Professional Documents
Culture Documents
Cal2 จุดสูงต่ำ
Cal2 จุดสูงต่ำ
Applications of Derivative
4.1 ทฤษฎีบทของโรลล์และทฤษฎีบทค่ามัชฌิม ทฤษฎีบทที่เกี่ยวกับค่า
อนุพันธ์ที่จุดสูงสุดหรือต่่าสุดสัมพัทธ์
ทฤษฎี 4.1 ทฤษฎีบทของโรลล์ (Rolle Theorem)
ให้ เป็นฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้บน และมีความต่อเนื่องบน ถ้า
แล้วจะมี อย่างน้อยหนึ่งค่าใน ที่ท่าให้
ท่า ให้
ส่าหรับทุกค่า
ดังนั้นจึงไม่มีจ่านวนจริง ที่ท่าให้
นั่นคือสมการ มีรากที่เป็นจ่านวนจริงเพียงรากเดียว
ตัวอย่าง 4.2 จงหาค่า ที่สอดคล้องตามทฤษฎีของโรลล์หรือทฤษฎีค่ามัชฌิม
1.
2.
บทแทรก 4.1 ถ้า ทุกค่าของ ในช่วงหนึ่งแล้วจะได้ว่า เป็นฟังก์ชันคงค่าตลอด
ช่วงนั้น
คุณสมบัติที่ส่าคัญที่ช่วยในการเขียนกราฟ
คุณสมบัติ วิธีท่าสอบ
จุดตัดแกน ที่
จุดตัดแกน ที่
กราฟมีสมมาตรแกน
กราฟมีสมมาตรจุดก่าเนิด
มีจุดสูงสุดสัมพัทธ์ที่ และ เปลี่ยนจากค่าบวกเป็นลบเมื่อผ่าน
หรือ และ
มีจุดต่่าสุดสัมพัทธ์ที่ และ เปลี่ยนจากค่าลบเป็นบวกเมื่อผ่าน
หรือ และ
เป็นฟังก์ชันเพิ่มบนช่วง ส่าหรับทุก
เป็นฟังก์ชันลดบนช่วง ส่าหรับทุก
กราฟ เว้าขึ้นบนช่วง ส่าหรับทุก
กราฟ เว้าลงบนช่วง ส่าหรับทุก
เป็นจุดเปลี่ยนเว้า เปลี่ยนเครื่องหมายเมื่อผ่าน ( )
มีเส้นก่ากับแนวตั้งที่ หรือ
มีเส้นก่ากับแนวราบที่ หรือ
ตัวอย่าง 4.6 ให้ จงวาดกราฟของ
ตัวอย่าง 4.7 ให้ จงวาดกราฟของ
4.2 บทประยุกต์ปัญหาค่าสูงสุด-ต่่าสุด (Applied Maximum and
Minimum Problems)
ตัวอย่าง 4.8 จงหาพื้นที่สี่เหลี่ยมที่มากที่สุดที่ล้อมรอบด้วยเชือกยาว 100 เมตร
x
เส้นรอบรูป
y y
Area
x
ขั้นตอนของการแก้ปัญหาปัญหาค่าสูงสุด-ต่่าสุด
1. วาดรูปแทนความสัมพันธ์ต่างๆในปัญหา
2. หาสูงที่จะใช้ในการหาค่าสูงสุดหรือต่่าสุด
3. ลดจ่านวนตัวแปร โดยพิจารณาจากเงื่อนไขของปัญหา แปลงปัญหาให้เป็นฟังชันตัวแปรเดียว
4. หาช่วงของค่าที่เหมาะสมที่ขึ้นกับปัญหา
5. ใช้อนุพันธ์เพื่อหาค่าสูงสุด ต่่าสุด
ตัวอย่าง 4.9 กล่องเปิดด้านบน สร้างจากวัสดุสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 30 นิ้ว กล้าง 16 นิ้ว โดยการตัดมุม
ทั้งสี่แล้วพับขึ้น จงหาความยาวที่เหมาะสมในการตัดมุม เพื่อให้ได้ปริมาตรกล่องมาก
ที่สุด
x x
x x
16 in.
x x
x x
30 in.
ตัวอย่าง 4.10 จงหารัศมีและความสูงของทรงกระบอกที่มีปริมาตรมากที่สุดที่บรรจุอยู่ภายในทรง
กรวยรัศมี 6 นิ้ว สูง 10 นิ้ว
10 - h
r 10 in. r
h h
6 in.
6 in.
ปริมาตรของทรงกระบอก
วิธีในการพิจารณาการใช้กฏโลปิตาล เมื่อลิมิตอยู่ในรูปแบบไม่ก่าหนด
รูปแบบไม่ก่าหนด วิธีท่า
1. ใช้ ทฤษฎี 4.8 โดยตรง
2. รวมสองเทอมเข้าด้วยกัน แล้วจัดรูปเป็นแบบ 1
3. แปลง เป็น หรือ
4. หา และค่าตอบคือ
ขั้นตอนในการท่าโจทย์
1. วาดรูป และก่าหนดตัวแปรต่างๆ ลงบนรูป โดยเฉพาะที่โจทย์ให้มา และค่าที่ต้องการหา
2. สร้างสมการความสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆที่เราทราบอัตราการเปลี่ยนแปลงกับตัวแปรที่เรา
ต้องการหาความสัมพันธ์เหล่านี้ อาจจะเป็นไปตามกฏสามเหลี่ยมคล้าย (Similar Triangles)
ทฤษฎีพิธาโกรัส (Pythagorean Theorem) หรือ สมบัติทางตรีโกณมิติ (Trigonometric
Identity)
3. หาอนุพันธ์ทั้งสองข้างของสมการเทียบกับเวลา ( )
4. แก้สมการหาอัตราส่วนการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรที่ต้องการ
โดยที่
หรือ เราได้
ซึ่งบริษัทมีก่าลังในการผลิตในช่วง เมื่อตรวจสอบค่าที่จุดวิกฤตและค่าขอบของช่วง จะ
ได้ผลดังตาราง
0 20,000 30,000
และเนื่องจากโดเมนของฟังก์ชันราคาอุปสงค์คือ ดังนั้นโดเมนของฟังก์ชัน
รายได้เท่ากับ
4. รายได้หน่วยสุดท้าย คือ
ดังนั้นเมื่อผลิตสินค้าจ่านวน และ จะได้
และ
นั่นหมายความว่า ที่การผลิต และ ชิ้น การเปลี่ยนแปลงรายได้ต่อการ
เปลี่ยนแปลงหน่วยสินค้าในการผลิตคือ 6 ยูโร 0 ยูโรและ -4 ยูโร ตามล่าดับ นั่นคือ ที่ 2,000 ชิ้น
รายได้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้น ที่ 5,000 ชิ้น รายได้จะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อการผลิตเพิ่ม และ
ที่ 7,000 ชิ้น รายได้จะลดลงเมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้น
5. จุดตัดของกราฟรายได้และกราฟต้นทุนคือ Break-Even Points หรือ จุดคุ้มทุน ส่าหรับฟังก์ชัน
รายได้และฟังก์ชันต้นทุนในตัวอย่างนี้จะได้ว่า
และ
ดังนั้นที่จุดคุ้มทุน และ เป็นจุดคุ้มทุน จากรูปกราฟจะเห็นว่า
ระหว่าง 0 ถึง 1000 ค่าใช้จ่ายส่าหรับต้นทุนจะสูงกว่ารายได้ เช่นเดียวกับช่วงที่มีการผลิต-ขาย
มากกว่า 7000 และช่วงที่มีรายได้มากกว่าต้นทุนคือ การผลิตระหว่าง 1000 กับ 7000 ชิ้น
6. ฟังก์ชันก่าไร คือ
นั่นหมายความว่า การผลิตที่ 1,000 ชิ้น 4,000 ชิ้น และ 6,000 ชิ้น มีการเปลี่ยนแปลงก่าไรต่อหน่วย
เทียบกับการเปลี่ยนแปลงจ่านวนการผลิตอยู่ที่ 6 ยูโร 0 ยูโร และ -4 ยูโร ตามล่าดับ นั่นคือ ที่ 1,000
ชิ้น ก่าไรจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้น ที่ 4,000 ชิ้น ก่าไรจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อการผลิตเพิ่ม
และที่ 7,000 ชิ้น ก่าไรจะลดลงเมื่อมีการผลิตเพิ่มขึ้น
ลองเปรียบเทียบ 2 ตัวอย่างต่อไปนี้
ก. จงหา และ
ข. จงหา และ และอธิบายผลที่ได้
ค. จงใช้ผลในข้อ ข. ประมาณค่าต้นทุนเฉลี่ยต่อการผลิตเครื่องเล่น MP3 ที่การผลิตที่ระดับ 101
ชิ้นต่อวัน
ก. และ
ข. และ อธิบายได้ว่า ที่การผลิตเครื่องเล่น MP3 ในระดับ 100
ชิ้น มีต้นทุนเฉลี่ยต่อชิ้นเท่ากับ 72 ดอลลาร์ และต้นทุนเฉลี่ยนี้จะลดลงในอัตรา 0.70 ดอลลาร์ต่อ
การผลิตแต่ละชิ้นต่อไป
ค. มีค่าประมาณ ดอลลาร์