไน่กจ็ ะไม่
พาไป ชัว่ ขณะก็เป็ นกังวลขึ้นมา
เสิ่ นเวยเองก็จนปัญญาอย่างยิง่ รอยแผลเป็ นนั้นบนหน้าโอวหยางไน่
ชัดเจนมาก พาเขาไปด้วยไม่ใช่ทาให้ดึงดูดสายตาหรอกหรื อ “วางใจ
เถอะ เถาฮวากับเสี่ ยวตี๋ตามข้าไปก็พอแล้ว ข้ามีแผน รับรองว่าพวก
ท่านจะต้องตะลึง” ดวงตาของเสิ่ นเวยกลอกไปมา ท่าทางเจ้าเล่ห์
อย่างถึงที่สุด
ตอนที่เสิ่ นเวยและคนทั้งสองปรากฏตัวอยูห่ น้าคนหลายคนอีกครั้ง
พวกเขาก็ตกตะลึงจริ ง ๆ
เสิ่ นเวยเปลี่ยนเป็ นชุดจอมยุทธ์สตรี ที่คล่องตัว เอวเหน็บกระบี่ล้ าค่า
เล่มงาม แต่งตัวเหมือนจอมยุทธ์หญิงในยุทธจักร เถาฮวากับเสี่ ยวตี๋
เองก็สวมชุดสตรี เช่นเดียวกัน แต่วา่ แต่งเป็ นบ่าวรับใช้ ทั้งสามยืนอยู่
ด้วยกันแล้วก็คือฉากคุณหนูนอ้ ยตระกูลยุทธภพตระกูลใดตระกูล
หนึ่งไม่รู้ฟ้าสู งดินต่าพาสาวใช้ออกจากบ้านท่องยุทธจักร
“นาง นาง…” หย่งติ้งโหวชี้เสิ่ นเวย ตกใจจนพูดไม่ออก
แม่ทพั อู่เลี่ยก้าวขึ้นไปจับไหล่ของเขาอย่างภูมิใจ เอ่ยราวกับสนิท
สนม “หย่งติ้งโหวเองก็คิดไม่ถึงใช่หรื อไม่ คุณชายสี่ ของพวกเราเป็ น
โฉมสะคราญ ตอนแรกข้าเองก็ตกใจ ไม่เป็ นไร ๆ เดี๋ยวก็ชิน”
หลังจากนั้นก็กดเสี ยงต่ากล่าว “เรื่ องนี้เจ้ารู ้ในใจก็พอแล้ว อย่าได้พดู
ออกไปเชียว คุณชายสี่ เป็ นภรรยาที่ยงั ไม่ออกเรื อนของคุณชายใหญ่
ผูน้ ้ นั เฮ้อ ท่านเสิ่ นโหวเนี่ยสอนลูกหลานดีจริ ง ๆ !” เขายังแสร้งทา
เป็ นทอดถอนใจ
“ท่านปู่ เป็ นอย่างไร” เสิ่ นเวยกางแขนหมุนตัวอยูก่ บั ที่หนึ่งรอบด้วย
ความภูมิใจ
ท่านเสิ่ นโหวพยักหน้าช้า ๆ “นี่กลับเป็ นความคิดที่ไม่เลว” แม้วา่
ระหว่างทางจะถูกสกัด แต่ต่อให้เขาคิดจนหัวแตกก็คิดไม่ถึงว่า
คุณชายสี่ ที่มีชื่อเสี ยงเลื่องลือจะเป็ นสตรี
เสิ่ นเวยและคนทั้งสองต่างก็ขี่มา้ เร็ วออกไปไกลแล้ว หย่งติ้งโหวก็ยงั
ไม่ได้สติกลับมา ไอ๊หยาแม่จ๋า คิดอยูเ่ นิ่นนานที่แท้แล้วคุณชายสี่ กค็ ือ
คุณหนูสี่นี่เอง! มิน่าเล่าท่านเสิ่ นโหวถึงไม่ยนิ ดีให้นางไปเสี่ ยง
อันตราย หลานสาวคนเล็กตระกูลใดบ้างที่ไม่น่ารักไม่เป็ นที่โปรด
ปราน ไหนเลยจะยอมให้นางไปเสี่ ยงอันตรายเช่นนี้ได้
ตอนอยูท่ ี่เมืองชายแดนซีเจียงเขาก็วา่ เหตุใดคุณชายใหญ่สวีถึงชอบ
อยูใ่ กล้ ๆ คุณชายสี่ แซ่เสิ่ น ที่แท้แล้วพวกเขาก็เป็ นคู่หมั้นกันนี่เอง!
มิน่าเล่า! มิน่าเล่า!
“คุณหนู นี่เป็ นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดสะอาดที่สุดในเมืองแล้ว ท่าน
ยอมหน่อยเถอะเจ้าค่ะ” เสี่ ยวตี๋ที่ยนื อยูห่ น้าประตูโรงเตี๊ยมหรู อ้ ีโน้ม
น้าวเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด
ส่ วนเสิ่ นเวยคุณหนูนอ้ ยที่ถูกนางเกลี้ยกล่อมกลับมีสีหน้าไม่ยนิ ยอม
ทั้งใบหน้า นางจ้องมองข้างในปราดหนึ่ง ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วย
ความรังเกียจ “ใหญ่ที่สุดสะอาดที่สุดอะไร สกปรกจะตายชัก หนวก
หูจะตายชัก ที่ขา้ มีกค็ ือเงิน สาวใช้เช่นเจ้ากลับพาข้ามาพักที่
โกโรโกโสแบบนี้ ใคร ๆ ก็บอกว่าเจ้าเก่ง ข้าว่ายังเทียบเถาฮวาที่โง่
เขลาไม่ได้ดว้ ยซ้ า คิดว่ากลับไปข้าจะไม่กล้าให้ท่านพ่อลงโทษเจ้า
หรื อ เหอะ!” นางแสดงบทคุณหนูนอ้ ยงี่เง่าเอาแต่ใจที่ใช้
อานาจบาตรใหญ่ไร้เหตุผลได้สมจริ งอย่างยิง่
เสี่ ยวตี๋จนปัญญา “คุณหนูเจ้าค่ะ บ่าวผิดไปแล้ว! ออกมาข้างนอก
ไหนเลยจะเหมือนอยูบ่ า้ น ท่านอยากท่องยุทธจักรไม่ใช่หรื อเจ้าคะ
ท่องยุทธจักรจะไม่อยูโ่ รงเตี๊ยมได้อย่างไร” นางเกลี้ยกล่อมช้า ๆ
บนใบหน้าเสิ่ นเวยแสดงสี หน้าลังเลออกมา บุย้ ปากอยูน่ านจึง
กระทืบเท้ากล่าว “ก็ได้ วันนี้ฝืนใจอยูท่ ี่นี่สกั คืน จาไว้ ข้าขอพักห้อง
ที่ดีที่สุด”
“เจ้าค่ะ ๆ บ่าวทราบแล้ว เชิญเจ้าค่ะคุณหนู พวกเราไปกินอะไรกัน
ก่อน” เสี่ ยวตี๋แสดงท่าทางเหมือนถูกยกภูเขาออกจากอก
เพราะว่าเสี ยงสนทนาของทั้งสองไม่เบา โดยเฉพาะเสิ่ นเวย คุณหนู
น้อยอารมณ์ร้อนไม่ได้ดงั่ ใจอย่างไรเอะอะโวยวายอย่างไร ฉากหน้า
ประตูโรงเตี๊ยมฉากนี้จึงตกอยูใ่ นสายตาคนไม่นอ้ ย พากันตกใจว่านี่
คือคุณหนูตระกูลใด นิสยั เอาแต่ใจจริ ง ๆ ยังจะแต่งออกเรื อนได้อยู่
อีกหรื อ
ตอนที่ 179-2 ส่ งสาร
ตอนที่เสิ่ นเวยและคนทั้งสองเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมก็รู้สึกได้ถึงการ
จ้องมองของสายตาหลายสาย คุณหนูนอ้ ยไม่รู้จกั เขินอายประหม่า
นางรู ้จกั แต่ทาหน้าดุถลึงตากลับไปอย่างโหดเ**้้ยม “มองอะไร ถ้า
ยังไม่หยุดมองข้าจะควักลูกตาเจ้า”
แม้คนจานวนมากจะรู ้สึกว่าคุณหนูผนู ้ ้ ีมีนิสยั ไม่รับแขก แต่เห็นนาง
หน้าตาสะสวย แม้วา่ จะพูดจาข่มขู่โหดร้ายก็ไม่ได้ทาให้คนรู ้สึก
หงุดหงิด อย่างมากก็แค่รู้สึกว่าแม่นางผูน้ ้ ีถูกที่บา้ นตามใจจนเสี ยคน
เพียงแค่เด็กผูห้ ญิงคนหนึ่ง ทั้งยังเป็ นเด็กผูห้ ญิงที่ค่อนข้างมีภูมิหลัง
ใครจะหาเรื่ องนาง
ทว่าโต๊ะริ มราวกั้นชั้นสองข้าง ๆ กลับไม่อยูน่ ิ่ง เย้าแหย่หนึ่ง
ประโยค “แม่นางที่ไหนกาเริ บเสิ บสานยิง่ นัก มาดื่มสุ รากับข้าสัก
แก้วแล้วข้าจะควักลูกตาให้เจ้า”
เสิ่ นเวยหน้าตึงทันที ชักกระบี่ล้ าค่าที่เอวออกมากาลังจะวิ่งไปคิด
บัญชีที่ช้ นั สอง ถูกเสี่ ยวตี๋กอดเอวนางไว้อย่างสุ ดชีวิต “คุณหนูเจ้าคะ
ท่านอย่าได้ลงมือเด็ดขาด ท่านลืมแล้วหรื อว่าครั้งก่อนท่านกรี ดหน้า
คุณหนูสามหมู่บา้ นวัน่ เหมยจนนายท่านลงโทษกักบริ เวณท่านครึ่ งปี
หากท่านก่อเรื่ องข้างนอกอีกนายท่านกับคุณชายคงจะไม่ให้ท่าน
ออกจากบ้านอีกแล้วนะเจ้าคะ”
อะไรนะ กรี ดหน้าผูห้ ญิงงั้นหรื อ แล้วยังกักบริ เวณเพียงแค่ครึ่ งปี ก็
ปล่อยออกมาแล้ว นี่มนั น่ากลัวเพียงใด! ชัว่ ขณะสายตาที่มองเสิ่ นเว
ยของทุกคนก็เปลี่ยนไป อยากจะอยูใ่ ห้ไกลนางอย่างยิง่
“เหอะ วันนี้ขา้ อารมณ์ดี ไม่ทะเลาะกับเจ้าหรอก ถือว่าไว้ชีวิตสุ นขั
เช่นเจ้า” เสิ่ นเวยแค่นเสี ยงกล่าวไปยังบริ เวณราวกั้นชั้นสอง เดินไป
ยังโต๊ะต้อนรับภายใต้การดึงของเสี่ ยวตี๋
คนที่เอ่ยปากเย้าแหย่เมื่อครู่ ยงั คิดจะพูดอะไรต่อ แต่ถูกคนผูห้ นึ่งข้าง
ๆ กดมือไว้ “น้องรองอย่าก่อเรื่ องเป็ นอันขาด!” ทั้งยังบอกเป็ นนัยให้
เขามองสาวใช้คนนั้น “แม่นางผูน้ ้ นั ดูมีภูมิหลัง ไม่เข้าไปยุง่ จะดีที่สุด
งานหลักของพวกเราสาคัญกว่า”
คนที่ถูกเรี ยกว่าน้องรองผูน้ ้ นั มองลงไปข้างล่าง ชัว่ ขณะหน้าก็เปลี่ยน
สี ท่าทางการเดินของสาวใช้ผนู ้ ้ นั เป็ นยุทธ์มีกาลังภายในชั้นยอด
มิน่าเล่าครอบครัวถึงกล้าปล่อยคุณหนูที่เอาแต่ใจเช่นนี้ออกมาท่อง
ยุทธจักร นี่ยงั แค่ที่เห็น ใครจะรู ้วา่ ในที่มืดยังมีคนติดตามมากน้อย
เพียงใด
ยังคงเป็ นพี่ใหญ่ที่พดู ถูก เพียงแค่เด็กน้อยที่นิสยั ไม่ดีคนหนึ่ง จะ
โต้เถียงกับนางไปทาไม งานหลักสาคัญกว่า
“พี่ใหญ่ ท่านว่าหน้าที่ครั้งนี้แปลกหรื อไม่ พูดว่าต้องการหาคุณชาย
วัยหนุ่มคนหนึ่ง แต่ไม่มีแม้แต่ภาพเหมือน งมเข็มในมาสมุทร พวก
เราจะหาอย่างไร” น้องรองกล่าวบ่น
“อย่าพูดเหลวไหล ในเมื่อนายท่านสัง่ มาเช่นนี้แล้วแสดงว่าต้องมี
เหตุผลของเขาแน่นอน บอกแล้วไม่ใช่หรื อว่า ขอเพียงแค่เจอจะต้อง
รู ้ได้แน่นอนว่าเป็ นคนนี้ เช่นนั้นคุณชายวัยหนุ่มผูน้ ้ ีจะต้องมีความ
พิเศษแน่นอน ให้พวกเราหาก็หาเถอะ จะพูดจาไร้สาระเยอะแยะ
เพียงนี้ทาไม” คนที่มีท่าทางเป็ นพี่ใหญ่ตาหนิเสี ยงต่า
อีกคนหนึ่งก็สงั่ เสี ยงต่าเช่นกัน “ใช่แล้ว พี่ใหญ่นอ้ งรอง พวกเราก็แค่
ตั้งใจหาคุณชายวัยหนุ่มที่หน้าตาโดดเด่นหรื อการกระทาโดดเด่น
เสี ยก็พอ”
น้องรองผูน้ ้ นั บ่นพึมพาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “พวกเราจับตามองที่
โรงเตี๊ยมนี้มาสามวันแล้ว ไหนเลยจะเคยเห็นคุณชายวัยหนุ่มที่โดด
เด่นอะไรนัน่ ไม่ใช่วา่ เบื้องบน…”
ยังพูดไม่ทนั จบก็ถูกพี่ใหญ่ผนู ้ ้ นั ห้ามไว้แล้ว “หุบปาก เจ้าอยากตาย
หรื อไร”
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่พดู ต่อแล้ว
ทว่ามุมปากของเสิ่ นเวยกลับยกขึ้น พวกเจ้าก็หาไปเถอะ ขุดดินสาม
ฉื่อพวกเจ้าก็หาคุณชายวัยหนุ่มที่วา่ ไม่เจอหรอก คอยดูสิวา่ ข้าจะไป
ถึงเมืองหลวงต่อหน้าพวกเจ้าอย่างราบรื่ นได้อย่างไร
เสิ่ นเวยตั้งใจเลือกที่นงั่ ซึ่งไม่ห่างจากสามคนนั้นมาก ชายตามองพวก
เขาอย่างยัว่ ยุปราดหนึ่ง เมื่ออาหารมาส่ งแล้ว เสิ่ นเวยก็เรื่ องมากอยู่
นานกว่าจะหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ กินไปพลาง ซ้ ายังบ่น
นัน่ บ่นนี่ไปพลาง
ด้วยเหตุน้ ี คนที่กินข้าวอยูใ่ นโรงเตี๊ยมต่างก็รู้แล้วว่าคุณหนูเอาแต่ใจ
ผูน้ ้ ีออกเดินทางเพื่อจะตามหาคู่หมั้น ข้างกายคู่หมั้นของนางคล้ายยัง
มีสตรี อีกคนหนึ่งอยูด่ ว้ ย ในใจทุกคนก็จินตนาการถึงฉากผูห้ ญิงสอง
คนแย่งชิงสามีกนั เอ่ยในใจว่า หากตนเป็ นคู่หมั้นชายผูน้ ้ นั ก็คงจะรับ
คู่หมั้นหญิงที่เอาแต่ใจเช่นนี้ไม่ได้ วิ่งหนีไปเหมือนกัน
แสดงละครก็ตอ้ งแสดงให้สมบทบาท เสิ่ นเวยขอห้องใหญ่เพียงแค่
ห้องเดียว เสี่ ยวตี๋กบั เถาฮวาย่อมไม่มีหอ้ งส่ วนตัว บ่าวรับใช้ขา้ งกาย
คุณหนูนอ้ ยไม่รับใช้นายท่านยังคิดจะนอนหลับเต็มอิ่มได้อีกหรื อ
จะเป็ นไปได้อย่างไร
เสิ่ นเวยนอนลงบนเตียง เสี่ ยวตี๋เปิ ดประตูหอ้ งมองซ้ายมองขวาอย่าง
ระมัดระวังทันที ไม่พบอะไรผิดปกติจึงปิ ดประตูถอยกลับมา
“ไม่ตอ้ งระมัดระวังขนาดนั้นหรอก บอกเจ้าแล้วว่าไม่มีอะไร” เสิ่ น
เวยผงกหัวขึ้นมาจากเตียง
เสี่ ยวตี๋ยมิ้ ไม่พดู เป็ นทหารลับ การระมัดระวังเป็ นความเคยชินที่ฝัง
ลึกถึงกระดูกแล้ว
เสิ่ นเวยหาวกล่าว “ไปบอกเสี่ ยวเอ้อร์[1]ว่าขอผ้าห่มอีกสองชุด เถาฮ
วานอนเบียดกับข้าบนเตียง เสี่ ยวตี๋เจ้าก็นอนบนโต๊ะแก้ขดั ไปก่อน
หนึ่งคืนแล้วกัน” นางเองก็อยากให้เสี่ ยวเอ้อร์นอนบนเตียงด้วยอย่าง
ยิง่ แต่เตียงโรงเตี๊ยมแคบเกินไป และเถาฮวาก็ตวั เล็ก ไม่กินที่ มิ
เช่นนั้นก็คงจะเบียดไม่ได้จริ ง ๆ
ตอนที่เสี่ ยวตี๋ออกไปขอผ้าห่ม ก็ถูกทุกคนมองด้วยความเห็นใจ
อากาศหนาวเหน็บ แม้แต่เตียงยังไม่ให้นอน ติดตามเจ้านายเช่นนี้
สาวใช้คนนี้คงจะโชคร้ายไปแปดชัว่ โคตรจริ ง ๆ
มีขอ้ อ้างตามหาคู่หมั้นนี้แล้ว การเดินทางที่เร่ งรัดของเสิ่ นเวยก็ไม่
ดึงดูดความสนใจของใครเลยแม้แต่นิดเดียว ที่น่าสนใจก็คือ คาดไม่
ถึงว่าตลอดการเดินทางนี้เสิ่ นเวยบังเอิญเจอสามคนนั้นที่โรงเตี๊ยมหรู
อี้ถึงสี่ ครั้ง มีอยูค่ รั้งหนึ่งที่เจอสองครั้งในหนึ่งวัน
เสิ่ นเวยกลับไปถึงเมืองหลวงก็ไม่ได้กลับจวนจงอู่โหวทันที แล้วก็
ไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าวัง แม้วา่ ในมือนางจะมีป้ายคาสัง่ ที่สวีโย่วให้นาง
นางนัง่ อยูใ่ นโรงน้ าชาตรงข้ามพระราชวังทั้งวัน ตอนที่ราตรี ยา่ ง
กรายมาถึงจึงไปหาคนติดต่อตามวิธีที่สวีโย่วบอกนาง
เร็ วอย่างยิง่ ในวังก็มีข่าวมา คนที่มานานางเข้าวังคือขันทีอว้ น ๆ คน
หนึ่ง เขายังนาชุดขันทีนอ้ ยมาให้นางด้วยหนึ่งชุด เสิ่ นเวนกระตุกมุม
ปาก แต่ก็ยงั คงสวมอย่างเชื่อฟัง
“คุณชายสี่ ไม่ตอ้ งกลัว อาจารย์ของพวกเราคือศิษย์ของจางกงกง
ประจาองค์จกั รพรรดิ พวกเราสนิทสนมกับคุณชายใหญ่” ขันทีอว้ น
กล่าวกับเสิ่ นเวยอย่างเป็ นมิตร
เสิ่ นเวยพยักหน้ายิม้ แต่กลับไม่ได้พดู อะไร สวีโย่วชายผูน้ ้ นั ก็ไม่อยู่
ใครจะรู ้วา่ พวกเขาสนิทกันหรื อไม่ คนที่สามารถคลุกคลีอยูใ่ นวังได้
จะธรรมดาได้อย่างไร
เพราะว่าเป็ นกลางคืน เสิ่ นเวยเองก็มองทัศนียภาพในพระราชวังไม่
ชัดเจน จึงเลียนแบบท่าทางขันทีอว้ น เก็บไหล่กม้ หัวเดินไปข้างหน้า
เดินไปนานอย่างยิง่ ขันทีอว้ นก็พาเสิ่ นเวยตรงมาถึงด้านนอกห้อง
หนังสื อส่วนพระองค์ ให้เสิ่ นเวยยืนรออยูข่ า้ งนอก ส่ วนเขาเข้าไป
รายงาน
“ฝ่ าบาทอนุญาตให้เจ้าเข้าเฝ้าแล้ว รี บเข้าไปเถอะ” ไม่นานนักขันที
อ้วนก็ออกมา
เสิ่ นเวยตามหลังเขาก้าวเข้าไปในห้องหนังสื อส่ วนพระองค์ ไม่เงย
หน้าขึ้นก็คุกเข่าลงบนพื้น “หม่อมฉันบุตรสาวคนที่สี่แซ่เสิ่ นถวาย
บังคมฝ่ าบาทเพคะ” นางทาความเคารพแบบกองทัพ
เห็นคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่บอบบางร่ างผอมแต่หลังตรงอย่างยิง่ ผูน้ ้ ี ในใจ
จักรพรรดิยงเซวียนก็สะเทือนใจเล็กน้อย คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่แสดง
อานุภาพน่าเกรงขามที่ซีเจียงมีรูปร่ างเปราะบางเช่นนี้ ก็ใช่ เป็ นสตรี
นี่นา หากรู ปร่ างสู งใหญ่กจ็ ะไม่งาม แต่วา่ คุณหนูสี่แซ่เสิ่ นผูน้ ้ ีกลับ
หน้าตาดีอย่างยิง่ มิน่าเล่าอาโย่วถึงชอบใจ
“ลุกขึ้นพูดเถอะ” จักรพรรดิยงเซวียนนึกได้วา่ นี่คือว่าที่หลานสะใภ้
ของตน สี พระพักตร์กเ็ ป็ นมิตรขึ้นสามส่ วน “เจ้าเข้าวังมาพบเราคน
เดียว หรื อว่าจงอู่โหวและพวกเขา…” ทรงใช้สายพระเนตรไต่ถาม
นาง
“ขอบพระทัยฝ่ าบาท” เสิ่ นเวยลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ล้วง
จดหมายลับออกมาจากในอกแล้วยืน่ ให้ดว้ ยความเคารพนบนอบ
“ทูลฝ่ าบาท บนถนนสาย 4724 เกิดเรื่ องขึ้นเล็กน้อย แต่โชคดีที่
เสี ยหายไม่หนักมาก รายละเอียดทั้งหมดอยูใ่ นจดหมายลับ ฝ่ าบาท
โปรดทอดพระเนตร”
ขันทีใหญ่จางเฉวียนรับจดหมายเข้ามาแล้วส่ งไปถึงพระหัตถ์ของ
จักรพรรดิยงเซวียน จักรพรรดิยงเซวียนทอดพระเนตรมองจดหมาย
ลับที่ประทับตราเรี ยบร้อยปราดหนึ่ง หยิบมีดไม้ไผ่บนโต๊ะมาเปิ ด
จดหมายออก เทจดหมายลับข้างในออกมาอ่าน
“มีอย่างนี้ที่ไหน คาดไม่ถึงว่ายังมีคนกล้าเช่นนี้ดว้ ย” สี พระพักตร์
จักรพรรดิยงเซวียนเปลี่ยนไปฉับพลัน ชัว่ ขณะก็ตบจดหมายลับลง
บนโต๊ะ
เสิ่ นเวยก้มหน้าไม่พดู จา ฝ่ าบาทจะบันดาลโทสะย่อมไม่เกี่ยวกับนาง
หน้าที่ของนางคือส่ งจดหมายลับให้ถึงมือจักรพรรดิยงเซวียนอย่าง
ปลอดภัย ตอนนี้หน้าที่ของนางสาเร็ จลุล่วงแล้ว
“แน่ใจหรื อว่าเป็ นคนในกองทัพ” จู่ ๆ เสิ่ นเวยก็ได้ยนิ จักรพรรดิยง
เซวียนถามเช่นนี้ นางยังตกตะลึง ในจดหมายลับไม่ได้เขียนไว้
หมดแล้วหรื อ ยังจะถามนางทาไมอีก
แต่เสิ่ นเวยก็ยงั คงตอบอย่างซื่อสัตย์ “ทูลฝ่ าบาท อาวุธที่พวกเขาใช้
คือหน้าไม้ คุณชายใหญ่บอกว่ามีเพียงกองทัพจึงจะมีหน้าไม้ได้ อีก
ทั้งท่านปู่ และหย่งติ้งโหวก็มองออกว่าลูกธนูที่พวกเขาใช้สงั่ ทาใน
กองทัพเพคะ”
จักรพรรดิยงเซวียนพยักพระพักตร์ พระองค์ไม่ได้ตรัสถามต่อ ทว่า
ดวงพระเนตรกลับมีแสงเย็นเยียบแวบผ่าน ซีเจียงเพิ่งจะคว้าชัยชนะ
ยิง่ ใหญ่ ฝั่งพระองค์เพิ่งจะเรี ยกเสิ่ นผิงยวนเข้าเมืองหลวง ระหว่าง
ทางฝั่งนั้นก็เกิดเรื่ อง คนที่ใช้ยงั เป็ นคนในกองทัพ นี่ไม่ได้เป็ นการ
ตบหน้าพระองค์หรอกหรื อ
เหอะ หลบราวกับหนูมาสิ บกว่าปี ยังคิดว่าเขาจะยังหลบต่อไปได้เสี ย
อีก ไม่นึกว่าจะโผล่หวั มาตอนนี้ ยัว่ ยุกนั งั้นหรื อ
เหอะ สิ บกว่าปี ก่อนเรายังไม่กลัวเจ้า ตอนนี้เรามีอานาจใหญ่อยูใ่ น
มือ ย่อมต้องยิง่ ไม่กลัวเจ้าแล้ว
ความคิดของจักรพรรดิยงเซวียนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ ว
“คุณชายใหญ่ไม่เป็ นไรใช่หรื อไม่” จักรพรรดิยงเซวียนเก็บความ
โกรธบนพระพักตร์ลง คล้ายคนที่ตบโต๊ะเมื่อครู่ ไม่ใช่เขา นี่ทาให้
เสิ่ นเวยชื่นชมอย่างอดไม่ได้
สี หน้าของจักรพรรดิยงเซวียนไม่เหมือนเสแสร้ง เสิ่ นเวยกล่าวใน
ใจ ดูไม่ออกว่าฝ่ าบาทยังคงเป็ นห่วงสวีโย่วคนโรคจิตผูน้ ้ นั อย่างยิง่
อืม เป็ นห่วงก็ดี อย่างน้อยตอนนี้นางก็สามารถอาศัยบารมีได้ “ทูลฝ่ า
บาท คุณชายใหญ่สบายดีเพคะ เจียงเฮยเจียงไป๋ ข้างกายเขามี
ความสามารถ คุม้ กันคุณชายใหญ่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิด
เดียว”
“เช่นนั้นก็ดี แต่ไหนแต่ไรร่ างกายเขาก็ไม่ค่อยดี มิเช่นนั้นคงไม่ตอ้ ง
อยูบ่ นเขาเป็ นส่ วนใหญ่ หลังจากนี้มีเจ้าดูแลเขา ข้าก็วางใจแล้ว “
จักรพรรดิยงเซวียนอัธยาศัยดีราวกับผูอ้ าวุโสที่อ่อนโยน
แต่เสิ่ นเวยกลับไม่กล้าคิดว่าตัวเองเป็ นชนรุ่ นหลัง ยังคงกล่าวอย่าง
เคารพนบนอบ “เพคะ หม่อมฉันจะพยายามสุ ดความสามารถ”
สาหรับจะพยายามหรื อไม่นนั่ ก็เป็ นเรื่ องในอนาคต ตอนนี้ยงั ต้อง
แสดงท่าทีดี ๆ อยู่
จักรพรรดิยงเซวียนพยักพระพักตร์อย่างพอพระทัย ตรัสต่อ “เจ้าเล่า
เรื่ องที่ผา่ นมาอย่างละเอียดอีกรอบหนึ่ง”
เสิ่ นเวยปฏิบตั ิตามคาสัง่ เล่าตั้งแต่คนชุดดาหมอบซุ่มไปจนถึงคนชุด
เทาในตอนหลัง หลังจากนั้นก็เล่าถึงกองกาลังหนุนของนายอาเภอ
เมืองหย่งเหอ ทั้งยังพูดถึงเยีย่ จ้งหมิ่นในแง่ดีอีกหลายประโยค จาก
มุมมองของเสิ่ นเวย เยีย่ จ้งหมิ่นจะต้องเป็ นขุนนางที่ค่อนข้างมี
ความสามารถแน่นอน
จักรพรรดิยงเซวียนพยักพระพักตร์อีกครั้ง จากนั้นจึงบอกให้เสิ่ นเว
ยออกไป
[1] เสี่ ยวเอ้อร์ คาเรี ยกบริ กรในโรงเตี๊ยม
ตอนที่ 180-1 แอบใช้ ชีวติ ตามใจครึ่งวัน
ยังคงเป็ นขันทีอว้ นที่ส่งเสิ่ นเวยออกจากวัง ในราตรี อนั มืดมิดเสิ่ นเวย
หันหน้ากลับมองกาแพงวังสูง ๆ นัน่ ถอนหายใจในอกยาว ๆ หนึ่ง
ครา ข่าวส่ งถึงมือจักรพรรดิแล้ว ต่อจากนี้น่าจะไม่ใช่เรื่ องของนาง
แล้วสิ นะ
เสิ่ นเวยไปยังบ้านพักในเมืองหลวงของนาง “คุณหนู!” คาดไม่ถึงว่า
เสี่ ยวตี๋กบั เถาฮวาจะรอนางอยูท่ ี่หน้าประตู เมื่อเห็นนางก็เร่ งฝี เท้าเข้า
มาต้อนรับ เห็นนางไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ก็วางใจลง
“คุณหนูหิวหรื อไม่ กับข้าวอุ่นอยูบ่ นเตาแล้ว ประเดี๋ยวก็กินได้แล้ว”
เสี่ ยวตี๋พดู ไม่หยุด ทั้งยังสัง่
เถาฮวา “เจ้าเดินเร็ ว ไปเร่ งครัวหน่อย แล้วดูดว้ ยว่าเตรี ยมน้ าร้อน
เสร็ จแล้วหรื อยัง ประเดี๋ยวคุณหนูจะไปล้างหน้าล้างตา”
ช่วงนี้เสี่ ยวตี๋ฝึกฝนอย่างหนักแล้ว เป็ นทหารลับอยูด่ ี ๆ ก็กลายเป็ น
แม่บา้ นใหญ่ที่มีความสามารถรอบตัว จัดการเรื่ องของเสิ่ นเวยได้อ
ย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย
ก่อนหน้านี้ในโรงน้ าชาตรงข้ามพระราชวังก็เอาแต่สงั เกต
สถานการณ์ ไหนเลยจะมีกะจิตกะใจกินอาหาร ทั้งยังอยูใ่ นวังนาน
เพียงนี้ ตอนนี้เสิ่ นเวยยังคงหิ วแล้วจริ ง ๆ อาหารสี่ อย่างที่ครัวนามา
ให้นางกินหมดไปมากกว่าครึ่ ง นางลูบท้องพิงตัง่ นุ่ม ชัว่ พริ บตาก็มี
กาลังวังชาแล้ว รู ้สึกว่านี่จึงจะเป็ นชีวิตของคนปกติ
“คุณหนู พวกเรายังต้องกลับไปอีกหรื อไม่” เสี่ ยวตี๋ถาม
“น่าจะไม่ตอ้ งกลับแล้ว” เสิ่ นเวยเองก็ไม่แน่ใจเล็กน้อย เรื่ องที่ท่านปู่
และคนอื่น ๆ กลับเมืองหลวงจักรพรรดิกไ็ ปจัดการแล้ว นางกลับ
หรื อไม่กลับไม่ได้สาคัญกับสถานการณ์โดยรวม อีกทั้งจักรพรรดิเอง
ก็ไม่ได้บอกให้นางวิ่งไปอีกเที่ยว อากาศหนาวเหน็บเดินทางอยูข่ า้ ง
นอกก็ทรมานอย่างยิง่ เช่นกัน
“เช่นนั้นคุณหนูจะกลับวัดต้าเจวี๋ยเมื่อไร” เสี่ ยวตี๋ถามต่อ
เสิ่ นเวยเพิ่งจะนึกได้วา่ ยังมีเรื่ องนี้อยู่ คิ้วของนางขมวดมุ่น “ไม่รีบ อยู่
ดูในเมืองหลวงก่อน” ฉวยโอกาสตอนที่ท่านปู่ ยังไม่กลับมา นางจะ
รี บไปเดินเล่นดูเมืองหลวงเสี ยหน่อย
“คุณหนู หากพวกเราไม่ตอ้ งกลับไปอีก คุณหนูกไ็ ปที่วดั ต้าเจวี๋ยดีก
ว่า นานเพียงนี้แล้ว หลีฮวาและคนอื่น ๆ น่าจะเป็ นกังวลอย่างยิง่ ”
เสี่ ยวตี๋โน้มน้าว
พวกหลีฮวากังวลกลับเป็ นเรื่ องรองลงมา เสี่ ยวตี๋รู้สึกว่าคุณหนูตาก
แดดตากลมอยูท่ ี่ซีเจียง ใบหน้าและมือต่างก็ดาขึ้นอย่างยิง่ ไม่สู้ถือ
โอกาสพักรักษาช่วงนี้ เลี่ยงไม่ให้กลับจวนโหวแล้วถูกคนเห็นความ
ผิดปกติ แน่นอนว่าอยูท่ ี่บา้ นพักก็สามารถพักฟื้ นได้เหมือนกัน แต่
ในบ้านพักมีเพียงนางกับเถาฮวาผูห้ ญิงสองคน เถาฮวาไม่ตอ้ งเอ่ยถึง
นางมีฐานะเป็ นทหารลับ สื บข่าวฆ่าคนวางเพลิงเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญ แต่
งานเช่นการบารุ งร่ างกายให้คุณหนูนางยังทาไม่เป็ นจริ ง ๆ
นึกถึงหลีฮวากับพี่สะใภ้เซียงเหมย ในใจเสิ่ นเวยก็ลงั เลหลายส่ วน
แต่ทา้ ยที่สุดนางก็ยงั โบกมือ “เดี๋ยวค่อยกลับไปแล้วกัน” แรงดึงดูด
ให้เดินเล่นในเมืองหยวงยังคงเยอะกว่าอยูด่ ี
วันที่สอง เสิ่ นเวยสวมชุดบุรุษอีกครั้ง ผ่านการปรับตัวในสงครามที่ซี
เหลียง เสิ่ นเวยแต่งตัวเป็ นชายได้อย่างเป็ นธรรมชาติแล้ว ไม่ตอ้ งพูด
ถึงคนนอก แม้แต่เสี่ ยวตี๋ที่ติดตามอยูข่ า้ งกายนางรู ้ดีวา่ คุณหนูเป็ น
ผูห้ ญิง แต่กย็ งั มีความรู ้สึกคลับคล้ายว่านางเป็ นผูช้ ายชนิดหนึ่ง
เสิ่ นเวยสวมชุดผ้าไหมสี แดงเข้มซ่อนลายตัวหนึ่ง ตรงเอวห้อยหยก
งามหนึ่งชิ้น ปิ่ นหยกที่รวบผมอยูบ่ นศีรษะเองก็เป็ นหยกมันแพะชั้น
ดี บวกกับใบหน้าที่งามดัง่ หยกของนาง โห เป็ นคุณชายที่ร่ ารวยและ
มีสง่าราศีดี ๆ นี่เอง
เสี่ ยวตี๋แต่งตัวเป็ นเด็กรับใช้ ส่ วนเถาฮวาก็อยูว่ า่ ยน้ าเล่นที่สระน้ าให้
บ้านพักไปแล้วกัน
เสิ่ นเวยพาเสี่ ยวตี๋เดินเล่นตรอกซอกซอยในเมืองหลวง ในมือนางถือ
พัดพับได้หนึ่งอัน ท่าทางสง่างามอย่างถึงที่สุด ในที่สุดตอนนี้เสิ่ น
เวยก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดคุณชายวัยหนุ่มเหล่านั้นในโทรทัศน์มกั จะ
ถือพัดพับได้อยูเ่ สมอ แม้วา่ จะเป็ นฤดูหนาวก็ไม่เว้น พัดพับได้เป็ น
อุปกรณ์ประกอบฉากที่ดีจริ ง ๆ ในมือถือมันไว้กไ็ ม่รู้สึกมือว่าง
ไม่ใช่หรื อ
เมืองหลวงคึกคักจริ ง ๆ แม้วา่ จะเป็ นฤดูหนาวที่หนาวเย็นนี้ คนเดิน
ถนนก็เนืองแน่นไม่ขาดสาย เต็มไปด้วยเสี ยงขายของต่าง ๆ นานา
ของเหล่าพ่อค้า ร้านค้าสองฝั่งถนนต่างก็เปิ ดประตูกว้าง มีพนักงาน
ยืนเชิญชวนลูกค้าอยูห่ น้าประตู
ตอนที่เดินผ่านหอโคมแดง เสิ่ นเวยอยากเข้าไปดูจริ ง ๆ ครั้งก่อนเอา
แต่ไล่จบั คนชัว่ สองคนนั้น แม้แต่การจัดวางข้างในก็ยงั ไม่ได้ดู เสิ่ น
เวยสงสัยอย่างยิง่ จริ ง ๆ สงสัยว่าหอโคมแดงยุคโบราณมีการค้าขาย
อย่างไร
น่าเสี ยดายที่เท้านางเพิ่งจะยกขึ้น เสี่ ยวตี๋กด็ ึงนางกลับมาอย่างมือไว
ตาไว “คุณชาย ท่านเดินผิดทางแล้ว ทางนี้ เดินทางนี้” นางดึงแขน
ของเสิ่ นเวยไว้ไม่ยอมปล่อย
เสิ่ นเวยถลึงตาอย่างดุร้ายใส่ เสี่ ยวตี๋ปราดหนึ่ง นางมัน่ ใจว่าเด็กคนนี้
ตั้งใจ นางจะต้องรู ้ความคิดในใจตนเป็ นแน่ เรื่ องนั้นเมื่อคราวก่อน
นางมีส่วนร่ วมตลอดทั้งงาน ข่าวในหอโคมแดงก็เป็ นนางที่สืบ เด็ก
คนนี้ นางเพียงแค่จะเข้าไปหาประสบการณ์ ไม่ได้จะทาอะไรเสี ย
หน่อย
ทว่านางไม่รู้วา่ เสี่ ยวตี๋บ่นในใจ ความกล้าหาญของคุณหนูนบั วันก็
มากขึ้นเรื่ อย ๆ แล้วจริ ง ๆ สถานที่สกปรกเช่นนั้นเป็ นที่ที่สตรี ผดู ้ ี
เข้าไปได้หรื อไร คุณหนูคงจะไม่คิดว่าตนเป็ นผูช้ ายจริ ง ๆ ใช่
หรื อไม่ คุณหนูท่านขี้สงสัยเช่นนี้คุณชายใหญ่สวีรู้หรื อไม่
คุณหนูอาจจะไม่สงั เกตเห็น แต่นางกลับรู ้ต้ งั แต่ที่ออกจาอาเภอเมือง
หย่งเหอแล้ว ข้างกายพวกนางมีคนติดตามอยู่ คนเหล่านี้เป็ นยอด
ฝี มือในกลุ่มทหารลับอย่างไม่ตอ้ งสงสัย ชานาญในการหลบซ่อนตัว
ลมปราณแม้แต่นิดเดียวก็ไม่รั่วหลุด หากไม่ใช่วา่ มีโอกาสบังเอิญเจอ
ครั้งหนึ่งเกรงว่านางเองก็คงไม่สงั เกตเห็น
นางเตรี ยมป้องกันอย่างลับ ๆ อยูเ่ นิ่นนาน แต่กลับพบว่าคนเหล่านี้
ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพวกนาง บางครั้งยังออกมือช่วยแก้ไขปั ญหา
เล็ก ๆ นางจึงรู ้ได้วา่ พวกเขาเป็ นมิตรหาใช่ศตั รู
ผูท้ ี่เป็ นห่วงคุณหนูเช่นนี้ ทั้งยังมีอานาจเช่นนี้ได้ นอกจากท่านโหว
แล้วก็มีคุณชายใหญ่สวี ทหารลับของท่านโหวนางคุน้ เคยเป็ นอย่างดี
เช่นนั้นก็เหลือเพียงคุณชายใหญ่สวีแล้ว นี่เองก็เป็ นเหตุผลที่นางไม่
บอกคุณหนู
“เสี่ ยวตี๋เจ้ามันคนโง่ ยังไม่รีบปล่อยข้าอีก ดูสิวา่ เจ้ากล้านัก ใช่ช่วงนี้
ข้าดีกบั เจ้าเกินไปหรื อไม่” เสิ่ นเวยชายตามองเสี่ ยวตี๋ พัดพับได้กต็ ีลง
บนมือของนาง
เสี่ ยวตี๋แสร้งเจ็บ รี บปล่อยมือออก ตีหน้าหวาดกลัว ทว่าในใจกลับ
จนปัญญาอย่างยิง่ คุณหนูแสดงบทบาทจนติดแล้วหรื อ กลับมาเมือง
หลวงแล้วยังแสดงอีก ก่อนหน้านี้แสดงเป็ นคุณหนูนอ้ ยเอาแต่ใจ
คราวนี้เปลี่ยนเป็ นคุณชายเผด็จการเสี ยแล้ว
เสิ่ นเวยพึงพอใจกับการให้ความร่ วมมือของเสี่ ยวตี๋อย่างมาก กาลัง
คิดว่าจะสัง่ สอนนางอีกสักสองสามประโยค หูกไ็ ด้ยนิ เสี ยงหัวเราะ
เบา ๆ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสี ยงก้องกังวานเสี ยงหนึ่ง “พี่เจียง
ท่านดูสิ คุณชายผูน้ ้ นั น่าสนใจยิง่ นัก”
เสิ่ นเวยหันมองตามเสี ยง เห็นเพียงศีรษะหนึ่งศีรษะโผล่ออกมาจาก
หน้าต่างชั้นสองของเหลาสุ ราข้าง ๆ หอโคมแดง นางสบสายตาที่
เต็มไปด้วยรอยยิม้ คู่หนึ่งเข้าพอดี เสิ่ นเวยโมโหในชัว่ ขณะ เจ้าสิ
น่าสนใจ บ้านเจ้าสิ น่าสนใจ
นางกลอกตา ถลกแขนเสื้ อกาลังจะวิ่งเข้าไปหาเรื่ อง แต่ชวั่ ขณะกลับ
ร้องตะโกนด้วยความดีใจ “เจียงเฉิน พี่เจียงเฉิ นนัน่ ท่านหรื อ! ไม่เจอ
กันนานแล้วจริ ง ๆ ” คนที่ชะโงกตัวอยูข่ า้ งหลังผูน้ ้ นั ไม่ใช่เจียงเฉิ น
สหายเก่าหรื อไร
ไตร่ ตรองเพียงแค่ชวั่ พริ บตา เสิ่ นเวยก็ตดั สิ นใจขึ้นไปพูดคุยเรื่ องใน
อดีตกับเขา ตอนนี้นางเป็ นคุณชาย ไม่ใช่คุณหนูสี่ของจวนจงอู่โหว
เจียงเฉินเห็นเสิ่ นเวยเพื่อนเก่าที่เขาพบตอนอยูช่ นบทกาลังโบกมือยิม้
แย้มให้ตนไม่หยุดราวกับดีอกดีใจอยูท่ ี่ช้ นั ล่างก็ตกใจเช่นกัน นัน่ นาง
หรื อ นางกลับเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไร
ชายฝั่งตรงข้ามมองเจียงเฉินด้วยความสนใจอย่างยิง่ “พี่เจียงรู ้จกั
คุณชายท่านนั้นหรื อ”
เจียงเฉินเก็บสี หน้าประหลาดใจ กล่าวอย่างเฉยเมย “บังเอิญพบก็เท่า
นั้นเอง”
“บังเอิญพบอะไรกันเล่า พี่เจียงเฉินลืมแล้วหรื อว่า พวกเราเป็ นเพื่อน
ร่ วมทุกข์กนั ” เสี ยงที่ไม่พอใจของเสิ่ นเวยดังกังวานขึ้นมา นางผลัก
ประตูเข้ามาเอง “จากกันเมื่อสองปี ก่อน พี่เจียงเฉิ นมีชื่อเสี ยงบารมี
ไม่เสี ยชื่อที่เป็ นปั ญญาชนผูส้ อบเข้าสานักราชบัณฑิตได้เป็ นอันดับ
สาม”
เสิ่ นเวยลากเก้าอี้เข้ามานัง่ ด้วยความเป็ นธรรมชาติอย่างยิง่ จ้องมอง
เจียงเฉินแล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ “หรื อว่าพี่เจียงเฉิ นเป็ นขุนนาง
ชั้นสู งแล้วเลยดูถูกสหายยากจนต่าต้อยเช่นข้า”
บนใบหน้าเจียงเฉิ นเผยความจนปัญญาหลายส่ วน “ก็แค่ราชบัณฑิต
ยากจนคนหนึ่ง ไหนเลยจะเป็ นขุนนางชั้นสู งอะไรนัน่ จะร่ ารวยเงิน
ทองเท่าคุณชายจินได้อย่างไร อ้อจริ งสิ คุณชายจินมาเมืองหลวง
ตั้งแต่เมื่อไรหรื อ”
ตอนที่พดู คาว่าคุณชายจินสามคานี้ เจียงเฉิ นเองก็ยงั รู ้สึกอึดอัด เด็ก
น้อยนิสยั เสี ยคนนี้เคยบอกไว้วา่ เห็นนางใส่ ชุดบุรุษเมื่อไรให้เรี ยกว่า
คุณชายจิน นางชื่อจินโหย่วเฉียน จินที่แปลว่าเงินทอง โหย่วเฉี ยนที่
แปลว่ามีเงินมหาศาล ฟังจากชื่อก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้รักเงินเพียงใด
“ข้าก็วา่ พี่เจียงเฉินไม่ใช่คนอย่างนั้น พวกเราต่างก็ผา่ นความ
ยากลาบากมาด้วยกัน” เสิ่ นเวยยิม้ แย้มเบิกบานทันที “ท่านว่าพวกเรา
สองคนมีวาสนาหรื อไม่ เย็นเมื่อวานข้าเพิ่งมาเมืองหลวง วันนี้
ออกมาก็เจอพี่เจียงเฉินเลย ไม่ใช่วาสนาหรื อไร”
“นัน่ สิ คงเป็ นโชคร้าย!” เจียงเฉินพูดจาเสี ยดสี แต่สายตากลับมอง
ประเมินเสิ่ นเวยอยูเ่ งียบ ๆ เด็กคนนั้นโตแล้ว โตจนเป็ นสตรี ที่
สามารถแต่งงานได้แล้ว นึกถึงเรื่ องที่นางได้รับพระราชทานสมรส
กับคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง เขาก็เป็ นกังวลอย่างมาก คุณชายใหญ่ผู ้
นั้นไม่เพียงแต่สุขภาพไม่คอ่ ยดี สถานะในจวนอ๋ องยังไม่ดีอย่างยิง่
เพียงแค่เขาเป็ นบุตรชายคนโตของภรรยาหลวงแต่กลับไม่ได้เป็ น
ซื่อจื่อก็เห็นอะไรได้หลายอย่างแล้ว เด็กน้อยแต่งเข้าไปจะรับมือได้
หรื อไม่
หลายเดือนก่อนฟังว่านางไปขอพรที่วดั ต้าเจวี๋ย ภายหลังอาจารย์ซูมา
ขอความช่วยเหลือจากเขา เขาจึงรู ้วา่ นางไม่ได้ไปวัดต้าเจวี๋ย แต่ไป
เมืองชายแดนซีเจียงแทน ตอนนั้นเขาเป็ นห่วงจนนอนไม่หลับ
ตอนนี้เห็นเด็กน้อยนอกจากจะดาขึ้นแล้วก็ไม่ได้เป็ นอะไรอีก จิตใจ
ที่เป็ นกังวลก็วางลงได้
หลังจากนั้นเขาก็หลุดหัวเราะในใจ ตนลืมได้อย่างไรว่าเด็กคนนี้
หาญกล้าเพียงใด ตั้งแต่ที่รู้จกั กับนางก็ไม่เคยเห็นนางเสี ยเปรี ยบเลย
นางไปซีเจียง ฝ่ ายที่ประสบหายนะเกรงว่าจะเป็ นซีเหลียงกระมัง ตน
เป็ นกังวลไปเองเสี ยแล้ว
ตอนที่ 180-2 แอบใช้ ชีวติ ตามใจครึ่งวัน
“โชคร้ายอะไรกัน ท่านให้พี่ชายผูน้ ้ ีตดั สิ นสิ เห็นชัด ๆ ว่าข้าช่วย
ท่านออกมาจากรังโจรด้วยชีวิตทั้งหมดที่มี” เสิ่ นเวยตะโกนอย่างไม่
พอใจ หลังจากนั้นก็สาธยายเล่าเรื่ องที่พวกเขาเจอกัน
“ชีวิตทั้งหมดเลยหรื อ” เจียงเฉินปรายตามองเสิ่ นเวย เจ้าเด็กนิสัยเสี ย
อายุนอ้ ยกว่าข้าตั้งกี่ปี เจ้าใช้ชีวิตทั้งหมดที่มี เช่นนั้นข้าจะเป็ นอะไร
เล่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะเข้าไปในรังโจรได้หรื อ ลูกน้องของ
ข้าช่วยข้าออกมาแล้ว ไม่ใช่วา่ เจ้าแหกปากร้องไห้ดึงดูดโจรทั้งหมด
มาหรื อไร”
เจียงเฉินคล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ มองเสิ่ นเวย เสิ่ นเวยฉุนเล็กน้อยอย่างอด
ไม่ได้ แต่ปากกลับกล่าวอย่างยืนกราน “ไม่ตอ้ งสนใจว่าระหว่างทาง
จะเป็ นอย่างไร สุ ดท้ายแล้วข้าก็ลากท่านวิง่ ออกมาไม่ใช่หรื อ พวกเรา
ไม่มีใครเป็ นอะไรไม่ใช่หรื อ ท่านก็แล้งน้ าใจเกินไปจริ ง ๆ อย่างไร
เสี ยข้าเองก็ช่วยท่านไว้ พ่อข้าส่ งคนมาจับข้ากลับบ้านท่านไม่
เพียงแต่ไม่ช่วย ยังซ้ าเติมทิ้งข้าหนีไปอีก เหอะ!” เสิ่ นเวยประณาม
ด้วยความโกรธแค้น
“เจ้ากับข้าไม่ใช่ญาติไม่ใช่ศตั รู มีสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้พอ่ เจ้าพา
เจ้ากลับบ้าน” เจียงเฉินสุ ขมุ มัน่ คง “จะว่าไปแล้วเหตุใดตอนนี้พอ่ เจ้า
ถึงปล่อยเจ้าออกมาแล้วเล่า ไม่ใช่วา่ หนีออกจากบ้านอีกแล้วนะ”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่ องนี้ เสิ่ นเวยก็ห่อเ**้่ยวในชัว่ ขณะ “ไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อข้าคิดอะไร บรรพบุรุษหลายต่อหลายรุ่ นทาแต่
ค้าขาย มีสิทธิ์อะไรมาบังคับให้ขา้ เรี ยนหนังสื อสอบสร้างตาแหน่ง
ชื่อเสี ยงให้ได้ ข้าฉลาดก็ฉลาดอยูห่ รอก แต่สิ่งที่ขา้ ชอบคือการค้าขาย
สร้างกาไร ใครจะมาทนอ่านหนังสื ออะไรนัน่ ท่านไม่รู้ สองปี
ก่อนหลังข้าถูกจับกลับไป พ่อข้าก็ส่งเด็กรับใช้มาให้ขา้ แปดคน คุม
ข้าอ่านหนังสื อโดยเฉพาะ แม้แต่เข้าห้องน้ ายังต้องมีคนเฝ้าอยูข่ า้ ง
นอก ชีวิตลาบากยิง่ นัก!” เสิ่ นเวยร้องทุกข์ข้ ึนมา
“หึ ๆ ยังดีที่ขา้ ฉลาด ข้าบอกพ่อข้าแล้ว การเรี ยนการสอนในเมือง
หลวงเข้มข้นที่สุด ปราชญ์ชื่อดังก็เยอะ ดังนั้นพ่อข้าจึงอนุญาตให้ขา้
มาเรี ยนในเมืองหลวง แต่วา่ เขาเองก็เจ้าเล่ห์จริ ง ๆ คนที่มาเมือง
หลวงกับข้าล้วนแต่เป็ นคนสนิทของเขาหมดเลย เฮ้อ เห็นหรื อไม่
คนนี้กใ็ ช่เหมือนกัน” เสิ่ นเวยยิม้ อย่างเจ้าเล่ห์ ชายตามองเสี่ ยวตี๋ที่ยนื
อยูข่ า้ ง ๆ ปราดหนึ่ง กล่าวอย่างเคียดแค้น
เสี่ ยวตี๋รู้วา่ ตนควรออกโรงแล้วจึงตีหน้าเศร้า “คุณชายขอรับ ท่านก็
อย่าทาให้ผนู ้ อ้ ยลาบากใจเลย นายท่านหวังดีต่อท่าน” จากนั้นก็มอง
เจียงเฉิน ไหว้วานเขาไม่หยุด “คุณชายเจียง ท่านเป็ นสหายรักของ
คุณชายพวกข้า ต้องโน้มน้าวเขาให้ได้นะขอรับ”
เสิ่ นเวยถลึงตาใส่ เสี่ ยวตี๋ ดวงตากะพริ บวาบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พี่
เจียงเฉิน พี่ชายผูน้ ้ ีคือใครหรื อ แนะนาหน่อยสิ ” เสิ่ นเวยสะกิดเจียง
เฉินเล็กน้อย ท่าทางสนิทสนม
เจียงเฉินกระตุกมุมปาก กล่าว “ผูน้ ้ ีคือสหายที่สานักราชบัณฑิตของ
ข้า แซ่เซี่ย เป็ นผูไ้ ด้รับคัดเลือกพร้อมกันกับข้า”
เสิ่ นเวยแสดงความหน้าหนาของนางออกมาทันที “พี่แท้แล้วก็เป็ น
พี่เซี่ยนี่เอง! น้องแซ่จิน ชื่อจิน
โหย่วเฉียน พ่อข้าชื่อจินฟู่ กุย้ ครอบครัวทาการค้าขาย เลื่อมใสมา
นานแล้ว เลื่อมใสมานานแล้ว” เสิ่ นเวยแสร้งประสานมือคารวะ
เจียงเฉินแทบจะพ่นชาออกมา มีจินโหย่วเฉี ยนก็พอแล้ว ยังมีจินฟู่ กุย้
(ร่ ารวย) ออกมาอีก ใต้เท้าเสิ่ นรู ้หรื อไม่
ทว่าเสิ่ นเวยกลับถลึงตามองเขาอย่างไม่พอใจ “ทาไม ดูถูกชื่อพวกข้า
สองพ่อลูกหรื อ เจ้าอย่าเห็นว่าชื่อนี้ไร้รสนิยม นี่เป็ นชื่อที่ผา่ นการ
คานวณของพระอาจารย์ชื่อดัง ข้าจะบอกอะไรพวกเจ้าให้ เพราะว่ามี
ชื่อพวกข้าสองพ่อลูก การค้าขายในครอบครัวจึงราบรื่ นเช่นนี้ รู ้
หรื อไม่วา่ ปู่ ข้าชื่ออะไร ชื่อจินอิ๋น! (เงินทอง) ตอนนี้ครอบครัวพวก
ข้าก็มีเงินทองไหลมาเทมาทุกวันมิใช่หรื อ” เสิ่ นเวยภูมิอกภูมิใจ
คราวนี้แม้แต่คุณชายแซ่เซี่ยก็แทบจะพ่นชาอย่างอดไม่ได้เช่นกัน
คุณชายน้อยผูน้ ้ ีน่าสนใจจริ ง ๆ
เขาหัวเราะช้า ๆ ท่าทางสง่างามอย่างถึงที่สุด กล่าวด้วยความเป็ น
มิตร “ข้าน้อยแซ่เซี่ย ชื่อเฟย เป็ นสหายของพี่เจียง เพื่อนของพี่เจียงก็
คือเพื่อนของข้าน้อย ยิง่ ไปกว่านั้นคุณชายจินก็เป็ นชายหนุ่มรู ปงามมี
อารมณ์ขนั เช่นนี้ ข้าน้อยก็ยงิ่ อยากเป็ นเพื่อนกับคุณชายจินเสี ยแล้ว”
จากบทสนทนาของคนทั้งสอง เซี่ยเฟยก็สามารถปะติดปะต่อ
เรื่ องราวที่สองคนนี้พบกันได้แล้ว อีกทั้งยังมองออกว่าคุณชายน้อย
แซ่จินผูน้ ้ ีกค็ ือคนที่ไม่หวาดระแวง นึกถึงเจียงเฉิ นที่เคยถูกพัวพันกับ
รังโจร เขาก็ร้องห่มร้องไห้แทน แต่เขาไหนเลยจะรู ้วา่ เรื่ องเล่านี้เป็ น
เพียงเรื่ องที่เสิ่ นเวยและเจียงเฉินแต่งขึ้นมาตามสถานการณ์
เสิ่ นเวยเห็นเซี่ยเฟยผูน้ ้ ีมีท่าทีเป็ นมิตรเช่นนั้นก็เปิ ดปากยิม้ ซื่อ ๆ
อย่างอดไม่ได้ แต่จู่ ๆ กลับได้ยนิ เซี่ยเฟยกล่าวต่อ “ข้าน้อยเพิ่งเคย
พบคุณชายจินครั้งแรก คุณชายจินเลื่อมใสอะไรหรื อ”
รอยยิม้ บนใบหน้าเสิ่ นเวยหยุดชะงักในชัว่ ขณะ เกาศีรษะกล่าวอย่าง
เขินอาย “เอ่อ เอ่อ เวลาปัญญาชนเช่นพวกเราพบปะผูค้ นก็ชอบพูด
เช่นนี้ไม่ใช่หรื อ” ทันใดนั้นก็หวั เราะเยาะตัวเองกล่าว “ไม่ปิดบังพี่
เซี่ย ข้าน่ะ ตั้งแต่เล็กก็ชอบทาการค้า ชอบนับเงินในคลังที่สุด แม้วา่
จะถูกพ่อข้าบังคับให้อ่านหนังสื อมาหลายปี อันที่จริ งความรู ้ใน
สมองก็ยงั มีไม่เยอะ ยังหวังว่าพี่เซี่ยจะให้อภัย” สี หน้าจริ งใจ แต่ใน
ใจกลับกาลังกัดฟันกรอด คนแซ่เซี่ยผูน้ ้ ีดูกร็ ู ้วา่ ไม่ใช่คนดี! เจียงเฉิ นก็
เหมือนกัน เป็ นเพื่อนอะไรกัน นี่ทาให้นางพาลใส่ แม้แต่เจียงเฉิ น
แล้ว
ทว่ามุมปากของเซี่ยเฟยกลับยังคงอมยิม้ กล่าว “ล้อคุณชายจินเล่น
เท่านั้นเอง ขออภัย ขออภัย! อันที่จริ งข้าก็ชอบคนจริ งใจอย่างคุณชาย
จินที่สุด”
“จริ งหรื อ” เสิ่ นเวยเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ ยิม้ อย่างใสซื่อ
จริ งใจยิง่ ขึ้น เจียงเฉินเห็นแล้วมุมปากก็กระตุกทันที หากเด็กนิสัย
เสี ยคนนี้จริ งใจ เช่นนั้นบนโลกนี้กไ็ ม่มีคนเจ้าเล่ห์แล้ว
บทสนทนาต่อมาก็กลมกลืนยิง่ ขึ้นแล้ว หลัก ๆ เป็ นบทสนทนาของ
เสิ่ นเวยกับเซี่ยเฟย เจียงเฉินเพียงแค่นงั่ มองพวกเขาพูดคุยหัวเราะอยู่
ข้าง ๆ
ทั้งสองคนคนหนึ่งพูดจาตรงไปตรงมา กล้าได้กล้าเสี ย พูดจนทาให้
คนสาลักตายด้วยท่าทางจริ งใจ อีกคนหนึ่งพูดจาสบาย ๆ ท่าทางสู ง
สง่า ราวกับฟังเจตนาแฝงนัยไม่ออกอย่างสิ้ นเชิง อีกทั้งยังพยักหน้า
คล้อยตามด้วยความเห็นด้วยอย่างมาก
เหงื่อของเจียงเฉินและเสี่ ยวตี๋ไหลออกมาแล้ว เสี่ ยวตี๋คิดในใจ โชคดี
ที่ไม่พาเถาฮวาออกมา มิเช่นนั้นด้วยท่าทางโง่เขลาของนางจะต้อง
เปิ ดเผยตัวตนของคุณหนูแน่นอน
ทานข้าวเที่ยงเสร็ จแล้ว เซี่ยเฟยก็กล่าวลา เสิ่ นเวยยังแสดงสี หน้า
อาลัยอาวรณ์ท้ งั ใบหน้า “พี่ใหญ่เซี่ย ครั้งหน้าหากมีโอกาสพวกเรา
มารวมตัวกันอีก” ครั้งนี้ เสิ่ นเวยถือเป็ นพี่นอ้ งกับเซี่ยเฟยได้สาเร็ จ
แล้ว
เสิ่ นเวยมองเซี่ยเฟยลงบันได เห็นเขาขึ้นรถม้าหนึ่งคันข้างถนน
ดวงตาหรี่ ลงในชัว่ ขณะ นางมองเจียงเฉิ นปราดหนึ่ง แต่กลับไม่ได้
พูดอะไร
เจียงเฉินรู ้ทนั รี บกล่าว “เชิญมาไม่สูบ้ งั เอิญเจอ คุณชายใหญ่ไปเยีย่ ม
จวนข้าน้อยสักหน่อยเถอะ” เสิ่ นเวยตอบตกลงอย่างยินดี
แม้เจียงเฉินจะอยูใ่ นสานักราชบัณฑิตหลวง แต่กไ็ ม่ใช่บณ
ั ฑิตหลวง
ยาจกจริ ง ๆ หมอนี่มีเงิน ดูจากที่เขาอยูใ่ นเรื อนหลังใหญ่ที่แบ่งเป็ น
สามส่ วนก็รู้แล้ว ศาลาหอสูง ภูเขาจาลองศาลาริ มน้ า ใช้ความคิด
มากมายในการจัดวาง
เมื่อเข้าไปในห้องหนังสื อเสิ่ นเวยก็ครองเก้าอี้ไม้ใหญ่ ๆ ตัวนั้นโดย
พลการ ร่ างพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ “เจียงเฉิ น เหตุใดท่านถึงไม่
แต่งงาน บ้านใหญ่ขนาดนี้เงียบเหงายิง่ นัก!” หมอนี้กอ็ ายุเกินยีส่ ิ บ
แล้ว หน้าตาก็ดี ตัวเขาเองก็เพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่าง เมืองหลวง
นิยมหาเขยหน้าป้ายรายชื่อผูส้ อบติดไม่ใช่หรื อ เหตุใดถึงไม่เอาเขา
ไปเป็ นเขยบ้างเล่า
เจียงเฉินมองเสิ่ นเวยปราดหนึ่ง ถอนใจในใจ เด็กคนนี้แสดงสมจริ ง
ยิง่ นัก เมื่อครู่ ยงั เรี ยกพี่เจียงเฉินไม่หยุดปาก สนิทกันสุ ด ๆ ตอนนี้อา้
ปากก็เรี ยกเจียงเฉิ นแล้ว
“ผลงานยังไม่สร้าง มีครอบครัวได้ดว้ ยหรื อ” เจียงเฉิ นกล่าวช้า ๆ
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะ เป็ นราชบัณฑิตแล้วยังไม่สร้างผลงานอีกหรื อ
เช่นนั้นก็ตอ้ งเข้าคณะเสนาบดีปกครองเมืองหลักเมืองรองจึงจะถือ
ว่าสร้างผลงานแล้วกระมัง เช่นนั้นก็ยงั คงต้องรอ เสิ่ นเวยรู ้สึกว่าเจียง
เฉินไม่ได้พดู ความจริ ง แต่เรื่ องนี้เกี่ยวอะไรกับนาง
“เซี่ยเฟยผูน้ ้ นั มีภูมิหลังอย่างไร” เสิ่ นเวยถามปั ญหาที่นางเป็ นกังวล
เจียงเฉินคิดครู่ หนึ่งจึงกล่าว “น่าจะไม่ต่างจากข้ามากกระมัง ฐานะ
ครอบครัวไม่ต่างกัน ความรู ้กไ็ ม่ต่างกัน ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบใน
สานักราชบัณฑิต คบค้าสมาคมไม่เยอะ ทาไม เขามีอะไรไม่ดีอีก
แล้วหรื อ”
เสิ่ นเวยฟังแล้วก็ส่ายหน้า “บางทีขา้ อาจจะคิดมากไป เพียงแต่เซี่ยเฟย
ผูน้ ้ ีจะต้องเป็ นคนฝึ กยุทธ์แน่นอน” สี หน้าบนใบหน้านางเคร่ งขรึ ม
เล็กน้อย การเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ต้ งั ใจระหว่างที่เขาขึ้นรถเผยให้เห็น
ความจริ งว่าเขาเป็ นยุทธ์ เสิ่ นเวยมักจะรู ้สึกคุน้ ตา คล้ายเคยเห็นที่
ไหนมาก่อน เมื่อคิดดูให้ดี ไม่วา่ อย่างไรก็คิดไม่ออก
ทว่าเจียงเฉินกลับเผยท่าทีสงสัย “ไม่น่าจะใช่ เดือนก่อนเขาเดินไม่
ระวัง ตกลงบันไดลงมา พักรักษาอยูค่ รึ่ งเดือนกว่าจะหายดี” หากเป็ น
ผูฝ้ ึ กยุทธ์ จะหกล้มได้อย่างไร
“ใครจะสนว่าเขาเป็ นหรื อไม่ อย่างไรเสี ยท่านระวังตัวหน่อยก็ดี”
เป็ นเพียงเพื่อนร่ วมงาม คนที่แทบไม่มีความสัมพันธ์เลย ใครจะว่าง
ไปใส่ ใจว่าเขาจะเป็ นยุทธ์หรื อไม่
“ครอบครัวท่านเป็ นอย่างไรบ้าง ปู่ ท่านเจ้าระเบียบหรื อไม่” เสิ่ นเว
ยกล่าวถาม
บนใบหน้าของเจียงเฉินมีรอยยิม้ เหยียดหยาม “จะเป็ นอะไรไปได้อีก
ย่อมต้องตอแยข้าน่ะสิ แม่ผนู ้ ้ นั ของข้าวางแผนร้ายกับท่านลุง เอาแต่
พูดว่าลูกผูน้ อ้ งคือภรรยาที่ยงั ไม่เข้าเรื อนของข้า ถูกท่านปู่ ห้ามไว้ ลุง
ผูน้ ้ นั ของข้าก็ยงั มาหาเรื่ องถึงบ้าน เป็ นปู่ ข้าที่ออกหน้าไล่ออกไป
หลังกลับไปแล้วก็กกั บริ เวณแม่ขา้ เขากลับหวังว่าเขาไปแล้วข้าจะ
เป็ นหัวหน้าตระกูลได้ ข้าไม่รับ ตอนนี้การค้าในครอบครัวมีพรี่ อง
จัดการ” พี่ใหญ่กลายเป็ นคนพิการแล้ว ท่านปู่ เป็ นห่วงเขา ย่อมต้อง
พยายามเลี้ยงดูคนในบ้านพวกเขา พี่รองไม่ใช่ตวั เลือกที่ดีที่สุดหรอก
หรื อ
เสิ่ นเวยไม่ได้พดู ต่อ แต่ละบ้านต่างก็มีปัญหาของตัวเอง เรื่ องในจวน
โหวก็ไม่นอ้ ย และด้วยเหตุน้ ี นางจึงไม่อยากกลับไป หากสามารถอยู่
ที่บา้ นพักไปได้ตลอดก็คงจะดี
ต่อมาเสิ่ นเวยก็เล่าเรื่ องตอนที่นางอยูเ่ มืองชายแดนซีเจียงอย่างง่าย ๆ
ไม่ได้เล่าเรื่ องที่เจอการโจมตีระหว่างทางกลับ เจียงเฉิ นเองก็ไม่ได้
ถามว่าเหตุใดนางถึงกลับมาก่อน เขาคิดในใจ นางไม่พดู เช่นนั้นก็
จะต้องเป็ นเรื่ องที่เขารู ้ไม่ได้แน่นอน
นางอยูใ่ นจวนเจียงเฉินถึงบ่ายแก่ กระทัง่ พระอาทิตย์ตกดินเสิ่ นเว
ยจึงขอตัวออกมา ตอนที่ผา่ นหอโคมแดงเสิ่ นเวยก็ยงั มีแรงกระตุน้
อยากเข้าไปดูอยู่ แต่วา่ คราวนี้ไม่ตอ้ งให้เสี่ ยวตี๋ร้ ังไว้ นางก็ละทิ้งเอง
แล้ว เมืองหลวงมียอดฝี มือซ่อนตัวอยู่ นางไม่อยากยัว่ ยุใครหรื อก่อ
เรื่ องใด ๆ อีก
ขณะที่รถม้าวิ่งไปข้างหน้าต่อ จู่ ๆ เสิ่ นเวยก็ได้ยนิ เสี ยงร้องขอความ
ช่วยเหลือสั้น ๆ หนึ่งครา หลังจากนั้นก็มีเสี ยงของบางอย่างล้ม ยังมี
เสี ยงหัวเราะอนาจารดังขึ้นหลายครา
การตอบสนองของเสี่ ยวตี๋เร็ วอย่างยิง่ หยุดรถม้าไว้ขา้ ง ๆ ทันที
ที่นี่เป็ นตรอกยาว ๆ หนึ่งสาย เป็ นถนนที่เสิ่ นเวยต้องผ่านขากลับ
ตอนนี้ในตรอกจะต้องเกิดเรื่ อง แน่นอนว่าไม่อาจวิ่งต่อได้
เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋สบตากันปราดหนึ่ง ทั้งสองคลาทางเดินไป
ข้างหน้าเงียบ ๆ
ตอนที่ 181-1 วัดต้ าเจวีย๋
“เจ้าวิ่งสิ เจ้าวิ่งต่อสิ ให้อาหารเจ้ากิน ให้เสื้ อผ้าเจ้าใส่ เลี้ยงเจ้าอย่าง
หรู หรา กลับกลายเป็ นเลี้ยงคนเนรคุณเสี ยอย่างนั้น”
“ไม่ใช่เจ้าเก่งนักหรื อ แม้แต่เจ้านายยังถูกเจ้าหลอก ยังคิดว่าเจ้าหัวไว
ไม่นึกว่าเจ้าจะซ่อนความคิดชัว่ ช้า คิดจะหนีหรื อ ในอาณาเขตของ
พวกข้าเจ้าจะวิ่งหนีไปไหนได้” หลังจากนั้นก็มีเสี ยงต่อยหมัดดังตุบ
ตับ
“จุ๊ ๆ ดูเนื้อหนังนี่สิ ดูใบหน้าเล็ก ๆ นี้ ดึงดูดใจจริ ง ๆ ในเมื่อเจ้าไม่
อยากใช้ชีวิตเหนือคนธรรมดา เช่นนั้นวันนี้กร็ ับใช้พวกข้าก่อน หาก
รับใช้พวกข้าดี ไม่แน่วา่ อาจจะยังหาทางรอดให้เจ้าได้จริ ง ๆ ”
ตามมาด้วยเสี ยงตบหน้า
“ใช่แล้ว ๆ พวกข้ายังไม่เคยเล่นกับของสวย ๆ งาม ๆ เช่นนี้เลย ฮ่า
ๆ วันนี้พวกข้าก็ขอลิ้มรสของชั้นดีน้ ีเสี ยหน่อย ฮ่า ๆ ”
เสี ยงหัวเราะที่น่ารังเกียจและหื่นกามแสบแก้วหูยงิ่ นัก ฝ่ ายตรงข้ามที่
ถูกทุบตีและหยอกล้อกลับไม่ส่งเสี ยงใด ๆ ออกมา เห็นได้วา่ เป็ นคน
ที่ด้ือรั้นทีเดียว
นี่มนั ฉากหอนางโลมจับนางโลมที่หลบหนีหรื ออย่างไร เสิ่ นเวยกับ
เสี่ ยวตี๋สบตากันปราดหนึ่ง ทั้งสองตกใจเล็กน้อย หอนางโลมที่ไหน
กันทาตัวกาแหงเช่นนี้
ในเมื่อเจอแล้ว เช่นนั้นก็ช่วยคนเถอะ! เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋คลาทางไป
ข้างหน้าเงียบ ๆ เห็นเพียงชายฉกรรจ์ในชุดจอมยุทธ์สามคนกาลัง
ล้อมสตรี ที่นงั่ ฟุบอยูบ่ นพื้นผูห้ นึ่ง พูดจาลากมกหยาบคาย มีหนึ่งคน
ที่ถอดเสื้ อผ้าออกแล้ว
เสิ่ นเวยส่ งสายตาให้เสี่ ยวตี๋ เสี่ ยวตี๋พยักหน้า ก้มตัวเก็บก้อนหิ นเล็ก
หนึ่งก้อนแล้วซัดออกไป โดนมือคนผูน้ ้ นั ที่ถอดเสื้ อพอดี เขาร้อง
โอ๊ยเจ็บปวด “ใคร! ใคร!”
อีกสองคนที่เหลือก็มองมาทางฝั่งนี้อย่างตื่นตัว “ใคร ออกมา! หลบ
ๆ ซ่อน ๆ ใช่วีรบุรุษลูกผูช้ ายที่ไหนกัน”
เสิ่ นเวยกับเสี่ ยวตี๋เดินออกมาจากความมืด ชายฉกรรจ์สามคนนั้น
เห็นว่าคนที่มายุง่ เรื่ องชาวบ้านเป็ นคุณชายน้อยตระกูลเศรษฐี
จากนั้นก็เห็นว่าคุณชายน้อยพามาเพียงแค่เด็กรับใช้ร่างผอมบางคน
หนึ่งก็วางใจลง
“ข้าว่าคุณชายท่านนี้อย่าได้ยงุ่ เรื่ องชาวบ้านเลยจะดีกว่า มิเช่นนั้น…”
คนผูน้ ้ นั ที่ถอดเสื้ อเมื่อครู่ แค่นเสี ยงหัวเราะเยาะ การข่มขู่ในคาพูด
ชัดเจนอย่างยิง่ สองคนที่เหลือก็กอดอกหัวเราะเยาะเช่นกัน หนึ่งใน
นั้นยังกล่าว “พี่ใหญ่ ดูสิคุณชายน้อยผูน้ ้ ีกผ็ วิ พรรณนุ่มละเอียด
เหมือนกัน หรื อว่าจะ?”
เจตนาร้ายอันโจ่งแจ้งนั้นทาให้เสี่ ยวตี๋โมโหอย่างถึงที่สุด คาดไม่ถึง
ว่ากล้าไม่เคารพคุณหนู สมควรตาย! ร่ างนางราวกับสายฟ้า ชาย
ฉกรรจ์ในชุดชอมยุทธ์รู้สึกเพียงเบื้องหน้าวูบไหว คนที่เอ่ยปาก
หยาบคายผูน้ ้ นั ถูกตัดคอขาดล้มลงกับพื้นแล้ว
“นี่กค็ ือจุดจบของผูท้ ี่ไม่เคารพคุณชายของข้า” เสี ยงที่เย็นยะเยือก
ของเสี่ ยวตี๋ดงั ขึ้น
สองคนที่ยงั เหลืออยูถ่ อยไปข้างหลังสองก้าวใหญ่อย่างระมัดระวัง
ทันที ความตื่นตัวในแววตามากอย่างยิง่ “พวกเจ้าเป็ นใครกันแน่ ดู
ท่าแล้วคุณชายก็คงจะเป็ นผูม้ ีความรู ้ นี่เป็ นเรื่ องในบ้านของพวกข้า
คุณชายทาเป็ นไม่เห็นจะดีกว่า เมื่อครู่ พี่ชายผูน้ ้ ีของข้าเสี ยมารยาท
บ่าวของคุณชายก็ลงโทษเขาแล้ว พวกเราไม่เคยรู ้จกั กันมาก่อน
อย่าได้ผกู อาฆาตต่อกันเลยจะดีกว่า”
เสิ่ นเวยถอนหายใจหนึ่งครา พัดพับได้ในมือตบลงในฝ่ ามือเบา ๆ
ในน้ าเสี ยงมีความคับแค้นแทนผูท้ ี่ได้รับความไม่เป็ นธรรมอย่างถึง
ที่สุด “พ่อหนุ่มกล้าหาญผูน้ ้ ีพดู จามีเหตุผล ข้าเป็ นเพียงคนผ่านทาง
ไม่ได้อยากสร้างปั ญหาจริ ง ๆ ”
สองคนนั้นได้ยนิ เสิ่ นเวยพูดเช่นนี้ กาลังจะประสานมือกล่าวขอบคุณ
ทว่ากลับได้ยนิ เสิ่ นเวยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แม้วา่ ข้าจะไม่อยาก
สร้างปัญญา แต่ปัญหาดันมาหาข้าเอง เจ้าว่าเมืองหลวงใหญ่เพียงนี้
พวกเจ้าไม่ไปจัดการเรื่ องในบ้านที่อื่น ดันวิง่ มาบนถนนที่ขา้ ต้อง
กลับบ้าน ไม่ใช่เป็ นการสร้างความกลุม้ ใจให้ขา้ หรอกหรื อ พวกเจ้า
คิดว่าข้าเป็ นเด็กสามขวบหรื อไร คาพูดของพวกเดนตายเช่นพวกเจ้า
เชื่อได้ดว้ ยหรื อ วันนี้หากปล่อยพวกเจ้าไป ไม่ใช่วา่ ข้าทิ้งหายนะไว้
ให้ตวั เองหรื อ แม้ขา้ จะอายุนอ้ ย แต่กร็ ู ้จกั สานวนคาว่าตัดรากถอน
โคนเหมือนกัน”
พูดยังไม่ทนั ขาดคา ร่ างก็ขยับก่อน อาวุธชายฉกรรจ์ในชุดจอมยุทธ์
สองคนนั้นยังไม่ทนั ได้ชกั ออกมา ร่ างก็แข็งทื่อล้มลงบนพื้นแล้ว
เสิ่ นเวยมองพัดพับได้ในมือ กล่าวในใจ อาวุธลับนี้ใช้ดีจริ ง ๆ
ที่แท้แล้วพัดพับได้น้ ีกไ็ ม่ได้มีไว้ใช้ประดับเท่านั้น ที่จริ งแล้วมันยัง
เป็ นอาวุธลับชั้นดี ข้างในซ่อนเข็มพิษไว้ เป็ นพืชลูกศรพิษ
“เสี่ ยวตี๋ ไปกันเถอะ” เสิ่ นเวยส่ ายหน้าตะโกนเรี ยกเสี่ ยวตี๋ อารมณ์ไม่
ดีเล็กน้อย ไม่วา่ ใครก็ตามที่ตอ้ งฆ่าคนระหว่างทางกลับบ้านล้วน
อารมณ์ไม่ดีท้ งั สิ้ น
เสี่ ยวตี๋เหลือบมองแม่นางที่หมอบอยูบ่ นพื้น ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พดู
อะไร
“คุณชาย ช่วยด้วย” ใครจะรู ้จู่ ๆ แม่นางบนพื้นผูน้ ้ นั ก็โผเข้ามา
ฉับพลัน คว้าชายเสื้ อของเสิ่ นเวยไว้
เสิ่ นเวยตกตะลึง นี่ไม่ใช่สตรี หรอกหรื อ ก่อนหน้านี้คนผูน้ ้ ีกม้ หน้า
เส้นผมปิ ดบังใบหน้าอยู่ เสิ่ นเวยมองเห็นเพียงเสื้ อผ้าสี ขาวที่เขาสวม
อยู่ บวกกับคาพูดที่ชายฉกรรจ์สามคนนั้น ก็คิดไปเองว่านี่คือสตรี ที่
หนีออกจากหอนางโลมที่ไหนสักแห่ง
แต่ตอนนี้เมื่อแม่นางผูน้ ้ ีเอ่ยปาก เสิ่ นเวยก็พบว่านี่ไหนเลยจะเป็ น
สตรี ชัดเจนว่าเป็ นชายหนุ่มผูห้ นึ่ง
เขา เขาคงไม่ได้หนีออกมาจากหอนายโลมหรอกนะ สี หน้าของเสิ่ น
เวยแปลกประหลาด ก่อนหน้านี้นางยังอยากไปเปิ ดหูเปิ ดตาใน
สถานที่น้ นั อยูเ่ ลย จู่ ๆ ก็มีนายโลมคนหนึ่งส่ งมาถึงหน้านาง แม้แต่
สวรรค์กย็ งั อยากให้นางสมปรารถนางั้นหรื อ
เสิ่ นเวยแอบวิจารณ์เงียบ ๆ อยูใ่ นใจ แต่นางก็ยงั ไม่อยากยุง่ เรื่ องคน
อื่นเช่นนี้ นางกะพริ บตามองคนเลวสามคนนั้นที่กระทาความชัว่ ต่อ
หน้านางอย่างหมดหนทาง ตอนนี้สามคนนั้นตายหมดแล้ว นางเองก็
นับว่าได้ช่วยคนผูน้ ้ ีแล้ว ไม่ใช่ญาติไม่ใช่ศตั รู นางทาถึงขนาดนี้ได้ก็
เมตตามากแล้ว
“ข้าช่วยเจ้าแล้ว ปล่อยมือ” เสี ยงที่เย็นเยียบของเสิ่ นเวยดังขึ้น หัวใจ
ของอันเจียเหอบนพื้นกลับดิ่งลง เขากล้ ากลืนความอัปยศอดสู มา
หลายปี เพียงนี้ หรื อว่าวันนี้จะต้องตายอยูท่ ี่นี่เสี ยแล้ว แต่เขายังมี

ความอาฆาตแค้นอยู…
คิดถึงตรงนี้ แววตาของอันเจียเหอก็ปรากฏความหนักแน่น กา
ชายเสื้ อของเสิ่ นเวยแน่นไม่ยอมปล่อย “คุณชายช่วยข้าด้วย!” เขาจะ
ตายไม่ได้ จะตายอยูท่ ี่นี่ไม่ได้ เขายังต้องลากสังขารอันอ่อนแอนี้เพื่อ
ไปแก้แค้นอยู่
เสิ่ นเวยถอนหายใจอีกครั้ง มองคนบนพื้นแล้วกล่าว “ในเมื่อเจ้าหนี
ออกมาได้ เช่นนั้นก็แสดงว่าวางแผนดีแล้ว ตอนนี้คนที่จบั เจ้าก็ตาย
หมดแล้ว เจ้าหลบหนีตามแผนก่อนหน้านี้ของเจ้าก็ได้แล้ว” ดูจากที่
คนผูน้ ้ ีถูกด่าทอแต่กลับไม่ส่งเสี ยงเมื่อครู่ น้ ี ก็รู้แล้วว่าคนผูน้ ้ ีเป็ นคนที่
มีจิตใจหนักแน่น และในใจก็มีแผนการอยูแ่ ล้ว เสิ่ นเวยไม่อยากยุง่
เกี่ยวกับเรื่ องนี้จริ ง ๆ
อันเจียเหอได้ยนิ ประโยคนี้ ในใจก็หวาดกลัวอย่างอดไม่ได้ แต่กลับ
ยิง่ มัน่ ใจที่จะร้องขอต่อ “คุณชายช่วยข้าด้วย!” เขาหลบหนีได้ แต่
ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ เคลื่อนไหวไม่สะดวก ต่อให้หลบหนีกค็ ง
จะต้องถูกหาเจออยูด่ ี แม้คุณชายผูน้ ้ ีตรงหน้าจะอายุไม่มาก แต่ก็เป็ น
คนที่ค่อนข้างมีฝีมือ หากได้เขาเป็ นที่พ่ งึ พิง ไม่แน่วา่ ตนอาจจะยังแก้
แค้นได้ในสักวันหนึ่ง
“คุณชายช่วยข้าด้วย แม้ขา้ จะเร่ ร่อนสกปรก แต่ต้ งั แต่เล็กก็อ่าน
หนังสื อมากมาย ด้านการเล่นพิณหมากล้อมเขียนพูก่ นั ก็ไม่เป็ นรอง
ใคร ส่ วนด้านกลไกการนับเลขก็ชานาญ คุณชายโปรดเมตตา
ช่วยชีวิตข้าสักครั้ง” แม้วา่ ในใจจะรู ้สึกอับอาย แต่อนั เจียเหอกลับ
ยังคงมองเสิ่ นเวยอย่างดื้อรั้น
ตอนที่เสิ่ นเวยได้ยนิ เขาพูดว่าตนอ่านหนังสื อมามากในใจก็หวั เราะ
เยาะแล้ว เป็ นนายโลมต้องฉกฉวยคาชมจากแขก ก็ตอ้ งเรี ยนรู ้
ความสามารถเหล่านี้ไม่ใช่หรื อ อ่านหนังสื อเยอะไปก็ไร้ประโยชน์
นอกจากเอาใจแขกแล้วยังมีประโยชน์อะไรอีก แต่เมื่อได้ยนิ ว่าเขายัง
ชานาญกลไกนับเลข ดวงตาของเสิ่ นเวยก็ลุกวาว นับเลขยังไม่เท่าไร
แต่ผมู ้ ีความสามารถด้านกลไกกลับหากยากจริ ง ๆ
“เสี่ ยวตี๋ ยังไม่รีบพยุงคุณชายผูน้ ้ ีข้ ึนมาอีก” เสิ่ นเวยสัง่ เสี่ ยวตี๋
เสี่ ยวตี๋เข้าใจแล้วว่าคุณหนูตอ้ งการช่วยคน ในที่สุดหัวใจของอันเจีย
เหอก็วางลง ประสาทผ่อนคลาย วินาทีถดั มาก็จมดิ่งอยูใ่ นความดา
มืด
“คุณหนู ไม่เป็ นไร เพียงแค่หมดสติ” เสี่ ยวตี๋องั ลมหายใจตรงจมูก
ของเขาแล้วกล่าว
“เช่นนั้นก็ดี” เสิ่ นเวยลูบอก ท่าทางตกใจ นางตัดสิ นใจจะรับคนผูน้ ้ ี
ไว้อย่างไม่กลัวปั ญหาแล้ว หากเขาตายขึ้นมา ตนก็ช่วยเปล่า
ประโยชน์ไม่ใช่หรื อ
เสิ่ นเวยหวาดระแวงมากขึ้น นางไม่ได้บุ่มบ่ามพาคนกลับไปที่
บ้านพักทันที แต่ส่งไปยังเรื อนเล็กหลังหนึ่งที่ทหารลับพักผ่อนอยู่
โยนคนให้ทหารลับผลัดกันเฝ้า จากนั้นจึงพาเสี่ ยวตี๋กลับบ้านพัก
เสิ่ นเวยเดินเล่นสบายอารมณ์อยูใ่ นเมืองหลวงอยูห่ กเจ็ดวัน ตัวนาง
เองก็หน้าตาดีอยูแ่ ล้ว บวกกับใจป้ ามือเติบ เจ้าของร้านลูกจ้างใน
เหลาสุ ราโรงน้ าชาโรงงิ้วต่าง ๆ ที่มีชื่อในเมืองหลวงต่างก็จาคุณชาย
จินที่ใจป้ าผูน้ ้ ีได้แล้ว ทุกครั้งที่นางปรากฏตัว ลูกจ้างในร้านต่างก็
แย่งกันบริ การ เงินรางวัลที่คุณชายจินให้เยอะอย่างยิง่ จริ ง ๆ โรงน้ า
ชาอวี้ไท่มีลูกจ้างแซ่หลี่คนหนึ่ง เพราะว่าเขาตอบคาถามดี คุณชายจิ
นจึงถือโอกาสตบรางวัลเป็ นเงินหนึ่งแท่ง นี่เท่ากับเงินเดือนเขาทั้งปี
จะไม่ให้ลูกจ้างทุกคนแห่กนั แย่งชิงได้อย่างไร อย่าว่าแต่ลูกจ้าง
แม้แต่เจ้านายเล็ก ๆ ยังอิจฉาตาร้อน
หลังจากคืนนั้นที่เสิ่ นเวยออกมาจากห้องหนังสื อส่ วนพระองค์
จักรพรรดิยงเซวียนก็ประทับอยูเ่ นิ่นนาน สี พระพักตร์ท่ามกลางแสง
และเงามืดสลัวไม่ชดั เจน หลังจากนั้นก็ตรัสหนึ่งประโยค “ออกมา
เถอะ”
จากนั้นจึงมีคนชุดดาผูห้ นึ่งคุกเข่าลงบนพื้นอย่างแปลกประหลาด
จักรพรรดิยงเซวียนตรัสสัง่ หลายประโยค คนชุดดาผูน้ ้ นั บิดตัว
หายไปในห้องราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
คืนนั้นพระตาหนักซีซานมีกองทัพห้าพันนายออกไปเงียบ ๆ
เรื่ องนี้เสิ่ นเวยย่อมไม่รู้ แต่นางเองก็เดาได้ เรื่ องใหญ่เช่นนี้ จักรพรรดิ
ไม่อาจนิ่งเฉย จะต้องวางแผนรับมือแน่นอน ส่ วนจะเป็ นแผนอะไร
นัน่ ก็ไม่ใช่เรื่ องที่เด็กผูห้ ญิงเช่นนางจะทุกข์ใจ
ตอนที่ 181-2 วัดต้ าเจวีย๋
เสิ่ นเวยคาดการณ์วา่ ท่านปู่ ใกล้จะกลับมาแล้ว นางจึงเร่ งรี บไปยัง
วัดต้าเจวี๋ย นางฉวยโอกาสตอนกลางคืนปี นเข้าไปในห้องจาก
หน้าต่างด้านหลังโดยตรง
ซู่เหนียงที่ปลอมตัวเป็ นนางกาลังเตรี ยมจะพัก จู่ ๆ ก็มองเห็นคนผู ้
หนึ่งปี นเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลัง ตกใจจนกรี ดร้อง หลีฮวาที่อยู่
ข้างนอกก็วงิ่ เข้ามาทันที
“เฮ้ย ข้าเอง!” เสิ่ นเวยเห็นซู่เหนียงคว้ากรรไกรใต้หมอนออกมาแล้ว
ในมือหลีฮวาที่วงิ่ เข้ามาก็ถือม้านัง่ อยูจ่ ึงรี บส่ งเสี ยงบอกเป็ นนัย
“คุณหนู!” หลี่ฮวาตกตะลึง ทั้งตกใจทั้งดีใจ ม้านัง่ ในมือหล่นลงแล้ว
ก็ยงั ไม่รู้ตวั ในดวงตามีน้ าตาไหลออกมาเงียบ ๆ
ชัว่ ขณะเสิ่ นเวยรู ้สึกอบอุ่นในใจ ยิม้ แล้วกล่าวปลอบเสี ยงอ่อนโยน
“ร้องไห้ทาไม ข้ากลับมาแล้วไม่ใช่หรื อไร” เป็ นเด็กโง่จริ ง ๆ เลย
“คุณหนู นัน่ ท่านจริ ง ๆ หรื อ” หลีฮวารี บเช็ดน้ าตา ขยับริ มฝี ปาก
พยายามจะยิม้ แต่น้ าตากลับไหลหนักกว่าเดิม “บ่าว บ่าวดีใจ!” ทุก
วันนางนัง่ คุกเข่าหน้าพระพุทธรู ปเป็ นเวลานาน ขอพระคุม้ ครอง
คุณหนูของนางให้กลับมาอย่างปลอดภัย
“พอแล้ว ๆ ดูเจ้าดีใจเข้า เดี๋ยวเถาฮวาก็ขาเจ้าตายหรอก” เสิ่ นเวยยิม้
หยอกล้อ
หลีฮวาประหลาดใจอย่างมาก “เถาฮวาก็มาด้วยหรื อ” หลังจากนั้นก็
ได้สติกลับมา คุณหนูอยูท่ ี่ไหน เถาฮวาก็ยอ่ มต้องอยูท่ ี่นนั่
เสิ่ นเวยบอกเป็ นนัยไปทางหน้าต่างด้านหลัง “ไม่ได้อยูต่ รงนั้นหรื อ”
จากนั้นก็เห็นเถาฮวาปี นเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลังแล้วเช่นกัน เอ่ย
ปากตะโกนด้วยความดีใจ “พี่หลีฮวา”
นายบ่าวหลายคนพบหน้ากันย่อมต้องดีใจอย่างถึงที่สุด เสิ่ นเวยเห็น
ซู่เหนียงที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ ด้วยความเคารพก็กล่าว “เจ้าวางใจ เรื่ องที่
รับปากเจ้าไว้ไม่ผดิ สัญญาแน่นอน ขอเพียงแค่เจ้าปิ ดปากให้สนิท
เงินทองครึ่ งชีวิตก็หนีไม่พน้ หรอก”
ซู่เหนียงแสดงสี หน้าซาบซึ้ง “คุณหนูวางใจ ซู่เหนียงรู ้วา่ สิ่ งใดควร
ไม่ควร” นางหยุดครู่ หนึ่งจึงกล่าวต่อ “คุณหนูท่านเชิญพักเถอะ เดี๋ยว
ซู่เหนียงไปนอนเบียดกับพี่เซียงเหมย”
เสิ่ นเวยพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีเหมือนกัน เจ้าก็ถือโอกาสคิดว่าจะ
เอาอย่างไรต่อ ไม่วา่ เจ้าต้องการอะไร ภายในขอบเขตที่เหมาะสมข้า
จะพยายามช่วยเจ้าเต็มที่”
“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ” ซู่เหนียงถอยออกไปอย่างเรี ยบร้อย
เมื่อซู่เหนียงออกไปแล้ว หลีฮวาก็จดั เตียงทันที ของที่ซู่เหนียงเคยใช้
ย่อมไม่อาจให้คุณหนูใช้ได้ หลีฮวาปูเครื่ องนอนใหม่เอี่ยมทั้งชุดลง
บนเตียง จากนั้นก็สงั่ ให้คนต้มน้ าร้อน ยุง่ ตัวเป็ นเกลียว
ยังคงเป็ นเสิ่ นเวยที่ทนดูต่อไปไม่ไหวจึงจับนางไว้ “พอแล้ว ข้ากิน
มาแล้ว ไม่ตอ้ งวุน่ วายขนาดนี้ เอาแค่นอนได้กพ็ อแล้ว มา เล่าเรื่ อง
ของพวกเจ้าในช่วงหลายเดือนมานี้ให้ขา้ ฟังหน่อย”
หลีฮวาวางของในมือลง เล่าชีวิตในวัดต้าเจวี๋ยหลายเดือนมานี้อย่าง
ไม่หยุดปาก
“คุณหนู หลังจากที่ท่านไป พวกบ่าวก็สวดมนต์ทาจิตใจให้สงบอยู่
ในเรื อนเล็กแห่งนี้ตามคาสัง่ ของท่าน ข้าวทุกมื้อมีพี่สาวหลายคน
ผลัดกันไปเอามา บ่าวกับพี่เซียงเหมยต่างก็ออกไปน้อยอย่างยิง่ ซู่
เหนียงผูน้ ้ นั ก็ฉลาด อยูใ่ นห้องคัดคัมภีร์เงียบ ๆ แม้วา่ จะไปจุดธูป
บูชาที่อุโบสถ แต่กส็ วมผ้าคลุมศีรษะมีบ่าวตามไปด้วย ช่วงหลัง
อากาศหนาวขึ้นเรื่ อย ๆ บ่าวก็ปรึ กษากับเจ้าอาวาส สร้างเตาในเรื อน
เล็ก ไว้ใช้ตม้ น้ า ต้มข้าวต้มต่าง ๆ ได้…
…วันคืนผ่านไปอย่างสงบ เพียงแต่เป็ นห่วงคุณหนู คุณหนูไปหลาย
เดือน ไม่มีแม้แต่ข่าวใด ๆ บ่าวร้อนใจยิง่ นัก คุณหนู เหตุใดท่านถึง
ได้ดาเพียงนั้น งานแต่งงานของท่านจัดขึ้นเดือนสาม นี่กเ็ ดือนสอง
แล้ว เหลืออีกไม่กี่วนั จะทาอย่างไร” คุณหนูดาเพียงนี้จะออกเรื อน
ได้อย่างไร หากเจ้าบ่าวรังเกียจจะทาอย่างไร หลีฮวาร้อนใจขึ้นมาใน
ชัว่ ขณะ
เสิ่ นเวยไม่สนใจ นางเองก็ไม่ได้ดาขนาดนั้น แค่ผวิ สี น้ าผึ้งก็เท่า
นั้นเอง ยิง่ ไปกว่านั้นนี่เกี่ยวอะไรกับการแต่งงาน หรื อว่าสวีโย่วหมอ
นัน่ จะกล้ารังเกียจนางเชียวหรื อ
“ยังกล้าว่าข้าด้วยหรื อ เจ้าดูเจ้าก่อน ผอมลงขนาดนี้ เป็ นอะไรไป
ข้าววัดต้าเจวี๋ยไม่อร่ อยหรื อ” เสิ่ นเวยแสยะปากกล่าว
หลีฮวาไหนเลยจะไม่รู้วา่ คุณหนูนางเปลี่ยนเรื่ อง กล่าวอย่างขุ่นเคือง
“คุณหนู ไม่ใช่เพราะบ่าวเป็ นห่วงคุณหนูหรื อไร” คาพูดนี้กลับเป็ น
เรื่ องจริ ง โดยเฉพาะตอนที่ได้ยนิ ญาติโยมที่มาทาบุญในวัดเล่าว่า
สถานการณ์ซีเจียงไม่ดีมากเพียงใด หลีฮวาก็กงั วลจนนอนไม่หลับ
เมื่อหลับตาก็เห็นคุณหนูเลือดโชกไปทัว่ ร่ างยืนอยูต่ รงหน้า
“หลีฮวาคนดี คุณหนูรู้วา่ เจ้าเป็ นเด็กดี ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว
เจ้าก็ไม่ตอ้ งพร่ าถึงแล้ว เร่ งเดินทางหลายสิ บลี้ตอนนี้ขา้ ง่วงแล้ว”
ราวกับต้องการยืนยันคาพูดนาง เสิ่ นเวยยังหาวอีกหนึ่งครา
คาพูดเต็มอกของหลีฮวาไม่อาจพูดต่อไปได้แล้ว รี บจัดแจงให้
คุณหนูพกั ผ่อนดีกว่า “คุณหนู บ่าวจะพาเถาฮวาไปนอนในห้องข้าง
นอก ท่านมีอะไรก็เรี ยกบ่าวนะเจ้าค่ะ” ในใจวางแผนดีแล้วว่าจะ
บารุ งรักษาร่ างกายคุณหนูอย่างไรบ้าง จะต้องให้คุณหนูเป็ นเจ้าสาวที่
สวยที่สุดให้ได้ อืม ซู่เหนียงค่อนข้างมีประสบการณ์ดา้ นนี้ พรุ่ งนี้ไป
ขอคาแนะนาจากนางดีหรื อไม่นะ
เซียงเหมยเห็นซู่เหนียงยืนอยูข่ า้ งนอกประตูก็ประหลาดใจอย่างยิง่ ซู่
เหนียงชิงกล่าวก่อน “คุณหนูกลับมาแล้ว”
เซียงเหมยตกใจ หลังจากนั้นรอยยิม้ ก็ปรากฏขึ้นข้างแก้ม นางเดิน
ผ่านซู่เหนียงกาลังจะไปที่หอ้ งใหญ่ เดินไปได้สองก้าวก็หนั หลัง
กลับมา ถอนหายใจกล่าว “ดึกดื่นคุณหนูเองก็น่าจะเหนื่อยแล้ว
พรุ่ งนี้ขา้ ค่อยไปแล้วกัน” จากนั้นก็ผลักประตูให้ซู่เหนียงเข้าไป
เซียงเหมยมองซู่เหนียงที่สุขมุ สงบนิ่งอยูภ่ ายใต้แสงเทียน ถอน
หายใจหนึ่งคราแล้วกล่าว “คุณหนูกลับมาแล้ว เจ้ามีแผนต่อจากนี้
อย่างไร” แม้วา่ ซู่เหนียงไม่พดู แต่อย่างไรเสี ยเซียงเหมยก็เป็ นสตรี ที่
เคยแต่งงานมาก่อน ไหนเลยจะอ่านสถานการณ์ของซู่เหนียงไม่ออก
ว่าไม่เป็ นดัง่ หวัง ไม่วา่ อย่างไรก็อยูด่ ว้ ยกันมาหลายเดือน อีกทั้งซู่
เหนียงก็รู้ประสา มีมารยาทกับพวกนาง ไม่เคยนาปั ญหามาให้พวก
นาง ดังนั้นนางจึงมีความรู ้สึกผูกพันกับสตรี ที่เหมือนคุณหนูเล็กน้อย
ผูน้ ้ ีอย่างยิง่
ซู่เหนียงส่ ายหน้า บนใบหน้าที่เรี ยบร้อยมีความสับสนหลายส่ วน
นางถูกอาสะใภ้ขายให้หอนางโลม พ่อแม่นางมีนางเพียงคนเดียว เคย
โอบอุม้ อยูใ่ นมือด้วยความรักและโปรดปราน ปี นั้นที่นางอายุได้
แปดปี พ่อก็ป่วยกะทันหัน หลังจากนั้นแม่กต็ ามไป อาสะใภ้ตอ้ งการ
ครอบครองสมบัติของบ้านนางจึงขายนางเสี ย เพราะว่านางหน้าตาดี
พ่อค้าคนกลางโลภเงินจึงขายนางให้หอนางโลม
นางถือได้วา่ เติบโตอยูใ่ นหอนางโลม เคยเห็นเด็กผูห้ ญิงนับไม่ถว้ น
วิ่งหนีถูกจับกลับมาทาโทษเฆี่ยนตี นางหวาดกลัว ทั้งยังชินชาแล้ว
นางจะตายไม่ได้ พ่อนางมีเพียงนาง นางตายแล้ว ครอบครัวนางก็ไม่
เหลือใครแล้ว
ไม่อยากตาย เช่นนั้นก็ตอ้ งใช้ชีวิตให้ดี นางพยายามเรี ยนฉิ นเล่ม
หมากเขียนพูก่ นั จีน เรี ยนรู ้การอ่านสี หน้าคน เรี ยนรู ้วิธีเอาใจแขกผูม้ ี
พระคุณ อายุได้สิบห้าปี ก็รับแขกอย่างเป็ นทางการ นางไม่นบั ว่าเป็ น
สตรี ที่โดดเด่นที่สุดในหอนางโลม แต่กส็ ามารถอยูใ่ นห้าอันดับแรก
ได้ นางคิดคานวณแล้วว่า ถือโอกาสทางานแลกเงินหลาย ๆ ปี ตอนที่
อายุยงั น้อย เมื่อายุมากแล้วก็ไถ่ตวั เอง ซื้อบ้านหลังเล็ก รับ
ลูกบุญธรรม มอบความรักความผูกพันแทนพ่อ
สาหรับการแต่งงาน นางไม่เคยคิดมาก่อน คนเช่นพวกนางไหนเลย
จะยังแต่งงานได้อีก ต่อให้จะเป็ นชาวนาแก่เฒ่าพวกนั้นก็ยงั ดูถูกพวก
นาง แทนที่จะต้องถูกคนรังเกียจ ไม่สู้อยูต่ วั คนเดียวดีกว่า
เดิมคิดว่าชัว่ ชีวิตนี้ของนางจะเป็ นเช่นนี้ แต่มีอยูว่ นั หนึ่ง แขกใจป้ าผู ้
หนึ่งมาไถ่ตวั นาง ขณะที่นางระแวดระวังในใจก็แอบดีใจเล็กน้อย ที่
พักพิงที่ดีที่สุดของสตรี ไม่ใช่การได้แต่งงานกับคนดี ๆ หรอกหรื อ
แขกผูน้ ้ ีสามารถไถ่ตวั นางได้ ก็คงจะต้องมีความรู ้สึกหลายส่ วนต่อ
นางมิใช่หรื อ
แต่เร็ วอย่างยิง่ นางก็ตอ้ งผิดหวัง แขกผูน้ ้ ีเพียงแค่สงั่ ให้นางทาเรื่ อง ๆ
หนึ่ง หลังจากรับปากแล้วจะให้เงินก้อนหนึ่งแก่นางและปล่อยนาง
เป็ นอิสระ นางคิดทั้งคืน ในที่สุดก็ตกลง อิสระมีแรงดึงดูดต่อนาง
อย่างยิง่
แขกผูน้ ้ นั ไม่ได้ให้นางไปทาเรื่ องอันตรายอะไร เพียงแค่ให้นางมา
เป็ นตัวแทนหลายเดือนที่วดั ต้าเจวี๋ย จิตใจที่พะว้าพะวงของนางก็วาง
ลง หลายเดือนนี้เป็ นช่วงเวลาที่สบายใจที่สุดตั้งแต่ที่นางถูกไถ่ตวั มา
บางครั้งนางก็คิดว่าหากได้ใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนาน ๆ ก็คงจะดี
ตอนนี้คุณหนูผนู ้ ้ นั กลับมาแล้ว นางควรจะไปที่ไหนดี
เซียงเหมยเห็นท่าที ในใจก็เกิดความสงสารอย่างไม่อาจเลี่ยง “หาก
เจ้าไม่มีที่จะไปไม่สู้ติดตามคุณหนูของพวกเรา คุณหนูใจดี ไม่เอา
เปรี ยบเจ้าหรอก เจ้าเห็นหลีฮวาหรื อไม่ แม้จะบอกว่าเป็ นสาวใช้ขา้ ง
กายคุณหนู แต่อาหารการกินกลับดีกว่าคุณหนูในตระกูลท้องที่ขา้ ง
นอกเสี ยอีก”
ซู่เหนียงคิดครู่ หนึ่ง เอ่ยปากกล่าว “คนผูน้ ้ นั ที่ไถ่ตวั ข้าบอกว่าจะให้
เงินหนึ่งก้อนแก่ขา้ และปล่อยให้ขา้ เป็ นอิสระ”
เซียงเหมยถอนหายใจ “สตรี อายุนอ้ ยเช่นเจ้า อีกทั้งยังหน้าตาดึงดูด
ความสนใจเช่นนี้ ต่อให้มีเงินก็เก็บไว้ไม่อยูห่ รอก ในสังคมนี้ สตรี
ตัวคนเดียวไม่ได้ใช้ชีวิตง่ายเพียงนั้น”
เห็นซู่เหนียงไม่พดู ต่อ เซียงเหมยก็กล่าว “ดูอย่างข้าสิ เดิมก็มีสามีมี
ครอบครัว ใช้ชีวิตอย่าสงบสุ ข แต่สามีเดินทางไปสอบข้าราชการ จู่
ๆ ก็ถูกคนชอบเข้า สามีผนู ้ ้ นั ของข้าก็มีตาแหน่งชื่อเสี ยง เป็ นซิ่วไฉ
[1] หากไม่ใช่คุณหนูผา่ นทางมาและช่วยข้าออกมาจากคุกที่วา่ การ
ข้ากับลูกสาวก็คงจะกลายเป็ นดินเลนไปแล้ว”
เซียงเหมยเล่าเรื่ องราวในอดีตของตน ซู่เหนียงตกใจจนถลึงตาโต
นางคิดว่าเซียงเหมยเป็ นสตรี ที่จดั การงานได้อย่างมีความสามารถ
ข้างกายคุณหนู ไม่คิดว่านางยังมีเรื่ องราวที่น่าขมขื่นเช่นนี้ดว้ ย ทาให้
นางเกิดความรู ้สึกเห็นอกเห็นใจต่อเซียงเหมยอย่างอดไม่ได้
“หลายปี มานี้พวกเราแม่ลูกติดตามคุณหนู คุณหนูเองก็ไม่ให้พวกเรา
ลงชื่อขายแลกที่ดิน นางบอกว่ารอหาพ่อของลูกสาวเจอแล้วค่อย
ปล่อยพวกเราไป ดูแลเหมือนญาติ แต่พอ่ ของลูกไหนเลยจะหาง่าย
เพียงนั้น ต่อให้หาเจอแล้วอย่างไร อย่างไรเสี ยข้าก็คิดดีแล้ว พวกข้า
แม่ลูกจะติดตามคุณหนูไปชัว่ ชีวิตนี้” แววตาเซียงเหมยอัดอั้น ด้วย
ความสามารถของสามีจะต้องสอบได้ตาแหน่งชื่อเสี ยงแน่นอน สตรี
ที่มีมลทินเช่นตนไหนเลยจะยังคู่ควรกับเขา
ซู่เหนียงเข้าใจเซียงเหมยอย่างถึงที่สุด เหตุการณ์ที่บุรุษก้าวหน้าแล้ว
ทิ้งภรรยาที่เคยลาบากมาด้วยกันนางเห็นที่หอนางโลมมาไม่นอ้ ย
ดังนั้นนางจึงเห็นใจเซียงเหมยกว่าเดิม
“คุณหนูของพวกเราเป็ นนายที่ดีจริ ง ๆ งดงามแล้วยังมีความสามารถ
ปฏิบตั ิต่อบ่าวรับใช้กด็ ี ไม่เคยตบตีด่าทอมาก่อน ขอเพียงแค่เจ้า
จงรักภักดียอมทางาน คุณหนูของพวกเราก็ใจกว้างอย่างยิง่ หากเจ้า
ไม่อยากทางานอย่างการยกชาริ นน้ า กิจการภายใต้ชื่อคุณหนูกม็ ี
เยอะแยะ เจ้าก็สามารถไปทาได้ ในด้านนี้คุณหนูของพวกข้าก็มี
ความคิดก้าวไกลอย่างยิง่ มักจะบอกว่าเรื่ องที่บุรุษทาได้สตรี เช่น
พวกเราก็ทาได้เหมือนกัน อย่าได้ดูถูกเหยียดหยามตนเอง”
“ขอบคุณท่านพี่ ซู่เหนียงรู ้วา่ ท่านหวังดี เพียงแต่ตอนนี้ขา้ ว้าวุน่ ใจอยู่
ให้ซู่เหนียงได้คิดอีกหน่อยเถิด” ซู่เหนียงกัดริ มฝี ปากกล่าวเสี ยงเบา
เซียงเหมยถอนหายใจหนึ่งครา ไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้วจริ ง ๆ

[1] ซิ่วไฉ คือผูท้ ี่สอบผ่านระดับต้น หรื อระดับท้องถิ่น ซึ่งจะได้รับ


สิ ทธิพิเศษทางสังคมจานวนมาก
ตอนที่ 182-1 เจ้ าอาวาสและการสะกดรอย
วันที่สอง เสิ่ นเวยเจอเซียงเหมยที่มาคารวะแล้ว เห็นเซียงเหมยเองก็
ผอมลงมากเช่นเดียวกัน ในขณะที่เสิ่ นเวยรู ้สึกผิดก็รู้สึกอบอุ่นในใจ
คนที่ห่วงใยนางเช่นนี้ได้กค็ ือคนเหล่านี้ที่นางพากลับมาจากหมู่บา้ น
ตระกูลเสิ่ น ผูกพันกันยิง่ กว่าญาติเสี ยอีก
ในเมื่อมาวัดต้าเจวี๋ยแล้ว สวมบทบาทก็ยงั ต้องสวมต่ออีกสองสามวัน
คงไม่อาจมาเมื่อวานกลับวันนี้ได้กระมัง
กินข้าวเช้าเสร็ จแล้วเสิ่ นเวยก็คดั คัมภีร์หนึ่งรอบด้วยตัวเอง จากนั้นก็
ไปไหว้พระที่อุโบสถ คราวนี้ยงั คงมีหลีฮวาไปเป็ นเพื่อน เพียงแต่
ไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้าแล้ว
คุกเข่าอยูห่ น้าพระ เบื้องลึกในจิตใจของเสิ่ นเวยก็สงบ นางเคารพ
พระพุทธเจ้าแต่กลับไม่เชื่อ มิเช่นนั้นหากคิดตามชีวิตที่นางคร่ ามา
นางก็บาปหนาเกินไปแล้วจริ ง ๆ แต่เสิ่ นเวยกลับสุ ขมุ ไร้กงั วล นาง
เชื่อมัน่ ว่าคนที่นางฆ่าล้วนแต่เป็ นคนที่สมควรตาย นางไม่ผดิ ทุก
สรรพสิ่ งเท่าเทียมเป็ นหลักปฏิบตั ิของศาสนาพุทธ หลักปฏิบตั ิของ
นางก็คือฆ่าได้ฆ่า ชาระหนี้แค้น
“สี กาผูน้ ้ ี เจ้าอาวาสของอาตมาเรี ยนเชิญ” เสิ่ นเวยกราบไหว้สามครั้ง
รับธูปที่หลีฮวาส่ งมาแล้วปักลงในกระถางธูป หลวงจีนน้อยผูห้ นึ่งก็
กล่าวกับนางเช่นนี้ดว้ ยความเคารพ
เสิ่ นเวยประหลาดใจเล็กน้อย และคิดว่าน่าสนใจเล็กน้อย มุมปาก
ยกขึ้นกล่าว “เช่นนั้นก็ตอ้ งรบกวนหลวงจีนน้อยนาทางแล้ว” จาก
มุมมองของเสิ่ นเวย หลวงจีนก็เหมือนร่ างทรง พูดแต่คาพูดลึกล้ าลับ
ๆ ล่อ ๆ แต่กไ็ ม่อาจปฏิเสธได้วา่ มีพระอาจารย์ชื่อดังอยูจ่ ริ ง ๆ
เพียงแต่ไม่รู้วา่ เจ้าอาวาสวัดต้าเจวี๋ยรู ปนี้เป็ นแบบไหน
เดินอยูเ่ ป็ นเวลาประมาณหนึ่งถ้วยน้ าชา เลี้ยวเข้าไปในทางเดินเส้น
เล็กหนึ่งสาย สุ ดทางเดินเป็ นวิหารหลายหลัง หลวงจีนน้อยชี้ทางให้
เสิ่ นเวย “สี กา เจ้าอาวาสของอาตมาอยูข่ า้ งใน เชิญสี กาเข้าไปเถิด”
ไม่แจ้งให้ทราบก็เรี ยกตัวเองเข้าไปแล้ว น่าสนใจจริ ง ๆ มุมปากเสิ่ น
เวยกระดกขึ้น บอกเป็ นนัยให้หลีฮวารออยูข่ า้ งนอก ตนผลักประตู
เดินเข้าไป
หลวงจีนผมขาวหนวดขาวองค์หนึ่งกาลังนัง่ คุกเข่าชงชาอยูบ่ นเบาะ
ทรงกลม ท่าทางตั้งใจ การเคลื่อนไหวดูเหมือนทาตามอาเภอใจแต่
กลับมีความงดงามละเอียดอ่อน เสิ่ นเวยยืนดูอยูค่ รู่ หนึ่ง เห็นหลวงจีน
รู ปนี้ไม่สนใจตนก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด กลับมองประเมิณกุฏิ
แห่งนี้แทน

สิ่ งแรกที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาก็คืออักษร禅 (ฌาน) ใหญ่ ๆ ตัว


นั้นบนผนังข้างหลังหลวงจีน อักษรดี เป็ นคาที่ดีจริ ง ๆ เสิ่ นเวยเอ่ย
ชมในใจ แต่ยงิ่ มองนางก็ยงิ่ รู ้สึกผิดปกติ ไอสังหารหนึ่งกลุ่มโผเข้า
มาตรงหน้า ออกมาจากอักษร禅ใหญ่ ๆ ตัวนี้ คาดไม่ถึงว่าศาสนา
พุทธที่ให้ความสาคัญกับความเมตตากรุ ณา กวาดพื้นก็กลัวทาร้ายมด
ใช้ผา้ คลุมไฟเพราะกลัวแมงเม่าบินเข้ากองไฟนี้จะเขียนอักษรที่เต็ม
ไปด้วยไอสังหารออกมาได้ โอ้ ช่างน่าสนใจจริ ง ๆ
เสิ่ นเวยรู ้สึกสนใจอย่างถึงที่สุด เห็นหลวงจีนยังคงยุง่ อยูก่ ห็ าเบาะ
รองนัง่ แล้วนัง่ ขัดสมาธิลงไป มองหลวงจีนชงชาด้วยความสนใจ
เป็ นอย่างมาก
การเคลื่อนไหวที่เบาสบายราวกับสายน้ าไหลนัน่ งดงามจริ ง ๆ เสิ่ น
เวยรู ้สึกว่าฝี มือชงชาของหลวงจีนองค์น้ ีดีกว่าอาจารย์ซูบุคคลสู งส่ ง
ที่สุดของนางเสี ยอีก ส่ วนนางน่ะหรื อ เหอะ ๆ ทั้งหมดก็แค่สร้างภาพ
หลอกคนก็เท่านั้นเอง
“โยมเสิ่ นเชิญดื่มชา” ในที่สุดหลวงจีนก็ชงชาเสร็ จแล้ว เลื่อนถ้วยชา
บนโต๊ะบอกเป็ นนัยแก่เสิ่ นเวย
เสิ่ นเวยเองก็ไม่เกรงใจ ยกถ้วยชาขึ้นจิบเบา ๆ หนึ่งครา ลิ้มรสช้า ๆ
อืม ไม่เลว ในปากมีความหอมอบอวลอยู่ รสชาติติดลิ้นยาวนาน
“ชาดี! ขอบคุณเจ้าค่ะเจ้าอาวาส” ดวงตาของเสิ่ นเวยมีความดีใจ
แม้วา่ นางจะชงชาสร้างภาพ แต่การวิเคราะห์ชาก็ยงั เคยเรี ยนมาบ้าง
ยังพอพูดได้
หลวงจีนยิม้ น้อย ๆ สี หน้าเคร่ งขรึ ม “อาตมามีสมณศักดิ์วา่ เสวียนเฉิ ง
โยมมาจากที่ใดหรื อ”
เสิ่ นเวยแทบจะพ่นชาออกมา มาจากที่ใดงั้นหรื อ เหตุใดฉากนี้ถึงได้
คุน้ เพียงนั้นเล่า คล้ายกับว่าร่ างทรงนักต้มตุ๋นก็ชอบถามคาถามเช่นนี้
“ข้าหรื อ ย่อมมาจากที่ที่จากมา ต่อจากนี้เจ้าอาวาสอย่าได้ถามว่า
ข้าอยากไปที่ไหน ข้าจะไปในที่ที่อยากไป” แววตาเสิ่ นเวยมีความ
หยอกล้อ
เจ้าอาวาสเสวียนเฉิงไม่อึดอัดเลยแม้แต่นอ้ ย มองเสิ่ นเวยด้วยความ
เมตตา กล่าวต่อ “อาตมาเห็นหน้าโยม โยมมีวาสนาต่อพระพุทธ”
คราวนี้เสิ่ นเวยพ่นชาออกมาแล้วจริ ง ๆ ชาพ่นลงบนจีวรสี ขาว
สะอาดของเสวียนเฉิง เสิ่ นเวยรี บขอโทษ “ขออภัย ๆ ขออภัยจริ ง ๆ
ไต้ซือท่านพูดอะไรน่ากลัวเกินไปแล้ว ในเมื่อท่านรู ้วา่ ข้าคือใคร
แล้วข้าจะยังมีวาสนาต่อพระพุทธอีกได้อย่างไร”
นางมีวาสนาต่อพระพุทธงั้นหรื อ หลวงจีนใหญ่องค์น้ ียงั กล้าพูดจริ ง
ๆ นางส่ งคนลงนรกกับมืออย่างน้อย ๆ ก็เป็ นร้อยเป็ นพันคนแล้ว คน
ที่กลิ่นคาวโลหิ ตเต็มทัว่ ร่ างเช่นนางจะมีวาสนาต่อพระพุทธได้
อย่างไร พระพุทธเจ้าชอบนางก็แปลกแล้ว หลวงจีนใหญ่ผนู ้ ้ ีคงไม่ใช่
ว่าอยากขอความช่วยเหลือจากนางจึงหลอกนางหรอกนะ
ภาพลักษณ์ที่เดิมยังสู งใหญ่อย่างยิง่ ของเจ้าอาวาสเสวียนเฉิ งพังทลาย
ลงในใจเสิ่ นเวย เหมือนร่ างทรงที่พดู จาเหลวไหลไร้สาระขึ้นมา
ทันที
เจ้าอาวาสเสวียนเฉิงไม่หงุดหงิดเลยแม้แต่นอ้ ย ยังคงอมยิม้ น้อย ๆ
มองเสิ่ นเวยแล้วกล่าวอย่างแฝงนัย “พระโพธิ์สตั ว์หน้าโกรธก็ยงั เป็ น
พระ”
เสิ่ นเวยตกใจในใจ จากนั้นก็ได้ยนิ เจ้าอาวาสเสวียนเฉิ งกล่าวต่อ
“สามปี ก่อนอาตมาจับยามดูสงั เกตเห็นดาวอื่นมาเยือนโลก อาตมา
คิดเท่าไหร่ กค็ ิดไม่ตก วันนี้ได้เห็นโยมแล้ว อาตมาก็เพิ่งจะเข้าใจ เดิม
โยมเป็ นคนที่ควรจะตายตั้งแต่ยงั เด็ก แต่กย็ งั เป็ นคนที่มีโชคอย่างยิง่
ขอเพียงแค่โยมรู ้ดีชวั่ อยูแ่ ก่ใจ ลดความรุ นแรงและความคิดที่จะ
สร้างบาปกรรมในใจลง จะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์อยูเ่ ย็นเป็ นสุ ขชัว่
ชีวิตแน่นอน”
เสิ่ นเวยได้ยนิ แล้วก็ยงิ่ ตกใจ แต่สีหน้ากลับเรี ยบเฉย แสร้งทาท่าที
ตั้งใจฟัง กระทัง่ มุมปากยังอมยิม้ บาง ๆ เดิมคิดว่าหลวงจีนใหญ่ผนู ้ ้ ี
เป็ นร่ างทรงที่หลอกคน ไม่คิดว่าจะรู ้ที่มาของนางหลายส่ วนจริ ง ๆ
เขารู ้จากการจับยามจริ ง ๆ หรื อว่าพูดมัว่ ซัว่ ไปเรื่ อยกัน
เสิ่ นเวยคิดว่าน่าจะเป็ นแบบแรก ในใจก็เลื่อมใสขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“สาธุเจ้าค่ะไต้ซือ!”
เจ้าอาวาเสวียนเฉิงยิม้ น้อย ๆ อีกครั้ง มองเสิ่ นเวยด้วยความเมตตา
ปราดหนึ่งสวดอมิตพุทธหนึ่งคราจากนั้นก็หลับตาไม่เอ่ยปากอีก เขา
นัง่ ตัวตรงอยูต่ รงนั้น ดูเคร่ งขรึ มศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจล่วงเกินเช่นนั้น มุม
ปากที่ตกลงน้อย ๆ เหมือนกับว่าเศร้าโศกอาดูรเช่นนั้น
เสิ่ นเวยก็นิ่งเงียบไม่พดู จา ดื่มชาในถ้วยชาหมดแล้วก็ถอยออกไป
ด้วยความเคารพเงียบ ๆ
เสิ่ นเวยยืนอยูห่ น้าประตูวิหาร เงยหน้ามองท้องฟ้าที่สูงและไกล นาง
กาลังคิด อะไรคือดี อะไรคือชัว่ นางจะแยกแยะอย่างไร จากนั้นเบื้อง
ลึกในใจก็มีเสี ยง ๆ หนึ่งบอกกับนาง การทาตามใจก็คือดีชวั่ สาหรับ
นาง
เสิ่ นเวยยิม้ โบกมือให้หลีฮวาที่มองนางอย่างเป็ นกังวล กล่าวอย่าง
สบายอารมณ์ “มาวัดต้าเจวี๋ยนานเพียงนี้ยงั ไม่ได้ชื่นชมทิวทัศน์ในวัด
เลย พวกเราถือโอกาสเดินดูสกั รอบก่อนกลับเถอะ”
การเคลื่อนไหวหน้าประตูวิหารย่อมหนีไม่พน้ สายตาเจ้าอาวาส
เสวียนเฉิง เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ แววตาลุ่มลึกจมดิ่งประหนึ่งบ่อน้ าที่
แห้งขอดพันปี ดวงชะตาโยมเสิ่ นผูน้ ้ ีแปลกจริ ง ๆ ไอสังหารเต็มตัว
แต่ร่างกลับมีกศุ ลบารมีเปล่งปลัง่ ดีหรื อชัว่ ล้วนอยูท่ ี่นางจะคิด เขา
พยายามแนะนาสุ ดความสามารถแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าสี กาจะเข้าใจ
หรื อไม่
อันที่จริ งแล้ว วัดต้าเจวี๋ยในฤดูหนาวไม่มีอะไรให้ชื่นชมจริ ง ๆ
ต้นไม้เก่าแก่เยอะอย่างยิง่ แต่บนต้นไม้กลับไม่มีใบไม้แม้แต่ใบเดียว
กิ่งไม้ที่แห้งโกร๋ นเสี ยดสี กนั ท่ามกลางสายลม เสิ่ นเวยไม่รู้สึกสนใจ
เลยแม้แต่นอ้ ย
แม้ทศั นียภาพจะไม่น่ามอง แต่เสิ่ นเวยกลับเดินเล่นด้วยความสนใจ
ใคร่ รู้อย่างยิง่ สิ่ งที่นางสนใจก็คือหลวงจีนที่เดินอยูใ่ นวัดเหล่านั้น มี
ทั้งวัยกลางคนและวัยแก่เฒ่า ที่เยอะยังคงเป็ นหลวงจีนน้อยวัยเยาว์
พวกเขาต่างก็สวมจีวรสี เทา ศีรษะโล้น ทาหน้าที่ของตนเองอย่างเป็ น
ระเบียบและสุ ขมุ เมื่อเจอเสิ่ นเวยนายบ่าวทั้งสองก็จะพนมมือหลีก
ไปข้างทาง
“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูเจ้าคะ เหตุใดคนผูน้ ้ นั ยังตามพวกเราอยูอ่ ีก”
กาลังเดินเล่นอยู่ จู่ ๆ หลีฮวาก็ดึงแขนเสื้ อเสิ่ นเวยบอกเป็ นนัยให้นาง
มองไปข้างหลัง
เสิ่ นเวยแสร้งปัดผมมองไปข้างหลังปราดหนึ่ง ก็เห็นว่าคนผูน้ ้ นั ที่
หลีฮวาบอกคือชายวัยหนุ่ม สวมเสื้ อผ้าสี กรมท่า แววตาแจ่มกระจ่าง
เมื่อมองดูกร็ ู ้วา่ เป็ นบัณฑิตเรี ยบร้อยผูห้ นึ่ง
“เจ้ามองผิดแล้วหรื อไม่ ไม่แน่วา่ เขาอาจจะมาดูทิวทัศน์เหมือนกันก็
ได้” เสิ่ นเวยเชื่อมัน่ ในสายตาที่มองคนของตัวเองเป็ นอย่างยิง่ ชาย
หนุ่มผูน้ ้ นั ท่าทางสงบนิ่งเปิ ดเผย แววตาซื่อตรง ไม่วา่ จะมองอย่างไร
ก็ไม่เหมือนคนมีเจตนาร้าย
ทว่าหลีฮวากลับยืนกราน “คุณหนู บ่าวมองไม่ผดิ จริ ง ๆ คนผูน้ ้ นั เริ่ ม
ตามหลังพวกเรามาตั้งแต่ตน้ มะเดื่อใหญ่ตน้ นั้นแล้ว ทางข้างป่ าไผ่
เมื่อครู่ พวกเราเดินผ่านสามรอบแล้ว เขาก็เดินตามพวกเราสามรอบ
แล้วเหมือนกัน” หลีฮวากล่าวอย่างตั้งใจมากเป็ นพิเศษ
คิว้ ของเสิ่ นเวยขมวดมุ่น เดินตามหลังแค่รอบเดียวยังพูดได้วา่ บังเอิญ
แต่สามรอบ ใช่ต้ งั ใจเกินไปหรื อไม่ นางจะตาฝาดเชียวหรื อ
“ไม่ตอ้ งส่ งเสี ยง ไม่ตอ้ งหันกลับไป พวกเราเดินต่อ” เสิ่ นเวยสัง่ หลีฮ
วาหนึ่งครา ยกเท้าเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางเล็ก ๆ อีกสาย เดินเข้าไปใน
ที่เปลี่ยวขึ้นเรื่ อย ๆ
นึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มผูน้ ้ นั ยังตามพวกนางอยูจ่ ริ ง ๆ เปิ ดเผยโจ่งแจ้ง
ไม่หลบซ่อนแม้แต่นิดเดียว ในใจเสิ่ นเวยก็ยงิ่ รู ้สึกแปลก
“คุณชายท่านนี้ ท่านตามพวกข้ามาทาไมหรื อ” ในที่เปลี่ยว เสิ่ นเวย
หันขวับกลับมาถาม
ชายหนุ่มผูน้ ้ นั ไม่คิดว่าคุณหนูผนู ้ ้ ีจะกล้าเพียงนี้ บวกกับถูกประณาม
พฤติกรรมสะกดรอยตาม เขาก็รู้สึกละอายขึ้นมา
แต่เพียงแค่ชวั่ ขณะเขาก็กลับมาสุ ขมุ เหมือนเดิม วิ่งเข้าไปประสาน
มือคารวะเสิ่ นเวยแล้วกล่าว “เรี ยนถามคุณหนูใช่ผอู ้ ยูท่ ี่เรื อนเล็กฝั่ง
ตะวันออกสุ ดของวัดต้าเจวี๋ยหรื อไม่”
เสิ่ นเวยเลิกคิ้ว “ใช่”
บนใบหน้าชายหนุ่มผูน้ ้ นั มีความดีใจแวบผ่าน ทันใดนั้นก็ถามต่อ
“ในเรื อนใช่มีเด็กผูห้ ญิงอายุประมาณสามสี่ ขวบอยูด่ ว้ ยหรื อไม่”
เสิ่ นเวยนึกถึงนิวหนิ่วขึ้นมา แต่นางไม่ได้ตอบทันที แต่มองประเมิน
ชายหนุ่มผูน้ ้ ีอย่างละเอียดแทน เห็นเพียงสี หน้าเขามีความร้อนใจ ใน
ดวงตาทั้งคู่ซ่อนความหวังไว้ราง ๆ
“มีแล้วอย่างไร ไม่มีแล้วอย่างไร บุรุษเช่นท่านจะถามไปทาอะไร
ไม่ใช่วา่ จะทาเรื่ องลักพาตัวนัน่ หรอกนะ” เสิ่ นเวยตั้งใจตีหน้าขรึ ม
ชายหนุ่มผูน้ ้ นั รี บโบกมือ อธิบายอย่างร้อนใจ “ไม่ใช่ ๆ คุณหนูเข้าใจ
ข้าน้อยผิดแล้ว ข้าน้อยเองก็เป็ นคนรู ้หลักทานองคลองธรรม จะทา
เรื่ องผิดศีลธรรมเช่นนั้นได้อย่างไร”
“เจ้าบอกว่าไม่ใช่กจ็ ะไม่ใช่ง้ นั หรื อ ในสมองคนชัว่ ก็ไม่ได้สลักคาไว้
ไม่ใช่หรื อ” เสิ่ นเวยปรายตามองเขาแล้วกล่าว
ชายหนุ่มถอนหายใจหนึ่งครา กล่าวราวกับน้ าท่วมปาก “สารภาพ
ตามตรง เดือนก่อนข้าน้อยเดินผ่านวัดต้าเจวี๋ยจึงมาพักเท้าที่นี่ เห็น
เด็กผูห้ ญิงอายุสามสี่ ขวบผูห้ นึ่ง ใบหน้าเหมือนภรรยาที่หายตัวผูน้ ้ นั
ของข้าน้อยอย่างยิง่ ภรรยาและลูกสาวผูน้ ้ นั ของข้าน้อยหายตัวไป
สองปี กว่าแล้ว ข้าน้อยเองก็ตามหามาสองปี กว่าแล้วเช่นกัน ตลอดมา
ไม่พบร่ องรอยใด ๆ เลย”
เสิ่ นเวยสังเกตเห็นตอนที่เขาพูดถึงภรรยาและลูกสาวที่หายตัวไป สี
หน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและลาบากใจ
“ข้าน้อยเห็นเด็กผูห้ ญิงคนนั้นเข้าไปในเรื อนฝั่งตะวันออกสุ ด
ข้าน้อยเข้าไปถาม แต่กลับถูกกันไว้ขา้ งนอก ตอนนั้นข้าน้อยมีงาน
ด่วนจึงกลับเมืองหลวงก่อน ทางานเสร็ จแล้วข้าน้อยก็กลับมาทันที
แต่กไ็ ม่เห็นเด็กผูห้ ญิงคนนั้นอีก ประตูเรื อนเล็กหลังนั้นก็ปิด
ตลอดเวลา เจ้าอาวาสในวัดก็บอกว่านัน่ เป็ นเรื อนของคุณหนูตระกูล
ขุนนางที่มาขอพรที่นี่ อย่าได้รบกวน ข้าน้อยเองก็กลัวจะทาลาย
ชื่อเสี ยงของคุณหนูจึงทาได้เพียงเฝ้าดูอยูห่ ่าง ๆ วันนี้เห็นคุณหนู
ออกมา ข้าน้อยจนปัญญาจริ ง ๆ จึงแสดงท่าทีไม่เหมาะสมเช่นนี้
ออกมา หวังว่าคุณหนูจะให้อภัย” เขาพูดพลางประสานมือโค้งต่า
หนึ่งครา
เสิ่ นเวยกับหลีฮวาสบตากันปราดหนึ่ง ทั้งสองรู ้สึกไม่คาดคิด ยังคง
เป็ นเสิ่ นเวยที่สุขมุ ถามเสี ยงเรี ยบ “ท่านชื่ออะไร บ้านอยูท่ ี่ไหน
ภรรยากับลูกสาวชื่ออะไร”
“ข้าน้อยชื่อหลี่จ้ือหย่วน เป็ นคนอาเภอหนิงผิง ภรรยาของข้าน้อยแซ่
เซวีย ชื่อเซียงเหมย ลูกสาวชื่อนิวหนิ่ว” ชายหนุ่มรี บกล่าว “คุณหนู
รู ้จกั ภรรยาและลูกสาวของข้าหรื อ” สี หน้าทั้งใบหน้าระมัดระวัง
เสิ่ นเวยกับหลีฮวาสบตากับปราดหนึ่งอีกครั้ง หลีฮวากาลังจะเอ่ย
ปากพูด ถูกเสิ่ นเวยใช้สายตาห้ามไว้ อันที่จริ งในใจเสิ่ นเวยก็
ประหลาดใจอย่างยิง่ นางจาได้วา่ สามีของเซียงเหมยชื่อหลี่จ้ือหย่วน
นี่มนั เกินบทไปแล้วหรื อไม่ อยูห่ ่างหลายพันลี้กพ็ บกันอีกครั้งได้ดว้ ย
หรื อ บังเอิญเกินไปหน่อยแล้ว แต่ไม่ใช่มีคาที่กล่าวไว้หรื อว่า ‘ไม่มี
เรื่ องบังเอิญนิทานคงไม่จบเล่ม’
ตอนที่ 182-2 เจ้ าอาวาสและการสะกดรอย
เสิ่ นเวยไม่ได้เผยพิรุธใด ๆ กลับกล่าว “ดูท่าทางท่านแล้วคงจะเป็ น
บัณฑิตสิ นะ สอบสร้างชื่อเสี ยงผลงานแล้วหรื อยัง แล้วภรรยาลูกสาว
ของท่านหายไปได้อย่างไร สตรี อ่อนแอผูห้ นึ่งอีกทั้งยังมีเด็กเล็ก ใคร
จะรู ้วา่ จะยังมีชีวิตรอดอยูอ่ ีกหรื อไม่ หากพวกนางไม่อยูบ่ นโลกนี้
แล้วก็ไม่ควรค่าให้ตามหาต่อไปเช่นนี้หรื อไม่” เสิ่ นเวยถามหยัง่ เชิง
แม้เซียงเหมยจะบอกว่า นางกับสามีของนางรักใคร่ กนั แต่ใครจะรู ้วา่
ผ่านไปสองปี หลี่จ้ือหย่วนผูน้ ้ ีจะแต่งงานมีภรรยาใหม่ไปแล้วหรื อยัง
หากข้างกายเขามีภรรยาแล้ว กระทัง่ มีลูกรักใหม่แล้ว เช่นนั้นเซียง
เหมยจะเป็ นเช่นไร ชีวิตของเซียงเหมยทุกข์ตรมพอแล้ว ไม่วา่
อย่างไรนางก็ไม่อาจให้อีกฝ่ ายไปทนรับความไม่เป็ นธรรมนั้นได้อีก
ทว่าหลี่จ้ือหย่วนกลับส่ ายหน้าอย่างแน่วแน่ กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว “ไม่
ไม่มีทาง ภรรยาและลูกของข้าน้อยจะต้องมีชีวิตอยูแ่ น่นอน เพื่อน
บ้านที่บา้ นเก่าบอกแล้วว่า คนที่ช่วยลูกสาวไว้เป็ นคุณชายวัยหนุ่มคน
หนึ่ง นายอาเภอเมืองหนิงผิงที่ตอ้ งการแย่งภรรยาข้าน้อยไปผูน้ ้ นั ทา
ร้ายข้าไม่ได้ กลับถูกใต้เท้าผูแ้ ทนพระองค์ที่ตรวจตราเจียงหนานจับ
จุดอ่อนได้ ตามการรายงานของเขา ภรรยาของข้าน้อยถูกคนช่วยไป
แล้ว นางไม่ตาย ข้าน้อยเชื่อมัน่ ว่าพวกนางเพียงแค่ถูกคนใจดีช่วยไว้
พวกนางจะต้องยังมีชีวิตอยูอ่ ย่างดี รอให้ขา้ น้อยไปหาพวกนาง หนึ่ง
ปี หาไม่เจอก็หาสองปี สองปี หาไม่เจอก็หา้ ปี สิ บปี กระทัง่ ตลอดชีวิต
ข้าก็จะต้องหาให้เจอ” เสี ยงนั้นไม่สูงมาก แต่กลับกังวานทรงพลังยิง่
เสิ่ นเวยกล่าวหยัง่ เชิงต่อ “อ้อ ที่แท้แล้วภรรยาของท่านก็ถูก
นายอาเภอแย่งชิงไป ท่านไม่รังเกียจว่านางมีมลทินแล้วหรื อ”
“ไม่ นี่ไม่ใช่ความผิดของภรรยาข้าน้อย เป็ นความผิดของ
นายอาเภอหนิงผิง เป็ นข้าน้อยที่ไร้ประโยชน์ ข้าน้อยทาได้เพียงรัก
นางให้มากขึ้น จะนึกรังเกียจได้อย่างไร” หลี่จ้ือหย่วนกล่าวด้วย
ความจริ งจังมากขึ้นกว่าเดิม เขาเองก็เป็ นคนฉลาด เมื่อเห็นเสิ่ นเวยถา
มมากเพียงนี้ จะต้องรู ้แน่นอนว่าภรรยาของเขาอยูท่ ี่ไหน ในใจพลัน
ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“คุณหนูท่านนี้ หากท่านรู ้วา่ ภรรยาของข้าอยูท่ ี่ไหนท่านก็โปรดบอก
ข้าน้อยเถิด ข้าน้อยไม่ใช่คนโหดเ**้้ยมไร้ศีลธรรม ข้าน้อยเพียงแค่
อยากอยูพ่ ร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว มีชีวิตที่สงบสุ ข” บน
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริ งใจ
เสิ่ นเวยยิม้ ออกมาแล้ว นางดีใจแทนเซียงเหมยจริ ง ๆ ได้สามีที่มี
ศีลธรรมเช่นนี้ช่างเป็ นวาสนาจริ ง ๆ !หากวันหนึ่งนางเจอเหตุการณ์
เช่นนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าสวีโย่วจะไม่ทอดทิ้งนางได้หรื อไม่
“ท่านทายถูกแล้ว ข้ารู ้วา่ ภรรยาลูกสาวของท่านอยูท่ ี่ไหน เด็กผูห้ ญิง
คนนั้นที่ท่านเห็นก็คือนิวหนิ่วลูกสาวของท่าน สองปี ก่อนข้าพัง
ประตูอุม้ ออกมาจากในบ้านท่านด้วยตัวเอง เซวียเซียงเหมยภรรยา
ของท่านข้าก็เป็ นคนช่วยนางออกมาจากคุกที่วา่ การ ตอนนี้พวกนาง
ตามข้ามาพักอยูใ่ นเรื อนเล็กหลังนั้น” เสิ่ นเวยกล่าวเสี ยงดัง เห็นหลี่จ้ื
อหย่วนตื้นตันจนน้ าตาแทบคลอเบ้า เสิ่ นเวยกลับเปลี่ยนเรื่ อง “แต่วา่
ตอนนี้เซียงเหมยอยากพบท่านหรื อไม่ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
อย่างไรเสี ยนางก็ได้รับความยากลาบากมากมายเพียงนั้น เกือบจะ
ตายเสี ยด้วยซ้ า แบบนี้แล้วกัน ท่านกลับไปรอก่อน ข้าจะไปถามเซียง
เหมยดูก่อน” นางพูดไปพลางสังเกตสี หน้าของหลี่จ้ือหย่วนไปพลาง
หลี่จ้ือหย่วนตื่นเต้นตกใจก่อน หลังจากนั้นสี หน้าก็ผดิ หวังหลาย
ส่ วน กาปั้นของเขากาแน่น ทว่าท้ายที่สุดกลับก้มคารวะเสิ่ นเวยอีก
ครั้ง “ข้าน้อยขอบคุณหนูผมู ้ ีพระคุณยิง่ นัก หลังจากนี้หากคุณหนูมี
งานใดให้ช่วยเหลือ ข้าน้อยมิบงั อาจปฏิเสธแน่นอน คุณหนูโปรด
ช่วยโน้มน้าวภรรยาข้าน้อยให้ดว้ ยเถิด ให้ครอบครัวของข้าน้อยได้
อยูพ่ ร้อมหน้าพร้อมตาในเร็ ววัน”
เสิ่ นเวยรับการคานับของหลี่จ้ือหย่วนอย่างสงบนิ่ง พาหลีฮวา
กลับไปที่เรื อนเล็กฝั่งตะวันออก ส่ วน
หลี่จ้ือหย่วนก็จอ้ งมองแผ่นหลังของนางเดินออกไปไกล จ้องมอง
อย่างโง่เขลาไม่ยอมจากไปอย่างนั้น
เมื่อเสิ่ นเวยเข้าไปในเรื อนเล็กก็ตรงเข้าไปในห้องของเซียงเหมย
ทันที เซียงเหมยกาลังเย็บผ้าอยู่ นิวหนิ่วเกาะโต๊ะตัวเล็กข้าง ๆ กาลัง
กินผลไม้ เสิ่ นเวยเห็นเสื้ อผ้าในมือนางก็รู้แล้วว่าเป็ นเสื้ อที่ทาให้ตน
มุมปากก็ยกขึ้นอย่างอดไม่ได้
“คุณหนูกลับมาแล้วหรื อ เหตุใดถึงไปนานเพียงนั้น” เซียงเหมยวาง
เสื้ อผ้าในมือลงริ นชาหนึ่งแก้วให้เสิ่ นเวย “คุณหนูหิวแล้วหรื อยัง
อยากกินอะไร ข้าจะไปทาให้คุณหนู” นางทาท่ากาลังจะออกไป
เสิ่ นเวยหยุดนางไว้ทนั ที “ท่านไม่ตอ้ งรี บร้อน ข้าไม่หิว จริ งสิ มีข่าว
ดีมาบอก รู ้หรื อไม่วา่ เมื่อครู่ ขา้ เจอใคร พ่อของนิวหนิ่ว หลี่จ้ือหย่วน”
เสิ่ นเวยกล่าวอย่างดีใจ
เข็มแทงลงบนมือของเซียงเหมย นางเงยหน้าขึ้นด้วยสี หน้ามึนงง
“ใครนะ คุณหนูบอกว่าใครนะเจ้าคะ”
“หลี่จ้ือหย่วน พ่อของนิวหนิ่ว สามีของท่าน หลี่จ้ือหย่วนอย่างไร”
เสิ่ นเวยกล่าวอีกครั้ง
มือที่กาเสื้ อของเซียงเหมยกาแน่น ริ มฝี ปากสัน่ ระริ ก เบ้าตาแดงก่า
แต่วินาทีต่อมานางก็สงบนิ่งลงแล้ว “อ้อ เขาน่ะหรื อ” น้ าเสี ยงนั้น
คล้ายพูดถึงคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่สามีที่
รักใครผูกพัน
เสิ่ นเวยงุงงงเล็กน้อย “เป็ นอะไรไป พี่เซียงเหมยไม่ดีใจหรื อ เขาตาม
หาพวกท่านมานานมากนะ” ก่อนหน้านี้พี่เซียงเหมยก็พร่ าบ่นว่าจะ
ตามหาพ่อนิวหนิ่วให้เจอไม่ใช่หรื อ เหตุใดตอนนี้หาเจอแล้วถึงได้
นิ่งเช่นนี้เล่า
ทว่าเซียงเหมยกลับหันหน้าหนี ปาดน้ าตาที่หางตาออกเงียบ ๆ ตอน
ที่หนั หน้ากลับมากลับยิม้ น้อย ๆ “คุณหนู เขาสามารถหาพวกเราแม่
ลูกเจอได้ ข้าจะจดจาไมตรี จิตของเขาไว้ เพียงแต่ขา้ กับเขาเป็ นไป
ไม่ได้อีกแล้ว หากเขาอยากรับนิวหนิ่วไป ข้าก็อนุญาต อย่างไรเสี ย
อยูก่ บั เขาก็ดีกว่าอยูก่ บั แม่ที่ไร้ประโยชน์เช่นข้า”
“จะเป็ นไปไม่ได้ได้อย่างไร เขายังไม่ได้แต่งงานใหม่ เห็นชัด ๆ ว่า
ในใจยังเป็ นห่วงท่านอยู่ ข้ารู ้วา่ ท่านเองก็คิดถึงเขามาโดยตลอด พวก
ท่านได้อยูพ่ ร้อมหน้าพร้อมตากันนั้นดีอย่างยิง่ ” เสิ่ นเวยกล่าวถาม
อย่างไม่เข้าใจ
เซียงเหมยถอนหายใจ กล่าว “คุณหนู ไหนเลยเลยจะง่ายเหมือนที่
ท่านพูด ตอนนี้เขาคงจะประสบความสาเร็ จมีชื่อเสี ยงแล้วใช่หรื อไม่
แล้วข้าเป็ นอะไร เป็ นแค่ดอกไม้ที่ถูกยา่ ยี ข้าไม่อาจเป็ นตัวถ่วงเขาได้
ให้เขาถูกคนตาหนิ เขามีน้ าใจเช่นนี้ขา้ ก็พอใจแล้ว หลังจากนี้ขา้ ก็จะ
ได้ติดตามคุณหนูอย่างสบายใจ” ไม่ใช่วา่ ในใจนางไม่ลาบากใจ แต่
ต่อให้ลาบากใจแล้วอย่างไร เป็ นสามีภรรยากัน แต่นางกลับช่วย
อะไรเขาไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดก็คงทาได้แค่ไม่ไปเป็ นตัวถ่วงของเขา
เสิ่ นเวยไม่เห็นด้วยทันที “ดอกไม้ที่ถูกยา่ ยีอะไรกัน นายอาเภอหนิง
ผิงผูน้ ้ นั ยังไม่เคยแตะท่านแม้แต่ปลายเล็บ ท่านยังบริ สุทธิ์อยู่ เหตุใด
ถึงกลายเป็ นดอกไม้ที่ถูกยา่ ยีไปแล้วเล่า สามีท่านเองก็บอกแล้วว่าเขา
ไม่รังเกียจท่าน เหตุใดท่านถึงรังเกียจตัวเองเสี ยแล้วเล่า พี่เซียงเหมย
ข้าจะบอกอะไรท่านให้นะ นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน ท่านไม่อาจเอา
ความผิดของคนอื่นมาลงโทษตัวเองเช่นนี้”
เสิ่ นเวยยิง่ พูดก็ยงิ่ ฮึกเหิม สิ่ งที่นางไม่ชอบที่สุดก็คือความคิดเช่นนี้ใน
ยุคสมัยโบราณ สตรี ไม่ทนั ระวังถูกผูช้ ายเห็นแขนเห็นขาก็ถูกชี้หน้า
ว่ามีมลทินแล้ว กฎระเบียบเป็ นใหญ่จนสามารถบีบบังคับลูกสาวแท้
ๆ ไปตายได้ สงสารบุตรสาวแต่กท็ าได้เพียงกลั้นใจให้บุตรสาว
แต่งงาน ทั้งยังไม่สนว่าผูช้ ายจะประพฤติตนชัว่ ช้าหรื อไม่
“ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรื อ สตรี ใช้ชีวิตลาบากยิง่ กว่าผูช้ ายก็ยงิ่ ต้อง
ยืนหยัดด้วยลาแข้งตัวเอง ท่านก็แค่ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี ปากก็เป็ น
ปากของคนอื่น จะสนที่พวกเขาพูดทาไม” เสิ่ นเวยโน้มน้าวอย่างใจ
ร้อน “อีกอย่าง ท่านยอมหย่ากับสามี เขาจะต้องแต่งงานใหม่เป็ นแน่
นิวหนิ่วตกอยูใ่ นมือสตรี ผอู ้ ื่นท่านจะวางใจได้อย่างไร ถึงตอนนั้น
หากนางรังแกนิวหนิ่วจะทาอย่างไร” นี่ลว้ นแต่มีความเป็ นไปได้
นางก็เป็ นตัวอย่างให้เห็นอยูไ่ ม่ใช่หรื อไร
“ไม่หรอกกระมัง นิวหนิ่วเป็ นบุตรสาวแท้ ๆ ของเขา ทั้งยังเป็ น
เด็กผูห้ ญิง ไม่คิดแก่งแย่งทรัพย์สิน” สี หน้าเซียงเหมยเผยความไม่
แน่ใจ
“ใช่ นิวหนิ่วเป็ นบุตรสาวแท้ ๆ แต่ทุกวันเขาต้องยุง่ เรื่ องราชสานัก
ไหนเลยจะมีจิตใจมาสนใจเรื อนหลัง อุบายเรื อนหลังเยอะจะตายไป
คนมีเจตนาจะปิ ดบัง ผูช้ ายเช่นเขาไม่มีทางสังเกตเห็นแน่นอน นิว
หนิ่วของพวกเราจะไม่น่าสงสารหรอกหรื อ ไม่แย่งมรดกแต่นนั่ ก็
เป็ นหนามยอกอก ทุกวันนี้ท่านอยูใ่ นจวนโหวยังเห็นไม่ชดั อีกหรื อ”
“แต่วา่ …” เซียงเหมยลังเลขึ้นมา นางกัดริ มฝี ปาก ดวงตามีความไม่
แน่ใจแวบผ่าน “แต่ขา้ ไม่อาจปล่อยให้ข่าวลือเสี ยหายทาลายชีวิตเขา
ได้”
เสิ่ ยเวยแทบจะโมโหจนกระทืบเท้าแล้ว “ท่านไม่อาจปล่อยให้ข่าว
ลือเสี ยหายทาลายชีวิตเขา เช่นนั้นจะทาร้ายตัวเองหรื อ ช่างโง่เขลา
นัก! สามี สามี ชายที่อยูใ่ กล้จึงจะเป็ นสามี! เขาไม่ใช่สามีของท่าน
แล้ว ท่านจะสนใจเขาทาไม เขาเป็ นข้าราชการบริ หารบ้านเมือง
แม้แต่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังแก้ไม่ได้แล้วจะไปทางานให้ราชสานัก
ได้อย่างไร พอแล้ว ฟังข้าแล้วกัน หลีฮวาเจ้าไปเชิญหลี่จ้ือหย่วนมา
พบหน้าพี่เซียงเหมย แล้วเจ้าก็ไปเก็บของพานิวหนิ่วตามเขาไปเสี ย
ท่านจะได้ไม่ตอ้ งทาเรื่ องโง่ ๆ อีก เห็นท่านทาเรื่ องโง่ ๆ แล้วข้าปวด
ตา หลังจากนี้หากท่านได้รับความเดือดร้อนอะไร จาไว้วา่ ให้กลับมา
หาข้า ข้าจะออกหน้าแทนท่านเอง ได้ยนิ แล้วหรื อยัง เอาล่ะ ท่าน
น่าจะไม่เปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะได้ไปบอกนิวหนิ่วแล้ว”
เสิ่ นเวยเองก็ไม่สนว่าเซียงเหมยจะยินดีหรื อไม่ ตัดสิ นใจแทนนาง
ทันที
ตอนที่ 183-1 กลับเมืองหลวงเสี ยที
เสิ่ นเวยทิ้งเซียงเหมยกับหลี่จ้ือหย่วนไว้ในห้อง พวกเจ้าพูดคุย
ทะเลาะกอดคอร้องไห้กนั ตามสบาย พูดเสร็ จทะเลาะเสร็ จร้องไห้
เสร็ จแล้วก็รีบไปใช้ชีวิตดี ๆ เสี ย ข้าขี้เกียจจะสนใจพวกเจ้าแล้ว
ตกบ่ายเสิ่ นเวยเพิ่งจะได้เห็นเซียงเหมยและครอบครัว ในมือหลี่จ้ื
อหย่วนอุม้ นิวหนิ่วอยู่ เซียงเหมย
อยูข่ า้ งกายเขา ดวงตาแดงก่า แต่กลับมีความเคอะเขินอย่างถึงที่สุด
“คุณหนู” เซียงเหมยยังไม่ทนั เอ่ยปากน้ าตาก็ร่วงลงมาก่อนแล้ว
สะอื้นไห้พดู ไม่ออก
หลี่จ้ือหย่วนเห็นท่าทีกส็ ่ งนิวหนิ่วไปไว้ในอ้อมอกนาง “คุณหนูเสิ่ น
ท่านช่วยภรรยาและลูกสาวของข้าไว้กเ็ ท่ากับว่าได้ช่วยครอบครัว
ของข้า ข้าหลี่จ้ือหย่วนไม่ใช่คนลืมบุญคุณ บุญคุณนี้ขา้ จะจดจาไว้
ตอนนี้พวกเราอยูพ่ ร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวแล้ว คุณหนูเสิ่ นโปรด
เมตตาปล่อยภรรยาและลูกสาวของข้ากลับบ้าน ค่าตัวพวกนางเท่าไร
ข้าน้อยยินดีจ่ายให้สิบเท่า อ้อไม่ ร้อยเท่าเพื่อไถ่ตวั พวกนาง หวังว่า
คุณหนูจะช่วยให้ขา้ น้อยสมปรารถนา” เขามองเสิ่ นเวยแล้วกล่าวด้วย
ความจริ งใจ
เสิ่ นเวยเลิกคิว้ “หรื อว่าพี่เซียงเหมยไม่ได้บอกท่านหรื อว่านางกับ
นิวหนิ่วเป็ นนั้นอิสระ” คืนสิ บเท่าร้อยเท่า พูดราวกับว่าเขามีเงินเยอะ
นักอย่างนั้นแหละ
หลี่จ้ือหย่วนตกตะลึง มองภรรยาของตน เซียงเหมยเช็ดน้ าตาตรง
หางตา ถลึงตาใส่ เขาด้วยความโมโห “ใครจะกลับบ้านกับเจ้า ใครให้
เจ้าไถ่ตวั พวกข้าแม่ลูกติดตามคุณหนูมีชีวิตที่ดีอยูแ่ ล้ว เจ้าเป็ นคนใจ
ร้อน ข้ายังพูดไม่ทนั จบเจ้าก็จะลากข้ามาพบคุณหนูให้ได้ ข้าก็คิดว่า
เจ้าจะทาอะไรเสี ยอีก ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ แต่ไหนแต่ไรคุณหนูไม่
เคยให้ขา้ กับนิวหนิ่วลงสัญญาขายตัวเป็ นทาสเลย กระทัง่ ยังเตรี ยม
จะส่ ง
นิวหนิ่วไปเรี ยนหนังสื อในโรงเรี ยนเมื่อนางโตกว่านี้ พวกข้าติดตาม
คุณหนูมีชีวิตที่สบายใจยิง่ นัก ไม่กลับไปกับเจ้าหรอก”
นิวหนิ่วในอ้อมอกนางก็เห็นคล้อยตามเช่นกัน “ใช่ ๆ ติดตามคุณหนู
คุณหนูใจดี คุณหนูใจดีที่สุด” นางยกยิม้ ชื่นมื่นให้เสิ่ นเวย น่ารักอย่าง
ถึงที่สุด
เสิ่ นเวยยิม้ ยืน่ มือออกไปหานิวหนิ่ว นิวหนิ่วกลิ้งลงมาจากอ้อมอก
มารดานางเข้าไปในอ้อมอกเสิ่ นเวยแทนทันที “คุณหนูดีที่สุด” แขน
ของนางกอดคอของเสิ่ นเวยแนบแน่น ราวกับว่ากลัวใครจะชิงตัว
นางไป
หลี่จ้ือหย่วนแสดงสี หน้าสะเทือนใจ ความซาบซึ้งในเบื้องลึกจิตใจก็
มากยิง่ ขึ้น เขาสะบัดเสื้ อคลุมคุกเข่าลงทันที เสิ่ นเวยรี บให้คนมาห้าม
ทว่าเซียงเหมยกลับกล่าว “คุณหนู ท่านให้เขาคุกเข่าไปเถอะ ไม่มี
ท่านก็ไม่มีพวกข้าแม่ลูก อย่างไรเสี ยนิวหนิ่วก็เป็ นบุตรสาวแท้ ๆ
ของเขามิใช่หรื อ เขาจะขอบคุณท่านก็เป็ นเรื่ องสมควร” เซียงเหมยก
ล่าวด้วยความจริ งจังมากเป็ นพิเศษ
เสิ่ นเวยกระตุกมุมปาก เด็กผูห้ ญิงเช่นนางให้ขนุ นางราชสานักมา
คุกเข่าให้ จะได้อย่างไรกัน แต่เพราะว่าคายืนกรานของสองสามี
ภรรยาคู่น้ ี เสิ่ นเวยยังคงต้องรับการคารวะจากหลี่จ้ือหย่วน “คุณหนู
เสิ่ น บุญคุณใหญ่หลวงไม่เพียงแต่พดู กล่าว ข้าน้อยจะไม่เอ่ยคาพูด
สวยหรู หลังจากวันนี้กข็ อให้ท่านดูการกระทาของข้าน้อยเองแล้ว
กัน”
ทว่าเสิ่ นเวยกลับกล่าว “ใต้เท้าหลี่พดู ผิดแล้ว ตอนที่ขา้ ช่วยคนไม่ได้
คิดถึงการตอบแทนของใคร ไม่ได้ลาบากอะไรเลย เพียงแค่ไม่ทาให้
ต้องละอายต่อใจของตนก็เท่านั้นเอง เอาล่ะ ในเมื่อพวกท่านอยู่
พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ท่านก็พาพวกนางไปเถอะ” จากนั้นจึงกล่าว
กับเซียงเหมย “เรื่ องอื่นก็ไม่ตอ้ งพูดแล้ว ข้าไม่ชอบเห็นคนร้องห่ม
ร้องไห้ที่สุด ตอนนี้สามีท่านดารงตาแหน่งอยูใ่ นกรมพระคลัง อยูใ่ น
เมืองหลวงเหมือนกัน ท่านยังกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีกหรื อ
นิวหนิ่ว แม่เจ้าดูเหมือนปราดเปรี ยว แต่ความจริ งแล้วทาอะไรไม่
เป็ นสักอย่าง หลังจากนี้หากมีใครมารังแกพวกเจ้า เจ้าก็มาหาคุณหนู
คุณหนูจะช่วยเจ้าเอง” นางก้มหน้ากล่าวกับนิวหนิ่วในอ้อมอก
นิวหนิ่วพยักหน้ายิม้ แย้มไม่หยุด “ไปหาคุณหนู ให้คุณหนูช่วย”
หลี่จ้ือหย่วนยืนอยูข่ า้ ง ๆ ยิม้ แต่ไม่พดู ในใจเขาเข้าใจดีวา่ คาพูดนี้
ตั้งใจพูดให้เขาฟัง และเป็ นการเตือนสติเขา เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้ไม่
พอใจ อีกทั้งยังซาบซึ้งยิง่ กว่าเดิม ดูท่าแล้วคุณหนูท่านนี้จะเป็ นห่วง
ภรรยาและลูกสาวของเขามากจริ ง ๆ
เซียงเหมยถูกเสิ่ นเวยไล่ออกจากวัดต้าเจวี๋ยด้วยความอาลัยอาวรณ์
ตลกแล้ว หาพ่อของลูกเจอแล้วยังคิดจะอยูเ่ ปลืองเสบียงของนางต่อ
อีก ฝันไปเถอะ ฉวยโอกาสจากไปเงียบ ๆ ตอนที่ออกจากจวนมาขอ
พรครั้งนี้ หากกลับเมืองหลวงแล้วค่อยไปคนที่ตกใจก็จะยิง่ เยอะ ไม่
ดีเท่าไรนัก
หลี่จ้ือหย่วนมองภรรยาที่ปาดน้ าตาหันหลังกลับไปมองไม่หยุด โอบ
ไหล่นางแล้วกล่าวปลอบ “ข้ายังต้องอยูท่ างานในกรมพระคลังอีก
หลายปี ออกจากเมืองหลวงไม่ได้พกั ใหญ่ หากเจ้าตัดใจไม่ได้จริ ง ๆ
หลังกลับไปจัดการเรื่ องต่าง ๆ เสร็ จแล้วค่อยส่ งเทียบเชิญขอเยีย่ ม
เยียนก็ได้”
ลาภที่ได้มาด้วยความทุกข์ ตอนแรกที่นายอาเภอเมืองหนิงผิงผูน้ ้ นั
สัง่ คนมาทาร้ายเขา โชคดีที่ถูกใต้เท้าโจวผูแ้ ทนพระองค์ที่มาตรวจ
ตราเจียงหนานพบเข้าพอดีจึงถูกเขาช่วยเอาไว้ ใต้เท้าโจวชื่นชมใน
บุคลิกความสามารถของเขาจึงเก็บเขาไว้ ต่อมาในการสอบบรรจุขนุ
นางเขาสอบระดับสองได้ลาดับที่ยสี่ ิ บเจ็ด อาศัยความช่วยเหลือจาก
ใต้เท้าโจวก็ได้รับตาแหน่งที่ไม่เลวนักในกรมพระคลัง
เซวียเซียงเหมยมีสีหน้าดีใจก่อน แต่หลังจากนั้นกลับส่ ายหน้า “อย่า
เลยดีกว่า ประตูจวนโหวไหนเลยจะเข้าง่ายเพียงนั้น ข้าอย่าสร้าง
ปัญหาให้คุณหนูเลยดีกว่า เดือนหน้าคุณหนูกจ็ ะสมรสแล้ว ข้าควร
ปักของให้นางเยอะ ๆ จึงจะถูก”
“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านดูสิ! คุณหนูให้มา” นิวหนิ่วที่นงั่ เรี ยบร้อยอยู่
ข้าง ๆ พลันชูกระเป๋ าเงินใบเล็กให้แม่นางดู
เซวียเซียงเหมยรับเข้ามาดูก่อน เป็ นกระเป๋ าเงินที่งามประณี ตจริ ง ๆ
ข้างบนปักลายแมวสี ขาวตัวเล็กหนึ่ งตัว ดูจากรอยเย็บเหมือนเป็ น
ฝี มือของหลีฮวา นางจึงยิม้ แล้วจิ้มจมูกเล็ก ๆ ของลูกสาว “คุณหนูให้
แล้วเจ้าก็เก็บไว้เองสิ !”
ทว่านิวหนิ่วกลับแสยะปากขึ้น กล่าวอย่างไม่พอใจ “แต่คุณหนูบอก
ว่าให้เอาให้ท่านแม่” นางชอบกระเป๋ าเงินใบนี้จริ ง ๆ
เซวียเซียงเหมยตกใจ เปิ ดกระเป๋ าเงินออกทันที หยิบของที่พบั เป็ น
สี่ เหลี่ยม ๆ ออกมา คลี่ออกดู คาดไม่ถึงว่าเป็ นตัว๋ เงินห้าพันตาลึง
หลี่จ้ือหย่วนเองก็ตกตะลึง “นี่?” คุณหนูหมายความว่าอย่างไร
“นิวหนิ่ว คุณหนูพดู อะไรกับเจ้า” เบ้าตาของเซวียเซียงเหมยแดงขึ้น
อย่างรวดเร็ ว
นิวหนิ่วเบิกตาดวงโตที่มึนงงทั้งคู่ เอียงคอคิด ส่ ายหน้าแล้วจึงกล่าว
“ไม่มี คุณหนูบอกแค่วา่ ให้เอากระเป๋ าให้ท่านแม่”
น้ าตาของเซวียเซียงเหมยร่ วงลงมาอีกครั้ง ทรุ ดตัวลงในอ้อมอก
ของหลี่จ้ือหย่วนสะอื้นไห้ ร้องไห้ดว้ ยความเศร้าโศกยิง่ นัก คุณหนู
ชีวิตนางได้พบคุณหนูที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไร หากไม่ได้ทาเพื่อนิวหนิ่ว
นางก็อยากจะหันหลังกลับไปแล้วจริ ง ๆ
หลี่จ้ือหย่วนกอดปลอบภรรยาเสี ยงเบา แววตามีประกายความสับสน
แวบผ่าน คุณหนูเสิ่ นผูน้ ้ ีเป็ นห่วงภรรยาและลูกสาวของเขามาก
เกินไปแล้ว ชาตที่แล้วครอบครัวเขาสัง่ สมบุญบารมีมากมายเพียงใด
ถึงได้คุม้ ครองภรรยาและลูกสาวของเขาเช่นนี้
ส่ งเซียงเหมยไปแล้ว เสิ่ นเวยกับหลีฮวาก็ทอดถอนใจ ถอนใจที่ชีวิต
คนช่างแปลกประหลาดจริ ง ๆ ตอนแรกพวกนางตั้งใจหาหลี่จ้ือหย่
วน ผลสุ ดท้ายไม่ได้อะไรแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้เลิกหาแล้วเขา
กลับมาหาเองถึงที่ สมกับวลีที่กล่าวว่า ‘ยา่ จนรองเท้าเหล็กกสึ กไม่
พานพบ บทจะพบกลับเจอโดยง่ายไม่เปลืองแรงแม้แต่นอ้ ย’ จริ ง ๆ
เมื่อส่ งเซียงเหมยไปแล้ว ซู่เหนียงก็คุกเข่าลงตรงหน้าเสิ่ นเวยทันที
เสิ่ นเวยสะดุง้ ตกใจ “ลุกเดี๋ยวนี้ คุกเข่าทาไม” บอกเป็ นนัยให้หลีฮวา
ไปพยุงซู่เหนียงขึ้น
ทว่าซู่เหนียงกลับดึงดันไม่ยอมลุก “คุณหนู ซู่เหนียงมีเรื่ องจะขอ
หนึ่งเรื่ อง หวังว่าคุณหนูจะตอบรับได้”
เสิ่ นเวยจนปัญญาอย่างยิง่ “เรื่ องอะไร เจ้าลุกขึ้นมาพูดเถอะ หาก
รับปากได้ขา้ จะต้องรับปากแน่นอน” รู ้มาจากปากของหลีฮวา ซู่
เหนียงผูน้ ้ ีเรี ยบร้อยรู ้ประสา ความประทับใจที่เสิ่ นเวยมีต่อนางไม่
เลวเลยทีเดียว เป็ นผูห้ ญิงเหมือนกัน ใช้ชีวิตในสังคมนี้เดิมก็
ยากลาบากอยูแ่ ล้ว หากช่วยได้เสิ่ นเวยก็ยนิ ดีที่จะยืน่ มือเข้าไปช่วย
ซู่เหนียงยังคงคุกเข่าอยู่ “ซู่เหนียงไม่มีที่จะไป หวังว่าคุณหนูจะรับซู่
เหนียงไว้” เดิมนางยังลังเลไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นแล้วว่าคุณหนูปฏิบตั ิ
ต่อพี่เซียงเหมยอย่างไร นางก็ตดั สิ นใจได้ทนั ที
เมื่อวานคาพูดเหล่านั้นที่คุณหนูพดู กับเซียงเหมยนางอยูใ่ นห้องด้าน
ในได้ยนิ หมดแล้ว นางอิจฉาเซียงเหมย ตอนแรกที่นางตกต่าลดตัว
ลงมาเป็ นนางโลมหากได้พบคุณหนูที่ใจดีเช่นนี้กค็ งจะดีอย่างยิง่ ต่อ
ให้จะต้องเป็ นบ่าวก็คงจะดีกว่าตอนนี้
พี่เซียงเหมยบอกแล้วว่า เจ้านายที่ดีอย่างคุณหนูใต้หล้านี้หาได้ยากยิง่
นางโง่หรื อไรที่จะพลาดโอกาสอันดีเช่นนี้ไป
“แม้ซู่เหนียงจะต่าต้อยเป็ นนางโลม แต่กเ็ ป็ นบุตรสาวในตระกูลที่ดี
แขกผูน้ ้ นั ที่ไถ่ตวั ซู่เหนียงบอกแล้วว่า อนุญาตให้ซู่เหนียงเป็ นอิสระ
แต่ซู่เหนียงเป็ นหญิงสาวตัวคนเดียวก็ยากจะใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่ น
ดังนั้น ซู่เหนียงจึงแบกหน้ามาขอให้คุณหนูรับตัวไว้ ซู่เหนียงไม่ร้อง
ขอเงินทองความมัง่ คัง่ เพียงแค่ขา้ วปลาอาหารธรรมดา ๆ อยูอ่ ย่าง
สงบสุ ขก็เพียงพอแล้ว” ดวงตาซู่เหนียงใสกระจ่าง มองออกว่า
ตัดสิ นใจมาดีแล้ว
เสิ่ นเวยถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนหน้านี้เห็นซู่เหนียงจริ งจัง
เช่นนั้น ยังคิดว่าจะขอเรื่ องยากอะไรเสี ยอีก ไม่คิดว่าแค่อยากให้รับ
เลี้ยง นี่ง่ายดายอย่างยิง่ อย่างไรเสี ยนางก็รับเลี้ยงคนมากมายอยูแ่ ล้ว
มีที่ให้ซู่เหนียงคนนี้แน่นอน
“นี่จะยากอะไร หลังจากนี้เจ้าก็ติดตามข้าเท่านั้นเอง รี บลุกขึ้นเถอะ”
เสิ่ นเวยกล่าว
หลีฮวาก้าวขึ้นไปพยุงอย่างรู ้หน้าที่ คราวนี้ซู่เหนียงถือโอกาสลุกขึ้น
ยืนแล้ว “ซู่เหนียงขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ”
เสิ่ นเวยกล่าวต่อ “ในเมื่ออนุญาตให้เจ้าเป็ นอิสระแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่
จาเป็ นต้องให้เจ้าลงสัญญาขายตัวเป็ นทาสอะไร ใช้สัญญาทางานลง
นามหนึ่งฉบับก็พอ ข้าจ้างเจ้ามาทางาน ให้เงินเดือนเจ้า อ้อจริ งสิ เจ้า
ถนัดอะไรบ้าง หรื อว่าชอบทาอะไร”
เมื่อซู่เหนียงได้ยนิ ว่าไม่ตอ้ งลงสัญญาขายตัวเป็ นทาสก็วางใจยิง่ ขึ้น
นางคิดครู่ หนึ่งแล้วจึงเผยสี หน้าลาบากใจ “คุณหนู นอกจากด้านการ
แต่งหน้าแต่งตัวและบารุ งร่ างกายที่ซู่เหนียงมีประสบการณ์เล็กน้อย
แล้ว ด้านอื่นก็ไม่ถนัดเลยเจ้าค่ะ” แม้นางจะเติบโตมาในหอนางโลม
แต่กถ็ ูกเลี้ยงอย่างประคมประหงม ยกชาริ นน้ า เย็บปั กถักร้อยล้วนทา
ไม่เป็ นเลย
เสิ่ นเวยคิดครู่ หนึ่งก็เข้าใจแล้ว สตรี ในหอนางโลมต้องเอาใจแขก ก็
ต้องถนัดในด้านการแต่งหน้าแต่งตัวบารุ งร่ างกายไม่ใช่หรื อ ดูจาก
คาพูดกิริยาของซู่เหนียงผูน้ ้ ีกร็ ู ้แล้วว่าเป็ นคนที่เคยเรี ยนหนังสื อ หรื อ
ว่าจะไปเป็ นอาจารย์หญิงในเรื อนนาง สอนหนังสื อและการแต่งหน้า
แต่งตัวให้สาวใช้ท้ งั หลายก่อน
ทว่าดวงตาของหลีฮวากลับลุกวาว ถามซู่เหนียง “ผิวดามีวิธีเปลี่ยน
ให้ขาวหรื อไม่”
ซู่เหนียงกล่าว “เช่นนั้นก็ตอ้ งดูวา่ ดาธรรมชาติหรื อว่า…”
ยังพูดไม่ทนั จบก็ถูกหลีฮวาแย่งไปแล้ว “ไม่ได้ดาธรรมชาติ แต่วา่ ไป
ตากแดดข้างนอกจนดา มีวิธีให้กลับมาขาวได้เร็ ว ๆ หรื อไม่”
ซู่เหนียงพยักหน้า “ง่ายอย่างยิง่ ” ในหอนางโลมพวกนางมีวิธีบารุ ง
ให้ขาวสวยมากมายถมไป แม้แต่ผวิ ดาตามธรรมชาติกย็ งั มีวิธีบารุ ง
ให้ดีข้ ึน นับประสาอะไรกับการตากแดดจนดา
หลีฮวาดีใจอย่างยิง่ “คุณหนู ๆ ท่านได้ยนิ ที่ซู่เหนียงพูดหรื อยัง ถือ
โอกาสตอนที่ยงั ไม่กลับจวน รี บให้ซู่เหนียงบารุ งให้ท่าน จะได้
กลับมาขาวไว ๆ ”
เสิ่ นเวยไม่ออกความคิดเห็น นางกลับรู ้สึกว่าสี ผวิ ตอนนี้ของนางดู
สุ ขภาพดีอย่างยิง่ ปั จจุบนั มีคนมากน้อยเพียงใดที่เสี ยเงินเพื่อ
อาบแดดให้ได้สีน้ ี แต่เห็นหลีฮวาพร่ าบ่นทุกข์ใจอยากให้นางกลับมา
ขาวเช่นนี้ นางเองก็ไม่มีความคิดเห็นอะไร
“คุณหนูท่านวางใจ ซู่เหนียงจะต้องทาให้ผวิ ของท่านกลับมาขาวใส
นิ่มนวลเหมือนเมื่อก่อนแน่นอน” ซู่เหนียงกล่าวอย่างจริ งจัง
ด้วยเหตุน้ ี เสิ่ นเวยจึงใช้ช่วงเวลาหลายวันสุ ดท้ายที่วดั ต้าเจวี๋ยอยูใ่ น
ขั้นตอนการบารุ งผิว
เสี่ ยวตี๋ส่งข่าวมา บอกว่าท่านเสิ่ นโหวและคนอื่น ๆ จะเข้าเมืองได้ใน
วันพรุ่ งนี้ เสิ่ นเวยสัง่ คนในเก็บของตลอดทั้งคืน เช้าวันที่สองก็ออก
จากวัดต้าเจวี๋ยกลับจวนโหว
ตอนที่ 183-2 กลับเมืองหลวงเสี ยที
“เร็ ว ๆ คุณหนูกลับมาแล้ว!” คนทุกระดับชั้นในเรื อนเฟิ งหวาคึกคัก
ขึ้นมาในชัว่ ขณะ เหอฮวาเถาจือ
สัง่ กลุ่มคนใช้ทวั่ เรื อนจนวิง่ หัวหมุน เตรี ยมน้ า เตรี ยมอาหาร ห้อง
ของคุณหนูกต็ รวจตรากว่าสามรอบแล้ว จะต้องมัน่ ใจได้วา่ แม้แต่มุม
ห้องก็ไม่อาจมีฝนแม้
ุ่ แต่นิดเดียว
ตอนที่เสิ่ นเวยไปนางออกไปทางประตูเล็กของเรื อนเฟิ งหวา ทว่าขา
กลับกลับมาทางประตูใหญ่ของจวนโหว ไม่ตอ้ งสัง่ คน บ่าวรับใช้
จานวนหนึ่งที่ประตูใหญ่กเ็ ปิ ดประตูกลางออกอย่างฉับไว
หลีฮวากับซู่เหนียงประคองเสิ่ นเวยซ้ายขวา ข้างหลังตามมาด้วยเถาฮ
วากับเหล่าสาวใช้และหญิงชราจานวนมาก เสิ่ นเวยก้าวเข้าจวนโหว
ช้า ๆ เถาจือเหอฮวาที่รออยูน่ านแล้วก็ลอ้ มเข้ามาทันที “คุณหนู
คุณหนู ในที่สุดคุณหนูกก็ ลับมาแล้ว!”
เสิ่ นเวยมองใบหน้าที่ตื่นเต้นอย่างยิง่ แต่ละใบ ๆ รู ้สึกว่าในใจอบอุ่น
มุมปากของนางยกขึ้นน้อย ๆ รอยยิม้ ไล่ข้ ึนมาถึงดวงตาทั้งคู่ “ใช่แล้ว
ข้ากลับมาแล้ว ไป พวกเรากลับไปให้บาเหน็จตามความดีความชอบ
ที่เรื อนเฟิ งหวากันเถอะ”
ทุกคนตื่นเต้นยิง่ กว่าเดิม ติดตามเสิ่ นเวยไปที่เรื อนเฟิ งหวาเป็ นขบวน
ส่ วนบ่าวรับใช้ที่อยูใ่ นเรื อนอื่นก็ได้แต่ทาสี หน้าอิจฉาทั้งใบหน้า
ยังคงเป็ นเรื อนตัวเองที่สบายที่สุด! หลังเสิ่ นเวยอาบน้ าเปลี่ยนชุด
เสร็ จแล้วก็พิงตัง่ นุ่มงีบหลับ
หลีฮวาทนดูไม่ได้ สะกิดนางเบา ๆ กล่าวเตือน “คุณหนู ควรไป
เคารพเหล่าไท่จวินก่อนเจ้าคะ คารวะนางเสร็ จแล้วท่านค่อยนอนก็
ไม่สาย”
แม้วา่ ก่อนจะไปขอพรที่วดั ต้าเจวี๋ยเสิ่ นเวยก็ไปเคารพที่เรื อนซงเฮ่ออ
ย่างไม่ค่อยสม่าเสมอนัก ดีไม่ดีกล็ าป่ วย แต่นี่กอ็ ยูท่ ี่วดั ต้าเจวี๋ยมา
หลายเดือนแล้ว วันแรกที่กลับจวนยังคงต้องไปแสดงตัวที่เรื องซง
เฮ่อบ้าง มิเช่นนั้นโทษอกตัญญูหล่นทับหัวก็คงจะไม่ดีนกั
เสิ่ นเวยไปเรื อนซงเฮ่อแล้ว เห็นข้างกายท่านย่านางมีสตรี แปลกหน้า
เพิ่มมาหนึ่งคน นางเพียงแค่กวาดตามองไม่ได้เก็บมาใส่ ใจ กลับเป็ น
สตรี ผนู ้ ้ นั ที่เข้ามาคุยกับนางอย่างสนิทสนม “ท่านก็คือพี่เวยบ้านอา
สามใช่หรื อไม่ ข้าคือน้องฟัง ท่านย่ารับข้ามาอยูช่ ่วงนี้ หลังจากนี้
พวกเราพีน่ อ้ งจะต้องสนิทกันแน่ ๆ ”
นี่คือหลานสาวฝั่งท่านย่าหรื อ เพียงแต่ไม่รู้วา่ ว่าเป็ นลูกสาวของ
ลูกผูพ้ ี่หรื อลูกผูน้ อ้ งคนไหนของท่านพ่อ เสิ่ นเวยไม่ค่อยคบค้า
สมาคมกับญาติฝั่งท่านย่า อีกทั้งยังไม่อยากสนิทด้วยเท่าไรนัก
ดวงตาเสิ่ นเวยกะพริ บวาบ พยักหน้าให้นาง แต่กลับไม่ได้พดู อะไร
สนิทสนมงั้นหรื อ อย่าเลยดีกว่า แม่นางผูน้ ้ ีหน้าตาไม่เลว แต่
แผนการในสมองนัน่ มีอะไรบ้าง คิดว่านางไม่เห็นความละโมบใน
แววตานางหรื อ ซ้ ายังเป็ นคนที่ตาไม่มีแวว เสิ่ นเวยไม่อยากพูดคุยกับ
นางให้มาก
กลับเป็ นเหล่าไท่จวินที่ชื่นชมอย่างมาก “ฟังเอ๋ อร์พดู ถูก พวกเจ้าเป็ น
ลูกพี่ลูกน้องกัน ต้องสนิทกันไว้จึงจะถูก เวยเอ๋ อร์ เจ้าโตกว่าฟังเอ๋ อร์
เล็กน้อย ต้องดูแลน้องให้ดี ๆ รู ้หรื อไม่”
เสิ่ นเวยสี หน้าเรี ยบเฉย แต่ในใจกลับตาหนิ ใครเป็ นลูกพี่ลูกน้องกับ
นางกัน ลูกพี่ลูกน้องของข้าคือคนแซ่หร่ วนทั้งหลายเข้าใจหรื อไม่
คนตระกูลหลิวเช่นพวกเจ้ามาทางไหนก็กลับไปทางนั้น อย่ามาขวาง
หูขวางตาข้าให้มาก หากหาเรื่ องข้าเจ้าได้เห็นดีแน่
“ท่านย่ามีอะไรอีกหรื อไม่ หากไม่มีแล้วหลานขอตัวก่อน ท่านปู่ เข้า
วังแล้ว หลานพักผ่อนเต็มที่แล้วจะได้ไปคารวะท่านปู่ ” เสิ่ นเวยไม่อ
ยากรับมือเลยแม้แต่นิดเดียว กล่าวดักทางทันที
เหล่าไท่จวินหน้าขรึ ม ตั้งใจจะตาหนิสกั สองสามประโยค แต่เมื่อนึก
ถึงสามีที่กาลังจะกลับมา ชัว่ ขณะก็ไม่มีกะจิตกะใจ โบกมือให้เสิ่ นเว
ยออกไป
ช่างเถอะ ๆ หลานสาวคนนี้ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้ น อย่าให้นางมา
ขวางหูขวางตาจะดีกว่า
เสิ่ นเวยเดินออกไปอย่างไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา เหล่าไท่จวิน
มองแผ่นหลังของนางรู ้สึกว่าในใจอึดอัดยิง่ นัก ฟังเอ๋ อร์ที่อยูข่ า้ ง ๆ
ดวงตากะพริ บวาบ บนใบหน้ามีความน้อยใจหลายส่ วน กล่าว “ท่าน
ย่า พี่เวยไม่ชอบข้าใช่หรื อไม่”
เหล่าไท่จวินชอบหลานสาวที่ปากหวานเชื่อฟังผูน้ ้ ีมากเป็ นอย่างยิง่
รี บกล่าวปลอบนาง “เวยเจี่ยเอ๋ อร์กเ็ ป็ นเช่นนี้ ไม่ชอบพูด ไม่ใช่วา่ ไม่
ชอบเจ้า”
หลิวรุ่ ยฟังที่ได้ยนิ ดังนั้นก็แย้มยิม้ จับมือของเหล่าไท่จวิน บน
ใบหน้ามีความเคอะเขินหลายส่ วน “ที่แท้แล้วก็เป็ นเช่นนี้ ข้ายังคิดว่า
พี่เวยไม่ชอบข้าเสี ยอีก ประเดี๋ยวว่าง ๆ ข้าจะไปเล่นกับพี่เวย” ปิ่ นอัญ
มณี เคลือบเงาอันนั้นบนศีรษะของพี่เวยสวยจริ ง ๆ ปั กอยูบ่ นผมตน
แล้วจะต้องสวยยิง่ กว่าแน่ ๆ อืม จะต้องคิดหาวิธีเอามาให้ได้
เหล่าไท่จวินตบมือของฟังเจี่ยเอ๋ อร์ แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
เด็กผูห้ ญิงฉลาดหน่อยจึงจะดี
ท่านเสิ่ นโหวออกจากพระราชวัง บาเหน็จก็ตามมาถึงจวน
จักรพรรดิยงเซวียนทรงอนุมตั ิคาขอเกษียณยกตาแหน่งให้ผอู ้ ื่นของ
ท่านเสิ่ นโหวแล้ว เสิ่ นหงเหวิน
กลายเป็ นจงอู่โหวคนใหม่ได้สาเร็ จ เสิ่ นผิงยวนย่อมกลายเป็ นนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหว
จักรพรรดิยงเซวียนไม่ได้ปฏิบตั ิต่อขุนนางผูส้ ร้างคุณูปการอย่างไม่
เป็ นธรรม เสิ่ นผิงยวนเกษียณแล้ว จักรพรรดิยงเซวียนเองก็พอใจใน
การอ่านสถานการณ์ของเขา จึงพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เขาเป็ น
ราชครู ของรัชทายาท แม้วา่ จะไม่มีอานาจ แต่ตาแหน่งก็สูงส่ ง!
นอกเหนือจากนี้แล้ว จักรพรรดิยงเซวียนยังพระราชทานบรรดาศักดิ์
ให้เสิ่ นซื่อหลานสาวของนายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวเป็ นจวิน้ จู่อีกด้วย
เมื่อพระราชโองการฉบับนี้ประกาศออกไป ทัว่ ทั้งจวนต่างก็ปากอ้า
ตาค้าง แม้แต่เสิ่ นเวยเองยังรู ้สึกเหมือนโชคหล่นทับ
ตาแหน่งจวิน้ จู่ บุตรสาวของไท่จื่อหรื อชินอ๋ องเท่านั้นที่จะได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์จวิน้ จู่ได้ คุณหนูจวนโหวเล็ก ๆ เช่นนาง
คาดไม่ถึงว่าได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ นจวิน้ จู่ คาดว่าเมือง
หลวงทั้งเมืองก็คงจะสัน่ สะเทือน
คนที่สงบนิ่งเพียงหนึ่งเดียวก็คือนายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหว เพราะว่า
หนึ่ง ในพระราชวังจักรพรรดิกแ็ อบแสดงเจตนาเงียบ ๆ แล้ว สอง
จากมุมมองของนายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหว คุณงามความดีของเจ้าสี่ ของ
เขาสมควรจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็ นผูป้ กครองเมือง
ด้วยซ้ า ตาแหน่งจวิน้ จู่เล็ก ๆ อีกทั้งยังเป็ นจวิน้ จู่ที่ได้ขา้ วเป็ น
เงินเดือนไม่มีที่ดินเป็ นของตัวเอง เพียงแค่ชื่อเพราะก็เท่านั้น เขายัง
รู ้สึกเดือดร้อนแทนเจ้าสี่ เสี ยด้วยซ้ าไป
แล้วจักรพรรดิยงเซวียนคิดอย่างไรเล่า พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้
เสิ่ นเวยเป็ นจวิน้ จู่ หนึ่งคือชดเชยให้จวนจงอู่โหว สองคือ เสิ่ นเวย
เป็ นว่าที่ภรรยาของอาโย่ว สุ ดท้ายแล้วก็ตอ้ งแต่งเข้าราชวงศ์ ข้อ
ได้เปรี ยบนี้กไ็ ม่ถูกคนนอกยึดชิงไป
นอกจากเลื่อนตาแหน่งขุนนางแล้ว จักรพรรดิยงเซวียนยัง
พระราชทานบาเหน็จเป็ นเงินทองของล้ าค่าเป็ นจานวนเงินก้อนใหญ่
สรุ ปแล้ว เสิ่ นหงเหวินเห็นบิดาเขาน้อมรับพระราชโองการด้วย
ความดีใจจนทาอะไรไม่ถูกแล้ว ฉีกปากกว้างครึ่ งวันก็ยงั หุบไม่ลง
คืนนั้น นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวเรี ยกเสิ่ นหงเหวินพี่นอ้ งทั้งสาม
และสวี่ซื่อฮูหยินโหวคนใหม่สด ๆ ร้อน ๆ มาที่หอ้ งหนังสื อเรื อน
หน้า นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกล่าวเข้าประเด็นทันที “ข้ามอบจวนโหวให้
ลูกคนโตแล้ว เจ้าสามก็ใช้ความสามารถของตัวเองทางานอยูใ่ นกรม
พิธีได้ไม่บกพร่ อง มีแต่เจ้ารองที่ใจไม่สู้เล็กน้อย แต่ขา้ ก็ให้เจ้า
แต่งงานกับภรรยาที่มีสินเดิมมากมาย ไม่ถึงกับเป็ นเศรษฐี แต่กไ็ ม่
อดตาย สาหรับพวกเจ้าทั้งสาม สิ่ งที่ให้ได้ขา้ ก็ให้หมดแล้ว สิ่ งที่ทา
ได้ขา้ ก็ทาหมดแล้วเช่นกัน ข้าแก่แล้ว ลาบากมากว่าครึ่ งชีวิต คืน
วันที่เหลืออยูห่ ลังจากนี้ขา้ ก็อยากใช้ชีวิตที่สบายเป็ นอิสระหน่อย
ต่อไปนี้พวกเจ้าก็อาศัยความสามารถของตัวเองก็แล้วกัน”
สามพี่นอ้ งสบตากับปราดหนึ่ง พากันกล่าว “ดูท่านพ่อพูดเข้า
ประสบการณ์แค่น้ ีของลูกจะพอได้อย่างไร จวนโหวของพวกเรายัง
ต้องให้ท่านหนุนหลังอยู่ เพียงแต่ท่านพ่อวางใจ ลูกจะเชื่อฟังคาสอน
ของท่านเป็ นอย่างดี”
เสิ่ นหงเหวินกล่าวคานี้จากใจจริ ง เขาเป็ นบุตรคนโต ตั้งแต่เล็กก็รู้
หน้าที่ที่ตนแบกรับอยู่ มีใจแต่กาลังไม่พอ ยังต้องลาบากให้ท่านพ่อ
ดูแลซีเจียงจนแก่เฒ่า ทุกครั้งที่คิดถึงเขาก็รู้สึกละอายใจยิง่ นัก
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวโบกมือ “ข้าจะหนุนหลังเจ้าไปตลอดชีวิตได้
อย่างไร เจ้าหัวอ่อนเกินไป หากเจ้าเป็ นเหมือนกับเชียนเกอเอ๋ อร์ได้
ข้าคงจะไม่ขายชีวิตอยูข่ า้ งนอกจนแก่ปูนนี้หรอก”
หนึ่งประโยคกล่าวจนเสิ่ นหงเหวินก้มหน้าอย่างเหยเก
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกล่าวต่อ “ที่เรี ยกเจ้ามาก็เพราะมีเรื่ องสาคัญจะ
บอกพวกเจ้า ข้าเตรี ยมจะยกมรดกของข้าให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์”
“มีสิทธิ์อะไร” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยังพูดไม่ทนั ขาดคา เสิ่ นหงอู่
บุตรชายคนที่สองก็ลุกขึ้นคัดค้านทันที ท่าทางของเขาน้อยใจอย่าง
ถึงที่สุด “ท่านพ่อ มรดกของท่านควรแบ่งให้พวกข้าสามพี่นอ้ งไม่ใช่
หรื อ เหตุใดถึงข้ามหัวพวกข้าไปให้เด็กน้อยเล่า ท่านชิงตาแหน่งจวิน้
จู่มาให้นางแล้วไม่ใช่หรื อ พีใ่ หญ่กไ็ ด้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
เป็ นท่านโหว บ้านสามก็มีจวิน้ จู่ มีเพียงพวกข้าบ้านสองที่ไม่มีอะไร
สักอย่าง ท่านพ่อ ท่านจะลาเอียงเช่นนี้ไม่ได้! หรื อว่าข้าไม่ใช่ลูกท่าน
แล้ว”
นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นเลิกคิว้ “เจ้าคิดว่าตาแหน่งจวิน้ จู่ของเวยเจี่ยเอ๋ อร์
เป็ นข้าที่ขอมาจากฝ่ าบาทงั้นหรื อ ไม่ใช่ นัน่ เป็ นตาแหน่งที่เวยเจี่ย
เอ๋ อร์อาศัยคุณงามความดีของตนแลกมาเองต่างหาก”
เสิ่ นหงอู่ไหนเลยจะเชื่อ พึมพากล่าว “เด็กผูห้ ญิงเช่นนางจะมีคุณงาม
ความดีอะไรได้ ก็แค่ไปคัดคัมภีร์ไม่กี่เล่มที่วดั ต้าเจวี๋ยไม่ใช่หรื อ
ท่านพ่ออย่ามาหลอกลูก ลูกเป็ นบุตรอนุภรรยา ลูกไม่ขอแบ่งมรดก
ของท่านเท่า ๆ กับพี่ใหญ่นอ้ งสาม แต่แบ่งเป็ นสามส่ วนก็เป็ นสิ่ ง
สมควรมิใช่หรื อ” เขาพูดด้วยความมัน่ อกมัน่ ใจอย่างยิง่ เงินเป็ นของ
ดี ไม่มีเงินแล้วเขาจะไปดื่มสุ ราอย่างไร จ้าวซื่อเป็ นคนขี้เหนียว คิด
จะขอเงินจากนางยังยากกว่าปี นขึ้นฟ้าเสี ยอีก
ตอนที่ 184-1 เหตุใดถึงไม่ เป็ นเด็กผู้ชาย
ท่านเสิ่ นโหวนิ่งเงียบ ละสายตามองไปทางลูกชายคนโตและลูกชาย
คนที่สาม “พวกเจ้าสองคนเล่า คิดเหมือนกันหรื อไม่วา่ ข้าลาเอียง
รักเวยเจี่ยเอ๋ อร์มากกว่า”
เสิ่ นหงเหวินกับฮูหยินสวี่สบตากันปราดหนึ่ง แม้วา่ เขาจะไม่คิดว่า
การที่พอ่ เขารักเวยเจี่ยเอ๋ อร์มากกว่าจะมีอะไรไม่เหมาะสม แม้แต่นิ้ว
มือทั้งสิ บยังมีส้ นั ยาว บิดาก็ยงั ลาเอียงมาทางเขาอยูม่ าก
แต่ท่านพ่อจะยกมรดกทั้งหมดให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์กเ็ กินไปหน่อยหรื อไม่
สตรี ไม่ชา้ ไม่เร็ วก็เป็ นน้ าที่ตอ้ งถูกสาดออกไป เป็ นคนของตระกูล
อื่น ท่านพ่อรักเวยเจี่ยเอ๋ อร์กใ็ ห้สินเดิมนางมากหน่อยก็ได้ ไม่
จาเป็ นต้องยกมรดกทั้งหมดให้นางก็ได้
“ท่านพ่อ นี่เองก็เกินไปหน่อยหรื อไม่ เวยเจี่ยเอ๋ อร์เป็ นเด็กที่รู้ประสา
แต่อย่างไรเสี ยนางก็จะออกเรื อนแล้ว” เสิ่ นหงเหวินเรี ยบเรี ยงคาพูด
แล้วกล่าว
ฮูหยินสวี่เองก็คิดเช่นเดียวกัน นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวรักเวยเจี่ยเอ๋ อร์
มากกว่านางก็ไม่ได้มีความคิดเห็น แต่ลาเอียงเกินไปนางก็ไม่เห็น
ด้วย เป็ นหลานสาวเหมือนกันทั้งหมด มีสิทธิ์อะไร อีกทั้งนางเป็ นฮู
หยินผูด้ ูแลบ้าน ไม่เหมือนสามีที่ไม่ได้คิดถึงเงินทองเช่นนั้น นาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวสู ้รบมาทั้งชีวิต ของดีในมือจะน้อยได้อย่างไร ของ
เหล่านี้ลว้ นแต่เป็ นมรดกที่ตกทอดมาถึงลูกชายของนาง
ทว่าลูกชายคนที่สามเสิ่ นหงเซวียนกลับมีสีหน้าซับซ้อน สาหรับการ
ตัดสิ นใจนี้ของท่านพ่อ ในใจเขาก็คาดเดาได้ราง ๆ แล้ว อย่างไรเสี ย
เวยเจี่ยเอ๋ อร์กต็ ่อสู ้อย่างสุ ดชีวิตอยูท่ ี่ซีเจียง เขาที่เป็ นบิดาของเวยเจี่ย
เอ๋ อร์จะยังพูดอะไรได้อีก
“ลูกเชื่อฟังคาสัง่ ของท่านพ่อทั้งหมด ลูกไม่มีความคิดเห็น” เสิ่ นหง
เซวียนหลุบตาลง เขากลับไม่โง่ที่จะผลักไส เวยเจี่ยเอ๋ อร์เป็ นลูกสาว
ของเขา เวยเจี่ยเอ๋ อร์ได้ผลประโยชน์กเ็ ป็ นประโยชน์ต่อบ้านสาม
เช่นเดียวกัน เห็นเวยเจี่ยเอ๋ อร์ปกป้องเจวี๋ยเกอเอ๋ อร์เช่นนี้ นางได้
ผลประโยชน์แล้วจะไม่คิดถึงเจวี๋ยเกอเอ๋ อร์ได้อย่างไร
“พวกเจ้าบ้านสามได้เปรี ยบอย่างยิง่ เจ้าย่อมไม่มีความคิดเห็นอยู่
แล้ว” เสิ่ นหงอู่ตะคอกอย่างไม่พอใจ “ท่านพ่อท่านเองก็เห็น พี่ใหญ่ก็
ไม่เห็นด้วย พวกข้าไม่ได้เป็ นห่วงมรดกของท่าน เพียงแต่ทนเห็น
ท่านลาเอียงเช่นนี้ไม่ได้” เขายังคงกล่าวอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ
สายตานายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปรายผ่านใบหน้าลูกสายทั้งสามช้า ๆ อันที่
จริ ง ในใจเขาไม่ใช่วา่ ไม่ผดิ หวัง แต่ต่อให้ผดิ หวังก็ยงั คงเป็ นลูกชาย
ของเขา แต่เมื่อนึกถึงเวยเจี่ยเอ๋ อร์เด็กผูห้ ญิงที่ไม่สนระยะทางไม่ห่วง
อันตรายวิ่งมาถึงสนามรบซีเจียงเสี่ ยงเป็ นเสี่ ยงตายแทนเขา เสี่ ยงเป็ น
เสี่ ยงตายแทนจวนโหว แม้แต่สินเดิมของฝั่งแม่นางยังมอบให้ เขาก็
รู ้สึกผิด อีกทั้งยังเสี ยใจ ยิง่ แน่วแน่ต่อการตัดสิ นใจว่าจะมอบมรดก
ให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์
“ใครบอกพวกเจ้าว่าเวยเจี่ยเอ๋ อร์อยูท่ ี่วดั ต้าเจวี๋ย ไม่ นางไม่ได้อยูท่ ี่
นัน่ ! นางอยูซ่ ีเจียง! เมื่อรายงานรบที่ซีเจียงเข้ามาในเมืองหลวงนางก็
นาคนคุม้ กันเสบียงสามหมื่นต้านไปซีเจียง หลายเดือนมานี้นางก็อยู่
ที่ซีเจียงตลอด” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกล่าวช้า ๆ ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย
“เป็ นไปไม่ได้!” เสิ่ นหงอู่เอ่ยปากค้านทันที “ท่านพ่อท่านอย่าหลอก
พวกลูก เวยเจี่ยเอ๋ อร์เด็กผูห้ ญิงเพียงคนเดียวจะมีความสามารถ
เช่นนั้นได้อย่างไร” ใช่เวยเจี่ยเอ๋ อร์เป็ นวรยุทธ์เล็กน้อย แต่เป็ นวร
ยุทธ์กบั ลงสนามรบเป็ นคนละเรื่ องกัน นางไหนเลยจะกล้าหาญเพียง
นั้น เสิ่ นหงอู่ไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
เสิ่ นหงอู่ตกใจอย่างยิง่ อาจารย์ลูกชายเขาก็เคยเอ่ยถึงเจ้าสี่ อะไรสัก
อย่าง เขาคิดว่าเป็ นลูกหลานคนไหนของฝั่งหมู่บา้ นตระกูลเสิ่ นจึง
ไม่ได้สนใจ
ฮูหยินสวี่เองก็ใจเต้น จริ งด้วย เวยเจี่ยเอ๋ อร์ไปซีเจียงจริ ง ๆ ด้วย
มิน่าเล่าท่านเสิ่ นโหวถึงได้ให้ความสาคัญเช่นนี้ ในใจนางมีความคิด
ร้อยพันแวบผ่าน แววตาคลุมเครื อไม่หยุด
เสิ่ นหงเซวียนยังคงก้มหน้า เขารู ้ข่าวนี้จากรู ้ชายนานแล้ว ตอนนี้ได้
ยินท่านพ่อเอ่ยขึ้นอีกครั้งความรู ้สึกของเขาก็ยงั คงซับซ้อนเช่นเคย
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยังคงมีสีหน้าเรี ยบเฉย “ข้าจาเป็ นต้องหลอกเจ้า
ด้วยหรื อ แม่ทพั อู่เลี่ยกับ
หย่งติ้งโหงสามารถยืนยันได้ ท้องพระคลังเป็ นอย่างไรพวกเจ้าก็รู้
ไม่ใช่หรื อ รวบรวมทั้งหมดทั้งมวลแล้วราชสานักก็ส่งเสบียงมาซี
เจียงได้เพียงหนึ่งหมื่นต้าน ด้วยเสบียงแค่น้ ีพอ่ เจ้าคงจะหิ วตายอยูท่ ี่ซี
เจียง
เวยเจี่ยเอ๋ อร์นาสิ นเดิมทั้งหมดของแม่นางมาให้จึงเลี้ยงกองทัพหลาย
หมื่นนายของซีเจียงได้ ข้าจึงชนะศึกกลับมาอย่างปลอดภัยได้ พวก
เจ้าหาว่าข้ารักเวยเจี่ยเอ๋ อร์มากกว่า เหตุใดถึงไม่คิดเสี ยบ้างว่าตอนที่ซี
เจียงตกอยูใ่ นอันตรายมีเพียงเด็กผูห้ ญิงเช่นนางที่กา้ วออกมา พวกเจ้า
มีใครบ้างที่คิดจะส่ งเสบียงสักคันส่ งเงินสักเล็กน้อยมาให้ขา้ ไม่มี
พวกเจ้าไม่มีใครได้เรื่ องเลยสักคน! ข้าเสิ่ นผิงยวนมีลูกชายสามคน
หลานชายหกคน ไม่มีสกั คนที่มีประโยชน์เท่าเวยเจี่ยเอ๋ อร์เลย”
เสี ยงที่น่าเกรงขามของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวดังก้องอยูภ่ ายในห้อง เสิ่ น
หงเซวียนก้มหน้างุด มองไม่เห็นสี หน้าของเขา สี หน้าเสิ่ นหงอู่เหยเก
เสิ่ นหงเหวินรู ้สึกผิดอย่างถึงที่สุด เขาเองก็เกลียดที่ตนเองไร้
ประโยชน์ แบ่งเบาภาระบิดาไม่ได้
แม้ฮูหยินสวี่จะไม่พดู แต่ในใจกลับไม่ยอมรับ เมื่อข่าวนายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวถูกยิงธนูสลบเข้ามาในเมืองหลวง สามีของนางก็ไปขอร้องฝ่ า
บาททั้งคืนมิใช่หรื อ เชียนเกอเอ๋ อร์กว็ งิ่ ไปซีเจียงมิใช่หรื อ ตอนนี้ลูก
ชายยังอยูท่ ี่ซีเจียงอยูเ่ ลย จะเทียบเวยเจี่ยเอ๋ อร์เด็กผูห้ ญิงคนเดียวไม่ได้
ได้อย่างไร ในมือเวยเจี่ยเอ๋ อร์มีเงิน แต่นางจะมีความสามารถ
มากกว่าเชียนเกอเอ๋ อร์ได้อย่างไร เชียนเกอเอ๋ อร์ต่างหากที่เป็ น
หลานชายคนโตที่ถูกต้องตามกฎหมาย นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยกยอ
เด็กผูห้ ญิงเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร
นางคิดเช่นนี้ บนใบหน้าก็ออกสี เล็กน้อยอย่างไม่อาจเลี่ยง
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นคนที่มีสติปัญญามาก มอบแวบเดียวก็รู้
ความคิดของนาง แค่นเสี ยงในใจอย่างอดไม่ได้ ฮูหยินสวี่ลูกสะใภ้
คนโตผูน้ ้ ีเป็ นคนที่เขาตั้งใจขอมาให้ลูกชายคนโต หลายปี มานี้อบรม
สัง่ สอนลูกชายลูกสาวทาหน้าที่ภรรยาได้ดีอย่างยิง่ มาโดยตลอด เขา
เองก็พอใจอย่างมาก ทว่าความรู ้ของนางก็ยงั คงน้อยเกินไป เห็น
เพียงแต่วา่ ตนรักเวยเจี่ยเอ๋ อร์มากกว่า ไม่คิดว่าเวยเจี่ยเอ๋ อร์จะนา
ผลประโยชน์มาให้จวนโหวได้
หากเป็ นเขา อย่าว่าแต่มรดกของพ่อสามี ต่อให้จะเพิ่มจวนโหวไปอีก
ครึ่ งจวนก็ยงั ยินดี เพียงแค่เวยเจี่ยเอ๋ อร์มีความเกี่ยวข้องกับจวนโหว
แน่นแฟ้น ภายหลังหากจวนโหวเจอปั ญหานางจะต้องช่วยอย่าง
สุ ดกาลังแน่
ตนวางแผนให้พวกเขาเช่นนี้ พวกเขาแต่ละคนยังตระหนักไม่ได้อีก
นี่ทาให้นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวผิดหวังในใจอย่างยิง่ เหตุใดเวยเจี่ยเอ๋ อร์ถึง
ไม่เป็ นเด็กผูช้ ายเล่า ความคิดนี้เข้ามาเกาะกุมหัวใจเขาอีกครั้ง
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวละสายตามองลูกชายคนโต “เจ้าคิดว่าข้าปฏิบตั ิต่อ
เชียนเกอเอ๋ อร์อย่างไม่เป็ นธรรมใช่หรื อไม่ โง่นกั ! ข้าจะบอกเจ้าให้
ชัด ๆ ก็ได้ หากเวยเจี่ยเอ๋ อร์เป็ นเด็กผูช้ าย บรรดาศักดิ์จงอู่โหวไหน
เลยจะตกยังเป็ นของเจ้า ข้าจะขอพระราชโองการให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์
โดยตรง เจ้าลองไปเดินสารวจเมืองชายแดนดู ในกองทัพก็ดี
ประชาชนก็ดี ดูวา่ พวกเขารู ้จกั คุณชายสี่ หรื อว่ารู ้จกั คุณชายใหญ่ ข้า
จะบอกเจ้าให้ ชื่อเสี ยงของคุณชายสี่ แซ่เสิ่ นที่ซีเจียงยังดังยิง่ กว่าพ่อ
เจ้าเสี ยอีก!”
หยุดหายใจครู่ หนึ่งเขาจึงกล่าวต่อ “แม้แต่เชียนเกอเอ๋ อร์ ก็ได้เสิ่ นเว
ยปกป้องถึงได้รอดชีวิตจากอันตรายในทุกครั้ง ข้ามอบมรดกทั้งหมด
ให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์ เรื่ องนี้เชียนเกอเอ๋ อร์เองก็เห็นด้วย เขายังแย้งว่าให้
น้อยไปด้วยซ้ า อย่างไรเสี ยมรดกแค่น้ นั ของข้าดูเหมือนจะเยอะ แต่
อันที่จริ งยังไม่ถึงครึ่ งหนึ่งที่เสิ่ นเวยนาออกมาเลย ที่เวยเจี่ยเอ๋ อร์นา
เข้าไปไม่ได้มีแต่สินเดินของหร่ วนซื่อ ยังมีร้านค้ายีส่ ิ บกว่าร้าน
ภายใต้ชื่อนางอีกด้วย! หากเป็ นเจ้า เจ้ายอมตัดใจให้ได้หรื อไม่
ความสามารถของเจ้าที่ธรรมดา ๆ ข้าจะไม่เอ่ยถึงแล้ว แต่เจ้าเป็ นถึง
ลุงใหญ่กไ็ ม่ควรไร้หวั ใจถึงเพียงนี้ เจ้าเทียบไม่ได้แม้แต่เชียนเกอ
เอ๋ อร์! เชียนเกอเอ๋ อร์ยงั รู ้จกั ไปปรึ กษากับเวยเจี่ยเอ๋ อร์เมื่อมีปัญหา
เพราะเขารู ้วา่ ตนสู ้นางไม่ได้ เช่นนั้นก็ตอ้ งใจกว้าง ก็ตอ้ งเมตตา ก็
ต้องวางท่าทางที่พชี่ ายคนโตควรจะมี! เพราะเขารู ้วา่ เวยเจี่ยเอ๋ อร์ทา
ทั้งหมดนี้เป็ นสิ่ งที่เขาควรทาแต่ทาไม่ได้ เวยเจี่ยเอ๋ อร์จึงทาแทนเขา!”
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกล่าวเสี ยงทรงพลัง น้ าเสี ยงเฉี ยบขาดยิง่ ขึ้น ราว
กับค้อนหนึ่งอันที่เคาะลงในใจทุกคน สัง่ สอนลูกสะใภ้ไม่ได้
เช่นนั้นเขาก็ยงั สัง่ สอนลูกชายได้ไม่ใช่หรื อ
ความเสี ยใจบนสี หน้าเสิ่ นหงเหวินมากขึ้นแล้ว “ท่านพ่อ ลูกผิดไป
แล้ว ท่านอย่าโมโห ลูกเชื่อฟังท่าน ลูกเชื่อฟังท่านทุกอย่าง ท่านยก
มรดกให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์ ลูกไม่มีความคิดเห็น รอเวยเจี่ยเอ๋ อร์ออกเรื อน
ลูกจะเพิ่มสิ นเดิมให้อีก” เสิ่ นหงเหวินเป็ นลูกกตัญญู เขาไม่อาจแบ่ง
เบาภาระพ่อเขาได้กร็ ู ้สึกผิดอย่างยิง่ แล้ว ตอนนี้บิดาเขากลับเมือง
หลวงทั้งที เขาจะทาให้บิดาเขาโมโหได้อย่างไร ตอนนี้เขาขอเพียง
แค่บิดาเขาใจเย็นโดยเร็ ว สาหรับมรดกของบิดา จะให้ก็ให้เถอะ
ฮูหยินสวี่เองก็รีบเปลี่ยนท่าที “มรดกท่านพ่อเดิมก็ควรจะจัดการโดย
ท่านพ่อเอง ให้ใครไม่ให้ใครพวกข้าที่เป็ นชนรุ่ นหลังไม่มีความ
คิดเห็นแม้แต่นิดเดียว เวยเจี่ยเอ๋ อร์เป็ นเด็กที่น่าสงสาร ทั้งยังพยายาม
เพื่อจวนของพวกเรามามาก ท่านพ่อปูนบาเหน็จนางสักหน่อยก็เป็ น
เรื่ องสมควร ลูกไม่มีความคิดเห็นใด ๆ ”
นายท่านผูเ้ ฒ่าไหนเลยจะสัง่ สอนลูกชาย คาพูดนั้นชัดเจนว่าพูดให้
นางฟังต่างหาก ฮูหยินสวี่นึกถึงคาแนะนาของบิดานาง ในใจก็ตกใจ
ชัว่ ขณะ ตอนนี้สิ่งที่นางดีใจที่สุดก็คือเวยเจี่ยเอ๋ อร์เป็ นเด็กผูห้ ญิง มิ
เช่นนั้นจวนโหวนี้กอ็ าจจะตกอยูใ่ นมือคนอื่น อุบายของนายท่านผู ้
เฒ่าโหวบิดาของนางยังหวาดกลัวเป็ นอย่างยิง่ หากนายท่านผูเ้ ฒ่า
โหวมีความคิดจะยกบรรดาศักดิ์ให้เวยเจี่ยเอ๋ อร์ บ้านใหญ่ของพวก
เขาก็หมดหนทางแล้ว
สี หน้าบนใบหน้านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเพิ่งจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย
กระทัง่ กล่าวกับลูกชายคนรองที่สีหน้ายังคงไม่ยนิ ยอมเล็กน้อย
“พวกเจ้าคิดเช่นนี้ได้กด็ ีแล้ว ไม่วา่ จะเป็ นลูกชายหรื อลูกสาว ต่างก็
เป็ นหลานของข้าเสิ่ นผิงยวนทั้งหมด ข้ารักเวยเจี่ยเอ๋ อร์มากกว่า นัน่ ก็
เพราะว่านางแบกความรับผิดชอบของพวกเจ้าทั้งหมด ครั้งนี้หากไม่
มีเวยเจี่ยเอ๋ อร์ ข้าก็คงตายอยูท่ ี่ซีเจียง อย่าว่าแต่คว้าชัยชนะปูน
บาเหน็จเลย จวนโหวของพวกเราคงจะต้องถูกคนอื่นเหยียบยา่ จมดิน
มิใช่หรื อ”
คนในห้องหนังสื อต่างก็หวาดกลัว แม้แต่คนโง่อย่างเสิ่ นหงอู่ยงั รู ้วา่
หลายปี มานี้ความรุ่ งโรจน์ของจวนจงอู่โหวเกี่ยวพันกับบิดาเขาเพียง
ผูเ้ ดียว หากบิดาเขาไม่อยูแ่ ล้ว จวนโหวก็จะจมลงในชัว่ พริ บตา พี่
ใหญ่นอ้ งสามยังดี เลี้ยงคนในครอบครัวได้ แต่เขาที่อาศัยจวนโหว
อยูไ่ ปวัน ๆ คงไม่ได้แล้ว ถึงตอนนั้นจวนโหวจะต้องแยกบ้าน พี่
ใหญ่เขาจะต้องเลี้ยงเขาไม่ได้อีก เช่นนั้นเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร เสิ่ น
หงอู่หวาดกลัว ไม่กล้าคิด ความคิดที่อยากแย่งมรดกก็ลดลงไปมาก
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเห็นพวกเขาคล้ายครุ่ นคิด ก็กล่าวต่อ “วันนี้ขา้ เอง
ก็มีเรื่ องมาบอกพวกเจ้า ฝ่ าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เวยเจี่ย
เอ๋ อร์เป็ นจวิน้ จู่กเ็ พราะว่าประมุขซีเหลียงและองค์ชายทั้งหมด
กระทัง่ ขุนนางชั้นผูใ้ หญ่ท้ งั หมดถูกนางและองค์ชายใหญ่จวนจิ้
นอ๋ องนาคนแฝงตัวเข้าไปในเมืองหลวงซีเหลียงเพื่อจับเป็ นเชลย
กลับมา ข้อเสนอในการนาเงินมาแลกคนและขอค่าชดใช้ความ
เสี ยหายก็เป็ นนางที่เสนอ คุณงามความดียงิ่ ใหญ่เพียงนี้พระราชทาน
ตาแหน่งจวิน้ จู่ยงั ไม่พอด้วยซ้ า เดิมฝ่ าบาทยังคิดจะเสนอตาแหน่งขุน
นางของเจ้าสาม ยังคิดจะพระราชทานตาแหน่งว่างให้นอ้ งชายแท้ ๆ
ของเวยเจี่ยเอ๋ อร์ แต่ถูกข้าปฏิเสธไป ยิง่ สู งยิง่ หนาว ตอนนี้จวนโหว
ของเราเป็ นที่วิพากษ์วิจารณ์อยูข่ า้ งนอก อยูเ่ งียบ ๆ ไว้หน่อยจะดีกว่า
เรื่ องนี้พวกเจ้ารู ้กนั เองก็พอแล้ว จาไว้วา่ อย่าพูดมัว่ ซัว่ ออกไป!
โดยเฉพาะเจ้ารอง อย่าเมายมายจนไม่รู้วา่ ตนเป็ นใคร หากมีใครใน
พวกเจ้าสร้างปัญหา อย่ามาว่าข้าที่ลงโทษตามกฎตระกูล!” นายท่าน
ผูเ้ ฒ่าโหวเตือนเสี ยงเด็ดขาด
“ขอรับ / เจ้าค่ะ ลูกเข้าใจแล้ว” พี่นอ้ งทั้งสามรวมถึงฮูหยินสวี่ตอบ
พร้อมกัน เรื่ องเช่นนี้ใครกล้าพูดออกไปกัน
เสิ่ นหงเหวินพี่นอ้ งทั้งสามออกไปจากห้องหนังสื อแล้ว นายท่านผู ้
เฒ่าโหวยืนมือไพล่หลังอยู่ ใบหน้าครึ่ งฝั่งอยูใ่ นแสงและเงา ทาให้
คนมองเห็นสี หน้าของเขาไม่ชดั เจน
“ท่านโหวอย่าได้เสี ยใจไปเลย พวกคุณชายเหวินต่างก็เป็ นลูก
กตัญญู” เสิ่ นฉงอันทหารคนสนิทยังคงเรี ยกตามคาเรี ยกเก่า
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถอนหายใจเบา ๆ หนึ่งครา กล่ว “ฉงอัน เจ้าว่า
ชะตาข้าไม่ดีหรื อไม่”
เสิ่ นฉงอันคัดค้านทันที “ใครบอกกัน ชะตาของท่านโหวดีอย่างยิง่
ท่านเริ่ มจากศูนย์จนได้มาซึ่งครอบคัวใหญ่ลูกเต็มบ้านหลานเต็ม
เมืองเช่นนี้ ชะตาของท่านดีที่สุด”
ทว่านายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวกลับไม่คิดเช่นนี้ หากเขาชะตาดีกค็ วรจะ
มีความสุ ขในบั้นปลายชีวิตไปตั้งนานแล้ว หากเขาชะตาดี ไหนเลย
จะต้องทุกข์ใจเพื่อลูกหลานทั้งที่อายุปูนนี้แล้ว หากเขาชะตาดี
ลูกหลานเต็มจวนไหนเลยจะเลือกคนมารับภาระสาคัญไม่ได้เลย
แม้แต่คนเดียว
หรื อว่าชีวิตคนที่เขาคร่ ามาเยอะเกินไปจนสวรรค์ไม่เมตตา กระทัง่
สวรรค์ยงั ลงโทษเขาเช่นนี้ คิดถึงตรงนี้เขาก็สงั่ เสิ่ นฉงอัน “ฉงอัน แม้
ตอนนี้ใกล้จะถึงต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศก็ยงั คงหนาวยิง่ นัก
พรุ่ งนี้เอาเงินหนึ่งพันตาลึงไปซื้อข้าวสารและผ้ามาแจกจ่ายบ้านคน
จนที่ฝั่งตะวันตกของเมืองเงียบ ๆ ให้คนที่ดูไม่ค่อยคุน้ หน้าไปทา
และอย่าได้เอ่ยถึงชื่อจวนโหวของเรา” ทั้งหมดก็เพื่อสัง่ สมบุญกุศล
ให้ลูกหลาน
ตนแก่แล้ว ไม่ได้มีปณิ ธานยิง่ ใหญ่เหมือนเมื่อก่อน บางทีกค็ วรจะทา
อย่างที่เวยเจี่ยเอ๋ อร์เคยว่าไว้จริ ง ๆ ลูกหลานมีโชคของลูกหลานเอง
ไม่ตอ้ งไปเป็ นทุกข์แทนลูกหลาน เขาเองก็ควระจะปล่อยวางเพื่อเสพ
สุ ขได้แล้ว
ตอนที่ 184-2 เหตุใดถึงไม่ เป็ นเด็กผู้ชาย
เรื อนเฟิ งหวาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสี ยงหัวเราะสนุกสนาน แม้
หลายเดือนนี้ที่คุณหนูไม่อยูพ่ วกนางจะระมัดระวัง แต่เมื่อคุณหนู
กลับมาก็ปูนบาเหน็จก้อนใหญ่ แม้แต่หญิงชราที่เฝ้าประตูเรื อนยังได้
เงินถึงห้าตาลึง ใครบ้างจะไม่ดีใจ
ในบ้าน เสิ่ นเวยเงียบฟังน้องชายเล่าเรื่ องและการเปลี่ยนแปลงที่
เกิดขึ้นในเมืองหลวงและจวนหลังจากที่นางจากไป “ไม่รู้เหมือนกัน
ว่ามีความคิดนี้ได้อย่างไร นางโน้มน้าวท่านย่า อยากขอตัวฉาฮวาไป
ที่เรื อนนาง ข้าคิดว่านี่คือสาวใช้ของท่านพี่ ท่านพี่ไม่อยู่ ไม่อาจให้
นางวางแผนร้ายได้ จึงยืนกรานไม่อนุญาต ภายหลังนางก็หาเรื่ อง
ฉวยโอกาสคิดจะปล่อยฮูหยินหลิวออกมาตอนที่นางจะออกเรื อน ข้า
เองก็ไม่อนุญาต”
เสิ่ นเจวี๋ยมองพี่สาวของเขาด้วยดวงตาที่เป็ นประกาย ท่าทางออด
อ้อนของคาชม เสิ่ นเวยอดยิม้ ไม่ได้ ชมอย่างใจกว้าง “น้องเจวี๋ยทาดี
มาก โตแล้ว รู ้เรื่ องแล้ว”
บนใบหน้าเสิ่ นเจวี๋ยเคอะเขินเล็กน้อย “อันที่จริ งล้วนเป็ นอาจารย์เกิ่ง
และอาจารย์ซูที่สอนมาดี ข้าคิดว่า สาวใช้ของพี่ขา้ มีสิทธิ์อะไรต้อง
ให้นาง พี่ขา้ แก้ไขปั ญหาอย่างยากลาบาก ข้าจะต้องปกป้องไว้ให้ได้”
เสิ่ นเวยเองก็หวั เราะเยาะ “อยากได้ฉาฮวางั้นหรื อ เหอะ นางกล้านัก
นะ! ฐานะของฉาฮวาไม่ได้ต่าต้อยไปกว่าเจ้าเลย” ฉาฮวาเป็ น
บุตรสาวตระกูลใหญ่ในเจียงหนาน เมื่อกลับบ้านเก่า ฐานะของนางก็
ไม่ต่างอะไรจากบุตรสาวบ้านสามจวนโหวแห่งนี้
เสิ่ นเจวี๋ยเองก็ไม่ได้ตกใจ ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ยนิ จางจูจ้ ื่อเอ่ยมาบ้าง
แล้ว รู ้วา่ สาวใช้ขา้ งกายท่านพี่ลว้ นไม่ใช่สาวใช้จริ ง ๆ
หลังจากนั้นเสิ่ นเจวี๋ยก็รบเร้าถามพี่สาวเขาถึงสงครามที่ซีเจียง เสิ่ นเว
ยเองก็เล่าให้เขาฟังอย่างเต็มใจ ผูช้ ายน่ะ ต้องรู ้เรื่ องราวภายนอกบ้าง
เช่นนี้จะได้ไม่อ่อนแอ
เสิ่ นเจวี๋ยฟังด้วยความตื่นเต้นดีใจดวงตาทั้งคู่ลุกวาว หมัดของเขากา
แน่น อยากจะรี บโตแล้วไปแสดงความองอาจห้าวหาญในสนามรบ
จะแย่อยูแ่ ล้ว
เสิ่ นเวยอ่านความคิดของเขาออก หัวเราะเบา ๆ หนึ่งครา กล่าวชี้แนะ
ด้วยความจริ ใจ “น้องเจวี๋ย ลูกผูช้ ายมีโอกาสสร้างผลงานเสมอ แต่
ก่อนหน้านั้นก็ยงั ต้องเรี ยนรู ้ฝึกฝนให้ดี มีคากล่าวไว้วา่ ‘จะตีเหล็ก
ตนก็ตอ้ งมีความสามารถด้วย’ ไม่วา่ จะเป็ นการต่อสู ้ในสนามรบ
หรื อว่าการยืนอยูใ่ นราชสานัก ก่อนอื่นตัวเจ้าเองก็ตอ้ งมี
ความสามารถ เช่นนี้คนอื่นก็จะไม่ดูถูกเจ้า เหมือนข้า เหตุใดข้าถึงมี
ความมัน่ ใจพอ เหตุใดท่านปู่ ถึงรักพวกเราสองพี่นอ้ งมากกว่า ไม่ใช่
เพราะว่าข้ามีความสามารถ ช่วยเหลือจวนโหวได้หรอกหรื อ”
เห็นสี หน้าเสิ่ นเจวี๋ยคล้ายมีความคิดแวบผ่าน ในนั้นคล้ายยังมี
ความรู ้สึกที่พดู ไม่ออกบอกไม่ถูกชนิดหนึ่งอยูด่ ว้ ย เสิ่ นเวยก็เข้าใจดี
กล่าว “น้องเจวี๋ย เจ้าเองก็อย่าโกรธท่านปู่ เลย การหาผลประโยชน์
เป็ นการให้ชนิดหนึ่ง มีราคาในการหาผลประโยชน์กย็ งั ดีกว่าไม่มี
ราคาในการหาผลประโยชน์เลยไม่ใช่หรื อ”
เสิ่ นเจวี๋ยเอียงคอคิด หลังจากนั้นก็สบายใจลงแล้ว “ท่านพี่ ข้าเข้าใจ
แล้ว” ทว่าในใจกลับตัดสิ นใจเงียบ ๆ ต่อให้จะถูกใช้ประโยชน์เช่น
นัน่ ก็ตอ้ งใช้ประโยชน์จากเขา ต่อไปนี้เขาจะไม่ให้ใครมาใช้
ประโยชน์พี่สาวของเขาอีก แม้วา่ จะเป็ นตัวเองก็ไม่ได้
วันที่สองนายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวมอบกุญแจคลังส่ วนตัวให้เสิ่ นเวย
“เจ้าสี่ นี่คือของที่ปู่รับปากเจ้า เจ้าคิดว่าจะขนของกลับเรื อนเจ้า หรื อ
ว่าเจ้าจะส่ งคนมารับต่อ”
เสิ่ นเวยมองกุญแจในมือแล้วขมวดคิว้ อย่างประหลาดใจ “ท่านปู่
ท่านให้ขา้ จริ ง ๆ หรื อ ในมือท่านไม่เหลือสมบัติไว้เลย ไม่กลัวท่าน
ลุงใหญ่และคนอื่น ๆ จะอกตัญญูต่อท่านหรื อ”
แม้วา่ ตอนที่อยูซ่ ีเจียงนางจะรบเร้าขอเงินทองทรัพย์สินส่ วนตัวจาก
ท่านปู่ นาง แต่ความจริ งแล้วก็เพียงแค่พดู ไปอย่างนั้น เตือนท่านปู่
นางว่าอย่าลืมเงินที่นางออกไปก็เท่านั้นเอง ในใจนางไม่คิดจะรับ
มรดกของปู่ นางอย่างสิ้ นเชิง
เงินออกไปแล้วแย่งกลับมาก็สิ้นเรื่ อง เงินเยอะจนถึงระดับหนึ่งก็เป็ น
เพียงตัวเลข นางขอเพียงแค่ไม่ขาดเงินใช้สอย ไม่ได้เห็นเงินอยูใ่ น
สายตาจริ ง ๆ นางชอบตอนที่เงินเพิ่ม แต่กลับไม่ได้คิดจะเป็ นทาส
ของเงิน นางเพียงแค่แสดงออกว่าเป็ นคนตระหนี่มาก อันที่จริ งกลับ
เห็นเงินเป็ นเพียงปุ๋ ยดิน
นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวถลึงตายิม้ ติเตียน “ให้เจ้าก็รับไว้เถอะ เอาเรื่ อง
เหลวไหลที่ไหนมาพูด ลุงใหญ่เจ้าและคนอื่น ๆ อกตัญญูกย็ งั มีเจ้า
ไม่ใช่หรื อ หรื อว่าเจ้าไม่ใช่หลานข้า ไม่สนใจข้าได้ดว้ ยหรื อ”
เสิ่ นเวยมีความสุ ขขึ้นมาทันที เก็บกุญแจคลังส่ วนตัวอย่างรวดเร็ ว
“แน่นอนอยูแ่ ล้ว! ท่านปู่ ข้ารู ้สึกว่าความคิดนี้ของท่านไม่เลวเลยจริ ง
ๆ ฝ่ าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้คุณชายใหญ่สวีเป็ นจวิน้ อ๋ อง
แล้วไม่ใช่หรื อ เช่นนั้นเขาจะต้องมีจวนอื่นอีกแน่นอน ท่านปู่ ตามไป
อยูก่ บั ข้าเถอะ ที่บา้ นมีผอู ้ าวุโสประหนึ่งมีสิ่งของล้ าค่า หลานจะ
กตัญญูต่อท่านผูอ้ าวุโสแน่นอน” เสิ่ นเวยยิง่ พูดก็ยงิ่ รู ้สึกว่าความคิดนี้
ไม่เลว มองท่านปู่ อย่างตั้งหน้าตั้งตารอ
ในใจนายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวอบอุ่น แต่สีหน้ากลับนิ่งเฉยเขกศีรษะ
หลานสาวหนึ่งครา กล่าวตาหนิ “เคยได้ยนิ สิ นเดิมที่เป็ นเงินทอง
ร้านค้า ที่ดิน ยังไม่เคยได้ยนิ สิ นเดิมที่เป็ นปู่ มาก่อน เจ้าจะทาให้คน
นอกนินทาลุงใหญ่ของเจ้าลับหลังหรื อ!” ทว่ารอยยิม้ ในดวงตาจะ
ซ่อนอย่างไรก็ซ่อนไว้ไม่อยู่
เสิ่ นเวยเผยสี หน้าผิดหวัง ยุคโบราณก็ไม่ดีตรงนี้ สตรี ที่แต่งออกก็
เหมือนน้ าที่สาดออกไป แม้วา่ ในบ้านจะไม่มีลูกชาย พ่อแม่กไ็ ม่อาจ
ตามลูกสาวคนเดียวไปใช้ชีวิตบั้นปลายได้
“ท่านปู่ หรื อว่าหลานเหลือเรื อนไว้ให้ท่านดี ท่านมาพักค้างคืนบ่อย
ๆ จะได้พกั ผ่อนหย่อนใจ” เสิ่ นเวยเสนอต่อ นางอยากดูแลปู่ นางจริ ง
ๆ ด้วยความรู ้ความสามารถของนาง ชีวิตแต่งงานของนางจะต้อง
สบายแน่นอน อีกทั้งเสิ่ นเวยชอบปู่ นางจริ ง ๆ ความคิดเปิ ดกว้างไม่
คร่ าครึ แม้วา่ จะเป็ นเพียงแผนการนางก็ยงั เปิ ดเผยให้เห็น
นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวเขกหลานสาวอีกครั้ง “คุณชายใหญ่สวีมีผู ้
อาวุโสของตัวเอง ไหนเลยจะมีที่ให้ปู่เจ้าเข้าไปอยู่ อีกทั้งเจ้าจะเป็ น
ใหญ่แทนคุณชายใหญ่สวีได้หรื อ” เขาชายตามองเสิ่ นเวยแล้วกล่าว
“ผูอ้ าวุโสของเขาไม่ใช่มีจวนอ๋ องหรื อไร ไหนเลยจะสนใจจวนจวิน้
อ๋ องเล็ก ๆ ได้” เสิ่ นเวยย่นจมูกเล็กน้อย กล่าวอย่างไม่สนใจ “เหตุใด
จะเป็ นใหญ่ไม่ได้เล่า หลานท่านหน้าตางดงามราวกับบุปผา ทั้ง
ฉลาดทั้งเก่ง นิสยั ก็ดี จัดการชายแก่ป่วยเรื้ อรังคนหนึ่งไหนเลยจะทา
ไม่ได้ เขาแต่งข้าเป็ นภรรยาได้ ไม่รู้วา่ ชาติที่แล้วจุดธูปไปมากน้อย
เพียงใด ทาไมเล่า ยังกล้าไม่เชื่อฟังด้วยหรื อ” ศีรษะของเสิ่ นเวยเชิด
สู ง ท่าทางพอใจอย่างยิง่ ‘เขา’ ผูน้ ้ ียอ่ มต้องหมายถึงคุณชายใหญ่สวี
แน่นอน
หากคาพูดนี้สวีโย่วได้ยนิ เข้า จักต้องพยักหน้าด้วยสี หน้าโปรดปราน
ทั้งใบหน้าแน่นอน ‘ใช่แล้ว ๆ น้องสี่ พดู อะไรก็ถูก’ ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าเพราะเหตุใด สวีโย่วเองก็บอกไม่ได้วา่ เหตุใดเขาถึงชอบเด็กปี ศาจ
คนนี้มากขนาดนั้น
นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวก่ายหน้าผาก ไม่อยากยอมรับเลยว่าเด็กสาวขี้
อวดตนคนนี้เป็ นหลานสาวของเขา
สุ ดท้ายเสิ่ นเวยก็ไม่ได้ขนมรดกของปู่ นางกลับเรื อนเฟิ งหวา และ
ไม่ได้ส่งคนมารับ เพียงแค่เก็บกุญแจไว้ เสิ่ นเวยมัน่ อกมัน่ ใจ “ใน
เรื อนของท่านปู่ มีคนของท่านดูแล หลานยังมีอะไรให้ไม่สบายใจ
อีก”
พระราชโองการพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้สวีโย่วเป็ นจวิน้ อ๋ อง
มาถึงเรื อนจิ้นอ๋ องแล้ว ทั้งยังได้ยนิ ว่าฝ่ าบาทพระราชทานสวนชิง
หยวนที่มีชื่อแห่งนั้นให้เขาเป็ นจวนจวิน้ อ๋ อง พระชายาจิ้นอ๋ องสี หน้า
ยิม้ แย้มยินดี แต่เล็บในแขนเสื้ อลับจิกเข้าเนื้อแล้ว
สวนชิงหยวน คือบ้านพักของผูส้ าเร็ จราชการแทนพระองค์รัช
สมัยก่อน ข้างในงดงามหรู หรา เพียงแค่สร้างเรื อนหลังนี้กใ็ ช้เงินไป
กว่าล้านตาลึงแล้ว ตอนนั้นฝ่ าบาททรงมิอาจตัดใจให้ได้แม้แต่องค์
หญิงใหญ่ ตอนนี้กลับพระราชทานให้สวีโย่วเป็ นจวนจวิน้ อ๋ อง นี่จะ
ไม่ทาให้นางริ ษยาเคียดแค้นได้อย่างไร
“พี่ใหญ่ น้องยินดีกบั ท่านด้วย” สวีเยีย่ ซื่อจื่อจวนจิ้นอ๋ องยิม้ ให้สวี
โย่วแล้วกล่าว ไม่วา่ ในใจเขาจะคิดอย่างไร สี หน้ากลับจริ งใจอย่างถึง
ที่สุด
สวีโย่วยกมุมปาก กล่าว “ขอคุณมาก” จากนั้นก็ไม่พดู อะไรอีก
โชคดีที่สวีเยีย่ รู ้วา่ พี่ใหญ่ของตนมีนิสยั ไม่ชอบพูดคุย กลับไม่ได้
สนใจ ยุง่ อยูก่ บั การช่วยขันทีผปู ้ ระกาศพระราชโองการ
สวีเหยียน สวีฉงั่ และสวีสิงเองก็เข้ามาแสดงความยินดี โดยเฉพาะสวี
ฉัง่ ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา ทั้งยังหงุดหงิด หากรู ้ก่อนว่า
คุณูปการสร้างง่ายเพียงนี้เขาเองก็คงจะตามไปซีเจียงด้วย ดูพี่ใหญ่สิ
เป็ นเพียงแค่คนป่ วยออดแอด ไปซีเจียงเที่ยวเดียว กลับมาก็ได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นถึงจวิน้ อ๋ อง เขาร่ างกายแข็งแรงกว่าพี่
ใหญ่ต้ งั เยอะ พี่ใหญ่ยงั ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ อ๋ อง
แล้วเขาจะไม่ได้ได้อย่างไร
ตอนที่ 185-1 คดีความกับเสิ่นเสวีย่
ช่วงนี้ข่าวลือในเมืองหลวงที่โด่งดังที่สุดก็คือจวนจงอู่โหว ผูเ้ ฒ่าจงอู่
โหวได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นราชครู ของรัชทายาท คุณหนู
สี่ บา้ นสามได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ ด้วยเหตุน้ ีคนที่
ส่ งของขวัญอวยพรให้จวนโหวจึงเนืองแน่นไม่ขาดสาย แม้วา่ จวน
จงอู่โหวคิดจะอยูเ่ งียบ ๆ ก็ไม่อาจเลี่ยงการเลี้ยงแขกขอบคุณได้ โหว
ฮูหยินสวี่ซื่อหาคนให้คิดคานวณซ้ าแล้วซ้ าเล่า ทั้งยังปรึ กษากับแม่
นมคนสนิทอยูน่ าน กว่าจะกาหนดฤกษ์งามยามดีได้
บ้านฝ่ ายหญิงมีงานมงคล เหล่าลูกสาวที่แต่งงานออกเรื อนย่อมต้อง
กลับจวนแสดงความยินดี คุณหนูใหญ่เสิ่ นอิ๋งออกเรื อนไกลเกินไป
ไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว เสิ่ นซวง เสิ่ งอิงและเสิ่ นเสวี่ยในเมืองหลวงก็กลับ
บ้านฝั่งตนตั้งแต่วนั ที่สองแล้ว บ้านสามีของพวกนางก็เตรี ยม
ของขวัญมากมายไล่ลูกชายให้กลับบ้านฝ่ ายหญิงเป็ นเพื่อนลูกสะใภ้
พร้อมกันอย่างไม่ได้นดั หมาย อ้างให้ดูดีวา่ ‘หลานเขยยังไม่เคยพบ
ท่านปู่ ควรไปเคารพท่านปู่ เสี ยหน่อย’
ผูท้ ี่เสิ่ นซวงแต่งงานด้วยคือญาติผพู ้ ี่ตระกูลของท่านน้า ทั้งสอง
ครอบครัวเดิมก็เป็ นทองแผ่นเดียวกันอยูแ่ ล้ว แม้วา่ จะไม่มีเสิ่ นซวง
ตระกูลสวี่กต็ อ้ งมารอถึงหน้าประตู เดิมฮูหยินโหลวก็ชอบลูกของ
น้องสาวหรื อลูกสะใภ้คนปัจจุบนั ผูน้ ้ ีอยูแ่ ล้ว ตอนนี้พอ่ แท้ ๆ ของ
ลูกสะใภ้ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจงอู่โหวรุ่ นใหม่ พี่ชาย
อยูด่ ูแลซีเจียง ลูกพี่ลูกน้องก็ยงั เป็ นจวิน้ จู่ นี่กเ็ ป็ นแรงสนับสนุนต่อ
เส้นทางอนาคตของลูกชายตนอย่างถึงที่สุด
สาหรับลูกพี่ลูกน้องของลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ีที่ได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ ฮูหยินโหลวกลับไม่ได้โง่เขลาจนริ ษยาไม่
พอใจ แม่นางผูน้ ้ ีประพฤติตวั รอบคอบระมัดระวัง เคยช่วยลูกสาวคน
เล็กของนางไว้ อีกทั้งยังไม่เคยมีข่าวลือที่ไม่ดีใด ๆ เลย นี่กเ็ พียงพอ
ให้นางซาบซึ้งไปชัว่ ชีวิตแล้ว
ตระกูลเหวินที่เสิ่ นอิงแต่งงานด้วยก็ยนิ ดีปรี ดาอย่างยิง่ แม้วา่
ลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ีจะเป็ นบุตรอนุภรรยา แต่การอบรมเลี้ยงดูกไ็ ม่ได้ดอ้ ย
หน้าตาสะสวย นิสยั อ่อนโยน ความรู ้สึกของสองสามีภรรยาก็
ค่อนข้างไม่เลว ตอนนี้ท่านปู่ ตระกูลฝ่ ายหญิงได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นราชครู ของรัชทายาท น้องสาวก็เป็ นจวิน้ จู่ ไอ๊หยา
การแต่งงานครั้งนี้คุม้ ค่าจริ ง ๆ
เหวินฮูหยินก็ยงิ่ ชอบใจลูกสะใภ้มากเป็ นพิเศษ ทั้งยังกาชับลูกชายไม่
หยุดว่าให้ดูแลภรรยาให้ดีตลอดทาง ถึงจวนโหวแล้วก็ตอ้ งอ่อนน้อม
ถ่อมตน
หลังสองสามีภรรยาไปแล้วเหวินฮูหยินก็ยงั ยิม้ แย้มทั้งใบหน้า “นาย
ท่าน ข่าวนี้เป็ นเรื่ องจริ งหรื อไม่ จะบรรจุท่านลงในตาแหน่งรองผู ้
พิพากษาประจาศาลต้าหลี่จริ งหรื อไม่” สี หน้าเหวินฮูหยินเฉิ นซื่อ
เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
พวกเขาเข้าเมืองหลวงรอตาแหน่งว่ามาได้สกั พักแล้ว เพียงแต่ตลอด
มาไม่มีเค้าลางใด ๆ เลย กระทัง่ ลูกชายแต่งงานกับคุณหนูผนู ้ ้ ีของ
จวนจงอู่โหว เพิ่งจะได้รับการยืนยัน บอกว่าจะพยายามเตรี ยมการให้
เร็ วที่สุด พวกเขาเตรี ยมตัวจะกลับที่เดิมอย่างจริ งจังแล้ว ใครจะรู ้เมื่อ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวบ้านลูกสะใภ้เข้าเมืองหลวงก็มีคนมาแอบบอก
ข่าวพวกเขาอย่างมีไมตรี จิต บอกว่ามีหวังว่าจะสามารถบรรจุ
ตาแหน่งรองผูพ้ ิพากษาประจาศาลต้าหลี่ได้ บอกว่ามีความหวัง ใน
ใจใต้เท้าเหวินก็รู้ดีวา่ นี่จะต้องเป็ นการตัดสิ นใจแล้วแน่นอน
ใต้เท้าเหวินยิม้ น้อย ๆ พยักหน้า “นี่จะเป็ นข่าวเท็จได้อย่างไร ตั้งแต่ที่
ข้าหลุดปากพูดว่าพวกข้ากับจวนจงอู่โหวเป็ นทองแผ่นเดียวกัน ท่าที
ของพวกเขาก็ดีไม่นอ้ ย โดยเฉพาะครั้งนี้” ท่าทางประจบประแจงนั้น
ทาให้เขาถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ มีคนมีอานาจให้พ่ งึ พิงจึงได้รับ
ผลประโยชน์ที่ยงิ่ ใหญ่
เฉินซื่อลูบอกท่องบทสวดอมิตาพุทธ “ดี ดีจริ ง ๆ ครั้งนี้พวกเราก็อยู่
ในเมืองหลวงต่อได้แล้ว”
ใต้เท้าเหวินเองก็ดีใจอย่างยิง่ รองผูพ้ พิ ากษาประจาศาลต้าหลี่ ขุน
นางระดับสี่ ช้ นั เอก เป็ นตาแหน่งที่ยอดเยีย่ มจริ ง ๆ แต่ในใจเขาเองก็
ทราบดี หากอาศัยความสามารถของเขาเองได้ตาแหน่งขุนนางระดับ
ห้าก็ไม่เลวแล้ว เขาได้รับบารมีจากลูกสะใภ้ ได้รับบารมีจากจวนจง
อู่โหว
“หลังจากนี้เจ้าก็เอาใจใส่ ภรรยาเทาเกอเอ๋ อร์ให้มากหน่อย สาวใช้ที่
รับใช้อยูข่ า้ งกายเทาเกอเอ๋ อร์กต็ กั เตือนเสี ยหน่อย อย่าให้ภรรยาเขา
เป็ นทุกข์ใจ” ใต้เท้าเหวินกล่าวเตือน
ฮูหยินเฉิ นชายตามองเขาปราดหนึ่งอย่างงอนง้อ “ดูนายท่านพูดเข้า
นี่ยงั ต้องให้ท่านเตือนอีกหรื อไร นางเป็ นภรรยาลูกชายของพวกเรา
ข้าจะปฏิบตั ิต่อนางอย่างไม่เป็ นธรรมได้อย่างไร ยิง่ ไปกว่านั้น
ลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ีกไ็ ม่เลวเลยจริ ง ๆ ข้าเองก็ชอบยิง่ นัก” แม้วา่ จะเกิดใน
จวนโหว แต่กไ็ ม่ทะนงตนอย่างไม่น่าเชื่อ กตัญญูต่อนาง เอาใจใส่ ลูก
ชาย ตระกูลฝ่ ายหญิงก็มีอานาจ นางไม่ใช่แม่ยายใจร้ายเหล่านั้น คน
ในครอบครัวใช้ชีวิตด้วยความรักใคร่ ปรองดองดียงิ่ นัก จะหาเรื่ อง
ไปเพื่ออะไรกัน
ใต้เท้าเหวินพยักหน้าช้า ๆ กล่าวชม “ลาบากฮูหยินแล้ว อ้อจริ งสิ ไม่
รู ้วา่ ภรรยาของเทาเกอเอ๋ อร์กบั น้องสาวจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั ของนางมี
ความสัมพันธ์กนั อย่างไร กลับมาแล้วเจ้าก็ถามนางหน่อย หากว่า
พวกนางพี่นอ้ งสนิทกัน ผูท้ ี่จวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีแต่งงานด้วยคือคุณชายใหญ่
จวนจิ้นอ๋ อง ตอนนี้คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ ีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้
เป็ นจวิน้ อ๋ อง เห็นได้ชดั ว่าฝ่ าบาททรงโปรดปราน นี่ถือเป็ นน้องเขย
ของเทาเกอเอ๋ อร์ สนิทสนมกันไว้กม็ ีแต่จะเป็ นประโยชน์กบั อนาคต
ของเทาเกอเอ๋ อร์”
เมื่อเฉินซื่อได้ยนิ ว่าเกี่ยวข้องกับอนาคตของลูกชายก็จริ งจังขึ้นมา
ทันที “นายท่านวางใจเถอะ ข้าเข้าใจแล้ว” สาหรับลูกสะใภ้ที่มีฐานะ
สู งส่ งผูน้ ้ ี นางยังต้องทาดีให้มาก ๆ จึงจะถูก ใครให้นางมีฐานะ
อานาจมากเล่า ตอนนี้ในใจนางคิดคานวณดีแล้ว ควรจะเปลี่ยนสาว
ใช้หลายคนที่รับใช้อยูข่ า้ งกายลูกชายเป็ นเด็กรับใช้ให้หมดเลยดี
หรื อไม่ นางเป็ นผูห้ ญิง ย่อมเข้าใจจิตใจของผูห้ ญิง ขอเพียงแค่เทา
เกอเอ๋ อร์ปฏิบตั ิต่อลูกสะใภ้ดี ตระกูล เหวินของพวกเขาปฏิบตั ิต่อ
ลูกสะใภ้ดี จะยังกลัวลูกสะใภ้ทาลายบ้านสามีอีกหรื อ
ความรู ้สึกของฮูหยินหย่งหนิงโหวฮูหยินอวี้ซบั ซ้อนอย่างถึงที่สุด
โดยเฉพาะเมื่อได้ยนิ ว่าคุณหนูสี่แซ่เสิ่ นที่นางเคยรังเกียจและถูกนาง
ถอนหมั้นกลายเป็ นจวิน้ จู่ ในใจของนางเสี ยใจอย่างถึงที่สุด หาก
ตอนนั้นไม่ได้ถอนหมั้น เช่นนั้นจวิน้ จู่ผนู ้ ้ ีกจ็ ะเป็ นลูกสะใภ้ของนาง
แล้ว นี่เป็ นเกียรติสูงส่ งเพียงใด
ด้วยเหตุน้ ีนางจึงมองเสิ่ นเสวี่ยลูกสะใภ้ผนู ้ ้ ีไม่เข้าตาขึ้นมา ใช้อุบาย
เช่นนั้นเข้ามาในจวนก็ไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว สิ นเดิมก็ธรรมดา ๆ ตอน
นั้นนางยอมให้เสิ่ นเสวี่ยแต่งเข้ามาก็เพราะสนใจที่นางเป็ นลูกสาวแท้
ๆ ของฮูหยิน หลิว มีสินเดิมมหาศาล สามารถช่วยเหลือลูกชายได้
ตอนนี้แย่แล้ว สิ นเดิมของลูกสะใภ้ไม่เพียงแต่นอ้ ยกว่าที่หวัง อีกทั้ง
ยังเต็มไปด้วยความทะนงตน วันทั้งวันเอาแต่พวั พันลูกชาย วันนี้แต่ง
กลอน พรุ่ งนี้แต่งโคลง ลูกสะใภ้บา้ นไหนละเลยหน้าที่เช่นนี้บา้ ง
สตรี เฉลียวฉลาด เหอะ ทัว่ ทั้งเมืองหลวงดูไว้เสี ย ลูกสะใภ้บา้ นใคร
บ้างที่เอาแต่แต่งกลอนโคลงไปวัน ๆ บ้าง
แม้วา่ เสิ่ นเสวี่ยจะแต่งเข้ามาได้เดือนกว่า ๆ แต่ฮูหยินอวี้กไ็ ม่พอใจ
นางเต็มทนแล้ว มิหนาซ้ ายังไม่อาจแสดงออกมาได้ อย่างไรเสี ยจวน
จงอู่โหวก็มีอานาจมาก ตอนนี้นายท่าผูเ้ ฒ่าโหวเข้าเมืองหลวง จวน
จงอู่โหวก็ยงิ่ มีเกียรติ ฮูหยินอวี้เองก็ยงิ่ อัดอั้น นางไม่อาจทาลูกสะใภ้
เสี ยหน้าได้เป็ นอันขาด ยังต้องพูดจาดี ๆ ยิม้ แย้มแสร้งรักใคร่ กลม
เกลียว นางอยากอาเจียนแทบตายแล้ว
ฮูหยินอวี้กาชับลูกชายและลูกสะใภ้ดว้ ยความเป็ นห่วง เสิ่ นเสวี่ยตอบ
รับด้วยสี หน้าเชื่อฟัง ทว่าในใจกลับเกลียดจนกัดฟันกรอด เสิ่ นเวย
หญิงชัว่ ผูน้ ้ นั ได้คู่หมั้นดีกพ็ อแล้ว ตอนนี้คาดไม่ถึงว่ายังได้เป็ นจวิน้ จู่
จะให้นางสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร แม่สามีกย็ งั ให้ตนไปปฏิบตั ิตวั
ดี ๆ ต่อนาง พูดจาเชื่อมสัมพันธไมตรี อ่อนน้อยถ่อมตนต่อหน้านาง
เหอะ มีสิทธิ์อะไรมาสัง่ นางกัน
เสิ่ นเสวี่ยไม่อยากไปจวนจงอู่โหวแม้แต่นิดเดียว นางไม่อยากไปเห็น
ใบหน้าที่ภูมิอกภูมิใจใบนั้นของพี่สาว แต่นางเองก็รู้วา่ นางไม่ไป
ไม่ได้ สาเหตุที่แม่สามีทาอะไรนางไม่ได้ ก็เพราะว่าตระกูลฝั่งตนที่
อยูข่ า้ งหลังนางมีอานาจมากไม่ใช่หรื อ
เอ่ยถึงฮูหยินอวี้แม่สามีผนู ้ ้ นั ผ้าเช็ดหน้าในมือเสิ่ นเสวี่ยก็กาแน่น ยาย
แก่ไม่ลงโลงผูน้ ้ ี ตั้งแต่ที่ตนแต่งเข้ามาวันแรกก็สร้างความหงุดหงิด
ให้นางแล้ว ตั้งกฎสิ บวันให้ตนเต็ม ๆ อีกทั้งยังหวังจะยึดสิ นเดิมของ
ตน เห็นว่าแผนชัว่ ไม่สาเร็ จก็คิดจะยกสาวใช้ขา้ งกายสามีให้เป็ น
อนุภรรยา โชคดีที่สามีปฏิเสธโดยอ้างเรื่ องเรี ยนหนังสื อ นี่ เองก็ทา
ให้เสิ่ นเสวี่ยยิง่ เกลียดแม่สามี ตายไปเสี ยตอนนี้กค็ งจะดี
ด้วยเหตุน้ ีจึงเห็นได้วา่ สตรี ยงั ต้องมีอานาจที่ตระกูลฝ่ ายหญิงจึงจะมี
ชีวิตที่ดีในบ้านสามี
เสิ่ นซวง เสิ่ นอิงและเสิ่ นเสวี่ย บุตรสาวที่ออกเรื อนสามคนนี้มาถึง
พร้อมกัน รอยยิม้ บนใบหน้าโหวฮูหยินสวี่ซื่อไม่จืดจางเลยทั้งวัน
นางมีลูกสามทั้งหมดสองคน ลูกสาวคนโตออกเรื อนไกล หลายปี
แล้วก็ไม่ได้พบหน้า โชคดีที่ลูกสาวคนเล็กแต่งอยูใ่ นเมืองหลวง ยัง
พบหน้ากันได้บ่อย ๆ ปลอบโยนความคิดถึงของนางได้ไม่มากก็
น้อย
เสิ่ นเวยกลับไม่ได้หลบอยูใ่ นเรื อนเฟิ งหวา แต่มาสนทนาเป็ นเพื่อน
ด้วยตัวเอง นอกจากเสิ่ นเสวี่ย พี่รองและพี่สามนางก็ยงั คงมีความ
ผูกพันอยูเ่ ล็กน้อย
เว่ยจิ่นอวี้นางเคยเห็นแล้ว สาหรับอดีตคู่หมั้นของนางที่ตอนนี้
กลายเป็ นสามีของน้องสาวผูน้ ้ ี นางไม่มีความประทับใจเลยแม้แต่
น้อย กระทัง่ มองข้ามเขาไปมองสวี่หรงพี่เขยรองและเหวินเทาพี่เขย
สามแทน
พี่เขยรองสง่างามมากเป็ นพิเศษ มีกลิ่นอายของผูป้ ั ญญาทัว่ ทั้งร่ าง
เห็นแล้วทาให้คนเกิดความรู ้สึกสนิทสนม พี่เขยสามก็มีลกั ษณะเป็ น
ปัญญาชน เพียงแต่ส่วนสู งสู งกว่าพี่เขยรองเล็กน้อย แววตาก็เต็มไป
ด้วยความระมัดระวังที่พยายามซ่อนไว้อย่างสุ ดความสามารถ แต่ก็
ปฏิเสธไม่ได้วา่ ทั้งสองคนต่างก็หน้าตาดีอย่างยิง่ แววตาซื่อตรง
มองดูกร็ ู ้วา่ เป็ นลูกหลานของตระกูลที่ซื่อสัตย์
อันที่จริ งจะว่าไปแล้วในสามคนนี้กย็ งั คงเป็ นใบหน้าของเว่ยจิ่นอวี้ที่
โดดเด่นที่สุด แต่วา่ เนื่องจากเสิ่ นเวยมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อเว่ยจิ่
นอวี้ ดังนั้นตอนที่แสดงความเคารพจึงลืมเขาไปอย่างสิ้ นเชิง
อย่างไรเสี ยเขาก็เป็ นสามีของน้องสาว จะยังหาเรื่ องนางผูเ้ ป็ นพี่สาว
ได้อีกหรื อ
สวี่หรงกับเหวินเทาคารวะกลับอย่างมีมารยาท ทุกคนต่างก็ทราบว่า
คนผูน้ ้ ีกค็ ือน้องสาวที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ผนู ้ ้ นั
ของภรรยา ทั้งสองไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้านาง
ความรู ้สึกของเว่ยจิ่นอวี้ซบั ซ้อนอย่างยิง่ สตรี ที่งดงามผูน้ ้ ีเกือบจะได้
เป็ นภรรยาของตนแล้ว ตอนนี้นางคล้ายสวยขึ้นกว่าเดิมเสี ยอีก เว่ยจิ่
นอวี้มองเสิ่ นเวยอย่างตะลึงงัน มองเหม่ออย่างอดไม่ได้
นี่ทาให้เสิ่ นเสวี่ยที่อยูข่ า้ ง ๆ โมโหแย่แล้ว เชิดหน้ายิม้ ดึงแขนเสื้ อ
ของเว่ยจิ่นอวี้ กล่าวเสี ยงหวาน “ท่านพี่ ท่านไม่ตอ้ งอยูท่ ี่นี่เป็ นเพื่อน
ข้าหรอก ไปเคารพท่านปู่ กับสามีของพี่เขยรองก็ได้ เขายังไม่เคยพบ
พวกท่านเลย”
นางพูดไปพลางยังถลึงตามองเสิ่ นเวยปราดหนึ่งไปพลาง หางตาเสิ่ ย
เวยไม่แม้แต่จะปรายมองนาง คิดว่านางตาเป็ นตะคริ วไปเสี ย วันดี
เช่นนี้ นางขี้เกียจจะทะเลาะกับเสิ่ นเสวี่ย
“พี่รอง พี่สาม ขออภัยจริ ง ๆ พวกท่านออกเรื อน แต่ขา้ กลับมาส่ ง
พวกท่านไม่ได้” เสิ่ นเวยแสดงความเสี ยใจของตนออกมาอีกครั้ง
เสิ่ นซวงเม้มปากยิม้ ไม่ใส่ ใจแม้แต่นิดเดียว “เจ้าไม่สะดวกไม่ใช่หรื อ
ลาบากเจ้าต้องไปขอพรที่วดั ต้าเจวี๋ย จวนโหวกับท่านปู่ จึงราบรื่ น
ปลอดภัยได้ ดูเจ้าสิ ดาหมดแล้ว ผอมด้วย” เสิ่ นซวงมองเสิ่ นเวยด้วย
ความสงสาร นางชอบน้องสาวผูน้ ้ ีอย่างยิง่ จริ ง ๆ ช่วงเวลาเช่นนั้น มี
เพียงนางที่คิดจะไปขอพรให้ท่านปู่ ที่วดั ต้าเจวี๋ย สภาพแวดล้อมของ
วัดต้าเจวี๋ยไม่เหมือนในจวน ดูสินอ้ งเวยผอมลงขนาดไหนแล้ว ทา
ให้คนปวดใจจริ ง ๆ
เสิ่ นอิงเองก็พดู เสริ ม “ไม่ใช่วา่ ท่านเพิม่ สิ นเดิมให้ล่วงหน้าแล้วหรื อ
หากรู ้สึกเสี ยใจจริ ง ๆ ก็เอาของดีในมือเจ้ามาแบ่งให้พวกข้าอีกสิ ”
นางกล่าวทีเล่นทีจริ ง
ทว่าเสิ่ นเวยกลับกระตุกมุมปาก มองเสิ่ นอิงและกล่าวอย่างจริ งจัง
มากเป็ นพิเศษ “พี่สาม ท่านพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้พี่เขยสามรู ้
หรื อไม่”
เสิ่ นอิงชะงักทันที สี หน้ามีความเขินอายแวบผ่าน ในตอนที่เสิ่ นซว
งคิดว่าทั้งสองอาจจะทะเลาะขึ้นมาจึงคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่เสิ่ นอิง
กลับยิม้ ตบบ่าเสิ่ นเวยแล้วก่นด่าเล็กน้อย “เจ้าเด็กนี่ ปากเจ้าคายสุ นขั
ออกมาได้หรื อไม่”
เสิ่ นเวยเองก็ยมิ้ กล่าวหยอกล้อ “ไม่ได้ ปากข้าพ่นออกมาได้แต่ภาษา
คน พ่นสุ นขั ออกมาไม่ได้” หลังจากนั้นก็จอ้ งมองเสิ่ นอิงด้วยความ
เจ้าเล่ห์ กล่าว “ดูท่าแล้วพี่สามจะพอใจพี่เขยสามยิง่ นัก”
เสิ่ นอิงตาหนินางหนึ่งครา “ชู่ว์ เจ้าไม่พดู ก็ไม่มีใครหาว่าเจ้าเป็ นใบ้
หรอก”
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วยิม้ ในรอยยิม้ เป็ นสิ่ งที่มีแต่พวกนาง
เข้าใจ
น้องสี่ ขอบใจเจ้ามาก ขอบใจที่เจ้าช่วยดึงข้ากลับมาจากหน้าผาได้
ทันเวลา มิเช่นนั้นตอนนี้ขา้ คงจะเหลวแหลกเป็ นฝุ่ นผงไปแล้ว ไหน
เลยจะยังได้สามีที่ดีเช่นนี้
เสิ่ นซวงเห็นนางสองคนเพียงแค่หยอกเล่น จึงวางใจลง กล่าว
“พอแล้ว อายุเท่าไรแล้วยังหยอกล้อเช่นนี้อยูอ่ ีก ระวังจะทาให้สาว
ใช้เห็นเป็ นเรื่ องตลก”
เสิ่ นเวยปิ ดปากหัวเราะ หัวเราะจนเสิ่ นซวงรู ้สึกว่าใช่บนร่ างตนมี
อะไรผิดปกติหรื อไม่ “เป็ นอะไรเล่า เจ้าหัวเราะอะไร”
“หัวเราะพี่รองอย่างไรเล่า!” เสิ่ นเวยกล่าวอย่างมัน่ อกมัน่ ใจ “นี่
ตั้งแต่พี่รองแต่งงานก็เหมือนเปลี่ยนเป็ นคนละคน ดูท่าแล้วพี่เขยรอง
คงจะสัง่ สอนไว้เป็ นอย่างดี” พูดพลางส่ ายหน้าราวกับเป็ นเรื่ องใหญ่
ท่าทางเสี ยดายอย่างยิง่
ครั้งนี้ถึงตาเสิ่ นซวงตีเสิ่ นเวยแล้ว “ชู่ว์ ๆ ๆ พีส่ ามเจ้าพูดไว้ไม่มีผดิ
เจ้าอยูเ่ งียบ ๆ เป็ นคนใบ้ไปเถอะ”
ตอนที่ 185-2 คดีความกับเสิ่นเสวีย่
เสิ่ นเสวี่ยมองพวกนางสามพี่นอ้ งพูดคุยหัวเราะกัน แววตามีความ
อิจฉาแวบผ่าน โดยเฉพาะเมื่อครู่ ที่เอ่ยถึงสิ นเดิม พูดถึงสิ นเดิมเสิ่ น
เสวี่ยก็โมโหขึ้นมา
ของที่ให้พี่รองคือภาพวาดพูก่ นั ลายคราม ของที่ให้พี่สามคือเงิน
จานวนมาก ถึงตาตัวเองกลับเป็ นเพียงกระเป๋ าเงินไม่กี่ใบผ้าเช็ดหน้า
ไม่กี่ผนื อีกทั้งยังบอกว่าแม้ของขวัญจะด้อยค่าแต่มากไปด้วยน้ าใจ
อะไรนัน่ อีก เหอะ ใครบ้างไม่มีกระเป๋ าใส่ เงินผ้าเช็ดหน้า สาวใช้ใน
เรื อนนางยังทาสวยกว่าอีกรู ้หรื อไม่ โมโหจนนางแทบจะโยน
กระเป๋ าใส่ เงินและผ้าเช็ดหน้าใส่ หน้านางแล้ว
“พี่รองกับพี่สามพูดเช่นนี้ไม่ได้ พี่สี่ไหนเลยจะลาบากกัน ขอพรที่
วัดต้าเจวี๋ยไม่กี่เดือนก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่แล้ว
นี่กค็ ุม้ ค่ามากแล้ว” เสิ่ นเสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิม้ เสแสร้ง
เสิ่ นเวยเก็บรอยยิม้ บนใบหน้า กล่าวเสี ยงเรี ยบ “ข้าไม่รู้วา่ คุม้ ค่า
หรื อไม่ อย่าไรเสี ยข้าก็รู้วา่ ฝ่ าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์จวิน้ จู่ก็
เพราะว่าข้ามีคุณงามความดี น้องห้าไม่เห็นด้วยต่อฝ่ าบาทหรื อ หรื อ
ว่าเจ้าจะลองไปอยูท่ ี่วดั ต้าเจวี๋ยสักสองสามเดือน ดูวา่ ฝ่ าบาทจะ
พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เจ้าเป็ นจวิน้ จู่ได้หรื อไม่”
หึ ตอนที่ขา้ สู ้ตายอยูท่ ี่ซีเจียงเจ้ายังไม่รู้ไปอยูท่ ี่ไหนเลย แต่งงานแล้ว
ยังเอาแต่พดู จาเสี ยดสี อยูอ่ ีก คอยดูเถอะ มีฮูหยินอวี้แม่สามีผนู ้ ้ นั มี
ทุกข์รอเจ้าอยู่ ข้าไม่จดั การเจ้า ก็มีคนจัดการเข้าอยูด่ ี
“เจ้า” เสิ่ นเสวี่ย โกรธจนลุกขึ้นยืนทันที แต่กลับถูกเสิ่ นอิงกดลงมา
เสิ่ นซวงเองก็กล่าวต่อ “น้องห้าใจร้อน นัง่ ลงค่อย ๆ พูด นัง่ ลงค่อย
ๆ พูด ลุกขึ้นทาไมกัน อี่ชุ่ย ยังไม่รีบริ นน้ าชาให้นายพวกเจ้าอีก”
ดวงตาของเสิ่ นเสวี่ยดาดิ่ง รู ้วา่ เสิ่ นเวยหญิงชัว่ ผูน้ ้ ีกลายเป็ นจวิน้ จู่แล้ว
ตนเอาใจไปก็ไม่มีประโยชน์แน่นอน ไม่เห็นหรื อว่าพีร่ องพี่สามต่าง
ก็ประจบประแจงนาง นางลงมาตามบันไดที่พี่รองเสิ่ นซวงยืน่ ให้ แต่
ในใจกลับก่นด่า ก็แค่สวดมนต์ไม่กี่ประโยคคัดคัมภีร์พ้นื ฐานเฉย ๆ
มิใช่หรื อ มีคุณงามความดีอะไรกัน
เสิ่ นเวยชายตามองเสิ่ นเสวี่ยปราดหนึ่งจากนั้นก็หนั หน้าไปพูดคุยกับ
พี่สามทั้งสองต่อ เสิ่ นเสวี่ยนัง่ อยูต่ รงนั้นก็ยงิ่ ไม่ยนิ ยอม เป็ นลูกสาว
ตระกูลเสิ่ นเหมือนกัน เสิ่ นเวยมีสิทธิ์อะไรถึงได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ ไม่ใช่วา่ ฝ่ าบาทปูนบาเหน็จเพราะเห็นแก่ท่าน
ปู่ หรอกหรื อ ท่านปู่ ลาเอียงเกินไปแล้วจริ ง ๆ
“อ้อจริ งสิ ตอนนี้พี่สี่เป็ นจวิน้ จู่แล้ว น้องยังมีเรื่ องจะขอท่านอยูห่ นึ่ง
เรื่ อง” จู่ ๆ เสิ่ นเสวี่ยก็กล่าว เห็นสามคนมองตนพร้อมกัน ก็มองเสิ่ น
เวยอย่างยัว่ ยุ เอ่ยปากกล่าว “เรื่ องเป็ นเช่นนี้ ก่อนที่จะออกเรื อนน้อง
ชอบใจสาวใช้คนหนึ่งในเรื อนพี่สี่ น้องห้ายืนกรานบอกว่าต้องรอพี่
สี่ กลับมาเท่านั้น เอาแต่บอกว่าไม่ยอมให้ ตอนนี้พี่สี่กลับมาแล้ว น้อง
ยังอยากได้สาวใช้คนนั้นอยู่ พี่สี่คงไม่ใจแคบเพียงนั้นกระมัง”
ภายในห้องเงียบสงัดอย่างถึงที่สุด เสิ่ นซวงกับเสิ่ นอิงมองหน้ากัน
ปราดหนึ่ง ต่างก็คิดว่าหากอุดปากเสิ่ นเสวี่ยได้กค็ งจะดี สร้างความ
หงุดหงิดให้ผอู ้ ื่นเช่นนี้ วันมงคลกลับบ้านมารดายังหาเรื่ องพี่นอ้ งได้
นางต้องการจะสร้างปัญหาให้ใครกัน
เสิ่ นเวยจ้องมองเสิ่ นเสวี่ยครู่ ใหญ่ จู่ ๆ ก็หลุดหัวเราะออกมา “น้อง
ห้า เจ้าไม่รู้หรื อว่าพวกข้าสองคนพี่นอ้ งมีใจเดียวกัน เจ้าก็บอกแล้วว่า
น้องห้าไม่ยอมให้เจ้า เหตุใดเจ้าถึงมาเอ่ยปากขอข้าอีกเล่า คิดว่าข้า
พูดง่าย หรื อตนหน้าไม่อายกันแน่”
เสิ่ นเสวี่ยไม่เอ่ยขึ้นมาเสิ่ นเวยก็เกือบจะลืมไปแล้วว่านางอยากได้สาว
ใช้ของตน พอดีเลย ถือโอกาสนี้เรี ยกร้องความยุติธรรมให้ฉาฮวาเสี ย
หลังจากเรื่ องครั้งนั้น ฉาฮวาก็ไม่ยอมออกจากประตูเรื อนอีก วันทั้ง
วันเอาแต่หลบอยูใ่ นเรื อนเฟิ งหวา เพียงแค่ลมพัดยอดหญ้าก็ตกใจ
อย่างกับอะไรดี ฟังว่านางยังฝันร้ายอยูห่ ลายวันอีกด้วย
บนใบหน้าของเสิ่ นเสวี่ยมีความโกรธแวบผ่าน “พูดเช่นนี้พี่สี่จะไม่
ยอมใช่หรื อไม่ พีน่ อ้ งในใจพี่สี่ยงั ไม่สาคัญเท่าสาวใช้เพียงคนเดียว
งั้นหรื อ” พูดไปพลางก็ยงั ไม่ลืมที่จะกวาดสายตามองเสิ่ นซวงเสิ่ นอิง
ครู่ หนึ่ง เจตนายัว่ ยุชดั เจนอย่างถึงที่สุด
“น้องห้าเจ้าพูดจาเลอะเทอะอะไร ยังไม่รีบปิ ดปากขอโทษพี่สี่เจ้า
อีก” เสิ่ นซวงเห็นเสิ่ นเสวี่ยยิง่ พูดก็ยงิ่ แย่จึงรี บตะโกนตาหนินาง
มุมปากเสิ่ นอิงมีความเหยียดหยาม แย่งสาวใช้นอ้ งสี่ หรื อ เอาสิ เอา
เลย รนหาที่ตายเองนะ!
“หรื อข้าพูดอะไรผิด ก็แค่สาวใช้หนึ่งคนไม่ใช่หรื อ แค่น้ ียงั ตัดใจ
ไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับพี่นอ้ ง” เสิ่ นเสวี่ยกลับกล่าวอย่างมัน่
อกมัน่ ใจ
เสิ่ นเวยหัวเราะเยาะหนึ่งครา คล้ายยิม้ คล้ายไม่ยมิ้ กล่าว “นัน่ สิ ก็แค่
สาวใช่หนึ่งคน เหตุใดเจ้าถึงต้องยืนกราน แย่งของของข้าแย่งคน
ของข้าสนุกนักหรื อ สามารถเติมเต็มจิตใจที่ดามืดของเจ้า นา
ความสุ ขมาให้เจ้าได้หรื อ สังเกตดูสิวา่ มีใครบ้างไม่รู้แผนการในใจ
เจ้า เสิ่ นเสวี่ย ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ ของของข้า ต่อให้เป็ นหญ้าเพียง
ต้นเดียวก็ไม่มีวนั มอบให้เจ้าเด็ดขาด อ้อ นอกจากซื่อจื่อหย่งหนิง
โหวนะ นัน่ เป็ นของที่ขา้ ไม่อยากได้เอง”
แววตาที่เหยียดหยามนัน่ ของเสิ่ นเวยยุแหย่จนเสิ่ นเสวี่ยขาดสติ นาง
ลุกขึ้นกาลังจะวิ่งไปข่วนหน้าเสิ่ นเวย แต่ถูกเสิ่ นเวยยืน่ มือบิดแขน
นางไว้ เพียงแค่ผลักหนึ่งครา นางก็ลม้ ลงกับพื้นแล้ว “เสิ่ นเสวี่ย ข้า
ขอเตือนเจ้าเป็ นครั้งสุ ดท้าย เห็นแก่ที่มีพอ่ คนเดียวกัน หาเรื่ องข้าให้
น้อยหน่อย มิเช่นนั้นเจ้าก็จะมีสภาพเช่นแม่เจ้า อี่ชุ่ย นายเจ้าไม่ค่อย
สบาย ยังไม่รีบพยุงนางไปพักผ่อนอีก” เสิ่ นเวยตะโกนเสี ยงสู ง
ไม่รู้เพราะเหตุใด เสิ่ นเสวี่ยจึงสัน่ ระริ ก คาดไม่ถึงว่าไม่ทะเลาะไม่
โวยวายยอมให้อี่ชุ่ยพยุงนางออกไปโดยดี กระทัง่ กลับไปถึงเรื อน
ของตนนางก็ยงั ตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ผดิ นางมองไม่ผดิ นางเห็นไอ
สังหารในแววตาของเสิ่ นเวยหญิงชัว่ ผูน้ ้ นั จริ ง ๆ นาง นางกล้าดี
อย่างไร
หลังเสิ่ นเสวี่ยถูกพยุงออกไปแล้ว เสิ่ นซวงกับเสิ่ นอิงก็มองหน้ากัน
นางสองคนคิดไม่ถึงจริ ง ๆ ว่าน้องสี่ จะไม่ไว้หน้าน้องห้าเช่นนี้
ยังคงเป็ นเสิ่ นอิงที่ปราดเปรี ยว ถอนหายใจหนึ่งครา กล่าวตาหนิ
“น้องห้าก็จริ ง ๆ เลย ไม่สบายแล้วก็ไม่บอกก่อน โชคดีที่เป็ นบ้าน
ของตน หากอยูข่ า้ งนอกจะน่าอายเพียงใด”
เป็ นน้องสาวเหมือนกัน นางย่อมเลือกที่จะพึ่งพาน้องสี่ ไม่ตอ้ งเอ่ยถึง
เรื่ องที่นอ้ งสี่ เคยช่วยนางไว้ แค่บรรดาศักดิ์จวิน้ จู่น้ ีของน้องสี่ นางก็
ต้องสร้างสัมพันธไมตรี กบั นางอยูแ่ ล้ว ไม่ใช่วา่ นางหวัง
ประจบประแจง แต่เรื่ องนี้เกี่ยวข้องกับอานาจในบ้านสามีของนาง มี
จวิน้ จู่นอ้ งสาวที่สนิทสนมหนุนหลัง ก็มนั่ ใจได้วา่ ชีวิตของนาง
จะต้องดีข้ ึนเรื่ อย ๆ นางไม่ใช่คนโง่เหมือนน้องห้าผูน้ ้ นั หรอก
คนที่มีความคิดเดียวกันยังมีเสิ่ นซวง เดิมความสัมพันธ์ที่นางมีต่อ
เสิ่ นเวยก็ดีอยูแ่ ล้ว ตาชัง่ แห่งมิตรภาพย่อมต้องเอียงไปทางเสิ่ นเวย ยิง่
ไปกว่านั้นยังมีฮูหยินสวี่ที่คอยเป่ าหูอยูด่ ว้ ย
มีเสิ่ นซวงกับเสิ่ นเวยตั้งใจปกปิ ดความจริ งให้กลายเป็ นความ
ยุติธรรม ทั้งสามคนก็สนทนาอย่างมีความสุ ขอีกครั้ง เสิ่ นเวยกระดก
มุมปาก ดูสิ ดูสิ นี่กค็ ือข้อดีของการมีความสามารถ ต่อให้เจ้าจะตบ
หน้าคนอื่น ทุกคนไม่เพียงแต่ไม่พดู ว่าเจ้าหยาบคายไม่ได้รับการสัง่
สอน อีกทั้งยังจะยกย่องว่าเจ้าตบได้ดีตบได้สวยอีกด้วย
บรรยากาศในห้องหนังสื อเรื อนนอกกลมเกลียวอย่างถึงที่สุด นาย
ท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหวมองหลานเขยที่โดดเด่นทั้งสามคน สี หน้าบน
ใบหน้าเป็ นมิตรอย่างยิง่ พูดคุยกับพวกเขาอย่างมีอธั ยาศัยดี ให้
กาลังใจให้พวกเขาตั้งใจเรี ยนหนังสื อ ในภายหน้าจะได้รับตาแหน่ง
ในราชสานัก
สวี่หรงและคนทั้งสองไม่ใช่คนโง่ ในใจรู ้ดีวา่ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวที่นา
ทัพมาทั้งชีวิตสู ้รบมาทั้งชีวติ ไม่ใช่คนที่จะเป็ นมิตรอัธยาศัยดีอะไร
ต่างก็รู้สึกตกใจที่ได้รับความโปรดปราน นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวปฏิบตั ิ
ต่อพวกเขาเช่นนี้ได้จะต้องเห็นแก่ภรรยาของพวกเขาเป็ นแน่
ชัว่ ขณะพวกเขาก็ยงิ่ เคารพนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมากขึ้น และตัดสิ นใจ
เงียบ ๆ ว่าจะปฏิบตั ิตวั ต่อภรรยาของตนเป็ นอย่างดี
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเป็ นคนเช่นไร เด็กผูช้ ายที่ยงั ไม่รับราชการไม่กี่คน
นี้อยูต่ ่อหน้าเขาก็เท่ากับกระดาษขาวหนึ่งแผ่น ทุกอย่างล้วนเขียนไว้
บนหน้า ด้วยเหตุน้ ีท่าทีของเขาจึงเป็ นมิตรมากขึ้น อีกทั้งยังถาม
คาถามพวกเขาไม่นอ้ ย
ได้ฟังคาตอบของพวกเขาแล้ว นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็พยักหน้าช้า ๆ
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดจู่ ๆ เบื้องหน้าเขาก็ปรากฏเงาร่ างของคุณชาย
ใหญ่สวีข้ ึนมาแวบหนึ่ง เฮ้อ! แม้วา่ คุณชายใหญ่สวีผนู ้ ้ นั จะทาให้คน
ราคาญใจเล็กน้อย แต่นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็จาใจต้องยอมรับว่าใน
บรรดาหลานเขยของเขายังคงเป็ นเขาที่โดดเด่นที่สุด เพียงแค่วรยุทธ์
กาลังภายในนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กผูช้ ายสามคนนี้จะเทียบได้แล้ว
อันที่จริ ง นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวกาลังพาลใส่ คนอื่นอย่างสิ้ นเชิง คุณชาย
ใหญ่สวีไหนเลยจะทาให้คนราคาญใจ ไม่ใช่วา่ เพียงแค่แต่งงานกับ
หลานสาวสุ ดที่รักของเขาหรอกหรื อ
ตอนที่ 186 ญาติผ้ นู ้ องคนนี้
หลิวรุ่ ยฟังเดินไปเดินมาอยูใ่ นห้องด้วยความร้อนใจ มักจะมองไป
ข้างนอกอยูบ่ ่อยครั้ง ผ้าเช็ดในหน้าในมือบิดแล้วบิดอีกอย่างไม่รู้ตวั
นางถามชิงหยาสาวใช้ขา้ งกายตนอย่างไม่ตายใจ “ไม่มีคนมาเชิญ
พวกเราจริ ง ๆ หรื อ”
ชิงหยาส่ ายหน้า “คุณหนูเจ้าคะ ไม่มีเจ้าค่ะ”
ฝี เท้าของหลิวรุ่ ยฟังชะงัก แววตามีความหงุดหงิดแวบผ่าน “เจ้าไปดู
ที่หน้าประตูเรื อนอีกทีสิ”
ทว่าชิงหยากลับไม่ขยับตัว แสยะปากกล่าว “คุณหนู บ่าววิ่งไปเจ็ด
แปดรอบแล้ว หน้าประตูเรื อนพวกเราไม่มีแม้แต่เงาคน”
“ให้เจ้าไปเจ้าก็ไปสิ จะพูดจาให้มากความอยูท่ าไม เรี ยกใช้เจ้าไม่ได้
แล้วหรื อไร สรุ ปเจ้าเป็ นคุณหนูหรื อข้าเป็ นคุณหนูกนั แน่” หลิวรุ่ ย
ฟังพลันขึ้นเสี ยงสู งกล่าวด้วยความโมโหทันที
ชิงหยาหวาดกลัว “บ่าวไหนเลยจะบังอาจ” นางเดินไปที่หน้าประตู
เรื อนอย่างไม่ยนิ ดี ในใจกลับบ่น ตั้งแต่เช้าตรู่ จนถึงตอนนี้ทรมานมา
เจ็บแปดรอบแล้ว คุณหนูกย็ งั ไม่ตายใจ กูไหน่ไน[1]จวนโหวกลับ
บ้านฝั่งมารดา คุณหนูคิดว่าตนเป็ นใครกัน ยังรอให้คนอื่นมาเชิญ
นาง ช่างกล้าเสี ยจริ ง
จากมุมมองของชิงหยา ชีวิตในจวนโหวดีกว่าจวนตระกูลหลิวมาก ๆ
แล้ว คุณหนูโชคดีที่ถูกเหล่ากูไหน่ไนรับมาได้กค็ วรจะอยูอ่ ย่างสุ ข
สบายหน่อย วิ่งไปวิ่งมาสร้างความราคาญให้ผอู ้ ื่นเช่นนี้ ไม่แน่วา่ สัก
วันอาจจะถูกไล่กลับไป ชิงหยาไม่อยากกลับจวนตระกูลหลิวแม้แต่
นิดเดียว ชีวิตในจวนโหวดีอย่างยิง่ แม้วา่ นางจะเป็ นเพียงสาวใช้ที่
ต้องปรนนิบตั ิผอู ้ ื่น แต่ในจวนโหวก็มกั จะได้ปูนบาเหน็จ อาหารการ
กินก็ดี ดีกว่าจวนตระกูลหลิวมาก
หลิวรุ่ ยฟังพิงอยูข่ า้ งประตูมองออกไปข้างนอก มองเห็นเงาร่ างของ
ชิงหยาดวงตาก็ลุกวาว รี บถาม “เป็ นอย่างไร ๆ เห็นคนมาแล้วหรื อ
ยัง”
ชิงหยาส่ ายหน้า “ไม่มีเจ้าค่ะ” หลังจากนั้นนางก็กล่าวโน้มน้าวอย่าง
อดไม่ได้ “คุณหนู ตอนนี้ชีวิตของพวกเราดีกว่าในจวนมากแล้ว…”
พูดยังไม่ทนั จบก็ถูกคุณหนูของนางตะโกนขัด “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้
เจ้าจะไปรู ้อะไร หากข้าไม่ฉวยโอกาศครั้งนี้ปูทางให้ตวั เอง กลับไป
แล้วก็ตอ้ งถูกคุณหนูเอาแต่ใจผูน้ ้ นั กระทาอีกไม่ใช่หรื อ เหอะ ข้าเป็ น
หลานสาวของท่านย่า พวกนางก็เป็ นหลานสาวของท่านย่า ข้าด้อย
กว่านางตรงไหน”
หลิวรุ่ ยฟังหงุดหงิดใจ ในครอบครัวบิดาโปรดปรานอี๋เหนียงใหญ่
กระทัง่ พี่สาวที่เกิดจากอี๋เหนียงใหญ่ก็ยงั ได้รับความโปรดปรานยิง่
กว่านาง แม้วา่ มารดานางจะเป็ นภรรยาหลวง แต่กลับไร้ประโยชน์
ที่สุด อี๋เหนียงใหญ่มีลูกสองคน คนหนึ่งอายุสิบสามปี แล้ว อีกคน
หนึ่งอายุเก้าปี คนโตผูน้ ้ นั มักจะถูกท่านพ่อพาไปไหนมาไหนด้วย
ส่ วนน้องชายแท้ ๆ ของตนเพิ่งจะอายุสามขวบ อีกทั้งยังป่ วยออด ๆ
แอด ๆ ทุกวัน
หัวใจของมารดาล้วนแต่อยูบ่ นร่ างน้องชาย ไหนเลยจะมีกะจิตกะใจ
มาวางแผนเพื่อนาง หากนางไม่วางแผนให้ตวั เอง ไม่แน่วา่ ชีวิตใน
ภายหน้าอาจจะขมขื่นยิง่ กว่ามารดา ด้วยความสามารถในการเป่ าหู
ของอี๋เหนียงใหญ่ พ่อนางอาจจะปูทางให้ลูกอนุภรรยา ส่ งนางไป
เป็ นภรรยาคนใหม่ของขุนนางผูส้ ู งศักดิ์อะไรนัน่ เมื่อคิดได้วา่ สามี
ในอนาคตจะมีอายุมากกว่าพ่อตน นางทั้งหวาดกลัวทั้งเคียดแค้น
ทว่าชิงหยากลับมองคุณหนูของตนด้วยท่าทีเหลือเชื่อ ด้อยอะไร
ด้อยไปไกลแล้วรู ้บา้ งหรื อไม่ คนอื่นเป็ นบุตรสาวจวนโหว ถูกเลี้ยง
มาราวกับเงินทองล้ าค่า แต่งงานกับสามีตระกูลดังทั้งสิ้ น คุณหนูเป็ น
ใครกัน เพียงแค่บุตรสาวขุนนางตาแหน่งเล็ก ๆ คนหนึ่ง อีกทั้งยังไม่
รับความโปรดปราน นางจะเอาอะไรไปเทียบกับคนอื่น คุณหนูเสี ย
สติไปแล้วหรื อไร ชิงหยาเป็ นกังวลยิง่ นัก
เหอะ พวกเจ้าไม่มาเชิญ แล้วข้าจะไปเองไม่ได้หรื อ จะยังไล่ขา้
ออกมาได้อีกหรื อ หลิวรุ่ ยฟังกระทืบเท้าสัง่ ชิงหยารวบรวมงานเย็บ
ปักถักร้อยหลายชิ้นของนางแล้วมุ่งหน้าไปยังเรื อนรับแขก
เสิ่ นเวยพอจะรู ้ชีวติ หลังแต่งงานของเสิ่ นซวงเสิ่ นอิงอย่างไม่มีขอ้
สงสัยแล้ว รู ้วา่ พวกนางมีชีวิตที่ไม่เลวก็วางใจลง
“พี่สาม ตระกูลเหวินวางแผนไว้วา่ อย่างไร จะกลับบ้านเดิม หรื อว่า
คิดจะอยูใ่ นเมืองหลวงต่อ” เสิ่ นเวยถามเสิ่ นอิง
เสิ่ นอิงกล่าว “ฟังจากนัยคาพูดของท่านพี่ที่หลุดออกมาเป็ นบางครั้งก็
น่าจะอยูท่ ี่เมืองหลวงต่อ หลายปี มานี้พอ่ ตาวิง่ เต้นไปทัว่ สารทิศ
สะสมทุนได้จานวนหนึ่งแล้ว ท่านพี่บอกว่าแม้ระดับจะต่ากว่า
เมื่อก่อนเล็กน้อยก็ไม่เป็ นไร” นางยังไม่รู้วา่ พ่อเขยนางได้รับ
ตาแหน่งรองผูพ้ ิพากษาประจาศาลต้าหลี่แล้ว
เสิ่ นเวยพยักหน้า คล้ายกาลังครุ่ นคิด “ข้าเองก็คิดว่าอยูท่ ี่เมืองหลวง
ดีกว่า เมืองหลวงมีอาจารย์ชื่อดังที่มีความรู ้ความสามารถมากมาย มี
ส่ วนช่วยเหลือในด้านการเรี ยกของพี่เขยสาม อีกทั้งพวกเราพี่นอ้ งก็
สามารถพบกันได้บ่อย ๆ ไม่เหมือนพี่ใหญ่ แต่งงานออกไปไกล
อยากเจอหน้าสักครั้งก็ยากลาบาก” เสิ่ นเวยถอนหายใจหนึ่งครา
ในตอนนี้เอง มีสาวใช้เข้ามารายงาน “คารวะกูไหน่ไนทั้งสองท่าน
และคุณหนูสี่ ข้างนอกมีคุณหนูญาติผนู ้ อ้ งตระกูลหลิวมาขอพบเจ้า
ค่ะ”
เสิ่ นซวงกับเสิ่ นอิงมองหน้ากัน ไม่รู้วา่ คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งตระกูลหลิว
ผูน้ ้ ีเป็ นใคร เสิ่ นเวยนึกออกแล้ว ตอนที่หลิวรุ่ ยฟังมาจวนโหวท่านพี่
ทั้งสองต่างก็ออกเรื อนแล้ว อีกทั้งหลิวรุ่ ยฟังก็ไม่ใช่แขกสาคัญอะไร
มากมาย ย่อมไม่มีใครเอ่ยปากบอกพวกนาง
“เป็ นหลานสาวฝั่งบ้านท่านย่า เด็กกว่าพวกเราเล็กน้อย แต่เป็ นบ้าน
ไหนข้าเองก็ไม่แน่ใจ ข้าเจอเมื่อวันที่กลับมา” เสิ่ นเวยกล่าวอธิบาย
เสิ่ นซวงกับเสิ่ นอิงพยักหน้า กล่าวกับสาวใช้ “รี บเชิญเข้ามาเถอะ”
คนก็มาถึงแล้ว คงจะไล่ออกไปไม่ได้หรอกกระมัง ไม่วา่ อย่างไรก็
เป็ นคนฝั่งบ้านท่านย่า อย่างไรเสี ยก็ยงั ต้องให้เกียรติสกั หน่อย เสิ่ น
ซวงกับเสิ่ นอิงต่างตัดสิ นใจแล้ว หากญาติผนู ้ อ้ งคนนี้เป็ นคนดี
เช่นนั้นพวกนางก็ไม่ถือสาที่จะคบค้าสมาคมด้วย แต่หากเป็ นคนไม่
ดี เหอ ๆ อยูด่ ีไม่วา่ ดีใครจะหาเรื่ องใส่ ตวั กัน
แต่วา่ ดูจากพฤติกรรมของญาติผนู ้ อ้ งคนนี้ ความเป็ นไปได้แบบหลัง
มีมากอย่างยิง่
ไม่นานนักสาวใช้กน็ าสตรี ร่างสู งโปร่ งผูห้ นึ่งเข้ามา หน้าตาค่อนข้าง
ไม่เลว เพียงแต่แต่งตัวเรี ยบง่ายเกินไปหน่อย ศีรษะก็ปักปิ่ นเพียงอัน
เดียว หากไม่พดู ใครจะรู ้วา่ นี่คือคุณหนู
มาเป็ นแขกที่จวนคนอื่น อีกทั้งยังเป็ นวันมงคลของจวนคนอื่น
แต่งตัวจืดชืดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เสิ่ นซวงกับเสิ่ นอิงสบตา
กันปราดหนึ่งเงียบ ๆ ในใจไม่ชอบพอเล็กน้อย
อันที่จริ งก็เป็ นการกล่าวหาหลิวรุ่ ยฟังจริ ง ๆ นางยังไม่ทนั ได้
ประจบประแจง จะคิดถึงการหาเรื่ องได้อย่างไร นางเพียงแค่นึกถึง
ความร่ ารวยของจวนโหว ในมือญาติผพู ้ ี่หลายคนล้วนแต่มีทรัพย์สิน
ส่ วนตัวจานวนมหาศาล นางแต่งตัวเรี ยบง่ายหน่อย ไม่แน่วา่ ญาติผพู ้ ี่
เห็นนางน่าสงสารมอบเครื่ องประดับสักสองชิ้น ก็เพียงพอให้นาง
เก็บสมบัติตวั เองได้แล้ว
นางมาจวนโหวได้หลายวันแล้ว ได้ยนิ สาวใช้ในจวนโหวสนทนา
บอกว่าคุณหนูสี่ของพวกนางเป็ นคนที่มีเงินที่สุดอีกทั้งยังใจกว้าง
ที่สุด ทุก ๆ เดือนเพียงแค่ปูนบาเหน็จก็มากกว่าเงินเดือนทั้งปี ของ
พวกนางแล้ว พวกนางล้วนแต่หวังว่าจะไปทางานที่เรื อนเฟิ งหวาได้
บ้าง แม้วา่ จะเป็ นเพียงคนเฝ้าประตูก็คุม้ ค่าแล้ว
เหวินรุ่ ยฟังได้ยนิ แล้วก็ร้อนใจ กี่แสนตาลึงกัน ให้ตายเถอะ นี่ไม่ใช่
ว่าทั้งชีวติ ก็ใช้ไม่หมดหรอกหรื อ เพียงแค่เศษเงินของญาติผพู ้ ี่สี่ก็
เพียงพอให้นางมีชีวิตที่สุขสบายแล้ว ดังนั้นนางจึงร้อนใจคิด
อยากจะสานสัมพันธ์กบั ญาติผพู ้ ี่สี่ที่มีเงินผูน้ ้ ี กว่าจะตั้งหน้าตั้งตารอ
ญาติผพู ้ ี่สี่กลับมาจากวัดต้าเจวี๋ยได้ นางกลับเฉยชาต่อนาง แต่หลิวรุ่ ย
ฟังก็ไม่ยอ่ ท้อแม้แต่นิดเดียว คิดจะตักตวงผลประโยชน์จากคนอื่นจะ
ยังเกรงใจอยูไ่ ด้อย่างไร ในบ้านนางเกรงใจท่านพ่อ เกรงใจพี่สาวลูก
อนุภรรยาของนางยังไม่พอหรื อไร
หลิวรุ่ ยฟังยิม้ ก่อนเอ่ยปาก “รุ่ ยฟังคาระญาติผพู ้ ี่ท้ งั สามเจ้าค่ะ ได้ยนิ
ท่านย่าพูดมานานแล้ว ญาติผพู ้ ี่ท้ งั หลายต่างก็เป็ นเหมือนนางฟ้า
วันนี้รุ่ยฟังได้เปิ ดหูเปิ ดตาแล้ว” นางพูดดีราวกับไม่หวังสิ่ งตอบแทน
ยิม้ เข้าไว้จะได้ไม่มีใครหาเรื่ อง สี หน้าของเสิ่ นซวงอ่อนโยนลง กล่าว
“น้องฟังเองก็เป็ นหญิงงาม ไยจะต้องดูถูกตัวเองด้วย น้องฟังอย่ามัว
ยืนอยูเ่ ลย รี บนัง่ เถอะ”
หลิวรุ่ ยฟังนัง่ ลงอย่างมีความสุ ข พลางตบอกด้วยความภูมิใจ “ก่อน
มารุ่ ยฟังกระวนกระวายใจยิง่ นัก ไม่คิดว่าท่านพี่ท้ งั หลายจะเป็ นมิตร
เพียงนี้ ใจดีกบั รุ่ ยฟังเช่นนี้ รุ่ ยฟังไม่มีอะไรมาตอบแทน เพียงแต่ยาม
ว่างเย็บปักถักร้อยเล็กน้อย มอบให้ท่านพี่ท้ งั หลายใช้เล่น แม้วา่ จะไม่
งามประณี ต แต่กเ็ ป็ นความตั้งใจของรุ่ ยฟัง หวังว่าท่านพี่ท้ งั หลายจะ
ไม่รังเกียจ” นางรับงานปักในมือชิงหยาแล้วยืน่ เข้ามา
เสิ่ นซวงกับเสิ่ นอิงรับมาแล้ว ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ขยับ ยังคงเป็ นหลีฮ
วาที่ยนื อยูข่ า้ งหลังนางรับแทน “ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนูญาติผนู ้ อ้ ง”
ใบหน้าของหลิวรุ่ ยฟังก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่อยูต่ ่อหน้าญาติผพู ้ ี่สี่ที่
ร่ ารวยเพียงนี้ท้ งั ยังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่ แม้วา่
นางจะรู ้สึกน้อยใจ แต่นอกจากทนแล้วนางจะยังทาอะไรได้อีก
โชคดีที่ญาติผพู ้ ี่รองและญาติผพู ้ ี่สามรับมากับมือ ยังนับได้วา่ ไว้หน้า
นางอยู่
“น้องฟังถ่อมตัวเกินไปแล้ว งานปักนี้งามประณี ตจริ ง ๆ ใช่ไหมพี่
รอง น้องสี่ ” เสิ่ นอิงพลิกดูผา้ เช็ดหน้าปักลายดอกกล้วยไม้ในมือ
กลับไม่ได้พดู เท็จ งานปักญาติผนู ้ อ้ งคนนี้ดีจริ ง ๆ
เสิ่ นซวงเองก็พยักหน้า “ดอกบัวนี้ดูมีชีวิตชีวายิง่ นัก เหมือนของจริ ง
เลย” ผ้าเช็ดหน้าในมือนางปักลายดอกบัวแฝด
เสิ่ นเวยเองก็หนั หน้ามองผ้าเช็ดหน้าในมือหลีฮวาปราดหนึ่ง งานปัก
ไม่เลวจริ ง ๆ “สวยจริ ง ๆ สวยกว่าข้าปักอีก” งานปักก็คืองานที่ตอ้ ง
ใช้ความชานาญ เสิ่ นเวยทะลุมิติมาได้รับผลพวงจากเจ้าของร่ างเดิม
นางเย็บปักถักร้อยเป็ น บวกกับมีเวลาว่างที่หมู่บา้ นสกุลเสิ่ นเยอะจึง
ได้ฝึกฝนโดยเฉพาะ ดังนั้นงานปักของนางจึงไม่เลวอย่างยิง่ แต่ช่วย
ไม่ได้ที่นางทาไม่บ่อย หนึ่งวันที่ไม่ได้ฝึกก็กลายเป็ นไม่ชานาญ นาง
ไม่ได้แตะมาหลายเดือนแล้ว มือสนเข็มไม่ได้นานแล้ว
หลิวรุ่ ยฟังได้ยนิ ดังนั้นก็ตาลุกวาว จ้องมองเสิ่ นเวยฉวยโอกาสหา
ผลประโยชน์ “พี่สี่กเ็ ป็ นจวิน้ จู่แล้ว ไหนเลยจะต้องลงมือเอง ขอเพียง
แค่ท่านเอ่ยปาก รุ่ ยฟังก็ยนิ ดีจะทาแทนท่าน” นางกะพริ บตาปริ บ ๆ
มองเสิ่ นเวย หวังว่านางจะตอบรับ เช่นนี้นางก็จะยิง่ มีเหตุไปเรื อน
เฟิ งหวาได้
ทว่าเสิ่ นเวยกลับกล่าว “จะลาบากน้องฟังให้มาทางานสาวใช้ได้
อย่างไร” สาวใช้ฝีมือดีขา้ งกายนางมีเป็ นกอบเป็ นกา ไหนเลยจะต้อง
ให้คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งมาเย็บปักแทนนาง ข่าวลือดังออกไปจะไม่
เข้าใจนางผิดหรื อ
“ไม่ลาบาก ๆ รุ่ ยฟังยินดี” หลิวรุ่ ยฟังรี บกล่าว
เสิ่ นซวงเห็นญาติผนู ้ อ้ งฟังคนนี้ยงิ่ พูดก็ยงิ่ ไม่เข้าท่าแล้ว จึงรี บเปลี่ยน
เรื่ อง “น้องฟัง ให้มาต้องให้กลับ นี่คือของที่พี่รองมอบให้เจ้า” นาง
ดึงปิ่ นปักผมทองหนึ่งอันลงมาจากศีรษะแล้วปั กลงบนศีรษะของ
หลิวรุ่ ยฟังแทน กล่าวอย่างอดไม่ได้ “สตรี ตอ้ งแต่งตัวสวย ๆ จึงจะดู
ดี เรี ยบง่ายเกินไปกลับไม่ดีนกั ” หากไม่ใช่ช่วงไว้ทุกข์ จะแต่งตัว
เรี ยบง่ายเพียงนั้นเพื่ออะไร
เสิ่ งอิงเองก็ถอดกาไลพันด้ายทองจากข้อมือให้หลิวรุ่ ยฟัง เสิ่ นเวยก็
ให้กาไลหยกหนึ่งอัน เครื่ องประดับของนางมีมาก กาไลหยกอันนี้
เป็ นอันที่มีมูลค่าน้อยที่สุดบนร่ างนางแล้ว
หลิวรุ่ ยฟังเห็นกาไลหยกดวงตาก็แทบจะตะลึงงัน แม้วา่ ปิ่ นทอง
กาไลทองที่ญาติผพู ้ ี่รองกับญาติผพู ้ ี่สามให้จะดีอย่างยิง่ แต่สองอย่าง
นี้รวมกันแล้วเกรงว่าจะยังเทียบกาไลหยกอันนี้ไม่ได้ มือของนางกุม
กาไลหยกไว้แนบแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื้นตัน “รุ่ ยฟัง
ขอบคุณของขวัญของญาติผพู ้ ี่ท้ งั สาม ญาติผพู ้ ี่ดีจริ ง ๆ ”
คาพูดนี้กลับจริ งใจ ตั้งแต่เล็กจนโตสมบัติท้ งั หมดของนางรวมกัน
แล้วยังไม่เท่าที่ญาติผพู ้ ี่สามคนนี้มอบให้ตามอาเภอใจเลย อย่าว่าแต่
นาง แม้แต่ในมือพี่สาวลูกอนุภรรยาที่ได้รับความโปรดปรานก็ยงั ไม่
มีของดีถึงเพียงนี้ ดังนั้นนางจะต้องซ่อนไว้ให้ดี ไม่อาจให้พี่สาวลูก
อนุภรรยากับอี๋เหนียงใหญ่พบเห็นได้ แต่วา่ มารดานางก็ตอ้ งปิ ดบัง
เช่นกัน ใครจะรู ้วา่ ท่านแม่จะเอาไปเป็ นเบี้ยเลี้ยงน้องชายโดยอ้างว่า
เก็บรักษาหรื อไม่ เรื่ องเช่นนี้นางก็ไม่ได้ทาเพียงแค่ครั้งสองครั้ง มี
ของอะไรดีกใ็ ห้สิทธิ์นอ้ งชายก่อนเสมอ หากไม่ใช่เพราะหน้าตาที่
เหมือนกัน นางก็สงสัยจริ ง ๆ ว่าตนเป็ นลูกแท้ ๆ หรื อไม่
หลังจากตื่นเต้นแล้วหลิวรุ่ ยฟังก็นึกถึงคาพูดของพี่รอง ใบหน้าร้อน
ผ่าว ตอนนี้นางคล้ายตระหนักได้วา่ ตนแต่งตัวเช่นนี้ไม่เหมาะสม
เล็กน้อย แต่ความจริ งแล้วไม่เหมาะสมอย่างไรนางก็ไม่แน่ใจ แม้วา่
นางจะอายุสิบสามสิ บสี่ ปีแล้ว แต่ท่านแม่กเ็ อาแต่ใส่ ใจน้องชาย ไหน
เลยจะเจียดเวลามาสัง่ สอนนาง
นึกถึงตรงนี้นางก็อดปวดใจไม่ได้ เงยหน้าขึ้นมองญาติผพู ้ ี่ท้ งั สามคน
ในดวงตามีความอิจฉาและความนับถือ นางยังมองออกว่าญาติผพู ้ ี่
ทั้งสามไม่ชอบนางนัก แต่ก็ยงั คงมอบของดี ๆ ให้นาง ทั้งยังบอก
เป็ นนัยถึงความไม่เหมาะสมของนาง ดียงิ่ กว่ามารดาของนางเสี ยอีก
เห็นแก่ของขวัญที่ล้ าค่า หลิวรุ่ ยฟังรู ้กาละเทศะ เมื่อเสิ่ นซวงเผยท่าที
บนใบหน้า นางก็ลุกขึ้นขอตัวลาอย่างมีไหวพริ บ
เมื่อหลิวรุ่ ยฟังไปแล้ว พี่นอ้ งทั้งสามก็สบตากันปราดหนึ่ง เสิ่ นซวงม
องแผ่นหลังของนาง กล่าวอย่างคล้ายครุ่ นคิด “ตระกูลหลิวตกต่าถึง
เพียงนี้แล้วหรื อ” ไม่วา่ อย่างไรก็เป็ นคุณหนูตระกูลขุนนาง แต่การ
อบรมเลี้ยงดูยงั เทียบไม่ได้แม้แต่สาวใช้จวนโหว
เสิ่ นเวยแสยะปาก “ใครจะไปสนใจตระกูลหลิวอะไรนัน่
ความสัมพันธ์กบั รุ่ นของพวกเราห่างไกลกันอย่างยิง่ ”
เสิ่ นซวงเสิ่ นอิงคิดตาม นัน่ สิ ตระกูลหลิวเป็ นบ้านฝั่งมารดาของท่าน
ย่าพวกนาง ตระกูลฝั่งแม่ของท่านพ่อพวกนาง ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับกู
ไหน่ไนทั้งหลายที่ออกเรื อนเช่นพวกนางเหล่านี้ ขอเพียงแค่จวนจงอู่
โหวยังอยูด่ ี พวกนางก็อยูใ่ นบ้านสามีได้อย่างสงบสุ ข
ทันใดนั้นพวกนางก็ลืมเรื่ องหลิวรุ่ ยฟังญาติผนู ้ อ้ งคนนี้ไปเสี ยแล้ว
[1] กูไหน่ไน เป็ นคาที่บุคคลในครอบครัวฝั่งมารดาใช้เรี ยกลูกสาวที่
แต่งงานออกไปแล้ว
ตอนที่ 187-1 ตลกร้ ายกลางงานเลีย้ งกลางวัน
หลิวรุ่ ยฟังจับกาไลบนข้อมือรี บเดินไปยังเรื อนของตน ทว่าตอนที่
ใกล้จะถึงหน้าประตูเรื อนกลับหยุดเท้าลง สายตาหันไปยังทิศทาง
หนึ่ง เดินไปที่เรื อนซงเฮ่อของท่านย่าแทน
วันนี้อารมณ์ของเหล่าไท่จวินดีอย่างยิง่ หลานสาวที่ออกเรื อนสาม
คนพาหลายเขยมาเคารพนาง หลานเขยโขกศีรษะให้นาง ทาให้นางมี
ความสุ ขจนดวงตาหรี่ เป็ นขีด ไม่เห็นหรื อว่า กาลังลากแม่นมฉิ นมา
พูดไม่หยุดปาก
“ข้าน่ะ ชอบเด็กผูช้ ายที่มีสง่าราศี หลานเขยสามคนนี้ลว้ นแต่เลือกมา
ดีท้ งั สิ้ น” เหล่าไท่จวินยิม้ จนตาปิ ด หลานเขยสามคนไม่เพียงแต่มี
ความสามารถ แต่ยงั กตัญญูต่อนาง ของขวัญที่เตรี ยมมาก็จริ งใจ
แม่นมฉินเองก็เอาใจอย่างอารมณ์ดีท้ งั ใบหน้า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ คุณหนู
จวนโหวของเราจะเลือกเขยด้อยได้อย่างไร นี่เองก็เป็ นเพราะพึ่งพา
วาสนาของเหล่าไท่จวิน”
เหล่าไท่จวินถูกยกยอก็ยงิ่ มีความสุ ขดัง่ คาด แต่ปากกลับบอกว่า
“ไหนเลยจะเป็ นวาสนาของข้า ล้วนแต่เป็ นการจัดการของลูกสะใภ้
คนโต” ทว่าสี หน้าบนใบหน้านั้นกลับเก็บคุณงามความดีคืนสู่ ตวั เอง
แม่นมเฉินที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ เหลือบตาขึ้นมองปราดหนึ่ง จากนั้นก็หลุบ
ตาก้มหน้างุดลงไป
ตอนที่หลิวรุ่ ยฟังเข้ามาก็ฟังอยูค่ รู่ หนึ่ง กาลังจะตั้งใจฟังอีก สาวใช้ก็
เรี ยกนางเข้าไปแล้ว
“ท่านย่า” หลิวรุ่ ยฟังเงยหน้ายิม้ ให้เหล่าไท่จวินอย่างมีความสุ ข
เหล่าไท่จวินเห็นเสื้ อผ้าบนร่ างนางคิ้วก็ขมวดมุ่นทันที คนอายุมาก
ชอบให้ลูกหลานสวมชุดสี สด แต่งตัวอย่างสดใสที่สุด ที่ตอ้ งห้าม
ที่สุดก็คือชุดที่จืดชืด ฟังเจี่ยเอ๋ อร์สวมชุดกระโปรงสี ชมพูอ่อนที่ก่ ึง
เก่า ดูไกล ๆ เหมือนชุดไว้ทุกข์ ในจวนกาลังมีงานมงคล ฟังเจี่ยเอ๋ อร์
สวมชุดเช่นนี้ไม่เข้าตาเหล่าไท่จวินจริ ง ๆ
หลิวรุ่ ยฟังทาเป็ นมองไม่เห็นความไม่ชอบใจบนใบหน้าของเหล่าไท่
จวิน หยิบของขวัญที่ได้มาเมื่อครู่ ออกมาราวกับเด็กอวดสมบัติ “ท่าน
ย่าท่านดูสิ นี่เป็ นของที่ญาติผพู ้ ี่ให้ขา้ ปิ่ นทองอันนี้ญาติผพู ้ ี่รองให้มา
กาไลพันไหมทองอันนี้ญาติผพู ้ ี่สามให้มา กาไลหยกที่สวยงามอันนี้
ญาติผพู ้ ี่สี่ให้มา ญาติผพู ้ ี่ดีจริ ง ๆ ” นางกล่าวด้วยใบหน้าเล็ก ๆ ที่
เปล่งประกาย
ปิ่ นทองกับกาไลทองนี้เหล่าไท่จวินมองดูแล้วเป็ นเพียงของธรรมดา
มีแต่กาไลหยกอันนั้นที่ยงั ดีกว่าหน่อย แต่ของธรรมดา ๆ เช่นนี้
ฟังเจี่ยเอ๋ อร์กลับนามาอวดถึงหน้านาง นี่ทาให้เหล่าไท่จวินอดใจ
อ่อนไม่ได้ ทั้งยังสงสารอย่างถึงที่สุด
พวกซวงเอ๋ อร์มีใครบ้างที่ไม่ถูกเลี้ยงมาอย่างดิบดี แม้แต่อิงเอ๋ อร์ที่
เป็ นลูกอนุภรรยาก็ยงั ไม่เคยขาดแคลนเครื่ องประดับสวย ๆ แต่บน
ศีรษะฟังเจี่ยเอ๋ อร์กลับโล่งโจ้ง แม้แต่เครื่ องประดับศีรษะดี ๆ สักชิ้น
ก็ไม่มี นี่คือหลานสาวของตน จะไม่ทาให้นางเจ็บปวดหัวใจได้
อย่างไร
“เด็กดี ในเมื่อญาติผพู ้ ี่ให้ของเจ้า เจ้าก็เก็บไว้ให้ดีเถอะ” เหล่าไท่จวิน
ถอนหายใจในใจหนึ่งครา มองฟังเจี่ยเอ๋ อร์ดว้ ยความเอ็นดู กล่าว
อย่างอดไม่ได้ “เจ้าเป็ นสตรี อายุนอ้ ย เป็ นวัยที่ตอ้ งสวมเสื้ อผ้าสี
สดใส แต่งตัวจืดชืดเช่นนี้ดูไม่ดีนกั หู่พวั่ ไปหาผ้าสี สดสว่างสี่ ผนื
ส่ งไปที่เรื อนคุณหนูญาติผนู ้ อ้ ง แล้วไปบอกเรื อนเย็บปั กด้วยว่า ตัด
เสื้ อผ้าที่เหมาะสมกับสตรี สี่ชุดให้คุณหนูญาติผนู ้ อ้ ง”
หู่พวั่ ตอบรับหนึ่งคราจากนั้นจึงถอยออกไป ใบหน้าของหลิวรุ่ ยฟัง
แดงก่า “ท่านย่า พอแล้ว ๆ ผ้าสี่ ผนื มากพอแล้ว ไม่ตอ้ งตัดเสื้ อผ้าให้
ข้าแล้ว ข้า ข้ามีเสื้ อผ้าใส่ ” ประโยคสุ ดท้ายเสี ยงของนางเบามากเป็ น
พิเศษ กัดริ มฝี ปากอย่างละอายใจ “ท่านย่า รุ่ ยฟังใช่ทาท่านขายหน้า
หรื อไม่”
ท่าทางใกล้จะร้องไห้นนั่ ของนางทาให้เหล่าไท่จวินยิง่ อดตาหนินาง
ไม่ได้ “ไม่โทษเจ้า เป็ นย่าที่คิดไม่ถึงเอง เด็กดี เจ้าทาใจให้สบายรอ
สวมเสื้ อผ้าชุดใหม่เถอะ ย่าชอบเด็กผูห้ ญิงแต่งตัวเหมือนดอกไม้
ที่สุด”
สถานการณ์บา้ นฝั่งมารดานางก็รู้มาพอควร พ่อของฟังเจี่ยเอ๋ อร์เป็ น
คนไม่มีเหตุผล ยกย่องคนชั้นต่าขึ้นฟ้า แม้แต่ฟังเจี่ยเอ๋ อร์บุตรสาว
ภรรยาหลวงผูน้ ้ ียงั ไม่ได้สมปรารถนา แม่ของฟังเจี่ยเอ๋ อร์กไ็ ร้
ประโยชน์ กุมหัวใจสามีไม่ได้ ซ้ ายังรักษาลูกไว้ไม่ได้อีก
สงสารก็แต่ฟังเจี่ยเอ๋ อร์เด็กคนนี้ ช่างเถอะ ๆ เรื่ องจุกจิกเหล่านั้นที่
บ้านฝั่งมารดานางเองก็ข้ ีเกียจจะยุง่ ช่วยเหลือด้านการเงินทุกปี ก็
พอแล้ว ถือโอกาสที่ฟังเจี่ยเอ๋ อร์อยูต่ รงหน้านาง นางจะต้องเตรี ยม
ของให้นางดี ๆ หลังจากนี้ออกเรื อนก็จะได้มีสมบัติส่วนตัว
คิดถึงตรงนี้ สายตาที่เหล่าไท่จวินก็มองฟังเจี่ยเอ๋ อร์กม็ ีความสงสาร
เพิ่มมากขึ้น กล่าวกับแม่นมฉิน “เอาเครื่ องประดับ**บนั้นที่ได้จาก
ผูน้ อ้ ยเมื่อเดือนก่อนมาให้ฟังเจี่ยเอ๋ อร์ใส่ เสี ย”
เห็นฟังเจี่ยเอ๋ อร์ตกใจจนโบกมือไม่เอา นางก็โน้มน้าวเสี ยงอ่อนโยน
“เด็กโง่ สตรี ตอ้ งสวมใส่ ของสวย ๆ งาม ๆ เยอะ ๆ จึงจะดูดี **บเครื่
องประดับของญาติผพู ้ ี่เจ้าเต็มไปหมด มีแต่เจ้าที่ไม่มี ย่าไม่อาจ
ละเลยเจ้าได้”
น้ าตาแห่งความซาบซึ้งของหลิวรุ่ ยฟังไหลลงมา ซบขาของเหล่าไท่
จวินแล้วสะอื้นกล่าว “ท่านย่า ท่านดีกบั รุ่ ยฟังมากจริ ง ๆ ท่านพ่อ
ท่านแม่…” นางพูดต่อไม่ได้แล้ว ก้มหน้าสะอื้นไห้เสี ยงเบา
เหล่าไท่จวินลูบหัวฟังเจี่ยเอ๋ อร์ดว้ ยความสงสาร “รู ้แล้ว รู ้แล้ว ย่ารู ้
แล้วว่าเจ้าได้รับความไม่เป็ นธรรม เจ้าเป็ นเด็กดี วางใจได้แล้ว เจ้าอยู่
ในจวนให้สบายใจ กลับไปย่าจะไม่ลืมเรื่ องการสมรสของเจ้า” นาง
สัญญาเช่นนี้
“ท่านย่า” ใบหน้าของหลิวรุ่ ยฟังแดงกว่าเดิม เสี ยงเบาราวกับยุง ในสี
หน้าท่าทางเต็มไปด้วยความเขินอาย ทว่ามุมปากกลับยกขึ้นน้อย ๆ
ดวงตาที่หลุบลงก็เปล่งประกายจนน่าตกใจ หากท่านย่าสามารถช่วย
นางวางแผนเรื่ องการสมรสได้ เช่นนั้นนางจะยังมีอะไรให้ทุกข์ใจอีก
ในมือชิงหยาถือ**บเครื่ องประดับเดินตามอยูข่ า้ งหลังคุณหนูอย่าง
งุนงง ไม่อยากเชื่อจริ ง ๆ ว่าเพียงแค่เดินวนหนึ่งรอบเช่นนี้จะได้ของ
ดีมากถึงเพียงนี้
ออกจากเรื อนซงเฮ่อแล้วสี หน้าบนใบหน้าของหลิวรุ่ ยฟังก็เกลี้ยง
เกลาหมดจด ไหนเลยจะยังมีความลาบากใจและเขินอายอย่างก่อน
หน้านี้อยูอ่ ีก ในใจนางพอใจอยูเ่ งียบ ๆ ก็แค่แสร้งบีบน้ าตาทาตัวน่า
สงสารมิใช่หรื อ เป็ นแผนซื้อขาย ดูสิ ท่านย่าให้ของดีนางมาก
เพียงใด แค่เครื่ องประดับหนึ่ง**บนี้กม็ ีมูลค่าหลายร้อยตาลึงแล้ว
หลิวรุ่ ยฟังกาหมัดแน่นบอกตัวเอง จะต้องเอาอกเอาใจท่านย่า จะต้อง
ทาให้นางชอบใจเพื่อที่จะได้คู่สมรสที่ดี นางจึงจะสามารถหลุด
ออกมาจากรังโคลนแห่งนั้นในจวนตระกูลหลิวได้
ตอนที่ผา่ นภูเขาจาลอง หลิวรุ่ ยฟังนายบ่าวก็มองเห็นสาวใช้นอ้ ยสอง
คนกวาดใบไม้ร่วงไปพลางสนทนาไปพลาง หลิวรุ่ ยฟังคล้ายได้ยนิ
พวกนางเอ่ยถึงท่านเขยสองคานี้ ใจเต้นอย่างอดไม่ได้ ดึงชิงหยาหลบ
หลังภูเขาจาลอง
“จะว่าไปคุณหนูจวนพวกเราก็โชคดีจริ ง ๆ ท่านเขยที่มาวันนี้เจ้าเห็น
แล้วหรื อยัง”
“ไม่เห็น พวกเราไม่ใช่สาวใช้ใหญ่ที่ได้หน้า ไหนเลยจะสามารถยืน
อยูต่ ่อหน้านายได้ พี่หลานเห็นท่านเขยแล้วหรื อ เล่ามาเร็ ว” ใน
น้ าเสี ยงเต็มไปด้วยความอิจฉา
“หึ ตอนที่ท่านเขยมาข้าทางานอยูใ่ นสวนดอกไม้เล็กพอดี ก็แค่
บังเอิญเห็นไม่ใช่หรื อไร ท่านเขยสามคนนี้ของพวกเราหน้าตาดีจริ ง
ๆ ตัวก็สูง ไม่ต่างจากคุณชายใหญ่ของพวกเรานัก เสื้ อผ้าที่สวมก็
งดงาม ดูมีสง่าราศียงิ่ นัก อีกทั้งยังใจกว้าง เพียงแค่คนรับใช้ที่บงั เอิญ
เจอก็ให้เงินปูนบาเหน็จแล้ว ข้าเองก็ได้กอ้ นเงินหนึ่งก้อน ได้กอ้ น
เงินเชียวนะ” ในน้ าเสี ยงนี้เต็มไปด้วยความดีใจ
“จริ งหรื อ พี่หลานโชคดีจริ ง ๆ เหตุใดข้าถึงไม่โชคดีเช่นนี้บา้ งเล่า”
เสี ยงที่เศร้าใจดังขึ้น “ดูท่าแล้วฐานะท่านเขยสามคนนี้ของพวกเราคง
จะไม่ดอ้ ยเลย”
“ใช่แล้ว สามีของคุณหนูจวนโหวจะด้อยได้อย่างไร ข้าจะบอกอะไร
เจ้าให้ ท่านเขยสองของพวกเราเป็ นคุณชายจวนเสนาบดี เป็ น
ลูกพี่ลูกน้องที่มีใจให้กนั ตั้งแต่เล็กกับคุณหนูสองของเรา ได้ยนิ พี่ ๆ
ข้างบนบอกว่า ฮูหยินของพวกเรากับพี่สะใภ้ฝั่งแม่มีความสัมพันธ์
อันดีต่อกัน คุณหนูสองของเราแต่งเข้าไปแล้วไม่ใช่วา่ ตกเข้าไปใน
บ่อแห่งความสุ ขหรอกหรื อ ท่านเขยห้าเองก็ไม่ธรรมดา เขาเป็ นท่าน
ซื่อจื่อจวนหย่งหนิงโหว เป็ นคุณชายยอดเยีย่ มที่มีชื่อในเมืองหลวง
เทียบกับสองคนนี้แล้วท่านเขยสามด้อยกว่าเล็กน้อย ตระกูลเขา
ไม่ได้อยูใ่ นเมืองหลวง แต่ต่อให้จะด้อย เขาก็เป็ นถึงคุณชายตระกูล
ขุนนางขั้นสี่ ” คนผูน้ ้ ีที่ถูกเรี ยกว่าพี่หลานดูเหมือนเป็ นคนสื บข่าว พูด
เรื่ องข่าวลือของนายแล้วรู ้ดีเหมือนเป็ นเรื่ องของตนเอง
“พูดได้วา่ ยังคงเป็ นท่านเขยห้าที่โดดเด่นที่สุดใช่หรื อไม่ คุณหนูหา้
โชคดีจริ ง ๆ แต่ไม่ใช่วา่ กันว่าคนผูน้ ้ นั ของบ้านสามถูกขังอยูใ่ นหอ
ธรรมหรอกหรื อ” ประโยคสุ ดท้ายกดเสี ยงต่ากล่าว หลิวรุ่ ยฟังได้ยนิ
ไม่ชดั เจน
จากนั้นก็ได้ยนิ พี่หลานผูน้ ้ นั กล่าว “ชู่ว์ เบา ๆ หน่อย เจ้าอยากตาย
หรื อไร” ผ่านไปครู่ หนึ่งเสี ยงของนางก็ดงั ขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่เบาลง
มาก หลิวรุ่ ยฟังพยายามโน้มตัวจึงจะพอได้ยนิ
“เจ้าเพิง่ เข้าจวนมาทางานเลยไม่รู้ ฮูหยินผูน้ ้ นั ของบ้านสามเข้าหอ
ธรรมก็เพราะท่านเขยผูน้ ้ ีไม่ใช่หรื อ เดิมท่านเขยห้าผูน้ ้ ีเป็ นคู่หมั้น
คุณหนูสี่ของเรา แต่ฮูหยินสามใช้อุบายช่วยคุณหนูหา้ วางแผนดึงตัว
มา”
“จริ งหรื อ” เป็ นเสี ยงปิ ดปากอุทาน “เช่นนั้น…เช่นนั้นคุณหนูสี่ของ
พวกเรายินยอมด้วยหรื อ”
“ดังนั้นฮูหยินสามจึงต้องเข้าหอธรรมอย่างไรเล่า” นี่เป็ นเสี ยงของพี่
หลาน “คุณหนูสี่ผนู ้ ้ ีของเราเก่งกาจ วาสนาก็ดี ต่อมาจักรพรรดิก็
พระราชทานสมรสให้ ว่าที่ท่านเขยสี่ กค็ ือคุณชายใหญ่จวนจิ้นอ๋ อง
ตอนนี้คุณหนูสี่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ นจวิน้ จู่แล้ว ชีวิต
หลังจากนี้น่ะ จุ๊ ๆ ”
จากนั้นเสี ยงของพี่หลานก็ดงั ขึ้นต่อ “เจ้าเองก็ไม่มีโชค ตอนที่เข้า
จวนมาคุณหนูสี่กไ็ ปวัดต้าเจวี๋ยแล้ว เรื อนเฟิ งหวาไม่ตอ้ งการคน
หากเจ้าได้เข้าเรื อนเฟิ งหวาก็นบั ได้วา่ ตกลงในบ่อแห่งความสุ ข ทั้ง
จวนก็มีแต่เรื อนเฟิ งหวาที่เงินดีที่สุด เสื้ อผ้าที่สาวใช้กวาดพื้นเหมือน
พวกเราสวมใส่ ยงั ไม่ดอ้ ยกว่าสาวใช้ใหญ่ที่อื่นด้วยซ้ า หากข้ามีเส้น
สายก็คงจะฝากคนขอย้ายเข้าไปนานแล้ว”
ต่อมาเสี ยงของทั้งสองคนก็เบาลงอีก หลิวรุ่ ยฟังพยายามเงี่ยหูกย็ งั
ไม่ได้ยนิ นางขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดพาชิงหยาออกจากหลังภูเขา
จาลองอย่างระมัดระวัง
กระทัง่ กลับไปถึงห้องนางก็ยงั คงมีท่าทางครุ่ นคิด นางก็วา่ เหตุใดถึง
ไม่เห็นญาติผพู ้ ี่หา้ เลย ที่แท้แล้วญาติผพู ้ ี่สี่กบั ญาติผพู ้ ี่หา้ ก็ไม่ถูกกัน
นี่เอง ก็ใช่ หากมีคนแย่งคู่หมั้นของนาง นางก็คงจะไม่ยอมวางมือ
เหมือนกัน มิหนาซ้ าที่แย่งไปยังเป็ นท่านซื่อจื่อผูน้ ้ นั ของจวนหย่งห
นิงโหวอีกด้วย
อยูใ่ นเมืองหลวงเหมือนกัน หลิวรุ่ ยฟังเองก็ได้ยนิ ชื่อเสี ยงของท่าน
ซื่อจื่อผูน้ ้ ี พี่สาวลูกอนุภรรยาของนางก็มกั จะพูดถึงท่านซื่อจื่อผูน้ ้ ีอยู่
บ่อย ๆ ท่าทางชื่นชมไม่หยุด ต่อให้จะต้องสละตนเป็ นอนุภรรยาก็
ยินดี
หลิวรุ่ ยฟังอยากเห็นว่าท่านซื่อจื่อผูน้ ้ ีหน้าตาเป็ นอย่างไรจริ ง ๆ
ตอนนี้กลับมีโอกาสดี ยังมีคุณชายจวนเสนาบดีผนู ้ ้ นั กระทัง่ คุณชาย
ตระกูลขุนนางขั้นสี่ ผนู ้ ้ นั หลิวรุ่ ยฟังอยากเห็นหน้าตาของคุณชายสู ง
ตอนที่ 187-2 ตลกร้ ายกลางงานเลีย้ งกลางวัน
งานเลี้ยงกลางวันย่อมแบ่งเป็ นสองโต๊ะ เหล่าไท่จวินพาเหล่า
ลูกสะใภ้หลานสาวนัง่ โต๊ะหนึ่ง นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวนาลูกชาย
หลานชายกระทัง่ หลานเขยนัง่ อีกโต๊ะหนึ่ง ตรงกลางใช้ฉากกั้นแยก
ส่ วน
หลิวรุ่ ยฟังที่นงั่ อยูข่ า้ ง ๆ เหล่าไท่จวินแม้วา่ จะพยายามอดทนอยู่ แต่
ใบหน้าที่แดงระเรื่ อก็ยงั คงแสดงให้เห็นความตื่นเต้นของนาง พีเ่ ขย
ของญาติผพู ้ ี่ท้ งั สามคนสู งสง่า นางมองจนหัวใจเต้นตึกตัก นางแอบ
มองคนบนโต๊ะเล็กน้อย เห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็นที่นางเสี ยกิริยาจึง
แอบถอนหายใจเงียบ ๆ แต่ดวงตาคู่งามกลับมองไปตรงฉากกั้นอย่าง
อดไม่ได้
นางคิดว่าตนหลบซ่อนดีแล้ว แต่ความจริ งการกระทานี้ของนางกลับ
ตกอยูใ่ นสายตาที่เฉียบแหลมของฮูหยินสวี่นานแล้ว ใคร่ ครวญ
เล็กน้อยนางก็รู้ความคิดของหลิวรุ่ ยฟัง เด็กสาวคนนี้ถึงวัยที่จะมี
ความรักแล้วไม่ใช่หรื อ แต่วา่ คนเหล่านั้นที่นงั่ อยูห่ ลังฉากไม่ใช่คน
ที่นางจะใฝ่ ฝันได้ ฮูหยินสวี่เบ้มุมปากลง แววตามีความเหยียดหยาม
จวนโหวมีลูกสาวตระกูลหลิวสองคนแล้ว นางจะไม่ยอมให้มีคนที่
สามอีกเป็ นอันขาด เชื่อว่านายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
“วันมงคลของพี่สี่ใกล้เข้ามาแล้ว ชุดแต่งงานต่าง ๆ ปักเสร็ จแล้วหรื อ
ยัง หากยุง่ เกินไปก็บอกได้ น้องสามารถช่วยได้” เสิ่ นเสวี่ยมองเสิ่ น
เวยที่ซดน้ าแกงอย่างงามสง่า ไม่วา่ จะมองอย่างไรก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
อดเอ่ยปากยุแหย่ไม่ได้ นางจาได้วา่ พีส่ ี่ ผนู ้ ้ ีของนางไม่เคยทางานเย็บ
ปักมาก่อน
เสิ่ นเวยขี้เกียจแม้แต่จะชายตามองนาง วันดีเช่นนี้นางไม่อยากให้
อะไรมากระทบจิตใจ คนอื่นไม่ตอ้ งผูถ้ ึง แต่อย่างไรเสี ยก็ตอ้ งไว้หน้า
ท่านปู่ หน่อยหรื อไม่
โหวฮูหยินฮูหยินสวี่อยากจะตบเสิ่ นเสวี่ยสักฉาดหนึ่งยิง่ นัก แต่กลับ
จาใจต้องยิม้ แย้มปกปิ ดความรู ้สึก “เสวี่ยเจี่ยเอ๋ อร์ลองชิมเผือกนี่สิ
เป็ นอาหารที่ครัวใหญ่คิดค้นออกมาใหม่ รสชาติไม่เลวเลย ป้าใหญ่รู้
ว่าเจ้าเป็ นห่วงพี่นอ้ ง วางใจก็ดีแล้ว มีป้าใหญ่อยู่ จะต้องจัดการทุก
ด้านให้เหมาะสมแน่นอน”
ทว่าเสวี่ยเจี่ยเอ๋ อร์กลับแสดงสี หน้าน้อยใจ สายตาที่มองเสิ่ นเวยก็
เศร้าโศกอย่างยิง่ “เหตุใดพี่สี่ถึงไม่สนใจข้า ข้าเพียงแค่อยากช่วยจริ ง
ๆ แม้วา่ ข้าจะไม่ได้ร่ ารวยเท่าท่านพี่ แต่ช่วยท่านพี่ทางานปักเล็ก ๆ
น้อย ๆ เพิ่มของขวัญแต่งงานสวย ๆ ไม่กี่ชิ้นก็ยงั คงทาได้” คาว่าสวย
ๆ สองคานี้นางตั้งใจเน้นเสี ยง ราวกับกลัวใครจะฟังไม่ออก
เสิ่ นเวยแพ้ให้เสิ่ นเสวี่ยแล้วจริ ง ๆ เจ้าโง่เช่นนี้ดีจริ ง ๆ หรื อ เจ้าแสดง
ความโง่ต่อหน้าสามีของเจ้าจะไม่เป็ นไรจริ ง ๆ หรื อ นางวางถ้วยแกง
ในมือลงช้า ๆ ชายตามองเสิ่ นเสวี่ยแล้วกล่าว “ไม่ใช่วา่ ไม่สนใจเจ้า
แต่อย่างไรเสี ยตอนนี้พี่กเ็ ป็ นจวิน้ จู่ที่ราชวงศ์พระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้แล้ว ชุดแต่งงานชองข้าย่อมต้องรอให้กรมพิธีการส่ ง
มา ต่อให้ของที่ตวั เองเตรี ยมไว้จะงดงามประณี ตเพียงใดก็ใช้ไม่ได้
ส่ วนงานอื่น ๆ ย่อมมีสาวใช้ทาอยูแ่ ล้ว มิเช่นนั้นจะเลี้ยงพวกนางไว้
ทาอะไรเล่า ข้าเป็ นนายยังต้องทางานทั้งวันทั้งคืนอีกงั้นหรื อ น่าขัน
ตายเลย ส่ วนคุณชายใหญ่สวีจะรังเกียจที่ขา้ ไม่ได้ทาเองกับมือ
หรื อไม่ น้องห้าเป็ นห่วงข้าเช่นนี้ ไม่สู้เจ้าไปถามแทนข้าว่าเขาแต่ง
ภรรยาหรื อแต่งช่างเย็บผ้ากันแน่”
นางหยุดครู่ หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “พูดถึงของขวัญแต่งงาน น้องรังเกียจ
ของขวัญแต่งงานที่ขา้ ให้เจ้าน้อยไปหรื อไม่ นัน่ เป็ นของที่ขา้ เย็บเอง
กับมือ ของขวัญแม้จะด้อยค่าแต่มากไปด้วยน้ าใจไม่ใช่หรื อ เจ้า
วางใจ พี่ไม่เหมือนเจ้า ต่อให้เจ้าจะให้หญ้าพีต่ น้ เดียว พี่กจ็ ะทะนุ
ถนอมมันแน่นอน”
คาพูดที่ไม่รีบไม่ร้อนแต่กลับทาให้เสิ่ นเสวี่ยเบ้าตาแดงก่าได้สาเร็ จ
ใบหน้าเว่ยจิ่นอวี้หลังฉากกั้นเต็มไปด้วยความลาบากใจ
เหล่าไท่จวินโมโหเล็กน้อยแล้ว ถลึงตามองเสิ่ นเวยปราดหนึ่งอย่าง
ไม่พอใจ “เจ้าพูดมากอะไร เจ้าเป็ นพี่สาว ใจกว้างหน่อยไม่ได้หรื อ
จะหาเรื่ องน้องสาวเจ้าทาไม” วันดีเช่นนี้ เป็ นบาปกรรมอะไรถึงได้
สร้างเรื่ องวุน่ วายอีก
เมื่อเหล่าไท่จวินพูดออกไป มือซ้ายข้างลาตัวของเสิ่ นเจวี๋ยหลังฉาก
กั้นก็กาหมัดอย่างอดไม่ได้ สี หน้าคนอื่น ๆ ก็แปลกประหลาดอย่าง
ยิง่ โดยเฉพาะสวี่หรงกับเหวินเทา ทั้งสองสบตากันปราดหนึ่ง ต่างก็
ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ท่านย่าไม่เป็ นธรรมจริ ง ๆ เห็น ๆ กันอยูว่ า่ น้องเสวี่ยเอ่ยขึ้นก่อน
เหตุใดถึงเป็ นข้าที่พดู มากเล่า ข้าไม่ใจกว้างงั้นหรื อ ก่อนหน้านี้ขา้ ไม่
สนใจนางงั้นหรื อ เหยียบจมูกขึ้นหน้า[1]ก็ช่วยไม่ได้ อย่าไรเสี ยข้าก็
เป็ นจวิน้ จู่ จะรังแกง่ายเพียงนั้นเชียวหรื อ” เสิ่ นเวยไม่ยอมกล้ ากลืน
ความไม่เป็ นธรรม ใครทาให้นางไม่มีความสุ ข นางก็จะตบหน้า
กลับไปทันที “หากตกลงไม่ได้กไ็ ปให้ท่านปู่ ตัดสิ น ดูวา่ แท้จริ งแล้ว
ใครผิดกันแน่” อย่างไรเสี ยน้ าสกปรก ๆ นี้กไ็ ม่อาจสาดมาบนตัวนาง
ได้
ใบหน้าของเหล่าไท่จวินอึมครึ มลงในชัว่ ขณะ นี่ไม่เท่ากับโต้เถียง
นางต่อหน้าคนทั้งครอบครัวรวมถึงหลานเขยด้วยหรื อไร ไม่ได้
เด็ดขาด นางกาลังจะเอ่ยปาก จู่ ๆ ก็ได้ยนิ เสี ยงที่เรี ยบเฉยของนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวดังขึ้น “ทานข้าวดี ๆ เดี๋ยวนี้ เสวี่ยเจี่ยเอ๋ อร์ หากเจ้าไม่
สบายก็ไม่ตอ้ งกลับมา ดีข้ ึนแล้วค่อยกลับมา จวนโหวเป็ นตระกูลฝั่ง
เจ้า จะตาหนิเจ้าไม่ได้หรื อไร”
แม้จะไม่ได้เอ่ยว่าใครถูกใครผิด แต่เจตนาในคาพูดใครฟังก็เข้าใจ
หมดแล้ว สี หน้าของเสิ่ นเสวี่ยไม่น่าดูอย่างยิง่ แทบจะนัง่ ไม่ติดแล้ว
แต่กลับไม่กล้าบุ่มบ่ามออกไป เว่ยจิ่นอวี้เองก็อึดอัดอย่างถึงที่สุด เขา
ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ ภรรยาที่อ่อนโยนมีความสามารถถึงได้หา
เรื่ องพี่สาวเช่นนี้ เขาลุกขึ้นพยายามจะอธิบายอะไร แต่กลับถูกนาย
ท่านผูเ้ ฒ่าโหวโบกมือห้ามไว้ สวี่หรงดึงเขานัง่ ลงอย่างมีไหวพริ บ “จิ่
นอวี้ มา ชนแก้วกับพี่หน่อย”
เหวินเทาเองก็เขยิบเข้ามาใกล้อย่างรู ้งาน “ข้าด้วย ๆ วันนี้พวกเราพบ
กันครั้งแรก ต้องดื่มกันหลาย ๆ แก้วหน่อย” เหล่าคุณชายจวนโหว
เองก็ครึ กครื้ นตามกัน บรรยากาศรอบโต๊ะก็ดีข้ ึนมาอีกครั้ง
ฝั่งเสิ่ นเวยมีฮูหยินสวี่กวักมือเรี ยก แม้เหล่าไท่จวินจะไม่พอใจ แต่
กลับไม่กล้าทะเลาะขึ้นมาต่อหน้าสามีจริ ง ๆ ทาให้นางโกรธจนไม่
อยากอาหาร ทานได้เพียงสองคาก็วางตะเกียบลงแล้ว
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่นอ้ ย ชูตะเกียบชิม
อาหารแต่ละอย่าง อืม จานนี้อร่ อย จานนั้นก็ไม่เลว เสิ่ นเวยเคี้ยวด้วย
ท่าทางงามสง่า ตั้งแต่ที่ผา่ นวันคืนอันขื่นขมที่ซีเจียงมา ตอนนี้เสิ่ น
เวยก็รู้สึกว่ากินอะไรก็อร่ อยไปหมด เสิ่ นซวงเสิ่ นอิงเห็นเสิ่ นเวยกิน
อย่างเอร็ดอร่ อยก็รู้สึกอยากอาหารอย่างอดไม่ได้ กินเยอะกว่า
เมื่อก่อนเสี ยอีก
ส่ วนสี หน้าเหล่าไท่จวินกับเสิ่ นเสวี่ยก็ยงิ่ พะอืดพะอม ฮูหยินสวี่ทา
เป็ นมองไม่เห็น เพียงแค่เอาใจแขกอย่างกระตือรื อร้น โน้มน้าวให้
ทานเยอะ ๆ ส่ วนเจ้าจะกินหรื อไม่ เรื่ องนั้นนางก็ไม่สนใจแล้ว
ในขณะเดียวกัน คุณชายใหญ่สวีจวนจิ้นอ๋ องกลับทอดถอนหายใจอยู่
ในเรื อนของตน เขารู ้วา่ วันนี้เขยทั้งหลายของจวนจงอู่โหวจะไป
เยีย่ มบ้าน เขาเองก็อยากมาเหมือนกัน ไม่ได้เจอหน้าเด็กน้อยนาน
แล้ว ความคิดถึงของเขาเยอะยิง่ กว่าน้ าในคูเมืองนัน่ เสี ยอีก
ใครจะรู ้เด็กน้อยทิ้งท้ายบอกเขาหนึ่งประโยค ‘คนสถานะไม่ชดั เจน
เช่นท่านอยูบ่ า้ นไปจะดีกว่า’
สวีโย่วได้ยนิ คาที่เจียงไป๋ นากลับมาบอก ร่ างทั้งร่ างก็สบั สนวุน่ วาย
กอดก็เคยกอดแล้ว จูบก็เคยจูบแล้ว เดือนหน้าก็จะสมรสแล้ว ตน
คาดไม่ถึงว่ายังเป็ นคนที่มีสถานะไม่ชดั เจนอยูอ่ ีก สวีโย่วโมโหจน
กัดฟันกรอด ในใจใคร่ ครวญคิดหาวิธีไปสร้างความประทับใจให้
เด็กน้อย มิเช่นนั้นด้วยนิสยั เย็นชาของเด็กน้อยคนนั้นจะต้องลืมเขา
ไปโดยเร็ วแน่นอน
แต่วา่ วิธีใดจึงจะได้ผล หรื อว่าจะส่ งทรัพย์สินเงินทองส่ วนตัวไปให้
นาง ไม่ได้ วันสมรสนางยังต้องนากลับมา ไม่สู้รอนางแต่งเข้า
มาแล้วค่อยให้นาง อืม นางรักน้องชายนางยิง่ นัก หรื อว่าจะเข้าทาง
เด็กโง่คนนั้นดี จะแนะนาแม่ทพั ชื่อดังให้สกั คนหรื อว่าส่ งอาจารย์
สอนยุทธ์สักคนให้ดี
สวีโย่วลูบคางครุ่ นคิดอย่างจริ งจัง
เจียงไป๋ เดินเข้ามาอย่างรี บร้อน “คุณชาย บ่าวชั้นล่างบอกว่าเห็น
คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งบ้านฝั่งมารดาของพระชายาเดินเล่นอยูน่ อกเรื อน
พวกเราขอรับ” เดือนหน้าคุณชายของเขาก็จะเข้าพิธีสมรสแล้ว คิด
คานวณแล้วก็เหลือเวลาอีกไม่มาก อีกทั้งคุณชายยังชอบคุณหนูสี่
จวนจงอู่โหวอย่างยิง่ คุณหนูสี่กย็ งั มีนิสยั ดื้อรั้น ไม่อาจให้เกิดเรื่ อง
ไม่คาดคิดตอนนี้ได้ ดังนั้นเมื่อเขาได้ยนิ เรื่ องนี้จึงรี บมารายงาน
สวีโย่วได้ยนิ แล้วคิ้วก็ขมวดมุ่น “พวกนางยังไม่ไปอีกหรื อ” พิธี
สมรสของเขากาหนดวันแล้ว คุณหนูญาติผนู ้ อ้ งสองคนนั้นยังอยูใ่ น
จวน พระชายามีเจตนาอะไร
“ฟังว่าส่ งกลับไปแล้ว แต่วา่ ตอนนี้กลับมาอีกแล้ว” เจียงไป๋ รี บบอก
ข่าวที่ได้สืบมา
“ไล่ไป ให้นางอยูห่ ่างจากเรื อนพวกเราหน่อย” สวีโย่วรู ้สึกหงุดหงิด
ใจ เขาเห็นคนที่อยูข่ า้ งกายพระชายาแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
ทว่าเจียงไป่ กลับหยุดชะงัก ถามอย่างระมัดระวัง “ไล่อย่างไรขอรับ”
บ่าวเช่นเขา ไม่มีเหตุผลเหมาะสมจะไปไล่หลานสาวบ้านฝั่งมารดา
ของพระชายาได้ พระชายาคงจะถลกหนังเขาทิ้ง พระชายากาลังทุกข์
อยูก่ บั การหาจุดอ่อนของคุณชาย หากนางฉวยโอกาสนี้ข้ ึนมาไม่ใช่
จะเป็ นการทาเรื่ องเล็กให้เป็ นเรื่ องใหญ่หรอกหรื อ
สวีโย่วเองก็คิดถึงเรื่ องนี้แล้ว ดวงตากะพริ บวาบกล่าว “เช่นนั้นก็เฝ้า
ประตูเรื อนของเราให้เข้มงวด” เขาคิดครู่ หนึ่งจึงก้มกระซิบข้างหูเขา
แล้วสัง่ สองสามประโยค
ดวงตาของเจียงไป๋ เปล่งประกายในชัว่ ขณะ ยังคงเป็ นคุณชายใหญ่ที่
มีวิธี ไล่โจ่งแจ้งไม่ได้ แล้วจะไล่ไปแบบเงียบ ๆ ไม่ได้หรื อไร คนที่
เหาะเหินเดินอากาศเช่นพวกเขาเหล่านี้มีวิธีรับมือกับสตรี อ่อนแอ
เยอะถมไป ขัดขา หรื อว่าพรางตา ก็ทาได้หมดมิใช่หรื อ
เร็ วอย่างยิง่ สวีโย่วก็รู้แล้วว่าพระชายาจิ้นอ๋ องมีเจตนาอะไร
[1] เหยียบจมูกขึ้นหน้า การที่ฝ่ายหนึ่งให้เกียรติ แต่อีกฝ่ ายไม่คิด
สนใจ กลับวางท่าได้ใจยิง่ ขึ้น
ตอนที่ 188-1 เสนออนุภรรยาอีกครั้ง
อนุภรรยางั้นหรื อ เขากาลังจะเข้าพิธีสมรสแล้ว ฝั่งนางก็หา
อนุภรรยามาให้เขา อีกทั้งยังเป็ นหลานสาวบ้านฝั่งมารดาของนาง
ต้องการหาคนมาอยูข่ า้ งกายเขาหรื อ คิดจริ ง ๆ หรื อว่าเขายังเป็ นเด็ก
ไม่กี่ขวบที่จะถูกนางทาอะไรก็ได้ผนู ้ ้ นั มุมปากของสวีโย่วปรากฎ
ความเหยียดหยาม เดิมเขาคิดจะอยูใ่ นจวนอย่างสันติ จะทาอย่างไร
เมื่อต้นไม้อยากอยูน่ ิ่งแต่ลมกลับไม่หยุดพัด คนบางคนไม่คู่ควรเขา
เองก็ไร้หนทาง
บางทีความเหยียดหยามในแววตาของสวีโย่วอาจจะชัดเจนเกินไป
พระชายาจิ้นอ๋ องที่ป้ ั นหน้ารักใคร่ แทบจะแสร้งทาต่อไปไม่ได้แล้ว
“สุ ขภาพของเจ้าแม่เป็ นห่วงมาโดยตลอด อี๋ฮุ่ยนิสยั อ่อนโยน มีนาง
อยูร่ ับใช้ขา้ งกายเจ้าแม่กว็ างใจ” นางทาท่าทางว่าข้าล้วนแต่หวังดีกบั
เจ้า
ทว่าสวีโย่วกลับไม่แยแส ดวงตาที่สงบนิ่งไร้คลื่นลมก็ยงิ่ ลุ่มลึก
“เดือนหน้าลูกก็จะเข้าพิธีสมรสแล้ว เสด็จแม่รับอนุภรรยาเข้ามา
เพราะไม่พอใจต่อการสมรสพระราชทานของจักรพรรดิ หรื อว่า
เรื อนหลังของลูกยังวุน่ วายไม่พอจึงอยากจะสุ มไฟเพิม่ หรื อ”
คาดว่าคงใช่ท้ งั สองอย่าง โดยเฉพาะตอนนี้นายท่านผูเ้ ฒ่าเสิ่ นโหว
สร้างคุณงามความดีกลับมา อานาจของจวนจงอู่โหวก็ยงิ่ สู งขึ้นอีก
ขั้น พระชายาไม่ยอมให้ตนมีตระกูลของภรรยาที่มีอานาจเพียงนี้
นางอยากจะให้ตนแต่งงานกับตระกูลตกต่าจึงจะดีกว่า
ได้ยนิ สวีโย่วถามกลับตรง ๆ เช่นนี้ อย่าว่าแต่พระชายาจิ้นอ๋ อง แม้แต่
จิ้นอ๋ องบิดาเขายังขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ “โย่วเกอเอ๋ อร์อย่าพูดจา
เหลวไหล เสด็จแม่ของเจ้ามีเจตนาดี อี๋ฮุ่ยเด็กคนนั้นพ่อก็เคยเห็นแล้ว
เป็ นคนดี เสด็จแม่เจ้าหวังดีต่อเจ้าทั้งนั้น เจ้าไม่รู้จกั ขอบคุณซ้ ายังตั้ง
ข้อสงสัย หมายความว่าอย่างไรกัน” ลูกชายคนโตคนนี้อายุยสี่ ิ บกว่า
ปี แล้วยังพูดจายุแหย่คนเช่นนี้อีก
พระชายาจิ้นอ๋ องตีหน้าเสี ยใจขึ้นมาทันเวลา
ดีหรื อ เดินไปเดินมาอยูห่ น้าประตูเรื อนชายอื่น จะเป็ นสตรี ที่ดีอะไร
ได้ ตาบอดใช้ได้แล้วจริ ง ๆ หากเป็ นคนดี น้องสี่ ของเขาก็ยงั ไม่ได้
แต่งงาน เหตุใดพระชายาถึงไม่แต่งนางเป็ นภรรยาเอกของน้องสี่ เล่า
สี หน้าสวีโย่วเย็นชายิง่ ขึ้น ขอบคุณหรื อ หากเขาต้องขอบคุณยอม
ตายเสี ยยังดีกว่า
“หากหวังดีต่อลูกจริ ง ๆ เหตุใดถึงไม่ทาให้เร็ วกว่านี้ ปี นี้ลูกอายุยสี่ ิ บ
สองแล้ว ตอนที่ลูกอายุสิบสี่ สิบห้าเหตุใดพระชายาถึงไม่สรรหาคน
เอาใจมาคอยรับใช้บา้ งเล่า คงกลัวว่าลูกมีทายาทแล้วจวนจิ้นอ๋ องนี้
จะตกไม่ถึงมือน้องรองใช่หรื อไม่” ดวงตาสวีโย่วปรากฎสายตาที่
เข้าใจ เสมือนมองไม่เห็นความตกใจและอึดอัดที่แวบผ่านใบหน้า
ของพระชายาจิ้นอ๋ อง พูดต่อ “รักบุตรชายแท้ของตนมากกว่าก็เป็ น
เรื่ องธรรมดา ลูกเองก็ไม่ได้วา่ อะไรไม่ใช่หรื อ ไม่เพียงแต่ไม่ถกเถียง
ซ้ ายังมอบตาแหน่งซื่อจื่อจวนจิ้นอ๋ องให้นอ้ งรองด้วยตัวเอง พระ
ชายาอย่าอ้างว่าลูกสุ ขภาพไม่ดี ต่อให้ลูกนอนอยูบ่ นเตียงเหลือเพียง
ลมหายใจสุ ดท้าย ขอเพียงแค่ลูกไม่ยอมยืน่ สาส์นกราบทูลปฏิเสธ
ด้วยตัวเอง ตาแหน่งซื่อจื่อจวนจิ้นอ๋ องนี้กจ็ ะต้องเป็ นของลูกอยูด่ ี”
เสด็จพ่อชักช้าไม่ยอมยืน่ สาส์นกราบทูลขอพระราชทานตาแหน่ง
ซื่อจื่อให้เขา เสด็จลุงก็โมโหแล้ว เตรี ยมออกพระราชโองการลงมา
โดยตรง แต่ถูกเขาขัดไว้ ตอนนั้นเขาไม่อยากได้ตาแหน่งซื่อจื่อนี้จริ ง
ๆ กระทัง่ ต้นไม้ใบหญ้าในจวนนี้เขาก็ไม่อยากได้
บนใบหน้าของสวีโย่วปรากฎรอยยิม้ บาง ๆ แต่ในสายตาของพระ
ชายาจิ้นอ๋ องกลับบาดตาเพียงนั้น นางสู ดหายใจเข้าลึกหนึ่งคราเงียบ
ๆ เค้นรอยยิม้ ที่น่าเกลียดออกมา กล่าวด้วยความเสี ยใจ “ดูคุณชาย
ใหญ่พดู เข้า เจ้ากับพวกเยีย่ เกอเอ๋ อร์กเ็ ป็ นลูกแม่เหมือนกัน แม่จะไม่
รักเจ้าได้อย่างไร เพียงแค่เจ้ารักษาตัวอยูบ่ นเขามาโดยตลอด แม่
อยากดูแลเจ้าให้มากกว่านี้กไ็ ม่ได้ พวกเจ้าต่างก็เป็ นพี่นอ้ งแท้ ๆ
ตาแหน่งซื่อจื่อนี้มอบให้ใครก็เหมือนกันหมดมิใช่หรื อ เจ้าลูกคนนี้
หากวันนี้เจ้าไม่พดู แม่กย็ งั ไม่รู้วา่ ในใจเจ้าไม่พอใจมากเพียงนี้ ซ้ ายัง
ไม่พอใจที่แม่ละเลยเจ้า ขอเพียงคุณชายใหญ่สวีมีความสุ ข แม่กจ็ ะ
ไปบอกเยีย่ เกอเอ๋ อร์ ให้เขาคืนตาแหน่งซื่อจื่อให้เจ้าเสี ย”
“เหลวไหล จะคืนอย่างไร เป็ นลูกข้าทั้งหมด ข้าอยากให้ใครก็ให้คน
นั้น” สายตาที่จิ้นอ๋ องมองลูกชายคนโตไม่พอใจขึ้นมาแล้ว ตั้งแต่ที่
กลับจวนมาก็ไม่ได้อยูเ่ ป็ นสุ ข ไม่สู้อยูข่ า้ งนอกตลอดกาลไม่ตอ้ ง
กลับมาอีกเลยจึงจะดี
สวีโย่วไม่สนใจคาพูดของพ่อเขา แต่กลับมองพระชายาจิ้นอ๋ องด้วย
ความน่ากลัวยิง่ ขึ้น หญิงผูน้ ้ ีใช้ได้จริ ง ๆ รู ้ดีวา่ ตาแหน่งซื่อจื่อของ
น้องรองไม่อาจแตะต้องได้ แต่กลับยังพูดว่าจะคืนให้เขา ในเมื่อมี
ความคิดว่าจะคืน แล้วเหตุใดหลายปี ก่อนหน้านี้ถึงรับไว้ล่า
“แล้วอย่างไร” เสี ยงของสวีโย่วเย็นเยียบราวกับเกล็ดน้ าแข็ง
“ตาแหน่งซื่อจื่อจวนจิ้นอ๋ องสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาราวกับ
ของเด็กเล่นได้ดว้ ยหรื อ เสด็จแม่จะให้คนนอกมองลูกอย่างไร
ตระบัดสัตย์ง้ นั หรื อ ไม่รักพีน่ อ้ งงั้นหรื อ นี่คงเป็ นเป้าหมายของพระ
ชายาสิ นะ เสด็จแม่ลม้ เลิกความคิดนี้เสี ยเถอะ ลูกเป็ นจวิน้ อ๋ องแล้ว
ไม่ตอ้ งการตาแหน่งซื่อจื่อนี้อีกแล้ว เกรงว่าพระชายาก็รู้อยูแ่ ก่ใจจึง
กล้าเสนอขึ้นมาเช่นนี้สินะ”
“คุณชายใหญ่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋ องเห็นจิ้นอ๋ องมอง
นางด้วยสี หน้าเรี ยบเฉยเหมือนกันจึงลนลานอย่างอดไม่ได้ นางจะมี
เจตนานี้หรื อไม่ไม่สาคัญ นางเองก็ไม่กลัวว่าจะถูกลูกหลาน
สังเกตเห็นเจตนาที่ไม่ดีของนาง แต่นางไม่อาจปล่อยให้จิ้นอ๋ องรู ้
ความคิดแท้จริ งที่อยูใ่ นใจนางได้ หลายปี มานี้นางกุมอานาจใหญ่ใน
เรื อนด้านในจวนจิ้นอ๋ องมาโดยตลอด ไม่ใช่เพราะว่าจิ้นอ๋ องไว้ใจ
นางหรื อไร
“คุณชายใหญ่เจ้าเข้าใจแม่ผิดแล้วจริ ง ๆ หากจวนจิ้นอ๋ องของพวกเรา
มีข่าวลือไม่ดีวา่ พีน่ อ้ งแก่งแย่งชิงดีกนั ออกไป แม่จะเอาหน้าไปไว้ที่
ไหน เจ้าพูดเช่นนี้ไม่เหมือนเอามีดมาแทงอกแม่หรื อ” พระชายาจิ้
นอ๋ องพูดไปพลาง น้ าตานัน่ ก็ไหลริ นออกมาราวกับเปิ ดน้ า
จิ้นอ๋ องเห็นพระชายาร้องไห้อย่างเศร้าใจ ทั้งยังคิดถึงคาพูดของนาง
อย่างละเอียด รู ้สึกว่าพระชายาไม่ใช่คนแบบนั้นจึงกล่าวกับลูกชาย
ด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย “ตั้งแต่เล็กเจ้าก็มีนิสัยแปลก ๆ เห็น ๆ อยูว่ า่ แม่
เจ้ามีเจตนาดี แต่ดนั ถูกเจ้าคิดว่าเป็ นเจตนาร้าย มองข้ามความหวังดี
ผูอ้ ื่น”
เบื้องลึกในจิตใจของสวีโย่วไม่มีแม้แต่ความโกรธเพียงน้อยนิด
คาพูดเช่นนี้เขาได้ยนิ มาเยอะแล้ว คนที่ถูกเขาเรี ยกว่าเสด็จพ่อผูน้ ้ ีเขา
เลิกคาดหวังมานานแล้ว
“จะคิดว่าลูกมองข้ามความหวังดีกไ็ ม่เป็ นไร อย่างไรเสี ยอนุภรรยาผู ้
นี้ลูกก็ไม่ตอ้ งการ ลูกจาได้วา่ พิธีสมรสน้องรองน้องสามก่อนหน้านี้
ไม่มีอนุภรรยาอะไร ไม่เพียงแต่ไม่มี บ่าวหลายคนที่รับใช้ในเรื อนยัง
ถูกไล่ออกไปทั้งหมด ไม่ใช่กลัวว่าเจ้าสาวเข้าบ้านมาแล้วสามีภรรยา
จะเกิดความบาดหมางกันหรอกหรื อ เหตุใดพอถึงตาลูกแล้วจึง
กลับกันเล่า นี่เท่ากันว่าเป็ นการไม่ให้เกียรติคุณหนูสี่จวนจงอู่โหว
ซ้ ายังหวังให้ความสัมพันธ์สามีภรรยาของลูกสัน่ คลอนด้วยงั้นหรื อ”
สวีโย่ววกกลับมาเรื่ องหลักทันที เขาไม่อ่อนข้อให้แม้แต่นิดเดียว
หากเขากล้าแต่งอนุภรรยาคนนี้ ต่อให้จะไม่แตะตัว น้องสี่ แซ่เสิ่ นเด็ก
น้อยที่นิสยั ดุดนั ผูน้ ้ นั ก็คงจะก่อเรื่ องอะไรอีกเป็ นแน่
“ลูกไม่ขอให้พระชายาดูแลลูกเป็ นพิเศษ ขอเพียงเบื้องหน้าปฏิบตั ิ
เหมือนกันกับน้องรองน้องสามน้องสี่ ได้กพ็ อแล้ว” สวีโย่วประสาน
มือจากนั้นก็ถอยออกไป
ออกจากเรื อนพระชายาจิ้นอ๋ องแล้วเขาก็ถอนหายใจหนึ่งครา นึก
ภาพน้องสี่ แซ่เสิ่ นแต่งเข้ามาแล้วต้องเจอเรื่ องกวนใจเช่นนี้ ในใจเขา
ก็รู้สึกเจ็บปวด เด็กน้อยของเขาเป็ นเหยีย่ วที่โบยบินอยูบ่ นฟากฟ้า แต่
เขากลับลากนางเข้ามาในกรงเช่นนี้ โชคดีที่จวนจวิน้ อ๋ องกาลัง
ซ่อมแซมแล้ว ปรับสร้างตามโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยูเ่ ดิมของสวน
ชิงหยวนเล็กน้อยก็ได้แล้ว ลดปัญหากว่าการสร้างจวนบนที่ดินเปล่า
ไปได้มาก พวกเขาเพียงแค่ตอ้ งอยูใ่ นจวนจิ้นอ๋ องช่วงหนึ่งก็สามารถ
ย้ายไปได้แล้ว หากต้องอยูร่ ะยะยาว เขายังเป็ นห่วงจริ ง ๆ ว่าเด็กน้อย
อาจจะพังจวนจิ้นอ๋ องทิ้ง
สวีโย่วถอนหายใจในใจอีกครั้ง เจ้าว่าจะไปหาลูกหลานที่รอบคอบ
ใส่ ใจเช่นเขาได้อีกที่ไหน เขาเองก็คิดแทนพวกนางไม่ใช่หรื อ อีกทั้ง
ยังคิดคานวณแทนน้องสี่ แซ่นเสิ่ น คนหนึ่งกลุ่มมัดรวมกันยังไม่เท่า
น้องสี่ แซ่เสิ่ นจัดการคนเดียว หากเขาไม่ได้กลัวว่าเด็กน้อยของเขาจะ
เผยด้านดุร้ายเร็ วเกินไป เขาก็ข้ ีเกียจจะยุง่ เหมือนกัน
แต่เหตุใดเบื้องลึกในใจเขาถึงแอบหวังว่าน้องสี่ แซ่นเสิ่ นจะเปิ ดฉาก
ฆ่าทัว่ สารทิศในจวนจิ้นอ๋ องเล่า หึ
จะต้องเป็ นเพราะอยูใ่ กล้ใครก็ติดนิสยั คนนั้น แม้แต่คุณชายสู งส่ ง
บริ สุทธิ์เช่นเขายังถูกน้องสี่ แซ่เสิ่ นเด็กคนนั้นทาเสี ยคนแล้ว
“คุณชาย เรื่ องนี้จะบอกคุณหนูสี่หรื อไม่” เจียงไป๋ ถามเสี ยงเบา ในใจ
เขาคิดเช่นนี้ บอกคุณหนูสี่ให้นางเตรี ยมตัวในใจ จะได้เห็นธาตุแท้
พระชายาเร็ วที่สุด เมื่อแต่งเข้ามาแล้วจะได้ไม่ถูกคาพูดสวยหรู ของ
พระชายาลวงหลอก สองคือให้คุณหนูสี่เห็นว่าคุณชายยอมที่จะผิด
ใจท่านอ๋ องกับพระชายาเพื่อนาง นี่เป็ นจิตใจที่สูงส่ งหาได้ยาก
เพียงใด
สวีโย่วไม่แม้แต่จะคิดก็ปฏิเสธแล้ว “ไม่ตอ้ ง เรื่ องนี้หยุดไว้เท่านี้
นอกจากเรื อนเราก็อย่าให้มีข่าวลือรั่วหลุดออกไป” หากเด็กน้อยรู ้เข้า
คาดว่านางไม่เพียงแต่จะไม่ซาบซึ้ง แต่ยงั รู ้สึกยุง่ ยาก นี่กใ็ กล้จะถึง
วันสมรสแล้ว เขาไม่อยากให้เด็กน้อยเกิดเหตุไม่คาดคิดอะไรขึ้นอีก
ตอนที่ 188-2 เสนออนุภรรยาอีกครั้ง
ส่ วนน้องสี่ แซ่เสิ่ นเสิ่ นเวยที่ถูกสวีโย่วคิดถึงอยูก่ ก็ าลังแช่น้ ายาอย่าง
สบายตัว นอกจากวิธีนอกรี ตนอกรอยของซู่เหนียงแล้ว ท่านป้า
สะใภ้ใหญ่ฮูหยินสวี่ยงั จ่ายหนักเพื่อเชิญแม่นมอบรมผูห้ นึ่งจากวังมา
ชี้แนะกฎระเบียบนาง แม้วา่ ใกล้จะถึงวันพิธีสมรสแล้ว แต่ได้เรี ยน
อะไรหน่อย ก็ยงั ดีกว่าไม่ได้เรี ยนเลยมิใช่หรื อ
สาหรับการอบรมกฎระเบียบเสิ่ นเวยไม่ปฏิเสธแม้แต่นิดเดียว กลับ
ตั้งใจอย่างถึงที่สุด นางรู ้ดีวา่ ไม่วา่ จะอยูท่ ี่ไหนก็ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎ
กติกา เพียงแค่ศึกษากฎระเบียบให้ดีจึงจะออกนอกกฎ ละเลยกฎได้
แม่นมที่มาอบรมกฎระเบียบเสิ่ นเวยแซ่มวั่ เป็ นคนที่มองดูแล้วดุ
อย่างยิง่ แต่หลังจากได้รู้จกั แล้วกลับรู ้วา่ นางเพียงแค่ทาอะไรด้วย
ความตั้งใจจริ ง ความจริ งแล้วพูดจาก็เป็ นมิตรอย่างยิง่
ในยุคปัจจุบนั การอบรมเลี้ยงดูของเสิ่ นเวยยอดเยีย่ มมากนัก บวกกับ
พื้นฐานการฝึ กยุทธ์ของนาง อบรมกฎระเบียบแล้วเป็ นเรื่ องง่ายดาย
อย่างยิง่ ท่าทางจานวนมากแม่นมมัว่ สาธิตเพียงแค่รอบเดียว เสิ่ นเวย
ก็สามารถทาตามได้อย่างถูกต้องแม่นยามาก นี่ทาให้ความประทับใจ
ที่แม่นมมัว่ มีต่อนางเพิม่ ขึ้นทุกวัน ๆ
แม่นมมัว่ รับใช้ในวังมาสามสิ บกว่าปี แล้ว ทั้งยังอบรมบุตรสาวใน
เมืองหลวงมาไม่นอ้ ย แต่ไม่มีสกั คนที่เฉลียวฉลาดเท่าคุณหนูสี่จวน
จงอู่โหวเลย ไม่บอบบางไม่หยิง่ ผยองอย่างหาได้ยาก ซ้ ายังเคารพตน
อีกด้วย มิน่าเล่าถึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากจักรพรรดิให้
เป็ นจวิน้ จู่
นางเกิดความรู ้สึกรักและเอ็นดูข้ ึนมาอย่างอดไม่ได้ การอบรมก็ยงิ่ ใส่
ใจ นอกจากอบรมกฎระเบียบแล้ว ยังนาตารายาส่ วนตัวออกมาช่วย
บารุ งร่ างกายเสิ่ นเวย รักษาผิวพรรณอีกกด้วย เพียงแค่ไม่กี่วนั เสิ่ น
เวยก็เปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ ภายนอก สี ผวิ น้ าผึ้งอ่อนที่ถูกแดดเผา
จากซีเจียงก็หายไป แทนที่ดว้ ยสี ขาวอมชมพู ผิวอ่อนนุ่มขาวใส ทั้ง
ยังเปล่งประกาย ราวกับกระเบื้องเคลือบสี ขาวชั้นดี ผมดกดาทั้ง
ศีรษะยังนุ่มสลวย เมื่อหวีข้ ึนข้างบนแล้วปล่อยล้วนแต่ทิ้งตัวลงมา
ตอนที่หลีฮวากับเถาจือหวีผมให้เสิ่ นเวยก็ตอ้ งระมัดระวัง กลัวว่าจะ
ทาผมร่ วงแม้แต่เส้นเดียว
แม้วา่ เสิ่ นเวยจะมีความรู ้กว้างขวางก็ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ ได้รับ
การปรนนิบตั ิมากเกินไปแล้วหรื อไม่ สตรี สูงส่ งยุคโบราณได้รับการ
ปรนนิบตั ิเยอะเกินไปแล้ว นางรู ้สึกว่านางไม่เคยงดงามเช่นนี้มาก่อน
สาวใช้ที่เห็นกันอยูท่ ุกวันเหล่านั้นข้างกายเสิ่ นเวยต่างก็รู้สึกว่า
คุณหนูของพวกนางสวยขึ้น คนข้างนอกที่ไม่ค่อยได้เจอเสิ่ นเวยก็ยงิ่
ตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของเสิ่ นเวย
ฮูหยินสวี่กบั ฮูหยินจ้าวต่างก็ตกใจอย่างถึงที่สุด กิริยาระหว่างการยก
มือย่างเท้านัน่ งามสง่าเพียงนั้น ประหนึ่งเมฆลอยธารน้ าไหล ทาให้
คนรู ้สึกชื่นตาชื่นใจ เป็ นการถอดรู ปแปลงร่ างราวกับเปลี่ยนเป็ นคน
ละคน
ฮูหยินสวี่ยงั ดี ลูกสาวสองคนของนางต่างก็ออกเรื อนแล้ว อีกทั้งยัง
ได้คู่สมรสที่ไม่เลว หลานสาวโดดเด่นเพียงนี้นางเองก็รู้สึกมีเกียรติ
ยิง่ ไปกว่านั้นบ้านสามีของเวยเอ่อร์กม็ ีอานาจ ช่วยเหลือจวนโหวได้
ฮูหยินจ้าวทั้งอกทั้งใจเต็มไปด้วยความริ ษยา นางเองก็เป็ นคนที่มีลูก
สาว เห็นกับตาว่าเวยเจี่ยเอ๋ อร์ร่ าเรี ยนกฎระเบียบไม่กี่วนั ก็เปลี่ยนไป
มากเพียงนี้ ในใจนางก็ไม่พอใจแล้ว ซ้ ายังไม่แบ่งบ้าน ในจวนเชิญ
แม่นมผูอ้ บรมมา ย่อมต้องให้คุณหนูในเรื อนเรี ยนรู ้กฎระเบียบด้วย
จะสอนเวยเจี่ยเอ๋ อร์แค่คนเดียวได้อย่างไร เซวียนเจี่ยเอ๋ อร์กอ็ ายุสิบ
สามปี แล้ว ควรจะศึกษากฎระเบียบได้บา้ งแล้ว
ฮูหยินสวี่ถูกนางรบเร้าจนหมดหนทาง ทาได้เพียงมาปรึ กษากับเสิ่ น
เวย เหตุใดถึงปรึ กษากับเสิ่ นเวยเล่า เพราะว่าแม่นมมัว่ ผูน้ ้ ีไม่ใช่คนที่
นางจะเชิญมาได้ แต่เป็ นคนที่คุณชายใหญ่สี่ผนู ้ ้ นั ในจวนจิ้นอ๋ องให้
คนส่ งมา เพียงแค่อา้ งชื่อนางก็เท่านั้นเอง
เสิ่ นเวยย่อมอนุญาต เป็ นพี่นอ้ งกันทั้งหมด นางเองก็ไม่อาจใช้
อานาจบาตรใหญ่เกินไปได้ “ขอเพียงแค่แม่นมมัว่ อนุญาต ข้าก็ไม่
คัดค้าน ข้ากลับอยากเรี ยนกับน้อง ๆ คงจะสนุกกว่า”
ฮูหยินจ้าวที่มาพร้อมฮูหยินสวี่กย็ มิ้ แย้มดัง่ บุปผาในชัว่ ขณะ จับมือ
ของเสิ่ นเวยเชยชมไม่หยุดปาก “ข้าบอกแล้วว่าเวยเจี่ยเอ๋ อร์ของพวก
เราไม่ใช่คนใจแคบใจดาเช่นนั้น ป้าสะใภ้รองขอบใจเจ้าจริ ง ๆ หาก
เซวียนเจี่ยเอ๋ อร์ของพวกเราเรี ยนได้สกั ครึ่ งหนึ่งของเจ้า ข้าก็ขอบคุณ
ฟ้าดินแล้ว”
เสิ่ นเวยกล่าวด้วยความจริ งใจ “ดูท่านป้าสะใภ้รองพูดเข้า น้องเซวียน
ก็เป็ นน้องสาวข้าไม่ใช่หรื อ เป็ นพี่นอ้ งกัน จะขอบคุณทาไม เกรงใจ
ไปได้ ข้าว่า ไม่เพียงแต่นอ้ งเซวียน น้องปิ งเองก็มาเรี ยนด้วยกันเลย
กฎระเบียบของสตรี เรี ยนรู ้ไว้จึงจะมีอนาคตที่ดี กลับเป็ นความสุ ขที่
ท่านกับท่านลุงรองเฝ้ารอมาโดยตลอด”
คาพูดหลายประโยคทาให้ความไม่พอใจเล็ก ๆ นั้นในใจฮูหยินจ้าว
หายไปกับสายลมอย่างรวดเร็ ว ในใจฮูหยินสวี่กพ็ ยักหน้าไม่หยุด เวย
เจี่ยเอ๋ อร์คล้ายรู ้จกั พูดขึ้นแล้ว จะดูถูกไม่ได้แล้ว
แม่นมมัว่ เองก็ไม่ปฏิเสธ แม้วา่ นางจะเป็ นคนที่คุณชายใหญ่ผนู ้ ้ นั ส่ ง
มา แต่ในเมื่อมาทางานในจวนจงอู่โหวแล้ว ก็ตอ้ งฟังเจ้าของบ้าน
มิใช่หรื อ คุณหนูสี่กอ็ นุญาตแล้ว นางจะยืนกรานดื้อรั้นทาให้คน
เกลียดชังไปทาไม ยิง่ ไปกว่านั้นในใจนางก็วางแผนให้ตวั เอง นาง
อายุมากแล้ว บ้านเก่าก็ไม่มีญาติมิตรแล้ว ควรหาที่พกั พิงยามเกษียณ
ได้แล้ว ผ่านการรู ้จกั และสังเกตการณ์ในช่วงหลายวันมานี้ คุณหนูสี่
ผูน้ ้ ีกลับเป็ นนายที่ดีอย่างยิง่
ด้วยเหตุน้ ี ในที่สุดเสิ่ นเซวียนและเสิ่ นปิ งบ้านสองก็มาอบรม
กฎระเบียบที่เรื อนเฟิ งหวา กระทัง่ เสิ่ นเย่วท์ ี่อายุสิบเอ็ดปี ก็มาด้วย
เช่นกัน แม้นางจะอายุนอ้ ย แต่คุณหนูที่ยงั ไม่ออกเรื อนในจวนก็มีแค่
พวกนางสี่ คน คงไม่อาจละเลยนางคนเดียวได้กระมัง
เสิ่ นเย่วท์ ้ งั ตื่นเต้นทั้งซาบซึ้งที่ตนสามารถมาอบรมกฎระเบียบด้วย
ได้ อี๋เหนียงของนางเป็ นคนไร้ประโยชน์ พ่อนางก็ไม่ใส่ ใจนาง หาก
ไม่ใช่วา่ พี่สี่เอ่ยปาก ในจวนนี้กค็ งไม่มีใครจาได้วา่ ยังมีคุณหนูแปด
อยู่ ดังนั้นเมื่อนางเห็นพี่สี่ของนางก็เผยรอยยิม้ กว้าง รอยยิม้ ของเด็ก
สาวหน้าสวยอายุสิบกว่าปี ยังคงมีพลังทาลายล้างอย่างยิง่ เสิ่ นเวยลูบ
ศีรษะของนางพลางยิม้ ตอบ บอกเป็ นนัยให้นางสบายใจ
เสิ่ นเย่วร์ ู ้วา่ ตนได้รับโอกาสอันหาได้ยาก เสิ่ นเซวียนกับเสิ่ นปิ ง
อาจจะเป็ นเพราะว่าฮูหยินจ้าวกระซิบขอ สรุ ปแล้ววันแรกที่อบรม
กฎระเบียบสามคนนี้ต่างก็ต้ งั ใจอย่างถึงที่สุด ฝึ กตามเงื่อนไขของแม่
นมมัว่ ซ้ าแล้วซ้ าเล่า ต่อให้เหนื่อยก็กดั ฟันทน
นี่ทาให้แม่นมมัว่ อดพยักหน้าเงียบ ๆ ไม่ได้ ดูท่าแล้วแม่นางจวนจงอู่
โหวยังคงไม่เลวทั้งสิ้ น นางยินดีสอนก็อีกเรื่ อง แต่หากสอนคุณหนู
น้อยที่ขยับหรื อไม่ขยับก็บ่นเหนื่อยไม่ยอมเรี ยน นางก็ไม่ยนิ ดีแล้ว
“เอาล่ะ คุณหนูท้ งั หลายเรี ยนรู ้ได้ไม่เลวแล้ว พักหนึ่งเค่อ หลังจากนี้
พวกเราจะฝึ กต่อ” แม่นมมัว่ พูดจบก็เดินไปยังห้องที่ก้ นั ไว้ชา้ ๆ
เมื่อแม่นมมัว่ ออกไป เสิ่ นเซวียนก็เอนหลังพิงเก้าอี้ทนั ที “ให้ตาย
เถอะ เหนื่อยจะตายอยูแ่ ล้ว”
เสิ่ นปิ งกับเสิ่ นเย่วก์ ถ็ ือโอกาสล้มตัวลงบนพื้น ห้องอบรมกฎแห่งนี้ปู
ด้วยพรมหนา ๆ ไม่ตอ้ งกลัวว่าจะกระแทก
มีเพียงเสิ่ นเวยที่ยงั คงยืนตัวตรงอยู่ นางรับชาที่หลีฮวาส่ งเข้ามาจิบ
เบา ๆ หลายคราจากนั้นจึงนัง่ ลงช้า ๆ กิริยานั้นสง่างามจนทาให้เสิ่ น
เซวียนและอีกสองคนตะลึงงันอย่างอดไม่ได้
“พี่สี่ ท่านเก่งจริ ง ๆ แม่นมมัว่ สอนท่านก็ทาได้สบาย ๆ ข้าเหนื่อยจะ
ตายอยูแ่ ล้ว” เสิ่ นเย่วก์ ล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใส
“ใช่แล้ว ๆ ข้ารู ้สึกว่าขาข้าไม่ใช่ของข้าแล้ว โอ๊ย แขนข้า คงจะไม่หกั
ใช่หรื อไม่” เสิ่ นเซวียนบ่นอย่างเกินจริ ง
เสิ่ นปิ งเองก็นิ่วหน้าเอาแต่นวดขาของตัวเอง
คนที่รู้กเ็ ข้าใจว่านี่คือการอบรมกฎระเบียบ คนที่ไม่รู้กค็ งคิดว่า
คุณหนูหลายคนนี้ถูกลงโทษยกใหญ่เสี ยอีก
เสิ่ นเวยยิม้ น้อย ๆ อย่างมีเลศนัย “อยากรู ้เคล็ดลับหรื อไม่”
“อยาก” ทั้งสามคนตอบพร้อมกัน
ทว่าเสิ่ นเวยกลับไม่ได้ตอบทันที แต่ยกแก้วชาดื่มช้า ๆ เล่นตัว
พอแล้วจึงกล่าวภายใต้การเร่ งรัดของพวกนาง “นี่คือข้อดีของการฝึ ก
ยุทธ์อย่างไรเล่า พวกเจ้าก็รู้วา่ ข้าเป็ นศิลปะการต่อสู ้เล็กน้อย เส้นเอ็น
ต่าง ๆ ในร่ างกายก็ยดื เหยียดแล้ว เมื่ออบรมกฎระเบียบย่อมเปลือง
แรงน้อยแต่ได้ผลมาก ตอนนี้พวกเจ้ารู ้สึกเหนื่อย รู ้สึกปวดขาปวด
แขน ข้าจะบอกอะไรพวกเจ้าให้ นี่ยงั นับว่าดี รอพรุ่ งนี้เช้าตื่นมาจึงจะ
เป็ นความทรมานที่แท้จริ ง เจ้าจะรู ้สึกปวดไปหมดทั้งร่ าง”
“ไม่จริ งหรอกกระมัง พี่สี่ท่านหลอกพวกเราใช่หรื อไม่” เสิ่ นเซวียน
และอีกสองคนสบตากันปราดหนึ่ง แววตาต่างก็มีความสงสัย ตอนนี้
พวกนางปวดเอวปวดหลังแล้ว ยังจะมีอะไรทรมานได้มากกว่านี้อีก
เสิ่ นเวยเลิกคิ้ว “ข้าจะหลอกพวกเจ้าทาไม นี่พดู มาจากประสบการณ์
ล้วน ๆ ไม่เชื่อก็กลับไปถามพี่รองน้องสามสิ พวกเขาต่างก็เคยฝึ ก
ยุทธ์ รู ้ดีที่สุด การอบรมกฎระเบียบกับการฝึ กยุทธ์น้ ีมีหลักการ
เดียวกัน”
“ไม่ได้ข่ใู ห้พวกข้ากลัวจริ ง ๆ ใช่หรื อไม่” เสิ่ นเซวียนถามยืนยันอีก
ครั้ง
“ที่คุณหนูสี่พดู ล้วนเป็ นเรื่ องจริ ง นางไม่ได้หลอกพวกเจ้า” เสี ยงของ
แม่นมมัว่ ดังขึ้นจากหน้าประตู
เสิ่ นเวยและคนทั้งสามลุกขึ้นยืนทันที กล่าวด้วยความเคารพ “แม่นม
มัว่ ”
แม่นมมัว่ พลางพยักหน้าพลางเดินเข้ามา นางมองเสิ่ นเวยแล้วกล่าว
“มิน่าเล่าคุณหนูสี่ถึงเรี ยนรู ้เร็ วเพียงนี้ ที่แท้แล้วก็มีพ้นื ฐานยุทธ์
นี่เอง” ก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดถึงด้านนี้มาก่อนเลย อันที่จริ ง
บุตรสาวตระกูลใหญ่ที่นางเคยสอนมาก็ไม่มีสกั คนที่ฝึกยุทธ์
“พูดเช่นนี้ฝึกยุทธ์กย็ งั คงมีผลดีง้ นั หรื อ ไม่ใช่วา่ กันว่าฝึ กแล้วแขน
และขาจะใหญ่กายางั้นหรื อ” เสิ่ นเซวียนเอ่ยข้อสงสัยของตนออกมา
อย่างไรเสี ยแม่นางก็บอกนางเช่นนี้
แม่นมมัว่ กล่าว “สตรี หวังจะฝึ กศิลปะการต่อสู ้ที่ล้ าลึกให้มากไม่ได้
หรื อ เพียงแค่เรี ยนรู ้กระบวนท่าต่อสู ้เล็กน้อยออกกาลังขาหน่อยก็
เท่านั้นเอง พวกเจ้าดูคุณหนูสี่สิ มีตรงไหนดูไม่ดีหรื อ ไม่ได้จะบอก
ว่าฝึ กยุทธ์แล้วดี แต่สตรี กค็ วรจะออกกาลังหน่อยจึงจะดี หนึ่งก็
เพื่อให้ดูดี พวกเจ้าคิดว่าเหตุใดสตรี ที่เต้นราเป็ นเหล่านั้นถึงได้เดิน
ออกมาสวยเพียงนั้น ก็เพราะว่ารู ปร่ างของพวกนางสู งและตรง”
นางหยุดครู่ หนึ่งแล้วจึงกล่าวต่อ “สองก็เพื่อทาให้สุขภาพร่ างกาย
แข็งแรง สตรี ที่ออกกาลังมาก ๆ มักจะมีร่างกายที่ดีกว่าสตรี ที่อยูใ่ น
ห้องไม่ขยับ หลังจากนี้พวกเจ้าต้องแต่งเข้าบ้านสามี คลอดบุตรเป็ น
ประตูสู่นรก เหตุใดจวนต่าง ๆ ในเมืองหลวงของเราถึงได้มีภรรยา
คนที่สองรองจากภรรยาคนแรกที่เสี ยชีวิตมากเพียงนั้น ก็เพราะว่าไม่
ผ่านด่านคลอดบุตรด่านนี้ แต่สตรี ชาวบ้านในชนบทที่ทางาน
ตรากตราในที่ดินทั้งวันกลับมีอตั ราการคลอดบุตรยากน้อยอย่างยิง่
ถูกต้อง เพราะว่าพวกนางทางานทั้งวันจึงมีร่างกายที่แข็งแรง”
สายตาที่มองแม่นมมัว่ ของเสิ่ นเวยเปลี่ยนไปในชัว่ พริ บตา หลักการ
เหล่านี้นางผูซ้ ่ ึงมาจากยุคปัจจุบนั ย่อมเข้าใจดี แต่แม่นมมัว่ ที่เป็ นคน
ในพื้นที่กลับพูดหลักการเช่นนี้ออกมาได้ ทาให้นางต้องเปลี่ยน
มุมมองใหม่จริ ง ๆ
เสิ่ นเซวียนกับเสิ่ นปิ งคล้ายกาลังครุ่ นคิด รู ้สึกว่ามีเหตุผลอย่างยิง่ เสิ่ น
เซวียนมีนา้ เล็กผูห้ นึ่งก็คลอดบุตรยากจนเสี ยชีวิตเช่นกัน นางยังได้
ยินแม่นางทอดถอนใจอยูร่ าง ๆ บอกว่าน้าเล็กของนางสุ ขภาพไม่ดี
แม้วา่ เสิ่ นเย่วจ์ ะไม่เข้าใจความหมายที่แม่นมมัว่ พูด แต่นางก็มี
สติปัญญาน้อย ๆ ของนาง ดูสีหน้าท่าทางของเหล่าพี่สาวก็รู้แล้วว่า
คาพูดของแม่นมมัว่ มีเหตุผล นางไม่เข้าใจไม่สาคัญ แต่จดจาและ
ปฏิบตั ิตามก็พอแล้วไม่ใช่หรื อ
“คุณหนูท้ งั หลายไม่ตอ้ งเป็ นกังวลมากนัก รอกลับไปแช่น้ าร้อน ให้
สาวใช้นวดแขนทุบขาก็จะคลายความเหนื่อยล้าไปได้มากอย่างยิง่
วันที่สองก็จะไม่ทรมานเพียงนั้นแล้ว ผ่านไปหลายวันเข้าร่ างกายก็
จะปรับตัว สบายยิง่ ขึ้น” เสี ยงของแม่นมมัว่ ดังขึ้นอีกครั้ง
เสิ่ นเซวียนและคนอื่น ๆ จึงวางใจลงเล็กน้อย
แม้สีหน้าเสิ่ นเวยจะเรี ยบเฉย แต่ในใจกลับอดถอนหายใจไม่ได้
สติปัญญาของคนโบราณดูถูกไม่ได้จริ ง ๆ ยุคปั จจุบนั ทุกคนต่างก็รู้
ว่าเรี ยนวิชาพละเสร็ จแล้วต้องทุบ ๆ ขา ทุบให้กล้ามเนื้อที่ปวดเมื่อย
หลังจากออกกาลังกายผ่อนคลายลง แต่แม่นมมัว่ กลับอาศัย
ประสบการณ์ของตนเองสรุ ปวิธีเช่นนี้ออกมา ทาให้คนเลื่อมใสจริ ง

เดิมเสิ่ นเวยคิดว่าจะได้เรี ยนกฎระเบียบความสวยความงาม อยูอ่ ย่าง
สงบสุ ขจนกระทัง่ นางออกเรื อน ไม่คิดว่าในจวนจะเกิดเรื่ อง วันคืน
ที่สุขสบายของนางก็ถูกทาลายลงทันที
ต้นเหตุของเรื่ องเป็ นเช่นนี้ วันหนึ่ง นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวเพิ่งจะออกมา
จากเรื อน ก็ถูกหญิงชราที่ไม่รู้วา่ วิง่ ออกมาจากไหนกอดขาทั้งสอง
โขกศีรษะร้องขอให้ช่วยชีวติ
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตกใจ สัง่ คนให้ดึงหญิงชราผูน้ ้ ีออก วิเคราะห์อย่าง
ละเอียดอยูน่ าน จู่ ๆ ก็พบว่านี่คือสาวใช้ที่ออกเรื อนพร้อมบุตรสาว
ของเขามิใช่หรื อ นางควรจะอยูก่ บั บุตรสาวของเขาที่อวิ๋นโจวไม่ใช่
หรื อ เหตุใดถึงมาอยูใ่ นจวนได้ นางเพิ่งจะร้องขอให้ช่วยชีวิต หรื อว่า
บุตรสาวของเขาจะเกิดเรื่ องขึ้นแล้ว
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวมีบุตรสาวหนึ่งคน แน่นอนว่าเป็ นบุตรสาว
อนุภรรยา มีแม่เดียวกันกับลูกชายคนรองเสิ่ นหงอู่ อายุนอ้ ยกว่าบุตร
คนที่สามเสิ่ นหงเซวียนสองปี สิ บแปดปี ก่อนแต่งงานกับบัณฑิต
ระดับมณฑลจากตอนกลางของแคว้นที่มาสอบราชการในเมือง
หลวง หลายปี มานี้ตามสามีรับราชการอยูข่ า้ งนอกมาโดยตลอด
ตอนที่ 189-1 ละครน้ำเน่ ำฉำกใหญ่
“นายท่านผูเ้ ฒ่าโหว ท่านรี บไปช่วยคุณหนูเถิด นางกับคุณหนูนอ้ ย
ถูกบีบบังคับจนแทบจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว” หญิงชราร่ าไห้
ตะโกน
ในใจนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวตกตะลึง บุตรสาวของเขาถูกใครบีบบังคับ
จนมีชีวิตต่อไปไม่ได้ คุณหนูนอ้ ยคือใคร หรื อว่าเป็ นหลานสาวของ
เขา จวนจงอู่โหวอานาจล้นฟ้า เขาก็เพิ่งจะได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นราชครู ของรัชทายาท แม้แต่องค์ชายหลายองค์ของ
จักรพรรดิยงั ต้องให้เกียรติเขาหลายส่ วน ใครกันที่กล้าบีบบังคับลูก
สาวของเขา หรื อว่าจะเป็ นลูกเขยที่มีฐานะยากจนผูน้ ้ นั ของเขา
ดวงตาของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็หรี่ ลงอย่างอดไม่ได้
“เล่ามาให้ละเอียด เจ้าไม่อยูร่ ับใช้หย่าเอ๋ อร์ที่อวิน๋ โจว วิง่ มาถึงเมือง
หลวงได้อย่างไร” นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวถามเสี ยงต่า
หญิงชราผูน้ ้ นั เก็บเสี ยง ดึงแขนเสื้ อเช็ดน้ าตา “เรี ยนนายท่านผูเ้ ฒ่า
โหว บ่าว บ่าวหนีออกมาเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยนิ คาว่าหนี ดวงตาของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็หดเล็กอย่างอด
ไม่ได้ แม้แต่เสิ่ นเวยที่รีบตามมาก็ยงั รู ้สึกเหลือเชื่อ ดังนั้นในวันมงคล
เช่นนี้ เสิ่ นเวยจึงได้ฟังเรื่ องเล่าความจริ งที่น่ารังเกียจทั้งยังโศกเศร้า
เหนือสิ่ งอื่นใด
ท่านอาผูซ้ ่ ึงเป็ นบุตรสาวอนุภรรยาผูน้ ้ ีของเสิ่ นเวยนามว่าเสิ่ นหย่า
เป็ นบุตรสาวเพียงคนเดียวของนายท่านผูเ้ ฒ่าโหว ต้องบอกว่าเหล่า
ไท่จวินไม่ค่อยชอบบุตรอนุภรรยานัก เช่นนั้นนางจึงเพิกเฉยต่อ
บุตรสาวอนุภรรยาผูน้ ้ ี เสิ่ นหย่าเกิดมาแล้วก็เป็ นเหมือนอี๋เหนียงของ
นาง ภายหลังอี๋เหนียงของนางไม่อยูน่ างก็ได้รับการดูแลจากคนใช้
จนเติบโต เสิ่ นหย่าที่โตมากับมือบ่าวรับใช้จึงมีนิสยั โอนอ่อนผ่อน
ตาม ไม่สู้คน
ตอนนั้นนายท่านผูเ้ ฒ่าโหวยุง่ อยูข่ า้ งนอกมาโดยตลอด มีเวลาถามไถ่
สารทุกข์สุขดิบของลูกชายสามคนได้กไ็ ม่เลวแล้ว ย่อมไม่มีเวลามา
สนใจบุตรสาวคนนี้ กว่าเขาจะพบว่าบุตรสาวผูน้ ้ ีถูกเลี้ยงจนบอบบาง
เกินไป บุตรสาวเขาก็อายุสิบสามสิ บสี่ ปีแล้ว คิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน
ไม่ได้แล้ว อีกทั้งลูกผูช้ ายเช่นเขาก็ไม่เก็บเรื่ องนี้มาใส่ ใจนัก บุตร
สาวน่ะ ไม่ชา้ ไม่เร็วก็ตอ้ งกลายเป็ นคนของตระกูลอื่น ไม่เหมือนลูก
ชายที่อยูด่ ูแลบ้านตลอด นิสยั อ่อนแอหน่อยก็ไม่เป็ นไรหรอก อย่าง
มากเลือกแต่งงานกับตระกูลที่ต่ากว่าเล็กน้อย อาศัยจวนโจวอู่โหว
เป็ นที่พ่ งึ บุตรสาวจะยังถูกรังแกอะไรได้อีก
ชัว่ พริ บตาเสิ่ นหย่าก็อายุสิบหกปี มีครั้งหนึ่งที่ออกเรื อนไปเป็ นแขก
ไม่รู้วา่ อย่างไร จู่ๆ ก็ไปรู ้จกั กับบัณฑิตระดับมณฑลจากตอนกลาง
ของแคว้นที่มาสอบราชการในเมืองหลวงนามว่าเหอจังหมิง เกิด
ความรู ้สึกลึกซึ้ง เปลี่ยนจากนิสยั โอนอ่อนเมื่อในอดีตเป็ นยืนกราน
โวยวายจะแต่งงานให้ได้
เหล่าไท่จวินย่อมขี้คร้านจะสนใจ ยอมให้บุตรสาวอนุภรรยาเติบโต
ขึ้นมาอย่างสงบสุ ขได้นางก็คิดว่าตนเมตตาที่สุดแล้ว เรื่ องจึงถูกผลัก
ไปที่นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวอย่างเลี่ยงไม่ได้ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหว
ตรวจสอบ ครอบครัวบัณฑิตระดับมณฑลนามว่าเหอจังหมิงผูน้ ้ ีมี
พี่สาวหนึ่งคนพี่ชายหนึ่งคน อีกทั้งยังแต่งงานแล้วทั้งสิ้ น บิดามารดา
ในครอบครัวต่างก็เป็ นชาวนา ทั้งครอบครัวลาบากลาบนกว่าจะส่ ง
เสี ยเหอจงหมิงบัณฑิตระดับมณฑลผูน้ ้ ีได้
นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวก็ไม่ยนิ ดีอย่างยิง่ แม้วา่ เขาเองจะมีฐานะเดิม
ยากจน ไม่ได้คิดจะให้บุตรสาวแต่งเข้าไปในตระกูลสู งส่ ง แต่
ตระกูลเหอจังหมิงผูน้ ้ ีกแ็ ย่เกินไปหน่อย ต่อให้จะเป็ นเจ้าของที่ดิน
ผืนเล็กก็ยงั ดี นี่นบั ได้วา่ ไม่มีอะไรทั้งสิ้ น บุตรสาวแต่งเข้าไปพลอย
จะลาบากไปด้วยมิใช่หรื อ
แต่ไม่วา่ อย่างไรบุตรสาวก็โวยวายจะแต่งงานให้ได้ ท่าทางแข็งกร้าว
เป็ นพิเศษ นายท่านผูเ้ ฒ่าโหวหมดหนทางทาได้เพียงยินยอม เขา
ปลอบตัวเอง แม้วา่ เหอจังหมิงผูน้ ้ ีจะมีสภาพครอบครัวยากจน ฐานะ
ก็ตอ้ ยต่า แต่อย่างไรเสี ยก็เป็ นคนมีความสามารถ มีความรู ้
ความสามารถแท้จริ ง ให้สินเดิมบุตรสาวมากหน่อย แล้วค่อยใช้เส้น
สายมอบตาแหน่งขุนนางที่ออกไปรับงานข้างนอกให้เขาสัก
ตาแหน่ง บุตรสาวแต่งเข้าไปแล้วน่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสบายใจ
ได้
เช่นนี้ เสิ่ นหย่าก็นาเงินก้อนใหญ่แต่งออกเรื อนไป แต่งกับลูกชายที่มี
สภาพครอบครัวยากจนตระกูลหนึ่ง ส่ วนเหอจังหมิงก็อาศัยชื่อ
ลูกเขยจวนจงอู่โหวรับตาแหน่งนายอาเภอแห่งหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
สิ บกว่าปี นี้วงิ่ ไปมาอยูข่ า้ งนอกมาโดยตลอด
ต่อมาก็เป็ นคาร้องของหญิงชราผูน้ ้ นั แล้ว
ที่แท้แล้วตอนที่เสิ่ นหย่าเพิ่งจะแต่งเข้าตระกูลเหอ ทุกคนในตระกูล
เหอต่างก็ดีต่อนางอย่างยิง่ บิดามารดาตระกูลเหอก็รู้ตวั ดีอย่างยิง่ รู ้วา่
ลูกชายของตนสามารถสู่ ขอคุณหนูจวนโหวมาเป็ นภรรยาได้นบั เป็ น
บุลกุศลของบรรพบุรุษ ดูสิ พอลูกสะใภ้ตระกูลสู งศักดิ์ผนู ้ ้ ีเข้ามา
สถานการณ์ในครอบครัวก็เปลี่ยนไปมากอย่างยิง่ กินแต่ขา้ วปลา
อาหารอย่างดี สวมใส่ แต่ผา้ ไหมทอประณี ต ไม่ตอ้ งทางานในนาซ้ า
ยังมีสาวใช้คอยปรนนิบตั ิ ลูกชายยังได้รับตาแหน่งขุนนางด้วยความ
รวดเร็ ว
นี่ลว้ นแต่เป็ นคุณงามความดีของลูกสะใภ้ คนทั้งหมดตระกูลเหอน
อกจากจะเกรงอกเกรงใจเสิ่ นหย่าแล้วยังระมัดระวังตัวเล็กน้อย
เสิ่ นหย่าเดิมก็ไม่ได้มีนิสยั ดุร้าย อีกทั้งยังเคารพสามีอย่างถึงที่สุด ซ้ า
ยังได้ยนิ สามีพดู อยูบ่ ่อยครั้งว่าบิดามารดาลาบากอย่างไร พี่สาวพีช่ าย
พยายามให้เขาได้เข้าเรี ยนอย่างไร เสิ่ นหย่าต่างก็ดีต่อบิดามารดา
ตระกูลเหอและพี่ชายพี่สาวของเหอจังหมิง นอกจากจะออกเงินเลี้ยง
ครอบครัวแล้ว เครื่ องประดับที่มารดาแซ่เหอและพี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่
สวมอยูบ่ นศีรษะต่างก็เป็ นนางที่มอบให้ พี่ใหญ่ตระกูลเหอบอกว่า
ว่างงานไม่มีอะไรทา นางก็มอบร้านค้าสิ นเดิมของตนให้เขาดูแล
แต่ตามการหมุนเลยของเวลา หนึ่งปี สองปี ผ่านไป จิตใจคนจะไม่
เปลี่ยนได้อย่างไร มนุษย์ลว้ นเห็นแก่ตวั พี่ชายใหญ่พี่สาวใหญ่
ตระกูลเหอต่างก็มีครอบครัวของตนเอง โดยเฉพาะหลังจากที่เด็ก
เกิดออกมาตามๆ กัน พวกเขาก็เริ่ มมีจิตใจละโมบ มักจะคิดว่าตนส่ ง
เสี ยน้องชายเรี ยนหนังสื อ คุณงามความดีใหญ่หลวง ตอนนี้นอ้ งชาย
เป็ นขุนนางแล้ว จะไม่ตอบแทนพวกเขาเลยหรื อไร
ด้วยเหตุน้ ีจึงมองว่าความดีที่ผอู ้ ื่นทาต่อพวกเขาเป็ นสิ่ งสมควรทา พี่
ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ตระกูลเหอคิดหาวิธีหาผลประโยชน์จากเสิ่ นหย่า
วันนี้เสื้ อผ้าหลานๆ ของนางเล็กหมดแล้ว พรุ่ งนี้วนั เกิดหลานสาว
นาง มะรื นนี้นอ้ งสาวปิ่ นอันนี้ของเจ้าไม่เลวเลยขอข้ายืมใส่ สกั สอง
วัน แน่นอนว่ายืมแล้วไม่คืนอีกเลย
ช่วงแรกเริ่ ม เสิ่ นหย่าปฏิเสธไม่เป็ น เพียงแค่พวกนางเอ่ยถึงความ
ลาบากก็ลว้ งเงินให้แล้ว แต่สินเดิมของนางเองก็ไม่ใช่กองเงินกอง
ทอง นับวันก็เหนือบ่ากว่าแรง ต่อมาปฏิเสธไปครั้งสองครั้งก็ถูก
พี่ชายพี่สะใภ้หาว่าใจแคบไม่เห็นใจผูอ้ ื่น ไม่เพียงแต่ไปร้องทุกข์กบั
มารดาแซ่เหอ ซ้ ายังไปโวยวายต่อหน้าสามี
เหอจังหมิงอีกด้วย
เหอจังหมิงเป็ นคนที่ห่วงศักดิ์ศรี เดิมก็เพราะแต่งงานกับภรรยา
ตระกูลสู งส่ งจึงไม่มีความมัน่ ใจ ย่อมต้องไม่พอใจเสิ่ นหย่าอยูแ่ ล้ว
รู ้สึกว่านางดูถูกดูแคลนพี่นอ้ งของตน
มารดาแซ่เหอก็ไม่ใช่มารดาแซ่เหออย่างเมื่อก่อนแล้ว ถูกบุตรสาว
กับลูกสะใภ้ยแุ ยง จึงเกิดความไม่พอใจต่อเสิ่ นหย่าแล้วเช่นกัน รู ้สึก
ว่าลูกสะใภ้ตระกูลขุนนางผูน้ ้ ีสูงส่ งเหนือชั้น ดูถูกคนชนบทเช่นพวก
เขา ไม่เคารพแม่สามีเช่นนางอย่างยิง่ บวกกับเสิ่ นหย่าแต่งเข้ามาได้สี่
ปี แล้วก็ยงั ไม่มีลูกแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ลูกชายแต่ง
อนุภรรยา จึงยิง่ ทาให้มารดาแซ่เหอไม่พอใจ
เสิ่ นหย่าถูกมารดาแซ่เหอเสี ยดสี ประณาม กระทัง่ สามีกย็ งั ตาหนินาง
มิหนาซ้ านางยังเป็ นคนที่มีนิสยั โอนอ่อน ทาได้เพียงก้มหน้าร้องไห้
เงียบๆ ไม่เคยตะโกนคัดค้านแม้แต่ประโยคเดียว
ตระกูลเหอเริ่ มจะจับนิสยั ของนางได้ ก็ยงิ่ ทวีความรุ นแรงยิง่ ขึ้น
ร้านค้าที่พี่ใหญ่ตระกูลเหอดูแลก็ได้กาไรแย่ลงทุกปี ๆ พี่สะใหญ่พี่
ใหญ่ตระกูลเหอก็คิดหาวิธีฉกชิงเครื่ องประดับศีรษะของนาง มารดา
แซ่เหอ
กระทัง่ ฉวยโอกาสตอนที่นางท้องยึดสิ นเดิมของนางไป อ้างว่าจะได้
ให้นางเลี้ยงครรภ์อย่างสบายใจ เมื่อนางคลอดแล้วจะคืนให้ทนั ที
แต่ชวั่ พริ บตานางคลอดบุตรสาวหนึ่งคนก็ไม่มีแม้แต่จะเอ่ยถึง ไม่
เพียงแต่ไม่เอ่ยถึง ซ้ ายังใช้สินเดิมของนางแต่งอนุภรรยาให้ลูกชาย
นางอ้างเช่นนี้ ‘อย่างไรเสี ยหมิงเอ๋ อร์กเ็ ป็ นนายอาเภอ อายุยสี่ ิ บกว่าปี
แล้ว ไม่มีทายาทแม้แต่คนเดียว จะได้อย่างไรกัน ในเมื่อเจ้าให้กาเนิด
ไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้คนอื่นให้กาเนิดแทน อย่างไรเสี ยก็เรี ยกเจ้าว่าแม่
เหมือนกัน’
หัวใจของเสิ่ นหย่าราวกับตกลงในโพรงน้ าแข็ง ทั้งจิตทั้งใจนางหวัง
ว่าสามีจะปฏิเสธได้ แต่เหอจัง
หมิงกลับรับไว้อย่างยินดี เขาเองก็ไม่พอใจภรรยาอยูเ่ ช่นเดียวกัน
ตอนแรกที่สามารถแต่งคุณหนูจวนโหวได้เขาเกรงกลัวอย่างยิง่
เผชิญหน้ากับสายตาอิจฉาของผองเพือ่ นวัยเดียวกันเขาก็เคยภูมิอก
ภูมิใจ ภูมิใจที่คนอื่นยังดิ้นรนรอตาแหน่งว่างอยูใ่ นเมืองหลวง แต่
ตอนที่เขาถือเอกสารราชการไปยืน่ ตาแหน่งกลับได้ตาแหน่งที่สูง
ที่สุด
ทว่าตามกาลเวลาที่หมุนไป เพื่อนวัยเดียวกันที่เทียบเขาไม่ได้
เหล่านั้นต่างก็ทยอยกันเลื่อนตาแหน่ง บ้างก็เลื่อนตาแหน่งถึงเมือง
หลวง มีเพียงเขาที่ยงั คงเป็ นนายอาเภอเล็กๆ อยู่ เขาคิดว่าจวนจงอู่
โหวกดเขา หากว่าอาศัยความสามารถของเขาเองก็คงจะเลื่อนขั้นได้
นานแล้ว ด้วยเหตุน้ ีจึงไม่พอใจภรรยายิง่ ขึ้น
ความไม่พอใจนี้เพิม่ ขึ้นทุกวันๆ ด้วยการให้กาเนิดของอนุภรรยา
หัวใจเขาก็ยงิ่ ลาเอียง อนุภรรยาผูน้ ้ นั กระทัง่ ปี นขึ้นหัวเสิ่ นหย่าอย่าง
ง่ายดาย อ้อ เหอจังหมิงในตอนนี้มีอนุภรรยาสามคนและสาวใช้ที่
เลื่อนขั้นเป็ นอนุภรรยาอีกสองคน
ตั้งแต่ตน้ จนบัดนี้เสิ่ นหย่าผูน้ ่าสงสารยังไม่ทนั ได้คลายสุ ขในการ
คลอดบุตรสาวก็ตกลงไปในเหวลึกแล้ว ช่วงหลังคลอดสามีกแ็ ต่ง
อนุภรรยาอย่างทนรอไม่ได้ นางเองก็หา้ มไม่ได้ ยิง่ ไม่ได้เห็นหน้า
สามี วันทั้งวันก็ร่ าไห้น้ าตานองหน้า แม่สามีกย็ งั ทรมานนาง ช่วง
หลังคลอดกินไม่ได้แม้แต่ไก่ อ้างว่า ‘คลอดเด็กผูห้ ญิงแล้วยังคิดจะ
กินดีอีกหรื อ สตรี ชนบทเช่นพวกเรามีใครบ้างที่ไม่ได้คลอดวันนี้
พรุ่ งนี้กท็ างานในนาเหมือนเดิม ไหนเลยจะกินหรู อยูส่ บายเช่นนี้’
หญิงชราสาวใช้ขา้ งกายเสิ่ นหย่าต่างก็แค้นเคืองกับความอยุติธรรม
แต่นายอ่อนแอลุกยืนไม่ข้ ึนบ่าวรับใช้ร้อนใจไปก็เท่านั้น สาวใช้ที่
ออกเรื อนมาพร้อมกันก็เสนอความคิดเห็นไปไม่นอ้ ย ให้นางเขียน
จดหมายเข้าเมืองหลวง แต่เสิ่ นหย่ากลับยืนกรานไม่ยอม นางเองก็มี
ความคิดเป็ นของตนเอง นางเป็ นบุตรสาวอนุภรรยา แม่ใหญ่นางก็
เพียงแค่ทาดีต่อหน้านาง พี่ชายมารดาเดียวกันก็หวังพึ่งไม่ได้ พี่ชาย
คนอื่นนางก็ไม่ค่อยสนิทนัก ท่านพ่อก็อยูไ่ กลถึงซีเจียง ใครจะออก
หน้าแทนนางได้
มิหนาซ้ าตอนนั้นนางยังร้องคร่ าครวญขอแต่งงาน ตอนนี้ชีวิต
กลายเป็ นเช่นนี้ นางเองก็ไม่มีหน้าจะไปขอความช่วยเหลือ
เป็ นเช่นนี้ เสิ่ นหย่าเลี้ยงดูบุตรสาวด้วยความลาบากตรากตรา บ่าวรับ
ใช้เดิมที่นาไปด้วยก็ถูกขายไปหลายต่อหลายคนแล้ว เหลือเพียงสาว
ใช้หนึ่งคน แม่นมหนึ่งคนและสาวใช้แรงงานอีกหนึ่งคน
เรื อนหลังของเหอจังหมิงถูกอนุภรรยาที่คลอดบุตรชายคนโตผูน้ ้ นั
ควบคุม เรื อนใหญ่ของเสิ่ นหย่าเหลือเพียงแต่ชื่อมานานแล้ว นาง
กระทัง่ ต้องผันตัวเป็ นหญิงเย็บผ้าแลกเงินดารงชีพ ร้านค้าจานวน
มากในเมืองอวิ๋นโจวต่างก็รู้จกั เพียงเถียนอี๋เหนียงแต่กลับไม่รู้จกั เสิ่ น
หย่าฮูหยินเรื อนใหญ่ผนู ้ ้ ี
เสิ่ นหย่าถูกขังไว้ในเรื อนหลัง ไม่รู้ข่าวข้างนอก ย่อมไม่รู้วา่ พ่อนาง
คว้าชัยกลับมาจากซีเจียงแล้ว อีกทั้งยังได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์เป็ นราชครู ของรัชทายาท
ทว่าเหอจังหมิงกลับรู ้แล้ว อีกทั้งยังเคยตื่นตระหนก แต่เขาเห็น
ภรรยายังหดหัวอยูใ่ นเรื อนเงียบๆ เหมือนเช่นเมื่อก่อน ความกล้า
หาญจึงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ไม่พอใจ เหอะ ใครๆ ก็บอก
ว่าบ้านภรรยาเขามีอานาจ มีอานาจบ้าอะไร ผ่านไปจะยีส่ ิ บปี แล้ว เขา
เปลี่ยนที่มาหลายที่แล้วก็ยงั เป็ นเพียงนายอาเภอ เขาจะต้องได้รับ
ผลกระทบจากจวนจงอู่โหวเป็ นแน่ ถูกศัตรู การเมืองของจวนจงอู่
โหวแก้แค้น มิเช่นนั้นด้วยความรู ้และความสามารถของเขา คงจะเข้า
เมืองหลวงได้นานแล้ว

You might also like