Professional Documents
Culture Documents
รายงานประจำปี 2563 (ฉบับร่าง) PDF
รายงานประจำปี 2563 (ฉบับร่าง) PDF
รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2563
สารจากผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
ปี 2563 นับเป็นปีที่มีประเด็นความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านนโยบายภาครัฐ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม
ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของทุกภาคส่วน การไฟฟ้านครหลวงได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมรับต่อสถานการณ์
ทั้งในด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร การให้บริการประชาชน โดยนำค่านิยมองค์กร CHANGE มาเป็น
หลักในการทำงาน ตอบสนองต่อนโยบายและมาตรการของภาครัฐอย่างเร่งด่วน ด้วยการแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้า
ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ประมาณ 4 ล้านราย ผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่ ค่าไฟฟ้าฟรี ส่วนลดค่าไฟฟ้า ขยาย
เวลาชำระค่าไฟฟ้า 6 เดือน ผ่อนผันการเก็บค่าไฟฟ้าอัตราขั้นต่ำ และคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า โดยเน้น
ให้บริการแบบออนไลน์ผ่านระบบ MEASY และ MEA Smart Life Application ตลอด 24 ชั่วโมง
ตลอดปีที่ผ่านมา การไฟฟ้านครหลวงได้ดำเนินงานตามภารกิจและการพัฒนาที่สำคัญ ส่งเสริมให้
เกิดการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์องค์กรในการขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีช ีวิต
เมืองมหานคร โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้า พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และก้าวสู่
ยุคดิจิทัล ในการให้บริการแบบครบวงจร ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ดังนี้
⚫ การพัฒนาสู่เมืองมหานครอัจฉริยะ (Smart Distribution for Smart City)
การปรั บ ปรุ งศู น ย์ ควบคุ ม ระบบไฟฟ้ า Supervisory Control and Data Acquisition (SCADA)
ควบคู่กับการพัฒนาสถานีไฟฟ้าไปสู่ Digital Substation เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้ทันสมัย
สามารถบริหารจัดการการจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
การดำเนินโครงการ Smart Metro Grid ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะแห่งอนาคตสำหรับเมือง
มหานคร ด้วยการติดตั้ง ระบบงานต่าง ๆ เช่น AMI (Advanced Metering Infrastructure) OMS (Outage
Management System) TLM (Transformer Load Monitoring) โดยระบบงานย่อยเหล่านี้สามารถสื่อสาร
วิ เ คราะห์ แ ละทำงานร่ ว มกั น (Interoperability) ช่ ว ยให้ ก ารควบคุ ม การจ่ า ยไฟและการบำรุ ง รั ก ษามี
ประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจวัดและเก็บบันทึกข้อมูล เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ กำหนด
แนวทางการบริห ารจัดการได้ทัน สถานการณ์ สนับสนุนการวางแผนรองรับระบบไฟฟ้า ในอนาคต และ
สอดคล้องกับแผนพัฒนา Smart City ของรัฐบาล และการดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็น
สายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่องในพื้นที่สำคัญ
การก่อสร้างสถานีไฟฟ้าต้นทางบางซื่อ เพื่อรองรับการจ่ายไฟฟ้าพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และพื้นที่
โดยรอบสถานีขนส่งมวลชนหรือ Transit Oriented District (TOD) เชื่อมโยงระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
Smart Metro Grid พัฒนาพื้นที่ให้เป็น Smart City รองรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ - รังสิต) และ
สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
นอกจากนี้ ได้ดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้า Distributed Energy Market
Platform (DEM) โดยมีการศึกษาพัฒนา Platform สำหรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับจำหน่าย การบริหาร
จัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงการเชื่อมโยงกับตลาดซื้อขายไฟฟ้าอื่น ๆ
⚫การพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการมุ่งสู่ดิจิทัล (Smart Service)
การปรับปรุงกระบวนการบริการมุ่งพัฒนาสู่ Digital Service ครบวงจร ได้แก่
การพัฒนาระบบบริการออนไลน์ MEASY ผ่านเว็บไซต์ และ MEA Smart Life แอปพลิเคชันของ
การไฟฟ้านครหลวง ที่ใช้งานง่าย เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า สำหรับการขอคืนเงิน
3
(นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์)
ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
5
แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่ งชาติ (สศช.) ดำเนิ นการจั ดทำแผนยุ ทธศาสตร์ ร ั ฐวิ สาหกิ จสอดคล้ องกั บยุ ทธศาสตร์ ชาติ ระยะ 20 ปี
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เพื่อใช้เป็นเป้าหมายและแนวทางในการกำหนดทิ ศทาง
การดำเนินงานและพัฒนารัฐวิสาหกิจ โดยมีการกำหนดบทบาทและทิ ศทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจร่ วมกั บ
ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเจ้าสังกัด คณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจ (PAC) เป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการ
นโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้มีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจดังกล่าว และได้มอบหมายให้ สคร. สศช.
และกระทรวงเจ้าสังกัดนำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจไปใช้จัดทำแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจรายสาขา ทั้งนี้
การไฟฟ้ านครหลวง ได้นำแผนยุ ทธศาสตร์ร ัฐวิ สาหกิ จ ไปใช้เป็ นแนวทางในการทบทวนภารกิ จและจั ดทำ
แผนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ดังกล่าว ดังนี้
6
ประวัติความเป็นมา
การไฟฟ้ า นครหลวง (กฟน.) เป็ น รั ฐ วิ ส าหกิ จ ประเภทสาธารณู ป โภคสาขาพลั ง งาน สั ง กั ด
กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2501 ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501
มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง คือ (1) การผลิตพลังงานไฟฟ้า (2) จัดให้ได้มาและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า และ
(3) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง หรือที่เป็นประโยชน์แก่ กฟน. ซึ่งต่อมา
ในปี 2504 ได้โอนโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการ
พลังงาน พ.ศ. 2550 ประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการพลังงานต้องได้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการ
พลั งงาน จาก กกพ. และดำเนิ น กิ จ การภายใต้ เงื่อ นไขแนบท้ ายใบอนุ ญ าตดั งกล่ าว โดย กฟน. ได้ รั บ
ใบอนุญาตการประกอบกิจการไฟฟ้า 2 ประเภท คือ ใบอนุญาตระบบจำหน่ายไฟฟ้า และใบอนุญาตจำหน่าย
ไฟฟ้า
7
8
9
• งานบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า
• งานออกแบบติดตั้งไฟส่องสว่าง
• งานออกแบบ ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop)
• งานบริการต่างประเทศ ได้แก่
- บริการออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษาระบบจำหน่าย สายส่ง อุปกรณ์ของสถานีต้นทาง สถานี
สับเปลี่ยน สถานีย่อย ฯลฯ
- บริการที่ปรึกษาด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้า
- บริการฝึกอบรม สัมมนาด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้า
- บริการบริหารจัดการระบบจำหน่าย คือ การควบคุม ดูแล วิเคราะห์ วางแผนปฏิบัติการจ่ายไฟฟ้า
ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง มีความเชื่อถือได้สูงและความสูญเสียในระบบน้อย
การสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากร
• บริการสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System: GIS)
• บริการโครงข่าย (Network Provider)
• บริการศูนย์รักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security Center)
• บริการท่อร้อยสายใต้ดิน (Underground)
การร่วมทุน
กฟน. ร่ วมลงทุ นในบริ ษั ท ผลิ ตไฟฟ้ าและน้ ำเย็ น จำกัด (District Cooling System and Power Plant
Co., Ltd.: DCAP) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2546 ร่วมทุนระหว่าง กฟผ. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)
และ กฟน. มี การถื อหุ้ นในสั ดส่ วนร้ อยละ 35 : 35 : 30 ตามลำดั บ ปั จจุ บั นมี ทุ นจดทะเบี ยน 1,670 ล้ านบาท
(เป็นส่วนของ กฟน. 501 ล้านบาท) บริษัทฯ มีการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Co-generation)
ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 94.5 เมกะวัตต์ ความร้อนที่เหลือจากการสันดาปนำไปผลิต
ไอน้ ำความดั นสู งไปขั บเคลื่ อนกั งหั นไอน้ ำ และไอน้ ำความดั นต่ ำส่ วนสุ ดท้ ายนำไปผลิ ตน้ ำเย็ นสำหรั บระบบ
ปรับอากาศซึ่งมีกำลังผลิตติดตั้งรวม 33,000 ตันความเย็น
บริษัทฯ จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณ
ภูมิ ไฟฟ้าส่วนที่เหลือขายเข้าระบบของ กฟผ. ในส่วนของน้ำเย็นได้จำหน่ายให้แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) บริษัท การบิ นไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด และไอน้ำ
จำหน่ายให้กับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด เปิดให้บริการ
ในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2549
เมื่ อ วัน ที่ 27 มิ ถุ น ายน 2561 คณะรัฐ มนตรี มี มติ เห็ น ชอบโครงการลงทุ น ก่ อ สร้างโรงผลิ ตน้ ำเย็ น
แห่งใหม่และการซื้อไฟฟ้าจาก กฟน. มาเป็นต้นกำลังการผลิตน้ำเย็น ขนาดกำลังการผลิต 12,000 ตันความเย็น
เพื่ อ รองรั บ โครงการพั ฒ นาท่ าอากาศยานสุ ว รรณภู มิ ระยะที่ 2 วงเงิน ลงทุ น รวมประมาณ 990 ล้ านบาท
โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ผลการดำเนินงานปี 2563
ปัจจุบัน DCAP มีทุนจดทะเบียนเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 167 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เป็นเงิน 1,670
ล้านบาท ซึ่ง กฟน. มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 30 คิดเป็น 50.10 ล้านหุ้น ผลการดำเนินงาน ปี 2563 มีผลกำไร
เท่ากับ 53.37 ล้านบาท สำหรับเงินลงทุนส่วนของ กฟน. ตามวิธีส่วนได้เสียคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
เท่ากับ 798.02 ล้านบาท
9
10
ยุทธศาสตร์
กฟน. ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การไฟฟ้านครหลวง ปี 2563-2565 ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
• ยุทธศาสตร์ที่ 1 ระบบจำหน่ายไฟฟ้า (Distribution)
มุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงระบบจําหน่ายให้มีคุณภาพ มั่นคง เชื่อถือได้ มีความทันสมัยรองรับ
เทคโนโลยีไฟฟ้าในอนาคตตามแผนปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน ที่ส่งเสริมพลังงานทดแทน และรองรับการเข้ามา
ของแหล่งผลิตไฟฟ้ารูปแบบใหม่
• ยุทธศาสตร์ที่ 2 บริการ จัดหาและจำหน่ายไฟฟ้า (Retail)
มุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการที่ทันสมัย ตอบรับกับนโยบายภาครัฐและการเปลี่ยนแปลง
ทางสังคม การบริการในรูปแบบ Digital Service ครบวงจร รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดําเนินธุรกิจ
จําหน่ายไฟฟ้า
• ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างการเติบโต (Growth)
มุ่งเน้นการเสริมสร้างประสิทธิภาพการดําเนินงานของธุรกิจเดิมด้วยการนําเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และการขยายธุรกิจจากโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น
• ยุทธศาสตร์ที่ 4 งานสนับสนุน (Enabler)
มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างองค์กร โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรให้
มีทักษะความสามารถหลากหลายรองรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญ พร้อมทั้งมีความรับผิดชอบ
ต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนขององค์กร
ทิศทางการดำเนินงานในปี 2564
ปี 2564 กฟน. ได้ กำหนดวัตถุป ระสงค์ เชิ งยุท ธศาสตร์ที่ น ำไปสู่ ก ารบรรลุ วิสั ยทั ศน์ ภารกิจ และ
ความยั่งยืนในอนาคต ประกอบด้วย 4 วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ ดังนี้
วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับโครงสร้างและประสิทธิภาพระบบจำหน่ายไฟฟ้า
มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพของระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง เชื่อถือได้
มีประสิทธิภาพ และมีความเพียงพอรองรับการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่เขตเมือง นอกจากนี้ มุ่งสร้าง
ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร รวมทั้งอุปกรณ์ที่
ทันสมัย มีประสิ ทธิภ าพ เพื่อนำไปสู่ การใช้พลั งงานไฟฟ้ าอย่างเต็มประสิ ทธิภาพ เชื่อมโยงทุกกิจกรรมของ
อุตสาหกรรมไฟฟ้าเข้าด้วยกัน และรองรับกับโครงสร้างของระบบสาธารณูปโภคและอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง
ในอนาคต
วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ที่ 2 มุ่งเน้นการบริการและการบริหารลูกค้าที่เป็นเลิศ
มุ่งเน้ นการพั ฒนากระบวนการให้บริการลู กค้าผ่ านช่องทางดิจิทัล การปรับปรุงฐานข้อมูลลู กค้าของ
องค์ ก ร พร้ อ มพั ฒ นาระบบประมวลผลข้ อ มู ล ในรู ป แบบแพลตฟอร์ ม (Platform) เพื่ อ เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพ
ในการบริ หารจั ดการด้ านลู กค้า ในด้านการตลาด การปรับปรุงการดำเนิ นงาน การออกแบบผลิ ตภั ณ ฑ์ และ
การให้บริการต่อไป รวมถึงการวิเคราะห์และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics)
และการออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มลูกค้า เพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้า Key Account
ที่มีศักยภาพ (Potential Customer) เพื่อเสริมสร้างให้ลูกค้าพึงพอใจและภักดีต่อองค์กร
วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างการเติบโต
มุ่งเน้นขยายการเติบโตทางธุรกิจ โดยปรับตั วรองรับการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจไฟฟ้า แสวงหาโอกาส
และพั น ธมิตรทางธุรกิจ พั ฒ นาความสามารถในการสร้างรายได้ในภาพรวมขององค์กรในอนาคต รวมถึง
10
11
11
12
วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและสถานการณ์การใช้ไฟฟ้า
ในพื้นที่จำหน่ายของการไฟฟ้านครหลวง
ภาวะเศรษฐกิจโลก
เศรษฐกิจโลกในปี 2563 ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID -19) ส่งผลให้ เกิดภาวะชะงักงัน ทั้งในภาคอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า และบริการ การค้า
การลงทุน และการท่องเที่ยว เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกได้มีการประกาศ Lockdown ประเทศ โดยกองทุน
การเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประมาณการเศรษฐกิจโลกในปี 2563 หดตัวร้อยละ 3.5 และในปี 2564
คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ร้อยละ 5.5 เนื่องจากมีความคาดหวัง ต่อการผลิตวัคซีนที่จะสามารถ
นำมาใช้ป้องกันการแพร่ระบาดได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 และมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่าง
ประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทย
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2563 หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์
มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) หดตัวลงร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่
ขยายตัวได้ ร้อยละ 2.3 อันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ
รวมทั้งประเทศไทย มีการประกาศ Lockdown ประเทศ ส่งผลต่ อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่ส ำคัญ อาทิ
การส่งออกสินค้ามีปริมาณลดลงร้อยละ 5.9 การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในภาพรวมลดลงร้อยละ 5.7 และ
สาขาการท่ อ งเที ่ ย วและบริ ก ารลดลงร้ อ ยละ 36.6 เป็ น ต้ น อย่ า งไรก็ ต าม จากมาตรการผ่ อ นคลาย
การ Lockdown ในบางพื้นที่ การดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID–19 ที่มีประสิทธิภาพ
และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีหลัง กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว
ได้อีกครั้ง โดยเฉพาะการผลิตสินค้าในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์ ชิ้นส่วนและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทีม่ ีการเติบโตตามความต้องการของประเทศคู่ค้า
สถานการณ์การใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จำหน่ายของการไฟฟ้านครหลวง
ในปี 2563 กฟน. จำหน่ายไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า รวม 4.05 ล้านราย (ไม่รวมไฟสาธารณะ) สามารถ
รองรับ ปริมาณความต้ อ งการไฟฟ้ าสู งสุด ที่ ร ะดับ 8,706.28 เมกะวัตต์ ได้อย่างมั ่น คง เพียงพอ โดยมี
หน่วยจำหน่ายไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 50,153.24 ล้านหน่วย ลดลงร้อยละ 5.02 เมื่อเทียบกับปีก่อน และต่ำกว่า
ค่าพยากรณ์ฯ (ชุดงบประมาณปี 2563-2564) ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.0 หากพิจารณาหน่วยจำหน่าย
แยกตามประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า กลุ่มบ้านอยู่อาศัยยังคงมีอัตราการเติบโตของหน่วยจำหน่ายเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องจาก
ปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 8.21 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการ Work From Home ทำให้พนักงานและลูกจ้าง
สำนักงานส่วนหนึ่งปฏิบัติงานที่บ้าน มีการใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่วนหน่วยจำหน่ายในกลุ่มธุรกิจ
อุตสาหกรรม ราชการและองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ลดลงจากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 11.55 9.90 และ 1.92
ตามลำดับ
13
หน่วยจำหน่ายจำแนกตามกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า ปี 2563
หน่วยจำหน่าย จำนวนผู้ใช้ไฟฟ้า
กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า ล้านหน่วย เพิ่ม/ลด สัดส่วน จำนวนราย เพิ่ม/ลด สัดส่วน
(ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ)
บ้านอยู่อาศัย 16,200.57 8.20 32.30 3,682,924 7.89 90.87
ธุรกิจ 19,382.07 -11.55 38.65 319,270 -27.51 7.88
อุตสาหกรรม 11,789.35 -9.90 23.51 34,213 -25.18 0.84
ราชการฯ 2,781.31 -1.92 5.54 16,556 5.36 0.41
รวม 50,153.24* -5.02 100.00 4,052,963 3.51 100.00
หมายเหตุ * หน่วยจำหน่ายไม่รวมไฟสาธารณะและไฟทำการ
แนวโน้มสถานการณ์การใช้ไฟฟ้า
ในปี 2564 แนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่จำหน่ายของ กฟน. คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ
1.15 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีหน่วยจำหน่ายรวมทั้ง สิ้น 51,519 ล้านหน่วย (ชุดปรับงบประมาณปี 2564)
สอดคล้องกับการคาดการณ์ ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ เศรษฐกิจ ไทยจะ
เติบโตร้อยละ 2.5 - 3.5 ตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ที่ร้อยละ 5.5 ความคาดหวังต่อการได้รับวัคซีน
ป้องกัน COVID-19 การผ่อนคลายกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศและเปิดรับนักท่องเที่ยวจาก
ต่างประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของ
ประเทศ และทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่จำหน่ายของ กฟน. ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
14
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ
ประธานกรรมการ
พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ พลโท ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ นางมยุรศิริ พงษ์ธรานนท์ นายนิวัติ ลมุนพันธ์
กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์
กรรมการ
15
* กระบวนการตรวจสอบ ประกอบด้วย
1. ดำเนินการสอบถามข้อมูลจากกรรมการ โดยนำส่งประวัติข้อมูลทั้งหมดเสนอกรรมการแต่ละท่าน
เพื่อตรวจสอบและเพิ่มเติมข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
2. ตรวจสอบจากรายงานความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
เมื่อ 1) รับตำแหน่งใหม่ 2) เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างปี และ 3) ทุกสิ้นปี
22
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
ระหว่างปี 2563
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ
กรรมการ
ดำรงตำแหน่ง
ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2561 - 24 เมษายน 2563
23
คณะผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวง
23 23
24
24 24
25
25 25
26
26 26
27
27 27
28
28 28
29
ผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวง
ระหว่างปี 2563 (เกษียณอายุ วันที่ 30 กันยายน 2563)
29 29
30
หัวหน้าหน่วยงาน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
สังกัดผู้ว่าการ 17. นายบุญลือ แผนกทาน
1. นางนิภา ธรรมบวร ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตคลองเตย
ผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการ 18. นายเอนก กลักแก้ว
2. นายสมนึก วิศิษฏ์สหาย ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตสามเสน
ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบภายใน 19. นายทวีศักดิ์ สมานสิน
3. นายนพดล ประเสริฐกาญจนา ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางเขน
ผู้ตรวจการ 20. นายเดชา วิริยะเจริญกิจ
4. นายพิชิตคเชนทร์ คณีกลุ ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางกะปิ
ผู้ตรวจการ 21. นายกฤษฎา ตันศิรเิ สริญกุล
สายงานบริการระบบจำหน่าย ผู้ตรวจการ
1. นายวันชัย จงวิริยะเจริญชัย สายงานวิชาการและบริหารพัสดุ
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตราษฎร์บูรณะ 1. นายชูชาติ กลิ่นโสภณ
2. นายสมศักดิ์ โพธิ์อุ่น ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนระบบไฟฟ้า
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางขุนเทียน 2. นายมนัส อรุณวัฒนาพร
3. นายโสพัส สังขกรมานิต ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตธนบุรี 3. นายสุศรณ ล้ออุทัย
4. นายสุธน วิโรจน์บุรีรตั น์ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหา
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางใหญ่ 4. นายชาลี ศรีมลู
5. นายธวัชชัย เหมือนใจ ผู้อำนวยการฝ่ายพัสดุ
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางบัวทอง 5. นายสุรเษม มีลาภ
6. นางพรทิพย์ สาพิมาน ผู้อำนวยการฝ่ายอุปกรณ์งานจำหน่าย
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานกลาง การไฟฟ้านครหลวงเขต 6. นายบุญถิ่น เอมย่านยาว
7. นายราเชนทร์ อันเวช ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ 7. นายพิษณุ เปียร์นนท์
8. นายชัยพงษ์ พูลขันธ์ ผู้ตรวจการ
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตนนทบุรี สายงานปฏิบัติการ
9. นายศราวุฒิ วรรธนะพันธุ์ 1. นายปริภณ ั ฑ์ วิรยิ พัตร
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตนวลจันทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมระบบไฟฟ้า
10. นายพิภพ ลิ้มวิวัฒน์กุล 2. นายสถิตย์ พงศธรวิบลู ย์
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตยานนาวา ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า
11. นายสมบูรณ์ โอฬารศิริกุล 3. นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตสมุทรปราการ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการทรัพย์สินและรักษาความปลอดภัย
12. นายยโสธร สุขประสงค์ 4. นายพงศ์นิติ นุชอนงค์
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางพลี ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบระบบไฟฟ้าและ
13. นายณรงค์ศักดิ์ พิมพ์หนู งานวิศวกรรมโยธา
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตบางนา 5. นายนิพนธ์ พงศ์ขจร
14. นายเที่ยง สิงหนุวัฒนะ ผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้าง
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตมีนบุรี 6. นายสมชาย เจียมจิตร
15. นายอรรธวุฒิ วรธรรมดุษฎี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตลาดกระบัง 7. นายชัยภัทร สุขไพบูลย์วัฒน์
16. นายวิชัย จามาติกลุ ผู้ตรวจการ
ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขตวัดเลียบ
31
สายงานแผนและพัฒนาองค์กร สายงานธุรกิจและบริการ
1. นางสาวปิ่นทิพย์ ทรัพย์สุทธิ 1. นายอาทิตย์ ทับทิมศรี
ผู้อำนวยการฝ่ายแผนกลยุทธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการระบบไฟฟ้า
2. นางสาวจันทร์เพ็ญ ศิริ 2. นายจีรัง วังจันทร์
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาคุณภาพองค์กร ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า
3. นางสาวภัทรา สุวรรณเดช 3. นายสุรพล คุวารนันท์เจริญ
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจขนส่งและผลิตภัณฑ์
4. นางสาวเรวดี สระบัว 4. นายพัฒนัย เกตุอภัย
ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจพลังไฟฟ้า ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการยานพาหนะและเครื่องมือกล
5. นางสาวนงนาค เจริญผลพิริยะ 5. นายสมบัติ จันทร์กระจ่าง
ผู้ตรวจการ ผู้ตรวจการ
สายงานบริหารองค์กร สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสาร
1. นางสาวจิตตรา รอดเครือมิตร 1. นายดิชวัฒน์ จันทร์อี่
ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและบริหารทรัพย์สินเทคโนโลยี
2. นางปิยนุช เฟื่องพูลนุช 2. นางสาวศิวพร แบ่งลาภ
ผู้อำนวยการฝ่ายฝึกอบรม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. นายนพรัตน์ แสงทอง 3. นายวีรสิทธิ์ โพธิปักขิย์
ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย ผู้อำนวยการฝ่ายระบบโครงสร้างพื้นฐาน
4. นางกนิษฐา ทรวงบูรณกุล 4. นางนันทวรรณ ธรรมวิไลวัฒน์
ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาระบบงานประยุกต์
5. นายอัศวิน ราชกรม 5. นายอาคม โสติถิมานนท์
ผู้ตรวจการ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและมัน่ คงปลอดภัย
สายงานกิจการองค์กรและสังคม สารสนเทศ
1. นางสาวสุวรรณา วิริยะประยูร 6. นายถวัลศักดิ์ ธีรวุฒิกลุ รักษ์
ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้ตรวจการ
2. นายจุมภฎ หิมะเจริญ
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร
3. นายต่อศักดิ์ เนตรรัตนะ
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงองค์กร
4. นายปสังส์ เทพรักษ์
ผู้ตรวจการ
สายงานการเงิน
1. นางสุชยา ลิมโพธิ์ทอง
ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี
2. นายประเสริฐ กุลจารุสัต
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน
3. นางสาวกาญจนา มิสเกตุ
ผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณ
4. นางธีนิดา ชคัตตรัยกุล
ผู้ตรวจการ
32
ผังโครงสรางการแบงสวนงานการไฟฟานครหลวง
ผูวาการ
ฝายอำนวยการ ฝายตรวจสอบภายใน
รองผูวาการ
บร�การระบบจำหนาย
ฝายเศรษฐกิจพลังไฟฟา ฝายการแพทย
33
รองผูวาการ รองผูวาการ
ว�ชาการและบร�หารพัสดุ ปฏิบัติการ
โครงสร้างอัตรากำลัง
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กฟน. มีบุคลากรรวมจำนวน 10,287 คน แบ่งเป็นพนักงาน 7,742 คน
และพนักงานอัตราจ้าง 2,545 คน โดยมีสัดส่วนจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าต่อจำนวนพนักงาน เท่ากับ 524 รายต่อคน
(ไม่รวมพนักงานอัตราจ้าง) และมีค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรรวม จำนวน 10,246.28 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย
พนักงาน 10,084.11 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายพนักงานอัตราจ้าง 162.17 ล้านบาท
อัตรากำลัง (คน)
สายงาน
พนักงาน พนักงานอัตราจ้าง* รวม
1. ผู้ว่าการ 109 41 150
2. รองผู้ว่าการบริการระบบจำหน่าย 3,759 739 4,498
3. รองผู้ว่าการวิชาการและบริหารพัสดุ 607 167 774
4. รองผู้ว่าการปฏิบัติการ 1,669 1,350 3,019
5. รองผู้ว่าการแผนและพัฒนาองค์กร 115 11 126
6. รองผู้ว่าการบริหารองค์กร 288 88 376
7. รองผู้ว่าการกิจการองค์กรและสังคม 110 13 123
8. รองผู้ว่าการการเงิน 234 13 247
9. รองผู้ว่าการธุรกิจและบริการ 540 106 646
10. รองผู้ว่าการเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสาร 311 17 328
รวม 7,742 2,545 10,287
หมายเหตุ : * พนักงานอัตราจ้าง 7 งาน ได้แก่ งานธุรการ งานคนงานพัสดุ งานรับ-ส่งเอกสาร งานรับชำระค่าไฟฟ้าและค่าบริการอื่น ๆ
งานขับยานพาหนะ งานยาม และงานรักษาความสะอาด
3434
35
โครงสร้างเงินทุน
ทุนและโครงสร้างผู้ถือหุ้น
กฟน. มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น ร้อยละ 100 ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561
ทุนรัฐบาล 358.32 358.32 358.32
กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร* 99,158.55 97,641.01 95,742.72
รวม 99,516.87 97,999.33 96,101.04
หมายเหตุ * กำไรจากการดำเนินกิจการที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2501 จนถึงปีปัจจุบัน ทั้งนี้ กฟน. ได้นำเงินกำไรดังกล่าวไปลงทุน
ขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้า เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการและรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
หนี้เงินกู้
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กฟน. มีเงินกู้ในประเทศที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ซึ่ งอยู่ในรูป
พันธบัตร กฟน. จำนวน 52,700 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561
เงินกู้ในประเทศ กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
- พันธบัตร (สกุลเงินบาท) 52,700.00 41,700.00 33,900.00
- สถาบันการเงิน (สกุลเงินบาท) - - 3,000.00
รวม 52,700.00 41,700.00 36,900.00
งบประมาณ
กฟน. ได้รับอนุมัติงบประมาณประจำปี ประกอบด้วย งบประมาณทำการ และงบประมาณลงทุน ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561
งบประมาณทำการ 11,541.61 11,747.12 11,472.88
งบประมาณลงทุน
- วงเงินดำเนินการ 105,599.77 110,282.90 95,562.26
- วงเงินเบิกจ่ายลงทุน 21,842.21 20,575.73 20,442.53
การจ่ายเงินนำส่งรัฐ
กฟน. ได้จัดสรรกำไรสุทธิเพื่อนำส่งรายได้แผ่นดินตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561
การจ่ายเงินนำส่งรัฐ 494.00 4,574.50 6,266.00
หมายเหตุ * การนำส่งรายได้แผ่นดินเป็นการนำส่งเงินโดยคำนวณจากกำไรสุทธิครึ่งปีหลังของปีก่อน และกำไรสุทธิครึ่งปีแรก
ของปีปัจจุบัน ซึ่งหากคิดเป็นเงินจากผลกำไรสุทธิประจำปี 2563 ทั้งปี ตามงบการเงินจะเป็นจำนวนเงิน
3,576.63 ล้านบาท แต่ด้วยเหตุมกี ารแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID-19 ได้มีมาตรการส่วนลดค่าไฟฟ้าตามมติ
คณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ทำให้นำส่งรายได้ของช่วง
ดังกล่าวลดลง คงเหลือ 494.00 ล้านบาท
35
36
แผนงานและโครงการลงทุนที่สำคัญ
กฟน. ได้ ด ำเนิ น การลงทุ น เพื่ อ ขยายและพั ฒ นาระบบจำหน่ า ย โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เพื่ อ รองรั บ
ความต้องการที่เพิ่มขึ้น เสริมความมั่นคงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า รองรับยุทธศาสตร์ของ กฟน. และ
สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามทิศทางการพัฒนาประเทศของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนต่าง ๆ
ที่ เกี่ ย วข้อ ง อาทิ แผนแม่บ ทภายใต้ยุ ท ธศาสตร์ช าติ แผนพั ฒ นาเศรษฐกิ จและสั งคมแห่ งชาติ ฉบั บ ที่ 12
ปี 2560-2564 เป็นต้น แผนงานและโครงการลงทุนทีส่ ำคัญ สรุปได้ดังนี้
ความคืบหน้า
จำนวนเงิน แหล่งที่มา
ลำดับ ชื่อแผนงาน/โครงการ ของโครงการ
(ล้านบาท) ของเงินลงทุน
(ร้อยละ)
แผนงานและโครงการลงทุนมูลค่าสูง 10 ลำดับแรก
1 แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่าย 84,694 รายได้ กฟน./เงินกู้ 48.05
พลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 /เงินอุดหนุนจาก
รัฐบาล
2 แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่าย 51,306 รายได้ กฟน./เงินกู้ 96.01
พลังไฟฟ้า ฉบับที่ 11
3 แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศ 48,717 รายได้ กฟน./เงินกู้ 26.03
เป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อรองรับการเป็น
มหานครแห่งอาเซียน
4 แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่าย 26,365 รายได้ กฟน./เงินกู้ 99.76
พลังไฟฟ้า ฉบับที่ 10
5 แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศ 9,089 รายได้ กฟน./เงินกู้ 64.51
เป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน
6 แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศ 8,900 รายได้ กฟน./เงินกู้ 26.28
เป็นสายไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก
7 โครงการร่วมรถไฟฟ้า 8,718 รายได้ กฟน./เงินกู้ 35.26
8 แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและ 8,431 รายได้ กฟน. 99.60
ระบบสื่อสาร (ICT)
9 แผนปฏิบัติการดิจิทัล 7,870 รายได้ กฟน./เงินกู้ 46.48
10 แผนงานประสานสาธารณูปโภค 5,201 รายได้ กฟน./เงินกู้ 99.68
37
ความคืบหน้า
จำนวนเงิน แหล่งที่มา
ลำดับ ชื่อแผนงาน/โครงการ ของโครงการ
(ล้านบาท) ของเงินลงทุน
(ร้อยละ)
แผนงานและโครงการสำคัญทีค่ าดว่าจะลงทุนภายใน 3 ปีข้างหน้า *
1 โครงการปรับปรุงและขยายระบบจำหน่าย 98,458 รายได้ กฟน./เงินกู้ อยู่ระหว่างเสนอ
พลังไฟฟ้า ระยะที่ 13 คณะรัฐมนตรี
2 แผนจัดหายานพาหนะและยานพาหนะ 2,494 รายได้ กฟน./เงินกู้ อยูร่ ะหว่างเสนอ
เครื่องมือกล ปี 2565-2570 คณะรัฐมนตรี
3 แผนปฏิบัติการดิจิทัล ปี 2566-2570 4,048 รายได้ กฟน./เงินกู้ แผนการดำเนินงาน
(เบื้องต้น)
* หมายเหตุ : วงเงินงบประมาณ ไม่รวมดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้าง
38
รายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ ปี 2563
กฟน. สามารถดำเนินการตามแผนปฏิบัติเชิงยุทธศาสตร์ เป็นไปตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 98.74
สรุปตามยุทธศาสตร์ได้ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ระบบจำหน่ายไฟฟ้า (Distribution)
ยกระดับคุณภาพระบบไฟฟ้าสู่ ความเป็นเลิศด้วยการพัฒนาระบบจำหน่ายไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีระบบ
โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) เพื่อให้ระบบมีความทันสมัยสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะ
แหล่งพลังงานทางเลือกต่าง ๆ (Distributed Energy Resources: DERs) เหมาะสมกับการเป็นเมืองมหานคร
โดยในปี 2563 กฟน. ได้ติดตั้ง Smart Meter และอุปกรณ์ พร้อมพั ฒนาระบบ ICT Integration ในพื้นที่นำร่อง
เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบงานต่าง ๆ ช่วยบริหารจัดการระบบไฟฟ้าให้มีความเชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ
และจะขยายผลให้ครอบคลุมในพื้นที่ระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ กฟน. ต่อไป นอกจากนี้ กฟน. ได้ศึกษาพัฒนา
ปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy: RE) เตรียมความพร้อม
การให้บริการรับฝากพลังงานด้วย Virtual Storage ในพื้นที่นำร่อง เพื่อรองรับอนาคต
ยุทธศาสตร์ที่ 2 บริการ จัดหา และจำหน่ายไฟฟ้า (Retail)
ยกระดั บ งานบริ ก ารให้ เป็ น Digital Service เพื่ อ ให้ ทั น ต่ อ การเปลี่ ย นแปลงทางเทคโนโลยี แ ละ
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มมีการใช้งานผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น โดยในปี 2563 กฟน. ปรับปรุงกระบวนการ
ให้บริการสำคัญ อาทิ การตัดฝาก-ต่อกลับเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า การขอใช้ไฟฟ้าชั่วคราวใหม่ การขอย้ายเสา-
สายไฟฟ้า การเลื่อน-ย้ายเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า การติดตั้งสายไฟฟ้าภายใน เป็นต้น ทำให้ลูกค้าสามารถขอรับ
บริ การผ่ านออนไลน์ ได้ทุ กที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้ องเดิน ทางมาที่ ทำการของ กฟน. ทั้ งนี้ กฟน. จะขยายผล
การปรับปรุงกระบวนการให้บริการของ กฟน. ให้เป็น Digital Service ครบวงจรต่อไป
ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างการเติบโต (Growth)
สร้างเสริมศักยภาพให้แก่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าหรือ
บริการใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กร โดยในปี 2563 กฟน. ได้พัฒนากระบวนงานรับเหมา (Re-process)
ของแพ็คเกจด้านสายใต้ดิน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการสร้าง Platform ด้านจัดการพลังงาน รวมถึง
จัดทำแผนการตลาดสำหรับบริการ Total Solution (Solar Leasing)
ยุทธศาสตร์ที่ 4 งานสนับสนุน (Enabler)
พัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงตามค่านิยม CHANGE เพื่อเป็นกำลังสำคัญ
ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับองค์กร รวมถึง การนำระบบ
เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนา/ปรับปรุงระบบงาน เพื่อยกระดับ กฟน. ให้เป็นองค์กรดิจิทัล ลดขั้นตอนการทำงาน
และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการองค์กรให้ดียิ่งขึ้น
39
สรุปผลการดำเนินงานของแผนปฏิบัติเชิงยุทธศาสตร์ กฟน.
เดือน มกราคม - ธันวาคม 2563
ร้อยละ
ยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติเชิงยุทธศาสตร์
ผลการดำเนินงาน
ยุทธศาสตร์ที่ 1 AP1 แผน Smart Energy System 95.4
ระบบจำหน่ายไฟฟ้า
(Distribution)
ยุทธศาสตร์ที่ 2 AP2 แผน Virtual District 97
บริการ จัดหาและ
จำหน่ายไฟฟ้า AP3 แผนการดำเนินธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าในตลาด 100
(Retail) ซื้อขายไฟฟ้าเสรี (ในพื้นที่ EEC)
ผลการดำเนินงานตามภารกิจที่สำคัญ ปี 2563
Smart Distribution
กฟน. ได้ดำเนินการตามแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า โดยมีการก่อสร้าง ปรับปรุง
ขยายระบบจำหน่ายให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เ พิ่มขึ้นได้อย่างเพียงพอ เสริมความมั่นคงและ
ความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า และพัฒนาระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง
ทางด้านเทคโนโลยีด้านไฟฟ้า ครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 100 รองรับความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Maximum
Demand) จำนวน 8,706.28 เมกะวัตต์ ได้อย่างเพียงพอ มีความมั่นคงและความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า คือ
มีค่าดัชนีความมั่นคงของระบบไฟฟ้า จำนวนครั้งที่ไฟฟ้าขัดข้องเฉลี่ย (SAIFI) 0.834 ครั้ง/ผู้ใช้ไฟฟ้า 1 ราย/ปี
และระยะเวลาที่ไฟฟ้าขัดข้องเฉลี่ย (SAIDI) 27.668 นาที/ผู้ใช้ไฟฟ้า 1 ราย/ปี การดำเนินงานที่สำคัญในรอบปี
2563 สรุปดังนี้
• การพัฒนาระบบ Smart Grid หรือโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
กฟน. มีแผนงานที่สอดคล้ องกับนโยบายและแผนแม่บทการพั ฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ท กริด
ของประเทศไทย ปี 2558-2579 และแผนปรับปรุงระบบส่งและระบบจำหน่ายให้มีความทันสมัยรองรับ
เทคโนโลยี ร ะบบไฟฟ้ า ในอนาคต (Grid Modernization of Transmission and Distribution) รองรั บ
ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาระบบจำหน่าย โดยจะมุ่งเน้นประโยชน์ของผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก มีการทำงานที่
สอดประสานกันระหว่างหน่วยงาน และปรับเปลี่ ยนรูปแบบการทำงานให้สอดคล้อ งตามเทคโนโลยีได้
อย่างรวดเร็ว เพื่อสรรสร้างนวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ใน กฟน. การทำงานทุกขั้นตอนจะ
ดำเนินไปด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ความคืบหน้าของกิจกรรมการลงทุ นพัฒนาระบบ Smart
Grid ในปี 2563 มีดังนี้
1. โครงการนำร่องระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคารที่ทำการการไฟฟ้านครหลวงซึ่ง
ต่อเชื่อมกับระบบ Smart Grid (BEMS/FEMS with DR) มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการใช้งานระบบ
บริหารจัดการพลังงานในอาคารพาณิชย์ (Building Energy Management System: BEMS) ให้รองรับ
มาตรการการตอบสนองทางด้ า นโหลด (Demand Response) ด้ ว ยวิ ธี ก ารควบคุ ม โหลดต้ น แบบ
(Prototype) ประเภทเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร โดย กฟน. ได้ดำเนินการที่การไฟฟ้านครหลวงเขต
แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2562 และในปี 2563 ได้จัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) เพื่ อขยาย
โครงการเพิ่มเติมที่การไฟฟ้านครหลวงเขต จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวงเขตคลองเตย และ
การไฟฟ้านครหลวงเขตบางขุนเทียน
2. ระบบ SCADA/EMS (Supervisory Control and Data Acquisition/Energy Management
System) ได้รับมาตรฐาน ISO 27001 สำหรับระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และ
กฟน. ได้ บู ร ณาการระบบ SCADA/EMS และระบบ DMS (Distribution Management System) เข้ า
ด้วยกัน เป็นระบบ SCADA/EMS/DMS ทำให้สามารถควบคุมการจ่ายพลังไฟฟ้ าและแก้ไขปัญ หาระบบ
ไฟฟ้าขัดข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถเชื่อมโยงข้อมูลระบบไฟฟ้ากับระบบงานอื่น ๆ ทั้ง
ภายในและภายนอกองค์กร ช่วยลดความสูญเสี ยในการจ่ายพลังไฟฟ้าในระบบจำหน่าย โดยมีม าตรฐาน
การรั ก ษาความมั่ น คงปลอดภั ย ตามมาตรฐาน NERC CIP (North American Electric Reliability
Corporation for Critical Infrastructure Protection) ซึ่ งเป็ น มาตรฐานความมั่ น คงปลอดภั ย ในกลุ่ ม
พลั ง งานไฟฟ้ า ที่ น ำไปใช้ ในการทำงานเพื่ อ ลดความเสี่ ย งทางด้ า นสิ น ทรั พ ย์ ส ารสนเทศที่ ส ำคั ญ ต่ อ
41
เสถี ย รภาพของระบบการจ่ ายไฟฟ้ า โดยอยู่ ร ะหว่า งการทดสอบการเชื่อ มต่อ ฐานข้อ มูล Substation
Remote Terminal Unit (SRTU) แ ล ะ Feeder Remote Terminal Unit (FRTU) เข้ า กั บ ร ะ บ บ
ทดสอบพัฒนา (Quality and Development System: QAD)
3. โครงการ Smart Metro Grid ประกอบด้วย 5 ระบบงานย่อย ดังนี้
(1) Advanced Metering Infrastructure (AMI) ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายการสื่อสารและ
เปลี่ยนมิเตอร์จานหมุนและมิเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็น Smart Meter ที่สามารถอ่านหน่วยได้อัตโนมัติแ ละ
ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าได้ โดยมีการจัดซื้อ Smart Meter จำนวนรวมทั้งสิ้น 33,265 ชุด ทำ
ให้มีจำนวน Smart Meter ในพื้นที่ กฟน. ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้า มากขึ้น สามารถนำข้อมูลจาก Smart Meter
มาใช้ในการประมวลผล (Data Analytic) เพื่อวิเคราะห์หาความสูญเสี ย ทั้งทางด้าน Technical Loss และ
Non-Technical Loss การลักลอบใช้ไฟฟ้า การวางแผนขยายหรือปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า
(2) Transformer Load Monitoring (TLM) ระบบเฝ้าติดตามภาระหม้อแปลงจำหน่ายเพื่อให้
ใช้งานได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด วิเคราะห์ข้อมูลทางไฟฟ้า และแจ้งเตือนหม้อแปลงจำหน่ายชำรุด
(3) Outage Management System (OMS) ระบบบริห ารจั ด การไฟฟ้ า ขั ด ข้ อ ง วิ เคราะห์
ข้อมูลไฟฟ้าขัดข้องจากข้อมูลอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบจำหน่ายทั้งในสถานีไฟฟ้าและสายป้อนที่มีการเชื่อมต่อ
กั บ ระบบ SCADA/EMS/DMS เพื่ อ บู ร ณาการข้ อ มู ล จาก Smart Meter ทำให้ ส ามารถแก้ ไขปั ญ หาไฟฟ้ า
ขัดข้องได้รวดเร็วขึ้น และบูรณาการข้อมูลระดับแรงดันสูง แรงดันกลาง แรงดันตํ่า เพื่อยกระดับการแก้ไขไฟฟ้า
ขัดข้องเป็นระบบ Advanced DMS
(4) Load Aggregator Management System (LAMS) ระบบบริหารจัดการผู้รวบรวมโหลด
รองรั บ การทำหน้ าที่ เป็ น Load Aggregator ตามนโยบายการดำเนิ น งานด้ าน Demand Response ของ
ภาครัฐ เพื่อดำเนินการตอบสนองด้านโหลดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และสามารถใช้งานร่วมกับ
ศูนย์สั่งการการตอบสนองด้านโหลด (Demand Response Control Center: DRCC) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
แห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ โดยมีเป้าหมายในการลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุด จำนวน 100 เมกะวัตต์
(5) ICT Integration การบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาการสื่อสาร
และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบงานต่าง ๆ ที่ใช้ภายใน กฟน. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีการรักษา
ความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐาน NERC CIP เช่นเดียวกับระบบ SCADA/EMS/DMS
4. โครงการศึ ก ษาปรั บ ปรุ ง โครงข่ า ยไฟฟ้ า ด้ ว ยการติ ด ตั้ ง หม้ อ แปลง On Load Tap
Changer (OLTC) พร้อมอุปกรณ์ ตรวจวัด แรงดัน เพื่ อรองรับการเชื่อ มต่อของ Solar Rooftop โดย
กฟน. ได้ดำเนินการศึกษา ติดตั้งและประเมินผลการใช้งานหม้อแปลง OLTC ณ หมู่บ้านเสนาพาร์ควิลล์
รามอินทรา แล้วเสร็จในปี 2563 สรุป ได้ว่าการใช้งานหม้อแปลง OTLC สามารถปรับแรงดันไฟฟ้ าใน
ระบบจำหน่ายแรงดันตํ่า ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ กฟน. ได้ เมื่ อเกิดการไหลย้อนของพลังงานไฟฟ้า
จาก Solar Rooftop
5. โครงการนำร่อ งระบบ Microgrid ของการไฟฟ้ านครหลวง มี วัต ถุป ระสงค์เพื่ อ ศึ กษา
ระบบ Microgrid และเป็นอาคารตัวอย่างในการเรียนรู้ระบบ Facility Microgrid ของ กฟน. รวมถึงการ
บริ ห ารจั ด การและควบคุ ม Microgrid ในเขตพื้ น ที่ บ ริ ก ารได้ แ บบ Real time สำหรั บ รองรั บ ระบบ
Microgrid และการขยายตัวของพลั งงานทางเลื อ กในอนาคต โดยการติ ดตั้งระบบกักเก็บ พลั งงานให้
รองรับการใช้พลังงานได้ทั้งอาคาร
42
เบ็ ด เสร็ จ (Project Management) คล่ อ งตั ว และจำแนกงานตามกลุ่ ม ผลิ ต ภั ณ ฑ์ รวมทั้ ง ปรั บ ปรุ ง งาน
ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสาร เพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนงานองค์กรด้วยระบบ
ดิจิทัล และต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
• การวางแผนกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงอัตราการเติบโตด้านค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบกับ
รายได้องค์กรในอนาคตและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านอัตรากำลัง (Workforce Productivity) ร้อยละ 3.12 ต่อ
ปี เพื่อยกระดับองค์กรให้สามารถเทียบเคี ยงกับคู่เทียบในระดับสากล (Top Quartile) การบริหารอัตรากำลัง
ส่วนขาด (Demand) ตามภารกิจรองรับยุทธศาสตร์องค์กร การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการสรรหาเพื่อให้ได้
บุ คลากรที่มีคุณภาพโดยใช้วิธีการสรรหาเชิงรุก การบริหารอัตรากำลั งในส่ วนที่องค์กรนำเทคโนโลยีเข้ามา
ทดแทนด้วยการจัดทำโครงการร่วมใจจากการไฟฟ้านครหลวง (MSP) เพื่อบริหารอัตรากำลังให้เกิดประสิทธิภาพ
สูงสุด โดยมีจำนวนพนักงานเข้าร่วมโครงการฯ คิดเป็นร้อยละ 54 ของจำนวนเป้าหมาย ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่าย
ที่เป็นมูลค่าปัจจุบัน (NPV) เฉลี่ย 135 ล้านบาทต่อปี
• การบริหารบุคลากรคุ ณภาพ (Talent Management) เพื่อค้นหาและยกระดับบุคลากรคุณภาพ
(Talent) ให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจขององค์กรรองรับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และเสริมสร้าง
การคิ ดค้น นวัตกรรมที่ ส ร้างมูล ค่าเพิ่ มให้ กั บองค์ กร รวมถึงเป็ นส่ วนหนึ่ งของการสร้างผู้ นำในอนาคต และ
การวางแผนสืบทอดตำแหน่ง (Succession Plan) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารบุคลากรในการสร้างความ
ยั่งยืนให้กับองค์กร โดยการเตรียมความพร้อมพนักงานให้มี ศักยภาพที่เพียงพอต่อการสืบทอดตำแหน่งหลั ก
(Key Position) และตำแหน่ งงานสำคั ญ (Critical Position) ที่ กำหนดไว้ ครอบคลุ ม 4 มิ ติ ประกอบด้ ว ย
ความรู้ (Knowledge) ประสบการณ์ (Experience) ขีดความสามารถ (Skill) และคุณลักษณะ (Attribute) ซึ่ง
ได้กำหนดสัดส่วนของผู้สืบทอดตำแหน่ง (Successor) ที่มีความพร้อมในการเข้ารับการคัดเลือก อย่างน้อย 3
คน ต่อ อัตราว่าง 1 ตำแหน่ง
ในส่ ว นของการส่ งเสริ มค่ านิ ย มองค์ กร กฟน. มี การสื่ อ สารแบบเน้ น ย้ำถึงค่านิ ยม CHANGE และ
พฤติกรรมตามค่านิยมองค์กรผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เข้าถึงพนักงานทุกระดับ ในรูปแบบภาพโปสเตอร์ และ
สื่ออิเล็กทรอนิกส์แบบออนไลน์ พนักงานสามารถเห็นภาพของพฤติกรรมต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
รวมถึงการเสริ ม สร้ างให้ พ นั กงานทุ ก คนในองค์ก รเป็ น ต้น แบบในการแสดงพฤติ กรรมตามค่ านิ ยมองค์ ก ร
(Role Model) เช่น กิจกรรมคุยกับผู้ว่าการเป็นการพบปะระหว่า งผู้บริหารระดับสูงและพนักงาน ในปี 2563
ได้ ป รั บ รู ป แบบการจั ด กิ จ กรรม โดยเน้ น การสื่ อ สารทางออนไลน์ เพื่ อ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ นโยบายการลด
การแพร่ระบาดของ COVID-19
Smart Energy
• โครงการโซลาร์ภาคประชาชน
แผนพั ฒ นากำลั ง ผลิ ต ไฟฟ้ าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP 2018) ที่ ได้ รั บ ความ
เห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลั งงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ มีการลงทุ นผลิ ตไฟฟ้ าประเภทต่าง ๆ
โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จึงได้ดำเนินโครงการโซลาร์
ภาคประชาชน ที่ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยผลิตไฟฟ้าบนหลังคา (Solar Rooftop) เพื่อใช้เอง ส่วน
ที่เหลือจึงจะขายเข้าระบบ โดย กฟน. ได้ขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐด้วยการนำร่องรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการ
โซลาร์ภาคประชาชน จำนวน 30 เมกะวัตต์ ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ 1.68 บาท/หน่วย โดยเปิดรับสมัครผู้ใช้
ไฟฟ้ า ประเภทบ้ า นอยู่ อ าศั ย ในเขตจำหน่ า ยของ กฟน. ผ่ า นทางระบบออนไลน์ (ลงทะเบี ย น
47
2) โครงการบ้านมั่นคง
กฟน. ลงนามบันทึกความร่วมมือ “บูรณาการวางแผนและสนับสนุนการพั ฒนาพื้นที่ ด้านระบบ
สาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา ในพื้นที่โครงการบ้านมั่นคง” กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การประปา
นครหลวง (กปน.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.)
โดย กฟน. สนั บ สนุน การจัดระบบสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าให้ กับชุมชนในโครงการบ้านมั่นคงในพื้นที่ของ
กฟน. ด้วยการติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในให้กับชุมชนในโครงการของรัฐที่ช่วยเหลือ ผู้มีรายได้น้อย โดยไม่เสีย
ค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย ชุมชนโรงช้าง ชุมชนภูมิใจ ชุมชนเมืองใหม่มาลัยทอง ชุมชนแสงตะวัน ชุมชนทรัพย์มี
สุข และชุมชนมีสุข เพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีคณ
ุ ภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย
3) โครงการฟื้นฟูและพัฒนาคลองเปรมประชากร
กฟน. ร่วมกับ พอช. ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากร โดย
ดำเนินการรื้อถอนระบบไฟฟ้ า ย้ายเสาและสายไฟฟ้าเดิมออก เพื่อ รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางลำคลอง
และดำเนินการปักเสา พาดสายไฟฟ้าใหม่ ติดตั้งเครื่องวัดฯ และจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนประชาชน ได้อย่าง
เพียงพอ และมีความปลอดภัย
4) การจัดระเบียบสายสื่อสาร
กฟน. ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ
สมุทรปราการ จำนวน 126 เส้นทาง ระยะทาง 826.75 กิโลเมตร โดยตัดสายสื่อสารที่ไม่ใช้งาน และจั ด
ระเบี ยบสายสื่ อ สารด้ วยวิธีการพาดสายบนคอนสายสื่ อสารของ กฟน. เพื่ อความปลอดภั ยในชีวิตและ
ทรัพย์สินของประชาชน ภูมิทัศน์สวยงาม และเป็นระเบียบ
5) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยใช้กล้องโทรทัศน์
วงจรปิด (CCTV) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
กฟน. ได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนการติดตั้งกล้องระบบ
เซลลูลาร์บนเสาไฟฟ้าของ กฟน. ตามพื้ นที่จุดเสี่ย ง จุดล่อแหลม ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้ น
5,929 จุด
50
ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
กฟน. มีความมุ่งมั่นในการดำเนินกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการ
เติบโตของสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งที่เป็นการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขั้นพื้นฐาน
ตามที่กฎหมายกำหนด และการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่กฎหมายไม่ได้กำหนด
แต่เป็นกิจกรรมที่ กฟน. สามารถดำเนินการเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม (CSR after process)
ควบคู่ไปกับการบูรณาการการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในกระบวนการทำงานขององค์กร
ด้วยการนำความสามารถหลัก (Core Competency) ขององค์กรมาตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสีย (CSR in process) โดยอ้างอิ งตามมาตรฐานแนวทางความรั บผิ ดชอบต่ อสั งคมและสิ ่งแวดล้ อ ม
ISO 26000 เพื่อมุ่งสู่แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตาม
หลักการ Triple Bottom Line อย่างครบถ้วน
ในปี 2563 กฟน. ได้ดำเนินการทบทวนและปรับปรุงแผนแม่บทและแผนปฏิบัติเสริมสร้างความยั่งยืน
เพื่อตอบสนองปัจจัยทั้งภายในและภายนอกองค์กรตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561–2580) แผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560–2564) การขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่ งยืน
(Sustainable Development Goals: SDGs) ของประเทศ นโยบายของรั ฐ และแผนวิ ส าหกิ จ การไฟฟ้ า
นครหลวง เพื ่ อ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ กรอบการประเมิ น ผลการดำเนิ น งานรั ฐ วิ ส าหกิ จ State Enterprise
Assessment Model: SE-AM โดยกำหนดการดำเนิ นกิ จกรรมตามแผนแม่ บทและแผนปฏิ บ ั ต ิ เสริ มสร้ า ง
ความยั่งยืน การไฟฟ้านครหลวง ปี 2563–2565 ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและ
ภายนอกองค์กร
โดยกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมภายนอก (CSR After process) มีเป้าหมาย
ในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ซึ่งในปี
2563 กฟน. ได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง การพัฒนาช่างไฟฟ้า
มืออาชีพภายในชุมชน การปรับปรุงระบบไฟฟ้าบนสะพานลอย การจัดทำศูนย์การเรี ยนรู้ด้านพลังงานทดแทน
และการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมภายในชุมชน โดยการนำผลงานต้นแบบ “ระบบรดน้ำอัตโนมัติด้วยพลังงาน
แสงอาทิตย์และเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้นในดิน” ที่ชนะการประกวดจากโครงการ MEA’s ENnovation
School มาปรับปรุง และพัฒนาเพื่อใช้งานในศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรพอเพียง ชุมชน
พัฒนาบ่อนไก่ ให้สามารถปลูกพืชผักหลายชนิดใช้บริโภคภายในชุมชน และจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียง เป็นแหล่ง
เรียนรู้ของประชาชน ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ในชุมชน รวมทั้งเป็นการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือของผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร นอกจากนี้ กฟน. ยังได้จัดให้มีการอบรมหลักสูตรการติดตั้ง EV Charger แบบ
Normal Charge ให้แก่ช่างไฟฟ้าจากโครงการช่างไฟฟ้ามืออาชีพ เพื่อต่อยอดสู่ทักษะการให้บริการติดตั้ง EV
Charger ยานยนต์ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมถึงการสนับสนุนพนักงานจิตอาสาให้ใช้เวลาในวันหยุดร่วมกั นพัฒนา
ชุมชน ศาสนสถาน และศูนย์การเรียนรู้ของผู้ด้อยโอกาส ซึ่งการดำเนินโครงการ/กิจกรรมในปี 2563 ส่งผลให้ได้
ชุมชนเข้มแข็ง จำนวน 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ โรงเรียนป้อมพระจุลจอมเกล้า และชุมชนประสาน
มิตร นอกจากนี้ในการทำงาน After Process กฟน. สามารถคว้ารางวัลผลการปฏิบัติงานยอดเยี่ยม (Best
Practice) ประเภท Emerging market ในเวที Global Corporate Sustainability Awards: GCSA 2020
ประเทศไต้หวัน จากโครงการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ชุมชน
คอยรุตตั๊กวา ดำเนินงานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559)
51
สรุปข้อมูลที่สำคัญทางการเงิน
เปลี่ยนแปลง
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561 ปี 2563 กับ 2562
เพิ่ม (ลด) ร้อยละ
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์ถาวร ล้านบาท 147,993.22 134,949.65 126,101.31 13,043.57 9.67
สินทรัพย์รวม ล้านบาท 227,756.60 224,842.51 213,875.92 2,914.09 1.30
หนี้สินรวม ล้านบาท 128,239.73 126,843.18 117,774.88 1,396.55 1.10
ส่วนของทุน ล้านบาท 99,516.87 97,999.33 96,101.04 1,517.54 1.55
ผลการดำเนินงาน
ค่าขายพลังงานไฟฟ้า ล้านบาท 192,005.71 201,478.45 192,079.04 (9,472.74) (4.70)
รายได้รวม ล้านบาท 196,999.34 205,958.85 196,760.71 (8,959.51) (4.35)
ค่าใช้จ่ายรวม ล้านบาท 191,568.94 200,561.13 187,665.76 (8,992.19) (4.48)
กำไรสำหรับปี ล้านบาท 5,430.40 5,397.72 9,094.95 32.68 0.61
อัตราส่วนทางการเงิน
2561 2562 2563 2561 2562 2563
อัตราส่วน
อัตรา 4.62 เงินทุน
กำไรสุทธิ 2.62 2.76 1.04 1.09 1.13
หมุนเวียน
(ร้อยละ)
(เท่า)
อัตรา อัตรา
ผลตอบแทน ผลตอบแทนต่อ 9.64
4.38
ต่อสินทรัพย์ 2.46 2.40 ส่วนทุน
5.56 5.50
(ร้อยละ) (ร้อยละ)
อัตราส่วน อัตราส่วน
หนี้เงินกู้ ความสามารถ
ต่อส่วนทุน 0.53 ในการชำระหนี้ 5.41
6.12
(เท่า) 0.38 0.43 (เท่า) 2.53
52
53
53
54
รายงานวิเคราะห์ฐานะการเงิน
ผลการดำเนินงานในปี 2563
กำไรสำหรั บ ปี 5,430.40 ล้ า นบาท อยู ่ ใ นระดั บ กาไรสาหรับปี (ล้านบาท)
ใกล้เคียงกับปี 2562 ทีม่ ีกำไรสุทธิจำนวน 5,397.72 9,095 - 40.65%
0.61%
ล้านบาท โดยปี 2562 และ 2563 คณะกรรมการ 5,430
5,398
กำกับ กิจ การพลังงาน (กกพ.) เห็น ชอบให้ กฟน.
ส่งคืนเงินรายได้ค่าไฟฟ้า จำนวน 4,191 ล้านบาท
และ 4,427 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563
ด้านรายได้
รายได้รวม 196,999.34 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 จำนวน 8,959.51 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.35
สาเหตุสำคัญเกิดจากหน่วยจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าทีล่ ดลง ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักกว่าร้อยละ 97
หน่วย : ล้านบาท
เปลี่ยนแปลง
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561 ปี 2563 กับ 2562
เพิ่ม (ลด) ร้อยละ
รายได้
รายได้จากการดำเนินงาน
รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า 192,005.71 201,478.45 192,079.04 (9,472.74) (4.70)
รายได้การค้าและงานรับเหมา 1,952.25 1,163.17 1,308.32 789.08 67.84
รายได้อื่นจากการดำเนินงาน 1,879.61 1,899.07 1,951.18 (19.46) (1.02)
รายได้อื่น 1,108.40 1,360.05 1,358.46 (251.65) (18.50)
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า 53.37 58.11 63.71 (4.74) (8.16)
รายได้รวม 196,999.34 205,958.85 196,760.71 (8,959.51) (4.35)
ด้านค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายรวม 191,568.94 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 จำนวน 8,992.19 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.48
ปัยจัยหลักจากค่าซื้อพลังงานไฟฟ้าลดลง
หน่วย : ล้านบาท
เปลี่ยนแปลง
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561 ปี 2563 กับ 2562
เพิ่ม (ลด) ร้อยละ
ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ค่าซื้อพลังงานไฟฟ้า 167,948.77 177,230.17 166,922.93 (9,281.40) (5.24)
ต้นทุนการค้าและงานรับเหมา 1,298.35 782.62 693.68 515.73 65.90
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 10,128.36 10,952.42 9,606.63 (824.06) (7.52)
ค่าตอบแทนผู้บริหาร 47.44 55.24 37.05 (7.80) (14.12)
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 9,201.49 8,817.88 7,944.85 383.61 4.35
ค่าใช้จ่ายอื่นในการดำเนินงาน 836.10 720.20 511.25 115.90 16.09
ค่าใช้จ่ายอื่น 520.01 429.48 432.15 90.53 21.08
ต้นทุนการเงิน 1,588.42 1,573.12 1,517.22 15.30 0.97
รวมค่าใช้จ่าย 191,568.94 200,561.13 187,665.76 (8,992.19) (4.48)
55
100,000
50,000 96,101 97,999 99,517
0
ปี 2561 ปี 2562 ปี 2563
สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน
56
หน่วย : ล้านบาท
เปลี่ยนแปลง
รายการ ณ 31 ธ.ค. 63 ณ 31 ธ.ค. 62 ณ 31 ธ.ค. 61 ปี 2563 กับ 2562
เพิ่ม (ลด) ร้อยละ
สินทรัพย์
สินทรัพย์หมุนเวียน 63,420.59 73,514.23 67,588.46 (10,093.64) (13.73)
สินทรัพย์ถาวร 147,993.22 134,949.65 126,101.31 13,043.57 9.67
สินทรัพย์อื่น 16,342.79 16,378.63 20,186.15 (35.84) (0.22)
รวมสินทรัพย์ 227,756.60 224,842.51 213,875.92 2,914.09 1.30
หนี้สินและส่วนของทุน
หนี้สินหมุนเวียน 36,901.17 39,646.85 40,811.37 (2,745.68) (6.93)
หนี้สินระยะยาว 51,979.23 40,809.84 33,022.27 11,169.39 27.37
หนี้สินอื่น 39,359.33 46,386.49 43,941.24 (7,027.16) (15.15)
ส่วนของทุน 99,516.87 97,999.33 96,101.04 1,517.54 1.55
รวมหนี้สินและส่วนของทุน 227,756.60 224,842.51 213,875.92 2,914.09 1.30
สภาพคล่อง/การเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินสด
กฟน. มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 15,794.19 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน จำนวน 21.42 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.14 โดยมีกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้น
(ลดลง) ประกอบด้วย เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน จำนวน 11,918.30 ล้านบาท เงินสดสุทธิใช้ไป
ในกิจกรรมลงทุน จำนวน 20,984.96 ล้านบาท โดยการใช้ไปในกิจกรรมลงทุนที่สำคัญ คือ การลงทุนใน
สินทรัพย์ถาวร และเงินสดสุทธิได้มาในกิจกรรมจัดหาเงิน จำนวน 9,088.08 ล้านบาท โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ
คือ เงินสดรับจากการออกพันธบัตร
หน่วย : ล้านบาท
กระแสเงินสดเพิ่ม
(ลด)
รายการ ปี 2563 ปี 2562 ปี 2561
ปี 2563 กับ 2562
จำนวน ร้อยละ
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 11,918.30 17,784.08 19,785.88 (5,865.78) (32.98)
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน (20,984.96) (19,671.76) (17,694.11) (1,313.20) (6.68)
เงินสดสุทธิได้มา (ใช้ไป) ในกิจกรรมจัดหาเงิน 9,088.08 2,357.94 (7,774.56) 6,730.14 285.42
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น
(ลดลง) สุทธิ 21.42 470.26 (5,682.79) (448.84) (95.45)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต้นงวด 15,772.77 15,302.51 20,985.30 470.26 3.07
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด 15,794.19 15,772.77 15,302.51 21.42 0.14
57
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส ครั้งที่ 9
โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)
59
รางวัลเหรียญทอง ”อาคารราชการต้นแบบด้านการจัดการน้ำเสีย”
โดย กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หน่ วยงานของ กฟน. ที่ได้รั บรางวัล ได้ แก่ การไฟฟ้ านครหลวงเขตธนบุ รี การไฟฟ้ านครหลวงเขต
บางขุนเทียน การไฟฟ้านครหลวงเขตสามเสน การไฟฟ้านครหลวงเขตยานนาวา และการไฟฟ้านครหลวงเขต
บางเขน
โล่เกียรติคุณ ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนการจัดการศึกษา
ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้าธนบุรี (มจธ.)
โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้าธนบุรี
กฟน. ให้การสนับสนุน มจธ. เข้าร่วมการแข่งขันสร้างบ้านประหยัดพลังงานระดับนานาชาติโครงการ
Solar Decathlon Europe 2019 จัดขึ้นที่ประเทศฮังการี โดย มจธ. สามารถคว้า 4 รางวัล โดยได้รับรางวัล
ชนะเลิศ People’s Choice Award และอีก 3 รางวัล จากการแข่งขันบ้านประหยัดพลังงานระดับโลก Solar
Decathlon Europe 2019 (SDE 2019)
62
กิจกรรมที่สำคัญ ปี 2563
กฟน. จัดกิจกรรม “MEA อาสาพัฒนาศาสนสถานเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวและออกหน่วยบริการชุมชน” ณ วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร แขวงบางจาก เขตพระโขนง
กรุงเทพมหานคร
กฟน. และ บริษัท ออริจ ิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ลงนามบัน ทึกความเข้า ใจโครงการร่วมมือ
ด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อพัฒนาพื้นที่ภายใต้โครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ รามอินทรา ให้เป็นเมืองต้นแบบ
อัจฉริยะในด้าน Smart Eco
64
กฟน. และ บริ ษ ั ท แสนสิ ร ิ จำกั ด (มหาชน) เปิ ดตั ว โครงการพั ฒนา MEA Smart Life Platform เพื ่ อขยาย
การบริการ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า
65
กฟน. มอบเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ในโครงการศึกษาวิจัย MEA EV Smart Charging System ให้แก่ผ ู้ผ ่าน
การคัดเลือกในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
ต่อยอดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
67
กฟน. ร่วมกับ CU Innovation Hub จัดโครงการ MEA Hackathon Day 2020 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงาน ทั้ง
พนักงาน กฟน. และบุคคลภายนอก ได้ร่วมกันคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ภายใต้แนวคิด "Optimizing Smart
Energy System through Enabling Technologies of IoT"
68
กฟน. สนั บสนุ น เงิ น ในการจั ด ซื ้ ออุ ปกรณ์ ทางการแพทย์ เพื ่ อใช้ ร ั กษาผู ้ ป ่ ว ยติ ดเชื ้อ COVID-19 ให้ กั บ
โรงพยาบาลรัฐทั้งสิ้น 18 แห่ง ในพื้นที่จำหน่ายของ กฟน. และให้การสนับสนุนเตียงผู้ป่วยสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น
ณ โรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวง
(นายเดชบุญ มาประเสริฐ)
ประธานกรรมการตรวจสอบ
73
การบริหารความเสี่ยงองค์กร และปัจจัยความเสี่ยง
กฟน. พัฒนาแนวทางการบริหารความเสี่ยง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ต่าง ๆ อย่างยั่งยืน ตามแนวทาง Enterprise Risk Management - Integrating with Strategy and Performance
ข อ ง The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO) แ ล ะ
ISO 31000: 2018 Risk management - Guidelines ซึ ่ ง สอดคล้ อ งกั บ คู ่ ม ื อ ปฏิ บ ั ต ิ เ กี ่ ย วกั บ การบริ ห าร
ความเสี ่ ย งและการควบคุ ม ภายใน ปี 2555 สำนั ก งานคณะกรรมการนโยบายรั ฐ วิ ส าหกิ จ (สคร.)
กระทรวงการคลัง และระบบการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ (State Enterprise Assessment
Model: SE-AM)
กฟน. ได้วางแนวปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงองค์กรครอบคลุมตั้งแต่ คณะกรรมการ ผู้บริหารและ
พนักงาน โดยมีการบูรณาการหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง การปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
แผนยุทธศาสตร์และเครื่องมือบริหารจัดการอื่น ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ดำเนินการตามกระบวนการบริหารความเสี่ยงองค์กรในการกำหนดวัตถุประสงค์ ระบุ ประเมิน การจัดการ
รายงานและติดตามความเสี่ย ง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
ครอบคลุ ม ความเสี ่ ย งด้ า นกลยุ ท ธ์ ด้ า นปฏิ บ ั ต ิ ก าร ด้ า นการเงิ น และด้ า นกฎ ระเบี ย บที ่ เ กี ่ ย วข้ อ งกั บ
การดำเนินงานขององค์กร
โครงสร้างการบริหารความเสี่ยงองค์กร
กฟน. กำหนดโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงองค์กร เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงและการบริหาร
ความต่อเนื่องทางธุรกิจในแต่ละระดับดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิผล มีความครบถ้วนในทุก ๆ กิจกรรมหลัก
และปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเป็นวัฒนธรรมขององค์กร โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ดังนี้
- คณะอนุกรรมการการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย กำกับ ดูแล และสนับสนุนให้องค์กรดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี
การบริหารความเสี่ยง การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ การควบคุมภายใน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ที่เกี่ยวข้อง
- คณะผู้บริหารการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
ทำหน้าที่กำหนดกรอบการกำกับ ดูแลกิจ การที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
(Governance, Risk and Compliance (GRC Framework)) รวมถึ ง การบริ ห ารความต่ อ เนื ่ อ งทางธุ ร กิ จ
การควบคุมภายใน พร้อมทั้ง พิจารณาและกำหนดแนวทางการตอบสนองความเสี่ยง ตลอดจนกำกับให้มี
การปฏิบัติตามนโยบาย และสนับสนุนให้มีการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญ ของการบูรณาการระหว่าง
การกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
นอกจากนี้ ได้กำหนดให้ ฝ่า ยตรวจสอบภายในทำหน้า ที่ ส อบทานและประเมิ น ประสิ ทธิ ผ ลของ
การดำเนินงาน และรายงานผลต่อคณะกรรมการตรวจสอบในการไฟฟ้านครหลวงอย่างสม่ำเสมอ
74
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหหลวง
คณะอนุกรรมการการกำกับ คณะกรรมการตรวจสอบ
ดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง (Audit Committee)
และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
คณะผู้บริหารการกำกับ ฝ่ายบริหาร
ดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง ฝ่ายตรวจสอบภายใน
ความเสี่ยงองค์กร
และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
คณะผู้บริหารด้านความเสี่ยง
ประจำสายงาน
การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ
กฟน. ให้ความสำคัญกับการให้บริการกับประชาชนได้อย่างต่ อเนื่อง จึงจัดทำระบบการบริหารความ
ต่อเนื่องทางธุร กิจ (Societal Security – Business Continuity Management Systems) ให้เป็นไปตาม
มาตรฐาน ISO 22301 เพื่อรองรับกรณีเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ และได้กำหนดโครงสร้างการบริหารงานใน
ภาวะวิกฤติ ประกอบด้วย คณะกรรมการจัดการวิกฤตการณ์ คณะทำงานจัดการเหตุฉุกเฉิน (ด้านระบบ
จำหน่าย) คณะทำงานจัดการเหตุฉุกเฉิน (ด้านการบริการ) และคณะทำงานจัดการเหตุฉุกเฉิน (ด้านระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศ) เพื่อรับผิดชอบในการดำเนินงาน สั่งการและตอบสนอง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผล
กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ กฟน. ในแต่ละระดับ รวมถึง กำหนดให้มีการดำเนินการทบทวน/ปรับปรุง
แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management Plan: BCP) เป็นประจำทุกปี เพื่อ ให้
สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ และสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจที่
สำคัญของ กฟน. ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
1. ด้ า นการจำหน่ า ยกระแสไฟฟ้ า : มุ ่ ง เน้ น การแก้ ไ ขสถานการณ์ เพื ่ อ ให้ ก ระบวนการจั ด ส่ ง
กระแสไฟฟ้าสามารถฟื้นคืนกลับมาให้เร็วที่สุด
2. ด้านการบริการ : มุ่งเน้นการให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนการให้บริการ ณ การไฟฟ้านครหลวงเขต
และการให้บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านระบบ MEA Call Center
3. ด้านการสนับสนุน : มุ่งเน้นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของงานสนับสนุนที่สำคัญ เช่น ระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศ การจ่ายเงินให้แก่ผู้ส่งมอบ และการสื่อสารภายใน ภายนอกองค์กร เป็นต้น
นอกจากนี้ กฟน. ได้จัดทำ “คู่มือการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ” เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ
บริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของ กฟน. พร้อมทั้งเผยแพร่ให้พนักงานรับทราบผ่านทางเว็บไซต์ฝ่ายบริหาร
ความเสี่ยงองค์กร
ผลการดำเนินงานที่สำคัญในการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ปี 2563
1. กฟน. ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 22301:2012 ซึ่งเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับระบบการบริหาร
ความต่อเนื่องทางธุร กิจ (Business Continuity Management System: BCMS) ครอบคลุม ขอบเขตของ
กระบวนการทำงานที่สำคัญในสำนักงานเพลินจิต ได้แก่ กระบวนการควบคุมระบบไฟฟ้า ณ ศูนย์ควบคุมระบบ
ไฟฟ้าของ กฟน. กระบวนการรับชำระค่าไฟฟ้าที่หน้าเคาน์เตอร์ ณ สาขาย่อยเพลินจิต และการชำระค่าไฟฟ้า
ให้กับ กฟผ. รวมถึงการจ่ายเงินเดือนพนักงาน
2. กฟน. มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามประกาศจากองค์การอนามัย
โลกและกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด โดยเปิดศูนย์บัญชาการคณะกรรมการจัดการวิกฤตการณ์ (Crisis
Management Committee: CMC) เพื่อติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ พิจารณาแบ่งโครงสร้างและกระจาย
อำนาจ เพื่อให้มีการบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
โดยจัดตั้งคณะทำงานสถานการณ์ COVID-19 จำนวน 7 คณะย่อย ประกอบด้วย 1. Communication Team
2. ICT Supporting Team 3. Employee Engagement/Regulatory Compliance Team 4. Customer
Service Team 5 . Supplier Cooperation Team 6 . Workplace/Logistic Management Team แ ล ะ
7. Financial and Budgeting Team มีการจัดทำข้อมูล/ตัวชี้วัดการดำเนินงานใน Dashboard สำหรับคณะ
CMC ติดตามและบริห ารสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการดำเนินการ 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1
การติดตาม การประเมินสถานการณ์ และการป้องกันเหตุการณ์ (ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563) ระยะที่ 2
79
การควบคุมภายใน
กฟน. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการควบคุมภายในอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามหลักเกณฑ์
กระทรวงการคลั ง ว่าด้ว ยมาตรฐานและหลั ก เกณฑ์ ปฏิ บั ติ ก ารควบคุ มภายในสำหรับ หน่ว ยงานของรั ฐ
พ.ศ. 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการควบคุมภายในมีความเพียงพอเหมาะสม ช่วยให้การ
ดำเนิ น งานมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ประสิ ท ธิ ผ ล บรรลุ ว ั ต ถุ ป ระสงค์ ท ี ่ ก ำหนด รวมถึ ง การดู แ ลรั ก ษาทรั พ ย์ สิ น
การป้องกัน หรือลดความผิดพลาด เสียหาย หรือลดโอกาสเกิดการทุจริต รายงานทางการเงินและมิใช่การเงินมี
ความถูกต้อง เชื่อถือได้ ทันเวลา รวมทั้งมีการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
กฟน. มีโครงสร้างการควบคุมภายในที่มีประสิทธิผล โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของ
คณะกรรมการและผู้บริหารในการควบคุมและติดตามกำกับดูแล ได้แก่
(1) คณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
กำหนดนโยบาย แนวทางการส่งเสริมและเสนอแนะด้านการควบคุมภายในเพื่อให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
(2) คณะผู้บริหารการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
พิจ ารณาทบทวน ปรับ ปรุง นโยบาย แนวทางการจัดวางระบบการควบคุมภายใน ให้ข้อเสนอแนะและ
แนวทางแก้ไขการดำเนินงานด้านการควบคุมภายใน พิจารณาภาพรวมของรายงานการควบคุมภายในของ
กฟน.
(3) ฝ่ า ยตรวจสอบภายในเป็ น หน่ ว ยงานอิ ส ระ ทำหน้ า ที ่ ส อบทานระบบการควบคุ ม ภายใน
รายงานผลต่อคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง รวมทั้งรายงานผลการสอบทาน
การควบคุมภายในประจำปีของ กฟน. ต่อกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
ได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่ส อบทานระบบการควบคุมภายใน ติดตามกำกับดูแล
ให้มีการจัดวางระบบการควบคุมภายในและประเมินการควบคุมด้วยตนเองให้เป็นไปตามที่กำหนด
ในปี 2563 กฟน. ส่ งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมด้านการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน โดย
รณรงค์ ส่งเสริม และสร้างความรู้ ความเข้าใจ ผ่านการอบรม ประชุม/สัมมนา ในเรื่องของการจัดวางระบบ
การควบคุมภายใน เพื่อป้องกันโอกาสเกิดการทุจริต และครอบคลุมการปฏิบัติงานตามแนวปกติใหม่ ( New
Normal)
ผลการประเมินระบบการควบคุมภายในของ กฟน. ในปี 2563 สรุปได้ว่า ระบบการควบคุมภายในมี
ความเพี ย งพอ เหมาะสม และบรรลุ ว ั ต ถุ ป ระสงค์ ข องการควบคุ ม ภายใน เป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์
กระทรวงการคลั ง ว่ า ด้ ว ยมาตรฐานและหลั ก เกณฑ์ ป ฏิ บ ั ต ิ ก ารควบคุ ม ภายในสำหรั บ หน่ ว ยงานของรัฐ
พ.ศ. 2561 ครอบคลุมทั้ง 5 องค์ป ระกอบ ได้แก่ สภาพแวดล้อมการควบคุ ม (Control Environment)
การประเมิน ความเสี่ย ง (Risk Assessment) กิจกรรมการควบคุม (Control Activities) สารสนเทศและ
การสื่อสาร (Information & Communication) และการติดตามประเมินผล (Monitoring) สำหรับความเสี่ยง
ในระดับองค์กร กฟน. ได้จัดทำแผนบริหารความเสี่ยง รวมทั้งติดตามและรายงานผลตามระยะเวลาที่กำหนด
81
การตรวจสอบภายใน
ฝ่ายตรวจสอบภายในกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบไว้ตามกฎบัตรของฝ่ายตรวจสอบภายใน
ซึ่งสอดคล้องกับคู่มือการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจของกระทรวงการคลัง และมาตรฐานสากล
การปฏิบัติงานวิชาชีพตรวจสอบภายใน (The Internal Standards for Professional Practice of Internal
Auditing) หลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง ว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติก ารตรวจสอบภายในสำหรับ
หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2561 กฎบัตรดังกล่าวได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการตรวจสอบ และได้รับความ
เห็นชอบจากคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง โดยมีภารกิจในการให้ความเชื่อมั่น (Assurance Services)
และให้คำแนะนำปรึกษา (Consulting Services) อย่างเป็นอิสระและเที่ยงธรรม มีความรับผิดชอบในการ
ประเมินความเพียงพอและประสิทธิผลของระบบการควบคุมภายใน ระบบการบริหารความเสี่ยง การกำกับ
ดูแลกิจการที่ดีและการให้คำปรึกษาแก่ผู้บริหารและหน่วยงาน โดยใช้วิธีการอย่างเป็นระบบและมีแบบแผน
เพื่อเพิ่มมูลค่าและปรับปรุงการดำเนินงานขององค์กร
การปฏิบัติงานตรวจสอบ ฝ่ายตรวจสอบภายในจัดทำแผนการตรวจสอบเชิงกลยุทธ์ที่สอดรับกับ
แผนยุ ท ธศาสตร์ แ ละเป้ า หมายขององค์ ก ร มี ก ารนำความเห็ น ของสำนั ก งานการตรวจเงิ น แผ่ น ดิ น
คณะกรรมการตรวจสอบ ผู้บริหารระดับสูง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ ตลอดจน
การวิ เ คราะห์ ข ้ อ มู ล ที ่ ส ำคั ญ และรายการความเสี ่ ย งขององค์ ก รมาประกอบการพิ จ ารณาจั ด ทำแผน
การตรวจสอบประจำปี โดยการประเมิน ความเสี่ย งเป็นรายกระบวนงาน (Risk-Based Audit) นำเสนอ
คณะกรรมการตรวจสอบอนุม ั ติ รายงานผลการตรวจสอบต่ อ หน่ ว ยรับ ตรวจและผู้ บริห ารร ะดั บสู ง ให้
ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงการควบคุมภายใน พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของฝ่าย
ตรวจสอบภายในและรายงานผลการติดตามต่อคณะกรรมการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
การรักษาคุณภาพงานตรวจสอบ กำหนดให้มีการสอบทานงานทุกขั้นตอนการปฏิบัติงานโดยผู้ควบคุม
งาน มีการประเมินคุณภาพงานตรวจสอบภายในระหว่างทีมตรวจสอบ มีการประเมินตนเองของพนักงานและ
ผู้บริหารของฝ่ายตรวจสอบภายใน รวมทั้งการประเมินผลการปฏิบัติงานของฝ่ายตรวจสอบภายใน โดยหน่วย
รับตรวจ ผู้บริหารระดับสูง คณะกรรมการตรวจสอบ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้มั่นใจว่าการ
ปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
ฝ่ายตรวจสอบภายในมีการพัฒนางานตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 ได้เน้นการตรวจสอบ
การดำเนิ น งานครอบคลุ ม ฐานข้ อ มู ล ของระบบงาน นำการวิ เ คราะห์ ข ้ อ มู ล (Data Analytic) มาใช้ ใ น
การวางแผนและตรวจสอบ ทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของข้อมูล กำหนดแนวทางและวิธีปฏิบัตงิ าน
สอบทานผลการดำเนินงานตามระบบประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ (SE-AM) เพิ่มสัดส่วนการให้
คำปรึกษาโดยการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่ว มกับหน่วยงานอื่น เพื่อพัฒ นา
การควบคุมภายใน ตลอดจนพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในงานตรวจสอบ
รวมทั้งสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ตรวจสอบภายในเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
นอกจากนี้ มีการปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงานตรวจสอบระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เช่น การประชุมรูปแบบอิเล็ กทรอนิกส์ร่วมกับคณะกรรมการ
ตรวจสอบ การทบทวนแผนการปฏิบัติงาน การรายงานผล และการติดตามงานตามแผนความต่อเนื่อง ในการ
ปฏิบัติงาน และมีแผนการพัฒนารูปแบบ/วิธีการตรวจสอบให้เป็นไปในแนวทาง Continuous Auditing เพื่อ
ช่วยให้ผู้ตรวจสอบและผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในระบบงานได้อย่างรวดเร็ว
ทันเวลา
82
ค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของ กฟน. สำหรับปีบัญชี 2563 มีค่าสอบบัญชี
2.10 ล้านบาท
83
รายงานของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง
และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ได้ให้ความสำคัญต่อการบริหารการเปลี่ยนแปลง โดยกำกับดูแลให้
องค์กรมีการจัดการที่ดี มีระบบการบริหารความเสี่ยง การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และการปฏิบัติตาม
กฎ ระเบียบ เพื่อทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ สร้างความต่อเนื่องในการดำเนินงาน และมีการปฏิบัติให้
เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมุ่งเน้นให้มีการดำเนินงานที่รับผิดชอบต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร จึงได้พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงและ
การกำกับดูแลกิจการที่ดี เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ต่อมาได้ทบทวนและเปลี่ยนชื่อเป็น คณะอนุกรรมการ
กำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ โดยเพิ่มอำนาจหน้าที่ด้าน Compliance
เพื่อบูรณาการระหว่างงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ รวมถึง
งานด้านการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ การควบคุมภายใน ตามกรอบที่คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงกำหนด
และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
คณะอนุ กรรมการกำกั บดู แลกิ จการที ่ ด ี การบริ หารความเสี ่ ยง และการปฏิ บ ั ต ิ ตามกฎ ระเบี ยบ
ประกอบด้วย กรรมการที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ตลอดจนมี ความเข้าใจในเรื่องการกำกับ
ดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ การควบคุมภายใน และการปฏิบัติ
ตามกฎ ระเบียบ จำนวน 5 ท่าน ดังนี้
1. นางมยุรศิริ พงษ์ธรานนท์ ประธานอนุกรรมการ
2. นายมนตรี บุญพาณิชย์ อนุกรรมการ
3. พลตรี ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ อนุกรรมการ
4. รองผู้ว่าการกิจการองค์กรและสังคม อนุกรรมการ
5. ศาสตราจารย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ คณะทำงานสนับสนุนการดำเนินงานในคณะอนุกรรมการ
โดยมี ผ ู ้ ช ่ ว ยผู ้ ว ่ า การ สายงานรองผู ้ ว ่ า การกิ จการองค์ ก รและสั ง คม ทำหน้ า ที ่ เ ลขานุ ก าร และ
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงองค์กร ทำหน้าที่ผู้ช่วยเลขานุการ ในปี 2563 คณะอนุกรรมการกำกับ
ดูแลกิจ การที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ กำหนดให้มีการประชุม จำนวน 11
ครั้ง โดยได้เชิญฝ่ายบริห ารและหน่ว ยงานที่เ กี่ ยวข้ อ งเข้าร่ว มประชุ มด้ว ยตามความเหมาะสม สรุป ผล
การดำเนินงานที่สำคัญได้ ดังนี้
1. ทบทวนกฎบัตรของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติ
ตามกฎ ระเบี ย บ เพื่อสนับสนุนการปฏิบ ัติงานของคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงในการกำหนดนโยบาย
แนวทางการส่งเสริม และเสนอแนะให้ อ งค์ ก ร มีการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง
การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ การควบคุมภายใน และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทาง
การปฏิบัติที่ดี กำหนดกฎบัตรการให้บริการของการไฟฟ้ านครหลวง และมาตรฐานการให้บริการลูกค้า เพื่อ
แสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการให้บริการที่เป็นเลิศพร้อมพัฒนาบุคลากรและระบบงานอย่างต่อเนื่องเพื่อ
อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการด้านพลังไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
2. กำหนดนโยบายการกำกั บดู แลกิ จการที ่ ดี การบริ หารความเสี ่ ยง และการปฏิ บ ั ต ิ ตามกฎ ระเบี ยบ
(Governance, Risk and Compliance: GRC) รวมถึงนโยบายอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นโยบายการกำกับดูแล
84
กำหนดมาตรการในการนำอุปกรณ์เข้ามาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายขององค์กร เพื่อให้เป็นมาตรฐานและเป็น
การเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่บ้านของพนักงาน รวมทั้งรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเทคโนโลยี
สารสนเทศขององค์กร นอกจากนี้ ควรจัดทำแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมความพร้อมและสามารถตอบสนอง
มาตรการของศูน ย์บ ริห ารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
3) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงินจากนโยบายช่วยเหลือภาระค่าไฟฟ้า การคืนเงินค่า
ประกันการใช้ไฟฟ้า และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยให้นำเสนอข้อมูลค่าคาดการณ์ฐานะทางการเงิน และการ
ดำเนินงานของการไฟฟ้านครหลวง รวมทั้งวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและ/หรือลดลงจากการปฏิบัติงานที่บ้าน
เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับ Business Model ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาด
4) ความเสี่ยงด้านกฎ ระเบียบ โดยให้เตรียมพร้อมเพื่อรองรับกฎหมายหรือพระราชบัญญัติ
ใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และพระราชบัญญัติคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร รวมทั้งมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและ
อาญา
4.3 ด้านการควบคุมภายใน
ติดตามและพิจารณาผลการจัดวาง/ทบทวนระบบการควบคุมภายใน รวมทั้งรายงานการ
ควบคุม ภายในประจำปี ข องการไฟฟ้ า นครหลวงให้ มีค วามเพี ย งพอ มี ป ระสิ ท ธิ ผ ล เพื่ อ ให้ อ งค์ กรบรรลุ
วัตถุประสงค์ด้านการปฏิบัติการ การรายงาน และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุม
ภายในตามหลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง ว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการควบคุมภายในสำหรับ
หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2561
4.4 ด้านการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ
ติดตามผลการดำเนินงานปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ
5. กำกับให้มีการสร้างบรรยากาศ และแรงจูงใจให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการบูรณาการ
ระหว่างการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ โดยส่งเสริมและประพฤติ
ตนเป็นต้นแบบที่ดี รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้บริหาร และพนักงานเห็นความสำคัญและมี
ส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยสรุปกิจกรรมที่สำคัญดังนี้
5.1 ร่วมประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานอย่างโปร่งใสของการไฟฟ้านครหลวง ปี 2563 เพื่อ
แสดงถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงานด้วยความสุจริต โปร่งใส เป็นธรรม ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
5.2 ปาฐกถาพิเศษในงาน “Risk Day 2020: Risk X Return” ในหัวข้อ MEA Risks and how
to prepare โดย พลโท ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ (อดีตประธานคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแล
กิจการที่ดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการการไฟฟ้านครหลวง) เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับความเสี่ยงและ
ผลตอบแทน ซึ่งสอดคล้องกับ ค่านิย มขององค์กร ได้แก่ Agility ปรับเปลี่ยนทันการณ์ และ New Ideas
สรรสร้างสิ่งใหม่
5.3 ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2563 ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ
จังหวัดสมุทรปราการ
86
(นางมยุรศิริ พงษ์ธรานนท์)
ประธานอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง
และการปฏิบัตติ ามกฎ ระเบียบ
87
การกำกับดูแลกิจการที่ดี
คณะกรรมการการไฟฟ้ า นครหลวง ตระหนั ก ถึ ง ความสำคั ญ ของการกำกั บ ดู แ ลให้ กฟน. มี
การบริหารงานด้วยหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักการและแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีในรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. 2562 เพื่ อ เป็ น พลั งขั บ เคลื่ อ นไปสู่ ค วามสำเร็ จ ตามเป้ าหมายขององค์ ก ร กฟน. จึ งได้ ป รั บ ปรุ ง และ
พัฒนาการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ของ กฟน. ไปสู่สากล โดยมีโครงสร้างองค์กรเพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี กำหนดค่านิยมองค์กร “CHANGE”
(G: Governance) มีนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการกำกับดูแลและการนำองค์กร จัดทำคู่มือการกำกับดูแลกิจการ
ที่ดี จริยธรรมและจรรยาบรรณการไฟฟ้านครหลวง รวมทั้งแผนการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ระยะยาวและประจำปี ตลอดจนส่งเสริมให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานปฏิบัติงานอย่างมีจริยธรรม
จรรยาบรรณ ให้ความสำคัญกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและ
ความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อันนำไปสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
โครงสร้างองค์กรเพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดีของการไฟฟ้านครหลวง
กฟน. กำหนดโครงสร้างองค์กรเพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี ประกอบด้วย คณะกรรมการการไฟฟ้า
นครหลวง มีห น้าที่ในการกำกับ ดูแลการดำเนินงานขององค์กรให้ เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ นโยบาย
วัตถุประสงค์ และเป้าหมายขององค์กร โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยหรือ คณะอนุกรรมการ เพื่อช่วย
พิ จารณาประเด็ น เฉพาะเรื่ อง กลั่ น กรองข้ อมูล และเสนอแนะแนวทางที่ เป็ นประโยชน์ มีค ณะกรรมการ
ตรวจสอบ ทำหน้า ที่ส อบทานให้ กฟน. มีร ะบบการควบคุม ภายในที ่เ หมาะสม มี การดำเนิ นงานตาม
หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีฝ่ายจัดการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ ภารกิจ ค่านิยม และผลักดันการกำกับ
ดูแลกิจการที่ดีของ กฟน. ให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิผล
88
นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี
กฟน. กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจ การที่ดีพร้อมแนวปฏิบัติ เพื่อเป็นแนวทางในการนำองค์กร
ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ ภารกิจ และค่านิยมขององค์กร โดยเผยแพร่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรับทราบผ่านทาง
เว็บไซต์ของ กฟน. ดังนี้
“คณะกรรมการการไฟฟ้ านครหลวง มี เจตนารมณ์ ที่ จะส่ งเสริ มให้ กฟน. มี การบริ ห ารจั ด การที่ ดี
มี ก ารดำเนิ น งานอย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ และเติ บ โตอย่ า งยั่ ง ยื น โดยให้ ค วามสำคั ญ กั บ หลั ก การและ
แนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562 และแนวปฏิบัติทั้ง 9 หมวด ประกอบด้วย บทบาท
ของภาครัฐ สิทธิและความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ บทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ความยั่งยืน
และนวัตกรรม การเปิดเผยข้อมูล การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน จริยธรรมและจรรยาบรรณ
และการติดตามผลการดำเนินงาน”
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีประสิทธิภาพและ
ประสิ ท ธิ ผ ล กฟน. จึ ง ได้ ก ำหนดนโยบายการกำกั บ ดู แ ลที่ ดี แ ละการนำองค์ ก ร และนโยบายอื่ น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง เช่น นโยบายการรายงานผลการปฏิบัติงานตามนโยบายและแนวทางการกำกับดูแลที่ดี นโยบาย
การแข่งขันทางการตลาดที่ เป็ นธรรม นโยบายคุณ ธรรมและความโปร่งใส นโยบายการรับและให้ ของขวัญ
นโยบายการป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน นโยบายการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด เป็นต้น
รายงานการปฏิบัติตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ในปี 2563 กฟน. ได้ดำเนิน งานตามหลักการและแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี ในรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ประกอบด้วย 9 หมวด โดยมี
ผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. บทบาทของภาครัฐ
กฟน. ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีการแยกบทบาทหน้าที่ในการเป็นเจ้าของ (Owner) กำหนด
นโยบาย (Policy Maker) การกำกับ ดูแ ล (Regulator) และการดำเนิน การ (Operator) เพื ่อ ป้อ งกัน
การขัดแย้งของผลประโยชน์ ป้องกันการแทรกแซงการบริหารงานประจำของ กฟน. รวมทั้งป้องกันไม่ให้เกิด
การแข่งขันที่ ไม่เป็ นธรรม และการแทรกแซงกลไกตลาด โดย กฟน. ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ ให้ สอดคล้ องกั บ
นโยบายภาครั ฐ รวมทั้ งรายงานผลการดำเนิ น งานด้ านการเงิ น และไม่ ใช่ การเงิ น รายงานการปฏิ บั ติ ตาม
แนวทางการกำกับดูแลที่ดีตามมาตรฐานสากล และรายงานการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับ
กิจการ โดยเปิดเผยข้อมูล ที่มีสาระสำคัญอย่างโปร่งใส เหมาะสมกับการใช้งาน ถูกต้อง เชื่อถือได้ ทันเวลา ผ่าน
รายงานประจำปี และเว็บไซต์ ของ กฟน. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ หน่วยงานกำกับดูแล ทั้งนี้ คณะกรรมการ
คณะอนุ กรรมการ และคณะผู้ บริ หารระดั บสู ง มี การติ ดตามและประเมิ นผลการดำเนิ นงานอย่ างสม่ ำเสมอ
ตลอดจนกำหนดให้รายงานมีรายละเอียดครบถ้วน มีคุณภาพ มีการระบุสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงหรือแสดงผล
การดำเนินงานเปรียบเทียบกับเป้าหมาย ปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินงาน รวมทั้งมีการมอบข้อสังเกตและ
ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขหรือปรับปรุงเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2. สิทธิและความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้น
กฟน. คำนึ งถึ งประโยชน์ สู งสุ ด ของผู้ ถื อ หุ้ น คื อ กระทรวงการคลั ง ซึ่ งมี ผู้ แ ทนทำหน้ าที่ เป็ น
คณะกรรมการในการกำกับดูแลให้ กฟน. ดำเนินงานบรรลุตามภารกิจ วัตถุประสงค์ นโยบายของภาครัฐ และมี
89
แนวปฏิบัติ
(1) เปิดเผยรายการเกี่ยวโยง เมื่อรับตำแหน่งใหม่หรือมีรายการเกี่ยวโยง รวมถึงการทบทวน
การเปิดเผยข้อมูลรายการเกี่ยวโยงระหว่างปี
(2) กรณีที่มีรายการเกี่ยวโยง ให้มีการบริหารจัดการ โดยต้องขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะกรรมการ
ซึ่งคณะกรรมการจะต้องพิจารณาด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง อย่างโปร่งใส เป็นธรรม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เช่น การงดออกเสียง เป็นต้น
(3) กรณี ที่ มีการทำรายการระหว่างกัน ระหว่าง กฟน. กับบริษัทในเครือ หรือระหว่าง กฟน.
กับบุคคลที่เกี่ยวโยง โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ กฟน. เป็นสำคัญ และเสมือนหนึ่งเป็นรายการที่กระทำกับ
บุคคลภายนอก
(4) เปิ ด เผยข้ อ มู ล รายการเกี่ ย วโยง ตามที่ กฟน. กำหนดไว้ อ ย่ างเคร่ งครั ด และเปิ ด เผย
ผลการจัดการรายการเกี่ยวโยงไว้ในรายงานประจำปีการไฟฟ้านครหลวง ให้ความสำคัญกับหลักการกำกับดูแล
กิจการที่ดี โดยมีการกำกับดูแลข้อมูล เพื่ อให้การได้มาและการนำข้อมูลไปใช้ ถูกต้อง ครบถ้วน เป็ นปัจจุบั น
มั่นคงปลอดภัย รักษาความเป็นส่วนบุคคล และสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งป้องกันการใช้
ข้อมูลในการแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ เกิดความยุติธรรมและเสมอภาคต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
3) นโยบายการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
“กฟน. ให้ ค วามสำคั ญ กั บ หลั ก การกำกั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี มี ก ารบริ ห ารงานอย่ า งโปร่ง ใส
เป็น ธรรม ตรวจสอบได้ และเพื่อ เป็น การป้อ งกัน ความขัด แย้ง ทางผลประโยชน์ บุค คลที่เกี่ย วข้อ ง ต้อ ง
หลีกเลี่ย งและไม่เข้าไปมีส่ว นร่ว มทั้งทางตรงและทางอ้อมในการกระทำที่อ าจก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทาง
ผลประโยชน์ และไม่ใช้ตำแหน่งหน้ าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์ให้ แก่ตนเอง ญาติ หรือบุคคลในครอบครัว
รวมทั้งต้องเปิดเผยและบริหารจัดการหากเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์”
แนวปฏิบัติ
(1) ปฏิ บั ติ หน้ าที่ เพื่ อผลประโยชน์ สู งสุ ดขององค์ กร ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ส่ วนตัว รวมทั้ ง
สอดส่องดูแลและจัดการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น
(2) ไม่ประกอบธุรกิจที่เป็นการแข่งขันกับ กฟน. ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
(3) ไม่ ใช้ หรื อยอมให้ ผู้ อื่ นใช้ ตำแหน่ งหน้ าที่ ของตนทั้ งในทางตรงหรื อทางอ้ อม เพื่ อแสวงหา
ประโยชน์จาก กฟน.
(4) หลีกเลี่ยงการกระทำการใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และไม่เข้าไป
มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในการตัดสินใจกระทำการเกี่ยวกับกิจกรรมที่ตนเองมีผลประโยชน์อยู่ด้วย
โดยให้จัดทำรายงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชา รวมทั้งต้องมีการรายงานเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ กฟน. ได้มีการกำหนดระเบียบการไฟฟ้านครหลวง ว่าด้วย ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
คู่มือปฏิบัติเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยครอบคลุมลักษณะงานที่มีความเสี่ยงต่อความขัดแย้งทาง
ผลประโยชน์ และมีการรายงานความขัดแย้งทางผลประโยชน์ผ่านระบบอิเล็ก ทรอนิก ส์ เป็น ประจำทุก ปี
ครอบคลุมตั้งแต่คณะกรรมการ ผู้ว่าการ ผู้บริหาร และพนักงานโดยดำเนินการตามระยะเวลาและแนวทางที่
กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
3. คณะกรรมการ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง มี หน้าที่ ในการกำกับดูแลการดำเนิ นงานของ กฟน. ให้ เป็ น
ไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ นโยบาย วัตถุประสงค์ และเป้าหมายขององค์กร คำนึงถึงผลประโยชนสูงสุดของ
กฟน. และผู้ มีส่ วนไดสวนเสี ยทุกฝ่ าย โดยมีโครงสร้างที่มีองค์ประกอบและคุณ สมบัติตามพระราชบัญ ญั ติ
91
2) ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน
กฟน. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตการไฟฟ้านครหลวง (ศปท.กฟน.) เพื่อรับเรื่อง
ร้องเรียนการทุจริต การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบของพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งจะ
เป็นกลไกสำคัญในการลดปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทั้งเป็นเครื่องมือของการป้องปรามยับยั้ง
ไม่ ให้ ก ระทำผิ ด ผ่ า นช่ อ งทางอิ น เทอร์ เน็ ต /อิ น ทราเน็ ต ผ่ าน MEA Whistle Blowing System (https://
anticorruption.mea.or.th) ช่ อ งทางคณะกรรมการการไฟฟ้ านครหลวง /ผู้ ว่าการ ร้อ งเรีย นด้ ว ยตนเอง
(Walk in) ผ่ าน ศปท.กฟน./ศู น ย์ ดำรงธรรม การไฟฟ้ านครหลวง และช่อ งทางสายด่ ว นของรัฐ บาล โดย
กระบวนการจัดการข้อร้องเรียนของ ศปท.กฟน. จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด ภายในกรอบเวลาที่กำหนดตาม
คู่มือศูน ย์ ป ฏิบั ติการต่อต้านการทุจริ ต การไฟฟ้านครหลวง และปกปิดชื่อผู้ ร้องเรียนและผู้ถูกกล่ าวหาเป็ น
ความลับ
9. การติดตามผลการดำเนินงาน
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง มีการกำกับและติดตามผลการดำเนินงานของตัวชี้วัดสำคัญ
และพิจารณารายงานการเงิน และมิใช่การเงินในประเด็นสำคัญ ได้แก่ สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ผลการ
ดำเนิ น งานเปรี ย บเที ยบกับ เป้ าหมาย ปั ญ หา/อุปสรรค รวมทั้งแนวทางแก้ไข/ปรับปรุงผลการดำเนินงาน
ตลอดจนพิ จ ารณาให้ ค วามเห็ น ชอบแนวทางการปรั บ ปรุ ง องค์ ก รตามประเด็ น ปั ญ หาและ และนำผล
การประเมินไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของ กฟน.
ผลการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี ปี 2563
กฟน. ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารงานด้วยหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยได้จัดให้มี
แผนการกำกับ ดูแลกิจ การที่ ดี ตั้งแต่ปี 2550 ต่อมาเพื่ อให้ ส อดคล้ องกับเป้าหมายการพั ฒ นาที่ ยั่งยืนของ
องค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) จึงปรับเป็นแผนแม่บทและแผนปฏิบัติ
เสริมสร้างความยั่งยืน ปี 2560-2564 ครอบคลุม 3 มิติ ESG (Environmental, Social and Governance)
สำหรับนำมาเป็นแนวทางการปฏิบัติงานและติดตามความสำเร็จของการดำเนินงาน ต่อมาได้มีการทบทวน
ปรับปรุงเป็นแผนแม่บทและแผนปฏิบัติเสริมสร้างความยั่งยืน ปี 2563–2565 และแผนปฏิบัติเสริมสร้างความ
ยั่งยืน ประจำปี 2563 เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาดำเนินงานของแผนยุทธศาสตร์การไฟฟ้านครหลวง โดย
การดำเนิ นงานด้านการกำกับดูแลกิจ การที่ดี ประกอบด้วย 3 โครงการ ซึ่งมี ผลการดำเนินงานเป็นไปตาม
เป้าหมาย สรุปได้ดังนี้
ปี 2563
โครงการ ผลการดำเนินงาน ตัวชี้วัด
เป้าหมาย ผลลัพธ์
1. โครงการองค์กร - มีการจัดทำองค์ความรู้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องคุณธรรม คะแนนการ ≥ 90 75.44
โปร่งใสมี จริยธรรม และความโปร่งใสในการดำเนินงานขององค์กร ประเมิน ITA
คุณธรรมตาม - ปรับรูปแบบ วิธีการ และช่องทางการสื่อสารให้แก่พนักงานภายใน
แนวทาง ITA องค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกให้สอดรับกับการทำงาน
(Integrity and แบบ New Normal ภายใต้สถานการณ์ COVID-19
Transparency - ดำเนินการประเมินพนักงานภายใน (IIT) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (EIT)
Assessment) และจัดทำข้ อมูลเปิดเผยหน้ าเว็บไซต์ (OIT) ตามกรอบแนวทาง
ของ สำนักงาน ป.ป.ช.
99
ปี 2563
โครงการ ผลการดำเนินงาน ตัวชี้วัด
เป้าหมาย ผลลัพธ์
2. โครงการส่งเสริม - มีการจัดทำข้อมูลสื่อสารจรรยาบรรณพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ร้อยละผล ≥ 80 96.3
องค์กรคุณธรรม โดยได้นำเรื่องที่พนักงานมีผลการรับรู้น้อยจากผลการประเมิน ประเมินด้าน
จรรยาบรรณ ปี 2562 ได้แก่ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ จริยธรรมและ
มากำหนดเป็ น เนื้ อ หาในการสื่ อ สารให้ ค วามรู้ แ ก่ พ นั ก งาน จรรยาบรรณ
เพื่ อ เสริ ม สร้ า งและปรั บ เปลี่ ย นพฤติ ก รรมให้ ส อดคล้ อ งกั บ
จรรยาบรรณการไฟฟ้านครหลวง
รายงานการปฏิ บัต ิต ามกฎ ระเบียบ และข้อบั งคั บที่ เกี่ย วข้ องกั บกิ จการ
ของการไฟฟ้านครหลวง ประจำปี 2563
กฟน. เป็นรัฐวิสาหกิจประเภทสาธารณูปโภค สาขาพลังงาน สังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับใบอนุญาต
การประกอบกิจการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตามพระราชบัญญัติการประกอบ
กิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ได้แก่ ใบอนุญาตระบบจำหน่ายไฟฟ้า และใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า โดย กกพ.
กระทรวงพลังงาน กำกับดูแลด้านนโยบายพลังงานและอัตราค่าบริการ กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลด้านการ
บริหารงานภาพรวม และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง กำกับดูแลด้าน
นโยบายการดำเนินงานในฐานะรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง กฟน. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ ข้อ กำหนด และ
มาตรฐานที่สำคัญ รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ
การไฟฟ้านครหลวง มีกฎหมายที่สำคัญในการดำเนินงาน ได้แก่
1. ข้อบังคับ
1.1 ด้านผลิตภัณฑ์
- พระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2530 และแก้ไข
เพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550
- มาตรฐานคุณภาพบริ การของการไฟฟ้า นครหลวง (กำหนดโดยคณะกรรมการบริ ห าร
นโยบายพลังงาน)
- พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551
- พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558
- พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
1.2 ด้านการเงิน
- หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกีย่ วกับงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2555
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2548
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและหน่วยตรวจสอบภายในของ
รัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2555
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
1.3 ด้านสิ่งแวดล้อม
- ISO 26000 มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม
1.4 ด้านบริหาร
- พระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562
2. อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- พระราชบัญญัติความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
3. การรับรองหรือการขึ้นทะเบียน
- ISO 9001:2015 (มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ)
- ISO/IEC 27001: 2013 (มาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูล)
- ISO/IEC 17025:2005 (มาตรฐานความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบ)
- ISO 22301 (มาตรฐานการบริหารจัดการความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ)
4. มาตรฐานอุตสาหกรรม
- มอก.18001-2554 (มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย)
101
102
ประธานกรรมการ ประธานกรรมการ ประธานอนุกรรมการ ประธานอนุกรรมการ
คณะอนุกรรมการ
บริหารผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและความรับผิดชอบ
ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์
ประธานอนุกรรมการ
103
องค์ประกอบและความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ประกอบด้วย ประธาน 1 คน และกรรมการ รวมทั้งคณะไม่เกิน
15 คน โดยมีผู้ว่าการเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
ในปี 2563 คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมีจำนวนรวม 14 คน โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ดำรง
ตำแหน่งประธานกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ตามมติคณะรัฐมนตรี โดย
ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และในจำนวนนี้เป็นกรรมการที่เป็นอิสระ 9 คน คิดเป็น
ร้อยละ 81.82 ของจำนวนกรรมการอื่น ประกอบด้วย
1) พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์
2) นางมยุรศิริ พงษ์ธรานนท์
3) นายนิวัติ ลมุนพันธ์
4) ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
5) นายเดชบุญ มาประเสริฐ
6) นายสราวุธ เบญจกุล
7) นายมนัส แจ่มเวหา
8) ศาสตราจารย์บุญเสริม กิจศิริกุล
9) นายมนตรี บุญพาณิชย์
ทั้งนี้ คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงทุกคน มีการเปิดเผยความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ข อง
กรรมการเป็นประจำทุกปีในกรณีต่าง ๆ ได้แก่ กรณีประจำปี กรณีรับตำแหน่งใหม่ และกรณีมีความขัดแย้งทาง
ผลประโยชน์เกิดขึ้นระหว่างปี เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่ างมีอิสระของ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
หน้าที่ความรับผิดชอบ
ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับหลักการกำกั บ
ดูแลกิจการที่ดี ได้แบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างคณะกรรมการกับฝ่ายบริหารอย่างชัดเจน โดย
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายของ กฟน. ควบคุมดูแลกิจการของ กฟน.
กำกับดูแลให้ฝ่ายบริห ารดำเนิน งานให้เป็นไปตามนโยบายและข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ ติดตามดูแลการ
ปฏิบัติงานที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องผลการดำเนินงานและการประเมินผลงานของผู้ว่าการ ระบบบัญชี
รายงานทางการเงิน ระบบการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแล
กิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ผ่านระบบการรายงานทั้งรา ยเดือน ราย
ไตรมาส และรายปี
การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ คณะทำงานอื่นที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย/คณะอนุกรรมการ/คณะทำงานอื่น
รับผิดชอบในการกำกับดูแลและกลั่นกรองงานที่มีความสำคัญหรืองานที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
จำนวน 9 คณะ ดังนี้
1. คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee)
1) นายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานกรรมการ
104
5. ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมอบหมาย
4. คณะอนุกรรมการกลั่นกรองหลักเกณฑ์และผลตอบแทนผู้ว่าการ และนักบริหารระดับ 11-13
1) นายมนตรี บุญพาณิชย์ ประธานอนุกรรมการ
2) พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ อนุกรรมการ
3) ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อนุกรรมการ
4) รองผู้ว่าการแผนและพัฒนาองค์กร เลขานุการ
5) ผู้ช่วยผู้ว่าการ ผู้ช่วยเลขานุการ
สายงานรองผู้ว่าการแผนและพัฒนาองค์กร
หน้าที่และอำนาจ
1. พิจารณากลั่นกรองแผนงานของผู้ว่าการตามเงื่อนไขสัญญาจ้างผู้บริหาร
2. พิจารณากลั่นกรองการกำหนดเกณฑ์ตัวชี้วัด น้ำหนัก และเป้าหมายการประเมินผลที่ชัดเจน
เป็นธรรม และส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร โดยสอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลที่กำหนด
3. หารือร่วมกับผู้ว่าการเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับรายละเอียดวิธีการประเมินผลงานก่อน
การประเมินผู้ว่าการ เพื่อให้การประเมินผลงานมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม
4. ติดตามผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกไตรมาส และพิจารณากลั่นกรองการประเมินผลงานของ
ผู้ว่าการตามเกณฑ์ที่กำหนด
5. พิจารณากลั่นกรองการปรับค่าตอบแทนคงที่ และค่าตอบแทนพิเศษประจำปีของผู้ว่าการจาก
ผลการปฏิบัติงาน
6. รายงานผลการดำเนินการ รวมทั้งปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ และแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการ
ประเมินผลผู้ว่าการให้คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงทราบ
7. พิจารณากลั่นกรองหลักเกณฑ์การแต่งตั้งนักบริหาร ระดับ 11-13
8. พิจารณาในการเข้าร่วมสังเกตการณ์การแต่งตั้งนักบริหารระดับ 13
9. พิจารณากลั่นกรองการเลื่อนเงินเดือนพนักงานชั้นผู้อำนวยการฝ่ายหรือเทียบเท่าขึ้นไป
10. ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมอบหมาย
5. คณะอนุกรรมการพิจารณาแผนวิสาหกิจและการลงทุน
1) ศาสตราจารย์บุญเสริม กิจศิริกุล ประธานอนุกรรมการ
2) พลโท ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ อนุกรรมการ
3) พลตรี ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ อนุกรรมการ
4) ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง อนุกรรมการ
5) รองผู้ว่าการแผนและพัฒนาองค์กร เลขานุการ
6) ผู้อำนวยการฝ่ายแผนกลยุทธ์ ผู้ช่วยเลขานุการ
หน้าที่และอำนาจ
1. พิจารณา กลั่นกรอง และทบทวน นโยบาย ทิศทาง วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์องค์กร แผนวิสาหกิจ
แผนแม่บทการบริหารทรัพยากรมนุษย์และงานด้านบริหารทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร แผนปฏิบัติประจำปี
แผนการลงทุน และงบประมาณประจำปี ภายใต้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
2. พิจารณา ให้ความเห็นชอบ และทบทวน แผนยุทธศาสตร์ด้านลูกค้าและตลาด
108
4. ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมอบหมาย
8. คณะอนุกรรมการการจัดการเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรม
1) พลโท ปรัชญา เฉลิมวัฒน์ ประธานอนุกรรมการ
2) ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อนุกรรมการ
3) ศาสตราจารย์บุญเสริม กิจศิริกุล อนุกรรมการ
4) ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง อนุกรรมการ
5) รองผู้ว่าการเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสาร เลขานุการ
6) นายเปรมศักดิ์ โล่ห์ทอง ผู้ช่วยเลขานุการ
ผู้ชว่ ยผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและบริหารทรัพย์สินเทคโนโลยี
หน้าที่และอำนาจ
1. พิจารณา ทบทวน และเห็นชอบ นโยบายและกรอบการกำกับดูแลการบริหารจัดการเทคโนโลยีดิจิทัล
2. พิจารณา กลั่นกรอง และทบทวน
- แผนปฏิบัติการดิจิทัลและแผนปฏิบัติประจำปี
- นโยบาย คู่มือ และแผนแม่บทการบริหารจัดการนวัตกรรมและแผนปฏิบัติประจำปี
- นโยบาย คู่มือ และแผนแม่บทการจัดการความรู้ และแผนปฏิบัติประจำปี อย่างน้อยปีละ 1
ครั้ง และนำเสนอคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงเพื่อขอความเห็นชอบ
3. พิจารณาเสนอแนะการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้งานภายใน กฟน. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เป็นไปตามหลักการกำกับกิจการที่ดี และถือปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
4. ติดตามและรายงานการดำเนินงานต่อคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงเป็นประจำทุกไตรมาส
5. ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมอบหมาย
9. คณะอนุกรรมการบริหารผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
1) พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ประธานอนุกรรมการ
2) นางมยุรศิริ พงษ์ธรานนท์ อนุกรรมการ
3) นายมนัส แจ่มเวหา อนุกรรมการ
4) รองผู้ว่าการกิจการองค์กรและสังคม อนุกรรมการ
5) ผู้ช่วยผู้ว่าการ เลขานุการ
สายงานรองผู้ว่าการกิจการองค์กรและสังคม
6) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้ช่วยเลขานุการ
หน้าที่และอำนาจ
1. กําหนดและทบทวนนโยบาย คู่มือ แนวทางการส่งเสริมและเสนอแนะให้องค์กรมีการดําเนินงาน
การพัฒนาความยั่งยืนที่มุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามกรอบนโยบายที่
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงกําหนด และตามมาตรฐานสากล
2. พิจารณา ให้ความเห็นชอบการดําเนินงานด้านการบริหารจัด การผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านลูกค้า
และด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล รวมทั้งแผนยุทธศาสตร์ด้านผู้มีส่วนได้
ส่วนเสีย แผนแม่บทและแผนปฏิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
110
2. การศึกษาดูงานในประเทศเกี่ยวกับการจัดการเมืองในรูปแบบเมืองอัจฉริยะ และโครงการเตาเผา
ขยะชุมชนและผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาด 700 ตันต่อวัน ณ จังหวัดภูเก็ต
การประเมินผลคณะกรรมการ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง มีการประเมินผลการดำเนินงานของคณะกรรมการเป็นประจำทุกปี
ทั้งแบบรายคณะ รายบุคคล และ/หรือรายไขว โดยประเมินตนเองปีละ 2 ครั้ง คือ 1) ประเมินรายคณะและรายบุคคล
ในเดือนมิถุนายน 2) ประเมินรายคณะและรายไขว้ ในเดือนธันวาคม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง พิจารณาประเมินผลการปฏิบัติงาน
ทุก 6 เดือน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินที่คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงกำหนด โดยพิจารณา
จากผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาตามตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย และการบริหารจัดการองค์กร ที่ได้เสนอ
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงให้ความเห็นชอบไว้
หลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงาน
ประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 วัดผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัดที่ได้ตกลงกัน โดย
ดัชนีตัวชี้วัดสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของภาครัฐ คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง และแผนยุทธศาสตร์
ของ กฟน. สะท้อนวิสัยทัศน์ และแผนงานสำคัญของผู้ว่าการ และส่วนที่ 2 การวัดสมรรถนะการบริหาร
จัดการ (Managerial Competency) โดยดัชนีตัวชี้วัดสะท้อนบทบาท วิสัยทัศน์ และการมีส่วนร่วมของ
ผู้ว่าการในการชี้นำ กำกับ และบริหารจัดการองค์กร
วิธีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ในแต่ละปีคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงจะพิจารณาเห็นชอบแผนงานของผู้ว่าการประจำปี
ตามเงื่อนไขสัญญาจ้าง พิจารณาการกำหนดหลักเกณฑ์ตัวชี้วัด น้ำหนักและเป้าหมายร่วมกับผู้ว่าการ เพื่อทำ
ความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับรายละเอียดวิธีการประเมินผลงานก่อนการประเมิน โดยมีการติดตามผลการ
ดำเนินงาน รวมถึงประเมินผลงานเพื่อพิจารณาปรับค่าตอบแทนคงที่ และค่าตอบแทนพิเศษประจำปีของ
ผู้ว่าการจากผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์ที่กำหนด
112
การประชุมและค่าตอบแทนของคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
การประชุมคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการและคณะทำงานอื่น
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง กำหนดนโยบายให้ มีการประชุมเป็นประจำทุกเดือน โดยปกติ
ประชุมเดือนละ 1 ครั้ง คือ ทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์ก่อนสุดท้ายของเดือน และอาจมีการประชุมวาระพิเศษ
เพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยปี 2563 คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 13
ครั้ง โดยมีจำนวนกรรมการเข้าร่วมการประชุม ร้อยละ 80 ขึ้นไป จำนวน 12 ครั้ง ซึ่งมีการส่งระเบียบวาระการ
ประชุมและเอกสารประกอบก่อนการประชุมประมาณ 7 วัน เพื่อให้คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ได้มี
เวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนการประชุม ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการ คณะกรรมการ ชุด
ย่อย คณะอนุกรรมการและคณะทำงานอื่น ทุกท่านได้มสี ่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ
ค่าตอบแทนคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง คณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการและคณะทำงานอื่น
คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง คณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการและคณะทำงานอื่นได้รับ
ค่าตอบแทนและเบี้ยประชุม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562 ยกเว้น คณะกรรมการ
ตรวจสอบ (Audit Committee) เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและ
หน่วยตรวจสอบภายในของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2555
1. ค่าตอบแทนและเบี้ยประชุม
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562 และมติคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง
ในคราวประชุมครั้งที่ 708 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าตอบแทนราย
เดื อนและเบี้ ย ประชุ ม คณะกรรมการการไฟฟ้ านครหลวง คณะกรรมการชุด ย่ อย คณะอนุ ก รรมการและ
คณะทำงานอื่น ที่ คณะกรรมการการไฟฟ้ านครหลวงแต่งตั้ง โดยให้ มีผ ลใช้บั งคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ กรรมการเป็นผู้รับภาระภาษีเงินได้เอง สรุปดังนี้
รายการ อัตรา หลักเกณฑ์
1. ค่าตอบแทนรายเดือน (บาท : คน : เดือน) 1. จ่ายให้ตามสัดส่วนระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
1.1 ประธานกรรมการการไฟฟ้านครหลวง 20,000 2. จ่ายให้ประธานกรรมการในอัตรา 2 เท่าของ
1.2 กรรมการการไฟฟ้านครหลวง 10,000 ค่าตอบแทนรายเดือนกรรมการ
2. ค่าเบี้ยประชุมกรรมการ (บาท : คน : ครั้ง) 1. จ่ายให้ประธานในที่ประชุมในอัตราเพิ่มขึ้น
2.1 ประธานกรรมการการไฟฟ้านครหลวง 25,000 ร้อยละ 25 ของเบี้ยประชุมกรรมการ
2.2 กรรมการการไฟฟ้านครหลวง 20,000 2. ให้จ่ายเบี้ยประชุมเป็นรายครั้ง เดือนละ 1
ครั้ง ทั้งนี้ ในกรณีมีเหตุสมควรอาจพิจารณา
จ่ายเบี้ยประชุมได้เกิน 1 ครั้ง/เดือน แต่ต้อง
ไม่เกิน 15 ครั้ง/ปี
3. เบี้ยประชุมคณะกรรมการชุดย่อย 1. ให้จ่ายเบี้ยประชุมให้กับกรรมการและ
คณะอนุกรรมการและคณะทำงานอื่น กรรมการอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรของ
(บาท : คน : ครั้ง) รัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวน
3.1 ประธานกรรมการการไฟฟ้านครหลวง 12,500 เท่ากัน ในอัตรา 0.5 ของเบี้ยประชุม
3.2 กรรมการการไฟฟ้านครหลวง 10,000 กรรมการ
3.3 กรรมการอื่น 10,000
113
คณะอนุกรรมการการจัดการเทคโนโลยีดจิ ิทัลและนวัตกรรม
คณะอนุกรรมการกลั่นกรองหลักเกณฑและผลตอบแทน
การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ
คณะกรรมการสรรหาผูวา การการไฟฟานครหลวง
คณะกรรมการกิจการสัมพันธการไฟฟานครหลวง
คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee)
คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการซื้อและการจาง
และความรับผิดชอบตอสังคมและสิ่งแวดลอม
คณะอนุกรรมการบริหารผูมีสว นไดสวนเสีย
คณะอนุกรรมการพิจารณาแผนวิสาหกิจ
ลําดับ รายชื่อ
คณะอนุกรรมการกํากับดูแลกิจการที่ดี
คณะอนุกรรมการกฎหมาย ขอบังคับ
ผูวาการ และนักบริหารระดับ 11-13
และการพิจารณาอุทธรณ
และการลงทุน
1 พลอากาศเอก ชาญฤทธิ์ พลิกานนท - 12/12 - 6/6 - - - - 1/1 1/1
2 พลโท ปรัชญา เฉลิมวัฒน - - - - 9/9 - - 12/12 - -
3 นางมยุรศิริ พงษธรานนท - - 11/11 - - - 11/12 - 1/1 -
4 นายนิวัติ ลมุนพันธ 13/13 - - - - - - - - -
5 ศาสตราจารยสุชัชวีร สุวรรณสวัสดิ์ - - - 1/6 - - - 1/12 - -
6 นายเดชบุญ มาประเสริฐ 13/13 8/12 - - - - - - - -
(คณะทํางาน)
7 นายสราวุธ เบญจกุล - - - - - 13/13 12/12 - - 1/1
8 นายมนัส แจมเวหา - - - - - 13/13 12/12 - 1/1 -
9 ศาสตราจารยบุญเสริม กิจศิริกุล - - - - 9/9 - - 12/12 - 1/1
10 นายมนตรี บุญพาณิชย - - 11/11 4/4 1/1 8/8 - - - 1/1
11 นายจรัญ วิวัฒนเจษฎาวุฒิ - - - 2/2 - 4/5 - - - -
12 นางสาววิไล ตันตินันทธนา 13/13 - - - - - - - - -
13 พลตรี ชัยพฤกษ ดวงประพัฒน - - 11/11 - 9/9 - - - - -
14 นายกีรพัฒน เจียมเศรษฐ - - - - 8/9 12/13 - 12/12 - -
หมายเหตุ : ลําดับที่ 1-10 ตามมติคณะรัฐมนตรีแตงตั้งเปนกรรมการการไฟฟานครหลวง ตั้งแตวันที่ 5 มิถุนายน 2561 - ปจจุบัน
ลําดับที่ 11 ตามมติคณะรัฐมนตรีแตงตั้งเปนกรรมการการไฟฟานครหลวง ตั้งแตวันที่ 5 มิถุนายน 2561 และลาออกมีผลตั้งแตวันที่
24 เมษายน 2563
ลําดับที่ 12 ตามมติคณะรัฐมนตรีแตงตั้งเปนกรรมการการไฟฟานครหลวง ตั้งแตวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 - ปจจุบัน
ลําดับที่ 13 ตามมติคณะรัฐมนตรีแตงตั้งเปนกรรมการการไฟฟานครหลวง ตั้งแตวันที่ 3 ธันวาคม 2562 - ปจจุบัน
ลําดับที่ 14 ตามมติคณะรัฐมนตรีแตงตั้งเปนผูวาการการไฟฟานครหลวงและเปนกรรมการโดยตําแหนง ตั้งแตวันที่ 19 ตุลาคม 2561 - ปจจุบัน
117
การดำเนินงานในรอบปี 2563
1. การสมั ค รเข้ า ร่ ว มประกวดศู น ย์ ข้ อ มู ล ข่ า วสารของราชการโดดเด่ น ปี 2563 ของสำนั ก
นายกรั ฐมนตรี โดยสำนั กงานคณะกรรมการข้อมู ล ข่าวสารของราชการ ได้รางวัล ศูน ย์ข้อมูล ข่าวสารของ
ราชการโดดเด่น ได้รับ โล่ประกาศเกียรติคุณของนายกรัฐมนตรีในงานสัมมนาทางวิชาการประจำปีข องการ
ประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ประจำปี 2563
2. การดำเนิ น โครงการ “สิ ท ธิในการรับ รู้ข้อ มูล ข่ าวสารของประชาชน” เพื่ อเป็ น การเผยแพร่ให้
ประชาชนทั่วไปทราบถึงสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ โดยลงพื้นที่พบประประชาชนเพื่อให้ความรู้
และแจกเอกสารประกอบการอธิบาย
รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน
120
121
รายงานของผู้สอบบัญชี
121
122
การไฟฟ้านครหลวง
งบแสดงฐานะการเงิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
_______________
หน่วย : บาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน งบการเงิน
ตามวิธีส่วนได้เสีย เฉพาะกิจการ
หมายเหตุ 31 ธันวาคม 2563 31 ธันวาคม 2562 31 ธันวาคม 2563 31 ธันวาคม 2562
สินทรัพย์
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 3.1 6.1 15,794,189,717 15,772,770,613 15,794,189,717 15,772,770,613
เงินลงทุนชั่วคราว 3.2 3,575 3,542 3,575 3,542
ลูกหนี้การค้า 3.3 6.2 15,985,943,649 15,285,487,002 15,985,943,649 15,285,487,002
ลูกหนี้อื่น 6.3 6,329,471,156 5,863,847,736 6,329,471,156 5,863,847,736
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุนที่ถึงกาหนดชาระภายในหนึ่งปี 3.6 6.9 971,125 - 971,125 -
พัสดุคงเหลือ 3.4 6.4 8,083,362,754 9,691,039,730 8,083,362,754 9,691,039,730
งานรับเหมาระหว่างทา 13,568,516 12,514,447 13,568,516 12,514,447
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ 3.5 6.5 15,526,693,295 24,836,071,577 15,526,693,295 24,836,071,577
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 6.6 1,686,387,251 2,052,493,363 1,686,387,251 2,052,493,363
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 63,420,591,038 73,514,228,010 63,420,591,038 73,514,228,010
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
เงินลงทุนในการร่วมค้า 3.7 6.7 798,022,521 844,853,184 501,000,000 501,000,000
เงินฝากธนาคารที่ใช้เป็นหลักประกัน 6.8 3,400,000 3,400,000 3,400,000 3,400,000
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุน 3.6 6.9 38,626,713 - 38,626,713 -
ลูกหนี้ไม่หมุนเวียนอื่น 38,605,768 28,445,209 38,605,768 28,445,209
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 3.8 6.10 106,891,686,334 98,572,302,089 106,891,686,334 98,572,302,089
สินทรัพย์สิทธิการใช้ 3.9 5.2 6.11 485,997,213 - 485,997,213 -
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน 3.10 6.12 690,248,789 925,758,508 690,248,789 925,758,508
งานระหว่างก่อสร้าง 6.13 41,101,529,282 36,377,346,185 41,101,529,282 36,377,346,185
เงินทุนสะสมเพื่อชาระคืนหนี้สิน 3.11 6.14 14,286,209,926 14,576,175,806 14,286,209,926 14,576,175,806
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 1,683,174 - 1,683,174 -
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 164,336,009,720 151,328,280,981 164,038,987,199 150,984,427,797
รวมสินทรัพย์ 227,756,600,758 224,842,508,991 227,459,578,237 224,498,655,807
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
123
การไฟฟ้านครหลวง
งบแสดงฐานะการเงิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
_______________
หน่วย : บาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน งบการเงิน
ตามวิธีส่วนได้เสีย เฉพาะกิจการ
หมายเหตุ 31 ธันวาคม 2563 31 ธันวาคม 2562 31 ธันวาคม 2563 31 ธันวาคม 2562
หนี้สินและส่วนของทุน
หนี้สินหมุนเวียน
เจ้าหนี้การค้า 6.15 26,487,004,472 29,883,754,560 26,487,004,472 29,883,754,560
เจ้าหนี้อื่น 373,982,026 351,295,148 373,982,026 351,295,148
หนี้สินระยะยาวที่ถึงกาหนดชาระภายในหนึ่งปี 3.13 6.18 1,000,000,000 1,072,718,876 1,000,000,000 1,072,718,876
หนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึงกาหนดชาระภายในหนึ่งปี 3.14 5.2 6.19 208,476,045 - 208,476,045 -
เงินค้างนาส่งคลัง 6.16 3,510,628,000 428,000,000 3,510,628,000 428,000,000
เงินรับล่วงหน้าจากลูกค้า 2,109,884,301 2,457,127,676 2,109,884,301 2,457,127,676
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 1,770,140,426 1,614,047,642 1,770,140,426 1,614,047,642
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 3.16 6.17 1,441,052,550 3,839,905,832 1,441,052,550 3,839,905,832
รวมหนี้สินหมุนเวียน 36,901,167,820 39,646,849,734 36,901,167,820 39,646,849,734
หนี้สินไม่หมุนเวียน
หนี้สินระยะยาว 3.13 6.18 51,700,000,000 40,809,835,342 51,700,000,000 40,809,835,342
หนี้สินตามสัญญาเช่า 3.14 5.2 6.19 279,228,519 - 279,228,519 -
หนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน 3.15 6.20 10,516,739,378 9,984,505,324 10,516,739,378 9,984,505,324
ประมาณการหนี้สินระยะยาว 3.16 6.21 8.2 3,459,989,094 4,579,390,849 3,459,989,094 4,579,390,849
เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 6.22 11,392,596,901 17,238,476,549 11,392,596,901 17,238,476,549
รายได้รอการรับรู้ 3.17 6.23 13,093,831,577 13,568,657,852 13,093,831,577 13,568,657,852
หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น 17,804,407 173,335,862 17,804,407 173,335,862
กองทุนเงินบาเหน็จพนักงาน กฟน. 6.24 878,376,275 842,131,469 878,376,275 842,131,469
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 91,338,566,151 87,196,333,247 91,338,566,151 87,196,333,247
รวมหนี้สิน 128,239,733,971 126,843,182,981 128,239,733,971 126,843,182,981
ส่วนของทุน
ทุนรัฐบาล 358,323,532 358,323,532 358,323,532 358,323,532
กาไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 99,158,543,255 97,641,002,478 98,861,520,734 97,297,149,294
รวมส่วนของทุน 99,516,866,787 97,999,326,010 99,219,844,266 97,655,472,826
รวมหนี้สินและส่วนของทุน 227,756,600,758 224,842,508,991 227,459,578,237 224,498,655,807
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย
กาไรสะสม
ทุนรัฐบาล ยังไม่ได้จัดสรร รวม
ยอดคงเหลือ ณ 1 มกราคม 2562 358,323,532 95,742,713,276 96,101,036,808
สารองเงินนาส่งคลังประจาปี 2562 - (2,778,000,000) (2,778,000,000)
ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น - ผลขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย - (721,209,138) (721,209,138)
กาไรสาหรับปี - 5,397,721,956 5,397,721,956
ส่วนแบ่งขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นในการร่วมค้า - (223,616) (223,616)
ยอดคงเหลือ ณ 31 ธันวาคม 2562 358,323,532 97,641,002,478 97,999,326,010
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
126
การไฟฟ้านครหลวง
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของทุน
สาหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563
_______________
หน่วย : บาท
งบการเงินเฉพาะกิจการ
กาไรสะสม
ทุนรัฐบาล ยังไม่ได้จัดสรร รวม
ยอดคงเหลือ ณ 1 มกราคม 2562 358,323,532 95,440,723,635 95,799,047,167
สารองเงินนาส่งคลังประจาปี 2562 - (2,778,000,000) (2,778,000,000)
ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น - ผลขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย - (721,209,138) (721,209,138)
กาไรสาหรับปี - 5,355,634,797 5,355,634,797
ยอดคงเหลือ ณ 31 ธันวาคม 2562 358,323,532 97,297,149,294 97,655,472,826
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
127
การไฟฟ้านครหลวง
งบกระแสเงินสด
สาหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563
_______________
หน่วย : บาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน งบการเงิน
ตามวิธีส่วนได้เสีย เฉพาะกิจการ
2563 2562 2563 2562
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดาเนินงาน :
กาไรสาหรับปี 5,430,397,282 5,397,721,956 5,477,227,945 5,355,634,797
รายการปรับกระทบกาไรสาหรับปีเป็นเงินสดรับ (จ่าย) จากกิจกรรมดาเนินงาน
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจาหน่าย 9,201,489,497 8,817,879,810 9,201,489,497 8,817,879,810
ขาดทุนจากการจาหน่ายสินทรัพย์ 414,744,271 411,215,130 414,744,271 411,215,130
(กาไร) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 12,372,139 (8,463,438) 12,372,139 (8,463,438)
ขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย 61,627,906 13,119,314 61,627,906 13,119,314
สารองพัสดุล้าสมัย 122,049,995 14,047,741 122,049,995 14,047,741
ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 338,665,295 23,119,054 338,665,295 23,119,054
รายได้ตัดบัญชี (1,309,705,082) (1,231,986,211) (1,309,705,082) (1,231,986,211)
ภาระผูกพันผลประโยชน์ของพนักงาน 847,133,822 1,781,074,504 847,133,822 1,781,074,504
ประมาณการหนี้สิน 5,338,766,295 7,084,113,133 5,338,766,295 7,084,113,133
ส่วนแบ่งผลกาไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า (53,369,337) (58,119,159) - -
ดอกเบี้ยรับ (517,966,870) (805,695,194) (517,966,870) (805,695,194)
ดอกเบี้ยจ่าย 1,586,653,563 1,571,955,950 1,586,653,563 1,571,955,950
ค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่กระทบเงินสด 25,875,074 2,031,199 (74,324,926) (14,000,801)
กาไรจากการดาเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ 21,498,733,850 23,012,013,789 21,498,733,850 23,012,013,789
และหนี้สินดาเนินงาน
การเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ดาเนินงาน (เพิ่มขึ้น) ลดลง
ลูกหนี้การค้า (1,254,507,290) 750,213,591 (1,254,507,290) 750,213,591
ลูกหนี้อื่น (75,077,248) (208,276,067) (75,077,248) (208,276,067)
พัสดุคงเหลือ 24,670,725 4,632,619 24,670,725 4,632,619
งานรับเหมาระหว่างทา (1,054,069) 3,805,741 (1,054,069) 3,805,741
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ 9,309,378,282 (2,267,415,572) 9,309,378,282 (2,267,415,572)
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 366,106,112 (233,010,306) 366,106,112 (233,010,306)
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุน 976,294 - 976,294 -
ลูกหนี้ไม่หมุนเวียนอื่น (13,105,519) (658,367) (13,105,519) (658,367)
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น (1,683,174) - (1,683,174) -
การเปลี่ยนแปลงในหนี้สินดาเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง)
เจ้าหนี้การค้า (2,927,168,883) 836,889,778 (2,927,168,883) 836,889,778
เจ้าหนี้อื่น 22,686,878 (75,895,259) 22,686,878 (75,895,259)
เงินรับล่วงหน้าจากลูกค้า (318,924,948) (104,066,395) (318,924,948) (104,066,395)
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 68,452,272 37,331,532 68,452,272 37,331,532
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 8,924,139 9,494,425 8,924,139 9,494,425
หนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน (492,106,142) (476,823,756) (492,106,142) (476,823,756)
ประมาณการหนี้สินระยะยาว (8,974,585,161) (5,086,137,445) (8,974,585,161) (5,086,137,445)
เงินประกันการใช้ไฟฟ้า (5,845,879,649) 808,989,750 (5,845,879,649) 808,989,750
รายได้รอการรับรู้ 615,530,881 748,802,441 615,530,881 748,802,441
หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น (173,335,862) - (173,335,862) -
เงินอุดหนุนรัฐบาลรอการรับรู้ 44,027,928 - 44,027,928 -
กองทุนเงินบาเหน็จพนักงาน กฟน. 36,244,806 24,190,686 36,244,806 24,190,686
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดาเนินงาน 11,918,304,222 17,784,081,185 11,918,304,222 17,784,081,185
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
128
การไฟฟ้านครหลวง
งบกระแสเงินสด
สาหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563
_______________
หน่วย : บาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน งบการเงิน
ตามวิธีส่วนได้เสีย เฉพาะกิจการ
2563 2562 2563 2562
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน :
เงินสดรับจากเงินลงทุน - 299,960 - 299,960
เงินสดจ่ายในสินทรัพย์ถาวร (21,498,235,854) (20,412,487,656) (21,498,235,854) (20,412,487,656)
เงินสดรับจากดอกเบี้ย 571,114,576 791,762,298 571,114,576 791,762,298
เงินสดจ่ายดอกเบี้ย (158,044,711) (67,365,350) (158,044,711) (67,365,350)
เงินปันผลรับ 100,200,000 16,032,000 100,200,000 16,032,000
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน (20,984,965,989) (19,671,758,748) (20,984,965,989) (19,671,758,748)
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน :
เงินทุนสะสมเพื่อชาระคืนหนี้สินลดลง 289,965,880 3,714,636,316 289,965,880 3,714,636,316
เงินสดรับจากเงินกู้ยืมระยะยาว 4,000,000,000 - 4,000,000,000 -
เงินสดรับจากการออกพันธบัตร 12,000,000,000 11,800,000,000 12,000,000,000 11,800,000,000
เงินสดจ่ายคืนเงินกู้ระยะยาว (4,000,000,000) (3,000,000,000) (4,000,000,000) (3,000,000,000)
เงินสดจ่ายไถ่ถอนพันธบัตร (1,000,000,000) (4,000,000,000) (1,000,000,000) (4,000,000,000)
เงินสดจ่ายคืนหนี้สินตามสัญญาเช่า (146,462,082) (53,128,633) (146,462,082) (53,128,633)
เงินสดจ่ายดอกเบี้ย (1,561,422,927) (1,529,068,814) (1,561,422,927) (1,529,068,814)
เงินนาส่งคลัง (494,000,000) (4,574,500,000) (494,000,000) (4,574,500,000)
เงินสดสุทธิได้มาในกิจกรรมจัดหาเงิน 9,088,080,871 2,357,938,869 9,088,080,871 2,357,938,869
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิ 21,419,104 470,261,306 21,419,104 470,261,306
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต้นงวด 15,772,770,613 15,302,509,307 15,772,770,613 15,302,509,307
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด 15,794,189,717 15,772,770,613 15,794,189,717 15,772,770,613
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
129
การไฟฟ้านครหลวง
หมายเหตุประกอบงบการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563
__________________________________
1. ข้อมูลทั่วไป
1.1 ข้อมูลทั่วไปของการไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้จัดตั้งขึ้นเป็นรัฐวิสาหกิจในประเทศไทยด้วยทุนประเดิมจากรัฐบาล ตาม
พระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2501 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ กฟน. จะต้องปฏิบัติตามกฎและ
ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีที่ทำการสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่ อาคารวัฒนวิภาส เลขที่ 1192
ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1.1.1 จัดให้ได้มาและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
1.1.2 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง หรือเป็นประโยชน์แก่ กฟน.
1.2 การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ขยายตัวเป็นวงกว้าง
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และมีผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่
สถานการณ์ดังกล่าวอาจนำมาซึ่งความไม่แน่นอนและผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้
การไฟฟ้านครหลวงได้ดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าตามมติ
คณะรัฐมนตรี ได้แก่ มาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีสำหรับบ้านอยู่อาศัยประเภท 1.1 มาตรการส่วนลดค่าไฟฟ้า มาตรการ
ขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้า 6 เดือน และมาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตามผู้บริหารของ กฟน.
ติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ดังกล่าวและประเมินผลกระทบทางการเงินเกี่ยวกับมูลค่าของสินทรัพย์
ประมาณการหนี้สินและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารได้ใช้ประมาณการและดุลยพินิจในประเด็น
ต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยข้อมูลที่ดีที่สุดที่ผู้บริหารทราบจนถึงวันที่ในรายงานทางการเงิน
ฉบับนี้
2. เกณฑ์ในการจัดทำงบการเงิน
งบการเงินแสดงรายการตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบ
การเงิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ออกตามความในมาตรา 11 วรรคสามแห่ง
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543
งบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ได้รวมรายการบัญชีต่าง ๆ ของกองทุนเงินบำเหน็จพนักงานการ
ไฟฟ้านครหลวงไว้ด้วย
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุ นตามวิธ ีส ่วนได้เสียและงบการเงินเฉพาะกิจการ ได้จัดทำขึ้น ด้ว ยข้ อ
สมมติฐานที่ว่าผู้ใช้งบการเงินมีความเข้าใจหลักการและวิธีปฏิบัติทางบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทย
หลักการบัญชีที่ใช้อาจแตกต่างไปจากหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งใช้ในประเทศอื่น ดังนั้นงบการเงินที่แสดง
เงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียและงบการเงินเฉพาะกิจการที่จัดทำขึ้นจึงมิได้มีจุดประสงค์ ที่จะแสดงฐานะการเงิน
ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสด ให้สอดคล้องกับหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปที่กำหนดไว้ในประเทศอื่น
งบการเงินฉบับภาษาอังกฤษจัดทำขึ้นจากงบการเงินที่เป็นภาษาไทย ในกรณีที่มีเนื้อความขัดแย้งกัน
หรือมีการตีความในสองภาษาแตกต่างกันให้ใช้งบการเงินฉบับภาษาไทยเป็นหลัก
130
3. สรุปนโยบายการบัญชีที่สำคัญ
3.1 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ประกอบด้วยเงินสดในมือ เงินฝากธนาคารประเภทจ่ายคืนเมื่อ
ทวงถาม เงินฝากธนาคารประเภทประจำและเงินลงทุนระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งไม่มีภาระผูกพัน โดยเงินสด
และรายการเทียบเท่าเงินสดถูกจัดประเภทด้วย ราคาทุนตัดจำหน่าย และวัดมูลค่าภายหลังด้วยวิธีอัตรา
ดอกเบี้ยที่แท้จริง
3.2 เงินลงทุนชั่วคราว
กฟน. มีนโยบายนำเงินของการไฟฟ้านครหลวง เงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สิน เงินประกันการใช้
ไฟฟ้า และเงินกองทุนเงินบำเหน็จพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ลงทุนในตราสารทางการเงินระยะสั้นที่ออก
โดยกระทรวงการคลัง สถาบันการเงินของรัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยจัดประเภทเป็น เงินสดและรายการเทียบเท่า
เงินสด เงินลงทุนชั่วคราวและเงินฝากสถาบันการเงินทีม่ ีวัตถุประสงค์เฉพาะ
การจัดประเภทและการวัดมูลค่า
เงิ น ลงทุ น ทั ้ ง หมดของ กฟน. จั ด ประเภทรายการด้ ว ยราคาทุ น ตั ด จำหน่ า ย (Amortized cost)
เนื่องจากมีกระแสเงินสดตามสัญญาเป็นการรับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินต้นคงค้างเท่านั้น และมี
รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์การถือครอง เพื่อรับกระแสเงินสดตามสัญญา โดยวัดมูลค่าเริ่มแรก
ด้วยมูลค่ายุติธรรม บวกต้นทุนในการทำรายการซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มา ซึง่ เงินลงทุนนัน้ และวัดมูลค่า
ภายหลังด้วยราคาทุนตัดจำหน่ายด้วยวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสุทธิจากค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า
จะเกิดขึ้น
การด้อยค่า
เงินลงทุนที่จัดประเภทด้วยราคาทุนตัดจำหน่ายทั้งหมดถูกพิจารณาเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความ
เสี่ยงด้านเครดิตต่ำ เนื่องจากเงินลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาต่ำ และสามารถจ่าย
ชำระกระแสเงินสดตามสัญญาได้ในระยะเวลาอันใกล้ โดยวัดมูลค่าค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะ
เกิดขึ้นด้วยจำนวนเท่ากับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งรับรู้ค่าเผื่อผล
ขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแสดงเป็นรายการสุทธิมูลค่าตามบัญชีของเงินลงทุนในงบแสดงฐานะ
การเงิน และรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีที่เกิดรายการ
3.3 ลูกหนี้การค้า
ลูกหนี้การค้าวัดมูลค่าเริ่มแรกด้วยมูลค่ายุติธรรม และวัดมูลค่าหลังด้วยราคาทุนตัดจำหน่ายตามวิธี
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง กฟน. ใช้หลักการอย่างง่าย (Simplified approach) ด้วยวิธี provision matrix (roll
rate) ในการวัดมูลค่าค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นด้วยจำนวนเท่ากับผลขาดทุนด้านเครดิตที่
คาดว่าจะเกิดขึ้นตลอดอายุของลูกหนี้การค้า ก่อนเงินประกัน (เฉพาะลูกหนี้ค่าไฟฟ้า) โดยอัตราผลขาดทุนที่คาด
ว่าจะเกิดขึ้น (expected loss rate) ถูกคำนวณทุกวันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน ซึ่งได้จากประมาณการจาก
ประสบการณ์ในการเก็บเงินในอดีต สถานะปัจจุบันของลูกหนี้ และปรับปรุงให้สะท้อนถึงการคาดการณ์สภาวะ
ทางเศรษฐกิจในอนาคตที่สนับสนุนและมีความสมเหตุสมผล ซึ่งสามารถหาได้ ณ วันที่รายงาน โดยไม่ต้องใช้
ต้นทุนหรือความพยายามที่มากเกินไป
รายการเพิ่มและลดค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นถือเป็นค่าใช้จ่ายหรือรายได้ในงวด
บัญชีที่เกิดรายการนั้น
131
3.4 พัสดุคงเหลือ
แสดงในราคาทุนถัวเฉลี่ย สำหรับพัสดุที่ไม่เคลื่อนไหวตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป จะตั้งสำรองการเสื่อมสภาพเต็ม
จำนวน ยกเว้นพัสดุ ของคลังอุปกรณ์สถานีย่อยที่ไม่เคลื่อนไหวตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ที่สามารถนำไปใช้งานได้จะไม่
ตั้งสำรองการเสื่อมสภาพ แต่ถ้าไม่สามารถนำไปใช้งานได้จะตั้งสำรองการเสื่อมสภาพเต็มจำนวน
3.5 เงินฝากสถาบันการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ จัดประเภทรายการด้วยราคาทุนตัดจำหน่าย (Amortized
cost) เนื่องจากมีกระแสเงินสดตามสัญญาเป็นการรับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินต้นคงค้างเท่านั้น และมี
รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์การถือครองเพื่อรับ กระแสเงินสดตามสัญญา โดยถูกวัดมูลค่าเริ่มแรกด้วย
มูลค่ายุติธรรม บวกต้นทุนในการทำรายการซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่งเงินฝากสถาบันการเงิน และวัดมูลค่า
ภายหลังด้วยราคาทุนตัดจำหน่ายด้วยวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสุทธิจากค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า
จะเกิดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์และเงื่อนไขเฉพาะในการใช้เงิน ได้แก่
3.5.1 เงินประกันการใช้ไฟฟ้า ซึ่ง กฟน. สามารถนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ในกรณีที่มีความจำเป็น
รวมถึงดอกผลเงินประกัน กฟน. นำดอกผลที่เกิดจากเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไปใช้ในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์
ต่อผู้ใช้ไฟฟ้า
3.5.2 เงินกองทุนเงินบำเหน็จพนักงาน กฟน.
3.5.3 เงินฝากเงินทุนสะสมเพื่อประกันภัยตนเอง ซึ่ง กฟน. ได้จัดสรรเงินไว้เป็นเงินทุนสะสมเพื่อประกันภัย
ตนเอง เพื่อสำรองไว้จ่ายชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับอาคารและทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงภัย
ปานกลาง โดยจัดสรรเงินเข้าเงินทุนสะสมปีละ 10.00 ล้านบาท จนครบ 40.00 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ว่าการ
เห็นชอบ เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์แยกไว้ต่างหากจากบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับดำเนินงานปกติ
ดอกเบี้ยรับจากเงินฝากธนาคารรับรู้เป็นรายได้ของ กฟน. การจัดสรรเงินเข้าเงินทุนสะสมในแต่ละปีดังกล่าวใกล้เคียง
กับอัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่ กฟน. จะต้องจ่ายให้แก่บริษัทประกันภัยเสมือนเงินทุนสะสมเพื่อประกันภัยตนเองเป็น
บริษัทประกันภัย เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น เงินทุนสะสมฯ จะจ่ายชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามหลักเกณฑ์และ
เงื่อนไขเกี่ยวกับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเช่นเดียวกับบริษัทประกันภัยทั่วไปถือปฏิบัติโดยอนุโลมและอยู่ในดุลย
พินิจของผู้ว่าการเห็นชอบ
3.5.4 เงินคืนรายได้ เป็นเงินที่ กฟน. จัดสรรไว้สำหรับจ่ายชดเชยรายได้ระหว่างการไฟฟ้า เพื่อนำไปปรับลด
ค่าไฟฟ้าให้ประชาชน ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ที่ สกพ. 5502/ว2229 ลง
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ได้พิจารณาให้แยกบัญชีเงินฝากออกจากบัญชีปกติและรวมดอกเบี้ย โดยจะนำส่งเงิน
ดังกล่าวเมื่อ กกพ. มีมติให้ดำเนินการ
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะทั้งหมดของ กฟน. พิจารณาเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความ
เสี่ยงด้านเครดิตต่ำ เนื่องจากเงินฝากสถาบันการเงินดังกล่าวมีความเสี่ยงของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาต่ำ และสามารถ
จ่ายชำระกระแสเงินสดตามสัญญาได้ในระยะเวลาอันใกล้ โดยวัดมูลค่าค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึน้
ด้วยจำนวนเท่ากับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะรับรู้ค่าเผื่อผลขาดทุนด้าน
เครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแสดงเป็นรายการสุทธิมูลค่าตามบัญชีของเงินฝากสถาบันการเงิน ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะใน
งบแสดงฐานะการเงิน และรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีที่เกิดรายการ
3.6 ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุน
กฟน. ได้ทำการให้เช่าสินทรัพย์ โดยจัดประเภทสัญญาเช่าเป็นสัญญาเช่าดำเนินงานหรือสัญญาเช่าเงินทุน
หากสถานการณ์บ่งชี้ ว่าสัญญาเช่าดังกล่าวโอนความเสี่ยงและผลตอบแทนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่ผู้เป็นเจ้าของ
พึงได้รับจากสินทรัพย์ให้แก่ผู้เช่า สัญญาเช่ านั้น จะถูกจัดประเภทเป็นสัญญาเช่าเงินทุน หากสัญญาเช่าดังกล่าว
132
ไม่ได้โอนความเสี่ยงและผลตอบแทนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดที่ผู้เป็นเจ้าของ พึงได้รับจากสินทรัพย์ให้แก่ผู้เช่า จะ
จัดประเภทเป็นสัญญาเช่าดำเนินงาน
รายได้ค่าเช่าจากสัญญาเช่าดำเนินงานจะรับรู้ด้วยวิธีเส้นตรงตลอดอายุสัญญาเช่า โดยต้นทุนทางตรง
เริ่มแรกที่เกิดขึ้นจะถูกรวมในมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์อ้างอิงและรับรู้ต้นทุนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายตลอดอายุ
สัญญาเช่า สำหรับสัญญาเช่าเงินทุนจะรับรู้เป็นลูกหนี้ ตามสัญญาเช่าด้วยมูลค่าเงินลงทุนสุทธิตามสัญญาเช่า โดย
รับรู้รายได้ทางการเงินตลอดอายุสัญญาเช่าซึ่งสะท้อนถึงอัตราผลตอบแทนรายงวดคงที่ของเงินลงทุนสุทธิตาม
สัญญาเช่า
3.7 เงินลงทุนในการร่วมค้า
กฟน. กฟผ. และ ปตท. ได้ร่วมลงทุน ตามสัญญาร่วมทุน ลงวันที่ 28 มีนาคม 2546 ในการร่วมค้าที่มี
ลักษณะเป็นการควบคุมร่วมกัน ซึ่งจัดตั้งและจดทะเบียนบริษัทตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2546
ภายใต้ชื่อบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด วัตถุประสงค์ เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและน้ำเย็นสำหรับท่า
อากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 30 35 และ 35 ตามลำดับ เงินลงทุนที่แสดงอยู่ในงบการเงิน
เฉพาะกิจการ บันทึกบัญชีตามวิธีราคาทุน
3.8 ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
แสดงตามราคาทุน ณ วันที่ซื้อหรือได้มาหรือก่อสร้างแล้วเสร็จหักค่าเสื่อมราคาสะสม ค่าเสื่อมราคา
คำนวณโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการให้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจโดยประมาณของสินทรัพย์แต่ละประเภทหักมูลค่า
คงเหลือ โดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ทั้งนี้ แสดงเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและส่วนหนึ่งรับรู้เป็น
ต้นทุนงานก่อสร้างด้วยอัตราค่าใช้จ่ายทางอ้อม อัตราค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ อยู่ระหว่างร้อยละ 3.33 ถึง ร้อย
ละ 33.33 ต่อปี กฟน. ได้บันทึกรายการทรัพย์สินแยกอาคารและส่วนประกอบ ยกเว้น อาคารเก่าที่หมดอายุ
การใช้งานทางบัญชี
3.9 สินทรัพย์สิทธิการใช้
สินทรัพย์สิทธิการใช้จะถูกวัดมูลค่าด้วยราคาทุน ประกอบด้วยมูลค่าหนี้สินตามสัญญาเช่า การจ่ายชำระ
ก่อนวันที่สัญญาเช่ามีผล ต้นทุนทางตรงเริ่มแรกใดๆ รวมถึงประมาณการต้นทุนที่จะเกิดขึ้นในการรื้อถอนและขน
ย้ายสินทรัพย์ ซึ่งรับรู้ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 37 เรื่อง ประมาณการหนี้สิน หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น และ
สินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ การจ่ายชำระผันแปรที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดัชนีหรืออัตราจะไม่รวม ในมูลค่าสินทรัพย์สิทธิ
การใช้และหนี้สินตามสัญญาเช่า และจะถูกรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ
สินทรัพย์สิทธิการใช้จะถูกหักค่าเสื่อมราคาด้วยวิธีเส้นตรงจากวันที่สัญญาเช่ามีผลจนถึงวันที่สิ้นสุดอายุ
การให้ประโยชน์ของสินทรัพย์หรือวันที่สิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วแต่วันใดจะเกิดก่อน โดยสินทรัพย์สิทธิการใช้จะถูก
ประเมินผลขาดทุนจากการด้อยค่าตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์
3.10 สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายเพื่อสิทธิในการใช้ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่
สามารถแยกจากเครื่องมือ ที่เกี่ยวข้องได้ ตัดจำหน่ายตามอายุการใช้งาน โดยประมาณ 3 - 10 ปี
3.11 เงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สิน
กฟน. ได้จัดสรรเงินไว้เป็นเงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สินระยะยาว ซึ่งได้จัดสรรเงินเข้าเงินทุนสะสมตาม
แผนที่กำหนด โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทประจำ แยกไว้ต่างหากจากบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับ
ดำเนินงานปกติ ดอกเบี้ยรับจากเงินฝากธนาคารรับรู้เป็นรายได้ของ กฟน.
เงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้ส ิน จัดประเภทรายการด้วยราคาทุนตั ดจำหน่ าย (Amortized cost)
เนื่องจากมีกระแสเงินสดตามสัญญาเป็นการรับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินต้นคงค้างเท่านั้น และมีรูปแบบการ
133
ดำเนินธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์การถือครองเพื่อรับกระแสเงินสดตามสัญญา โดยวัดมูลค่าเริ่มแรกด้วยมูลค่ายุติธรรม
บวกต้นทุนในการทำรายการซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่งเงินฝากสถาบันการเงิน และวัดมูลค่าภายหลังด้วย
ราคาทุนตัดจำหน่ายด้วยวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสุทธิจากค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
เงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สินถูกพิจารณาเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ
เนื่องจากเงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สินดังกล่าวมีความเสี่ยงของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาต่ำ และสามารถจ่ายชำระ
กระแสเงินสดตามสัญญาได้ในระยะเวลาอันใกล้ โดยวัดมูลค่าค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นด้วย
จำนวนเท่ากับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะรับรู้ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่
คาดว่าจะเกิดขึ้นแสดงเป็นรายการสุทธิของมูลค่าตามบัญชีขั้นต้นของเงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สิน ในงบแสดง
ฐานะการเงิน และรับรู้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีที่เกิดรายการ
3.12 รายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศ
รายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศ แปลงค่าเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ
รายการสินทรัพย์และหนี้สินที่เป็นเงินตราต่ างประเทศคงเหลือ ณ วันสิ้นงวดบัญชีจะปรับมูลค่าโดยใช้อั ตรา
แลกเปลี่ยนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศใช้เป็นอัตราอ้างอิง ณ วันนั้น กำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
เงินตราต่างประเทศที่เกิดขึ้นรับรู้เป็นรายได้หรือค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในงวดบัญชีนั้น
3.13 หนี้สินระยะยาว
หนี้สินระยะยาวประกอบด้วยตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม ถูกจัดประเภทรายการด้วยราคาทุนตัด
จำหน่าย (Amortized cost) โดยถูกวัดมูลค่าเริ่มแรกด้วยมูลค่ายุติธรรม หักด้วยต้นทุนในการทำรายการซึ่ง
เกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่งตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม และวัดมูลค่าภายหลังด้วยราคาทุนตัดจำหน่าย
และรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายเข้าสู่ต้นทุนทางการเงินด้วยวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุของตราสารหนี้ที่ออกและ
เงินกู้ยืม
3.14 หนี้สินตามสัญญาเช่า
กฟน. ประเมินสัญญาเช่า ณ วันเริ่มต้นสัญญา ว่าสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาเช่าหรือประกอบด้วยสัญญา
เช่าหรือไม่ โดยจะรับรู้สินทรัพย์สิทธิการใช้และหนี้สินตามสัญญาเช่า ยกเว้นสัญญาเช่าที่มีอายุสัญญาเช่าเท่ากับ 12
เดือนหรือน้อยกว่า 12 เดือน และสัญญาเช่า ซึ่งสินทรัพย์อ้างอิงมีมูลค่าต่ำ จะรับรู้รายการดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายใน
การดำเนินงานตามวิธีเส้นตรงตลอดอายุสัญญาเช่า หรือตามเกณฑ์อื่นใด ที่สะท้อนถึงรูปแบบของประโยชน์เชิง
เศรษฐกิจที่ กฟน. จะได้รับ
กฟน. วัดมูลค่าเริ่มแรกของหนี้สินตามสัญญาเช่าด้วยมูลค่ายุติธรรมของการจ่ายชำระตามสัญญาเช่าที่
เหลืออยู่คิดลดด้วยอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมส่วนเพิ่ม หรือ อัตราดอกเบี้ยโดยนัย โดยการจ่ายชำระตามสัญญาเช่าที่
รวมอยู่ในการวัดมูลค่าหนี้สินตามสัญญาเช่า ประกอบด้วย
- การจ่ายชำระคงที่ (รวมถึงการจ่ายชำระคงที่โดยเนื้อหา) หักลูกหนี้สิ่งจูงใจตามสัญญาเช่าใด ๆ
- การจ่ายชำระค่าเช่าผันแปรที่ขึ้นอยู่กับดัชนีหรืออัตรา ซึ่งการวัดมูลค่าเริ่มแรกใช้ดัชนีหรืออัตรา ณ
วันที่เริ่มสัญญา
- จำนวนเงินที่คาดว่าจะจ่ายชำระภายใต้การรับประกันมูลค่าคงเหลือ
- ราคาใช้สิทธิของสิทธิเลือกซื้อ กรณีที่ กฟน. มีความแน่นอนที่จะใช้สิทธินั้น
- ค่าปรับเพื่อการยกเลิกสัญญาเช่า กรณีที่ กฟน. มีความแน่นอนที่จะใช้สิทธินั้น
หนี้สินตามสัญญาเช่าจะถูกวัดมูลค่าภายหลังโดยการเพิ่มมูลค่าตามบัญชีเพื่อสะท้อนดอกเบี้ยจากหนี้สิน
ตามสัญญาเช่า และการ ลดมูลค่าตามบัญชีเพื่อสะท้อนการชำระการจ่ายชำระตามสัญญาเช่าที่จ่ายชำระแล้ว กฟน.
จะวัดมูลค่าหนี้สินตามสัญญาเช่าใหม่โดยใช้อัตรา คิดลดที่ปรับปรุงหากมีการเปลี่ยนแปลงอายุสัญญาเช่าหรือมีการ
134
สำหรับการให้บริการงานรับเหมาหรืองานบริการที่มีการรับประกัน จะบันทึกประมาณการหนี้สินจาก
การรับประกัน เนื่องจาก การรับประกันดังกล่าวเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ กับลูกค้าว่างานบริการนั้นทำให้
อุปกรณ์สามารถใช้งานได้อย่างที่ตั้งใจตามคุณลักษณะที่ตกลงกัน
รายได้จากการประกอบกิจการโทรคมนาคม
รายได้จากการประกอบกิจการโทรคมนาคมจะรับรู้รายได้ตามระยะเวลาที่ให้บริการ หรือเมื่อให้บริการ
เสร็จสิ้น ขึ้นอยู่กับการ เสร็จสิ้นของภาระที่ต้องปฏิบัติ กฟน. มีการรับรู้รายได้ตลอดช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะรับรู้
รายได้ตามการให้บริการจริง ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงานตามสัดส่วนของบริการทั้งหมดที่ให้บริการ เนื่องจาก
ลูกค้าได้รับและใช้ประโยชน์พร้อมกัน
รายได้ดอกเบี้ย
รายได้ดอกเบี้ย รับรู้ตามวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
3.20 ต้นทุนทางการเงิน
ต้นทุนทางการเงิน เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดหาเงินทุนมาดำเนินงาน ได้แก่ ดอกเบี้ยจ่ายและ
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินกู้ระยะยาว
ดอกเบี้ยจ่ายของเงินกู้ระยะยาวที่กู้มาเพื่อวัตถุประสงค์ให้ได้มาซึ่งสินทรัพย์ถาวร และสินทรัพย์นั้นอยู่
ระหว่างการก่อสร้าง รับรู้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนงานระหว่างก่อสร้าง ดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากงานก่อสร้าง
แล้วเสร็จรับรู้เป็นค่าใช้จ่าย
ดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินกู้ระยะยาว รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายตามวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
4. มาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการรายงานทางการเงิน การตีความมาตรฐานการบัญชี และการตีความ
มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ที่ออกและปรับปรุงใหม่ ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มี
รายละเอียดดังนี้
มีผลบังคับใช้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
- มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 38 เรื่อง สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
- การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง ข้อตกลงสัมปทานบริการ
ฉบับที่ 12
- การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง การชำระหนี้สินทางการเงินด้วยตราสารทุน
ฉบับที่ 19
- การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง ต้นทุนการเปิดหน้าดินในช่วงการผลิตสำหรับ
ฉบับที่ 20 เหมืองผิวดิน
- การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เรื่อง รายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศและสิ่ง
ฉบับที่ 22 ตอบแทนรับหรือจ่ายล่วงหน้า
มีผลบังคับใช้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
- กรอบแนวคิดสำหรับการรายงานทางการเงิน
- มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 1 เรื่อง การนำเสนองบการเงิน
- มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 8 เรื่อง นโยบายการบัญชี การเปลี่ยนแปลง
ประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด
- มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 10 เรื่อง เหตุการณ์ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน
- มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 34 เรื่อง การรายงานทางการเงินระหว่างกาล
137
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย
เพิ่มขึ้น (ลดลง)
มาตรฐาน มาตรฐาน
ตามนโยบาย การรายงาน การ
ตามนโยบาย
การบัญชีเดิม ทางการเงิน รายงาน
การบัญชีใหม่
31 ธันวาคม กลุม่ ทาง
1 มกราคม 2563
2562 เครื่องมือ การเงิน
ทางการเงิน ฉบับที่ 16
สินทรัพย์หมุนเวียน
ลูกหนี้การค้า 15,285.49 (220.65) - 15,064.84
ลูกหนี้อื่น 5,863.85 - (30.55) 5,833.30
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
ลูกหนี้อื่นไม่หมุนเวียน 28.45 - (2.95) 25.50
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 98,572.30 - (157.25) 98,415.05
สินทรัพย์สิทธิการใช้ - - 479.76 479.76
หนี้สินหมุนเวียน
หนี้สินระยะยาวที่ถึง
กำหนดชำระภายในหนึ่งปี 1,072.72 - (72.72) 1,000.00
หนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึง
กำหนดชำระภายในหนึ่งปี - - 24.99 124.99
หนี้สินไม่หมุนเวียน
หนี้สินระยะยาว 40,809.84 - (109.84) 40,700.00
หนี้สินตามสัญญาเช่า - - 346.58 346.58
ส่วนของทุน
กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 97,641.00 (220.65) - 97,420.35
140
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินเฉพาะกิจการ
เพิ่มขึ้น (ลดลง)
มาตรฐาน มาตรฐาน
ตามนโยบาย การรายงาน การ
ตามนโยบาย
การบัญชีเดิม ทางการเงิน รายงาน
การบัญชีใหม่
31 ธันวาคม กลุม่ ทาง
1 มกราคม 2563
2562 เครื่องมือ การเงิน
ทางการเงิน ฉบับที่ 16
สินทรัพย์หมุนเวียน
ลูกหนี้การค้า 15,285.49 (220.65) - 15,064.84
ลูกหนี้อื่น 5,863.85 - (30.55) 5,833.30
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
ลูกหนี้อื่นไม่หมุนเวียน 28.45 - (2.95) 25.50
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 98,572.30 - (157.25) 98,415.05
สินทรัพย์สิทธิการใช้ - - 479.76 479.76
หนี้สินหมุนเวียน
หนี้สินระยะยาวที่ถึง
กำหนดชำระภายในหนึ่งปี 1,072.72 - (72.72) 1,000.00
หนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึง
กำหนดชำระภายในหนึ่งปี - - 124.99 124.99
หนี้สินไม่หมุนเวียน
หนี้สินระยะยาว 40,809.84 - (109.84) 40,700.00
หนี้สินตามสัญญาเช่า - - 346.58 346.58
ส่วนของทุน
กำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 97,297.15 (220.65) - 97,076.50
141
6. ข้อมูลเพิ่มเติม
6.1 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
เงินสด 27.12 79.77
เงินฝากธนาคาร :
เงินฝากกระแสรายวัน 66.34 (252.73)
เงินฝากออมทรัพย์ 15,700.73 5,775.78
เงินฝากประจำ - 8,570.00
รวมเงินฝากธนาคาร 15,767.07 14,093.05
เงินลงทุนในตราสารหนี้ครบกำหนดไม่เกิน 3 เดือน - 1,599.95
รวม 15,794.19 15,772.77
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ 2562 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จำนวน 15,794.19 ล้าน
บาท และ 15,772.77 ล้านบาท มีส่วนหนึ่ง จำนวน 12,004.20 ล้านบาท และ 13,958.44 ล้านบาท ตามลำดับ
เพื่อสำหรับจ่ายชำระหนี้ค่าซื้อกระแสไฟฟ้าในต้นงวดถัดไป
6.2 ลูกหนี้การค้า
ลูกหนี้การค้า จำแนกตามประเภทและอายุหนี้ที่ค้างชำระได้ ดังนี้
143
6.4 พัสดุคงเหลือ
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ณ วัน ที่ 31 ธัน วาคม 2563 และ 2562 พัส ดุคงเหลือ - สุทธิ จำนวน 8,083.36 ล้านบาท และ
9,691.04 ล้านบาท ประกอบด้วยพัสดุเพื่อการลงทุน 7,327.10 ล้านบาท และ 8,829.03 ล้านบาท และพัสดุ
เพื่อการดำเนินงาน 756.26 ล้านบาท และ 862.01 ล้านบาท ตามลำดับ
145
6.5 เงินฝากสถาบันการเงินที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
เงินประกันการใช้ไฟฟ้า (หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ
6.22)เงินฝากออมทรัพย์ 820.15 94.97
เงินฝากประจำ 10,550.00 17,080.00
11,370.15 17,174.97
ดอกผลเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
เงินฝากออมทรัพย์ 44.16 63.77
เงินฝากประจำ 60.01 221.01
104.17 284.78
กองทุนเงินบำเหน็จฯ
เงินฝากออมทรัพย์ 11.01 12.27
เงินฝากประจำ 826.77 791.10
837.78 803.37
เงินทุนสะสมเพื่อประกันภัยตนเอง
เงินฝากออมทรัพย์ 39.66 39.69
เงินคืนรายได้ กฟน.
เงินฝากออมทรัพย์ 3,174.93 6,533.26
รวม 15,526.69 24,836.07
6.6 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อรอการโอน 1,673.76 2,040.11
อื่น ๆ 12.63 12.38
รวม 1,686.39 2,052.49
146
6.7 เงินลงทุนในการร่วมค้า
กฟน. ได้ร่วมลงทุนในบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเป็นหุ้นสามัญ
จำนวน 167 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท เป็นเงิน 1,670.00 ล้านบาท โดย กฟน. มีสัดส่วนการลงทุน
ร้อยละ 30 คิดเป็น 50.10 ล้านหุ้น เป็นเงิน 501.00 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงิน
ปันผลสำหรับกำไรสะสมปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 334.00 ล้านบาท กฟน.
ได้รับเงินปันผล จำนวน 100.20 ล้านบาท
เงินลงทุนที่แสดงตามวิธีส่วนได้เสีย ประกอบด้วย
หน่วย : ล้านบาท
2563 2562
เงินลงทุน 501.00 501.00
รับรู้ผลกำไร (ขาดทุน) จากการร่วมค้า
ผลกำไรยกมาต้นงวด 343.85 301.99
ผลกำไรสำหรับปี 53.37 58.12
เงินปันผลรับ (100.20) (16.03)
ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนเผื่อขาย - (0.03)
ผลขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย - (0.20)
รวม 297.02 343.85
คงเหลือเงินลงทุน 798.02 844.85
6.8 เงินฝากธนาคารที่ใช้เป็นหลักประกัน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เงินฝากธนาคารที่ใช้เป็นหลักประกัน
จำนวน 3.40 ล้านบาท เป็นเงินฝากประจำที่นำไปค้ำประกันตัวพนักงานกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
1.40 ล้านบาท และค้ำประกัน เงิน กู้ข องพนัก งานกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 2.00 ล้านบาท
ตามลำดับ
6.9 ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุน
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุน 39.60 -
หัก ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเงินทุนที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี -
(0.97)
รวม 38.63 -
147
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และงบการเงินเฉพาะกิจการ
ที่ดินและ สินทรัพย์ สินทรัพย์ สินทรัพย์ รวม
สิทธิเหนือที่ดิน ระบบส่ง ระบบจำหน่าย ทั่วไป
ราคาทุน
ณ วันที่ 1 มกราคม
3,539.08 63,488.32 111,445.33 17,446.55 195,919.28
2562
- เพิ่มขึ้น 42.92 6,618.94 7,068.35 3,375.46 17,105.67
- โอนออก (-) (-) (-) (52.34)
(52.34)
- จำหน่าย (5.25) (183.87) (342.72) (388.40) (920.24)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม
3,576.75 69,871.05 118,170.96 20,433.61 212,052.37
2562
ค่าเสื่อมราคาสะสม
ณ วันที่ 1 มกราคม
- 34,697.08 59,678.94 11,467.06 105,843.08
2562
- เพิ่มขึ้น - 2,929.90 4,380.20 1,154.91 8,465.01
- โอนออก (-) (-) (-) (0.34)
(0.34)
- จำหน่าย (-) (286.14) (827.68)
(155.32) (386.22)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม
- 37,471.32 63,773.00 12,235.75 113,480.07
2562
ราคาตามบัญชี 3,576.75 32,399.73 54,397.96 8,197.86 98,572.30
ณ วันที่ 31 ธันวาคม
3,539.08 28,791.24 51,766.39 5,979.49 90,076.20
2561
ณ วันที่ 31 ธันวาคม
3,576.75 32,399.73 54,397.96 8,197.86 98,572.30
2562
จากการปรับปรุงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 ราคาทุน
สินทรัพย์ทั่วไปจำนวน 367.46 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคาสะสม จำนวน 210.21 ล้านบาท เป็นมูลค่าบัญชีต้น
งวดที่ปรับปรุงตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า โดยเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์
ตามสัญญาเช่าการเงินที่แสดงอยู่ในรายการสินทรัพย์สิทธิการใช้ (หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 5.2)
149
6.12 สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งจำนวน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย
และงบการเงินเฉพาะกิจการ
โปรแกรม
รวม
คอมพิวเตอร์
ราคาทุน
ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 3,460.92 3,460.92
- เพิ่มขึ้น 119.28 119.28
- โอนออก (-) (-)
- จำหน่าย (57.30) (57.30)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 3,522.90 3,522.90
ค่าตัดจำหน่ายสะสม
ณ วันที่ 1 มกราคม 2563 2,535.16 2,535.16
- เพิ่มขึ้น 354.79 354.79
- โอนออก (-) (-)
- จำหน่าย (57.30) (57.30)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 2,832.65 2,832.65
ราคาตามบัญชี 690.25 690.25
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 925.76 925.76
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 690.25 690.25
ราคาทุน
ณ วันที่ 1 มกราคม 2562 3,353.34 3,353.34
- เพิ่มขึ้น 218.12 218.12
- โอนออก (-) (-)
- จำหน่าย (110.54) (110.54)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 3,460.92 3,460.92
ค่าตัดจำหน่ายสะสม
ณ วันที่ 1 มกราคม 2562 2,292.48 2,292.48
- เพิ่มขึ้น 353.22 353.22
- โอนออก (-) (-)
- จำหน่าย (110.54) (110.54)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 2,535.16 2,535.16
ราคาตามบัญชี 925.76 925.76
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 1,060.86 1,060.86
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 925.76 925.76
151
6.14 เงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เงินทุนสะสมเพื่อชำระคืนหนี้สิน เป็นเงินทุนสะสมเพื่อไถ่ถอนพันธบัตร
กฟน. ทั ้ ง จำนวน และมี ส ่ ว นหนึ ่ ง จำนวน 400.00 ล้ า นบาท ได้ น ำไปค้ ำ ประกั น เงิ น กู ้ เ บิ ก เกิ น บั ญ ชี กั บ
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ยอดยกมา ณ วันที่ 1 มกราคม 14,576.18 18,290.81
บวก จัดสรรเพิ่ม 500.00 -
ดอกเบี้ยรับ 210.03 285.37
15,286.21 18,576.18
หัก โอนชำระหนี้ (1,000.00) (4,000.00)
คงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 14,286.21 14,576.18
6.15 เจ้าหนี้การค้า
ในงวดบัญชีปี 2563 และ 2562 เจ้าหนี้ค่าไฟฟ้า จำนวน 23,735.53 ล้านบาท และ 26,748.03 ล้าน
บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็นยอดค่าซื้อกระแสไฟฟ้าที่ กฟน. ต้องชำระเงินให้ กฟผ. ภายใน 30 วัน นับจาก
วันที่ได้รับใบแจ้งหนี้ และชำระให้ผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
เจ้าหนี้ค่าไฟฟ้า 23,735.53 26,748.03
เจ้าหนี้การค้าอื่น 2,751.47 3,135.72
รวม 26,487.00 29,883.75
6.16 เงินค้างนำส่งคลัง
ตามหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0805/ว.60 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2549 กำหนดให้ กฟน. จัดสรร
กำไรสุทธิเพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ปีละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 นำส่งรายได้ระหว่างกาล ภายในเดือนตุลาคมของ
ทุกปี โดยจัดสรรจากกำไรสุทธิของงบการเงินงวดหกเดือนที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินสอบทานแล้ว และ
ครั้งที่ 2 ให้นำส่งเมื่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองงบการเงินประจำปีแล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่
ปี 2549 เป็นต้นไป และตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักนโยบายและแผน
รัฐวิสาหกิจ ที่ กค 0805.1/ว.27 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 กำหนดให้ กฟน. จัดสรรกำไรสุทธิเพื่อนำส่งเป็น
รายได้แผ่นดิน โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ จากงบการเงินเฉพาะกิจการก่อนหักโบนัสกรรมการและโบนัส
พนักงาน หากปรากฏว่าจำนวนเงิน นำส่งรายได้แผ่นดินดังกล่าว ต่ำกว่าจำนวนเงินนำส่งที่กำหนดไว้ใน
153
หนี้สินระยะยาว
หนี้สินระยะยาว ที่ถึงกำหนดชำระ คงเหลือ
ภายในหนึ่งปี 2562
เงินกู้ระยะยาว 41,700.00 (1,000.00) 40,700.00
หนี้สินตามสัญญาเช่าการเงิน 182.56 (72.72) 109.84
ณ 31 ธันวาคม 2562 41,882.56 (1,072.72) 40,809.84
โอนไปหนี้สินตามสัญญาเช่า
(หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 6.19) (182.56) 72.72 (109.84)
ณ 1 มกราคม 2563 41,700.00 (1,000.00) 40,700.00
เงินกู้ระยะยาว มีรายละเอียดดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
ประเภทเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย 2563 2562
(ร้อยละ)
ในงวดบัญชีปี 2563
เงินกู้ในประเทศ
พันธบัตรการไฟฟ้านครหลวง 1.989 ถึง 6.38* 52,700.00 41,700.00
หัก เงินกู้ระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (1,000.00) (1,000.00)
คงเหลือ ณ วันสิ้นงวด 51,700.00 40,700.00
* อัตราดอกเบี้ยคงที่
ในงวดบัญชีปี 2563 กฟน. ได้ออกพันธบัตรการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 2 วงเงิน 4,000.00
ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1.989 ต่อปี ระยะเวลา 15 ปี ครั้งที่ 3 วงเงิน 3,000.00 ล้านบาท อัตรา
ดอกเบี้ยร้อยละ 2.400 ต่อปี ระยะเวลา 10 ปี 3 เดือน และครั้งที่ 4 วงเงิน 5,000.00 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย
ร้อยละ 2.860 ต่อปี ระยะเวลา 15 ปี 3 เดือน
155
6.19 หนี้สินตามสัญญาเช่า
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
สินทรัพย์ สินทรัพย์
รวม
ระบบส่ง ทั่วไป
หนี้สินตามสัญญาเช่า ณ 31 ธันวาคม 2563
- หนี้สินหมุนเวียน (ไม่เกิน 1 ปี) 102.86 116.95 219.81
- หนี้สินไม่หมุนเวียน (เกิน 1 ปี) 120.54 171.92 292.46
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย
และงบการเงินเฉพาะกิจการ
สินทรัพย์ สินทรัพย์
รวม
ระบบส่ง ทั่วไป
โอนมาจากหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2562
(หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 6.18)
- ส่วนที่ถึงกำหนดชำระใน 1 ปี - 72.72 72.72
- ส่วนที่ถึงกำหนดชำระเกิน 1 ปี - 109.84 109.84
ณ 1 มกราคม 2563 - 182.56 182.56
ปรับปรุงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี
(หมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 5.2) - 289.01 289.01
ณ 1 มกราคม 2563 หลังปรับปรุง - 471.57 471.57
156
6.20 หนี้สินผลประโยชน์ของพนักงาน
รายการกระทบยอดมูลค่าปัจจุบันของภาระผูกพันผลประโยชน์ของพนักงาน และมูลค่าหนี้สินที่รับรู้
แสดงดังต่อไปนี้
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
มูลค่าปัจจุบันของภาระผูกพันตามโครงการผลประโยชน์ของพนักงาน 10,826.64 8,763.87
ณ วันที่ 1 มกราคม
ต้นทุนบริการปัจจุบัน 546.20 438.35
ต้นทุนดอกเบี้ย 300.93 278.32
ต้นทุนบริการในอดีต - 1,064.40
ขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย 177.21 734.33
ผลประโยชน์ที่จ่ายสำหรับเงินบำเหน็จ (51.71) (65.75)
ผลประโยชน์ที่จ่ายสำหรับกรณีผลประโยชน์อื่น (404.15) (386.88)
มูลค่าปัจจุบันของภาระผูกพันตามโครงการผลประโยชน์ของพนักงาน 11,395.12 10,826.64
ณ วันที่ 31 ธันวาคม
กองทุนเงินบำเหน็จพนักงาน กฟน. (878.38) (842.13)
(หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 6.24)
หนี้สินสุทธิ ณ วันสิ้นงวด 10,516.74 9,984.51
ค่าใช้จ่ายที่รับรู้ในงบกำไรขาดทุนเบ็ด เสร็จสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ 2562 มี
รายละเอียดดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
2563 2562
ต้นทุนบริการปัจจุบัน 546.20 438.35
ต้นทุนดอกเบี้ย 300.93 278.32
ต้นทุนบริการในอดีต - 1,064.40
ค่าใช้จ่ายที่รับรู้ในกำไรหรือขาดทุน 847.13 1,781.07
157
6.21 ประมาณการหนี้สินระยะยาว
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ยอดยกมา ณ วันที่ 1 มกราคม 4,579.39 5,100.47
บวก ประมาณการหนี้สินเพิ่มขึ้น 7,870.72 4,579.05
รวม 12,450.11 9,679.52
หัก ใช้ไประหว่างงวด (8,990.12) (1,429.23)
โอนไปประมาณการหนี้สินระยะสั้น - (3,670.90)
คงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 3,459.99 4,579.39
ในงวดบัญชีปี 2563 ประมาณการหนี้สินระยะยาว จำนวน 3,459.99 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่า
ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการถูกฟ้องร้องคดี จำนวน 2.06 ล้านบาท และเงินคืนรายได้ จำนวน
3,457.93 ล้านบาท
6.22 เงินประกันการใช้ไฟฟ้า
ตามข้อบังคับการไฟฟ้านครหลวงว่าด้วยการบริหารเงินประกันการใช้ไฟฟ้า พ.ศ. 2544 ฉบับที่ 2 พ.ศ.
2548 และฉบับที่ 3 พ.ศ. 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2544 วันที่ 26 พฤษภาคม 2548 และ
วันที่ 3 กรกฎาคม 2556 ตามลำดับ และตามมติ คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง ครั้งที่ 590 วันที่ 15
กรกฎาคม 2553 กำหนดให้ผู้ว่าการมีอำนาจอนุมัติให้ กฟน. นำเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไปใช้เป็นเงินหมุนเวียน
ภายในวงเงินไม่เกิน 2,500.00 ล้านบาท แต่ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องนำเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไปใช้เกิน
กว่าวงเงิน ดังกล่าว ให้เสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง โดยจ่ายดอกเบี้ยให้เท่ากั บ
ผลตอบแทนเดิมของบัญชีเงินฝากเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่ยืม และให้ กฟน. นำดอกผลที่เกิดจากเงินประกันการ
ใช้ไฟฟ้าไปใช้ในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง และ/หรือสาธารณประโยชน์อื่นตามที่ผู้ว่าการ
กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง และจ่ายคืนผลประโยชน์ให้กับผู้วางเงินประกัน
การใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ทุก ๆ 5 ปี โดย กฟน. จะเริ่มจ่ายคืนครั้งแรกในรอบบิล
ค่าไฟฟ้าประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 สำหรับประเภทกิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ และกิจการเฉพาะ
อย่าง ปีละครั้ง ตามอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์เฉลี่ยทั้งปีของธนาคารกรุงไทย ตามมติของคณะกรรมการกำกับ
กิ จ การพลั ง งาน นอกจากนี ้ ให้ กฟน. นำเงิ นประกั นการใช้ ไ ฟฟ้ าไปลงทุ นในตราสารทางการเงิ น ตามที่
กระทรวงการคลังอนุญาต ดอกผลจากเงินประกันการใช้ไฟฟ้ารับรู้เป็นรายได้ กฟน.
การไฟฟ้านครหลวง กำหนดให้มีการคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ 1 บ้านอยู่
อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก และจะไม่เรียกหลักประกันการใช้ไฟฟ้าจากผู้ขอใช้ไฟรายใหม่ ยกเว้น
กรณีเปลี่ยนไปเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่มีข้อกำหนดให้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้า โดยกำหนดวิธีการคืน
หลักประกันฯ ดังกล่าว ตามประกาศการไฟฟ้านครหลวงที่ 30/2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ทั้งนี้เพื่อให้
เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 และมติคณะกรรมการกำกับกิจการ
พลังงานในการประชุมครั้งที่ 21/2563 (ครั้งที่ 664) เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 เรื่อง การคืนหลักประกันการใช้
159
เงินสมทบการก่อสร้างระบบจำหน่ายรอการรับรู้ มีรายละเอียดดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
2563 2562
ยอดยกมา ณ วันต้นงวด 12,130.07 12,508.09
บวก รับเพิ่มระหว่างงวด 615.54 748.80
รวม 12,745.61 13,256.89
หัก รับรู้เป็นรายได้ (หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 6.25) (1,142.89) (1,126.82)
คงเหลือ ณ วันสิ้นงวด 11,602.72 12,130.07
6.24 กองทุนเงินบำเหน็จพนักงาน กฟน.
กฟน. ได้จัดตั้งกองทุนเงินบำเหน็จพนักงานการไฟฟ้านครหลวงเมื่อปี 2516 มีวัตถุประสงค์เพื่อ
สงเคราะห์พนักงาน ในกรณีพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ โดยจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ
10 ของเงินเดือนพนักงานที่เป็นสมาชิก และจ่ายเงินสมทบเพิ่ม เพื่อให้กองทุนฯ มี เงินเพียงพอในอัตราร้อยละ
100 ของเงินบำเหน็จที่พึงจ่าย ณ วันสิ้นงวดบัญชี รายได้จากดอกผลของสินทรัพย์เงินกองทุนรับรู้เป็นรายได้
ของ กฟน. ในงวดบัญชีนี้กองทุนเงินบำเหน็จฯ มีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ยอดยกมา ณ วันต้นงวด 842.13 817.94
บวก รับเงินสมทบจาก กฟน. 87.96 89.94
930.09 907.88
หัก จ่ายเงินบำเหน็จพนักงาน (51.71) (65.75)
คงเหลือ ณ วันสิ้นงวด 878.38 842.13
6.25 รายได้อื่นจากการดำเนินงาน
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
รายได้เงินสมทบการก่อสร้างระบบจำหน่าย
1,142.89 1,126.82
(หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 6.23)
รายได้เงินอุดหนุนรัฐบาล 6.70 6.70
รายได้อื่นด้านไฟฟ้า 730.02 765.55
รวม 1,879.61 1,899.07
กฟน. ได้ ร ั บ อนุ ม ั ต ิ ให้ ประกอบกิ จการโทรคมนาคมแบบที ่ สาม (ใยแก้ ว นำแสง) จากสำนั กงาน
คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2549 ซึ่งในงวดบัญชีปี 2563 และ 2562 กฟน. มี
161
6.28 ค่าใช้จ่ายอื่นในการดำเนินงาน
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน 61.58 59.47
ค่าใช้จ่ายเพื่อสาธารณะ สังคมและสิ่งแวดล้อม 20.56 23.71
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 753.96 637.02
รวม 836.10 720.20
6.29 ค่าใช้จ่ายอื่น
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุน
ตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562
ขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ 414.74 405.13
ดอกเบี้ยเงินประกันการใช้ไฟฟ้า 35.01 11.23
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 8.63 -
ขาดทุนจากการประมาณการตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย 61.63 13.12
รวม 520.01 429.48
6.30 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การไฟฟ้านครหลวง พนักงาน และสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ได้ร่วมกันจัดตั้ง
"กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งจดทะเบียนแล้ว" ตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรอง
เลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2538 มีพนักงาน เป็นสมาชิก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
จำนวน 7,183 ราย
กฟน. จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำหรับสมาชิกที่มีจำนวนปีที่ทำงานไม่เกิน 10 ปี เกินกว่า 10 ปีขึ้นไป
จนถึง 20 ปี และมากกว่า 20 ปีขึ้นไป ในอัตราร้อยละ 9, 10 และ 11 ของค่าจ้างต่อเดือน ตามลำดับ ในงวดบัญชีนี้
กฟน. จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำหรับพนักงานที่เป็นสมาชิกทั้งสิ้นเป็นเงิน 486.90 ล้านบาท
163
6.31 ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานในงบการเงินเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และ 2562
วิเคราะห์ได้ ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินเฉพาะกิจการ
2563 2562 เพิ่มขึ้น (ลดลง) ร้อยละ
รายได้ 197,046.17 205,916.77 (8,870.60) (4.31)
หัก ค่าใช้จ่าย (191,568.94) (200,561.14) (8,992.20) (4.48)
กำไรสุทธิ 5,477.23 5,355.63 121.60 2.27
ในงวดบัญชีปี 2563 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 121.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.27 ส่วนใหญ่เกิดจาก
ค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง 634.07 ล้านบาท ในขณะที่กำไรขั้นต้นจากการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าสุทธิลดลง
191.34 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น 383.61 ล้านบาท
7. การวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กฟน. มีสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินที่ไม่ได้วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมซึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นรายการที่มูลค่าบัญชีเป็นค่าประมาณการที่สมเหตุสมผลของมูลค่ายุติธรรม ยกเว้นรายการ
ดังต่อไปนี้
หน่วย : ล้านบาท
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และ
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ระดับ 1 ระดับ 2 ระดับ 3 รวม
หนี้สินที่เปิดเผยด้วยมูลค่ายุติธรรม
พันธบัตร - 56,397.61 - 56,397.61
เทคนิคการประเมินมูลค่ายุติธรรมและข้อมูลที่ใช้สำหรับการวัดมูลค่ายุติธรรมระดับ 2
มูลค่ายุติธรรมของพันธบัตร ประเมินโดยอ้างอิงจากราคาซื้อขายที่สังเกตในตลาดรองของสมาคมตราสารหนี้
ซึ่งมีการเสนอซื้อขายกันในตลาดที่มีสภาพคล่อง
8. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น
8.1 กฟน. มีภาระผูกพันที่ไม่ได้บันทึกบัญชีเฉพาะรายที่สำคัญดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
2563 2562
ภาระผูกพันตามเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ยังไม่หมดอายุ 181.36 232.00
ภาระผูกพันอื่น ๆ 0.50 0.50
รวม 181.86 232.50
ภาระผูกพันที่เป็นเงินตราต่างประเทศคำนวณค่าเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคาร
แห่งประเทศไทย ประกาศใช้เป็นอัตราอ้างอิง ณ วันสิ้นงวดบัญชี
164
ข้อมูลทั่วไป ปี 2559-2563
ประจำปี
รายการ
2563 2562 2561 2560 2559
ประชากรทั้งประเทศ คน 66,186,727 66,558,935 66,413,979 66,188,503 65,931,550
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (0.56) 0.22 0.34 0.39 0.31
ประชากรเขตจำหน่าย กฟน. คน 8,216,446 8,276,526 8,249,551 8,222,916 8,192,123
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (0.73) 0.33 0.32 0.38 0.28
จำนวนบ้านเขตจำหน่าย กฟน. บ้าน 4,534,086 4,436,973 4,323,941 4,210,444 4,099,437
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 2.19 2.61 2.70 2.71 2.71
ประชากรต่อจำนวนบ้านเขตจำหน่าย กฟน. คน 2 2 2 2 2
ดัชนีราคาผู้บริโภคประเทศไทย ร้อยละ 101.78 102.65 101.93 100.85 100.19
(ปี 2558 ปีฐาน)
ดัชนีราคาผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 101.96 102.71 101.81 100.65 100.14
(ปี 2558 ปีฐาน)
จำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อสิ้นปี ราย 4,052,963 3,915,613 3,805,840 3,703,312 3,632,722
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 3.51 2.88 2.77 1.94 3.14
จำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อสิ้นปี
คิดเป็นร้อยละของจำนวนบ้าน ร้อยละ 89.39 88.25 88.02 87.96 88.51
หน่วยจำหน่าย* ล้านหน่วย 50,153.24 52,804.91 51,108.87 50,700.59 50,901.70
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (5.02) 3.32 0.81 (0.40) 3.16
หน่วยจำหน่ายรวมไฟสาธารณะและไฟทำการ ล้านหน่วย 50,702.38 53,345.53 51,638.42 51,218.98 51,412.93
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (4.95) 3.30 0.82 (0.38) 3.20
หน่วยซื้อรวมไฟสาธารณะ ล้านหน่วย 52,617.77 55,262.58 53,553.30 52,881.09 53,179.84
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (4.79) 3.19 1.27 (0.56) 3.02
ความต้องการพลังไฟฟ้าเฉลีย่ 30 นาทีสูงสุด เมกะวัตต์ 8,706.28 9,525.93 8,981.36 9,114.74 9,296.57
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (8.60) 6.06 (1.46) (1.96) 6.17
อัตราพลังงานที่สญู เสีย ร้อยละ 3.64 3.47 3.50 3.14 3.32
หมายเหตุ : พื้นที่เขตจำหน่ายของ กฟน. คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
* ไม่รวมไฟสาธารณะและไฟทำการ
165165
166
ข้อมูลระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ปี 2559-2563
ประจำปี
รายการ
2563 2562 2561 2560 2559
ระบบสถานีต้นทาง
จำนวนสถานีต้นทาง สถานี 18 17 17 17 17
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 5.88 - - - -
จำนวนสถานีสับเปลีย่ น สถานี 1 1 1 1 1
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ - - - - -
ขนาดหม้อแปลงติดตั้งที่สถานีต้นทาง เอ็มวีเอ 20,756.50 19,734.38 19,634.38 19,534.38 19,534.38
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 5.18 0.51 0.51 - 4.99
ระบบสถานีย่อย
จำนวนสถานีย่อย สถานี 141 141 141 137 134
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ - - 2.92 2.24 0.75
ขนาดหม้อแปลงติดตั้งที่สถานีย่อย เอ็มวีเอ 20,585.00 20,365.00 19,865.00 19,045.00 18,485.00
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 1.08 2.52 4.31 3.03 1.09
ระบบสายส่ง
ความยาวสายส่งขนาดแรงดัน 230 เควี ววงจร-กิโลเมตร 55.87 57.53 57.53 57.53 57.53
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ (2.89) - - - 16.13
ความยาวสายส่งขนาดแรงดัน 115 เควี วงจร-กิโลเมตร 992.71 954.68 937.34 887.52 830.42
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 3.98 1.85 5.61 6.88 1.91
ความยาวสายส่งขนาดแรงดัน 69 เควี วงจร-กิโลเมตร 910.10 903.82 903.96 904.98 902.30
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 0.69 (0.02) (0.11) 0.30 0.13
ระบบจำหน่าย
ความยาวสายป้อนขนาดแรงดัน 24 เควี และ 12 เควี วงจร-กิโลเมตร 19,907.21 19,430.73 19,067.97 18,785.04 18,422.50
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 2.45 1.90 1.51 1.97 (0.06)
ความยาวสายแรงต่ำขนาดแรงดัน 220/380 โวลท์ วงจร-กิโลเมตร 31,241.04 30,690.04 30,209.42 29,829.80 29,277.15
เพิ่ม (ลด) จากปีก่อน ร้อยละ 1.80 1.59 1.27 1.89 2.02
166166
167
167167
168
สถานที่ตั้งและช่องทางการติดต่อ
การไฟฟ้านครหลวง สถานที่ตั้ง โทรศัพท์
สำนักงานใหญ่ อาคารวัฒนวิภาส 0 2348 5000
เลขที่ 1192 ถนนพระรามที่ 4 โทรสาร 0 2256 3675
แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
กรุงเทพมหานคร 10110
เว็บไซต์ : www.mea.or.th
สำนักงานเพลินจิต เลขที่ 30 ซอยชิดลม ถนนเพลินจิต 0 2254 9550
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน โทรสาร 0 2253 1424
กรุงเทพมหานคร 10330
ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวงเขตธนบุรี 0 2878 5395
เลขที่ 132/18 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 20 โทรสาร 0 2878 5396
ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ
เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
บริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด เลขที่ 222 หมู่ 1 0 2327 4242
(District Cooling System and ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี โทรสาร 0 2327 4244
Power Plant: DCAP) จังหวัดสมุทรปราการ 10540
อีเมล : admin@dcap.co.th
ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร อาคารสำนักงานเพลินจิต ชั้น 1 0 2256 3358
การไฟฟ้านครหลวง อีเมล : pi.center@mea.or.th โทรสาร 0 2256 3339
MEA Call Center การไฟฟ้านครหลวงเขตราษฎร์บูรณะ Hotline : 1130
เลขที่ 21 ถนนราษฎร์บูรณะ (บริการ 24 ชั่วโมง)
แขวง/เขตราษฎร์บูรณะ
กรุงเทพมหานคร 10140
อีเมล : callcenter@mea.or.th
169
การไฟฟ้านครหลวงเขต
ขอใช้บริการไฟฟ้า ชำระค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าขัดข้อง
การไฟฟ้านครหลวงเขต หมายเลขกลาง
07.30-15.00 น. 07.30-15.00 น. 24 ชั่วโมง
1. วัดเลียบ 0 2220 5000 0 2220 5226 0 2220 5280 0 2220 5211
เลขที่ 121 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
2. คลองเตย 0 2348 5000 0 2348 5226 0 2348 5280 0 2348 5211
เลขที่ 1192 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
3. ยานนาวา 0 2611 5200 0 2611 5226 0 2611 5280 0 2611 5211
เลขที่ 3027 ถนนเจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120
4. สามเสน 0 2242 5000 0 2242 5226 0 2242 5280 0 2242 5211
เลขที่ 809 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
5. บางเขน 0 2792 5200 0 2792 5226 0 2792 5280 0 2792 5211
เลขที่ 6 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220
6. นวลจันทร์ 0 2716 3200 0 2716 3226 0 2716 3280 0 2716 3211
เลขที่ 1 ถนนคลองลำเจียก แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230
7. ธนบุรี 0 2878 5200 0 2878 5226 0 2878 5280 0 2878 5211
เลขที่ 132/18 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 20 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
8. ราษฎร์บูรณะ 0 2877 5200 0 2877 5226 0 2877 5280 0 2877 5211
เลขที่ 21 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บรู ณะ กรุงเทพมหานคร 10140
9. บางขุนเทียน 0 2841 5200 0 2841 5226 0 2841 5280 0 2841 5211
เลขที่ 39 ถนนพระรามที่ 2 ซอย 60 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
10. นนทบุรี 0 2902 5200 0 2902 5226 0 2902 5280 0 2902 5211
เลขที่ 200 ถนนติวานนท์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
11. บางใหญ่ 0 2832 5200 0 2832 5226 0 2832 5280 0 2832 5211
เลขที่ 38/2 หมู่ 10 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 11140
12. บางบัวทอง 0 2834 3200 0 2834 3226 0 2834 3280 0 2834 3211
เลขที่ 69/10 หมู่ 5 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110
13. บางกะปิ 0 2725 5200 0 2725 5226 0 2725 5280 0 2725 5211
เลขที่ 88 ถนนรามคำแหง แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
14. สมุทรปราการ 0 2791 5200 0 2791 5226 0 2791 5280 0 2791 5211
เลขที่ 386 ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270
15. บางพลี 0 2769 5200 0 2769 5227 0 2769 5280 0 2769 5211
เลขที่ 70/1 หมู่ 1 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
16. มีนบุรี 0 2907 5200 0 2907 5226 0 2907 5280 0 2907 5211
เลขที่ 66 ถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
17. ลาดกระบัง 0 2792 3200 0 2792 3226 0 2792 3280 0 2792 3211
เลขที่ 24 หมู่ 13 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
18. บางนา 0 2769 3200 0 2769 3226 0 2769 3280 0 2769 3211
เลขที่ 556 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
170
สาขาย่อย
สาขาย่อย หมายเลขกลาง
พระประแดง 0 2463 3368
เลขที่ 101 หมู่ 2 เยื้องซอยวัดชมนิมิตร ถนนสุขสวัสดิ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130
เพลินจิต 0 2256 3247
เลขที่ 30 ซอยชิดลม ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330